วันพุธที่ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2559

Mirror’s Edge Catalyst


THE HISTORY OF CASCADIA เรียนรู้ถึงแม่พิมพ์แห่งความชั่วร้ายก่อนความวอดวายใน Mirror’s Edge™ Catalyst


     

จากการแทรกแซงจากกลุ่มธุรกิจใหญ่ในประเทศ Cascadia ที่เข้ามาแบ่งสรรปันส่วนในเรื่องผลประโยชน์กับประเทศที่มีชื่อว่า OmniStat และจากการกระทำดั่งกล่าวทำให้ประเทศ OmniStat เกิดความถดถอยด้านการ จนเมื่อทุกอย่างสุขงอม Kruger family ตระกูลโบราณแห่ง OmniStat ที่ชักใยอยู่เบื้องหลังฐานอำนาจที่ได้จากกลุ่มธุรกิจของ Cascadia ก็เปิดเผยตัวเองออกมาในฐานะผู้ออกกฎควบคุมทุกอย่างใน OmniStat Kruger family เปลี่ยนแปลงทุกค่านิยมและการดำเนินชีวิตของ  ประชาชนให้ไม่เหมือนเดิมตลอดกาลด้วยกฎที่ตัวเองตั้งขึ้นเพื่อให้ได้สังคมที่เป็นไปในตามทิศทางที่พวกเขาตั้งการ 


จนสุดท้าย Kruger family ก็ครอบงำทั้ง การค้า อุตสาหะกรรม การเมือง การปกครองไปจนถึงทุกอย่างที่แม้อิสรภาพของทุกชีวิตใน OmniStat ในนามของบริษัทขนาดใหญ่ที่มีหน้าที่ควบคุมทุกอย่างในเมือง Glass City ชื่อ Kruger Holding และใช้การบังคับใช้กฎหมายด้วยองค์กรรักษาความปลอดภัยที่ชื่อ Pirandello Kruger ที่มีสาขาแยกย่อยคือ Kruger Arms และ Kruger Security หรือ K – Sec ที่มีหน้าที่ปราบปรามผู้กระทำผิดกฎหมายโดยไม่เลือกวิธี 


10 ปีแห่งการทุกช์ทรมานจากการถูกกดขี่ ประชาชนก็ลุกขึ้นก่อการปฎิวัติใหญ่ก็เกิดขึ้นเป็นสงครามกลางเมืองเพื่อต่อต้าน ตระกูล Kruger เรียกการปฎิวัติครั้งนั้นว่า November Riots ผลของการปฎิวัติและสงครามกลางเมืองในครั้งนั้นทำให้ประเทศ OmniStat ถูกแบ่งออกเป็นสามฝ่ายคือ 

1. Kruger Holding  กลุ่มที่ก่อตั้งขึ้นโดยบริษัทองค์กรธุรกิจต่างๆ 13 แห่งที่รวมตัวกันเพื่อปกครองเมืองแห่งนี้โดยมีแกนนำคือบริษัท Kruger Holding  
2. กลุ่ม Black November คือพวกที่ลุกขึ้นมาต่อต้านองค์กรธุรกิจต่างๆที่ครอบงำประเทศด้วยความรุนแรงและยุยงประชาชนเพื่อให้ทำการปฎิวัติอีกครั้ง  
3. กลุ่มประชาชนที่เป็นผลมาจากการถูกเอารัดเอาเปรียบจากรัฐบาลจนคาดซึ่งความยุตอธรรม จึงเกิดเป็นแรงบันดาลใจถึงเรื่อง สังคมในอุดมคติที่ไร้การแบ่งชนชั้นคนกลุ่มนึงจึงแยกตัวเพื่อสร้างสังคมที่เท่าเทียมในแบบตัวเองเพื่อความอยู่รอดในประเทศที่เต็มไปด้วยความกดขี่ข่มเหง กบฏแห่ง OmniStat แยกตัวออกมาแฝงตัวอยู่ในเงามืดของเมืองที่เต็มไปด้วยความอยุติธรรม เพื่อต่อต้าน และขัดความความไม่ชอบธรรมทั้งปวงของรัฐบาลหุ่นเชิดที่ตกเป็นทาสกลุ่มทุนสามานท์ แล้วเรียกกลุ่มก้อนของตัวเองว่า Runner 

และท่ามกลางความอลหม่านของประเทศ OmniStat ที่เต็มไปด้วยการกดขี่ ความหวาดกลัวและความเกลียดชัง ยังอยู่ภายใต้ฐานอำนาจแห่งประเทศ Cascadia ที่หยั่งลึกอยู่ในเงามืดในซอกหลืบของ ทุกหลักการ ทุกประชาธิปไตยที่เต็มไปด้วยความคลุมเครือ ภายใต้กลุ่มสมาคมลับ Corporate Houses เป็นสังคมแห่ง Cascadia ชั้นสูงที่ดำรงอยู่อย่างลับๆ  เพื่อรอวันเก็บผลผลิตแห่งความชั่วร้ายที่ได้หว่านเอาไว้ในซักวัน 

Cr. ข้อมูลจาก 

http://www.mirrorsedge.com/news/the-history-of-cascadia








    The Runner of Glass City กลุ่มระห่ำระฟ้าเรียกพวกข้าว่า รันเนอร์  

เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นที่ Glass City เมืองที่เจริญก้าวหน้าทั้งระบอบการเมืองการปกครองและการจัดการด้านสังคมจนถึงขีดสุดจนเปรียบเสมือนเป็นดินแดนของสังคมในอุดมคติที่เกือบจะไร้อาชญากรรมที่เรียกว่า “ The City” แต่ภายใต้ตึกระฟ้าที่ใหญ่โตและสวยงาม กับภาพมายาที่ว่าประชาชนอาศัยอยู่ด้วยรอยยิ้มและความสุข มันกลับเน่าเหม็นไปด้วยความโสมมของการจัดการด้านการปกครองแบบเบ็ดเสร็จเด็ดขาดของรัฐบาลที่เต็มไปด้วยกฎเหล็กที่ใช้ควบคุมความเป็นไปของผู้คนอย่างเคร่งครัดและกดขี่ จนคนกลุ่มนึงที่เห็นต่างและคิดว่าระบบการปกครองที่สมบูรณ์แบบที่ว่าก็ไม่ต่างจากการถูกจำกัดสิทธิเสรีภาพของพวกเขา จึงตั้งกลุ่มก้อนของตัวเองขึ้นมาแล้วเรียกว่า “ Runner” เพื่อปลดแอกการปกครองที่กดขี่ด้วยอิสรภาพที่ตัวเองจะพึ่งกระทำ 

“Runner” ใช้พื้นที่ของดาดฟ้าตึกของเมืองทั้งเมืองเป็นพรหมแดนอิสระสำหรับการเคลื่อนไหวเพื่อต่อต้านรัฐบาลภายใต้การปกครองที่กดขี่ พวกเขากระทำ และปฏิบัติ โดยมภารกิจหลักคือเพื่อขัดต่อทุกกฎที่รัฐมีไม่ว่าจะเป็นการลักเล็กขโมยน้อย ซุ่มโจมตีจนถึงการส่งข่าวสารความจริงเพื่อเปิดเผยสู่ประชาชนที่ไม่เคยได้รับจากรัฐบาล โดยการทำงานแบบประสานกันระหว่าง Runner เจ้าหน้าที่ภาคสนามที่มีความชำนาญในการเคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูงกับทุกอุปสรรคและสถานการณ์ที่เกิดขึ้นตรงหน้า กับ Trackers หรือเจ้าหน้าที่วิทยุฝ่ายติดตามเป้าหมายเพื่อให้คำแนะนำข้อมูลต่างและนำทางให้กับ Runner ไปสู่จุดหมายของภารกิจอย่างมีประสิทธิภาพ โดยมี Drake หัวหน้ากลุ่ม ผู้ก่อตั้ง Trackers มากประสบการณ์และนักประดิษฐอุปกร์สุดไฮเทคให้เหล่า Runner ใช้งานมากมาย และ Mercury ฉายา Merc Runner ในตำนาน อีก1 ผู้ก่อตั้งและครูฝึกของเหล่า Runner โดยมี Runner ที่เป็นสมาชิกรุ่นบุกเบิกที่สำคัญอีก 2 คนคือ Celeste Wilson รันเนอร์สาวผมบอร์นที่เป็นศิษย์รุ่นแรกๆของ Mercury กับ Clarence E. Kreeg รันเนอร์ผิวสีจอมอึด ซึ่งแน่นอนว่าทางรัฐบาลย่อมไม่มีทางอยูนิ่งเฉยกับการต่อต้านของพวก Runner ซึ่งแม้ว่ารัฐบาลจะมี “The Blue” หรือ City Protection Force (CPF) ที่เป็นเสมือนตำรวจรัฐที่คอยรักษากฎหมายอยู่แล้ว แต่รัฐบาลก็ยังก่อตั้ง Pirandello Kruger หรือ PK หน่วยพิเศษที่ขึ้นตรงกับรัฐบาลเพื่อทำงานในการปราบรามและกำจัดเหล่าในแบบนอกกฎหมายอีกทางนึงด้วย Pirandello Kruger จึงเป็นศัตรูอันตรายตัวฉกาจของเหล่า Runner ต้องเผชิญหน้าทุกครั้งในตอนออกปฏิบัติงาน  




            อารัมภ์บทไทมไลน์ชีวิตของสาวกบฏ Faith Connors 




Faith Connors กับพี่สาวฝาแฝดของเธอ Kate Connors ลูกสาวของ Abraham Connors ผู้เป็นพ่อที่เป็นทั้งหมอและนักเคลื่อนไหวต่อต้านรัฐบาล และ Erika Connors แม่ ที่ทำงานเป็นเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคนิคไฟฟ้าจักรกลในโครงการกระจกคุ้มกันเมืองที่ชื่อ Silvine Security Systems ของรัฐบาลแต่กำลังไม่เห็นด้วยกับความไม่ชอบมาพากลในโครงการที่ทำอยู่ 

            

ด้วยความที่ Faith เป็นคนที่มีนิสัยรักความยุติธรรมเหมือนพ่อ Faith นั้นรับรู้เรื่องราวการเคลื่อนไหวต่อต้านรัฐบาลจากพ่อของเธอมาตั้งแต่เด็กจนซึมซับหลักการหลายๆอย่างเรื่องการกดขี่ของรัฐบาลมาจากพ่อของเธอ จนวันนึงการเคลื่อนไหวของประชาชนกลุ่มต่อต้านก็ทำให้รัฐบาลต้องถึงขีดสุดก่อนจะลงมือปราบปรามขั้นเด็ดขาดในเหตุการณวันจลาจลที่เรียกว่า November Riots และจากความรุนแรงในวันนั้นก็ทำให้ Erika แม่ของ Faith ที่เข้าร่วมประท้วงคัดค้านโปรเจค Silvine Security Systems ที่เธอทำอยู่ได้เสียชีวิตลงด้วย จึงเป็นเหตุให้พ่อของเธอโทษตัวเองจนกลายเป็นคนติดเหล้าและไม่สนใจครอบครัวอีกเลย 





จนถึงอายุ 16 ซึ่งเป็นเรื่องราวที่เกิดใน Mirror's Edge Comic 




                                 Mirror's Edge (comic)

Pratchett และ Matthew Dow Smith วาด 
 Rhianna Pratchett  เขียนบท

WildStorm Productions จัดจำหน่าย 


ช่วงนั้นFaith ก็ไม่สามารถมนต่อความเหลวแหลกของพ่อไม่ไหว จึงจำต้องตีตนออกหาจากพ่อและพี่สาว เพื่อออกมาใช้ชีวิตตามลำพังท่ามกลางเมืองใหญ่ที่ไม่ค่อยจะเป็นมิตรกับเธอมากนัก Faith กลายเป็นเด็กจรจัดอยู่พักใหญ่ ทั้งลักเล็กขโมยน้อยฉกชิงวิ่งราวไปตามประสาเพื่อความอยู่รอดจนวันนึงโชคชะตาก็ทำให้เธอได้พบกับ Mercury ที่ทำงานกับกลุ่มต่อต้านรัฐบาลก่อนที่เธอจะถูก Mercury ผลักดันและฝึกฝนให้อย่างหนักจนทำให้ Faith ได้เป็น Runner เต็มตัวในเวลาต่อมา 

  


และในระหว่างปฏิบัติงานช่วงแรกของเธอ Faith ก็ได้เจอกับ Kreeg หนึ่งในทีม Runner กำลังถูกทำร้ายโดยชายสวมหน้ากากจนทำให้เธอต้องเข้าช่วยเหลือและติดตามคนร้ายไปจนได้เบาะแสในกระเป๋าของมันนั่นก็คือรูปถ่ายของ Abraham Connors พ่อของเธอเอง เรื่องนี้เธอนิ่งเฉยไม่ได้จึงจำใจต้องไปปรึกษากับ Kate พี่สาวของเธอเพื่อตามหาที่อยู่ของพ่อ ซึ่ง Kate ในตอนนี้กำลังเป็นเจ้าหน้าที่ฝึกหัดของ CPF (City Protection Force) ซึ่งอยู่ในฐานะตำรวจของเมืองที่อยู่คนละฝ่ายกับเธอเลย ข้อมูลที่ได้จาก Kate ก็คือที่ Hoagy’s Bar ที่พ่อเมาอยู่ทุกวัน แต่เมื่อ Faith ตรวจสอบกล้องวงจรปิดแล้วทำให้เธอได้เบาะแสว่าพ่อเธอกำลังจะไปพบกับชายที่ชื่อ Austen Reynolds 


และจากการช่วยเหลือจาก Mercury ทำให้ Faith ตามเบาะแสไปจนพบกับความจริงที่ว่า Austen Reynolds นั้นต้องการจะวางแผนฆ่าพ่อของเธอเพื่อให้ชดใช้ที่ทำให้ Erika ที่เป็นอดีตเพื่อร่วมอุดมการณ์และในฐานะผู้หญิงที่เขาแอบรักต้องตายโดยไม่สนใจใยดี โชคดีที่ Austenไม่ทันได้ลงมือ ก่อนที่ Faith รู้ข้อมูลเพิ่มเติมจาก Austen การตายของแม่ของเธอมีเงื่อนงำจากเรื่อง Chip ลับในโครงการณ์ Silvine Security Systems ที่เธอทำงานอยู่ด้วย ทำให้ Faith ต้องตามเบาะแสต่อไปจนถึงห้องทำงานของ Sebastian Silvine หัวหน้าโครงการณ์ Silvine Security Systems ที่แม่เธอทำงานอยู่ แต่ยังไม่ทันได้พบอะไรก็ต้องหนีออกมาเพราะพวก Silvine Security บุกเข้ามาไล่ล่าเสียก่อน 

หลังจากที่ยังมืดแปดด้านเกี่ยวกับเรื่อง Chip ที่แม่เธอสร้างขึ้นจากการถามไถ่จาก Drake หัวหน้าของเธอ จน Faith ได้รับโทรศัพท์จากพ่อของเธอให้ไปพบที่บาร์ Hoagy ซึ่งในขณะนั้น Austen ก็เข้ามาเพื่อพูดคุยด้วยแต่ก็ถูก Silvine Security ฆ่าตายเสียก่อน จน Faith ต้องพาพ่อหนีมาหลบที่ที่ซ่อนตัวของ Mercury Faith รีบถามถึงเรื่อง Chip กับพ่อทันที ซึ่งพ่อเธอก็ไม่รู้ว่ามันคืออะไรแต่คิดว่ามันต้องซ่อนอยู่ในบ้านของครอบครัวแน่นอน และเมื่อ Faith ได้กลับไปค้นหาที่บ้านตัวเองอีกครั้งก็ได้พบกับจดหมายลับของแม่ของเธอซึ่งมี Chip ลับซ่อนอยู่ด้านใน เมื่อ Faith นำ Chip และข้อมูลในจดหมายไปให้ Drake ตรวจสอบก็พบว่ามันเป็นบันทึกกล้องวงจรปิดในโครงการ Silvine Security Systems ทั้งหมดที่มีเรื่องชั่วๆที่ปกปิดเอาไว้นั่นเอง ทำให้ Faith โกรธมากและไม่รอช้าที่จะมุ่งหน้าไปที่ตึกของ Silvine Security และเข้าไปเล่นงาน Sebastian Silvine หัวหน้าโครงการเพื่อแก้แค้นให้แม่ของเธอทันที



             
เมื่อเรื่องราวใน Mirror's Edge ภาคแรก เริ่มขึ้น Faith Connors ยังคงใช้เวลาที่หมดไปในชีวิตในการปฏิบัติงานในฐานะ Runner อย่างต่อเนื่องภารกิจมากหน้าหลายตาที่เพิ่มขึ้นมาพร้อมๆกับประสบการณ์ไต่ระห่ำของเธอ ทุกภารกิจสกปรกสำหรับรัฐคือสิ่งที่ Faith และ Celeste Wilson คู่หู่เรื่อยมา ทั้งต่อต้าน ยั่วยุ ปั่นป่วนอำนาจรัฐ รวมถึงภารกิจดักสัญญาณของ City Eye helicopter ของรัฐบาลให้มาเป็นหูเป็นตาของกลุ่มต่อต้าน ซึ่งทำให้สามารถดักฟังวิทยุของ CPF (City Protection Force) เพื่อรับรู้การเคลื่อนไหวของตำรวจรัฐอย่างไม่ยากนัก ซึ่งก็ทำให้ Faith ได้ยินการรับแจ้งจาก Robert Pope ว่าตัวเขาถูกป้องร้าย แต่ทาง CPF กลับไม่สนใจที่จะเข้าช่วยเหลือ เพราะ Pope นั้นเคยเป็นอดีตผู้สมัครชิงตำแหน่งนายกเทศมนตรีในฝ่ายของกลุ่มต่อต้านที่ต้องการเปลี่ยนระบบการปกครองก่อนเกิดเหตุจลาจล แต่ด้วยความที่ Pope เป็นเพื่อนร่วมอุดมการณ์ของแม่ Kate พี่สาวของ Faith ในฐานะเจ้าหน้าที่ของ CPF จึงขออาสาเข้าไปตรวจสอบตามที่ Pope แจ้งมาด้วยตัวเอง และทันที่ที่ Faith ได้ยินเสียงปืนดังขึ้นจากห้องทำงานของ Pope ด้วยความห่วงในความปลอดภัยของ Kate Faith จึงรีบเดินทางไปช่วยทันที แต่สายเกินไปเพราะ Pope ได้โดนฆ่าตายไปแล้ว และด้วยไร้พยานรู้เห็น Kate ที่อยู่ในห้องกับผู้ตาย 2 ต่อ 2 จึงกลายเป็นผู้ต้องสงสัยการฆาตกรรม Robert Pope ทันที 


แน่นอนว่า Faith ที่ตามมาทีหลังรู้ทันทีว่ามันเป็นการจัดฉากป้ายความผิดให้พี่สาวเธอ ทันทีที่ค้นห้องของ Pope อย่างละเอียดทำให้ Faith เจอเบาะแสใหม่มานั่นคือชื่อของอะไรบางอย่างที่เขียนไว้ในบันทึกว่า “ICARUS” จากนั้น Faith ก็เริ่มออกตามค้นหาเพื่อเป้าหมายคือล้างความผิดให้ Kate พี่สาวของเธอ และหลังจาก Faith นำเรื่องไปปรึกษากับ  Mercury และ Celeste ทำให้รู้ว่าต้องไปหาความจริงกับ Jacknife อดีต Runner ที่หันไปเข้าร่วมกับ Pirandello Kruger เกี่ยวกับการจัดฉากฆาตกรรม ซึ่งหลังจาก Faith จัดการ Jacknife ลงได้ก็ทำให้ได้ข้อมูลเบาะแสใหม่ที่พุ่งไปที่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของ Pope เองที่ชื่อ Travis Burfield Faith จึงรีบรายงานกลับไปให้ Kate และ Lt. Miller หัวหน้า CPF รับรู้ไว้ ก่อนที่เธอจะลอบเข้าไปจนถึงห้องทำงานของ Burfield และได้แอบฟังโทรศัพท์ที่มันกำลังคุยอยู่กับชายคนนึงถึงเรื่อง Project Icarus ก่อนที่เธอจะลอบตามไปเพื่อขัดขวางการนัดพบกันจนเจอกับชายที่นัด Burfield มาพบที่ชื่อ Ropeburn แต่ Ropeburn ก็ถูกฆ่าปิดปากทันที ซึ่งก็โชคดีที่มันตายหลังจากที่ Faith ได้เบาะแสจากมันมาแล้วซึ่งก็คือสถาณที่นัดพบจุดต่อไปที่ New Eden Mall แต่กลับยังไม่ได้อะไรเพิ่มเติมเพราะโดนมือปืนสไนเปอร์ปริศนาดักยิงจนต้องหนีออกจากพื้นที่เสียก่อน 

Faith เปลี่ยนแผนใหม่โดยเธอจะบุกไปที่ Pirandello Kruger Security เพื่อค้นหาเบาะแสของ เรื่อง Project Icarus ต่อ ซึ่งในตึกด้านใน Faith ก็ได้พบความจริงว่า Project Icarus นั้นก็คือโรงงานลับที่สำหรับใช้สร้าง Pursuit cops หน่วยปราบปรามพิเศษที่มีหน้าที่ค้นหาและทำลาย Runners network (ง่ายๆคือ ตำรวจฟรีรันนิ่งนั่นแหละครับ) และหลังจากที่ Faith ตามต่อไปจนถึงท่าเรือขนส่งเธอก็ได้พบกับมือปืนปริศนาที่ลอบสังหาร Ropeburn รวมทั้ง Pope ซึ่งก็คือ Celeste Wilson

Runner สาวที่เป็นพวกเดียวกับเธอนั่นเอง และหลังจากจัดการ Celeste ลงได้ Faith ก็ต้องรีบเอาข้อมูลหลักฐานทั้งหมดไปแก้ต่างให้ Kate ซึ่ง Faith ก็ต้องไล่ตามรถขนนักโทษของทาง CPF จนสามารถช่วย Kate กลับมาได้สำเร็จ แต่หลังจากนำ Kate ไปซ่อนตัวที่ที่ซ่อนของ Mercury  "The Blues" หน่วยไล่ล่า Runner ของ CPF ก็บุกเข้ามาจับตัว Kate ไปได้อีกครั้ง และจากเหตุการณ์นี้ก็ทำให้ Mercury เสียชีวิตอีกด้วย Faith ไม่รอช้าที่จะบุกเข้าไปที่ตึกของ Pirandello Kruger Security ทันทีเพื่อช่วยน้องสาวเธอโดยมี Lt Miller เป็นพันธมิตรที่ตามมาช่วยอีกแรง Faith ไล่ล่าฝ่าดงพวก Pirandello forces มากมายจนขึ้นมาถึงดาดฟ้าและพบกับ Jacknife กำลังพาตัว Kate หนีขึ้นเฮลิคอปเตอร์ไป แต่สุดท้าย Faith ก็จัดการ Jacknife ลงได้และช่วย Kate เอาไว้ได้อย่างปลอดภัยในที่สุด แม้สุดท้าย Faith กับ Kate ก็ต้องตกอยู่ในฐานะผู้ร้ายที่ทางการต้องการตัว ก็ยังดีกว่ายอมมอบตัวภายใต้อำนาจชั่วของรัฐบาลที่กดขี่ประชาชน





 


                                                   "Mirror's Edge: Exordium"

Mattias Haggstrom, Robert Sammelin, Erix Persson, Henrik Sahlstrom วาด 
 Christofer Emgard เขียนบท
 Dark Horse Comics จัดจำหน่าย 

คอมมิคที่ทำขึ้นใหม่ เสมือนการีบู๊ทเพิ่มเติมเรื่องราวของ Faith ที่แตกต่างไปจาก Mirror's Edge (comic) เดิม เพื่อรองรับการมาของ เกม Mirror’s Edge Catalyst


จากวันที่เกิดเหตุการณ์ปฎิวัติ November riots ในวันที่พ่อและแม่ของ Faith เสียชีวิต เธอถูกช่วยเหลือไว้โดย Noah Kekai ที่เป็นเพื่อนพ่อแม่ของเธอและต่อมาก็เป็นเสมือนพ่อบุญธรรมของเธอ ก่อนที่จะพา Faith เข้ากลุ่มต่อต้านรัฐบาลที่เขาตั้งขึ้นอย่างลับในชื่อ Noah's Cabal 



แต่ด้วยความรัก Noah จึงเกิดความลังเลที่จะส่ง Faith ไปปฏิบัติงานที่เสี่ยงอันตราย ทำให้ Faith ไม่พอใจที่ตัวเธอไม่รับการยอมรับให้ได้ทำงานใหญ่ๆเหมือนคนอื่น จนวันนึงในขณะที่เธอกำลังทำงานอยู่ก็ได้พบกับ Dogen เจ้าพ่อค้ายาเสพติดที่เกิดติดใจในฝีมือของเธอเข้า เข้ามาเสนองานให้ทำ ในห้องทำงานของ Dogen Faith ได้พบกับรูปวาดของแม่เธอที่ Dogen มีเก็บไว้


ทำให้ Dogen ได้ทีที่จะเสนองานให้ Faith ทำเพื่อแลกกันภาพของแม่เธอเมื่อมูลค่าการทำงานนั้นมากพอ และเมื่อเรืองไปเข้าหูของ Noah ทั้งคู่จึงทะเลาะกันจนสุดท้ายด้วยความที่ Faith ยังดื้อดึงดันที่จะทำงานให้ Dogen ต่อ Noah โกรธมากก่อนที่จะดุด่าออกมามากมาย Noah ทำอะไรไม่ได้นอกจากเตือนถึงอันตรายจากชายทีชื่อ Dogen และให้อยู่ให้ไกลมันที่สุด และความรู้สึกของ Faith ที่มีต่อ Noah เริ่มแย่ลงเมื่อ Faith ไม่เคยถูกเลือกให้ออกปฏิบัติหน้าที่อีกเลย จนวันนึง Faith ได้พบกับ Celeste Runner สาวมากความสามารถเป็นผู้นำทีมรันเนอร์คู่แข่ง ด้วยความหงุดหงิด Faith จึงท้าแข็งกับ Celeste และด้วยระบบนำทางที่เรียกว่า "beatLink"ที่ Celeste ใช้อยู่จึงทำให้เธอมีชัยเหนือ Faith นั่นเป็นชนวนเหตุที่ทำให้ Faith รู้ถึงความอ่อนแอตัวเองเพราะไม่ได้รับการฝึกฝนจากที่ Noah ไม่ยอมให้เธอออกไปทำงาน จนเธอต้องตัดสินใจหันหน้ากลับไปทำงานกับ Dogen อีกครั้งอย่างเต็มตัว



แต่หลังจากได้รับรู้ความเลวร้ายของ Dogen และแก็งค์ของมันแล้ว Faith จึง พยายามแกล้งทำงานพลาดหลายครั้งจนทำให้ Dogen โกรธมาก ในขณะที่ทางด้าน Noah ก็พยายามจะเข้ามาเจรจากับ Dogen ถึงเรื่องของ Faith จนทำให้ Noah รู้เหตุผลที่ Faith ยอมทำงานกับ Dogen ก็เพราะต้องการภาพวาดที่เป็นของแม่เธอ Noah จึงขอเสนอซื้อภาพนี้มาจาก Dogen แต่ได้รับการปฏิเสธจน Noah ต้องจากไปด้วยความโมโห ทางด้าน Dogen ยอมให้โอกาสสุดท้ายกับ Faith ด้วยจะให้เธอไปขโมยเอาวัคซีนที่เป็นสินค้าของพวกรันเนอร์คนของ Noah มาให้มัน โดยให้เวลาแค่ 3 วันไม่อย่างนั้นมันจะเผารูปวาดของแม่ Faith ทิ้งก่อนจะหักข้อเท้าจนทำให้ไม่สามารถวิ่งได้อีกตลอดไปเป็นการตอบแทนหากทำงานพลาดอีก งานที่ Faith ต้องทำคือไปขโมยเอาวัคซีนมาจาก Celeste แต่เมื่อรู้ว่า Celeste ต้องการจะเอาวัคซีนไปรักษา Avani น้องสาวของเธอ Faith จึงยกเลิกที่จะชิงวัคซีนมาจากเธอจนต้องถูก K – Sec จับตัวไปในที่สุด แต่ Dogen ก็ใช้เส้นสายที่เขามีเพื่อลดหย่อนโทษให้ Faith ติดคุกแค่ 1 ปี และไม่ต้องถูกส่งตัวไปคุมขังที่  "The Greylands"

Cr. ข้อมูลจาก 
http://mirrorsedge.wikia.com/wiki/Mirror's_Edge:_Exordium



                                                  *** NOTICE ****

ซึ่งที่ควรรู้เกี่ยวกับ Mirror's Edge เวอร์ชั่นคอมมิคนั้นคือ ชุดแรกนั้นเรียกว่า Mirror's Edge (comic) Pratchett และ Matthew Dow Smith วาด /Rhianna Pratchett  เขียนบท /WildStorm Productions จัดจำหน่าย มี 6 เล่ม วางจำหน่ายปี 2008 ทำออกมาเพื่อรองรับกับเกม Mirror’s Edge ภาคแรก คอมมิคอีกชุดคือ "Mirror's Edge: Exordium" วาดโดย Mattias Haggstrom, Robert Sammelin, Erix Persson, Henrik Sahlstrom  /Christofer Emgard เขียนบท / Dark Horse Comics จัดจำหน่าย มี 6 เล่ม วางจำหน่ายเมื่อประมาณกันยายนปี 2015 ที่ผ่านมาเพื่อรองรับการมาของ เกม Mirror’s Edge Catalyst



เนื้อหาที่มาที่ไปของ Faith จากทั้ง 2 เวอร์ชั่นนั้นจะต่างกันมาก โดยเวอร์ชั้น  Exordium นั้นทำขึ้นเพื่อซับพอร์ทเนื้อเรื่องในเกม Catalyst จะถูกปรุงแต่งใหม่ ปูทางให้ตัวละครอย่าง Noah ออกมาและทำตัวร้ายอย่าง  Dogen ให้ชัดเจนขึ้น หรืออย่าง Celeste Wilson ที่ในคอมมิคและเกมภาคแรกนั้นที่เป็นสายของ Pirandello Kruger ตัวร้าย แต่ใน Exordium ถูกปรับใหม่ให้เป็นคู่แข่งและเพื่อนของ Faith แทน ชีวิตช่วงแรกหลังจากเสียพ่อแม่ในการปฏิวัติก็แตกต่างกันมากเช่นกัน เลยต้องมาอธิบายเพิ่มเติมเพื่อป้องกันความสับสนครับ

http://mirrorsedge.wikia.com/wiki/Celeste
http://mirrorsedge.wikia.com/wiki/Celeste_Wilson


Mirror’s Edge™ Catalyst นั้นมองผ่านอาจจะคิดว่ามันเป็นภาคต่อจาก Mirror’s Edge ภาคแรก แต่ถ้าดูตามความเป็นจริงแล้ว Catalyst มีปัจจัยหลายอย่างที่เพิ่มเข้ามาและมีบางอย่างที่เปลี่ยนแปลงไป ตั้งแต่ ความเป็นมาของ Faith Conner บทบาทของตัวละครเสริมบางคน รวมถึงชื่อและความเป็นมารวมถึงทิศทางใหม่ของน้องสาวของ Faith ที่เปลี่ยนจาก Kate Connors ในภาคแรกรวมถึงในคอมมิคให้เปลี่ยนเป็น Caitlyn Connor ทำให้ตัวละครตัวนี้ ถูกเปลี่ยนบทบาทให้ไม่เหลือความเป็นตัวตนเดิมในภาคแรกเกือบจะหมดสิ้น ฉะนั้น  Mirror’s Edge™ Catalyst  จึงเปรียบเสมือนการนำเอา Mirror’s Edge มารีบู๊ทใหม่โดยมี "Mirror's Edge: Exordium" คอมมิค 6 เล่มเป็นตัวปูเนื้อเรื่องเริ่มต้นของภาค  Catalyst  นั่นเอง 




                            บทสรุป  Mirror’s Edge Catalyst


By Decibel per – oxide 


City of Glass เมืองที่ตกอยู่ภายใต้การควบคุมของ The Conglomerate กลุ่มที่ก่อตั้งขึ้นโดยบริษัทองค์กรธุรกิจขนาดใหญ่ 13 แห่งที่รวมตัวกันเพื่อปกครองเมืองแห่งนี้ ความสุขสบายภายใต้กฎที่เข้มงวดแต่ไร้ซึ่งความเป็นธรรมที่เป็นเสมือนเหยื่อล่อให้ประชาชนตาดำๆจำต้องทนแบบรับความครอบงำจนทั้งชีวิตและทรัพย์สินถูกนำพาไปสู่ทางตันแห่งอิสรภาพทั้งการกระทำและความคิดในที่สุด 


แต่ก็ยังมีอีกทางเลือกนึงที่จะสามารถใช้ชีวิตอยู่นอกกรงเหล็กก็คือการโลดแล่นไปบนหลังคาเสมือนแมวขโมยไปกับงานส่งข้อมูลในฐานะเหล่า Runner กบฏผู้ปลดแอก ที่ลุกขึ้นมาต่อต้านอำนาจรัฐ และเปิดดวงตาของประชาชนที่เคยมืดบอดให้กว้างไกลรู้ทันภัยร้ายจากกลุ่มธุรกิจทรามที่ครอบงำเพื่อเรียกคืนอิสระที่มนุษย์ควรจะมีเหมือนเมื่อ 20 ปีที่ผ่านมาเฉกเช่นเวลาที่เปลี่ยนแปลง ...  



                                             Main Mission  -  RELEASE 



… หมอบลงกับพื้น เดี๋ยวนี้ !! …

… Faith ชั้นกลัว ...

... ชั้นจะวิ่งเพื่อแก Dogen แต่ Noah จะต้องไม่รู้เรื่องนี้ ...





... เธอเป็นหนี้เรามากนะ เราจึงอยากให้จดจำมันเหมือนเป็นสัญญาใจระหว่างเรา ...

... Faith .. Kate .. พวกเธออยู่ไหน !!! …






ที่ Kruger Security สถานที่คุมขังผู้ทำผิดกฎหมายที่อยู่ภายใต้การดูแลของกลุ่มธุรกิจ The Conglomerate กรงขังหมายเลข 78 Faith Connors สะดุ้งตื่นจากฝันร้ายภายในสภาพที่ถูกจองจำ จนเจ้าหน้าที่ KSEC จะเข้ามาพาตัวเธอออกจากที่นี่เพราะครบกำหนดโทษแม้มันจะอยากจะจับ Faith ขังอยู่ให้นานกว่านี้ก็ตามที 




9 เดือนโทษฐานไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของทางการคือโทษที่ Faith ได้รับ แต่ถึงแม้จะถูกปล่อยตัวแล้วก็ยังต้องมารายงานตัวกับเจ้าหน้าที่คุมประพฤติตามกำหนดตลอด และถ้าไม่มาตามกำหนดครบ 14 วันก็จะถูกจับตัวนำไปคุมขังที่ Greyland facility ทันที ...แค่ให้ได้ออกไปจากที่นี่ได้ จากพล่ามอะไรมา Faith ก็คงต้องยอมรับอย่างหน้าชื่นตาบาน 




แต่ออกมาจากคุกได้ไม่นาน เมื่อเดินผ่านไปถึงประตูทางออกด้านหน้าก็ต้องพบเหตุการณ์วุ่นวายจนประตูต้องถูกปิด แต่จู่ๆ Faith ก็ได้พบชายแปลกหน้ามาดักรอเธออยู่ที่หน้าประตูเล็กข้างทาง



 Icarus – ผมชื่อ Icarus Noah เป็นคนส่งชั้นมา 
Faith – ใครจะเชื่อ นายจะพูดไงก็ได้นี่ 
 Icarus – หรอ แต่ยังเธอก็ไม่มีทางเลือกที่ต้องเชื่อใจชั้นหรอกน่า เอานี่ใส่ไปที่ตาซะ ชั้นต้องพาเธอออกไปจากที่นี่
Faith – Beatlink หรอ ? แต่ เอ่อ ......
Icarus – ใส่ๆเข้าไปเหอะน่า เพื่อนเชื่อมต่อเธอเข้ากับระบบ Noah เขาอยากจะคุยด้วย  
Faith – อ่า นี่มันอะไรวะเนี้ย ต้องมีอะไรผิดพลาดแน่เลย 
Icarus – โอ้ โทษทีชั้นลืมตัดสัญญาณเชื่อมต่อ Gridlink ของทางคุกน่ะมันเลยตีกัน  
Faith – ไอ้เนี้ยหรอที่มันทำให้เจ้าหน้าที่เรือนจำมันตามชั้นได้ตลอดน่ะ
Icarus – เออๆนั่นแหละ หวังว่าคงจะไม่กลับเนื้อกลับใจไม่อยากให้เอามันออกหรอกนะ  
Faith – ยังไงก็ไม่กลับตัวกลับใจหรอกเว้ย
Icarus – ยินดีด้วย ตอนนี้เธอเป็นอิสระจากคุกบ้านั่นแล้ว

-ทันทีที่ Gridlink ถูกตัดออกสัญญาณเตือนภัยก็ดังขึ้นพร้อมเจ้าหน้าที่ KSEC ของคุกก็เริ่มไล่ล่านักโทษที่กำลังหนีทัณฑ์เพื่อจับตัวนำไปคุมขังที่ Greyland facility ทันที


                     เรียนรู้การเคลื่อนไหวในแบบ parkour ของ Faith


L3 – แกนซ้ายบังคับการเคลื่อนไหว กดแกนอนาล็อกลงไปตรงๆเพื่อใช้ในการ วิ่ง 
R3 – แกนขวาบังคับมุมกล้องและทิศทาง กดแกนอนาล็อกลงไปตรงๆเพื่อใช้ระบบนำทาง Runner Vision
L1 – สำหรับการกระโดด ปีนป่าย และโดดข้ามสิ่งกีดขวาง
L2 – สำหรับการสไลด์ตัว
R2 – กระแทกประตู




ร่างสีแดงที่เห็นวิ่งนำทางอยู่ก็คือ Runner ECHO ที่เป็นเสมือนเป็นภาพสะท้อนการกระทำของตัวเองผ่านจิตวิญญาณของ Runner ที่จะเป็นไกด์นำทางคุณไปตลอดการเดินทางให้พอรู้ว่าควรจะไปตามทิศทางไหน

ซึ่งการปีนป่ายข้ามอุปสรรคต่างๆก็จำเป็นต้องใช้การตัดสินใจและกดปุ่มการกระทำต่างๆให้ทันเพื่อให้ได้ทวงท่าที่สวยงามไปพร้อมกับความปลอดภัยและความได้เปรียบในการดำเนินเกม สิ่งที่ Faith มีตั้งแต่โดดข้าม สไลด์ลอดผ่าน เกาะปีน วิ่งไต่กำแพง ตามสถานการณ์และความแตกต่างของสิ่งกีดขวาง สิ่งแรกที่คุณต้องเรียนรู้คือ ต้องใช้ท่วงท่าให้เหมาะกับสิ่งกีดขวางคิดล่วงหน้าและกดให้ทันเท่านั้น

ทันทีที่การวิ่งในช่วงแรกมาถึงชั้นล่างก็จะได้พบกับศัตรูตัวแรกที่ออกมาซึ่งเป็นแค่ Security พื้นฐานเท่านั้น สามารถใช้ปุ่มสี่เหลี่ยมในการอัดมันหมอบได้ไม่ยาก จากนั้นวิ่งผ่านสิ่งกีดขวางต่อไปจนถึงระเบียงด้านนอกอาคารจะพบ Icarus รออยู่ เขาจะแนะนำการเปิดโหมด Runner Vision ที่ใช้เป็นระบบนำทางด้วยปุ่ม R3 ก็จะมีเส้นทางสีแดงเชื่อมต่อไปยังเป้าหมายที่ระบุไว้พร้อมร่าง Echo นำทาง ซึ่งเป้าหมายจะเป็นที่หอคอยที่ Icarus ระบุเอาไว้ที่ Everdyne Tower เป็นจุดนัดพบ จากนั้นวิ่งต่อไปจนถึงจุดนัดพบในซากตึกจะพบ Icarus รออยู่




Icarus - รอจนจะเช้าอยู่แล้วกว่าจะมาถึงได้ 
Faith - ชั้นก็ยังไม่รู้จักนายอยู่ดีนั่นแหละ มาเข้าร่วมกลุ่มตั้งแต่เมื่อไหร่ 
Icarus – ปีนึงได้ ทำไม ?
Faith – หรอ ชั้นอยู่กับทีมมาตั้งแต่เด็กทำไมชั้นถึงไม่เคยเห็นนายเลยวะ
Icarus – และไอ้ที่เธอโดนจับเนี้ยมันทำให้มีปัญหามากมายมาถึง Noah รู้ตัวมั๊ย
Faith – นายรู้รึไงว่ามันเกิดขึ้นเพราะอะไร ?
Icarus – รู้มากพอก็แล้วกัน แต่ที่รู้แน่ๆคือชั้นเร็วและปลอดภัยกว่าเธอเยอะเลย 
Noah – Faith ตอนนี้เธอมาถึง Orion ยัง 
Faith – อยู่แล้ว ตอนนี้กำลังจะเหลืออดกับอีโก้ของเจ้าหน้าใหม่นี่อยู่ 
Noah – พอได้แล้ว ทั้งคู่เลย ตอนนี้เราพยายามจะทำให้เธอมาถึงที่ Everdyne Tower และระหว่างทางที่เต็มไปด้วยพวก K-Sec ที่เธอต้องจัดการเพื่อผ่านไป เอ่อ Icarus อัพโหลด Combat mod เข้าไปที่ Beatlink ของ faith ให้ด้วย 
Icarus – เรียบร้อยครับ
Noah – เอาละ Faith พยายามเรียนรู้ระบบของ Combat mod ให้ดีๆด้วย ชั้นรู้ว่าเธอไม่ชอบแบบนี้ แต่บอกเลยชั้นไม่มีทางเลือกจริงๆ 
Faith – อย่าห่วงเลยโนอา ชั้นทำได้อยู่แล้ว
Noah – รู้ว่าเธอทำได้ 


จากนั้นออกมาที่ประตูตรงข้ามเพื่อทดสอบระบบ Combat mod ที่สำหรับใช้จัดการศัตรู





-กดสามเหลี่ยมเพื่อโจมตีหนัก จะทำให้ศัตรูเสียหลักมึนงง
- ใช้แกนบังคับทิศทางซ้ายขวาร่วมกับปุ่มสามเหลี่ยมเพื่ออัดศัตรูไปกระแทกกับสิ่งของ
-การไต่กำแพงขึ้นที่สูงแล้วจบด้วยการอัดศัตรูด้วยการโจมตีหนัก
-การสไลด์เข้าโจมตีด้วยการโจมตีหนักทำให้ศัตรูเสียหลักก่อนทำคอมโบ
- Traversal Attack การไต่กำแพงไปโหนสลิงเข้าไปอัดศัตรูด้วยด้วยการโจมตีหนัก

-เมื่อเรียนรู้ระบบการต่อสู้ด้วยปุ่มโจมตีหนักจนหมดก็วิ่งต่อเข้าไปตามทางจนเจอกับ Sentinel Pirandello Kruger หรือ PK หน่วยพิเศษที่ขึ้นตรงกับรัฐบาลเพื่อทำงานในการปราบรามและกำจัดเหล่า Runner โดยเฉพาะจนทำให้ Faith โดนอัดร่วงลงมาชั้นล่าง หลังจากปลอดภัยแล้ว วิ่งต่อจนมาถึงทางออกด้านนอกของตึกได้สำเร็จ


ขอต้อนรับกลับบ้าน เสียงวิทยุจาก Noah บอก Faith ในขณะที่เธอเห็นวิวของเมือง Glass City ที่เธอจากไปหลายปีอยู่ตรงหน้า ก่อนจะบอกเป้าหมายใหม่ให้เดินทางมาที่ Zephyr Hub ซึ่งเป็นที่ซ่อนตัวของเหล่ารันเนอร์ทันที จากนั้นไถลตัวลงมาที่เบาะด้านล่าง เพื่อเรียนรู้ระบบ FOCUS SHIELD 




ระบบ FOCUS SHIELD ก็คือการเคลื่อนไหวโดยใช้พลังเสริมให้มีประสิทธิภาพมากกว่าเดิม โดยเริ่มจากการเรียนรู้เกท Focus ทางซ้ายล่างของจอที่ต่อกับเกทพลังชีวิตก่อน ซึ่งเกทนี้จะค่อยเพิ่มขึ้นจนเต็มได้เมื่อเริ่มการทำ Free Running อย่างต่อเนื่องและการใช้การโจมตีเบาซึ่งจะลดลงเมื่อใช้การโจมตีหนัก เมื่อเกทเริ่มเต็มแล้วจะสามารถใช้ท่า Shift ได้โดยการกด R2 + แกนอนาล็อกซ้ายไปในทิศทางที่ต้องการ ซึ่งจะทำให้การเคลื่อนไหวเป็นเสมือนมีการหน่วงเวลาในระยะสั้นๆทำให้สามารถหลบหลีกการโจมตีของศัตรูได้อย่างปลอดภัยแม้แต่กระสุนปืน และไปอยู่ในจุดที่สามารถโจมตีกลับได้ง่ายขึ้น รวมถึงสามารถใช้ในขณะวิ่งด้วยความเร็วจะสามารถเลี้ยวหักศอกหรือเปลี่ยนมุมได้อย่างง่ายดายขึ้นด้วย 

หลังจากฝึกใช้ FOCUS SHIELD ไปตามเส้นทางจนถึง Zephyr Hub ซึ่งเป็นที่ซ่อนตัวของเหล่ารันเนอร์ก็จะเข้าพบกับ Noah ที่ห้องทำงานด้านในได้เลย



Faith – ไง โนอา กำลังวางแผนลุยอะไรกันอยู่ 
Noah –ได้ยินข่าวลือมาทั้งวันเลยว่ามีรันเนอร์คนนึงได้ออกจากคุกมาคุก
Faith – ชั้นก็ได้ยินมาว่าเธอกระหายที่จะวิ่งเป็นอย่างมากซะด้วย 
Noah – เธอหายไปนานเลยด้วย  
Faith – ชั้นยังได้ยินมาว่าเธอเสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นมาก 
Noah – แต่ผมว่าเธอก็ได้เรียนรู้ผลจากการกระทำของเธอแล้วนะ 
Faith – ก็ คงงั้นมั้ง 
Noah – ฮ่าๆ มานี่กอดที 
Faith – ชั้นเสียใจนะ .... แต่ เฮ้อออ คุณแก่ลงเยอะเลย ฮ่าๆ  ที่นี่ก็เจ๋งมากๆด้วย ชั้นขออยู่ซักพักได้ป่ะเนี้ย 



Noah – ก็หวังว่าเธอจะชอบมันนะ 
Faith – แล้วเรื่องการงาน เรื่องการวิ่งละ
Noah – ลองไปคุยกับ Birdman ดู เขาจะหางานให้ได้ 
Faith – แล้วก็ เจ้าหน้าใหม่นั่น ดูจะเอาจริงเอาจังไปหน่อยนะ 
Noah –  Icarus หรอ ? เขาเป็นเด็กดีนะ แล้วก็ยังมีได้ดีกว่าใครๆเลยนะ
Faith – แล้วใครๆนี่ใคร ?
Noah –  ไปคุยกับ Birdman เดี๋ยวก็รู้ ผมจะรออยู่นี่แหละ 
Faith – อืมม ... เออ แล้วก็ Dogen ฝากทักทายมาด้วยนะ 
Noah –   หรอ .. วันหลังอาจได้รับงานจากเขาบ้างนะ เอาละรีบไปได้แล้ว อย่าลืมทำให้ชั้นประหลาดใจเหมือนเดิมด้วยละ 




Noah Kekai  นั้นเป็นตัวละครที่มีบทมาตั้งแต่คอมมิค "Mirror's Edge: Exordium" ที่มีทั้งหมด 6 เล่ม Noah นั้นอยู่ในฐานะเป็นเสมือนพ่อบุญธรรมของ Faith เพราะรับเธอมาเลี้ยงหลังจากเธอสูญเสียพ่อแม่ไปในการปฎิวัติ November riots ก่อนที่จะเริ่มฝึก Faith ให้เรียนรู้วิชาการเป็น Runner จนเธอเริ่มจะมีฝีมือช่ำชอง แต่ด้วยความรัก Noah จึงเกิดความลังเลที่จะส่ง Faith ไปปฏิบัติงานที่เสี่ยงอันตราย ทำให้ Faith ไม่พอใจและออกจากกลุ่มของ Noah ไป จากเหตุการณ์นี้ทำให้ Faith ต้องเป็นรันเนอร์ไร้สังกัดที่พยายามที่จะพิสูจน์ตัวเองจนทำให้เธอต้องเรร่อนไปทำงานกับ Runner อยู่หลายกลุ่ม ไม่เว้นแม้แต่กับ Dogen เจ้าพ่อค้ายาเสพติดที่นำพาให้ชีวิตเธอเข้ารกเข้าพงในที่สุด 




-คุยจบ เข้ามาสำรวจในห้องแต่งตัวเพื่อสวมชุดและอุปกรณ์ของรันเนอร์ ซึ่งจะมีระบบ Mod of Glass ในการอำนวยความสะดวกของรันเนอร์ เมื่อกดที่ทัชเพดของจอยแล้วจะเข้าหน้าจอเมนูหลักได้ ซึ่งการวิ่งและการต่อสู้ที่ผ่านมาในภารกิจจะถูกเปลี่ยนเป็นคะแนนที่เรียกว่า Upgrade Point และสามารถนำเอา Point นี้ไปอัพเกรด Skill ได้ในเมนู  Progression 



โดย Point แรกที่ได้จะถูกบังคับให้ไปอัพเกรด Skill Beat map ที่เป็นสีแดงในหัวข้อ Gear ซึ่งจะทำให้เห็นแผนที่ทั้งหมดของเมืองและตำแหน่งของภารกิจที่ต้องไปได้ และแต่ละจุดในแผนที่ที่ต้องการจะเดินทางไปก็สามารถกำหนดจุดนำทางเพื่อบอกเส้นทางไปได้ด้วย



                                 เมนูในระบบ Mod of Glass นั้นประกอบด้วย 



                                 1. Map แผนที่เมืองและจุดต่างๆในแผนที่






-Main Mission ภารกิจหลักของเนื้อเรื่อง เป็นสัญลักษณ์รูปสี่เหลี่ยมข้าวหลามตัดกรอบสีแดง
-side Mission ภารกิจเสริม เป็นสัญลักษณ์รูปสี่เหลี่ยมข้าวหลามตัดสีแดง
- Gridnode 
-Runner Kit อุปกรณ์ของ Runner ที่ถูกส่งมาเป็นรางวัลจากการทำภารกิจสำเร็จ
-Safe House ที่พักจุดปลอดภัยและสามารถเป็นจุด Fats Travel ระหว่างที่พักได้ด้วย
-Underground Entrance จุดลงชั้นใต้ดินของเมืองที่ลงไปที่ SANCTUARY ฐานของพวก Black November
-Dash ก็คือ Challenge ในการวิ่งจากจุดเริ่มต้นไปจนถึงจุดเป้าหมายเพื่อให้ได้เวลาเร็วที่สุดนั่นเอง ซึ่งจะได้ทั้งค่า XP และระดับการวิ่งจากทั่วโลกที่ออนไลน์ด้วย
-Billboard Hack จุดสำหรับ Hack ป้ายโฆษณาของเมืองให้กลายเป็นภาพสัญลักษณ์ Runner 
-Gridleak ผลึกสีเหลือที่อยู่ตามที่ต่างๆ เก็บเพื่อสะสมและได้ค่า XP
-Security Hub จุดที่ตั้งเสาสื่อสารของ K-Sec ที่ต้องเข้าไปทำลาย เพื่อได้ค่า XP
-Delivery Mission จุดส่งข่าวสารให้ไปถึงที่หมายภายในเวลากำหนด 
-Diversion Mission 




                                               2.  SKILL [Progression]





                                       Movement ทักษะด้านการเคลื่อนไหว


1. FOCUS SHIELD เกทนี้จะค่อยเพิ่มขึ้นจนเต็มได้เมื่อเริ่มการทำ Free Running และการใช้การโจมตีเบา และจะลดลงเมื่อใช้การโจมตีหนัก เมื่อเกทเริ่มเต็มแล้วจะสามารถใช้ท่า Focus ได้โดยการกด R2 + แกนอนาล็อกซ้ายไปในทิศทางที่ต้องการ ซึ่งจะทำให้การเคลื่อนไหวเป็นเสมือนมีการหน่วงเวลาในระยะสั้นๆทำให้สามารถหลบหลีกการโจมตีของศัตรูได้อย่างปลอดภัยแม้แต่กระสุนปืน (ทักษะพื้นฐานตามเนื้อเรื่อง)
2.Shift – กดปุ่ม R2 พร้อมกับแกนบังคับทิศทางในการเคลื่อนไหวเปลี่ยนมุมอย่างรวดเร็วในขณะวิ่ง (ทักษะพื้นฐานตามเนื้อเรื่อง)
3.Combat Shift กดปุ่ม R2 พร้อมกับแกนบังคับทิศทางในการเคลื่อนไหวเปลี่ยนที่อย่างรวดเร็วในขณะต่อสู้ (ทักษะพื้นฐานตามเนื้อเรื่อง)
4. FOCUS SHIELD + เมื่อเกท Focus เต็มสามารถใช้การโฟกัสได้เพิ่มอีก 10 % (ได้หลังจบ Mission Benefactor)
5. FOCUS SHIELD ++ เมื่อเกท Focus เต็มสามารถใช้การโฟกัสได้เพิ่มอีก 30 % (ได้หลังจบ Mission Benefactor)
6.Free Running กด L1 ใช้ฟรีรันนิ่งปีนป่าย (ทักษะพื้นฐานตามเนื้อเรื่อง)
7.Springboard กด L3 วิ่งแล้วกด L1 กระโดดจะไกลขึ้นและกด L1 อีกครั้งเพื่อการต่อเนื่องเพื่อเพิ่มระยะ (ทักษะพื้นฐานตามเนื้อเรื่อง)
8. Wallrun  –กด L1 ขณะที่หันเข้ากำแพงด้านข้างเพื่อวิ่งไต่กำแพง (ทักษะพื้นฐานตามเนื้อเรื่อง)
9. Double Wallrun กด L1 วิ่งไต่กำแพงแล้วหันมุมกล้องไปที่กำแพงใกล้ๆแล้วกด L1 อีกครั้ง หรือ กด L1 วิ่งไต่กำแพงแล้วกด R1 ใช้ Quick run แล้วกด L1 อีกครั้ง (ได้หลังจบ Mission Benefactor)
10 Free Running 2 กด L2 ในขณะไต่พนังลงล่าง และการกด L2 ในการสไลด์ลอดเข้าช่องต่ำๆ (ทักษะพื้นฐานตามเนื้อเรื่อง)
11.Soft Landing ขณะโดดลงจากที่สูงกด L2 ก่อนถึงพื้น (เสียเกท FOCUS SHIELD) 
12. Skill Roll ขณะโดดลงจากที่สูงกด L2 ก่อนถึงพื้นจากนั้นกด R2 เมื่อถึงพื้นจะเป็นการกลิ้งตัว (เสียเกท FOCUS SHIELD) (1 Upgrade Point)
13. Coil  กด L1 กระโดดข้ามทางเมื่อกด L2 จะทำการยืดขาไปข้างหน้าเพื่อเพิ่มระยะทาง (ต้องมี Skill Roll ก่อน)
14.Extended slide เพิ่มระยะและความเร็วในการสไลด์ (ได้หลังจบ Mission Benefactor)
15. Climbing กด L1 ในการปีนท่อ กด L2 ค้างเพื่อเพิ่มความเร็วและกด L2 ที่ปลายท่อเพื่อเปลี่ยนตำแหน่ง (ทักษะพื้นฐานตามเนื้อเรื่อง)
16. Swing กระโดดจับคานเหล็กแล้วสวิงตัว (ทักษะพื้นฐานตามเนื้อเรื่อง)
17. Balance & Free Hang ใช้แกนซ้านขวาในการทรงตัวบนท่อนเหล็ก กด L2 เกาะมุมมองอิสระ กด L2 อีกครั้งปล่อย (ทักษะพื้นฐานตามเนื้อเรื่อง)
18. Quicktrun หันกลับอย่างรวดเร็ว กด R1 หันกลับ 180 องศา ขณะวิ่งไต่กำแพงกด R1 หันกลับ 90 องศา ขณะปีนกำแพงไปจนสุด กด R1 หันกลับ 180 องศา (1 Upgrade Point)
19 Climb Efficiency ทำให้ปีนท่อน้ำและบันไดได้เร็วมากขึ้น (ได้หลังจบ Mission Benefactor) 


                                        Combat ทักษะในการต่อสู้ 

1.เพิ่มพลังโจมตีกับเจ้าหน้าที่ระดับ Guardian (ปลดล็อกได้หลังจบภารกิจแรก)
2.เพิ่มพลังโจมตีกับเจ้าหน้าที่ระดับ Protector (ปลดล็อกได้หลังจบ Mission Old Friends)
3.เพิ่มพลังโจมตีกับเจ้าหน้าที่ระดับ Enforcer (ปลดล็อกได้หลังจบ Mission Back in the Games)
4.เพิ่มพลังโจมตีกับเจ้าหน้าที่ระดับ Shock Protector (ปลดล็อกได้หลังจบ Mission Savant Extraordinaire)
5.เพิ่มพลังโจมตีกับเจ้าหน้าที่ระดับ Sentinel (ปลดล็อกได้หลังจบ Mission Sanctuary)
6. Heavy Attack กดสามเหลี่ยมในการโจมตี ทำให้ศัตรูกระเด็นและเสียหลัก แต่จะทำให้การสะสมเกท Focus ลดลง (ทักษะพื้นฐานตามเนื้อเรื่อง)
7. Positional Advantage เพิ่มพลังโจมตีของ Heavy Attack เมื่อโจมตีจากด้านหลัง  (1 Upgrade Point)
8. Switch Place  กดปุ่มสามเหลี่ยมพร้อมแกนอนาล็กซ้ายเพื่อจับศัตรูเหวี่ยงไปด้านหลัง (ปลดล็อกหลังจบ Mission Benefactor)
9. Heavy Traversal DMG + เพิ่มพลังโจมตีของ Heavy Attack เมื่อโจมตีจากด้านบน (ปลดล็อกได้หลังจบ Mission Sanctuary)
10. Heavy Traversal DMG ++ เพิ่มพลังโจมตีของ Heavy Attack เมื่อโจมตีจากด้านบน (ปลดล็อกได้หลังจบ Mission Sanctuary)
11. Heavy Traversal DMG +++ เพิ่มพลังโจมตีของ Heavy Attack เมื่อโจมตีจากด้านบน (ปลดล็อกได้หลังจบ Mission Sanctuary)
12. Light Attack โจมตีเบาด้วยปุ่มสี่เหลี่ยม การทำคอมโบจะทำให้เพิ่มเกท Focus (ทักษะพื้นฐานตามเนื้อเรื่อง)
13. Stun Advantage โจมตีเบา 3 คอมโบจะทำให้ศัตรูมึนงง (เสีย 1 Upgrade Point)
14. Traversal Focus Shield + เมื่อโจมตีเบาในขณะโดดมาจากอุปกรณ์ต่างในพื้นที่จะทำให้เกท Focus Shield เพิ่มสูงกว่าเดิม (ปลดล็อกหลังจบ Mission Benefactor)
15. Light Traversal DMG + เมื่อโจมตีเบาในขณะโดดมาจากด้านบน จะทำให้เกท Focus Shield เพิ่มสูงกว่าเดิม (ปลดล็อกได้หลังจบ Mission Sanctuary)
16. Light Traversal DMG ++ เพิ่มพลังโจมตีเบาในขณะโดดมาจากอุปกรณ์ต่างๆในพื้นที่ (ปลดล็อกได้หลังจบ Mission Sanctuary)
17 Stamina  ฟื้นฟูเกท Stamina (พลังชีวิต) หลังบาดเจ็บอัตโนมัติ (ทักษะพื้นฐานตามเนื้อเรื่อง)
18. Fiber Weave  + 1 เกท Stamina (1 Upgrade Point)
19. Graphene Weave  + 1 เกท Stamina (ปลดล็อกหลังจบ Mission Benefactor)
20.Carbon Weave  + 1 เกท Stamina (ปลดล็อกได้หลังจบ Mission Sanctuary)
21. Combat Recovery ฟื้นฟูเกท Stamina (พลังชีวิต) มากสุดหลังจากโจมตีแบบ critical (ปลดล็อกได้หลังจากได้ Skill Carbon Weave แล้ว) 


                                       Gear ความสามารถของอุปกรณ์

1.Beat Link เปิดฉากแผนที่เมืองทั้งหมด (ได้ตามเนื้อเรื่อง)
2.Beat Map เปิดระบบนำร่องนำทางไปยังเป้าหมายที่กำหนด (1 Upgrade Point)
3. K-Sec Surveillance Tap แจ้งเตือนตำแหน่งของพวก K-Sec ที่อยู่ในแผนที่ (ปลดล็อกได้หลังจบ Mission Mischife Maker)
4.Gridleak Mapping เปิดเผยตำแหน่งของ Gridleak ทุกจุดในแผนที่  (ปลดล็อกได้หลังจบโหมดเนื้อเรื่องแล้ว)
5. Magrope สามรถใช้ Manifold attachment Gear อุปกรณ์ยึดเกาะโหนด้วยปุ่ม L1 กับจุดโหนตัว (ปลดล็อกได้หลังจบ Mission Savant Extraordinaire)
6. Magrope Pull up ใช้ VD Torsional Motor ในการดึงตัวขึ้นที่สูงได้ ด้วยปุ่ม L1 (ปลดล็อกหลังจบ Mission Benefactor)
7. Magrope Pull Down ใช้ Grappling ในการดึงทำลายสิ่งกีดขวางได้ ด้วยปุ่ม X (ปลดล็อกหลังจบ Mission Vive La Resistance)
8. Disrupt สามารถใช้ Magrope ในการยิงทำลายอุปกรณ์สื่อสาร กล้องวงจรปิดและทำให้ศัตรูมึนงงได้ ด้วยการกด O (ปลดล็อกได้หลังจบ Mission Sanctuary)
9. Disrupt AI  สามารถใช้ Magrope ในการยึดจับ Drone แล้วดึงตัวไปกระแทกทำลายมันจนพังได้ (ปลดล็อกหลังจากได้ Disrupt แล้ว)
10.Power Storage + 1 พลัง Disruptor Charge และสามารถใช้ Magrope ปล่อยพลังคลื่นทำลายพวก Drone และ AI ต่างๆได้ด้วยการกด O ค้างเพื่อจับ Drone และกด O ค้างอีกครั้งเพื่อทำลายมัน (ปลดล็อกหลังจากได้ Disrupt AI แล้ว)
11. Disrupt + เพิ่มระยะการโจมตีของ Magrope ให้ไกลมากขึ้นและทำให้เกทชาร์ทกลับมาพร้อมใช้งานได้เร็วมากขึ้น (ปลดล็อกหลังจากได้ Power Storage แล้ว)


                                            3. Mission ภารกิจทั้งหมด 

-Main Mission ภารกิจหลัก
-Sub Mission ภารกิจเสริม

ภารกิจต่างๆนั้นสามารถ Replay เล่นซ้ำได้เพื่อได้เวลาและตามเก็บไอเทมลับที่ซ่อนตามที่ต่างๆที่พลาดไปได้ โดยไอเทมที่ซ่อนอยู่และสามารถตามเก็บได้คือ
1. Surveillance Recording 16 อัน
2.Document 5 อัน
3. Secret Bag 16 อัน



ทันทีที่คุยจบ กด Touch Pad ของจอยเข้าระบบ Mod of Glass ดูแผนที่จะเห็นสัญลักษณ์ของภารกิจใหม่ขึ้นมาคือ Follow the Red กดเข้าไปที่ตำแหน่งของภารกิจแล้วกดสี่เหลี่ยมกำหนดเส้นทางเพื่อนำทางไปได้เลย แต่ขณะที่กำลังเดินทางไป Nomad เพื่อนเก่าจะติดต่อมาเพื่อขอความช่วยเหลือ ทำให้มีภารกิจเสริม Old Friend เพิ่มเข้ามาอีก 1 จุดในแผนที่ จะเลือกทำภารกิจไหนก่อนก็ได้ แต่บทสรุปนี้ขอเลือกทำภารกิจ Follow the Red เพื่อปลดล็อคภารกิจย่อยต่างๆในแผนที่ของ Birdman


Birdman  ตาเฒ่ารันเนอร์เชื้อสายอัฟกันอเมริกันที่เข้าร่วมเป็น Runner มาตั้งแต่ยุคแรกที่บริษัท Kruger Sec เริ่มครอบงำเมืองทั้งเมือง ในขณะที่อายุแค่ 13 ปี จวบจนถึงเหตุสงครามกลางเมืองที่เกิดจากการปฎิวัติ Birdman ก็เข้าร่วมกับกลุ่มปฎิวัติประชาชนจนขยายเจตนารมณ์กลายเป็นกลุ่ม Runner จนเมื่อแก่ตัวลงก็มาอาศัยอยู่บนดาดฟ้าตึกเลี้ยงนกตบตาทางการเพื่อสำหรับใช้งานในการเชื่อมต่อข่าวสารระหว่างเมืองทั้งเมืองเพื่อเป็นประโยชน์กับเหล่า Runner อยู่เหมือนเดิม

           
                                           (Side Mission) -Follow the Red

มุ่งหน้าไปตามเป้าหมายของภารกิจที่ดาดฟ้าตึกเพื่อเข้าไปหา Birdman ตามที่ Noah แนะมา



Birdman – ใจเย็นๆๆ เลิกทุบประตูชั้นได้แล้ว ความอดกลั้นไม่เคยอยู่ในนิสัยเธอจริงๆเลยนะ Faith 
Faith – บ่นจนจะหลับอยู่แล้ว คนแก่ชอบทำแบบนี้กันนักรึไง
 Birdman – ระวังปากด้วยนังหนู . เกือบ 2 ปีที่ต้องอยู่อย่างเงียบก็มากพอสำหรับชั้นแล้วละ .. Noah บอกให้ชั้นเป็นคนทดสอบความพร้อมของเธอ จริงๆก็ไม่อยากทำเลยนะ แต่ชั้นมี DASH ให้เธอ หวังว่ามากพอที่จะเรียกว่าทดสอบได้ .. เอาละชั้นให้อาหารแกแล้วทำไมไม่ไปให้ห่างชั้นซะที พวกนี้เหมือนหนูที่ติดปีกน่ารำคาญแต่ชั้นก็จำเป็นต้องใช้งานมัน 
Faith – ความอดกลั้นไม่เคยอยู่ในนิสัยคุณเหมือนกันนะ Birdman
Birdman – ก็จริง แต่มันก็ทำให้ชั้นเป็นชั้นอยู่ทุกวันนี้ไง …เอาละ แสดงฝีมือให้ดูสิว่าเพราะอะไรชั้นควรจะใช้งานเธอมากกว่ารันเนอร์คนอื่นๆ 

DASH ก็คือ Challenge ในการวิ่งจากจุดเริ่มต้นไปจนถึงจุดเป้าหมายเพื่อให้ได้เวลาเร็วที่สุดนั่นเอง ซึ่งจะได้ทั้งค่า XP และระดับการวิ่งจากทั่วโลกที่ออนไลน์ด้วย เมื่อวิ่งจนเข้าเส้นชัยแล้วก็จะจบภารกิจ (ไม่พอใจเอาใหม่ได้เรื่อยๆ)

** หลังจบภารกิจจะมีจุด  DASH เป็นจุด Challenge เพิ่มเข้ามาในแผนที่ ** 


                                      (Side Mission) – Massager Girl


-มุ่งหน้าไปตามเป้าหมายของภารกิจที่ดาดฟ้าตึกเพื่อคุยกับ Birdman อีกครั้ง



Birdman – จำไว้นะ ในสังคมนี้เธอเป็นคนดีได้เท่าที่ประชาชนเห็นว่าเธอดีโดยไม่สำคัญว่าเธอจะดีจริงๆหรือเปล่า ทั้งหมดก็แค่การอวดอ้างในทัศนคติที่เรามีต่อสังคมนี้ก็เท่านั้นแหละ แต่ถ้าเธอทำสิ่งที่ดีที่เหมาะสมกับเวลาและสถานการณ์แล้ว สิ่งที่ดีๆก็อาจจะเกิดตามมา
Faith – ชั้นก็แค่ชอบวิ่ง เพราะมันรู้สึกดีแค่นั้นแหละ ว่าแต่ Noah พูดถึงเรื่อง การส่งของ มันคืออะไรหรอ ?
 Birdman – ขนน นม เนย ข่าวสารสำคัญที่เราแลกเปลี่ยนด้วยแคปซูลเล็ก แค่ไปวางให้ถูกที่ถูกเวลาแค่นั้นแหละ 

ภารกิจที่ Birdman ให้ทำคือ Time Delivery ก็คือการนำข่าวสารไปส่งยังจุดเป้าหมายภายในเวลาที่กำหนดนั่นเอง เมื่อส่งของถึงที่หมายก่อนที่เวลาจะหมดก็จะจบภารกิจ

** หลังจบภารกิจแล้วจะปลดล็อกจุด Delivery ในแผนที่ ** 



                                 (Side Mission) – Pigeon’s down Erato

-มุ่งหน้าไปตามเป้าหมายของภารกิจที่ดาดฟ้าตึกเพื่อคุยกับ Birdman อีกครั้ง



Faith – เฮ ลุง ไอ้เสียง บิ๊บๆ ที่ดังมาจากนกลุงนี่มันคืออะไรอ่ะ ?
Birdman – คิดว่าอะไรละนังหนู ชั้นก็แค่พยายามหลีกเลี่ยงข่าวสารแย่ๆจากทางการก็เท่านั้น ปั้นข่าวบ้าง ยุยงให้เกิดความหวดกลัวบ้าง น่าเบื่อ ชั้นเลยอยากให้ช่วยหน่อย ตอนนี้มีนกบางตัวของชั้นหายไป อยากไปหาด้วยตัวเองแต่ก็นะ ยอมรับว่าไม่ได้แข็งแรงเหมือนเมื่อก่อนแล้ว ..ยิ้มหาอะไร ?? เอาละ นีเป็นตำแหน่งที่ต้องไปหาไม่ไกลจากที่นี่เท่าไหร่หรอก 

-คราวนี้ลุงคนเลี้ยงนกจะมอบงานต่อไปให้กับ Faith เนื่องจากนกสื่อสารที่ชื่อ Erato ที่ถูกส่งไปพร้อมแคปซูลสื่อสารได้หายตัวไป ทำให้ต้องใช้งาน Faith ออกตามหานกและเก็บแคปซูลข้อมูลที่หายไปกลับมา ซึ่งเมื่อเดินทางตามเครื่องนำทางมาจนถึงบริเวณที่ใกล้ๆกับจุดที่นกและแคปซูลข้อมูลอยู่ จะไม่สามารถใช้เครื่องนำทางค้นหาได้จะต้องฟังเสียงสัญญาณ บี๊บๆ ของเครื่องส่งแล้วไปหาตามจุดที่สัญญาณเสียงดังถี่ขึ้นเรื่อยๆก็จะพบเจ้า Erato ซึ่งมันตายไปแล้ว แต่ก็สามารถเก็บแคปซูลมาคืนให้ Birdman ได้ ก็เป็นอันจบภารกิจ

** หลังจบภารกิจแล้วจะปลดล็อกจุดภารกิจ Pigeon’s down ในแผนที่เพื่อออกตามหานกพิราบสื่อสารตัวอื่นของ Birdman ที่หายไปอีก ** 


                                 (Side Mission) – Pigeon’s down Thalia 

งานที่ 2 ในการตามหานกพิราบให้ Birdman Faith ต้องออกตามหานกสื่อสารที่ชื่อ Thalia ที่ถูกส่งไปพร้อมแคปซูลสื่อสารได้หายตัวไป ซึ่งเมื่อเดินทางตามเครื่องนำทางมาจนถึงบริเวณที่ใกล้ๆกับจุดที่นกอยู่จะพบว่า Thalia ตายแล้วและแคปซูลข้อมูลก็ไม่อยู่ จากนั้นเครื่องนำทางก็จะใช้ไม่ได้แล้ว ต้องตามเสียงสัญญาณ บี๊บๆ ของเครื่องส่งแล้วไป ตามจุดที่สัญญาณเสียงดังถี่ขึ้นเรื่อยๆจนถึงดาดฟ้าตึก ระหว่างทางจะพบ Echo ตัวสีฟ้าของ Runner คนอื่นมาช่วยนำทางให้ ตามไปก็จะพบแคปซูลข้อมูลที่หายไปก็เป็นอันจบภารกิจ

 เมื่อทำภารกิจของ Birdman ซึ่งเป็นภารกิจแนะนำจุด Challenge ต่างๆในช่วงแรก เพื่อให้มีจุด Challenge แสดงขึ้นมาในแผนที่แล้ว จากนั้นก็ไปรับภารกิจหลักจาก Nomad ได้ 



Nomad รันเนอร์หนุ่มวัย 20 ที่ไม่รู้แม้วันเกิดหรือหน้าตาของพ่อแม่ตัวเองจนต้องช่วยเหลือตัวเองเพื่อเอาตัวรอดมาตั้งแต่เด็กและเคยผ่านเหตุการณ์เลวร้ายจนเกือบถูกฆ่าตายในเหตุการณ์สงครามกลางเมือง November Riots จนทำให้เขาเกลียดชังรัฐบาลแล้วเข้าร่วมกับกลุ่ม Runner เพื่อต่อต้านรัฐบาลมาตั้งแต่นั้น Nomad รู้จัก Faith มาเกือบ 10 ปีและได้รับการช่วยเหลือดูแลจาก Faith ตลอดจนเห็นเธอเป็นเสมือนพี่สาวที่เขาไม่เคยมี 
.


                                        [Main Mission]  - Old Friend





Faith – เดี๋ยวก็ร่วงลงไปหรอก
Nomad – นี่ไง Faith หญิงแกร่งในตำนาน ตัวเป็นๆเลย
Faith – ขอบคุณที่ชม ว่าแต่นายเป็นไงบ้าง ?
Nomad – เธอก็รู้ ก็ใช้ชีวิต เอาตัวรอดไป ชั้นคิดถึงเธอนะ 
Faith – อ่า เดี๋ยวก็อ๊วกกันพอดี ว่าแต่นายมีไรให้ช่วย
Nomad – พวก Outcaste ใน Greyland พวกเขากำลังจะเซ็ทระบบสำหรับใช้เตือนการโจมตีของพวก K – Sec แต่ตอนนี้พวกเขากำลังต้องการ Control Chip ที่อยู่ใน AllCom Relay chip Box  
Faith –  Control Chip ที่อยู่ใน AllCom Relay chip Box .. OK แล้วไงต่อ
Nomad – ถ้าเธอไปขโมยเอา Control Chip ตาม AllCom Relay chip Box มาก็จะเป็นการป่วนระบบของทางการไปพร้อมกับช่วยงานพวก Outcaste ไปในตัวด้วย เธอพอทำได้มั๊ย ? 
 Faith –   ชัวร์ นายก็รู้จักชั้นดี ช่วยได้เสมออยู่แล้ว 
Nomad – จริงๆเธอก็เก่งในเรื่องตุติกนอกเกมได้ตลอดแล้วทำไมถึงถูกจับได้ละ 
Faith –  เออ ชั้นมันงี่เง่าเองแหละ แล้วกล่องควบคุมที่ว่ามันอยู่ที่ไหน 
Nomad – ไม่ไกลจากที่นี่หรอก เดี๋ยวมาร์คตำแหน่งให้ 
 Faith –  โอเค จัดมา   

-เป้าหมายของภารกิจของ Nomad คือเข้าไปตามจุดเป้าหมายแล้วขโมย Control Chip ที่ตู้ควบคุม  AllCom Relay chip Box ซึ่งแต่ละที่จะมี K –Sec ระดับ Protector


 ที่เป็นจ้าหน้าที่ปราบปรามที่มีเกาะอ่อนป้องกันตัวเฝ้าอยู่ การต่อสู้กับ Protector นั้นจะโจมตีข้างหน้าไม่ได้ จะต้องใช้ Combat Shift กดปุ่ม R2 พร้อมกับแกนบังคับเพื่อเคลื่อนที่ไปโจมตีด้านหลังของมัน หรือใช้ท่า Direction Heavy Attack โดยกดสามเหลี่ยมเพื่อโจมตีหนัก + ปุ่มแกนอนาล็อกซ้าย – ขวาเพื่อเตะให้มันเซไปทางใดทางนึง แล้วเข้าโจมตีก็ได้ จากนั้นก็ลุยไปตามจุดที่มี ตู้ควบคุม  AllCom Relay chip Box จัดการ Protector ที่คุ้มกันอยู่แล้วเก็บ Control Chip มาให้หมด เมื่อถึงจุดสุดท้ายก่อนจบภารกิจ Faith จะเห็นเพื่อน Runner กำลังโดนพวก  Protector จับตัวอยู่ไม่ไกลจากที่เธออยู่ เธอจึงตัดสินใจเข้าไปช่วยทั้งๆที่ Noah ไม่ต้องการให้ไปยุ่งกับเรื่องอื่นนอกจากภารกิจที่ได้รับ เข้าไปช่วยจัดการ พวก  Protector ให้หมดเพื่อช่วย Runner ที่เดือดร้อน ก็เป็นอันจบภารกิจ

** หลังจากภารกิจแล้วระหว่างทางจะสามารถเก็บ Control Chip ที่ตู้ควบคุม  AllCom Relay chip Box เพื่อสะสมและได้ค่า XP ** 



                                            [Main Mission]  – Be like Water 

กลับไปรับภารกิจหลักของ Nomad เพื่อเรียนรู้การขโมย Control Chip แล้ว ภารกิจต่อไปจาก Nomad ก็คือนำเอา Control Chip ไปส่งที่จุด Dead Drop ซึ่งระหว่างจะต้องผ่านพวก K-Sec มากมายที่ขวางทางอยู่ เงื่อนไขการส่งของนั้นห้ามช้าและกินเวลามาก จึงต้องใช้การโจมตีศัตรูที่อยู่ตามทางด้วยท่า Light Traversal Attack หรือ การโจมตีหลังจากการโหนเชือกและโดดโจมตีจากด้านบนด้วยปุ่มสี่เหลี่ยม ซึ่งจะทำให้สามารถจัดการพวก K-Sec ได้แบบครั้งเดียวจอดแบบต่อเนื่องทีละคนโดยไม่ต้องหลุดชะงัก จัดการพวกมันให้หมดจนถึงจุดส่งของก็เป็นอันจบภารกิจ



                                          [Main Mission]  – Back in Games


 เดินทางเข้าไปหา Moah ที่จุดรับภารกิจที่ Zephyr Hub




Icarus – ถึงเวลาจะรู้กันซะทีว่าใครเป็นเจ้านายที่แท้จริง บูม !!
Noah – ขอบคุณ นั่นแหละกำลังที่ต้องการเลย
Icarus – ม่ายยย ทำม่ายยย !!
Faith – นี่ชั้นมาขัดจังหวะอะไรหรือเปล่าเนี้ย ??
Noah – ไม่หรอก ผมชนะแล้ว ฮ่าๆๆ
Icarus – หมากล้อมนี่มันไม่มีเหตุผลซะเลยวะ
Noah – เล่นไม่เป็นอะดิ Faith เธอเอาชนะชั้นได้ทุกเกมตลอดเลยนะ 
Faith – ได้ยินแล้วนะ ...แล้ว ว่าแต่ คุณมีงานให้ชั้นหรอ ?
Noah – อ่อ มีสิ เปิดจอ !! …  Elysium Lab ที่เก็บข้อมูลระดับสูงของ Kruger
Icarus – Elysium Lab คุณคิดว่าเธอพร้อมแล้วหรอ ? 
Faith – ทำไมนายไม่ไปไกลๆงานของชั้นซะละ 
Noah – นายต้องไปกับเธอ Icarus
Faith – ชั้นดูแลตัวเองได้ โนอา 
Noah – เหมือนครั้งล่าสุดหรือเปล่า เธอยังคงทำงานคนเดียวแต่ชั้นจะให้ Icarus ไปสังเกตการณ์แค่นั้น เพราะพวกมันมีระบบระวังป้องกันระดับสูงมากกับข้อมูลนี้เราจึงไม่อยากให้เกิดเรื่องผิดพลาดขึ้นพวกเธอเข้าใจนะ  
Icarus – คุณก็เลยอยากส่งผมไปเป็นพี่เลี้ยงเด็กว่างั้น 
Noah – แค่รับประกันความปลอดภัยให้กับงาน หรือไม่ ชั้นก็จะให้ Aisha กับ Calebมาทำงานนี้แทน เลือกเอา 
Icarus – โอเค ก็ได้ เจอกันที่นั่นนะ Faith ตามมาให้ทันอย่าหลงละ
Noah – รีบไปได้แล้ว Faith เธอคงไม่อยากให้หมอนั้นชนะใช่มั๊ย ?



-จากนั้นวิ่งไปที่จุดหมายที่ขึ้นมาที่ด้านหน้าตึก Elysium Lab จะเจอ Icarus รออยู่กับข่าวดีที่ว่าทางเข้าไปอาจง่ายขึ้นเพราะมีหน้าต่างบานนึงถูกเปิดเอาไว้อยู่แล้ว เข้าไปปีนขึ้นไปที่จุดสีแดงจะเจอหน้าต่างที่เปิดเข้าไปด้านในได้ เข้าไปตามจุดแดงจนถึงห้องโถงด้านใน ปีนป้ายสีเขียวในห้องไปเกาะขึ้นไปที่ระเบียงชั้นบนจนพบลิฟต์เป้าหมาย เปิดประตูโดดเกาะปีนไปตามช่องลิฟต์ไปเกาะลิฟต์ไปต่อ ขณะที่พาเลื่อนไปชั้นบนจะได้ยินเสียงของ Gabriel Kruger กำลังขึ้นลิฟต์ไปชั้นบนด้วย จากนั้นโหนตัวเข้าไปในช่องระบายอากาศมุดต่อเข้ามาที่ห้องทำงานด้านในได้ จากนั้นปีนแผงไฟกลางห้องโดดเกาะระเบียงไปชั้นบน ปีนป่ายต่อไปจนถึงชั้น 4 ก็จะเจอคอมพิวเตอร์เป้าหมาย ขณะที่กำลังโหลดข้อมูลอยู่ Faith ก็เห็นชายลึกลับคนนึงที่ลอบเข้ามาและไม่ใช่พวก Runner เหมือนกันเธอจึงรีบตามไปดู ในขณะที่ Noah ก็พยายามห้ามไม่ให้เข้าไปยุ่งแต่เธอก็ไม่ฟังเหมือนเดิม



-เมื่อตามผู้ต้องสงสัยเข้ามาจนถึงห้องเก็บข้อมูลด้านใน Faith รีบหี่หลบเพื่อซุ่มดูเหตการณ์ในขณะที่ชายลึกลับกับลงขโมยข้อมูลบางอย่าง ในขณะที่ Gabriel Kruger กับเจ้าหน้าที่อีก 2 คนเข้ามาพบเข้าจึงเกิดการต่อสู้กัน ก่อนที่ชายลึกลับจะแพ้บอดี้การ์ดของ Gabriel แล้วรีบกินยาพิษตายไปเพื่อปิดร่องรอย ในขณะที่ทุกฝ่ายกำลังวุ่นวาย Faith ก็ถือโอกาศหยิบเอาดิสเก็บข้อมูลที่คนร้ายก็อปปี้ไว้แล้วกระเด็นมาตกใกล้เธอไว้ แล้วรีบหนีทันทีที่ Gabriel หันมาเห็นเธอ



-จากนั้นก็ต้องหนีออกจากตึกนี้ท่ามกลางหน่วยรักษาความปลอดภัยระดับ Enforcer จะบุกเข้ามาไล่ล่าตัว ที่ต้องทำก็คือลุยหนีศัตรูไปจนถึงทางออกของตึกเพื่อออกมาด้านนอกให้ได้อย่างปลอดภัยแล้วเดินทางกลับไปส่งของให้ Noah



Noah – นี่มันเกิดบ้าอะไรเนี้ย Faith !!
Faith – ดีใจที่เจอคุณเหมือนกันนะ
Noah – ถ้าเธอยังพยายามจะทำบ้าๆแบบนี้อยู่อีก ไม่ถึงเดือนเธอได้ตายสมใจแน่นอน 
Faith – เออ ยังไงมันก็จบแล้ว ชั้นได้ข้อมูลมานี่แล้วไง 
Noah – ไอ้นี่มันไม่ควรอยู่ที่นั่นนี่
Faith – ดูเหมือนไอ้หมอนั่นี่พยายามจะขโมยมันจะยอมตามเพื่อมันได้อ่ะนะ ชั้นว่ามันน่าจะมีค่ามากพอที่จะแก้ปัญหาเรื่องเจ้า Dogen ได้เลยนะ
Noah – ใช่ แล้วก็มากพอที่จะทำให้เราตายกันจนหมดด้วย อะไรก็ตามที่จะทำให้เราต้องไปวุ่นวายกับเรื่องของ Gabriel Kruger เป็นสิ่งที่เราต้องอยู่ห่างให้ไกลเลยจำไว้ บางทีชั้นควรจะส่งกลับไปให้เขาด้วยซ้ำ แล้ว Kruger มันเห็นเธอหรือเปล่า ?
Faith – เห็นแค่ใครคนนึง มันมืดเกินไปที่จะมองเห็นว่าเป็นใคร นี่ฟังนะ ชั้นก็ทำดีที่สุดแล้วนะ 
Noah – ไม่ Faith เธอไม่เคยคิดด้วยซ้ำอย่าว่าแต่ทำดีเลย .. เดี่ยวชั้นต้องตรวจสอบมันก่อนค่อยตัดสินใจว่าจะเอายังไงกับเจ้านี่ แล้วก็พยายามอย่างเพิ่งหาเรื่องตายอีก ชั้นเสียเธอไปครั้งนึงแล้วนะ 
Icarus – วู้ ไม่ต้องห่วง ผมกลับมาแล้ว พวก K – Sec ก็ไปหมดแล้วด้วย เออ มีอะไรเกิดขึ้นเนี้ย.. ขอบคุณกันไม่มีเลยหรอ 
Faith – ชั้นจะไปงีบซักหน่อยก่อนแล้วกัน 


แม้ว่า Faith จะบอกว่าอยากไปงีบพัก แต่ในความฝันของเธอในทุกๆครั้งที่หลับตาก็คือภาพวันที่เธอพบเจอกับโศกนาฎกรรมที่ต้องเสียพ่อแม่ไปในวันที่เกิดสงครามกลางเมืองจากการปฏิวัติ November Riots ภาพของพ่อแม่ที่อยู่ในช่วงคืนวันที่สวยงามถูกแทนที่ด้วยภาพแห่งความพลัดพรากในวันนั้น 





วันที่เธอต้องจูงมือน้องสาวเพื่อหนีจากอันตรายเพื่อเอาตัวรอด โชคดีที่ได้ชายที่มีแผลเป็นที่มือช่วยพาเธอและน้องหนีรอดมาได้




 ภาพตัวร้ายที่พรากครอบครัวเธอไปยังลอยเวียนวนอยู่ตรงหน้า กับเสียงของแม่ที่เคยบอกว่า ภาพที่แม่วาดเอาไว้ คืออนาคตที่ห้ามลืมเลือน 




หลังจบภารกิจ Nomad จะติดต่อมาให้ไปพบพร้อมจุดภารกิจหลัก Mischief Maker ที่เพิ่มขึ้นมาในแผนที่

                   


                                         [Main Mission] – Mischief Maker



Faith – ว่าไง เกิดอะไรขึ้นหรอ ?
Nomad – ได้ข่าวว่าเพิ่งหนีเจ้า Gabriel Kruger มาหรอ
Faith – ข่าวไปเร็วจริงๆที่นี่
Nomad – พวก Kruger Sec มันบอกตลอดเวลาว่าจะเหยียบเราเหล่า Runner ให้จมดินและตอนนี้มันก็ติดตั้งเสาอากาศขนาดใหญ่ทั่วเมืองไปหมดด้วย  
Faith – นายก็เลยจะหาใครซักคนไปจัดการกับมัน 
Nomad – รู้ทันอีก ใช่ชั้นคิดแบบนั้น ชั้นคิดว่าถ้ามีคนไปทำลายเสาอากาศนั่นพวก Kruger Sec มันต้องปั่นป่วนแน่นอน 
Faith – และใครคนนั้นที่หนายหมายถึงก็คือชั้นใช่มั๊ย ?
Nomad – เฮ้ จริงๆชั้นทำเองก็ได้นะ แต่เธอมันพวกนักบู๊ไม่ใช่หรอ ทางของเธอมากกว่าจริงมั๊ย 
Faith – ได้ แต่ห้ามบอกเรื่องนี้กับ Noah เข้าใจนะ
Nomad – แน่นอน ชั้นรอฟังผลอยู่ที่นี่นะ 

ภารกิจนี้ก็คือเข้าไปที่จุดหมายที่มีเสาสื่อสารที่มี Kruger Sec คุ้มกันอยู่ จัดการพวกมันให้หมดแล้วเข้าไปดึงแกนที่เสาเพื่อทำลายเสาสื่อสารซะ หลังจากเสาถูกทำลาย พวกศัตรูจะส่ง ฮ.มาพร้อมปล่อยพวก Kruger Sec ออกมาไล่ล่าตามทาง ที่ต้องทำคือหนีออกจากเขตไล่ล่าที่เป็นรูปวงกลมสีฟ้าให้ได้หรือไม่ก็หนีกลับมาที่ฐานที่ใกล้ที่สุด เมื่อหนีพ้นก็จะจบภารกิจ



**หลังจากจบภารกิจนี้จะปลดล็อกจุด  Security Hub ขึ้นมาในแผนที่ ซึ่งก็คือ จุดเสาสื่อสารที่ต้องเข้าไปทำลายเพื่อได้มาซึ่งค่า XP ** 

หลังจบภารกิจจะมีภารกิจใหม่เพิ่มขึ้นมาในแผนที่ 2 ภารกิจคือ.
- ภารกิจหลัก Savant Extraordinaire 
-ภารกิจเสริม Break and Entry 


                                        (Side Mission) – Break and Entry

-เข้าไปหา Nomad ที่จุดรับภารกิจ เขาต้องการให้ไปเอาข้อมูลระบบปฎิบัติการณ์ของ Drone ของพวก K – Sec มาเพื่อใช้หาทางตัดการทำงานพวก Drone ที่กำลังบินลาดตระเวนไปทั่วตอนนี้ เดินทางมายังจุดหมายต่อไปที่หน้าตึกเป้าหมาย จากนั้นอ้อมมาทางฝั่งขวาของตึกจะเห็นนั่งร้านที่กำลังทำการสร้างช่องลิฟต์ ปีนนั่นร้านขึ้นไปด้านบนจนถึงช่องลิฟต์ที่กำลังสร้าง ใช้ Quick Run หรือการวิ่งไต่พนังแล้วกด R1 หันหลังกลับไปกระโดดเกาะขอบพื้นของชั้นบนต่อๆไปเรื่อยจนถึงนั่งร้านอันบนสุด จะเห็นจุดเป้าหมายสีแดงที่นั่งร้านอยู่อยู่ไกลๆ ปีนขึ้นไปยืนด้านบนของเหล็กของนั่งร้าน วิ่งทำความเร็วแล้วไต่พนังหน้าต่างกระจกของตึกไปที่นั่งร้านเป้าหมายแล้วกดสวิตซ์ให้มันเลื่อนขึ้นไปเพื่อปีนขึ้นดาดฟ้าตึกจะพบหน้าต่างกระจกเข้าไปด้านในตึก เข้าไปเก็บข้อมูลระบบปฎิบัติการณ์โดรมมาแล้วหนีออกจากที่นี่ทางระเบียงมาด้านล่างก็จะพบภารกิจ



                                               (Side Mission) – Drone Work

-เข้าไปหา Nomad ที่จุดรับภารกิจ ตอนนี้เขาต้องการ Control Chip ของ Drone ของพวก K – Sec อีก ต้องวิ่งไปที่จุดหมายซึ่งเป็นนั่งร้านแล้วกดขึ้นไปด้านบนก็จะพบทางเข้าตึกทางดาดฟ้า เข้าไปด้านในห้องทำงาน เข้าไปที่จุดเป้าหมายคือ ห้องที่เก็บ Drone แต่ในขณะที่กำลังจะ Control Chip ออกมาจากเครื่อง Drone ก็เกิดระบบรวมบินขึ้นไปแล้วหนีออกจากพื้นที่ ทำให้ต้องวิ่งไล่ตามไปให้ทันจนกว่าจะจับมันได้ เมื่อ Drone ร่วงลงพื้นก็จะสามารถเข้าไปเก็บ Control Chip เอาไปส่งให้ Nomad ได้สำเร็จ ก็เป็นอันจบภารกิจ 


                                       [Main Mission] – Savant Extraordinaire


 เดินทางเข้าไปหา Moah ที่จุดรับภารกิจที่ Zephyr Hub .......



Noah – อ่า นี่ไงมาซะที ตอนนี้ข่าวออกกระหึ่มเลยว่าเธอกลับมาลุยอีกแล้ว แต่ช่างเหอะ เรื่องที่จะพูดเครื่องไอ้เจ้าไดร์ฟที่เธอฉกมาเนี้ย ก่อนที่เธอจะเอาไปขายให้ Dogen เราอยากรู้ก่อนว่าข้างในมันคืออะไร ผมได้ค้นหาตามข้อมูลหลักที่มีดูแล้วมี เซียนแฮกเกอร์ Gridware คนนึงชื่อ Plastic น่าจะพอเปิดมันได้ แต่เธอค่อยข้างจะ เอ่อ .. ช่างเถอะ ลองแวะไปดูตามตำแหน่งที่ให้ไปแล้วกัน 

-จากนั้นวิ่งไปออกมาไปตามทางด้านล่างของฐานคุยกับ Icarus เขาจะให้อุปกรณ์ชิ้นใหม่มานั่นคือถุงมือยิงเชือกสลิง MAGROPE ที่จะสามารถกด L1 ใช้เชือกสลิงโหนที่จุดโหนข้ามทางขาดในระยะไกลได้ ทดลองโหนข้ามทางขาดดูจนคล่องแล้ววิ่งไปตามทางจนถึงที่จุดหมายคือตึกที่ซ่อนตัวของ Plastic ทันทีที่เข้าไป Faith ก็เกือบซวยเพราะจะโดนหุ่นรักษาความปลอดภัยเล่นงานจน Plastic มาช่วยไว้ได้ทัน


Plastic – เธอคือ Faith ใช่มั๊ย แล้วต้องการอะไร 
Faith – ชั้น เอ่อ... เธอช่วยดูหน่อยว่าไอ้นี่มันคืออะไร 
Plastic – ไม่ใช่ของที่นี่
Faith – ใช่ ชั้นเจอมัน ...
Plastic – ชั้นไม่ได้ถาม ข้อมูลดั่งเดิมของ Omnistat พนันเลย ไม่ว่าเธอจะได้มันมายังไง พวกเขาคงอยากได้คืนแน่นอน แล้ว เธออยากได้ข้อมูลนี่เมื่อไหร่ละ
 Faith – ชั้นคิดว่าอยากจะเป็นวันนี้เลยนะ
Plastic – โห ข้อมูลขนาดนี้กับสิ่งที่ชั้นมีอยู่นี่คงเป็นเดือนกว่าจะแฮกได้ 
Faith – ให้ชั้นช่วยอะไรได้บ้างละ 
Plastic – ให้ชั้นเชื่อมต่อกับ หรือไม่ก็รอเดือนนึง 
Faith – แล้วชั้นต้องทำไงกับไอ้เจ้า GridNode ของเธอ 
Plastic – ต้องไปเชื่อมต่อกับทางผ่านของ allcom แล้วที่เหลือชั้นจะควบคุมด้วยรีโมทเองได้ 
Faith – งั้นเดี๋ยวจัดให้ รอแปบนึง ..

-เดินทางไปตามระบบนำทางโดดโหนข้ามทะลุตึกต่างๆไปจนถึงลิฟต์ทางขึ้นตึกซึ่งเป็นจุดเริ่มภารกิจ จากนั้นก็โหนข้ามาที่ตึก Allcom Facility เป้าหมาย วิ่งไต่พนังรูขึ้นไปด้านบนจนถึงเครื่องเก็บข้อมูล เข้าไปโหลดข้อมูลมาแล้วเชื่อมต่อกับ Beatlink ของ Plastic ได้แล้ว จากนั้นก็หนีออกจากที่นี่ตามระบบนำทาง ระหว่างทางจะเจอ K-Sec มากมายเข้ามาขัดขวางจนถึงห้องโถงด้านล่างจะพบกับหน่วย Shock Protector ออกมาขัดขวาง ไม่ต้องไปกังวัลกับมันมาก ความแตกต่างจาก Protector เดิมก็แค่มีกระบองไฟฟ้า ใช้ Combat Shift เพิ่มความพริ้วแล้วอัดมันไปเรื่อยๆเน้นไม่อยู่นิ่งก็ไม่มีอะไรน่ากลัว จัดการมันให้หมดแล้วศัตรูอีกชุดจะเปิดประตูเข้ามา ที่เหลือจะจัดการศัตรูให้หมดหรือหนีออกทางประตูที่มันเปิดเข้ามาเพื่อโดดโหนสลิงหนีออกจากตึกเพื่อจบภารกิจ จากนั้น Plastic จะบอกให้เดินทางไปที่จุดทางเข้าตึกที่เก็บระบบข้อมูล GridNode ต่อ ซึ่งก็คือจุดภารกิจหลัก Gridnode Run ที่เพิ่มขึ้นมาใหม่ในแผนที่นั่นเอง



                                     [Main Mission] – GRIDNODE RUN

-เข้ามาที่จุดเริ่มภารกิจที่ช่องระบายอากาศที่ตึกเป้าหมายซึ่งจะเชื่อมต่อไปยังห้องเก็บ CCU ชั้นบนของศูนย์ GridNode ได้ เมื่อปีนขึ้นมาถึงด้านบนแล้วจะพบห้องเก็บข้อมูลขนาดใหญ่ ที่เป็นที่เก็บของ CCU หรือ Central Command Unit ที่ใช้สำหรับควบคุมระบบต่างๆของเขต จากนั้นก็ต้องปีนขึ้นไปที่แท่นควบคุมที่อยู่ชั้นบนสุด โดยการวิ่งไต่กำแพงไปตามแท่นยืนต่างๆรอบๆพนังห้อง โดยต้องหลบเลเซอร์สัญญาณเตือนภัยที่กั้นขวางอยู่ด้วย เมื่อขึ้นไปทำการเชื่อมต่อที่จุดควบคุมด้านบนได้แล้วก็หนีออกมาจากตึกทางลิฟต์ได้เลย แต่เมื่อออกมาด้านนอกจะเกิดการระเบิดขึ้นมาโดยยังไม่รู้สาเหตุ ทำให้หน่วย K-Sec มากมายออกมาไล่ล่า ต้องรีบหนีกลับไปที่ที่ซ่อนตัวของ Plastic ให้เร็วที่สุด


Plastic – ชั้นถอดรหัสมันได้และ มันเหมือนเป็น Blueprint ที่แสดงให้เห็นองค์ประกอบที่ซับซ้อนสำหรับอัพเกรดระบบ Gridlink ทั้งหมดหรืออะไรเนี้ยแหละ 
Faith – เธอติดต่อ Noah ได้มั๊ย 
Plastic – ได้สิ 
Noah – ไง Faith .. Plastic ดีใจที่ได้เจอนะ ได้อะไรมาบ้าง
Faith – Plastic ถอดรหัสไดรฟ์ได้แล้ว ข้างในเหมือนเป็น Blueprint ที่เหมือนเป็นภาพสะท้อนของระบบ Gridlink ทั้งหมด
Noah – โอ้ แบบนี้พวก Kruger น่าจะไม่ชอบเท่าไหร่ หาทางกลับทางมาแบบเงียบๆนะ แล้วก็ขอบคุณมาก Plastic ที่ช่วยเหลือ 
Plastic – ชั้นเก็บไดรฟ์ไว้ได้ป่ะ คืออยากศึกษา Blueprint ให้ละเอียดกว่านี้อีกหน่อยนะ 
Noah – เธอเก็บไว้ได้เลย แล้วเจอกัน Faith 



** หลังจากภารกิจนี้ เมื่อ Hack ระบบ GridNode ของพื้นที่ได้แล้วก็จะสามารถทำให้ใช้ Safe House เป็นจุด Fast Travel ได้แล้ว **


                                 (Side Mission) – GridNode: Downtown 

 ในแผนที่จะเริ่มมีจุด GridNode ขึ้นมาที่เขต Downtown แวะเข้าไปแฮกข้อมูลของระบบซะ ซึ่งก็คือการปีนห้องเก็บ CCU ไปด้านบนจนถึงแผงควบคุม ซึ่งที่นี่จะมีจุดแผงควบคุมถึง 2 จุดและมีเลเซอร์ที่มากขึ้นกับตัวเชือกสีเหลืองให้ปีน เมื่อทำการแฮกระบบ GridNode ได้แล้วก็จะทำให้ Safehouse 2 จุดที่ Centurian Yard ที่เป็นที่พักของ Nomad สามารถใช้ Fast Travel ได้แล้ว



                                     (Side Mission) –  The MetaGrid 

คุยกับ Plastic ในฐานของเธอหลังจบภารกิจเลยจะได้ทำภารกิจย่อยของเธอต่อ เธอต้องการให้เก็บข้อมูล Data Point เพื่อปิดระบบ MetaGrid ของพวกศัตรู หรือ มินิเกม ที่ต้องวิ่งเก็บลูกผลึกข้อมูลที่แดงที่อยู่ตามทางให้ครบตามจำนวนที่กำหนดภายในเวลาที่กำหนดนั่นเอง



                                   [Main Mission] – Benefactor 



เดินทางเข้าไปหา Noah ที่จุดรับภารกิจที่ Zephyr Hub


Noah- ที่มันเกิดขึ้นก็เพราะเธอเป็นคนเริ่มมันก่อน 
Rebecca – หยุดหลงตัวเองได้แล้ว โนอา 
Noah- แล้วเธอจะให้พูดบ้าอะไร ทำดีแล้วหรอ ชนะแบบฉาบฉวยชัดๆ  เธอมันโรคจิต Rebecca !! 
Rebecca – นี่ ชั้นจะบอกอะไรให้นะ ถ้านายรู้จักมีจุดยืนกับทุกๆอย่างกว่านี้ ชั้นคงสนใจความเห็นนายมากว่านี้นะ ถ้าคิดได้แล้วค่อยติดต่อมาแล้วกัน ..เรื่องนี้มันเกิดขึ้นก่อนที่พวก Kruger หมายหัวนายเสียอีกนะ 



Rebecca – อ้าว Faith โตขึ้นเยอะเลยนะ เพิ่งพ้นคุกมาหมาดๆก็เริ่มหาเรื่องตื่นเต้นทำเลยใช่มั๊ย ครอบครัวเธอคงภูมิใจหรอก !
Icarus – หมายถึง Elysium กับของที่เธอไปฉกมานั่นแหละ 



Faith – ยัยนั่นใคร ?
 Noah- Rebecca Thane    
Faith – ผู้นำกลุ่มหัวรุนแรง Black November แล้วเธอรู้จักพ่อแม่ชั้นได้ไง 
Noah- ใช่ เพราะเราเคยอยู่กลุ่มเดียวกันมาก่อนไง แต่ก็เพราะยัย Rebecca ชอบจะละเลงเลือดอยู่ตลอดนี่แหละ เธอคิดว่าเธอสามารถเปลี่ยนโลกได้ด้วยการระเบิดมันทิ้ง Faith เธอต้องการของมูลของ Blueprint ที่อยู่ในไดรฟ์ที่เธอขโมยมาน่ะ 
Faith – แล้วทำไมไม่ให้เธอไปละ ?
Noah- เพราะทางของเธอก็อันตรายไม่ต่างจากของ Gabriel Kruger ไง ข้อมูลนั้นมันก็สามารถเปิดเผยความจริงหลายอย่างที่พวกกลุ่มทุนจะรับได้ด้วย ถ้าจะให้เดา ชั้นคิดว่า Rebecca คงจะเก็บข้อมูลนั้นไว้เองเพื่อต่อรองกับกลุ่มทุนมากกว่า 
Faith – ดีแล้ว เพราะยังไงชั้นก็จะเอามันไปเสนอกับ Dogen อยู่ดี 
Noah- ที่ผ่านมาเธอคงเรียนรู้ดีอยู่แล้วนะ หวังว่าคงไม่เปลี่ยนข้างนะ
Faith – ชั้นเลือกข้างไปแล้ว นั่นคือข้างเดียวกับพวกเรา แล้วเจอกัน 
Noah- Faith !! 
Faith – ว่า
Noah- เอ่อ ช่างเถอะ ไว้ค่อยเจอกัน 


-คุยจบก็ออกวิ่งไปตามทางจนถึงจุดหมายที่ตึกของ Dogen


Dogen – Faith นึกยังไงถึงให้เกรียติมาเยี่ยมชั้นถึงที่นี่เนี้ย
Faith – โทษทีชั้นควรจะแวะมาตั้งนานแล้ว
Dogen – ชั้นจะไม่ตัดสินเธออ่ะนะ แล้วก็ไม่เกี่ยวกับที่เธอติดหนี้ชั้นด้วย 
Faith – เรื่องนั้นแหละที่ชั้นจะบอกว่าชั้นมีบางอย่างที่จะมายืนข้อเสนอกับหนี้สินของชั้น 
Dogen – อย่ามาเล่นตลกกับชั้นนะ ชั้นไม่เจอเธอมาเกือบ 2 ปีจู่ๆก็มาบอกเรื่องข้อตกลงใช้หนี้ . มานี่ จะบอกอะไรให้ ยุคนี้น่ะ มีเครื่องทำอาหารที่สามารถทำอาหารชั้นดีออกมาได้ง่ายๆเลยนะ แต่มันเป็นความสมบรูณ์แบบที่น่าเบื่อ บางทีข้อบกพร่องต่างหากที่ทำให้ทุกสิ่งมีลักษณ์พิเศษเฉพาะตัวที่ไม่เหมือนกัน ชั้นถึงชอบที่จะสัมผัสกับอาหารด้วยตัวเองในบางครั้งไงละ ก็แค่จุดบกพร่องเล็กน้อยๆ 
Faith – ยังไงคุณก็จะได้มันแหละน่า ชั้นคิด ...



Dogen – ชั้นต้องเป็นคนแก้ปัญหาให้หรอ ? เธอกำลังทำให้โกรธขึ้นเรื่อยๆแล้วนะ Faith .. หลายคนเกือบพูดจะเหมือนกันถึงสิ่งพิเศษที่เธอมี จากการบุกรุกตึกของคุณ Kruger ทำให้พวกมันไล่บี้พวก Runner จนเกิดการนองเลือดไปทั่วขนาดนี้ ไม่ว่าเธอไปขโมยอะไรมา มันต้องเป็นของที่มีค่าอย่างสูงแน่นอน 
Faith – มันคือแบบแปลนสำหรับระบบสะท้อนกลับ 
Dogen – อ่า แล้วเธอเอามันติดตัวมารึเปล่า
Faith – ไม่ใช่ตอนนี้
Dogen – งั้นเราค่อยมาคุยเรื่องหนี้สินของเธอตอนเธอพร้อมแล้วกัน แต่ระหว่างนั้น ชั้นเชื่อว่าจะได้เห็น Faith ที่เป็นเด็กดีที่เชื่อฟังคำสั่ง เพื่อให้ชั้นลดโทษให้ซะหน่อย Anansi สงสัยจะลืมที่จะจ่ายหนี้ของมัน ก็เลยอยากจะใช้การตักเตือนแบบถึงเนื้อถึงตัวในแบบดั่งเดิมกับมันหน่อย 
Faith – ก็ได้ เดี๋ยวทำให้ แล้วคุณต้องการให้ทำอะไรบอกมา 
Dogen – ไปที่ Anansi Emporium เดี๋ยวจะแจ้งรายละเอียดระหว่างทาง 

-คุยจบออกมานอกห้องลงไปที่ห้องเก็บของ Dogen จะมีอุปกรร์เสริมพิเศษมอบให้มันคืออุปกรณ์ที่ทำให้ Magrope สามารถดึงตัวขึ้นที่สูงได้ โดยการกด L1 ค้างที่จุดดึงตัว จากนั้นวิ่งไปยังจุดหมายต่อไปคือที่ตึก Anansi Emporium ใช้การไต่กับแพงแบบ QuickTurn ปีนขึ้นด้านบนของตึกจนถึงจุดที่กำลังก่อสร้างต่อเติมตึก วิ่งไปยังคอมพิวเตอร์ควบคุมระบบ โหลดของมูลมาแล้วขึ้นลิฟต์ที่อยู่ใกล้ๆขึ้นไปด้านบนต่อ วิ่งเข้าไปด้านนอกตึกจนเจอเครนขนาดใหญ่ ปีนขึ้นไปด้านบนแล้วโหนเชือกไปที่ตึกที่กำลังก่อสร้างใกล้ๆต่อ Dogen จะติดต่อว่าต้องทำลายแผงควบคุมเพื่อปิดระบบตัวยึดของ Damper tuner ที่อยู่กลางพื้นที่ โดยต้องวิ่งขึ้นไปด้านบนพร้อมๆกับทำลายแผงควบคุมทั้ง 3 จุดให้หมด เมื่อทำสำเร็จตึกจะเริ่มถล่มจนต้องหนีขึ้นไปบนยอดตึกแล้วหาทางเกาะลงมาจนถึงลิฟต์ที่ขึ้นมาแล้ววิ่งไปที่จะโหนสลิงหนีออกจากตึกได้เลย


                                  (Side Mission) –  Caught in the Web

-เข้ามารับภารกิจย่อยกับ Plastic ที่ที่ซ่อนตัวของเธอ โดย Plastic จะแจ้งข่าวว่ามี Runner ในกลุ่มหายตัวไปคนนึงจึงอยากจะให้ Faith ออกตามหา มุ่งหน้าไปยังจุดเป้าหมายที่จุดรับภารกิจ จะพบ Runner คนนึงถูกพวก K – Sec จับตัวเอาไว้ ซึ่งสามารถเข้าไปช่วยเพื่อนได้ทั้งแบบง่ายและยาก แบบง่ายก็คือ จากจุดเริ่มภารกิจโดดเข้าไปในตึกเข้าไปจนถึงแท่นควบคุมที่ชั้นบนเพื่อเปิดกรงขังแล้ววิ่งไปที่ห้องขังชั้นบนก็จะช่วยเพื่อนออกมาได้ แต่ถ้าชอบแนวบู๊ก็เข้าไปจัดการพวก K – Sec รอบพื้นที่ให้หมดแล้ววิ่งปีนไต่ขึ้นไปที่ห้องขังด้านบนตึกเพื่อปล่อยตัวเพื่อนออกมาได้เหมือนกัน ช่วยเพื่อนออกมาได้ก็จะจบภารกิจ


                                          [Main Mission]  – FLYTRAP

หลังจบภารกิจของ Dogen Faith ได้รับการติดต่อจาก Noah ให้ช่วยออกตามหา Icarus ที่ขาดการติดต่อไปในขณะทำงาน แน่นอนว่า Faith ก็คงไม่อยากจะไปช่วยเพราะไม่ค่อยกินเส้นกันเท่าไหร่แต่ก็ต้องยอมให้ Noah ที่ทั้งบ่นปนขู่จนสุดท้ายก็ต้องยอมไป จากนั้น วิ่งไปตามทางจนถึงจุดรับภารกิจ กดสวิตซ์หมุนเครนใหญ่แล้วปีนขึ้นไปโดดลงที่เบาะด้านล่างจากปลายเครน แล้ววิ่งเข้าไปที่จุดเป้าหมายด้านใต้ตึกจะพบ Icarus ถูกขังอยู่ในกรงไฟฟ้าในตึกแห่งนึง


Icarus – ไม่เคยคิดเลยว่าจะต้องพูดแบบนี้นะ แต่แน่ใจนะว่าตาดุๆนั่นเธอกำลังมาช่วยชั้น
Faith – เกิดอะไรขึ้นกันเนี้ย ?
Icarus – อย่าถามเลย แล้วก็อย่ามาโดนกรงด้วยมันมีไฟฟ้าอยู่ มีคนลองมาแล้วนอนกองอยู่ตรงนั้นไง
Faith – แล้วนายจะให้ช่วยอะไร 
Icarus – พาชั้นออกจากที่นี่ไงถามได้ หาห้องพลังงานแล้วปิดไฟฟ้าซะ
Faith – หรือ .. ทิ้งไว้แบบนี้แล้วให้พวก Kruger มาจับตัวไป 
Icarus – หรอ สงสัยอยากให้ชั้นพูดจริงๆสินะ ก็ได้ ได้โปรด ...
Faith – โอเค แล้วชั้นต้องทำไง
Icarus – ตามสายเคเบิ้ลสายไฟนี่จนถึงห้องควบคุมไฟฟ้าแล้วปิดมันซะ ชั้นเป็นหนี้เธอครั้งนึงนะ
Faith – ได้เลย แต่อย่าเพิ่งไปไหนนะ 
Icarus – ตลก 

-จากนั้นก็ตามสายเคเบิ้ลไฟฟ้าจากกรงขังไปตามทางจนถึงด้านล่างสุดแต่จะไปสุดทางที่ประตูลูกกรงที่กั้นทางเอาไว้อีก ต้องวิ่งอ้อมไปทางหลังตึกด้านซ้ายตามทางก็จะเจอทางเข้ามาที่ห้องควบคุมด้านในได้ เข้าไปสับคันโยกสวิตซ์ปิดไฟฟ้าซะ Icarus ก็จะออกจากกรงขังได้แล้ว จากนั้นปีนช่องลิฟต์ขึ้นไปเข้าลิฟต์ที่ข้างอยู่ชั้นบนแล้วขึ้นลิฟต์ไปด้านบนต่อ Noah จะติดต่อกลับมา ...

Noah – Icarus นายโอเคนะ ดีแล้วที่ปลอดภัยทั้งคู่ ชั้นจะ ...... 
Faith – โนอา สัญญาณเป็นอะไร ?
Icarus – Faith แย่แล้วพวก K-Sec เพียบเลยกำลังมุ่งหน้าไปที่ฐาน 
Noah – เราถูกโจมตี ย้ำ เราถูกโจมตี !!!
Icarus – พวกมันลอบตามสัญญาณสื่อสารของเราวะ เราต้องรีบไปที่นั่นด่วนเลย แล้วเจอกันที่ฐานนะ Faith !! 




-วิ่งกลับไปที่ฐานที่ Zephyr Hub ต่อ เข้าไปค้นหา Noah ในห้องทำงานจะพบว่าพวก K-Sec กำลังจะจับ Noah ขึ้นเครื่องบินหนีไป จากนั้นต้องลงไปจัดการพวก K-Sec ให้หมดในพื้นที่ลานจอด ซึ่งเป็นการต่อสู้กับศัตรูจำนวนมากและต่อเนื่องครั้งแรกในเกมเลย หลังจากจัดการศัตรูมากมายจนหมดแล้ว จะพบกับ Sentinel หน่วยนักล่า Runner ระดับสูงสุดของ K-Sec ออกมาสู้ Sentinel นั้นจะไม่สามารถอัดมันด้วยการโจมตีเบาได้เลย ต้องแดชหลบหาจังหวะแล้วจัดการด้วยการโจมตีหนักเอา แถมทำอย่างต่อเนื่องก็ไม่ได้เพราะมันก็พร้อมสวนกลับทุกครั้งเหมือนกัน หาจังหวะโดดโจมตีหนักจากที่สูงกับโจมตีจากด้านหลังไปเรื่อยๆอย่าเน้นปะทะก็จะจัดการได้อย่างไม่เจ็บตัวมาก แต่เมื่อจัดการศัตรูลงได้หมดแล้ว Faith ก็พบว่า Noah ไม่ได้อยู่ที่นี่แล้ว ทันทีที่ Icarus มาสมทบทั้งคู่ก็จับพวก K-Sec มาเค้นความลับ


Faith – พวกแกได้รับคำสั่งให้จับเพื่อนชั้นไปไว้ที่ไหน !!
K-Sec – เราถูกส่งให้มาจับตัวแต่พวกเขาขัดขืน เราเลยต้องยิงแต่มันก็ยังไม่ยอมจำนนโดยเฉพาะเจ้าแก่นั่น 
Faith – พวก Drone มา รีบหนีก่อนแล้วค่อยนัดเจอกัน !!

-จากนั้นต้องวิ่งหนีออกให้พ้นรศัมีคนหาของศัตรูหรือเข้าไปที่ Safehouse ที่ใกล้ที่สุดเพื่อให้สถานการณ์เป็นปกติก็จะจบภารกิจ ไม่นาน Icarus จะติดต่อมาเพื่อนัดให้ Faith ไปพบที่เขตก่อสร้างทางใต้ของเขต Downtown เพื่อหาทางออกกับเรื่องเลวร้ายที่เกิดขึ้นต่อไป



                                       [Main Mission] – SANCTUARY 

ภายใต้สถานการณ์ที่ค่อนข้างเลวร้าย ในขณะที่ Noah นั้นจะเป็นหรือตายยังไม่มีใครรู้เพราะยังหายสาบสูญในขณะที่เหล่า Runner อื่นๆก็บาดเจ็บสาหัสและตื่นกลัวแตกกระจายไปหลบภัยตามที่ต่างๆ ซึ่ง Faith เองก็จำเป็นที่ต้องหาที่หลบภัยที่ปลอดภัยจนกว่าความวุ่นวายจะจบลงไปก่อนไม่ต่างกัน ในขณะที่ภาพข่าวในจอภาพบนตึกแสดงข่าวการตายของ Noah หัวหน้าพวกรันเนอร์ด้วยการปราบปรามของ K-Sec นั่นยิ่งทำให้ Icarus และ Faith ต้องหาที่ซ่อนตัวที่ปลอดภัยให้ตัวเองก่อนที่จะวางแผนต่อไป Icarus จึงไม่มีทางเลือกที่ต้องติดต่อขอความช่วยเหลือไปยัง Rebecca หัวหน้ากลุ่ม Black December เพื่อขอความช่วยเหลือ ซึ่ง  Rebecca ก็ยินดีจะให้ Icarus และ Faith เข้าไปหลบภัยที่ SANCTUARY รังของพวก Black December ได้ แน่นอนว่า Faith ไม่เชื่อใจ Rebecca แต่เมื่อ Icarus อ้างถึงสิ่งที่จะทำได้ตอนนี้กับความที่ Rebecca ก็เกลียดชังพวก Kruger เหมือนกัน ด้วยจำนนด้วยเหตุผลและหนทางทำให้ Faith ต้องยอมเข้าไปหา Rebecca ตามที่  Icarus เสนอมา และ Faith ก็หวังไว้ว่าคงจะพึ่งพากันไม่นาน ก่อนที่เธอจะหาทางแก้แค้นกับ Kruger ได้ต่อไป 

-วิ่งไปที่จุดหมายที่ขึ้นมาจนมาถึงทางลงไปที่ทางระบายน้ำใต้ดิน เข้าไปตามทางกดสวิตซ์เปิดเอาประตูระบายน้ำเลื่อนขึ้นมาเพื่อใช้เดินทางต่อเข้าไปด้านในสุดจนถึงอุโมงค์ด้านในสุดที่เป็นทางเข้าของที่ซ่อนตัวของพวก Black December เข้าไปด้านในจะพบ Rebecca และ Icarus รออยู่


Icarus – faith โดดมาข้างล่างนี่เลย 
Rebecca – ชั้นเห็นข่าวแล้ว เสียใจด้วยนะ
Faith – อย่ามาแกล้งเสียใจดีกว่า
Rebecca – ไม่ ชั้นพูดจริงๆ ชั้นกับ Noah อาจจะเผชิญหน้ากันเพราะความคิดเห็นไม่ตรงกันมาตลอด แต่ชั้นก็เคารพเขามากนะ รวมถึงพ่อแม่เธอด้วย 
Faith – โนอา บอกว่าเธอเคยอยู่กลุ่มเดียวกันมาก่อนหรอ
Rebecca – ใช่ จนกว่าชั้นจะรู้ว่าสุดท้ายมันก็ไม่มีเส้นทางที่จะทำให้งานของเราเกิดผลสำเร็จได้ด้วยสันติ จนเราสามารถเอาตัวเองออกมาจากกลุ่มทุนที่ครอบงำเมืองนี้รวมถึงจากครอบครัวของเราเองด้วย เราต้องทำลายพวกมัน ทำลายทุกอย่างที่มันควบคุมอยู่ด้วยอาวุธทั้งหมดที่เรามี 
Faith – ชั้นรู้ว่าเธอคิดยังไง แต่ว่าเธอคิดผิด ชั้นไม่เอาด้วยหรอกนะ



Rebecca – อ่อ หรอ แล้วที่เธอทำละ เธอคิดว่าเพราะอะไร Kruger มันถึงตามล่าเธอละ แล้วทำไมเพื่อนๆเธอถึงบาดเจ็บล้มตาย และทำไมโนอาถึงถูกฆ่า 
Faith – ไปไกลๆเลยไป !!!
Rebecca – ฟังนะ ชั้นจะให้ที่พักหลบภัยกับเธอแค่ตอนนี้ อย่าเพิ่งมาทำลายมิตรภาพที่ชั้นมีให้ แต่ก็อย่าลืมว่าชั้นจะจับตาเธอในทุกฝีก้าวที่เข้าออกที่นี่เลยละจำไว
Icarus – พอเถอะ Rebecca เอาแค่พอประมาณพอ
Rebecca – บอกเลยนะ ในสถานการณ์ตอนนี้ เธอจะอยู่แบบเป็นกลางอย่างนี้ไม่ได้นานหรอก faith ไปพักก่อนเถอะ ชั้นหวังว่าเธอจะเข้าใจอะไรดีขึ้นในซักวัน Tristan คนของชั้นจะพาเธอไปห้องพักเอง ไว้คุยกันใหม่ที่หลัง 


ในคืนที่ต้องหลับฝัน สถานการณ์ภายนอกกับภายในความฝันของ Faith ก็แทบไม่ต่างกัน ภาพวันที่ครอบครัวถูกพราก มันยังคงสะท้อนความทรงจำให้ใจต้องบอบช้ำ 





ภาพอดีตที่ย้อนซ้ำถึงวันที่ Faith ต้องทิ้งน้องสาวนอนอยู่บนพื้นท่ามกลางแก็สน้ำตาก็ย้ำเตือนให้ได้มาซึ่งความเสียใจเหมือนกันทุกค่ำคืน  


สถานที่ที่ Faith หลบซ่อนตัวอยู่ก็คือ SANCTUARY รังลับใต้ท่อระบายน้ำขนาดใหญ่ของเมืองของกลุ่มหัวรุนแรง Black November โดยมี Rebecca เป็นหัวหน้าของที่นี่ 






ซึ่งหลังจากที่ยังไม่รู้ชะตากรรมที่แน่นอนของ Noah หัวหน้ากลุ่ม Runner ของตัวเอง Faith ก็จะต้องรอดูเหตุการณ์อยู่ที่นี่ไปก่อน และก็จะเป็นต้องทำงานที่ Rebecca มอบหมายให้ด้วย 




                                   [Main Mission] – Encroachment 



เข้ามาหา Rebecca ที่ห้องสั่งการของฐานใต้ดินเพื่อรับงาน...



Rebecca – ชั้นหวังว่าเธอคงได้พักเต็มที่แล้วนะ สิ่งที่เกิดขึ้นที่นี่ค่อนข้างวุ่นวาย แต่เราก็พยายามที่จัดการมันให้พ้นตัวด้วยแรงของเราที่เรามี
Faith – จากพวก Kruger Sec หรอ ?
Rebecca – ใช่ พวกมันรุกล้ำเข้ามาในเขตของเรา เข้ามาในท่อระบายน้ำส่วนหน้าแล้วกำลังติดตั้งอุปกรณ์แบบใหม่ของมัน Sentry Drone หรือปืนกลอัตโนมัติที่ยิงด้วยความเร็วสูงตรวจจับเป้าหมายด้วยการเคลื่อนไหว เราต้องจัดการมันก่อนที่มันจะติดตั้งเสร็จและถอนกำลังไป
Faith – ชั้นช่วยได้นะ 
Rebecca – ชั้นก็หวังให้เป็นแบบนั้น เพราะตอนนี้ Icarus ก็ออกไปดูพวก K – Sec ที่ด้านนอกฐานซึ่งอันตรายพอๆกัน ตอนนี้ระบบของ Drone ยังไม่ได้ถูกติดตั้ง ที่เธอต้องทำคือทำลายกล่อง Drone นั่นซะแล้วจัดการพวก K – Sec ให้หมด 
Faith – ได้ ส่งพิกัดมาให้ได้เลย

-รับงานแล้ววิ่งไปตามทางเป้าหมายจนถึงส่วนท่อระบายน้ำด้านในจนถึงพื้นที่ที่พวก K-Sec ติดตั้ง Drone จากนั้นก็วิ่งลุยเข้าไปผลักทำลายกล่องใส่ Sentry Drone ให้ตกน้ำให้หมดแล้วจัดการพวก K-Sec ให้หมดแล้วกดสวิตซ์เปิดประตูกั้นท่อระบายน้ำออกก็จะจบภารกิจ ในพื้นที่ค่อยข้างแคบแต่จะสามารถใช้ Traversal Attack จัดการศัตรูได้อย่างต่อเนื่อง


                                           [Main Mission]  – Viva La Resistance 


เข้ามาหา Rebecca ที่ห้องสั่งการของฐานใต้ดินเพื่อรับงาน...





Rebecca - จุดสำคัญอยู่ตรงส่วนกลาง ใช่ เราจะระเบิดที่นั่น การระเบิดเป็นแค่กลลวงตามแผนของเราและก็หวังให้พวกมันกลัวได้ยิ่งดี อ่า Faith ดีใจที่เจอ เธอจะลุยงานนี้ด้วยมั๊ย 
Faith – ชั้นเคยเห็นเธอ เธอเป็นคนนำทีมมาบุกครั้งล่าสุด
Rebecca – ใช่ แต่เราไม่มีข้อมูลอะไรเกี่ยวกับเธอมากเท่าไหร่แต่ที่รู้ๆคือเธอเป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงของ Kruger Sec แน่นอน และ เธอเป็นเป้าหมายของเราในวันนี้ด้วย
 Faith – เฮ้ ชั้นไม่ใช่นักฆ่านะ ไม่เอาด้วยหรอก !
Rebecca – เราไม่ได้จะฆ่าเธอแต่จะจับเธอมาเป็นตัวประกันเพื่อแลกตัวพวกของเราที่ถูกพวกมันจับไป
Icarus – เราต้องทำนะ Faith แก้แค้นที่พวกมันทำกับฐานของเรา 
Faith – อ่อ ก็ได้ แผนว่าไง
Rebecca – พวก K – Sec จะได้รับข้อมูลพิกัดของคนที่มันต้องการตัวมากที่สุด ชั้นเอง และเมื่อเป้าหมายของเรานำทีมเข้ามาเพื่อจับกุมซึ่งเราจะซุ่มกำลังเอาไว้ หน้าที่การจับกุมตัวเป้าชั้นและทีมจะจัดการเอง ส่วนเธอกับ Icarus ต้องเคลียร์เส้นทางหนีให้เรา หลังจากระเบิดเราจะลุยทันที มีเวลาไม่มาก
Faith – ชั้นไม่แน่ใจว่างานนี้จะชนะนะ Rebecca 
Rebecca – หรอ ชั้นก็ไม่แน่ใจในจุดยืนที่ดีพอของเธอเหมือนกัน เอาละ ไปกันได้แล้ว 

-หลังคุยจบก่อนจะเริ่มงาน เข้าไปหยิบอุปกรณ์อัพเกรด MAGROPE บนโต๊ะมาจะทำให้เชือกสามารถดึงทำลายส่งกีดขวางได้ (Pull Down) ด้วยการ X ตรงจุดที่สามารถทำลายได้ จากนั้นก็วิ่งไปตามเส้นทางเป้าหมาย ใช้เชือกดึงทำลายเปิดทางไปจนถึงจุดรับภารกิจที่สวิตซ์เปิดประตูใหญ่ จากนั้นวิ่งไปตามทางเป้าหมายจนมาถึงชั้นใต้ดินของตึกที่กำลังก่อสร้างเข้ามาด้านในจะเริ่มเห็นปืนกลอัตโนมัติ Sentry Drone กำลังระดมยิงใส่ Isarus อยู่ ต้องวิ่งหลบกระสุนอ้อมไปช่วยปิดระบบปืนเพื่อช่วยเขา



Isarus – เอาละ เราต้องวิ่งให้เต็มตีนเลยถึงจะทำงานนี้สำเร็จ
Faith – งั้นเราต้องแยกกันเป็น 2 ทางแล้วจัดการที่ละส่วน
 Isarus – แผนดี ชั้นไม่ค่อยชอบที่ยัย Rebecca ที่ยอมรับความผิดพลาดของตัวเองไม่ได้นี่แหละ เป็นผู้หญิงที่น่ากลัวมาก 
 Faith – ชั้นนึกว่านายชอบเธอซะอีก
Isarus – ชั้นว่าตอนนี้เป็นเวลาที่เราควรจะเลิกอวดดีต่อกันจะดีกว่านะ
Faith – อืมม ก็ไม่แน่ แต่นายต้องรู้ไว้ ที่ชั้นทำงานนี้เพื่อ Noah ไม่ใช่เพื่อ Rebecca
Isarus – เหมือนกัน
Rebecca – Faith , Isarus สถานการณ์เป็นไง 
Isarus – เราเพิ่งจัดการกับ Sentry Drone จุดแรกเสร็จ 
Rebecca – แล้วจุดอื่นรออะไรอยู่ละ ชั้นใช้ Runner เพราะต้องการความเร็วนะ ไปทำงานได้แล้ว 
Isarus – OK ทราบ !! Faith ชั้นไปเส้นทาง B ส่วนเธอไปทาง A มันจะไดไม่รู้ว่าต้องยิงทางไหน 

-คุยจบวิ่งไปตามเส้นนำทางจนออกมาด้านนอกตึก จะพบพวก K – Sec เริ่มเข้ามาที่จุดหมายตามแผนที่วางไว้แล้ว จากนั้นใช้เชือกดึงเปิดทางที่ซากตึกใกล้ๆ วิ่งไต่ปีนขึ้นไปด้านบนจะเจอส่วนที่มี Sentry Drone เริ่มยิงใส่ ที่เหลือก็ต้องวิ่งด้วยความเร็วหลบกระสุนขึ้นไปจนถึงแท่นควบคุมปืนกล Sentry Drone ที่อยู่ชั้นบนสุดของตึกก่อสร้างแล้วปิดระบบมันซะ จากนั้นวิ่งไปที่ดาดฟ้าตึกโดดเกาะตู้คอนเทรนเนอร์ที่ Isarus บังคับเครนยกมารับเพื่อโดดไปที่ตึกก่อสร้างต่อไป วิ่งไต่ปีนขึ้นไปจนถึงจุดที่ Sentry Drone เริ่มยิงใส่ จากนั้นก็วิ่งหลบกระสุนขึ้นไปจนถึงชั้นบนของตึกไปที่จุดหมายเพื่อโดดเกาะเครนที่ยกคานเหล็กแล้วถีบคันโยกปล่อยเหล็กลงไปทับทำลาย Sentry Drone ที่ตึกด้านล่างจนหมด Isarus ก็จะบังคับเครนให้เลื่อนมาส่งที่เขตก่อสร้าง พร้อมๆกับทีมของ Rebecca ก็สามารถจับตัวเป้าหมายมาได้สำเร็จเช่นกัน จากนั้นก็กลับลงไปหา Rebecca ที่ฐานใต้ดินได้เลย


Rebecca – ยัยนี่เป็นเลือดนักสู้เหมือนกับเธอเลย จนชั้นกลัวว่าจะเป็นพี่น้องกับเธอเลยนะ Faith 
Faith – ชั้นจะลองไปคุยกับเธอดู 
Rebecca – แต่เกรงว่ามันจะไม่ใช่ เพราะดูเหมือนเราจะไปคว้าเอาสิ่งล้ำค่ามาแทน 
Faith – หมายความว่าไง ?
Rebecca – เพราะตามข่าวบอกว่า Isabel Kruger ลูกสาว Gabriel Kruger ถูกจับตัวไปนะสิ เดี๋ยวลองไปคุยกับเธอกัน




Isabel – ยังสอบสวนกันไม่จบอีกรึไง
Rebecca – ยัยนี่เล่นงานคนของชั้นจนเดี้ยงไป 4 .. ชั้นรู้นะว่าเธอเป็นใคร !! 
Isabel – อย่างนั้นก็ควรปล่อยชั้นไปซะ
Rebecca – ก็อาจจะ เป็นหรือตายก็อีกเรื่องนึงที่พ่อเธอจะได้รับกลับไป 
 Faith – ชั้นไม่เคยเห็น Kruger มันแคร์ใครซักคน



Isabel – เธออยู่ที่ Elysium ในวันนั้นใช่มั๊ย ?
Faith – และเธอก็ฆ่าเพื่อนของชั้น !
Isabel – มันก็แค่พวกปลิงที่ดูดความเจริญของเมืองนี้ พวกเธอทั้งหมดก็เหมือนกัน 
Faith – งั้นเธอมันก็แค่เครื่องมือที่ใช้แล้วทิ้ง ..ชั้นคุยจบแล้ว
Rebecca – เราจะขังเธอไว้อีกซักพัก ชั้นกับเธอยังมีเวลาคุยกับเธออีกแน่ Faith ..



สายตาของ Isabel จับจ้องไปที่ Faith ทันทีหลังจากที่ Rebecca เอ่ยชื่อ Faith ออกมา เหมือนกับว่ามีความลับบางอย่างที่ไม่มีใครรู้ซ่อนอยู่ข้างใน ….

** หลังจบภารกิจ จะปลดล็อคจุด Underground Entrance เป็นรูปลูกศรสีฟ้าซึ่งเป็นจุดลงมาที่ SANCTUARY ฐานของพวก Black November ที่เป็นฐานหลักของ Faith ในตอนนี้ ** 




**หลังจบภารกิจจะมีภารกิจใหม่ขึ้นมาในแผนที่คือ ** 

1 ภารกิจหลัก PAY BACK
2. ภารกิจย่อย An Ear to the Ground ของ Plastic 
3. ภารกิจย่อย Top of the World ของ Rebecca
4.จุด GridNode Rezoning ทางฝั่งตะวันตกของเมือง เพื่อปลดล็อค Safe House ที่เขตก่อสร้าง 




                                       (Side Mission) – Top of the World



เข้ามาหา Rebecca ที่ห้องสั่งการของฐานใต้ดินเพื่อรับงานภารกิจย่อยต่อ 





Faith – มันเป็นงานที่ต้องค้านกับความรู้สึกชั้นอีกหรือเปล่า ? ชั้นกำลังอยู่ในช่วงปรับความรู้สึกนิดหน่อย 
Rebecca – ที่โดมกักเก็บอาหารใกล้ๆ Hale city ต้องมีใครซักคนไปกระตุ้นให้คนแถบนั้นก่อกบฏ 
Faith – อ่า ทำไมมันถึงทำให้ชั้นรู้สึกเหมือนได้กล้บบ้านก็ไม่รู้
Rebecca – พวกเราสู้เพื่อทุกคนใน Cascadia เพื่อให้พบโลกใหม่ที่ดีกว่า ครั้งนึง Noah ก็เคยคิดเหมือนพวกเรา
Faith – อย่าเอาเขามาเกี่ยวกับเรื่องนี้ด้วย
Rebecca – ถ้าอย่างนั้นก็อย่ามาบั่นทอนวิถีการต่อสู้ของเรา เหมือนกับที่เราไม่ยุ่งในเรื่องงานของเธอ 
Faith – โอเค ตกลง
Rebecca – ชั้นต้องการใครซักคนเอา data tap ตัวดักสัญญาณไปติดที่เสาสื่อสาร Antenna ในเขตก่อสร้าง 
Faith – ฟังเหมือนใครคนนั้นก็คือชั้น 
Rebecca – เอา data tap ไปแล้วเดี๋ยวจะส่งพิกัดตำแหน่งของเสาสื่อสาร Antenna ไปให้  

โดยภารกิจนี้ Rebecca ต้องการดักฟังการสนทนาในคลื่นวิทยุของพวก K – Sec ที่ตึกควบคุมเสาสื่อสาร Antenna จากนั้นก็วิ่งไปที่จุดเริ่มภารกิจทิ่อยู่ใกล้ๆกับจุดเริ่มภารกิจเสริม An Ear to the Ground ของ Plastic เลย รับงานแล้ววิ่งปีนไต่ไปตามทางที่จุดเป้าหมายของภารกิจจนถึงด้านบนของตึกควบคุมเสาสื่อสาร Antenna แล้วโดดไปเกาะที่ยอดเสาสื่อสาร Antenna จัดการติดตั้งเครื่องดักฟังซะ แล้วพวก K – Sec จะออกมาขัดขวาง จัดการพวกมันให้หมดแล้วหนีออกจากพื้นที่ก็เป็นอันจบภารกิจ


                                      (Side Mission) – An Ear to the Ground

ภารกิจเสริมของ Plastic นั้นสามารถรับได้ที่ตัวเธอที่ตึกที่ซ่อนตัวของเธอ หรือจะมารับภารกิจที่จุดรับที่ใกล้ๆกับจุดเริ่มภารกิจ Top of the World ที่ผ่านมา งานที่ Plastic ให้ทำก็คือ การขยายเครื่อข่าย Metagrid ของเธอด้วยการตามเก็บ Data Point ที่เป็นลูกกลมแดงๆในฉากให้ครบ 10 อันก่อนที่ Firewall หรือเวลาจะหมดนั่นเอง อาจจะดูอยากหน่อยแต่ถ้าลองจำตำแหน่งลูกแดงที่จะเก็บดีๆก็จะสามารถเก็บได้หมดทันตามเวลา


                                        (Side Mission) – GridNode Rezoning

ในแผนที่จะเริ่มมีจุด GridNode ขึ้นมาที่เขตก่อสร้างเป็นรูปกากบาทแดง แวะเข้าไปแฮกข้อมูลของระบบซะ ซึ่งก็คือการปีนห้องเก็บ CCU ไปด้านบนจนถึงแผงควบคุมที่อยู่ด้านบนสุดเมื่อทำการแฮกระบบ GridNode ได้แล้วก็จะทำให้ Safehouse ตรงสุดเขตก่อสร้างฝั่งตะวันตกสามารถใช้ Fast Travel ได้แล้ว






                                          [Main Mission]  – PAY BACK

Nomad จะติดต่อมาเพื่อยืนยันข่าวกับเรื่องที่พวก Kruger ถล่มฐานจนย่อยยับ และจะแจ้งว่าพวก K-Sec ได้ติดตั้งเสาสื่อสาร Antenna ไว้ที่ใกล้ๆฐาน The Lair Faith จึงไม่รอช้าที่จะเข้าไปทำลายมันเพื่อแก้แค้นที่มายึดฐานของพวกเธอ ซึ่งจุดรับภารกิจหลักนี้จะอยู่ที่จุทำภารกิจเลย โดยภารกิจนี้จะต้องวิ่งลุยผ่าน The Lair ฐานหลักเดิมของ Runner ที่ถูก K-Sec บุกยึด ด้านในฐานเก่าจะเต็มไปด้วยพวก K-sec และปืนกลอัตโนมัติ Sentry Drone วิ่งหลบลุยเข้าไปในฐานแล้วทะลุออกทางหน้าต่างมาทางส่วนหลังของฐานก็จะพบจุดที่เสาสื่อสาร Antenna ตั้งอยู่พร้อมพวก K-Sec มากมายและป้อมปืนกลอัตโนมัติ Sentry Drone อีก 3 จุดในพื้นที่ พยายามวิ่งหลบเข้าไปปิดระบบปืนที่กล่องควบคุมข้างๆปืนทั้ง 3 จุดให้หมดก่อน จากนั้นก็จัดการพวก K-Sec จำนวนมากให้หมดแล้วทำลายเสาสื่อสาร Antenna ที่เหลือก็คือวิ่งหนีออกจากพื้นที่ให้พ้นจากการไล่ล่าของ K-Sec ก็เป็นอันจบภารกิจ


                                        [Main Mission]  PRISONNER X

Dogen – Faith นี่ชั้นเองนะ Dogen ชั้นมีข่าวมาบอกจากทุกข้อมูลที่พอจะรวบรวมมาได้ ข่าวเกี่ยวกับ Noah ตอนนี้การตายของเขากำลังจะถูกทำเป็นข่าวใหญ่เพื่อประโคมข่าวถึงเรื่องศักยภาพของพวก Kruger ข่าวยังไม่ยืนยันนะ แต่ Noah เขายังไม่ตาย แต่อาจถูกพาไปที่สถานกักกันใน greylands เพื่อคุมขังและรอการประหารให้เป็นหน้าเป็นตาของ Kruger แนะนำในฐานะผู้เชี่ยวชาญเลยนะ ยัยผู้หญิงที่เธอจับมาต้องสามารถบอกที่ซ่อนตัว Noah ได้แน่นอน อ่อ แล้วก็ หลังจากเสร็จธุระของเธอแล้วเรามาคุยเรื่องข้อตกลงเกี่ยวกับการแลกเปลี่ยน Blueprint
ของเธอกัน ...

Dogen ติดต่อมาบอกข่าวสำคัญกับ Faith เกี่ยวกับ Noah หลังจากจบภารกิจ PAY BACK ทำให้ Faith รีบเดินทางไปสอบสวน Isabel ที่ถูกขังอยู่ในฐานใต้ดิน SANCTUARY เพื่อพยายามถามที่ซ่อนตัวของ Noah ที่พวก K-Sec จับตัวไว้ ...


Isabel – เธออีกแล้ว
Faith – ผิดหวังหรอ ?
Isabel – ชั้นไม่สนใจหรอก ยังเธอก็ตายแน่ไม่นานหรอก พ่อชั้นมีแผนจะบุกเข้ารื้อทำลายที่นี่เร็วๆนี้แหละ
Faith – รวมทั้งลูกสาวผู้สื่อสัตย์ของเขาด้วยใช่มั๊ย ? ชั้นมันใจว่าเธอจะต้องเป็นนักบริหารที่ดีในซักวันแน่เลย
 Isabel – ก็แล้วแต่จะคิด เธอต้องการอะไรกันแน่ ?
Faith – เพื่อนชั้นที่คนของเธอจับไป ชั้นรู้ว่าเขายังไม่ตาย
Isabel – ใช่ เขายังอยู่ดี แต่เธอจะไม่ได้เห็นเขาอีกแล้วละ
Faith – เขาอยู่ที่ไหน ?
Isabel – ทำไมเธอไปถามพ่อชั้นละเขายิ่งอยากจะคุยกับเธอจะตาย 
Faith – แน่นอนเขาอยากคุยกับชั้น แต่ชั้นกำลังถามเธออยู่นะ นี่ ถ้าข้อมูลที่ว่ามีจริงๆ ชั้นจะหาทางให้เธอออกจากที่นี่ 
Isabel – ชั้นไม่รู้ว่าเพื่อนเธอถูกขังอยู่ที่ไหน แต่บันทึกหลักต้องมีแน่นอนใน Kruger mainframe แน่นอน ยังไงก็ของให้โชคดีแล้วกัน
Faith – อย่างชั้นไม่จำเป็นต้องพึ่งโชคหรอก



หลังจากตกลงกับ Isabel ได้แล้ว Faith จะติดต่อขอความช่วยเหลือจาก Plastic ทันทีเพื่อให้ช่วยแฮกระบบรักษาความปลอดภัยของ Kruger HQ หรือ The Dogs ฐานใหญ่ของพวก Kruger


-จากนั้นวิ่งไปตามทางของระบบนำทางจนถึงตึกที่อยู่ในเขตตอนเหนือของเมือง ในโซน Ocean Pire ชุมชนของบริหาร Kruger ใกล้อ่าว Regatta และเป็นสถานที่ตั้งตึกศูนย์บัญชาการณ์ใหญ่ Kruger HQ ด้วย วิ่งต่อไปตามระบบนำทางไปตามตัวตึกในขณะที่ Plastic กำลังแฮกระบบของเครื่องบินลาดตระเวนของ K – Sec วิ่งต่อไปตามทางจนถึงจุดเป้าหมายที่ Plastic นำเอา เครื่องบินลาดตระเวนของ K – Sec ที่ควบคุมได้มารับ เพื่อเกาะไปที่ตึก VTOL ซึ่งเป็นตึกที่ใช้เกมเมนเฟรมฐานข้อมูลทั้งหมดของ K- Sec โดยเมื่อลงมาถึงยอดตึกแล้ว วิ่งไปตามระบบนำทางที่ Plastic เซ็ตมาให้ เข้าไปในตึกลงไปตามทางช่องลิฟต์ไปจนถึงห้องทำความเย็นให้ห้อง Server แล้วเข้าทางช่องพัดลมระบายอากาศที่ไม่หมุนไปด้านต่อจนถึงห้อง Main Frame หลักที่เก็บ Server ข้อมูลทั้งหมดของ K – Sec ที่เรียกว่า Big Dogs จากนั้นก็วิ่งไต่ปีนเข้าไปจนถึงตัวควบคุมหลักเพื่อดาวโหลดข้อมูลที่ต้องการมา


 ซึ่งเป้าหมายของ Faith นั้นคือ รายชื่อนักโทษและสถานที่คุมขังนักโทษเพื่อหาตัว Noah ที่พวกมันจับไป แต่ที่เธอลืมไม่ได้คือบางอย่างที่คาใจนั่นก็คือประวัติของ Isabel Kruger เธอจึงให้ Plastic แฮกเข้าไปดึงข้อมูลมาพร้อมกัน 

-เมื่อได้ข้อมูลที่ต้องการมาแล้ว ก็ต้องหนีออกจากที่นี่โดยวิ่งไปตามระบบนำทางจนถึงสถานีรถไฟใต้ดิน ที่นี่จะเต็มไปด้วยพวก K – Sec มากมายและรถไฟที่จะใช้ในการหนีก็ยังไม่เข้ามา Faith จึงต้องออกไปลุยกับพวก K- Sec ซึ่งมีทุกระดับจนถึง Sentinel พยายามสู้ไปจนกว่า Plastic จะแจ้งว่ารถไฟพร้อมเข้ามาจอดแล้ว ก็รีบโดดขึ้นรถไฟใต้ดินหนีไปได้เลย

และหลังจากหนีมาพ้นแล้ว Faith จึงรีบเช็คข้อมูลที่ได้มาจาก Plastic ว่า Noah ถูกจับตัวไว้ที่ไหน ซึ่งจากข้อมูลที่ได้มาจะรู้แค่ว่า Noah ถูกจับไว้ที่สถานที่ที่ชื่อว่า “The Kingdoms” ส่วนข้อมูลของ Isabel Kruger ต้องใช้เวลาถอดรหัสข้อมูลก่อนจึงจะทราบข้อมูล ข่าวดีคือตอนนี้ Faith รู้แล้วว่าตอนนี้ Noah และพวกฟ้อง Runner ถูกขังไว้ที่  “The Kingdoms” แต่ข่าวร้ายคือ Faith ไม่รู้ว่า “The Kingdoms” มันอยู่ที่ไหน แต่คนที่รู้นั้น Faith นั้นมีในใจ นั่นก็คือ Dogen หัวหน้าแก็งค์มาเฟียผู้กว้างขวางด้านข้อมูลข่าวสารนั่นเอง 


**หลังจบภารกิจ จะมีภารกิจใหม่ขึ้นมาในแผนที่คือ ** 
1 ภารกิจหลัก KINGDOMS COME
2. ภารกิจย่อย Finger on the fulse ของ Plastic 
3.จุด GridNode The View ทางทิศเหนือของเมือง 


                                      (Side Mission) – An Ear to the Ground

ภารกิจเสริมของ Plastic นั้นสามารถรับได้ที่ตัวเธอที่ตึกที่ซ่อนตัวของเธอ หรือจะมารับภารกิจที่จุดรับที่ใกล้ๆกับจุดเริ่มภารกิจ Top of the World ที่ผ่านมา งานที่ Plastic ให้ทำก็คือ การขยายเครื่อข่าย Metagrid ของเธอด้วยการตามเก็บ Data Point ที่เป็นลูกกลมแดงๆในฉากให้ครบ 6 อันก่อนที่ Firewall หรือเวลาจะหมดนั่นเอง งานนี้ต้องเก็บแค่ 6 อันแต่ว่าแต่ละอันจะอยู่สูงและต้องใช้การกระโดดขึ้นไปเก็บเกือ่บทั้งหมด




                                         (Side Mission) – GridNode The View 

ในแผนที่จะเริ่มมีจุด GridNode ขึ้นมาที่เขตของ Kruger เป็นรูปกากบาทแดง แวะเข้าไปแฮกข้อมูลของระบบซะ ซึ่งก็คือการปีนห้องเก็บ CCU ไปด้านบนจนถึงแผงควบคุมที่อยู่ด้านบนสุดเมื่อทำการแฮกระบบ GridNode ได้แล้วก็จะทำให้ Safehouse ในโซนตรงใกล้อ่าว Regatta ทางทิศเหนือสามารถใช้ Fast Travel ได้แล้ว

      





                                        [Main Mission]  – KINGDOMS COMES



เดินทางไปที่จุดรับภารกิจที่ตึกของ Dogen 




Dogen – Faith ชั้นกำลังหงุดหงิดนะบอกไว้ก่อน เอา Blueprint มารึเปล่า
Faith – เปล่า แต่ชั้นมาขอให้ช่วยหน่อย
Dogen – แล้วก็ที่อยู่ใหม่ จากที่ได้ยินมานะ เธอจะให้ชั้นให้ฝ่ายเดียวโดยที่เธอไม่ให้อะไรตอบแทนกันเลยใช่มั๊ย ?
Faith – ได้โปรด ชั้นกำลังตามหาสถานที่ที่นึงที่ชื่อ The Kingdom พวกมันจับ Noah ไว้ที่นั่น 
Dogen – Kingdom หรอ ? สถานที่ลับที่แสนสกปรกของไอ้พวก Conglomerate 
Faith – คุณรู้หรือเปล่าว่ามันอยู่ที่ไหน ... ชั้นจะวิ่งให้คุณ ทำงานให้คุณ 5 ปีแบบไม่ถามอะไรเลย 10 ปี เอ้า หรือ 20 ปีก็ได้ 
Dogen – เธอคงจะไม่ได้มีชีวิตอยู่นานขนาดนั้นหรอก ... ไปที่Rezoning แล้วลงลึกลงไปชั้นล่างเรื่อยๆ แล้วเธอก็จะเจอ The Kingdom 
Faith – ขอบคุณคะ 



Plastic – เฮ้ Faith ยังอยู่มั๊ย ชั้นได้ข้อมูลของยัย Isabel มาแล้ว จริงๆเธอไม่ใช่ลูกแท้ๆของ Gabriel Kruger นะ เธอถูกรับมาเลี้ยง ชื่อจริงๆเธอคือ Caitlyn Conner นามสกุล Conner เหมือนเธอด้วย แล้วถ้าเกิดว่าเธอ ... 
Faith – เดี๋ยวชั้นจะไปถามกับเธอเอง 
Plastic – จริงๆชั้นก็แอบคิดไปว่า Caitlyn อาจจะเป็นน้องของเธอ แต่น้องเธอ เอ่อ . โทษที  

-หลังจากที่ได้ข้อมูลจาก Plastic ถึงเรื่องตัวตนที่น่าตกใจของ Isabel แล้ว Faith จึงเดินทางกลับไปยัง– SANCTUARY ฐานใต้ดินของพวก Black November ทันทีเพื่อเข้าไปคุยกับ Isabel ที่ห้องขัง แต่การ์ดจะบอกว่าเธอถูก Rebecca นำตัวไปประหารแล้ว ...


           
Faith – อย่า !!
Rebecca – อย่ายุ่ง Faith ชั้นกำลังจะส่งข้อความไปให้ Kruger 
Faith – งั้นก็ควรจะยิงชั้นด้วย 
Rebecca – เธอควรระวังให้มากๆๆ ถ้าจะพูดอะไรต่อมานะ
Faith – เธอไม่ใช่ลูกของ Kruger เธอชื่อ Caitlyn Conner เป็นน้องสาวชั้นเอง ชั้นคิดว่าเธอเองก็รู้
Caitlyn – ที่ชั้นรู้ ถ้าอากาศที่นี่ถูกปิดจนหมดชั้นเองก็ต้องตายด้วยเหมือนกัน เพราะงั้นก็ฆ่าชั้นให้มันจบๆไปซะที !!!



Rebecca – จัดให้ !!
Faith – ได้โปรด Rebecca Noah ถูกจับอยู่ที่ The Kingdom ชั้นจำเป็นต้องไปช่วยเขา ในขณะเดียวกันคุณก็อาจใช้เธอพาไปที่ Topside ของ Kruger ได้เหมือนกันนะ 
Rebecca – พวกเราเสียคนของเราไปกับการต่อสู้ครั้งนี้มากมาย Faith
Faith – ชั้นจะให้สิ่งที่คุณต้องการ รู้นะหมายถึงอะไร
Rebecca – ให้เวลาถึงเช้า และ อย่าทำให้ชั้นผิดหวังด้วย 

     

-คุยจบวิ่งเข้าไปตามทางด้านในที่จุดเริ่มภารกิจจะเจอ Isarus รออยู่ ในขณะที่ Isarus พร้อมที่จะลุยเป็นเพื่อนเพื่อไปช่วย Noah แต่ Faith จะบอกความจริงว่า Isabel Kruger คือ Caitlyn น้องสาวของเธอเอง และขอร้องให้ Isarus รออยู่ที่นี่เพื่อคอยดูแลน้องของเธอจนกว่าเธอจะช่วย Noah กลับมา นั่นทำให้ Isarus ตกใจถึงเรื่องที่รู้แต่ก็เต็มใจที่จะทำตามที่ Faith บอก
-รับภารกิจแล้ว Plastic จะเปิดประตูชั้นในของท่อระบายน้ำให้ วิ่งเข้าไปตามทางด้านในผ่านเขตสกปรกลงร้างไปจนถึงทางเข้าอาคารขนาดใหญ่สุดทันสมัยที่อยู่ใต้ท่อระบายน้ำ ลุยจัดการพวก Kruger Sec ตามทางเข้าไปถึงส่วนของที่คุมขังนักโทษ ใช้เชือกดึงพื้นด้านบนออกแล้วโดดกลับหลังปีนขึ้นไปด้านบน Faith จะพบกับ Aline ที่ถูกขังอยู่ที่นี่



Aline – เฮ่ๆ เธอคือ Faith Conner ใช่มั๊ย 
Faith – เหมือนชั้นเคยเห็นคุณมาก่อนนะ
Aline – ชั้นชื่อ Aline Maera เป็นหัวหน้านักวิจัยใน Reflection แต่ชั้นมีคำถามมากไปตั้งแต่วันที่เธอขโมย Blueprint นั่นไปเลยถูกจับมาขังที่นี่ 
Faith – ชั้นไม่เข้าใจอ่ะ Reflection คือเส้นทางใหม่ที่จะเชื่อมต่อไปที่ The Grid หรอ ? ทำไมแม่งถึงมีแต่คนอยากได้กันนัก
Aline – เพราะถ้าพวกคุณไปต่อไปต่อไม่ได้ พวกกลุ่มทุนก็จะชนะใสๆ พวกมันจะตามติดการกระทำของทุกๆคน พวกมันมีอธิพลอย่างสูงที่จะโน้มน้าวทำให้ผู้คนรู้สึกดีไปกับมันได้ จุดจบของเสรีภาพของทุกๆคนจะจบลงจริงๆแล้วคราวนี้ Kruger ใช้เวลาทำเรื่องนี้ถึง 20 ปี พวกมันได้ อินเตอร์เฟท อัลกอริทึ่ม ทั้งหมดมาจากเซลสมองของแม่เธอ .. Faith เธอต้องช่วยชั้นออกจากที่นี่ด้วย 
Faith – เดี๋ยวๆ คุณรู้จักของชั้นด้วยหรอ ?
Aline – Erika หรอ ? เราเคยร่วมงานกันมานานแล้ว Reflection นี่ก็เป็นผลงานของแม่เธอ ว่าแต่ เธอมาที่นื่ทำไม ?
Faith – ชั้นมาหาพวก Runner เพื่อนของชั้นชื่อ Noah 
Aline – เห็นพวกมันเอาตัวเขาไปสอบสวนเมื่อชั่วโมงที่แล้ว ฟังนะ ชั้นกับพวกสามารถช่วยเธอทำลายแผนของพวกมันได้ ได้โปรด ช่วยปล่อยพวกเราด้วย 
Faith – แน่นอน ปุ่มปิดระบบรักษาความปลอดภัยอยู่ที่ไหน ?

-คุยจบไปปิดระบบรักษาความปลอดภัยที่แผงควบคุมใกล้ๆเพื่อให้ประตูคุกทั้งหมดเปิดออก จากนั้นวิ่งไต่ปีนเข้าไปตามทางด้านในจนถึงห้องสอบสวนจะพบ Kruger กำลังทรมาน Noah อยู่พอดี



ไม่นาน Kruger ก็ออกจากห้องแล้วให้ผู้คุมทรมานต่อเพื่อให้ Noah ยอมบอกที่ซ่อนของ Blueprint ออกมาให้ได้ 





แต่เมื่อ Faith พยายามหาทางที่จะเข้าไปในห้องจนสำเร็จหลังจากจัดการผู้คุมได้ก็รีบช่วย Noah เพื่อพาเขาหนีทันที แต่ดูเหมือนจากการที่ Noah โดนทรมารอย่างเหี้ยมโหดมาหลายวันเลยทำให้เขาไม่สามารถทนความเจ็บปวดไหวจึงสิ้นใจตายไปต่อหน้า Faith เสียก่อน จนพวกของ Aline ที่หนีออกจากคุกได้แล้วจะตามมา



Aline – Faith ….
Faith – เขาตายแล้ว .. Kruger มันฆ่าเขา 
Aline – และมันก็จะทำแบบนี้กับคนอีกมากมายต้องเจ็บปวดด้วย Reflection ร่วมมือกับชั้น ปลดปล่อยทุกคนด้วยการทำลายแผนของ Kruger หยุดเรื่องเลวร้ายทั้งหมดนี่ แต่ตอนนี้เราคงต้องไปหลบภัยที่ฐานของ Black November กันก่อน ไปกันเถอะ
Faith – K – Sec มาแล้ว พวกคูณหนีไปกันก่อน เดี๋ยวชั้นขอระบายกับพวกมันหน่อยนะ !!! 

-จัดการพวก K – Sec ที่ออกมาให้หมด แล้วหนีออกไปตามทางกลับไปที่ฐานของ Black November เพื่อคุยกับทุกคน




Isalus – ชั้นรู้ข่าวแล้ว แม่งเอ้ย .. 
Faith – นายเป็นอะไรอ่ะ เกิดอะไรขึ้นที่นี่
Isalus – พวกเราลุยไปที่ Topside ตามที่ได้ข้อมูลจากน้องเธอบอก แต่ไม่ไหวสุดท้ายก็เดี้ยงกลับมาเนี้ย อาวุธใหม่อะไรซักอย่างของพวกมัน เพื่อนใหม่เธอบอกว่ามันน่าจะเป็น Reflection
Faith – น่าจะเป็นแบบนั้น มาเถอะ
Rebecca – เธอคิดยังไงถึงพาคนของพวกมันลงมาถึงที่นี่ จะเอาไฟมาที่นี่ให้พวก K-Sec มันบุกมาถล่มรึไง



Aline – ชั้นก็บอกไปแล้วไงว่าตัวจับสัญญาณจะไม่ทำงานถ้ามันลึกขนาดนี้ 
Rebecca – ตอนที่บุกไปที่ Topside แค่เจอพวก K-Sec ไม่กี่นาทีพวกเราก็เสียคนดีๆไปเยอะเลย !
Faith – ไม่ใช่คุณคนเดียวหรอกที่สูญเสีย 
Rebecca – และเธอก็จะไม่ให้ Blueprint นั่นกับชั้นด้วยใช่มั๊ย? แต่ชั้นก็จะหาทางแก้แค้นให้คนของชั้นให้ได้ไม่ว่าจะด้วยทางไหนก็เถอะ คอยดู จำคำพูดชั้นไว้ด้วย Lofty Tower ไม่มีทางคุ้มหัวพวกมันอยู่ได้นานหรอก !!!



Aline – Faith ตราบใดที่ระบบ Reflection ยังไม่ถูกทำลาย เราก็เหมือนเป็นนักโทษอยู่ข้างล่างนี่ ชั้นมีทางยุติเรื่องทั้งหมดได้ด้วยการทำลาย Reflection แต่ชั้นต้องการ Blueprint นั่น 
Faith – ตอนนี้คุณไปซ่อนตัวที่รังของ Plastic ก่อนแล้วกัน Isarus จะนำทางไปเอง 



ภาพในอดีตก็ยังตามหลอกหลอนมาในความฝันทุกครั้งยาม Faith หลับ ภาพที่เธอกำลังหนีเอาตัวรอดหลังจากต้องทิ้งน้องสาวนอนอยู่กลางถนนที่เต็มไปด้วยแก็สน้ำตาอย่างรู้เท่าไม่ถึงการณ์เพราะคิดว่าน้องเธอได้ตายไปแล้ว 




จนทำให้ไปเจอกับ K – Sec ระหว่างทาง ด้วยทั้งความกลัวและโกรธแค้น Faith จึงแย่งปืนเขามาและกระหน่ำยิงจนตายคาที เหลือเพียงแผลเป็นที่มือของชายที่เธอยิงเป็นสิ่งย้ำเตือนจิตใจ ก่อนที่ Noah จะเข้ามาช่วยพาเธอไปเริ่มชีวิตใหม่จนถึงปัจจุบัน ...





ก่อนที่จะสดุ้งตื่นจากภาพฝันร้ายพร้อมคราบน้ำตา ไม่นาน Dogen ก็ติดต่อมาให้ Faith เข้าไปพบเพื่อทำงานตอบแทนข่าวที่เคยได้จากเขาบ้าง ...



                                          [Main Mission] – Family Matter



วิ่งเดินทางไปที่จุดรับภารกิจเพื่อพบ Dogen ทึ่ตึกของเขา



Faith – ถอยไป !! ทำไม จะหักขาชั้นหรอ ดี มันจะได้จบๆไป
Dogen – เธอควรทำงานที่เธอเริ่มไว้ให้เสร็จเสียก่อนนะแล้วค่อยถูกหักขา ถ้าเธอต้องการ
Faith – มันไม่มีงานอะไรอีกแล้ว Noah ตายแล้ว !!!  แม่ชั้นสร้างระบบ Reflection เพื่อครอบงำประชาชน แล้วน้องสาวก็ทำงานให้กับ Kruger ชั้นเหลือตัวคนเดียวแล้ว 
Dogen – และถ้าให้ ระบบ Reflection มันสำเร็จ เธอจะมีเพื่อนที่ต้องตายอีกเยอะ ยุคของโลกใหม่กำลังมา Faith มันไม่ใช่แค่เรื่องของชั้นหรือของเธอแล้ว นอกจากเราจะหาทางหยุดมัน 
Faith – เราหยุด Reflection ไม่ได้ !!!
Dogen – ใช่หรอ ชั้นเคยได้ยินมาเธอทำได้นี่ ชั้นรู้มาจาก Plastic ยัยเด็กอัจฉริยะจอมแฮกเพื่อนเธอ เธอบอกชั้นว่า เราต้องใช้ Gridprint ส่วนตัวของ Kruger เพื่อแฮกผ่านเข้าไป 
Faith – ใช่ ก็ถึงบอกว่ามันเข้าไปไม่ได้ไง
Dogen – นอกเสียว่าเป็นสุดยอดรันเนอร์ระดับเซียน ชั้นมีพิกัดแผนที่ของอาพาร์ทเมนท์ส่วนตัวของ Kruger ที่ The View ที่นั่นเธอสามารถเข้าไปเชื่อมต่อระบบผ่านเครื่อข่ายของครอบครัว Kruger ได้ 
Faith – อาพาร์ทเมนท์ส่วนตัวของ Kruger จะบ้าหรอ !! มันจะเข้าไปได้ไงพวก K – Sec คุ้มกันอยู่เต็มไปหมด 
Dogen – ชั้นเสียใจนะที่มองเธอผิดไป ที่เธอกลายเป็นคนที่ขาดความมั่นใจในฝีมือตัวเองไปซะงั้น ไม่น่าช่วยเธอออกมาจากที่นั่นเลย
Faith – เดี๋ยว หมายความว่าไง ?



Dogen – มันจะมีเรื่องอะไรอีกละ !!!! …. ชั้นเคยรู้จักเด็กผู้หญิงคนหนึ่งที่กล้าพอที่จะท้าทายกับทุกคนแม้กระทั่งกับชั้น ที่ยอมทำงานทุกอย่างไม่ว่าดีหรือชั่ว แต่เธอพ้นจากตรงนั้น เธอบริสุทธิ์แล้ว เธอไม่ใช่เด็กคนนั้นแล้ว เธอมันก็แค่คนใจสลาย เอาภาพวาดของแม่เธอคืนไป แล้วไปซะ หรือไม่ก็แสดงให้เห็นฝีมือของ Faith คนเดิมที่ชั้นรู้จักให้ดูหน่อย 
Faith – คุณเคยแคร์เรื่องความถูกต้องตั้งแต่เมื่อไหร่  ??
Dogen – เมื่อเรามีผลประโยชน์ร่วมกันไง .. ทำไมเธอยังยืนอยู่ที่นี่อีกละ
Faith – เพราะว่าคุณเข้าใจผิด ชั้นไม่ได้จิตใจแตกสลาย !
Since
Dogen – พิสูจน์สิ 
Faith – แน่นอนอยู่แล้ว !! 




- จากนั้นมุ่งหน้าไปในเขตเหนือ ในโซน Ocean Pire ชุมชนของบริหาร Kruger ใกล้อ่าว Regatta จะเป็นตึกที่พักอาศัยส่วนตัวของ Gabriel Kruger ซี่งแน่นอนว่าจะเต็มไปด้วยการรักษาความปลอดภัยอย่างหนาแน่น Plastic จึงนำทางให้เข้าไปยังทางรัดโดยผ่านทางพิพิธภัณฑ์ Malus Museum แทน ซึ่งภายใน พิพิธภัณฑ์ก็จะเต็มไปด้วยพวก K- Sec เต็มไปหมดไม่ต่างกัน วิ่งลุยพวกมันผ่านไปโดยมีจุดหมายที่ทางเข้าท่อระบายอากาศที่อยู่ชั้นบนสุด เพื่อมุดเข้ามาด้านในจะทะลุมาที่ห้องโถงอีกด้านของพิพิธภัณฑ์ จากนั้นก็ลุยลงไปที่จุดเป้าหมายชั้นล่างสุดที่โถงลิฟต์เพื่อขึ้นลิฟต์ต่อไปยังส่วนอาพาร์ทเมนท์ของ Kruger เข้าไปด้านในห้องทำงานก็จะพบคอมที่สามารถดาวโหลดโปรแกรม Shot Gunใส่เข้าไปใน Gridprint ส่วนตัวของ Kruge ผ่าน Network ส่วนตัวของครอบครัว Kruger ได้แล้ว แต่เหมือน Kruger ได้เตรียมการณ์เอาไว้แล้ว เพราะหลังจากที่ Faith โหลดข้อมูลมาเสร็จ Kruger ก็ได้ติดต่อกลับมาหาเธอทันที



Gabriel Kruger – Faith Connor นึกยังไงที่มาเยี่ยมเยียนกันถึงที่บ้านเลย ผมต้องขอโทษด้วยต้องเสียมารยาทในการพบกันครั้งแรกของเราที่ไม่ได้มาต้อนรับด้วยตัวเอง เธอกับน้องช่างเหมือนกันมากๆ 
Faith – ตอนนี้เธอจำชั้นไม่ได้แล้วเพราะแกล้างสมองเธอไง
Gabriel Kruger – ผมช่วยเธอด้วยความสามารถทุกอย่างที่มี เสริมด้วยการศึกษาที่ดีและแนวคิดในการเป็นผู้นำที่เหมาะสมด้วย ก็อย่างที่พ่อทุกคนควรจะทำให้ลูกสาวนั่นแหละ
Faith – เว้นแต่ว่าเธอไม่ใช่ลูกแก Kruger แกจะฆ่าครอบครัวของพวกเรามากเท่าไหร่ถึงจะพอ แล้วก็ทำน้องสาวชั้นเหมือนเป็นแค่ถ้วยรางวัลบ้าๆของแก 
Gabriel Kruger – ผมช่วยชีวิตเธอต่างหาก คุณเป็นคนทิ้งเธอนะ จำไม่ได้หรอ ? ไม่ต่างกับพ่อแม่ของเธอที่โชคไม่ดีในวันที่เกิดความวุ่นวายนั่น  
Faith – ชั้นอยู่ที่นั่นด้วย แม่ชั้นต่อต้านแก แล้วแกก็สั่งฆ่าแม่ชั้น 
Gabriel Kruger – แม่เธอเป็นนักวิทยาศาสตร์ชั้นหัวกระทิของเราแบบที่หาใครแทนไม่ได้ แต่ก็เหมือนโชคชะตาจะทำให้ทุกคนจดจำเธอได้ด้วยงานวิจัยที่เธอทิ้งเอาไว้นี่ไง 
Faith – ผลงานที่แกจะเอาไปทำให้ทุกคนกลายเป็นทาสนะสิ !
Gabriel Kruger – เธอไม่เคยเข้าใจและรับรู้อะไรเลยจริงๆ Faith สิ่งนี้จะเป็นเสาหลักเชื่อมโยงเมืองให้เป็นหนึ่งเดียว ไม่ใช่เอาตัวเองเป็นจุดศูยน์กลางของโลกแบบเธอ ..... ตูมม !!!!! …. ตึกกำลังระเบิด นั่นฝีมือเธอ ภาษาที่เธอและพวกของเธอสื่อให้คนทั้งเมืองได้เห็นมาตลอด การทำลายล้าง ไงละ !!



-ทันทีที่ Kruger ระเบิดตึกของตัวเองเพื่อป้ายความผิดให้กับ Faith และพวก Runner หมายจะสร้างสถานการณ์เพื่อประกาศใช้ระบบ Reflection พวก K – Sec ก็เปิดฉากไล่ล่า Faith ทันที จากนั้นก็หนีจากพื้นที่ความวุ่นวายให้พ้น แล้วกลับเอาไฟล์ข้อมูลกลับไปให้ Plastic ที่รังของเธอ





Faith – ชั้นได้ Gridprint มาแล้ว 
Plastic – รีบเอามานี่เลย
Aline – Faith เราต้องเอา Gridprint ของ Kruger ผสมเข้ากับ nanite ของเราเพื่อหยุดระบบสั่งการตั้งต้น ก่อนที่ The Shard จะพังลงมา 
Isalus – แล้วมันจะเป็นไรไปถ้า The Shard มันจะถล่มลงมาอ่ะ 
Aline – เพราะ Faith ต้องขึ้นไปบนนั้นเพื่อปล่อยไวรัสใส่ระบบมันน่ะสิ
Plastic – ว้าว Gridprint อันนี้เชื่อมต่อได้ทุกอย่างเลย อยากรู้อะไรเข้าดูได้หมด ทั้งรายชื่อภารกิจ รายชื้ออาวุธทั้งหมด แล้วก็ Project Ares นี่มันอะไรหว่า ?
Aline – เอา Reflection ก่อนเลย แต่คงจะใช้เวลานาน เราจะติดต่อไปถ้าไวรัสพร้อมแล้วนะ Faith น่าจะไม่นานหรอก


                                  (Side Mission) – Complete Coverage 

ภารกิจเสริมของ Plastic ที่ขึ้นมาในแผนที่ ก็คืองานที่ Plastic ให้ทำก็คือ การขยายเครื่อข่าย Metagrid ของเธอด้วยการตามเก็บ Data Point ที่เป็นลูกกลมแดงๆในฉากให้ครบ 9 อันก่อนที่ Firewall หรือเวลาจะหมดนั่นเอง ซึ่งงานนี้จะเป็นงานสุดท้ายของ Plastic จะให้ทำแล้ว ที่ต้องเก็บมี 9 ลูก เริ่มจากลูกแรกด้านบนสุด มาเก็บลูกที่ 2 โดยการโดดกลับหลังกับพนังทางขวา แล้ววิ่งไปไต่พนังโดดลงไปเก็บ 3 ลูกที่ลอยบนอากาศลงไปด้านล่าง โดดกลับกับเก็บลูก 6 ที่ลอยอยูใกล้ๆ แล้ววิ่งไปเก็บลูกที่ 7 กลางลาน โดดไปเก็บลูกที่ 8 ด้านล่างและไต่พนังเก็บลูกที่ 9 สุดท้ายก็จะพบภารกิจ



                                        (Side Mission) – Exit Strategy 




เข้าไปที่จุดรับภารกิจจาก Beatrix Bloch ที่ย่านคนรวยทางทิศเหนือ เธอต้องการให้ไปติดเครื่องดักฟังที่บ้านและที่ทำงานของว่าที่สามีที่เธอกำลังแต่งงานด้วย เพราะเธอได้ข่าวลือถึงการนอกใจ จึงอยากทำลงไปเพื่อเช็คให้แน่ใจก่อนแต่งงาน สิ่งที่ต้องทำก็คือลุยพวก K – Sec เพื่อไปติดตั้งเครื่องดักฟังตามจุดต่างๆในเป้าหมายให้ครบ 3 จุดก็จะจบภารกิจ



                                           [Main Mission] – TICKET PLEASE 

เข้าไปที่จุดรับภารกิจที่ตึก Sky City ในระหว่างที่รอ Reflection Virus Plastic ต้องการให้ Faith ไปจัดการอัพโหลดข้อมูลใส่ Transit Control Hub ที่อยู่รอบๆตึก Sky  City ก่อน โดยเสา Transit Control Hub จะมีทั้งหมด 3 เสารอบๆตึก ซึ่งเมื่อปีนขึ้นไปกดแท่นควบคุมบนเสาอันแรกแล้วต้องลุยพวก K – Sec ไปกดสวิตซ์ที่แท่นควบคุมบนยอดเสาอีก 2 จุดอย่างต่อเนื่องก่อนที่เวลา 3 นาทีจะหมดลง ก็จะสิ้นสุดภารกิจ ...





                                           [Last Mission] – THE SHARD


เข้าไปหาทุกคนที่รังของ Plastic เพื่อรับ Reflection Virus มาใช้ทำลายระบบ Reflection ซึ่งเป็นภารกิจสุดท้ายของ Faith




Faith – เป็นไง ไวรัส เสร็จรึยัง ?
Plastic – แน่นอน บอกว่าทำได้ก็ได้สิ 
Aline – นี่เป็น Console สำหรับใช้กับเครื่องควบคุมหลักที่ชั้นบนสุดของตึก The Shard จัดการอัพโหลดไวรัสที่นั่น เรื่องอัปยศทั้งหมดของพวกมันจะถูกเผยแพร่สู่สาธารณะทันที แล้ว Reflection nanited ก็จะค่อยๆทำงานช้าลงจนปิดระบบในที่สุด 
Plastic – เธอแค่วิ่งๆๆๆ ขึ้นไปจนถึงยอดตึกและดูแลตัวเองดีๆเท่านั้นเอง 
Faith – แค่นั้นเองว่ามั๊ย ฮ่าๆ 
Isarus – มันจะเป็นการวิ่งที่สุดยอดจนเธอไม่มีวันลืมเลยละ 
Faith – ถ้ารอดกลับมาอ่ะนะ ไม่มีเวลามากแล้วมีไรจะแนะนำสุดท้ายมั๊ย
Plastic – ห้ามตายนะ Faith 
Isarus – อย่างที่เธอว่าแหละ 
Aline – นี่เป็นโอกาสเดียวของเราที่จะทำลายระบบ Reflection
ไปเลยแม่หนู ช่วยพวกเราทุกคน

-วิ่งไปตามทางจนถึงเป้าหมายที่จุดเริ่มภารกิจที่ด้านในตึก Zephyr Station ซึ่งเป็นทางลงไปที่ทางรถไฟความเร็วสูง Faith จะใช้มันมุ่งหน้าไปที่ตึก The Shard ระหว่างอยู่บนหลังคาโบกี้รถไฟก็พยายามหลบไฟสัญญาณที่แล่นผ่านด้วยความเร็วด้วย
- เมื่อไปถึงส่วนล่างของตึกแล้วจะพบประชาชนส่วนล่างกำลังอพยพหนีภัยอยู่ วิ่งไปบนพื้นกระจกที่เปราะบางไปตามทาจนถึงลิฟต์ที่เลื่อนขึ้นด้านบนตัวตึก โดดไปมาระหว่างลิฟต์เพื่อเลื่อนไปด้านบนจนสุด ลุยเข้าไปในตัวตึกทะลุออกมาอีกด้านใช้เชือกเกี่ยวกับใบพัดขนาดใหญ่เพื่อดึงตัวขึ้นไปด้านบน เข้าไปในตัวตึกปีนไปตามท่อนเหล็กด้านในช่องลิฟต์จนถึงด้านบนจนมาออกที่สวนกลางอาคาร โดดโหนไปเกาะตึกอีกฝั่ง มุดเข้าช่องระบายอากาศเข้าไปจนถึงช่องลิฟต์ปีนขึ้นด้านบนจนสุดจะมาถึงส่วนบนของตึกที่ได้รับความเสียหายจากแรงระเบิด วิ่งไต่โหนดึงตัวด้วยเชือกขึ้นไปด้านบนของพื้นกระจกร้าวเรื่อยๆจนถึงด้านบน เดินไต่ลวดสลิงไปจนถึงใต้กังหันขนาดใหญ่แล้วรอจังหวะใช้เชือกเกาะดึงตัวขึ้นไปด้านบนเพื่อปีนต่อไปจนถึงส่วน Sky City เมื่อเข้ามาในโถงแรกจะพบพวก K – Sec มากมายอยู่ด้านในจนทำให้ Faith ต้องถอยกลับมาแล้วรอให้ Plastic เปิดช่องลิฟต์ให้เพื่อปีนหนีขึ้นด้านบนแทน ปีนขึ้นมาจนถึงทางออกระเบียงด้านนอกจะมีจุดใช้เชือกดึงตัวขึ้นไปเกาะปีนพนังตึกส่วนบนขึ้นไปจนถึงดาดฟ้าของตึกได้ เข้าไปที่ห้องด้านในก็จะเป็นห้องควบคุมหลักของตึกเป้าหมายที่ต้องการ Faith ไม่รอช้าที่จะทำการอัพโหลดไวรัสทันที และระหว่างที่ไวรัสทำการอัพโหลด Kruger พร้อม Sentinel 2 นายก็เข้ามาขัดขวางทันที


Gabriel Kruger – ก็ยังสงสัยอยู่ว่าเธอหวังว่าจะทำอะไรให้สำเร็จตามแผนของพวกเธอได้ไงจากที่นี่ 
Faith – ชั้นกำลังทำให้ประชาชนทุกคนมีสิทธิและเสรีภาพด้วยตัวของพวกเขาเองไง
Gabriel Kruger – ไม่เอานะ Faith อะไรที่ทำให้เธอคิดว่าประชาชนเขาไม่ต้องการระบบ Reflection น่ะ 
Faith – พวกเขาแค่ต้องการชีวิตที่ดี แต่แกก็ไปล้างสมองพวกเขาให้เห็นแต่ความสวยงามท่ามกลางสังคมแห่งความจริงที่น่าเกลียด 
Gabriel Kruger – แน่นอน ความจริงมันน่าเกลียดเสมอเธอเองก็รู้นี่ นี่เป็นงานที่แม่เธอตั้งใจทำเอาไว้แต่เธอก็จะมาทำลายมันซะนี่ 
Faith – แม่ไม่ได้ต้องการทำแบบนี้ ชีวิตแม่ไม่เคยต้องการขโมยเสรีภาพใคร แกต่างหากที่พาแม่ออกนอกลู่นอกทาง 
Gabriel Kruger – เธอจะมารู้ดีได้ไงว่าแม่เธอคิดยังไง เธอมันก็แค่เด็กน้อย ต้องการอย่างเดียวคือทำลายทุกอย่างรอบๆตัว โชคดีที่ชั้นสัญญากับน้องเธอไว้ว่าจะจับเป็นเธอ ยอมจำนนซะแล้วชั้นจะไม่เอาผิดเธอ 
Faith – ไม่มีวัน !!!

    

-จัดการ Sentinel 2 นายที่ Kruger ส่งมาสู้ให้หมด เมื่อจัดการได้แล้ว Kruger จะกลับมาแล้วพยายามดึงตัวอัพโหลดไวรัสออกจากแผงควบคุมแต่โชคดีที่ Faith เร็วพอที่จะเข้ามาขัดขวางได้ทัน


Gabriel Kruger – วิ่งเร็วจังนะ ชั้นไม่อยากฆ่าเธอเหมือนพ่อแม่เธอเลยจริงๆนะ
Faith – แกแพ้แล้ว Kruger แกควบคุมอะไรไม่ได้แล้ว 
Gabriel Kruger – Reflection ไม่ใช่เพื่อการควบคุมมันสร้างมาเพื่อความอยู่รอด !! 
Faith – เฉพาะแกกับโคตรเหง้าของแกละมั้ง ถึงเวลายอมแพ้และตายได้แล้ว !! 
Gabriel Kruger – ถ้าเธอทำลายระบบ Reflection ก็เหมือนกำลังทำลายน้องของเธอเอง 
Faith – ชั้นจะปลดปล่อยเธอให้เป็นอิสระต่างหากล่ะ
Gabriel Kruger – ไม่ทั้งหมดหรอก Isabel เธอเป็นโรคปอดเรื้อรัง และด้วย Reflection เราสามารถควบคุมอาการได้ ชั้นตั้งใจจะสร้างศูนย์รักษาไว้ที่ใกล้ๆอ่าวด้วย แต่เธอกลับจะทำลายมัน
Faith – แกโกหก !! 
Gabriel Kruger – ชั้นหรอโกหก เธอเองก็เกือบฆ่าน้องเธอมาครั้งนึงแล้วไม่ใช่หรอ ทำไมไม่ทำอีกครั้งให้มันจบๆไปเลยละ !! ทุกๆคนรอบๆตัวเธอตายหมด Faith และไอ้สิ่งที่มันเกิดขึ้นกับเธอ ถ้าอยากโทษใครซักคนก็โทษตัวเองเหอะ !!
Faith – หุบปาก !!! แกฆ่าพ่อแม่ชั้น แกฆ่าเพื่อนๆชั้น และแกฆ่า Noah 




Gabriel Kruger – Isabel !! รออะไรอีกละจัดการหยุดการอัพโหลดไวรัสแล้วฆ่าเธอซะ !! 



ในขณะที่ Isabel กำลังวิ่งไปทำลายตัวอัพโหลด การอัพโหลดก็เสร็จสิ้นพอดีจนทำให้ระบบ Reflection ดับลงไป Faith จะเห็นว่ามันส่งผลต่อการหายใจของ Isabel ทันที จนทำให้เธอต้องวิ่งหนีไป พยายามวิ่งตาม Cat ไปจนถึงดาดฟ้าตึกด้านล่าง Isabel จะบุกเข้ามาโจมตีใส่ Faith ทันที


Isabel – ชั้นเกลียดแก
Faith – หยุดนะ !! Cat
Isabel – ชั้นชื่อ Isabel เว้ย !!
Faith – เธอชื่อ Caitlyn Connor ลูกสาวของ Erika และ Martin และเธอเป็นน้องสาวชั้น 
Isabel – ชั้นไม่มีพี่สาว !! แกทิ้งชั้นวันนั้น !! 
Faith – Cat คือพี่ .....
Isabel – เขาบอกว่าเธอตายในเหตุประท้วงนั่นพร้อมๆกับพ่อและแม่ ชั้นร้องได้เป็นเดือน ก่อนจะพยายามเรียกความเชื่อมันในตัวเองกลับมาจนกลับมาแข็งแกร่งได้อีกครั้ง โดยที่ไม่มีแก !! มันเป็นทางเดียวที่ชั้นจะอยู่รอด 





Faith – มันเป็นคนฆ่าพ่อแม่เรานะ !! ชั้นเห็นกับตา แล้วก็ฆ่าอีกหลายพันคนในวันที่เกิดจารจลนั่นด้วย 
Gabriel Kruger – Isabel โดดขึ้นเครื่องมา !!
Faith – เธอไม่จำเป็นต้องฟังคำสั่งมัน เธออยู่กับพี่ของเธอแล้ว
Gabriel Kruger – นานพอแล้ว ยิงได้เลย !! 
Isabel – อย่าๆๆ !!

ในขณะที่ Kruger กำลังจะยิงเข้ามา Isabel ก็ออกมายืนขวางทางปืนให้ Faith จนทำให้ Kruger ลังเลไม่กล้ายิงมาจนแรงถล่มของตึกทำให้ซากปูนตกลงมาใส่เฮลิคอปเตอร์จนทำให้เสียการทรงตัวทำให้ Kruger ตกไปด้านล่างพร้อมๆกับพื้นที่ Isabel และ Faith ยืนอยู่ก็เริ่มถล่มลงมา Faith เสียหลักลื่นไถลลงไปจนเกือบจะตกขอบตึกแต่ Isabel ก็มาคว้ามือ Faith เอาไว้ได้ทัน ในขณะที่เสียงเรียกของ Kruger ที่ยังรอดชีวิตก็เรียกให้ Isabel ไปช่วยจากอีกด้าน



Gabriel Kruger – Isabel ช่วยชั้นด้วย !!
Faith – อย่าไป !! 
Isabel – เธอไม่เข้าใจ ชั้นจำเป็นต้องไป 





ท่ามตึกที่เป็นสัญลักษณ์ของการกดขี่กำลังถล่มล่มสลายไปพร้อมใจที่แหลกสลายของ Faith Connor ที่จำเต็มต้องทนเห็นน้องสาวไปยืนข้างกายของคนชั่วที่ฆ่าพ่อแม่ของเธอกำลังบินลับหายไปสายตาพร้อมแสงแห่งเวลาของยามเย็น 




ไม่ว่าจะยังไงทุกอย่างมันก็จบลง ใจก็อยากจะบอกกับตัวเองว่า ทุกอย่างต่อจากนี้ไปมันจะไม่เหมือนเดิม มันก็เหมือนช่วงเวลาที่ดอกกุหลาบที่แบ่งบานบนพื้นดินที่น่าขยะแขยง เหนือกว่าระบบ ที่ครอบงำจิตใจผู้คนก็ยังมีกลุ่มทุนสามานย์ที่ต้องโค่นล้ม 




แต่มันจะไม่ได้เกิดจากการก่อกบฏครั้ง ใหญ่ จะไม่มีความรุนแรงบนท้องถนน Kruger Sec ยังหลงเหลือพอที่จะควบคุม ชีวิตของผู้คนอาจกลับไปเหมือนที่ผ่านมา แต่ก็ไม่ทั้งหมด



 เพราะมีบางอย่างเปลี่ยนไป พวกเราได้เริ่มบางอย่างเอาไว้ บางอย่างที่เราต้องจบมันด้วยตัวเอง ...  





Johanna Kruger CEO ของ Kruger Holding ได้แถลงข่างถึงเรื่องการหายตัวไปของ  Gabriel Kruger ในวันที่ Sky City เกิดความวุ่นวายที่ผ่านมา ทำให้การบริหารงานทั้งหมดในบริษัทตกเป็นอำนาจเต็มของ Isabel Kruger ลูกสาวในฐานะผู้นำของ Kruger Sec คนใหม่ทันที




Aline – ชั้นต้องไปก่อนนะ น้องสาวเธอได้ขึ้นแท่นเป็นประธาน Kruger Sec คนใหม่ไปแล้ว สนุกละงานนี้ ไปก่อนนะ ไว้เจอกัน 





Isarus – ส่วนชั้นก็คงเป็นหนี้ชีวิตเธอไปตลอดชีวิตแหละ Faith แล้วตกลงเธอเอาไงต่อละ ? 
Faith – ก็วิ่งมันต่อไปเหมือนเดิมนั่นแหละ ..






    ****************************** THE END ***********************************



                 
                             วิธีเปลี่ยน Runner Tag ให้เป็นแบบเฉพาะของตัวเอง




ทุกครั้งหลังจบภารกิจหรือทำตามเงื่อนไขพิเศษต่างๆผู้เล่นจะได้รางวัลเป็นกระเป๋า Runner Bag วางไว้ให้ตาม Self House ต่างๆ ในกระเป๋าก็จะมี Emblem , Frame และ Background สำหรับเปลี่ยนในรันเนอร์ Tag ของผู้เล่นให้เป็นแบบเฉพาะของตัวเองในกรณีอยากแข่งสถิติในออนไลน์ ก็สามารถปรับแต่งได้โดย
1. เข้าไปที่  http://www.mirrorsedge.com/ แล้ว Log in EA ID ที่สมัครไว้ ทุกคนต้องมัครก่อนเล่นเกมอยู่แล้ว 
2. เลือกหน้าแผนที่ มันจะแสดงข้อมูลปัจจุบันที่คุณเล่นเกมอยู่
3. จากนั้นก็เลือกกดไปที่ตัวเองในแผนที่ Status จะขึ้นมาให้ปรับแต่ง Running Tag ของตัวเองได้แล้ว