วันศุกร์ที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2559

Star Ocean 5 Integrity and Faithlessness

 


                                              STAR OCEAN TIME LINE 

จากก้าวเล็กๆของมนุษย์ชาติสู่มหากาพย์การเดินทางที่ยิ่งใหญ่ใจกลางมหาสมุทรแห่งดวงดาว  

ปี ค.ศ 1957 สหภาพโซเวียตปล่อย Sputnik ที่ 1 ซึ่งเป็นดาวเทียมดวงแรกของโลกขึ้นสู่อวกาศ

ปี ค.ศ 1961 สหภาพโซเวียตส่งยาน วอสต็อก1 ขึ้นไปโคจรรอบโลกพร้อมกับ ยูริ กาการิน ในฐานะนักบินอวกาศคนแรกของโลกที่ได้เดินทางออกไปนอกโลก

ปี ค.ศ 1969 ยาน Apollo 11ของสหรัฐอเมริกาขึ้นสู่วงโคจร ก่อนจะส่งนีล อาร์มสตรอง มนุษย์คนแรกที่ได้ขึ้นไปเหยียบบนดวงจันทร์

ปี ค.ศ.  2064  เกิดสงครามโลกครั้งที่ 3 ผลของสงครามทำให้โลกเต็มไปด้วยกัมมันตรังสีภายในเวลาเพียง 2 อาทิตย์ ทำให้มีการเริ่มแผนการอพยพทิ้งถิ่นฐานไปจากโลกด้วยการทดลอง Warp drive ไปยังอวกาศเพื่อหาแหล่งที่อยู่อาศัยแห่งใหม่

ปี ค.ศ. 2087 Warp drive หรือระบบการเดินทางข้ามดวงดาวถูกพัฒนาขึ้นจนสำเร็จโดย Dr.โทริรัส บาคไทน์ (トリラス・バークタイン)

ปี ค.ศ. 2090 ได้มีการร่างกฎหมายใหม่ขึ้นมา โดยให้นับศักราชใหม่เพื่อเป็นการเริ่มต้นยุคศักราชแห่งห้วงจักรวาล ที่เป็นเสมือนเริ่มหน้าประวัติศาสตร์ครั้งใหม่ในการเริ่มต้นใหม่ของมวลมนุษย์ชาติสู่อวกาศ เรียกว่า ปี SPACEDATE หรือ SD


    

SPACEDATE ที่ 10 – จัดตั้งองค์กร SRF (first space pioneer Corps) เพื่อบุกเบิกและสำรวจห้วงลึกของอวกาศ และเป็นจุดเริ่มต้นของการเดินทางสำรวจอวกาศเพื่อมวลมนุษย์ชาติของ Edge Maverick กัปตันแห่งยานสำรวจ SRF-003 Calnus ซึ่งเป็นเรื่องราวใน Star Ocean 4 The Last Hope

SPACEDATE ที่ 12 - มีการร่างสนธิสัญญาการป้องกันตัวเองจากความป่าเถื่อนและการรุกรานในความไร้มนุษย์ธรรมจากต่างดาว

SPACEDATE ที่ 207 – เครื่องเคลื่อนย้ายมวลสาร "quantum transfer machine" ถูกสร้างขึ้นเป็นผลสำเร็จ

SPACEDATE ที่ 346 - เกิดโรคระบาดขึ้นที่ดาว Roak ในเขต Theta Sector ทำให้ต้องจัดตั้งศูนย์แพทย์เพื่อระวังป้องการติดเชื้อขึ้น โดย Ronixis J. Kenny และ Ilia Messrs ก็ถูกส่งตัวมาจากโลกเพื่อยับยั้งเรื่องวุ่นวายที่เกิดขึ้น ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องราวใน Star Ocean First Depature

SPACEDATE ที่ 360 – มีการรวมกลุ่มของผู้ทรงปัญญารวมทั้งผู้มีความรู้ด้านต่างๆให้เป็นองค์กรกลางขนาดใหญ่ให้เป็นเสมือนเสาหลักของความคงอยู่ของมวลมนุษย์ชาติ สหพันธรัฐแห่งโลกได้เปลี่ยนชื่ออย่างเป็นทางการว่า สมาพันธรัฐแห่งทางช้างเผือก หรือ Galactic Federation

SPACEDATE ที่ 366 – มนุษย์ชาติสามารถเดินทางจนถึงหมู่ดาว expel อันไกลโพ้นเป็นเสมือนการเดินทางที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของมวลมนุษย์ชาติและเป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องราวของ Claude C. Kenny ในฐานะลูกชายของ Ronyx J. Kenny ตัวเอกจากภาคแรก และ Rena Lanford ชาว Nedian แห่งดาว Expel ใน Star Ocean 2 The Second Story

SPACEDATE ที่ 368 – ค้นพบ mother computer เก่าแก่ที่ซ่อนตัวอยู่ในทวีปมูบนพื้นโลกที่ถูกตั้งโปรแกรมช่วยในการควบคุมและดูและทรัพยากรมนุษย์ก่อนจะมีคำสั่งให้ทำลายมันทิ้ง

SPACEDATE ที่ 371 – Dr. Precis F Neumann คิดค้นเครื่อง "Mana cleaner" สำหรับใช้ เอนเนอร์จี้ สโตน ดูดซับสิ่งปนเปื้อนในชั้นบรรยากาศของดาวเคราะห์ expel ได้สำเร็จ

SPACEDATE ที่ 537 – Dr. Krupp คิดค้นระบบการควบคุมมิติแรงโน้มถ่วง ทฤษฎีใหม่จากการต่อยอดจากทฤษฎี Subspace Warp จนสามารถสร้างเครื่องวาร์ปที่เรียกว่า "gravity warp" ซึ่งสามารถทำให้ยานอวกาศเดินทางด้วยเส้นทางวาร์ปได้รวดเร็วขึ้นได้สำเร็จก่อนจะติดตั้งเอาไว้ที่โลก และจุดเริ่มต้นของเรื่องราวใน Star Ocean 5  ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นลึกเข้าไปในห้วงจักรวาลที่ห่างไกลที่ดาวเคราะห์ เฟครีด  ในห้วงเวลา 6 พันปีแสงจากโลก ก็เริ่มขึ้นตรงนี้

SPACEDATE ที่ 652 – Galactic Federation เริ่มติดต่อสื่อสารกับชาว Klausians ในหมู่ดาวเคราะห์ Claustro ได้สำเร็จ

SPACEDATE ที่ 704 Galactic Federation ค้นพบระบบพลังงานรูปแบบใหม่ที่เรียกว่า Creation Energyขุมพลังมหาศาลที่ซ่อนตัวอยู่ในดาวเคราะห์ Milokeenia ในเขต Theta Sector ที่ต่อมากลายเป็นพลังงานที่ถูกนำมาสร้างความแข็งแกร่งให้กับ Galactic Federation อย่างมาก

SPACEDATE ที่ 710 - Galactic Federation การติดต่อกับจักรวรรดิ Aldian จักรวรรดิขนาดใหญ่ที่ชอบการสู้รบ มีเขตปกครองถึง 7 ส่วนของจักรวาลและมีเจตนาร้ายที่จะครอบครองทุกสิ่งในจักรวาลมาเป็นของพวกมัน จนสุดท้ายก็เกิดสงครามขึ้น

SPACEDATE ที่ 732 –เกิดอุบัติเหตุในยานรบไดแกรม ディグレム ทำใหเครื่องกำเนิดพลังงาน Creation Energy ระเบิดจนทำให้ดาวเคราะห์ดวงนึงถูกทำลายย่อยยับ

SPACEDATE ที่ 752 – คณะวิจัยของ Dr. Robert Leingod พ่อของ Fayt Leingod ตัวเอกภาค 3 เดินทางมาที่ดาวเคราะห์ stream เพื่อศึกษาเกี่ยวกับ ประตูมิติเวลา (time gate) ที่อยู่ที่นี่

SPACEDATE ที่ 772 – สภาวะสงครามเริ่มบานปลาย เมื่อจักรวรรดิ Vendeen (バンテーン) เข้าโจมตีดาวเคราะห์ Hyda IV  ทำให้ Galactic Federation ของโลกก็ตกอยู่ท่ามกลางสงครามแห่งจักรวาลตั้งแต่นั้น และ Fayt Leingod นักศึกษาของ Bachtein Science University ที่กำลังเดินทางมาศึกษาเรื่อง Symbological Genetics ที่ดาว Hyda IV ก็ต้องตกท่ามกลางความวุ่นวายโดยไม่รู้ตัว ซึ่งก็เป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องราวใน Star Ocean 3 Till the End of Time

แปลและเรียบเรียงจาก http://www.famitsu.com/news/201603/28102218.html

 



    ห้วงเวลาแห่งจักรวาลที่ SPACEDATE 537 (เหตุการณ์ระหว่าง Star Ocean 2 และ 3 )

ลึกเข้าไปในห้วงจักรวาลที่ห่างไกล ดาวเคราะห์ เฟครีด planet of Faykreed  惑星 フェイクリード ในห้วงเวลา 6 พันปีแสงจากโลก สถานที่ที่มนุษย์ชาติยังคงดิ้นรนในการมีชีวิตรอดอย่างยากลำบากกับการสถาปนาและขยายสมาพันธรัฐเพื่อรวมเผ่าพันธุ์ของมนุษย์ชาติทั้ง 3 อณาจักรให้เป็นหนึ่งเดียวกันที่เรียกว่า "Galactic Federation" เพื่อนำมาซึ่งสันติภาพและความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน แต่เชื้อไฟแห่งความขัดแย้งครั้งใหม่กำลังก่อตัวขึ้นอย่างช้าโดยไม่มีใครได้ทันรู้ตัว

THE KINGDOM OF RESULIA (レスリア王国)  อณาจักร เรซูเรีย สมบรูณ์ซึ่งอยู่กึ่งกลางของ 3 อณาจักรอันประกอบด้วย อณาจักรรันด็อก  Langdauq  Kingdom  (ランドック王国) ทางชายแดนฝั่งขวาและ อณาจักรเทรคูล Trei'Kur kingdom ( トレクール王国 ) ทางชายแดนฝั่งซ้าย ภายใต้ทวีปที่ยิ่งใหญ่ที่ชื่อว่า ทวีปเวสสตีล VESTIEL ( ヴェスティール大陸)  กำลังจะเกิดความเสี่ยงที่จะตกอยู่ในกลางดงของสงครามหากวันที่มันเริ่มปะทุขึ้น ซึ่งถึงแม้ว่าผู้คนในอณาจักรเลสเรียนั้นมีพลังแห่งธรรมชาติที่ยิ่งใหญ่คอยปกป้องอยู่ แต่ก็ต้องถูกศาสตร์คำสาปมืดลึกลับเข้าโจมตีทำให้สิ่งมีชีวิตต่างๆถูกครอบงำจนกลายเป็นปีศาจที่น่ากลัว โดยภัยมืดนี้ได้เริ่มก่อตัวขึ้นที่หมู่บ้านสตาร์ Sthal Village (スタール村) ที่ตั้งอยู่ทางใต้ของอณาจักรเลสเรีย จนทำให้อณาจักรเข้าสู่กลียุคถึง 7 ปี  ที่ผู้คนต่างเรียกขานกันว่า 7 ปีแห่งความมืดมิด 暗黒の7年間 แต่มหัตภัยร้ายที่เกิดขึ้นครั้งนี้ก็ทำให้ ฟิเดล คามิวส์ เด็กหนุ่มธรรมดาๆแห่งหมู่บ้านสตาร์ผงาดขึ้นเป็นฮีโร่ผู้กอบกู้ชะตากรรมของดาวบ้านเกิดด้วยเช่นกัน


Cr. http://spwiki.net/so5/





                                      บทสรุป Star Ocean 5 Integrity and Faithlessness


By Decibel per - oxide



             
                                      บทที่ 1 -    ONE FOR THE ROAD


               

                                                    Sthal Village


ฟิเดล คามิวส์ (Fidel Camuze) กับ Ted เพื่อนสนิทกำลังซ้อมดาบกันอย่างเมามันส์ในลานกว้างติดทะเลของหมู่บ้าน สตอล บ้านเกิดท่ามกลางความอุดมสมบูรณ์แห่งอณาจักร Resulia




การต่อสู้เบื้องต้น
X โจมตีเบา
O โจมตีหนัก
การโจมตีจะแบ่งเป็นการโจมตีระยะสั้นกับการโจมตีระยะยาวจะแตกต่างตามท่าทางที่กำหนดไว้ โดยระบบจะปรับใช้ตามระยะการโจมตีที่ผู้เล่นเริ่มโจมตี
สี่เหลี่ยม การ์ด , กดการ์ดในขณะที่ศัตรูโจมตีมาจะเป็น Counter Attack
L1 – R1 เปลี่ยนตำแหน่งเป้าหมายของศัตรูที่จะโจมตี

Battle Skill หรือท่าโจมตีพิเศษที่มีทั้งแบบ Special Art (ท่าโจมตีทางกายภาพ) กับ Signetugy (โจมตีด้วยเวทย์) ซึ่งได้มาจาก Skill Book เมื่อทำการ Set ท่าพิเศษใส่ไปในปุ่มต่างๆที่เลือกไว้ในเมนู Skill แล้ว การกดใช้ก็คือกดปุ่มที่ Set ท่าไว้ค้างหลังจากเริ่มโจมตีปกติไปแล้วก็จะเกิดท่าพิเศษขึ้นมาโดยจะเสียค่า MP ตามที่ท่านั้นๆระบุไว้ โดยแต่ละท่าก็จะมีระดับเลเวลที่สามารถเพิ่มได้จากการใช้งานให้ครบ 100 % ซึ่งจะทำให้ความรุนแรงเพิ่มขึ้น

Attack Affinities หากโจมตีด้วยปุ่ม O ในขณะที่ศัตรูกำลังจะใช้ท่าโจมตีหนักให้สังเกตุดูจากศัตรูจะมีออร่ารอบๆตัว หากโจมตีใส่ตอนนี้จะกลายเป็น Weak Attack ที่จะทำให้ศัตรูมึนงงและได้จังหวะโจมตีเพิ่มได้

การหนีจากการต่อสู้ บังคับตัวละครหลักออกจากเส้นสีน้ำเงิน

สิ่งที่ได้หลังการต่อสู้คือ
- ค่า Exp สะสมเพื่อเพิ่มระดับเลเวลตัวละคร
-ค่า Skill Point เก็บในโถแก้วสีฟ้า สะสมเพื่อใช้ปลดล็อกและเพิ่มระดับเลเวลของ Battle Skill , Roles และ Specialties
- เงิน
-ไอเทมต่างๆ


Ted – ชั้นบอกแล้วว่าเราหัดซ้อมๆเอาไว้บ้างมันก็ดี เราไปเดินเล่นรอบๆเมืองกันหน่อยดีป่ะ .. 5 ปีแล้วนะที่พ่อนายจากไป อะไรๆมันเปลี่ยนไปเยอะจริงวะ ชั้นได้ยินมาว่าทางเมืองหลวงจะส่งกำลังมาสนับสนุนหมู่บ้านเรา จัดการกับสิ่งที่พวกชาวบ้านกลัวทั้งพวกมอนสเตอร์และพวกโจร แค่นี้ก็ถือว่าเปลี่ยนไปเยอะแล้ว ชั้นก็หวังว่าพ่อนายจะไม่เป็นไรนะ
Fidel – เชื่อเหอะ นายไม่ต้องห่วงเขาหรอก 
Ted – พวกเราก็เหมือนคนตาบอดที่อยู่ใกล้กับอันตราย ก็หวังแค่ความความช่วยเหลือจะมาทันก่อนที่บ้านเราจะโดนโจมตีซะก่อนอะนะ 

-เดินเข้าไปกลางเมืองจะพบ Miki Sauvester เพื่อนรุ่นน้องคนสนิทอีกคนที่เหมือนกำลังมองหาใครซักคนอยู่ ซึ่งจะขึ้นเป็นรูปดาวในแผนที่




** การเคลื่อนไหวในเมืองและฉากแผนที่ ** 
สี่เหลี่ยมเดิน
วงกลม วิ่ง
ทัชเพดของจอย – ย่อขยาย Mini Map
ปุ่ม Option เปิดแผนที่
สามเหลี่ยม – เปิดเมนูหลัก

Ted – เฮ้ยนั่นมันยัย Miki ไม่ใช่หรอวะนะ
Fidel – Miki อ่ะหรอ
Ted – ยัยนี่อายุ 18 จริงป่ะวะ ชอบทำอะไรแก่แดดเกินเด็กอยู่เรื่อย
Fidel – ไม่รู้สิ ชั้นคิดกับเธอเหมือนน้องสาว ก็ต้องคิดว่าเธอเป็นเด็กตลอดอยู่แล้วละ ไปดูสิเธอมาทำอะไร



Fidel – Miki มีอะไรรึเปล่า ?
Miki – ชั้นคิดว่าชั้นเห็นคนแปลกหน้าลอบเข้ามาในหมู่บ้านเรานะ ไม่รู้นะชั้นว่ามันผิดปกติ ยิ่งชาวบ้านก็ชอบบอกว่าตอนนี้หมู่บ้านเรากำลังจะตกอยู่ในอันตรายอยู่ นั่นไง ตรงช่องเขานั่นอะ
Ted – เฮ้ยย !! จริงด้วย เธอพูดถูก ไม่น่าใช่คนในหมู่บ้านด้วยสิ
Miki – เอาไงกันดีอ่ะ มีความคิดดีๆกันมั๊ย ?
Ted – ไปบอกนายกดีกว่าเพื่อจะหาทางออกอะไรกันได้บ้าง ไม่เอาน่า นายจะปล่อยให้พวกมันหนีไปงั้นหรอ
Fidel – ที่ชั้นห่วงก็คือ ถ้าเราพยายามจะจับมันมันก็หนี ประเด็นคือ ถ้าเกิดการต่อสู้ขึ้นหมู่บ้านเราพร้อมจะรับมือหรือเปล่ามากกว่า
Ted – นายเป็นทายาทโรงเรียนนักดาบ คามิวส์ นะเว้ย นายต้องมีสายเลือดผู้นำเหมือนพ่อนายบ้างแหละน่า

-เข้าไปที่จุดดาวในแผนที่ซึ่งก็คือบ้านพักของนายกเทศมนตรีของเมือง




Aragogh – ชั้นจะไม่ยกโทษให้แน่ถ้าพวกเธอโกหกเรื่องที่ว่านี่นะ
Fidel – ผมไม่ได้โกหก
Aragogh – แล้วเธอคิดว่าพวกเราทำข้อตกลงกันเพื่ออะไร ?
Fidel – ผมคิดว่าเป็นพวก Eitalon
Aragogh – Eitalon พวกโจรสารเลวที่เขาว่ามันเป็นมอนสเตอร์มากกว่าคนอ่ะนะ !
Fidel – อันที่จริงพวกมันเกิดจากความแปรปรวนของธรรมชาติหลังจาก 5 ปีก่อน พ่อผมก็เคยสอบถามพวกนักเดินทางถึงวืธีที่จะป้องกันตัวจากพวกมันเหมือนกันนะ
Aragogh – เอาละพอได้แล้ว !! คิดกันมั๊ยว่าแล้วเราจะหาทางต่อกรกับความโหดร้ายของพวกมันได้ยังไงกัน
Fidel – เอ่อ นายกครับ
Aragogh – เรื่องนี้มันไกลตัวชั้นเกินไปแล้ว ชั้นต่อสู้ไม่เป็นด้วยซ้ำ
Fidel – นายก คุณเป็นผู้นำของเมืองนะ แล้วเมื่อก่อนคุณก็เคยแข็งแกร่งนี่ แต่ไม่เป็นไร ผมจะนำคนในหมู่บ้านเข้าไปต่อสู้เอง
Miki – แต่ว่า Fiddly
Ted – ก็นะ ดูเหมือนถ้าไม่มีใครกล้านำ ก็คงต้องให้ Fidel นี่แหละ
Aragogh – Fidel ชั้นขอละ ช่วยหมู่บ้านเราให้พ้นจากความหายนะนี้ด้วยนะ นะๆๆ
Fidel – ก็จะทำเท่าที่จะทำได้นั่นแหละ

-คุยจบออกมาด้านนอกบ้านจะพบว่าจะเป็นตอนมืดแล้ว ในขณะที่กำลังยืนคุยกับ Ted ไม่นานพวก Eitalon ก็บุกเข้ามาโจมตีหมู่บ้านจริงๆ เปิดฉากการต่อสู้จริงๆครั้งแรกของเกมโดยมี Miki เป็นปารตี้คนแรก เข้าไปจัดการพวกมันให้หมดตามจุดต่างๆในหมู่บ้าน เมื่อได้รับชันชนะแล้ว Fidel จะเข้าไปคุยกับนายกอีกรอบเพื่อหาทางแก้ไข



Fidel – หมู่บ้านเรารอดแล้ว
Aragogh – ขอบคุณมากในทุกอย่างที่เธอทำเพื่อพวกเรานะ
Fidel –  วันนี้เราต่อต้านพวกมันไว้ได้ แต่ครั้งต่อไปใครจะรู้ว่าจะเป็นยังไง
Aragogh – ครั้งต่อไป เธอคิดว่าพวกมันจะมาอีกหรอ ?
Fidel –  ผมว่ามันมาแน่
Aragogh – โอ้วว ไม่เอานะ บอกสิว่าไม่จริง
Ted – แล้วตกลงเราจะเองไงต่อกันดี ชั้นก็จนปัญญาว่ะเพื่อน
Fidel –  ชั้นคิดว่าเรานาจะลองไปหาพระราชาเพื่อขอกำลังทหารเพิ่มนะ
Aragogh – ขอกำลังทหารเพิ่มเป็นไอเดียที่ยอดเยี่ยมมากๆเลย
Fidel – ผมจะไปเอง คงต้องใช้เวลาในการเดินทางซักพัก

เมื่อออกมาจากบ้านนายก Fidel ก็ร่ำลา Ted ให้ดูแลหมู่บ้านแทนเพื่อออกเดินทางไปยังเมืองหลวง และหวังว่าที่เขาฝึกมาทั้งหมดจะช่วยเขาให้รอดในการเดินทางได้อย่างที่หวังไว้ แต่ในขณะที่กำลังวิ่งออกจากเมืองก็จะพบ Miki เข้ามาขอเดินทางไปด้วย


Miki  - หวังว่าคงรู้นะว่าชั้นมาทำไม
Fidel – ห๊า !!
Miki  - ชั้นจะไปเมืองหลวงกับพี่ด้วย
Fidel – อย่ามางี่เง่า กลับบ้านไป เฮ้ย เอ่า กลับมา นี่เธอไม่รู้ใช่มั๊ยว่าข้างนอกมันอันตรายอ่ะ
Miki  - เพราะงั้นไงถึงต้องไปด้วย เมื่อคืนพี่แสดงความกล้าหาญมาก และชั้นจะไม่ให้พี่ไปคนเดียวแน่
Fidel – อย่าพูดเองเออเองแบบนี้เซะ
Miki  - ชั้นรู้ว่าข้างนอกอันตราย แต่ถ้าชั้นเกิดมีปัญหาชั้นก็แน่ใจว่าพี่ต้องปกป้องชั้นได้แน่นอน จริงแมะ แต่ถ้าพี่ไม่ให้ไปด้วยชั้นก็จะไปเอง อาจะเจอโดนโจรจับไปก็ได้ แต่ยังไงก็จะไป
Fidel – คิดหรอว่าชั้นแคร์ .... เออ โอเคๆๆ เธอไปด้วยก็ได้ แต่ต้องทำตามที่ชั้นสั่งและอยู่อย่างห่างจากชั้นด้วยนะ เข้าใจมั๊ย ?
Miki – เยสสสสสส !!!




                         ** ได้ Miki Sauvester (ミキ・ソーヴェスタ) ร่วมทาง **


       ** ก่อนออกจากเมืองสำรวจเมืองให้ทั่วๆก่อนจะมีสิ่งที่ต้องเรียนรู้คือ **

- จุด Private Action หรือจุดสลายกลุ่มเพื่อให้เพื่อนๆกลุ่มได้ไปทำธุระส่วนตัวในตอนนี้เดินทางมาที่เมืองต่างๆเพื่อจะได้สามารถพูดคุยเพื่อเก็บอีเวนท์เสริมจากการพูดคุยได้ จุดจะแสดงเป็นรูปนกหวีดในแผนที่ เมื่อเดินเข้ามาจุดนี้เพื่อนทุกคนที่เดินทางมาด้วยกันจะแยกไปตามจุดต่างๆของแต่ละคน เมื่อต้องการรวมกลุ่มก็ให้เดินเข้ามาที่จุด Private อีกครั้ง







- จุดเซฟ ก็คือจุดเซฟเกม โดยที่หมู่บ้าน Sthal จุดเซฟแรกของเกมจะอยู่ในบ้านของ Fidel
- ที่สำคัญที่สุด อย่าลืมไปสำรวจที่เตียงเพื่อรับ DLC ทั้งหมดที่แถมมากับเกมด้วยนะครับ 




                                               
                                                              Main Menu


1.Item ไอเทมที่เก็บได้ ประกอบด้วย
-Useable item ไอเทมสำหรับใช้งานทั่วไป
-skill Book หนังสือสกิล
-food อาหาร
-weapon อาวุธ
-Armor ชุดเกราะ
-Accessories เครื่องประดับ
-Materials วัตถุดิบ
-Valuables คีย์ไอเทม

2. Skill (Battle Skill) ทักษะพิเศษ
-Use Battle Skill ใช้สกิล (พวกประเภทเติม HP หรือแก้สถานะผิดปกติ)
-Set สวมใส่สกิล
-Learn เรียนรู้สกิล โดยใช้ไอเทม skill Book
-Specialties ความสามารถเสริมพิเศษที่ใช้ร่วมกันระหว่างเพื่อนในกลุ่มเพื่อให้ได้มาซึ่งไอเทมดีๆ เช่น Harvesting ที่จะทำให้สามารถเก็บเกี่ยวไอเทมอาหารได้ที่จุดสีเขียวในขณะเดินทางได้ ปลดล็อกและเพิ่มระดับเลเวลโดยการใช้ค่า Skill Point

3. Roles บทบาทหน้าที่ในขณะเข้าฉากต่อสู้
- Set Roles กำหนดบทบาทหน้าที่
-Learn Roles เรียนรู้บทบาทหน้าที่ โดย Roles ใหม่ๆจะได้มาจากเพื่อนใหม่ที่มาเข้ากลุ่มและเพิ่มระดับเลเวลโดยการใช้ค่า Skill Point โดยมี Roles ต่างๆคือ
Attack เน้นลุย
Defense เน้นป้องกัน
Healing เน้นเติมพลังชีวิต
Support เน้นสนับสนุนการต่อสู้
Miscellaneous บทบาทปลีกย่อยอื่นๆ

4. Equipment ส่วมใส่ อาวุธชุดป้องกันและเครื่องประดับ

5. Creation การสร้างสิ่งของ

6.Resoures รายละเอียดข้อมูลสำคัญต่างๆในเกม

7. Load โหลดข้อมูลจากเซฟ

8. Setting ปรับแต่งรายลละเอียดในเกม

Character Status สถานะของตัวละคร  (กดสี่เหลี่ยมในเมนูหลัก)

HP – Health Point พลังชีวิต
MP - Mana points พลังมานาสำหรับใช้กับท่าพิเศษ
ATK – Attack พลังโจมตีทางกายภาพ
INT – Intelligence พลังโจมตีของเวทย์มนต์
DEF – defense พลังป้องกันการโจมตีทางกายภาพ
MEN - Mental defense พลังป้องกันการโจมตีด้วยเวทย์

Status Ailments อาการผิดปกติต่างๆ

Curse – ติดคำสาป จะทำให้เสีย MP ไปเรื่อยๆ
Fog – หมอกบังตา ทำให้ไม่สามารถกำหนดศัตรูเป้าหมายแล้วโจมตีจากระยะไกลได้
Freeze – ถูกแช่แข็ง ทำให้เคลื่อนช้าและได้รับบาดเจ็บทุกครั้งเมื่อโจมตีศัตรู อาการจะหายไปหลังจบการต่อสู้
Paralysis – อาการอัมพาต ไม่สามารถขยับตัวได้
Poison – ติดพิษ ทำให้พลังชีวิตลดลงตลอดเวลา
Silence – เป็นใบ้ ทำให้ไม่สามารถร่ายเวทย์มนต์ได้
Stun – อาการสับสน ทำให้ไม่สามารถโจมตีได้

.................

-ทำธุระเสร็จแล้ว เดินทางออกจากหมู่บ้านทางขวาบนมาที่เขต Passage on the Cliffs ทะลุผ่านไปจนถึงเขตริมชายทะเล Coast of Minoz



ระหว่างทางจะเจอกล้องที่ล็อกกุญแจด้วย กล่องนี้ต้องใช้ Skill Lockpick ที่ได้จากการทำ Side Quest เสียก่อน โดยกล้องที่ล็อกนั้นมีทั้งหมด 29 กล่อง ดูตำแหน่งและสถานที่ของกล่องแต่ละอันได้ที่นี่
http://segmentnext.com/2016/06/29/star-ocean-integrity-and-faithlessness-locked-chests-locations-guide/





Cr ภาพแผนที่จาก http://dswiipspwikips3.jp/star-ocean5/story-cheats/cheats01.html




เดินทางเข้ามาจนถึงใกล้ทางออกจากพื้นที่ทางขวาจะพบกับ Boss Discord Gere 





เมื่อโจมตีไปจนมันพลังชีวิตเหลือครึ่งแล้ว จะมีอัศวินหนุ่มออกมาช่วยสู้ จนสามารถเอาชนะศัตรูลงได้สำเร็จ

เมื่อสอบถามทำความรู้จักจะรู้ว่าเขาชื่อ Victor Oakville เป็นหนึ่งในสมาชิกของ King Chosen หรือกลุ่มนักรบพิเศษที่กษัตริย์ทรงขัดเลือกไว้เพื่อปกป้องเมืองหลวงแห่งอณาจักร RESULIA



Miki – จะขอบคุณยังไงดีที่คุณอุตสาห์เข้ามาช่วยขนาดนี้
Victor – ขอให้พวกคุณปลอดภัยก็เป็นไรหรอกครับ ผมชื่อ Victor Oakville เป็นทหารของกองทัพเรสซูเรี่ยน
Fidel – เธอชื่อ Miki Sauvester ส่วนผม Fidel Camuze เป็นครูสอนนักดาบที่ โรงเรียน Swordmanship ในหมู่บ้าน Sthal ครับ
Victor – Camuze หรือ ผมรู้จักนะนามสกุลเหมือนกับท่าน Daril เลย แถมเพลงดาบคุณก็คล้ายท่านมากด้วย
Fidel – แน่นอนอยู่แล้วละ ไม่ว่านะถ้าผมจะบอกว่าเพลงดายคุณก็เหมือนกันเขา คุณเคยเรียนกับเขาในกองทัพหรอ
Victor – ใช่เลยครับ แต่ก็น่าสนใจนะ ผมไม่รู้มาก่อนเลยว่าท่านอาจารย์มีลูกชายด้วย ช่างเถอะ แถวๆนี้มันอันตราย ให้ผมเดินทางคุ้มกันไปจนถึงเมืองถัดไปก็แล้วกันนะครับ
Miki – คือพวกเรามาในนามของหมู่บ้าน Sthal คะกำลังเดินทางไปเข้าเฝ้ากษัตริย์เพื่อทูลถามเรื่องการขอกองหนุนมาคุ้มกันหมู่บ้านจากการรุกรานของพวก Eitalon คะ คือก็ไม่รู้จะเสียมารยาทมั๊ย แต่คุณจะช่วยเป็นธุระเพื่อให้เขาส่งทหารกองหนุนมาเร็วๆได้มั๊ยอ่ะคะ
Victor – หน้าที่ทหารอย่างเรานอกจากการต่อสู้แล้วเราก็ยังเน้นในเรื่องการช่วยเหลือชาวบ้านด้วย ผมพาคุณไปที่เมืองหลวงได้ แต่รับรองผลไม่ได้นะว่าคุณจะได้ตามที่ร้องขอหรือเปล่า
Miki – ขอบคุณมากคะ เอ่อ คุณคุณว่าพระองค์จะช่วยเรามั๊ย ?
Victor – “ห่วงแต่ข้อจำกัดของเวลามันจะไม่นำพาเราไปสู่ความสำเร็จ” ท่าน Camuze เคยพูดเอาไว้ เป็นคำพูดที่ดีนะครับ
Miki – ตาแก่ Camuze เค้าเป็นคนแบบไหนหรอ ?
Victor – ท่าน Camuze อยู่ในฐานะเจ้าหน้าที่ทหารระดับสูงในกองทัพ ยามใดที่ท่านไม่ได้สอนเพลงดาบให้ทหารในกองทัพ คำพูดของท่านก็ยังเป็นเสมือนหลักปฏิบัติ  
Miki – ตาแก่ Camuze สำคัญขนาดนั้นเลยหรอ
Victor – แน่นอน นั่นเป็นเหตุผลที่คุณไม่ควรเรียกท่านว่าตาแก่ในที่สาธารณะ คุยกันแต่กับพวกเราก็พอ
Miki – ฮ่าๆ เข้าใจและ รับทราบค่า


               ** ได้ Victor Oakville (ヴィクトル・オークヴィル) ร่วมทาง **


        
           ** Victor นั้นเป็นนักรบในสายป้องกันที่มาพร้อม Roles Defender  เพิ่มพลังป้องกัน ** 


-หลังจากได้ victor ร่วมกลุ่มแล้ว เก็บเลเวลและเก็บไอเทมตามแผนที่จนกว่าจะพอใจ จากนั้นค่อยเข้าไปที่ทางเข้าเมือง MYIDDOK ตรงทางออกด้านขวาบนของ Coast of Minoz                        



                         

                                                        เมือง MYIDDOK




เข้ามาที่เมือง Myiddok ในตอนกลางคืน เข้าไปที่โรงแรม The Yawning Kobold ที่จุดแดงมนแผนที่ พัก 1 คืน ตอนเช้า Miki จะเข้ามาปลุกเพราะ Fidel ตื่นสาย ซึ่ง Victor ได้ออกไปรอที่ประตูฝั่งตะวันตกเพื่อเตรียมออกเดินทางก่อนแล้ว ออกจากโรงแรมไปที่ประตูทางฝั่งซ้ายของเมืองจะพบ Victor กำลังคุยกับผู้หญิงผมสีม่วงคนนึงอยู่




Fidel – โทษทีผมสาย
Victor – ก็สายเป็นประจำอยู่แล้วนี่ครับ
Fidel – แล้วเธอคนนี้ใคร ?
Victor – นี่คือเลดี้ Burnelli Signeturge (ผู้ใช้เวทย์มนต์) จาก Langdauq 
Fidel – เลดี้ Burnelli ใช่มั๊ยครับ ?
Fiore - Fiore Burnelli คะ เรียก Fiore ก็ได้
Fidel – ผม Fidel และนี่ก็ Miki 
Victor – เธอเป็น 1 ในนักวิจัยที่มีความรู้สูงสุดของสถาบันวิจัยเวทย์มนต์แห่งอณาจักร Langdauq ( Signetary of Langdauq ) ที่กรุณามาให้ความรู้เกี่ยวกับปัญหาที่กำลังเกิดขึ้นตามที่กษัตริย์ทรงร้องขอความช่วยเหลือไป 
Miki – อะไรนะ คุณเป็นถึงนักเวทย์ของสถาบันวิจัยเวทย์มนต์แห่ง Langdauq ผู้ใช้เวทย์ทุกคนต่างอิจฉาคุณมากๆรู้มั๊ยคะ 
Fiore – ชั้นก็ไม่ได้เก่งขนาดนั้นหรอกคะ 
Miki – ไม่ๆๆ คุณเนี้ยเจ๋งสุดแล้วจริงๆ
Fidel – นี่ใช่มั๊ย Victor คือภารกิจที่คุณเคยพูดถึง
Victor – ใช่แล้วครับ ผมมีหน้าที่คุ้มครองเลดี้ Burnelli ไปที่เมืองหลวงอย่างปลอดภัย ส่วนปัญหาต่างๆที่เรากำลังกังวลกันอยู่เดี๋ยวผมจะเล่าให้ฟังระหว่างเดินทางแล้วกันนะ



Victor – ตอนนี้อณาจักรของเรากำลังจะทำสงครามกับอณาจักร Trei'Kur ที่อยู่ติดชายแดนทางฝั่งตะวันตก ซึ่งไม่เป็นผลดีต่อเรานักที่จะมีข้าศึกมาประชิดเมืองหลวงแบบนี้ แถมหน่วยข่าวกรองของเราก็ได้ข้อมูลมาอีกว่า พวกมันกำลังสร้างอาวุธชนิดใหม่ที่มีพลังทำลายล้างยากจะคาดเดา ผมเองก็ยังไม่ทราบข้อมูลเหมือนกัน นอกจากคาดเดาว่ามันเป็นอาวุธโจมตีจากระยะไกล ที่อาจจะเป็นมนต์ดำเก่าแก่จากยุคโบราณ  และที่สำคัญคือ มันกลับไม่มีร่องรอยของเวทย์มนต์ใดๆในที่เกิดเหตุเลยด้วย โชคดีที่เรามีความสัมพันธ์ที่ดีกับทางอณาจักร Langdauq ที่อยู่ทางฝั่งตะวันออก ทางกษัตริย์ของเราจึงขอความช่วยเหลือไปทาง สถาบันวิจัยเวทย์มนต์แห่ง Langdauq ทางนั้นก็ให้ความกรุณาส่งตัวคุณ  Burnelli ให้มาช่วยตรวจสอบซึ่งสิ่งที่เกิดขึ้น .....


                    ** ได้ Fiore Burnelli (フィオーレ・ブルネリ) เข้าร่วมทีม ** 




     ** Fiore เป็นนักเวทย์สายโจมตีที่มาพร้อม Roles Invoker ที่เพิ่มความรุนแรงให้มากขึ้น  **



หลังจากที่ได้ Fiore เข้ากลุ่มพร้อมกับ Victor แล้ว ก่อนออกเดินทางสำรวจเมืองให้ทั่วๆก่อนทางฝั่งขวาของเมือง แวะเข้าไปที่บ้านตรงข้ามร้านขายอาวุธก็คือ ห้องแลปของ Welth (Welth Laboratary)


   



เข้ามาจะพบกับ Welth Vineyard นักวิจัยสาวสติเฟืองที่กำลังพยายามหาทางสร้างสิ่งใหม่ๆอยู่ ในขณะที่เธอกำลังพยายามผลิต Blueberries Potion อยู่ซึ่งดูเหมือนจะทำไม่สำเร็จเพราะขาดวัตถุดิบบางอย่างอยู่ เธอจึงถือโอกาสใช้งาน Fidel ซะเลย ซึ่งก็คือการเรียนรู้การทำ Quest ย่อยนั่นเอง 



Quest ย่อยนั้นเมื่อรับงานจาก Welth หรือผู้ว่าจ้างตามที่ต่างๆรวมถึงงานที่แปะไว้ตามบอร์ดหางานตามเมืองต่างๆ รายละเอียดของ Quest ย่อยนั้นๆจะเข้ามาอยู่เมนู Quest ในคำสั่ง Resources ของเมนูหลัก



                                              -Side Quest -

Quest - If it tastes like Blueberries it must be good for you 
เจ้าของเควส - Welth Vineyard
สิ่งที่ต้องทำ – ต้องการ Blueberries 5 อัน 
รางวัล 
- Compounding the Issue 
-Blueberry Potion 

คีย์ไอเทม Compounding the Issue นี้จะทำให้สามารถผสมไอเทมได้ โดยต้องเข้าไปในเมนู Skill – Specialties จะมีความสามารถ Compounding ออกมาให้ปลดล็อกด้วย Skill point 25 Point เมื่อปลดล็อกแล้วคำสั่ง Creation ในเมนูหลักก็จะใช้งานได้ ทำให้สามารถผสมไอเทมได้เมื่อวัตถุดิบที่ต้องการมีครบตามจำนวนที่ระบุเอาไว้ 





                         รายชื่อไอเทมและวัตถุดิบในการผสม (Compounding ) ทั้งหมด
http://segmentnext.com/2016/06/29/star-ocean-integrity-and-faithlessness-crafting-and-synthesis-guide/



** เมื่อทำเควสแรกเสร็จแล้ว สังเกตดูแถบสีฟ้าที่อยู่ทางขวาล่างที่เขียนว่า PA เมื่อเข้ามาใน Welth Laboratary นั่นคือระยะเวลาในการที่จะเริ่มมี Quest ใหม่ให้ทำอีกครั้งนั่นเอง ซึ่งคุณสามารถออกไปเก็บเลเวลหรือนอนพักข้ามคืนจนได้เวลาที่มีภารกิจใหม่ก็ค่อยมาคุยกับ Welth อีกครั้งเมื่อเกทสีฟ้าเขียนว่า Field of Research เธอก็จะมี Quest ใหม่ให้ทำ ** 


                                                   -Side Quest -

Quest – Drank on Creation (Rank 2)

เจ้าของเควส - Welth Vineyard
สิ่งที่ต้องทำ – ต้องการ Lemon กับ Bottle of Water  
รางวัล 
- Just Enough Cook 
-Fishing an Alluring pastime 
-สูตรทำ Lemon Juice

คีย์ไอเทม Just Enough Cook จะทำให้สามารถผสมวัตถุดิบเพื่อทำอาหารได้ ส่วนคีย์ไอเทม Fishing an Alluring pastime จะทำให้ตกปลาได้ โดยต้องเข้าไปในเมนู Skill – Specialties จะมีความสามารถ Fishing และ Cooking ออกมาให้ปลดล็อกด้วย Skill point 25 Point เมื่อปลดล็อกแล้วคำสั่ง Creation ในเมนูหลักก็จะมีคำสั่ง Cook หรือทำอาหารเพิ่มขึ้นมา และเมื่อออกไปที่ World map ก็จะมีจุดตกปลาให้เห็นเป็นจุดสีฟ้าใกล้ๆน้ำ (ตกปลานี่ก็แค่เดินไปสำรวจแล้วเก็บปลามาแค่นั้นน่ะ) ก็จะได้ไอเทมปลาต่างๆมาทำอาหารได้ 



                                                -Side Quest -

Quest – Brute Strength  (Rank 2)
เจ้าของเควส - Welth Vineyard
สิ่งที่ต้องทำ – ต้องการ Iron 3 อัน กับ Wooden Stick 5 อัน   
รางวัล 
- Smithing the Night away  
-Dig Deep Within  

คีย์ไอเทม Smithing the Night away จะทำให้สามารถผสมวัตถุดิบเพื่อทำอาวุธและชุดป้องกันได้ ส่วนคีย์ไอเทม Dig Deep Within จะทำให้ขุดแร่ได้ โดยต้องเข้าไปในเมนู Skill – Specialties จะมีความสามารถ Excavation และ Smithery ออกมาให้ปลดล็อกด้วย Skill point 25 Point เมื่อปลดล็อกแล้วคำสั่ง Creation ในเมนูหลักก็จะมีคำสั่ง Smithery หรือการตีอาวุธและชุดป้องกันเพิ่มขึ้นมา และเมื่อออกไปที่ World map ก็จะมีจุดสีส้มให้เห็นเป็นจุดที่สามารถเก็บไอเทมแร่หรือวัตถุดิบต่างๆได้ 




หลังจากทำธุระทุกอย่างเสร็จแล้ว ออกจากเมืองทางประตูตะวันตกไปที่เขตพื้นที่ทุ่งกว้าง Resulian Plains เป้าหมายอยู่ที่ทางเข้าเมืองหลวง Central Resulia ที่อยู่ทางเหนือไม่ไกล เดินเก็บของเก็บเลเวลให้พอใจก่อนค่อยเข้าไป







                                                    Central Resulia


เข้ามาที่เมืองหลวงแห่ง Resulia แล้ว ที่นี่จะยังไม่มีอาวุธหรือไอเทมใหม่ๆอะไร หากซื้อจากเมืองถัดมาจนครบหมดก็ข้ามไปได้เลย แต่มี บอร์ดรับ Quest ที่กลางเมืองที่ต้องเข้าไปสำรวจดูจะมี Quest ย่อยอยู่ 2 งานคือ






                                                   -Side Quest -

Quest – The Thing we do for Beauty (Rank 1)
ผู้ว่าจ้าง – ผู้หญิงที่ต้องการความงามชั่วนิรันดร  
สิ่งที่ต้องทำ – ต้องการไอเทม Peryton Dropping 1 อัน   
รางวัล 
- 200 EXP / เงิน 100 fol และ 30 sp   
- Fresh Sage

                                                  -Side Quest -

Quest – First Stepasa Collector (Rank 1)
ผู้ว่าจ้าง – Collection Club
สิ่งที่ต้องทำ – ต้องการไอเทม Iron 2 อัน   
รางวัล 
- 200 EXP / เงิน 200 fol และ 30 sp   
- Attack Crest 

- จากนั้นเข้าไปที่จุดดาวในแผนที่ที่หน้าประตูปราสาทจะพบกับ Daril พ่อของ Fidel ออกมาต้อนรับการมาถึงของ Fiore


Daril – กลับมาแล้วหรอ ทำได้ดีมาก
Victor – ตามที่ท่านแนะนำครับ ผมเชิญ เลดี้ Burnelli พร้อมให้การคุ้มกันอย่างใกล้ชิดครับ 
Fidel – พ่อ !
Daril – พวกเจ้า 2 คนคิดยังไงถึงมากันถึงที่นี่เนี้ย !  
Fidel –  หมู่บ้านของเราถูกพวก Eitalon โจมตีครับ เราช่วยกันสู้จนไล่พวกมันไปได้ในการโจมตีครั้งแรก แต่พวกกำลังเราหลังชนฝาเพราะไม่มีทางหนี ผมเลยมาเพื่อเข้าพบพระราชาเพื่อขอกำลังเสริมไปช่วยหมู่บ้านอ่ะครับ 
Daril – อืมม ก็ถือว่าเป็นปัญหาอยู่ แต่ตอนนี้ยังจัดการกำลังทหารไปให้ไม่ได้ กลับบ้านไปก่อน ไปเตรียมพร้อมรับมือพวกมันไว้ 
Fidel –  แบบนี้มันละเว้นการปฏิบัติหน้าที่นี่พ่อ !! 
Daril – อย่ามาเรียกชั้นแบบนั้น ที่นี่ชั้นไม่ใช่พ่อเธอ แต่เรื่องที่เธอร้องขอมาเจ้าหน้าที่จะทบทวนอีกที .... เลดี้ Burnelli ใช่มั๊ยครับ ทางเราไม่รู้จะขอบคุณยังไงที่อุตสาห์เสียสละเวลามาตามที่ร้องขอไป พวกช่วยคลี่คลายการรุกรานของพวกป่าเถื่อนทางตะวันตก แต่เราก็พร้อมที่จะตอบโต้ด้วยกำลังทหารทั้งหมดที่เรามีเร็วๆนี้แน่นอน และต้องขออภัยกับการร้องขอที่เร่งรีบแบบนี้ด้วย คุณจะสู้เคียงข้างเราหรือเปล่าครับ เลดี้ Burnelli
Fiore – แน่นอนคะ ไม่งั้นก็คงไม่มาถึงที่นี่
Daril – โทษทีนะ Victor แต่ชั้นคงต้องขอให้นายช่วย นายเดินทางไปที่แนวหลังถ่ายทอดคำสั่งชั้น กับคนของนายให้เตรียมพร้อมออกเรือไว้ตลอดเวลา 
Victor – ครับนายท่าน



Miki – แล้วเราเอาไงต่ออ่ะ
Fidel – เราไม่มีทางเลือก ก็คงต้องกลับบ้านนั่นแหละ
Victor – พวกคุณจะกลับบ้านกันหรอ ลองใช้เส้นทาง Dakaav Footpath ดูนะมันใกล้กว่า

-ออกจากเมืองหลวงมาที่ทุ่งกว้าง Resulian Plains เป้าหมายคือลงไปที่ทางออกทางทิศใต้เพื่อเข้าไปที่พื้นที่ Dakaav Footpath ต่อ




-เข้ามาที่ Dakaav Footpath ในกล่องใกล้ๆจุดเซฟตรงทางเข้าจะมี Skill Book Swordman Manual I จะได้ท่า Skill Battle ใหม่คือ Air Slash มา จากนั้นเข้าไปจนถึงกลางพื้นที่ Miki จะได้ยินพวก Eitalon กำลังคุยกันอยู่จนถูกพวกมันเจอตัวและเข้ามาโจมตีทันที จัดการพวก Eitalon ที่ออกมามากมายต่อเนื่องให้หมด


ในขณะนั้น ทุกคนจะตกใจกับภาพยานอวกาศขนาดใหญ่ที่กำลังร่อนลงจากท้องฟ้าไปตกอีกฝากนึงของป่า ต่างฝ่ายต่างก็แยกย้ายตามไปดูกันหมด เมื่อ เข้ามาถึง Fidel จะพบกับยานอวกาศขนาดใหญ่ที่ตกลงมาเสียหายอย่างหนักพร้อมมีบาเรียกันเอาไว้ไม่ให้เข้าไปด้านใน






 แต่จู่ๆบาเรียก็เปิดออก พร้อมกับเด็กหญิงลึกลับคนนึงที่เดินออกมาจากซากยานกับชายนิรนาม 2 คนที่ตามมาและพยายามที่จะชิงตัวเด็กคืน ทำให้ Fidel ไม่มีทางเลือกที่ต้องจับดาบขึ้นสู้เพื่อปกป้องเด็กหญิงที่กำลังเดือดร้อนแม้จะยังไม่รู้เรื่องราวที่มาที่ไปก็ตาม แต่เมื่อสู้กับชายนรินาม 2 คนที่บุกเข้ามาจะพบว่าโจมตีมันไม่เข้าเพราะมีบาเรียประหลาดป้องกันตัวอยู่ แต่จู่เด็กหญิงลึกลับคนนั้นก็ระเบิดพลังออกมาทำให้เวลาในรอบๆพื้นที่หยุดลงก่อนที่เธอเองจะสลบไป Fidel กับ Miki ก็ไม่มีทางเลือกที่ต้องอุ้มเด็กพาหนีออกจากพื้นที่ก่อนที่พวกชายนรินามจะเข้ามาจับเธอไปได้ 



อุ้มเด็กเข้าไปที่ทางออกด้านใต้เพื่อกลับมาที่หมู่บ้าน Sthal อีกครั้ง ทันทีที่เข้ามาก็จะพบว่าสภาพหมู่บ้านเหมือนเพิ่งผ่านการต่อสู้มาไม่นาน จน Ted ออกมาเล่าเรื่องราวให้ฟังว่า หมู่บ้านถูกพวก Eitalon โจมตีอีกครั้งเมื่อคืนที่ผ่านมานี่เอง โชคดีที่ชาวบ้านช่วยกันต่อสู้จนต้านพวกมันไว้ได้ แต่ มีการสูญเสียมากมายทั้งคนที่ตายและพวกที่บาดเจ็บสาหัสจนไม่มีใครเหลือที่จะสู้ได้อีกหากพวกมันบุกมาอีกครั้ง Ted ถามถึงธุระสำคัญในเรื่องกองหนุนจาก Fidel ซึ่งทำให้ Fidel ตอบไม่ได้อย่างเต็มปากว่าพวกทหารจะมาช่วยหรือไม่ แต่ยังไงก็ถือว่าได้ลองทำอย่างเต็มที่แล้ว ก่อนที่ Ted จะตกใจถึงเรื่องเด็กหญิงที่พวก Fidel  ช่วยมาจากพวกคนที่จะทำร้ายเธอ ก่อนที่ Fidel จะตัดบทสนทนาเพื่อพาเธอไปนอนพักผ่อนที่บ้านเพื่อดูอาการก่อน



จนถึงตอนเช้า Fidel ให้ Miki บอกว่าโชคดีที่อาการเธอทรงตัวแล้ว ที่เหลือที่ทำได้ก็แค่รอให้เธอฟื้นเพื่อสอบถามเรื่องราวทั้งหมด Fidel จะให้ Miki รับหน้าที่ดูแลเด็กหญิงลึกลับที่นอนสลบอยู่ไปก่อนส่วนเขา ก็ต้องไปที่บ้านของนายกเพื่อหารือเรื่องการป้องกันหมู่บ้านอีกครั้ง จากนั้นออกจากบ้านแล้วเข้าไปที่บ้านนายกที่จุดแดง ด้านในจะพบ Victor เข้ามาที่นี่ด้วย



Fidel – Victor ! พวกนายมาได้ไง ?
Ted – นายรู้จักพวกนี้ด้วยหรอ ?
Fidel – ชั้น เอ่อ ไม่รู้จักอีก 2 คนนั่น
Victor – พวกนี้คือคนของผมที่เกณฑ์มาช่วยหมู่บ้านคุณไง 
Fidel – แต่ที่หน้าปราสาทนั่น
Victor – พ่อของคุณมีคำสั่งให้ป้องกันชายแดนเอาไว้ให้เต็มที่ และที่นี่ก็เป็นแนวชายแดนแรกไม่ใช่หรอ มีปัญหาหรือเปล่าละ ?
Fidel – ไม่เลย ขอบคุณที่เดินทางมาช่วยครับ
Victor – อย่างที่พูดค้างไว้ท่านนายก เราจะจัดการกับ Eitalon โดยการบุกเข้าไปทำลายรังของมันเลยเพื่อยุติเรื่องราวรุนแรงที่เกิดขึ้นที่นี่ให้สิ้นซาก ตามนั้นนะ
Ted – มันก็ดีอยู่หรอก แต่จะลุยไปจัดการพวกมันได้ง่ายๆเลยหรอ
Victor – ถึงต้องให้พวกเรา King Chosen จัดการไง 
Aragogh – ก็ดีเลย แล้วคุณมีอะไรที่ให้เราช่วยเหลือบ้างมั๊ย ?
Fidel – ผมขอเข้าร่วมปฏิบัติการณ์นี้ด้วยนะ 
Ted – เฮ้ย เอาจิงดิเพื่อน 
Victor – เยี่ยมเลย ผมกำลังจะขอแรงอยู่พอดี เราจะไปเตรียมตัวกันก่อน ถ้าพร้อมแล้วก็ไปรวมตัวกันที่หน้าทางออกไปยัง Dakaav Footpath ได้เลย 

เมื่อออกมาที่หน้าประตู Miki กำลังเถียงกับ Victor เรื่องที่ไม่ยอมให้เธอไปด้วยเพราะเหตุผลว่ามันงานอันตราย แต่ Miki ก็ยืนยันว่าเธอได้พืสูจณ์แล้วระหว่างทางที่สู้ด้วยกันตอนขณะเดินทางไปยังเมืองหลวงแล้ว สุดท้าย Fidel ต้องไปบอกว่าต้องการให้ Miki ไปลุยด้วยแล้วเขาจะรับผิดชอบเรื่องความปลอดภัยของเธอเอง ทำให้ Miki ได้เข้ากลุ่มพร้อม Victor ได้ลุยไปด้วยกันอีกครั้ง



                                 ** เรียนรู้การใช้เกท Reserve Rushes ** 







เกท Reserve Rushes ที่เพิ่มเข้ามาใหม่ในฉากต่อสู้นั้น จะค่อยๆเพิ่มขึ้นเรื่อยทุกครั้งในขณะต่อสู้ และตอนถูกโจมตี ในแต่ละช่วงของเกทก็จะมีโบนัสพิเศษให้ในขณะใช้ท่าใหญ่โจมตีศัตรู เมื่อเกทเริ่มสะสมจนถึงเลเวล 1 ก็จะสามารถใช้ท่าใหญ่ได้ด้วยการกด R2 + X  ท่าของแต่ละตัวละครก็แสดงผลออกมาไม่เหมือนกัน โดยสามารถกำหนดตัวที่จะใช้ท่าใหญ่ได้ด้วยการกด L2 - R2 ค้าง ในฉากต่อสู้ แล้วจะมีคำว่า Rush ขึ้นที่ชื่อตัวละคร กดซ้าย - ขวาเลือกตัวที่จะใช้ท่าได้เลย และขณะใช้ท่าใหญ่ไปแล้วก็ยังสามารถกดปุ่มทิศทางซ้าย – ขวาเพื่อสลับไปใช้ตัวละครอื่นโจมตีสมทบให้ความรุนแรงเพิ่มขึ้นได้ด้วย 


- ออกไปที่ทางออกไปยัง Dakaav Footpath ไปพร้อมกับ Victor , Miki และทหารของ Victor อีก 2 คนคือ Gunter และ Mana เมื่อเดินไประหว่างทางจะพบกับ Dake สายของ Victor ที่เข้ามาสืบข่าวจนรู้ที่ตำแหน่งรังของพวก Eitalon เดินไปที่ช่องทางด้านซ้านกลาง Dake จะเปิดทางลับที่พนังหินให้เข้าไปยังถ้ำลับของพวก Eitalon ลุยเข้าไปจนถึงห้องโถงกลางที่เป็นส่วนที่พัก ทุกคนจะพยายามหาทางลับที่จะออกไปที่ด้านหลังของน้ำตก เข้าสำรวจด้านในจะพบกล่องไอเทม มี Skill Book Swordman Manual I จะได้ท่า Skill Battle ใหม่คือ Air Slash มา รอไม่นาน Miki ก็พบสวิตซ์เปิดทางลับี่พนังถ้ำให้ลุยต่อเข้าไปด้านในจนถึงด้านในน้ำตกได้ ก็จะพบหัวหน้าโจร Eitalon รออยู่ที่นี่


Miki – เฮ้ย แกกล้าดียังไงถึงมาทำลายหมู่บ้านของเรา !!
หัวหน้าโจร Eitalon – พวกเรสูเลี่ยนนั้นต่ำอย่างพวกแกนะหรอ ? ยังต้องให้อธิบายอีกหรอว่าเพราะอะไร ? พวกแกเคยสำนักบ้างมั๊ย ว่าพวกแกเคยคุกคามคนอื่นมาขนาดไหน แน่นอนว่าไม่ ชั้นถึงต้องทำลายพวกแกให้หมดก่อนที่แกจะไปแว้งกัดใครได้อีกยังไงละ 

-จัดการ Boss Eitalon Leader กับลูกน้องมากมายของมันให้หมด จนสุดท้าย เจ้าหัวหน้าตัวร้ายก็ตกไปตายที่ก้นน้ำตก หลังจบการต่อสู้ ทหารของ Victor อยากที่จะลงไปงมศพมันขึ้นมาเช็คดูว่ามันตายแล้วแน่นอน แต่ Victor ยืนยันว่าหน้าที่ของทุกคนวันนี้จบลงแล้ว เพราะตอนนี้ หัวหน้าโจร Eitalon ตายแล้วและหมู่บ้านของ Fidel ก็รอดปลอดภัยตามที่ตั้งใจไว้ในภารกิจแล้ว ทุกคนจึงเดินทางกลับไปที่หมู่บ้าน

** ก่อนกลับ ช่วงนี้เป็นช่วงที่เหมาะที่จะเก็บเลเวลที่ดีที่สุดเพราะมีเพื่อนร่วมทีมเพิ่มมาอีก 2 จึงสามารถวิ่งวนไปมารอบๆพื้นที่และสามารถจัดการศัตรูได้อย่างรวดเร็วมากๆ**  


เมื่อเดินทางกลับมาถึงหมู่บ้าน Sthal Fidel ก็พบกับชาวบ้านมากมายที่มารอต้อนรับพร้อม Ted ที่กำลังรออยู่จนแทบจะบ้าก็รีบเข้ามาทวงถามถึงข่าวดี ทันทีที่ Fidel บอกไปว่า หัวหน้าโจร Eitalon ได้โดนกำจัดไปแล้ว เสียงโห่ร้องยินดีก็ดังระงมไปทั่วท่ามกลางความดีใจของชาวบ้าน “ตั้งแต่วันนี้จะได้ใช้ชีวิตแบสงบสุขเสียที” ชาวบ้านร้องตะโกน ก่อนที่ Victor และเหล่าทหาร Resulian จะได้รับความขอบคุณจะตัวแทนของชาวบ้านไม่ต่างจาก Fidel ก่อนที่ Ted จะดีใจจนลืมบอกข่าวดีกับ Fidel ว่าเด็กสาวที่พามารักษาตัวนั้นหายดีจนลุกขึ้นมาเดินเหินได้แล้ว Fidel กับ Miki จึงแยกตัวไปหาที่บ้านทันที  เมื่อเดินกลับเข้ามาที่บ้านของ Fidel ก็พบเด็กหญิงลึกลับยืนรออยู่ในบ้านแบบงงๆ



Miki – เธอรู้สึกตัวแล้วหรอ ขอบคุณพระเจ้า ไม่ต้องกลัวนะจ๊ะ 
Fidel – เธอจำอะไรได้บ้างมั๊ย 2 วันก่อนตอนที่ชั้นพาเธอมาที่นี่ เธอหลับไปนานมากเลยนะ ช่างเหอะ .. เออ นี่บ้านชั้นเองนะที่นี่หมู่บ้าน Sthal รู้จักป่ะ
Miki – แล้วหนูจำได้มั๊ยว่ามาจากไหน แล้วหนูชื่ออะไรละ ?
Relia – ชื่อ ..Relia 
Miki – เอาละ อย่างๆน้อยตอนนี้เราก็รู้ชื่อเธอแล้ว Relia แต่เรื่องอื่นนี่สิยังไม่รู้เลย เอาไงกันดีเรา 
Fidel – มึนตืบ เหมือนกัน .. บางทีเธออาจจะจำได้วันที่พวกชายลึกลับพยายามจะทำร้ายเรา เหมือนเธอจะหยุดเวลาได้ เธอทำหรือเปล่า ? … เปล่าๆๆ ชั้นไม่ได้โกรธ ไม่ต้องทำหน้าแบบนั้น อันที่จริงต้องขอบคุณด้วยซ้ำที่ช่วยพวกเราเอาไว้  
Miki – คงพลาดพรากจากคราอบครัวแน่ๆเลย ยังเด็กอยู่แท้ๆ ทำไมเรื่องมันเศร้าแบบนี้ ... มันต้องมีเบาะแสอะไรที่นำไปหาครอบครัวเธอได้บ้างสิน่า 
Fidel – อืมม แล้วตราสัญลักษณ์นั่นละ 
Miki – ที่หน้าผาเธออ่ะหรอ ? ชั้นไม่เคยเห็นมาก่อนในชิวิตเหมือนกันนะ
Fidel – ถ้าเราไปถาม Fiore ดูเธออาจจะรู้อะไรบ้างก็ได้ 
Miki – จริงด้วยสิ เธอเป็นคนของ สถาบันต่อต้านคำสาปแห่งราชสำนัก Langdauq เธอต้องรู้แน่นอน แล้วเราจะไปหาเธอที่ไหนอ่ะ
Fidel – บางที Victor อาจจะช่วยได้ เดี๋ยวชั้นลองไปถามดู เดี๋ยวมานะ 



จากนั้นเดินไปที่ทางออกเมืองทางซ้ายบนจะพบ Victor และพวกทหารกำลังเตรียมตัวออกเดินทางพอดี 
Fidel – กำลังจะไปแล้วหรอ
Victor – เรากำลังอยู่ในช่วงสงคราม ก็เลยต้องรีบกลับไปประจำการให้เร็วที่สุดแหละนะ 
Fidel – อยากจะขอรบกวนอะไรอย่างสิ ผมอยากจะพาใครคนนึงติดขบวนไปที่เมืองหลวงด้วยได้มั๊ย คือผมอยากจะปรึกษาอะไรกับ Fiore นิดหน่อย เพราะผมเจอเด็กหญิงคนนึงพลัดจากครอบครัวในระหว่างเดินทาง เธอมีตราสัญลักลักษณ์ประหลาดบนหน้าผาก เลยอยากจะปรึกษา Fiore เผื่อจะเป็นเบาะแสไปหาครอบครัวเธอได้บ้าง ได้โปรดช่วยพวกเราด้วยถ้าพอช่วยได้ 
Victor – ผมไม่มีเหตุผลที่ต้องปฎิเสธนี่ครับ ทันทีที่พาตัวเธอไปถึงเมืองหลวงจะติดต่อ Fiore ให้อีกที
Fidel – ขอบคุณมากครับ ผมเป็นหนี้คุณครั้งนึงแล้ว
Victor – แต่ต้องรีบหน่อยนะไปพาตัวเธอมาเราจะออกเดินทางในไม่กี่นาทีแล้ว พร้อมแล้วค่อยมาหาผมอีกที

ทันทีที่ได้รับการช่วยเหลือจาก Victor แบบง่ายดายแล้ว Fidel ก็รีบกลับไปตาม Miki กับ Relia ที่บ้านทันที เด็กน้อยที่กำลังหลงทางและแปลกถิ่นต้องออกเดินทางอย่างกะทันหันทำให้ Miki รีบอาสาเป็นผู้ดูแลให้ในระหว่างแปลอย่างเป็นทางการคือ งานนี้เธอก็จะตามไปด้วยเหมือนเดิม หลังจากเก็บของและอธิบายให้ Relia ฟังจนเข้าใจพร้อมปลอบใจจนเธอหายกลัวแล้วก็ออกไปหา Victor ที่หน้าทางออกเมืองได้เลย ซึ่งตอนนี้ Gunter , Mana และ Dake ทหารคนสนิทของ Victor ได้ล่วงหน้าไปก่อนแล้ว ก็เหลือแต่ Victor เป็นคนคุ้มครองทุกคนเพื่อเดินทางไปที่เมืองหลวงอีกครั้ง 





                                       ** ได้ Relia (リリア) เข้าร่วมกลุ่ม ** 

  


น้องริเลียนั้นเป็นตัวละคร Semi AI แปลว่า ถึงแม้เธอจะเข้าปาร์ตี้ด้วยแต่ตอนนี้จะยังไม่สามารถสวมใส่อาวธใดๆหรือแม้แต่บังคับสังการเธอได้เลย นอกจากสวมใส่ Roles เท่านั้น ริเลียจะอยู่ในฉากต่อสู้ด้วย เธอจะคอยใช้เวทย์ซับพอร์ทเสริมพลังโจมตีและป้องกันให้แต่จะโจมตีศัตรูไม่ได้เลย 



จากนั้นเดินทางจากหมู่บ้าน Sthal ผ่านไปยัง Dakaav Footpath จนถึงทุ่งกว้าง Resulian Plains ระหว่างนี้จะมีศัตรูใหม่ๆออกมาในพื้นที่ในเลเวลที่สูงขึ้น และถ้าเปิดแผนที่ของ Resulian Plains ดูจะเห็นจุดสีขาวอยู่กลางพื้นที่ เมื่อเข้าไปสำรวจดูจะพบจุดแบล็คโฮลสีดำอยู่ เข้าไปด้านในก็คือดันเจี้ยนลับที่ชื่อ Cathedral of Oblivion หรือวิหารที่ถูกลืมแห่ง









ด้านจะต้องสู้กับศัตรูเป็นชุดๆผ่านจุดวาร์ปเข้าไปจนถึงด้านในจะพบ Boss Eyebalone เมื่อจัดการได้ก็จะได้รางวัลในกล่องสมบัติเป็นการตอบแทนแล้วถึงจะสามารถวาร์ปออกจากที่นี่ได้ และสามารถเข้ามาอีกได้เมื่อมีจุดวาร์ปปรากฎได้แผนที่ สามารถสู้กับศัตรูและบอสได้อีกแต่จะไม่ได้รางวัลใดๆแล้ว



                                              Central Resulia


เดินทางเข้ามาที่เมืองหลวง Central Resulia เป็นรอบที่ 2 แวะเข้าไปสำรวจที่บอร์ดหางานจะพบว่ามี Quest ใหม่ๆเพิ่มเข้ามาอีก 7 Quest ย่อยดังนี้






                                                        -Side Quest -


1-Quest – Mother Medicine (Rank 1) 
ผู้ว่าจ้าง – ลูกกตัญญู 
สิ่งที่ต้องทำ – ต้องการไอเทม Physical Stimulant (ไอเทมเพิ่ม HP100 ยังผสมไม่ได้แต่เก็บได้ที่เหตุการณ์ในอีเวนท์ต่อไป อยู่ในกล้องในค่ายทหารหลังการรบที่  Resulian Plains ฝั่งตะวันตก)   
รางวัล 
- 550 EXP / เงิน 500 fol และ 100 sp   
- Energy Amulet  

2- Quest – Cat Cozy (Rank 2)
ผู้ว่าจ้าง – คนรักแมว 
สิ่งที่ต้องทำ – ต้องการไอเทม Toritose Shell (ไอเทมนี้เก็บจากมอนสเตอร์ที่เพิ่มขึ้นมาใหม่ใน Passage on the Cliffs หลังจากเข้าไปที่เมือง Santeroule แล้ว)
รางวัล 
- 300 EXP / เงิน 250 fol และ 75 sp   
- Fire Gem

3 - Quest – Shiny Shiny Scales (Rank 3)
ผู้ว่าจ้าง – เด็กที่หลงใหลวัตถุมันวาว
สิ่งที่ต้องทำ – ต้องการไอเทม Fish Scales 5 อัน (เกล็ดปลาหาได้จากจุดตกปลาทั่วไป) 
รางวัล 
- 700 EXP / เงิน 600 fol และ 100 sp   
- Anti – Stun Amulet  เครื่องรางป้องกันอาการมึนงง
- X Marks the Spot  คียไอเทมนี้จะปลดล็อก Specialties Skill Treasure Sense ออกมาให้ใช้ SP Point ซื้อมาซะจะทำให้เห็นตำแหน่งหีบสมบัติใน Mini Map 

4 - Quest – The Sweet Smell of Collection (Rank 2)
ผู้ว่าจ้าง – Collection Club 
สิ่งที่ต้องทำ – ต้องการไอเทม Nectar (หาซื้อได้ตามร้านค้าทั่วไป)
รางวัล 
- 350 EXP / เงิน 200 fol และ 75 sp   
- Iron

5 - Quest – Subjugation Directive : Gileeghas (Rank 1)
ผู้ว่าจ้าง – Central Resulian Army  
สิ่งที่ต้องทำ – ต้องการให้ไปกำจัด Keen – Eyed gileeghas 5 ตัว  (มอนสเตอร์ที่เพิ่มขึ้นมาใหม่ใน Passage on the Cliffs หลังจากเข้าไปที่เมือง Santeroule แล้ว
รางวัล 
- 300 EXP / เงิน 100 fol และ 30 sp   
- Blackberries potion
- Insectopedia  (คีย์ไอเทมนี้จะปลดล็อคความสามารถ Entomology ออกมาในเมนู Skill – Specialties เมื่อใช้ Sp :ซื้อแล้วจะทำให้ได้แเเรร์ไอเทมตกจากการจัดการศัตรูประเภทแมลงได้ดีขขึ้น )
  
6 - Quest – Subjugation Directive : Lnkyri (Rank 2)
ผู้ว่าจ้าง – Central Resulian Army  
สิ่งที่ต้องทำ – ต้องการให้ไปกำจัด  Glaciating Lnkyri 3 ตัว (มอนสเตอร์ที่เพิ่มขึ้นมาใหม่ใน Coast of Minoz หลังจากเข้าไปที่เมือง Santeroule แล้ว)  
รางวัล  
- 400 EXP / เงิน 200 fol และ 30 sp   
- Arcane Crest 

7 - Quest – Batting 1000 Against Luck Sucker (Rank 2)
ผู้ว่าจ้าง –  ผู้แสวงบุญ   
สิ่งที่ต้องทำ – ต้องการให้ไปกำจัด Luck Sucker 3 ตัว มอนสเตอร์ที่เพิ่มขึ้นมาใหม่ในเขต Dakaav Footpath หลังจากเข้าไปที่เมือง Santeroule แล้ว
รางวัล 
- 400 EXP / เงิน 200 fol และ 75 sp   
- Fire Charm
- Kindre Spirits    (คีย์ไอเทมนี้จะปลดล็อคความสามารถ Augury ออกมาในเมนู Skill – Specialties เมื่อใช้ Sp :ซื้อแล้วจะได้ Skill หูทิพย์มาใช้งานโดยเข้าไปกดสี่เหลี่ยมที่ Skill Augury ในเมนู Specialties ซึ่งทำให้รับรู้ข่าวสารดีๆมา ซึ่งต้องอ่านเอาเอง)






-ทำธุระเสร็จหมดแล้วเข้าไปที่หน้าปราสาทจะพบหัวหน้าทหาร Resulian ออกมาคุยกับ Victor หลังจากที่ Victor ขอโทษขอโพยเรื่องการมาถึงล่าเนื่องจากภารกิจที่ หมู่บ้าน Sthal แต่ดูเหมือนแม่ทัพจะไม่ติดใจเรื่องนั้นเพราะตอนนี้ เขาต้องการให้ Victor รวบรวมไพร่พลโดยด่วนเพราะตอนนี้ กองทัพของอณาจักร Trei'Kur ได้เข้ามาประชิดชายแดนส่วนหน้าแล้ว และด้วยความเร่งรีบของสถานการณ์ตอนนี้ เจ้าหน้าที่ระดับสูงอย่าง Daril พ่อของ Fidel รวมถึง Fiore Burnelli นักเวทย์ของสถาบันวิจัยเวทย์มนต์แห่ง Langdauq  คนที่ Fidel ต้องการจะพบก็เดินทางไปร่วมต่อสู้ในสนามรบที่แนวหน้าด้วยแล้ว ทำให้ Fidel ไม่มีทางเลือกที่ต้องไปที่จุดสู้รบเพื่อตามหาตัว Fiore ทันที 

-ออกจากเมืองหลวงทางประตูฝั่งซ้ายจะออกมาที่ Resulian Plains ฝั่งตะวันตกได้ เก็บไอเทม Skill Book Cerulean Orb Signets Vol1 สำหรับเรียนรู้เวทย์ Earth Glaive ของ Miki ในกล่องไอเทมแล้วเข้าไปที่ช่องเขาด้านตะวันตกจะเริ่มได้ยินเสียงของการสู้รบดังออกมา Victor จะแยกทางไปช่วยสู้ตามหน้าที่ ส่วน Fidel และ Miki ก็ต้องลุยทหาร Trei'Kur เข้าไปด้านในเพื่อตามหา Fiore แต่เมื่อลุยเข้าไปด้านในจนเจอ Fiore กำลังต่อสู้กับทหารจำนวนมากอยู่ จู่ๆ Relia ก็เกิดระเบิดพลังออกมาจนเวลาหยุดนิ่งอีกครั้ง มันทำให้การสู้รบจบลงด้วยการล่าถอยของ ทหาร Trei'Kur แต่สุดท้ายเธอก็สลบล้มลงเหมือนเดิม แต่ที่ไม่เหมือนเดิมคือการระเบิดพลังของ Relia ได้แสดงให้เห็นต่อหน้าทุกคนในสนามรบกันหมด




Fiore – พลังนี้เล่นเอาชั้นมึนหัวไปหมดเลย นี่เป็นครั้งที่ 2 แล้วหรอที่เธอทำแบบนี้น่ะ
Miki – ใช่คะ แล้วก็ทุกครั้งที่เธอทำแบบนี้มันก็เป็นการช่วยชีวิตเราทุกครั้งด้วย 
Fiore – บนหน้าผากเธอมันเหมือนสัญลักษณ์บางอย่างที่เก่าแก่มากๆจนเหมือนไม่เคยมีอยู่มาก่อน 
Miki – เราเองก็ไม่ทราบคะถึงมาปรึกษาคุณเผื่อจะพอรู้อะไรขึ้นมาบ้าง 
Fiore – ชั้นเองก็ไม่เคยเห็นสัญลักษณ์นี้มากก่อนเหมือนกันนะ แต่ดูจากรูปลักษณ์แล้วน่าจะเป็นสัญลักษณ์ของเวทย์มนต์ที่ทรงพลังมากๆแต่ชั้นก็ไม่สามารถระบุประเภทมันได้อย่างชัดเจนเหมือนกัน แต่ ที่สถาบันต่อต้านคำสาปแห่งราชสำนัก Langdauq ที่ชั้นอยู่มีคนที่มีความรู้ในเรื่องเวทย์มนต์เก่าแก่อยู่นะ เขามีประสบการณ์และความรู้มากกว่าชั้นเยอะเลยละ น่าจะพอให้คำตอบกับเรื่องนี้ได้ จะลองไปพบเขาดูมั๊ยละ ?
Miki – มีความรู้มากกว่าคุณอีกหรอ เยี่ยมเลย ไปสิๆ 
Fiore – งั้นไปกันเลย ชั้นนำทางไปคงไม่มีปัญหาอะไรหรอก 
Victor – เดี๋ยวก่อนครับ ตอนนี้สถานการณ์ยังไม่สู้จะดีนะ ถ้าเลดี้ Burnelli เดินทางกลับไป Langdauq น่าจะไม่เหมาะนะ



Daril – โทษทีนะ
Fidel – พ่อ !
Daril – จริงๆแล้วผมกำลังจะมาตาม เลดี้ Burnelli เลยแอบได้ยินการสนทนาโดยบังเอิญก็ต้องขออภัยด้วยนะครับ .. Fidel ฟังนะ เธอจะคุ้มครอง เลดี้ Burnelli และเด็กหญิงคนนั้นไปที่อณาจักร Langdauq
Victor – แต่ท่านครับ !! 
Daril– พวกเราต่างก็เห็นพลังนั่นแล้วไม่ใช่หรอ ถ้าหากเราเข้าใจพลังนี้ให้มากขึ้น เราอาจหยุดเรื่องเลวร้าย ไม่สิ ในอนาคตเราจะทำความฝันทุกอย่างให้เป็นความจริงได้โดยแค่พลิกฝ่ามือเลยนะ มันเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า
Victor – แล้วจะไม่ลงโทษกับพวกนี้ในเรื่องที่เกิดขึ้นหรอครับท่าน ?
Drail – อันที่จริงเราควรจะขอบคุณด้วยซ้ำที่ทำให้เราได้รับชัยชนะในครั้งนี้ ไม่ต้องห่วงหรอกชั้นไปทูลพระราชาถึงเรื่องทั้งหมดนี่เอง แล้วก็ Fidel หน้าที่ของเธอคือต้องปกป้อง เลดี้ Burnelli ให้ไปถึงอณาจักรให้ปลอดภัยด้วยนะ Fidel – แน่นอนพ่อ 
Victor – ส่วนผมจะดูความเรียบร้อยที่นี่ต่อก่อนเผื่อพวกมันข้ามพรมแดนมาอีกรอบ ส่วนนายก็ต้องดูแล เลดี้ Burnelli ให้ดีด้วยนะ Fidel

หลังจาก Relia ฟื้นแล้ว ทุกคนก็เตรียมออกเดินทางสู่ อณาจักร Langdauq โดยมี Fiore Burnelli เข้าร่วมกลุ่มอีกครั้งส่วน Victor ออกจากกลุ่มคอยดูแลการรบที่ชายแดนต่อ

** ก่อนออกจากที่นี่อย่าลืมสำรวจเก็บลังไอเทมให้หมดด้วย ทางมุมซ้ายของเต้นที่พักจะมีไอเทม Physical Stimulant สำหรับเคลียร์ Quest Mother Medicine อยู่ด้วย ** 


                                              เมืองหลวง Central Resulia

จากนั้นออกเดินทางกลับเข้าเมืองหลวง Central Resulia อีกครั้ง สำรวจที่บอร์ดหางานจะพบ Quest เพิ่มขึ้นมาอีก 4 Quest คือ


                                                -Side Quest -

1-Quest – Find Ruddle (Rank 3)
ผู้ว่าจ้าง – Rumina  
สิ่งที่ต้องทำ – ตามหาชายที่ชื่อ Ruddle ที่หายตัวไป 
ตามเบาะแสที่คนที่เป็นรูปดาวสีเหลืองตามที่ต่างๆคือ 
 ในตลาดที่เมือง Myiddok  
ในคลีบิคที่หมู่บ้าน Sthal 
และจะไปเจอเขาที่หน้าร้านค้าในเมือง Central Resulia   



รางวัล 
- 800 EXP / เงิน 400 fol และ 100 sp   
- Earth Charm   

2- Quest – Trauma to go (Rank 1)
ผู้ว่าจ้าง – ตาแก่ผู้ชื่นชอบการกินอาหาร  
สิ่งที่ต้องทำ – ต้องการไอเทม Vegetable Stir – fry และปลา Goilled fish  3 ตัว 

Vegetable Stir – fry เป็นไอเทมอาหาร ที่ผสมจาก Fresh Vegetables + prehistoric Meat + Seasining หรือ ได้รางวัลจาก Quest Subjugation Directive: Dek
Goilled fish  ต้องผสมจากเมนูอาหาร รายชื่อที่ 4 ใช้  Lemon กับ  Raw Fish.ในการทำ 


รางวัล 
- 600 EXP / เงิน 600 fol และ 100 sp   
- Skill book Solar Signets Vol.1  สำหรับเพิ่มเลเวลให้เวทย์ Fire Bolt ของ Miki 
-Seasonigs 

3- Quest – The Four Stooges (Rank 1)
ผู้ว่าจ้าง – Ted   
สิ่งที่ต้องทำ – ต้องการให้หาตัวคนที่ดูถูกสำนักดาบ Camuze  (หลังเข้าเมือง Santeroule  แล้วกลับไปที่สำนักดาบ Camuze  ที่หมู่บ้าน Sthal จะเจอพวกมันอยู่ 4 คนจัดการมันซะ )
รางวัล 
- 800 EXP / เงิน 500 fol และ 100 sp   
- Skill book Swordsman Manual Vol.5

4 - Quest – Subjugation Directive : Dek (Rank 2)
ผู้ว่าจ้าง – Central Resulian Army  
สิ่งที่ต้องทำ – ต้องการให้ไปกำจัด  Dek of Boling Blood 3 ตัว

( มอนสเตอร์ที่เพิ่มขึ้นมาใหม่ทางซ้ายล่างของเขต Resulian Plains หลังจากเข้าไปที่เมือง Santeroule แล้ว



รางวัล 
- 500 EXP / เงิน 250 fol และ 100 sp   
- Vegetable Stir – fry
-Broadening your Horizon  (คีย์ไอเทมนี้จะปลดล็อคความสามารถ Lookout ออกมาในเมนู Skill – Specialties เมื่อใช้ Sp :250 ซื้อจะทำให้เห็นตำแหน่งศัตรูใน Mini Map ได้ )

จากนั้นเดินทางออกจากเมืองหลวงมาที่ Resulian Plains บรรยากาศจะเริ่มมืดแล้วทำให้ต้องแวะไปพักที่เมือง Myiddok ก่อน



                                           เมือง Myiddok


เมื่อเข้ามาในเมืองแล้ว จุดดาวแดงของ Event เนื้อเรื่องจะต้องเข้าไปพักในโรงแรม แต่ อย่าเพิ่งเข้าไปให้ดูแผนที่จะพบ จุดดาวสีเหลือง 2 จุดนั่นคือเบาะแสของ Quest ย่อย Find Ruddle ที่ต้องตามหาชายที่ชื่อ Ruddle ที่หายตัวไป


โดยจุดดาว 2 จุดก็คือแม่ค้าที่ร้านและคนเมาที่เดินไปมา ซึ่งเมื่อเข้าไปคุยแล้วจะได้เบาะแสว่า Ruddle นั้นไปที่หมู่บ้าน Sthal รับรู้ไว้ก่อนแต่ตอนนี้จะยังออกนอกเส้นทางไม่ได้ จึงต้องดำเนินเรื่องต่อไปก่อน

แวะไปที่ Welth Laboratary ด้วยจะพบว่า Welth กำลังเศร้าเพราะโดนไล่ที่จนต้องปิดห้องทดลองของเธอ แต่เธอก็อยากให้ทำภารกิจสุดท้ายให้เธอด้วย



                                                     -Side Quest -

Quest – End of Welth’s Laboratary !? (Rank3)
เจ้าของเควส - Welth Vineyard
สิ่งที่ต้องทำ – ต้องการคีย์ไอเทม Two- headed Corrupt และ discarded silver Spoon




(คีย์ไอเทมทั้ง 2 อันอยู่กับมอนสเตอร์ที่เพิ่มขึ้นมาใหม่ในเขต Dakaav Footpath หลังจากเข้าไปที่เมือง Santeroule แล้ว

รางวัล 
- 800 EXP / เงิน 300 fol และ 100 sp   
- Alchemist’s water 
-We all Scream for Alchemy  คีย์ไอเทมนี้จะปลดล็อคความสามารถ Alchemy ออกมาในเมนู Skill – Specialties ให้ผสมไอเทมได้



หลังจากทำธุระหมดแล้วก็เข้าโรงแรมในเมืองพักผ่อนได้เลย แต่ในขณะที่ทุกคนกำลังพักผ่อน เสียงเคาะประตูที่ดูจะมาจากผู้ไม่หวังดีก็ดังขึ้นหมายจะให้พวกของ Fidel เปิดประตูให้เข้าไป แต่ Fidel ไหวตัวทันจึงรีบบอกให้ทุกคนปีนหน้าต่างหนีออกไปนอกโรงแรมทันที เมื่อออกมาแล้วก็ไม่มีทางไหนไปได้นอกจากหนีออกนอกเมืองทางอีกฝั่งได้เลย ซึ่งจะออกมาที่แผนที่ West of Eastern Eihieds 



ในเขต West of Eastern Eihieds ในยามค่ำคืน เดินเข้ามาตามทางจนถึงกลางแผนที่ แวะจุดเซฟก่อนตรงนั้นจะมีลูกพลังให้เติม HP ฟรีด้วยที่นี่จึงเหมาะจะเก็บเลเวลมากๆ จากนั้นเดินทางต่อไปจนถึงกลางพื้นที่จะพบกับพวกชายลึกลับที่พยายามบุกเข้ามาเพื่อจะจับตัว Relia อีกครั้ง แน่นอนว่า Fidel กับพวกต้องพยายามเข้าไปขัดขวางแต่การต่อสู้ก็ดำเนินไปอย่างยากลำบากเพราะกลุ่มชายลึกลับใช้บาเรียที่สามารถป้องกันการโจมตีได้จนหมด 




แต่จู่ๆกลุ่มคนลึกลับอีก 2 คนก็ปรากฏตัวออกมาและใช้เทคโนโลยีบางอย่างที่สามารถปิดระบบบาเรียของพวกศัตรูได้ ทำให้ Fidel และทุกคนเข้าต่อสู้จนสามารถจัดการกับพวกมันได้จนหมดสำเร็จ หลังจากนั้นกลุ่มคนแปลกหน้า 2 คนจะเข้ามาแนะนำตัวกับทุกคนซึ่งข่าวดีคือพวกเขามาอย่างมิตร



Fidel – ต้องขอบคุณมากที่พวกคุณมาช่วยเอาไว้
Emmerson - ไม่เป็นไรหรอกน่า เอาจริงๆจะรังเกียจมั๊ยถ้าพวกเราจะขอร่วมทริปเดินทางไปกับพวกคุณด้วยเนี้ย 
Miki – ห๊า !!
Emmerson - ก็เพิ่งพูดไปแม่สาวน้อย การแสดงออกแบบนั้นไม่เสียมารยาทไม่ดีเลยนะ
Anne – เอ่อ ชั้นขอโทษด้วยนะ พวกเราไม่มีเจตนาจะทำอันตรายพวกคุณจริงๆ ชั้นชื่อ Anne ส่วนเขาชื่อ Emmerson
Emmerson – อันที่จริงพวกเธอควรเชื่อใจพวกเราและรับพวกเราเข้าร่วมเดินทางนะ
Anne – กัปตัน !! .. เอ่อ ชั้นหมายถึง Emmerson หยุดพูดไม่ดีแบบนั้นซะทีสิ พวกเขาเป็นคนดีนะ 
Emmerson – เธอพูดถูก ถ้าจู่ๆมีคนมาขอร่วมทางกับชั้น ชั้นก็คงไม่ไว้ใจหรอกนะ เอางี้นี่คือข้อตกลง เราต่างก็เหมือนกันนะ 
Miki – เหมือนพวกเราหรอ ? ตรงไหนอ่ะ 
Emmerson – ก็เหมือนตรงที่เราต้องหนีพวกนักเลงอวกาศนั่นเหมือนกันไง
Miki – พวกมันก็ไล่ล่าพวกคุณเหมือนกันหรอ
Emmerson – พวกเธอพึ่งมาจากเมือง Myiddok ใช่มั๊ย เราก็เพิ่งหนีพวกมันมาหลังจากพวกเธอไม่นานเหมือนกัน 
Miki – แล้วทำไมคุณถึงมาช่วยพวกเราละ ?
Emmerson – ก็ผู้หญิงสวยๆสองคนกับเด็กอีกคนกำลังเดือดร้อนใครจะทำเป็นไม่เห็นได้ละ 
Finel – ฟังดูเข้าท่าดีนะ พวกคุณมากับพวกเราก็ได้ 
Emmerson – กะแล้วต้องพูดแบบนี้
Anne – เราจะไม่ทำให้พวกคุณผิดหวังแน่นอนคะ



                ** ได้ Emmerson(エマーソン) และ Anne (アンヌ) เข้าร่วมกลุ่ม ** 




จากนั้นทั้ง 6 ก็ออกเดินทางร่วมกันจนถึงพรหมแดนของอณาจักร Langdauq Iณ.ที่จุดดาวสุดทางของแผนที่ พร้อมกับตะวันรุ่งของวันพรุ่งนี้







                            Santeroule เมืองหลวงแห่งอณาจักรมนต์ตรา Langdauq





ทันทีที่เข้ามาถึงเมืองหลวงของ Langdauq แล้ว Fiore จะเตรียมนำทางทุกคนเข้าไปยังด้านในสถาบันต่อต้านคำสาปแห่งราชสำนัก Langdauq ทันที แต่ลองแวะเข้าไปดูบอร์ดหางานของเมืองก่อนจะพบ Quest อยู่ 4 อันคือ





                                                           -Side Quest -


1- Quest –Revenge in a Dish Served Burnt (Rank3)
ผู้ว่าจ้าง – นักศึกษาในสถาบันต่อต้านคำสาป
สิ่งที่ต้องทำ – ต้องการไอเทม Charred Meat 1 อัน (หาซื้อได้ในร้านค้าในเมือง Santeroule)
รางวัล 
- 1200 EXP / เงิน 500 fol และ 150 sp   
- Skill book the founder’s signets Vol1 (เวทย์ฮีลหมู่ Aurora Ring ของ Miki)

2- Quest –Collecting the Metal that plays second fiddle (Rank3)
ผู้ว่าจ้าง – Collection Club 
สิ่งที่ต้องทำ – ต้องการไอเทม แร่เงิน Silver 5 อัน (อัพ Skill Specialties การขุดแร่เลเวล 5 – 6 แล้วขุดหาเอา)
รางวัล 
- 1300 EXP / เงิน 500 fol และ 125 sp   
-Light Gem
- Ocarina of Temptation  (คีย์ไอเทมนี้จะปลดล็อก Skill Specialties Ocarina ออกมา ซึ่งจะสามารถเข้าไปกดสี่เหลี่ยมใช้งานในช่อง Skill Ocarina ใน Specialties จะเป็นการเป่าคขลุ่ยเรียกศัตรูในแผนที่ให้ออกมาใหม่โดยไม่ต้องเข้าออกแผนที่)

3- Quest –Open Season on Ostharks (Rank3)
ผู้ว่าจ้าง – Langdauq DPT. of public Order 
สิ่งที่ต้องทำ – กำจัด Thunderstruck Ostharks 4 ตัว (หาได้จากเส้นทาง North of Eastern Eihieds ทางออกด้านบนของเมือง Santeroule)
รางวัล 
- 1500 EXP / เงิน 500 fol และ 125 sp   
- Golden Omelet 
- Skill book Swordman Manual Vol1 (สำหรับอัพท่า Air Slash ของ Fidel)

4- Quest –Open Season on Hados (Rank3)
ผู้ว่าจ้าง – Langdauq DPT. of public Order 
สิ่งที่ต้องทำ – กำจัด Lancing Hados 10 ตัว (หาได้จากเส้นทาง West of Eastern Eihieds แมลงในช่องเข้าใกล้ๆทางออกด้านซ้ายของเมือง Santeroule)
รางวัล 
- 1300 EXP / เงิน 600 fol และ 125 sp   
- Ice Charm  


จากนั้นตาม Fiore เข้าไปยังด้านในสถาบันต่อต้านคำสาปแห่งราชสำนัก Langdauq จนถึงห้องทำงานของ Ceisus เพื่อนรุ่นน้องของเธอ



Miki – เด็กเนี้ยนะ ??
Fiore- ก็นะ รูปลักษรณ์ภายนอกมันอาจทำให้เข้าใจผิดกันได้ แต่ยังไงเขาก็เป็นนักวิชาการที่ฉลาดที่สุดเท่าที่เราเคยมีเลยละ 
Ceisus – สถาบันเราของต้อนรับนะ ผมชื่อ Ceisus เป็นหนึ่งในทีมนักวิจัยของที่นี่ ปกติเราไม่ค่อยจะอณุญาติให้คนอื่นเข้ามาที่นี่ไม่ใช่หรอ Fiore ? 
Fiore- คืออยากมาขอความเห็นของเธอเกี่ยวกับสัญลักษณ์ประหลาดของเด็กผู้หญิงคนนี่หน่อย รับรองไม่ใช่ของที่เธอเคยเห็นบ่อยๆแน่นอน คำถามแรกเลย ใครเป็นคนทำสัญลักษณ์ใส่เด็กตัวเท่านี้นะ
Ceisus – ก็ไม่ได้บอกว่าจะตอบคำถามเธอได้หมดหรอกนะ แต่อย่างน้อยก็น่าจะทำให้มันกระจ่างขึ้นได้บ้างแหละ ชั้นเองก็ไม่ค่อยได้ยุ่งกับคนที่นี่มากเท่าไหร่ กำลังเบื่อๆ มีอะไรมาให้ค้นคว้าก็น่าจะดีเหมือนกัน 
Fiore- มันน่าจะซับซ้อนกว่าที่คิดนะ อย่างแรก ทำไมเขาถึงตีตรากับเด็กขนาดนี้ อย่างที่ 2 เธอมาจากไหนทำไมถึงไม่มีใครรู้จักหรือยืนยันตัวตนเธอได้เลย อย่างที่ 3 เท่าที่เห็นพลังของเธอมา เหมือนเธอจะควบคุมพลังจากสัญลักษณ์นี้ไม่ได้เลยด้วยซ้ำ และตั้งแต่เกิดมาชั้นก็ไม่เคยเห็นรูปแบบของสัญลักษณ์มาก่อนเลยด้วย 



Ceisus – ไหนลองวาดให้ผมดูหน่อยสิ ... อืมม ผมก็ไม่เคยเห็นรูปแบบนี้มาก่อนเลยเหมือนกันนะ 
Fiore- ชั้นนึกว่าเธอกับคนที่นี่จะเคยเห็นอะไรต่ออะไรมาทุกอย่างแล้วซะอีก 
Ceisus – ก็รู้เยอะ ชั้นแค่ไม่รู้จักสัญลักษณ์แบบที่เธอมาวาดมาแค่นั้นเอง เธอคงต้องไปหาคนอื่นช่วยแล้วละ
Fiore- สรุปว่าชั้นต้องเดินทางมาไกลมาเพื่อปรึกษานายแต่นายจะให้ชั้นไปหาคำตอบเอาเองหรอ ชั้นจะไปรู้ได้ไงเนี้ย ? 
Ceisus – ผมก็ช่วยได้เท่าที่จะทำได้แล้วนี่นา เออ ทำไมไม่ลองไปค้นหาข้อมูลที่สถาบันต่อต้านคำสาปเดิมดูละ ที่นั่นมีเอกสารเก่าๆที่ทรงคุณค่าเยอะแยะเลยนะ 
Fiore-  อืมม... บางทีที่เราไม่เคยเห็นเพราะมันอาจเป็นสัญลักษณ์จากยุคโบราณก็ได้นะ ที่นั่นอาจตอบโจทย์ให้เราก็ได้นะ 
Ceisus – ส่วนผมก็จะหาข้อมูลเพิ่มเติมให้ด้วยแล้วกันนะใครได้อะไรมาค่อยเอามาประติดประต่อกัน
Fiore- ขอบคุณมากนะ Ceisus เอาละ พวกเรามีเป้าหมายต่อไปแล้ว เดินทางกันได้เลย ..



จากนั้นเดินทางออกทางทิศเหนือของเมือง Santeroule ไปตามเส้นทาง North of the Eastern Elhieds มุ่งสู่ ที่เก็บรวบรวมศาสตร์จากยุคโบราณ Ancient Institute เมื่อเข้ามาถึงด้านในแล้ว Relia จะเกิดการแปลกๆขึ้นมา



Relia – โอ๊ยย อ๊าคๆ !!
Fidel – รีเลีย เป็นอะไร !!
Relia – เจ็บนิดหน่อย แต่ตอนนี้ดีขึ้นแล้วคะ คือ มันรู้สึกแปลกๆว่าที่นี่เหมือนจำได้ว่าเคยเป็นบ้านของหนูเลย 
Fidel – แล้วเอ่อ เธอจำอะไรได้บ้างมั๊ย เรื่องพ่อแม่อ่ะ ?
Relia – ทราย ... ชั้นจำได้ว่ามีทรายติดขาชั้นมาตอนเข้ามาด้านในบ้าน
Fiore – ในทางวิทยาศาสตร์ถ้าลองคิดดูดีๆ ฝุ่น ผง อาจเกิดจากการทดลองอะไรซักอย่าง บางทีพ่อแม่เธออาจเป็นนักวิทยาศาสตร์ก็ได้นะ 
Fidel – OK เบาะแสเราคือ ห้องทดลองกับทรายสินะ 
Emmerson – พูดถึงเรื่องทรายก็ต้องนึกถึงอณาจักร Trei'Kur และชั้นเคยได้ยินมาว่าที่นั่นมีห้องทดลองอยู่เหมือนกันนะ 
Fiore – อะไรนะ ชั้นไม่เห็นเคยได้ยินข่าวเลยว่าที่ Trei'Kur มีห้องทดลองด้วยอะ
Anne – อาจเพราะอณาจักรของเธอไม่ได้มีควาสัมพันธ์กับ Trei'Kur จนทำให้เธอไม่รู้ข้อมูลนี้ก็ได้นะ และยิ่งที่อนาจักรนั่นที่บ้าการทำสงครามยังไงพวกมันก้ต้องมีห้องทดลองลับเพื่อทดลองอาวุธต่างๆบ้างละ
Fiore – ก็นั่นแหละที่เธอพูดมามันก็ถุกนะ ด้วยเหตุผลทางการเมืองทำให้เราเป็นศัตรูกันมาตลอด และนั่นก็แปลว่าเราจะเข้าไปที่นั่นไม่ได้ยังไงละ 
Fidel – อณาจักร Trei'Kur หรอ ? ชั้นได้ยินว่าเรากำลังทำสงครามกันอยู่ แล้วจะหาทางไปยังไงดี 
Miki – แล้วถ้าเราลองไปขอให้ Victor ช่วยละ เขาจะว่าไงบ้างก็ไม่รู้นะ 
Fidel – ใครจะรู้ละ 
Relia – ชั้นอยากจำได้ อยากจำเรื่องราวของตัวเองได้ทั้งหมดเลย 
Fidel – งั้นสรุป ... ไม่มีทางเลือก เราคงต้องกลับไปที่ Central Resulia ลองขอให้ Victor หาทางช่วยดู เป็นไงค่อยว่ากันอีกที  ...


 หลังจากจบเหตุการณ์ที่ Santeroule แล้ว ตอนนี้จะสามารถเดินทางไปมาตามสถานที่ต่างๆไปจนถึงหมู่บ้านแรกได้อย่างอิสระไม่มีการปิดกั้นแล้ว คุณสามารถไปจัดการหาไอเทม Quest ตามสถานที่ต่างๆที่ต้องการได้ ซึ่งผมได้เพิ่มเติมเควสต่างๆที่ผ่านมาซึ่งได้เคลียร์จนหมดแล้ว กลับไปดูที่หัวข้อ Quest ที่ผ่านมาได้เลย


ระหว่างทางกลับแวะไปที่ Welth Laboratary ที่เมือง Myiddok ด้วยจะพบว่า Welth มีภารกิจใหม่ให้ทำต่อเนื่อง 2 Quest คือ 





                                         -Side Quest -


1 Quest – Grand Designs (Rank3)
ผู้ว่าจ้าง - Welth Vineyard
สิ่งที่ต้องการ – Silver 2 อัน Ruby 1 อันและ Silk 2 อัน
รางวัล 
- 1100 EXP / เงิน 700 fol และ 125 sp   
- Mind Bracelet  
-Crafty Crafting Techniques  



คีย์ไอเทมนี้จะทำให้ปลดล็อก Skill Specialties Crafting และ Ornamentation ซึ่งเมื่อใช้ SP ซื้อมาแล้วจะทำให้มีคำสั่งใหม่เพิ่มขึ้นมา คือ   
- คำสั่ง Crafting ในเมนู Creation ทักษะงานฝีมือหรือการผสมไอเทมที่ดีมากขึ้น
- คำสั่ง Augmentation ในเมนู Creation คือการตีบวก เอาไอเทมต่างๆผสมเข้าไปในไอเทมสวมใส่ 

2. Quest – Happy Funny Time (Rank 4)
ผู้ว่าจ้าง - Welth Vineyard
สิ่งที่ต้องการ – Bunnylicious pies 5 อัน 




Bunnylicious pies เป็นไอเทมอาหาร ผสมจาก
Wheat Flour, 1 อัน (ซื้อได้ที่เมือง Santeroule)
Red Fruit, 1 อัน 
Green Fruit 2 อัน
Nectar 2 อัน 
รางวัล 
- 1600 EXP / เงิน 1000 fol และ 150 sp   
- Vitalitea   
-Intro to intelligent item Design 



คีย์ไอเทมนี้จะทำให้ปลดล็อก Skill Specialties Synthesis ซึ่งเมื่อใช้ SP ซื้อมาแล้วจะทำให้มีคำสั่งใหม่เพิ่มขึ้นมา คือ  คำสั่ง Synthesis ในเมนู Creation ทักษะงานฝีมือหรือการสังเคราะห์ไอเทม3 ชนิด (อัพได้มากสุด 6 ชนิด) มารวมกันให้กลายเป็นไอเทมชนิดใหม่




                                     -เมืองหลวง Central Resulia -


เมื่อเข้ามถึงเมือง Central Resulia ทุกคนจะรู้ถึงความรู้สึกที่เปลี่ยนไปท่ามกลางความกดดันและความหวาดกลัวของพวกชาวบ้านเพราะดูเหมือนภาวะสงครามที่ทุกคนไม่อยากให้เกิดกำลังจะคืบคลานเข้ามาใกล้มากขึ้นทุกที

* อย่าเพิ่งเข้าไปจุดดาวแดงในเหตุการณ์เนื้อเรื่อง เข้าไปสำรวจที่บอร์ดรับงานก่อน เพราะเมื่อเคลียร์ Quest ชุดแรกที่รับมาจากบอร์ดรับงานจนหมดแล้ว Quest ชุดที่ 3 ก็จะเพิ่มใหม่อีก 7 Quest ดังนี้ *


                                                         - QUEST -      

             

1- Quest –Birthday boy (Rank 1) 
ผู้ว่าจ้าง – เจ้าของร้านขายอาวุธ
สิ่งที่ต้องการ – Iron 2 อัน กับ Wild Gem 1 อัน 
รางวัล 
- 1000 EXP / เงิน  500 fol และ 125 sp   
- Scale Mail 

2. Collection: The Cure for youthful fears (Rank 3)
ผู้ว่าจ้าง – Collection Club
สิ่งที่ต้องการ – Red Fruit 10 อัน (ดรอปจากมอนสเตอร์แมลงในถ้ำโจรในเขต Dakaav Footpath และที่จุดเก็บเกี่ยว) 
รางวัล 
- 1200 EXP / เงิน 550 fol และ 125 sp   
- Wind Charm 

3. Subjugation Directive: Gargans (Rank 2)
ผู้ว่าจ้าง – Central Resulian Army 
 สิ่งที่ต้องการ – กำจัด Twin-fanged gargans (มอนสเตอร์ตัวนี้อยู่ในเขต Dakaav Footpath) 
รางวัล 
- 500 EXP / เงิน 200 fol และ 100 sp   
- Blueberrie 
- The Best Bestiary Bar None (คีย์ไอเทมนี้จะทำให้ปลดล็อก Skill Specialties Zoology ซึ่งเมื่อใช้ SP ซื้อมาแล้วจะทำให้สร้างความเสียหายให้กับศัตรูประเภทสัตว์ป่ามากขึ้นและทำให้ดอรป์ไอเทมจากศัตรูประเภทสัตว์ป่ามากขึ้นด้วย  )

4. Corruption of the Land (Rank 3)
ผู้ว่าจ้าง – Central Resulian Army 
 สิ่งที่ต้องการ – กำจัด Amorphous dryxes 5 ตัวและ Erosive cyklas 5 ตัว (มอนสเตอร์ 2 ตัวนี้จะอยู่ด้วยกันในเขต Resulian Plains) 
รางวัล 
- 500 EXP / เงิน 150 fol และ 100 sp   
- Furtification Signets Vol.1 ไอทมสำหรับอัพเลเวลท่า Antidote ของ Miki 

5. Give back that Bonus (Rank 3)
ผู้ว่าจ้าง – Archetypal Father  
 สิ่งที่ต้องการ – กำจัด Greedy Avaricia 1 ตัว (มอนสเตอร์ตัวนี้จะอยู่ในเขต Coast of Minoz) 
รางวัล 
- 700 EXP / เงิน 700 fol และ 100 sp   
- Anti-poison Amulet 

6- Quest –By the Skin of this Faise teeth (Rank3) 
ผู้ว่าจ้าง – ผู้เฒ่า Jugar  
สิ่งที่ต้องการ – ไอเทม Wolf fang 5 อัน (ไอเทมดอร์ปจากพวกมอนสเตอร์ประเภทสัตว์ป่าทั้งหมด)
รางวัล 
- 1100 EXP / เงิน  500 fol และ 125 sp   
-Gold
- How to Express Yourself 

(คีย์ไอเทมนี้จะทำให้ปลดล็อก Skill Specialties Emotes ซึ่งเมื่อใช้ SP ซื้อมาแล้วจะทำให้สามารถใช้โหมดแสดงอารมณ์ต่างๆด้วยการกด R2 และเลือกท่าทางต่างๆที่มีอยู่ทั้งหมด 12 ชุดท่าทางตามระดับเลเวลของ Emotes ที่เราอัพไว้  


7.- Quest  Wanted: Chaos Corpse Corporals (Rank 3)
ผู้ว่าจ้าง – Central Resulian Army
 สิ่งที่ต้องการ – กำจัด Chaos Corpse Corporals 5 ตัว (มอนสเตอร์ตัวนี้จะอยู่ในเขต Western Tunnel Dakaav)   ** รอเนื้อเรื่องดำเนินไปถึง **




รางวัล 

- 1300 EXP / เงิน 600 fol และ 125 sp   
- Anti-Fog Amulet


และหลังจากเคลียร์ Quest ชุดที่ 3 บอร์ดรับงานในเมืองหลวง Central Resulia จนหมด ก็จะมี Quest ชุดที่ 4 เพิ่มขึ้นมาใหม่อีก 2 Quest คือ



1 Quest . Subjugation Directive: Magvor (Rank 2)
ผู้ว่าจ้าง – Central Resulian Army 
 สิ่งที่ต้องการ – กำจัด Corpulent maguors (มอนสเตอร์ตัวนี้อยู่ในเขต Dakaav Footpath ตรงช่องเขาใกล้ๆทางเข้าหมู่บ้าน Sthal) 
รางวัล 
- 1000 EXP / เงิน 600 fol และ 125 sp   
- Diligence potion
- Plant & Picture (คีย์ไอเทมนี้จะทำให้ปลดล็อก Skill Specialties Botany ซึ่งเมื่อใช้ SP ซื้อมาแล้วจะทำให้สร้างความเสียหายให้กับศัตรูประเภทพืชมากขึ้น และทำให้ดอรป์ไอเทมจากศัตรูประเภทพืชได้มากขึ้นด้วย  

2. Quest  Wanted: The Skoudde Brother  (Rank 3)
ผู้ว่าจ้าง – Central Resulian Army 
 สิ่งที่ต้องการ – กำจัด Dastardly Skoudde Brother 3 ตัว (มอนสเตอร์ตัวนี้อยู่ในเขต Resulian Plains ฝั่งตะวันตกของเมือง Central Resulia )  ** รอเนื้อเรื่องไปถึง **




รางวัล 
- 1500 EXP / เงิน 600 fol และ 125 sp   
- Darkness Gem 

  

** ถึงตอนนี้ Quest ทั้งหมดที่เมืองหลวง Central Resuliaในเนื้อเรื่องส่วนแรกจนถึงตอนนี้จะเคลียร์ได้หมดแล้ว ยกเว้น 2 ภารกิจที่ต้องรอเนื้อเรื่องในช่วงต่อไป ** 



เมื่อทำทุกอย่างจนหมดแล้วค่อยเดินไปที่จุดดาวแดงที่หน้าปราสาท .... ในขณะที่คณะของ Fidel กำลังจะขอทหารเพื่อเข้าไปพบ Victor ด้านใน แต่ด้วยความวุ่นวายของภาวะสงครามทำให้ทหารไม่มีเวลาที่จะให้ทุกคนเข้าไปจน Fiore ต้องอ้างตัวตนของเธอรวมไปถึงพ่อของ Fidel กันให้ยุ่งไปหมด แต่โชค Victor ออกมาด้านนอกถึงได้เจอกับพวก Fidel




Victor แปลกใจที่ Fiore กับพวกของ Fidel มาอยู่ที่นี่แถมยังมีเพื่อนแปลกหน้ามาอีก 2 คน ทำให้ Fidel ต้องอธิบายว่าได้พบเจอ Anne กับ Emmerson ระหว่างทางเพราะทั้งคู่เข้ามาช่วยเหลือขณะที่ถูกพวกคนร้ายพยายามจะชิงตัวไปในตอนที่กำลังเดินทางไปที่เมือง Santeroule ก่อนที่ Miki จะตัดบทขอให้ Victor ช่วยพาข้ามพรหมแดนของอณาจักร Trei'Kur เพื่อต้องการหาทางฟื้นความทรงจำให้ Relia แน่นอนว่า Victor ต้องปฏิเสธเสียงแข็งที่จะช่วยเพราะในภาวะสงครามที่ข้าศึกประชิดดินแดนแบบนี้คงยากที่จะข้ามไป ทำให้ Fiore ยอมที่จะยืนข้อเสนอที่จะขอกำลังจากอนาจักร Langdauq ของเธอเพื่อมาช่วยรบ ร่วมถึง Fidel , Emmerson และ Anne ก็ยืนยันพร้อมกันว่าจะฝีมือของพวกเขาสนับสนุนการรบครั้งนี้ด้วยเช่นกัน จนทำให้ Victor ยอมพาทุกคนเข้าไปในปราสาทเพื่อเข้าพบแม่ทัพทันที



เมื่อเข้ามาในปราสาท Castle Barift แล้ว ทุกคนจะขึ้นไปคุยกับแม่ทัพของกองทัพ Resulian ในขณะที่ Victor เข้าไปบอกข่าวดีเกี่ยวกับการเข้าร่วมของกองทัพ Langdauq ในการต้านศัตรู ในขณะที่แม่ทำกำลังพอใจ ทหารก็แจ้งว่าพวกทหาร Trei'Kur บุกเข้ามาในเมืองเสียก่อน ทำให้พวกทหารทั้งหมดต้องไปช่วยกันจัดการศัตรูที่ด้านนอกทันที ก่อนออกไปเก็บหีบสมบัติให้หมดทุกอันก่อน และยังมี 2 กล่องที่ล็อกอยู่ก็จำไว้ด้วยวันหลังค่อยแวะมาเอา จากนั้นก็เติมพลังให้พร้อมแล้วออกนอกปราสาทได้เลย 

เมื่อออกมาด้านนอกจะพบว่าทุกอย่างเต็มไปด้วยความวุ่นวาย ท่ามกลางความมืดของยามค่ำคืนที่ทหาร Trei'Kur ได้บุกเข้ามาแบบไม่มีใครตั้งตัว พยายามจัดการศัตรูไปเรื่อยๆ ถ้าอยากเก็บเวลก็จัดการศัตรูไปจนกว่าจะพอใจเพราะมันจะออกมาเรื่อยๆไม่มีหมด  จากนั้นมุ่งหน้าไปที่ทางออกทางตะวันตกของเมืองจะพบกับพวกคนร้ายที่เคยมาจับตัว Relia ไปซึ่งพวกมันก็คือทหารหน่วย Trei'Kur Arguebusier นั่นเอง จัดการพวกมันให้หมดแล้วหนีไปที่ทางออกของเมืองจะพบกับ กองทัพไม่ทราบฝ่ายที่เป็นคนชักใยอยู่เบื้องหลังอาวุธที่ทันสมัยของพวก Trei'Kur  โดย Pavine หัวหน้าทหารของศัตรูไม่ทราบฝ่ายนำกองทหารติดอาวุธแบบใหม่เข้ามาปิดล้อม

Fidel – ไอ้พวกนี้มันพวกที่ตามจับ Relia และที่บุกเข้ามาที่โรงแรมคืนนั้นนี่ !! 
Emmerson – อย่าลืมห่วงเรื่องอาวุธที่พวกถืออยู่นั่นด้วยละ แต่โชคดีที่ชั้นก็มี !!
Pavine  – อะไรกัน มันมีปืนของเราได้ไง !!
Anne – กัปตันอย่านะคะ มันจะทำลายกฎระหว่างโลกนะคะ
Emmerson – เธอบ้าไปแล้วรึไงก็เห็นอยู่ว่าพวกมันเริ่มก่อนนะ !!
Anne – ระวัง พวกมันมีเยอะกว่า !!
Emmerson – ทุกคนหาที่กำบังก่อน !!




Pavine  – ชั้นพอรู้และ พวกนายมัน The UP3 ใช่มั๊ย ? แล้วมาเข้าข้างพวกนี้ได้ไงกัน แทรกแซงแบบนี้มันผิดกฎไม่ใช่รึไง 
Emmerson – กฎหรอ ?? ฟังมันพูดเข้า แล้วใครกันวะที่ระเมิดกฎทำสงครามระหว่างดวงดาวถ้าไม่ใช่พวก Kronos !!
Pavine  – เงียบไปเลย พวกเราไม่สนสงครามของที่นี่หรอก บอกพวกเด็กขี้แพ้นั่นส่ง Relia มาซะจะได้จบๆไป !!
Fidel – ทำไมพวกแกถึงอยากได้ตัวเธอนักวะ !!
แม่ทัพทหาร Trei'Kur –  หุบปากไปไอ้แมลงชั้นต่ำ เธอจำเป็นต่อการรวมเป็นหนึ่งของสมาพันธรัฐของเราไง เตือนครั้งสุดท้าย ส่งตัว Relia มาซะ
Anne – ดูนั่น !! ยานลำนั้นมาที่เซ็กเตอร์นี้ได้ไงเนี้ย  
Emmerson – โธ่ เอ้ย นี่มันยังพินาศกันไม่พอรึไงไอ้พวก CFNZ เอ้ย !
Pavine  –   เอาละ ยอมแพ้ซะ เดี๋ยวนี้ !!



Emmerson – โอเคๆ เอาตัวเธอไปแล้วไปจากที่นี่กันปล่อยให้สงครามของที่นี่เป็นไปตามระบบของมันได้แล้ว
Fidel – อะไรนะ !!  Relia ต้องอยู่ที่นี่ มันเรื่องอะไรกันแน่  ชั้นรู้ว่านายรู้ Emmerson !! 
Emmerson – เราสู้ไอ้ยานนั่นไม่ได้หรอก มันไม่มีทางเลือก ต้องยอมไปก่อนแล้วค่อยหาจังหวะดีๆเอาคืนที่หลัง 
Fidel – ไม่ๆๆ Relia !! Miki !! รีบหนีไป !!
Pavine –  นี่ยังไม่ยอมใช่มั๊ย อยากให้เรื่องมันยุ่งยากกว่านี้ใช่มั๊ย !! นี่แค่ยิงเตือนนะ เผื่อแกจะรู้ว่าพลาดแล้วที่จะมางัดข้อกับพวกเรา !! 




Pavine  –  นั่นมัน !! แสงแห่งริเรียหรอ !! พลังที่แท้จริงของเธอถูกปลดปล่อยออกมาแล้ว ..ช่างทรงพลังและสวยงามเหลือเกิน




พลังแสงที่เจิดจ้าของ Relia ถูกระเบิดออกมาก่อนที่มันจะนำพาให้ทุกคนวาร์ปเดินทางออกจากสถานที่อันตรายก่อนที่ Pavine จะทันได้ตั้งตัว .... 




                                                 บทที่ 2 – RESPITE -


ด้วยพลังที่ Relia ระเบิดออกมาคราวนี้มันไม่ได้แค่หยุดเวลาแต่มันได้พาทุกคนข้ามมิติเวลามายังอีกสถานที่ที่นึงที่ไกลออกมาจากอันตรายที่ทุกคนกำลังเผชิญ ...




ซึ่ง Miki เองก็โล่งใจที่มันทำให้ทุกคนปลอดภัย แต่ปัญหาที่เธอกังวลใจคือตอนนี้เธออยู่ที่ไหนในโลกมากกว่า จน Emmerson ได้ช่วยบอกให้หายคาใจว่าที่นี่คือทางตอนเหนือของดินแดนโซม่าซึ่งเคยเป็นบ้านเกิดของเขานั่นเอง ได้ยินดังนั้น Fiore ก็อุ่นใจเพราะว่าถ้าที่นี่คือ โซม่า ทางใต้ก็คือดินแดน Resulia ที่อยู่ไม่ไกล Fidel รีบบอกด้วยความแค้นว่า ถ้าแบบนั้นก็รีบเดินทางลงใต้ทันใดเพื่อกลับไปเมือง Central Resulia ก่อนจะจำได้ว่าจะต้องไปหาเบาะแสของ Relia ที่อณาจักร Trei'Kur




เมื่อเดินมาถึงถ้ำที่มีจุดเซฟและที่ฟื้นพลังทุกคนจะพักเพื่อให้หายเหนื่อยและทำความเข้าใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น นอกจากที่ทุกคนจะพูดถึงดินแดนโซม่าที่เมื่อก่อนเคยอุดมสมบรูณ์จนเดี๋ยวนี้กลายเป็นแดนหิมะที่ขาดแคลนอาหารซึ่งก็ทำให้กองทัพของโซม่ากลายเป็นทหารที่มีความอดทนสูงแล้ว อีกเรื่องคือความไม่ไหวใจที่ทุกคนเริ่มแคลงใจกับ Emmerson และ Anne ที่รู้เรื่องศัตรูที่จะพยายามชิงตัว Relia มากเกินไป แม้แต่ Fiore ที่ยืนยันว่า Langdauq อนาจักรของเธอสะสมความรู้ด้านมนต์ตรามากที่สุดในโลก แต่ก็ไม่ลืมว่าที่ดินแดนโซม่าแห่งนี้คือต้นกำเนิดทักษะด้านมนต์ตราเป็นที่แรกในโลกซึ่งเมืองแห่งมนต์ตราที่ชื่อว่า signesilica ในตำนานที่เคยเล่าขานก็อยู่เหนือสุดของดินแดนโซม่าแห่งนี้ หลังจากพักสนทนาจนหายเหนื่อยทุกคนก็เริ่มออกเดินทางทันที  



ระหว่างทาง Emmerson จะบอกว่าห้องทดลองที่ทุกคนกำลังตามหาอยู่ทางเหนือสุดจากที่นี่ ทำให้ Victor เกิดสงสัยว่า Emmerson รู้ทางชัดเจนได้ยังไงในเมื่อเส้นทางเต็มไปด้วยหิมะ จน Emmerson ต้องแก้ตัวอย่างไวว่าที่รู้ทางได้เพราะมีเวทย์มนต์พิเศษเฉพาะตัว แต่ก็ต้องโดนนักเวทย์ผู้เชี่ยวชาญอย่าง Fiore สวนกลับทางวิชาการทันใดว่าเวทย์ที่ทำให้รู้เส้นทางที่จะไปนั้นไม่น่าจะมีอยู่จริงนอกจากคุยโตโอ้อวด สุดท้าย Emmerson ต้องตัดบทว่าขอให้เชื่อใจเพราะเขาจะพาไปจนถึงที่หมายแน่นอน แต่ Victor ก็ยังต้องข้อสงสัยอย่างแรก Emmerson ใช้อาวุธชนิดเดียวกับศัตรู แถมยังรู้เส้นทางในดินแดนศัตรูเป็นอย่างดี ตามด้วย Miki ที่ผสมโรงอย่างไวว่าแถมยังพยายามจะมอบตัว Relia ให้ศัตรูเสียด้วย จน Fidel ต้องออกมาให้ความเห็นชี้ขาดว่า ถึงแม้ Emmerson กับ Anne จะมีความลับอีกมากมายแต่ที่ผ่านมาเขาก็ร่วมสู้และช่วยเหลือ Relia มาหลายครั้ง แถมยังยอมแหกกฎของตัวเองเพื่อช่วยเหลือทุกคนอย่างที่พวกศัตรูบอก ซึ่งที่ Emmerson และ Anne ต้องทำก็เพราะ Relia ก็ต้องสำคัญมากสำหรับพวกเขาเหมือนกัน สรุปว่าถึงตอนนี้ Fidel ยังเชื่อใจใน Emmerson และ Anne อยู่ จึงบอกให้ทุกคนเดินทางข้ามภูเขาน้ำแข็งเพื่อไปยังดินแดน Trei'Kur ต่อ จนเมื่อเดินทางมาได้ซักพัก Victor ก็ขอแยกตัวกลับไปที่ Central Resulia เพื่อกลับไปช่วยหน่วยของเขาต่อ ทำให้ Victor ต้องออกจากกลุ่มไป 




จากนั้นเดินทางต่อไปจนถึงกลางทางยังไม่ทันได้เข้าถึงดินแดน Trei'Kur ก็จะพบกับ Pavine และกองทหารของมันเข้ามาปิดล้อมอีกครั้ง แต่ในขณะที่มันกำลังจะใช้ยานเข้ามายิงถล่มก็เกิดปัญหาด้านสื่อสารจนทำให้ Pavine ต้องนำกองทหารเข้าสู้ด้วยตัวเอง ในขณะที่คนของ Emmerson ก็เทเลพอร์ทตามมาสมทบอีก 2 คนเพื่อช่วยต่อสู้  



Boss – Pavine และกองทหาร Kronos ซึ่งเจ้า Pavine นั้นมีดีแค่มีเทคโนโลยีในการเทเลพอร์ทไปมาจนล็อกเป้าโจมตีได้ยากมาก พยายามใช้ท่าใหญ่จัดการลูกน้องมันให้หมดก่อนให้เหลือแต่ Pavine ก็จะหาเป้าหมายได้ไม่ยาก จนเมื่อจัดการมันจนพลังใกล้จะหมด Pavine จะเริ่มไม่พอใจและไม่เชื่อสายตาตัวเองที่ต้องมาแพ้กับพวกที่ด้อยการพัฒนาแบบนี้ มันจึงงัดเอาปืนของมันมายิงใส่อย่างบ้าคลั่งจนทำให้ Miki ที่พยายามเข้ามาปกป้อง Relia ที่กำลังจะโดนกระสุนปืนยิงใส่ต้องโดนยิงแทนจนบาดเจ็บล้มลง ทำให้ Relia ตกใจจนกรีดร้องและปล่อยพลังออกมาเป็นบาเรีย ทำให้ทุกคนต้องไปจัดการเจ้า Pavine ต่อจนสามารถล้มมันลงได้สำเร็จ 




ก่อนที่ทุกคนจะรีบไปดูอาการของ Miki ทันที Anne เข้าไปตรวจสอบอาการบาดเจ็บของ Miki ซึ่งก็พบว่าเธอบาดเจ็บค่อยข้างสาหัสซึ่งถ้าปล่อยไว้อาจเสียเลือดจนตายได้ ก่อนที่ Anne จะมองหน้าเพื่อขออนุญาตกับ Emmerson เพราะเธอรู้ดีว่ามีที่ที่เดียวที่จะรักษา Miki ได้ ซึ่งแม้ว่าต้องแหกกฎของ UP3 Emmerson ไม่สนกฎที่ต้องแหกแต่จะถามถึงความต้องการของ Anne จนแน่ใจก่อนที่เขาจะติดต่อไปยัง Charles D. Goale เพื่อขอให้เทเลพอร์ททุกคนขึ้นไปบนยานทันที 



                               ยาน Charles D. Goale พิกัด GESS – 2417F 


ทันทีที่ทุกคนถูกเทเลพอร์ทขึ้นมาถึงยาน ตอนนี้ Fidel นั้นไม่ได้สนใจว่าที่นี่คือที่ไหนเพราะความสนใจคือความเป็นความตายของ Miki จนเมือพาตัว Miki เข้าไปถึงห้องพยาบาล 



เมื่อเจ้าหน้าที่ด้านการแพทย์ของยานตรวจสอบแล้วได้ผลออกมาว่า อาการของ Miki ยังพอรักษาได้แต่ต้องใช้เวลาเยียยาซักพักก่อนก็จะหายดีเหมือนเดิม เมื่อทุกคนโล่งใจกับข่าวดีที่ได้ยินแล้ว Emmerson ในฐานะกัปตันของยานก็จติดต่อมาบอกให้ Anne พาทุกคนขึ้นมาคุยที่ห้องควบคุมยานทันที เดินเข้าไปที่ลิฟต์เพื่อขึ้นไปที่ห้องควบคุมยานด้านบนห้องสะพานเดินเรือ 




Emmerson – ท่านผู้มีเกรียติทุกท่าน ขอต้อนรับเข้าสู่ Charles D. Goale ยานที่แสนต่ำต้อยของพวกเรา ในจอที่ท่านเห็นด้านหลังคือแผนที่และตำแหน่งที่เราเพิ่งเทเลพอร์ทขึ้นมา และนี่คืออณาเขตของ Trei'Kur แสงแห่งความหวังเล็กของเราอยู่ที่นี่
Relia – แล้วหนูมาจากไหนหรอคะ ?
Anne – ข่าวร้ายคือตอนนี้ทั่วทั้งดินแดนเต็มไปด้วยหิมะเราเลยไม่สามารถรู้พิกัดที่แน่นอนได้นะสิ แต่ความเห็นของชั้น ห้องทดลองที่ว่าน่าจะอยู่บริเวณตำแหน่งนี้แน่นอน 
Emmerson – แต่มันไม่มีพลังแม่เหล็กไฟฟ้าสะท้อนกลับมาเราเลยไม่รู้จุดที่แน่นอนของมัน เลยไม่มีทางเลือกที่เราต้องลงไปในพื้นที่เพื่อค้นหามันด้วยตัวเอง 
Fidel – แล้ว Miki ละ
Anne –วางใจเถอะ ด้วยเทคโนโลยีที่เรามีเธอปลอดภัยและหายเป็นปกติแน่นอน 
Fidel – งั้นก็ตกลงผมเอาด้วย 
Emmerson – งั้นจะรออะไรไปกันเลย


             ** ก่อนออกจากยานซื้ออาวุธใหม่ๆดีๆที่ร้านบนยานไว้ด้วยนะ ** 



                                เขตทะเลทราย Trei'Kuran Duran 


ทันทีที่ทุกคนเทเลพอร์ทมายังตำแหน่งพิกัดที่ Anne วิเคราะห์แล้วว่าห้องทดลองลับที่เป็นเบาะแสะของที่มาของ Relia จะต้องอยู่ที่นี่ แต่เบาะแสที่ Fidel ถามว่าควรจะมองหาอะไร ซึ่ง Anne ก็ตอบได้แค่ว่า มองหาอะไรที่มันแปลกๆตาเอาไว้ก็แล้วกัน


   

แต่โชคดีที่เกมตอนนี้ปิดกั้นทางเอาไว้จนหมดนอกจากพื้นที่ตรงกลางแผนที่ เดินเลาะไปตรงพื้นที่ด้านบนก็จะพบช่องเข้าไปที่ตรงที่มีกำแพงหินประหลาดตั้งอยู่ก็จะพบห้องทดลองลับที่ตามหา



                                         Cryptic Research Facility 

-เข้ามาตามทางด้านใน ระหว่างทางจะไม่มีอะไรมากนอกจากศัตรูเล็กๆน้อยๆตามทางพยายามเก็บไอเทมให้หมดในขาเข้ามาให้หมดเพราะขากลับจะต้องยุ่งจนไม่มีเวลาเก็บ ลุยเข้าไปตามทางจนถึงห้องเก็บข้อมูลหลักสุดทางของแผนที่

ทันทีที่เข้ามาในห้อง Relia จะวิ่งเข้าไปด้านในอย่างคุ้นเคยและคำแรกที่เธอพูดออกมาคือ เพื่อนๆเธอ ของเล่นของเธอ และพี่น้องของเธอเคยอยู่ที่นี่  Anne ให้ความเห็นต่อว่า ที่นี่คือห้องสังเกตการณ์เพื่อตัดสินหรือค้นหาตัวเลือกที่ต้องจากเด็กๆทั้งหมดผ่านทางจอมอนิเตอร์ ก่อนที่ Anne จะเริ่มค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมจากฐานของมูลหลักของที่นี่เพื่อค้นหาความจริงที่ซ่อนอยู่ 




แต่ทันทีที่ Anne เปิดเครื่องควบคุมเพื่ออัพโหลดข้อมูลหุ่วรักษาความปลอดภัยก็ออกมาโจมตีทันที Boss – Sentinel และ Robo Gunner หุ่นพวกนี้ไม่ได้ยากอะไรถ้าเลเวลสะสมมามากพอ แต่พยายามอย่าให้มันเข้ามาใกล้และโจมตี Anne จนตายจะ game Over ทันที และทันทีที่กำจัดพวกมันได้หมด ระบบข้อมูลจะเริ่มทำลายตัวเองทันทีไปพร้อมๆกับห้องทดลอง Anne พยายามกู้ข้อมูลมาได้บงส่วนก่อนที่เวลาจะเริ่มนับถอยหลังก่อนระเบิด 18 นาที จากนั้นก็ต้องหนีออกจากที่นี่ท่ามกลางศัตรูที่ออกมาขวางทางและเวลาที่กำลังนับถอยหลังจนออกมาด้านนอกได้ทัน แล้วทุกคนก็จะเทเลพอร์ทกลับขึ้นไปที่ Charles D. Goale


                                           ยาน Charles D. Goale 

ทันทีที่หนีจากการระเบิดกลับมาถึงยานได้ Fidel ก็รีบเข้าไปหา Miki ที่ห้องพยาบาลทันที ระหว่างขึ้นลิฟต์ไปที่ห้องพยาบาล Emmerson ก็เล่าถึงเรื่องราวของเขา




Emmerson - พวกเรากับองค์กรนึงที่เรียกว่า Pangalactic federation ที่มาจากจักรวาลอันไกลโพ้น 
Fidel – ผมไม่เขาใจ แล้วมันอยู่ที่ไหนกันแน่ที่คุณมา 
Emmerson – บอกไม่ถูกวะ เอาเป็นว่า ถ้าเงยหน้ามองฟ้าแล้วเห็นดวงคาวระยิบระยับนั่นแหละ พวกเรามาจาก 1 ในดาวพวกนั้น และไอ้พวกคนเลวที่เรียกตัวเองว่า Kronos ที่เพิ่งสู้กันมานั่นก็มาจากอีก 1 ที่ในดวงดาวมากมายนั่นเหมือนกัน แต่ไม่เหมือนกับเรา  
Anne – และเราก็เจาะจงมาที่จักรวาล Faykreed ที่ 4 ของพวกคุณ
Emmerson – ซึ่งเป็นที่ที่ทาง Pangalactic federation และ Kronos ได้เซ็นสัญญาเอาไว้ว่าห้ามฝ่ายใดฝ่ายนึงนำกองกำลังทหารลุกล้ำเข้ามาในพื้นที่ที่เป็นกลางนี้ 
Fidel – แต่พวกมันละเมิดสัญญา
Anne – ซึ่งเราได้รับข้อมูลว่าพวก Kronos ได้เข้ามาแทรกแซงการทำสงครามระหว่างอณาจักรที่จักรวาล Faykreed ที่ 4 อย่างลับๆ
Emmerson – และเราก็เข้ามาตรวจสอบ อย่างที่เจอพวกนายนี่แหละ 
Fidel – เอาละ ผมเข้าใจที่พวกคุณกับ Kronos เป็นศัตรูกัน แต่ มันเกี่ยวอะไรกับเด็กอย่าง Relia ที่พวกมันต้องพยายามชิงตัวไปด้วยละ ? 
Anne – Relia ก็เป็นเสมือนร่างทดลองในการทดลองลับของพวก Kronos 
Emmerson – Anne !!
Anne – ขอโทษคะพูดมากไปหน่อย
Fiore – พวกมันถึงได้ทำตราประทับที่ตัวเธอนั่นเอง
Emmerson – ที่นี่เรื่องราวมันก็คงไกลเกินกว่าที่พวกนายกำลังตามหาพ่อแม่ให้เด็กหลงทางไปเยอะเลยใช่มั๊ยละ ?


เมื่อเข้ามาถึงห้องพยาบาลทุกคนต่างก็ดีใจว่า Miki หายเป็นปกติแล้ว





Relia  - Miki ขอโทษนะที่ทำให้เธอบาดเจ็บ ชั้นขอโทษ ความผิดชั้นเองแหละ 
Miki – ฮ่า เธอต้องเลิกพูดแต่คำว่าเสียใจได้แล้วนะ Relia พูดว่าขอบคุณบ้างก็ได้ 
Relia – โอ้ ขอบคุณคะ Miki ดีใจนะที่พี่กลับมาหายดี
Fidel – หายดีแล้วนะ Emmerson กับ Anne เป็นคนช่วยพาเธอมารักษาที่นี่ ถ้าไม่มีพวกเขาช่วยเราคงจะจนปัญญาแน่เลย
Miki – ชั้นทำให้ทุกคนเดือดร้อนจริงๆเลย ขอบคุณมากๆคะ 
Emmerson – ไม่ต้องขอบคุณหรอก มันเป็นความผิดของพวกเราด้วยแหละ คือ ผมต้องขอพูดอะไรหน่อยนะ เราคงต้องขอตัว Relia ให้กลับมาอยู่ในการดูแลของเรา 
Miki – จะบ้ารึไง !!




Emmerson – Relia เธอถูกสร้างจากพวก Kronos ลองถาม Fidel ได้เขารู้เรื่องดี ฟังนะ ลำพังพวกเธอไม่มีทางที่จะทำอะไรได้ พวก Kronos จะไม่หยุดจนกว่าจะได้ตัว Relia ไปไม่ว่ามันจะต้องทำลายอะไรไปแค่ไหนก็ตาม และที่ผ่านมาพวกมันพลาดมาเยอะแล้ว แปลว่าคราวนี้พวกมันเอาจริงแน่ 
Anne – พวก Kronos มีเทคโนโลยีล้ำยุคมากมายเกินกว่าที่พวกเธอจะรับมือไหวถึงแม้จะรักและปกป้อง Relia เต็มที่ซักแค่ไหนก็ตามเถอะ แต่พวกเราทำได้ เราต่อสู้กับมันได้ และอณาจักรบ้านเมืองของเธอจะรอดพ้นหายนะถ้า Relia มากับเรา พวกมันก็จะเลิกสนใจพวกเธอ
Relia – ตกลงชั้นจะอยู่ที่นี่เอง
Fidel – สัญญานะว่าจะปกป้องเธอให้ดีที่สุด
Emmerson – ด้วยใจเลย 
Fidel – งั้นพวกเราก็ขอให้พวกดูแลเธอด้วยนะ 



เพราะด้วยภาระที่ยิ่งใหญ่ที่ยากจะแบกรับ ทุกคนจำต้องตัดใจลาจาก Relia ด้วยน้ำตาและหวังว่าเธอจะปลอดภัยจนวันนึงจะได้เจอกันอีกคราดังที่ตั้งใจ .... 



แต่ทันทีที่พวกของ Fidel จากไปในขณะที่ Emmerson กำลังออกคำสั่งให้ยาน Charles D. Goale กำลังออกเดินทาง แต่เจ้าหน้าที่ก็ตรวจพบการรุกรานของพวก Kronos ที่นำยานเข้ามาประชิดพร้อมส่งตอปิโดยิงเข้ามาจนทุกคนไม่ได้ตั้งตัว ท่ามกลางเรดาร์ของยานที่ตรวจพบตอปิโดที่ยิงมาจากทุกทิศทาง จนบาเรียของยานเหลือ 94 % 



Emmerson จำต้องเริ่มยิงตอบโต้เพื่อซื้อเวลาการป้องกันตัว เขาสั่งให้เตรียมยิงตอปิโดทั้ง 4 ช่องยิงไปที่ยานแม่ของศัตรูโดยให้ตอปิโดลูกสุดท้ายถูกตั้งเวลาให้ยิงไปช้ากว่าอีก 4 ลูกโดยมีเป้าเล็งไปที่ตอปิโดลูกก่อนหน้า เพื่อให้เกิดการระเบิดที่ต่อเนื่อง ก่อนที่ตอปิโดศัตรูจะเข้าปะทะจนบาเรียเหลือความทนทานแค่ 57 %  ท่ามกลางความกดดันเพราะ Emmerson ในฐานะกัปตันรู้ดีว่ายานไม่ได้ถูกออกมาแบบเพื่อใช้ในการรบจึงไม่น่าจะทนได้นาน ในขณะที่พวก Kronos ก็ติดต่อมาเพื่อเปิดการเจรจาครั้งสุดท้าย ไม่มีทางเลือก Emmerson จึงเริ่มแผนบ้าระห่ำที่คิดไว้ทันที ก่อนสั่งเจ้าหน้าที่ให้ปิดระบบวาร์ปไดรฟ์ทั้งหมดก่อนเจรจา



Aaron – นี่กัปตัน Aaron จากยานรบ Darivolos แห่ง Kronos พูด 
Emmerson – ผม กัปตัน Emmerson T. Kenny แห่งยาน Federation Vessel Charles D. Goale ว่ามา !!
Aaron – T. Kenny กัปตันสุภาพบุรุษในตำนานเลยนะเนี้ย เสียดายผมไม่ได้เห็นหน้าคุณใกล้ๆตอนยานที่กำลังจะแตกเหมือนไข่ ผมว่าคุณรู้นะว่าเรามาทำไม 
Emmerson – เอาสิ เธอเป็นของคุณแล้ว แต่ถ้าอยากได้จริงๆ คือ ตอนนี้วาร์ปไดรฟ์ของยานเราพังหมดแล้วเราเลยอยากขอเจรจา ขอให้เหลือยานให้เราหนีซักลำไม่ได้หรอ 
Aaron – ทหารลองตรวจระบบของมันดูสิ 
ทหาร – ระบบ วาร์ปไดรฟ์ ทั้งหมดของยานไม่มีการเปิดใช้งานครับผม
Aaron –  ตกลง ผมยินดีให้ลูกเรือคุณอพยพได้ แต่คุณต้องอยู่คนสุดท้ายนะ ลดเกราะลงให้หมดแล้วอย่าเคลื่อนไหวจนกว่าเราจะเข้าไปใกล้แล้วจะติดต่อไปอีกทีนึง อย่าคิดเล่นตลกละ เลิกติดต่อได้
Emmerson – เอาละ ไกลแค่ไหนที่มันจะเข้ามาถึงยานเรา 
เจ้าหน้าที่ – ประมาณ 0.34 AU ครับ 
Emmerson – น่าจะประมาณ 10 นาที น้อยสุดก็ 5 ทุกคนของยาน Nimitz กับ Akigi เตรียมตัววาร์ปไปที่สเตชั่น 5 ได้ ส่วนลูกเรือที่ Charles D. Goale ไปลงยานหนีภัยลงไปที่ Faykreed ที่ 4 เหลือยานให้เราลำนึงแล้วจะตามไปที่หลัง เอาละ ทุกคนยกเว้น Anne และ Delacroix หนีไปตามที่ผมสั่งเดี๋ยวนี้ คอมพิวเตอร์ ผมกัปตัน Emmerson T. Kenny แห่ง Pangalactic federation ขอยืนยันคำสั่งระเบิดยาน




Tiffan – ผม Tiffan Delacroix แห่ง Pangalactic federation ตำแหน่งผู้ควบคุมยาน ยืนยันคำสั่งครับ
Anne – คือ การฝ่าฝืนกฎแบบบ้าระห่ำแบบนี้ กลับไปที่สหพันธรัฐนี่เตรียมตัวตายกันหมดได้เลยนะคะ 
Emmerson – เราไม่ทางเลือกแล้ว Anne 

  


Anne –..  เฮ้อออ .. เอาก็เอา Anne Petriceani แห่ง Pangalactic federation ยศจ่า ยืนยันคำสั่งคะ 
คอมพิวเตอร์ – ยืนยันคำสั่งทำลายตัวเองถูกต้อง 
Emmerson – ผมขอเวลานับถอยหลัง 12 นาทีก่อนเปิดใช้งาน วาร์ปไดรฟ์ด้วย  เอาละ เริ่มนับถอยหลังได้ Delacroix ไปที่ยานหนีภัย ส่วน Anne ไปเอาข้อมูลสำคัญเท่าที่ทำได้ออกมาแล้วไปเจอผมที่จุดปล่อยยานหนีภัย !! 

-จากนั้นบังคับ Relia ขึ้นลิฟต์ตามไปที่ห้องเทเลพอร์ทเพื่อทำการวาร์ปหนีออกจากยานนี้ ขณะที่กัปตัน Aaron จากยานรบ Darivolos จะติดต่อเข้ามา


 

 Aaron – ว่าไงการเตรียมการของคุณไปถึงไหนแล้วกัปตัน Kenny ลูกเรือคุณก็อพยพออกมาจนหมดแล้ว ตาคุณแล้วละกัปตัน
Emmerson – ผมรู้แล้วน่า พอดีพลังงานของยานอพยพมันไม่พอเลยต้องขออณุญาติใช้ วาร์ปไดร์ฟ หน่อยนะ 
Aaron – ก็ได้ แต่ห้ามเปิดบาเรียนะ 
Emmerson – แน่นอน ไม่เปิด




Aaron – เอาละเราอณุญาติให้ใช้วาร์ปไดร์ฟได้ เอาละส่งร่างทดลองของเราคืนมาได้แล้ว
Emmerson – มาเร็วทุกคนเรามีเวลาไม่ถึง 12 นาทีแล้ว
ทหาร Kronos – ท่านกัปตัน Aaron ครับ ยืนยันได้ยานหนีภัยจาก Charles D. Goale แล้ว
Aaron – แกเล่นสกปรกอะไรอีก Kenny มันเกิดอะไรขึ้น !!
Anne – 8 – 7 – 6 – 5 – 4 – 3 -2 …
Aaron – อภัยให้ข้าด้วยท่านนายพลลลลล !! อ๊ากกกก !!!!

………… Booooommmm !!!!! …………..







Emmerson – โอเค เราถึงยานแล้ว วาร์ป 1.1 มุ่งหน้าไปที่ Faykreed ที่ 4 โลด 
Anne -  Charles D. Goale ระเบิดไปพร้อมกับยานรบ Darivolos ของ Kronos แล้วคะกัปตัน
Emmerson – หลับให้สบายนะ ไอ้เพื่อนยาก ...

                 




Anne –  ท่านคะกระสวยของพวกพนักงานทุกคนถึงที่หมายแล้วคะ
 Emmerson – ขอบคุณมาก Anne .. กัปตันถึง Akagi ทราบแล้ว เปลี่ยน 
เจ้าหน้าที่ – ได้ยินชัดแจ๋วครับท่าน
Emmerson – โล่งอกที่พวกคุณปลอดภัยนะ
เจ้าหน้าที่ – พวกเราก็เป็นห่วงท่านเหมือนกันครับกัปตัน ตอนนี้เราอยู่ที่ Station 5 แล้วปลอภัยดีทุกคนครับ แต่ตอนนี้เราต้องประหยัดพลังงานคงต้องขาดการติดต่อไปก่อนนะครับท่าน แต่ทางเราได้ติดต่อไปยังฐานใหญ่แล้วพวกเขาจะนำกำลังหนุนมาช่วยเหลือในอีก 2 – 3 วันครับ อ่อแล้ว ผมมีเรื่องสำคัญที่สุดต้องบอกท่านด้วย คือ ระ เรา .....ระ ..
Emmerson – สัญญาณขาดไปแล้ว ไม่เข้าใจทำไมถึงไม่พูดเรื่องสำคัญเป็นเรื่องแรกวะ !!  โอเค งั้นเราต้องรีบตามไปสมทบที่ Station 5 ก่อนที่กองหนุนจะมาถึงก็แล้วกัน




Relia – ห๊า อย่าน้า !!!
Emmerson – ไม่นะ Relia !!! บ้าเอ๊ยยยย !!
Anne – เป็นไปไม่ได้เธอกำลังถูกเทเลพอร์ท !! เราพลาดอะไรไปหรอ มีคนตามรอยแล้วเทเลพอร์ทเธอได้ไง นี่มันเรื่องผิดพลาดบ้าอะไรกันเนี้ย ยังมียานของพวก Kronos ลำไหนเหลืออยู่อีกหรอ ? ถึงทำแบบนี้ได้





Emmerson – บ้า เอ๊ยย !! 1 ในสองยานที่เหลือของมันแน่ๆเลยที่ทำแบบนี้  
Anne – ไม่หรอกคะ ยานรบ Darivolos เพิ่งระเบิดไป ยานที่เหลือเข้าภาวะฉุกเฉินแน่นอน กว่าที่จะโหลดพลังงานใหม่จนใช้วาร์ปไดรฟ์ได้คงต้องใช้เวลาซักพักละ 
Emmerson –  ยังไงก็เหอะ ตอนนี้ไม่มียานเหลือแล้วด้วย เราทำอะไรไม่ได้เลยถ้าไม่มียานของเราเอง !! 




                                   บทที่ 3 – MEANWHILE RESULIA 





ปราสาท Bariff Castle เมืองหลวง Central Resulia 






Victor – คุณบอกว่าไอ้แท่งที่ยิงแสงนั่นมาจากพวกที่เรียกตัวเองว่า Kronos บอกตามตรงมันยากที่จะเชื่อมากๆ
Fidel – ผมเห็นจะๆเต็ม 2 ตามาสองครั้งแล้ว.. แล้วสถานการณ์ที่ชายแดนเป็นไงบ้านตอนนี้
Victor – หลังจากพวก Kronos กับแท่งที่ยิงแสงที่เป็นอาวุธของมันไม่ได้เข้ามาแทรกแซงการสู้รบแล้วพวก Trei'Kur ก็ยากที่จะต้านทานความแข็แกร่งของกองทัพของเราได้ 
Fidel – คุณกำลังบอกว่าพวกมันถอยทัพไปแล้วหรอ ?
Victor – ใช่ พวกเราทำได้ และตอนนี้พวกเรากำลังจะใช้แผนตีโต้กลับในขณะที่พวกมันกำลังล่าถอย ซึ่งผมตั้งใจว่าเราจะตีโต้เข้าไปทางชายแดนฝั่งตะวันออกของ Trei'Kur ทันที เพื่อไม่ให้พวกมันได้ตั้งตัวนาน 
Fidel – งั้นผมคงต้องขออนุญาตในการบุกครั้งนี้ด้วยแล้วกัน
Victor – ขออนุญาตหรอ ? 
Fiore – และชั้นก็จะขอเข้าร่วมสู้ด้วยอย่างที่ให้สัญญาเอาไว้
Miki – กองทัพของ Resulia บ้านเกิดกับพันธมิตรที่ดีอย่าง Fiore แค่นี้ก็มีเหตุมากมายแล้วที่เราจะสู้ 
Victor – งั้นก็ดี เพราะให้เดาทุกคนคงจะไม่พอใจแน่ถ้าผมจะบอกว่าต้องไปขอเบื้องบนก่อน เพราะฉะนั้นเราก็ควรรีบเดินทางไปยังชายแดนด้านตะวันตกของ Trei'Kur กันได้เลย รายละเอียดของแผนผมจะอธิบายระหว่างทางแล้วกัน




แผนการรบของพวกเราก็คือ เราจะแบ่งกำลังทหารเป็น 2 กลุ่ม ท่าน Camuze จะนำทัพหลักบุกทะลวงเข้าไปที่ด้านหน้าของชายแดนเพื่อตัดกำลังและทำให้มันเขว ส่วนพวกเราจะแทรกซึมเข้าไปที่ชายแดนฝั่งตะวันตกของ  Trei'Kur โดยทางอุโมงค์ western Dakaav Tunnel เพื่อเปิดฉากโจมตีจากทางด้านข้างพร้อมๆกับทัพหลัก อาจต้องเสี่ยงอันตรายในเขตเหมืองเก่ากันหน่อยก่อนจะไปถึงทางแยกของถนนหลังแล้วค่อยลงใต้ต่อ ภารกิจนี้ต้องเน้นการเคลื่อนที่เร็วเพื่อไปให้ทันเวลาก่อนทัพใหญ่จะเปิดฉากโจมตี ถึงต้องใช้กลุ่มของพวกเรายังไงละ 



ก่อนออกเดินทาง สำรวจที่ป้ายหางานในเมืองก่อนเพราะจะมี QUEST ใหม่ๆเพิ่มมาอีกมากมาย 





                                     – QUEST - ที่เมือง Central Resulia


1. Building Character into your Crafts (Rank 3)
ผู้ว่าจ้าง – ผู้หญิงที่ชื่อชอบเครื่องประดับ
 สิ่งที่ต้องการ – Lizard Skin 2 อัน (ตกจากมอนสเตอร์กิ่งก่า) Oak 2 อัน (ตกจากพวกมอนสเตอร์ต้นไม้ และ High Strength Adhesive 1 อัน (ผสมจาก Gerel secretion + peryton Droppings )
- 1500 EXP / เงิน 1200 fol และ 150 sp   
- Earth Gem

2. Enrollment Gift (Rank 3)
ผู้ว่าจ้าง – แฟนหนุ่ม
 สิ่งที่ต้องการ –  Crystal 1 อัน (ได้จากมอนสเตอร์ที่ Western Dakaav Tunnel  ) , 3 Silk  3 อัน (ซื้อใน Myiddok ) , Dwarven Embroidery thread 2 อัน (ตกจากพวกโจรที่ Resulian Plains )
- 2100 EXP / เงิน 1650 fol และ 180 sp   
- Anti-Paralysis Amulet.

3. Feeling Fuzzy All Over (Rank 4)
ผู้ว่าจ้าง – Muffle Traders
 สิ่งที่ต้องการ –  Fluffy Fur 2 อัน (ตกจาก Unicron wolf ที่ Resulian Plains )
- 2200 EXP / เงิน 1350 fol และ 180 sp   
- Acuity Amulet.

4. Collecting Coal For The Fire (Rank 4)
ผู้ว่าจ้าง – Collection Club
 สิ่งที่ต้องการ –  Coal 7 อัน (ตกจากมอนสเตอร์ที่ Western Dakaav Tunnel)
- 1700 EXP / เงิน 1500 fol และ 150 sp   
- Light Charm

5. Resulian Beauty: Collectors Edition (Rank 4)
ผู้ว่าจ้าง – Collection Club
 สิ่งที่ต้องการ –  Zephyr Lilies 7 อัน (ตกจากมอนสเตอร์เยอะแยะ)
- 2300 EXP / เงิน 1400 fol และ 180 sp   
- Ice Gems

6.  The Four Stooges Strike Again (Rank 4)
ผู้ว่าจ้าง – TED 
 สิ่งที่ต้องการ –  จัดการพวกนักเลง 4 คนในโรงฝึกดาบที่หมู่บ้าน Sthal 
- 2200 EXP / เงิน 1400 fol และ 180 sp   
- book People Of All Stripes คีย์ไอเทมนี้จะทำให้ปลดล็อก Skill Specialties Anthropology ซึ่งเมื่อใช้ SP ซื้อมาแล้วจะทำให้สามารถจัดการศัตรูประเภท Humanoid ได้ง่ายขึ้นและทำให้ดอร์ปแรร์ไอเทมได้มากขึ้นด้วย 

7. Subjugation Directive: Napto (Rank 5)
ผู้ว่าจ้าง – Central Resulian Army 
 สิ่งที่ต้องการ – กำจัด Napto (มอนสเตอร์ตัวนี้อยู่ในเขต Coast of Minoz) 
รางวัล
- 1800 EXP / เงิน 1100 fol และ 150 sp   
- Arcane Amulet
- Minestrone

8. Subjugation Directive: Moogmorts (Rank 4)
ผู้ว่าจ้าง – Central Resulian Army 
 สิ่งที่ต้องการ – กำจัด Moogmorts 5 ตัว (มอนสเตอร์ตัวนี้อยู่ในเขต Sohma ตรงภูเขาหิมะ ออกทางประตูบนของ Central Resulia) 
รางวัล 
- 1700 EXP / เงิน 1500 fol และ 150 sp   
- Friend Fish
- book Birds Illustrated คีย์ไอเทมนี้จะทำให้ปลดล็อก Skill Specialties Ornithology ซึ่งเมื่อใช้ SP ซื้อมาแล้วจะทำให้สามารถจัดการศัตรูประเภทนกได้ง่ายขึ้นและทำให้ดอร์ปแรร์ไอเทมได้มากขึ้นด้วย 

9. Subjugation Directive: Walking Conflagrations(Rank 4)
ผู้ว่าจ้าง – Central Resulian Army 
 สิ่งที่ต้องการ – กำจัด Walking Conflagrations 3 ตัว (นักเวทย์พวกนี้อยู่ในเขต Passage On The Cliffs) 
รางวัล 
-1900 EXP / เงิน 1300 FOL / 150 SP
- Golden Omelet
- Swordsmans Manual Vol IV สำหรับเพิ่มเลเวลท่า Shotgun Blast ของ Fidel 

10 - Death To The Dine And Dasher (Rank 4)
ผู้ว่าจ้าง – ผู้ดูแลโรงแรม  
 สิ่งที่ต้องการ – กำจัด Gula The Gluttonous  (มอนสเตอร์ตัวนี้อยู่ในเขต Sohma ตรงภูเขาหิมะใกล้ทางออกจากประตูบนของ Central Resulia)
รางวัล 
- 1800 EXP / เงิน 1000 fol และ 150 SP
- Physical Stimulant      


11. Subjugation Directive: Pargyns (Rank 5)
ผู้ว่าจ้าง – Central Resulian Army 
 สิ่งที่ต้องการ – กำจัด Underhanded Pargyns (มอนสเตอร์ตัวนี้อยู่ในเขต western Dakaav Tunnel) 
รางวัล 
- 2500 EXP / เงิน 1400 fol และ 180 sp   
- Curry Rice
- CQC program Gamma 







                                – QUEST - ที่เมือง   Santeroule                               


1.Runaround Ruddle (Rank 4)
ผู้ว่าจ้าง – Puffy
 สิ่งที่ต้องการ – ตามหาเจ้า Ruddle ที่หายตัวไปอีกแล้ว 

ซึ่งก็ต้องตามไปคุยกับชาวบ้านที่มีรูปดาวสีเหลืองตามสถานที่ต่างๆคือ
1.คุยกับคนรูปดาวเหลืองที่โรงแรมและใน Royal Institute ที่เมือง  Santeroule
2. เข้าไปที่จุดรูปดาวเหลืองที่เมือง Myiddok ที่ท่าเรือก็จะพบ Ruddle อยู่ที่นี่




รางวัล
- 2000 EXP / เงิน 2000 fol และ 180 sp   
- Tiramisu
- Familiarizing With Familiars คีย์ไอเทมนี้จะทำให้ปลดล็อก Skill Specialties Familiar Spirit  ซึ่งเมื่อใช้ SP ซื้อมาแล้วจะทำให้สามารถใช้เจ้า Bunny ไปเอาไอเทมสำหรับใช้งานทั่วไปมาขายให้ โดยการกดสี่เหลี่ยมที่ช่อง Familiar Spirit ในเมนู Specialties




2. Sweet On The Outside (Rank 4)
ผู้ว่าจ้าง – Delusional Researcher   
 สิ่งที่ต้องการ – Lemon Tarts 10 อัน 
 Lemon Tarts ผสมเอาจาก
 Wheat Flour 2 อัน + Lemons 3 อัน + Whole Milk 3 อัน (หาซื้อได้ทั้งหมดที่ร้านในเมือง Santeroule )
รางวัล 
- 2400 EXP / เงิน 1300 fol และ 180 sp   
- Anti-Freezing Amulet

3. Of Vital Importance After Hours (Rank 3)
ผู้ว่าจ้าง – Exhausted Researcher   
 สิ่งที่ต้องการ – Vitalitea 3 อัน
Vitalitea ผสมเอาจาก
physical stimulant 1 อัน (ได้จากเควส Death To The Dine And Dasher) + colorful mushrooms 3 อัน(ได้จากมอนสเตอร์ shrooms ที่ dakaav ) + lemon juice
รางวัล 
- 1700 EXP / เงิน 1400 fol และ 150 sp   
- Testament To Triumph

4. Sexy Little Devil (Rank 4)
ผู้ว่าจ้าง – ชายคนไม่สำคัญ 
 สิ่งที่ต้องการ – Demon’s Tails (ได้จากพวก Devil Child ทั้งที่   North และ West of the Eastern Eihieds รอบเมือง Santeroule )
รางวัล 
- 1600 EXP / เงิน 900 fol และ 150 sp   
- Riot Potion

5. Steel Yourself for the Future (Rank 5)
ผู้ว่าจ้าง – Querly serious signeturge  
 สิ่งที่ต้องการ – Damascus steel 5 อัน (ดอร์ปจากมอนสเตอร์ที่ Western Dakaav Tunnel หรือ ผสมจาก Iron 3 + Coal 2 โดยใช้ Smithery LV 2 ขึ้นไป)




รางวัล
- 2000 EXP / เงิน 1400 fol และ 180 sp   
- Signeturgical Book of Quietude  เวทย์ Sacred Pain ของ Fiore 

6. Building A House Takes A Collective Effort (Rank 4)
ผู้ว่าจ้าง – Collection Club   
 สิ่งที่ต้องการ – Ebony 10 อัน (ดอร์ปจากมอนสเตอร์ประเภทต้นไม้ที่ Resulian Plains)
รางวัล
- 1500 EXP / เงิน 1100 fol และ 150 sp   
- Wind Gem

7. Collecting The Fungus Among Us (Rank 2)
ผู้ว่าจ้าง – Collection Club   
 สิ่งที่ต้องการ – Caterpillar Fungi 3 อัน (แรร์ดอร์ปจากมอนสเตอร์ Myconid ที่ Resulian Plains หรือ เก็บจากจุดเก็บเก็บเกี่ยวสีเขียวโดยใช้ Harvesting LV7)
รางวัล
- 2200 EXP / เงิน 1500 fol และ 180 sp   
- Mental Stimulant

8. Open Season on Fran (Rank 3)
ผู้ว่าจ้าง –Langdauq Dpt. of Public Order 
 สิ่งที่ต้องการ – กำจัด Fran Of Constant Decay (มอนสเตอร์ตัวนี้อยู่ที่ West of the Eastern Eihied ทางออกด้านซ้ายของเมือง Santeroule)
รางวัล
- 1600 EXP / เงิน 800 fol และ 18850 sp   
- Pasta Peperoncino
- Fae Signets Vol.1 สำหรับอัพท่า Faeric Heath ของ Miki

9. Open Season On Karacins (Rank 4)
ผู้ว่าจ้าง –Langdauq Dpt. of Public Order 
 สิ่งที่ต้องการ – กำจัด Serene Karacins 5 ตัว(มอนสเตอร์ตัวนี้อยู่ที่ the North of Eastern Eihied ทางออกด้านบนของเมือง Santeroule)
รางวัล
- 2300 EXP / เงิน 1500 fol และ 180 sp   
- Chocolate Scones
- Solar Signets Volume 2 สำหรับอัพท่า Volcanic Burst ของ Miki

10. Quiet Down In There (Rank 4)
ผู้ว่าจ้าง – ชายหูดี 
 สิ่งที่ต้องการ – กำจัด Hubristic Struviellas 2 ตัว และ Audacious Prideans 2 ตัว  (มอนสเตอร์ตัวนี้อยู่ที่ Western Dakaav Tunnel)
รางวัล
- 1800 EXP / เงิน 1000 fol และ 150 sp   
- Anti Silence Amulet 
- Smooth As Silk Sales Talk  คีย์ไอเทมนี้จะทำให้ปลดล็อก Skill Specialties  Haggling  ซึ่งเมื่อใช้ SP ซื้อมาแล้วจะทำให้สามารถให้ขายไอเทมที่ร้านได้ราคาสูงขึ้น 


11. Subjugation Directive: Pargyns (Rank 5)
ผู้ว่าจ้าง – Central Resulian Army 
สิ่งที่ต้องการ – กำจัด Underhanded Pargyns (มอนสเตอร์ตัวนี้อยู่ในเขต western Dakaav Tunnel) 
รางวัล 
- 2500 EXP / เงิน 1400 fol และ 180 sp 
- Curry Rice

- CQC program Gamma



จากนั้นเดินทางออกจาก Central Resulia ทางด้านประตูตะวันตกจะออกมาที่ Resulian Plains ฝั่งตะวันตก แล้วตรงเข้าไปที่เป้าหมายคือทางเข้าเขต western Dakaav Tunnel ต่อไป





ตรงพื้นที่นี้จะมี Dastardly Skoudde Brother 3 ตัวที่เป็นมอนสเตอร์เป้าหมายที่ต้องกำจัดใน Quest The Skoudde Brother อยู่ด้วย จัดการมันซะเพื่อปิดจ๊อบก่อนได้เลย




                                     เหมืองร้าง western Dakaav Tunnel


ด้านในเหมืองร้างจะมีไอเทมมากมายที่เป็นที่ต้องการของเควสที่ค้างคาไว้ทั้ง Fire Gem, Damascus Steel, Silver, Gold, Coal, Crystal, Ghosts Soul ทั้งจากการตกจากมอนสเตอร์และขุดเก็บจากในพื้นที่ ซึ่ง Quest ที่ค้างคาที่สามารถเคลียร์ได้ที่นี่คือ


-Damascus Steel สำหรับเควส Steel Yourself for the Future
- Coal สำหรับเควส Collecting Coal For 
- Crystal สำหรับเควส The Fire Enrollment Gift
- จัดการ Chaos Corpse Corporals 5 ตัว (อยู่ที่ใกล้จุดเซฟตรงทางออก) ในเควส Wanted: Chaos Corpse Corporals 



-ลุยเข้ามาตามเส้นทางเหมืองร้างจนถึงจุดเซฟใกล้ทางออก เข้าไปจะพบ Boss Niflheim the Armor that Ream และ Niflheim the Armor that Walk ที่โถงถ้ำใกล้ทางออก จัดการมันเพื่อผ่านไปยังพื้นที่ทะเลทราย Trei'Kur Dune ต่อไป



                                          เขตทะเลทราย Trei'Kur Dune


พื้นที่ทะเลทรายแห่ง Trei'Kur ก็คือจุดที่ Fidel เคยเข้ามาค้นหาห้องทดลองลับของพวก Trei'Kur กับ Emmerson และ Anne ก่อนหน้านี้นั่นเอง เมื่อเข้ามาแล้วยังไม่ต้องสำรวจอะไรมากเพราะทุกทางถูกกั้นไว้จนหมดนอกจากจุดเป้าหมายเนื้อเรื่องทางขวาที่ค่ายทหารของพวก Trei'Kur ...



ด้านหน้าของค่ายทหารศัตรู Drax ,Gunther , Hana และทหารในหน่วยพิทักษ์ราชาของ Victor อยู่พร้อมหน้ากันที่นี่หมดแล้ว คุยกับเพื่อนๆทุกคนให้หมดแล้วเข้าไปด้านในเพื่อเริ่มปฏิบัติการ Snake Eyes เป้าหมายคือยึดค่ายทหาร Trei'Kur เพื่อคุมพื้นที่ทางฝั่งตะวันตกของอณาจักร Trei'Kur

จากนั้นทั้งหมดก็ลุยเข้าไปในค่ายทหารของ Trei'Kur ทันทีที่เข้าโจมตีศัตรูกลุ่มแรก  Emmerson กับ Anne ก็เข้ามาสมบทร่วมทีมสู้ด้วย (อย่าลืมเซ็ท Role และไอเทมติดตัวพวกเขาใหม่ด้วย) รวมกับ Drax ,Gunther , Hana ในทีมตอนนี้ก็มีปาร์ตี้อยู่มากมายพอที่จะลุยได้แบบไม่ลำบากเลย เมื่อลึยจัดการศัตรูจนถึงกลางพื้นที่จะพบตัวหัวหน้าหน่วยรบพิเศษแห่ง Trei'Kur นามว่า Der-Suul ที่กำลังยืนท้าทายกองทัพ Resulian อย่างไม่เกรงกลัว



 เข้าไปสู้กับมันได้เลย เมื่อจัดการมันจนพลังลดครึ่งนึงแล้วมันจะหนีไป ที่เหลือก็จัดการทหารศัตรูให้หมดก็จะสามารถยึดค่ายของ Trei'Kur เอาไว้ได้สำเร็จ หลังจากจบการต่อสู้ทุกคนจะเข้าไปประชุมกันในโรงแรมซึ่งเป็นตอนที่ Fidel เริ่มรับรู้ว่า Relia ได้ถูกพวก Kronos จับตัวไปแล้ว



Fidel – คุณสัญญาแล้วนะ !! 
Emmerson – ผมเสียใจ ...
Miki – ตกลงจะง้างหมัดทั้งวันเลยมั๊ย ถ้านายไม่ต่อยชั้นจะต่อยเอง ! อย่ามาห้ามนะ 
Fidel – ต่อยเขาก็ไม่ได้แก้ปัญหาของเราได้หรอกน่า สำคัญกว่าคือเราจะเอาไงต่อกันดีนี่สิ
Anne – เราพลาดเองที่ประเมินค่าของพวก Kronos ที่มีความต้องการตัว Relia มากขนาดนี้ ก็อย่างที่รู้นั่นแหละ ถ้าเราไม่มียานเราก็แทบไม่มีทางรู้เลยว่า Relia เธอถูกจับไปไว้ไหน แต่ชั้นให้ความมั่นใจได้เลยว่าทางทั้งชั้นและสหพันธรัฐจะให้ความสำคัญในการช่วย Relia กลับมาให้ได้แน่นอน ซึ่งชั้นกับ Emmerson จะร่วมสู้กับคุณเพื่อช่วย Relia กลับมาให้ได้เลย ปัญหาคือ เราไม่มีเบาะแสอะไรเลยนี่สิ 
Fiore – คุณบอกว่าเสียอุปกรณ์ทุกอย่างไปกับยานบินของคุณหมดแล้วหรอ ? แล้วข้อมูลที่คุณกู้มาได้ก่อนห้องทดลองระเบิดละยังอยู่รึเปล่า ?
Anne – โอ้ ให้ตายเหอะชั้นที่แย่จัง ลืมไปเลย เอาละ ชั้นต้องหาห้องทดลองที่ซ่อนอยู่อีกที่โดยใช้ข้อมูลที่เชื่อมโยงกันดู เต็มที่น่าจะใช้เวลาซัก 1 หรือ 2 ชั่วโมง



Anne – ชั้นแกะรอยสัญญาณที่พวกมันใช้ติดต่อกันระหว่างห้องทดลองต่างๆดูแล้ว 
Victor – เข้าใจแล้ว แล้วคุณพอจะหาพิกัดตำแหน่งของห้องทดลองที่พวกมันติดต่อไปครั้งล่าสุดได้มั๊ย 
Fidel – Relia จะอยู่ที่นั่นด้วยหรอ ?
Emmerson – เออ มันก็บอกไม่ได้แน่ชัดหรอกนะ แต่ถึงไม่เจอเธอเราก็น่าจะได้เบาะแสอะไรมาบ้างอ่ะนะ 
Anne – ซึ่งโชคไม่ดีที่เราไม่สามารถยืนยันตำแหน่งที่ชัดเจนของห้องทดลองอีกที่ได้เลยนะสิ 
Emmerson – อย่างน้อยเธอก็รู้แล้วว่าจะเริ่มจากตรงไหนว่ามั๊ย ?
Anne – ในข้อมูลเต็มไปด้วยภาษาและสัญลักษณ์ของพวก Kronos เป็น Symbometrics เฉพาะของพวกมันเลย 
Fiore – Symbo  metrics หรอ ??
Anne – พูดง่ายๆก็คือ มันเป็นเทคโนโลยีที่นำเอาผู้คนที่มีพลังเวทย์มนต์บนดาวของคุณมาเข้ากระบวนการทางวิทยาศาสตร์ที่ทันสมัยเพื่อให้กลายเป็นผู้ใช้พลังพิเศษที่เหมือนเป็นอาวุธชีวภาพแบบใหม่ของพวกมันนั่นแหละ 
Fiore – แล้วพวกคุณเข้าใจอาวุธที่มันกำลังจะทดลองนี้หมดมั๊ย
Anne – เกรงว่าต้องบอกว่าไม่คะ
Fiore – ชั้นคิดว่าพวกคุณทั้งคู่นี้รู้ทุกเรื่องเสียอีก
 Anne – พวกเราถึงต้องปลอมตัวแทรกซึมเข้ามาเพื่อขอความช่วยเหลือในข้อมูลเรื่อง Signeturgy ที่เก่าแก่จากพวกคุณไง และถ้าการวิเคราะห์ของชั้นไม่ผิดนะ ถ้าเราลองวิเคราห์จากรูปแบบของเวทย์มนต์ที่กระจายออกมา แล้วใช้ quadscanner A.I ย้อนดูแหล่งที่มาของพลังเวทย์นั่นมันอาจจะสืบค้นไปยังข้อมูล Symbometrics ของพวก kronos ได้นะ .. Fiore ชั้นอยากจะขอข้อมูลความรู้เกี่ยวกับ Signeturgy ที่คุณรู้ได้มั๊ย ?
Fiore- ในฐานะนักวิชาการแห่ง Santeroule ถ้ามาพูดในเชิงสอดรู้สอดเห็นเรื่องข้อมูลเวทย์โบราณแบบนี้ แม่เตะสลบไปแล้ว แต่ตอนนี้เพื่อช่วย Relia ละก็ชั้นยินดีอย่างยิ่งเลยละ ชั้นคิดฝันเฟืองมาตลอดนะว่าความรู้ของชั้นจะช่วยเปิดเปิดโลกทัศน์ใหม่ให้กับทุกๆคนได้ซักวัน  
Anne – งั้นชั้นจะเริ่มตรวจสอบข้อมูลอย่างละเอียด ก็ต้องบอกก่อนว่ามันขึ้นอยู่กับข้อมูลที่มีนะถ้ามากมันก็คงต้องนานหน่อย เต็มที่ขอคืนเดียวพอ 
Victor – งั้นตอนนี้ทุกคนก็ไม่ควรจะกังวัลอะไร แยกย้ายกันไปพักผ่อนพร่งนี้ก็ค่อยว่ากันใหม่ก็แล้วกัน




หลังจากทุกคนแยกย้ายกันไปพักผ่อนแล้ว ตอนกลางดึก Fidel ก็ออกมาเดินเล่นข้างนอกจนพบกับ Emmerson กำลังคุยกับ Anne อยู่ที่กลางฐาน ซึ่งถึงแม้ว่า Fidel จะแสดงออกมาว่าจะไม่ถือสาหาความอะไร แต่ Emmerson ก็อดไม่ได้ที่จะขอโทษในความผิดพลาดจนต้องเสีย Relia ไป แต่ Fedel ก็ขอบอกจากใจว่าการที่ตั้งเสีย Relia ไปถ้าจะต้องโทษใครก็ขอให้โทษตัวเขาเองจะเหมาะกว่า เพราะเขาเป็นคนส่งต่อความรับผิดชอบในตัว Relia ให้กับพวก Emmerson แต่อย่างน้อยก็โชคดีตรงที่ Relia ยังไม่ตายและจะไม่มีทางตามหาได้ถ้าทุกคนไม่ร่วมมือกันแน่นอน ซึ่งทำให้ Emmerson ตอบกลับอย่างมั่นใจว่าเขาจะยอมทำทุกอย่างเพื่อให้ได้ตัว Relia กลับมาอีกครั้งแน่นอน 

จากนั้นกลับโรงแรมนอนพักตอนเช้าทุกคนจะมารอฟังข่าวดีจาก Anne ถึงเรื่องที่เธอวิเคราะห์หาที่อยู่ของ Relia

Anne – ยืนยันชัดเจนแล้วว่าจากการตามรอยพลังงานเวทย์มนต์ที่กระจายออกมา เป้าหมายจะอยู่ที่แถวๆแม่น้ำ Aysoughk ที่ Trei'Kur 
Emmerson – แน่ใจนะว่าร่องรอยที่ตามได้ไม่ได้มาจากองค์ประกอบอื่นๆที่ไม่ใช่เป้าหมายน่ะ
Anne – จากข้อมูลที่ได้ในบริเวณนั้นไม่มีมนุษย์หรือองค์ประกอบด้านอื่นอยู่แน่นอนคะ 
Fidel – เอาละ ลองไปตรวจสอบดูหน่อยดีกว่า 





ตอนนี้ Eastern Trei'Kur จะกลายเป็นฐานใหม่ของ Resulian รวมถึง Fidel และพวกที่จะสามารถใช้เป็นที่พัก ซื้อของ รวมถึง Quest ที่มีให้เลือกทำที่บอร์ดหางาน




                                            Eastern Trei'Kur – QUEST -


1. Medical Emergency  (Rank6)
ผู้ว่าจ้าง – Resulian Army Modie  
สิ่งที่ต้องการ ต้องการไอเทม Healing Devices 5 อัน




Healing Devices นั้นจะมีติดตัวจากที่เก็บได้ในห้องทดลองลับที่ทะเลทรายครั้งแรก 1 อัน และได้รางวัลจาก Quest Of weapon and Womanizers ที่  Welth Laboratary 2 อันที่เหลือก็ใช้ Skill engineering LV5 ผสมจาก Physical Stimulant 3 อัน  + Diffusion Device 1อัน ซึ่ง Skill engineering จะได้หลังจากทำ Quest Of weapon and Womanizers ของ Welth แล้ว 

รางวัล 
- 4100 EXP / เงิน 2400 fol และ 250 sp   
-Arcana Amulet
- Robust Vitalitea 

2. Grannie Never Rests On Her Laurels (Rank6)
ผู้ว่าจ้าง – Homespun old Women
สิ่งที่ต้องการ – ไอเทม Laure Tree  ไอเทมนี้ดอร์ปจาก Man Trap ที่อยู่ตรงบริเวณตะวันตกเฉียงใต้ของเขตทะเลทราย Trei'Kur Dune (ต้องรอให้เนื้อเรื่องดำเนินไปถึงตอนที่มอนสเตอร์ระดับที่สูงขึ้นเข้ามาในพื้นที่)  




รางวัล 
- 3900 EXP / เงิน 2500 fol และ 250 sp   
-Mentality Seed

3. Collection Parthing of the Sand (Rank7)
ผู้ว่าจ้าง – Collection Club
สิ่งที่ต้องการ – ไอเทม Sandfish ไอเทมนี้แรรฺดอร์ปจาก Horned Turtles เขตทะเลทราย Trei'Kur Dune (ต้องรอให้เนื้อเรื่องดำเนินไปถึงตอนที่มอนสเตอร์ระดับที่สูงขึ้นเข้ามาในพื้นที่ หรือ แรนด้อมได้จากจุดตกปลาทั้ง 2 จุดในเขตทะเลทราย Trei'Kur Dune (ใช้ Skill Fishing LV 5) 
รางวัล 
- 4200 EXP / เงิน 2300 fol และ 250 sp   
- gnomestone 

4. Subjugation Directive: Sandra (Rank7)
ผู้ว่าจ้าง – Central Resulian Army 
สิ่งที่ต้องการ – กำจัด Sandra The Majestic  (มอนสเตอร์ตัวนี้อยู่ที่ทางด้านเหนือของทะเลทราย Trei’kuran Dunes ใกล้กับทางเข้า Trei’kur Slaughtery)  
รางวัล 
- 4400 EXP / เงิน 2400 fol และ 250 sp   
- Resurrection Elixir
- Encyclopedia Corruptionem คีย์ไอเทมนี้จะทำให้ปลดล็อก Skill Specialties Corruptology ซึ่งเมื่อใช้ SP ซื้อมาแล้วจะทำให้ต่อสู้กับศัตรูประเภท Corruptได้ดีขึ้น รวมถึงดอร์ปแรร์ไอเทมจากศัตรูประเภท Corrupt ได้ง่ายขึ้นด้วย

5. Subjugation Directive: Zurtails (Rank7)
ผู้ว่าจ้าง – Central Resulian Army 
สิ่งที่ต้องการ – กำจัด Zurtails (มอนสเตอร์ตัวนี้อยู่ที่ Trei’kur Slaughtery)  
รางวัล 
- 4000 EXP / เงิน 3000 fol และ 250 sp   
- Salmon Meuniere

-Swordsman Manual III 



จากนั้นเดินทางออกทางประตูซ้ายของเมืองเข้าสู่เขต Trei'Kur Dune ได้เลย




                                 บทที่ 4 - Symbometrics VS Signeturgy


                                                 Trei'Kuran Dunes

ภารกิจช่วยเหลือ Relia เริ่มขึ้นทันทีเมื่อทุกคนเข้ามายังเขตทะเลทรายแล้วลุยเข้าไปยังพื้นที่เป้าหมายทางมุมซ้ายล่างของแผนที่ได้เลย ทุกคนจะช่วยกันหาพิกัดห้องทดลองลับอีกแห่งจนพบ



แต่ขณะที่ Anne กำลังเริ่มแฮคระบบเพิ่มเปิดทางเข้าพวก Kronos มากมายก็บุกเข้ามา พยายามจัดการต้านเอาไว้จนกว่า Anne จะเปิดทางเข้าออกได้ทุกคนก็จะหนีเข้ามาด้านในทันที



                                          Symbological Facility Prime 

เข้ามาด้านในตามทางของห้องทดลองตั้งแต่ชั้น B2F จนถึงห้องเก็บข้อมูลชั้น B3F ระหว่างทางเก็บไอเทมให้หมด ซึ่งจะมี Skill Book มากมาย Purification Signets Vol.2 สำหรับเวทย์ Cure Condition ของ Miki หรือ เวทย์ Void ของ Fiore , CQC Program Epslion สำหรับท่า Hunter Moon ของ Emmerson และ Cerulan Orb Signets Vol.2 สำหรับเวทย์ Stone Rain ของ Miki หรือเวทย์ Deep Freezers ของ Fiore


 ระหว่างทางที่ทุกคนได้เห็นคือ การทดลองอาวุธรูปแบบใหม่ที่เรียกว่า  Symbometrics  ของพวห Kronos  ที่เต็มไปด้วยร่างทดลองทั้งร่างแฝดของ Relia และพวก Corrupts  ตัวประหลาดที่เกิดจากการทดลองผสมข้ามสายพันธ์มากมาย


             ว่าด้วยเรื่อง Symbological Experiments และ เป้าหมายที่แท้จริงของ Kronos ……


    

Kronos ในฐานะขององค์กรที่ก่อตั้งขึ้นเพื่อโค่นล้มสหพันธรัฐโดยใช้ความรุนแรงโดยการนำของ General Alma ได้เริ่มทำการทดลองอาวุธรูปแบบใหม่ที่เรียกว่า  Symbometrics ขึ้นมา หรือการนำเอา ศาสตร์ด้านเวทย์มนต์ (ที่ในเกมเรียกว่า Signeturgy) มารวมกับความรู้ด้านวิทยาศาสตร์ที่ทันสมัย เพื่อก่อให้เกิดพลังจิตรูปแบบใหม่ขึ้นมา โดย Kronos ลักลอบเข้ามาตั้งห้องทดลองลับเอาไว้มากมายในเขตทะเลทราย Trei'Kur ในฐานะสถานที่ซึ่งเป็นแหล่งต้นกำเนิดศาสตร์ด้านเวทย์มนต์ของ ดาวเคราะห์ เฟครีด เพื่อใช้เด็กๆชาว Faykreedians ที่มีพลังเวย์มนต์ในตัวมาทดลองการ กระตุ้นทางจิต ("imbuing")เพื่อให้เกิดเป็นคนที่มีพลังจิตพิเศษขึ้นมา แต่การทดลองนั้นก็ต้องเสียร่างทดลองที่เป็นเด็กไปมากมาย ซึ่งเหลือรอดแค่พี่น้องฝาแฝด Relia และ Feria เท่านั้นที่เป็นร่างทดลองที่ประสบความสำเร็จ และจากการทดลองพวก Kronos ก็ได้สร้างตัวประหลาดขึ้นมาจากการนำเอาชาว Faykreedians มาเปลี่ยนสภาพให้กลายเป็นตัวประหลาดสายพันธ์ใหม่ที่เรียกว่า Corrupts เพื่อใช้เป็นอาวุธในการรบด้วย และ เป้าหมายหลักของ Kronos ก็คือใช้ Relia และ Feria ในฐานะนักรบพลังจิตในการสั่งการเหล่า Corrupts เพื่อทำสงครามกับสหพันธรัฐนั่นเอง  

http://starocean.wikia.com/wiki/Kronos





เมื่อมาถึงชั้น B3F Anne จะเข้าไปอัพโหลดข้อมูลในห้องควบคุม และทันที่ที่เริ่มโหลดพวก Kronos มากมายก็บุกเข้ามาตามเคย พยายามจัดการศัตรูอย่าให้มันเข้าไปถึงตัว Anne ในห้องได้ จนสุดท้ายเมื่อ Anne ได้ข้อมูลมาก็จะพบว่า Relia ถูกขังเอาไว้ที่ชั้น B4F เมื่อลงมาถึงก็จะพบ Boss Destroyer กับพวก Kronos กลุ่มนึงคอยคุมกันอยู่ จัดการพวกมันให้หมดแล้วเข้าไปด้านในก็จะพบกับ Relia ที่ถูกขังอยู่



บอกแล้วนะให้ดูแลตัวเองดีๆ ดูผมเธอสิให้ทำให้ผมสาวน้อยสุดสวยยุ่งแบบนี้ ให้อภัยไม่ได้เลยจริงๆ Miki บอกกับ Relia พร้อมกอดเธอเอาไว้เพื่อให้ใจของ Relia ดีขึ้นว่าทุกอย่างจากนี้จะไม่เป็นไร ก่อนที่ Emmerson จะเตือนให้รีบออกจากที่นี่ให้ไวเพราะมันยังไม่ใช่ที่ปลอดภัยสำหรับที่จะมานั่งยินดีกันตอนนี้ ก่อนไป Anne ไม่ลืมที่จะทำลายเครื่องติดตามที่อยู่กับตัว Relia เพื่อไม่ให้พวก Kronos ตามมาชิงตัวไปอีกครั้ง 

-เก็บ Moonlight Signets Vol.2 สำหรับท่าเวทย์ Arcane Weapon ของ Miki หรือ เวทย์ Vampire Blade ของ Fiore ในห้องขัง Relia มาด้วย แล้วกลับออกมาด้านนอกทางเครื่องวาร์ปหน้าห้อง จากนั้นในแผนที่จะเต็มไปด้วยศัตรูที่เป็นทหารของ Kronos เต็มไปหมด พวกมันไม่มีไอเทมอะไรดีๆสำหรับเควสย่อยใดๆที่ต้องสนใจ ลุยศัตรูกลับไปยังฐานที่ Eastern Trei'Kur ได้เลย


                                                 Eastern Trei'Kur


เมื่อมาถึงแล้ว เข้าพักที่โรงแรมเพื่อแยกย้ายกันพักผ่อน กลางคืน Fidel จะออกมาเดินเล่นอีกครั้ง มาที่กลางพื้นที่จะเจอพ่อ Daril ยืนอยู่



Daril – นั่นใคร ? .. แกเองหรอ ดึกๆมาเดิมทำอะไรตอนนี้ 
Fidel – ชีวิตผมครับ 
Daril – ชั้นเพิ่งคุยกับ Victor เมื่อไม่นานมานี้ เค้าบอกว่า นายเป็นนักดาบที่สมบรูณ์แบบมาก 
Fidel – ไม่เคยได้ยินพ่อชมผมมาก่อนเลยนะ 
Daril – เคยสิ แกแค่จำไม่ได้แค่นั้นเอง
Fidel – ไม่นะ ผมจำได้หมด พ่อไม่เคยชมผม ที่ได้เจอก็มีแต่อะไรบ้าๆที่พ่อทำให้นั่นแหละ 
Daril – แล้วตอนนี้เป็นไง เกิดอะไรขึ้นกับเด็กผู้หญิงคนนั้นกันแน่ 
Fidel – เราก็ยังไม่เข้าใจอะไรมากนักหรอก แต่ที่แน่ๆเราต้องทำทุกอย่างเพื่อจะปกป้องเธอให้ถึงที่สุดแน่นอน 
Daril – หือ เหมือนชั้นจะได้ยินแกพูดว่าจะ ปกป้อง ผู้คนนะ นั่นเป็นหลักฐานที่ทำให้รู้ว่า แกก็ยังแคร์คนรอบตัวแกอยู่และอยากปกป้องพวกเค้าเสมือนเป็นตัวแกเอง มันเป็นความต้องการที่จะหาที่พักพิงจากอันตรายที่ทุกคนก็ทำเหมือนกันหมดนั่นแหละ ตอนนี้แกคงเข้าใจมันด้วยตัวแกเองแล้วสินะ ลูกพ่อ  .. ชั้นหมายถึง แกโตพอที่จะเดินในเส้นทางที่ชายชาตรีต้องเดินแล้ว  ... มันเงียบผิดปกติ มีอะไรไม่ชอบมาพากลแล้ว รีบไปบอก Victor ให้เตรียมกำลังเสริมเดี๋ยวนี้เลย ...!! 

-คุยจบกลับไปที่โรงแรมเพื่อเข้าไปหา Victor แต่ยังไม่ทันได้คุยกันมากมาย เสียงโวยวายก็ดังมาจากด้านนอกว่ามีพวกทหาร Trei'Kur ลอบเข้ามาบุกโจมตี จากนั้นออกจากโรงแรมจะพบว่าในพื้นที่เต็มไปด้วยทหารของ Trei'Kur ที่บุกเข้ามามากมายไปหมด เข้าไปจัดการพวกมันไปเรื่อยๆแล้วเข้าไปที่กลางพื้นที่จะพบหัวหน้าหน่วยรบพิเศษแห่ง Trei'Kur นามว่า Der-Suul ที่เป็นคนนำทัพบุกอีกครั้ง แต่การต่อสู้ก็ดำเนินไปแบบที่ Der-Suul พลังไม่มีลดจนการต่อสู้ต้องจบลง



ถึงเวลามาทวงคืนตำแหน่งผู้ชนะของศึกนี้ซะที !!! Der-Suul ประกาศกร้าวพร้อมเตรียมจุดเวทย์เมเทโอไฟในมือทำให้ Relia ตกใจกลัวจนวิ่งหนีเตลิดไป Daril รีบตามไปทันที ในขณะที่ลูกไฟกำลังจะพุ่งเข้าหาตัว Relia Daril ก็กระโดดเข้าไปขวางจนโดนลูกไฟเข้าไปเต็มกลางหลังนอนบาดเจ็บต่อหน้าทุกคน 




          

Der-Suul – ฮ่าๆ ว่าไง แกนี่เป็นที่ต้องการของพวก Kronos แถวๆนี้มากๆเลยรู้ป่ะวะ
Fidel – พ่อ !!! 
Der-Suul – อย่าเข้ามา !! พูดไม่ฟังเลือดไอ้แก่นี่นองพื้นแน่ๆ เอาละ มาฟังความต้องการแรกที่ชั้นจะบอกกัน พวกแกจะไสหัวออกไปจากที่นี่ก่อนรุ่งเช้า ถ้าไม่งั้นก็จินตนาการเองแล้วกันว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับตัวประกันพวกนี้ แค่นั้นแหละที่พวกแกต้องทำ ฮ่าๆๆๆ  !!! 





Miki – มันเป็นความผิดของชั้นเองที่ควรจะดูแล Relia ให้ดีกว่านี้ 
Fidel – เราตามไปช่วยเธอกันตอนนี้เลยเถอะ !!
Hana – แล้วถ้าพวกศัตรูมันตลบหลังเราละ 
Fidel – ก็จัดการมันให้หมดซะก็สิ้นเรื่อง !!
Emmerson – แล้วรู้มั๊ยว่าพวกมันหนีไปที่ไหน ?
Drak – มีลานประหารเก่าอยู่ที่ทางตอนเหนือของที่นี่ที่เป็นแค้มป์ของพวก Trei'Kur
Emmerson – แล้วคิดยังไงเอาที่นั่นไปสร้างแคมป์ ?
Hana – หลังจากที่ทางรัฐบาลปล่อยปล่อยที่นั่นร้างมาหลายปีพวกอาชญากรก็ชอบที่จะไปรวมตัวกันที่นั่นกันมากๆ
Fidel – งั้นเราก็ไปที่นั่นกันเลย !!
Victor – ถ้างั้มผมขอร่วมทางไปด้วยจะดีกว่า 
Gunther – เยี่ยมเลยงั้นเราไปกันหมดนี่แหละ 
Victor – ไม่ได้หรอก มันไม่มีคำสั่งอย่างเป็นทางการที่จะให้หน่วยทหารของกองทัพไปที่นั่น มันเป็นภารกิจที่ชั้นตั้งใจจะทำเอง มันจะสร้างระเบียบวินัยทางทหารที่ผิดๆกับพวกนายเปล่าๆ และนี่เป็นคำสังไม่ใช่การขอร้อง 
Drak – ยังไงก็ช่วยพาท่านคามิวกลับมาอย่างปลอดภัยด้วยนะครับ
Fidel – งั้นเราไปกันเถอะ Victor ครั้งนี้นายไม่ได้ไปในนามของ Victor Oakville นายทหารยศร้อยโทแห่งกองทัพ Resulian แต่ไปในฐานะเพื่อน และศิษย์ร่วมสำนักดาบ Camuze ของพ่อ ใช่มั๊ย  
Victor – จริงแท้แน่นอนเลยละ นำทางไปได้เลย พี่น้องร่วมคมดาบของข้า !!  







หลังจากจบเหตุการณ์ ตอนนี้จะสามารถเดินทางได้อิสระ จึงเหมาะในการไปตามบอร์ดหางานที่เมืองต่างๆเพราะมี Quest ย่อยเพิ่มขึ้นมามากมายให้ทำ



                                        QUEST ที่ Central Resulia 


1. Reconstructing An Enigma (Rank 4)
ผู้ว่าจ้าง – Central Resulian Army 
สิ่งที่ต้องการ Laser Oscillators 3 อัน 
Laser Oscillators หาได้จากการดอร์ปจากพวก Fafnir หุ่นยนต์สี่ขาตัวสีเหลืองใน Symbological Facility Prime ที่ทะเลทราย Trei'Kur Dune ตอนเข้ามารอบ 2 ตามเนื้อเรื่อง



 หรือผสมเอาจากอุปกรณ์วัตุดิบประเภทเครื่องกลอะไรก็ได้ แต่ใช้ micro circuiits จะดีสุดเพราะมีขายบนยาน แล้วนำไป Synthesis 6 ช่องให้ได้ค่า Quality รวมให้ได้มากกว่า 45 ขึ้นไป จากนั้นผลการ Synthesis ก็จะสุ่มออกมาเป็นไอเทมต่างๆจนออกมาเป็น Laser Oscillators ซักอันตามแต่โชค 


รางวัล 
- 2700 EXP / เงิน 1850 fol และ 200 sp   
- Nuts And Bolts Book

2. Collection Of Romantic Entanglements (Rank 6)
ผู้ว่าจ้าง – Collection Club 
สิ่งที่ต้องการ Moon Pearl (ดอร์ปจาก Amber Princess ที่ ภูเขาน้ำแข็ง Northern territory of Sohma ในช่วงสุดท้ายของเกม )
รางวัล 
- 2900 EXP / เงิน 2000 fol และ 200 sp   
- Darkness Charm

3. Survive This (Rank5)
ผู้ว่าจ้าง – Aragogh 
สิ่งที่ต้องการ – กำจัด Eitalon 3 กลุ่มที่เขต Passage On The Cliffs
รางวัล 
- 3000 EXP / เงิน 1900 fol และ 200 sp   
-Stick fish
- the Book Under Lock And Keynote 



คีย์ไอเทมนี้จะทำให้ปลดล็อก Skill Specialties Locking Picking ออกมา ซึ่งเมื่อใช้ SP ซื้อมาแล้วจะทำให้สามารถเปิดหีบสมบัติที่ล็อกอยู่ตามที่เห็นอยู่ที่ต่างๆได้โดยจะมีทั้งหมด 29 หีบ 

4. Subjugation Directive Donadello (Rank5)
ผู้ว่าจ้าง – Central Resulian Army
สิ่งที่ต้องการ – กำจัด Donadello ที่เขต Western Dakaav Tunnel 
รางวัล 
- 2800 EXP / เงิน 1800 fol และ 200 sp   
-Physical Stimilatant 
-CQC Program Epsilon

5. Spleen For A Spleen (Rank 7)
ผู้ว่าจ้าง – Gallant young Girl
สิ่งที่ต้องการ – กำจัด Ilua the Irate และ Wasss the Splenetic ที่เขต Resulian Plains
รางวัล 
- 3100 EXP / เงิน 2800 fol และ 200 sp   
- Extrication Ring

6. Device Of The Ancients (Rank 7)
ผู้ว่าจ้าง – Archaeologist 
สิ่งที่ต้องการ – Primeval Fossils 3 อัน (ดอร์ปจาก Hades Crabs ที่ภูเขาน้ำแข็ง Northern territory of Sohma หรือตามชายหาด Coast Of Minoz) 
รางวัล 
- 3900 EXP / เงิน 2600 fol และ 250 sp   
- Lezard’s Flask

7. It Came From the North (Rank 6)
ผู้ว่าจ้าง – Archaeologist 
สิ่งที่ต้องการ – Galntinous Slime (ดอร์ปจากมอนสเตอร์ Geraalding ใน Quest Changing History หรือ ดอร์ปจากมอนสเตอร์ใน The Signesilcia) 
รางวัล 
- 4000 EXP / เงิน 2400 fol และ 250 sp   
- Anti-curse Amulet

8. Collection As Innocent As A Valkyrie (Rank 5)
ผู้ว่าจ้าง – Collection Club
สิ่งที่ต้องการ – Platinum 3 อัน (หาจากพวกเต่าที่ Coast Of Minoz หรือผสมเอาจาก Gold + Silver + Alchemist Water )
รางวัล 
- 3800 EXP / เงิน 2400 fol และ 250 sp   
- Alchemist’s Water

9. Subjugation Directive: Arjain (Rank 6)
ผู้ว่าจ้าง – Central Resulian Army
สิ่งที่ต้องการ – กำจัด Arjain ที่ Passage On The Cliifs
รางวัล 
- 3800 EXP / เงิน 2500 fol และ 250 sp   
- Defense Seeds

10. Subjugation Directive: Shelda (Rank 7)
ผู้ว่าจ้าง – Central Resulian Army
สิ่งที่ต้องการ – กำจัด Shelda ที่ Dakaav Footpath
รางวัล 
- 4300 EXP / เงิน 2400 fol และ 250 sp   
- Diligence Potions

11. Wanted Anonnus (Rank 7)
ผู้ว่าจ้าง – Central Resulian Army
สิ่งที่ต้องการ – กำจัด Annous ที่ Resulian Plains ในช่องเขาใกล้ๆกับทางไป Dakaav Footpath
รางวัล 
- 4200 EXP / เงิน 2700 fol และ 250 sp   
- Intelligence Seeds



                                         -QUEST ที่ Santeroule -


1. Too Little, Too Late (Rank 5)
ผู้ว่าจ้าง – Greedy Woman 
สิ่งที่ต้องการ – Velvet Ribbion (ตกจากมอนสเตอร์ทั่วไปส่วนใหญ่มีกันอยู่แล้ว)
รางวัล 
- 2800 EXP / เงิน 1850 fol และ 200 sp   
- Love Potion No.256

2. Open Season on Mujas (Rank 5)
ผู้ว่าจ้าง – Langdauq Dpt. Of Public Order  
สิ่งที่ต้องการ – กำจัด Verdant Mujas 4 ตัวที่ West of Eastern Eihied ทางซ้ายของเมือง Santeroule
รางวัล 
- 2800 EXP / เงิน 1900 fol และ 200 sp   
- Mental Stimulant
- Signeturgical Book Of Quietude

3. Wanted: Randaghor (Rank 5)
ผู้ว่าจ้าง – Langdauq Dpt. Of Public Order 
สิ่งที่ต้องการ – กำจัด Randaghor ที่ North of Eastern Eihied ทางออกด้านบนของเมือง Santeroule
รางวัล 
- 2500 EXP / เงิน 2100 fol และ 200 sp   
- Mint Chocolate Chip Ice Cream
- Pneuma Signets Vol 1

4. For Whom The Bell Tomes (Rank 5)
ผู้ว่าจ้าง – Royal Institute Libraian  
สิ่งที่ต้องการ – Solar Signets Vol.2 (ได้จากเควส จากกล่องสมบัติต่างๆ หรือผสมเอาจาก Crystal x2 + Parchment x1 + Fire Paint x3 + Wind Paint x3 โดยใช้ Authoring Skill Level 3 )
รางวัล 
- 4000 EXP / เงิน 2600 fol และ 250 sp   
- Sylphstone

5. An Inkling For Artistry (Rank 6)
ผู้ว่าจ้าง – Stralight-Laced Researcher
สิ่งที่ต้องการ – earth paint 2 อัน, ice paint , fire paint 2 อัน และ wind paint 2 อัน  ผสมเอาจาก Alchemy
รางวัล 
- 3900 EXP / เงิน 2400 fol และ 250 sp   
- Greater Demon’s Fetish

6. Collecting Something Blue (Rank 7)
ผู้ว่าจ้าง – Collection Club
สิ่งที่ต้องการ – Blue Roses 10 อัน (ตกจากมอนสเตอร์ทั่วๆไปรอบๆเมือง )
รางวัล 
- 4000 EXP / เงิน 2500 fol และ 250 sp   
- Attack Seeds 2 อัน 

7. Open Season On Orizons (Rank 6)
ผู้ว่าจ้าง – Langdauq Dpt. Of Public Order
สิ่งที่ต้องการ – กำจัด Parched Orizons ที่ West of Eastern Eihied ทางซ้ายของเมือง Santeroule
รางวัล 
- 3800 EXP / เงิน 2500 fol และ 250 sp   
- Hamburg Steak
- Cerulean Orb Signets Vol. 2





                                QUEST ที่ Welth Laboratary เมือง Myiddok 

                                (ก่อนเหตุการณ์พ่อและ Relia ถูกจับตัวไป)

1. Of weapon and Womanizers  (Rank5)
ผู้ว่าจ้าง - Welth Vineyard
สิ่งที่ต้องการ – Micro Circuits 5 อัน (หาได้จากพวกหุ่นยนต์ใน Symbological Facility Prime ที่ทะเลทราย Trei'Kur Dune)
รางวัล 
- 2000 EXP / เงิน 1300 fol และ 180 sp   
- Healing Device 3 อัน 
- The Little Engineer That Could Book 
คีย์ไอเทมนี้จะทำให้ปลดล็อก Skill Specialties Engineer ซึ่งเมื่อใช้ SP ซื้อมาแล้วจะทำให้มีคำสั่ง Engineer เพิ่มขึ้นมาในเมนู Creation ทำให้สามารถสร้างไอเทมพวกเครื่องจักรได้

                                (หลังเหตุการณ์พ่อและ Relia ถูกจับตัวไป)

2. Behavioral Study (Rank6)
ผู้ว่าจ้าง - Welth Vineyard
สิ่งที่ต้องการ – The enemy report ซึ่งเป็นคีย์ไอเทมที่ตกจาก Sanddozers ที่อยู่กลางพื้นที่ทะเลทราย Trei’Kuran Dunes
รางวัล
- 4000 EXP / เงิน 2500 fol และ 250 sp   
- Parchment
-The Pen Is Mightier Book
คีย์ไอเทมนี้จะทำให้ปลดล็อก Skill Specialties Authoring ซึ่งเมื่อใช้ SP ซื้อมาแล้วจะทำให้มีคำสั่ง Authoring เพิ่มขึ้นมาในเมนู Creation ทำให้สามารถสร้างไอเทมประเภท Augmentation item ,  Card เวทย์ และ Skill Book ได้




                                 บทที่ 5 – BREHREN OF THE BLADE


-ออกเดินทางจากฐานที่ Eastern Trei'Kur มาที่ Trei'Kur DUNE แล้วเดินทางต่อไปยังเป้าหมายที่ทางเข้า หอคอยแห่งการลงทัณฑ์แห่งเทรคูล Trei'Kur Slaughtery ที่อยู่ทางเหนือสุด


หอคอยแห่งการลงทัณฑ์แห่งเทรคูล Trei'Kur Slaughtery ก็คุกทรงหอคอยขนาดใหญ่ที่อนาจักร Resulia ใช้เป็นที่คุมขังและลงโทษพวก Trei'Kur ที่เป็นศัตรูซึ่งตอนนี้ปล่อยรกร้างมานานแล้ว



** เข้ามาตามทางระหว่างทางจะพบ Zurtails มอนสเตอร์เป้าหมายของ Quest Subjugation Directive: Zurtails **

-เข้าไปตามทางโดยต้องวนรอบไปทางขวาลุยหอคอยคุกขึ้นไปชั้นบนสุดผ่านทางเดินยาวเชื่อมหอคอยไปทางหอคอยฝั่งซ้ายจนถึงห้องขังด้านในสุดก็จะพบ Daril และ Relia ถูกจับอยู่ แต่ทันทีที่ทุกคนพยายามเข้าไปช่วยแก้มัดให้ Daril ที่หลุดจากมัดมาได้ก็รีบตะโกนบอกทุกคนทันทีว่า มันคือกับดัก !! ก่อนที่ Der-Suul กับทหารของมันที่ซุ่มรออยู่จะออกมาปิดล้อม ...




Fidel – Relia !! …… พ่อครับ !!
Daril – มันเป็นกับดัก พวกมันล้อมที่นี่เอาไว้หมดแล้ว !!





Der-Suul – ไง ไอ้พวกหยาบช้า กำลังจะตายในสถานที่ที่แกสร้างขึ้นมาเป็นไงบ้าง แหม่ นิยายน้ำเน่าจริงๆ ลูกชายบุกเข้ามาช่วยพ่อให้พ้นอันตราย ไม่ต้องกลัวได้ตายพร้อมกันแน่นอน ฆ่ามัน !!!

หลังจากที่ช่วยกันจัดการทหาร Trei'Kur ที่ Der-Suul ส่งมาหมายจะฆ่าทุกคนจนหมดแล้ว Der-Suul ก็เริ่มไม่พอใจที่ทุกอย่างไม่ได้ดังใจจึงงัดปืนอาวุธใหม่มายิงใส่แทน




Der-Suul – เลือดก็ต้องล้างด้วยเลือด นั่นแหละเส้นทางที่พวกข้าดำรงอยู่มาตลอด  เอาละพวกเราถอยทัพได้          

เป็นอีกครั้งที่ Relia ถูกเล็งเป็นเป้าหมายและก็เป็นอีกครั้งที่ Daril ยอมเอาตัวเองเข้าไปปกป้องคน Relia อีกครั้ง 



Fidel – ไม่ๆๆ พ่อครับ พ่อ !!! Emmerson คุณมีวิธีช่วยรักษาพ่อมั๊ย Miki ละ !! 
Emmerson – ไม่ เราทำไม่ได้
Fidel – ทำไมละ ?
Anne – เพราะอุปกรณ์ช่วยชีวิตทั้งหมดอยู่บนยาน และยานของเราก็กำลังเร่งซ่อมแซมมันอยู่นะสิ 
Fidel – โธ่เว้ย !!!
Daril – ไป ..... ปกป้อง ... เธอ
Fidel – ผมเสียใจพ่อ ที่พ่อต้องมาปกป้อง Relia แทนที่จะเป็นผม ...
Miki –ไม่ Fiddly เวลาแบบนี้ .. นายควรพูดว่า ..
Fidel – ขอบคุณครับพ่อ .. 
Relia – คุณปกป้องชั้น .. ขอโทษนะ แล้วก็ขอบคุณมากคะ



หลังจากทุกคนเอาศพ Daril กลับมาที่ฐานที่ Eastern Trei'Kur ในขณะที่ Fidel กำลังเสียใจ ท่ามการต่อสู้ที่ Der-Suul นำกองทัพ Trei'Kur มาตลบหลังตอนทุกคนกำลังเสียใจ ทำให้ Miki ต้องให้กำลังใจ





Fidel – สงครามเริ่มแล้วสินะ ...
Miki – ทุกคนออกไปสู้กันหมดแล้วนะ
Fidel – ชั้นแค่อยากอยู่ข้างๆเขา 
Miki – ชั้นรู้ แต่นายจะไม่ไปช่วยพวกเขาหรอ อย่าโทษตัวเอง เธอทำทุกอย่างดีที่สุดแล้ว ไม่มีใครว่านายหรอกถ้านายจะหนีจากการต่อสู้ ได้ยินมั๊ย เสียงของการต่อสู้ มันกำลังจะจบลงในไม่ช้านี้แล้ว นายจะอยู่เฝ้าศพพ่อแบบนี้ต่อก็ได้ แต่ มันจะมีประโยชน์อะไร ชั้นมั่นใจว่าเธอพ่อนายรับรู้อยู่เขาคงกำลังเสียใจที่นายทำแบบนี้แน่ๆ 

หลังจากเข้าใจและรวบรวมกำลังใจได้แล้วก็ดันแกนอนาล็อกให้ Fidel ลุกขึ้นจากความโศกเศร้าเพื่อเข้าไปต่อสู้กับความจริง ออกไปด้านนอกลุยทหาร Trei'Kur เข้าไปที่กลางพื้นที่จะพบ Boss Der-Suul รออยู่ เข้าไปจัดการมันซะให้สิ้นซากเพื่อแก้แค้นให้กับพ่อ



Fidel – เราทำได้แล้ว ใช่มั๊ย ? แก้แค้นให้พ่อได้แล้ว แม้จะไม่ได้เขาคืนมาก็เถอะ 




“การปกป้องผู้คนนะ นั่นเป็นหลักฐานที่ทำให้รู้ว่า เรายังแคร์คนรอบตัวอยู่และอยากปกป้องพวกเค้าเสมือนเป็นตัวเราเอง มันเป็นความต้องการที่จะหาที่พักพิงจากอันตรายที่ทุกคนก็ทำเหมือนกันหมดนั่นแหละ ตอนนี้แกคงเข้าใจมันด้วยตัวแกเองแล้วสินะ ลูกพ่อ  .. ชั้นหมายถึง แกโตพอที่จะเดินในเส้นทางที่ชายชาตรีต้องเดินแล้ว “




Fidel - พ่อไม่ต้องการให้ชั้นมาโศกเศร้ากับการจากไปของเขา เพราะมันจะเป็นสิ่งกัดขวางให้ชั้นเดินไปตามเส้นทางที่พ่อใช้ทั้งชีวิตสร้างเอาไว้ 
Victor –ชั้นมีบางอย่างจะให้  Insignivon  ดาบของพ่อนาย ตอนนี้นายเป็นคนรับไม้ต่อความกล้าหาญของท่าน Daril อย่างเต็มตัวแล้ว !! 




หลังจากทำธุระในเมืองเสร็จแล้ว เดินไปหาทุกคนที่ยืนรออยู่ที่ทางออกไปยังเมือง Central Resulia ได้เลย




Victor – ผมตัดสินใจแล้วว่าจะเดินทางร่วมไปกับทุกคน
Miki – เยี่ยมเลยสิ อ้าวแล้วเรื่องที่กองทัพละ
Victor – ตอนนี้ยังไม่มีภารกิจหรือคำสั่งอะไรออกมา หน้าที่ผมก็ยังอยู่ที่การคุ้มครองคุณ Fiore ไปถึงบ้านเกิดให้ปลอดภัยเหมือนเดิมครับ
Miki – อะไรกัน จ่าทหารผู้ตงฉินใช้งบราชการเพื่อให้ตัวเองไปเที่ยวต่อหรอเนี้ย ฮ่าๆๆๆ 
Emmerson – ฮ่าๆๆๆ
Victor – ผมเสียใจกับการจากไปของท่านคามิวด้วยนะ จริงก็ต้องขอโทษด้วยที่แทนที่ผมจะปกป้องท่านผมกลับมัวแต่มาปกป้องคุณ
Fidel – ขอบคุณมาก ในขณะเดียวกัน Relia ต่างหากคือคนที่เราต้องช่วยกันปกป้องเธอ Emmerson – เอาละเดินทางไป Santeroule กันได้ !! 




                                    บทที่ 6 – It’s all In the Name 


ออกเดินทางมุ่งสู่ Santeroule เมือง เมืองหลวงแห่งอณาจักรมนต์ตรา Langdauq แบบไม่มีจุดดาวแสดงให้เห็น จากนั้นเข้าไปที่ตึกสถาบันต่อต้านคำสาปแห่งราชสำนัก Langdauq Royal Institute of Signetary Studies เพื่อคุยกับ Ceisus



Fiore – Ceisus เราต้องการใช้ expunction device ด่วนเลย
Ceisus – อะไรเล่า แปบนึงดิครับ อีกอย่างคุณใช้มันได้หรอก
Fiore – หมายความว่าไงเราใช้ไม่ได้นะ
Ceisus – ระบบปฏิบัติงานของมันอยู่ๆก็ใช้งานไม่ได้เมื่อซักครู่นี่เอง เรากำลังหาทางจะซ่อมมันอยู่เนี้ย ถ้ารีบนักทำไมไม่ลองไปใช้ของที่สถานบันเดิมก่อนละ 
Fiore – ที่นั่นก็มี expunction device หรอ ?
Ceisus – แน่นอนสิ ตึกใหม่มีตึกเก่าก็ต้องมีสิ 
Fiore – นายน่ารักมาก Ceisus .. เอาละทุกคนไปที่สถาบันดั่งเดิมกัน

-จากนั้นเดินทางออกทางทิศเหนือของเมืองสู่ถนน North of Eastern Eihied เป้าหมายคือ Ancient institute ที่สุดทาง แต่ระหว่างทุกคนจะได้ยินเสียงและความสั่นสะเทือนของยานขนาดใหญ่และการระเบิดของ Ancient institute ที่ดังมาแต่ไกล ก่อนจะพบกลุ่มคนลึกลับที่มาออกมาขวางทางมากมาย



Emmerson – นั่นใครน่ะ
Anne -  General Alma ผู้นำของพวก Kronos ชายที่ถูกหมายหัวอันดับต้นๆของจักรวาล
Emmerson – พวกเราคงได้รับเกรียติอย่างสูงเลยนะที่มันมาแนะนำตัวถึงที่แบบนี้ มันใช่มั๊ยต้นเหตุของเรื่องทั้งหมดน่ะ
Feria – Relia !!
Fidel – Relia มันยังไงกันแน่หน้าตาเหมือนเธอเลย






Relia – พะ พี่ ...
Miki – Relia เธอพูดว่าพี่หรอ ?
General Alma – เธอลืมไปแล้วรึไงว่าเธอเป็นทรัพย์สินที่มีค่าของเราอ่ะ Relia ?  อีกครึ่งของเธอคือ Fidel และทั้งคู่ก็คือเครื่องมือที่เรา Kronos จะใช้สำหรับสร้างโลกใหม่ มีความแตกต่างจากทุกยูนิทที่ผ่านมา ดูเธอแสดงพลังออกมาสิ ให้เดานะ ความทรงจำเธอคงค่อยๆเริ่มกลับมาแล้วสินะ 
Emmerson – ทำไมนายพลชื่อดังแห่งกาแลคซี่ต้องมาไล่ล่าอาฆาตกับพวกตาสีตาสาด้วยละ 




General Alma – เป็นคำถามที่น่าสนใจ ชั้นก็กำลังจะถามอยู่พอดีเลยกัปตัน Kenny ..
Fidel – โธ่เว้ย !! ผมลุยเอง 
Emmerson – เดี๋ยวก่อน มันคงจะเป็นเรื่องพลาดครั้งใหญ่เลยละที่นายจะลุยเข้าไปช่วยสาวน้อยจากกองรบติดอาวุธทันสมัยแบบนั้น
General Alma – ถ้าดูตามรายงานที่ได้มา แกคือ Fidel สินะ เอาละ Fidel ถ้าแกเข้าใจที่ชั้นกำลังทำอยู่นี่แล้วก็จงถอยห่างจากเรื่องซะ อยู่เฉยๆแบบนั้นแหละ แล้วส่งตัว Relia มาซะไม่งั้น Feria คอหักคามือชั้นแน่ๆ  




.... ใช้พลังนั่นอีกแล้วหรอ .. ทหาร ปิดระบบมันซะเดี๋ยวนี้ !! ตัวเร่งปฏิกิริยาคงต้องแก้ไขนิดหน่อย แต่ชั้นมั่นใจว่าเราจะดึงพลังของเธอออกมาได้อีกมากมายแน่นอน ไปลากตัวเธอมา !! 




General Alma – ขอบคุณที่ให้ความร่วมมือนะ Fidel และเราก็จะให้ความกรุณาไม่ทำร้ายอะไรพวกแกเพราะชั้นได้ทุกอย่างที่ต้องการแล้ว ฮ่าๆๆๆ เอาละ กลับกันได้แล้วพวกเรา ..



Anne – พวกมันเทเลพอร์ทออกนอกระบบสุริยะเราไปแล้ว
Emmerson – เยี่ยม คราวนี้มันหนีไปไกลคนละกาแลคซี่กันเลย 
Mikl – มันน่าจะมีทางช่วย Relia ได้บ้างสิ ไม่มีเลยหรอ ?
Emmerson – เราต้องหาทางซ่อมยานให้ใช้ได้เร็วที่สุดก่อน อย่างอื่นค่อยว่ากัน วันนึงเต็มที่ก็สองวัน ..
Fiore – งั้นเราคงทำได้แค่รอ 
Anne – เดี๋ยวก่อน นี่มันเป็นเรื่องระหว่างสมาพันธรัฐกับ Kronos ไม่ใช่เรื่องที่ชาว Faykreed ต้องมาเกี่ยงข้องนะ  
Victor – ไม่ทันแล้วละ 
Emmerson –  ก่อนจะเข้าใจผิดกันนะ เธอพูดแบบนี้เพราะหวังดี เพราะถ้าพวกนายจะเดินทางไปกับพวกเรา อยากไปช่วย Relia พวกคุณจะกลับมาที่นี่ไม่ได้อีกแล้วนะ       
Miki – เราจะไม่ได้เห็นบ้านเกิดอีกแล้วหรอ ?
Emmerson – เอาเป็นว่าถ้าจะไปด้วยกันก็เป็นเรื่องที่ดีเลยละ แต่ถ้าไม่ไปก็เข้าใจอยู่เพราะไม่ใช่เรื่องของพวกคุณ เอาเป็นว่าลองไปคิดดูดีๆแล้วกัน อีกวันนึงเราถึงจะออกเดินทาง ยังไงถ้าจะไปก็มารวมตัวกันที่เมือง Santeroule ก็แล้วกันนะ 


ตึกสถาบันต่อต้านคำสาปแห่งราชสำนัก Langdauq ที่ Santeroule เมืองหลวงแห่งอนาจักร Langdauq Fiore กำลังครุ่นคิดตัดสินใจถึงเหตุผลที่เธอกำลังจะทำต่อจากนี้ ..




Fiore – แล้วรองเท้าพวกนี้จะทำไงละเนี้ย นี่เราทุนเทกับงานวิจัยในสิ่งที่เราไคร่รู้ที่จะเดินทางไปยังดินแดนที่ไม่เคยรู้จัก จนถึงกับต้องยอมทิ้งบ้านเกิดเลยหรอ ? พนันว่าใช่นะ .. แล้วมัวรออะไรอยู่ที่นี่อีกละ มีคนเคยกล่าวว่า การเป็นนักวิจัยที่แท้จริงก็เมื่อเจอข้อมูลที่สนใจ แม้มันจะอยู่ก้นหลุมลึกแค่ไหนก็ต้องโดดลงไปค้นหาโดยไม่ต้องมัวคิดห่วงสิ่งที่ตามมา หรอ เป็นความคิดที่โง่มาก ...แต่บังเอิญชั้นดันเชื่ออย่างนั้นเหมือนกันนะสิ 

ในปราสาท Bariff ที่ Central Resulia เมืองหลวงแห่งอณาจักร Resulia Victor ก็กำลังคิดหนักไม่ต่างจากคนอื่นเช่นกัน




Victor – ในฐานะเจ้าหน้าที่ทหารของกองทัพแห่งอณาจักร Resulian ผมยังคงมีความรักผิดชอบต่อผู้ใต้บังคับบัญชาและพร้อมที่จะปกป้องประเทศชาติจากภัยอันตรายต่างๆนานาที่เข้ามา เรื่องนี้ผมไม่มีวันลืมแน่นอน อีกทางนึง Fidel ละ มันจะดีแล้วหรอที่จะปล่อยให้ลูกชายของอาจารย์ไปเผชิญอันตรายแบบนั้นตามลำพัง  ได้โปรดท่านอาจารย์ ช่วยนำทางผมด้วย ....



ที่หมู่บ้าน Sthal .. Fidel กับ Miki กลับใช้โอกาสอันกดดัน เสริมสร้างความสัมพันธ์ที่มากกว่าเดิม ....





Miki-   Fiddly ถ้า พวกนายตกลงใจว่าจะไป จะให้ชั้นไปด้วยใช่มั๊ย
Fidel – แน่นอน
Miki- เราเสียคนมากมายเลยนะ พ่อ แม่ ชั้น รวมทั้งแม่ของนายด้วย ต้องสูญเสียให้กับความโหดร้ายที่จะมารุกรานหมู่บ้านของเรา
Fidel – อืมม เราเสียคนดีๆไปเยอะ  
Miki- ชั้นรู้ดี และก็กลัวมากเลยละ แต่หลังจากที่นายพูดว่า ชั้นจะดูแลเธอให้เหมือนน้องสาวเลย หยุดร้องไห้ได้แล้ว จำได้มั๊ย ฮ่าๆๆ
Fidel – อย่ามาพูดให้เขิลตอนนี้ได้มั๊ย ฮ่าๆๆ
Fidel – พ่อไปทำงานเมืองอื่นมาตลอด ก็เหลือแต่เธอนี่แหละที่ชั้นต้องดูแล เพราะงั้นชั้นถึงไม่อยากไปที่อื่นจนถึงวันนี้ 
Miki – ตอนนี้เราไม่ใช่เด็กแล้วนะ ...งั้นเรา เออ .. ชั้นไม่อยากเป็นน้องสาวนายแบบเดิมอยู่ตลอดหรอกนะ 
Fidel – เหมือนกัน ชั้นก็ไม่อยากเป็นพี่ชายเธอเหมือนกัน 
Miki – งั้นชั้นเรียกนายว่า Fidel นะ ??
Fidel – เอาสิ 
Miki – เอาละ Fidel ต่อจากนี้ชั้นจะไม่ยอมให้ใครมาทำร้ายนายเลยละ 
Fidel – มันควรจะเป็นชั้นพูดนะไม่ใช่เธอ ... ไปกันเถอะ เพื่อนๆกำลังรอเราอยู่ 

-จากนั้นก็เดินทางกลับไปยังเมือง Santeroule ระหว่างเดินทาง 2 คนศัตรูในพื้นที่ก็จะเหลือกลุ่มละตัวด้วยให้สะดวกในการต่อสู้ ซึ่งถ้ากล้าพอก็สามารถไปตามเก็บของตามเควสที่ต้องการได้เหมือนกันนะ

เมื่อถึงเมือง Santeroule เข้าไปที่จุดดาวแดงเป้าหมายก็จะพบ Emmerson Anne และ Fiore ที่รออยู่ ซึ่งก็แปลว่า Fiore เธอตัดสินใจที่จะร่วมเดินทางไปด้วยอย่างแน่นอนแล้ว แต่ยังไร้เงาของ Victor จนกระทั้ง Emmerson ติดต่อไปยังยาน Charles D. Goale เพื่อเทเลพอร์ททั้ง 5 คนขึ้นไปบนยาน ทุกคนก็เห็น Victor รีบวิ่งมาสมทบด้วยอีกคน จนทำให้ Emmerson ต้องเปลี่ยนให้เทเลพอร์ทเพิ่มเป็น 6 คนขึ้นไปบนยานแทนด้วยความดีใจ




                                   บทที่ 7 – QUANTUM LEAP OF FAITH



                                              ยาน Charles D. Goale


หลังจากที่ทุกคนขึ้นยานมาพร้อมๆกับความประหม่าของ Victor ที่เพิ่งขึ้นมาบนยานสุดทันสมัยครั้งแรกในชีวิต หลังจากผ่านการขึ้นลิฟต์ครั้งแรกในชีวิตของ Victor มาด้านบนที่ห้องควบคุมยาน Emmerson ก็สวมหมวกกัปตัน เริ่มปฏิบัติการณ์ไล่ล่าตามชิงตัว Relia ทันที



แต่มีข่าวไม่ค่อยจะสู้ดีเพราะยานของ Kronos ที่กำลังติดตามกำลังเดินทางมุ่งสู่ Omphalos system ด้วยความเร็ววาร์ปที่ 14.3 ทำให้ Emmerson ถึงกับต้องตกใจและคิดหนักเพราะยาน Charles D. Goale ที่ใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยที่สุดของสหพันธ์รัฐสามารถใช้ความสูงสุดด้วยความเร็ววาร์ปที่ 12.9 เท่านั้น แปลว่ายังไงก็ไม่มีทางไล่ตามทันแน่นอน ซึ่งถึงแม้ความเร็วจะห่างกันแค่ 1.4 แต่ถ้าเทียบที่ความเร็วสูงสุดของยาน Charles D. Goale ยังไงก็ไล่ตามไม่ทัน ทำให้ Emmerson ตัดสินใจที่จะใช้ Gravitic Warp แต่ Anne ไม่เห็นด้วยเพราะเครื่อง Gravitic Warp เพิ่มสามารถสร้างได้สำเร็จยังไม่ถึงวันแถมยังไม่เคยทดสอบกับสนานที่จริงด้วย การนำเอาระบบนี้มาเสี่ยงก็ไม่ต่างจากฆ่าตัวตาย แต่ Emmerson ยังโลกนี้ก็ไม่มีอะไรที่ปลอดภัยร้อยเปอร์เซ็นต์อยู่แล้ว เขาจึงตัดสินใจติดต่อไปยัง Dr. Krupp ผู้ที่คิดค้นระบบ Gravitic Warp ที่ Station 5 มาช่วยใหคำแนะนำความเหมาะสมในการปฎิบัติงานจริง 




Dr. Krupp ผู้คิดค้นระบบการควบคุมมิติแรงโน้มถ่วง ทฤษฎีใหม่จากการต่อยอดจากทฤษฎี Subspace Warp จนสามารถสร้างเครื่องวาร์ปที่เรียกว่า "gravity warp" ซึ่งสามารถทำให้ยานอวกาศเดินทางด้วยเส้นทางวาร์ปได้รวดเร็วยิ่งขึ้น เป็นคนที่ Emmerson ขอให้เจ้าหน้าที่ติดต่อไปจนได้รับการติดต่อกลับมาทันที

  



 และทันทีที่ Emmerson ร้องขอที่จะใช้ระบบ Gravitic Warp กับภารกิจแบบเร่งด่วน Dr. Krupp ก็ปฎิเสธกลับมาอย่างไว เพราะ ยาน Charles D. Goale ที่ Dr. Krupp ก็ถือว่ามีพลังความเร็วการวาร์ปเร็วที่สุดแล้ว แต่เมื่อ Emmerson อ้างว่ายานของ Kronos นั้นมีความเร็ววาร์ปถึง 14.3 นั่นทำให้ Dr. Krupp ทั้งตกใจและเจ็บใจว่า เทคโนโลยีบ้าอะไรของพวกมันถึงทำให้ Warp Speed อัดความเร็วได้ขนาดนั้น Anne จึงบอกถึงความลับที่ทุกคนเพิ่งรู้มาว่ามันน่าจะใช้พลังเวทย์มนต์โบราณผสมกับเทคโนโลยีสมัยใหม่ที่เรียกว่า Symbometrics เป็นตัวช่วย และพลังเวทย์มนต์ที่ว่าพวก Kronos ก็มาเอาจากพลังที่ชาว Faykreed เรียกว่า Signeturgy นั่นเอง ก่อนที่ Anne จะให้ข้อมูลทั้งหมดของระบบ Symbometrics กับ Dr. Krupp ไปเพื่อศึกษาถึงความเป็นไปได้ ก่อนที่ Anne จะขอความร่วมมือกับ Fiore เพื่อกลับไปที่เมือง Santeroule เพื่อขอให้ Ceisus มาเป็นคนช่วยคำนวณความเป็นไปได้ของทฤษฏีที่จะทำนำเอา Symbometrics มาใช้กับยาน Charles D. Goale ให้มีความเร็วในการวาร์ปเร็วทันยานของศัตรู  

-ในขณะที่รอผลวิเคราะห์ ก็สามารถเดินไปเก็บไอเทมตามที่ต่างๆของยานได้ก่อนจะขึ้นไปบนชั้นห้องพักเพื่อพักผ่อนหนึ่งคืนแล้วค่อยกลับมาฟังผลของความคืบหน้าอีกครั้งที่ห้องควบคุมยาน

ทันทีที่ Dr. Krupp ติดต่อกลับมาเรื่องความคืบหน้าหลังจากการนำเอารายละเอียดของระบบ  Symbometrics ไปวิเคราะห์ทำให้ค้นพบว่าสามารถใช้เวทย์มนต์บางอย่างที่สามารถกระตุ้นและเร่งปฎิกริยาเครื่องวาร์ปของยานให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นได้ แต่ติดตรงที่แม้ว่าจำสามารถคำนวนออกมาแล้วว่ามันมันทำได้ แต่ Dr. Krupp ก็ไม่มีความรู้ด้านเวทย์มนต์ว่าต้องทำยังไงถึงจะผสานมันเข้ากับแกนพลังงานได้ แต่ Fiore ยืนยันว่าเธอเข้าใจและรู้ว่าเวทย์ตัวไหนน่าจะผสานเข้ากันได้ เธอจึงขอลองทำด้วยตัวเอง 



จากนั้นเดินไปที่ห้องเครื่องพร้อมกับ Anne และ Fiore เพื่อให้ Fiore ใช้เวทย์มนต์เป็นตัวเร่งปฎิกริยาของเครื่องยนต์ของยานทำให้แกนวาร์ปมีพลังเพิ่มขึ้นหลายเท่าตัวสำเร็จในที่สุด

เมื่อกลับมาที่ห้องควบคุมยานทุกคนต่างก็ยินกับความสำเร็จที่ Fiore ทำได้ ซึ่งแม้แต่ Dr. Krupp ที่เป็นนักวิทยาศาสตร์อัจฉริยะของสหพันธรัฐก็ถึงกับออกคำชื่นชมในการเปิดโลกความรู้ใหม่ในสิ่งที่ Fiore ทำได้และยกความดีความชอบให้กับทดลองครั้งใหม่นี้แก่เธอด้วย



ไม่รอช้า Emmerson รีบสั่งออกเดินทางด้วยแกนวาร์ปพลังใหม่เพื่อไล่ตามยานศัตรูให้ไวก่อนที่มันจะหนีทัน และท่ามกลางการลุ้นของทุกคนบนยานกับการวาร์ปด้วยเทคโนโลยี Symbometrics เป็นครั้งแรก ผลออกมาเป็นที่ประทับใจเพราะการวาร์ปนั้นดำเนินไปอย่างเสถียรและทำให้วาร์ปไปยังตำแหน่งของยานแม่ของพวก Kronos ได้ทันตามที่ทุกคนตั้งใจไว้สำเร็จ 




ในขณะที่พวก Kronos ก็ยิงจรวดมิดไซด์เข้ามาสกัดมากมายพร้อมทั้งเปิดบาเรียคุ้มกันไว้ทำให้ไม่สามารถยิงทำลายยานมันได้ ทำให้ Emmerson ต้องตัดสินใจใช้ โปรตอน ตอปิโด ผสมกับ ควอนต้ม ตอปิโด ยิงถล่มเข้าไปจนสามารถทำลายบาเรียและทำให้ยานแม่ของศัตรูเสียหายได้สำเร็จและมากกว่านั้นมันทำให้ยานของศัตรูเสียการควบคุมจนทำให้ยานอาจระเบิดทำลายตัวเองในเวลาไม่นาน นั่นไม่เป็นการดีเพราะ Relia อยู่บนยานนั้นด้วย ทำให้ทุกคนไม่มีทางเลือกที่จะต้องเทเลพอร์ทตัวเองขึ้นบนยานของ Kronos เพื่อช่วย Relia ออกมาด้วยตัวเองก่อนยานจะระเบิด 



                                            The Cavaliero Kronos Space Ship 


เมื่อเข้ามาในยาน Cavaliero แล้ว ลุยเข้าไปตามทางเก็บไอเทมดีๆมาให้หมด เก็บเลเวลจากศัตรูในนี้ให้พอใจเพราะจะเข้ามาได้แค่ครั้งเดียว เมื่อเข้าไปด้านในจนจุดเซฟ แวะไปที่เส้นทางทางซ้ายเก็บไอเทมระหว่างทางจนถึงห้องปล่อยยานให้หมดก่อน เพราะเวลาต้องหนีจะได้ไม่ต้องเสียเวลาเก็บ จากนั้นค่อยเข้าไปถึงห้องทดลองด้านในจะพบกับ กัปตันของยาน Cavaliero กำลังจับตัว Relia เป็นตัวประกันเพื่อต่อรองให้ทุกคนยอมแพ้ แต่คราวนี้ Victor รู้ทันวางแผนตลบหลักฉวยโอกาสชิงตัว relia จากมือพวกมันก่อนที่มันจะตั้งตัว เข้าไปจัดการพวก Kronos ให้หมด




 หลังจากจัดการศัตรูจนช่วย Relia ได้สำเร็จ ในขณะที่ Emmerson กำลังสั่งให้เจ้าหน้าที่บนยาน Charles D. Goale เทเลพอร์ททุกคนหนีออกไป แต่เจ้าหน้าที่แจ้งว่า ยานของ Kronos มีระบบป้องกันการเทเลพอร์ทอยู่ แต่สามารถมารับทุกคนที่ส่วน Cargo Bay ได้ ทำให้ทุกคนต้องหนีไปที่ Cargo Bay โดยต้องหนีออกมาที่ห้อง Cargo Bay ทางซ้ายของจุดเซฟเพื่อหนีขึ้นยาน Charles D. Goale ที่มารับให้ทันเวลาหมด 27 นาทีก่อนยาน Cavaliero จะระเบิดเป็นจุล




                                     บทที่ 8 – Miki and Relia Tag Along 


-หลัวจากช่วย Relia กลับขึ้นมาบนยานได้อย่างปลอดภัย หลังจากที่ทุกคนย้ายไปพักผ่อนกันแล้ว Fidel จะอาสาพาชมยานให้ทั่วๆเพื่อให้ Relia คุ้นเคยกับที่นี่ จากนั้นก็พาเธอไปตามชั้นต่างๆของยานซักพักแล้วกลับมาเข้าที่ห้องบังคับการณ์ของยาน Relia จะเข้ามาได้ยินสิ่งที่ Emmerson กับ Anne คุยกันโดยไม่ได้ตั้งใจ


Anne – ปัญหาคือสถานการณ์ของเรามันจะซับซ้อนขึ้นนะคะ
Emmerson – แต่เราก็กำลังทำให้สงครามมันขยายวงกว้างขึ้นไม่ได้อีกแล้วนะ
 Anne – ยังไงพวก Kronos ก็ยังยืนยันที่จะเอาตัวเธอคืนแน่นอนคะ
Emmerson – เธอไม่คิดที่จะลบสัญลักษณ์ของเธอเพื่อให้ใช้พลังไม่ได้แล้วหรอ 
Anne – ถ้าทำได้นะ ไม่อยากให้เธอถูกเอาไปใช้เป็นเครื่องมือในสถานการณ์แบบนี้
 Emmerson – เฮ้อออ.. อะไรๆมันคงจะง่ายกว่านี้เยอะถ้าพวก Kronos ไม่ได้สร้างเธอขึ้นมาอ่ะนะ

ทันทีที่ Relia ที่กำลังเดินเข้ามาในห้องได้ยินเข้าจึงเสียใจและวิ่งหนีไปทันที จากนั้นตามเธอไปที่ Cargo Bay ก็จะพบ Relia อยู่ที่นั่น


Miki – Relia ...
Relia – อย่ามายุ่งกับชั้น !! ทุกๆคนคงจะสบายใจมากสินะ ถ้าเกิด ถ้า ไม่มีชั้นอยู่ที่นี่น่ะ !!
Miki – ไม่จริงเลย เธอก็รู้ดีนี่
Relia – ช่างมันเถอะ ชั้นเหนื่อยกับเรื่องนี้แล้ว อย่ามายุ่งกับชั้น
Fidel – ชั้นให้สัญญาพ่อเอาไว้ว่าจะปกป้องเธอ ถ้าเธอจะทิ้งชั้นไป จะให้ชั้นมองหน้าตัวเองได้ยังไง ถ้าเธอจะโดด ชั้นโดดด้วย แต่ถ้าเธออยากจะเอาตัวเองออกจากความเจ็บปวดในใจทั้งหมดที่มีเธอต้องมีชีวิตอยู่ต่อไปจนถึงวันสุดท้ายของชีวิต แต่ว่าตอนนี้เธอต้องมีชีวิตอยู่ต่อไปเพื่อชั้น ถ้าขาดเธอชั้นคงไม่มีความสุขต่อไปได้อีกแน่นอน แล้วก็ อยากทำแบบนี้อีกเด็ดขาดนะ ถ้าวันไหนเธอไม่เชื่อมั่นในตัวเองแล้วก็ขอให้จงเชื่อมันในตัวชั้นนะ ตกลงมั๊ย
Relia – Fidel ฮื้อออออ..ฮืออออออ 



Miki – มันเป็นความผิดของชั้นเอง 
Emmerson – ถ้าจะโทษใครซักคนที่นี่ก็ขอให้เป็นชั้นเถอะนะ ต้องขอโทษด้วยที่ทำตัวแย่ๆและพูดแบบนั้นออกไป จริงๆผมไม่ได้หมายความตามที่พูดและมันก็เป็นการเลือกคำพูดที่แย่มากๆเลย
Anne –เราต้องขอทากับเรื่องแย่ๆที่เกิดขึ้นอย่างมากนะ
Miki – เธอห้ามทำแบบนี้อีกแล้วนะ Relia

หลังจากเคลียร์ทุกอย่างให้จบลงได้อย่างดี ทุกคนก็พักผ่อนถึงตอนเช้า จน Emmerson ประกาศเรียกทุกคนมาพบที่ห้องควบคุมยาน



Emmerson – เอาละ มาพร้อมกันแล้วนะ ทุกคนได้ยินที่หัวหน้าทหารของ Kronos พูดในคุกตอนที่เราบุกเข้าไปช่วย Relia รึเปล่า ?
Miki – กระสวยอะไรซักอย่างใช่ป่ะคะ
Anne – อืม มันพูดว่า ดีนะที่เราเอาอีกคนนั่นไปขังไว้ในกระสวยในอีกทีนึงแล้ว 
Anne – และจากข้อมูลนี้เราเลยสันนิฐานได้ว่าอีกคนต้องเป็น Felia 
Emmerson – ที่ผ่านมาเราเจอห้องทดลอง Symbometrics ของพวกมันไปแล้ว 2 แห่ง ที่เหลือต้องเป็นห้องทดลองขนาดใหญ่หลักของมันแน่นอน 
Anne – และเราวิเคราะห์แล้วว่าน่าจะต้องไปที่เนินดินแห่ง Aysoughk ในเขตทะเลทรานแน่นอน 
Emmerson – เอาละ เมื่อเข้าใจดีแล้วไปรวมตัวที่ Transport Room กัน Felia รอหน่อยเรากำลังไปช่วยเธอแล้ว ..!! 

หลังจากจบเหตุการณ์ก็จะได้ Communication Model G ซึ่งเป็นคีย์ไอเทมสำหรับกลับขึ้นมาบนยาน Charles D. Goale ได้และห้อง Transport Room ก็จะเป็นจุด Fast Travel ไปตามที่ต่างในแผนที่ได้อย่างสะดวกรวดเร็ว และเมื่อเป็นอิสระในการเดินทางอีกครั้งก็จะมี QUEST ย่อยชุดใหญ่ตามเมืองต่างๆที่ต้องทำอีกมากมาย

           
                                 QUEST ที่ Central Resulia 


1. Emblematic Of Knighthood (Rank 6)
ผู้ว่าจ้าง – Self styled Dragon Knight Master Rank 
สิ่งที่ต้องการ Dragon Hides 3 อัน (หาได้จากพวกมังกรที่ Dakaav Footpath)
รางวัล 
- 4000 EXP / เงิน 2900 fol และ 260 sp   
- Attack Bracelet.

2. Showdown At The Training Hall (Rank 6)
ผู้ว่าจ้าง – Ted 
สิ่งที่ต้องการ จัดการพวกนักเลงในTraining hall ที่หมู่บ้าน Sthal
รางวัล 
- 5000 EXP / เงิน 3000 fol และ 280 sp   
- Swordsman’s Manual Vol. VI

3. Always be prepard (Rank 6)
ผู้ว่าจ้าง – King Chosen Commander
สิ่งที่ต้องการ Glavity Bomb และ Low –frequency Bomb ผสมเอาจาก Engineering Skill Level 4
-Gravity Bomb ผสมจาก Gnomestone x1 + Reinforced Gunpowder x2 + Micro Circuit x1
-Low-Frequency Bomb ผสมจาก Sylphstone x1 + Reinforced Gunpowder x2 + Quantum Processor x1
รางวัล 
- 5700 EXP / เงิน 3900 fol และ 280 sp   
- Vitalitea
- Fortitude Amulet 

4. Medal of Honor (Rank 7)
ผู้ว่าจ้าง – Resulian Royel Authority 
สิ่งที่ต้องการ Dragon Scales 3 อัน และ Platinum 5 อัน
รางวัล 
- 4800 EXP / เงิน 10000 fol และ 280 sp   
- Sylphie’s Mail.

5. Eggcellent Haul (Rank 7)
ผู้ว่าจ้าง – Bird Fanatic
สิ่งที่ต้องการ Gigantavian Egg (หาได้จากพวก Jatayu ใน The Signesilica ในช่วงท้ายของเนื้อเรื่อง)
รางวัล 
- 5200 EXP / เงิน 2900 fol และ 280 sp   
- Salamanderstone 

6. Heavy Weight Champion of the Insect world (Rank 7)
ผู้ว่าจ้าง – Mischieuous Lad 
สิ่งที่ต้องการ Insect egg (หาได้จากมอนสเตอร์แมลงต่างๆ)
รางวัล 
- 5800 EXP / เงิน 4000 fol และ 280 sp   
- Heavenly Pudding
- Attack Amulet

7. Lurking In the Shadows of Collection (Rank 7)
ผู้ว่าจ้าง – Collection Club 
สิ่งที่ต้องการ Shadow Rose (หาได้จากพวก Welwitschia มอนสเตอร์ต้นไม้ในห้องทดลองลับ Symbological Facility Prime ตอนเข้ามารอบ 2 ในเนื้อเรื่องและพวก imps  ใน Signesilica )
รางวัล 
- 5400 EXP / เงิน 2600 fol และ 280 sp   
- Love Potion No 256.

8. Collecting a Teste from Heaven (Rank 7)
ผู้ว่าจ้าง – Collection Club 
สิ่งที่ต้องการ ปลา Empyreanase สามารถจับได้จากจุดตกปลาที่ Coast of Minoz แบบแรนด้อม หรือ ใช้วัตถุดิบพวกอาหารอะไรก็ได้ ถ้าจะให้สะดวกใช้ Curry Rice เพราะวัตุดิบทั้งหมดสามารถหาซื้อได้ที่ร้านบนยาน เอามา Synthesis 6 ช่องให้ได้ค่า Quality รวมให้ได้ 50 จากนั้นผลการ Synthesis ก็จะสุ่มออกมาเป็นไอเทมต่างๆจนออกมาเป็น Empyreanase ซักอันตามแต่โชค 



รางวัล 
- 5900 EXP / เงิน 4200 fol และ 280 sp   
- Sushi
-Pae sinets Vol.2 

9. Subjugation Directive Vejheerits (Rank 7)
ผู้ว่าจ้าง – Central Resulian Army 
สิ่งที่ต้องการ กำจัด Vejheerits 5 ตัวที่ Passage on the Cliffs
รางวัล 
- 5300 EXP / เงิน 2800 fol และ 280 sp   
- Solar Signets Vol 3

10. Subjugation Directive: Hoodini (Rank 7)
ผู้ว่าจ้าง – Central Resulian Army
สิ่งที่ต้องการ กำจัด Hoodini 5 ตัวที่ Dakaav Footpath
รางวัล 
- 5500 EXP / เงิน 2500 fol และ 280 sp   
- Health Seeds

11. Subjugation Directive Mojangos (Rank 7)
ผู้ว่าจ้าง – Central Resulian Army
สิ่งที่ต้องการ กำจัด Mojangos 10 ตัวที่ Resulian plains
รางวัล 
- 6200 EXP / เงิน 4800 fol และ 280 sp   
- Therapeutic Tincture

12. Subjugation Directive Rihvnauts (Rank 7)
ผู้ว่าจ้าง – Central Resulian Army
สิ่งที่ต้องการ กำจัด Rihvnauts 4 ตัวที่ Coast of Minoz
รางวัล 
- 5000 EXP / เงิน 2700 fol และ 280 sp   
- Chai Tea
- CQC Program Zeta





                              QUEST ที่ Welth Laboratary เมือง Myiddok 


1. Keys To The Present In The Past (Rank 7)
ผู้ว่าจ้าง - Welth Vineyard
สิ่งที่ต้องการ – Erstwhile Ultimate Sword (เป็นคีย์ไอเทมที่ได้จาก Revenant Swordmaster ที่ Northern Territory of Sohma ตรงทางที่เข้ามาจากทะเลทราย Trei’Kuran Dunes)



รางวัล 
- 6000 EXP / เงิน 5000 fol และ 280 sp   
- Heroism Potion
- Equipped to Handle Anything Book
 คีย์ไอเทมนี้จะทำให้ปลดล็อก Skill Specialties ออกมา 2 อย่างคือ 
Whetting – ทำให้เมนู Augmentation ใน Creation สามารถผสมวัตถุดิบต่างๆลงในอาวุธได้
Fortification – ทำให้เมนู Augmentation ใน Creation สามารถผสมวัตถุดิบต่างๆลงในชุดที่สวมใสได้



                                           QUEST ที่เมือง Santeroule


1. Cloaked In Mistakes (Rank 6)
ผู้ว่าจ้าง – Reseacher Faction 
สิ่งที่ต้องการ Signet Cards of Ex Healing 2 อันและ Signet Cards of Divine Wave 1 อัน ทั้ง 2 อันผสมด้วย Skill Authoring Skill Level 3 ขึ้นไป 
 - Signet Card: Ex Healing ผสมจาก Oak x3 + Signet Card x1 + Healing Paint x1 
- Signet Card: Divine Wave ผสมจาก Crystal x2 + Signet Card x1 + Nil Paint x1
รางวัล 
- 5100 EXP / เงิน 2700 fol และ 280 sp   
- Robust Vitalitea
- Mind Amulet

2. An Emotional Gift Idea (Rank 8)
ผู้ว่าจ้าง – Delusioual Reseacher
สิ่งที่ต้องการ emotional destabilizer  ดอร์ปจากมอนสเตอร์ทั่วไปหรือผสมจาก Skill Compounding จาก  Lavender 3 อัน +  Demon’s Tail 1 อันและ Empty Bottle 1 อัน
รางวัล 
- 6000 EXP / เงิน 5300 fol และ 280 sp   
- Heroism Potion

3. The Enchanted Quill (Rank 7)
ผู้ว่าจ้าง – Enthusiasted Reseacher
สิ่งที่ต้องการ Remex ดอร์ปจากมอนสเตอร์ทั่วไปรอบๆเมือง
 รางวัล 
- 5200 EXP / เงิน 2800 fol และ 280 sp   
- Parchment
- Cerulean Orb Signets Vol 3

4. Sylph-Sewn Robes (Rank 7)
ผู้ว่าจ้าง – Langdauq Weapon Shop
สิ่งที่ต้องการ Faerie Embroidery Thread ดอร์ปจาก Great  scumbags พวกโจรที่ Resulian Plains
 รางวัล 
- 6100 EXP / เงิน 3300 fol และ 280 sp   
- Faerie Band

5. Airing out A Collection (Rank 7)
ผู้ว่าจ้าง – Collection Club
สิ่งที่ต้องการ Sylphstone (ได้จากเควส Whom the Bell Tomes หรือผสมด้วย Alchemy Skill จาก Remex x3 + Wind Gem x2 + Alchemist’s Water x1 ) 
รางวัล 
- 5400 EXP / เงิน 2900 fol และ 280 sp   
- Relaxation Device

6. The Golden Rule of Collecting (Rank 8)
ผู้ว่าจ้าง – Collection Club
สิ่งที่ต้องการ Gold 18 อัน  (หาได้ง่ายมากทั้งในเหมืองและกับพวกโกเลมในทะเลทราย หรือผสมด้วย Alchemy Skill จาก Silver x3 + Alchemist’s Water x2) 
รางวัล 
- 5600 EXP / เงิน 3200 fol และ 280 sp   
- Tears of Joysotto
- Purification Signets Vol 2

7. Open Season on Ouyeits (Rank 7)
ผู้ว่าจ้าง – Langdauq Dpt Public Order 
สิ่งที่ต้องการ กำจัด Ouyeits ที่ North of the Eastern Eihie ทางออกด้านบนของเมือง Santeroule
รางวัล
- 6200 EXP / เงิน 3500 fol และ 280 sp   
- Physical Stimulant
- Moonlight Signets Vol 2

8. Open Season on Hourigh (Rank 7)
ผู้ว่าจ้าง – Langdauq Dpt Public Order 
สิ่งที่ต้องการ กำจัด Hourigh ที่ West of the Eastern Eihiedทางออกด้านซ้ายของเมือง Santeroule
รางวัล
- 5300 EXP / เงิน 2800 fol และ 280 sp   
- Magic Seeds 

9. Wanted Abigail (Rank 7)
ผู้ว่าจ้าง – Langdauq Dpt Public Order 
สิ่งที่ต้องการ กำจัด Abigail ที่ภูเขาหิมะในเขต North Territory of Sohma เป้าหมายคือมอนสเตอร์สายโจรตัวเล็กด้านมุมซ้ายบนของแผนที่
รางวัล
- 6000 EXP / เงิน 4000 fol และ 280 sp   
- Meteorite 

10. Changing History: Young Women, Power and Pets (Rank 6)
ผู้ว่าจ้าง – Animal Lover  
สิ่งที่ต้องการ กำจัด Geraldine ที่จุดเซฟกลางทางใน West of the Eastern Eihied ทางออกด้านซ้ายของเมือง Santeroule รางวัล
- 6000 EXP / เงิน 4000 fol และ 280 sp   
- Shadestone



เมื่อทำธุระทุกอย่างหมดแล้ว เดินทางด้วย fast Travel จากบนยานมายัง Aysoughk Riverbank in Trei'Kur เข้าไปที่ห้องทดลองลับ Symbological Facility Prime ทางซ้ายล่างของเขตทะเลทราย Trei'Kur Dune อีกครั้ง ที่หน้าทางเข้า Anne จะพบว่าพวก Kronos ได้สร้างระบบป้องกันใหม่จนไม่สามารถแฮกเปิดเข้าไปได้เธอจึงใช้วิธีให้ยานเทเลพอททุกคนเข้าไปในต่ำแหน่งล่าสุดที่ชั้น 3F ที่เคยมาจนได้



                               Symbological Facility Prime


-ในห้องทดลองลับนั้นตอนนี้ศัตรูได้เปลี่ยนไปจากเดิมแล้ว ตอนเข้ามายังไม่ต้องเข้าไปจุดภารกิจ ลองเดินย้อนไปที่ชั้น 1 – 2 ก่อนจะมีศัตรูที่จะดอร์ปไอเทมที่จำเป็นต่อการทำ Quest อยู่ด้วยนั่นคือ 
1.Welwitschia มอนสเตอร์ต้นไม้ที่ดอร์ป Shadow Rose สำหรับ Quest Lurking In the Shadows of Collection 
2.Fafnir หุ่นยนต์ 4 ขาที่ดอร์ป Laser Oscillators สำหรับ Quest Reconstructing An Enigma  

จากนั้นเข้าไปที่จุดดาวแดงของภารกิจที่ห้องควบคุมชั้น 3F Anne จะเข้าไปเพื่อเปิดประตูลงไปชั้นใต้ดินต่อ ระหว่างนั้นก็ต้องเจอกับแผนกต้อนรับที่บุกเข้ามาขัดขวาง จัดการพวก Kronos มากมายที่เข้ามาให้หมด แล้วเข้าไปทางประตูที่ลงไปยังชั้น 4 แล้วลุยไปจนถึงชั้นที่ 5 F ได้เลย เมื่อเข้ามาด้านในห้องโถงกลางจะพบกับนักวิจัยหญิงคนนึงออกมา


Miki – เธอเป็นใคร !!
Raffine – ดิฉันชื่อ Raffine ผู้ดูแลแผนกชีวสารในห้องตรวจสอบตัวอย่างทางชีวภาพของห้องทดลองแห่งนี้คะ ได้โปรดตามชั้นมาด้วยคะมีใครบางคนอยากให้เด็กคนนั้นได้คุยด้วย 
Victor – เดี๋ยว !! ทำไมเขาต้องส่งคุณมาหาคุยกับเราด้วย 
Raffine – เพื่อทำให้พวกเข้าใจ .. ในสิ่งที่ยิ่งใหญ่กว่าที่คุณเคยเข้าใจ ตอนนี้ไม่มีนักวิจัยคนไหนมาทำงานในเขตนี้แล้วนอกจากชั้น เราต้องหยุดมันซะที ก่อนที่จะมีใครเจอเรื่องแย่ๆนี้แบบเด็ก 2 คนนี้อีก ถึงแม้จะไม่สามารถแก้ไขถึงเรื่องที่ผ่านมาได้แล้วก็ตาม แต่พวกเขาที่เหลือก็ยังคงค้นคว้าต่อไป เพื่อปกป้องงานวิจัยจากทั้ง Kronos และสหพันธรัฐ ได้โปรดตามมาพบพวกเขาเถอะคะ 

-ตาม Raffine เข้ามาด้านในระหว่างทางจะพบพวกหุ่น Fafnir และ Welwitschia เข้ามาขวางทาง ลุยเข้าไปจนถึงห้องโถงใหญ่ก่อนจะถึงห้องที่ Raffine กำลังจะนำทางไปมอนสเตอร์ขนาดใหญ่ก็จะออกมาขวางทาง


Boss - lllustrious Manticore หลังจากสู้ไปได้ซักแม้มันจะไม่ได้ถึกอะไรมากแต่ทุกครั้งที่พลังลดมันก็จะรักษาตัวเองกลับมาพลังเต็มได้ตลอด Raffine จะบอกว่า Corrupts ตัวนี้ถูกดันแปลกจากฝีมือของผู้อำนวยการที่หัวหน้าโครงการวิจัยนี้เองจึงไม่สามารถทำอะไรมันได้ถ้าไม่สลายพลัง healing Power ของมันเสียก่อน 

พยายามสู้กับมันไปเรื่อยๆจนกว่า Relia จะใช้พลังของเธอช่วยสลายพลังฟื้นฟูชีวิตของ Corrupts ตัวนี้ลงได้ จากนั้นก็จะสามารถจัดการมันได้อย่างปกติได้แล้ว แต่หลังจากที่ทุกคนร่วมมือกันจนกำจัด lllustrious Manticore ลงได้ก็พบว่ามีคนกลุ่มนึงกำลังสังเกตการณ์การต่อสู้นี้อยู่จากห้องควบคุมด้านบน



Raffine - General Alma .. ท่าน ผู้อำนวยการ พวกคุณยึดเอางานวิจัยไปใช้ตามใจชอบเพื่อให้เป็นไปตามแผนการร้ายของคุณ 
Thoras – ฮ่าๆ ชั้นคงต้องพูดอะไรหน่อยแล้ว ชั้นไม่ค่อยประทับใจนักหรอกนะที่เธอกลายเป็นคนทรยศแบบนี้น่ะ โชคไม่ดีเอาซะเลยนะ  Raffine 
General Alma – ชั้นเห็นเธอเป็นคนพาตัว Relia ไปจากพวกเราและก็รู้ด้วยว่าเธอเคารพในตัวกัปตัน Kenny มากๆเสียด้วยจริงมั๊ย 
Emmerson – รู้อย่างนั้นแล้วทำไม่ส่งตัว Felia มาให้เราซะละ 
Thoras – ลืมแนะนำตัวเลย ผมชื่อ Thoras เป็นหนึ่งผู้อำนวยการของห้องทดลองแห่งนี้ ก็ต้องขอขอบคุณในทุกความพยายามของพวกคุณนะที่ทำให้ผมได้รู้ความจริงจนสามารถวิเคราะห์ข้อมูลพลังที่แท้จริงที่ร่างทดลองปล่อยออกมาได้ นายกระตุ้นจนทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเคมีและฮอร์โมนในร่างทดลองจนสร้างพลัง spacetime symbology ออกมาได้จริงๆ ผมยังคิดหาวิธีทำไม่ออกเลย แต่นาย Fidel นายกลับทำได้ ผมละทึ่งจริงๆ ผมสนใจคุณจริงๆนะ ฮ่าๆ  



Anne – ทั้งหมดที่พวกแกทำมาก็เพื่อพลัง spacetime symbology เนี้ยหรอ ??
Fidel – ที่ว่าชั้นน่าสนใจมันหมายความว่าไงนะ !! 
Anne – พูดง่ายๆคือมันรู้มาตลอดว่าพวกเราช่วย Relia มาจากยานนั่น หรือไม่ก็ พวกมันต้องการให้เราทำแบบนั้นไงละ !! อย่างทุกครั้งที่เกิดการต่อสู้และ relia แสดงพลังออกมาไง ยกเว้นครั้งล่าสุดที่ผิดแผนไปเท่านั้นเอง 



General Alma – เจ้าช่างเข้าใจสถานการณ์ได้เฉียบแหลมยิ่งนัก
Emmerson – หมายถึง แกยอมสังเวยลูกเรือยานของแกเพื่อเป็นเหยื่อล่อพวกเราอย่างงั้นหรอ ? 
General Alma – แต่มันก็เป็นไปตามแผนของชั้นเป็นอย่างดีไม่ใช่หรอ
Thoras – ตอนนี้เรามีร่างทดลองที่ใช้พลังนี้ได้ 2 คนก็จริง แต่หลังจากที่พวกนายพยายามบากบั่นใจทำให้เราได้ข้อมูลมากมายแล้วเนี้ย ไม่นานเราจะทำ Mass-product สินค้าล็อตใหญ่ของนักรบพลังจิตมาตรฐานเดียวกับ Relia ได้อย่างแน่นอน 
Victor – สินค้าล็อตใหญ่หรอ ? แกเอาชาวดาวดวงนี้มาทดลองเล่นโดยไม่ต้องสนว่าจะล้มตายเป็นผักปลาแล้วกี่คนอย่างงั้นหรอ ?
Fidel – ไม่รู้คุณค่าของชีวิตคนอื่นเลยหรือไง !!




 General Alma – ฮ่าๆ พวกแกนี่มันน่าตลกจริงๆ ฮ่าๆๆๆ หวังว่าเราคงได้พบกันอีกในอนาคตอันใกล้นะ 
Fidel – อย่าเพิ่งไป !! ปล่อย  Felia มาเดี๋ยวนี้นะ !!!


Relia – นั่น ... พ่อคะ แม่คะ !!
Fedel – อะไรนะ ??
Christophe – Relia ดีจังเลยที่ลูกยังปลอดภัยดี .. เอ่อ ต้องแนะนำตัวก่อน ผม Christophe เป็นหนึ่งในทีมวิจัยของที่นี่ครับ



Fidel – คุณเป็นพ่อ Relia หรอ ?
Christophe – แค่คนที่ดูแลเธอมาตลอดจนเธอเรียกว่าพ่อน่ะครับ Emmerson – ไหนๆก็ออกมากันแล้ว ช่วยอธิบายเรื่องที่นี่ให้ฟังหน่อยสิ
Christophe – โครงการวิจัย Symbometrics Technology ของพวกเรามันเป็นความลับที่ทางสหพันธ์รัฐไม่เคยได้รับรู้ว่ามีอยู่ จริงๆมันยังอยู่ในขั้นตอนสุดท้ายอยู่เลย ช่วงที่การนำเอาสัญลักษณ์ไปตีตราไว้ในร่างกายมนุษย์ที่มีพลังเวทย์ในตัว ซึ่งมันต้องอาศัยความเหมาะสมในเรื่องเวลามากๆก่อนที่พลังนั้นจะทรงผลออกมา 
Anne - spacetime symbology ใช่มั๊ย ?




** คำว่า spacetime นั้นเรียกในภาษาไทยว่า ปริภูมิ [ปะริพูม] หรือ อณาเขตที่มีโครงสร้างบางอย่าง อาจเป็นโครงสร้าง แบบเรขาคณิตหรือโครงสร้างแบบอื่นที่ยังไม่เป็นที่รู้จักและระบุสถานที่ได้ **
 อ้างอิงจาก http://pantip.com/topic/33248899


Raffine – ชั้นรู้ว่าคุณทราบดีถึงเรื่องนี้เพราะทางสหพันธ์รัฐรู้ข้อมูลนี้มาก่อนพวก Kronos มาตั้ง 16 ปีตามเวลาอวกาศแล้ว 
Christophe – ตามคำสั่ง งานวิจัยที่ตั้งเอาไว้คือเสริมสร้างกองทัพให้แข็งแกร่ง จนการวิจัยกลับยิ่งพบสิ่งใหม่มากขึ้นทำให้การทดลองมันกว้างขึ้นจนทำให้เราค้นพบ spacetime symbol ที่เป็นอาวุธร้ายแรงขึ้นมา หลังจากนั้นในปี Spacedate 526 พวกเราก็ถูกสหพันธรัฐบังคับและกดดันให้เห็นด้วยกับทาง CFNZ ที่จะทดลองต่อ  
Emmerson – ทางเรากดดันหรอ ? ผมไม่คิดงั้นนะ ในคำสั่งมีบอกไว้ชัดเจนว่าต้องห้ามให้เกิดผลกระทบในเรื่องชีวิตและความเป็นอยู่ของคนในพื้นที่ซึ่งเราก็ยึดกฎนี้มาตั้งนานแล้วนะ 
Raffine – ถ้ามองในมุมของกลุ่มที่ทรงอำนาจกลุ่มนึงในจักรวาลคุณก็คิดแบบนั้นได้ แต่พวกที่อ่อนแอ่อย่างพวกเราไม่มีทางเลือกนอกจากยอมทำตามหรือไม่ก็ต้องตายแค่นั้น 
Christophe – และจากการทดลองจากคนมากมายก็มีแค่ 2 คนเท่านั้นที่เข้ากับสัญลักษณ์ได้ นั่นคือ Felia และ Relia แล้วจากนั้นกองกำลังของพวก Kronos ก็เข้ามายึดครองที่นี่และเปลี่ยนงานวิจัยของเราเป็นการทดลอง Symbometrics Technology เพื่อใช้พลังของ spacetime symbology เป็นอาวุธสำหรับใช้ทางการทหาร 



Emmerson – แผนต่อไปของมันก็คงเป็นประกาศแสนยานุภาพให้จักรวาลได้เห็นอาวุธใหม่ของพวกมัน
Christophe – ใช่ และเราไม่อยากให้พวกมันเอางานวิจัยของเราไปใช้ทำสงครามเข่นฆ่าคนอื่น  
Raffine – แต่พวกมันอ้างกับพวกเราว่าต้องการจะทำลายสหพันธรัฐเพื่อปลดปล่อยพวกเราให้เป็นอิสระ
 Emmerson – หรืออีกนัยนึงคุณก็โทษว่าทั้งหมดเป็นความผิดพลาดของสหพันธ์รัฐละสิ 
Raffine – เราก็แค่อยากให้ผลงานวิจัยของพวกเรานำมาซึ่งเสรีภาพและความสงบสุขก็แค่นั้น 
Anne – ตลกน่า พวกคุณจับคนบนดาวนี้มาทดลองจนตายไปกี่คนแล้วละ ยังจะมาอ้างเสรีภาพอีกหรอ ?? 
Raffine – ชั้นรู้ มันก็เป็นความผิดของพวกเราเหมือนกัน เราถึงช่วยพา Relia หนีออกจากที่นี่ไง โชคร้ายที่มันถูกยิงตกลงที่ Dakaav Footpath ซึ่งพวกคุณอยู่ตรงนั้นพอดี 
Fidel – แล้วพวกมันก็ตามรอยสัญญาณของ Relia แล้วสร้างสถานการณ์ต่างๆให้เธอได้แสดงพลังออกมาเพื่อเก็บข้อมูลทั้งหมดไปใช้ 
Raffine – ซึ่งทางสหพันธ์รัฐไม่อยากให้เรื่องนี้เปิดเผยไปจึงส่งพวกคุณมาเพื่อหยุด General Alma … ชั้นต้องขอโทษด้วยถ้าพูดจาไม่เหมาะสม แต่ได้โปรดช่วยปลดปล่อย Felia กับ Relia ไม่ให้พวกเธอถูกใช้เป็นเครื่องมือในการทำสงครามของพวกมันด้วยเถอะคะ 
Christophe – และนี่เป็นกุญแจสำหรับเข้าไปยังสถานที่ที่เรียกว่า Signesilica ห้องทดลองขนาดใหญ่ใต้ดิน เมื่อคุณเข้าไปคุณจะเข้าใจเองว่าทำไมเราถึงเลือกสร้างห้องทดลองที่นี่ 






 Christophe – และต้องขอโทษด้วยนะที่พวกชั้นไม่สามารถไปกับเธอได้นะ Relia ไม่นานเมื่อสหพันธ์รัฐรู้เรื่องนี้ที่นี่ก็จะถูกทำลาย เราทำทุกอย่างดีที่สุดได้แค่นี้แหละนะ  ได้โปรดดูแล Relia และ Felia แทนเราด้วยนะ  ลาก่อนนะ Relia ลูกรัก ... 



เรื่องราวเริ่มขึ้นจากองค์กรนึงที่เรียกว่า Pangalactic federation สหพันธรัฐขนาดใหญ่ที่ขึ้นตรงกับสมาพันธรัฐแห่งทางช้างเผือก หรือ Galactic Federation ที่ทรงอำนาจที่สุดจากจักรวาลอันไกลโพ้น ได้เริ่มการทดลองเพื่อจะเสริมสร้างกองทัพของตัวเองให้แข็งแกร่งโดยใช้พลังจากธรรมชาติที่เก่าแก่ที่เรียกว่าเวทย์มนต์ ก่อนจะส่งทีมนักวิจัยลักลอบเข้ามาตั้งห้องทดลองลับเอาไว้มากมายในเขตทะเลทราย Trei'Kur ในฐานะสถานที่ซึ่งเป็นแหล่งต้นกำเนิดศาสตร์ด้านเวทย์มนต์ของ ดาวเคราะห์ เฟครีด เพื่อใช้เด็กๆชาว Faykreedians ที่มีพลังเวย์มนต์ในตัวมาทดลองการ กระตุ้นทางจิต ("imbuing") ให้ประสานกับ Symbol หรือตราสัญักษณ์ที่สร้างจากเทคโนโลยีล้ำสมัย เพื่อให้เกิดเป็นคนที่มีพลังจิตพิเศษขึ้นมา แต่การทดลองนั้นก็ต้องเสียร่างทดลองที่เป็นเด็กไปมากมาย สุดท้ายก็ได้พบเด็กหญิงฝาแฝด  2 คนที่ผสานพลังเวทย์กับ Symbol ได้ลงตัวที่สุดก็คือ Felia และ Relia จนค้นพบพลังที่เหนือธรรมชาติรูปแบบใหม่ที่เกิดจากการประสานกันอย่างลงตัวของตราสัญลักษณ์ที่เรียกว่า Symbol จากเทคโนโลยีสมัยใหม่กับศาสตร์พลังมนต์ตราโบราณที่เรียก Signeturgy การค้นพบทฤษฎีใหม่นี้ถูกเรียกว่า Symbometrics 

แต่เรื่องเลวร้ายก็เกิดขึ้นเมื่อ Kronos ในฐานะขององค์กรที่ก่อตั้งขึ้นเพื่อโค่นล้มสหพันธรัฐโดยใช้ความรุนแรงโดยการนำของ General Alma ได้บุกเข้ามายึดครองห้องทดลองบนดาว Faykreed ก่อนจะบังคับให้นักวิจัยทั้งหมดใช้ทฤษฎี  Symbometrics ไปทำสงครามแทน ก่อนที่ Symbometrics Technology อันเกิดจากการนำเอาทฤษฎี  Symbometrics โดยการดูแลของ Dr.Thoras นักวิทยาศาสตร์จอมชั่วของ Kronos ไปประยุกต์ใช้ได้สร้างอาวุธที่ทรงประสิทธภาพและกองทัพตัวประหลาดที่เกิดจากการนำเอาชาว Faykreedians มาเปลี่ยนสภาพให้กลายเป็นตัวประหลาดสายพันธ์ใหม่ที่เรียกว่า Corrupts เพื่อใช้เป็นทหารในการรบโดยมีเป้าหมายคือทำสงครามโค่นล้มอำนาจสหพันธรัฐ

จน Christophe และ Raffine รวมทั้งนักวิจัยทั้งหมดเริ่มเห็นว่างานทดลองของพวกเขากำลังจะถูกนำไปใช้ในสงคราม จึงหาทางที่จะทำลายแผนของพวก Kronos ด้วยการช่วยพา Relia หนึ่งในเด็กสาวพลังจิตที่เกิดจากการทดลอง Symbometrics หนีออกจากที่นี่ แต่โชคร้ายที่ยานถูกยิงตกเสียก่อน ซึ่งโชคดีที่จุดที่ยานตกนั้นทำให้ Relia ได้พบกับ Fidel และ Miki และได้ร่วมทางต่อสู้กันจนเป็นเสมือนครอบครัว ทางฝั่ง Pangalactic federation สหพันธรัฐเมื่อทราบข่าวเรื่องการทดลองฉาวของตัวเองถูกศัตรูตลบหลังนำไปสร้างอาวุธร้ายแรงจึงไม่อยากให้ข่าวหลุดรั่วไปจะทำให้เสื่อมเสียจึงส่งทีมของกัปตัน Emmerson และ Anne มากับยาน Charles D. Goale มาที่ดาว Faykreed โดยมีภารกิจเพื่อหยุดยั้ง General Alma ในฐานะผู้นำพวก Kronos  ตามกฎอัยการศึกที่ว่าด้วยความเป็นกลางระหว่าง Pangalactic federation กับ Kronos ตามกฎที่ตั้งไว้ ในฐานะที่พวก Kronos ได้แทรกแซงสงครามบนดาว Faykreed โดยไปสนับสนุนอาวุธร้ายแรงกับอณาจักร Trei'Kur ให้รุกรานอณาจักร Resulia และตามช่วยเหลือเด็กหญิงที่ชื่อ Relia กลับมาอย่างปลอดภัย

โดยที่ Emmerson และ Anne ไม่เคยรู้เลยว่าทีมของเขาถูกส่งมาเพื่อล้างความผิดพลาดที่ Pangalactic federation เคยสร้างเอาไว้ และ Fidel และ Miki ก็ถูกหลอกใช้ให้เป็นตัวกระตุ้นให้พลังของ Relia ตื่นขึ้นจากการที่ General Alma ในฐานะผู้นำพวก Kronos สนับสนุนอาวุธร้ายแรงกับอณาจักร Trei'Kur ให้รุกรานอณาจักร Resulia ที่เป็นบ้านเกิดของ Fidel ทั้งหมดก็เพื่อให้ ตัวกระตุ้นให้พลังของ Relia ตื่นขึ้นจากการที่เธอใช้พลังของเธอเพื่อปกป้องเพื่อนๆในกลุ่มแบบไม่รู้ตัว และพลังพิเศษที่ว่านี่แหละคือพลัง spacetime symbology ที่เป็นเป้าหมายของ General Alma และ Dr. Thoras ที่จะนำไปสร้างอาวุธทำลายล้างสูงเพื่อก่อสงคราม และจากการสร้างสถานการณ์ความลำบากจนทำให้ Relia ใช้พลัง spacetime symbology ของเธอช่วย Fidel มาหลายครั้ง General Alma และ Dr. Thoras ก็ได้ตามเก็บข้อมูลของพลังพิเศษนั้นจนสามารถนำไปสร้างกองทัพเด็กพลังจิตที่เหมือนกัน Relia เพื่อสร้างกองทัพที่จะเปิดเตรียมเปิดศึกสงครามโค่นล้มอำนาจสหพันธรัฐตามแผนของมันได้แล้ว




                                           บทที่ 9 – Information Black Hole 


ทันทีที่ทุกคนรับรู้แผนการชั่วร้ายของพวก Kronos และภาระที่แต่ละคนต้องแบบรับกันแล้ว ก้าวต่อไปคือการเข้าไปค้นหาความลับของ Felia และ Relia ที่เรียกว่า The Segnesilica 



เมื่อขึ้นไปบนยาน Charles D. Goale Emmerson ก็สวมบทกัปตันรีบสั่งให้เจ้าหน้าที่หาพิกัดของ The Segnesilica ทันทีแต่กลับไปพบร่องรอยอะไรเลย จากนั้นเดินไปที่โต๊ะทำงานของ Anne จะพบว่าเธอฉลาดกว่า เพราะเธอกำลังเจาะลงไปในสถานที่ที่ไม่มีข้อมูลใดๆปรากฎขึ้นมาในแผนที่แทน ซึ่งก็พบพื้นที่ที่ไม่สามารถตรวจสอบได้ฝังอยู่ใต้คฤหาสน์ขนาดใหญ่ทางตอนเหนือของชายแดน Sohma และเมื่อไม่สามารถตรวจสอบได้แน่ชัดทุกคนจึงต้องออกเดินทางไปสำรวจดูด้วยตัวเอง 

หลังจากมีอิสระในการเดินทางแล้ว ก่อนจะไปที่เป้าหมายของเนื้อเรื่อง แวะไปดูบอร์ดรับงานตามเมืองต่างๆดูก่อนจะมีภารกิจใหม่ๆมาให้ทำเพิ่มอีกชุด ..


                           รายละเอียด  QUEST ที่เมือง Central Resulia 


1. Indecent Exposure (Rank 7)
ผู้ว่าจ้าง – Old man in need of Kind word 
สิ่งที่ต้องการ กำจัด Envoious invidnds ที่ North Territory of Sohma อยู่ใกล้ๆกับจุดเทเลพอทมาจากยานในช่วงเดินหน้ามาตอนเริ่มบนเลย
รางวัล 
- 7000 EXP / เงิน 4500 fol และ 300 sp   
- Resuretion Elixir
-Moon light Signets Vol.3


                  ** Quest ทั้งหมดของเมือง Central Resulia จะหมดลงที่เควสนี้ ** 



                                   รายละเอียด QUEST ที่เมือง Santeroule

1. Open Season on Ruphin (Rank 7)
ผู้ว่าจ้าง – Langdauq Dpt Public Order
สิ่งที่ต้องการ กำจัด Ruphin ที่ The Segnesilica อยู่ระหว่างทางในตอนเดินทางเข้าไปตามเนื้อเรื่อง ยังไงก็เจอ
รางวัล
- 3900 EXP / เงิน 2600 fol และ 250 sp   
- Woodrous Tinetere 

2. Uprooting Families (Rank 7)
ผู้ว่าจ้าง – Old Horticlture 
สิ่งที่ต้องการ กำจัด Languid Pijillos และ Fallen Arcedias มอนสเตอร์ 2 ตัวตรงใกล้ขุดเซฟที่ West of the Eastern Eihie ทางซ้ายของเมือง Santeroule



รางวัล
- 7000 EXP / เงิน 3500 fol และ 280 sp   
- Wondrous Tincture
- Swordsman’s Manual VII



จากนั้นออกเดินทางเทเลพอทมาที่พื้นที่ North Territory of Sohma ได้เลย ทันทีที่โผล่มาที่ภูเขาหิมะก็จะพบว่าศัตรูของที่นี่เริ่มมีการเปลี่ยนชนิดออกมาแล้ว หนึ่งในนั้นก็คือ Amber Princess ที่จะดอร์ปไอเทม Moon Pearls สำหรับใช้กับ Quest Collection Of Romantic Entanglements และ Envoious invidnds มอนสเตอร์ที่ต้องกำจัดเพื่อ Quest Indecent Exposure จากนั้นก็เดินขึ้นไปที่จุดหมายทางเหนือสุดก็จะพบคฤหาสน์ขนาดใหญ่ที่ต้องเข้าไปสำรวจด้านใน




                                           THE SEGNESILICA


เข้าไปด้านในตามทาง ที่นี่จะมีศัตรูใหม่ๆมากมายและมีศัตรูที่จะดอร์ปไอเทม Shadow Roses สำหรับใช้ใน Quest Lurking in the Shadows of Collection จากนั้นก็ลุยเข้าไปจนถึงห้องด้านในสุดจัดการ Boss Crystal Guardian ที่ขวางทางซะ

แล้วเข้าไปที่เทวรูปใหญ่ด้านใน Anne จะบอกให้ Fidel ใช้กุญแจที่ได้มาจาก Christophe เปิดซึ่งก็จะสามารถทำให้เทวรูปเลื่อนออกจนพบทางเข้าที่ซ่อนอยู่ด้านในได้


สถานที่แปลกประหลาดที่ปรากฏตรงหน้า เป็นเนินทรายที่อยู่ท่ามกลางความเงียบงันเสมือนมันไม่ได้อยู่ในมิติปกติธรรมดา ในขณะที่ทุกคนกำลังงงกับภาพที่เห็น Relia กลับวิ่งเข้าไปด้านในอย่างรวดเร็วบอกว่า เธอรู้จักที่นี่เป็นอย่างดี เมื่อทุกคนวิ่งตาม Relia ไปจนพ้นเนินทรายก็จะพบกับแท่นหินทรงกลมขนาดใหญ่ตั้งอยู่ 



Fiore – ชั้นเองก็ยังวิเคราะห์อะไรไม่ได้ถ้าไม่ได้ลองเข้าไปตรวจสอบมันใกล้ๆดูก่อน 
Victor – มันเหมือนมีอะไรบางอย่าง ที่น่าพิศวงเคยอาศัยอยู่ที่นี่
Anne – นี่มัน ...
Emmerson – ช่าย นี่ไม่ใช่ของปลอมแล้ว ของจริงแน่นอน 
Fidel – Relia อย่าไปแตะต้องมัน !!! 





Fidel – นั่น ..มันอะไรวะน่ะ ..







Relia – โลกทั้งหมดของชั้นมันเปลี่ยนไปแล้ว
Fedel – ความจำของเธอกลับมาแล้วหรอ ? 
Relia – ใช่คะ .... ที่ผ่านมา หนูเองไม่ได้มีชีวิตเหมือนเด็กทั่วไปหรอกนะ แต่ถูกสร้างมาเพื่อทำลายและฆ่าทุกอย่างตามคำสั่งให้ฆ่า เหมือนเครื่องมือที่ไม่มีความคิด 





Fedel – ใครสนเรื่องกันละ …มีเด็กอีกมากมายทั่วโลกที่เจอเรื่องเลวร้ายแย่ๆมาไม่ต่างจากเธอหรอกนะ ... แต่ก็เอาเถอะ ยังไงเธอก็เกิดมาแล้ว แล้วตอนนี้เธอก็เป็นอิสระจากพวกมันแล้ว เธอจะทำยังไงกับชีวิตเธอมันก็ขึ้นอยู่กับตัวเธอเองแล้ว 




Relia – ขอบคุณมากนะ Fidel แล้วก็เพื่อนๆทุกคนด้วยคะ ตอนนี้หนูอยู่กับทุกคนหนูสบายดีมากๆ แต่พี่หนูนะสิ เป็นตายร้ายดีก็ไม่รู้ หนูรู้ว่าคงไม่มีทางทำคนเดียวได้แน่นอนถ้าไม่มีคนอื่นช่วย แต่ถ้าทุกคนช่วยกันหนูทำได้แน่ ได้โปรดช่วยหนูด้วยเถอะนะคะ 
Victor – งั้นไปช่วย Felia ด้วยกัน คราวนี้จะไม่ให้พลาดอีกแน่นอน เชื่อใจได้เลย 



Anne – ตอนนี้ ชั้นรู้แล้วว่าทำไมพวก Kronos ถึงเลือก Faykreed IV แทนดาวดวงอื่นๆอีกมากมาย แต่ชั้นไม่แน่ใจว่า ทำไมถึงมีสถานที่แบบนี้อยู่ที่ Faykreed ได้ 
Emmerson – เรื่องนั้นเดี๋ยวเราค่อยหาคำตอบกัน ก่อนอื่นออกจากที่นี่กันก่อนเพราะมันมีสนามพลังบางอย่างกั้นสัญญาณการสื่อสารทั้งหมดจนไม่สามารถใช้การเทเลพอทขึ้นไปได้ คงต้องเดินกันออกไปข้างนอกกันเองแล้วละ 


เมื่อออกมาจาก The Segnesilica แล้วก่อนจะกลับขึ้นยานเพื่อไปดำเนินเรื่องในช่วงสุดท้ายของเกมก็แวะมาทำ Quest ที่ออกมาใหม่เป็นชุดสุดท้ายให้หมดก่อน   




                                                Quest ที่ Eastern Trei'Kur


1. That Darn Ruddle (Rank 7)
ผู้ว่าจ้าง – Rumina and Puffy
สิ่งที่ต้องการ ตามหาตัวเจ้า Ruddle อีกแล้ว โดยต้องตามไปคุยกับคนที่เป็นเบาะแสที่เป็นจุดดาวสีเหลืองตามที่ต่างๆคือ
-คุยกับทหารหน้าโรงแรมที่ Eastern Trei'Kur เข้าไปนอนในโรงแรมคือนึงก่อนเพื่อให้ฉากเปลี่ยน
-คุยกับชายที่โรงแรมในเมือง Myiddok
-คุยกับเด็กหญิงหน้าบอร์ดงานในเมือง Central Resulia
- กลับไปที่บ้านของ Fidel ที่หมู่บ้าน Sthal ก็จะพบ Ruddle ที่นั่น  



รางวัล
- 9000 EXP / เงิน 6000 fol และ 300 sp   
- Resurrection Mist
- CQC Program Delta

2. Taste of Home (Rank 7)
ผู้ว่าจ้าง – Resulian Army Page 
สิ่งที่ต้องการ Crab Rice Stew 5 อัน เป็นไอเทมอาหารผสมจาก  Fresh Vegetables 3 อัน  White Rice 3 อัน Shellfish Meat 3 อัน และ  Seaweed 1 อัน 
รางวัล
- 5000 EXP / เงิน 2500 fol และ 280 sp   
- Healing Band

3. Empty Shelves, Empty Coffers (Rank 7)
ผู้ว่าจ้าง – Weapon and Armor shop  
สิ่งที่ต้องการ Damascus Steel 10 อัน หาได้ในเหมือง Western Dakaav Tunnel และ Snakeskins 5 อัน หาได้จากพวก lizardmen ตามที่ต่างๆ
รางวัล
- 6300 EXP / เงิน 3000 fol และ 280 sp   
- Mythril Mesh

4. Processing The Possibilities (Rank 8)
ผู้ว่าจ้าง – Traveling signeturgy  Scholar
สิ่งที่ต้องการ Quantum Processors 3 อัน หาง่ายตามศัตรูที่พบทั่วไปที่ทะเลทราบและที่ The Segnesilica
รางวัล
- 5100 EXP / เงิน 2700 fol และ 280 sp   
- Cerulean Orb signets Vol.3 

5. Reaping Bloody Benefits (Rank 7)
ผู้ว่าจ้าง – Torch Craftman 
สิ่งที่ต้องการ Bloodstained Cloths 3 อัน หาง่ายตามศัตรูที่พบทั่วไปที่ทะเลทราบและพวกผีที่ถือเคียวที่ The Segnesilica
รางวัล
- 6200 EXP / เงิน 4000 fol และ 280 sp   
- Angelstone

6. Mouth-Watering Collection (Rank 8)
ผู้ว่าจ้าง – Collection Club 
สิ่งที่ต้องการ Marbled Meat 2 อัน 



Marbled Meat  นั้นต้องผสมเอาโดย ใช้วัตถุดิบพวกอาหารอะไรก็ได้ ถ้าจะให้สะดวกใช้ Curry Rice เพราะวัตุดิบทั้งหมดสามารถหาซื้อได้ที่ร้านบนยาน เอามา Synthesis 6 ช่องให้ได้ค่า Quality รวมให้ได้ 50 จากนั้นผลการ Synthesis ก็จะสุ่มออกมาเป็นไอเทมต่างๆจนออกมาเป็น Marbled Meat ซักอันตามแต่โชค
รางวัล
- 5300 EXP / เงิน 2900 fol และ 280 sp   
- Therapeutic Tincture

7. The Collective Gift of Giving (Rank 8)
ผู้ว่าจ้าง – Collection Club
สิ่งที่ต้องการ Mythril 5 อัน หาง่ายตามศัตรูพวกโกเลมที่พบทั่วไปที่เหมือง Western Dakaav Tunnel หรือผสมเอาจาก Platinum 6 อัน + and Alchemists Water 2 อัน
รางวัล
- 6400 EXP / เงิน 4500 fol และ 280 sp   
- Sukiyaki
- Mind Amulet

8. Subjugation Directive: Vlad (Rank 8)
ผู้ว่าจ้าง – Central Resulian Army
สิ่งที่ต้องการ กำจัด Vlad ที่เหมือง Western Dakaav Tunnel 
รางวัล
- 5500 EXP / เงิน 3500 fol และ 280 sp   
- Sukiyaki
- Ifrit Mail 

9. Wanted: Hannah (Rank 8)
ผู้ว่าจ้าง – Central Resulian Army
สิ่งที่ต้องการ กำจัด Hannah ที่ Trei'Kur Slaughtery ด้านบนของทะเลทราย Trei'Kur Dune ตรงจุดเซฟใกล้ห้องบอสโดยสามารถเข้าทางประตูซ้ายลัดมาได้เลย 



รางวัล
- 5400 EXP / เงิน 2500 fol และ 280 sp   
- Miraculous Device

10. A Peeping Golem (Rank 7)
ผู้ว่าจ้าง – Heartbroken young Girl 
สิ่งที่ต้องการ กำจัด Ivor Of The Lusty ที่ทะเลทราย Trei'Kur Dune ตรง Oasis ทางขวาบนของพื้นที่ต้องที่เคยมาเข้าห้องทดลองลับที่แรก



รางวัล
- 5500 EXP / เงิน 3000 fol และ 280 sp   
- Nereidstone

11. Subjugation Directive: Sythwas (Rank 8)
ผู้ว่าจ้าง – Central Resulian Army
สิ่งที่ต้องการ กำจัด Sythwas ที่ Trei'Kur Slaughtery ด้านบนของทะเลทราย Trei'Kur Dune ตรงหอคอยทางซ้ายชั้นบน
รางวัล
 - 6500 EXP / เงิน 4800 fol และ 280 sp   
- Light Scarf

12. Garttoe the Guerillas (Rank 8)
ผู้ว่าจ้าง – Central Resulian Army Major 
สิ่งที่ต้องการ กำจัดพวก Guerillas 10 ตัวที่ ทะเลทราย Trei'Kur Dune ฝั่งซ้ายล่าง



รางวัล
 - 6000 EXP / เงิน 4500 fol และ 280 sp   
- Riot Potion
- Energy Amulet

13. War and Peace (Rank 8)
ผู้ว่าจ้าง –Major of East Trei'Kur
สิ่งที่ต้องการ กำจัดพวก Idealistic Insurgents 10 ตัวที่ทะเลทราย Trei'Kur Dune อยู่ตรงหน้าทางออกจากฐาน Eastern Trei'Kur ฝั่งซ้าย 
รางวัล
 - 5900 EXP / เงิน 3000 fol และ 280 sp   
- Holy Mist
- CQC Program ETA

14. Subjugation Directive: Dante and Mateo (Rank 8)
ผู้ว่าจ้าง – Central Resulian Army
สิ่งที่ต้องการ กำจัด Dante และ Mateo ที่เหมือง Western Dakaav Tunnel



รางวัล
 - 7200 EXP / เงิน 5800 fol และ 300 sp   
- superior Chan Mail 



                                       QUEST ที่เมือง Santeroule


1. Open Season on Bordnaks (Rank 6)
ผู้ว่าจ้าง – Langdauq Dpt Public Order
สิ่งที่ต้องการ กำจัด Bordnaks 3 ตัวที่ The Segnesilica อยู่ตรงห้องแรกของทางเดินด้านซ้ายจากจุดเซฟตรงทางเข้า
รางวัล
- 5000 EXP / เงิน 2700 fol และ 250 sp   
- Angel’s Cloak

2. On the Trail of Eltalon Straggles  (Rank 8)
ผู้ว่าจ้าง – Aragogh
สิ่งที่ต้องการ กำจัดพวก Eltalon 5 คนที่เหมือง Western Dakaav Tunnel
รางวัล
- 5500 EXP / เงิน 6000 fol และ 250 sp   
- Anti-death Amulet

3. Open Season on Pyekards (Rank 6)
ผู้ว่าจ้าง – Langdauq Dpt Public Order
สิ่งที่ต้องการ กำจัด Pyekards 5 ตัวที่ The Segnesilica อยู่ตรงห้องแรกของทางเดินด้านซ้ายจากจุดเซฟตรงทางเข้า
รางวัล
- 5900 EXP / เงิน 4200 fol และ 250 sp   
- Mental Stimulant
- Solar Signets Vol 3

3. Open Season on Douxrah (Rank 8)
ผู้ว่าจ้าง – Langdauq Dpt Public Order
สิ่งที่ต้องการ กำจัด Douxrah ที่ The Segnesilica อยู่ตรงห้องทางฝั่งขวาของทางเข้า 



รางวัล
- 6100 EXP / เงิน 3300 fol และ 250 sp   
- Darkness Scarf



                  **** มาถึงตรงนี้ก็จะครบทั้ง 100 QUEST ทั้งหมดในเกมแล้วครับ ****


                                     บทที่ 10 – The Extent Relia’s Power


ทันทีที่ทุกคนกลับขึ้นมาที่ห้องควบคุมยาน Charles D. Goale Emmerson ก็ได้รับแจ้งจากลูกเรือว่า มียานของ Kronos เข้ามาในระบบของ Faykreed  ถึง 4 ลำและยังติดต่อการสื่อสารเข้ามาอย่างต่อเนื่องตลอด 7 ชั่วโมงที่ผ่านมา ก่อนที่ Kronos จะติดต่อมาอีกครั้งทำให้ Emmerson ที่กำลังแปลกใจว่าทำไมต้องยกกำลังมามากมายนักต้องรีบเปิดรับการติดต่อ  


Mutal – สวัสดี ผมคือ ประธานาธิบดี Mutal แห่งรัฐบาลกลางของ kronos 
Emmerson – ห๊า !! ประธานาธิบดีหรอ มาที่นี่ได้ไง เอ่อ .. เป็นเกรียติเป็นอย่างมากที่ท่านติดต่อมา ผมขออณุญาติแนะนำตัวครับ ผม Emmerson T Kenny กัปตันของยาน Charles D. Goale จาก Pangalactic Federation ถือว่าเป็นเกรียติอย่างยิ่งที่ได้พบท่านครับ ถ้าไม่เป็นการเสียมารยาท ขอสอบถามหน่อยว่าท่านเดินทางมาที่เพื่อจุดประสงค์ใดหรือครับ
Mutal – มาเข้าเรื่องกันเลย คือเจ้าหน้าที่ทางการทหารระดับสูงของเราขาดการติดต่อไปขณะทำภารกิจ เราเลยพยายามที่จะตามหาพวกเขา 
Emmerson – ท่านหมานถึง นายพล Alma หรือเปล่าครับ ?
Mutal – โอ้ ดูเหมือนคุณจะทราบรายละเอียดดีอยู่แล้วนะ
ต้องขอพูดให้ชัดเจนเลยนะว่า ทางรัฐบาลของเราไม่เคยคิดที่จะทำลายหรือไม่ยอมทำตามสนธิสัญญาที่ได้ทำไว้เกี่ยวกับเรื่องพื้นที่เป็นกลางกับทาง Pangalactic Federation และยังคงยึดถือสนธิสัญญาที่ว่านี้อย่างมั่นคงและชัดเจนมาตลอด ไม่เหมือนกันนายพล Alma ที่มีแนวคิดที่จะต่อต้านสหพันธรัฐด้วยการยุยงสร้างความรุนแรงจนเกิดการรัฐประหารขึ้นในอณาจักรก่อนที่จะหนีมาแล้วเริ่มแผนการร้ายที่ทุกท่านคงทราบกันแล้ว  อนาคตของ kronos จะเป็นยังไงถ้าเรานิ่งเฉยกับเรื่องนี้ มันแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่เราจะต้องรับมือกับทั้งการปฏิวัติสงครามกลางเมืองไปพร้อมๆกับทำสงครามกับ Pangalactic Federation ไปด้วย พวกของ นายพล Alma ทำผิดกฎหมายอย่างบ้าคลั่งเกินขอบเขต ในนามของรัฐบาลกลางของ kronos อยากจะขอความช่วยเหลือกับทาง Pangalactic Federation อย่างเป็นทางให้สนับสนุนในการต่อสู้ในครั้งนี้ ซึ่งเรายอมรับว่า ถ้าไม่ได้รับความร่วมมือจากพวกคุณแล้วเราคงไม่สามารถต่อสู้กับกองทัพกบฎของนายพล Alma ได้แน่นอน 
Emmerson – ผมจะแจ้งความต้องการของท่านให้กับองค์กรทราบอย่างเร็วที่สุดนะครับ และจะรับผิดชอบเรื่องความปลอดภัยของท่านอย่างดีที่สุดขณะยังอยู่ใน Faykreed แต่ไม่รับรองว่าจะได้ผลตอบกลับมาอย่างที่ท่านต้องการหรือไม่นะครับท่าน 
Mutal – ผมชื่นชมอย่างจริงใจที่คุณพยายามที่จะช่วยเหลือเรานะกัปตันและหวังว่าคำตอบที่ได้มาจะเป็นข่าวดี Mutal เลิกการติดต่อ 

หลังจากจบการสนทนาแล้ว Emmerson จะขอตัวไปรีบติดต่อให้หน่วยเหนือทราบเรื่อง ทุกคนจะได้พัก 1 คืน ท่ามกลางความกังวลของ Victor ถึงเรื่องอาจจะเป็นแผนลวงของศัตรู แต่ด้วยความเคารพและมารยาทเขาจึงยอมปล่อยให้เป็นหน้าที่การตัดสินใจของ Emmerson ในการหาข้อยุติเกี่ยวกับเรื่องนี้

เมื่อกลับเข้ามาที่ห้องบังคับการณ์อีกครั้ง จะพบว่าประธานาธิบดี Mutal ติดต่อมาเพื่อรอคำตอบอยู่ แต่ขณะเดียวกันก็ได้รับการติดต่อมาจากผู้บัญชาการใหญ่ของ Pangalactic Federation เช่นเดียวกัน




Emmerson – ท่านผู้บัญชาการณ์ Dean ตามที่ผมได้แจ้งเรื่องไป ตอนนี้ท่านประธานาธิบดี Mutal ได้อยู่ในสายแล้วครับ
Dean – จากการประชุมอย่างเป็นทางการของสภาสูงแห่ง Pangalactic Federation จากเรื่องที่กัปตันแจ้งเรื่องสถานการณ์ฉุกเฉินมานั้น บัดนี้ทาง Pangalactic Federation ได้ตกลงยินยอมทำตามที่ทาง Kronos ร้องขอมา ในนามขององค์กรเราที่ยึดถึงการผดุงไว้ซึ่งความยุติธรรมอันได้มาซึ่งสันติภาพอย่างสูงสุด แต่เนื่องจากต้นเหตุของการก่อการร้ายมาจากคนของคุณ เราจึงอยากเสนอแนะให้ท่านลองเจรจาดูก่อนเพื่อหลีกเลี่ยงการเกิดความรุนแรงที่จะเกิดตามมา แต่หาก นายพล Alma ไม่สนใจในเรื่องสันติภาพแล้ว เราจะส่งกองกำลังในการร่วมมือกับท่านในจัดการกับเขาแน่นอน และ Charles D. Goale ที่เป็นหนึ่งในยานที่มีฝีมืออันดับต้นๆของกองทัพเรา ก็ได้อยู่ใกล้กับอณาเขตของ Kronos มากที่สุดในตอนนี้ ฉะนั้นผมจึงขอแต่งตั้งกัปตัน Kenny Emmerson ให้เป็นเอกอัคราชทูตอย่างเป็นทางการของสหัพันธรัฐให้มีอำนาจเต็มที่จะตัดสินใจเกี่ยวกับสถานการณ์นี้ด้วย 
Emmerson – ขอบคุณที่ใช้บริการนะครับ จะพยายามให้สุดความสามารถเลยครับ 
Dean – แล้วอีกอย่าง  ผมจะเตรียมเรื่องกำลังเสริมทันทีที่คุณถึงที่หมาย ส่วนเรื่องปฎิบัติการณ์ร่วมกับทาง Kronos ทั้งหมดให้เป็นอำนาจการติดสินใจตามคุณเห็นสมควรได้เลย แล้วท่านประธานาธิบดีมีอะไรจะเสนอความต้องการอะไรอีกหรือเปล่าครับ
Mutal – ไม่มีครับแค่นี้ผมรู้สึกดีใจกับความมีน้ำใจของพวกคุณมากๆแล้ว
Dean – เอาละ ผมคงต้องไปแล้ว กัปตัน Kenny  คุณเป็นความภูมิใจขององค์กรเรานะ ยังไงส่งรายงานเรื่องนี้ให้ผมที่หลังด้วยแล้วกัน
Emmerson – เอาละ ทีนี้เราก็ได้ทำงานร่วมกันแล้วครับท่านประธานาธิบดี 
Mutal – ที่นี้ให้ผมช่วยให้เบาะแสของที่ซ่อนของพวกนายพล Alma ด้วยดีกว่า เราไม่รู้แน่ชัดแต่จากหน่วยข่าวของเราแจ้งมาว่า มันน่าจะเป็นที่ที่เราไม่ได้ใช้มานานมากแล้ว ประมาณ 3พันปีแสงจาก Kronos Station ที่ 4 น่าจะเป็นที่ซ่อนของพวกกบฏแน่นอน 
Emmerson – คุณพอจะรู้มั๊ยว่ากำลังยานรบของพวกมีประมาณเท่าไหร่
Mutal – เรื่องจำนวนมันไม่ใช่ปัญหาหรอกครับ ห่วงเรื่องอาวุธโจมตีของมันมากกว่า เทคโนโลยีมันล้ำหน้ากว่าเราเยอะ
Emmerson – อืมม ฟังดูเหมือนงานนี้กว่าจะชนะคงต้องสู้ยิบตาอีกแล้ว เอาละผมต้องเตรียมการเดินทางก่อน Kenny เลิกติดต่อครับ 

หลังจากจบการติดต่อจาก ประธานาธิบดี Mutal ก็กลับมีสัญญาณการสื่อสารไม่ระบุตัวตนติดต่อเข้ามา มันคือสายของนายพล Alma นั่นเอง



Alma – ดีใจจริงๆ ได้ข่าวว่าคุณกำลังจะมาหาหรอกัปตัน Kenny 
Emmerson – อ้าว นึกว่าใคร ท่านนายพล Alma มาเองเลยหรอ
Alma – ฮ่าๆๆ ดีใจที่นายยังไม่ตายเหมือนกัน อยากจะเจอหน้ากันในสนามรบอยู่พอดี 
Emmerson – ตอนนี้ผมมาในนามของทูตจาก Pangalactic Federation มาเพื่อเจรจาสันติ ไม่ได้จะมาท้ารบ
Alma – อะไรนะ เจรจาสันติ พวกสหพันธ์รัฐเนี้ยนะ มุขตลกรึยังไง เห็นข้าหัวเราหรือเปล่าละ !! พวกแกโจมตีเราจนแทบจะไม่มีปประเทศจะอยู่ แล้วที่นี่จะมาขอให้เรายอมแพ้ทั้งที่มันยังไม่ได้เริ่มเลยเนี้ยนะ 
Emmerson – เราเข้าร่วมด้วยเพื่อต้องการสันติภาพไม่ได้ในฐานะตัวแทน Pangalactic Federation ที่จะไปสู้กับพวแกหรือทำในสิ่งที่แกอยากใหทำ 
Alma – เอาเถอะ ไม่สำคัญหรอก หมดเวลาโต้วาทีกันแล้ว Pangalactic Federation ก็ไม่ต่างอะไรกับพวกแก็งค์กระจอกๆแก็งค์นึง ข้าไม่จำเป็นต้องกังวลอะไรนี่หว่า แค่เจออาวุธใหม่ข้าก็เละเป็นโจ๊กแล้ว ด้วยพลัง Spacetime Symbology ข้าจะกำจัดแกก่อนเป็นอันดับแรก จากนั้นก็ตามไปถล่มพวกกบฎที่ส่งแกมา ที่เหลือก็สถาปนา Kronos ขึ้นมาใหม่ในแบบของข้าเอง และข้าฝากบอกไปถึงไอ้คนที่พยายามจะปกป้องตัวอย่างทดลองของข้าด้วยว่า เพลงดาบอันเลื่องชื่อของมันจะไม่มีทางมาต่อกรกับ Spacetime Symbology ของข้าได้แน่นอน !!

หลังจบการสนทนากับ Alma พักผ่อนหนึ่งคืนแล้วทุกคนจะแยกย้ายไปพักผ่อนกันเพื่อเตรียมรับศึกหนักในวันพรุ่งนี้



** ตรงนี้จะเป็น Point of No return แล้ว หากคุณนอนไปตอนนี้้จะเดินเรื่องต่อไปจนถึงจบเกมทันที หากยังมีอะไรที่ต้องทำบนพื้นที่ด้านล่างก็ควรไปทำให้เรียบร้อยก่อนมานอน ** 


 จากนั้นไปที่ Transpot Room แล้วมองหา Miki ที่ยืนคิดอะไรเรื่อยเปื่อยอยู่ริมหน้าต่างเพราะนอนไม่หลับ



Fidel – มาทำอะไรอยู่ตรงนี้ดึกดื่นๆ
Miki – แล้วนายละ 
Fidel – นอนไม่หลับอ่ะ
Miki – เหมือนกันเลย ...เออ รู้มั๊ย เรามาไกลกันมาเลยนะ 
Fidel – ใช่ ไกลจนสุดขอบฟ้า อย่างที่ว่าเลยละ
Miki – ไม่ใช่ไกลแค่การเดินทางนะ แต่เรายังได้ประสบการณ์ใหม่ๆมากมายกว่าที่ได้ใน Resulia เยอะเลย แถมบางเรื่อง ก็ซับซ้อนจนยากที่จะเข้าใจด้วยสิ ทั้งๆที่ไม่กี่วันชั้นเพิ่งทำเรื่องบ้าๆบอๆกับ Ted ที่หมู่บ้านเราอยู่เลย 
Fidel – จากที่นี่ ... มันดูไกลจากบ้านเรามากๆ  
Miki – ไม่กี่วันมานี้ ชั้นรู้สึกว่านายดูต่างไปจากเดิมเหมือนกันนะ
Fidel – หรอ ไม่เห็นรู้สึกว่าต่างเลย
Miki – ต่างสิ อย่างเรื่องที่นายควบคุมไม่ได้ เกี่ยวกับสงครามนี้ เกี่ยวกับ Feria เหมือนนายกำลังมองมาจากที่ไกลออกไปเรื่อยๆเลย
Fidel – โทษทีนะที่ทำให้คิดแบบนั้น 
Miki – ไม่ต้องขอโทษหรอก มันจะทำให้ชั้นดูร้ายอ่ะนะที่ว่านาย 
Fidel – แล้วจะให้ชั้นทำไง ?
Miki – ยืนหยัดด้วยกันอยู่ข้างๆชั้น ตลอดไป ชั้นจะไม่ให้อภัยเลยถ้านายจะทิ้งชั้นไว้คนเดียว พรุ่งนี้ ชั้นจะทำให้ดีที่สุดที่เพื่อช่วย Feria และอย่าว่านะถ้าชั้นจะพูดอะไรที่มันเห็นแก่ตัวออกไป ... อยู่เคียงชั้นด้วยนะ 

ในตอนเช้า เมื่อกลับเข้ามาที่ห้องบังคับการณ์อีกครั้ง จะพบว่าประธานาธิบดี Mutal กำลังปะทะคารมกับนายพล Alma ที่ติดต่อมารวมสนาทนาด้วย


Alma – มันไม่พอหรอก ไอ้วิธีการต่อสู้แบบกดดันทางการเมืองของแกนะ ไม่รู้ตัวรึงไงว่าแกทำให้ชาว Kronos ต้องตกเป็นทาสของพวก Pangalactic Federation
Mutal – แล้วที่แกก่อสงครามกลางเมืองแบบนี้มันช่วยชาติบ้านเมืองตรงไหน 
Alma – ไอ้พวกแก่ๆแบบพวกแกมันไม่สมควรได้ปกครองพวกเราหรอก ข้าไม่มีเวลามาพูดกับพวกแกแล้ว ถึงเวลาต้องชนกันตรงๆแล้วทั้ง Pangalactic Federation และไอ้พวกรัฐบาล Kronos หุ่นเชิดสหพันธ์รัฐ !!
Mutal – ผมเสียใจนะที่ต้องเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น 
Emmerson – อ้อ ผมไม่ได้เชื่อมันอะไรในตัวมันอยู่แล้วครับท่าน ก็ดี เราจะได้เหลือตัวเลือกเดียวคือสู้กับมันให้ตายไปข้างนั่นแหละ 

เอาละทุกคน !!  ในนามของผู้รักษาสันติภาพในจักรวาลเรากำลังจะเข้าสู้การรบร่วมกับรัฐบาลกลางของ Kronos โดยการนำของประธานาธิบดี Mutal เพื่อเปิดฉากรบกับพวกกบฏ Kronos เป้าหมายคือ กำจัดนายพล Alma หัวหน้าของพวกมัน  



ทันทีที่เริ่มการบุกเข้าไปยังเขตของพวกกบฏ ยาน Charles D. Goaleและของรัฐบาล Kronos ก็ถูกยิงถล่มจากอาวุธร้ายของพวกกบฏ Kronos จนค่อยร่วงไปทีละลำ ทำให้ Fidel เสนอแผนของเขาออกมาว่าหากมัวแต่สู้รบกับพวกยานรบที่มีอาวุธที่ทันสมัยของศัตรูก็จะมีแต่จะเสียหายมากขึ้น ทำไมไม่มุ่งเป้าไปจัดการนายพล Alma  ซะเลยเมื่อจัดการตัวหัวหน้าได้กองยานรบก็จะยอมแพ้เอง แต่ Emmerson จะไม่เห็นด้วยเพราะพลังเทเลพอทของยานไม่มีทางทะลุเกราะบาเรียพลัง Spacetime Symbology จนเข้าไปถึงตัวนายพล Alma ได้แน่นอน 

Fiore จะเสนอให้ลองใช้พลัง Spacetime Symbology ของ Relia เพื่อทำลายบาเรียในขณะที่เทเลพอร์ทเข้าไป แม้ Relia เธอยังจะไม่ค่อยมั่นใจกับการควบคุมพลังของเธอเองมากนัก Fiore จึงบอกให้ Relia สบายใจว่าเธอจะเป็นไกด์นำทางให้ Relia ใช้พลังด้วยตัวเอง ก่อนที่ fidel จะเข้ามาให้กำลังใจเพิ่มเติมให้ Relia ระลึกถึงเป้าหมายเพื่อช่วยเหลือ Feria พี่สาวของเธอ จนทำให้ Relia มีกำลังใจที่จะลองพยายามดู เพื่อช่วยพี่สาวของเธอ 




เมื่อทุกคนพร้อมจึงขึ้นไปที่ห้อง Trasport Room เพื่อให้ Relia สร้างบาเรียพลัง Spacetime Symbology คลุมไว้ก่อนทำการเทเลพอท แต่ทุกอย่างกลับไม่เป็นตามแผนเมื่อ Anne ตรวจพบสัญญาณบางอย่างที่กำลังส่งมาก่อกวนพลังของ Relia ซึ่งหลังจากที่ Relia รู้สึกได้ว่ามันคือพลังของ Feria ที่ส่งมาก่อกวน ทำให้ Emmerson ต้องคิดแผนใหม่โดยจะให้ใช้การขับกระสวยไปให้ใกล้บาเรียกว่านี้เพื่อให้พลังของ Felia มากกว่าเดิมแทน 







ทุกคนจึงเข้ามาที่ Cargo Bay เพื่อขับยานออกไปจนถึงเขตบาเรียของพวกกบฏ Kronos ก่อนที่ Fiore จะค่อยๆสอนให้ Relia ควบคุมพลังสร้างบาเรียที่แข็งแกร่งขึ้นมาจนยานที่มีบาเรียของ Relia หุ้มอยู่สามารถทำลายบาเรียของ Feria ให้แตกออกจนสามารถเข้าไปยังฐานลับของพวกกบฏ Kronos ที่สร้างเป็นก้อนอุกาบาตปลอมได้สำเร็จ ...



                               บทสุดท้าย – THE END OF THRONES



                                     Alcazar of the Golden Age


เมื่อเข้ามาถึงฐานลับของพวกกบฏ Kronos แล้วก็ลุยเข้าไปด้านในได้เลย เข้ามาตามทางจนถึงห้องทดลองขนาดใหญ่จะพบ Dr.Thoras มารอต้อนรับ



Dr.Thoras – ยอมรับเลยนะว่าแปลกใจมากที่พวกแกมาไกลได้ถึงขนาดนี้ ช่างเป็นสิ่งมีชีวิตที่พิเศษเหมาะที่จะเป็นร่างทดลองใหม่ในงานวิจัยชั้นจริงๆเลย 
Fiore – ร่างทดลองหรอ ? เห็นชีวิตคนเป็นของเล่นรึไง !!
Dr.Thoras – ดูพูดเข้าสิ .. ถ้าไม่มีเราร่าง symboform ของเพื่อนตัวน้อยของเธอจะคงสภาพอยู่ได้แบบนี้หรอ ควรจะขอบคุณกันมากกว่าด่านะ แล้วก็อย่าทำให้ผมโกรธดีกว่านะ มันจะส่งผลไม่ดีกับงานทดลองที่ผมทุ่มเทอย่างหนักสร้างมา



จากนั้น Dr.Thoras จะส่งร่างทดลองของเขาออกมาเป็น Boss Shrouded Gaze ให้มาสู้ด้วย  จัดการมันซะแล้วเข้าไปด้านในต่อจนถึงห้องโถงขนาดใหญด้านในสุดก็จะพบ Dr.Thoras อีกครั้ง



Miki – แกอีกแล้ว ?
Dr.Thoras – กะอีแค่จัดการกับร่างทดลองใหม่ของผมได้ อย่ามาตีฝีปากดีกว่าน่า ผมยอมอ่อยให้เองแหละ
Emmerson – เอาละพวกเรา มุ่งประเด็นไปที่ตามหาไอ้นายพลนั่นกันดีกว่าอย่าไปสนใจพวกลูกกระจ๊อกแบบนี้เลย
Dr.Thoras – ผมคงยอมให้พวกคุณทำแบบนั้นไม่ได้หรอกนะ เพราะท่านนายพลมีคุณประโยชน์ต่องานวิจัยของเราเป็นอย่างมาก พวกคุณเองก็มีส่วนร่วมในงานทดลองของเราเช่นกันนะ ทดสอบร่างโคลนของ Feria ให้หน่อยสิ เพิ่มลองสร้างเสร็จ แต่เด็ดเทียบเท่าตัวต้นแบบเลยนะ 



จัดการ Boss - Feria Clone ที่ Dr.Thoras ส่งออกมาซะแล้วนายพล Alma กับ Feria จะถ่ายทอดภาพออกมาก่อนที่จะลงโทษ Dr.Thoras


Alma – แกทำมันเสร็จแล้วหรอ กล้าดียังไงถึงส่งโคลนกระจอกๆแบบนั้นออกมาทำให้ข้าเสียหน้าวะ Thoras ชั้นไม่ได้จะสร้างที่รับเลี้ยงเด็กอ่อนนะ ชั้นต้องการของดีมีคุณภาพ แล้วก็ไม่ต้องการพวกด้อยค่าแบบแกด้วย !! 



นายพล Alma สั่งให้มอนสเตอร์ต้นไม้ออกมากิน Dr.Thoras เพื่อลงโทษในฐานะที่มันทำพลาดหลายครั้ง การร่วมร่างทำให้เกิด Spacetime Transcension จนทำให้ทุกคนถูกดูดเข้ามาในอีกมิติหนึ่งที่อยู่ใน Spacetime 




                                                Kronos's Sickle


มิติคู่ขนานที่ถูกสร้างขึ้นโดยพลัง Spacetime Symbology ของ Feria ก็คือ Kronos's Sickle หรือ ดาว Kronos โฉมใหม่ที่นายพล Alma ต้องการสร้างขึ้นเพื่อเป็นฐานในการทำสงครามกับ Pangalactic Federation 


ทันทีที่เข้ามายังไม่ได้ทันได้หายงง มอนสเตอร์ต้นไม้ที่กินThoras เข้าไปก็เกิดรวมร่างกัน จนกลายเป็น Boss Thoras the Abomination เข้ามาโจมตี จัดการมันซะแล้วลุยเข้าไปด้านในต่อตามทางที่เต็มศัตรูขนาดใหญ่แต่ไม่ไกลและซับซ้อนมาก ที่จุดเซฟปลายทางก็จะถึงบัลลังย์ของนายพล Alma



Alma – ขอต้อนรับสภาพสตรีและสภาพบุรษทุกท่าน ข้าแทบรอไม่ไหวเลยที่จะเจอแกแบบตัวเป็นๆแบบนี้กัปตัน Kenny แล้วก็ แม่สาวน้อย ถ้าเธอจะเปลี่ยนใจมาอยู่ข้างข้าเหมือนพี่เจ้าก็เชิญได้เลยนะ เตือนครั้งสุดท้าย 
Relia – ชั้นต้องการอยู่กับ Fidel และ Miki ไม่ใช่แก 
Fidel – ใครจะอยากไปอยู่กับที่ใช้เด็กเป็นเครื่องมือแบบแกกันวะ ชีวิตคนไม่ใช่ของเล่นนะ !!
Alma – หมดเวลามันพูดเรื่องไร้สาระแล้ว Feria ส่งพลังของเจ้ามาให้ข้าเดี๋ยวนี้ !!  
Feria – มะ ไม่ Relia .....
Alma – … ผู้ควบคุม !! ปรับพลังให้มากขึ้นอีก !! 
Feria – .. ชั้นไม่มีพี่น้อง รับคำสั่งแต่ท่านนายพลเท่านั้น .. 
Alma – ขอพลังให้ข้า Feria !!!!!



Boss General Alma ร่างที่มีบาเรียของ Feria ป้องกันอยู่ แถม Relia ก็ไม่กล้าที่จะสู้กับพี่ของเธอด้วย ไม่ต้องพยายามสู้ให้เสียแรงเพราะยังทำอะไรมันไม่ได้ หาจังหวะป้องกันแล้วรอไปจนกว่า Fidel จะพยายามพูดกับ Relia ให้เชื่อใจเขาและลุกขึ้นสู้ไปด้วยกันทำให้ Relia ยอมใช้พลังปิดระบบของ Feria ลงทำให้บาเรียที่หุ้มตัวนายพล Alma หายไปจนโจมตีเข้าตามปกติแล้ว



  เข้าไปจัดการ Alma จนพลังมันใกล้หมดมันจะเข้าไปเพิ่มพลังเครื่องควบคุมปรับให้เอาตัว Feria รวมร่างกันมันเพื่อให้มีพลังมากขึ้นจนกลายเป็นร่างมารขนาดใหญ่มหึมา



Boss – Transmogrified Alma ในตอนแรกก็ยังไม่สามารถโจมตีมันเข้าเหมือนเดิมเพราะมันมีตัว Feria ฝังอยู่ในร่างซึ่งก็ทำให้ Relia ไม่กล้าโจมตีพี่สาวของเธอ




Fidel – Feria ลืมตาขึ้น รู้สึกตัวเสียทีได้โปรด !!
Feria – Relia พี่ไม่อยากทำร้ายเธอ ฆ่าพี่ซะ ได้โปรด
Fidel – อย่ายอมแพ้สิ สู้กับมัน ทำลายอำนาจควบคุมของมันให้ได้ ชั้นเชื่อในตัวเธอนะ Relia ว่าเธอกับ Feria สามารถรวมพลังกันแล้วชนะมันได้ ถ้าเธอต้องการจะทำมันจริงๆ
Relia – เราจัดการมันได้แน่ถ้าเราร่วมมือกัน Feria 
Feria – ชั้นก็เขื่อในตัวเธอ Relia ตกลงชั้นจะทำ 

หลังจาก Felia กับ Relia ร่วมกันใช้พลังจนทำให้ Alma อ่อนแอลงแล้วก็จะสามารถโจมตีมันได้แล้ว จากนั้นพยายามจัดการ Alma ลงให้ได้จะทำให้ร่างของมันสลายไป เหลือไว้เพียงคำว่า  ด้วยเกรียติแห่ง Kronos !! กับร่างที่เป็นแค่พลังงานของ Feria



Feria – เราทำได้  Fidel ขอบคุณมากที่ทำให้ทุกอย่างมันจบลงซะที  แต่ชั้นคงไม่ได้กลับไปอยู่กับ Relia ได้อีกแล้วละ สัญญาสิว่าจะดูแลน้องสาวชั้นเป็นอย่างดี
Fidel – ไม่ต้องบอกเลย แน่นอนที่สุด Relia สมควรได้รับชีวิตที่ดี ไม่ต่างจากที่พ่อเลี้ยงชั้นมาอย่างดีแน่นอน 



Feria – Relia พี่ก็ขอบใจเธอมากนะ คำอธิฐานของพี่ได้รับการตอบรับก็เพราะเธอนะ จงเติบโตเป็นผู้หญิงที่มีแต่ความสุขอย่างที่พี่ทำไม่ได้นะ 
Relia – Felia ไม่ !!





Feria – อย่าเศร้าไปเลยน้องรัก ยังไงพี่ก็จะอยู่ในใจของเธอตลอดไป 




บันทึกของกัปตัน – 7 พฤศจิกายน Spacedate ที่ 537 ภารกิจของเราที่ระบบสุริยะ Faykreed  จบลงด้วยการตายของนายพล Alma ผู้นำกลุ่มกบฏ Kronos นำมาซึ่งการหยุดยั้งแผนการปฎิวัติใน Kronos ถูกทำลายไปได้สำเร็จ จนทำให้รัฐบาลกลางของ Kronos ได้อำนาจการปกครองคืนมาดั่งเดิม 





วันต่อมาประธานาธิบดีของ kronos ประกาศเพิ่มระดับความสัมพันธ์กับทาง Pangalactic Federationซึ่งถือว่าเป็นผลที่ดีที่เกิดโดยไม่ได้ตั้งใจ แต่เป็นผลดีสำหรับเราเป็นอย่างมาก ในความเห็นของผม มันเป็นที่แน่นอนแล้วว่าตอนนี้เป็นช่วงเวลาที่เส้นทางข้างหน้าของ Pangalactic Federation เรียกได้ว่าราบรื่น และประเมินจากสิ่งที่ทาง Pangalactic Federation จะได้รับในวันข้างหน้า 





Kronos ถูกแต่งตั้งให้เป็นพันธมิตรอย่างเป็นทางการของ Pangalactic Federation และนี่ไม่ใช่เรื่องที่ดีที่สุดเกิดใน Spacedate ที่ 537  เพราะยังมีเรื่องราวมากมายที่เกิดการปฎิรูปใหม่เกิดขึ้นกับนโยบายต่างๆของ Pangalactic Federation ให้ดีมากขึ้นด้วย 

ชะตากรรมของดาว Faykreed วันนี้จะไม่ใช่ปัญหาอีกต่อไป เพราะดาวจากที่เคยไม่ได้รับความเจริญอย่างเพียงพอเพราะไม่ถูกเหลี่ยวแลจากทางการ ตอนนี้ที่นี่ถูกจับตามองเป็นพิเศษจากสหพันธรัฐแล้ว  มันอาจจะไม่ถูกกฎหมายมากนักที่จะให้ ดาว Faykreed เข้าร่วมในสหพันธ์รัฐ แต่เราก็มีวิธีการโน้มน้าวดาวดวงอื่นให้ยอมรับคุณค่าของดาวดวงนี้ในฐานะอณาเขตปกครองตัวเองที่เป็นอนานิคมของสหพันธรัฐได้ไม่ยาก และผมยังแผนที่จะเสนอท่านผู้บัญชากรณ์ให้ต่างตั้ง Victor เป็นผู้ตรวจการณ์แห่งดาว  Faykreed ด้วย เชื่อผมเถอะ ในจักรวาลนี้ไม่มีใครจะเหมาะสมเท่าเขาอีกแล้ว  



และตอนนี้ถ้าจะให้พูดถึงชาว Faykreedian กลุ่มนึงจะเป็นยังไงนะถ้าพวกเขามีโอกาศได้มาที่โลกเพื่อพักผ่อนบ้าง เพื่อเรียนรู้ในการเปิดโลกใหม่ก่อนจะไปพัฒนาดาวบ้านเกิดของเขาให้ดีขึ้น นั่นก็ต้องขึ้นอยู่กับพวกเขาว่าจะยอมตกลงมั๊ยด้วย ซึ่งผมก็หวังลึกๆว่าคงจะเต็มใจมากันนะ




Miki เธอเริ่มศึกษาทางด้านการเป็นนักวิทยาศาสตร์อย่างจริงจังโดยมี Anne เป็นคนให้คำแนะนำ แถมยังดูจะมีความสามารถพิเศษที่จะเรียนรู้พื้นฐานของเรื่อง Symbology ได้เป็นอย่างดีด้วย แต่ถ้าจะมีอะไรที่จะทำให้เธอต้องถอดใจหนีกลับบ้านก็คงต้องเป็นเรื่องที่เธอต้องพยายามเรียนรู้การอ่านและเขียนอย่างหนักนี่แหละ ก็ถือว่ายังเป็นทางอีกยาวไกลที่เธอต้องฝ่าฟันไป




Victor เข้าสมัครเป็นทหารของสหพันธ์รัฐ และมีแววรุ่งซะด้วย เพราะด้วยฝีมือระดับเขาหลังจบการฝึกมาก็ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นครูฝึกทหารของสหพันธ์รัฐทันที ซึ่งถ้าเทียบจากที่เขามาจากดาวที่ด้อนพัฒนาแล้วนี่ถือว่าเป็นความสำเร็จสูงสุดเลยทีเดียว แต่ความเห็นส่วนตัวผมอยากเห็นเขากลับไปดูแลดาวบ้านเกิดมากกว่า ซึ่งนั่นมันก็เป็นสิทธิ์ของเขาที่จะเลือกเอง 



ต้องขอบคุณ Dr.Krupp ที่อนุมัติให้ Fiore ไปเป็นนักวิจัยที่ห้องทดลอง Symbological Genertics ที่สร้างขึ้นใหม่บนดวงจันทร์ ผมก็ตกลงทันทีเลยเพราะห้องทดลองนั่นก็สร้างมาเพื่อรองรับเจตนารมณ์ของ Fiore นี่แหละ แม้ว่าความรู้ของเธอจะล้ำไปกว่านักวิจัยคนอื่นไปมาก แต่ผมก็คิดว่า พวกเขาคงได้ผลประโยนช์จากความอัจฉริยะของเธอมากกว่าที่จะไม่อยากได้เธอรวมทีมอ่ะนะ




และมันคงจะเงียบมากถ้าไม่มี Anne อยู่บนยาน เพราเธอยังคงทำงานในหน้าที่นักวิจัยบนยาน Charles D. Goale อยู่เหมือนเดิม ซึ่งเธอก็ยังถามตลอดนะว่าทำไมถึงจ้างเธอทำงานอยู่ ซึ่งผมว่าคงบ้ามากเลยถ้าไม่ได้เจ้าหน้าที่มากฝีมือของเธอมาอยู่บนยาน เธอเป็นเจ้าหน้าที่มากความสามารถคนนึงที่ผมแทบไม่ต้องลังเลเลยที่จะมอบหมายงานใหม่ๆให้เธอไปทำอยู่ตลอด



ส่วนกระผม จากความห้าวหาญในผลงานที่ได้ปฎิบัติงานจนสามารถทำให้การก่อกบฏของ Kronos ยุติลงได้ ซึ่งก็โปรโมทตัวเองเต็มที่แล้วนะ ก็ยังไม่มีอะไรตอบกลับมาอย่างเป็นทางการ แต่ใครจะรู้พูดกันปากต่อปากไปเรื่อยๆผมอาจได้เลื่อนยศเป็นพลเรือเอกก็ได้นะ คิดดูดิ ผมกับกองเรือของผมเอง แล้วอะไรอีกละ ต่อมาก็มอบหมายงานใหม่ให้ผม แต่ละงานนี่ไม่มีงานไหนธรรมดาจริงๆ ก็อดคิดไม่ได้นะ ถ้ายานได้ติดตั้งอุปกรณ์ไฮเทคอย่าง Gravity Warp ละก็นะ จะบินโชว์ให้สะใจเลยจริงๆ ก็อย่างที่เขาว่าไว้ คุณไม่สามารถทำไข่เจียวได้ถ้าไม่ได้ตอกไข่ให้แตกก่อนอ่ะนะ 

Fidel ตอนนี้กำลังขยันเรียนอยากหนักเพื่อจะสอบรรจุเข้ากองทัพของสหพันธ์รัฐ ผมก็บอกตรงๆอยากให้เขาเป็นทหารราบและก็พร้อมจะอนมัติให้ทันทีนะ แต่เขาบอกว่าไม่ยอมเป็นอะไรที่น้อยไปกว่าลูกเรือบนยานรบแน่นอน ผมก็ไม่อยากขัดความตั้งใจของเพื่อนอ่ะนะแต่ ถ้านี่มันเป็นการต่อสู้ที่เขาต้องสู้ด้วยตัวเอง .. พิสูจน์ให้ชั้นเห็นนะเว้ยว่าชั้นคิดถูกที่มั่นใจในตัวแกถึงได้ลากแกมาอยู่ที่นี่ด้วยนะ Fidel

 Miki – นี่ ขนมนายเสร็จแล้วนะ 
Fedel – เยี่ยมเลย นี่ก็ใกล้จะเสร็จแล้วเหมือนกัน
Miki – นายทุมเทกับการเรียนมากเลยนะ 
Fedel – ก็เธอแทบจะไม่ได้พยายามเลยนี่นา ชั้นเคยพนันด้วยซ้ำว่าเธอไม่มีทางเหนือกว่า Emmerson หรือ Anne ได้แน่อะ 
Miki – แล้วถ้าชั้นอยากเป็นภรรยาของเธอละ ?
Fedel – เธอว่าอะไรนะ ?
Miki – เอ๋อ เปล่าๆๆ ชั้นแค่บอกว่า เราทั้งคู่ต้องพยายามกันให้มากกว่านี้นะ 
Fedel – เย้ เสร็จซะที เอาละไปกินขนมกันได้แล้ว 






     ************************** THE END *************************************

                     


หลังจบเกมแล้วจะปลดล็อก Specialties Skill Limit Break อันสุดท้ายออกมาซึ่งจะได้ใช้ 10000 Skill Pointsในการปลดล็อกเพื่อให้สามารถอัพลิมิทของเลเวลให้มากกว่า 99 นั่นเอง



                              ดันเจี้ยนลับ Maze of Tribulation หรือ seraphic gate




จบเกม 1 รอบ แล้วโหลดเซฟหน้าบอสใหญ่กลับยานจะมีสถานที่ใหม่เพิ่มเข้ามาที่ Fast Travel คือ Maze of Tribulation หรือ seraphic gate ในภาษาญี่ปุ่น ดันเจี้ยนลับสุดโหดประจำซีรีย์นั่นเอง ด้านในก็มีทั้งไอเทมดีๆมากมาย Moonstone ที่ใช้ทำอาวุธสุดยอด และบอสลับสุดโหดมากมายก่อนที่จะปิดท้ายด้วย Ethereal Queen เจ้าเดิมรออยู่ด้านในสุด




                                                   ** การสร้าง Laser Weapon **

  
1.เริ่มจากผสมไอเทมด้วยการ Synthesze 6 ช่องประกอบด้วย
Microblaster 3 + Diffusion Device 1 + Meteorite 1 + Bunny Dropping ให้ได้ Quality 46 -48 และชนิดของสิ่งของที่ได้คือ Machine ก็จะได้ Hadron Collider มา

         

2. เอา Microblaster 2 +Hadron Collider ผสม Synthesze 3 ช่อง Quality 49 -50 ก็จะได้ Laser Weapon ออกมา (มันแรนด้อม ถ้าไม่ได้ก็โหลดเซฟทำใหม่ไปเรื่อยๆ)


                                  

Laser Weapon เป็นอาวุธพลังโจมตีสูงที่สามารถใช้ได้กับทุกตัวละครสำหรับใช้แก้ขัดเพื่อลุย seraphic gateก่อนได้อาวุธสุดยอด



                                    การตีอาวุธสุดยอด Ultimate weapon 

1. จบเกม 1 รอบ แล้วโหลดเซฟหน้าบอสใหญ่กลับยานจะมีสถานที่ใหม่เพิ่มเข้ามาที่ Fast Travel คือ Maze of Tribulation หรือ seraphic gate ในภาษาญี่ปุ่น ดันเจี้ยนลับสุดโหดนั่นเอง
2.เมื่อเข้าไปจัดการบอสลับ 1 ตัวจะได้ Orichalcum มา 1 ก้อน
3. สิ่งที่ต้องการต่อไปคือ Moonstone ซึ่งเป็นนวัตถุดิบที่วำคัญในการตี Ultimate weapon เริ่มจากผสมไอเทมด้วยการ Synthesze 6 ช่องโดยใส่ Orichalcum 1 ช่องที่เหลือใส่อาวุธเข้าไป 5 ช่องอะไรก็ได้ให้ได้ค่า Impurities 47 - 48 เมื่อผสมแล้วจะได้ Moonstone ออกมา (มันแรนด้อม ถ้าไม่ได้ก็โหลดเซฟทำใหม่ไปเรื่อยๆ)



4. เมื่อได้ Moonstone มาแล้วก็สามารถตีอาวุธสุดยอด  Ultimate weapon ของแต่ละคนได้เลย เริ่มจาก ผสมไอเทมด้วยการ Synthesze 6 ช่องอีกรอบ โดยใส่ Moonstone 1 ช่องที่เหลือใส่อาวุธของตัวละครที่ต้องการจะทำอาวุธสุดยอดลงไปซัก 2 ช่องที่เหลือเอาวัตถุดิบอะไรก็ได้ใส่เข้าไป 3 ช่อง ให้ได้ค่า Quality 50 เมื่อผสมแล้วจะได้ Ultimate weapon ออกมา ( มันแรนด้อม ถ้าไม่ได้ก็โหลดเซฟทำใหม่ไปเรื่อยๆ



              ** กรณีจะตีอาวุธสุดยอด Ultimate weapon ของทุกตัวตัวละครที่ทดลองแล้ว ** 



1.Ultimate Weapon "Leventine" ของ Fidel
ใช้ Moonstone + Gold 5 อันให้ได้ Quality 50

2.Ultimate Weapon AMA NO MURAKUMO ของ Victor
ใช้ Moonstone + อาวุธของ Victor 2 อัน + Gold 3 อันให้ได้ Quality 50

3.Ultimate Weapon ATHER IN STATIS ของ Fiore 
ใช้ Moonstone + Ruby 5 อันให้ได้ Quality 50

4. Ultimate Weapon HEALING MIND ของ Miki
ใช้ Moonstone + อาวุธของ Miki 2 อัน + Ruby 3 อันให้ได้ Quality 50

 5.Ultimate Weapon DRAGON'S BELLOW ของ Emmerson
ใช้ Moonstone +Diffusion Device 4 อัน +ปืน Microblaster 1 อัน ให้้ได้ Quality 50 หรือ Moonstone + อาวุธของ Emmerson 2 อัน +Gold 3 อันให้ได้ Quality 50

 6.Ultimate Weapon IMMOLATING FANGS ของ ANNE
ใช้ Moonstone + Cashmere  5 อันให้ได้ Quality 50 หรือ Moonstone + อาวุธของ Anne 2 อัน +Gold 3 อันให้ได้ Quality 50




                                                             ROLES ทั้งหมด 



                                                          

                                                         Attack Roles 


1.Machine Slayer ได้จาก Warrior Slayer Lv. 3
Tactic – เน้นกำจัดศัตรูที่เป็น หุ่นยนต์ (Machine) ก่อน
Factor – เพิ่มพลังโจมตีและเพิ่มพลังป้องกันจากศัตรูที่เป็นหุ่นยนต์ (Machine) ตามระดับเลเวล

2. Raven Slayer  ได้จาก Insect Slayer Lv. 3
Tactic - เน้นกำจัดศัตรูประเภทนกก่อน
Factor – เพิ่มพลังโจมตีและเพิ่มพลังป้องกันจากศัตรูประเภทนก(Raven)ตามระดับเลเวล

3. Beast Slayer ได้จาก Plant Slayer Lv. 3
Tactic – เน้นกำจัดศัตรูประเภทสัตว์ป่าก่อน
Factor – เพิ่มพลังโจมตีและเพิ่มพลังป้องกันจากศัตรูประเภทสัตว์ป่า(Beast)ตามระดับเลเวล

4. Plant Slayer 
Tactic – เน้นกำจัดศัตรูประเภทต้นไม้ก่อน
Factor – เพิ่มพลังโจมตีและเพิ่มพลังป้องกันจากศัตรูประเภทพืช(Plant)ตามระดับเลเวล

5. Insect Slayer 
Tactic – เน้นกำจัดศัตรูประเภทแมลงก่อน
Factor – เพิ่มพลังโจมตีและเพิ่มพลังป้องกันจากศัตรูประเภทแมลง(Insect) ตามระดับเลเวล

6. Mutant Slayer ได้จาก Raven / Beast/Plant/Insect Slayer Lv. 9
Tactic – เน้นกำจัดศัตรูประเภท Corrupt ก่อน
Factor – เพิ่มพลังโจมตีและเพิ่มพลังป้องกันจากศัตรูประเภท Corrupt ตามระดับเลเวล

7. Warrior Slayer ได้จาก Raven Slayer Lv. 3, Beast Slayer Lv. 3
Tactic – เน้นกำจัดศัตรูประเภท humanoid ก่อน
Factor – เพิ่มพลังโจมตีและเพิ่มพลังป้องกันจากศัตรูประเภท humanoid ตามระดับเลเวล

8. God Slayer ได้จาก Mutant Slayer Lv. 5, Warrior Slayer Lv. 9
Tactic – เน้นกำจัดศัตรูประเภทเทพ (divine) ก่อน
Factor – เพิ่มพลังโจมตีและเพิ่มพลังป้องกันจากศัตรูประเภท เทพ (divine) ตามระดับเลเวล

9. Attacker 
Tactic – เน้นโจมตีธรรมดาเป็นหลัก
Factor – เพิ่มพลังโจมตีและเพิ่มการเกิดการโจมตีอัตโนมัติ

10. Ace ได้จาก Attacker Lv. 3
Tactic – เน้นโจมตีที่จุดอ่อนเพื่อทำให้ศัตรูอ่อนแอก่อน
Factor – ทำให้ Reserve Gauge เพิ่มขึ้น ตามระดับเลเวลที่อัพ

11. Invoker ได้เมื่อ Fiore เข้าร่วมกลุ่ม
Tactic – เน้นโจมตีด้วยท่า Skill เป็นหลัก
Factor – เพิ่มพลังโจมตีเวทย์ (INT) และเน้นโจมตีอย่างต่อเนื่อง ตามระดับเลเวลที่อัพ

12. Shrewd Overseer ได้เมื่อ Invoker Lv. 3
Tactic – เน้นโจมตีด้วยท่า Skill ที่รุนแรง (สุ่มท่า) เป็นหลัก
Factor – % ของการใช้ MP ในการใช้ท่า Skill น้อยลง และโจมตีด้วยท่า Skill ที่รุนแรงอย่างต่อเนื่อง ตามระดับเลเวลที่อัพ

13. Menace ได้เมื่อ Emmerson เข้าร่วมทีม
Tactic – ให้ความสำคัญกับการโจมตีศัตรูอย่างรวดเร็วก่อน
Factor – % การโจมตีอัตโนมัติและโจมตีจุดอ่อนของศัตรูแบบรวดเร็วมากขึ้นกว่าการโจมตีด้วยท่า Skill ที่หนักหน่วง

14. Sharpshooter ได้เมื่อ Menace Lv. 3
Tactic – การโจมตีจากระยะไกลอย่างแม่นยำ
Factor – % Critical hit เพิ่มขึ้นตามระดับเลเวลที่อัพ และเน้นการโจมตีจากระยะไกลและการเคลื่อนที่มากขึ้น

15. Brawler ได้เมื่อ Anne เข้าร่วมทีม
Tactic – เน้นการโจมตีอย่างเดียวโดยไม่ป้องกัน
Factor – % ของการโจมตีเพิ่มขึ้นตามระดับเลเวลที่อัพ การโจมตีแบบอัตโนมัติมากขึ้นแต่การ์ดน้อยลง

16. Pulverizer ได้เมื่อ Brawler Lv. 3
Tactic – ทำลายการ์ดศัตรูด้วยการโจมตีแบบรุนแรงครั้งเดียว
Factor – % ของการฟื้นฟูพลังชีวิตหลังทำลายการ์ดของศัตรูเพิ่มขึ้นตามระดับเลเวลที่อัพ และเน้นการโจมตีที่รุนแรงกับโจมตีที่จุดอ่อนของศัตรูมากขึ้น

17. Executioner ได้เมื่อ Ace Lv. 3, Pulverizer Lv. 3
Tactic – เน้นโจมตีศัตรูที่มี HP ต่ำและอ่อนแอก่อน
Factor – % ของการโจมตีโดยไม่สนพลังป้องกันทางกายภาพและพลังป้องกันเวทย์ของศัตรูมากขึ้นตามระดับการอัพเลเวล

18. Fringe Fighter ได้เมื่อ Shrewd Overseer Lv. 3, Sharpshooter Lv. 3
Tactic – เน้นโจมตีศัตรูที่มี HP สูงที่สุดจากระยะไกล
Factor – % ของการโจมตีธรรมดาจะมีโอกาสที่ทำให้ศัตรูเป็นใบ้มากขึ้นตามระดับการอัพเลเวล

19. Enforcer ได้เมื่อ Sharpshooter Lv. 3, Pulverizer Lv. 3
Tactic – เน้นโจมตีศัตรูที่มี HP สูงที่สุดและอยู่ใกล้ที่สุด
Factor – % ของการโจมตีธรรมดาจะมีโอกาสที่ทำให้ศัตรูเป็นอัมพาต มากขึ้นตามระดับการอัพเลเวล เน้นโจมตีระยะใกล้มากกว่าระยะไกล และเมื่อโจมตีระยะไกลจะเน้นการเคลื่อนไหวมากขึ้น

20. Necromancer ได้เมื่อ Shrewd Overseer Lv. 3, Pulverizer Lv. 3 Tactic – เมื่อถูกโจมตีด้วยธาตุความมืดจะเปลี่ยนมาเพิ่ม HP
Factor – % ของการโจมตีธรรมดาจะมีโอกาสที่ทำให้ศัตรูติดคำสาปมากขึ้นตามระดับการอัพเลเวล เน้นโจมตีระยะใกล้มากกว่าระยะไกล และดูดซับการโจมตีด้วยธาตุมืดจากศัตรูแบบ 100%

21. Elementalist  ได้เมื่อ Shrewd Overseer Lv. 3, Savior Lv. 3
Tactic – เปลี่ยนความเสียหายจากโจมตีด้วยธาตุต่างๆของศัตรูมาเป็นพลังโจมตีด้วยเวทย์มนต์
Factor – เปลี่ยนการโจมตีด้วยธาตุต่างๆของศัตรูมาเป็นฟื้นฟู MP ได้มากขึ้นตามระดับการอัพเลเวล

22. Assassin ได้เมื่อ Ace Lv. 3, Sharpshooter Lv. 3
Tactic – โจมตีในจุดที่ศัตรูมองไม่เห็นด้วยด้วยความรุนแรงหนึ่งครั้ง
Factor –  % ของการโจมตีธรรมดาจะมีโอกาสที่ทำให้ศัตรูตายทันทีมากขึ้นตามระดับการอัพเลเวล

23. Daemon ได้เมื่อ Executioner Lv. 3, Fringe Fighter Lv. 3, Enforcer Lv. 3
Tactic – เน้นทำลายศัตรูด้วยความรุนแรงและบ้าคลั่ง
Factor –  % ของการโจมตีธรรมดาจะมีโอกาสที่ทำให้พลังป้องกันทางกายภาพและพลังป้องกันเวทย์ของศัตรูลดลงมากขึ้นตามระดับการอัพเลเวล

24. Berserker ได้เมื่อ Brawler Lv. 5
Tactic – เน้นการฆ่าศัตรูแบบไม่มีการป้องกันหรือเติมพลังชีวิต
Factor – ในขณะต่อสู้พลังโจมตีจะเพิ่มขึ้นมหาศาลในขณะที่พลังป้องกันลดลงมากเช่นกัน

25.  Terror Knight ได้เมื่อ Berserker Lv. 3
Tactic – แพร่กระจายออร่าความน่ากลัวไปสู่พวกศัตรู
Factor – ทำให้ประสิทธิ์ภาพการต่อสู้ของศัตรูลดลง ตามระดับการอัพเลเวล

26.  Daredevil ได้เมื่อ Ace Lv. 5, Table Turner Lv. 3
Tactic – ดึงพลังทั้งหมดที่มีมาใช้ในการต่อสู้ในช่วงวิกฤติ
Factor – เมื่อ HP เท่ากับหรือต่ำกว่า 10% และเพิ่มพลังโจมตีทางกายภาพ (Atk) และพลังโจมตีเวทย์มนต์ (Int) ตามระดับการอัพเลเวล

27.  Enchanter ได้เมื่อ Sage Lv. 3
Tactic – เน้นการโจมตีด้วยท่า Skill
Factor – เพิ่มพลังโจมตีเวทย์(Int) เพิ่มพลังป้องกันเวทย์ (Men) แต่จะทำให้ค่าการใช้ MP ต่อการใช้ท่า Skill เพิ่มขึ้นจากเดิมตามระดับการอัพเลเวล

28.  Whirlwind ได้เมื่อ Daredevil Lv. 5
Tactic – เพิ่มประสิทธิภาพร่างกายให้สูงขึ้นเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการต่อสู้
Factor – ในขณะเข้าฉากต่อสู้ พลังโจมตีและพลังป้องกันจะเพิ่มขึ้นตามระดับการอัพเลเวล (มีผลแค่ชั่วคราวเฉพาะในฉากต่อสู้)

29.  Lightning Strike ได้เมื่อ Enchanter Lv. 5
Tactic – เพิ่มประสิทธิภาพเวทย์มนต์ให้สูงขึ้นเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการต่อสู้
Factor – ในขณะเข้าฉากต่อสู้ พลังโจมตีเวทย์และพลังป้องกันเวทย์จะเพิ่มขึ้นตามระดับการอัพเลเวล (มีผลแค่ชั่วคราวเฉพาะในฉากต่อสู้)

30.  Pervader ได้เมื่อ Sharpshooter Lv. 5
Tactic – ใช้ประโยชน์จากช่องว่างในป้องกันของฝ่ายตรงข้าม
Factor – พลังโจมตีเพิ่มขึ้นตามระดับการอัพเลเวล เมื่อโจมตีใส่ศัตรูที่การ์ดอยู่

31.  Aggressor ได้เมื่อ Pulverizer Lv. 5
Tactic – เน้นการโจมตีที่จุดอ่อนของศัตรูที่มีเกราะ
Factor – เพิ่มโอกาสในการโจมตีศัตรูโดยไม่สนใจพลังป้องกันทางกายภาพและพลังป้องกันเวทย์ตามระดับการอัพเลเวล

32. Rampager ได้เมื่อ Berserker Lv. 7
Tactic – แสดงความโหดเหี้ยมไร้ความปราณีเมื่อศัตรูเข้ามาคุกคามพวกฟ้อง
Factor – เพิ่มแรงกระตุ้นให้เกิดความรุนแรงในการต่อสู้ตามระดับการอัพเลเวลแต่จะไม่สามารถควบคุมการโจมตีเป้าหมายให้เป็นไปตามที่ต้องการได้

33. Asura ได้เมื่อ Rampager Lv. 3
Tactic – เพิ่มประสิทธิ์ภาพการต่อสู้สูงสุดด้วยแรงโกรธอย่างบ้าคลั่งโดยไม่ฟังคำสั่งและไม่สามารถควบคุมได้
Factor – เพิ่มระยะเวลาความโกรธตามระดับการอัพเลเวลแต่จะไม่สามารถควบคุมการโจมตีเป้าหมายให้เป็นไปตามที่ต้องการได้

34. Bridge Burner ได้เมื่อ Daredevil Lv. 3
Tactic – ปลดปล่อยพลังความสามารถทั้งหมดออกมาในยามวิกฤติ
Factor – เมื่อ HP เท่ากับหรือต่ำกว่า 20% และเพิ่มโอกาสที่จะเกิดการโจมตีแบบ Critical มากขึ้นระดับการอัพเลเวล

35. Survivalist ได้เมื่อ Invoker Lv. 7
Tactic – หลีกเลี่ยงที่จะไม่ใช้ Skill ฟื้นพลังชีวิตในขณะที่มี MP เหลือน้อย
Factor – เพิ่มระดับวิจารณญาณในการตัดสินใจกระทำต่างๆในระหว่างต่อสู้ให้เหมาะสมมากขึ้น

36. Table Turner ได้เมื่อ Attacker Lv. 5
Tactic – ใช้พลังทั้งหมดที่มีในการเข้าต่อสู้กับศัตรูที่มีแข็งแกร่งสูง
Factor – เพิ่มโอกาสในการโจมตีศัตรูโดยไม่สนใจพลังป้องกันทางกายภาพและพลังป้องกันเวทย์ตามระดับการอัพเลเวล

37. Purveyor of Pity ได้เมื่อ Menace Lv. 5
Tactic – ละเว้นที่จะใช้การทุ่มกำลังโจมตีกับศัตรูที่อ่อนแอกว่า
Factor – ลังเลที่จะจัดการกับศัตรูที่อ่อนแอกว่า (ทิ้งระยะห่างศัตรูตัวที่กระจอกสุดไปโฟกัสศัตรูตัวที่เก่งก่อนแต่ถ้าตัวเก่งหมดมันก็มาตีตัวอ่อนเหมือนเดิม) และเพิ่มระดับวิจารณญาณในการตัดสินใจกระทำต่างๆในระหว่างต่อสู้ให้เหมาะสมมากขึ้น
                               


                                                          

                                                      Healing Roles 


1. First Responder ได้เมื่อ Healer Lv. 5
Tactic  – จะฟื้นฟูพลังชีวิตหลังจากได้รับความเสียหายจากระยะไกล(พวกศัตรูโจมตีระยะไกล)
Factor – หลังจากถูกโจมตีมีโอกาสที่จะฟื้นฟูพลังชีวิต 2% และมากขึ้นตามระดับการอัพเลเวล

2. Gritty Warrior ได้เมื่อ ค่าโจมตีรวมได้ 100,000  hits (พร้อม Battle Trophy #63)
Tactic – สามารถยืนหยัดอยู่รอดได้ด้วยตัวคนเดียว
Factor – มีโอกาสที่จะหลีกเลี่ยงภาวะใกล้ตายได้มากขึ้นตามระดับการอัพเลเวล

3. Dauntless ได้เมื่อ Gritty Warrior Lv. 3
Tactic – สามารถอยู่รอดได้ด้วยจิตวิญญาณนักสู้ได้ด้วยตัวคนเดียว
Factor – ในขณะต่อสู้สามารถหลีกเลี่ยงสภาพใกล้ตายได้ 1 ครั้ง

4. Princess ได้เมื่อ Chevalier Lv. 3
Tactic – ในฉากต่อสู้จะไม่เข้าร่วมต่อสู้
Factor – ในขณะต่อสู้เน้นเพื่อฟื้นฟู HP และ MP อย่างเดียว

5. Healer ได้เมื่อ Miki เข้าร่วมทีม
Tactic –  เน้นในการฟื้นฟูพลังชีวิตอย่างรวดเร็ว
Factor – ค่า MP เพิ่มขึ้น ตามระดับการอัพเลเวล

6. Savior ได้เมื่อ Healer Lv. 3
Tactic – ทุ่มเทพลังทั้งหมดในการรักษาชีวิต
Factor – เพิ่มสมรรภาพของคาถาฟื้นฟูพลังชีวิต ตามระดับการอัพเลเวล

7. Crusader ได้เมื่อ Guardian Lv. 3, Savior Lv. 5
Tactic – รักษาและชุบชีวิตเพื่อนในทีมโดยเน้นไปที่การเยียวยารักษาอาการผิดปกติของสเตตัส
Factor – ในฉากต่อสู้ จะฟื้นฟูพลังชีวิตเป็นระยะตามระดับการอัพเลเวลและเน้นÃÑ¡ÉÒÍÒ¡ÒüԴ»¡µÔ¢Í§Ê൵ÑÊและชุบชีวิตเพื่อนร่วมทีมให้บ่อยขึ้น

8. Holy Mother ได้เมื่อ Elementalist Lv. 3, Paladin Lv. 3, Crusader Lv. 3
Tactic – เฝ้าระวังรอเยียวยาอยู่รอบนอกพื้นที่ต่อสู้
Factor – ในฉากต่อสู้ จะฟื้นฟู MP เป็นระยะตามระดับการอัพเลเวลและศัตรูจะเคลื่อนไหวน้อยลง

9. Draugr Monarch ได้เมื่อ Dead Man Walking Lv. 3, Vainglory Omega Lv. 3
Tactic – โจมตีเต็มกำลังตราบใดที่ไม่รับความบาดเจ็บจากธาตุแสง
Factor – เมื่อโจมตีปกติจะได้รับ HP 5 % และเน้นโจมตีมากขึ้น

10. Mindbreaker ได้เมื่อ Enchanter Lv. 3
Tactic – ซุ่มรอจังหวะเพื่อปลดปล่อยพลังดูดวิญญาณ
Factor – เมื่อโจมตีปกติจะได้รับ MP 5 % และจะเพิ่มขึ้นตามระดับการอัพเลเวลแต่พลังโจมตีจะลดลง 50%

11. Shock Therapist ได้เมื่อ Crusader Lv. 5
Tactic – ความเจ็บปวดและบาดแผลของเพื่อนคือหน้าที่การสนับสนุนเยียวยาของคุณ
Factor – เมื่อถูกโจมตี % ของโอกาสในการรักษาเยียวยาจะมากขึ้นตามระดับการอัพเลเวล



                                                          

                                                       Defense Roles 


1. Defender 
Tactic – เมื่อเจอศัตรูที่แข็งแกร่งจะเน้นการ์ดป้องกันตัวเอง
Factor – ในฉากต่อสู้จะเน้นการมากขึ้น ตามระดับการอัพเลเวล

2. Royal Guard ได้เมื่อ Chevalier Lv. 3
Tactic – จัดการอย่างไม่ปราณีกับศัตรูที่จะมาทำร้ายตัวละครที่ติดตั้ง Roles princess.
Factor – พลังป้องกันทางกายภาพ(DEF) และพลังป้องกันเวทย์(MEN) สูงขึ้นตามระดับการอัพเลเวล

3. Guardian ได้เมื่อ Defender Lv. 3
Tactic – เบี่ยงเบนการโจมตีเพื่อทำให้บาดเจ็บน้อยลง
Factor – เมื่อการ์ดแบบสมบรูณ์แบบ ความเสียหายจะลดลง ตามระดับการอัพเลเวล

4. Paladin ได้เมื่อ Ace Lv. 3, Savior Lv. 3
Tactic – วิเคราะห์และหยุดยั้งการโจมตีด้วยธาตุแสงและความมืดของศัตรู
Factor – เพิ่มโอกาสที่จะทำให้ความเสียหายที่เกิดจากการโจมตีด้วยธาตุแสงและความมืดของศัตรูลดลงตามระดับการอัพเลเวล

5. Vanguard ได้เมื่อ Ace Lv. 3, Guardian Lv. 3
Tactic – ทุ่มพลังทั้งหมดในการป้องกันการโจมตีของศัตรู
Factor – เพิ่มจำนวน HP มากขึ้นตามระดับการอัพเลเวล เมื่อการ์ดแบบสมบรูณ์แบบจะได้รับ HP กลับมาตามระดับการอัพเลเวล และมีการการ์ดมากขึ้นในฉากต่อสู้

6. Avenger ได้เมื่อ Pulverizer Lv. 3, Guardian Lv. 3
Tactic – สามารถโจมตีสวนกลับ (Counter) ในเวลาที่ทำการการ์ดอย่างสมบรูณ์แบบ
Factor – เพิ่มจำนวน MP มากขึ้น ตามระดับการอัพเลเวล มีการการ์ดมากขึ้นในฉากต่อสู้ และสามารถโจมตีสวนกลับ (Counter) ได้ 100%

7. Marshal ได้เมื่อ Shrewd Overseer Lv. 3, Guardian Lv. 3
Tactic – วิเคราะห์เวทย์ธาตุต่างๆของศัตรูเพื่อทำการป้องกันยับยั้งพลังของพวกมัน
Factor – เพิ่มโอกาสที่จะทำให้ได้รับบาดเจ็บจากการโจมตีด้วยธาตุต่างๆของศัตรูลดลงตามระดับการอัพเลเวล

8. War God ได้เมื่อ Vanguard Lv. 3, Avenger Lv. 3, Marshal Lv. 3
Tactic – ใช้เทคนิคการตั้งรับทำให้ศัตรูอ่อนแรงไปเอง
Factor – เมื่อทำการการ์ดอย่างสมบูรณ์แล้วโอกาสที่จะทำให้การโจมตีทางกายภาพ (ATK) และการโจมตีด้วยเวทย์ (INT) ของศัตรูลงลงตามระดับการอัพเลเวล และมีการการ์ดมากขึ้นในฉากต่อสู้

9. Dead Man walking ได้เมื่อ Necromancer Lv. 3
Tactic – ใช้พลังชีวิตของตัวเองสร้างเป็นเกราะป้องกันตัว
Factor – อยู่ยงคงกระพันในระหว่างการต่อสู้ แต่ความเสียหายก็จะเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง (ในขณะต่อสู้ศัตรูจะไม่สามารถโจมตีจนเกิดความเสียหายได้เลยแต่ HP จะลดลงแบบต่อเนื่องในจำนวนที่เท่าๆกันไปตลอดเวลาต่อสู้)

10. tri-Ace ได้เมื่อ Daemon Lv. 3, War God Lv. 3, Holy Mother Lv. 3
Tactic – ปัดป้องและโต้กลับทุกภัยพิบัติที่เข้ามารุมล้อม
Factor – มีโอกาส 5% ที่ทำให้การโจมตีของศัตรูไร้ผล ทำให้มีโอกาสสูงขึ้นในการเข้าไปตัดสินเผด็จศึกศัตรู

11. Turtle ได้เมื่อ Defender Lv. 7
Tactic – เพิ่มพลังป้องกันเป็น 2 เท่าขณะที่กำลังใกล้ตาย
Factor – เมื่อ HP เท่ากับหรือน้อยกว่า 10% พลังป้องกันจะเพิ่มขึ้น ตามระดับการอัพเลเวล

12. Chevalier ได้เมื่อ Defender Lv. 5
Tactic – จอจ่อพุ่งโฟกัสไปที่ศัตรูอย่างเดียว
Factor –พลังป้องกันจะเพิ่มขึ้น ตามระดับการอัพเลเวล

13. Vainglory Alpha ได้เมื่อ Guardian Lv. 5
Tactic – ไม่ยอมที่จะถอยหนีเมื่อได้รับบาดเจ็บทางกายภาพ
Factor –จะไม่ถอยหนีเมื่อความเสียหายจากการถูกโจมตีทางกายภาพ (ATK) ยังต่ำกว่า (กี่ %ขึ้นอยู่กับการอัพเลเวล) ค่าสูงสุดของ HP

14. Vainglory Beta ได้เมื่อ Sage Lv. 5
Tactic – ไม่ยอมที่จะถอยหนีเมื่อได้รับบาดเจ็บโดยเวทย์มนต์
Factor –จะไม่ถอยหนีเมื่อความเสียหายจากการถูกโจมตีโดยเวทย์ (INT) ยังต่ำกว่า (กี่ %ขึ้นอยู่กับการอัพเลเวล) ค่าสูงสุดของ HP

15. Vainglory Omega ได้เมื่อ Vainglory Alpha Lv. 3, Vainglory Beta Lv. 3
Tactic – ไม่ยอมที่จะถอยหนีเมื่อได้รับบาดเจ็บจากทุกการโจมตีของศัตรู
Factor –จะไม่ถอยหนีเมื่อความเสียหาย ยังต่ำกว่า (กี่ %ขึ้นอยู่กับการอัพเลเวล) ค่าสูงสุดของ HP

16. Evasionist ได้เมื่อ ได้ Battle Trophy 049 จากการทำ critical hits ต่อเนื่องกัน 25 ครั้ง
Tactic – ชนะศัตรูด้วยเล่ห์เหลี่ยมชั้นเชิงโดยไม่เกิดความรุนแรง
Factor –ทำให้โอกาสในการเกิดการโจมตีแบบ critical hit ของศัตรูลดลงตามระดับการอัพเลเวล

17. Suckerpuncher ได้เมื่อ Turtle Lv. 3, Warmonger Lv. 3
Tactic – เปลี่ยนมาเป็นการโจมตีอย่างหนักหน่วงหลังจากทำการ Counter สำเร็จ
Factor –ทำให้การ์ดมากขึ้นในขณะต่อสู้ และผลสำเร็จของการ Counter +10%

18. Half-Butterfly, Half- Bee ได้เมื่อ Turtle Lv. 3, Pacifist Lv. 3
Tactic – ทิ้งระยะห่างจากศัตรูเป้าหมายมากขึ้นหลังจากทำการ Counter สำเร็จ
Factor –ทำให้การ์ดมากขึ้นในขณะต่อสู้ และผลสำเร็จของการ Counter +10%

19.Moonlight Emissary ได้เมื่อ Necromancer Lv. 5, Princess Lv. 5
Tactic – แข็งแกร่งขึ้นเมื่อถูกโจมตีด้วยธาตุแสงหรือความมืด
Factor – แรงต้านความเสียหาย (Damage dealt) จากธาตุแสงและความมืดจะมากขึ้นตามระดับการอัพเลเวล และ 5 % ที่เกิดความเสียหายจากธาตุแสงและความมืดจะถูกเปลี่ยนมาเป็น MP

20.Emissary of the Blue Sphere ได้เมื่อ Elementalist Lv. 5
Tactic – แข็งแกร่งขึ้นเมื่อถูกโจมตีด้วยธาตุน้ำแข็งหรือดิน
Factor – แรงต้านความเสียหาย (Damage dealt) ของธาตุน้ำแข็งและดินจะมากขึ้นตามระดับการอัพเลเวล และ 5 % ที่เกิดความเสียหายจากธาตุน้ำแข็งและดินจะถูกเปลี่ยนมาเป็น MP

21.Solar Emissary ได้เมื่อ Elementalist Lv. 5
Tactic – แข็งแกร่งขึ้นเมื่อถูกโจมตีด้วยธาตุไฟหรือลม
Factor – แรงต้านความเสียหาย (Damage health) จากธาตุไฟและลมจะมากขึ้นตามระดับการอัพเลเวล และ 5 % ที่เกิดความเสียหายจากธาตุไฟและลมจะถูกเปลี่ยนมาเป็น MP




                                                   

                                                   Support  Role


** Private Action  – คือฉากพูดคุยของตัวละครขณะอยู่ในเมืองเมื่อเข้าไปที่จุด Private Action ในเมืองต่างๆ **


1.  Sage ได้เมื่อ Invoker Lv. 5, Healer Lv. 5
Tactic – เน้นการใช้เวทย์อย่างรัดกุมและรวดเร็ว
Factor – ลดระยะเวลาการร่ายเวทย์ให้ลดลงตามระดับการอัพเลเวลและเพิ่มประสิทธิการใช้เวทย์ให้ได้ผลที่ดีขึ้น

2.  Skulker ได้เมื่อ Poltroon Lv. 3
Tactic – ดำเนินการต่อสู้แบบไม่เตะตาเสมือนไร้ตัวตนเพื่อเลี่ยงการถูกโจมตี
Factor – ทำให้เป็นเป้าหมายของศัตรูน้อยลงตามระดับการอัพเลเวล

3.  Interceptor ได้เมื่อ Menace Lv. 7
Tactic – โจมตีสวนกลับทันทีกับศัตรูเป้าหมายที่โจมตีเข้ามา
Factor – โจมตีแบบธรรมดาจะมีโอกาสติด Stun มาขึ้นตามระดับการอัพเลเวล

4. Instigator ได้เมื่อได้รับ Bounty 11 จากการกำจัดศัตรู 5 ตัวในครั้งเดียว
Tactic – ดึงความสนใจของศัตรูมาหาตัวเองในฉากต่อสู้
Factor – ทำให้เป็นเป้าหมายของศัตรูมากขึ้นตามระดับการอัพเลเวล

5. Master Tactician ได้เมื่อได้รับ Bounty 92 จากการชนะการต่อสู้ครบ 500 ครั้ง
Tactic – ประเมินสถานการณ์และออกคำสั่งเพื่อนในทีมอย่างเหมาะสม
Factor – ทำให้ประสิทธิภาพการต่อสู้ของตัวเองและเพื่อนมีมากขึ้น และ พลังโจมตีเวทย์มนต์ (INT) +10%

6. Eccentric ได้เมื่อได้รับ Bounty 05 จากการสร้างความเสียหาย 25,000 damage จากการโจมตีครั้งเดียว
Tactic – ประเมินสถานการณ์และออกคำสั่งเพื่อนในทีมอย่างงี่เง่า
Factor – ทำให้ประสิทธิภาพการต่อสู้ของตัวเองและเพื่อนต่ำลง แต่ พลังโจมตีทางกายภาพ (ATK) +30%

7. Betrayer ได้เมื่อได้รับ Bounty 41 จากการโจมตีจากระยะไกลครบ 100 ครั้ง
Tactic – สนับสนุนการโจมตีจากแนวหลังและมีการเคลื่อนที่อย่างอิสระมากขึ้น
Factor – ทำให้เพื่อนในปารตี้ลดการกระทำในฉากต่อสู้น้อยลงในขณะที่ศัตรูมีการกระทำมากขึ้น +6 แต่จะได้ค่า EXP หลังจบการต่อสู้ +50%

8. Warmonger ได้เมื่อได้รับ Bounty 51 จากการกำจัดศัตรูอย่างต่อเนื่อง 5 ตัวจากการโจมตี 1 ชุดคอมโบ
Tactic – เพิ่มความคล่องแคล่วและมีส่วนร่วมในการต่อสู้มากขึ้น
Factor – ทำให้การกระทำในฉากต่อสู้มากขึ้น +10 และค่าการเกิด Critical hit เพิ่มขึ้นตามระดับการอัพเลเวล

9. Pacifist ได้เมื่อได้รับ Bounty 45 จากการการ์ดป้องกันการโจมตีจากศัตรูต่อเนื่องครบ 30 ครั้ง
Tactic – ละเว้นการร่วมมีส่วนร่วมในการต่อสู้ยกเว้นจะออกคำสั่ง
Factor – ร่วมต่อสู้เล็กน้อย +10 ตั้งการ์ดมากขึ้นและทำการโจมตีสวนกลับเพิ่มขึ้นตามระดับการอัพเลเวล

10. Hothead ได้เมื่อได้รับ Bounty 72 จากการสร้างความเสียหายกับศัตรูรวม 100,000 damage
Tactic – โจมตีสวมกลับด้วยท่า Skill attack เมื่อถูกศัตรูโจมตีจากระยะไกล
Factor – พลังโจมตีทางกายภาพ (ATK) และพลังโจมตีด้วยเวทย์มนต์ (INT) มากขึ้น ตามระดับการอัพเลเวล

11. Boon ได้จากจบ Private Action “Stances Like Daril’s”
Tactic – โจมตีศัตรูเป้าหมายตามที่ผู้นำปาร์ตี้โจมตีอยู่
Factor – ไม่มี

12. Rival ได้จากจบ Private Action “Leader by Proxy”
Tactic – โจมตีศัตรูเป้าหมายต่างจากที่ผู้นำปาร์ตี้โจมตีอยู่
Factor – ไม่มี

13. Spendthrift ได้จากจบ Private Action “Tipping the Scales When Tipsy”
Tactic – ต่อสู้โดยใช้ท่า attack skills อย่างเต็มที่โดยไม่ประหยัด MP
Factor – ต่อสู้โดยใช้ท่า attack skills บ่อยมากขึ้น

14. Pinchfist ได้จากจบ Private Action “Patch Conversion””
Tactic – ต่อสู้โดยไม่ใช้ท่า attack skills ที่เสีย MP จำนวนมาก
Factor – ต่อสู้โดยใช้ท่า attack skills น้อยลง

15. Vivifier ได้จากจบ Private Action “The Plague”
Tactic – กระตุ้นเพื่อนร่วมทีมด้วยคำพูดปลุกใจ
Factor – เพื่อนในทีมมีการต่อสู้มากขึ้น +6 แต่พลังป้องกันทางกายภาพ(DEF) ลดลง 20% พลังป้องกันเวทย์มนต์ (MEN) ลดลง 20%

16. Poltroon ได้จากจบ Private Action “Bad Dream”
Tactic – ทิ้งระยะห่างจากศัตรูทันทีเมื่อได้รับบาดเจ็บ
Factor –พลังป้องกันทางกายภาพ(DEF) และพลังป้องกันเวทย์มนต์ (MEN) มากขึ้น ตามระดับการอัพเลเวล

17. Barbarian ได้จาก Berserker Lv. 5
Tactic – ใช้ท่า skill attacks อย่างคล่องแคล่วเมื่อเจอกับศัตรูจำนวนมาก
Factor –ไม่มี

18. Slouch ได้จาก Purveyor of Pity Lv. 3
Tactic – ละเว้นการใช้ท่า skill attacks เมื่อเจอกับศัตรูจำนวนน้อยๆ
Factor –ไม่มี

19. Late Bloomer ได้จาก Warmonger Lv. 5
Tactic – ใช้ท่า skill attacks อย่างคล่องแคล่วเมื่อบาดเจ็บจนเกิดความผิดปกติทางสเตตัสต่างๆ
Factor –ไม่มี

20. Conservative ได้เมื่อ Pacifist Lv. 5
Tactic – นำเอาเทคนิคที่ปลอดภัยกว่ามาใช้ในการรักษาเยียวยาอาการบาดเจ็บ
Factor – ไม่มี

21. Archivist ได้เมื่อ Blue Sphere/Solar/Moonlight Emissary Lv. 3
Tactic – วิเคราะห์จุดอ่อนของศัตรูเพื่อโจมตีอย่างถูกต้องแม่นยำ
Factor – เสียค่า MP ต่อการใช้ท่า Skill -70% และใช้เวทย์บ่อยขึ้น



                                                   

                                            Miscellaneous Role


1. Stamina Stockpiler  (Role หลัก)
Tactic – เปลี่ยนแปลงจิตวิญญาณนักสู้ไปที่ความเข้มแข็งของร่างกาย
Factor – + HP เพิ่มขึ้นตามระดับการอัพเลเวล

2. Mana Maverick (Role หลัก)
Tactic – เปลี่ยนแปลงจิตวิญญาณนักสู้ไปที่ค่าพลัง Mana
Factor – + MP เพิ่มขึ้นตามระดับการอัพเลเวล

3. Attack Advocate (Role หลัก)
Tactic – เปลี่ยนแปลงจิตวิญญาณนักสู้ไปที่ค่าพลังโจมตี
Factor – + พลังโจมตีทางกายภาพ (ATK) เพิ่มขึ้นตามระดับการอัพเลเวล

4. Intelligence Indulger (Role หลัก)
Tactic – เปลี่ยนแปลงจิตวิญญาณนักสู้ไปที่ค่าพลังโจมตีเวทย์
Factor – + พลังโจมตีเวทย์มนต์ (INT) เพิ่มขึ้นตามระดับการอัพเลเวล

5. Defensive Devotee (Role หลัก)
Tactic – เปลี่ยนแปลงจิตวิญญาณนักสู้ไปที่ค่าพลังป้องกันทางกายภาพ
Factor – + พลังป้องกันทางกายภาพ(DEF) เพิ่มขึ้นตามระดับการอัพเลเวล

6. Mentality Maven (Role หลัก)
Tactic – เปลี่ยนแปลงจิตวิญญาณนักสู้ไปที่ค่าพลังป้องกันเวทย์
Factor – + พลังป้องกันเวทย์ (MEN) เพิ่มขึ้นตามระดับการอัพเลเวล

7. Critical Combatant ได้เมื่อได้รับ Bounty 75 จากการโจมตีศัตรูแบบ critical ครบ 1000 ครั้ง
Tactic – เปลี่ยนแปลงจิตวิญญาณนักสู้ไปที่ค่าความแม่นยำ
Factor – + โอกาสที่จะเกิดการโจมตีแบบ Critical hit เพิ่มขึ้นตามระดับการอัพเลเวล

8. Stun Supporter ได้เมื่อได้รับ Bounty 36 จากการโจมตีศัตรูแบบธรรมดาต่อเนื่องครบ 100 ครั้ง
Tactic – เปลี่ยนแปลงจิตวิญญาณนักสู้ไปที่ค่าพลังความมึนงง
Factor – + โอกาสที่จะเกิดการโจมตีแบบธรรมดาจะทำให้ศัตรูมึนงง(Stun)เพิ่มขึ้นตามระดับการอัพเลเวล

9. Scavenge ได้เมื่อจบ Quest ย่อย “First Steps as a Collector”
Tactic – เลิกคิดเรื่องการต่อสู้และหวังแต่เงินเท่านั้น
Factor – ทำให้การต่อสู้ลดประสิทธิภาพลง ทิ้งระยะห่างจากศัตรู + 4 และได้เงิน (Fol) หลังจบการต่อสู้เพิ่มขึ้นตามระดับการอัพเลเวล

10. Instructor ได้จากจบ Private Action “Anne’s First Mission”
Tactic – สั่งสอนแนะนำให้ความรู้กับเพื่อนร่วมทีม
Factor –หลังจบการต่อสู้จะได้ค่าประสบการณ์ (EXP) เพิ่มขึ้นตามระดับการอัพเลเวล

11. Minstrel ได้จากจบ Private Action “Miki’s Grandiose Dream”
Tactic – ทำให้เพื่อนๆเพลิดเพลินด้วยเรื่องเล่าแห่งความกล้าหาญเพื่อเสริมสร้าง Skill ของพวกเขาให้มีประสิทธิ์ภาพมากขึ้น
Factor – ได้รับ Skill Point (SP) +5% ต่อการอัพ 1 level

12. Altruist ได้จากจบ Quest ย่อย “Find Ruddle!”
Tactic – กระตุ้นเพื่อนร่วมทีมเพื่อให้ได้รับค่า Skill มากขึ้น
Factor – หลังจากการต่อสู้จะไม่ได้ค่าประสบการณ์ (EXP) แต่จะได้รับ Skill Point (SP) เพิ่มขึ้นตามระดับการอัพเลเวล

13. Item Expender ได้เมื่อได้รับ Bounty 99 จากการใช้ไอเทมครบ 500 ในฉากต่อสู้
Tactic – ใช้ไอเทมได้มีประสิทธิ์ภาพมากขึ้น
Factor – ทำให้ระยะเวลา Item cooldown หรือการอนุญาตให้ใช้ไอเทมอีกครั้งหลังจากใช้ไปในแล้วในฉากต่อสู้เร็วขึ้นตามระดับการอัพเลเวล

14. Unfortunate Soul ได้จากจบ Private Action “An Unmatchable Piece of Technology”
Tactic – ปลุกจิตวิญญาณนักสู้เพื่อเตรียมพร้อมในการต่อสู้
Factor – ในฉากต่อสู้ เพิ่มพลังโจมตีทางกายภาพ(ATK) 30% เพิ่มพลังป้องกันทางกายภาพ (DEF) 30% เพิ่มโอกาสที่ทำให้เกิดการโจมตีแบบ critical มากขึ้น และทำให้โอกาสที่ทำให้เกิดการโจมตีแบบ critical ของศัตรูลดลง 

15. Equal Opportunist ได้จากจบ Private Action “Happy Together” Tactic – ในทุกการต่อสู้จะนำกลยุทธ์แปลกใหม่มาใช้เสมอ
Factor –ในการโจมตีแบบปกติ จะเอาการ buff เสริมสร้างความแข็งแกร่งของตัวเองและของศัตรูออกจนหมดและทำให้เกิดการโจมตีแบบ critical ของลดลง

16. Bunny ได้จากจบ Quest ย่อย “Happy Fun Bunny Time”
Tactic – ทำให้สามารถหนีจากการต่อสู้ได้รวดเร็วขึ้น
Factor – พร้อมจะหนีจากการต่อสู้อยู่ทุกเวลา





                                      [Creation]  - การผสมไอเทมตามทักษะต่างๆ -



                                                          Compounding





Compounding Skill Level 1

Blackberry Potion
Blackberries x3 + Nectar x2

Mixed Syrup
Red Fruit x1 + Green Fruit x1

Poison Cider
Spring Water x3 + Nectar x2 + Bee Stinger x3 + Empty Bottle x1

Spark Cider
Spring Water x3 + Nectar x2 + Gerel Secretion x3 + Empty Bottle x1

Frozen Cider
Spring Water x3 + Nectar x2 + Fish Scales x3 + Empty Bottle x1

Cloudy Cider
Spring Water x3 + Nectar x2 + Peryton Droppings x3 + Empty Bottle x1

Compounding Skill Level 2

Blueberry Potion
Blueberries x3 + Nectar x2

Fortitude Potion
Earth Gem x3 + Holy Water x3 + Empty Bottle x1

Acuity Potion
Wind Gem x3 + Holy Water x3 + Empty Bottle x1
……………………….
Compounding Skill Level 3

Strength Potion
Fire Gem x3 + Holy Water x3 + Empty Bottle x1

Perception Potion
Ice Gem x3 + Holy Water x3 + Empty Bottle x1

Compounding Skill Level 4

Physical Stimulant
Blueberries x3 + Red Fruit x1 + Caterpillar Fungus x1

Emotional Destabilizer
Lavender x3 + Demon’s Tail x1 + Empty Bottle x1

Diligence Potion
Holy Water x3 + Empty Bottle x1 + Seasonings x3

Vitalitea
Physical Stimulant x1 + Colorful Mushrooms x3 + Lemon Juice x1

Compounding Skill Level 5

Mental Stimulant
Blackberries x3 + Green Fruit x1 + Caterpillar Fungus x1

DANGER! DO NOT DRINK!
Spring Water x3 + Nectar x2 + Poison Hemlock x3 + Empty Bottle x1

Compounding Skill Level 6

Therapeutic Tincture
Mint x3 + Basil x2 + Olive Oil x1

Love Potion No. 256
Lavender x3 + Shadow Roses x1 + Lezard’s Flask x1

Riot Potion
Lezard’s Flask x1 + Vanilla Beans x2 + Nectar x3

Robust Vitalitea
Vitalitea x1 + Poison Hemlock x3 + Caterpillar Fungus x1

Compounding Skill Level 7

Resurrection Elixir
Fresh Sage x3 + Caterpillar Fungus x1 + Empty Bottle x1

Heroism Potion
Resurrection Elixir x1 + DANGER! DO NOT DRINK! x1 + Philosopher’s Stone x2 + Lezard’s Flask x1

Compounding Skill Level 8

Potent Attack Seeds
Alchemist’s Water x1 + Attack Seeds x2 + Fermentation Pot x1

Potent Intelligence Seeds
Alchemist’s Water x1 + Intelligence Seeds x2 + Fermentation Pot x1

Potent Defense Seeds
Alchemist’s Water x1 + Defense Seeds x2 + Fermentation Pot x1

Potent Mentality Seeds
Alchemist’s Water x1 + Mentality Seeds x2 + Fermentation Pot x1

Potent Health Seeds
Alchemist’s Water x1 + Health Seeds x2 + Fermentation Pot x1

Potent Magic Seeds
Alchemist’s Water x1 + Magic Seeds x2 + Fermentation Pot x1

Resurrection Elixir
Fresh Sage x3 + Caterpillar Fungus x1 + Empty Bottle x1





                                                       Engineering

Engineering Skill Level 1

EM Bomb (S)
Fire Gem x1 + Gunpowder x3 + Micro Circuit x1

Attack Breaker
EM Bomb (S) x1 + Strength Potion x1

Intelligence Breaker
EM Bomb (S) x1 + Perception Potion x1

Engineering Skill Level 2

Poison Bomb
EM Bomb (S) x1 + Poison Cider x1

Smoke Bomb
EM Bomb (S) x1 + Cloudy Cider x1

Defense Breaker
EM Bomb (S) x1 + Fortitude Potion x3

Mentality Breaker
EM Bomb (S) x1 + Acuity Potion x3

CQC Program Alpha
Iron x3 + Blank Disk x1

CQC Program Beta
Silver x3 + Blank Disk x1

Engineering Skill Level 3

Stun Bomb
EM Bomb (S) x1 + Spark Cider x1

Freezing Bomb
EM Bomb (S) x1 + Frozen Cider x1

CQC Program Gamma
Gold x5 + Blank Disk x1

CQC Program Delta
Damascus Steel x1 + Blank Disk x1

Engineering Skill Level 4

Gravity Bomb
Gnomestone x1 + Reinforced Gunpowder x2 + Micro Circuit x1

Self-Destructor 3000
DANGER! DO NOT DRINK! x1 + Gunpowder x2 + Wire x1

Deluxe Poison Bomb
EM Bomb (L) x1 + Poison Cider x1

Deluxe Smoke Bomb
EM Bomb (L) x1 + Cloudy Cider x1

CQC Program Epsilon
Gold x5 + Blank Disk x1

CQC Program Zeta
Platinum x3 + High-Capacity Blank Disk x1

Engineering Skill Level 5

Healing Device
Physical Stimulant x3 + Diffusion Device x1

EM Bomb (L)
Fire Gem x1 + Reinforced Gunpowder x3 + Rivets x1 + Micro Circuit x2

Low-Frequency Bomb
Sylphstone x1 + Reinforced Gunpowder x2 + Quantum Processor x1

CQC Program Eta
Platinum x4 + High-Capacity Blank Disk x1

Sylvan Ray
Mythril x3 + Laser Oscillator x1 + Rivets x3

Engineering Skill Level 6

Relaxation Device
Mental Stimulant x3 + Diffusion Device x1

Deluxe Stun Bomb
EM Bomb (L) x1 + Spark Cider x1

Deluxe Freezing Bomb
EM Bomb (L) x1 + Frozen Cider x1

CQC Program Theta
Orichalcum x5 + High-Capacity Blank Disk x1

Straightshooter
Meteorite x1 + Rivets x4 + Carbon Fiber x1

Engineering Skill Level 7

Miraculous Device
Mixed Syrup x4 + Caterpillar Fungus x1 + Diffusion Device x1

Ultimate Bomb
Meteorite x1 + Hadron Collider x1 + Quantum Processor x1

HP Absorber
Ghost’s Soul x1 + Diffusion Device x1 + Quantum Processor x1

MP Absorber
Mati x1 + Diffusion Device x1 + Quantum Processor x1


Engineering Skill Level 8

Umbral Blast
Gravity Bomb x3 + Orichalcum x3 + Hadron Collider x1 + Rivets x3

Laser Suit
Moonstone x1 + Laser Oscillator x4 + Carbon Fiber x2 + High-Power Generator x1



    



                                                                 Smithery

Smithery Skill Level 1

Storm Blade
Wind Gem x3 + Iron x2

Ruby Wand
Ruby x1 + Wooden Stick x3

Shell Armor
Iron x2 + Tortoise Shell x1 + Lizardskin x1

Rudimentary Protector
Iron x1 + Hand-Spun Thread x2

Scale Mail
Fish Scale x5 + Wire x2

Smithery Skill Level 2

Earth Armlet
Earth Gem x1 + Silver x4

Ice Armlet
Ice Gem x1 + Silver x4

Fire Armlet
Fire Gem x1 + Silver x4

Wind Armlet
Wind Gem x1 + Silver x4

Damascus Steel
Iron x3 + Coal x2

Smithery Skill Level 3

Venom Sword
Poison Cider x4 + Damascus Steel x2 + Bee Stinger x2

Rune Blade
Crystal x1 + Light Gem x1 + Damascus Steel x2

Star Flail
Spark Cider x2 + Damascus Steel x1 + Platinum x1

Williwaw Bow
Light Gem x2 + Damascus Steel x2 + Wire x1

Damask Knuckles
Strength Potion x1 + Earth Gem x2 + Damascus Steel x4

Damask Plate
Damascus Steel x3 + Rivets x5 + Earth Gem x2

Smithery Skill Level 4

Atrementous Usurper
Darkness Gem x3 + Platinum x2 + Wire x1

Vermilion Claws
Platinum x1 + Wolf Fang x2 + Snakeskin x2 + Salamanderstone x1

Duel Armor
Fortitude Potion x1 + Platinum x1 + Tortoise Shell x2

Blood Chain Mail
Darkness Charm x4 + Platinum x2 + Bloodstained Cloth x1

Smithery Skill Level 5

Icicle Sword
Nereidstone x4 + Frozen Cider x8 + Ash x1

Searing Sword
Salamanderstone x3 + Dragon Scales x1 + Dragon Hide x1

Saint’s Bow
Angelstone x3 + Gold x2 + Oak x3 + Wire x2

Hurricane Claws
Sylphstone x3 + Giant Bird Feather x4 + Faerie Embroidery Thread x3

Ifrit Mail
Salamanderstone x3 + Gnomestone x2 + Carbon Fiber x3

Sylphide’s Mail
Sylphstone x3 + Nereidstone x2 + Carbon Fiber x3

Smithery Skill Level 6

Mythril Sword
Mythril x4 + Damascus Steel x2 + Dragon Hide x1

Scumbag Slayer
Meteorite x1 + Wooden Stick x3 + Mana Ribbon x1 + High-Strength Adhesive x3

Mythril Rod
Mythril x4 + Laurel Tree x1 + Shadow Roses x1 + Ash x2

Silvance
Alchemist’s Water x1 + Mythril x2 + Silver x3

Mythril Gauntlets
Fortitude Potion x3 + Mythril x3 + Rivets x6

Mythril Plate
Mythril x3 + Tortoise Shell x2 + Rivets x6

Mythril Mesh
Mythril x2 + Gold x2 + Silk x3

Smithery Skill Level 7

Arcana Sword
Meteorite x1 + Platinum x3 + Carbon Fiber x3

Dojikiri-Yasutsuna
Meteorite x3 + Coal x4 + Bloodstained Cloth x2

Tiger Fangs
Meteorite x3 + Wolf Fang x8 + Primeval Fossil x3

Valiant Mail
Vitalitea x2 + Meteorite x3 + Dragon Hide x3 + Rivets x12

Superior Chain Mail
Holy Water x3 + Meteorite x3 + Silver x6 + Cashmere x3

Star Guard
Moon Pearl x1 + Orichalcum x3 + Meteorite x1

Smithery Skill Level 8

Aurora Blade
Orichalcum x3 + Laser Oscillator x1 + High-Power Generator x1

Murasame
Diligence Potion x4 + Orichalcum x3 + Scalestone x2

Kaiser Knuckles
Strength Potion x5 + Orichalcum x3 + Gold x4 + Dragon Hide x3

Reflecting Plate
Angelstone x3 + Orichalcum x3 + Philosopher’s Stone x1

Mystic Chain
Orichalcum x3 + Platinum x4 + Manacloth x3





                                                     Crafting


Crafting Skill Level 1

Sthal Cloak
Wool x3 + Hand-Spun Thread x1

Traveler’s Cloak
Lizardskin x3 + Wool x4 + Hand-Spun Thread x3

Crafting Skill Level 2

Flare Coat
Ruby x1 + Silk x2 + Taffeta Ribbon x1 + Hand-Spun Thread x1

Energy Bracelet
Lizardskin x3 + Oak x2 + High-Strength Adhesive x1

Arcane Bracelet
Silver x1 + Snakeskin x3 + High-Strength Adhesive x1

Crafting Skill Level 3

Floral Brume Wand
Blue Roses x3 + Ebony x1 + Taffeta Ribbon x1

Superior Leather
Damascus Steel x3 + Snakeskin x4 + High-Strength Adhesive x3

Crystal Robe
Crystal x1 + Velvet Ribbon x3 + Dwarven Embroidery Thread x3

Fortitude Bracelet
Fortitude Potion x3 + Crystal x1 + Gold x3

Acuity Bracelet
Acuity Potion x3 + Crystal x1 + Gold x3

Crafting Skill Level 4

Amber Mace
Amber x1 + Gnomestone x4 + Iron x4 + Velvet Ribbon x2

Angel’s Cloak
Angelstone x1 + Cashmere x2 + Dwarven Embroidery Thread x3 + Laurel Tree x1

Anti-silence Amulet
Chamomile x8 + Salamanderstone x1 + Ebony x3

Anti-fog Amulet
Jasmine x8 + Angelstone x1 + Ebony x3

Light Scarf
Light Charm x3 + Angelstone x1 + Cashmere x1

Darkness Scarf
Darkness Charm x3 + Shadestone x1 + Cashmere x1

Attack Bracelet
Strength Potion x3 + Crystal x1 + Platinum x3

Mind Bracelet
Perception Potion x3 + Crystal x1 + Platinum x3

Crafting Skill Level 5

Mystic Robe
Shadow Roses x1 + Cashmere x3 + Velvet Ribbon x3

Anti-poison Amulet
Mint x8 + Gnomestone x1 + Ebony x3

Anti-stun Amulet
Crystal x1 + Vinegar x8 + Ebony x3

Anti-curse Amulet
Lavender x8 + Shadestone x1 + Ebony x3

Extrication Ring
Robust Vitalitea x3 + Amber x1 + Sylphstone x1

Crafting Skill Level 6

Adept’s Staff
Meteorite x1 + Moon Pearl x1 + Oak x3 + Velvet Ribbon x2

Armillary Sphere
Meteorite x3 + Primeval Fossil x1

Wizard’s Robe
Manacloth x3 + Mana Ribbon x1 + Faerie Embroidery Thread x3

Anti-paralysis Amulet
Basil x8 + Sylphstone x1 + Oak x3

Anti-freezing Amulet
Cinnamon x8 + Nereidstone x1 + Oak x3

Green Talisman
Sylphstone x2 + Gnomestone x3 + Meteorite x1

Blue Talisman
Nereidstone x2 + Angelstone x3 + Meteorite x1

Red Talisman
Salamanderstone x2 + Shadestone x3 + Meteorite x1

Crafting Skill Level 7

Anti-death Amulet
Resurrection Elixir x8 + Philosopher’s Stone x1 + Ash x3

Healing Band
Red Fruit x20 + Ash x1 + Mana Ribbon x1 + High-Strength Adhesive x3

Faerie Band
Green Fruit x20 + Remex x1 + Mana Ribbon x1 + Dwarven Embroidery Thread x3

Testament to Triumph
Laurel Tree x1 + Bloodstained Cloth x3 + Gold x3

Mana Ribbon
Manacloth x3 + Faerie Embroidery Thread x2

Crafting Skill Level 8

Apocalypse
Orichalcum x3 + Ash x2 + Lesser Fiend’s Tail x3 + Mana Ribbon x1

tri-Emblem
Condemner’s Cerulean Plume x3 + Matriarch’s Resplendent Plume x1 + Moonstone x1




                                                  Cooking

Cooking Skill Level 1

Roe Rice
White Rice x3 + Roe x3

Grilled Fish
Lemon x1 + Raw Fish x1

Lemon Juice
Lemon x1 + Spring Water x2 + Nectar x3

Bunnylicious Pie
Wheat Flour x1 + Red Fruit x1 + Green Fruit x1 + Nectar x2

Cooking Skill Level 2

Minestrone
Tomato x3 + Fresh Vegetables x2 + Spring Water x1

Lemon Tart
Wheat Flour x3 + Lemon x3 + Whole Milk x1

White Bread
Wheat Flour x3 + Spring Water x2


Cooking Skill Level 3

Golden Omelet
Prehistoric Meat x1 + Common Eggs x3 + Tomato x1

Fried Fish
Wheat Flour x2 + Raw Fish x3 + Olive Oil x1

Vegetable Stir-Fry
Fresh Vegetables x3 + Prehistoric Meat x1 + Seasonings x1

Pasta Peperoncino
Wheat Flour x3 + Seasonings x2 + Olive Oil x1

Vanilla Ice Cream
Whole Milk x3 + Vanilla Beans x1

Hot Chocolate
Cocoa Powder x3 + Whole Milk x1

Cooking Skill Level 4

Curry Rice
White Rice x3 + Fresh Vegetables x3 + Prehistoric Meat x2 + Seasonings x2

Cream Stew
Wheat Flour x3 + Fresh Vegetables x3 + Tasty Mushrooms x2 + Whole Milk x1

Caesar Salad
Fresh Vegetables x3 + Lemon x1 + Olive Oil x1

Spaghetti with Roe
Wheat Flour x3 + Roe x2 + Seaweed x1 + Soy Sauce x2

Chocolate Scones
Wheat Flour x3 + Common Eggs x2 + Cocoa Powder x3

Tiramisu
Well-Aged Cheese x3 + Whole Milk x1 + Common Eggs x2 + Cocoa Powder x2

Fruit Gummies
Spring Water x3 + Nectar x4 + Gerel Secretion x3

Cooking Skill Level 5

Crab Rice Stew
Fresh Vegetables x3 + White Rice x3 + Shellfish Meat x3 + Seaweed x1

Hamburg Steak
Fresh Sage x2 + Prehistoric Meat x3 + Fresh Vegetables x1 + Common Eggs x1

Salmon Meuniere
Lemon x2 + Raw Fish x3 + Olive Oil x1 + Basil x1

Shortcake
Wheat Flour x3 + Red Fruit x1 + Common Eggs x3 + Whole Milk x3

Herb Tea
Mint x3 + Chamomile x1 + Jasmine x1 + Spring Water x2

Cooking Skill Level 6

Cheese Fondue
White Bread x3 + Fresh Vegetables x1 + Well-Aged Cheese x3

Seaweed Salad
Fresh Vegetables x3 + Seaweed x2 + Soy Sauce x1

Pasta Bolognese
Wheat Flour x3 + Tomato x3 + Prehistoric Meat x1 + Well-Aged Cheese x1

Melon Bun
White Bread x3 + Common Eggs x2 + Whole Milk x1 + Nectar x3

Mint Chocolate Chip Ice Cream
Mint x2 + Whole Milk x3 + Cocoa Powder x3

Chai Tea
Mint x3 + Cinnamon x2 + Seasonings x1 + Whole Milk x2

Cooking Skill Level 7

Grilled Steak
Prehistoric Meat x5 + Olive Oil x1 + Seasonings x1

Stink Fish
Raw Fish x3 + Soy Sauce x2 + Gerel Secretion x1 + Fermentation Pot x2

Caprese Salad
Basil x1 + Tomato x3 + Well-Aged Cheese x2 + Olive Oil x2

Seafood Hot Pot
Empyreanase x1 + Raw Fish x3 + Shellfish Meat x3 + Seaweed x2

Cooking Skill Level 8

Tears of Joysotto
Tasty Mushrooms x3 + White Rice x3 + Colorful Mushrooms x3 + Well-Aged Cheese x2

Sushi
White Rice x4 + Empyreanase x3 + Vinegar x3

Sukiyaki
Fresh Vegetables x3 + Marbled Meat x3 + Common Eggs x1 + Soy Sauce x2

Heavenly Pudding
Egg Paragon x3 + Whole Milk x2 + Nectar x1 + Vanilla Beans x2




                                                       Authoring


Authoring Skill Level 1

Lesser Demon’s Fetish
Signet Card x1 + Dark Paint x1

Earth Charm
Earth Gem x2 + Signet Card x1

Ice Charm
Ice Gem x2 + Signet Card x1

Fire Charm
Fire Gem x2 + Signet Card x1

Wind Charm
Wind Gem x2 + Signet Card x1

Signet Card: Healing
Signet Card x1 + Healing Paint x1

Signet Card: Antidote
Signet Card x1 + Healing Paint x1

Signet Card: Earth Glaive
Earth Gem x1 + Signet Card x1 + Earth Paint x1

Signet Card: Ice Needles
Ice Gem x1 + Signet Card x1 + Ice Paint x1

Signet Card: Fire Bolt
Fire Gem x1 + Signet Card x1 + Fire Paint x1

Signet Card: Wind Blade
Wind Gem x1 + Signet Card x1 + Wind Paint x1

Swordsman’s Manual I
Giant Bird Feather x1 + Parchment x1 + High-Grade Ink x3

Swordsman’s Manual II
Bee Stinger x1 + Parchment x1 + High-Grade Ink x3

Cerulean Orb Signets, Vol. 1
Parchment x1 + Earth Paint x2 + Ice Paint x2

Solar Signets, Vol. 1
Parchment x1 + Fire Paint x2 + Wind Paint x2

Restorative Signets, Vol. 1
Oak x5 + Parchment x1 + Healing Paint x2

Fae Signets, Vol. 1
Parchment x1 + Healing Paint x2 + Dwarven Embroidery Thread x3

Purification Signets, Vol. 1
Zephyr Lily x3 + Parchment x1 + Healing Paint x2

Authoring Skill Level 2

Greater Demon’s Fetish
Signet Card x1 + Dark Paint x2

Light Charm
Light Gem x2 + Signet Card x1

Darkness Charm
Darkness Gem x2 + Signet Card x1

Signet Card: Faerie Healing
Holy Water x3 + Signet Card x1 + Healing Paint x1

Signet Card: Raise Dead
Ruby x3 + Signet Card x1 + Healing Paint x2

Signet Card: Radiant Lancer
Light Gem x1 + Signet Card x1 + Light Paint x1

Signet Card: Shadow Needles
Darkness Gem x1 + Signet Card x1 + Dark Paint x1

Signet Card: Sacred Pain
Silver x1 + Signet Card x1 + Mysterious Paint x1

Signet Card: Silence
Silver x1 + Signet Card x1 + Mysterious Paint x1

Swordsman’s Manual III
Primeval Fossil x2 + Parchment x1 + High-Grade Ink x4

Swordsman’s Manual IV
Parchment x1 + Dwarven Embroidery Thread x2 + High-Grade Ink x4

Moonlight Signets, Vol. 1
Parchment x1 + Light Paint x2 + Dark Paint x3 + Velvet Ribbon x2

Pneuma Signets, Vol. 1
Ghost’s Soul x3 + Parchment x1 + Healing Paint x4

Signeturgical Book of Quietude
Parchment x1 + Mysterious Paint x4 + High-Strength Adhesive x4

Authoring Skill Level 3

Signet Card: Ex Healing
Oak x3 + Signet Card x1 + Healing Paint x1

Signet Card: Faerie Light
Ash x3 + Signet Card x1 + Healing Paint x1

Signet Card: Stone Rain
Earth Gem x2 + Signet Card x1 + Earth Paint x1

Signet Card: Deep Freeze
Ice Gem x2 + Signet Card x1 + Ice Paint x1

Signet Card: Explosion
Fire Gem x2 + Signet Card x1 + Fire Paint x1

Signet Card: Lightning Blast
Wind Gem x2 + Signet Card x1 + Wind Paint x1

Signet Card: Aurora Rings
Light Gem x2 + Signet Card x1 + Light Paint x1

Signet Card: Dark Devourer
Darkness Gem x2 + Signet Card x1 + Dark Paint x1

Signet Card: Reaping Spark
Crystal x2 + Signet Card x1 + Nil Paint x1

Swordsman’s Manual V
Parchment x1 + Bloodstained Cloth x2 + High-Grade Ink x4

Swordsman’s Manual VI
Ghost’s Soul x1 + Fine Parchment x1 + High-Grade Ink x6

Cerulean Orb Signets, Vol. 2
Crystal x2 + Parchment x1 + Earth Paint x3 + Ice Paint x3

Solar Signets, Vol. 2
Crystal x2 + Parchment x1 + Fire Paint x3 + Wind Paint x3

Moonlight Signets, Vol. 2
Moon Pearl x2 + Parchment x1 + Light Paint x3 + Dark Paint x3

The Founder’s Signets, Vol. 1
Primeval Fossil x1 + Fine Parchment x1 + Nil Paint x3

Restorative Signets, Vol. 2
Ash x5 + Fine Parchment x1 + Healing Paint x3

Fae Signets, Vol. 2
Parchment x1 + Healing Paint x2 + Faerie Embroidery Thread x3

Authoring Skill Level 4

Signet Card: Healing +
Remex x3 + Signet Card + x1 + Healing Paint x1

Signet Card: Faerie Healing +
Signet Card + x1 + Healing Paint x1 + Dwarven Embroidery Thread x2

Signet Card: Faerie Star
Signet Card x1 + Healing Paint x1 + Faerie Embroidery Thread x3

Signet Card: Antidote +
Therapeutic Tincture x3 + Signet Card + x1 + Healing Paint x1

Signet Card: Cure Condition
Crystal x3 + Signet Card x1 + Healing Paint x1

Signet Card: Earth Glaive +
Earth Gem x2 + Signet Card + x1 + Earth Paint x1

Signet Card: Terra Hammer
Earth Gem x2 + Signet Card x1 + Earth Paint x1

Signet Card: Ice Needles +
Ice Gem x2 + Signet Card + x1 + Ice Paint x1

Signet Card: Arctic Impact
Ice Gem x2 + Signet Card x1 + Ice Paint x1

Signet Card: Fire Bolt +
Fire Gem x2 + Signet Card + x1 + Fire Paint x1

Signet Card: Volcanic Burst
Fire Gem x2 + Signet Card x1 + Fire Paint x1

Signet Card: Wind Blade +
Wind Gem x2 + Signet Card + x1 + Wind Paint x1

Signet Card: Thunder Flare
Wind Gem x2 + Signet Card x1 + Wind Paint x1

Signet Card: Vampiric Blade
Darkness Gem x2 + Signet Card x1 + Dark Paint x1

Signet Card: Void
Silver x2 + Signet Card x1 + Mysterious Paint x1

Signet Card: Arcane Weapon
Silver x2 + Signet Card x1 + Mysterious Paint x1

Swordsman’s Manual VII
Remex x1 + Fine Parchment x1 + High-Grade Ink x6

Cerulean Orb Signets, Vol. 3
Gnomestone x3 + Nereidstone x3 + Fine Parchment x1

Solar Signets, Vol. 3
Fine Parchment x1 + Fire Paint x3 + Wind Paint x3

Moonlight Signets, Vol. 3
Angelstone x3 + Shadestone x3 + Fine Parchment x1

Fae Signets, Vol. 3
Sylphstone x3 + Fine Parchment x1 + Healing Paint x2

Purification Signets, Vol. 2
Scalestone x3 + Fine Parchment x1 + Healing Paint x2

Authoring Skill Level 5

Signet Card: Raise Dead +
Signet Card + x1 + Healing Paint x2

Signet Card: Resurrection
Blue Roses x3 + Signet Card x1 + Healing Paint x2

Signet Card: Tornado
Wind Gem x2 + Signet Card x1 + Wind Paint x1

Signet Card: Radiant Lancer +
Light Gem x2 + Signet Card + x1 + Light Paint x1

Signet Card: Sunflare
Light Gem x2 + Signet Card x1 + Light Paint x1

Signet Card: Shadow Needles +
Darkness Gem x2 + Signet Card + x1 + Dark Paint x1

Signet Card: Divine Wave
Crystal x2 + Signet Card x1 + Nil Paint x1

Signet Card: Extinction
Crystal x2 + Signet Card x1 + Nil Paint x1

Signet Card: Sacred Pain +
Silver x2 + Signet Card + x1 + Mysterious Paint x1

Signet Card: Silence +
Silver x2 + Signet Card + x1 + Mysterious Paint x1

Swordsman’s Manual VIII
Laurel Tree x1 + Fine Parchment x1 + High-Grade Ink x6

Solar Signets, Vol. 4
Salamanderstone x3 + Sylphstone x3 + Fine Parchment x1

The Founder’s Signets, Vol. 2
Philosopher’s Stone x1 + Fine Parchment x1 + Nil Paint x3

Pneuma Signets, Vol. 2
Numinous Tincture x3 + Fine Parchment x1 + Healing Paint x4

Authoring Skill Level 6

Signet Card: Ex Healing +
Signet Card + x1 + Healing Paint x1

Signet Card: Faerie Light +
Signet Card + x1 + Healing Paint x1

Signet Card: Stone Rain +
Earth Gem x2 + Signet Card + x1 + Earth Paint x2

Signet Card: Deep Freeze +
Ice Gem x2 + Signet Card + x1 + Ice Paint x2

Signet Card: Explosion +
Fire Gem x2 + Signet Card + x1 + Fire Paint x2

Signet Card: Lightning Blast +
Wind Gem x2 + Signet Card + x1 + Wind Paint x2

Signet Card: Aurora Rings +
Light Gem x2 + Signet Card + x1 + Light Paint x2

Signet Card: Dark Devourer +
Darkness Gem x2 + Signet Card + x1 + Dark Paint x2

Signet Card: Reaping Spark +
Crystal x2 + Signet Card + x1 + Nil Paint x2

Authoring Skill Level 7

Signet Card: Faerie Star +
Primeval Fossil x3 + Signet Card + x1 + Healing Paint x1

Signet Card: Cure Condition +
Amber x3 + Signet Card + x1 + Healing Paint x1

Signet Card: Terra Hammer +
Earth Gem x3 + Signet Card + x1 + Earth Paint x3

Signet Card: Arctic Impact +
Ice Gem x3 + Signet Card + x1 + Ice Paint x2

Signet Card: Volcanic Burst +
Fire Gem x3 + Signet Card + x1 + Fire Paint x2

Signet Card: Thunder Flare +
Wind Gem x3 + Signet Card + x1 + Wind Paint x2

Signet Card: Vampiric Blade +
Darkness Gem x3 + Signet Card + x1 + Dark Paint x2

Signet Card: Void +
Silver x3 + Signet Card + x1 + Mysterious Paint x2

Signet Card: Arcane Weapon +
Silver x3 + Signet Card + x1 + Mysterious Paint x2

Authoring Skill Level 8

Signet Card: Tornado +
Wind Gem x3 + Signet Card + x1 + Wind Paint x2

Signet Card: Sunflare +
Light Gem x3 + Signet Card + x1 + Light Paint x2

Signet Card: Divine Wave +
Crystal x3 + Signet Card + x1 + Nil Paint x3

Signet Card: Extinction +
Crystal x3 + Signet Card + x1 + Nil Paint x3




                                                         Alchemy


Alchemy Skill Level 1

Aquaberries
Blueberries x1 + Mint x1

Healing Paint
Mixed Syrup x2 + Spring Water x1 + High-Strength Adhesive x1

Alchemy Skill Level 2

Silver
Mercury x3 + Holy Water x2

Earth Paint
Iron x2 + Spring Water x1 + High-Strength Adhesive x1

Ice Paint
Blue Roses x2 + Spring Water x1 + High-Strength Adhesive x1

High-Grade Ink
Spring Water x1 + Coal x3

Holy Water
Spring Water x3 + Zephyr Lily x1

High-Strength Adhesive
Gerel Secretion x1 + Peryton Droppings x1

Alchemy Skill Level 3

Conflagrant Soul
Fire Gem x3 + Zephyr Lily x2

Vatic Looking Glass
Crystal x1 + Darkness Gem x2 + Platinum x1 + Reinforced Gunpowder x2

Gold
Silver x3 + Alchemist’s Water x2

Fire Paint
Red Fruit x2 + Spring Water x1 + High-Strength Adhesive x1

Wind Paint
Giant Bird Feather x2 + Spring Water x1 + High-Strength Adhesive x1

Mysterious Paint
Strength Potion x2 + Spring Water x1 + High-Strength Adhesive x1

Alchemy Skill Level 4

Infernal Gaze
Shadestone x4 + Mati x1 + Demon’s Tail x3

Platinum
Gold x3 + Silver x2 + Alchemist’s Water x2

Light Paint
Mercury x2 + Spring Water x1 + High-Strength Adhesive x1

Dark Paint
Demon’s Tail x2 + Spring Water x1 + High-Strength Adhesive x1

Reinforced Gunpowder
Gunpowder x3 + Coal x2

Alchemy Skill Level 5

Orb of Antiquity
Amber x1 + Mythril x3 + Primeval Fossil x2

Mythril
Platinum x6 + Alchemist’s Water x2

Gnomestone
Amber x3 + Earth Gem x2 + Alchemist’s Water x1

Nereidstone
Scalestone x3 + Ice Gem x2 + Alchemist’s Water x1

Nil Paint
Moon Pearl x2 + Spring Water x1 + High-Strength Adhesive x1

Alchemy Skill Level 6

Meteorite
Primeval Fossil x4 + Mythril x3 + Alchemist’s Water x2

Salamanderstone
Dragon Scales x3 + Fire Gem x2 + Alchemist’s Water x1

Sylphstone
Remex x3 + Wind Gem x2 + Alchemist’s Water x1

Alchemy Skill Level 7

Philosopher’s Stone
Mercury x8 + Meteorite x1 + Gunpowder x4 + Lezard’s Flask x2

Angelstone
Laurel Tree x3 + Light Gem x2 + Alchemist’s Water x1

Shadestone
Ghost’s Soul x3 + Darkness Gem x2 + Alchemist’s Water x1

Alchemy Skill Level 8

Dragon’s Den
Salamanderstone x3 + Orichalcum x3 + Dragon God Scales x1

Grumpy Homunculus
Attack Seeds x1 + Philosopher’s Stone x1 + Lezard’s Flask x1

Astute Homunculus
Intelligence Seeds x1 + Philosopher’s Stone x1 + Lezard’s Flask x1

Protective Homunculus
Defense Seeds x1 + Philosopher’s Stone x1 + Lezard’s Flask x1

Poised Homunculus
Mentality Seeds x1 + Philosopher’s Stone x1 + Lezard’s Flask x1