วันพฤหัสบดีที่ 21 สิงหาคม พ.ศ. 2557

SILENT HIIS Playable Teaser


                                           ถอดรหัส  SILENT HIIS  Playable Teaser 





ผมตื่นขึ้นในห้องที่ค่อนข้างมืด พร้อมเสียงประหลาดๆที่ก้องในหัวกับประตูที่แง้มเปิดออกเหมือนมันพยายามจะเชื้อเชิญให้ผมเข้าไป ..โธ่ ให้ตายเถอะที่มันบ้านใคร ที่มันเรื่องบ้าอะไรกัน คือความคิดเดียวที่ดังซ้ำไปซ้ำมาในหัวผมซ้ำไปซ้ำมาตราบใดที่ผมยังหาคำตอบให้มันไม่ได้  ผมได้แต่เดินด้วยความมึนงงไปตามทางเดิน สิ่งเดียวที่รูปธรรมที่สุดตอนนี้คือเวลา 23.59 น. ของนาฬิกาบนโต๊ะ และรูปครอบครัวบนโต๊ะที่มันใครผมแน่ใจว่าผมไม่เคยรู้จัก และจากจำนวนแผงยาที่วางเกลื่อนอยู่บนโต๊ะก็เดาได้ว่าเขาไม่น่าจะปกติสุขแน่นอน



เอ๊ะ เดี๋ยวน๊ะ หรือ รูปครอบครัวนี้คือ ครอบครัวที่ลูกชายวัย 6 ขวบของเขาพ่อตัวเองยิงฆ่าตายหมกในห้องน้ำที่ได้ยืนเสียงในข่าวที่มันกำลังดังอยู่ทั้งบ้าน ?
..ไอ้ประตูแต่ละห้องมันเปิดไม่ได้เอาเสียเลยด้วย ผมได้แต่เดินผ่านประตูตรงทางเดินไปซ้ำแล้วซ้ำเล่า
“โอ้ พระเจ้านี่ผมกำลังเดินวนอยู่ที่เดิมนี่หว่า “

 นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน ผมเดินวนไปมากับทางเดินเดิมๆอยู่หลายนาที จนประตูบานนึงที่มันเคยปิดก็เริ่มแง้มเปิดออก แต่ให้ตายเถอะผมเข้าไปไม่ได้ แล้วไอ้เสียงเด็กร้องโหยหวนนี่มันอะไรกัน ? หยุดร้องเสียทีเถอะน้องเอ๊ย พี่ขนลุกไปหมดแล้ว ผมไม่อยากจะสนไอ้ห้องบ้านี่หรอก แต่มันเป็นห้องเดียวที่เปิดอยู่ หลังจากวนเวียนอยู่หน้าประตูนี้อยู่นาน จนเจ้าของปริศนาเอื้อมมาดึงประตูให้ปิดทันที ! นี่มันไม่ตลกแล้วน๊ะ ! แต่ผมก็ยืนอึ้งจนก้าวขาไม่ออกอยู่นาน ทันทีที่เริ่มก้าวขาออกผมก็รีบออกจากโถงทางเดินนี้ทันทีทั้งๆที่รู้ว่าเดี๋ยวมันก็ต้องกลับมาที่เดิม



แน่นอนอีกครั้งที่ผมต้องวนกลับมาโถงทางเดินเดิม แต่คราวนี้ไอ้ประตูห้องตรงมุมโถงบ้านั้นมันกลับเปิดออกแบบเต็มๆ ผมคิดอยู่นานก่อนจะรวบรวมความกล้าเข้าไปดูในห้อง มันแค่ห้องน้ำแคบๆที่มีไฟฉายตกอยู่ ก็ยังถือว่าผมโชคดี เหมือนมันกลัวผมจะเห็นในสิ่งที่ผมไม่อยากจะเห็นไม่ชัดอย่างนั้นแหละ นั่นไง ! ทันทีที่แสงไฟสาดส่องไปที่โถล้างมือ ไอ้เด็กทารกนอนดิ้นในกองเลือด ! ทำไมน้องจะให้พี่ช่วยหรอ ฝันไปได้เลย ใช่ ผมมัวแต่คิดบ้าอะไร ผมควรออกจากห้องน้ำบ้านี่ตั้งแต่ 2 นาทีแรกแล้ว ผมรีบเดินออกประตูตรงสุดทางเดินอีกครั้ง

รอบนี้ไฟที่มุมทางเดินมันปิดจนมืดสนิทเสียแล้ว ผมกำไฟฉายที่เต็มไปด้วยเหงื่อในมือแล้วค่อยๆเดินผ่านมุมห้องไป เสียงกุกกักที่เหมือนอะไรตามหลังมาตลอดผมก็รู้สึก แต่ผมก็ไม่เคยที่จะอยากหันไปดูมันซักนิด ถ้าผมหันไปให้ตกใจก็จบ ความกลัวทำให้ผมคิดได้แค่นั่น  แต่ เฮ้ย ! ไอ้บ้า มีบางอย่างพุ่งเข้ามาดึงแล้วเอาหน้าพร้อมรอยยิ้มสุดสยองของมันมาเสนอให้เห็นเต็มๆ

 

อะไร อะไร !! มันไปไหนแล้ว ? อะไร 204863 อะไร มันพูดอะไรว่ะ มันชักจะบ้านกันใหญ่แล้ว
  แต่ผม ผม ..หมดแรงที่จะลุกแล้ว….

นี่ ผมตายแล้วหรอ ผมตื่นขึ้นมาที่ห้องเดิม โถงทางเดินเดิมอีกแล้ว ? ถ้าเป็นฝันร้ายก็ขอให้มันจบเสียทีเหอะ ที่มุมทางเดินมืดๆนั่นไม่เอาแล้ว เดี๋ยวก็โดนอีกรอบแน่ หลังจากผ่านความสยองมาผมเริ่มที่จะมีสติทีจะสำรวจสิ่งต่างๆรอบตัวมากขึ้นมากกว่าเดินเป็นวงกลมให้ผีหลอก ตรงที่ยืนมีแต่นาฬิกาและกรอบรูปที่หน้าของเจ้าของรูปถูกฉีกไป เอ๊ะ เดี๋ยวน๊ะ มันมีข้อความเขียนอยู่นี่




“ เสียงของฉัน คุณได้ยินมันมั๊ย ?
ข้อความของชั้น คุณได้อ่านมันมั๊ย ?
ฉันจะรอคุณอยู่ตรงนี้ตลอดไป จนกว่าคุณจะมาหาฉัน “

มันหมายถึงอะไร ปริศนาหรอ ? ผมกัดฟันเดินผ่านความมืดไปตามทางเดินอีกรอบ จนถึงประตูหน้า กรอบรูปข้างประตูก็ตกลงมากระแทกพื้นทันที ใจผมตกไปถึงตาตุ่มอีกครั้ง ผนังข้างประตูมันเขียนว่า “ ผมได้ยินเสียงบ้างอย่างที่เรียกผมดังมาจากขุมนรก “ เออ เอาไงก็เอาเหอะ นี่ผมต้องเดินผ่านอะไรตรงที่ผีบ้ามันพุ่งเข้ามาอีกแล้วหรอ .. ผมกัดฟันจนเดินผ่านประตูไปได้อย่างปลอดภัย แน่นอนผมกลับมาที่โถงทางเดินเดิมอีกแล้ว แต่พอพ้นมุมโถง สุดทางเดินมามีไฟสีแดงๆขึ้นมาให้ชวนตกใจมากกว่าสงสัย ผมกลืนน้ำลายจนปากแห้งก่อนจะเดินเข้าไปดูให้แน่ใจ ผมย่างเข้าไปแบบที่ช้าที่สุดจึงค่อยๆได้ยินเสียงน้ำหยดลงพื้นดังขึ้ยเรื่อยๆ โอ้ให้ตาย ! ภาพที่เห็นคือตู้เย็นถูกแขวนห้อยอยู่ด้านบน แล้วเลือดที่มันไหลทะลักออกมานองพื้นก็คือเสียงที่ผมได้ยิน โอ้ ไอ้พ่อบ้านนี้มันฆ่ายกครัวแน่ๆ ผมตัดใจเลิกคิดอยากรู้ว่าอะไรมันอยู่ข้างในแล้วเดินผ่านประตูทางเดินอีกรอบ ผมเห็นข้อความบนขอบประตูว่า “ ริซ่า ผมขอโทษ มีบางอย่างที่ชั่วร้ายมันอยู่ในตัวผม “ และตามทางเดินเดิมๆอีกรอบ ก็เริ่มทีข้อความที่พนังมากขึ้น “ Hi Lo “ เด็กน้อยเป็นคนเขียนผิดจาก Hello แน่ๆ แต่ที่ผมกำลังคิดคืออยากให้ไอ้เด็กผีบ้านี่มันหยุดแหกปากเสียทีเหอะ ใจอยากจะเข้าห้องน้ำแล้วหักคอให้มันตายอีกรอบแต่ก็ไม่กล้า ตัวเลขจากนาฬิกาบนโต๊ะ เที่ยงคืน พอดี ผมทำอะไรไม่ได้นอกจากเดินวนไปมาตามทางเดินรอบแล้วรอบเล่าจนคราวนี้แสงไฟทุกดวงมันก็แดงเถือกไปหมด !

.. โอ้ ให้ตาย ตาเริ่มเบลอ หัวใจก็เต้นแรงจนมันแทบจะระเบิดออกมาแล้ว นี่ผมกำลังจะบ้าเพราะความกลัวสุดขีดหรือสัญญาณว่าความสยองมันกำลังจะยกระดับขึ้นอันแน่ฟ่ะ ผมไม่รู้อะไรแล้ว ได้แต่วิ่งวนไปมา ท่ามกลางไฟสีแดงฉานที่ส่องทั้วบ้านและดวงตาที่น่าสยองที่มองมาจากทุกกรอบรูป ..นี่มันบ้าอะไรกันว่ะเนี้ย …

ให้ตายเถอะ ผมหมดแรงที่จะลุกขึ้นเดินอีกรอบและอีกรอบในบ้านบ้าๆนี้แล้ว จะฆ่าก็ฆ่า จะตายก็ตาย ผมเบื่อเต็มที ไม่รู้กี่รอบแล้วที่ผมต้องลุกขึ้นมาในบ้านนี้ซ้ำๆไปซ้ำๆมา จนผมสังเกตโทรศัพท์ที่ตกมุมทางเดินมาถูกยกออกจึงเข้าไปสำรวจ จู่ๆเสียงระฆังก็ดังกังวาลขึ้น ตามด้วยเสียงโทรศัพท์ตรงหน้า “ คุณเป็นคนที่ถูกเลือก “ ใครเลือก ? เลือกไปเพื่อ  มันจบแล้วหรอ ? ผมออกจากบ้านบ้าๆนี้ได้แล้วใช่มั๊ย ? และทันทีที่ผมก้าวพ้นประตูทางเดิน ผมก็ออกมาด้านนอกได้อย่างง่ายดายซะอย่างงั้น ผมหนีพ้นแล้วหรอ หรือ ฝันร้ายมันแค่เพิ่งเริ่มต้น ?




                บนถนนที่มีแสงไฟสลัวและเต็มไปด้วย หมอก ที่นี่มันที่ไหนกันแน่ ?


 

                                                  แล้ว ผม ล่ะ เป็นใคร ?


“ ระวัง ! ในทุกครั้งที่ก้าวผ่านในทุกความแตกต่างของทุกช่วงประตูที่ถูกแบ่งแยกตามความเป็นจริง ถามตัวเองก่อนว่า ตัวคุณเองจะเป็นคนเดิมอยู่หรือเปล่า ? “ 




วันจันทร์ที่ 18 สิงหาคม พ.ศ. 2557

Risen 3: Titan Lords


                                 


                                                      บทสรุป Risen 3: Titan Lords

by Decibel per - oxide


 กาละครั้งหนึ่ง ณ โลกที่เต็มไปด้วยฤิทธานุภาพแห่งศาสตร์มืด ในอดีตกาลยังมี นักเวทย์กลุ่มสุดท้ายกับเหล่าผู้ติดตามของเขาเป็นตัวแทนของพลังแห่งความดีที่คอยคานอำนาจกับความชั่วร้ายทั้งปวง วันนึงพวกเขาได้รับรู้ถึงการคุกคามจากพลังอำนาจจากด้านมืดที่ชั่วร้ายที่กำลังย่างกรายเข้ามาของ Shadow Lord แห่ง Underworld ผู้ชั่วร้าย เหล่านักเวทย์ต่างก็ให้คำปรึกษาที่ดีที่สุดกับกษัตริย์ของพวกเขาเพื่อเตรียมรับมือกับพลังด้านมืดที่ชั่วร้าย แต่ กษัตริย์และเจ้าผู้ครองนครต่างๆกลับไม่เชื่อ พวกเขาละทิ้งความหวังดีของเหล่านักเวทย์และทำการขับไล่พวกเขาไปใช้ชีวิตอย่างโดดเดี่ยวบนเกาะสายฟ้าแห่ง ทาแรนนิส ในฐานะพวกนอกรีต นับตั้งแต่นั้นมา จนวันเวลาผ่านมาถึงปัจจุบัน วันที่อำนาจมืดที่ชั่วร้ายกำลังจะกลับมาตามคำทำนาย เหล่ามนุษย์ที่เคยหันหลังให้แสงสว่างกลับไม่เคยล่วงรู้เลยว่า ชะตากรรมของพวกเขากำลังจะถูกกลืนหายไปกับความมืดมิดในไม่ช้า แต่ก็ยังมีกลุ่มนักสู้ในนาม ผู้พิทักษ์จอมเวทย์ ที่รวมตัวกันเตรียมการณ์อย่างลับๆเพื่อตามหา ผลึกเวทย์มนต์ Crystals magic ในตำนาน พลังแห่งแสงหนึ่งเดียวที่จะต่อต้านพลังแห่งความมืดของ Shadow Lord ที่ชั่วร้ายได้ เวลาเหลือรอดของมวลมนุษย์เหลือน้อยลงทุกทีแล้ว



โลกของโจรสลัด ในท้องทะเลเสรีที่กว้างใหญ่และแสนป่าเถื่อนของยุคนี้ 
สิ่งที่กีดขว้างอุดมการณ์ระหว่างทางของข้านั้นมีมากมาย
ข้ารู้ว่ามันยาก ให้ตายเถอะ ไม่เคยคิดว่ามันง่ายซะที่ไหนล่ะ 
และไม่รู้กี่ครั้งแล้ว ในระหว่างการต่อสู้ที่ต้องเผชิญหน้ากับความตายที่ทำให้ ยมฑูตยังต้องรอเก้อ มานักครั้งไม่ถ้วน
แต่ดูเหมือน.. ใบหน้าที่น่าเกลียดน่ากลัวของมันจะตามหลากหลอนข้าไม่เลิก 
ข้าคงทำให้ความตายรอเก้อเช่นเดิมเพราะใบหน้าที่หน้าขยะแขยงของยมฑูตตนนั้นมันไม่สามารถปิดกั้นจินตนาการในการพจญภัยของข้าไม่ได้หรอก กัปตันเรือผีสิงกับเหล่าลูกสมุน Minion กำลังแล่นเรือตีขนาบเข้ามาโจมตี ซึ่งข้าคงไม่ยอมอยู่เฉยแน่นอน …

 [ เนื่องจากตัวเอกของเกมไม่มีแม้ชื่อเสียงเรียงนามให้ได้ทราบผมจึงขอเรียกตัวเอกว่า “กัปตัน” แทนเพื่อสะดวกในการเข้าใจน๊ะครับ ] 



- เมื่อศัตรูตัวแรกบุกขึ้นมาบนเรือก็เข้าไปจัดการมันพร้อมเรียนรู้บบการต่อสู้ได้เลย

 

Y - กระโดด
X - กลิ้งตัวหลบ
B – ใช้ – เก็บ อาวุธหลัก (การสำรวจเก็บไอเทมต่างๆนั้นต้องอยู่ในสภาพ เก็บอาวุธ เสียก่อนด้วยจึงจะเก็บได้)
RT ค้าง - การปัดป้อง (Parry) ซึ่งในขณะปัดป้องนั้นจะไม่สามารถโจมตีได้ และสามารถรับแรงโจมตีของศัตรูแต่ละตัวได้แตกต่างกันด้วย
A - โจมตีด้วยอาวุธหลัก ( อาวุธ ดาบ สามารถ กดค้าง โจมตีหนักได้)
RB – โจมตีอาวุธสำรอง (ปืนสั้น)




- หลังจากจัดการศัตรูจนหมดกัปตันเรือผีสิงก็ส่งบอดี้การ์ดประจำตัวออกมาต่อสู้ Shadow Guardian นั้นใหญ่แต่ตัวรอจังหวะให้มันทำคอมโบจนหมดแล้วกลิ้งตัวหลบไปโจมตีมันจากด้านหลังมันไปเรื่อยๆก็จะจัดการได้ แต่ก็อย่าประมาทเพราะถึงแม้มันจะเป็นบอสทดลองสู้แต่ถ้าคิดจะบวกมั่วๆก็ตายได้เหมือนกัน หลังจากบอดี้การ์ดร่างยักษ์ของมันถูกกำจัด กัปตันเรือผีสิงก็ต้องออกโรงเอง หลังจากดวลดาบกับมันไม่นานกัปตันเรือผีสิงก็พ่ายแพ้ แต่ก่อนที่มันจะสิ้นฤทธิมันก็เรียกอสูรใต้น้ำขึ้นมาทำลายเรือของ กัปตัน จนแหลกไปต่อหน้าต่อตา..

โชคดีที่มันเป็นแค่ความฝัน ..แต่โชคร้ายกว่านั้นคือ มันตามหลอกหลอนกัปตันทุกครั้งที่หลับ ทันทีที่ Patty คู่หูของกัปตันเข้ามาปลุกที่ห้องเธอก็รูทันทีว่าเขาฝันร้ายถึงกัปตันเรือผีสิงอีกแล้ว กัปตัน ตื่นขึ้นและพยายามเล่าถึงกัปตันเรือผีที่ไล่ลาเขาทุกคืนให้ฟังแต่ดูเหมือน Patty จะไม่ได้เข้ามาฟังเรื่องซ้ำๆซากๆของกัปตันแล้ว เธอเข้ามาตามเพราะเรือเดินทางมาถึงเกาะเป้าหมายแล้วมากกว่า 

- ลุกขึ้นจากเตียงเก็บกุญแจบนโต๊ะไปไขที่ลังไม้ข้างๆเตียงเก็บอาวุธ ชุด และ ไอเทมในลังออกมาให้หมด จากนั้นกดปุ่ม back เข้าเมนูหลักเลือก Inventory – Equipment สวมใส่อาวุธและชุดให้เรียบร้อย



[Notice] การใช้ไอเทมและเวทย์มนต์
การกดใช้ไอเทมและเวทย์มนต์นั้น สามารถกดใช้ได้ในหน้าเมนูหลัก แต่ถ้าจะต้องการใช้อย่างรวดเร็วนั้นสามารถเซ็ทเข้าเมนูช็อตคัทได้โดยกด RB ที่ไอเทมหรือเวทย์มนต์ที่ต้องการแล้วใส่ไปที่ช่องเมนูซ็อตคัทได้ เวลาใช้ก็กดปุ่มทิศทางเปิดหน้าเมนูซ็อตคัทแล้วกดทิศทางไปที่ไอเทมหรือเวทย์มนต์นั้นๆก็จะใช้งานได้ทันที ส่วนไอเทมเติมพลังที่ดีที่สุดตอนนี้คือเหล้า Rum กับบรรดาเนื้อของมอนสเตอร์ต่างๆที่เก็บได้ (ต้องเอามาย่างที่กองไฟก่อนด้วย) และ ถังน้ำจืดที่อยู่ตามเมืองต่างๆ 

[Notice] เรียนรู้เรื่อง Abilities & Skill 
ทุกครั้งหลังผ่านการต่อสู้และจบภาระกิจต่างๆจะได้ค่า Glory มา ซึ่งสามารถนำมาอัพ Status Ability ในเกมนี้หมายถึง ความสามารถของร่างกายด้านต่างๆของตัวละครครับ ซึ่งประกอบด้วย

Melee ทำให้ใช้อาวุธดาบได้รุนแรงขึ้น 
Ranged ทำให้ใช้อาวุธปืนและธนูได้รุนแรงขึ้น
Cunning ทำให้ใช้อาวุธปืนสั้นและมีดสั้นได้รุนแรงขึ้น
influence Tongue ความสามารถในการเจรจาและจูง ทำให้สามารถเลือกหัวข้อสนนาที่เป็นความลับได้
Toughness ความแข็งแรงของร่างกาย
Dexterity ความคล่องแคล่ว ในที่นี่ส่งผลต่อความชำนาญในการใช้ Pick lock เปิดกล่องต่างๆได้มากขึ้น 
Magic ทำให้ใช้เวทย์มนต์ได้รุนแรงขึ้น 
Spirit ทำให้มีพลังวิญญาณสูงขึ้น ส่งผลไปถึงความสามารถด้านผสมเวทย์มนต์และการใช้ Astral Vision 

 ส่วน Skill ต่างๆนั้นสามารถเรียนรู้ได้จากตัวละคร NPC ต่างๆในเมืองโดยต้องใช้เงินและค่า Status ของ Ability ประกอบในการเรียนรู้ด้วย ซึ่ง Skill ที่ได้จากเหล่า Trainer นั้นในเกมนี้หมายถึง ทักษะความเชี่ยวชาญเสริม ซึ่ง Skill เสริมบางอย่างเช่น ความสามารถในการเจรจาชักจูง  การปลดล็อคกล่อง และล้วงกระเป๋านั้น มีความจำเป็นในการใช้ในเควสย่อยต่างๆ อย่างมาก และ Skill ต่างๆที่ฝึกได้ยังส่งผลถึงการเพิ่มของค่า Status Ability ของตัวละครให้เพิ่มขึ้นไปด้วย จึงต้องหมั่นจดจำถึงความสามารถในการสอนของ NPC แต่ละคนในแต่ละพื้นที่ให้ดีด้วย โดย Skill ทั้งหมดจะประกอบด้วย

Melee ทักษะต่างๆในการใช้ดาบ 
Ranged ทักษะต่างๆในการใช้อาวุธยิงไกล 
Toughness ทักษะต่างๆของร่างกายเช่น การรักษาตัวเอง 
Magic ทักษะต่างๆด้านเวทย์มนต์ 
Hunting ทักษะต่างๆด้านการล่าและฝึกฝนสัตว์ 
Thievery ทักษะต่างๆด้านการลักขโมยและการย่องเบา 

[Notice] ความสะดวกของ Fast Travel 
ไม่ว่าอยู่ที่สถานที่ใดก็ตามถ้าต้องการกลับมาที่เรือสามารถเปิดเมนูแผนที่แล้วกด X จะวาร์ปกลับมาที่เรือได้ทันที และตามจุดวาร์ปตามเมืองต่างๆนั้นสามารถปลดล็อคได้ด้วยไอเทม Teleporting Stone ที่ซ่อนอยู่ที่ต่างๆตามทางโดยเปิดเมนูแผนที่แล้วกด A วาร์ปไปตามจุดเทเลพ็อตของสถานที่ต่างๆได้ทันทีเช่นกัน ยิ่งหาเจอเยอะก็จะสามารถปลดล็อคจุดวาร์ปได้หลายที่ก็จะสะดวกในการเดินทางยิ่งขึ้น 



[Notice] การใช้ Lock pick เปิดกล่องสมบัติ

กล่องสมบัติที่เจอตามที่ต่างๆนั้นต่างก็มีระดับความยากของมันอยู่ซึ่งจำเป็นต้องมีค่า Skill Dexterity ในระดับสูงเท่ากันหรือมากกว่าถึงจะเปิดได้ จากนั้นก็ต้องมีไอเทม Lock pick ที่มีขายตามร้านต่างๆด้วย โดนวิธีสะเดาะล็อคก็คือ ใช้ Lock pick รูดไปมาเพื่อทำให้แทงกลไกทุกอันให้ขึ้นไปค้างอยู่ด้านบนพร้อมๆกันให้หมดทุกอันถึงจะเปิดได้ ซึ่งแต่ละกล่องก็จะมีแทงกลไกในจำนวนที่แตกต่างกันตามระดับเลเวลของกล่อง 

[Notice] การตาย
ในขณะดำเนินเรื่องถ้าเกิดการตายขึ้นโดยถ้าเป็นการตายในภาระกิจต่างๆต้องโหลดขึ้นมาที่จุดที่เซฟไว้ล่าสุดเท่านั้น แต่ถ้าเกิดจากไปงัดกับใครในเมืองต่างๆ หรือไปแอบหยิบของชาวบ้านจนเกิดการต่อสู้ขึ้น แล้วเก่งแต่ปากโดนอัดจนตายก็ไม่เป็นไรครับ เพราะไม่นานก็จะฟื้นขึ้นมาได้เอง และต้องเสียค่า Glory ด้วยนิดหน่อยเท่านั้น

[Notice] การเซฟเกมส์
การเซฟเกมนั้นทำได้ 2 แบบคือ Auto Save ที่เกมจะเซฟให้แบบอัตโนมัติหลังเข้าพื้นที่ต่างๆ แต่เพื่อความชัวร์ก็ควรกดปุ่ม Starts เข้าไปกด Save แบบปกติเอาไว้อีกบล็อคนึงด้วยจะดีที่สุด เพราะสามารถเซฟได้ทุกทีและโหลดกลับมาที่เดิมได้ตลอด จะได้มีข้อมูลสำรองไว้เผื่อยามมีความผิดพลาดในการตัดสินใจและอันตรายที่เกิด Bug ที่มีอยู่เพียบในเกมนี้ 


                                           Chapter 1: The Old Temple

- เมื่อออกมาที่ดาดฟ้าเรือจะพบว่าเรือเข้าถึงชายฝั่ง Crab Coast แล้ว  กัปตัน และ Patty ลูกทีมคนแรกก็ลงไปสำรวจทันทีเพื่อตามกลิ่นสมบัติตาวิสัยของโจรสลัด จากนั้นลุยเข้าไปตามทางในป่าจนถึงริมแม่น้ำ Patty จะชี้ให้เห็นศพของโจรสลัด เมื่อเข้าไปสำรวจที่ศพจะพบแผนที่สมบัติของมัน



                                     [Notice] เรียนรู้ระบบ Quest 

Quest หรือ ภาระกิจ ที่มีให้เลือกทำนั้นจะรวมกันอยู่ในเมนูย่อย Logbook ของหน้าเมนูหลักโดนเควสต่างๆจะประกอบด้วย
– [Main Quest] เควสหลักของเนื้อเรื่อง จะเรียงอยู่ที่แถวบนสุดของตารางไล่เรียงลงมาตามลำดับเหตุการณ์ของเนื้อเรื่องที่ได้รับเควสมา
–  [Crew Quest] เควสของลูกเรือ เพื่อใช้ตามหาลูกเรือและทำเควสเรื่องราวที่ลูกเรือแต่ละคนขอให้ทำ
– [Sub Quest] เควสย่อยของแต่ละเกาะ ภาระกิจต่างๆของผู้คนในพื้นที่
– [Location Quest] เควสย่อยตามหาสถานที่หรือคีย์ไอเทมต่างๆ (Location Quest) เช่น การตามหาผลึกเทเลพอร์ตสำหรับใช้กับจุดเทเลพอร์ตตามที่ต่างๆเพื่อสะดวกในการวาร์ปเดินทางไปมาระหว่างเมือง
– [Legendary item Quest]   เควสตามหาไอเทมในตำนานต่างๆที่ได้จากการเก็บบันทึกที่ตกอยู่ตามทางเพื่อสะสมหรือขาย

      

 โดยขั้นตอนการรับเควสนั้น แต่ละเควสจะสามารถกด A เพื่อดูรายละเอียดภาระกิจที่ต้องทำประกอบเควสนั้นๆได้ ซึ่งเราสามารถเลือกกำหนดไปที่รายละเอียดของเควสที่ต้องการจะทำได้โดยกด X กำหนดที่เควสที่ต้องการให้เป็นแถบแดง ทิศทางและเป้าหมายรูป X สีแดงก็จะขึ้นมาในแผนที่ ซึ่งผมจะเรียกว่า การกำหนดภาระกิจ ถ้าไม่มี X เป้าหมายขึ้นมานั้นแปลว่า เป็นเควสตามเก็บไอเทมหรือไม่ก็เป้าหมายไม่ได้อยู่ในพื้นที่ของเกาะที่เราอยู่ซึ่งก็สามารถกด Y ที่แผนที่เพื่อดู World Map ใหญ่ได้ว่าเป้าหมายอยู่ที่เกาะไหน ฉะนั้นการกำหนดเป้าหมายในการทำเควสจึงเป็นเรื่องที่สำคัญมากเนื่องจากมีเควสที่ต้องทำปะปนกันจำนวนมากซึ่งอาจทำให้สับสนได้ ส่วนสัญลักษณ์กากบาท สีส้ม ในแผนที่คือผู้มอบหมายเควสที่เราต้องกลับมาจบเควสหลังจากทำตามเงื่อนไขเสร็จแล้วนั่นเอง  

[Notice] เนื่องจากเควสย่อยนั้นมีจำนวนมาก ในบทสรุปของผมจะกล่าวถึงแต่เควสหลักของเนื้อเรื่องที่ทำให้เกมดำเนินต่อไปได้เท่านั้น ส่วนเควสย่อยต่างๆนั้นผู้เล่นต้องการเก็บมากน้อยแค่ไกนก็สุดแล้วแต่ใจและความพยายามได้เลยครับ **

**  ยกตัวอย่างเควสแรกนั้นให้เข้าเมนู Logbook – Active แล้วกด X ที่เควส Dead Pirates Treasure ให้เป็นสีแดง กดเปิดดูแผนที่แล้วมุ่งหน้าไปที่นั่นมองหาจุดกากบาทสีแดงบนพื้นแล้วเก็บพลั่วที่ปักอยู่มาใช้ขุด (จะขุดสมบัติทุกครั้งต้องมีพลั่วด้วย) ก็จะพบสมบัติที่ต้องการ **




- ระหว่างทาง กัปตัน จะพบกับชายลึกลับที่มีร่างเรืองแสงคอยปรากฏให้เห็นอยู่ตลอด จากนั้นเดินย้อนกลับมาที่ทางแยกกดคันโยกเปิดประตูซากวิหารเล็กเข้าไปเก็บสมบัติออกมาให้หมดแล้วเข้าไปด้านในต่อจนถึงทางขาด สำรวจรากต้นไม้ด้านซ้ายเพื่องัดมันให้ล้มลงไปเป็นสะพานข้ามไปอีกฝั่งได้ ลุยเข้าไปตามทางจนถึงลานกว้างจะพบพวกโจรสลัด อีกกลุ่มอยู่ที่นี่ด้วย ด้านหลังของบันไดทางขึ้นจะเป็นทางขาดแต่จะสามารถใช้เวทย์ Parrot flight แปลงร่างเป็นนกแก้วบินข้ามไปเก็บไอเทมสมบัติอีกฝั่งนึงได้ จากนั้น Patty จะแนะนำให้จัดการพวกโจรสลัดกลุ่มอื่นเสียก่อนที่มันจะแย่งสมบัติไป เข้าไปจัดการพวกศัตรูที่แค้มป์ให้หมด แล้วเข้าไปด้านในตามทางต่อจนถึงลานหน้าซากวิหารขนาดใหญ่
- Patty จะขอแยกตัวสำรวจด้านหน้าก่อนโดยจะให้กัปตันลองไปหาทางเข้าไปเปิดประตูวิหารจากด้านในดู (ไม่รู้ใครเป็นกัปตันกันแน่ ^_^) จากนั้นเดินเลาะแม่น้ำไปทางฝั่งขวาของทางเข้าจะมีเนินให้ปีนขึ้นไปด้านบนก็จะพบประตูทางเข้าด้านข้างของวิหาร ลุยเข้าไปในซากวิหารจนถึงชั้นบนที่ห้องด้านในเก็บหน้ากากที่พื้นเอามาใส่ที่แท่นตรงพนังก็จะเปิดทางเข้าด้านหน้าให้ Patty ตามเข้ามาได้




- จากนั้นลุยเข้าไปตามทางด้านในวิหารซึ่งจะเริ่มมีศัตรูแปลกๆออกมาตลอด เมื่อทั้งคู่ผ่านออกมาจนถึงด้านหลังวิหารก็จะพบกับถ้ำรูปร่างคล้ายหัวปีศาจผุดขึ้นมาก่อนที่พวกสัตว์ปีศาจ 2 ตัวจะเริ่มคืบคลานออกมา จัดการพวกมันให้หมดจากนั้นจอมปีศาจลึกลับตนนึงจะออกมาจากช่องว่างมิติ มันตรงเข้ามาซัด Patty จนกระเด็นก่อนที่จะดูดเอาวิญญาณของกัปตันไปแล้วหายตัวไปในทันที

 เหตุการณ์เกิดขึ้นรวดเร็วเกินกว่าทั้งคู่จะเข้าใจ Patty พยายามปลุกร่างไร้วิญญาณของกัปตันของเธอที่นอนแน่นึงอยู่กับพื้น “ มันสายไปแล้ว” คำสั่งเสียสั้นๆที่กัปตันบอกกับ Patty ก่อนที่เขาจะแน่นิ่งไป ขณะที่ Patty ตระโกนลั่นเธอก็รู้อยู่แก่ใจดีแล้วว่าเธอได้เสียกัปตันของเธอไปเสียแล้ว..





3 อาทิตย์หลังฝังศพกัปตนไว้ที่ชายฝั่งของ Crab Coast ก่อนที่ Patty และลูกเรือแต่ละคนจะสลายตัวกันไปด้วยความหมดหวัง แต่แล้วคืนนึงชายแก่ลึกลับคนนึงก็เข้ามาขุดหลุมศพของกัปตันขึ้นมาแล้วใช้เวทย์มนต์ดำแห่งวูดูทำให้เขามีชีวิตขึ้นมาอีกครั้ง ….






ทันทีที่ กัปตัน รู้สึกตัวอีกครั้งเขามำถามมากมายที่จะถามชายแก่ที่เขาเจอเป็นคนแรกหลังฟื้นจากความตาย ก่อนที่ชายแก่จะแนะนำตัวว่าเขาชื่อ Bones เป็นหมอผีวูดู  เขาบอกถึงสถานะการณ์ให้กัปตันรู้ว่าตอนนี้กัปตันถูกจอมมารนามว่า Shadow Lord ฆ่าตายและมันได้ดูดวิญญาณของกัปตันลงนรกอเวจีไปด้วย แล้วที่ Bones ทำได้ก็แค่ใช้ไสย์เวทย์เรียกกัปตันกลับมาจากความตาย แต่จะอยู่ได้นานแค่ไหนนั้นเขาไม่รับประกัน ซึ่งกัปตันก็คิดว่า อยากให้มันนานพอที่จะสามารถหาทางนำวิญญาณของเขากลับคืนมาให้ได้ก็พอ ที่เหลือก็แต่เพื่อหาคำตอบกับคำถามที่ว่า ทำไมจอมมารถึงเลือกกัปตัน แค่อยู่ผิดที่ผิดทาง หรือ มันเป็นชะตากรรม กันแน่ Bones บอกวิธีช่วยเท่าที่เขารู้ตามตำนานที่ว่า พลังจากผลึกเวทย์มนต์ Crystals magic ของเหล่าจอมเวทย์ที่ถูกเนรเทศไปที่ เกาะสายฟ้าแห่ง ทาแรนนิส เมื่อครั้งอดีตกาลเท่านั้นที่จะสามารถหยุดยั้งภัยร้ายของ Shadow Lord แห่ง Underworld ได้   




เมื่อรู้ถึงการกลับมาของจอมมาร Shadow Lord Bones จึงต้องหาทางหยุดยั้งมันโดยด่วน ทางเดียวที่จะต้านอำนาจชั่วร้ายที่แข็งแกร่งได้เหล่าพันธมิตร Guild of the Guardians แห่งทาแรนนิส ทั้ง 3 ต้องผนึกกำลังกันเพื่อต่อสู้กับมัน แต่ก่อนอื่นต้องหาทางไปเตือน Guild ทั้ง 3 รู้ถึงภัยร้ายที่กำลังคืบคลานให้เร็วที่สุด 

- จากนั้นคุยกับ Bones ให้หมดทุกหัวข้อซึ่งรวมทั้งคำถามที่ว่า Where is patty ซึ่งก็ได้ความว่าหลังจากเสียกัปตันไปเรือก็ถูกยึดโดยกลุ่มโจรสลัด Bloody Harry และตัวเธอก็ถูกจับตัวไปด้วยโดยแค้มป์ของพวกมันจะอยู่ที่ไหนซักแห่ง เมื่อคุยจบถ้าไม่มีอะไรทำที่เกาะ Crab Coast นี้แล้วก็เลือกหัวข้อ get out of Here ได้เลย Bones ก็จะพามาที่เรือของเขา เมื่อมาที่เรือของ Bones คุยกับเขาอีกครั้งในทุกหัวข้อสนทนา ซึ่งก็จะได้เควส Only Worth Half as much มา

- คุยกับ Bones จบแล้วเลือกหัวข้อสุดท้าย Come on let go เขาก็จะเข้าร่วมปาร์ตี้ทันที

[ Notice] ข้อควรรู้ของระบบปาร์ตี้
ปาร์ตี้ที่สามารถพาเดินทางมาด้วยได้แค่ 1 คน (+ ตัวละครที่เป็น NPC ของเควสต่างๆได้อีก 1 คน)  โดยให้คุยคุยกับเพื่อนในปาร์ตี้แล้วเลือกหัวข้อสุดท้าย Come on Let Go เพื่อนที่เลือกก็จะเข้าร่วมทางทันที ถ้าต้องการให้ออกจากปาร์ตี้ก็คุยกับเขาอีกครั้งแล้วเลือก Wait Here เพื่อนก็จะออกจากกลุ่มทันที และข้อควรจำคือพวกเพื่อนในปาร์ตี้นั้นค่อนข้างเก่งกว่าเรา ตายยาก และถ้าตายก็รอซักพักก็จะพื้นกลับคืนมาได้ใหม่อีกครั้ง ฉะนั้นการต่อสู้ที่ฉลาดก็ควรใช้พวกเขาให้เป็นประโยชน์มากกว่าที่จะห้าวจนเจ็บตายเอง 




- จากนั้นสำรวจที่หางเสือเรือเลือก Get Sail ก็จะสามารถออกเดินทางไปตามเกาะต่างๆได้ โดยใน World map จะมีทั้งหมด 6 เกาะ คือ
1. Crab Coast คือชายฝั่งที่อยู่ตอนนี้ 
2.Calador 
3. Tacarigua
4.Kila
5. Taranis
6. Antigua 

เปิดดูเมนูเควสจะพบเควสมากมายให้ทำแต่ที่ต้องทำคือ เควสตามหาลูกเรือ (Crew)
– Find Jack the Lighthouse keeper
- Where is patty
เลือกเควส Find Jack the Lighthouse keeper ก่อนโดยรายละเอียดจะบอกให้เดินทางมาที่เกาะ Tacarigua ซึ่ง Bones จะให้คำแนะนำว่าให้ไปหาข่าวของ Patty กับชายที่ชื่อ Jack ที่เกาะ Tacarigua ดู

- จากนั้นเลือกเดินทางมาที่ เกาะ Tacarigua ระหว่างทางกัปตันจะพบกับเรือผีสิงที่เขาเคยเจอในฝัน ซึ่ง Bones จะเล่าว่าไม่ว่าจะรู้จักมันเพราะอะไรให้อยู่ห่างๆเรือปีศาจลำนี้เอาไว้เพราะกัปตันของเรือลำนี้ก็เคยมีเรื่องเล่าว่า เขาก็ถูกดูดวิญญาณไปเช่นกัน ชื่อของมันคือ Captain Crow! แต่ กัปตันกลับคิดว่าเจ้ากัปตันเรือผีสิงคนที่เคยกลับมาจากนรกนี่แหละที่จะเป็นทางเดียวที่จะพาเขาไปหาวิธีที่เขาจะทวงวิญญาณกลับมาได้มากกว่า


                                           Chapter 2: New Allies 

เกาะ Tacarigua
- เมื่อเดินทางมาถึงเกาะ Tacarigua จะพบ Jack ยืนอยู่ที่ชายหาด คุยกับเขาให้หมดทุกหัวข้อก็จะทำให้ได้เควสจากเขามา 2 เควสคือ
1. News from Puerto Sacarico (เควสหลัก)
- โดยเควส News from Puerto Sacarico นั้นเมื่อกำหนดจุดแล้วก็เดินทางมาที่เมือง Puerto Sacarico ที่อยู่ติดชายทะเลด้านทิศเหนือ แล้วมาตรงกากบาทในแผนที่ของเมือง คุยกับนายทหารในบ้านชั้นบนและทหารแถวๆนั้นให้หมดทุกคนทั้งกลางวันและกลางคืน แล้วกลับมาบอก Jack ก็เป็นอันจบเควส จากนั้นเขาก็จะบอกข้อมูลที่กัปตันต้องการคือ Patty นั้นถูกโจรสลัดกลุ่ม Bloody Harry จับตัวไปที่เกาะ Kila
2. Kicking Ass (เควสย่อย)
- ขึ้นไปที่ประภาคารด้านบนจะพบนายทหาร 2 นายซึ่งเป็นคนของ Jack ที่ยึดเอาสมบัติเขาไปจนหมด โดยทหารชื่อ Tanner ใช้ดาบต้องคุยที่คำสั่งที่ 3 เพื่อถ้าประลองกับมันจนชนะมันถึงยอมกลับไปหา Jack ที่ชายหาด ส่วนทหารคนที่ใช้ปืนชื่อ Hosbby นั้นต้องรับเควสย่อยจากเขา แล้วเข้าไปเอาไอเทมในกล่องที่อยู่ในถ้ำเป้าหมายใกล้ๆน้ำตก ด้านในเต็มไปด้วยศัตรูเก่งๆ แต่ถ้าอยากทุ่นแรงก็ให้ล่อพวกมันให้ออกมาจากถ้ำมาที่ชายหาดให้ Jack และ Tanner ช่วยสู้จะชนะได้ง่ายมาก แล้วค่อยกลับไปเอาของในถ้ำออกมาให้ Hosbby แล้วเขาก็จะตามออกไปที่ชายหาดด้วย

- จากนั้นไปคุยกับ Jack ก็จะให้รางวัล และบอกถึงข้อมูลของ Guild ของพวก Guardian Mage กลุ่มนักรบที่เป็นทายาทของผู้พิทักษ์นักเวทย์กลุ่มสุดท้ายที่ถูกเนรเทศจนหมายสาปสูญไป พวกเขายังคงทำหน้าที่ตามหาผลึกพลังแห่งเวทย์ที่ยังหลงเหลืออยู่เพื่อจะไว้ต่อสู้กับจอมมารที่ชั่วร้ายที่พวกเขาเชื่อตามบรรพบุรษว่ามันจะกลับมาในซักวัน ซึ่งก็จะทำให้ได้ เควส A Follower of Magic มา หลังคุยจบ Jack ก็จะกลับไปอยู่ที่ประภาคารตามเดิม ก็เป็นอันจนเควส

เควส A Follower of Magic 
- แวะไปที่ชายหาดทางซ้ายของท่าเรือจะพบ Horas คนของกิลด์ Guardian Mage ที่มาแอบอยู่ที่นี่ เมื่อเข้าไปสอบถามก้พบว่าเขาถูกทางกิลด์ส่งมาหาคริสตัลที่เมือง Puerto Sacarico แต่ถูกพวกทหารยัดข้อหาฆ่าคนตายให้ กัปตันจึงเสนอว่าให้เขาเป็นพวกด้วยเพื่อจะได้พาหนีออกจากที่นี่ Horas ก็ยินดีที่จะตามไปทันที
- หลังจากกลับมาที่เรือคุยกับ Bones อีกครั้งในทุกหัวข้อสนทนาเขาก็จะเล่าถึง Guild นักรบที่แข็งแกร่งอีกกลุ่มนึงให้รู้จักคือ Demon Hunter แห่ง Calador แล้วก็จะได้เควส the Realm of the Shadows มา






เกาะ KILA
- เดินทางมาที่เกาะ Kila แล้วเลือกกำหนดทำเควส Crew ของ Patty ก็จะพบเป้าหมายของเธออยู่ที่หมู่เกาะด้านทิศเหนือ เมื่อกัปตันเข้าไปคุยกับเธอว่ายังไม่ตาย Patty ก็ถึงกับดีใจแต่ก็ตบไปทีนึงโทษฐานที่ทำให้เธอเสียใจ Patty เล่าว่าเธอและลูกเรือทั้งหมดถูกไอ้เจ้า Slim หนึ่งในลูกเรือของกัปตันหลอกเอาทั้งเรือและแผนที่สมบัติที่ได้มาไปขายกับพวกโจรสลัด Bloody Harry แล้วก็หอบทองหนีไปคนเดียว แต่โชคดีที่เธอหนีมาได้ หลังคุยจบก็ได้เควสของ Patty มา 2 เควสคือ

1. Crew Quest – Sign patty on ซึ่งเงื่อนไขที่ทำให้เธอกลับเป็นลูกเรืออีกครั้งก็คือ หาเรือใหญ่ๆมาให้ได้ซะก่อน

** ถึงแม้ Patty จะยังไม่ยอมเข้าเป็นลูกเรือแต่ก็สามารถคุยกับเธอเพื่อให้ร่วมเดินทางด้วยเช่นกัน ซึ่งถ้ารวมกับ Bones ก็จะกลายเป็น 3 คนทำให้การเดินทางราบรื่นขึ้นเยอะ แต่จะไม่สามารถนำ Patty ออกจากเกาะ Kila ได้ในตอนนี้น๊ะ **

2. เควสย่อย Revenge is sweet คือ เควสตามหาเจ้า Slim คนทรยศ (Patty ขอให้ช่วย)

- หลังจากได้ Patty เข้าร่วมกลุ่มแล้วจากนั้นออกมาสำรวจที่หมู่เกาะ Kila ด้านทิศใต้ก็จะพบพวกโจรสลัด Bloody Harry ตั้งแค้มป์อยู่กันที่นี่มากมายเพื่อพักผ่อนและซ่อมแซมเรือ เมื่อเข้าไปจะได้สู้กับมือขวาของกัปตัน Harry ซึ่งจะเป็นการสู้แบบตัวต่อตัว (แต่ Bones แอบเติมพลังให้) จากนั้นคุยกับกัปตัน Harry และลูกเรือให้ทั่วๆก็จะพบว่าที่นี่กำลังจะเกิดสงครามระหว่างพวกโจรสลัดและกลุ่มชาวพื้นเมือง Kila ซึ่งจะทำให้มีเควสย่อยของลูกเรือให้เลือกทำ มากมายพยายามทำให้หมดวึ่งส่วนใหญ่จะเป็นเควสเคลียร์ปัญหาเรื่องน้ำกับพวกพื้นเมือง แต่ก็มีเควสหาลูกเรือของเราอยู่ที่นี่ด้วยนั่นคือ Saddec แต่ต้องอดทนภาระกิจของเจ้าอ้วนขี้เมา Booze ก่อน

[ Crew Quest] - Sign Saddec on 
คุยกับ Saddec ที่ยืนอยู่ข้างๆเรือในแค้มปพวกโจรสลัด ซึ่งเงื่อนไขคือ เขาจะตามไปด้วยต่อเมื่อ Booze เจ้านายของเขาไม่ต้องการเขาแล้ว โดยจำเป็นเคลียร์เควส Booze’s Befuddled Mind ของเจ้าอ้วน Booze ที่ยืนข้างๆเครื่องหมักเหล้าข้างเรือ รับเควสจากมันแล้วก็จะมีภาระกิจที่มันขอร้องให้ทำนิดหน่อย
- Unexpected Effect ปัญหาที่เจ้าอ้วนมันหงุดหงิดเรื่องชาวเผ่าพื้นเมืองชอบเข้ามากวนใจ จากนั้นนอนให้ตื่นตอนกลางคืนแล้วมาที่กองไฟข้างๆด้านขวาซากเรือจะพบ Borbor ชาวเผ่าพื้นเมืองแอบอยู่ คุยกับเขาแล้วเพื่อนำทางเขาหนีออกมาที่กลางป่า จากนั้นคุยกับเขาเพื่อรับให้เขาพาเดินทางเข้ามาในป่าลึกต่อ วิ่งตามเขาไปเรื่อยๆจนถึงหมู่บ้านกลางป่าของชาว Kila ซึ่งก็จะพบว่าชาวบ้านที่นี่เป็นพวกหมอผีวูดูเหมือน Bones เพื่อกันงงยังไม่ต้องเดินเรื่องที่หมู่บ้านให้กลับไปรายงานกับ Booze ก่อน มันก็จะให้ภาระกิจใหม่มาอีก
– Where the Shipment ซึ่งมันจะให้ออกตามหา Harry ลูกน้องของมันที่หายตัวไป กำหนดเป้าหมายแล้วก็จะมีจุดหมายขึ้นให้เอง
– Each Egg Like the Other มันจะให้ออกไปหาวัตถุดับสำหรับหมักเหล้าของมัน โดยไปที่จุดหมาย X เก็บไข่ Firebird มาให้มัน 3 ฟอง

จากนั้นมัน Boozeจะเริ่มหมักเหล้า รอ 2 – 3 วันค่อยมาถามมันใหม่ว่าเหล้าได้ที่หรือยัง เมื่อเหล้ารัมหมักได้ที่แล้ว มันจะให้เหล้ารัมมาเพื่อไปแจกลูกเรือคนอื่น เอาเหล้ารัมไปแจกลูกเรือที่อยู่รอบๆพื้นที่ให้หมดทุกคน แล้วพวกมันจะมาล้อมวงกินเหล้ากันที่กองไฟ เมื่อกัปตันเข้าไปคุยด้วยก็เกิดปากเสียงกับ เจ้าอ้วน Booze จนมันเข้ามาสู้ด้วย จัดการมันซะ แล้วไปคุยกับ Saddec ที่ยืนอยู่ข้างๆเรืออีกครั้ง เขาก็จะตกลงเข้าร่วมเป็นลูกเรือด้วย แต่เอาไว้ถ้าได้เรือใหญ่แล้วก็ค่อยมาคุยกับเขาอีกทีก็แล้วกัน

- จากนั้นค่อยไปทำความรู้จักกับคนที่หมู่บ้านกลางป่าของชาว Kila เข้าไปคุยกับชาวบ้านให้ทั่วๆ โดยเฉพาะกับหัวหน้าเผ่า Hirutu และแม่หมอของหมู่บ้าน Tanya ซึ่งก็จะได้เควสหลัก New Allies ภารกิจ The Kiss of the Dead ซึ่งเป็นภาระกิจในการทดสอบเข้าเผ่ามา

เมื่อมาถึงหมู่บ้านของชนเผ่า Voodoo ก็จะได้เวลาทำเควสย่อยตามหาเจ้า Slim คนทรยศที่ Patty ขอให้ช่วยแล้ว
เควสย่อย Revenge is sweet
- ที่หมู่บ้านของชนเผ่า Voodoo จะพบเจ้า Slim ที่บ้านหลังในสุดที่หมู่บ้านของพวกชาวเผ่าพื้นเมือง Kila ที่อยู่กลางป่า แล้วมาคุยกับหัวหน้าเผ่า Hirutu เขาจะโกรธมากที่ Slim เข้ามาขโมยทองจนคิดจะเปิดฉากรบกับพวกโจรสลัด จากนั้นคุยกับ Tanya หมอผีหญิงในหมู่บ้านจะได้เควส On The Warpath มา จากนั้นเข้ากระท่อมทางขวาล่างของหมู่บ้านสำรวจที่เตียงของ Mokoto จะได้เส้นผมของเขามา เอาไปให้ Tanya แล้วเธอจะทำตุ๊กตาหุ่นเชิด Mokoto Voodoo Doll ให้ ซึ่งเป็นไอเทมประเภทเวทย์มนต์ ติดตั้งซะแล้วลงบันไดไปที่สะพานแขวนกลางหมู่บ้านจะพบ Mokoto ยืนอยู่ กดใช้ Mokoto Voodoo Doll จะทำให้สามารถบังคับร่างของมันได้ จากนั้นใช้ร่างของมันไปคุยกับTanya ก่อนแล้วเอาคำแนะนำของเธอไปคุยกับหัวหน้าต่อ  ,ไปคุยกับยามหน้าทางเข้าหมู่บ้านแล้วเอาความเห็นที่ได้ไปบอกหัวหน้าหมู่บ้านอีกครั้ง จากนั้นข้ามสะพานแขวนทางขวาไปคุยกับผู้หญิงข้างๆซากวิหาร แล้วเอาความเห็นที่ได้ไปบอกหัวหน้าหมู่บ้านอีกครั้ง ด้วยความที่ Mokoto เป็นนักรบของเผ่าเขาจึงยอมเชื่อที่จะไม่ทำสงครามกับพวกโจรสลัดให้เสียเลือดเนื้อแล้ว จากนั้นไปคุยกับเจ้า Slim ที่โดนขังในกระท่อมด้านในเพื่อบอกมันว่า มันจะไม่โดนจับขังอีกแล้วแต่มันจะโดนบูชายัญแทน ฮ่าๆ เสร็จเรื่องแล้วคุยกับ Patty ในปาร์ตี้ก็จะจบเควส Revenge is sweet

- ก่อนออกจาก Kila สำรวจพื้นที่ไปจนถึงด้านเหนือของหมู่บ้านก่อนจะพบประตูขนาดใหญ่ที่กั้นหมู่บ้านที่ถูกลืมที่อยู่ด้านใน หน้าประตูมี Baraka ผู้เฝ้าประตูใหญ่แห่ง Kila ดูแลอยู่ เมื่อคุยกับเขาจะทำให้รู้ว่าเขาต้องการไอเทม Ancient Knowledge ถึงจะเปิดประตูให้ผ่านได้ (ซึ่งไม่ใช่ Ancient Knowledge ที่เก็บได้ตามทางน๊ะ) ตอนนี้กัปตันยังหาไม่ได้จึงต้องผ่านตรงนี้ไปก่อน แถวๆหน้าประตูตรงทางลาดจะมีชายคนนึงยืนรออยู่มันชื่อ Mud มันต้องการจะผ่านประตูนั้นเข้าไปด้วย แต่ถ้ายังไม่อยากรำคาญกับมันก้อย่าเพิ่งไปคุยเพราะถ้ารับมันเข้ากลุ่มมันจะตามตลอดทำให้เปลืองพื้นที่ของปาร์ตี้ไปเปล่าๆ แถมไล่ก็ไม่ไปจนต้องตีให้บาดเจ็บหรือเอาเงินฟาดหัวมันถึงจะไปแต่ก็ทำให้เสียเควสย่อยของมันไปด้วย ฉะนั้นอยู่ห่างๆเจ้า Mud ไว้ก่อนดีกว่าถ้ายังไม่ได้ Ancient Knowledge มา


                                                      [Notice]

ถึงตรงนี้ก็จะได้พบกับกลุ่มพันธมิตรทั้ง 3 กลุ่มและเควสในการเข้าร่วมกับพวกเขาแล้ว ซึ่งผู้เล่นสามารถเลือกได้ว่าจะเข้ากับกลุ่ม Guild ไหนจาก 3 กลุ่มโดยต้องรับเควสทดสอบตามแต่ละ Guild ให้มาซึ่งเควสทดสอบของทั้ง 3 กิลด์จะอยู่รวมกันในหัวข้อเควส New Allies คือ 
1. ถ้าอยากเข้าร่วมกับ Pirates voodoo แห่ง Kila ก็เดินทางไปยังเกาะ Kila  รับทำภาระกิจ The Kiss of the Dead กับ หัวหน้าเผ่า Hirutu ที่หมู่บ้านชนเผ่า Voodoo 
2. ถ้าอยากเข้าร่วมกับ Demon Hunter แห่ง Calador ก็เดินทางไปยังอณาจักร Calador รับทำภาระกิจ the Realm of the Shadows กับหัวหน้ากิลด์ Eldric ที่วิหารแห่ง Demon Hunter 
3. ถ้าอยากเข้าร่วมกับ Guardian Mage แห่ง Taranis ก็เดินทางไปยังเกาะ Taranis รับทำภาระกิจ The Swearing in Ceremony กับหัวหน้ากิลด์ นายพล Magnus ที่ป้อมของ Guardian

ป.ล ในการเลือกเข้ากลุ่มต่างๆนั้นจะสามารถเลือกได้แค่กลุ่มเดียวและเปลี่ยนไม่ได้อีกหลังจากเลือกเข้ากลุ่มไปแล้ว ซึ่งก็จะส่งผลถึงการได้เรือที่แตกต่างกันในภายหลังด้วย แต่การเลือกนั้นจะสามารถทำได้ก็ต่อเมื่อทำเควสทดสอบของแต่ละ Guild เสร็จสิ้นแล้ว จึงสามารถเลือกทำภาระกิจทดสอบให้ครบทั้ง 3 กิลด์ได้ จากนั้นก็พักเอาไว้ตรงก่อนที่จะคุยกับหัวหน้ากิลด์ในขึ้นตอนสุดท้าย เพื่อไปทำเควสทดสอบกับกิลด์อื่นๆให้หมดก่อน เพื่อเก็บเลเวล เก็บไอเทมดีๆ และเก็บรายละเอียดของเกม แล้วหลังจากนั้นค่อยมาคิดว่าจะเลือกเข้า Guild ไหนก็ค่อยเข้าไปคุยตกลงกับหัวหน้ากิลด์ที่หลังก็ย่อมได้ แต่ถ้าใครขี้เกียจอยากเลือกไปทีเดียวเลยก็ย่อมทำได้เช่นกันครับ 

..ซึ่งผมจะพยายามอธิบายการเข้าร่วมกับทั้ง 3 กิลด์เพื่อช่วยในการตัดสินใจทีละขั้นดังนี้…



                                  [ในกรณีที่จะเข้าร่วมกับชนเผ่า voodoo] 

[Main Quest] New Allies
- คุยกับ Tanya แม่หมอในหมู่บ้านจะได้เควส The Kiss of the Dead มากับภาระกิจ The Sign of Ancients ซึ่งเธอต้องการไอเทมต่างๆคือ
ขาแมงมุม (Spider leg)
หัวใจเสือดำ (Panther heart)
หยกสีเขียว (Jade)
ไข่มุกบริสุทธิ์ (Shimmering Pearl)
ซึ่ง Spider leg และ Panther heart นั้นถ้าเดินสู้มอนสเตอร์แถวๆนี้ก็น่าจะมีกันอยู่แล้ว จากนั้นสำรวจแท่นหินจุดแรกในหมู่บ้านต้องหน้ากระท่อมที่ขัง Slim แล้วเดินข้ามสะพานแขวนไปที่ซากวิหารสำรวจแท่นหินที่ 2 แล้วจะมีจุด X ขึ้นมาตรงแถวๆทางขึ้นหมู่บ้าน เข้าไปสำรวจแท่นหินที่ 3 ครบแล้วจะได้ภาระกิจ A Jade Symbol มากำหนดภาระกิจ แล้วจุด X สีแดงจะขึ้นมาที่ถ้ำตรงทางน้ำด้านเหนือของเกาะที่ต้องว่ายน้ำไปที่นั่นแล้วขุดเอา หยกสีเขียวมา จากนั้นจะได้รับภาระกิจ The Eyes of the Seer มาอีก เมื่อกำหนดภาระกิจนี้แล้วจะมีจุด X ขึ้นที่อ่าวเล็กๆตรงทางน้ำพอดี ว่ายน้ำเข้าไปเก็บ Shell ที่อยู่บนหาดทรายมาให้หมดทุกจุด แล้วเข้าเมนูไอเทม Shell กดเปิดมันดูทุกอันจนกว่าจะเจอไอเทม Shimmering Pearl จากนั้นนำทั้งหมดกลับไปให้ Tanza ที่หมู่บ้าน แล้วคุยกับ Hirutu หัวหน้าหมู่บ้านอีกครั้ง ก่อนออกเดินทางไปยังเกาะ Antigua ต่อ

เข้ามาที่เกาะ Antigua .. ที่หน้าทางเข้าเมืองจะพบ Ramon นักรบของกิลด์ Guardian Mage ที่กำลังจะเข้าไปที่เมือง Harbor Town แต่มันกำลังถูกพวกปีศาจเข้าโจมตีเขาจึงเข้าไปไม่ได้ กัปตันจึงอาสาพาเขาเข้าไปด้านในด้วย Ramon จึงเข้าร่วมกลุ่มด้วย จากนั้นลุยเข้าไปจนถึง Harbor Town เมืองที่เป็นฐานใหญ่ของเหล่าโจรสลัดทั่วโลก เข้าไปที่หน้าบ้านหลังใหญ่จัดการพวกหมานรก Hellbound ให้หมดแล้วคุยกับ Alvarez ที่หน้าตึก แล้ว Ramon ก็จะออกจากกลุ่มแล้วให้ค่าตอบแทนเล็กน้อยที่พาเขาเข้ามา จากนั้นเข้าไปคุยกับ Alvarez ในบ้าน Bones ก็จะเริ่มเล่าถึงการกลับมาของจอมมาร Shadow Lord ที่ชั่วร้ายที่ทุกคนต้องร่วมมือกัน แต่ก่อนที่จะช่วยโลก Alvarez จะขอให้ช่วยเมืองของเขาก่อนโดยจะให้เควส Chases in Harbor Town โดยให้ออกไปจัดการหมานรก Hellbound ที่เข้ามาบุกเมืองตามจุดต่างๆให้หมด 3 จุด แล้วกลับมารับรางวัลกับ Alvarez ที่บ้าน จากนั้น Alvarez อดีตในพลทหารเรือที่ต้องนี้ผันตัวเองมาอยู่ในฐานะนายใหญ่แห่งสหพันธ์โจรสลัด ฟังรายละเอียดทั้งหมดจบจึงมอบหมายให้กัปตันไปเตือนพวก Guild ต่างๆให้หมดเพื่อเตรียมความพร้อมทั้งด้านความแข็งแกร่งและเรือให้พร้อม ซึ่งก็จะได้เควส Pirates Alliance มา

[Crew Quest] The Shadows Creatures
 ที่เมือง Harbor Town จะมีคนที่สามารถชวนมาเป็นลูกเรือได้ด้วย เข้าไปที่หน้าบาร์ในเมืองจะพบกับ Edward ที่เป็น Demon Hunter อยู่ คุยแล้วรับเควส The Shadows Creatures จากเขา แล้วตามเข้าไปลุยพวกสัตว์ปีศาจตามทางนอกเมืองจนจัดการพวกปีศาจจนหมด แต่พอหลังจากจบงานแล้วพอกัปตันทวงค่าจ้าง แต่เจ้า Edward ดันมีเงินอยู่แค่นิดหน่อย กัปตันจึงยื่นข้อเสนอรับเงินที่น้อยนิดนั้นมาโดยแลกกับการที่ให้ Edward มาเป็นลูกเรือด้วย ซึ่ง Edward ก็ยอมตกลงตามนั้นแถมยังไม่สนใจว่าเรือที่มีจะลำเล็กหรือใหญ่ด้วย และหลังจากจบเควสก็จะพบ Edward ที่พร้อมจะถูกใช้งานอยู่บนเรือกับ Bones แล้ว

จากนั้นกลับไปที่เกาะ Kila อีกครั้ง เข้าไปคุยกับ Hirutu หัวหน้าหมู่บ้านเผ่า Voodoo เขาก็จะให้จบเควส The Kiss of the Dead ที่เป็นการทดสอบของเผ่า แล้วถ้าต้องการจะเข้าเป็น Pirates voodoo ก็ให้คุยกับหัวหน้าเผ่าเลือกข้อแรก เขาก็จะทำพิธีอัญเชิญวิญญาณบรรพบุรุษออกมาเพื่อเปลี่ยนให้กลายเป็นชนเผ่า Voodoo อย่างเต็มตัว

                   

- จากนั้นเลือกกำหนด [Main Quest] The Realm of the Shadows ที่ได้มาจากการคุยกับ Bones ตั้งแต่ช่วงแรกๆต่อ ซึ่งจะประกอบด้วย 2 ภาระกิจคือ
ภารกิจ Crystal Are Forever
ภารกิจ Crystal Portion on Crab Coast



Crystal Are Forever
- เดินทางมายังอณาจักร์ Calador แล้วเดินเข้าไปยังมหาวิหารแห่ง Calador ฐานของเหล่า Demon Hunter เข้าไปคุยกับ Eldric หัวหน้าของกลุ่ม Demon Hunter ที่ชั้นแรกของวิหาร กัปตันจะเข้าไปปรึกษาถึงเรื่องที่เขาถูกจอมมาร Shadow Lord ดูดเอาวิญญาณไปกับเรื่องของเจ้ากัปตันเรือผีสิง Crow  Eldric จึงเล่าถึงแผนการณ์ของ Shadow Lord ที่พวกเขารับรู้มาคือ มันต้องใจจะสะสมวิญญาณมนุษย์เพื่อนำไปใช้เป็น Spawn ทหารรับใช้ของมันในนรกเพื่อขึ้นมาทำสงครามกับมนุษย์ และมันผ่านขึ้นมาบนโลกมนุษย์ได้ก็เพราะพลังจากผลึก Crystal Portion ที่เป็นเสมือนประตูมิติของ ส่วนเรื่องกัปตัน Crow มันคือตัวแทนความโกลาหลของ Shadow Lord ที่ทางกิลด์เองก็ตั้งใจที่จะตามล่ามันอยู่ตั้งแต่แรกแล้ว เมื่อรู้เรื่องทั้งหมดก็ทำให้จบเควส Only Worth Half as much ของ Bones ที่คาใจตั้งแต่เริ่มเกมไปด้วย
- จากนั้น กัปตัน จะถามถึงวิธีทำลาย Crystal Portion ที่เป็นเสมือนประตูมิติของพวกมันในการขึ้นมายังโลกมนุษย์ที่เขาได้เจอมาในถ้ำที่ Crab Coast Eldric จึงทำการสอนวิธีใช้เวทย์โบราณของกิลด์เพื่อใช้ทำลาย Crystal Portion ไม่นานกัปตันก็สำเร็จวิชานี้ภายในเวลารวดเร็ว
- กัปตันถามต่อถึงไอเทมที่เรียกว่า Ancient Knowledge ที่เขาต้องการนำไปให้ Baraka ผู้เฝ้าประตูใหญ่แห่ง Kila เพื่อผ่านเข้าไปที่หมู่บ้านที่ถูกลืม Eldric ก็ตอบว่าเขากำลังศึกษาสิ่งนี้อยู่พอดีแต่เขาต้องการคัมภีร์ Grimore เพื่อนำมาใช้ศึกษาก่อน ทำให้ได้เควส The Ancient Knowledge มา
- คำถามสุดท้ายคือ กัปตันถามถึงเรื่องการเข้าร่วมกลุ่มกับ Demon Hunter เพื่อความแข็งแกร่งของตัวเขาเอง Eldric จึงบอกถึงหนทางการทดสอบให้ทำให้ได้ ภาระกิจ The Ancient Covenant ที่อยู่ในเควส New Alliance มา

Crystal Portion on Crab Coast
- เดินทางไปยัง Crab Coast แล้วเข้าไปด้านในผ่านซากวิหารจนถึงถ้ำหัวกระโหลกด้านใน ที่หน้าประตูมิติจะพบ Shadow Lord of Hate เฝ้าอยู่ จัดการมันซะ แล้วอย่าลืมเก็บไอเทม Black Heart และ Shadow Scepters มาจากศพมันด้วย จากนั้นก็เข้าไปสำรวจที่ประตูมิติ กัปตันจะใช้พลังเวทย์ที่เรียนมาจาก Eldric ทำลาย Crystal Portion ทำให้ประตูมิติของที่นี่สลายหายไปทันที  แต่อย่าเพิ่งดีใจไปเพราะจะมี Crystal Portion ที่ต้องทำลายตามประตูมิติของพวกจอมมารอีก 5 ที่ตามเกาะต่างๆซึ่งจะขึ้นตำแหน่งมาให้เห็นเมื่อกำหนดภาระกิจ The Realm of the Shadows

แต่…หนึ่งใน Crystal Portion ที่ต้องทำลายนั้นอยู่ในหมู่บ้านที่ถูกลืมที่ต้องผ่านประตูใหญ่ที่ Kila ไปแต่ตอนนี้ยังไม่มี The Ancient Knowledge มาให้ Baraka จึงต้องพักภาระกิจ The Realm of the Shadows เอาไว้ก่อน แต่ Eldric ก็ให้เควส The Ancient Knowledge เอาไว้แล้วจึงต้องลองไปทำดูหน่อย ..

The Ancient Knowledge
กำหนดภาระกิจแล้วจะมีเป้าหมาย X ขึ้นมาที่ซากวิหารทางซ้ายของอณาจักร Calador แต่ก่อนเดินทางไปนั้นต้องคิดให้ดีเพราะระหว่างทางจนถึงที่ซากวิหารนั้นศัตรูค่อนข้างมากและโหด จะเลือกเพื่อนคนไหนไประหว่าง Edward ที่อัดได้หนักแต่ฮีลไม่ได้ ส่วน Bones โจมตีเบาแต่ช่วยฮีลได้ไม่ต้องเปลืองไอเทมเติมพลัง และถ้าเป็นไปได้ไม่ควรไปในเวลากลางคืน
- ลุยเข้าไปจนถึงส่วนในของซากวิหารที่เต็มไปด้วยศัตรูที่มาจากนรกจำนวนมาก ระหว่างทางเข้าจะพบ Eldric กำลังสู้กับพวกปีศาจอยู่ที่นี่ด้วยซึ่งก็เป็นเควสย่อยของเขาที่ไม่คอยถูกที่ถูกทางซะเลย ช่วยเขาทำเควสย่อยจัดการหมา Hellbound ให้หมด 5 ตัวก็จบเควสแล้วเขาก็เดินจากไปโดยไม่ช่วยอะไรเลย (มองหาดีๆแถวๆนี้มีชิ้นส่วนแรกดาบ Blade of Calador ที่หักตกอยู่ด้วยเก็บมาซะด้วยของดี ) จากนั้นเข้าไปจนถึงด้านหน้าซากหอคอยจะพบ Shadow Lord of Crowded เข้าไปจัดการมันซะ อย่าลืมเก็บ Black Heart จากศพมันมาด้วย จากนั้นลุยขึ้นไปบนหอคอยจะพบ คัมภีร์ Grimore บนแท่น เก็บกลับมาให้ Eldric ที่วิหารของกิลด์ เขาก็จะให้รางวัลตอบแทนมาเป็นเงิน และ Ancient Knowledge (ที่ไม่ใช่ของที่ Baraka ต้องการ) จากนั้น Eldric จะขอศึกษาคัมภีร์ Grimore ให้ลึกซึ้งก่อน และการจบเควสนี้ได้นั้นต้องยอมรับที่จะเข้าร่วมกิลด์ demon Hunter เท่านั้น

- จากนั้นกลับไปคุยกับ Baraka ผู้เฝ้าประตูใหญ่แห่งเกาะ Kila เพื่อที่จะบอกข่าวดีว่าตอนนี้รู้แล้วว่า Ancient Knowledge นั้นอยู่ที่ Calador ก็เผื่อ Baraka จะใจดีเปิดประตูให้เข้า แต่ Baraka กลับบอกว่า นี่ไม่เข้าใจจริงๆใช้มั๊ย หา Ancient Knowledge เจอก็ดีแล้วแต่ที่ต้องการจริงๆคือ หาคนที่อ่านมันได้แล้วพามาหาเขาให้ได้ด้วยจะดีกว่า คราวนี้ก็ถึงเวลาที่ต้องทำภาระกิจ The Ancient Covenant เพื่อจะได้เข้าเป็นพวกของ Demon Hunter กันแล้ว

******************************************************************************


   


                                      [ในกรณีที่จะเข้าร่วมกับนักล่าปีศาจ Demon Hunter]

เควส New Alliance ภาระกิจ The Ancient Covenant
- เดินทางกลับไปที่ อาณาจักร์ Calador เข้าไปคุยกับ Eldric เขาจะบอกว่าในขณะที่เหตุการณ์กำลังจะเริ่มตรึงเครียด แต่เหล่าแม่ทัพนายกองของเขากลับหายหัวไปกันหมด เขาเชื่อว่าแต่ละคนคงจะกำลังเกิดปัญหาบางอย่างจึงให้กัปตันไปช่วยหาทางแก้ปัญหาให้พวกเขา หลังจากการกำหนดถาระกิจ The Ancient Covenant แล้วจะพบว่ามีจุด X ในพื้นที่ใน อาณาจักร์ Calador ทั้งหมด 6 จุด ซึ่งจะเป็นการช่วยเหลือบรรดาแม่ทัพของ Demon Hunter ทั้ง 6 คนในการทำเควสต่างๆเพื่อแก้ปัญหาของแต่ละคน เพื่อเป็นการทดสอบในการเข้าร่วมกลุ่ม Demon Hunter
- คนแรกเข้าไปคุยกับนายช่าง Wilson ที่อยู่ในห้องชั้น 1 ของวิหารของกิดล์ Demon Hunter เขาจะให้ภาระกิจ Iron is Sharpened มาซึ่งเขาจะให้ตามหา Alvito ลูกน้องของเขาที่เขาส่งไปหาแร่เหล็กแต่ยังไม่กลับมา จากนั้นเข้าไปที่รมแรมที่อยู่กลางพื้นที่คุยกับสาวเสริฟที่ชื่อ Yuetle ถ้าไม่มี influence Tongue การเจรจาถึง 60 ก็ต้องเสียเงินให้เธอ 40 G เพื่อถามถึง Alvito ก็จะทำให้รู้ว่าเหมืองแร่เหล็กอยู่ทางทิศเหนือของโรงเตี๊ยมนี่เอง จากนั้นก็ลุยขึ้นไปด้านเหนือของโรงเตี๊ยมก็จะพบทางเข้าเหมืองที่เนินขนาดใหญ่ ลุยลงไปชั้นล่างสุดก็จะพบศพของ Alvito นอนตายอยู่ นำข่าวกลับไปบอก Wilson ที่กิลด์ รับรางวัลก็เป็นอันจบภาระกิจ
- คนที่ 2 Peter อยู่ที่โรงเตี๊ยมกลางแผนที่เขาจะให้ภาระกิจ Cure of Love มาซึ่งเขาจะให้ไปหาแหวนของแฟนที่ตายไปของเขามาให้ จากนั้นคุยกับสาวเสริฟ  Yuetle คนเดิม แล้วใช้  influence Tongue การเจรจาระดับ 40 ก็จะได้แหวนจากเธอมา จากนั้นเดินทางไปที่สุสานทางขวาของกังหันลมที่ฟาร์มที่อยู่ขวาบนของโรงเตี๊ยมจะพบกับวิญญาณของ Hanna เลือกเอาแหวนให้เธอไปแล้วกลับมาเล่าให้ Peter ที่โรงเตี๊ยมฟัง ก็เป็นอันจบเควส
- คนที่ 3 Mason ก็อยู่ที่โรงเตี๊ยมกลางแผนที่เหมือนกัน ไปนอนให้ถึงกลางคืนก่อนแล้วค่อยไปคุยกับเขา เขาจะให้ทดสอบโดยวิ่งตามเขาไปรอบๆโรงเตี๋ยมที่เต็มไปด้วยมอนสเตอร์ ถ้าลุยตามเขากลับมาจนถึงโรงเตี๊ยมได้สำเร็จ ก็เป็นอันจบเควส
- คนที่ 4 Fenn อยู่ที่บ้านบนเนินบนเหมืองทางทิศเหนือ เมื่อเข้าไปคุยจะพบกับ Fenn กำลังเข้ามาตรวจสอบบ้านของชาวบ้านที่โดนพวกปีศาจเข้ามาโจมตีจนตายทั้งผัวเมีย แต่รู้สาวที่ชื่อ Rona หายตัวไป เขาจึงขอให้กัปตันไปช่วยตามหา Rona ให้หน่อย ซึ่งก็จะได้รับภาระกิจ Organic farmer มา จากนั้นเดินทางไปตามทางช่องเขาด้านเหนือจนถึง Stone circle จัดการ Orc Golem ซะแล้วเข้าไปต่อจนสุดทางในช่องเขาก็จะพบ Rona แอบอยู่ที่นี่ กัปตันพยายามจะพาตัวเธอกลับไปบ้านแต่เธอหวาดกลัวเกินกว่าจะกล้ากลับไปอีกจึงขอให้ไปส่งที่โรงเตี๊ยมแทน คุ้มครอง Rona กลับมาให้ถึงโรงเตี้ยมแล้วกลับมารายงานกับ Fenn ก็เป็นอันจบเควส
– คนที่ 5 Cyrill ยืนอยู่บนช่องเขาทางเหนือตรงทางที่ไปช่วย Rona เมื่อคุยกับเขาแล้วเขาจะบอกว่าลูกน้องของเขาถูกพวกปีศาจฆ่าตายจนหมดและเขาก็ไม่สามารถลุยเข้าไปเอาศพของพวกเขามาฝังได้ จึงอยากขอให้กัปตันช่วยเข้าไปเอาของส่วนตัวที่ศพลูกน้องเขามาให้หน่อยซึ่งก็จะได้ภาระกิจ Honor the Dead จากเขามา จากนั้นลุยเข้าไปด้านในช่องเขาตรงถ้ำกระโหลกจะพบพวกปีศาจกลุ่มใหญ่อยู่ จัดการพวกมันให้หมดแล้วสำรวจศพเก็บไอเทมต่างในศพ 2 ศพมาให้ Cyrill เพื่อทำพิธีฝังศพให้สมเกรียติ ก็เป็นอันจบเควส
– คนที่ 6 Winter นั่งอยู่ที่แค้มปไฟหน้าทางเข้าซากวิหารทางฝั่งซ้ายบนของแผนที่ จะพบว่าเขากำลังเสียใจกับครอบครัวของเขาที่ถูก Shadow Lord ฆ่าตาย จึงอยากให้กัปตันไปกำจัดมันเพื่อแก้แค้นให้เขา ซึ่งถ้าตามบทสรุปนี้ เจ้า Shadow Lord of Crowded ที่เจออยู่ในซากวิหารด้านในนั้นเรากำจัดไปแล้วตั้งแต่ตอนแวะไปเอาคัมภีร์ Grimore แล้ว ก็คุยกับ Winter อีกครั้ง ก็จะจบเควสทันที
- เมื่อช่วยแม่ทัพจนครบ 6 คนจนพวกเขากลับไปประจำการณ์ที่กิลด์แล้ว เข้าไปคุยกับ Eldric ในกิลด์เพื่อรับรางวัลได้เลย จากนั้นถ้าต้องการจะเข้ากิลด์ Demon Hunter อย่างเต็มตัวก็เลือกคำสั่งแรกเพื่อเริ่มพิธีได้เลย เท่านี้ก็จะกลายเป็นโจรสลัดนักล่าปีศาจสกินเฮดจอมถึกแล้ว






                                 [ในกรณีที่จะเข้าร่วมกับเหล่านักบุญแห่ง Guardian Mage] 

The Swearing in Ceremony
- เดินทางมายังเกาะ Taranis คุยกับพ่อค้าที่ท่าเรือแล้วขึ้นไปขึ้นกับ Baker ทหารของ Guardian Mage เขาจะขอร้องให้ช่วยคุ้มกันเขากลับไปยังป้อมของพวกเขาหน่อย จากนั้นก็ลุยจัดการศัตรูตาม Baker ไปตามทางก็จะถึงป้อมปราการของเหล่า Guardian Mage เข้าไปด้านในเมืองจะพบกับนายพล Magnus รออยู่ เข้าไปคุยกับเขาให้หมดทุกหัวข้อก็จะได้เควส Impress General Magnus พร้อมด้วยภาระกิจ The Swearing in Ceremony ในหัวข้อเควส New Allies สำหรับการทำสอบเพื่อเข้าร่วมกิลด์ Guardian Mage มาแล้ว กดดูในภาระกิจ The Swearing in Ceremony จะมีภาระกิจย่อยคือ Mine Report อยู่ซึ่งนายพล Magnus จะขอให้ไปตรวจสอบบรรดาเหมืองที่อยู่ในการดุแลทั้งหมดว่ามีเหตุการณ์เป็นยังไงบ้าง เมื่อกำหนดภาระกิจ Mine Report ในแผนที่ก็จะมีจุด X เป้าหมายขึ้นมา 4 จุด ซึ่งก็คือเหมืองต่างๆที่จะต้องเข้าไปชวยเคลียร์ปัญหา
- เหมืองแรกอยู่ในเมืองของป้อม เข้าไปคุยกับ Frink ที่ดูแลอยู่เขาจะขอให้ช่วยเข้าไปเอาถุงผลึก Pouch Crystal ที่อยู่ในเหมืองมาให้เขาให้ครบ 4 ถุงก็เป็นอันจบเควส
– เหมืองที่ 2 ทางด้านบนของป้อม เข้าไปคุยกับ Valamir เขาจะขอให้ช่วยเข้าไปดูและพวก Gnome ที่ทำเหมืองอยู่ด้านใน โดยจะต้องเข้าไปคุยกับ Faris ที่เป็นหัวหน้าพวก Gnome ที่ทำงานอยู่ ลูกน้องเขาแต่ละคนกำลังมีปัญหาจึงอยากให้ไปช่วยหน่อย จากนั้นตามไปคุยให้หมดทุกคนซึ่งแต่ละคนก็จะมีเควสย่อยเล็กๆน้อยให้ช่วย ทั้งไปตามหาเพื่อนให้ ช่วยจัดการมอนสเตอร์ ต้องการไอเทมนู้นนี่นั่นมาให้ ซึ่งทั้งหมดสามารถหาทำได้ภายในเหมืองนี่เอง (ดูเหมือนจะวุ่นวายแต่ไอเทมทุกอย่างที่มันต้องการเราก็มีอยู่แล้วและสิ่งที่ต้องทำก็อยู่แค่ในเหมืองเท่านั้นครับ)  เมื่อเคลียร์ปัญหาให้พวก Gnome หมดทุกคนแล้วก็กลับมาคุยกับ Faris และออกมารายงานกับ Valamir ก็จะจบเควส
– เหมืองที่ 3 ทางซ้ายของป้อม เข้ามาจะพบว่าทหารที่ดูแลป้อมถูกปีศาจด้านฆ่าตายไปแล้ว จากนั้นก็ลุยเข้าไปจัดการพวกปีศาจในเหมืองให้หมดก็เป็นอันจบเควส
– เหมืองที่ 4 ทางใต้ของป้อมหรือชายหาดทางซ้ายของท่าเรือ ที่นี่ด้านในจะถูกพวกก็อปลินยึดอยู่ เข้าไปจัดการพวกมันให้หมด แล้วกลับไปรายงานเรื่องเหมืองทั้งหมดกับ นายพล Magnus ที่ป้อม เขาจะให้ภาระกิจใหม่มาคือ new Mine ให้กลับมาที่ท่าเรือคุยกับ Gnome ที่ชื่อ Gadi ให้กลับไปทำงานที่เหมืองที่ถูกก็อปลินยึดต่อ จากนั้นกลับมาคุยกับ นายพล Magnus ที่ป้อมอีกครั้งก็จะจบภาระกิจทดสอบ The Swearing in Ceremony ทันที
- จากนั้น ถ้าต้องการเข้าร่วมกับ Guardian Mage ก็คุยกับนายพล Magnus แล้วเข้าพิธีสาบานตนได้เลย



[Crew Quest]
ก่อนไปสำรวจพื้นที่ในเกาะ Taranis ก่อนเพราะยังมีลูกเรือของเราอยู่ที่นี่ถึง 2 คน คือ
– Jaffar Sign on เจ้า Jaffar ที่เป็นพวกเผ่า Gnome ในเมืองหน้าป้อมของ Guardian เข้าไปคุยกับมันจะรู้ว่ามันรักการผจญภัยอยากไปด้วยแต่ติดตรงลูกพี่ของมันคงไม่ยอม เดินเข้าไปคุยกับ Ali Gnome อีกตัวที่กำลังขนของอยู่ เพื่อเจรจา ซึ่งเจ้า Ali มันอยากเข้าเป็นทหารจึงให้ช่วย จากนั้นก็พามันไปคุยกับ Magnus คุยสลับไปมากับ Ali จน Magnus อยากรู้ฝีมือของมันก่อน ช่วยสอนในต่อสู้แล้วพามันไปคุยกับ Magnus แล้วมาคุยกับเจ้า Jaffar มันก็จะยอมเข้าเป็นลูกเรือ แต่ต้องรอให้มีเรือใหญ่ก่อนน๊ะค่อยมามารับมันอีกที
- เดินสำรวจไปที่ชายหาดมุมล่างซ้ายของเกาะตรงที่มีจุดเรือแตกอยู่ (สำรวจในเรือจะมีกล่องสมบัติที่มีหมวกเขาสุดเท่อยู่ด้วย) จากนั้นในทะเลจะเห็นเรือผีสิงจอดอยู่ ว่ายน้ำปีนขึ้นไปสำรวจดูตรงที่คนขับจะพบผลึกวิญญาณ พอเก็บได้ วิญญาณของกัปตัน Mandora จะออกมา ซึ่งก็คือหนึ่งในพวกที่กัปตันเจอในความฝันของเขามาตลอดนั่นเอง เมื่อคุยกับมันจบก็จะได้ วิญญาณของกัปตัน Mandora เข้าเป็นลูกเรือด้วย !



* โดยวิญญาณกัปตัน Mandora นั้นจะช่วยประสานงานให้ได้คุยกับพวกวิญญาณกัปตันตัวอื่นๆในความฝันให้ ซึ่งก็จะมีภารกิจ Shadow of the past โดยจะต้องไปเอาไอเทมแห่งความหลังของพวกวิญญาณแต่ละตัวมาให้ (กำหนดภาระกิจแล้วจะมีเป้าหมาย X บอกเอง หาพลั่วไว้ขุดเยอะๆเถอะ) จากนั้นก็ต้องนอนเพื่อเอาของคืนให้ในความฝัน แล้วก็คอยคุยให้ Mandora เพื่อให้ติดต่อคนอื่นไปเรื่อยๆ แต่บนเรือจะไม่เห็น Mandora อยู่ถ้าอยากจะเอาเขาไปร่วมเดินทางต้องไปคุยกับเขาที่บนฝั่งในท่าเรือที่ไปนั่นแหละ*


 **  จากนั้นก็ถึงเวลาเลือกข้าง เลือกกิลด์ ระหว่าง Voodoo โบราณ , นักบุญผู้พิทักษ์สุดเหย่อหยิ่ง และ นักล่าปีศาจสกินเฮดบ้าพลัง คุณจะเลือกเข้า Guild ไหนก็สุดแล้วแต่คุณแล้ว สำหรับผมและบทสรุปนี้เลือก Demon Hunter ตามสันดานดิบจ้า **


เมื่อเลือกกิลด์เรียบร้อยแล้ว จากนี้ก็ถึงเวลาจะมีเรือที่เป็นเรือเป็นเรื่องเป็นราวสมฐานะซักที โดยเลือกเควส A Large Ship เมื่อกำหนดภาระกิจแล้วก็จะมีจุดเป้าหมายที่เรือของแต่ละกิลด์ตามที่เราเลือกเอาไว้ 
– ถ้าเข้าเป็นเผ่า Voodoo เรือจะจอดอยู่ในน่านน้ำหน้าเกาะ Kila
- ถ้าเข้ากิลด์ Demon Hunter เรือจะจอดอยู่ในน่านน้ำหน้าอาณาจักร์ Calador
- ถ้าเข้ากิลด์ Guardian Mageเรือจะจอดอยู่ในน่านน้ำหน้าเกาะ Taranis
เมื่อได้เรือใหญ่แล้วก็ไปตาม Patty , Saddec และ Jaffar ในภาระกิจ Sign on ของแต่ละคนเพื่อให้มาขึ้นเรือในฐานะลูกเรืออย่างเต็มตัวได้เลย
              
- จากนั้นไม่ว่าคุณเลือกเข้ากิลด์ไหน เมื่อเสร็จพิธีเข้าเป็นสมาชิกกิลด์ แล้วให้เดินทางมาคุยกับ Eldric หัวหน้ากิลด์ Demon Hunter ที่อาณาจักร์ Calador อีกครั้งเพื่อถามถึงเรื่องราวของคัมภีร์ Grimore ที่เขาศึกษานั้นบอกอะไรบ้าง Eldric จะบอกว่าคัมภีร์ Grimore ทำให้เขารู้ถึงต้นกำเนิดที่เป็นตัวเชื่อมในการนำพาวิญญาณสัตว์นรกให้ขึ้นมาอาละวาดบนโลกมนุษย์ในร่างของพวกปีศาจแล้วซึ่งมันก็คือ พิธีกรรมทางวิญญาณบางอย่างที่ Shadow Lord มันสร้างขึ้น ซึ่งมันจะเป็นเป้าหมายต่อไปของเหล่าพันธมิตรผู้กล้าต้องทำลายมันให้ได้

** หลังจากได้เรือใหญ่มาแล้ว Bones ก็จะเป็นเสนองานในการล่าเหล่าสัตว์ประหลาดในทะเลต่างๆที่สามารถขับเรือเข้าจัดการ Sea Monster เป้าหมายที่จะออกมาระหว่างที่เดินทางไปมาระหว่างเกาะต่างๆได้ รวมทั้งยังสามารถได้สู้กับโจรสลัดและกองทหารที่เป็นศัตรูอย่างกัปตัน Morgan และ เรือทหารของ Sebastiano ได้ด้วย โดยการลุยขึ้นไปบนเรือและสู้ตามเงื่อนไขของแต่ละคน หลังจบงานก็จะได้ค่า Glory และ เงินมากมายและโดยเฉพาะกับ กัปตัน Morgan ซึ่งหลังจัดการได้แล้วก็จะได้ชุดกัปตันโตรสลัดสุดเท่ของมันมาใช้ด้วย ** 


                                               Chapter 3: Spirit Ritual

ถึงตอนนี้เหล่าพันธมิตรพุ่งเป้าไปหาสิ่งที่ Eldric ได้จากคัมภีร์ Grimore ที่เขาอ้างว่ามันคือ พิธีกรรมทางวิญญาณที่จะทำลายพลังด้านมืดของ Shadow Lord ลงได้ ซึ่งแผนต่อไปก็คือต้องหาเหล่าผู้รู้ในด้านคาถาโบราณมาช่วย ซึ่งก็จะได้เควสหลักๆมาจาก Eldric คือ เควสหลัก Spirit Ritual * ภารกิจ Huge preparations โดยแบ่งออกเป็น

1.ภารกิจ Recruit Eldric 
- The Magical Net Eldric ต้องการทำลาย Crystal Portion ประตูมิติในฝั่งตะวันออกของเมืองและกำจัด Shadow Lord เพื่อตัดพลังของพวกมันก่อนแต่ฝั่งตะวันออกจะมีธารลาวาไหลผ่านจนสะพานมันขาดมาตั้งแต่สมัยโบราณ จึงต้องใช้แผนที่จะใช้เวทย์เทเลพอร์ทส่งกองทัพข้ามไป โดยสิ่งที่ต้องทำคือ กำหนดภาระกิจ Recruit Eldric ก็จะมีจุด X เป้าหมายขึ้นมา 5 จุด ซึ่งก็คือจุดที่ต้องเข้าไปเก็บ Teleporting Stone มาเปิดการทำงานจุด Teleport ให้หมดทุกจุดของฝั่งตะวันตก แล้วกลับไปคุยกับ Eldric เขาจะใช้พลังจากจุด Teleport ทั้งหมดพาเหล่าแม่ทัพทั้งหมดของ Demon Hunter วาร์ปข้ามธารลาวาไปฝั่งตะวันออกทันที จากนั้นลุยตามพวกเหล่าแม่ทัพเข้าไปตามทางจนถึงที่อยู่ของ Shadow Lord Doubt ลุยจัดการมันซะแล้ว Eldric จะให้กัปตันลุยเข้าไปด้านในถ้ำหัวกระโหลกคนเดียวต่อเอง ลุยเข้าไปด้านในจัดการศัตรูให้หมดจนถึง Crystal Portion ประตูมิติด้านในถ้ำ ทำลายมันซะ แล้วกลับออกามาคุยกับ Eldric ก็เป็นอันจบภารกิจ Recruit Eldric



** ก่อนกลับถ้าเคยเก็บชิ้นส่วนดาบ Calador Sword เอาไว้แล้วก็อย่าลืมแวะไปเก็บชิ้นส่วนสุดท้ายในซากปราสาทในฝั่งตะวันตกนี้ด้วย เมื่อนำกลับไปให้ Wilson ที่กิลด์ซ่อมแซมก็จะได้ ดาบ Calador Coronation Sword ที่ทรงพลังมาใช้ ** 

2.ภารกิจ Recruit Chani 
แผนต่อไปคือมาที่เกาะ Kila เพื่อตามหาคนที่รู้เรื่องเวทย์มนต์โบราณที่ดีที่สุดอีกคน แต่ก็ต้องเข้าไปหาเธอที่บ้านของเธอที่อยู่หลังประตูใหญ่ในเขตหุบเขาต้องห้าม
-  ซึ่งเมื่อรับรู้ข้อมูลคัมภีร์ Grimore จาก Eldric แล้วก็กลับไปคุยกับ Baraka ผู้เฝ้าประตูใหญ่ที่เกาะ Kila เพื่อที่จะบอกรายละเอียดของข้อมูลที่รู้มาจาก คัมภีร์ Grimore ให้เขาฟัง Baraka ก็จะเปิดประตูใหญ่ให้เข้าไปยังหมู่บ้านที่ถูกลืมตามสัญญาและจบเควส Ancient Knowledge ทันที (ก่อนเข้าไปก็ไปรับเจ้า Mud จอมปากมากที่รออยู่ปากทางเข้าประตูเข้าไปทำเควสของมันที่ด้านในด้วยแล้วกัน) จากนั้นเข้าไปที่บ้านต้นไม้กลางแผนที่ที่จะพบกับ Chani หนึ่งใน Shaman ที่เก่งที่สุดใน Kila เพื่อขอให้เธอร่วมมือด้วย ซึ่งเธอก็จะมีภาระกิจย่อยให้ทำ 2 อย่างคือ
2.1 Lost in the Forbidden Valley กำหนดภากิจแล้วไปที่จุดหมาย X โดยขึ้นไปบนกิ่งต้นไม้ยักษ์จนถึงด้านบนสุดจะพบของพวกชาวเผ่าซึ่งตายเพราะฝีมือของพวกแมงมุมปีศาจ เก็บไอเทมต่างๆจากศพมาให้หมดแล้วกลับไปให้ Chani
2.2 Spark to the Oracle Chani จะพูดถึงเจ้าแม่มุมปีศาจ แม่ทัพใหญ่อีกคนของ Shadow Lord Chani จึงให้ไปจัดการมันซะเพื่อแก้แค้นให้กับคนของเธอ
- จากนั้นกำหนดภารกิจ Spark to the Oracle เอาไว้จะมีเป้าหมาย X อยู่ที่ถ้ำทางซ้ายของภูเขา แต่เข้าไปทางนั้นไม่ได้เพราะมีใยแมงมุมกั้นอยู่ ให้เข้าไปทางวิหารต้องสาปทางขวาแทน เข้ามาด้านในวิหาร (แวะส่ง Mud จบเควสของมันซะด้วย) ที่ทางเข้าเก็บไอเทมรูปปั้นหยกในโลงในห้องแล้วเอาไปใส่ที่มุมห้องทางซ้ายด้านใน ประตูทางซ้ายจะเปิดออก ปีนเข้าไปด้านในตามทางจะวนมาออกทางขวา เก็บรูปปั้นหยกระหว่างทางแล้วเอาไปใส่ที่มุมห้องทางขวาของประตูทางออกจะเปิดประตูด้านบนได้ ลุยเข้าไปตามทางในถ้ำจนเกิดพื้นถล่มทำให้กัปตันตกลงไปในถ้ำด้านล่างคนเดียว ด้านล่างจะเป็นถ้ำแมงมุมขนาดใหญ่และไม่นานเจ้าของถ้ำที่น่าขยะแขยงจะออกมา




 Boss แมงมุมปีศาจ  Margoloth มันจะส่งลูกแมงมุมออกมาขัดขวางมากมาย ไม่ต้องไปสนใจมากเพราะมันจะออกมาตลอด เน้นโจมตีที่หน้าของ Margoloth อย่างเดียวพอที่เหลือก็ใช้การหลบหาจังหวะตอดไปเรื่อยๆ สลับกับใช้เวทย์ไฟที่โจมตีได้ทีละหลายๆตัว ก็จะจัดการมันได้

** ก่อนออกจากห้องบอสแวะไปทางฝั่งขวาของถ้ำตามทางจะมีทางเข้าไปจนถึงประตูมิติที่ซ่อนอยู่จัดการ Shadow Lord of Discord ที่เฝ้าอยู่แล้วเข้าไปทำลาย Crystal Portion ที่ประตูมิติได้เลย ** 

- กลับไปคุยกับ Chani ที่บ้านต้นไม้อีกรอบ จากนั้นเธอจะให้ไปกำจัดทหารเอกของ Margoloth ที่เหลือในพื้นที่ให้หมดด้วยซึ่งก็คือพวกแมงมุมตัวใหญ่ 5 ตัวที่อยู่ในพื้นที่นั่นแหละ เมื่อจัดการหมดแล้วกลับไปคุยกับ Chani เธอก็จะตกลงที่จะเข้าพิธีกรรมตามแผนของ Eldric ด้วย ซึ่งก็เป็นอันจบภาระกิจ Recruit Chani

3. ภารกิจ Recruit Zacharias ต้องเดินทางมาที่เกาะ Taranis ที่ป้อมของ Guardian Mage เข้าไปคุยกับ Lumbeck หัวหน้ากิลด์ และ Eraimus เลขาที่ห้องทำงานชั้นบน พวกเขาจะแสดงให้เห็นถึงวงแหวนพลังเวทย์ที่คอยป้องกันพลังด้านมืดของ Shadow Lord ที่พวกเขาปกป้องดูแลมาตลอดหลังจากเหล่านักเวทย์หายสาปสูญไปจนหมด แต่ตอนนี้หินผลึกที่ทำให้เสาพลังงานรอบๆเกาะนั้นหายไปจนหมด คุยจบจะได้รับเควส The Reactor มา สิ่งที่ต้องทำต่อไปก็คือ
– คุยกับ Horas (ที่เป็นเพื่อนในปาร์ตี้ในเรือ) คุยกับ Genome ทุกตัวในแค้มป์ที่อยู่ในเมือง แล้วเดินทางมาที่เกาะ Tacarigua แล้วเข้าไปคุยกับ Di Fuegos ที่เป้าหมาย X แสดงขึ้นมาก็จะได้ผลึก Monolith Stone มา
– จากนั้นกลับไปคุย Eraimus และคุยกับ Genome ที่ชื่อ Kasim ในแค้มป์ที่อยู่ในเมืองมันก็จะพาเดินมาตรงที่ซ่อนหีบที่มันซ่อน Monolith Stone ทั้ง 2 ก้อนเอาไว้
- เมื่อได้ Monolith Stone ครบทั้ง 3 ก้อนแล้วก็เดินทางไปใส่ที่เสา Lighting Monolith ที่อยู่ฝั่งทิศใต้ ทิศตะวันออก และทิศเหนือให้ครบทั้ง 3 เสา แล้วกลับไปคุยกับ Eraimus ก็จะจบเควส The Reactor
– หลังจบเควส The Reactor ชายคนนึงที่ชื่อ Zacharias จะเข้ามาคุย เขาอ้างว่าเป็นปราชญของเมืองและกำลังทำการศึกษาถึงเรื่องการควบคุมพลังของ Crystal Portion จึงชวนให้ไปดูผลงานของเขา ซึ่ง Zacharias ก็จะเป็นคนเดินพาผ่านประตูลุกกรงด้านหลังของป้อมไปได้ เดินผ่านออกไปที่ถ้ำหลังป้อมแล้วลุยเข้าไปจนถึงด้านในจะพบกับถ้ำหัวกระโหลก จากนั้น Zacharias จะใช้พลังเวทย์ในการเปิดประตูมิติที่เชื่อมกับ Underworld ขึ้นมาอีกครั้ง ทำเอากัปตันตกใจมาก ก่อนที่ Zacharias ลองเข้าไปด้านในดู สำรวจที่ Crystal Portion จะทำให้เขามายังมิติแห่งความตายได้ จะได้พบกับวิญญาณของ Teo ที่มาบอกข้อมูลว่า Crystal Portion ที่ประตูมิตินั้นยังมีที่ซ่อนอยู่อีกทีนึง แต่ขณะนั้น เสียงคำรามของ Shadow Lord ก็เริ่มเข้ามาใกล้กัปตันจึงต้องรีบหนีออกมาก่อนที่จะรู้ข้อมูล แต่ไม่นานเจ้าของเสียงคำรามก็ตามออกมา Shadow Lord of Hunting พร้อมลูกสมุนฝูงใหญ่ก็ตามออกมา จัดการพวกมันให้หมดแล้วทำลาย Crystal Portion ที่เป็นประตูมิติจุดสุดท้ายซะก็จะจบภาระกิจ The Realm of the Shadows ของ Bones ที่ต้องทำลาย Crystal Portion ตามจุดต่างๆในแผนที่ให้หมด จากนั้น Zacharias ก็จะยอมร่วมมือในการทำพิธีกรรมตามแผนของ Eldric ด้วยอีกคน ก็เป็นอันจบภารกิจ Recruit Zacharias

4. จากนั้นเลือกภาระกิจ A Powerful Spell เดินทางไปยัง Calador แล้วไปที่พื้นที่ซากปราสาทฝั่งตะวันตก เข้าไปเก็บบันทึกคาถา Nekroimortar ที่อยู่ที่เป้าหมาย X ใต้ซากหอคอยมา แล้วนำกลับไปรายงานเรื่องทั้งหมดให้ Eldric ที่กิลด์ก็เป็นอันจบภาระกิจ

5. The Right Place กำหนดภารกิจแล้วจะมีเป้าหมาย X ขึ้นมาที่ถ้ำแมงมุมที่เกาะ Kila ถ้าเคยปลดล็อคจุดเทเลพอร์ทในถ้ำเอาไว้แล้วก็วาร์ปเข้าไปได้เลย เข้าไปคุยกับปีศาจแมงมุม Margoloth กัปตันจะเจรจากับ Margoloth เพื่อให้มันช่วยในพิธีกรรมด้วย Margoloth ก่อนที่ Margoloth จะชื่นชมในสิ่งที่พวกมนุษย์ที่พยายามลุกขึ้นสู้ แต่มันก็ยืนยันว่า ยังไงก็ไม่มีทางสำเร็จแน่นอน แต่มันก็ยอมตกลงจะช่วยเพราะกลัวตาย จากนั้นก็นำความทั้งหมดไปบอกกับ Eldric ที่กิลด์ Demon Hunter ก็จะเป็นอันจบภาระกิจ Huge preparations

ภารกิจ Off to Kila 
- เมื่อทุกอย่างเตรียมพร้อมจนหมดตามแผนของ Eldric แล้วก็เดินทางไปยังถ้ำแมงมุมในเกาะ Kila ได้เลย เมื่อพิธีกรรมเริ่มต้น Margoloth จะเริ่มลดพลังของคาถาเกราะป้องกันของตัวเองลง เหล่านักปราชญทั้ง 3 Zacharias Chani และ Eldric ก็เริ่มบรรเลงคาถา Nekroimortar จนจบ แต่สิ่งที่ปรากฏออกมาเป็นร่างชายแก่ที่อยู่ตรงหน้าทำให้กัปตันงง ก่อนที่มันจะแนะนำตัวว่ามันคือ Nekroloch และเวทย์ที่ Eldric ได้มาและพิธีกรรมทั้งหมดก็เพื่ออัญเชิญร่างมันมาจากยมโลก ในขณะที่กัปตันกำลังงงกับสิ่งที่เกิดขึ้น ท่ามกลางการเยาะเย้ยของ Margoloth ที่มนุษย์หน้าโง่ยอมทำลายเกราะป้องกันเองเพื่อชักศัตรูร้ายตัวฉกาจเข้ามาเสียเอง ..และแล้วทางออกเส้นสุดท้ายของเหล่าพันธมิตรก็กลับกลายเป็นการขุดหลุมฝังตัวเองเสียแล้ว ….

                                                 Chapter 4: Nekroloch

เควส Pirate Alliance 
- จัดการเตรียมระดมกำลังรบต่อให้เสร็จโดยการไปคุยกับเรืออีก 2 ลำของ 2 กิลด์ที่คุณไม่ได้เลือกให้เรียกร้อยจะร่วมด้วยร่วมมือกันทำศึกครั้งสุดท้ายด้วยกัน จากนั้นเข้าไปรายงานกับหัวหน้าองค์กรโจรสลัด Alvaraz ที่เกาะ Antigua ก็เป็นอันจบเควส Pirate Alliance ที่ค้างเอาไว้ แต่ในขณะที่การรบกำลังเข้าสู่ภาวะแตกหักแต่ดูเหมือนจะไม่มีใครสังเกตว่า Horas 1 ในลูกเรือของกัปตันนั้นหายตัวไปตั้งแต่ Nekroloch ปรากฏตัวแล้ว

 เมื่อวาร์ปกลับมาขึ้นเรือ Bones จะเล่าเรื่องของเจ้า Nekroloch ให้ฟังโดยมันก็คือวิญญาณร้ายที่อยู่ในนรกที่คิดจะทำการใหญ่ด้วยพลังของ Titan Lord เพื่อควบคุมพลังของผลึกคริสตัลที่เหลืออยู่ในโลกให้หมด  เมื่อคุยจบก็ได้เควสมาจากเขา 2 อันคือ

A Huge Honor ซึ่งเควสนี้ก็คือการอัพคลาสสูงสุดก่อนรบครั้งสุดท้าย ซึ่งสำหรับผมที่เล่น Demon Hunter นั้นแค่ต้องไปคุยกับนายช่าง Wilson และ Drake ที่กิลด์เพื่อเอาวัตถุดิบมาให้ Wilson ทำชุดเกราะเพื่อให้เลื่อนชั้นเป็น Dark Warrior สุดเท่ ก็เป็นอันจบเควส A Huge Honor และถ้าอยากเพิ่มความแข็งแกร่งให้สุด ก็ให้ทำเควสหาชิ้นส่วนของดาบสุดยอดในตำนาน Kraken Eye มาด้วย ซึ่งก็ต้องรับเควส Weapon เพื่อมาตามเก็บชิ้นส่วนดาบที่หล่นอยู่ที่แอ่งน้ำด้านซ้ายร่างของวิหารต้องสาปในเขตหมู่บ้านต้องห้ามแล้วเอาไปซ่อมแซมก็จะได้ ดาบ Kraken Eye ที่มีพลังโจมตีสูงที่สุดมาใช้ ซึ่งก็จะทำให้ Demon Hunter คลาส Dark Warrior เข้มแข็งขึ้นไปอีกหลายเท่า

เควส -  The Traitor 
- Bones จะแนะนำว่าลองไปปรึกษาพวก guardian Mage ดูเผื่อว่าพวกเขาจะพอมีแผนรับมือบ้าง เดินทางไปยังเกาะ Taranis จะพบว่ามีเหตุวุ่นวายขึ้นที่วงแหวนพลังผลึกเวทย์ เมื่อเข้ามาในเมืองแล้วลงไปที่ทางออกทางซ้ายบนของเมืองเพื่อลงไปที่พื้นวงแหวนพลังงานผลึกก็จะพบกับ Horas ที่กำลังทำพิธีปลุกไททันขึ้นมา มันสารภาพกับกัปตันว่ามันเป็นลูกเรือของกัปตัน Crows ที่ถูกสั่งให้มาหาทางแทรกซึมทำให้พวก guardian Mage เปิดใช้งานวงแหวนผลึกอีกครั้งซึ่งยิ่งได้กัปตันรับเข้าเป็นลูกเรือยิงทำให้แผนสำเร็จง่ายขึ้นไปใหญ่ โดย Crows มันวางแผนที่จะใช้พลังของ Titan Lord เป็นพลังให้ Nekroloch ส่วนพวก Shadow Lord และประตูมิติก็แค่เรื่องการสร้างความวุ่นวายเพื่อเบี่บงเบนความสนใจของพวกมนุษย์เท่านั้น หลังคุยจบ Horas ก็ปลดปล่อยพลัง Titan Lord ขึ้นมาในร่างของโกเลมขนาดยักษ์ทันที Boss Ore Titan การจัดการมันก็คือเก็บผลึกแสงที่เป็นสีขาวเหมือนเชือกที่อยู่รอบๆพื้นวงกลม เอามาใช้ขว้าง (RT + A) ไปที่แขนทั้ง 4 ข้างของมันโดยให้ขว้างเข้าไปยังจุดที่เป็นผลึกสีขาว แล้วผลึกเชือกก็จะรัดแขนมันเอาไว้ จากนั้นเส้นสุดท้ายก็หาจังหวะขว้างไปที่ช้องระหว่างคอมัน Ore Titan ก็จะสิ้นฤทธิ์ทันที (โดยไม่ต้องโจมตีเลยซักครั้งเดียว) จากนั้นก็เหลือแต่ Horas ซึ่งออกแรงไม่เท่าไหร์ก็ตายคาที่แล้ว แต่ก่อนตายกัปตันพยายามถาม Horas ถึงที่อยู่ของกัปตัน Crows ซึ่ง Horas ก็บอกไปว่า ไม่ต้องหาเพราะ Crow จะตามหากัปตันเองมากกว่า

เควส -  Sea Battle Against Crows 



- เมื่อกลับขึ้นเรือ Bones แล้วเรือออกเรือเดินทางไปที่ไหนก็ได้ระหว่างทางก็จะได้พับกับเรือผีสิงของกัปตัน Crow ซึ่งก็เป็นต่อสู้กันเหมือนความฝันของกัปตันในตอนแรกของเกม แตกต่างกันตรงที่ครั้งนี้กัปตันเป็นฝ่ายปลิดชีพกัปตัน Crow ลงได้สำเร็จ หลังจากจัดการ Crows ได้แล้ว Bones จะสำรวจข้อมูลการเดินเรือของเรือผีสิงจนทำให้รู้แหล่งที่มาของมันนั่นก็คือ เกาะ Skull Island นั่นเองกัปตันจึงรู้ได้ทันทีว่าถ้า Crows ถูกส่งมาจากที่นั่น Nekroloch ก็ต้องอยู่ที่นั่นแน่นอน ถึงเวลาที่กัปตันจะไปทวงวิญญาณของเขาคืนแล้ว

เควส -  Evil’s Refuge
– เริ่มเปิดศึกสุดท้ายด้วยการเดินทางไปยังเกาะหัวกระโหลก Skull Island ที่ปรากฎขึ้นมาที่ด้านบนของแผนที่ได้เลย เมื่อเรือเข้าเทียบท่า ทุกคนจะลุยเข้าไปช่วยกันจัดการศัตรูด้านหน้าเกาะจนหมดแล้วใช้ที่นี่เป็นแหล่งรวมพลครั้งสุดท้าย จากนั้นคุยกับ Kane เพื่อให้เขานำลูกเรือออกไปช่วยกันจัดการ Shadow Lord of Fury ที่อยู่ด่านหน้าของเกาะ เมื่อจัดการกับมันได้แล้ว ก็เหลือแค่กัปตันกับปาร์ตี้ที่เลือกเท่านั้นที่ต้องลุยเข้าไปด้านใน ท่ามกลางศัตรูขนาดใหญ่เต็มพื้นที่ของเกาะ เป้าหมายคือเครื่องหมาย X หน้าถ้ำกลางเกาะ ซึ่งเมื่อลุยเข้ามาถึงกัปตันก็จบคนที่เขาค่อนข้างคุ้นเคย วิญญาณของเขาเอง
- เจ้าวิญญาณตัวดีได้รับมอบหมายจาก Nekroloch ให้มาจัดการกับร่างเดิมโดยมีรางวัลคือร่างใหม่ที่แข็งแกร่งกว่า แต่เจ้าวิญญาณก็แค่รับปากแต่ใครจะทำลายร่างของตัวเองได้ลงคอ แต่มันก็จะให้กัปตันรีบไปช่วยพวกนักปราชญทั้ง 3 ที่โดนจับมาก่อน ในเควส Reunion ในภาระกิจ Free the Tree Great Sorcerers โดยกัปตันต้องเข้าไปช่วยทั้ง 3 ที่ถูกขังอยู่แยกกันอยู่ทางบริเวณด้านทิศใต้ ตะวันตก และตะวันออกของเกาะ ท่ามกลางพื้นที่ของเกาะนั้นกว้าง วับซ้อนและอันตราย
- เริ่มจากฝั่งขวาใกล้สุด ลุยเข้าไปถึงซากป้อมทางฝั่งขวาขึ้นไปด้านบนเครื่องหมาย X จะอยู่บนนี้แต่ต้องสำรวจกลางพื้นที่จะมีบันไดให้ลงไปในป้อมต่อ ลุยเข้าไปด้านในจนถึงที่คุมขังของ Eldlic แล้วช่วยเขาออกมา
- ฝั่งใต้ตรงสะพานที่ท่าเรือ ถ้าขี้เกียจก็วาร์ปกลับเรือแล้วลงมาใหม่ผ่านแค้มป์ของพวกเราไปทางซ้ายอ้อมลงมาที่สะพาน ลุยขึ้นไปบนสะพานจะพบ Zacharias จัดการช่วยเขาออกมา
– ฝั่งซ้ายยากสุด ลุยเข้าไปมาที่ทางเข้าจะพบลูกกรงปิดอยู่ต้องขึ้นบนไดไปกดสวิตซ์เปิดประตูถึงจะเข้าไปได้ เข้ามาแล้วจะเจอลูกกรงอีกชั้นที่เปิดไม่ได้ต้องปีนซากเสาที่หักขึ้นชั้นบนต่อ ก็จะเข้ามาในหอคอยขนาดใหญ่ที่มีแกนหมุนอยู่ตรงกลาง เป้าหมายคือ ประตูคุกที่อยู่ชั้นล่างสุด เริ่มต้นสับสวิตซ์ตรงหน้าหมุนทางเดินของแกนกลางหอคอยแล้วเดินไปทางซ้ายเพื่อข้ามทางเดินผ่านไปที่แกนกลางจนถึงฝั่งตรงข้าม กดสวิตซ์เพื่อเปิดลูกกรงชั้นล่างแล้วข้ามย้อนกลับมาฝั่งเดิมแล้วลงไปออกที่ชั้นล่างจะเจอสวิตซ์อันที่ 3 กดเพื่อหมุนแกนกลางให้ทางเดินเชื่อมกันแล้วย้อนกลับไปที่แกนกลางจะเห็นบันไดที่แกนกลาง ขึ้นไปชั้นบนสับสวิตซ์ระหว่างบันไดแล้วขึ้นไปชั้นบนสุดตรงที่เป็นทางที่เข้ามาทางห้องด้านขวาจะมีโพรงที่พื้นห้องให้ไต่ลงมาชั้น 2 ได้ เดินไปสับสวิตซ์ที่สุดทางเพื่อปรับทางเดินของแกนกลางในชั้น 2 แล้วขั้นบันไดตรงทางเดินขึ้นไปชั้นบนเดินเข้าไปที่แกนกลางแล้วลงบันไดที่แกนกลางมาที่ชั้น 2 จะเข้ามาที่ทางเดินตรงระเบียงหน้าห้องขังได้ เข้าไปกดสวิตซ์บนห้องขังเพื่อเปิดประตูแล้วกลับเข้าแกนกลางลงมาชั้นล่างก็จะเข้ามาถึงหน้าคุกได้แล้ว สำรวจที่เสากลางของทั้ง 2 ด้านจะมีทีมีหมุนแกนวงกลมให้ได้ภาพที่ถูกต้องเพื่อเปิดประตูคุกทั้ง 2 ฝั่งเข้าไปเก็บไอเทมต่างๆแล้วค่อยเข้าไปช่วย Chani ออกมา




- จากนั้นกลับไปหาวิญญาณของตัวเองที่รออยู่หน้าถ้ำ เขาก็จะยอมกลับเข้าร่างเดิมอีกครั้ง หลังจากกลับเป็นมนุษย์เต็มตัวอีกครั้งกัปตันก็มีเรื่องสุดท้ายที่ต้องเคลียร์คือเข้าไปจัดการเจ้า Nekroloch ที่อยู่ในถ้ำให้จบเรื่อง โดยจะไม่มีเพื่อนในปาร์ตี้เข้าไปด้วย เมื่อเข้าไปในถ้ำจะพบ Nekroloch รออยู่ในห้องที่เต็มไป กำลังเตรียมที่จะขนกำลังพลกองทัพปีศาจด้วย Crystal Portion ประตูมิติที่เป็นทางเชื่อมระหว่าง Underworld และ โลกมนุษย์ ที่มีอยู่มากมายในถ้ำ  มันจะใช้พลังของ Titan Lord กลายร่างตัวเองให้เป็น Titan of Death แล้วพุ่งเข้ามาโจมตีจนร่างกัปตันกระเด็นก่อนที่จะดึงเอาวิญญาณของเขาออกอีกครั้ง แล้วดูดพลังชีวิตออกจากร่างของเขา การต่อสู้จึงเริ่มขึ้น







Boss Titan of Death มันจะพยายามดูดพลังชีวิตจากร่างของกัปตันตลอด ซึ่งต้องบังคับวิญญาณเข้าขัดขวางมัน พยายามโจมตีมันอย่าให้มันดูดพลังชีวิตจนหมด เมื่อโดนโจมตีหนักๆมันจะพาร่างเข้าประตูมิติหนีไปที่ตำแหน่งอื่นอีก โดยต้องรีบเข้าประตูมิติตามหาที่อยู่ของมันก่อนมันดูดพลังจนหมด ท่ามกลางปีศาจมากมายที่ออกมาจากประตูมิติที่เข้ามาขัดขวาง สามารถเติมพลังได้ที่จุดแสงสีขาวๆในห้อง (ซึ่งคงไม่มีเวลาพอที่จะทำแบบนั้นแน่นอน) Titan of Death  มีการโจมตีค่อนข้างหนักแบบทีเดียวหมอบได้ต้องหลบให้ดี ใช้เวทย์สร้าง Hellbound หรือ ปีศาจต่างๆที่มีขึ้นมาช่วยสู้เพื่อเบี่ยงความสนใจมันจะดีที่สุด




เมื่อล้มแผนร้ายของ Nekroloch วิญญาณเร่ร่อนที่มักใหญ่ไฝ่สูงเอาไว้ได้ รางวัลที่กัปตันโจรสลัดธรรมดาคนนึงที่ชะตากรรมผลิกผันจนต้องมากู้โลกต้องการนั้น ไม่มีอะไรมากไปกว่า เหล่าฝองเพื่อนที่รออยู่ และการผจญภัยไปในท้องทะเลเสรีโดยมีวิญญาณเป็นของตัวเอง …

    ----------------------------------------- THE END ----------------------------------------------