วันพฤหัสบดีที่ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2558

Assassin’s creed Syndicate

               
           

                                             บทสรุป - Assassin’s creed Syndicate 


BY Decibel per – oxide 



                                จากนี้  อดีต จะเป็นเสมือนสนามเด็กเล่นสำหรับคุณ 




                                                            OBSTERGO


                                        การควบคุม Hephaestus เสร็จสมบรูณ์ 



                                                   ขอต้อนรับ .....  Assassin



1 พฤศจิกายน 2015 - สถาบันวิจัยด้านประวัติศาสตร์ แอปสเตอโก้  ( Abstergo Historical Research)



Bishop – สวัสดีค่ะ เรามาเริ่มกันเลย เมื่อเร็วๆนี้ ฝ่ายวิจัยศึกษาประวัติศาสตร์ของบริษัท Obstergo Historical ได้เริ่มทำโครงการณ์ใหม่ใน ลอนดอน  เราต่างก็เพิ่งรู้ข่าวตอนที่พวกมันเริ่มเคลื่อนไหวใหญ่ พวก Templars กำลังมีแผนบางอย่าง ซึ่งเราคาดว่าคงเป็นการงบเงื่อนงำของชิ้นส่วนของ “Piece of Eden” อันใหม่แน่นอน เพราะผู้คนในลอนดอนเริ่มพูดถึงมันเป็นวงกว้าง 
Rebecca - เฮ้ Bishop ! .. อยากรู้จังว่า Jacob กับ Evie ฝาแฝดตระกูล Frye คู่นี่จะเจ๋งแค่ไหนกันนะ ว่ามั๊ย ? 
Bishop – พูดถึงปีศาจ ปีศาจก็มา .. ดูผ่านกล้องของคุณได้เลย Becs ! ชั้นมีภาพอยู่ ETA อัพโหลดได้ยัง ส่งไปแล้วนะ เดี๋ยวชั้นจะไปเตรียมการที่ ASAP ต่อ 
Rebecca – เหมือนคุณจะประหลาดใจกับอาวุธนี้มากนะ ไหนดูสิ 


..อัพโหลดข้อมูลที่บันทึกไว้วันที่ 24 ตุลาคม 2015 ฝ่ายผู้นำเทมพลา Crawford Starrick และ นักฆ่าฝาแฝดของเรา Jacob กับ Evie Frye ! เสร็จสิ้น ... 




โอเคเจอบางอย่างด้วย ! Isabelle Ardant กำลังจะมาที่นี่ในไม่กี่ชั่วโมงนี้แล้ว แต่ไม่รู้จะมาคุยอะไรกับใครกันนะ ? 
Shaun – มาคุยกับพวกไหนมากกว่านะผมว่า  แต่ไม่ต้องห่วงที่ผมกับ Rebecca เข้ามาที่นี่ก็เพื่อจะหามันนั่นแหละ 
Bishop – เดี๋ยวก่อน ภารกิจคือตามหาตำแหน่งของ “Piece of Eden”  ที่อยู่ในลอนดอนนะ  
Rebecca – ซึ่งเราก็กำลังทำอยู่เนี่ย 
Shaun – และตอนนี้ผมก็อยากจะใช้เครื่องมืออันใหม่นี่ใจแทบขาดแล้วด้วย .. ทำไมอ่ะ พูดไรผิดหรอ Becs ? 
Bishop –บอกตามตรงๆชั้นไม่อยากให้คุณ 2 คนออกมาทำอะไรนอกตำราเท่าไหร่หรอกนะ แต่เราต้องผ่านมันไปได้แน่ๆ หายใจลึกๆแล้วเดินหน้าลุยต่อไปตามแผนก็แล้วกัน หน้าที่ของคุณคือ ตามหาชิ้นส่วนของ “Piece of Eden” ในลอนดอนผ่านประสบการณ์ของ 2 พี่น้องฝาแฝดนักฆ่า Jacob กับ Evie Frye จัดการดาวโหลด พันธุกรรมแห่งความทรงจำมาให้พร้อมด้วย โชคดี !  




ผลสืบเนื่องมาจากยุคของการสำรวจทางทะเล  ( Age of Discovery) ของชาวยุโรปในศตวรรษที่ 15-16 ก่อให้เกิดการจัดตั่งอาณานิคมเพื่อหาวัตถุดิบและเป็นตลาดในการระบายสินค้าเพื่อการค้าจะได้ขยายตัวออกไปให้กว้างมากขึ้น ในช่วงศตวรรษที่ 18 ปี ค.ศ. 1750 จึงได้เริ่มมีการเปลี่ยนแปลงการผลิตครั้งใหญ่ที่เรียกว่า การปฏิวัติอุตสาหกรรม (Industrial Revolution) จากแรงงานคน ,แรงงานสัตว์เป็นการใช้เครื่องจักร การผลิตที่เน้นแต่ใรครัวเรือนก็เปลี่ยนเป็นโรงงาน เพื่อเพิ่มผลผลิตและการส่งผลผลิตไปขายยังตลาดภายในและภายนอกประเทศ ไม่ใช่เป็นการผลิตเพียงเพื่อนำมาใช้บริโภคภายในครอบครัว หรือเพื่อจำหน่ายภายในตลาดท้องถิ่นเหมือนในอดีต




  และ การขยายตัวทางการค้าก่อให้เกิดการขยายตัวทางการผลิตและการผลิตสินค้าออกมาเป็นจำนวนมากขึ้น ความเจริญก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์ใน ศตวรรษที่ 16-17 เป็นปัจจัยสนับสนุนให้เกิด การคิดค้นเครื่องมือและเครื่องจักร เพื่อเสริมการผลิตสินค้าให้มีปริมาณและคุณภาพมากยิ่งขึ้นด้วย ทั้ง เครื่องหว่านเมล็ดพืช , เครื่องปั่นด้าย , หัวรถจักรไอน้ำ และเครื่องจักรไอน้ำซึ่งใช้ถ่านหินเป็นเชื้อเพลิงหลัก , กังหันน้ำ และเครื่องจักรที่ใช้พลังงานขับเคลื่อนในอุตสาหกรรมสิ่งทอ , เครื่องกลึง และการผลิตชิ้นส่วนต่างๆที่เป็นตัวสนับสนุนให้กำลังการผลิตอื่นๆให้ขยายตัวมากขึ้น 

                               

แต่ การขยายตัวเกิดขึ้นรวดเร็วและมหาศาลทำให้เกิดความ “ไม่สมดุลขึ้นในสังคมที่เริ่มมีประชากรเพิ่มมากขึ้นด้วย โดยในช่วงเริ่มต้นศตวรรษที่ 19 ประชากรในลอนดอนมีเพียง 1 ล้านคนและเมื่อมาถึงศตวรรษที่ 20 ประชากรเริ่มมีเพิ่มมากถึง 6 ล้านคน ซึ่งได้ส่งผลกระทบต่อการเป็นอยู่ของประชาชนอย่างมาก ทั้งเรื่องสภาพการทำงาน รายได้ สุขอนามัย อาชญากรรมและความไม่เท่าเทียมกันของสังคม คนรากหญ้าถูกกดขี่อย่างไม่เป็นธรรมของระบบที่อิงแอบแต่อำนาจการปกครองของคนระดับสูง   




และก็ด้วยว่าลอนดอนถือว่าเป็น เมืองศูนย์กลางที่ใหญ่ที่สุด ซึ่งโดยเฉลี่ยมีประชากรประมาณ 1 ใน 4 ของโลกอาศัยที่นี่ คำพูดดที่ว่าใครได้ครอบครองลอนดอนก็ถือว่าได้ครอบครองโลก นั่นเป็นเหตุผลหนึ่งที่ Templar ได้เริ่มเข้ามาครอบครองสร้างความแข็งแกร่งของตัวเองอยู่ทุกส่วนของเมืองเพื่อหวังครอบงำและครอบครองลอนดอนเพื่อเป็นฐานในการก้าวต่อไปในการครอบยุโรปและโลกต่อไป แต่ลึกๆของแผนร้ายของ Templar ก็คือค้นหา ชิ้นส่วนของ “Piece of Eden” ที่ซ่อนอยู่ที่ไหนซักแห่งในลอนดอน 

Cr. อ้างอิงข้อมูลทางประวัติศาสตร์จาก 
https://www.gotoknow.org/posts/247776
http://wl.mc.ac.th/?p=111


พี่ George ตอนนี้ผมกำลังกลัวว่า ลอนดอน กำลังจะตกต่ำลงทุกที 3 ฉบับแล้วที่เขียนถึงคุณ 3 ฉบับแล้วที่ผมอ้อนวอนขอความช่วยเหลือจากคุณ 3 ครั้งที่ไม่มีการตอบกลับมา แต่ผมก็ยังจะเขียนมาอีก เพราะผมถึงตาจนแล้ว ผมต้องการพี่ ลอนดอนต้องการพี่ !!   




พี่ชอบพูดว่าตลอดว่า มันเป็นภาระหน้าที่ที่หนักมาก หรือไม่ก็ ยังไม่ถึงเวลาเหมาะสมที่จะจู่โจม ให้อดทนมากๆ พี่แนะนำอย่างงั้นมาตลอด แล้วพี่ก็ได้แต่รอคอย จนพวก Templar มันสร้างฐานอำนาจจนแข็งแกร่งขึ้น จนมันเลือกแต่งตั้ง Grand Master ของมันได้สำเร็จ ผู้นำที่เต็มไปด้วยความโหดเหี้ยมไร้ความเมตรา มันชื่อว่า Crawford Starrick แถมยังประกาศกร้าวว่าอยากจะครองโลก 




และกับสังคมที่เละเทะของลอนดอนตอนนี้มันแทบไม่ได้ใช้การบีบบังคับอะไรกับสังคมเลยนอกจากควบคุมกิจการโรงงานอุตสหากรรมทั้งหมด คนรากหญ้าที่ไหนจะคิดลุกขึ้นไปต่อกรกับมัน ตอนกลางวันมันก็คอรัปชั่นกัดกินควบคุมทั้งการเมืองระบบราชการและศาลยุติธรรม ตกกลางคืนก็ใช้แก็งค์อาชญากรออกมาป่วนทำให้เกิดความหวดกลัวในจิตใจประชาชน พวกมันวางยากับทุกระบบทุกชนชน และไม่มีใครเลยที่จะกล้าหาญพอที่จะสู้กับมัน ศัตรูของพวกเรากำลังวางแผนร้ายอย่างสูงส่งจนเรากำลังจะเอื้อมไม่ถึง 




และถ้าพี่จะมองให้ลึกกว่านั้น ผมบอกตรงๆว่า กลัว ความทะเยอทะยานของ Crawford Starrick มันอาจจะไปไกลถึงระดับราชอาจักร หรือ ทวีป ภายในเวลาไม่นาน และก่อนที่มันจะรู้ตัวว่ามันไปไกลถึงขนาดนั้นได้ ผมจึงอยากจะเตือนพี่อีกครั้งและอีกครั้งว่า ใครครอบครองลอนดอนได้ก็ครอบโลกได้ 


                                                    SEQUENCE 01

                                       A SPANNER IN THE WORK

**รางวัล **
-เงิน 1000 
-EXP 2000 
- Belts Initiate Belt 


ปี 1868  Ferris Ironwork, Croydon 





George – เรือรบถูกส่งมาจากที่นี่ พวก Templar เป็นคนบังคับมันคือ Rupert Ferris นั่นคือเป้าหมายแรกของเรา ส่วนเป้าหมายที่ 2 คือ Sir David Brewster ใครได้พวกมันไปมันจะทำให้สงครามที่เราสู้มาหายนะได้ง่ายๆเลย พวกนายทั้งคู่จัดการได้แน่นะ   
Jacob – ถามอะไรแบบนั้น ?




George – โอ้ ชั้นลืมไป ท่านผู้มีเกรียติที่เคารพครับ “ฝาแฝด Frye ผู้ขจัดทุกอุปสรรคที่กีดขวาง” เชิญชมพวกเขาสำแดงพลังที่ Covent Garden แห่งนี้ได้ ณ.บัดนี้ !! 
Evie – ด้วยความเคารพนะ George ชั้นศึกษาแผนนี้มาอยากดีและมีทางหนีทีไล่เอาไว้แล้วน่า 
Jacob – ส่วนข้า ทุกอย่างอยู่ Hidden Blade เล่มนี้แหละ รับรองมันจะเล็งไปที่เจ้า Ferris ของคุณแน่นอน  
Evie – ไว้เม๊าท์ต่อนะ George เดี๋ยวพวกเราจะขึ้นรถไฟไม่ทัน 
George – Jacob ! .. Evie ขอให้บัญญัติแห่งเราจงนำทางพวกเจ้า .. เจ้าพวกจรจัดเอ๊ย !! Vagrants 
Evie – ตาแก่ขี้บ่น กลัวจนขี้ขึ้นสมอง ปีนี้ไม่เหมือนที่ผ่านมาหรอกนะ 
Jacob – Evie Frye ปากดีเหลือเกิน ไปเอาพูดแบบนี้มาจากไหนหนอ 
Evie – จากที่เดียวกับนายนั่นแหละ Jacob

ทันทีที่ขบวนรถไฟที่ 2 พี่น้องตระกูล Frye ลอบขึ้นมาบนหลังคาผ่านมาถึงโกดังโรงเหล็กของ Rupert Ferris Jacob ก็แยกตัวโดดลงมาแล้วลอบผ่านหน้าต่างเข้าด้านใน ความเลวร้ายในบรรยากาศของโรงเหล็กทั้งความเปรียบและกดขี่ของที่นี่ก็เริ่มเข้ามาในสายตา Jacob พร้อมกับเป้าหมายที่ต้องลอบฆ่านั่นคือ Rupert Ferris ที่กำลังออกมาสั่งงานก่อนจะเดินผ่านเข้าไปด้านในโรงงาน


-ใช้ R2 ในการ Free Running เข้าไปที่ประตูโกดังที่  Ferris เพิ่งออกไปจะพบว่ามันล็อกเพราะไม่ให้คนงานหนี จากนั้นย้อนกลับไปหมุนปิดวาล์วไอน้ำที่จุดเหลือง 3 จุด เครื่องจักรจะหยุดทำงานทำให้หัวหน้างานเข้ามาตรวจสอบ โดดลงไปฆ่ามันได้เลย หลังจากผ่านประตูเข้ามาด้านในก็จะเจอพวกลูกน้องของ Ferris เข้ามาขัดขวางให้เรียนรู้ระบบต่อสู้ กดสี่เหลี่ยมโจมตีเบา , O เค๊าท์เตอร์และ X ทำลายการ์ดทำให้ศัตรูมึนงง จัดการศัตรูให้หมดแล้วเข้าประตูด้านในไปต่อ เรียนรู้การใช้ R2 + X ในการวิ่งไต่ขึ้นที่สูงไปยังจุดเขียวที่ปลายเครนยกของ กด R2 ค้าง แกนบังคับทิศทางและปุ่ม O เพื่อทิ้งตัวลงไปดหนที่ด้านล่างต่อจนถึงพื้น ก็จะเริ่มมีศัตรูที่ต้องหลบซ่อน


** เรียนรู้ระบบ Detection หรือปฎิกริยาของศัตรู เกทสีเหลือง ระแวงสงสัย เกทสีแดงคือรู้ตัวและเข้าโจมตี กับการหลบหลีกศัตรูด้วยระบบ Last Know Position เหมือนกับภาค Unity ซึ่งก็คือการหลบอย่างฉับพลันที่ทำให้ศัตรูมาตรวจสอบตรงจุดสุดท้ายที่มันเห็นตัว ซึ่งจะแสดงให้เห็นเป็นเงาลางๆ ซึ่งใช้ได้ทั้งงการหลบหลีกและตัวล่อเพื่อลอบสังหารศัตรู ** 

-จากนั้นลอบหลบศัตรูเข้าไปที่จุดสีเขียวด้านในเพื่อปีนขึ้นไปที่ระเบียงด้านบน เมื่อเข้ามาด้านในโรงงานอีกตึกก็จะเริ่มพบศัตรูอีกมากมาย



** เรียนรู้โหมด Stealth หรือโหมดลักลอบ ซึ่งก็คือการกด X ในพื้นที่สีแดงของศัตรูจะทำให้ Jacob เอาฮู๊ดขึ้นมาคลุมหวัแทนหมวกแล้วเข้าสู่ท่าย่อตัวเพืื่อเข้าสู่โหมดลักลอบเพื่อศัตรูมองเห็นตัวยากขึ้นในขณะเข้าที่กำบังต่างๆ ในขณะที่กำลังเข้าสู่โหมดลักลอบจะมีวงแหวน Stealth จะทำให้เห็นตำแหน่งและปฎิกริยาของศัตรูชัดเจนขึ้น การกด L2 + R2 ในการปาลอบมีดใส่ศัตรู และการกด L3 ในการใช้ Engle Vision เพื่อทำให้เห็นศัตรูที่จะแสดงเป็นสีแดงอย่างชัดเจนและสามารถมาร์กตำแหน่งของศัตรูเพื่อง่ายต่อการติดตามการเคลื่อนไหวของพวกมันไปในตัวด้วย  **  

-ลอบหลบศัตรูไปที่จุดเป้าหมายสีเขียวเรื่อยๆจนถึงทางเข้าโกดังด้านในที่เป็นห้องทำงานของ Rupert Ferris เป้าหมาย ซึ่งมันจะนั่งอยู่ในห้องทำงานด้านขวาของห้องเตาหลอมด้านใน เมื่อลอบเข้าไปถึงหน้าโรงงานจะมีจุด Entry Point ให้เลือกในการเข้าไปสังหารเป้าหมายที่แตกต่างกันได้ 3 จุด

Jacob – แกเสร็จชั้นแล้ว ! 
Ferris – โอ้ แกคิดว่าแกทำสำเร็จแล้วหรอไอ้หนู ทำลายโรงงานด้วยการหยุดการทำงานของเครื่องจักร คิดว่าแค่นี้พอแล้วหรอ ! 
Jacob – แต่มันจะทำให้ Grand master ของแกผิดหวัง ! 
Ferris – พวกนักฆ่าอย่างพวกเจ้าเข้าถึงและเข้าใจแก่นแท้ของลอนดอนได้แค่รอบนอกของวัฎจักรของมันเท่านั้น เครื่องจักรกลต่างๆที่พวกเราสร้างขึ้นมามันแข็งแกร่งและอยู่ยืนยาวมาเป็นพันๆปีแล้ว และมันจะอยู่คู่เมืองนี้ไปอีกหลายพันปี มันเป็นสิ่งที่เมืองนี้สมควรต้องมี 
Jacob – และพวกเราจะยึดลอนดอนคืนมาจากพวกแก !  
Ferris – เริ่มจาก Croydon นี่หรอ ? หลบซ่อนตามเงามืดเหมือนพวกขี้ขลาดละสิ 

-หลังจากสังหาร Ferris ลงได้ก็รีบลอบกลับออกมาที่จุดเป้าหมายสีเขียวเพื่อโดดขึ้นรถไฟเพื่อหนีออกจากที่นี่ บนหลังคาโบกี้ จัดการศัตรูที่ตามมาให้หมดจนสุดท้ายจะถูกพวกศัตรูทำให้รถไฟตกเหว ทันทีที่ Jacob หนีออกมาได้ทันก็พยายามปีนลงมาที่จุดสีเขียวด้านล่างซึ่งเป็นจุดปลอดภัยเพื่อจบภารกิจ




                                                    SEQUENCE 02

                                                   A SIMPLE PLAN


** Secondary Objective **
-ฆ่าศัตรูโดยใช้ถังที่แขวนอยู่ 5 คน 
-สังหาร David Brewster ด้วยท่าโดดลงมาฆ่าจากด้านบน (Air Assassinate) 

**รางวัล ** 
-เงิน 1000 
-EXP 2000 
-Capes Thrifty Cloak 

ในขบวนรถไฟที่แล่นไปอีกทางไปยังสถานีรถไฟ คืออีกส่วนหนึ่งในภารกิจของ Evie Frye ที่กำลังเดินทางไปที่โกดังสินค้าในชุมทางรถไฟเพื่อค้นหา “Piece of Eden” และสังหารเป้าหมาย Sir David Brewster



-เรียนรู้การใช้นกหวีดล่อศัตรูด้วยการกดปุ่มทิศทางลงล่างแล้วสังหารซะ , L2 + R2 ขวางมีดสั้นในแบบเล็งอิสระ และ กดสามเหลี่ยมในการขว้างมีดสั้นอย่างรวดเร็วแต่ไม่หวังผล จากนั้นก็ลอบจัดการศัตรูตามโบกี้ต่างๆเพื่อไปยังจุดเป้าหมายสีเขียวที่หัวขบวน  Evie จะตัดข้อต่อของขบวนเพื่อทิ้งโบกี้ทั้งหมดให้เหลือไว้แต่หัวรถจักรเพื่อเดินทางไปที่ชุมทางรถไฟ
-เมื่อหัวรถจักรเดินทางมาถึงที่ชุมทางรถไฟพวกศัตรูจะเข้ามาตรวจสอบที่หัวรถจักรทันที เป้าหมายคือไปที่จุดเป้าหมายสีเขียวบนนั่งร้าน ซึ่งก็คือ Vantage Point หรือจุดเปิดแผนที่นั่นเอง



- Evie จะสังเกตเห็น Lucy Thorne (The Occultist) ที่กำลังคุยกับนักวิจัยคนนึงซึ่งก็คือ Sir David ที่กำลังขอผ่อนผันในการผลิตอุปกรณ์บางอย่างไปอีก 2 อาทิตย์ ซึ่ง Lucy ยังยืนยันว่า 2 อาทิตย์มันนานเกินไป ก่อนที่จะบอกเส้นตายที่เธอต้องการให้ Sir David ทำการปลดล็อกหรัสของเครื่องจักรบางอย่างให้ได้ภายในวันพรุ่งนี้ ไม่งั้นจะโดนฆ่าทิ้ง หลังจาก Lucy จากไปแล้ว คนของ Sir David จะจับชายแปลกหน้าท่าทางประหลาดได้คนนึง Sir David จึงสั่งให้นำตัวมันไปสอบสวนว่าลอบเข้ามาที่นี่เพื่ออะไร 

-พื้นฐานการลอบเข้าไปยังเป้าหมายของ Evie ก็ไม่ต่างอะไรกับ Jacob เน้นอยู่ที่สูง ใช้ Eagle Vision มองหามาร์กตำแหน่งศัตรูและการใช้ประโยชน์จากจุดซ่อนตัวและอุปกรณ์ในฉาก ซึ่งที่นี่จะมีถังที่แขวนอยู่ที่สามารถตัดให้ลงมาทับศัตรูได้
** Secondary Objective **
-ฆ่าศัตรูโดยใช้ถังที่แขวนอยู่ 5 คน 
- จากนั้นลอบเข้าไปจนถึงหน้าห้องทดลองลับเป้าหมาย แต่เมื่อเข้ามาแล้ว Evie จะหาห้องทดลองลับไม่เจอ เจอแต่เสียงของพวกศัตรูกำลังสอบสวนชายแปลกหน้าที่ถูกจับมาตรงทางเข้า ลอบขึ้นไปช่วยเขาที่ห้องด้านบน


ชายแปลกหน้าที่ถูกจับจะบอกตำแหน่งของห้องทดลองลับเพื่อแลกกับการช่วยปล่อยเขา ซึ่งมันก็ยอมบอกว่า ห้องทดลองลับอยู่ใต้ดินแต่ต้องไปเอากุญแจมาจากพวกการ์ดก่อน แต่หลังจาก Evie ได้ข้อมูลแล้วเธอก็ไม่ได้แก้มัดให้ชายแปลกหน้าตามที่บอกไว้ เพราะเธอเชื่อว่าหากลอบเข้ามาได้ตอนออกก็น่าจะได้ไม่ยาก ซึ่งทันทีที่ Evie หันหลังไปไม่กี่อึดใจหันมาอีกทีชายแปลกหน้าก็แก้เชือกที่ถูกมัดแล้วหายตัวไปอย่างรวดเร็ว

-เดินทางไปที่เป้าหมายสีเขียวที่ขึ้นมาเพื่อไปเอากุญแจก่อน เมื่อมาถึงจุดเป้าหมายใช้ Engle มองดูจนพบทหารที่ถือกุญแจตัวเป็นสีเหลือง เข้าไปขโมยกุญแจจากมันมา แล้วมาที่จุดเขียวเป้าหมายต่อไปที่โรงเก็บรถไฟ ซึ่งประตูทางเข้าห้องทดลองลับจะอยู่ทางด้านฝั่งขวาของอาคาร



                                                   SKILL UPGRADE 

ค่าประสบการณ์ หรือ EXP นั้นได้จากการทำตามเงื่อนไขของ Objective ต่างๆและหลังจากจบภารกิจหลัก (และ + จาก Secondary Objective ด้วยหากทำสำเร็จตามเงื่อนไข) เมื่อสะสมค่า EXP จนครบ 1000 EXP หรือเต็ม 1 เกทประสบการณ์สีฟ้าก็จะได้ 1 Skill point ที่จะสามารถเอาไปทำการอัพเกรด Skill ต่างๆได้ ซึ่ง Skill จะประกอบด้วย 3 สายคือ






                              Combat Skill ความสามารถด้านการต่อสู้  

1.Multi-Finisher ท่าเผด็จศึกสังหารหมู่ (มีแต่แรก) สามารถใช้ท่าเผ็ดจศึกกับศัตรูที่ใกล้ตาย 4 คนแบบต่อเนื่อง ด้วยการกด สี่เหลี่ยม(PS4) / X (Xbox – PC) 
2.Stun Attack (มีแต่แรก) ทำลายการ์ดและทำให้ศัตรูมึนงง ด้วยการกด X(PS4) / A (Xbox – PC)
3.Counter (มีแต่แรก) เค๊าท์เตอร์การโจมตีของศัตรู ด้วยการกด O(PS4) /B (Xbox – PC) 
4.Tool Combo (มีแต่แรก) กดใช้เมนูเครื่องมือและไอเทม ด้วยการกด สามเหลี่ยม (PS4) / Y (Xbox – PC) 
5.Health Boost I (Skill Point 1) เพิ่มเกท HP มากขึ้น 1 แถบ 
6.Health Boost II (Skill Point 2) เพิ่มเกท HP มากขึ้นอีก 1 แถบ
7.Health Boost III (Skill Point 2) เพิ่มเกท HP มากขึ้นอีก 1 แถบ
8.Unstoppable I (Skill Point 1) เพิ่มเวลาก่อนจะเสียการทำคอมโบต่อเนื่องเพิ่มขึ้น 
9.Unstoppable II (Skill Point 2) โจมตีจนจบคอมโบโดยไม่มีระยะเวลาทำให้หลุดคอมโบ
10.Slayer I (Skill Point 1) เมื่อทำคอมโบไปถึง X10 การโจมตีครั้งต่อไปจะทำให้ศัตรูอยู่ในสภาพใกล้ตายทันที
11.Slayer II (Skill Point 2) เมื่อทำให้ศัตรูเป้าหมายแรกใกล้ตายแล้ว การโจมตีครั้งต่อไปกับศัตรูอีกเป้าหมายจะทำให้มันอยู่ในสภาพใกล้ตายทันที
12.Counter Boost (Skill Point 2) เพิ่มจังหวะของการเค๊าท์เตอร์ให้นานขึ้นและเพิ่มการโจมตีสวนกลับให้รุนแรงขึ้นด้วย
13.Execute I (Skill Point 2) หลังจากทำลายการ์ดให้ศัตรูมึนงงแล้วสามารถกดใช้เมนูไอเทมเพื่อเผด็จมันได้แบบต่อเนื่อง
14.Execute II (Skill Point 4) เมื่อศัตรูอื่นๆเห็นเราใช้ท่าเผด็จศึกมันจะตกใจชะงักและอยู่ในสภาพไม่ป้องกันตัวทันที 
15.Mutilate I (Skill Point 2) โจมตีศัตรูแล้วทำให้มันอยู่ในสภาพใกล้ตายได้อย่างรวดเร็ว  
16 .Mutilate II (Skill Point 4) (เฉพาะ Jacob) เพิ่มพลังโจมตีที่ทำให้ศัตรูอยู่ในสภาพใกล้ตายได้อย่างรวดเร็ว  
17.Adrenaline (Skill Point 4) สามารถฟื้นพลังชีวิตที่เสียไปให้คืนมาได้มากขึ้น 


                           Stealth Skill ความสามารถด้านการลักลอบ

1. Whistle (มีแต่แรก) ในโหมด stealth สามารถกดปุ่มทิศทางลงล่างเพื่อผิวปากล่อศัตรูมาฆ่าได้ 
2.Knockout (มีแต่แรก) ในโหมด stealth สามารถกด O (PS4) / B (Xbox – PC) ค้างเพื่อลอบจัดการศัตรูจากด้านหลัง 
3.Stealth Navigation (มีแต่แรก) เข้าสู่โหมดลักลอบด้วยการกด X (PS4) / A (Xbox – PC) 
4.Air Assassination (มีแต่แรก) ท่ากระโดดจากที่สูงลงมาสังหารศัตรูด้วยการกด สี่เหลี่ยม (PS4) / X (Xbox – PC)
5.Lockpicking I (Skill Point 1) สามารถใช้กุญแจผีเปิดหีบไอเทมได้ 
6.Lockpicking II (Skill Point 2) สามารถใช้กุญแจผีเปิดประตูต่างๆได้ ยกเว้นประตูที่ต้องใช้คียไอเทมในการเปิด 
7.Kidnap (Skill Point 1) สามารถกด O (PS4) / B (Xbox – PC) ในการจับตัวศัตรูได้  
8.Intimidation (Skill Point 2) สามารถจับตัวศัตรูโดยมันจะไม่พยายามหนี 
9.Loot Takedown (Skill Point 1) ได้ของจากตัวศัตรูแบบอัตโนมัติเมื่อสังหาร ทำให้สลบ หรือ จับตัว มัน 
10.Double Assassination (Skill Point 1) ลอบจัดการศัตรูที่อยู่ใกล้กันพร้อมๆกัน 2 ตัว 
11.Stealth I (Skill Point 2) เพิ่มสเตตัสการลักลอบอีก 7 
12.Stealth II (Skill Point 2) เพิ่มสเตตัสการลักลอบอีก 7
13. Stealth III (Skill Point 4) (เฉพาะ Evie) เพิ่มสเตตัสการลักลอบของ Evie อีก 11และทำให้การลอบฆ่าเงียบสนิท
14.First Strike I (Skill Point 2) เมื่อเข้าโจมตีศัตรูก่อนที่มันจะเริ่มต่อสู้จะทำให้ศัตรูบาดเจ็บมากขึ้น 
15.First Strike II (Skill Point 6) เมื่อเข้าโจมตีศัตรูก่อนที่มันจะเริ่มต่อสู้จะทำให้ศัตรูบาดเจ็บหนักหรืออาจตายได้ทันที
16.Assassin Steps (Skill Point 2) ลดความเสียหายจากการโดดจากที่สูง และทำให้การเดินและวิ่งเงียบมากขึ้น
17.Chameleon (Skill Point 4) (เฉพาะ Evie) ทำให้ Evie ในโหมด Stealth เหมือนอยู่สภาพล่องหน ศัตรูจะพบเจอยากขึ้นถ้าไม่ได้เข้ามาใกล้จริงๆ 
18.Knife Master I (Skill Point 2) สามารถขว้างมีดทำให้ศัตรูมึนงงได้อย่างรวดเร็ว และได้มีดกลับคืนมาหลังจากใช้ท่า ท่าเผด็จศึกสังหารหมู่ (Multi-Kills)
19. Knife Master II (Skill Point 6) (เฉพาะ Evie) ทำให้ Evie สามารถพกมีดสั้นได้เพิ่มขึ้น 2 เท่า


                                  Ecosystem Skill ความสามารถรอบตัว

1.Countershot (มีแต่แรก) กดสามเหลี่ยม (PS4) / Y (Xbox – PC) เพื่อยิงสวนกลับได้อย่างรวดเร็ว   
2.Eagle Vision I (มีแต่แรก) กด L3  เพื่อใช้เนตรอินทีรย์ได้
3.Fast Driver (มีแต่แรก) กด X (PS4) / A (Xbox – PC) เพิ่มเร่งความเร็วในการขับขี่รถ
4.Leadership I กด R1 (PS4) / RT (Xbox – PC) เพื่อเรียกลูกน้องและกด R1 หรือ RT ค้างเพื่อสั่งการลูกน้องได้ 2 ครั้ง 
5.Leadership II กด R1 (PS4) / RT (Xbox – PC) เพื่อเรียกลูกน้องและกด R1 หรือ RT ค้างเพื่อสั่งการลูกน้องได้ 3 ครั้ง
6.Leadership III กด R1 (PS4) / RT (Xbox – PC) เพื่อเรียกลูกน้องและกด R1 หรือ RT ค้างเพื่อสั่งการลูกน้องได้ 5 ครั้ง
7.Eagle Vision II (Skill Point 1) กด L3  ใช้เนตรอินทีรย์เห็นศัตรูและมาร์กตำแหน่งศัตรูได้จากหลังกำแพง
8.Eagle Vision III (Skill Point 2) เพิ่มรหัสมีการตรวจจับศัตรูของเนตรอินทีรย์ได้ให้กว้างมากขึ้น 
9.Scavenger I (Skill Point 1) ทำให้สามารถเก็บวัตถุดิบในการผสมไอเทมได้จำนวนมากขึ้น
10.Scavenger II (Skill Point 2) ทำให้สามารถเก็บวัตถุดิบในการผสมไอเทมได้จำนวนมากขึ้นอีก 
11.Defense I(Skill Point 2) เพิ่มพลังป้องกันจากอาวุธประเภท Melee มากขึ้น
12.Defense II (Skill Point 2) เพิ่มพลังป้องกันจากการโจมตีด้วยปืนให้มากขึ้น
13.Defense III (Skill Point 2) (เฉพาะ Jacob) เพิ่มพลังป้องกันให้ Jacob ในระดับสูงสุด
14.Gunslinger I (Skill Point 2) เมื่อยิงปืนทำคอมโบได้ซักระยะจะทำให้สามารถรีโหลดกระสุนได้แบบอัตโนมัติ 
15.Gunslinger II (Skill Point 6) (เฉพาะ Jacob) ทำให้การยิงสวนกลับของ Jacob เป็นการยิงหัวศัตรูแบบอัตโนมัติ 
16.Driver I (Skill Point 2) ทำให้รถที่ขับขี่เกิดความเสียหายน้อยลงและในขณะเกิดการชนกันรถจะไม่เสียความเร็ว 
17.Driver II (Skill Point 4) ทำให้สามารถขับขี่รถม้าได้เร็วมากขึ้น 


-สิ่งที่จำเป็นในการอัพเกรด Skill ในตอนนี้ก็คือ Double Assassinate หรือการลอบฆ่าแบบครั้ง 2 คน ซึ่งสามารถทดลองใช้ได้กับศัตรูกลุ่มแรกที่ขวางทางอยู่หลังเปิดประตูเข้ามา จากนั้นลอบเข้าไปจนถึงด้านในจนถึงห้องทดลองลับ Evie ก็จะพบ Sir David Brewster ที่กำลังเร่งทำการทดลองปลดล็อกรหัสจาก “Piece of Eden” อยู่เพื่อให้สำเร็จก่อนจะถึงพรุ่งนี้เพราะกลัวในสิ่งที่ Lucy ขู่เอาไว้
** Secondary Objective **
-สังหาร David Brewster ด้วยท่าโดดลงมาฆ่าจากด้านบน (Air Assassinate) 




เมื่อพบเป้าหมายแล้วสิ่งที่ Evie ต้องทำก็คือ ลอบสังหาร Sir David ซะ โดยเป้าหมายจะยืนอยู่กลางห้องทดลองที่มีการ์ดเดินไปมามากมาย ใช้ Eagle Vision มองดูก็จะเห็นเป้าหมายเป็นสีเหลืออย่างชัดเจน ล่อทหาร 2 คนในห้องมาฆ่าซะก่อน จากนั้นค่อยปีนชั้นวางของแล้วโดดลงมาฆ่า Sir David เพื่อให้ได้ Secondary Objective ไปในตัวด้วย



Evie – ถึงเวลาพักจากการทำงานแล้วนะคะ Sir David Brewster
Sir David – แต่ผมทดลองจนเกือบจะค้นพบบางอย่างสำเร็จแล้วนะ 
Evie – อย่ากลัวไปเลยค่ะ 
Sir David – ไม่ ผมไม่กลัวหรอก พระเจ้าจะทรงปกป้องผม
Evie – ไม่ต้องห่วงอะไรทั้งสิ้นคะพวกเราจะสานต่อสิ่งที่คุณทดลองมาต่อเอง 
Sir David – คุณห้ามหยุดที่จะทดลองมันนะ คุณ Thorne กำลังค้นหาชิ้นส่วน “Piece of Eden” ต่อไปอยู่ และมันจะทรงพลังกว่าเดิมมาก ซึ่งเธอจะค้นพบมันสำเร็จแน่นอน 
Evie – อันนั้นชั้นก็จะจัดการมันด้วยเหมือนกันคะ 
Sir David – โปรดจำไว้อย่างนึงว่า ไม่ว่าจะสู้กันให้ตายไปข้างเราก็ไม่มีทางเอาพลังนี้มาครอบครองได้ เพราะมันเป็นพลังแห่งจักรวาลของพวกเรา  

-ทันทีที่สังหาร Sir David ได้ ชิ้นส่วน “Piece of Eden” ก็เริ่มเกิดปฎิกริยาขึ้นจนทำให้ห้องทดลองกำลังจะระเบิด ทำให้ Evie ต้องรีบหนีออกจากที่นี่โดยด่วน



Jacob – ไปทำอะไรเบิดมั่วอีกละ 
Evie – ระเบิดไหนหรอ ? 
Jacob – Evie !
Evie – ก็ ชิ้นส่วน “Piece of Eden” นั่นแหละ มันระเบิดตัวเองไปพร้อมห้องทดลองเลย
Jacob – ก้อนเวทย์มนต์ที่เป็นโลหะที่เกินความเป็นจริงนั่นนะหรอ ? ผมไม่แปลกใจหรอกนะ 
Evie – เพราะนายไม่เคยสนใจคุณค่าของ “Piece of Eden” มากกว่า 
Jacob – แล้วทั้งหมดมันเป็นไปตามแผนด้วยหรือเปล่า หือ ?



George – อืมมม 
Evie – มันเป็นเรื่องที่ซับซ้อนเล็กน้อยนะคะ 
George – เล็กน้อย ??? 
Jacob – ห้องทดลองระเบิดไปแล้วครับ 
Evie – เจคอบ !!
George – ส่วนนายก็ทำรถไฟตกรางพังยับ 
Evie – จริงดิ !! เค้าทำหรอเนี้ย ?? 
Jacob – ตกรางก็จริงแต่ผมก็รอดมาได้แถมสังหารเป้าหมายได้ด้วยนี่ 
Evie – Brewster ก็เสร็จชั้นเหมือนกันแหละ 
George – งั้นแผนทั้งหมดก็สำเร็จจริงมั๊ย 
Jacob – แล้วเรื่องลอนดอนละ ?
George – ลอนดอนทำไม ?
Jacob – ที่เราเสียเวลาออกมาทำทั้งหมดเนี้ย 
George –นายก็รู้ดีว่าลอนดอนอยู่ในการปกครองของพวก templar มาเป็นพันๆปีแล้วนะ คิดดูสิว่าพวกมันจะแข็งแกร่งแค่ไหน อดทนหน่อยสิ ! 
Evie – แต่พวกมันค้นพบชิ้นส่วน “Piece of Eden” อันใหม่แล้วนะ 
George – Sir David ตายแล้ว การค้นคว้าของมันก็ยังทำไม่ได้หรอกที่เหลือก็รอมติสภาของภาคีแล้วเราค่อยทำตามคำแนะนำของ Father  ....  และชั้นหวังว่าจะพบเจ้า 2 คนกลับไปที่ Crawley ด้วยนะ  



Jacob – “อดทน” Evie 
Evie –เป็นสุภาพชนในกาละที่เหมาะสมจริงๆ  สถาจะนำพาเราให้ทุกอย่างเป็นไปด้วยดี ..เฮ้ออ   
Jacob – มันหยุดเราได้ด้วยรึไงละ ตอนนี้ลอนดอนต้องการปฎิวัติอย่างเร่งด่วนที่สุด ลืม Crawley ได้เลย 
Evie – แต่ Father ต้องการให้เราเชื่อฟังเค้านะ  
Jacob – โอ้ Father หรอ..  เธอจะสานต่อมรดกของเขาในลอนดอนต่อก็ได้นี่  
Evie – สร้างอนาคตให้คนรุ่นใหม่ด้วยการปลดปล่อยเมืองจากการปกครองของ Templar หรอ นายรู้มั๊ย Jacob Frye นายพูดโดนใจชั้นอย่างแรงเลยละ 
Jacob – แล้วเรารอเพื่อ ??? 
Evie – ใช่ เราไปลอนดอนกัน !! 


                         *************************************

Bishop – ชั้นรู้ๆ คุณรู้สึกยังไง กับสิ่งที่ได้มาจาก Abstergo ล่าสุด แต่ชั้นคงต้องไปเช็คข้อมูลกับ Shaun และ Rebecca ก่อนนะ ชั้นคิดว่าการโจมตี Templar ตั้งแต่ตอนนี้มันต้องมีอะไรผิดผลาดแน่นอน ...!! 

                       **************************************



 สถาบันวิจัยด้านประวัติศาสตร์ แอปสเตอโก้  ( Abstergo Historical Research) 




Isabelle Ardant (ผู้ดูแลโบราณสถานลับที่สถาบันวิจัยด้านประวัติศาสตร์ของแอปสเตอโก้) -  ติดต่อ Dr. Grama’tica !
Dr. Avaro Grama’tica (ผู้ดูแลโบราณสถานลับที่สถาบันวิจัยเทคโนโลยี่แห่งอนาคตของแอปสเตอโก้)  – โอ้ Isabelle เซอร์ไพร์เลยนะเนี้ย 
Isabelle – เดี๋ยวเพื่อนของเราจะมาที่นี่เพื่อทำการค้นหาสิ่งนั้น ชั้นเลยมาบอกคุณเอาไว้ก่อน 
Dr. Grama’tica – เยี่ยมเลย ยินดีเสมอขอรับ ! 



Shaun – คนอยากพวกเธอนี่แหละที่ทำให้ประวัติศาสตร์แปดเปื้อน ! 
Isabelle – ชั้นเกรงว่าวันนี้ชั้นคงไม่มีเวลาว่างสำหรับคุณหรอกนะคุณ Hasting 
Juhani Otso Berg (Templar Master, หัวหน้าทีม Sigma) – ขอบคุณที่ทำให้ผมทำงานง่ายขึ้น 
Shaun – ชิหายและ !
Isabelle – หัวหน้า Berg เจ้าหน้าที่ Violet Da Costa ฝากเจรจากับ 2 คนนี้แทนชั้นด้วยนะ 




ในขณะที่ Shaun และ Rebecca กำลังถูกจับตัวไป Rebecca ก็ฉวยโอกาสกดตัวจุดระเบิดที่สายรัดข้อมือจนเกิดการระเบิดขึ้นทำให้ในห้องวุ่นวายไปหมด แต่ก็ทำให้ทั้งคู่หนีออกทางหน้าต่างได้สำเร็จ... !  



                                                    SEQUENCE 03

                                           SOMEWHERE THAT’S GREEN


** CHALLENGES**
-วิ่งไปถึงที่หลังโรงงานเป้าหมายก่อน Evie

**รางวัล ** 
-เงิน 410
-EXP 250



ปี ค.ศ 1868  Whitechapel , London 




Jacob – บอกตรงๆผมไม่เคยเห็นคนเยอะขนาดนี้มาก่อนจริงๆนะ  
Evie – “Churning sea of London” ท้องทะเลแห่งเนยปั่นของลอนดอน คำที่ “Father” เคยบรรยายเอาไว้ เอาละ ที่นี้เราก็ต้องตามหา Henry Green และแผนการที่เขากำลังคิดขึ้น แผนในการล้มล้างพวก Templar ! 
Jacob – แล้วมันใครกันละ มิสเตอร์ กรีน เนี้ย 
Evie – กลุ่ม Assassins ที่แทรกซึมอยู่ที่ลอนดอนไง นี่นายไม่เคยฟังเลยรึไง พูดมาตั้ง 3 ครั้งแล้วนะ ?
Jacob – ขี้เกียจจำอ่ะ  ..... เฮ้ย !! ไอ้เด็กบ้า มันล้วงกระเป๋า หยุดนะเฮ้ย !!

-วิ่งไล่ตามจับเด็กที่ล้วงกระเป้าให้ทัน แต่จะถูกพวกนักเลงเจ้าถิ่นมาขวางซะก่อน จัดการพวกมันให้หมด แต่เด็กก็จะหนีได้ ก็ถือว่า Jacob ได้เรียนรู้ถึงอันตรายที่เขาต้องเจอที่นี่มากขึ้น ก่อนที่ Evie จะบอกให้เลิกสนใจเรื่องเล็กๆน้อยๆเพราะเป้าหมายหลักตอนนี้คือตามหาตัว Henry Green ให้เจอก่อนโดยเริ่มจากการหาที่สูงๆเพื่อสมรวจดูเมืองให้ทั่วๆก่อน จากนั้นก็วิ่งไปที่จุดหมายสีเขียวที่ขึ้นมาซึ่งก็คือจุด Vantage Point

** Secondary Objective **
-วิ่งไปถึงที่หลังโรงงานเป้าหมายก่อน Evie



Evie – ร้านของ Henry Green อยู่ตรงไหนก็ไม่รู้ ชั้นเคยเห็นมันเขียนไว้ในแผนที่ของพ่อ แต่จำไม่ได้แล้ว 
Green – Assassins 2คน ชายหนึ่งหญิงหนึ่ง พวกเธอคือแฝด Frye ใช่มั๊ย ?
Evie – และคุณคือ ? 
Green – ผม Henry Green ยินดีรับใช้ครับ เสียใจด้วยเรื่องพ่อของพวกคุณด้วย  
Evie – ขอบคุณคะ 
Jacob – คุณมีข้อมูลอะไรที่เกี่ยวกับ Crawford Starrick อยู่บ้างละ ?
Green – เดาว่าทางสภาต้องการข่าวสารเพิ่มเติมละสิ 
Evie – ลอนดอนจะต้องถูกปลดปล่อยซะที เพื่ออนาคตที่ดีของประชาชนที่นี่ 
Green – ขอบคุณพระเจ้า ในที่สุดทางสภาก็เข้าใจซะที ถึงส่งพวกคุณมาช่วยพวกเราที่นี่ใช่มั๊ย ?
Jacob – เอ่อ .. ใช่ๆ ขอบคุณพระเจ้า ...
Green – แต่ใชคไม่ดีหน่อยนะที่ต้องแจ้งข่าวร้ายว่าวันนี้เจ้า Crawford Starrick อยู่ท่ามกลางการคุ้มกันอย่างแน่นหนามาก พวกมันยึดครองทุกอย่างเกี่ยวกับการก่อสร้างทั้งหมดจนเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง ทุกกลุ่มทุกแก็งค์ มันยึดครองได้จนเกือบจะทั่วลอนดอนแล้ว 
Jacob – คิดแล้วชั้นอยากจะเป็นหัวหน้าแก็งค์ขึ้นมาบ้างแล้ว บางที่เพื่อความแฟร์ เราก็ครวจะมีแก็งค์ของเราบ้าง มียูนิฟอร์มของเราเอง ผมจะรวบรวมผู้คนที่ถูกพวกมันเอาเปรียบให้มาเป็นพวกของเรา ภายใต้ชื่อเดียวกัน ใช่มั๊ย Evie ? 
Evie – โอ้ ใช่ ! เหมือนตอนที่นายปลุกระดับพวกขาไพ่ของนายที่บาร์ Oarbrook จนต้องหนีลงน้ำกันมันนะหรอ 
Jacob – มันไม่เหมือนกัน อันนั้นมันต่อยชั้นก่อนนี่หว่า ไม่เป็นเหมือนคราวนั้นแน่ อืมม  เราจะเรียกแก็งค์ของเราว่า “ THE ROOKS” ฟังดูเป็นไง 
Evie – คิดมาตแต่ละอย่างดีๆทั้งนั้น !
Jacob – แล้วเธอทีแผนที่ดีกว่านี้ปะละ ? 
Evie – ตามหา “Piece of Eden” ไง !
Green – เออ เอาเป็นว่าตอนนี้ผมว่าพวกคุณลองชมเมืองให้ทั่วๆกันก่อนจะดีกว่า.. ว่ามั๊ย ? 

-จากนั้นก็ปีนขึ้นไปบนยอดหอคอยบนหลังคานี้ซึ่งก็คือจุด Vantage Point ในการเปิดแผนที่ของเมืองนั่นเอง




Green – ดูให้ดีๆว่า Starrick มันทำอะไรกับ Whitechapel ไว้บ้าง ทั้งอาชญากรรมและแก็งค์อันธพาลเต็มท้องถนน การใช้แรงงานเด็กโดยไม่สนกฎหมาย แน่นอนพวก Templar มันก็คอยเก็บกินผลประโยชน์ต่างๆอยู่เบื้องหลัง เราอยากให้เมืองกลับไปเป็นเหมือนเดิม เหมือนตอนแรกที่เราเคยเป็นเจ้าของมันร่วมกันอีกครั้ง 
Evie – เราจะปลดปล่อยลอนดอนให้เป็นอิสระจากการครอบครองของ Starrick ให้ได้ จำคำชั้นไว้ได้เลย 
Jacob –  และแก็งค์ “THE ROOKS” ของชั้นด้วย ! 
Green – พูดปลุกใจได้ดีมากคุณ Evie .. ก่อนอื่นผมว่ากลับไปที่ร้านของผมเพื่อพักผ่อนกันก่อนดีกว่า

-โดดลงมาด้านล่างแล้วเดินตาม Green ไปเรื่อยๆ สิ่งแรกที่ Green พยายามสอนให้ Jacob และ Evie รู้ถึงการเอาตัวรอดที่นี่ นั่นก็คืออย่าลืมว่าพวก Templar นั้นมีอิธพลครอบคลุมไปทั้งเมืองที่ต้องระวังที่สุดคือพวกแก็งค์ต่างๆทั่วๆลอนดอนที่ส่วนใหญ่พวก Templar หนึ่งในนั้นก็คือแก็งค์ “KAYLOCK” ที่หวังจะแย่งชิงเอาข้อมูลการทดลองของ green นันก็คือข้อมูลเกี่ยวกับ “Piece of Eden” นั่นเอง Jacob รีบเสริมทันทีถึงแผนในการสร้างแก็งค์ “THE ROOKS” ของเขาเพื่อสร้างอำนาจต่อรอง ให้เร็วที่สุด ระหว่างทางจะได้เจอกับชายแก่ประหลาดที่ชื่อ Charles Dickens



 เขาพูดถึง “Bloody Drood” บางสิ่งที่เขากำลังทดลองอยู่ ในขณะที่ Jacob กำลังงงกับชายประหลาดคนนี้ Green ก็รีบบอกทันทีว่าลุง Charles คนนี้แหละที่เป็นเสมือนปราชญที่รู้ทุกอย่างของเมืองนี้ บางที่ Jacob อาจต้องพึ่งพาเขาในซักครั้งแน่นอน


 Charles Dickens Memories 
จุดภารกิจของ Charles Dickens นั้นจะเป็นสัญลักษณ์รูปตัว C ในแผนที่ โดยจะเป็นเรื่องราวของ Dickens ที่ชวน Jacob และ Evic เข้า Ghost Club ของเขา ซึ่งเป็นชมรมเกี่ยวกับเรื่องราวของคดีที่เกี่ยวของกับสิ่งเหนือธรรมชาติที่เกิดขึ้นในเมือง การสืบหาความจริงก็ทำเหมือนภารกิจย่อย Dreadful Crime คือตามคุยกับเหยื่อและใช้ Eagle Vision สืบหาร่องรอยเบาะแสจนพบตัวการของสิ่งเหนือธรรมชาติและกำจัดมันลงได้ 



                                                     รู้ไว้ใช่ว่าใส่บ่าแบกหาม 




Charles Dickens เริ่มมีบทบาทใน  Assassin’s creed Syndicate เมื่อมีตาแก่ท่าทางแปลกๆเดินชน Jacob ในครั้งแรกที่มาถึงลอนดอน ซึ่งจริงๆเขาคือ ชาร์ลส์ จอห์น ฮัฟแฟม ดิกคินส์ (Charles John Huffam Dickens) หรือ Charles Dickens นักประพันธ์ นักเขียน ชาวอังกฤษที่ถ่ายทอดชีวิตที่ปกกัดตีนถีบของเขาทั้งติดหนี้ ติดคุก และการทำงานหนัก มาเชียนลงในนิยาย ธีมนิยายของแกจึงออกมาในแนวที่เกี่ยวกับความยากจนและความไม่เท่าเทียมกันในสังคม แน่นอนว่าต้องโดนใจชาวบ้านรากหญ้าที่โดนกดขี่มากมายในยุคปฎิวัติอุตสหากรรมจนได้รับความนิยมมากมาย อย่าง เรื่อง เดวิด คอปเปอร์ฟิลด์ (David Copperfield) ที่เขาพรรณนาถึงความยากลำบากในชีวิตในการทำงานในโรงงานที่เสมือนเป็นนวนิยายกึ่งอัตชีวประวัติของเขา ความโด่งดังเปลี่ยนชีวิตชาร์ลส์จากนักเขียนใส้แห่งเป็นนักข่าวไปจนถึงบรรณาการณ์หนังสือ ก่อนจะกลับมามาทุ่มเทให้กับการเป็นนักเขียนอิสระอย่างจริงจัง ”เพียงอย่างเดียว” จนได้เขียนนิยายตีแผ่สภาพสังคมที่ได้รับความนิยมที่สุดคือ The Parish Boy's Progress หรือ Oliver Twist ที่ถูกตีพิมพ์มากที่สุดจนถูกดันแปลงเป็นภาพยนต์และละคร TV มากมาย ที่บ่งบอกเกี่ยวกับแนวคิดต่อต้านความเลื่อมล้ำทางสังคมของชาร์ลส์อย่างมากคือ ไม่ว่าเขาจะอยู่ในประเทศของตัวเองหรือเดินทางไปต่างประเทศเขาก็มักจะเขียนวิจารณ์ถ่ายทอดถึงความไม่เป็นธรรมต่างๆออกมาอยู่ตลอด

Cr. 
https://th.wikipedia.org/wiki//ชาร์ลส์_ดิกคินส์
https://th.wikipedia.org/wiki/Charles_Dickens
http://www.baanjomyut.com/library/bigm/big03/19.html
http://scoop.mthai.com/google_news/3939.html



ในขณะที่คุยกัน Green เริ่มสังเกตว่าพวกแก็งค์ “KAYLOCK” เริ่มเห็นเขาแล้ว Green จึงมอบปืนสั้นให้กับ Jacob และ Evie ก่อนที่จะบอกให้แยกทางกันหนีเพื่อไม่ให้พวกศัตรูตามเจอ แล้วนัดให้ทั้งคู่ไปเจอกันที่ร้านขายเก่าของเขา

-ขึ้นรถม้าที่จอดอยู่แล้วขับออกไป พวกรถม้าของศัตรูก็จะตามมา จากนั้นก็เรียนรู้การต่อสู้กับรถม้าได้เลย
R2 – แรงความเร็ว
แกน L + สี่เหลี่ยมในการกระแทก
X – Boost
จัดการทำลายรถม้าของศัตรูให้หมดแล้วขับเดินทางไปที่จุดหมายสีเขียวที่ร้านของ Green ได้เลย

ร้านขายวัตถุโบราณของ Green ... 



Green – ไงสลัดมันพ้นมั๊ย?
Jacob – ของหมูๆ
Evie – รูปพวกนี้ พวกเค้าเป็นใครคะ ? 
Green – เกือบปีที่ผ่านมาผมได้สร้างความสัมพนธ์กับกลุ่มต่างๆทั่วๆเมืองเอาไว้เหมือนกัน สำหรับการหาข่าวและการช่วยเหลือต่างๆ  
Evie – เยี่ยมเลย เราต้องการที่จะให้ความช่วยเหลือพอดี 
Jacob – ช่วยเหลือใคร ? เราจะฮุบแก็งค์ของ Starrick เพื่อบั่นทอนอำนาจมันต่างหาก 
Evie – นายยังมองไม่ลึกพอ Starrick มันสร้างอิธิพลของมันด้วยการรวบรวมผู้คนจากทุกกลุ่มฐานะในเมืองนี้นะ เราต้องเอาแบบมันบ้าง   
Jacob – ชั้นเข้าใจที่เธอพูดดี Evie เราถึงต้องการ “THE ROOKS” ไง 
Evie – นายจะไปสร้างก๊งสร้างแก็งค์แล้วตั้งชื่อ “THE ROOKS” ไม่ได้ 
Green – ผมก็มีแผนของผมอยู่นะ เราต้องใช้เส้นสายนิดหน่อยเพื่อให้ตำรวจเอาหูไปนาเอาตาไปไล่ไม่สนในในภารกิจที่เราทำ ผมมีคนวงในที่รู้จักในพวกตำรวจอยู่บ้าง จ่า Frederick Abberline ขานี้จอมปลอมตัวเลยละ จากนั้นก็พวกเด็กๆ เด็กจรจัดเป็นสายลับที่ดีที่สุดในเมืองนี้ 
Evie – Clara O’dea นี่ใครคะ ? 
Green – ฉลาด หัวก้าวหน้าสุดเลยรานนี้น่ะ ... ยังไงก็ตามพวกคุณต้องอย่าลืมว่า Starrick ไม่ได้ทำงานคนเดียว มันมีกลุ่มแก็งค์ข้างถนนคอยสนับสนุนมันด้วย ที่ผมพูดนี่อยากให้รู้ว่า ยังไงซะพวกคุณก็ต้องสู้กับพวกแก็งค์ต่างๆของ Starrick ในซักวันแน่นอน  โดยเฉพาะคนนี้ Rexfor Keylock เจอเมื่อไหร่จัดการมันให้หายไปจากโลกนี้ได้เลยไม่ต้องรอ 
Jacob – หมายถึงคุณจะให้เราฆ่ามันจริงๆหรอ ? 
Green – แปบนึง .. นี่รูปและข้อมูลของพวก Templar ที่เป็นเป้าหมายของพวกคุณ แล้วก็ระวังตัวด้วย ในเมืองนี้ไม่ใช่ทางเดินที่สะดวกโสภามากนักหรอกนะ 
Jacob – ไม่ต้องห่วงผมหรอก กรีนนี่ ผมจะให้พวกนักเลงพวกนั้นมาเป็นคนของผมให้ได้แน่นอน

     
          *************************************************************




การยึดครองอณาเขตของพวก Templar นั้นเมื่อดูในแผนที่จะพบว่ามีเขตสีแดงเต็มไปหมด นั่นคืออณาเขตที่พวก templar ยึดครองอยู่และสิ่งที่ Jacob และ Evie ต้องทำคือแย่งชิงอณาเขตมาจากพวกมัน ซึ่งทำได้โดยเคลียร์จุดภารกิจย่อยที่เกี่ยวกับการเคลื่อนไหวของพวกแก็งค์ที่ยึดครองพื้นที่อยู่ เรียกว่าจุด Activity และผลของการทำลายฐานอำนาจยึดครองของพวก Templar จนทำให้พื้นที่สีแดงหายไปนั้นจะส่งผลเรื่องความปลอดภัยและการแสดงให้เห็นถึงรายละเอียดของแผนที่ชัดเจนขึ้นด้วย ซึ่งจุด จุด Activity นั้นประกอบด้วย 

Templar Hunt จุดรูปกางเขนสีแดง คือ ภารกิจสังหาร Templar เป้าหมายในพื้นที่
Gang Stronghold จุดรูปหอคอยคือ ภารกิจยึดฐานของพวกแก็งค์ในพื้นที่
Bounty Hunt จุดรูปคน ว่าจับตัวพวกลูกสมุนในแก็งค์ของศัตรูในพื้นที่ส่งให้ Abberline (เป็นหรือตายก็ได้) เพื่อทำให้ตำรวจในพื้นที่ลดลง
Child Liberation จุดรูปโซ่ลูกตุ้ม คือภารกิจช่วยเหลือแรงงานเด็กในโรงงานนรกของพวก Templar
Gang War จุดรูปสนับมือมงกุฎ คือ จุดที่อยู่ของหัวหน้าแก็งค์ ที่จะปรากฏออกมาหลังจากยึดพื้นที่ได้ทั้งหมดแล้ว





ตอนนี้สามารถเปลี่ยนตัวละครที่ใช้บังคับได้แล้วระหว่าง Jacob ที่เน้นพลังและการต่อสู้ และ Evie ที่เน้นสมองและการลอบเร้น  ด้วยการเข้าไปที่หน้าเมนุหลักและกด R3 ซึ่งทั้งคู่จะแชร์ทั้งเงินและค่าประสบการณ์ที่ได้กัน นอกจากพวกเครื่องสวมใส่และ Skill ต่างๆบางอย่างที่แยกจากกัน






                              ** การยึดพื้นที่จากแก็งค์เจ้าถิ่น ** 

สามารถทำได้โดยการเคลียร์ จุด Activity คือ Bounty Hunt: Homer Dalton ,Templar Hunt: Harold Drake , Gang Stronghold และ Child Liberation ที่มีในพื้นที่ในจำนวนที่ต่างกันให้หมด ภารกิจ Gang War ในการปะทะกับหัวหน้าแก็งค์นั้นๆก็จะออกมาให้ทำเมื่อเช้าไปสู้จนชนะก็จได้พื้นนั้นๆมาครอบครอง แต่ก่อนที่มี gang War ถ้าเคลียร์จุด Activity ได้มากพอหัวหน้าแก้็งค์ในพื้นที่จะออกมาแสดงตัว ตอนนี้ถ้าสามารถจัดการมันได้ก่อนมันจะหนี  ก็สามารถยึดพื้นที่ได้ทันทีหลังจากเคลียร์จุด Activity ครบโดยไม่จำเป็นต้องไปสู้แบบ Gang War 

** การทำลายแก็งค์ของศัตรู (gang War) เพื่อยึดพื้นที่จากพวก Templar (Conquest Activities) นั้นถ้าขยันยึดแก็งค์ต่างๆในพื้นที่เยอะจะสามารถเข้าเล่น SEQUENCE 8 ได้ทันทีหลังขึ้น SEQUENCE 4 ในสะสม Gang War 3 ครั้ง  **


ซึ่งในเนื้อเรื่องตอนนี้ เขตแรกที่ Jacob และ Evie มาถึงคือเขต Whitechapel ที่เป็นอนาเขตปกรองของแก็งค์ “KEYLOCK” โดยมี Rexfor Keylock เป็นหัวหน้าแก็งค์ โดยสามารถดูจำนวนตัวร้ายที่ต้องไปจัดการจากตัวเลขของ Conquer ที่มุมซ้ายบนของจอ ซึ่งจะมี ภารกิจหลัก 2 จุดคือ จุด A และ O กับ จุด Activity ที่เป็นภารกิจย่อยในการยึดพื้นที่อยู่ 4 จุดคือ Bounty Hunt: Homer Dalton ,Templar Hunt: Harold Drake , Gang Stronghold และ Child Liberation



            ********************************************************************


                                     ABBERLINE, WE PRESUME 

** CHALLENGES**
-จับตัวคนร้ายเป้าหมายแบบยังมีชีวิต

**รางวัล ** 
-เงิน 330
-EXP 250

-เข้ามาที่จุดรับภารกิจที่จุด A ในแผนที่ ในขณะที่ Jacob กับ Evie กำลังมืดแปดด้านกับการหาตัว จ่า Frederick Abberline ตำรวจที่เป็นสายให้ Green อยู่ แต่จู่ๆหญิงแก่ประหลาดๆก็เข้ามาพยายามชวนพูดคุย แต่ Jacob ก็จับได้ว่าคือผู้ชายปลอมตัวมาเพราะมันเป็นการปลอมตัวที่แย่มาก ก่อนจะรู้ว่าชายคนนี้คือ จ่า Abberline ที่กำลังตามหาอยู่ ทั้งคู่จึงไม่รอช้าที่จะขอให้เขาช่วยเรื่องเส้นสายทางตำรวจในพื้นที่ให้ ซึ่ง จ่า Abberline ก็จะยอมช่วยเหลือแต่เขาก็จะให้รายชื่อของคนในแก็งค์ในพื้นที่มาเพื่อให้  Jacob กับ Evie ไปจับมันมาให้เขาเป็นสิ่งแลกเปลี่ยนด้วย
-จากนั้นขึ้นไปที่จุดเป้าหมายสีเขียวบนหลังจะพบจุด Bounty Hunt ซึ่งเป็นภารกิจจับตัวพวกลูกสมุนในแก็งค์ของศัตรูในพื้นที่ส่งให้จ่า Abberline เพื่อแลกกับการที่ตำรวจในพื้นที่จะลดน้อยลงนั่นเอง



การลักพาตัว (Kidnapping) 

ก่อนอื่นต้องใช้ Eagle Vision มองหาตัวเป้าหมายให้พบก่อน จากนั้นก็ต้องลอบเข้าไปด้านหลังมันโดยไม่ให้มันรู้ตัว เพราะไม่งั้นต้องเหนื่อยวิ่งไล่ตามมัน แล้วกด O จี้ตัวมันแล้วค่อยเดินคุมตัวมันมาส่งที่รถม้า โดยระหว่างทางพวกมันจะคอยขัดขืนตลอดต้องพยายามคุมตัวมันให้ดีๆด้วยการเดินช้าๆไว้ (กด R2 เพื่อเดินเร็วขึ้นได้แต่อาจทำให้คนร้ายขัดขืนได้ง่ายขึ้น) คุมตัวมันไปที่รถม้าเป้าหมายแล้วขี่พาตัวคนร้ายไปที่จุดส่งมอบตัวที่ขึ้นมาในแผนที่ ซึ่งจะสามารถจับคนร้ายเป้าหมายแบบเป็นหรือจับตายก็ได้



                                   - Activity - Bounty Hunt: Homer Dalton

** CHALLENGES**
-จับตัวคนร้ายเป้าหมายแบบยังมีชีวิต

**รางวัล ** 
-เงิน 132
-EXP 200

 เป้าหมายแรกที่ให้ทดลองจับก็คือ Homer Dalton ที่พวกลูกน้องมันเดินไปมาอยู่รอบๆตัวมัน พยายามจัดการลูกน้องมันก่อนแล้วค่อยเข้าไปจับตัวมัน ซึ่งถ้าทำได้เนียนก็ไม่ต้องไล่ตามจับให้เหนื่อยแรง จากนั้นเข้าไปคุมตัวมันไปที่รถม้าเป้าหมายที่จอดอยู่ แล้วขับพามันมาส่งที่จุดหมายที่กำหนดก็เป็นอันจบภารกิจ



** การทำภารกิจย่อย Bounty Hunt สำเร็จนั้นจะส่งผลให้ ระดับ Loyalty Level หรือค่าจงรักภักดีของจ่า Abberline เพิ่มขึ้นด้วย ** 




Associate and Loyalty (การเชื่อมความสัมพันธ์และการสร้างความจงรักภักดี)

การทำภารกิจย่อยในจุด Activity ต่างๆจนสำเร็จ เช่น การจับตัวคนร้ายที่เป็นพวกแก็งค์ของ Templar ในจุด Bounty Hunt หรือการทำลายฐานอำนาจของพวก Templar นั้นจะส่งผลต่อตัวละครที่เป็นพวกฟ้องที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนั้นๆอย่างจ่า Abberline และ Henry Green มีเกทของระดับ Loyalty Level หรือค่าจงรักภักดี เพิ่มมากขึ้นด้วย และสามารถดูจำนวนตัวร้ายที่ต้องไปจัดการจากตัวเลขของ Conquer ที่มุมซ้ายบนของจอ และในแต่ละเขตของเมืองนี้ก็จะมีกลุ่มที่นอกจากตำรวจอย่างจ่า Abberline แล้วก็ยังมีกลุ่มเด็กจรจัดของ Clara O’dea อีกที่สามารถเข้าไปสร้างความสัมพันธฺกับพวกเขาเพื่อสร้างความภักดี เพื่อทำให้การรวบรวมแก็งค์ The Rooks ของ Jacob เป็นความจริงขึ้นมา ซึ่งนอกจากจะได้ค่าความภักดีแล้วเมื่อจบงานก็ยังได้ค่าประสบการณ์ เงินและ ไอเทมดีๆมาอีกด้วย 


                                   - Activity - Templar Hunt: Harold Drake

** CHALLENGES**
-สังหารเป้าหมายด้วยระเบิดไดนาไมท์

**รางวัล ** 
-เงิน 132
-EXP 200

ภารกิจย่อยที่จุด - Activity - Templar Hunt ก็คือการเข้ามาค้นหาและสังหาร Templar เป้าหมายแล้วหนีออกจากแผนที่ ซึ่งภารกิจนี้คือเข้ามาในพื้นที่ของตลาดในตึกที่เป็นกระจก แล้วใช้ Eagle Vision มองหาเป้าหมายคือ Harold Drake ที่กำลังเดินตรวจตราคลังระเบิดไดนาไมท์ของมันอยู่ในพื้นที่ รอให้มันเดินมาที่กล่องระเบิดแล้วใช้ปืนยิงให้ระเบิดเพื่อฆ่ามันได้เลย หลังจากการฆ่ามันได้ก็ต้องหนีออกจากพื้นที่ ซึ่งสามารถใช้การพรางตัวปะปนไปกับชาวบ้าน (Social Stealth) ในตลาดเพื่อให้การค้นหาของพวกศัตรูจบลงเร็วกว่าเดิม
** การทำภารกิจย่อยที่เกี่ยวกับการทำลายฐานอำนาจของพวก templar สำเร็จนั้นจะส่งผลให้ ระดับ Loyalty Level หรือค่าจงรักภักดีของ Henry Green เพิ่มขึ้นด้วย ** 

                         

                          - Activity - Gang Stronghold : Spitalfields 


** CHALLENGES**
-ช่วยเหลือตัวประกันที่ถูกจับอยู่ในฐานของศัตรูให้หมด 

**รางวัล ** 
-เงิน 264
-EXP 250

Gang Stronghold ก็คือภารกิจยึดฐานของพวกแก็งค์ในพื้นที่ด้วยการสังหารศัตรูที่อยู่ในพื้นที่นั้นให้หมด ซึ่งในพื้นที่นี้จะศัตรูตัวอันตรายคือตัวที่เรียกกำลังเสริมที่มีสัญลักษณ์รูปดวงตาและศัตรูที่เป็นมือปืนสไนเปอร์ที่ต้องจัดการก่อนเป็นอย่างแรก

** การทำภารกิจย่อย ที่เกี่ยวกับการทำลายฐานอำนาจของพวก templar สำเร็จนั้นจะส่งผลให้ ระดับ Loyalty Level หรือค่าจงรักภักดีของ Henry Green เพิ่มขึ้นด้วย ** 

หลังจากยึดพื้นที่ในฐานของแก็งค์  “KEYLOCK” ได้สำเร็จ Rexfor Keylock หัวหน้าแก็งค์ก็จะปรากฏตัวออกมา




Rexfor Keylock – ดูเหมือนคุณกำลังสนใจการประกาศจ้างงานของผมอยู่ใช่มั๊ยคุณ Frye แน่นอนละสมัยนี้ใครจะไม่อยากได้งานบ้างละ ถ้าคุณจะทำก็เข้ามาตอนนี้ได้เลยตามสบาย

-หลังจากที่ Keylock ออกมาพล่ามแล้วหนีไปก่อนจะทิ้งลูกน้องของมันมากมายไว้ขวางทาง ยกพวกเข้าจัดการพวกมันให้หมดก็จะจบภารกิจ


                                              TO CATCH AN URCHIN 

**รางวัล ** 
-เงิน 330
-EXP 250

-เข้ามาที่จุดรับภารกิจที่จุด O ในแผนที่ซึ่งจะเป็นที่อยู่ของ Clara O’dea หัวหน้ากลุ่มแก็งค์เด็กจรจัดที่ green แนะนำให้มาสานสัมพันธ์กับเธอ




Evie – ที่นี่มันที่ไหนกันเนี้ย ?
Clara – ดีใจที่ได้เจอพวกพี่ทั้งคู่อีกครั้งนะ ที่นี่คือ Banylon Alley ที่ทำธุรกิจเพื่อเลี้ยงชีพเด็กอย่างพวกเรา เป็นที่ที่เราใช้เป็นโอกาสในการควบคุมชะตาชีวิตของพวกเราเองด้วย  
Evie – Clara คุณกรีนบอกมาว่า พวกเธอสามารถช่วยงานของเราได้ 
Clara – เราเรียกมันว่ายื่นหมูยื่นแมวมากกว่าค่ะ ก็แค่ขอความเมตตาเล็กๆน้อยๆแลกกับงานที่จะให้ทำ 
Jacob – อ่อหรอ อย่างชั้นโดนพวกเธอฉกกระเป๋าเงินไปจนหมดนี่เรียกว่าขอความเมตตาเล็กๆน้อยๆป่ะน้อง 
Clara – ก็พวกผู้ใหญ่ก็เอาเปรียบพวกเราก่อน ไม่เห็นหรอว่าโรงงานทั่วทั้งเมืองก็กดขี่ใช้แรงงานเด็กอย่างเราทั้งนั้น งานหนักค่าตอบแทนก็น้อย พวกเราไม่มีทางเลือกที่ต้องหนีออกมาแล้วหาทางเลี้ยงชีพในแบบของเราเอง พวกเด็กน่าสงสารมาก หนูอยากช่วยพวกเขา 
Jacob – ด้วยความเมตตาเล็กๆน้อยๆงั้นสิ
Clara – พกวเราสามารถหาข่าว หาข้อมูลอะไรก็ตามที่คุณต้องการเราจัดให้  แลกกับพวกพี่ไปช่วยเด็กๆเพื่อนของเราออกมาจากโรงงานนรกนั่น 
Jacob –  ว่าไปนั้น
Clara – แล้วพวกคุณมาพบหนูเพื่อ ? 
Evie – ได้ เราตกลงจ้างพวกเธอ 
Clara – ยินดีที่ได้ทำธุรกิจด้วยนะคะ 


                                     - Activity - Child Liberation 


** CHALLENGES**
- ช่วยเหลือแรงงานเด็ก 9 คนโดยระฆังเตือนภัยของศัตรูไม่ดัง  

**รางวัล ** 
-เงิน 132
-EXP 200

-ที่จุด Child Liberation หรือจุดรูปโซ่ลูกตุ้ม คือภารกิจช่วยเหลือแรงงานเด็กในโรงงาน SAWMILL ของพวก Templar ซึ่งในโรงงานจะมีเด็กถูกจับมาใช้แรงงานตามจุดต่างๆ 9 คนโดยดูได้จากการใช้ Engel Vision สำรวจมองหาเป็นสีเขียว และยาลืมฆ่าหัวหน้าคนงานที่ใช้ Engel Vision มองหาเป็นสีเหลืองด้วย หลังจากช่วยเด็นจนครบก็จะจบภารกิจ

** การทำภารกิจย่อย Child Liberation สำเร็จนั้นจะส่งผลให้ ระดับ Loyalty Level หรือค่าจงรักภักดีของ Clara O’dea เพิ่มขึ้นด้วย ** 

** หลังจากเคลียร์ภารกิจในจุด Activity ทุกจุดจนสามารถยึดคืนพื้นที่ได้จนหมดแล้ว จุด Gang War ที่เป็นที่อยู่ของหัวหน้าแก็งค์ก็จะปรากฎออกมา ** 

                                                  GANG WAR


**รางวัล ** 
-เงิน 164
-EXP 250
- Cane Sword, Adept Cane Sword

-เข้าไปที่จุดรับภารกิจ GANG WAR กับ Green จะได้รับมอบดาบ IVORY KUKRI มาจากเขา พร้อมทั้งเรียนรู้ระบบ Gearing up หรือการสวมใส่อาวุธและชุดป้องกันตามระดับ Level ที่มี เพื่อการสวมใส่อาวุธ ชุดที่สวมใส่ รวมถึงอุปกรณ์ต่างๆที่ดีขึ้นได้ รวมถึงสามารถ Upgrade มันได้ด้วย ก่อนที่จะมีผู้นำสานส์จาก Rexfor Keylock ให้ไปที่จุดนัดพบที่สถานีรถไฟ Whitechapel ที่เป็นสถานที่ต่อสู้ทันที



- ทันทีที่มาถึงสถานีรถไฟที่เป็นจุดนัดพบทั้ง 2 แก็งค์ก็เริ่มต่อสู้กันทันที จัดการพวกศัตรูให้หมดแล้ว Rexfor Keylock หัวหน้าแก็งค์  “KEYLOCK” จะปรากฏตัวออกมาบนหลังคาโบกี้รถไฟที่มันกำลังแล่นออกรถไป รีบวิ่งตามแล้วเกาะขึ้นขบวนไป จัดการการลูกน้องที่ขวางทางให้หมดแล้วเข้าไปจัดการ Keylock ซะ Jacob ก็จะได้ปืนตะขอของมันมาครอบครอง




Jacob – Keylock มันตายแล้ว จากนี้ที่ Whitechapel แห่งนี้จะไม่อยู่ในเขตปกครองของพวกคนชั่วอีกต่อไป  
Evie – ทุกคนที่นี่มีทางเลือก ไม่ว่าท่านจะเคยอยู่ฝ่ายไหน พวกท่านเลือกได้ว่าจะร่วมต่อสู้กับพวกเราได้  สู้กับไอ้ Starrick และโค่นล้มทุกข์ความอยุติธรรมที่พวกลูกน้องชั่วๆของมันทำกับเมืองนี้ร่วมกับเรา  !! 
Jacob – ขอต้อนรับสู่ “The Rooks” 


** การใช้งาน “The Rooks” **
 ทุกครั้งที่อยากจะได้ลูกน้องร่วมทางให้อุ่นใจก็สามารถมองหาเหล่า “The Rooks” ที่ใส่ชุดโทนเขียวเหลืองที่ยืนอยู่ตามที่ต่างๆของเมือง กด R1 เพื่อเรียกรวมพลได้ ซึ่งสามารถเพิ่มระดับความสามารถในการต่อสู้ของมันได้ในเมนู Gang Upgrades หัวข้อ Ringleader ใน Skill Rook Training  และสามารถเพิ่มเติมลูกน้องแบบที่ดีขึ้นได้ด้วยการอัพ Skill Rook Watchers , Rook Brutes และ Rook Enforcers เมื่อเจอศัตรูก็สามารถกด R1 สั่งให้เหล่า “The Rooks” เข้าโจมตีศัตรูได้ แต่บางครั้งการใช้ “The Rooks” ก็ไม่เหมาะนักในภารกิจแบบลักลอบ การตัดสินใจใช้ลูกน้องจึงขึ้นอยู่กับแผนการณ์เล่นของผู้เล่นแต่ละคน 


หลังจากที่แก็งค์ “The Rooks” ถือกำเนิด รถไฟของ Keylock ที่ยึดได้ก็จะเป็นเสมือนฐานของแก็งค์ในช่วงแรกทันที .ซึ่งจะปรากฎในแผนที่เป็นรูปหัวรถจักร มันจะวิ่งไปทั่วเมืองแต่จุด Train Hideout จะเป็นจุด fast Travel เพื่อกลับมาที่ฐานได้ด้วย โดยมี Agnes Macbean แม่บ้านผู้จัดการทั่วไปของ Keylock ก็เปลี่ยนใจมาทำงานให้ Jacob และ Evie ด้วย โดยเธอจะเป็นคนจัดการเกี่ยวกับรายได้ต่างๆที่ได้รับจากส่วนต่างๆของเมืองซึ่งสามารถมาเก็บผลประโยขน์จากตู้เซฟที่อยู่ในโบกี้นี้ได้แล้ว ในขณะที่ Jacob ก็อยากจะซ่อมปืนฉมวกที่ได้มาจาก Keylock เพื่อเอามาใช้งาน ซึ่ง Green จะพอหาทางเรื่องหาคนซ่อมมันให้ได้อยู่ จากนั้นเดินเข้าไปด้านในเพื่อเก็บแผนที่ Gang Upgrade ด้านในมาดู 



                                                    Gang Upgrades





Ringleader ภาวะผู้นำ คือ Skill ของแก็งค์ที่เน้นเพิ่มความแข็งแกร่งของลูกสมุน

Rook Training (Costs 1000£ + 50 Leather) – เพิ่มความสามารถในการต่อสู้ขั้นพื้นฐานให้ลูกน้อง
Rook Training 2 (Costs 10,000£ + 100 Metal + 50 Cloth) – เพิ่มความสามารถในการต่อสู้ระดับกลางให้ลูกน้อง
Rooks Training 3 (Costs 20,000£ + 100 Metal +50 Cloth) – เพิ่มความสามารถในการต่อสู้ระดับสูงให้ลูกน้อง
Rook Riders 1 (Costs 1500£+ 50 Leather+ 100 Metal) – ทำให้มีรถม้าของลูกน้องอยู่ทั่วเมือง
Rook Riders 2 (Costs 3000£+ 100 Metal + 50 Leather) – ทำให้มีรถม้าของลูกน้องมีคนเพิ่มขึ้น  
Rook Watchers (Costs 2000£+ 50 Leather) - ทำให้มีสมาชิกในแก็งค์ประเภท Watchers เพิ่มเข้ามาในทีม 
Carriage Sabotage (Costs 4500£+ 50 Metal+ 50 Chemicals) – ทำให้รถม้าของศัตรูฟื้นคืนสภาพจากความเสียหายได้ช้าลง
Allies in Arm (Costs 2500£ + 50 Metal + 25 Chemicals) – เมื่อสั่งให้ลูกสมุนให้ต่อสู้พวกมันจะเปิดฉากยิงก่อนทันที Rooks Training 2 (Costs 10,000£ + 100 Metal + 50 Cloth) สามารถฝึกฝนเพิ่มความสามารถในการต่อสู้ระดับกลางให้ลูกน้องด้วยการกด R1 
Enhanced Firepower (Costs 6000£ + 100 Metal + 75 Chemicals) – ทำให้ลูกน้องยิงโจมตีหวังผลได้มากขึ้นและรุนแรงมากขึ้น  
Rook Carriage (Costs 5000£+ 100 Leather+ 100 Cloth) - ทำให้รถม้าของลูกน้องฟื้นคืนสภาพจากความเสียหายได้เร็วขึ้น
Cavalry Call (Costs 8000£+ 150 Metal+ 100 Leather) – สามารถเรียกรถม้าของลูกน้องมาเป็นกองหนุนได้ทุกที่ทุกเวลา ด้วยการกด R1 + X หรือ RB + A 
Rook Brutes (Costs 5000£ + 50 Leather)- ทำให้มีสมาชิกในแก็งค์ประเภท Brutes เพิ่มเข้ามาในทีม 
Rook Enforcers (Costs 8000£+ 100 Metal+ 50 Cloth) - ทำให้มีสมาชิกในแก็งค์ประเภท Enforcers เพิ่มเข้ามาในทีม
Poison The Well (Costs 5000£+ 50 Chemicals) - ทำให้ค่าพลังชีวิตแรกเริ่มมีน้อยลง 
Dull Blades (Costs 3500£ + 50 Leather+ 25 Cloth) - ทำให้อาวุธของศัตรูมีพลังโจมตีน้อยลง 
Bad Powder 1 (Costs 4000£+ 100 Metal + 50 Chemicals) - ทำให้พวกแก็งค์ของศัตรูมีโอกาสยิงพลาดเป้ามากขึ้น 
Bad Powder 2 (Costs 6000£+ 100 Metal + 80 Chemicals) – ทำให้พวก Templar มีโอกาสยิงพลาดเป้ามากขึ้น

Insider สินบนคนวงใน  คือ Skill ของแก็งค์ที่เน้นเกี่ยวกับการอำนวยความสะดวกระหว่างทำภารกิจ

Medicine Market (Costs 500£+ 10 Metal+ 50 Chemicals) - สามารถซื้อไอเทมยาเพิ่ม HP ที่ร้านค้าได้และกดใช้ด้วยการกดปุ่มทิศทางขึ้นบน
Growler Boom (Costs 1500£+ 25 Metal)– ทำให้มีรถม้าบนถนนมากขึ้นเพื่อสะดวกในการใช้งาน 
Little Rooks (Costs 1500£+ 100 Metal+ 50 Chemicals) – ทำให้ได้ไอเทมต่างๆจากกลุ่มเด็กจรจัดที่ขโมยมาให้ดีขึ้น 
Police Bribes (Costs 5000£+ 25 Cloth) – ติดสินบนตำรวจ ทำให้ตำรวจไม่สนใจเวลาทำสิ่งผิดกฎหมายในเมือง 
Delivery Service (Costs 1000£, 50 Leather, 25 Cloth) – ทำให้มีถังแขวนในเมืองมากขึ้นเพื่อเป็นตัวช่วยในการต่อสู้ 
Explosive Delivery (Costs 2000£+ 50 Metal+ 50 Chemicals) ทำให้มีลังไดนาไมท์ในเมืองมากขึ้นเพื่อเป็นตัวช่วยในการต่อสู้
Notoriety (Costs 7500£) – ทำให้พวกแก็งค์ศัตรูตามตอแยเข้ามาต่อสู้ตามท้องถนนน้อยลง 
Dispatcher (Costs 1500£) - ทำให้รถบรรทุกไฟใช้เวลาเดินทางมาถึงเร็วมากขึ้น 
Mad Science (Costs 2500£+ 50 Metal+ 25 Chemicals) ได้หลังจากภารกิจ Breaking News และปลดล็อก Medicine Market แล้ว - ซิ้อลูกดอกบ้าคลั่ง Hallucinogenic Darts ลด 30 % 

Swindler ความสามารถของแก็งค์ทางด้านการฉ้อโกง

Black Market Affiliation (Costs 3000£ + 50 Metal + 50 Chemicals)- เมื่อซื้อกระสุนและมีดขว้างในร้านค้าจะลดราคา 25 %  
Pub Investor (Costs 6000£+ 150 Leather+ 50 Chemicals) –หลังจากซื้อผับในเมืองแล้วจะได้รับรายได้ที่เป็นผลกำไรจากผับ 500£ ทุกๆ 30 นาที และทำให้ความจุเซฟเก็บเงินเพิ่มขึ้นจนสูงสุด 500£  
Bomb Discount (Costs 4500£+ 100 Metal+ 25 Chemicals)- เมื่อซื้อระเบิดกับพ่อค้าเร่จะลดราคา 50 %
Black Market Ties (Costs 4000£+ 50 Chemicals)- ซื้ออาวุธและไอเทมได้ในราคาถูกลง 20%
City Takeover (Costs 10,000£, 50 Chemicals, 50 Cloth) - ทำให้เสียเงินการอัพเกรดแก็งค์น้อยลง
Shell Company (Costs 5000£+ 25 Cloth+ 25 Chemicals) – อัพเกรดที่เก็บเงินเพื่อจะได้รับรายได้ที่เป็นผลกำไรจากกิจการต่างๆในเมืองเข้าบัญชีในจำนวนมากขึ้น
Rate of Income (Costs 8000£+ 25 Cloth+ 25 Chemicals) - ทำให้เงินรายได้ในเซฟมากขึ้นอีก 25%.
Pub Games (Costs 10,000£+ 100 Leather) – ทำให้มีสปอนต์เซอร์การแข่งบอลรอบๆผับ ได้รับรายได้ที่เป็นผลกำไร 500£ ทุกๆ 30 นาที และทำให้ความจุเซฟเก็บเงินเพิ่มขึ้นจนสูงสุด 500£  
Bookmaker (Costs 12,000£+ 100 Leather+ 50 Cloth) -.เมื่อทำการว่าจ้างพวก Bookie แล้วจะได้รับรายได้ที่เป็นผลกำไร 500£ ทุกๆ 30 นาที และทำให้ความจุเซฟเก็บเงินเพิ่มขึ้นจนสูงสุด 500£  
Tea Magnate (Costs 15,000£+ 50 Metal+ 50 Chemicals) – เมื่อเริ่มลงทุนทำธุรกิจค้าขายใบชาจะได้รับรายได้ที่เป็นผลกำไร 500£ ทุกๆ 30 นาที และทำให้ความจุเซฟเก็บเงินเพิ่มขึ้นจนสูงสุด 500£  
Shop Investor (Costs 20,000£+ 100 Metal +100 Cloth) – เมื่อซื้อร้าน Local Shop แล้วจะได้รับรายได้ที่เป็นผลกำไรจากร้านขายของเพิ่มมากขึ้น 1000£ ทุกๆ 30 นาที และทำให้ความจุเซฟเก็บเงินเพิ่มขึ้นจนสูงสุด 1000£  
City-Wide Craze (Costs 500£+ 50 Metal+ 50 Chemicals) ได้หลังจบภารกิจ Cable News และได้ปลดล็อก Medicine Market แล้ว – เมื่อผสมยา Hallucinogenic จะได้ลดราคา 50%
Ale Heist (Costs 1500£+ 50 Chemicals) ได้หลังจบภารกิจ Ned Wynert และได้ปลดล็อก Medicine Market แล้ว - ทำให้มีรถม้าขนเหล้า (ale) วิ่งผ่านในเมือง ซึ่งสามารถเข้าไปปล้นรถของมันเพื่อให้ได้เงินมาได้  


Cr. ข้อมูลจาก                 
http://www.ign.com/wikis/assassins-creed-syndicate/Gang_Upgrades



                                          FREEDOM OF PRESS


** CHALLENGES**
-ซ่อมแซมฟิวส์ในความสูงไม่ต่ำกว่า 30 เมตร (ใช้ปืนตะขอเกาะเดินทางไปตามยอดหอคอยโดยไม่ตกลงมาเลย) 
- ใช้ปืนตะขอทำสลิงโหนไปสังหารศัตรูจากด้านบน

**รางวัล ** 
-เงิน 1500
-EXP 4000
- Outdoorsman Outfit 

-เข้ามารับภาระกิจที่จุด B ในเขต Lambeth Green จะพา Jacob และ Evie เข้ามาหา Alexander Graham Bell นักประดิษฐอัจฉริยะที่เป็นพันธมิตรในภาคีเพื่อให้ช่วยซ่อม ปืนตะขอ (Rope Launcher) ตามที่ Jacob ต้องการ


Alexander Bell – โอ้ .ให้ตายเหอะ !!
Green – Aleck มีอะไรสำคัญรึเปล่า ?
Alexander Bell – ไอ้พวกข่าวเหลวไหลพวกนี้มันขัดขวางผมไม่ได้หรอกนะ สาบานเลยว่าถ้าการควบกิจการของ Starrick มันยังดำเนินอยู่แบบนี่ละก็ ....
Green – Aleckๆ เฮ้ๆ โทษทีนะที่ขัดจังหวะ นี่พี่น้อง Frye Jacob กับ Evie เพื่อนผมเอง   
Alexander Bell – อ่อๆ เอ่อ ผม Alexander Graham Bell 
Green – สุดยอด นักภาษาศาสตร์ นักประดิษฐ์ เอ่อ Aleck ผมมีบางอย่างจะขอความช่วยเหลือหน่อยสิ  
Jacob – คุณซ่อมเจ้านี่เป็นมั๊ย ? 
Alexander Bell – อืมม เหมือนโครงของมันจะเสียหายนะ ..โอ้ ลำบากหน่อย เหลือมือเดียวผมตอนนี้ ฮ่าๆ แต่ก็นะนาฬิกา Big Ben ก็ยังซ่อมมาแล้ว 
Green – Aleck กำลังทำ เครื่องส่งโทรเลขแบบใหม่ อยู่ด้วย ซึ่งจะเป็นผลดีต่อการสื่อสารทางลับของสมาคมของเราอย่างมาก
Alexander Bell – และเพื่อสู้กับบริษัทโทรเลขของเจ้า Starrick !!  ถ้าผมสามารถปรับปรุงแก้ไขเครื่อข่ายการโทรเลขแบบใหม่บนยอด Big Ben ให้เสร็จได้อ่ะนะ ตอนนี้ผมยังหาทางซ่อมฟิวส์ของมันอยู่ แต่ถ้าสำเร็จ Starrick มันเป็นง่อยแน่ .. โอเค เสร็จแล้ว  ผมปรับปรงกลไกของมันเพื่อให้ใช้งานกับปลอกแขนของคุณให้ดีขึ้นด้วยนะ 
Jacob – เยี่ยม ผมจะรีบเอาไปใช้ยังไม่รีรอเลยละครับ 
Evie – เดี๋ยวก่อน เจคอป ! … คุณ bell มีอะไรให้พวกเราช่วยเรื่องปัญหาของคุณบ้างคะ ?   
Aleck – โอ้ คุณ Evie นี่ช่างมีน้ำใจเหลือเกิน ขอบคุณมากที่ช่วย ไม่ขัดน้ำใจละนะ รถม้าผมรอพร้อมรออยู่ด้านนอกแล้ว เราออกเดินทางไปสู่ปัญหาของผมกันได้เลย 
Evie – คุณ bell คะ สิ่งที่คุณกำลังประดิษฐขึ้นเนี้ยคืออะไรหรอ ?  
Alexander Bell – ผมกำลังตั้งใจจะพัฒนาคือโทรเลขที่ออกเสียงได้ (Phonetic Telegraph) ไม่ใส่การส่งรหัสการเคาะอะไรแบบนั้นแต่เป็นการถ่ายทอดเสียงของมนุษย์จากที่นึงไปอีกที่นึงคุณ Frye
Evie – โทรเลขที่ออกเสียงได้ (Phonetic Telegraph) ใช้คำเยอะจัง คุณน่าจะเรียกว่า โทรศัพท์ (Telephone) นะ
Alexander Bell – โทรศัพท์ (Telephone) หรอ เยี่ยมเลย ! อย่างที่ผมพูดไปนั่นแหละ ถ้าทำได้เราก็จะเป็นต่อบริษัทโรเลขที่ Starrick มันคลุมการสื่อสารเอาไว้ได้ การเชื่อมโยงต่างๆระหว่างกลุ่มของเราก็จะอิสระมากกว่าเดิม 
Evie – เพื่อให้พวกศัตรูมันหาไม่เจอคุณเลยกะสร้างมันบนหอนาฬิกา Big Ben ? 
Alexander Bell – ใช่แล้ว มันเป็นที่ที่วิเศษที่สุดแล้วละ 
Evie – ไม่ต้องห่วงเดี๋ยวพวกเราจะจัดการซ่อมแซมฟิวส์นั่นให้เอง  





การใช้ปืนตะขอ (Rope Launcher) อุปกรณ์ช่วยเหลือในการเดินทางที่เพิ่งได้มาใหม่ โดยการกด L1 ในจุดที่สามารถดึงตัวขึ้นด้านบนได้ หรือ จากขอบพื้นที่ด้านบนก็สามารถใช้เป็นเชือกสลิงในการโหนตัวลงด้านล่างได้ด้วย และสามารถควบคุมความเร็วได้ด้วยปุ่ม R2 ในกรณีต้องการใช้ท่าลอบฆ่าจากด้านบนของศัตรู

-ออกมาขึ้นรถม้าที่จอดอยู่ด้านนอกแล้วขับพา Bell ไปยังจุดหมายที่หอนาฬิกา Big Ben แล้วใช้ ปืนตะขอ ยิงดึงตัวขึ้นไปด้านบนซึ่งจะมีจุดสีเขียวที่เป็นแผงควบคุมฟิวส์อยู่ 3 จุดตามหอคอยต่างๆรอบๆพื้นที่ ซึ่งต้องใช้ปืนตะขอในการเดินทางโหนตัวไปตามจุดต่างๆเพื่อเปิดการทำงานของฟิวส์ให้หมดทั้ง 3 จุดแล้วกลับลงไปคุยกับ bell ที่รถม้าอีกครั้ง

** CHALLENGES**
-ซ่อมแซมฟิวส์ในความสูงไม่ต่ำกว่า 30 เมตร (ใช้ปืนตะขอเกาะเดินทางไปตามยอดหอคอยโดยไม่ตกลงมาเลย) 



Bell – ขอบคุณมากที่ช่วยเหลือคุณ Frye ผมจะรีบดำเดินการเกี่ยวกับการเชื่อมต่อให้เร็วที่สุดครับ
Evie – ยินดีคะ มีอะไรที่ต้องการความช่วยเหลือบอกได้นะไม่ต้องเกรงใจ
Bell – แน่นอนที่สุดครับ แวะไปหาผมบ่อยๆก็ดีนะ  อ้อ ! ผมมีของเล่นใหม่ๆให้คุณด้วยนะ ไม่รู้จะชอบมั๊ย ผมสามารถช่วยสร้างให้ใช้งานได้แต่คุณต้องหาวัตถุดิบมาให้ผมก่อนนะ 

 -เดินทางไปที่จุดหมายสีเหลือง จัดการศัตรูให้หมดแล้วเข้าไปเก็บหีบไอเทม Metal มาให้ครบ 200 แล้วกลับไปหา Bell ในบ้านของเขาที่จุดหมายสีเขียว



เรียนรู้การผสมไอเทม (Crafting) คุณสามารถผสมไอเทมใหม่ๆหรืออัพเกรดของเก่าได้ด้วยการหาแบบแปลนที่ใช้ในการสร้าง (Crafting Plan) และวัตถุดิบต่างๆ(Unique resources) มาให้จำนวนตามเงื่อนไขในการสร้างและอัพเกรดสิ่งของนั้นๆ ซึ่งจากนี้จะมีจุด Crafting resources ไอค่อนรูป เรือ รถไฟ รถม้าต่างๆเพื่อให้สามารถดักปล้นวัตถุดิบต่างๆรวมทั้งเงินได้ด้วย

   

Bell – ไงคุณ Frye ! ผมเพิ่งให้ Jacob ลองสื่อสารด้วย โทรศัพท์ เป็นครั้งแรกด้วยนะ อ่อ แล้วพวกคุณก็เก็บ Rope Launcher นั่นไว้ใช้ได้เลยนะ แล้วยังมีอุปกรณ์อื่นๆอีกที่ผมจะสร้างขึ้นได้ ทำงานดีมากๆและขอบคุณอีกครั้งครับผม จากนี้เราจะมาร่วมพิทักษ์ไว้ซึ่งความเป็นธรรมจากความอิสระในการติดต่อสื่อสารกันจริงๆซะที 
 Jacob – อิสระคือความยุติธรรม !!  แต่ อิสระ และ ไม่ชั่วคราว นั้นคงอีกยาวไกล 
Bell – ฮ่าๆ ถากถางได้โดนจริงๆ
Evie – พวกเราคงต้องไปกันก่อนละคะ 
Bell – โชคดีนะครับทั้ง 2 คนเลย มีอะไรให้ช่วยก็แวะมาได้เสมอนะ


จุดภารกิจย่อยของ Alexander Bell นั้นจะเป็นสัญลักษณ์รูปตัว C ในแผนที่ ซึ่งภารกิจของเขาก็คือทำภารกิจต่างๆตามข่าวกรองที่เขาได้มาจากติดต่อสื่อสารผ่านโทรศัพท์ของเขานั่นเอง



                                                    รู้ไว้ใช่ว่าใส่บ่าแบกหาม 



Alexander Graham Bell นักประดิษฐคนเก่งในประวัติศาสตร์ที่เริ่มมีบทบาทใน  Assassin’s creed Syndicate ในบทที่ 3 ใช่แล้ว Alexander Bell คือนักประดิษฐ์คนหนึ่งที่อยากสร้างประโยชน์ให้สังคมมากกว่าอยากได้ชื่อเสียง ด้วยเพราะแม่ของเขาเป็นคนหูหนวก Bell กับแม่จึงต้องสื่อสารภาษาใบ้กันมาตลอดโดยมีพ่อของเขาคอยสอนการอ่านริมฝีปากตอนแม่พูด จนหูของเขาสามารถแยกแยะเสียงได้อย่างดี ด้วยความเคยชินปนความอัจฉริยะของ Bell ทำให้เขาเริ่มสังเกตว่า “ในเมื่อเสียงเกิดจากแรงสั่นสะเทือนแล้วทำไมเสียงจะเดินทางผ่านเส้นลวดไม่ได้” เขาจึงคิดที่จะประดิษฐ “เครื่องมือที่จะช่วยทำให้คนใบ้หรือหูหนวกได้ยินได้” ขึ้นมา และเริ่มการทดลองโดยนำคลื่นเสียงไปยังโลหะแผ่นแบนๆซึ่งมีแม่เหล็กอยู่ใกล้และเส้นลวดขดรอบแม่เหล็ก คลื่นเสียงจากคำพูดของเขาทำให้โลหะสั่นสะเทือน ความสั่นสะเทือนทำให้เกิดกระแสไฟฟ้าขึ้นในเส้นลวดที่อยู่รอบแม่เหล็กแล้วไหลผ่านเส้นลวดอีกเส้นหนึ่งซึ่งต่อไปยังเครื่องรับ ผลการทดลองที่เสียงเดินทางจากที่นึงไปอีกนึงได้ผลออกมาเกิดความตั้งใจและมันเลยความเป็นเครื่องช่วยฟังของคนหูหนวกไปไกลด้วย  เบลกับวัตสันคู่หูของเขาทำการพัฒนาต่อจนกลายเป็น “โทรศัพท์” ขึ้นมาในปี ค.ศ. 1876 ก่อนจะก่อตั้งบริษัท เบลล์ เทเลโฟน (Bell Telephone company) แล้วเริ่มเปิดบริการโทรศัพท์ในเชิงพาณิชย์อย่างเป็นทางการ ส่งผลให้การสื่อสารเจริญก้าวหน้าขึ้น จนโทรศัพท์กลายเป็นเครื่องมือที่สำคัญของมนุษย์ชาติในปัจจุบัน และชื่อหน่วยวัดความดังของความเข้มเสียงว่า เดซิเบล (Decibel : Db) ก็ถูกตั้งขึ้นเพื่อเป็นเกียรติแก่เขานั่นเอง

Cr. 
https://th.wikipedia.org/wiki/อเล็กซานเดอร์_เกรแฮม_เบลล์
http://guru.sanook.com/26352/




ในฐานบัญชากาณ์บนรถไฟ ... 

Jacob , Evie และ Green จะพบกับ Ned Wynert ที่เข้ามานำเสนอธุรกิจระบบการขนส่งที่ดีที่สุดของเขา เพื่อทุกคนจะสนใจ ก่อนจะให้นามบัตรก่อนจากไปอย่างรวดเร็ว 






Evie – เอาละ ต่อไปเราจะมาที่ซ่อนของ ชิ้นส่วนของ “Piece of Eden” กันต่อ !
Jacob – เราต้องปลดปล่อยลอนดอนจากเจ้า Starrick นั่นต่างหากเป้าหมายของชั้น ! 
Evie – ยังไม่ถึงเวลาของเรื่องนั้น ! Curio 
Jacob – อ่อ นี่เราถ่อมาถึงลอนดอนนี้เพื่อหาของโบราณหรอหรอ?
Evie – ก่อนจะได้เป็นนักเต้นรำก็ต้องหัดเต้นก่อนสิ !
Jacob – โอ้ นี่เธอจะมาทำออกคำสั่งหลังจากที่เราเพิ่งขัดคำสั่งพ่อมาหรอ ! 
Evie – นายก็ไม่ต่างกันหรอกน่า !!
Green – Evie ลองค้นหาเบาะแสของ “Piece of Eden” ให้ได้ก่อน แล้วมันจะนำเราไปสู่เป้าหมายที่แท้จริงของ Templar เอง Jacob ผมมีข้อมูลของพวกที่มีส่วนเกี่ยวของกับ Starrick ให้คุณดู จะได้จำกัดขอบเขตของเป้าหมายให้แคบลง






หนทางสู่การพิชิตลอนดอน (Conquer London) นั้นในกระดานแสดงเป้าหมายการสังหาร (Assassination Wall) จะมีข้อมูลถึงเป้าหมายที่ต้องสังหารในบทต่อไปที่ต้องไปจัดการ ถ้าไม่มีอะไรแล้วเลือกเดินเรื่องหลักต่อไปที่ SEQUENCE 4 ได้เลย 



                                                    SEQUENCE 04

                                    A QUICK AND RELIABLE REMEDY 

กิดรอยแยกเล็กๆทางอารมณ์ของพี่น้อง Frye เมื่อเป้าหมายของทั้งคู่เริ่มมีความหมายตามแต่ใจว่ามันสำคัญต่อเจตจำนงของตัวเอง แผนตามหา “Piece of Eden” นั้นไม่ได้อยู่ในความสนใจของ Jacob เลยแม้แต่นิด ส่วน Evie ก็มองเป้าหมายในการตามล่า Starrick ของ Jacob เป็นแผนการที่ไม่มีสมอง ทำให้ทั้งคู่ต้องแยกกันทำงาน โดย Jacob จะมุ่งหน้ามาที่เขต Lambeth เพื่อตามรอย Starrick ส่วน Evie ตามร่องรอยที่อยู่ของ “Piece of Eden” โดยมุ่งไปที่บ้านเกิดของ Master แห่ง Assassin Edward Kenway ! 




โรงพยาบาลบ้า Lambeth Asylum ตอนนี้กลายเป็นแหล่งรวบรวมเก็บยาทุกชนิดที่มีในเมือง Lambeth แล้วทำการผลิตยา “Soothing Syrup” ยาที่อ้างว่า รักษาสรรพัดโรค ออกมามอมเมาประชาชน แน่นอนคนที่หนุนหลังอยู่คือ Grand Master Templar Crawford Starrick และการจะตามรอย Starrick Jacob จึงต้องตามรอยจากยา “Soothing Syrup” ที่มันขายตามท้องถนน 



                                     A SPOONFUL OF SYRUP


** CHALLENGES**
-ขโมยข้อมูลจากตัวแทนจำหน่ายยาโดยไม่ให้มันรู้ตัว 
-จับตัวหัวหน้าพวกขายยาโดยไม่ให้มันรู้ตัว

**รางวัล ** 
-เงิน 1500
-EXP 4000
-สนับมือ Crow’s Strength  

-เข้ามารับภารกิจที่จุดรูปคนในเขต Lambeth จะเป็นจุดขายยา “Soothing Syrup” ซึ่งกำลังมีผู้หญิงที่เป็นลูกค้าเข้ามาโวยวายว่ายาที่ว่าสามีเธอกินแล้วกลายเป็นคนสมองกลวงไม่มีความคิดไปทันที และเมื่อ Jacob เข้าไปเพื่อสอบถามคนขายยา หลังจากที่มันพยายามขัดขืนแต่สู้ไม่ได้มันจึงรีบหนีไปทันที วิ่งตามจับมันให้ทันแล้ว Jacob จะถามมันถึงแหล่งที่มันรับยามาขายจนได้ตำแหน่งตัวแทนจำหน่ายมา
** CHALLENGES**
-ขโมยข้อมูลจากตัวแทนจำหน่ายยาโดยไม่ให้มันรู้ตัว
- เดินทางเข้าไปที่จุดเป้าหมายสีเขียวแล้วใช้ Eagle Vision มองหาจนพบชายที่เป็นตัวแทนจำหน่ายยา เป้าหมายคือขโมยข้อมูลมาจากมันท่ามกลางลูกน้องมากมาย ถ้าไม่คิดอะไรมากก็ฆ่ามันให้หมดแล้วเก็บข้อมูลมา หรือถ้าจะเก็บ Challenges ก็ใช้ระเบิดควันปาไปที่กลุ่มมันแล้วรีบเข้าไปฉกข้อมูลมาจากมันแบบไม่รู้ตัวก็ได้ จะได้ข้อมูลตำแหน่งของหัวหน้าของพวกขายยา “Soothing Syrup” มา ซึ่งจะอยู่ที่ Fightclub ที่ Southwark Foundry
** CHALLENGES**
-จับตัวหัวหน้าพวกขายยาโดยไม่ให้มันรู้ตัว
-เดินทางมาที่โรงหลอม Southwark Foundry ลอบเข้าไปแล้วใช้ Engle Vision มองหา หัวหน้าพวกขายยาจนพบมันอยู่ที่สนามต่อสู้ หาทางเข้าไปลักพาตัวมันออกมาด้านนอกโรงหลอม ซึ่งข้างสนามที่มันอยู่นั้นไม่มีพวกการ์ดคนอื่นอยู่ใกล้สามารถเข้าไปจับตัวมันมาได้เลย แต่ถ้าจะเก็บ Challenges จับมันมาแบบไม่ให้ศัตรูรู้ตัว ระหว่างเดินก็ต้องหาทางหลบพวกการ์ดตามทางให้ดีๆ จากนั้น Jacob จะรีดเอาข้อมูลของตำแหน่งสถานที่ผผลิตยา“Soothing Syrup” จนได้มาว่าเป็นตึกขนาดใหญ่ใกล้ๆโรงกลั่นเหล้ามา ก็เป็นอันจบภารกิจ


                                      ON THE ORIGINAL OF SYRUP


**รางวัล ** 
-เงิน 410
-EXP 250
-Reinforced Gauntlet Schematic 

-เข้ามารับภารกิจที่จุดภารกิจหลักของเนื้อเรื่อง (รูป Jacob) จะพบกับ Darwin กำลังทะเลาะกับ Richard Owen เรื่องผลกระทบที่เลวร้ายที่เกิดขึ้นจากยา“Soothing Syrup” ที่กำลังให้ชื่อเสียงเขาเสื่อมเสีย ก่อนที่ Owen จะตัดบทแล้วขึ้นรถม้าไป  ในขณะที่ Jacob เข้ามา Darwin จะบอกว่า Owen ทำงานที่โรงพยาบาลบ้าซึ่งมันต้องรู้ว่าใครเป็นคนผลิตยา Syrup แน่นอน จึงให้รีบตามมันไปทันที จากนั้นตามรถม้าของ Owen ให้ทันแล้วเข้าไปขี่มันชนสิ่งต่างๆให้เกทความเสียหายของรถจนหมดเพื่อข่มขู่ให้ Owen ยอมบอกเรื่องคนผลิตยาออกมา เมื่อจอดรถมันจะยอมบอกว่าคนที่ผลิตยา “Soothing Syrup” คือ Dr.John Elliotson ที่เป็นคนคิดค้นสูตรยารักษาสรรพัดโรคนี้  


                                        Community Event - Cargo Hijack 

**รางวัล ** 
-เงิน 1550
-EXP 450

-เข้ามารับภารกิจที่จุดรูปตัว N เข้าไปคุยกับ Ned Wynert ทอมบอยที่เคยมานำเสนอเรื่องธุรกิจให้ที่รถไฟก่อนหน้านี้ ซึ่งธุรกิจของเธอที่อ้างว่าเป็นการสร้างสมดุลเรื่องระบบการขนส่งในลอนดอนซึ่งแน่นอนว่าพวกที่คลุมการขนส่งทุกชนิดในลอนดอนแบบผูกขาดฝ่ายเดียวก็คือพวกแก็งค์ลิ่วล้อของ Templar ทำให้ศัตรูในธุรกิจของ Ned นั้นเป็นศัตรูเดียวกันกับของ Jacob และ Evie และภารกิจนั้นก็คือ ปล้นรถสินค้าของพวก templar นั่นเอง ซึ่งหลังจากคุยจบก็จะมีจุด Cargo Hijack ขึ้นมาในแผนที่ เป้าหมายคือเข้าไปจัดการศัตรูแล้วขโมยรถสินค้าของศัตรูไปที่จุดเป้าหมายกำหนดก็ถือว่าจบงาน แน่นอนว่า Jacob และ Evie ก็จะได้เงินและสินค้าส่วนหนึ่งไปส่วน Ned ก็จะได้เส้นทางการค้าของเธอกลับมาก็ถือว่าวินๆกันทั้งคู่ ซึ่งนอกเหนือจากปล้นรถม้าแล้วงานของ Ned ก็ยังมีให้ดักปล้นการขนส่งต่างๆอีกมากมายทั้งรถไฟและเรือตามแต่ภารกิจที่ขึ้นมา
** การทำภารกิจย่อย Cargo Hijack สำเร็จนั้นจะส่งผลให้ ระดับ Loyalty Level หรือค่าจงรักภักดีของ Ned Wynert เพิ่มขึ้นด้วย **


                                                     CABLE NEWS 


** CHALLENGES**
-ใช้ลูกดอกบ้าคลั่งยิงใส่ถังไฟให้มันกระจายไปโดนศัตรูให้บ้าคลั่ง 9 คน 

**รางวัล ** 
-เงิน 500
-EXP 1250
Full Synch Bonus
-เงิน 100
-EXP 125

-เข้ามารับภารกิจที่จุด B ในแผนที่ Jacob และ Evie เข้ามาหา Alexander Graham bell เพื่อสอบถามถึงข่าวใหม่ๆที่ได้จากการเครื่องมือสื่อสารของเขา bell จะได้ข่าวใหม่มาแต่ข้อความไม่ครบเพราะทีมหาข่าวของเขาถูกขัดขวาง แต่ได้ข้อความมาแค่ว่าสินค้าที่เข้ามาอยู่ที่ท่าเรือ Jacob และ Evie จึงเตรียมเดินทางไปช่วยพวกทีมข่าวกรองของ Bell ให้พร้อมเก็บสินค้ากลับมาทันที แต่ก่อนเดิน Bell จะเอาของประดิษฐชิ้นใหม่ติดไม้ติดมือไปด้วย นั่นคือ ลูกดอกยาหลอนประสาท Hallucinogenic Darts ซึ่งก็คือลูกดอก Berserk นั่นแหละ เมื่อยิงใส่ศัตรูแล้วจะทำให้มันบ้าคลั่งโจมตีพวกเดียวกันเอง จากนั้นเดินทางไปที่จุดหมายสีเขียวในแผนที่ก็จะพบสถานที่ที่พวกคนส่งข่าวของ Bell ถูกศัตรูจับเอาไว้ เข้าไปจัดการศัตรูให้หมด โดยสามารถใช้ลูกดอกบ้าคลั่งยิงใส่ถังไฟให้มันกระจายไปโดนศัตรูให้บ้าคลั่งพร้อมๆกันเป็นวงกว้างได้ หลังจากช่วยตัวประกันได้ เป้าหมายต่อไปคือลอบจัดการศัตรูแล้วเก็บเอาสินค้าจากลังไม้ทั้งหมด 3 จุด ซึ่งวิธียิงลูกดอกบ้าคลั่งใส่ถังไฟให้มันกระจายไปโดนศัตรูให้บ้าคลั่งพร้อมๆกันก็ยังจำเป็นต้องใช้ได้อยู่
- เมื่อเก็บครบ 3 กล่องแล้ว เรือสินค้าของศัตรูจะแล่นเข้ามาเทียบท่าแต่เมื่อมันเห็นว่าการรับสินค้ามีปัญหามันจึงรีบหนีไปแจ้ง Starrick นายมันทันที รีบตามเรือไปให้ทันแล้วโดดเข้าไปจัดการศัตรูแล้วเก็บสินค้าบนเรือมา แต่ดูเหมือนมันจะกลายเป็นแก็สพิษออกมาใส่แทน Jacob ไม่รู้ว่า bell รู้หรือเปล่าว่าสินค้าข้างในกล่องเป็นอะไรจึงรีบกลับไปถามทันที



Bell - ทุกๆสิ่งมีค่าที่เราจะต้องพยายามแย่งมามันมีอัตรายเสมอเพื่อนรัก แต่อย่างน้อยครั้งนี้พวกคุณก็ได้ชัยชนะ อีกครั้ง 
Jacob - คุณรู้ได้ไงเนี้ย  ?
Bell - เราอยู่ในยุคแห่งการติดต่อสื่อสารจำไม่ได้หรอ เราได้ข้อมูลจาก Greenwich มาแล้ว สินค้านั่นจึงถูกนำไปเก็บในที่ที่ปลอดภัยเรียบร้อย ขอบคุณมากๆครับ  
Evie – แล้วคุณไม่รู้หรอว่าในลังสินค้านั้นคืออะไร ?
Bell – รู้ครับ อาวุธเคมีของ Starrick และผมเกรงว่าแก็สพิษของมันก็กำลังหลุดออกตลาดอยู่ตอนนี้ด้วย 
Evie – ถ้าพวกมันคิดแบบนั้นชั้นจะพิสูจณ์ให้ว่าพวกมันคิดผิด 


                                                    THE GRATE ESCAPE


**รางวัล ** 
-เงิน 500
-EXP 500 
- ผ้าคลุม Hunter Mantle 

-เข้าไปที่จุดภารกิจหลักของเนื้อเรื่องที่โต๊ะทำงานของ Evie ในรถไฟ เพื่อเริ่มภารกิจตามหา “Piece of Eden” ของ Evie กันบ้าง


Jacob – อีกคืนหนึ่งที่น่าตื่นเต้นของ Evie Frye คือจมอยู่กับโต๊ะอ่านหนังสือ 
Evie – ชั้นคงจะทำอยากอื่นไม่ได้นอกจากตามหา “Piece of Eden” ให้เจอ
Jacob – ถามจริงอยากได้มันมาทำอะไรว๊า ให้หายจากโรคภัยไข้เจ็บ ให้ยิงไม่โดน หรอ หรือใช้ควบคุมผู้คน ? 
Evie – รู้แค่ว่ามันเป็นของที่อันตราย เจคอป จะปล่อยให้มันอยู่ในมือพวก Templar ไม่ได้ ! 
Jacob – เธอนี่ชักจะพูดเหมือนพ่อมากขึ้นทุกทีแล้วนะ 
Evie – ถ้าเป็นเรื่องนี้อ่ะนะ ใช่ .. หวังว่าที่ยัย Lucy Thorne พูดว่าสินค้าของมันจะมาคนนี้จะเป็นความจริง เธอทำงานให้ Starrick อย่างลับๆมาตลอด แต่ชั้นก็ค่อนข้างแน่ใจว่าเธอต้องรู้ที่อยู่ของ “Piece of Eden” เหมือนอย่างที่ Sir Devid พูดถึง
Jacob – ฟังดูน่าสนุกแฮะ ให้ชั้นไปด้วยปะละ ?
Evie – สัญญาก่อนว่าจะไม่ทำอะไรบ้าๆที่ออกนอกแผนที่ชั้นวางไว้อีก  
Jacob – สาบานเลยเอ้า ! 

-บนถนนเส้นนึงของลอนดอน Lucy Thorne กำลังดำเนินการลำเลียงสินค้าสำคัญที่ขนาดที่ต้องย้ำกับลูกน้องที่กำลังขนย้ายว่ากล่องสินค้าอันนี้มันสำคัญกว่าชีวิตของพวกมันเยอะ แต่หารู้ไม่ว่าแฝด Frye ได้เข้ามาเฝ้าดูในพื้นที่และพร้อมจะปฎิบัติการแย่งชิงสินค้าแล้ว Jacob จะรับหน้าที่ไปจัดการพวกมือปืนบนยอดตึก ส่วน Evie ก็โหนตัวมุ่งหน้าไปที่จุดเป้าหมายที่เขียวเพื่อสำรวจลังสินค้าได้เลย ตรงจุดรถม้าขนส่งสินค้าจะมีมือปืนที่ระเบียงที่ต้องจัดการมันก่อนและศัตรูที่เดินไปมาที่ถนนที่สามารถใช้ลูกดอกบ้าคลั่งที่ถังไฟเพื่อเป็นตัวเบี่ยงเบนความสนใจได้ เมื่อเข้าไปถึงลังสินค้าเป้าหมาย Evie จะสำรวจพบสมุดบันทึกเล่มนึง แต่ Lucy กลับมาเห็นพอดี ทำให้ Jacob ต้องเข้ามาสมทบแล้วช่วยขับรถม้าพาหนีออกจากที่นี่โดยระหว่างทาง Evie ก็ต้องเป็นคนยิงสกัดพวกศัตรูที่ตามมา ซึ่งถ้ากระสุนเริ่มหมดก็สามารถขอจาก Jacob ที่ขับอยู่ได้ พยายามยิงต้านรถม้าของศัตรูที่ตามมาและโดดขึ้นมาบนรถจนกว่าจะถึงที่หมาย เพื่อลงจากรถม้าไปโดดลงรถไฟที่กำลังแล่นมาให้ทัน



Jacob – โว้ อย่างนี้สิฟ่ะถึงเรียกว่ามันส์ของจริง ขอบคุณนะที่เชิญมา ภารกิจหน้าของเธอเอามันๆแบบนี้อีกนะ
Evie – แมร่งเอ๊ย ! ..เสียดายที่ได้สมุดบันทึกมาแค่เล่มเดียว 



                                           PLAYING IT BY EAR

** CHALLENGES**
-สำรวจพบสิ่งของในความทรงจำของ Henway ให้ครบ 7 อัน 
- แก้ปริศนาตัวโน๊ตเปียโนโดยกดไม่ผิดเลย 

**รางวัล ** 
-เงิน 750
-EXP 500
Full Synch Bonus
-เงิน 100
-EXP 125
-ชุด Defender’s Garb 

-เข้าไปที่จุดภารกิจหลักของเนื้อเรื่อง (รูป Evie) ที่โต๊ะทำงานของ Evie ในรถไฟ เพื่อเริ่มภารกิจตามหา “Piece of Eden” ของ Evie กันต่อ ซึ่งตอนนี้ Evie กำลังพยายามศึกษาข้อมูลของสมุดบันทึกที่เธอขโมยมาจาก Lucy Thorne

Jacob – อืมม ดูเหมือนสมุดบันทึกของยัย Lucy นี่จะไม่ได้บอกอะไรเกี่ยวกับ “Piece of Eden” ของเธอเลยนะ แต่ของหลายอย่างในรายชื่อสินค้านี่ก็ประเมินค่าไม่ได้เหมือนกัน นี่ไงดูสิมันพูดถึงผ้าบางอย่างที่ได้มาจากเหล่านักฆ่าแห่งลอนดอน 




Evie – “ผ้าที่ใช้ห่อ Eden (Shroud of Eden) นั้นสามารถรักษาอาการบาดเจ็บและชุบชีวิตคนตายได้”   แต่ว่า  ถ้าพวกนักฆ่าของเราได้มันไปจริงๆ พ่อ ก็ต้องรู้ด้วยสิ 
Shroud 
Jacob – อาจมีบางอย่างที่เราพลาดไปนะ 
Evie – บางอย่างที่เรายังมองไม่เห็น ... เดี๋ยวนะเหมือนชั้นจะเห็นภาพชี้ทางบางอย่าง ..ไงจะไปหาเบาะแสด้วยกันอีกมั๊ย ?
Jacob – พูดจริงๆงานแบบนี้ไม่เปคชั้นจริงๆนะ 
Evie – นี่เราได้เบาะแสเด่นชัดขนาดนี้นายยังไม่อยากรู้อีกหรอ ? 
Jacob – ก็พูดซะขนาดนี้ไม่ไปก็ยังไงอยู่นะ ! 

Jacob เชื่อว่า Shroud of Eden ที่ตกเป็นของภาคีนักฆ่ามาก่อนนั้น Master Kenway ที่เป็นโจรสลัดแล้วถูกส่งต่อเป็นมารดกให้ Haytham ที่กลายเป็น Templar พอเขาตายมันก็คงตกเป็นของน้องสาวเขาต่อ และเมื่อเดินทางมาถึงจุดเขียวเป้าหมายที่แมนชั่นแห่งหนึ่งที่ด้านหน้าเป็นรูปเรือโจรสลัด Jacob จึงมั่นใจว่านี่เป็นบ้านของตระกูล Kenway อย่างที่เขาคิดเอาไว้จริงๆ จากนั้นใช้ Eagle Vision สำรวจดูในพื้นที่วงกลมเขียวก็จะพบว่า Lucy Thorne ก็เดินทางมาที่นี่ด้วยเช่นกันท่ามกลางทหารอีกมากมายที่ทำเอาตึกกลายเป็นฐานของ Templar ไปเลย 

-ลอบเข้าไปนึกท่ามกลางศัตรูมากมายเป้าหมายคือจุดเขียวที่ห้องด้านใน เมื่อเข้ามาถึงห้องเปียโนแล้วใช้ Eagle vision มองหาตัวโน๊ตบอกใบ้ที่พนัง D - A – D - E – F - D แล้วไปสำรวจที่เปียโนกดตามโน้ตที่เห็นที่พนังห้องลับก็จะเปิดออก


 เมื่อลงไปสำรวจด้านล่าง Evie จะได้เอมเบลมกับบันทึกฉบับหนึ่งมา ที่เขียนบอกว่า เอมเบลมนี้เป็นกุญแจลับเพื่อใช้เปิดเซฟลับ




แต่จู่ Luca ก็ตามมาเจอจนทำให้ทั้งคู่ต้องหาทางหนีออกจากห้องที่ไม่ใช่ทางที่ลงมา สำรวจหมุนพวงมาลัยเรือในห้องประตูลับก็จะเปิดออก จากนั้นหนีออกมาตามทางอุโมงค์จนมาออกที่ทางออกบนถนนในเมืองได้สำเร็จ



                                                OVERDOSE 

** CHALLENGES**
-ปิดเครื่องช็อตไฟฟ้า (Electroconvulsive) ในห้อง Therapy Session เพื่อช่วยคนไข้ 
-ห้ามยิงปืนเลยซักนัด 

**รางวัล ** 
-เงิน 1230
-EXP 1000
Full Synch Bonus
-เงิน 100
-EXP 125
-ปืน Revolver 

-รับเควสหลักต่อไปในแผนที่ Jacob จะเดินเรื่องในภารกิจตามหาคนที่ผลิตยา “Soothing Syrup” ที่ชื่อ  Dr.John Elliotson ต่อ ที่หน้าโรงพยาบาลบ้าใน Lambeth ซึ่งจะพบลุง Darwin รออยู่ที่หน้าทางเข้า  


Darwin - โอ้ คุณ Frye การพบปะพูดคุยกับคุณ Owen ที่ผ่านมาเป็นไงบ้าง 
Jacob – เป็นการพูดคุยที่หวานหูมากเพราะผมได้ชื่อคนที่ผลิตยา “Soothing Syrup” มันคือ Dr.John Elliotson 
Darwin - Dr. Elliotson เรอะ ผมไม่ได้ยินชื่อนี้มานานมากแล้ว เมื่อก่อนเขาเป็นหมอมืออาชีพที่ใจสะอาดมาก ก่อนที่จะถูกครอบงำจากพวก Templar อาจถูกสะกดจิตอะไรรึเปล่าไม่แน่ใจ แต่ยังไงมันก็ทำให้หน้าที่การงานของเขาพังไปด้วย เออตกลงจะให้ผมเข้าไปเป็นเพื่อนด้วยมั๊ย 
Jacob – ไม่ต้องเลยลุงผมมั่นใจว่าลุยเองได้ ยังไงก็คงไม่ต้องให้คนแก่มาเป็นกองหนุนแน่นอน  
Darwin – ฟังดูมั่นใจมากนะ เอาละ โชคดีแล้วกันไอ้หนุ่ม อ่อ คุณ Frye ถ้าว่างเมื่อไหร์รบกวนติดต่อหาผมด้วยก็แล้วกันนะ 

-จากนั้นลอบเข้าไปในตึกของโรงพยาบาลบ้า ที่เป้าหมายรูปนกซึ่งก็คือจุด Vantage เพื่อสังเกตการณ์เหตุการณ์ในห้อง Medical Theater





ซึ่งก็จะพบเป้าหมายคือ Dr.John Elliotson ที่กำลังบรรยายถึงวิธีการรักษาคนไข้ของเขาอยู่ แน่นอนว่ามันทำกับคนไข้อย่างโหดเหี้ยมไร้ปราณีมากๆ ก่อนที่มันจะเรียกให้หมอฝึกหัด (Young Doctor) มาทำการเก็บศพ ซึ่งหมอคนนี้เป็น Unique kill opportunity หรือ คนที่เป็นตัวแปรที่จะทำให้ Jacob สามารถเข้าไปฆ่าเป้าหมายได้ กับ พยาบาลที่ถูกไล่ออกเพราะทำงานผิดพลาดที่ถูกยึดกุญแจไปก่อนถูกไล่ออก ซึ่งเป็น Infiltration opportunity หรืออีกทางเลือกนึงในการฆ่าเป้าหมายในแบบแทรกซึม ซึ่งเป็น 2 ทางเลือกที่ Jacob สามารถเลือกในการเข้าไปสู่เป้าหมายที่จะฆ่าคือ Dr. Elliotson ที่อยู่ในห้อง Medical Theater ได้

 

ใช้ Eagle vision กำหนดตัวตนของเป้าหมายในพื้นที่ให้หมดก่อน เป้าหมายที่จะฆ่าคือ Dr. Elliotson เป็นตัวสีเหลืองและ ตัวช่วยทั้ง 2 คนคือ หมอฝึกหัดและพยาบาล แล้วจะมี Objective ทางเลือกให้ 2 จุด
1.Infiltration opportunity (จุดรุปกุญแจสีเขียว) – หากคุยกับพยาบาลที่ถูกเอากุญแจไป ซึ่ง Jacob ต้องไปขโมยกุญแจกลับมาให้เธอ โดยไปลักพาตัวชายที่เอากุญแจไปมาจัดการซะแล้วไขเปิดประตูให้พยาบาลออกจากตึก จะทำให้มีกุญแจที่สามารถเปิดประตูในตึกได้ทั้งหมดรวมถึงห้อง Medical Theater ที่ Dr. Elliotson กำลังบรรยายอยู่ได้
2.Unique kill opportunity (จุดรูปกะโหลกสีแดง) – เข้าไปในห้องเก็บศพจะสามารถซ่อนตัวในเตียงขนศพให้หมอฝึกหัดพาเข้าไปในห้อง Medical Theater ที่ Dr. Elliotson กำลังบรรยายอยู่ได้ 
-และไม่ว่าจะเข้ามาถึงห้อง Medical Theater ด้วยวิธีไหนก็จัดการสังหารเป้าหมายได้เลย


Dr. Elliotson – จุดท้ายมันก็จบซะที ใช่ ผมคิดแต่เรื่องธุรกิจแต่เพื่อวันพรุ่งนี้ที่ดีขึ้นของวงการแพทย์ บางทีต้องบุกบั่นไปก็ต้องอาศัยจินตนาการที่เต็มไปด้วยคาวเลือด 
Jacob – แต่ที่ข้าเห็นมันเป็นเส้นทางเลือดที่เกิดจากพวกวิกลจริต 
Dr. Elliotson – แกคิดจริงๆหรอว่าการฆ่าคนแก่ๆคนนึงจะหลุดยั้งการสรรสร้างอันยิ่งใหญ่ของมนุษย์ชาติได้ คุณ Crawford Starrick กำลังวางแผนที่ยิ่งใหญ่และสวยงามเพื่อความรุ่งโรจณ์ของมนุษย์ชาติอยู่  
Jacob – ทุกอย่างที่มันวางแผนข้าจะทำลายมันจนหมดเอง 
Dr. Elliotson – แกมันก็แค่เด็กน้อย..  เด็กน้อยที่คิดแต่ว่าดาบสามารถควบคุมโลกนี้ดั่งใจนึกได้ แล้วแกจะทำยังไงต่อละ คุณ Jacob Frye มีแผนยังต่อ ?  ชั้นว่า พ่อ แกไม่ได้สั่งสอนให้มาทำแบบนี้ด้วยซ้ำ ว่ามั๊ย ? 

-หลังจากสังหาร Dr. Elliotson ได้แล้วก็หนีออกจากพื้นที่เพื่อจบภารกิจที่จุดปลอดภัยได้เลย


              *************************************************************

ลูกน้อง - Elliotson ถูกฆ่า กระบวนการผลิต “Soothing Syrup” ของเราถูกระงับ เหลือจะทนแล้ว ! สิ่งที่พี่น้อง Frye ทำมันเริ่มจะรุกลามบานปลายเป็นอันตรายมากกับเรามากขึ้นทุกที ลอนดอนตอนนี้ก็เต็มไปด้วยพวกม๊อบที่มันปลุกระดมให้แข็งข้อกับเรา โรงพยาบาลถูกปิด ถ้ายาไม่ถูกส่งออกขายตามปกติ เราก็จะควบคุมความวุ่นวายที่จะเกิดขึ้นไม่ได้ มันจะวุ่นวายกันทั้งเมือง มันคิดว่ามันเป็นใคร !!




 Starrick – ท่ามสุภาพบุรุษ …ชาที่ผมกำลังดื่มเนี้ย ส่งตรงจากอินเดียผ่านท่าเรือไปที่โรงงานก่อนจะบรรจุหีบห่อออกขายกอ่นจะมาถึงผม มันไม่ได้ส่งออกมาจากห้องนอนผมลงมาที่ชั้นล่างให้ผมดื่มนะ มันก็เหมือนทุกคนที่ทำงานให้ผมในเมืองนี้ ผู้ขาย ผู้หญิง แม้กระทั้งเด็กๆ พวกเขาควรเป็นหนี้ใคร ?  Crawford Starrick ที่ให้งานกับพวกเขา ให้เวลาในการสร้างชีวิตที่ดีกับพวกเขา แล้วพวกคุณจะเดินเข้ามาบอกผมว่า Jacob Frye ที่เรียกตัวเองว่า Assassins กำลังจะมาทำให้ที่ผมทำมากลายเป็นสิ่งด้างพร้อยที่ไม่มีความหมายหรอ จะไม่ดูหมิ่นกันไปหน่อยหรอครับ เมืองทั้งเมืองกำลังทำงานทั้งกลางวันและกลางคืน ก็เพื่อสิ่งมหัศจรรย์ของเรา เหมือนชาที่ผมกำลังดื่มนี่ไง  


     

Lucy Thorne – งานค้นคว้าของชั้นกำลังจะเสร็จในไม่ช้า ลอนดอนที่เรารักจะไม่ต้องเจ็บปวดอีกต่อไปพร้อมๆกับการกระทำโง่ๆของพี่น้องบางคน 
Starrick – แล้วนังคนน้องละ Evie Frye ผมได้ยินเรื่องของเธออยู่นะ ดูเหมือนเธอจะตามเรื่องเดียวกับคุณอยู่ด้วย 
Lucy Thorne – Evie Frye คนเก่งหรอ เก่งได้ไม่นานหรอก !! รับรองอร่อยเหาะแน่ๆ 


     *******************************************************************

Bishop – โทษทีคะ .. ที่การติดต่อขาดหายไป มาต่อกันเลย คิดว่าคุณคงอยากรู้ว่า Shaun และ Rebecca หนีจาก Otso Berg แล้วยังไงต่อ .. Berg กับ Viola ใช้การสนับสนุนด้านเทคโนโลยีต่างๆจากหน่วย Sigma Team ของเขาเพื่อเริ่มการไล่ล่าทั้งคู่ทันที งานถนัดจากการที่พวกมันฆ่าเหล่า Assassins มายาวนาน ... ดีใจนะที่พวกคุณปลอดภัย 




Shaun – จิ๊บจ๊อย ! ในตำนานที่รุ่งโรจณ์ของ Shaun “โคตรอันตราย” Hasting ผมเจอพวก Templar ที่ร้ายกาจมามากกว่านี้เยอะ 
Bishop – ชั้นกำลังพูดกับ Rebecca 
Shaun – ยังไงก็เหอะ Berg ก็ยืนยันมาแล้วนี่ว่า “Piece of Eden” อยู่ในลอนดอนแน่นอน 
Bishop – ใช่ แล้วมันก็เปิดเผยมานัยๆแล้วว่ามันคือ Shroud of Eden
Rebecca – และดูเหมือนพวก templar ก็ต้องการมันเป็นอย่างมากด้วย พวกมันอาจรู้ในสิ่งที่เราไม่รู้ก็ได้ 
Shaun – สิ่งที่เรารู้ตอนนี้มีอย่างเดียวคือ พวกเราไม่มีทาง Sigma Team โดยลำพังแน่นอน 
Bishop – เรื่องนั้นปล่อยเป็นหน้าที่ชั้นเอง ระหว่างนั้นพวกคุณก็เดินหน้าเชื่อมต่อเรื่องราวจากข้อมูลของแฝด Frye ต่อไปเรื่อยๆก่อนได้เลย !  


  *********************************************************************


                                           UNNATURAL SELECTION 

** CHALLENGES**
-ฆ่าทุกคนในคลังสินค้าด้วยการรมด้วยแก็สพิษ

**รางวัล ** 
-เงิน 410
-EXP 250
Full Synch Bonus
-เงิน 75
-EXP 100
-เข็มขัด Dark Leather Belt 

แม้ว่า Jacob จะจัดการ Dr. Elliotson ผู้คิดค้นสูตรยา “Soothing Syrup” ของ Starrick ได้แล้ว เขาก็ยังคงตามรอยของยาต่อไปเพื่อไปสู่เป้าหมายใหญ่คือ Crawford Starrick  ... เข้าไปที่จุดภารกิจหลักของเนื้อเรื่องที่คลังสินค้าในเขต Southwark Jacob จะเข้ามาที่คลังเก็บยา “Soothing Syrup” ก่อนส่งจำหน่ายที่ต่อไป ในขณะที่ลุง Darwin แอบเข้ามาด้อมๆมองๆเพื่อหาข้อมูลก่อนแล้ว ท่ามกลางการตรวจตราอย่างหนักของศัตรูเพราะมันรู้ว่าคลังแห่งนี้อาจเป็นที่ต้องไปที่ Jacob จะเข้ามาทำลาย   

ตึก Crawford Starrick Company 
-ด้านหน้าทางเข้าจะเต็มไปด้วยการป้องกันของพวกศัตรูมากมาย ตัวช่วยก็มีถังที่แขวนอยู่ด้านหน้าประตูและตรงหน้าตึกและพวก Rooks อีกกลุ่มทางซ้ายที่สามารถเรียกมาช่วยสร้างความปั่นป่วนได้ จัดการศัตรูให้หมดแล้วเข้าไปเปิดประตูลุง Darwin ก็จะแสดงตัวออกมา เขาพยายามเข้ามาที่นี่เพราะรู้สึกว่ายา “Soothing Syrup” น่าจะเป็นแค่ฉากหน้า Starrick น่าจะกำลังปิดบังบางสิ่งที่ยิ่งใหญ่กว่าอยู่ทั้งคู่จึงเข้าไปสำรวจด้านในโกดังด้วยกัน
- ในโกดังลุง Darwin ตรวจพบ Datura Stramonium ส่วนประกอบจากดอกไม้ชนิดนึงที่ทำให้เกิดการง่วงซึมผสมเพิ่มในยา  “Soothing Syrup” ที่เขาช่วยคิดค้น ทำให้มันไม่ต่างจากยากล่อมประสาทไปแล้ว ก่อนที่ลุง Darwin จะพบถังขนาดใหญ่ที่บรรจุแก็สหลอนประสาทจำนวนมากบรรจุอยู่ ลุง Darwin จะเข้าไปเปิดวาล์วทันทีจนหม้อต้มกำลังเกิดการระเบิด แต่จะมี หม้อต้มตามชั้นต่างๆด้านบนอีกมากมายที่ Jacob ต้องลอบขึ้นไปหมุนวาล์วให้หมดจนถึงคันโยกสวิตซ์ชั้นบนสุดที่ต้องสับให้หม้อต้มเกิดการระเบิดพร้อมๆกัน ซึ่งถ้าจะเก็บ Challenge ก็ต้องลอบไปหมุนวาล์วทุกอันจนถึงด้านบนโดยไม่ฆ่าศัตรูเลยเพื่อให้พวกมันถูกแก็สตายแทนตามเงื่อนไข ก่อนจะปีนขึ้นไปที่กระจกหน้าต่างด้านบนเพื่อโดดหนีออกมา

หลังจบภารกิจลุง Darwin จะเข้ามาแสดงความชื่นชมและแนะนำตัวอย่างเป็นทางการว่าแกชื่อ Charles Darwin !




Charles Darwin – ดีมากหนุ่มน้อย ทำได้ดีมาก ผมชื่อ Charles Darwin ยินดีที่ได้รู้จักอย่างเป็นทางการนะพ่อหนุ่ม
Jacob – Jacob Frye ครับ ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกัน 
Charles Darwin – เธอคงยุ่งมากสินะที่ต้องตามทำลายของพวกนี้ เอ้านี่ ผมเจอสมุดนี่ มันบอกถึงของทุกอย่างที่ถูกส่งออกมาจากโรงพยาบาลบ้านั่น  
Jacob – เยี่ยมเลยครับ ผมจะได้ไม่ต้องไปตะเวณหาเป็นชั่วโมงๆอีกแล้ว จะระเบิดทึ้งให้เกลี้ยงเล้ย 
Charles Darwin – เดี๋ยว ! อย่าทำอะไรลวกๆพอหนุ่ม อย่าลืมว่าใน Lambeth มีชาวเมืองที่ไม่เกี่ยวข้องจะได้รับผลกระทบจำนวนมากนะ ไม่ใช่ทุกปัญหาจะสามารถระเบิดมันทิ้งไปซะทุกครั้ง บางครั้งความสุขุมรอบครอบก็สำคัญในการทำงานนะ ผมต้องไปก่อนนะสายแล้ว อ่อ  ผมจะไปเจอคุณอีกทีที่โรงพยาบาลบ้าเพื่อการสืบสวนครั้งต่อไปของเรานะพ่อหนุ่ม 




อีกหนึ่งบุคคลสำคัญในระวัติศาสตร์ของอังกฤษที่ได้โลดแล่นในความเป็นจริงทิ่บิดเบี้ยวใน Assassin’s creed Syndicate ก็คือ Charles Darwin นักวิทยาศาสตร์ผู้ทรงอิทธิพลที่สุดในประวัติศาสตร์มนุษยชาติเจ้าของทฤษฎีวิวัฒนาการสมัยใหม่ จากการได้เดินทางรอบโลกไปกับเรือบีเกิลของรัฐบาลอังกฤษเพื่อศึกษาชนิดของพืชและสัตว์ต่าง ๆ ที่พบใน หมู่เกาะกาลาปากอสที่มีความหลากหลายทางพันธุกรรมมากที่สุดในมหาสมุทรแปซิฟิกถึงเวลา 5 ปี งานของเขาได้ทำลายทุกความเชื่อที่มีมาเกี่ยวกับสิ่งมีชีวิตทั้งทางความเชื่อในตัวบุคคลที่เล่าต่อกันมาและความเชื่อทางศาสนาที่เชื่อว่าพระเจ้าเป็นผู้สร้างมนุษย์ เขาเผยแพร่ทฤษีเปลี่ยนโลกตอนปี 1858 – 1871 นำเสนอแนวคิดตามความเป็นจริงจากการศึกษาอย่างหนัก แต่ผลงานของเขาก็ถูกตรวจสอบ ตำหนิวิพากษ์ เย้ยหยัน จากฝ่ายที่เคร่งศาสนาทั้งนักบวชนักเทศน์และแม้กระทั่งนักวิทยาศาสตร์ที่เชื่อในพระเจ้าก็ต่อต้านต่อสู้คัดค้านทุกอย่างที่มาจากทฤษฎีวิวัฒนาการ ทุกเรื่องที่เขาพูด ทุกเรื่องที่ออกมาจากนักวิทยาศาสตร์หรือใครก็ตามที่เห็นด้วยกับ Darwin ว่าเป็นพวกที่ไม่เชื่อในพระเจ้า ไม่เชื่อว่ามีพระเจ้า และท้ายสุดก็พิพากษาว่าเป็นทษฎีที่ผิด ไม่ควรเชื่อและทำตาม และการต่อสู้ระหว่างความเชื่อและศัทธราทางศาสานากับทษฎีที่อ้างตามข้อเท็จจริงทางวิทยาศาสตร์ยังคงถกเถียงละไม่ยอมรับซึ่งกันและกันมาตลอดเกือบ 200 ปีหลังจาก Darwin เสียชีวิตในปี ค.ศ. 1882 

Cr.- ข้อมูลประกอบความคิด 
https://th.wikipedia.org/wiki/ชาลส์_ดาร์วิน
https://blog.eduzones.com/hunny/3806
บทความของคุณ สมเกียรติ อ่อนวิมล จากคอลัมน์ The World Turns, นิตยสาร Esquire เรื่อง Karl Marx และ The Communist Manifesto กันยายน 2013 




                                                      SEQUENCE 05

                                            THE PERILS OF BUSINESS 

Dr. Elliotson ผู้คิดค้นสูตรยา “Soothing Syrup” ตาแหล่งผลิตยาสารพัดโรคของ Starrick ถูกถอนรากถอนโคน ส่งผลกระทบอย่างหนักกับบริษัทสาขาย่อยในธุรกิจของ Starrick จะถูกปิดตัวจนหมด ผลงานของ Jacob Frye ทำให้ธุรกิจของ Starrick เหลือแค่ธุรกิจขนส่งในลอนดอนเท่านั้น ในขณะที่การแย่งชิง “Shroud of Eden” ยังคงดำเนินต่อไป ซึ่ง Evie Frye ก็หวังแต่เพียงว่าเธอจะคว้ามันมาได้ก่อน Lucy Thorne ศัตรูของเธอ 

Green -เนื่องจากรายได้ที่ขาดไปทำให้การจ่ายหนี้สินเพื่อเช่าทางรถไฟของ Starrick นั้นไม่เพียงพอ มันจึงติดสินใจที่จะซื้อธุรกิจรถโดยสารเพิ่ม ผมเดาว่ามันคงต้องจะควบคุมพวกคนที่ทำงานในเมืองข้างเคียงให้อยู่ในมือมันด้วย และแน่นอนที่ Starrick ต้องเล่นงานบรรดาธุรกิจรถม้าที่เป็นคู่แข่งของมันจนต้องยอมตกอยู่ในการครอบงำของมันจนหมดแน่นอน ซึ่งตอนนี้เหลือแค่บริษัทเดินรถ Attaway เท่านั้นที่ยังแข็งข้ออยู่ 
Jacob – ถ้างั้น Pearl Attaway เธอก็เป็นคู่แข่งคนสำคัญของ Starrick เลยละสิ แหม ถึงเวลาที่ผมต้องลองเป็นนักธุรกิจด้านนี้บ้างแล้ว 
Green – แล้ว Evie ละคุณมีแผนยังไงบ้าง ?
Evie – ชั้นลองศึกษาประวัติศาสาตร์ต่างๆที่ได้มาจากบันทึกในห้องลับที่บ้าน Kenway แล้วคิดว่าคงไม่พลาดแน่นอน 


                                        FRIENDLY COMPETITION 


** CHALLENGES**
-ช่วยรถม้าลูกจ้างของ Attaway จากการถูกไล่ล่าระหว่างที่ขับรถม้าไปฆ่าเป้าหมาย  

**รางวัล ** 
-เงิน 660
-EXP 350
Full Synch Bonus
-เงิน 125
-EXP 150
-มีด Bold Eagle Kukris  

ทันทีที่ Starrick หันมาลุยธุรกิจเดินรถ Pearl Attaway คู่แข่งคนสำคัญก็ถูกโจมตีทันทีโดยผ่านบริษัทคู่ค้า Malcolm Millner Jacob จึงไม่รอช้าที่จะรีบเข้าไปสานไมตรีกับ Attaway ทันทีตามคติศัตรูของศัตรูข้าคือมิตรข้าฉันท์นั้น 



Jacob – คุณ Attaway ใช่มั๊ยครับ
Pearl Attaway – ใช่ค่ะ มีอะไร อ่อ เยี่ยม คุณคงมาเพื่อฆ่าชั้นสินะ แน่นอนทุกคนมีค่าหัวเสมอ แค่นี้พอมั๊ย 
Jacob – ผม อะไรนะ ? ผมไม่ได้มาฆ่าคุณ Starrick และบริษัท Millner มันขัดขวางธุรกิจคุณมานานพอแล้ว ผมมีแผนทางธุรกิจบางอย่างมานำเสนอ 
Pearl Attaway – งั้นก็เยี่ยมเลย ตามชั้นมา เรามีเรื่องต้องคุยกันหน่อย คุณ ...
Jacob – ผม Jacob Frye ยินดีรับใช้ครับ 

-ขับรถม้าพา Attaway ไปที่จุดหมายสีเขียวคือจุดของลูกจ้างคนนึงของบริษัท Millner จนพบรถม้าของมัน จากนั้นก็ขับรถม้าไล่ล่าจัดการมันซะ ระห่วางทางจะเห็นรถม้าลูกจ้างของ Attaway โดนก่อกวนด้วย จัดการรถม้าศัตรูช่วยเขาซะเพื่อเอา Challenge  จัดการเป้าหมายได้แล้ว เดินทางต่อไปยังเป้าหมายสีเขียวต่อไปที่ สถานีรถม้าของบริษัท Millner
- เมื่อมาถึง สถานีรถม้าของบริษัท Millner ที่เขต Southwark จะพบ Malcolm Millner กำลังยุ่งกับการเตรียมระเบิดไว้ขัดขวางการเดินรถของ Attaway ตามคำสั่งของ Starrick พอดี Attaway จึงปล่อยให้เป็นหน้าที่ของ Jacob ที่จะจัดการใช้แผนระเบิดนั้นคืนสนองกับ  Millner ให้สาสมกับการที่เป็นหุ่นเชิดของ Starrick ที่เสนอหน้ามาเล่นงานเธอ เข้ามาในเขตสถานีรถม้าของบริษัท Millnerแล้ว ใช้ Eagle Vision มองหารถขนระเบิดเป้าหมายที่เป็นสีเหลืองให้เจอ รอบๆรถจะเต็มไปด้วยศัตรูเต็มไปหมด แต่พวกมันจะอยู่รอบๆถังไฟที่สามารถยิงลูกดอกบ้าคลั่งให้พวกมันตีกันเองได้ จากนั้นก็เข้าไปดันรถขนระเบิดไปตรงที่จอดรถม้าของบริษัท จุดระเบิดแล้วรีบหนีออกมานอกพื้นที่ให้ทัน

 ระเบิดที่ดังสนั่นก็จะเสมือนเป็นดอกไม้ไฟที่เป็นของกำนัลให้กับ Attaway จนเธอพอใจอย่างมากจนอยากจะทำธุรกิจกับ Jacob ในครั้งๆต่อไปทั้งที่ Jacob หวังไว้แค่อยากช่วยเพื่อทำตามแผนซื้อใจเธอแค่ครั้งเดียว  



                             RESEARCH AND DEVELOPMENT 


** CHALLENGES**
-ช่วย Ned Wynert ที่ถูกจับโดยไม่ฆ่าตำรวจบนรถม้า 
-ปลดโบกี้บรรทุกกำลังเสริมของรถไฟ  2 โบกี้  

**รางวัล ** 
-เงิน 660
-EXP 350
Full Synch Bonus
-เงิน 125
-EXP 150
- ไม้เท้า Sir Lemay’s Cane  

Jacob เดินทางเข้ามาหา Pearl Attaway อีกครั้งทันหลังจากที่สร้างความประทับใจให้กับเธอไปในภารกิจแรก และดูเหมือน Attaway จะไม่ยอมให้งานทำลายบริษัท Millner จบลงกลางคันก่อนพวกศัตรูมันจะพังไปข้างแน่นอน 

-เดินทางไปที่จุดรับภารกิจหลัก (รูปJacob) คือที่รถม้าของ Attaway ในเขต Southwark


Attaway – คุณ Frye ชั้นเตือนแล้วไม่ใช่หรอเรื่องการนัดพบกันของเรา 
Jacob – พอดีตารางงานมันว่างพอดีน่ะ 
Attaway – โชคดีที่หาชั้นเจอนะ คุณเป็นคนมีโชคเสมอชั้นถึงชอบคุณไง อ่ะนี่รายละเอียดของงาน
Jacob – เครื่องจักรไอน้ำ (The Internal Combustion Engine) หรอ ?  
Attaway – มันเป็น 8 พยางค์ที่จะทำเงินให้เรามหาศาลเลยละ เครื่องยนต์ที่ว่าจะส่งมาทางรถไฟถึง Millner วันนี้ คุณช่วยทำให้ชั้นมั่นใจหน่อยว่า Millner จะไม่ได้รับเครื่องยนต์นั่น 
Jacob – อืมม ดูเหมือนผมต้องหารถไฟอีกขบวนมาลากเจ้าสิ่งนี้นะ แต่ก็พอจะรู้จักคนที่ช่วยได้อยู่เหมือนกัน 
Attaway – ข้อตกลงเรายังเหมือนเดิมใช่มั๊ย คุณ Frye
Jacob – ผมมันคนดวงดีคุณถึงชอบผม จำไม่ได้หรอ คุณ Attaway 

-แน่นอนว่าถ้าเป็นอะไรที่เกี่ยวกับการขนส่งที่ไม่เลือกวิธีและเป้าหมายคนที่จะช่วยได้ที่อยู่ในใจ Jacob ก็คงไม่ใช่ใครนอกจาก Ned Wynert นั่นเอง จากนั้นเดินทางมาที่จุดหมายสีเขียวจะพบว่า Ned กำลังถูกตำรวจจับอยู่ ใช้ Eagle Vision มองดูจะพบ Ned อยู่ในรถม้าของตำรวจแล้ว เป้าหมายคือหาทางช่วยเหลือเขาออกมา ซึ่งถ้าจะเก็บ Challenge โดยการช่วย Ned โดยไม่ต้องฆ่าตำรวจที่ขับรถม้า ก็ต้องพยายามตามจากด้านหลังแล้ววิ่งเข้าไปสำรวจประตูรถม้าเอา



Ned Wynert – ฮ่าๆ คุณต้องการอะไร คุณ Frye
Jacob – อะไรทำให้คุณแน่ใจว่าผมจะต้องการอะไร คิดว่าผมมาช่วยด้วยความจริงใจไม่ได้รึไง ฮ่าๆ มาเหอะเดี๋ยวจะบอกรายละเอียดของงานให้ฟัง 

-จากนั้น Ned จะพา Jacob และพวกขึ้นรถไฟของเขาแล้วแล่นเข้าไปขนาบข้างรถไฟของ Millner พอใกล้พอได้ที่แล้วก็โดดไปเกาะขึ้นโบกี้รถไฟมันได้เลย สำรวจหากล่องสินค้าบนโบกี้แต่ละโบกี้ให้หมด อย่าลืมทำลายตัวเชื่อมขบวนเพื่อ ปลดโบกี้บรรทุกกำลังเสริมของรถไฟออก 2 โบกี้ด้วยเพื่อเก็บเงื่อนไข Challenge (ปลดมันทุกโบกี้เลยก็ดี) ค้นหาตามกล่องสินค้าไปจนเจอที่โบกี้แรกของชบวนแล้วจัดการปลดโบกี้ออกแล้วโดดกลับไปหา Ned เพื่อตรวจสอบสินค้าได้เลย


Jacob – โว้ นี่หรอ เครื่องจักรไอน้ำ นี่เรากำลังเข้าสู่ยุคอนาคตที่หมดสมัยของรถม้าแล้วใช่มั๊ยเนี้ย   
Ned Wynert – คุณเคยคิดถึงค่าโดยสารในอนาคตไว้หรือเปล่าละ 
Jacob – เปล่าเราไม่ได้จะขายมันหรอกนะ 
Ned Wynert – คุณจะเซ็นสัญญาทำธุรกิจเองเลยหรอ
Jacob – เป็นคุณก็ทำว่ามั๊ยละ ?
Ned Wynert – แล้ว Pearl Attaway นี่ใคร คุณทำงานกับเธอนานรึยัง ? 
Jacob – หุ้นส่วนทางธุรกิจนะ คุณรู้แค่นี้ก็พอ

** จุด C ในแผนที่คือภารกิจ Charles Dickens’ Memories ซึ่งก็คือการเข้าไปช่วย Charles Dickens ไขคดีบ้านผีสิงให้กับชมรมเรื่องเหนือธรรมชาติ Ghost Club ของเขา **



                                                  BREAKING NEWS


** CHALLENGES**
-ใช้ระเบิด Voltaic Bomb ปาใส่ศัตรู 2 คนที่ทางเข้าสถานีโทรเลข  

**รางวัล ** 
-เงิน 800
-EXP 1250
Full Synch Bonus
-เงิน 100
-EXP 125
-ระเบิด Voltaic Bomb 

เข้ามารับภารกิจที่จุด B ในแผนที่ Jacob และ Evie เข้ามาช่วยงาน Alexander Graham bell ที่กำลังหาทางต่อสู้กับขบวนการครอบงำสื่อและบิดเบือนข่าวของ Starrick


Bell – อ้าวคุณ Jacob คุณ Evie โชคดีจังที่เจอคุณ
Evie – มีอะไรให้เราช่วยทดลอบหรอคะ Aleck ?
Bell – โอ้ แน่นอน กำลังหงุดหงิดเลยละ บอกเลยว่า Starrick มันโง่มากที่ยังส่งมาเจรจาเกลี่ยกล่อมผมไม่เลิก คราวนี้เอาเงินมาล่อผม เป็นข้อเสนอที่ตลกมาก  
Jacob – หวังว่าคุณคงไม่มีแผนให้เราช่วยพาโดดหนีลงเรือหรอกนะ
Bell – เปล่า ผมกำลังจะหาหลักฐานเอาไว้ยืนยันมากกว่า นี่ๆ ผมมีสิ่งประดิษฐใหม่ ระเบิดที่จะทำให้เกิดการมึนงง  
Evie – คิดว่าแผนนี้จะเวิร์คหรอ ?
 Bell – แน่นอนผมสามารถทำให้พวกมันมึนงงได้ครั้งละ 3 คนเลยนะ 
Jacob – งั้นเราไปหาคนของ Starrick กันเลยดีมั๊ย 
Bell – พูดถึง Starrick มันก็ยังโฆษณาด้วยข้อมูลที่ไม่เป็นความจริงไปทั่วเมืองเหมือนเดิม 
Evie – เราคงต้องทำลายการกระจายข่าวลวงโลกของมันซะทีแล้ว
Bell – พวกการ์ดของมันก็มีไม่น้อยนะ แต่ Voltaic Bomb ของผมช่วยได้ มันจะทำให้พวกมันช้าและมึนงงได้นะ นั่นไงพูดถึงพวกมันก็มาพอดี พวกคุณขึ้นไปบนหลังคาแล้วรอจังหวะให้ผมพูดประโยคที่ลงท้ายด้วยผลไม้ออกมาก็ค่อยขว้างระเบิดลงมานะ อ่อๆ นี่ เอาพื้นยางใส่ใต้รองเท้าคุณด้วยมันกันไฟช็อตได้ดีมากๆ  

-จากนั้นขึ้นไปที่จุดหมายสีเชียวบนหลังคาแล้วรอฟัง bell เข้าไปคุยกับพวกลูกน้องของ Starrick แล้วรอให้เขาพูดลงท้ายที่เป็นผลไม้อย่าง Pear , Apple และ Plum ปา 3 ครั้ง 3 จุดแล้วโดดลงไปจัดการ ลูกน้องของ Starrick ซะ ก่อนที่ทั้ง 3 จะร่วมเดินทางไปทำลายเครือข่ายสื่อโฆษณาลวงโลกของ Starrick ให้หมดตามที่ตกลงกันไว้ต่อ
-ขับรถม้าพา Bell ไปที่สถานีโทรเลขของ Starrick ที่เป้าหมายสีเขียวในแผนที่ในเขต Southwark ลอบเข้าไปที่ทางเข้าจะพบศัตรู 2 คน จัดการมันซะ ใช้ระเบิด Voltaic Bomb ปาใส่ศัตรู 2 คนที่ทางเข้าสถานีโทรเลขก่อนเพื่อเก็บ Challenge แล้วคุ้มกัน Bell เข้าไปด้านใน จัดการศัตรูที่ออกมารอให้เขาทำลายสื่อโฆษณาด้านในให้หมด แล้วทั้งหมดก็จะหนีกลับไปยังห้องทดลองของ Bell อย่างปลอดภัย



Bell – คุณ Jacob คุณ Evie เพื่อนที่น่ารักของผมขอบคุณอีกครั้งที่มาช่วยงานผมจนสำเร็จอีกครั้งแล้ว เพื่อเป้าหมายของพวกเรา เสรีภาพในการสื่อสาร     
Evie – รู้สึกเป็นเกรียติมากกกว่าที่ได้เป็นลูกจ้างทำงานให้อัฉริยะแบบคุณนะ Aleck 
Jacob – ยังไงซะผมก็เสนอแนะให้ยกเลิกห้องทำงานของคุณซะด้วยมันอันตรายกับคุณเองด้วย   
  Bell – ยังๆ ยังไม่ใช่ตอนนี้ เพราะพวกคุณทำให้ผมมีความกล้ามากกว่าแต่ก่อนเยอะเลยรู้มั๊ย ยังไงผมก็จะปกป้องห้องทดลองและเครื่องไม้เครื่องมือที่ผมรักอย่างสุดกำลังแน่นอน เดี๋ยวผมไม่มีที่สร้างอุปกรณ์ดีๆให้ใช้แล้วจะเสียใจนะ ฮ่าๆ 


                                  SURVIVAL OF THE FITTEST 

** CHALLENGES**
-ระหว่างทำภารกิจข้ามแม่น้ำ Thames ไปที่ขบวนเรือสินค้าห้ามตกน้ำ
- วางระเบิดทำลายสินค้า 2 จุดให้ระเบิดพร้อมๆกัน

**รางวัล ** 
-เงิน 660
-EXP 350
Full Synch Bonus
-เงิน 125
-EXP 150
- Black Leather Gauntlet 

Jacob และ Pearl Attaway ใกล้ที่จะทำลายธุรกิจของ Millner ลงได้แล้ว เหลือแค่ภารกิจสุดท้ายที่ต้องทำ เดินทางไปที่จุดรับภารกิจหลัก (รูปJacob) คือที่รถม้าของ Attaway 



Pearl Attaway – Jacob ที่รักของชั้นมาตามสัญญาแล้ว มาดื่มกันก่อน 
Jacob – แด่ ผลกำไรที่งอกงามของหุ้นส่วน 
Pearl Attaway – มาคุยเรื่องงานกันต่อ การที่เราป่วนการเดินรถของมันจนเป็นง่อยตอนนี้ Millner เปลี่ยนเส้นทางลำเลียงสินค้าของมันไปทางเรือแทนแล้ว 
Jacob – ให้เดานะ เพราะกลัวตายใช่มั๊ย 
Pearl Attaway – บังเอิญเป็นสิ่งเดียวกันเลยที่ชั้นจะมอบให้มัน … ไปฆ่ามันซะ !! 
Jacob – แสดงว่าซัดไปหลายแก้วแล้วสิครับเนี้ย 
Pearl Attaway – ผลของความสำเร็จทำให้ชั้นมีความสุขมากกว่าผลของแอลกอฮออีก คุณ Frye
Jacob – งั้นฝากแก้วผมไว้แปบนะ เดี๋ยวกลับมาค่อยฉลองกัน 

-ลงจากรถม้าแล้วลอบเข้าไปที่เรือขนเถื่อนของ Millner ที่จอดอยู่ที่อีกฝั่งของแม่น้ำ Thames ด้วยการเกาะไปตามเรือที่แล่นไปมาจนข้ามไปที่เรือที่จอดอยู่อีกฝั่งได้ ถ้าจะเก็บ Challenge ก็ต้องโดดไปโดยห้ามตกน้ำด้วย เมื่อมาถึงจะพบพวกศัตรูกำลังขนสินค้าลงเรืออยู่ จะมีจุดวางระเบิดสีเหลืองชึ้นมา 3 จุดที่ต้องไปเอากล่องระเบิดแถวๆนั้นไปวางที่จุดของกล่องสินค้าทั้ง 3 จุดแล้วจุดชนวนทำลายมันให้หมด
-ถ้าจะเก็บ Challenge วางระเบิดทำลายสินค้า 2 จุดแรกให้ระเบิดพร้อมๆกันก่อนจากนั้นค่อยไปวางระเบิดจุดที่ 3  หลังจากระเบิดสินค้าหมดแล้ว Malcolm Millner จะออกมาโวยวายอยู่อีกฝั่ง หาทางเข้าไปลอบสังการมันได้เลย รอบๆท่าเรือที่ Millner มันเดินไปมาอยู่มีลูกสมุนมันมากมาย ตัวช่วยที่ดีที่สุดคือระเบิดควันหรือ ระเบิด Voltaic Bomb เพื่อช็อตมันเป็นกลุ่มจากด้านบนหลังคาก็จะทำให้เข้าไปถึงตัว Millner และสังหารมันง่ายขึ้น



Malcolm Millner – ผมกะแล้วว่าวันนี้ต้องมาถึง คุณ Starrick โกรธมากตั้งแต่เราเสียเครื่องยนต์นั่นไปแล้ว ผมโดนเขาเก็บแบบนี้ก็สมควรแล้ว  
Jacob - Pearl Attaway ส่งผมมาไม่ใช่ Starrick
Malcolm Millner – งั้นก็แปลว่าทั้งคู่ร่วมงานกันอีกแล้ว ครอบครัวกันอยู่แล้วนี่ ผมไม่ควรเชื่อใจ ยัย Attaway กับ Starrick เลยจริงๆ แล้วก็หวังว่าทั้งคู่จะร่วมหัวจมท้ายไปด้วยกันจนถึงตอนจบนะ 
Jacob – ครอบครัว ? แกหมายถึงอะไร ? เดี๋ยว ! อย่าเพิ่งตาย ไอ้บ้าเอ๊ย !!

-จากนั้นเดินทางไปที่จุดหมายสีเขียว Jacob จะเข้าไปหา Pearl Attaway ที่โกดังสินค้าแห่งนึงในลอนดอน

Jacob ได้ยินเสียงของ Attaway คุยกับชายคนนึงถึงเรื่องความสำเร็จที่สามารถคุมกิจการขนส่งทั้งหมดของลอนดอนเอาไว้ได้ทั้งหมดหลังจาก Malcolm Millner ถูกกำจัด ทั้งเครื่องข่ายธุรกิจรวมถึงเครื่องจักรไอน้ำล่าสุด Attaway เหมาเอาไว้คนเดียวหมด ดูเหมือน Jacob จะเริ่มรู้ตัวแล้วว่าเขาโดน Attaway หลอกใช้เมื่อเข้าไปแอบฟังจนเห็นคู่สนทนาของ Attaway นั้นคือ Starrick ! 



Pearl Attaway – ขนาดนี้คุณยังไม่พอใจอีกหรอพี่ชาย  เครื่องจักรไอน้ำคุณก็ได้กลับมาแล้ว มันจะทำเงินให้มหาศาลไม่รู้ตัวหรอ 
Starrick – เดี๋ยวชั้นต้องกลับไปที่โรงงานเพื่อเอาเครื่องยนต์นั้นไปปรับปรุงเพื่อใช้ในงานขนส่งของชั้นต่อ ชั้นต้องการให้เราไปคุยกันเป็นการส่วนตัวอีกครั้งที่ Waterloo และห้ามให้เกิดมีอะไรผิดผลาดด้วย 
Pearl Attaway – แน่นอน ขอให้พระบิดาผู้รู้แจ้งนำทางเรา 
Starrick – เพื่อวันนี้และอนาคตของพวกเรา จงพยายามต่อไป น้องพี่ 
Jacob – Waterloo หรอ จัดไป ! 



                                            A ROOM WITH A VIEW 


** CHALLENGES**
-ใช่ท่า Leap of Faith พุ่งลงไปในกองฟางในขณะอยู่บนลวดสลิง 
-เค๊าท์เตอร์การโจมตีของ Lucy ได้ทั้งหมด 

**รางวัล ** 
-เงิน 900
-EXP 500
Full Synch Bonus
-เงิน 125
-EXP 150
- ชุด Lady Melyne’s Gown 

ทางด้าน Evie เบาะแสและคำบอกใบ้ที่เธอได้มาทั้งหมดก็สามารถสร้างภาพรวมในการตามหา“Piece of Eden” ชัดเจนและใกล้เคียงความจริงมากขึ้น   

-เดินทางมารับภารกิจ(รูป Evie) ในแผนที่บนหลังคาตึกแห่งหนึ่งที่เบื้องล่างคือกลุ่มคนมากมายที่กำลังประท้วงอยู่ที่หน้าอนุสาวรีย์ที่มีตำรวจมาคุมสถานการณ์โดยรอบพื้นที่อยู่ด้วย




        

Jacob – สรุปว่าเบาะแสทั้งหมดที่ได้มาจากบ้านของ Kemway คือที่อนุสาวรีย์เนี้ยนะ ?
Evie – มันคงจะเป็นอะไรที่ดีมากเลยนะ ถ้านายจะตามชั้นมาโดยไม่ต้องอ้าปากถามคำถามงี่เง่าอยู่ตลอด 
 Jacob – แหม Henry ก็ไม่ได้มาด้วยซะหน่อย ชั้นก็นึกว่าเธอจะมาสนุกกับเรื่องของพวกเราบ้าง 
Evie – ตอนนี้ชั้นไม่มีเวลามายุ่งอะไรกับแก็งค์นายหรอกนะ คุณกรีนเขาก็ช่วยแยกไปสืบหาเบาะอื่นด้วย
Jacob – โอ้ใช่ คุณกรีน เป็นความคิดที่ดีมากเลยนะค่ะ ได้โปรดคุณกรีน เข้ามาดูหนังสือนี้ใกล้ๆชั้นหน่อยสิคะ 
Evie – ชั้นไม่ได้ ! …. ช่างเถอะ นายมันก็แค่คนที่ไม่มีอะไรจะทำ แต่ชั้นนะกำลังยุ่งเรื่องหาทางปกป้องภาคีเราอยู่นะ 
Jacob – เอาจิงดิ จำได้มั๊ยท่านพ่อเคยพูดว่าไง ? 
Evie – “อย่าเอาเรื่องส่วนตัวมาปนกับเรื่องงาน” 
Jacob – ถูกต้องนะคร๊าบ ! งานนี้ชั้นขอบายนะ ..แต่ถ้าเกิดชั้นเจออะไรก็ตามที่เธอกำลังล่ามันอยู่ละก็จะจับมันไว้ให้แล้วกันนะจ๊ะ  

-จากนั้นเป้าหมายที่ต้องเข้าไปสำรวจคือพนังด้านล่างของเสาหินด้านใต้ของเวที ซึ่งภายในพื้นที่จะมีชาวบ้านกำลังประท้วงอยู่และมีตำรวจคอยดูแลเหตุการณ์อยู่รอบๆ ซึ่งแม้ว่าตำรวจจะไม่ใช่ศัตรูหลักของ Evie แต่พวกตำรวจก็จะโจมตีใส่ทันที่เข้าใกล้ ซึ่งสามารถเรียกใช้พวก The Rooks ที่ยืนอยู่แถวฝูงชนให้เข้าไปโจมตีพวกตำรวจเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจได้ จากนั้นก็เข้าไปด้านใต้ของเวทีจะพบที่ใส่เอมเบลม ใส่แล้วด้านบนยอดของเสาหินจะมีช่องใส่เอมเบลมอีกช่องเปิดออกมา โหนตัวขึ้นไปบนยอดเสาเพื่อใส่เอมเบลมอีกจุด Evie ก็จะเห็นตำแหน่งใหม่ที่ต้องไปสำรวจซึ่งก็คือวิหาร St.Paul ที่อยู่ไกลออกมาไปจากเสาหินนี้


 - ใช้สลิงโหนต่อไปจนถึงวิหาร St.Paul สำรวจที่หลังรูปปั้นเป้าหมายเพื่อใส่เอมเบลมเข้าไปปริศนากลไกก็จะเปิดออกมา จากนั้นก็แก้ปริศนากลไกด้วยการหมุนเฟืองแต่ละเฟืองให้อักขระบนเฟืองที่เหมือนกันตรงกันก็จะทำให้ประตูลับด้านบนของวิหารเปิดออกได้ ปีนขึ้นไปเข้าไปในห้องลับบนยอดวิหาร Evie จะพบสร้อยหินโบราณถูกเก็บอยู่ที่นี่ แต่ในขณะที่เธอกำลังเอามันมาคล้องคอด้วยความตื่นเต้นและดีใจ Lucy Thorne ที่แอบตามมาก็ปรากฏตัวออกมาทันที




Lucy Thorne – สวัสดีคุณ Frye ใจตรงกันเลยชั้นก็กำลังมาเอามันไปเหมือนกันเลย 
Evie – เธอนะต้องการพลังของ “Shroud of Eden” มาเป็นของตัวเอง แต่คิดมั๊ยว่าจะควบคุมมันยังไง ? 
Lucy Thorne – แล้วทำไมเธอถึงต้องการมันนักถึงขนาดต้องพยายามมาแย่งจากเราละ? ภาคีนักฆ่าก็ต้องการพลังของมันเหมือนกัน ที่ผ่านมาพวกเจ้าก็เคยพยายามจะครอบครองพลังแห่งชีวิตนิรันดร แต่ก็กลับกล้าๆกลัวๆที่จะใช้มัน 
Evie – ชีวิตนิรันดร? เธอคิดว่าจะได้มันจาก “Shroud of Eden” หยั่งงั้นหรอ ?
Lucy Thorne – ชั้นจะคิดยังไงก็ไม่ใช่เรื่องที่เธอต้องกังวลหรอก !! 


-จากนั้น Evie และ Lucy จะเริ่มเปิดฉากต่อสู้กันทันที คอมโบด้วยมีดสั้นในมือของ Lucy Thorne ไม่มีทางสร้างความลำบากให้ Evie ได้แน่นอน แถมมันยังบาดเจ็บหนักเมื่อเจอการปามีดสั้นด้วย หลังจากจัดการมันได้ Lucy จะพุ่งเข้าใส่กระจกหน้าต่างเพื่อพยายามหนีไปพร้อมกับสร้อยหินโบราณที่มือเธอกำลังกระชากจากคอของ Evie จนหลุดติดมือของ Lucy ไปได้พร้อมคำอำลา “ไปด้วยกันมั๊ย” ของยัย Lucy ที่ทำให้ Evie ทำได้แค่ยืนมองจากเศษซากของหน้าต่างที่แตกด้วยความแค้น




                                         THE LADY OF THE LAMP


** CHALLENGES**
-ขโมยไอเทมจากพ่อค้าเร่โดยห้ามฆ่ามัน
-ตามไปชิงเอารถม้าบรรทุกยาจากศัตรูที่ขโมยไปให้ได้ภายใน 1 นาที 

**รางวัล ** 
-เงิน 500
-EXP 300
Full Synch Bonus
-เงิน 125
-EXP 150
-Medicine Efficacy II 

แผน 2 ของ Evie หลังจากพลาดท่าเสียสร้อยหินโบราณให้กับ Lucy ไป เธอตัดสินใจกลับมาที่โรงพยาบาลบ้าที่ Lembeth อีกครั้งหลังจากที่ Dr. Elliotson ผ.อ โรงพยาบาลและผู้คิดค้นสูตรยา “Soothing Syrup” ให้กับ Starrick ได้ถูก Jacob ฆ่าไปแล้ว เดินทางไปที่จุดภารกิจหลัก(รูป Evie) ในเขต Lembeth ที่หน้าโรงพยาบาลจะพบกับ Clara O’dea หัวหน้ากลุ่มแก็งค์เด็กจรจัดอยู่ในท่าทางที่ดูไม่ดีนัก 



Clara – อ้าวพี่ Frye อะไรจะบังเอิญขนาดนี้ 
Evie –ไง Clara ชั้นกะจะเข้ามาตรวจดูในโรงพยาบาลหลังจากมันปิดไปน่ะ แล้วเธอมาที่นี่อีกทำไมละ ?
Clara – ก็เด็กๆในความดูแลของชั้นเกิดป่วยขึ้นมา ยาที่เรามีก็กินแล้วไม่ดีขึ้นก็เลย ... 
Evie – แน่ใจนะว่าเธอไม่เป็นอะไรน่ะ ?
Clara – แน่นอนสบายดีสิพี่ .....
Evie – เฮ้ Clara เป็นอะไร ! มีหมออยู่แถวนี้มั๊ย ! ใครก็ได้ช่วยหน่อยค่ะ
พยาบาล – ทางนี้ค่ะพาเข้ามาด้านในเลย ! อยู่ๆเธอก็ล้มลงไปเลยหรอ ?



Evie – ค่ะ เธอบอกว่าเธอป่วยแต่กินยาแล้วไม่หาย 
พยาบาล – มันก็ไม่แปลกหรอกค่ะ ก็ตั้งแต่ Dr. Elliotson ตายไป ที่นี่ก็ถูกบุกรุกยาเราถูกปล้นไปจนหมดแถมเขตนี้ก็เต็มไปด้วยยาปลอมที่ไม่มีคุณภาพมาหลอกขายด้วย อาการเธอไม่ค่อยดีนักจำเป็นต้องหายามารักษาให้เหมาะสมไม่งั้นเธอจะแย่ลงกว่านี้อีก !
Evie – คุณต้องการอะไรละ ?
พยาบาล – ทุกอย่าง ยาและเวชภัณฑ์ต่างๆที่ถูกพวกมันขโมยไปแล้วเอามาขายเลหลังอยู่ตอนนี้   
Evie – ได้ค่ะ ชั้นยินดีช่วยอย่างยิ่งเลย 
พยาบาล – นี่เป็นรายชื่อยาที่จำเป็นคะ คุณ เอ่อ ...
Evie – Frye ค่ะ Evie Frye
Nightingale – ดิฉันชื่อ ไนติงเกล ค่ะ ฟอร์เลนท์ ไนติงเกล ไม่รู้ว่าคุณจะช่วยยังไงนะแต่ถ้าจะช่วยก็ได้โปรดเร็วเลยค่ะ เราคงมีเวลาไม่มากแล้ว 

-จากนั้น Evie มีเวลา 8 นาทีที่จะควบรถม้าเดินทางไปที่จุดหมายเพื่อหาตัวพ่อค้าเร่ที่ตลาด ใช้ Eagle Vision มองหาตัวพ่อค้าเร่ที่อยู่ในตลาดให้เจอเข้าไปขโมยยามาจากมันแล้วเดินทางต่อไปยังจุดหมายต่อไปเพื่อหาตัวเภสัชกรที่กำลังโดนพวกนักเลงทำร้ายเพื่อจะปล้นเอายาไปขาย เข้าไปจัดการพวกโจรให้หมดเพื่อช่วยเภสัชกรเอาไว้ แล้วเขาจะบอกว่าเขาเป็นคนของ  Miss Nightingale กำลังคนยาใส่รถม้าไปให้ที่โรงพยาบาลแต่ไม่ทันคุยจบพวกโจรที่เหลือก็แอบขโมยขี่รถม้าไปต่อหน้าต่อตาจน Evie ต้องรีบตามไปชิงคืนมา ซึ่งถ้าจะเก็บ Challenge ด้วยก็ต้องไปชิงเอารถม้าบรรทุกยามาให้ได้ภายใน 1 นาทีด้วย หลังจากชิงรถม้าคืนได้แล้วก็ขับไปหา Miss Nightingale ที่โรงพยาบาลได้เลย    



Nightingale – โอ้ คุณกลับมาแล้ว นึกว่าจะนานกว่านี้ ได้ยาตามที่บอกหรือเปล่าคะ ?
Evie – ได้มาแล้วคะ แล้วอาการเธอเป็นไงบ้าง ?
Nightingale – เธอจะได้รับการรักษาจนหายแน่คะ
Clara – Babylon Alley เด็กๆที่นั่น !  
Nightingale – ขอบคุณนะคะคุณ Frye ตอนนี้พวกเราก็จะสามารถแจกจ่ายยาดีๆของจริงไปให้ไข้ที่ต้องการมันได้แล้ว
Evie – แล้วมันเป็นการแก้ปัญหาแบบถาวรหรือเปล่าคะ ?
Nightingale – ชั้นจะร้องเรียนไปถึงทางการให้ออกกฎระเบียบควบคุมเรื่องยาในเขตนี้ให้ดีขึ้นค่ะ
Evie – ทุกคนที่ Lembeth นี่เป็นหนี้บุญคุณอย่างมากเลยคะ 
Nightingale – ชั้นพยายามมาตลอดเพื่อจะเปลี่ยนที่นี่ให้ดีขึ้น ชั้นสัญญาว่าจะไม่หนีไปไหนแน่นอนค่ะคุณ  Frye



                                รู้ไว้ใช่ว่าใส่บ่าแบกหาม..  สุดุดีแด่  Lady of the Lamp 

  


บุคคลสำคัญทางประวัติศาสตร์อีกคนของอังกฤษนั่นก็คือ นางพยาบาลที่เปี่ยมไปด้วยการเสียสละและความเมตตาฉายา “สุภาพสตรีแห่งดวงประทีป” นั่นก็คือ มิสฟลอเรนซ์ ไนติงเกล จากหญิงสาวตระกูลผู้ดีของอิตาลีที่มีจิตใจโอบอ้อมอารี ชอบช่วยเหลือผู้อื่น และสนใจศึกษาหาความรู้ด้านวิชาพยาบาลอาชีพสำหรับคนการศึกษาน้อยและยากที่ขัดใจพ่อแม่ของเธอเป็นอย่างมาก จนต้องโนเบนเข็มทิศชีวิตใหม่เป็นอาชีพด้านการท่องเที่ยวแทน แต่การท่องเที่ยวตามประเทศต่างๆของยุโรปกลับทำให้ไนติงเกลได้เรียนรู้เรื่องระบบการพยาบาลของประเทศต่างๆได้มากขึ้นจนทำให้เธอตัดสินใจเรียนวิชาชีพพยาบาลแบบที่ครอบครัวก็ยั้งไม่อยู่ จนปี ค.ศ.1853 มิส ไนติงเกล มาทำงานอยู่ที่ประเทศอังกฤษ จากผู้ดูแลสถานพยาบาลจนถูกเลือกให้รับตำแหน่งผู้อำนวยการโรงเรียนพยาบาล King’s College และเมื่อเกิดสงครามไครเมียขึ้น การรบกันระหว่างรัสเซียกับอังกฤษ  แต่เหล่าบุรุษพยาบาลของอังกฤษที่มีหน้าที่ดูแลทหารบาดเจ็บกลับทำงานไม่มีประสิทธิภาพเท่ากับกองทัพรัสเซียที่มีแม่ชีทำหน้าที่พยาบาล รัฐบาลอังกฤษจึงได้ร้องขอให้ประชาชนเข้าช่วยเหลือ แน่นอน มิส ไนติงเกล ตัดสินใจอาสาเข้าช่วยเหลือพร้อมสตรีอาสาสมัครเป็นพยาบาลทหารอีกจำนวนหนึ่งเพื่อทำหน้าที่ดูแลทหารที่บาดเจ็บ การรักษาพยาบาลของเธอนั้นสามารถลดอัตราการตายของทหารที่บาดเจ็บลงมากมายจนเป็นที่พอใจของทั้งแพทย์และกองทัพเป็นอย่างมาก เมื่อสงครามไครเมียร์จบลง มิส ไนติงเกล กลับสู่อังกฤษอย่างวีรสตรีจากความเสียสละของเธอ ก็เป็นที่มาของฉายา“สุภาพสตรีแห่งดวงประทีป” (The Lady of the Lamp) ที่นักประพันธ์ได้ประพันธ์โคลงสรรเสริญความดีงามของเธอเอาไว้ โดยแทบไม่มีใครรู้เลยว่ามิส ไนติงเกล ปฏิบัติหน้าที่ทั้งที่โดนพิษไข้ไครเมียที่เธอติดมาตอนช่วงสงครามรุมเร้ามาโดยตลอด

Cr. 
https://www.gotoknow.org/posts/490616
http://www.sarakadee.com/2011/09/11/florence-nightingale/#sthash.piiGystr.dpu
https://th.wikipedia.org/wiki/ฟลอเรนซ์_ไนติงเกล





                                             END OF THE LINE 


** CHALLENGES**
-ปล่อยตัวนายสถานีรถไฟที่ถูกจับ
-ใช้ช่องทางลับ ที่อยู่ในโกดังเก็บของที่ชั้นล่างของสถานีผ่านไปยังท่อระบายน้ำจะมีบันไดขึ้นไปออกที่ท่อระบายน้ำข้างๆรถไฟได้ 

**รางวัล ** 
-เงิน 1980
-EXP 2500
Full Synch Bonus
-เงิน 125
-EXP 150
เข็มขัด Crossroad Belt  

Jacob เดินทางมายังสถานี Waterloo Station หลังจากได้ข้อมูลจากการแอบฟัง Pearl Attaway คุยกับ Starrick เพื่อมาชิงเครื่องจักรไอน้ำและทำลายใครก็ตามที่เปิดเผยตัววาเป็น Templar 

-เดินทางมาที่จุดรับภารกิจรูปหัวกะโหลก Jacob จะเข้ามาคุยกับ The Rooks  ลูกสมุนที่หาข่าวในพื้นที่
The Rooks  - หัวหน้า ! เครื่องจักรไอน้ำอยู่ที่นี่แล้วตอนนี้พวกลูกน้องของ Starrick กำลังเตรียมคนย้ายกันอยู่ Pearl Attaway มาถึงก็สั่งปิดพื้นที่ทั้งหมดแล้ว
Jacob - รวบรวมคนไปรอที่ Charing Cross เดี๋ยวชั้นจะส่งเครื่องจักรไอน้ำไปให้เอง !
-จากนั้นปีนขึ้นไปที่จุด Vantage Point ดูสถานการณ์ด้านบนสถานีรถไฟเพื่อประเมินถึงแผนการที่ต้องทำในภารกิจนี้


เป้าหมาย – สังหาร Pearl Attaway ที่นั่งอยู่ในรถไฟ 
ท่ามกลางสถานการณ์ที่รถไฟมาช้าจนผู้คนที่ใช้บริการเริ่มไม่พอใจจนส่อจะเกิดความวุ่นวาย ซึ่ง Jacob สามารถหาทางเลือกที่จะจัดการเป้าหมายได้ 2 วิธีคือ
1.Stealth opportunity (จุดสีเขียว)ตัวแปรคือหัวหน้าสถานีที่ถูกพวกของ Attaway จับตัวไปซ้อมเพื่อให้ปิดสถานีชั่วคราวเพื่อทำการขนส่งเครื่องจักร เข้าไปคุยกับพนักงานขายตั๋วที่กำลังตะโกนบอกผู้โดยสารว่ารถไฟเกิดความล่าช้าจนทำให้ไม่สามารถเดินทางไปยัง Central ได้ ถ้าเลือกทางนี้ก็ต้องเข้าไปจัดการศัตรูที่จับตัวหัวหน้าสถานีแล้วเข้าไปหยิบตารางเดินรถมาให้พนักงานขายตั๋ว เขาก็จะบอกผู้โดยสารทุกคนว่ารถพร้อมออกเดินทางแล้วทำให้ผู้โดยสารที่จะขึ้นรถไฟมากมายเดินไปขึ้นรถไฟทำให้สามารถปะปนไปกับผู้โดยสารเพื่อขึ้นไปบนรถไฟได้
2.Unique kill opportunity (จุดรูปกะโหลกสีแดง) – ตัวแปรคือ หัวหน้าทีมรักษาความปลอดภัยของสถานี ที่กำลังคุยถึงเรื่องจุดอ่อนในการดูแลรักษาความปลอดภัยให้ Attaway ถ้าเลือกทางนี้ Jacob จะต้องไปขโมยแบบแปลนรถไฟมาจากมันจะทำให้รู้ว่าจุดอ่อนของรถไฟคือหลังคาของโบกี้ตู้ที่ Attaway นั่งอยู่นั้นเป็นกระจก ก็จะสามารถโดดขึ้นไปบนหลังคาโบกี้ของ Luca แล้วลอบสังหารผ่านทางกระจกบนหลังคาได้เลย
3 .ใช้ช่องทางลับ ที่อยู่ในโกดังเก็บของที่ชั้นล่างของสถานีผ่านไปยังท่อระบายน้ำจะมีบันไดขึ้นไปออกที่ท่อระบายน้ำข้างๆรถไฟได้



Pearl Attaway – น่าอายจริงๆ หุ้นส่วนที่ดีเค้าทำกันแบบนี้หรอ ?
Jacob – ความเป็นหุ้นส่วนของเราจบลงแค่ตรงนี้แหละนะ 
Pearl Attaway – อย่าถือโทษโกรธกันเลย มันก็แค่เรื่องธุรกิจ ไม่ใครก็ใครก็อยากเป็นใหญ่กันทั้งนั้น เมื่อคุณ Crawford ไม่ได้ข่าวจาดชั้น เขาคงจะเริ่มไม่ค่อยสบายใจขึ้นมาแน่นอน แต่ ชั้นก็ต้องสังเวยตัวเองแบบนี้มันก็มากเกินไป !! ชั้นไม่อยากเสียรถม้าของชั้นไปเลยจริงๆนะ ! 

-ไม่ว่าจะเลือกทางไหนหลังจากสังหาร Pearl Attaway ได้แล้ว ก็เดินไปที่หัวรถจักรเพื่อสับคันโยกออกเดินรถเพื่อขโมยเอาเครื่องจักรไอน้ำหนีออกจากที่นี่


ในห้องพักของ Crawford Starrick แม้จะดังกังวานไปด้วยเสียงเพลงขับขานผ่านเปียโนที่เขาเล่นอย่างเย็นใจ เสียงเพลงที่แสดงออกถึงความเศร้าก็ไม่เท่านัยตาของ Starrick ก่อนที่คนรับใช้จะเข้ามาในห้องเพื่อแจ้งข่าวสำคัญแต่ก็โดนยิงสวนไปหนึ่งนัดโทษฐานขัดคำสั่งว่าไม่ให้เข้ามารบกวน เพลงเศร้าถูกบรรเลงต่อไปจน Lucy Thorne เดินเข้ามาในห้องก็ถึงท่อนจบพอดี 



Lucy Thorne – คุณ Crawford
Starrick – ความรุ่งโรจน์ของเธอถูกทำลายลงด้วยความป่าเถื่อน เราต้องนำความเป็นธรรมมาให้เธอ 
Lucy Thorne – Pearl ไม่ได้ต้องการความเป็นธรรมแต่เธอต้องการการล้างแค้น !! 
Starrick –  ใช้โทสะมากไปคุณ Thorne เราจะไม่ปล่อยให้อารมรณ์มาอยู่เหนือกฎหมายหรอกนะ ถ้าเราทำแบบนั้นก็ถือว่าศัตรูได้ชัยชนะ 
Lucy Thorne – แต่มันก็เกิดขึ้นได้ถ้าอยู่ในเงามืดที่ไม่มีใครรับรู้ จะเป็นไงถ้าชั้นจับยัย Evie แขวนคอแล้วก็ดักจับพี่ของมันมาถลกหนังตอนที่มันเข้ามาช่วยเธอเป็นไง   
Starrick –  สมมุติว่าถ้าทำได้ ถ้าไม่มีทางเลือก มันก็จะทำให้การมีอยู่ของ Templar ในลอนดอนชัดเจนมากขึ้น เราจะปกป้องตัวเองท่ามกลางแสงสว่างของเมืองนี้โดยลำพัง  
Lucy Thorne – ก็จริงค่ะ คุณ Crawford และจากนั้นเราก็จะเข้าอุโมงค์ใต้ดินหลีกเร้นไปในในความมืดมิดด้วยกัน  



                                                  SEQUENCE 06

                                             A RUN OF THE BANK

ภารกิจเปิดโปงแผนชั่วของมาสเตอร์ของเทมพลาจบลงด้วยการที่ Jacob สังหาร Pearl Attaway  เจ้าแม่ขนส่งมวลชนที่หวังครอบงำผูกขาดธุรกิจทั้งหมดของเมืองและทวงคืนเครื่องจักรไอน้ำมาจากเทมพลาได้สำเร็จ ครั้งนี้จดหมายลึกลับจะนำพา Jacob ไปสู่แผนการลับที่หวังจะครอบครองทองทั้งหมดที่มีในลอนดอน ในขณะที่ Evie ก็มีแผนใหม่ที่จะทวงแค้นคืนจาก Lucy Thorne เพื่อชิงกุญแจที่จะพาไปสู่ “Shroud of Eden” คืนมา 




Jacob – นี่เรามาทำอะไรที่นี่เนี้ย ? ธนาคารแห่งลอนดอน ?
Green –  ตามหาคนที่น่าสงสัยคนนึง เขาเดินแตร่อยู่ที่หน้าธนาคารแห่งลอนดอนนี่มานานแล้วและถามนู้นนี่นั่นเกี่ยวกับเรื่องธนาคารอยู่ตลอด เหมือนมันตั้งใจจะทำอะไรบางอย่าง  เห็นสัญลักษณ์ plutus นี่มั๊ย มันเป็นสัญลักษณ์ที่บอกว่ามันเป็นของ Starrick พนันเลยว่าเรื่องนี้มันน่าจะเกี่ยวข้องกัน Starrick แน่นอน 
Eive – ทำไมคุณถึงสนใจเรื่องนี้ แต่กลับไม่สนใจเรื่องการทำลายยาเถื่อนและยึดคืนการขนส่งมวลชน
Green –   อย่าพูดให้ผมขำได้มั๊ย นี่มันเป็นเรื่องของเงินงบประมาณของลอนดอนเลยนะ แหล่งคนทุนใหญ่ที่สำคัญมากๆ ผมคิดว่าถ้า Starrick มีแผนจะถอนทุนคืนจากความพินาศที่เราทำให้มันก็คงเป็นที่นี่แหละ 
Eive – ก็นะ ชีวิตคนบริสุทธิเหมือนถูกแขวนอยู่ตรงกลางความสมดุลของเมืองที่พวกเขาอาศัยอยู่จริงๆ
Jacob – บังเอิญชั้นไม่ใช่คนที่ปล่อยให้ Lucy Thorne ลอยนวลด้วยสิ 
Eive –  นี่นายไม่รู้หรอว่าชั้นตั้งใจทำพลาดเองแหละ ! 



                                              A CASE OF IDENTITY 


** CHALLENGES**
-ในขณะเข้าไปจับตัว Mr. Dredge ห้ามฆ่าตำรวจในพื้นที่ 

**รางวัล ** 
-เงิน 830
-EXP 400

Full Synch Bonus
-เงิน 125
-EXP 150
- มีด Jade Kukri 

-เดินทางมารับภารกิจหลักที่จุดรูป Jacob ในเขตเมืองลอนดอน ที่บริเวณเด็กขายหนังสือพิมพ์ Jacob จะใช้เป็นสังเกตการณ์ในการตามหา Mr. Dredge ชายลึกลับที่เข้ามาสืบข่าวในธนาคาร ซึ่งระหว่างนั้นก็จะพบ Phillip Twopenny ผู้จัดการใหญ่ธนาคารแห่งลอนดอนเดินผ่านมาด้วย



Phillip Twopenny  – ผมบอกแล้วว่าเราควรหยุดทำธุรกิจกับพวกคนแปลกหน้าที่ชอบพูดเหลวไหลนี่ซะแล้วมุ่งไปจับประเด็นในสิ่งที่ลอนดอนต้องการตอนนี้จะดีกว่านะ เช่นว่าใครที่มีจุดแข็งพอจะเป็นผู้นำที่สามารถทำงานยากๆอย่างนำพาทุกคนไปสู่ความสำเร็จ เสมือนนำพาธุรกิจให้เติบโตไปถึงระดับโลกยังไงละ 
Jacob – จะการ์ดชั้นดีขนาดไหนเงินก็ซื้อได้ทั้งนั้นแหละน่า ดูเหมือน Mr. Dredge จะยังไม่รู้เรื่องนี้ 

-เดินตามหา Mr. Dredge ที่เดินเข้าไปในเขตการค้าใช้ Eagle vision มองหาเขาให้พบเป็นตัวสีเหลืองจากนั้นก็หาจังหวะที่จะจับตัวเขาให้ได้ท่ามกลางตำรวจมากมายในพื้นที่แล้วพาตัว Mr. Dredge ออกมาจากพื้นที่สีแดง



Mr. Dredge – เดี๋ยวๆ Jacob นี่ผมเองนะจ่า Frederick Abberline ไงละ 
Jacob – Fredy ..
Frederick – เรียกว่าจ่าด้วยสิ ! ทุกอย่างอยาภายใต้การควบคุมของผมแล้วน่า ไม่น่าจะมีการปล้นธนาคารแห่งประเทศอังกฤษนี้แน่นอน 
Jacob – ปล้นหรอ ? ที่ธนาคารนั้นหยั่งกับฐานทัพ 
Frederick – ใช่ใครก็หาว่าผมพูดเล่น ผมไม่ได้จะมาพูดให้ขำหรอกนะโดยเฉพาะในสถานการณ์ที่อาจมีคนได้รับอันตรายแบบนี้  
Jacob – คิดว่าใครอยู่เบื้องหลังการปล้นครั้งนี้ 
Frederick – ความลับทางราชการนะ ผมบอกไม่ได้
Jacob – โธ่มาเอาน่าเฟรดดี้ งานนี้ผมช่วยได้นะ นึกถึงหน้าหนึ่งของหนังสือพิมพ์ทุกฉบับสิ “โจรปล้นธนาคารถูกจับได้ก่อนจะลงมือปล้นสำเร็จ” 
Frederick – โอเค ผมว่าก็พอจะช่วยคุณได้นิดหน่อยนะ คือ 1 ใน 4 ของเงินทั้งหมดจากธนาคารทุกสาขาทั่วประเทศเลยนะฉะนั้นการที่จะปล้นที่นี่ได้จึงน่าจะไม่ใช่พวกโจรกระจอกแน่นอน ตามแหล่งข่าวที่ผมได้มา พวกโจรถูกว่าจ้างมาชื่อCockham 
Jacob – ขอบคุณสำหรับข้อมูลนะ เฟรดดี้ 
Frederick – บอกว่าต้องเรียกว่า จ่า นำหน้าด้วยไงละ ... เอ่อ .. แล้วชั้นจะจับตาดูนายนะ ! 


                                     ONE GOOD DEED

** CHALLENGES**
-ขโมยโฉลดที่ดินของโรงงานจากศัตรูเป้าหมายก่อนมันจะออกนอกพื้นที่โรงงาน 

**รางวัล ** 
-เงิน 750
-EXP 600 

Full Synch Bonus
-เงิน 150 
-EXP 150
- Mirage Gauntlet Schematic  

เดินทางมารับภารกิจหลักที่จุดรูป Evie ในเขต Southwark Evie จะกลับมาตรวจสอบที่นี่อีกครั้งหลังจาก Jacob สังหาร Pearl Attaway ไปแล้ว ซึ่งเธอจะพบกับ Edward Bayley กำลังโดนพวกลูกน้องเก่าของ Attaway พยายามบังคับให้เขาสร้างรถม้าเพื่อให้พวกมันไปใช้ก่ออาชญากรรม จนเมื่อ Evie ปรากฏตัวออกมาเพื่อจะเข้าไปช่วยเหลือ Edward ก็จะฉวยโอกาสขับรถม้าหนีไปโดยมีพวกศัตรูไล่ตาม

- จากนั้นที่ต้องทำก็คือขี่รถม้าจัดการศัตรูที่ตามไล่ล่าให้หมดเพื่อปกป้อง Edward แล้วก็ขึ้นไปขับรถม้าของเขา แล้วขับรถต่อไปยังจุดหมายต่อไปที่โรงงานผลิตรถ

ระหว่างทางก่อนจะถึงโรงงาน Edward Bayley ก็แนะนำตัวว่าเขาเป็นเจ้าของโรงงานสร้างรถนักธุรกิจน้ำดีที่หวังจะสร้างบริษัทเดินรถ London General Omnibus Company เพื่อประโยชน์ของประชาชน ซึ่งตั้งแต่ Attaway เจ้าถิ่นเดิมตายไปพวกลูกน้องเก่าของมันก็พยายามจะทวงอำนาจคืนด้วยการยึดเอาโรงงานสร้างรถเป็นของพวกมันและพยายามจะข่มขู่บังคับให้ Edward ทำงานให้มันด้วย แน่นอนว่าเขาไม่ยอมและสู้กับการข่มขู่ของพวกลูกน้องเก่าของ Attaway ตลอดมา แน่นอนว่า Evie ก็จะต้องยอมช่วยเหลือ Edward ให้สามารถเดินหน้าเอาโรงงานคืนมาจากพวกศัตรู

-เดินทางมาจนถึงเขตโรงงานสร้างรถ ใช้ Eagle Vision มองหาเป้าหมายคือชายที่ถือโฉลดที่ดินของโรงงานนี้อยู่ชั้นบน ซึ่งจะขโมยโฉลดมาจากมันหรือฆ่ามันแล้วเก็บจากศพมันมาก็ได้ จากนั้นก็หนีออกจากพื้นที่แล้วเอาโฉนดกลับไปให้ Edward ที่จุดเป้าหมายสีเขียวได้เลย


Evie – ชั้นจนการพวกมันจนหมดแล้ว จากนี้คุณและคนของคุณก็ปลอดภัยแล้วละ
Edward Bayley – คุณช่างยอดเยี่ยมไปเลยจริงๆ สุภาพบุรุษพวกนี้คือคณะบริหารบริษัทเดินรถ London General Omnibus Company  ทุกคนเป็นคนดีไม่ต้องห่วง อีกไม่นานเราก็จะเริ่มทยอยส่งรถออกไปบริการประชาชนได้แล้ว ขอบคุณสำหรับการช่วยเหลือนะคุณ Frye   
Evie – ยินดีอย่างยิ่งคะ 


                                           A SPOT OF TEA 

**รางวัล ** 
-เงิน 830
-EXP 400
-เข็มขัด Metal web Belt 

แผนของ Jacob ต่อไปคือตามสืบหา Cockham ชายที่จ่า Frederick เขามีแผนที่จะปล้นธนาคารแห่งลอนดอนตามคำสั่งของ Plutus ชายปริศนาที่อยู่เบื้องหลัง ซึ่ง Jacob จะเริ่มตามรอยที่การสั่งอาวุธของมันในการเตรียมการปล้น เพื่อเปิดโปงแผนของ Plutus ที่อยู่เบื้องหลังคำสั่งในการสั่งปล้นธนาคารแห่งลอนดอนครั้งนี้ 

-เดินทางมารับภารกิจหลักที่จุดรูป Jacobเพื่อเข้าไปคุยกับจ่า Frederick ที่รออยู่ที่ท่าเรือเขาจะบอกข้อมูลให้ Jacob รู้ว่าที่ท่าเรือนี้เป็นเส้นทางลำเลียงอาวุธมา ถ้าตามรอยอาวุธนี้ไปก็เชื่อว่ามันจนำเราไปหาเจ้าของมันได้ ลอบเข้าไปในโกดังในท่าเรือแล้วเข้าไปสำรวจรถม้าขนอาวุธที่จุดหมายสีเขียว 3 จุด Jacob ก็จะพบรถขนอาวุธ จากนั้นก็ขึ้นไปที่ซ่อนตัวบนหลังคาโกดังรอจนกว่ารถขนอาวุธจะออกเดินทาง แล้วสะกดรอยตามรถขนอาวุธไปเรื่อยๆจนถึงจุดหมายที่ Cockham หัวหน้าของพวกโจรมารับของด้วยตัวเอง


Cockham – ก็เหมือนกับทุกๆงานที่เราทำกันมาแหละ ทันทีที่คุณ Twopenny เปิดตู้เซฟให้เราก็ปล้นมันมาแล้วรีบขนไปซ่อนที่โกดังของเขาก็เท่านั้น ฉลาดๆไว้ คนของเรารออยู่ที่ธนาคารแล้ว 
Jacob – กรรม ... ผู้จัดการใหญ่ธนาคาร Twopenny คือ Plutus คนที่จะปล้นธนาคารหรือเนี้ย !


                                               A BAD PENNY 

** CHALLENGES**
-ใช้เส้นทางลับ

**รางวัล ** 
-เงิน 2490
-EXP 3500
Full Synch Bonus
-เงิน 125 
-EXP 150
- ชุด Master Asassins   

เบาะแสทั้งหมดที่ Jacob ตามสืบตามที่ได้ข้อมูลจากจ่า Frederick ถึงแผนปล้นอำพรางครั้งนี้กระจ่างหมดแล้ว นายธนาคาร Twopenny คือ Plutus ชายที่อยู่เบื้องหลังการคิดการใหญ่ในการปล้นธนาคารแห่งลอนดอน และสิ่งที่ต้องทำในตอนนี้คือหยุดยั้งการปล้นธนาคารและสังหารผู้จัดการธนาคาร Twopenny หรือ Plutus  เข้าไปที่จุดภารกิจหลักรูปหัวกะโหลกจะพบจ่า Frederick รออยู่บนตึกหน้าธนาคารแห่งลอนดอน  



Frederick – ไง ได้เรื่องอะไรบ้าง ?
Jacob – ได้สิ ได้ผมว่าคุณคงไม่ชอบนักหรอก 
Frederick – นี่ ตระกูลผมเป็นตำรวจมาหลายรุ่นแล้วนะ แล้วผมก็ทำงานมานานแล้วไม่มีเรื่องไหนที่ผมจะรับไม่ได้หรอกน่า 
Jacob –Twopenny คือ Plutus คนที่อยู่เบื้องหลังแผนการปล้นธนาคาร มันเป็นแผนปล้นอำพราง 
Frederick – อะ แคกๆๆ ผู้จัดการใหญ่ธนาคารจะปล้นเองเลย โอเค ผมคงต้องขอนั่งสูดหายใจแปบนะ 
Jacob – เรามีเวลาไม่มากเพราะทันทีที่มันเปิดตู้เซฟให้พวกโจร การปล้นครั้งนี้จะจบเร็วมากกว่าๆเลยละ
Frederick – ไม่ว่าคุณจะลอบเข้าไปในธนาคารยังไงผมก็ไม่อยากรับรู้ด้วยหรอกนะ 
Jacob – แน่นอน ! คุณไม่ต้องกังวลหรอกว่าผมจะเข้าไปยังไง เอาเป็นว่าผมเข้าไปได้ก็แล้วกัน ...


ธนาคารแห่งลอนดอนที่เก็บรักษาทองคำแท่งที่เป็นเสมือนงบประมาณของเมืองถูกคุ้มกันแน่นหนาในตู้เซฟในตึกที่เต็มไปด้วยการคุ้มกันแน่นหนาไม่ต่างจากป้อมปราการ เป้าหมายคือขัดขวางการปล้นธนาคารและจับกุม Phillip Twopenny  ผู้จัดการใหญ่ของธนาคารผู้อยู่เบื้องหลังแผนปล้นครั้งนี้ แต่จ่า Frederick จะย้ำกับ Jacob ก่อนทำงานว่า ต้องใช้ความรอบคอบอย่างมากที่จะพิสูจน์ว่า Twopenny เกี่ยวข้องกับการปล้นด้วยแปลว่าห้ามให้ทำร้ายมันก่อนจะเปิดเผยความจริงก่อนนั่นเอง ซึ่งการจะเข้าถึงตัวมันได้จะมีตัวช่วยที่จะทำให้งานนี้สำเร็จได้ง่ายขึ้นคือ 



1. Stealth opportunity (จุดสีเขียว) – ตัวแปรคือ Mr. Osborne ผู้จัดการธนาคารที่เป็นคนนึงที่สามารถเข้าถึงเซฟได้ สามารถใช้งานมันได้ด้วยการเข้าไปจับตัวมัน โดยมันจะเดินไปมาระหว่างห้องทำงานและบริเวณหน้าทางเข้าที่มีการ์ดคุ้มกันอยู่ ซึ่งหากจับตัวมันจะใช้มันเป็นตัวช่วยผ่านการ์ดเข้าด้านในได้ 
 2. Assistance opportunity (จุดสีฟ้า)  – ตัวแปรคือ พนักงานรักษาความปลอดภัยผู้คอยคุ้มกันตู้เซฟ เข้าไปจัดการฆ่ามันก่อนเพื่อให้ประตูเซฟเปิดเอาไว้ เพราะถ้าเกิดมันเห็นว่ามีสถานการณ์ไม่ดีมันจะปิดประตูเซฟทันที
 3. Unique kill opportunity (จุดรูปกะโหลกสีม่วง) – ตัวแปรคือ Gus Howard หัวหน้าพนักงานรักษาความปลอดภัยคนสนิทของ Twopenny แน่นอนว่าเขาเป็นส่วนหนึ่งของแผนปล้นครั้งนี้ด้วย สามารถใช้งานมันได้ด้วยการเข้าไปจับตัวมันเพื่อข่มขู่มันให้บอกที่ตำแหน่งที่ Twopenny จะเดินไปมาทำให้จุด Unique kill ที่เป็นจุดซ่อนตัวในการสังหารออกมาให้เห็น ซึ่งก็คือรูปภาพที่ Twopenny ชอบเข้ามาดูมันเป็นประจำ เข้าไปซ่อนตัวที่จุดนี้รอให้  Twopenny มาดูภาพก็สังหารมันได้เลย 

4. ใช้เส้นทางลับ โดยทางเข้านั้นอยู่ที่หน้าต่างด้านใต้ของตึกฝั่งตะวันออกของธนาคาร




                              




เข้าไปที่ห้องทำงานทรงกลมแล้วขึ้นบันไดไปชั้นบนต่อที่ห้องสมุดจะพบช่องลิฟต์เก่าที่ทางเดินเมื่อโดดลงมาด้านล่างก็จะเข้ามาด้านในธนาคารได้แบบง่ายๆ  



Jacob – แกกะจะฮุบเงินทุกชิลลิ่งทุกเพนนี่ของประชาชนในเมืองนี้ 
Twopenny – พวกมันก็แค่จะเอาเงินไปใช้จ่ายแบบสิ้นเปลืองไปวันๆ แต่พวกเราจำเป็นต้องใช้มันเพื่อเป็นเงินทุนในการสร้างสิ่งสำคัญมากมายที่เมืองจำเป็นต้องมี ถ้าไม่มีการพัฒนาก็ไม่มีอนาคต ก็ถือว่าเงินของพวกมันเป็นการสร้างผลประโยชน์ร่วมกัน  
Jacob – เมืองนี้ไม่ใช่ของพวกแก !!
Twopenny – ถ้าไม่มีการลงทุนที่ดีของพวกเรามันก็คงไม่มีเมืองนี้มาแต่แรกแล้ว !
Jacob – ไม่เป็นไร ชั้นมีเงินเหรียญสุดท้ายสำหรับแกเอาไว้ใช้เป็นค่าผ่านทางในนรกด้วย ! 



ที่ห้องทำงานของ Crawford Starrick …..



Earl แห่ง Cardigan - Twopenny ถูกฆ่าอย่างเลือดเย็น พวกเราสูญเงินที่ควรได้ไปเยอะมันไม่ตลกแล้วแบบนี้ มันบานปลายเกินจะควบคุมแล้วนะครับท่าน   
Starrick – ทางรัฐสภายังไม่ต้องเคลื่อนไหวอะไรในตอนนี้ !
นายกเทศมนตรี - ตั๋วเงินค่าใช้จ่ายของเราที่ถูกทำลายไป เราจะแก้ไขเรื่องนี้ยังไง คงต้องมีการเรียกประชุมเพื่อวางแผนรับมือกันใหม่ตราบใดผมยังมีเกรียติเหลืออยู่คงไม่ยอมนิ่งเฉยกับเรื่องนี้แน่ๆ
Starrick – ผมว่าคุณไม่ได้มีเกรียติขนาดนั้นหรอกนะ 
นายกเทศมนตรี –กล้าดียังไงถึงพูดกับผมแบบนี้ !! 
Starrick – ผู้คนในเมืองนี้ต้องทนทุกข์มานานพอแล้ว !  วันนี้ชั้นถึงเห็นถึงความสำคัญของการให้คนของชั้นต้องทำตามคำสั่งอย่างเคร่งครัด เพื่อป้องกันพวกที่คิดว่ากำลังลำพองสำคัญตนผิดอยากคุณ ผมจะเอาทุกอย่างในลอนดอนมาเป็นของผมทั้งหมดเลยก็ได้ ถ้าผมจะทำ แต่ระหว่างนั้นก็เชิญคุณไปนั่งดื่มในคลับนั่งอ่านบทกวีที่บ่งบอกถึงเกรียติยศศักดิ์ศรีที่คุณไม่เคยมีไปพลางๆก่อน จะทำอะไรก็คิดถึงชะตากรรมของครอบครัวคุณไว้บ้าง ปิดปากเงียบจากสื่อไว้ด้วยไม่ต้องออกความเห็นอะไรถ้ายังอยากเก็บไข่ของคุณไว้ใช้ต่อนะ  ผมมีเดิมพันกับเรื่องนี้อยู่ ทำไมพวกเราต้องมีข้อจำกัดกับคนแค่ไม่กี่คนด้วยทั้งๆที่เรามีทุกอย่างมากกว่ามัน คุณคิดเหมือนกันมั๊ยครับ ว่าผมจะจัดการทุกอย่างเองได้ ? เอาละ หมดเวลาล้อเล่นแล้ว ! ควบคุมเสียงในรัฐสภาให้ได้อีกครั้ง เข้าใจมั๊ย ? ไปได้แล้ว !  


                                            A THORNE IN THE SIDE 

** CHALLENGES**
-ฆ่าทหาร Royal Guard ห้ามเกิน 5 คน (สามารถแยกแยะระหว่างทหาร Royal Guard ตัวจริงกับทหารที่พวก Templar ปลอมตัวมาได้ด้วยการมองผ่าน Eagle Vision ทหาร Royal Guard จะมีจุดสีฟ้าส่วนทหารตัวปลอมมีจุดสีแดง) 

**รางวัล ** 
-เงิน 1000
-EXP 500 

Full Synch Bonus
-เงิน 150 
-EXP 150
- ชุด Master Asassins   

-เดินทางมารับภารกิจหลักที่จุด Train Hideout คุยกับ Mr. Green Evie และ Mr. Green จะช่วยกันค้นหาเบาะแสเพิ่มในหนังสือที่ได้มาจากบ้านของ Kenway อีกครั้งเพื่อหาทางตามไปชิงเอาสร้อยหินโบราณมาจาก Lucy Thorne


Evie – ก็รู้อยู่ว่าสร้อยคอนั่นมันเป็นกุญแจ แต่จะรู้มั๊ยว่ามันใช้สำหรับไขอะไร ?
Green – ผมว่ายัย Thorne เธอก็ยังไม่รู้พอๆกับเราแหละน่า
Evie – เอ่ออ คุณกรีนคะนี่รูปอะไร 
Green – เหมือนมันจะเป็น Master Key โบราณนะ เคยรู้มาว่ามันถูกเก็บรักษาเอาไว้ใน Tower of London
Evie – ใช่ มันเป็นเหมือนป้อมปราการด้วย ชั้นต้องขอตัวไปเช็คดูซะหน่อย ขอบคุณที่ช่วยนะคะ 

-Evie ล่องเรือมาถึงที่ Tower of London ท่ามกลางการ์ดที่ป้องกันอย่างแน่นหนาทำให้ Evie รู้ว่า Lucy Thorne ต้องมาถึงที่นี่ก่อนแล้วแน่นอน เป้าหมายคือไปที่จุด Vantage Point รูปนกที่ด้านบนของตึกเพื่อสังเกตการณ์รอบพื้นที่เพื่อสร้างความเป็นต่อ ทันทีที่มองลอดเข้าไปที่หน้าต่างของตึกใหญ่ Evie ก็จะพบ Lucy Thorne กำลังสั่งลูกน้องให้ออกตามหากุญแจโบราณที่อยู่ที่นี่ทันที และ Evie ก็จะเห็นเป้าหมายที่เธอจะต้องกำจัดแล้วเช่นกัน

** ในพื้นที่จะมี Royal Guard ทั้งที่เป็นทหารราชินีตัวจริงที่ดูแล Tower of London อยู่กับทหาร Royal Guard ที่พวก Templar ปลอมตัวมาปะปน ซึ่งสามารถตรวจสอบได้ด้วยการมองผ่าน Eagle Vision โดยทหาร Royal Guard ตัวจริงจะมีจุดสีฟ้าส่วนทหารตัวปลอมมีจุดสีแดง ** 




ภารกิจลอบสังหารเป้าหมาย Lucy Thorne ที่อยู่ในห้องทำงานในตึก ซึ่งการจะเข้าถึงตัวมันได้จะมีตัวช่วยที่จะทำให้งานนี้สำเร็จได้ง่ายขึ้นคือ
1. Infiltration opportunity (จุดรูปกุญแจสีเขียว) – ตัวแปรคือ หัวหน้าทหารอาสาผู้ถือกุญแจของราชินีวิคตอเรีย ซึ่งสามารถเข้าไปขโมยจากมันมาใช้ปล่อยหัวหน้าทหารที่ดูแล Tower of London ที่ถูกจับอยู่เพื่อเอามาฃ่วยสู้ได้
2. Assistance opportunity (จุดรูปคนสีฟ้า) – ตัวช่วยคือ หัวหน้าทหารที่ดูแล Tower of London ที่ถูกจับอยู่ในห้อง ซึ่งสามารถทำให้เป็นพวกได้โดยต้องไปขโมยกุญแจจากทหารศัตรูมาไขปล่อยเขา แล้วตามไปคุยที่จุดรวมพลก่อน เขาและลูกน้องทหารของเขาจะช่วยต่อสู้ได้ในกรณีที่จะเปิดฉากต่อสู้ในแผนที่บุกลุยเข้าไปสู้กับ Lucy ตรงๆเลย 
3. Unique kill opportunity (จุดรูปกะโหลกสีม่วง) – ตัวแปรคือ ทหารพันธมิตรที่ต่อต้านพวก Tempar ที่ลอบเข้ามาปลอมตัวเป็นทหารศัตรู เข้าไปคุยกับเขาแล้วไปจัดการฆ่าทหาร Templar ที่ปลอมตัวเป็นทหาร Royel Guard 3 คนเพื่อกันมันจำหน้าได้ ก็จะสามารถใช้แผนลวงโดยการแกล้งให้ทหารพันธมิตรจับแล้วตัวพาไปหา Lucy Thorne ที่ห้องทำงานได้ ซึ่งจะสามารถเข้าไปถึงตัวเป้าหมายและฆ่าได้อย่างแนบเนียนที่สุด 



Lucy Thorne – ในที่สุดเธอก็ฆ่าชั้นจนได้นะ ทำดีที่สุดได้เท่านี้หรอ แต่เสียใจด้วยนะ “Shroud of Eden” ไม่ได้อยู่ที่นี่หรอก 
Evie – แกมันน่ารังเกียจที่ฆ่าคนมากมายเพียงเพื่ออยากได้พลังของ“Shroud of Eden” เป็นของตัวเอง 
Lucy Thorne – ไม่ใช่ของชั้น แต่ของพวกชั้น เธอมันก็แค่พวกสิ้นคิด ได้พลังที่ยิ่งใหญ่มาแต่เสือกไม่ยอมใช้มัน แต่เรากำลังทำเพื่อการเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่ของมนุษย์ชาติ ชั้นหวังว่าเธอคงไม่ได้เจอ“Shroud of Eden” นะ เธอไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจริงกำลังทำอะไรอยู่ 
Evie – งั้นบอกมา “Shroud of Eden” อยู่ที่ไหน ?
Lucy Thorne – ไม่มีวัน !! 

-หลังจากสังหาร Lucy Thorne ได้แล้วก็หนีออกจากพื้นที่ไปที่จุดหมายที่เรือที่แล่นอยู่ในแม่น้ำได้เลย

 หลังเสร็จภารกิจ ถึงแม้ Evie จะไม่ได้เจอ “Shroud of Eden” อย่างที่ตั้งใจแต่เธอก็ได้สร้อยหินโบราณที่เป็นเบาะแสสำคัญกลับคืนมาพร้อมทั้งสามารถฆ่ามือขวาของ Crawford Starrick ให้มันเจ็บใจเล่นได้อีกด้วย


  ที่ห้องทำงานของ Crawford Starrick …..




Starrick – ถ่ายทอดคำสั่งผมไปให้เธอ ... คุณ Thorne ข้อมูลและสิ่งของต่างๆที่คุณค้นพบแล้วส่งมาให้เรา เราซาบซึ้งน้ำใจของคุณมาก เมืองนี้ขอบคุณคุณ องค์กรของเราขอบคุณคุณ ผมเองก็ขอบคุณคุณเช่นกัน แต่สำหรับ “Shroud of Eden” จะต้องตกเป็นของคนแค่คนเดียวเท่านั้น เพื่อเห็นแก่ความสัมพันธ์อันดีของเรา ผมสัญญาว่าจะตอบแทนคุณในทุกทางที่ทำได้ หวังว่าเราคงได้รับข่าวดีจากคุณเร็วๆนี้ ขอพ่อท่านผู้หยั่งรู้จงนำทางคุณด้วย …. แค่นั้นแหละ
คนรับใช้ – นายท่านครับ 
Starrick – ไง มีอะไร ?
คนรับใช้ – ข่าวของคุณ Thorne ครับท่าน 
Starrick – มีความคืบหน้าอะไรที่ Tower of London หรอ ?
คนรับใช้ – ขอโทษครับท่าน คุณ Thorne ถูกฆ่าตายแล้วครับ 
Starrick – กุญแจ ... แล้วกุญแจอยู่ไหน !
คนรับใช้ – ขอประทานโทษครับ เราไม่เจอกุญแจจากศพเลยครับท่าน 
Starrick – .... อ๊ากกก !! “Shroud of Eden” ต้องเป็นของข้า ถึงต้องบุกนรกลุยไฟข้าก็ต้องทำ ..เผาจดหมายนั่นทิ้งซะ !! 



                                                 SEQUENCE 07

                                     ALL IS FAIR IN POLISTIC 

หลังจาก Jacob และ Evie ได้กำจัดสองลูกสมุนคนสนิทของ Starrick ลงได้ทั้ง Twopenny ผู้ดูแลเรื่องการเงินขององค์กรและ Lucy Thorne ฝ่ายวิจัยพลังเหนือธรรมชาติลงได้ แต่หนทางที่จะทำลายการสมคบคิดกัดกินเมืองของพวก Templar นั้นยังอีกยาวไกล เป้าหมายต่อไปของ Jacob ก็เลยต้องมุ่งไปที่ตัวนายกเทศมนตรีหุ่นเชิดคนสำคัญของ Starrick ที่นั่งอยู่ในสภาอันทรงเกรียติของลอนดอน ในขณะที่ Evie ที่มีชัยเหนือ Lucy Thorne ได้แต่ภารกิจตามหา“Shroud of Eden” ก็ยังคงเป็นหนังชีวิตที่ต้องตามติดกันต่อไป         

Jacob – ถึงคุณ Starrick การว่าจ้างคนให้ลอบสังหารนายก Disraeli นั้น เรื่องการติดสินบนต่างๆล้มเหลว อาจจะต้องล้มเลิกไปก่อน gladston ยังกล่อมไม่สำเร็จ บลาๆๆๆ จาก B  … ตอนนี้ Starrick จนต้องหันมาเดินเกมทางการเมืองแล้วละสิ ผมคงต้องแวะไปที่ Sinopean Club ของพวกนักการเมืองเพื่อหาคนที่ชื่อ B หน่อยแล้วว่าเป็นใคร 
Evie – กะจะเหยียบย้ำระบบของรัฐสภาให้แหลกคาตีนด้วยเลยว่างั้น 
Jacob – แล้วถ้าผมไม่สนละ รัฐสภามันก็เละมาตลอดอยู่แล้วนี่
  Evie – นายเล่นงานที่ธนาคารแห่งลอนดอนนี่ มันก็เป็นสาเหตุที่รัฐบาลต้องหาทางเอาตัวรอด เงินงบประมาณของประเทศคงเกือบจะล้มละลายแล้วด้วยมั้ง  
Jacob – ก็แค่เกือบ ยังไม่ล้มซะหน่อยก็พูดซะเสียเรื่องหมด ว่าแต่กุญแจอะไรนั่นของเธอเหอะ ไขไรได้บ้างยัง 
  Evie – คุณ Henry กำลังเอาไปศึกษาอยู่ ชั้นคิดว่าอะไรก็ตามที่เป็นความลับคงกระจ่างในไม่ช้านี้แหละ 
Jacob – แค่เกือบจะ Evie แค่เกือบ ...


** เปิดฉากบทที่ 7 ด้วยจุดรับเควสหลัก 3 จุดคือ จุดของ Evie 2 คือที่เขตลอนดอน และเขต The Strand กับจุดภารกิจของ Jacob ที่ Westminster อีก 1 จุด เลือกทำได้ตามใจชอบได้เลย หลังจากดูบอร์ด Asassination Wall แล้วอย่าลืมแวะคุยกับ Henrry Green ด้วยละ **



Green – อ่อ คุณ Frye พอดีผมเจอหนังสือเล่มนึง ไม่ค่อยเข้าใจมันเท่าไหร์คงไม่ว่านะถ้าอยากให้ช่วยดูหน่อย
Evie – ตรงข้ามเลย ชั้นอยากช่วยคุณตอบแทนที่คุณช่วยเรามานานแล้วละ .... โอ้ การเก็บตัวอย่างสมุนไพรหรอ นี่คุณสะสมเพื่อใครหรือเปล่าเนี้ย ?
Green – ชอบเองเลยละ ผมไม่เข้าใจเกี่ยวกบสัญลักษณ์นี้เลย 
Evie – เคยได้ยินมาอยู่ เคยใช้เป็นวัตถุดิบน่ะ 
Green – ไม่น่าถามเลยนะ ฮ่าๆ คือผมไม่มีเวลาที่จะเก็บสะสมมันเลยน่ะ 
Evie – ได้ ถ้าเจอชั้นจะเก็บตัวอย่างให้ แต่คุณก็ต้องช่วยชั้นเป็นการแลกเปลี่ยนด้วยนะ 
Green –  ตกลงตามนั้นเลยละครับ ขอบคุณนะ คุณ Frye


                                             CHANGE OF PLAN 


** CHALLENGES**
-สั่งให้ Henry โจมตีศัตรู 2 ครั้งก่อนเขาถูกจับตัวไป 
-ฆ่าศัตรู 2 ตัวในท่อระบายน้ำโดยใช้ถังที่แขวนตกลงมาทับ 

**รางวัล ** 
-เงิน 1200
-EXP 600
Full Synch Bonus
-เงิน 250
-EXP 250
- Purple Vengeance Schematic 

เข้าไปที่จุดรับเควสหลักของ Evie คุยกับ Green ที่เขต The Strand ถึงเรื่องผลการตรจสอบและทดลองของ Evie หลังจากได้สร้อยหินโบราณคืนมาทำให้เธอได้สมมติฐานใหม่มาเพื่อการตามหา“Shroud of Eden” ต่อ 

Evie – ตกลงนี่เราจะไปไหนกันคะ ?
Green – ผมพบจดหมายของเจ้าชายในระหว่างการทดลองของ Lucy Thorne มีบางอย่างที่มันสอดคล้องกับสร้อยหินโบราณของคุณ ในปี 1847 มันเป็นปีเดียวกับที่มีการบรูณะพระราชวัง Buckingham พอดีเลย 
 Evie – คุณคิดว่ามันเป็นที่ซ่อนของ “Shroud of Eden” จริงๆหรอ ?
Green – เราไม่รู้ มันเป็นการคาดเดาจากสมมติฐาน คุณคิดว่าในแผนที่มันจะเขียนบอกรึไงละว่า “ห้องลับ” ! 



Green – ฝ่าพระบาท กระหม่อมขอแนะนำให้รู้จัก คุณ Frye , คุณ Frye นี่เจ้าชาย Maharajah Duleep singh 
Evie – เป็นเกรียติพระเจ้าคะฝ่าพระบาท 
Duleep singh – สหายกรีน ..เรื่องที่คุณถามเราน่ะ มันมีการโยกย้ายไปแล้วนะ
 Green –โยกย้าย โดยใคร พะยะคะ ?
Duleep singh – Crawford Starrick หรือ ใครซักคนที่เป็นลูกจ้างของเขานะ เราคิดว่าคุณคงจำได้ ชั้นรู้ว่าพวกเขาอยู่ที่ไหน แต่ท่าทางการ์ดไม่น้อยเลยนะ 
Evie – เรื่องนั้นไม่เป็นปัญหาคะ หม่อมชั้นจัดการเอง 
Duleep singh – ชั้นก็คิดว่าคงไม่นะ 

-งานนี้ Evie ต้องลอบเข้าไปที่ตึกเป้าหมายที่ได้มาจากเจ้าชาย Duleep singh เพื่อตามหาข้อมูลที่เกี่ยวกับ “Shroud of Eden” ที่ถูกลูกน้องของ Starrick มาเอาไป แผนคือ Henry จะเป็นคนเบี่ยงเบนความสนใจของพวการ์ดเพื่อให้ Eive ทางสะดวกในการลอบเข้าไปในลานหน้าตึกเพื่อเข้าไปเก็บไอเทมที่กล่องเป้าหมายสีเขียว ซึ่งจะสามารถกด R1 ในการสั่งการให้ Henry เข้าไปโจมตีศัตรูเป้าหมายได้ เข้าไปคุยกับ Henry เขาจะบอกแผนว่าให้สั่งเขาเข้าโจมตีที่ศัตรูเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจแล้วใช้ระเบิดควันก่อนเข้าไปเก็บไอเทมออกมา ซึ่งจะมีจุดเขียวที่เป็นลังเป้าหมาย 3 ลังที่ Evie ต้องเข้าไปเอา แต่ทั้ง 3 ลังก็ไม่พบข้อมูลสำคัญที่ตามหานอกจากไอเทม Upgrade Throwing Knife Schematic III แค่อันเดียว
-เมื่อตามหาของไม่พบ Evie จึงตัดสินใจเปลี่ยนแผนเป็นจับตัวพวก Templar มาเค้นข้อมูลเอาจะดีกว่า จากนั้นก็จับตัวศัตรูที่มีปลอกแขนสีขาวรูปกางเขนแดงนั่นแหละพวก templar มันจะบอกว่ามันไม่รู้เรื่องแผนการอะไรที่ซ่อนแต่มันจะบอกว่า พวกมันได้จับ Henry เอาไว้ได้แล้ว Evie จึงต้องเปลี่ยนแผนไปช่วย Henry แทน
- จากนั้นออกไปที่จุดเขียวหน้าตึกจะพบจุดรอยเท้าและเข้าไปคุยกับเด็กๆของ Clara ซึ่งจะบอกว่าเห็น henry ถูกจับไปในรถม้าสีแดง ใช้ Eagle Vision ตามรอยล้อรถไปต่อจนพบรถม้าสีแดงจอดอยู่ในเขตตลาด เข้าไปถามชาวบ้านในตลาดตามจุดเขียวให้หมดพวกเขาจะชี้ทางไปที่ทางลงท่อระบายน้ำท้ายตลาด ลงไปตามท่อก็จะพบ Henry ถูกจับอยู่ในนั้น ใช้ถังที่แขวนตกลงมาทับศัตรูซะ แล้วเข้าไปช่วย Henry หนีออกจากพื้นที่


Henry – มีคนเอาข้อมูลของแผนสำคัญไปซ่อนแล้ว เธอเห็นพวกมันรึเปล่า ?
Evie – ช่างเถอะว่าแต่คุณเป็นอะไรมากมั๊ย ยังไงลองแวะให้มิส ไนติงเกล รักษาก่อนจะดีกว่า ส่วนชั้นต้องตามหาที่ซ่อนของ “Shroud of Eden” ให้ได้ก่อนที่ Starrick จะได้มันไป 
Henry – งั้นเราคงต้องไปปรึกษาเจ้าชาย Maharajah อีกครั้งแล้ว 
Evie – ชั้นไปคุยกับเจ้าชายเองน่า คุณไปรักษาตัวก่อนเถอะ 
Henry – โอเค๊ !! ผมขอโทษที่ถูกจับจนทำให้แผนคุณล้มเหลว !
Evie – คุณกลับไปพักที่รถไฟเถอะ 
Henry – Evie ถ้าคุณจะไปตามหา “Shroud of Eden” ที่พระราชวัง Buckingham คุณไปคนเดียวไม่ได้นะ 
Evie – ชั้นไม่ได้ไปคนเดียว ! ไปรอที่รถไฟก่อนเถอะน่า คุณ Green !


                                       UNBREAKING THE BANK


** CHALLENGES**
-ตอนมาเอาแม่พิมพ์แบงก์ให้เผาทำลายแบงก์ปลอม 
-ทำให้ประชาชนที่ประท้วงเข้าไปในธนาคารได้ (ทำให้การ์ดหน้าประตูสลบ)  

**รางวัล ** 
-เงิน 900
-EXP 700

Full Synch Bonus
-เงิน 250
-EXP 250
- ปืน M1877 Lighting 

-เข้าไปที่จุดรับเควสหลักของ Evieในเขตลอนดอนที่ธนาคารแห่งลอนดอน Evie จะเข้าไปตรวจสอบที่ธนาคารหลังจากที่ Twopenny ผู้จัดการหุ้นเชิดของ Starrick ถูก jacob ฆ่าไปแล้ว ซึ่งจะพบว่ามีชาวบ้านมาประท้วงที่ด้านหน้าธนาคารโดยมี
จ่า Frederick คอยสังเกตการณ์อยู่


Evie – มันเกิดอะไรขึ้นคะเนี้ย ?
Frederick – ก็พี่ชายเธอนะสิ 
Evie – เขามาทำบ้าอะไรตอนนี้อีกละ ?
Frederick – ก็ดันไปให้ข่าวหนังสือพิมพ์จนคนฝากเงินรู้กันทั่ว นั่นยังไม่พอนะ ยังมีใครก็ไม่รู้ที่ขโมยตั๋วเงิน และแม่พิมพ์เงินไปอีก คุณว่าเป็นฝีมือของ Jacob หรือเปล่าละ 
 Evie – ชั้นก็กลัวอยู่คะ 
Frederick – ตอนนี้ไม่มีใครชื่อมั่นในธนาคารและการเงินของประเทศเราอีกแล้ว ถ้าข่าวมันแพร่กระจายไปจนถึงอเมริกัน ไม่ว่าข่าวจะจริงหรือไม่จริง ประเทศเราจบแน่ 
Evie – Jacob ต้องรับผิดชอบเรื่องนี้ด้วยสิ หรือว่า  ถ้าชั้นไปตามเอาของที่ถูกขโมยมาได้ละ 
Frederick – ถ้าทำได้มันจะดีมากเลยละ แต่เรื่องการที่ Twopenny ถูกฆาตกรรมละมันก็ทำลายความเชื่อมันเรื่องเศรษฐกิจไม่น้อยเหมือนกัน 
Evie – เรื่องนั่นค่อยว่ากัน เอาเรื่องประเทศชาติก่อน 
Frederick – อ่อ แล้วถ้ามันไม่มีปัญหาอะไรก็รบกวนคุณช่วยทำลายแบงก์ปลอมที่พวกมันทำขึ้นมาด้วยละ 
Evie – อันนี้แน่นอนที่สุดคะ 

-จากนั้นตามจ่า Frederick ไปที่จุดเขียวเขาจะพาไปที่แหล่งระบาดของแบงก์ปลอม จากนั้นใช้ Eagle Vision มองหาคนขายแบงก์ปลอมที่เป็นตัวสีเหลืองแล้วลอบสะกดรอยตามมันไปจนถึงตึกเป้าหมาย ลอบเข้าไปในตึกที่จุดเหลืองขโมยแม่พิมพ์แบงก์ที่โต๊ะชั้นกลางของตึกมา อย่าลืมขึ้นไปชั้นบนเผาแบงก์ปลอมที่ห้องทำงานชั้นบนด้วยเพื่อเก็บ Challenge  เสร็จแล้วเดินทางกลับมาที่ธนาคารแห่งลอนดอน ทำให้การ์ดหน้าประตูสลบเพื่อให้ประชาชนที่ประทวงอยู่หน้าประตูตามเข้ามาด้วยเพื่อเก็บ Challenge แล้วลอบเข้าไปด้านในธนาคารที่จุดเขียวเพื่อเอาแม่พิมพ์แบงก์ไปคืนที่เดิม จากนั้นก็ลอบหนีออกมาจากธนาคารแล้วไปคุยกับจ่า Frederick อีกครั้ง


Frederick – ตอนนี้หนังสือพิมพ์ได้ลงข่าวแล้วว่าเรื่องทั้งหมดนั้นไม่เป็นความจริง ความวุ่นวายก็จบลง ความเชื่อมั่นทางการเงินของธนาคารก็กลับมาเหมือนเดิมแล้ว มิส Frye ผมไม่รู้จะขอบคุณสิ่งที่คุณทำยังไงดีเลย 
 Evie – ชั้นดีใจที่เราสามารถเลี่ยงหายนะที่เกิดขึ้นได้มากกว่า แต่ถ้าชั้นจะได้คำขอบคุณก็ควรจะเป็น Jacob มากกว่าที่ครวจะมาขอบคุณชั้นคะจ่า 


                                           PLAYING POLITIC 


** CHALLENGES**
-ห้ามฆ่าการ์ดของ Sinopean Club
-ตามจับมือ Sniper โดยไม่โดนยิง 

**รางวัล ** 
-เงิน 1000
-EXP 450

Full Synch Bonus
-เงิน 150
-EXP 150
-เข็มขัด Iron Scale Belt 

-เข้าไปที่จุดภารกิจของ Jacob ที่ Westminster Jacob จะมุ่งเป้าตามหาตัวนายกเทศมนตรี Benjamin Disraeli ที่ Sinopean Club เพื่อตามหาชายลึกลับที่ชื่อย่อว่า B ในจดหมายที่ส่งถึง Starrick เกี่ยวกับแผนลอบสังหารที่กำลังจะเกิดขึ้น ลอบเข้ามาในสวนตรงกลางใช้ Eagle Vision มองหาเป้าหมายตัวสีเหลืองแล้วแอบฟัง gladston คุยกับ นายกเทศมนตรี Disraeli ที่ท่าทางว่า Gladston จะกล่อมให้นายก Disraeli ทำตามเกมของ Starrick ไม่สำเร็จ ทันทีที่ทั้งคู่จบการสนทนา นายก Disraeli ที่เดินแยกออกมาก็ถูกสายลับสะกดรอยตามทันที ซึ่ง Jacob ก็สันนิฐานได้เลยว่าเจ้านี่คือชายลึกลับที่ชื่อ B ที่ตามหา
-จากนั้นวิ่งตามสายลับเป้าหมายจนตะคลุบตัวมันได้ แต่กลายเป็นว่าชายคนนี้กลับไม่ใช่ B ก่อนที่เขาจะบอกว่าชื่อ Herbert  ที่ถูกจ้างมาโดยคนๆนึงให้ตามท่านนายก จสุดท้ายยังไม่ทันคุยจบก็โดนเก็บด้วยฝีมือมือปืนบนยอดตึกเสียก่อน ทำให้ Jacob ต้องไล่ล่าตามจับมือปืนให้ทัน


Sniper – เฮ้ย โผล่มาจากไหนวะเนี้ย !!
Jacob – จาก Crawley เว้ย ตามทษฎี แต่ช่างเถอะ ใครจ้างแกมา !!
Sniper – ชั้นไม่รู้จักชื่อเขาหรอก ชายแก่ หนวดเยอะๆ แต่ตัวเหมือนพวกทหารม้าอะไรเนี้แหละ 
Jacob – ชื่อ !!! 
Sniper – ไม่รู้จริงๆ ได้โปรดเขาฆ่าชั้นแน่ๆ !
Jacob – งั้นบอกแผนของมันมา ! เลือกเอาว่าจะไม่บอกแล้วตกลงไปขาหักหรือบอกความจริงแล้วชั้นจะหาที่ปลอดภัยให้ 
Sniper – พรุ่งนี้ จะมีการลอบโจมตีรถม้าของท่านนายกระหว่างเดินทางไปยังรัฐสภา ! 
Jacob – ยอดเยี่ยม !!


                                           THE BODYGUARD 


** CHALLENGES**
-ป้องกันรถนายกอย่าให้เสียหายมากกว่า 50 % 
-ไล่ตามไปช่วยนายกให้ทันภายใน 1 นาที 

**รางวัล ** 
-เงิน 1000
-EXP 450
Full Synch Bonus
-เงิน 250
-EXP 250
- Goldred Cloak 

-เข้าไปที่จุดภารกิจของ Jacob ที่ขึ้นมาใหม่ใน Westminster เพื่อเตรียมหาทางเตือนและช่วยนายก Disraeli ก่อนจะถูกลอบโจมตี และหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับชายนิรนามที่ชื่อ B ที่อยู่แผนลอบสังหารครั้งนี้ ทันที่เห็นนายกและ Mary Anne ภรรยาออกจากบ้านมาขึ้นรถม้าก็ลอบเข้าไปที่รถม้าเพื่อเข้าไปเตือนนายกได้เลย


Disraeli – แล้วนี่แกเป็นใครเนี้ยเข้ามาทำไม !! 
Jacob – ท่านนายกใจเย็น ผม Jacob Frye บอดี้การ์ดคนใหม่ของท่านครับ 
Disraeli – ผมไม่เห็นได้รับรายงานเรื่องบอดี้การ์ดใหม่เลย ใครเป็นหัวหน้าคุณเนี้ย ?
Mary Anne – คุณก็ให้พ่อหนุ่มนี่เค้าอธิบายสิคะ 
Jacob – มาดามครับ ผมต้องขอโทษด้วยเรื่องความไม่สะดวกแต่นี่เป็นเรื่องการคุกคามชีวิตของท่านนายก 
Disraeli – คุกคามอะไร ? ใครจะทำแบบนั้น !
---- ปัง !! ปัง !! -----
Jacob – นั่นไงครับคุกคาม เริ่มกันแล้วผมต้องขอตัวก่อนนะครับ

-ออกมานอกรถม้าจะพบพวกมือปืนกำลังระดมยิงรถของนายกจากทุกด้านของตึก ออกไปจัดการพวกมือปืนและศัตรูที่บุกเข้ามาให้หมด แต่สุดท้ายนายกก็จะถูกจับตัวขึ้นรถม้าไปจนได้ จากนั้นก็ขับรถม้าไล่ตามไปช่วยนายกให้ทัน แล้วพารถม้าของนายกออกมานอกพื้นที่อันตราย


Disraeli – ไอ้ Gladston แกต้องชดใช้เรื่องนี้ !!
Mary Anne – ขอบใจนะจ๊ะที่มาเตือนพวกเราเรื่อง Gladston นะพ่อหนุ่ม 
Jacob – ด้วยความยินดีครับมาดาม แต่ผมเกรงว่า Gladston จะไม่เกี่ยวกับเรื่องนี้นะ แต่คุณสามารถช่วยผมทำให้ความจริงมันกระจ่างได้นะครับมาดาม คือ ผมคิดว่าตัวการจริงๆอยู่ในรัฐสภา มีหนวดหนาและใส่ชุดคล้ายทหารม้านะครับ พอจะทราบมั๊ยว่าเป็นใคร ? 
Mary Anne – มันเป็นข้อมูลบุคคลที่กว้างมาเลยนะ ว่าแต่คุณคุ้ยเคยกับย่านสลัมในเมืองเราหรือเปล่าละ 
Jacob – มันดูไม่งามนักหรอกครับ 
Mary Anne – ดีเลย คือชั้นอยากจะไปทัวร์ที่นั่นหน่อย อยากเห็นสลัม Devil’s Acre มานานแล้ว  ถ้าคุณยินดีจะเป็นคนคุ้มกันชั้นไปนะ แล้วชั้นก็จะช่วยเหลือในเรื่องที่คุณกำลังตามหาคนในสภาให้ด้วย 
Jacob – เป็นคำขอที่ทำเอาผมอึ้งไปเลยนะมาดาม 
Mary Anne – เอาละ มาพบชั้นตามนัดที่ถนน Downing 2 ทุ่มคืนพรุ่งนี้นะคุณ Frye
Jacob – คือผม ....เอ่อ 
Mary Anne – ตามนั้น คุณ Frye โชคดีนะคะ 


                                        DRIVING MRS.DISRAELI 


** CHALLENGES**
-ใช้เด็กขายหนังสือพิมพ์ในการล่อพวกนักข่าว 
- คุ้มครอง มาดาม Mary Anne เข้าไปในสลัมโดยไม่โดนนักเลงก่อกวน 

**รางวัล ** 
-เงิน 1000
-EXP 450

Full Synch Bonus
-เงิน 250
-EXP 250
- Iron Death Gauntlet Schematic


-เข้าไปที่จุดภารกิจของ Jacob ที่ขึ้นมาใหม่เพื่อมาพบกับมาดาม Mary Anne ภรรยาของนายก Disraeli ตามที่นัดไว้เพื่อพาเธอทัวร์เขตสลัมตามใจเธอแลกกับการขอความช่วยเหลือเธอให้หาข่าวของชายปริศนาที่ชื่อ B ในรัฐสภา



Jacob – มาดาม อากาศข้างนอกเป็นไงบ้างครับ แต่เดี๋ยวบรรยากาศที่บาร์ Devil’s Acre จะทำให้คุณเหมือนมีชีวิตใหม่เลยละ 
Mary Anne – คุณ Frye ชั้นเกรงว่าชั้นคงจะทำตามข้อตกลงเราไม่ได้แล้วละ ชั้นเห็นพวกนักข่าวอยู่แถวนี้เต็มไปหมดเลย ชั้นเกรงว่าถ้ามาเห็นเรา 2 คนมันจะไม่ดีเอานะสิ 
Jacob – โอเค เดี๋ยวผมจัดการเอง พอทางโล่งแล้วคุณค่อยออกไปขึ้นรถม้านะ 
Mary Anne – ได้ๆ แต่ เอ่อ ช่วยสุภาพกับพวกเขาหน่อยนะ อย่าใช้ความรุนแรงนะพ่อหนุ่ม 
Jacob – ฮ่าๆ จะไม่แต่แม้ปลายเส้นผมเลยละครับ 

-ออกมาที่ถนนจะเจอพวกนักข่าวกำลังคุยกับพวกตำรวจอยู่ที่หน้าตึก เข้าไปคุยกับเด็กขายหนังสือพิมพ์ที่ตึกตรงข้าม เธอจะช่วยเบี่ยงเบนความสนใจพวกนักข่าวให้ได้ เด็กจะตะโกนว่าเห็น Bancroft ที่กำลังเป็นกับเจ้าชายแห่งเวลส์ ทำให้นักข่าววิ่งตาม Jacob ทันที วิ่งหนีมันไปให้ไกลจากรถม้าของมาดาม Mary Anne จนพ้นแล้วค่อยกลับไปพามาดาม Mary Anne ขึ้นรถออกเดินทางต่อไปยังจุดหมายสีเขียวที่ Devil’s Acre ซึ่งระหว่างทางต้องคอยขับหนีรถของพวกนักข่าวให้พ้นด้วย เมื่อถึงหน้าสลัมก็พา มาดาม Mary Anne เข้าไปด้านใน โดยจะมีพวกนักเลงในสลัมคอยก่อกวน เข้าไปจัดการพวกศัตรูให้หมดก่อนก็ได้แล้วค่อยพา มาดาม Mary Anne เข้าไปจนถึงบาร์


- Jacob จะพามาดาม Mary Anne ดื่มเบียร์ที่ดีที่สุดใน Devil’s Acre จนถูกใจเธอเป็นอย่างมาก แต่ขณะที่ทั้งคู่กำลังนั่งกินเบียร์อยู่พวกโจรก็ฉวยโอกาสขโมยกระเป๋าใส่หมาของเธอไปทำให้ Jacob ต้องวิ่งตามไปเอาคืนมา พอได้เจ้าหมาคืนมาแล้ว Jacob พึ่งนึกได้ว่าดันปล่อยมาดาม Mary Anne ไว้ที่พับในสลัมที่อัตรายที่สุด แต่ทันทีที่กลับมาที่บาร์กลับพบว่ามาดาม Mary Anne สามารถคุยกับพวกคนในสลัมแบบถูกคอได้อย่างดี แต่ Jacob ก็ไม่ไว้ใจจึงรีบพาเธอกลับบ้านทันที ขณะที่ส่ง มาดาม Mary Anne ขึ้นรถม้า หัวหน้าของแก็งขโมยกระเป๋าก็จะเข้ามาสั่งสอน Jacob ที่ขัดขวางานของมัน เข้าไปจัดการพวกนักเลงให้หมดแล้วพามาดาม Mary Anne หนีกลับไปที่บ้านของเธอที่ถนน Downing


Mary Anne – โอ้ถึงบ้านแล้วหรอเนี้ย สนุกจนลืมตัวเลยจริง ขอบคุณมากนะคุณ Frye แล้วไม่ต้องห่วงนะเรื่องที่คุณกลังสืบอยู่นะชั้นรับปากจะดูให้เองจ๊ะ 


ข้อมูลที่ Jacob ได้จากมาดาม Mary Anne ถึงชายนิรนามที่ชื่อ B ที่อยู่เบื้องหลังแผนลอบสังหาร Disraeli นายกเทศมนตรีของลอนดอน ตามคำสั่งของ Starrick นั้นจริงๆแล้ว B ก็คือตัวย่อของ Brudenell ซึ่งเป็นถึงตำแหน่ง Earl of Cardigan รัฐสภาเลยทีเดียว 

                              


คำว่า Earl of Cardigan นั้นคำนำหน้าว่า Earl (เอิร์ล) นั้นก็คือบรรดาศักดิ์ของขุนนางอังกฤษลำดับที่ 5 เทียบเท่ากับท่านเค้านต์ (Count) ของยุโรป ซึ่งเป็นตำแหน่งเก่าแก่ที่ตกทอดมายาวนานหลายรุ่นมาก (นานจนไม่กล้าเรียบเรียงเพราะกลัวผิดพลาด)  ใน Assassin’s creed Syndicate นั้น Earl of Cardigan เป็นหุ่นเชิดของพวก Templar ในรัฐสภาอังกฤษ เหตุการณ์ที่ Jacob จะเข้าไปลอบสังหารเขานั้นคือปี 1868 ก็จะตรงกับ Earl of Cardigan ที่ 7 ชื่อ James Thomas Brudenell ท่านเคยเป็นถึงผู้บังคับบัญชากองทหารม้าที่ 11 ของอังกฤษในสงคราม Crimean War ที่ Balaclava มาแล้ว และเนื่องจากทางทีมงานสร้างเกมคงเกรงว่าจะสร้างความเสื่อมเสียให้กับตระกูลเก่าแก่อย่าง Brudenell ที่เป็นฮีโร่แห่ง Balaclava 
ท่านนี้ จึงไม่มีการใช้ขื่อใดๆเรียกตัวละครที่อยู่ตำแหน่ง Earl of Cardigan นี้ แต่เรียกเป็นตัวย่อว่า B ในตำแหน่ง Lord Cardigan เท่านั้น
   
Cr. ข้อมูลประกอบบทความจาก
http://www.dek-d.com/board/view/1240465/
https://en.wikipedia.org/wiki/Earl_of_Cardigan
ASTV ผู้จัดการออนไลน์ วันที่ 1 กรกฎาคม 2554 


                                                  MOTION OF IMPEACH


** CHALLENGES**
-ห้ามฆ่าตำรวจสภา
-สังหารเป้าหมายโดยไม่ถูกพบเห็น 

**รางวัล ** 
-เงิน 3480
-EXP 4000 
Full Synch Bonus
-เงิน 250
-EXP 250
-ชุด Blackguard Suit 

หลังจากได้ข้อมูลที่ชัดเจนจาก มาดาม Mary Anne ถึงชายนิรนามที่ชื่อ B ชายแก่มีหนวดหนาๆและแต่งชุดทหารม้า ที่อยู่เบื้องหลังแผนลอบสังหาร Disraeli นายกเทศมนตรีของลอนดอนตามคำสั่งของ Starrick นั้นจริงๆแล้ว B ก็คือตัวย่อของ Brudenell ซึ่งเป็นถึงตำแหน่ง Earl of Cardigan รัฐสภาเลยทีเดียว เป้าหมายของ Jacob ในครั้งนี้ง่ายแสนง่ายแค่บุกเข้าตึกรัฐสภาแล้วฆ่า Earl of Cardigan ขุนนางชั้นสูงของอังกฤษ 

                                           

เป้าหมาย Earl of Cardigan นั้นจะอยู่ในห้องทำงานมุมซ้ายของตึก ซึ่งมีตัวช่วยในการลอบสังหารดังนี้
1. Stealth opportunity (จุดรูปตราภาคีสีเขียว) – ตัวช่วยคือ ตำรวจที่รับสินบน Jacob สามารถใช้มันเป็นตัวพาเข้าไปในตึกรัฐสภาได้ง่ายๆโดยการจับตัวมันให้มันเดินนำเข้าไปด้านในตึกได้ 
 2. Assistance opportunity (จุดรูปคนสีฟ้า) – ตัวช่วยคือ นักการเมืองน้ำดีที่เริ่มไม่พอใจในการทำงานของ Earl of Cardigan จนคิดว่าอยากจะบอกกับตำรวจ  Jacob จะเข้าไปคุยกับเขาแล้วเนียนว่าเป็นจ่า Frederick มามีคดีอื้อฉาวจะขอพูดคุยเป็นการส่วนตัวกับ Earl of Cardigan เจ้านักการเมืองคนนี้ก็จะพาเดินเข้าไปจนถึงหน้าห้องของเป้าหมายทันที 
 3. Unique kill opportunity (จุดรูปกระโหลกสีม่วง) – ตัวช่วยคือ รัฐมนตรีที่เป็นคนถือพาสเวิร์ดในการผ่านเข้าห้องของ Earl of Cardigan ซึ่งต้องเข้าไปขโมยพาสเวิร์ดจากมันมาก็จะสามารถผ่านเข้าห้องของ Earl of Cardigan ได้ 



นำตัวช่วยทั้ง 3 มารวมกันจะทำให้สามารถทำฆ่าเป้าหมายได้เนียนมากขึ้นโดย
อันดับแรกไปขโมยพาสเวิร์ดเข้าห้อง Earl of Cardigan มาจากรัฐมนตรีที่เดินในสนามก่อน แล้วเข้าไปจับตัวตำรวจที่เดินในสนามใกล้ๆกันให้พาเข้าไปด้านในตึก พอเข้าไปเจอจุดนักการเมืองก็เข้าไปคุยเพื่อให้เขาเดินนำพาไปที่ห้องของ Earl of Cardigan ซึ่งอยู่ที่ห้องฝั่งมุมซ้ายทางทิศเหนือของตึก เมื่อมีพาสเวิร์ดแล้วก็จะสามารถผ่านเข้าประตูห้องทำงานของ Earl of Cardigan ที่เป็นเป้าหมายและ สามารถสังหารได้ทั้งการ์ดประจำตัวและเป้าหมายแบบไม่ทันได้ตั้งตัวในคราวเดียวเลย


Earl of Cardigan – ไอ้ตัวร้าย ขี้ขลาด ! ข้าเป็นถึงฮีโร่แห่ง Balaclava นะ ผ่านสงครามมาเจออาวุธทุกรูปแบบแล้ว เทียบกับแกแล้ว ลอบฆ่าด้วยมีสั้นงั้นหรอ ? โคตรจะทรงพลังเลยจริงๆ 
Jacob – พล่ามจบยัง ?
Earl of Cardigan – ใช้ธนูสิวะ ไม่เหมือนพวกรัสเซียหรือพวกอินเดีย แล้วมาวัดกันใหม่บางทีแกอาจจะจุกก็ได้ 
Jacob – รู้แล้ว แกบอกชั้นแล้วเรื่อง Balaclava น่ะ 
Earl of Cardigan – ลาก่อนอังกฤษ ประเทศที่รักของข้า ถึงประชาชนที่รักของข้า Earl of Cardigan กำลังดับสิ้นแสงลงแล้วพวกเจ้าเห็นมั๊ย !  แด่กองทหารม้าที่ 11 และองค์ราชินี จงเจริญ ! 
Jacob – เฮ้อ .. เชื่อมันเลยวะ 



 ช่วงเวลาปัจจุบัน ...  ที่หลบซ่อนตัวแห่งหนึ่ง  


Bishop – คุณเป็นไงบ้าง โอเคมั๊ย ?
Shaun – รอดตายจากหน่วยล่าสังหารก็โอเคแล้ว
Bishop – ชั้นอยากให้พวกคุณทำตามแผนเดิม ทำไมพวกคุณต้องพาตัวเองไปหาเรื่องลำบากๆด้วย งานของคุณไม่ใช่การต่อสู้กับพวก templar นะ 
Shaun – เราเคยมีเพื่อนร่วมงานคนนึง เขาเคยเป็นลูกของเจ้านายเก่า ผมก็ไม่ได้สนใจอะไรเขามากมายหรอก แต่ทุกคนปฏิบัติกับเขาอย่างกับคนพิเศษ ผมว่าเขาไม่ได้ลงทุนอะไรด้วยตัวเองเลยด้วยซ้ำ แต่ผมเข้าใจผิดเกี่ยวกับตัวเขาเมื่อได้เป็นเพื่อนกับเขา เพิ่งรู้ว่าเขาแกร่งกว่าที่คิดแถมยังเคยช่วยชีวิตพวกเราอีกต่างหาก ผมคิดว่าผมผิดเองที่ไปตัดสินเขาแบบนั้น แต่ผมก็ทำไปแล้ว ไม่รู้สิ ผมก็แค่กำลังพยายาม และ อยู่รอดให้ได้เหมือนกับเขา 



Galina – คุณเป็นนักฆ่าที่ดีแล้วน่า 
Shaun – แมร่งเอ๊ย ตกใจ !! 
Galina – ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ Shaun
Shaun –  Galina Voronina !! จริงดิ มาได้ไง ไม่ได้เจอกันตั้งแต่เกิดเหตุการณ์ที่ Lab ในฝรั่งเศส 
Galina – ช่ายๆ ระเบิดตูมตามเลยละ แถมนายก็ยังร้องแหกปากอย่างกับเด็กด้วยสิ Bishop บอกชั้นว่า Otso Berg อยู่ที่นี่ มันกำลังตามล่าพวกนาย ชั้นจะฆ่ามันให้เอง !
Shaun – เยี่ยมเลย ! เพราะถ้าคุณคิดแต่จะหลบซ่อนแล้วเฝ้าดูอยู่เงียบๆเหมือนแต่ก่อน ผมคงได้ตายจริงๆแน่นอนคราวนี้ 
Galina – พักผ่อนซะ การต่อสู้ครั้งใหญ่ของเรากำลังจะมาถึงแล้ว ! 


Bishop – Shaun และ Rebecca ยังปลอดภัยในตอนนี้ แต่เราก็ยังเชื่อใจว่าคุณจะสามารถหา “Shroud of Eden” มาให้พวกเราได้แน่นอน !!






           ภารกิจคู่ขนานของ Galina Voronina มาสเตอร์ของนักฆ่าแห่งปัจจุบันกาล


Galina Voronina เป็นตัวละครที่ปรากฏตัวเป็นครั้งแรกสำหรับ Assassin’s creed เวอร์ชั่นเกม แต่เธอเคยมีบทบาทโลดแล่นในแบบคู่ขนานมาแล้วในเวอร์ชั่น  Assassin's Creed: Initiates เรื่องเสริมให้อ่านใน Unity และ Assassin's Creed : Titan ที่เป็นคอมมิค ก่อนจะมาบรรจบกันในภาค Syndicate นี้ ซึ่งสามารถเล่าเส้นทางความเป็นมาคร่าวๆของเธอได้ดังนี้



ธันวาคม 2012 - Galina Voronina และน้องฝาแฝดของเธอเป็นลูกสาวของเหล่านักวิทยาศาสตร์ของกลุ่มภาคีนักฆ่าแห่งรัสเซีย (Russian Academy of Sciences) ที่ทำการวิจัยและทดลองสร้างเครื่อง Animus สำเร็จด้วยตัวเองเป็นกลุ่มแรกในห้องทดลองของภาคีที่มอสโคว์ ก่อนที่จะเกิดโศกนาฏกรรมขึ้นในการทดลองเมื่อแม่ของ การิน่า ยอมเอาตัวเองเข้าไปทดสอบเครื่อง Animus ที่ตัวเองสร้างขึ้นแต่เพียงผู้เดียวจนทำให้เธอเห็น จินตนาภาพของอีฟ (vision of Eve) ที่มากเกินไปจนทำให้เกิดอาการผิดปกติทางสภาวะจิตที่เรียกว่า “Bleeding Effect” จิตที่ไม่สมประกอบของแม่ของการิน่าทำให้เธอพยายามทดลองต่ออย่างบ้าคลั่งด้วยการจับนักวิทยาศาสตร์ทั้งหมดเข้าเครื่อง Animus ด้วยจนทุกคนเกิดความบ้าคลั่งจากอาการ “Bleeding Effect” ไปด้วย ทำให้การิน่าไม่มีทางเลือกที่ต้องฆ่าแม่และนักวิทยาศาสตร์ทุกคนที่มีอาการบ้าคลั่งจนหมด สุดท้าย การิน่าและน้องสาวฝาแฝดของเธอคือ 2 ผู้อยู่รอดที่เป็นปกติที่สุดในห้องทดลอง จนสุดท้าย การิน่าและน้องสาวก็ถูกแม่เธอบังคับให้เข้าไปทดลองในเครื่อง Animus จนได้ แต่จิตที่แข็งแกร่งของเธอกลับทำให้เธอสามารถควบคุมอาการ “Bleeding Effect” อย่างเสถียรได้จนสามารถเข้าไปซึมซับและเรียนรู้เทคนิคการต่อสู้จากบรรพบุรุษเธอมาได้แต่โชคร้ายที่น้องสาวฝาแฝดเธอไม่ได้โชคดีเหมือนเธอ



มีนาคม 2014 - Galina ไม่มีทางเลือกที่ต้องพยายามหนีจากห้องทดลองที่เต็มไปด้วยคนบ้าคลั่งนี้ให้เร็วที่สุด เธอจึงติดต่อ Gavin Banks, Emmett Leary และ Emmanuel Barraza นักฆ่าจากกลุ่ม Altair II ให้ช่วยเหลือ ช่วยกำจัดผู้เกิดอาการผิดปกติที่เกิดจากการเห็นจินตนาภาพของอีฟ (vision of Eve) ให้หมด รวมถึงแม่และน้องสาวฝาแฝดของเธอด้วย สุดท้าย Galina ก็ไม่มีทางเลือกที่จะต้องตัดสินใจสังหารแม่ และ น้องสาวที่คลุ้มคลั่งจากอาการ “Bleeding Effect” ด้วย Hidden Blade ของเธอเอง ทำให้เธอเป็นสมาชิกของภาคีนักฆ่าของรัสเซียคนสุดท้ายที่เหลือรอดจากห้องทดลองก่อนจะเข้าร่วมกลุ่มกับกลุ่ม Altair II เพื่อเดินฐานกลับฐานที่  St. Petersburg ในเวลาต่อมา ความเป็นมาแบบคร่าวๆของเธอก็เริ่มจาก

พฤษภาคม 2014 - Galina ปฏิบัติงานในฐานะทีม Altair II ในการตามหา William Miles จนพบที่ซ่อนที่ถ้ำแห่งหนึ่งในนอร์เวย์จนได้ตัว William มาร่วมทีมในที่สุด ต่อมา Rebecca Crane ได้อัพเกรดระบบตรวจจับของทีมจนพบสิ่งผิดปกติที่เกิดจากมีสายลับแอบส่งข้อมูลของทีมออกไปสู่ภายนอกที่เรียกตัวเองว่ากลุ่ม Initiates แน่นอนว่า Galina ก็เป็นหนึ่งในผู้ต้องสงสัยเพราะเธอเพิ่งเข้ามาร่วมงานกับทีมได้แค่เดือนเดียว แต่สุดท้ายเธอก็พ้นข้อกล่าวหาด้วยการจัดการสายลับของ Initiates ตัวจริงซึ่งก็ถูกเปิดเผยออกมาว่าคือ Stephanie Chiu และ Eric Cooper และสุดท้าย Shaun ก็กล่อมจนทั้งคู่เข้าร่วมกับภาคีนักฆ่าได้ในที่สุด

ตุลาคม 2014 -  Galina ได้ออกปฏิบัติการณ์ร่วมกันกับ Gavin Bank และ Shaun Hastings ในภารกิจห้องทดลองของ Abstergo ในฝรั่งเศสที่กำลังค้นคว้าเกี่ยวความรู้ของปราชญ์ที่ชื่อ John Standish จน Galina และ Shaun ได้ปะทะกับนักวิจัยของ Templar ที่ชื่อ Álvaro Gramática ซึ่ง Galina พยายามจะฆ่ามันด้วยระเบิด แต่ Gramática ก็รอดตายไปได้เพราะ “Shroud of Eden” ที่มันสวมอยู่ หลังจากถูกโจมตี Templar ส่งทีมล่าสังหารโดยการนำของ Juhani Otso Berg Templar Master หัวหน้าทีม Sigma กับมือขวาของมันที่ชื่อ Sorkin  ออกไล่ล่าพวกภาคีนักฆ่าทันที ซึ่ง Galina ก็สามารถสังหาร Sorkin  ลงได้จนพาทีมนักฆ่าหนีจากวิกฤติได้และเริ่มไล่ล่าตามหา “Shroud of Eden” มานับแต่นั้น

ปี 2015 ทันที่ที่ Galina และ Xavier Chen เสร็จภารกิจการไล่ล่า Joseph ที่ทรยศต่อองค์กร แต่ Joseph อ้างว่าเขาทำลงไปเพราะต้องการจะแทรกซึมเพื่อล่อเจ้าหน้าที่ระดับสูงของ Templar เพื่อให้ได้มาซึ่งข้อมูลตำแหน่งที่ซ่อนของ “Shroud of Eden” และเพื่อพิสูจน์คำพูดของ Joseph ทางภาคีนักฆ่าจึงให้เจ้าหน้าที่เทคนิค Koby ทำการแฮกเข้าระบบ Helix ของ Abstergo จนสาวไปถึงตัว Charlotte de la Cruz ลูกจ้างที่ทำงานในธนาคารใน San Diego.Galina และ Xavier จึงเดินไปที่นั่นเพื่อตามหา Charlotte ก่อนจะต้องฟาดฟันกับพวก Templar ที่ต้องการไล่ล่าเหมือนกันจนสามารถช่วย Charlotte เอาไว้ได้ ก่อนที่จะถูกจับเข้าเครื่อง Animus เพื่อย้อนความทรงจำไปจนถึงบรรพบุรุษของเธอ ซึ่งก็คือ Tom Stoddard นักฆ่าในยุคล่าแม่มด Charlotte แทบจะทำไม่ไหวเกี่ยวกับความโหดเหี้ยมของบรรพบุรุษเธอ แต่สุดท้ายเธอก็ได้ความสามารถมาพร้อมกับกำหนดภารกิจตามหาที่ซ่อน “Shroud of Eden” ของ Tom Stoddard ได้สำเร็จ

หลังจบภารกิจ Galina เธอก็รีบติดต่อหา Bishop ให้ส่งเธอไปสมทบกับ Shaun Hastings และ Rebecca Crane เพื่อนเก่าใน London เพื่อใช้ข้อมูลที่ได้มาเพื่อช่วยตามหา “Shroud of Eden”

Cr.-ข้อมูลประกอบบทความจาก 
http://assassinscreed.wikia.com/wiki/Galina_Voronina 
สามารถอ่านบทความที่แปลบทพูดโดยละเอียดของคุณ krezeegamer ได้ที่ https://es.wordpress.com/tag/assassins-creed-initiates 
ดูคลิปภาพประกอบได้ที่ https://www.youtube.com/watch?v=UmiakTRDf6s 
/


                                     SEQUENCE 08

                               THE JOY OF FREEDOM

การตามหาตัว Crawford Starrick และร่องรอยของ “Shroud of Eden” ของ 2 พี่น้อง Frye ยังคงดำเนินต่อไปแบบออกนอกลู่นอกทาง โดยเฉพาะกับ jacob ที่เหมือนจะไม่รู้ตัวว่าการกระทำที่บ้าระห่ำของเขาดันไปดึงดูดความสนใจของนายใหญ่แห่งแก็งค์อาชญากรรมของกรุงลอนดอนที่ชื่อ Maxwell Roth เข้าเต็มๆเสียแล้ว 

Jacob – ได้รับเชิญมาดินเนอร์น่ะ  
Evie- จะมากินดินเนอร์ตอนบ่ายเนี้ยนะ ?
Jacob - Maxwell Roth !!
Evie- นายใหญ่ของทุกแก็งค์ในลอนดอนน่ะหรอ ? นายคงไม่ไปยุ่งกับมันใช่มั๊ย 
Jacob – ทำไมจะไม่ละ ! 


                                STRANGE BEDFELLOWS


** CHALLENGES**
-ใช้รถไฟในการลอบเข้าไปที่สถานี St.Pancars 
-ทำลายลังไดนาไมค์ทั้งหมดด้วยการจุดไฟ (ก็เข้าไปจุดไฟทำลายมันแบบปกตินั่นแหละ)

**รางวัล ** 
-เงิน 1160
-EXP 500 
Full Synch Bonus
-เงิน 250
-EXP 250
-ผ้าคลุม Lady Cyrielle’s Shawl  

ทันทีที่ภารกิจของ Jacob ที่ลุกขึ้นงัดข้อกับผู้มีอิทธิพลระดับ Crawford Starrick ถึงขนาดทำให้ลูกน้องข้างกายคนสำคัญตายไปทีละคนจนทำให้ ผู้นำของ Templar เกือบไปไม่เป็น แก็งค์ต่างๆในลอนดอนที่ถึงแม้จะอยู่ในการควบคุมของ Templar ก็ไม่ได้แปลว่าพวกมันจะสยบยอมไปได้ตลอดและมองข้ามหนทางเงยหัวขึ้นจากอำนาจของ Starrick จากการที่ชายที่ Jacob ได้ปูทางเอาไว้ให้ แน่นอนว่า Maxwell Roth นายใหญ่ของทุกแก็งค์ในลอนดอนไม่ยอมพลาดโอกาสนั้น โอกาสที่จะลุกขึ้นทวงอำนาจคืนมาจาก Starrick เพื่อเป็นใหญ่ในลอนดอนอีกครั้ง โดยมี Jacob เป็นตัวช่วย  Maxwell จึงไม่รอช้าที่จะเรียก Jacob เข้าไปหาเพื่อพบปะพูดคุยยื่นข้อเสนอทันที   

-เข้ามาที่จุดรับเควสหลักของ Jacob ที่หน้าตึกโรงละครโอเปร่าเพื่อเข้าไปพบ Maxwell Roth ตามที่ได้การ์ดเชิญให้มาพูดคุย รับภารกิจแล้วเข้าไปที่จุดเขียวซึ่งเป็นประตูหลังคุยกันคนเฝ้าประตูเพื่อขอเข้าไปตามที่ได้รับเชิญเอาไว้จนได้เข้าไปด้านหลังเวที ใช้ Eagle Vision มองหาเป้าหมายให้พบ แล้วเดินไปหา Maxwell ที่โต๊ะอาหารหลังเวที



Maxwell – โอ้ แขกผู้มีเกรียติของเรามาแล้ว เชิญ ! ผมได้ยินเสียงร่ำลือของคุณมานานแล้วนะถึงเรื่องที่คุณหาญกล้าที่จะลุกขึ้นต่อสู้กับคุณ Crawford Starrick อย่างเด็ดเดี่ยว 
Jacob – ผมตามเก็บพวกของมันที่ละคน คุณไม่โกรธบ้างรึไง ?
Roth – ตรงข้ามเลย โคตรตื่นเต้นจนบอกไม่ถูกเลยละ ! ฮ่าๆๆ ตอนนี้เรื่องคุณ Starrick มันไม่เหมือนเดิมแล้ว ผมรู้สึกหายอึดอัดและความกลัวต่างๆหายไปจนหมดเลย แล้วถ้าเราร่วมมือกันแล้วจัดการโค่น Crawford Starrick ซะละคุณว่าดีมั๊ย ?
Jacob – อ่อ เรื่องนี้ผมไม่ค่อยแน่ใจอ่ะนะ 
Roth – เพื่อนฟังนะ ถ้าเกิดผมไม่สามารถช่วยคุณให้กำจัด Starrick ได้สำเร็จอย่างที่ตกลงกันไว้ ก็ยินดีที่จะให้คุณมาฆ่าผมให้ตายคาโรงละครนี้ได้เลย 
Jacob – แล้วคุณจะหาทางออกกับเรื่องนี้ยังไง?
Roth – ก็ถือซะว่าเป็นโอกาสที่จะเล่นสนุกกับชายที่กล้าหาญที่สุดในลอนดอนไง 
Jacob – หึหึ  งั้นก็ตกลงตามนั้น
Roth – Lewis เตรียมรถม้าเว้ย !! ฮ่าๆ เราไปกันยัง ? 

-พา Roth ขี่รถม้าไปที่จุดหมายแล้วตามเขาไปจนถึงบนหลังคาข้างทางรถไฟ Maxwell จะบอกถึงแผนของเขาที่อยากให้ Jacob โดดขึ้นรถไฟที่กำลังผ่านมาจุดหมายของรถไฟคือสถานี St.Pancars ที่มีลูกน้องของ Starrick มากมายอยู่ที่นั่น เมื่อรถไฟแล่นมาก็โดดขึ้นไปได้เลย รอจนมันแล่นเข้าไปถึงสถานีจะเริ่มเห็นศัตรูมากมายคุ้มกันอยู่ เป้าหมายคือไปจุดระเบิด 5 จุดในจุดเขียวในพื้นที่ให้หมด จากนั้นเข้าไปที่จุดเขียวเพื่อลักพาตัวคนขับรถไฟ แล้วพาตัวมันมาที่หัวขบวน เพื่อให้มันขับรถไฟออกจากสถานี Jacob ก็จะขโมยรถไฟสินค้าของ Starrick ออกมาได้สำเร็จตามแผน


                                                   TRIPLE THEFT


** CHALLENGES**
-ห้ามฆ่าตำรวจในพื้นที่ของเป้าหมายที่จะจับตัว (ในกรมตำรวจ Scotland Yard)
-ห้ามปล่อยให้เป้าหมายที่ถูกลักพาตัวหลุดหนีไปได้ 

**รางวัล ** 
-เงิน 1160
-EXP 500 
Full Synch Bonus
-เงิน 250
-EXP 250
-Assassin Gauntlets Schematic 

-เข้าไปที่จุดหมายของภารกิจ Jacob ในเขต Strand Jacob จะเข้าไปพบ Roth เพื่อวางแผนในการบ่อนทำลาย Starrick ต่อในแผนต่อไป ครั้งนี้



Roth – ครั้งที่แล้วแผนเราสำเร็จได้ด้วยดี ว่ามั๊ย ? คราวนี้เราจะจัดการ 3 คนสนิทที่เป็นหัวหน้ากลุ่มผู้สนับสนุนฐานอำนาจของมัน ให้มันหายสาบสูญไปซะ  
Jacob – นายนี่มันปีศาจชัดๆ 
Roth – ไม่ๆที่ผมต้องทำแบบนี้ก็เพื่อมอบความชื่อเสียงและเกรียติยศของคุณเท่านั้นเอง รถม้เราพร้อมแล้วเราไปกันได้เลย !

-ออกไปขี่รถม้าไปกับ Roth เดินทางไปที่จุดหมายสีเขียวที่แรกคือ National Gallery เมื่อเดินทางมาถีงจุดหมาย ใช้ Eagle vision มองหาเป้าหมายสีเหลืองที่เป็นเด็กยืนอยู่หน้ารั้ว Jacob จะถามหา Hattie Cadwallader ซึ่งเป็นผู้หญิงที่ Starrick เข้ามาติดต่อด้วย เด็กจะบอกว่าเห็นเธอขโมยรูปปั้นอยู่ เข้าไปที่จุดเขียวต่อที่สวนจะพบที่วางรูปปั้นที่หายไป ล็อคคอตำรวจให้สลบแล้วสำรวจดูแล้วคุยกับเด็กตรงหน้าประตูอีกฝั่งเขาจะบอกว่า Hattie ขโมยรูปปั้นไปแล้วไปซ่อนที่ท่อระบายน้ำ
-ตามลงไปที่ทางลงท่อทางขวาของประตูสวน ลอบจัดการศัตรูเข้าไปด้านในท่อจนพบ Hattie จับตัวเธออกมาจะพบว่าเธอเองก็กำลังหวาดกลัวที่ขโมยของมีค่าที่ Gallery ส่งให้ Starrick ไม่ทันกำหนด จับตัวเธอมาส่งที่รถม้าของ Roth ได้เลย
-จากนั้นเดินทางไปยังจุดหมายต่อไปที่จุดเขียวที่ Saint Jame Park Roth จะให้ไปจับตัว Benjamin Raffles หัวหน้าทีมรักษาความปลอดภัยของ Starrick ซึ่งเป็นเป้าหมายที่ 2 ที่ต้องเก็บ ใช้ Eagle vision มองหาเป้าหมายสีเหลืองแล้วเข้าไปจับตัว Benjamin ใส่รถม้าคันไหนก็ได้แล้วขี่พามาส่งที่รถม้าของ Roth ที่จุดหมายสเขียว
-เดินทางไปยังจุดเขียวต่อไปที่สำนักงานใหญ่ของ Scotland Yard ที่ Westminster ตามหาเป้าหมายที่ 3 Chester Swinebourne เป็นลูกน้องคนสนิทที่สำคัญอีกคนของ Starrick ที่ดูแลเรื่องสินบนของตำรวจทั้งหมด ใช้ Eagle vision มองหาเป้าหมายสีเหลืองแล้วเข้าไปจับตัว Chester มาส่งที่รถม้าของ Roth ก็เป็นอันเสร็จงาน

ดูเหมือน Roth จะดีใจจนเนื้อเต้นที่จัดการลูกน้องคนสำคัญในฝ่ายปฎิบัติการในพื้นที่ของ Starrick ก่อนที่เขาจะบอกว่าจะนัด Jacob ให้ไปเจอกับมันที่โรงละครโอเปร่า Alhambra อีกครั้งเพื่อเตรียมทำแผนต่อไป



                                    FUN AND GAMES 


** CHALLENGES**
-ห้ามมีคนตายในพื้นที่ของการวางระเบิด
-ช่วยเด็กออกมาจากบ้านที่ไฟไหม้ภายใน 2 นาที

**รางวัล ** 
-เงิน 1160
-EXP 500 
-Brass Knuckles Copper Love  

-เข้าไปรับเควสกับ Roth ต่อที่จุดภารกิจหลักของ jacob ครั้งนี้เขาจะให้ Jacob ไปวางระเบิดที่โรงงานลับของ Starrick เมื่อเดินทางเข้ามาถึงจุดหมาย ที่ต้องคือลอบเข้าไปแบกกล่องระเบิดไดนาไมค์ที่จุดเหลืองมาวางที่จุดสีเขียว 4 จุดรอบๆตึกให้หมด
-แต่ทันทีที่ระเบิดเริ่มทำงาน Jacob จะเริ่มรู้ว่าในโรงงานนั้นมีเด็กๆที่ถูกจับมาทำงานอยู่ด้วย แถมเจ้า Roth ก็รู้อยู่แกใจแต่มันไม่สนใจ ทำให้ Jacob ต้องรีบเข้าไปช่วยเหลือเด็กด้านในโรงงานออกมาให้เร็วที่สุด รีบเข้าไปทางหน้าต่างแล้วแบกเด็กที่จุดเหลืองออกมาที่จุดเขียวหน้ารั้วให้หมดทุกคนก่อนเวลาจะหมด

หลังจากเหตุการณ์ Lewis คนสนิทของ Roth จะเอากล่องของขวัญและจดหมายมาส่งให้ Jacob …

Lewis – ของขวัญจากคุณ Roth ครับคุณ Frye .. คุณเองก็ต้องควรระวังด้วยเพราะถ้าคุณ Roth เขาโกรธใครซักคน เขาก็มักจะนำความเจ็บปวดมาให้แบบแสนสาหัสกับคนผู้นั้นเสมอ  


“สวัสดีคุณ Jacob ที่รัก ในที่สุดการผจญภัยที่น่าตื่นเต้นของเราก็ต้องจบลง ถึงเวลาที่เราได้ร่วมงานกันมันจะสั้น แต่เชื่อเถอะว่ามันไม่ได้ไร้ความหมาย ผมหวังว่าอนาคตที่คุณหวังไว้จะจบลงได้ดี ... ด้วยไมตรีจิต จาก maxwell “

ป.ล สิ่งที่ผมทำลงไปทั้งหมดนั้น จะทำให้ลอนดอนถูกปิดแล้ว ที่เหลือคุณก็เชิญยำ Starrick ได้ตามใจที่อยากทำได้เลย

กล่องของขวัญที่ Roth ให้กับ jacob คือ ซากศพของนกที่เขาที่เลี้ยงไว้ ไม่ว่ามันจะตายลงเพราะอะไร แต่มันสื่อความหมายมาถึง Jacob ว่า วายร้ายที่ทรงอธิพลที่สุดของลอนดอนได้เป็นอิสระแล้ว ........ 




                                             FINAL ACT 


 ** CHALLENGES**
-ห้ามใช้อาวุธพิสัยไกลยิงพวกตัวปลอมของ Roth ทั้ง 4 คน
- หนีออกจากโรงละครที่ไฟไหม้ภายใน 90 นาที

**รางวัล ** 
-เงิน 3480
-EXP 4000
Full Synch Bonus
-เงิน 250
-EXP 250
-Maximum Dracula Schematic 



เดินทางเข้าไปที่จุดรับภารกิจในเขต The Strand ที่โรงละครโอเปร่า Alhambra Jacob จะเข้ามาหา Maxwell Roth เพื่อทำตามสัญญาที่ Roth เคยบอกไว้ก่อนร่วมงานกันว่าหากเขาทำให้เรื่องนี้ผิดพลาดก็ให้เข้ามาฆ่าเขาได้เลย และสิ่งที่ Roth ผิดพลาดไม่ใช่เรื่องของการไล่ล่า Starrick แต่เป็นความโหดเหี้ยมที่มันหลอกให้ Jacob เข้าไประเบิดโรงงานทั้งๆที่มีเด็กอยู่ข้างใน แม้ว่า Jacob จะเข้าไปช่วยเอาไว้ได้แต่เขาก็ต้องนำความตายมาสู่ Roth ด้วยเช่นกัน ....



                เป้าหมายคือ Maxwell Roth ซึ่งมีตัวช่วยในการลอบสังหารดังนี้

                                        

-Stealth opportunity (จุดรูปตราภาคีสีเขียว) – ตัวช่วยคือ Usher เจ้าหน้าที่ต้อนรับหน้าประตูทางเข้า ที่คอยดูแลการเข้าไปในงานของผู้ชม กด R3 เพื่อดูรายละเอียดของเธอก่อนจะทำให้รู้ว่าจะสามารถผ่านเธอไปได้ง่ายมากถ้ามีหน้ากากมาใส่ โดยสามารถเข้าไปขโมยกับพวกการ์ดที่ยืนอยู่รอบๆโรงละครได้โดยการฆ่าหรือทำให้สลบแล้วการ์ดคนแรกที่เข้าไปเล่นงานจะสามารถเก็บหน้ากากมาใส่ได้ จากนั้นกลับไปคุยกับเธออีกครั้งเธอจะพาเข้าไปในโรงละครพร้อมกับกลุ่มคนดูอื่นๆ 

เข้ามาในโรงละครแล้วลอบขึ้นไประเบียงชั้นบนสุดที่จุด Vantage Point รูปนกเพื่อสังแกตการลอบๆเวทีแสดงก็จะพบ Maxwell Roth ที่เตรียมแสดงอยู่หลังเวที เมื่อใช้ Eagle vision มองดูจะเห็นจุดเหลืองที่เป็นเป้าหมายหลายคนซึ่งจริงๆเป็น Roth ตัวปลอมที่เอาไว้เป็นตัวล่อเท่านั้น ซึ่งตัวปลอมทั้ง 4 คนคือเป้าหมายที่ Jacob ต้องกำจัดก่อน ซึ่งสามารถใช้จุดตัวช่วยจัดการพวกมันได้โดยไม่ต้องเสี่ยง

- Assistance opportunity (จุดรูปคนสีฟ้า) – ตัวช่วยคือ สาวเสิร์ฟที่กำลังเดินเสิร์ฟเหล้าให้ผู้ชมอยู่ที่ที่นั่งคนดู เธอเคยมีประวัติไม่ดีเพราะเคยวางยาพิษลูกค้ามาแล้ว เข้าไปคุยกับเธอ Jacob จะทำทีไปถามทางไปห้องน้ำกับเธอแล้วฉวยโอกาสเอายาบ้าคลั่งใส่ลงในเหยือกเหล้าได้ เธอก็จะเอาเหล้าที่มียาบ้าคลั่งไปเสิร์ฟให้ลูกน้องของ Roth ตัวปลอมกินก็จะทำให้มันฆ่ากันเอง  

ทันทีที่ฆ่าตัวปลอมจนหมด Maxwell Roth ก็จะเปิดตัวออกมาบนเวที แต่ดูเหมือนมันจะรู้ตัวอยู่แล้วว่า Jacob จะมาฆ่ามันที่นี่มันเลยจัดการต้อนรับด้วยการเผาโรงละครให้ลุกไหม้เป็นทะเลเพลิง ช่วงนี้จะสามารถใช้ตัวช่วยสุดท้ายจัดการมันได้

- Unique kill opportunity (จุดรูปกะโหลกสีม่วง) – ตัวช่วยคือ Machinist ฝ่ายเทคนิคของเวทีที่โดนจับขังเอาไว้ เข้าไปช่วยเขาออกมาจากห้องขัง เขาจะทำการเอาคานไม้ของฉากเหนือเวทีลงมาให้สามารถไปบนคานไม้ด้านบนเวทีได้ ซึ่งเป็นจุดเหมาะที่สุดในการสังการ Roth ตอนที่มันออกมาบนเวทีได้


Roth – ที่รัก คืนนี้ช่างสุดยอดอะไรแบบนี้ ทักษะระดับตำนาน 
Jacob – ทำไมแกต้องทำแบบนี้ ?
Roth – อะไร หักคอลูกนกที่อยู่ระหว่างช่องของนิ้วโป้งกะนิ้วชี้ของผมอ่ะหรอ ? คุณรู้สึกละเอียดอ่อนกับมันไม่ได้แปลว่าที่ผ่านมาคุณบริสุทธิ์หรอกนะ นายเชื่อว่าจะชวยบ้านเมืองที่บ้าคลั่งนี้ได้ มันก็แบบเดียวกับที่ผมทำไปทั้งหมดนั่นแหละ ทำไมถึงไม่ใช่ละว่ามั๊ย ฮ่าๆๆๆๆ 

-หลังจากฆ่า Roth ได้แล้วก็รีบหนีออกจากตึกที่กำลังไฟไหม้นี้ได้เลย (หนีออกไปที่ทางออกให้เร็วที่สุดภายใน 90 นาทีก็จะได้บวกโบนัสของ Challenge ด้วย)


ที่ห้องทำงานของ Crawford Starrick …..




Starrick – มันกำลังจะเกิดความวุ่นวายไปทั่ว เหมือนคลื่นยักษ์ที่มันสาดซัดเข้ามาจนทำให้ไฟที่ส่องสว่างตามถนนของเมืองต้องดับสนิท เมืองของเรากำลังจะตาย Twopenny ก็พลาด Lucy ก็พลาด Brudenell, Elloitson, Pear ทุกคนหายไปหมดในค่ำคืน ตอนนี้ทุกอย่างขึ้นอยู่กับชั้นแล้ว พวก Assassins นำความวุ่นวายเข้ามาถึงเมืองของเรา ทำให้ผู้คนในเมืองกลายเป็นสัตว์ร้ายที่หันอาวุธเข้าหาพวกเรา แต่คนของเราจะต้องรอดจากการโจมตีของพวกมัน เพื่อป้องกันไม่ให้ลอนดอนกลับสู่ยุคมืดอีกครั้ง ชั้นต้องเริ่มทำสิ่งใหม่ ทำให้ลอนดอนเกิดใหม่อีกครั้ง !

                  **********************************************

Bishop - “Piece of Eden” อยู่ใต้พระราชวัง Buckingham ทั้งหมดที่เราต้องการอยู่ที่นั่น เริ่มแผนการสำรวจของเราได้เลย 
Shaun – เดี่ยวก่อนสิ มันยังไม่ชัวร์เลยว่าเป็นเรื่องจริง ผมว่าเราควรเช็คให้แน่ใจให้มัน 100 % ก่อนดีกว่า ไม่งั้นโดน Otso Berg 
Rebecca – เรื่องนี้ชั้นเห็นด้วยกับ Shaun นะ 
Shaun – ตอนนี้เราอยู่ใกล้ๆกับพระราชวัง Buckingham อยู่แล้ว เราจะรอให้คุณค้นหาทางความทรงจำก่อนให้ชัวร์แล้วเราค่อยลุยจะดีกว่านะ 
Bishop – งั้นก็แล้วแต่พวกคุณแล้วกันนะ 


                     **********************************************



Evie – นายมาสาย ตอนนี้ Starrick มันเริ่มเคลื่อนไหวแล้ว “Piece of Eden” น่าจะอยู่ที่ไหนซักแห่งในพระราชวัง Buckingham
Jacob – ก็ปล่อยให้มันไปสิ  
Evie – ชั้นเห็นวีรกรรมของนายที่ป่วนไม่ทั่วเมืองยังไม่เคยว่าเลย ช่วยเคารพการตัดสินใจของชั้นบ้างสิ 
Jacob – ชั้นเพิ่งจัดการพวกคนสนิทของ Starrick ไป แล้วเธอทำอะไรบ้าง ตกลงพวกเราอะไรๆก็ต้องถาม Henry ตลอดเลยงั้นหรอ 
Evie – ชั้นมัวแต่ยุ่งกับการไปแก้ไขความผิดพลาดที่นายทำไว้ไง “ยิ่งรีบก็ยิ่งช้า”
Jacob – ไม่ต้องมาอ้างคำของพ่อกันชั้นเลยนะ !
Evie –  โทษทีนะ เอะอะนายก็จะทำลายทุกอย่างไม่ได้หรอกนะ พ่ออาจถูก ที่ไม่เคยเห็นด้วยกับแผนการอะไรของนายเลยไง
Jacob – พ่อตายไปแล้ว !!
Henry – พอได้แล้ว !! สายของผมรายงานมาแล้วว่า Starrick มันวางแผนที่จะขโมย “Piece of Eden” ตอนมันเข้าไปในงานเลี้ยงที่พระราชวังคืนนี้แล้ว ถ้ามันทำสำเร็จเมืองนี้ก็คงไม่มีอะไรเหลือ 
Jacob – อย่างน้อยตอนนี้เราก็มีเป้าหมายร่วมกันแล้วนะ Evie 
Evie – จบงานนี้เราก็ทางใครทางมันแล้วกัน 
Jacob – ได้ ... แผนว่ายังไง ? 



Mary Anne – ไม่ถึงไม่ฝันว่าจะเจอคุณทั้ง 2 คนอีกนะ หลังจากเป็นกลายเป็นข่าวดังไปทั่วท้องถนนแล้ว 
Evie – Miss Disraeli คะ คือเราต้องการจะเข้าไปสำรวจหาของบางอย่างในพระราชวัง Buckingham ... 
Jacob – เอ่อ ฮ่าๆ คือน้องสาวผมเค้าพูดผิดนะจริงๆเราแค่อยากเข้าไปที่งานเลี้ยงที่พระราชวังคืนนี้นะครับ แฮะๆ  
Mary Anne – โอ้ คงเป็นไปไม่ได้หรอกคะ เพราะงานนี้ให้เข้าเฉพาะคนที่มีบัตรเชิญเท่านั้นนะ แล้วก็เฉพาะเอ่อพวกชนชั้นสูงด้วย  
Disraeli – นี่ถ้าเจ้า Gladstone ไม่ก่อเรื่องเมื่อบ่ายนี้พวกคุณคงได้ใช้บัตรของผมแล้วละ
Jacob – เยี่ยมเลยงั้นผมคงต้องฉายเดี่ยวแล้วงานนี้ 
Evie – เอ่อ Miss Disraeli คะ ถ้าคุณไม่ว่าอะไรช่วยบอกที่อยู่ของ Gladstone หน่อยได้มั๊ยคะ บางทีพี่ชายสุดที่รักของชั้นอาจใช้ความสามารถในการเอาบัตรมาจากเขาได้ 
Mary Anne – ฮ่าๆ ฟังดูน่าสนุกจัง คุณได้ยินมั๊ยที่รัก เรากำลังจะไปขโมยบัตรเชิญของเจ้า Gladstone กัน 
Jacob – โอ้ ขอบคุณสำหรับคำแนะนำดีๆจากคุณน้องสาวนะครับ 
Evie – ยินดีคะพี่ชายที่แสนดี เอ่อ Miss Disraeli ชั้นต้องขอตัวไปเข้าเฝ้าเจ้าชาย Maharajah ก่อนนะคะ เผื่อจะหาทางลับใต้ดินไว้เป็นแผนสำรองไว้นะคะ 



                                               SEQUENCE 09


หลังจาก Jacob บดขยี้ทุกทางจนทำให้ Starrick แทบจะหมดทางเดินทำให้เขาต้องลุกขึ้นมาเปลี่ยนแปลงบ้างสิ่งที่ร้ายแรงขึ้นด้วยแผนสุดท้ายคือครอบรอง “Piece of Eden” เพื่อแผนบางอย่างที่อาจทำให้ลอนดอนไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป ท่ามกลางเรื่องราวที่มาถึงช่วงขมวดปมสุดท้าย ภายใต้ความวุ่นวาย พี่น้อง Frye ก็มาถึงทางตันด้านความสัมพันธ์ที่เกิดจากการไม่ลงรอยกันเรื่องแผนการที่ทั้งคู่ต่างวางไว้ Jacob ที่มุ่งเน้นที่จะทำลาย Starrick และโค่นอำนาจของ Templar ด้วยทุกทางที่ทำได้กับแผนตามหา“Piece of Eden” พลังที่ยิ่งใหญ่กว่าของ Evie อาจเป็นโชคดีที่จุดบรรจบของทั้ง 2 สิ่งในหนทางของทั้งคู่มาบรรจบกันที่เดียวกันคือ หยุดยั้งเจ้า Crawford Starrick ! 



                                         DOUBLE TROUBLE


** CHALLENGES**
-ห้ามฆ่าตำรวจระหว่างทำภารกิจ
-ห้ามทำให้รถม้าของ Gladstone พังเสียหาย

**รางวัล ** 
-เงิน 1330
-EXP 600 
Full Synch Bonus
-เงิน 250
-EXP 250
-Devil Handshake Schematic

แผนที่จะหยุดยั้ง Starrick ที่กำลังดำเนินแผนร้ายในงานเลี้ยงที่พระราชวัง Buckingham ในคืนนี้ ทำให้พี่น้อง Frye ต้องทำทุกทางเพื่อผ่านเข้าไปในงานเลี้ยง เพื่อตามหา “Piece of Eden” ให้เจอก่อน Starrick แต่ก่อนจะเข้างาน Jacob ต้องขโมยบัตรเชิญจาก Gladstone มาเพื่อเนียนเข้างานให้ได้เสียก่อน

-หลังจากรับภารกิจแล้ว เดินทางไปที่บ้านของ Gladstone ในเขต Westminster ที่จุดหมายสีเขียวได้เลย มาถึงแล้วเข้าไปถามเด็กหญิงเธอจะบอกว่า Gladstone เพิ่งออกไปพร้อมชี้ทางไปให้ด้วย จากนั้นเดินทางต่อไปยังเป้าหมายสีเขียวต่อไปซึ่งเป็นจุดที่ Gladstone มันจัดงานปาร์ตี้กลางแจ้งที่มีตำรวจมากมายในงาน เป้าหมายคือเข้าไปขโมยบัตรเชิญเข้างานเลี้ยงที่อยู่บนโต๊ะในเต็นท์กลางสวนที่เป้าหมายสีเหลือง บัตรอีกใบคือจุดเหลืองต่อไปที่ตัวของภรรยาของ Gladstone ที่ต้องเข้าไปขโมย คุณนาย Gladstone นั้นเดินอยู่ในสถานีรถไฟที่มีการคุ้มกันของตำรวจด้วย สังเกตการณ์รอจนเธอไปนั่งที่เก้าอี้ตำรวจจะเดินไปจนหมดเป็นโอกาสดีที่จะไปลอบขโมยบัตรที่ตัวเธอได้เลย ที่เหลือคือเป้าหมายต่อไปคือเข้าไปจุดเหลืองเพื่อขโมยรถม้าของ Gladstone ขับไปไว้ที่จุดหมายก็เป็นอันจบภารกิจ



                                  DRESS TO IMPRESS 


** CHALLENGES**
-ห้ามฆ่าทุกคนระหว่างทำภารกิจ
-เอาตัวทหารที่สลบหลังถูกขโมยชุดไปซ่อนในรถม้าด้วย 

**รางวัล ** 
-เงิน 1330
-EXP 600 
Full Synch Bonus
-เงิน 250
-EXP 250
-เข็มขัด Master Assassin’s Belt

ภารกิจที่จุดภารกิจหลักต่อไปคือ เข้าไปหาจ่า Frederick ที่กำลังปลอมตัวเป็นคนกวาดถนน เพื่อให้เขาช่วยหาทางนำอาวุธผ่านเข้าไปในงานเลี้ยง จ่า Frederick จึงต้องการให้ไปขโมยชุดของทหารรักษาพระองค์(Royal Guard) มาให้เขาเพื่อใช้ปลอมตัวเป็นทหาร Royal Guard ที่เป็นฝ่ายดูแลอาวุธ
-  เดินทางไปที่โบสถ์ Saint Martin ที่จุดสีเขียว เมื่อปีนขึ้นไปบนยอดอาคารจะทำให้ Jacob เห็นตำแหน่งของทหาร Royal Guard แถวๆนี้ซึ่งจะปรากฏเป็นจุดเหลืองในแผนที่ เข้าไปที่คนไหนก็ได้เพื่อทำให้เขาสลบแล้วจัดการลอบคราบชุดทหารมา อย่าลืมเอาร่างทหารเปลือยไปซ่อนในรถม้าด้วยเพื่อเก็บ Challenge จากนั้นก็เอาชุดกลับไปให้ จ่า Frederick เพื่อจบภารกิจได้เลย



                                  FAMILY POLITICS 


** CHALLENGES**
-ขโมยรถม้าโดยไม่ต้องเข้าไปในลานกว้าง
-ระหว่างภารกิจอย่าทำให้รถม้าเสียหายเกิน 50 %

**รางวัล ** 
-เงิน 1330
-EXP 600 
Full Synch Bonus
-เงิน 2830
-EXP 1350
-ผ้าคลุม Cloak of Victory 


เข้ามาที่จุดภารกิจของ Evie เธอก็กำลังดำเนินแผนคู่ขนานในการเข้าไปเข้าเฝ้าเจ้าชาย Duleep Singh ที่หน้าวังเพื่อขอความช่วยเหลือเพื่อหาทางลับเข้าพระราชวัง Buckingham ตามแผนสำรองที่เธอต้องการ 



Duleep Singh – ดีใจที่เจอกันอีก Miss Frye 
Evie – ฝ่าพระบาท ตอนนี้เรามีปัญหาเกี่ยวกับการหาที่ซ่อนของเซฟลับในพระราชวังนิดหน่อยคะ 
Duleep Singh – ผมนึกว่าคุณมีสำเนาของบันทึกแล้วซะอีก  
Evie – เขาทำสำเนาไว้ด้วยหรอค่ะ มันอยู่ที่ไหน ?
Duleep Singh – ช้าก่อนคุณ Frye อย่างแรก งานนี้ต้องรีบทำอย่างเร็วและเงียบที่สุด ซึ่งผมรู้ดีว่าคุณเก่งเรื่องที่ว่านี้มากแต่อยากจะบอกให้ทำอย่างระวังด้วย 
Evie – เวลาจะบอกถึงเนื้อแท้ในสิ่งที่ทำคะ ฝ่าบาท 
Duleep Singh – งั้นเราต้องรีบทำกันเลย เพราะมีพวกนักการเมืองที่มีอิธิพลในรัฐสภามากมายที่จะคอยขัดขวางในสิ่งที่เราจะทำแน่นอน แต่ทุกคนจะเดินทางด้วยรถม้าจากสภาไปที่งานที่วัง คุณก็แค่ไปขโมยรถม้านั้นแล้วขับรถพาพวกนักการเมืองไปที่จุดหมาย ระหว่างทางก็แวะรับ ผมจะเข้าไปสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับบันทึกนั่นจากพวกเขาเอง แล้วผมถึงจะบอกคุณได้ว่าบันทึกที่บอกตำแหน่งของเซฟลับนั้นอยู่ที่ไหน 
Evie – พระองค์มีความสามารถด้านการเจรจาต่อรองอยู่แล้วกระหม่อมรู้ดี 
Duleep Singh – แต่ก็ไม่ควรประเมินพวกเขาต่ำจนเกินไปนะ 

-จากนั้นเดินไปที่จุดหมายสีเขียวจะพบจุดเตรียมรถม้าของพวกนักการเมืองที่จะไปร่วมงานเลี้ยงซึ่งจะจอดอยู่ในลานด้านในของตึกที่มีทหาร Royal guard ล้อมรอบเต็มไปหมด การจะขโมยมันที่ง่ายที่สุดคือการทำให้ม้าตกใจแล้ววิ่งออกมานอกตึกโดยใช้ระเบิดควันปาจนกว่ามันจะวิ่งหนีออกมาก็จะสามารถเข้าไปขโมยได้จากด้านนอกไม่ต้องเสี่ยงและได้ตามเงื่อนไขโบนัสของ Challenge ด้วย ขี่รถม้ามาส่งที่จุดหมายสีเขียวอย่าให้มันพังเกิน 50 % เพื่อเอาเงื่อนไขโบนัสของ Challenge
-ขี่รถม้าไปรับเจ้าชาย Duleep ที่จุดหมายแล้วมุ่งไปที่จุดหมายต่อไปเพื่อรับนักการเมืองตามจุดต่างๆขึ้นรถให้ทันก่อนเวลาจะหมด แล้วขับไปรับตัว Gladstone เป็นจุดต่อไป ก่อนที่จะขับพาทุกคนไปส่งที่คลับเป็นที่สุดท้าย


 Duleep – ขอบคุณ Miss Frye ที่ทำให้ผมประติดประต่อเรื่องราวทั้งหมดได้ 
Evie – ยินดีอย่างยิ่งเลยคะ หวังว่าคงได้ข้อมูลอะไรดีๆมาบ้างโดยเฉพาะกับ Gladstone
 Duleep – ยังไงพวกเขาก็ยังพยายามปกป้องทุกอย่างเต็มที่เหมือนกรณีพ่อและแม่ของคุณที่จากไปมันเป็นสูญเสียที่เจ็บปวดจนทำให้เราหลงทางอยู่นานเหมือนกัน แต่มันก็ทำให้เราพูดได้อย่างเต็มปากได้ว่าเขาเป็นคนต่างชาติที่ยืนหยัดปกป้องสิ่งที่พวกเรารัก เอาละ ถึงเวลาที่คุณต้องไปขึ้นรถม้าแล้ว บันทึกนั่น พวกเขาระบุตำแหน่งไว้ที่พระราชวัง Buckingham มันถูกเก็บรักษาไว้กับราชินีรวมกับเอกสารส่วนตัวของเธอในห้องสีขาว ผมหวังว่าคุณจะวันที่ดี Miss Evie Frye 
Evie –  เช่นกันค่ะ ผ่าบาท 

-คุยจบขับรถม้ากลับไปคืนที่ตึกเดิมที่ขโมยมาอีกครั้งแล้วหนีออกจากพื้นที่ได้เลย



                                A NIGHT TO REMEMBER 


** CHALLENGES**
-ใช้กุญแจไขเข้าไปขโมยแผนในห้องสีขาว 
-ปล่อยตัวทหาร Royal Guard ออกมาให้หมด

**รางวัล ** 
-เงิน 3990
-EXP 4500
Full Synch Bonus
-เงิน 250
-EXP 250
- Legendary Assassin’s Belt Schematic




ข้าไปที่จุดรับเควสหลักรูปหัวกะโหลกที่เขต Westminster เพื่อทำภารกิจสุดท้ายของ Jacob และ Evie Frye ในการปลอมตัวเข้าไปในงานเลี้ยงโดยใช้บัตรผ่านจาก Gladstone ที่ขโมยมาโดยมีจ่า Frederick ปลอมตัวเป็นทหาร Royal Guard ลอบเอาอาวุธของทั้งคู่เข้าไปในงาน เพื่อหยุดยั้งแผนก่อจารจลที่งานเลี้ยงที่ พระราชวัง Buckingham สังหารมันและหาทางควบคุมพลังของ “Piece of Eden” ให้สำเร็จ

-ลงจากรถม้าแล้วเดินตาม Jacob เข้าไปจนถึงสวนที่เป็นส่วนของงานเลี้ยง Evie จะเหลือบมองไปที่หน้าต่างของห้องสีขาวที่ชั้นบนของตึกทันทีซึ่งเธอรู้ดีว่ามันเป็นที่เก็บบันทึกที่เธอต้องการ ซึ่งแน่นอนว่ามันจะต้องถูกล็อกประตูอย่างแน่นหนาแน่นอน

Infiltration opportunity (รูปกุญแจสีเขียว) คือจุดตัวช่วยที่เป็นทหารคนถือกุญแจที่เดินไปมา เข้าไปขโมยกุญแจมาจากมันซะ 

-จากนั้นจับตัวทหาร Royal Guard เพื่อให้พาผ่านทหารขึ้นไปที่ชั้น 2 เข้าไปทางประตูฝั่งขวาจะปลอดคนมากที่สุด ใช้กุญแจไขเข้าไป ขโมยบันทึกในห้องมา เป้าหมายต่อไปคือไปที่ตำแหน่งของตู้เซฟที่ระบุเอาไว้ เดินลงไปที่จุดเขียวเป้าหมายที่ชั้นล่างจะพบ Mary Anne ภรรยาของท่านนายกที่จะพาไปพบกับ ราชินีวิคตอเรีย  


ซึ่งดูเหมือนพระราชินีก็ทรงทราบเรื่องวุ่นวายที่พี่น้อง Frye ทำขึ้นไม่น้อยโดยเฉพาะกับเรื่องของ Gladstone ที่ไม่สามารถมางานได้เพราะถูกขโมยบัตร แต่โชคดีที่ดูเหมือนพระองค์จะทรงไม่ใส่ใจกับเรื่องนี้มากนัก ซึ่งก็ได้แต่ทรงตรัสว่า “เค้กในงานนั้นตั้งใจทำเป็นพิเศษอย่าลืมกันมันซะด้วย” เท่านั้น แต่ในขณะที่ Evie พยายามจะปลีกตัวไปดำเนินแผนต่อ ชายคนนึงก็เข้ามากระชากมือไว้เพื่อขอเต้นรำซึ่งมันก็คือ Starrick นั่นเอง 




 Starrick – Miss Frye ให้เกรียติเต้นกับผมหน่อยได้มั๊ย ? 
  Evie – คุณ Starrick ยังสามารถสนุกอยู่ได้นะคะ แต่แผนของคุณมันจบแล้ว 
Starrick – มาเต้นกันก่อน หนึ่ง สอง สาม .... เวลาเป็นสิ่งวิเศษ Miss Frye มันสามารถรักษาได้ทุกสิ่ง มันก็เหมือนเราเต้นพลาด เราก็ยังเริ่มเต้นใหม่ได้เสมอ เพราะข้อเสียของผู้คนก็คือ ไม่ว่าจะเกิดเรื่องอะไรขึ้นไม่นานมันก็ลืม ซ้ำแล้วซ้ำเล่าอยู่ตลอดแหละ
Evie – แต่พวกเขาเรียนรู้ได้ 
Starrick – ได้ด้วยหรอ ? ใช่ว่าทุกคนจะแก้ไขจังหวะการเต้นที่ผิดพลาดของตัวเองได้เสมอนะ มันเฉพาะคนที่เต้นเก่งและรู้จักจังหวะของตัวเองดีเท่านั้นแหละที่ทำได้ ไม่ว่าจะเกิดความผิดพลาดเมื่อไหร่ก็จะหาจุดเปลี่ยนที่ดีกว่ามาแทนที่ได้เสมอ  
Evie – ชั้นไปละ ขี้เกียจจะฟัง !
Starrick – การเต้นรำของเรากำลังจะจบลงในไม่ช้าแล้ว ไม่นานผู้คนก็จะลืมยุคสมัยนี้กันแล้ว ความพินาศจะหล่อหลอมลอนดอนขึ้นมาใหม่ให้ดีกว่าเดิม เมื่อเพลงจบเวลาก็หมด คุณ Frye มันจะถึงตาของผมบ้างแล้ว 

-ทางด้าน Jacob ปีนขึ้นไปที่จุดเขียวเพื่อคุยกับจ่า Frederick ที่ปลอมเป็นทหารเพื่อเอาชุดและอาวุธที่ซ่อนไว้มาเตรียมใช้ลุย ซึ่งตอนนี้คนของ Starrick แต่จับตัวทหาร Royal Guard แล้วแทนที่บนจุดซุ่มยิงบนหลังคาจนหมดแล้ว ซึ่งก็เป็นหน้าที่ของ Jacob ที่ต้องจัดการพวกมันแล้วช่วยทหารที่ถูกจับไว้ออกมา จากนั้นจัดการพวกสไนเปอร์บนหลังคนทั้ง 6 คนให้หมดก่อนที่เวลา 3 นาทีจะหมด แล้วเข้าไปที่จุดเป้าหมายสีเขียวเพื่อช่วยพวกทหาร Royal Guard ตัวจริงที่ถูกจับไว้ ซึ่งรอบๆพื้นที่จะมีคนของ Starrick ที่คุมอยู่ 16 คนที่ต้องกำจัดด้วย จากนั้นขึ้นไปที่จุดเขียวบนหลังคาตึกเพื่อส่งสัญญาณบอก Evie    

Evie ที่กำลังเต้นรำอยู่กับ Starrick ทันทีที่เห็นสัญญาณจาก Jacob เธอก็เริ่มสอนท่าเต้นที่ถูกวิธีให้กับ Starrick จนมันลงไปนอนกับพื้น แต่สุดท้าย Starrick มันก็สามารถฉกสร้อยคอหินโบราณที่เป็นเสมือนกุญแจในการเปิดเซฟลับที่ห้อยคอ Evie อยู่ไปได้เสียแล้ว Evie เลยรีบให้บันทึกตำแหน่งของเซฟลับกับ Jacob ที่ตามมาสมทบเพื่อให้เขาล่วงหน้าไปก่อนทันที

- จากนั้น Jacob ต้องลุยตามไปที่จุดหมายสีเขียวในป่าข้างๆพระราชวังก็จะพบทางลับลงสู่วิหารโบราณใต้ดิน เข้าไปด้านในสุดจะพบ Starrick กำลังยืนดูกล่องสมบัติที่มันพบอยู่ด้านในห้องโถงใหญ่ แต่ทันทีที่ Jacob เข้าไปถึงตัวมันดูเหมือน Starrick มันก็เตรียมแผนลับมือไว้อย่างดีแล้วใช่กัน


Jacob – นี่แกกำลังทำอะไรกันแน่ !!
Starrick – ระเบิดมันไงไอ้หนู ข้าเตือนแล้วไม่ฟังเอง ! 

-ในขณะที่ Jacob กำลังเสียท่าให้ Starrick Evie ก็เปลี่ยนชุดเตรียมลุยแล้วรีบเดินทางมาตามจุดหมายสีเขียว และทันทีที่ลงมาถึงโบราณสถานที่ห้องโถงใหญ่ก็จะพบ Jacob ถูก Starrick ใช้พลังของ “Shroud of Eden” ที่มันสวมอยู่เล่นงานอยู่ Evie จึงต้องเข้าไปลุยเพื่อช่วย Jacob ทันที ทั้งคู่สลับกันสู้ในขณะที่อีกฝ่ายหนึ่งเสียท่าสลับกันไปมา จนสุดท้ายทั้งคู่ก็กำลังหมดสภาพอยู่ในน้ำมือของ Starrick แต่มีดสั้นของ Henry Green ที่ถูกขวางมาช่วยทั้งคู่เอาไว้ Henry พยายามสู้อยู่ได้พักใหญ่ก็ต้องหมดสภาพตามไปเพราะสู้แรงเหนือธรรมชาติของ Starrick ที่สวม “Shroud of Eden” ไม่ไหว



หน้าที่สุดท้ายจึงต้องปล่อยให้ Jacob ลุกขึ้นมาได้ลุยต่อ แน่นอนว่าต้องใช้พลังของฝาแฝด Frye ถึงจะสามารถอัด Starrick จน “Shroud of Eden” กระเด็นหลุดจากตัว ก่อนจะถูกสังหารโดยฝีมือของนักฆ่าคู่ในที่สุด



Starrick –  ลอนดอนย่อยยับแน่ถ้าไม่มีข้า ! 
Jacob –คิดไปเองหรือเปล่าเพ่ ?
Starrick –  ข้าพยายามสร้างที่นี่ให้เป็นสวรรค์มาตลอด 
Evie – เมืองนี้เป็นของทุกคนไม่ใช่ของแกแค่คนเดียว ! 
Starrick –  ข้าเป็นถึงผู้นำสูงสุดของ Templar !!! 
Jacob –  ใช่คุณเป็น คุณ Starrick คุณเป็นแน่นอน ... ผมถึงต้องฆ่าคุณไง 





Jacob – ตกลงเราจะไม่ได้เป็นคู่หูกันอีกแล้วจริงๆหรอเนี้ย ?
Evie – นี่พูดดีสุดแล้วใช่ป่ะ 
Jacob – แล้วเธอจะสวมผ้าคลุมวิเศษนั้นแล้วเดินหน้าเปลี่ยนลอนดอนมั๊ยล่ะ ?
Evie – มันจะถูกส่งต่อให้ไม่ใครก็ใครในภาคีเรา แต่มันจะปลอดภัย สวนนายก็คงต้องลุยต่อไปโดยไม่มีชั้น วันนึงนายจะยิ่งใหญ่เหมือนพ่อแน่นอน 
Jacob – หมายถึงทำทุกอย่างผิดพลาดแล้วก็ตายเหมือนกันป่ะ 
Evie – นายอยากลองสวมมันมั๊ยละ ?
Jacob – หลังจากที่เห็นมันทำลายโรงงงานนั่นจนแหละ ไม่ละ มันคือสาเหตุของความวุ่นวาย ที่สำคัญชั้นไม่อยากจะเก่งเว่อขนาดนั้นด้วยมันไม่มัน
Evie – Jacob Frye ปอดแหกเนี้ยนะ มีใครแบล็กเมลนายรึเปล่าเนี้ย จอร์จรึเปล่า? 
Jacob – ไม่เกี่ยวกับเขาหรอก ..... จะคิดถึงเธอนะ 
Evie – เช่นกันพี่ชาย ... มีอะไรที่ทำให้ไม่สบายที่ต้องแยกกันรึเปล่า ?
Jacob – เปล่า ชั้นก็แค่อยากทำอย่างอื่นตามทางของชั้นบ้างอ่ะนะ  
Evie – จริงๆชั้นก็เพิ่งมาคิดได้นะว่า พ่อก็ไม่รู้ไม่ได้ถูกไปทุกเรื่องหรอก ...ชั้นต้องดู Henry หน่อย คุณเป็นไงบ้าง?
Jacob – คิดใหม่ว่าโลกจะเป็นไงต่อไป ?
Henry – โลกจะมีลอนดอนเป็นจุดศูนย์กลางของทุกอย่างไง ส่วนผมก็คงเอ่อ ไม่รู้สึกเหมือนแต่ก่อน กลับไปรถไฟ ทำภารกิจต่างๆ ไม่มีอะไรสำคัญเหมือนเดิม
Evie – Henry คุณช่วยพวกเราเอาไว้นะ แล้วคุณก็จะเป็นส่วนหนึ่งของภารกิจร่วมกับชั้นตลอดไปด้วย


Queen Victoria – คุณตำรวจ Frederick บอกชั้นว่าที่ผ่านมาพวกเธอทั้ง 3 คนเป็นคนหยุดยั้งแผนร้ายและช่วยชีวิตชั้นไว้ จริงหรือเปล่า ?
Henry – เป็นความจริงครับฝ่าบาท 
Queen Victoria – เอาละ Miss Frye ก้าวมาข้างหน้าซิ แล้วเธอคือ ?
Evie – พี่ชายของชั้นคะ Jacob Frye แล้วนี่ก็คุณ Henry Green เพื่อนของพวกเรา
Queen Victoria – เอาละ ทั้ง 3 คนคุกเข่าลง ชั้นขอแต่ตั้งพวกท่านให้เป็นหนึ่งใน Order of Sacred Garter ของเรา ณ.บัดนี้ 



Evie – พ่อต้องภูมิใจในตัวพี่แน่เลย ..ท่าน เซอร์ Jacob Frye
Jacob –  ฮ่าๆๆ ..... มา ใครถึงรถไฟก่อนชนะเว้ย !! 




                 ชั้นใต้ดินของพระราชวัง Buckingham ในช่วงเวลา ปัจจุบัน 





ทันทีที่ภาพความทรงจำของ Jacob และ Evie Frye ถูกเชื่อมต่อจนครบจนทำให้รู้ที่ซ่อนของ “Shroud of Eden” แล้ว Galina , Shaun  และ Rebecca จึงรีบเดินทางมายังชั้นใต้ดินของพระราชวัง Buckingham แต่ดูเหมือนจะสายไปเพราะ Isabelle , Otso Berg และ Violet จาก หน่วย Sigma Team ได้มาถึงก่อนและได้ “Shroud of Eden” ไปอยู่ในมือพวกมันแล้ว และก่อนที่มันจะส่งต่อไปถึง Dr. Grama’tica เพื่อวิจัยต่อ ทั้ง 3 ไม่มีทางเลือกอื่นที่ต้องบุกเข้าไปแบบซึ่งๆหน้าเพื่อฆ่าพวก Templar ทันที ระเบิดควันถูกขว้างเข้ามาเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจก่อนที่ Galina จะพุ่งเข้าโจมตีใส่ Otso Berg ทันที Rebecca รีบฉวยโอกาสลอบเข้าโจมตีใส่ เจ้าหน้าที่ Violet ที่กำลังเผลอ ส่วน Shaun ลอบตาม Isabelle ไปเงียบๆก่อนช็อตไฟใส่จนมันสลบไป แต่ก่อนที่ Shaun จะเข้าถึง “Shroud of Eden” ได้  ดันยิงสกัดไว้จน Rebecca ต้องโดดเข้ามาช่วย Shaun จนเธอต้องรับกระสุนแทนไปเต็มๆ ทำให้ Galina ที่เอาชนะ Otso Berg ได้และหมายจะเผด็จศึกต้องยอมยั้งมือเพื่อไปช่วย Rebecca และ Shaun ที่กำลังบาดเจ็บเพื่อหนี กำลังเสริมของ Sigma Team ที่กำลังบุกเข้ามาสมทบด้วยความเสียดายที่ทำให้ Templar ได้ “Shroud of Eden” ไป





Bishop – พวกคุณทำได้ดีมากที่นั่น ไม่เป็นไรเราต้องหาทางเอา “Shroud of Eden”  คืนมาได้แน่นอน  อ่อ แล้วชั้นก็แอบแฮกข้อมูลในคอมของ Isabelle ติดมือมาด้วยนะ ดูสิ  



             ภาพจากสถาบันวิจัยเทคโนโลยี่แห่งอนาคตของแอปสเตอโก้





Violet – แล้ว “Shroud of Eden” ที่ได้มามันจะช่วยทำให้คุณสร้างร่างโคลนตัวใหม่ๆได้เพิ่มอีกจริงๆหรอ 
Dr.Grama’tica – เปล่า ! แต่เมื่อเอาผ้านี่ห่อร่างกาย มันจะทำการสแกนส่วนที่เสียหายแล้วสร้างขึ้นมาใหม่ได้ถึงระดับเซล 
Violet – คุณสร้างพวกโคลนไม่ได้ แล้วคุณสร้างร่างของ “ผู้มาก่อน” ขึ้นมาใหม่ยังไงละ ?
Dr.Grama’tica – บิงโก ! เราถึงต้องเร่งให้ Phoenix Project เสร็จตามเวลาไงละ 
เป็นช่วงเวลาที่ยิ่งใหญ่มากเลยละ เดี๋ยวผมต้องขอตัวติดต่อไปหา Alan Rikkin เพื่อบอกข่าวดีเขาก่อนนะ ผมชอบคริสมาสจังเลย ฮ่าๆๆ  



Violet – เอ่อ สวัสดี ที่ชั้นเอง คือชั้นเป็นคนเอา “Shroud of Eden” มาให้น่ะเผื่อจะอยากรู้ ชั้นกลัวๆน่ะ
???? – เจ้าไม่จำเป็นตัวกลัวข้า เจ้าทำดีแล้ว 
Violet – ชั้นไม่ได้กลัวคุณ แต่กลัวสิ่งที่คุณจะทำมากกว่า ถ้าเกิดมีใครรู้ขึ้นมาล่ะ 
???? –  เจ้าทำในส่วนของเจ้าต่อไป  ถ้าเกิดอะไรขึ้นข้าจะช่วยเจ้าเอง ช่วยพวกเจ้าทุกคน ! 



****************************** THE END ***********************************