The Last of Us American Dream [Comic]
เขียนบทโดย Neil Druck Mann และ Faith Erin Hicks
อ่าน แปล และเรียบเรียงโดย Decibel per – oxide
ระหว่างที่สาวน้อย Ellie ในวัย 13 ปีที่เดินทางมาถึงเขตกักกัน เมือง บอสตัน Boston quarantine zone พร้อมกับผู้อพยพคนอื่นในครั้งแรก เธอกวาดสายตามองดูรอบๆในสถานที่ที่เธอไม่คุ้นเคย ที่นี่มีการรักษาความปลอดภัยอย่างสูงสุด แต่ก็แปลกที่เธอกลับไม่คิดว่าเธอจะปลอดภัยแม้แต่นิดเดียว ก็อย่างที่เธอคิด ที่นี่ไม่ได้ปลอดภัย แต่ไม่ได้จากพวกกลายพันธ์เห็ดราที่กระหายเลือดแต่เป็นคนที่อาสัยอยู่ก่อน แต่ผู้ชายที่พร้อมจะรังแกผู้หญิงเพื่อแย่งชิงของมีค่าของเธอทันทีที่เข้ามาถึง มันก็แค่ Walkman แต่ Ellie ก็สู้สุดใจขาดดิ้นเพื่อไม่ให้ของสำคัญของเธอถูกชิงไป แต่โชคดีที่มีเด็กผู้หญิงผิวสีสุดห้าวคนนึงก็เข้ามาช่วยเอาไว้ เธออัดผู้ชาย 3 คนร่วงหมดในพริบตานั้นแปลว่าเธอคนนี้ไม่ธรรมดาแน่นอน Ellie ดีใจที่ของสำคัญเพียงไม่กี่ชิ้นของเธอยังอยู่ครบ เด็กผู้หญิงผิวสีสุดห้าวแนะนำตัวว่าชื่อ Riley ก่อนที่จะบอกราคาค่าคุ้มครองที่เธอได้ช่วย Ellie เอาไว้ ที่นี่มันช่างไม่ธรรมดาจริงๆ Ellie คิดแต่ยังไม่ทันได้คุยกันต้องเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของเมืองก็เข้ามา Riley หายตัวไปจากที่เกิดเหตุอย่างรวดเร็ว Ellie โดนเจ้าหน้าที่ด่ายับที่ก่อเรื่องวุ่นวาย ทั้งโดนต่อยและโดนด่า Ellie ก็ยังดีใจที่รอดมาได้ แต่ทันทีเมื่อเธอกำลังจะควักกระเป๋าเสื้อเอา Walkman มาฟังเพลงให้สบายใจก็พบว่า… ยัย Riley แอบขโมย Walkman ของ Ellie ไปเรียบร้อยแล้ว !!
Ellie ใช้ความกล้าทั้งหมดออกไปหายัย Riley ขี้ขโมยที่กำลังนั่งโม้ให้กลุ่มเพื่อนฟังในโรงอาหารอย่างสนุก “ชั้นบอกแล้วเธอต้องให้ค่าคุ้มครองชั้นไม่ทางใดทางนึง Riley พูดติดตลกกับ Ellie ที่ยืนหน้ามุ่ยกัดฟันกรอดๆอยู่ข้างโต๊ะ เรียกเสียงหัวเราะให้เพื่อนในกลุ่มของเธอได้ดีนัก แต่ Ellie ไม่ตลกด้วย เธอจ้องหน้า Riley ด้วยความโกรธแต่ก็แทบไม่รู้ว่าจะทำยังไงดี จน Riley ต้องยอมคืน Walkman ให้ “ อยากได้ก็เอาไป ของขยะๆเทปก็ไม่มีใครจะอยากได้ “Riley พูดพลางโยน Walkman คืนให้ Ellie ในขณะที่ Ellie ที่ได้ของคืนแล้วก็เดินจากไปอย่างเงียบ Riley ที่กำลังหัวเราะร่วนอยู่กับกลุ่มเพื่อนก็อดที่จะหันกลับไปมอง Ellie ด้วยความสนใจเหมือนกัน
ในคืนนั้นขณะที่ Ellie กำลังนอนไม่หลับ แต่เธอก็ยังนอนกอด Walkman แน่นทั้งที่มันก็ไม่มีเทปที่จะใช้เปิดฟัง Ellie ได้ยินเสียงฝีเท้าคนที่กำลังเดินออกจากตึกจึงแอบตามไปดู และก็พบว่าเงาตะคลุ่มๆที่แอบหนีออกจากตึกก็คือ Riley นั่นเอง และแน่นอนว่าทันที่ Riley เห็น Ellie แอบตามเธอมาเธอก็ไล่ตะเพลิดให้กลับไปทันที แต่ Ellie ยินยันว่าจะตามไปด้วย เพราะอย่างน้อย Riley ก็ยังติดค้างเรื่องที่ขโมยของของเธออยู่ Riley นิ่งอยู่ซักพัก “ ตามทันก็ตามมา “Riley บอกกับ Ellie ก่อนที่จะวิ่งไปปีนรั้วด้วยความคล่องแคล่วทันที Ellie รีบปีนรั้วตามไปทันทีเพราะกลัวจะโดนดูถูก ข้ามรั้วลูกกรงชั้นแรกไปคือเมืองในเขตกักกันที่เมืองส่วนหน้าที่ดูน่าตื่นเต้นและตากว่าที่เคยของ Ellie
ในเขตกักกันที่เมืองส่วนหน้า..ทันทีที่ผ่านเข้ามา Skill แรกที่ Riley จะสอนก็คือ สเต็ปการวิ่งบนหลังคาตึกอย่างคล่องแคล่วจน Ellie แทบตามไม่ทัน แต่ Riley ก็ไม่ทันสังเกตเหมือนกันว่าเธอจะสนุกกว่าทุกครั้งเมื่อมีเด็กอ่อนแออย่าง Ellie กำลังวิ่งตามก้นเธออยู่ ซึ่งก็เล่นเอา Riley เพลิดเพลินจนปล่อยความพริ้วไหวบนหลังคาโอ้อวดอย่างเมามันส์จน Ellie ที่ถึงแม้จะตามทันก็หายใจไม่ทันเกือบตาย Riley มาหยุดอยู่ที่ห้างสรรพสินค้าร้างแห่งนึง ในขณะที่ Ellie หายใจยังไม่ทันหายน้ำลายเหนียว Riley ก็ยิงคำถามทันที
Riley – เธอเคยคิดถึง อนาคต บ้างมั๊ย ?
Ellie - แบบ ยานอวกาศอะไรแบบนั้นอ่ะหรอ
Riley – ยัยบื้อเอ๊ย ชั้นหมายถึง อนาคต แบบ วันข้างหน้าของเธอต่างหาก
Ellie – ไม่รู้สิ ยังไม่เคยคิดแบบจริงจังเหมือนกัน
Riley – รู้มั๊ย ชั้นคิดว่าพวกคนใหญ่คนโตที่นี่มันโคตรขี้โกหกเลย ก็แค่ให้เราอยู่ที่นี่ไปวันๆ พออายุครบ 16 ก็ยัดปืนใส่มือเรา แล้วก็ชื่นชมเราว่าเป็นทหารที่ดี ชั้นน่ะ ไม่มีวันที่จะยอมให้ไอ้ห่วยแตกคนไหนมาสั่งให้ชั้นต้องยิงอะไรและต้องอยู่ที่ไหนตามคำสั่งของมันตลอดหรอกน๊ะ
Ellie – ก็พูดง่าย แล้วเธอจะทำยังไงล่ะ ?
Riley – อีก 3 เดือนชั้นก็จะครบ 16 แล้ว ชั้นจำเป็นต้องไป ! ต้องหาทางหนีจากที่นี่
Ellie – ก็อีกตั้ง 3 เดือน
Riley – ว่าแต่เธอเคยขี่ม้าป่ะ ตามมา ! จะให้ดูอะไร
Riley พา Ellie เข้ามาด้านในห้างสรรพสินค้าร้าง ที่นี่เต็มไปด้วยสิ่งแปลกตาและเครื่องเล่นสนุกๆมากมายโดยเฉพาะเกมเซ็นเตอร์ที่เมื่อ Ellie ก็พุ่งเข้าไปเล่นอย่างสนุกทันที แต่ Riley ทนความเกรียนของ Ellie ก็รีบเดินจ้ำเข้าด้านในต่อปล่อยให้ Ellie ต้องเสียดายที่ไม่ได้เล่นต่อ แต่ Ellie ก็อดคิดไม่ได้ว่าที่นี่คงทำหน้าที่สร้างความสุขให้กับเด็กได้มากกว่าตอนนี้แน่นอน
ไม่นาน Riley ก็พา Ellie เดินมาถึงเต็นท์ที่พักของตาเฒ่า Winston ที่อาศัยอยู่ที่นี่ หลังแนะนำให้ Ellie แล้ว Riley ก็หยิบเหล้าขวดโตออกมาให้กับ Winston แต่มันไม่ใช่ของฝากเพราะเธอต้องการแลกกับการขอขี่ม้าของเขาเป็นการตอบแทน ตาเฒ่า Winston ก็ต้องยอมพา Ellie ขี่ม้าไปรอบๆห้าง ในขณะที่ Riley เข้าไปค้นของในเต็นท์ของ Winston เพื่อหาสิ่งของบางอย่างทันที พอ Winston พา Ellie กลับมา จู่ๆก็เกิดเสียงระเบิดดังขึ้นจากด้านนอกดังสนั่นจน Winston ต้องรีบไปดู Riley ก็รีบเอาวิทยุ Walkie Talkie ที่เธอขโมยมาจากเต็นท์ของ Winston มาใช้ฟังเหตุการณ์ที่อยู่ด้านนอกทันที
“ เกิดการระเบิดในเขต 12 ศัตรู 3 คนเข้าโจมตีคาดว่าเป็นพวก Firefly !! “ เสียงรายงานจากเจ้าหน้าที่ดังลั่นออกมาจากวิทยุ ทำให้ Ellie ถึงกับตกใจ แต่ดูเหมือน Riley จะดีใจจนออกนอกหน้าที่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมันอาจกำลังจะเป็นโอกาศที่จะทำให้เธอหนีออกจากที่นี่ได้เร็วขึ้น แถมยังได้พบกับพวก Firefly อีกด้วย ..FIREFL ..อะไรน๊ะ !! Ellie ตะโกนถามด้วยความงง แต่ Riley ยังไม่ทันได้ตอบเธอก็วิ่งไปที่เกิดเหตุอย่างรวดเร็วทันที ด้วยความอยากรู้ที่คาใจจนกลบความกลัวของ Ellie ทำให้เธอตัดสินใจวิ่งตาม Riley ไปทันทีเหมือนกัน …
Riley รีบตามไปยังสถานที่เกิดเหตุตามเสียงที่รายงานมาทางวิทยุอย่างเร่งรีบ ขณะที่ Ellie ที่ตามมาก็พยายามถาม Riley อยู่ตลอดว่าแน่ใจหรือเปล่าว่าสิ่งที่กำลังทำอยู่ไม่ใช่สิ่งที่งี่เง่า เพราะดูเหมือนพวก Firefly อะไรของ Riley กำลังฆ่าพวกทหารอยู่ตามที่ Ellie ได้ยิน Riley เองก็คิดแต่ไม่กล้าที่จะพูดออกมา เธอจึงชวน Ellie ปีนขึ้นไปดูบนดาดฟ้าตึกเพื่อความชัวร์ แต่พอขึ้นมาถึงดาดฟ้าตึกทั้งคู่ก็เห็นว่าพวก Firefly กำลังโดนล้อมโจมตีจนบาดเจ็บไปหลายคน Riley จะถือเป็นโอกาศที่ดีที่จะช่วยพวกเขาซึ่งอาจทำให้ช่วยพาเธอหนีไปด้วย Riley เอาระเบิดควันที่ขโมยมาจาก Winston ออกมา เธอต้องการให้ Ellie เป็นคนขว้างด้วยตัวเอง ขณะที่ Ellie ก็กลัวว่าระเบิดจะทำให้ทหารบาดเจ็บ แต่ Riley ก็สอนว่า มันเป็นแค่ระเบิดควันที่จะทำให้พวก Firefly มีโอกาสหนีเท่านั้น และอีกอย่างการกระทำครั้งนี้ของ Ellie อาจเป็นการเปลี่ยนชะตากรรมของเธอไปเลยก็ได้ เธอจะยอมให้พวกทหารควบคุมชีวิตเธอหรือจะลุกขึ้นสู้บางสิ่งบ้าง ? Riley ย้ำให้ฟังอีกครั้ง Ellie ก็คว้าระเบิดควันจากมือ Riley ไปที่กลุ่มทหารทันทีซึ่งก็ทำให้พวก Firefly หนีไปได้สำเร็จ แต่ทั้งคู่ก็ถูกพวกทหารเห็นจนโดนไล่ยิงต้องหนีตายเข้าไปแอบในซอกตึก งานนี้ทั้งเหนื่อย ทั้งน่าหวาดเสียว แต่ก็สนุกสุดๆสำหรับทั้งคู่เหมือนกัน
ขณะที่ Ellie และ Riley กำลังนั่งพักเหนื่อยพร้อมกับโม้ถึงวีรกรรมที่เพิ่งทำกันมาอย่างสนุก ทั้งคู่ก็สังเกตเห็นเงาคนเดินโซเซออกมาจากมุมตึก ขณะที่ Ellie กำลังสงสัยว่าเป็นมครแต่ทันทีที่ร่างมันต้องแสงไฟก็ทำให้เธอรู้ทันทีว่า ใช่แล้ว ..มันเป็นพวกติดเชื้อ ก่อนที่มันจะกระโจนเข้าใส่ Riley ทันที Ellie และ Riley ต่างก็พลัดกันช่วยเหลือกันจนสุดท้ายเจ้าพวกติดเชื้อก็โดนไม้แหลมในมือ Riley เสียบเข้าคอตายในที่สุด แต่ Ellie ก็สังเกตเห็นรอยแขนเสื้อของ Riley ขาดเพราะรอยกัดเธอจึงรีบเข้าไปดูด้วยความเป็นห่วง แต่ก็โชคดีที่เสื้อแจ็คเก็ตตัวโปรดของ Riley มันหนาพอที่ช่วยเอาไว้ได้ แต่มันก็คงไม่ได้โชคดีแบบนี้ทุกครั้งแน่ Ellie คิดในใจและมันทำให้ Ellie เผลอตัวโดดกอด Riley ทันทีเพราะความเป็นห่วง แต่ขณะนั้นพวก Runner อีกกลุ่มก็ตามเข้ามาทำให้ ทั้งคู่ที่กำลังซึ้งต้องรีบหนีทันทีแต่ความซวนมาเยือนเมื่อเส้นทางที่ทั้งคู่กำลังโกยหนีมันนำพาไปถึงทางตัน ท่ามกลางพวก Runner ที่กำลังตามเข้ามา แต่ก็ไม่รู้ส่าโชคดีหรือร้ายที่กลุ่มของ Firefly ที่อยู่แถวๆนี้เข้ามาช่วยเอาไว้ทัน เพราะยังไม่ทันที่ Riley จะดีใจว่าพวก Firefly ที่เธอคลั่งไคล้ได้เข้ามาช่วยพวกเธอเอาไว้
Riley ก็โดนพวกมันอัดจนสลบเสียก่อน Ellie รีบเข้าไปช่วยแต่ก็โดนซัดกระเด็นตามไป แต่ผู้หญิงคนนึงที่อยู่ในกลุ่ม Firefly จะเข้ามาห้ามเธอเอ่ยชื่อ Ellie ออกมาแสดงถึงว่ารู้จัก Ellie ดี ก่อนที่จะสั่งให้ลูกน้องจับตัวทั้งคู่ไปกับพวกมัน
Ellie และ Riley ถูกพวก Firefly จับมาที่อุโมงค์แห่งนึง ในขณะที่พวกมันกำลังเถียงกันด้วยความตื่นตระหนกเกี่ยวกับพวกติดเชื้อที่อาจกำลังแห่เข้ามาทางช่องที่เกิดจากการระเบิดตามคำสั่งที่พวกมันได้รับมา เสียงเถียงกันทำให้ Ellie เริ่มรู้สึกตัวเธอพยายามดิ้นจนเชือกที่มัดมือหลุดออกก่อนที่จะคว้าเอาเศากระจกใกล้ตัวเอาไว้ป้องกันตัว แต่พอผู้หยิงคนนึงที่ดูเหมือนเป็นหัวหน้าของพวกมันเข้ามา เธอก็จะแก้มัดให้ทั้งคู่ก่อนที่จะให้จดหมายฉบับหนึ่งและสั่งให้เปิดอ่านตอนที่กำลังไปถึงค่ายกักกัน แต่ดูเหมือน Riley จะไม่ยอมกลับเพราะเธอต้องการจะร่วมกลุ่มด้วยแถมเธอยังรู้ด้วยว่าผู้หญิงคนนี้คือ Marlene หัวหน้ากลุ่ม Firefly ที่เธอเคยเห็นในประกาศจับ แต่ Marlene ไม่ยอมไม่ว่า Riley จะอ้างถึงอุดมการณ์อันแรงกล้าของเธอแค่ไหนออกมาก็เถอะ
แต่จู่ๆกลุ่มโจรก็เข้ามาพบเข้า พวกมันพยายามจะเข้ามาปล้นอาวุธและยาจากพวก Firefly จนเกิดการต่อสู้ขึ้น คนของ Firefly โดนยิงร่วงไปห่อนหนึ่งในขณะที่ Riley ก็เริ่มแสดงความห้าวเป้งเข้าไปช่วยจนทิ้ง Ellie ที่พยายามกุมมือเธออยู่ทันที แต่ก็ถูกพวกโจรจับตัวเอาไว้ได้ Ellie พยายามขว้างหินเข้าไปช่วยจน Riley หาจังหวะหยิบปืนมายิงมันจนบาดเจ็บได้ ปิดท้ายด้วย Marlene ที่เข้ามายิงแสกหน้าพวกโจรจนตายฐานะที่ฆ่าคนของเธอ หลังเหตการณ์สงบสิ่งเดียวที่ Riley คิดว่าจะได้ยินคือ คำชมจาก Marlene ก่อนที่จะโดน Marlene ซัดไปหนึงที่แทน
Marlene – เธอคิดว่านี่มันเป็นเกมส์หรอ !
Riley – เปล่า ชั้นแค่
Marlene – หุบปาก ! เธอคิดว่าเป็นผู้หญิงเหมือนกันแล้วคิดว่ามันทำให้เธอเหมือนชั้นหรอ เธอคิดว่าทำแค่นี้ แล้วเธอก็จะเข้าใจอุดมการณ์ของพวกเราหรอ ? เธอไม่เข้าใจหรอกว่าที่พวกเราทำกับพวกเธอน่ะมันหมายถึงอะไร
Riley – ชั้นรู้ การบูชายัญ ใช่มั๊ย ชั้นเห็นพ่อชั้นกลายร่างแล้วกัดกินแม่ช้นต่อหน้าต่อตาก่อนที่ชั้นจะเป็นคนฆ่าไอ้ตัวประหลาดที่เคยเป็นพ่อของชั้นด้วยตัวเอง
Marlene – ฮึ ยินดีด้วย ตอนนี้เธอกลายเป็นเหมือนผู้รอดชีวิตทุกคนบนโลกใบนี้แล้ว
Riley – ชั้นเชื่อในอุดมการณ์ของ Firefly
Marlene – อ๋อ หรอ ! งั้นดูนี่ พวกชั้นที่นอนตายอยู่เนี้ยก็เชื่อในอุดมการณ์นั่นเหมือนกัน แล้วไง อยากเจอจุดจบแบบนี้เรอะ ก็ได้ ชั้นจะให้เธอเป็น Firefly ดีมั๊ย แล้วชั้นก็จะฆ่าเธอตรงนี้ ยังจะอยากเป็นมั๊ย ! งั้นดูสิเธอจะแน่แค่ไหน
Ellie เห็นท่าไม่ดีจึงพยายามกัดมือของคนที่จับตัวเธออยู่และแย่งปืนมันมาได้สำเร็จ ก่อนที่จะยิงใส่ Marlene เพื่อเตือนให้หยุดทำร้าย Riley ก่อนที่จะถามเรื่องที่เธอคาใจว่า ทำไม Marlene ถึงรู้ชื่อเธอ
Ellie – ทำไมถึงรู้จักชื่อชั้น ?
Marlene – ชั้นรู้มากกว่านั้นอีก จดหมายที่ให้เธอไปเป็นของแม่เธอที่เขียนถึงเธอก่อนตาย
Ellie – อย่ามาโกหก !
Marlene – พวกเรารู้ความเคลื่อนไหวของเธอมาตลอดแหละ ซึ่งก็แค่อยากให้แน่ใจว่าเธอยังปลอดภัยเท่านั้น
Ellie – ทำไมล่ะ ?
Marlene – ก็เพราะชั้นสัญญากับแม่เธอไว้ไงล่ะ ชั้นนี่แหละที่เอาเธอยัดใส่รถโรงเรียนเพื่อให้หนีออกมาจนเธอปลอดภัย
Riley – เชื่อเถอะ Ellie Marlene เธอไม่โกหกหรอก
Ellie – แล้วแม่ชั้นชื่ออะไร ?
Marlene – เธอชื่อ ANNA แล้ววันนึงชั้นจะเล่าเรื่องแม่ของเธอให้ฟัง ตอนนี้เธอรู้ไว้แค่ว่า แม่เธอยอมตายเพื่อให้เธอปลอดภัยด้วยมีดพกเล่มนี้ เก็บมันเอาไว้ให้ดี แค่นั้นก็พอแล้ว อย่าลืมเด็ดขาด …เอาล่ะพวกเธอไปกันได้แล้ว บันไดนี่จะขึ้นไปที่หลังโรงเรียนเก่าของเธอหวังว่าคงหาทางกลับได้น๊ะ โชคดี
Riley – Ellie เธอก็รู้ว่าถ้ากลับไปทุกอย่างมันก็จะกลับเป็นเหมือนเดิม
Ellie – ก็ได้ฟังน๊ะ !! ช่างหัวจดหมายนี่ ช่างหัว Firefly ช่างหัวพวกทหาร ช่างหัวแม่งทุกคนในเมืองนี้ด้วย ! เราก็แค่หนีไปให้พ้นจากที่นี่ซะ แค่นั้นเอง ดีมั๊ย
Riley – พอเลย หนีจากที่นี่หรอ ? มันก็แค่ทำให้เราได้ไปตายในที่ที่ไกลกว่าเดิมแค่นั้นแหละ ถนนทุกสายของเมืองบ้าๆนี่มันก็มุ่งไปสู่จุดจบเดียวหมดกันแหละ …ไปเถอะ กลับก็กลับ …
ในห้องพัก มีแต่ Ellie เท่านั้นที่รับรู้ถึงข้อความในจดหมาย ความในใจจากแม่ที่มีให้เธอ กับมีดพกของแม่ พรหมแดนสุดท้ายที่กั้นกลางระหว่างความตายของแม่และความอยู่รอดของเธอ และตอนนี้ก็ทำให้ Ellie มีสมบัติชิ้นสำคัญเพิ่มขึ้นมาอีกอย่างแล้ว
เหตุการณ์เริ่มต้นจากความว่างเปล่าของเด็กผู้หญิง 2 คนที่มาพบกัน คนนึงอ่อนนอกแข็งในแต่ก็ขาดซึ่งความมุ่งมั่นและเป้าหมาย ส่วนอีกคนแข็งนอกอ่อนใน เต็มไปด้วยอุดมการณ์ที่แรงกล้าแต่ไร้ซึ่งความคิด เหตุการณ์ร้ายทำให้ทั้งคู่เติมเต็มกันจนมันดำเนินมาถึงจุดที่ความสัมพันธ์ของทั้งคู่แนบแน่นขึ้นจนกลายเป็น เพื่อนรัก โดยไม่รู้ตัว สถานะการณ์อาจมาถึงจุดผ่อนคลายจน Ellie มีเวลาพอที่จะทบทวนถึงเวลาที่เธอเคยเสียไปและเริ่มคิดถึงวันข้างหน้า แต่ใครจะรู้ว่า อุดมการณ์ของ Riley อาจถูกหยุดเอาไว้ด้วย มิตรภาพของ Ellie ในวันนี้ เพื่อรอโอกาสเหมาะๆที่เธอจะโผบินออกไปสู่โลกภายนอกอีกครั้ง ในวันใดวันนึง ซึ่งอาจเป็นวันที่ Ellie ไม่สามารถหยุด Riley ไว้ได้เหมือนวันนี้ก็เป็นได้ …..
บทสรุป THE LAST OF US
BY- Decibel per - oxide
Prologue
Hometown
1.30 P.M... Texas City ในขณะที่ Joel กำลังยุ่งกับเรื่องงานกับ Tommy จนทำให้กลับบ้านดึก ทำให้ Sarah ลูกสาวของเขาที่นอนรอจนง่วงต้องเตือนความจำว่าวันนี้เป็นวันเกิดก่อนที่เธอจะเอาของขวัญยื่นให้พ่อของเธอ ทำเอา Joel ถึงกับดีใจจนพูดไม่ถูกเมื่อแกะดูจะพบว่าข้างในเป็นนาฬิกาข้อมือเรือนงามที่ลูกสาวอุตสาหะซื้อให้ แต่ยังไม่ทันได้ขอบคุณ Sarah ก็หลับคาโซฟาไปซะแล้ว Joel ค่อยๆอุ้ม Sarah เข้าไปนอนในห้องก่อนที่จะแยกตัวไปนอนอีกห้อง
Sarah นอนไปได้ไม่นานโทรศัพท์ก็ปลุกเธอให้ตื่นอีกครั้ง เพราะ Tommy โทรมาตามหา Joel พ่อของเธอเหมือนจะมีเรื่องด่วน Sarah จึงต้องเดินงัวเงียไปบอกพ่อของเธอ บังคับ Sarah เดินเข้าไปที่ห้องของ Joel ก็ไม่พบพ่ออยู่ในห้อง และเมื่อลงบันไดไปชั้นล่าง Sarah จะเริ่มได้ยินเสียงความวุ่นวายจากนอกบ้าน เมื่อเข้าไปที่ห้องรับแขกหน้าบ้านจะพบ Joel รับวิ่งเข้ามาอย่างตื่นตระหนกแล้วรีบเข้าไปเอาปืนพกมาใช้ทันที ก่อนที่คนบ้าคลั่งจากด้านนอกจะพังประตูเข้ามา Sarah จำได้ว่าเป็นเพื่อนบ้านของเธอ ก่อนที่ Joel จะยิงเขาจนตายไปต่อหน้า Sarah ก่อนที่มันจะเข้ามาทำร้ายเธอ ขณะที่โชคยังดีที่ Tommy ขับรถมารับที่หน้าบ้าน Joel จึงรีบพา Sarah ขึ้นรถของ Tommy หนีไปทันที ระหว่างที่ขับรถหนีไปจะพบความวุ่นวายมากมายระหว่างทางที่มีชาวบ้านทั่วไปเริ่มบ้าคลั่งและออกทำร้ายคนอื่นไปทั่ว แต่รถของ Tommy ก็ขับไปได้ไม่ไกลเพราะรถเริ่มติดเพราะชาวเมืองขับรถหนีออกไปในจำนวนมากทำให้รถของ Tommy ถูกชนจนคว่ำ ทันทีที่ Joel ออกมาจากรถก็จะพบกับพวกคนบ้าคลั่งมากมายที่เริ่มบุกเข้ามาทำร้าย บังคับ Joel อุ้ม Sarah หนีออกไปจากซากรถตาม Tommy ที่วิ่งนำทางเข้าไปในเมืองจนถึงร้านอาหาร Tommy จะอาสาต้านพวกคนบ้าคลั่งเอาไว้แล้วให้ Joel พา Sarah หนีไปก่อน พา Sarah หนีออกมาที่ถนนแล้ววิ่งลอดใต้สะพานท่ามกลางพวกบ้าคลั่งที่ตามหลังมามากมาย แต่ก็โชคดีที่มีทหารมาช่วยยิงช่วยเอาไว้ แต่ทหารก็ได้รับคำสั่งให้ฆ่าทุกคนเพราะกลัวจะติดเชื้อ ทำให้มันกราดยิงใส่ Joel และ Sarah ทันที แต่ Tommy ก็เข้ามาจัดการกับทหารเอาไว้ได้ทัน
Joel ที่กระเด็นกลิ้งตกไปด้านล่างรีบเข้าไปดู Sarah Joel ร้องตะโกนด้วยความเป็นห่วง…แต่โชคร้ายที่ Sarah โดนลูกหลงถูกยิงเข้าที่ท้องเต็มๆ เธอได้แต่ร้องด้วยความทรมาน ก่อนจะแน่นิ่งไปในอ้อมกอดของ Joel ในที่สุด …..
Ophiocordyceps Unilateralis
หรือ Cordyceps เชื้อราระเบิดหัวมด เชื้อราชนิดนี้ฝังตัวเข้าไปในมดงานแล้วเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมมดเพื่อการขยายพันธุ์ของมัน Cordyceps เข้าไปในร่างกายมดผ่านทางระบบหายใจ และดูดซึมอาหารจากเนื้อเยื่อภายในร่างกายมดอย่างช้าๆ เมื่อเชื้อราพร้อมจะขยายพันธุ์โดยสปอร์ มันก็จะงอกเส้นใย mycelia ปกคลุมปมประสาทของมดและเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการรับรู้สารฟีโรโมนบางประการ มดงานจะปีนขึ้นไปบนยอดไม้สูงๆ เอากรามเกี่ยวงับกับใบไม้เพื่อตรึงตัวเองอยู่อย่างนั้น เชื้อราจะฆ่ามดและสร้างโครงสร้างที่คล้ายถุงสปอร์กับก้านชูขึ้นบนหัวของมด จากนั้นถุงบรรจุสปอร์จะระเบิดออกและปลดปล่อยสปอร์ล่องลอยไปในอากาศ
Cordyceps เชื้อราตัวนี้เป็น 1 ใน 4 สายพันธุ์ของเชื้อรา Ophiocordyceps unilateralis พบในเขตป่าร้อนชื้นของประเทศ Brazilมันสามารถแทรกซึมเข้าไปในตัวมด ควบคุมปมประสาทของมัน และเมื่อเจ้ามดทำตามที่มันต้องการคือพาไปยังแหล่งที่เหมาะสมต่อการเจริญเติบโตและสร้างสปอร์ มันก็จะสังหารมดและใช้มันเป็นแหล่งอาหาร เชื้อรา 4 สายพันธุ์นี้ แต่ละชนิดจะเลือกพันธุ์ของมดที่เหมาะสมต่อการเจริญเติบโตของพวกมันและมีวิธีแตกต่างกันไปในการควบคุมสมองของมด เชื้อราบางชนิดสร้างแท่งเกาะยึดภายนอกร่างกายของมด จากนั้นเจาะผ่านเข้าไปในตัวของมัน บางชนิดสร้างสปอร์และเมื่อมีมดตัวอื่นเข้ามาใกล้ มันจะระเบิดสปอร์เข้าไปเกาะติดมด โดยที่พวกมันไม่รู้ตัวและกลายเป็น มด zombie ตัวต่อไป เมื่อเจ้าเชื้อราเข้าไปในร่างกายมดมันจะงอกเส้นใยเข้าไปควบคุมปมประสาทของมดและเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของมัน มดจะปีนขึ้นไปบนที่สูง เอาปากของมันงับแน่นอยู่กับใบไม้ และร่างของมันจะกลายเป็นที่เพนะพันธ์สำหรับเชื้อรา เมื่อมดตายเชื้อราจะแพร่ไปทั่วตัวของมันอย่างรวดเร็ว หลังจากนั้นเชื้อราจะดูดกินสารอาหารและน้ำเลี้ยงจากตัวมด และเจริญเติบโตบนซากของมัน จากนั้นจะสร้างโครงสร้างที่คล้ายถุงสปอร์กับก้านชูขึ้นบนหัวของมดจน ก้านสปอร์ของเชื้อราที่ถูกสร้างเสร็จสมบูรณ์ที่ดูลักษณ์คล้ายกับเขาที่งอกออกมาจากหัวมด การศึกษานี้ยังพบว่าไม่เพียงแต่มดเท่านั้น ยังมีสัตว์ชนิดอื่นๆที่กลายเป็นซอมบี้ด้วย เช่น แมงมุม ,หอยทาก ,หนอนผีเสื้อ , แมลงวัน
….จนถึงวันนึงที่มันเกิดกลายพันธ์และเข้าโจมตีสิ่งมีชีวิตที่ใหญ่กว่านั้น มนุษย์ …!! จนทำให้ผู้คนมากมายต้องกลายพันธ์และตายลงเป็นจำนวนมาก จนเมืองใหญ่กลายเป็นเมืองร้างที่เต็มด้วยป่ารกปกคลุมเหมือนยุคที่เคยไร้ซึ่งผู้คนอีกครั้ง…. นับแต่นั้น ..เวลาก็ล่วงเลยมาแล้ว 20 ปี……
20 ปีหลังจากวันสิ้นโลกที่เรียกขานกันว่า อโปคาลิปส์ มนุษย์เกือบทั้งหมดถูกทำลายจนหมดสิ้นจากการแพร่ระบาดของไวรัสที่เกิดจากเห็ดรากินคน Cordyceps ( Ophiocordyceps Unilateralis ) ทำให้มนุษย์ติดเชื้อและกลายพันธ์ไปเกือบครึ่งของมนุษย์ทั้งหมด โดยที่รัฐบาลไม่สามารถควบคุมได้ และไม่มีทางเลือกที่จะใช้กองทัพสร้างเขตกักกันโรค โดยกักผู้รอดชีวิตทั้งหมดเอาไว้ที่เมือง บอสตัน ที่เรียกว่า Boston quarantine zone ซึ่งก็มีทั้งผู้ที่ติดเชื้อจนกลายพันธุและพวกที่ปลอดเชื้อปะปนกัน แต่ปัญหาทั้งหมดยังไม่ได้คลี่คลายลงไป เนื่องจากเสบียงอาหารทั้งหมดนั้นใกล้จะหมดลง อากาศเริ่มแปรปรวน และผู้ที่ปลอดเชื้อก็เริ่มติดเชื้อและบ้าคลั่งขึ้นมา ทำให้ผู้ที่ปลอดเชื้อต้องทำทุกวิถีทางที่จะหาทางหนีออกจากสถานกักกันนี้ไปตายเอาดาบหน้ามากว่าอยู่ในนรกบนดินแห่งนี้
Joel สะดุ้งตื่นจากฝันร้ายพร้อมๆกับเสียงเคาะประตูที่ดังขึ้น Tess เพื่อนร่วมธุรกิจเข้ามาในสภาพสบักสบอม เธอรีบบอกถึงข่าวร้ายเรื่อง อาวุธ สินค้าหลักที่ทั้ง Joel และ Tess ใช้ซื้อขายหาเลี้ยงชีพในฐานะพ่อค้าอาวุธ ถูกกลุ่มของ Robert ปล้นเอาไป Tess ต้องการให้ Joel เดินทางไปทวงหนี้แค้นกับเธอด้วย จากนั้นเดินตาม Tess ออกจากตึกไปตามทางในเมือง หรือ แบล็กมาเก็ต เขตกักกันที่ดูเหมือนมีคนกำลังเริ่มติดเชื้อจนกลายพันธ์มากขึ้นจนทำให้ทหารต้องคอยควบคุมอย่างเข้มงวด ระหว่างที่ Joel และ Tess กำลังผ่านด่านตรวจเข้าเขต แอเรีย 5 ก็เกิดการระเบิดขึ้นจนเกิดความวุ่นวายไปทั่วแล้วประตูทางออกของเมืองก็ถูกปิดลงทันที Tess จึงพา Joel หาทางออกไปตามเส้นทางลับของเธอไปตามซากตึก Tess จะให้ Health Kit พร้อมสอนวิธีการใช้ เมื่อเดินเข้าไปตามซากตึกจนถึงห้องเก็บของ Joel และ Tess จะเก็บปืน ,ไฟฉาย, หน้ากากแก๊ส และเป้เอาไว้ใช้
Tutorial – เรียนรู้การบังคับเบื้องต้น
สามเหลี่ยม – สำรวจ
สี่เหลี่ยม – ต่อย
O – หมอบต่ำ
L2 - วิ่ง
L1 + R1 – ใช้อาวุธปืน
R1 – รีโหลดกระสุน
แกนอนาล็อกขวา (L3)+ X – หันหลังกลับตัว / ข้ามสิ่งกีดขวาง
กดปุ่มทิศทางขึ้นบน แล้วกด R1 ค้าง – ใช้ Health Kit ในการรักษาการบาดเจ็บ
กดแกนอนาล็อกขวา (R3) - ใช้ไฟฉาย
ปุ่มทิศทาง D-Pad - ใช้เลือกใช้อาวุธและไอเทม
back – เปิดเมนู CRAFTING / Upgrade Skill
** การผสมไอเทม (CRAFTING) **
การผสมไอเทมนั้นไม่ยุ่งยาก โดยเมื่อกดปุ่ม back เรียกเมนูขึ้นมาจะสามารถเลือกผสมไอเทมตามรายชื่อที่มีได้เลยทั้ง มีดสั้น , Health Kit และระเบิดชนิดต่างๆ โดยต้องใช้วัตถุดิบที่เก็บได้ตามทางมาใช้ในการสร้างในจำนวนตามที่กำหนด
จากนั้นมุดตามทางซากตึกตาม Tess ไปจนออกมาที่ลานตรงกันข้าม เดินเข้าไปหยิบบันไดที่ด้นหลังซากรถมาแล้วเอามาพาดที่ตัวตึกตรงข้ามเพื่อใช้ปีนขึ้นไปด้านบนต่อ [ระหว่างทางนั้นถึงแม้จะไม่ได้กว้างมากแต่ก็อย่าลืมสำรวจเก็บไอเทมต่างๆที่ซ่อยอยู่เอาไว้ด้วย ถึงแม้จะไม่มีเยอะมากแต่จะทิ้งไปก็น่าเสียดาย] เข้ามาจนถึงด้านในซากตึกจะพบว่าเต็มไปด้วยละอองของสปอร์ของเชื้อรา Cordyceps ฟุ้งกระจายอยู่ทั่วไปหมดจนต้องหยิบหน้ากากกันแก็สมาใช้ ระหว่างาทางจะพบคนที่กำลังจะตายซึ่งเป็นที่ซ้อมยิงปืนให้กับ Joel ได้อย่างดี เข้าไปด้านในห้องจะเริ่มพบพวก Runner อยู่เต็มไปหมด ซึ่งจะได้เรียนรู้การใช้งานระบบการฟังเพื่อเอาตัวรอดอีกด้วย
Runner - การติดเชื้อระยะแรกของ เชื้อรา Cordyceps ที่สปอร์ได้แทรกซึมเข้าไปในระบบประสาทของมนุษย์จนมันกระจายตัวเข้าไปสั่งงานรางกายเหยื่อที่เป็นพาหะของมันได้ทั้งหมด มันจะกระตุ้นให้ร่างวิ่งเข้าหาสิ่งมีชีวิตสายพันธ์เดียวกันให้เร็วที่สุดเพื่อการขยายพันธ์อย่างรวดเร็ว ร่างของพาหะนี้จะเคลื่อนไหวเข้ามาหาด้วยความเร็วจนเรียกกันว่า นักวิ่ง หรือ Runner นั่นเอง ซึ่ง Runner นั้นสามารถเห็นแสงไฟจากไฟฉายได้อย่างชัดเจนจึงต้องอย่าลืมปิดเมื่อพยายามจะแอบพวกมันด้วย แต่ Runner นั้นไม่ค่อยแข็งแกร่งอะไรมากซึ่งสามารถลอบฆ่าจากด้านหลังหรือสู้ตรงๆได้ไม่ยากนัก (แต่ถ้ามันวิ่งมาเป็นฝูงก็แย่เหมือนกัน) …
Listen Mode – ระบบการฟังเพื่อเอาตัวรอดโดยการกด R2 ค้างจะทำให้ให้เคลื่อนเสียงของศัตรูออกมาเป็นเงารางๆจากอีกฝากของพนังได้ ซึ่งการฟังนี้จะเป็นการเอาตัวรอดในการหลบเลี่ยงศัตรูหรือมองทิศทางการเคลื่อนไหวของศัตรูเพื่อจะได้หาจังหวะลอบจัดการมันได้ง่ายขึ้น
จากนั้นลอบจัดการตัวแรกที่ใกล้สุดก่อนส่วนอีก 2 ตัวด้านในก็จัดการมันตามสมควรได้เลย แล้วขึ้นชั้นบนต่อจนพบช่วงทางขาด ลงไปชั้นล่างเก็บแผ่นไม้ขึ้นมาให้ Tess เอาไปพาดเป็นสะพานแล้วปีนกลับขึ้นไปข้ามไปอีกฝั่งนึงได้ เมื่อออกจากตึกจะเข้าสู่ทางเข้าแหล่งชุมชนของเขตแอเรีย 5 ที่เป็นที่ซ่องสุมของพวก Robert เมื่อผ่านเข้าไปถึงด้านในแล้ว Tess จะถามถึง Robert กับพวกลูกน้องของมันที่ออกมา แต่ดูเหมือนพวกมันจะไม่ต้อนรับ Tess กับ Joel ซะแล้ว การยิงต่อสู้จึงเกิดขึ้น จัดการพวกมันให้หมดแล้วเข้าไปด้านในต่อจะลอบเข้าไปหรือจะยิงถล่มก็สุดแล้วแต่ เมื่อจัดการหมดก็จะได้กุญแจโกดังจากศพของพวกมันมา เอาไปไขเข้าประตูด้านในไปจะเข้าไปในเขตโกดังสินค้าที่มีพวกลูกน้องของ Robert อยู่มากมาย จากนี้ไปก็ต้องใช้ความสามารถในการลักลอบจัดการศัตรูตามรูปแบบที่คุณถนัดได้เลย
** เรียนรู้ Bricks N Bottles ที่สามารถเก็บขวดน้ำและก้อนอิฐมาใช้ขว้างให้ศัตรูสับสนหรือใช้ขว้างโจมตีใส่หัวศัตรูได้เช่นกัน **
ลอบขึ้นไปในโกดังด้านในที่ชั้น 2 เก็บเก็บมีดสั้น SHIV บนโต๊ะ เพื่อใช้ในการฆ่าศัตรูในช่วงที่ล็อคคอมันจากด้านหลังได้ ลอบเข้าไปจนถึงประตูชัตเตอร์ด้านในผ่านเข้าโกดังส่วนในจะพบ Robert อยู่กับลูกน้องมากมายด้านใน พยายามลอบจัดการศัตรูเข้าไปจนถึงประตูด้านในสุดให้ได้ เข้าไปจะพบ Robert ในห้องทำงาน ทันทีที่มันเห็น Joel กับ Tess มันจะเริ่มหนีทันที พยายามวิ่งไล่ผ่านสิ่งกีดขวางเข้าไปจนทัน เมื่อ Robert ไปไหนไม่รอดมันจึงพยายามตกลงกับ Joel กับ Tess แต่ดูเหมือนทั้งคู่จะไม่ได้สนใจอะไรมากไปกว่าอาวุธที่ Robert ปล้นไป ในขณะที่ Joel คาดเค้นมันอยู่นานจนมันยอมบอกว่าอาวุธทั้งหมดของ Joel นั้นมันได้ขายให้กับกลุ่ม Firefly ไปหมดแล้ว ทำเอา Tess หงุดหงิดมากจึงยิงใส่ไปหมดแม็กจนตายคาที ขณะนั้น Marlene หัวหน้ากลุ่มลาดคระเวณของกลุ่มต่อต้าน Firefly ที่อยู่ที่นี่ด้วยก็เข้ามาคุย ดูเหมือนเธอจะได้รับบาดเจ็บอยู่ด้วย Joel กับ Tess จึงพยายามจะเจรจาของอาวุธทั้งหมดที่ Robert ขายไปคืนมา โดย Marlene จะบอกว่าอาวุธทั้งหมดนั้นสำคัญกับการใช้ป้องกันแค็มป์ของเธอเหมือนกันแต่เธอก็ตกลงจะคืนให้ครึงนึงจากของทั้งหมด Joel ไม่ค่อยพอใจแต่ก็ดีกว่าเสียไปทั้งหมดก็ยอมตกลง แต่ขณะนั้นพวกลูกน้อง Robert ก็ตามมาทำให้ทั้ง 3 คนรีบหนีออกจากพื้นที่นี้ทันที
จากนั้นตาม Marlene นำทางไปบนซากตึกเป้าหมายคือเข้าประตูฝั่งตรงข้ามโดยต้องลอบหลบพวกทหารรับจ้างขึ้นไปชั้นบนทะลุไปอีกด้านแล้วลงบันไดมาจนถึงประตูแล้วเข้าไปต่อผ่านโกดังเข้าไปตามทางจน Marlene เริ่มทนกับอาการบาดเจ็บไม่ไหว แต่ขณะที่กำลังลอบเข้าไปด้านในเด็กสาวคนนึงก็พุ่งโจมตีออกมา เธอหมายจะช่วย Marlene แต่ Joel ก็จับเธอเอาไว้ได้ Marlene รีบห้ามไม่ให้ Joel ทำร้ายเธอก่อนทีจะแนะนำว่าเด็กคนนี้ชื่อ Ellie เป็นคนของเธอเองที่ตามมาด้วย
Marlene ที่บาดเจ็บจึงขอร้องให้ Joel กับ Tess ช่วยพา Ellie ไปที่เขตกักกันที่ใกล้ที่สุดเพื่อให้เธอปลอดภัยด้วย Joel กับ Tess รีบปฏิเสธทันที แต่ Marlene ก็ต่อรองที่จะให้อาวุธทั้งหมดคืนให้กับทั้งคู่พร้อมแถมให้อีก 2 เท่าถ้ายอมรับข้อเสนอ ทำให้ Joel ยอมตามข้อตกลงท่ามกลางความไม่พอใจของ Tess อย่างมาก แต่ Joel พยายามบอกว่าเด็กคงอยู่ด้วยไม่นานแต่ค่าตอบแทนก็คุ้มค่าอยู่ จากนั้น Joel จะพา Ellie ล่วงหน้าไปก่อนโดยทิ้งให้ Tess ดูแล Marlene อยู่ที่นี่ก่อน …
Joel พา Ellie เดินทางไปต่อระหว่างทางจะพบพวกกลุ่ม Firefly นอนตายกันเกลื่อน เข้าไปจนถึงซอกตึกเข้าไปดึงเอาถึงขยะด้านในออกมาใช้ปืนขึ้นไปที่บันไดชั้นบนของตึกต่อ เดินเข้าไปตามห้องพักจนถึงห้องนึงที่เปิดอยู่ Joel จึงจะใช้ที่นี่เป็นที่พักชั่วคราวสำหรับคืนนี้ไปก่อน และดูเหมือนเขาจะไม่ค่อนสนใจ Ellie มากเท่าไหร์นัก นอกจากจะถามด้วยความแปลกใจที่เด็กอายุ 14 เป็นเพื่อนกับ Marlene หัวหน้ากลุ่ม Firefly ได้ ซึ่ง Ellie ก็บอกแค่ว่า Marlene เป็นเพื่อนกับแม่เธอต่างหาก ก่อนที่ Ellie จะแซวนาฬิกาของ Joel ที่ดูเหมือนมันจะพังแล้วยังจะเอามาใส่อีก ซึ่ง็ทำให้ Joel รีบตัดบทรีบนอนทันที หลังจากนอนพักได้ไม่นาน Joel ก็ตื่นจากฝันร้านเช่นเดิม ในขณะที่ Tess ก็ตามเข้ามาสมทบ เธอบอกว่า Marlene จะขอกลับไปดูแลพรรคพวกของเธอก่อนจึงบอกให้ Tess ตามมาคุ้มครอง Ellie ด้วย จากนั้นออกเดินทางต่อ เข้าห้องด้านในช่วยกันดันโต๊ะจนเห็นทางเข้าไปที่ห้องลิฟต์ด้านในเพื่อใช้มันลงมาชั้นล่างต่อ เมื่อออกไปนอกตึกระหว่างทางทั้ง 3 จะโดนพวกทหารจับได้ ในขณะที่ทหารพยายามจะตรวจสอบสแกนหาไวรัส ซึ่ง Joel และ Tess ก็ไม่ได้คิดอะไรมากแต่เมื่อสแกนมาจนถึง Ellie เธอกลับโจมตีใส่ทหารจนเกิดการต่อสู้ขึ้นทำให้ Joel และ Tess ไม่มีทางเลือกที่ต้องจัดการทหารจนหมด Tess เริ่มรู้สึกผิดปกติที่
Ellie ไม่ยอมให้ตรวจซึ่งน่าจะแปลว่าเธอติดเชื้ออยู่ Joel โกรธมากที่ Marlene เอาเด็กติดเชื้อมาให้เขา เมื่อ Ellie โดนบีบคั้นอยากหนักเธอก็เปิดบาดแผลติดเชื้อให้ดูก่อนที่เธอจะรีบอธิบายว่าเธอเป็นแบบนี้มา 3 อาทิตย์แล้ว ซึ่ง Tess นั้นไม่เชื่อเพราะพวกติดเชื้อนั้นไม่เกิด 2 วันก็จะกลายสภาพทันที ในขณะพวกทหารจะเริ่มตามมาสมทบจนทั้ง 3 คนต้องรีบหนีออกไปจากที่นี่กันก่อน ..
The Outskirts
Joel, Ellie และ Tess หนีลงมาตามซากท่อระบายน้ำในเขตที่ 12 นอกเมือง จากนั้นก็พยายามหลบพวกทหารที่เข้ามาเข้าไปจนถึงท่อระบายน้ำด้านในก็จะสามารถออกมาอีกฝั่งและพน้าการติดตามจากพวกทหารสำเร็จ ในขณะที่ทั้ง 3 พักเหนื่อย Tess พยายามถามถึงแผนของ Marlene กับ Ellie ซึ่งเธอบอกว่า Marlene นั้นตั้งใจจะพาตัวเธอไปยังสถานกักกันโรคที่ใกล้ที่สุดเพื่อให้นักวิจัยทำการวิเคราะห์เลือดของเธอ โดย Marlene เชื่อว่าเลือดของ Ellie นั้นสามารถนำไปสกัดทำวัคซีนรักษาการติดเชื้อจากเชื้อรา Cordyceps ได้ ข้อมูลที่ Ellie บอกว่าทำเอา Tess ถึงกับเงียบไปในขณะที่ Joel โวยวายด้วยความไม่เชื่อและไม่อยากจะเสี่ยงมากไปกว่านี้ เขาเสนอให้หันหลังกลับไปที่เขตกักกัน แบล็กมาเก็ต ในขณะที่ Tess ฟังเรื่องราวแล้วจึงอยากจะลองเสี่ยงดู โดยที่เธอพอจะรู้จักกลุ่มนักวิจัยเพื่อนของเธอที่หลบซ่อนอยู่ที่ห้องสมุดกลางที่ไม่ไกลไปจากนี่ ไม่แน่พวกเขาอาจพอช่วยเหลืออะไรได้บ้างก็ได้
จากนั้นเดินทางต่อไปตามซากเมืองในเขต Downtown ต่อสภาพของเมืองนั้นเสียหายยับเยินแถมมีรอยแยกขนาดใหญ่ผ่านกลางเมืองอีกด้วย Joel จึงหาทางที่จะหาทางลัดไปทางซากตึกทางขวาต่อ ขึ้นไปตามซากตึกค้นหาไอเทมให้ทั่วๆระหว่างทาง Joel จะเริ่มพบพวก Clicker เข้ามาโจมตีแล้ว
Clicker – การติดเชื้อระยะที่ 3 ในการแพร่เชื้อของเชื้อรา Cordyceps เป็นช่วงที่ทำให้มนุษย์ที่เป็นพาหะของมันอยู่ในระยะขยายพันธ์ทำให้หัวของมันแยกออกคล้ายดอกเห็ดขนาดใหญ่ที่พร้อมจะปล่อยสปอร์ของราออกมาสู่ชั้นบรรยากาศเพื่อขยายอณาเขตการแพร่พันธ์ของพวกมัน ซึ่งจานขนาดใหญ่บนหัวจะทำให้พวกมันตาบอด แต่ก็สามารถใช้จานนั่นเป็นตัวสะท้อนสัญญาณเสียงได้ มันจึงได้ชื่อว่า Clicker การรับมือกับพวก Clicker นั้นเนื่องจากพวกมันตาบอดจึงสามารถหลบอยู่เงียบๆได้ยามมันผ่านมา การโจมตีตัวนึงนั้นไม่ยากแต่ตัวที่เหลือก็พร้อมจะเข้ามาสมทบตามเสียงที่กระจายออกไปซึ่งการโดน Clicker กันนั้นทีเดียวก็ตายทันที จุดอ่อนของมันก็คือ ระเบิดเพลิง (Molotov) เพราะเมื่อเราขว้างไปแล้วด้วยการที่พวกมันตาบอดมันก็จะวิ่งมาเสียงที่ไฟที่ลุกอยู่จนมันโดนไฟครอกตายไปเอง
ลอบจัดการ Clicker เข้าไปตามซากตึก ระหว่างทางจะสามารถเก็บไอเทมยาเพิ่มพลังที่เป็นเสมือน Skill Point ในการใช้อัพ Skill ได้ด้วยโดยเข้าไปที่เมนู Skill Upgrade โดยกดปุ่ม Back เข้าในห้องด้านในต่อจนพบห้องที่เต็มไปด้วย Runner และ Clicker อยู่ซึ่ง Tess จะให้ Joel เข้าไปจัดการพวกมัน หลังจากลอบเข้าไปจัดการพวกมันจนหมดแล้ว Tess และ Ellie จะตามมาสมทบ จากนั้นเก็บปืน Revolver จากศพของ Runner มาใช้
** Weapon Slotting การเปลี่ยนอาวุธนั้นสามารถทำได้โดยกดปุ่มทิศทางทางขวาเพื่อเลือกใช้อาวุธปืนสั้นแล้วกด X ค้างเอาไว้จะมี Slot ให้เลือกปืนออกมา (ในกรณีที่มีปืนมากกว่า 1 ชนิด) **
เดินเข้าไปในซากตึกต่อจนถึงจุดที่พบศพพร้อม ระเบิดเพลิง (Molotov) ตกอยู่ ซึ่งเป็นไอเทมที่ใช้กับฝูง Clicker ได้ดีที่สุด เมื่อเข้าในห้องกว้างด้านในจะพบพวก Clicker เป็นฝูงอยู่เต็มห้อง สิ่งที่ต้องทำคือลอบเข้าไปที่ทางออกที่ประตูสุดทางด้านในโดยใช้การฟังหลบพวกมันเข้าไป ด้านในที่หน้าประตูจะมี Clicker อยู่อีก ตรงนี้สามารถทดลองใช้ ระเบิดเพลิง (Molotov ) ขวางพวกฆ่ามันทั้งกลุ่มได้เลย เมื่อห้องเคลียแล้วจึงสามารถเข้าไปสำรวจบันไดด้านบนแล้วให้ Ellie โดดขึ้นไปเอามาลงใช้ปีนข้ามประตูไปอีกฝั่งได้ เมื่อออกมาจากซากตึกได้แล้วเดินมาที่ถนนจะพบรถบรรทุกขวางทางอยู่ เข้าไปที่ซากตึกทางซ้ายจัดการ Runner ให้หมดแล้วดันโต๊ะออกมาด้านนอกเพื่อใช้ยืนปีนข้ามรถบรรทุกไปอีกฝั่งได้ ระหว่างนั้นรีบเข้าไปที่ประตูชัตเตอร์ที่ตึกด้านในในขณะที่เสียงของพวก Clicker เริ่มใกล้เข้ามา เมื่อเข้ามาในตึกในโรงรถจะพบโต๊ะที่ใช้สำหรับการ Upgrade อาวุธอยู่ที่นี่ด้วย
** Weapon Upgrade – การอัพเกรดอาวุธนั้นสามารถทำได้ด้วยการใช้วัตถุดิบ (Part) ที่เก็บได้ตามทางมาทำการอัพเกรด โดยการอัพเกรดต่างๆนั้นจะใช้จำนวนของ วัตถุดิบ (Part) ที่แตกต่างกัน เมื่อต้องการอัพเกรดปืนที่ต้องการก็แค่ดูจำนวน วัตถุดิบ (Part) ให้พอดีกับค่าในการอัพเกรดแล้วกด O ค้างเพื่อทำการอัพเกรดได้เลย ซึ่งนอกจากจะทำการอัพเกรดอาวุธที่มีอยู่ได้แล้วได้แต่ไม่สามารถสร้างอาวุธใหม่ๆขึ้นมาได้ แต่การจะอัพเกรดในขั้นที่สูงขึ้นนั้นจำเป็นต้องเก็บไอเทม Acquired Tool มาก่อนเพื่อปลดล็อคระดับเลเวลในการอัพเกรด ซึ่ง Acquired Tool นั้นจะซ่อนอยู่ตามทางที่ต้องมองหาดีๆด้วย **
เมื่อขึ้นไปชั้น 2 จะพบว่าเป็นตึกพิพิธภัณฑ์ระหว่างทางที่ Joel พยายามจะยกแผ่นไม้ออกเพื่อทำทางให้ Ellie และ Tess ผ่านเข้าด้านในแต่มันถล่มลงมาซะก่อนจึงทำให้ Joel แยกออกจากกลุ่มในขณะที่เสียงกัดฟันที่ชวนสยองของพวก Clicker ก็เริ่มใกล้เข้ามา Ellie และ Tess จึงรีบหนีขึ้นไปชั้นบน จากนั้นลอบจัดการ Clicker ให้หมดในห้องแล้วขึ้นไปชั้นบนจัดการ Clicker ที่พยายามจะพังประตูเข้าไปแล้วเปิดเข้าไปจะพบ Ellie และ Tess กำลังโดนฝูง Runner รุมทำร้าย พยายามจัดการพวกมันให้หมดเพื่อช่วย Ellie และ Tess เอาไว้แล้วพาทั้งคู่เข้าไปด้านในต่อจนถึงทางออกจากตึก ที่ด้านหน้าตึก Tess จะชี้ให้ดูว่าตึกห้องสมุดกลางนั้นอยู่อีกไม่ไกลแล้ว เมื่อทั้ง 3 คนเดินเข้ายังตึกห้องสมุดกลางด้านในจะพบว่าคนที่นี่ถูกฆ่าตายจนหมด Tess นั้นออกอาการกระวนกระวายทันทีอย่างเห็นได้ชัด ในขณะที่ Joel กลับรู้สึกโล่งใจว่าอย่างน้อยก็จะได้กลับบ้านกันซะที Tess ไม่หยุดพยายามที่จะบอกว่าน่าจะพา Ellie ไปที่เมืองใกล้ๆที่มีห้องทดลองอยู่ซึ่งน่าจะทำการสกัดเซรุ่มออกมาได้ อาการกระวนกระวายกับเรื่องเซรุ่มนี้ทำให้ Ellie รู้ทันทีว่า Tess นั้นติดเชื้ออยู่ ในขณะที่ Tess ก็ยอมรับและเปิดแผลติดเชื้อให้ดู เธอพยายามเอาไปเทียบกับแผลของ Ellie ที่เป็นมา 2 อาทิตย์แล้วย่อมทำให้รู้ว่าเลือดของ Ellie นั้นทำเซรุ่มได้แน่นอน ในขณะที่ Joel กำลังพูดอะไรไม่ออก พวกทหารมากมายก็เริ่มบุกเข้ามาด้านหน้า Tess รีบบอกให้ Joel รีบพา Ellie หนีออกไปก่อนแล้วเธอจะคอยต้านพวกทหารเอาไว้ให้ ทำให้ Joel ต้องตัดใจพา Ellie ออกไปจากที่นี่โดยทิ้ง Tess เอาไว้ เมื่อออกจากห้องโถงขึ้นไปชั้นบนจะเห็น Tess ถูกพวกทหารยิงตายอยู่กลางห้องแล้ว จากนั้นก็ลอบเข้าไปด้านในแล้วลงมาชั้นล่างจะพบปืน Rifle ที่ศพทหาร เก็บมาใช้ (กดปุ่มทิศทางขวาในการเลือกใช้ ) จากนั้นสิ่งที่ต้องทำคือต้องหาทางลอบจัดการทหารเพื่อออกไปทางประตูหน้าให้ได้ โดยการจัดการกับพวกทหารที่เป็นคนปกตินั้นก็ต้องระวังเป็นพิเศษเพราะการรับรู้ของคนธรรมดานั้นฉลาดกว่าพวกกลายพันธ์เยอะ และการยิงกับพวกมันตรงๆก็เปลืองกระสุนเพราะเกราะหนาๆของพวกมันที่ต้องยิงนัดมากกว่าจะตาย ซึ่งอาจจะใช้เทคนิค Hide N Seek ในการหลบซ่อนและใช้เทคนิค Taking Hostages จับทหารคนอื่นเป็นโล่จัดการจะดีที่สุด เมื่อออกมาจากตึกได้แล้วรีบวิ่งเข้าไปที่ทางลงไปที่สถานีรถไฟใต้ดินต่อได้เลย ..
ที่ซากสถานีรถไฟด้านล่างนั้นเต็มไปด้วยละอองสปอร์ของเชื้อรา Cordyceps และน้ำที่ท่วมขัง ในขณะที่ Joel ต้องงัดหน้ากากมาใช้ในการช่วยหายใจและป้องกันการติดเชื้อ แต่ Ellie กลับหายใจผ่านละอองสปอร์ของเชื้อรา Cordyceps ได้อย่างสบาย ทำให้ Joel ถึงกับตกใจ เข้าไปตามโบกี้รถไฟที่ถูกน้ำท่วมจน Ellie ไปต่อไม่ได้เพราะเธอว่ายน้ำไม่เป็น จากนั้นดำน้ำเข้าไปด้านในลอดผ่านโบกี้รถไฟที่จมน้ำไปด้านในซึ่ง Ellie จะทำได้แค่เดินเลาะตามมาทางฝั่งซ้ายเท่านั้น เป้าหมายคือพาเธอข้ามโบกี้รถไฟกลางน้ำข้ามไปฝั่งขวา สำรวจดูบันไดที่วางอยู่บนหลังคาโบกี้ที่ต้องพา Ellie มาที่นี่ (สามารถขึ้นฝั่งทางซ้ายตรงที่ Ellie ยืนอยู่เพื่อดำน้ำในห้องด้านในไปเก็บไอเทมต่างๆได้ด้วย) ว่ายเข้าด้านในตามโบกี้รถไฟกลางน้ำจนพบแผ่นไม้อยู่บนหลังคา ใช้มันดันไปรับ Ellie มาที่จุดที่มีบันไดบนหลังคา Ellie จะปีนขึ้นไปดันบันไดลงมาให้ก็จะสามารถปีนข้ามโบกี้ไปฝั่งขวาได้แล้ว เมื่อออกไปตามทางก็จะพบทางออกจากที่นี่ได้สำเร็จ …
Bill’s Town
หลังจาก Joel และ Ellie หนีรอดออกมาจากสถานีรถไฟที่น้ำท่วมได้สำเร็จ ในขณะที่นั่งพักเหนื่อย Ellie พยายามจะขอโทษ Joel ในเรื่อง Tess จนทำให้ Joel ต้องบอกกับ Ellie ให้พูดน้อยๆหน่อยถ้าจำเป็นจริงก็ขอให้พูดในเวลาที่เขาบอกให้พูดก็พอ และ Joel ก็พยายามบอกให้ Ellie สงบปากสงบคำเมื่อเจอกับ Bill ด้วยปล่อยเขาพูดทุกอย่างเอง เมื่อมองจากตรงนี้ เมืองของ Bill ที่ Joel จะแวะมาหานั้นก็อยู่ไม่ไกลแล้ว แต่ต้องผ่านป่าตรงหน้าไปก่อน ในขณะที่ Joel นั้นระมัดระวังในการเดินทางตลอดแต่สำหรับ Ellie แล้วการเดินทางครั้งนี้ไม่ว่าจะไปไหนก็คือประสบการ์ณใหม่ของเธอทั้งสิ้นแม้กระทั้งการเดินป่าครั้งแรกในชีวิตครั้งนี้ ..
ระหว่างทางเข้าป่านั้นไม่มีอันตรายใดๆเลยเพราะฉนั้นเดินเก็บไอเทมต่างๆที่ซ่อนอยู่ได้ตามสบาย เมื่อเดินเข้ามาจนถึงด้านในก็จะพบทางเข้าเมืองซึ่งจะมีรั้วปิดกั้นทางอยู่ เดินไปสำรวจที่อาคารด้านซ้ายของรั้ว เดินไปหยิบบันไดด้านในเอามาพาดที่อาคารหลังกลางแล้วปีนตู้แอร์ขึ้นไปบนหลังคาอาคารเก็บอาวุธที่ตกอยู่มาใช้
** Melee Upgrade จะทำให้สามารถนำสิ่งต่างๆมาโมดิฟายให้กับอาวุธที่ใช้ฟาดได้ทั้งหมด ซึ่งเมื่อ ท่อนไม้ หรือ ท่อนเหล็ก เมื่อใส่กระไกรเข้าไปก็จะเพิ่มความรุนแรงและทำให้ศัตรูตายได้ในการฟาดครั้งเดียวเลย ซึ่งเมื่อมันพังแล้วก็สามารถผสมได้อีกแต่ก็ต้องใช้วัตถุดิบที่มีจำนวนเพียงพอด้วย **
จากนั้นหยิบบันไดที่พาดไว้เอามาพาดไปที่หลังคาบ้านอีกฝั่งเพื่อใช้เป็นสะพานเดินข้ามไปแล้วโดดลงด้านในรั้วได้แล้ว ส่วนหน้าของเมืองเข้าไปสำรวจเก็บไอเทมในบ้านให้หมด แต่ก็ต้องระวัง Clicker ที่อยู่ที่นี่ด้วย จากนั้นสำรวจที่ประตูลูกกรงฝั่งซ้ายจะพบว่ามันล็อกอยู่ Ellie จึงอาสาที่จะปีนข้ามไปเปิดให้ Joel นั้นไม่ค่อยอยากให้เสี่ยงแต่ก็ไม่มีทางเลือก เมื่อ Ellie เปิดประตูได้แล้วก็จะเข้าเขตกลางเมืองได้ สำรวจเก็บไอเทมตามร้านค้าต่างๆให้หมดแล้วค่อยเดินเข้าไปที่ซอยสุดถนนจะพบ Clicker วิ่งเข้ามาโจมตีแต่มันก็โดนกับดักระเบิดจนเละไปซะก่อน Joel รู้ทันทีว่ากับดักเป็นฝีมือของ Bill เพื่อนเขาแน่นอน เข้าไปในซอยเก็บลูกธนูจากศพแล้วปีนรถบรรทุกขึ้นไปเก็บคันธนูบนหลังคารถมาใช้ ซึ่ง
** ธนู (BOW) นั้นจะอยู่ใน Slot อาวุธในปุ่มทิศทางทางซ้ายรวมกับปืน Rifle โดนสามารถกดเปลี่ยนได้ด้วยการกดปุ่มทิศทางซ้ายและกด X ค้างก็จะสามารถเลือกอาวุธจาก Slot ฝั่งซ้ายได้ ธนูนั้นเหมาะที่จะใช้ลอบจัดการศัตรูด้วยความเงียบ แต่ข้อเสียคือระยะโจมตีสั้นและพลังโจมตีต่ำเมื่อไม่โดนจุดตาย **
เดินข้ามแผ่นไม้ไปที่อาคารใกล้ๆแล้วหยิบเอาแผ่นไม้ไปพาดไว้ที่ดาดฟ้าก่อนค่อยปีนขึ้นไปบนดาดฟ้าตึกแล้วหยิบเอาแผ่นไม้ไปพาดข้ามดาดฟ้าใกล้ๆไปต่อ เมื่อโดดลงมาที่เมื่ออีกด้านแล้วจะพบกับดักของ Bill อยู่มากมาย พยายามก้มหลบหรือใช้ขวดปาให้มันระเบิดก็สุดแล้วแต่ ผ่านกับดักที่ประตูทางขวาไปถึงด้านในจนถึงทางเข้าโกดัง ระหว่างที่กำลังเข้าไปด้านใน Joel จะโดนกับดักจนถูกแขวนห้อยหัวโดยไม่รู้ตัว Ellie จึงรีบไปหาทางตัดเชือกช่วย Joel ให้เร็วที่สุดเพราะพวก Runner และ Clicker กำลังบุกเข้ามา พยายามยิงพวกมันในแบบกลับหัวป้องกันตัวและยิงช่วย Ellie ไปเรื่อยๆจนกว่าเธอตัดเชือกได้สำเร็จ แต่ Clicker ก็เข้ามาโจมตี Joel ในขณะที่เขายังไม่ทันตั้งตัว ในขณะที่กำลังจะแย่ Bill ก็ออกมาช่วยเอาไว้ แล้วพาทั้งคู่วิ่งหนีออกจากที่นี่ วิ่งตาม Bill ไปตามทางจนถึงร้านอาคารที่เป็นที่ซ่อนตัวของ Bill แต่เมื่อมาถึงแล้วด้วยความระแวง Bill จึงพยายามจะจับตัว Joel และ Ellie เอาไว้เพราะกลัวว่าจะติดเชื้อ แต่ดูเหมือน Ellie เธอจะร้ายกว่าที่คิดจนจัดการหยุด Bill ให้สงบลงเอาไว้ได้ จากนั้น Joel พยายามจะขอความช่วยเหลือจาก Bill โดยการขอยืมรถจากเขา คำขอของ Joel ทำเอา Bill ต้องหัวเราะออกมาเพราะถ้ามีรถเขาก็คงหนีไปแล้วมากกว่าที่จะให้ Joel แต่ Joel ก็รู้ดีว่า Bill นั้นเป็นช่างมือหนึ่งน่าจะพอซ่อมรถให้ใช้งานได้ เพื่อช่วยกันหนีออกไปส่วนที่ปลอดภัยด้วยกัน เมื่อ Bill ลองคิดดูแล้วก็เริ่มเห็นด้วย เขาบอกว่ารถทุกคันนั้นแทบจะไม่มีคันไหนที่แบตเตอรี่ที่ใช้ได้เลย แต่เขามีรถบรรทุกที่ยังพอจะใช้ได้อยู่ได้มันอยู่ในโรงรถหลังโรงเรียนที่เต็มไปไปด้วยพวกกลายพันธ์แต่ก็คุ้มที่จะเสี่ยงถ้ามีพวกช่วยด้วย จากนั้นเก็บไอเทมต่างๆในร้านให้หมดแล้วตาม Bill ออกไปได้เลย
ตาม Bill ไปตามทางในขณะที่ Ellie ก็ยังปากดีและเป็นคู่กัดกับ Bill ไปตอลดทางจน Joel ไม่ไหวที่จะห้ามแล้ว เมื่อมาถึงลานจอดรถที่มีรถมากมาย Ellie จึงถามว่ามีรถตั้งเยอะทำไม่ซ่อมมาใช้ ทำให้ Bill ต้องบอกให้ Ellie หยุดอวดฉลาดเพราะรถทุกคนแทบไม่มีแบตเตอรี่เหลืออยู่เลยต่างหาก แต่ก่อนที่จะไปเอาแบตเตอรรี่ก็ต้องไปเอาอาวุธดีๆมาใช้ในการลุยกันก่อน ขณะที่พวก Runner ที่เริ่มได้ยินก็บุกเข้ามา ช่วยกันจัดการพวกมันให้หมด ในขณะที่ Ellie ก็ย้ำที่จะขออาวุธจาก Joel มาป้องกันตัวซึ่งยังไง Joel ก็ไม่ยอมให้ Ellie ถือปืนแน่นอน จากนั้นตาม Bill ไปต่อจนขึ้นมาถึงทางด้านหลังของโบสถ์แห่งหนึ่ง เปิดประตูทางลงชั้นใต้ดินไปก็จะถึงที่ซ่อนคลังอาวุธของ Bill ขณะที่ Bill ก็เอาอาวุธติดตัวไปเพียบ ส่วน Ellie ก็สำรวจไปทั่วด้วยความอยากรู้อยากเห็นตามนิสัยของเธอจนต้องโดน Bill ดุเอาว่าอย่าแตะต้องของๆเขา จากนั้น Bill จะให้ปืน Shotgun กับ Joel ไว้ใช้พร้อมทั้งยังสอนการผลิตระเบิด Nail Bomb ด้วย
** Nail Bomb – ระเบิดตะปูที่สามารถวางเป็นกับดักหรือขวางไปติดกับตัวศัตรูได้ซึ่งมันจะสร้างความเสียหายเป็นวงกว้างจนจัดการศัตรูเป็นกลุ่มได้อย่างไม่ยาก เลือกใช้โดย Slot อาวุธที่ปุ่มทิศทางด้านบน แล้วกด LT – RT ในการขว้างและกด RT ในการวางเป็นกับดัก **
เมื่อ Ellie ที่เห็นทุกคนมีอาวุธครบมือเธอจึงขอไว้ติดตัวบ้างและแน่นอนก็เป็นอีกครั้งที่ Joel ต้องตอบว่า “ ไม่ “ สำรวจเก็บของในโบสถ์ให้หมดในทุกชั้นแล้วค่อยมาคุยกับ Bill แล้วตามเขาออกจากโบสถ์ก็จะเริ่มเห็นเขตโรงเรียนอยู่อีกไม่ไกล ระหว่างทางที่ผ่านจากสุสานของโบสถ์จนถึงหมู่บ้านนั้นเต็มไปด้วย Runner และ Clicker มากมายตามทางที่ต้องลอบผ่านไป เมื่อถึงหมู่บ้าน บ้านเป้าหมายจะอยู่หลังในสุดที่เต็มไปด้วย Clicker แต่โชคยังดีที่มันอยู่ในสภาพสงบนิ่ง และเป็นอีกครั้งที่ Ellie เริ่มสยองจนขอปืนติดตัวจาก Joel อีกครั้งซึ่งแน่นอนว่าเธอก็ยังไม่ได้อยู่ดี จากนั้นลอบหลบเข้าไปด้านในอย่างช้าๆเพื่อผ่านออกไปทางหลังบ้าน ก็จะเข้ามาในเขตโรงเรียนได้สำเร็จ
เป้าหมายคือ ลอบจัดการ Runner เพื่อไปปีนรถโรงเรียนข้ามรั่วไปส่วนในของโรงเรียนให้ได้ แต่เมื่อปีนข้ามมาได้ แล้ว พวก Runner และ Clicker จำนวนมากที่เริ่มวิ่งตามมา รีบไปเปิดหน้าต่างด้านหลังโรงรถให้เร็วที่สุดเพื่อหลบเข้าไปด้านใน Bill รีบเข้าไปสำรวจที่รถบรรทุกของเขาที่จอดอยู่ด้านใน แต่กลับโชคร้ายที่มีคนเอาแบตเตอรี่ในรถไปซะแล้ว ทำเอาทุกคนถึงกับไปต่อไม่เป็นเพราะไม่ได้มีแผนอื่นเลย จากนั้นออกจากที่นี่ลอบหลบพวกกลายพันธ์เข้าไปในอาคารเรียนจำนวนมากที่กำลังวิ่งไล่หลังมาจนถึงประตูด้านในสุดจะออกมาที่โรงยิม Joel รีบเอาแผ่นเหล็กมากั้นประตูเพื่อไม่ให้พวก Runner บุกเข้ามา แต่เมื่อเข้ามาในโรงยิมเขาก็ต้องเจอสิ่งที่หนักกว่าที่รออยู่
Bolaler พวกกลายพันธ์ขนาดใหญ่ที่มีเกราะหน้าปกคลุมร่างกายแถมยังยิงก้อนระเบิดเชื้อราออกมาใส่ให้บาดเจ็บได้ด้วย พยายามจัดการ Runner ที่ออกมาก่อกวนให้หมดก่อน แล้วทิ้งระยะห่างยิงมันไปเรื่อยๆจนกว่าเกราะมันจะแตกหมด ส่วนอาวุธที่มันแพ้ก็คือระเบิดเพลิง หลังจากจัดการมันลงได้แล้ว Joel จะช่วยดัน Bill และ Ellie ขึ้นไปที่หน้าต่างข้างๆแต่พวก Runner ที่เหลือก็ยังตามมาไม่เลิก จัดการมันให้หมดแล้วปีนตามไปออกทางหน้าต่างของโรงยิม ออกมาที่เมืองอีกฝั่ง พวก Runner ที่อยู่ตามถนนจะเริ่มวิ่งไล่ทันที รีบวิ่งไปเพื่อข้ามรั้วเข้าไปในบ้านด้านในให้เร็วที่สุด เมื่อถึงในบ้าน Joel กับ Bill ก็ยังทะเลาะกันไม่เลิกถึงเรื่องแผนที่ผิดพลาดไปแล้ว Bill ยังไม่มีแผน B มาสำรองอีกต่างหาก แต่ทั้งคู่ก็ต้องเงียบทันทีเมื่อหันไปเจอศพของ Frank เพื่อนของ Bill ที่ผูกคอตายไปเพื่อหนีความเลวร้ายที่เกิดขึ้นอยู่ในบ้านด้วย แต่ก็ดูเหมือนโชคจะเข้าข้างเมื่อ Bill สำรวจเจอแบตเตอรี่ของเขาในรถกระบะของ Frank นี่เอง แต่ Bill ก็บอกว่าแบตเตอรี่นั้นไม่มีไฟเหลืออยู่เลยต้องทำการชาร์ตให้มันก่อน หรือพูดง่ายๆก็คือต้องเข็นมันจนกว่ามันจะติดนั่นเอง จากนั้นเก็บของในบ้าน Frank ให้หมดก่อนแล้วค่อยไปคุยกับ Bill ซึ่ง Joel จำต้องให้ Ellie ขึ้นไปถือพวกมาลัยและคอยสตาร์ทรถ โดย Bill กับ Joel จะเป็นคนเข็นนั่นเอง จากนั้นก็เริ่มการเข็นรถไปตามถนนที่เต็มไปด้วยพวกติดเชื้อได้เลย โดยระหว่างที่เข็นเมื่อพวก Runner บุกเข้ามาก็ต้องหยุดจัดการมันให้หมดก่อนแล้วคอยกลับไปเข็นต่อ เอาตัวรอดสลับกับเข็นรถไปจนกว่ารถจะสตาร์ทติด แล้วทั้งหมดก็จะขับรถหนีออกจากที่นี่ได้สำเร็จ
เมื่อถึงจุดปลอดภัยแถวชานเมืองแล้ว Ellie จะจอดให้ Bill ลงซึ่งเขาเองก็ดีใจมากที่แผนสำเร็จหลังจากติดอยูาท่ามกลางพวกติดเชื้อกลางเมืองมาหลายปี หลังจากร่ำลากับ Bill เสร็จ Joel ก็จะขับเดินทางต่อถึง เป้าหมายของทั้งคู่ยังดำเนินต่อไปคือเดินทางไปที่ค่ายของกลุ่มหิงห้อย Firefly กลุ่มต่อต้านที่ว่ากันว่าเขาอยู่ในเขตที่ปลอดเชื้อและกำลังทำลองหาวัคซีนป้องกันเชื้อรา Cordyceps กันด้วย Joel ก็คิดได้แค่ว่าขอให้เลือดของ Ellie ใช้สะกัดทำวัคซีนได้จริงๆจะดีที่สุด ในระหว่างนั่งขับไปคิดไปถึงหนทางข้างหน้า แต่ Ellie กลับไม่รู้ร้อนอะไรเธอยังคงสนุกกับสิ่งแปลกใหม่รอบๆตัวอยู่ตลอด Ellie เอาเทปที่เธอเจอมาให้ Joel เปิดสร้างบรรยากาศระหว่างขับรถ ในขณะที่เธอเองก็สนุกไปกับการ์ตูนที่เธอค้นเจอในรถพร้อมๆกับหนังสือโป๊ แต่คำถามที่ไร้เดียงสาของเด็กสาววัย 14 ปี ก็กลับสร้างรอยยิ้มเล็กๆให้กับ Joel ในอีกวันที่โหดร้ายได้ไม่น้อยเหมือนกัน ก่อนที่เขาจะบอกให้ Ellie เอาหนังสือโป๊ทิ้งไป ก่อนที่รถจะผ่านไปชี้ทางที่มุ่งสู่ West Pittsburgh ต่อไป
Pittsburgh
เมื่อ Ellie ตื่นขึ้นมาอีกครั้ง Joel ก็ขับรถมาถึงเมือง Pittsburgh แล้วซึ่งอาจะเรียกว่าซากเมืองน่าจเหมาะกว่าเพราะถนนแบบทุกสายเต็มไปด้วยรถยนต์ที่จอดตายมาเป็นแรมปีจนรถของ Joel ไม่สามารถแล่นเข้าไปบนทางด่วนได้เลยที่ถนนด้านล่าง Ellie เห็นชายคนนึงที่ออกมาขอความช่วยเหลือแต่ Joel นั้นรู้มุขของพวกโจรดีจึงขับรถพุ่งเข้าชนทันที พวกโจรที่ซุ่มอยู่มากมายก็ออกมาดังที่ Joel คาดเอาไว้ ในขณะที่ Joel พยายามจะขับรถหนีก็ถูกรถบรรทุกของพวกโจรชนจนรถชนเข้าไปในร้านขายของ พวกโจรไม่รอช้าที่จะบุกเข้ามาพยายามชิงตัว Ellie ซึ่ง Joel ก็พยายามจัดการพวกโจรให้หมดเพื่อช่วย Ellie เอาไว้ (ถึงตรงนี้จะเริ่มเห็นความช่วยเหลือของ Ellie ในฐานะ A.I กันบ้างแล้ว) แล้วจัดการพวกโจรที่เหลือที่บุกเข้ามาด้วยอาวุธครบมือให้หมดทั้ง 2 ระลอก
** ทริคในการรับมือกับพวกมนุษย์ปกตินั้นต้องพยายามที่จะไม่อยู่กับที่เคลื่อนไหวให้ตลอดเพื่อไม่ให้ตกเป็นเป้านิ่ง เพราะศัตรูที่เป็นคนปกตินั้นจะมีรูปแบบการโจมตีที่หลากหลายและฉลาดกว่าพวกติดเชื้อมาก **
แล้วสำรวจเก็บไอเทมในร้านซ่อมรถให้หมดก่อนที่จะไปเปิดประตูชัตเตอร์ตรงมุมซ้ายของร้านเข้าไปต่อ เข้าไปเก็บไอเทมต่างๆมากให้หมดซึ่งมีไอเทมสำคัญๆคือ Smoke Bomb และ Acquired Tool L.V 2
** Smoke Bomb หรือ ระเบิดควันที่ใช้ในการพรางการมองเห็นของศัตรูเพื่อโจมตีโต้กลับหรือเพื่อใช้หลบซ่อนตัวก็ได้ แต่ระเบิดควันก็มีข้อเสียคือ มันจะทำให้เราเองก็มองไม่เห็นศัตรูด้วยเช่นกัน ? **
เข้าไปด้านในทะลุออกมาด้านหลังอาคารก็จะเริ่มเห็ยสะพานใหญ่เป้าหมายที่จะไปอยูาอีกไม่ไกล ระหว่างเดินทางจะพบกับพวกโจรมากมายตามสุสานรถที่ต้องลอบจัดการมันให้หมดแล้วปีนรถบัสข้ามไปอีกด้านต่อเข้ามาในเขตฐานทัพร้างของ FEDRA incident Security Force ที่ตอนนี้เต็มไปด้วยพวกโจรเข้าไปใช้แทน จากนี้เป้าหมายคือลอบเข้าไปในโกดังขนาดใหญ่เพื่อขึ้นไปที่ชั้น 2 แล้วออกทางประตูทางออกไปด้านหลังของอาคาร ซึ่งจะลอบเข้าไปเงียบๆหรือลุยแหลกไปเลยก็ได้ แต่ต้องบอกก่อนว่าพวกโจรที่อยู่ที่นี่เยอะมากเพื่อเป็นการประหยัดกระสุนลอบผ่านเข้าไปเงียบๆจะดีกว่า เข้ามาจนถึงหน้าโรงแรมที่มีน้ำท่วม Ellie ก็จะสร้างปัญหาอีกตามเคย Joel ต้องว่ายน้ำไปดันแผ่นไม้ด้านในมาให้ Ellie นั่งข้ามไปขึ้นที่ตู้คอนเทรนเนอร์กลางน้ำให้เธอขึ้นไปหยิบแผ่นไม้ทำสะพานข้ามต่อไปยังตู้ฝั่งซ้าย แล้วว่ายน้ำมุดเข้าไปในตู้คอนเทรนเนอร์ฝั่งซ้ายจะมาโผล่ด้านบนได้ จากนั้นข้ามแผ่นไม่ไปเข้าซากโรงแรมทางฝั่งขวาได้เลย เป้าหมายคือลอบเข้าไปจนถึงช่องลิฟต์ที่ชั้น 4 เพื่อปีนขึ้นไปด้านบนต่อผ่านช่องลิฟต์แต่ระหว่างนั้น ในขณะที่ Joel กำลังส่ง Ellie ขึ้นไปชั้นบนลิฟต์ที่ยืนอยู่ก็เกิดตกลงมาชั้นล่างพร้อมกับ Joel ทำให้เขาต้องหาทางกลับขึ้นไปหา Ellie ให้เร็วที่สุด ที่ชั้นล่างของโรงแรมนั้นเต็มไปด้วยสปอร์ของราพิษท่ามกลางความมืดพร้อมด้วยพวกติดเชื้ออีก จึงนับว่าเป็นการเดินทางที่ลำบากมาก สิ่งที่ต้องทำก็คือ
- ขึ้นมาที่ชั้น 2 ก่อนเพื่อเก็บ ID Card ในห้องควบคุมทางซ้ายก่อน
- แล้วลงไปชั้นล่างสำรวจหาเครื่องปั่นไฟที่อยู่มุมห้อง
ทันทีที่เปิดเครื่องปั่นไฟพวก Clicker จำนวนมากก็จะกรูกันเข้ามารวมทั้งเจ้าตัวใหญ่ Boaler ด้วย จัดการมันให้หมด (ใช้ระเบิดเพลิงจะดีที่สุด) หรือไม่อยากจะเสียเวลากับมัน ก็รีบขึ้นไปชั้น 2 แล้วเข้าไปตามทางเดินที่มีเห็ดราขึ้นอยู่เต็มไปหมดจะพบประตูที่ต้องใช้ ID Card เปิดเข้าไปด้านในต่อได้ ขึ้นมาตามบันไดหนีไฟจนถึงชั้นบน ลอบจัดการพวกโจรให้หมดแล้วเข้าไปที่ห้องโถงด้านใน ขณะที่ Joel กำลังหยิบบันไดเพื่อปีนขึ้นชั้นบนต่อก็จะถูกพวกโจรเข้ามาโจมตีแบบไม่ทันตั้งตัว ในขณะที่เขากำลังแย่ Ellie ก็เข้ามาหยิบปืนยิงใส่โจรจนตาย ถึงแม้ว่างานนี้ Ellie จะช่วย Joel เอาไว้แต่เขาก็ไม่ยอมให้ Ellie ใช้อาวุธอยู่ดี จากนั้นปีนขึ้นมาชั้นบนเข้ามาจนถึงห้องจัดเลี้ยง ขึ้นไปบนเวทีดันเปียในไปติดกำแพงเพื่อใช้ปีนขึ้นชั้นบนต่อทั้งคู่ก็จะมุดออกมาทางหน้าต่างด้านหลังของโรงแรมได้
ที่ลานกว้างด้านล่างจะพบว่าเต็มไปด้วยพวกโจรมากมายที่เดินลาดตระเวณอยู่ Joel จะบอกให้ Ellie รออยู่ที่นี่รอให้เขาลงไปจัดการพวกโจรก่อน ซึ่ง Ellie ก็โวยวายว่าจะไม่ให้เธอมีอะไรป้องกันตัวเลยหรือ Joel ทนการรบเร้าไม่ได้จึงให้ปืน Rifle ที่เพิ่งเก็บได้ให้ Ellie ไว้ใช้ยามจำเป็น ก่อนจะลงไปลอบจัดการพวกโจรด้านล่างให้หมด จนเหลือคนสุดท้ายซึ่ง Ellie ก็จะเป็นฝ่ายยิงด้วยตัวเอง เมื่อ Joel เริ่มเห็นความสามารถของ Ellie เขาจึงให้ปืนพกให้เธอพกติดตัวโดยให้สัญญาว่าต้องใช้มันยามจำเป็นเท่านั้น จากนั้นก็เข้าไปเปิดประตูชัตเตอร์เข้าไปด้านในต่อ ระหว่างนั้นทั้งคู่จะเห็นพวกโจรฆ่าคนบริสุทธ์เพื่อชิงทรัพย์อย่างเหี้ยมโหด (ที่นี่มีโต๊ะอัพเกรดอาวุธด้วย) ปีนขึ้นชั้นบนต่อ ลอบเข้าไปจนออกทางด้านหลังของตึกสำเร็จ ลอบเข้าไปจัดการศัตรูบนถนนให้หมดแล้วส่งตัว Ellie ขึ้นไปหยิบบันไดลงมาเพื่อปีนข้ามไปยังถนนอีกฝั่ง ที่นี่จะมีพวกทหารรับจ้างและรถหุ้มเกราะพร้อมปืนกลอยู่ด้วย ลอบจัดการทหารด้านหน้าแล้วหลบการยิงของรถไปทางหลังตึก จัดการศัตรูจนขึ้นมาชั้นบนของตึกออกทางหน้าต่างเดินเลาะหลบรถหุ้มเกราะเข้าไปในห้องที่สุดทาง พอเข้ามาจะพบกับชายผิวดำกับเด็กคนนึงอยู่ ต่างฝ่ายต่างก็เอาปืนขึ้นมาจี้อีกฝ่ายด้วยความตกใจ แต่เมื่อชายผิวดำเห็นว่า Joel และ Ellie ไม่ใช่พวกโจรเขาจึงแนะนำตัวว่าเขาชื่อ Henry และ Sam ลูกชายของเขา เขาเลยถือโอกาสชวน Joel และ Ellie ไปพักที่ที่ห้องหลบภัยของเขาก่อน จากนั้นก็ตาม Henry ไปจนถึงห้องพักของเขาซึ่งจะอยู่หน้าทางข้ามสะพานขนาดใหญ่พอดี ด้วยความบังเอิญที่กลุ่มของ Henry และ Sam ก็กำลังหาทางที่จะข้ามสะพานไปเหมือนกันและด้วยที่ Henry เห็น Sam ลูกชายหัวเราะออกมาครั้งแรกในการพูดคุยกับ Ellie เขาจึงตกลงจากร่วมทางกับ Joel ไปด้วย ซึ่งเขามีแผนที่จะเดินทางไปที่ Radio Tower ซึ่ง Henry อ้างว่าที่นั่นมีจุดปลอดภัยอยู่ ทั้งหมดจึงตกลงจะลอบผ่านสะพานในตอนกลางคืนกัน
ในตอนกลางดึก Joel ที่เพิ่งมีโอกาสได้หลับในช่วงสั้นๆก็ต้องถูก Ellie ปลุกเพื่อเตรียมออกเดินทาง Joel และ Henry จะลงมาชั้นล่างลอบจัดการทหารในตึกให้หมดแล้วจะเห็นว่าที่หน้าสะพานมีพวกทหารรับจ้างป้องกันทางข้ามสะพานอยู่เต็มไปหมดแต่ทหารที่ป้อมปืนกลับกำลังเพลินกับการใช้ปืนกลยิง Clicker เล่นจนไม่ได้สังเกตพวก Joel ที่ลอบเข้ามาเลย จัดการทหารบนลานให้หมดแล้วเข้าไปปิดเครื่องปั่นไฟแล้วพวกทหารทั้งหมดจะเริ่มลงมา ลอบจัดการพวกมันให้หมดแล้ว Ellie กับ Sam ที่รออยู่ก็จะตามาสมทบช่วยกันเปิดประตูใหญ่เข้าไปที่สะพาน แต่รถหุ้มเกราะดันผ่านมาเห็นมันจึงพยายามชนประตูตามเข้าไป ทั้งหมดจึงรีบปีนตู้คอนเครนเนอร์ข้ามไปอีกฝั่งแต่ Joel ที่ปีนทีหลังก็ต้องซวยเมื่อบันไดเกิดพังลงมา ในขณะที่รถหุ้มเกราะก็พังประตูเข้ามาได้แล้ว ด้วยความเป็นห่วงลูก Henry จึงบอกให้ Ellie ทิ้ง Joel เอาไว้แล้วรีบหนีไปกับเขา แต่ Ellie ไม่ยอมเธอโดดลงไปหา Joel แล้วหลบการยิงของรถเปิดประตูชัตเตอร์จนหลบเข้าไปในตึกได้ ลอบจัดการพวกทหารด้านในให้หมดแล้วออกมาที่ด้านหน้าสะพาน รถหุ้มเกราะก็จะตามมาไล่ยิงอีก พยายามมิ่งหนีไปจนถึงกลางสะพานจะพบว่าสะพานมันขาดไปแล้ว ในขณะที่จะโดดหนีลงน้ำก็ทำไมได้เพราะ Ellie เธอว่ายน้ำไม่เป็น ในขณะที่ Joel กำลังคิดหนัก Ellie เธอก็โดดลงน้ำไปก่อนแล้ว Joel จึงรีบโดดตามลงไปทันที จนทั้งคู่โดนกระแสน้ำพัดกระแทกโขดหินจนสลบไปในที่สุด ……
The Suburbs
Joel ฟื้นขึ้นมาที่ชายหาดแห่งนึงในเขตชานเมืองด้วยการช่วยเหลือของ Henry เมื่อเขาเริ่มตั้งสติได้และเห็น Ellie ปลอดภัยเขาก็ตรงเข้าไปอัด Henry ทันทีก่อนที่จะใช้ปืนเตรียมยิงให้หายแค้นโทษฐานที่จะทิ้งเขาให้ตายที่สะพาน แต่ Henry ก็พยายามบอกว่าเขาไม่มีทางเลือกที่ต้องทำเพราะเป็นห่วง Sam ลูกชายจะได้รับอันตรายไปด้วย ซึ่งตอนนี้เขาก็ได้ช่วย Joel และ Ellie เป็นการขอโทษแล้วไม่ใช่หรอ เมื่อ Ellie ช่วยขอร้องทำให้ Joel ใจเย็นลงได้ จากนั้น Henry จะนำทางไปที่ Radio Tower ต่อ ระหว่างทางเก็บไอเทมที่ซากเรือตรงชายหาดให้หมดแล้วเข้าไปที่หน้าทางเข้าท่อระบายน้ำเสีย Henry ก็จะเปิดทางเข้าไปด้านในต่อ ทางเดิน 2 ทาง เดินไปฝั่งซ้ายจะเป็นทางตัดแต่จะมีประตูลูกกรงที่สามารถให้ Ellie มุดเข้าไปเปิดประตูจากด้านในเพื่อเข้าไปเก็บไอเทมมากมายในห้องเก็บของได้ แล้วค่อยตาม Henry ไปทางฝั่งซ้ายต่อจนถึงส่วนในที่มีน้ำท่วมสูง และ Sam ก็ดันว่ายน้ำไม่เป็นเหมือน Ellie เสียอีก เมื่อพยายามหมุนเปิดประตูเหล็กทางขวาก็จะติดอะไรบางอย่างจนเปิดไม่ออก จะว่ายน้ำไปขึ้นที่ฝั่งตรงข้ามที่มีเครื่องปั่นไฟอยู่ก็เอื้อมไม่ถึง จากนั้นดำน้ำลงไปที่หน้าประตูเหล็กจะพบว่ามีท่อนเหล็กติดอยู่ งัดมันออกแล้ว Henry จะเปิดประตูเหล็กให้ได้แล้ว ว่ายน้ำเข้าไปด้านในประตู ขึ้นไปดันแผ่นไม้ให้ตกลงในน้ำเพื่อใช้ทำแพให้ Ellie (ประตูด้านบนจะมีพวก Runner อยู่มากมายถ้าอยากได้ไอเทมดีๆด้านในก็ต้องเสี่ยงเข้าไปกันเอาเอง) เมื่อได้แพมาแล้วก็ดันแพไปรับ Ellie ให้ข้ามไปอีกด้านเธอจะเปิดเครื่องปั่นไฟแล้วเสาเหล็กฝั่งซ้ายจะเลื่อนไปพร้อมกับ Henry และ Sam จากนั้นค่อยว่ายน้ำไปให้ Henry ช่วยดึงขึ้นไปที่ฝั่งขวาได ในท่อระบายน้ำด้านในดูเหมือนจะเคยเป็นแหล่งหลบซ่อนของผู้คนจำนวนมากแต่ดูเหมือนจะตายกันหมดแล้ว เก็บไอเทมด้านในให้หมดซึ่งมีไอเทมสำคัญๆคือ ปืนสั้น Shorty และ Acquired Tool L.V 3
** ปืน Shorty ปืนสั้นขนาดเล็กที่ยิงได้อย่างรุนแรงและโจมตีเป็นวงกว้างได้เหมือนปืนช็อตกัน เหมาะสำหรับยิงศัตรูในระยะประชิดแต่มีกระสุนน้อยและใช้เวลาในการรีโหลดนาน **
ระหว่างทางที่เดินเข้าไปทุกคนจะโดนกับดักที่มีประตูกั้นทางลงมาทำให้แยกกันเป็น 2 กลุ่ม โดย Henry ไปอยู่กับ Ellie และ Sam ไปอยู่ฝั่ง Joel แทน ขณะที่ Clicker จำนวนมากจะเริ่มบุกเข้ามาทั้ง 2 ด้าน Henry จึงรีบพา Ellie หนีไปและบอกให้ Joel ดูแล Sam ให้ด้วย จากนั้นฝั่ง Joel จะมีพวก Runner และ Clicker มากมายเริ่มเข้ามา พยายามจัดการพวกมันให้หมดเพื่อปกป้อง Sam เข้าไปด้านในจนพบกับ Henry และ Ellie ในที่สุดแต่ทั้งคู่ก็กำลังหนี Clicker จำนวนมากไล่หลังมาด้วยทั้งหมดจึงต้องรีบหนีเข้าไปจนถึงห้องด้านในสุด Henry รีบส่ง Ellie และ Sam ให้มุดออกไปทางช่องบนประตูก่อน แล้ว Joel และ Henry ก็ต้องรับมือกับ Clicker ที่กำลังบุกเข้ามาให้หมด จนกว่า Ellie จะเปิดประตูทางออกให้ทั้งคู่หนีออกมาได้สำเร็จ และทุกคนยิ่งเจ็บใจยิ่งขึ้นเมื่อหน้าประตูทางออกนั้นเขียนเตือนไว้แล้ว “ ที่นี่เต็มไปด้วยพวกติดเชื้อ ห้ามเปิดเด็ดขาด “
หลังจากที่ทุกคนรอดมาได้แล้ว Henry จะชี้ให้เห็น Radio Tower ที่อยู่ไม่ไกลเพียงแต่ต้องผ่านเมืองเล็กๆนี้ไปก็จะถึงแล้ว ระหว่างที่ผ่านตามบ้านต่างๆแวะเข้าไปเก็บไอเทมมาให้หมด บ้านแรกตรงทางเข้าจะมีโต๊ะอัพเกรดอาวุธอยู่ด้วย และบ้านหลังสุดท้ายที่ชั้น 3 จะมีเซฟอยู่ซึ่งต้องขึ้นไปชั้น 4 เพื่อเก็บรหัสเซฟก่อนถึงจะลงมาเปิดเก็บไอเทมด้านในได้ เมื่อผ่านเข้าไปถึงเมืองด้านในจะพบกลุ่มโจรที่คุมที่นี่อยู่มากมายแล้วบ้ายหลังใหญ่ด้านในสุดของเมืองก็มีมือ Sniper คอยดักยิงอีกด้วย สิ่งที่ต้องทำก็คือวิ่งหลบกระสุนไปตามที่กำบังและซากบ้านเรือนต่างๆ ซึ่งต้องคอยระวังพวกโจรที่ซุ่มอยู่ตามทางด้วย พยายามลอบไปทางฝั่งซ้ายแล้วปีนรั้วข้ามไป ลอบเข้าไปจนถึงทางเข้าด้านหลังของบ้านใหญ่ ลอบจัดการพวกโจรให้หมดแล้วขึ้นไปชั้นบนสุดจะพบมือสไนเปอร์ที่แอบซุ่มอยู่ในห้อง เมื่อ Joel จัดการมันได้แล้วเขาจะสังเกตเห็นพวก Ellie ที่กำลังตามมากำลังโดนพวกโจรโจมตีตลบหลังอยู่ ให้ใช้ปืน Rifle ที่หน้าต่างๆส่องยิงคุมกันพวก Ellie เอาไว้โดยอย่าให้พวกโจรเข้ามาถึงตัวได้ ศัตรูจะโจมตีเข้ามาเรื่อยๆจนช่วยสุดท้ายจะมีรถหุ้มเกราะพร้อมปืนกลเข้ามา พยายามรอให้มันเข้ามาใกล้แล้วยิงคนที่ออกมาขว้างระเบิดเพลิงจากด้านบนรถจนทำให้รถระเบิดจากด้านในจนตกข้างทางไป ปิดท้ายด้วยพวก Runner และ Clicker มากมายที่ได้ยินเสียงปืนเริ่มไล่ตามมา พยายามยิงต้านไว้จนกว่าทุกคนจะเข้ามาในบ้านได้หมด แล้ว Joel ก็จะพาทุกคนหนีออกทางรั้วหลังบ้านออกจากเมืองนี้ได้สำเร็จ
Joel, Ellie, Henry และ Sam ได้พักผ่อนกินอาหารร่วมกันที่บ้านแห่งนึงในขณะที่ Joel และ Henry กำลังคุยกันอย่างสนุกสนานตามประสาผู้ใหญ่ Ellie ก็เดินเข้ามาไปหา Sam ที่อยู่คนเดียวในห้อง
Ellie – นายทำอะไรอยู่หรือ Sam
Sam – กำลังเช็คดูอาหารที่หามาได้อยู่ ฉันถามอะไรหน่อยสิ เราผ่านเหตุการ์ณสยองจนแทบเอาตัวไม่รอดแต่ทำไมดูเธอไม่เห็นกลัวอะไรเลยล่ะ
Ellie – นายรู้ได้ยังไงว่าฉันไม่กลัว แม่ทิ้งชั้นไปตั้งแต่ 4 ขวบและอยู่แต่ในค่ายที่พักมาตั้งแต่เด็ก นี่ต่างหากที่น่ากลัว แล้วอีกอย่าง ชั้นก็กลัวแมงมุมมากๆเลยด้วยน๊ะ ฮ่าๆ แล้วนายละกลัวอะไร
Sam – กลัวไอ้พวกผีนรกด้านนอกนี่น่ะสิ
Ellie – เอาเถอะน่า ฉันหยิบหุ่นยนต์ของเล่นมาเผื่อให้ว่าอยากได้แต่พ่อสอนไม่ให้หยิบของคนอื่นไม่ใช่หรอ แต่ไม่เป็นไรหรอกเพราะฉันเป็นคนหยิบมาเองไม่ใช่นาย พ่อคงไม่ว่าแล้วล่ะ ยังไงก็ฝันดีเจอกันพรุ่งนี้แล้วกันน๊ะ
เมื่อ Ellie ไปแล้ว Sam ก็ขวางหุ่นยนต์ของเล่นทิ้งลงบนพื้นอย่างไม่ใส่ใจ เพราะเขากำลังห่วงเรื่องแผลที่โดนพวกติดเชื้อกัดเอาที่ขามากกว่า รุ่งเช้าเมื่อ Ellie ตื่นขึ้นมาพร้อมกับคำชวนให้กินอาหารเช้าจาก Henry เธอจึงเดินไปตาม Sam ในห้องให้มากินด้วยกัน แต่เสียงของ Ellie ที่ร้องลั่นออกมาทำให้ Joel ต้องรีบเข้าไปดูจะพบ Sam ที่ติดเชื้อจนกลายเป็น Runner ไปแล้วกำลังพุ่งเข้าโจมตีใส่ Ellie ซึ่ง Joel พยายามจะหยิบปืนมายิงแต่ Henry ก็ยิงขู่ไม่ยอมให้ Joel ทำ จนสุดท้ายเมื่อเห็น Sam กำลังจะฆ่า Ellie Henry จึงตัดสินใจยิง Sam ลูกชายตัวเองในที่สุด Henry ร้องหายเสียใจและโทษว่าเป็นความผิดของ Joel ก่อนที่จะยิงตัวตายตามไปในที่สุด ทำเอา Joel และ Ellie เสียใจในเหตุการ์ณนี้มากๆ ..
Tommy’s Dam
หลายเดือนผ่านมาในช่วงย่างเข้าฤดูฝน หลังจากเหตุการ์ณที่ต้องสูญเสียเพื่อนร่วมทางอย่าง Henry และ Sam ไป Joel และ Ellie ก็เปลี่ยนแผนที่จะเดินทางไป Radio Tower ตามแผนของ Henry ไปเป็นออกตามหา Tommy น้องชายของ Joel แทน โดย Joel จะออกตามหาที่ทำงานเก่าของ Tommy ที่เขื่อนในอุทยาน Jackson County ซึ่ง Ellie ก็พยายามถามถึงความสัมพันธ์ระหว่าง Joel กับ Tommy ที่ดูเหมือนจะไม่ลงรอยกันด้วยเรื่องบางอย่างที่ Joel ไม่เคยบอก ซึ่ง Joel บอกได้เพียงว่า เขากับ Tommy มีทางเดินที่แตกต่างกันก็เท่านั้นเอง แถมเขาก็ไม่ได้เจอกับ Tommy มานานมากแล้วตั้งแต่ Tommy เข้าไปร่วมกับกลุ่มต่อต้าน Firefly …
เดินลงเขาเลาะไปตามแม่น้ำจนถึงทางเข้าเขื่อนขนาดใหญ่ (และก็เป็นครั้งแรกเช่นเคยที่ Ellie เพิ่งเคยจะเห็น เขื่อน ) เข้าไปสำรวจเก็บไอเทมที่ห้องควบคุมแล้วออกมาหมุนประตูกั้นน้ำหน้านเขื่อนเพื่อจะให้มันผลิกขึ้นมาเป็นทางเดินข้ามไปอีกด้านเพราะ Ellie เธอว่ายน้ำไม่เป็นนั่นเอง ซึ่งมันจะต้องหมุนจากทั้ง 2 ด้านจึงจะเดินข้ามไปได้ โดดดำน้ำลงไปจะพบบ้านที่จมน้ำอยู่ดำลงไปดันเอาแผ่นไม้ที่หลังคาขึ้นมาทำแพให้ Ellie ข้ามมาที่จุดหมุนคันโยกอีกฝั่งเธอก็จะหมุนให้ประตูน้ำผลิกกลายเป็นที่เดินข้ามได้สำเร็จ ขึ้นจากน้ำแล้วข้ามไปหา Ellie แล้วเข้าไปด้านในต่อจนถึงห้องควบคุมหน้าทางประตูเขื่อน เข้าไปเก็บปืน EL DIABIO มาใช้
** EL DIABIO ปืนแม็กนั่มติดกล้องเล็งระยะไกลที่มีพลังโจมตีสูงสุดแบบนัดเดียวจอดแต่ก็สามารถยิงได้ทีละนัดเท่านั้น **
เมื่อทั้งคู่พยายามจะเปิดประตูใหญ่หน้าเขื่อนกลุ่มคนด้านในที่มีอาวุธครบมือก็ออกมาป้องกัน แต่ซักพักเสียงของชายคนนึงก็เข้ามาบอกว่าเขารู้จักพวกนี้ดี Tommy โผเข้ามากอด Joel พี่ชายที่ไม่ได้เจอกันนานและแนะนำให้รู้จัก Maria แฟนของเขาที่อยู่ที่นี่ ก่อนที่ Tommy จะเชิญ Joel และ Ellie เข้าไปด้านในกันก่อน ขณะที่ Ellie กำลังตื่นเต้นที่ได้เห็นม้าตัวเป็นๆที่อยู่ที่นี่ คนของ Tommy ก็ติดต่อมาให้เข้ามาดูปัญหาที่ห้องเครื่อง เขาเลยชวน Joel เดินไปคุยไปเข้าไปด้านในด้วยกัน ระหว่างทาง Tommy ก็พยายามจะเอารูปของ Joel กับ Sarah ที่เขาเก็บได้ให้กับ Joel แต่ดูเหมือน Joel จะทำใจได้บางส่วนแต่ก็ไม่อยากดูรูปให้คิดถึงอีก เมื่อเดินถึงห้องทำงานด้านในห้องเครื่อง Joel จะพยายามคุยกับ Tommy เรื่องสาเหตุที่เขามาหา เรื่องของเลือดพิเศษ Ellie ที่สามารถทำยาแก้พิษได้ Joel จึงอยากขอให้Tommy ช่วยพาไปหากลุ่ม Firefly เพื่อหานักวิจัยที่กำลังวิจับเรื่องนี้ตามคำบอกเล่าของ Marlene ซึ่งนอกจาก Tommy จะไม่เชื่อในเรื่องนี้แล้วเขายังไม่อยากไปไหนด้วยความเป็นห่วง Maria ขณะที่ Joel ก็เริ่มทวงบุญคุณมากมายที่เขาเคยช่วย Tommy มาจนทั้งคู่เริ่มมีปากเสียงกันอีกครั้งจนได้
แต่ขณะนั้นสัญญาณเตือนภัยผู้บุกรุกก็ดังขึ้น พวกโจรมากมายเริ่มบุกเข้ามายึดที่นี่ พยายามจัดการพวกมันให้หมด เพื่อรีบเข้าไปช่วย Ellie และ Maria ที่ห้องด้านใน และก็ยังโชคดีที่ทั้งคู่ยังปลอดภัย เมื่อเหตุการ์ณสงบลง Tommy จะเริ่มบอกกับ Maria ว่าเขาจำเป็นต้องเดินทางไปกับ Joel แน่นอนว่า Maria นั้นไม่มีทีท่าว่าจะยอมเลย แต่เมื่อ Tommy ยืนยันที่จะไปไม่ว่า Maria จะคิดยังไง เธอเองก็ยอมในที่สุดแต่ก็ได้ขอร้องปนข่มขู่กับ Joel ว่าถ้าทำให้ Tommy เกิดอันตรายคงรู้น๊ะว่าจะโดนอะไร ในขณะที่ Ellie เห็น Tommy ทะเลาะกัน Maria จึงถามกับ Joel ว่าเป็นเพราะตัวเธอหรือเปล่า ? Joel เล่าให้ Tommy ฟังเรื่องเลือดของเธอด้วยหรอ ? ด้วยความที่ทุกอย่างกำลังตรึงเครียด Joel จึงบอกกับ Ellie ไปว่า ไว้คุยกันทีหลัง ! น้ำเสียงของ Joel ทำให้ Ellie โกรธและเสียใจเดินหนีไปทันที เมื่อ Tommy เคลียกับ Maria จบแล้วเขาก็ตกลงจะนำทาง Joel ไปหาห้องทดลองลับของ Firefly ที่เขาพอจะจำได้ แต่จู่คนของ Tommy ก็เข้ามาบอกว่า Ellie ขโมยม้าขี่หนีออกจากเขื่อนไปแล้ว ทำให้ Joel เป็นห่วงมากจึงรีบขี่ม้าตามไปพร้อมกับ Tommy
ระหว่างทางในป่าที่ Joel และ Tommy ขี่ม้าไปก็ต้องเจอกับแค้มป์ที่พักของพวกโจรป่าตามทางด้วย ซึ่งก็ต้องลงจากม้าเข้าไปจัดการพวกมันให้หมดแล้วขี่ม้าเดินทางต่อไปจนถึงฟาร์มปศุสัตว์ Hidden Pine Corral เมื่อเข้าไปที่บ้านหลังใหญ่ Joel รีบตะโกนเรียก Ellie ด้วยความเป็นห่วง และก็เบาใจยิ่งขึ้นเมื่อ Ellie ขานรับมาจากชั้นบน เก็บไอเทมต่างๆในบ้านให้หมดแล้วขึ้นไปหา Ellie ที่กำลังอ่านหนังสืออยู่ในห้องในสุดของชั้นบน
Joel – กลับที่พัก เดี๋ยวนี้ !
Ellie – แคร์ด้วยหรอ ? แล้วถ้าบอกว่า ไม่ ล่ะ
Joel – คิดว่าทำแบบนี้แล้วสนุกนักหรอ
Ellie – หรือเพราะหนูเหมือนลูกสาวของคุณ.. Maria เล่าเรื่อง Sarah ให้ฟังแล้วและหนูก็เสียใจกับคุณที่สูญเสียลูกสาวไปแต่ทุกคนก็สูญเสียกันทั้งนั้น หนูเองก็เป็น …
Joel – เงียบไปเลย ! อย่างเธอน่ะไม่มีวันเข้าใจคำว่า สูญเสีย ได้ดีเท่าชั้นหรอก
Ellie – ไม่มีวันเข้าใจคำว่า สูญเสีย หรอ คนรอบตัวหนู ถ้าไม่ตายก็ทิ้งหนูไป หน๔รู้จักคำว่าสูยเสียดีเลยล่ะ
และนั่นแหละที่หนูไม่เข้าใจว่าทำไมต้องเล่าเรื่องของหนูให้ Tommy ฟังด้วย จะลากคนอื่นเขามาซวยด้วยอีกซักกี่คน แล้ว Henry กับ Sam ที่ตายไปนั่นยังไม่พอใช่มั๊ย
Joel – แล้วเธอคิดว่าชั้นจะดูแลเธอคนเดียวระหว่างการเดินทางไหวใช่มั๊ย !
Ellie – คุณไม่จำเป็นต้องมาดูแลหนูตลอดหรอก ไม่ต้องคอยเป็นห่วงเหมือนกับว่าหนูเป็นลูกคุณก็ได้
Joel – ……. แน่นอน เธอไม่ใช่ลูกของฉัน และฉันแม่งก็ไม่มีวันเป็นพ่อของเธอได้แน่นอน !!
การมีปากเสียงกันของ Joel และ Ellie จบลงด้วยประโยคที่ทั้ง 2 คนไม่ได้ตั้งใจจะพูดออกมา แต่ในขณะที่ทุกอย่างยังไม่เคลีย Tommy ก็เข้ามาบอกว่าพวกโจรตามเข้ามาในบ้านนี้เต็มไปหมดแล้ว จากนั้นก็เตรียมรับมือกับพวกโจรที่บุกขึ้นมาให้หมด พวกมันเข้ามามากแต่อยู่รวมเป็นกลุ่มอยู่ชั้นล่าง ลอบจัดการพวกที่ขึ้นมาชั้นบนก่อน แล้วใช้ระเบิดเพลิงขว้างลงชั้นล่างเผาทีเดียวตายหมดไปเลย จากนั้นทั้งหมดจะขี่ม้าออกเดินทางต่อในบรรยากาศที่เงียบงันเพราะทั้ง Joel และ Ellie ก็รู้สึกผิดที่พูดไม่ดีออกไป ระหว่างทาง Tommy จะชี้ทางให้ดูว่าลงเขาลูกนี้ไปก็จะถึงมหาวิทยาลัย Eastern Colorado Collage แล้วซึ่งเท่าที่รู้มาพวก Firefly เคยทำลองเรื่องวัคซีนแก้พิษกันที่นี่
Joel – Ellie เอาม้าคืน Tommy ไปแล้วมานั่งซ้อนกับชั้น ..ส่วนนายก็ส่งแค่นี้พอแล้ว Tommy
Tommy – หมายความว่ายัง ?
Joel – หมายความว่าพี่เบื่อหน้าแกแล้วน่ะสิ กลับไปเฝ้าบ้านดูแลเมียให้ดีแล้วกัน ที่เหลือพี่ไปกันเอง แต่ถามหน่อยว่าห้องทดลองของ Firefly มันหน้าตาเป็นยังไง ?
Tommy – เป็นตึกที่เป็นกระจกทั้งหมด เดี๋ยวพอไปถึงก็จะรู้เองนั่นแหละ ว่าแต่พี่ต้องระวังตัวด้วยน๊ะแล้วก็อย่าลืมว่า ที่ค่ายพักของผมเป็นบ้านที่รอต้อนรับพี่เสมอน๊ะ …
Joel – เป็นไง ..สบายใจขึ้นรึยังยัยตัวดี
Ellie - … (อมยิ้มอย่างมีความสุข )… ^^
The University
Joel และ Ellie ขี่ม้ามาจนถึงมหาวิทยาลัย Eastern Colorado Collage (UEC) ตามเส้นทางที่ Tommy บอกมาได้สำเร็จ เข้าไปในเขตมหาวิทยาลัยสำรวจหาเก็บไอเทมตามตึกต่างๆให้ทั่วๆ โดยสามารถลงม้าได้ด้วยการกดสามเหลี่ยม แล้ว Ellie จะรออยู่ที่ม้า ( ที่ต้องพยายามเอาม้าเข้ามาด้วยก็เพราะว่าในมหาวทิยาลัยนั้นมีที่กั้นที่เป็นไม้ล้อมลวดหนามที่ต้องใช้ม้าในการกระโดดข้ามไปเท่านั้นนั่นเอง )
- ในส่วนแรกนี้เข้าตึกที่พนังเป็นโพรงอยู่ ทันทีที่เข้าไปม้าก็เริ่มตกใจกลัวทันทีเพราะ Runner มากมายที่อยู่ชั้นบนนั่นเอง เก็บปืนพ่นไฟ Flame-thrower ที่ชั้นล่างมาก่อน
** Flame-thrower ปืนพ่นไฟ ใช้ได้ดีในทุกศัตรูโดยเฉพาะศัตรูที่เป็นกลุ่ม เพราะมันมีพลังทำลายสูงและทำให้ศัตรูหยุดนิ่งไม่โจมตีต่อได้ดีมากแต่ขอเสียคือกระสุนจะค่อนข้างหามาเติมยากมาก **
ตรงนี้สวิตซ์ประตูทางออกจะเปิดออกไม่ได้เพราะไม่มีไฟฟ้า จึงต้องขึ้นไปชั้นบนเพื่อไปเปิดสวิตซ์เครื่องปั่นไฟที่อยู่กลางห้องที่เต็มไปด้วย Runner พยายามลอบจัดการไปให้มากที่สุดก่อนแล้วค่อยลุยเข้าไปด้วยปืนพ่นไฟจัดการพวกที่เหลือให้หมดแล้วเข้าไปเปิดเครื่องปั่นไฟแล้วกลับลงมาเปิดสวิตซ์ประตูให้ Ellie ขี่ม้าตามเข้ามาแล้วทะลุออกไปส่วนในของมหาวิทยาลัยได้
- ในมหาลัยส่วนที่สองเก็บไอเทมตามตึกต่างๆให้หมดก่อนแล้วค่อยเข้าไปที่ตึกหอพักนักศึกษาตรงกลาง ขึ้นไปด้านบนเก็บไอเทมจากทุกชั้นมาให้หมดแล้วค่อยเข้าไปที่ทางเดินด้านในของชั้น 2 ที่มีพื้นเป็นรูให้โดดลงไปชั้นล่าง เมื่อลงมาแล้วจะพบว่าด้านล่างนั้นมืด มีสปอร์เชื้อราฟุ้งกระจาย และเต็มไปด้วย Clicker อีกเพียบด้วย พยายามลอบเข้าไปจนถึงประตูทางขึ้นชั้น 2 ของอีกฝั่งให้เงียบที่สุด ขึ้นมาชั้นบนแล้วเข้าไปตามทางจนมาออกด้านหลังของตึกจะเข้ามาที่ส่วนที่ 3 ของมหาวิทยาลัยได้
- ที่ส่วนที่ 3 ของมหาวิทยาลัย Ellie จะเรียกให้เปิดประตูให้เธอ เดินไปสำรวจตรงแผงไฟข้างๆประตู ดูไปตามสายไฟสีเหลือจะพบเครื่องปั่นไฟอยู่ใกล้ๆ ลากมันมาต่อเพื่อให้แผงไฟสวิตซ์เปิดประตูออกได้ Ellie ก็จะขี่ม้าตามเข้ามาได้ จากนั้นสำรวจที่ประตูทางฝั่งซ้ายของตึกใหญ่จะมีประตูที่มีโซ่คล้องอยู่ เดินไปดันเอาถังขยะที่เขียวใกล้ๆมาดันให้มันไหลลงไปกระแทกประตูจนเปิด แล้วดันถังขยะนี้เข้าไปใช้เป็นที่ปีนขึ้นบนรถบรรทุกต่อไปยังชั้น 2 ของอาคารได้แล้ว
- ในส่วนของห้องทดลองในชั้น 2 ด้านในนั้นจะมีโต๊ะที่ใช้อัพเกรดอาวุธและมีไอเทมต่างๆให้เก็บมากมายแต่สิ่งที่ขาดไม่ได้คือ Acquired Tool L.V 4 จากนั้นเปิดประตูออกไปยังระเบียงเข้าไปตึกข้างๆ ขึ้นไปชั้นบนต่อจนถึงห้องด้านในจะพบพวกลิงที่เป็นสัตว์ทดลองอยู่กมากมาย ซึ่ง Joel ค่อนข้างดีใจที่มันไม่ใช่ Clicker เข้าไปในห้องในสุดของชั้นนี้จะพบศพของนักวิจัยที่นอนตายอยู่ สำรวจเครื่องบันทึกเสียงที่วางอยู่ได้ใจความว่า ผลวิจัยทั้งหมดของวัคซีนถูกส่งไปที่โรงพยาบาล Saint Mary ในเมือง Salt Lake City ที่ไม่ไกลจากมหาลัยมาก ขณะนั้น Ellie จะสังเกตเห็นพวกโจรเริ่มบุกเข้ามาแล้ว ทั้งคู่ต้องพยายามลอบจัดการพวกมันให้หมดเป้าหมายคือลงไปที่ทางออกที่ชั้นล่างให้เร็วที่สุด
แต่ระหว่างที่กำลังเดินผ่านประตูที่ระเบียง Joel กลับโดดพวกโจรพุ่งเข้ามาโจมตีจนทั้งคู่ตกลงไปที่ชั้นล่าง แต่โชคร้ายที่ Joel โดนแท่งเหล็กแหลมแทงเข้าอย่างจังจนบาดเจ็บสาหัส Joel พยายามแข็งใจเดินตาม Ellie ไปด้วยกำลังที่มีซึ่งมันก็เหลือน้อยเต็มที Ellie ก็พยายามอย่างเต็มที่จะช่วยปกป้อง Joel อย่างสุดกำลังจนแทบดูไม่ออกเลยว่าเธอเคยฆ่าคนมาก่อนหรือเปล่า Ellie ฆ่าทุกคนที่ขวางหน้าและพยายามพาร่างที่บาดเจ็บสาหัสของ Joel ลงมาจนถึงชั้นล่างสำเร็จแล้วทั้งคู่ก็ขี่ม้าหนีออกจากที่นี่ทันที ….
.................................... [ Left Behind DLC ] .................................................
ระหว่างเดินทาง Joel เกิดหมดแรงเพราะทนพิษการอักเสบของบาดแผลไม่ไหวจนตกหลังม้า Ellie ที่ไม่เคยตกอยู่ในสถานะการณ์แบบนี้ถึงกับทำอะไรไม่ถูกที่เห็น Joel สลบจนไม่ได้สติ เธอพยายามปลุกเขาทุกเพื่อถามว่าเธอควรทำยังไงต่อ แต่ ร่างที่แน่นิ่งของ Joel ตรงหน้าทำให้เธอรู้ว่าเธอควรทำอะไรซักอย่างเพื่อหาทางช่วยเขาให้ได้ ในฐานะเพื่อนคนเดียวที่เธอเหลืออยู่ในตอนนี้ และเธอจะไม่มีวันเสียเพื่อนที่เธอรักไปเหมือนในอดีตง่ายๆอีกแล้ว …
ท่ามกลางความยุ่งเหยิงในจิตใจของ Ellie ก็พาลให้เธอนึกไปถึงเหตุการณ์ในอดีตที่ทำให้เธอต้องเสียเพื่อนคนสำคัญคนเดียวของเธอไป ……..
หลายเดือนก่อนหน้านี้ .. ในเขตกักกัน เมือง บอสตัน Boston quarantine zone ระหว่างที่ Ellie กำลังหลับด้วยความกังวลใจ จู่ๆก็มีเงาตะคลุ่มเข้ามาใกล้แล้วเข้าขย้ำคอเธอทันที Ellie เริ่มรู้ตัวเธอพลักร่างนั้นกระเด็นก่อนจะรีบควักมีดใต้หมอนมาป้องกันตัว แต่คนที่ว่ากลับเป็น Riley เพื่อน
Ellie – ปัดโธ่ Riley ?
Riley – โอ็ย ! เล่นซะชั้นตูดจ้ำเบ้าเลยน๊ะ
Ellie – เล่นอะไรบ้าๆก็ชั้นนึกว่าโดนกัดอีกน่ะสิ
Riley – เธอเกือบจะฆ่าชั้นแล้วรู้มั๊ยเนี้ย
Ellie – ก็ชั้นไม่รู้ว่าเป็นเธอนี่นา แล้ว เอ่อ มันกี่วันแล้วเนี่ย ตั้งแต่เธอหายไป
Riley – 45 วันแล้ว ..อืมม โดยเทคนิคแล้วก็ 46 อ่ะน๊ะ แล้วเธอเป็นไงบ้างล่ะ
Ellie – จะว่าไป ..ชั้นคิดว่าเธอตายไปแล้วด้วยซ้ำ
Riley – เฮ้อ..เอานี่มีอะไรให้ดู รับไป ไม่มีเพื่อนร่วมห้องอย่างเธอชั้นก็เบื่อแย่สิ ที่ผ่านมาชั้นต้องทนนอนอยู่กับยัย Liz ตั้ง 3 ปี เธอไม่รู้หรอกว่ากลิ่นตัวยัยนั่นมันแย่ขนาดไหน
Ellie – เดี๋ยวน๊ะ สร้อยคอนี่ เธอเข้ากลุ่มกับพวก Firefly หรอ ?
Riley – อืมม แน่นอน
Ellie – นี่เธอจะบ้าหรอ ทำอะไรลงไปรู้มั๊ย
Riley – เป็นอะไร ?
Ellie – ปิดประตูก่อนที่จะมีคนเห็นว่ามีพวก Firefly อยู่ในห้องชั้นน่ะสิ
Riley – ใจเย็น ไม่มีพวกทหารอยู่แถวนี้หรอกน่า
Ellie – เอาสร้อยเธอคืนไปเลย
Riley – ไม่เอาน่า เรายังซี้กันอยู่มั๊ยเนี้ย ?
Ellie – ซี้กันอยู่มั๊ยหรอ ? มาชวนชั้นเข้ากลุ่ม Firefly เนี้ยน๊ะ !
Riley – เอาน่า เชื่อกันบ้างสิ ไปจากที่นี่กันแล้วชั้นจะอธิบายเรื่องทั้งหมดให้ฟัง
Ellie – รู้มั๊ยเมื่อวานพวกทหารเพิ่งสอนให้ชั้นต่อสู้ เพื่ออะไรรู้มั๊ย ? เอาไว้จัดการพวก Firefly ไง
Riley – อย่าเยอะ ใส่กางเกงแล้วไปกันได้และ จะแคร์อะไรชั้นมันก็แค่เด็กหาย ส่วนเธอก็กำลังจะเป็นบ้า
Ellie – ทำอะไรงี่เง่า
Riley – ไม่เอาน่า ปัญหาหนักกว่านี้เราก็เจอมาแล้วไม่ใช่หรอ
ตัดมาที่ในเวลาปัจจุบัน…. Ellie พยายามพา Joel เข้ามาที่ร้านค้าในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง ที่นี่ Riley ก็เคยพามาเที่ยวเล่นครั้งนึงเธอยังจำได้ดี Ellie ตัดสินใจจะลองออกไปหาอะไรซักอย่างมาช่วย Joel อะไรซักอย่างที่ว่า สำหรับ Ellie เธอไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเธอควรจะทำอะไรดี ..
– ออกจากห้องแล้วขึ้นบันไดไปชั้นบนที่สุดทางฝั่งขวาจะเจอร้านขายยา Weston’s Pharmacy มุดเข้าไปด้านใน สำรวจชั้นขายยาด้านนอกจะพบแต่กระป๋องเปล่าเต็มไปหมด เดินเข้าไปสำรวจที่ด้านในจะพบห้องเก็บยาที่ล็อกอยู่แต่ Ellie ก็เห็นกระเป๋าพยาบาลที่เป็นเป้าหมายของเธออยู่ด้านในแล้ว สิ่งที่ต้องทำคือหากุญแจห้องเก็บของให้เจอ จากนั้นสำรวจเอกสารของคนขายยาที่ตกอยู่ที่เค๊าท์เตอร์ตรงข้ามห้องเก็บของซึ่งมันจะเขียนรหัสกุญแจ 35 – 30 –31 อยู่
- ออกจากร้านขายยาแล้วไปที่ร้านก่อนถึงร้านขายยาที่มีกุญแจล็อคอยู่ Ellie จะใช้รหัสที่ได้มาเปิดเข้าไปได้ ด้านในเป็นร้านขายของเด็กเล่นที่เต็มไปด้วยละอองสเปอร์เห็ดรา ด้านในสุดจะพบศพของคนขายยา สำรวจดูก็จะได้ กุญแจห้องเก็บของมา จากนั้นย้อนกลับออกมาจะเริ่มพบพวกกลายพันธ์เดินออกมาแล้ว ลอบจัดการมันซะแล้วกลับไปร้านขายยา เอากุญแจไขเข้าประตูห้องเก็บของไป Ellie จะรีบเข้าไปค้นกระเป๋าพยาบาลทันที แต่โชคร้ายที่ด้านในกลับว่างเปล่า ขณะที่กำลังหงุดหงิดเธอก็เหลือบไปเห็นเฮลิคอปเตอร์ของทหารที่ตกอยู่ที่โถงทางเดินด้านในเธอจึงคิดว่าน่าจะมีกระเป๋าพยาบาลอยู่ที่นั้นบ้าง
– โดดออกไปที่โถงด้านในต่อ เลาะไปตามทางเดินฝั่งขวามุดเข้าไปจนถึงร้านเสริมสวยด้านในสุดจะพบศพของทหารพยาบาลอยู่ สำรวจดูจะพบกล่องพยาบาลที่ Ellie ตามหา แต่ด้านในก็ไม่มียาอยู่เหมือนเดิม จากนั้น Ellie ก็กลับออกมาลงชั้นล่างด้วยความสิ้นหวัง อีกครั้ง
ตัดมาที่การเดินทางของ Riley และ Ellie ขณะที่ Riley กำลังพาเธอเดินทางมาหาความจริงบางอย่างของกลุ่ม Firefly
- เดินตาม Riley ผ่านมาตามซากอาคารจนทะลุออกมาด้านนอกจนถึงหน้าห้าง Garden ทั้งคู่ก็เข้าไปด้านในต่อ วิ่งตาม Riley ลงไปจนถึงชั้นล่างจนพบทางตัน ทั้งคู่พยายามจะดันแท่นเหล็กมาใช้ปีนขึ้นด้านบนแต่ก็ไม่สำเร็จ จน Ellie มองเห็นประตูร้านค้าที่สามารถปีนขึ้นที่ช่องบนประตูได้ กดสามเหลี่ยมดันให้ Riley ปีนเข้าไปด้านในก็จะเปิดประตูจากด้านในเข้าไปได้ ด้านในจะเป็นร้านขายของวันฮัลโลวีน Riley ไม่พลาดที่จะหาโอกาศเล่นสนุกในสถานที่สุดเจ๋งในความคิดของเธอโดยให้ Ellie ใส่หน้ากากมนุษย์หมาป่าแล้วกดสามเหลี่ยมรัวๆจน Ellie คำรามสุดเสียงสร้างความฮาจนสมใจ Riley จากนั้นทั้งคู่ก็ออกจากร้าน Riley จะพา Ellie เล่นต่อด้วยการใช้ก้อนอิฐปาใส่กระจกซากรถที่จอดอยู่ชั้นล่างอย่างสนุก
- จากนั้นตาม Riley ลงไปตามบันไดหนีไฟจนถึงชั้นล่างเข้าไปตามทางเดินด้านในจนถึงแผงไฟ จัดการเปิดพลังงานไฟฟ้าที่คัทเอ๊าท์แล้วไฟฟ้าทั้งหมดจะใช้งานได้ Riley จะบอกให้ตามเธอไปต่อ
Ellie – เอ่อ เดี๋ยวๆ Riley ชั้นรู้ว่าเธอกำลังจะทำอะไร ชั้น หมายถึง ชั้นก็ดีใจน๊ะที่ตอนนี้เธอยังไม่ตาย ดีใจที่เธอกลับมาหาชั้นอีกครั้งหลังจากที่หายไป
Riley – พอเลย ยัยบ้า ที่ชั้นเคยพูดไว้ก่อนไปน่ะ ลืมมันไปซะ มันไม่ได้มีความหมายอะไรหรอก
Ellie – เธอนี่มันร้ายจริงๆเลย Riley
Riley – พร้อมจะดูสิ่งมหัศจรรย์หรือยัง ? Ellie
Ellie – อยู่แล้ว
ตัดมาที่ Ellie ที่กำลังหาทางช่วย Joel …หลังจากพลาดการได้ยามาแล้ว 2 ครั้ง Ellie ก็ไม่ละความพยายามตอนนี้เธออยู่ฝากนึงของอาคารห้าง เธอมุ่งเป้าหมายไปที่เฮลิคอปเตอร์ของทหารที่ห้อยอยู่ชั่นบนของห้างซึ่งจากที่เธออยู่ไม่มีที่ที่สามารถปีนขึ้นไปได้ เธอจึงต้องหาทางขึ้นไปที่ซาก ฮ. ให้ได้พร้อมความหวังว่าจะมีกล่องพยาบาลที่ยังใช้ได้อยู่ด้านใน
- จากนั้นจากห้องโถงที่ ฮ.ตกอยู่เข้าไปตามทางเดินเชื่อมที่เต็มไปด้วยพื้นที่ที่มีน้ำท่วมจนถึงลานจอดรถจะพบกับเครื่องปั่นไฟอยู่แต่หลังจากที่สำรวจดูจะพบว่ามันไม่มีน้ำมัน เก็บถังแกลอนน้ำมันเปล่าตรงมุมห้องใกล้เครื่องปั่นมา ด้านในลานจอดรถจะเต็มไปด้วย Stalker เพียบ หางทางหลบหรือจัดการมันซะแล้วเข้าไปด้านในสำรวจหาตามถังน้ำมันของรถที่จอดอยู่จนได้น้ำมันมา กลับเอาไปใส่เครื่องปั่นไฟแล้วเดินเครื่องไฟฟ้าก็จะเริ่มทำงานทำให้ประตูลูกกรงๆใกล้ๆเปิดออกได้ เข้าไปจะเป็นบันไดขึ้นไปที่ด้านบนเพดาน เดินไปบนช่องระลายอากาศจนข้ามพื้นที่น้ำท่วมที่เต็มไปด้วยไฟรั่วไปที่ประตูด้านในได้
– ทางเดินด้านในหลังร้านค้าจะเต็มไปด้วยพวกหลายพันธ์พยายามหลบพวกมันจนมาถึงประตูหน้าร้านแล้วเปิดกลับมาที่โถงกลางอีกครั้ง หลบพวกกลายพันธ์ไปที่ประตูกั้นที่บันไดเลื่อนเพื่อขึ้นไปชั้นบนจะมีทางปีนขึ้นไปที่ซากเฮลิคอปเตอร์ทหารได้ ซึ่งกว่าที่เธอจะโดดขึ้นไปได้ก็เกือบจะทำให้มันร่วงไปเหมือนกัน แต่ยังถือว่าคุ้มเหนื่อยเพราะใน ฮ. มีกล่องพยาบาลแถมยังเต็มไปด้วยยาที่เธอต้องการด้วย Ellie ดีใจจนกอดมันไม่ยอมปล่อยพร้อมพร่ำบอกไปพร้อมลมหายใจที่แสนเหนื่อยล้าของเธอ หนูจะไม่ยอมปล่อยให้คุณตาย .. หนูจะไม่มีวันยอมปล่อยให้คุณตายหรอก …… Joel
ตัดมาที่การเดินทางของ Riley และ Ellie กับสิ่งมหัศจรรย์ที่ Riley พยายามจะอวด Ellie ซึ่งก็คือชั้นสวนสนุกสุดหรรษาแห่งเดียวในเมืองเห็ดรา ไม่ว่าพวกเธอจะผ่านเรื่องร้ายๆอะไรมาหรือข้างหน้าจะเกิดอะไร Riley และ Ellie ก็อดไม่ได้ที่จะเล่นสนุกตามใจตัวเองซักครั้ง ทั้งม้าหมุน ถ่ายรูปสติ๊กเกอร์ด้วยใบหน้ากวนๆฮา
ถึงแม้สุดท้ายเครื่องมันจะไม่เหลืองกระดาษที่จะปริ๊นภาพออกมาเป็นทีระลึกก็เถอะ หลังทั้งคู่ทุบเครื่องถ่ายรูปจนพังด้วยความสะใจที่ทำให้พวกเธอเสียอารมร์แล้ว ทั้งคู่ก็เดินทางเข้าไปด้านในต่อ
- เดินตาม Riley ไปจนถึงร้านเกมเซ็นเตอร์ที่เปิดอยู่ Riley จะสอนให้ Ellie ที่ไม่เคยเล่นเกมเลยลองเล่นเกมต่อสู้ โดยให้เธอลองหลับตาเล่นซึ่งคุณต้องเป็นคนกดปุ่มบังคับแทนเธอ จนสุดท้าย Ellie ก็เล่นเกมได้ในที่สุด จากนั้น Riley จะได้ยินเสียงเพลงดังออกมาจากด้านในเธอจึงชวน Ellie เข้าไปเล่นต่อ
Ellie – เออ Riley ชั้นว่าเรากลับกันเถอะ
Riley – จะบ้าหรอ ชั้นไม่ยอมให้เธอพลาดโอกาศปาร์ตี้ครั้งนี้หรอก
Ellie – คือ ชั้นต้องรีบน่ะ ต้องเก็บของพรุ่งนี้พวกเราจะย้ายออกจากบอสตันกันแล้ว
Riley – ชั้นคงไม่ไปด้วยน๊ะ
Ellie – แต่คราวหน้าเรามาเที่ยวกันใหม่ก็ได้ เมื่อไหร์ดีแม่สาว Firefly
Riley – ชั้นเองก็ต้องไปจากบอสตันเหมือนกัน พวกเขาจะให้ย้ายไปอยู่กับอีกกลุ่มที่อื่นต่อ คงยากที่ Marlene จะยอมให้ชั้นมาเจอเธออีก แล้วอีกอย่างมันเป็นการทดสอบชั้นในการเข้ากลุ่มด้วย ชั้นก็จะไปพรุ่งนี้เหมือนกัน
Ellie – โอเค
Riley – แค่เนี้ยยย
Ellie – แล้วจะให้ชั้นพูดอะไรล่ะ ?
Riley – ก็ไม่รู้ ก็ประมาณแบบเพื่อนที่ซี้ที่ต้องลงกัน ประมาณนั้นมั้ง นี่ ชั้นจริงจังน๊ะ
Ellie – ทำไมเธอถึงพาชั้นมาที่นี่
Riley – ก็แค่อยากเจอเธอ
Ellie – แล้วทำไมต้องที่นี่ ?
Riley – ชั้นก็ไม่รู้เหมือนกัน ..
Ellie – ฮึ ไม่รู้เหมือนกัน ..โอเค เธอต้องการให้ชั้นกล่าวลาใช่ป่ะ งั้นไปสิ เขาไปกล่าวลาข้างในกัน
Riley – ตามเสียงเพลงไปแล้วกัน ..
Ellie – เดี๋ยว Riley ชั้น …โธ่เว้ย ..
– เดินเข้าไปในทางเดินต่อจนถึงห้องโถงชั้นในจะพบ Riley ยืนดูตู้โชว์เสื้อผ้าอยู่
Riley – เคยเห็นอะไรแบบนี้มั๊ย ?
Ellie – นี่เราพูดกันจบแล้วหรอ ?
Riley – ชั้นไม่รู้ แล้วเราคิดว่าจบมั๊ยล่ะ
Ellie – อย่ามาโทษกันแบบนี้สิ
Riley – ชั้นจะโทษเธอ เพื่อ ? ถามตัวเองสิว่าคิดยังไง
Ellie – โอ้ ที่เธอแคร์ความคิดชั้นด้วยหรอ ที่ผ่านมาพวกเราดีกันมาก แต่แล้วไงจู่ๆเธอก็มาพูดบ้าอะไรไม่รู้ จู่ก็หายตัวไปเฉยเลย จนถึงวันนี้ ! แล้ว แล้วก็กลับมา รู้จักสำนึกผิดมั๊ย ? ที่หนีไป
Riley – ชั้นออกไปเล่นอีกฝากของเมือง จนถูกกลุ่ม Firefly จับได้ ชั้นคิดว่าตายไปแล้วด้วยซ้ำ ต่อให้สำนึกผิดให้ตายก็กลับมาไม่ได้หรอก ใช่ ชั้นทำเรื่องงี่เง่าแต่ใครจะรู้ว่ามันจะเลยเถิดขนาดนี้ ฉันพยายามแล้ว พยายามมาตลอด ..เอ้านี่ ปืนฉีดน้ำที่เธอฝันอยากได้มาตลอด มันยิงไม่ได้ไกลนักหรอกน๊ะ
Ellie – โอเค .. งั้นหลังจากชั้นจัดการเธอแล้ว ค่อยมาคุยต่อ มาดูสิว่าแม่สาว Firefly มีดีแค่ไหน
- จากนั้นสงครามปืนฉีดน้ำของสองสาวก็ปะทุขึ้น พยายามจัดการยิง Riley ให้ชนะซะ
Ellie – เป็นงาย เห็นฝีมือหรือยัง ฮ่าๆ
Riley – โอเค ดูเหมือนใครบางคนอาจถูกเรียกกลับเข้ากองทัพน๊ะ ฮ่าๆ ดีใจฉับเป้งเลยที่ได้เล่นกันแบบนี้อีก
Ellie – นี่ Riley ชั้นเล่นแบบนี้ได้ทั้งวันแหละน๊ะ
Riley – แต่เธอต้องรีบกลับ ?
Ellie – ใช่ ชั้นต้องกลับแล้ว
Riley – โอเค เยี่ยม เก็บของ งั้นชั้นเดินไปส่งบ้านเป็นครั้งสุดท้ายแล้วกัน โ
Ellie – เออนี่ Riley มันดูงี่เง่าน๊ะถ้าชั้นจะถามอ่ะ มันหมายความว่าอะไรหรอ ที่เธอบอกว่า จำเป็นต้องไปน่ะ ? แบบ ไปตลอดไปน่ะหรอ ก็จริงที่มันอาจเป็นความต้องการของเธอ แลัวทำไมไม่บอกกันก่อนซักคำ ชั้นเป็นใครถึงจะห้ามเธอได้ถ้าเธอจะไปจริงๆ
Riley – ฮึ ก็เหตุที่ไม่บอกก็เพราะ เธอห้ามชั้นได้น่ะสิ
Ellie – ได้โปรดเถอะน๊ะ อย่าไปเลย ชั้นคงแย่แน่ถ้าไม่มีเธอน่ะ ..แต่ก็น๊ะ เธอได้ไปตามความต้องการมันคงดีสำหรับเธอ บางที่เดี๋ยวคงได้เจอกันอีก หวังว่าน๊ะ
Riley – เอานี่ เก็บปืนฉีดน้ำเอาไว้แล้วกัน ไม่มีชั้นเธอก็ยังมีไอ้นี่ เออ ยังเก็บ Walkman เอาไว้อยู่มั๊ย
Ellie – ตลอดเวลาเลย นี่ไง
Riley – ฟังเพลงอะไรอยู่ ?
Ellie – ก็เทปที่เธอให้ชั้นนั่นแหละ
Riley – ดูท่าเธอคงจะแย่ถ้าไม่มีชั้นจริงๆนั่นแหละ ดูสิ แถวนี้มีเครื่องขยายเสียงเต็มเลย ลองใช้ Walkman ต่อกับมันดู โอเค ใช่ได้ เย้ มาเต้นกัน
Ellie – เอาจิงดิ งี่เง่าชมัด ฮ่าๆ
Riley – เฮ้ นี่ เงียบทำไม มีไรหรอ ?
Ellie – อย่าไปเลยน๊ะ ……
Riley – ก็ได้ …
Riley – แต่ก็ไม่รู้เจ๊ Marlene จะเอาชั้นตายรึเปล่าที่ไม่ยอมกลับไปอ่ะน๊ะ
Ellie – อะไรตรงนั้นน่ะ ..พวก Runner !! Riley ระวัง…..ปัง !!
ตัดมาที่ Ellie ที่กำลังหาทางช่วย Joel …หลังจากได้ยามาแล้ว Ellie เผลอหลับอยู่ที่ซาก ฮ. พร้อมกอดกระเป๋ายาแน่นจนเธอตกใจตื่นเพราะความเป็นห่วง Joel
ตัดมาที่ภาระกิจช่วยชีวิต Noel หลังจากที่ตื่นขึ้น Ellie จะโดดลงจาก ฮ. มาที่ระเบียงทางเดินอีกฝั่ง
- เข้าไปด้านในต่อจนถึงส่วนของโรงหนัง จะเริ่มพบแฟนหนังกลายพันธ์มากมายกำลังออกมาโจมตีใส่พวกผู้รอดชิตอีกกลุ่มจนธนูของพวกเขากระเด็นมาเข้าทาง Ellie และหลังจากที่พวกมันยิงพวกกลายพันธ์จนตายหมด พวกมันก็เริ่มเป็นภัยต่อ Ellie ขึ้นมาทันที Ellie เก็บธนูอาวุธใหม่ขึ้นมาใช้ แล้วลอบจัดการพวกมันให้หมด จากนั้นเข้าไปกลางพื้นที่ตรงที่มีเพดานชั้นบนถล่มลงมาจะมีที่ปีนขึ้นไปชั้นบนได้ ด้านบนจะมีประตูชัตเตอร์ด้านหลังของร้านที่สามารถเปิดเข้าไปทะลุออกกลับมาที่หน้าร้านขายยาที่โถงกลางได้
- แต่ตั้งแต่ชั้นบนจนถึงชั้นล่างเต็มไปด้วยพวกบ้าคลั่งพร้อมอาวุธครบมืออยู่เต็มไปหมด พยายาลอบจัดการมันให้หมดแล้วลงไปชั้นล่างจนถึงห้องที่ Joel อยู่ แต่ขณะที่ Ellie กำลังจะเปิดเข้าไปพวกคนบ้าคลั่งก็บุกยิงเข้ามาจากชั้นบนอีกชุดพร้อมกับพวกหัวเห็ดรา Clicker ที่ออกมาตามมาด้วย จนเธอต้องออกไปจัดการพวกมันก่อน เข้าร้านเสื้อผ้าที่ชั้นล่างจะมีบันไดขึ้นไปชั้นบนได้ พยายามจัดการพวกศัตรูที่เป็นคนที่มีปืนไรเฟิ่ลตกให้เก็บก่อนแล้วค่อยจัดการพวก Clicker ให้หมดด้วยระเบิดเพลิง จากนั้นก็กลับไปหา Joel ที่ร้านชั้นล่างได้เลย
ตัดมาที่ Riley และ Ellie หลังการคืนดีที่ดูดดื่มแล้วก็ต้องพบศึกหนักในการเอาตัวรอดจากพวก Runner ที่บุกเข้ามาจากทุกด้าน ทั้งคู่ต้องหนีตายออกจากที่นี่โดยไม่ทันแม้จะเก็บเป้และข้าวของที่วางทิ้งไว้….
- วิ่งตาม Riley ไปที่ประตูช่วยเธองัดประตูให้เปิด หนีเข้าไปตามทางจัดการพวก Runner ที่ตามมาพร้อมๆกับช่วย Riley ขณะที่เธอถูกจับด้วย วิ่งตาม Riley ไปจนถึงส่วนหน้าของห้าง ทั้งคู่จะพยายามปีนนั่งร้านขึ้นไปชั้นบนของชั้นลอยหน้าห้างแต่ Ellie ปีนไม่พ้นจนตกลงไปด้านล่าง ขณะที่พวก Runner มากมายกำลังเข้ามารุมทึ้งเธอ Riley ก็ลงมาช่วยไว้ทัน จนพวกมันหันเข้าไปโจมตี Riley แต่ Ellie ก็เข้าไปช่วยเอาไว้ได้เช่นกัน ขณะที่ Ellie คิดว่าปลอดภัยแล้ว Riley ก็สังเกตเห็นรอยฟันที่แขนขวาของ Ellie ที่โดนพวกติดเชื้อกัดเข้าเต็มๆ Ellie ตกใจจนทำอะไรไม่ถูกเธอพยายามเช้ดมันออกตามประสาเด็กที่กำลังตื่นกลัว แต่ Riley ก็บอกบางอย่างให้ Ellie คลายกังวลว่า เธอเองก็ถูกกัดเข้าที่มือซ้ายเข้าเต็มๆเขี้ยวเช่นกัน…
Ellie – บ้าเอ๊ย บ้าๆๆๆๆ !!
Riley – โวยวายไปก็เท่านั้น
Ellie – แล้วเราจะทำยังไงกันดี ?
Riley – ที่ชั้นเห็น เรามีอยู่ 2 ทางเลือก ทางแรกอย่างง่ายด้วยปืนนี่ เห็นมันจบๆไป เร็วและไม่ทันเจ็บด้วย แต่ชั้นไม่ค่อยปลื้มกับทางแรกเท่าไหร์ … ทางที่ 2 เราต้องสู้ต่อ
Ellie – สู้ไปเพื่อ ? สุดท้ายเราก็ต้องกลายเป็นไอ้พวกเห็ดรานั่น
Riley – ที่ผ่านมามีตั้งเป็นล้านทางที่เราอาจตายก่อนถึงวันนี้ และมีอีกเป็นล้านทางที่อาจจะทำให้เราต้องตายในวันพรุ่งนี้ แต่ถ้าเราเลือกที่จะลุกขึ้นสู้ ไม่ว่าจะแค่ 2 นาที หรือ 2 วัน เราก็ต้องไม่ยอมแพ้ ชั้นขอเลือกทางออกที่ 2 น๊ะ เพราะอย่างน้อยเราสองคนก็จะสูญเสียตัวตนไปพร้อมๆกัน
Ellie – แล้วไม่มีทางเลือกที่ 3 หรอ ?
Riley – เสียใจด้วยน๊ะ ไม่มีหรอก
หลังจาก Ellie หายามาให้ Joel ได้แล้วเธอก็รวบรวมความหล้าทั้งหมดเย็บแผลให้ Joel จนอาการเขาทรงตัวขึ้น ก่อนจะใช้ม้าลาก Joel ที่บ้านเจ็บเดินทางต่ออย่างเด็ดเดี่ยวจนถึง Lakeside Resort อย่างน้อยเธอก็ได้แสดงความกล้าหาญจนสามารถช่วยเหลือเพื่อนที่อยู่ตรงหน้าเอาไว้ได้อย่างที่ Riley เคยสอนไว้ กับทางเลือก 2 ที่เธอไม่เคยลืม
Lakeside Resort
หลายวันต่อมา ย่างเข้าฤดูหนาว ที่รีสอร์ทบนภูเขาหิมะ กระต่ายน้อยน่ารักถูกลูกธนูปักตายคาที่จากการสังหารโดยฝีมือของ Ellie ที่พยายามทุกอย่างที่จะหากินและเอาตัวรอดในขณะที่ Joel นอนบาดเจ็บอยู่ในบ้านรีสอร์ทบนภูเขา แต่ Ellie ก็ยังโลภมากต่อเมื่อเห็นกวางตัวใหญ่เดินเข้ามาในพื้นที่ Ellie คว้าธนูแล้วไล่ตามมันเข้าไปด้านบนภูเขาต่อและหมายจะล่ามันมากินเป็นอาหารให้ได้เพื่อความอยู่รอด
การล่ากวางของ Ellie นั้นต้องพยายามย่องเข้าไกลระยะยิงให้มากที่สุดเพราะถ้าส่งเสียงดังเพียงนิดเดียวกวางมันก็จะหนีทันที แต่ก็โชคดีที่มันก็จะหนีวนเป็นวงกลมรอบๆภูเขาและหยุดที่จุดเดิมทุกครั้ง ตามยิงมันให้โดน 3 ครั้งมันจะหนีข้ามภูเขาไป
Ellie ตามต่อไปอย่างไม่ลดละจนมถึงที่บ้านพักร้างแห่งนึงเธอก็จะเจอกวางนอนตายอยู่ ขณะที่กำลังจะเดินไปเก็บเนื้อกวาง ชาย 2 คนก็เข้ามาและจะขอส่วนแบ่งเนื้อกวางกับ Ellie เพราะคนของเขากำลังจะอดตาย โดยจะขอแลกทุกอย่างตามที่ Ellie ขอเลย Ellie ยังไม่ไว้ใจเธอยึดปืน Rifle ของมันมาเพื่อความปลอดภัยก่อนที่จะขอแลกเนื้อกวางกับยาฆ่าเชื้อ ซึ่งชาย 2 คนที่แนะนำตัวว่าชื่อ David และ Jame ก็ตกลงตามนั้น โดย David จะสั่งให้ Jame กลับไปเอายาที่แค้มป์มาแลก ระหว่างรอ David และ Ellie ก็เข้าไปปิ้งเนื้อกวางกินรอที่กระท่อม David พยายามที่จะถามชื่อของ Ellie แต่เธอก็ไม่ยอมบอก ขณะนั้นทั้งคู่ก็เริ่มได้ยินเสียง Clicker ที่กำลังใกล้เข้ามา ทั้งคู่จึงเตรียมรับมือกับมัน Clicker จำนวนมากพยายามบุกเข้ามาด้านในจากทุกทาง ส่วน Ellie นั้นตอนนี้มีแค่ธนูกับปืน Rifle เท่านั้นพื้นที่ในบ้านนั้นแคบมากศัตรูก็เข้ามาพร้อมๆกันเยอะมาก ซึ่งก็ถือว่าเป็นการต่อสู้ที่หนักมากสำหรับ Ellie มากๆ พยายามจัดการทุกตัวที่เข้ามาให้หมดแล้ว David จะพังประตูพา Ellie หนีออกจากกระท่อม วิ่งตาม David ไปจนถึงโกดังแห่งนึงพวก Clicker จำนวนมากก็บุกเข้ามาอีกละลอกใหญ่ พยายามใช้พื้นที่ทิ้งระยะให้เป็นต่อแล้วจัดการพวกมันให้หมด แล้วทั้งคู่จะกลับมาพักที่กระท่อมอีกครั้ง David นั้นค่อนข้างจะปลื้มฝีมือของ Ellie มากๆพร้อมทั้งบอกว่า ในโลกที่อันตรายแบบนี้ที่มีทั้งพวกติดเชื้อและพวกโจรชั่วและตอนนี้ยังมีแม่สาวน้อยนักสู้ขึ้นมาอีก แล้วถ้าเรา 2 คนมาคู่กันแบบสาวน้อยนักสู้กับโจรชั่วก็คงดีไม่น้อย Ellie เริ่มหน้าเปลี่ยนสีเพราะเธอเริ่มรู้แล้วว่า David มันเป็นหัวหน้ากลุ่มโจรนั่นเอง แต่มันก็ยังมีสัจจะที่จะให้ยากับ Ellie ตามสัญญา โดยเมื่อได้ยาแล้ว Ellie ก็รีบหนีกลับไปที่ Resort ทันที
Ellie เอาอาหารและยาฆ่าเชื้อมาฉีดให้ Joel นอนบาดเจ็บอยู่ในบ้านแล้วเธอก็หลับไปด้วยความเหนื่อยล้ากับสิ่งที่เจอมาในวันนี้ หลังจากสะดุ้งตื่นขึ้นมาตอนเช้า Ellie รู้สึกทันทีมีคนเข้ามาที่นี่ เมื่อแอบดูจะพบว่าเป็นพวกโจรลูกน้องของ David นั่นเองที่มันคงแอบสะกดรอยตามเธอมา Ellie จำเป็นต้องซ่อนตัว Joel เอาไว้ที่นี่ก่อนจะค่อยๆหลบออกจากบ้านแล้วขี่ม้าล่อพวกโจรให้ตามเธอไปอีกทางนึงแทน ในขณะที่ Joel เริ่มรู้สึกตัวและเห็น Ellie กำลังออกจากบ้านแต่เขาก็ยังอ่อนแอเกินไปที่จะลุกขึ้นมาช่วย Ellie ขี่ม้าหลบพวกโจรที่พยายามจะจับตัวเธอออกไปด้านนอกบ้านพัก แต่สุดท้ายม้าของเธอก็ถูกยิงจนตาย ทำให้ Ellie ต้องเอาตัวรอดด้วยตัวเองต่อไป เป้าหมายคือลอบจัดการศัตรูเพื่อวนกลับไปยังรีสอร์ทอีกด้านเพื่อกลับไปหา Joel
** การบังคับ Ellie เข้าต่อสู้นั้นฝีมือการสู้มือเปล่าของเธออาจจะด้อยไปบ้างเพราะแรงน้อยแต่ฝีมือการยิงปืนของเธอไม่แต่กต่างอะไรกับ Joel ซึ่งผู้เล่นจะสนุกกับการเล่นเป็น Ellie ในช่วงนี้ได้อย่างสนุกไม่ต่างกับ Joel เลยเช่นกัน **
จากนั้นพยายามลอบจัดการศัตรูจนเดินวนรอบกลับมาที่รีสอร์ทให้ได้ ซึ่งก็จะพบว่าที่นี่ยังเต็มไปด้วยพวกโจรอยู่เหมือนเดิม ในขณะที่ Ellie พยายามลอบเข้าไปในตัวอาคารก็จะถูก David ที่ดักรออยู่และรัดคอจนเธอสลบไปในที่สุด Ellie ตื่นขึ้นมาอีกครั้งก็จะพบว่าเธอถูกจับมาขังในห้องขังแห่งนึง Ellie สังเกตเห็นพวกโจรกำลังชำแหละเนื้อมนุษย์เอาเก็บไว้กิน สร้างความสยดสยองให้เธอมาก จากนั้น David ก็เข้ามาเอาอาหารมาให้แล้วยืนยันว่ามันเป็นแค่เนื้อกวางไม่ใช่เนื้อคนแน่นอน Ellie ก็กินไปด่า David ไปว่าไม่ใช่คนแล้วที่กินเนื้อคนซึ่ง David ก็จะบอกว่าเขาทำไปก็เพราะความอยู่รอดเหมือนกับ Ellie นั่นแหละ David พยายามถามชื่อ Ellie อีกครั้งพร้อมกับบอกว่าอยากจะเป็นคนดูแล Ellie เอง ปากก็พูดส่วนมือก็ลูบมือของ Ellie ไปจนเธอฉวยโอกาสหักนิ้วของ David จนหักพร้อมทั้งบอกชื่อของเธอว่าชื่อ Ellie ชื่อของเด็กผู้หญิงที่หักนิ้วแกเป็นสองท่อนยังไงล่ะ …!!
ทางด้าน Joel หลังจากได้ยาไปอาการก็เริ่มดีขึ้นถึงจะไม่เต็มร้อยแต่ก้พอลุกขึ้นไปตาม Ellie ได้ เมื่อออกมาจากบ้านพักจะพบพวกโจรอยู่ที่นี่ส่วนนึงและพวกมันจะยิงโจมตีเข้ามาทันที จัดการพวกมันให้หมดแล้ว Joel จะจับพวกโจรมาทรมานเพื่อเค้นว่าเอาตัว Ellie ไปไว้ที่ไหน หลังจากที่พวกโจรโกหกว่าไม่รู้อยู่ไม่นานก็ต้องคายความจริงออกมาเพราะความโหดของ Joel หลังจากรู้สถานที่ที่ Ellie ถูกจับไปแล้วซึ่งอยู่ที่เมืองร้างข้างหน้าแล้ว Joel ก็ไม่คิดจะไว้ชีวิตพวกโจรอีกต่อไป
ทางด้าน Ellie ที่ถูกจับกำลังจะโดน David จับหั่นเป็นชิ้นๆเพื่อเอาไปทำอาหารอย่างสุดโรคจิต แต่ Ellie ก็ออกอุบายว่าเธอเป็นพวกติดเชื้อแถมให้ดูแผลติดเชื้อที่แขนเป็นการยืนยันจนลูกน้องของมันเริ่มจะที่จะหวั่นๆจนเกิดการทะเลาะกัน Ellie จึงฉวยโอกาสหยิบมืดจัดการฆ่าลูกน้องของ David แล้วรีบหนีตายออกมาจากบ้านทันที
เมื่อออกมาด้านนอกแล้วจะพบว่าในเมืองกำลังโดนพายุหิมะพัดกระหน่ำจนแทบจะมองทิศทางไม่เห็น เข้าไปที่บ้านหลังในดันรถเข็นออกมาแล้วมุดเข้าไปด้านในจะออกมาที่กลางเมืองได้ จากนั้นพยายามลอบหลบพวกโจรที่ออกไล่ล่า Ellie ซึ่ง Ellie นั้นมีจุดอ่อนตรงที่เวลาเธอลอบฆ่าศัตรูจะใช้เวลานานและมีเสียงดังมากทำให้ศัตรูที่อยู่ใกล้ๆกันตามมาสมทบได้ง่ายๆ การหลบจึงดีกว่าลอบฆ่าสำหรับ Ellie เป้าหมายคือลอบชิดด้านซ้ายหลบไปจนถึงห้องอาหารที่สุดทางฝั่งซ้ายแล้วเข้าไปที่ร้านอาหารทางหน้าต่างที่เปิดอยู่ เมื่อเข้ามาด้านในแล้วจะไม่พบใครในนี้เลย เก็บไอเทมให้หมดแล้วออกทางประตูหน้าร้านก็จะพบ David ที่ดักรอ Ellie อยู่ มันยังให้โอกาส Ellie ในการหนีเพื่อเพิ่มรสชาติในการฆ่าของมัน การรับมือกับเจ้าโรคจิต David ก็คือลอบแทงมันจากด้านหลังเท่านั้น โดย เมื่อ Ellie แทงมันได้ 2 ครั้งแล้วมันจะเริ่มใช้การซุ่มเงียบให้ Ellie ใช้ Skill การฟังได้ยากขึ้น พยายามลอบแทงมันอีกครั้งให้ได้ เจ้า David จะดิ้นรนต่อสู้อย่างสุดฤทธิ์จนทำให้สลบไปทั้งคู่
ทางด้าน Joel ที่ตามมาถึงเมืองจากอีกด้าน พยายามลอบจัดการศัตรูเข้าไปจนถึงครัวของพวกโจร ทางด้าน Joel จะพบกระเป๋าเป้ของ Ellie ที่นี่ด้วย สภาพศพมากมายที่ถูกแขวนเตรียมทำอาหารในนี้ทำให้ Joel ต้องรีบออกตามหา Ellie ให้เร็วที่สุด เมื่อออกมาด้านหน้าจะพบร้านอาหารกำลังไฟไหม้ Joel จึงรีบเข้าไป Ellie ทันที
Ellie ที่อยู่ในร้านอาหารที่ไฟเริ่มไหม้ เมื่อเธอฟื้นขึ้นมาแล้วไม่พบร่างของ David สิ่งแรกที่เธอพยายามทำคือคืบคลานเข้าไปหยิบมีดที่ตกอยู่ใต้โต๊ะมาให้ได้ก่อน แต่ David ก็เข้ามากระทืบซ้ำอย่างสะใจแถมปล่อยให้ Ellie พยายามคลานต่อเพื่อความสะใจ ก่อนที่มันจะเริ่มลงมือบีบคอเธออย่างเต็มแรง Ellie ดิ้นรนจนคว้ามีดที่อยู่ใต้โต๊ะมาได้ เธอแทงเข้าที่คอของ David ก่อนจะกระหน่ำแทงอย่างไม่ยั้งจน David ไม่เหลือชิ้นดี จน Joel เข้ามาถึงตัวเธอได้ในที่สุด Joel พยายามปลอบให้เธอรู้สึกปลอดภัยก่อนแล้วรีบพาเธอหนีออกจากที่นี่ทันที …
Bus Depot
หลายเดือนผ่านไปจนเข้าสู่ฤดูใบ้ไม้ผลิ Joel และ Ellie ก็เดินทางมาจนถึงเมือง Salt lake City ในที่สุด ถึงแม้ว่าจะผ่านเรื่องราวสยอดสยองของพวกโจรกินคนมานานแล้ว แต่ก็ทำให้ Ellie นั้นเงียบและไม่ร่าเริงเหมือนเดิม เธอมักจะใจลอยอยู่ตลอดในทุกครั้งที่ Joel พูดคุยด้วย เดินเข้ามาตามถนนในเมืองผ่านเข้าไปที่ซากโรงหนัง สำรวจให้ทั่วจนพบบันไดอยู่บนทางเดินฝั่งซ้ายของชั้นบน Joel จะเรียก Ellie มาช่วยปีนขึ้นไปเอาลงมา ซึ่ง Ellie ก็นั่งใจลอยจน Joel ต้องเรียกซ้ำอีกหลายรอบ เมื่อเธอปีนขึ้นไปเก็บบันไดลงมาแล้วเธอจะเห็นบางอย่างจึงรีบวิ่งไปดูโดยไม่ได้สนใจ Joel เลย ปีนตามขึ้นไปชั้นบนก็จะพบว่าสิ่งที่ทำให้เธอวิ่งตามไปดูอย่างสนใจก็คือยีราฟที่เดินอยู่ด้านล่างนั่นเอง Joel ตัดสินใจถาม Ellie ตรงๆว่าถ้าเธอไม่อยากทำ ไม่อยากไปที่ห้องทดลองของ Firefly ก็ได้น๊ะแค่กลับไปหา Tommy กันก็จบ แต่ Ellie ก็ยืนยันว่าเธอพร้อมที่จะไปอย่างที่ตั้งใจไว้เหมือนเดิม
- เดินเข้ามาจนถึงสถานีรถบัส Logan Jame Bus Station สำรวจเก็บไอเทมตามเต็นท์ต่างๆให้หมด ซึ่งจะมีไอเทมที่สำคัญคือ Acquired Tool L.V 5 อยู่ที่นี่ด้วย แวะเข้าไปที่โต๊ะอัพเกรดอาวุธที่เต็นท์สุดทางด้านขวาก่อนจะขึ้นไปบนซากรถเมล์ด้านใน ระหว่างนั้น Ellie จะเรียกให้ Joel ไปเอาของสิ่งนึงจากเธอ เมื่อเดินเข้าไปคุย Ellie จะเอารูปของ Joel และ Sarah ที่ Maria ฝากมาให้ ซึ่ง Joel ก็รับเอาไว้เพราะตอนนี้เขาเริ่มทำใจได้เยอะกว่าก่อนแล้ว เดินเข้ามาตามถนนด้านในจนถึงป้ายที่บอกทางไปที่ โรงพยาบาล Saint Mary’s Hospital ซึ่งมันจำเป็นต้องผ่านอุโมงค์ทางด่วนไปก่อน ใน Tunnel East นั้นเต็มไปด้วยพวก Clicker อยู่เต็มไปหมดแถมตรงทางออกยังมีเจ้ายักษ์ Boiler อยู่ถึง 2 ตัวฉะนั้นการลอบผ่านเข้าไปแบบเงียบๆจะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด เมื่อลอบเข้าไปจนถึงทางออกอีกฝั่งแล้วจะเริ่มเห็นตึกโรงพยาบาล Saint Mary’s อยู่ไม่ไกลแล้ว
- เข้าไปตามทางจนถึงบ่อน้ำที่ขวางอยู่ โดดลงไปดำน้ำเข้าไปที่อาคารใต้น้ำเข้าไปด้านในจะมีทางปีนขึ้นด้านบนจะพบแผ่นไม้วางอยู่ ดันมันตกลงน้ำไปเพื่อใช้เป็นแพให้ Ellie นั่งข้ามไปฝั่งตรงข้าม จากนั้น Ellie จะปีนขึ้นไปปล่อยบันไดซ้ายบนให้ลง แต่เมื่อ Joel ปีนขึ้นไปบันไดก็เกิดหักลงมาอีก ยกบันไดที่ขาดไปพาดด้านซ้ายแล้วขึ้นไปด้านบนยกบันไดลงไปด้านล่างของอีกฝั่งเพื่อใช้มันทอดเป็นสะพานเดินข้ามไปอีกฝั่งตรงข้ามได้แล้ว จากนั้นวิ่งไปตามตู้คอนเทรนเนอร์กลางน้ำไปจนถึงซากรถบัสที่จมน้ำอยู่ ในขณะที่ Joel ยกตัว Ellie ขึ้นไปที่ฝั่งขวาได้แล้ว รถบัสจะเริ่มจมไปพร้อมกับ Joel จน Ellie ต้องรีบมาช่วยแต่ทั้งคู่ก็จมน้ำไปพร้อมกับรถบัส Joel รีบดำน้ำไปช่วย Ellie ที่จมน้ำอยู่ขึ้นไปที่ฝั่งด้านใน Joel พยายามช่วยผายปอดเพื่อช่วยชีวิต Ellie อย่างเต็มที่ จนพบกับกองกำลังติดอาวุธเริ่มเข้ามาที่นี่และสั่งให้ Joel หยุดอยู่กับที่ ถึงอย่างนั้น Joel ก็ไม่ยอมหยุดที่จะพยายามช่วยชีวิต Ellie ต่อจนโดนด้ามปืนซัดจนสลบไปทันที
The Firefly Lab
Joel ฟื้นขึ้นมาจะพบกับ Marlene นั่งรออยู่เพื่อต้อนรับเข้าสู่ Firefly ซึ่งก็นับว่าโชคดีที่พวกที่อัด Joel จนสลบไปคนของ Firefly ซึ่ง Marlene ก็ชื่นชมที่ Joel พา Ellie มาถึงที่นี่ได้สำเร็จ และต่อจากนี้ก็เป็นหน้าที่ของ Firefly เอง Joel พยายามจะขอพบ Ellie อีกครั้งแต่ Marlene ไม่อณุญาติเพราะตอนนี้ Ellie กำลังจะเข้าสู่กระบวนการผ่าตัดอยู่ แต่ยังไง Joel ก็จะรอพบกับ Ellie อีกครั้งหลังทำวัคซีนเสร็จ Marlene บอกต่อว่า คงไม่ได้แล้วเพราะขั้นตอนการทำวัคซีนนั้นต้องใช้ไขสันหลังและสารจากสมองของ Ellie นั่นแปลว่าหลังจบกระบวนการทำวัคซีน Ellie ก็ต้องตายในที่สุด เล่นเอา Joel ต้องคิดหนัก Marlene จะขอตัวไปควบคุมการผ่าตัดโดยจะให้คนของเธอคุมตัว Joel เอาไว้อย่าให้เขาขัดขวางการผ่าตัดได้ และถ้า Joel พยายามจะทำอะไรให้ยิงได้เลยทันที ใขณะที่ Joel กำลังถูกคุมตัวไป เป็นช่วงเวลาที่เขาต้องตัดสินใจจะทำอะไรซักอย่างแล้ว ระหว่างเดินผ่านที่เก็บกระเป๋าของเขา Joel ก็ฉวยโอกาสจัดการกับลูกน้อง Marlene จนสามารถเค้นเอาที่อยู่ของห้องผ่าตัด Ellie มาได้ก่อนจะยิงทิ้งอย่างเหี้ยมโหด เสียงปืนทำให้พวกทหารของ Firefly ออกมากันมากมาย
- จากนั้นที่ต้องทำก็คือลอบจัดการทหารมากมายที่เดินไปมาเพื่อหาทางเข้าไปจนถึงทางเดินด้านในในส่วนปีกตะวันตกของตึกให้ได้ (อย่าลืมเก็บปืน Assault Rifle จากทหารเอามาใช้ด้วย เพราะเป็นปืนชนิดสุดท้ายแล้ว )
- ผ่านประตูไปที่บันไดหนีไฟแล้วขึ้นไปจนถึงชั้นบนในเขตห้องทดลองของ Firefly ในชั้นนี้ทหารของ Firefly นั้นอารักขาป้องกันห้องผ่าตัดแบบเต็มกำลังในจำนวนมาก พยายามลอบเข้าไปจนถึงหน้าประตูทางเข้าด้านในให้ได้ Joel จะบุกเข้ามาจนถึงห้องผ่าตัดจะพบ Ellie กำลังจะโดนผ่าตัดพอดี Joel เข้าไปแทงหมอผ่าตัดด้วยความแค้นก่อนจะพยายามอุ้ม Ellie หนีออกมาจากห้องทันที พยายามวิ่งหนีพวกทหารของ Firefly ที่ตามมาจับตัวจนถึงลิฟต์ด้านในสุดให้ได้ Joel จะพา Ellie ขึ้นมาที่ชั้นที่จอดรถเพื่อจะหนีออกจากที่นี่แต่ทันทีที่ลิฟต์เปิดออกก็จะพบ Marlene มายืนรอเอาปืนจ่ออยู่ก่อนแล้ว
Marlene – หยุดเถอะ นายช่วย Ellie ไม่ได้หรอก คิดบ้างมั๊ยว่า Ellie เธอจะดิ้นรนมาจนถึงที่นี่เพื่ออะไรกัน และนานแค่ไหนแล้วที่ Ellie ถูก Clicker กัดมา จะต้องรอให้เธอกลายพันธ์เป็นฆาตกรก่อนหรอ ?
Joel – เธอคิดไปเองน่ะสิ
Marlene - แล้ว Ellie เธอจะต้องการอะไร นายเองก็รู้ ทำในสิ่งที่ถูกเถอะ ไม่มีอะไรต้องกลัวหรอก ..
--- [ ปังงงงง ! ] ------ Joel ฉวยโอกาสยิง Marlene ในขณะที่เธอกำลังลดปืนลง แล้วค่อยๆเอาร่างของ Ellie ไปใส่ที่รถ ก่อนที่จะเดินตรงเข้าไปหา Marlene
Marlene – ได้โปรด…ปล่อยฉันไปเถอะ
Joel – เดี๋ยวก็ตามมายุ่งกับเธออีก …
--- [ ปังงงงง ! ] ------ Joel ยิงซ้ำอีกนัดเข้าที่หัวของ Marlene …
ในขณะที่ Joel ขับรถพา Ellie หนีออกมาได้สำเร็จแต่เขาก็ยังอดที่จะคิดถึงเรื่องที่เพิ่งเกิดขึ้นไม่ได้
Ellie – อ่า.. ปวดหัวจัง
Joel – ไม่เป็นไรมันเป็นเพราะฤทธิ์ยาน่ะ เดี๋ยก็หาย
Ellie – ตกลงมันเกิดอะไรขึ้น
Joel – …. พวกเราตามหา Firefly จนเจอ พวกเขาตื่นเต้นมากับสิ่งพิเศษในตัวของเธอ แต่หลังจากพยายามทดลองสกัดวัคซีนกันอย่างเต็มที่แล้วแต่จำนวนผู้ที่ติดเชื่อนั้นมีมากเกินเยียวยา จนสุดท้าย…. พวกเขาก็ตกลงจะหยุดที่จะรักษา .. ฉันจะพาพวกเรากลับบ้าน .. เสียใจด้วยน๊ะ …
.....หลังฟังคำตอบ Ellie ก็หันหลังไปที่เบาะหลังพร้อมกับความเงียบ ….
Epilogue
ที่ป่าใกล้ๆเมือง Jackson City Joel กำลังนำทางพา Ellie มายังเมือง Jackson บ้านเกิดของเขา ระหว่างทางที่กำลังเดินทางขึ้นเขากันอยู่ Ellie มีเรื่องคาใจบางอย่างที่ไม่เคยเล่าให้ Joel ฟังมาก่อน
Ellie – ..เดี๋ยวค่ะ เอ่อ ..เมื่อตอนที่อยู่ที่ บอสตัน ก่อนที่หนูจะถูกพวก Clicker กัด หนูไม่ได้อยู่ตัวคนเดียวหรอก หนูก็มีเพื่อนรักอยู่คนนึงและเธอเองก็ถูกกัดพร้อมกับหนูด้วยเหมือนกัน พวกเราทำอะไรกันไม่ถูก หนูยังจำคำพูดเธอได้ “ จะกลัวไปทำไม อย่างน้อยเราสองคนก็จะสูญเสียตัวตนไปพร้อมๆกัน “ เธอชื่อ Riley คนใกล้ตัวคนแรกของหนูที่ต้องตายไป ต่อมาก็ Tess แล้วก็ตามด้วย Henry และ Sam ทุกคนรอบๆตัวตายไปกันหมด หนูรอที่จะถึงคิวหนูต้องตายบ้างมาตลอด …..
Joel – มันไม่ใช่ความผิดของเธอ
Ellie – คุณไม่เข้าใจหรอก
Joel – ฟังน๊ะ ..ฉันเองก็ต้องฝืนต่อสู้อย่างเข้มแข็งมาตลอดถึงอยู่รอดมาจนถึงวันนี้ได้ มันสำคัญตรงที่เรากำลังจะสู้เพื่ออะไรต่างหาก ไม่ว่าจะยังไงเราต้องหาทางรอดกันจนได้แหละน่า
Ellie – สาบานกับหนูได้มั๊ยว่าทุกเรื่องของพวก Firefly ที่คุณเล่ามาทั้งหมดนั้นเป็นความจริง !
Joel – ได้ ฉันสาบาน ..!
Ellie – โอเค …
สุดท้ายก็ลงเอยด้วยความเห็นแก่ตัวของชายวัยกลางคนที่ยึดติดเอาเด็กสาวคนนึงเพื่อมาแทนที่คนสำคัญที่เสียไป คำนึงแต่ความว่ารักแต่ในมุมมองของตัวเองจนหลงลืมที่จะคิดถึงตัวตนของคนที่เรารัก จนลืมที่ควรจะรู้ว่าหนึ่งชีวิตอาจแทนอีกหลายชีวิตที่ต้องตายไปได้อย่างคุ้มค่า เพียงแค่ความนึกคิดแค่ว่า สักวันคงต้องมีทางแก้ จนสุดท้ายอาจจะแย่ ก็คงเหลือแค่เราสองคน ….
----------------------------------------- THE END ---------------------------------------------