วันอาทิตย์ที่ 27 ธันวาคม พ.ศ. 2558

Assassin’s creed Syndicate : Jack The Ripper DLC


                                   บทสรุป Assassin’s creed Syndicate 

       http://decibelperoxide.blogspot.com/2015/10/assassins-creed-syndicate.html





                               บทสรุป  Assassin’s creed Syndicate : Jack The Ripper DLC



By - Decibel per oxide 






20 ปีหลังจาก Jacob กับ Evie ฝาแฝดตระกูล Frye ปลดปล่อยลอนดอนจากการกดขี่ของ Templar ได้สำเร็จ ในขณะที่ชาวเมืองกำลังมีความสุขไปกับความคิดที่ว่า ความสันติสุขที่พวกเขากำลังพบเจอคือสิ่งจริงแท้และแน่นอน จนกระทั้งถึงฤดูใบไม้ร่วงที่แสนน่ากลัวผ่านพ้นเข้ามา




ในปี 1888 ลอนดอนตกอยู่ในความหวาดกลัวอีกครั้ง กับเรื่องราวของฆาตกรต่อเนื่องที่แสนโหดเหี้ยม ที่ทำให้ถนนใน Whitechapel นองไปด้วยเลือดของศพเหล่าโสเภณีที่บิดเบี้ยวสุดวิตถารสร้างความอื้อฉาวอวดสายตาชาวโลกแทนความหน้าหลงใหลที่ลอนดอนเคยมี และ Jacob Frye ก็ไม่รอช้าที่จะออกไล่ล่าฆาตกรเลือดเย็นที่ว่าเพื่อหยุดยั้งตำนานที่แสนชั่วช้าของ Jack The Ripper ลงให้ได้

กลางดึกที่หนาวเย็นคืนนึง Jacob Frye ออกมาดักรอ Weaversbrook  นักข่าวคนนึงที่กำลังทำข่าวเรื่องคดีนี้ เพื่อพยายามหยุดเขาไม่ให้ตีพิมพ์จดหมายขู่ของ Jack The Ripper ต่อสาธารณะชนเพราะไม่ต้องการให้เป่าประกาศเกรียติศักดิ์ของมันตามที่มันต้องการ ก่อนที่ Nellie จะเข้ามาตาม Jacob ให้เป็นดูศพของ Katey และ Lizzie 2 โสเภณีที่เพิ่งถูกฆ่าตายพร้อมกันในคืนเดียวจากฝีมือของ Jack The Ripper


30 กันยายน ค.ศ. 1888 ฆาตกรรมเหยื่อรายที่ 3 Elizabeth Stride และ 4  Catherine Eddowes  ในเวลาไล่เลี่ยกัน บนถนน Birners ศพของเธอถูกปาดคอ และมีรอยฟกช้ำที่หัวไหล่ ดูเหมือนว่าอาจมีใครสักคนมาขัดจังหวะฆาตกร ศพของเธอจึงไม่ถูกชำแหละเหมือนรายอื่น ไม่เกิน 1 ชั่วโมงหลังจากนั้นเมื่อเวลา 01:45 น. ก็มีคนพบศพ Catherine Eddowes เหยื่อรายที่ 4 ศพของเธอถูกหั่นไม่มีชิ้นดี โดนควักลูกตา เฉือนจมูก ลำคอถูกเชือด ช่องท้องถูกกรีดเป็นบาดแผลเหวอะ ไม่มีไต ไตข้างซ้ายของเธอและมดลูกถูกตัดออก โดยมีข้อความเขียนไว้บนกำแพงในละแวกที่พบศพว่า “The Juwes are the men that Will not be Blamed for nothing.” แปลความได้ว่า “ชาวยิวเป็นกลุ่มคนที่จะไม่ถูกกล่าวโทษ ไม่ว่าเรื่องใดๆ ก็ตาม”

Jacob รีบให้เงินก้อนนึงกับ Nellie เพื่อให้เธอหนีออกจากเมืองนี้ไปก่อนที่เขาจะมองไปยังตัวอักษรลับที่ Jack The Ripper เขียนไว้ที่พนังถึงเขา




“จะต้องให้ตายกันอีกแค่ไหน Assassins  พวกแกถึงจะเข้าใจความจริง ? “
“อีกแค่คนเดียวที่ต้องตายก็คือ แกไง”  .. Jacob ตอบในใจก่อนจะออกไล่ล่ามันทันที
“แกจะต้องเชื่อ Jacob  และตอนนี้ถึงเวลาที่ชั้นจะล่าแกแล้ว !




-สะกดรอยตาม Jacob ไปจนกว่าเขาจะรู้ตัว จากนั้นก็เริ่มวิ่งตามไปจนถึงงานเลี้ยงในซอยแห่งนึง ที่มีตำรวจและชาวเมืองมากมายในงาน



เรียนรู้ระบบใหม่ FEAR คือการจ้วงแทงอย่างโหดเหี้ยมที่เรียกว่า Brutal Takedown ซึ่งเป็นการจ้วงแทงที่สุดเหี้ยมโหดต่อผู้พบเห็นโดยรอบซึ่งก็จะเริ่มมีไอค่อนความกลัวขึ้นมาจากหน้าสีเหลืองเริ่มกังวล (Anxious) เป็นสีแดงคือหวาดกลัว (Frightened) จนไม่มีใครกล้าเข้ามาต่อสู้จนถึงกับหนีกันไปเองจนหมด





Brutal Takedown  ท่าโจมตีแบบใหม่ที่พี่น้อง Frye ได้ผงแห่งความกลัวมาจากอินเดีย ซึ่งก็คือการกดโจมตีหรือแทงด้วยปุ่ม X หรือ สีเหลี่ยม ค้าง ในขณะลอบฆ่าหรือศัตรูยังไม่รู้ตัว แล้วเริ่มกดรัวๆ ในการกระหน่ำแทงหลายๆครั้ง (สำหรับ jack  สามารถใช้แกนอนาล็อกซ้ายเปลี่ยนทิศทางของร่างกายเหยื่อจนดูเป็นการแทงที่สุดเหี้ยมโหดได้) เมื่อพวกศัตรูเห็นก็จะเริ่มมีไอค่อนความกลัวขึ้นมาจากหน้าสีเหลืองเริ่มกังวล (Anxious) เป็นสีแดงคือหวาดกลัว (Frightened) จนไม่มีใครกล้าเข้ามาต่อสู้จนถึงกับหนีกันไปเองจนหมด


-จากนั้นก็วิ่งไล่ Jacob ต่อไปจนถึงกลุ่มตำรวจขวางอยู่



 เรียนรู้ระบบใหม่ FEAR คือการใช้ Fear Tool นั้นก็คือสร้างเสียงกรีดร้องที่แสนน่ากลัว( Death Screams) ด้วยการกดปุ่มทิศทางลงล่างจะทำให้เหยื่อเริ่มกังวลจนเป็นไอค่อสีเหลืองทันที จากนั้นกด Y หรือ สามเหลี่ยมในการใช้ลิ่มเหล็กแหลม( Spikes ) ตอกร่างเหยื่อกับพื้น ก็จะทำให้ตำรวจที่อยู่รอบๆหวาดกลัวจนหนีกระเจิงไปได้

Jacob ทนเห็นความโหดเหี้ยมในขณะที่ jack กำลังฆ่าตำรวจอย่างโหดเหี้ยมจนต้องเลิกวิ่งหนีแล้วเข้ามาหยุดความโหดเหี้ยมของมัน
“ พอได้แล้ว แกต้องการชั้น jack มาฆ่าชั้นสิ ! “ Jacob ตะโกนท้าทายก่อนที่ jack จะทิ้งศพที่ลากมาเข้ามาสู้ด้วยทันที



- จัดการ Jacob ซะจนกว่ามันจะใกล้ตายแล้วหนีไป กดแกนอนาล็อกซ้ายเพื่อใช้ Eagle Vision ตามรอยของ Jacob ไปตามทางจนถึงบ้านหลังนึง jack เปิดฉากสู้กับ Jacob อีกครั้งจน Jacob บาดเจ็บลงไปนอนกองกับพื้น




Jack – คิดว่าจะไปไหนได้หรอ Jacob ?
Jacob – Jack แกกำลังป่วยนะ
Jack – แกรู้มั๊ยว่ามันเป็นคำพุดที่เย้ยหยันสำหรับชั้นนะพี่น้อง .. มีแต่แกเท่านั้นที่รู้ว่า The Ripper แท้จริงแล้วเป็นใคร แต่แกบอกกับใครไม่ได้เพราะมันจะทำลายแกและภาคีของแกไปด้วยไงละ !!
Jacob – Jack พวกเราแก้ไขให้แกได้นะ
Jack – จะแก้ไขชั้นหรอ ?? ชั้นคือหนทางแก้ไขทุกๆอย่างต่างหากล่ะ !!
Jacob – อย่า !!  อ๊ากกกกกกก !!!!






1 เดือนต่อมา ...... ที่ สำนักงานเขต Whitechapel ที่ถูกจัดสรรให้เป็นฐานย่อยในการควบคุมการสืบสวนของ Scotland Yard ในคดีของ Jack The Ripper Evie Frye ถูก Frederick Abberline ที่ตอนนี้รับหน้าที่ในตำแหน่งหัวหน้าตำรวจสายสืบในคดี Jack The Ripper เรียกเข้ามาพบเพื่อพุดคุยถึงเรื่องราวของคดีและการหายตัวไปของ Jacob ด้วย



Frederick – มิส Frye
Evie – คุณนักสืบ Abberline ทำไมถึงเรียกตัวชั้นมาที่นี่ด้วยล่ะ ?
Frederick – ผมกับคนของผมตามจับเจ้า Ripper มาเป็นเดือนๆแล้ว เพิ่งจะได้เบาะแสมันก็ตอนนี้ แต่ถึงอย่างนั้นเราก็เปิดเผยต่อสาธราณะชนไม่ได้อยู่ดีนั่นแหละ
Evie – แล้วเจ้า Ripper นั่นมันเกี่ยวอะไรกับชั้นละ ?  ชั้นถูกพี่ชายเรียกตัวมาจากอินเดียก็วุ่นวายพออยู่แล้ว
Frederick – จะอะไรยังไงผมไม่รู้หรอก รู้อย่างเดียวว่าตอนนี้ในลอนดอนมี Assassins เหลืออยู่แค่คนเดียวที่พอจะช่วยได้ก็คือคุณนั่นแหละ
Evie – คุณหมายวความว่ายังไง แล้ว Jacob ล่ะ ?
Frederick – ผมเองก็อยากรู้เหมือนกันและ เพราะเขาหายตัวไปเป็นเดือนแล้วละ ซึ่งดูจากที่พี่ชายคุณไปวุ่นวายกับอาชญากรรมต่างๆในเมืองก็ยากที่จะรู้เหมือนกันนะว่าเขาจะไปซวยกับเรื่องไหน ?
Evie – คุณไม่คิดว่ามันจะบังเอิญไปหน่อยหรอ ?
Frederick – ฆาตกรเลือกเป้าหมายแบบกว้างที่ทำให้เราเดาได้ยากมาก ถึงแม้จะทิ้งเบาะแสไว้หลายอย่างแต่คนของเราก็ไม่มีความสามารถพอที่จะแกรอยมันได้เลย และผมก็ไม่คิดว่าใครจะมีความสามารถนั้นเลยหลังจากที่เคยร่วมงานกับคุณ 2 คนมา และนั่นอาจเป็นเหตุผลที่พี่ชายคุณเรียกตัวคุณมาก่อนจะหายตัวไปก็ได้
Evie – คุณคิดว่า Jacob ตายแล้วหรอ ?
Frederick – ตอนนี้ผมยังไม่ปักใจเชื่ออะไรทั้งนั่นแหละ แต่ถ้ามันเป็นแบบนั้นจริงๆก็คงจะเหลือแค่คุณคนเดียวแล้วละที่จะหยุดเจ้า Ripper ได้ !  ตามผมมา ..



                            A Monster’s Creed: AUTUMN OF TERROR


-ตาม Frederick ไปที่รถม้าแล้วขี่เดินทางไปที่จุดหมายสีเขียวซึ่งเป็นจุดเกิดเหตุฆาตกรรม Mary Ann Nichols หรือ Polly ซึ่งเป็นเหยื่อรายแรกของ Jack the Ripper ที่ถูกฆาตกรรมเมื่อ 3 เดือนที่แล้ว


31 สิงหาคม ค.ศ. 1888 ฆาตกรรมเหยื่อรายแรก แมรี่ แอนน์ นิโคลส์ เวลา 03:45 น. ในย่านสลัมที่แออัดเขต Whitechapel ของลอนดอน ศพของแมรี่ แอนน์ นิโคลส์ ถูกปาดคอเข้ามาที่ทั้งสองด้านจนศรีษระเกือบจะหลุด และที่ส่วนท้องก็ถูกชำแหละด้วยมีดยาวอย่างโหดเหี้ยม ตรอกตรงที่เกิดเหตุทั้งเปลี่ยวและมืด และไม่มีใครสัญจรไปมาในช่วงเช้าตรู่ และด้วยการที่หนังสือพิมพ์พากันประโคมข่าว และเกิดความบ้าคลั่งในการแย่งกันเพื่อระบุรายละเอียดของฆาตกรและข้อมูลที่เกี่ยวกับเรื่องนี้ เพื่อเอาไปลงหนังสือพิมพ์ ซึ่งบางส่วนก็เป็นการแต่งเติมของสื่อที่ไร้จรรยาบรรณ์ นั่นยิ่งทำให้ภาพลักษณ์ของแจ๊คเดอะริปเปอร์ถูกยืดขยายจนดูน่ากลัวเกินจริงมากขึ้นไปอีก

-ใช้ Eagle Vision มองหาจุดเบาะแสให้ครบ 3 ขุดคือจุดที่พบศพที่พื้น รอยมือที่กองไม้และต้นไม้ที่ถูกของบางอย่างขว้างไปกระทบ จนรู้จุดของมุมขวางด้วยการไปยืนที่กองไม้และกด L2 หรือ LT เพื่อเตรียมขว้างไปที่ต้นไม้จนเห็นมุมตกของสิ่งของที่เหยื่อขว้างออกไป เข้าไปสำรวจที่จุดตกจะพบแหวนของ Nichols ซึ่งเป็นแหวนของภาคีนักฆ่า ทำให้ Evie คิดว่าเธออาจถูกตามล่าเพราะเป็นภาคีนักฆ่าด้วย

 ก่อนที่  Frederick จะขอตัวไปทำธุระและมอบคดีนี้ให้ Evie ใช้ความสามารถที่มีเพื่อหยุดยั้ง Jack the Ripper และตามหา Jacob พี่ชายที่หายไปกลับคืนมา


ตอนนี้สภาพบ้านเมืองลอนดอนที่เคยห่างหายจากหายนะที่ Templar ก่อไว้ กลับถูกปกคลุมไปด้วยความหวาดกลัวต่อ Jack the Ripper ฆาตกรสุดเหี้ยมแทน ความวุ่นวายที่เกิดจากความหวดกลัวของผู้คนนั้น กลับเป็นอิทธิพลที่ส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในเมืองมากมาย 



ความกลัวถูกนำมาใช้เป็นเครื่องมือในด้านต่างๆ การสนองตัญหาของคนเลวที่พยายามเลียนแบบเพราะเห็นดีเห็นงามกับคดีของ  The Ripper  การตีไข่ใส่ข่าวเพื่อเพิ่มราคาในหน้าหนังสือพิมพ์ เคราะห์กรรมของเหล่าหญิงบริการที่โดนทำร้ายทั้งกับการที่ต้องตกเป็นเป้าหมายของ The Ripper จนถึงผู้ชายธรรมดาที่ฉวยโอกาสใช้ความรุนแรงกดขี่ข่มเหงต่อเพศหญิงตามทั่วไปโดยใช้ความรุนแรงในกรณีของ The Ripper เป็นแรงจูงใจ ยังไม่รวมบรรดาพวกผู้ตกสงสัยที่หลักฐานบ่งชี้ว่าอาจจะเป็น Jack The Ripper ที่โดนหมายหัวจากประชาชนที่ได้ฟังข่าวจนต้องถูกคุ้มกันอย่างแน่นหนาจากตำรวจเพื่อไม่ให้ถูกประชาทัณฑ์ก่อนการสืบสวนจะเสร็จ แม้แต่ที่แก็งค์ “The Rooks” ที่เคยเป็นของ Jacob ก็ยอมก้มหัวเป็นลูกน้องของ Jack the Ripper ด้วย

นักสืบ Abberline จึงพยายามทำทุกอย่างเพื่อยับยั้งปัญหาที่เกิดขึ้น จุด Abberline Associate Activities หรือภารกิจย่อยเพื่อช่วยเหลือ Frederick จึงมีออกมาให้ทำในแผนที่ถึงจะมีไม่มากมายเพราะแผนที่ของ DLC นี้มีแค่ Whitechapel แต่ถ้าทำให้หมดก็จะมีผลดีต่อการอัพ Skill และเงินเพื่อซื้ออาวุธและไอเทมต่างๆด้วย โดยจุด Abberline Associate Activities จะประกอบด้วย


Bounty Hunter Wanted for Kidnapping  –ตามหาและจับกุมลูกน้องของ Jack The Ripper ด้วยการลับพาตัวไปขึ้นรถม้า
Bounty Hunter Wanted for Murder - ตามหาและจับกุมพวกฆาตกรที่เลียนแบบ Jack The Ripper ด้วยการลับพาตัวไปขึ้นรถม้า
Close the Fight club - จุดภารกิจย่อยที่ต้องเข้าประลองเพื่อทำลายการประลองที่รุนแรงและป่าเถื่อนที่เริ่มเกิดขึ้นอยู่ทั่วเมือง โดยต้องสู้กับศัตรูที่ออกมาเรื่อยๆจนหมด แต่แตกต่างจากลานประลองในยุคปกติคือ สามารถใช้อาวุธและไอเทมต่างๆได้ทุกชนิดขณะต่อสู้
Carriage of Justice – ภารกิจในการขับรถม้าคุ้มกันพวกผู้ต้องสงสัยว่าเป็น Jack The Ripper จากการรุมประชาทัณฑ์จากประชาชนที่โกรธแค้นระหว่างทางเพื่อไปส่งที่จุดหมายให้ปลอดภัย


                                                  FEAR SKILL

Skill รูปแบบใหม่ที่แยกจาก Skill เดิมเพื่อสนับสนุนระบบ FEAR และการโจมตีแบบ  Brutal Takedown



Show off –ทำให้ศัตรูตัวอื่นเห็นตอนใช้ท่า Brutal Takedownได้จากระยะที่ไกลขึ้น
Life sucker – เมื่อจัดการศัตรูด้วยท่า Brutal Takedown จะทำให้ดูดพลังชีวิตของศัตรูมาด้วยส่วนหนึ่ง
The Torturer – เมื่อใช้ลิ่มเหล็กแหลม( Spikes ) ตอกร่างเหยื่อกับพื้นจะทำให้ศัตรูร้องเจ็บปวดดังและนานขึ้นจนทำให้ศัตรูตัวอื่นอยู่ในสภาวะสีเหลืองเริ่มกังวล (Anxious) ได้เร็วขึ้น
Make some Noise – เพิ่มรหัสมีของของระเบิด fear Bomb ให้กว้างขึ้น
Recycling Spikes - เมื่อใช้ลิ่มเหล็กแหลม( Spikes ) ตอกร่างเหยื่อกับพื้นก็จะได้คืนเมื่อค้นจากศพ
Close to the Epicenter – ศัตรูที่อยู่ในกลางของรหัสมีระเบิดของ Fear Bomb จะทำให้เกิดสภาวะหวาดกลัว (Frightened) ทันทีแม้จะอยู่ในสภาวะนิ่งเฉย( Calm)
Fear Propagation – เมื่อศัตรูตัวอื่นเห็นศัตรูที่อยู่ในสภาวะสีแดง หวาดกลัว (Frightened) มาหลังจากโดนท่า Brutal Takedown มันจะเกิดสภาวะสีเหลืองเริ่มกังวล (Anxious) ตามทันที



                            A Monster’s Creed: THE UNFORTUNATES


** CHALLENGES**
-ในขณะเข้าไปหา Nellie ในตึกต้องทำให้ศัตรูเกิดสภาวะหวาดกลัว 3 คน 
-ในขณะไล่ตามไปชิงตัว Nellieจากรถม้าศัตรูให้ใช้วิธีขโมยรถม้า 

**รางวัล ** 

-เงิน 750
-EXP 1000
Full Synch Bonus
-เงิน 75
-EXP 200

Evie เข้ามาที่สำนักงานเขต Whitechapel เพื่อคุยกับนักสืบ Abberline ถึงเรื่องการตามหาเบาะแสของ Jacob ต่อ



Evie – คุณนักสืบ …จากผลการสืบสวนเห็นอย่างชัดเจนว่า Nicole ไม่ได้มีอาการเมาก่อนในคืนที่เธอโดนฆ่า คุณคิดว่า Jacob เป็นคนที่นำเธอเข้ามาเอี่ยวกับเรื่องนี้รึเปล่า 
Abberline – คุณหมายถึง Jacob จะใช้ Nicole เป็นเหยื่อล่อ Jack ใช่มั๊ย ? บอกตรงๆตอนนี้ผมก็มืดแปดด้านเหมือนกัน แต่ Jacob เขามีบ้านพักอยู่ใกล้ที่นี่ด้วยผมว่าคุณควรไปเริ่มสืบจากที่นั่นดูนะ ระวังตัวด้วยละ
Evie – แน่นอนชั้นไม่ทำให้คุณผิดหวังแน่นอน 

-จากนั้นมุ่งหน้าไปที่จุดหมายสีเขียวที่บ้านพักของ Jacob ก็จะพบร่องรอยมากมายในห้องที่ Evie ต้องหาเบาะแสที่ซ่อนอยู่ ใช้ Eagle Vision สำรวจดูจุดเงื่อนงำสำคัญๆ ต่าง 7 จุดในห้องให้หมด สำรวจกล่องข้างๆประตูทางเข้าเป็นจุดแรกก็จะได้ไอเทม Fear Bomb และ Spikes ซึ่งเป็นอาวุธแบบใหม่ที่ Jacob และ Evie นำกลับมาจากอินเดียด้วย

Fear Bomb และ Spikes  ก็คือ Fear Tool ที่ใช้สร้างความหวาดกลัวให้ศัตรูให้เร็วยิ่งขึ้น โดยระเบิด Fear Bomb นั้นเมื่อขว้างใส่ศัตรูจะทำให้เหยื่อเริ่มกังวลจนเป็นไอค่อสีเหลือง จากนั้นเปลี่ยนเป็นใช้ Spikes  แล้วรีบเข้าไปกด Y หรือ สามเหลี่ยมในการใช้ลิ่มเหล็กแหลม( Spikes ) ตอกร่างเหยื่อกับพื้น ก็จะทำให้ศัตรูที่อยู่รอบๆหวาดกลัวจนหนีกระเจิงไปได้

-สำรวจตามจุดสำคัญให้หมดจะพบทั้งกระจกแตก , แจกันตก , รอยเลือด, จดหมายของ Jack The Ripper  ที่ถูกเผยแพร่ 3 วันก่อนที่เหยื่อรายที่ 3 Elizabeth Stride และ 4  Catherine Eddowes จะถูกฆาตกรรม


รูปถ่ายเมื่อ 15 ปีก่อนที่ Jacob , Evie , Herry Green และเด็กคนนึงที่ชื่อ Jack ที่หน้าวิหาร Jacob พาเด็กคนนี้ขึ้นรถไฟมาลอนดอนพร้อมๆกันด้วย

เจ้าแม่กาลี นั้นเป็นเทพที่คนอินเดียนับถือ ท่านมีอำนาจฤทธิ์ในการปราบปรามสิ่งชั่วร้ายและพลังอำนาจในการขจัดคุณไสย




 ผู้บูชาพระแม่กาลีอย่างถูกต้องและเคร่งครัด พระแม่จะประทานความแข็งแกร่ง ความกล้าหาญ และอำนาจเหนือผู้อื่น และช่วยลบล้างไสยเวทย์ด้านมืดหากบุคคลใดถูกกระทำทางไสยศาสตร์ แต่พระแม่กาลีทรงมีบุคลิกภาพที่ยากแก่การเข้าใจ มีความลึกลับที่สุดในบรรดาเทพเทวาทั้งปวง ท่านมีความดุดัน เกรี้ยวกราด รูปลักษณ์และอุปนิสัยล้วนเต็มไปด้วยความน่ากลัวแต่กับเฉพาะอสูร ปีศาจ และมนุษย์ที่กระทำการชั่วร้ายเท่านั้นที่ต้องสมควรหวาดกลัว เพราะพระแม่กาลียังไงก็คือเทพ ที่ต้องปกป้องคุ้มครองผู้กระทำความดีเช่นเดียวกันทุกพระองค์ 

  


วิหารเจ้าแม่กาลี หรือ Kali Temple นั้นอยู่ใน เมืองกัลกัตตา ของประเทศอินเดีย  และในพัทยาบ้านเราด้วยครับ ซึ่งผู้คนที่เข้ามากราบไหว้ที่บ้านเรานั้นจะเน้นเพื่อเสริมศิริมงคลในด้านการค้าขายซึ่งจะต่างจากที่อินเดีย 





และบางคนก็อาจจะคุ้มชื่อแล้วจากหนัง Indiana Jones and the Temple of Doom หรือ ขุมทรัพย์สุดขอบฟ้า 2 ตอน ถล่มวิหารเจ้าแม่กาลี นั่นเอง 

Cr. ข้อมูลประกอบจาก http://www.siamganesh.com/kali.html


-และจากที่ Evie สำรวจรูปนี้ทำให้เธอคิดได้ว่า Jacob อาจทิ้งปริศนาของเรื่องนี้ไว้ให้เชื่อมโยงไปที่เจ้าแม่กาลีก็ได้ จนเมื่อเข้าไปสำรวจที่จุดสำคัญสุดท้ายที่เทวรูปเจ้าแม่กาลีที่ชั้นวางของ Evie จะเจอจดหมายที่ Jacob ซ่อนเอาไว้ทันที

“ใครจะช่วยผู้หญิงพวกนั้นได้บ้าง โชคไม่ดีเอาซะเลย เธอจะเป็นสิ่งเตือนใจให้นึกถึงเด็กๆพวกนั้นของเรา ถ้า The Ripper ไม่ได้ตัวเธอไปซะก่อน”




Evie -  โชคไม่ดีเอาซะเลยหรอ ? Jacob พยายามสื่อถึงอะไรกันนะ เขาพยายามโยงไปถึงผู้หญิงที่โชคไม่ดี เดี๋ยวนะ.. เพื่อนรักเก่าของพวกเรา Nellie หรอ เธออาจอยู่ที่ซ่องแถวๆห้อง Jacob นี่แน่ เริ่มสืบจากตรงนี้ก่อนดีกว่า

-เดินทางไปที่จุดเขียวที่ซ่องโสเภณีใกล้ๆ เมื่อถึงตึกเป้าหมายแล้วใช้ Eagle Vision มองหาเป้าหมายที่เป็นหญิงโสเภณี 3 คนแล้วลอบเข้าไปสอบถามข้อมูลของ Nellie จากพวกเธอ เมื่อเข้าไปคุยจนครบ 3 คนแล้วคนนึงจะบอกว่า Nellie เพิ่งถูกคนของ Lady O จับตัวไป
** CHALLENGES** ในขณะเข้าไปหา Nellie ในตึกต้องทำให้ศัตรูเกิดสภาวะหวาดกลัว 3 คน ** 
-รีบตามรถม้าไปด้วยการใช้ Eagle Vision ตามรอยรถม้าไปจนถึงตึกเป้าหมาย ใช้ Eagle Vision มองหาตัว Nellie แล้วลอบเข้าไปหาเธอในห้องที่ Lady O กำลังปราศรัยอยู่


Evie – ชูว .. อย่าส่งเสียง ไม่ต้องกลัว 
Nellie – น้องสาวของ Jacob หรอ ? เราคุยกันตอนนี้ไม่ได้ ถ้าเธอเห็นเข้าโดนหล่อนฆ่าแน่นอน 
Evie – ใครจะฆ่าเธอ ?
Nellie – Lady Owers Jacob บอกว่าคุณต้องฆ่าเธอถึงจะเจอตัวเขา 




 Lady Owers – ยิ้มหน่อยสาวๆ ทำตัวดีๆ ไม่งั้นชั้นจะบอก The Ripper ให้จัดการพวกเธอนะ …. นัง Frye .. พวกแกไปเอาตัว Nellie มาแล้วจัดการไม่ให้นัง Frye มันตามพวกเราด้วย

** CHALLENGES** ในขณะไล่ตามไปชิงตัว Nellieจากรถม้าศัตรูให้ใช้วิธีขโมยรถม้า **

-เมื่อ Nellie ถูกคนของ Lady O จับตัวขึ้นรถม้าไปก็รีบหารถม้าแล้วรีบขี่ตามไปชิงรถม้ามันมาให้ทันเพื่อช่วย Nellie กลับมา



Evie – เป็นไงบ้าง Nellie ?
Nellie – เธอใช้ชั้นเป็นตัวล่อเพื่อที่จะหนีไปคฤหาสน์ของเธอ เธอรู้ว่าคุณจะมาคุณ Frye ยัย Lady O นั่นแหละที่คอยเป็นหูเป็นตาให้ The Ripper ในลอนดอน 
Evie – ถ้าฆ่าเธอซะ เจ้า jack มันก็จะออกมาแน่นอน ไปหาที่ซ่อนตัวก่อนแล้วเราไว้ค่อยคุยกันทีหลัง Lady Owers อุตสาห์ตั้งความหวังกับชั้นขนาดนี้ชั้นก็จะไม่ทำให้เธอผิดหวังแน่นอน 


อีกสถานการณ์ที่ความหวาดกลัวที่มีต่อ jack the Ripper กัดกินเมืองอยู่ก็คือ ความทุกข์ของเหล่าหญิงโสเภณีทุกคนบนท้องถนนในลอนดอนซึ่งนอกจากการที่พวกเธอต้องตกเป็นเป้าหมายของฆาตกรต่อเนื่องโรคจิตแล้ว ยังต้องเจอกับการเอารัดเอาเปรียบของสังคมรอบข้างที่พยายามเข้ามากอบโกยผลประโยชน์จากพวกเธอเพื่อแลกกับความปลอดภัยในชีวิต โดยเฉพาะกับ Mary Williams หรือ Lady Owers กับสามี Thomas Owers ที่เคยเป็นพันธะมิตรของภาตีนักฆ่าในลอนดอนมาตลอด แต่มากลับข้างไปทำงานเป็นหูเป็นตาให้กับ jack The Ripper เพื่อตีกินกับผลประโยชน์จากหญิงโสเภณีกับคลับของหนุ่มที่ชื่อ Cannibal Club ของเธอ



โดยจุด Nellie Associate Activities หรือเควสย่อยที่เพิ่มขึ้นมาในแผนที่ตอนนี้ก็คือภารกิจในการช่วยเหลือเหล่าหญิงโสเภณีที่เป็นเพื่อนๆของ Nellie ประกอบด้วย
- Brothel Attack ภารกิจช่วยเหลือพวกหญิงโสเภณีในตึก ซึ่งก็จะเหมือนกับช่วยพวกแรงงานเด็กในภาคหลัก
-Lost Women ตามหาและช่วยเหลือพวกโสเภณีที่ถูกจับตัวไป โดยต้องใช้ Eagle Vision มองหาเป้าหมายที่ซ่อนอยู่ในรถม้าแล้วขี่รถม้าตามไปชิงตัวพวกเธอกลับมา
-Walk the Shame ภารกิจช่วยเหลือและทวงความเป็นธรรมให้เหล่าโสเภณีที่ถูกผู้ชายกลั่นแกล้ง โดยการไปลักพาตัวชายที่กำลังทำร้ายหญิงโสเภณีแล้วพาตัวมันไปประจานตามกลุ่มฝูงชน (จุดสีฟ้า) เพื่อให้เกทความอับอายเต็มแล้วพาตัวไปส่งให้ Nellie สั่งสอนให้หลากจำต่อไป



จากการถูกกดขี่ข่มเหงจากสังคมในยามทุกข์ยากของเหล่าหญิงโสเภณีในยุค 1888 ทำให้พวกเธอต้องรวมกลุ่มกันเป็นภาคีที่เรียกว่าเหล่าหญิงผู้อับโชคแห่งลอนดอนหรือ The unfortunate of London ขึ้นมา เพื่อความปลอดภัยของพวกเธอเองและเพื่อต่อรองอำนาจกับทุกกลุ่มในสังคม ซึ่งเธอก็ทำสำเร็จเพราะได้เริ่มมีมาตการณ์คุ้มกันเหล่าหญิงโสเภณีที่จริงจังขึ้นโดยการที่พวกเธอต้องเดินทางเป็นกลุ่มโดยมีตำรวจคอยคุ้มกันอยู่เสมอด้วย 



** ตอนนี้จะสามารถใช้เหล่าโสเภณี (Prostitutes ) จากกลุ่ม The unfortunate of London เหมือนกับการใช้งานแก็งค์ The Rook ได้แล้วด้วยการกด RB หรือ R1 เพื่อเรียกพวกเธอมาช่วยล่อศัตรูให้พ้นจากเส้นทางได้ ** 


                      8 กันยายน ค.ศ. 1888 เกิดฆาตกรรมเหยื่อรายที่สอง แอนนี่ แชปแมน 



เธอถูกหั่นเป็นชิ้นๆ ส่วนคอก็มีบาดแผลลึกมากไปถึงกระดูกด้านหลัง ส่วนท้องทั้งหมดก็ถูกคว้านออกมา สิ่งที่หายไปก็คือมดลูก มันไม่ใช่แค่การคว้านไส้และนำอวัยวะออกมาเท่านั้นและทำลายอวัยวะเพศของเหยื่อ มีการระบุว่าพบมีดที่อาจเป็นของฆาตกรที่ถูกออกแบบมาโดยเฉพาะและมีความคล้ายคลึงกับมีดผ่าตัดของแพทย์ผ่าตัด ซึ่งเป็นสิ่งบ่งบอกลักษณะของ Jack The Ripper ได้ว่าฆาตกรต้องมีความรู้ด้านการแพทย์ กายวิภาค สรีระร่างกายในระดับนึงด้วย 




                                     A Monster’s Creed: THE LADY TALK


** CHALLENGES**
-ทำให้ศัตรูตกอยู่ในสภาพหวาดกลัว 10 คน
- ฆ่าเป้าหมายแล้วหนีออกมาโดยไม่ถูกพบเห็น

**รางวัล ** 
-เงิน 1000
-EXP 1500
Full Synch Bonus
-เงิน 100
-EXP 300
- Lady Owers Gauntlet 

เข้าไปที่จุดรับภารกิจหลักที่สถานทีรถไฟ ก่อนที่ Evie จะมุ่งหน้าไปที่คฤหาสน์ Owers ของ Lady Owers กับสามี Thomas Owers ที่อยู่ทางตอนเหนือของลอนดอน ซึ่งที่นี่เป็นคลับขายบริการทางเพศที่ชื่อ Cannibal Club ด้วย ซึ่งหาก Lady O เป็นสายให้กับ jack The Ripper จริงถ้า Evie ฆ่า Lady Owers ได้ก็จะเป็นการล่อให้ jack ออกมาได้ 



ที่หน้าคฤหาสน์จะเริ่มพบหัวหน้าศัตรูที่ต่อต้านความกลัวนั่นคือ ไม่สามารถจะใช้เทคนิค fear หรือ ระเบิด Fear Bomb เพื่อทำให้มันกลัวได้เลย นอกจากนั้นมันยังสามารถเข้ามาช่วยพูดกล่อมให้ศัตรูตัวอื่นที่กำลังหวาดกลัวกลับคืนสภาพปกติได้ด้วย ฉะนั้นจึงจำเป็นต้องหาทางฆ่าเจ้าตัวหัวหน้านี้ก่อน จัดการศัตรูให้หมดแล้วขึ้นไปที่จุดสังเกตการณ์ด้านบนเพื่อดูภาพรวมทั้งหมดก่อนจะลงมือสังหารเป้าหมาย




เป้าหมายคือ Lady Owers สายของ jack The Ripper ที่อยู่ในห้องด้านบนของคฤหาสน์ มีจุดตัวช่วย 3 แบบคือ
1.Diversion Opportunity  สัญลักษณ์สีฟ้า ตัวแปรคือสัปเหร่อที่กำลังขุดขุดศพอยู่ทางฝั่งตะวันตกของคฤหาสน์ ซึ่งเมื่อจัดการมันและศัตรูทั้งหมดของแถบนั้นแล้วก็จะเข้าไปทำลายระฆังเตือนภัยที่อยู่ตรงนั้นไม่ให้มีใครเรียกกำลังเสริมได้
 2.Stealth Opportunity  สัญลักษณ์สีเขียว ตัวแปรคือ พ่อบ้านที่รู้ทางเข้าลับของคฤหาสน์
3. Unique Kill Opportunity สัญลักษณ์สีม่วง ตัวแปรคือ Thomas Owers สามีของ Lady O ที่จะเป็นตัวพาเข้าไปหาเป้าหมายเพื่อทำให้การลอบฆ่าแนบเนียนยิ่งขึ้น

เส้นทางการลอบฆ่าเริ่มจากไปลอบจัดการสัปเหร่อที่กำลังขุดขุดศพอยู่ทางฝั่งตะวันตกของคฤหาสน์และศัตรูในบริเวณนั้นให้หมดก่อนเพื่อทำลายระฆังเตือนภัย จากนั้นเข้าไปหาพ่อบ้านที่จุดสัญลักษณ์สีเขียวแล้วลอบตามเขาเดินทางเข้าไปที่ทางลับเข้าไปยังชั้นของคฤหาสน์


 แล้วเข้าไปหา Thomas Owers ที่จุดสัญลักษณ์สีม่วง รอจนกว่ามันจะคุยเสร็จแล้วเดินเข้ามาในห้องคนเดียวค่อยลักพาตัวมันมา พยายามเดินหลบพวกศัตรูตามทางดีๆจนถึงจุดหมายสีม่วงที่หน้าห้องของ Lady O Thomas ก็จะแกล้งเรียก Thomas เข้ามาใกล้ให้ Evie สังหารได้โดยง่าย


Lady O – ชั้นคิดว่านะคุณ Frye ชั้นอาจจะกลัวที่ต้องตายด้วยมือ The Ripper มากกว่าคุณก็ได้นะ 
Evie – นี่เธอทำอะไรกับพวกคนในรูปนี่ !
Lady O – The Ripper มอบความสนุกให้พวกเขายังไงละ คุณนักข่าว ก็จะเป็นรายต่อไปในไม่ช้านี่แน่นอน 
Evie – ชั้นก็แค่หวังว่า The Ripper คงยังไม่เจอตัวคุณก่อนชั้นหรอกนะ Weaversbrook

-ฆ่าเป้าหมายพร้อมได้เบาะแสต่อไปแล้วก็หนีออกจากคฤหาสน์ไปที่จุดเหลืองที่รถม้าจอดอยู่เพื่อขี่หนีออกจากพื้นที่ได้เลย



                             A Monster’s Creed: LETTER OF INTENT 

** CHALLENGES**
-ห้ามไม่ให้ศัตรูตัวสังเกตการณ์เห็นแล้วแจ้งเตือนพวกศัตรู

**รางวัล ** 
-เงิน 1250
-EXP 2500
Full Synch Bonus
-เงิน 125
-EXP 500

เข้าไปที่จุดรับภารกิจหลักที่ตึกสำนักงานเขต หลังจากได้เบาะแสเพิ่มเติมมาจาก Lady O  สายของ The Ripper มาแล้ว Evie ก็เข้าไปรายงานความคืบหน้ากับนักสืบ Abberline ถึงเรื่องรูปของเป้าหมายที่ The Ripper กำลังตามเก็บทีละคน



Abberline – มิส Frye ได้โปรดบอกผมทีว่าคุณหาตัวเจ้า Ripper เจอแล้ว ..แล้วนี่ข่าวหน้าหนึ่งเห็นรึยัง ?
Evie – เกิดฆาตกรรมที่คฤหาสน์ Owers 
Abberline – มีคนถูกฆาตกรรมต่อหน้าผมแบบนี้ ผมอาจปกป้องภาคีของคุณไม่ได้ตลอดหรอกนะ แถมมีพยานที่ระบุได้ว่าคนฆ่าเป็นคุณอีกด้วย บางทีผมควรจะจับคุณซะ  
Evie – เดี๋ยวนะ สำนักพิมพ์ Weaversbrook ชายที่เห็นในรูปนี่ เค้าเป็นเจ้าของหนังสือพิมพ์หรอกหรอ ?
Abberline – มิส Frye !!
Evie – ชั้นจะหาตัว The Ripper ให้เจอให้ได้ แต่ก่อนอื่นคุณต้องช่วยหาตัว Weaversbrook ก่อนที่ The Ripper จะเจอเขาก่อน
Abberline – ออกทางหน้าต่างนี่ ผมไม่อยากให้ใครเห็นคุณที่นี่  Weaversbrook น่าจะพักอยู่ในเขต St.Paul เอาละรีบไปได้แล้ว 

-หลังจากที่ Evie ไปก่อนเรื่องที่คฤหาสน์ Owers ตอนนี้ตำรวจจะไม่ได้เป็นมิตรเหมือนตอนแรกแล้ว แต่ก็ไม่ควรฆ่าพวกตำรวจนะ ใช้ระเบิด Fear Bomb ไล่ไปก็พอครับ จากนั้นมุ่งหน้าไปที่จุดหมายสีเขียวซึ่งเป็นที่อยู่ของ Weaversbrook ใช้ Eagle Vision มองหาเขาให้เจอจะพบว่าเขากำลังโดนพวกศัตรูทำร้าย เข้าไปช่วยเขาแล้วพาออกมานอกพื้นที่อันตราย



Weaversbrook – ไปให้พ้นคุณต้องการอะไรจากผม 
Evie – ชั้นกำลังตามล่า Jack the Ripper 
Weaversbrook – งั้นไปให้ไกลเลย ไอ้บ้านี่มันมีหูมีตาทั่วไปหมด 
Evie – ชั้นชื่อ Evie Frye จะมาช่วยคุณ 
Weaversbrook – Evie Frye น้องสาว Jacob หรอ ?
Evie – ใช่ ชั้นอยากรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับคนที่เหลือในรูปกันคุณ
Weaversbrook – ตายกันหมด เจ้า Ripper มันจับตัวลูกผมไป มันจะฆ่าลูกผมถ้าผมไม่เล่นข่าวของมันออกสื่อให้ดูน่ากลัวเกินจริง 
Evie – ชั้นสัญญาว่าจะช่วยเขากลับมาเอง แต่ตอนนี้คุณต้องมากับชั้นก่อน 

-เดินทางพา Mr. Weaversbrook มาที่จุดเป้าหมายสีเขียวที่ท่าเรือ เข้าไปด้านในใช้ Eagle Vision มองหาตัวหัวหน้าของพวกมัน แล้วเข้าไปฉกเอาข้อมูลที่ซ่อนของ ลูกชาย Mr. Weaversbrook ที่ถูกจับตัวไปมา (จะใช้การจับตัวมันแล้วถามหรือฆ่าทิ้งแล้วเก็บข้อมูลจากศพก็ได้) ก็จะได้ข้อมูลมาว่า ลูกชายของ Mr. Weaversbrook กำลังถูกจับตัวขึ้นเรือทาสที่ด้านในท่าเรือ เข้าไปที่เป้าหมายด้านในก็จะพบลูกชายของ Mr. Weaversbrook กำลังถูกจับเข้าไปจัดการศัตรูแล้วช่วยเขาออกมาซะ จะทำให้ Evie ได้ข้อมูลของเรือทาสที่จอดอยู่ที่ท่าเรือ Deptford hulks ซึ่งเป็นที่ที่ Evie คิดว่าอาจจะได้เจอ Jacob ถูกจับอยู่ที่นั่นด้วย

Mr. Weaversbrook เป็นเจ้าของหนังสือพิมพ์รายเดียวที่พยายามจะเอาจดหมายขู่จาก The Ripper ที่บอกถึงคำใบ้ของเหยื่อที่มันกำลังจะฆ่ารายต่อไปส่งให้ตำรวจโดยไม่ต้องการตีพิมพ์เพราะเกรงว่าจะเกิดความตื่นตระหนกไปทั่ว แต่ทางตำรวจกลับนิ่งเฉยกับเรื่องนี้เพราะตำรวจหลายคนเป็นสายของ The Ripper ด้วย ส่วน Mr. Weaversbrook  กลับได้จดหมายขู่จาก The Ripper จะเอาชีวิตเมียและลูกที่ถูกจับตัวไปเพื่อบังคับให้ Mr. Weaversbrook ลงข่าว The Ripper ที่สร้างความหวาดกลัวเกินจริงเพื่อมอมเมาสังคมแบบนักข่าวคนอื่น



โดยจุด Weaversbrook Associate Activities หรือเควสย่อยที่เพิ่มขึ้นมาในแผนที่ตอนนี้ก็คือภารกิจในการช่วยเหลือ Weaversbrook ในการหยุดยั้งการครอบงำสื่อ และหยุดข่าวสารที่เกินจริงที่จะทำให้ผู้คนหลงติดอยู่ในความหวาดกลัวที่มีต่อ Jack the Ripper จนมีคนเอาไปหาประโยชน์ต่อได้ ประกอบด้วย
1.Jack’s Lieutenants – ค้นหาและกำจัดตำรวจที่เป็นสายของ The Ripper
2. The Ripper Letters – ค้นหาและขมขู่พวกที่ใช้จดหมายขู่ของ The Ripper ไปกระจายข่าวผิดๆเพื่อสร้างความน่ากลัวให้ The Ripper ด้วยการใช้ Eagle Vision ค้นหาเป้าหมาย ใช้ระเบิด Fear Bomb ทำให้มันกลัวแล้วเข้าไปคุยกับมันเพื่อปรับทัศนคติ
3.Cargo Hijack – ขโมยรถสินค้าที่เป็นสินค้าของลูกน้อง The Ripper



                                              -รู้ไว้ใช่ว่าใส่บ่าแบกหาม - 

             



                                                  จดหมายของ Jack the Ripper 

หลังจากเกิดการฆาตกรรมสุดสยองผิดมนูษย์รายแรกในไว้ท์แช็พเพล ตำรวจได้รับจดหมายขู่เป็นจำนวนมากที่หนังสือพิมพ์พยายามจะเอามาลงข่าวเพื่อตีกินจากความหวาดกลัวของผู้คนที่มีต่อ Jack the Ripper แต่มีเพียงจดหมายจากผู้อ้างตัวเป็นฆาตกรที่ได้รับการกล่าวขวัญมากที่สุดมี 3 ฉบับ เท่านั้นที่ เชื่อได้ว่า อาจเป็นของจริง คือ

                   
   

                                                 ฉบับแรก “Dear Boss”

25 กันยายน ค.ศ. 1888 จดหมายส่งถึงสำนักงานเซ็นทรัล ลงนาม “แจ๊ก เดอะ ริปเปอร์”  ซึ่งทำให้ฆาตกรรายนี้รู้จักในนามนี้มาตั้งแต่นั้น 


                                                  เจ้านายที่เคารพ

“ผมได้ยินอยู่เรื่อยว่าตำรวจจะจับผม แต่พวกเขายังหาตัวผมไม่ได้เลย ผมได้แต่หัวเราะเมื่อดูพวกเขาช่างฉลาดล้ำและคุยโวว่ากำลังตามตัวไปถูกทาง เรื่องตลกเกี่ยวกับ ผ้ากันเปื้อนหนัง ทำให้อดหัวเราะไม่ได้จริงๆ ผมอยากกำจัดพวกโสเภณีและผมไม่สามารถหยุดเชือดพวกหล่อนได้จนกว่าจะเอาพวกหล่อนมาคาดรอบพุง งานชิ้นสุดท้ายช่าง ยอดเยี่ยมยิ่งนัก ผมไม่ให้โอกาสสุภาพสตรีผู้นั้นร้องแม้แต่แอะเดียวตำรวจจะจับผมได้อย่างไรกัน ผมรักงานของผมและอยากจะลงมืออีก ในไม่ช้า คุณ จะได้ยินเรื่องราวของผมอีก เล็กๆน้อยๆ เป็นงานอันสนุกของผม ผมอุส่าเกบเลือดไว้ในขวดเบียร์เพื่อเอาไว้ใช้เขียน แต่มันข้นเหมือนกาวผมเลยใช้มันไม่ได้ แค่หมึกแดงก็เพียงพอแล้วสำหรับผม           ฮ่าๆๆๆ  งานต่อไปของผมก็คือ  ผมจะตัดหูของสุภาพสตรีส่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อความสนุกน่ะ คุณว่าไหมขอให้เก็บจดหมายนี่ไว้ก่อน จนกว่าผมจะทำงานเล็กๆน้อยๆเสร็จก่อน แล้วค่อยส่งให้ตำรวจทันที มีดของผมคมมากและน่าใช้ จนผมต้องออกไปทำงานเดียวนี้    ขอให้โชคดี “

 ด้วยความจริงใจ ....  แจ๊ค เดอะ ริปเปอร์                                                                                                                    
ตรงมุมซ้ายของหน้ากระดาษ เขียนไว้ว่า .... “คงไม่ดีนักที่จะส่งจดหมายนี้ก่อนที่หมึกแดงจะหลดออกจากมือ โชคยังไม่มีเลย อ้อ พวกเขาว่าผมเป็นหมดด้วยล่ะฮ่าๆ”


                       



                                                     ฉบับที่ 2   Saucy Jack Postcard

1 ตุลาคม ค.ศ. 1888 หลังจากฆ่าเหยื่อรายที่ 3 และ 4 ไปแล้ว ไปรษณีย์บัตร “แจ๊คจอมซ่าส์”ถึงสำนักข่าวเดิม

“ฉันไม่ได้เข้าประจบนายเก่าของฉันตอนหรอกน่ะ  ที่ฉันให้รางวัลนี้แก่คุณเพิ่ม คุณคงได้เห็นงานของแจ็คจอมซ่า  เมื่อวานนี้ คราวนี้ฉันทำถึงสองงานซ้อนเชียวนะ งานแรกมีเสียงร้องออกมานิดหน่อย งานเลยไม่เสร็จเรียบร้อย ไม่มีเวลาตัดหูมาให้ตำรวจเลย ขอบคุณที่เก็บจดหมายฉบับก่อนไว้จนฉันทำงานอีกครั้ง”  .. แจ๊ค เดอะ ริปเปอร์                                                                                                                            

                       
    

                                                         ฉบับที่ 3   From Hell

16 ตุลาคม ค.ศ. 1888 พัสดุลงชื่อ “จากนรก” ส่งไตครึ่งซีก ไปให้จอร์ชประธานคณะกรรมการป้องกันภัยไวต์แซพเพล จดหมายที่ส่งมาพร้อมไตครึ่งซีกส่งกลิ่นเหม็นมันถูกตัดแบ่งเป็นทางยาว มีจดหมายแนบใจความว่า

                                                   จากนรก

                                         มิสเตอร์ลัสก์ ที่เคารพ

"ผมได้ส่งครึ่งหนึ่งของไตที่เอามาจากผู้หญิงคนหนี่งและเก็บรักษาแบ่งให้คุณ ส่วนอีกส่วนได้ทอดและกินไปแล้ว มันช่างอร่อยมาก  ผมจะส่งมีดเปื้อนเลือดที่หั่นมันออกมา ถ้าคุณรออีกสักพัก  

ลงชื่อ แจ๊ค เดอะ ริปเปอร์ จับฉันเลยเมื่อคุณสามารถจับได้มิสเตอร์ลัสก์"

จดหมายที่คาดว่าเป็นของจริงนั้นมีแค่ 3 ฉบับเท่านั้น แต่ 3 ฉบับนี้ก็ใช่ว่าจะเขียนจากคนๆเดียวกันหรืออาจไม่ใช่ฆาตกรตัวจริงเป็นคนเขียนก็ได้ ใครจะรู้

Cr. ข้อมูลอ้างอิงจาก
 http://www.neutron.rmutphysics.com/science-news/index.php?option=com_content&task=view&id=555&Itemid=4
https://th.wikipedia.org/wiki/แจ็กเดอะริปเปอร์




                                  A Monster’s Creed: PRISONER 


** CHALLENGES**
-ทำให้ศัตรูที่เรือขนทาสหวาดกลัว 4 คน 
-ทำภารกิจโดยไม่ถูกศัตรูพบเห็นเลย 

**รางวัล ** 
-เงิน 1500
-EXP 3000
Full Synch Bonus
-เงิน 150
-EXP 600

ปืน Templar Shoot – out 

เดินทางไปที่จุดรับภารกิจหลักที่ท่าเรือ Evie จะเดินทางต่อไปยังท่าเรือน้ำลึก Deptford เพื่อเข้าไปที่เรือขนทาสของ Jack the Ripper เพื่อค้นหาตัว Jacob ที่อาจถูกจับอยู่ที่นี่หรืออย่างน้อยก็เพื่อยับยั้งแผนการบ้าๆที่ The Ripper มันทำลงซักที 

-เมื่อเข้ามาถึงที่หมายแล้ว ที่ท่าเรือจะพบเรือขนทาสขนาดใหญ่จอดอยู่ ลอบเข้าไปที่จุดเขียนบนเรือเพื่อเข้าไปค้นหาที่ห้องขังนักโทษ ซึ่งเมื่อเข้าไปค้นหาจนครบทั้ง 2 ลำแล้วจะพบว่าไม่เจอ Jacob ถูกจับมาที่นี่เลยนอกจากพวกนักโทษอื่นๆที่ถูกจับมาขังที่ต่างก็ร้องขอความช่วยเหลือด้วยความทุกข์ทรมาน แต่อย่างน้อยก็ไม่เสียเที่ยวเพราะ Evie ก็ได้ข้อมูลจากพวกนักโทษที่ถูกจับมาถึงเรื่องของกัปตันเรือทาสที่แสนเหี้ยมโหดที่เป็นพันธมิตรคนสำคัญของ Jack the Ripper ที่อยู่ในตึกบนฝั่งอีกด้าน Evie จึงเปลี่ยนแผนเป็นเข้าไปสังหารมันเพื่อยับยั้งแผนค้ามนุษย์สุดชั่วร้ายของ The Ripper ไปในตัว จากนั้นเข้าไปที่จุด Vantage point เพื่อสังเกตการณ์ภาพรวมของพื้นที่เพื่อหาข้อได้เปรียบในการลอบสังหารเป้าหมายได้เลย


เป้าหมายคือ Billingsworth กัปตันเรือขนทาส ที่กำลังตรวจห้องประหารทาสที่กำลังสร้างใหม่ที่โกดังในตึก  มีจุดตัวช่วย 3 แบบคือ
1.Ifiltration Opportunity  สัญลักษณ์รูปกุญแจสีเขียว ตัวแปรคือหัวหน้าการ์ดที่ถือกุญแจทางเข้าประตูโกดังด้านบน เข้าไปจัดการขโมยกุญแจหรือฆ่าแล้วเก็บจากศพมา
 2.Assistance Opportunity  สัญลักษณ์สีฟ้า ตัวแปรคือ พวกนักโทษที่ถูกขังอยู่ที่คุกทางซ้ายของโกดัง เข้าไปช่วยพวกเขาออกมาด้วยการใช้ลังระเบิดจุดทำลายประตูคุก เพื่อใช้นักโทษสร้างความวุ่นวายดึงความสนใจจากการ์ดทั้งหมด
3. Unique Kill Opportunity สัญลักษณ์สีม่วง ตัวแปรคือ ช่างซ่อมเครื่องแขวนคอที่ใช้ประหารนักโทษ




เส้นทางการลอบฆ่าเริ่มจากเข้าไปที่จุดรูปกุญแจสีเขียวเพื่อชิงเอากุญแจทางเข้าโกดังชั้นบนมาก่อน แล้วไปที่จุดสัญลักษณ์สีฟ้าคุยกับนักโทษที่ถูกขังอยู่ที่คุกทางซ้ายของโกดังแล้วช่วยพวกเขาออกมาด้วยการใช้ลังระเบิดที่วางอยู่ใกล้ๆยกมาจุดทำลายประตูคุก เพื่อใช้นักโทษสร้างความวุ่นวายดึงความสนใจจากการ์ดทั้งหมด จากนั้นค่อยเข้าไปที่จุดสัญลักษณ์รูปกุญแจสีเขียวซึ่งก็คือประตูทางเข้าชั้นบนของโกดัง ใช้กุญแจที่ขโมยมาเปิดเข้าไปจะพบ Billingsworth กัปตันเรือขนทาสเป้าหมายยืนอยู่ตรงที่แขวนคอเพื่อตรวจเช็คความพร้อม เข้าไปที่คันโยกของที่แขวนคอด้านบน สำรวจเพื่อทำให้มันเสียแล้วเข้าไปหลบในตู้รอให้ช่างซ่อมขึ้นมาปรับให้ใช้งานได้แล้วรอให้มันลงไปก็ออกมาสับคันโยกเชือกแขวนคอจะดึงตัว Billingsworth ที่เป็นเป้าหมายขึ้นมาด้านบนก็จัดการสังหารมันอย่างสุดแนบเนียนได้เลย



Billingsworth – ดูเธอเข้าสิ แม่สาวน้อย นี่เธอคิดว่าการฆ่าผู้คุมประหารนักโทษอย่างชั้นแล้วมันจะทำให้เธอเปลี่ยนแปลงทุกอย่างที่พวกเราทำกันไว้อย่างที่เธอตั้งใจไว้ได้หรอ ?
Evie – พวกเราหรอ ?
Billingsworth แล้วเธอคิดยังไงล่ะ นี่คือสิ่งที่พี่ชายเธอคิดเอาไว้ไม่ใช่หรอ แรงบันดาลใจของเขาไง
Evie – ชั้นไม่เชื่อแกหรอก !
Billingsworth – พี่ชายเธอนั่นแหละที่เป็นคนสอน jack ในการฉีกกระชากความเสื่อมทรามของเมืองนี้ออกมา แต่เธอไม่มีไข่ไง เลยมองไม่เห็นเองว่าอะไรเป็นสิ่งสำคัญและถูกต้องของเรื่องนี้  
Evie – แล้วมันอยู่ที่ไหร ! Jack the Ripper อยู่ที่ไหน !!
Billingsworth – ฮะ ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆ อ๊ากก อั๊กๆๆ ............

ถึงแม้ว่า Evie จะยับยั้งพันธมิตรชั่วของ The Ripper ลงได้ แต่ก็ไม่เห็นวี่แววของ Jacob อยู่ที่นี่เลย แต่สิ่งที่สำคัญกว่าคือไม่ว่าพี่ชายเธอจะพลั้งเผลอสร้างปีศาจร้ายอะไรขึ้นมา เธอก็สัญญากับตัวเองว่าจะร่วมกันรับผิดชอบและทำลายมันไปด้วยกัน

-ออกมาที่ชุดเป้าหมายสีเขียวที่ห้องสื่อสาร Evie จะรีบส่งข่าวไปบอกนักสืบ Abberline ถึงเรื่องราวทั้งหมด


Evie - ชั้นต้องการคุยกับนักสืบ Frederick  Abberline อะไรนะ แล้วเขาไปไหน ?  The Ripper ก่อคดีอีกแล้วหรอ ? ที่ไหน ขอบคุณมากคะคุณตำรวจ เดี๋ยว คุณส่งกำลังมาที่เรือขนาดใหญ่ที่ท่าเรือน้ำลึก Deptford ด้วย มีคนถูกจับขังอยู่ที่นี่เยอะเลย 

ก่อนที่ Evie จะเหลือไปเห็นกุญแจคุกที่วางอยู่ เธอจึงย้อนไปที่คุกแล้วโยนกุญแจให้กับพวกนักโทษให้หนีออกมาโดยไม่เลือกข้างแม้จะมีพวกเทมพลาที่ถูกจับอยู่มากมายก็ตาม 


หลังจากที่ Evie ไปแล้วในขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจนำกำลังเข้าตรวจค้นโกดังค้าทาสตามที่ Evie แจ้งเข้ามาซึ่งก็พบเชลยที่ถูกจับอยู่มากมายรวมทั้งลูกน้องของ The Ripper ที่ยังรอดชีวิตอยู่บางส่วนด้วย แต่ Jack the Ripper ก็ตามเข้ามาในพื้นที่ด้วยเช่นกัน


“ยัยน้องสาวขี้แงของ Jacob คิดว่าตัวเองจะจับตัว The Ripper ได้งั้นหรอ ? “ Jack เย้ยหยัน Evie กับตัวเองก่อนที่จะเริ่มเข้าไปฆ่าพยานที่รู้เห็นเกี่ยวกับตัวเขาทันที 

-จากนั้นเข้าไปที่จุดสีแดงซึ่งเป็นจุดที่ลูกน้องของ The Ripper ถูกตำรวจควบคุมตัวอยู่และเอกสารหลักฐานต่างๆในห้องจัดการทำลายและฆ่าปิดปากลูกน้องที่กำลังถูกจับให้หมดทุกจุด แล้วหนีออกจากพื้นที่ได้เลย

"ไม่นานหรอก เธอต้องวิ่งเข้ามาสู่อ้อมกอดของข้า และกลายเป็นผลงานชิ้นโบว์แดงของข้าต่อไปด้วย .... นี่ข้ามองไปถึงเรื่องการกลับมารวมกันของครอบครัวในวันข้างหน้าเลยนะ"  Jack the Ripper รำพึงรำพันกับตัวเองก่อนจะหายตัวไปในความมืดพร้อมแผนชั่วร้ายในใจที่มีแต่เขาที่รู้ได้อยู่คนเดียว 



                     A Monster’s Creed: THE MOTHER OF ALL CRIME


** CHALLENGES**
-ทำภารกิจโดยการไม่ฆ่าศัตรูเลย 

**รางวัล ** 
-เงิน 1750
-EXP 4500
Full Synch Bonus
-เงิน 175
-EXP 900

-เข้ามาที่จุดรับภารกิจที่ตึกสำนักข่าว London World News ซึ่งพื้นที่ที่กำลังเกิดการฆาตกรรมแมรี่ เจน เคลลี่ โดยฝีมือของ Jack The Ripper




9 พฤศจิกายน ค.ศ. 1888 แมรี่ เจน เคลลี่ เหยื่อรายนี้อาจจะยืนยันได้ยากว่าเป็นรายที่เท่าไหร์จากฝีมือของ The Ripper เพราะอาจมีอีกมากมายหลายศพที่อาจหาไม่พบ แต่ถ้าดูจากข้อมูลที่ตำรวจพบศพนี้เป็นเหยื่อรายที่ห้า และคาดว่าเป็นรายสุดท้าย



แมรี่ เจน เคลลี่ นอนตายเป็นศพอยู่ ในห้องพักของตนเอง สภาพศพของเธอเบื้องต้นนั้นเละจนไม่มีชิ้นดี อยู่ในสภาพนอนกางขาบนเตียงนอน ผิวหนังโดนถลก มีมดลูกกองอยู่ปลายเท้า มือข้างหนึ่งถูกจับล้วงเข้าไปในท้องที่โดนควักตับไตไส้พุงออก หัวใจถูกปลิดออกจากขั้วหายไป เลือดสาดกระเซ็นไปทั่วห้อง และเคลลีเธอกำลังตั้งครรภ์ด้วย บนผนังห้องของเธอปรากฏข้อความ “the juwes are the men that will not be blamed for nothing.” แปลว่า คนยิวมักจะเป็นพวกที่ไม่เคยถูกว่ากล่าวมาตลอด เช่นเดียวกับข้อความที่พบบริเวณของเหยื่อรายที่สี่ ในสภาพห้องยังมีจุดน่าสงสัยหลายจุดเช่น พบเศษเสื้อผ้าที่ถูกเผารวมกับหมวกสตรี กา และหูกาน้ำบนเตา ฆาตกรทำอย่างนี้ทำไม สันนิษฐานว่าฆาตกรจุดเพื่อให้เกิดความสว่างในการแล่ศพได้ถนัด

จากการชันสูตรศพโดยละเอียดพบว่าเหยื่อถูกเชือดลำคอจากใต้หูหนึ่งไปอีกข้างหนึ่ง ลึกจนถึงกระดูกคอ ใบหน้าถูกทำลายยับเยินจนแทบจำไม่ได้ เต้านมถูกตัดออกทั้งสองข้าง แขนขามีแผลเหวอะหวะทั้งสองแผล ขาแยกออกจากกัน เนื้อท้องน้อยและต้นขาถูกเฉือน ท้องถูกชำแหละจนไม่เหลืออวัยวะใด ๆ กระเพาะปัสสาวะและไตถูกควักออกมาวางบนเต้าทั้งสองข้างที่อยู่ใต้ศีรษะ ลำไส้ถกวางอยู่ด้านขวา ม้านอยู่ด้านซ้าย เนื้อส่วนท้องถูกเฉือนและเนื้อต้นขวากองอยู่บนโต๊ะ

จากคำให้การของพยายานกล่าวว่าผู้ชายคนสุดท้ายที่เจอเธอก่อนที่เธอจะตายคือ จอร์ซ ฮัทซิ่งสัน ผู้ที่เธอไปขอเงินเขา  แต่เขาไม่ให้ เธอจึงผละออกไปหาชายสวมหมวกยาวสีดำ  ผอมสูง ปริศนาคนนึงแทนและพบเธอเป็นศพในเวลาต่อมา ซึ่งทำให้รูปพันธ์สันธานของ Jack the Ripper ถูกพูดถึงในรูปแบบของผู้ชายสวมหมวกยาวสีดำ  ผอมสูง มาตลอด 



ในประวัติศาสตร์จริงนั้น มีการตั้งข้อสงสัยกันมากมายว่าทำไมการลงมือครั้งนี้ของ แจ๊ค เดอะ ริปเปอร์ถึงได้โหดเหี้ยมนักและที่สำคัญที่สุดคือ หลังจากสังหารแมรี่ เจน  แจ๊ค แล้ว Jack The Ripper ก็หยุดพฤติกรรมฆ่าโหด และหายไปจาก Whitechapel จนไม่มีใครได้ข่าวอีกเลย 



                                  จุดเกิดเหตุฆาตกรรมทั้ง 5 รายของ Jack the Ripper 



 ทันทีที่ Evie เข้าไปตรวจสอบศพของ แมรี่ เจน เคลลี่ เธอก็พบภาพสุดสยองจากสภาพศพที่เละเทะกว่าทุกครั้ง จนตำรวจรีบเข้ามาห้ามเพราะ Evie เข้ามาในที่เกิดเหตุโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่ง Evie ก็เตรียมจะสวนกลับเพราะความโกรธที่เธอเห็น The Ripper ทำกับเหยื่อ แต่นักสืบ Abberline ก็ตามมาเคลียร์ได้ทัน 



Evie – ผู้ตายเป็นใคร ? เธอเป็นใคร 
นักสืบ Abberline – บอกคุณหรอ ? ทำไมผมต้องบอก ผมเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจผู้รักษากฎหมายนะไม่ใช่คนในสามาคมลับอะไรของคุณ
Evie – ฟังนะ Jacob รู้ ..
นักสืบ Abberline – ไม่ คุณนั่นแหละต้องฟังผม ผมไม่สามารถปกป้องคุณไว้ได้นานหรอกนะ เบาะแสทุกอย่างมันเชื่อมโยงไปที่พี่ชายคุณ ภาคีของคุณทั้งหมด เรื่องของ The Ripper มันกำลังจะทำให้คุณเดือนร้อนอย่างมากและผมก็ไม่รู้ว่าจะหยุดลูกน้องผมไม่ให้ไม่จับคุณยังไงแล้วรู้มั๊ย ! 
Evie – ตราบใดที่คุณยังต้องการหัวเจ้า jack อยู่ชั้นก็ยังมีประโยชน์จริงมั๊ย ?

-จากนั้นใช้ Eagle Vision มองหาหลักฐานสำคัญที่เป็นจุดสีเหลืองทั้งหมด 4 จุดคือ ที่ศพ , กาน้ำร้อน , รอยเลือดที่พื้นตรงทางออกและประตูห้อง ซึ่งจะพบว่าประตูถูกเลื่อนผิดจากตำแหน่ง ใช้แกนอนาล็อกซ้ายดันมันให้รอยเลือดที่ประตูกับที่พื้นมาต่อกันแล้วไปยืนที่จุดเขียวหันมุมกล้องไปที่กำแพงข้างเตียงก็จะพบอักษรอักขระที่ Jack เขียนเอาไว้ว่าให้ Evie ไปที่จุดที่พบศพที่เป็นศพแรกในเขต Whitechapel นี้ 
-เดินทางต่อไปยังจุดหมายสีเขียวซึ่งเป็นจุดพบศพ Annie Chapman เหยื่อรายที่ 2 ที่สุสานใน Whitechapel ซึ่งจะพบศัตรูมากมายอยู่ในพื้นที่ด้วย เป้าหมายคือใช้ Eagle Vision มองหาหลักฐานสำคัญที่เป็นจุดสีเหลืองทั้งหมด 5 จุด แล้วเข้าไปสำรวจทุกจุดให้หมด ถ้าจะทำตาม ** CHALLENGES** ที่ห้ามฆ่าศัตรูเลยก็ต้องใช้ระเบิด Fear Bomb ไล่พวกศัตรูที่จุดเบาะแสแรกไปให้หมดก่อนแล้วค่อยสำรวจเบาะแส เมื่อสำรวจครบจะเจอจุดที่ Annie ขว้างแหวนของเธอทิ้งไป โดยต้องกด LT หรือ L1 ทำท่าขว้างไปที่จุดตกกระทบทางขวา (ใช้Eagle Vision มองหาจะพบเป็นจุดเหลือง) ก็จะพบจุดที่แหวนตก แต่ดันมีอีกามาคาบไปซะก่อน ตามมันไปเอาคืนที่รังของมันบนต้นไม้แล้วไปที่จุดเขียวเพื่อมองหาจุดที่มีอักษรอักขระข้อความที่ Jack เขียนเอาไว้



“ภาคีแบบไหนกัน ที่ไม่สามารถปกป้องพวกฟ้องของตัวเองได้ “ ซึ่ง Evie จำได้ดีว่าเป็นหลักความเชื่อแรกที่ Jacob ยึดถือ Evie จึงตีความเป็นถึงเหยื่อของ jack ที่ Jacob เข้าไปเกี่ยวของเป็นรายล่าสุดซึ่งก็คือ เหยื่อรายที่ 4  Catherine Eddowes 
-เดินทางต่อไปยังจุดเป้าหมายสีเขียวที่เป็นที่พบสพเหยื่อรายที่ 4 ใกล้ๆทางรถไฟ เข้ามาถึงแล้ว เป้าหมายคือใช้ Eagle Vision มองหาหลักฐานสำคัญที่เป็นจุดสีเหลืองทั้งหมด 9 จุด แล้วเข้าไปสำรวจทุกจุดให้หมด ถ้าจะทำตาม ** CHALLENGES** ที่ห้ามฆ่าศัตรูที่นี่เลย เมื่อสำรวจครบจะเจอจุดที่ Catherine ขว้างแหวนของเธอทิ้งไป โดยต้องกด LT หรือ L1 ทำท่าขว้างไปที่จุดตกกระทบทางขวาลงไปที่กองฟาง โดดเข้าไปสำรวจจนเก็บแหวนมาได้ แหวนของภาคี Assassins 2 วงจากผู้หญิงที่ถูก jack The Ripper ฆ่านั้นล้วนเป็นหญิงโสเภณีที่ Jacob เป็นคนชักนำเข้าสู่ภาคีทั้งสิ้น 

     

-จากนั้นเข้าไปที่จุดเขียวเพื่อมองหาตำแหน่งของอักษรอักขระที่ jack เขียนไว้ว่า “ต้องให้มีคนตายอีกมากเท่าไหร่เธอถึงจะมองเห็นความจริง ป.ล พี่ชายเธอก็ไม่เคยจะฟังอะไรเลยชั้นเลยให้บทเรียนกับมันเป็นพิเศษถึง 2 เท่า หลักความเชื่อของเธอทำให้พวกเขาล้มเหลวเหมือนกับที่ทำกับแม่ชั้นล้มเหลว”  
- จากข้อความทำให้ Evie จำได้ว่า เด็กที่ชื่อ Jack ที่ Jacob นำมาจากอินเดียนั้นเคยอาศัยอยู่ที่นี่ในตอนเด็ก ซึ่งจะโยงไปถึงแม่ของ jack ที่เคยถูกฆ่า เดินทางต่อไปที่จุดเขียวต่อไปซึ่งจะเป็นจุดที่แม่ของ Jack ถูกฆาตกรรม 

แต่ทันทีที่ Evie เข้าไปถึงจุดที่เคยเป็นที่แม่ของ Jack ถูกฆ่าตายเธอกลับถูกเล่นงานด้วยระเบิดที่เป็นแก็สกล่อมประสาทที่ jack วางกับดักไว้จนทำให้เธอเห็นภาพหลอนขึ้นมา



Jack – ข้าเกิดที่นี่พยายามเอาตัวรอดจากบ้านที่บ้าคลั่ง และกำลังเรียนรู้ที่จะเอาตัวรอดจนกระทั้งเขาทรยศข้า มาทดสอบหลักความเชื่อของพวกแกกับข้า หลังจากที่เอาข้าไปส่งที่บ้านบ้าๆนั่น Jacob มันหายหัวไปไหน แล้ว Jacob ไปอยู่ไหนตอนที่พวกของ Starrick มันฆ่าแม่ของข้า !! “ภาคีแบบไหนกัน ที่ไม่สามารถปกป้องพวกฟ้องของตัวเองได้ “ ช่าย ไอ้หลักความเชื่อนั่นมันก็ตายไปตั้งแต่ตอนนั้นแล้ว เจคอปพาข้ามาที่นี่เพราะเห็นบางอย่างในตัวข้า ต้องการให้ข้าเป็น Assassin แล้วข้าก็โตขึ้น โตจนเห็นจุดอ่อนของมันเองและรู้ว่าข้าควรต้องทำยังไงกับมัน ข้าจะให้มันอ้อนวอนข้า ให้สาสมกับที่มันพาข้ามาที่นรกแห่งนี้ 

“หนีไปหา Jacob วิ่งเลย jack !!” เสียงของเหตุการณ์อดีตที่ Evie อยากจะลืมก้องขึ้นมาอีกครั้ง Evie รู้ทันทีว่าทันทีที่แม่ของ jack ตายวันนั้นเป็นวันที่ The Ripper ถือกำเนิด และมันโทษว่าการตายของแม่มันเป็นความผิดของ Jacob และภาคี ที่นำพาแม่ของมันมาสู่ความตาย Evie เริ่มประติดประต่อความจริงได้ พร้อมๆกับยากล่อมประสาทที่เริ่มออกฤทธิ์จนเธอเริ่มเห็นภาพหลอน

-เมื่อภาพหลอนของ Jack the Ripper จำนวนมากมายหลายตัวที่เข้ามาโจมตีใส่ Evie จัดการพวกมันให้หมด

 จนยาเริ่มหมดฤทธิ์ก็จะพบว่า Evie กำลังทำร้ายชาวบ้านแถวๆนั้นเพราะเห็นภาพหลอนว่าเป็น the Ripper แต่ทันทีที่ Evie เริ่มมีสติกลับคืนมาเธอก็เริ่มประติดประต่อคำพูดของ jack ได้ว่า บ้านบ้าๆน่าจะเป็นโรงพยาบาลบ้า Lambeth Asylum แน่นอน ซึ่งจะเป็นที่ต่อไปที่ Evie ต้องรีบไปสำรวจหา Jacob ที่นั่นต่อทันที



                         A Monster’s Creed: FAMILY REUNION



เข้ามาที่จุดรับภารกิจที่รถม้าหน้า Lambeth Asylum ทันทีที่ Evie ได้เบาะแสที่ Jack the Ripper บอกใบ้และชี้นำเธอให้เดินทางมาที่ โรงพยาบาลบ้า Lambeth Asylum สถานที่ที่เป็นต้นเรื่องของต้นเหตุของความทุกข์ทรมานของ Jack ที่ที่เปลี่ยนเด็กคนนึงให้กลายเป็นปีศาจในร่างมนุษย์ แต่ก่อนที่ Evie จะเข้าไปในพื้นที่ The Ripper ก็เดินทางเข้ามาก่อนเพื่อทำลายหลักฐานและสังหารทุกคนที่สามารถระบุตัวตนของมันได้เพื่อไม่ให้มีหลักฐานโยงมาถึงตัวมันได้ 




-เป้าหมายคือ สังหารนางพยาบาล Whitney และหมอ  Archer ที่อยู่ในตึกโรงพยาบาล  ซึ่งจะมีจุดแดงเป้าหมายขึ้นหลายจุดเพราะต้องเข้าไปใช้ Eagle Vision มองซุ่มหาตำแหน่งของเป้าหมายเอาเองจนพบเป้าหมายเป็นสีเหลือง ซึ่งจะมีพวกบุรุษพยาบาลมากมายเป็นศัตรู ค้นหาเป้าหมาย จัดการฆ่าพยาบาล Whitney และหมอ  Archer ในห้องทำงานแล้วทำลายสมุดบันทึกคนไข้บนโต๊ะทำงานหมดซะให้หมด จากนั้นลงไปที่เป้าหมายจุดแดงต่อไปที่ชั้นล่าง Jack จะเข้าไปจัดการปล่อยตัวคนไข้ที่เป็นอาชญากรโรคจิตที่ถูกขังอยู่ออกมาจนหมดจนโรงพยาบาลบ้าเกิดความโกลาหลไปทั่วเพื่อตอนรับการมาถึงของ Evie
 -ในขณะที่เมื่อ Evie  เดินทางมาถึงที่ Lambeth Asylum ก็จะพบกับตำรวจมากมายที่เข้ามาคุมสถานการณ์อยู่ด้านนอก เป้าหมายคือเข้าไปที่ทางเข้าตึกโรงพยาบาลบ้าจากทางไหนก็ได้

** ถ้าจะทำตาม CHALLENGES เพื่อเอาโบนัสก็ต้องลอบเข้าไปในโรงพยาบาลบ้าโดยไม่มีตำรวจพบเห็นด้วย ** 

-เมื่อเข้ามาในตึกโรงพยาบาลได้แล้วก็จะต้องเจอกับพวกคนไข้โรคจิตที่ถูกปล่อยออกมาสร้างความวุ่นวายไปทั่วซึ่งพวกมันก็จะโจมตีใส่ Evie ด้วย

** ถ้าจะทำตาม CHALLENGES เพื่อเอาโบนัสก็ต้อง จัดการคนไข้ที่เป็นอาชญากรโรคจิตที่ Jack ปล่อยออกมา 3 คนด้วย ** 



-จากนั้นค่อยเข้าไปจนถึง ห้อง Medical Theater ซึ่งเป็นห้องที่ Dr.John Elliotson เคยใช้บรรยายถึงวิธีการรักษาคนไข้ก็จะพบจุดมองอักษรอักขระบอกใบ้ของ The Ripper ว่า “ ถ้าคุณต้องการรางวัลของคุณบางทีก็ต้องขุดลึกลงไปให้ลึกที่สุดเพื่อเอามันมา” Evie ก็จะตีความว่า Jack ต้องการให้ลงไปค้นหาให้ลึกลงไปถึงห้องขังนักโทษใต้ดินต่อ
-เข้าไปที่จุดหมายสีเขียวจะเจอบันไดลงไปที่ห้องขังชั้นใต้ดิน Evie ก็จะพบกับ Jacob ที่ถูกขังอยู่ในห้องขังระหว่างทางในสภาพยับเยิน ในขณะที่ Evie กำลังพยายามจะเข้าไปช่วยพี่ชายของเธอ


 “ ยินดีตอนรับเข้าสู่งานคืนสู่เหย้าของครอบครัวมิส Frye “ เสียงเรียกที่เชื้อเชิญปนท้าทายของ Jack the Ripper ก็ดังขึ้นมาจากห้องโถงใต้ดินด้านในทำให้ Evie จำต้องผละจากประตูห้องขังของ Jacob เพื่อไปสะสางปัญหาที่ใหญ่กว่าก่อนคือจัดการเจ้า Ripper



-เมื่อ Evie เข้ามากลางห้องโถงร่างของ The Ripper ก็โถมเข้ามาโจมตีเธอทันที การต่อสู้กับ jack The Ripper นั้นจะไม่สามารถโจมตีมันตรงๆหรือใช้บรรดา Fear Tools ต่างๆได้ นอกจากการลอบโจมตีมันในขณะที่มันไม่ได้ตั้งตัวเท่านั้น ไม่ว่าจะลอบโจมตีจากด้านหลัง หลบข้างเสา หรือ โดดโจมตีจากด้านบน หลังจากที่ลอบจัดการมันจนพลังหมดแล้ว มันจะหนีไปแล้วส่งพวกคนบ้าออกมารุมโจมตีก่อนมันจะกลับมาสู้อีกครั้งด้วยพลังเต็มอีกครั้งแต่ตอนนี้จะสามารถสู้กับมันแบบปกติได้แล้วและ Jack มันก็ไม่ได้เก่งอย่างกับที่มันกับผู้หญิงเลยซักนิด


Jack – เราต่างก็เหมือนกัน คุณกับผม 
Evie – โอ้ jack  แกอาจจะนักฆ่าก็จริง แต่เราไม่เหมือนกัน และนั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมความทรงจำของแกจะต้องถูกลบออกจนหมด  ไปสู่สุขคติแล้วกัน jack ทั้งแกแล้วก็จิตสำนึกพ่อพระที่บิดเบี้ยวของแกด้วย

หลังจากที่จัดการ jack ลงได้แล้ว Evie ก็ลากศพมันเข้ามาในห้องขังของ Jacob เพื่อเข้าไปช่วยเขาพร้อมๆกัน Jacob อยู่ในสภาพโดนซ้อมจนบาดเจ็บยับเยินแต่ก็โชคดีที่เขายังไม่ตาย ก่อนที่นักสืบ Abberline และกำลังหนุนของทางการจะตามเข้ามาสมทบ




Evie – Jacob ! เป็นไงบ้าง ?
Abberline - มิส Frye นี่มันเกิดบ้าอะไรกันเนี้ย !
Evie – ไม่มีอะไรคุณนักสืบ ไม่มีอะไรเกิดขึ้นที่นี่ทั้งนั้น เชื่อใจชั้นเถอะ jack The Ripper ตายแล้วแน่นอน 



 ที่นี่ก็ช่วยชั้นหน่อย Frederick จะต้องไม่มีใครรู้ว่า jack The Ripper เคยเป็นคนของภาคี Assassins 
Abberline – เอาละ นายตำรวจทุกคน ช่วยห้ามไม่ให้นักข่าวเข้ามาที่นี่เด็กขาดเข้าใจนะ !!
Evie – มันจบแล้ว .. Jacob ชั้นอยู่นี่แล้ว ...





คดีของ Jack the Ripper ปิดฉากลงด้วยความตายของ jack the Ripper ในฝีมือของ Evie Frye แต่ในความเป็นจริง การสืบสวนและค้นหาตัวฆาตกรในคดี Jack the Ripper ของตำรวจนั้นเต็มไปด้วยความลำบากยากเย็น ถึงแม้จะมีผู้ต้องสงสัยอยู่ 10 ราย ประกอบด้วย Lewis Carroll , เจ้าชาย Albert , Mary Pearcey ,Dr Thomas Neill Cream ,Dr Francis Tumblety ,Aaron Kominski ,Thomas Cutbush ,Sir William Withey Gull ,George Chapman และ Montague John Druitt  แต่มีเพียงผู้ต้องสงสัยที่มีหลักฐานที่เชื่อมโยงชัดเจนอยู่แค่ 5 รายคือ

 

1.ผู้ต้องสงสัยรายแรก แพทย์ชาวอเมริกัน francis tumblety
หลักฐานระบุว่า ทัมเบิลตี้ เคยผิดหวังในความรักจากผู้หญิงและมีพฤติกรรมเกลียดผู้หญิง ไม่ชอบกลิ่นของผู้หญิง ตรงนี้ตรงกับฆาตกร และเดินทางมาลอนดอนในช่วงเวลาที่เกิดคดีแจ๊คเดอะริปเปอร์ และอาศัยอยู่ในย่านถนน Batty Street ซึ่งอยู่ติดกับถนน Birners เป็นที่เกิดเหตุที่เหยื่อรายที่สามและสี่ เจ้าของอพาร์ตเม้นท์แจ้งว่าชายอเมริกันที่มาเช่าพักหายตัวไปในคืนวันนั้น

   

2. ผู้ต้องสงสัยรายที่ 2 Mary Pearcey
ผู้ต้องสงสัยรายนี้เป็นผู้หญิงครับ ดกิดจากข่าวลือว่าจริงๆ แล้วแจ๊คเดอะริปเปอร์อาจจะเป็นผู้หญิงที่จงเกลียดจงชังผู้หญิงหากินกับคดีที่ แมรี่ เพียร์ซี่ เคยก่อเอาไว้คือการฆ่าภรรยาและลูกของชายชู้ของเธอ ที่เต็มไปด้วยความโหดเหี้ยมคล้ายกันมากกับคดีของ Jack the Ripper มาก และจากการทดสอบในปัจจุบัน (ไม่ทราบข้อมูลแหล่งข่าวที่ชัดเจน) พบว่า DNA ที่อยู่ในน้ำลายที่ปิดผนึกจดหมายที่น่าจะเป็นของฆาตกรนั้นเป็น DNA ของผู้หญิงด้วย

 

 3. ผู้ต้องสงสัยรายที่ 3 เจ้าชาย  Albert Victor  ดยุคแห่งแคลเรนซ์
 พระองค์เข้าข่ายเพียงเพราะสันนิษฐานว่าพระองค์เรียนรู้เทคนิคในการชำแหละมาจากการล่าสัตว์ และทรงติดเชื้อซิฟิลิส หนังสือหลายเล่มชี้ว่าพระองค์เป็นผู้ลงมือเองหรือไม่ก็ต้องมีส่วนเกี่ยวข้องกับการฆาตกรรมเพื่อปิดปังพฤติกรรมอันเหลวแหลก ทฤษฎีนี้แพร่หลายมากเฉพาะกับนักประวัติศาสตร์มีชื่อแต่ไม่มีน้ำหนักมากพอเพราะ บันทึกเกี่ยวกับพระกรณีย์กิจของเจ้าชายยืนยันว่าในขณะที่การฆาตกรรมเกิดขึ้นพระองค์ไม่ได้ประทับอยู่ในลอนดอนเลย

             

4. ผู้ต้องสงสัยรายที่ 4  montague john druitt
ครูที่ชอบศึกษาด้านการแพทย์ที่มีอาการวิกลจริต หลักฐานบ่งชี้คือจดหมายที่เจอจากศพเขาหลังจากที่เขาฆ่าตัวตายเนื่องจากอาการซึมเศร้า ข้อความว่า “ตั้งแต่วันศุกร์แล้วผมรู้สึกว่ากำลังจะเป็นบ้าเหมือนแม่ และการตายคือสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับผมในตอนนี้” เขาหายตัวไปหลังจากที่พบศพเหยื่อรายที่ 5 ได้ไม่นาน ตำรวจรีบสรุปว่าเขาคือ แจ็ค เดอะ ริปเปอร์ และอ้างว่าปิดคดีได้สำเร็จโดยอ้างอิงจากจุดเชื่อมโยงจากที่เขามีอาการป่วยทางจิตหลังจากการสังหารเหยื่อรายที่ 5 แต่สังคมให้ความเห็นว่า จอห์น ดริตต์ เป็น แพะรับบาป

         

5. ผู้ต้องสงสัยรายที่ 5 Aaron Kosminski

ในอดีต อารอน เป็นผู้ต้องสงสัยที่ทางการหมายหัวเป็นอันดับ 2 รองจากมอนเทกิว จอห์น ดริตต์ อารอน โคสมินสกี้ อารอน เป็นช่างตัดผมชาวยิวที่อาศัยอยู่ในละแวก whitechapel ที่เคยถูกพยานที่อ้างว่าเห็นฆาตกรชี้ตัวทำให้เขาตกเป็นเป้าสายตาของสก๊อตแลนด์ยาร์ดว่าอาจจะเป็น แจ๊ค เดอะ ริปเปอร์ตัวจริง แต่ต่อมา อารอน ก็เกิดอาการทางจิตกำเริบ จนถูกส่งตัวไปรักษาในโรงพยาบาลบ้าและเสียชีวิตในที่สุด

ในปัจจุบัน มีการระบุตัวตนด้วยร่องรอยดีเอ็นเอที่พบจากเลือดบนผ้าคลุมไหล่ที่ได้จาก Catherine Eddowes เหยื่อรายที่ 4  ซึ่งผ้าคลุมเปื้อนเลือดนี้ตกทอดจาก สิบ.ตร.เอมอส ซิมป์สัน ซึ่งอยู่ในสถานที่เกิดเหตุ ได้รับอนุญาตจากผู้บังคับบัญชาให้เก็บผ้าคลุมไหล่ผืนนี้ไว้และให้ภรรยาของเขาต่อ แต่ต่อมาเธอรู้สึกหวาดผวาที่จะใช้ผ้าคลุมไหล่ที่เปื้อนเลือด เธอจึงส่งต่อมาจนถึงลูกหลานของ เอมอส จนกระทั่งบัดนี้ โดยพวกเขาเก็บรักษามันไว้ในกล่องโดยไม่ได้ซัก และเคยให้พิพิธภัณฑ์อาชญากรรมของสก๊อตแลนด์ ยาร์ด ยืมไปจัดแสดง



ก่อนที่ Russell Edwards นักธุรกิจผู้สนอกสนใจในเรื่องราวของ เดอะ ริปเปอร์ ที่ซื้อผ้าคลุมเปื้อนเลือดสมัยสมเด็จพระราชินาถวิกตอเรียผืนนี้มาจากการประมูลเมื่อปี 2007

 
                             

โดยให้ Dr. Jari Louhelainen ได้ตรวจสอบ DNA ที่จากเลือดบนผ้าคลุมไหล่นั้นระบุว่าคือ Aaron Kosminski นั่นเอง

 


ถึงแม้การค้นพบของ เอ็ดเวิร์ส ไม่ถูกรับรองทางวิทยาศาสตร์จากการตรวจสอบของผู้เชี่ยวชาญภายนอก ทำให้คำกล่าวอ้างนี้ไม่ได้รับการรับรองทั้งในด้านความถูกต้องและระเบียบวิธีวิจัย แต่ Aaron Kosminski ก็เป็นผู้ต้องสงสัยที่ใกล้เคียงความจริงมากที่สุด

แม้จะมีผู้ต้องสงสัยที่คาดว่าจะเป็นฆาตกรมากมาย แต่เนื่องจากฆาตกรไม่ทิ้งหลักฐานใด ๆ ที่บ่งบอกถึงแรงจูงใจในการฆ่าเหยื่อทั้งห้ารายเพื่อดำเนินคดีกับผู้ต้องสงสัยได้เลย ด้วยเหตุผลมากมายทั้ง ฆาตกรไม่ได้มีคนเดียว การฆาตกรรมเป็นการสร้างสถานการณ์จากกลุ่มผลประโยชน์หรือว่าเพราะฆาตกรเป็นผู้อิทธิพลที่มีอำนาจในการสั่งให้หยุดการสืบสวนได้ การสืบสวนและการดำเนินคดีจึงมาถึงทางตันและคดีฆาตกรรมโหดของ Jack the Ripper ที่ยังหาผู้ต้องสงสัยไม่ได้จึงถูกปิดคดีไปอย่างถาวรในปี ค.ศ. 1892


-----------------------------------------------------------------------------------------------------------

Cr. ข้อมูล Jack the Ripper
http://whitechapeljack.com/
http://teen.mthai.com/variety/78767.html
http://www.anyapedia.com/2013/10/jack-ripper.html
http://my.dek-d.com/lovely-prinee/myboard/view.php?id=167

บทความของ Dominic http://www.clipmass.com/story/66560
http://sihawatchara.blogspot.com/2015/01/1.html

บทความของ JAMIE FRATER http://listverse.com/2009/02/08/top-10-interesting-jack-the-ripper-suspects/
megatopic.blogspot.com
artsmen.net
buzzfeed.com
หนังสือ The Complete History of Jack the Ripper ของ Philip Sugden
The Autobiography of Jack the Ripper audiobook ของ James Carnac
https://www.youtube.com/watch?v=XS-2JgD8oTQ