บทสรุป God of War
By Decibel per - oxide
"ข้าต้องการให้เจ้าไร้จุดอ่อนเครโทส หากเจ้าต้องการเป็นยอดนักรบ เทพแห่งสงคราม เจ้าต้องละทิ้งทุกอย่างโดยเฉพาะ สิ่งเหล่านี้” เสียงของเทพเอเรสที่เคยกล่าวไว้ ยังคงย้ำเตือนจิตใจ
เมื่อครั้งที่เครโทชายผู้เคยมีฉายา Ghost of Spata ได้ลบล้างพันธะสัญญาทั้งหมดที่มีให้กับเทพเจ้าแห่งสงครามผู้ที่ทำให้เขาตกเป็นเครื่องมือ
เพียงเพราะพลั้งปากร้องขอความแข็งแกร่งเพื่อหมายจะเอาชนะศึกกับศัตรูที่แข็งแกร่งอย่างกองทัพของพวกบาบาเรี่ยนจนทำให้บ้าคลั่งขาดสติพลั้งมือฆ่าลูกเมียตัวเองลงไป
เถ้าธุลีของทั้ง Lysandra ผู้เป็นภรรยาและ Calliope ผู้เป็นลูกสาว ฉาบทาผิวหนังของเครโทสให้ขาวซีดเผือกอยู่ตลอดกาลเพื่อเตือนความจำในความผิดที่เขาทำลงไปจวบจนถึงวันนี้
หลายปีที่ผ่านไป นานพอที่บาดแผลเมื่อครั้งที่บุกไปเผชิญหน้ากับเหล่าเทพปกรณัมกรีกแห่งเขาโอลิมปัสจนสามารถลบรอยแค้นกับ ซูส ราชาแห่งทวยเทพผู้เป็นพ่อในภารกิจสุดท้ายลงได้จะหายดี
Ghost of Spata ก็คิดที่ฝังอดีตที่ตนเคยมี ปิดบังรอยแผลแห่งความโกรธแค้นเอาไว้แล้วเริ่มต้นชีวิตใหม่ ซ่อนตัวอยู่กลางพงไพรใน มิดการ์ด (Midgard)
ดินแดนของมนุษย์ในจักรวาลวิทยานอร์สที่ซึ่งพวกเทพทรงวางไว้เป็นเขตกั้นระหว่าง แอสการ์ด ดินแดนแห่งทวยเทพกับ โจตันเฮล์ม ของยักษ์ที่รายล้อมด้วยมหาสมุทรที่กั้นกลางระหว่าง นิฟล์เฮม ดินแดนแห่งน้ำแข็ง และ มัสเปลส์เฮม อาณาจักรแห่งไฟ
ดินแดนป่าเถื่อนที่อยู่อาศัยของสัตว์ร้ายในตำนานและนักรบที่โหดเหี้ยมมากมายภายใต้การปกปักษ์ของเทพปกรณัมนอร์สตามความเชื่อพหุเทวนิยมของชาวสแกนดิเนเวีย
เครโทสอาศัยอยู่กับ Atreus ลูกชายที่เกิดกับเมียคนที่ 2 นาม Laufey (Faye) ที่เพิ่งเสียชีวิต ใช้ชีวิตปกปิดอดีตที่เคยมี เพื่อทำหน้าที่พ่อที่ดียามที่แม่ได้จากไป
Chapter 1: The Marked Trees
Wildwoods … MIDGARD
หลังจากต้องทำใจด้วยเสียงถอนหายใจอยู่นาน เครโทสก็เริ่มขยับขวานที่อยู่ในมือจามลงบนต้นไม้ที่ถูกทำเครื่องหมาย
จนผ้าพันที่มือซ้ายได้หลุดลงทำให้เครโทสหยุดคิดถึงบางสิ่งที่เขาพยายามจะปิดบังไว้ก่อนที่ลูกชายจะเข้ามาเห็น
Atreus – ผมเจอไอ้นี่ด้วยแหละ
Kratos – เอาไปเก็บในเรือสิไอ้ลูกชาย
Atreus – พ่อจะให้ผมผูกมันเข้ากับเรือใช่ป่ะ?
Atreus – พ่อฮะ
Kratos – ว่า?
Atreus – มีอะไรเปลี่ยนไปรึเปล่าฮะ บรรยากาศในป่ามันดูแปลกๆไปนะผมว่า
Kratos – ทุกอย่างย่อมเปลี่ยงแปลงไปเสมอ ไม่มีอะไรเหมือนเดิมหรอกไอ้ลูกชาย แค่พยายามอย่าไปพักอาศัยอยู่ในนั้นก็พอ
Kratos – เอาล่ะ ต้นนี้ต้นสุดท้ายแล้ว ..
Lo there do i see my father.
Lo there do i see my mother, my sisters, and my brothers.
Lo there do i see the line of my people back to the beginning.
They do call for me,
They bid me take my place amoung them in the halls of Valhalla, where the brave may live forever.
ฉันเห็นพ่อของฉันอยู่ตรงนั้น
แม่ฉัน พี่ ๆ น้อง ๆของฉันก็ด้วย
เส้นทางที่จะนำพาคนของฉันกลับไปที่จุดเริ่มต้น
พวกเขาเรียกหาฉัน, เชิญชวนฉัน
เว้นที่ว่างสำหรับฉันให้มาอยู่ท่ามกลางพวกเขาใน Valhalla ที่ที่เหล่าผู้กล้าจะมีชีวิตอยู่ตลอดไป
Atreus – แม่พร้อมแล้วครับ
Kratos – หาทางกลับบ้านนะ เจ้าเป็นอิสระแล้ว
Kratos – มีดเล่มนี้ เคยเป็นของแม่เจ้า ตอนนี้มันเป็นของเจ้าแล้ว … แม่เคยสอนเจ้าให้ล่าสัตว์บ้างรึเปล่า?
Atreus – ก็ทุกอย่างที่แม่รู้นั่นแหละ
Kratos – งั้นแสดงฝีมือให้ดูหน่อย
Atreus – เราจะล่าอะไรกันฮะ?
Kratos – เราจะล่ากวางกัน
Atreus – ที่ไหนฮะ?
Kratos – เจ้าก็ต้องแกะรอยกวางเอาเองสิ
Atreus – เอ่อ ... โอเค ทางนี้ แต่ พ่อฮะ ทำไมถึงต้องมาล่ากันเอาตอนนี้ล่ะ?
Kratos – พ่อก็อยากจะรู้ว่าเจ้าจะสามารถเอาตัวรอดกับการเดินทางในครั้งนี้หรือเปล่าน่ะสิ
Atreus – จากนั้นเราก็ออกเดินทางขึ้นเขากันเลยใช่ป่ะครับ?
Kratos – นั่นมันก็ขึ้นอยู่ที่เจ้าแล้วไอ้ลูกชาย เริ่มการล่าได้แล้ว !!
จากนั้นทั้งคู่จะเดินทางร่วมกันไปในป่า โดยการนำทางของ Atreus ในฐานะพรานฝึกหัด พา Kratos แกะรอยไปหากวางเพื่อยืนยันฝีมือของตัวเอง
Kratos – เจ้าพลาดอะไรไปรึเปล่าไอ้หนู
Atreus – ดูใกล้ๆสิ นี่ไม่ใช่รอยเท้ากวางนะพ่อ ดูสิมันกว้างกว่าน่าจะเป็นแพะภูเขามากกว่า
Kratos – แสดงว่าแม่เจ้าสอนมาดี
ระหว่างทางจะมีทั้งเงิน หีบสมบัติ และพวกไอเทม Collection สะสมต่างๆที่สามารถเก็บสะสมได้ ในขณะเดินตาม Atreus พยายามเดินออกนอกเส้นทางเพื่อค้นหาไอเทมที่ตกหล่นอยู่ตามพื้นที่ต่างๆด้วยก็ดี
จากนั้นตาม Atreus ไปจนเจอกวางตัวเป้าหมายระหว่างทาง Atreus เองแสดงออกถึงอาการรนรานวิ่งตามไปทันที เมื่อมาถึงสะพานไม้ขาดที่มีแผ่นไม้กันอยู่
เรียนรู้การขวางขวานทำลายมันเพื่อโดดข้ามไปอีกฝั่งจนเจอกวางตัวเป้าหมายอีกครั้ง แต่ Atreus ก็ยังแสดงให้เห็นถึงอาการรนรานและไม่นิ่งพอจนรีบยิงซุ่มสี่ซุ่มห้าจนกวางรู้ตัวแล้วหนีไปได้เสียก่อน
Atreus – นั่นไงๆพ่อ !!
Kratos – เบาๆ ใจเย็นๆ ... นี่เจ้าคิดว่ากำลังทำอะไรห๊ะ !!! แบบนี้มันก็รู้ตัวหมดสิ แค่ยิง ไม่ต้องพูดอะไรทั้งนั้น ..แค่ยิง เมื่อพ่อบอกให้เจ้ายิง
Atreus – ผมขอโทษครับ ..
Kratos – เจ้าไม่ต้องมาเสียใจ แค่ ทำให้ดีกว่านี้ก็พอ เอาล่ะ ไปตามหามันต่อ ธนูเอาไว้ที่ข้าก่อน ... ไปสิ !
ทันทีที่เดินทางไปต่อได้ไม่ไกลพวก DRAUGR ศัตรูกลุ่มแรกก็ปรากฏตัวขึ้นมาให้เรียนรู้พื้นฐานการต่อสู้เบื้องต้น จัดการมันให้หมดแล้วเดินทางเข้าไปด้านในต่อจนถึงลานปูนที่เป็นทางแยก
แต่ก่อนจะตาม Atreus ไปทางตรงให้เข้าไปตามทางแยกขวาก่อน ทำลายไม้กั้นปากถ้ำเข้าไปด้านในจะพบ หีบสมบัติที่มีอักขระกำกับอยู่
วิธีเปิดก็คือ ทำลายอักขระสีฟ้าที่เหมือนกับที่เขียนบนหีบตามจุดต่างๆในถ้ำให้หมด หีบก็จะถูกปลดล็อกจนสามารถเปิดออกได้ ด้านในคือ IDUNN APPLE ที่หากเก็บจนครบ 3 อันแล้วจะทำให้เกท HP ยาวขึ้น
Iðunn คือเทพธิดาผู้ดูแลสวนแอปเปิ้ลแห่งความเยาว์วัยชั่วนิรันดร ( Apples of eternal youthfulness) ที่รู้จักกันในชื่่อ "หญิงสาวที่เข้าใจชีวิตนิรันดร์ของÆsir." ตามตำนานของ เทพปกรณัมนอร์ส
ซึ่งถูกเขียนเรื่องราวไว้ในบทร้อยแก้ว Poetic Edda ในศตวรรษที่ 13 ที่เขียนโดย Snorri Sturluson ซึ่งระบุไว้ว่า เธอเป็นราชินีของ Bragi หนึ่งในเทพในลัทธิเพเกินเจอร์แมนิก ศาสนาพื้นเมืองของกลุ่มชนเจอร์แมนิกโบราณซึ่งอยู่อาศัยในเจอร์แมนิกยุโรปในยุคโบราณ ซึ่งเป็นเทพแห่งบทกวี ผู้ประพันธ์บทร้อยแก้วเอ็ดดา
โดย แอปเปิ้ลของ Iðunn ถูกตีความได้หลายอย่าง คือสัญลักษณ์แห่งความอุดมสมบูรณ์และหมายรวมถึงความอมตะหรืออาจเชื่อมโยงแอปเปิ้ลกับการปฏิบัติทางศาสนาในลัทธินอกรีต
โดยถังใส่แอปเปิ้ลมักถูกค้นพบในสถานที่ฝังศพในเรือ Oseberg แบบพิธีเผาศพของพวกไวิกิ้งในศตวรรษที่ 9 และตามสถานที่ฝั่งศพโบราณในแถบประเทศนอร์เวย์ หรือแม้กระทั่งในปัจจุบันยังมีการนำชื่อของ Iðunn ไปทำเป็นชื่อของผลิตภัณฑ์เสริมความงามที่ว่าด้วยเรื่องความเยาว์วัยอีกด้วย
https://en.wikipedia.org/wiki/I%C3%B0unn
http://irisharchaeology.ie/2012/09/the-oseberg-viking-ship-burial/
จากนั้นตาม Atreus ไปตามทางต่อจนพบเห็นกวางตัวเป้าหมายกำลังหนีเข้าไปในวิหารโบราณ ทั้งคู่จึงรีบตามเข้าไปในซากวิหารทันที
Atreus – มันอยู่นั่นไง พ่อจะคืนธนูให้ผมได้ยัง?
Kratos – แล้วจากตรงนี้เจ้าคิดว่าจะยิ่งมันโดนรึเปล่าล่ะ?
Atreus – เฮ้ออ.. เราต้องเข้าใกล้มากกว่านี้ ..
เข้าไปจนถึงห้องโถงแรกด้านในจัดการพวก DRAUGR ให้หมด แล้วสำรวจดูด้านในให้ทั่ว Atreus จะพบว่าประตูทางออกจากห้องนี้ถูกปิดอยู่
จากนี้ต้องแก้ปริศนาเพื่อเปิดประตูทางออก โดยการดึงโซ่ที่เสากลางห้องเพื่อเปิดประตูชั้นในบานแรกออก แล้วใช้ขวานขว้างไปที่สลักกลไกที่อยู่ด้านบนประตูเพื่อให้ทำให้ประตูไม่เลื่อนปิดลงมา ซึ่งจะทำให้ประตูของห้องทางขวาเปิดออกด้วย เดินเข้าไปเก็บเงินในหีบสมบัติด้านในห้องมาก่อนแล้วค่อยเดินเข้าไปหา Atreus ที่ประตูชั้นนอก กดเรียกขวานที่ค้ำกลไกประตูอยู่ให้กลับมาจะทำให้ประตูชั้นในปิดลงมาแต่ก็จะทำให้ประตูชั้นนอกเปิดออกจนทั้งคู่สามารถผ่านออกไปได้
เมื่ออกมาได้แล้ว ก่อนไปต่อ แวะเข้าไปที่พนังทางซ้ายของประตูทางออกจะมีโซ่สำหรับปีนขึ้นไปบนขอบทางเดินชั้นบนของห้องโถงได้ ขึ้นไปด้านบนสุดทำลายแผ่นไม้เข้าไป
ด้านในจะพบ Jötnar Shrines : sköll and hati กำแพงอักขระโบราณที่บอกเล่าเรื่องราวของยักษ์ในตำนาน ที่สามารถตามเก็บเรื่องราวได้จากทั้งหมด 11 แห่ง ที่ซ่อนอยู่ระหว่างการเดินทาง
Jötnar หรือ Jötunn (โยตุน) นั้น ตามตำนานของ เทพปกรณัมนอร์ส ยักษ์โยตุน 2 ตนแรกประกอบด้วย อีเมอร์ (Ymir) กับ วัว ออดฮัมลา (Audhumla) ที่เกิดจากไอน้ำแข็งที่ละลายที่มัสเปลเฮม (Muspelheim) หรือแผ่นดินแห่งไฟ จากประกายไฟอันเกิดจากการตีดาบของ เซิร์ท (Surtr) ยักษ์แห่งไฟ ผู้ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นสิ่งมีชีวิตแรกที่กำเนิดมาตั้งแต่ยุคสร้างโลก
ยักษ์โยตุน อีเมอร์ (Ymir) ได้ให้กำเนิดสิ่งมีชีวิตสิ่งแรกมาโดยไม่ได้ตั้งใจ ประกอบด้วย เทพ บูรี( Buri) ซึ่งถือว่าเป็น ต้นกำเนิดเผ่าพันธ์เทพทั้งปวง และธรุดเกลเมอร์(Thrudgelmir) บรรบุรุษของยักษ์น้ำค้างแข็งที่กลายเป็นศัตรูตลอดกาลของพวกเทพในอนาคต ส่วนเทพ บูรี( Buri) ก็ให้กำเนิดลูกนามว่า บอร์ (Bor) จากนั้น บอร์(Bor) ก็ได้สมรสกับ เบสล่า (Bestla) ยักษี ลูกสาวตนหนึ่งของอีเมอร์(Ymir)
จนให้กำเนิด โอดิน (Odin) วิลี( Vili) และ วี (Ve) ซึ่งต่อมาเทพทั้งสามนี้ก็ขึ้นเป็นต้นกำเนิดเชื้อพระวงศ์ของเทพ อีเซอร์(Aesir) ผู้ครองสวรรค์และเป็นผู้สร้างโลกในอนาคต
เมื่อเทพได้ถือกำเนิด ธรุดเกลเมอร์(Thrudgelmir) ยักษ์น้ำแข็งที่กำเนิดเกิดจากหยาดเหงื่อของอีเมอร์(Ymir) โดยไม่ได้ตั้งใจ และ เบอร์เกลเมอร์ (Bergelmir) ลูกชาย ก็เกิดหวาดกลัวทำให้ต้องรวบรวมพี่ๆน้องๆที่เป็นลูกหลานสายยักษ์ของ อีเมอร์ (Ymir) เพื่อสร้างเป็นกองกำลังหมายจะเข้าห่ำหั่นกับพวกทวยเทพ แต่สงครามระหว่างลูกๆ ของธรุดเกลเมอร์ (ยักษ์น้ำแข็ง) และโอรสของบอร์ (เทพในราชวงศ์ อีเซอร์(Aesir) ) ก็ดำเนินไปนับพันๆปีโดยที่ไม่มีฝ่ายใดชนะเด็ดขาด
ทำให้เหล่าทวยเทพที่เป็นลูกหลานของ อีเมอร์ (Ymir) ได้จัดการฆ่า อีเมอร์ (Ymir) ทิ้งซะเพื่อไม่ให้เขาให้กำเนิดอะไรที่มันชั่วร้ายแบบไม่ตั้งใจขึ้นมาอีก เลือดของ อีเมอร์ (Ymir) ซึ่งเป็นยักษ์โยตุนตนแรกหลั่งไหลจากร่าง จนกลายเป็นแม่น้ำเลือดใหญ่ไหล่ท่วมไปทั่วแผ่นดินทำให้ ทายาทยักษ์ทั้งหมดต่างจมน้ำในแม่น้ำเลือดจนตายหมด ยกเว้นก็แต่เบอร์เกลเมอร์ (Bergelmir) กับเมียที่สามารถหนีไปได้
เบอร์เกลเมอร์ (Bergelmir) กับเมียที่หนีไปได้ก็ได้ไปตั้งรกรากใหม่ในดินแดนที่ชื่อว่า โจตันเฮล์ม (Jotunheim) ดินแดนของยักษ์น้ำแข็ง และสอนลูกหลานเหล่ายักษ์น้ำแข็งให้เกลียดชังพวกทวยเทพมานับแต่นั้น
ส่วน ร่างกายและเลือดเนื้อของอีเมอร์ (Ymir) ก็กลายเป็น แผ่นดินอันอุดมสมบูรณ์ที่เรียกกันว่า มิดการ์ด (Midgard) กลายเป็นดินแดนของเหล่ามวลมนุษย์มาจนถึงปัจจุบัน
เหล่าทวยเทพทั้งหลายก็ได้สร้างอาณาจักรแห่งใหม่ชื่อว่า แอสการ์ด(Asgard) ขึ้น ตามชื่อวงศ์แอเซียร์(Aesir) ของตน และตั้งตนขึ้นปกครองทุกดินแดนให้ดำรงอยู่อย่างสันติตลอดไป
https://th.wikipedia.org/wiki/เทพปกรณัมนอร์ส
Kratos – เจ้าพลาดอะไรไปรึเปล่าไอ้หนู
Atreus – ดูใกล้ๆสิ นี่ไม่ใช่รอยเท้ากวางนะพ่อ ดูสิมันกว้างกว่าน่าจะเป็นแพะภูเขามากกว่า
Kratos – แสดงว่าแม่เจ้าสอนมาดี
ระหว่างทางจะมีทั้งเงิน หีบสมบัติ และพวกไอเทม Collection สะสมต่างๆที่สามารถเก็บสะสมได้ ในขณะเดินตาม Atreus พยายามเดินออกนอกเส้นทางเพื่อค้นหาไอเทมที่ตกหล่นอยู่ตามพื้นที่ต่างๆด้วยก็ดี
จากนั้นตาม Atreus ไปจนเจอกวางตัวเป้าหมายระหว่างทาง Atreus เองแสดงออกถึงอาการรนรานวิ่งตามไปทันที เมื่อมาถึงสะพานไม้ขาดที่มีแผ่นไม้กันอยู่
เรียนรู้การขวางขวานทำลายมันเพื่อโดดข้ามไปอีกฝั่งจนเจอกวางตัวเป้าหมายอีกครั้ง แต่ Atreus ก็ยังแสดงให้เห็นถึงอาการรนรานและไม่นิ่งพอจนรีบยิงซุ่มสี่ซุ่มห้าจนกวางรู้ตัวแล้วหนีไปได้เสียก่อน
Atreus – นั่นไงๆพ่อ !!
Kratos – เบาๆ ใจเย็นๆ ... นี่เจ้าคิดว่ากำลังทำอะไรห๊ะ !!! แบบนี้มันก็รู้ตัวหมดสิ แค่ยิง ไม่ต้องพูดอะไรทั้งนั้น ..แค่ยิง เมื่อพ่อบอกให้เจ้ายิง
Atreus – ผมขอโทษครับ ..
Kratos – เจ้าไม่ต้องมาเสียใจ แค่ ทำให้ดีกว่านี้ก็พอ เอาล่ะ ไปตามหามันต่อ ธนูเอาไว้ที่ข้าก่อน ... ไปสิ !
ทันทีที่เดินทางไปต่อได้ไม่ไกลพวก DRAUGR ศัตรูกลุ่มแรกก็ปรากฏตัวขึ้นมาให้เรียนรู้พื้นฐานการต่อสู้เบื้องต้น จัดการมันให้หมดแล้วเดินทางเข้าไปด้านในต่อจนถึงลานปูนที่เป็นทางแยก
แต่ก่อนจะตาม Atreus ไปทางตรงให้เข้าไปตามทางแยกขวาก่อน ทำลายไม้กั้นปากถ้ำเข้าไปด้านในจะพบ หีบสมบัติที่มีอักขระกำกับอยู่
วิธีเปิดก็คือ ทำลายอักขระสีฟ้าที่เหมือนกับที่เขียนบนหีบตามจุดต่างๆในถ้ำให้หมด หีบก็จะถูกปลดล็อกจนสามารถเปิดออกได้ ด้านในคือ IDUNN APPLE ที่หากเก็บจนครบ 3 อันแล้วจะทำให้เกท HP ยาวขึ้น
Iðunn คือเทพธิดาผู้ดูแลสวนแอปเปิ้ลแห่งความเยาว์วัยชั่วนิรันดร ( Apples of eternal youthfulness) ที่รู้จักกันในชื่่อ "หญิงสาวที่เข้าใจชีวิตนิรันดร์ของÆsir." ตามตำนานของ เทพปกรณัมนอร์ส
ซึ่งถูกเขียนเรื่องราวไว้ในบทร้อยแก้ว Poetic Edda ในศตวรรษที่ 13 ที่เขียนโดย Snorri Sturluson ซึ่งระบุไว้ว่า เธอเป็นราชินีของ Bragi หนึ่งในเทพในลัทธิเพเกินเจอร์แมนิก ศาสนาพื้นเมืองของกลุ่มชนเจอร์แมนิกโบราณซึ่งอยู่อาศัยในเจอร์แมนิกยุโรปในยุคโบราณ ซึ่งเป็นเทพแห่งบทกวี ผู้ประพันธ์บทร้อยแก้วเอ็ดดา
โดย แอปเปิ้ลของ Iðunn ถูกตีความได้หลายอย่าง คือสัญลักษณ์แห่งความอุดมสมบูรณ์และหมายรวมถึงความอมตะหรืออาจเชื่อมโยงแอปเปิ้ลกับการปฏิบัติทางศาสนาในลัทธินอกรีต
โดยถังใส่แอปเปิ้ลมักถูกค้นพบในสถานที่ฝังศพในเรือ Oseberg แบบพิธีเผาศพของพวกไวิกิ้งในศตวรรษที่ 9 และตามสถานที่ฝั่งศพโบราณในแถบประเทศนอร์เวย์ หรือแม้กระทั่งในปัจจุบันยังมีการนำชื่อของ Iðunn ไปทำเป็นชื่อของผลิตภัณฑ์เสริมความงามที่ว่าด้วยเรื่องความเยาว์วัยอีกด้วย
https://en.wikipedia.org/wiki/I%C3%B0unn
http://irisharchaeology.ie/2012/09/the-oseberg-viking-ship-burial/
จากนั้นตาม Atreus ไปตามทางต่อจนพบเห็นกวางตัวเป้าหมายกำลังหนีเข้าไปในวิหารโบราณ ทั้งคู่จึงรีบตามเข้าไปในซากวิหารทันที
Atreus – มันอยู่นั่นไง พ่อจะคืนธนูให้ผมได้ยัง?
Kratos – แล้วจากตรงนี้เจ้าคิดว่าจะยิ่งมันโดนรึเปล่าล่ะ?
Atreus – เฮ้ออ.. เราต้องเข้าใกล้มากกว่านี้ ..
เข้าไปจนถึงห้องโถงแรกด้านในจัดการพวก DRAUGR ให้หมด แล้วสำรวจดูด้านในให้ทั่ว Atreus จะพบว่าประตูทางออกจากห้องนี้ถูกปิดอยู่
จากนี้ต้องแก้ปริศนาเพื่อเปิดประตูทางออก โดยการดึงโซ่ที่เสากลางห้องเพื่อเปิดประตูชั้นในบานแรกออก แล้วใช้ขวานขว้างไปที่สลักกลไกที่อยู่ด้านบนประตูเพื่อให้ทำให้ประตูไม่เลื่อนปิดลงมา ซึ่งจะทำให้ประตูของห้องทางขวาเปิดออกด้วย เดินเข้าไปเก็บเงินในหีบสมบัติด้านในห้องมาก่อนแล้วค่อยเดินเข้าไปหา Atreus ที่ประตูชั้นนอก กดเรียกขวานที่ค้ำกลไกประตูอยู่ให้กลับมาจะทำให้ประตูชั้นในปิดลงมาแต่ก็จะทำให้ประตูชั้นนอกเปิดออกจนทั้งคู่สามารถผ่านออกไปได้
เมื่ออกมาได้แล้ว ก่อนไปต่อ แวะเข้าไปที่พนังทางซ้ายของประตูทางออกจะมีโซ่สำหรับปีนขึ้นไปบนขอบทางเดินชั้นบนของห้องโถงได้ ขึ้นไปด้านบนสุดทำลายแผ่นไม้เข้าไป
ด้านในจะพบ Jötnar Shrines : sköll and hati กำแพงอักขระโบราณที่บอกเล่าเรื่องราวของยักษ์ในตำนาน ที่สามารถตามเก็บเรื่องราวได้จากทั้งหมด 11 แห่ง ที่ซ่อนอยู่ระหว่างการเดินทาง
Jötnar หรือ Jötunn (โยตุน) นั้น ตามตำนานของ เทพปกรณัมนอร์ส ยักษ์โยตุน 2 ตนแรกประกอบด้วย อีเมอร์ (Ymir) กับ วัว ออดฮัมลา (Audhumla) ที่เกิดจากไอน้ำแข็งที่ละลายที่มัสเปลเฮม (Muspelheim) หรือแผ่นดินแห่งไฟ จากประกายไฟอันเกิดจากการตีดาบของ เซิร์ท (Surtr) ยักษ์แห่งไฟ ผู้ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นสิ่งมีชีวิตแรกที่กำเนิดมาตั้งแต่ยุคสร้างโลก
ยักษ์โยตุน อีเมอร์ (Ymir) ได้ให้กำเนิดสิ่งมีชีวิตสิ่งแรกมาโดยไม่ได้ตั้งใจ ประกอบด้วย เทพ บูรี( Buri) ซึ่งถือว่าเป็น ต้นกำเนิดเผ่าพันธ์เทพทั้งปวง และธรุดเกลเมอร์(Thrudgelmir) บรรบุรุษของยักษ์น้ำค้างแข็งที่กลายเป็นศัตรูตลอดกาลของพวกเทพในอนาคต ส่วนเทพ บูรี( Buri) ก็ให้กำเนิดลูกนามว่า บอร์ (Bor) จากนั้น บอร์(Bor) ก็ได้สมรสกับ เบสล่า (Bestla) ยักษี ลูกสาวตนหนึ่งของอีเมอร์(Ymir)
จนให้กำเนิด โอดิน (Odin) วิลี( Vili) และ วี (Ve) ซึ่งต่อมาเทพทั้งสามนี้ก็ขึ้นเป็นต้นกำเนิดเชื้อพระวงศ์ของเทพ อีเซอร์(Aesir) ผู้ครองสวรรค์และเป็นผู้สร้างโลกในอนาคต
เมื่อเทพได้ถือกำเนิด ธรุดเกลเมอร์(Thrudgelmir) ยักษ์น้ำแข็งที่กำเนิดเกิดจากหยาดเหงื่อของอีเมอร์(Ymir) โดยไม่ได้ตั้งใจ และ เบอร์เกลเมอร์ (Bergelmir) ลูกชาย ก็เกิดหวาดกลัวทำให้ต้องรวบรวมพี่ๆน้องๆที่เป็นลูกหลานสายยักษ์ของ อีเมอร์ (Ymir) เพื่อสร้างเป็นกองกำลังหมายจะเข้าห่ำหั่นกับพวกทวยเทพ แต่สงครามระหว่างลูกๆ ของธรุดเกลเมอร์ (ยักษ์น้ำแข็ง) และโอรสของบอร์ (เทพในราชวงศ์ อีเซอร์(Aesir) ) ก็ดำเนินไปนับพันๆปีโดยที่ไม่มีฝ่ายใดชนะเด็ดขาด
ทำให้เหล่าทวยเทพที่เป็นลูกหลานของ อีเมอร์ (Ymir) ได้จัดการฆ่า อีเมอร์ (Ymir) ทิ้งซะเพื่อไม่ให้เขาให้กำเนิดอะไรที่มันชั่วร้ายแบบไม่ตั้งใจขึ้นมาอีก เลือดของ อีเมอร์ (Ymir) ซึ่งเป็นยักษ์โยตุนตนแรกหลั่งไหลจากร่าง จนกลายเป็นแม่น้ำเลือดใหญ่ไหล่ท่วมไปทั่วแผ่นดินทำให้ ทายาทยักษ์ทั้งหมดต่างจมน้ำในแม่น้ำเลือดจนตายหมด ยกเว้นก็แต่เบอร์เกลเมอร์ (Bergelmir) กับเมียที่สามารถหนีไปได้
เบอร์เกลเมอร์ (Bergelmir) กับเมียที่หนีไปได้ก็ได้ไปตั้งรกรากใหม่ในดินแดนที่ชื่อว่า โจตันเฮล์ม (Jotunheim) ดินแดนของยักษ์น้ำแข็ง และสอนลูกหลานเหล่ายักษ์น้ำแข็งให้เกลียดชังพวกทวยเทพมานับแต่นั้น
ส่วน ร่างกายและเลือดเนื้อของอีเมอร์ (Ymir) ก็กลายเป็น แผ่นดินอันอุดมสมบูรณ์ที่เรียกกันว่า มิดการ์ด (Midgard) กลายเป็นดินแดนของเหล่ามวลมนุษย์มาจนถึงปัจจุบัน
เหล่าทวยเทพทั้งหลายก็ได้สร้างอาณาจักรแห่งใหม่ชื่อว่า แอสการ์ด(Asgard) ขึ้น ตามชื่อวงศ์แอเซียร์(Aesir) ของตน และตั้งตนขึ้นปกครองทุกดินแดนให้ดำรงอยู่อย่างสันติตลอดไป
https://th.wikipedia.org/wiki/เทพปกรณัมนอร์ส
จากนั้นเดินทางตาม Atreus ต่อไปจนพบกวางตัวเป้าหมายอีกครั้ง Kratos จึงคืนธนูให้เพื่อให้ Atreus ได้แก้ตัวใหม่พร้อมคอยแนะนำอยู่ไม่ห่าง
Atreus – นั่นไงครับพ่อ !
Kratos – ใจเย็นๆ ผ่อนคลาย ไม่ต้องไปคิดอะไรทั้งนั้นมันเป็นเพียงสัตว์ ..กลั้นหายใจ มือนิ่งๆ หายใจเข้า หายใจออกช้าๆ
Atreus – สำเร็จแล้วครับ !!!
Atreus – มันยังไม่ตายนี่?
Kratos – มีดของเจ้าอยู่ไหน?
Atreus – นี่ครับพ่อ
Kratos – ไม่ เจ้านั่นแหละที่ต้องจบเรื่องที่เจ้าเริ่มเอาไว้
Atreus – ผะ ผมทำไม่ได้ครับ
ในขณะนั้น ตัวประหลาดร่างยักษ์ก็ปรากฏตัวขึ้นมาคว้ากวางที่ Atreus ล่าได้แล้วเพิ่งหัดฆ่ากับมือลงไปไม่กี่นาที Kratos จึงคืนธนูให้ Atreus เพื่อไว้ช่วยร่วมกันต่อสู้ทันที
Atreus – เราต้องสู้กับไอ้ยักษ์นั่นจริงๆหรอพ่อ?
Kratos – ก็มันไม่มีทางเลือกนี่ !
ตอนนี้ในฉากต่อสู้ Atreus จะสามารถช่วยสู้ได้แล้ว โดย Atreus จะเข้าช่วยต่อสู้ศัตรูทั่วไปแบบอัตโนมัติแต่จะสามารถสั่งให้เขายิงได้ด้วยการกดสี่เหลี่ยม และยังสามารถสั่งให้เขายิงแบบเฉพาะเจาะจงได้ด้วยการกด L2 เลือกเป้าหมายที่จะให้เขายิงแล้วกดสี่เหลี่ยม ซึ่งศัตรูที่โดนยิงนั้นจะเกิดอาการวอกแวกจนสามารถทำให้ Kratos ได้เปรียบในการต่อสู้ได้
Boss : Dauði Kaupmaðr นั้นร่างกายมีความทดทานต่อทุกการโจมตี พันแทงแทบจะไม่เข้ายกเว้นตรงบริเวณจุดอ่อนที่เป็นจุดสีส้มตามส่วนต่างๆของร่างกายที่เมื่อถูกโจมตีแล้วจะทำให้พลังชีวิตมันลดลงไปได้มากที่สุด
Atreus – อ๊ากกกกก !!! นั่นแหละ คือสิ่งที่แกควรโดนที่บังอาจเอากวางข้าไป !!!
Kratos – ไอ้หนู
Atreus – อ๊ากกกกก !!! นึกว่าข้ากลัวรึไง !!! ไอ้กระจอก แกมันไม่มีความหมายอะไรกับข้าเลยจะบอกให้ !!!
Kratos – ไอ้ลูกชาย มองหน้าชั้น มองหน้าพ่อ !! มองหน้าพ่อ !!
Atreus – เราทำสำเร็จแล้วครับ ..
Kratos – เจ้ายังไม่พร้อม ...
Atreus – เอาจิงดิ !! ข้าหากวางจนเจอ ข้าล่ามันได้ ก็ถือว่าข้าพิสูจน์ตัวเองแล้ว ทำไมถึงยังไม่พร้อม !!
Kratos – เรากลับบ้านกันได้แล้ว
Atreus – หลายปีมานี้ข้าแทบไม่เคยป่วยเลยด้วยซ้ำ ข้าเดินทางไกลได้สบายแน่นอน
Kratos – เจ้ายังไม่พร้อม ...
จากนั้นทั้งคู่เดินทางกลับบ้านท่ามกลางความหงุดหงิดใจของ Atreus ระหว่างทางยังต้องเจอศัตรูอีกมากมายที่ออกมาโจมตี ลุยไปตามทางจนสามารถกลับมาถึงบ้านได้อีกครั้ง
เมื่อส่ง Atreus เข้าบ้านเรียบร้อยแล้ว Kratos จะแวะเข้าไปที่สถานที่เผาศพของเมียเพื่อเก็บอัฐิจากเถ้ากระดูกที่เหลืออยู่มาเก็บไว้ดูต่างหน้าก่อนที่จะตาม Atreus เข้าบ้านไปเพื่อพูดคุยปรับความเข้าใจในสิ่งที่ทั้งคู่ยังคาใจก่อนหน้านี้
Kratos – เจ้าควบคุมตัวเองไม่ได้ !!
Atreus –ก็ไอ้นั่นมันพยายามจะฆ่าเรานี่ครับ ข้าทำเหมือนพ่อไม่ได้หรอกที่จะไม่โกรธตอนต่อสู้
Kratos – แต่ ความโกรธก็คืออาวุธเหมือนกัน ถ้าเจ้าควบคุมมันได้ แต่ดูก็รู้แล้วว่าเจ้ายังควบคุมมันไม่ได้ เมื่อเจ้าคุมมันไม่..
Atreus – หลายปีมานี้ข้าแทบไม่เคยป่วยเลยด้วยซ้ำ ข้าแข็งแรงพอแน่นอน
Kratos – งั้นก็ดี ... เอาล่ะ เข้ามาได้เลย
Atreus – จะให้ผมต่อยพ่องั้นหรอ?
Kratos – ข้าอยากให้เจ้าลองพยายามดู ต่อยมา !! ต่อยอีก !!! ช้าไป !! เบาไป เอาใหม่ !! เอาใหม่ !!!!
Atreus – อ๊าก !!!!
Kratos – เจ้ากำลังโกรธ !! ... แต่เจ้าสามารถปล่อยวางมันได้ เส้นทางข้างหน้านั้นยากลำบากมากนะ และเจ้า Atreus เห็นได้ชัดว่า เจ้ายังไม่พร้อม
Atreus – นั่นเสียงอะไรฮะ !!?
Kratos – เงียบก่อน !!
ชายแปลกหน้า – คนข้างในบ้านน่ะ ออกมาข้างนอกหน่อยย !!!! ข้ารู้นะว่าเจ้าเป็นใคร !!
Atreus – เกิดอะไรขึ้นฮะ พ่อรู้จักเขาหรอ?
ชายแปลกหน้า – ที่สำคัญกว่านั้นคือ ข้ารู้ว่าเจ้าเป็นอะไร !!
Kratos – ไอ้หนู เข้าไปแอบใต้พื้นเดี๋ยวนี้ !!
Atreus – แต่พ่อบอกว่าไม่ให้ผมลงไปข้างล่างนั่นไม่ใช่หรอ? แล้วมันเป็นใครฮะ?
Kratos – ข้าไม่รู้ !!
Atreus – ที่มันพูดหมายถึงอะไรฮะ?
Kratos – ข้าไม่รู้ !! ลงไปซ่อนได้แล้ว !!
ชายแปลกหน้า – ก็แค่บอกในสิ่งที่ข้าอยากรู้แค่นั้นเอง รับรองว่าไม่มีใครต้องเจ็บตัวหรอก
ชายแปลกหน้า – อ่า ข้านึกว่าเจ้าจะตัวใหญ่กว่านี้ซะอีก แต่ก็ไม่ผิดตัวแน่นอน ... จากบ้านมาไกลเลยนะ
Kratos – แกต้องการอะไร ?
ชายแปลกหน้า – โอ้ ข้าว่าเจ้าคงรู้คำตอบดีอยู่แล้วอ่ะนะ
Kratos – ไม่ว่าแกกำลังตามหาอะไรอยู่ ข้าไม่มีทั้งนั้น แกควรไปได้แล้ว
ชายแปลกหน้า – ฮ่าๆๆๆ การที่เจ้ามาอยู่ที่นี่ บางทีเจ้าควรจะรู้ไว้อย่างนะว่า เจ้าไม่ได้สูงส่งหรือฉลาดไปกว่าพวกเราหรอก เพราะงั้นเจ้าถึงมาแอบหลบในกระท่อมกระจอกๆกลางป่าเหมือนตัวตลกแบบนี้ไง
Kratos – แกไม่อยากที่ต้องการสู้กับข้าที่นี่หรอก
ชายแปลกหน้า – แต่บังเอิญข้าอยากวะ !!
Kratos – ไป จาก บ้านข้า ซะ !
ชายแปลกหน้า – งั้นเจ้าก็คงต้องฆ่าข้าซะข้าถึงจะไปจากที่นี่ได้
Kratos – ข้าเตือนแล้วนะ
ชายแปลกหน้า – ตาข้าบ้างนะ !! ….. ช่างน่าผิดหวังเหลือเกิน เอาล่ะ เข้ามาต่อได้เลย !
หลังจากชายแปลกหน้าสุดกร่างได้ตอบโต้จากที่เครโทสต่อยเบาๆจนล้มลงด้วยการปล่อยหมัดเสยจนเครโทสกระเด็นลอยข้ามหลังคาบ้านไปทำให้ Kratos ที่ไม่เคยต้องเจ็บตัวมานานรู้ว่า ไอ้หมอนี่ไม่ธรรมดาแน่นอน
ชายแปลกหน้าโจมตีโดยการเน้นความเร็วในการเข้าปะทะสลับกับการอัดกระแทกด้วยคลื่นพลังยิงตรงมาจากพื้น ความเร็วของมันทำให้การโจมตีของเครโทสที่มีระยะที่สั้นกว่าทำได้ยาก ต้องใช้ความเร็วในการหลบหลีกและไม่อยู่เป็นเป้านิ่งพร้อมๆกับกะจังหวะใช้โล่เค๊าทเตอร์อัดกลับไปจนมันเสียจังหวะถึงจะสามารถเข้าไปอัดมันได้อย่างเป็นชิ้นเป็นอัน
ชายแปลกหน้า – บอกในสิ่งที่ข้าต้องการมาซะจะได้ไม่ต้องเจ็บตัว ..อยู่คนเดียวทำไมในบ้านมี 2 เตียง ห๊า ??
หลังจากสลับกับรุกสลับกันรับกันอยู่พักใหญ่ ชายแปลกหน้าสุดกร่างก็แสดงให้เห็นว่าเขามีราคาสมราคาคุยและไม่ได้เป็นรองเครโทสเหมือนอย่างทีเขาเคยโม้ไว้แต่อย่างใด แถมร่างกายมันยังสามารถรักษาอาการบาดเจ็บเองได้เหมือนเครโทสเสียด้วย
ชายแปลกหน้า – ทำไม ไม่อยากปริปากงั้นหรอ? บางที ได้คนที่กำลังแอบอยู่ในบ้านนั่นอาจอยากจะพูดบ้างก็ได้
เท่านั้นแหละ เครโทส ก็ระเบิดพลังเทพโดยการใช้ท่า Spartan Rage (กด L3 +R3) ที่ทำให้สามารถใช้พลังแห่งความโกรธเข้าจู่โจมอย่างรุนแรงกว่าปกติ แม้เกทพลังจะอยู่ได้ไม่นาน แต่ความรุนแรงของพลังหมัดก็สามารถจัดการ ชายแปลกหน้าจนถูกอัดเกือบแดดิ้นสิ้นใจก่อนจะปิดท้ายด้วยการใช้ก้อนหินขนาดใหญ่ให้ล้มทับจนหมดความซ่าไปในทันที .... แต่ ชายแปลกหน้าสุดกร่างก็ฟื้นคืนกลับมาได้ภายในไม่กี่นาทีเช่นเดียวก่อน
ชายแปลกหน้า – รีบเดินหนีไปเร็วจัง .. อ๊ากกกก !!! ตอนที่โอดินสั่งข้าให้มาที่นี่ ข้ามีแต่คำถามมากมายที่อยากรู้ แต่ตอนนี้ เจ้ามันก็ดูมีราคาดีนะ แต่ ...เจ้าทุ่มทุกอย่างเข้าใส่ข้าจนหมดแต่ข้าก็กลับมาได้ใหม่ตลอด และก่อนที่ข้าจะจบเรื่องนี้ ข้าอยากจะให้เจ้ารู้เรื่องนึง .. ข้าไม่รู้สึกอะไรเลยในตอนนี้ เจ้าก็รู้อยู่แกใจแล้วว่า ทำอะไรข้าไม่ได้ ไม่มีวันทำได้ การต่อสู้ครั้งนี้มันเปล่าประโยชน์ มันเป็นความพยายามที่ไร้ค่า ข้าไม่อยากให้มันเป็นแบบนี้หรอก แต่เจ้าจะไม่มีวันชนะข้า เจ้าก็รู้ดีอยู่แล้วก็ยังจะพยายามอีกหรอ ข้าไม่ใช่พวกฟ้องของเจ้า บอกที่สิ่งที่ข้าต้องการรู้มาซะ มันจะได้ไม่ต้องจบลงแบบนี้
ชายแปลกหน้า – ข้าหวังเอาไว้ว่า ทุกคนที่ข้าเจอจะทำให้ข้ารู้สึกอะไรได้บ้าง แต่ก็ไม่ แม้แต่เจ้าก็เหมือนกัน
หลังจากเครโทสทุ่มพลังทั้งหมดจนสามารถจัดการกับชายแปลกหน้าสุดกร่างลงได้ด้วยการหักคอตามสไตล์ก่อนจะดันร่างมันตกลงเหวไปด้วยสภาพที่หมดแรงไม่ต่างกัน
Kratos – มันเป็นใครกันเนี้ย ...? มันรู้จักข้าเป็นอย่างดีซะด้วย .. มันตามเจอตัวข้าได้ยังไง? ทำไมต้องเป็นตอนนี้ .. Faye .. ข้าจะทำยังไงดี ? ...ลูกของเรายังไม่พร้อม ที่จะนำอัฐิของเจ้าไปยังยอดเขา ..ข้าเองก็เหมือนกัน ข้าไม่รู้ว่าจะทำมันได้ยังไงถ้าไม่มีเจ้าอยู่ .. แต่ยังไงเราก็คงจะอยู่ที่นี่ต่อไปไม่ได้อีกแล้ว
Kratos – ไงไอ้หนู
Atreus – ทำไมนานจัง ข้านึกว่าพ่อจะ ...
Kratos – เจ้าไม่เป็นอะไรนะ
Atreus – ข้าปลอดภัยดี
Kratos – เจ้ายังไม่พร้อมที่จะเดินทางแต่ดูเหมือนตอนนี้ข้าคงไม่มีทางเลือก พิสูจน์หน่อยว่าข้าคิดผิด ไอ้ลูกชาย
Atreus – ครับผม ! … ภูเขานั่น ต้องเป็นการเดินทางที่ยาวนานแน่ๆเลย
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
SKILL
LEVIATHAN AXE
ท่าโจมตีระยะไกล ( RANGED COMBAT)
1. FREEZING THROW
เล็งเป้าหมายแล้วกด R2 ปาขวานโจมตีศัตรูเป้าหมายซึ่งจะตรึงศัตรูที่มีขนาดเล็กด้วยความเย็นไว้ชั่วระยะเวลาหนึ่งและจะสร้างความเสียหายหนักให้แก่ศัตรูในบริเวณรอบๆเล็กน้อยด้วย
ค่าใช้จ่าย : ไม่มี
โบนัสเพิ่มเติม: ไม่มี
2. FREEZING BURST
เล็งเป้าหมายแล้วกด R2 ค้างแล้วปล่อยเพื่อปาขวานโจมตีศัตรูจะทำให้เกิดการระเบิดของน้ำแข็งที่เป้าหมาย
ค่าใช้จ่าย: Axe Upgrade 2 + 1,000 XP
โบนัสเพิ่มเติม: ลดเวลาการชาร์จ - ต้องการ 100 Cooldown
3. PRECISION THROW COMBO
หลังจากปาขวานไปยังตำแหน่ง Headshots หรือจุดอ่อนของศัตรูแล้ว เมื่อกดสามเหลี่ยมเรียกขวานกลับมาจะทำให้การโจมตีด้วยขวานครั้งต่อไปติดสถานเยือกแข็งทันที
ค่าใช้จ่าย: Axe Upgrade 2 + 1,000 XP
โบนัสเพิ่มเติม: ใช้ท่า PRECISION THROW 2 ครั้งติดต่อกัน – ต้องการ 125 Cooldown
4. PRECISION FROST BURST
หลังจากใช้ท่า PRECISION THROW COMBO โจมตีศัตรูจะทำให้เกิดการระเบิดใส่ศัตรูเป้าหมายและจะสร้างความเสียหายให้แก่ศัตรูในบริเวณรอบๆด้วย
ค่าใช้จ่าย: Axe Upgrade 3 + 2,000 XP
โบนัสเพิ่มเติม: ไม่มี
5. HUNTER-KILLER I
เล็งเป้าหมายแล้วกด R1 ค้างเพื่อเลือกศัตรูเป้าหมายในระยะใกล้เคียงกันได้ 3 เป้าหมาย เมื่อขว้างขวานไปจะโจมตีโดนศัตรูเป้าหมายทั้ง 3 ตัวได้พร้อมๆกัน
ค่าใช้จ่าย: Axe Upgrade 3 + 1,500 XP
โบนัสเพิ่มเติม: เพิ่มความต้านทานต่อการหยุดชะงักในระหว่างการโจมตี – ต้องการ Vitality 200
6. HUNTER-KILLER II
เล็งเป้าหมายแล้วกด R1 ค้างเพื่อเลือกศัตรูเป้าหมายในระยะใกล้เคียงกันได้ 5 เป้าหมาย เมื่อขว้างขวานไปจะโจมตีโดนศัตรูเป้าหมายทั้ง 5 ตัวได้พร้อมๆกัน
ค่าใช้จ่าย: Axe Upgrade 4 + 2000 XP
โบนัสเพิ่มเติม: เพิ่มความต้านทานต่อการหยุดชะงักในระหว่างการโจมตี – ต้องการ Vitality 200
7. RETURNING WHIRLWIND
ในขณะมือเปล่า กดเล็งและ R1 ไปพร้อมๆกับเรียกขวานกลับอย่างรวดเร็วจะทำให้เกิดท่าโจมตีด้วยท่าควงขวานอย่างรุนแรงได้
ค่าใช้จ่าย: Axe Upgrade 4 + 1400 XP
โบนัสเพิ่มเติม: เพิ่มความต้านทานต่อการหยุดชะงักในระหว่างการโจมตี – ต้องการ Vitality 200
8. HUNTER-KILLER III
เล็งเป้าหมายแล้วกด R1 ค้างเพื่อเลือกศัตรูเป้าหมายในระยะใกล้เคียงกันได้ 8 เป้าหมาย เมื่อขว้างขวานไปจะโจมตีโดนศัตรูเป้าหมายทั้ง 8 ตัวได้พร้อมๆกัน
ค่าใช้จ่าย: Axe Upgrade 5 + 3000 XP
โบนัสเพิ่มเติม: เพิ่มความต้านทานต่อการหยุดชะงักในระหว่างการโจมตี – ต้องการ Vitality 200
9. RETURNING STORM
ในขณะมือเปล่า กดเล็งและ R2 ไปพร้อมๆกับเรียกขวานกลับอย่างรวดเร็วจะทำให้เกิดท่าโจมตีด้วยท่าทุบขวานลงพื้นจนเกิดการระเบิดของน้ำแข็งอย่างรุนแรงได้
ค่าใช้จ่าย: Axe Upgrade 4 + 1400 XP
โบนัสเพิ่มเติม: เพิ่มความเสียหายจากการโจมตีด้วยน้ำแข็ง– ต้องการ RUNIC 250
ท่าโจมตีระยะใกล้ ( CLOSE COMBAT)
1. EXECUTIONER'S CLEAVE
กด R2 ค้างจะทำให้เกิดการโจมตีด้วยขวานจามศัตรูเป้าหมายอย่างรุนแรง
ค่าใช้จ่าย: 500 XP
โบนัสเพิ่มเติม: ลดเวลาชาร์จ - ต้องการ 100 Cooldown
2. GRINDING STORM
กด R1 ค้างจะทำให้เกิดการโจมตีด้วยการควงขวานระยะประชิดทำให้ล็อกตัวศัตรูไม่ให้หนีไปไหน
ค่าใช้จ่าย: 500 XP
โบนัสเพิ่มเติม: เพิ่มความเสียหายของน้ำแข็งในขณะโจมตีมากขึ้น - ต้องการ 125 Runic
3. PRIDE OF THE FROST
ท่าโจมตีคอมโบด้วยการโจมตีเบาแล้วจบด้วยท่าโจมตีหนัก ด้วยคอมโบบ R1 – R1 – R1 – R2 จะจบท่าคอมโบที่รุนแรง
ค่าใช้จ่าย: 500 XP
โบนัสเพิ่มเติม: เพิ่มความเสียหายด้วยการระเบิดของน้ำแข็งในตอนจบคอมโบ - ต้องการ 200 Runic
4. FROST RUSH
ขณะกำลังวิ่ง กด R1 จะเป็นวิ่งโดดเข้าโจมตี
ค่าใช้จ่าย: Axe Upgrade 2 + 1,000 XP
โบนัสเพิ่มเติม: เพิ่มความต้านทานต่อการหยุดชะงักในระหว่างการโจมตี – ต้องการ Vitality 125
5. PERMAFROST
สามารถโจมตีได้อย่างรวดเร็วและต่อเนื่องโดยพลังโจมตีของไม่ลดลงและสร้างความเสียหายต่อเป้าหมายด้วยพลังน้ำแข็งด้วยทุกครั้ง
ค่าใช้จ่าย: Axe Upgrade 2 + 1,000 XP
โบนัสเพิ่มเติม: ไม่มี
6. WHIRLING STORM
ในขณะกำลังกลิ้งหลบ ดันแกนอนาล็อกซ้ายไปข้างหน้าแล้วกด R1 จะเป็นการแดชเข้าโจมตีอย่างรวดเร็ว
ค่าใช้จ่าย: Axe Upgrade 2 + 1,000 XP
โบนัสเพิ่มเติม: เพิ่มความต้านทานต่อการหยุดชะงักในระหว่างการโจมตี – ต้องการ Vitality 75
7.LEVIATHAN'S FURY
ขณะกำลังวิ่ง กด R2 จะเป็นวิ่งเข้าโจมตีด้วยการอัดกระแทกพื้น
ค่าใช้จ่าย: Axe Upgrade 3 + 2,000 XP
โบนัสเพิ่มเติม: เพิ่มความเสียหายของน้ำแข็งในขณะโจมตีมากขึ้น - ต้องการ 175 Runic
8.GLACIAL PERMAFROST
เพิ่มจำนวนการได้มาซึ่ง Permafrost ทุกครั้งที่โจมตีด้วยขวาน
ค่าใช้จ่าย: Axe Upgrade 3 + 2,000 XP
โบนัสเพิ่มเติม: ไม่มี
9.EVASIVE STORM
ในขณะกำลังกลิ้งหลบ ดันแกนอนาล็อกซ้ายมาด้านหลังแล้วกด R1 จะเป็นการขว้างขวานโจมตีแบบบูมเมอร์แรงอย่างรวดเร็ว
ค่าใช้จ่าย: Axe Upgrade 3 + 2,000 XP
โบนัสเพิ่มเติม: เพิ่มความเสียหายของน้ำแข็งในขณะโจมตีมากขึ้น - ต้องการ 125 Runic
10. WHIRLWIND SWEEP
เปลี่ยนท่าทางการโจมตีโดยการหยุดชะงักเมื่อโจมตีครั้งแรกแล้วกด R1 โจมตีอีกครั้งจะเปลี่ยนเป็นท่าโจมตีแบบกวาดเป็นวงกว้าง
ค่าใช้จ่าย: Axe Upgrade 4 + 3,000 XP
โบนัสเพิ่มเติม: เพิ่มความต้านทานต่อการหยุดชะงักในระหว่างการโจมตี – ต้องการ Vitality 200
11. DOUBLE WHIRLWIND
เปลี่ยนท่าทางการโจมตีโดยการหยุดชะงักเมื่อโจมตีครั้งแรกแล้วกด R1 โจมตีอีกครั้งจะเปลี่ยนเป็นท่าโจมตีแบบกวาดเป็นวงกว้าง แล้วกด R1 อีกครั้งจะเป็นท่าโจมตีแบบกวาดเป็นวงกว้างครั้งที่ 2
ค่าใช้จ่าย: Axe Upgrade 4 + 1,000 XP
โบนัสเพิ่มเติม: เพิ่มความต้านทานต่อการหยุดชะงักในระหว่างการโจมตี – ต้องการ Vitality 200
12. WHIRLWIND THROW
เปลี่ยนท่าทางการโจมตีโดยการหยุดชะงักเมื่อโจมตีครั้งแรกแล้วกด R2 โจมตีอีกครั้งจะเปลี่ยนเป็นท่าโจมตีขว้างขวานระยะไกล
ค่าใช้จ่าย: Axe Upgrade 4 + 1,500 XP
โบนัสเพิ่มเติม: เพิ่มความต้านทานต่อการหยุดชะงักในระหว่างการโจมตี – ต้องการ Vitality 200
13. RAGING WHIRLWIND
เปลี่ยนท่าทางการโจมตีโดยการหยุดชะงักเมื่อโจมตีครั้งแรกแล้วกด R1 โจมตีอีกครั้งจะเปลี่ยนเป็นท่าโจมตีแบบกวาดเป็นวงกว้าง แล้วกด R1 อีกครั้งจะเป็นท่าโจมตีแบบกวาดเป็นวงกว้างครั้งที่ 2 แล้วกด R1 อีกครั้งจะเป็นท่าโจมตีแบบกวาดเป็นวงกว้างครั้งที่ 3
ค่าใช้จ่าย: Axe Upgrade 5 + 2,000 XP
โบนัสเพิ่มเติม: เพิ่มความต้านทานต่อการหยุดชะงักในระหว่างการโจมตี – ต้องการ Vitality 200
14. WHIRLWIND FURY
เปลี่ยนท่าทางการโจมตีโดยการหยุดชะงักเมื่อโจมตีครั้งแรกแล้วกด R2, R2 โจมตีอีกครั้งจะเปลี่ยนเป็นท่าโจมตีระยะไกลแบบคอมโบ
ค่าใช้จ่าย: Axe Upgrade 5 + 3,000 XP
โบนัสเพิ่มเติม: เพิ่มความต้านทานต่อการหยุดชะงักในระหว่างการโจมตี – ต้องการ Vitality 200
GUARDIAN SHIELD
SHIELD COMBAT
1. BLOCK BREAK
กด L1 สองครั้งเพื่อใช้โล่ทำลายการ์ดของศัตรู
ค่าใช้จ่าย: 500 XP
โบนัสเพิ่มเติม: ทำให้เกิดคลื่นพลังอัดกระแทกทำความเสียหายให้ศัตรูที่บินอยู่ในอากาศในบริเวณใกล้เคียง – ต้องการ 300 Defense
2. COUNTERING STRIKE
กด R1 ในช่วงเสี้ยวนาทีที่ศัตรูจะโจมตีเข้ามาโดนจะเป็นท่า Counter attack อัดกระแทกโล่กลับอย่างรุนแรง
ค่าใช้จ่าย: เรียนรู้ท่า Block Break แล้ว + 1,000 XP
โบนัสเพิ่มเติม: ไม่มี
3. COUNTERING STRIKE
กด R2 ในช่วงเสี้ยวนาทีที่ศัตรูจะโจมตีเข้ามาโดนจะเป็นท่า Counter attack อัดกระแทกโล่กลับอย่างรุนแรงตามด้วยท่าอัดกระแทกลงพื้น
ค่าใช้จ่าย: เรียนรู้ท่า Block Break แล้ว + 1,000 XP
โบนัสเพิ่มเติม: ไม่มี
4. COUNTERING BLAST
กด R1 ในช่วงเสี้ยวนาทีที่ศัตรูจะยิงกระสุนโจมตีระยะไกลเข้ามาโดนจะเป็นท่า Counter attack ดูดซับพลังโจมตีของกระสุนศัตรูแล้วอัดกระแทกกลับไปอย่างรุนแรง
ค่าใช้จ่าย: 3,000 XP
โบนัสเพิ่มเติม: ไม่มี
5. GUARDIAN SWEEP
ในขณะมือเปล่า กด R1 ค้างเพื่อใช้โล่โจมตีกวาดทำให้ศัตรูล้มลงและติดสถานภาพ Stun เล็กน้อย
ค่าใช้จ่าย: 1,500 XP
โบนัสเพิ่มเติม: เพิ่มแรงอัดกระแทกระยะปานกลางทำให้ศัตรูติดสถานภาพ Stun มากขึ้น - ต้องการ 250 Defense
6. GUARDIAN'S JUSTICE
ในขณะมือเปล่า กด R2 ค้างเพื่อใช้โล่โจมตีอัดกระแทกใส่ศัตรูทำให้ติดสถานภาพ Stun ปานกลาง
ค่าใช้จ่าย: 2,000 XP
โบนัสเพิ่มเติม: เพิ่มแรงอัดกระแทกระยะปานกลางทำให้ศัตรูติดสถานภาพ Stun มากขึ้น - ต้องการ 250 Defense
7. GUARDIAN'S JUDGEMENT
กด R2 หลังจากใช้ท่า GUARDIAN'S JUSTICE ใช้โล่โจมตีอัดกระแทกใส่ศัตรูจะใช้ท่าต่อยใส่โล่ซ้ำเข้าไปอีกครั้งทำให้เกิดคลื่นอัดกระแทกอย่างรุนแรงต่อเนื่องทำให้สร้างความเสียหายกับศัตรูเป็นวงกว้างและทำให้ติดสถานภาพ Stun ด้วย
ค่าใช้จ่าย: เรียนรู้ท่า GUARDIAN'S JUSTICE แล้ว + 3,000 XP
โบนัสเพิ่มเติม: ไม่มี
8. AGILE STRIKE
ในขณะมือเปล่าและกำลังแดชหลบ กดแกนอนาล็อกซ้ายไปข้างหน้าค้างไว้แล้วกด R1 จะเป็นท่าแดชเข้าไปต่อยอย่างรวดเร็ว
ค่าใช้จ่าย: 1,000 XP
โบนัสเพิ่มเติม: เพิ่มแรงอัดกระแทกระยะปานกลางทำให้ศัตรูติดสถานภาพ Stun มากขึ้น - ต้องการ 250 Defense
9. HAYMAKER CRUSH
ในขณะมือเปล่า วิ่งเข้าหาศัตรูแล้วกด R1 จะเป็นการปล่อยหมัดน็อกที่รุนแรงจนทำให้ศัตรูลงไปกองกับพื้น
ค่าใช้จ่าย 1,500 XP
โบนัสเพิ่มเติม: เพิ่มความต้านทานต่อการหยุดชะงักในระหว่างการโจมตี – ต้องการ Vitality 75
10. SHOULDER BARRAGE
ในขณะมือเปล่า วิ่งเข้าหาศัตรูแล้วกด R2 จะเป็นการใช้ไหล่อัดกระแทกใส่ศัตรูอย่างรุนแรงจนทำให้ศัตรูกระเด็นไปไกล
ค่าใช้จ่าย: 2,000 XP
โบนัสเพิ่มเติม: เพิ่มแรงอัดกระแทกระยะปานกลางทำให้ศัตรูติดสถานภาพ Stun มากขึ้น - ต้องการ 250 Defense
11. GUARDIAN'S REVENGE
เปลี่ยนท่าทางการโจมตีโดยการหยุดชะงักเมื่อโจมตีด้วยมือเปล่าครั้งแรกแล้วกด R1 โจมตีอีกครั้งจะเปลี่ยนเป็นท่าโจมตีด้วยท่าใช้โล่อัดเสยแบบอัปเปอร์คัท จากนั้นกด R1 อีกครั้งจะเป็นการใช้ท่าโล่กระแทกพื้น
ค่าใช้จ่าย 3,000 XP
โบนัสเพิ่มเติม: เพิ่มความต้านทานต่อการหยุดชะงักในระหว่างการโจมตี – ต้องการ Vitality 200
12. GUARDIAN'S FURY
เปลี่ยนท่าทางการโจมตีโดยการหยุดชะงักเมื่อโจมตีด้วยมือเปล่าครั้งแรกแล้วกด R2 โจมตีอีกครั้งจะเปลี่ยนเป็นท่าโจมตีด้วยท่าใช้โล่โดดอัดกระแทกใส่จนศัตรูกระเด็นไปไกล จากนั้นกด R1 อีกครั้งจะเป็นการใช้ท่าโล่กระแทกพื้นส่งคลื่นพลังอัดกระแทกโจมตีซ้ำอีกที
RAGE COMBAT
1. FURY STRIKE
ขณะที่กำลังใช้ท่า Spartan Rage กด R1 เพื่อโดดเข้าต่อยศัตรูจากนั้นกด R1 อีกครั้งจะเป็นการรัวหมัดต่อยอย่างรุนแรง
ค่าใช้จ่าย : ไม่มี
โบนัสเพิ่มเติม: ไม่มี
2. FURY DRIVE
ขณะที่กำลังใช้ท่า Spartan Rage กด R1 ค้างจะใช้ท่าปล่อยหมัดน็อกที่อัดกระแทกอย่างรุนแรงทำให้ศัตรูกระเด็นไปด้านหลังอย่างรวดเร็ว
ค่าใช้จ่าย: 500 XP
โบนัสเพิ่มเติม: ไม่มี
3. FURY BEATDOWN
ขณะที่กำลังใช้ท่า Spartan Rage หลังจากใช้ท่า FURY DRIVE แล้ว กด R1 ต่อยรัวๆต่อเนื่องได้อีก
ค่าใช้จ่าย: เรียนรู้ท่า FURY DRIVE แล้ว
โบนัสเพิ่มเติม: ไม่มี
4. SPARTAN STOMP
ขณะที่กำลังใช้ท่า Spartan Rage กด L1 จะเป็นกระทืบพื้นสร้างความมึนงงให้ศัตรูทั้งกลุ่ม
ค่าใช้จ่าย: 1000 XP
โบนัสเพิ่มเติม: ไม่มี
5. SPARTAN SURGE
ขณะที่กำลังใช้ท่า Spartan Rage กด L1 ค้างจะเป็นกระทืบพื้นอย่างรุนแรงจนศัตรูลอยขึ้นบนฟ้า
ค่าใช้จ่าย: เรียนรู้ท่า SPARTAN STOMP แล้ว
โบนัสเพิ่มเติม: ไม่มี
6. RAGING SMASH
ขณะที่กำลังใช้ท่า Spartan Rage กด R2 จะใช้ท่าโดดขึ้นฟ้าแล้วทุบลงที่พื้นสร้างแรงอัดกระแทกอย่างรุนแรงใส่ศัตรู
ค่าใช้จ่าย: ไม่มี
โบนัสเพิ่มเติม: ไม่มี
7. RAGING ULTIMATUM
ขณะที่กำลังใช้ท่า Spartan Rage กด R2 จะใช้ท่าโดดขึ้นฟ้าแล้วทุบลงที่พื้นสร้างแรงอัดกระแทกอย่างรุนแรงเป็นวงกว้างใส่ศัตรูที่อยู่ตรงหน้าจนทำให้กระเด็นไปทั้งกลุ่ม
ค่าใช้จ่าย: 4500 XP
โบนัสเพิ่มเติม: ไม่มี
8. SEETHING EARTH
ขณะที่กำลังใช้ท่า Spartan Rage กด L2 จะใช้ท่ายกแผ่นดินทุ่มใส่ศัตรูทั้งกลุ่มอย่างรุนแรง
ค่าใช้จ่าย:เรียนรู้ท่า Raging Ultimatum แล้ว
โบนัสเพิ่มเติม: ไม่มี
TALON BOW
MAGIC COMBAT
1. WEAKEN POTENCY
ทำให้ Light Arrows ส่งผลกระทบต่อจุดอ่อนของศัตรูมากขึ้น
ค่าใช้จ่าย: ได้ Light Arrows มาแล้ว + 500XP
โบนัสเพิ่มเติม: ไม่มี
2. EXPLOSIVE POWER
ทำให้ Light Arrows สามารถทำให้การระเบิดขนาดใหญ่
ค่าใช้จ่าย: Bow Level 3 + 1500XP
โบนัสเพิ่มเติม: ไม่มี
3.PURE LIGHT
ทำให้ Light Arrows สามารถทำให้การระเบิดที่ทำให้ศัตรูมึนงงได้
ค่าใช้จ่าย: Bow Level 5 + 3000XP
โบนัสเพิ่มเติม: ไม่มี
4. LIGHT POTENCY 1
ทำให้ Light Arrows สร้างสถานภาพ Stun ให้ศัตรูได้นานขึ้น
ค่าใช้จ่าย: ได้ Light Arrows มาแล้ว + Bow Level 2 + 500XP
โบนัสเพิ่มเติม: ไม่มี
5. LIGHT POTENCY 2
ทำให้ Light Arrows สร้างสถานภาพ Stun ให้ศัตรูได้นานมากยิ่งขึ้น
ค่าใช้จ่าย: Bow Level 3 + 1000XP
โบนัสเพิ่มเติม: ไม่มี
6. LIGHT POTENCY 3
ทำให้ Light Arrows สร้างสถานภาพ Stun ให้ศัตรูได้นานมากที่สุด
ค่าใช้จ่าย: Bow Level 4 + 2000XP
7. LASTING SHOCK
Shock Arrows ทำให้ศัตรูติดสถานภาพถูกช็อตนานขึ้น
ค่าใช้จ่าย: ได้ Shock Arrows มาแล้ว + 500 XP
โบนัสเพิ่มเติม: ไม่มี
8. SHOCK CONDUIT
Shock Arrows ทำให้ศัตรูติดสถานภาพถูกช็อตต่อเนื่องกันได้
ค่าใช้จ่าย: Bow Level 3 + 1500XP
โบนัสเพิ่มเติม: ไม่มี
9. POWER OVERLOAD
Shock Arrows ทำให้ศัตรูติดสถานภาพถูกช็อตต่อเนื่องจำนวนมากขึ้น
ค่าใช้จ่าย: Bow Level 5 + 3000XP
โบนัสเพิ่มเติม: ไม่มี
10. SHOCK POTENCY 1
ทำให้ Shock Arrows สามารถโจมตีช็อตศัตรูได้รุนแรงขึ้น
ค่าใช้จ่าย: ได้ Shock Arrows มาแล้ว + Bow Level 2 + 250XP
โบนัสเพิ่มเติม: ไม่มี
11. SHOCK POTENCY 2
ทำให้ Shock Arrows สามารถโจมตีช็อตศัตรูได้รุนแรงมากยิ่งขึ้น
ค่าใช้จ่าย: Bow Level 3 + 1000XP
โบนัสเพิ่มเติม: ไม่มี
12. SHOCK POTENCY 3
ทำให้ Shock Arrows โจมตีช็อตศัตรูได้รุนแรงสูงสุด
ค่าใช้จ่าย: Bow Level 4 + 2000XP
โบนัสเพิ่มเติม: ไม่มี
EXPERT COMBAT
1. TEAMWORK
Atreus จะเข้าช่วย Kratos ทันทีเมื่อศัตรูที่ Kratos โจมตีอยู่ในสถานะที่อ่อนแอหรือเมื่อ Kratos กำลังถูกโจมตี
ค่าใช้จ่าย: 500XP
โบนัสเพิ่มเติม: ไม่มี
2. ACROBATICS
เมื่อ Atreus โดดเกาะหลังเพื่อรัดคอศัตรูจากด้านหลังศัตรูที่ Kratos กำลังโจมตี เขาจะช่วยทำคอมโบโจมตีต่อเนื่องต่อหาก Kratos อัดศัตรูจนกระเด็นไปไกล
ค่าใช้จ่าย: 500 XP
โบนัสเพิ่มเติม: ไม่มี
3. FEROCITY
Atreus จะสามารถโจมตีด้วยท่าที่ทำให้ศัตรูมึนงงหลากหลายมากขึ้นเมื่อศัตรูอยู่ใกล้ๆ
ค่าใช้จ่าย: 250 XP
โบนัสเพิ่มเติม: ไม่มี
4. ATREUS POWER 1
เพิ่มพลังโจมตีของ Atreus ทั้งการโจมตีระยะประชิดและด้วยการยิงธนูให้มากขึ้น
ค่าใช้จ่าย: Bow Level 2 + 500XP
โบนัสเพิ่มเติม: ไม่มี
5. ATREUS POWER 2
เพิ่มพลังโจมตีของ Atreus ทั้งการโจมตีระยะประชิดและด้วยการยิงธนูให้มากขึ้นไปอีก
ค่าใช้จ่าย: Bow Level 3 + 1500XP
โบนัสเพิ่มเติม: ไม่มี
6. ATREUS POWER 3
เพิ่มพลังโจมตีของ Atreus ทั้งการโจมตีระยะประชิดและด้วยการยิงธนูสูงสุด
ค่าใช้จ่าย: Bow Level 4 + 3000XP
โบนัสเพิ่มเติม: ไม่มี
7. DEXTEROUS SHOT 1
เพิ่มอัตราการยิงของ Talon Bow ให้มากขึ้น
ค่าใช้จ่าย: Bow Level 2 + 500XP
โบนัสเพิ่มเติม: ไม่มี
8. DEXTEROUS SHOT 2
เพิ่มอัตราการยิงของ Talon Bow ให้มากขึ้นไปอีก
ค่าใช้จ่าย: Bow Level 3 + 1500XP
โบนัสเพิ่มเติม: ไม่มี
9. DEXTEROUS SHOT 3
เพิ่มอัตราการยิงของ Talon Bow สูงสุด
ค่าใช้จ่าย: Bow Level 4 + 3000XP
โบนัสเพิ่มเติม: ไม่มี
http://www.ign.com/wikis/god-of-war-2018/Skills#Leviathan_Axe_Skills
Chapter 2: Path to the Mountain
เดินทางผ่านรอยแตกที่พื้นไปตามช่องแคบ ปีนเขาขึ้นไปจนถึงถ้ำด้านบนจนถึงห้องโถงขนาดใหญ่ที่มีสะพานไม้ถูกยกขึ้น เครโทสไม่สามารถปีนขึ้นไปได้จึงต้องให้ Atreus ปีนขึ้นไปแทนโดยการดันตัวเขาขึ้นไปบนทางเดินฝั่งตรงข้ามของสะพานที่พขึ้นไปได้
ฝั่งตรงข้ามกับสะพานจะมีแกนหมุนสำหรับปรับสะพานลงอยู่ เมื่อปรับสะพานลงแล้ว Atreus ก็จะเข้าไปอีกฝั่งเพื่อเอาโซ่โยนลงมาให้เครโทสได้ จากนั้นใช้ขวานปาไปที่กลไกสะพานเพื่อแช่แข็งให้สะพานไม่ยกตัวกลับก่อนแล้วค่อยปีนโซ่ไปด้านบน ก็จะข้ามสะพานได้แล้ว
ด้านบนจะมีจุดปีนขึ้นไปต่อ เมื่อถึงด้านบนอย่าลืมดันโซ่ที่ใช้ปีนให้ตกลงมาเพื่อความสะดวกในการเดินทางครั้งต่อไปด้วย จากนั้นค่อยปีนต่อขึ้นไปอีกหน่อยก็จะถูกเนินยอดเขาที่สามารถมองเห็นไปถึงภูเขาใหญ่ที่เป็นเป้าหมายของการเดินทาง
Atreus – ดูสิพ่อ มันคอยปกป้องเราอยู่รอบๆป่าด้านนอกตลอดมา แต่ ดูสิ ตอนนี้มันมีรอยทำให้แตกออก พ่อเป็นคนตัดมันหรอ ?
Kratos – แม่ของเจ้านางประทับรอยมือเอาไว้บนต้นไม้เหล่านั้น นางต้องการเอาไว้ใช้สำหรับทำกองไฟสำหรับ ...
Atreus – ทำไมแม่ต้องทำแบบนั้นด้วยอ่ะครับ
Kratos – ......................... มาเถอะ ไปต่อกันได้แล้ว
จากนั้นปันขึ้นไปบนสะพานไม้เพื่อเดินขึ้นด้านบนจะพบซอกเขาที่สามารถมุดผ่านออกไปที่ชายป่าด้านนอกที่อยู่ฝั่งตรงข้ามได้
Wildwood’s Edge
ทันทีที่ผ่านเข้าช่องเขามาก็จะพบศัตรูกลุ่มแรกรออยู่ เรียนรู้ระบบ Threat Indicator หรือ ตัวบ่งชี้ภัยคุกคาม โดยเมื่อขณะที่เครโทสกำลังต่อสู้อยู่ มุมกล้องจะทำให้ไม่เห็นศัตรูที่เข้ามาโจมตีจากด้านหลัง
ลูกศรบ่งชี้ภัยคุกคามนี้จะช่วยบอกว่า อันตรายจะเข้ามาในระยะไหน โดยแบ่งออกเป็น สีทอง ศัตรูกำลังเข้ามาใกล้ / สีแดง คือ ศัตรูเริ่มโจมตีเข้ามาแล้ว ทำให้สามารถแดชหลบหรือหาทางป้องกันตัวได้ทัน (สามารถกดปุ่มทิศทางลงล่างเพื่อหันหลังแบบ 360 องศาอย่างรวดเร็วได้ด้วย) ที่นี่จะเริ่มพบกับศัตรูรูปแบบใหม่คือ Draugr (Projectile) ที่สามารถโจมตีด้วยไฟจากระยะไกลได้
Atreus – ที่นี่เคยเป็นที่ตั้งถิ่นฐานของ Jötnar (โยตุน)
Kratos – Jötnar (โยตุน) หรอ ?
Atreus – พวกยักษ์น่ะครับ
Kratos – เจ้าอ่านภาษาพวกนี้ได้มั๊ย?
Atreus – พออ่านออกได้บ้างครับ แม่ก็รู้ภาษานี้เหมือนกัน Jötnar (โยตุน) จะสื่อสารในรูปแบบนี้กันในบางครั้ง ผมเคยเจอบ้างระหว่างเดินทาง พ่อรู้มั๊ย จริงๆผมไม่ควรไปรับรู้เรื่องพวกนี้เลย
ปีนพนังหน้าผาทางซ้ายของอักขระข้อความของ Jötnar ไปด้านบนต่อ ลุยศัตรูเข้าไปตามทาง ระหว่างทาง Atreus จะชี้ให้เห็นหีบสมบัติที่อยู่ข้างทาง เมื่อเข้าไปสำรวจจะพบ Light Runic Attack Gem อัญมณีที่ใช้เสริมพลังต่างๆให้อาวุธ
โดยเลือกไปที่เมนู Weapon เข้าไปที่ช่องสำหรับสวมใส่รูนที่มีอยู่ 2 ช่อง เลือกสวมใส่ Light Runic Attack : HEL’S TOUCH เข้าไปก็จะสามารถทำให้ขวานสามารถใช้พลังเสริมได้โดยการกด L1 ค้างแล้วกด R1
Light Runic Attack : HEL’S TOUCH LV1 - จะส่งผลให้ เกิดการอัดกระแทกพลังจากขวานไปที่ศัตรูที่อยู่ในระยะรอบๆตัวให้เกิดอาการหยุดชะงักและเสียจังหวะการโจมตี
Light Runic Attack : HEL’S TOUCH LV2 – เมื่อถูกคลื่นอัดกระแทกจะทำให้เกิดอาการมึนงง [ + 2 STUN]
Light Runic Attack : HEL’S TOUCH LV2 – เมื่อถูกคลื่นอัดกระแทกจะทำให้เกิดอาการมึนงงมากขึ้นและทำให้ศัตรูได้รับบาดเจ็บด้วย [ + 1 STUN / +1 Damage ]
Light Runic Attack (Leviathan Axe)
1.Njörd’s Tempest: โจมตีระยะด้วยการควงขวานหมุนรอบตัวอย่างรวดเร็ว สร้างความเสียหายอย่างรุนแรงให้กับศัตรูที่อยู่รอบตัวตำแหน่ง - อยู่ในLegendary Chest ที่ “Alfheim” หรือซื้อที่ร้านในราคา 30,000 Hacksilver / 20 Aegir’s Gold
2.Fury of the Ice Troll: โจมตีด้วยคลื่นอัดกระแทกรัศมีกว้างรอบตัวทำให้ศัตรูกระเด็นและทำให้มันช้าลง
ตำแหน่ง - อยู่ในหีบสมบัติใน “Völunder Mines“ ในห้องที่สู้กับบอส World Eater (เข้าได้หลังจากเควสย่อย Second Hand Soul ที่รับได้จาก Brok)
3.Tyr’s Revenge: โจมตีด้วยการขวางขว้านหมุนควงใส่ศัตรูที่เป็นเป้าหมายเดี่ยวทำให้ศัตรูถูกตรึงเอาไว้แล้วต่อด้วยการอัดกระแทกลงกับพื้น
ตำแหน่ง -อยู่ใน Legendary Chest ที่เขต “The Mountain”
4.Leviathan’s Wake: ขว้างขวานอย่างรุนแรงเป็นเส้นตรงระยะรัศมีการโจมตีที่ไกลขึ้น
ตำแหน่ง -อยู่ใน Legendary Chest ที่ “Veithurgard”
5.Charge of the White Bear: โจมตีด้วยการกางโล่เข้าวิ่งเข้าไปอัดกระแทกศัตรูด้วยคลื่นพลัง
ตำแหน่ง - อยู่ใน Legendary Chest ที่ “Foothills”
6.Wratch of the Frost Ancient: โจมตีด้วยการยิงคลื่นพลังความเย็นจากขวาน ทำให้ศัตรูที่โดนเคลื่อนไหวช้าลง
ตำแหน่ง - อยู่ใน Legendary Chest ใน “Fafnir’s Storeroom” หลังจากเควสย่อย “Fafnir’s Hoard“
7.Strike of the Utgard: โจมตีด้วยขวานในรัศมีทางตรงอย่างรุนแรงหลายครั้ง
ตำแหน่ง - อยู่ใน Legendary Chest ที่ “Alfheim”
เดินทางต่อไปยังจุดที่มีเสาหินใหญ่ขวางทางเครโทสจะยกมันออกจนทั้งคู่สามารถออกมาที่จุดที่มีสะพานแขวนได้
แต่ด้วยความไม่ระวังทำให้ Atreus ต้องตกลงไปด้านล่างเพราะดันไปยืนบนพื้นสะพานไม้เก่า ที่ด้านล่างทั้งคู่ต้องเจอกับศัตรูกลุ่มใหญ่ที่รออยู่
ที่นี่จะมีศัตรูรูปแบบใหม่ออกมาด้วย นั่นคือ Heavy Draugar ศัตรูที่โจมตีอย่างรุนแรงและไม่สามารถทำให้เสียจังหวะได้ในขณะมันโจมตี ต้องใช้การจังหวะหลบและโจมตีด้านหลังแทน จัดการมันให้หมด แล้วสำรวจพื้นที่ให้ทั่วๆแถวนี้จะมีอักขระข้อความของ Jötnar (โยตุน) อยู่ด้วย
Atreus – โอ้ ที่นี่เคยเป็นตลาดนี่ พวกยักษ์ใช้ที่นี่เป็นจุดแลกเปลี่ยนสิ่งของต่างๆกับพวกพระเจ้าเมื่อนานมาแล้ว น่าจะเป็นตอนก่อนที่จะเกิดสงครามใหญ่
จากนั้นปีนขึ้นไปบนซากสะพานขึ้นไปด้านบนจะพบทางเข้าไปยังถ้ำของ Revenant ทันทีที่เข้าไป Atreus ก็จะเริ่มได้ยินเสียงของบางสิ่งที่น่ากลัวดังขึ้นมา
เมื่อเข้ามาด้านในจะพบกับ Revenant (Poison) ศัตรูรูปแบบใหม่ที่เป็นแม่มดที่สามารถหายตัวหลบการโจมตีด้วยขวานของเครโทสได้จำเป็นต้องใช้วิธีสั่งให้ Atreus ยิงธนูใส่เพื่อให้มันเสียจังหวะถึงจะสามารถเข้าไปโจมตีมันโดน
เมื่อจัดการมันได้แล้วเดินทางทะลุออกด้านหลังถ้ำจะพบจุดที่สามารถปีนหน้าผาขึ้นไปด้านบนได้ แต่อย่าลืมแวะลงไปด้านล่างก่อน ถ้าผ่าน Heavy Draugar เลเวลม่วงไปได้ ด้านในมี 1453 Hacksilver กับ 12 Aegir’s Gold ให้เก็บในหีบสมบัติ จากนั้นค่อยปีนขึ้นไปต่อจนถึงด้านบนต่อ
เมื่อปีนขึ้นมาด้านบนแล้ว ลุยศัตรูเข้าไปด้านในสำรวจพื้นที่ให้ทั่วๆจะพบ Legendary Chest หีบสมบัติอักขระอยู่ ต้องทำลายตัวอักษรอักขระ 3 จุดคือ
ทางขวาของหีบ / ทางซ้ายของสะพานไม้ / ในถ้ำฝั่งตรงข้ามสะพานไม้ (การจะข้ามสะพานต้องใช้ขวานทำลายโซ่เพื่อทอดสะพานลงมาก่อน) ด้านในมี Iðunn Apple ให้เก็บ
จากนั้นข้ามสะพานไม้ไปต่อจนถึงสะพานไม้จุดที่ 2 ที่ถูกยกขึ้นอยู่ จัดการศัตรูในพื้นที่ให้หมดแล้วเข้าไปหมุนคันโยกเพื่อยกสะพานลง แต่ไม่สามารถเอาสะพานลงได้เพราะมีปูนถ่วงน้ำหนักอยู่
มองที่ใต้สะพานจะพบจุดที่มีการถ่วงน้ำหนัก ปรับให้จุดตัวเชื่อมให้ตรงกับช่องแล้วใช้ขวานปาไปทำลายมันซะ สะพานก็จะทอดลงมาได้
เมื่อข้ามสะพานไปอีกฝั่ง เข้าไปจนถึงประตูใหญ่ด้านใน ทันทีที่เปิดเข้าก็จะได้รับการต้อนรับจากพวก Reavers คนที่หิวโหยจนบ้าคลั่งพยายามจะจับ Kratos และ Atreus กินเป็นอาหาร เครโทสจึงต้องจัดการพวกมันแม้ว่าจะเป็นคนธรรมดาก็ตาม
และในขณะต่อสู้ Atreus เองก็จำเป็นต้องฆ่าชายคนนึงที่พยายามจะเข้ามาจับตัวเขาจนตาย ทำให้ Atreus เสียใจเป็นอย่างมากเพราะเป็นครั้งแรกที่เขาได้ฆ่าคน ทำให้ Kratos ต้องเข้ามาปลอบใจ
Kratos – ลืมมันซะไอ้หนู ไม่ต้องไปคิดถึงมัน ...เรามีภารกิจที่ต้องเดินทางอีกไกล เจ้าอยู่ตรงนี้นะ พ่อจะจัดการไอ้พวกบ้านั่นเอง
เครโทสต้องออกโรงจัดการพวกตัวประหลาดที่กลายร่างมากจากศพของพวก Reavers เองให้หมดเนื่องจาก Atreus กำลังสติแตกเพราะเพิ่งฆ่าคนด้วยมือตัวเองเป็นครั้งแรก
เมื่อจัดการศัตรูจนหมดแล้ว เครโทสจะเห็นโซ่ที่วางอยู่ชั้นบนที่น่าจะนำมาใช้ในการปีนขึ้นไปได้ จึงส่ง Atreus ให้ปีนขึ้นไปที่จุดปีนเพื่อไปเอาโซ่โยนลงมาด้านล่าง แต่ถึง Atreus จะยอมทำตามแต่ใจก็ยังเหม่อลอยคิดมากเรื่องการฆ่าคนอยู่ทำให้ Kratos ต้องตะโกนเตือนสติอยู่ข้างล่างตลอดเวลา
Kratos – Atreus ! ตั้งสติหน่อยไอ้หนู .. โซ่ !! …ไปเอาโซ่โยนลงมา .. อย่าคิดมากไอ้นั่นมันพยายามจะฆ่าเจ้าต่างหาก
Atreus – เรื่องนั้นผมรู้ มันก็แค่ ...
Kratos – ถ้าไม่ไหวเราก็กลับบ้านกันไอ้หนู เอามั๊ย? เสียดายที่ยอมแพ้ง่ายๆแค่นี้ เพิ่มเริ่มต้นได้แค่แปบเดียวเอง
Atreus – ห๊ะ !! ไม่ !! ไม่ๆๆ ผมยังไม่ยอมแพ้ ผมทำได้ ทำได้อยู่แล้ว
เมื่อ Kratos พูดปลุกใจจน Atreus กลับมามีสติอีกครั้ง ทันทีที่ Atreus โยนเชือกลงมา Kratos ก็จะสามารถปีนขึ้นไปด้านบนเพื่อเดินทางต่อได้ แต่เมื่อทั้งคู่เดินทางออกมาจนถึงสะพานแขวนขนาดใหญ่ก็ได้พบกับพ่อค้าที่กำลังมีปัญหาเรื่องสัตว์ที่ใช้ขนสินค้าไม่ยอมข้ามสะพานไปทำให้ทุกคนข้ามสะพานไม่ได้กันหมด
Brok – โทษทีนะ พอดีเจ้า Cocklump โง่เง่าสัตว์เลี้ยงข้าอยู่ๆมันก็ไม่ยอมข้ามสะพานซะงั้น
Atreus – มันคงอาจจะกลัวอะไรบางอย่างที่อยู่บนต้นไม้อีกฝากของสะพาน
Brok – แล้วจะให้ข้าทำยังไงได้ล่ะ
Atreus – พ่อครับ พ่อช่วยปาขวานไปที่ต้นไม้อีกฝากของสะพานหน่อยสิครับ
จากนั้นปาขวานไปที่ต้นไม้ฝั่งตรงข้ามจนมีตัวประหลาดที่หลบอยู่หนีไป เจ้า Cocklump ก็ยอมลุกขึ้นยืนแล้วเดินข้ามสะพานต่อได้ ทุกคนจึงได้ข้ามสะพานไปพร้อมๆกัน
Brok – ว้าววว เจ้ามันฉลาดใช่เล่นนี่ไอ้หนู ...ว่าแต่ผู้ชายใช่มั๊ยเนี่ย
Atreus – แล้วเจ้านี่มันมีชื่อป่ะครับ
Brok – มันชื่อ Dunno ... ตอนแรกนึกว่าจะถามชื่อข้าแต่ดันไปถามชื่อมันซะนี่
Atreus – แล้วคุณละชื่ออะไร?
Brok – ข้าชื่อ Brok …
Brok – เฮ้ออ ดูท่าเจ้าคงไม่ค่อยจะเชื่อใจข้าล่ะสิ .. แต่ นั่นขวานของเจ้าหรอ? ดูเหมือนข้าทำมันขึ้นมาเองแหละ ข้ากับพี่น้องข้า สุดยอดช่างก็คือพวกข้านี่แหละ ไม่มีใครเจ๋งไปกว่านี้อีกแล้ว แต่บอกเลยขวานด้ามนี้ไม่ธรรมดานะจะบอกให้ มันสามารถปรับแต่งได้ด้วย ข้าอัพเกรดมันให้ตอนนี้เลยก็ได้นะถ้าเจ้าต้องการ
Kratos – เจ้าพูดถูก ข้าไม่เชื่อใจเจ้าเลยซักนิด
Brok – เจ้าลองดูเครื่องหมายที่ด้ามขวานก็แล้วกัน นั่นน่ะตราประทับของข้า เป็นยี่ห้อของข้ากับพี่น้องข้าสร้างขึ้นมาเองแหละ นี่ไงตราประทับแบนด์ของข้า ว่าไง ตกลงเจ้าจะอัพเกรดหรือเปล่า เอาหรือไม่เอา ?
Kratos – ข้าอยากจะอัพเกรดมันมานานแล้วล่ะ
การอัพเกรดอาวุธ
ที่ร้าน Brok Shop จะสามารถอัพเกรดได้ทั้งอาวุธและชุดเกราะ โดยอาวุธนั้นสามารถเข้าไปอัพแกรดได้ในเมนู Upgrade และจำเป็นต้องใช้คีย์ไอเทมที่เรียกว่า Frozen Flame ในการอัพเกรดในแต่ละครั้งด้วย ซึ่ง Frozen Flame นั้นจะซ่อนอยู่ตามที่ต่างๆในโลกสามารถหาเก็บได้ระหว่างเดินทางการอัพเกรดอาวุธแต่ละครั้งจะทำให้อาวุธมีระดับเลเวลและ Strength ที่เพิ่มขึ้น ซึ่งจะเป็นส่วนหนึ่งที่จะทำให้ระดับค่า Exp และค่า Strength ในสเตตัสของเครโทสเพิ่มขึ้นตามไปด้วย
ส่วนชุดเกราะนั้นสามารถเข้าไปอัพเกรดได้ในเมนู CRAFT โดยการอัพเกรดชุดเกราะแต่ละครั้งนั้นต้องใช้ Hackssilver + ไอเทมวัตถุเสริมตามเงื่อนไข ในการอัพเกรด ซึ่งจะเป็นส่วนหนึ่งที่จะทำให้ระดับค่า Exp และค่า Defense ในสเตตัสของเครโทสเพิ่มขึ้นตามไปด้วย
หลังจากอัพเกรดทุกอย่างจนพอใจแล้ว ก่อนเดินทางต่อ ใช้ขวานทำลายผนึกโซ่ที่ยกสะพานให้ทอดลงจะมีทางลงไปเก็บไอเทมสะสมต่างๆที่ด้านล่างให้หมดก่อนแล้วค่อยปีนกลับขึ้นมาด้านบน
จากนั้นเข้าไปตรงประตูด้านบนของ Dwarven Shop หมุนคันโยกยกประตูขึ้นแล้วใช้ขวานปาไปแช่แข็งกลไกด้านบนประตูให้ค้างไว้ก็จะเข้าไปด้านในได้
เข้าไปตามทางด้านในจนถึงประตูเหล็กแหลม ใช้ขวานปาไปที่ตรงมุมขวาของประตูตรงบริเวณที่ไม่มีหนามประตูก็จะเปิดออก
ด้านในจะเป็นห้องกับดักหนาม ใช้ขวานปาตรงแผ่นไม่ฝั่งซ้ายของแกนหมุนตรงกลางจะทำให้กับดักเพดานหนามยกตัวขึ้นจนเห็นประตูทางออกที่ฝั่งตรงข้าม
ใช้ขวานปาไปแช่แข็งกลไกของแกนกลางให้ค้างเอาไว้แล้วโดดข้ามไปฝั่งตรงข้าม จัดการศัตรูที่ออกมให้หมด ตอนนี้สามารถใช้ได้แต่มือเปล่าเพราะขวานตรึงกลไกอยู่หรือจะใช้การรอให้ศัตรูออกมาเยอะ แล้วโดดกลับไปฝั่งเดิมเรียกขวานกลับมาให้เพดานหนามทับมันจนตายหมดก็ได้
เมื่อจัดการศัตรูจนหมดแล้วที่ฝั่งตรงข้ามจะมีกลไกแกนหมุนอยู่ที่มุมขวา เรียกขวานกลับมา (เพดานหนามจะค่อยๆเลื่อนลงมา) รีลปาขวานไปที่แผ่นไม้เพื่อทำให้แกนหมุน เพดานหนามก็จะยกตัวขึ้นสูงไปอีก ใช้ขวานปาไปแช่แข็งกลไกของแกนกลางไว้
มองด้านบนจะเห็นตัวอักษรอักขระของ Legendary Chest ตัวนึงอยู่ ปาขวานไปทำลายมันก่อน
แล้วรีบปาไปที่มุมขวาของประตูทางออกหลายๆครั้งจนกว่ามันจะเปิดก่อนที่เพดานหนามจะทับลงมาก็จะสามารถผ่านออกไปที่ประตูทางออกได้
ปีนขึ้นไปด้านบนของเพดานหนามจะพบ Legendary Chest ที่เพิ่งทำลายตัวอักษรอักขระตัวแรกไป จากนั้นก็มองหาอักษรอักขระอีก 2 ตัว
โดยตัวที่ 2 จะอยู่ด้านบนของเพดานหนามห้องแรก ต้องใช้ขวานปาแกนหมุนให้เพดานเลื่อนลงก่อนถึงจะทำลายมันได้
ส่วนอันที่ 3 เข้าไปที่พนังที่แตกไปตามทางก็จะพบตัวอักษรอักขระตัวที่ 3 อยู่ที่พนังถ้ำด้านใน
เมื่อทำลายตัวอักษรอักขระทั้ง 3 หมดแล้วก็จะสามารถเปิด Legendary Chest ได้แล้ว ด้านในจะได้ HORN OF BLOOD MEAD ไอเทมที่จะทำให้เกท Rage ยาวขึ้นเมื่อเก็บสะสมครบ 3 ชิ้น
Atreus – ว้าวว ผมไม่เคยเข้าใกล้ภูเขานั่นขนาดนี้มาก่อนเลย มันดูใหญ่มากๆเลยฮะ ผมว่าแม่คงมองเราลงมาจากที่นั่น .. ใช่มั๊ยฮะ
Kratos – มาเถอะไอ้หนู ไปต่อกันได้แล้ว
เดินทางต่อไปจนถึงประตูเหล็กทรงกลมขนาดใหญ่ที่ขวางทางอยู่ ด้านบนเนินตรงข้ามจะพบคันโยกที่สามารถกดแล้วทำให้ประตูทรงกลมหมุนได้ ทำให้เห็นสัญลักษณ์ที่สามารถใช้ขวานปาได้อยู่ด้านในรอยแตกของประตู
จากนั้นลงไปใช้ขวานปาเข้าไปที่สัญลักษณ์ด้านในที่หมุนเลื่อนไปมาจนกว่าตัวอักษรอักขระโบราณจะเรียงกันอย่างถูกต้อง
Kratos – ไอ้หนู มันเขียนว่าอะไร?
Atreus – โอ้ อ่อ มันเขียนว่า .. ครอบครัว ฮะ มันไม่ใช่เบาะแสแต่มันคือคำตอบ จากคำถามที่ว่า ชั้นไม่เคยโดดเดี่ยวอะไรแบบนี้มาก่อนเลยใช่มั๊ยฮะ
Kratos – เจ้าลองเอามีดเขียนอักษรพวกนี้ลงบนทรายสิ
Atreus – เอาจริงหรอฮะ ..อืมม ... Kynsloo …..มันเริ่มขยับแล้ว .. ประตูเปิดแล้วฮะพ่อ !!
เมื่อเปิดประตูออกได้แล้ว เข้าไปตามทางด้านในระหว่างทาง Atreus จะพบร่องรอยของสัตว์บางอย่างที่คาดว่าน่าจะเป็น หมูป่า Atreus จึงพยายามแกะรอยของมันไปต่อเพื่อล่ามัน แต่ทันทีที่เดินทางตามรอยไปจนถึงลานกว้างก็จะพบกับ โทรลขนาดใหญ่รออยู่
Boss – BRENNA DAUDI การต่อสู้ก็ไม่ต่างจากโทรล์ตัวแรกที่เจอแต่จะมีพวกศัตรูต่างๆออกมาร่วมแจมเพื่อสร้างความรำคาญด้วย
เมื่อจัดการ BRENNA DAUDI ลงได้จะได้รับ IVALDI’S ANVIL ซึ่งเป็น Heavy Runic Attack ที่สามารถนำไปส่วนใส่ในอาวุธที่จะทำให้เกิดท่าโจมตีเสริมด้วยการกด L1 ค้างตามด้วย R2
ซึ่ง Heavy Runic Attack: IVALDI’S ANVIL จะเป็นท่าอัดกระแทกขวานลงพื้นทำให้ศัตรูที่อยู่ในรัศมีทั้งหมดถูกแช่แข็งด้วยไอเย็น
Heavy Runic Attack (Leviathan Axe)
1. Thiazi’s Talon ท่าโจมตีด้วยการปล่อยคลื่นพลังขนาดเล็กออกจากขวานตำแหน่ง : พบใน Legendary Chest ที่เขต “Alfheim”
2. Mists of Helheim ท่าโจมตีกระแทกพื้นแล้วสร้างหมอกไอเย็นจากพื้นสร้างความเสียหายกับศัตรูในวงกว้าง
ตำแหน่ง : พบใน Legendary Chest ที่เขต “Iron Cove”
3. Frost Giant’s Frenzy โจมตีด้วยท่าทุบขวานลงพื้นหลายๆครั้งติดต่อกัน
ตำแหน่ง : ซื้อในร้านค้า ราคา 15,000 Hacksilver + 10 Aegir’s Gold
4. Blessings of the Frost สร้างออร่าพลังความเย็นห่อหุ้มขวานสร้างความเสียหายด้วยความเย็นขณะโจมตีทำให้ศัตรูที่โจมตีถูกแช่แข็งในระยะสั้นๆ
ตำแหน่ง : ซื้อในร้านค้า ราคา 50,000 Hacksilver + 30 Aegir’s Gold
5. Breath of Thamur โจมตีด้วยการสร้างพายุน้ำแข็งวนรอบตัวสร้างความเสียหายกับศัตรูเป็นวงกว้าง
ตำแหน่ง : ซื้อในร้านค้า ราคา 100 Smouldering Ember + 10 Crest of Flame + 5 Greater Crest of Flame + 1 Crest of Surtr
6. The River of Knives โจมตีด้วยเกล็ดน้ำแข็งจำนวนมากจากพื้นพุ่งไปหาศัตรู
ตำแหน่ง – ได้จาก บอส Jarn Fotr ตามเนื้อเรื่อง
7. Glaive Storm เมื่อโจมตีจนศัตรูกระเด็นไปแล้วขวานจะพุ่งติดตามเป้าหมายไปโจมตีซ้ำอย่างอัตโนมัติ
ตำแหน่ง : พบใน Legendary Chest ที่ “Buri’s Storeroom”
ในพื้นที่จะมี Legendary Chest อยู่ด้วย อักษรอักขระที่ต้องทำลายนั้น อันแรกแขวนอยู่ด้านบนของหีบสมบัติ อักษรตัวที่ 2 อยู่บนเนินเขาทางซ้ายของหีบสมบัติ ส่วนอักษรตัวที่ 3 ต้องย้อนกลับมาที่กลางแผนที่จะเห็นอยู่บนเนินหิน
แต่การปลดล็อกหีบครั้งนี้จะไม่เหมือนเดิมเพราะไม่ใช่การทำลายตัวอักษรที่ละตัว แต่ต้องใช้ขวานปาไปที่ตัวอักษรให้ไฟดับพร้อมๆกันทั้ง 3 อันโดยถ้าทำช้าไฟจะกลับมาติดเหมือนเดิม ซึ่งต้องพยายามปาไปที่ตัวอักษรทั้ง 3 สลับกันอย่างรวดเร็วจนกว่าไฟที่ตัวอักษรจะดับพร้อมกันก็จะสามารถปลดล็อกหีบสมบัติได้ ด้านในคือ Iðunn Apple ผลที่ 3 จะทำให้เกท HP ยาวขึ้นกว่าเดิมแล้ว
จากนั้น Atreus จะนำทางแกรอยต่อจนพบหมูป่าตัวที่ทิ้งรอยเท้าเอาไว้ แต่ลูกธนูที่ยิงออกไปที่แม้จะโดนกลางเป้าหมายกลับสะท้อนกลับเหมือนมีบางอย่างที่มองไม่เห็นกำบังไว้
Kratos – เอาล่ะ ยิงเมื่อเจ้าพร้อม ..อย่าลืมนะ ดึงสายธนูให้สุดจนมาแนบหน้าอก เจ้าหมูป่ามันหนีเก่ง
Atreus – ...อ้าวว ผมยิงมันถูกแล้วนะ ทำไม ... ยิงไม่เข้าหรอ? ผมทำตามที่พ่อบอกแล้วนะ แต่เหมือนลูกศรมันจะเด้งออก หรือเจ้าหมูป่าตัวนั้นจะมีเวทย์มนต์?
Kratos – แล้วเจ้าคิดว่ายังไงล่ะ?
Atreus – ผมรู้สึกว่า มันไม่เหมือนหมูป่าธรรมดาที่ผมเคยเห็นเลยจริงๆนะ
Atreus ตัดสินใจที่จะรีบตามเจ้าหมูป่าไปด้วยความแคลงใจอย่างรวดเร็วทำเอา Kratos ตามแทบไม่ทันจนต้องวิ่งตามค้นหา Atreus ที่วิ่งนำหน้าไปไกลจนทะลุถ้ำไปจนถึงป่าอีกด้าน
แม่มดป่า – ทำไมทำแบบนี้ มันไปทำอะไรให้ มันเป็นเพื่อนชั้นเอง
Kratos – เขาก็แค่ทำตามที่ข้าสั่งเท่านั้นแหละ
แม่มดป่า – งั้นก็มาช่วยแก้ไขในสิ่งที่ทำเลย กดที่แผลมันเอาไว้ มันกำลังเสียเลือดมาก นี่มันก็แทบจะเป็นตัวสุดท้ายของเผ่าพันธุ์ของมันแล้วนะแล้วเจ้าก็ยิงมันอีก !
แม่มดป่า – เจ้ายิงมันทำไม ล่าเป็นอาหารหรอ?
Kratos – ฝึกซ้อมล่าสัตว์
แม่มดป่า – ใช้มันเป็นเป้าฝึกซ้อมงั้นหรอ !!??
Atreus – ผมขอโทษจริงๆครับ
แม่มดป่า – กดเอาไว้นิ่งๆนะ เอาจริงๆมันก็ต้องโทษตัวชั้นเองด้วยแหละที่ไม่คอยดูแลมันให้ดี
Atreus – มันจะตายมั๊ยครับ?
แม่มดป่า – ชั้นจะไม่ยอมให้มันตายแน่นอน เจ้าช่วยอะไรหน่อย ตอนนี้หัวธนูมันฝังใน เอามือจับๆดูจนกว่าจะเจอ แล้วจับเอาไว้นิ่งๆก่อน เอาล่ะ ดี จากนั้นก็ดันมันย้อนออกมาตามรอยแผล ...เอาล่ะ ตอนนี้คงทำได้แค่นี้ ชั้นคงรักษามันจนเสร็จที่นี่ไม่ได้หรอก ต้องปรุงยาบางอย่างด้วย เจ้าต้องช่วยอุ้มมันไปที่บ้านของข้า เพราะ ถ้าปล่อยไว้มันตายแน่นอน
SANCTUARY GROVE
แม่มดป่า – ธนูนั่นไม่ใหญ่เกินไปสำหรับเจ้าใช่มั๊ย?
Atreus – แม่ผมทำให้น่ะครับ ..คงกะให้ผมใช้ไปจนโต
แม่มดป่า – ชั้นไม่เคยเห็นเจ้าในป่านี้มาก่อนเลย แม่เจ้าคงคิดถึงแล้วมั้งมาไกลถึงขนาดนี้
Atreus – แม่เค้า ... แม่ตายแล้วครับ เรากำลังเอาเถ้ากระดูกของแม่ไปไว้บนยอดเขา
แม่มดป่า – เถ้ากระดูกหรอ?
Atreus – เป็นคำสั่งเสียครั้งสุดท้ายของแม่ครับ
แม่มดป่า – ชั้น เอ่อ ... ชั้นเสียใจด้วยนะ ..... เอาล่ะ ถึงแล้ว
Atreus – คุณอาศัยอยู่ในต้นไม้หรอ?
แม่มดป่า – ไม่ใช่ข้างใน .. ข้างใต้ต่างหาก
Atreus – โว้ ...!!!! มันดุมั๊ยครับเนี่ยย
แม่มดป่า – รับประกันว่ามันปลอดภัยน่า ...เอาล่ะ ยกมันเข้าไปด้านในได้เลย
Atreus – คุณอยู่ที่นี่คนเดียวหรอครับ?
แม่มดป่า – มันดีแล้วสำหรับชั้น
Atreus – เยี่ยม พ่อผมก็ไม่ค่อยชอบสุงสิงกับผู้คนเหมือนกันเลย
แม่มดป่า – จับมันไว้ให้ดีๆ นิ่งๆ เดี๋ยวมันจะเจ็บ เอาล่ะ ตอนนี้ชั้นต้องการ 2 สิ่ง อย่างแรก พืชรากแดงตรงข้างๆบ้านชั้น หนูไปขุดมาให้หน่อยได้มั๊ย
Kratos – แล้วอีกอย่างล่ะ?
แม่มดป่า – ชั้น เอ่อ ... ชั้นรู้ว่าท่านเป็นเทพเจ้า ไม่ใช่เทพของดินแดนนี้ แต่เป็นเทพชัวร์แน่นอน ลูกท่านไม่รู้เรื่องนี้ใช่มั๊ย ตัวตนที่แท้แท้จริงของท่าน รวมถึงของเขาเองด้วย
Kratos – มันไม่ใช่เรื่องอะไรของเจ้าต้องกังวลนี่
แม่มดป่า – พระเจ้าของที่นี่ไม่ชอบพวกคนนอกนักหรอก เชื่อชั้นเถอะ ชั้นรู้ดี ถ้าพวกเขาเจอท่าน ซึ่งเจอแน่ เขาทำให้ท่านต้องลำบากแน่นอน ลูกของท่านก็ต้องการคำตอบเรื่องนี้เหมือนกัน
Kratos – นั่นมันปัญหาของข้า
แม่มดป่า – ไม่ว่าท่านจะพาเขาไปซ่อนตัวที่ไหน ท่านก็ไม่มีวันปกป้องเขาได้ตลอดหรอก ...แต่ท่านพูดถูก มันไม่เชื่อที่ชั้นต้องกังวัลอะไรหรอก … อ่อ สิ่งที่ชั้นต้องการอีกอย่างนึง ต้น Lamb's Cress รู้จักใช่มั๊ย มันอยู่ในสวนดอกไม้ของชั้นน่ะ ท่านไปเก็บมาให้หน่อย
เดินออกจากบ้านไปที่สวนข้างๆบ้านเก็บ ต้น Lamb's Cress มาให้แม่มดป่า แล้วออกไปช่วย Atreus ดึงต้นรากแดงให้เสร็จแล้วเอาทั้งหมดกลับมาให้แม่มดในบ้านอีกครั้ง
Kratos – ดึงไม่ออกหรอ เอานี่ช่วยสิ
Atreus – ผมทำมันตกหรอ?
Kratos – ตกตอนเจ้ากำลังล่าหมูป่าตัวนั้นน่ะ
Atreus – ผมนี่มันแย่จริงๆเลย ถ้าคราวหน้าผมทำหาย ..
Kratos – เจ้าทำหายไปแล้ว
Atreus – ... จากนี้ไปผมจะดูแลมันอย่างดีครับ
แม่มดป่า – นั่นแหละคือทั้งหมดที่เราต้องการล่ะ
Atreus – มันจะรอดมั๊ยครับ?
แม่มดป่า – แน่นอนจ๊ะ
Kratos – งั้นเราก็ไปกันได้แล้ว
แม่มดป่า – เดี๋ยว !! ข้ายังไม่ได้ขอบคุณท่านเลย
แม่มดป่า – ท่านชอบความสันโดษไม่ใช่หรอ? เวทย์มนต์ที่จะช่วยซ่อนพวกท่านจาก ....ใครก็ตามที่จะทำให้การเดินทางของท่าน ลำบากขึ้น
แม่มดป่า – เอาล่ะ ทางนี่คือทางลัดที่จะนำทางพวกเท่าออกจากป่านี้ได้อย่างปลอดภัย ตามทางไปเรื่อยๆวันเดียวก็ออกพ้นป่านี้แล้ว
Atreus – เราจะได้เจอกันอีกมั๊ยครับ?
แม่มดป่า – จะมากหรือน้อย นั่นมันก็แล้วแต่เจ้าจ๊ะ เอาล่ะไปได้แล้ว
Witch’s Cave
ทางลับใต้บ้านของแม่มดป่านิรนามจะเป็นถ้ำแม่มดพื้นที่ที่จะเชื่อมโยงไปที่ท่าเรือลับที่ซ่อนอยู่ ในพื้นที่จะมีมอนสเตอร์ชนิดใหม่คือ Nightmares ที่ต้องจัดการ
และในพื้นที่ก็จะมีไอเทมสำคัญอยู่ในหีบสมบัตินั่นคือ Talisman of concentrated Vitality : Common Talisman คุณสมบัติของมันคือเมื่อสวมใส่จะเพิ่มระดับสเตตัสด้านพลังป้องกันและพลังกายพร้อมๆกับสามารถฟื้นพลังชีวิตได้เล็กน้อยเมื่อกด L1 ค้าง + O
รายละเอียดและตำแหน่งของ Talisman ทั้งหมด
1.Talisman of Resolute Might (LV1)
คุณสมบัติ
- เพิ่มเติมสเตตัส defense และ strength
- เพิ่มพลังโจมตีและโอกาสที่ทำให้เกิดการโจมตีแบบ critical เมื่อพลังชีวิตเหลือน้อย
สถานที่ – ซื้อได้ในร้านค้า
2. Talisman of Resolute Protection (LV1)
คุณสมบัติ
- เพิ่มเติมสเตตัส defense และ health
- สามารถฟื้นพลังชีวิตได้มากกว่า Talisman of concentrated Vitality
สถานที่ – ซื้อได้ในร้านค้า
3. Talisman of Rejuvenating Fury (LV1)
คุณสมบัติ
- เพิ่มเติมสเตตัส defense
- สร้างเกราะที่มองไม่เห็นเพื่อเพิ่มพลังป้องกันให้เมื่อพลังชีวิตเหลือน้อย
สถานที่ – ซื้อได้ในร้านค้า
4. Talisman of Eternal Fury (LV2)
คุณสมบัติ
-เมื่อเริ่มใช้งานจะสร้างคลื่นพลังที่ทำให้ศัตรูโดยเริ่มเกิดความมึนงง
-จะช่วยเพิ่มพลังชีวิตให้เล็กน้อยเมื่อใช้ท่าจับศัตรูในขณะมึนงง
สถานที่ – ซื้อได้ในร้านค้า
5. Talisman of Betrayal (LV2)
คุณสมบัติ
-เพิ่มเกท Rage และช่วยเพิ่มระยะเวลาในการใช้ท่า Spartan Rage ให้นานขึ้น (R3)
สถานที่ – ได้เมื่อจบเควส Fáfnir’s Hoard
6. Amulet of Kvasir (LV2)
คุณสมบัติ
-ฟื้นฟูพลังชีวิตและทำให้สามารถใช้อบิลิตี้ Realm Shift ที่ทำให้ศัตรูช้าลงเมื่อหลบระยะประชิด
สถานที่ – พบใน Legendary Chest ที่ Alfheim (Light Elf Sanctuary)
7. Golden Talisman of Protection (LV2)
คุณสมบัติ
-เพิ่ม defense และความสามารถในการ parry
-สามารถฟื้นฟูพลังชีวิตได้เร็วขึ้นเมื่อถูกโจมตีด้วยการกด L1
สถานที่ –พบใน Legendary Chest ที่ Stone Falls
8. Talisman of Unbound Potential (LV2)
คุณสมบัติ - ลดการ cool down ในการใช้ Runic Attacks ทั้งหมด
สถานที่ –ซื้อได้ในร้านค้า
9. Horn of Heimdall (LV3)
คุณสมบัติ - ลดการ cool down ในการใช้ Runic Attacks ทุกครั้งเมื่อทำการ block หรือ parry อย่างสมบูรณ์แบบและ ปล่อยคลื่นพลังสวนกลับทำให้ศัตรูที่อยู่ในรัศมีเกิดอาการมึนงง
สถานที่ – ดร็อปจากบอส Dauði Hamarr ที่ Veithurgard
10. Aegir’s Protection (LV4)
คุณสมบัติ – ลดความเสียหายจากการโจมตีของศัตรู ลดโอกาสที่การโจมตีจะถูกศัตรูบล็อกและฟื้นฟูพลังชีวิตให้เล็กน้อย
สถานที่ – ดร็อปจากบอส Dark ElfLord ที่ Landsuther Mines
11. The Charm of Infinite Storms (LV4)
คุณสมบัติ - ลดความเสียหายจากการโจมตีของศัตรู ลดโอกาสที่การโจมตีจะถูกศัตรูบล็อกและสร้างความเสียหายให้ศัตรูด้วยพลังน้ำแข็ง
สถานที่ – พบใน Legendary Chest ที่ Helheim
12. Sinmara’s Cinder (LV5)
คุณสมบัติ-ลดโอกาสที่การโจมตีจะถูกศัตรูบล็อกและลดความเสียหายจากการเผาไหม้ที่เกิดจากศัตรูได้มากขึ้น
สถานที่ – ซื้อได้ในร้านค้าที่ Muspelheim
13. Talisman of Cursed Power (LV5)
คุณสมบัติ-ปลดปล่อยหมอกต้องสาป Cursed Mist ทำให้ศัตรูที่อยู่รอบๆอ่อนแอลง
สถานที่ – พบใน Realm Tears ที่ Niflheim
14. Hvergelmir Stone (LV6)
คุณสมบัติ -สร้างหมอกสำหรับฟื้นฟูพลังชีวิต (ทำให้เครโทสสามารถอยู่ใน Cursed Mist ที่ Niflheim ได้นานขึ้น)
สถานที่ – ซื้อได้ในร้านค้าที่ Niflheim
15. Talisman of the Realm (LV6)
คุณสมบัติ – ทำให้ศัตรูที่อยู่ในรัศมีรอบตัวช้าลงในระยะสั้น
สถานที่ – ดร็อปจาก Valkyrie Kara ใน Witch’s Cave
16. Shattered Gauntlet of Ages (LV6)
คุณสมบัติ – ยิงคลื่นพลังอัดกระแทกระยะไกล
สถานที่ – ดร็อปจากนักรบปริศนาที่เจอระหว่างเควส “Family Business” ของ Sindri ใน Northri Stronghold (สามารถทำได้หลังจบเควส “Fafnir’s Storeroom” ของ Sindri หลังจากจบ story chapter “The Sickness.”
17. Luck of Ages XP Talisman
คุณสมบัติ
- ได้ค่า XP มากขึ้น
- ได้ Hacksilver มากขึ้น
- สามารถใช้งานทุกอบิลิตี้ได้รวดเร็วมากขึ้น
สถานที่ - ไอเทมเฉพาะผู้ที่ preorder จากร้าน Gamestop
Atreus – ที่นี้เราก็จะได้ไปที่ภูเขานั้นได้เร็วขึ้นแล้ว ผมแทบไม่อยากเชื่อเลยว่ามาจะมาทำอะไรแบบนี้อยู่ที่นี่ ที่ผ่านมาก็ไม่เคยห่างเตียงตัวเองตลอดเลย ตอนนั้นยังคิดเลยว่านึกว่าจะไม่ได้ออกจากป่านั้นซะแล้ว
Kratos – เจ้าไม่จำเป็นต้องโทษอาการเจ็บป่วยของเจ้าหรอกนะ
Atreus – อ่อ เรื่องนั้นผมรู้ครับ ผมก็แค่พูดๆไปแค่นั้นแหละ แต่มันเป็นเรื่องที่เจ๋งมากเลยนะ .. นั่นไง ภูเขานั่น ใกล้เข้าไปทุกทีแล้ว
Kratos – เรากำลังจะออกทะเลกันแล้วนะ
Atreus – พ่อรู้ได้ไงครับ?
Kratos – เจ้าไม่ได้กลิ่นทะเลเลยรึไง?
Atreus – ถ้าไอ้กลิ่นนี่ คือกลิ่นทะเล มันก็เป็นกลิ่นทะเลที่เหม็นมากเลยฮะ
LAKE OF NINE
Atreus – ดูนั่นสิฮะพ่อ นั่น Thor …
Kratos – Thor เทพเจ้าสายฟ้า
Atreus – ใช่เลยคับ พ่อรู้ด้วยหรอ ผมนึกว่าพ่อไม่ได้ฟังตอนแม่เล่าเรื่องเหล่าเทพเจ้าซะอีก
Kratos – พ่อก็ไม่ค่อยได้ฟังหรอก … แล้ว แม่เค้าเล่าเรื่องไอ้คนที่ไม่รู้จักความเจ็บปวดนั่นบ้างรึเปล่า?
Atreus – โอ้ เหมือนกับเจ้าชื่อ Baldur นะครับ
Kratos – Baldur หรอ?
Atreus – เป็นเทพแห่ง Aesir บุตรแห่ง Odin กับ Frigg
Kratos – และ Odin ก็เป็นราชาแห่งทวยเทพทั้งมวล
Atreus – ก็ใช่ แล้ว พ่อถามทำไมหรอฮะ?
Kratos – ..........................
Atreus – ผมว่าผมเห็นแสงอะไรบางอย่างที่กลางทะเลสาปนะ ...ผมเห็น Rune อยู่ในเกราะรูปปั้นด้วยล่ะ
Atreus – มันอ่านว่า ..ต้องเสียสละอาวุธของเจ้าเพื่อให้ได้เข้าไปยังจุดกึงกลางน้ำแล้วตื่นขึ้นอีกครั้งที่จุดกำเนิดของโลก ... อืมม ...ให้โยนอาวุธ ลงน้ำหรอ? มันคงไม่เป็นปัญหาสำหรับพ่อใช้มั๊ย? แล้วพ่อตกลงจะลองทำมั๊ยล่ะ ?
เครโทสตัดสินใจที่จะยอมขว้างขวานออกไปตามที่อักขระโบราณบอกไว้ จนขวานที่ขว้างไปนั้นไม่สามารถเรียกคืนกลับมา ไม่นานแผ่นน้ำก็เริ่มปั่นป่วนจนเกิดคลื่นใหญ่ทำเอาเรือโคลงเคลงไปมา สัตว์ขนาดใหญ่ก็โผล่ออกมานำขวานกลับมาให้ตรงหน้า โดยที่ไม่รู้ที่มาและความตั้งใจ
Kratos – นี่มัน ....
Atreus – The World Serpent จอร์มุนกันด์
Kratos – เย็นไว้นะไอ้หนู
Atreus – ครับผม แต่มันสุดยอดมากเลย !!
Kratos – มันพูดอะไร !!??
Atreus – ไม่รู้ครับ แต่แม่เคยเล่าให้ฟังว่ามันเป็นมิตร ...โคตรเจ๋งบอกเลย !!
Atreus – นั่นไงครับซากเรืออัปปาง อยู่อีกฝากนั่นไงพ่อเห็นป่ะ? .. นั่นก็รูปปั้นของ Thor อีก ที่นี่ได้เห็นรูปปั้นของเขาเพียบเลย
Kratos – น้ำคงลดลงตอน จอร์มุนกันด์ ออกมานะสิ
Atreus – อ้าว ตรงนี้มีท่าเรือด้วยหรอ ทำไมเมื่อกี้ยังไม่เห็นเลย แล้วนั่นก็ภูเขาที่เราจะไปมองเห็นได้ชัดเลย ที่นี่สร้างขึ้นเพื่อเป็นทางเดินขึ้นไปยัง Golden Temple บนยอดเขาแน่เลย
Kratos – ส่วนใหญ่ก็จมอยู่ใต้น้ำหมดแล้ว
Atreus – ยกเว้นรูปปั้นนั่น เยี่ยมเลย และนั่นก็เป็นท่าเรือเป้าหมายแรกของเรา เราคงเป็นคนกลุ่มแรกที่เดินขึ้นไปที่นั่น ไกลแค่ไหนก็ไม่รู้เนอะ
Kratos – เจ้ารู้จัก The World Serpent จอร์มุนกันด์ นั่นมั๊ย?
Atreus – เขาก็เป็น Jötnar (โยตุน) ตนนึง และมีขนาดใหญ่มาก ใหญ่ขนาดสามารถที่หัวกัดหางของตัวเองได้จากอีกฝากของโลกเลยล่ะ
ตามนำนานกล่าวว่า The World Serpent หรือ จอร์มุนกันด์ (Jörmungandr) คือลูก 1 ใน 3 ที่เกิดจากความสัมพันธ์ที่ผิดพลาดระหว่าง โลกิกับ นางยักษ์อังเกอโบด้า (Angrboda) เมื่อครั้งมาเยื่อน โจตันเฮล์ม (Jotunheim) ดินแดนยักษ์น้ำแข็ง ประกอบด้วย Hel ลูกสาวคนโต มีร่างกายครึ่งซีกที่สวยงดงาม แต่อีกครึ่งซีกเป็นซากศพเน่าเฟะ , Fenrir หมาป่ายักษ์
และ จอร์มุนกันด์ ที่มีรูปลักษณ์เป็น งูยักษ์ที่มีดวงตาเป็นไฟ และมีลมหายใจเป็นพิษ มีเกล็ดแข็งมากจนไม่มีอาวุธอะไรผ่านเกล็ดของมันได้ จนเมื่อ Odin ผู้เป็นพ่อได้ทราบเรือถึงสิ่งเลวร้ายที่โลกิได้ถือกำเนิดมันขึ้นมาจึงรับไม่ได้แล้วรีบเดินทางมาโลกิถึงที่ทันที ก่อนที่จะลงมือเหวี่ยงงูยักษ์ จอร์มุนกันด์ ลงไปยังทะเลของ Midgard (โลกมนุษย์) ให้พ้นหูพ้นตา
จอร์มุนกันด์จึงอาศัยอยู่กลางทะเลของโลกมนุษย์นับจากนั้น แถมขนาดของตัวก็ใหญ่ขึ้นเรื่อยๆจนมีขนาดมหึมาที่มีหัวและหางที่กินพื้นที่รอบโลก
จอร์มุนกันด์ ยังถือว่าเป็นคู่ต่อสู้ที่เป็นไม้เบื่อไม้เมาของ Thor เทพเจ้าสายฟ้ามาแล้วถึง 3 ครั้ง จนครั้งสุดท้ายในสงครามแร็คนาร็อก แม้ว่า จอร์มุนกันด์ จะถูก Thor สังหารลงได้แต่ Thor ก็ต้องตายด้วยพิษร้ายของ จอร์มุนกันด์ ที่ได้พ่นกระจายไปทั่วท้องฟ้าเช่นกัน
Source:
https://en.wikipedia.org/wiki/J%C3%B6rmungandr
https://wonchul1002.wordpress.com/2014/02/28/%E0%B8%95%E0%B8%B3%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%9E/
https://my.dek-d.com/godmaster/writer/viewlongc.php?id=563723&chapter=206
Kratos – ดูเหมือนว่าน่าจะเป็นแบบนั้น
Brok – นึกว่าใคร เจ้าเครากับเจ้าจิ๋วนี่เอง มานี่ก่อน ข้ามีอะไรจะให้เจ้าสองคนด้วยนะ
Atreus – Brok หรอ? แล้วมาทำไรที่นี่เนี้ย
Brok – ไม่ใช่เรื่องของเจ้าหรอกน่า เอาล่ะเข้ามาข้างในร้านข้า ข้ามีอะไรจะให้ รับรองตาลุกวาวแน่นอน
Atreus – โอเค ... พ่อว่าเขาต้องการอะไรกันแน่เนี่ย
Kratos – คงทนสอบความอดกลั้นของเรามั้ง
Brok – เอ้า !! รับไป แล้วก็ลองไปใช้กับเศษหินตรงนั้น มันคือ Key of Yggdrasil ที่สามารถเปิดประตูเวทย์มนต์ไปยังที่ไหนก็ได้ทั่วต้นไม้แห่งโลกเลยล่ะ
ถ้าเจ้าเห็นประตูนี่ที่ไหนของโลกเจ้าก็จะสามารถกลับมาที่ร้านของข้าภายในเวลาแปบเดียวเอง มันเป็นทางเดียวที่จะกลับมาที่นี่ได้อย่างสะดวกสะบายที่สุด
ที่ร้านของ Brok สาขาใหญ่นี้ จะสามารถ CRAFT ชุดป้องกันต่างๆและ CRAFT ด้ามขวาน (Axe Pommels) เพื่อเพิ่มเป็นความอบิลิตี้เสริมให้ขวานได้ด้วย นอกจากยังมีไอเทมใหม่ขายเพิ่มเติมในเมนู enchantment คือ Symbol ชนิดต่างๆสำหรับสวมใส่ตามชุดป้องกันที่มีช่องเสริมเพื่อเพิ่มสเตตัสให้ดีขึ้น
Basic Enchantment
1.Symbol of Shadows
คุณสมบัติ Luck +5
ได้จาก: ซื้อได้หลังจาก Brok เปิดร้านใหม่
2. Symbol of Truth
คุณสมบัติ Strength + 3 / Runic +3
ได้จาก: ซื้อได้หลังจาก Brok เปิดร้านใหม่
3. Symbol of Menace
คุณสมบัติ Vitality +3
ได้จาก:ซื้อได้หลังจาก Brok เปิดร้านใหม่
4. Symbol of Courage
คุณสมบัติ Strength + 3
ได้จาก: ซื้อได้หลังจาก Brok เปิดร้านใหม่
5. Symbol of Defiance
คุณสมบัติ Cooldown + 3
ได้จาก: ซื้อได้หลังจาก Brok เปิดร้านใหม่
6.Etched Crest of Defiance
คุณสมบัติ Cooldown + 3
ได้จาก: ซื้อได้หลังจาก Brok เปิดร้านใหม่
7.Etched Crest of Defiance
คุณสมบัติ : มีโอกาสสูงที่จะได้รับ Runic เพิ่มเมื่อทำการ parry อย่างสมบูรณ์ / +3 Cooldown
ได้จาก: ดร็อปจากศัตรูที่ Alfheim ในเนื้อเรื่อง dark elves
8.Etched Crest of Cunning
คุณสมบัติ : มีโอกาสสูงที่จะได้รับ Runic เพิ่มเมื่อทำการ parry อย่างสมบูรณ์ / +3 Runic
ได้จาก: ดร็อปจากศัตรูที่ Alfheim ในเนื้อเรื่อง dark elves
9.Etched Relic of Providence
คุณสมบัติ : มีโอกาสสูงที่จะได้รับ Runic เพิ่มเมื่อเครโทสพลังชีวิตเหลือต่ำที่สุด/ + 2 DEF, +6 LUCK
ได้จาก: ดร็อปจากศัตรูที่ Alfheim ในเนื้อเรื่อง dark elves
10. Inlaid Crest of Shadows + Luck [ Duelist Protective Barrier ]
คุณสมบัติ : มีโอกาสสูงที่จะสร้างบาเรียป้องกันเมื่อทำการ parry อย่างสมบูรณ์ / +5 Luck
11.Inscribed Crest of Menace [ Defender's Cooldown ]
คุณสมบัติ : มีโอกาสปานปลางที่จะได้รับการ cooldown เมื่อทำการบล็อกอย่างสมบูรณ์
6.Jagged Sign of Cunning [ Berserker's Rage ]
คุณสมบัติ : มีโอกาสน้อยที่จะได้รับ rage burst เมื่อถูกโจมตี
12.Sigil of the Axe [ Axe throw mastery ]
คุณสมบัติ : เพิ่มความรุนแรงของการขว้างขวานขึ้นอีก 6% - 18%
ได้จาก : Hunter's Kingdom Treasure Map
13.Sigil of the Weapon [ Permafrost/Immolation Bonus ]
คุณสมบัติ : เพิ่มความรุนแรงของ Frostburn และ Immolation
อีก 6% - 18%
14.Sturdy Sign of Courage
คุณสมบัติ : มีโอกาสน้อยที่จะได้รับพลังป้องกันเพิ่มขึ้นเมื่อถูกโจมตี / + Strength
15.Sturdy Sign of Menace
คุณสมบัติ : มีโอกาสน้อยที่จะได้รับพลังป้องกันเพิ่มขึ้นเมื่อถูกโจมตี / + Vitality
รายละเอียดของ ด้ามขวาน (Axe Pommels) ชนิดต่างๆ
Common Axe Pommels
1.Wooden Grip ด้ามไม้ที่มีแต่แรกแล้ว
2. Weighted War Handle (+4 Strength /+3 Luck)
ความสามารถเสริม : Executioner’s Strength มีโอกาสสูงที่จะเพิ่มความแข็งแกร่งให้หลังจากจัดการศัตรูด้วยท่า Skill Executioner’s Cleave
3.Curved Runic Handle (+4 Strength /6 Runic)
ความสามารถเสริม :Marksman’s Runic มีโอกาสเล็กน้อยที่จะได้รับ Runic เมื่อจัดการศัตรูด้วยท่า Skill precision throw
4.Weighted Recovery Handle (+4 Strength /2 Cooldown)
ความสามารถเสริม :Executioner’s Cooldown
มีโอกาสสูงที่จะได้รับ Cooldown หลังจากจัดการศัตรูด้วยท่า Skill Executioner’s Cleave
5.Curved Recovery Handle (+2 Strength /4 Cooldown)
ความสามารถเสริม : Marksman’s Cooldown มีโอกาสสูงที่จะได้รับ Runic เมื่อจัดการศัตรูด้วยท่า Skill precision throw
6.Versatile Warrior’s Handle (+2 Strength /2 Defence / 2 Luck)
ความสามารถเสริม : Adept Warrior เพิ่มสเตตัส STRENGTH, DEFENCE, LUCK ของผู้ใช้
7.Weighted Runic Handle (+4 Strength / 4 Runic / 2 Cooldown)
ความสามารถเสริม :Executioner’s Runic มีโอกาสสูงที่จะได้รับ Runic หลังจากจัดการศัตรูด้วยท่า Skill Executioner’s Cleave
8.Curved War Handle (+8 Strength)
ความสามารถเสริม : Marksman’s Strength มีโอกาสสูงที่จะได้รับความแข็งแกร่งเพิ่ม เมื่อจัดการศัตรูด้วยท่า Skill precision throw
9.Curved Grip of Fury (+2 Strength / + 6 Vitality) ความสามารถเสริม : Marksman’s Rage Burst มีโอกาสเล็กน้อยที่จะได้รับค่า Rage Burst เมื่อจัดการศัตรูด้วยท่า Skill precision throw
Rare Axe Pommels
1. Light War Handle (+4 Strength / +6 Runic / +3 Luck)
ความสามารถเสริม: Rising Strength มีโอกาสสูงที่จะได้รับพลังโจมตีที่สูงขึ้นเมื่อจัดการศัตรูจนลอยขึ้นบนอากาศ
2.Light Grip of Protection (+4 Strength / +4 Defence / +6 Vitality)
ความสามารถเสริม: Rising Protective Barrier มีโอกาสสูงที่จะได้รับบาเรียปกป้องเมื่อสามารถป้องกันความเสียหายจากการโจมตีของศัตรู และ จัดการศัตรูจนลอยขึ้นบนอากาศ
3. Deadly Grip of Fury (+10 Strength)
ความสามารถเสริม: Slayer’s Rage Burst เมื่อจัดการศัตรูด้วยท่า Skill ของขวานอะไรก็ได้จะได้รับค่า Rage Burst
4. Deadly Grip of Vitality (+4 Strength / +10 Vitality)
ความสามารถเสริม:Slayer’s Health Burst เมื่อจัดการศัตรูด้วยขวาน จะได้รับค่า Health Burst
5.Weighted Grip of Restoration (+6 Strength / +8 Vitality / 6 Luck)
ความสามารถเสริม: Executioner’s Health Burst มีโอกาสสูงที่จะได้รับค่า Health Burst เมื่อจัดการศัตรูด้วยท่า Executioner’s Cleave
6. Curved Grip of Restoration (+8 Strength / 10 Luck)
ความสามารถเสริม: Marksman’s Health Burst มีโอกาสสูงที่จะได้รับค่า Health Burst เมื่อจัดการศัตรูด้วยท่า precision throw.
7. Ymir’s Breath (+4 Strength / +10 Runic / +3 Luck)
ความสามารถเสริม: Ymir’s Vengeance มีโอกาสเล็กน้อยที่จะสร้างระเบิดน้ำแข็งจากทุกๆการโจมตีด้วยขวาน
8. Grip of Völunder (+6 Strength /+6 Defence) ความสามารถเสริม: Warrior’s Protective Barrier มีโอกาสน้อยมากที่จะได้รับบาเรียปกป้องความเสียหายจากการโจมตีของศัตรูเมื่อโจมตีศัตรูด้วยขวาน
Legendary Axe Pommels
1. Grip of Tanngiost (+6 Strength / +6 Runic / +6 Luck)
ความสามารถเสริม: Fist of Thor มีโอกาสน้อยมากที่จะทำให้เกิดระเบิดสายฟ้าช็อตศัตรูรอบทุกครั้งที่โจมตีด้วยขวาน
2.Forbidden Grip of the Ages (+6 Strength / +6 Runic / +6 Luck / +6 Defence /+6 Vitality / +6 Cooldown )
ความสามารถเสริม: Word of Ages เพิ่มทุกสเตตัสของเครโทสให้สูงขึ้น และทำให้เกิดคลื่นอัดกระแทกศัตรูเมื่อโจมตีจบคอมโบแรก
3. Hraezla Farmadr’s Grip (+2 Strength /+6 Vitality / +13 Luck )
ความสามารถเสริม: Warrior’s Health Burst มีโอกาสน้อยที่จะได้รับค่า Health Burst จากทุกการโจมตีด้วยขวาน
4.Surtr’s Grip of Flame (+8 Strength / +13 Runic )
ความสามารถเสริม: Wrath of Flame มีโอกาศน้อยที่จะเกิดท่า Wrath of Flame (เพิ่มพลังโจมตี เพิ่มพลังชีวิตเล็กน้อย และทำให้ศัตรูที่ถูกโจมตีไหม้ไฟ) ในทุกๆการโจมตี
5.Grip of the Maze (+12 Strength /+8 Vitality / +18 Luck )
ความสามารถเสริม: Cleansing Light มีโอกาสสูงมากที่พลังของเกราะกำบังหมอกต้องสาป (ที่ Niflheim) จะฟื้นคืนในทุกครั้งที่กำจัดศัตรูลงได้
Epic Axe Pommels
1. Retribution (+12 Strength /+10 Luck / +15 Cooldown)
ความสามารถเสริม: Queen’s Wrath เพิ่มการโจมตีด้วยการขว้างขวานแล้วเรียกกลับ และเพิ่มโอกาสเล็กน้อยที่จะเกิดการระเบิดเมื่อโจมตีถูกศัตรู
2. Wing of the Fallen (+16 Strength / +6 Cooldown)
ความสามารถเสริม: Power of the Valkyri มีโอกาสปานกลางที่จะได้พลังแห่ง Valkyrie (เพิ่ม RUNIC และ STRENGTH)
3.Valkyrie’s Might (+10 Strength /+10 Runic / +16 Luck)
ความสามารถเสริม: Strike of the Valkyri มีโอกาสปานกลางที่จะเกิดการโจมตีด้วยพลัง Valkyrie (ทำให้เกิดการระเบิดในการโจมตีครั้งต่อไป) เมื่อโจมตีด้วยท่า Skill Executioner’s Cleave
แต่มีโอกาสน้อยที่จะเกิดการระเบิดในการโจมตีทุกครั้ง
4. Blightbringer (+12 Strength /+8 Runic / +15 Defence)
ความสามารถเสริม: Curse of the Mist มีโอกาสน้อยที่จะทำให้ศัตรูติดคำสาปในการโจมตีทุกๆครั้ง
5. Mistbourne (+12 Strength /+6 Defence / +15 Vitality)
ความสามารถเสริม: Healing Mist มีโอกาสน้อยที่จะเกิดหมอกเยียวยา (ฟื้นฟูพลังชีวิตและ Runic) ในทุกครั้งที่โจมตีศัตรู
เสร็จธุระที่ Brok Shop แล้วเดินทางต่อไปในพื้นที่ลานกว้างขนาดใหญ่จะเริ่มพบศัตรูรูปแบบใหม่ พวก Reaver ที่จะระเบิดตัวเองได้ตอนตาย เมื่อเข้ามาถึงประตูใหญ่จะมีลิฟต์ขนาดเล็ก 2 ด้านที่ลงไปด้านล่างได้ แวะลงไปเก็บไอเทมทางฝั่งซ้ายและฝั่งขวาก่อน
ซึ่งฝั่งขวาจะเป็นส่วนของทางไป Lookout Tower ที่ยังไปต่อไม่ได้ แต่จะมีไอเทมสำคัญตกอยู่นั่นคือ แผนที่สมบัติ Treasure Map Hunter’s Kingdom
และตรงจุดนี้ก็จะมี Legendary Chest อยู่ด้วย การปลดล็อกหีบอักขระทำได้โดยใช้ขวานปาแผ่นไม้ให้แกนหมุนทำงาน เหล็กแหลมที่กั้นกระถางอักขระทั้ง 3 จุดจะลดลงก่อน จากนั้นก็ใช้ขวานปาโถอักขระให้ไฟดับลง 3 อันพร้อมกันให้ได้ โดยต้องปาขวานไปที่โถอักขระทั้ง3 สลับไปมาพร้อมกับปาแผ่นไม้เพื่อไม่ให้เหล็กแหลมขึ้นมากั้นด้วย ด้านในจะได้ Iðunn Apple (1 / 3 )
จากนั้นกลับไปเข้าประตูใหญ่ของหอคอยไปต่อ ลุยเข้าไปด้านใน ระหว่างทางจะเจอกระถางพิษ ที่เมื่อเข้าไปใกล้จะทำให้พลังชีวิตลดลง ต้องใช้ขวานปาเข้าไปใช้น้ำแข็งเคลือบเอาไว้พิษถึงไม่ออกมาจึงจะสามารถผ่านเข้าไปได้ (แต่ขวานยังจะติดอยู่กับกระถางพิษ)
ลุยเข้าไปด้านในจะพบศัตรูรูปแบบใหม่คือตัว Tatzelwurm ที่โจมตีด้วยการมุดดิน ระหว่างทางจะพบหีบกะโหลกม่วงที่ด้านในมี Realm of Fire (1 / 4 ) จากนั้นสำรวจพื้นที่ให้ทั่วๆแล้วเดินทางไปจนถึงทางออกก็จะออกมาถึงเขต FOOTHILLS
Atreus – พ่อที่นี่มี Dwarf อยู่ด้วย เราคุยกับเขาได้มั๊ยครับ?
Kratos – ไม่ได้ !! เขาไม่สำคัญอะไรหรอก
Sindri – หืมม .. อ่าๆๆ โทษทีนะครับ คุณได้ขวานนั่นมาจากไหนหรอ?
Kratos – นั่นมันเรื่องของข้า
Sindri – เออ คือ แบบ ข้าไม่ได้ชวนทะเลาะนะแต่ ข้ารู้จักขวานนั่นดี มันเป็นของชิ้นพิเศษที่เราทำขึ้น และเราจำได้ว่าเราไม่ได้ทำให้เจ้า
Kratos – ถอยไป
Sindri – มะ ไม่ได้หรอก เพราะ ผู้หญิงเราทำขวานนี้ให้ นาง เอ่อ ข้าตามหานางมาตลอดแต่ไม่พบเลย หายสาบสูญ ...หรือว่า เจ้าทำอะไรกับนางลงไป ...
Atreus – นางเป็นแม่ของข้า ... และ .. เพิ่งตายไปไม่นานนี่เอง
Sindri – Faye ตายแล้วหรอ? ข้า ... ข้าเสียใจที่ได้ยินแบบนี้ นางเป็นนักรบที่เก่งกาจและเป็นผู้หญิงที่ดีคนนึง .... โอเค !! ข้าจะอัพเกรดขวานนั่นให้เอง !!
Atreus – แต่ ...เอ่อ ไม่มีใครขอให้เจ้าทำนะ
Sindri – ก็จริง แต่ ข้ารู้จักแม่ของเจ้าและนางก็เคยบอกให้ข้าอัพเกรดขวานให้ แล้วข้าก็เคยซ่อมขวานของนางมาก่อนแล้วจากที่พี่ข้าได้ทำมันเสียไว้
Atreus – อ๋อ ข้ารู้แล้ว เจ้าคือพี่น้องของ Brok นั่นเอง !! มีตราของแบนด์อยู่นี่ด้วย
Kratos – เจ้าตัวฟ้านั่นใช่พี่น้องเจ้ารึเปล่า?
Sindri – ใช่ แม้ว่าข้าจะเก่งกว่าเยอะก็เถอะ ไม่ได้โม้นะ สาบานต่อ Freya เลย
Kratos – อย่าทำให้งานของเขาเสีย ..แค่อัพเกรดให้ดีขึ้นแค่นั้น เข้าใจมั๊ย?
Sindri – ได้ เข้าใจแล้ว แต่เจ้าช่วยเอามันไปวางบนโต๊ะนั่นหน่อยได้มั๊ยล่ะ
Kratos – ไม่ !!
Sindri – หยาบคาย ....โอเค งั้นข้า ข้าจะ ถือไปเองก็ได้ ... อ๊ากกก นั่นคราบเลือดใช่มั๊ยน่ะ?
Atreus – แล้ว ตอนนี้เจ้ากำลังทำงานอะไรอยู่ล่ะ?
Sindri – อ๋อ นั่นน่หรอ ข้าเรียกมันว่า Sky Mover เอาไว้สำหรับขนไอเทมที่หาได้ลงมาจากภูเขาน่ะ บนนั้นน่ะขุมทรัพย์ของดีเลยน่ะนะ ข้าจะขนมันลงมาให้หมดเลยคอยดู
หลังจากขวาน Leviathan ได้รับ Mark of the Dwarves +1 แล้ว Sindri ยังมีไอเทมดีๆจะนำเสนอขายอีก นั่นคือ Resurrection Stones หินแห่งชีวิตที่จะสามารถทำให้เครโทสฟื้นจากความตายได้หากมีมันอยู่ด้วยการกดสี่เหลี่ยมเมื่อพลังชีวิตหมดขณะต่อสู้
Sindri – Freya นางเป็นผู้หญิงพิเศษ นางชอบปกป้องผู้คน ข้าคิดว่ามันเป็นโอกาสที่ดีของพวกเราที่จะให้อาวุธที่ทรงพลังกับใครซักคนที่จะนำมันไปใช้ในทางที่ดี นางชอบพูดประโยคหนึ่งติดปากอยู่บ่อยๆ นางว่า
Maðurinn sem gengur eigin vegum hans gengur einn
(The man who walks his own way walks alone)
เมื่อเสร็จธุระที่ Sindri Shop แล้ว เดินทางต่อไปยังจุดหมายของภารกิจต่อ ลุยผ่านป่าไปจนพบ Legendary Chest ที่การปลดผนึกหีบนั้นต้องใช้ขวานปาตัวหมุนป้ายตัวอักษรอักขระ 3 อันที่อยู่รอบๆให้ถูกดังนี้
ด้านในจะได้ Horn of Blood Mead ( 2 / 3 ) จากนั้นเดินทางต่อไปยังเป้าหมายของภารกิจที่ต้องเจอกับไหพิษมากมายระหว่างทางที่ต้องใช้ขวานแช่แข็งมันไปเรื่อยๆจนสามารถปีนขึ้นมาที่ประตูใหญ่ด้านบนเนินเขาได้ ด้านหน้าประตูจะมีศัตรูมากมายที่ต้องจัดการรวมถึงเจ้า OGRE ยักษ์ที่ไม่ได้รับเชิญด้วย
OGRE จะออกมาพร้อมศัตรูชนิดอื่นๆมากมายที่มาช่วยก่อความรำคาญและทำให้ทุกอย่างยากขึ้น จัดการพวกมันให้หมด เมื่อผ่านพ้นประตูใหญ่ไปก็จะเข้ามาถึงเขต Mountain’s Base
เมื่อมาถึงส่วนกลางของภูเขา ปลายทางที่ตั้งใจจะอยู่ไม่ไกลเท่าไหร่แล้วแต่ทั้งคู่ก็พบกับอุปสรรคใหม่ หมอกควันสีดำประหลาดที่ขวางทางเอาไว้ทำให้ขึ้นไม่ได้ง่ายจากที่นี่เหมือนอย่างที่ตั้งใจ
Atreus – อ๊ากก นี่มันอะไรเนี่ยย
Kratos – เราคงต้องหาเส้นทางขึ้นเขาทางใหม่กันแล้วล่ะ
Atreus – คุณแม่มดไงครับพ่อ ถ้าพานางมาที่นี่ รับรองนางช่วยเราผ่านไปได้แน่นอน
แม่มดป่า – เสียใจด้วยนะ เวทย์มนต์ของชั้นคงทำอะไร Black Breath ไม่ได้หรอก และ แถวๆนี้ก็ไม่มีทางอื่นจะไปได้อีกด้วย Odin ทำไว้ป้องกันภัยมาตั้งนานแล้ว
Atreus – คุณมาทำอะไรที่นี่อ่ะครับ
แม่มดป่า – มาตรวจดูว่าการเดินทางของเธอจะถึงเป้าหมายอย่างปลอดภัยไงจ๊ะ
Kratos – ทำไมเจ้าถึงมาคอยเตือนพวกเรา?
แม่มดป่า – เพราะงานของชั้นคือช่วยเพื่อนให้ปลอดภัยไง ท่านจำไม่ได้หรอ
แม่มดป่า – Black Breath เป็นเวทย์มนต์ที่ชั่วร้ายที่ชั้นไม่สามารถลบล้างมันได้ มีสิ่งเดียวที่มีพลังมากพอที่จะทำลายมันได้คือ Light of Alfheim เท่านั้น แต่ทางที่จะไปที่นั่นก็ไกลมากเหมือนกัน ..เป้าหมายในภารกิจของท่านสำคัญมากแค่ไหนกันหรอ?
Atreus – สำคัญกว่าทุกสิ่งเลยล่ะ
แม่มดป่า – งั้นตามชั้นมา
Kratos – ทำไมถึงช่วยพวกเรา ?
แม่มดป่า – บางทีอาจเพราะชั้นเห็นบางอย่างที่มากกว่าชั้นมีในตัวท่าน บางที ถ้าชั้นช่วยท่าน มันอาจจะเป็นโอกาสที่ได้แก้ไขความผิดพลาดในชีวิตชั้นก็ได้ หรือไม่ บางทีอาจเพราะชั้นชอบพวกท่านก็ได้
Atreus – แม้ว่าเราจะเป็นคนยิงเจ้าหมูเพื่อนของเจ้างั้นหรอ?
แม่มดป่า –แม้ว่าเจ้าจะเป็นคนยิงเจ้าหมูเพื่อนของชั้น ... ใช่
Kratos – เราจะไปที่ไหนกัน
แม่มดป่า – ดินแดนอันไกลโพ้นที่เกินขอบเขตของตัวท่านเองยังไงล่ะ ..
ซึ่งฝั่งขวาจะเป็นส่วนของทางไป Lookout Tower ที่ยังไปต่อไม่ได้ แต่จะมีไอเทมสำคัญตกอยู่นั่นคือ แผนที่สมบัติ Treasure Map Hunter’s Kingdom
และตรงจุดนี้ก็จะมี Legendary Chest อยู่ด้วย การปลดล็อกหีบอักขระทำได้โดยใช้ขวานปาแผ่นไม้ให้แกนหมุนทำงาน เหล็กแหลมที่กั้นกระถางอักขระทั้ง 3 จุดจะลดลงก่อน จากนั้นก็ใช้ขวานปาโถอักขระให้ไฟดับลง 3 อันพร้อมกันให้ได้ โดยต้องปาขวานไปที่โถอักขระทั้ง3 สลับไปมาพร้อมกับปาแผ่นไม้เพื่อไม่ให้เหล็กแหลมขึ้นมากั้นด้วย ด้านในจะได้ Iðunn Apple (1 / 3 )
จากนั้นกลับไปเข้าประตูใหญ่ของหอคอยไปต่อ ลุยเข้าไปด้านใน ระหว่างทางจะเจอกระถางพิษ ที่เมื่อเข้าไปใกล้จะทำให้พลังชีวิตลดลง ต้องใช้ขวานปาเข้าไปใช้น้ำแข็งเคลือบเอาไว้พิษถึงไม่ออกมาจึงจะสามารถผ่านเข้าไปได้ (แต่ขวานยังจะติดอยู่กับกระถางพิษ)
ลุยเข้าไปด้านในจะพบศัตรูรูปแบบใหม่คือตัว Tatzelwurm ที่โจมตีด้วยการมุดดิน ระหว่างทางจะพบหีบกะโหลกม่วงที่ด้านในมี Realm of Fire (1 / 4 ) จากนั้นสำรวจพื้นที่ให้ทั่วๆแล้วเดินทางไปจนถึงทางออกก็จะออกมาถึงเขต FOOTHILLS
FOOTHILLS
Atreus – พ่อที่นี่มี Dwarf อยู่ด้วย เราคุยกับเขาได้มั๊ยครับ?
Kratos – ไม่ได้ !! เขาไม่สำคัญอะไรหรอก
Sindri – หืมม .. อ่าๆๆ โทษทีนะครับ คุณได้ขวานนั่นมาจากไหนหรอ?
Kratos – นั่นมันเรื่องของข้า
Sindri – เออ คือ แบบ ข้าไม่ได้ชวนทะเลาะนะแต่ ข้ารู้จักขวานนั่นดี มันเป็นของชิ้นพิเศษที่เราทำขึ้น และเราจำได้ว่าเราไม่ได้ทำให้เจ้า
Kratos – ถอยไป
Sindri – มะ ไม่ได้หรอก เพราะ ผู้หญิงเราทำขวานนี้ให้ นาง เอ่อ ข้าตามหานางมาตลอดแต่ไม่พบเลย หายสาบสูญ ...หรือว่า เจ้าทำอะไรกับนางลงไป ...
Atreus – นางเป็นแม่ของข้า ... และ .. เพิ่งตายไปไม่นานนี่เอง
Sindri – Faye ตายแล้วหรอ? ข้า ... ข้าเสียใจที่ได้ยินแบบนี้ นางเป็นนักรบที่เก่งกาจและเป็นผู้หญิงที่ดีคนนึง .... โอเค !! ข้าจะอัพเกรดขวานนั่นให้เอง !!
Atreus – แต่ ...เอ่อ ไม่มีใครขอให้เจ้าทำนะ
Sindri – ก็จริง แต่ ข้ารู้จักแม่ของเจ้าและนางก็เคยบอกให้ข้าอัพเกรดขวานให้ แล้วข้าก็เคยซ่อมขวานของนางมาก่อนแล้วจากที่พี่ข้าได้ทำมันเสียไว้
Atreus – อ๋อ ข้ารู้แล้ว เจ้าคือพี่น้องของ Brok นั่นเอง !! มีตราของแบนด์อยู่นี่ด้วย
Kratos – เจ้าตัวฟ้านั่นใช่พี่น้องเจ้ารึเปล่า?
Sindri – ใช่ แม้ว่าข้าจะเก่งกว่าเยอะก็เถอะ ไม่ได้โม้นะ สาบานต่อ Freya เลย
Kratos – อย่าทำให้งานของเขาเสีย ..แค่อัพเกรดให้ดีขึ้นแค่นั้น เข้าใจมั๊ย?
Sindri – ได้ เข้าใจแล้ว แต่เจ้าช่วยเอามันไปวางบนโต๊ะนั่นหน่อยได้มั๊ยล่ะ
Kratos – ไม่ !!
Sindri – หยาบคาย ....โอเค งั้นข้า ข้าจะ ถือไปเองก็ได้ ... อ๊ากกก นั่นคราบเลือดใช่มั๊ยน่ะ?
Atreus – แล้ว ตอนนี้เจ้ากำลังทำงานอะไรอยู่ล่ะ?
Sindri – อ๋อ นั่นน่หรอ ข้าเรียกมันว่า Sky Mover เอาไว้สำหรับขนไอเทมที่หาได้ลงมาจากภูเขาน่ะ บนนั้นน่ะขุมทรัพย์ของดีเลยน่ะนะ ข้าจะขนมันลงมาให้หมดเลยคอยดู
หลังจากขวาน Leviathan ได้รับ Mark of the Dwarves +1 แล้ว Sindri ยังมีไอเทมดีๆจะนำเสนอขายอีก นั่นคือ Resurrection Stones หินแห่งชีวิตที่จะสามารถทำให้เครโทสฟื้นจากความตายได้หากมีมันอยู่ด้วยการกดสี่เหลี่ยมเมื่อพลังชีวิตหมดขณะต่อสู้
Sindri – Freya นางเป็นผู้หญิงพิเศษ นางชอบปกป้องผู้คน ข้าคิดว่ามันเป็นโอกาสที่ดีของพวกเราที่จะให้อาวุธที่ทรงพลังกับใครซักคนที่จะนำมันไปใช้ในทางที่ดี นางชอบพูดประโยคหนึ่งติดปากอยู่บ่อยๆ นางว่า
Maðurinn sem gengur eigin vegum hans gengur einn
(The man who walks his own way walks alone)
เมื่อเสร็จธุระที่ Sindri Shop แล้ว เดินทางต่อไปยังจุดหมายของภารกิจต่อ ลุยผ่านป่าไปจนพบ Legendary Chest ที่การปลดผนึกหีบนั้นต้องใช้ขวานปาตัวหมุนป้ายตัวอักษรอักขระ 3 อันที่อยู่รอบๆให้ถูกดังนี้
ด้านในจะได้ Horn of Blood Mead ( 2 / 3 ) จากนั้นเดินทางต่อไปยังเป้าหมายของภารกิจที่ต้องเจอกับไหพิษมากมายระหว่างทางที่ต้องใช้ขวานแช่แข็งมันไปเรื่อยๆจนสามารถปีนขึ้นมาที่ประตูใหญ่ด้านบนเนินเขาได้ ด้านหน้าประตูจะมีศัตรูมากมายที่ต้องจัดการรวมถึงเจ้า OGRE ยักษ์ที่ไม่ได้รับเชิญด้วย
OGRE จะออกมาพร้อมศัตรูชนิดอื่นๆมากมายที่มาช่วยก่อความรำคาญและทำให้ทุกอย่างยากขึ้น จัดการพวกมันให้หมด เมื่อผ่านพ้นประตูใหญ่ไปก็จะเข้ามาถึงเขต Mountain’s Base
Mountain’s Base
เมื่อมาถึงส่วนกลางของภูเขา ปลายทางที่ตั้งใจจะอยู่ไม่ไกลเท่าไหร่แล้วแต่ทั้งคู่ก็พบกับอุปสรรคใหม่ หมอกควันสีดำประหลาดที่ขวางทางเอาไว้ทำให้ขึ้นไม่ได้ง่ายจากที่นี่เหมือนอย่างที่ตั้งใจ
Atreus – อ๊ากก นี่มันอะไรเนี่ยย
Kratos – เราคงต้องหาเส้นทางขึ้นเขาทางใหม่กันแล้วล่ะ
Atreus – คุณแม่มดไงครับพ่อ ถ้าพานางมาที่นี่ รับรองนางช่วยเราผ่านไปได้แน่นอน
แม่มดป่า – เสียใจด้วยนะ เวทย์มนต์ของชั้นคงทำอะไร Black Breath ไม่ได้หรอก และ แถวๆนี้ก็ไม่มีทางอื่นจะไปได้อีกด้วย Odin ทำไว้ป้องกันภัยมาตั้งนานแล้ว
Atreus – คุณมาทำอะไรที่นี่อ่ะครับ
แม่มดป่า – มาตรวจดูว่าการเดินทางของเธอจะถึงเป้าหมายอย่างปลอดภัยไงจ๊ะ
Kratos – ทำไมเจ้าถึงมาคอยเตือนพวกเรา?
แม่มดป่า – เพราะงานของชั้นคือช่วยเพื่อนให้ปลอดภัยไง ท่านจำไม่ได้หรอ
แม่มดป่า – Black Breath เป็นเวทย์มนต์ที่ชั่วร้ายที่ชั้นไม่สามารถลบล้างมันได้ มีสิ่งเดียวที่มีพลังมากพอที่จะทำลายมันได้คือ Light of Alfheim เท่านั้น แต่ทางที่จะไปที่นั่นก็ไกลมากเหมือนกัน ..เป้าหมายในภารกิจของท่านสำคัญมากแค่ไหนกันหรอ?
Atreus – สำคัญกว่าทุกสิ่งเลยล่ะ
แม่มดป่า – งั้นตามชั้นมา
Kratos – ทำไมถึงช่วยพวกเรา ?
แม่มดป่า – บางทีอาจเพราะชั้นเห็นบางอย่างที่มากกว่าชั้นมีในตัวท่าน บางที ถ้าชั้นช่วยท่าน มันอาจจะเป็นโอกาสที่ได้แก้ไขความผิดพลาดในชีวิตชั้นก็ได้ หรือไม่ บางทีอาจเพราะชั้นชอบพวกท่านก็ได้
Atreus – แม้ว่าเราจะเป็นคนยิงเจ้าหมูเพื่อนของเจ้างั้นหรอ?
แม่มดป่า –แม้ว่าเจ้าจะเป็นคนยิงเจ้าหมูเพื่อนของชั้น ... ใช่
Kratos – เราจะไปที่ไหนกัน
แม่มดป่า – ดินแดนอันไกลโพ้นที่เกินขอบเขตของตัวท่านเองยังไงล่ะ ..
UPDATE 23 / 7 / 2018
...............................................................................................................................................
แหล่งข้อมูลที่ใช้ประกอบบทสรุป
http://www.ancientpages.com/2017/03/08/mysterious-nine-worlds-of-yggdrasil-the-sacred-tree-of-life-in-norse-mythology/
http://runesdivinator.blogspot.com/2015/12/blog-post_22.html
https://th.wikipedia.org/wiki/เทพปกรณัมนอร์ส