วันพุธที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

FAR CRY 4



         
                                     

                                                      บทสรุป   FAR CRY 4


By - Decibel per - oxide



กล่าวถึง Gang Min (กัง มิง) เด็กลูกครึ่งจีน - อังกฤษ ที่เติบโตท่ามกลางความเลวร้ายของแก็งค์อันธพาลในฮ่องกงดินแดนแห่งชาตินิยมที่ทำให้ครึ่งนึงของต่างชาติในตัว กัง มิง นั้นเป็นปมด้อยของเขามาตลอด และด้วยความที่เป็นลูกชายของหัวหน้าแก็งค์ค้ายาขนาดกลางทีมักจะถูกขูดรีดด้วยแก็งค์ที่ใหญ่กว่ามาตลอด กัง มิง จึงมีความทะเยอทะยานมากมาตั้งแต่เด็กที่อยากรวยและมีอำนาจมากกว่าคนอื่น ส่วนนึงจึงทำให้ กัง มิง นั้นไม่ลงรอยและไม่ค่อยนับถือในตัวพ่อเขามากนัก เขามักเห็นพ่อเป็นเหมือนปลาเล็กในอ่างใบใหญ่ที่ยอมให้ปลาใหญ่เอาเปรียบอยู่ตลอดเวลา ยิ่งทำงานใต้เงาพ่อของเขานานเท่าไหร่  กัง มิง ก็ยิ่งเกลียดชังในความอ่อนแอ ขี้ขลาด และล้าหลังของพ่อเขามากเท่านั้น แต่จู่ๆพ่อของเขาก็เสียชีวิตลงอย่างกะทันหันโดยไม่ทราบสาเหตุ แต่อาจเราะมันเป็นเรื่องปกติของสงครามระหว่างแก็งค์เลยไม่มีใครสนใจจะตรวจสอบ ทำให้ กัง มิง ได้รับมรดกทั้งหมดที่เป็นทั้งทรัพย์สินและกองกำลังจากพ่อของเขาและ ด้วยความทะเยอทะยานที่ติดตัวมาแต่เด็ก กัง มิง ตัดสินใจออกเดินทางแสวงหาฐานอำนาจใหม่ของเขาแทนฮองกงที่แออัดและเน่าเหม็นนี้ทันที 

กัง มิง เปลี่ยนตัวตนของเขาใหม่ในชื่อ
Pagan โดยเขาได้ไอเดียมาจากชื่อมาจาก พระเจ้านราธู (King Narathu) กษัตริย์แห่งราชวงศ์พุกาม (Pagan Kingdom) (คนไทยเราอ่านคำออกว่า Pagan หรือ Bagan ว่า พุกาม) รู้จักกันในอีกพระนามหนึ่งว่า "อิมตอวสยัน" (Im Taw Syan) แปลว่า กษัตริย์จอมโหด เนื่องจากทรงลอบปลงพระชนม์พระบิดา คือ พระเจ้าอลองสิธูและพระเชษฐาเพื่อขึ้นครองราชย์ ซึ่งการที่ กัง มิง ใช้ไอเดียนี้ในการคั้งชื่อก็บ่งบอกให้รู้เป็นนัยๆว่า พ่อของเขาที่ตายแบบกระทันหันโดยไม่ทราบสาเหตุนั้นเป็นฝีมือของเขาแน่นอน 

Pangan Min เดินทางตามหาสถานที่ที่เหมาะสมกับฐานอำนาจตัวเองจนพบ Kyrat อณาจักร์เล็กๆภายใต้ขุนเขาหิมาลัยที่อยู่ Pangan Min ใช้เวลาไม่นานก็สามารถยึดพื้นที่ส่วนใหญ่ของแนวเขาหิมาลัยได้ในวัยแค่ 21 ปีด้วยเงินทุนที่ได้จากมรดกของพ่อที่ไร้ความสามารถ จนเติบใหญ่ก็สามารถครอง Kyrat ได้ทั้งหมดด้วยกองกำลังทีเหี้ยมโหดของเขา ด้วยแนวทางการปกครองของเขาที่เน้นกลืนความเป็นตัวตนของคนในพื้นที่ให้นับถือและขึ้นตรงกับเขาแต่เพียงผู้เดียว ท่ามกลางการต่อต้านของกลุ่มชาตินิยมหัวอนุรักษ์ที่เรียกตัวเองว่า Golden Path โดยการนำของ
Mohan Ghale ชายผู้คลั่งชาติเหนือสิ่งอื่นใด  




จนวันนึง Pangan Min ก็ได้พบรักกับหญิงนางนึงที่ชื่อ Ishwari หญิงสาวชนเผ่าพื้นถิ่นที่ทั้งสวยและแสนดี ใครจะรู้ว่าความรักที่แท้จริงจะหลอมละลายปีศาจให้กลายเป็นมนุษย์ได้อีกครั้ง Pangan Min ตกหลุมรัก Ishwari จนหมดใจจนแทบจะวางมือจากอำนาจและหลงลืมเจตนารณ์ทั้งหมดที่เกิดจากควาทะเยอทะยานลงจนหมดสิ้น Pangan Min ตัดสินใจใช้ชีวิตแบบชายธรรมดาที่เป็นหัวหน้าครอบครัวจนให้กำเนิดลูกกับ Ishwari ที่ชื่อ Lakshmana โดยตั้งจากชื่อของสถานที่ศักดิสิทธิ์แห่ง Kyrat 

แต่แล้วโชคชะตากลับเล่นตลก Pangan Min กลับรู้ว่าแท้ที่จริงแล้ว Ishwari ภรรยาที่เขารักอย่างหมดใจนั้นคือสายลับของพวก Golden Path แถมยังเป็นเมียของ Mohan Ghale ผู้นำของ Golden Path อีกด้วย นั้นทำให้ความมืดเกาะกินมนุษย์ธรรมดาอย่าง Pangan Min ให้กลายเป็นปีศาจร้ายที่ไร้หัวใจอีกครั้ง แถมยังร้ายกาจกว่าเดิมเสียด้วย ทางด้าน Ishwari ก็ได้สารภาพกับ Mohan Ghale สามีของเธอว่าเธอได้อยู่กินกับ Pangan Min จนเกิดความรัก Pangan Min ขึ้นมาและมีลูกด้วยกันคือ
Lakshmana ชายผู้คลั่งชาติและอุดมการณ์อย่าง Mohan Ghale มีหรือจะทนได้ที่จะให้มีสายเลือดนอกคอกของ Pangan Min ผสมกับเลือดบริสุทธ์แห่ง Kyrat ของ Ishwari ภรรยาของเขา Mohan Ghale ไม่รอช้า เขานำทัพบุกโจมตีฐานของ Pangan Min ในขณะที่เขากำลังโศกเศร้าจน Mohan Ghale สามารถฆ่า Lakshmana ลูกสุดรักของ Pangan Min ลงได้ในทีสุด

ทันทีที่ Ishwari รู้เรื่อง ด้วยความเป็นแม่ ความเสียใจเปลี่ยนเป็นแรงแค้น เธอเข้าไปหา Mohan ที่บ้านและใช้โอกาสที่อยู่กับ 2 คนฆ่า Mohan สามีของเธอเองก่อนที่จะพา
Ajay Ghale  ลูกชายคนแรกที่เกิดกับ Mohan เดินทางมาที่อเมริกาเพื่อหนีการไล่ล่าของ Pangan Min และหวังว่าจะทิ้งความหลังที่ดำมืดเอาไว้ให้เป็นความลับใต้เงาของภูเขาหิมาลัยตลอดไป

อนิจจา Ajay Ghale ลูกชายของ Ishwari ในวัยที่เติบใหญ่เขาไม่เคยรับรู้ถึงโศกนาฏกรรมสุดเลวร้ายของพ่อและแม่ของเขาเลยจน Ishwari แม่ของเขาเสียชีวิตลงด้วยโรคมะเร็งเต้านม ในวันสุดท้ายของ Ishwari ในโรงพยาบาล เธอสั่งเสียลูกชายของเธอ Ajay Ghale ด้วยคำของร้องสุดท้าย ว่าลูกจ๋า พาแม่กลับไปหา Lakshmana ด้วยเถิด 


หรือชะตากรรมกำลังเล่นตลกอีกครั้ง เมื่อ Ajay Ghale กำลังนำอัฐิของแม่ คืนสู่บ้านเกิดตามที่ให้สัญญาไว้ก่อนตาย แม้จะไม่รู้เลยแม้แต่นิดว่า  Lakshmana ที่แม่กล่าวถึงนั้น มันหมายความว่าอะไร ..... 




        Ajay ลูกรัก แม่มีคำขอสุดท้ายที่อยากให้ลูกทำ ... พาแม่กลับไปหา Lakshmana ....



                                                     PROLOGUE


เมื่อ Ajay ตัดสินใจมุ่งหน้ากลับสู่ดินแดนที่อยู่ในอ้อมกอดของหุบเขาหิมาลัยบ้านเกิดตามคำสั่งเสียสุดท้ายของแม่ กงล้อแห่งชะตากรรมของ Ajay ก็เริ่มต้นขึ้นทันที...


   



 Ajay เดินทางมากับรถเมล์คันเก่าและคงเป็นไม่กี่คันสำหรับเส้นทางแห่งขุนเขานี้ ด้วยการนำทางของไกด์ท้องถิ่นที่ชื่อ Darpan ท่ามกลางวิวทิวทัศน์ที่แทบจะไม่คุ้นตาเพราะ Ajay จากที่นี่มาตั้งแต่เขาเพิ่ง 3 ขวบ ในขณะที่ทุกอย่างดูเหมือนจะราบรื่น รถก็ถูกด่านของทหารดักเอาไว้ กับการต่อรองที่เริ่มจะวุ่นวายของคนขับที่พยายามจะให้มันผ่านไปด้วยดี Ajay รู้สึกได้ถึงเฮลิคอปเตอร์ที่กำลังเดินทางเข้ามาใกล้พร้อมๆกับความวุ่นวายที่กำลังเกิดขึ้น คนในรถบางคนเริ่มวิ่งหนี จนเกิดการยิงต่อสู้กับทหาร  เหตุการณ์เลวร้ายขึ้นเมื่อทหารเริ่มยิงเข้ามาใส่รถจนแทบจะโดน Ajay จนเฮลิคอปเตอร์เริ่มลงจอดพร้อมกับการมาของชายคนนึงที่ทำให้บรรยากาศที่วุ่นวายอยู่ถูกแทนที่ด้วยความไม่น่าไว้ใจ

  

 ชายรูปร่างเล็กผมสีเทากับท่าทางที่ดูเป็นมิตร เริ่มเข้ามาทวงถามกับคำสั่งที่มันควรที่จะแตกต่างกันระหว่าง หยุดรถ กับ ยิงรถ กับทหารของเขา ก่อนที่มันจะจวงแทงทหารที่ทำพลาดจนเลือดกระเด็นไปทั่วแล้วเข้ามาโผกอดแสดงการต้อนรับกลับบ้านของ  Ajay ต่ออย่างน่าสลดสยอง Ajay ไม่รู้และไม่อยากรู้ว่าหมอนี่เป็นใคร แต่ก็รู้ว่าจากนี้ไปคงต้องเจอเรื่องที่ไม่ดีนักแน่นอน  กับคำพูดของมันที่ว่า มันได้เตรียมการผจญภัยครั้งยิ่งใหญ่ที่จะไม่มีวันลืมไปตลอดชีวิตแน่นอน ..

   



Ajay เริ่มมองเห็นอีกครั้งหลังจากที่ถูกคลุมหัวเดินทางมาอีกหลายชั่วโมง เขาเห็นชายผมสีเงินคนเดิมกับชุดเสื้อสูทที่สีสรรสุดแสบตากับบรรยากาศบนโต๊ะอาหารสุดหรู เจ้าผมขาวเกริ่นถาม Ajay ว่าคงจำเขาไม่ได้ ก่อนที่จะแนะนำถึงที่อยู่ของมัน Depleur แล้วเริ่มแนะนำตัวเองว่าชื่อ Pagan min (ปากัน มิง ) แถมยังทำกวนประสาทเอาโถเถ้ากระดูกของแม่ไม่ลิ้มชิมรสจนน่าสะอสะเอียนก่อนที่มันจะคุยว่า มันกับ Ishwari แม่ของ Ajay นั้นเคยรักกันมาก่อน และมันก็เริ่มโทษตัวเองมากที่ทำให้ทั้งแม่และ Ajay ต้องหนีไปอเมริกา มันบอกกับ Ajay ว่าอย่าได้โทษมันให้โทษพวก Golden path  ก่อนที่มันจะเอาซ้อมแทงลงไปที่กลางหลัง  Darpan ที่นั่งร่วมโต๊ะเพื่อสอนมารยาทว่าห้ามส่งใช้มือถือขณะทานอาหารโดยเฉพาะ การส่งของความขอความช่วยเหลือ ก่อนที่มันจะประชดลากตัว Darpan ไปแหหปากตะโกนลั่นหุบเขาเพื่อให้รู้ว่ายังไงก็ไม่มีใครยินแน่นอน จากนั้นมันสั่งให้ Paul นำตัว Darpan ไปสอบสวนก่อนที่มันจะขอตัวเข้าไปคุยโทรศัพท์ด้านใน .. ซึ่งก็ถึงเวลาที่ Ajay สำควรต้องฉวยโอกาสหนีจากนี้แล้ว

- จากนั้นโดดลงมาที่ระเบียงตรงกลางมาชั้นล่าง แล้วลงบันไดต่อไปจนถึงห้องด้านใน Ajay จะเห็น  Darpan โดนทรมานอยู่ในห้องซึ่งตอนนี้เขาคงช่วยอะไรไม่ได้ เมื่อเปิดประตูออกไปด้านนอกจะพบกับ Sabal คนของ Golden path ที่ถูกส่งมาช่วย Ajay หนีออกจากที่นี่ ทันทีที่ออกประตูหน้าก็วิ่งสุดกำลังไปที่รถจิ๊บที่จอดอยู่ เมื่อรถออกไปแล้ว คนขับจะให้ปืนไว้ให้ยิงถล่มศัตรูที่ขวางทาง จนสุดท้ายรถก็จะถูกรถของศัตรูพุ่งชนจนตกเขาในที่สุด

        

- ทันที่ที่รู้สึกตัวขึ้นมาอีกครั้ง Ajay จะเอาวิทยุจากศพทหารกับมีดพบของมันมาใช้ ก่อนที่ Sabal จะติดต่อมาให้ Ajay ไปพบกับเขาที่หอคอยบนเนินเขาที่อยู่ไม่ไกลจากนี่ ซึ่งก็คือเป้าหมายจุดสีเหลืองที่ต้องเดินทางไปนั่นเอง และทันทีที่เริ่มเจอทหารกลุ่มแรกที่เข้ามาค้นหา ก็ต้องเรียนรู้ระบบการลักลอบ (Stealth Fundamental ) โดยการกดปุ่มทิศทางขวาใช้หินขวางเบี่ยงเบนความสนใจของศัตรูและการกด B ในการก้มต่ำเพื่อย่องเงียบ แต่ถ้าอยากจะเล่นคิวบู๊ก็หาทางเสียบมันซักคนแล้วเอาปืนมันมายิงจัดการให้หมดเลยก็ทำได้เช่นกัน

   

- ลอบจัดการศัตรูออกมาตามทางจนพบซากสัตว์นอนอยู่ทันทีที่เข้าไปถลกหนังมันก็ต้องเรียนรู้ระบบการจัดการศัตรูแบบใหม่ ซึ่งก็คือ Bait หรือการใช้เหยื่อล่อนั่นเอง โดยเมื่อถลกหนังสัตว์ไม่ว่าจะตัวไหนนอกจากวัตถุดิบแล้วสำหรับไว้ผสมไอเทมแล้วก็ยังได้ก้อนเนื้อมาเป็นเหยื่อล่อด้วย โดยการกดเข้าเมนูไอเทม LB แล้วเลือก Bait กด RB ขว้างไปที่ศัตรู และถ้าบริเวณนี้มีสัตว์กินเนื้ออยู่มันก็จะเข้ามาโจมตีศัตรูทันที ซึ่งสามารถใช้สร้างความปั่นป่วนจนถึงฆ่าศัตรูจนตายหมดได้เลย



- เมื่อเข้ามาถึงค่ายของพวกศัตรู สิ่งที่ต้อเรียนรู้คือการใช้กล้องในการส่องดูศัตรู โดยการกดปุ่มทิศทางขึ้นบนเพื่อใช้กล้องแล้วกด LT - RT ในการซูมเข้าออก ไม่ใช่เพื่อถ่ายรูปแต่เพื่อกำหนดตำแหน่งของพวกมันเป็นจุดสีแดงเพื่อสะดวกในการดูการเคลื่อนไหวของมันนั่นเอง ซึ่งจะเป็นประโยชน์มากทั้งการต่อสู้และการหลบหลีก
- จากนั้นเดินทางเข้าไปจนสุดทางของช่องเขาจะทีคนส่งเชือกมาให้ปีนขึ้นด้านบน เมื่อเข้าไปถึงหอคอยก็จะพบกับ Sabal และคนของเขาที่รออยู่ เตรียมกระสุนให้เรียบร้อยเพราะไม่นานพวกศัตรูจะบุกมาอีกระลอก ออกไปช่วยจัดการยิงพวกมันให้หมด จนเสียงสั่นสะเทือนทำให้หิมะบนภูเขาถล่มลงมาทำให้การต่อสู้ต้องหยุดลง ก่อนที่ Sabal จะเข้ามาขุดขึ้นจากกองหิมะพร้อมคำชอบว่า ตายยาก จริงๆ



                                                        ACT 1

หลังจากรอดชีวิต Sabal พา Ajay มาที่หมู่บ้านของเขา หมู่บ้าน Banapur ซึ่งก็คือแหล่งรวมตัวของกองทัพปลดแอกแห่ง Kyrat ที่เรียกกลุ่มของตัวเองว่า The Golden Path ซึ่ง Mohan Ghale พ่อของ Ajay ก็คือผู้นำกลุ่มต่อต้านรุ่นแรกๆนั่นเอง Sabal คุยถึงเรื่องเล่าที่เป็นตำนานของ Mohan มาตลอดทางเดินจนถึงหมู่บ้าน ก็จะพบกับ  Amita สมาชิกหญิงอุดมการณ์แรงกล้าคนนึงของกลุ่ม ที่หงุดหงิดขึ้นมาทันทีที่ แผนการช่วยเหลือ Darpan ชายที่เสมือนเป็นผู้อวุโสของกลุ่มกลับได้ นักท่องเทียวสุดเกรียนมาแทน 

จากนี้ หมู่บ้าน Banapur ก็จะถึงว่าเป็นฐานหลักของ Ajay ด้วย ซึ่งก็มีทั้งห้องพักเซฟเฮาส์ ร้านขายอาวุธและไอเทมด้วย และการรับภารกิจหลักซึ่งก็คือการดำเนินเรื่องของเกมนั้นดูจากสัญลักษณ์ในแผนที่ ซึ่งบรรดาจุดรับภารกิจหลักนั้นจะแสดงเป็นตัวอักษรของชื่อคนที่ให้ทำภารกิจ โดยภาคนี้จะมีภารกิจหลักมากกว่าหนึ่งให้เลือกทำ โดยตอนนี้จะมีภารกิจที่ต้องทำอยู่ 2 จุดคือ.
- จุด S ก็คือภารกิจหลักที่ต้องรับจาก Sabal 
- จุด A ก็คือภารกิจหลักที่ต้องรับจาก Amita 

 WOLVS' DEN  (Amita Mission) 

-เข้าไปคุยกับ Amitaที่จุด S ในหมู่บ้านเธอจะให้ธนูมาแล้วให้ไปจัดการหมาป่าที่มาก่อกวนฟาร์ม จากนั้นเดินทางมาที่จุดเหลืองในแผนที่ซึ่งก็คือ Prabhakar farm มาถึงแล้ว Ajay จะพยายามเข้าไปคุยกับป้าขี้เมาเจ้าของฟาร์มหมู แต่ดูเหมือนหน้าเธอจะบ่งบอกว่าฟังไม่รู้เรื่องแน่แล้ว Ajay จึงติดต่อไปหา Amita ก่อนที่จะโดนว่ากลับมาว่าให้ไปจัดการหมาป่าไม่ใช่ไปคุยกับป้าขี้เมา จากนั้นเป้าหมายสีเหลืองก็จะแสดงไปที่รังของพวกหมาป่าทันที เดินทางไปที่จุดเหลืองเป้าหมายต่อไปซึ่งอยู่ไม่ไกลากฟาร์มจะเจอถ้ำของหมาป่า ซึ่งด้านหน้าจะมีหมาป่าอยู่หลายตัว ใช้ธนูจัดการมันให้หมด แล้วเข้าไปด้านในถ้ำสำรวจที่ศพด้านในจะได้แอลกอฮอลมา ซึ่งถ้าเอามารวมกับธนูด้วยการกด LB - X ก็จะกลายเป็นธนูไฟทันที ออกมาหน้าถ้ำแล้วยิงธนูใส่ที่เสากลางถ้ำให้มันระเบดปิดถ้ำซะ แล้วกลับไปที่ฟาร์มก็จะพบ Amita กับ Bhadra มาคอยดูแลป้าแกอยู่ ซึ่งก็ได้คำขอบคุณและค่า Exp จาก Amita มาด้วย

PROPAGANIA MACHINE  (Sabal Mission)

- เข้ามาไปคุยกับ Sabal ที่จุด S ในห้องทำงานเขาจะพวกลูกน้องที่ส่งไปปฏิบัติภารกิจกำลังบาดเจ็บ Ajay จึงอาสาจะขอไปช่วยทำงานนั้นให้เสร็จแทน จากนั้นเดินทางมาที่จุดเป้าหมายสีเหลืองตรงที่เกิดเหตุ Ajay จะเก็บGrapple เชือกตะขอจากศพมาได้ จากนั้นก็เรียนรู้การใช้งานมันโดยมองหาเป้าหมายที่เป็นจุดกระพริบที่มีรูปตัว X อยู่ กด X ที่เป้าหมายนั่นเพื่อใช้เชือกตะขอปีนขึ้นไปบนเขาต่อจนพบหอคอยสื่อสาร Bell Tower ซึ่งการจะปลดล็อก Bell Tower ได้นั้นต้องใช้การปีนขึ้นไปด้านบนจนถึงเครื่องสัญญาณ เมื่อสามารถ Hack มันได้แล้วก็จะเป็นการเปิดแผนที่ในเขตของหอคอยตั้งอยู่ ซึ่งก็จะทำให้เห็นสถานที่ต่างๆในพื้นที่ได้อย่างชัดเจนนั่นเอง
- เมื่อโหนลงมาจากหอคอยแล้ว ก็จะพบภารกิจย่อยประจำหอคอยซึ่งก็คือ Golden Path Supplies Mission ที่เป็นภรกิจเสริมโดยการตามเก็บ Supplies ต่างๆที่ทำตกเอาไว้ตามจุดต่างๆภายในเวลากำหนด ซึ่งภารกิจเสริมนี้จะทำหรือไม่ก็ได้
- จากนั้นชายคนนึงจะติดต่อมาให้ Ajay เข้าไปพบ เดินทางไปที่จุดหมายรูปตัว L ในแผนที่ เมื่อเดินทางเข้าไปที่โบสถ์ร้างเป้าหมายก็จะพบกับ Longinus บาทหลวงปืนเถื่อน ที่จะเขาจะยินดีที่จะให้อาวุธฟรีกับ Ajay ทุกครั้งที่เข้าไปยึด Bell Tower ได้ รวมทั้งยังเป็นการเริ่มเปิดบริการอย่างเป็นทางการของจุดซื้อขายปืนอัตโนมัติที่เรียกว่า Trading Post ที่อยู่ในห้องพักของทุก Outpost ที่ยึดได้ด้วย แต่ Sabal จะติดต่อมาว่าหมู่บ้านกำลังถูกคนของ ปากัน มิง บุกเข้าโจมตีให้ Ajay รีบมาช่วยด่วน




** โบสถ์ปืนเถื่อนของ Longinus ** 
จุดรับภารกิจย่อยจาก Longinus นั้นจะแสดงออกมาในแผนที่เป็นรูปตัว L ซึ่งจะมีออกมาให้เห็นต่อเมื่อเขาเริ่มมีภารกิจให้ทำเท่านั้น เมื่อเข้าไปทำภารกิจกับเขาจบ 1 ภารกิจก็จะได้ทั้งเงินและค่า Exp เหมือนทั่วๆไป จากนั้นก็รอให้มีภารกิจอื่นๆเข้ามาอีกจุด L ก็จะแสดงขึ้นมาในแผนที่อีกครั้ง ซึ่งเป้าหมายของภารกิจก็คือ สุดยอดอาวุธแห่ง Kyrat ที่ Longinus มันโม้เอาไว้นั่นเอง ส่วนทุกครั้งที่ยึดหอคอยสื่อสารได้ 1 จุด Longinus ก็จะปลดล็กอาวุธดีๆให้ใช้เพิ่มในตู้ขายปืน (Trading Post) ด้วย 

RETRUN TO SENDER

- รีบเดินทางกลับไปที่หมู่บ้าน Banapur ตามที่จุดเหลืองขึ้นมา ก่อนที่เวลาจะหมด เมื่อมาถึงหมู่บ้านจะพบว่าถูกบุกโดยพวกศัตรูที่มีระเบิดเพลิงมากมาย ซึ่งต้องยิงมันให้ตายก่อนมันจะเอาไฟเข้ามาไหม้ตัวได้ จัดการพวกมันให้หมดแล้วเข้าไปที่บ้านเป้าหมายที่กำลังไฟไหม้ไปทั่ว เข้าไปทางหน้าต่างด้านหลังลงไปชั้นล่างจะพบ Bhadra นอนสลบอยู่ Ajay ก็จะช่วยเธอออกมาได้สำเร็จ

หลังจากเหตุการณ์ถึงแม้ Ajay จะได้รับการขอบคุณจาก Bhadra แต่ดูเหมือน Amita ก็ยังจะโทษว่าเป็นเพราะที่ Sabal บุกรังของ Paul เพื่อช่วย  Ajay ออกมา Ajay จึงเป็นคนทำภัยเข้ามาที่หมู่บ้าน แต่ Sabal ห่วงเรื่องบรรดา ด่าน Outpost ที่โดนพวกศัตรูยึดไปมากกว่าเพราะพวกมันได้จับตัวประกันไปด้วย เขาจึงขอให้ Ajay รีบเดินทางไปช่วยทันที

HOSTAGE NEGOTIATION

- เดินทางไปยัง Outpost เป้าหมายสีเหลืองจะเข้าส่าภารกิจ Rescue  Hostage โดยมีหลักที่ต้องทำคือ ลอบจัดการศัตรูในพื้นที่ให้หมดจึงจะเข้าไปช่วยตัวประกันได้ และถ้าทำให้ศัตรูรู้ตัวจนเกิดการยิงต่อสู้ ก็ต้องรีบจัดการให้หมดก่อนพวกมันจะฆ่าตัวประกันจนหมด จากนั้น  Amita จะติดต่อมา ถึงจะมีชื่นชมอยู่บ้างแต่ด้วยการที่เธอเป็นพวกแก่อุดมการณ์จึงมักเล็งไปที่งานที่ใหญ่กว่าก่อนเสมอ ซึ่งที่เธอต้องการก็คือ อยากให้ไปทำลายป้อมหรือ Outpost ที่ใหญ่และสำคัญกว่านี้ก่อนค่อยตามช่วยตัวประกันก็ยังทัน  Ajay จึงขอพิกัดของ Outpost นั่นเพื่อเขาจะได้เข้าไปจัดการให้ Amita หายหงุดหงิดซะที
- จากนั้นเดินทางไปยังจุดเป้าหมายสีเหลืองจุดต่อไป ซึ่งก็คือ Outpost Klilana Bazaar จากนั้นก็เริ่มการเรียนรู้การยึด Outpost ได้เลย




** การยึดจุด Outpost ** 
 เริ่มจากใช้กล้องตรวจสอบศัตรูเพื่อกำหนดจุดหมายให้มากที่สุด ที่สำคัญอย่างที่ 2 คือ มองหาจุดสวิตซ์สัญญาณเตือนภัยให้เจอแล้วเข้าไปทำลายมันซะเพราะถ้าเกิดการยิงต่อสู้แล้วพวกศัตรูไปเรียกกำลังเสริมล่ะเรื่องยาว ซึ่งนอกจากจะไม่ได้เหนื่อยจัดการศัตรูจำนวนมากแล้ว ยังจะได้ Bonus No Alarms หลังจบภารกิจด้วย จากนั้นหาตัวช่วยจากจุดต่างๆเช่นกรงสัตว์หรือโถรังผึ้งเพื่อใช้มันเป็นตัวช่วยป่วนศัตรู ที่เหลือก็จัดการศัตรูให้หมดค่ายไม่ว่าด้วยวิธีไหน ก็จะถือว่ายึด Outpost ได้ทันที

หลังจากยึด Outpost ได้แล้ว Ajay ก็สามารถคืนรอยยิ้มส่วนนึงให้กับ Amita ได้บ้างแล้ว 




Amita - หลังจากช่วยตัวประกันก็ยึดด่านคืนได้อีก ไม่ยอมฟังกันเลยใช่มั๊ย Ajay แต่ก็เอาละก็ถือว่าชั้นรับได้ นายทำได้ดีมากเลยวันนี้
Ajay - ขอบคุณ เพิ่งรู้สึกว่าตัวเองทำสิ่งที่ถูกก็ตอนนี้แหละ
Amita - แม่นายต้องภูมิใจแน่นอน แล้ว นายกำลังมองหาอะไรอยู่หรอ Lakshmana หรือเปล่า ? มันไม่ง่ายเลยน๊ะ เพราะเราเสียพื้นทีทางเหนือให้กับกองกำลังของ ปากัน มิง ไปจนหมดเมื่อปีทีแล้วจนต้องหนีมาอยู่ทางใต้อย่างที่เห็นนี่แหละ 
 Ajay - ผมสัญญากับแม่ก่อนตายว่าจะนำเถ้ากระดูกท่านไปที่นั่น ก็แค่อยากทำตามที่เธอขอไว้ก่อนตายเท่านั้นแหละ 
Amita - คิดให้ดีสิ Ajay ชั้นว่าแม่นายต้องมีเป้าหมายอะไรแฝงอยู่แน่ๆ ก็ดูจากที่นายทำในวันนี้ ...ทายาทแห่ง โมฮาน เกล ที่กำลังกลับคืนสู่บ้านเกิดเพื่อสานต่อเจตนารมณ์ในสงครามปลดแอก Kyrat ดินแดนแห่งแผนดินแม่ โอ้ เธอช่างลำลึกมากๆเลยแม่ชองนาย ..นายมาที่นี่แล้ว มาข่วยเรา มันไม่ใช่เรื่องบังเอิญแน่ๆ มาร่วมรบกับเรา ร่วมสู้กับพวกเรา Golden Path ชั้นสัญญาว่า นายจะทำให้คำขอครั้งสุดท้ายก่อนตายของแม่นายเป็นจริงได้แน่นอน เถ้ากระดูกของแม่นายได้ไปอยู่ในที่ที่สงบสุขอย่าง Lakshmana แน่นอน หรือ อาจจะสำเร็จมากกว่านั้น ปลดปล่อย Kyrat บ้านของเราจากเจ้า ปากัน มิง สานต่องานที่พ่อของนายทำค้างเอาไว้ ลองคิดดูแล้วกันน๊ะ Ajay - เออ แม่ ..ผมว่าเราคงต้องอยู่ต่อกันอีกหน่อยแล้วล่ะ 

               ..........................................................................................................





                                                   Skill & Ability                              

                         The Tiger ( ความสามารถด้านการต่อสู้ ) 

            ** คำว่า โจมตีศัตรูนั้นหมายถึง การใช้ Melee Mode โดยใช้แกน RS **

         ** Skill ที่ยังใช้ไม่ได้นั้นต้องปลดล็อกด้วยการทำภารกิจตามที่ระบุเอาไว้ในเงื่อนไข **

Death from Above ทำให้สามารถโจมตีศัตรูลงมาจากด้านบนได้ 
Death from Below ทำให้สามารถโจมตีศัตรูจากด้านล่างได้
Cover Takedown -ทำให้สามารถโจมตีศัตรูจากที่ซ่อนตัวได้
Grenade Takedown - ทำให้สามารถเข้าโจมตีศัตรูแล้วตามด้วยยัดระเบิดใส่ตัวมันต่อ (RS - RB)

Knife throw Takedown -ทำให้สามารถเข้าโจมตีศัตรูแล้วตามด้วยปามีดใส่ตัวมันต่อ (RS - RT)
Handgun Takedown- ทำให้สามารถเข้าโจมตีศัตรูแล้วยิงซ้ำด้วยปืนสั้น (RS - LT - RT)
Vehicle Takedown -ทำให้สามารถกระชากศัตรูออกจากรถได้ 
Chain Takedown -ทำให้สามารถเข้าโจมตีศัตรูด้วยการใช้มีดลอบฆ่าได้อย่างต่อเนื่อง

Loot Takedown -ทำให้สามารถเข้าโจมตีศัตรูแล้วได้ไอเทมมันมาแบบอัตโนมัติโดยไม่ต้องค้นตัว
Drag Takedown -ทำให้สามารถเข้าโจมตีศัตรูแล้วลากศพไปซ่อนได้ทันที  (RS - LS)
Bullet Sponge - เพิ่มความทนของรายกายต่อการโจมตีโดยกระสุนปืน 
Heavy Takedown -ทำให้สามารถเข้าไปลอบโจมตีศัตรูประเภทเกราะหนักได้

Running Reload - ทำให้สามารถรีโหลดกระสุนขนาดวิ่งได้
At The Ready - สลับการใช้อาวุธและยกปืนเตรียมยิงได้เร็วมากขึ้น
Stay on Target - ทำให้ปืนสั้นและสไนเปอร์สามาถรีโหลดกระสุนได้อัตโนมัติในขณะที่กดเล็งอยู่ 
Ammo Wrangler -ทำให้รีโหลดกระสุนได้เร็วยิ่งขึ้น

Moving Targets - ทำให้ยิงปืนได้ในขณะวิ่งได้ 
Casual Marksman - ใช้การยิงแบบเร่งด่วน (RT โดยไม่ต้อง LT) ได้รุนแรงขึ้น
Huntsman - ทำให้เคลื่อนไหวได้เร็วขึ้นในขณะกำลังเล็งธนู
Breath Control - ทำให้กลั้นหายใจในน้ำและตอนยิงสไนเปอร์ได้นานขึ้น

Focused Driving - เพิ่มความทนทานให้กับรถที่ขับอยู่
Moving Mountain สามารถเคลื่อนย้ายศพของพวกทหารเกราะหนักได้
Soft landing - ลดความเสียหายจากการลงกระแทกจากที่สูง
Nonstop - สามารถวิ่งได้อย่าต่อเนื่องและเร็วขึ้นกว่าเดิม

The Elephant ( ความสามารถด้านความอยู่รอด)

Capable Strength - เพิ่มพลังชีวิตเป็น 3 ช่อง
Forced Strength - เพิ่มพลังชีวิตเป็น 4 ช่อง
Dominant Strength - เพิ่มพลังชีวิตเป็น 5 ช่อง
Unyielding Strength - เพิ่มพลังชีวิตเป็น 6 ช่อง

Healing Syringe LV2 - ใช้เข็มฉัดยาเติมพลังได้ครั้งละ 4 ช่อง
inner Strength - ใช้เข็มฉัดยาเติมพลังเร็วขึ้น
improvised surgery - ใช้เข็มฉัดยาเติมพลังในขณะวิ่งจะเพิ่มให้อีก 2 ช่อง
Healing Syringe LV3 - ใช้เข็มฉัดยาเติมพลังได้ครั้งละ 6 ช่อง

Gadget training - เพิ่มความเร็วในการซ่อมแซมอุปกรณ์ และ ทำให้กล้องสามารถเห็นตำแหน่งของไอเทมที่เป็นของสะสมได้
Trade agreement - สามารถซื้อธนูไฟ ธนูหัวระเบิด และระเบิด Stick Bomb ได้จาดตู้ขายอาวุธ
Overdose Syringe - สูตรยาเพิ่มพลังโจมตี (ใช้สมุนไพรสีขาว + สีม่วง)
Karma Boost - ทำให้ได้ค่า Karma Point มากขึ้นอีก 5 %

Harvester - เพิ่มความสามารถในการผสมสมุนไพรได้มากขึ้น
Hunting Syringe - สูตรยาตาทิพย์ ทำให้สามารถเห็นตำแหน่งของศัตรูและสัตว์ได้หมด (ใช้สมุนไพรสีฟ้า + สีแดง)
Hunting Syringe LV2 - เพิ่มประสิทธิ์ภาพของสูตรยาตาทิพย์ทำให้การเคลื่อนไหวเงียบจนสัตว์ไม่รู้ตัวและจะไม่เริ่มโจมตีก่อน
Duration Boost - ทำให้ผลของสูตรยาตาทิพย์เพิ่มขึ้นอีก 30 นาที

Rhino Skill - ทำให้ร่างกายทนทานต่อไฟและระเบิดมากขึ้น 
Survival Syringe - สูตรยาเพิ่มพลังป้องกัน (ใช้สมุนไพรสีแดง + สีเหลือง)
Survival Syringe LV2 - เพิ่มประสิทธิ์ภาพของสูตรยาเพิ่มพลังป้องกันการโจมตีจากการโจมตีทางกายภาพ (Melee)
Duration Boost - ทำให้ผลของสูตรยาเพิ่มพลังป้องกันให้เพิ่มขึ้นอีก 30 นาที

Elephant Rider  - ความสามารถในการขี่ช้าง
Focus Syringe - สูตรยาอึด ทำให้วิ่งและดำน้ำได้นานมากขึ้น (ใช้สมุนไพรสีฟ้า + สีเหลือง)
Focus Syringe LV2 - เพิ่มประสิทธิภาพของสูตรยาอึด ทำให้วิ่งเร็วจนศัตรูยิงไม่โดน
Duration Boost - ทำให้ผลของสูตรยาอึด เพิ่มขึ้นอีก 30 นาที


  


                      การค้นหาวัตถุดิบและการผสมไอเทม ( Crafting )

การผสมเพื่อสร้างไอเทมที่เรียกได้ว่ามันเป็นเครื่องสวมใส่ของ AJay นั่นเอง ซึ่งทั้งหมดต้องอาศัยหนังสัตว์ในการผลิต ซึ่งของแต่ละอย่างก็จะใช้หนังสัตว์ในจำนวนและชนิดที่แตกต่างกัน ซึ่งสามารถดูจากช่องเงื่อนไขการสร้างของไอเทมนั้นๆได้ในเมนู Crafting ซึ่งสัตว์ชนิดต่างๆก็สามารถดูจุดที่มันอยู่ได้จากบนแผนที่ World map และถ้าต้องการจะได้หนังของสัตว์ในปริมาณที่มากขึ้นก็ต้องใช้การล่าแบบแท้จริงซึ่งก็คือใช้ธนูในการล่าด้วย 

Weapon Holster - เพิ่มช่องสำหรับถืออาวุธทำให้พกปืนได้มากขึ้น ( เต็มที่ 4 กระบอก)
Wallet - เพิ่มพื้นที่ของกระเป๋าเงินทำให้เก็บเงินได้มากขึ้น
Loot Bag - เพิ่มพื้นที่ของถุงเก็บไอเทมให้เก็บไอเทมได้มากขึ้น
Syringe Kit - เพิ่มพื้นที่ของถุงเก็บหลอดยาเติมพลังทำให้เก็บหลอดยาเติมพลังได้มากขึ้น                 
Bait Bag - เพิ่มพื้นที่ของถุงเก็บเนื้อสัตว์ทำให้เก็บเหยื่อล่อสัตว์ได้มากขึ้น                 
Ammo Bag - เพิ่มพื้นที่ของถุงเก็บกระสุนทำให้เก็บกระสุนของปืนขนาดเล็กได้มากขึ้น                 
Throwable Bag - เพิ่มพื้นที่ของถุงเก็บอาวุธขว้างต่างๆทั้งระเบิดและมีดสั้นให้มากขึ้น
Explosive Bag  - เพิ่มพื้นที่ของถุงเก็บระเบิด C4 และ กับระเบิดให้มากขึ้น
Heavy Arm bag - เพิ่มพื้นที่ของถุงเก็บกระสุนทำให้เก็บกระสุนของปืนขนาดใหญ่ได้มากขึ้น                 
Quiver - ทำให้ซองเก็บลูกธนูมีพื้นที่เก็บลุกธนูได้มากขึ้น 


                               การใช้และผสมยาสมุนไพรเพิ่มพลัง

ยาสมุนไพรคือยาที่ได้จากการผสมสมุนไพรสีต่างๆที่เก็บจากในพื้นที่ต่างๆมีฤทธิ์ในการเพิ่มพลังด้านต่างๆ ซึ่งจะสามารถผสมได้นั้นต้องเรียนรู้ Skill นั้นๆจาก Skill สาย The Elephant ก่อน ซึ่งสมุนไพรต่างๆประกอบด้วย

Survival Syringe - สูตรยาเพิ่มพลังป้องกัน (ใช้สมุนไพรสีแดง + สีเหลือง)
Hunting Syringe - สูตรยาตาทิพย์ ทำให้สามารถเห็นตำแหน่งของศัตรูและสัตว์ได้หมด(ใช้สมุนไพรสีฟ้า + สีแดง)
Overdose Syringe - สูตรยาเพิ่มพลังโจมตี (ใช้สมุนไพรสีขาว + สีม่วง)
Focus Syringe - สูตรยาอึด ทำให้วิ่งและดำน้ำได้นานมากขึ้น (ใช้สมุนไพรสีฟ้า + สีเหลือง)

การผสมนั้นทำได้โดยกดเข้าเมนูไอเทม LB แล้วกด RB เข้าเมนูสมุนไพรอีกที จากนั้นถ้าเก็บสมุนไพรได้ตามจำนวนที่ต้องการแล้วก็จะสามารถกด RT ผสมออกมาได้เลย ส่วนการใช้นั้นก็สามารถกดเข้าเมนูนี้แล้วเลือกใช้ตามสถานการณ์ได้เลย


                                                 Outpost & Mission 

เมื่อได้ Outpost มาแล้วมันก็จะกลายเป็นเซฟเฮาส์ ตู้ขายอาวุธ (Trading Post) และ ปลอดล็อกจุดรับภารกิจย่อยต่างๆทั้งที่มีอยู่ใน Outpost เองและในแผนที่ใหญ่ โดย NPC ที่คอยให้ภารกิจเสริมนั้นจะมีเพิ่มขึ้นมาในชนิดต่างๆตามระยะเวลาในการดำเนินเกมด้วย ซึ่งแน่นอนว่า เป้าหมายของการทำภารกิจย่อยต่างๆเพื่อปลดล็อกไอเทมดีๆมาใช้ เก็บค่า Exp เพื่ออัพ Skill และ เก็บสะสมเงินนั่นเอง 

Golden Path Mission ภารกิจหลักของเนื้อเรื่อง ซึ่งภาคนี้จะมีทางเลือกให้มากกว่า 1 ทางเลือก
Rescue  Hostage ภารกิจช่วยตัวประกัน 
Assassination Mission ภารกิจสังหารเป้าหมาย
Outpost Master เป็นภารกิจย่อยอยู่ตาม Outpost ต่างๆซึ่งก็คือ Challenge ในการยึด Out post นั้นๆอีกครั้ง เพื่อเก็บเงินและค่า Exp นั่นเอง

karma mission ภารกิจในการช่วยเจ้าหน้าที่ทหารของ Golden Path ตามจุดสีม่วงต่างๆ ซึ่งอาจจะกำลังมีการต่อสู้กับต่างๆกันไปซึ่งถ้าเห็นแล้วมีจุดสีม่วงขึ้นมาแปลว่า karma mission เริ่มขึ้นแล้ว เมื่อจัดการทำภารกิจสำเร็จก็จะได้ค่า Karma Point ซึ่งก็คือค่าประสบการณ์ของ Karman มันจะส่งผลให้ตู้ขายอาวุธ (Trading Post) มีอาวุธใหม่ๆปลดล็อกออกมาให้ซื้อ 





Hurk mission - ซึ่ง Hurk จะเปิดตัวให้รู้จักที่จุด H ซึ่งจะคนแนะนำเกี่ยวกับเรื่อง กำลังเสริมให้ Ajay ยามที่ต้องการโดยในแบบ Co-op ออนไลน์ และ แบบออฟไลน์ในรูปแบบของกำลังเสริมโดยกดปุ่มทิศทางลงล่างที่คำสั่ง Gun for hire Teken ซึ่งจะต้องกดเรียกกำลังเสริมก่อนที่จะเข้าป้อมหรือฐานของศัตรูเพราะในระหว่างการต่อสู้ไม่สามารถเรียกกำลังเสริมได้ และเมื่อจำนวนกำลังเสริมหมดลงก็สามารถทำภารกิจ karma missionเพื่อทำให้กำลังเสริมกลับคืนมาได้ แต่ต้องจำให้ดีเพราะเมื่อกำลังเสริมมาแล้ว มันไม่ได้แห่กันมามากมาย แถมไม่ได้เก่งอะไรมาก ยิ่งถ้าคุณจะใช้แนวทางในการลอบฆ่าเพื่อนยึด outpost นั้นขอแนะนำให้เลี่ยงกำลังเสริมแบบนี้จะดีกว่า 

Kyrat Fashion Week - หลังจากคุณ Chiffon ดีไซนเนอร์เกย์ หน้าพม่าสำเนียงฝรั่งเศสเปิดตัวให้ได้รู้จักแล้ว ก็จะมีจุดรับภารกิจนี้อยู่ตาม outpost ต่างๆ ซึ่งเป้าหมายของภารกิจก็คือ ล่าสัตว์ตามไปสั่งเพื่อเก็บเงินและค่า Exp นั่นเอง 

propaganda Center - ทันทีที่ DJ Robi Ray Rana เปิดตัวให้คุณได้รู้จักหลังจากที่ไปเที่ยวฉีกโปสเตอร์โฆษณาชวนเชื่อของปากัน มิง (propaganda Poster) ที่แปะตามจุดต่างๆมาได้จำนวนนึงแล้ว จุดสถานีวิทยุเถื่อนของ DJ Robi Ray ก็จะปรากฏออกมาพร้อมภารกิจไปทำลายอุปกรณ์สื่อสารตามป้อมที่กำหนด สิ่งที่ต้องทำก็คือ เข้าพื้นที่ ทำลายอุกรณ์ต่างๆที่เป็นจุดสีเหลืองในแผนที่ให้หมด แล้ว ปิดท้ายด้วยระเบิดเสาสื่อสารที่นั้นด้วย ก็เป็นอันจบภารกิจ ซึ่งภารกิจนี้ก็จะมีให้ทำตามช่วงเวลาในการเดินเรื่องไม่ได้มีให้ทำได้ตลอด   

                 ..........................................................................................................


                                                              ACT 2


- เข้าไปรับภารกิจ Golden Path Mission รูปดาบไขว้สีเหลืองในแผนที่ ซึ่งภารกิจหลักของเนื้อเรื่อง ก็จะพบ Sabal กับ  Amita กำลังถกเถียงถึงเรื่องแนวทางในการปฏิบัติภารกิจที่ไม่ค่อยจะลงลอยกันอยู่

Golden Path Mission ภารกิจหลักของเนื้อเรื่อง ซึ่งภาคนี้จะมีทางเลือกให้มากกว่า 1 ทางเลือก เรียกว่าระบบ Balance of Power เมื่อเข้ามาแล้วจะพบจุดเหตุการณ์ที่ต้องเลือกระหว่างการทำภารกิจกับ Sabal  สมาชิกหัวเก่า สายอนุรักษ์ ยึดติดกับกฎกติกาเดิมๆของกลุ่ม หรือ  Amita สมาชิกหัวสมัยใหม่ ที่มีความคิดก้าวหน้าอยากให้เกิดความเปลี่ยนแปลงขึ้นในกลุ่ม และ หัวรุนแรงนิดๆ  ซึ่งเมื่อเลือกฝ่ายใดฝ่ายนึงแล้ว ภารกิจของอีกฝ่ายก็จะถูกยกเลิกไปทันที ทำให้ความแตกต่างและผลของภารกิจนั้นเกิดขึ้น แต่การเลือกนั้นไม่มีถูกผิด คุณสามารถเลือกได้อย่างอิสระตามเหตุและผลที่ผู้ให้ภารกิจนำเสนอมา 





ซึ่งตามเหตุการณ์ฝ่ายข่าวกรองได้ข่าวมาว่ากองกำลังของ ปากัน มิง จะโจมตีค่ายๆนึงของ Golden Path โดย Amita จะคิดว่าพวกศัตรูกำลังมีแผนการใหญ่ซ่อนอยู่ เธอจึงต้องการที่จะล้วงข้อมูลมาจากพวกศัตรูมาก่อนโดยจะปล่อยให้ค่ายถูกโจมตีก่อนแล้วจึงจะให้ Ajay เข้าไปตรวจสอบว่าศัตรูมันต้องการอะไร แต่ Cabal ไม่เห็นด้วยเขาต้องการจะช่วยคนของเขาก่อนไม่ใช่ปล่อยให้ถูกโจมตี ซึ่งนั่นเป็นสิ่งที่คุณต้องเลือกว่าจะทำอันไหน 1 ภารกิจเท่านั้นระหว่าง

REBEL YELL ภารกิจของ Sabal เป้าหมายคือ ไปช่วยค่อยที่กำลังถูกศัตรูบุก 
HUNT OR BE HUNTED ภารกิจของ Amita เป้าหมายคือ เข้าไปเพื่อเก็บข้อมูลสำคัญ




** เนื่องจากตัวเกมจำเป็นต้อเลือกในการดำเนินเรื่อง จึงไม่สามารถเล่นทั้ง 2 ทางเพื่อมาบอกกล่าวได้ คุณผู้เล่นจึงต้องเลือกตามเหตุผลที่ทั้ง 2 ฝ่ายมี ซึ่งต้องบอกก่อนว่า การเลือกข้างนั้นจะไม่ส่งผลกับเนื้อเรื่องหลักมากนัก แต่จะส่งผลกับอารมณ์ของตัวละครอย่าง Amita และ Sabal เป็นอย่างมาก ซึ่งทำให้เนื้อเรื่องดูดราขึ้นเยอะ ส่วนเนื้อหาในบทสรุปก็จะเป็นไปตามแนวทางการตัดสินใจของผมเป็นหลักโดยอ้างอิงตามเหตุผลของความเป็นจริง ส่วนในกรณีแรกนี้ ผมเลือกเข้าข้าง Cabal เพื่อทำภารกิจ REBEL YELL ครับ เพราะต้องการช่วยคนก่อน ** 

REBEL YELL

- เดินทางมาที่จุดเป้าหมายสีเหลืองที่ค่าย Alpha Camp ก่อนที่จะถูกพวกศัตรูบุก ซึ่งก็คือพวก Hunter ศัตรูแบบใหม่ที่สามารถโจมตีแบบซุ่มเงียบ ใช้อาวุธก่อกวนมากมาย รวมทั้งยังสามารถใช้สัตว์โจมตีได้ด้วยซึ่งแน่นอนว่าจะใช้สัตว์โจมตีมันไม่ได้เช่นกัน สิ่งที่ต้องทำคือต้านการบุกของพวกศัตรูเอาไว้แล้วจัดการพวกมันให้หมดเพื่อช่วยเหลือชีวิตคนชอง Sabal

HUNT OR BE HUNTED

- เดินทางมาที่จุดเป้าหมายสีเหลืองที่ค่าย Alpha Camp จะพบว่า Camp ถูกยึดได้แล้ว และเต็มไปด้วยพวก Hunter จัดการพวกมันให้หมดแล้วเข้าไปสำรวจตามพื้นที่สีเหลืองในพื้นที่ให้หมดจนพบ ข้อมูล ในศพการที่นอนตายอยู่ในจุดเหลือง จากนั้นมุ่งหน้าไปยังจุดเป้าหมายสีเหลืองค่ายต่อไป เข้าไปจัดกาพวก Hunter ให้หมด แล้ว Ajay จะแจ้งกับ Amita ว่าข้อมูลที่ได้เกี่ยวกับ วัด อะไรซักอย่าง

จากนั้นในแผนที่จะมีภารกิจเนื้อเรื่องอยู่ 2 จุดคือ 
- จุด B คือเข้าไปคุยกับ Bhadra 
- จุด C ก็คือเข้าไปคุยกับ Sabal

- เข้าไปที่จุด B คุยกับ Bhadra ที่กำลังอยู่ในงานเผาศพคนของเธอ Ajay บอกว่าเขาไม่เคยเห็นการเผาศพแบบนี้ ส่วน Bhadra จะบอกว่าเธอไม่เคยการเอากระดูกแม่มาใส่โถเหมือนกัน ก่อนที่เธอจะหลุดปากเรื่องของ โมฮาน พ่ออง Ajay ที่น่าผิดหวังที่เขาไม่ได้ตายในสนามรบแต่กลับถูกฆาตกรรมตายที่บ้านตามที่เธอได้ยินผู้ใหญ่คุยกัน ซึ่งบ้านเก่าของโมฮานที่เขาเสียชีวิตนั้นจะอยู่ทางตะวันอออกของ Banapur ซึ่ง Bhadra คิดว่า Ajay น่าจะลองไปสำรวจดูเผื่อจะได้ข้อมูลมากขึ้น แต่ก็ต้องระวังด้วยเพราะที่นั้นเป็นถิ่นของพวก Noore ไปแล้ว ทำให้ Ajay ต้องฉุกคิดขึ้นมาถึงสาเหตุการตายของพ่อที่กลับกลายเป็นการฆาตกรรมซึ่งแน่นอนว่า Ajay ไม่เคยรู้ถึงข้อมูลนี้จากปากแม่ของเขามาก่อนเลย



- เดินทางไปยังจุด S เพื่อคุยกับ Sabal ส่วนเขาจะโกรธแค่ไหนก็ขึ้นอยู่กับเลือกช่วยคนของเขาหรือปล่อยให้ตายด้วย และไม่ว่าจะเลือกทางไหนข้อมูลที่ได้ก็จะบอกถึงสถานที่ที่เป็นวัดโบราณเหมือนกัน Cabal จะให้ Ajay เดินทางไปที่  วัดโบราณแห่งนึงตามที่น่าจะเป็นไปตามข้อมูลที่ได้มา โดยแผนของปากัน มิง น่าจะเป็นการทำลายวัฒนธรรมของคนที่นี่ให้หมดเพื่อให้เปลี่ยนมาเคารพตัวมันแทนนั่นเอง โดย Cabal จะให้ Ajay ลองไปทีวัด  Chal Jama ดูก่อนเพราะเป็นวัดที่พ่อของ Ajayนับถือมาเมื่อในอดีต

THE CULTURE EXCHANGE 

-  เดินทางมาที่จุดหมายสีเหลืองในแผนที่จะเข้ามายังวัด  Chal Jama Mnastery ที่อยู่ติดกับภูเขา เข้าไปด้านในคุยกับ Raju ผู้นำทางจิตวิญญาณของที่นี่แล้วยังเป็นที่รู้จักพ่อของ Ajay เป็นอย่างดีด้วย เขาจึงอยากจะให้ Ajay เข้าใจถึงแรงบรรดาลใจของ โมฮาน พ่อของเขาที่มีต่อองค์เทพ Banashur เฉกเช่นกัน จากนั้นก็รับตะกร้าพิธีจากเขามาแล้วจุดธูปทำการสักการะตามจุดต่างให้หมด แล้วกลับไปคุยกับ Raju อีกครั้ง จากนั้นจะมีการตืดต่อมาว่า วัดโบราณตามข้อมูลที่ได้มานั้นก็คือวัด Chal Jama ที่ Ajay กำลังอยู่นี่เองแล้วตอนนี้ศัตรูมากมายก็กำลังจะบุกเข้าไปที่นั่นแล้วด้วย Ajay จึงต้องเตรียมรับมือกับมันทันที
- ออกมาด้านนอกวิหารจะพบพวก Royal Army ของปากัน มิง บุกเข้ามามากมายเป้าหมายของพวกมันคือทำลายพระพุทธรูปทั้ง 3 จุดรอบๆวิหาร ซึ่งต้องพยายามเข้าไปตามจุดต่างๆเพื่อจัดการศัตรูให้มันก่อนมันจะวางระเบิดเสร็จแล้วจังต้องต้านศัตรูที่บุกเข้ามาด้วย โดยมีลังกระสุนที่สามารถเติมได้อยู่หน้าทางเข้าวิหารด้านบน  พยายามจัดการต้านพวกมันเอาไว้ให้ได้แล้วกลับไปคุยกับ Raju เขาก็จะขอบคุณแลลกล่าวเยินยอว่า Ajay กล้าหาญสำแล้วที่เป็นบุตรแห่ง โมฮาน

ในช่วงที่ยังไม่มีสัญลักษณ์ของภารกิจหลักขึ้นมาให้เห็นก็อย่าตกใจ เชิญเผาป้อมถล่มหอคอยไปตามเรื่องก่อนได้ ซึ่งตอนนี้จะมีภารกิจของ Longinus ขึ้นมาเป็นรูปตัว L สีส้มนั่นแหละแวะเข้าไปทำรอได้ 





[Longinus Mission]  Seron on the Moun 

ภารกิจของ Longinus นั้นสนุกตรงที่พี่แกจะให้ไปเอาอาวุธหรือไอเทมต่างๆที่แกสั่งตามสถานที่ต่างๆที่ไม่มีในแผนที่ของเกมด้วย อย่างคราวนี้ Longinus จะสั่งให้ไปเอากล่องไอเทมสำคัญบนภูเขาหิมาลัย ที่มีฉากเป็นหิมะ เป้าหมายก็คือ เข้าไปใช้ GPS ค้นหาไปตามไฟสีเขียวตามจุดพื้นที่สีเหลืองทั้ง 4 จุดเพื่อเอาไอเทมกลับมาให้เขา ซึ่งจริงๆแล้ว Ajay ถูกหลอกว่ามันเป็นอาวุธแต่จริงๆมันเป็นเพชรต่างหากที่ Longinus ต้องการ ภารกิจค่อนข้างยากหน่อยซึ่งระหว่างทางก็ต้องใช้หน้ากากออกซิเจน มีเกทของอากาศที่ต้องระวัง การป่ายปีน และศัตรูที่ขวางทางในบรรยากาศที่อยู่ท่ามกลางพายุหิมะ ได้ลุยบนหิมะ ขี่สโนโมบิล ภารกิจแปลกตาแถมรายได้โดยใจแบบนี้แวะเข้าไปทำได้เลย

- จากนั้น เมื่อเริ่มมีภารกิจ Golden Path Mission รูปดาบไขว้สีเหลืองในแผนที่ เข้าไปที่นั่นก็จะพบ  Sabal กับ  Amita กำลังถกเถียงถึงเรื่องแนวทางในการปฏิบัติภารกิจกันอยู่ .. อีกแล้ว  





Golden Path กำลังจะมีแผนที่จะเข้าไปจัดการกับโรงงานผลิตชาของบริษัท Opium Crop ที่เปิดการทำชายังหน้าแต่แท้ที่จริงแอบลักลอบปลูกกัญชาแล้วผลิตออกมาเป็นยาเสพติดทำให้คนใน Kyrat ถูกมอมเมามาตลอด โดยความเห็นจะแตกแยกเป็น 2 เหตุผลคือ 

- Mission Burn it Down ของ Sabal นั้นแผนของเขาคือเข้าไป ทำลาย โรงงานผลิตชาของบริษัท Opium Crop และยาเสพติดทั้งหมดตามเจตนารมณ์ดั้งเดิมของ โมฮาน 
- Mission Reclamation ของ Amita นั้นแผนของเธอคือ ยึดครอง โรงงานผลิตชาของบริษัท Opium Crop เพื่อเอาปรับปรุงใช้ในงานด้านอื่นของ Golden Path

โดยทั้ง 2 Mission นั้นจะเข้าไปที่สถานที่เดียวกันแต่ต่างกันที่เป้าหมายนั่นเอง ระหว่างทำลาย กับ ยึด ซึ่งการกระทำก็ต้องเข้าไปจัดการศัตรูให้หมดเหมือนกัน ซึ่งเป็นสิ่งที่คุณผู้เล่นต้องเลือกเอาเองว่าจะเล่นตามแผนไหน ส่วนผมและบทสรุปนี้เลือกทำตามแผนของ Amita ใน Mission Reclamation ครับ ด้วยเหตุผลว่า เสียดายของเพราะโรงงานน่าจะพอเป็นประโยชน์ให้กับคนในพื้นที่ได้ถ้านำมาปรับปรุงใหม่ตามที่ Amita เธออธิบายให้ฟังและแน่นอนว่าต้องยอมฟังเสียงบ่นของ Sabal ว่า ผิดอุดมการณ์ หลังจบภารกิจด้วย 


  

- ไม่ว่าจะเลือกฝ่ายไหนแผนใคร หลังจากภารกิจที่ โรงงานผลิตชาของบริษัท Opium Crop แล้วจะมีจุด Y ขึ้นมาในแผนที่ เข้าไปที่นั่นได้เลย ซึ่งที่นี่ก็คือบ้านหลังเก่าของครอบครัวของ Ajay ในอดีตนั่นเองและแน่นอนว่าที่นี่คือที่สุดท้ายที่พ่อเสียชีวิตตามที่ Bhadra เคยเล่าให้ฟัง แต่เมื่อเข้ามาด้านในจะพบกับขี้ยา 2 คนที่แอบเข้ามาใช้ที่นี่เล่นยากันอย่างเพลิดเพลิน Yogi กับ Reggie ตกใจทันทีที่ Ajay เข้ามาแล้วอ้างว่าเป็นบ้านของเขา Ajay พยายามไล่พวกมันออกไปแต่ก็เจอมุขตลกแต่ไม่ฮาของมันจนต้องถูกพวกมันแอบฉีดยาใส่จนสลบไปทันที

Ajay ตื่นขึ้นมาอีกทีก็ถูกลากจูงโดยผู้หญิงกึ่งเปลือยเข้ามาในลานประลองเถื่อนแห่งนึง ก่อนที่เจ้าของสถานที่คือ Noore จะแนะตัวเองและผู้แข่งขันในการประลองก่อนที่จะถีบ Ajay ลงไปที่ลานประลองทันพร้อมการเริ่มต้นการต่อสู้ของ Shanth Arena ทันที

- การประลองเริ่มต้นขึ้นอย่างวุ่นวายด้วยมีดที่มีอยู่เล่มเดียวท่ามกลางศัตรู Round แรกที่เข้ามาพร้อมอาวุธครบมือ ช่วงแรกหาทางจัดการศัตรูจนได้ปืนมาก่อนแล้วที่เหลือก็ต้องเอาตัรอดจากทั้งคนและสัตว์ที่กำลังฝัดกันนัวในสนาม เมื่อสู้จนครบทุก Round Ajay ก็จะได้เป็นแชมป์ของการประลอง หลังการประลองเขาจะได้พบกับ Noore เจ้าของที่นี่ เธอได้บอกบางอย่างที่สำคัญมากกับ Ajay




Noore บอกกับ Ajay ว่า Paul มือขวาของ ปากัน มิง จับครอบครัวของเธอเธอไปแล้วบังคับให้เธอต้องทำแบบนี้ เธอบอกอีกว่า คนที่นี่หมายหัว Paul ไว้ทุกคนเธอจึงอยากจะช่วยครอบครัวของเธอออกมาเสียก่อน "แล้วจะให้ทำยังไง " Ajay ถามแบบงงๆ ก่อนที่ Noore จะบอกเธอมีแผนที่จะส่งตัว Ajay เข้าไปในฐานของปากัน มิง อีกครั้ง  


    

หลังจากคุยจบที่นี่ก็จะกลายเป็นลานประลองสำหรับคุณ ที่ถ้าอยากทดสอบฝีมือโดยมีเงินรางวัลล่อใจก็เชิญได้ทุกเวลาโดยการเข้าไปคุยกับพนักงานต้อนรับสาวเปลือยครึ่งท่อนได้เลย โดยจะมีโหมดการแข่งขันต่างๆคือ
- โหมด Battle ไม่มีใครพวกใคร อัดกันให้แตกดับคนที่สุดท้ายชนะ
- โหมด Endless ลุยกับศัตรูที่ออกมาเป็นชุดๆจนหมดชุดสุดท้าย
- Weapon Challenge ต่อสู้แบบเก็บแต้มใครเยอะสุดชนะ 

- เมื่อออกจากลานประลองแล้ว จุด Y ยังเสนอหน้าขึ้นมาที่บ้านของพ่ออีก กลับไปหา Yogi กับ Reggie อีกครั้งเพื่อถามว่าทำไม Ajay ถึงไม่สมควรทำปืนลั่นใส่พวกมัน จนพวกมันต้องแก้ตัวกันมั่วไปหมดว่าโดนขโมยพาสปอร์ตไปจนทำทุกอย่างที่ Noore ที่เป็นใหญ่ในพื้นที่ทางเหนือนี้ใช้งาน พวกมันรีบจ่ายเงินให้ Ajay 25000 แบบเต็มในฐานะชนะการแข่งประลองเพื่อหวังจะคืนดี แต่ยังไงที่ Ajay ต้องการคือให้พวกมันไสหัวออกไปเล่นยาที่อื่นเท่านั้น ก่อนที่มันจะเล่นยามวนสุดท้ายก่อนจะยอมเก็บกระเป๋าไป Ajay ก็พบกรอบรุปไม้ในห้องที่ดูเหมือนภาพช้างในจะหายไป Ajay จึงลองถามพวกมันดู  Yogi กับ Reggie ก็ได้ทีที่จะโม้ต่อแบบยาวๆ เมื่อตัดสิ่งไร้สาระที่ 2 ขี้ยานี่พ่นออกมาก็จะเหลือใจความสำคัญแค่ ภาพที่หายไปเป็นภาพแห่งจิตวิญญาณโบราณที่ว่ากันว่า มันเป็นแผนที่ของนครในตำนาน Shangri - La ของชายคนนึงที่เคยค้นพบมันวาดขึ้น ก่อนที่ Yogi กับ Reggie จะพล่ามต่อว่าพวกมันพอรู้ที่ซ่อนของชิ้นส่วนภาพ ซึ่งอยู่ที่ถ้ำทางตะวันตก ด้วยความอยากรู้ Ajay จึงเดินทางไปตรวจสอบดูทันที 

- จากนั้นเดินทางไปที่เป้าหมายตามจุดเหลืองจนถึงที่ถ้ำแห่งนึง ลุยเข้าไปด้านในที่ทั้งมืดและวกวน พยายามมองขึ้นบนเข้าไว้เพราะเส้นทางไปนั้นต้องโหนเชือกแบบต่อเนื่องขึ้นไป เมื่อเข้าไปจนถึงห้องด้านในสุด Ajay ก็จะพบภาพวาดโบราณที่เขาตามหาและแถมมาด้วยนิมิตรแห่งความเรื่องราวของชายคนนึงที่ดึงจิต Ajay ให้ตามเข้าไปในอีกด้านของกาลเวลา


                                            Shangri - La Thangka Mission





- Ajay ถูกพามาในภาพของความทรงจำโบราณจากการเล่าเรื่องของชายทีชื่อ Kalinag ที่กำลังหาสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ในตำนานที่เรียกว่า Shangri - La ซึ่งตอนนี้ Ajay ก็เสมือนต้องสวมบทบาทเป็น Kalinag ในภพแห่งนิมิตรนี้ โดดลงเหวดำน้ำลึกจนทะลุมายังสถานที่นึงที่ Kalinag บอกว่ามันคือ Shangri - La ที่เขากำลังตามหา เดินเข้ามาด้านในจะพบกับเสือตัวนึงทีโดนมีดแทงจนบาดเจ็บ Kalinag ช่วยดึงมีดออกมาจากร่างมันจนมันยอมตอบแทรบุญคุณด้วยการตามเป็นทาสปกป้องเขา

 

- ทันทีที่เข้ามาด้านในก็พบว่าสถานทีนี้ไม่ได้มีแค่ส่งศักดิ์สิทธิ์แต่มันมีพวกปีศาจอยู่ด้วย แถมพวกปีศาจก็กักขังระฆังแห่งความรู้แจ้ง ( Bell of Enlightenment ) เอาไว้พวกปีศาจจึงมีพลังอำนาจพอที่จะคุกคามที่นี่ Kalinag จึงต้องหาทางที่จะปลอดปล่อยระฆังแห่งความรู้แจ้ง โดยมีเสื่อเทพเป็นผู้ช่วยในการลุยเข้าไปด้านใน การสั่งการเสือก็ทำได้ง่ายๆโดยกด RB ขี้ตำแหน่งไปท่ปีศาจที่ต้องการจะทำลายมันจะเข้าไปจัดการเอง โดยจะช่วยมันสู้หรือจะยืนดูเฉยๆก็แล้วแต่ เป้าหมายคือเข้าไปหมุนวงล้อ Mani ทั้ง 2 ฝั่งของพื้นที่แล้วเข้าไปที่เทวรูปด้านในสุดให้ได้ เมื่อขึ้นไปจนถึงด้านบนพานของเทวรูปที่เป็นที่ผลึก ระฆังแห่งความรู้แจ้ง เอาไว้ ทันทีที่ Kalinag เข้าไปตัดโซ่ปลอดปล่อย ระฆังแห่งความรู้แจ้ง ออก พลังของมันก็ทำลายปีศาจที่เกาะกิอยู่นี่ออกจนหมดสิ้นไป พร้อมกับส่งจิตสำนึกของ Ajay กลับไปที่โลกแห่งความเป็นจริงทันที

               
- ทันทีที่ฟื้นขึ้นมาอีกครั้ง Ajay ก็พบว่าเขากลับมาอยู่ที่บ้านของพ่อกับพวก Yogi กับ Reggie แถมพวกมันก็ยังเอาภาพโบราณที่ได้มา ใส่กรอบไว้ให้อย่างเรียบร้อย กวนประสาทต่ออีกหน่อยสุดท้ายพวกมันก็ยอมอพยพออกจากบ้านนี้ได้เสียที ซึ่งก็ไม่ต้องกลัวจะคิดถึงพวกมันเพราะพวกมันก็กางเต้นพักอยู่ข้างๆบ้านนี่แหละ และภารกิจรูปตัว Y ของ 2 ขี้ยา Yogi กับ Reggie ก็ยังมีให้ทำอยู่เรื่อยๆเหมือนเดิม

   


- และถ้าต้องการจะกลับไปเล่นในเรื่องราวของ Kalinag ใน Shangri - La อีกและอยากเก็บภาพโบราณให้ครบก็ให้แวะเข้าไปที่ Shangri - La Thangka ในจุดสีฟ้าในแผนที่ได้ซึ่งจะมีทั้งหมดแค่ 4 จุดเท่านั้น

หลังจากได้ภาพแรกมาแล้ว 4 จุดสีฟ้าในภารกิจ Shangri - La Thangka Mission นั้นจะเข้าไปเล่นที่ไหนก่อนก็ได้ เพราะเมื่อเข้าไปก็จะได้ภาพเรียงตามลำดับให้อยู่ดี
ภาพวาดแผ่นที่ 2  The Rakshasa - ได้ธนูเทพ Shangri - La Bow มาใช้
ภาพวาดแผ่นที่ 3 The Surrender of Paradise ได้ธนูเทพ Shangri - La Bow แบบ 3 ดอกและความสามารถในการเหาะ
ภาพวาดแผนที่ 4 คุณจะได้เล่นบท Kalinag กับสัตว์ผู้ช่วยตัวใหม่ ช้างเทพแห่ง Shangri - La ที่จะทำให้ฉากนี้ผ่านไปได้ง่ายขึ้นเยอะ


              


ภาพวาดแผนที่ 5 แผ่นสุดท้าย Kalinag จะได้เผชิญหน้ากับ อสูรร้ายที่กัดกินดินแดน Shangri - La เข้าไปพบ Boss  Rakshasa ท่ามกลางผู้ช่วยคือเสือขาวเทพกับความวุ่นวายในดงปีศาจกลางปล่องภูเขาไฟ ซึ่งการจัดการมันได้นั้นต้องยิงธนูเข้าที่ปากต่อเนื่องกันจนมันร่วง จากนั้นก็สั่งเสือเทพเข้าไปทะลวงปากมันได้เลย เมื่อชนะแล้วก็จะพบฉากจบที่สวยงาม ..ที่พูดแบบนี้เพราะเมื่อเก็บครบ 5 ภาพแล้วคุณก็จะอย่าหวังได้อาวุธเทพต่างๆมาใช้ในเกมหรอกน๊ะ คุณจะได้แค่ค่า Exp และ ความตื่นตาตื่นใจในโลกแห่งเรื่องเล่า ณ.ดินแดน Shangri - La นี้เพื่อไปเล่าต่อเท่านั้น ....



ส่วนบ้านของพ่อ ซึ่งจะเรียกว่า Ghale Homestead นั้นก็จะกลายเป็นอีก 1 ที่พักของ Ajay ที่สามารถแต่งเติมปรับปรุงใหม่ให้สวยงามพร้อมของตกแต่งและตู้ขายอาวุธได้ที่ช่างที่นั่งอยู่ข้างๆรูปโปสเตอร์ของ โมฮาน เกล ที่นอกบ้านได้เลย ซึ่งนอกจากตู้ขายอาวุธในบ้านกับลานจอด ฮ. Buzzer ที่มีประโยชน์แล้วที่เหลือก็แค่ทำให้บ้านมันสวยงามเท่านั้นเอง  


                 ...............................................................................................................



** ตอนนี้จะมีสัญลักษณ์ภารกิจใหม่ๆเพิ่มขึ้นมาในแผนที่คือ **

- ภารกิจTHE SLEEPING SAINT รูปตัว A ของ Amita ซึ่งเป็นภารกิจหลักของเนื้อเรื่อง

- ภารกิจรูปตัว Y ของ 2 ขี้ยา Yogi กับ Reggie ใน Sub Mission Lost & Confused ถ้าเข้าไปรับภารกิจกับพวกมันหมายถึง Ajay จะได้ลองยาตัวใหม่ของมันให้ล่องลอยไปถึงถ้ำหมี สู้ศัตรูตามทางเพื่อกลับมาที่จุดเหลือง ที่ค่อนข้างจะวกวนและมึนงงไปด้วยฤทธิ์ยาจนกลับมาเฉ่งพวกมันได้อีกครั้ง

- ภารกิจรูปตัว L ของ Longinus ใน Sub Mission A Shot Hunt ซึงก็ยังคงเป็นภารกิจลุยดะไล่ล่าเอาเพชรเปื้อนเลือดมาประเคณให้มันเหมือนเดิม เริ่มจากไล่ล่ารถเป้าหมายจนถึงจุดที่สามารถฆ่ามันได้ก็ฆ่ามันซะ เก็บกุญแจมาแล้วลุยเข้าไปยังถ้ำที่เก็บสินค้าลุยเข้าไปเก็บเอาเพชรมาแล้วก็โกยนี้กลับมาที่ซ่อนเพชรของ Longinus ก็เป็นอันจบภารกิจ

[Amita Mission] - THE SLEEPING SAINT

- เข้ามาที่ภารกิจรูปตัว A ในแผนที่ คุยกับ Amita เธอจะมีแผนที่จะปกป้องโบราณสถานจากพวกปากัน มิงที่พยายามจะทำลายวัฒนธรรมดั้งเดิมของที่นี่ จากนั้นเดินทางไปยังจุดเป้าหมายสีเหลืองจนถึงโบราณสถาน SLEEPING SAINT ทางเข้าจะถูกปิดเอาไว้จากทุกด้านแต่จะสามารถโหนเชือกทางกำแพงด้านซ้ายของประตูเข้าไปได้ ด้านในจะเห็นพวก Royal Army มากมายเข้ามาเพื่อพยายามจะระเบิดทำลายเทวรูป
- เป้าหมายคือ ต้องหาทางขึ้นไปปลดชนวนที่ตัวจุดระเบิดที่อยู่ด้านบนสุดของโบราณสถานนี้ ท่ามกลางศัตรูมากมายที่เข้ามาควบคุมที่นี่ ฉะนั้นการลอบขึ้นไปจะเป็นการดีที่สุดเพราะถ้าศัตรูมีการพบเจอตัว Ajay ขึ้นมาพวกมันจะเริ่มจุดชนวนระเบิดให้เวลาต้องนับถอยหลัง ที่ทำให้ต้องเหนื่อยลุยขึ้นไปเพื่อปลดชนวนก่อนเวลาจะหมดแทนทันที หลังจากจัดการศัตรูทั้งหมดที่พยายามจะวางระเบิดจนหมด ก็เตรียมอาวุธให้พร้อมเพราะต้องเจอกับศัตรูชุดที่ 2 ที่กำลังจะบุกขึ้นมาเพื่อเอาคืน ช่วงนี้ศัตรูจะบุกขึ้นมามากมายจากด้านล่าง จะใช้กลยุทธ์ไหนก็ได้ที่สามารถจัดการพวกมันให้หมด อาจจะใช้การลุยแบบไหลลื่นวิ่งวนไปมาขึ้นบนลงล่างในการจัดการศัตรู หรือ จะให้ดี ตั้งหลักอยู่ด้านบนตรงลังกระสุนแล้วยิงถล่มพวกมันจากด้านบนจะสะดวกและเป็นต่อพวกมันมากกว่า
- เมื่อจัดการศัตรูจนหมดแล้ว Amita จะติดต่อมาให้ระเบิดปิดทางเข้าออกของโบราณสถานแห่งนี้ซะเพื่อเป็นการป้องกัน จากนั้นไปที่จุดเหลืองเป้าหมายที่ขึ้นมาใหม่โดยการปีนเชือกทางฝั่งซ้ายของโบราณสถาน จัดการศัตรูชุดเล็กที่พยายามจะยิงขัดขวางมาจากด้านล่างก่อน แล้วค่อยปีนเชือกเดินเลาะไปตามทางเดินของพนังหินจนสุดทางก็จะพบก้อนหินขนาดใหญ่ตรงพนังหิน ใช้ปืนอะไรก็ได้ที่แรงๆทั้ง Shot gun หรือ RPG ยิงถล่มมันซะ หินก็จะถล่มไปปิดทางเข้าออกเอาไว้ได้สำเร็จ ก็จะจบภารกิจนี้ทันที

** ตอนนี้จะมีสัญลักษณ์ภารกิจใหม่ๆเพิ่มขึ้นมาในแผนที่คือ **

- ภารกิจรูปตัว N ของ Noore ซึ่งเป็นภารกิจหลักของเนื้อเรื่อง

- ภารกิจรูปตัว L ของ Longinus ใน Sub Mission Recompense ซึงก็ยังคงเป็นภารกิจลุยดะไล่ล่าเอาเพชรเปื้อนเลือดมาประเคณให้มันเหมือนเดิม แต่เปลี่ยนจากไล่ล่ารถเป็นเรือแทน ไปที่จุดเป้าหมายที่ท่าน้ำจนเรือเป้าหมายมา ห้ามฆ่ามันให้ขับเจ็ทสกีตามมันไปจนมันขึ้นฝั่งที่ฐานของมันแล้วค่อยลุยเข้าไปฆ่ามันซะ เก็บกุญแจมาแล้วลุยเข้าไปยังถ้ำที่เก็บสินค้าลุยเข้าไปเก็บเอาเพชรมาแล้วก็โกยนี้กลับมาที่ซ่อนเพชรของ Longinus ก็เป็นอันจบภารกิจ

- ภารกิจที่ propaganda Center ของ DJ Robi Ray Rana ทีมีให้ทำตรงบริเวณหอคอย bell Tower ฝั่งซ้ายล่างของลานประลอง ซึ่งก็คือภารกิจในการทำลายแหล่งผลิตสื่อโฆษณามอมเมาของปากัน มิงเหมือนเดิม โดยต้องลุยเข้าไปทำลายพวกสื่อโฆษณาที่เป็นจุดสีเหลืองในพื้นที่ เสาจานดาวเทียม และกล่องโปสเตอร์โฆษณา ให้หมด ซึ่งต้องรีบหน่อยเพราะถึงแม้จะจัดการศัตรูจนหมดค่ายแล้วก็จะมีกำลังเสริมเข้ามาสมทบอยู่อีกเป็นระยะๆ


[Noore Mission] - THE CITY OF PAIN 

  


- เดินทางเข้ามาจุดรูปตัว N ในแผนที่เพื่อเข้ามาคุยกับ Noore ที่ลานประลองของเธอ ซึ่งก็จะพบว่าเธอกำลังสติแตกและโกรธจัดเพราะพึ่งรู้ว่า เจ้า De Pleur หรือ Paul มือขวาของปากัน มิง กำลังจับคนในเผาของเธอไปทรมานเล่นในงานปาร์ตี้ เธอจึงของให้ Ajay เข้ามาช่วยครอบครัวของเธอออกมาพร้อมทั้งถ่ายรูปเอาไว้เป็นหลักฐานและสุดท้ายอย่าลืมลากตัวเจ้า Paul ออกมาแบบเป็นๆด้วยเพื่อจะสอบสวนมันต่อด้วย
- จากนั้นเดินทางต่อมายังจุดหมายสีเหลือง ซึ่งเป็นโกดังสินค้าของ De Pleur ที่เอาไว้ใช้แรงงานทาสจากเผ่าของ Noore ด้านในจะมีศัตรูมากมาย ซึ่งคุณไม่จำเป็นต้องลุยเข้าไปเพราะเงื่อนไขของช่วงแรกใจภารกิจนี้คือ ลอบเข้าไปโดยห้ามให้ศัตรูรู้ตัว (แต่ลอบฆ่าได้ ) เดินมาทางรั้วฝั่งซ้ายของโกดังจะมีช่องที่สามารถมุดเข้าไปด้านหลังโกดังได้ ซึ่งะมีศัตรูอยู่แค่ไม่กี่คนที่ต้องลอบฆ่า ลอบเข้าไปในโกดังก็จะพบรถตู้คนสั่งที่เปิดอยู่ เข้าไปซ่อนตัวในนั้นเพื่อเดินทางไปที่งานปาร์ตี้ของ De Pleur ได้เลย

** ในกรณีที่ในภารกิจ  Golden Path Mission ก่อนหน้านี้ที่เกี่ยวกับโรงงานผลิตนาเสพติด ถ้าคุณเลือกทำภารกิจของ Amita ** 

- เมื่อเข้ามาถึงงานปาร์ตี้แล้วจะพบพวกคนของ Noore ถูกจับมาทรมานเล่นมากมาย เป้าหมายแรกคือลอบเข้าไปด้านในเพื่อถ่ายรูปที่จุดหมายสีเหลือง 3 จุด จากช่องบนหลังคา 1 จุดและ ที่ช่องหน้าต่าง 2 จุด ให้ครบ

** แต่ถ้าในกรณีที่ในภารกิจ  Golden Path Mission ก่อนหน้านี้ที่เกี่ยวกับโรงงานผลิตนาเสพติด ถ้าคุณเลือกทำภารกิจของ Sabal ภารกิจก็จะเปลี่ยนจากถ่ายรูปตัวประกัน 3 จุดเป็นเข้าไปช่วยตัวประกัน 3 คนแทน และจบลงด้วยการลักพาตัว De Pleur กลับฐานตอนสุดท้ายเหมือนเดิม ** 

เป้าหมายต่อไปคือลอบเข้าไปที่ห้องทำงานของ De Pleur จากช่องบนหลังคา เข้ามาแล้ว Ajay จะปล่อยตัวคนของ Nooreได้สำเร็จ ก่อนจะปลอมตัวเป็นคนที่ถูกจับ



แล้วรอให้ De Pleur มันเข้ามา แถมยังกำลังคุยโทรศัพท์กับลูกสาวอย่างพ่อตัวอย่างในขณะที่มิอกำลังฆ่าคนเล่นอย่างสนุกอยู่ Ajay จึงเปิดเผยตัวออกมาก่อนที่จะอัดมันสลบด้วยความสะใจ เป้าหมายสุดท้ายคือ แบกตัวเจ้า De Pleur กลับไปที่รถ ซึ่งช่วงนี้สามารถจัดการศัตรูได้ถ้าจำเป็น แต่พยายามลอบไปจะดีที่สุด เมื่อมาถึงรถแล้วก็ขับหนีออกจากพื้นที่แล้วเอาตัว De Pleur ไปส่งให้กับ Sabal และ Amita ที่ค่ายได้เลย

   
- ตอนนี้ก็จะเริ่มมีภารกิจใหม่ขึ้นมาคือ Golden Path Mission รูปดาบไขว้สีเหลืองในแผนที่ที่โรงงานผลิตชา Kyrat Tea factory ซึ่งเป็นภารกิจหลักของเนื้อเรื่องแล้ว แน่นอนว่าจะพบ Sabal และ Amita เริ่มคุยกันไม่รู้เรื่องเกี่ยวกับภารกิจต่อไปอีกแล้ว เรื่องเกิดจากเป้าหมายต่อไปของ Golden Path หลังจากที่ไร่ยาเสพติดที่โรงงานชาก็คือ Rochan Brick Factory ซึ่งเป็นโรงงานที่ใช้สกัดสารเสพติดในการผลิตเฮโรอินของกองทัพ ปากัน มิง แต่ปัญหาคือ 





แผนของ Sabal นั้น ตรงไปตรงมาตามแนวทางที่มีมาแต่ดั่งเดิมในยุค โมฮาน ก็คือ ทำลายทิ้งทุกอย่างที่เป็นเรื่องชั่วร้ายของปากันมิง เพราะเฮโรอีนคือสิ่งที่มอมเมาคนที่นี่ อย่างน้อยๆที่เห็นได้ชัดก็คือคนของ Noore ที่บ้าคลั่งและเกิดปัญหาจนถึงทุกวันนี้ ภารกิจของ Sabal ก็คือ Basic Chemistry เป้าหมายคือ ทำลายโรงงานนรกนี้ทิ้ง

      
  

Amita นั้นแน่นอนว่าเธอต้องการที่จะให้ยึดโรงงานเก็บเอาไว้เพื่อใช้ประโยชน์ในอนาคตอีกตามเคย แต่คราวนี้เธอหลุดที่จะเพ้อเจ้อถึง ความหนักอกหนักใจของเธอในฐานะผู้หญิงคนแรกที่ขึ้นมาถึงในระดับผู้นำของกลุ่ม ที่ต้องเผชิญกับแรงเสียดทานจากคนรอบตัวที่ไม่เห็นด้วยกับแนวคิดในการเปลี่ยนแปลงของเธอ แนวทางของ Amita ที่เธออ้างถึงอนาคตข้างหน้าของ Kyrat ภารกิจของ Amita ก็คือ Advance Chemistry เป้าหมายคือ บุกยึดโรงงานสกัดยาเสพติด

** ผมเลือกร่วมภารกิจของ Sabal เพื่อทำลายโรงงานทิ้ง เพราะถึงแม้แผนของ Amita จะคล้ายกับภารกิจที่โร่ยาเสพติดที่โรงงานชาคือยึดโรงงานมาทำใหม่ซึ่งฟังดูแล้วสร้างสรรค์ แต่ครั้งนี้ Amita อ้างถึงเรื่องความเป็นผู้หญิงของเธอ เหมือนจะพยายามสร้างตัวตนให้เป็นที่ยอมรับเพื่อเอาชนะมากกว่าหลักการ ครั้งนี้ผมเลยเลือกฝ่าย Sabal แทนนั่นเอง  ** 

[Sabal Mission] -  BASIC CHEMISTRY 

- เดินทางเข้าไปที่จุดเหลืองในแผนที่ที่หน้าโรงงาน Rochan Brick Factory จะพบคนของ Sabal ที่จะบอกแผนให้ฟัง เป้าหมายคือบุกเข้าไประเบิดทำลายสารเคมีในห้องทดลองใต้ดิน ซึ่งจะเข้าได้ก็ต้องทำลายสายเคเบิ้ลทั้ง 5 จุดที่ยึดปล่องควันอยู่ทิ้งให้หมด จากนั้นก็ทำลายปล่องควันขนาดใหญ่ของโรงงาน เพื่อบุกเข้าไปด้านในเพื่อวางระเบิดแล้วหนีออกมา โดยทั้งหมดจำเป็นต้องใช้ช้างที่ถูกขังในคอกรอบโรงงานนั่นเอง จากนั้นก็ลอบเข้าไปขี่ช้างแล้วทำลายศัตรูให้หมด ชนทำลายสาเคเบิ้ล 5 จุด แล้วชนปล่องควันให้พังแล้วโดดลงไปในโรงงานชั้นใต้ดิน วางระเบิดให้ครบ 3 จุดแล้วหนีออกมา กดจุดชนวนระเบิดทำลายโรงงานได้เลย

** ตอนนี้จะมีสัญลักษณ์ภารกิจใหม่ๆเพิ่มขึ้นมาในแผนที่คือ **

- ภารกิจใหม่ขึ้นมาคือ Golden Path Mission รูปดาบไขว้สีเหลือง
- ภารกิจรูปตัว W ชองชายนรินามที่ชื่อ Willis Huntley ซึ่งถือว่าเป็นภารกิจหลักของเนื้อเรื่องด้วย ซึ่งภารกิจของ Willis นั้นจะมีให้ทำแบบต่อเนื่อง 3 ตอนจบ 

Golden Path Mission รูปดาบไขว้สีเหลืองใกล้ๆโรงงาน Rochan Brick Factory เข้ามาในห้องจะพบ Sabal และ Amita  เถียงกันอยู่เหมือนทุกที แต่ครั้งนี้ไม่ใช่ภารกิจของ Golden Path แต่เป็นเพราะมุมมองในการทำงานที่ต่างกัน ถึงขนาดที่ Sabal ด่า Amita ว่าเธอไม่ต่างอะไรกับ ปากัน มิง แม้แต่นิดเดียว ส่วน Amita ก็ด่า Sabal ว่าชอบอ้างแต่ประเพณี แต่วันๆก็ได้แต่มองหาสาวๆสวยๆมาเป็นเมีย 



ก่อนที่ทั้งคู่จะพูดถึงการหาทางหยุดการเคลื่อนไหวของ Noore และเผ่าของเธอเนื่องจากกำลังเริ่มปลุกปั่นคนของเธอเพื่อจะลุกขึ้นสู้เพื่อช่วยคนของเธอจากกองทัพปากัน มิง ซึ่งครั้งนี้ Ajay ที่เคยเข้าไปพูดคุยกับ Noore นั่นเธอเองไม่มีทางเลือกที่ต้องสู้เพราะคนของเธอถุกรังแกแถมญาติพี่น้องเธอก็ยังถูกฆ่าตายจนหมดอีก นั่นเพราะเธอยังไม่รู้ความจริงก็ได้ แต่ Sabal ก็อ้างว่า แล้วก็มีอีกหลายครอบครัวที่ต้องตายไปเพราะพวกของ Noore ต้องการจะป้องกันตัวเอง และเป็นครั้งแรกที่ Amita ออกความเห็นมาในทิศทางเดียวกันว่า มันไม่สำคัญว่า Noore เจออะไรมาบ้างเพราะยังไงเธอก็ต้องชดใช้สิ่งที่เธอทำลงไปด้วย เหมือนจะดีที่ไม่ต้องตัดสินใจเลือกระหว่าง Sabal กับ Amita เหมือนทุกครั้ง เพราะคราวนี้ Ajay บอกว่า เขาจะตัดสินใจเองว่าจะเอายังไงกับ Noore ....

SHOOT THE MASSAGER 

.- เดินทางไปที่จุดหมายสีเหลืองที่ลานประลอง Shanth Arena เพื่อเข้าไปหา Noore เพื่อยุติปัญหา แต่ทางเข้าจะพบว่ามันถูกปิดเข้าไม่ได้ จึงต้องหาทางใหม่เข้าไปโดยจะมีจุดเหลืองขึ้นทางผาหินทางฝั่งบนซ้าย ลองมองที่เสาทางขวาของทางเข้าบนพนังของผาด้านบนจะมีที่ให้ใช้เชือกตะขอเกาะขึ้นไปได้ จากนั้นก็โหนไปที่จุดเหลืองทางซ้ายก็จะเจอประตูทางเข้า

 


- จากนั้นลอบเข้าไปด้านในจนถึงห้องควบคุม Ajay จะพยายามที่จะทำให้การปลุกระดมของ Noore วุ่นวายโดยกดสวิตซ์ปล่อยสัตว์ต่างๆออกมาในลานประลอง จนพวกคนของ Noore เริ่มรู้ตัวจึงเริ่มออกมาไล่ล่าทันที จัดการพวกมันให้หมดแล้วเข้าไปตามทางเดินด้านในจนสามารถขึ้นมาที่ด้านหลังเวทีที่ Noore กำลังปราศรัยอยู่ได้



- ที่เหลือก็แล้วแต่คุณหรือ Ajay แล้วว่าจะหยุดเธอยังไง เหนี่ยวไก ยิงเธอซะ หรือ เข้าไปคุยเพื่ออธิบายให้เธอฟังถึงความจริงเรื่องครอบครัวของเธอที่ Noore ส่ง Ajay เข้าไปตามหา จริงๆแล้วครอบครัวเธอนั้นถูกปากัน มิง ฆ่าตายมาหลายปีแล้ว จากที่เค้นได้จากปากของ Paul ที่ถูกจับมา สิ่งที่ Ajay ต้องการจะทำคือให้ความจริงเพื่อให้ Noore เป็นอิสระจากความเป็นห่วงของเธอ แต่สุดท้าย Noore ก็เลือก อิสระ ให้กับชีวิตของเธอด้วยการโดดลงไปสังเวยให้กับบรรดาสัตว์ร้ายในลานประลองของเธอแทนการมีชีวิตอยู่โดนไร้ซึ่งคนที่รัก .....

** หลังจาก Noore ตายแล้ว ป้อม Baghadur Fortress ที่เป็นของ Noore ก็จะอ่อนแอจนสามารถแวะเข้าไปยึดเอามาได้แล้ว รับรองว่าง่ายขนาดเปิดประตูหน้าให้กับทหารที่เฝ้าอยู่ไม่กี่คนเท่านั้น แวะเข้าไปยึดมาเป็นของ Golden Path ได้เลย ***  

** จากนั้นก็ถึงเวลาไปทำภารกิจรูปตัว W ชองชายนรินามที่ชื่อ Willis Huntley แบบรวดเดียวจบได้เลย **

[Willis Mission] -  FREE WILLIS 

- เดินทางเข้ามาจนถึงจุด W เป้าหมาย Ajay จะได้รับการติดต่อจากชายที่ชื่อ Willis ซึ่งแน่นอนว่า Ajay ไมเคยรู้จักหมอนี่เลยในชีวิต แต่ Willis กลับรู้เรื่องของ Ajay อย่างดีโดยเฉพาะเรื่องแม่ของเขา ซึ่งมันเป็นตัวกระตุ้นอย่างดีที่จะทำให้ Ajay ยอมช่วยตามคำขอของ Willis ที่จะให้ช่วยเคลียร์สนามบินให้เพื่อให้มันนำเครื่องลงจอด
- จากนั้นเดินทางต่อไปยังจุดเหลืองเป้าหมายซึ่งก็คือ สนามบิน Kyrat inTL Airport ก่อนเข้ามาถ้าอยากสบายๆกับงานนี้ก็เตรียมปืนไรเฟิ่ลเก็บเสียง หรือ ธนู รวมทั้งอาวุธหลักๆอย่าง RPG เอาไว้ด้วย เพราะทันทีที่มาถึง เป้าหมายแรกคือ ต้องจัดการพวกสไนเปอร์ 6 คนบนยอดตึกให้หมดทุกจุดเพื่อเคลียร์รันเวย์ให้ Willis ลงจอดโดยห้ามให้มีการแจ้งเตือนภัยเด็ดขาด
- เมือจัดการมือปืนจนหมด Ajay ก็จะมาอยู่บนดาดฟ้าหอควบคุมการบินพอดี และ  Willis ก็จะนำเครื่องลงจอดแล้วเข้าไปเจรจาธุรกิจกับหัวหน้าทหารที่นี่ แต่ดูเหมือนทุกอย่างจะไม่ราบรื่น เพราะทหารของ Yuma มือซ้ายชองปากัน มิง นั้นได้รับคำสั่งมาให้ Willis เข้าร่วมในแผนด้วย เมื่อคุยกันไม่รู้เรื่องก็ให้ใช้สไนเปอร์ที่ดาดฟ้าหอควบคุม จัดการยิงคุ้มกันให้ Willis จัดการศัตรูให้หมด รวมทั้งเฮลิคอปเตอร์ที่เข้ามาด้วย จากนั้นก็เข้าไปคุยกับ Willis ที่หลบอยู่ในโกดังได้เลย



" คุณคือใคร ? " คำถามจาก Ajay ถึง Willis ซึ่งก็น่าจะเป็นคำถามเดียวกันกับคุณผู้เล่นมันตั้งแต่ครั้งที่เจอหมอนี่ตั้งแต่ภาค 3 นั่นแหละ และคำตอบของพี่แกก็ยังคงเดิม " ผม Willis Huntley เจ้าหน้าที่ CIA จาก Langley " ซึ่งจะจริงหรือไม่จริงก็คงไม่มีใครตาม Willis ทันแน่นอน มันอ้างว่ามันมีไฟล์เกี่ยวกับคดีฆาตกรรมของ โมฮาล เกล ซึ่งมันโยงไปถึงฆาตรกรที่ฆ่าเขาด้วย และไฟล์ส่วนนึงก็อยู่ในกระเป๋าเอกสารที่เขาเอามาส่งให้คนของ Yuma ที่มันกำลังจะขับเครื่องบินหนีอยู่ตอนนี้ ทำให้ Ajay ต้องรีบตามเครื่องบินนั่นให้ทันโดยด่วน



  

- ทันที่ที่ได้ Wing Suit อุปกรณ์ใหม่จาก Willis ก็รีบไปขับรถตามเครื่องบินไปจนสุดทางเมื่อทิ้งตัวออกจากรถก็กด LS เพื่อใช้ Wing Suit ในการโผบินได้เลย การใช้ Wing Suit ก็แค่กด LS ในขณะที่กำลังโดดลงจากที่สูงอย่างเนินเขาหรือเหว ในขณะพุ่งตัวก็พยายามงัดแกน LS ให้เชิดหัวเอาไว้พร้อมบังคับทิศทางในตัว และเมื่อใกล้จะถึงพื้นก็กด A เพื่อกางร่มชูชีพได้เพื่อลงสู่พื้นได้เลย

เมื่อไล่ตามเครื่องบินทันจนได้กระเป๋าเอกสารโดยเอาระเบิดในการแลกเปลี่ยนแล้ว เมื่อลงถึงพื้น ไฟล์นั้นก็ไม่เห็นบอกอะไรกับ Ajay ได้เลยซักนิด และแน่นอน Willis จะติดต่อมาว่า ถ้าอยากรู้มากกว่านี้ต้องช่วยงานเขา โดยงานที่มันว่านั่น มันอ้างว่ามันเข้าพื้นที่เพราะจะจัดการกับ ปากัน มิง และYuma โดยจะพุ่งเป้าหมายไปที่ Yuma ก่อน ซึ่งถ้าอยากทำงานกับเขาให้ไปเจอกันที่สนามบิน Kyrat inTL Airport ได้เมื่อพร้อม 

 [Willis Mission] -  KILL OR THE KILLED  

- เดินทางเข้ามาจนถึงจุด W เป้าหมายที่สนามบิน Kyrat inTL Airport เข้าไปคุยกับ Willis ที่เครื่องบินของเขาเพื่อรับภารกิจต่อไปได้เลย




ขณะเดินทาง Willis จะพูดถึงเรื่องราวของแม่ Ajay ที่เขารู้ว่า ในคืนวันที่แม่ Ajay หนีไปเธอทิ้ง มีด เอาไว้ แต่หลักฐานที่เขาได้มานั้นมันพุ่งเป้าไปที่ Yuma เกือบทุกอย่าง ซึ่งถ้าอยากรู้ความจริงก็ต้องจัดการกับ Yuma ให้ได้ก่อน Willis เล่าต่อถึงข้อมูลของ Yuma ว่าเธอนั้นเหี้ยมโหดขนาดที่ ปากัน มิง พามาจากฮ่องกงเพื่อเป็นมือขวาข้างกายของมันไม่ต่างกับ หยิน - หยาง เลยก็ว่าได้

- เมื่อเครื่องบินมาถึงที่ถูเขาหิมาลัย Willis ก็ปล่อยให้ Ajay เข้าไปในพื้นที่ทันที โดยในช่วงแรกของางเขาจากบนภูเขา เป้าหมายคือเข้าไปด้านในโบราณสถาน AKAASH เพื่อจัดการ ทหารของ Yuma โดยใช้กล้องส่องเพื่อค้นหาตัวมันให้เจอ (หรือจะฆ่าทั้งหมดแล้วค่อยหาก็ได้) จัดการมันซะ จากนั้นก็ถ่ายรูปส่งไปให้ Willis
- จากนั้นก็เข้าประตูด้านในไปที่ส่วนหน้าของโบราณสถาน เป้าหมายคือลุยหรือลอบเข้าไปที่ประตูทางเข้าด้านใน ซึ่งจะพบว่าถูกขุดเป็นอุโมงค์ลงไปที่ชั้นใต้ดินต่อ ที่ชั้นใต้ดินนั้นเต็มไปด้วยศัตรูมากมายรวมทั้งทหารเกราะหนักพร้อมปืนพ่นไฟด้วย เป้าหมายคือ ลอบเข้าไปที่ทางเข้าด้านในของถ้ำจนทะลุออกมาที่ช่องเขาด้านนอก
- ที่ช่องเขาด้านนอกเป้าหมายคือ หาตัวและสังหารทหารคนสนิทของ Yuma อีกครั้งซึ่งมันจะอยู่รวมกับพวกทหารของมันที่ช่องเขาส่วนในสุด ไม่ต้องคิดมาก แค่จัดการมันให้หมดก็พอ จากนั้น Willis ก็จะติดต่อมาว่าเสร็จงานพร้อมๆกับมือกลางวันของเขาเลยทีเดียว

[Willis Mission] -  DEATH FORM ABOVE   

- เดินทางเข้ามาจนถึงจุด W เป้าหมายที่สนามบิน Kyrat inTL Airport อีกครั้งเข้าไปคุยกับ Willis ที่เครื่องบินของเขาเพื่อรับภารกิจที่มันบอกให้ดีใจว่า นี่เป็นภารกิจสุดท้ายสำหรับการปิดจ๊อบแล้ว แถม Willis ยังใจดีเล่าเรื่องแม่ของ Ajay ให้ฟังระหว่างเดินทาง กับความจริงที่ไม่ค่อยจะสวยงามสำหรับ Ajay เท่าไหร่

   

 Willis - พ่อของนาย โมฮาน นั้นพยายามจะฆ่าแม่ของนายเพราะเธอพยายามจะหนีไปจากเขา หนีจากทุกๆสิ่งทั้ง Golden Path หรือ Kyrat บ้านเกิด 
ความจริงก็คือ แม่ของ Ajay เคยใช้ขื่อ Hakuna Matata หรืออะไรก็ช่างที่พวกเขาเรียกเธอตอนเธอยังเด็ก
ความจริงก็คือ  แม่ของเธอ คือสายลับที่พ่อนายส่งเขาไปหา ปากัน มิง จนเธอกลับไปตกหลุมรักมันขึ้นมา 
ความจริงก็คือ  พ่อนายมันพวกคลั่งชาติ คลั่งเวอร์แบบที่ผมไม่เคยเห็นมาก่อนเลยจริงๆ
ส่วนที่เหลือ ก็เชิญใสหัวไปจัดการทหารของ Yuma มันซะ นั่นแหลที่นายต้องทำ !! 

- เมื่อเครื่องบินมาถึง AKAASH TEMPLE เป้าหมายที่ Willis ย้ำให้ฟังชัดๆก็คือ เข้าไปจัดการสังหารทหารคนสนิทของ Yuma เหมือนเดิม แต่คราวนี้ปิดจ๊อบสุดท้ายต้องพิเศษหน่อยเพราะ Willis ต้องการจะฝากข้อความถึง Yuma จึงจำเป็นต้องการฆ่าเป้าหมายโดยใช้ มีด เท่านั้นโดย Willis อ้างว่าใช้ปืนแล้วร่ายกายมันจะเสียหาย จากนั้นล่อนด้วย Wing Suit ลงไปที่เนินผาด้านล่าง แล้วเข้าไปที่วัด Akkaash  ทหารของ Yuma นั้นจะอยู่ที่หน้าประตูทางเข้าด้านในรวมกับทหารอีก 3 คน ซึ่งทหารด้านนอกนั้นสามารถจัดการได้ตามสะดวก แต่เมื่อใกล้ถึงด้านในก็ต้องส่องระบุเป้าหมายที่เป็นจุดเหลืองก่อนเพื่อกันยิงมันตายจนเกมโอเวอร์ เมื่อจัดการมันได้ก็ถ่ายรุปส่งไปให้ Willis แล้วไปที่เนินเขาเป้าหมายเพื่อใช้ Wing suit ล่อนผ่านไปตามช่องเขาจนถึงจุดที่ Willis จอดอยู่ได้เลย

แต่ขณะที่ Ajay กำลังดีใจที่จะถึงตัว Yuma ที่จะโยงไปถึงคดีฆาตกรรมพ่อของเขา แต่จู่ๆ Willis เพื่อลึกลับก็เริ่มทำพิษ มันบอกกว่า Ajay ว่า

  


Willis - นายปิดจ๊อบในงานของนักฆ่า CIA ได้อย่างหมดจดมาก Ajay และตอนนี้ ปากัน มิง ก็หมดหลักฐานทีจะเอาไว้ใช้แสดงให้ใครเห็นว่ามันกับรัฐบาลอเมริการู้เห็นเป็นใจเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่ Kyrat นี่เสียที เราแค่ต้องการจะลอบรอยเท้าที่เราทิ้งไว้ที่ Kyrat ให้หมดเท่านั้น นายทำงานได้เจ๋งโคตร Ajay!! 
Ajay - แสดงว่าที่แกพูดมาทั้งหมดมันก็โกหกทั้งนั้นใช่มั๊ย !
Willis - อะไรที่ฉันพูดเกี่ยวกับแม่หรือพ่อของนาย มันเป็นเรื่องจริง แต่อะไรที่ฉันพูดเกี่ยวกับ Yuma นายต้องไปถามกับเธอเอง โว้ยยย ...!!

Ajay ถูก Willis ผลักตกจากเครื่องบินในขณะที่เครื่องกำลังบินขึ้นจนตกลงมาที่ลานหิมะด้านล่าง ทหารของ Yuma ที่เหมือนจะดักรออยู่เดินเข้ามาหาอย่าช้า ก่อนที่จะกระแทกท้ายปืนเข้าหน้าจน Ajay สลบไปทันที .



                                                          ACT 3


DON'T LOOK DOWN




หลังจากสลบไปนาน Ajay ก็ถูกปลุกขึ้นมาด้วยเสียงอันยียวนที่เขายังจำได้ดี และทันทีที่ถุงคลุมหน้าถูกเปิดออกก็ได้พบกับ ปากัน มิง ตัวร้ายกับ Yoma มือขวาสาวแสบของมัน ก่อนที่มันจะถือวิสาสะเป็นประชาสัมพันธ์แนะนำให้รู้จักกับสถานที่ซึ่งก็คือคุก Durgesh คุกที่เปิดกว้างให้ทุกคนเป็นอิสระเพราะด้านหลังคือวิวของหน้าผาสูง 24800 FT ที่ไม่มีใครหน้าไหนจะกล้าลงไปยกเว้นอยากตาย ปากัน มิง ค่อนข้างไม่พอใจที่เจ้าโง่ Paul มือซ้ายของมันถูกจับ Golden Path จับได้ มันจึงส่งให้ Yuma ไปชิงตัว Paul กลับมา จากนั้นมันก็ปล่อยให้ Ajay ดูวิวหน้าผาอย่างมีความสุข หลังจากที่ทหารของมันจะฉีดยาที่ทำให้บ้าคลั่งไปหนึ่งหลอด 

- ผู้คุมขังที่บ้าคลั่งไร้สติกับคุกบนยอดเขาสูงที่ไม่มีหน้าต่าง ผู้คนที่ตกลงไปตายจึงเป็นเรื่องปกติของทิวทัศน์ของที่นี่ แต่มันกลับทำให้ Ajay ที่ถึงแม้จะกำลังมึนงงด้วยฤทธิยาบ้าจะนึกออกมาเขาควรที่จะหาสิ่งของมาสร้างเป็น ตะขอเชือก เพื่อปีนหนีลงจากที่นี่ จากนั้นก็เดินเข้าไปส่วนในของคุกที่ไม่ว่าจะเจออะไรตรงหน้าจำไว้ว่ามัฤทธิ์ยาจะทำให้มันคือ ปีศาจ ที่ต้องหนีเท่านั้น เดินสำรวจหาจุดที่มีศพตายตรงกลางพื้นที่วงกลมในนั้น จุดแรกจะได้ ตะขอ จากศพมา และจุดที่ 2 จะได้เชือกที่แขวนศพมา ( เส้นทางจะค่อนข้างวกวนและต้องคอยหลบปีศาจด้วย แต่ถ้าหลงนานๆเดี๋ยวจุดเหลืองบอกตำแหน่งก็จะขึ้นให้เอง ) เมื่อได้ครบแล้วก็จะได้เป็นเชือกตะขอมาใช้ จากนั้นก็รีบหนีเจ้าปีศาจไปที่ริมผาที่มีจุดยึดเกาะตะขอแล้วทิ้งตัวลงด้านล่างได้เลย





- เมื่อโหนตัวลงมาได้จนถึงด้านล่างสำเร็จก็จะเข้าสู่เขตกักกัน ที่นี่ช่วงแรกอาจจะมีแค่มีดขว้างแต่ไม่นานก็จะเริ่มมีปืนให้เก็บเยอะแยะ แต่ความลำบากคือมันจะไม่มีกล้องไว้ดุตำแหน่งศัตรูเลย แถมพวกมันยังเต็มไปด้วยทหารเกราะหนักเยอะแยะด้วย ทางทีดีเมื่อตอนที่ผ่านขึ้นไปบนหอคอน Bell Tower ให้ใช้ไรเฟิ่ลยิงสอยพวกมันให้หมดจากด้านบนหอคอยจะง่ายที่สุด จากนั้นค่อยโหนสลิงมาที่ทางออก แล้ว Ajay ก็จะออกจากที่นี่ได้สำเร็จ แต่ความเหนื่อยล้าและพายุหิมะที่กำลังตกหนักทำให้ Ajay เริ่มหมดแรงและกำลังจะสลบแต่สิ่งที่เขาเห็นตรงหน้าคือคนๆนึงที่กำลังเดินเข้ามา Ajay ลุ้นจนสลบไปพร้อมความหวังในใจว่าจะรอดจากที่นี่ไปแบบเป็นๆ




ทันทีที่ Ajay ลืมตาขึ้นมาอีกครั้งก็พบว่ากำลังนอนอยู่ที่บ้านของพ่อโดยมี Sabal คอยเฝ้าดูอาการอยู่ใกล้ๆ ทันทีที่เห็น Ajay ฟื้นขึ้นมา Sabal ก็อดไม่ได้ทีจะชื่นชมในความกล้าหาญและบ้าระห่ำที่ Ajay สามารถหนีออกมาจากคุกนรก Durgesh ได้สำเร็จ เขาดีใจที่คนของเขาพบร่างชอง Ajay ก่อนจะแข็งตาย และ Sabal เชื่อมั่นว่าแรงอธิฐานกับ Kyra เทพของอณาจักรแห่งขุนเขานี้ชี้นำเขาจนพบตัว Ajay อีกครั้ง และนั่นเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ Amita ไม่มีวันเช้าใจ ....



** ตอนนี้จะมีสัญลักษณ์ภารกิจใหม่ๆเพิ่มขึ้นมาในแผนที่คือ **

- ภารกิจรูปตัว A ของ Amita ที่ลานประลอง ซึ่งเป็นภารกิจหลักของเนื้อเรื่อง
- ภารกิจรูปตัว Y ของ 2 ขี้ยา Yogi กับ Reggie ใน Sub Mission The Burning Forest ถ้าเข้าไปรับภารกิจกับพวกมันหมายถึง Ajay จะได้ลองยาของพวกมันจนล่องลอยไปถึงป่าที่กำลังไฟไหม้จนต้องหาทางหนีตายมาจนถึงที่พักเพื่อให้หมดฤทธิ์ยาเหมือนเดิม (นี่ถ้าไม่ได้ Exp เยอะคงไม่อยากมาเปลืองสมองกับเจ้า Yogi กับ Reggie แน่ๆ )



เข้ามาที่ภารกิจรูปตัว A ในแผนที่ที่ลานประลอง จะพบ Amita กับทีมของเธอกำลังประชุมกันอยู่ เธอบอกว่าตอนนี้ Golden Path ปลดปล่อยดินแดนส่วนใต้ของ Kyrat ได้สำเร็จแล้ว แผนต่อไปก็คือรุกคืบเข้าสู้ดินแดนส่วนเหนือซึ่งถือว่าเป็นพื้นการปกครองหลักของปากิน มิงเลย สิ่งแรกที่ Amita ต้องทำคือระเบิดประตูทางเข้าที่สะพาน King Bridged ซึ่งเป็นสะพานที่เชื่อมระหว่างภาคเหนือและใต้ของดินแดน Kyrat  โดยแผนของ Amita คือ ใช้รถบรรทุกสารเคมีของศัตรูในการพุ่งเข้าทำลายประตูของสะพาน ซึ่ง Ajay ต้องเป็นคนไปขโมยรถบรรทุกที่ว่านั่นมา 

[Amita Mission] - A KEY TO THE NORTH

- เดินทางต่อไปยังจุดเหลืองในแผนที่ก็จะพบค่ายของศัตรูที่อยู่ตรงสะพานเล็กก่อนถึง King Bridged ซึ่งรถบรรทุกสารเคมีเป้าหมายที่ต้องขโมยจะจอดอยู่ที่นั่น การจะบุกเข้าไปต้องระวังไม่ให้รถบรรทุกพังด้วยเพราะในค่ายนี้มีเครื่องยิงลูกระเบิดระยะไกลด้วย ถ้าไม่ลุยแบบสายฟ้าแลบเข้าไปกลางสะพานแล้วขับรถหนีออกมาเลย ก็สามารถลงที่ตีนสะพานฝั่งที่มาแล้วว่ายน้ำข้ามไปขึ้นที่สะพานตรงข้ามแล้วค่อยๆลอยฆ่าเอาก็ได้
-  เมื่อขโมยรถบรรทุกออกมาได้แล้ว ก็ขับมาที่เป้าหมายสีเหลืองจุดต่อไปท่ามกลางศัตรูที่จะเข้ามาขัดขวาง พยายามขับให้รถไม่โดนทำลายจนมาที่ถึงสะพาน King Bridged เป้าหมาย แล้วเร่งเครื่องพุ่งเข้าไปที่สะพานก่อนที่จะโดดลงให้รถไปชนสะพาน จากนั้นก็ยิงทำลายรถให้ระเบิดประตูใหญ่ของสะพานก็จะเปิดออกสำเร็จ
- เรื่องยังไม่จบเพราะศัตรูด้านในสะพานกำลังจะบุกกันออกมา จัดการพวกมันให้หมดแล้วขึ้นไปบนห้องสื่อสาร สำรวจที่วิทยุเครื่องกระจายเสียง Sabal ก็จะส่งสัญญาณเสียงแจ้งผู้คนใน Kyrat ว่า Ajay บุตรแห่งโมฮานอดีตผู้นำของ Golding Path ได้ประกาศศักดาต่อปากิน มิง ด้วยการยึดสะพาน King Bridged ได้แล้ว เพื่อปลดปล่อยประชาชนที่ฝั่งเหนือต่อไป ในช่วงที่มีเสียงประกาศก็เตรียมตัวให้พร้อม เอากับระเบิดไปวางรอไว้ที่หน้าประตูทางออกของสะพานได้เลย ทันทีที่มีประกาศกร้าวออกไปพวกศัตรูมากมายก็จะบุกเข้ามาจากทางประตูฝั่งเหนือ จัดการพวกมันให้หมด Ajay ก็จะสามารถยึด King Bridged ในนามของ Golden path ได้สำเร็จ


** ตอนนี้จะมีสัญลักษณ์ภารกิจใหม่ๆเพิ่มขึ้นมาในแผนที่คือ **

- ภารกิจรูปตัว S ของ Sabal ซึ่งเป็นภารกิจหลักของเนื้อเรื่อง
- จุดภารกิจ Kyrati film Racing ที่หมู่บ้าน Banapur เปิดตัวผู้กำกับหญิงหน้าปลวก Shay salsa ในภารกิจย่อยในการชับรถให้ทันเวลาเพื่อถ่ายทำหนัง ที่จะมีให้ทำตามที่ต่างๆ ซึ่งเป็นภารกิจย่อยที่สำคัญเพราะมันสามารถปลดล็อด Skill ได้ด้วย แวะไปทำหน่อยก็ดี
- ภารกิจรูปตัว Y ของ 2 ขี้ยา Yogi กับ Reggie ใน Sub Mission - Naked & Screaming แน่นอนว่า Ajay จะได้ลองยาบ้าตัวใหม่ของพวกมันที่ชื่อ Hot Rock จนล่องลอยไปโผล่ในถ้ำใต้น้ำที่ต้องว่ายน้ำออกมาผจญภัยไปตามแม่น้ำลำคลอง จนถึงที่ซ่อนของสัมภาระต่างๆของ Ajay แล้วยาบ้าก็จะหมดฤทธิ์
- ภารกิจรูปตัว L ของ Longinus ใน Sub Mission A High price และ Final penance




ซึ่งก็ยังคงเป็นภารกิจลุยดะไล่ล่าเอาเพชรเปื้อนเลือดมาให้มันเหมือนเดิม แต่เปลี่ยนจากไล่ล่ารถเป็นเรือแทน ขับรถตามเป้าหมาย ห้ามฆ่ามันจนถึงที่ถ้ำเก็ยสมบัติของมันแล้วค่อยลุยเข้าไปฆ่ามันซะ เก็บกุญแจมาแล้วลุยเข้าไปยังถ้ำที่เก็บสินค้าลุยเข้าไปเก็บเอาเพชรมาแล้วก็โกยนี้กลับมาที่ซ่อนเพชรของ Longinus ก็เป็นอันจบภารกิจ ซึ่งหลังจากจบ ภารกิจ Final penance ก็จะถือว่าหมดภารกิจไถ่บาปของ Longinus นักบุญปืนเถื่อน คนนี้แล้ว รอส่งเขาเดินทางไปแสวงบุญต่อ แล้วก็จะได้ปืนบาซูก้า LK - 1018 มาเป็นรางวัลด้วย

[Sabal Mission] - TRUE & JUSTICE

เข้ามาที่ภารกิจรูปตัว S ในแผนที่ Sabal จะติดต่อมาว่า ที่แดนฝั่งเหนือนี้มีหมู่บ้านที่ชื่อ Utkarsh ซึ่งถือว่ามันเป็นหมู่บ้านต้นแบบในการปกครองของ ปากัน มิง แต่พวกมันไม่รู้ว่า ที่หมู่บ้านนั้น Golden path ก็แทรกซึมเข้าไปที่นั่นมานามมากแล้ว รอจนวันที่ Golden Path รุกคืบมาจากทางใต้ได้สำเร็จในวันนี้ Sabal จึงให้ Ajay เข้าไปทำความรู้จักกับคนของ Golden path ที่เป็นสายอยู่ที่นั่นดู



- เดินทางไปยังจุดหมายต่อไปซึ่งก็คือหมู่บ้าน Utkarsh เมื่อเข้าไปที่บ้านเป้าหมายก็จะพบกับคนของ Golden Path ที่แฝงตัวอยู่พา Ajay เข้าไปที่คลังอาวุธในห้องใต้ถุนบ้าน แต่ในณะที่กำลังคุยกัน ทุกคนก็ได้ยินเสียงมีคนเข้ามาในบ้าน เสียงที่ได้ยินนั้นคุ้นเคยสำหรับ Ajayมากเพราะมันคือเจ้า ปากัน มิง ตัวเป็นๆที่เข้ามาตรวจที่หมู่บ้านนี้พอดี เหมือนจะรู้ระแคะระคายถึงการกระด้างกระเดื่องของคนที่นี่โดยเฉพาะที่บ้านหลังนี้ ปากัน มิงก็เหมือนกับผู้นำที่โหดร้ายทั่วๆไปที่มีการสนทนาที่ดูดีและมัหลักการก่อนทีสุดท้ายมันจะสั่งทหารให้ยิงสองสามีภรรยาเจ้าของบ้านให้ทุกคนดูเป็นเยี่ยงอย่างทันที
- Ajay ที่อดทนแอบดูอยู่นานเพราะคนของ Golden Path ห้ามเอาไว้ ก็ทนไม่ไหวอีกแล้ว เขาจึงคว้าปืนออกไล่ล่าปากัน มิง ทันทีโดยไมฟังเสียงทัดทานจากใคร จากนั้นก็ตามเจ้าปากัน มิง ที่กำลังขับรถหนีไปให้ทัน ศัตรูที่อยู่ในหมู่บ้านไม่ต้องไปสนใจแล้ว วิ่งไปที่ ฮ เล็กที่จอดอยู่ได้เลย บินตามรถ ปากัน มิง ไปแล้วยิงถล่มรถให้พังให้ได้ จากนั้นก็ลงไปฆ่ามันซะ ท่ามกลางความดีใจของทั้งคุณและ Ajay ที่กำลังเดินไปมองศพของปากัน มิง อย่างภูมิใจ ปากัน มิง ก็ติดต่อมาเยอะเย้ย Ajay ทันทีว่าศพที่เห็นก็แค่คนหน้าตาดีที่คล้ายกันเท่านั่นเอง


** ตอนนี้จะมีสัญลักษณ์ภารกิจใหม่ๆเพิ่มขึ้นมาในแผนที่คือ **

- ภารกิจใหม่ขึ้นมาคือ Golden Path Mission รูปดาบไขว้สีเหลือง

- เมื่อเดินทางมาที่จุดภารกิจใน Sher pa Clamp จะพบทุกคนกำลังนั่งฟัง ปากัน มิง กำลังปราศัยออกโทรทัศน์เกี่ยวกับสถานการณ์ที่ต้อนนี้ชื่อเสียงของตัวเขาและ Royal Army นั้นดูจะถูกลดทอนลงไปเพราะการรุกคืบของ Golden Path ทั้ง Amita และ Sabal จึงสนใจที่จะรอฟังเพราะอยากรู้ถึงทิศทางและสิ่งที่ ปากัน มิง มันจะต้อบโต้กลับมา



Pagan Min - ประชาชนชาว Kirat ที่รักทั้งหลาย ผมคิดว่าทุกท่านคงจะยินดีมากที่รู้ถึงข่าวการเสียชีวิตของผม ก็ต้องขอโทษในความคาดเคลื่อนของข่าวสารที่ทำให้ผม ยังไม่ตายแล้วมายืนอยู่ตรงนี้ แต่มันก็ทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงบางอย่างในชีวิตผมเหมือนกัน ผมอยากให้ประชาขนชาว Kirat เห็นถึงตัวอย่างที่เกิดขึ้นกับผม ความสูญเสียจะเปลี่ยนเป็นความแข็งแกร่ง และความแข็งแกร่งที่คุณรู้จักในตัวผมก็คือ การควบคุม ใช่มั๊ย และตอนนี้ จากประสบการณ์การตายของผมเมือเร็วๆนี้ รวมถึงการตายของคุณ Noore และ Paul ลูกน้องของผม ทำให้ผมต้องปรับ โครงสร้าง ใหม่หมด เราจะต้องมองไปที่อนาคตข้างหน้า ไม่ใช่มัวแต่ห่วงหาอดีต การเปลี่ยนแปลงที่ผมว่านั้นมันง่ายยิ่งกว่าง่าย ผมจึงมอบหมายงานให้กับผู้บัญชาการณ์คนสนิทของผม Yuma Lau ในการควบคุมทุกอย่างผ่านฐานลับของเราที่เหมือง KEO Facility และเธอจะองค์รักษ์ที่จะยืนขั้นกลางระหว่างตัวผมกับเหล่าผู้ที่คิดจะลองดี และไม่ว่ามันจะเป็นความผิดประเภทไหนสำหรับเธอโทษมันคือตายเท่านั้น ถ้าคิดจะหมายเข้ามาถึงตัวผม ... ไม่เชื่อหรอ ? งั้นเอาเลยผมท้า ถ้าใครคิดว่าจะชนะเธอได้ เชิญได้ทุกเมื่อ ถ้าอยากจะทดสอบ
สรุปเลยแล้วกัน การเปลี่ยนแปลงเป็นเรื่องที่ดี ยอมรับซะ ..! และจงยินดีที่กษัตริย์ของคุณยังไม่ตาย !  ขอให้มีความสุขอย่างถ้วนหน้า ....



Sabal - ได้ยินแล้วนี่ Ajay ที่เหมือง KEO SVARGIYA 00
Amita - รู้นะว่าต้องทำยังไง



      Golden Path Mission -   PAYBACK 

- จากนั้นเดินทางมาที่จุดเป้าหมายสีเหลืองที่เหมือง KEO SVARGIYA MINE เข้าไปที่โถงถ้ำด้านหน้า สำรวจบันทึกให้ทั่วๆและทันที่สำรวจดูบันทึกเกี่ยวกับ The Sanskrit Scrolls Yuma ที่ซุ่มอยู่ก็ออกมาพ่นผงยาบางอย่างใส่ Ajay จนเขาเริ่มจะประสาทหลอนขึ้นมาทันที ทำให้ Ajay ต้องเดินผ่านห้วงคำนึงที่สุดแสนจะมึนงงชองตัวเองเข้าไปด้านใน ผ่านป่าที่มีลำธารสีเลือดจนถึงโบราณสถานแห่งนึง และความมึนงงของฤทธิ์ยาก็ทำให้สติของ Ajay เห็นร่างของ Yuma กลายเป็น Kalinag และอาวุธที่ Ajay ถืออยู่ในมือก็คือ Shangri - La Bow กับพวกปีศาจแห่ง  Rakshasa มากมายที่อยู่ในโถงหน้าประตู เป้าหมายคือทำลายประตูให้เปิดออก

- ซึ่งถ้าใครที่ทำเควสภาพวาดโบราณ Shangri - La Thangka Mission ในผืนที่ 2 ก็จะคุ้นชินกับการใช้ธนู Shangri - La Bow กันอยู่แล้ว แต่ถ้าใครที่ยังไม่เคยเข้าไปเล่นก็ต้องทำความเข้าใจกันก่อน Shangri - La Bow ก็เหมือนการยิงธนูปกติ แต่เมื่อกด LT ตั้งธนูขึ้นไฟที่คันศรก็จะค่อยๆสว่างขึ้นที่ละดวงจนเต็มทั้ง 5 ดวงซึ่งก็คือ ความแรงของธนูและพลังในการสโลว์เวลาให้ช้าลงนั่นเอง แต่การจัดการพวกปีศาจในห้องไม่จำเป็นต้องสนใจ พลังของธนูมาก เป้าหมายคือ จัดการพวกมันให้หมด ซึ่งพยายามลอบจัดการให้เงียบเพื่อมันจะได้กรูเข้ามามากมายจนสู้ลำบากจะดีที่สุด จากนั้นเข้าไปที่หน้าประตู ยิงกระถางไฟ 2 อันให้ระเบิดประตูก็จะเปิดออก เข้าด้านในไปกับความมึนงงต่อจนถึงวิหารด้านในจะต้องสู้กับภาพมายาของ Yuma ที่สายตาของ Ajay เห็นเป็น Kalinag และกำลังเข้ามาสู้กับเขา




- จัดการภาพมายาของ Kalinag ที่มาพร้อมกับเสือของมันซะ ด้วยธนู Shangri - La Bow แต่ทุกครั้งที่ยิงมันจนหมอบต้องรีบมาเอามีดเสียบซ้ำอีกครั้งด้วยถึงจะนับว่าเป็นการล้ม 1 ครั้งของมัน จากนั้นก็จัดการให้มันล้มแล้วเสียบไปเรื่อยๆ สุดท้ายก็จะจัดการมันได้ ก่อนที่ภาพมายาที่วุ่นวายจะสลายหายไปพร้อมฤทธิ์ยาเหลือไว้แต่ร่างที่ไร้วิญญาณของ Yuma ที่นอนตายแทบเท้า Ajay ที่กำลังถือมีดในมือ



ขุนพลที่ว่ากันว่าแข็งแกร่งที่สุดในกองทัพ King Min นอนตายอยู่แทบเท้า Ajay บุตรแห่งโมฮาน เป้าหมายสุดท้ายก็เหลือแค่ ปากัน มิง เท่านั้น !

** หลังจาก Yuma ตายแล้ว ป้อมปราการ RATU GADHI ของเธอก็จะอ่อนแอลงแล้ว แวะเข้าไปยึดได้เลย *


** ตอนนี้จะมีสัญลักษณ์ภารกิจใหม่เพิ่มขึ้นมาในแผนที่ที่เดียวคือ **

- ภารกิจ Golden Path Mission รูปดาบไขว้สีเหลืองที่ค่ายแถว Bridged River Hamlet 

Ajay จะเข้ามาเจอ Bhadra ในกระท่อมเธอกำลังค่อนข้างกังวลใจอยู่ ในฐานะที่เธอเป็นถึงตัวตนทางจิตวิญญาณของชนเผ่าที่เรียกว่า "Tarun Matara" ตามที่เธอได้ถูกเลือกมาจากผู้นำทางจิตวิญญาณของหมู่บ้านสืบเนื่องมาจากรุ่นแม่ของเธอ แต่เธอเองกลับไม่ได้สนใจในชื่อนั้นมากไปกว่า Bhadra อย่างที่เธอเคยเป็นมากกว่า สิ่งที่เธอกำลังกังวลใจมากคือเรื่องราวในช่วงเปลี่ยนผ่านที่สำคัญต่อทั้งดินแดน Kyrat หรือแม้กระทั้ง Golden path เอง กฎอันเก่าแก่ที่ยึดถือกันมาก็คือ ใครก็ตามที่สามารถยึดครองวิหาร Jalendu Temple ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ทางจิตวิญญาณของดินแดน Kyrat ก็จะได้อยู่ในฐานะผู้นำที่แท้จริงของ Golden Path ซึ่งรวมถึงอนาคตทั้งหมดที่จะเปลี่ยนไปของดินแดน Kyrat แห่งนี้ด้วย และ Bhadra ก็รู้ว่าเธอกำลังยืนอยู่ตรงกลางระหว่าง Sabal และ Amita  ตัวแทนกลุ่มว่าที่ผู้นำของ Golden Path ทั้ง 2 คนที่กำลังสู้กันยิบตาเพื่อคะแนนเสียงในความเป็นผู้นำของตน 





Amita นั้นต้องการที่จะทำลายวิหาร Jalendu Temple เพื่อปลดปล่อยผู้หญิงทุกคนใน Kyrat และทำลายกฎเกณฑ์เดิมๆในเรื่อง "Tarun Matara" ให้หมดไปเพื่อนำสิ่งใหม่ๆเข้ามาแทน แต่ Sabal คิดว่ากฎและพิธีกรรมเก่าๆนั้นเป็นสิ่งที่ดีอยู่แล้ว เขาต้องใจที่ยึดวิหาร Jalendu Temple คืนมาจากกองทัพ King min ถ้าเค้าทำสำเร็จก็จะสามารถนำพิธีกรรมเดิมใช้อีกครั้งหลังจากที่ถูก ปากัน มิง ยกเลิกทั้งหมดไปทันทีที่มันครองอำนาจ Sabal มีความคิดว่า ถ้าเรายึดมั่นในจารีตประเพณีของบรรพบุรุษจะทำให้เรารวมกันเป็นปึกแผ่นและแข็งแกร่งขึ้นกว่าเดิม และตัว Bhadra เองก็จะถูกแต่งตั้งให้เป็น "Tarun Matara" ในฐานะผู้นำทางจิตวิญญาณของ Ktrat อย่างสมบูรณ์ ส่วนตัว Bhadra เองเธอต้องการที่จะเห็นดินแดน Kyrat ถูกปล่อยปล่อยจากอำนาจที่กดขี่ อยากเห็นบ้านเกิดเธอมีอิสระเสรีเหมือนเดิม แต่เธอไม่รู้ว่าควรจะเข้าข้างใครดีระหว่าง Sabal หรือ Amita ซึ่งยังหาข้อตกลงกันยังไม่ได้เลยด้วยซ้ำ Bhadra จึงอยากให้ Ajay (และคุณ) เป็นคนตัดสิน เพราะเธอเห็นถึงความแตกต่างของตัว Ajay เชื่อว่าจะเสียงแห่ง Kyrat ที่จะชี้ทางให้

และทันทีที่ออกมานอกบ้าน Ajay (และคุณ) ก็ต้องเป็นคนตัดสินใจเลือกทิศทางความเป็นไปของ Kyrat อีกครั้ง ซึ่งไม่ว่าที่ผ่านมาคุณเคยช่วยใครก็ไม่สำคัญเท่าครั้งนี้ เพราะการตัดสินใจเลือกในคราวนี้จะทำให้ฝ่ายที่คุณเลือกเป็นผู้มีอำนาจเต็มเหนืออีกฝ่ายทันที ซึ่งเงื่อนไขก็ตามที่ Bhadra อธิบายมาระหว่าง ...

- Sabal ที่จุด S ในภารกิจ CEASE AND DESIST ปกป้องและยึดครองวิหาร Jalendu Temple ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ทางจิตวิญญาณของดินแดน Kyrat กลับคืนมาเพื่อฟื้นคืนจารีตประเพณีเก่าแก่กลับมา เพื่อความแข็งแกร่งและความเป็นปึกแผ่นของชนชาว Kyrat 



- Amita ที่จุด A ในภารกิจ CULURE WAR ทำลายวิหาร Jalendu Temple ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ทางจิตวิญญาณของดินแดน Kyrat เดิมทิ้ง เพื่อปลดปล่อยผู้หญิงทุกคนใน Kyrat ให้หลุดพ้นจากถูกบังคับให้ทำตามประเพณีเก่าแก่ ทำลายกรอบประเพณีเดิมๆเพื่อสร้างวิถีใหม่ให้กับชนชาว Kyrat ก้าวให้ทันโลกยุคใหม่ Bhadra ก็จะไม่ต้องเป็นตัวตนทางจิตวิญญาณของชนเผ่าที่เรียกว่า "Tarun Matara" ที่งี่เง่าอีก และ เพื่อตัดข้อต่อรองทางวัฒนธรรมที่กองทัพ King Min มีต่อชาว Kyrat ทั้งหมดทิ้งไปพร้อมๆกัน  

CEASE AND DESIST

- ถ้าคุณเลือกแผน Sabal ก็เดินทางไปยังจุดหมายคือ วิหาร Jalendu Temple ที่อยู่บนเกาะกลางน้ำ ลอบเข้าไปในพื้นที่ ซึ่งจะมีทางเข้าเหมาะๆคือ ทางฝังซ้าย ขวาของเกาะและทางบ่อน้าบาดาลหลังเกาะซึ่งจะพาลงไปที่ชั้นใต้ดินชองวิหารได้ เป้าหมายคือ ปลอดชนวนระเบิด 2 จุดที่บนหลังคาวิหารและอีกจุดที่ห้องใต้ดินของวิหาร จากนั้นก็จัดการศัตรูในนี้ให้หมด แล้วต้านพวกศัตรูที่บุกเข้ามาจากทุกด้านเอาไว้ให้ได้ ก็จะจบภารกิจ

CULTURE WAR

-  ถ้าคุณเลือกแผน Amita ก็เดินทางไปยังจุดหมายคือ วิหาร Jalendu Temple ลอบเข้าไปที่ชั้นใต้ดินของวิหารแล้วเข้าไปเปิดทางเข้าให้คนของ Amita บุกเข้ามา จากนั้นวางระเบิด 4 C ให้หมดทั้ง 3 จุด แล้วขับเรือที่จอดอยู่หนีออกมาในจุดที่ปลดภัย ก็จะจบภารกิจ


** ตอนนี้จะมีสัญลักษณ์ภารกิจใหม่เพิ่มขึ้นมาในแผนที่คือ **


- ภารกิจรูปตัว Y ของ 2 ขี้ยา Yogi กับ Reggie ใน Sub Mission Fly or Die flying  



ภารกิจ Hangover การลองยาครั้งสุดท้ายของพวกมัน ครั้งนี้ Ajay ต้องล่องลอยจากบนฟากฟ้าถลาล่อนมาจนถึงใต้น้ำ จนถึงที่พักเพื่อให้หมดฤทธิ์ยาเหมือนเดิม ซึ่งหลังจบภารกิจผู้บ้ากล้าลองยาแล้ว Ajay ก็จะได้รับมอบไบท์ดูดยาในตำนานที่ชื่อว่า Golden pope of Ktrat ถามว่ามันจะเอามาทำอะไร ก็ต้องตอบ เอาไว้ดูต่างหน้าว่าวันนึงเคยคบเพื่อบ้าๆแบบนี้ก็แล้วกันครับ ยาเสพติดเป็นสิ่งไม่ดี ไม่ควรคิดลองไม่ว่าจะได้ค่า Exp แค่ไหนก็ตาม ^_^


-  ถ้าเลือกทำภารกิจ CEASE AND DESISTก็จะมี รูปตัว S ของ Sabal ขึ้นมาในแผนที่ ซึ่งจะเป็นภารกิจ Take Cover ที่จะเกิดเหตุการณ์ที่หมู่บ้าน Utkarsh โดยกองทัพของ ปากัน มิง ยิงถล่มด้วยปืนใหญ่ ซึ่ง Ajay ต้องรีบเดินทางไปช่วยจัดการศัตรูมากมายที่บุกเข้ามาสลับกับต้องหาที่กำบังเวลาปืนใหญ่ยิงถล่มเข้ามาด้วย เมื่อจัดการศัตรูมากมายที่บุกเข้ามา 3 Wave จนหมดก็จะจบภารกิจ หมู่บ้าน Utkarsh ก็จะปลอดภัยในแบบยับเยิน

  

 -  ถ้าเลือกทำภารกิจ CULTURE WARก็จะมี รูปตัว A ของ Amita  ขึ้นมาในแผนที่ ซึ่งจะเป็นภารกิจ Valley of the Death ที่ Ajay ต้องมีภารกิจไปทำลายปืนใหญ่ของกองทัพปากัน มิง ก่อนที่พวกมันจะยิงถล่มใส่หมู่บ้าน Utkarsh โดย Ajay ต้องเดินทางไปที่ค่ายทหารที่ Kalesh ซึ่งเป็นที่สำหรับยิงปืนใหญ่ โดยจะมีเกทพลังของหมู่บ้าน Utkarsh อยู่ถ้าปล่อยมันเริ่มระดมยิงปืนใหญ่จนพลังลดหมดก็จะเกมโอเวอร์  Ajay จึงต้องรีบเข้าไปจัดการศัตรูให้หมด โดยเฉพาะศัตรูที่กำลังจะเข้าไปยิงปืนใหญ่ ซึ่งจะเห็นเป็นจุดปืนใหญ่สีเหลืองในแผนที่ จากนั้นก็ต้านศัตรูที่บุกเข้ามาสมทบให้หมด ก็จะสามารถหยุดยั้งไม่ให้หมู่บ้าน Utkarsh ถูกยิงถล่มได้สำเร็จ


** ตอนนี้จะมีสัญลักษณ์ภารกิจใหม่ๆเพิ่มขึ้นมาในแผนที่คือ **

-  ถ้าเลือกทำตามแผนของ Sabal มาตั้งแต่ภารกิจ CEASE AND DESISTก็จะมี รูปตัว S ของ Sabal ขึ้นมาในแผนที่ ซึ่งจะเป็นภารกิจ The Reap what you sow ซึ่ง Ajay ต้องเข้าไปฆ่า Amita ตามที่ Sabal สั่ง โดยไปที่จุดเป้าหมายสีเหลืองในแผนที่ซึ่งจะเป็นค่ายของพวก Amita เข้าไปจัดการทหารในค่ายให้หมด ซึ่งจะทำให้ระดับเลเวลของค่า Karma ลดลงนิดหน่อยไม่ต้องตกใจ เมื่อจัดการทหารด้านนอกจนหมดแล้วก็เข้าไปหา Amita ในบ้านได้เลย หลังจากที่ถูกเธอด่าว่าเป็นตัวขัดความเจริญของ Kyrat  จากนั้น จะฆ่าเธอหรือปล่อยเธอให้หนีไป ก็สุดแล้วแต่คุณผู้เล่น

 

-  ถ้าเลือกทำตามแผนของ Amita มาตั้งแต่ภารกิจ CULTURE WAR ก็จะมี รูปตัว A ของ Amita ขึ้นมาในแผนที่ ซึ่งจะเป็นภารกิจ The Reap what you sow เหมือนกัน แต่ Ajay ต้องเข้าไปฆ่า Sabal ตามที่ Amita สั่ง โดยไปที่จุดเป้าหมายสีเหลืองในแผนที่ก็จะเจอ Sabal อยู่ในบ้านแบบไม่ต้องบู๊ให้เหนื่อย หลังจากที่ถูกเขาด่าว่าทำลายสิ่งที่พ่อสร้างมาจนหมดสิ้น  จากนั้น จะฆ่าเขาหรือปล่อยให้หนีไป ก็สุดแล้วแต่คุณผู้เล่น


** ตอนนี้จะมีสัญลักษณ์ภารกิจใหม่เพิ่มขึ้นมาในแผนที่ที่เดียว ซึ่งเป็นที่สุดท้ายแล้วก็ คือ **

- ภารกิจ Golden Path Mission รูปดาบไขว้สีเหลืองที่ค่ายหน้าทางขึ้นเขาด้านเหนือสุดของแผนที่ ซึ่งไม่ว่าจะเลือกเข้าข้างใครก็คือ ภารกิจ Ashes to Ashes ในการทำลายป้อมของทหาร Royal Army ที่เป็นกำลังหลักของกองทัพ ปากัน มิง ให้ราบคาบก่อน นั่นเอง

ASHES TO ASHES

- เข้ามาที่จุดสีเหลืองเป้าหมายซึ่งก็คือจุดรวมพลก่อนลุยศึกใหญ่ จากนั้นก็ขับรถไปที่จุดหมายต่อไปก็คือ ป้อม Royal Fortress ที่ด้านหน้า บุกลุยเข้าไปจนถึงประตูแล้วทำลายประตูเข้าไปด้านในต่อ เมื่อเข้าไปในป้อมได้แล้วเป้าหมายต่อไปขึ้นยึดจุดสำคัญ 3 จุดให้ได้คือ คลังอาวุธ ( The Armory ) ห้องสื่อสาร (Comm Center) และ ห้องควบคุมหลัก (HQ) ทั้ง 3 ที่จะแสดงเป็นจุดสีเหลืองในแผนที่ โดยต้องเข้าไปในที่นั้นแล้วจะมีเกทขึ้นมา ซึ่งต้องต้านศัตรูเอาไว้จนเกทเต็มก็จะสามารถยึดพื้นที่นั้นๆได้แล้ว จากนั้นก็จัดการทหาร Royal Army ให้สิ้นซากได้เลย
- จากนั้นก็เหลือเป้าหมายสุดท้าย ปากัน มิง พร้อมแล้วก็ขับรถขึ้นไปบนยอดเขาเหนือสุดได้เลยก็จะเข้ามาที่ Royal Palace ที่อยู่ของมัน เมื่อเข้ามาจนถึงห้องอาหารด้านในก็จะพบ ปากัน มิง กำลังหาเครื่องดื่มมากินอย่างใจเย็น


Pagan Min - ก็เหมือนกับที่เราพบกันตอนแรก ผมกำลังพูดกับใครอยู่น๊ะ เอ่อ ชายหนุ่มที่กลับบ้านเพราะเอาเถ้ากระดูกของแม่กลับบ้านเกิด และ สืบหาเรื่องพอที่โดนฆาตกรรมบนดินแดนหลังคาโลก จำตอนแรกได้มั๊ยที่เราเคยมานั่งร่วมโต๊ะกันแบบนี้ มีเจ้า Paul และก็เจ้าบวกหนึ่งของนายนั่งอยู่ด้วย ผมเคยบอกว่ายังไงน๊ะ " นั่งลงก่อน กินกุ้งให้สบายอารมณ์ อย่าไปไหนน๊ะ เดี๋ยวผมกลับมา " ถ้านายคิดจะฟังซักนิด Ajay นายคงไม่ต้องระเบิดภูเขาเผากระท่อมกันแบบนี้หรอก นายคงวางเถ้ากระดูกแม่เสร็จแล้วนั่งดูพวกลิงมันปาขี้ใส่กันแบบสบายอารมณ์ไปนานแล้ว เอางี้ เรามาจบเรื่องกันดีกว่า ผมมี 2 ทางเลือก ข้อแรก ยิงผมซะ หรือ 2 นั่งกินอาหารให้สบายใจแล้วเอาเถ้ากระดูกแม่นายไปทำพิธีกัน 



- ถ้าเลือกที่จะ ฆ่า ปากัน มิง Ajay จะได้แก้แค้นและได้ปลอดปล่อย ชาว Kyrat ให้ได้รับอิสระจากทรราช แต่ก็จะทำให้ Ajay และคุณ อดรู้ความจริงที่ควรจะรู้เกี่ยวกับเรื่องในอดีตของพ่อแม่เขา ยิงหัวเขาซะ เครดิตขึ้น แล้วรื่นรมย์กับ Free Time หลังจบเกมได้เลย ...

- แต่ถ้าเลือก ไม่ฆ่า ปากัน มิง ( ใครจะฆ่าล่ะว่ามั๊ย ปากัน มิงพูดติดตลกไว้) เขาจะพาไปสถานที่ที่แม่ของ Ajay สั่งเสียให้พาเธอมาไว้ที่นี่ ทั้งที่ Ajay ไม่เคยรู้เลยว่า Lakshmana ที่แม่สั่งไว้มันหมายถึงอะไร ?





Pagan Min - นายเคยรู้ถึงเรื่องราวเก่าๆมั๊ย ในยุคแรกๆของ Kyrat หลายคนก็ทำเหมือนนาย เอาเถ้ากระดูกมาโปรยที่บ้านเกิด แต่ตอนนี้ ไม่มีแล้ว แล้วหลังจากนั้นเกิดอะไรขึ้นรู้มั๊ย ลองคิดเอาแล้วกันว่าผมทำยังไงเมื่อ โมฮาน ฆ่า Lakshmana โอ้ นี่นายไม่รู้ใช่มั๊ย ว่าพ่อของนายเป็นคนฆ่าน้องต่างสายเลือดของนายน่ะ แล้วหลังจากนั้นแม่นายก็เป็นฆ่าพ่อของนายกลับ ผมก็แค่ทำตามเจตนารมณ์ที่แม่นายทิ้งไว้ ง่ายๆตรงไปตรงมาเลย ผมฆ่าพวกฟ้องของมันบ้าง ผมถึงได้เข้าใจ ว่าที่ผ่านมาผมใช้การตายของ Lakshmana ลูกผมเป็นข้อแก้ตัว แก้ตัวให้ทำอะไรก็ตามที่ผมอยากจะทำ เหมือนกับที่นายกำลังจะใช้เถ้ากระดูกของแม่นายเพื่อแค่ทำในสิ่งที่นายอยากทำไงล่ะ 





มันไม่ตลกเลยน๊ะ ...โอเค นายทำสำเร็จแล้ว นั่นไง เถ้ากระดูกของ Lakshmana ลูกผมเอาของแม่นายไปวางคู่กันเลย รู้มั๊ยผมเคยเข้ามาที่นี่แค่ครั้งเดียวเท่านั้นน๊ะ แค่ครั้งเดียว ที่นี่ทำให้ผมกลับเป็นคนเดิม แต่มันก็กลับไปเหมือนเดิมไม่ได้อีกแล้ว จนนายมานี่แหละ Ajay  ไปสิ นายมาถึงแล้วนี่ 




ทุกทางเลือกมีผลตามมาเสมอ จำไว้ ..ผมคืน Kyrat ให้ แต่ขอเก็บเฮลิคอปเตอร์ลำนี้ไว้เดินทางแล้วกัน ..โชคดี  Ajay


                 .............................................. FIN ............................................................


** หลังจากจบแล้วไม่ว่าคุณเลือกเข้าข้างใคร ก็ลองแวะเข้าไปดูผลของสิ่งที่คุณเลือกไว้ให้กับดินแดน Kyrat แห่งนี้ด้วยครับ **

- ถ้าคุณเลือกที่จะให้ Sabal เป็นใหญ่ก็ลองแวะไปดูที่วิหาร Jalendu temple ดู
- ถ้าคุณเลือกให้ Amita เป็นใหญ่ก็ลองแวะเข้าไปดูที่เมือง TIRTHA ดูก็แล้วกันครับ 

    แต่ไม่รู้ว่าจะสมดังใจที่คุณตัดสินใจเลือกเอาไว้หรือเปล่า ?....