วันอังคารที่ 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562

บทสรุป Death Stranding



                                      บทสรุป Death Stranding

                                                  By Decibel per oxide



“The Rope” and “The Stick,” together, are one of humankind’s oldest “tools.” “The Stick” is for keeping evil away; “The Rope” is for pulling good toward us; these are the first friends the human race invented. Wherever you find humans, “The Rope” and “The Stick” also exist.


" เชือก” และ“ กิ่งไม้” คือเครื่องมือที่เก่าแก่ที่สุดของมนุษยชาติเหมือนกัน "กิ่งไม้" มีไว้เพื่อกำจัดความชั่วร้าย “ เชือก” มีไว้เพื่อดึงสิ่งดีๆมาสู่ตัวเรา สิ่งเหล่านี้เป็นเพื่อนคนแรกที่มนุษย์ชาติประดิษฐ์ขึ้น ไม่ว่าคุณจะพบมนุษย์ที่ไหนที่นั่นก็จะมี “เชือก” และ“ กิ่งไม้” อยู่ด้วยเสมอ 
.
จากเรื่องสั้นเรื่อง “Nawa” (“The Rope”) ของ Kobo Abe นักเขียนชาวญี่ปุ่น
https://medium.com/@108/nawa-the-rope-by-kobo-abe-19db9afa6dd3




                       The 6th  extinction of Death Stranding


                                                เมื่อครั้งนึงที่เคยมีการระเบิด
                                       แรงระเบิดได้ให้กำเนิดเวลาและจักรวาล
                                               เมื่อครั้งนึงที่เคยมีการระเบิด
                            แรงระเบิดทำให้ดาวเคราะห์ในจักรวาลหมุนรอบตัวเอง 
                                               เมื่อครั้งนึงที่เคยมีการระเบิด
                                      แรงระเบิดก่อให้เกิดชีวิตอย่างที่เรารู้ๆกัน
                                       แล้วจากนั้นก็เกิด การระเบิด อีกครั้ง 
                             แรงระเบิดในครั้งนี้จะทำให้มนุษย์เข้าสู่สภาวะการสูญพันธ์ 




โลกที่เป็นเสมือนบ้านหลังใหญ่ให้กับสรรพชีวิตมานานกว่า 3.5 พันล้านปี แต่ที่ผ่านมาก็ได้เกิดหายนะจากฝีมือธรรมชาติที่ทำให้เกิดการสูญพันธุ์ของสิ่งมีชีวิตครั้งใหญ่มาแล้วถึง 5 ครั้งในตลอด 500 ล้านปี และแต่ละครั้งก็กวาดสายพันธุ์สิ่งมีชีวิตราว 50-90 เปอร์เซ็นต์ไปจากโลก ดั่งสัจธรรมของธรรมชาติที่จุดจบของอีกชีวิต ก็ยังเป็นจุดเริ่มต้นของอีกหลายชีวิต ที่แตกหน่อแผ่กิ่งก้านสาขาในช่วงเปลี่ยนผ่าน ผลัดมือผู้ครอบครองไปไม่รู้จบ
ครั้งที่ 1 สิ้นยุคออร์โดวิเชียน (End-Ordovician) 443 ล้านปีก่อน มหาสมุทรกลายเป็นน้ำแข็ง สิ่งมีชีวิตที่อาศัยอยู่ในน้ำมลายสิ้น
ครั้งที่ 2 ปลายยุคดีโวเนียน (Late Devonian) 360 ล้านปีก่อน ภูมิอากาศแปรปรวน ส่งผลให้สิ่งมีชีวิตที่อาศัยในลุ่มน้ำตื้นสูญพันธ์
ครั้งที่ 3 ระหว่างยุคเพอร์เมียน-ไทรแอสซิก (Permian-Triassic) 250 ล้านปีก่อน
เกิดจากการปะทุของภูเขาไฟที่รุนแรงและเป็นเวลานานในบริเวณไซบีเรีย กวาดสิ่งมีชีวิตไปเกือบ 90% รวมไปถึงแมลงขนาดใหญ่และไทรโลไบต์ให้สูญพันธ์
 ครั้งที่ 4 ระหว่างยุคไทรแอสซิก-จูราสสิค (Triassic-Jurassic) 200 ล้านปีก่อน เกิดจากการปะทุของภูเขาไฟที่รุนแรงอีกครั้งทำให้บรรดาสัตว์เลื้อยคลานที่อาศัยอยู่ในน้ำและ ไดโนเสาร์ บางสายพันธ์สูญพันธ์
ครั้งที่ 5 ระหว่างยุคครีเทเชียส-เทอร์เทียรี (Cretaceous-Tertiary) 65 ล้านปีก่อนเกิดอุกกาบาตขนาดยักษ์ตกลงสู่โลกกระแทกโลกพร้อมๆ กับการปะทุของภูเขาไฟครั้งใหญ่ไดโนเสาร์และเหล่าแอมโมไนต์สูญพันธ์ทั้งหมด



เราอุปมาความล่มสลายครั้งใหญ่ซึ่งนำมาให้อารยะธรรมชีวิตต้องสูญพันธ์ทั้ง 5 ที่ผ่านมาว่า Death Stranding .......

แต่สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมก็ได้ใช้โอกาสนี้วิวัฒนพัฒนาการกลายเป็นอาณาจักรของสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่า มนุษย์ ที่ซับซ้อนและยิ่งใหญ่จวบจนทุกวันนี้



แต่ทว่า โลก ในอนาคตก็ได้เกิดเหตุระเบิดลึกลับขึ้นอีกครั้ง แรงระเบิดทำให้เกิดสะพานเชื่อมโลกสองโลกเข้าหากันกลายเป็น โลก กับ โลกอีกด้าน อณาจักรกลับหัวที่โลกทั้งสองเชื่อมต่อกันทางมหาสมุทรเป็นประตู ซึ่งมันได้นำพาหายนะจากอีกโลกอีกด้านให้ผ่านเข้ามา




Timefall ฝนแห่งความตายจากโลกอีกด้านที่ปะปนไปด้วยละออง Chiralium ซึ่งเป็นพิษต่อผิวหนังของสิ่งมีชีวิตทุกชนิดที่มาพร้อม





สิ่งมีชีวิตประหลาดที่เรียกกันว่า BTs (Beached things) ที่ไม่สามารถมองด้วยตาเปล่าเห็นเกิดขึ้นมาพร้อมๆกับฝนคือเครื่องมือเพื่อการทำลายล้างในครั้งนี้ได้ผลอันสมบูรณ์



 โดย BTs ประเภท Hunter จะออกไล่ล่ามนุษย์เพื่อจับไปให้ “catcher” BTs ขนาดยักษ์ที่สามารถกลืนกินมนุษย์ได้จำนวนมาก ซึ่งมนุษย์ที่ถูก BTs ฆ่าตายจะทำให้เกิดการระเบิดที่เรียกว่า voidout ที่สร้างความเสียหายอย่างรุนแรงกับพื้นที่โดยรอบพร้อมกับการเกิดฝุ่นผง Chiral dust กระจายขึ้นไปในอากาศที่จะเป็นตัวกระตุ้นให้ฝน Timefall เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วและรุนแรงขึ้นกว่าเดิม การ voidout ที่รุนแรงซ้ำแล้วซ้ำเล่า นำมาซึ่งความตายของมนุษย์จำนวนมาก ว่ากันว่า การ voidout ระเบิดสิ้นในครั้งสุดท้ายที่จะนำมาซึ่งการสูญพันธ์ของมนุษย์อย่างเบร็จเสร็จกำลังจะเกิดขึ้นในช้านี้ 

Extinction Entity (EE) ทฤษฎีอำนาจในการทำลายล้างครั้งใหม่ได้ถูกค้นพบ มวลมนุษยชาติและทุกสิ่งมีชีวิตทั้งหมดที่เหลือบนโลกให้สูญพันธุ์ในระดับวิญญาณผ่านทางช่องทางระหว่างสองโลก จนทำให้เกิดการสูญพันธุ์ครั้งใหญ่ครั้งที่ 6 ที่ว่ากันว่ามันคือ Biological Annihilation หรือ การทำลายล้างทางชีวภาพ โดยมีอัตราประชากรของสิ่งมีชีวิตทั่วโลกลดลงอย่างรวดเร็วจากฝีมือมนุษย์ให้ผิดไปจากทฤษฏีที่ผู้มีสติปัญญาเคยวิเคราะห์ไว้ก่อนหน้า เปลี่ยนเป็น Death Stranding ครั้งใหม่ที่จะทำให้ไม่เหลือแม้เงาของสิ่งมีชีวิตบนโลกอีกต่อไป

ข้อมูลประกอบบทความ
https://thematter.co/science-tech/the-6th-extinction-in-brief/29923
http://www.powerpyx.com/death-stranding-all-terminology-explained/#ee



          


                       Sam – บ้าเอ้ย !! ... ไม่ๆๆๆ ไม่นะ !! 

เมื่อ Sam ต้องสูญเสียมอเตอร์ไซด์สำหรับเดินทางเนื่องจากเสียหลักเพราะหลบหญิงสาวชุดดำที่มายืนขวางทางจนทำให้รถตกเหวก่อนที่เธอจะเทเลพอร์ทตัวเองหายไป


                                           เรียนรู้การใช้ Cargo Scanner 

R1 –ใช้อุปกรณ์ Odradek สแกนพื้นที่เพื่อตรวจหาตำหน่งของไอเทมและสินค้าที่ตกในพื้นที่ ทำให้ไอเทมและสินค้านั้นๆถูกระบุเอาไว้ในแผนที่ให้เห็น

สแกนหาสินค้าที่ตกหล่นในพื้นที่ให้พบแล้วเดินเข้าไปเก็บมาให้หมดก่อนที่ Sam จะมาหยุดอยู่ที่ถ้ำขนาดใหญ่ที่คิดว่าพอจะหลบฝนได้



                 Sam – อ่า ถ้ำ .. ที่นี่น่าจะใช้หลบฝนได้ซักพัก ..



                                                  PROLOGUE

                                                     “PORTER”









             
Fragile - ชั้นคิดว่ามันคงไปแล้วล่ะ ... 
Sam - ห๊ะ !
Fragile - เป็นบ้าอะไรเนี่ย ? ... ชั้นก็ว่าไม่ได้จับอะไรแรงซักหน่อย ..น้ำตาหรอ ? .. "chiral allergy" สินะ ..
งั้นนายก็มีความสามารถของ DOOMS เหมือนชั้น

                                            โรคภูมิแพ้ ไคร์ล (chiral allergy)

สำหรับผู้ที่เป็นโรคนี้ เมื่อเข้าใกล้ BTs (Beached things)  แม้ว่าจะไม่เห็นตัวพวกมัน แต่ฝุ่นผง Chiral dust ที่ติดตัวพวกมันมาทำให้ ผู้ที่เป็นโรคนี้เกิดต่อต้านจนมีอาการผื่นแดงขึ้นตามตัวและมีน้ำตาไหลออกมา



หรืออีกนัย chiral allergy ก็คือหนึ่งในความสามารถของ Doom Ability สืบเนื่องจาก chiral นั้นเป็นศัพท์ที่หมายถึง โมเลกุลเสมือน  อุปมาอุปมัยได้ว่าคือ โมเลกุลที่เมื่อเอาตัวโมเลกุลไปส่องกระจกแล้วโครงสร้างที่ปรากฏในกระจกจะไม่เป็นอันเดียวกับโมเลกุลตัวแม่ เหมือนกับเอามือขวาที่เอาไปส่องกระจกก็จะเห็นเป็นมือซ้าย อาจสื่อถึงความเชื่อมต่อของผู้ที่ได้รับความ Doom Ability ที่สามารถเชื่อมต่อกับพวก BTs 

http://www.trueplookpanya.com/new/asktrueplookpanya/questiondetail/1594


                                                  ** DOOMS **

มนุษย์ที่รอดตายจากการระเบิดที่เรียกว่า voidout  จะฟื้นคืนมาพร้อมความสามารถใหม่ที่เรียกว่า DOOM Ability ที่ติดตัวกลับมาในระดับที่ต่างกัน


Sam – ชั้นมีความสามารถ extinction factor (ความสามารถในการรับรู้โดยไม่ต้องใช้อุปกรณ์) น่ะ แต่ ชั้นว่าเธอไม่ต้องรู้เรื่องของชั้นจะดีกว่า 
Fragile – นายเลเวลอะไรหรอ? ...นายเห็นพวกมันหรอ?
Sam – เปล่า แต่ชั้นสัมผัสถึงพวกมันได้ 
Fragile – งั้นก็เลเวล 2 
Sam – แล้วเธอมาทำอะไรที่นี่ห๊ะ ?
Fragile – ก็พยายามทำตัวให้แห้งไว้เหมือนกับนายนั่นแหละ 

    
Fragile – อ่อ ชั้นชื่อ Fragile
Sam – เออ เคยได้ยินชื่ออยู่ ..
 Fragile – โอ้ งั้นหรอ? .. Sam Porter Bridges ชายผู้ส่งของ 



 Fragile – เอานี่หน่อยมั๊ย? Cryptobiote ช่วยป้องกัน Timefall ได้ดีเลยนะ  ว่าแต่ .. นายต้องหาทางอยู่รอดอย่างตัวคนเดียวแบบนี้ อยากจะมาทำงานกับชั้นมั๊ยล่ะ?
Sam – หรอ ชั้นนึกว่า Fragile Express มีคนอยู่เพียบแล้วซะอีก 



Fragile – ตอนนี้พวกเรามีเหลือไม่มากแล้ว เหลือคนฝีมือดีๆอยู่ไม่กี่คนหรอก ยิ่งกว่านั้น ชั้นเองก็แทบไม่ไหวแล้ว เปียกโชกตั้งแต่คอจนถึงปลายเท้า 



Sam – ชั้นคงช่วยอะไรไม่ได้หรอกนะ ...ชั้นมันก็แค่คนส่งของธรรมดาๆแค่นั้นเอง
ศูนย์ Bridges – ศูนย์ Bridges ถึงคนส่งของอิสระ Sam Porter Bridges ตอนนี้ผู้รับกำลังรออยู่


Fragile – จะเข้าเมืองงั้นสินะ?  ระวังตัวด้วยล่ะ พวกมันไม่เคยหายไปนานหรอก แม้ Timefall จะทำลายทุกอย่างที่มันผ่านไป แต่มันก็ไม่สามารถชำระล้างทุกอย่างได้หรอก อย่างเช่น ..อดีตที่ไม่มีวันลืมเลือน 



            Fragile –   แล้วเจอกันนะ .. Sam Porter Bridges





                                [Order 1] Smart Drug Delivery



เมื่อออกมานอกถ้ำแล้ว กด R1 ใช้อุปกรณ์ Odradek สแกนพื้นที่เพื่อตรวจหาตำแหน่งของไอเทมและสินค้าที่ตกในพื้นที่ เป้าหมายของภารกิจตามออเดอร์คือ Smart Drug 4 ชิ้น



เทคนิคในการทำให้การแบบสินค้าได้อย่าง Balance คือการกด L2 + R2 ระหว่างผ่านแม่น้ำหรือพื้นที่ที่ขรุขระ เพื่อป้องกันไม่ให้สินค้าถูกกระแทกเสียหายจากการล้ม โดยความเสียหายของสินค้าสามารถดูได้จากแถมเทปกาว Impact band ที่แปะบนแพ็คสินค้าจากสีเหลืองกลายเป็นสีแดง


ในกรณีที่แบกสินค้าในจำนวนที่มากเกินไปจะทำให้ยากต่อการควบคุม Balance ขณะเดินทาง สามารถกดสามเหลี่ยมเพื่อเข้าเมนู Offload Cargo เพื่อคัดสินค้าที่ไม่สำคัญออก(หรือนำเก็บไว้ใน private locker เพื่อกันการสูญหายและสามารถนำไปส่งที่จุดส่งสินค้าในภายหลัง) เพื่อทำให้การแบกบรรทุกเบาลงและทำให้ง่ายต่อการควบคุม Balance ได้ดีขึ้น


เมื่อทำการค้นหาไอเทม Smart Drug ตามออเดอร์ครบ 3 ชิ้นแล้วก็อย่าลืมเก็บ Lost Cargo ที่ตกหล่นในพื้นที่มาด้วย จากนั้นก็มุ่งหน้าไปยังเป้าหมายที่จุดนำส่งสินค้าที่ Delivery Center ใน Central Knot City ได้เลย


                             Delivery Terminal



เข้าไปที่ Delivery Terminal แล้วกดสี่เหลี่ยมเพื่อ Drop สินค้า แล้วเลือกสินค้าที่นำส่งตามออเดอร์ (Deliver requested Cargo) และสินค้าอื่นๆที่เก็บมาได้เพื่อนำส่งได้เลย โดยชนิดของสินค้าต่างๆจะประกอบด้วย

1. Complete Order – คือสินค้าที่นำส่งตามออเดอร์ที่สั่ง จะมีสัญลักษณ์เป็นรูปดาว
2. partial delivery – คือสินค้าที่เป็นการส่งมอบแค่บางส่วน
3. Lost Cargo – คือสินค้าที่สูญหายสำหรับนำส่งคืนเจ้าของ




Mama – ทำไมนานนักล่ะ? ระดับตำนานไม่น่าจะนำส่งล่าช้าขนาดนี้
Sam – พอดีติดพายุนิดหน่อย แล้วรถของหายไปแล้วด้วย  
Mama – ดูเหมือนคุณเพิ่งจะผ่านเรื่องที่ยากลำบากมาสินะ .. แต่ก็ถือว่าโชคดีที่สินค้าที่เราได้มาอยู่ในสภาพสมบูรณ์ แม้จะต้องรอนานหน่อยก็เถอะ ยังไงซะก็ ทำงานได้ดีมาก เราจะรอสินค้าที่จะนำส่งล็อตต่อไปนะ 


                                                        RESULT 

              การประเมินผลการขนส่งสินค้านั้นประเมินจากคะแนนด้านต่างๆประกอบด้วย

Delivery Completed การนำส่งสินค้าที่สั่งสำเร็จ
Quantity จำนวนของสินค้าที่สั่ง
Average Cargo Damage ความสมบูรณ์ของสินค้าที่นำส่ง
additional Like คะแนนความชื่นชมเพิ่มเติม (ระยะเวลาที่ใช้ในการเดินทางทั้งหมด)
Simultaneous Delivery คะแนนความพร้อมเพรียงในการขนส่ง (น้ำหนักรวมทั้งหมดต่อการนำส่งหนึ่งครั้ง)
Delivered Lost Cargo คะแนนจากการนำส่งสินค้าที่สูญหาย
- ชนิดของ Lost Cargo ที่นำส่ง
- Cargo Damage Percentage เปอร์เซ็นต์ความเสียหายของสินค้า
- Remaining Distance ระยะทางในการนำส่งสินค้น
- Total Delivery Weight Bonuses คะแนนโบนัสจากความพร้อมเพรียงในการขนส่ง (น้ำหนักรวมทั้งหมดต่อการนำส่งหนึ่งครั้ง)

คะแนนรวมทั้งหมด คือ คะแนนความชื่นชมจากการขนส่งสินค้าเสร็จสิ้นสมบูรณ์ จะไปรวมอยู่ในคะแนน Like from Recipient หรือคะแนนความชื่นชมจากผู้รับสินค้า ของ SAM



                                                PORTER GRADE 

คะแนนโดยรวมทั้งหมดที่ Sam ได้รับจากภารกิจจะส่งผลไปถึง สถิติการทำงาน ของเขาประกอบด้วย
Total Play Time คะแนนรวมจากระยะเวลาในการส่งสินค้า
Total weight of Cargo Delivered คะแนนรวมจากน้ำหนักรวมของสินค้าทั้งหมดที่นำส่ง
Total Pieces of Cargo Delivered คะแนนรวมจากจำนวนสินค้าทั้งหมดที่นำส่ง
Total Distance Traveled คะแนนรวมจากระยะทางในการส่งสินค้า

โดยคะแนนรวมจาก สถิติการทำงาน จะส่งผลไปถึงกราฟสเตตัสการทำงานของ SAM ประกอบด้วย
Bridge Link การเชื่อมต่อของ Bridge
Delivery Time ระยะเวลาในการขนส่ง
Delivery Volume จำนวนของสินค้าในการขนส่งต่อครั้ง
Cargo Condition ความสมบูรณ์ของสินค้าที่นำส่ง
Miscellaneous  เบ็ดเตล็ด

------------------------------------------------------------------------------------------------------------



           มีการว่าจ้างเพิ่มเติมพิเศษสำหรับ Sam Porter Bridges ลำดับความสำคัญระดับ หนึ่ง



Igor – สวัสดีครับผม Igor จากแผนกกำจัดซากศพของ Bridges คุณน่าจะเป็น Sam Porter สินะครับ ... โอเค ไม่ต้องจับมือก็ได้ .. ในเอกสารบอกว่าคุณเป็นพวกประเภทหวาดกลัวอะไรซักอย่าง
Sam - แผนกกำจัดซากศพของ Bridges หรอ? ตกลงมันเกิดเรื่องอะไรขึ้น? 
Igor – มาดูนี่สิ เรากำลังขนย้ายศพนั่นอยู่ ผมจะอธิบายให้ฟังขณะเราเดินทางก็แล้วกัน 



Igor – เขามีนัดกับเจ้าหน้าที่เตาเผา (incinerator) เร็วๆนี้แหละ
Sam – ตายมานานแค่ไหนแล้ว ?
Igor – เรายังไม่ได้ทดสอบหาเวลาการตายที่แน่นอน แต่เท่าที่คาดเดาได้ก็น่าจะมากกว่าสี่สิบชั่วโมง .. 
Sam –  เขาไม่ได้ถูกกักกันหรอ?
Igor – เขาไม่ได้ปวย เขาฆ่าตัวตายน่ะ
Sam –   พระเจ้า ...
Igor – ถือว่าโชคดีที่เราไปเจอเขา ...เราเจอเขาบนพื้นที่น้ำแข็งเมื่อไม่นานนี้ ทันทีที่ได้รับแจ้งเราก็รีบไปนำตัวเขามาทันที แต่ใครจะรู้ว่าเขาไป “go necro” เมื่อไหร่ 


เมื่อพวก BTs ประเภท Hunter ออกไล่ล่ามนุษย์เพื่อจับไปให้ “catcher” BTs ขนาดยักษ์ที่สามารถกลืนกินวิญญาณมนุษย์ได้จำนวนมาก ซึ่งเมื่อ   “catcher”  ได้ดูดวิญญาณมนุษย์ไปมากพอก็จะทำให้เกิดการระเบิดที่เรียกว่า voidout ที่สร้างความเสียหายอย่างรุนแรงกับพื้นที่โดยรอบพร้อม ส่วนศพของมนุษย์ที่ตายจากการ voidout จะเกิดการระเบิดสลายตัวเองที่เรียกว่า  “go necro” (หรือการไปสู่โลกแห่งความตายที่แท้จริงที่เรียกว่า Stages of necrosis ) ภายใน 24 ชั่วโมง การสลายตัวของศพมนุษย์ที่ถูก BT’s ฆ่าตายไม่ว่าด้วยการปล่อยให้สลายตัวเองหรือนำไปเผา (แบบไม่ผ่านกระบวนการขวบคุม จะทำให้เกิดฝุ่นผง Chiral dust ที่เรียกว่า Chiralium กระจายขึ้นไปในอากาศที่จะเป็นตัวกระตุ้นให้ฝน Timefall เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วและรุนแรงขึ้นกว่าเดิม ก่อนที่พวกเขาจะฟื้นคืนกลับมากลายเป็น BT’s ภายใน 40 ชั่วโมง 

ทาง Bridges จึงต้องมีหน่วยงานสำหรับเก็บและทำลายศพ ( Corpse Disposition) เพื่อนำศพของมนุษย์ที่ตายจากการ voidout หรือถูก BTs ฆ่าตายไปเผาที่เตาเผาขยะนอกเมืองเพื่อป้องกันศพเกิดการระเบิด นั่นเป็นเหตุผลที่แซมที่มีความสามารถของ DOOM Ability  ไม่ได้รับอนุญาตให้ฆ่าใครในเกม เพราะหากเขาฆ่ามนุษย์พวกเขาจะระเบิดสร้างความเสียหายกับบริเวณใกล้เคียง
http://www.powerpyx.com/death-stranding-voidouts-explained/



Sam –  คุณเจอศพเขาที่ไหน?
Igor – ใกล้ๆกับเตาเผาขยะทางเหนือ 
Sam - เส้นทางนี้มีด้วยพวก BTs เต็มไปหมดเลย แน่ใจนะว่าคุณจะไม่ลองหาเส้นทางอื่นดู?
 Igor – ก็อยากหาทางอื่นอยู่หรอกแต่ เวลามันจะไม่มีแล้วน่ะสิ 
Sam – งั้นก็เผามันซะที่นี่เลยสิ 
Igor – แล้ว Chiralium ก็จะฟุ้งขึ้นไปในอากาศใกล้ๆเมืองแบบนี้อ่ะนะ ผมทำไม่ได้หรอก
Sam – มันมีทางที่ดีกว่าต้องพยายามไปให้ถึงเตาเผาบ้างมั๊ยเนี่ย?
 Igor – เฮ้ ฟังนะ เราทำได้อยู่แล้วน่า เราแค่ต้องการใครซักคนที่มี Doom Ability อย่างคนแค่นั้นเอง 



Sam – เขากำลังเริ่มเข้าสู่โลกแห่งความตายที่แท้จริง (Stages of necrosis ) แล้ว ถ้าไม่รีบ ที่นี่กลายเป็นหลุมขนาดใหญ่แน่นอน 
Igor – งั้นเราก็ต้องแข่งกับเวลากันแล้ว ... เราไว้ใจคุณได้ใช่มั๊ย?
Sam – อืมม ..
Igor – งั้นทาง Bridges ก็ขอทำสัญญาจ้างกับคุณเลยนะ Sam Porter 
Sam – เรียก Sam เฉยๆก็พอ ..แล้วผมก็ระบุตำแหน่งของ BTs อย่างชัดเจนไม่ได้หรอกนะ แค่มีเซนต์รับรู้ได้ตอนมันเข้ามาใกล้ แค่นั้น 
Igor – เพราะงั้นเราถึงต้องเตรียมพร้อมเอาไว้ไง
Sam -  Bridge Baby สินะ 



Igor – มันทำให้ผมรู้สึกแย่ทุกทีเลย 
Sam – ก็นะ ก็คุณกำลังเสียบปลั๊กเชื่อมต่อไปยัง โลกอีกด้าน เป็นผมก็คงสติแตกเหมือนกัน
Igor – เอาล่ะ ไปกันได้แล้ว ออกรถเลย !!


Igor – โลกเดี๋ยวนี้มันต่างจากสมัยที่ผมยังเป็นเด็กเยอะเลย อเมริกาเคยเป็นดินแดนที่ใครอยากจะไปไหนก็ได้ตามใจชอบ ไม่ต้องใช้บริการของผู้ส่งสาส์แบบนายเลย เรามีถนนไฮเวย์ สนามบิน ที่จะไปประเทศอื่นๆได้อย่างสบายๆ นึกภาพไม่ออกเลยว่ามันจะเปลี่ยนมาเป็นได้เหมือนตอนนี้ ก็อย่างที่นายเห็น Death Stranding ทำให้เราแทบที่จะต้องมาขุดรูอยู่แบบนี้ แม่งเกินกว่าที่เราจะรับได้จริงๆ และถ้าคุณโชคดีพอที่จะมีชีวิตรอดอยู่ได้ คุณก็จะเจอไอ้ฝนนรก Timefall ตามมาชำระล้างให้สิ้นไปอยู่ดี 
Sam – แล้วจากนั้นไอ้พวกตัวประหลาดก็โผล่มาจากชายหาดนั่น 
Igor – โลกของสิ่งมีชีวิตและความตายก็เลยผสมกลมกลืนกันตั้งแต่นั้น และพวกนั้นก็เริ่มสร้างเมืองนี้ขึ้นมา แล้วคนส่งของแบบคุณก็ขึ้นแท่นเป็นเบอร์หนึ่งที่ผู้คนต้องการขึ้นมา ...สายรุ้งนั่น ไอ้ฝนบ้านั่นมาแล้ว !
Sam – อีกไกลแค่ไหนถึงจะถึงเตาเผาเนี่ย !?
Igor – บ้าเอ้ย เราคงต้องขับรถฝ่าพวก BTs กันแล้ว



Igor – บ้าเอ้ย เครื่องมาดับอะไรตอนนี้ !! 
Sam – แบบนี้ไอ้พวกบ้านั่นก็เข้ามาถึงตัวเราได้สบายเลยสิ พาเราออกไปจากที่นี่เร็ว !
Igor – Sam คุณเห็นอะไรบ้างรึเปล่า? 
Sam – ไม่ ไม่เห็นอะไรเลย
Igor – แบบนี้ BB คงถูกจับไม่ก็ต้องโดนอะไรซักอย่างแน่เลย ..




                              คนขับ – อ๊ากกกกกก !!!




                                    คนขับ – อ๊าก !!


Igor – บ้าเอ้ย พวกมันอยู่ที่นี่ด้วย ใจเย็นพวก ชั้นจะช่วยดึงนายออกมาให้ได้ ............. Sam !! 
Sam – อย่าส่งเสียง กลั้นหายใจเอาไว้ ..



ศพของมนุษย์ที่ตายจากการ voidout หรือถูก BT’s ฆ่าตายจะเกิดการสลายตัวเองที่เรียกว่า  “go necro” (หรือการไปสู่โลกแห่งความตายที่แท้จริงที่เรียกว่า Stages of necrosis ) ภายใน 24-48 ชั่วโมง ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับว่าศพถูกเก็บรักษาอย่างไร ซึ่งถ้าศพใส่น้ำแข็งเอาจะใช้เวลาประมาณ 40 ชั่วโมงก่อนจะเกิดการสลายตัว


 แต่หากปล่อยให้ศพสลายตัวเองโดยไม่ได้กำจัดหรือทำลาย  เมื่อร่างกายของศพ (Ha) เริ่มสลายจะปล่อยฝุ่นผง Chiral dust ที่เรียกว่า Chiralium กระจายขึ้นไปในอากาศที่จะเป็นตัวแปรในการกระตุ้นให้ฝน Timefall เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วและรุนแรงขึ้นกว่าเดิม ส่วนวิญญาณ (Ka)  ก็จะกลายสภาพเป็น BT’s 





                              คนขับ –  อ๊ากกกกกก !!!

        

         

                                       คนขับ – ช่วยด้วย อ๊ากกกกกก !!!


                                Igor – โทษทีนะพวก ...



                                  Igor – อ๊ากกกก !!!




เมื่อพวก BTs ประเภท Hunter ออกไล่ล่ามนุษย์เพื่อจับไปให้ “catcher” BTs ขนาดยักษ์ที่สามารถกลืนกินวิญญาณมนุษย์ได้จำนวนมาก 



ซึ่งเมื่อ   “catcher”  ได้ดูดวิญญาณมนุษย์ไปมากพอก็จะทำให้เกิดการระเบิดที่เรียกว่า voidout ที่สร้างความเสียหายอย่างรุนแรงกับพื้นที่โดยรอบ

       








                       London Bridge is falling down
                        Falling down, falling down
                      London Bridge is falling down



เมื่อมนุษย์ได้ตายจากการระเบิดที่เรียกว่า voidout วิญญาณจะถูกส่งผ่านเส้นสีดำที่เรียกว่า สายสะดือ (umbilical cord) ตรงชายหาดที่เป็นเสมือนประตูของโลกและโลกอีกด้าน ผ่านไปยังพื้นที่ตะเข็บชายแดนระหว่างดินแดนหลังความความตายและความตายที่แท้จริงที่เรียกว่า The Seam (ที่จะแสดงให้เห็นภาพแทนว่าอยู่ใต้มหาสมุทร) ก่อนจะถูกส่งไปยังโลกแห่งความตายที่แท้จริงที่เรียกว่า Stages of necrosis ในโลกอีกด้าน 



แต่มีมนุษย์บางประเภทที่มีความสามารถในหลบหนีจากพื้นที่ ที่เรียกว่า The Seam นี้ได้โดยผ่านการชี้นำของ เส้นใย (strand) ที่เป็นเหมือนเชือกในการเชื่อมต่อที่จะช่วยนำทางวิญญาณของพวกเขากลับมาที่ร่างกายของตัวเองได้ เรียกปรากฎการณ์นี้ว่า การส่งคืน (Repatriation) และเรียกผู้ที่กลับมาจากเหตุการณ์นี้ว่า ผู้ฟื้นคืน 






                           BB ได้ยินชั้นมั๊ย นี่พ่อเองนะ 



Sam – เมื่อครั้งนึงที่เคยมีการระเบิด แรงระเบิดก่อให้เกิดชีวิตอย่างที่เรารู้ๆกัน 


Sam –  และเมื่อการระเบิดครั้งต่อไปเกิดขึ้นอีกครั้ง มันอาจจะเป็นครั้งสุดท้ายของพวกเรา



                           Episode 1: Bridget


                        EASTERN REGION / Capital Knot City






DEADMAN – โอ้ คุณตื่นแล้วหรอ ? แล้ว รู้สึกยังไงบ้างล่ะที่ได้กลับมาสู่โลกแห่งการมีชีวิตอีกครั้ง ไม่ต้องห่วงๆ ผมเป็นหมอ ...แหม่ จริงๆก็ เจ้าหน้าที่ชันสูตรศพ อ่ะนะ ..เรียกผมว่า DEADMAN ก็ได้นะ เพราะผมคุ้นเคยกับความตายดี .ไม่ได้หมายถึงคุณหรอกนะ ตรงกันข้ามกับชื่อผมเลยเพราะผมยังไม่เคยตาย



DEADMAN – ไม่ต้องแกะๆ ผมอยากจะแนะนำว่า คือผมก็ไม่มีความเชี่ยวชาญเรื่องเทคโนโลยีอะไรมากหรอกนะ  แต่ได้เจ้านั่นมันจะทำให้คุณได้รับการปกป้อง
SAM – ผมถูกจับเป็นนักโทษงั้นหรอ?
DEADMAN – บ้า ไอ้นั่นมันไม่ใช่กุญแจมือ มันคือ Cuff link เป็นอุปกรณ์ไฮเทคที่ทำให้เราทั้งหมดเชื่อมต่อกันได้ต่างหาก 
SAM – อ่อ ..เราหรอ?



DEADMAN – ใช่แล้ว เราคือ Bridges ..ความหวังที่ดีที่สุดของมนุษย์ชาติเพื่ออนาคตหรือเพื่อหลีกเลี่ยงการสูญพันธุ์ จะว่างั้นก็ได้
SAM – เออๆ .. แล้วชั้นอยู่ที่ไหน ตอนนี้กี่โมงแล้ว?
DEADMAN – เอาล่ะ ดูชั้นนะ ลองกดเจ้านั่นลงที่ข้อมือของคุณแบบนี้ ..ใจเย็นๆๆ นั่นหมายถึงร่างกายของคุณเหมาะสมที่จะเชื่อมต่อกับ Cuff link



DEADMAN –  Cuff link จะช่วยเฝ้าดูคุณตลอด 24 ชั่วโมง ก็อย่างที่ผมบอกนั่นแหละ เราอยู่ที่นี่เพื่อช่วยเหลือคุณ 
SAM – อะไรวะเนี้ย? .... 2 วันแล้วหรอ !
DEADMAN –   ในช่วงที่คุณยังไม่ฟื้นเราได้การเก็บตัวอย่างของเหลวจากคุณ ทำให้รู้ว่า คุณคือพวก Repatriate ** นั่นแปลว่าคุณเป็นคนพิเศษสำหรับเราเลยล่ะ 

** "repatriate" คือชื่อเรียกของ ผู้ที่ฟื้นคืนจาก the Seam ดินแดนแห่งความตาย **


SAM – แล้วเกิดอะไรขึ้นกับคนของทีมของ Corpse Disposition ?
DEADMAN –   Central Knot เพิ่งถูกทำลายจากการระเบิดทำลายล้าง ตูม !! เกมโอเวอร์ กลายเป็นปล่องภูเขาไฟ คนเดียวที่เหลือรอดก็คือคุณ และที่แน่ๆคือ คุณทำให้ Pot ของ BB แตกด้วย 
 SAM – แล้วเขาเป็นอะไรมั๊ย?


DEADMAN –  อืมม ..มันถูกทำเครื่องหมายสำหรับการกำจัด เพราะมันใช้งานไม่ได้อีกแล้ว จะเก็บเอาไว้ทำไมล่ะ? ... เราเสียคนไปหมดไม่ใช่แค่ทีมของ Corpse Disposition ..ทั้งทีมของผม คนจากHQ และ Vredefort ทุกๆดวงวิญญาณใน Central Knot City เราเลยต้องมาอยู่ในฐาน HQ แห่งใหม่ ..ที่ Sudbury เป็นตัวเลือกที่เหมาะสมที่สุด 


** จากการบอกเล่าของ Deadman เกี่ยวกับที่ตั้งของฐานแห่งใหม่ของ Bridges ที่ย้ายมาอยู่ที่ Capital Knot City หลัง Central Knot City ถูกทำลายว่า "  เราเลยต้องมาอยู่ในฐาน HQ แห่งใหม่



 ที่ Sudbury เป็นตัวเลือกที่เหมาะสมที่สุด " จึงเป็นข้อบ่งชี้ เมือง Sudbury ที่ถูกเอ่ยถึงอยู่ที่มิดเดิลเซ็กซ์เคาน์ตี้ รัฐ แมสซาชูเซตส์ ในสหรัฐอเมริกา ** 

DEADMAN – แต่ตอนนี้ทีมของเราถูกทำลายจนเกือบหมด มันจึงยากมากที่พวกเขาจะทำงานให้เสร็จได้ภายใน 2 วัน ที่นี่เลยวุ่นวายกันไปหมด โชคดีที่ท่านผู้อำนวยการและทีมสนับสนุนของเขาออกไปจากเมืองก่อนแล้ว สายการบังคับบัญชาจึงยังคงอยู่เหมือนเดิม คือ ผมก็ไม่อยากจะต้องทำแบบนี้หรอกนะ มันดูเป็นการบีบคั้นเกินไป แต่ ผมมีงานให้คุณทำ 



DEADMAN –  เอ่อ รอยนี่คุณได้มาหลังจากการฟื้นคืนงั้นหรอ? แล้วรอยมือนั่นล่ะ ได้มาจากที่ไหน ?
SAM – จากผู้หญิงคนนึงที่เจอในถ้ำ
 DEADMAN – อ๋อ รู้แล้ว คุณเป็น Aphenphosmphobia ** ใช่มั๊ย?


** ถ้าโดยทั่วๆไป Aphenphosmphobia คือโรคทางจิตอย่างนึงที่ทำให้คนนั้นกลัวที่จะต้องใกล้ชิดหรือสัมผัสกับคนอื่นที่จะส่งผลต่อความ "ความผูกพันทางอารมณ์" โดยไม่มีเหตุผล ในความเป็นจริงทางการแพทย์ความกลัวที่ว่าเป็นอาการทางจิตไม่ใช่เกิดจากสภาพร่างกาย แต่ผลกระทบทางกายภาพที่เกิดขึ้นนั้นเป็นอาการทางระบบประสาทที่สามารถทำให้ร่างกายเจ็บปวดได้เช่นเดียวกับสิ่งเร้าปกติอื่น ๆ เช่นอุณหภูมิ



แต่ในกรณีของ Sam อาจเชื่อมโยงไปถึงอาการ Chirophobia หรือโรคกลัวมือ ซึ่งสามารถอุปมาได้จากใน Death Stranding ที่พวก BTs ทิ้งรอยมือไว้ที่พื้นและสสาร Chiral Crystals ที่อยู่ในสภาพของมือที่ยื่นออกมาจากพื้นดิน ร่างกายของ Sam ที่เกิดรอยช้ำเมื่อถูกคนอื่นสัมผัสจนทิ้งร่อยรอยไว้บนร่างกายของเขา ซึ่งน่าจะเกิดจาก DOOMS affliction หรือผลกระทบด้านลบของผู้ที่มี Doom Ability ในแบบของ Sam 

https://www.ign.com/wikis/death-stranding/DOOMS,_Chiral_Allergies,_and_Aphenphosmphobia_Explained

https://www.phobiaguru.com/fear-of-intimacy-aphenphosmphobia.html


DEADMAN – ไม่แปลกใจเลยว่า ทำไมคุณออกไปข้างนอกนั่นคนเดียวโดยที่ไม่มีใครแตะต้องคุณได้เลย ...ผมจะระวังให้มากขึ้นนะ Sam ... มาพูดเรื่องงานกันต่อดีกว่า งานที่ว่าคืองานแบบส่งด่วน ผมต้องการให้คุณเอา Morphine ไปส่งให้ท่านประธานาธิบดี 
SAM – ประธานาธิบดีไหน อเมริกาล่มสลายไปแล้วนี่ คุณหมายถึงนายกเทศมนตรีของเมือง Central Knot ใช่มั๊ย?



DEADMAN – ไม่ๆๆ ไม่ใช่  นายกเทศมนตรี อเมริกายังคงอยู่นะ Sam ท่านประธานาธิบดียังอยู่ที่นี่กับเรา แม้เธอจะเป็นมะเร็งระยะสุดท้ายแล้ว แต่ก็ยังพอมีเวลาอยู่ 
SAM  - ทำไมต้องเป็นผมด้วย?
DEADMAN – ฟังนะ Sam แค่ทำตามที่ผมขอ และผมสัญญาว่าจะอธิบายทุกอย่างให้ฟังตอนหลัง
SAM  - แล้วทำไมคุณไม่ทำเองล่ะ?



DEADMAN – ก็เพราะผมไม่ได้อยู่ที่นี่น่ะสิ ต้องขอโทษด้วยนะนี่มันแค่ร่าง Chiralgram และก็นี่ ..น้ำตาเริ่มไหลแล้ว ...ก็โรคภูมิแพ้จากการสื่อสารด้วย Chiral transmission จริง ๆ แล้วผมอยู่ในแผนกกักกันผู้ป่วยในอาคารสามเหลี่ยมขนาดใหญ่



 DEADMAN – และนี่คือมอร์ฟีน .. Bridges ขอทำสัญญาจ้างกับคุณ Sam Porter 
SAM – ไม่เอาน่า นี่มันก็ภาพ Chiralgram คุณก็มีมอร์ฟีนอยู่ที่นั่นอยู่แล้วนี่ มันเรื่องอะไรกันแน่ บอกความจริงมาเถอะ!
DEADMAN – ความจริงก็คือ ประธานาธิบดีคนสุดท้ายของอเมริกาอยากจะขอพบคุณเป็นการส่วนตัวน่ะ คุณจะปฎิเสธจริงๆหรอ? 



SAM – ก็ได้ ...
DEADMAN – เยี่ยมมาก .. ผมจะรอคุณอยู่ที่ แผนกกักกันผู้ป่วย (Isolation ward) นะ 



                               [Order No.2] Morphine Delivery



                                                        สินค้าที่ต้องนำส่ง – Morphine
                                        ระยะเวลาที่ใช้ในการเดินทางโดยประมาณ – 01:09
                                                     จำนวนและน้ำหนัก – 1 ชิ้น (1.5kg)
                                                        ระยะทางโดยรวม – 83 เมตร 




DEADMAN – Sam ถ้าคุณกลัวจะหลงทาง ก็สามารถเช็คแผนที่ผ่านทาง Cuff link ได้เลยนะ คุณจะเห็นเป้าหมายที่ แผนกกักกันผู้ป่วย (Isolation ward) ชัดเจนขึ้น ถ้าคุณยังไม่แน่ใจว่าจะไปที่นั่นได้ยังไงก็ลองระบุตำแหน่งเป้าหมายเอาไว้ หรือ เขียนเส้นทางเองก็ได้


เป้าหมายที่ 2 คือ การส่งมอบ Morphine จาก Distribution Center ใน  Capital Knot City ไปยัง แผนกกักกันผู้ป่วย (Isolation ward) ของ Bridges ที่ตั้งอยู่อีกฝาก


เส้นทางไปยังเป้าหมายนั้นไม่ไกลมาก เดินไปตามทางที่ตึกทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือเรื่อยๆก็ถึงที่หมาย (สามารถกด L1 เพื่อใช้ Compass Mode หรือโหมดเข็มทิศเพื่อระบุทิศทางของจุดหมายให้เห็นชัดเจนขึ้นได้ )





                                                        Isolation ward



      Deadman – แซม นี่ผมเอง Deadman ..หวัดดี ..โทษทีผมผิดเอง ลืมไปคุณไม่ชอบจับมือ



Deadman – ผมเกรงว่าตอนนี้อาการท่านประธานาธิบดีกำลังทรุดหนัก แต่ยังไงก็ขอบคุณนะ ยานี่อาจจะทำให้เธอหายเจ็บปวดได้บ้างไม่มากก็น้อย และ ในวาระสุดท้ายนี้ เราก็อณุญาติให้เธอได้พูดคุยกับคุณด้วย 
Sam – เธอหรอ?
Deadman – ประธานาธิบดีผู้หญิงคนแรกและคนสุดท้ายของสหรัฐอเมริกา  คุณจำเธอได้ไหม?  เธอยกย่องคุณมากเลยนะ ถอดชุดนั่นออกแล้วตามผมมาด้านในเถอะ


                               Isolation ward : President’s office





Deadman – นั่นคือมือขวาของท่านประธานาธิบดี แล้วก็เป็นผู้อำนวยการของ Bridges ด้วย 
Sam - Die Hardman หรอ?
Deadman – โอ้ ลืมไป คุณก็เคยทำงานกับ Bridges มาก่อนนี่นา งั้นก็คงไม่ต้องแนะนำตัวกันแล้วล่ะ 



Die Hardman – เป็นไงบ้างแซม ... 10 ปีแล้วมั้งที่ไม่ได้เจอกัน?  ดูพวกเราสิ เป็นการพบกันที่มันประหลาดอะไรเช่นนี้ก็ไม่รู้ เอาเถอะ ยังไงก็ดีใจที่ได้เจอนายอีกนะแซม มาเถอะ ท่านประธานาธิบดีรออยู่ 



Die Hardman – เธอคือแม่ของนายนะ .. Bridget .. เธออาจจะดูไม่ปกตินิดหน่อย แต่ชั้นมั่นใจว่าเธอจำนายได้แน่นอน 



Deadman – ท่านประธานาธิบดีเราพาแซมมาเข้าพบท่านแล้วครับ เราจะปล่อยให้พวกคุณคุยกันเองแค่ 2 คนนะครับ ..



Bridget – Sam ... แม่รู้ว่าลูกต้องกลับมา และก็รู้ว่าลูกเกลียดแม่ .... Amelie ..
Sam – Amelie ทำไมหรอ?
Bridget – ลูกจำได้มั๊ยว่า Amelie น้องสาวของลูกเดินทางไปทางตะวันตก เธอใช้เวลาถึง 3 ปีในการข้ามไปที่นั่นก็เพื่อพยายามที่จะรวมประเทศของเราให้เป็นหนึ่งอีกครั้ง 
Sam – เธอยังทำแบบนั้นอยู่อีกหรอ ?
Bridget – มีแค่ลูกคนเดียวที่แม่อยากจะส่งไป เวลาใกล้จะหมดแล้ว ...ช่วย Amelie เธอต้องการลูกนะ 



Bridget – ทั้งหมดก็เพื่ออเมริกา แซม ถ้าลูกไม่กลับมาร่วมงานกันอีก มนุษย์ชาติของเราคงต้องสูญพันธ์ 
Sam – เราไม่ต้องการประเทศอีกต่อไปแล้ว 
Bridget – ต้องการสิ ถ้าเราทำโดยลำพัง เราไม่มีอนาคตแน่นอน 
Sam – ไม่ .. อเมริกาจบสิ้นแล้ว .. Bridget คุณก็เป็นแค่ประธานาธิบดีกำมะลอเท่านั้นแหละ 
Bridget – แซมฟังแม่ก่อน ... อ๊ากกก !!


        

                            Sam –  ไม่ ! ... ผม ...



    Bridget – แม่รักลูกนะ Sam ... แม่จะรอลูกอยู่บนชายหาดนะ 



                      Deadman – ท่านประธานาธิบดี !!!










Die Hardman – ฟังนะ ห้ามให้ใครรู้เด็ดขาดว่าท่านประธานาธิบดีเสียแล้ว ถ้ามีข่าวรั่วไหลออกไป Bridges ของเราจบแน่นอน คุณเข้าใจแล้วนะ ?
Deadman – เข้าใจแล้วครับท่าน ผ.อ จะไม่มีใครรู้เรื่องนอกจากทีมเคลื่อนย้ายและทำลายศพ 
Die Hardman – ไม่ได้ เราต้องปิดเป็นความลับให้มากที่สุด .


Die Hardman – Sam ก่อนที่ท่านประธานาธิบดีจะตาย ท่านให้เราติดต่อหานาย
Sam – หมายความว่ายังไง?
Die Hardman –  ก็เหมือนกับสมาชิกของ Bridges ทุกคน นายต้องออกไปทำงานเพื่อช่วยให้เราสร้างประเทศอเมริกาขึ้นมาใหม่ให้ได้อีกครั้ง 
Sam – คุณคิดว่าจะเกณฑ์ผมไปทำงานเหมือนกับที่เธอพยายามจะทำงั้นหรอ? 
Die Hardman –  และเธอก็ทำสำเร็จ ไม่เชื่อดูข้อมือของนายสิ



 Die Hardman –  ถ้านั่นไม่ใช่สัญลักษณ์ชั้นก็ไม่รู้จะเรียกมันว่าอะไรแล้วล่ะ



Deadman – ท่าน ผ.อ ครับ มะเร็งกำลังแพร่กระจายไปทั่วร่างกายของเธอ อวัยวะต่างๆไม่สามารถเก็บมาใช้งานได้อีกและไม่จำเป็นต้องชันสูตรพลิกศพแล้วด้วย ร่างของเธอต้องถูกนำไปเผาก่อนที่จะ necrotizes (ระเบิดสลายตัว) 
Die Hardman – และถ้าเราไม่ทำที่นี่ก็จะถูกระเบิดเป็นจุลแน่นอน 
Sam – แล้วพวกคุณจะให้ผมทำอะไร?


Deadman – ตอนนี้เราไม่มี Porters (คนส่งของ) คนไหนเหลืออีกแล้วนอกจากคุณ ทีมเคลื่อนย้ายและทำลายศพของเราที่คุณเจอนั่นก็ตายหมดแล้ว แต่ร่างของท่านประธานาธิบดีต้องถูกนำไปเผาให้เร็วที่สุด 
Die Hardman – ถนนจาก Capital Knot City ที่จะไปยังเตาเผาก็เพิ่งถูกระเบิดทำลายไป ตอนนี้ทางเดียวที่จะไปที่นั่นได้ก็คือเดินเท้าข้ามภูเขาไปเท่านั้น แต่มันก็มีความหนาแน่นของฝุ่น Chiral สูงมาก และแน่นอนมันต้องมีพวก BTs ด้วย 
 Deadman – งานนี้ต้องการคนที่มีความสามารถของ DOOMS ของผู้ถูกส่งคืน(Repatriate) เท่านั้น 



Sam – ทำไมต้องเป็นผมด้วย?
Deadman – ไม่เอาน่าแซม คุณรับงานไปแล้วนะ !
Die Hardman – เอาล่ะ จงไปทำมันให้สำเร็จซะ Sam Porter Bridges


                      Isolation ward : Underground Entrance



Die Hardman – ผมขอพูดอะไรหน่อยนะ .. ท่านประธานาธิบดีเชื่อมั่นใน ปรัชญาการศึกษาปฏิรูปนิยมของอเมริกา ** เป็นอย่างมาก



** ในปี ค.ศ.1930 ได้เกิดภาวะเศรษฐกิจตกต่ำในสหรัฐอเมริกา เกิดปัญหาการว่างงาน และเกิดช่องว่างระหว่างชนชั้นในสังคมเป็นอย่างมาก จึงมีนักคิดกลุ่มหนึ่งพยายามจะแก่ปัญหาสังคมโดยใช้การศึกษาเป็นเครื่องมือในการพัฒนาสังคม  โดยมี จอรัจ เอส เค้าทส์ (George S.Counts) เป็นผู้นำของกลุ่มนักคิดกลุ่มนี้เขาเห็นว่าโรงเรียนควรมีหน้าที่ในการแก้ปัญหาของสังคม โดยตั้งทฤษฎีปฏิรูปนิยมที่เรียกว่า ปรัชญาการศึกษาปฏิรูปนิยม (Reconstructionism) ขึ้นมา โดยเป็นแนวคิดที่เน้นการศึกษาเพื่อสังคมเป็นสำคัญโดยที่ผู้เรียนไม่ได้มุ่งพัฒนาตนเองอย่างเดียว แต่ศึกษาเพื่อนำความรู้ไปพัฒนาสังคมให้ดีขึ้นด้วย 
http://sitawan112.blogspot.com/2012/03/reconstructionism.html




Die Hardman – เธอทำงานอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยเพื่อที่จะนำประเทศของเราให้กลับมาเป็นหนึ่งเดียวกันอีกครั้ง ถ้าไม่มีเธอก็จะไม่มี Bridges เธอสมควรได้รับงานศพที่มีเกียรติ แต่ เราก็ทำให้เธอไม่ได้ ถ้าเธอตาย อเมริกาก็ตายไปด้วย 
Deadman – ถ้าไม่มีเธอ Bridges ก็ไปต่อไม่ได้ 
Die Hardman – ฟังนะ ศพของเธอจะต้องถูกขนย้ายออกจากที่นี่ไปยังเตาเผาแบบลับสุดยอด 
Sam – ถ้าเอาศพเธอไปเผาเรียบร้อยแล้ว แล้วจากนั้นจะเอาไงต่อ ใครจะมาแทนที่เธอล่ะ?
Deadman – เธออาจจะจากพวกเราไปแล้ว แต่เรายังมี อเมริกา ที่คู่ควรกับตำแหน่งประธานาธิบดี
Sam – โทษที ว่าไงนะ?
Die Hardman – อย่าเพิ่งพูดเรื่องนี้กันตอนนี้เลย เรารีบดำเนินการเรื่องศพท่านก่อนดีกว่า สิ่งที่สำคัญที่สุดคือเราจะสานต่องานที่แม่นายทำเอาไว้เพื่อสร้างประเทศอเมริกาขึ้นมาใหม่อย่างที่เธอตั้งใจไว้ให้ได้ นั่นคือเหตุผลการมีอยู่ของ Bridges จงเริ่มก้าวแรกนี้ซะ แซม ด้วยการนำศพของท่านประธานาธิบดีไปยังเตาเผา


                    ถ้าเราไม่ร่วมมือร่วมใจกันเป็นหนึ่งเดียวอีกครั้ง มนุษย์ชาติจะถึงคราสูญพันธ์
                  ลูกคือคนๆเดียวที่แม่ต้องการจะส่งไป แซม เวลาใกล้หมดแล้ว แม่รักลูกนะ Sam 
                                            แม่จะรอลูกอยู่ที่ชายหาดนั่นนะ  


Die Hardman – เตาเผาจะอยู่ทางใต้ของที่นี่ จำไว้นะว่านายต้องผ่านอาณาเขตของพวก BTs 
Deadman –  เราสร้างเตาเผาเอาไว้หลังภูเขาก็เพื่อป้องกันไม่ให้ฝุ่นละออง Chiral ที่เกิดจากการเผาศพลอยมาถึงเมือง  มันก็คงไม่ง่ายนักหรอกนะที่จะแบบศพผ่านขึ้นไปบนนั้น 



Die Hardman – เราจะติดตามการเคลื่อนไหวของนายแบบนาทีต่อนาที ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นเราจะแจ้งทาง Cuff links เพื่อให้การสนับสนุนนายทันที 




               [Order No.3] President Bridget Strand’s Corpse



                                    สินค้าที่ต้องนำส่ง – ศพของ ประธานาธิบดี Bridget Strand
                                      ระยะเวลาที่ใช้ในการเดินทางโดยประมาณ – 13.49 
                                                จำนวนและน้ำหนัก – 1 / 55.0 Kg
                                                    ระยะทางโดยรวม –  1781 m



Die Hardman – ประธานาธิบดี Bridget Strand คือสัญลักษณ์ของ ปรัชญาการศึกษาปฏิรูปนิยม (Reconstructionism) ของอเมริกา แม้ประเทศจะแตกเป็นเสี่ยง ๆ และผู้คนก็กระจัดกระจายไปตามที่ต่างๆแต่เธอก็ไม่เคยหมดความเชื่อว่าจะสามารถรวมประเทศให้กลับมาเป็นหนึ่งเดียวกันอีกครั้ง ผู้คนมากมายต่างก็มีความหวังว่าอเมริกาจะฟื้นขึ้นใหม่อีกครั้งก็เพราะเชื่อในตัวเธอ ถ้าเรายังเชื่อว่าประเทศของเราสามารถสร้างขึ้นใหม่ได้ อเมริกาก็ยังคงอยู่ จงเป็นหนึ่งเดียวกันร่วมกับจิตวิญญาณอมตะของ Bridget ไปด้วยกัน


เป้าหมายที่ 3 คือ การส่งมอบ ศพของ ประธานาธิบดี Bridget Strand จาก แผนกกักกันผู้ป่วย (Isolation ward) ใน  Capital Knot City ไปยัง เตาเผา (Incinerator) ทางตะวันตกของ Capital Knot City



ในพื้นที่ระหว่างเดินทางจะพบจุดช่วยเหลือประกอบด้วย Watchtowers ที่ด้านหน้าทางออกของเมือง อุปกรณ์ที่สามารถใช้ส่องดูพื้นที่โดยรอบเพื่อหาตำแหน่งของจุดได้เปรียบในการเดินทาง เช่น บันได หรือเชือกสำหรับปีนเขาในพื้นที่

 
                     

                                                     “Bones”

                                                                Low Roar

                                          First of March, it's clear to me
                          เมื่อเริ่มเข้าเดือนมีนาแรก มันก็เริ่มชัดเจนขึ้นสำหรับผม
                                      It's something that's uncomforting
                                      ว่ามันมีบางสิ่งที่ทำให้รู้สึกไม่สบายใจ  
                                            Your body has a way with me
                               ร่างกายของคุณมีวิธีจัดการกับหมดจนอยู่หมัด 
                                       But I'm exactly where I wanna be
                                   ผมก็แค่อยากไปในที่ที่ผมต้องการจริงๆ 
                                    But I'm a long way from home
                                             แต่ผมก็กู่ไม่กลับอีกเลย   

                                    I know your voice, I know your face
                           ชั้นรู้จักน้ำเสียงของคุณดี ชั้นรู้จักใบหน้าของคุณด้วย

                                  This is something I cannot replace
                                    นี่คือบางสิ่งที่ชั้นไม่อาจแทนที่ได้ 

                                      Give me hope and give me doubt
                     ให้ความหวังกับชั้นและตอนนี้ก็ให้แต่ความเคลือบแคลงสงสัย

                           Well I loved you then but I don't love you now
                                     ชั้นเคยรักคุณแต่ตอนนี้ไม่ได้รักอีกแล้ว

                                           I'm a long way from home
                                              ชั้นคงกู่ไม่กลับแล้ว  
                                 '    Cause we're a long way from home
                                     เพราะเรา ต่างก็คงเกินเยียวยา

                                     No listen now, don't walk away
                         ทำไมตอนนี้ไม่ยอมฟังอะไรบ้างเลย อย่าเพิ่งเดินหนีไป
                                      I've got nothing more to say
                                       ชั้นไม่มีอะไรจะพูดอีกแล้ว 

                                   Can you see it in my dying face
                               คุณเห็นใบหน้าที่ซังกะตายของผมนี่มั๊ย
                                          You're acting like I care
                                      คุณทำเหมือนว่า ชั้นจะแคร์

                                     Now is there anything that I can do
                                  ตอนนี้ไม่มีอะไรที่ผมจะทำได้อีกแล้ว 
                                        If there was would we be singing
                         หากถ้าพอจะมี ที่จะทำได้ เราคงต้องร้องเพลงด้วยกันเหมือนเคย 

                                  'Cause, you're a part of me and I'm a part of you
                             เพราะคุณเป็นส่วนนึงของชั้นและชั้นเป็นส่วนนึงของคุณ 


ใช้ Odradek สแกนหาจุดได้เปรียนในการเดินทางต่างๆให้ปรากฏขึ้นมาพร้อมรายละเอียดของพื้นที่โดยรอบที่จะเห็นเป็นสีที่แตกต่างกัน ฟ้าปลอดภัย สีเหลืองพื้นที่ที่มีความเสี่ยง และสีแดงพื้นที่ที่อันตราย และจุดช่วยเหลือในพื้นที่ต่างๆซึ่งจะพบว่ามีบันไดและเชือกเป็นตัวช่วยในการเดินทางข้ามแม่น้ำและขึ้นภูเขา


ตรงพื้นที่ก่อนถึงภูเขาใหญ่จะมีทางแยกให้สามารถเดินทางไปได้ 2 ทางซ้ายกับขวา ซึ่งทางใช้ Odradek Terrain Scanner สแกนพื้นที่โดยรอบดูจะพบว่ามีสีที่แตกต่างกัน ฟ้าปลอดภัย สีเหลืองพื้นที่ที่มีความเสี่ยง และสีแดงพื้นที่ที่อันตราย


 ทางซ้ายจะเป็นทางที่ตั้งปีนเชือกเพื่ออ้อมส้นเขาทางซ้ายไปซึ่งจะเป็นทางที่อ้อมหน่อยแต่จะปลอดภัยกว่าเส้นทางด้านขวาที่ต้องเดินขึ้นพื้นที่ที่ชันและอันตรายก่อนถึงบันไดปีนข้ามเขาจากส่วนยอด
เดินทางไปตามเส้นทางซ้ายอ้อมสันเขาไป สแกนจนพบบันไดสำหรับปีนขึ้นสันเขาด้านซ้ายไปต่อ เมื่ออ้อมพ้นภูเขามาก็จะพบอาคารเตาเผาแล้ว



                           Incinerator West of Capital Knot City





ทันทีที่ Sam เริ่มกระบวนการเผาศพของ ประธานาธิบดี Bridget เสร็จสิ้น ฝุ่นละออง Chiralium ก็ฝุ้งกระจายขึ้นบนฟ้าทำให้เกิดฝนพิษ Timefall ในพื้นที่ทันที


Deadman –   ความหนาแน่นของ Chiralium ในพื้นที่กำลังไต่ระดับขึ้นอย่างรวดเร็ว ฝนพิษ Timefall กำลังจะตกหนักแล้ว รีบออกจากพื้นที่เดี๋ยวนี้ ! ... อ่อ Sam เผาทำลายสินค้าอีกชิ้นที่อยู่กับนายด้วย



Deadman –   BB – 28 ยูนิตที่เคยมอบให้ Igor เราเจอมันติดอยู่กับคุณตอนที่เราพบคุณในจุดที่เกิดการระเบิด ตอนนี้มันถูกตั้งค่าสถานะเพื่อการกำจัดแล้ว Central Knot และฐานเก่าถูกทำลายจนหมดก็เพราะเจ้าสิ่งนี้ไม่ทำหน้าที่ของมัน ผมดูจากบันทึกการทำงานของ Igor 
Sam – แต่มันยังมีชีวิตอยู่นะ 
Deadman –  แต่เราซ่อมแซมมันไม่ได้แล้ว และมันก็ไม่สามารถมีชีวิตรอดได้ถ้าอยู่นอก Pod น่าเสียดายนะถ้าคุณต้องการมัน แต่เราได้รับคำสั่งในการทำลายมันมาแล้ว ท่าน ผอ. เป็นคนสั่งด้วยตัวเองเลย

     

                          Deadman –  แซม แซม !! 

     

Deadman –  แซม แซม !! คุณได้ยินมั๊ย? แม่งเอ้ย เกือบติดต่อคุณไม่ได้เนื่องจากไฟดับซะแล้ว แซม สถานะคุณเป็นไงบ้าง ความหนาแน่นของ Chiralium ในพื้นที่ยังคงไต่ระดับขึ้นอย่างรวดเร็วเลยนะ
Sam – สถานะของผมคือ ฉิบหายแล้ว ที่นี่มีพวกมันอยู่เพียบเลย !
Deadman –   คงมาจากการเผาศพนั่นแหละ แล้วเราก็ไม่สามารถยกเลิกเตาเผาตอนนี้ได้ด้วย ผมเกรงว่า มีทางเดียวคือคุณต้องกลับมาที่ฐานนี่แหละ หรือไม่ก็นั่งรอจนฝนหยุด คุณรอได้รึเปล่าล่ะ ?
Sam – ไม่ได้ พวกมันเข้ามาใกล้จุดที่ผมอยู่มากเกินไป ผมต้องหาทางออกจากที่นี่ก่อนที่พวกมันจะรู้ตำแหน่งของผม
Deadman –  Sam ถ้าหนึ่งในพวกมันกินคุณเข้าไปมันก็จะเกิดการระเบิด Voidout แน่นอนว่าคุณฟื้นกลับมาได้อยู่แล้ว แต่พื้นที่รอบๆก็จะถูกทำลายจนพินาศหมด 


                         SAM – ผมคิดแผนออกแล้ว 



                                      ผมเสียใจ กัปตัน 


      SAM – ทำงานสิไอ้ตัวเล็ก ! สงสัยแกจะเสียจริงๆซะมั้ง ? .... โอเค นั่นแหละที่แกต้องทำ 


          [Order No.3] (Top Secret) Cremation President’s Body



                                                   สินค้าที่ต้องนำส่ง – ไม่มี 
                                  ระยะเวลาที่ใช้ในการเดินทางโดยประมาณ – 13.49 
                                                 จำนวนและน้ำหนัก – 0 / 0 Kg
                                                  ระยะทางโดยรวม –  1781 m

หลังจากฌาปนกิจศพของประธานาธิบดีเสร็จสิ้น เนื่องจากเกิดฝน Timefall ที่ทำให้พวก BTs เข้ามาประชิด ภารกิจต่อไปของ Sam คือการหนีออกจากพื้นที่เพื่อกลับไปยัง Capital Knot อีกครั้ง


ระหว่างทางกลับจะต้องเรียนรู้ในการใช้อุปกรณ์ Odradek ที่พ่วงกับความสามารถของ BB ทำให้สามารถใช้เครื่องตรวจจับ Chiralium ที่ทำให้รู้ตำแหน่งของพวก BTs ที่มองไม่เห็นได้

                                         การสังเกตุเรดาห์ตรวจจับพวก BTs

สีน้ำเงินและกระพริบช้าๆ - สัญญาณนี้หมายความว่าตอนนี้พวก BT อยู่ในพื้นที่ที่ไกลออกไปและไม่เป็นภัยคุกคาม
สีน้ำเงินและกระพริบเร็วๆ - สัญญาณนี้บ่งบอกว่า BT นั้นเข้ามาใกล้ให้พยายามเคลื่อนที่ไปในทิศทางตรงกันข้ามกับการกระพริบของเรดาห์ตรวจจับ
สีส้มและหมุนอย่างรวดเร็ว - สัญญาณนี้หมายความว่าตอนนี้พวก BT นั้นอยู่ด้านบนของคุณและใกล้พอที่จะคุกคามทันทีถ้ามันรู้ตำแหน่งของคุณ จึงต้องใช้การก้มต่ำ  (กด O) และการกลั้นหายใจ  (กดR1) เพื่อไม่ให้พวกมันรู้ตำแหน่ง โดยการกลั้นหายใจต้องบริหารเกจ Endurance ให้ดีด้วย จากนั้นก็ค่อยๆย่องออกจากพื้นที่ให้เร็วที่สุด


โดยเส้นทางกลับไปยัง Capital Knot นั้นสามารถเลือกได้ตามอัธยาศัยว่าจะใช้เส้นทางใหม่ที่มาหรือเปิดเส้นทางใหม่ในการกลับไป

                                                 Poznan

                                                          Low Roar


                                  And if we ever break these walls down
                                   และถ้าเราทำลายกำแพงเหล่านี้ลงไป

                                            It’s easier said than done
                                                     พูดง่ายกว่าทำ
                                    
Would I be crazy enough to follow?
                                      ชั้นจะบ้าพอที่จะทำตามหรือเปล่า ?


                                           Or let the regret eat me up
                            หรือจะปล่อยให้ความเสียใจกัดกินทำร้ายตัวชั้นเอง 

                                          'Cause I know my way out
                                         เพราะชั้นรู้ทางออกของชั้นเอง

                                                      I run, I run
                                                   ชั้นวิ่ง และ วิ่ง 

                                          Well, there is no way out
                                             ไหนกันล่ะทางออก

                                             I’m stuck, I’m fucked
                                   ชั้นกำลังติดอยู่  ฉิบหายแน่แล้วเรา 

                                 In a cage, on a hill, that’s where I’ll rot
                                ในกรง บนเนินเขา นั่นคือที่ที่ชั้นจะเน่าตาย 


Deadman –  เป็นเรื่องที่มหัศรรย์มากที่คุณทำให้มันกลับมาใช้งานได้อีกครั้ง เมื่อคนที่มีความสามารถของ Doom ability ได้ทำการเชื่อมต่อกับ BB จะส่งผลให้ความรู้สึกและความทรงจำถูกสะท้อนกลับมา เหมือนกับลำโพง  มันจะขยายความกลัวและความเครียดและเสี่ยงต่อการที่มันอาจจะนำพาคุณไปยังสถานที่ที่คุณอาจจะไม่ได้กลับมาได้อีก  



Deadman –  ผมเสียใจด้วยนะ แต่เจ้า BB ยูนิตนั้นถูกผลักดันให้ทำเกินขอบเขตลิมิตของตัวเองอยู่ การกำจัดจึงเป็นเพียงทางเลือกเดียวของเรา เอาล่ะ Sam ไปทำความสะอาดตัวเองซะแล้วมาเจอกันที่ห้องทำงานของท่านประธานาธิบดีนะ



       ไม่ต้องห่วงนะ BB ไม่เป็นไร ยังไงชั้นก็จะอยู่กับเธอเสมอนะ 

                                     See the sunset
                           ดูสิพระอาทิตย์กำลังตกแล้ว
                                  The day is ending
                                 วันนี้กำลังจบลงแล้ว
                                   Let that yawn out
                            ปล่อยให้หาวออกมาเถอะ
                              There's no pretending
                           ไม่ต้องเสแสร้งแกล้งทำหรอก 

                                                BB’s Theme By Ludvig Forssell
                      https://www.youtube.com/watch?v=bVavFG7xJ88&feature=youtu.be





Deadman –  Sam ! ผมว่าผมบอกคุณไปแล้วนะว่าคนที่มีความสามารถ Doom Ability ถ้าเชื่อมต่อกับ BB มันจะอันตรายแค่ไหนอ่ะ ... บางที่ เรื่องการอาบน้ำก็เป็นเรื่องที่อยู่ในคำสั่งนะ ตัวคุณยังปนเปื้อนไปด้วย Chiralium อยู่ ไม่อยากให้ท่านประธานาธิบดีต้องมาเห็นคุณสภาพแบบนี้เลยจริงๆ
Sam – คุณพูดบ้าอะไรของคุณ เธอตายแล้วไม่ใช่หรอ?
Deadman – คุณอารมณ์เสียหรอ แล้วเรื่องเจ้า BB – 28 ล่ะว่าไง ? 



Sam – ก็เอาไปจัดการเองสิ ผมไม่ใช่คนรับใช้คุณนะ 
Deadman – ไม่ว่ายังไงก็เถอะดูเหมือนว่ามันเป็นหนี้ชีวิตคุณนะ 
Sam – เปล่า เราเป็นหนี้ชีวิตเด็กพวกนี้ต่างหาก คุณก็ด้วย 
Deadman – ก็อย่างที่คุณบอก เดี๋ยวผมจะดูแลมันเอง ..ฝากแสดงความเคารพท่านประธานาธิบดีด้วยล่ะ



                ???? – ถึงเวลาที่จะต้องไปแล้วนะแซม


????? –  .. เอานี่ ตาข่ายดักฝัน ใส่เอาไว้ตอนนอนนะ มันจะช่วยขับไล่ฝันร้ายให้หมดไป แล้วชั้นก็จะอยู่กับเธอเสมอนะ


                                  EPISODE 2 : AMELIE


                              Capital Knot City: Bridges Distribution  

                                        Private Room



เมื่อ Sam สะดุ้งตื่นขึ้นมาอีกครั้งและพบว่าตัวเองเผลอหลับไปในห้องส่วนตัวที่ทาง Bridges เตรียมไว้ให้


Die Hardman – แซม นี่ Die Hardman นะ นั่นคือห้องส่วนตัวที่เราสร้างสำหรับคุณโดยเฉพาะ เชิญพักผ่อนตามอัธยาศัยนะ จากนั้นก็ไปอาบน้ำชำระเอา Chiralium ออกให้หมดแล้วไปเจอกันที่ห้องทำงานของท่านประธานาธิบดี



Deadman – แซม .... แซม คุณได้ยินผมมั๊ย?  
Sam – เอาจิงดิ แม่งเอ้ย นี่มันไม่มีอะไรที่มันมีความเป็นส่วนตัวบ้างเลยใช่มั๊ยเนี่ย?
Deadman – โอ้ ไม่ๆ ยกเว้นตอนอาบน้ำกับเข้าส้วมเท่านั้นแหละ ..แล้วคุณชำระล้างตัวจนสะอาดดีแล้วใช่มั๊ย?  ดีแล้ว ทำอะไรเสร็จแล้วก็เข้ามาที่ห้องทำงานของท่านประธานาธิบดีได้เลยนะ เธอกำลังรอคุณอยู่ 


                              Isolation Ward: President’s Office



Die Hardman – ทำได้ดีมาก ขอบคุณมากนะแซม .. Bridget อาจอยู่กับเราได้ไม่นาน แต่มรดกของเธอจะอยู่กับเราตลอดไป ... ฟังชั้นนะแซม ความฝันของเธอที่จะสร้างประเทศอเมริกาขึ้นมาใหม่นั้นยังไม่ได้ตายไปด้วยหรอกนะ 
Sam – ชั้นไม่อยากฟังหรอกนะ
Die Hardman – เดี๋ยว ... นี่คือโฉมหน้าของความหวังใหม่ของเรา อเมริกาใหม่ของพวกเรา 




                                       Sam - Amelia ?



           Amelia – แม่ชั้นอาจจะจากไปแล้ว แต่ชั้นยังอยู่ และแซม พี่ก็ยังอยู่ที่นี่เหมือนกัน 



Die Hardman – เกือบ 10 ปีแล้วมั้งตั้งแต่ที่พวกเธอทั้งคู่เจอกันในครั้งที่แล้ว และตลอดเวลาที่ผ่านมา เธอก็ไม่ได้แก่ขึ้นเลย 
Amelia – เขารู้ดีว่าเพราะอะไร ร่างกายชั้นยังติดอยู่ที่ชายหาดนั่น ชั้นก็เลยไม่ได้โตหรือแก่ขึ้นเลย ..แต่พี่ไม่ ... พี่ดูดีมากเลยแซม 



Sam – เธอยังเอาจริงเอาจังเรื่องที่จะพยายามเชื่อมต่อทุกๆคนหรือทุกๆอย่างเข้าหากันอีกหรอ?
Amelia – อืมม 



Die Hardman – มันต้องมีคนทำให้มันสำเร็จเหมือน Bridget เธอตั้งใจไว้ ที่สำคัญกว่านั้น มันต้องมีใครซักคนที่แบกรับมรดกทางความคิดของเธอเอาไว้และได้เห็นการสร้างประเทศขึ้นมาใหม่ให้เป็นจริงอีกครั้ง ..Samantha America Strand ประธานาธิบดีคนใหม่ของเรานี่ไง การเริ่มต้นครั้งใหม่ของประชาชนของเรา เพื่อประเทศของเรา ภายใต้การนำของ Amelie เราจะกอบกู้ CUA (The United Cities of America) ขึ้นมาใหม่ นี่แหละจุดเริ่มต้นในแผนการสร้างประเทศใหม่ของพวกเรา 
Sam – ไม่ล่ะ เรื่องนี้ชั้นขอผ่านก็แล้วกัน ชั้ยบอกแล้วนะว่าจะกลับทันทีหลังจากที่คุยกับ Bridget เสร็จ ... แค่นั้น 
Amelia – เราไม่เคยลืมพี่เลยนะแซม พี่ต่างหากที่หนีไปและตัดขาดจากพวกเรา 


Die Hardman – Amelie ได้รวบรวมมือดีที่สุดของ Bridges เข้าร่วมในคณะเดินทางมุ่งสู่ตะวันตก 
Amelia – ชั้นเป็นคนนำทางพวกเขาผ่านหลุมระเบิดและพื้นที่ของพวก BTs ชั้นมีหน้าที่ทำให้พวกเขาปลอดภัยในขณะที่ทีมออกค้นหาผู้รอดชีวิต 
Die Hardman – เธอรับรู้การมาของพวก BT เป็นไมล์โดยไม่พลาดแม้แต่ครั้งเดียว 



Amelia –หลังจากชุมชนทีได้เข้าร่วมกับ UCA และเราได้ทิ้งคนของเราไว้เพื่อช่วยเหลือพวกเขา เราใช้เวลาสามปีเพื่อพยายามทำให้มันไปถึงเมือง Edge Knot
Sam – ตลอดทางทั่วทั้งแปซิพิกเลยหรอ ? พระเจ้า 


Die Hardman – ใช่ แล้วจากนั้นทุกอย่างก็พังพินาศหมด ทุกทีมถูกทำลายจนหมดแถม Amelie ก็ถูกจับตัวไปด้วย
Sam – ถูกจับตัวไปงั้นหรอ?
Amelie – ชั้นไม่ได้ถูกจับเข้ากรงขังหรืออะไรแบบนั้นหรอก พวกนั้นอนุญาตให้ชั้นใช้สิ่งอำนวยความสะดวกของพวกเขาได้ และสามารถใช้เครื่องสื่อสารกับใครก็ได้เท่าที่ต้องการ แต่ห้ามออกจากเมือง 
Die Hardman – พวก Safeguard ก็พยายามอย่างต่อเนื่องที่จะปลดแอกเมือง Edge Knot City นั่นคือสิ่งที่ผู้ที่ควบคุมตัวเธอบอกกับเรา พวกมันต้องการให้  UCA เลิกยุ่งกับพวกมันโดยมี Amelie เป็นตัวประกันหากเราไม่รับข้อเสนอ 
Sam – แล้วไอ้พวกบ้านั่นมันคือใคร?


Die Hardman – กองกำลังพิเศษที่เรียกตัวเองว่า HOMO DEMENS ตอนนี้พวกมันกำลังเข้ายึดเมือง Edge Knot City เอาไว้ได้หมดแล้ว พวกมันทำงานร่วมกับกลุ่มผู้ก่อการร้ายที่อยู่ในพื้นที่นำกำลังเข้าเข่นฆ่าผู้คนและทิ้งร่องรอยความเสียหายจากการระเบิดเป็นหลุมใหญ่มากมาย .. ใช่แล้ว พวกมันไม่มีลิมิต ไม่มีแม้กระทั้งแผนรองรับการเกิด Voidout ใดๆทั้งสิ้น  
Sam – นายก็เลยกลัวว่าเจ้าพวกนั่นจะมายึดเมือง Central Knot เป็นของพวกมันอีกใช่มั๊ย?
Die Hardman – ก็อาจเป็นได้ พวกหัวรุนแรงแบบพวก Demens เริ่มก่อตัวขึ้นในทุกๆที่ วางแผนทำลายเราอยู่ในเงามืด พวกมันกระจายอำนาจไปจนทั่วโดยไม่ยอมขึ้นตรงกับองค์กรใดๆนอกจากอุดมการณ์ของตัวเอง 



Amelie – ชั้นรู้ว่าไม่ใช่ทุกคนที่จะเข้าร่วมวิสัยทัศน์เกี่ยวกับอนาคตของเรา “ถ้าอเมริกันไม่รวมเป็นหนึ่งเดียวกันอีกครั้ง มนุษย์ชาติจะสูญพันธ์แน่นอน” ชั้นได้นำคำสอนของแม่ประโยคนี้ส่งเป็นข้อความไปยังผู้คนทั่วทั้งประเทศ แต่ไม่ใช่ทุกคนที่จะได้รับมัน 


Die Hardman – มีคนอีกมากมายที่เลือกที่จะแยกตัวเองเพื่ออยู่แบบตัวคนเดียว ต่อสู้เอาตัวรอดโดยลำพังแบบนายไงแซม พวกเขาคิดว่าการรวมประเทศให้เป็นหนึ่งต้องใช้กองกำลัง โดยกลุ่มคนที่เข้ามาบีบบังคับให้พวกเขาทำในสิ่งต่างๆ พวกที่จะมาริบรอนเสรีภาพของพวกเขาและจับพวกเขาไปควบคุมตัว
Sam – แล้วนี่นายใส่อะไรให้ชั้นห๊ะ ? พวกนายมันก็ไม่ได้ต่างอะไรกับพวก Demens หรอก ก็แค่อีกกลุ่มลัทธินึงก็เท่านั้น 
Amelie – มันไม่ใช่การพันธนาการหรอกแซม มันคือ พันธะสัญญาของเรา นั่นคือสิ่งที่เราต้องการที่สุดในตอนนี้ ไม่ใช่ต่างคนต่างอยู่ แต่ต้องเชื่อมต่อกัน เพื่อสร้างปม Chiral Knot ขึ้นมาใหม่เพื่อให้ทุกคนเชื่อมต่อกันได้อีกครั้ง  


Die Hardman – เราต้องการให้คุณเดินทางไปตะวันตกเพื่อบรรลุเป้าหมายที่ Amelie เริ่มไว้ให้สำเร็จ ผู้คนที่เธอทิ้งเอาไว้กำลังพยายามอย่างหนักที่จะทำให้การสื่อสารผ่าน Chiral Network Terminal ใช้เชื่อมต่อกันได้อีกครั้ง แต่ Terminal ต่างๆตอนนี้ถูกตัดขาดจากกันจนหมด เราต้องการให้คุณทำให้มันกลับมาออนไลน์ได้อีกครั้ง



Die Hardman – และเพื่อการนั้น คุณจำเป็นต้องมีสิ่งนี้ เราเรียกมันว่า Q-pid สิ่งนี้จะช่วยทำให้ระบบการรักษาความปลอดภัยขั้นพื้นฐาน (necessary security) ทั้งหมดของ terminal ให้เข้ามารวมเป็นหนึ่งเดียวกันกับ  Chiral Web จงนำ Q – pid นี่ไปยังทิศตะวันตกแซม แล้วทำให้ผู้คนที่นั่นกลับมาเชื่อมต่อกับประเทศของเราให้เป็นหนึ่งเดียวอีกครั้ง และเมื่อคุณไปถึง Edge Knot city ก็ได้โปรดช่วยตามหา Amelie และพาเธอกลับบ้านด้วย 


Amelie – และก่อนจะถึงตอนนั้นชั้นจะรับช่วงต่อในตำแหน่งประธานาธิบดีและทำงานที่แม่ได้ทำค้างไว้เพื่อช่วยประเทศของเราต่อ 
Die Hardman – นี่เป็นคำสั่งเสียที่ Bridget สั่งเสียเอาไว้ ที่ทำให้เราต้องเดินหน้าต่อไป
Amelie – ได้โปรด เราต้องการพี่จริงๆนะแซม 



Sam – ตอนนี้ผมคือ Sam Porter Bridges ไม่ใช่ Sam Strand อีกต่อไปแล้ว ผมก็ไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของที่นี่ และไม่อยากจะข้องเกี่ยวอะไรกับพวกคุณอีกแล้ว 
Amelie – เดี๋ยว !!
Sam – เห็นมั๊ย ... มันก็เหมือนกับว่าผมไม่ได้มาที่นี่เหมือนอย่างที่เคยเป็นมา


Die Hardman – เดี๋ยวๆ ฟังผมก่อน อเมริกาต้องการคุณนะ ต้องการคุณทั้งคู่นั่นแหละ 
Sam – งั้นหรอ? การเชื่อมต่อโลกด้วยเคเบิลไม่ได้ทำให้สงครามและความทุกข์ทรมานหมดไปหรอกนะ อย่าแปลกใจล่ะถ้ามันแยกออกจากกันอีกหลังจากที่คุณพยายามเชื่อมต่อมันอีกครั้ง อีกครั้ง และอีกครั้ง ถูกตัดขาดแล้วก็ไปหาทางเชื่อมต่อ ไปเรื่อยๆ มันไม่ใช่เรื่องที่จะทำกันง่ายๆแบบสายรัดข้อมือห่านี่หรอกนะเว้ย !!
 Die Hardman – เอาล่ะๆๆ ใจเย็นๆแซม ผมก็แค่ .... ยังไงซะตอนนี้คุณก็ไม่มีสิ่งผูกมัดอะไรกับเราหรืออะไรอีกแล้ว ทำไมไม่พักผ่อนซักหน่อยก่อนล่ะ?



Deadman – เป็นความคิดที่ดี คนเราทุกคนก็ต้องการพักผ่อนว่ามั๊ยล่ะ พักเรื่องการเชื่อมต่อกับโลกอีกใบอะไรพวกนี้เอาไว้ก่อนเถอะ ..เอานี่ ผมได้ทำการรักษาเท่าที่จำได้อย่างดีที่สุดแล้ว แล้วผมก็ได้ปรับจูนอีกหลากๆหลายเพื่อประโยชน์ในการใช้งานของคุณ เอาล่ะ ตอนนี้คุณสามารถใช้เจ้า BB ยูนิตนี้ได้แล้ว 




Deadman – มันน่าจะเป็นครั้งแรกอ่ะนะที่ DOOM กับ BB สามารถเข้ากันได้อย่างดี หรือไม่แน่นะ คุณสองคนอาจจะมีบางสิ่งบางอย่างของความสัมพันธ์ที่เคยมีร่วมกันก็ได้นะ 



                                    Amelia – Sam 


                        Amelia – ฟังนะ พี่คือ Sam Strand 
           Sam – ไม่ ไม่ใช่อีกแล้ว ..ชั้นคือ Sam Porter Bridges 


** ความหมายที่แท้จริงของ Sam Porter Bridges ซึ่งเป็นชื่อที่ใช้ในวงการของแซม โดย Sam คือชื่อ ส่วน Porter เป็นคำเรียกแทนคนที่ทำงานเป็นคนส่งของ และ Bridges คือสังกัด ซึ่งชื่อจริงๆของแซมคือ Sam Strand ** 


Amelia – มันอาจจะฟังดูตลกนะนามสกุล Strand น่ะ แต่ Strand หมายถึงเชือกหรือพันธะ ในขณะที่ Stranding หมายถึงการถูกชะล้างขึ้นสู่ฝั่ง และ Standed หมายถึงเมื่อคุณไม่สามารถกลับบ้านได้อีกแล้ว  ตอนนี้ชั้น Standed อยู่ Sam ติดอยู่ที่ชายหาดแห่งนี้



Amelia – แม้จะห่างกันหลายพันไมล์ แต่ความผูกพันของเราจะยังคงอยู่ พี่เป็นอิสระ แต่เรายังคงเชื่อมต่อกันได้ อย่าบอกชั้นว่ามันไม่จริง


               

       

                          Amelia – ชั้นจะรอพี่อยู่ที่นี่นะ 




                                   SAM - เดี๋ยวก่อน !!


                 Capital Knot City: Bridges Distribution  

                                        Private Room



Die Hardman – Sam นี่ Die Hardman นะ หลับอย่างกับตอไม้เลยนะนายเนี่ย ตอนนี้นายอยู่ในห้องพักส่วนตัวที่เราจัดไว้ให้ ที่นี่มีสิ่งอำนวยความสะดวกขั้นพื้นฐานมากมายทั้งห้องอาบน้ำ ห้องส้วม และอื่นๆอีกมากมาย นายสามารถเข้ามาพักผ่อน ตรวจสอบอุปกรณ์ ดูรายละเอียดเรื่องภารกิจ ถ้าไม่เข้าใจเรื่องอะไรก็สอบถามกับเจ้าหน้าที่ของเราได้เลย ก่อนอื่นลองตรวจสอบเพื่อทำความรู้จักกับห้องพักของนายก่อนก็ดี



Heartman - นักวิจัยของเราอุทิศชีวิตให้กับการเปิดเผยความลับของ ชายหาด , การเกิด Death Stranding รวมทั้งความสามารถของ DOOM และ ผู้ฟื้นคืน (Repatriates) มาตลอดหลายปี ห้องอาบน้ำนี้ออกแบบมาเพื่อชำระล้างการปนเปื้อนสสาร Chiral ที่สามารถส่งผลเสียต่อการหลั่งฮอร์โมนและการทำงานของประสาทที่จะพัฒนากลายเป็นที่มาของโรคกลัวความใกล้ชิดหรือสัมผัสกับคนอื่นที่จะส่งผลต่อความ "ความผูกพันทางอารมณ์" โดยไม่มีเหตุผล (Aphenphosmphobia) ที่ในกรณีที่รุนแรงสุดอาจทำให้เกิดแรงกระตุ้นในการฆ่าตัวตาย ว่ากันว่าการปนเปื้อนของมิลพิษ Chiralium เป็นแรงกระตุ้นที่ทำให้เกิดความสามารถของ DOOMS Ability  



ผมว่าผมควรเพิ่มห้องอาบน้ำนี้ให้มีฟังก์ชั่นอื่นๆในการเก็บ เลือด ผม ของเหลว และของเสียอื่น ๆ เพื่อตรวจสอบอัตตาการสัมผัส Chiralium และสุขภาพโดยรวมของคุณ และเอ่อ .. ที่ผมยอมรับโอกาสนี้ก็เพื่อที่จะศึกษาคุณสมบัติที่เป็นเอกลักษณ์ของสรีรวิทยาของคุณว่าคุณเป็น ผู้ฟื้นคืน (repatriate) ได้อย่างไรด้วย 


Terminal ที่เป็นบอร์ดที่สามารถเข้า Database ของ Bridges ซึ่งจะมีข้อมูลต่างๆของภารกิจให้ทำในเมนู ORDER และสามารถใช้คำสั่ง SAVE และ Load ได้ในคำสั่ง System เมื่อสำรวจทุกอย่างในห้องจนพอใจแล้วเข้าไปที่ประตูทางออกของห้องเลือก Leave Private Room


Die Hardman – ไง นายตัดสินใจได้รึยัง?  เจ้านี่อัดแน่นไปด้วย Choralium แต่ปลอดภัยสำหรับผู้มีความสามารถ DOOMS ที่จะสวมใส่มัน ที่นี้ นายก็แค่ต้องลุยออกไปข้างนอกเพื่อเชื่อมต่อโลกให้เป็นหนึ่งเดียวกันอีกครั้ง 



Sam – ผมเป็นแค่ Porter (ขนส่งของ) ผมไม่สนเรื่องการเชื่อมต่อหรือ KNOTs อะไรนั่นหรอก แต่ที่ผมต้องการจะทำก็เพราะอยากช่วยให้ Amelie ออกมา ก็แค่นั้น 



Die Hardman – ฟังนะ แซม อาคาร terminals ที่ Amelie สร้างขึ้นตามเมืองต่างๆเพื่อส่งเจ้าหน้าที่ของ Bridges ไปประจำในแต่ละเมืองคอยดูแลการเชื่อมต่อจากฐานของ Bridges ไปยังผู้คนและเมืองต่างๆทางตะวันตก เราเรียกมันว่า KNOTs แต่ตอนนี้ Chiral network ของที่นั่นมัน offline อยู่ 



Die Hardman –  มันก็สามารถส่งสัญญาณการสื่อสารด้วยเสียงได้บางครั้ง บางครั้งก็ไม่ได้ ถ้าได้ก็สามารถส่งต่อข้อมูลได้น้อยมาก เว้นแต่ข้อมูลที่จำเป็นจะถูกเก็บไว้ในไซต์ chiralgrams ของเราก็จะไม่ทำงาน Amelie และคนของ Bridges บางส่วนที่คุณเห็นที่ Grams นั้นสร้างขึ้นจากข้อมูลท้องถิ่น 



Die Hardman –  ยังไงก็เถอะ ที่นายต้องทำก็คือ ตามหา KNOT ตามที่ต่างๆให้พบแล้วเชื่อมต่อ Q-pid ของนายกับที่นั่นเพื่อทำให้ Chiral network ออนไลน์อีกครั้ง เมื่อนายเชื่อมต่อกับ Terminal ของ KNOT ได้ครั้งนึง นายจะสามารถเริ่มต้นการส่งข้อมูลจำนวนมหาศาลด้วยเครือข่ายของ UCA


Die Hardman –  และเช่นเดียวกัน การที่คุณเชื่อมต่อเราไม่เพียงแต่เป็นการเชื่อมต่อเข้าหากันในปัจจุบันแต่แต่ยังเป็นการเชื่อมต่อกับข้อมูลในอดีตของเราด้วย ข้อมูลขยะที่สูญหายและกระจัดกระจายไปจะถูกรวบรวมและกู้คืนใหม่อีกครั้ง เหมือนนำไดโนเสาร์จากฟอสซิลกลับมามีชีวิตอีกครั้ง



Die Hardman –  กว่า 4.6 ล้านปีของประวัติศาสตร์ของโลกภูมิปัญญาและความรู้ทั้งหมดที่เคยสูญหายไปตั้งแต่เมื่อครั้งที่เกิดปรากฎการณ์ Death Standing จะกลับมาเป็นของเราอีกครั้ง และถึงตอนนั้นแหละเพื่อนเอ้ย เราก็จะมีหนทางจัดการพวกบ้านั่นได้แบบจริงๆจังๆซักที


Die Hardman – เมื่อคุณเชื่อมต่อโครงข่างการสื่อสารของ Chiral network ได้สำเร็จ การสร้าง Grams ก็จะไม่ใช่ปัญหาอีกต่อไป คุณจะสามารถใช้ Chiral printer ได้ทันที อีกไม่นาน เราก็จะสามารถส่งสิ่งของทุกชนิดผ่านสายเคเบิ้ลพวกนี้ได้แล้ว 
Sam – รักษาอะไรก็ตามที่มันเป็นต้นฉบับก็เท่ากับได้รักษาจิตวิญญาณ ... ของพวกนั้นไม่มีอะไรเป็นของจริงหรอก แค่ของก็อปปี้มา 
Die Hardman – ก็จริง เพราะงั้นไงเราถึงจำเป็นต้องการ Porters (คนส่งของ) แบบนายอยู่ จะเมื่อก่อนหรือเดี๋ยวนี้ ไม่ว่าเราจะทำอะไร เราก็ต้องใช้มนุษย์ในการทำงานเสมอ
Sam – ดูคุณทำงานหนักไปนะ ห๊ะ คนมีกรรมก็ต้องก้มหน้าทำงานต่อไปอ่ะเนอะ
Die Hardman –  ช่าย ก็นะ  มีมือแล้วไม่ใช่งานมีไปก็เท่านั้น เราจะให้ข้อมูลเพิ่มที่ Dispatch Terminal นะ พอนายขึ้นลิฟต์ไปชั้นบนแล้วก็เข้าไปตรวจสอบด้วยแล้วกัน 



Sam – เดี๋ยว แปบนึง ผมมีบางอย่างจะให้พวกคุณดู ดูเหมือนเลือดของผมจะปล่อยสิ่งพวกนั้นออกมา ไม่ใช่แค่ครั้งเดียวด้วย 
Deadman – ปล่อยออกมามา คุณหมายความว่าอะไร? 
Sam – จะรู้มั๊ย คุณมีเลือดผมอยู่ไม่ใช่หรอ? คุณสิต้องเป็นคนบอกผม 
Deadman – โอเคๆ จะลองดูเท่าที่ทำได้ก็แล้วกันนะ 





ผมเสียใจ ลิซ่า แต่ไม่ต้องห่วงนะ ผมจะดูแลเขาเอง ผมสัญญา 


                   BB .. BB ได้ยินมั๊ย ? ... นี่พ่อเองนะ 

     เมื่อขึ้นลิฟต์มาด้านบนแล้ว เข้าไปที่ Access Terminal เพื่อฟังรายละเอียดข้อมูลของภารกิจ


Die Hardman –  Sam วัตถุประสงค์ปัจจุบันของคุณคือการขยายเครือข่าย chiral จากที่นี่ไปยังเมือง port knot city แต่อย่าคิดว่าคุณสามารถทำมันได้ง่ายๆแบบสร้างเส้นตรงนะ สัญญาณมันไม่สามารถขยายไปยังที่ไกลๆด้วยตัวเอง เพื่อให้ครอบคลุมระยะทางที่กว้างขึ้น เราถึงได้ใช้ Knots เป็นตัวช่วย คิดซะว่ามันเป็นร้อยเชือกเข้าด้วยกัน แค่เป็นเชือกที่ยาวมากเท่านั้นเอง ที่แรกที่ต้องไปคือ Knots ที่ Bridges waystation ลองดูรายละเอียดของ Order ได้เลย


                                                      [Order No.4]

      Smart Drug Delivery: Waystation West of Capital Knot City


                                              สินค้าที่ต้องนำสง –  Smart Drug (Oxytocin)
                                        ระยะเวลาที่ใช้ในการเดินทางโดยประมาณ – 1044 m
                                                       จำนวนและน้ำหนัก – 1 / 1.5 Kg
                                         


เป้าหมายคือนำ Smart Drug (Oxytocin) ไปส่งที่ Waystation ที่ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของ Capital Knot City


ระหว่างทางจะได้เรียนรู้ในการเก็บ Lost Cargo หรือสินค้าที่ Porter คนอื่นๆทำตกหล่นเอาไว้ การเก็บ Lost Cargo เพื่อนำส่งคืนนั้นถือว่าเป็นการช่วยจบภารกิจที่ Porter ทำไม่สำเร็จและจะช่วยเพิ่มเกจในการได้คะแนนใน PORTER GRADE ของแซมด้วย


โดยการส่งคืน Lost Cargo นั้นจะต้องส่งผ่าน POSTBOX ที่เจอระหว่างทางหรือที่สร้างขึ้นเองในพื้นที่ การเก็บ Lost Cargo มีค่าเท่ากับการเก็บเลเวล ซึ่งสามารถทำในระหว่างส่งสินค้าหลักที่ Delivery Terminal ที่ปลายทางหรือก่อนรับงานภารกิจหลักก็ได้


ระหว่างทางจะเริ่มมีการใช้อุปกรณ์ที่นำติดตัวมาในการอำนวยความสะดวกในการเดินทางทั้งบันไดและหมุดเชือกสำหรับใช้ปีน โดยการเข้าไปที่พื้นที่ที่สามารถใช้อุปกรณ์นั้นได้แล้วกดปุ่มทิศทางด้านขวาเพื่อเลือกใช้ หรือ บางครั้งก็อาจจะพบเจออุปกรณ์ต่างๆที่ Porter คนอื่นๆที่เคยผ่านทางไปแล้วทิ้งเอาไว้ก็สามารถใช้แทนได้เช่นกัน



                        Waystation West of Capital Knot City



George Baton - ขอบคุณมาก เราทุกคนรู้ถึงความสูญเสีย Central Knot City ไม่มีใครรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นหลังจากนี้สำหรับ UCA หรือกับพวกเราเอง แต่การได้ oxytocin เป็นอะไรที่ช่วยพวกเราได้มาก คงจะใช้เวลาอีกไม่นานที่เราจะกลับมาทำงานกันได้อีกครั้ง ผมขอเช็คสินค้าก่อนนะ .... โอ้ เยี่ยมมาก ไม่มีอะไรเสียหาย ผมหวังว่าทุกคนใน Waystation จะหายเร็วๆนี้เหมือนกัน หวังว่านะ คุณอยู่ทีมที่สองใช่มั๊ย ? แล้วคนที่เหลือล่ะ?
Sam – ตายใน Voidout หมดแล้ว 
George Baton - ไม่มีทางหรอกระเบิดครั้งเดียวจะกวาดเรียบเลยหรอ?  แล้วพวกเขาก็ยังส่งคุณออกมาแบบตัวคนเดียวอีก ผมหมายถึงถ้าจะส่งของเราก็ต้องใช้ Porter มาส่งเป็นปกติอยู่แล้วอ่ะนะ แต่ทีมที่สองจะนำเอา Q – pid มาส่งให้เพราะพวกเขาต้องการจะเชื่อมต่อกับเรา เรารอมา 3 ปีแล้วนะ 3 ปี แล้วเขากลับส่ง Porter มาแค่คนเดียวเนี่ยนะ บ้าไปแล้ว ไหนบอกผมให้ชื่นใจหน่อยสิว่าคุณเอาของมาส่งให้เรามากกว่า oxytocin
Sam – ผมมี Q-pid มาด้วย 
George Baton - จริงหรอ? มันทำได้จริงๆหรอเนี่ย ในที่สุดพวกเขาก็ทำสำเร็จจนได้ ถ้างั้นคุณก็คงเป็นคำตอบในสิ่งที่ผมสวดภาวนาขอมาตลอดสินะ ..อ้าว มัวแต่รออะไรอยู่อีก ใส่มันเข้ามาในเครื่องเลยสิ 




                                 Waystation  - - เชื่อมต่อแล้ว 



                            George Baton - - เข้าร่วม UCA 

                                          + สามารถใช้ PCC สำหรับสร้าง Post Box ในพื้นที่ต่างๆ
                                          + เพิ่มเติม เมนู ใหม่ใน Delivery Terminal
                                            - Make Delivery > Deliver Lost Cargo 
                                            - Share Locker > Donate weapons & Equipment
                                            - Share Locker > withdraw Cargo 


George Baton - ยืนยันการเชื่อมต่อกับ Capital Knot City เสร็จสมบูรณ์  มันเกิดขึ้นจริงๆอย่างที่ Amelie สัญญาเอาไว้จริงๆด้วย ในที่สุดเราก็สามารถทำสิ่งที่เราจากมาทำที่นี่ได้ซักที ..แล้วคุณจะเดินทางไปตะวันตกใช่มั๊ยเนี่ย? หลายคนที่นั่นคงดีใจที่ได้เจอคุณแน่นอน เดาว่าคุณจะทำต่อไปจนกว่าจะถึงชายฝั่งเลยใช่ป่ะ? นั่นหมายความว่าคุณจะได้เจอ Amelie ด้วยเลยนะ มันเป็นอะไรที่เจ๋งมาก ผมเองยังไม่เคยเจอตัวจริงเธอเลยซักที นอกจากเห็นในโฮโลแกรมเป็นภาพเป็นข้อตอบกลับตอนผมออกเดินทางครั้งแรก แต่ยังไงก็เถอะ เดินทางระวังด้วยล่ะ บางคนมักพูดกันว่า ระหว่างทางจะเจอคนเลวมากกว่าคนดี แต่ผมไม่อยากจะบอกคุณให้ใจเสียแค่นั้นเอง  



Die Hardman –  ขอบคุณมากแซม ที่เชื่อมต่อ Waystation สู่ Chiral network 
คุณทำให้พวกเขาสามารถติดต่อเข้ามาหาได้โดยตรงได้แล้ว 
Sam – หรอ .. แล้วยังไงต่อ? 



Die Hardman –  ทางตะวันตกของ Waystation มีสถานที่ที่เราสำรวจๆไว้สองสามแห่ง ระหว่างทางที่คุณจะต้องเดินทางไปที่ Port Knot city บนชายฝั่งของทะเลสาบ crater lake ที่ก่อตัวขึ้นหลังจากเกิด Voidout ครั้งแรก ภารกิจของคุณคือ เชื่อมต่อที่นั่นมาหาเรา แต่การที่จะทำแบบนั้นได้คุณต้องไปทำการเปิดการใช้งานอาคารเครื่อข่ายย่อยของเรา 2 จุดก่อนเพื่อความเสถียรของการเชื่อมต่อสัญญาณและกำหนดระยะทางที่เราต้องควบคุมให้แน่นอน เรากำลังมองหาการใช้ศูนย์กระจายสินค้าและโรงไฟฟ้าที่คุณควรมุ่งหน้าก่อน เริ่มต้นที่แรกที่ distro Center ก่อนก็แล้วกัน เรามีสินค้าบางอย่างที่ต้องส่งไปที่นั่น เช็คดูที่ Delivery Terminal เพื่อรับของไปได้เลย 


เมนูที่เพิ่มขึ้นมาใหม่ใน Delivery Terminal คือ Fabricating equipment นั่นก็คือเมนูสำหรับประดิษฐ์อาวุธและอุปกรณ์จากวัตถุดิบต่างๆ


โดยอุปกรณ์ใหม่ที่สามารถสร้างได้คือ PCC ซึ่งเป็นอุปกรณ์ที่ใช้สำหรับสร้าง Postbox ตามพื้นที่ต่างๆระหว่างเดินทาง


                    ตอนนี้ใน ORDER ของ SAM นั้นจะมีภารกิจให้ทำ 2 ภารกิจคือ

      [Order No.5] Rare Metal Delivery : Distribution Center West of Capital Knot City
      [Order No.6] Construction: Postbox


                                                      [Order No.6] 
                              Construction: Postbox

แวะเข้าไปที่พื้นที่เป้าหมายของภารกิจ [Order No.6] ทางตะวันออกเฉียงเหนือของ Waystation ก่อน เพราะอยู่ไม่ไกลมาก



เข้าไปที่จุดเป้าหมายของภารกิจแล้วกดปุ่มทิศทางด้านขวา (กดแกนอนาล็อกขวา R3 เพื่อสลับหน้าเมนูไอเทม) เพื่อเลือกใช้ไอเทม PCC แล้วกด L2 เลือกจุดที่จะก่อสร้างจากนั้นกด R2 เพื่อสร้าง Postbox ได้เลย

                                 [Order No.5]
 Rare Metal Delivery : Distribution Center West of Capital Knot City


                                                  สินค้าที่ต้องนำส่ง –  Rare Metal
                                    ระยะเวลาที่ใช้ในการเดินทางโดยประมาณ – 15 m
                                                   จำนวนและน้ำหนัก – 6 / 30.0 Kg


เป้าหมายคือเดินทางไปยัง Distribution Center ทางตะวันตกของ Waystation  ระหว่างจะเจอพวก MULEs ซึ่งเป็นกลุ่มโจรปล้นสินค้าที่จะตามไล่ล่าทันทีเมื่อเข้าไปในระยะการมองเห็นของมัน


ตอนนี้ Sam ไม่สามารถทำอะไรมันได้นอกจากหนีให้พ้นการไล่ล่าของพวกมัน ซึ่งโชคดีที่การพบกันครั้งแรกนั้นเกิดฝน Timefall ตกเสียก่อนพวก MULEs จึงตัดสินใจถอนตัวหนีไปที่แค้มป์ที่อยู่หลังเขาฝั่งตะวันออกทำให้แซมสามารถเดินทางไปยังเป้าหมายต่อได้อย่างปลอดภัย

แต่ในขณะที่กำลังเดินทางใกล้จะถึงเป้าหมาย ต้องเจอกับฝน Timefall ตกหนักอย่างต่อเนื่องทำให้ BB เกิดอาการโอเวอร์ฮีททำให้อุปกรณ์ Odradek ไม่สามารถใช้งานได้ไปด้วย


                        Deadman – เกิดอะไรขึ้นหรอแซม ?


Sam – ไม่รู้เหมือนกัน เจ้าเด็กนี่มันร้อนมากเลย 
Deadman – อ่อ ไม่ต้องห่วงหรอก ฟังก์ชั่นมันถูกระงับชั่วคราวน่ะ แต่พวกเขาสามารถกู้คืนมันได้ ผมจะลองทำการรักษามันเท่าที่จะทำได้ที่ศูนย์กระจายสินค้า คุณรีบเข้าไปที่นั่นด่วนเลย  


                                                  Distribution Center


Benjamin Hancock –  คนที่ Waystation บอกผมเรื่องคุณหมดแล้ว Sam Bridges กับการเดินทางครั้งที่ 2 ใช่มั๊ย?  ชายผู้เดินทางเพื่อเชื่อมต่อ Chiral network โดยลำพัง เมื่อเขาได้ทำให้การขนส่งไม่ใช่การขนส่งแบบธรรมดาอีกต่อไป ไหนดูสิ คุณเอาอะไรมาให้พวกเรา ..ไม่อยากจะเชื่อเลย ขอบคุณมากนะ ก่อนจะมาถึงที่นี่ได้ต้องผ่านดงของพวก BTs มาด้วยแน่ๆเลยใช่มั๊ยล่ะ ฮ่าๆๆ ที่พวกเขาพูดมันไม่ใช่เรื่องตลกเลยนี่ตอนที่เขาบอกว่าคุณคือ ตำนาน เอาล่ะ เมื่อส่งของเรียบร้อยแล้วก็ถึงเวลาแล้ว คุณจะเชื่อมต่อเราเข้าสู่ Network ได้รึยังไงล่ะ?





                                   Distribution Center - - เชื่อมต่อแล้ว 



                                                 Benjamin Hancock - - เข้าร่วม UCA 

                                              + New features to Cuff link 
                                              -MAIL
                                              - DATA

                                             + New features to Delivery teminals
                                              - Recycle

                                             + ข้อมูลการสัมภาษณ์ใหม่
                                             - MULEs and Drone Syndrome 
                                             - Bridge Babies 
                                             - Timefall  



Benjamin Hancock – ดูเหมือนเราจะเชื่อมต่อกับ Chiral network แล้วล่ะ และวัตถุดิบที่คุณนำมาส่งให้เรานั้นก็จะทำให้เราสามารถใช้ Chiral Printer ได้แล้ว เราสามารถสร้างสิ่งของและไอเทมต่างๆให้คุณได้ถ้าคุณต้องการ คิดซะว่าเป็นการสนับสนุนคุณเป็นการตอบแทนก็แล้วกัน จงมุ่งตะวันตกต่อไปและทำในสิ่งที่คุณต้องทำเถอะ 



Die Hardman –   เยี่ยมมาก ตอนนี้ distro center ได้เชื่อมต่อกับเราอย่างสมบูรณ์แล้ว 
Deadman – แซม ช่วยอะไรหน่อย รีบนำ BB ไปเข้า incubator ใน Private Room ด่วนเลย 



SAM – เอาล่ะ ใส่แล้ว
Deadman – เยี่ยม ... อืมม คงจะลดสภาวะตึงเครียดของมันได้แค่ชั่วคราวแค่นั้นแหละ  ถ้าจะให้ดีเราคงต้องส่งมันคืนไปยังครรภ์ของแม่
SAM – แม่งั้นหรอ?
Deadman – เอ่อ อยู่ที่ Capital Knot city ICU แน่นอนว่าสมองตายไปแล้ว 
SAM – คุณหมายถึง Stillmother ใช่มั๊ยเนี่ย? 
Deadman – ใช่แล้ว ครรภ์ของ Stillmother จะเป็นตัวที่ทำให้ โลกแห่งความตายเชื่อมต่อกับ BB ได้ เหมือนคุณที่เมื่อเชื่อมต่อกับ BB มันก็จะช่วยให้คุณได้ความสามารถที่จะสัมผัสถึงพวก BTs ได้ ส่วน Pods นี่ก็ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อจำลองสถานภาพให้ใกล้เคียงกับ ครรภ์ของ Stillmother ต้องทำให้ BB เชื่อว่ายังอยู่ในครรภ์ตลอดเพื่อให้ได้การทำงานที่ถูกต้อง และเราก็สามารถหลอกมันได้มานานแล้ว นี่คือเหตุผลที่เราต้องอัพเดทข้อมูลสิ่งแวดล้อมเป็นระยะโดยการซิงโครไนซ์ข้อมูลกับ Stillmother ผ่านเครือข่าย chiral  นี่ไง เริ่มการอัพเดทแล้ว ตอนนี้ Pods ซิงโครไนซ์ข้อมูลกับ Stillmother ที่อยู่ใน Capital Knot city แล้ว คุณต้องเอา BB กลับมาที่ incubator ทุกครั้งเมื่อมันเริ่มมีอาการผิดปกติ มันก็จะช่วยลดความตึงเครียดของมันลงได้  แน่นอนว่ามันก็แค่ผลทางเทคนิคอ่ะนะ 





SAM – ดูสิ เจ้าหนูนี่ดูแฮปปี้ขึ้นแล้ว 
Deadman – ผมจะลองปรับปริมาณออกซิโทซินดู ระดับการเป็นพิษจากภายในร่างกาย (Autotoxemia) น่าจะช้ากว่านี้ได้อีก



Deadman – แล้วก็ คุณควรจำไว้ว่า BB เป็นเพียงแค่อุปกรณ์อย่าพยายามไปยึดติดหรือผูกพันกับมันล่ะ BB แต่ละคนได้ถูกลบออกจากมดลูกของ stillmother ซึ่งเป็นกระบวนการที่ทำให้ไม่สามารถคาดการณ์ได้และมีแนวโน้มที่จะล้มเหลว ยังไม่เคยมีบึนทึกเอาไว้ว่ามี BB ตัวไหนสามารถใช้งานได้เกินปีนึงเลย ส่วนใหญ่ก็จะถูกปลดออกก่อนการเดินทางจะเสร็จสิ้น
SAM – คุณว่าไงนะ คุณบอกว่าไม่มีทางที่จะทำให้ BB ของผมมีชีวิตอยู่ต่อไปได้เลยหรอ?
Deadman – คุณต้องเข้าใจนะ มันเป็นเรื่องของความลับที่ยิ่งใหญ่ที่เราไม่เคยรู้เกี่ยวกับ BB เลย แต่ก็ไม่แน่ ถ้าเราขยายเครือข่าย Chiral และกู้คืนข้อมูลความรู้ในอดีตกลับมาได้มากขึ้นเราอาจจะรู้คำตอบนี้ก็ได้  ....  อ่อ แล้วที่คุณให้ผมหาคำตอบว่าเรื่องที่ BTs อาจทำปฏิกิริยากับเลือดของคุณน่ะ ผมบอกกับ Heartman แล้ว เดี๋ยวเราคงได้ผลวิเคราะห์และข้อสรุปในไม่ช้านี้แหละ เอาเถอะ คุณพักผ่อนก่อนเถอะนะ คุณและ BB ต่างก็เหนื่อยมามากแล้ววันนี้ กู๊ดไนทแซม ผมไปก่อนนะ


                                            London Bridge is falling down
                                              Falling down, falling down
                                            London Bridge is falling down
                                                           My fair lady



Amelia –  พี่เห็นชั้นรึเปล่า?
SAM – ที่นั่นเป็นยังไงบ้าง? 
Amelia – ไม่มีการ์ดคอยคุม ไม่มีการคุมขังหรือล่ามโซ่อะไร และก็ยังคงหนีไม่ได้เหมือนเดิม แต่ถ้าพี่ยิ่งเชื่อมต่อได้มากขึ้น ถ้าพี่เข้าไปหาชั้นที่นั่นได้ เราจะกลับตะวันออกด้วยกัน กลับบ้านเราด้วยกัน ..ขอบคุณนะพี่ ชั้นพูดจริงๆนะ ..มันแย่มากๆ ผู้คนที่อยู่ในเมืองตอนนี้ ไม่มีใครสามารถมีลูกได้อีกแล้ว แต่มนุษย์ชาติไม่ได้ถูกสร้างมาเพื่ออยู่อย่างโดดเดี่ยวนะ เราถูกสร้างขึ้นมาให้อยู่ร่วมกันและช่วยเหลือซึ่งกันและกัน และเราถ้าไม่สามารถทำได้แบบนั้น ถ้าเราไม่สามารถเชื่อมต่อกันได้ ถ้างั้น ก็เหมือนที่แม่พูด เราคงจะสูญพันธ์ 



SAM – งั้นเราจะสร้างอเมริกาขึ้นมาใหม่ได้ยังไงถ้าเรากำจัดพวก BTs ไม่ได้ พวกมันยังอยู่รอบๆตัวเราและเราก็ไม่มีทางหนีมันพ้นด้วย 
Amelia – แต่ยังไงซะ เราก็ต้องมีความหวัง ....ชั้นจะรอนะ ชั้นจะรอพี่นะแซม .. 


Heartman – หวัดดีแซม นี่ผม Heartman นะ เมื่อคุณพักจนตื่นขึ้นมันอาจจะทำให้คุณสดชื่นขึ้นบ้างอ่ะนะ แล้วทำไมไม่ไปอาบน้ำซะล่ะ ? มันดีต่อร่างกายและจิตใจรวมถึงการวิจัยของผมด้วยอ่ะนะ 



Heartman – Deadman ได้บอกคำร้องขอของคุณกับผมแล้ว ตามที่ผมดูแลงานวิจัยเกี่ยวกับ BT อยู่ ผมจะเอาตัวอย่างเนื้อเยื้อและสิ่งต่างๆจากน้ำที่คุณอาบไปตรวจสอบเพื่อที่จะศึกษาผลกระทบของเหลวในร่างกายของคุณที่อาจมีผลต่อ BT  ทุกๆคนใน Bridges ตัวผมเอง และ Mama ผลลัพธ์ที่ได้ยังไม่สามารถหาข้อสรุปได้แต่คุณมีคุณสมบัติพิเศษที่ไม่เหมือนคนอื่น  เป็นผู้ฟื้นคืน (Repatriate) นี่มันดีจริงๆเลย ผมคงต้องสารภาพเลยว่าผมเป็นคนมองโลกในแง่ดี

                ของเสียจากกระบวนการผลิตของเหลวและ Chiralium .... จำแนกเสร็จสิ้น 



Heartman – นั่น ตัวอย่างของคุณเก็บเอาไว้กับคุณได้เลย หากมีโอกาสก็ลองใช้กับ BT ดู ผมอยากรู้ว่าพวกมันจะมีปฏิกิริยายังไง .. ใครจะรู้ มันอาจเป็นประโยชน์กับคุณก็ได้ มีรายงานวิจัยฉบับเก่าที่ให้รายละเอียดเกี่ยวกับผลกระทบของของเหลวในร่างกายจากคนอย่างเรากับ BTs มีเพียงการกู้คืนพวกวัสดุเหล่านี้เท่านั้นที่ทำให้เราสามารถค้นพบความรู้จากในอดีตได้ 



Heartman – ไม่ใช่แค่ความลับของการเกิด Death Standing แต่รวมถึงความลึกลับชองร่างกายคุณด้วยที่มีคุณสมบัติที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะ หรือแม้กระทั่งความทุกข์ทรมานอันเกิดจาก DOOMS ของพวกเรา มันอาจเป็นความหวังของมนุษยชาติ ..Sam ผมบอกตรงๆ ผมไม่สนหรอกเรื่องการสร้างประเทศขึ้นมาใหม่ ที่ผมสนใจคือการฟื้นอดีต ...โอ้ เวลากำลังจะหมดแล้ว ...
SAM – สมมุติว่าหลังจากการทำการเชื่อมต่อของพวกคุณสำเร็จแล้วมันไม่มีอะไรเกิดขึ้นล่ะ จากนั้นจะเอาไงต่อ?  ...ผมถามว่า แล้วจะเอาไงต่อ !?


Die Hardman –  Sam ต้องขอโทษด้วยนะที่ต้องรบกวนการพักผ่อนของคุณแต่ผมว่าคุณต้องอยากได้ยินเรื่องนี้แน่นอน บางทีมันอาจช่วยให้คุณหลับสบายขึ้นด้วย เราได้รับข้อความจำนวนหนึ่งที่ส่งถึงคุณ ผมไม่ได้เห็นมันด้วยตาตัวเองหรอกนะ แต่ผมรวบรวมมาจากลูกค้าของคุณ คุณควรดูนะเผื่อว่าจะมีข้อมูลที่เป็นประโยชน์บ้าง คุณสามารถเช็คเมลของคุณได้แล้วทาง Cuff link หรือที่ Terminal ในห้องของคุณก็ได้ และถ้ามีข้อมูลอะไรอีกผมจะแชร์ไปให้คุณก็แล้วกันนะ ด้วยเครือข่าย Chiral network ตอนนี้เรามีพลังพอที่จะเรียกคืนอดีตที่สูญหายไปกลับคืนมาได้บ้างแล้ว ข้อมูลที่เคยคิดว่าหายไปตลอดกาลจากทุกส่วนของอเมริกาสามารถนำกลับมารวมกันได้ จดหมายเหตุของเรายังคงอยู่ระหว่างดำเนินการ .. แน่นอนล่ะ  แต่เมื่อเราขยายเครือข่าย waystation และเมืองต่างๆได้มากขึ้น เราจะสามารถกู้คืนข้อมูลได้มากขึ้นมากขึ้นเรื่อย ๆ เช่น บันทึกและรายงานของการสำรวจก่อนหน้า ข้อมูลทุกอย่างที่พวกเขาส่งคืนกลับไปนั้นหายไปหมดแต่ central knot city ถูกทำลาย ตอนนี้เราสามารถกู้คืนบางส่วน ในความเป็นจริงแล้ว คุณสามารถเข้าไปดูข้อมูลพวกนั้นได้จาก Terminal ในห้องพักของคุณหรือไม่ก็ที่เมนูคำสั่ง Archives ใน Cuff link ของคุณ 



                                                  Mail จาก Waystation 
                                    ผู้ส่ง George Baton
                                   เรื่อง More Than Oxy

แซม ชายผู้ช่วยให้รอดของเรา
ตอนนี้ที่ waystation ทุกอย่างดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เราทุกคนมีความกระตือรือล้นกันมากๆ ต่างจาก 3 ปีที่ผ่านมาที่เป็น 3 ปีของความแปลกแยกและความเหงา มันเปลี่ยนเราทุกคนเมื่อเรามาที่นี่ครั้งแรก และหลังจากนั้นไม่นานก็เริ่มมีบางคนที่กลัวเกินกว่าจะก้าวเท้าออกไปข้างนอก

เมื่อตอนที่ Central Knot City ถูกทำลายผมบอกกับตัวเองเลยว่า อเมริกาของเราจบสิ้นแล้วและทุกคนที่นี่ก็คิดเหมือนกัน จากนั้นอารมณ์ของพวกเราก็เริ่มรู้สึกถึงความมืดมนจนสั่นสะท้านขึ้นมาทันที ผมรู้ว่าคุณกำลังคิดอะไรอยู่ ตอนแรกก็นึกว่าเป็นผลข้างเคียงจาก Oxytocin แต่มันไม่ใช่ ไม่ใช่เลยซักนิด แต่คุณก็มาทำให้เราที่กำลังหมดหวังมีความหวังขึ้นมา โดยการเชื่อมต่อเรากับ Chiral network ตอนนี้เรากลับเข้าสู่เกมส์อีกครั้งนึงแล้วทั้งๆที่ก่อนหน้านี้เราคิดว่าคงไม่มีวันเป็นไปได้อีกแล้ว  อีกไม่นานเราจะเปิดเส้นทางการจัดส่งใหม่ด้วย Watchtower ให้ได้ จำคำของผมเอาไว้เลย บอกตามตรง ใจนึงผมก็ยังคงอดกังวลเรื่องนั้นไม่ได้อยู่ดี เพราะงั้นเราถึงต้องการคุณไง Sam ! คุณไม่กลัวอะไรเลยใช่มั๊ยล่ะ? ถ้างั้นก็แสดงให้เราดูหน่อยว่าเราต้องทำยังไง 


                     Mail จาก ศูนย์กระจายสินค้า (Distribution Center)
                               ผู้ส่ง Benjamin Hancock
                              เรื่อง Sorry , Sam , Badnews

ก่อนอื่นเราขอบคุณมากสำหรับวัตถุดิบหายากที่คุณนำมาส่งให้เรา ทุกคนที่ Distro Center ต่างก็ยกย่องคุณที่เดินทางมาส่งของให้เรา แต่ผมก็เกรงว่าต้องบอกข่าวร้ายกับคุณ มอเตอร์ไซด์ที่คุณเห็นจอดอยู่ด้านนอกนั่น แบตเตอร์รี่มันหมด คุณคงต้องไปหามาใส่เองถ้าคุณต้องจะเอามันไปใช้มัน ยังไงก็ต้องหาแบตมาเปลี่ยนหรือไม่ก็หา auto charger มาลองชาร์จแบตมันดู
แล้วเอ่อ .. ผมมีข่าวร้ายอีกเรื่องจะบอกด้วย .. คุณเห็นมั๊ยว่า แม้อาคารสำนักงานแต่ละที่จะมีหน้าที่แตกต่างกันแต่ก็ต้องทำงานร่วมกัน แบ่งปันวัสดุเพื่อให้ทุกคนได้รับสิ่งที่พวกเขาต้องการและเพื่อให้แน่ใจว่าทุกอย่างที่ผลิตได้นำไปใช้อย่างเหมาะสม เพราะแบบนั้นคนแบบคุณจึงสำคัญมาก ถ้าไม่มี Porter (คนส่งของ) ระบบทั้งหมดได้ล่มกันหมดแน่นอน อาจจะทั้งโลกเลยด้วยซ้้ำ

เรื่องของเรื่องก็คือ นาย George Baton เจ้าหน้าที่ที่ Waystation เขาก็เคยเป็น Porter (คนส่งของ) ที่น่าเชื่อถือมาก่อน แต่เมื่อเร็ว ๆ นี้ไม่รู้ไม่เต็มใจหรือไม่อยากจะให้ความร่วมมือก็ไม่รู้ ไม่ยอมส่งของมาเลย แม้กระทั่งการจัดส่งที่ง่ายที่สุด ไม่รู้ว่านางจะกลัวหรือไม่มี oxy เพียงพอ หรือจะเพราะอะไรก็เถอะ ก็มีแต่คำแก้ตัวตลอด  ถึงแม้เขาจะตกลงที่จะส่งของมันจริงเขาก็ต้องสูญเสียสินค้ามากกว่าครึ่งระหว่างทางอยู่ดี นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมเราถึงมีวัตถุดิบเหลืออีกไม่มาก ผมมั่นใจเลยว่าคุณต้องช่วยเราเรื่องนี้ให้มันถูกต้องได้ เราหวังพึ่งคุณนะแซม



                                             INTERVIEWS 




                                        เรื่อง – MULEs and Drone Syndrome
                                     บันทึกเมื่อ 2 ปีก่อน
                                      โดย Die Hardman   

Bridges มีหน้าที่หลักคือการสร้างประเทศอเมริกาขึ้นมาใหม่ และในภารกิจในการสร้างที่ว่านี้สิ่งที่ต้องเป็นหลักก็คือ เชื่อมต่อ เมืองและสถานที่ต่างๆโดยการสร้างเครือข่ายจากการขนส่งอีกครั้ง

ย้อนไปในช่วงก่อนที่จะเกิด Death Standing การเชื่อมโยงทางเครือข่ายต่างๆเป็นตัวช่วยหลอมรวมสังคมให้เป็นหนึ่งเดียวกัน ทั้งหมดถูกควบคุมด้วยระบบการขนส่งอัตโนมัติในรูปแบบของ DRONE  AI ด้วยความเชื่อที่ว่า มันจะช่วยนำมาซึ่งความเท่าเทียมและจะเป็นการปฏิวัติระบบทั้งหมด แต่ดูเหมือนมันทำให้เราห่างจากเป้าหมายไปไกลเลย

จากนั้นเราก็เริ่มเห็นกรณีของสิ่งที่ในที่สุดเราจะขนานนามมันว่า  "drone syndrome" มันเป็นอะไรที่เกินกว่าคนบางคนจะรับไหว ที่จะต้องหนีให้ไกลจากเครื่องยนต์กลไกต่างๆ มันไม่ใช่อะไรที่มันปกติธรรมดาเลยนะ และแน่นอน  ความบกพร่องของ Oxytocin และความไม่สมดุลของฮอร์โมนตามที่เราเคยประเมินเอาไว้ทำให้มนุษยชาติจำเป็นต้องเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการนี้ ดังนั้นจึงมีกฎหมายเข้ามาเกี่ยวข้องและเราก็กลับเข้าไปในรูปภาพอีกครั้งและเราก็ถอยออกมาไม่ข้อมีส่วนร่วมในสถานการณ์ที่ว่าอีกเลย

แล้วจากนั้นเกิดอะไรขึ้นต่อหรอ? ผู้คนต่างก็ไม่มีการนำเครื่องจักรมาใช้งานอีก สิ่งที่ทุกคนต่างเคยบอกว่าสังคมของพวกเขาจะไม่สามารถอยู่รอดได้หากไม่มีมัน และมันก็นำมาซึ่งความวุ่นวายครั้งใหม่ โรคพึ่งพาการจัดส่ง (delivery dependence syndrome) พวกเขาเรียกมันว่าแบบนั้น 
เมื่อ Death Standing ฉีกเราออกจากกันการขนส่งสินค้าก็เกิดปัญหายิ่งกว่าเดิม เนื่องจาก Chial clouds บนท้องฟ้าทำให้เครื่องบิน, โดรนและทุกอย่างที่บินได้ไม่สามารถทำงานได้ ซึ่งหมายความว่าเราต้องกลับไปพึ่งพาการบริการการขนส่งงของมนุษย์อย่างสมบูรณ์ไม่ว่าเราจะชอบหรือไม่ก็ตาม

 และในที่สุดการส่งมอบสินค้าธรรมดาๆก็กลายเป็นสิ่งล้ำค่าที่บางคนมีชีวิตอยู่ได้เพื่อมัน พวกเขาถูกครอบงำโดยความปรารถนาที่จะส่งมอบและการแย่งชิงอย่างบ้าคลั่ง เมื่อเวลาผ่านไปพวกเขากลายเป็น MULE ที่เรารู้จักและชื่นชอบในวันนี้




                                              เรื่อง – Bridge Babies 
                                  บันทึกเมื่อ 1 ปีก่อน
                                     โดย Deadman   


ดูสิ ชั้นนำอะไรใหม่ๆมาที่ Bridges ด้วยนะ แต่ผมก็ไม่รู้ว่าเจ้าสิ่งนี้มันจะมีประโยชน์กับพวกคุณรึเปล่า แต่ยังไงก็เถอะ ผมก็ยังยินดีที่จะแนะนำให้รู้จักเจ้า BB ถ้าพวกคุณอยากจะรู้อ่ะนะ

พวกเขาเรียกผมว่า Deadman  คงเพราะความคุ้นเคยกับคนตายของผม เข้าใจใช่มั๊ย? เราเคยอยู่ในช่วงเวลาที่ดีเสมอ เราเคยมีการพูดคุยกันบ้าง เล็ก ๆ น้อย ๆ เป็นประจำเมื่อผมยังทำงานในโรงเก็บศพ แต่ยังไงก็เถอะ นั่นแหละคือเหตุผลที่ผมทำงานเกี่ยวกับการดูแลและวิจัยเพื่อเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับผู้ที่ไม่ได้อยู่กับเราอีกต่อไปแล้ว
โทษทีที่ผมพูดนอกประเด็นไปหน่อย จริงๆก็คือ BB ได้ถูกส่งไปพร้อมเจ้าหน้าที่ภาคสนามของเราก่อนที่ผมจะมาอยู่กับ Bridges เสียอีก ฉะนั้นการวิจัยเกี่ยวกับเจ้าตัวน้อยนี่ก็มีการดำเนินการกันมานานมากๆแล้ว เพียงแต่ยังไม่มีใครค้นพบการทำงานจริงๆของมัน จนกระทั้ง Bridges ได้เริ่มสร้าง BB ของตัวเองขึ้นมา ซึ่งงานส่วนใหญ่พวกเขาก็ทำมาหมดแล้ว เราแค่ต้องทำตามคู่มือการใช้งานแค่นั้นเอง 

ซึ่งเราก็ไม่รู้หรอกนะว่าพวกเขาทำได้ยังไง ไม่ใช่แค่วิธีที่พวกเขาใช้ BB ในการตรวจจับ BTs หรือวิธีที่พวกเขาสามารถเชื่อมต่อโลกนี้ไปยังอีกด้านหนึ่งได้ นั่นทำให้เราต้องศึกษาเจ้าเพื่อนตัวน้อยพวกนี้อีกเยอะ แต่มีเรื่องนึงที่ค่อนข้างมั่นใจคือ พวกเขายังคงศึกษาค้นหาความเข้าใจถึงการเกิด Death Satnding และการเกิดและตายอย่างต่อเนื่องมาตลอด ผมรับประกันได้เลย เอาล่ะ สำหรับวันนี้ผมคิดว่าเรื่องที่ผมอยากจะบอกคงมีแค่นี้แหละ หวังว่า ผมจะมีข้อมูลใหม่ๆมาแบ่งปันให้อีกในคราวหน้า ครั้งหน้าค่อยมาเม้าท์กันใหม่ แล้วเจอกัน ..หวังว่านะ.   




                                   เรื่อง – Timefall 
                                บันทึกเมื่อ 3 ปีก่อน
                                    โดย Heartman

ข้อมูลฝนพิษ Timefall ถูกบันทึกไว้ครั้งแรกหลังการเกิด Death Standing และแม้จะมีการศึกษาต่อมาอีกหลายปีตั้งแต่นั้นมาเราก็ไม่สามารถเข้าใจว่ามันเกิดขึ้นได้ยังไง หรือเพราะอะไรมันถึงเปลี่ยนน้ำธรรมดาให้เป็นแบบนั้นได้ มีนักวิจัยบางคนที่ตั้งขอสันนิฐานว่ากระบวนการนี้น่าจะเป็นการ “ขโมยเวลา” แต่ก็ยังไม่เข้าใจว่าทำไมมันถึงตกเฉพาะบางพื้นที่ สิ่งที่เรารู้แน่นอนก็คือมันได้รับผลกระทบจากความเข้มข้นของสสาร chiral ในท้องถิ่นนั้นๆ

แต่นี่เป็นเพียงการตั้งข้อสังเกตเท่านั้น  แต่มีบางสิ่งในตัวผมที่สงสัยว่า การเกิด Death Standing อาจคือการเปลี่ยนแปลงของเวลา แต่ไม่ใช่ .. นั่นเป็นเรื่องที่เลวร้ายกว่านั้น คุณคงเข้าใจว่า มนุษย์เราสามารถเข้าใจถึงความตายของเราเองหรือแม้แต่ความเป็นไปได้ของสถานที่ที่อยู่เหนือความตายได้ มันใช่หรอ? เรามีความสามารถในทางการคิดถึงเรื่องในอนาคตได้ ถ้าเปรียบเชิงวิวัฒนาการ มันเป็นสิ่งที่จะช่วยเราในการพัฒนาสายพันธุ์ของเรา แต่จะเกิดอะไรขึ้นถ้า Timefall ทำให้เรามีความสามารถที่เปลี่ยมเสมือนติด supercharged ที่จำเป็นอย่างยิ่งในการดำรงอยู่ในโลกใหม่นี้ล่ะ? เป็นสิ่งหนึ่งที่จะพาเราไปสู่ขั้นต่อไปของวิวัฒนาการของเรา? 
บางทีเราอาจไม่ต้องขุดหลุมอยู่ใต้เมืองอีก หรือบางที การเกิด Death Standing คือปารกฎการณ์ที่เกิดขึ้นเพื่อช่วยเผ่าพันธุ์ของเราไม่ให้สูญพันธ์ 

เป็นแนวความคิดที่น่าตื่นเต้นดีนะ ผมแน่ใจว่าคุณจะเห็นด้วย ผมคนนึงล่ะที่แทบจะทนไม่ไหวในการออกเดินทางของพวกเรา ใครจะรู้ว่าอะไรที่รอเราอยู่!


หลังจากทำธุระส่วนตัวในห้องพักจนพอใจแล้วก็ออกจากห้องขึ้นลิฟต์มาที่ชั้นบนเพื่อเตรียมรับภารกิจต่อไปที่ Delivery Terminal ได้เลย

         

??? -นี่ไม่ใช่สิ่งที่เราตกลงกันไว้นี่ คุณบอกว่าคุณจะทำทุกทางอย่างเต็มที่เพื่อช่วย BB ไง
??? -เรากำลังทำอยู่ แต่เราไม่สามารถปล่อยตัวลูกของคุณตอนนี้ได้ ขอให้เชื่อชั้น ทำตามที่บอก นี่แหละคือสิ่งที่ดีที่สุดแล้ว 
??? - ยัยผู้หญิงที่ใส่หน้ากากไม่ทำอะไรเลยนอกจากโกหกฉัน


Deadman – Sam โทษที ผมลืมบอกคุณไปเรื่องนึง เกี่ยวกับเรื่องการควบคุมอัตราความเครียดของ BB และลดความเสี่ยงของการถูกพิษ มีบางสิ่งที่คุณจะทำได้ตอนที่ BB เริ่มแสดงออกถึงความทุกข์ 
Sam – อย่างเช่น 
Deadman –  เช่น หาเวลาสักครู่เพื่อดูแลมันไง ดึง Pod มันออกมาแล้วเขย่าเบาๆเหมือนเป็นเปล ประมาณนั้น ...  ก็ไม่อยากจะละลาบละล้วงอ่ะนะตอนนี้มันเป็นยังไงบ้างล่ะ?
Sam – เอ่อ ...ก่อนที่ผมจะตอบ คือผมมีบางอย่างจะถามนิดนึง
Deadman –   มีอะไรหรอ?
Sam – ทุกครั้งที่ผมเชื่อมต่อกับ BB ผมเห็นบางอย่าง
Deadman – คุณเห็นอะไรหรอ?
Sam – เห็นหน้าคนๆนึง ผมก็ไม่รู้ใคร มาพูดกับผม แล้วก็มีคนอื่นๆมาพูด แต่ผมฟังไม่ค่อยรู้เรื่อง
Deadman –  อืมม อาจเกิดจากผลของภาวะตกเลือด ..แล้วเอ่อ ผมเตือนคุณรึยังเรื่องที่ว่าคุณอาจจะเข้าใจผิดว่าความทรงจำของ BB เป็นของคุณเอง มันเป็นเหตุการณ์ในอดีตของ BB ไม่มีอะไรหรอก ผมจะอธิบายแบบนี้นะ BB ถูกเลี้ยงมาโดย Stillmother ราวๆ 28 อาทิตย์ก็ถูกย้ายเข้ามาใน Pod พูดให้ชัดๆเลย นี่คือช่วงเวลาก่อนที่มันเกิดมาด้วยซ้ำจากนั้นทุกกระบวนการของร่างกายก็หยุดการพัฒนา แต่อายุ 28 อาทิตย์ ระบบประสาทสัมผัสนั้นโตพอที่จะประมวลผลสิ่งเร้าภายนอก มันเป็นมากกว่าความสามารถในการเข้ารหัสข้อมูลไปในความทรงจำ ที่สามารถตกค้างเข้าไปในตัวคุณระหว่างการเชื่อมต่อได้
Sam – แล้วผู้ชายที่ผมเห็นคือใคร?
Deadman – อาจจะใครซักคนในทีมแพทย์ไม่ก็ฝ่ายเทคนิคที่ดูแล BB มันสำคัญด้วยหรอ? มันต้องผ่านมือใครต่อใครตั้งหลายคน แล้วผมจะรู้ได้อย่างไรว่าตัวไหนมีร่องรอยความทรงจำที่ฝังใจอยู่
Sam – ก็คุณเป็นผู้เชี่ยวชาญไม่ใช่หรอ?
ไม่มีใครเชี่ยวชาญเรื่อง BB หรอกแซม เพราะ BB ได้รับการพัฒนาอย่างเป็นความลับมานานหลายทศวรรษแล้ว พวกเขาคือ กล่องดำที่เป็นสิ่งจำเป็นของคุณ เราอาจใช้งานพวกเขาได้ แต่ไม่มีวันเข้าใจพวกเขาจริงๆได้หรอก เชื่อผมเถอะ ผมพยายามที่จะเรียนรู้มาตลอดแต่ข้อมูลเก่าๆก็แทบจะสูญหายเกือบหมด ถ้าผมพบอะไรดีๆจะรีบมาบอกก็แล้วกัน ด้วยเกรียติของ Deadman เลยล่ะ 


                                                 การปลอบ BB (Soothing BB)

กด L1 + ปุ่มทิศทางลงล่าง > กดสี่เหลี่ยมเพื่อดึง BB ออกมาอุ้ม > ขยับจอยบังคับขึ้นลง
การกล่อมทำให้ BB หยุดร้องไห้และอารมณ์ดีขึ้นมาจะช่วยลดระดับความตึงเครียด (Stress Level) ของ BB ให้ลดลง 


                                                   Delivery Terminal



                       ตอนนี้ใน ORDER ของ SAM นั้นจะมีภารกิจให้ทำ 2 ภารกิจคือ
                              [Order No.7] Recovery: Chiral Printer Interface
                                  [Order No.8] Collection: Chiral Crystals


                                      [Order No.8]

                            Collection: Chiral Crystals



ภารกิจนี้คือการเก็บ Chiral Crystals ที่เจอในพื้นที่มา 1 อัน ซึ่งแม้ว่าจุดหมายของภารกิจจะชี้ไปที่ทางทิศเหนือของ Distribution Center ซึ่งเป็นพื้นที่ที่สามารถเจอ Chiral Crystals หนาแน่นที่สุด แต่ หากในระหว่างเดินทางเมื่อเจอ Chiral Crystals ขึ้นอยู่แล้วสามารถเก็บได้ 1 ชิ้น ก็จะถือว่าได้ Chiral Crystals ตามจุดหมายของภารกิจแล้ว สามารถนำไปส่งที่ Delivery Terminal เพื่อจบภารกิจได้เลย


* ข้อควรระวังคือ เมื่อเก็บ Chiral Crystals มาแล้วให้นำส่งที่ Delivery Terminal ทันทีเพราะหากนำติดตัวไปทำภารกิจ [Order No.7] ต่อหรือบังเอิญไปพบเจอและเก็บ Chiral Crystals ได้ระหว่างทางที่ไปทำภารกิจ  [Order No.7] แล้วไม่นำสินค้ามาส่ง นั่นจะทำให้ระยะเวลาในการทำ[Order No.8] เพื่อนำส่ง Chiral Crystals ล่าช้าไปทันที ซึ่งก็จะส่งผลต่อการได้ Rank และ job grade หลังจบภารกิจนี้ *

                     เมื่อได้ Chiral Crystals มาแล้วก็นำส่งที่ Delivery Terminal ได้เลย


Heartman – ยินดีด้วยนะแซม ผมเข้าใจดีว่าคุณเพิ่งทำให้ที่นี่สามารถเข้าถึง Chiral Printer ได้แล้ว นั่นมันเป็นอุปกรณ์พิเศษที่มีประโยชน์มาก มันสามารถทำงานได้ด้วยการใช้วิธีการทำงานของเครือข่ายของเราโดยใช้ประโยชน์จากชายหาด ทำให้เราสามารถถ่ายโอนข้อมูลจำนวนมหาศาลได้อย่างรวดเร็วในทันที ซึ่งปกติการถ่ายโอนดังกล่าวอาจใช้เวลาหลายชั่วโมงและไม่ใช่แค่วันเดียวด้วยบางคนคาดการณ์ว่า เครือข่าย chiral อาจจะเป็นแบบ time machine คือมีการส่งข้อมูลไปยังอดีต เราก็บอกได้เพียงว่า เรายังไม่เข้ใจการทำงานขั้นพื้นฐานของเครือข่ายนี้หรือแม้แต่ชายหาดที่เราพึ่งพามันมาตลอด อาจเปรียบความสัมพันธ์ของเรากับมันเหมือนกับมนุษย์ในยุคดึกดำบรรพ์กับไฟ มันมีประโยชน์ใช่มั๊ยล่ะ?  แต่มันก็ค่อนข้างอันตรายอย่างปฏิเสธไม่ได้เลยด้วย อย่างไรก็ตามเราได้ตัดสินใจแล้วว่ารางวัลที่จะได้จากมันนั้นคุ้มค่ามากกว่าความเสี่ยง นอกจากนี้ เนื่องจากพวก BT มันก็เชื่อมโยงกับชายหาดมันเลยเป็นเหตุผลที่การศึกษาเพิ่มเติมสมควรต้องทำ และการทดลองอาจเป็นประโยชน์อย่างมาก และบอกได้เลยว่าประโยชน์ที่ได้มันเกี่ยวกับคุณแน่นอน สบายใจได้ ผมจะให้คุณทราบถึงสิ่งที่ผมศึกษาทันทีที่มีอะไรคืบหน้า จำคำผมไว้ได้เลย 


 จากนั้นเลือกเมนู Recycle แล้วเลือก Chiral Crystals เพื่อทำการรีไซเคิ่ลมันออกมาแร่ Chiralium ออกมา โดยการรีไซเคิลอุปกรณ์หรือวัสดุอาวุธในโรงงานจะช่วยเพิ่มปริมาณวัสดุดิบสำหรับใช้ในโรงงานซึ่งวัตถุดิบที่มากขึ้นก็สามารถนำมาใช้เพื่อสร้างอาวุธและอุปกรณ์ใหม่ ๆได้เพิ่มขึ้นนั่นเอง

โดยสิ่งต่างๆที่โรงงานสามารถสร้างให้ได้เมื่อส่งมอบ Chiral Crystals ชุดแรกให้ประกอบด้วย
                     
ไอเทมใหม่ที่สร้างได้ 
-Container Repair Spray สเปรย์ซ่อมแซมสินค้า ได้ โดยการเลือกใช้ Container Repair Spray แล้วกด L2 เล็งเป้าหมายแล้วใช้ R2 ในการพ่นไปยังสินค้าที่ต้องการจะซ่อมแซม โดยใช้ปุ่มสี่เหลี่ยมในการเปลี่ยนเป้าหมายในการพ่น
-วัตถุดิบ Resins / Metals

รูปแบบโครงสร้างใหม่ที่ PCC สามารถสร้างได้ 
- Bridge สามารถใช้ PCC สร้างสะพานได้ โดยการเลือกใช้ PCC แล้วกดลงล่างแล้วเลือกสร้างสะพาน

ข้อมูลการให้สัมภาษณ์ใหม่
-Chiral Symmetry
-Chiralium
 


Heartman - มันเป็นความสัมพันธ์กันระหว่างระดับของ chiralium ที่เพิ่มขึ้นและการเกิดผลึกเพิ่มขึ้น นี่อาจเป็นผลมาจากการขยายเครือข่ายด้วย แต่คุณไม่จำเป็นต้องกังวลอะไรหรอก ความหนาแน่น chiral ในท้องถิ่นนี้ยังอยู่ในช่วงที่ยอมรับได้ ถ้าคุณเจอ Chiral Crystals อีกก็เก็บมาให้ได้เลย แล้วคุณจะได้รางวัลตอบแทนด้วย


Die Hardman – ยิ่งคุณหา Chiral Crystals มาได้มากเท่าไหร่ คุณก็สามารถส่งได้ที่หนึ่งในโรงงานในแต่ละพื้นที่ของเราได้และคุณสามารถฝากทรัพยากรอื่น ๆพร้อมกับไอเทมใด ๆ ที่คุณไม่ต้องการมาทำการ Recycle ได้ ทุกอย่างมีคุณค่าแม้สิ่งที่เราไม่ได้ใช้แล้วเนื่องจากสามารถแบ่งออกเป็นส่วนสำหรับการวิจัยและพัฒนาและการใช้งานอื่น ๆได้อีก


                                      [Order No.7] 

                      Recovery: Chiral Printer Interface



ภารกิจนี้คือการเดินทางลงใต้จาก Distribution Center ไปยังพื้นที่เป้าหมายซึ่งเป็นที่ตั้งแค้มป์ของพวก MULES เงื่อนไขของภารกิจเข้าไปขโมยไอเทม Chiral Printer Interface มาจาก Postbox ของพวกมัน


-ระหว่างทางก่อนจะถึงแค้มป์พวก MULES กดปุ่มทิศทางขวาเลือกติดตั้ง PCC แล้วกดปุ่มทิศทางลงล่างเลือกสร้าง Watchtower สำหรับใช้ส่องดูเป้าหมาย จำนวนและตำแหน่งของพวก MULES ที่อยู่ในพื้นที่
- จากนั้นเดินทางชิดทางเดินด้านซ้ายทิ้งระยะห่างจากการมองเห็นของพวก MULES จะพบทางเข้าถ้ำบนเนินที่ด้านในถ้ำสามารถทะลุออกมาที่ด้านข้างของแค้มป์พวก MULES ได้ และมีกอหญ้าสำหรับใช้พรางตัวเพื่อเข้าไปในแค้มป์ได้ด้วย



- ในบริเวณแค้มป์จะมีพวก MULES เฝ้าอยู่แค่ตัวเดียว  ซึ่งสามารถจัดการมันแบบเงียบๆได้ด้วยการเลือกใช้ เชือก (Strands) กด L2 เพื่อเตรียมใช้งานแล้วย่องเข้าไปด้านหลังของศัตรูกด R2 จะสามารถใช้เชือกรัดคอทำให้ศัตรูสลบได้


- เมื่อจัดการ MULES ที่อยู่เฝ้าแค้มป์อยู่ได้แล้ว เข้าไปสำรวจที่ Postbox เลือกไอเทม Chiral Printer Interface ที่ต้องการแล้วหนีออกจากพื้นที่ได้เลย

**  ส่วนไอเทมอื่นๆใน Postbox ของพวก MULES ก็สามารถเลือกขนไปเท่าที่แบกไหว หรือจะจัดการพวก MULES ที่เหลือให้หมด แล้วกลับมาขนไอเทมต่างๆของพวกมันกลับหลังจบงานก็ได้ ** 

หลังจากนำส่ง Chiral Printer Interface ไปยัง Distribution Center สำเร็จแล้ว ในโรงงานก็จะสามารถผลิตไอเทมอื่นๆได้เพิ่มเติม

ไอเทมใหม่ที่สร้างได้
- Bridges Boots

 ข้อมูลการให้สัมภาษณ์ใหม่
Necrosis and the Ancient Egyptian View of Life and Death
Two Year Ago - Distribution Center
The Chiral Network

New hologram data
-Bridge Guard: Macho - ข้อมูลการสร้างนี้จะสามารถสร้างได้เมื่อมี Connection Level ระดับ 2 หรือมากกว่า โดยเข้าไปที่  structure แล้วเลือก Customize structure


                                     การเพิ่มระดับการเชื่อมต่อ (Connection Level)

เมื่อสามารถทำภารกิจจนทำให้ระดับการเชื่อมต่อของโรงงานนั้นๆเพิ่มขึ้น ปริมาณทรัพยากรต่างๆที่โรงงานสามารถผลิตได้ก็จะมีมากขึ้นคุณจะได้รับสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆในเรื่องการมีวัตถุดิบขายในร้านที่มีให้เลือกใช้ได้มากขึ้น นอกจากนี้ Bridges ยังมีฟังก์ชั่นใหม่ให้และคุณอาจได้รับของขวัญหนึ่งหรือสองชิ้นเป็นรางวัล bandwidth (ระดับความกว้างของแถบคลื่นความถี่ที่เป็นค่าในการวัดความเร็วในการส่งข้อมูลการสื่อสาร) ของสถานที่นั้นๆถูกแชร์เข้ากับ sam [ระดับ 2320> 2720] ทำให้มีโครงสร้างใหม่ๆที่สามารถสร้างได้ในพื้นที่เครือข่าย Chiral เพิ่มเติม

-----------------------------------------------------------------------------------------------------------

         
                                             Interview Data



                                                         เรื่อง – Chiralium
                        บันทึกเมื่อ 3 ปีก่อน ที่ Bridges HQ Lab
                                          โดย Heartman

คุณอยากจะรู้เรื่องราวเกี่ยวกับ Chiralium เพิ่มเติมอีกหรือเปล่าล่ะ ? แม้เราจะรู้เรื่องของมันไม่ทั้งหมดแต่ก็ดีใจมากที่จะนำเสนอทฤษฎีล่าสุดของเรา แต่คุณไม่ต้องกลัวหรอกนะ นี่มันแค่  ทฤษฎี แค่นั้นเอง
Chiralium มันก็เหมือนสสารมืด ที่เกิดขึ้นมานานพอๆกับจักรวาลของเรานี่แหละ และแม้มันจะมีอยู่แต่ก็ไม่ใช่ในมิติเดียวกันที่เราสามารถรับรู้ได้ จนกระทั่งเดี๋ยวนี้ ชายหาดนั่นทำให้เราเข้าถึงมิตินั่นได้ และด้วยศาสตร์ที่ว่าด้วยเรื่องการมีอยู่ของ Chiralium ไม่ใช่ความรู้ที่เราเคยมีมาก่อน แน่นอนว่าเราได้สังเกตเห็นว่ามันรวมตัวกันเป็น Crystalline และจากบันทึกเรื่องผลกระทบทางกายภาพและจิตใจที่ไม่น่าไว้วางใจกับบุคคลที่ได้สัมผัสมัน ได้เปลี่ยนโฉมหน้าความเข้าใจของเราเกี่ยวกับความเป็นจริงทั้งหมด แต่มันก็สามารถใช้เป็นเครื่องมือที่ช่วยในการพิสูจน์เรื่องเกี่ยวกับแนวคิดตามสมมติฐานว่ามีเอกภพ จำนวนมากมายนับไม่ถ้วนเพื่อเป็นการวางรากฐานไปถึงทฤษฎีเกี่ยวกับ ชายหาด นั่นได้ด้วย 
Chiral ไม่ได้รับผลกระทบจากเรื่องเวลาที่เปลี่ยนแปลงไป ทำให้อนุภาคเหล่านี้ยังคงน่าเป็นห่วงอยู่ แม้การระเบิดครั้งใหญ่จะผ่านพ้นไปแล้ว แค่สงสัยนิดหน่อยว่ามันรอดพ้นสายตาของเราได้นานขนาดนั้นได้ยังไง จนกระทั่งมนุษย์และ BT มารวมตัวกันใน voidout ก่อนที่จะไม่มีอะไรเหลืออะไรนอกจาก chiralium ที่ติดสอยห้อยตามมา

หลายคำกล่าวอ้างที่ยังไม่ได้รับการยืนยัน แต่ผมก็เชื่อว่านี่เป็นข้อสรุปที่มากพอสำหรับฉันทามติของสังคมนักวิทยาศาสตร์ในปัจจุบันที่สอดคล้องกัน .. นี่พูดจริงๆเลยนะ .. ผมจะมุ่งหน้าไปทางทิศตะวันตกเร็วๆนี้เพื่อเข้าร่วมกับทีมสำรวจชุดแรกด้วย ก็หวังว่าจะได้เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ chiralium และการเชื่อมต่อกับชายหาดของมันไปพร้อมๆกัน



                            เรื่อง – Chira Symmetry
                 บันทึกเมื่อ 3 ปีก่อน ที่ Bridges HQ Lab
                                 โดย Heartman


คำว่า Chira มาจากภาษากรีก Kheir ที่หมายถึงมือ เปรียบเทียบมือซ้ายกับมือขวาของคุณ พวกเขาดูเหมือนทั้งขนาดและรูปร่างใช่มั้ยล่ะ? ตอนนี้ลองยื่นฝ่ามือข้างนึงของคุณออกไปข้างหน้าและวางมืออีกข้างหนึ่งทับมืออีกข้างนึง รูปร่างของมันจะไม่ทับซ้อนกัน แต่ถ้าเอามือมาประกบกัน.. มันจะพอดีเป๊ะเลย ! ราวกับว่ามือข้างหนึ่งเป็นภาพสะท้อนของมือคุณเอง แม้จะเห็นว่ามือทั้งสองนั้นไม่เหมือนกันเลย นี่คือสาระสำคัญของ Chirality คุณสมบัติทางเรขาคณิตของโมเลกุล chiral ที่เมื่อเอาตัวโมเลกุลไปส่องกระจกแล้ว โครงสร้างที่ปรากฏในกระจกจะไม่เหมือนกับโมเลกุลตัวแม่ อุปมาอุปมัยเสมือนที่มีอีกสถานที่นึงในอีกมิติที่แสดงภาพสะท้อนของกระจกโดยมีรูปร่างไม่ตรงกับต้นฉบับ

มันจึงเกิดทฤษฏีว่าพวก BT ก็คือ ภาพสะท้อนของตัวเราเอง เราจะอยู่ในจุดเดียวกันในเวลาและสถานที่ เหมือนเป็นกระจกสะท้อนกันและกันแต่จะไม่ทับซ้อนกัน ในทางกลับกัน เมื่ออนุภาคของเราพบสิ่งที่ตรงกันข้าม จะเกิดช่องว่างขึ้นและเมื่อ pariticles ของเราพบสิ่งที่ตรงกันข้ามจะเกิดช่องว่าง ทำให้เกิดการระเบิด (voidout) เราจึงได้คิดค้นการสื่อสารใหม่เพื่อเป็นกุศโลบายเพื่อใช้ ชายหาด นั่นให้เกิดประโยชน์ เหมือนกับเป็นกระจกที่สะท้อนโลกของเรากับโลกอีกแห่ง ดังนั้นเครือข่าย Chiral network จึงเกิดขึ้นมา




เรื่อง – Necrosis and the Ancient Egyptian View of Life and Death
                     บันทึกเมื่อ 3 ปีก่อน ที่ Bridges HQ Lab
                                        โดย Heartman

ชาวอียิปต์เชื่อว่ามนุษย์เราประกอบด้วยองค์ประกอบสองอย่างคือ Ha และ Ka แปลว่า ร่างกายและวิญญาณ หลายข้อมูลได้อธิบายถึงธรรมชาติของพวกเขาในรายละเอียดที่ง่ายที่สุดเท่าที่พวกเราจะเข้าใจได้คือ วิญญาณคือสิ่งที่เข้าร่วมกับเด็กในครรภ์และให้ชีวิตกับร่างกาย และออกจากร่างกายเมื่อตาย ร่างกายเป็นเพียงแค่เรือเท่านั้น หากวิญญาณกลับมาอีกครั้ง ร่างกายก็จะมีชีวิตใหม่อีกครั้ง สังเกตได้ในประสบการณ์ใกล้ตายซึ่งเป็นวิญญาณที่แยกจากร่างกายของมันในช่วงเวลาสั้น ๆ 

ชาวอียิปต์เชื่อว่า ความตายจะไม่เปลี่ยนแปลงทันที แต่เป็นกระบวนการที่วิญญาณเปลี่ยนจากอาณาจักรหนึ่งไปอีกอาณาจักรหนึ่ง แต่กระบวนการนี้ก็เปลี่ยนไป ต้องขอบคุณ  Death standing ที่ทำให้วิธีที่ชีวิตและโลกได้รับการจัดระเบียบ เมื่อความตายเกิดขึ้น จิตวิญญาณจะออกจากร่างกายและผ่านเข้าไปใน ตะเข็บ (Seam)  จากที่นั่นก็เปลี่ยนผ่านไปยังชายหาดและต่อจากนั้นไปสู่โลกแห่งความตายที่แท้จริง แต่ หลังจากการเกิด Death standing มันทำให้วิญญาณที่กำลังเดินทางไปที่ชายหาดอาจพยายามที่จะกลับไปที่ร่างของมันในโลกได้อีก 

มันยากที่จะเชื่อในตอนแรก แต่กระบวนการตายของเนื้อเยื่อ (necrosis) แสดงหลักฐานของ ปรากฎการณ์ (phenomenon) ที่ยากต่อการปฏิเสธ นี่เป็นเหตุผลว่าทำไมเราจึงจำเป็นต้องเผาศพของคนตาย ร่างกายจะต้องถูกทำลายเพื่อตัดการเชื่อมโยงกับจิตวิญญาณ มันจะทำให้คุณมีอิสระในการเดินทางไปยังโลกอีกฝาก




                          เรื่อง – The Chiral Network I
                    บันทึกเมื่อ 3 ปีก่อน ที่ Central Knot City 
                                      โดย Mama

และแล้วโครงสร้างพื้นฐานหลักก็เสร็จสิ้น Q - pid เวอร์ชั่นแรกพร้อมใช้งาน การติดตั้งเครือข่าย chiral เป็นไปด้วยดี ตอนนี้สิ่งที่เราต้องทำก็คือเชื่อมโยง central knot city กับหัวเมืองต่างๆ เงื่อน และพิสูจน์ว่ามันใช้งานได้จริงๆ แต่ก็เป็นเรื่องน่าเศร้า เพราะชั้นจะไม่อยู่ที่นี่เพื่อเห็นมัน เพราะว่าชั้นได้รับมอบหมายให้ไปกับกลุ่มที่สองของทีมเดินทางมุ่งหน้าไปทางทิศตะวันตกกับคนอื่น แต่ก็ได้ยินว่าทีมงานที่เป็นคนควบคุมมันคือคนระดับสุดยอดของสุดยอดแล้ว  พวกเขาจะสามารถสร้างเครือข่ายปฏิบัติงานต่างๆได้ภายในสามปีตามแผนที่วางไว้ ชั้นมั่นใจเลย

และในขณะที่พวกเขากำลังเห็นความสำเร็จนั้น เราก็จะไปเยี่ยมชมเมืองและสิ่งต่าง ๆ ทั่วประเทศและวางสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับสิ่งต่างๆที่กำลังเริ่มขึ้น
Amelie และคนอื่น ๆ ในกลุ่มแรกที่นำหน้าไปก่อน เพื่อทำหน้าที่ทำข้อตกลงและเชื่อมความสัมพันธ์กับผู้คนตามสถานที่ต่างๆและวางรากฐานเพื่อให้แน่ใจว่าทุกอย่างเป็นไปตามแผน หลังจากนั้นเราจะต้องเชื่อมโยงมันทั้งหมดกับ Q - pids 

เฮ้ มันก็เป็นเหมือนภารกิจอะพอลโลในสมัยก่อนนั่นแหละ เราใช้ สถานะกระบวนการ(State of Process) หรือ คำสั่งในโปรแกรมที่ถูกประมวลผลด้วยหน่วยประมวลผลกลางถึง 3 ขั้นตอนเพื่อทำสิ่งที่เกือบจะเป็นการปฏิวัติ




เรื่อง Two year Ago – Distribution Center west of Capital Knot city 
                     บันทึกเมื่อ  ปีก่อน ที่ Distribution Center
                             โดย Banjamin Hancock 


ประมาณหนึ่งปีแล้วตั้งแต่เรามาอยู่ที่นี่พร้อมกองหนุนกลุ่มนึง ชาวบ้านกลุ่มแรกที่อยู่ที่นั่นก่อนหน้าต่างก็ชอบที่เราให้การสนับสนุนด้วยการจัดทำ chiral relay และปรับปรุงสิ่งต่าง ๆทันทีที่เรามาถึง เราทำกันทั้งคืน ก่อนที่ชาวบ้านจะรีบกลับที่พักเพราะได้ยินเสียงแปลกๆดังขึ้้นมา เราไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นใน central หรือ Capital ยิ่งเรื่อง Amelie และกลุ่มของเธอที่มุ่งหน้าไปทางทิศตะวันตกยิ่งไม่ต้องพูดถึง แต่เราเริ่มรู้สึกแล้วว่ามีบางอย่างที่ไม่ถูกต้อง มันต้องมีอะไรที่มากกว่านั้นแน่นอน มีคนมากมายกำลังเริ่มจะเป็นโรคทางจิตที่เรียกว่า agoraphobia หรือ หรือโรควิตกกังวลประเภทหนึ่งที่ทำให้รู้สึกกลัวและวิตกกังวลเมื่ออยู่ในสถานที่หรือสถานการณ์ที่ตนคิดว่าไม่สามารถขอความช่วยเหลือจากใครได้หากมีเรื่องร้ายเกิดขึ้น เหมือนกลัวว่าการออกไปข้างนอกคนเดียวจะเกิดเรื่องร้ายๆขึ้นกับเขา 

ดูสิ  .. ในพื้นที่บริเวณโดยรอบศูนย์กระจายสินค้าหรือเวย์สเตชั่น ที่นี่ไม่เหมือนพื้นที่ที่ที่อยู่ทางตะวันออกอื่นๆ พวกเขาถูกแยกตัวออกมาอยู่ในที่ที่ไม่มีใครช่วยไม่ได้ เหมือนถูกตัดขาดจากโลก และมีพนักงานไม่มากนักซึ่งหมายความว่าคุณมักจะต้องทำงานแบบสองแรงอยู่ตลอด นอกจากนั้นก็ยังต้องกังวลเรื่องข่าวลือเรื่องผู้ก่อการร้ายกลุ่มนั้นอีก 

อาจจะมีแค่ผมหรือเปล่าที่รู้สึกว่ายังลืมไปอีกเรื่องก็คือไอ้พวก MULE ที่กำลังดักปล้นเราข้างนอกนั่น? ใช่ ผมรู้พวกเขาไม่ได้จะทำร้ายอะไรเราหรอก แต่การปล้นสินค้าของเราก็ถือว่าพวกเขาไม่ได้ทำให้งานของเราง่ายขึ้นเลยว่ามั๊ย? โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีคนเหล่านี้จำนวนมากที่เคยเป็นพนักงานส่งของระดับต้นๆของเราไปเป็นพวกมัน พวกเขาสามารถวิ่งวนรอบเราได้แบบที่เราไม่รู้ตัวสบายๆ ... คุณก็รู้
แม้ตอนนี้ ระบบเครือข่ายยังคงใช้งานได้อยู่ แต่ผมก็ยังรอคอยให้ถึงวันที่คณะนักเดินทางชุดที่ 2 มาถึงที่นี่พร้อมกับ Q-pid ซะที  แต่ก่อนจะถึงตอนนั้น เราก็คงต้องทำหน้าที่ของเราต่อไป เพื่อ Bridges และ ประเทศของเรา .. ผมพูดถูกมั๊ย?


ตอนนี้ใน ORDER ของ SAM นั้นจะมีภารกิจให้ทำ 2 ภารกิจคือ
[Order No.9] Power Supply unit Delivery: Wind Farm
[Order No.10] Construction: Bridge

        เพื่อความสะดวก ให้เลือกกำหนดภารกิจ [Order No.10] Construction: Bridge ก่อน

                                       [Order No.10] 
                             Construction: Bridge


                                                 สินค้าที่ต้องนำสง – Metals 
                                             จำนวนและน้ำหนัก – 2 / 40.0 Kg



เมื่อรับภารกิจพร้อมทำการโหลดสินค้าเสร็จเรียบร้อยแล้ว เป้าหมายคือการขนเอา Metals ไปยัง Site ก่อนสร้างสะพานที่จุดหมายของภารกิจบริเวณนริมน้ำข้างๆตึก จากนั้นกดปุ่มออฟชั่นค้างตรงแท่นควบคุมการก่อสร้าง เพื่อเข้าเมนู Structure Menu


- เลือกคำสั่ง Complete Structure จะเข้าสู่เมนู Select Materials สำหรับเลือกใส่วัตถุดิบตามจำนวนที่สิ่งก่อสร้างนั้นๆต้องการ โดยให้สังเกตที่เมนู Material Required หรือจำนวนวัตถุดิบที่ต้องการ ซึ่งในกรณีสะพานนี้จะต้องการวัตถุดิบคือ Metals จำนวน 800 ยูนิต ซึ่งก็คือสินค้าที่บรรทุกมาตอนแรก เมื่อใส่วัตถุดิบจนครบตามที่ต้องการแล้ว ตัวสร้างโครงสร้างก็จะเริ่มสร้างสะพานขึ้นมาจนสำเร็จทันที



ส่วนในกรณีจะสร้างสะพานตามสถานที่ต่างๆเพื่ออำนวยความจะดวกในการเดินทางก็สามารถทำได้โดย
-กดปุ่มทิศทางขวาเข้าเมนูเครื่องมือเลือกใช้ PCC แล้วกดลงล่างเพื่อเลือกรูปแบบการสร้างสะพาน จากนั้นก็กด L2 และแกนอนาล็อกขวาหาตำแหน่งที่สามารถวางโครงสร้างได้ เมื่อโครงสร้างแสดงให้เห็นเป็นสีน้ำเงินก็สามารถเริ่มก่อสร้างตรงจุดนั้นได้เลยด้วยปุ่ม R2
- เมื่อวางโครงสร้างแล้วก็หาวัตถุดิบตามที่มันต้องการมาใส่ให้ครบ ในกรณีสะพานนี้จะต้องการวัตถุดิบคือ Metals จำนวน 800 ยูนิต เมื่อใส่จนครบก็จะสามารถสร้างสะพานขึ้นมาได้ รวมทั้งยังสามารถอัพเกรดด้วยเงื่อนไขของวัตถุดิบต่างๆเพิ่มเติมได้ด้วย


                                         [Order No.9]
                     Power Supply unit Delivery: Wind Farm


                                    สินค้าที่ต้องนำสง –  Power Supply unit
                              ระยะเวลาที่ใช้ในการเดินทางโดยประมาณ – 982m
                                         จำนวนและน้ำหนัก – 1 / 30.0 Kg
                                           ระยะทางโดยรวม – 1128 m



เป้าหมายของภารกิจคือ Wind Farm ซึ่งอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของ Distribution Center ซึ่งต้องข้ามสะพานที่เพิ่งสร้างในภารกิจ  [Order No.10]


ไปตามช่องเขาซึ่งต้องผ่านทั้งช่วงที่มีลมกรรโชกแรงและพื้นที่ของพวก BTs จนถึงพื้นที่เป้าหมายที่ Wind Farm


Jake wind – ขอบคุณมากครับสำหรับสิ่งที่นำมาส่งให้ เราน่าจะสามารถใช้ศูนย์กระจายสินค้าผ่านเครือข่าย Chiral ได้แล้ว น่าจะสถานที่อื่นๆใกล้เคียงด้วย ถ้ามันเวิร์คอ่ะนะ นี่คือความหวังที่ UCA จะสามารถนำไฟฟ้าของพวกเราใช้งานได้ดี ..จะว่าอะไรมั๊ยที่ผมจะขอดูของหน่อย ... ว้าว ..เหลือเชื่อเลย ของสภาพดีมาก ให้ตายสิ คุณมาถึงที่นี่ได้ยังไงเนี่ย บินมารึไง ? ... เอาล่ะ เราพร้อมที่จะเชื่อมต่อกับ Chiral network แล้ว เริ่มได้เลย

หลังจาก Wind Farm ได้เชื่อมต่อกับ Chiral network เรียบร้อยแล้ว ก็เท่ากับเป็นการ เพิ่มระดับการเชื่อมต่อของ Chiral Bandwidth ให้กับ UCA ให้กว้างไกลขึ้น ซึ่ง Chiral Bandwidth ซึ่งในทางเทคนิคนั้น คำว่า Bandwidth

แบนด์วิชท์ (Bandwidth) ก็คือ ความกว้างของแถบคลื่นความถี่ หรืออธิบายง่ายๆมันคือ ความเร็วในการส่งผ่านข้อมูลนั่นเอง โดยแบนด์วิชท์จะเป็นสัดส่วนโดยตรงของจำนวนข้อมูลทั้งหมดที่สามารถส่งผ่านหรือรับต่อหน่วยเวลาในความหมายเชิงคุณภาพที่สัดส่วนของความซับซ้อนของข้อมูล สำหรับการทำงานของระบบที่รองรับได้ ซึ่งเป็นค่าสำหรับใช้วัดความเร็วในการส่งข้อมูลของอินเทอร์เน็ตในปัจจุบันที่เรามักวัดความเร็วของการส่งข้อมูลเป็น bps (bit per second) 



เมื่อนำมาโยงกับข้อมูลในเกม Chiral Bandwidth ก็คือการเพิ่มระดับการเชื่อมต่อ ขยายคลื่นความถี่และความเร็วในการส่งข้อมูลต่างๆผ่าน Chiral Network ให้แรงขึ้นซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นในการใช้ข้อมูลขนาดใหญ่ ทำให้ Sam สามารถสร้างโครงสร้างสิ่งต่างๆได้ขนาดใหญ่ขึ้น มีประสิทธิ์ภาพและรวดเร็วขึ้น
https://www.nstda.or.th/th/nstda-knowledge/3020-bandwidth
https://www.vpshispeed.com/blogs/what-is-bandwidth-th/



                                         Wind Farm  - - เชื่อมต่อแล้ว 



                                Jake wind - - เข้าร่วม UCA 

+ เพิ่มเติมคุณสมบัติใหม่ใน Cuff link 
-Supply Request – การจัดส่งตามคำขอ
-Bridge Link

+ เพิ่มเติมคุณสมบัติใหม่ใน Delivery teminals
- Take in Order > Standard Order
- Make Delivery > Delivery Requested Supplies (สำหรับส่งมอบสินค้าที่จัดส่งตามคำขอ จาก เมนู Supply Request
- Entrust Cargo
- Garage – โรงรถ สำหรับตรวจเช็ค ซ่อมแซม และ ปรับแต่ง ยานพาหนะที่มี

+ เพิ่มเติมคุณสมบัติใหม่ในอุปกรณ์ PCC
- สามารถสร้าง Generator เสาสร้างประจุไฟฟ้าที่ใช้ชาร์จแบตของรถมอเตอร์ไซด์ได้

+ ข้อมูลการสัมภาษณ์ใหม่
  -Humanity’ Biggest Problem? Logistics
  -Chiral Contamination I
  -The Discovery of Beaches and the Concept of Death


-----------------------------------------------------------------------------------------------------------

                                                     Interview Data



                             เรื่อง – Humanity’s Biggest Problem? Logistics  
                           บันทึกเมื่อ 5 ปีก่อน ที่ Bridges HQ
                                     โดย Die – Hardman

 สงคราม ความกันดาร และสภาวะการขาดแคลนอาหารเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ของชีวิตมนุษย์ตั้งแต่การเพิ่มขึ้นของสายพันธุ์ของเราแม้นในขณะที่เกิดการล่มสลายของอเมริกานั่นมันก็ไม่ได้เปลี่ยนความจริงพื้นฐานนี้ว่ามันเป็นปัญหาที่เราละเลยที่จะใส่ใจกันมาตลอด

คุณยังจำได้มั๊ยว่าครั้งสุดท้ายที่คุณได้ยินเกี่ยวกับเรื่องผู้คนกำลังจะตายเพราะความอดอยากหิวโหยคือเมื่อไหร่ ยิ่งใน Knot city ยิ่งไม่ต้องพูดถึง ไม่มีใครต้องต่อสู้กันเพื่อน้ำหรือน้ำมันหรือเพื่อสิ่งอื่นใดเลย ซึ่งก็ไม่ได้หมายความว่าผู้คนจะไม่ขาดเสบียงในบางครั้งนะ แต่มันก็แทบไม่เคยเกิดความขาดแคลนขึ้นแบบจริงๆจังๆเลยซักครั้ง แต่มันมักจะมีปัญหาเรื่องการขนส่งกันมากกว่า จริงๆแล้ว มันก็มีการแก้ไขปัญหาดังกล่าวด้วยฝีมือของท่านประธานาธิบดีด้วยการสร้าง Bridge และพัฒนาเครือข่าย Chiral network ขึ้นมานี่ไง

ดังนั้น ใช่ .. ไม่มีใครที่ถึงกับเข้าตาจน ทุกคนล้วนมีเพียงพอสำหรับตัวเอง ซึ่งเป็นสิ่งที่นำไปสู่ปัญหาที่แท้จริง มันเลยทำให้ผู้คนพร้อมที่จะแยกออกจากกันอย่างเต็มใจจนในที่สุดก็ลืมไปว่ามีสังคมอยู่ ผู้คนต่างก็มีชีวิตอิสระเพื่อตัวเอง โดยไม่สนใจอนาคต
ท่านประธานาธิบดีเข้าใจเรื่องนี้ดีว่าใคร และผมก็รู้ว่าท่านต้องเจ็บปวดแค่ไหนด้วย



                                         เรื่อง – Chiral Contamination I
                         บันทึกเมื่อ 3 ปีก่อน ที่ Bridges HQ Lab
                                        โดย Heartman 

การปนเปื้อนของ Chiral เป็นผลมาจากการได้รับรังสี Chiral ที่ Chiralium ซึ่งเป็นสสารที่ค้นพบในเวลาเดียวกับชายหาดปล่อยออกมาเป็นเวลานาน ที่อาจส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อสุขภาพร่างกายและจิตใจ

ผลที่ได้ไม่แตกต่างจากที่พบในบุคคลที่สัมผัสกับความเครียดในระดับสูงมากระดับที่อาจถึงแก่ชีวิต แม้ประสบการณ์ที่เจ็บปวดเช่นนี้สามารถเปลี่ยนการหลั่งฮอร์โมนการตอบสนองของระบบภูมิคุ้มกันบกพร่องทำให้หัวใจล้มเหลวและเกิดการชักกระตุก
ซึ่งอาการที่พบบ่อยที่สุดของการปนเปื้อน Chiral คือคุณภาพการนอนหลับไม่ดีเนื่องจากฝันร้ายที่เสมือนจริง หรือความฝันที่ผู้ฝันรู้ตัวว่ากำลังหลับและฝันอยู่

หากไม่ได้รับการตรวจสอบจะสามารถมีระดับที่สูงขึ้นอย่างรวดเร็วซึ่งอาจสังเกตเห็นปัญหาดังกล่าวมาในข้างต้น ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นต่อสุขภาพจิตของบุคคลนั้นไม่สามารถอธิบายได้ ความไม่สมดุลของฮอร์โมนที่เกิดขึ้นมักนำไปสู่แรงกระตุ้นให้มีภัยต่อตนเองและผู้อื่นได้ ซึ่งผู้ที่ถูกครอบงำโดยสิ่งกระตุ้นเช่นนี้มีชื่อว่า Homo demens - ในกรณีของ Porter บางคนที่เปลี่ยนเป็นพวก MULE ความจำและการตัดสินใจที่ผิดปกติทำให้พวกเขาเกิดความลุ่มหลงอย่างไม่มีเหตุผลกับอาชีพของพวกเขา เหมือนกับ Homo gestalt ซึ่งเป็นการวิวัฒนาการก้าวต่อไปของมนุษย์ ซึ่งเป็นที่นิยมสำหรับคนส่วนใหญ่เพื่อหลีกเลี่ยงการปนเปื้อน Chiral ในทุกกรณี
.
แต่ก็มีผู้ที่มีความต้านทานที่แสดงให้เห็นว่าพวกเขาไม่จำเป็นต้องระมัดระวังการปนเปื้อนใดๆอยู่ด้วย แน่นอนผมกำลังพูดถึงพวก DOOMS


     เรื่อง – The Discovery of Beaches and the Concept of Death
                        บันทึกเมื่อ 3 ปีก่อน ที่ Bridges HQ Lab
                                     โดย Heartman 

ด้วยการค้นพบ ชายหาด ความจริงพื้นฐานทั้งหมดของความตายที่เราเคยรับรู้มาก็ไม่เหมือนเดิมอีกเลย ผมเดาว่าคุณคงจะพบผู้คนมากมายที่ปฏิเสธสิ่งนี้มาบ้างแล้ว เราสามารถพูดด้วยความมั่นใจได้เพียงเล็กน้อยสำหรับความเข้าใจของเราที่มีต่อดินแดนใหม่แห่งนี้โดยไม่สามารถอ้างอิงทางวิทยาศาสตร์ใดๆได้ เสมือนกับความเข้าใจในจักรวาลที่ยังคงต้องมีการเรียนรู้และพัฒนาอยู่ตลอดเวลา บางทีสิ่งที่ใกล้เคียงที่สุดที่เราสามารถอธิบายการทำงานของชายหาดที่สามารถเทียบได้ก็เหมือนกับการทำความเข้าใจกับเรื่อง พหุภพ ซึ่งเป็นแนวคิดตามสมมติฐานว่ามีเอกภพ จำนวนมากมายนับไม่ถ้วน เกิดขึ้นและสลายไปอยู่ ตลอดเวลา นั่นแหละ

ชายหาด เป็นทั้งแนวคิดและความจริงซึ่งแยกจากกันโดยสิ้นเชิง ชายหาด มีอิทธิพลต่อความคิดและจิตใจของบุคคลที่เชื่อมโยงกับมันอย่างถาวร นี่คือเหตุผลที่เราแสวงหาความรู้ที่มุ่งเน้นไปในด้านจิตวิทยาจิตวิเคราะห์และประสาทวิทยาศาสตร์อย่างขะมักเขม้นเพื่อพยายามรวบรวมทฤษฎีของการเกิด Death Stranding , ชายหาดและปรากฏการณ์ที่เกี่ยวข้องต่างๆ

บางครั้้งก็ถึงกับต้องลองย้อนกลับไปอยู่ในจุดที่เคยได้รับความลำบากเพื่อเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับชายหาดและทำความเข้าใจเกี่ยวกับธรรมชาติของความตาย และผู้ที่ต้องทุกข์ทนกับผลกระทบของ DOOMS เป็นพิเศษ

มีคำถามเชิงทฤษฎีที่น่าสนใจที่เกิดขึ้นในช่วงเวลานั้นก็คือ หากชายหาดของคน ๆ หนึ่งเป็นผลผลิตจากจิตสำนึกของพวกเขาเอง สัตว์ต่างๆก็อาจมีชายหาดด้วยรึเปล่า? แต่ต่อมาก็มีการแก้ไขอย่างรวดเร็วว่า มีเพียงซากศพของมนุษย์เท่านั้นที่ได้รับเนครอซิซ์และกลายเป็น BT ได้ ซึ่งพิสูจน์ได้อย่างชัดเจนว่ามนุษย์สามารถครอบครองชายหาดได้

และนี่ก็เป็นอีกคำถามนึงที่ว่า: ถ้าพวก BTs ทั้งหมดนั่นมีจิตสำนึกที่คล้ายคลึงกันกับมนุษย์แล้ว งั้นพวกปัญญาประดิษฐ์ล่ะสามารถครอบครองชายหาดได้มั๊ย? แล้ว แอนดรอยด์ล่ะ? ผมคนนึงล่ะที่ไม่เชื่อเช่นนั้น ทำไมน่ะหรอ? ก็เพราะหน้าที่ของชายหาดของเราคือการเชื่อมต่อโลกของคนเป็นกับโลกคนตาย หากไม่ได้เกิดมาพร้อมอัตลักษณ์ก็ถือว่าไม่เคยมีชีวิตอยู่อย่างแท้จริงและแน่นอนว่ามันจะไม่รู้จักความตายด้วย จึงมั่นใจว่าพวกมันไม่สามารถครอบครองชายหาดที่เป็นของมันเองได้


------------------------------------------------------------------------------------------------------------------


Jake wind – ตอนนี้เราทำงานของเราต่อได้แล้ว ขอบคุณอีกครั้งครับ ผมได้ยินมาว่าทีมที่เหลือของคุณตายหมดแล้ว มันทำให้สิ่งที่คุณกำลังทำอยู่เป็นเรื่องที่สุดยอดอย่างไม่น่าเชื่อ คุณเดินทางคนเดียว ผมหวังว่า Amelie จะทำเช่นเดียวกับคุณตอนที่เธอเดินทางไปที่ Edge Knot City มันเป็นเพราะเธอที่ทำให้เราได้รับผิดชอบที่ wind farm แห่งนี้ ผมเองเคยเดินทางร่วมอยู่ในกลุ่มที่ Amelie เป็นผู้นำ ผมไม่เคยตัวจริงเธอเลยซักครั้งแต่มันเป็นเกียรติที่ได้เดินทางในแบบเดียวกับเธอ ถ้าคุณมีโอกาสได้เจอเธอเมื่อไหร่รบกวนช่วยบอกเธอด้วยว่าผมพูดถึงเธอว่ายังไง



Deadman –  Sam มีเวลาซักเดี๋ยวมั๊ย? ผมทำการทดสอบด้วยเลือดของคุณแล้วนะ ดูเหมือนได้พบความจริงบางอย่างของคุณบ้างแล้ว หลังจากได้ทำการกระจายตัวอย่างเลือดของคุณในพื้นที่ของ BT เราพบว่าพวกมันมีกิจกรรมลดลง แต่ก็ยังไม่ค่อยชัดเจนนักเนื่องจากเราไม่มี "ผู้ถูกส่งคืน" คนไหนให้ทดสอบอีกนอกจากคุณ แต่อาจบอกได้ว่าของเหลวในร่างกายของ "ผู้ถูกส่งคืน" เป็นที่รังเกียจของพวก BT Mama กำลังมีความคิดในการพัฒนาอาวุธเพื่อทดสอบทฤษฎีนี้ อาวุธต้นแบบน่าจะพร้อมเร็ว ๆ นี้และเมื่อใดที่มันพร้อมเราต้องการให้คุณเป็นคนทดสอบ



Die Hardman –  Sam ตอนนี้มันเป็นโอกาสที่สมบูรณ์แบบมาก เราเกือบจะได้ทั่วทั้งภูมิภาคเข้าร่วมในเครือข่าย Chiral Network แล้ว ตอนนี้ยังเหลืออยู่ที่เดียวคือ Port Knot City คุณต้องกลับมาที่ capital Knot city อีกครั้งเพื่อรับสิ่งของบรรเทาทุกข์ต่างๆไปยัง  Port Knot City เมื่อคุณมาถึงเราจะได้ให้อาวุธตัวต้นแบบที่เสร็จแล้วกับคุณด้วยตัวเอง อีกอย่างนึง มันไม่บ่อยนักที่จะมี Porter คนไหนเข้าออกจาก wind farm ได้แบบนี้ แต่ตอนนี้คุณอยู่ที่นั่นแล้ว ที่นั่นมันยังมีคำสั่งที่ค้างอยู่ (outstanding orders ) ให้ทำด้วย คงไม่เป็นการดีถ้าจะกลับมาที่นี่แบบมือเปล่าในเมื่อยังมีงานที่ต้องทำค้างอยู่ ลองเช็คดูที่ Delivery terminal ได้เลยเมื่อคุณพร้อม


เมื่อสำรวจที่ Delivery terminal ในคำสั่ง Take on Order จะมีฟังก์ชั่นใหม่เพิ่มขึ้นมา
-Order for Sam คือคำสั่งสำหรับรับงานในภารกิจหลัก 
- Standard Order คือคำสั่งสำหรับรับงานในภารกิจเสริม 


                                          Order for Sam

                                    [Order No.11]

Resins Delivery : Distribution Center west of Capital Knot city


                                                         สินค้าที่ต้องนำส่ง –  Resins
                                                       จำนวนและน้ำหนัก – 6 / 32.0 Kg
                                                               ระยะการเดินทาง – 16 m  



  เป้าหมายในการขนส่งคือ นำเอา Resins 6 ชิ้นจาก Wind Farm กลับไปส่งยัง Distribution Center


Benjamin Hancock – คุณนำสิ่งนี้มากจาก Wind farm หรอเนี่ย? ผมนึกภาพไม่ออกจริงๆนะว่าคุณทำได้ยังไง แต่ก็ขอบคุณนะ ว้าว ดูสิ ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าคนๆเดียวจะลากของกองพะเนินขนาดใหญ่พวกนี้มาได้ยังไง ก็อย่างที่บอกไปนั่นแหละ คุณนี่มันระดับตำนานจริงๆ บอกตรงๆว่าผมไม่รู้หรอกนะว่าใครจะเป็นคนเชื่อมต่อผู้คนให้กลับมารวมกันได้ยังไง แต่ถ้าจะมีก็น่าจะเป็นคุณนั่นแหละที่จะเป็นคนๆนั้น .. เดินทางปลอดภัยก็แล้วกัน ผมเอาใจช่วย 

----------------------------------------------------------------------------------------------------------------

                         MAIL DATA




                            เมลจาก –Capital Knot City
                                 ผู้ส่ง – Nick Easton
                         เรื่อง – Still Alive , New Guy?

Sam,
ข้างนอกนั่นเป็นยังไงบ้าง? สำหรับหน้าใหม่ หนักพอดูเลยใช่มั๊ยล่ะ ห๊ะ? Timefall ทำความเสียหายให้สินค้าจนเกือบหมด ผมพูดถูกมั๊ย? ของบางอย่างก็พังเสียหายแบบใช้งานอีกไม่ได้ด้วยสินะ? แต่อย่างเพิ่งรีบทิ้งของที่เสียๆเหล่านั้นไปซะล่ะ
สิ่งนึงที่คุณสามารถทำกับสินค้าหรือของใช้ที่เสียหายหรือไม่ได้ใช้แล้วก็คือการนำไป Recycle ที่ delivery Termonal จากนั้นคุณสามารถสร้างสิ่งใหม่ ๆ ให้ตัวคุณเองได้ ไม่ทราบว่าคุณทราบมั๊ยว่าระบบรีไซเคิลทั้งหมดดำเนินการโดยมูลนิธิ Bridget Strand ใช่แล้ว ! ท่านประธานาธิบดีเธอเป็นคนดูแลเรื่องการเปลี่ยนอุปกรณ์และเครื่องมือที่เสียหายต่างๆเพื่อเปลี่ยนให้มันกลับมาเป็นทรัพยากรที่ใช้งานได้อีกครั้งด้วยตัวเองเลยล่ะ

ในทางกลับกัน หากสินค้าหรือของใช้เกิดความเสียหายระหว่างเดินทางแต่คุณไม่ต้องการมันแล้ว คุณก็สามารถบริจาคให้ Porter คนอื่นๆที่อาจมีความต้องการมากกว่าคุณได้ผ่านทางเมนู Share Locker คุณอาจจะได้ซัก Like 2 Like สำหรับความใจกว้างของคุณก็ได้

แต่ถ้าคุณไม่รู้สึกถึงความรู้สึกอบอุ่นจากการช่วยเพื่อนมนุษย์เลย ก็ไม่เป็นไร ระบบก็มีทางเลือกให้ 2 แบบ นั่นหมายถึงคุณก็สามารถหยิบฉวยสินค้าของ Porters คนอื่นๆใน Share Locker ก็ได้เหมือนกัน ถ้าคุณเป็นคนนึงที่ต้องการความช่วยเหลือ
แต่ยังไงซะ ทั้ง Recycle system และ Share Locker ต่างก็มีประโยชน์
ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับคุณว่าจะเลือกวิธีไหนที่เหมาะสมกับความต้องการของคุณมากที่สุดในช่วงเวลานั้นๆ คุณต้องเรียนรู้อีกเยอะ ผมคาดหวังกับคุณไว้สูงอยู่นะ




                          เมลจาก – Distribution Center
                            ผู้ส่ง – Benjamin Hancock 
                                 เรื่อง – Quality First 

BB ทำงานเป็นยังไงแซม ผมหวังว่าคุณจะสามารถหลีกเลี่ยงภาวะสารพิษตกค้างในร่างกายได้อ่ะนะ แต่ก็ช่างเถอะ ผมเองก็สงสัยนะ ตอนนี้เกรด Porter ถึงทุกวันนี้มันถึงระดับไหนแล้ว? เดาว่าคงจะค่อยๆสูงขึ้นสูงขึ้นเรื่อยๆสินะ  ผมคิดว่า ผมอาจจะตัดสินคุณเร็วไปหน่อยเลยอาจทำให้เกิดความสับสนได้

Bridges ได้พัฒนาระบบที่ไม่เหมือนใครในการประเมินประสิทธิภาพเหล่า Porter และมุ่งเน้นไปที่ห้าหมวดหมู่: สภาพสินค้า ,ปริมาณการส่งมอบ ,ความเร็ว ,ลิงค์บริดจ์และ เบ็ดเตล็ด เห็นได้ชัดว่าเป้าหมายของเกมคือการได้รับคะแนนสูงในทั้งห้าประเภท แต่ถ้าถามผม คุณควรจัดลำดับความสำคัญของสภาพสินค้าก่อนเลย

ผมหมายถึง อะไรที่มันสำคัญที่สุดของการแบกลากอะไรซักอย่างเดินทางข้ามทวีปแล้วถ้ามันเกิดแตกหักในระหว่างเดินทางขนส่งล่ะ ? แน่นอนว่าบางคนไม่ได้ใส่ใจอะไรเลย บางคนถึงกับไม่สนใจกับความเสียหายของสินค้า 50% หรือมากกว่านั้น! ไม่เอาน่า ลองนึกภาพถ้าคุณสั่งนู้นนี่นั่นมาแล้วเกิดครึ่งหนึ่งของมันเสียหาย! ไม่ดีกว่า การตกลงเงื่อนไขกันให้ชัดเจนก่อนน่าจะดีกว่า ปฏิบัติต่อสินค้าของคุณด้วยความระมัดระวังและให้ความเคารพและคุณจะได้รับการตอบแทนด้วย Likes ที่มากขึ้น เชื่อผม

นั่นคือคำขวัญของผมเองสมัยที่ผมยังเป็น Porter มันไม่ได้ง่าย คุณก็น่าจะรู้ดีที่สุดอ่ะนะ บางครั้งก็ต้องเสี่ยงอันตราย แต่ผมก็ต้องเรียนรู้ที่จะอยู่ในสถานการณ์นั้นให้ได้ และส่งมอบสินค้าของผมแบบไม่ให้บุบสลาย คุณควรจำไว้ให้ขึ้นใจนะแซม เพราะคุณมีศักยภาพที่จะเป็น Porter ที่ดีกว่าที่ผมเคยเป็นแน่นอน



                                      เมลจาก – Destribution Center
                             ผู้ส่ง – Benjamin Hancock 
                         เรื่อง – The Meaning of Chirality 

ถึงแซม 
ต้องขอโทษด้วยที่ทำให้คุณต้องเดินทางไปสู่ปัญหาที่เกิดจากพวกเรา  แต่เชื่อผมเถอะ คุณได้ทำหน้าที่และให้บริการที่ยอดเยี่ยมที่สุดแล้ว ขอบคุณ chiral Printer ของเราในที่สุดก็ถูกติดตั้งและเริ่มทำงานได้แล้ว ด้วยความสัตย์จริง ผมไม่คิดว่าจะเกิดขึ้นได้จริงๆนะ แต่ตอนนี้เราก็ไม่ต้องพึ่งพา Porter มากเหมือนเมื่อก่อนแล้ว เราสามารถทำสิ่งที่เราต้องการกับ Printer ของเรา และถ้าเราต้องการข้อมูลจากโลกอีกโลกมันอยู่ก็สามารถทำได้แค่ปลายนิ้ว ในนามของตัวผมเองและทุกคนที่ Destribution Center ขอขอบคุณ สิ่งนี้จะเป็นไปไม่ได้หากไม่มีคุณ

มันเป็นเรื่องที่ตลกมาก ก็เมื่อวันก่อนผมใช้เครือข่ายเพื่อหาข้อมูลเรื่องที่มาของ "Chiral" ปรากฎว่ามันเป็นภาษากรีกหมายถึง มือ พนันได้เลยว่าคุณไม่รู้หรอก ใช่มั๊ยล่ะ?
ข้อความแสดงให้เห็นว่า มือขวาของคุณเป็นภาพสะท้อนในกระจกของมือซ้ายของคุณ แต่ถ้าคุณเอามือไปวางไว้ด้วยกันและถ้าคุณชี้มันออกไปและวางมือข้างหนึ่งไว้บนมืออีกข้าง .. มันคือ chirality ผมเข้าใจแบบนั้นนะ อย่างไรก็ตามมันเกี่ยวข้องยังไงกับ เครือข่าย เรื่องนี้ผมไม่แน่ใจ
บางอย่างเกี่ยวกับเส้นทางการสื่อสารผ่าน ชายหาด ซึ่งโดยพื้นฐานแล้วเป็นอีกโลกหนึ่งเหมือนเรา แต่ก็ไม่ใช่ซะทีเดียว ดังนั้นเมื่อคุณบังคับให้องค์ประกอบของทั้งสองโลกให้เข้าหากัน ก็จะเป็นการเหนี่ยวไกให้เกิดการระเบิด voidout ...นั่นคือทั้งหมดที่ผมรู้ในตอนนี้ ซึ่งผมหวังว่าคุณจะทำในสิ่งที่คุณกำลังทำอยู่ต่อไปเพื่อนำพวกเรามารวมกัน ...คุณเจ๋งที่สุดเรื่องการปลดปล่อยคนตายให้หลุดออกมาจากมัน .. คุณได้ยินแล้วนะ



                                          เมลจาก – Wind Farm 
                                ผู้ส่ง – Jake wind 
                     เรื่อง – Our Hard work is Paying off

ถึงแซม
ผมอยากรู้ว่าคุณอยู่ที่ไหนตอนนี้ ถ้าเป็นที่ไหนซักแห่งที่ขับเคลื่อนโดยพลังงานจาก wind farm ของเรา หากใครซักคนที่ควรจะได้รับผลประโยชน์จากงานของเรา นั่นคือ คุณ
เมื่อคุณได้นำพาเราเชื่อมต่อเข้าสู่เครือข่ายอีกครั้ง จากที่เราเคยจัดสรรพลังงานให้ได้แค่ภูมิภาคเล็ก ๆเท่านั้นแต่ตอนนี้เราสามารถส่งพลังงานไปยังเมืองใหญ่และอื่น ๆได้
ผมไม่ได้มั่นใจ 100% ในเรื่องรายละเอียดหรอกนะ แต่โดยทั่วไปหากส่งสัญญาณผ่าน ชายหาด ได้โดยตรง นั่นหมายความว่าเราไม่ประสบกับความสูญเสียใด ๆ เพิ่มเติมเนื่องจากระยะทางที่เพิ่มขึ้น ดังนั้นมันจึงสามารถไปได้ไกลเท่าที่เราต้องการ
สิ่งที่ดีคือ เรายังคงรักษาศรัทธาและความเชื่อมั่นในการสำรวจครั้งที่สองนี้เอาไว้ได้และสามารถเก็บรักษาสถานที่แห่งนี้เอาไว้ได้ตามสมควร คุณทำให้สิ่งที่เราลงแรงไปไม่สูญเปล่า 
พวกเราไม่รู้ว่าเราต้อง ขอบคุณ คุณยังไงกับสิ่งที่คุณทำให้เรา  ขอบคุณมากๆ


                                         เมลจาก – Capital knot city 
                                   ผู้ส่ง – Nick Easton
                  เรื่อง – Cargo quantity and your Porter Grades

ตอนนี้เกรด Porter ของคุณเป็นอย่างไรบ้างล่ะแซม ?
ผมแน่ใจว่าคุณทราบดีแล้วว่าการพยายามทำงานให้ได้ตามเป้าหมายในปัจจัยทั้งห้าซึ่งเป็นหลักขั้นพื้นฐานที่ดีของ Porter นั้นต้องทำไง แต่ถ้าคุณต้องการจะทำให้เหมือนกับที่ผมทำ คุณก็แค่ต้องการส่งมอบสิ่งต่างๆให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ผมพูดถูกมั๊ย?
ถ้าเป็นเช่นนั้น คุณต้องเตรียมพร้อมตัวเองให้สามารถโหลดสินค้าให้ได้น้ำหนักบรรทุกที่หนักมากเพื่อให้เข้าเป้าโบนัสของทาง Briges ที่คิดตามน้ำหนักบรรทุกทั้งหมดต่อการส่งหนึ่งครั้ง เป็นวิธีที่เรียบๆง่ายๆแบบนี้นั่นแหละ 
แน่นอนว่าในสมัยก่อนมันคงง่ายกว่านี้เพราะมีถนนที่ยังดีอยู่ ดังนั้นสิ่งที่คุณต้องทำคือโยนทุกสิ่งที่คุณอยู่ด้านหลังของรถบรรทุกและขับรถไป แค่นั้นเอง แต่มันไม่สามารถทำได้ตอนนี้อีกแล้ว 
แม้ว่าคุณจะมีรถบรรทุก แต่ส่วนใหญ่มันก็มักจะสร้างปัญหามากกว่าคุณค่าของตัวมันเองเสมอ ให้ตายเถอะ  .. บางครั้งคุณจะเห็นรถบรรทุกที่ว่าถูกทิ้งให้ จอดตายอยู่ข้างถนนเต็มไปหมด 

ยังไงก็เถอะ ถ้ามองในแง่ดี ตั้งแต่การบรรทุกสินค้าจำนวนมากเป็นเรื่องยากแบบในทุกวันนี้ ผู้คนก็เริ่มที่จะรู้สึกซาบซึ้งขึ้นมาจับใจเมื่อเหล่า Porter จัดการแทนให้ได้ 
ดังนั้นโบนัสที่ขึ้นอยู่กับจำนวนสินค้าในสต็อกนั่นหมายความว่าเราจะต้องทำให้ได้ในทุกๆการขนส่งทุกครั้ง ลองคิดดูสิว่าจะเกิดอะไรขึ้นถ้าเราเสียสินค้าเอาไว้ที่กลางทาง นั่นแหละคือสิ่งที่ผมกลัวที่สุด 
ก็นะ ผมพูดในส่วนของผมให้ฟังแล้ว และตอนนี้คุณก็รู้แล้วนะว่าจะทำให้ตัวเองเป็นที่นิยมในงานแบบนี้ได้ยังไง : ตั้งสินค้าของคุณให้สูงเข้าไว้ 


-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------


            เงื่อนไขการนำ รถมอเตอร์ไซด์ Reverse Trike มาใช้งาน

หลังจากนำส่งสินค้าใน [Order No.9] เสร็จสิ้น จะได้รับฟังก์ชั่นใหม่ของอุปกรณ์ PCC ที่จะเพิ่มเติมคุณสมบัติที่ทำให้สามารถสร้าง Generator เสาสร้างประจุไฟฟ้าที่ใช้ชาร์จแบตของยานพาหนะต่างๆได้


โดยการกดปุ่มทิศทางขวาเข้าเมนูเลือกไอเทมเครื่องมือแล้วเลือก PCC กดปุ่มทิศทางลงล่างเลือกอุปกรณ์ Generator เสาสร้างประจุไฟฟ้า(ใช้  Metals 400) จากนั้นก็กด L2 หาตำแหน่งที่จะวาง เมื่อเจอจุดที่เหมาะแล้วก็กด R2 สร้างได้เลย


เข้าไปตรงบริเวณที่มีรถมอเตอร์ไซด์ Reverse Trike ที่แบตหมดจอดตายอยู่ด้านหน้าตึก Distribution Center แล้วสร้าง Generator ตรงบริเวณนั้น เสาสร้างประจุไฟฟ้านี้ก็จะชาร์จแบตรถมอเตอร์ไซด์จนเต็มก็จะทำให้สามารถขึ้นขี่รถมอเตอร์ไซด์ขับเคลื่อนที่ได้แล้ว


แต่ยังไม่สามารถนำไปใช้งานได้ 100% เพราะรถยังพังอยู่ วิธีซ่อมยานพาหนะก็คือขับไปจอดตรงบริเวณที่เป็นลิฟต์ลงไปห้องพัก แล้วไปเข้า delivery Termonal เลือกเมนู Garage แล้วเลือกยานพาหนะที่จะซ่อม  จากนั้นเลือก Store Vehicle แล้วกด Confirm รถมอเตอร์ไซด์ Reverse Trike จากตรงลิฟต์ก็จะเข้ามาอยู่ในเมนู Garage จากนั้นกด Confirm อีกครั้ง ลิฟต์ก็จะนำเอารถลงไปชั้นล่างเพื่อซ่อมแซม


เมื่อต้องการรถนำมาใช้งานก็เข้าเมนู Garage ใน delivery Termonal แล้วเลือกรถที่ต้องการในแถบเมนู Garage เลือก Retrieve Vehicle ให้ย้ายไปอยู่ในช่อง Elevator แล้วกด Confirm รถที่เลือกเอาไว้ก็จะถูกยกขึ้นมาด้วยลิฟต์เพื่อให้นำมาใช้งานได้แล้ว


                               โดยเงื่อนไขการใช้ยานพาหนะก็สามารถดูได้จาก 
                                        เกจ Durability (เกจความทนทาน)
                                        เกจ Battery (เกจวัดพลังงานไฟฟ้า)  


----------------------------------------------------------------------------------------------------------------

   

                                               [Standard Order]

Standard Order คือคำสั่งสำหรับรับงานในภารกิจเสริม ซึ่งมีไว้สำหรับเพื่อเพิ่มระดับของ Porter Grades ไปพร้อมๆกับการเชื่อมต่อที่พัฒนาขึ้นของสถานที่ที่ให้เควส โดยเควสต่างๆที่มีให้ทำจะมีเข้ามามากมายแต่ประเภทของภารกิจจะมีไม่กี่แบบโดยจะประกอบด้วยประเภทต่างๆคือ
1. เควสส่งวัตถุดิบ (Materials Delivery) คือภารกิจส่งวัตถุดิบจากสถานที่นึงไปยังอีกสถานที่นึงในแบบทั่วไป
2. เควสส่งด่วน (URGENT Delivery)คือภารกิจส่งวัตถุดิบจากสถานที่นึงไปยังอีกสถานที่นึงในแบบเร่งด่วนโดยมีการจับเวลาเป็นส่วนประกอบ
3. เควสตามหาสินค้าที่สูญหาย (Retrieval Delivery) คือ ภารกิจเข้าพื้นที่เพื่อตามหาและนำส่งสินค้าที่สูญหายไปกลับคืนมายังผู้รับ


แต่ล่ะภารกิจย่อยจะทยอยเข้ามาใน Standard Order List ของ Delivery Terminal ตามสถานที่ต่างๆอยู่ตลอด แนวทางของภารกิจย่อยอาจจะดูซ้ำซากน่าเบื่อ แต่ก็คุ้มค่ากับเวลาที่เสียไปเพราะมันเป็นทางเดียวที่จะช่วยเสริม Porter Grades ที่จะนำพาให้ศักยภาพและความแข็งแกร่งของแซมให้สูงขึ้นได้อย่างรวดเร็วนอกเหนือจากที่ได้จากจากภารกิจหลัก



------------------------------------------------------------------------------------------------------------------


                                                      MAIL DATA



                            ส่งจาก –Capital Knot City
                                  ผู้ส่ง – Nick Easton
            เรื่อง – A Weird Glowing Object in Capital Knot City

เฮ้ แซม . คุณเคยได้ยินข่าวลือจาก Capital knot city บ้างรึเปล่า ? มีคนมากมายเห็นบางอย่างประหลาดๆที่ด้านบนของดาดฟ้าใกล้ๆกับหอผู้ป่วย
ดูเหมือนว่า Ka ที่เป็นส่วนหนึ่งของมนุษย์ที่ไม่ได้ถูกเปลี่ยนให้เป็น BT นั่นแหละที่ผู้คนกำลังพูดกัน แต่ยังไงก็เถอะ ที่เห็นได้ชัดๆคือ มันเป็นเรื่องธรรมดามากถ้าย้อนกลับไปในสมัยก่อนที่จะเกิด Death Standings ผมหมายถึง เรื่องที่เกี่ยวกับพวกวิญญาณหลงทางน่ะ
เพื่อนคนหนึ่งของผมคนนึงพยายามจะเข้าไปดูใกล้ๆว่ามันเกิดขึ้นอะไรขึ้นกันแน่ แต่เขาก็ไม่พบอะไรเลย ผมแน่ใจว่าคุณทำได้ดีกว่าแน่นอนถ้าคุณสนใจที่จะทำอะไรนะ ว่ามั๊ย?


                      ส่งจาก – Waystation west of capital city 
                                   ผู้ส่ง – George Baton 
                              เรื่อง –  Sending you Likes!

ยังคงเดินหน้าต่อไป ลุยต่อไปอยู่ใช่มั๊ยแซม?
ส่วนผม ผมว่าผมสามารถออกไปข้างนอกนานและไกลกว่าที่เคยขึ้นเรื่อยๆ คิดว่าผมน่าจะเอาชนะความกลัวได้จุดหนึ่งแล้วล่ะ ไม่นานอาจได้ทำธุรกิจเป็น Porter บ้างคงจะดีมากๆ

นั่นคือก่อนที่ผมจะเคยเดินหลงเข้าไปในอณาเขตของพวก MULE เป็นครั้งแรกเมื่อนานมาแล้ว ผมตกใจมากจนทิ้งสินค้าไปจนหมดเลย
เดาว่าตอนนี้สินค้านั่นคงกลายเป็นของพวกมันไปแล้วล่ะ

แม้ชีวิตผมมันจะเต็มไปอุปสรรคแต่มันก็ไม่ได้แย่ไปหมดหรอกนะ อย่างน้อยคนอย่างผมก็สามารถสร้างหอสังเกตการณ์และสิ่งต่างๆที่ผมคิดว่าคนแบบพวกคนต้องชื่นชมแน่นอน ถึงแม้ผมจะไม่เคยเจอกับพวก Porter ต่อหน้าแบบตัวเป็นซักทีแต่บอกได้เลยว่าพวกเขาต้องชอบสิ่งที่ผมทำอย่างกับที่พวกเขากด Like ให้ผมนั่นแหละ

Oxy และ Smart drug อาจจะทำให้ผมเท่าเทียมกับทุกคน แต่ผมอยากจะบอกคุณว่า เมื่อมีคนใครซักคนกด Like ให้คุณ นั่นเป็นการยืนยันว่า คุณได้สร้างความแตกต่างในเชิงบวกให้กับชีวิตของคนอื่นอยู่ มันยิ่งใหญ่นะเพื่อน
ยังไงก็เถอะ โชคดีกับทุกๆสิ่งนะ จงส่งมอบความรักด้วยการกด Like ด้วยล่ะ !



                                ส่งจาก – Wind Farm  
                                  ผู้ส่ง – Jack Wind 
                   เรื่อง –  Rebuild America ...and Beyond !

ถึง Sam
เป็นเรื่องดีที่คุณมาเยี่ยมเราอีกครั้ง มันไม่ง่ายเลยที่จะทำในสิ่งที่คุณทำ ทั้งทางร่างกายหรือด้านจิตใจก็ตาม เดาว่านั่นแหละที่ทำให้คุณเป็นตำนานใช่มั้ยล่ะ ? แหม่ ถ้าใครก็ตามที่คิดว่าการเชื่อมต่อตัวเองผ่านทางชายหาดโดยตรงนั้นทำให้เป็นตำนานแต่ตามความคิดเห็นของผม คนแบบไหนกันนะที่คิดอย่างนั้น?

มันเหมือนคนที่เคยคิดจะลองหาวิธีที่จะทำให้กระแสไฟฟ้าเชื่องในอดีต ผู้คนต่างก็คิดไปว่าคนๆนั้นต้องพยายามทำรุนแรงกับไฟฟ้าแล้วบอกว่า ชั้นควบคุมมันได้ ชั้นสร้างมัน แต่สุดท้ายก็มีคนทำได้จริงๆ

บางทีชายหาดอาจเป็นปรากฏการณ์แบบเดียวกัน มันอาจเป็นสิ่งที่เราไม่สามารถเข้าใจได้ในตอนนี้ แต่เมื่อเราเรียนรู้ ที่จะควบคุมพลังของมัน มันจะนำไปสู่การปฏิวัติที่เปลี่ยนแปลงทุกสิ่งทุกอย่างไปตลอด ลองคิดดู ถ้าเราไม่สามารถสร้างอเมริกาขึ้นมาใหม่ได้ แต่เราสามารถสร้างโลกใหม่ที่ดีกว่าแบบที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนได้ล่ะ !


        ส่งจาก – Distribution Center West of Capital Knot city  
                             ผู้ส่ง – Benjamin Hancock  
                    เรื่อง – Far Apart but Always Connected   

ถึง Sam
ขอบคุณอีกครั้งสำหรับการช่วยเหลือของคุณนะ Chiral Printer กลับมาทำงานได้อีกครั้งแล้ว อย่างที่ฝันเอาไว้  และมันก็ให้ความรู้สึกเหมือนกันเมื่อได้เห็นมีอาคารใหม่ๆเริ่มโผล่ขึ้นมามากมายข้างนอกนั่น  แน่นอน มันไม่ได้ช่วยแก้ปัญหาทั้งหมดของเราซะทีเดียว เพราะพื้นที่วางเปล่าในบริเวณใกล้เคียงยังคงเต็มไปด้วยพวก BT แต่ตอนนี้เราสามารถรับส่งเสบียงหรือวัตถุดิบทุกๆอย่างผ่านเครือข่ายได้แล้วโดยที่พวกมันไม่สามารถแทรกแซงได้

ทั้งที่เราไม่เคยคิดว่าเรื่องการติดต่อเชื่อมโยงกับคนภายนอกเป็นเรื่องพิเศษเลยซักนิด จนกระทั่งระบบการสื่อสารของโลกกลายเป็นหนึ่งเดียวกันหลังเกิดปรากฎการณ์ Death Standing ภาพวีดิโอ เสียง หรือ ข้อความ หรือแม้แต่ข้อมูลเล็กๆน้อยๆ ตอนนี้เราได้ปรับปรุงเครื่องข่าย Chiral Network และ Chiral Printer เพื่อทำให้สิ่งต่างๆที่ถูกส่งไปจับต้องได้ดีกว่าเดิม

ยินดีต้อนรับสู่อเมริกาใหม่! เราสามารถส่งอาหารและยาด้วยตัวเองได้แล้ว  อย่างน้อยๆคุณก็ไม่ต้องพาตัวเองเข้าไปอยู่ในสถานการณ์สุ่มเสี่ยงเพื่อประโยชน์ของเราอีกต่อไป
ผมหวังว่าวันนั้นจะมาถึงเร็วๆ ..พูดจริงๆนะ


                 ส่งจาก – Waystation west of capital city 
                               ผู้ส่ง – George Baton 
                         เรื่อง –  Where Roads Lead

ขอบคุณที่แวะมาอีกครั้งนะแซม
เมื่อตอนที่ผมกำลังทำการบำรุงรักษาอาคารเมื่อวันก่อนผมเห็นรอยเท้าที่คุณทิ้งไว้ด้วย
ผมใช้เวลาสักครู่เพื่อย้อนดูรอยเท้าพวกนี้ มันหมือนผมกำลังเดินตามรอยเท้าของคุณเลย  มันทำให้รู้สึกดีจริงๆ จริงๆนะ ไม่ได้โกหก

โชคไม่ดีที่ครั้งนึงผมเกือบถูกจับตัวไป ทันทีที่รู้ตัวว่ากำลังเข้ามาในอณาเขตของพวก MULE โชคดีที่ผมรู้ตัวก่อนที่มันจะมาจับผม คุณต้องเห็น ผมวิ่งหนีหางจุกตูดเลยจะบอกให้  ผมไม่อยากเจอไอ้พวกนี้ระหว่างเดินทางแน่ ไม่แน่นอนครับผม

ถึงงั้นก็เถอะ มันก็เป็นการเดินที่สนุกที่ได้เดินทางไปตามสถานที่ที่คุณเคยไปมาก่อน มันทำให้รู้สึกราวกับว่าผมเชื่อมต่อกับคุณและมรดกที่คุณทำเอาไว้ในช่วงเวลาเหล่านั้น
แค่อยากทำให้แน่ใจว่า คุณจะกลับมาได้อย่างปลอดภัยเหมือนกับผม


                                          Interview Data




                      เรื่อง – Likes Secrete Oxytocin                   
                    บันทึกเมื่อ 4 ปีก่อน ที่ Bridges HQ                           
                              โดย Die – Hardman

ก่อนที่จะเกิดปรากฎการณ์ Death Stranding โลกทั้งโลกจะเชื่อมต่อกันด้วยเครือข่ายที่เรียกว่า "social networks"  มันคือเครื่องมือที่ผู้คนเคยใช้สำหรับสื่อสารกันตลอดเวลา พวกเขาแบ่งปันทุกๆอย่างผ่านเครื่องข่ายนี้ทั้ง ความคิด รูปภาพสวย ๆ หรือภาพยนตร์ และถ้าคุณชอบบางสิ่งที่คนอื่นอัปโหลดคุณก็สามารถทำให้พวกเขารู้ด้วยการกด "Like" มันฟังดูแปลก ๆ ผมรู้ แต่มันเป็นแบบนั้นจริงๆ ในที่สุดก็มีคนทำการทดสอบกับผู้ใช้เครือข่าย Chiral Network และค้นพบว่าการได้รับ "Like" นั้นเป็นต้นเหตุของการกระตุ้น oxytocin หรือฮอร์โมนแห่งความเชื่อใจ ทฤษฎีว่ามันทำให้เกิดความรู้สึกได้รับการยอมรับแม้ว่าคุณจะไม่เห็นคนที่คุณโต้ตอบด้วยแต่ก็ยังรู้สึกเหมือนพวกเขายอมรับคุณยกย่องคุณ แล้วใครจะไม่ชอบล่ะ

แต่กระบวนการเดียวกันนั้นเป็นหัวใจสำคัญของปรากฏการณ์ที่ทำให้เกิดพวก MULE เป็นที่เชื่อกันว่าการพึ่งพาฮอร์โมน oxytocin มากเกินไปจนติดเป็นนิสัยซึ่งกลายเป็นปัจจัยที่ส่งผลให้เกิดอาการคล้ายกับรูปแบบของการเสพติดที่เรียกว่า Overdependence ทำให้เปลี่ยนจาก Porter กลายเป็น โจรที่แย่งชิงสินค้าของคนอื่นที่เรียกตัวเองว่า  MULE  ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องที่ผิดถ้ามองด้วยเหตุผลจากพื้นฐานสำหรับการกระทำในฐานะผู้เสพติด ออกซิโตซิน พูดอีกอย่างก็คือ พวกเขาก็เป็นสัตว์สังคมที่อยู่ภายใต้การควบคุมของ "ความถูกต้องและการเป็นที่ยอมรับของคนอื่น" เหมือนกัน



                                 เรื่อง – Crytobiotes
                บันทึกเมื่อ 2 ปีก่อน ที่ Fragile Express HQ 
                                    โดย - Fragile

เราเรียกแมลงเหล่านี้ว่า cryptobiotes  พวกเขาถูกบันทึกไว้ในหนังสืออ้างอิงและฐานข้อมูลก่อนที่จะเกิดปรากฎการณ์ Death Stranding แต่ไม่มีใครเคยคิดที่จะจัดหมวดหมู่ที่ชัดเจนให้พวกมัน ดังนั้นพวกเขาจึงเรียกมันว่า "cryptobiotes" ที่ตั้งตามกระบวนการ cryptobiosis ที่หมายถึง "ชีวิตที่ซ่อนอยู่"

เมื่อสภาพแวดล้อมที่โหดร้ายหรือทรัพยากรหายาก cryptobiotes สามารถปิดกระบวนการเมตาบอลิซึมของพวกมันเพื่อเข้าสู่สถานะที่เกือบเหมือนตายเพื่อที่จะอยู่รอด ซึ่งตัวทาร์ดิเกรด (Tardigrade) หรือ "หมีน้ำ" และ ริ้นน้ำจืด (chironomids)  ก็มีความสามารถในการนอนหลับเช่นกัน แต่ cryptobiotes อยู่ในอีกระดับ พวกมันสามารถอยู่รอดได้ทุกที่ทุกเวลา แม้แต่บนชายหาดหรือใน Seam และพวกมันไม่สามารถยืดอายุขัยของตัวมันเองได้เท่านั้น มนุษย์ที่กินมันจะได้รับความต้านทาน timefall ในช่วงเวลาที่จำกัดเช่นกัน

คุณจะไม่พบพวกมันนอนอยู่ทั่วไปหรอก คุณจำเป็นต้องรู้ว่าต้องมองหามันได้ที่ไหน ไม่กี่คนที่รู้ว่าพวกมันอยู่ที่ไหนจนกระทั่งเมื่อเร็ว ๆ นี้ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องทำการวิจัยอะไรแล้ว แถมตอนนี้ยังมีการยอมรับในเรื่องคุณสมบัติที่เป็นประโยชน์ของพวกมันแล้วด้วย ชั้นกล้าที่จะเดิมพันเลยพวกมันจะมีบทบาทสำคัญในการช่วยให้เราเข้าใจ ชายหาด Death Stranding และเรื่องอื่นๆด้วยแน่นอน



                         เรื่อง – The Coral of the Seam
                    บันทึกเมื่อ 3 ปีก่อน ที่ Bridges HQ
                               โดย – Heartman 

ชีวิตเริ่มขึ้นในมหาสมุทรก่อนที่จะวิวัฒน์ขึ้นบนพื้นดิน อย่างน้อยนี่คือสิ่งที่เราเคยเชื่อจนกระทั่งเมื่อไม่นานมานี้ สำหรับสิ่งมีชีวิตในทะเล ณ. ดินแดนแห่งนี้คลั่งแค้นและดุร้ายบุกขึ้นฝั่งเพื่อทำลาย ด้วยเหตุนี้จึงเกิดข้อที่ควรพิจารณาว่าอะไรที่สิ่งนี้ทำให้ทุกอย่างเปลี่ยนไปอย่างรุนแรง ?

เมื่อพิเคราะห์ฟอสซิลของปลาตัวแรกที่พยายามปรับตัวให้เข้ากับพื้นที่นั้นที่ถูกพบในบริเวณที่มีน้ำขึ้นน้ำลงอย่างผิดปกติจนทำให้เกิดคลื่นขนาดใหญ่ เป็นไปได้ไหมที่สิ่งมีชีวิตเหล่านี้พัฒนาขาเพื่อที่จะไปสู่พื้นที่ปลอดภัยจากทะเลอย่างรวดเร็วยิ่งขึ้นเมื่อถูกซัดขึ้นมาเกยชายหาด? ก้าวกระโดดวิวัฒนาการของพวกมันอาจถูกกระตุ้นโดยประสบการณ์ที่ได้เผชิญกับสถานการณ์สะเทือนขวัญที่คุกคามต่อชีวิตนี้หรือไม่?

ถ้าเป็นเช่นนั้นสถานการณ์ที่คล้ายกันอาจทำให้เกิดการวิวัฒนาการเหมือนประการัง สิ่งมีชีวิตที่อาศัยอยู่ใน Seam และผลักดันให้พวกมันพัฒนาความสามารถในการใช้ชีวิตระหว่างความเป็นกับความตาย ระหว่างเวลาและนิรันดร? ประการังไงที่ทำได้  ปะการังเป็นสิ่งที่เก่าแก่กว่าสิ่งมีชีวิตใด ๆ และแข็งแกร่งพอที่จะต้านทานการสูญพันธุ์เมื่อ 540 ล้านปีก่อน และมันเป็นสิ่งมีชีวิตที่สิ่งมีชีวิตอื่น ๆ อีกมากมายพึ่งพาเพื่อความอยู่รอด เมื่อคำนึงถึงสิ่งนี้ในใจเราอาจโต้แย้งได้ว่าความสามารถในการอยู่รอดใน Seam เป็นสิ่งบ่งบอกถึงการก้าวกระโดดที่ลึกซึ้งอย่างที่สุด


               เรื่อง – Egyptian Mummies, Pyramids, etc.
                     บันทึกเมื่อ 3 ปีก่อน ที่ Bridges HQ
                                   โดย – Heartman 

ไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไหร่ที่จะพูดได้ว่ามนุษย์เข้าใจอย่างแท้จริงว่าการตายคืออะไรอย่างแท้จริง? ถ้าจะคิดแบบสมเหตุสมผลก็น่าจะตั้งแต่เมื่อพวกเขาเริ่มมีพิธีฝังศพของตัวเอง ซึ่งเป็นขนบประเพณีที่มีรากฐานมาตั้งแต่ยุคหิน

ในบางกรณีอาจกล่าวได้ว่าความเข้าใจที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับความตายของเราผลักดันให้เราพัฒนาเป็นสายพันธุ์ ความกลัวตายของเราทำให้เรามีความพยายามที่จะเอาชนะมัน ทำไมถึงเกิดเป็นข้อถกเถียงกันมาตลอดเวลาของประวัติศาสตร์ที่ผ่านมาและยังคงครอบงำเกิดเป็นความคิดที่ยังคงเกิดขึ้นวนเวียนอยู่ในสมองของมนุษ์ชาติมาตลอด ซึ่งสามารถหยิบเอาเรื่อง ปิรามิดอันยิ่งใหญ่ของอียิปต์ หรือหลุมฝังศพของจักรพรรดิจีนโบราณมาอ้างอิงได้

ยิ่งคนๆนั้นยิ่งใหญ่เท่านั้นหลุดศพซึ่งเป็นสถานที่สถิตหลังความตายของเขาก็ยิ่งใหญ่อลังกาลขึ้นเท่านั้น หรือเป็นทฤษฎีของพวกหัวรุนแรงที่เกิดเป็นความคิดแบบรวบยอดเพื่ออำนาจทางสังคมของพวกฟ้องตัวเอง จึงมีการสนับสนุนให้สร้างอนุสรณ์สถานเช่นนี้ท้าทายต่อการสิ้นสุดแห่งชีวิตที่เรียกว่าความตายหรือไม่? ไม่ว่าจะด้วยวิธีใดก็ตาม การทิ้งบางสิ่งที่พวกเขาหวังว่าจะได้ครอบครองตลอดไป ผู้สร้างสิ่งปลูกสร้างเหล่านี้อาจเชื่อว่าพวกเขาอาจมีชีวิตอยู่ตลอดไป

มัมมี่ของชาวอียิปต์เป็นอีกวิธีหนึ่งที่มนุษย์พยายามทำตามความปรารถนาของเขาเพื่อหลบหนีจากความตาย พวกเขาจึงสร้างความเชื่อในจิตใจขึ้นว่า หากรักษา Ka หรือภาชนะทางกายภาพให้สมบูรณ์ไว้ Ha หรือ วิญญาณจะสามารถกลับคืนมาได้ sokushinbutsu หรือมัมมี่พระของญี่ปุ่นก็มีความคล้ายคลึงกันในแง่นี้ อย่างไรก็ตามถ้าพูดถึง พระ ก็จะเกิดคำถามถึงจุดมุ่งหมายที่จะเปลี่ยนจากชีวิตสู่การเป็นพุทธะหรือ กล่าวอีกนัยหนึ่งเพื่อที่จะละทิ้งความตายไปโดยสิ้นเชิงไม่ใช่หรือ จึงเกิดการหาหลักฐานข้อโต้แย้งว่าการทำมัมมี่ตัวเองนี้ไม่ถือว่าเป็นการฆ่าตัวตาย แต่เป็นรูปแบบหนึ่งของการ ‘บรรลุธรรม’

แต่ตอนนี้ ชายหาด ได้นำพาเราไปสู่การติดต่อกับ โลกอีกด้าน โดยตรง ความสัมพันธ์ของเรากับความตายจะต้องมีวิวัฒนาการขั้นตอนต่อไปอีก เป็นอีกก้าวนึงของความเข้าใจของพวกเรา



                            เรื่อง – Chiralium Coating 
   บันทึกเมื่อ 2 ปีก่อน ที่ Waystation west of Capital Knot city
                                โดย George Baton 

จริงแล้ว เราค้นพบมันด้วยความบังเอิญที่โง่เขลา หลายคนตั้งใจสร้างเมืองให้อยู่นอกเขตการเกิด Timefall แต่ที่ waystations กับ the distro centers นี่คนล่ะเรื่องเลย เราตั้งอยู่ในพื้นที่โล่งแบบที่ไม่มีอะไรล้อมรอบเลย แม้ว่าจริงๆแล้วการเปิดรับ Timefall ทั้งหมดแบบนี้หมายความว่ามันจะต้องเสื่อมสภาพเร็วกว่าที่อื่น แต่เมื่อคุณลองดูร่องรอยของการเสื่อมสภาพคุณจะสังเกตเห็นได้ทันทีว่ามันเกิดปฎิกริยาอะไรขึ้นเมื่อ chiralium crystals สัมผัสกับ Timefall อยากจะบอกว่า มันไม่เป็นอะไรเลย

chiralium crystals ไม่แสดงอาการของการย่อยสลายใด ๆ แม้หลังจากเปียกโชกไปด้วยฝน Timefall จะว่าไปมันเป็นเรื่องที่สมเหตุสมผลนะ ก็ chiralium มาจากชายหาดใช่มั้ย? และที่นั่นเวลาไม่สามารถผ่านได้ เป็นพื้นที่ที่อยู่เหนือกาลเวลา เวลาจึงไม่มีผลกระทบต่อคริสตัลจนเมื่อเราทำการทดสอบสองสามครั้งนั่นแหละเราถึงยืนยันได้ว่าจริง

ตอนนี้ผมรู้นะว่าคุณกำลังคิดอะไรอยู่ ทำไมไม่สร้าง waystations ด้วย chiralium crystals ซะเลยล่ะ ใช่มั้ย? ใช่ เพียงแต่ ถ้ามีการเปิดเปิดรับแสงมากเกินไปอาจเป็นอันตรายถึงชีวิตและเราไม่สามารถเก็บมันไว้ได้ในปริมาณมากเช่นกัน อย่างน้อยที่สุดการใช้วิธี chiralium coatings หรือการ เคลือบสีที่ผสม chiralium ก็เพียงพอที่จะทำให้เรารับมือกับการถูกย่อยสลายได้สบายๆ

บางครั้งทางออกที่ดีก็กิดขึ้นได้อย่างสมบูรณ์โดยบังเอิญโดยไม่ต้องมีการวางแผนหรือสมควรได้รับมันด้วยซ้ำ



                         เรื่อง – Chiral Contamination II
                       บันทึกเมื่อ 3 ปีก่อน ที่ Bridges HQ
                                  โดย – Heartman 

การปนเปื้อนสสาร Chiral สามารถบรรเทาได้โดยใช้วิธีการคล้ายกับวิธีที่ใช้ในการบรรเทาความเครียดโดยใช้วิธีเพิ่มการหลั่งออกซิโตซินผ่านการมีปฎสัมพันธ์กับคนอื่น ๆ หรือใช้ยา smart drugs เป็นต้น

อย่างไรก็ตามในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาฮอร์โมนที่ชื่อว่า "Likecin" ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีในการลดผลกระทบของการปนเปื้อน chiral ในขณะเดียวกันก็ช่วยฟื้นฟูสภาพร่างกายและจิตใจขั้นพื้นฐานได้ดึงดูดความสนใจจากสังคมนักวิทยาศาสตร์อย่างมาก ซึ่งแตกต่างจาก oxytocin เพราะการใช้ likecin ไม่สามารถทำได้จากภายนอก มันหลั่งจากในร่างกายแต่ตอบสนองต่อสิ่งเร้าภายนอกเท่านั้น มันเป็นฮอร์โมนที่ทำหน้าที่กระตุ้นความรู้สึกในเชิงบวกให้เกิดขึ้นเมื่อบรรลุเป้าหมาย สนุกกับความสำเร็จหรือได้รับการยกย่อง การขอบคุณ หรือรูปแบบอื่น ๆ จากความ "ชอบ" จากมนุษย์เพื่อน ...


       

                    เรื่อง – BTs are Reaching Out to Us
                     บันทึกเมื่อ 3 ปีก่อน ที่ Bridges HQ
                                 โดย – Heartman 

2.4 ล้านปีก่อนโฮโมแฮบิลิส (Homo habilis) เริ่มประดิษฐ์เครื่องมือจากหิน
มือของมนุษย์มีความสำคัญมากคุณไม่คิดงั้นเหรอ? อวัยวะที่เป็นประสาทสัมผัสต่างๆของเราประมวลผลข้อมูลและตีความหมายต่อสิ่งรอบตัวเราเฉยๆไม่แสดงกิริยาอะไร ตาของเราคือแสงสว่าง หูรับรู้เสียง จมูกรับรู้กลิ่น แต่มือ มือนั้นแตกต่างกัน ในการสัมผัสต้องดำเนินการอย่างมีสติ เพื่อทำความเข้าใจในการเชื่อมต่อสิ่งที่อยู่ในมือซ้ายกับสิ่งที่อยู่ในด้านขวาของเราให้มากขึ้น

และรอยมือที่เราเห็นเมื่อพวก BT ค้นหามนุษย์ ทำไมมันถึงให้เราเห็นล่ะ? ผมคิดงั้นนะ  ทำไมผมถึงคิดว่ามันเป็นหลักฐานที่แสดงถึงการโหยหาการเชื่อมต่อ พวกมันออกมาค้นหาเรา เหมือนพยายามเชื่อมช่องว่างระหว่างอาณาจักรแห่งความตายและอาณาจักรของสิ่งมีชีวิต ...


                             เรื่อง – BB Echolocation
                    บันทึกเมื่อ 1 ปีก่อน ที่ Bridges HQ
                                   โดย Deadman

ปลาโลมาใช้กลไกทางประสาทสัมผัสที่รู้จักกันในชื่อ echolocation เพื่อติดตามฝูงของตัวเองและการล่าเหยื่อ การใช้งานก็ตามชื่อนั่นแหละพวกมันสร้างเสียงไปกระทบวัตถุแล้วสะท้อนกลับมาทำให้พวกมันได้รับรู้เกี่ยวกับสภาพแวดล้อมรอบตัว น่าสนใจมาก พวกมันทำแบบนี้ได้ด้วยตัวเองโดยไม่ต้องอาศัยปัจจัยอื่นมาประกอบเลย แต่สิ่งที่ผมคิดว่าน่าสนใจยิ่งกว่าคือ งานวิจัยเมื่อเร็ว ๆ นี้ชี้ให้เห็นว่า BBs เองก็ใช้วิธีการที่คล้ายกันเพื่อตรวจจับ BT

ตามที่คุณทราบแล้ว BB pod ได้รับการออกแบบมาเพื่อเลียนแบบสภาวะภายในมดลูกของมนุษย์และเป็นกุญแจสำคัญในการรักษาการเชื่อมต่อของ BB กับโลกนี้และโลกหน้า การวิจัยเมื่อเร็ว ๆ นี้ชี้ให้เห็นว่า BBs สามารถสร้างบางสิ่งที่ไม่เหมือนกับคลื่นเสียงของปลาโลมา มันคล้ายกับเป็นแรงสั่นสะเทือนที่เกิดจากชีพขจร ที่ส่งแรงสั่นเดินทางผ่านน้ำคร่ำออกไปยังโลกอีกด้านไปถูกพวก BTs แล้วเสียงสะท้อนกลับมาหา BB ทำให้ BB สามารถยืนยันตำแหน่งของการคุกคามได้ ค่อนข้างเท่ห์ใช่มั้ย




                         เรื่อง – DOOM and the Zodiac
           บันทึกเมื่อ 5 ปีก่อน ที่ Office ใน Central knot city
                                โดย นักโหราศาสตร์

นักโหราศาสตร์เช่นผมชินแล้วกับการดูถูกว่างานที่ทำมันไร้สาระ เป็นเรื่องหลอกลวง ไม่สามารถอ้างอิงได้ด้วยวิทยศาสตร์  แต่เมื่อเกิดปรากฎการณ์ Death Standing ขึ้นผู้คนจำนวนมากเริ่มสนใจสิ่งที่เรียกว่า โหราศาสตร์ที่มีรูปแบบต่าง ๆในเชิงจิตวิทยา มากขึ้น ซึ่งมันสนับสนุนทฤษฎีที่ว่าแต่ละคนมีการเชื่อมต่อทางจิตวิญญาณกับ ชายหาด มีแนวโน้มที่จะเป็นความจริงอย่างไม่ต้องสงสัย
ทุกวันนี้แม้กระทั่งนักอายุรเวทยังต้องใช้โหราศาสตร์เป็นเทคนิคในการให้คำปรึกษาคนไข้เลย

 อย่างไรก็ตามสิ่งที่น่าสนใจที่สุดคือเมื่อเร็ว ๆ นี้ได้มีการค้นพบว่า การจัดขบวนของ เทหวัตถุ (celestial) บนท้องฟ้าเช่น ดาวฤกษ์ ดาวเคราะห์ในช่วงเวลาที่แต่ละคนเกิดขึ้นมามีอิทธิพลต่อความสัมพันธ์กับสภาพที่เรียกว่า DOOMS

แน่นอนว่า chiralium ในชั้นบรรยากาศของโลกนั่นมันเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นยากมาก ผมกล้าพูดเลยว่ามันเป็นไปไม่ได้เลยด้วยซ้ำ และจากการสังเกตการณ์การเรียงตัวของกลุ่มดาวในช่วงเวลานึงอย่างจริงๆจังๆ สรุปได้ว่ามันไม่มีผลกระทบต่อชีวิตมนุษย์ แต่ถึงอย่างไรก็ตาม ยอมรับว่ามันเป็นข้อผิดพลาดที่โง่เขลาอย่างแน่นอน


----------------------------------------------------------------------------------------------------------------


                                 Distribution Center



ใน Delivery Terminal ตอนนี้ใน ORDER ของ SAM นั้นจะมีภารกิจหลักให้ทำ 2 ภารกิจคือ
[Order No. 12] Recovery : Confidential Document
[Order No.13] [URGENT] Cryptobiote Delivery: Capital knot city


                                 [Order No. 12] 

               Recovery : Confidential Document


ภารกิจนี้เป้าหมายคือการเดินทางไปยังแค้มป์ของพวก MULE เพื่อชิงเอาไอเทม Confidential Document  กลับไปที่ Waystation


เริ่มจากเดินทางไปยังแค้มป์ของพวก MULE ที่อยู่หลังเนินเขาฝั่งตรงข้ามกับ Waystation ซึ่งเมื่อเริ่มเข้าพื้นที่ก็จะเริ่มเห็นพวก MULE ลาดตะเวณอยู่แถวถนนด้านหน้าแล้ว ถ้าเอามอเตอร์ไซด์มาก็จัดการชนมันให้หมด ส่วนด้านในแค้มป์ก็จะมีพวก MULE อยู่อีกบางส่วน จะลอบจัดการมันหรือจะเข้าไปบู๊ก็สามารถทำได้


เข้าไปที่ Postbox ของพวก MULE แล้วเลือกเอาไอเทม Confidential Document ซึ่งเป็นไอเทมเป้าหมายของภารกิจออกมา ส่วนไอเทมต่างๆที่เหลือก็สามารถเลือกหยิบสิ่งที่ต้องการมาได้ตามสะดวก เมื่อได้ของที่ต้องการมาแล้วก็มุ่งหน้าเอาไปส่งที่ Waystation ได้เลย


                                         [Order No.13] 

       Cryptobiote Delivery: Capital knot city [URGENT]


ภารกิจนี้คือภารกิจส่งด่วน การนำส่งไอเทม Cryptobiote ASAP จาก Distribution Center ไปยัง Capital knot city ภายในเวลาที่กำหนด (30:00:00)


การนำส่งด่วนนี้จะไม่มีปัญหาในความล่าช้าเลยถ้าใช้มอเตอร์ไซด์เป็นตัวช่วยในการขนส่ง ซึ่งจะทำให้สามารถส่งได้ทันเวลาแน่นอน


Deadman - ผมประทับใจมากเลยแซม คุณสามารถนำเอาแต่ล่ะภูมิภาคมากเชื่อมต่อกันได้อย่างดีเยี่ยมเลย แต่ตอนที่คุณต้องมุ่งหน้าไปทางตะวันตกที่ไกลออกไป คุณต้องเจอกับพวก BTs ที่รออยู่อีกเพียบแน่นอน  ตอนนี้ เรากำลังมองหาทางออกเรื่องนี้ที่มันมั่นคงมากขึ้น และเรารู้แล้วว่าเลือดของคุณส่งผลกับพวกมัน ผมเคยบอกคุณรึยังว่า Mama กำลังพัฒนาอาวุธที่ทรงพลังนั่นอยู่ นี่คือเหตุผลที่เราต้องการวิธีในการสร้างส่วนประกอบเทียมให้มากขึ้น  ..  Cryotobiotes ไงล่ะ บางทีคุณคิดออกแล้ว?ถ้าทุกอย่างเป็นไปตามแผนเราอาจเปลี่ยนวิกฤติได้ แต่ก่อนอื่น คุณต้องทำให้ Port Knot city เชื่อมต่อกับทาง UCA ก่อน คำสั่งของ Die - Hardman อยู่ใน delivery terminal ลองเข้าไปดูได้เลย



Die – Hardman – Sam ผมได้รับการติดต่อจาก Mama ว่าตอนนี้เธอสร้างอาวุธ anti – BT Weapon เสร็จแล้ว อาวุธต้นแบบจากการออกแบบของเธอมาจากส่วนหนึ่งของการจัดส่งครั้งถัดไปของคุณ มันคือสิ่งของบรรเทาทุกข์สำหรับประชาชนที่ Port Knot city .. เมืองพอร์ทน็อตห่างจากอาณาเขตของ BT แต่อาวุธก็ยังพอมีประโยชน์อยู่บ้างถ้าใครซักคนเกิดหลงทางเข้าไปใกล้พวกมันเกินไป
พวกเขาจะได้มีวิธีป้องกันตัวเองแก่ผู้คนเมื่อต้องเดินทางนอกเขตเมือง การจัดส่งยังรวมถึงยาหลายประเภทรวมถึงสเปิร์มมนุษย์และตัวอย่างไข่ ตัวอย่างเหล่านี้มีความจำเป็นสำหรับการรักษาความหลากหลายทางพันธุกรรม ซึ่งพวกเขาได้รับบริจาคจากพลเรือนที่อาศัยอยู่นอกศูนย์ของประชากรหลัก โดยการใช้ประโยชน์จากสรรพคุณชั่วคราวของ Chiralium เราสามารถมั่นใจได้ว่าพวกเขายังคงมีชีวิตอยู่ได้นานเท่าที่ต้องการ หลังจากดำเนินการจัดส่งแล้ว เชื่อมต่อ Q-pid ทันทีที่ทำเสร็จแล้วภูมิภาคทั้งหมดจะถูกรวมเข้ากับ Chiral Network คุณจะต้องเดินทางต่อไปไปยังเมือง Lake Knot เราได้รวมสิ่งของบรรเทาทุกข์สำหรับผู้คนที่นั่นด้วยแล้ว แน่นอนว่าการจะไปถึงที่นั่นคุณต้องข้ามทะเลสาบระหว่างทางด้วย รายละเอียดของมันอยู่ในคำสั่งที่ 2 คุณอย่างลืมรับทำด้วยล่ะ ไม่ต้องสงสัยเลยว่านี่คงจะเป็นอีกวันที่ยาวนานที่สุดของคุณแน่นอน เช็คให้แน่ใจล่ะว่าเอาของที่ต้องการไปครบถ้วนแล้ว 

-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

                                         ข้อมูลการสัมภาษณ์ใหม่


                  เรื่อง – The Egyptian View of The Brain
                    บันทึกเมื่อ 3 ปีก่อน ที่ Bridges HQ
                                    โดย – Heartman 

ทุกวันนี้มันเป็นเรื่องธรรมดาที่จะพูดว่าบุคลิกภาพและจิตสำนึกโดยรวมเป็นปรากฎการณ์ที่เกิดจากสมองโดยเฉพาะ

อย่างไรก็ตาม สำหรับชาวอียิปต์โบราณนั้นพวกเขาต่างออกไป พวกเขาเชื่อว่าวิญญาณของคนแต่ละคน สารัตถะทางจิตวิญญาณ (spiritual essence) ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวตนของพวกเขาสิงสถิตอยู่ในหัวใจ เป็นผลให้กระบวนการมัมมี่ต้องกำจัดอวัยวะภายในออกให้หมดรวมทั้งสมองด้วยสำหรับชาวอียิปต์แล้วพวกเขาคิดว่า Ka ของมนุษย์ถูกแทนอยู่ในหัวใจในขณะที่ Ha ถูกสร้างขึ้นจากเลือดเนื้อ ซึ่งภาพรวมของความเชื่อนี้แทบจะไม่เข้ากันกับวิทยาศาสตร์การแพทย์ที่ทันสมัยเลย

แต่ถ้าลองพิจารณาดูซักนิด  BBs ที่เหล่า Porter นำไปใช้ประโยชน์ในการทำงานในพื้นที่ต่างๆ
 และ stillmothers สมองตายไปแล้วที่เป็นเสมือนพันธะเส้นแบ่งเขตแดนของพวก BB เอาไว้ ไม่สามารถพูดได้ว่าได้หันเหความสนใจของเราออกไปจากเรื่องสมองที่เชื่อมโยงกับหัวใจไปยังครรภ์ผ่านสายสะดือ ในภารกิจของพวกเราที่กำลังค้นคว้าและหาทางเข้าใกล้กับโลกแห่งความตายหากมันจะสำเร็จได้จำต้องกลับไปใช้หนทางเดิมเหมือนพวกอียิปต์รึเปล่า?



                          เรื่อง – Fear as Pleasure
                    บันทึกเมื่อ 3 ปีก่อน ที่ Bridges HQ
                                 โดย Deadman

ไม่ว่าพวกเขาจะเข้าใจหรือไม่ก็ตาม ผู้คนในประเทศที่ล่มสลายของเราต้องทนทุกข์ทรมานอย่างมากเนื่องจากความแตกแยกและการแยกจากกัน เราทุกคนต้องอดทน นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมการให้ยาออกซิโตซินที่สกัดจากฮอร์โมน oxytocin ซึ่ง เป็นฮอร์โมนที่กระตุ้นความเชื่อใจ จึงมีความสำคัญ อย่างไรก็ตามไม่ใช่ว่าพวกเราทุกคนจะต้องการความอยู่รอด ในความเป็นจริงจากการศึกษาเมื่อเร็ว ๆ นี้แสดงให้เห็นถึงสิ่งที่น่าสนใจอย่างยิ่ง นั่นคือ การเพิ่มจำนวนของคนที่เห็นว่าความกลัวไม่ใช่ประสบการณ์ที่ต้องมาเครียดหรือต้องหลีกเลี่ยง

 แต่ก็เป็นเรื่องที่น่ายินดีเรื่องนึงที่ทำให้เราต้องค้นหาอย่างหนักจนพบว่า สำหรับมนุษย์ อะมิกดะลา( Amygdala) กลุ่มของนิวเคลียสรูปที่ฝังลึกอยู่ในสมองกลีบขมับส่วนกลาง (medial temporal lobe) มีบทบาทที่สำคัญที่สุดในระบบความจำกับการตอบสนองโดยความรู้สึก ควบคุมการตอบสนองทางอารมณ์เพื่อความกลัวและกระตุ้นความสุข นักวิทยาศาสตร์บางคนตั้งสมมติฐานว่าเพราะอารมณ์ที่ขัดแย้งเหล่านี้ได้รับการประมวลผลในพื้นที่เดียวกัน เราอาจมีสมรรถภาพในการเปลี่ยนแปลงจากแบบนึงเป็นอีกแบบนึงหนึ่ง ตรงกันข้ามถ้าอารมณ์ทั้งสองแบบนี้ถูกบริหารและควบคุมโดยสมองในส่วนที่แตกต่างออกไป การเปลี่ยนแปลงเช่นนี้ก็จะเป็นไปไม่ได้

ในยุคที่เรามีภัยคุกคามอย่างพวก BT , ฝน timefal และการก่อการร้ายที่มีอยู่เต็มไปหมด
ความสามารถในการสัมผัสกับความกลัวด้วยความปิติยินดีก็เป็นเสมือนการกลายพันธุ์ที่มีประโยชน์ด้วยซ้ำ มันก็คือการปรับตัวอย่างนึง ผมก็ว่าไม่เห็นจะเป็นไรเลย


จากบท Interview เรื่อง – Fear as Pleasure ที่บันทึกไว้โดย Deadman บันทึกเมื่อ 3 ปีก่อน ที่ Bridges HQ ทำให้รู้ความจริงว่า

Smart drugs ไอเทมที่แซมขนไปแจกจ่ายให้กับเมืองต่างๆใน Death Standing เป็นประจำมันคือยาที่สกัดจากฮอร์โมน oxytocin ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่จำเป็นสำหรับการคลอดลูกและให้นมบุตร นอกจากนี้ยังทำให้เกิดสายใยผูกพันที่ยิ่งใหญ่ของแม่และลูก ความสำคัญของออกซิโตซิน เป็นฮอร์โมนที่ทำให้เกิดความผูกพันกับคนอื่นด้วยเช่นเดียวกัน การกอด สัมผัสมือ หรือการมีเซ็กส์จะทำให้สมองหลั่งออกซิโตซินมากขึ้น สิ่งที่ตามมาคือ เราจะรู้สึกผูกพัน รัก เข้าอกเข้าใจคู่ชีวิตมากขึ้น ด้วยเหตุนี้ออกซิโตซิน จึงมีชื่อเล่นมากมายว่า LOVE HORMONE, หรือ TRUST HORMONE ที่หมายถึงฮอร์โมนที่กระตุ้นความเชื่อใจ ที่ว่ากันว่า การกด Like ในสังคมโซเชียล นั้นเป็นต้นเหตุของการกระตุ้น oxytocin เพราะมันทำให้เกิดความรู้สึกได้รับการยอมรับแม้ว่าคุณจะไม่เห็นคนที่คุณโต้ตอบด้วยแต่ก็ยังรู้สึกเหมือนพวกเขายอมรับคุณยกย่องคุณ

Smart drugs ที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในโลกของ Death Standing ก็คือยาที่ส่งผลต่อ อะมิกดะลา( Amygdala) หรือกลุ่มของนิวเคลียสรูปที่ฝังลึกอยู่ในสมองกลีบขมับส่วนกลาง (medial temporal lobe) มีบทบาทที่สำคัญที่สุดในระบบความจำกับการตอบสนองโดยความรู้สึก ควบคุมการตอบสนองทางอารมณ์เพื่อความกลัวและกระตุ้นความสุข  เมื่อได้รับยาพวกนี้อย่างต่อเนื่อง มนุษย์สามารถสัมผัสกับความกลัวด้วยความปิติยินดีก็เป็นเสมือนการกลายพันธุ์และเป็นการปรับตัวที่มีประโยชน์ในโลกที่เต็มไปด้วยพวก BT , ฝน timefal และการก่อการร้ายที่มีอยู่เต็มไปหมด

ข้อมูลประกอบบทความ
https://deathstranding.fandom.com/wiki/Smart_drugs_(oxytocin)
https://www.bangkokhospital.com/th/health-tips/love-hormone


----------------------------------------------------------------------------------------------------------------


                                       Capital knot city 



   ใน Delivery Terminal ตอนนี้ใน ORDER ของ SAM นั้นจะมีภารกิจหลักให้ทำ 1 ภารกิจคือ
                           [Order No. 14] Aid Package Delivery: Port knot city

                                   [Order No. 14] 

                   Aid Package Delivery: Port knot city


เป้าหมายนี้คือ นำส่งสินค้าอันประกอบด้วย
- Aid: Sperm and Eggs 1 ชิ้น (5.0kg)
- Aid: Medicine Pack 1 ชิ้น (5.0kg)
- Aid: Anti-BT weapon 2 ชิ้น (40.0kg)
เดินทางไปยังเป้าหมายคือเมือง Port knot city ที่อยู่ทางตะวันตกของ Distribution Center

                   โดยมีอุปกรณ์ใหม่ที่สามารถนำติดตัวไปใช้งานได้เพิ่มเติมอีก 2 ชนิดคือ


1. Blood Bag - ถุงบรรจุเลือดแซมที่สามารถใช้งานได้ 2 แบบคือ
-ใช้เติมเลือด (HP) ให้แซม โดยเมื่อแซมบาดเจ็บจนเกจเลือด (HP) ลด หากพกถุงเลือดมาด้วยมันจะค่อยๆช่วยฟื้นคืนระดับเลือดของแซมจนเต็มผ่านทาง Cuff Cuff และหากพกถุงเก็บเลือดหลายใบในกระเป๋า Utility pouches จะถูกเปลี่ยนโดยอัตโนมัติทันทีที่ถุงปัจจุบันหมด
-ในกรณีจะใช้ถุงเลือดในการเติมเป็นพลังงานอาวุธ Anti - BT Weapon หากพกถุงเลือดมาด้วยจะทำการเติมพลังงานอาวุธผ่านถุงเลือดแบบอัตโนมัติจนหมดก่อนแล้วจึงดึงจากเลือดในร่างกายของแซม


2. Hematic Grenade – ระเบิดที่สกัดสารที่มีฤทธิ์ anti – BT effect เข้มข้นที่สามารถกำจัดพวก BT ได้อย่างสิ้นซากด้วยการขว้างไปที่ BT ตัวเป้าหมายได้โดยตรง แต่ต้องใช้พลังคือเลือด(HP) ของแซมเป็นพลังงาน แต่หากพกถุงเก็บเลือดหลายใบในกระเป๋า Utility pouches ถุงเลือดมาด้วยจะทำการเติมพลังงานอาวุธผ่านถุงเลือดแบบอัตโนมัติจนหมดก่อนแล้วจึงดึงจากเลือดในร่างกายของแซม


เริ่มจากเดินทางจาก Capital knot city มายัง Distribution Center ระหว่างทาง ฝน Timefall จะเล่นงานจนไม่สามารถใช้มอเตอร์ไซด์ผ่านไปได้ ตรงนี้จะเป็นจุดแรกที่จะเป็นที่สำหรับทดสอบและการเรียนรู้การใช้งาน Hematic Grenade และ Blood Bag ที่พกมา


สามารถใช้ Hematic Grenade ด้วยการกดปุ่มทิศทางขวาเลือกใช้ Hematic Grenade กด L2 เล็งไปที่ BT เป้าหมาย


Heartman – แซม นี่ผมเองนะ Heartman เพื่อนผู้ทนทุกข์กับสภาวะ Doom เหมือนคุณไง ฮ่าๆ เอ่อ .. ความทุกข์ยากของเราเช่นมัน เริ่มต้นที่ชายหาดหรือมากกว่านั้นคือการค้นพบมันของเรา ครั้งนึง คำถามเกี่ยวกับชีวิตหลังความตายถูกตอบโดยตรรกะทางศาสนาและปรัชญาเท่านั้น แต่เมื่อเราเรียนรู้เกี่ยวกับ "ชายหาด" ความตายกลายเป็นสิ่งที่จับต้องได้มากขึ้น 

ไม่ช้าชีวิตก็จะเดินทางไปสู่ชายฝั่งของชีวิตหลังความตาย ในขณะที่สิ่งต่าง ๆ ที่ตายแล้ว และสิ่งที่เกยตื้น เริ่มหาทางกลับมา และจากนั้นก็คือการมาถึงของ DOOM พร้อมกับมีทฤษฎีที่ทันสมัยโดยแพทย์และนักจิตวิทยาที่พยายามหวังที่จะหาวิธีอธิบายความลึกลับของโลกยุคใหม่ อาการนี้ถูกจัดหมวดหมู่อย่างถูกต้องและการวัด ระดับ ของมัน

แต่ผู้ฟื้นคืน (repatriates) เช่นคุณเป็นชนิดมันมีความเป็นตัวตนของตัวเองที่หายากอย่างและมีค่ามากหากนับจากคนอื่นๆทั้งหมดที่อยู่ในหมวดหมู่เดียวกับคุณ
ขนาดที่ระดับผู้เชี่ยวชาญต้องปีนข้ามหัวกันเพื่อดูคุณ .. ฮ่าฮ่า
ผมสงสัยจังว่าพวกเขาพบอะไรในตัวคุณ 


 เมื่อมาถึงที่ Distribution Center แล้วเดินทางต่อไปยังเส้นทางด้านตะวันตกต่อ ซึ่งจะเป็นทางขึ้นเขาที่ค่อนข้างทุระกันดาร และมันต้องผ่านพื้นที่ที่มีฝน Timefall ตกเป็นวงกว้างที่เต็มไปด้วยพวก BTs จะหลบหลีกเรื่องทำลายพวกมันด้วย Hematic Grenade ก็สามารถทำได้ตามถนัด เป้าหมายคือไปให้ถึงเมือง Port knot city ที่อยู่ริมทะเลทางทิศตะวันตก


                                  Port knot city


Viktor Frank - คุณเป็น Porter ใช่มั๊ย? หน่วยกล้าตายหนึ่งเดียวที่ถูกส่งมาทำงานแทนทุกคนในทีม ? 2 เท้าของคุณได้เติมเต็มเท้าของพวกเขาเหล่านั้นทุกคน สินค้าสมบูรณ์ดี คุณเป็นคนมีฝีมือดีมาก จริงๆ ไม่ได้โกหก เอาล่ะ คุณมาที่นี่เพื่อนำเครื่อข่ายอะไรนั่นมาให้เราไม่ใช่หรอ 



Sam – ใช่ แล้วดีมั๊ยล่ะ?
Viktor Frank - โคตรดีเลยน่ะสิ ผมรอมาทั้งชีวิตก็เพื่อวันนี้แหละ เริ่มเลยสิ ! 


                                         Port knot city - - เชื่อมต่อแล้ว 



                              Viktor Frank  - - เข้าร่วม UCA 

+ ข้อมูลการสัมภาษณ์ใหม่
The Chiral Network Experiment Between Central and Capital I
The Chiral Network Experiment Between Central and Capital II
MULEs and Local Porter
Timefall and Power Failures


Viktor Frank – เดี๋ยวนะ คุณเอาสิ่งนั้นมาจากไหน? เจ้าตัวน้อยนั่นน่ะ เหมือนของผมเลยนี่ไง คุณไปเอามาจากไหนวะเนี่ย? 
Sam – ผมบอกไม่ได้หรอก รู้แต่ว่าเจ้าตัวน้อยนี่มันมาพร้อม Pod นี่ ถ้าคุณอยากรู้นะ 
แล้วคุณได้ Pod นั่นมาจากใคร?
Sam – Igor จากหน่วยจัดการศพ (Corpse Disposal)
Viktor Frank – นั่นน้องชายผมเอง แล้วเอ่อ เขาให้คุณหรอ ทำไมถึงให้ล่ะ?
Sam – มันก็อยู่กับเขาจนถึงวาระสุดท้ายนั่นแหละ เรากำลังลำเลียงศพไปเตาเผากันอยู่แล้วไปเจอพื้นที่ที่มีฝูง BT เต็มไปหมด มีตัวนึงจับเขาไป เขาบอกว่าให้ผมเก็บ Pod นี่เอาไว้แล้วรีบหนีไป 
Viktor Frank – งั้นหรอ? แล้วคุณล่ะ คุณเจอเรื่องแบบนั้นแล้วคุณยังสามารถทำงานแบบนี้ได้อีกหรอ? .. โอเค คุณดูแลเจ้าตัวเล็กนั่นไว้เถอะ ยังไงเขาก็เป็นของคณะสำรวจแบบคุณอยู่แล้ว คุณจะเอาของพวกนี้ในคลังเราไปด้วยก็ได้นะ คงไม่มีใครได้ใช้มันอีกแล้วล่ะ  



Amelie – แซม พี่ทำสำเร็จ Port Knot City เข้าสู่การเชื่อมต่อและเป็นส่วนหนึ่งของ UCA แล้ว ข้อมูลของพวกเขาเป็นส่วนหนึ่งของภูมิปัญญาที่เราแบ่งปันให้ไป ถ้ามีเวลามากพอ มี Chiral Printers มากพอ พวกเขาก็จะสร้างเรือขึ้นมาได้ และวันนึงน่านน้ำแห่งนี้ก็จะกลับเป็นของพวกเราอีกครั้ง ทั้งหมดนั่นก็เพราะพี่นำทางให้พวกเรา  แม้ว่าสิ่งที่ตามมาอาจจะไม่ดีเสมอไป ยิ่งเมืองที่เข้าร่วมกับ UCA ใหญ่ขึ้นแค่ไหนก็จะเป็นที่หมายตาของกลุ่มก่อการร้ายมากเท่านั้น แต่เราก็ต้องยอมรับกับอันตรายที่จะเกิดขึ้นเพื่อเดินหน้าต่อไป ประเทศของเรากำลังรออยู่ แซม รอให้พี่เป็นก้าวแรกที่จะเชื่อมต่อพวกเขาเข้าสู่ Chral Network ชั้นรู้ว่าพี่ต้องทำได้แน่นอน ทำให้พวกเราเป็นหนึ่งเดียวกันอีกครั้ง 



Viktor Frank – ขอบคุณมาก อีกนึง C ที่ได้เข้าร่วมกับ UCA แล้วสินะ? งั้นต่อไปคุณก็ต้องแก้ไขเส้นทางข้ามทะเลเพื่อมุ่งหน้าไปตะวันตกต่อใช่มั๊ยล่ะ? 
Sam – ใช่ แล้วเรามีเรือมั๊ย?
Viktor Frank – ไม่มีของแบบนั้นเป็นปีๆแล้วพวกผู้ก่อการร้ายมาปล้นที่ลอยน้ำได้ของเรา 
ไปจนหมด ทุกๆอย่าง เรือลำเดียวทีเหลือก็เป็นของบริษัทจัดส่งส่วนบุคคุลอีกเจ้านึง 
Sam –  บริษัทจัดส่งส่วนบุคคุล ? อย่าบอกนะว่า Fragile Express? 
Viktor Frank – ใช่เลยล่ะ พร้อมจะไปเจรจากับตัวแทนของพวกเขารึยังล่ะ? ผมให้พวกเขาเตรียมเรือและทำการโหลดของใช้บางอย่างที่คุณนำมาให้เราด้วย พนันได้เลยว่าคนที่ Lake Knot ต้องกระดี๊กระด๊ารีบออกมาดูว่าใครกันนะที่มาถึงที่นี่ได้ เชื่อผมสิ มุ่งหน้าลงใต้ไปยังท่าเรือได้ทันทีเมื่อคุณพร้อม มันอยู่ด้านนอกของ Distro center  .... ไม่ต้องห่วง ฝน Timefall ไม่เคยเข้ามาถึงที่ Port Knot เลยหรอก แวะเข้าไปพักที่ห้องพักที่เราจัดไว้ให้ก่อนไปก็ได้นะ ตามสบาย  

---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

                                            Interview Data



เรื่อง – The Chiral Network Experiment Between Central and Capital I
                    บันทึกเมื่อ 1 ปีก่อน ที่ Capital knot city
                                โดย Die – Hardman

เรียนท่านประธานาธิบดี นับแต่นี้ที่นี่จะเป็นออฟฟิศใหม่ของท่าน การย้ายที่อยู่อาศัยอย่างเป็นทางการของท่านเสร็จสมบูรณ์แล้วและทีมแพทย์ทั้งหมดก็ถูกพามาด้วยเช่นกัน มั่นใจได้ว่าข้อมูลเกี่ยวกับการย้ายนี้จะมีคนที่รู้เท่าที่จำเป็นเท่านั้น

ผมเข้าใจ .. หลังจากการสูญเสียนิวยอร์กไป ท่านต้องการที่จะควบคุมการสร้างเมือง Central Knot City ขึ้นมาใหม่ด้วยตัวเองอย่างเต็มที่ แต่จากการเกิดเหตุการณ์แบ่งแยกดินแดนในพื้นที่ชายฝั่งทะเลตะวันออกเมื่อไม่นานมานี้ทำให้เราไม่คิดว่าที่นั่นมันจะปลอดภัยสำหรับท่าน เราเห็นว่าประชาชนยังคงเชื่อว่าท่านอยู่ในเมืองหลวงเพื่อคอยดูและ  Bridges HQ ให้ทำหน้าที่อย่างปกติ  และทีมวิจัยด้านเครือข่ายและการจัดการระบบการจัดส่งทั้งหมดได้รับการโอนถ่ายจากที่นี่ไปยัง Capital Knot City ตามคำสั่งของท่านอย่างลับๆแล้ว

เราพยายามอย่างเต็มที่เพื่อทำการทดสอบการเชื่อมโยง chiral network ระหว่าง Central Knot City และ Capital Knot City ให้เร็วที่สุด ในขณะที่เราจะไม่ละเลยความต้องการทางการแพทย์ของท่านอย่างกระทันหันแน่นอน ต่อแต่นี้ไป ที่นี่จะเป็นฐานปฏิบัติการณ์ใหม่ของเราเพื่อใช้ในการต่อสู้เพื่อสร้างอเมริกาขึ้นมาใหม่อีกครั้ง


เรื่อง – The Chiral Network Experiment Between Central and Capital II
                  บันทึกเมื่อ 1 ปีก่อน ที่ Capital knot city
                          โดย Die – Hardman

เรียนท่านประธานาธิบดี ผมยินดีที่จะรายงานว่า การทดสอบการเชื่อมโยง chiral network ระหว่าง Central Knot City และ Capital Knot City สำเร็จลุล่วงไปด้วยดีโดยไม่มีข้อผิดพลาดใดๆเลย รวมทั้งการทำงานของฟังก์ชั่น Q-pid ก็อยู่ในระดับที่น่าพอใจเช่นกัน

พวกเรายังมีงานอีกมากที่ต้องทำ ทั้ง chiral holograms, chiral printing และการกู้คืนข้อมูลที่ยังไม่สามารถใช้งานได้ แต่ยืนยันว่าข้อมูลต่างๆสามารถส่งผ่านเครือข่าย  chiral network ได้เป็นอย่างดี นับเป็นก้าวที่สำคัญยิ่งสำหรับ UCA

ก้างต่อไปของเราคือการใช้ Q-pids เพื่อสร้างการเชื่อมต่อกับเมืองอื่น ๆ การเตรียมการสำหรับการออกสำรวจครั้งที่สองกำลังดำเนินการอยู่ เรายังคงพยายามติดตามหาตัว Sam อยู่อย่างเต็มกำลัง และทันทีที่เขากลับมาหาเราเขาจะได้รับคำสั่งใหม่ของเขาในทันที


                      เรื่อง – MULEs and Local Porter
                      บันทึกเมื่อ 1 ปีก่อน ที่ Bridges HQ 
                                โดย Die – Hardman

เมื่อผู้คนได้ยินคำว่า "MULE" พวกเขาคิดถึง "พวกขี้ยาผู้ที่คลั่งไคล้และปรารถนาที่จะขโมยเสบียงคนอื่นอย่างถึงที่สุด" ทำให้เราจึงจำเป็นต้องเอาตัวรอด โชคดีสำหรับเราที่มี Fragile Express บริษัทที่ให้บริการจัดส่งสินค้าที่ชื่นชอบสภาวะการณ์เช่นนี้ ซึ่งจริงๆแล้วก็ไม่ใช่แค่เรื่องพวก MULE เพียงอย่างเดียว พวกเขาเคยเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านนี้มาก่อนและบางคนก็ยังคงเป็นอยู่  Fragile Express รู้ดีว่าจะใช้งาน porters อิสระพวกนี้ยังไง

สำหรับผู้ที่เสี่ยงต่อการสูญเสีย พวกเขากล่าวว่า วิธีเดียวที่จะขจัดความเสี่ยงที่ว่า นั่นคือการเข้าร่วมองค์กรธุรกิจที่มีภาวะผู้นำและมีการสนับสนุนที่แข็งแกร่งเพื่อช่วยคุณด้วยความสื่อสัตย์และมีคุณธรรม หรือคุณจะออกไปลุยด้วยตัวคุณเอง นั่นมันไม่ใช่เรื่องง่ายๆเลย นั่นคือเหตุผลที่คนที่จะมาลุยเดียวทำงานนี้ต้องเป็นที่เลื่องลือว่าต้องหนังเหนียวพอ


                  เรื่อง – Timefall and Power Failures
               บันทึกเมื่อ 3 ปีก่อน ที่ Central knot City 
                                      โดย Igor 

ผมอาสาเข้าร่วม Bridges พร้อมๆกับ Viktor พี่ชายของผม ดูเราทั้งคู่ยังคงจำได้เมื่ออเมริกายังคงเป็นอเมริกา ตอนที่เรายังคงมีเครื่องบินและดาวเทียม เมื่อเรายังคงเชื่อมต่อกับทุกคนและทุกๆสิ่ง .. ตอนนี้โลกไม่มีเหมือนเดิมแล้ว ไม่มีเหมือนเดิมเอามากๆด้วย และเราต้องการให้มันกลับมาเหมือนเดิม

พี่ชายผมเขาได้รับเลือกให้เข้าร่วมการสำรวจครั้งแรกและเริ่มเดินทางในทันที ช่วยผมน่ะหรือ ผมถูกให้อยู่ที่นี่ ที่ Central knot City ซึ่งก็โอเค คิดว่านะ ..

การกำจัดซากศพหมายถึงการที่คุณต้องเจอกับภาวะกังวลใจหรือหดหู่ใจกับฝน timefall ในการปฏิบัติหน้าที่ และคุณจะเข้าใจมันหลังจากผ่านไปครู่หนึ่ง ก็ใช้สัมผัสที่หกดูเอาเมื่อเมฆกำลังเริ่มเปิดขึ้น 'แน่นอนว่าเมฆนั้นเป็นตัวบ่งบอกที่ชัดเจนที่สุดและเมื่อมันเริ่มมีรุ้งกินน้ำก็เป็นเครื่องรับประกันว่าความชิบหายกำลังมาเยือนคุณแล้ว แต่ก็มีสัญญาณที่เล็กๆที่บ่งบอกได้เหมือนกันเช่น การเปลี่ยนแปลงของอากาศ หรือกลิ่นของลม ...

และเมื่อคุณเริ่มถูกฝนโจมตีก็จะเริ่มมีปัญหาเรื่องพลังงานต่างๆขัดข้อง เท่าที่ผมเข้าใจ  ซึ่งก็อาจไม่ถูกทั้งหมดหรอกนะ มันน่าจะเกี่ยวกับความเข้มข้นของ chiralium ที่สูงขึ้นก่อให้เกิดการรบกวนของแม่เหล็กไฟฟ้าหรือบางสิ่งซึ่งก็ทำปฏิกิริยากับน้ำรวมถึงเมฆซึ่งทำให้อุณหภูมิลดลงเหมือนอย่างรวดเร็วมาก

อย่างไรก็ตาม ผมอาจคุ้นเคยกับ timefall แต่ไม่ได้หมายความว่าผมจะรอดพ้นจากมันได้ง่ายๆ เชื่อเถอะ ผมอายุน้อยกว่าที่เห็นนะ พี่ใหญ่ของผมมีความยินดีอย่างยิ่งที่จะบอกคุณเรื่องนี้ได้เลย หากเขามาเห็นผมตอนนี้อ่ะนะ ...

------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

                         Port knot city

หลังจาก Sam พักในห้องพักส่วนตัวจนพอใจแล้ว เป้าหมายต่อไปของ Sam คือมุ่งหน้าไปที่ท่าเรือ Lake Knot city เมื่อเตรียมตัวจัดสิ่งของเพื่อเตรียมออกเดินทาง (จัดสิ่งของที่ไม่จำเป็นออกให้หมด เน้นเอา Blood Bag และ Hematic Grenade ติดเอาไว้)


แต่ในขณะที่กำลังจะก้าวออกจาก Port knot city ฝน Timefall ก็เริ่มโปรยลงมาทั้งที่ทุกคนต่างก็ย้ำแล้วว่าที่ Port knot city ไม่เคยมีฝนตกที่นี่มันช่างย้อนแย้งสิ้นดีสำหรับแซม 


ทันทีที่ Timefall เริ่มกระหน่ำ BT จำนวนมากก็โผล่พุ่งขึ้นมาจากใต้โคลนดำถาโถมเข้ามาฉุดดึงแซมให้ดำดิ่งสู่เบื้องล่างให้ตกตายไปตามกัน แต่จู่ๆพวกมันก็ค่อยๆถอนกำลังเหมือนถูกสั่งถูกบังคับให้เป็นไปตามตั้งใจ ทันทีที่หลุดออกมาจากฝูง BT ได้ แซมก็เริ่มสังเกตเห็นต้นเหตุคือชายที่ยืนอยู่ตรงหน้าที่เป็นผู้สั่งการ 


Higgs – ชั้นชื่อว่า Higgs ผู้ที่มีอณุภาคของพระเจ้าแทรกซึมอยู่ทั่วไปหมด




Higgs –  ..อ่า ..เธอเป็นคนดึงเขาเข้ามาสู่เรื่องทั้งหมดนี่ใช่มั๊ยล่ะ? หึ แม้เลือดจะท่วมหัว.. แต่ก็ไม่ก้มหัวให้ใครสินะ               



Higgs –  หืมมมม อะไรกันเนี่ย? .. Bridget Strand ตายแล้วงั้นหรอ? ประธานาธิบดีคนสุดท้ายของอเมริกาแต่และเผาไปเรียบร้อยแล้ว ..โอ้ แล้วตอนนี้สาวน้อยนั่นก็เข้ามาแทนที่แม่ของเธอ แหม่ แต่นั่นก็ไม่ใช่การทำการชำระล้างทำให้อะไรๆมันสะอาดขึ้นหรอกนะ เธอตัดเลือกการเมืองไม่ขาดหรอก นั่นแหละเธอล่ะ  แต่ไม่ต้องห่วงหรอกนะ ชั้นจะตามหาเธอเองและจะทำให้เธอปลอดภัยอย่างแท้จริงเอง  



Higgs –   นายดูสิ ชั้นมาก็เพื่อเข้าใจเรื่องราวที่แท้จริงของ Death Standing เฮ้ออ มันมีผู้คนอีกมากที่ไม่รู้ถึงความจริงเรื่องนี้เลย เช่นยัยสาวน้อยนั่น เธอไม่เหมือนกับนายหรือชั้น เธอไม่ใช่ DOOMS เหมือนเรา เธอกำลังพาทุกคนเข้าไปสู่ความหายนะที่ขยายวงกว้างขึ้น ไปทั่วโลก จนไปสู่การสูญพันธ์อย่างแท้จริง 





Higgs – มันคงจะยากที่จะเชื่อมต่อกันถ้านายไม่สามารถจับมือกันได้ โชคดีที่ชั้นมีความเชื่อมต่อที่ดีกับโลกอีกด้าน  นายไม่ใช่ Bridge หรอก ส่วนชั้นน่ะหรอ? ชั้นมีพันธะสัญญากับทุกสิ่งทุกอย่างในโลกนี้ และ โลกนั้น และ ทูตแห่งความตายที่น่ารักของเรา 



Higgs – ตอนนี้นายอยู่ในเมนูของมันแล้ว ..ฮ่าๆ ทั้งหมดที่มันต้องทำก็คือสร้าง Voidout เล็กๆน้อยๆที่จะถล่มพวกเราไปพร้อมกับอาณาจักรทั้งหมด แล้วจะเอาไงกับเรื่องนี้ดีล่ะ นายไม่เบื่อที่ต้องทำงานหนักแบบนี้อยู่ตลอดรึไง? นี่ไม่ใช่สิ่งที่นายรอมาตลอดงั้นหรอ? .... Game Over !?


                                  [Order No. 16]

                              Eliminated : BT



เป้าหมายเฉพาะที่เกิดขึ้นโดยไม่คาดคิด แซมต้องกำจัด BT ขนาดใหญ่ที่ Higgs ส่งออกมาท่ามกลางน้ำโคลนสีดำที่นองไปทั่วพื้นที่ วิธีต่อสู้กับมันคือการใช้ระเบิด Hematic Grenade ขว้างใส่มัน และหากระเบิดที่พกมาหมดก็สามารถเก็บได้จากวิญญาณสีขาวที่ออกมาช่วยเอาไอเทม Hematic Grenade และ Blood Bag มาส่งให้ตลอดระยะเวลาการต่อสู้ ที่เหลือก็พยายามหาพื้นที่ยืนตามซากอาคารไม่ให้ต้องอยู่ในน้ำโคลนสีดำ ทิ้งระยะห่างกับมันให้พอเหมาะ และขว้างระเบิดให้เข้าเป้าไปเรื่อยๆก็จะจัดการมันได้


Heartman -  เหลือเชื่อ! ไม่น่าเชื่อเลย !! นี่เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์เลยนะที่มนุษย์สามารถจัดการ BT ลงได้ ต่อให้คุณไม่ใช่ ผู้ฟื้นคืน ผมก็คิดว่าคุณก็ต้องทำได้อยู่ดี ไม่เพียงแต่การสัมผัสกับของเหลวของคุณจะไม่ก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อการเกิดระเบิด Voidout แต่มันเหมือนกับ Ka ของคุณถูกปฏิเสธโดยชายหาดด้วยซ้ำ แถมเลือดของคุณยังสามารถใช้ในการขับไล่ BT จากโลกของเราให้กลับไปยังโลกอีกด้านได้ด้วย คุณให้ความหวังกับพวกเรา แซม Amelie ยังคงรอคุณอยู่ที่ฝั่งตะวันตก มุ่งหน้าไปที่เรือที่เราเตรียมไว้ได้เลยเมื่อคุณพร้อม นำสินค้าไปยัง Lake Knot City เราจะได้เริ่มกันเลย 

                                Capital knot city 

ใน Delivery Terminal ตอนนี้ใน ORDER ของ SAM นั้นจะมีภารกิจหลักให้ทำ 1 ภารกิจคือ
[Order No. 15] Equipment Trial: Hematic Grenade

                                    [Order No. 15] 

               Equipment Trial: Hematic Grenade



เป้าหมายของภารกิจนี้คือทดลองใช้ Hematic Grenade ในการกำจัด BT แล้วเก็บ Chiral Crystal ที่ได้หลัง BT ถูกทำลายเอาไปส่งที่ Distribution Center  อุปกรณ์ที่ต้องนำติดตัวไปก็คือ ระเบิด Hematic Grenade และ Blood Bag เท่านั้น


โดยเริ่มจากเดินทางไปยังจุดหมายของภารกิจทางตะวันตกเฉียงใต้ของ Waystation ซึ่งจะเป็นจุดที่เกิดฝน Timefall ตกและเต็มไปด้วยพวก BT (ซึ่งสามารถนำมอเตอร์มาใช้ในการเดินทางได้ เพียงแต่เมื่อเข้าพื้นที่ของพวก BT แล้วให้จอดรอเอาไว้ให้ไกลจากพวกมันก็พอ

      

จากนั้นใช้ระเบิด Hematic Grenade ทำลายพวก BT ซะแล้วเก็บ Chiral Crystal ที่ตกจากตัวมันตรงจุดที่มันตายมา ซึ่งถ้าคุณมี Chiral Crystal ติดตัวมาอยู่แล้ว ก็เก็บอันเดียวก็พอ เมื่อได้มาแล้วก็เดินทางต่อไปยัง Distribution Center  ได้เลย


เมื่อมาถึงที่ Distribution Center แล้วเข้าไปที่ Delivery Terminal เลือกเมนู Recycle เพื่อนำเอา Chiral Crystal ที่ได้มาทำการรีไซเคิ่ลซะ แต่ถ้าในกรณีมีการขึ้นแจ้งเตือนว่าจำนวน Chiral Crystals สูงสุดที่สามารถจัดเก็บในสถานที่นี้เต็มที่แล้ว ให้เข้าเมนู Claim Materials แล้วเลือก Chiral Crystals ออกมาใช้เพื่อทำให้พื้นที่ Stored ว่างก็จะสามารถทำการ Recycle  Chiral Crystal ได้แล้ว 


------------------------------------------------------------------------------------------------------------


                        MAIL DATA




             ส่งจาก – Waystation West of Capital Knot City
                               ผู้ส่ง – George Baton
                    เรื่อง – No more smart Drugs for me 

ไงแซม ,
ไม่รู้ว่าแค่ผมหรือเปล่าที่คิดว่าที่นี่ดูมีชีวิตชีวาขึ้นนับตั้งแต่คุณมาครั้งแรก? เมื่อไม่นานมานี้มีการตรวจเช็คสุขภาพของพนักงานพบว่าทุกคนมีความกระตือรือร้นและมีสุขภาพกายและใจที่ดี
เมื่อก่อนเราค่อนข้างหลงไหลมันมากเรียกว่าติดเลยก็ได้ และเราก็เริ่มลุกขึ้นสู้กับไอ้ยาเม็ดเล็กๆนี่ แต่ทุกวันนี้้เรายิ้มได้กล้าที่จะจับมือกัน บอกเลยว่าปลื้มสุดๆ ขนาดผมเองยังถูกกอดเลยถึงจะแค่นิดหน่อย แต่มันก็ดีมากๆ

เรารู้สึกถึงความสงบ อุ่นใจ คุณรู้อะไรมั๊ย? ผมคิดว่าเรากำลังพยายามที่จะลดการใช้ยา smart drugs ให้น้อยลงเพราะมันอาจทำให้ร่างกายของเราผลิตออกซิเจนด้วยตัวเองอีกครั้ง และถ้าทำได้จริงๆ วันนึงเราจะเลิกใช้ smart drugs อย่างถาวร คุณเป็นคนให้ทั้งหมดที่ผมว่ามามันเป็นไปได้ แซม คุณเป็นฮีโร่สำหรับพวกเรา คุณให้ความหวังกับเรา



                   ส่งจาก – Waystation West of Capital Knot City
                                     ผู้ส่ง – George Baton
                              เรื่อง – Casualties of Twilight

ไงแซม
คุณช่วยผมเอาไว้อีกแล้ว คุณช่วยผมมาตลอดเลย ขอบคุณจริงๆเพื่อน
หนังสือที่คุณเอามาให้ผม จริงๆแล้วมันเป็น บทหนัง ผมหมายถึง ผมรู้แต่แรกแล้วล่ะขอโทษด้วยที่ไม่ได้บอกเลย

แต่ยังไงก็เถอะ มันเป็นภาพยนตร์ที่น่าสนใจที่ฉายในช่วงเวลาที่น่าสนใจ เมื่อโลกถูกแบ่งออกเป็น 2 ฝั่ง ตะวันออก สู้กับ ตะวันตก "สงครามเย็น" นั่นแหละที่พวกเขาเรียก หนังเรื่องนี้ชื่อว่า Casualtie of Twilight
มันเป็นเรื่องของคู่รักสองคนที่ตามหาอุดมการณ์ท่ามกลางความขัดแย้งที่กำลังเกิดขึ้นทั่วโลก มันเกี่ยวกับวิธีที่พวกเขาทำลายโลกเพื่อที่จะได้อยู่ด้วยกัน

มันเป็นแค่หนังสั้นก็จริง แต่มันน่าสนใจมากถ้ามองจากมุมมองทางจิตวิทยา มีคนจำนวนหนึ่งบอกว่าหนังเรื่องนี้เป็นคำทำนายล่วงหน้าว่าจะเกิดปรากฎการณ์ Death Stranding
ผมไม่คิดว่ามันจะปะปนกับสินค้าที่ถูกพวก MULE ขโมยไป และตกใจมากเมื่อได้ยินว่ามันหายไป
ขอบคุณนะที่นำมันกลับมาให้ ซึ้งน้ำใจมากๆเลย



             ส่งจาก – Distribution West of Capital Knot City
                               ผู้ส่ง – Benjamin Hancock
           เรื่อง – American Reconstructionism : Not Just a Dream

ถึงแซม
ขอบคุณนะ ..อีกแล้ว .. ผมเข้าเรื่องเลยแล้วกัน "ถ้ามันยังไม่พร้อมล่ะ" แค่พูดอย่างเดียวไม่พอหรอก พวกเขาต้องการความแปลกใหม่ที่ไม่ซ้ำใครตอนที่สร้างคุณขึ้นมา จริงๆนะ ผมอยู่ที่นี่ตั้งแต่สมัยที่ Bridges เข้ามาถึงใหม่ๆและผมโคตรจะภาคภูมิใจเลยที่ได้รับมอบหมายให้ทำงานที่นี่ แต่บอกตรงๆคือ หลายครั้งที่ผมมักจะกังวลว่าการระเบิดครั้งต่อไปจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ แต่ความจริงคือมีหลายครั้งที่ผมกังวลว่าการเดินทางครั้งที่สองจะไม่เกิดขึ้น ถ้าเกิดพวกเขาไม่สามารถใช้ Q-pid เชื่อมต่อได้ล่ะ? และจะเกิดอะไรขึ้นถ้าการฟื้นฟูประเทศอเมริกันขึ้นมาใหม่เป็นแค่ความฝันที่ไร้สาระล่ะ?

ผมไม่ตำหนิตัวเองหรอกที่เกือบสูญเสียความศรัทธา ผมไม่เคยเห็นอเมริกาจริงๆเลยซักครั้งด้วยซ้ำ แต่คุณกลับมาและให้บางสิ่งแก่ผมที่จะทำให้ผมเชื่ออีกครั้ง
คุณต้องทำให้เสร็จ เพื่อพวกเราทุกคน ทำให้พวกเรากลับมาอยู่ร่วมกันอีกครั้ง



                            ส่งจาก –Capital Knot City
                                 ผู้ส่ง – Nick Easton
                  เรื่อง – you’re the Great Deliverer Alright 

ไงแซม
คุณน่ะ น่าทึ่งมากเลยรู้มั๊ย? เดินทางขนส่งสินค้าไปข้างนอกนั่นด้วยตัวคนเดียวเพื่อเชื่อมต่ออเมริกาให้เป็นหนึ่งเดียวกันอีกครั้ง ผมหมายถึง ผมก็ไม่แปลกใจหรอกที่คุณทำได้ ก็คุณเป็น ผู้ฟื้นคืน แล้วยังเป็นคนของ Bridges อีก แล้วคุ๊ก็ยังสามารถข้ามไปมาระหว่างสองโลกได้ด้วย คุณต้องมีอะไรบางอย่างแน่นอน ผมหมายถึง คุณอาจจะกำลังติดต่ออะไรกับท่านประธานาธิบดีและ Amelia อยู่ก็ได้ แต่ก็นะ ผมก็แค่เดา แต่ไม่ว่าจะเป็นยังไงก็เถอะ คุณกำลังเดินทางเพื่อช่วยโลกนี้เอาไว้ ผมรู้แค่นั้นแหละ



                            ส่งจาก – Capital Knot City
                                  ผู้ส่ง – Nick Easton
                  เรื่อง – To the man who Delivers: I’m Sorry 

ก่อนอื่นผมต้องขอโทษด้วยที่เคยเรียกคุณว่า มือใหม่ ตอนที่ผมได้เจอคุณครั้งแรก คุณคือ Sam Bridges ผู้สุดแปลกประหลาดในตำนาน และผมก็เคยคุยกับคุณวันที่คุณเริ่มทำงานวันแรกด้วย
Deadman ไม่ค่อยจะแฮปปี้นักที่ผมดูถูกคุณแบบนี้ในวันที่คุณเริ่มควบม้าออกลุยในวันแรกแบบนี้เท่าไหร่ มันทำให้ผมดูโง่มากๆ ถ้าคุณคือคนนึงที่จะช่วยพวกเราขยายเครือข่ายจากชายฝั่งนึงไปจนถึงอีกชายฝั่งนึงก็คงช่วยเบาแรงพวกเราไปเยอะเลย ถ้าเป็นแบบนี้อเมริกาของเราก็จะได้ฟื้นคืนจากขี้เถ้ากลับมายิ่งใหญ่อีกครั้งนึงแน่นอน

แล้วคุณก็เคยเป็นคนของ Bridge มาก่อนที่จะมาเป็น Porter อิสระด้วย แล้วตอนนี้คุณก็กลับมาอีกครั้งหลังจากผ่านไป ...สิบปีได้มั๊ย?  นั่นหมายความว่า คุณมีตำแหน่งที่สูงกว่าผมน่ะสิ แต่ผมว่าคุณคงเป็นคนประเภทที่ไม่สนใจเรื่องพวกนั้นหรอกใช่มั๊ยล่ะ

สงสัยอยู่อย่างนึง ... ตอนที่คุณเข้าพักในห้องพักคุณเคยเปิดเพลงฟังเพื่อพักผ่อนบ้างมั๊ย? ท่านผู้อำนวยการบอกให้เราแนะนำคุณให้เปิดเพลงๆนึงของ Low Roar ว่ากันว่าไม่มีวิธีที่ดีกว่าในการผ่อนคลายหลังจากวันที่ยากลำบาก ผมรู้ดีเลยล่ะว่ามันเขาหมายถึงอะไร จริงๆมันต้องมีน้ำผลไม้นิดหน่อย ตามด้วย Oxytocin อีกนิดนึง

เพลงโปรดของผมชื่อ Pop Virus และผมว่าคุณก็น่าจะชอบเหมือนกัน เห็นได้ชัดว่ามันเกี่ยวกับไวรัสที่ทำลายทุกสิ่งที่คนคิดว่าพวกเขารู้เกี่ยวกับดนตรี จนกระทั้งมีบางอย่างมาสร้างมันขึ้นมาใหม่ มันเหมือนกับที่คุณกำลังทำอยู่เลยใช่มั๊ยล่ะ? การวางรากฐานทุกอย่างใหม่หมดแล้วสร้างมันขึ้นมาอีกครั้งเพื่อสร้างสิ่งที่ดีในอนาคต ..ลองฟังดูนะถ้าคุณมีโอกาส


     

                          ส่งจาก – Port Knot City 
                           ผู้ส่ง – Viktor Frank
                        เรื่อง – About my Brother 

ตั้งแต่วันที่คุณบอกเรื่องน้องชายของผม ผมไม่เคยหยุดที่จะคิดถึงเขาเลย ผมอยากทำสิ่งนึงเพื่อให้หายคาใจ ผมไม่โทษคุณในเรื่องที่เกิดขึ้นหรอก Igor ก็คงจะไม่โทษคุณเหมือนกัน ผมรู้มันฟังดูแปลกๆ เอาจริงๆ เราไม่ได้ใกล้ชิดหรือสนิทกันมากนักหรอก ตอนเขายังมีชีวิตอยู่ผมออกเดินทางไปเป็นสัปดาห์โดยไม่ได้คิดถึงเขาเลยด้วยซ้ำ แต่ตอนนี้ ..ก็นะ

คุณยังคงรักษาเจ้าตัวน้อยนั่นอยู่รึเปล่า? มันอาจฟังดูงี่เง่านะแต่ผมเริ่มนึกถึงมันเหมือนกับอีโก้หรืออะไรซักอย่างของเขา คุณรู้ว่าเขามีความฝันว่าอยากเดินทางไปยังฝั่งตะวันตกในการเดินทางครั้งที่ 2 ใช่มั๊ยล่ะ? เขาไม่เคยทำได้เลยซักครั้ง แต่ถ้าของเล่นตัวโปรดของเขาทำได้ มันทำให้รู้สึกเหมือนกับว่าเจ้าสิ่งนี้ถูกสร้างขึ้นเพื่อการนี้โดยเฉพาะเลย อย่างน้อยๆ ตอนนี้คุณก็ได้แสดงให้เจ้าตัวเล็กมันเห็นแล้ว คุณได้ยินแล้วนะ พระเจ้าเป็นพยาน ..ส่วนผมคงไม่มีวันได้เห็น



                                 ส่งจาก – Port Knot City 
                                    ผู้ส่ง – Viktor Frank
                       เรื่อง – Re-establishing shpping Lanes

เป็นยังไงบ้าง แซม? ตอนนี้คุณได้เพิ่ม Port Knot City ให้เข้ามาอยู่ในแผนที่แล้ว ไม่เลวเลย ผู้คนที่นี่ดีใจจนเนื้อเต้นเลยที่ได้เข้าร่วมกับ UCA และทุกๆอย่างที่มากับโอกาสนั้น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Chiral Printers คุณต้องเห็นหน้าพวกเขาเมื่อผมให้ Demo กับพวกเขา  มันเหมือนว่าผมกำลังเสกอุปกรณ์ต่างๆให้ออกมาได้ในพริบตา !

โอ้ ก่อนที่ผมจะลืม ผมอยากจะขอบคุณกับของทุกๆอย่างที่คุณนำมา และช่วยจัดการไอ้ BT ตัวนั้นด้วย คุณได้มอบแรงบรรดาลใจและความกล้าหาญให้กับทุกๆคนเพื่อที่จะสานต่ออะไรๆให้มันมีค่ามากไปกว่าที่มีอยู่ในวันนี้

เมื่อก่อนผมกลัวพวก BT มากๆ ผมต้องการแต่จะปิดขังตัวเองเอาไว้และกะว่าหลบซ่อนไปตลอด แต่ตอนนี้ผมรู้แล้วว่านั่นไม่ใช่ทางเลือกที่ผมควรจะทำ เราอยู่ที่นี่ พื้นที่ที่เป็นแนวหน้า Bridges จะไม่สามารถมุ่งหน้าไปฝั่งตะวันตกได้เลยถ้าเราไม่ทำงานของเรา แต่ไม่ต้องห่วง เราจะไม่ทำให้คุณผิดหวังแน่นอน เราจะนำพาให้ Port Knot City กลับมาอยู่ในลู่ทางที่มันควรจะเป็นในอีกไม่นานนี้แน่นอน
ผมคงไม่รบกวนเวลาคุณไปมากกว่านี้แล้ว นั่นเป็นทั้งหมดที่ผมอยากจะบอก ยังไงก็เถอะ มีคนสองสามคนต้องการให้ผมเขียนถึงคุณเพื่อให้มั่นใจว่า เราจะไม่มีวันโยนผ้ายอมแพ้ เหมือนคุณด้วยเช่นกัน


           ส่งจาก – Distribution West of Capital Knot City
                        ผู้ส่ง – Benjamin Hancock
                 เรื่อง – You Taking Care of your BB?

คุณเป็นไงบ้าง แซม? แล้ว BB ของคุณล่ะเป็นไงบ้าง ผมค่อนข้างเป็นห่วงนิดหน่อย ก็นั่นแหละผมถึงต้องเขียนมาหาคุณไง จริงๆเมื่อก่อนผมก็เคยใช้ BB ด้วยตัวเองเหมือนกัน ตอนที่ผมทำงานผมก็จะเสียบมันออกไปทำงานด้วยตลอดไม่ว่าที่ไหนตามขั้นตอนการปฏิบัติขั้นพื้นฐานนั่นแหละ เจ้าสิ่งนั้น ...เรื่องนี้รู้กันเฉพาะเราสองคนนะ ผมเริ่ม เอ่อ ผมเริ่ม ที่จะรู้สึกผูกพันกับเจ้า BB  ช่ายๆๆๆ ผมรู้ ผมอ่านคู่มือหมดแล้ว มันเป็นแค่อุปกรณ์ชิ้นนึง ห้ามไปเอาใจใส่หรือรักมัน ช่ายๆ พูดอย่างเดียวก็ง่ายสิ โดยเฉพาะตอนที่มันกด Like ให้ผม แค่อุปกรณ์ชิ้นนึงจะทำแบบนั้นได้ยังไง ? อุปกรณ์มันจะดิ้นไปมาได้ยังไง?  หรือการปลอบประโลมผ่านมุมมองของ Odradek ที่กำลังหมุนไปมาเพื่อตรวจสอบเส้นทางเมื่อคุณไม่แน่ใจว่าควรจะไปทางไหนดี BB ของผมมันจะชอบตอนที่เราลงไปว่ายน้ำกัน ตอนเราลอยตัวในน้ำ แต่มันจะกลัวทันทีถ้ากำลังจะจมหรือลงไปใต้น้ำ หยั่งกับว่าอุปกรณ์ชิ้นนึงมันจะทำแบบที่ว่ามานั่นได้ยังงั้นแหละ

ผมพนันเลยว่า BB ของคุณก็เป็นเหมือนกัน การตอบสนองของมันเป็นสิ่งที่อธิบายไม่ได้ใช่มั๊ยล่ะ?  เพื่อนเอ้ย ผมล่ะนึกถึงสมัยที่ยังอยู่กับเจ้าตัวเล็กนั่นเหลือเกิน คุณเองก็จะดูแลเจ้า BB ของคุณเป็นอย่างดีด้วยใช่มั๊ยล่ะ แซม?  นี่ผมพูดบ้าอะไรเนี่ย ผมรู้คุณต้องทำอยู่แล้ว


             ส่งจาก – Waystation West of Capital Knot City
                               ผู้ส่ง – George Baton
           เรื่อง – Bridge Link Make the world a Better Place

เฮ้ แซม ดูเหมือนคุณยังคงแสดงให้เราเห็นอยู่ว่ามันควรทำยังไง ผมได้ทำการขนส่งสินค้าซ้ำแล้วซ้ำเล่าด้วยตัวเอง ผมว่าคุณก็คงรู้ดี ยา Oxy ช่วยผมรับมือกับความกลัวได้อย่างดีเยี่ยม ต้องขอบคุณมากๆเลย แต่อย่าเพิ่งคิดไปไกลว่าผมจะสามารถควบคุมอารมณ์ได้ดีหรืออะไรนะ ผมก็ยังคงมีอาการกลัวง่ายอยู่และยังคงทิ้งสัมภาระเอาไว้เป็นกองระหว่างทางตอนที่คิดจะหนีเหมือนเดิม

ผมสงสัยเรื่องนึง ระหว่างทางผมได้พบสินค้าของ Porter คนอื่นที่ทำหล่นหายไว้เพียบเหมือนกันนะ ผมก็เลยตัดสินใจทำสิ่งที่ถูกต้องด้วยการเอาสินค้าที่คนอื่นทิ้งไว้ไปส่งที่ Postbox ที่ใกล้ที่สุด แล้วก็ทิ้งอาวุธและอุปกรณ์ต่างๆไว้ใน Share Locker เพื่อแบ่งปันให้คนอื่นๆที่อาจต้องการมันด้วย บางครั้งผมก็รู้สึกว่า ช่างแม่งมันปะไรทิ้งแม่งไว้ตรงนั้นแหละจะไปสนใจทำไม แต่ กงกรรมกงเกวียน ใครทำสิ่งไหนไว้ก็จะได้สิ่งนั้นว่ามั๊ย ? ถ้าผมช่วยเอาสินค้าที่คนอื่นทำหายไปส่งให้ คนอื่นๆก็อาจทำแบบนั้นกับผมเหมือนกัน นั่นแหละเขาถึงเรียกว่าการเชื่อมต่อของ Bridge

พวกเราส่วนใหญ่ก็ไม่ได้เก่งระดับตำนานเหมือนกับคุณ ก็ไม่ได้รู้สึกอับอายอะไร แต่ถ้าเราร่วมมือการทำงานให้เป็นหนึ่งเดียวกัน และสร้างเครือข่ายการติดต่อได้ อย่างน้อยเราก็สามารถทำให้โลกนี้ดีขึ้นได้ และเมื่อ Bridge Like ไปถึงทุกที่เมื่อไหร่ เราก็จะได้เป็นหนึ่งเดียวกัน เราสามารถทำมันให้สำเร็จได้แบบที่เราไม่เคยทำได้มาก่อน และนั่นคือเรื่องจริง


---------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ก่อนจะเดินทางเข้าสู่ภารกิจหลัก ที่ต้องเดินทางจาก Port Knot City ไปยังจุดหมายของภารกิจหลักคือ Lake Knot city อย่าลืมสำรวจหาเหล่า  Preppers ในพื้นที Eastern Region ให้หมดด้วย

 ซึ่ง Preppers ก็คือผู้คนที่เลือกที่จะอาศัยอยู่ตามลำพังหรือกับครอบครัวของพวกเขาในบังเกอร์ที่แยกโดดเดี่ยวในเมืองใหญ่หลังจากเกิดปรากฎการณ์ Death Stranding ซึ่งแซมสามารถส่งมอบให้พวกเขาได้ด้วยโดยต้องเข้าไปพบตำแหน่งที่อยู่ของเขาให้เจอ

                                   ตำแหน่ง S08-98  [The Musician]


The Musician เป็นสถานีย่อยที่ตั้งอยู่ทางตะวันตกของ Distribution Center ซึ่งเป็นที่อาศัยของนักดนตรีหนุ่มคนนึง


เข้าไปรับ Standard Order งานย่อยที่ 172 Retrieval Sheet Music washed away by river  เป้าหมายคือ ออกไปเก็บไอเทม Old Sheet Music ที่ตกอยู่ในน้ำที่เป้าหมายของภารกิจมา 2 ชิ้นกลับมาให้ The Musician


และเมื่อทำการใช้ Q-pid เชื่อมต่อ  The Musician เข้าสู่ UCA สำเร็จ ก็จะได้ไอเทม Harmonica จากนักดนตรีเป็นรางวัล


                                 S02 – 01 ( Ludens Fan )


ตั้งอยู่ทางเหนือของ Distribution Center โดยต้องพกบันไดสำหรับปีนขึ้นไปบนเนินเขาด้วย ที่นี่จะมี Ludens Fan เป็นผู้ดูแล เนื่องจากครั้งแรกที่เข้ามาที่นี่ไม่มีภารกิจใดๆขึ้นมาเลย แซมสามารถเชื่อมความสัมพันธ์กับเขาได้ด้วยการนำ Lost Cargo มาส่งให้ ก็จะสามารถชักชวนให้เขาเชื่อมต่อกับ UCA แล้ว แซมก็จะสามารถรับภารกิจรับ – ส่งสินค้ากับเขาได้อย่างอิสระ 


จากนั้นรับงานกับ Ludens Fan ไปซักพักจนกว่าจะได้รับ Mail จาก Ludens Fan ในชื่อ [Order] Delivery to Port Knot City ซึ่ง Ludens Fan ต้องการจะส่ง ไอเทมไปให้ Viktor Frank ที่ Port Knot city เมื่อเข้ามาที่ Ludens Fan ก็จะมี  [Order No. 17] ขึ้นมาใน Delivery Terminal ของที่นี่



                                           [Order No. 17] 

               Ludens Flag Spear Delivery: Port Knot City



                       ภารกิจคือ นำส่งสินค้า Ludens Flag Spear ไปยัง Port Knot City

------------------------------------------------------------------------------------------------------------


                               ว่าด้วยเรื่อง Preppers

แรกเริ่มเดิมที Preppers คือชื่อเรียกของอาการที่นำมาซึ่งความกังวลลึกๆเกี่ยวกับการเกิดภัยพิบัติต่างๆในโลก ทั้งภัยทางธรรมชาติ สงคราม ดาวหางชนโลก การล่มสลายทางเศรษฐกิจ จนถึงวันสิ้นโลก ทั้งจากเพราะความกังวลแบบสุดโต่งและเกิดจากความไม่เชื่อมั่นในรัฐบาลหรือประเทศของตนเองว่าจะปกป้องพวกเขาได้หากมีอะไรผิดพลาดขึ้นมาจริง ๆ ซึ่งต่อมาได้ใช้เรียกแทน คนกลุ่มนึง "ที่เชื่ออย่างเอาเป็นเอาตายเพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับวันโลกาวินาศ" ว่า Preppers และนำมาซึ่งพฤติกรรมการตุนสิ่งของจำเป็นสำหรับใช้ในยามฉุกเฉินทั้งที่บ้านและในรถ แม้ทาง  National Geographic ยังเคยทำซีรีย์ Doomsday Preppers และสารคดี Preppers UK ซึ่งมีเนื้อหาเกี่ยวกับคนที่เตรียมตัวรับมือกับวันสิ้นโลกนั่นแปลว่า แนวคิดสุดโต่งนี้จะต้องไม่ธรรมดา


ใน Death Stranding คุณก็จะพบเหล่า Preppers นี้ที่ออกไปตั้งสถานีตามจุดต่างๆในพื้นที่อย่างโดดเดี่ยวโดยไม่ได้ขึ้นกับเมืองไหน อ้างอิงจาก Interview Data เรื่อง Preppers ที่บันทึกเอาไว้โดย Fragile  ว่า เหล่า Preppers ได้ตระเตรียมของยังชีพและแยกตัวออกมาสร้างบังเกอร์หลบภัยส่วนตัวกันตั้งแต่ก่อนจะเกิดปรากฎการณ์ Death Stranding แล้วเพราะไม่มั่นใจว่ารัฐบาลของตัวเองจะเอาอยู่ จนเกิดเหตุภัยพิบัติที่ไม่คาดฝันขึ้นมาจริงๆ เหล่า Preppers จึงถูกตัดขาดจากการช่วยเหลือและไม่เคยรับรู้แผนการฟื้นฟูประเทศที่ Bridge กำลังริเริ่มขึ้น ซึ่งหน้าตาของ Preppers นั้นส่วนใหญ่โมแคปมาจากคนมีชื่อเสียงในทุกวงการที่คุณโคจิม่ารู้จักคุ้นเคย เช่นคุณ Geoff Keighley  เจ้าของงาน The Game Awards หรือคุณ Daichi Miura นักร้องของญี่ปุ่นเป็นต้น ซึ่งก็เป็น easter egg อย่างนึงที่คุณโคจิม่าใส่เข้ามาเพิ่มสีสรรในเกม

Source
https://web.facebook.com/SIGNSOFTHEENDTIME/photos/a.600410333415668/832553890201310/?type=1&theater


-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------


ก่อนจะเดินทางเข้าสู่ภารกิจหลัก หากยังมีภารกิจอะไรก็ตามที่ยังทำไม่เสร็จหรือยังไม่ได้ทำในพื้นที่ Eastern Region ให้ไปทำให้เรียบร้อย นำสินค้าที่มีค่าเก็บใน Locker ให้เรียบร้อย



 หากพร้อมแล้วเดินทางจาก Port Knot City ไปยังจุดหมายของภารกิจหลักคือส่วนท่าเรือของ Fragile Express เพื่อเดินทางต่อไปยัง Lake Knot city ต่อได้เลย


Fragile – ของคบเคี้ยวหน่อยมั๊ย? 
Sam – คุณรอดมาได้สินะ? 
Fragile – ถึงชื่อจะแปลว่า บอบบาง แต่ ชั้นไม่ได้ตายง่ายขนาดนั้นหรอกน่า 



Sam –  คุณเห็นไอ้เหี้ยนั่นด้วยใช่มั๊ย?
Fragile – Higgs มันเป็นหัวหน้ากลุ่มแบ่งแยกดินแดน 
Sam – ชั้นว่าไอ้หมอนั่นมันควบคุม BT ได้ด้วยนะ 
Fragile – ก็นั่นมันระดับ 7 หรืออาจมากกว่าด้วยมั้ง 
Sam – ดูเหมือนคุณจะรู้เรื่องของมันเยอะจังเลยนะ
Fragile – เคยทำงานร่วมกันน่ะ เดาว่าคุณคงรู้แล้วนะว่าเราเคยทำสัญญากัน
Sam – คุณทำงานร่วมกับผู้ก่อการร้ายเนี่ยนะ? ได้ค่าตอบแทนเท่าไหร่หรอห๊ะ?
Fragile – ก็เมื่อก่อนเขาไม่ได้เป็นแบบนี้นี่ 



Sam – แล้วตกลงคุณจะเอาแนวไหน ต้องการกู้โลกหรือต้องการรวบหัวรวบหางหมดเหมือนมัน !?
Fragile – ที่ชั้นต้องการน่ะหรอ ..ชั้นก็แค่หวังให้มันต่างออกไปน่ะสิ เข้าใจนะ? ...นั่นไง เรือของเรา





                  Fragile – ไม่ต้องห่วงนางยังลอยได้แน่นอน 



Fragile –  มาเถอะ..  ตอนนี้เราคือสินค้าล็อตสุดท้ายที่ไม่ได้ขนขึ้นเรือลำนี้ 

----------------------------------------------------------------------------------------------------------------

                                               Interview Data



                      เรื่อง – Repatriates and Voidout
                    บันทึกเมื่อ 3 ปีก่อน ที่ Bridge HQ
                                    โดย Heartman 

ผมได้เจอรายงานเก่าจำนวนหนึ่งที่กล่าวถึงมนุษย์ที่มีอำนาจบางอย่าง  พลังซึ่งทำให้พวกเขากลายเป็นที่รู้จักในฐานะ "ผู้ฟื้นคืน"(repatriates)

ดังที่เราทราบกันดีว่าเมื่อมนุษย์และ BT เข้ามาสัมผัส ผลลัพธ์ที่เกิดคือการระเบิดที่เรียกว่า "Voidout" ซึ่งคล้ายกับสิ่งที่นักฟิสิกส์เรียกว่า“ เหตุการณ์การทำลายล้าง” เหตุการณ์เหล่านี้เกิดขึ้นเมื่อสสารตรงกับปฏิสสาร มวลจะถูกเปลี่ยนแปลงอย่างรุนแรงและกระทันหัน โดยพลังงานที่ได้จากการเกิดกระบวนการนี้จะมีคุณภาพสูงมากแม้ว่าพลังงานบางส่วนจะสูญเสียไปจากการผลิตนิวตริโน ซึ่งเป็นอนุภาคประเภทเฟอร์มิออน (fermion) ที่ไม่มีประจุ มีมวลน้อยมาก เคลื่อนที่ด้วยความเร็วใกล้เคียงกับแสง และพูดง่ายๆ ว่าเป็นอนุภาคแปลกประหลาดที่เต็มไปปริศนาที่เรายังไม่มีคำตอบเกี่ยวกับมัน จนนักฟิสิกส์ขนานนามให้กับมันว่าเป็นอนุภาค "ผี" (ghost particle)

ในทำนองเดียวกันการเกิด voidout ทำให้พลังงานจำนวนมหาศาลที่ถูกปล่อยออกมานี้จะส่งผลให้ผลของการเกิดการทำลายล้างให้เห็นเป็นเหมือนปากปล่องภูเขาไฟขนาดใหญ่

อย่างไรก็ตามเมื่อการเกิด voidout ถูกกระตุ้นโดยกับสัมผัสกับ "ผู้ฟื้นคืน"(repatriates) จะส่งผลทำให้เกิดหลุมอุกกาบาตขนาดเล็กๆเท่านั้น จึงเกิดข้อสงสัยว่า อาจเป็นเพราะพลังงาน“ หายไป” ยังที่ชายหาด พร้อมกับจากการผลิตนิวตริโนเหมือนกับในเหตุการณ์การทำลายล้างแบบทั่วไป แต่ในกรณีที่เกิดกับ "ผู้ฟื้นคืน"(repatriates) นั้นปริมาณพลังงานที่สูญเสียจะสูงเป็นพิเศษ ถึงกระนั้นก็ตาม ร่างกายของ"ผู้ฟื้นคืน"(repatriates) ยังคงมีชีวิตรอดได้อย่างไรนั้นยังคงเป็นปริศนาที่ใหญ่กว่า และอีกสิ่งหนึ่งที่ผมจะไม่ขอแสดงความคิดเห็นในตอนนี้จนกว่าจะได้มีโอกาสตรวจสอบสภาพร่างกายของ "ผู้ฟื้นคืน"(repatriates) อย่างละเอียดแล้ว

สิ่งหนึ่งที่น่าสังเกตก็คือ Sam Strand อดีตสมาชิกของ Bridges ซึ่งจากเราไปเมื่อหลายปีก่อนและได้เดินทางไปทั่วโลกในฐานะ Porter นับแต่นั้นมา ผมหวังว่าจะได้พบเขาสักวันนึง เพราะคิดว่าเขามีค่ามากเพียงใดในเรื่องการพัฒนาที่จะนำไปสู่ความเข้าใจในธรรมชาติที่แท้จริงของชายหาดและการเกิด Death Stranding...



                                  เรื่อง – Oxytocin 
                    บันทึกเมื่อ 2 ปีก่อน ที่ Port knot city
                                     โดย – Viktor 

ย้อนกลับไปในยุคก่อนที่จะเกิดปารกฎการณ์ Death Stranding ผู้คนไม่พึ่งพายา smart drugs มากนัก อาจเป็นเพราะพวกเขาไม่ได้โดดเดี่ยวอะไรเลย

ผมกับอิกอร์น้องชายพรากจากกันตั้งแต่การเกิด  voidout มันเป็นอะไรที่บ้ามากๆ ผมยังเป็นแค่เด็กธรรมดาคนนึงเอง แต่อิกอร์น้องชายของผมเขายังเด็กกว่าเยอะ เด็กเกินไปที่จะผ่านช่วงเวลาแบบนั้นไปได้ การที่ต้องใช้เวลาตลอดทั้งคืนอยู่ในซากปรักหักพังพวกนั้น ... มันเป็นอะไรที่ลำบากมาก แต่อย่างน้อยเราก็ยังมีกันและกันที่สามารถกอดกันเพื่อให้ความอบอุ่นได้และ ... และมันก็ทำให้สิ่งต่าง ๆ ดีขึ้น

หมอบอกว่ามันเกิดจาก oxytocin ฮอร์โมนที่ร่างกายปล่อยออกมาเมื่อคนเราสัมผัสหรือใกล้ชิดกัน นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมแม่ถึงสร้างสายสัมพันธ์กับลูก ๆด้วยการโอบกอดพวกเขา และด้วยเครือข่ายการสื่อสารที่มี ซึ่งมันอันตรายน้อยกว่าการที่ต้องออกไปข้างนอก แต่ถึงแม้ว่าคุณจะมีคนอื่น ๆ อยู่รอบ ๆ เต็มไปหาดแต่พวกเขาดูเหมือนจะไม่กระตือรือร้นที่จะติดต่ออะไรกันเลย ประกอบกับการอุปทานหมู่ที่เกิดจากหวาดกลัวการเกิด  BTs และ voidouts แบบฝังรากลึก จากข้อมูลตามที่ผมได้รับแจ้งมา จากเหตุที่ผู้คนเลือกที่จะอยู่อย่างโดดเดี่ยว ห่างไกลกัน ทำให้เกิดความเครียดจากความรู้สึกไม่ปลอดภัย

ดังนั้นเราจึงไม่มีทางเลือกนอกจากการเสริมระดับ oxytocin ของเรา เพื่อเติมช่องว่างของการแสดงความรักทางกายภาพที่หายไปด้วยเทคนิคโครมาโตกราฟีทางเคมี ( Thin layer chromatography ) โคตรเจ๋งเลยว่ามั๊ย ? ผมรู้ดีว่าเราเคยทำสงครามเพราะเรื่องเชื่อชาติและศาสนากันมาแล้ว แต่อย่างน้อยก็ยังดีกว่าต้องใช้ชีวิตอยู่กันแบบนี้ ..


                                                MAIL DATA



                                ส่งจาก – Port Knot city 
                                  ผู้ส่ง – Viktor Frank
                เรื่อง – Port Knot city, Giving it Everything  

เฮ้ Sam กำลังคิดว่าผมควรจะรายงานกลับไปหาคุณเกี่ยวกับสิ่งที่เรากำลังกันอยู่ที่นี่
ก่อนอื่น เจ้า Chiral Network นี่มันน่าทึ่งมากๆ มันเจ๋งกว่าที่ผมคิดเอาไว้ซะอีก ข่าวล่าสุดจาก Capital Knot , waystation และ distro Center อัพเดทแบบเรียลไทม์โดยไม่มีการแล็คหรือล่าช้าใด ๆเลย ตอนนี้เราสามารถใช้เครื่องกำเนิดไฟฟ้าเพื่อให้เราออนไลน์ได้แล้ว นั่นมันเป็นตัวเปลี่ยนเกมตัวจริง เราสามารถส่งและรับวัสดุทุกชนิดได้เช่นกัน คงไม่ต้องหาให้ Porter อย่างพวกคุณช่วยแล้วตราบใดที่เราสามารถรับวัตถุดิบต่างๆเองได้ Chiral Printer ช่างเป็นสิ่งช่วยอำนวยความสะดวกให้พวกเรามากกว่าที่คิดไว้เยอะเลย มันเป็นสิ่งที่เราต้องการเหนือสิ่งอื่นใดเลยล่ะ อยากให้คุณเห็นเส้นขอบฟ้าของที่นี่จัง ตอนนี้เห็นแต่ปั้นจั่นขึ้นทั่วไป ถ้าคุณถามผมอ่ะนะ บอกตามตรงมันเกือบทำให้ผมน้ำตาไหลออกมาเลยนะที่เห็นพวกเรามาไกลกันขนาดนี้ โอเค ผมจะไม่ได้พูดเรื่อยเปื่อยแล้ว มันเป็น
สิ่งที่สำคัญมากและดีกว่าที่เราคิดเอาไว้มากมายเหลือเกิน ...เอาไว้คุยกันใหม่คราวหน้านะแซม


                                   ส่งจาก – S08-98 
                                 ผู้ส่ง – The Musician  
                              เรื่อง – Music Unlimited

โย่ แซม
ขอบคุณนะที่มาส่งของให้ เพื่อนเอ้ย ผมไม่คาดหวังว่าจะมีแขกมาเยี่ยมเยียนที่นี่มาก่อนเลยจริงๆนะ แต่ได้เจอใครซักคนบ้างก็ดี  ผมตัดสินใจเข้าร่วมกับ UCA ก็เพราะเห็นกับข้อตกลงให้ ผมหมายถึง ผมได้ยินจากข่าวลือแต่ผมก็ยังไม่แน่ใจมาตลอดเลย ผมไม่คิดว่าประเทศหรือพรมแดนหรืออะไรก็ตาม จะสนใจจะทำอะไรที่เกี่ยวข้องกับดนตรี Chiral Network มันเป็นอะไรที่สุดยอดมากๆ เราสามารถหาเพลงทุกเพลงได้ตามที่เราต้องการ เอาจริงดิ มันบ้าไปแล้ว
บางเพลงมันค่อนข้างเก่าแบบที่ผมไม่เคยเห็นมาก่อนเลย คงเพราะไม่มีใครแต่งเพลงอะไรใหม่ๆอีกต่อไปแล้วล่ะมั้ง ไม่มีใครหรอก ยกเว้นผม นั่นแหละใช่เลย !
พวกคุณอาจมีความสุขที่ได้ฟังเพลงในแบบคลาสสิกๆซ้ำไปซ้ำมา แต่นั่นไม่ใช่สิ่งที่ผมจะทำหรอกเพื่อนเอ้ย .. ชีวิตมันจะมีค่าอะไรถ้าไม่มีเพลงใหม่ คุณเข้าใจความรู้สึกผมใช่มั๊ย?


                                   ส่งจาก – S08-98 
                               ผู้ส่ง – The Musician  
              เรื่อง – Footsteps, the Original Musical Beat 

เป็นไงบ้าง Sammy Boy !?
พ่อของผมเป็นนักดนตรีส่วนแม่เป็นนักวิจัยแล้วไง?  ตอนที่ผมยังเด็กแม่สอนบางอย่างให้ผมซึ่งทำให้ผมจำได้มาจนถึงวันนี้ แม่บอกว่า "เพลงแรกของมนุษย์ที่เคยมีคือเสียงฝีเท้า" จังหวะ ระดับเสียง และความหนักแน่นทั้งหมดมาจากพวกมนุษย์ถ้ำหรืออะไรก็ตามที่เลียนแบบเสียงที่เท้าของพวกเขาตอนที่พวกเขาเดิน มองเห็นภาพเลยใช่มั้ยล่ะ? คุณรู้ว่ามันอดใจไม่ได้เมื่อในหัวของคุณรับรู้ถึงจังหวะเมื่อคุณได้ยินเสียงนั่น? คุณสามารถจินตนาการถึงสถานที่และเสียงทุกประเภทและจิตวิญญาณของคุณเพียงแค่ ... ร้องเพลง? ทำไมล่ะ? ก็เพราะมันเป็นส่วนหนึ่งของมันมนุษย์มาแต่แรกแล้วยังไงล่ะ

อ่อ แล้วก็ทารกที่คุณผูกติดอยู่กับหน้าอกของคุณน่ะ? เสียงฝีเท้าของคุณที่เป็นเสมือนจังหวะดนตรีมันต้องเข้าหูให้เจ้าตัวเล็กนั่นรับรู้ได้อย่างแน่นอน คุณสามารถผิวปากและฮัมเพลงและใช้สิ่งต่าง ๆเพื่อสร้างจังหวะเพื่อให้เขารู้สึกเย็นลงตอนที่เขากำลังสติแตกด้วยใช่ไหม? นั่นแหละ ดนตรี ง่ายๆแบบนั้นแหละ

การเดินสองขาทำให้เราเป็นมนุษย์มาแต่แรก แล้วจากนั้นสองขาของเราที่ก้าวออกไปก็ให้เสียงดนตรีแก่เราเช่นกัน มันค่อนข้างฟังดูน่ารักเมื่อคุณคิดถึงมัน และผมก็พนันได้เลยว่ามันจะทำงานได้ดีเช่นกันไม่ทางใดก็ทางนึง ปราศจากดนตรี ก็ปราศจากมนุษย์ โหโคตรคมอ่ะ !


                                  ส่งจาก – S08-98 
                              ผู้ส่ง – The Musician 
              เรื่อง – The Power of Music Propels Us Forward

ไง เพื่อนแซม !
ผมมีไอเดียที่สุดยอดอันนึง คุณต้องอยากรู้แน่นอนเลย! คือ ผมจะทำเพลงอัลบั้มใหม่ขึ้นมา แล้วจากนั้นก็จะแบ่งปันผ่านเครือข่าย chiral Network ไปให้พวกเขา แล้วผมก็อาจจะมีการไลฟ์สตรีมแสดงสดซักรอบสองรอบเพื่อให้แฟน ๆ ทั่วประเทศ! ผมอยากให้ทุกคนมารวมตัวกันเพื่อดูด้วยกันผ่านโฮโลแกรม ดังนั้นมันจะเหมือนกับการแสดงจริงๆเลยล่ะ! ถ้าคุณคิดว่าเพลงของผมดีก็แค่รอจนกว่าคุณจะเห็นผมบนเวที! มันจะทำให้คุณทึ่งบอกเลย!

พนันได้เลยว่าคุณคงรู้ว่าฉันคิดไอเดียแบบนี้มาได้ยังไงใช่มั๊ยล่ะ? ผมคิดว่า ถ้าผู้คนจะไม่คิดที่จะลุกขึ้นมาจากช่วงเวลาที่เกียจคร้านเพื่อทำอะไรบางอย่าง ก็แค่วางเท้าข้างหนึ่งไว้ข้างหน้าของเท้าอีกข้างหนึ่งไปเรื่อยๆ  มันก็แค่นั้นเอง พลังของดนตรีอาจจะเพียงพอที่จะทำให้เท้าของคุณเคลื่อนไหวได้ ผมพูดถูกมั๊ย?

แล้วพบกันที่แสดงแซม! ผมจะจองที่นั่งแถวหน้าเอาไว้ให้เลย รับรองว่าคุณจะรักมัน!


                                ส่งจาก – Wind farm 
                                 ผู้ส่ง : Jake Wind  
                   เรื่อง – Tell Amelie We're True Believers

ถึงแซม
การเดินทางไปถึงไหนแล้ว ยังคงมุ่งตะวันตกอยู่ใช่มั๊ย? พวกเราเป็นกำลังใจให้นะ
เราเป็นส่วนนึงของคณะสำรวจชุดที่ 2 แต่พวกเราไม่มีใครเคยได้คุยกับ Amelie แบบตัวต่อตัวเลยซักคน นอกผ่านข้อความโฮโลแกรมบ้างบางครั้งเท่านั้น การช่วยเหลือแม้เพียงเล็กน้อย นั้นช่วยให้เราเดินต่อไปข้างหน้าได้ เธอเหมือนแม่ของเธอที่กล้าแกร่ง ฉลาด และมีเสน่ห์ด้วย

ผมจะไม่โกหกหรอกนะผมบอกตรงๆว่าตอนแรกยังไม่ทันสังเกตด้วยซ้ำ แต่สิ่งที่สะท้อนออกมาให้เราเห็นนั่นคือไฟในการทำงานนั่น เธอยึดถือความเชื่อและศรัทธาอย่างตั้งมั่นไม่ต่างกับ Bridget แม่ของเธอ จนพวกเราทุกคนยอมฝากชีวิตไว้กับอุดมการณ์และวิสัยทัศน์ของเธอ
ไอ้ที่ผมพูดมาซะยืดยาวเนี่ยก็เพื่ออยากบอกให้คุณควรจะเดินหน้าต่อไปและไปพบเธอแบบที่พวกเราไม่เคยทำได้ และวันใดเมื่อคุณทำมันจนสำเร็จ ช่วยบอกเธอด้วยว่า พวกเรายังคงศรัทธาในตัวเธอและแม่ของเธออยู่เหมือนเดิม คุณจะทำแบบนั้น ใช่มั๊ย?

-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------


                             EPISODE 3  “FRAGILE”
 



                                 
                  Fragile – เราน่าจะถึงที่นั่นตอนรุ่งเช้า





                Fragile – ชั้นเคยบอกคุณแล้วนะ แซม อดีตน่ะจะไม่มีวันปล่อยมือจากเราหรอก



  Fragile – ฟังนะ .. ชั้นมีอะไรจะบอกคุณ ... เรื่องเกี่ยวกับ ไอ้ Higgs 


                          Fragile – หลับเฉยเลย ...




                   Amelie – Sam .... พี่จำที่นี่ได้รึเปล่า? 





                  Amelie – ถึงเวลาที่ต้องไปแล้ว Sam 


Amelie – ชั้นไม่รู้มาก่อนเลยจนพี่บอก ไม่รู้เลยว่าตัวเองยังมีชีวิตอยู่ มีชีวิตก็ไม่ต่างกับตายถ้าคุณอยู่คนเดียว
Amelie – อุ่นขึ้นแล้วนะ 
Sam – ผมไม่อยากกลับบ้านเลย ..ผมไม่อยากกลับบ้าน !! ... ฮืออๆๆๆ 



Amelie – เอานี่ เอานี่ ตาข่ายดักฝัน ใส่เอาไว้ตอนนอนนะ มันจะช่วยขับไล่ฝันร้ายให้หมดไป ชั้นจะอยู่กับเธอเสมอนะ เธอลืมไปแล้วใช่มั๊ยว่าจะกลับบ้านยังไง?  มาสิ เดี๋ยวชั้นไปส่ง แต่แค่ครึ่งทางเท่านั้นนะ จากนั้นเธอจะไปต่อได้เอง 



Amelie – ชั้นรอพี่อยู่ที่ชายหาดนี่ มาที่นี่แล้วตามหาชั้น เราใช้เวลาเล่นสนุกกันนานเลยที่ชายหาดแห่งนี้ 
Sam – เธอพาพี่มาที่นี่ ชั้นคงมาด้วยตัวเองไม่ได้หรอก 
Amelie – ตราบใดที่พี่ยังมีร่างกายที่จะกลับไป พี่จะไม่สามารถมาและไปได้ตามที่ต้องการหรอก
Sam – แล้วเธอไม่สามารถกลับไปหาเราที่ฝั่งตะวันออกด้วยเส้นทางนี้หรอ?
Amelie – ไม่ได้ จนกว่าพี่จะทำให้เราเป็นหนึ่งเดียวกันอีกครั้ง Sam 



    Amelie – ชั้นจะรอพี่อยู่ที่ชายหาดนี่ .... มาที่นี่แล้วตามหาชั้น 


Fragile – ชั้นไม่รู้จริงๆนะว่าคุณหลับไปทั้งแบบนี้ได้ยังไง ? ... เอานี่หน่อยมั๊ย ?  ...... ขอต้อนรับสู่ Lake knot city ... เป็นอะไรหรอ?
Sam – เปล่า ไม่มีอะไร 
Fragile – งั้นตามมาทางนี้ 



Fragile – นี่คือสินค้าที่นำมาจาก Port Knot city เพื่อส่งให้ Lake Knot city แล้ว ชั้นทิ้งของส่วนนึงเอาไว้ให้คุณด้วย เชิญเลือกเอาไปได้เลยถ้าคุณต้องการ ส่วน Delivery Terminal อยู่ชั้นบน ส่วนชั้นก็มีธุระบางอย่างที่ต้องจัดการหน่อย 


                       CENTRAL REGION


                     
                         Lake knot city


                                        [Order No. 18] 

                        Aid Package Delivery : Lake knot City



หลังจากลงจากเรือแล้ว เก็บสินค้า 3 ชิ้นที่ Fragile ทิ้งเอาไว้ให้เพื่อให้นำส่งไปที่ Dispatch terminal ของ Lake knot city ประกอบด้วย Sperm and Eggs / Aid: Medicine Pack / Aid: Anti BT weapon แล้วแบกสำภาระเดินทางขึ้นไปยังทางออกชั้นบนก็จะพบอาคารบริหารงานของ Bridge ประจำ Lake knot city เข้าไปนำส่งสินค้าที่ Delivery Terminal ได้เลย


William Lake – ยินดีต้อนรับครับ ยินดีต้อนรับ พวกเราเฝ้ารอเรือของคุณมาตลอดเลย ก็ไม่อยากจะเคร่งครัดตามกฎอะไรมากหรอกนะ แต่ผมคงต้องถามก่อนว่า สินค้าที่คุณขนส่งมาไม่มีสิ่งของที่อันตรายหรือผิดกฎหมายใช่มั๊ย? ผมมั่นใจว่าพวกเขาคงตรวจสอบคุณตอนขาเข้ามาดีแล้วล่ะ แต่ผมก็คงขอตรวจสอบอีกรอบก็แล้วกัน  .... โอเค ทุกอย่างเคลียร์ ไม่มีสิ่งของที่ไม่พึงประสงค์ สินค้าคุณภาพดีด้วย นานมาแล้วที่เราได้รับสิ่งนี้ ขอโทษด้วยสำหรับความยุ่งยาก ทุกวันนี้ไม่ละเอียดถี่ถ้วนไม่ได้หรอก โอ้ ได้ข่าวว่าคุณเอา Q-pid มาด้วยใช่มั๊ย?  งั้นก็เชื่อมต่อพวกเราได้เลย 


                                     Lake knot city - - เชื่อมต่อแล้ว 



                             William Lake  - - เข้าร่วม UCA 

                              + เพิ่มเติมไอเทมใหม่ที่ Delivery Terminal สามารถสร้างได้

                                                Smoke – Emitting Decoy Cargo



สินค้าปลอมที่เป็นตัวล่อ ซึ่งเป็นอุปกรณ์สำหรับจัดการกับพวก MULE โดยเฉพาะ วิธีใช้งานคือ
- สวมใส่ Smoke Emitting Cargo ในเมนูใช้งานไอเทม
- กดสามเหลี่ยมเพื่อวางมันบนพื้นในพื้นที่ที่ต้องการ
- รอให้ MULE มันหลงกลเดินเข้าสำรวจดูสินค้าแล้วเมื่อมันเปิดออกก็จะเจอกับกับดักควันพุ่งออกมาที่จะทำให้มันมองไม่เห็นและมัวแต่ไอจนสามารถหนีหรือเข้าไปจัดการมันได้ง่ายกว่าเดิม

+ รายละเอียด Interview Data ใหม่
- Prepper
- The Lake at Ground Zero



                                     เรื่อง – Preppers
                      บันทึกเมื่อ 2 ปีก่อน ที่ Lake knot city
                                      โดย – Fragile 

เมื่อตอนที่ชั้นยังเป็นเด็ก พ่อบอกว่าชั้นถึงเรื่องพวกที่ "เชื่ออย่างเอาเป็นเอาตายเตรียมความพร้อมสำหรับวันโลกาวินาศ" ที่เรียกว่า preppers ได้ตัดสินใจกันมานานแล้วว่าพวกเขาไม่สามารถไว้ใจประเทศชาติของพวกเขาได้อีกต่อไป นั่นเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ความสัมพันธ์ของพวกเราเริ่มอ่อนแอลงก่อนที่จะเกิดปรากฏการณ์ Death Stranding

ครั้งหนึ่งเราเคยมีเครือข่ายการสื่อสารครอบคลุมทั่วทั้งโลกที่สามารถส่งสิ่งของไปยังที่ใดก็ได้ และเชื่อมโยงทุกคนเข้ากับทุกๆสิ่ง แต่เราก็ยังโดดเดี่ยวอยู่ดี เรายังคงอยู่ตัวคนเดียว ซึ่งบางคนชอบและต้องการมากกว่านั้นอีก พวกเขาต้องการสร้างกำแพงบริเวณโดยรอบของชายแดนเพื่อป้องกันผู้ลี้ภัยและคนนอกประเทศที่จะทะลักเข้ามา บางคนต้องการประเทศใหม่ของตัวเอง พวกเขาเริ่มเห็นรัฐอยู่ในฐานะศัตรูของอิสรภาพไม่ใช่ผู้ปกป้องมันเหมือนเมื่อก่อนอีกต่อไป

สิ่งที่แย่ที่สุดคือพวกเขาไม่เชื่อใจประเทศว่าจะปกป้องพวกเขาได้หากมีอะไรผิดพลาดขึ้นมาจริง ๆ  สงครามการก่อการร้าย ภัยพิบัติทางธรรมชาติ และมากมายเท่าที่สามารถจะสาธยายออกมาได้นั่นแหละ

ดังนั้นพวกเขาจึงสร้างที่พักสำหรับหลบภัยและเก็บเสบียงและข้าวของที่จำเป็นเอาไว้ให้มากเท่าที่จะทำได้เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับสิ่งที่แย่ที่สุดที่อาจจะเกิดขึ้น ...และแล้วสิ่งที่เลวร้ายที่สุดก็เกิดขึ้นจริง  Death Stranding ทำให้อเมริกาล่มสลายไปในพริบตาและที่พักอาศัยสำหรับหลบภัยที่พวกเขาได้เตรียมไว้ก็ได้กลายเป็นบ้านของพวกเขาจริงๆ ที่ซึ่งจะเป็นที่อยู่และที่ตายของพวกเขา แต่ แม้ว่าพวกเขาจะเตรียมการมาอย่างดี แต่ก็ไม่ได้แปลว่าพวกเขาจะใช้ชีวิตอยู่ที่นั่นได้ตลอดไป นั่นเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมพวกเขาถึงต้องพึ่งพาเราเป็นอย่างมาก

ชั้นกับพ่อไม่ต้องการที่จะกลับไปอเมริกาเดิมอีกแล้วเพราะเราไม่ต้องการประเทศที่ผลักดันผู้คนให้ออกจากกัน เราต้องการที่ที่นึงที่จะนำผู้คนให้มารวมกันสนับสนุนซึ่งกันและกัน และนั่นคือสิ่งที่เราพยายามทำกันอยู่


                       เรื่อง – The Lake at Ground Zero 
                    บันทึกเมื่อ 2 ปีก่อน ที่ Port knot city
                                    โดย – Viktor 

ตอนที่ผมมองไปที่ทะเลสาบตรงจุด Ground Ground เป็นครั้งแรก ผมรู้สึกทึ่งกับขนาดของมันมากๆไม่เคยคิดเลยว่าจะมีอะไรที่มันจะใหญ่โตได้ขนาดนี้ นี่เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากเกิดปรากฎการณ์ Death Stranding และมีไม่กี่คนที่ได้เห็นหลุมอุกกาบาตนี้แบบใกล้ๆ

ย้อนกลับไปเมื่อผมยังคงอาศัยอยู่กับพ่อแม่และน้องชายบนชายฝั่งตะวันออกของสหรัฐ ได้เกิดการระเบิดที่ไม่เคยเห็นมาก่อน มันทำให้เกิดหลุมขนาดใหญ่ที่ใจกลางของอเมริกา ตอนนั้นมีข่าวลือสะพัดไปทั่ว บ้างก็ว่ามันเป็นระเบิดนิวเคลียร์ที่ประเทศอื่นทิ้งลงมา ถึงตอนนั้นผมจะเป็นแค่เด็ก แต่ก็บอกได้เลยว่าพวกผู้ใหญ่ก็ไม่รู้ว่ามันเกิดขึ้นได้ยังไง คงรู้นะว่าตอนนั้นผมจะรู้สึกยังไง  จากนั้นเราก็พบว่ามีการระเบิดครั้งอื่นๆอีก ซึ่งไม่ใช่แค่ที่อเมริกาเท่านั้น แต่มันเกิดขึ้นทั่วโลกด้วย จนเวลาต่อมาเราก็เรียนรู้ที่จะเรียกมันว่า voidouts  แล้ว voidouts มันคืออะไรกันล่ะ ซึ่งประเทศของเราทำอย่างเต็มที่แล้วก็ได้เท่านี้

แต่ เฮ้ นั่นมันสมัยก่อน แต่นี่มันสมัยไหนแล้ว ตอนนี้สิ่งต่าง ๆกำลังเริ่มที่จะดีขึ้นเรื่อยๆเป็นลำดับ ผมแค่อยากจะบอกว่าน้องชายของผมยังมีชีวิตอยู่ ข่าวว่าเขากำลังมุ่งหน้าไปยังสมทบกับทีมกำจัดซากศพใน Capital Knot City หวังว่าเขาจะดีพอที่จะได้รับเลือกเข้าทีมสำรวจในการเดินทางครั้งที่สองด้วยนะ สามปีกว่าแล้วมั้ง และตอนนี้เขากำลังจะออกมาที่นี่กับผม ผมแทบรอไม่ไหวที่จะพบเขาอีกครั้ง!



Amelie – ในที่สุดก็ทำสำเร็จ อดีตของ Ground Zero ยินดีด้วยนะแซม และก็ขอบคุณมาก หลังจากนี้มันจากยากขึ้นอีก ...ตอนที่เรามาถึงที่นี่ใหม่ๆ มันแตกต่างกว่านี้มาก มันมีแต่ความสงบและสันติ



Amelie – แต่เดิมที่นี่มีเมืองอยู่ 3 แห่ง Lake , Middle และ South Knot ทั้งหมดกำลังเข้าร่วมแผนในการสร้างประเทศอเมริกาใหม่ของเรา โดยมี Fragile Express ที่เราทำสัญญาไว้เป็นตัวเชื่อมต่อเมืองทั้ง 3 แห่งด้วยการขนส่งสินค้าและเชื่อมต่อกับผู้คน แต่ทุกอย่างก็เริ่มเปลี่ยนไปเมื่อปีที่แล้ว เมื่อกลุ่มแบ่งแยกดินแดนนั่นเข้าโจมตี เมือง Middle Knot  ถูกทำลายไปด้วยระเบิดนิวเคลียร์จากโลกเก่าของพวกมัน ครึ่งนึงของเมือง South Knot ก็ถูกทำลาย มีผู้คนบาดเจ็บล้มตายจำนวนมาก Bridges เองก็ไม่มีแหล่งข้อมูลเพียงพอในการเชื่อมโยงเมืองที่เหลืออยู่ด้วยตนเอง เราจำเป็นต้องได้รับการสนับสนุนจากทุกคน แม้แต่ผู้ที่ไม่ต้องการเกี่ยวข้องกับ UCA ที่อาจดูเหมือน
เป็นไปไม่ได้เลย 



Die-Hardman – สถานการณ์เปลี่ยนไปอย่างมากตั้งแต่บริดจ์และผมไปทางไปทางตะวันตกครั้งแรก การที่ Middle Knot City ถูกทำลายไปมันบังคับให้เราต้องปรับกลยุทธ์ใหม่ ก็อย่างที่ Amelie บอก เราไม่มีทั้งเวลาและทรัพยากรที่จะสร้างเมืองอื่นๆที่นี่อีกแล้ว นั่นคือเหตุผลที่เราลดข้อตกลงต่างๆกับพวก preppers  ให้น้อยลง การขอความช่วยเหลือเพียงอย่างเดียวของเราคือการขอใช้ที่พักอาศัยชั่วคราวเพื่อเสริมความแข็งแกร่งของเครือข่าย
Sam – ถึงว่าสิพวกเขาถึงบอกว่า ไปตายซะ เวลาไปบอกให้เข้าร่วมกับ UCA 
Die-Hardman – โอ้ เราก็ไม่ได้ตอบตกลงตรงๆนี่ แต่ถึงแม้ว่าพวกเขาจะไม่ชอบติดต่อกับคนส่วนใหญ่แต่พวกเขาก็โอเคกับ Fragile Express นะ 
Sam – อย่าบอกนะว่า คุณต้องการใช้เธอเป็นใบเบิกทางในการทำให้พวกนั้นรู้สึกดีอ่ะ
 Die-Hardman – บิงโก ใช่เลย แล้วเธอก็ตกลงแล้วด้วย 
Sam – แลกกับ ?
Die-Hardman – ก็ไม่เชิง อาจจะเป็นการแก้แค้น Higgs มั้ง เดานะ แต่ผมก็ไม่โทษเธอหรอก มันเอาทุกอย่างจากเธอไป เวลารักษาบาดแผลได้ แต่ไม่ใช่กับเธอ งานหน้าจะง่ายหรือไม่ง่าย ยังไงก็ต้องทำต่อไป ..คุณไปพักซักหน่อยก่อนเถอะแล้วเดี๋ยวค่อยคุยกันต่อทีหลัง 


-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------


                                        Interview Data



                เรื่อง – Why planes and Drones Can’t Fly 
                  บันทึกเมื่อ 3 ปีก่อน ที่ Central Knot City 
                                        โดย Igor 

รู้มั๊ยว่าผมอยากเป็นอะไรตอนที่ผมยังเป็นเด็ก? นักบินอวกาศ คิดไม่ถึงใช่มั๊ยล่ะ? ตอนนี้คงเป็นเรื่องยากที่ก่อนที่จะเกิดปรากฎการณ์ Death Stranding ท้องฟ้าเต็มไปด้วยโดรน เครื่องบิน และอะไรต่ออะไรที่พุ่งไปมาจากทวีปหนึ่งสู่ทวีปนึง บ้างก็ขึ้นสู่อวกาศไปเลย
แต่หมอก chiral ทำให้ทุกอย่างที่ว่ามาจบสิ้นหมดแล้ว ไม่มีอะไรบินได้อีกเลย ไม่สิ ทุกสิ่งที่บินได้บนท้องฟ้าต่างก็ร่วงหล่นลงมาจนหมดพร้อมๆกับความฝันของผมก็เพราะไอ้หมอกบ้านั่น  แล้วก็ไม่ต้องมาถามผมนะว่ามันทำให้ระบบการบินล่มได้ยังไง ระบบการสื่อสารทั้งใกล้ไกลล่มหมด นั่นแหละคือเหตุผลที่เราไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นที่ประเทศอื่นบ้าง ทำให้เราต้องถอยหลังไปเป็นศตวรรษในแง่ของความน่าเชื่อถือ
 ผู้คนต่างว่ากันว่าปรากฎการณ์ Death Stranding ทำให้เราต้องแย่งชิงเมืองเพื่อเป็นที่อยู่อาศัย  ตัดสายสัมพันธ์ระหว่างเราจนขาดสะบั้น  แต่จริงๆมันทำมากกว่านั้น  มันทำให้แผ่นดินออกจากท้องฟ้าด้วย

                                              MAIL DATA



                                            เรื่อง – Merry X’mas

ถึงสมาชิกของ Bridge ทุกท่าน
วันนี้วันคริสต์มาส แซม !  .. Merry Chrismas นะ
วันนี้ยังมีคนมากมายที่อายุยังไม่ถึงพอที่จะรู้จักว่าวันนี้คืออะไร ก็แน่นอนแหละ ก่อนที่ปรากฏการณ์ Death Stranding จะนำพาความพินาศครั้งใหญ่มาให้ วันนี้เคยเป็นวันนึงที่สวยงามที่สุดของปี
ผู้คนส่วนใหญ่ใช้วันนี้เป็นวันที่พวกเขาได้อยู่ร่วมกับครอบครัวของพวกเขา กินอาหารในแบบพิเศษและให้ของขวัญซึ่งกันและกัน
เราเรียกชายคนนึงว่า Santa Claus เป็นบิดาแห่งวันคริสต์มาสที่เที่ยวตระเวนตามบ้านเรือนต่างๆเพื่อส่งของขวัญให้กับเด็กๆในวันนี้ ซึ่งคุณจะมองว่าเขาก็เป็น Porter เหมือนคุณก็ได้นะ บางที ผมว่าคุณนั่นแหละ Santa Claus ของพวกเราว่ามั๊ย?
ยังไงก็เถอะ คริสต์มาสถือว่าเป็นวันหยุดและผมไม่คิดว่าเราควรปล่อยให้ประเพณีนั้นตายไป พักผ่อนให้สบายนะแซม โฮ่ โฮ่ โฮ่



                          ส่งจาก – Lake Knot City  
                              ผู้ส่ง : William Lake   
                   เรื่อง – Don't Keep the Others Waiting

เฮ้ แซม
ผมบอกไม่ถูกเลยว่ารู้สึกดีแค่ไหนตอนที่เห็นคุณข้ามน้ำข้ามทะเลมาขึ้นฝั่งกับเรือนั่น ครั้งแรกที่เรายินดีต้อนรับผู้คนมากที่สุดเท่าที่เคยเป็นมาก็คงเป็นช่วง 2 ปีมาแล้ว ชาวบ้านบางคนว่ากันว่าไม่นานพื้นที่ทางตะวันออกของจุด  ground zero จะถูกทำลายอย่างราบคาบ เราได้เพียงข้อความจาก HQ ในบางครั้ง แล้วคนล่ะ ไม่เคยมีการส่งเจ้าหน้าที่มาที่นี่เลยแม้แต่คนเดียว เราต่างก็ถอดใจถึงเรื่องความหวังที่จะได้เชื่อมต่อกับ Q-pid ไปบ้างแล้ว จนในการออกสำรวจครั้งที่ 2 ทุกอย่างก็ครบถ้วนสมบูรณ์ และจากนั้นคุณก็จะปรากฏตัวพร้อมกับ Q-pid อ้ศวินขี่ม้าขาวกับชุดเกราะที่วาววับ

โทษที ผมไม่ได้ตั้งใจให้มันฟังดูเหมือนไม่ได้รู้สึกปลาบปลื้มหรอกนะ ผมรู้สึกมากกว่าที่คุณรู้เยอะเลย ทุก ๆ คนที่นี่กำลังรอคนอย่างคุณเข้ามา และยังมีอีกหลายคนที่รอคุณอยู่ทางตะวันตกจากที่นี่ หลายคนมากๆเลยล่ะ ทางที่ดีคุณควรจะไปตามหาพวกเขานะ


                                   ส่งจาก – S02 - 01  
                              ผู้ส่ง : The Ludens Fan
                      เรื่อง – Thanks for the Ludens, Man!

คุณมันสุดยอดมากเลยแซม ที่นำสิ่งนึงมาให้ผม ฟิกเกอร์ Ludens ที่มีลายเซ็นของผู้ที่สร้างมันที่สร้างจาก Chiral Printer ไอ้ที่คุณมีอยู่ก็สุดยอดแล้วนะ แต่นี่มันคือสมบัติของชาติเลยล่ะ
ในตำนานเล่าว่า Ludens เหล่านี้ถูกทำให้เป็นที่รู้จักโดยผู้สร้างเกมคนนึง มนุษย์ในสปีชีส์ "Homo Sapiens" ซึ่งเป็นมนุษย์ยุคก่อน Stranding Human ต่างก็เคยหมกหมุ่นอยู่กับพวกมัน คุณรู้มั๊ย
ที่ผ่านมามันเคยทำให้เกิดการพัฒนาแนวคิดจนกลายเป็น Homo's Ludens **  เลยนะ เห็นได้ชัดว่าสิ่งที่พวกเขาเล่นกันไม่ใช่แค่เกมในความหมายปกติ แต่เนื่องจากมันไม่มีมันอีกแล้ว เราเลยไม่มีทางรู้ว่ามันหมายถึงอะไรกันแน่ แต่ฟิกเกอร์ Ludens เหล่านี้พวกมันเป็นสัญลักษณ์ของเกมใดเกมหนึ่งโดยเฉพาะแน่นอน ผมเดาว่าคุณคงจะเข้าใจได้ด้วยการตามหาและสะสมฟิกเกอร์พวกนี้ ผมก็กำลังเล่นเกมของผมเอง


Homo Ludens **  เป็นหนังสือที่เขียนโดย โยฮัน ฮุยซิงกา (Johan Huizinga) นักประวัติศาสตร์และนักทฤษฎีวัฒนธรรมชาวดัตช์ ในปี 1938 Huizinga กล่าวว่า การเล่นนั้นเก่ากว่าและเกิดก่อนวัฒนธรรมและสังคม เป็นสิ่งสำคัญและเป็นเงื่อนไขที่จำเป็นของการสร้างวัฒนธรรม เพราะการเล่นต้องมีกติกาของการเล่น การทำให้มนุษย์คุ้นกับกติกา ก็สามารถนำไปใช้สังคมต่อไป โดยคำว่า Ludens นั้นเป็นภาษาละตินมีความหมายว่า “การเล่นและการฝึกฝน” ที่เกิดจาก “ความคิดสร้างสรรค์” ที่เป็นความหวังอันยิ่งใหญ่ในการพัฒนาของมวลมนุษยชาติ ซึ่ง ludens ก็ถูกนำมาใช้เป็ชื่อของ mascot ของ kojima productions ด้วย
https://en.wikipedia.org/wiki/Homo_Ludens
https://socanth.tu.ac.th/blogs/homo-ludens-view-of-songkran/



                                     ส่งจาก – S02 - 01  
                                ผู้ส่ง : The Ludens Fan
                           เรื่อง – Ludens Are Our Saviors 

ดีใจที่ได้พบคุณอีกครั้งนะแซม คุณนี่มันหนึ่งในล้านจริงๆ โอ้ เออ ผมเริ่มจะใช้ Chiral network ในการค้นหาประวัติศาสตร์ของ Ludens ที่ผ่านมาแล้วนะ ก็ยังไม่ได้ขุดจนครบหมดหรอกนะ แต่ก็พอมั่นใจได้แล้วล่ะว่ามันเคยเป็นสิ่งที่สำคัญมากมาก่อนจริงๆ
มันเป็นเกมที่เป็นสัญลักษณ์ที่โคตรจะยิ่งใหญ่แบบที่ไม่เหมือนสิ่งที่เคยมีมาก่อน มันระเบิดศักยภาพของมนุษย์ที่จะเล่นมันในแบบที่ Johan Huizinga  นักประวัติศาสตร์ชาวดัตช์อธิบายเอาไว้เมื่อเขาสร้างวลี Homo Ludens ที่เป็นชื่อหนังสือที่เขาเขียน เขามีทฤษฏีนี้ว่าการละเล่นนั้นมีอายุมากกว่าวัฒนธรรมและเป็นส่วนที่สำคัญที่สุดที่ทำให้เราเป็นเรา ผมเชื่อว่าถ้าเราสามารถค้นพบแนวคิดเรื่องการละเล่นของเขาได้อีกครั้ง เราอาจสามารถลบล้างความเสียหายที่เกิดจากการปนเปื้อนสสาร chiral และกำจัดโลกแห่ง Homo gestalt และพวกกลุ่มก่อการร้าย Homo demens ** ได้พร้อมๆกัน มันทำให้คิดได้ว่าเกมเป็นกุญแจสำคัญในการช่วยมนุษยชาติ   

                          

Homo gestalt  ** คือ รูปแบบชีวิตใหม่ที่เกิดจากเอื้อเฟื้อเกื้อกูลกัน ( symbiosis ) ของมนุษย์ที่มีความสามารถนอกเหนือหลักธรรมชาติมารวมกันเพื่อทำหน้าที่เสมือนเป็นสิ่งมีชีวิตเดียว เพื่อพัฒนาไปสู่จิตสำนึกของผู้เจริญวัยซึ่งเป็นก้าวต่อไปในวิวัฒนาการอีกระดับนึงของมนุษย์
พล็อตเรื่องของนิยาย More Than Human เขียนโดย Theodore Sturgeon ในปี 1953
https://en.wikipedia.org/wiki/More_Than_Human
https://hirapedia.miraheze.org/wiki/Homo_Gestalt


                                      ส่งจาก – S02 - 01  
                                 ผู้ส่ง : The Ludens Fan
                               เรื่อง – Are you Ludens ?

ผมมีไอเดียบ้าๆอย่างนึง แซม จะเป็นยังไง ถ้าสมมุติว่าคุณคือตัวอย่างที่สมบูรณ์แบบที่สุดของ Homo Ludens ล่ะ?  ลองคิดดูสิ คุณอยู่กับ Bridges แต่คุณไม่ได้เป็นหนี้บุญคุณอะไรพวกเขา หากมันจะดูไม่มากเกินไป ก็เอาแบบวินวินกันทั้งสองฝ่ายเลยสิ คุณก็มีอิสระที่จะทำอะไรก็ได้ที่อยากทำอยู่แล้วนี่ แค่บางครั้งสิ่งที่คุณทำไม่ได้เป็น "การเล่น" ในแบบที่มันจริงจังอะไรมากมาย มันจึงไม่ได้เป็นการช่วยปลดปล่อยอารมณ์หรือพลังงานออกมาด้วยความพึงพอใจจากการมีส่วนร่วมในกิจกรรมในแบบที่มันสนุกสนานและผ่อนคลาย ผมคาดว่า หากคุณเดินทางไปทำธุระอะไรก็ตามที่คุณต้องการก็อยากให้ทุกการกระทำของคุณมีผลโดยตรงต่อวัฒนธรรมของเราและโลกของเราด้วยนะ ผมอยากจะบอกว่านั่นเป็นชีวิตที่เหล่า Homo ludens จะต้องอิจฉาว่ามั๊ยล่ะ?


                               ส่งจาก – Port Knot City   
                                   ผู้ส่ง : Viktor Frank
                           เรื่อง – Thank for Igor’s Flag

ผมแทบไม่อยากจะเชื่อเลยว่าคุณจะนำเอา ธงของ ludens มาส่งให้ ผมเป็นหนี้คุณครั้งนึงแล้วแซม เอาจริงๆมันไม่คิดว่าจะเห็นมันอีกครั้งด้วยซ้ำโดยเฉพาะอย่างยิ่งตั้งแต่ Igor ทำมันขึ้นมาเองได้ ของบางสิ่งก็ไม่สามารถพิมพ์ซ้ำได้หรอกนะ คุณรู้มั๊ย ?
Igor เชื่ออย่างสนิทใจเลยว่า Ludens จะสามารถช่วยโลกนี้เอาไว้ได้ เขาฝันว่าวันนั้นเราจะสามารถทำลายโลกเล็กๆของเราทิ้งและเริ่มที่จะเปิดตามองโลกในมุมมองที่กว้างขึ้น ให้มันใหญ่กว่าแค่อเมริกาหรือโลกของเรา เขามองผ่านเมฆหมอก Chiral ออกไปยังนอกโลก และธงนั่นก็จะใช้เป็นสัญลักษณ์สำหรับปักเป็นอณาเขตเพื่อเรียกร้องสิทธิ์ในการมาถึงของตนเอง หากวันนึง Ludens ได้ท่องไปทั่วอวกาศตามดาวเคราะห์ต่างๆ ผมพยายามจะบอกว่า มันเป็นยิ่งกว่าของเล่น เมื่อผมถือมันก็เหมือนผมถือความฝันของน้องชายเอาไว้ด้วย
ผมไม่รู้ว่าจะขอบคุณคุณยังไงถึงจะเพียงพอกับสิ่งที่คุณทำให้ผม แซม


-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------




Sam – นี่ครับ
Amelie – ให้ชั้นหรอ?
Sam – มันเรียกว่า Quipu แปลว่า Knot (เงื่อน) ในภาษาของยุคเก่า คุณสามารถใช้มันในการนับสิ่งของต่างๆก็ได้ แต่ผมใช้ Knot เวลาที่ผมอยากเพื่อน 
Amelie – โอเค งั้น ถ้าชั้นจะใช้ Knot อีกอันทุกครั้งที่ได้เจอเธอบ้างล่ะ ได้มั๊ย?



Amelie – เจ้าสิ่งนี้จะต้องมีความสำคัญสำหรับเธอถึงได้สามารถนำมาได้ที่นี่ได้ด้วย มันต้องพิเศษมากๆ 
Sam – มันพิเศษสิ ก็ผมทำมันเพื่อพี่นี่ 
Amelie – ชั้นจะเก็บมันเอาไว้เหมือนเป็นสมบัติที่ล้ำค่าเลยล่ะ แซม 



Fragile – กินอะไรยัง?  
Sam – คุณมาทำอะไรที่นี่?
Fragile – ถามเจ้านายคุณดูสิ
Sam – ผมหมายถึงคุณมาทำบ้าอะไรในห้องนี้ ! 



Fragile – เอาของมาส่งให้ Porter น่ะสิ คุณจำเป็นต้องใช้สิ่งนี้ในการเดินทางหลังจากนี้ มันจะเป็นตัวเชื่อม ID ของคุณเข้ากับฐานข้อมูลของ Fragile Express มันสร้างขึ้นจากเลือดของชั้นกับ Chiral Crystals คิดซะว่ามันคือการเชื่อมความสัมพันธ์ต่อกัน อย่างน้อยๆพวก Preppers แถวๆนี้จะได้ไม่สร้างปัญหาให้คุณถ้าคุณสวมมันไว้ 



Fragile –  พวกเราเป็นกลุ่มเดียวที่ทำการขนส่งของที่นี่ มันเคยเป็นดินแดนของเรา จนกระทั่งไอ้ Higgs มันมาทำให้ทุกอย่างฉิบหายหมด ทั้งตัวชั้นเอง บริษัท และ เกียรติภูมิของพวกเรา ไม่มีอะไรเหลือเลย 
Sam – คุณก็เลยจะเล่นแม่งคืนว่างั้น? ด้วยตัวคนเดียวหรอ?
Fragile –  ไม่ได้ตัวคนเดียว ... ถ้ำนั่น .. ที่ Port Knot city หรือใกล้ๆเตียงของคุณเมื่อกี้  แม้จะอยู่ไกลกัน แต่ยังไงเราก็ต้องพบกันอีกอยู่ดีไม่ใช่หรอ?  กับพวก BT ในพื้นที่ทั้งหมดนั่น ในขณะที่ที่ชั้นควรจะติดอยู่ใน Voidout   แต่ก็ไม่ 


Fragile –   ...แล้วชั้นก็อยู่ที่นี่ 
Sam - คุณใช้ชายหาดได้งั้นหรอ? 
Fragile – ชั้นมีชายหาดของชั้นเองต่างหาก คุณก็มีของคุณ ชั้นก็มีของชั้น 



Fragile – ชั้นใช้มันโดดข้ามช่องว่าง .. ชั้นไม่สามารถร่ายคาถาเรียก BTs เหมือนอย่างที่ Higg ทำได้ แต่ชั้นสามารถไปถึงก่อนเขาได้ และไล่ตามเขาไปที่ชายหาด ปัญหาคือ แต่ละคนจะมีทางเข้าของตัวเอง ชั้นได้รับอนุญาตให้ผ่านชายหาดที่ฉันรู้และสามารถหยั่งถึงได้เท่านั้น ชั้นมั่นใจว่าคุณคงเคยได้ยินเรื่องเกี่ยวกับ พหุภพ หรือ เอกภพคู่ขนานนะ



Sam – คุณโอเคนะ? 
Fragile – การกระโดดข้ามช่องว่างระหว่าง เอกภพคู่ขนาน ก็เล่นเอาแย่ตลอด มันกลืนกินเลือดชั้นจนเกือบแห้งหมดตัว 



 Fragile – คุณต้องเดินทางไปที่ Edge Knot city ใช่มั๊ย? ที่นั่นเต็มไปด้วยผู้ก่อการร้าย แต่ถึงคุณจะตายไปแล้วก็เถอะ คุณก็ต้องจัดการกับ Higgs อยู่ดีไม่ช้าก็เร็ว
Sam – นี่ฟังนะ ผมแค่คนส่งของ จะให้ไปฆ่ามอนสเตอร์หรือสู้กับผู้ก่อการร้ายผมทำไม่ได้หรอก 
Fragile – แล้ว ถ้าเราร่วมมือกันล่ะ? ชั้นจะใช้พลังของชั้นช่วยคุณเอง เราไม่จำเป็นต้องเหมือนกันหรืออยู่ข้างเดียวกันหรอก ชั้นสามารถส่งคุณข้ามผ่านชายหาดของชั้นไปยังที่ไหนก็ได้ที่มี Chiralium หนาแน่นพอ หรือที่ที่มีการเชื่อมต่อของ Chiral Network แล้ว 


Sam – แล้วคุณคาดหวังจะได้อะไรเป็นสิ่งตอบแทนงั้นหรอ? 
Fragile – ชั้นคาดหวังให้คุณเลิกคิดเยอะมากกว่า .. เอานี่ มันเรียกว่า incentive เอาไว้สำหรับเรียกชั้นเมื่อคุณต้องการ



                  Fragile – และร่มนี่จะทำให้เราเชื่อมต่อกัน แล้วเจอกันเมื่อเราได้เจอกันนะ   


                                              เรียนรู้การใช้ Fast Travel 


การใช้ Fast Travel นั้นทำให้การเดินทางไปยังสถานีต่างๆง่ายขึ้น โดยเมื่อสำรวจร่มของ Fragile ที่อยู่ในห้องซึ่งเรียกว่า Fragile Jump ที่สามารถเลือกเดินทางไปยังสถานทีต่างๆของ Bridges ที่เคยไปมาแล้วในพื้นที่ต่างๆได้อย่างรวดเร็ว ภายใต้เงื่อนไขคือ
- จุดที่สามารถใช้ในการ Fast Travel คือ ร่ม ในห้องส่วนตัวที่อยู่ในสถานีหลักต่างๆ
- สามารถเดินทางแบบ Fast Travel ได้เพียงตัวแซมเท่านั้น ไม่สามารถใช้ในการขนสินค้าได้
- ในการ Fast Travel แต่ละครั้ง ไอเทมของใช้ที่ติดตัวแซมอยู่จะถูกถอดออกทั้งหมดแบบอัตโนมัติ โดยไอเทมจะถูกนำไปเก็บใน Private Locker ของ Delivery Terminal ที่สถานีต้นทางในการ Fast Travel


Die-Hardman – เอาล่ะ Sam ผมจะทบทวนภารกิจหลักในปัจจุบันของคุณอีกครั้ง นั่นคือการขยายเครือข่าย Chiral Network จากเมือง Lake knot ไปยังเมือง South knot และเพื่อไปยังจุดหมายคุณจะต้องใช้ที่ shelters ของ prepper ที่เจอระหว่างทางให้เป็นประโยชน์เสมือนเป็น waystation แน่นอนว่ามันคงไม่ง่ายนัก ทาง Fragile เองก็พยายามที่จะชักนำพวกเขาบางส่วนให้มาเข้าร่วมกับเรา แต่คุณรู้ว่าพวก Preppers เป็นยังไงอ่ะนะ ดังนั้นเราต้องพิสูจน์ให้พวกเขาเห็นว่าพวกเขาจะดีกว่านี้ถ้าอยู่ร่วมกับเรา ค้นหาสิ่งที่พวกเขาต้องการที่เราสามารถจัดหามาได้แล้วนำส่งซะ จงทำแบบนั้นแล้วพวกเขาอาจจะตกลงใจมาเข้าร่วมกับเรา เอาล่ะ เข้าไปเช็ครายชื่อคำสั่งใน  Delivery Terminal ได้เลย 



                   คำสั่งของภารกิจหลักใน Delivery Terminal ที่ Lake knot City ประกอบด้วย
                                [Order No. 19] Evo-devo Unit Delivery : Engineer
                             [Order No. 20] Prescription Medicine Delivery : Elder
                       [Order No. 21] Gun Part and Anti – BT Weapon Delivery : Craftsman


                                       [Order No. 19] 

                      Evo-devo Unit Delivery : Engineer



เป้าหมายของภารกิจนี้คือการนำส่งไอเทม Evo-devo Unit ไปให้ The Engineer ในสถานี Preppers Station S23-06  ทางใต้ของ Lake knot City

        

เส้นทางที่จะไปยัง Preppers Station S23-06 นั้นไม่ไกลจาก Lake knot City มากนัก ระหว่างทางจะมีจุดที่สามารถสร้างถนนเส้นใหม่ (แม้จะยังไม่ถึงเวลาที่สามารถสร้างสำเร็จได้ แต่อย่างน้อยแวะหาวัตถุดิบเอามาใส่เตรียมไว้ก่อนก็ดี)



 นอกจากนี้ เส้นทางยังต้องผ่านอณาเขตของพวก MULE เต็มๆเพราะแค้มป์ของพวกมันอยู่ทางตะวันตกของพื้นที่ สามารถเลือกได้ผมจะจัดการมันหรือหลบเลี่ยง (แนะนำให้จัดการมันให้หมดแล้วเอา Lost Cargo ใน Post Box ในแค้มป์ของพวกมันไปส่งกลับคืนเพราะจะได้คะแนนที่มากกว่าการนำส่งสินค้าธรรมดา)


จากนั้นก็เดินทางเข้าไปจนถึง Preppers Station S23-06 เพื่อส่งสินค้าให้ The Engineer ตาม Order ได้เลย


The Engineer – ขอบคุณมาก Sam Bridges ... ผมเรียกถูกมั๊ย? ผมได้ยินเรื่องราวของคุณ ชายผู้เดินทางข้ามประเทศเพื่อเชื่อมต่อกับผู้คน ผมยินดีมากที่คุณนำผมเข้าสู่กระบวนการนี้ด้วย มันเป็นช่วงเวลาที่ยากลำบากมากหลังจากไม่มีการให้บริการของ Fragile Express อีกแล้ว คุณภาพสินค้าที่นำส่งมาก็ดีเยี่ยมมากๆด้วย ผมอยากจะให้คุณเข้าใจเกี่ยวกับ Fragile หน่อย คุณอาจได้ยินมาว่าเธอช่วยผู้ก่อการร้ายโดยไม่สนใจผู้บาดเจ็บ ผมบอกเลยว่านั่นมันเรื่องโกหกที่ไร้สาระที่สุด จริงๆแล้วเธอกับคนของเธอตั้งมั่นในการช่วยเหลือและทำในสิ่งที่เรารอขอให้ทำอย่างมาก ฟังนะ ผมโตที่นี่ โลกเดียวที่ผมรู้จักอยู่ในกำแพงพวกนี้ เวลาผู้คนพูดถึงอเมริกา ผมนึกภาพไม่ออกเลยว่ามันเป็นยังไง แต่ถ้า Q-pid จะทำให้ผมกับคนของผมเชื่อมต่อกับทาง UCA ผมก็บอกเลยว่าใช่เลยผมอยากเชื่อมต่อกับ UCA 


                            Preppers Station S23-06  - - เชื่อมต่อแล้ว 
    
                            
                              The Engineer  - - เข้าร่วม UCA 

+ เพิ่มเติมไอเทมใหม่ที่สามารถสร้างได้ใน Delivery teminals
- Power Skeleton (อุปกรณ์เสริมแรงขา)
- Smoke Grenade (ระเบิดควัน)
+ เพิ่มเติมคุณสมบัติใหม่ในอุปกรณ์ PCC
- สามารถสร้าง Generator เสาสร้างประจุไฟฟ้าที่ใช้ชาร์จแบตของรถมอเตอร์ไซด์ได้

 + ข้อมูลการสัมภาษณ์ใหม่

-The Evo - Devo Unit
- Prepper interview : The Engineer
- The Chiral Network II



The Engineer –  ด้วยสิ่งนี้ แค่เครื่อง 3D Printer ธรรมดาๆของผมก็กลายเป็น Chiral Printing สมมติว่ามันทำงานได้จริงๆ evo - devo Unit จะทำให้ผมสามารถทำซ้ำข้อมูลของเอกสารสำคัญต่างๆในแบบเก็บถาวรได้ทุกชนิด เราก็จะสามารถสร้างอเมริกาขึ้นมาใหม่ได้แน่นอน ในขณะเดียวกันผมก็สามารถใช้เครื่อข่ายนี้ ดูความเป็นไปของเมืองต่างๆรวมทั้งติดตามเฝ้าระวังพวก MULE และพวกผู้ก่อร้ายได้อย่างใกล้ชิดมากขึ้น มันเหมือนกับคุณนำโลกทั้งใบมาส่งให้ผมภายในครั้งเดียวเลย ขอบคุณมากนะแซมที่ทำให้ผมทำธุรกิจได้อีกครั้ง ผมมีสิ่งตอบแทนเล็กๆน้อยๆที่ผมสร้างมันขึ้นมาเอง เพื่อช่วยให้คุณเดินทางได้ง่ายขึ้นกว่าเดิม มันทำงานได้อย่างสมบูรณ์แบบมากในขึ้นการทดลอง ซึ่งผมกำลังต้องการคนที่นำไปทดสอบใช้ในการทำงานจริงพอดีเลย แต่ถ้ามันทำให้งานของคุณง่ายขึ้นด้วยก็ยิ่งดีเลยล่ะ  


เมื่อได้รับ Power Skeleton มาแล้ว เลือกเอาไอเทมนี้มาที่คำสั่ง Remove Cargo and Equip เพื่อสวมใส่ Power Skeleton เข้าไป โดยคุณสมบัติของมันก็คือ เป็นขาเทียมช่วยเสริมแรงที่ทำให้ เดิน วิ่ง เร็วขึ้น แบกน้ำหนักได้มากขึ้น (แต่เกจ Stamina และความสึกหรอของรองเท้ายังลดลงเหมือนเดิม) โดยจะต้องชาร์จพลังงานไฟฟ้าเหมือนการใช้งานรถมอเตอร์ไซด์ และ เมื่อสวมใส่ Power Skeleton แล้วจะทำให้ช่องใส่ของตรงสะโพก 2 จุดไม่สามารถบรรทุกสินค้าได้

-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

                                             Interview Data



                           เรื่อง – The Evo - Devo Unit
                     บันทึกเมื่อ 1 ปีก่อน ที่ Heartman’s Lab  
                                    โดย Heartman

มันคือความก้าวหน้าครั้งสำคัญที่ทำให้เราประสบความสำเร็จเมื่อครั้งที่เรายังอยู่ที่สำนักงานใหญ่ ที่พวกเขาสามารถรวม evo-devo Unit เข้ากับ chiral printer ได้สำเร็จ ในกรณีที่คุณไม่คุ้นเคยกับคำว่า "evo-devo" นั้น มันหมายถึง ชีววิทยาวิวัฒนาการ (Evolutionary Developmental Biology)  ยีนของคุณ ยีนของหนู ยีนของไดโนเสาร์ ยีนของสิ่งมีชีวิตทุกชนิดนั้นเหมือนกันแค่ว่าต่างก็พัฒนาไปสู่สิ่งมีชีวิตที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ดังนั้นคำถามที่ว่า ทำไมชีวิตที่แตกต่างกันทั้งที่เกิดจากยีนต้นกำเนิดเดียวกัน ? Evo-devo จึงเป็นศาสตร์ที่พยายามศึกษาเพื่อไขปริศนาคำถามที่ว่านั้น เพื่อไขความลับของวิวัฒนาการ

ก่อนการเกิดขึ้นของ evo-devo เคยคิดกันว่าในการที่จะสร้างไดโนเสาร์ขึ้นใหม่ซักตัวเราจะต้องมีตัวอย่างดีเอ็นเอของมัน อย่างไรก็ตามด้วยความสามารถของเทคโนโลยีนี้ ในการคาดการณ์จากข้อมูลที่มีอยู่เราสามารถทำได้ด้วยการสร้างตัวเร้าที่เหมาะสมเพื่อเป็นตัวกระตุ้น ให้มันเกิดการเจริญเติบโต DNA จากไดโนเสาร์หรือของสิ่งมีชีวิตใด ๆ ก็ตามโดยหลักการแล้วเราสามารถสร้าง แม่พิมพ์ของ DNA ขึ้นมาใหม่ให้เหมือนกับกระบวนการที่ไดโนเสาร์วิวัฒนาการมาจากรูปแบบชีวิตในยุคดึกดำบรรพ์
evo-devo Unit ที่เราพัฒนาขึ้นมาก็ใช้หลักการเดียวกันนี้ด้วยการนำข้อมูลที่มีอยู่มาสร้างวัตถุใหม่ขึ้นมาด้วยศักยภาพของ chiral Network เราสามารถนำข้อมูลที่ไม่สมบูรณ์ วัตถุที่ไม่สมบูรณ์ มาสร้างขึ้นใหม่ในรูปแบบที่สมบูรณ์อย่างที่มันเคยเป็นได้ ข้อมูลนี้สามารถป้อนเข้าสู่ chiral printer เพื่อสร้าง ผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปออกมาได้ แต่ตอนนี้เทคโนโลยีนี้ยังไม่สามารถใช้งานได้อย่างต่อเนื่อง และถ้ามันทำได้แบบสมบูรณ์แบบได้เมื่อไหร่ เมื่อนั้นมันจะเป็นประโยชน์อย่างมากต่อพวกเรา

            ทฤษฎี evo-devo  ชีววิทยาวิวัฒนาการ สู่ evo-devo Unit ใน Death stranding 



evo-devo Unit คืออุปกรณ์ที่พัฒนามาจากทฤษฎี ชีววิทยาวิวัฒนาการ (Evolutionary Developmental Biology) หรือ evo-devo ที่เป็นศาสตร์ด้านชีววิทยายุคใหม่ของ ฌอน บี. แคร์โรล (Sean B. Carroll)
ที่เขียนไว้ในหนังสือ Endless Forms Most Beautiful ที่เคยแปลเป็นไทยในชื่อ "ลวดลายสีสัน มหัศจรรย์วิวัฒนาการ" โดย ดร. เมธินี ศรีวัฒนกุล ซึ่งศาสตร์ evo-devo นั้น นำเอาทฤษฎีวิวัฒนาการของ ดาร์วิน (Evolution) มาประกอบกับการศึกษาตัวอ่อนของสิ่งมีชีวิต ภายใต้คำถามทางชีววิทยาที่ว่า ในเมื่อยีนของสิ่งมีชีวิตทุกชนิดนั้นเหมือนกันแค่ว่าต่างก็พัฒนาไปสู่สิ่งมีชีวิตที่แตกต่างกันแล้วทำไมชีวิตที่แตกต่างกันทั้งที่เกิดจากยีนต้นกำเนิดเดียวกันได้ ?



ซึ่งจริงๆแล้วสิ่งมีชีวิตเกิดมาจากความไม่สมบูรณ์ แม้แต่ มนุษย์ ซึ่งตัวอ่อนของมนุษย์เริ่มแรกก็มีรูปร่างหน้าตาคล้ายตัวอ่อนของสัตว์มีกระดูกสันหลังทั่วไป มีการเจริญเริ่มแรกของตัวอ่อนมนุษย์คล้ายไก่ มีการแบ่งโซนของตัวอ่อนมนุษย์คล้ายกบ และการเจริญลูกตาของมนุษย์มาจากวิธีการสร้างตาของปลาหมึกยักษ์

ทำให้แนวความคิดที่ว่า ถ้าเราจะสร้างไดโนเสาร์ขึ้นใหม่ซักตัวเราจะต้องมีตัวอย่างดีเอ็นเอของมัน จึงเป็นเรื่องที่ผิด เพราะเราสามารถสร้างสิ่งมีชีวิตแบบไหนก็ได้ด้วย แม่พิมพ์ของ DNA แรกเริ่มเดียวกันได้หมด
การศึกษานี้ทำให้เกิดผลงานล่าสุดที่เป็นข่าวครึกโครมไปว่าสามารถปิดการทำงานของยีน IHH ในตัวอ่อนของไก่ได้ และทำให้ไก่มีขาคล้ายไดโนเสาร์ออกมา ตามข่าวนี้ https://mgronline.com/science/detail/9590000027824
ซึ่งจริงๆเป็นการ "ปิดการทำงานของยีน" ไม่ใช่การตัดต่อสารพันธุกรรมของไดโนเสาร์ใส่ในตัวอ่อนไก่อย่างที่สื่อไทยนำเสนอ

และจากแนวคิด evo-devo ที่่ว่าต้นกำเนิดของสิ่งมีชีวิตทุกชนิดมาจากยีนต้นกำเนิดเดียวกัน ด้วยเครื่อง  evo-devo Unit ที่เอาทฤษฎี evo-devo ที่ว่านี้มาผสมกับเครือข่ายความไวแสงของ chiral Network ผสมกับเครื่อง chiral printer มาใช้ในการสร้าง แม่พิมพ์ของ DNA ขึ้นมาใหม่  แล้วจากนั้นก็นำข้อมูลสิ่งมีชีวิตที่มีอยู่มาเป็นตัวเร้าเพื่อเป็นตัวกระตุ้นให้มันเกิดการเจริญเติบโตก่อนที่จะใช้ chiral printer สร้างโครงสร้างที่สมบูรณ์ออกมา

Source 
https://en.wikipedia.org/wiki/Endless_Forms_Most_Beautiful_(book)
https://web.facebook.com/MTSmoothies/posts/1754442501466933/?_rdc=1&_rdr



                  เรื่อง – Prepper interview : The Engineer
             บันทึกเมื่อ 2 ปีก่อน ที่ Preppers Station S23-06  
                                โดย The Engineer 

ขอบเขตการรับรู้ของผมไม่ได้ถูกจำกัดทั้งหมด นั่นแปลว่าผมไม่ได้ถูกตัดออกจากโลกภายนอกอย่างสมบูรณ์ ผมรู้ว่า Bridges คืออะไรและพวกเขาพยายามสร้างอเมริกาขึ้นใหม่ แต่เมื่อคุณอยู่ที่นี่ด้วยตัวเองจริงๆก็คงยากที่จะบอกว่าจะต้องทำยังไงกับตัวเองต่อดี ผมพูดถูกมั๊ยล่ะ?
คนของผมหลบเข้าไปใน shelter นี้และใช้มันเป็นที่พักพิงหลังจากเกิดปรากฎการณ์ Death Stranding เราให้กำเนิดเด็กคนหนึ่งและเลี้ยงดูเขาในสรวงสวรรค์แห่งนี้ เราตั้งใจว่าจะอยู่ด้วยกันไม่ว่า Fragile Express จะใจดีพอที่จะพาเราไปด้วยหรือไม่ก็ตาม  พวกเขาชอบเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับอดีตที่แสนสวยงาม แต่ผมไม่เคยมีจินตนาการพอ เลยนึกไม่ออกมาว่ามันเป็นยังไง เราสูญเสียประเทศของเราไปนานจนเริ่มจะชินแล้ว  เท่าที่ผมคิดได้ ท่าทาง Fragile Express จะมีความสุขในการนำสิ่งของต่าง ๆ มาให้เรา แต่อยากจะบอกว่า เราไม่ต้องการใครให้มาช่วยเราทั้งนั้น และเราก็ไม่ต้องการอเมริกาใหม่อะไรนั่นด้วย ไม่ว่าจะเป็นอะไรก็ตาม

แต่แล้ววันหนึ่งหลังจากผมได้ดูเครื่องจักรที่พ่อของผมสร้างขึ้นจากการนำเครื่องจักรต่างๆมารวมกัน เขาเป็นวิศวกรด้วย และผมก็เริ่มสังเกตเห็นบางอย่างแปะอยู่บนเครื่องจักร์เหล่านั้น มันเขียนว่า "Made in the USA,"  มันทำให้ผมคิดว่าแม้อเมริกาจะม่มีตัวตนอีกต่อไปแล้ว แต่สิ่งที่ชาวอเมริกันสร้างขึ้นยังอยู่รอบ ๆตัวเรา และทำให้ชีวิตของเราสะดวกขึ้นจนถึงเดี๋ยวนี้ คุณอาจพูดได้ว่า อเมริกา ยังมีชีวิตอยู่บนผลงานเหล่านี้ เหมือนกับว่าคนของผมที่มีชีวิตอยู่ในตัวผม ก่อนที่ไม่นาน พวกเขาเอ่อ ... จะตาย
อย่างไรก็ตาม ... ถ้าพวกเขาเป็นคนอเมริกัน ผมคิดว่านั่นทำให้ผมเป็นคนอเมริกันด้วย และบางทีที่ shelter แห่งนี้ก็เป็นส่วนหนึ่งของอเมริกาด้วยเหมือนกัน เมื่อผมคิดได้แบบนี้แล้ว ผมเลยเริ่มเปิดใจ และสร้างสิ่งต่าง ๆ เพื่อช่วยให้พวกคุณนำพาประเทศให้กลับมารวมกันอีกครั้ง


                         เรื่อง – The Chiral Network II
บันทึกเมื่อ ก่อนการเดินทางสำรวจครั้งแรก ที่ Central Knot City 
                                   โดย Mama 

จริงอยู่ที่ เครือข่าย chiral Network ก็สามารถใช้ประโยชน์จากชายหาดเพื่อให้ย่นระยะเวลาเดินทางของเรา ดูหรือส่งข้อมูลจำนวนมากๆได้ตามที่เราตั้งใจ แต่สิ่งที่เกี่ยวกับชายหาดที่เราต้องรู้ก็คือ ... เวลาไม่สามารถผ่านเข้าไปในนั้นได้ ลองคิดดูว่า ถ้าแสงจากดวงดาวบนท้องฟ้าที่เราเห็นนั้นจริงๆแล้วมันเกิดขึ้นเมื่อหลายพันปีก่อน การส่งข้อมูลผ่านชายหาดก็เปรียบเสมือนการกระโดดไปยังจุดก่อนหน้าของการเดินทางครั้งนั้นซึ่งจะเป็นการตัดเส้นทางให้สั้นลง สั้นกว่าปกติมาก ลองจินตนาการว่า ถ้าข้อมูลจำนวนมหาศาลสามารถถูกถ่ายโอนเกือบจะทันที นั่นคือสิ่งที่เราพยายามที่จะทำให้ เครือข่าย chiral Network มันสมบูรณ์แบบให้เร็วที่สุด ...นี่แค่อธิบายอย่างสังเขป สั้นๆ ง่ายๆ ให้พอเข้าใจนะ

ในทางทฤษฎีเครือข่ายช่วยให้เราสามารถกู้ข้อมูลเก่าที่อาจสูญหายไปได้และจัดสรรทรัพยากรที่กระจัดกระจาย อยูู่อย่างมีประสิทธิภาพ โดยใช้สิ่งที่รู้จักกันในชื่อ การวิเคราะห์ evo-devo เราสามารถนำกระดูกนิ้วของไดโนเสาร์นำมาใช้อ้างอิงได้ มันเป็นวิธีการหาข้อสรุปในสถานการณ์ที่ไม่รู้จักโดยดูจากสถิติและแนวโน้มที่มีอยู่ว่ามันจะดำเนินต่อไปยังไง   ไม่ใช่แค่รูปร่างของไดโนเสาร์ แต่ดูไปถึงส่วนประกอบต่างๆทั้งภายในและภายนอก แม้กระทั่งกระบวนการคิดของมัน แค่ในระดับนึง ทุกอย่างเป็นไปได้ด้วย chiral computing

กล่าวอีกนัยหนึ่งเราอาจจะยังไม่ทำแค่รวมประเทศให้กลับเป็นหนึ่งเดียวกันใหม่แต่ เราจะเรียกคืนทุกสิ่งที่เราสูญเสียไปจากปรากฎการณ์ Death Stranding กลับคืนมาให้หมด

ยิ่งกว่านั้น ตามทฤษฎีแล้วเราสามารถย้อนกลับไปได้ไกลถึงยุคกำเนิดโลกหรือไกลกว่านั้น ซึ่งต้องขอบคุณที่ ชายหาด ที่ทำให้เราจะสามารถรวบรวมข้อมูลทั้งหมดได้ในที่เดียวและลดเวลาการประมวลผลสำหรับการวิเคราะห์ที่ซับซ้อนที่สุดทั้งที่ความเป็นไปได้เกือบเป็นศูนย์

---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

รับคำสั่งของภารกิจหลักใน Delivery Terminal ที่ Lake knot City
[Order No. 20] Prescription Medicine Delivery : Elder


                                              [Order No. 20]

                        Prescription Medicine Delivery : Elder



เป้าหมายของภารกิจคือนำส่งสินค้า Prescription Medicine ไปที่ Preppers Station S23-18  ทางใต้ของสถานี  Lake knot City

ใช้เส้นทางเดิมที่มุ่งไปยัง  Preppers Station S23-06 ของ The Engineer แล้วลงใต้ต่อไปตามทางจนถึงภูเขา จะมีทางแยกที่สามารถขึ้นได้ 2 ทางซ้ายขวาที่มีความลำบากไม่มากและไม่แตกต่างกันมา

        

แต่ตอนที่เดินทางมาถึงที่นี่ครั้งแรกโดยยังไม่ได้สร้างสิ่งอำนวยความสะดวกใดๆเลย เส้นทางขึ้นเขาด้านขวาจะที่ติดกับอณาเขตของพวก MULE จะมีทางขึ้นที่ราบรื่นกว่าทางซ้าย เมื่อเดินทางมาจนถึงที่หมายที่ Preppers Station S23-18 แล้วก็นำส่งสินค้าให้กับ The Elder ได้เลย


                             Preppers Station S23-18 [The Elder]


The Elder - สมแล้วที่ผมคาดหวังในตัวคุณ คุณเป็นที่พึ่งของผมแท้ๆเลย ผมก็คงทำได้แค่ขอบคุณเท่านั้นแหละ Porter 
และคุณก็ไม่ต้องขออะไรตอบแทนหรอกนะเพราะคุณได้คำขอบคุณของผมไปแล้ว เอาล่ะ ไหนมาดูสินค้าหน่อยสิ ... ว้าว มันเยี่ยมมากเลย ทำงานได้เยี่ยมมาก ขอบคุณอีกครั้งนะ 

อ่า คุณมาแทน Fragile Express สินะ ได้โปรดผมให้ชื่นใจหน่อยว่าคุณได้จัดการไอ้พวกผู้ก่อการร้ายตอนคุณผ่านมาไปหมดแล้ว ก็ตั้งแต่ Fragile ลูกสาวของผู้ก่อตั้ง Fragile Express เริ่มมีความสัมพันธ์กับบริษัทส่งของอื่นๆ ที่นี่ก็เริ่มจะน่ากลัวขึ้นทุกที  ยิ่งมีข่าวลือว่าเธอเป็นต้นเหตุของการระเบิดที่ Middle Kont City อยู่ด้วย ผมเองก็ยอมรับว่าเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง และก็แน่นอน เธอเองก็เป็นหนึ่งในเหยื่อของพวกมันเหมือนกัน แล้วคุณจะเชื่อมต่อเครือข่าย Chiral network รึเปล่าล่ะ? ผมไม่ว่าอะไรหรอกถ้าจะเชื่อมต่อกับ Bridges แต่ผมจะไม่เข้าร่วมกับ UCA แน่นอน ... ถ้าคุณไม่ติดขัดอะไรก็เริ่มได้เลย 



Die-Hardman – บางทีคุณอาจจะได้ยินที่ Fragile บอกแล้วนะ พวกนี้มันดื้อ แต่ Preppers คนไหนที่จะไม่เข้าร่วมกับ UCA ก็ยังสามารถเชื่อมต่อกับเครือข่ายของ Bridges ได้อยู่ พวกเขาสามารถใช้การบริการขนส่งของเราและโครงสร้างด้านพื้นฐานต่างๆในเครือข่าย Chiral network ได้เหมือนคนที่เข้าร่วมเต็มตัว คุณจะสามารถใช้สิ่งอำนวยความสะดวกจาก chiral Printing เพื่อปรับปรุงและเพิ่มเติมอุปกรณ์ต่างๆของคุณได้เหมือนเดิม แต่พวกเขาจะไม่ได้มีข้อผูกพันในการแลกเปลี่ยนข้อมูลกับเรา ฉะนั้นจงอย่าหวังว่าพวกเขาจะแบ่งปันข้อมูลหรือช่วยในการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่อะไรเลย แน่นอนล่ะ ในโลกอุดมคติ ทุกๆก็สามารถเป็นส่วนนึงของ UCA ได้ แต่เอาเข้าจริงๆ แม้เราจะต้องการให้ทุกคนเป็นส่วนหนึ่งของเครือข่ายของเรา แต่ความจริง แล้วพวกเขาก็สามารถเปลี่ยนใจได้เสมอ Q-pid จึงมีอินเตอร์เฟซที่แตกต่างกันขึ้นอยู่กับประเภทของสัญญา


                                           The Elder เชื่อมต่อกับ Bridge แล้ว 



The Elder - บริษัท ของเธอใหญ่เกินไป ในเวลาเช่นนี้เราทุกคนควรใกล้ชิดและแนบแน่นกันเข้าไว้ นั่นก็สำหรับบริการจัดส่งสินค้าด้วย มิฉะนั้นเราจะทำผิดพลาดแบบเดียวกัน สาธารณรัฐ , สหพันธรัฐ , รัฐบาลผสม หรือ รัฐทั่วไป ที่พยายามจะเชื่อมต่อคนทุกคนเข้าด้วยกัน แส่หาเรื่องกันทั้งนั้น โทษทีนะ นานแล้วที่ผมไม่ได้คุยกับคนอื่น เดินทางปลอดภัย แล้วเจอกันใหม่


รับคำสั่งของภารกิจหลักใน Delivery Terminal ที่ Lake knot City 
[Order No. 21] Gun Part and Anti – BT Weapon Delivery : Craftsman


                                    [Order No. 21]

      Gun Part and Anti – BT Weapon Delivery: Craftsman



เป้าหมายของภารกิจคือนำส่งสินค้า Gun Part and anti – BT Weapon ไปที่ Preppers Station S23- 21  ทางตะวันตกเฉียงใต้ของสถานี  Lake knot City


เส้นทางที่ใกล้ที่สุดจาก Lake knot City คือเดินทางอ้อมแผ่นดินทางตะวันแล้วลงใต้ได้เลย พื้นที่บริเวณนี้จะเป็นเศษซากของพื้นที่ที่ถูกทำลายไป จะเป็นพื้นที่กว้างที่ไม่มีอุปสรรคมากนักนอกจากจะเจอพวก BT ที่มากับฝน Timefall บ้างเป็นระยะ แต่ด้วยเป็นพื้นที่ที่กว้างการสังเกตเห็น หลบหลีกหรือทำลายพวกมันจึงไม่ยากนัก เมื่อเดินทางมาจนถึงที่หมายที่ Preppers Station S23-21 แล้วก็นำส่งสินค้าให้กับ Craftsman ได้เลย


                        Preppers Station S23-21 [Craftsman]



Craftsman - คุณ เอ่อ คุณไม่ได้ทำงานกับ Fragile Express ใช่มั๊ยเนี่ย?  อ่อ เข้าใจและ Bridges คงเข้ามาใช้ ID เพื่อทำการขนส่งของต่อ แต่ก็ดี ไอ้หนู ชั้นขอรับเอาไว้ก็แล้วกัน สินค้าดูแล้วสภาพดีมากๆ อย่างกับของใหม่ ไม่เคยเห็นสินค้าคุณภาพดีแบบนี้มานานแล้ว  ขอบคุณมากๆนะ ชั้นรู้ว่ามันคงไม่ง่ายหรอกที่จะทำแบบนี้ 

แล้วเป็นคุณจะคิดยังไงล่ะ? ใครๆก็รู้ว่า Fragile Express อยู่เบื้องหลังการโจมตีจนทำให้เมือง Middle Knot City ถูกทำลาย คงมีแต่คนโง่เท่านั้นที่จะให้พวกผู้ก่อการร้ายส่งของให้ แต่ตอนนี้คุณมาที่นี่เพื่อมาเติมเต็มเพื่อให้ธุรกิจของเธอเดินหน้าต่อได้ ผมเข้าใจถูกมั๊ย? สาบานเลยว่าสมัยนี้มันเชื่อใจใครไม่ได้จริงๆนะจะบอกให้ แล้วก็อย่ามาหยอดคำหวานเกี่ยวกับเครือข่ายอะไรของคุณกับผมเลยนะ คุณรู้มั๊ยทำไมถึงมีพวกผู้ก่อการร้ายมากมายมาโจมตีเมื่อเร็วๆนี้ ? ก็เพราะพวกคุณไปยั่วยุมันเรื่องที่คุณกำลังจะสร้างประเทศขึ้นมาใหม่ไงล่ะ ! เข้าร่วมกับ UCA งั้นหรอ? อยู่ๆผมจะเอาสีมาเขียนว่าที่พักของผมให้เป็นเป้าหมายเพื่ออะไร? แค่ส่งของมาให้ผมเรื่อยๆแล้วไม่ต้องสร้างปัญหาอะไรก็พอแล้ว แต่ถึงอย่างงั้นก็เถอะ ผมก็รู้สึกซาบซึ่งกับ hematic grenades ที่คุณเอามาให้มากๆนะ ทำงานได้ดีมาก อันนี้ยอมรับเลย และมันก็ไม่ใช่อุปกรณ์ที่ UCA ควรจะเก็บไว้ใช้เอง พวกเขามี Porter อสิระที่ทำงานให้มากมายแต่ถ้าผมจะปั่นพวกเขาจนอยู่ไม่ได้ล่ะ ผมทำได้นะ  อย่างน้อยคุณก็ดูเป็นคนดี ผมมองออก และคุณก็นำสินค้ามาให้ตามที่ผมขอไปด้วย แต่คงต้องทำอีกเยอะถ้าอยากจะให้ผมตอบรับกับสิ่งที่คุณร้องขอ เรื่อง Chiral network มันเป็นเรื่องที่ก้าวกระโดดเกินไป แต่ถ้าคุณสามารถพิสูจน์ว่า Bridges สามารถบริหารจัดการมันได้อย่างมีประสิทธิภาพจริงๆ ผมอาจจะเชื่อใจพวกคุณก็ได้ แล้วก็ อืมมม ถ้าอยากจะส่งของให้ผมก็ลองเข้าไปดูรายละเอียดใน Terminal ได้เลย


รับคำสั่งของภารกิจหลักใน Delivery Terminal ที่ Preppers Station S23-21 [Craftsman] 
[Order No. 22] Recovery: Toolbox

                               [Order No. 22]

                   [Order No. 22] Recovery: Toolbox



เป้าหมายของภารกิจคือ เดินทางไปยัง Ruined Shelter ทางเหนือของ Preppers Station S23-21 [Craftsman] เพื่อค้นหา Toolbox ที่หล่นหายใน Preppers Station ร้างซึ่งเป็นที่พักเก่าของ Craftsman


พื้นที่เป้าหมายคือใจกลางของเมืองที่ถูกทำลาย การเข้าไปที่ Preppers Station ร้าง ที่อยู่ตรงกลางสามารถอ้อมผ่านกำแพงขนาดใหญ่ไปทางซ้ายหรือขวาก็ได้ แต่ในพื้นที่จะเต็มไปด้วย BT จำนวนมาก


เข้าไปด้านใน Preppers Station ร้าง เก็บ Toolbox ของ Craftsman ที่ทำหล่นเอาไว้ที่ด้านหลังซากของ Delivery Terminal


ตอนที่เข้าไปในพื้นที่นี้ อย่าลืมเก็บ Memory Chip ที่ตกอยู่ฝั่งทางเข้าด้านซ้ายของทางเข้ามาด้วย ซึ่งเมื่อนำไป Share Memory Chip แล้ว จะทำให้ได้ข้อมูล บทสัมภาษณ์ใหม่ด้วย
Interview Data
An Unknown Man's Journal Part 1
Journal #1

Journal #2
Journal #3
Journal #4

เมื่อได้คีย์ไอเทมที่ต้องการและเก็บของทุกอย่างจนพอใจแล้วจากนั้นก็นำกลับมาส่งให้ Craftsman ที่ Preppers Station S23-21 ได้เลย


Craftsman – อะไรเนี่ย เอาจริงดิ คุณได้มันมาจริงๆหรอเนี่ย? เข้าไปในไอ้หลุมนรกนั่นจริงๆเลยอ่ะนะ ? คุณรู้มั๊ยว่ามันมีความหมายกับผมแค่ไหน ผมมีความทรงจำเก่าๆกับกล่องเครื่องมือเก่าอันนี้มากๆเลยนะ แล้วไอ้กล่องเครื่องเก่านี่คุณก็ไม่สามารถสร้างจาก Chiral Printer ได้ซะด้วยสิ ผมคิดว่าผมคงให้งานที่เป็นไม่ได้กับคุณไปซะแล้ว ดูนี่สิ เครื่องมือผม นี่แหละที่ต้องการ ฮ่าๆ เดี๋ยวรอดูอาวุธที่ผมจะสร้างต่อจากนี้ก็แล้วกัน .. Sam Bridges คุณนี่แม่งน่าเหลือเชื่อจริงๆ
คุณรู้มั๊ยเมื่อก่อนนี้ Fragile กับคนของเธอไม่เคยทำให้ผมผิดหวังเลยนะ ผมเป็นหนี้พวกเขาด้วยซ้ำ จนกระทั่ง พอเธอไปทำงานร่วมกับ Higgs จากนั้นก็ทำให้พวกเขาเลวไม่ต่างอะไรกับพวกมันเลย แล้วถ้าวันนึงไอ้พวกผู้ก่อการร้ายบ้านั่นแท็กทีมมากับพวก Fragile บางทีผมว่าเราก็ควรทำบ้างเหมือนกัน บางที่มันอาจจะเป็นความหวังของเรา ถ้าได้ร่วมงานกับคนแบบคุณที่อยู่ใน UCA  เพื่อความปลอดภัยไว้ก่อนว่ามั๊ยล่ะ? ... อืมม สร้างประเทศอเมริกาขึ้นมาใหม่สินะ งั้นก็เชื่อมต่อผมเข้าสู่เครือข่าย Chiral network ได้เลย 

                      Preppers Station S23-21  - - เชื่อมต่อแล้ว 



                                The Craftsman  - - เข้าร่วม UCA 

+ เพิ่มเติมไอเทมใหม่ที่สามารถสร้างได้ใน Delivery teminals
- Bola Gun
+ ข้อมูลการสัมภาษณ์ใหม่
-Terrorists Posing as Fragile Express Couriers


Craftsman – เอาล่ะ ตอนนี้คุณก็มองเห็นผมอย่างชัดเจนเหมือนกับที่ผมมองคุณแล้วนะ แฟร์ๆดี ก็เหมือนกับที่คุณให้การเชื่อมต่อกับผม ผมก็ทำอุปกรณ์ดีๆให้คุณด้วยเครื่องมือสุดเจ๋งที่คุณนำกลับมาให้ผมไงล่ะ และถ้าเราร่วมมือกันเราก็คงอยู่รอดได้นานไปอีกหน่อยแหละน่า อ่อ ดูอาวุธที่ผมทำให้คุณสิ ผมเรียกมันว่า Bala Gun มันจะช่วยหยุดใครก็ตามที่จะมาสร้างปัญหาให้คุณได้ซักนาทีสองนาที แน่นอน มันถึงตายหรอก แต่ไม่สัญญานะว่าจะไม่ทิ้งแผลเป็นเอาไว้  


Bola Gun คือ ปืนที่เป็นอาวุธที่สามารถใช้ได้กับพวก MULE ที่เป็นคนธรรมดาซึ่งจะทำให้เกิดการตามองไม่เห็นและมึนงงชั่วคราว ไม่ทำอันตรายถึงตาย และอุปกรณ์นี้ก็มีการผสมเลือดของแซมเอาไว้นั่นแปลว่ามันก็สามารถใช้จัดการกับพวก BTs ด้วยเช่นกัน แต่ทำได้แค่ตรึงพวกมันไว้ให้ขยับไม่ได้เท่านั้น ไม่ได้ทำลายมัน

       


การใช้งาน Bola Gun เมื่อนำติดตัวออกไปในการเดินทางกดเปิดเมนูอุปกรณ์ก็จะพบ Bola Gun ให้เลือกใช้  - กด L2 เล็งเป้าหมาย / กด R2 ยิง (สามารถกด R2 ค้างเพื่อยิงแบบชาร์จพลังได้) -


Die-Hardman – ทำงานได้ดีมากเลยแซม คุณเชื่อมต่อ Waystation ทั้ง 3 สถานีให้เป็นหนึ่งเดียวกันแล้ว Preppers เข้าสู่ Chiral Network แล้วทำให้ดูดียิ่งกว่าเดิมเยอะเลย เราวางแผนว่าจะใช้ Regional distro Center ของที่นี่ให้เป็น Waystation สถานีต่อไปของเรา แต่คงต้องรอไปก่อน ยังมีภารกิจสำคัญที่นี่ มีความวุ่นวายที่ต้องทำกำจัดให้หมดซะก่อน เราต้องให้คุณไปเอาหนึ่งใน System Server ของ Lake knot city ที่ถูกพวก MULE ชิงไปตอนที่เรากำลังส่งไปซ่อมแซมกลับคืนมา เซิร์ฟเวอร์นั้นมี validation data สำหรับระบบการส่งของแบบใหม่ที่เรากำลังนำมาปรับใช้ เซิร์ฟเวอร์ดังกล่าวจะทำให้ Chiral network ทำการขนส่งได้โดยอัตโนมัติ สำหรับเรามันเป็นสิ่งที่มีค่ามาก แต่กับพวก MULE อาจเห็นเป็นแค่เครื่องปิ้งขนมปัง เครื่องปิ้งขนมปังที่พวกมันจะแกะฉีกจนเละอย่างมีความสุขเพื่อหา Chiral crystals และโลหะที่หายากที่สุดในโลกที่อยู่ข้างใน ถ้าเราไม่รีบเอากลับมาคงต้องเสียข้อมูลนั้นไปแน่นอน ฉะนั้นรีบเข้าไปที่แค้มป์ของพวก MULE ค้นหาเซิร์ฟเวอร์นั้นแล้วนำกลับมาที่ Lake knot city ผมจะส่งคำสั่งเร่งด่วนไปให้ด้วยตัวเอง เช็ครายละเอียดที่ Cuff link ของคุณได้เลย

        

                                            [Order No. 23]

                               Retrieval: System Server 



ภารกิจเร่งด่วนที่ Die-Hardman ส่งมาให้ทำคือ มุ่งหน้าไปที่ แค้มป์ของพวก MULE ที่ตั้งอยู่ทางใต้ของ Preppers Station S23-21 [Craftsman] เพื่อชิงเอา System Server กลับคืนมา

เมื่อเข้ามาถึงแค้มป์เป้าหมายแล้วจัดการพวก MULE ให้หมด ที่นี่มีพวก MULE เป็นคันรถแต่ตอนนี้มีปืน Bola Gun เป็นตัวช่วยแล้วคงจัดการพวกมันไม่ยาก


จากนั้นเข้าไปที่ Postbox ของพวก MULE อันที่เป็นเป้าหมายของภารกิจแล้วเลือกเอาคีย์ไอเทม System Server ออกมาแล้วนำส่งกลับไปที่ Lake knot city ได้เลย


เมื่อจบภารกิจนี้แล้ว Delivery Terminal ของสถานีหลักทุกที่จะสามารถสร้าง รถมอเตอร์ไซด์ Revers Trike และ Revers Trike Long Range ซึ่งเป็นรถมอเตอร์ไซด์ขนส่งรุ่นใหม่ที่สามารถใช้พลังแสงอาทิตย์ชาร์จแบตได้ทำให้สามารถเดินทางได้ไกลขึ้นโดยไม่ต้องใช้เสาชาร์จไฟ แต่จะไม่สามารถนำสินค้าติดตั้งเข้าไปในรถได้เหมือน Revers Trike รุ่นปกติ

+ ข้อมูลการสัมภาษณ์ใหม่
-Higgs Particles


Die-Hardman – ขอบคุณมากแซม ด้วยข้อมูลนั่นเราก็จะสามารถเดินหน้าแผนระบบ automated delivery system ได้ซะที ผมได้บอกเจ้าหน้าที่ให้เริ่มทดสอบ Bot แล้ว เอาล่ะ ตอนนี้คุณก็สามารถมุ่งหน้าไปที่ Distro Center ที่อยู่ทางใต้ของ Lake knot city ตามแผนต่อไปได้แล้วล่ะ เข้าไปดูรายละเอียดใน Delivery Terminal ได้เลยเมื่อคุณพร้อม 
Sam – พวก Preppers บางคนพูดถึงเรื่อง Fragile ให้ผมฟัง คุณแน่ใจนะว่าเราจะเชื่อใจเธอได้น่ะ ?
Die-Hardman – เรื่องที่เธอเคยทำงานกับ Higgs น่ะหรอ? ผมบอกได้เลยว่าตอนนี้แรงพลักดันเดียวที่ทำให้เธอมาร่วมงานกับเราคือความเกลียดชังที่มีต่อ Higgs ศัตรูของศัตรูคือมิตร จริงมั๊ยล่ะ แต่ ไม่ต้องเชื่อผมก็ได้นะ งั้นก็ลองไปคุยกับเธอเองเลยคุณจะได้ติดสินเองได้ แต่ไม่ว่าคุณจะชอบหรือไม่เราก็ต้องให้เธอช่วยอยู่ดี 



Fragile – แซม นี่ Fragile นะ ชั้นได้ยินมาว่านายสามารถทำให้ Preppers 3 สถานีเข้าร่วมในเครือข่ายได้แล้วและช่วยขนส่งสินค้าตามที่พวกเขาต้องการ นายทำงานได้ดีมาก 
Sam – ก็ตราบที่เรายังคุยกันรู้เรื่องอ่ะนะ เออว่าแต่ คุณจะบอกผมได้รึยังว่าคุณเคยมีข้อตกลงอะไรกับ Higgs ?
Fragile – อยากรู้มากงั้นหรอ ห๊ะ? งั้นจะเล่าให้ฟังก็แล้วกัน คุยแบบตัวต่อตัวนะ มาเจอชั้นที่  Distro Center ทางใต้ของ Lake knot ได้เลย ยังไงนายก็ต้องเดินทางมาที่นี่อยู่แล้วไม่ใช่หรอ?


----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

                                             Interview Data


             เรื่อง – Terrorists Posing as Fragile Express Couriers
                       บันทึกเมื่อ 1 ปีก่อน ที่ Personal Shelter   
                                      โดย Craftsman

คุณรู้เคยได้ยินเรื่องการโจมตีของพวกผู้ก่อการร้ายเมื่อเร็ว ๆ นี้รึเปล่า รู้อะไรมั๊ยว่า วิธีที่พวกเขาแอบเข้าและออกจากเมืองก็คือการปลอมตัวเป็น Porter ของ Fragile Express? นั่นแปลว่าเราได้สร้างหายนะขึ้นมาอีกครั้งด้วยมือเราเอง ...มันไม่ใช่ว่าเราสามารถตัดพวกเขาออกไปได้ง่ายๆหรอกนะ ยังไงซะเราก็ต้องการคนของ Fragile ให้ทำงานของเขาต่อเพราะ เพราะเราต้องพึ่งพาคนเหล่านั้นมาก บางทีเราก็ไม่ควรที่จะ ...

ผมได้ยินมาว่าพวกเขากำลังขนอาวุธกันอยู่ ทำไมพวกเขาถึงโง่ขนาดนั้น ? บอกตรงๆว่าผมไม่อยากคจินตนาการเลย จะเอาไปฆ่าคนให้ตายให้มันกลายเป็นระเบิดถล่มโลกอีกงั้นหรอ?  แน่นอนว่าผู้ก่อการร้ายเป็นภัยคุกคามและ MULE แม่งก็โคตรจะน่ารำคาญเลย แต่คนฉลาดที่ไหนเขาจะทำในสิ่งที่รู้อยู่แล้วว่าผลสุดท้ายมันจะเกิดอะไรขึ้น ? เราต้องการอาวุธที่สามารถกำจัดคนเลวโดยไม่ต้องฆ่าพวกมัน ไม่ใช่เครื่องมือ และเราต้องการฮาร์ดแวร์ที่มีการจำหน่ายไปทั่วเหมือนที่ผ่านมา

เราไม่สามารถป้องกันไม่ให้คนตายจากอุบัติเหตุหรือโรคภัยไข้เจ็บได้ และแน่นอนเราไม่สามารถห้ามไม่ให้คนตายตามอายุขัยได้ แต่ความตายที่เราสามารถกำจัดได้เราควรทำ ความรุนแรงไม่ได้เป็นเพียงเรื่องน่าเกลียด  แต่มันจะยิ่งกว่าน่ารังเกียจถ้ามันการฆ่ากันตายในยุคนี้ ซึ่งเป็นเหตุผลว่าทำไมผมถึงมองหาอุปกรณ์ที่ไม่ทำให้ไม่ถึงตาย ด้วยความหวังว่ามันจะป้องกันไม่ให้ไอ้พวกงี่เง่าที่จะฆ่าตัวตายหรือไม่ก็โดนคนอื่นฆ่าตายไงล่ะ


                              เรื่อง – Higgs Particles
              บันทึกเมื่อ 1 ปีก่อน ที่ ใกล้กับ Mountain knot city 
                                   โดย – Heartman 

Higgs Monaghan ทำไมล่ะ ใช่ ผมรู้จักชื่อนี้ อดีตผู้นำขององค์กรจัดส่งเอกชนซึ่งผมจำได้ว่าให้บริการให้กับผู้คนที่อาศัยอยู่ที่ดินแดนขนาดใหญ่ทางตะวันตกมานานแล้ว  แต่ในขณะที่เราอยู่ไกลกันบริดจ์พยายามดิ้นรนเพื่อรักษาระดับอิทธิพลใด ๆ มันอาจไม่ได้ช่วยให้ขบวนการแบ่งแยกดินแดนได้รับการสนับสนุนที่แข็งแกร่งเสมอในดินแดนนั้น

แต่นั่นมันก็ถือว่าห่างไกลจากพวกเรามาก ความพยายามในการรักษามาตฐานการทำงานของ Bridge ในเรื่องมาตการต่างๆก็ไม่น่าจะส่งผลกระทบหรือเป็นการสนับสนุนให้เกิดแนวคิดที่จะแบ่งแยกดินแดนของที่นั่นเลย

จนเมื่อความรุนแรงต่างๆเริ่มเกิดขึ้นโดยพวกที่บ้าคลั่งและพวกปีศาจ เราก็ตกใจเมื่อรู้ว่าฮิกส์อยู่ในฐานะผู้นำของพวกมันและนำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงที่แปลกประหลาดนี้? เหตุใดคนที่ครั้งหนึ่งเคยสั่งให้กลุ่มคนอุทิศตนให้กับแนวปรัชญาการศึกษาปฏิรูปนิยมของอเมริกา จู่ๆก็ลุกขึ้นมาปฏิญาณตัวเองว่าเป็นต้นเหตุของการที่ทำให้ประเทศอเมริกาถูกทำลาย

ชื่อของเขาเป็นเพียงคำสนธิกันของการเย้ยหยันและดูแคลน คุณเคยได้ยินเรื่อง Higgs boson หรือที่คนทั่วไปรู้จักกันว่า "อนุภาคพระเจ้า" (God Particle) มั๊ยล่ะ มันเกี่ยวข้องกับสนามฮิกส์ ซึ่งทำให้อนุภาคอื่น ๆ ทั้งหมดมีมวลของตัวมันเอง หากปราศจากมันอะตอมก็จะแยกตัวออกจากกันและสสารจะไม่มีอยู่จริงอย่างที่เรารู้ กล่าวอีกนัยหนึ่งการมีอยู่ของมันจะช่วยป้องกันการถูกทำลายโดยไม่ตั้งใจ ซึ่งมันคือการเย้ยหยันจักรวาลอย่างแน่นอน ...



       ขยายความเรื่อง Higgs boson ที่มาของชื่อ Higgs Monaghan



ชื่อของ Higgs นั้นได้แรงบันดาลใจมาจาก Higgs boson หรือ อนุภาคฮิกก์ส ที่ถูกค้นพบจากทฤษฎีที่อธิบายถึงกระบวนการที่ทำให้อนุภาคมูลฐานเกิดมวลขึ้นมาที่เรียกกันว่า ทฤษฎี “ Higgs mechanism “ ที่ตั้งชื่อตาม ปีเตอร์ ฮิกส์ ซึ่งเป็นหนึ่งในหกนักฟิสิกส์ที่ได้นำเสนอกลไกที่บ่งบอกถึงการมีอยู่ของอนุภาคนี้ในปี 1964


ทฤษฎี Higgs mechanism อธิบายว่า อนุภาคแรกของจักรวาลเกิดขึ้นหลังการระเบิด Big Bang ซึ่งยังไม่มีสิ่งใดมีมวลเป็นของตัวเอง จนกระทั่งเอกภพให้กำเนิดสนามพลังที่ที่มองไม่เห็น เรียกว่า “ Higgs field ” ขึ้นมาและกระจายอยู่ทั่วจักรวาล อนุภาคมูลฐานได้ทำปฏิสัมพันธ์กับ สนาม Higgs field จะกลายเป็นมวลของอนุภาคนั้นๆ ซึ่ง อนุภาคของ Higgs field ถูกเรียกว่า Higgs boson ซึ่งมีคุณสมบัติเหมือนกับโฟตอน หรือ อนุภาคของแสงที่เป็นอนุภาคของสนามแม่เหล็กไฟฟ้าที่ยืนยันการมีอยู่ของ Higgs field ที่ไม่สามารถสังเกตเห็นได้เหมือนโฟตอนนั่นเอง


ในทางวิทยาศาสตร์การค้นพบ อนุภาคฮิกก์ส  ทำให้ทฤษฎีการมีอยู่ของอนุภาคมูลฐานของหน่วยที่เล็กที่สุดอย่าง โปรตอน ( proton ), นิวตรอน ( neutron ) และ อิเล็กตรอน ( electron ) ซึ่งองค์ประกอบพื้นฐานของธาตุทุกชนิดสมบูรณ์ขึ้น และเป็นพื้นฐานให้กับฟิสิกส์ใหม่ที่จะนำพาให้ไปพบอนุภาคมูลฐานใหม่ๆอย่าง สสารมืด ( dark matter ) และความลึกลับของจักรวาลอื่นต่อไป

ในทางความเป็นจริงที่ผู้คนทั่วไปจับต้องได้ ความสำคัญของการค้นพบ อนุภาคฮิกก์ส (Higgs boson) ที่เข้าใจง่ายๆคือ มันจะเป็นคำตอบของคำถามถึงเรื่องการกำเนิดจักรวาล ว่าจักรวาลนั้น ก่อตัวมาอย่างไร และอนุภาคต่างๆ ที่ให้กำเนิดโลก ทำไมมีมวลขึ้นมาได้นั่นเอง

Source
https://www.sbbmch.cl/?p=18160&lang=en
https://tech.mthai.com/gadget/18479.html



             เรื่อง – An Unknown Man’s Journal – Journal #1
                       บันทึกเมื่อ (ไม่ได้ระบุปี) ที่ Unknown   
                                       โดย Unknown

วันนี้ผมไปส่งของที่ shelter ใกล้ๆกับ Middle Knot City มันเป็นการเดินทางที่ยาวนานที่สุดของผมเลยซึ่งเป็นระยะทางที่ดีที่สุดนับตั้งแต่ผมเริ่มออกเดินทางครั้งแรกท่ามกลางการเตือนของหลายๆคนที่พยายามจะบอกว่ามันอันตรายเกินไปสำหรับคนที่อายุยังน้อยแบบผม ไม่มีใครเชื่อผมเลยว่าผมทำได้ ผมควรจะทำยังไงดี? เด็กกำพร้าก็ต้องทานอาหารด้วยเหมือนกันและผมก็ไม่ได้มีทักษะอะไรเลย นอกจากสองแขนสองขา และความกล้าบ้าบิ่น นั่นคือทั้งหมดที่ผมจะให้ได้ ซึ่งก็ทำหน้าที่ได้ดีมาจนถึงตอนนี้

ผมนำส่งสินค้าในสิ่งที่ผู้คนเขาต้องการและในทางกลับกันพวกเขาก็พูดและปฎิบัติต่อผมอย่างให้เกรียติจากประโยชน์ที่ผมทำ  ยิ่งผมส่งมอบสินค้ามากเท่าไหร่ก็ยิ่งได้รับคำสั่งซื้อมากขึ้นเท่านั้น ก็ถ้าไม่มี Porter อยู่แถวๆนั้นเลยเวลาที่คุณต้องการ และตราบใดที่คุณไม่รู้สึกแย่จนกินไปถ้าใครซักคนจะมาขออาสาทำในสิ่งที่คนอื่นคิดว่ามันไม่สำคัญให้ นั่นช่วยให้ผมมีสัมผัสที่ 6 กับพวก BT ซึ่งเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นยากมาก สาเหตุหนึ่งอาจเกิดจากที่ทำให้ผมทำงานอย่างหนักมากมาตลอด

บางครั้งผู้คนก็ยกย่องผม บอกว่าผมทำงานเพื่อสังคมด้วยการช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ ก็บอกไม่ได้เต็มปากผมก็อยากทำเพื่อตัวเองบ้างถ้าทำได้ แต่ผมก็ต้องอยู่รอดให้ได้ แต่ไม่ว่ายังไงผมก็โคตรมั่นใจเลยว่า ผมคงจะไม่รับมือมันด้วยตัวคนเดียวไม่ได้แน่นอน


              เรื่อง – An Unknown Man’s Journal – Journal #2
                        บันทึกเมื่อ (ไม่ได้ระบุปี) ที่ Unknown   
                                      โดย Unknown

prepper อีกคนหนึ่งพึ่งตายไป ผมไปส่งยาของเขาตามปกติเมื่อเช้าวันนี้ แต่ผมคิดว่าคงจะมาช้าเกินไป เจ้าคนที่น่าสงสารไม่ได้แค่ตายเท่านั้น แต่กำลังจะเข้าสู่ช่วง Necro ด้วย ไม่มีเวลาพอที่จะพาร่างเขาไปที่เตาเผาขยะผมเลยต้องทิ้งเขาไว้ใกล้อาณาเขตของพวก BT  ซึ่งก็ดีกว่าทิ้งศพเขาไว้เฉยๆ  โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อที่พักของผมอยู่ใกล้ ๆ แถวนั้นด้วยยิ่งต้องระวังเป็นพิเศษ
ตอนผมทิ้งเขาไว้ ผมคิด ...  รู้สึกว่า BTs จะตอบสนองต่อศพ และผมก็เริ่มเห็นชายหาดด้วย มันเป็นสิ่งที่แปลกประหลาดมาก แต่ผมเคยรู้สึกมาก่อนแล้วตอนที่จัดการกับศพใครบางคนเป็นครั้งแรก แต่ตอนนี้ดูเหมือนความรู้สึกนี้มันเริ่มแข็งแกร่งขึ้น ไม่ต้องสงสัยเลยว่า นี่หมายถึงผมเริ่มมีความสามารถของ DOOMs รึเปล่า? แต่ผมเริ่มมีความคิดบางอย่าง ... ที่พิเศษเกี่ยวกับตัวเอง


              เรื่อง – An Unknown Man’s Journal – Journal #3
                    บันทึกเมื่อ (ไม่ได้ระบุปี) ที่ Unknown   
                                      โดย Unknown

เจ้าหน้าที่ส่งสินค้าทางตะวันตกได้ยินถึงความสามารถในการตรวจจับ BT ของผมและแสดงความสนใจที่จะให้ผมไปร่วมงานด้วย  ดูเหมือนว่าพวกเขาทำงานนอกขอบเขตอิทธิพลของ Bridges ด้วยและพวกเขาต้องการจะยกระดับประสบการณ์และความรู้ของผมเพื่อขยายขอบเขตการทำงานการของพวกเขา เป็นเรื่องที่น่าสนใจมาก

มันสนุกมาก. ผมเริ่มการเดินทางออกไปส่งของเพราะความจำเป็น เพื่อเอาชีวิตรอด แต่ตอนนี้ทั้งหมดได้เปลี่ยนไปแลว ตอนนี้ผมเป็นคนที่เห็นแก่ประโยชน์ของผู้อื่นเป็นที่ตั้ง มีชีวิตอยู่เพื่อช่วยเหลือผู้อื่น Preppers ที่อยู่ในพื้นที่ก็เริ่มที่จะไว้ใจผม บ้าเอ้ย แค่ 5 นาทีโดยไม่มีผมพวกเขาก็แทบจะอยู่ไม่ได้เลยด้วยซ้ำ อยากรู้จักว่าพ่อผมจะพูดยังไงถ้ามาเห็นผมตอนนี้

พ่อสอนให้ผมเป็นเจ้าของโชคชะตาของตัวเอง แต่ที่นี่ผมเป็นส่วนหนึ่งของชุมชน การทำงานร่วมกับผู้อื่นคือการนำโลกมารวมกัน พ่อบอกผมเสมอว่า โลกกว้างนั้นมันอันตราย นั่นทำให้เราต้องใช้ชีวิตแต่ในที่พักของเราไปจนตาย ก็นะ ช่างแม่งมันเถอะความคิดแบบนั้น ชุมชนต่างหากคือสิ่งที่สำคัญที่สุด


            เรื่อง – An Unknown Man’s Journal – Journal #4
                       บันทึกเมื่อ (ไม่ได้ระบุปี) ที่ Unknown   
                                     โดย Unknown

ผมเพิ่งเสียคู่หูไปวันนี้เอง เขาออกไปส่งของบนภูเขา และที่นั่นแม่งก็เต็มไปด้วยหมอก เดาว่าเขาคงจะมองไม่เห็นเส้นทาง เขาโทรหาฉันเพื่อขอความช่วยเหลือจากนั้นสายก็ตัดไป ก่อนที่ผมจะเห็นการ voidout ระเบิดขึ้นมา ใกล้จนเกือบทำให้ผมตาบอด ผมว่าเขาคงเดินหลงเข้าไปในอาณาเขตของพวก BT

ทุกวันนี้เรามี Porter เหลือไม่กี่คนแล้ว แถมมีไม่กี่คนที่คุณสามารถไว้วางใจให้ทำงานให้เสร็จได้ด้วย หลายคนต่างก็ขอลาออก บ้างก็ได้ หรือไม่ก็กลายเป็นพวก MULE  ถ้าเราจะทำงานต่อเราจะต้องมีอุปกรณ์ที่ดีกว่านี้ ... และต้องมีใครซักคนที่มีความสามารถสามารถในการค้นหาตำแหน่งพวก BT ได้ ผมเองก็ยังคงสามารถจัดการได้บางครั้ง แต่พลังของผมเริ่มอ่อนแอลง ผมรู้สึกได้ ตอนนี้ก็แค่หวังว่าผมจะหาทางออกกับเรื่องนี้ได้ เพราะถ้าปล่อยให้เป็นแบบนี้ต่อไป ผมฉิบหายแน่ พวกเราฉิบหายกันหมดแน่ๆ


                     เรื่อง – King Midas and the Chiral Crystal 
                        บันทึกเมื่อ 2 ปีก่อน ที่ Heartman’s Lab
                                      โดย Heartman 

ข่าวลือแพร่สะพัดไปทั่วเกี่ยวกับเรื่องชายคนนึงที่เรียกตัวเองว่า "King Midas"  คนล่ะคนกับที่อยู่ในตำนานเทพเจ้ากรีกนะ อย่างน้อย คนนี้ก็ไม่ได้เปลี่ยนทุกสิ่งที่เขาสัมผัสเป็นทองคำ แต่เขาอ้างว่าสามารถใช้พลังในการสร้างผลึก chiral Crystals ได้ตามใจชอบ

ว่ากันว่า เขาได้รับพลังนี้มาจากผลการทดลองที่เกี่ยวข้องกับสิ่งมีชีวิตที่มีความสามารถคล้ายกัน แน่นอนว่าผมคิดไปถึงจุลินทรีย์ที่สามารถละลายและควบแน่นกลั่นตัวเป็นทองที่เป็นผลมาจากการตกตะกอน แต่นี่เป็นครั้งแรกที่ผมได้ยินว่ามันเกิดกับสิ่งมีชีวิตที่สามารถทำแบบนี้ได้กับ chiralium เห็นได้ชัดว่ามันคล้ายกับ cryptobiote หรือปะการังที่พบในตะเข็บที่พวกมันดำรงชีวิตอยู่ในพื้นที่ที่ไม่มีผลกระทบจากเวลา ซึ่งหากชายคนนั้นทำแบบนี้ได้จริงๆก็คงจะวิเศษไปเลย เพราะมันจะนำไปสู่การเล่นแร่แปรธาตุทางชีวภาพที่ไม่เคยมีมาก่อนอย่างแท้จริง เช่นเดียวกับอีกคนในตำนานที่ใช้ชื่อเดียวกับเขา King Midas ที่ถูกกล่าวว่าต้องใช้เงินจำนวนมากเพื่อการได้มาซึ่งอำนาจของเขา

อันที่จริงร่างกายของเขาได้เปลี่ยนเป็นอนุภาคขนาดใหญ่ที่เป็นผลข้างเคียงของการตกผลึก chiralium จากทุกๆสิ่งที่เขาสัมผัส ซึ่งหลักฐานเพียงอย่างเดียวของการมีอยู่ของเขาก็คือรอยมือสีทองที่เขาทิ้งเอาไว้

ตอนนี้ผมก็ทำให้เรื่องนี้มันฟังดูน่าทึ่งเข้าไปอีกโดยเน้นไปที่ทฤษฎีที่ว่า มันไม่มีจุลินทรีย์ที่มีความสามารถในแบบเดียวกันที่เราอธิบายไว้ก่อนหน้านี้มาเกี่ยวข้อง ด้วยเหตุนี้ผมจึงสงสัยว่า King Midas อะไรที่ว่ามันไม่มีอะไรมากไปกว่าเรื่องเล่าปากต่อปากของคนในเมืองที่ไม่เคยมีจริง มันก็แค่เรื่องราวที่ถูกปั่นโดยพวกฝันกลางวันในโลกยุคที่ผลึก chiral Crystals หายากและราคาแพง ซึ่งสามารถเก็บมันได้จากสถานที่ที่เต็มไปด้วยพวก BT ที่อันตรายเท่านั้น  บางทีเราอาจจะคิดว่ามันเป็นเรื่องเล่าทางศีลธรรมที่ทำให้คนเกิดความรู้สึกผิดชอบชั่วดีขึ้นมาก็ได้ แน่นอนล่ะ ทางศีลธรรมนั้นความโลภเป็นสิ่งที่ไม่ดี และมันก็ยังไม่ดีอยู่ดีไม่ว่าความปรารถนานั้นจะเกิดกับทองคำหรือผลึก chiral Crystals

อย่างไรก็ตามมันเป็นเรื่องบังเอิญมากที่ไม่นานหลังจากที่ผมได้ยินเรื่อง King Midas เป็นครั้งแรก ตอนนี้ก็เริ่มได้ยินข่าวลือเกี่ยวกับชายคนหนึ่งที่สวมหน้ากากกระโหลกทองคำอีกแล้ว มันจะเกี่ยวข้องกันหรือเปล่า? ใครจะรู้...


                 เรื่อง – Fragile's Father and Fragile Express
                    บันทึกเมื่อ 2 ปีก่อน ที่ Lake Knot City 
                                       โดย Fragile 

พ่อของชั้นเป็นคนคิดชื่อ“ Fragile Express” ขึ้นมาก่อนที่ชั้นจะเกิด  สมัยนั้นสหรัฐฯยังเป็นยุคที่พูดกับถึง Swiss Cheese Model หรือการป้องกันช่องโหว่ของความล้มเหลวที่อาจจะเกิดขึ้นในทุกมาตรการรักษาความปลอดภัย  แต่ตอนนี้ช่องว่างของรูชีสทั้งหมดได้ตรงกันจนปล่อยให้อุกกาบาตขนาดมหึมาเล็ดลอดเข้ามา ในขณะที่ผู้คนก็กำลังสูญเสียความคิดที่จะคิดหาทางออก พวกเขาได้แต่คิดว่ารัฐบาลจะกลับมาอีกครั้ง แต่ก็ไม่ ทั้งรัฐบาลและระบบทั้งหมดที่เป็นกลไกลที่จะทำให้โลกหมุนอีกครั้ง หายไปจนหมดสิ้น โลกของพวกเขากลายเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยภายในไม่กี่วินาที เมื่อทุกสิ่งที่คุณรู้จักถูกทำลายไปจนหมดสิ้น มันก็ยากที่จะไม่ทำลายตัวเองตามไป

ก่อนที่เครือข่ายใหม่ล่าสุดของเราจะกลายเป็นของเก่าไปในทันที คนทั้งประเทศที่เคยออนไลน์กันอย่างต่อเนื่องแบบไม่มีหยุด มีกล้องและไมโครโฟนอยู่ทุกที่ที่คอยเฝ้าดู ดักฟัง และบันทึกทุกๆอย่าง ผู้คนต่างพูดกันว่า มันเป็นความรู้สึกสบายใจที่แปลก ๆ ที่ทำให้เกิดความมั่นใจว่าหากคุณกำลังมีปัญหาต้องมีใครซักคนที่จะรับรู้งถึงมัน แต่หลังจากเกิดปรากฎการณ์ Death Stranding ทุกๆอย่างก็หายวับไปกับอากาศธาตุ ไม่มีใครสามารถมองออกไปที่ไหนได้อีกแล้ว และก็ไม่มีใครจะมาช่วยคุณได้ด้วย

มีคนจำนวนมากที่มัวแต่รอคอยความช่วยเหลือจนตาย ก่อนที่คนอื่น ๆ จะเริ่มเข้าใจและเรียนรู้ว่า ต้องแก้ปัญหาด้วยมือของตัวเอง พ่อของชั้นเป็นหนึ่งในอย่างหลัง เขาทำงานให้กับบริษัทโลจิสติกส์เอกชนร่วมกับเพื่อนๆของเขา ในฐานะผู้นำส่งสิ่งของให้ผู้คนและซ่อมแซมโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญๆที่ชาวอเมริกันเคยพึ่งพาเพื่อความอยู่รอด

พวกเขาคือผู้สร้าง คือเหล่าชายหญิงที่เข้าใจถึงคุณค่าของสิ่งที่สูญเสียไปและต้องการเรียกมันคืนกลับมา พ่อของชั้นและพวกของเขาเชื่อว่าพวกเขาจะได้รับทุกอย่างกลับคืนมาทีละนิด พวกเขาทำเพื่อพวกเราทุกคน ทำเพื่ออเมริกาของเรา มันเป็นความฝันอันล้ำค่าของ fragile เหมือนในตอนนั้น ... แต่ถ้าเรายังรักษามันไว้ ยึดมั่นกับสิ่งที่ตัวเองเชื่อ เขารู้ว่ามันอาจเป็นของเราได้อีกครั้ง ...

ผู้คน , ไอเดีย , ความสัมพันธ์ ทั้งหมดนั้นคือ  fragile ที่ผ่านมาสหรัฐอเมริกาไม่มีอะไรมากไปกว่าเครือข่ายแห่งผู้คนและการความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขา  ไม่น่าแปลกใจที่มันถึงถูกทำลายไปอย่างง่ายดาย  แต่ทุกสิ่งที่มีค่าก็ควรจะเปราะบาง นั่นเป็นเหตุผลที่พ่อตั้งชื่อชั้นว่า Fragile (เปราะบาง)
พ่อของชั้นไม่ได้อยู่กับเราอีกต่อไปแล้ว แต่ความผูกพันระหว่างเรายังคงเหลืออยู่ แม้ว่ามันจะอยู่ในรูปแบบของ Fragile Express ก็ตาม


                          เรื่อง – The America of the Past
                    บันทึกเมื่อ 2 ปีก่อน ที่ Personal Shelter
                                   โดย The Elder

โอ้ไอ้หนู. ต้องการที่จะได้ยินเรื่องราวเกี่ยวกับอเมริกางั้นหรอ? ถามมาได้เลย แต่ถ้าคุณกำลังมองหาเรื่องเรื่องไร้สาระแบบโลกสวยล่ะก็ คุณมาผิดที่แล้วล่ะ
ก็อย่างที่เห็น ผมเป็นผู้อพยพ ซึ่งก็ไม่มีอะไรพิเศษหรอก แต่รู้มั๊ยว่าทั้งประเทศถูกสร้างขึ้นโดยผู้อพยพ และทันทีที่ผมเริ่มเห็นว่ามันไม่ใช่ ดินแดนแห่งอิสรภาพนี้ก็ชักนำให้ผมเชื่อ แต่ในขณะนั้นมันก็ไม่เลวเลยที่จะได้มีคติความเชื่อแบบคนอเมริกันสักนาที แต่แบบให้ตายสิ พวกเขาปล่อยให้ชายผิวดำและผู้หญิงยิงประธานาธิบดีของตัวเองเนี่ยนะ?

มันก็แบบว่า...ประชาชนเขาก็แบบ ... ทนไม่ได้ พอมันเป็นแบบนั้นมันก็ไม่มีทางเลือกอื่น หรือคนอื่นคนใดได้อีกสำหรับทางออกที่ดีที่สุดสำหรับเรื่องนั้น เราดันไปเลือกชายคนหนึ่งก่อนที่จะเกิดปรากฎการณ์ Death Stranding ที่ต้องการสร้างกำแพงตามแนวชายแดนทั้งหมดเพื่อป้องกันไม่ให้คนแบบผมเข้ามา

จนเมื่อมีการพูดคุยถึงเรื่องดีเริ่มขึ้นอย่างจริงจัง สิ่งที่ผมคิดก็คือ ชั้นจะคาดหวังห่าอะไรได้กับประเทศที่ไม่ต้องการคนแบบชั้น และผมจะคาดหวังได้ยังไงถ้าต้องเข้าไปอยู่ในดินแดนที่อ่อนแอและขัดสนคิดแต่เรื่องผลประโยชน์ได้ยังไง?
ดังนั้น ใช่ ผมเลยคิดว่าจะต้องออกไปหาที่อยู่ใหม่ที่เป็นของตัวเอง ไม่รู้ว่ามันจะแย่แค่ไหน  แต่ผมบอกคุณได้เลยว่า ถ้าผมไม่ได้ตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยวในครั้งนั้น ผมก็คงไม่มาพูดกับคุณที่นี่ตอนนี้หรอก มันแสดงให้เห็นว่าคนที่คนจะสามารถพึ่งพาได้มากที่สุดคือตัวของตัวเอง UCA น่ะหรอ ? พอเลย คุณก็แค่พล่ามเรื่องเดิมๆถึงการกลับมารวมกันสร้างโลกแห่งอุดมคติขึ้นมา


                               เรื่อง – Prepper Shelters 
                     บันทึกเมื่อ 2 ปีก่อน ที่ Personal Shelter
                                   โดย The Elder

ย้อนกลับไปก่อนที่จะเกิดปรากฎการณ์ Death Stranding จะมีบริษัทที่ขายที่พักอาศัยมากมายออกมาโฆษณาสรรพคุณของสินค้าเพื่อแข่งขันกันมากมายทั้ง ป้องกันพายุเฮอริเคน, ป้องกันแผ่นดินไหว, ป้องกันโรคระบาด, ป้องกันภัยจากสงคราม หรืแม้กระทั่ง ป้องกันความหวาดกลัว  อาจมีแบบป้องกันภาวะเศรษฐกิจถดถอย หรือสารพัดการป้องห่าเหวต่างๆนานาเท่าที่คุณสามารถจินตนาการอยากจะได้ แล้วพวกมันจะสร้างที่อยู่อาศัยแบบที่ว่ามาได้จริงๆเหรอ? ก็ทั้งพวกมืออาชีพอย่างพวกช่างทหาร วิศวกรด้านยานอวกาศ หรือพวกสมัครเล่น ต่างก็เร่งออกมาทำงานจากสถานการณ์นี้กันยกใหญ่

แต่ถ้าหากคุณต้องการสร้างที่พักแบบจริงๆจัง ที่จริงแล้วคุณมีแค่สามตัวเลือกที่ต้องสนใจ อย่างแรกคือต้องมีหน่วย American Survival Shelters เพราะพวกเขาเป็นซัพพลายเออร์ฮาร์ดแวร์ทางทหารระดับโลกที่มีวัตถุดิบสำหรับใช้เพื่อสร้างบังเกอร์ใหญ่ของรัฐบาลหรือที่พักอาศัยนิวเคลียร์ได้สบายๆมาแล้ว และพวกเขาก็เริ่มขายที่อยู่อาศัยให้กับผู้บริโภคทั่วไปก่อนจะเกิดปรากฎการณ์ Death Stranding ไม่นาน มันช่างเหมาะเจาะอะไรขนาดนั้น? แต่ถึงยังงั้นก็เถอะ เด็ก ๆ เหล่านั้นคือ Crème de la crème (ครัมเดลาครัม = สุดยอดของสุดยอด) ของจริงเลย

ถัดไปคุณต้องมีประสบการณ์ในความเป็น Preppers ที่สั่งสมมาอย่างยาวนานของคุณ และมันจะเริ่มสั่งสมมากขึ้นไปอีกหลังจากถูกโจมตีด้วยความกลัว เริ่มจากเสริมความแข็งแกร่งด้วยห้องแบบห้องนิรภัยของธนาคาร มันก็ไม่ยากสำหรับพวกมันที่จะบุกเข้ามา พวกเขาจึงเรียนรู้วิธีสร้างเสริมความแข็งแกร่งให้มันเพิ่มเติม

จากนั้น ที่เหลือก็คือคนในประเทศของคุณมีระดับของที่อยู่อาศัยที่มีความปลอดภัยระดับโลกรึเปล่า ทั้งหมดมันอยู่ที่กำลังซื้อของแต่ละคนล้วนๆ ของดีราคาถูกก็มี แต่ก็ขอให้ดีพอให้ได้อยู่ต่อหลังเหตุการณ์ Death Stranding ด้วยนะ แต่ถึงกระนั้น พวกเขาก็ทำสิ่งดีๆเพื่อผู้คนมากมายหลังจากที่สิ่งต่างๆจะฉิบหายไปหมด


                           เรื่อง – Fragile’s Umbrella and Suit  
                         บันทึกเมื่อ 2 ปีก่อน ที่ South knot City 
                                 โดย Fragile Epress Staff 

คุณคิดว่าสิ่งที่ Fragile ถือนั้นเป็นร่มงั้นหรอ? ก็เข้าใจนะว่าทำไมคุณถึงคิดแบบนั้น เพราะคงจะดูจากรูปร่างของมันอย่างเดียว แต่คุณคิดผิด ถ้ามันจะทำให้คุณสบายใจขึ้น ผมเองตอนแรกก็เคยคิดว่ามันเป็นร่มเหมือนกัน อันที่จริงมันเป็นอุปกรณ์นำทางของ Fragile ซึ่งมีหลักการทำงานคล้ายกับระบบการนำทางของเรือหรือเครื่องบิน ผมจะไม่แกล้งทำเป็นเข้าใจทฤษฎีการทำงานของมันหรอกนะ แต่ผมบอกว่าได้ว่ามันเป็นปัจจัยที่มีความหนาแน่นของ chiral ในสามารถใช้ชายหาดเพื่อแปลงพิกัดสำหรับการกระโดดของเธอ

Fragile เธอมีความสามารถพิเศษของ DOOMS แบบที่ทำให้เธอสามารถย้ายจากชายหาดไปยังอีกชายหาดนึงได้  เธอเคยบอกถึงวิธีทำว่า เธอต้องทำให้จิตใจของเธอสงบแล้วปล่อยให้พลังของเธอทำสิ่งที่เหลือเอง บางทีไอ้ที่คล้ายกับหนามแหลมบนชุดของเธอจะโผล่ขึ้นมาเวลาที่เธอ เมื่อรู้สึกถึงความเข้มข้นของ chiralium  และมันจะหดกลับเมื่อความหนาแน่นของ chiral ลดลง ผมก็ไม่แน่ใจเธออาจจะอธิบายเป็นอีกแบบก็ได้ มันเหมือนเป็นปฏิกิริยาที่เกิดขึ้นโดยเธอไม่รู้สึกตัว

แต่ใครจะรู้ ชื่อเรียกและทฤษฎีการเกิดสิ่งเหล่านี้ มันเป็นสิ่งที่เราไม่มีทางที่จะเข้าใจมันได้จริงๆ เช่นเดียวกันกับตัวชี้วัดที่มองเห็นได้แต่ไม่มีตัวตนซึ่งยากเกินกว่าจะอธิบายเป็นนามธรรม ทั้งหมดที่ผมพูดได้ก็คือร่มและหนามแหลมบนชุดของ Fragile ดูเหมือนจะเป็นตัวช่วยให้พลังของเธอกล้าแกร่งขึ้น
ผมพูดจริงๆนะยังไงซะ มันก็เป็นร่ม อย่างน้อยๆมันก็ทำให้ฝน timefall ตกไม่โดนหน้าของเธอ..

----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

                                  อ่านต่อ [PAGE 2]
                   http://decibelperoxide.blogspot.com/2020/01/death-stranding-page-2.html