SNIPER ELITE III : AFRICA

         

                                            บทสรุป SNIPER ELITE III : AFRICA


BY Decibel per - oxide

ในยามที่สงครามโลกครั้งที่ 2 กำลังเริ่มร้อนระอุ แผ่นดินยุโรปถูกบดขยี้ภายใต้ท็อปบู๊ทของกองทหารฝ่ายอักษะ (เยอรมัน, ญี่ปุ่น , อิตาลี ) ที่สุดแข็งแกร่งจนทำให้ฝ่ายสัมพันธมิตร ( อังกฤษ ฝรั่งเศส และรัสเซีย ) ต้องล่าถอย อีกทั้งเส้นทางลำเลียงเสบียง อาวุธยุทโธปกรณ์ก็ถูกตัดขาด จนเหลือเพียงส้นทางลำเลียงผ่านเมือง Suez ของประเทศอียิปต์เป็นเส้นทางสำคัญที่เป็นทางเลือกสุดท้ายสำหรับใช้ติดต่อให้ฝ่ายอังกฤษส่งน้ำมันเพื่อสนับสนุนการรบ จึงทำให้เกิดสงครามประทุขึ้นที่ตอนเหนือของทวีปแอฟริกาอย่างดุเดือด ที่ทั้งฝ่ายอังกฤษและฝ่ายอักษะต่างก็พยายามที่จะบุกเข้าสู่พรหมแดนอียิปต์ให้ได้เพื่อชิงความได้เปรียบในการรบ แนวหน้าของแต่ละฝ่ายเข้าประทะกันท่ามกลางความร้อนระอุในทะเลทรายซาฮาร่าไปจนถึงชายฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียน โหดเหี้ยมและบ้าคลั่ง เสมือนเป็นกลไกในการขับเคลื่อนเพื่ออย่างก้าวเข้าสู่ยุคแห่งสงครามอย่างแท้จริง 

     

วันที่ 18 พฤศจิกายน ค.ศ. 1941 กองทัพที่ 8 ของอังกฤษภายใต้ยังคับบัญชาของนายพล เซอร์ เอแลน คันนิงแฮม กำลังเข้าโจมตีกองทัพรถถังของนายพล รอมเมล อย่างรุนแรง แม้ว่ากองทัพของนายพล คันนิงแฮม จะมีจำนวนรถังและเครื่องบินรบมากกว่าของนายพล รอมเมล มากมาย แต่กองรถถังของรอมเมลทำการรบอย่างเชี่ยวชาญกว่าจึง ทำให้การบุกของอังกฤษไม่เกิดผล ทำให้ศึกครั้งนี้ยืดเยื้อมาตลอด

วันที่14 มิถุนายน ค.ศ. 1942 กองทัพรถถังของอังกฤษตัดสินใจเริ่มถอนตัวออกจากแนวกาลาซามุ่งหน้าไปยังชายแดนอียิปต์ ทิ้งทหาร 33,000 คนพร้อมกับอาวุธยุทโธปกรณ์จำนวนมหาศาลไว้ที่เมือง Tobruk ประเทศ ลิเบีย 

วันที่ 21 มิถุนายน ค.ศ 1942 นายพล รอมเมล ยกทัพติดตามอังกฤษมาถึงเมือง Tobruk  กองทหารอังกฤษที่นั่นถูกกองทัพรอมเมลกระหน่ำโจมตีถล่มเมืองแบบหมายจะถอนรากถอนโคน

ผม Karl Fairbume เข้าร่วมสงครามในนามแห่งกองทัพสหรัฐตั้งแต่ ธันวาคม ปี 1941 สำหรับผมตั้งแต่วันนั้น สงครามของผมไม่เคนจบลงเลย ผมเดินทางมาที่เมือง Tobruk ลิเบียพร้อมกับกองทหารกองหนุน เพื่อรับช่วงแทนเหล่าทหารหนุ่มไร้ประสบการ์ณที่ด่วนตายก่อนวัยอันควร หรือ อีกนัยนึงก็ในฐานะ เจ้าหน้าที่พิเศษด้านยุทธการทหารของกองทัพสหรัฐ (OOS) เพื่อแทรกซึมในปฏิบัติการ์ณลับ Oparation Crusader เป้าหมายคือตามหาและทำลายอาวุธลับที่ทรงอณุภาพของฝ่ายอักษะที่ซ่อนอยู่ที่ใดที่หนึ่งในตอนเหนือของแอฟริกา แต่ท่ามกลางสถานะการ์ณที่กองทัพของศัตรูกำลังจะบุกทะลวงมาถึง Tobruk เมืองที่ผมอยู่ ทหารสามหมื่นห้าพันนายที่นี่ได้รับคำสั่งให้ปฏิบัติเฉกเช่นกันนั่นคือ ตั้งรับอยู่ที่เมือง Tobruk เอาไว้ให้มั่น ..รวมถึงตัวผมด้วย 

Siege of Tobruk 

สมรภูมิแอฟริกาเหนือ ในแนวรบด้านทะเลทรายตะวันตกของอียิปต์ ....
เสียงกระทึกครึกโครมของจำนวนห่ากระสุนที่ถาโถมเข้ามาทำให้ในเมืองที่เป็นที่ตั้งมั่นของกองทหารฝ่ายพันธมิตรที่กำลังระส่ำ Karl นั่งประกอบปืนคู่กายอย่างใจเย็นท่ามกลางฝุ่นผงของแรงสั่นสะเทือนรอบตัว พลทหารคนนึงวิ่งตรงมาที่ห้องของเขาและร้องตะโกนว่า "พลแม่นปืน พวกเราต้องการพลแม่นปืนที่กำแพงเมืองด่วน ! " มันช่างพอเหมาะพอดีกับที่ฟันเฟืองกระเดื่องไกปืนตัวสุดท้ายในปืนของ Karl ถูกประกอบจนเสร็จสมบรูณ์ ซึ่งนั่นก็แปลว่า สุดยอดนักแม่นปืนคนนี้กับปืน M1 GARAND ของเขาพร้อมแล้วที่จะสนองตอบการร้องขอ  

- เดินออกจากห้องไปที่เป้าหมายรูปดาวในแผนที่มาที่บังเกอร์หน้าห้องพัก เริ่มเรียนรู้การใช้ไรเฟิ่ลคู่กายพิฆาตศัตรู
ศัตรูตัวแรกเบิกกล้อง ตรงหน้า ระยะ 52 เมตรเตรียมตัวตาย !

LT ค้างเพื่อตั้งกล้องเล็งปืน
RB Focus Time พร้อมเล็ง ที่ต้องมีการกลั้นหายใจเพื่อลดการสั่นของปืนตามเกทลมหายใจสีฟ้า โดยระยะหวังผลการเต้นของชีพขจรต้องต่ำกว่า 80 bpm ไม่ั่งั้นจะไม่สามารถยิงได้ (แสดงเอาไว้ที่ซ้ายล่างของจอ)
ปุ่มทิศทางขึ้น - ลงในการซูมเข้า - ออก
สังเกตเป้าเล็งที่เป็นกรอบข้าวหลามตัดต้องเป็นสีแดงถึงจะตรงเป้าหมาย ถ้าเป็นสีเทาจะข้ามเป้าหมายไปทันที
ศัตรูเข้าเป้าพร้อมแล้วก็กด RT ยิงได้เลย ถ้าเล็งยิงแบบเข้าเป้าเป๊ะๆ ก็จะมีฉาก X - Ray Killcam ที่แสนสะใจทันทีขึ้นมาให้เห็นเป็นรางวัลแห่งความเนียนทันที

-ศัตรูตัวต่อไป ฝั่งซ้าย ระยะ 80 เมตรเตรียมตัวตาย !
-มุ่งไปที่จุดดาวที่กำบังจุดต่อไปจัดการเป้าหมาย ทหารสังเกตการณ์บนยอดเขา

- จากนั้นรถปืนกลของศัตรูจะเริ่มเข้าพื้นที่แล้วเปิดฉากยิงถล่ม หลบไปที่บังเกอร์ด้านขวาแล้วจัดการทำลายรถของมันซะโดยสามารถยิงทำลายรถได้ 2 จุดคือ ที่ถังน้ำมันข้างตัวรถและที่เครื่องยนต์หน้ารถ กดแกนอนาลิอกขวา เพื่อใช้กล้องส่องทางไกลมอง กด RT เพื่อตรวจสอบและชี้เป้าหมาย รถปืนกลศัตรูเป้าหมายระยะ 118 เมตร ยิงทำลายถึงน้ำมันหรือเครื่องรถของมันซะ
- จากนั้น Karl จะโดนยิงถล่มด้วยระเบิดของศัตรูจากบนเขา ถึงแม้รอดมาได้ก็ต้องหูอื้อไปพักใหญ่ เรียนรู้ระบบรักษาอาการบาดเจ็บด้วยการกด LB เข้าเมนูไอเทมแล้วใช้อนาล็อกขวาเลือกไอเทม Medkit แล้วกดใช้ไอเทมและอาวุธเสริมต่างๆด้วยปุ่ม RB
- เป้าหมายต่อไปคือขึ้นไปทำลายปืนใหญ่ที่อยู่บนเขาก่อนที่มันจะโจมตีมาอีก มองไปด้านซ้ายจะมีเนินเขาให้ปีนขึ้นไปด้านบนจนถึงบังเกอร์ของทหารเยอรมัน

** เรียนรู้ระบบ Close Quarter Takedown การลอบฆ่าด้วยการกดสามเหลี่ยมจากด้านหลังศัตรูและสามารถค้นไอเทม กระสุนจากศัตรูได้ด้วยการกดปุ่ม X ค้างตอนมันตายได้ด้วย และที่ไม่ควรลืมคือ ในสถานการณ์ที่มีศัตรูพลุกพล่านก็อย่าลืมยกศพไปซ่อนด้วย **

- จัดการทหารศัตรูในบังเกอรบนเขาให้หมด โดยสามารถทำได้ทั้งใช้ปืนสั้นเก็บเสียงยิงหัวพวกมัน ซึ่งก็ต้องระวังพวกทหารที่สวมหมวกเหล็กด้วยเพราะถึงมันจะตายแต่ก็จะทำให้เกิดเสียงจนศัตรูที่อยู่ใกล้ๆรู้ตัวได้ด้วย ซึ่งสามารถเทคนิค Sound - Masked ใช้เสียงที่เกิดขึ้นจากสิ่งต่างๆลอบๆตัวในการกลบเสียงการโจมตีของเราได้ด้วย โดยดูจากสัญลักษณ์ความดังของเสียงที่กลางจอด้านบน หรือ การลอบฆ่า

 ซึ่งการลอบท่ามกลางศัตรูมากมายก็ต้องใช้วิธีสังเกตการเคลื่อนไหวและพฤติกรรมที่มันมีต่อเราซึ่งเป็นเป้าหมายด้วย
โดยถ้ามันเริ่มมีวงกลมสีเหลืองขึ้นมาครึ่งวง แสดงว่า ศัตรูเริ่มสังเกตเห็นสิ่งผิดปกติ
วงกลมสีเหลืองขึ้นมาเต็มวง แสดงว่า ศัตรูเริ่มสนใจและสงสัย
วงกลมที่มีขอบสีแดง แสดงว่า ศัตรูเริ่มเข้ามาตรวจสอบ
วงกลมสีแดงเต็ม แสดงว่า ศัตรูเห็นแล้วและมันจะเริ่มโจมตีทันที

** ซึ่งการฆ่าด้วยมือเปล่าและอาวุธหรือเทคนิคต่างๆในการฆ่าศัตรูนั้นจะทำให้ได้ค่า XP หลังการฆ่ามากน้อยแตกต่างกันด้วย ไม่ว่าจะเป็นการเลือกใช้อาวุธ การฆ่าแบบสุ่มเงียบ การลอบฆ่าโดยใช้เสียงรอบข้างกลบ การยิง Head Shot หรือ การใช้ Welrod ก้อนหินขว้างเพื่อล่อศัตรูมาในตำแหน่งที่สามารถฆ่าได้อย่างถนัด ซึ่งเทคนิคการฆ่าเหล่านี้นำมาซึ่งโบนัทมากมายในการเพิ่มค่า XP  ซึ่งระดับเลเวลของเกมนี้จะเรียกว่า Promoted หรือ การเลื่อนยศนั่นเอง ซึ่งถึงแม้ Karl จะเข้ามาปฏิบัติภาระกิจลับในฐานะเจ้าหน้าที่พิเศษของ OOS แต่ก็เริ่มเติบโตจากยศพลทหารเหมือนทหารทั่วไปเช่นกัน โดยการเลื่อนยศแต่ละครั้งก็จะทำให้อาวุธใหม่ๆและสถาณะภาพทางการรบที่ขึ้นนั่นเอง **

- จัดการฆ่าทหารเยอรมันที่คุมจุดปืนใหญ่ให้หมดทั้ง 4 จุดให้หมด แล้วออกไปที่โพรงที่ถูกระเบิดเปิดทางออกต่อ Karl ก็ต้องรีบหาที่หลบเพราะกองทัพของเยอรมันที่มีทั้งรถถังและฝูงบินมากมายกำลังบุกเข้ามาจนยากที่เขาจะต้านทาน ซึ่งก็ยังดีที่เขาสามารถฉวยโอกาสหนีออกจากเมืองได้ทัน

21 มิถุนายน ค.ศ 1942 กองทหารอังกฤษที่ตรึงดำลังอยู่ทีเมือง Tobruk  ถูกกองทัพของนายพล รอมเมล บุกถล่มจนพ่ายแพ้ยับเยินในที่สุด การสูญเสียป้อมปืนที่ Tobruk ครั้งนี้เป็นการสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ของอังกฤษ ทหารเยอรมันยึดรถถังที่เหลือจากการถอยหนีของกองทัพที่ 8 ของอังกฤษที่ Tobruk ได้เกือบหมดสิ้น ในขณะที่กองทหารอังกฤษที่แตกพ่ายก็มุ่งหน้ามายังที่เมือง เมอร์ซา ต่อ ..

** LOADOUT **************************************************************




ระหว่างฉากสามารถเลือกอาวุธหลักอาวุธรองและไอเทมต่างๆ ได้ด้วย ซึ่งสามารถเซ็ทไว้เป็นชุดๆในการสะดวกเวลาเลือกใช้ได้ด้วย โดยอาวุธและอุปกรณ์ต่างๆก็สามารถปลดล็อกได้จากการเลื่อนยศนั่นเอง นอกจากนั้นยังสามารถปรับแต่งปืนไรเฟิ่ลคู่กายได้อีกด้วย โดยสามารถได้ชิ้นส่วนต่างๆจากการเลื่อนยศหรือหาเก็บได้จากศพของศัตรูที่ฆ่าไปก็ได้ **





** Optional objective ** 
[ภารกิจเสริมที่สามารถทำเพื่อเพิ่ม XP หลังจบภารกิจ ซึ่งจะแสดงให้เห็นเป็นรูปเข็มทิศในฉากต่อเมื่อเข้าไปใกล้จุดทำภารกิจแล้ว ] ***
- ฆ่าศัตรู 8 คนด้วยการลอบฆ่าแบบ Stealth Takedown 



หน้าที่หลักที่เป็นหัวใจสำคัญของนักแม่นปืนก็คือ 




1. สังหารเป้าหมายโดยไม่ให้รู้ตัว ซึ่งในเกมนี้สามารถได้โดยใช้เทคนิค Sound - Masked ใช้เสียงที่เกิดขึ้นจากสิ่งต่างๆลอบๆตัวในการกลบเสียงการโจมตีของเรา โดยดูจากสัญลักษณ์ความดังของเสียงที่กลางจอด้านบน รอให้เสียงดังแล้วยิงสังหารศัตรูพร้อมๆกับเสียง ศัตรูหน้าไหนก็ไม่สามารถล่วงรู้ได้เลยว่าพวกมันกำลังตายไปที่ละคนเหมือนใบไม้ร่วง 




2. สร้างความวุ่นวาย ปั่นป่วน ศัตรูเพื่อผ่านทางหรือสังหาร สไนเปอร์ที่ดีไม่จำเป็นต้องจัดการศัตรูแบบซุ่มเงียบเสมอไป บางครั้งก็สามารถจัดการศัตรูแล้งใช้ความคล่องแคล่วหลบหนีเพื่อลอบโจมตีสลับที่ไปมาเพื่อสร้างความวุ่นวายปั่นป่วนได้ด้วย  ซึ่งในกรณีที่ไม่มีเสียงช่วยเราก็สามารถสังหารศัตรูได้แต่ต้องใช้ไหวพริบกันหน่อย ซึ่งก่อนอื่นต้องเข้าใจก่อนว่า
-  เมื่อเราลั่นกระสุนนัดแรกออกไปสังหารศัตรู ศัตรูที่อยู่รอบๆก็จะรู้ตัวทันที พวกมันจะอยู่ในสภาวะสงสัย (มีวงกลมเหลืองขึ้นที่หัว) แต่พวกมันยังไม่รู้ตำแหน่งของเรา ซึ่งตราบใดที่เราไม่ออกจากที่ซ่อนตัวก็ยังถือว่าปลอดภัย 
- ทันทีที่ลั่นกระสุนนัดที่ 2 ศัตรูจะเริ่มรู้ตำแหน่งเราทันที ซึ่งมันจะเริ่มออกค้าหาโดยจะมุ่งหน้ามาที่จุดที่เราอยู่ล่าสุดโดยจะแสดงเป็นเงาสีขาวเอาไว้ เราสามารถใช้เทคนิค Relocation bar ด้วยการหลีบย้ายตำแหน่งโดยด่วน ซึ่งจะสามารถลอบจัดการศัตรูที่กำลังเข้ามาได้ด้วย แต่ถ้าเราหนีออกจากตำแหน่งเดิมจนไกลพอ การย้ายที่ซ่อนตัว( Relocation) ก็จะสำเร็จ เราจะอยู่ในสถานะ Ghost หรือ ผีที่หายตัวจนศัตรูหาตัวไม่เจอนั่นเอง และเมื่อรอจนเหตุการณ์สงบก็สามารถดำเนินตามแผนที่วางเอาไว้ต่อได้ 

อะไรบ้างที่สำคัญในฉากที่ไม่ควรลืมที่จะทำ
- แน่นอนการเพิ่มระดับเลเวลหรือยศจากการยิงในแบบใช้เทคนิคต่างๆให้ครบครันและต่อเนื่อง ทั้ง การยิงโดยใช้เสียงกลบ การยิง Head Shot การยิงทะลุปอดทะลุหัวใจ การใช้เทคนิคแบบเปลี่ยนที่หลบซ่อน และอีกหลายๆอย่างที่สามารถเป็นคะแนนเสริมให้หลังจบภารกิจทั้งสิ้น เพราะถ้าคิดแต่จะลอบฆ่าแบบระยะประชิดแบบเดียวคุณไม่มีทางเจริญเติมโตในงานนี้แน่ๆ 
- ค้นหาภารกิจเสริม Optional Objective ที่มีให้ในแต่ละฉากให้ครบเพื่อคะแนนเสริมหลังจบภารกิจ 
- ค้นหาและใช้จุดซุ่มสิง ( Sniper Nest ) ที่มีอยู่ในแต่ละฉากให้หมดทุกจุด จะมีคะแนนเสริมให้

-เก็บของสะสมต่างๆที่เกมมี เอกสาร ไพ่ การ์ดต่างๆ จะมีคะแนนสะสมให้หลังจบภารกิจ

************************************************************************

หลังกองทัพเยอรมันยึด Tobruk ได้สำเร็จท่านผู้นำ Adolf Hitler ก็ส่งนายพล Franz Vahlen ที่มีชื่อเสียงด้านความเหี้ยมโหดในทุกสมรภูมิที่มันเหยียบย่างเดินหน้านำทัพต่อ ผมไม่รอช้าที่จะติดตามกองทหารเยอรมันมาจนถึงที่  Gaberoun Oasis เพื่อหาข้อมูลของอาวุธลับของพวกมัน แน่นอนว่าถ้าถึงระดับนายพล  Vahlen  ออกโลงเองมันต้องมีอะไรซักอย่างแน่นอน หรือถ้ามันไม่ได้อยู่ที่แค้มป์นี้ก็อาจจะหาข้อมูลอะไรดีๆจากลูกน้องมันได้บ้างก็ได้  แต่ถ้าโชคดีถ้ามันอยู่ที่ Oasis แห่งนี้ด้วยล่ะก็ ที่นี่จะเป็นที่ฝังศพของมันด้วยแน่นอน 

GABEROUN 

- Carl เดินทางมาถึงแค้มป์ทหารเยอรมันที่ Gaberoun Oasis  เมื่อลอบเข้ามาแล้วที่จุดซุ่มยิงแรก จัดการทหารที่เฝ้าอยู่แล้วใช้กล้องตรวจสอบ เพื่อชี้เป้าหมายที่ทหารที่เดินอยู่ด้านล่างเอาไว้ให้หมดก่อน แล้วจากนั้นก็จัดการสอยพวกมันตามฝีมือที่มีให้หมด ด้วยยุทธวิธีใช้เสียงกลบ ด้วยเข้าไปกด A หรือยิงที่เครื่องยนต์ที่อยู่มากมายแถวๆนี้เป็นตัวช่วย

** เรียนรู้ระบบของเกท Relocation bar ซึ่งก็คือทุกครั้งที่ทำการยิงศัตรูจะเกิดเสียงปืนขึ้น จะทำให้ศัตรูอื่นๆหันมาสนใจตำแหน่งที่เป็นที่มาของเสียงได้ ซึ่งแน่นอนว่ามันจะเดินมาตรวจเช็คต้องจุดที่เรายิงนั่นเอง โดยเกทวงกลมจะเริ่มเป็นสีเหลืองเมื่อมันเข้ามาตรวจสอบ ซึ่งเราหลบไปที่อื่นก่อนพวกมันเข้ามาพบ เกทก็จะกลับเป็นสีขาว แต่ถ้ามันเข้ามาเห็นแน่นอนว่า เกทสีแดง ก็ต้องเกิดการยิงต่อสู้แน่นอน **

- โดยเป้าหมายที่ต้องฆ่าคือหัวหน้าทหารที่อยู่ในเต็นท์กลางพื้นที่ ซึ่งไม่ว่าจะยิงจากระยะไกลหรือลอบเข้าไปฆ่าเป้าหมายคือค้นหาข้อมูลจากตัวมันหลังจัดการมันแล้วนั่นเอง Karl จะพบจดหมายคำสั่งจาก Captain Salvatore ซึ่งจะระบุตำแหน่งของเจ้าหน้าที่ทหารที่เก็บไพล์ข้อมูลที่อยู่ในพื้นที่นี้ ซึ่งจะมีอยู่ทั้งหมด 3 คน
- จากนั้นสัญลักษณ์รูปดาวที่ขึ้นมาคือเป้าหมายที่ต้องลอบเข้าไปจัดการเอาข้อมูลมาจากมัน ซึ่งทั้ง 3 คนจะได้ไฟล์ข้อมูล
Recruitment Drive , Vahlen Project และ Threat Assessment เมื่อจัดการสังหารจนได้ข้อมูลมาครบแล้ว เป้าหมายสุดท้ายจะนั่งรถเข้ามาในค่าย ก่อนเข้าไปแวะไปทำ Optional Objective ทางฝั่งบนขวาของบึงก่อน โดยต้องยิงทำลายวาว์ลของแท็งก์น้ำมันที่จุดเติมน้ำมันเพื่อทำลายรถบรรทุกที่จอดไว้ตรงนั้นให้หมด 5 คัน แล้วค่อย ลอบเข้าไปที่เป้าหมายซึ่งมันจะอยู่ซากตึกด้านในสุดของค่ายเลย แถมมีทหารล้อมรอบอีกหลายคนด้วย ตรงฝั่งซ้ายของตึกมีซากอาคารที่มีเครื่องปั่นไฟที่ส่งเสียงได้อยู่่ ใช้มันกลบเสียงปืนจัดการทหารรอบๆอาคารให้หมดได้สบาย ค่อยหาจังหวะลอบจัดการไปที่ละคนจนถึงตัวนายทหารเป้าหมายที่ด้านในตึก จัดการมันแล้วเข้าไปค้นตัวมันซึ่งก็จะได้ไฟล์ข้อมูล Report for Reassignment มา

- เมื่อได้ข้อมูลสุดท้ายมาแล้ว นายพลที่ดูแลที่ค่ายนี้ก็จะนั่งรถออกจากพื้นที่ โดยจะต้องรีบเข้าไปสังหารมันให้ทันก่อนมันหนีไป แต่ไม่ต้องรีบเพราะเส้นทางหนีของมันก็คือนั่งรถผ่านออกมาที่ค่ายนี้ ที่ต้องทำก็คือรีบเคลียร์ทหารแถวนี้ให้หมดแล้วขึ้นไปสุ่มที่บนหอคอยหน้าซากตึกรอให้มันขับรถผ่านมาก็สุ่มยิงมันได้เลย แต่ถ้าคิดว่าไม่แม่นพอก็ให้ใช้กับระเบิด Land Mine วางไว้ที่กลางถนนดักเอาไว้แล้วรอมันขับรถมาทับจนระเบิดตายเองก็ย่อมได้

แล้วรางวัลจากการที่ต้องลอบเข้ามาในดงของทหารเยอรมันเพื่อขุดคุ้ยหาข้อมูลจากศพที่เน่าเหม็นของมันคืออะไรกันล่ะ ก็แค่ 2 คำ .. Project Seuche !

** Optional objective ****
 - ใช้จุดสุ่มยิง(Sniper nest ) จัดการศัตรู
- ทำลายไฟ Spotlight บนหอคอย   
- ทำลายจุดแท็งก์น้ำมันรถบรรทุก จัดการทำลายรถบรรทุกเป้าหมาย 5 คัน.ให้หมด

" Project Seuche " นั่นคือข้อมูลที่ผมได้จาก Gaberoun Oasis ชื่อภารกิจลับสุดยอดที่ นายพล Franz Vahlen ได้รับมอบหมายให้มาทำในแอฟริกา แน่นอนว่าผมต้องหาคำตอบจากคำถามมากมายที่ยังคลุมเครือของเรื่องนี้ให้ได้ ภารกิจที่ผมได้รับมอบหมายมาคือ หาคำตอบจากทุกสิ่งที่ผู้บังคับบัญชาสมควรต้องรู้จากศัตรู แต่ตอนนี้มันกลับเต็มไปด้วยความว่างเปล่า ซึ่งปัญหาคือ นายพล  Vahlen ยังคงหมกตัวเงียบอยู่ในค่ายเชลยศึกทางเหนือ เส้นทางเดียวที่จะไปที่นั่นคือ เส้นทาง Halfaya ซึ่งผมคงต้องเดินทางผ่านทะเลทรายอีกไกลโขอยู่ และตามทางก็เต็มไปด้วยทหารเยอรมันที่รออยู่พร้อมอาวุธหนักครบมือ ผมและกองทหารที่ยังเหลืออยู่คงรับมือกับอาวุธหนักแบบนั้นทั้งหมดไม่ไหวแน่ แต่ก็อาจจัดการกับปืนต่อสู้อากาศยานของมันได้ เพื่อช่วยให้หน่วย LRDGทะลวงผ่านมันไปได้ แต่เส้นทางที่จะเข้าไปนั้นพวกเยอรมันคุ้มกันอย่างแน่นหนาในพื้นที่ที่โล่งและแคบซึ่งมันแทบจะทำให้ศัตรูเห็นตั้งแต่เข้าไปเลยด้วยซ้ำ งานนี้แต้มในมือผมมีไม่มากนักแต่ที่ต้องการก็แค่เข้าไวออกไว และ ภาวนาอย่าพวกเยอรมันมันสรรสร้างให้ช่องทาง Halfaya pass กลายเป็นช่องทางนรกแตกเอาไว้ก็เป็นพอ ...

HALFAYA PASS 

Carl ติดรถขบวนทัพของทหารอังกฤษที่เหลือเดินทางมาถึงเส้นทางช่องเขา Halfaya pass เป้าหมายคือลอบทำลายป้อมปืนต่อสู้อากาศยานให้หมด

- เข้ามาด้านในช่องเขาจะเริ่มพบเป้าหมายรูปดาว 3 จุดขึ้นมาซึ่งก็คือจุดป้อมปืนที่ต้องไปทำลาย แผนที่ค่อนข้างกว่าพยายามดูแผนที่ประกอบด้วย แถมงานนี้เข้าพื้นที่ศัตรูแบบโล่งแจ้งจึงต้องพยายามใช้เทคนิคการยิงแบบใช้เสียงปืนใหญ่กลบจะดีที่สุด ซึ่งในพื้นแรกที่เข้ามามองหาจุดซุ่ม Sniper nest ทางขวาของช่องเขาแล้วใช้เป็นที่ซุ่มยิงจะง่ายกว่า ที่จุดป้อมปืนจุดแรกทางซ้ายมีทหารคุ้มกันอยู่ถึง 4 นายแต่ก็พอจะมีวิธีจัดการพวกมันอยู่

- รอจังหวะแล้วยิงจุดยิงระเบิดใกล้ๆที่สามารถให้จัดการสังหารเป็นกลุ่มได้
- ใช้การยิงด้วยการใช้เสียงกลบก็ได้แต่ต้องเร็วและเนียนหน่อย
- ส่วนวิธีที่ดีที่สุดคือ ลอบลงไปใต้บังเกอร์ของป้อมปืนทางอาคารข้างๆแล้วขว้างระเบิดใส่ถังน้ำมันที่วางอยู่ใต้แท่นปืนจนระเบิดทำลายทั้งป้อมปืนและทหารทั้งหมดได้เลย
- ป้อมปืนเป้าหมายต่อไปที่อยู่ฝั่งซ้ายบนของแผนที่ ซึ่งการเดินทางต้องอาศัยความใจเย็นเพราะมันค่อนข้างไกลและมีศัตรูไม่น้อยที่อยู่ระหว่างทางที่ต้องจัดการ แต่ก็ไม่ยากเกินความสามารถ สไนเปอร์มือฉมังแน่นอน ทันทีที่ผ่านช่องเขากลางแผนที่ไม่ว่าคุณจะผ่านฝั่งซ้ายหรือขวาก็จะพบหอคอยอยู่กลางพื้นที่ ด้านบนจะเป็นจุด Sniper nest  ซึ่งเป็นจุดซุ่มยิงไกลที่เมื่อมองไปทางฝั่งขวาที่จุดดาวก็จะเห็นไปที่ป้อมปืนฝั่งซ้ายบนอยู่ไกลๆได้ เล็งยิงจนเห็นจุดแดงขึ้นที่ถังน้ำมันด้านซ้ายของช่องในถ้ำ (เล็กมากมองดีๆแต่ยิงโดนแน่) ก็เป็นอันใช้ได้ ระยะ 337 เมตร

ลั่นไกได้เลย ! ระเบิดป้อมปืนเป้าหมายที่ 2 อย่างราบคาบจากนั้นอย่าเพิ่งลง ส่องไปทาด้านขวาใกล้ๆจะมีจุด Optional Objective Sabotage Motor pool อยู่

เล็งยิงไปที่หัวท่อจ่ายน้ำมันเพื่อยิงระเบิดแท็งก์น้ำมันซึ่งจะทำให้รถถังแถวๆนั้นถูกระเบิดทำลายไปจนหมดด้วย และยังสบโอกาสได้ส่องจัดการทหารที่กำลังวุ่นวายอยู่ข้างล่างจนหมดได้อีกหลายคนด้วย ลงมาจากหอคอยลอบเข้าไปที่บ้านหลังขวาล่างใกล้ๆ ลงไปชั้นล่างจะพบจุด Optional Objective Disrupt Communications จัดการสับคัทเอาท์ตัดระบบสื่อสารของศัตรูซะด้วย


  

- ก่อนไปป้อมปืนที่ 3 ให้เข้าไปเก็บเอกสารบนดาดฟ้าของตึกกลางพื้นที่ก่อน เพื่อให้ได้ตำแหน่งของนายพลเป้าหมายในภารกิจย่อย Located and Kill General Hoesslein มาก่อน 

   

     

จากนั้นมุ่งไปที่ป้อมปืนเป้าหมายที่ 3 ลอบไปตามเนินเข้าทางขวาจนเห็นเป้าหมายป้อมปืนอยู่ในถ้ำฝั่งซ้าย จัดการศัตรูแถวนั้นให้หมดแล้วเข้าไปที่หอคอยฝั่งขวาสุดของเนินเขาจะเป็นจุดส่องยิงไปที่ถังน้ำมันด้านขวาของป้อมปืนจะทำให้มันระเบิดจนถ้ำถล่มลงมาทับป้อมปืนและทหารทั้งหมดได้  (แต่ถ้าจะเก็บ Optional Objective ก็ต้องยิงจัดการ นายพล  Hoesslein ที่เดินอยู่แถวๆป้อมปืนก่อนด้วย)  

- เมื่อทำลายป้อมปืนจนหมดก็ย้อนกลับไปที่ทางออก แต่ระหว่างทางจะเจอรถถังของศัตรูเข้ามาในพื้นที่ด้วย วิ่งย้อนกลับมาที่รถถังเข้ามา จากนั้นก็หาทางทำลายมันด้วยวิธีที่คุณถนัดได้เลย ไม่ว่าจะใช้กล้องมาหาจุดอ่อนของมันแล้วยิงทำลายซะ จะใช้กับระเบิดกับ M24 Grenade ก็ได้แต่อาจต้องใช้หลายอันหน่อย หรืออาจจะใช้การย่องเข้าไปด้านหลังของมันแล้วใช้ Dynamite + หินไฟ Flint and Steel ทำให้มันเป็นระเบิดเวลาทำลายมันก็ได้ ทำลายมันได้แล้วกลับมาที่ทางเข้าอีกครั้ง Carl ก็จะส่งสัญญาณให้หน่วย LRDG ผ่านพื้นที่ไปได้

** Optional Objective ***
Objective Sabotage Motor pool ยิงระเบิดแท็งก์น้ำมันทำลายจุดเติมน้ำมันรถถัง
Disrupt Communications ตัดระบบสื่อสารของศัตรู
Located and Kill General Hoesslein ตามหาและสังหารนายพล  Hoesslein 

" ผมมุ่งหน้าต่อไปที่ป้อม Rifugio ชื่อของมันตั้งมาจากการที่มันเป็นที่คุมขังเชลยศึกคนสำคัญของพวกนาซี เป้าหมายของผมคือสายข่าวของฝ่ายเราที่ถูกจับอยู่ที่นั่น ตอนนี้เขาแทบจะเป็นความหวังเดียวที่จะพาเราเข้าถึงตัว นายพล Vahlen ได้ ซึ่งก็หวังไว้ว่าเขาคงไม่ตายก่อนที่ผมจะเข้าไปถึง เขาถูกจับมาตั้งแต่ปี 41 ตอนที่ฝ่ายพันธมิตรส่งเขาไปทำภารกิจ Operation Compass ..ผมมีแผนที่แสนเรียบง่าย ก็คือ หาทางเข้าไปที่ป้อมของศัตรูที่ถูกเรียกว่ากำแพงนรกนาซีที่ยังไม่เคยมีกองทัพไหนเคยผ่านไปถึงมันลงได้ พวกลุยเดี่ยวอย่างผมก็คงต้องใช้แผนเดียวคือ ความเงียบ ท่ามกลางฝูงทหารเยอรมัน ที่แม้จะอยากงัดไรเฟิลคู่ใจมาจัดการมันก็เหมือนกับการฆ่าตัวตายชัดๆ กำลังเสริมน่ะหรอ ที่ตามมาก็น้อยเกินจะต้านทานพวกเยอรมันที่ป้อมนี้ได้ ที่พึ่งเดียวของผมมีแค่อย่างเดียวคือ พายุ ที่กำลังจะเข้ามาใกล้นี้ต่างหาก " 

FORT RIFUGIO


      

- เมื่อเข้ามาถึงหน้าป้อมแล้วจะพบว่าเป็นที่กว้างและค่อนข้างไกลแถมมีทหารศัตรูคุ้มกันอยู่มากมายด้วย ที่นี่สามารถใช้เสียงฟ้าร้องของพายุและเครื่องยนต์ตามจุดต่างๆเป็นตัวช่วยในการจัดการศัตรู เป้าหมายคือ เข้าไปที่ด้านในป้อมใหญ่ตรงหน้า ซึ่งจะสามารถเข้าไปทั้งทางซ้ายและขวา โดยจะมี  Optional Objective Disable the Searchlight tower ให้ทำลายไฟสปอท์ไลท์ที่หอคอยด้านหน้าทั้ง  2 จุด ที่ทางเข้าป้อมด้วย แนะนำให้ลอบเข้าป้อมทางด้านฝั่งซ้ายจะสะดวกกว่า (แต่ก็อย่าลืมเข้าไปปลดล็อค Sniper Nest ทางฝั่งขวาด้วยก็ดี )

- เมื่อเข้ามาที่ป้อมได้แล้วป้าหมายคือทางขึ้นหอคอยด้านขวาบนของแผนที่ ลอบขึ้นมาจนถึงด้านบนก็จะพบห้องขังของ Braver สายข่าวของเรา โขคดีคือเขายังไม่ตาย แต่โชคร้ายคือ  นายพล Vahlen ไม่ได้อยู่ที่นี่ คนคุมป้อมนี้คือทหารของ นายพล Vahlen และมันมีกุญแจที่ใช้ไขประตูคุกได้ ซึ่ง Carl จะต้องไปเอามาไขช่วย Braver ออกมา เป้าหมายคือห้องทางซ้ายล่างของป้อม ลอบย้อนกลับไปแล้วขึ้นไปที่ห้องชั้น 2 ก็จะพบหัวหน้าทหารจัดการมันแล้วค้นตัวเอากุญแจคุกจากศพมันมา แล้วย้อนกลับไปช่วยสายข่าวออกมาจากคุก
- จากนั้นต้องออกมาเคลียร์ลานหน้าป้อมด้านในเพื่อให้ Braver ที่บาดเจ็บหนีออกมา โดยต้องจัดการศัตรูด้านหน้าป้อมให้หมด แล้วเข้าไปที่ทางขึ้นหอคอยปีนขึ้นมาด้านบนกำแพงป้อม Braver จะหนีออกมาจนถึงที่สนามหน้าป้อม จากนี้ก็ต้องโชว์ฝีมือนักแม่นปืนของคุณจัดการทหารที่เข้ามาล้อมจากทุกทางเพื่อคุมกัน Braver จนเขาหนีไปที่ทางออกอย่างปลอดภัยให้ได้ เร็ว แม่น คือทางเดียวที่จบภารกิจนี้ได้
** Optional Objective ***
- Disable the Searchlight tower ทำลายไฟสปอท์ไลท์ที่หอคอยด้านหน้าทั้ง  2 จุด 
- Assassinated Officer  ต้องเข้าไปเก็บเอกสารที่โต๊ะด้านหน้าป้อมก่อนแล้วจะพบจุดที่รถบรรทุกของ เจ้าหน้าที่ชั้นสูงผ่านมา จัดการมันได้เลย

                                

     

          

   

" ข้อมูลจาก Braver สายข่าวที่รอดชีวิตทำให้เรารู้ข่าวร้ายที่ว่า เขาไม่ได้ข้อมูลเกี่ยวกับ " Project Seuche " โปรเจคลับสุดยอดของพวกนาซีอะไรเลย แต่ก็ยังโชคดีที่เขาสามารถนำทางไปยังกองเสบียงของพวกนาซีที่ทะเลทราย Siwa ได้ ซึ่งคนที่รับหน้าที่ควบคุมดูแลคลังเสบียงแห่งนี้เป็นประจำก็คือ  นายพล Vahlen นั่นเอง แน่นอนว่าเราไม่รู้ว่านายพล Franz จะอยู่ที่นั่นหรือไม่ตอนเราเข้าไป แต่ก็เชื่อได้ว่าสถานที่สำคัญอย่างคลังเสบียง เพื่อความเด็กขาดมันก็จะต้องมีนายทหารใหญ่เป็นคนควบคุมแน่นอน  หรือถ้าโชคร้ายจริงที่ไม่พบ  นายพล Vahlen ที่นั่น มันก็อาจเก็บรายละเอียดของแผนลับต่างๆเอาไว้ที่ห้องทำงานของมันบ้างก็ได้ และอย่างน้อยๆ Braver ก็ยังพอมีประโยชน์ที่เขาสามารถชี้ตำแหน่งของห้องทำงาน นายพล Vahlen ให้ผมได้ ซึ่งข่าวร้ายที่พ่วงมาด้วยจากปากของเขาก็คือที่นั่นมีฝูงสไนเปอร์ของพวกเยอรมันรออยู่อีกเพียบ แต่ยังไงเป็นไงก็เป็นกันก็ผมก็ต้องเข้าไปค้าหาข้อมูลที่ผมต้องการออกมาให้ได้ไม่ทางใดก็ทางนึง " 

SIWA OASIS 


  

- เข้ามาที่ส่วนหน้าของโอเอซิสจะเป็นที่นาที่มีดงต้นข้าวที่ใช้สำหรับแฝงตัวอย่างดี กลยุทธ์กลบเสียงก็สามารถใช้เสียงเครื่องบินลำเลียงสินค้าที่บินไปมาอยู่ตลอดได้ เมื่อลอบเข้ามาจนถึงซากเมืองด้านใน เป้าหมายคือรูปดาวในแผนที่ซึ่งเป็นตึกที่มีห้องทำงานของนายพล Vahlen อยู่ Karl ต้องการลอบไปที่นั่นเพื่อหาหลักฐานทาบ่งชี้ถึงข้อมูลเกี่ยวกับ " Project Seuche "  ซึ่งจริงๆแล้วนั้นสามารถที่จะเข้าไปที่เป้าหมายได้เลยเพราะอยู่กลางพื้นที่และไม่ไกลมาก แต่ถ้าไม่รีบอะไรมากมายก็แวะทำ Optional Objective ต่างๆหน่อยก็ดี
- ลอบมาทางฝั่งขวาเพื่อปลดล็อกจุด Sniper Nest จุดแรกล่างขวาก็จะเริ่มเห็น Optional Objective Destroy flakwierling AA Gun ขึ้นมาให้ทำ โดยจะมีจุดเป้าปืนขึ้นมาให้เห็น 3 จุดที่ต้องไปทำลาย จากนั้นก็เลาะผ่านไปทางฝั่งขวา ทำลายป้อมปืนที่ 2 และปลดล็อกจุด Sniper Nest อีกจุดจนถึงอาคารด้านขวาบนเข้าไปจะเป็นคลังอาวุธของพวกเยอร์มันก็จะเป็นการปลดล็อก  Optional Objective - Investigate German Supply Caches ด้วย จากนั้นเข้าไปจัดการทำลายป้อมปืนที่ 3 ฝั่งซ้ายบนซะ โดยปีนขึ้นไปที่ตึกข้างๆด้านขวาแล้วยิงระเบิดทำลายมันทางหน้าต่าง
- จากนั้นมุ่งหน้าไปจุดดาวเป้าหมาย ลอบเข้าไปในห้องทำงานของ นายพล Vahlen แต่ดูเหมือนจะไม่พบอะไร แต่ Karl ก็ได้ยินทหารเยอร์มันคุยกันที่นอกหน้าต่าง พวกมันคุยกับถึง 3 ทหารเสือคนสนิทของ นายพล Vahlen ถึงขนาดได้รับมอบหมายให้ถือหนังสือสำคัญให้ด้วย ทันทีที่ได้ฟังจบ Karl ก็จะมีเป้าหมายขึ้นมาคือตามหาทหาร 3 คนที่มันพูดถึง

- เป้าหมายใหม่คือหอคอยสูงตรงกลางพื้นที่ รอบจะเต็มไปด้วยทหารสไนเปอร์ของเยอร์มันที่ยากจะรับมือ ถ้าอยากพยายามจัดการมันก็ลองมองหามันก็ลองหาจุดบนมุมตึกที่มีแสงกระพริบของกล้องส่องเอา หรือ จะก้มต่ำลอบผ่านซากเมืองตรงกลางพื้นที่ที่พอมีที่กำบังให้ไปอีกฝั่งนึงได้บ้าง เมื่อขึ้นมาที่หอคอยเป้าหมายแล้วจะพบกับทหาร 3 คนเป้าหมาย ใช้กล้องส่งดูที่คนด้านขวาก็จะพบทหารที่ถือหนังสือข้อมูลของนายพล Vahlen อยู่ จากนั้นลอบตามเป้าหมายไปอย่าให้มันรู้ตัวจนมันไปเอาหนังสือที่ห้องแล้วหาทางฆ่ามันซะ

แต่ถ้าอยากทำ Optional Objective- Kill officer  Look Like a Accident  ก็ต้องฆ่ามันโดยให้ดูเป็นอุบัติเหตุ ไม่ใช่การยิงหรือลอบแทงด้านหลังน๊ะครับ แต่ให้รอจนกว่ามันเดินไปที่รถบรรทุกน้ำมันก็จัดการยิงถังน้ำมันให้ระเบิดได้เลย (หรือจุดไหนก็ได้ที่มันเดินเข้าไปใกล้จุดที่มีสิ่งของที่ระเบิดได้)  เข้าไปค้นศพมันก็จะได้หนังสือสำคัญมา
- จากนั้นรถถัง Panzer IV จะเริ่มเข้าพื้นที่ทันที เข้าไปที่รถถังสังเกตเส้นทางของมันแล้วเอากับระเบิดไปวางดักไว้ 2 อัน ก็จะจัดการมันได้ไม่ยาก ทำลายรถถังได้แล้วก็ออกไปที่ทางออกได้เลย แต่ Karl กลับถูกฝูงสไนเปอร์ยิงขัดขวางไม่ไห้เขาหนี

แต่ก็โชคดีที่ Braver นำทหารเข้ามาช่วยเอาไว้ "บอกแล้วว่างานนี้เราได้รำลึกความหลังกันอีกแล้ว" Braver พูดแบบติดตลกกับ Karl ทันทีที่เขาได้ตอบแทนที่เคยช่วยเขาเอาไว้ได้ ก่อนที่จะช่วยยิงต้านศัตรู แต่จริงๆ Karl ต่างหากต้องเป็นคนจุดการศัตรูที่เหลือ พยามจัดการสไนเปอร์ที่ซุ่มยิงทั้ง 3 ตัวให้หมด แล้ว Karl ก็จะหนีออกจากพื้นที่พร้อมกับทหารของ Braver ได้สำเร็จ

** Optional Objective ****
Destroy flakwierling AA Gun - ทำลายป้อมปืนเป้าหมาย 3 จุด
Investigate German Supply Caches - เข้าไปสำรวจห้องคลังอาวุธของพวกเยอรมันที่ตึกขวาบน
Kill officer  Look Like a Accident -จัดการหัวหน้าทหารที่ถือหนังสือสำคัญให้ดูเป็นอุบัติเหตุ 

" หนังสือสำคัญที่ได้มาจากนายทหารเยอรมันที่ Siwa บอกถึงตำแหน่งของฐานลับส่วนตัวของนายพล Vahlen ค่ายย่อยของพวกนาซีที่ฝั่งตัวลึกอยู่ในพื้นที่ซอกเขา แต่ข่าวกรองที่เพิ่งได้มาไม่นานบอกถึงทหารจำนวนมากและหน่วยรถถังที่เข้ามาเสริมกำลังอยู่ที่นี่มากมายในช่วงไม่กี่วันก่อนหน้านี้ แสดงว่าพวกมันกำลังจะเตรียมปฏิบัติภารกิจบางอยู่หรือไม่ก็เป็นเพราะความวิตกกังวลในเรื่องการรักษาความปลอดภัยของนายพล Vahlen เองก็อาจเป็นได้ มันสร้างห้องทำงานเพื่อเก็บข้อมูลสำคัญต่างๆเอาไว้ที่ซากโบราณสถานในกำแพงภูเขาที่แข็งแกร่ง ผมคงต้องพยายามลอบเข้าไปที่นั่นให้ได้อย่างเงียบที่สุด 
แต่ก็นับว่าโชคดีที่ไรเฟิลของผมคงได้แสดงแสงยานุภาพของมันได้ดีในที่โล่งแจ้งแบบนี้ และแน่นอนงานี้ผมคงต้องติด Land mine เพื่อไว้ใช้จัดการกับกองรถถังมันด้วย ที่นี่มีทหารศัตรูอยู่มากมายบางที่ผมน่าจะใช้ประโยชน์จาก Braver ให้ช่วยเป็นคนชี้เป้าให้ผมได้ เรื่องนี้น่าจะไว้ใจเขาได้เพราะเขาน่ะตัวพ่อในเรื่องชี้เป้าเลยล่ะ "

KASSERINE PASS

- พื้นที่ในเขตช่องเขาที่เต็มไปด้วยทหารเยอรมันมีตัวช่วยคือเสียงเครื่องบินที่บินผ่านไปมาแต่ก็อาจจะใช้เวลานานหน่อยกว่าจะใช้ประโยชน์จากมันได้ เครื่องยนต์ที่ช่วยเก็บเสียงก็มีไม่มาก ที่นี่จึงเหมาะที่จะเข้าไปใช้จุด Sniper Nest บนยอดตึกสูงๆเพื่อจัดการศัตรูจากระยะไกลมากกว่า แต่ถ้าจะให้เนียนคุณคงต้องรอเสียงเครื่องบินจนเบื่อเลยล่ะ เป้าหมายคือโบราณสถานติดภูเขาด้านในสุด
- เข้ามาที่ซอกเขาด้านในหลังจากพบศัตรูตัวแรกก็จะเห็น Optional Objective - Take out the Nabelwerfers  ทันที ซึ่งต้องเข้าไปทำลายป้อมปืนทั้ง 2 ด้านซ้ายขวาให้หมด ฝั่งซ้ายนั้นจะลอบเข้าไปทำลายมันจากระยะใกล้เอาก็ได้หรือคิดว่าเซียนและตาดีพอก็สามารถส่องเล็งยิงถังน้ำมันตรงป้อมปืนได้จากจุดทางแยกได้เลย

       

 ส่วนป้อมทางขวาก็ต้องลอบเข้าไปใกล้หน่อยโดยอ้อมไปด้านหลังของป้อมก็จะพอมองเห็นถังน้ำมันที่ป้อมที่สามารถส่องยิงจนระเบิดได้

   

- จากนั้นลอบเข้าไปที่จุดดาวเป้าหมายที่โบราณสถานติดภูเขาด้านในได้เลย ด้านกลางพื้นที่นั้นเต็มไปด้วยทหารศัตรูมากมายแต่ก็มีตึกร้างและจุด Sniper Nest ในตำแหน่งเหมาะๆให้ใช้เหมือนกัน ที่หน้าโบราณสถานที่เป็นที่เก็บเอกสารสำคัญของนายพล Vahlen นั้นเต็มไปด้วยทหารคอยอารักขามากมายทั้งด้านในและนอกแถมรถหุ้มเกราะอีกคันที่คอยขับวนระวังป้องกันอยู่รอบๆ ใช้จุด Sniper nest ซุ่มยิงจัดการทหารหน้าโบราณสถานให้หมด แล้วค่อยมาวางกับระเบิดทำลายรถหุ้มเกราะที่ขับวนอยู่ แล้วค่อยเข้าไปจัดการทหารในโบราณสถานซึ่งในห้องมีถึง 4 ตัว โอกาสลอบฆ่ามีน้อยเพราะในห้องแคบเกินกว่าที่จะไม่ให้ศัตรูเห็นเลย แต่สามารถใช้ระเบิดจัดการมันได้ทั้งหมดในครั้งเดียวซึ่งถ้าจัดการศัตรูด้านหน้าจนหมดก็ไม่มีปัญหาเรื่อง Alert แน่นอน

     

- เข้าไปเก็บจดหมายบนโต๊ะด้านในจะพบว่าเป็นเอกสารคำสั่งของนายพล Vahlen ที่ส่งมาให้ผู้พัน Johann หัวหน้าทหารที่นี่เรื่องการป้องกันตู้เซฟของมันให้เต็มที่ เป้าหมายใหม่จะขึ้นมาคือตำแหน่งของผู้พัน Johann ในตึกกลางพื้นที่ที่ Karl ต้องลอบย้อนกลับไปที่นั่นเพื่อจัดการมันแล้วเก็บเอกสารในตัวมันซึ่งจะบ่งบอกถึงตำแหน่งของตู้เซฟเก็บเอกสารสำคัญของ นายพล Vahlen ก่อนไป Karl ต้องเข้าไปหาจุดที่ Braver ซุ่มอยู่ก่อน

 

- ลอบเข้ามาที่หอคอยกลางพื้นที่เพื่อเข้าไปหา Braver ซึ่งก็จะพบเขาอยู่บนหอสังเกตการณ์ก่อนที่ Braver จะเริ่มโม้กับ Karl ถึงความง่ายของงานนี้เมื่อมีเขาร่วมด้วยอย่างที่เขาเคยบอกไว้ก่อนเข้ามาที่นี่ ซึ่งก็เป็นจริงอย่างที่เขาโม้ไว้จริงๆ แต่ไม่นับตอนที่รถถัง Tiger ของเยอรมันที่เข้ามาในพื้นที่พอดีก่อนที่มันจะยิงหอคอยจนระเบิดไปพร้อมกับร่างของ Braver ต่อหน้าต่อตา Karl การทำลายรถถัง Tiger ก็มีหลายวิธีตั้งแต่ การวางกับระเบิดที่ถนนที่มันขับผ่าน ใช้ระเบิดขวาง ใช้ปืนบาซูก้ายิง หรือ ยิงจุดถังน้ำมันที่ด้านหลังรถให้ระเบิด ก็ได้

   

- ทำลายรถถังแล้วรีบกลับไปที่โบราณสถานอีกครั้ง แต่พวกนาซีจะเข้ามาป้องกันจนเต็มพื้นที่ด้านหน้าอีกครั้งด้วยเหมือนกัน พยายามจัดการทหารที่เข้ามาในพื้นที่หน้าโบราณสถานให้หมดรวมทั้งรถหุ้มเกราะด้านหน้าด้วย จึงจะเข้าไปด้านในแล้วเปิดเซฟดูข้อมูลด้านในได้ หลังจาก Karl ดูบันทึกของ นายพล Vahlen ที่บอกถึงความลับของ" Project Seuche " จนหมดแล้ว เมื่อออกมาด้านหน้าจะพบหน่วยสไนเปอร์มือดีของเยอรมันมากมายเริ่มเข้ามาในพื้นที่เพื่อหมายจะเก็บ Karl ที่รู้ถึงความลับของ " Project Seuche " แต่ Karl จะออกจากพื้นที่เลยไม่ได้ถ้าไม่ได้ทำศพให้ Braver เพื่อนของเขาเสียก่อน
- เป้าหมายใหม่คือจุดของศพ Braver ที่อยู่บริเวณหอคอย อุปสรรค์คือ กลุ่มสไนเปอร์ของศัตรูมากมายที่เข้ามาในพื้นที่ พวกมันจะกระจายอยู่ๆทั่วพื้นที่ตามเส้นทางที่จะออกจากที่นี่เลย นั่นแปลว่าไม่ว่าจะเลือกทางไหนก็ต้องระวังหัวเอาไว้ให้ดี แต่เป้าหมายคือออกไปที่จุดของศพ Braver แล้วออกจากพื้นที่ก็ไม่ได้แปลว่าต้องจัดการมันให้หมดฉะนั้นคุณจึงมีทางเลือกที่จะจัดการกับพวกสไนเปอร์ก็ต้องตาดีๆหน่อยแล้วมองหาตามจุดที่มีแสงกระพริบจากเลนส์ของกล้องปืนแล้วสอยมันก่อนมันจะสอยเรา หรือขี้เกียจประทะจะแค่หลบพวกมันเพื่อไปที่จุดเป้าหมายเลยก็ได้

... เมื่อลอบเข้ามาถึงจุดหมายแล้ว Karl จะทำศพเท่าที่เขาพอทำได้ให้ Braver สหายร่วมรบของเขาก่อนออกจากพื้นที่พร้อมข้อมูลสำคัญที่สามารถเปิดเผยความลับของ " Project Seuche " ....

** Optional Objective ** 
Take out the Nabelwerfers  - ทำลายป้อมปืนเป้าหมายทั้งหมด 2 ป้อม



วันที่ 2 กันยายน 1942 อังกฤษสะสมกำลังแนวรบจนมีรถถัง 700 คัน รวมทั้งรถถังแกรนท์ของสหรัฐฯ อีก 160 คัน สามารถทำให้กองทัพของนายพล รอมเมล ถอยล่นไปได้จนสามารถยึดเมือง Tobruk  และ อียีปต์คืนมาจากเยอรมันได้สำเร็จ ซึ่งการตั้งรับอย่างเดียวจนชนะศึกของกอทัพที่ 22 ของอังกฤษ จนถูกเรียกว่า “ยุทธการแห่งอาลาม อัล-ฮัลฟา”

" ผมรอดจากการไล่ล่าของพวกเยอรทันมาได้แต่ต้องสูญเสีย Braver ในภารกิจที่ KASSERINE PASS แต่เราก็ได้ข้อมูลสำคัญมาด้วยซึ่งมันก็ทำให้สามารถเปิดเผยความลับของ " Project Seuche " ว่าแผนการของนายพล Vahlen ในแอฟริกาก็คือ การสร้างซุปเปอร์รถถังขนาดยักษ์ที่ชื่อ " The Ratte " บอกตรงๆว่ายากที่จะบอกถึงแสนยานุภาพของมันถ้ามันถูกสร้างจนสำเร็จจริงๆ แต่ถ้าพวกเยอรมันสร้างมันขึ้นมาได้ตามแผนงานนี้เกมเปลี่ยนแน่นอน ยิ่งตอนนี้ฝ่ายพันธมิตรสามารถยึดคืน เมือง Tobruk  และ อียีปต์คืนมาได้แล้ว ส่งผลให้เส้นทางลำเลียงของกองทัพนายพล Vahlen ถูกตัดขาด มันจึงต้องรีบสร้าง " The Ratte " อาวุธลับของมันให้เสร็จเพื่อชนะศึกก่อนที่ความนิยมในตัวฮิตเลอร์จนหมดลงเสียก่อน ข่าวร้ายคือเรายังไม่รู้ที่อยู่ของนายพล Vahlen รู้แค่ว่าอยู่ทั่ไหนซักแห่งที่ตูนิเซีย  แต่ข่าวดีคือ ข้อมูลที่ผมได้มานั้นทำให้เรารู้ว่า แผนที่ที่ระบุถึงตำแหน่งของโรงงานที่ใช้สร้าง " The Ratte " อยู่ที่ไหน สนามบิน PONT DU FASH ที่มีทั้งหอคอยสื่อสารหลักและยังเป็นเส้นทางลำเลียงเสบียงเส้นสุดท้ายของนายพล Vahlen ด้วย จึงเหมาะอย่างยิ่งที่หลังจากลอบเข้าไปฉกแผนที่โรงงานมาได้แล้วก็ส่งหน่วย LRDG เข้าถล่มที่นี่ด้วยเสียเลย เรียกว่า ได้ถอนรากถอนโคนพวกเยอรมันหมดทั้งการสื่อสารแบะเสบียง นายพล Vahlen อยู่ที่ไหนก็ไม่สำคัญแล้ว แต่บอกตรงๆส่าภารกิจนี้ของผมคงโครมครามกว่าทุกครั้งแน่นอน "

** (ก่อนเข้าภารกิจ อย่าลืมเอากับระเบิดและปืนบาซูก้าติดตัวมาด้วยน๊ะครับ) ** เตือนไว้ก่อน ^_^

PONT DU FASH AIRFIELD 

  

- พื้นที่ในสนามบินแต่แทบจะไม่มีเสียงเครื่องบินคอยช่วยมากนัก ศัตรูอยู่เป็นกลุ่มเยอะแยะและมีจุดที่สามารถระเบิดได้มากมายด้วย จึงเหมาะอย่างยิงที่จะใช้ยุทธวิธีสร้างความโกลาหลตามจุดระเบิดต่างๆแล้วรีบเปลี่ยนที่ซุ่มไปเรื่อยๆอย่าหยุดนิ่งจะดีที่สุด และถ้าใครเจอจุดถังน้ำมันที่เป็นจุดให้ระเบิดเพื่อทำ Optional Objective - Destroy the Bomb dump ก็อย่าเพิ่งทำเพราะมันจะเป็นตัวช่วยให้ภาะกิจสุดท้ายของฉากนี้ง่ายขึ้นเยอะ (เชื่อผม)  แวะไปที่หอคอยสื่อสารทางฝั่งขวาบนของแผนที่ก่อนเพื่อจัดการทหารที่คุมหอคอยเพื่อทำภารกิจ Optional Objective - Kill all operator in Control Tower แล้วเข้าเป้าหมายรูปดาวแรกคือเข้าไปบังเกอร์เพื่อกดแผงควบคุมประตูบังเกอร์ใต้ดิน เข้ามาด้านในบังเกอร์จะเต็มไปด้วยทหารศัตรูมากมายแบบเป็นกลุ่มก้อนในที่แคบๆ ซึ่งยากในการลอบสังหารมากแต่ก็มีจุดถังน้ำมันให้ระเบิดเพียบ เข้าไปในห้องเสบียงด้านในเก็บแผนที่โรงงานสร้างรถถังมาแล้วแวะเลยเข้าไปด้านในต่อจะเจอที่คุมขังนักโทษ ปล่อยนักโทษให้หมดเพื่อทำภารกิจ Optional Objective - Release the prisoner  จากนั้นกลับออกมาจากบังเกอร์แล้วเข้าประตูบังเกอร์ฝั่งมุมซ้ายที่เขียนว่า Sunkgenlcale เข้าไปฆ่าทหารสื่อสารเพือทำภารกิจ Optional Objective - Kill the Radio operator to stop Reinforcement แล้วออกจากบังเกอร์ได้เลย

- เข้าไปที่จุดหมายรูปดาวต่อไปที่จุด Sniper Nest ภารกิจคือรอให้หน่วย LRDG ขับรถบุกเข้ามาถล่มทำลายเครื่องบินลำเลียงทุกลำในสนามบินโดยจะต้องช่วยเขายิงศัตรูที่กำลังพยายามยิงพวกเขา ซึ่งจะมีศัตรูรุมยิงรถของ หน่วย LRDGมากมายก็จริงแต่เน้นยิงเฉพาะทหารที่ถือบาซูก้าให้หมดก็พอ หลังจากที่ หน่วย LRDG ทำลายเครื่องบินจนหมดเขาก็จะขับหนีออกจากพื้นที่ปล่อยความซวยไว้ให้ Karl  เต็มๆ เพราะจากนี้ศัตรูมากมายจะบุกเข้ามาพร้อมรถถังและรถหุ้มเกราะอีกตามจำนวนความยากง่ายของเกมที่เลือกไว้ (ประมาณ 2 - 4 คัน) สิ่งแรกคือห้ามอยู่เป็นเป้าบนเนินนี้อีกเพราะพวกมันรู้ตำแหน่งคุณแล้ว เป้าหมายคือทำลายรถถังพวกนี้ให้หมด ซึ่งเส้นทางแล่นของพวกมันนั้นจะผ่านมาทางแท็งก์น้ำมันที่เป็นภารกิจย่อย Optional Objective - Destroy the Bomb dump พอดี ซึ่งก็จะใช้การระเบิดของมันทำลายพวกรถถังไปได้ทีละคนด้วย แต่ถ้าเผลอทำลายไปแล้วก็จะทำให้ภารกิจนี้ยากขึ้นอีกเพราะคุณต้องตามทำลายรถทั้งหมดด้วยวิธีของคุณเองไม่ว่าจะกับระเบิดหรือบาซูก้าก็ตาม

ทำลายรถถังที่เข้ามาให้หมดแล้วไปที่จุดดาว Karl ก็จะเดินทางไปกับรถบรรทุกที่หน่วย LRDG ปลอมตัวเป็นทหารเยอรมันเพื่อเดินทางต่อไปยังโรงงานลับของพวกนาซีต่อทันที ...

** Optional Objective ** 
Kill all operator in Control Tower - จัดการทหารบนหอคอยควบคุมด้านขวาบน
Release the prisoner  - ปล่อยนักโทษในห้องขังใต้บังเกอร์
Kill the Radio operator to stop Reinforcement  - จัดการทหารในห้องสื่อสารในบังเกอร์ 
Destroy the Bomb dump - ระเบิดถังน้ำมันตรงเต็นท์ที่พักหน้าโรงเก็บสนามบิน 3 จุด 

" ที่นี่คือจุดสิ้นสุด จุดสิ้นสุดของเส้นทางที่หลักฐานทุกอย่างที่ได้มามุ่งมาทีโรงงานลับที่ฝังตัวลึกเข้าไปในหุบเขา Mides Canyon สถานที่ที่ใช้สร้าง The Ratte รถถังยักษ์ อาวุธมหาประลัยของนาซี ถึงเวลาแล้วที่ต้องเข้าไปทำลายมันซะก่อนที่มันจะถูกสร้างเสร็จ หลังจากนั้นก็ทำลาย The Ratte และอุปกรณ์ทั้งหมดในโรงงานให้พวกนาซีไม่มีโอกาสได้สร้างมันได้อีก หลังจากนั้นก็ถึงเวลาไปเคลียร์กับ นายพล Vahlen ให้มันจบๆเรื่องไปซะที " 

RATTE FACTORY
- หลังจากลอบเข้ามาจากบนเนินเขาจนถึงด้านในโรงงานส่วนหน้า พื้นที่นี้สามารถใช้เสียงประกาศของลำโพงและเสียงของเครื่องจักรในการอำพรางการยิงได้ เป้าหมายหลักรูปดาว 2 ที่จะปรากฏขึ้นมาเป้าหมายคือทำลายหม้อแปลงไฟ ( Power Transformers) 2 จุด โดยจุดแรกจะอยู่ที่สุดทางเดินในชั้นล่างของฝั่งซ้าย ส่วนจุดที่ 2 จะอยู่ด้านในห้องที่สุดทางเดินด้านขวาซึ่งจะเดินลอบเข้าไปยิงใกล้ๆหรือจะยิงจากสะพานข้ามตรงสุดทางเดินฝั่งซ้ายนี่เลยก็ได้ มีจุดถังน้ำมันให้ยิงอยู่

    

ระหว่างทางมี Optional Objective - Collect German advance Weapon plan ที่ต้องเก็บแปลนอาวุธของพวกเยอรมันที่วางอยู่ตามทางมาให้หมด 4 แปลน โดยอันแรกจะอยู่ที่ทางเดินในภูเขาฝั่งขวาแรก / อันที่ 2 ที่ทางเดินฝั่งขวาของช่วงกลางพื้นที่ / อันที่ 3 อยู่ในห้องบนชั้น 2 สุดทางเดินด้านขวา / อันสุดท้ายอยู่ชั้นล่างในห้องด้านในฝั่งซ้ายของโรงงาน  

- ลอบเข้าไปจนถึงสุดทางเดินด้านในจะมีทหารรักษาการณ์ที่หน้าห้องคลังอาวุธมากมายแถมยังมีขึ้นลิฟต์มาสมทบอีกเรื่อยๆ รีบเคลียร์ที่นี่ซะแล้วลอบขึ้นไปจนถึงคลังอาวุธบนชั้น 2 ทำการติดตั้งระเบิดที่ลังกระสุน แล้วออกจากห้องจะพบทหารอีกชุดขึ้นมาจากลิฟต์ลอบจัดการมันให้หมดแล้วเข้าไปที่ลิฟต์ แต่ขณะนั้น นายพล Vahlen ก็แสดงตัวออกมาพร้อมทหารมากมายเข้ามาล้อม Karl เหมือนมันจะแสดงให้เห็นว่ารู้ทันเกมที่ Karl จะเล่นมันอยู่ก่อนแล้ว

Vahlen - นี่น๊ะหรอที่เรียกตัวเองว่า ผีทะเลทรายที่ไร้ตัวตน ? บุรุษหนุ่มลุยเดี่ยวสร้างความปั่นป่วนที่ Halfaya ขโมยเสบียงที่ Siwa หาญกล้าท้าดวลกับรถถัง Tiger ที่ Kasserine เล่นเอาเส้นทางลำเลียงเสบียงของกองทัพนาซีผู้เกรียงไกรถึงกับเป็นง่อยไปเลย ชั้นขอชมเชยในฝีมือของแกน๊ะ แกก็เก่งในงานในแบบของแก เหมือนกับชั้นเลย เราทั้งคู่ต่างก็เหมือนกัน เป็นแค่ทหาร แค่คนทำงานหนักในสงครามนี้เหมือนกัน เราต่างก็รักงานของเราจริงมั๊ย ? 
Karl - เราไม่เคยเหมือนกัน !

- Karl ฉวยโอกาสโดดหนีลงไปในลิฟต์เพื่อหนีแรงระเบิดที่เขาติดตั้งเอาไว้ แรงระเบิดทำให้ทหารของ Vahlen กระเด็นไปคนละทิศละทางทำให้ Karl สามารถหนีลงมาที่ลิฟต์ไปชั้นล่างได้  เมื่อลิฟต์เดินทางมาถึงชั้นล่างก็จะเข้าสู่โรงเก็บรถถัง The Ratte ที่มีทหารช่างช่วยกันสร้างอยู่ และแน่นอนมีทหารคอยป้องกันอีกเพียบ เป้าหมายของที่นี่คือเข้าไปที่จุดดาวเพื่อวางระเบิดให้ครบ 4 จุด (อย่าลืมแวะเอาแบบแปลนอาวุธอันสุดท้ายในภารกิจเสริม Collect German advance Weapon plan ในห้องทาฝั่งซ้ายของโกดังนี้มาด้วย ) จากนั้นก็ลอบเข้าไปวางระเบิดตามจุดดาวให้ครบ 4 จุด แล้วลงไปที่ตัวรถถังปีนขึ้นไปด้านบนตัวถังแล้ววางระเบิดจุดสุดท้ายที่นั่น จากนั้นก็หนีออกจากพื้นที่ได้เลย ที่ทางออกจากมีทหารเยอรมันเริ่มออกมาเพิ่มอีก ลอบจัดการให้หมดจนออกมาที่เนินเขาด้านนอกโรงเก็บรถถัง

     

 ขึ้นมาบนจุด Sniper Nest แล้วส่องยิงไปที่ตะขอเกี่ยวเครนกระสุนระเบิดด้านบนรถถังจนทำให้มันตกลงมาระเบิดใส่รถถังในขณะที่นายพล Vahlen กำลังไล่ตามมาถึงพอดี แรงระเบิดทำลายรถถัง Ratte จนย่อยยับไปพร้อมกับร่างของ Vahlen ที่บาดเจ็บสาหัส

Karl - นายเคยพูดว่าอะไรน๊ะ ? ว่าเราเหมือนกันหรอ ไม่เลย ชั้นไม่เหมือนแก เพราะอย่างน้อยชั้นก็จำได้ว่า ชั้นเคยฆ่าใครมาบ้าง และตอนนี้ชั้นกำลังจะฆ่าแก Vahlen !!

ปังงงงง !! .... เสียงปืนดังก้องไปทั่วซากของโกดังเหมือนเป็นพลุแสดงความยินดีกับความสำเร็จของ Karl และฝ่านพันธมิตร Vahlen ตายไปพร้อมๆกับรถถัง The Ratte ที่เป็นความหวังสุดท้ายของฮิตเลอร์ถูกทำลายลงได้ ...


  

.. แต่จุดจบของสงครามนี้ยังอีกใกล้นัก ยังมีเป้าที่คู่ควรให้สาดกระสุนใส่อีกเยอะ แต่ใครมันจะยอมตายกันง่ายๆว่ามั๊ย ..
...ถึงเวลาต้องหางานใหม่เพิ่มแล้ว ..!! 


** Optional Objective ** 
Collect German advance Weapon plan - หาแปลนอาวุธในพื้นที่มาให้ครบ 4 แปลน 


***************************  The End *************************************

ปี 1945 Karl Fairburne สายลับของหน่วย OOS ถูกส่งตัวออกปฏิบัติภารกิจอีกครั้ง ในการเข้าแทรกซึมไปยังกรุงเบอร์ลินในช่วงวันสุดท้ายของสงครามโลกครั้งที่สอง ในแผนปฏิบัติการ์ณ Operation Overcast ซึ่งรัฐบาลสหรัฐต้องการให้ช่วยเหลือนักวิทยาศาสตร์ที่มีฝีมือของนาซีที่อยากจะเปลี่ยนข้างเพื่อมาทำงานให้สหรัฐ และอีกเป้าหมายนึงคือ หยุดยั้ง สังหาร ทุกคนที่เกี่ยวข้องกับ V-2 rocket program ของนาซีให้หมด ก่อนที่ข้อมูลสำคัญทั้งหมดของจรวดขีปนาวุธชีวภาพ V-2 จะตกไปอยู่กับฝ่ายโซเวียต  (เรื่องราวใน Sniper Elite V2 ) บทสรุป Sniper Elite V2  http://decibelperoxide.exteen.com/20120905/sniper-elite-v2



     

30 เมษายน1945 - Adolf Hitler ผู้นำพรรคนาซีได้ทำการอัตวินิบาตกรรม (ฆ่าตัวตาย) เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้ถูกจับกุมโดยกองทัพโซเวียต พบสภาพศพของเขาถูกเผาอยู่ในหลุมที่ฝังศพของเขา ซึ่งส่งผลให้เราทั้งหลายชวดโอกาสในการสังหารผู้นำโฉดคนนี้ไปอย่างน่าเสียดาย


2 พฤษภาคม 1945 -  Karl Fairburne เสร็จสิ้นภาระกิจและนำพาเหล่านักวิทยาศาสตร์ฝีมือดีของนาซีกลับสหรัฐได้จำนวนหนึ่ง พร้อม Rocket Program

8 สิงหาคม ค.ศ. 1945 - สงครามในยุโรปยุติลงหลังกองทัพแดงยึดกรุงเบอร์ลินได้ และการยอมจำนนอย่างไม่มีเงื่อนไขของเยอรม เนื่องจากถูกทิ้งให้โดดเดี่ยวและตกอยู่ในสภาพเสียเปรียบอย่างยิ่ง

  

………สงครามยุติลงด้วยชัยชนะของฝ่ายสัมพันธมิตร ผลของสงครามได้เปลี่ยนแปลงการวางแนวทางการเมืองและโครงสร้างสังคมของโลก สหประชาชาติถูกสถาปนาขึ้น เพื่อส่งเสริมความร่วมมือระหว่างประเทศและเพื่อป้องกันความขัดแย้งในอนาคต สหรัฐอเมริกากับสหภาพโซเวียตก้าวเป็นอภิมหาอำนาจของโลกอันเป็นคู่ปรปักษ์กัน นำไปสู่ความขัดแย้งบนเวทีแห่งสงครามเย็น ซึ่งได้ดำเนินต่อมาอีก 46 ปีหลังสงคราม ……………

                     


                              ตำแหน่งและวีธีเก็บ Optional Objective ทั้งหมด

Optional Objectives Locations Guide

http://www.videogamesblogger.com/2014/06/29/sniper-elite-3-optional-objectives-locations-guide.htm
                                 

[ เครดิต .. ขอขอบคุณสุดยอดข้อมูลเกี่ยวกับสงครามโลกครั้งที่ 2 จากเวบ ไทยสามก๊ก มากๆครับ ] 
http://www.thaisamkok.com/category-49-