บทสรุป Watch dogs legion
BY Decibel Per - Oxide
Umeni Security Corps หรือเรียกสั้นๆว่า Umeni-Zulu บริษัทรักษาความปลอดภัยส่วนบุคคล ที่เติบโตมาจาก ฝ่ายจัดหาเทคโนโลยีเกี่ยวกับวิทยาการเข้ารหัสลับให้กับรัฐบาลสหรัฐฯ ไปจนถึงการทำสัญญากับ CIA ในการช่วยรวบรวมข้อมูลข่าวกรองทั้งในประเทศและต่างประเทศเพื่อประโยชน์ในการปฏิบัติการทางทหารทั่วโลกตลอดจนเป็นทีมงานที่คอยใช้มาตการณ์ความปลอดภัยทางไซเบอร์ตามติดทำลายข้อมูลในการกระทำที่เป็นความลับของรัฐบาล จนสร้างทั้งอำนาจและรายได้ให้ตัวเองเป็นกอบเป็นกำ แต่กลับปล่อยให้วิศวกรขององค์กรต้องรับผิดทางกฎหมายต่อเหตุการณ์ผิดพลาดที่เกิดขึ้น ส่งผลทำให้พวกเขาถูกจำคุก บางก็กลัวถูกเก็บต้องหนีตาย แต่บางคนก็ไม่ยอมที่ต้องทนต่อความอยุติธรรมที่ตัวเองได้รับ จึงก่อตั้งกลุ่มแฮกเกอร์ลับเพื่อต่อสู้กับความอยุติธรรมและการทุจริตที่ Umeni Security Corps ทำเอาไว้ ภายใต้ชื่อ "DedSec"
DedSec กลุ่มแฮกเกอร์นิรนาม ที่แสดงความเห็นต่างต่อความอยุติธรรม ด้วยทักษะการเจาะระบบของเทคโนโลยี เพื่อเปิดโปงหยุดยั้งทุกการกดขี่ เพื่อฉุดกระชากทุกทรราชชนชั้นปกครองให้ลงมาสู่ความเท่าเทียมของสังคม ด้วยคอนเซ็ปต์ ตัวตนที่ไร้ตัวตน "DedSec" จึงเป็นใครก็ได้ที่ไม่คิดจะทนต่อสังคมที่ทุกเสรีภาพถูกคุกคามแล้วลุกขึ้นมาต่อต้านมัน
ทำให้ยิ่งผ่านกาลเวลาการต่อสู้ของ DedSec ที่ผ่านมาตั้งแต่การต่อสู้อันเป็นปฐมบทในการเปิดโปงความอยุติธรรมที่ Chicago (ใน Watch Dogs )
จนถึงการปลดแอกเทคโนโลยีที่หมายควบคุมผู้คนใน San Francisco. (ใน Watch Dogs 2)
ยิ่งความสำเร็จจากการต่อสู้ที่ทำให้รู้ว่า ความอยุติธรรมก็พังเป็น ถูกกล่าวขานก็ทำให้ DedSec เติบโตขยายสาขาจนมีสมาชิกมากหน้าหลายตาอยู่ทั่วโลก หนึ่งในนั้นก็คือ ประเทศอังกฤษ.
กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ
Begley – อ่า ลอนดอน เมื่ออะไรหนอ มีประวัติศาสตร์อยู่ทุกซอกทุกมุม และนักท่องเที่ยวก็ถ่ายรูปมัน
ผับที่มีให้บริการมากมายทั้งเบียร์และรอยยิ้ม อีกทั้ง บทเพลง โรงหนัง งานศิลปะ และความหลากหลายทางวัฒนธรรม
และรถไฟใต้ดินที่เก่าแก่ที่สุดในโลก “The Tube !” ช่างเป็นเมืองที่มีคลาสระดับขึ้นหิ้งกันเลยทีเดียวเชียว
ทั้งหมดใช้เวลาเพียงหนึ่งหมื่นสองพันปีในการสร้างมันขึ้นมา ก่อนที่คืนนึงทุกอย่างก็พังคลืนลงมา
Operation Westminster
Sabine – จัดการระบบรักษาความปลอดภัยหมดแล้ว ห่วงแค่เพื่อนที่บินได้ของคุณก็พอ
Dalton – เฮ้ออ แม่งเอ้ย !
Sabine –เรามีเวลาเหลือไม่มากแล้วนะ Dalton
Dalton – ได้ครับคุณผู้หญิง….
Dalton – เอาล่ะ ผมเข้ามาได้แล้ว … พอจะรู้มั๊ยว่าเราต้องรับมือกับอะไรบ้าง Bagley ?
Bagley – ก็ถ้าคุณไม่รีบทำก็คงจะเป็นอย่างนั้น คุณคิดว่าเขาจะปล่อยภัยคุกคามระบบรักษาความปลอดภัยให้เป็นหน้าที่ของพวกเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญมั๊ยล่ะ?
Sabine – ตลกน่า Bagley รัฐบาลคงไม่จับพวกเราตอนนี้หรอก ก็รู้ว่าเราพยายามจะช่วยและทำสิ่งที่เป็นประโยชน์กับพวกเขา
Dalton – งั้นเราคงต้องหาทางจัดการเรื่องนี้ด้วยตัวเราเองแล้วล่ะ
Sabine – ระวังตัวด้วย Dalton
Dalton – Bagley คุณได้ยินเสียงความกังวลเล็กๆจากน้ำเสียงของ Sabine บ้างมั๊ยเนี่ย?
Bagley – ฉลาดจริงๆเลย ไปถามคอมพิวเตอร์เรื่องความรู้สึก มันคงบอกได้หรอก
Sabine – หุบปากแล้วกลับไปทำงานได้แล้ว ทั้งคู่เลย !
Dalton – นั่นแหละนางล่ะ
เดินทางลักลอบเข้าไปด้านในอุโมงค์ใต้ดินของ พระราชวังเวสต์มินสเตอร์ จะเริ่มพบหน่วยรักษาความปลอดภัยระหว่างที่เข้าไปเพื่อใช้ในการเรียนรู้เพลย์เกมเบื้องต้น
L3 – ย่อตัวเดิน สำหรับการซุ่มเงียบ
R3 – สแกนพื้นที่เพื่อสำรวจหาตำแหน่งของศัตรูและจุดสำคัญในการสำรวจ
X – กระโดดและปีนข้ามสิ่งกีดขวาง
สี่เหลี่ยม – Malee Attack โจมตีด้วยมือเปล่า / ลอบโจมตีศัตรูจากด้านหลัง
L1 – เป็นปุ่มสำคัญที่ใช้สำหรับจู่โจมศัตรูจากระยะไกล และ Hack ระบบเครื่องกลต่างๆเพื่อใช้เป็นตัวช่วยในการเดินทาง ไม่ว่าจะเป็น ปิด – เปิดประตูหรือระบบต่างๆ และช่วยในการต่อสู้หรือจัดการศัตรูให้พ้นทาง ตั้งแต่
ล่อศัตรูให้เข้ามาใกล้หรือ/ ทำให้เครื่องจักรกลเกิดเสียงทำให้ศัตรูเปลี่ยนตำแหน่งหรือไปยังตำแหน่งที่ต้องการ (Distract)
ทำให้แผงวงจรไฟฟ้าเกิดการช็อตใส่ศัตรู (Explode)
ทำให้อุปกรณ์ที่ระเบิดได้เกิดการระเบิดใส่ศัตรู (Arm Trap)
เมื่อเดินทางมาจนถึงประตูที่ล็อกอยู่และไม่สามารถ Hack เปิดมันได้ เมื่อใช้ L1 ในการสำรวจเพื่อ Hack ระบบจะโชว์เส้นทางไปยังเครื่องควบคุมประตูซึ่งอยู่ชั้นบนฝั่งขวาของห้อง ซึ่งต้องผ่านพวกหน่วยรักษาความปลอดภัยระหว่างทาง จัดการพวกมันด้วยทริคการต่อสู้ตามถนัดจนขึ้นไปยังตำแหน่งของแผงควบคุมที่ชั้น 2 เมื่อจัดการศัตรูจะขึ้นไปถึงแล้วก็เข้าไปเปิดระบบของประตูที่แผงควบคุม
Dalton – เอาล่ะ เจอแผงควบคุมประตูแล้ว .. พวกมันเอาอุปกรณ์ของ Dedsec มาเก็บไว้ที่นี่เพียบเลย คุณรู้มั๊ยทำไมถึงเป็นแบบนั้น ?
Sabine – อะไรนะ พวกมันจะเอาอุปกรณ์พวกนั้นไปใช้ทำอะไร?
Dalton – ไม่รู้เหมือนกัน แต่ดูเหมือนว่าบางคนพยายามทำให้มันดูเหมือนอย่างนั้นนะ
Sabine – บ้าจริง ! แบบนี้คุณคงต้องดำเนินตามแผนต่ออย่างระมัดระวังมากขึ้นแล้ว Dalton
Dalton – ใครกันนะที่อยู่เบื้องหลังเรื่องพวกนี้ ?
Bagley – ตอนนี้ยังไม่มีเบาแสะชี้นำอะไรเลย แต่ผมมั่นใจว่ามันถูกจัดฉากขึ้นแน่นอน
จากนั้นกลับไปเปิดประตูที่เคยปิดอยู่เข้าไปตามทางอุโมงค์ด้านในต่อ จนถึงห้องที่มีการวางระเบิดเอาไว้
Dalton – อ่า ชิบและ นี่มันที่ที่พวกมันวางระเบิดเอาไว้นี่ !
Sabine – พระเจ้า ! ถังพวกนั้นมันคืออะไร Bagley?
Bagley – RDX Nitrogen มากพอสำหรับระเบิดไปถึงชั้นรัฐสภาเลยล่ะ
Sabine – คุณรู้ตำแหน่งของตัวจุดระเบิดมั๊ย Bagley?
Bagley – ก็ไม่เชิงนะ แต่ไอ้ตัวจุดระเบิดนั่นแม่งกำลังทำงานอยู่ ข้อมูลที่เข้ารหัสน่าจะอยู่ชั้นบนจากตำแหน่งของคุณ
Dalton – ช่ายย ช่างเหมาะเจาะจริงๆเลย ..เอาล่ะ เดี๋ยวผมจัดการเอง
จัดการศัตรูในห้องวางระเบิดให้หมดด้วยทักษะการแฮกสิ่งของในพื้นที่เพื่อไปยังห้องต่อไปจนถึงห้องเป้าหมายคือห้องประชุมสภาที่มีตัวจุดระเบิดอยู่
Dalton – เอาล่ะ ถึงแล้วห้องประชุมสภา ไม่ว่าใครก็ตามที่อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้ พวกมันต้องมั่นหน้ามากๆที่กล้าเล่นถึงใจกลางรัฐบาลแบบนี้
Dalton – ผมเจอตัวจุดชนวนแล้ว ..และ ..มันก็จุดชนวนเอาไว้แล้วด้วย Bagley คงต้องให้คุณช่วยแล้วล่ะ
Bagley – ก็คงต้องเป็นอย่างนั้นแหละ แต่เสียใจนะ ผมถูกปิดกั้นอยู่
Sabine – แม่งเอ้ย ถ้าไม่ใช้ Bagley เราก็ไม่มีทางจะทำอะไรได้เลยหรอเนี่ย !
Dalton – เดี๋ยวๆ ขอผมดูระบบการทำงานของมันก่อน เราเคยถูกฝึกให้ปลดชนวนด้วยมือตอนอยู่ที่ MI5
Sabine – คุณนี่มีอะไรให้เซอรไพรซ์ตลอดจริงๆเลยนะ ...แต่ ทำให้เร็วด้วยล่ะ
Dalton – เอาล่ะเสร็จแล้ว Bagley เช็คหน่อยโอเคมั๊ย?
Bagley – ผมเข้าถึงได้แล้ว
Bagley – และ ...ระเบิดมันก็มีกองกำลังติดอาวุธของตัวเองด้วย ซึ่งนั่นจะทำให้เรื่องมันยุ่งยากมากขึ้นไปอีก
Dalton – แม่งเอ้ย ! .. แล้วคุณพอจำกลบเกลื่อนตำแหน่งของเราเอาไว้ได้หรือเปล่า?
Bagley – แน่นอน ผมทำได้ แต่คงต้องใช้ลูกเล่นที่มันไม่ปลอดภัยและอาจทำให้คุณรู้สึกไม่ดีได้ นี่เตือนแล้วนะ
Sabine – ดูเหมือนว่ามันจะดึงดูดความสนใจไปทางคุณแล้วนะ Dalton
Dalton – อ่อ ผมตั้งตารออยู่แล้วล่ะ
Dedsec – เรามีแขกมาเยือนทางประตูหลังแล้ว !
Sabine – ตอนนี้ที่ฐานเรากำลังยุ่งๆกันหน่อยนะ Dalton
Dalton – อีกนานมั๊ยเนี่ย Bagley!?
Bagley – ขึ้นอยู่กับว่าคุณขัดจังหวะผมด้วยคำถามบ่อยแค่ไหนน่ะสิ
Sabine – เอาล่ะทุกคน หน้ากากพร้อม ปืนพร้อม ! งานนี้ต้องลุยจริงแล้ว!
Dalton – แม่งเอ้ย ! พวกมันเข้ามาถึงตัวผมแล้ว ผมขอจัดการมันก่อนแล้วกันนะ
จัดการศัตรูที่บุกเข้ามาให้หมด พร้อมๆกับเรียนรู้การใช้อาวุธปืน (L2 เล็ง – R2 ยิง)และ R1 ขว้างกับดักไฟฟ้า (Electro Shock Trap) จัดการศัตรู
หรือจะใช้การ Hack ใช้อุปกรณ์อีเล็กโทนิกในพื้นที่สร้างความได้เปรียบในการต่อสู้ หรือจะใช้การ Hack ที่ตัวศัตรูได้เลย ด้วยการทำให้ปืนขัดลำกล้อง (Jam) หรือ ใช้กระแสไฟฟ้าช็อต (Disrupt)
Bagley – 3 Slot ทางซ้ายหนึ่งในนั้นทำหน้าที่เป็นตัวรับสัญญาณคุณต้องดึงสายไฟเส้นที่ควบคุมมันออก
Dalton – นี่คุณล้อเล่นใช่มั๊ย?
Bagley – ไม่ ผมไม่ได้พูดเล่นนะโว้ย ดึงสายไฟนั่นซะ !!
Dalton – แล้วถ้ามันระเบิดผมเละล่ะ ! …. อึ๊บบบบ !!..
Bagley – ระเบิดหยุดทำงานแล้ว ! ….เห็นมั๊ย มันก็ไม่ได้แย่อะไรซักหน่อยจริงมั๊ย?
Dalton – Bagley คุณแม่งเลวมาก คุณจะทำให้ผมหัวใจวายตายได้รู้มั๊ย! ..ฮะ ฮ่ะๆๆ
Dalton – โว้ๆ มันบ้าอะไรกันอีกวะเนี่ย !?
Bagley – มันแสดงให้เห็นว่า นอกจากรัฐสภายังมีเป้าหมายอื่นอีกน่ะสิ หมายความว่าในขณะที่กำลังคุยกันอยู่นี่ยังมีระเบิดอีกลูกกำลังทำงานอยู่
Sabine – ดูบนจอสิ Bagley!
Dalton – ชิบหายแล้ว เราต้องรีบบอกทุกคนเดี๋ยวนี้เลย! ต้องรีบให้มีการอพยพคนที่อยู่ในบริเวณนั้นด่วน !
Sabine – มันกระจายอยู่หลายจุดทั่วลอนดอน เรามีเวลาแจ้งเตือนพวกเขาไม่พอหรอก!
Dedsec – แต่ น้องสาวผมอยู่ที่การประชุม TOAN เราต้องทำอะไรซักอย่างแล้ว !
Bagley – ผมติดตั้งตัวส่งสัญญาณสื่อสารเอาไว้ที่ดาดฟ้าด้วย เราน่าจะส่งข้อความไปเตือนที่จะที่จะเกิดการระเบิดได้ ถ้าคุณขึ้นไปทันนะ
Dalton – เดี๋ยวผมจัดการเอง !
ปัง ปัง !!!
Dalton – Sabine ! เกิดอะไรขึ้น !!
Sabine – แม่งเอ้ย Dalton เราถูกโจมตี !! แต่ไม่ต้องห่วง รีบขึ้นไปดาดฟ้าเดี๋ยวนี้ เร็ว!
Dalton – Sabine ! เกิดอะไรขึ้น !?
Sabine – เราถูกโจมตี มันคือพวก Bloodbath ..มาตรการก็คือลบข้อมูลทุกอย่างรวมทั้ง Bagley ด้วย
Dalton – แต่ผมต้องการเขาในการกระจายสัญญาณสื่อสารนะ
Sabine – ชั้นรู้ แต่ถ้าพวกมันได้เขาไปมันจะได้ทุกอย่างของเราไปทั้งหมด ทั้งชื่อ สถานที่
Dalton – โอเค งั้นเดี๋ยวผมลองวิธีดั่งเดิมดูด ลบเขาไปได้เลย
Bagley – ใช่ ลบผมซะ
Dalton – เร็วสิ รีบทำแล้วหนีออกจากที่นั่นได้แล้ว !!
Bagley – แม่งเอ้ย ..OK ลบเรียบร้อยแล้ว ต่อไปคุณต้องด้นสดเอาเองแล้วนะ Dalton แล้วถ้าเกิดว่า ..
Dalton – ไม่ต้องห่วง มันจะไม่เป็นอย่างนั้นแน่นอน ผมจะไปเจอคุณที่จุดรวมพลก็แล้วกัน ผมสัญญา !
เมื่อเดินทางมาถึงประตูที่ล็อกอยู่ หันหลังไปที่ห้องทำงานฝั่งตรงข้าม กด R3 เพื่อสแกนดูจะพบตำแหน่งของโต๊ะทำงานด้านใน กด L1 Hijack
ระบบเพื่อดาวโหลด Access key ที่วางอยู่บนโต๊ะมาแล้วก็จะสามารถใช้เปิดประตูที่ปิดอยู่ออกไปที่ห้องถัดไปได้
จัดการศัตรูในห้องให้หมดด้วยทักษะที่มี พร้อมๆกับเรียนรู้การใช้งาน Charater Wheel โดยการกดปุมทิศทางขึ้นบนเพื่อสลับอาวุธมาใช้งาน เมื่อจัดการศัตรูจนหมดแล้วก็ออกประตูสุดทางไปยังบันไดเพื่อขึ้นไปยังดาดฟ้าของตึกได้เลย
Dalton – เอาล่ะ โอเคๆ
Dalton – บิงโก เรียบร้อย ......
Dalton – ห๊ะ!? ไม่ๆๆๆ มันอะไรกันวะเนี่ย !?
Zero – Day – ทำดีมาก Dalton Wolfe ผมประทับใจยิ่งนัก
Dalton – แกเป็นใครวะเนี่ย !?
Zero – Day – โอ้ นี่คุณยังคิดว่าคุณมาที่นี่เพื่อช่วยลอนดอนอยู่อีกหรอเนี่ย? ผมเกรงว่ามันคงจะไม่มีโอกาสได้เกิดขึ้นหรอกนะ คุณมาที่นี่ก็เพื่อช่วยให้เราทำงานที่สำคัญสำเร็จ
Dalton – งานที่สำคัญหรอ? มันจะฆ่าคนเป็นพันๆ ..... อ๊ากกกก !!
Dalton – อ๊ากก !
Zero – Day – ใช่แล้ว เพื่อช่วยโลกยังไงล่ะ ...คุณเคยรู้เรื่องการตายของชาวลอนดอนมากก่อนรึเปล่า? หืม? ทั้งโรคระบาด ไฟไหม้ครั้งใหญ่ The Blitz ** มันไม่สนุกเลยซักนิด
** The Blitz หมายถึงการทิ้งระเบิดครั้งใหญ่ในสหราชอาณาจักรโดยนาซีเยอรมันอย่างหนักและต่อเนื่องในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง **
Zero – Day – แต่ทุกการทำลายก็ย่อมมีทางเยียวยาได้เสมอ และมันเพิ่งจะเริ่มขึ้นในวันนี้ ... Zero Day
Dalton – โอ้ ไม่ ไม่ๆๆๆ
Zero – Day – ถึงเวลาต้องเคลียร์ทั้งระบบแล้ว
Dalton – โอ้ พระเจ้า !
ปัง !!!
เมื่อไม่กี่นาทีที่ผ่านมาเกิดเหตุระเบิด 3 แห่งในลอนดอนพร้อม ทางเจ้าหน้าที่ ผู้มีอำนาจขอให้ประชาชนอยู่ในบ้านของตนเนื่องจากสถานการณ์ยังไม่แน่นอน เราไม่ได้รับจำนวนผู้เสียชีวิตอย่างเป็นทางการในตอนนี้
จุดที่ถูกโจมตีทั้งสามแห่งในเย็นวันนี้ คาดว่าจะมีผู้เสียชีวิตหลายพันคน ผู้คนทั่วทั้งเมื่อต่างมารวมตัวกันร่วมจุดเทียนไว้อาลัยเพื่อแสดงความเสียใจกับครอบครัวหลายพันครอบครัวที่ต้องสูญเสียไป ตอนนี้พุ่งประเด็นไปที่ทางการต้องหาตัวผู้กระทำผิดต่อเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม โดยทางนายกรัฐมนตรีจะมีการแถลงข่าวเกี่ยวกับความคืบหน้าวันนี้
Nigel Cass CEO ของ Albion บริษัทเอกชนที่ประกอบกิจการด้านการทหารที่ได้รับมอบอำนาจจากรัฐบาลให้เข้ามาดูแลความสงบและรักษาความปลอดภัยในลอนดอน Cass สาบานว่าจะตามล่า DedSec กลุ่มผู้ก่อความไม่สงบมารับผิดชอบในการวางระเบิดในลอนดอนให้ได้
ในช่วงเวลาที่กฎหมายและคำสั่งเป็นสิ่งสำคัญอันดับต้น ๆ ของชาวลอนดอน Albion ใช้ระบบปัญญาประดิษฐ์ที่ล้ำสมัยและโดรนที่ทำงานอย่างอิสระเพื่อตรวจจับสมาชิกที่เหลือของ DedSec ตามคำเตือนของสตาร์คในฐานะผู้ก่อการร้าย
ผู้ประกอบการชั้นนำของสหราชอาณาจักรประกาศผลกำไรที่มากเป็นประวัติการณ์เนื่องจากการผลิตและการจัดจำหน่ายเทคโนโลยีที่ได้รับการอนุมัติเพื่อจุดประสงค์ด้านความปลอดภัย ซึ่งจะเป็นตัวช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศในปีถัดไปได้อย่างแน่นอน
โลกใต้ดินของลอนดอนกำลังได้รับการชำระล้าง หลังจากที่เหล่าอาชญากรใช้เป็นที่ทำธุกิจที่ผิดกฎหมายมายาวนานทั้ง การพนัน ค้ายาเสพติด และการค้าประเวณี หลังจากดำเนินคดีกับผู้นำสี่ในห้าองค์กรอาชญากรรมที่ใหญ่ที่สุดของลอนดอนเสร็จสิ้น ถนน Camden และ Brixtion ก็จะปลอดภัยในการเดินทางได้อีกครั้ง
ข่าวดีสำหรับชาวลอนดอนที่ปฏิบัติตามกฎหมาย เนื่องจากอำนาจของ Albion ถูกขยายออกไปโดยไม่มีกำหนดโดยนโยบายของรัฐบาล
ในที่สุดชีวิตก็เริ่มกลับสู่ปกติ เคอร์ฟิวถูกยกเลิกพร้อมๆกับข้อจำกัดในการเดินทาง ต้องขอบคุณการนำ จุดตรวจอัตโนมัติ มาปรับใช้ ซึ่งการกระทำดังกล่าวได้รับการยกย่องจากรัฐบาลเป็นอย่างมาก
จากการที่มีข่าวปลอมจากสำนักข่าวบางแห่งที่รายงานการจลาจลในจัตุรัสทราฟัลการ์ (trafalgar square) ในแบบการนำเสนอเกินจริงอย่างมาก โดยอาจเกิดจากได้รับข่าวที่ผิดพลาดผ่านโซเชียลมีเดีย ซึ่งตอนนี้ทาง Albion ได้เข้าควบคุมความวุ่นวายที่เกิดขึ้นได้แล้ว
ในขณะที่รัฐบาลยังคงตำหนิสาธารณชนเกี่ยวกับการเผยแพร่ข่าวปลอมเกี่ยวกับทฤษฎีสมคบคิดที่ยังคงมีอยู่ในมุมมืดของอินเทอร์เน็ต เรื่องที่กลุ่มผู้ก่อการร้าย DedSec เป็นเพียงแพะในเหตุการณ์วางระเบิดในลอนดอนที่รัฐบาลจัดฉากขึ้นเพื่อป้ายความผิดให้
ทั้งนี้และทั้งนั้นผู้สื่อข่าวของเราเองยังไม่พบชาวลอนดอนคนไหนที่จะยอมออกมาอธิบายทฤษฎีเหล่านั้นผ่านการสัมภาษณ์สด ข้อเท็จจริงจากข่าวลือที่ว่าจึงยังไม่เคยได้รับการยืนยันว่าเป็นความจริง
-การสร้างตัวละคร Operative ตัวแรกเมื่อเริ่มเกมไม่จำเป็นต้องคิดมาก เลือกตามความพอใจได้เลย เพราะเมื่อดำเนินเรื่องไปยังมีโอกาสค้นหาตัวละครต่างๆจากประชากรในเมืองได้อีกมากมาย
-คุณสามารถชวนทุกคนเข้าร่วมทีมได้สูงสุด 45 คน รวมตัวละครที่บังคับอยู่และตัวที่บันทึกเป็น recruits (หมายตาเอาไว้) โดยตัวละครที่คุณเลือกใช้บังคับเล่นในแต่ละภารกิจจะเรียกว่า NPC หรือ Now Playable Characters ในการทำภารกิจแต่ละครั้ง คุณสามารถเลือกใครก็ได้ แต่หากเลือกตามความสามารถให้เข้ากับงานและการแทรกซึมก็ต้องเลือกให้เหมาะสมจะดีที่สุด
-ซึ่งหากคุณไม่ชอบโหมด permadeath สามารถเข้าไปในออฟชั่นเมนูเพื่อปิดมันได้ตลอดเวลาที่ต้องการ แต่หากปิดการใช้งานแล้วจะไม่สามารถเปิดการใช้งานโหมด permadeath ได้อีกต่อไป
- และคุณสามารถโกงความตายเมื่อใช้โหมด permadeath ได้ด้วยการ ออกจากเกมในขณะสถานะการณ์กำลังแย่ก่อนจะตาย เกมจะโหลดใหม่ก่อนเข้าภารกิจ
ก่อนจะเริ่มภารกิจแรก เพื่อความมีประสิทธิภาพในการทำงาน แนะนำให้เตรียมความพร้อมเสียก่อน
1. ค้นหาเพื่อนร่วมทีม ตามทักษะที่มีประโยชน์ในเบื้องต้น เช่น Fast Hack สำหรับสายแฮก สำหรับงานล้วงข้อมูล, Death wish พวกที่มีอาวุธปืนติดตัว เพื่องานบู๊ล้างผลาญ หรือ พวกสายนักสู้ใต้ดิน สำหรับใช้งานในสนามประลอง , พวกคนงานก่อสร้างที่มีทักษะความสามารถเรียก Cargo Drone มาใช้งานเพื่อใช้นั่งไปเก็บไอเทมตามที่สูงต่างๆ
2.เสริมสร้างความแข็งแกร่งให้ตัวละคร ด้วยการเพิ่มทักษะความสามารถต่างๆด้วยการตามเก็บ Tech Points ตามสถานที่ต่างๆที่พอเก็บได้ หรือใช้ตัวละครที่มีความสามารถเรียก Cargo Drone มาใช้งานเพื่อใช้นั่งไปเก็บไอเทม Tech Points ตามที่สูงต่างๆมาใช้ในการอัพเกรด Skill ต่างๆใน Tech Menu ก็น่าจะมากพอที่จะทำให้ตัวละครมีความแข็งแกร่งในช่วงเริ่มเกมได้ในระดับนึงแล้ว
3. ทำภารกิจย่อย เพื่อโอกาสในการได้มาซึ่ง เงิน และ ตัวละครปฎิบัติการณ์ใหม่ๆ เก่งๆที่สามารถเข้าถึงได้ โดยภารกิจย่อยแรกจะเริ่มขึ้นมาที่ Parliament Square Garden ฝั่งตรงของบาร์ Self house
Bagley - การสร้างกลุ่มต่อต้านนั้นจำเป็นต้องใช้ผู้ปฏิบัติการที่มีทักษะเฉพาะทางทางการต่อสู้ และถ้าจะนึกถึงสถานที่การฝึกฝนที่ดีที่สุดคงไม่พ้นเวทีมวยใต้ดิน Bare Knuckle แน่นอน ที่นี่เป็นสถานที่ที่เหมาะถ้าอยากจะค้นหาคนเก่งในการต่อสู้ซักคน คุณมีโอกาสเผชิญหน้ากับนักสู้ที่ดีที่สุดที่นั่น ทำให้พวกเขายอมรับซะโดยเอาชนะคู่ต่อสู้ในแต่ละเวทีให้หมด พิสูจน์ความเหนือกว่าของคุณและพวกเขาอาจพิจารณาเข้าร่วม DedSec ก็ได้
SIDE MISSON : Bare Knuckle League
ภารกิจย่อยนี้ ต้องเข้าร่วมต่อสู้และชนะเลิศในสังเวียนนักสู้ใต้ดิน Bare Knuckle League ที่จัดขึ้นในสนามต่างๆ 5 สนามทั่วทั้งเมืองให้หมด
ในแต่ละแมตช์นั้นเมื่อชนะแล้วจะสามารถเลือกนักสู้ต่างๆที่เคยเอาชนะได้มาเป็นพวก DedSec ได้อีกด้วย
แต่ละสนามก็จะมีนักสู้เก่งๆหลายคนที่สามารถคัดเลือกมาพูดคุยยื่นข้อเสนอหรือช่วยเหลือพวกเขาในการทำภารกิจต่างๆที่เขาร้องขอมาเพื่อรางวัลคือได้นักสู้ระดับเก่งๆเหล่านั้นมาร่วมทีม
** แนะนำว่า เมื่อเป็นแชมป์ในสนามแรกแล้ว เลือกนักสู้เก่งเอาไว้ซักคนเพื่อทำภารกิจ Recruitment Mission ของเขาจนสามารถชักจูงเข้าร่วมกับ DeaSec ได้ ซึ่งการมีนักสู้เก่งๆเข้าร่วมทีมจะทำให้การเป็นแชมป์ในแมตช์ต่างๆต่อๆไปง่ายขึ้น**
Main Mission : Light a Spark
ภารกิจหลักแรกจะประกอบด้วย 2 จุดภารกิจที่ต้องทำคือ
- (ภารกิจก่อกวน) ทำลายสื่อโฆษณาของ Albion
- (ภารกิจแย่งชิง) เข้าล้วงข้อมูลของ Albion
** ผู้เล่นสามารถเลื่อกที่จะเข้าไปทำตรงส่วนไหนก่อนก็ได้ **
ACQUIRE Albion Operations Data
The Royal Court of Justice ตั้งอยู่บนถนน Strand ตัดกับ Fleet Street เป็นอาคารศาลอุทธรณ์ที่ออกแบบสไตล์โกธิคผสมโรมัน สร้างมาตั้งแต่ยุควิคตอเรีย อาคารที่ได้รับการคุ้มครองทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมอายุ 700 ปี ใช้เวลาในการสร้างกว่า 11ปี ซึ่งแม้จะเป็นอาคารศาลที่เป็นสถานที่ราชการแต่ก็มีความวิจิตรงดงามทั้งประติมากรรมภายในและภายนอก มีห้องพิจารณาคดีกว่า 20 ห้อง มีสำนักงานให้คำแนะนำประชาชน (Citizens Advice Bureau) ในเรื่องคดีความต่างๆ พร้อมล่ามแปลภาษาให้ฟรี และสหราชอาณาจักรก็เปิดให้นักท่องเที่ยวและประชาชนทั่วไปเข้าชมได้ด้วย แต่ไม่อนุญาตให้ถ่ายภาพในอาคาร
(Source : https://th.trip.com/travel-guide/london/royal-courts-of-justice-22953763/ )
และที่นี่ก็เป็นฐานปฏิบัติการนึงของ Albion เป้าหมายของ DecSec คือเข้ามารวบรวมหลักฐานโครงการที่ชั่วร้ายของ Albion เพื่อสั่นคลอนศรัทธาของผู้คนที่มีต่อพวกเขา
Bagley – ที่นี่แหละ Royal Court of Justice ที่พวก Albion สร้างเป็นฐานปฏิบัติการ
Josh – ก็ถ้าพวกมันยึดศาลเอาไว้ได้จริงๆ มันคงโยนทุกคนที่เห็นต่างเข้าคุกเข้าตารางได้ง่ายๆเลย
Sabine – ใช่แล้ว นั่นหมายความว่าที่นี่ก็จะมีหลักฐานเรื่องความสองมาตฐานพวกนี้เก็บไว้ด้วย ซึ่งพวก Albion ต้องพุ่งเป้าไปที่ผู้ที่ไม่เห็นด้วยและต่อต้านมัน พวกเขามีใครบ้าง และ ทำไม เราต้องการข้อมูลพวกนั้นเพื่อหยุดพวกมัน
เมื่อเข้าในพื้นที่สีแดงนี้ โปรดรับรู้ว่ามันเป็นพื้นที่อันตราย (Restricted Areas) หรือพื้นที่อณาเขตของศัตรูที่พร้อมจะถูกโจมตีทันทีที่ถูกพบตัว
เป้าหมายคือ ห้องเก็บข้อมูลชั้นบนประตูทางเข้าถูกล็อกเอาไว้ซึ่งไม่สามารถ Hack เพื่อเปิดได้นอกจากเปิดด้วยมือที่แผงควบคุมโดยตรงเท่านั้น
ในพื้นที่มียามอยู่ไม่มาก สามารถลอบจัดการได้ง่ายๆ แล้วเข้าไปที่แผงควบคุมประตูที่อยู่ทางฝั่งขวาของห้องก่อนเพื่อปลดล็อกประตูชั้นบน จากนั้นก็ค่อยขึ้นบันไดไปเข้าข้อมูลเพื่อดาวโหลดข้อมูลมาได้เลย
Josh – เราได้อะไรบ้าง Bagley ?
Bagley – ลิสต์รายชื่อของคนที่ Albion กำลังคัดกรองว่าเป็น เป้าหมายสำคัญ โดยพวกมันระบุว่าเป็นภัยคุกคามต่อความสงบของลอนดอน .. ดูนี่สิ .. มีนักข่าวและก็คนนี้ ทำงานที่พักพิงของชุมชน
Sabine – ทุกคนถูกตั้งข้อหาว่า ต้องสงสัยว่าจะมีการก่อกบฏหรือแสดงท่าทีที่เป็นปรปักษ์ หืมมม ... Albion กำลังจับกุมผู้คนอย่างเป็นระบบก่อนที่พวกเขาจะยึดทั้งเมือง จากรายชื่อพวกนี้ สามารถช่วยให้เราได้พันธมิตรที่ยอมเต็มใจเพื่อเข้าร่วมกับเราได้อีกมากโขอย่างแน่นอน เอาล่ะ ที่นี้ก็ไปหาป่วนป้ายโฆษณาของ Albion ซะ เพื่อเพิ่มความหวังของประชาชน
DISRUPT Albion Propaganda
Camden High Street เป็นถนนสายสั้น ๆ ยาวประมาณ 900 ม.ในแคมเดนทาวน์ทางตอนเหนือของลอนดอน เป็นเส้นทางเชื่อมต่อจากใจกลางกรุงลอนดอนไปยังย่าน Hampstead ถือว่าเป็น high street ที่สำคัญเส้นนึงในท้องถิ่นของลอนดอน ที่นอกจากจะเต็มไปด้วยตลาดนัดที่มีร้านเป็นพันๆร้านตลอดทั้งวันยังดึก เป็นแหล่งรวมศิลปะและวัฒนธรรมในฐานะเป็นสถานที่ที่รวบรวมพิพิธภัณฑ์ไว้มากที่สุดในลอนดอน และยังเป็นเมืองแห่งจิตวิญญาณทางดนตรีอีกแห่งในอังกฤเพราะนอกจากเป็นสถานที่ที่นักร้องในตำนานหลาย ๆ คน เช่น Amy Winehouse และ Jimi Hendrix เคยใช้ชีวิตอยู่ที่นี่ในอดีตแล้วยังมี The Roundhouse สถานที่จัดงานดนตรีที่ดีที่สุดในลอนดอนตั้งอยู่ด้วย
(Source : https://trip-london.com/camden-lock-market/)
เดินทางมาถึงจุดหมายของภารกิจที่ป้ายโฆษณาของ Albion ขนาดใหญ่ที่ Camden High Street กด L1 เพื่อตรวจสอบข้อมูล
Josh – ดูรอบๆสิ มีแต่ Albion Albion Albion แม่งเต็มไปหมดเลย เหมือนกับแผลไฟไหม้บนผิวหนังของเมืองเลย นี่มันไม่ใช่ป้ายโฆษณาแต่นี่แม่งคือการติดป้ายติดแท็กทางจิตวิทยาชัดๆ
Sabine – นั่นแปลว่าคุณมีเวลาไม่มากในการทำภารกิจที่นี่ รีบเข้าไปที่มุมตึกตรงร้านแว่นเพื่อหาที่ปีนขึ้นด้านบนเลย
เดินเข้าไปยังจุดเป้าหมายของภารกิจที่มุมซอยที่มีรถ Scissor Lift อยู่ จัดการแฮกมันเพื่อใช้ยกตัวขึ้นไปชั้นบนของตัวตึก
จากนั้นก็หาทางปีนป่ายไปตามหลังคาตึกเป้าหมายที่แผงควบคุมด้านหลังป้ายโฆษณาเพื่อเปลี่ยนโฆษณาของ Albion ให้กลายเป็นของ DecSec
Sabine – นั่นแหละ เยี่ยมมาก นี่คือคำแจ้งเตือนถึงประชาชนชาวลอนดอนว่ายังมีคนที่พร้อมสู้เคียงข้างพวกเขาเพื่อต่อสู้กับ Albion เพื่อจุดประกายให้พวกเขาลุกขึ้นสู้ด้วยกัน
Josh – แล้วเราเอาไงต่อ?
Sabine – ตอนนี้เราได้รับผลจากผลงานที่คุณทำแล้ว จากรายชื่อที่ได้มา เราเจอชื่อนักข่าวคนนึงที่ Camden ที่กำลังตามข่าวเรื่องของพวก Albion อยู่ เราคงต้องเข้าไปตรวจสอบดูว่าเขามีข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อเราหรือไม่ ชั้นว่าคุณควรจะไปหาตัวเขาหน่อย
Josh – ส่งโลเกชั่นมาให้ผมได้เลย
Main Mission : Clarion Call
สถานีรถไฟเซนต์แพนครัส (St Pancras International)
St. Pancras International (สถานีนานาชาติเซนต์แพนคราส) หรือรู้จักกันในชื่อ London St Pancras เป็นสถานีนานาชาติใจกลางกรุงลอนดอน ตั้งอยู่บนถนนยูสตันในกรุงลอนดอน เมืองแคมเดน สร้างขึ้นตั้งแต่ปี ค.ศ. 1868 โดย Midland Railway (MR) ซึ่งมีเครือข่ายครอบคลุมทั่วมิดแลนด์และทางตอนเหนือของอังกฤษ ก่อนจะเพิ่มเติมสายเชื่อมต่อจากเบดฟอร์ดมายังลอนดอนหลังจากปัญหาการจราจรติดขัดจากการจัดแสดงนิทรรศการนานาชาติในปี ค.ศ. 2405 ปัจจุบันมีบทบาทเป็นสถานีปลายทางของรถไฟความเร็วสูงสายยูโรสตาร์ในประเทศอังกฤษจากลอนดอนผ่านไปยังเบลเยียม, ฝรั่งเศส และ เนเธอร์แลนด์
https://palanla.com/index.php?op=abroadLocation-detail&id=394
เดินทางไปยัง St Pancras International เพื่อไปพบกับนักข่าวหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นใน Camden ที่กำลังเกาะติดเรื่องการปฏิบัติการณ์ของพวก Albion ว่าเขารู้ข้อมูลอะไรที่จะเป็นประโยชน์ต่อ DedSec บ้าง
Anthony – ได้ยินมาว่าคุณกำลังต้องการความช่วยเหลืองั้นหรอ?
Lee – คุณคือลูกของกลุ่มที่กำลังเกาะติดพวก Albion อยู่หรอ เจ๋งเลย ที่ยังมีคนอื่นสนใจเรื่องนี้อยู่ นึกว่าจะมีผมคนเดียวซะแล้ว ผมก็ไม่ได้ทำอะไรมากมายแค่เขียนความจริงออกมา แต่พวกคุณสิ ลุยจริงเลย
Anthony – เราก็แค่ทำเท่าที่ต้องทำ ถ้าไม่มีการแทรกแซงอะไรเลยพวก Albion ก็จะขยายอำนาจไปได้เรื่อยๆ ... ว่าแต่ คุณมีข้อมูลอะไรให้เราบ้าง
Lee – ผมได้มาก่อนจะถูกลบไป ข้อมูลการปฏิบัติการณ์ทั้งหมอของพวก Albion ในเมืองนี้ เส้นทางลาดตระเวน เป้าหมายการเฝ้าระวัง สินทรัพย์ และอื่นๆทั้งหมด ผมว่าพวกคุณคงเอามันไปทำอะไรดีๆได้แน่นอน นี่คือตัวอย่างนึง พวก Albion เพิ่งปิดสถานีรถไฟลอนดอนคิงส์ครอสไปถูกมั๊ย? แต่ไม่มีใครรู้เลยว่าพวกมันใช้ที่นั่นทำอะไรกันอยู่ ที่นั่นเป็นศูนย์กลางการขนส่ง ที่พวกมันสามารถขนส่ง วัตถุดิบ กองทหาร หรืออะไรก็เถอะ ทุกอย่างสามารถขนได้ที่ละจำนวนมากๆได้ที่นั่นแน่นอน พวกคุณลองเข้าไปตรวจสอบดูสิ ถ้าคุณจะตัดกำลังพวกมัน ที่นั่นแหละเหมาะสุดแล้ว
เดินทางต่อไปยัง สถานีรถไฟคิงส์ครอส ( King's Cross station) ที่อยู่ฝั่งตรงข้าม
สถานีรถไฟคิงส์ครอส ( King's Cross station) ถือเป็นสถานีรถไฟที่เป็นฮับการขนส่งที่ใหญ่และสำคัญที่สุดที่สุดแห่งหนึ่งในกรุงลอนดอน ทำหน้าที่เป็นสถานีปลายทางด้านทิศใต้ของทางรถไฟหลักสายอีสคอสต์ ไปสู่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือของอังกฤษ และสก็อตแลนด์ และสามารถเดินทางไปยังสถานีรถไฟเซนต์แพนครัส(St Pancras railway station) ที่อยู่ใกล้ๆด้วยรถไฟใต้ดินลอนดอนสาย คิงส์ครอส-เซนต์แพนครัส เพื่อต่อรถไฟความเร็วสูงยูโรสตาร์ที่สถานีเซนต์แพนครัสเดินทางไปยังเบลเยียม, ฝรั่งเศส และ เนเธอร์แลนด์ ต่อได้
และ เจ.เค โรว์ลิ่งเคยเล่าว่า สถานีแห่งนี้มีเรื่องเล่าว่ามันถูกสร้างขึ้นบนสนามรบสุดท้ายของ พระนางบูดิกก้า ราชินีของอังกฤษในอดีตที่นำกองทัพเข้าต่อต้านกองทัพโรมัน ตำนานว่า ศพของพระนางถูกฝังเอาไว้ที่ไหนซักแห่งใต้สถานีนี้ เธอจึงใช้สถานีรถไฟคิงส์ครอส เป็น สถานีที่รถไฟ Hogwarts Express เข้ามารับ แฮรี่ พอตเตอร์ และเหล่านักเรียน Muggle ไปส่งที่ปลายทาง Hogsmeade station โดยต้องขึ้นที่ชานชลา 9¾ ในนิยาย แฮรี่ พอตเตอร์ ของเธอ
https://th.wikipedia.org/wiki/สถานีรถไฟลอนดอนคิงส์ครอส
https://www.muggle-v.com/741
-เข้าตึกสถานีรถไฟลอนดอนคิงส์ครอสทางประตูฝั่งซ้าย
Lee – การเข้าไปถึงตัว Generator ไม่ใช่เรื่องง่ายๆเลยนะ ล่าสุดผมเห็นมันล็อกทุกทางเข้าอย่างแน่นหนามากๆ
Anthony – มีอะไรจะแนะนำมั๊ย?
Lee – News Drone ของผมอยู่ในนั้น มันน่าจะยังใช้งานได้อยู่ คุณน่าจะใช้มันได้และควรต้องใช้มากๆด้วย
- แล้วกด R3 สแกนพื้นที่จะพบเป้าหมายอยู่ในห้องโถงด้านในซึ่งไม่สามารถเข้าไปด้านในได้เพราะประตูล็อก
- จัดการแฮก Chase Drone ที่บินไปมาด้านในแล้วควบคุมมันบินไปตรงจุดที่มี News Drone จอดอยู่ แล้วแฮก News Drone บินไปที่ Generator ด้านใน (พยายามหลบโดรนของศัตรูที่บินตรวจการณ์อยู่ด้วย )
- กดปุ่มทิศทางลงล่างแล้วกด O เพื่อถ่ายรูปบอร์ดแผนผัง
- จากนั้นบังคับ News Drone บินไปที่ห้องอีกฝั่งเพื่อดาวโหลดรหัสจุดระเบิดที่ Tablet บนโต๊ะมา
- แล้วบินไปที่ Hybrid Power Generator บนรางรถไฟแล้วแฮกเพื่อจุดระเบิดมัน ให้มันระเบิดไปพร้อมกับโดรน
เราจะไม่ยอมจำนน
Sabine – ตอนนี้เราได้ข้อมูลสำคัญจาก สถานีรถไฟเซนต์แพนครัส มาทั้งหมดแล้ว ทั้งเส้นทางลำเลียงของ Albion ข้อมูลอาวุธและเครื่องมือต่างๆ และทุกๆอย่างสำหรับให้เราใช้จุดประกายแห่งความหวังให้กับประชาชนในลอนดอน เหมือนกับที่เราทำใน Camden เพื่อหยุดยั้งแผนของ Albion และให้เหตุผลกับประชาชนว่าทำให้ต้องลุกขึ้นสู้ ทีละเขต ทีละเขต ยิ่งทำมากเรายิ่งได้พันธมิตรมากตามมา เราจะแสดงให้ผู้คนในลอนดอนเห็นว่า DedSec อยู่ที่นี่เพื่อพวกเขา
Lee – แค่นี้เราก็หลุดจากโซ่ตรวนแล้วเพื่อนเอ๋ย ผมรู้มาตลอดว่า DedSec ไม่ใช่คนเลวเหมือนที่ Albion มันบอก ตอนนี้ Camden ของเราเป็นอิสระแล้ว ขอบคุณมาก ! ตอนนี้คุณก็ต้องแสดงให้ผู้คนในเขตอื่นๆเห็นให้ได้ว่า DedSec กำลังทำอะไรอยู่ เพื่อให้พวกเขาอยากจะมาเข้าร่วมเป็นพวกเดียวกัน ยังมีผู้คนอีกมากที่กำลังมองหาหนทางในการตอบโต้ Albion อยู่ไม่น้อยหรอกนะ ถ้าผมเจอคนพิเศษๆจะรีบติดต่อพวกคุณก็แล้วกัน
Borough Uprising
Borough (สำเนียงอเมริกันออกเสียงว่า โบโร่ สำเนียงอังกฤษก็ เบอร่ะ) หมายถึง การแบ่งเขตการปกครองแบบหนึ่ง คล้ายๆคำว่า บุรี ในบ้านเรา ในแต่ละ Borough ของลอนดอนจริงๆแล้วจะประกอบด้วย 32 Borough แต่ในเกมจะกล่าวถึงแค่
นครลอนดอน (City of London)
เขตแคมเดน (Camden)
เขต อิสลิงตัน และ แฮกนีย์ (Islington & Hackney)
เขต ทาวเวอร์แฮมเล็ต (Tower Hamlets)
เขต เวสต์มินสเตอร์ (Westminster)
เขตแลมเบ็ธ (Lambeth)
เขต เซาท์วาร์ค(Soutwark)
เขต ไนน์ เอล์มส์ (Nine Elms)
แต่ละ Borough ในลอนดอนที่ถูกควบคุมโดย Albion นั้นจะเห็นเป็นพื้นที่สีแดงและระบุว่า oppressed (ถูกกดขี่) วิธีจะปลดแอกเขตแต่ละเขตก็คือ ต้องเข้าไปทำภารกิจในพื้นที่เป็นจุดสีแดง ซึ่งจะมีเงื่อนไขต่างกันไปเช่น ทำลายสื่อโฆษณา ช่วยเหลือคนที่โดนจับ และเมื่อทำตามภารกิจเงื่อนไขต่างๆที่เป็นจุดสีแดงครบแล้ว ภารกิจปลดแอกก็จะออกมาเพื่อให้เช้าไปยึดแลนด์มาร์คสำคัญของแต่ละเขต
เมื่อทำสำเร็จแล้ว เขตนั้นๆก็จะถูกปลดแอกให้เป็นอิสระจากพวก Albion ซึ่งจะแสดงสถานะของเขตว่า Defiant (ตั้งตนเป็นปฏิปักษ์) เมื่อทำการปลดแอกในแต่ละเขตแล้ว
รางวัลที่ DedSec จะได้รับหลังจากปลดแอกในเขตต่างๆ คือ
1. เมื่อทำการปลดแอก Borough นั้นๆสำเร็จ ประชาชนในเขตนั้นๆจะสนับสนุน DedSec มากขึ้น โดยการอยากเข้าร่วมกับ DedSec มากขึ้น การชวนเข้าร่วมก็จะง่ายขึ้น
2. จุด Tech Point ที่เหลือที่ยังไม่ถูกค้นพบจะเปิดเผยบนแผนที่
3.Skill , Ability และอาวุธของสมาชิกใหม่ที่รับมาจาก Borough ที่ปลดแอกแล้ว จะตกเป็นของทีมและสามารถใช้ร่วมกันได้ทุกคน
4. ได้สมาชิกใหม่เข้าร่วมกับ DedSec เพิ่มเติม
EXPERT SKILLED OPERATIVE
ตัวละครปฎิบัติการณ์ทักษะระดับสูง ที่ได้เป็นรางวัลจากการปลดแอกเขตต่างๆประกอบด้วย
Camdem: Hacker
Lambeth: Drone Expert
Nine Elms: Professional Hitman
Westminster: Spy
Islington & Hackney: Football Hooligan
Tower Hamlets: Getaway Drive
Southwark - Anarchist
City of London - Beekeeper
หลังจากทำการปลดแอกเขตแคมเดน (Camden) สำเร็จแล้ว สมาชิกใหม่ที่ได้รับเป็นรางวัลคือ
Deepesh Gurung (Hacker)
Viral Hacking – ในขณะแฮ็คให้กดปุ่มค้างไว้จะส่งผลให้รัศมีการแฮ็กกว้างขึ้น
Shock Hack – ใช้การแฮกปล่อยกระแสไฟฟ้าใส่ศัตรู
key Steal - สามารถแฮกขโมยรหัส Access Key ได้โดยไม่มีการจำกัดระยะทาง
Crypto Skimmer – ในขณะทำการแฮ็กมีโอกาสได้เงิน ETO ด้วย (ในบางครั้ง)
Bagley – ซวยแล้วผม ... คนยังไม่ตาย ผมเลยต้องเสียให้ Sabine tenner นึงจนได้ ไม่ใช่แค่นั้นนะ แต่คุณยังแสดงฝีมือที่เพิ่งเปิดแหล่งข้อมูลใหม่ได้ทั้งหมดด้วย ทำให้ตอนนี้ผมกำลังสนใจที่ กระทรวงการจัดการพลเมือง (The ministry of civic management) ที่ครอบครองเครื่องมือที่เรียกว่า Signal Intelligence Response Service หรือ SIRS หรือ Earl Grey Gestapo ซึ่งก็คือการนำเอาอุปกรณ์ดักรับดักฟังการสื่อสารมาพัฒนาต่อดัวยเทคโนโลยีการสำรวจที่เรียกว่า AR Reconstruction ซึ่งเป็นการละเมิดสิทธิความเป็นส่วนตัวที่เจ็บแสบมากแต่ด้วยเหตุนี้ มันจึงมีประโยชน์มากสำหรับเราที่จะใช้ในการค้นหา Zero - Day
Main Mission: Reporting For Duty
เดินทางมาที่ กระทรวงการจัดการพลเมือง (The ministry of civic management)
Bagley - ในทางทฤษฎีแล้ว AR Reconstruction ควรอนุญาตให้ผมใช้แหล่งข้อมูลการเฝ้าระวังต่างๆเพื่อจำลองเหตุการณ์ที่เคยผ่านมาแล้วขึ้นมาใหม่ การเข้าถึงรีเลย์ข้อมูลทำให้ผมสามารถนำเอาข้อมูลขนาดใหญ่ทั้งหมดสำหรับพื้นที่นี้มาใช้งานได้
Uniformed Access - เครื่องแบบที่สามารถเข้าถึงสถานที่ได้ดีคือ ชุดของเจ้าหน้าที่ Albion
เข้ามาได้ในอาคารด้วยการแฮกระบบ Power Supply box ปิดระบบ Security Lasers แล้วตรงเข้าไปสำรวจ SIRS Data Relay ทางฝั่งขวาของทางเข้า แล้วเข้าไปที่ลานกว้างด้านในเพื่อทดสอบระบบ AR Reconstruction
Anthony – ว้าว การกระทำทุกๆอย่างที่เราทำถูกบันทึกเอาไว้หมดเลย
Bagley – ถูกแล้ว เพราะงั้นเราถึงต้องการเจ้าอุปกรณ์ที่สุดยอดนี้เพื่อที่ผมจะได้ตามรอย Zero – Day ได้ยังไงล่ะ ...บ้าเอ๊ย ! ... ด้วยเหตุผลบางอย่างทำให้ผมไม่สามารถโครนระบบของมันเข้าไปที่ Servers ของเราได้ แต่เอาล่ะ งั้นก็เข้าระบบของมันจากที่นี่เลย ลองดูสิว่าเราจะเจออะไรหรือเปล่า
จากนั้นเดินไปที่ SIRS ctOS Hub ที่อยู่ที่มุมขวาบนของห้อง แล้วเข้าถึงข้อมูลของมัน
Bagley – อ่า SIRS มีการนำเอาเทคโนโลยีนี้ไปใช้ที่สำนักงานใหญ่ของพวกเขาด้วย และผมได้ดาวโหลดคู่มือวิธีการเซ็ตระบบมาแล้วเรียบร้อยแล้ว เอาล่ะ ตอนนี้ก็ถึงเวลาหนีได้แล้ว คุณคงไม่สามารถขโมยของเล่นของพวกเขาได้ถ้าโดนจับเสียก่อน
Anthony – แล้วตกลงเราจะชิงเอา AR Tech มาเป็นของเราได้ยังไงล่ะ?
Bagley –โปรแกรมอยู่กับเซิร์ฟเวอร์ที่อยู่บนดาดฟ้าของตึก SIRS HQ คุณก็แค่ไปเอามันมาให้หมด จากนั้นก็นำไปยังตำแหน่งที่มีความหนาแน่นสูงเพียงไม่กี่แห่งเพื่อให้ผมสามารถปรับแต่งมันใหม่เพื่อให้เขากับเครื่อข่ายของ DedSec ได้ แล้วทำการโคลนเป็นเวอร์ชั้นของผม
Anthony – แล้วเราจะขึ้นไปเอาเซิร์ฟเวอร์ที่อยู่บนดาดฟ้าของตึก SIRS HQ ที่เต็มไปด้วยการ์ดมากมายได้ยังไง?
Sabine – มีบางคนที่สามารถใช้งานโดรนที่ใช้ในงานก่อสร้างหรือขนสินค้าเพื่อบินขึ้นไปบนนั้นได้ ฟังดูแล้วคนอาชีพแบบไหนที่คุณต้องชวนมาเป็นพวกล่ะ งานนี้คงต้องเลิกใช้งานกระบองของคุณชั่วคราวก่อนแล้วกันนะ
จากนั้นออกตามหาประชาชนในเมืองที่มีอาชีพคนงานก่อสร้าง (Construction Worker) ที่มีทักษะเรียกโดรนก่อสร้างมาใช้งาน ( Cargo Drone Summon ) มาเป็นพวกให้ได้ แล้วเดินทางไปยังเป้าหมายของภารกิจในจุดต่อไปที่ มหาวิหารเวสต์มินสเตอร์ (Westminster Cathedral) เพื่อเตรียมการเข้าไปชิง เซิร์ฟเวอร์
กดปุ่มทิศทางขึ้นบนเพื่อเปิดเมนู Character Wheel เลือก Cargo Drone เพื่อใช้ทักษะเรียกโดรนก่อสร้างมาใช้งาน ขึ้นไปบนโดรนแล้วควบคุมมันบินไปยังเป้าหมายต่อไปที่ ตึก SIRS HQ
เมื่อพบเซิร์ฟเวอร์บนดาดฟ้าตึกแล้ว บังคับโดรนก่อสร้างลงไปยึดกับตู้เซิร์ฟเวอร์แล้วยกมันบินออกมาแล้วบินเอามาส่งที่จุดที่รถบรรทุกจอดอยู่ที่จุดเป้าหมายต่อไปได้เลย
Dan – ผมจัดการโหลดตู้เซิร์ฟเวอร์ขึ้นรถของคุณเรียบร้อยแล้วนะ ต่อไปก็ขึ้นอยู่กับคุณแล้ว ขับดีๆหน่อยล่ะ เข้าใจมั๊ย? เพราะเป็นสินค้าที่สำคัญมาก
Deepesh – เดี๋ยวนะ อะไร มันจะระเบิดได้งั้นหรอ? งั้นไม่ต้องห่วง ผมไม่อยากทำให้มันระเบิดแน่นอน
Bagley – ผมต้องดาวโหลดข้อมูลที่ยังตกค้างอยู่ในพื้นที่ไปยังเซิร์ฟเวอร์จนกว่าจะได้ข้อมูลมากพอ ..... เอาล่ะ เสร็จแล้ว ผมต้องการข้อมูลที่กว้างกว่านี้ เดี๋ยวผมจะส่งข้อมูลโลเคชั่นใหม่ไปให้
Bagley – ฉลาดมาก ดูนี่สิ มันรวบรวมข้อมูลจากโครงสร้างพื้นฐานการเฝ้าระวังที่อยู่ใกล้ ๆ ทั้งจากโดรน ctOS, Civilian Optiks, กล้องวงจรปิด ทำการรวบรวมเศษความทรงจำจากเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้นในตำแหน่งนี้เมื่อยี่สิบสี่ชั่วโมงก่อน ยอดเยี่ยมจริงๆ
Bagley – เอาล่ะ ผมกำลังดึงข้อมูลจาก Optiks, กล้อง ctOS, ไมโครโฟน แล็ปท็อป ต่างๆ คุณคิดว่า SIRS ใช้สิ่งนี้เพื่อเฝ้าดูผู้คนรึเปล่า? แม่งเอ้ย พวกเขาจะใช้มันอะไร นอกจากเฝ้าดูผู้คนอีกวะ?
Deepesh – Bagley โดรนๆ โดรนตรวจการณ์กำลังมาทางนี้ ช่วยด้วย
Bagley – บ้าเอ้ย คุณพอที่จะทำอะไรซักอย่างเพื่อจัดการเพื่อนใหม่ของคุณบ้างได้มั๊ยล่ะ? จะเชิญมันไปออกเดทหรือซื้อของขวัญให้ก็ได้ แต่ไม่ว่าจะทำอะไรก็ขอให้คุณไปให้ถึงตำแหน่งสุดท้ายให้ครบ 32 ก็พอ
Deepesh – แม่งเอ้ย ! เข้าใจแล้ว
Bagley – เอาล่ะ ผมถ่ายโอนข้อมูลเสร็จแล้ว เหลือจุดสุดท้ายแค่จุดเดียวเท่านั้น ผมส่งพิกัดไปให้แล้ว
Deepesh – Bagley พวกมันยังตามผมมาอยู่เลย !!
Bagley – อย่าให้พวกมันทำลายเซิร์ฟเวอร์ก่อนที่ผมจะโหลดข้อมูลเสร็จเชียวนะ !! ออกให้ห่างจากรถบรรทุกเพื่อไม่ให้โดนลูกหลงแล้วกำจัดพวกมันให้มันซะ !
Bagley – เอาล่ะ เรียบร้อยแล้ว ตอนนี้เราคงจะลากเซิร์ฟเวอร์นี้ไปตลอดไปไม่ได้แล้วและเราควรจะลบร่องรอยของเราออกด้วย ผมจะ overload ข้อมูลเข้าไปจน CPU ต้องใช้พลังงานเพิ่มขึ้นและทำลายแบตเตอรี่ ทำให้คลื่นสนามแม่เหล็กไฟฟ้า ให้มันทำลายทั้งเซิร์ฟเวอร์และโดรนของพวกมันทีเดียวเลย เอ่อ เพราะงั้น ... วิ่งได้เลย !!
Bagley – เป็นไง มันป่ะ ไม่หรอ? เราขโมยข้อมูลสำคัญสำเร็จ ซึ่งมันจะทำให้ทรราชชาติชั่วใช้ชีวิตยากขึ้นอีกเล็กน้อยและที่สำคัญที่สุด ผมได้ของเล่นใหม่มาเล่นด้วย เอาล่ะ ตอนนี้กลับไปรวมตัวกันที่ Safehouse ได้เลย Sabine จะบรรยายสรุปให้ฟัง
Sabine – ทำงานกันได้ดีมาก ดีใจที่ได้เห็น Safehouse ดูมีชีวิตชีวาอีกครั้ง ทางเดียวที่เราจะช่วยลอนดอนที่กำลังตกต่ำการการกดขี่ในครั้งนี้คือการสร้างกลุ่มต่อต้านขึ้นมาใหม่ เราต้องการอาสาสมัครใหม่เข้ามาร่วมกับเรา ฝึกฝนพวกเขาให้กลายเป็น DecSec แล้วสร้างคลังอาวุธของเราขึ้นมาใหม่ ประชาชนแทบจะทนไม่ไหวที่จะลุกขึ้นต่อสู้เพื่อทวงคืนบ้านเมืองของเขาแล้ว เราก็แค่แสดงให้พวกเขาเห็นว่า DecSec คือคนที่จะต่อสู้เคียงข้างพวกเขา
Deepesh – แน่นอน แต่เราจะจัดการไอ้พวกชั่วนั่นให้หมดได้ยังไง นั่นแหละปัญหาล่ะ
Aleksandar – แล้วพวก Albion แม่งก็ใช่ย่อยนะ แม่งโคตรอัธพาลเลย ให้ที่ไม่เห็นด้วยกับมันก็ถูกเก็บจนหมด
Rob – ใช่ แต่ทำไมพวกแก็งค์ Kelley ถึงได้ประโยชน์อยู่คนเดียววะ? เราคงต้องเล่นพวกมันด้วยแหละ
Bagley – ก็ยุติธรรมดี แต่ก็อย่าลืม Zero – Day กลุ่มแฮกเกอร์ลับที่กำลังป่วนบ้านเมืองอยู่ด้วยล่ะ มันเคยเล่นงานพวกเรามาแล้วครั้งนึง และพนันได้เลยว่า มันต้องเล่นเราอีกแน่ ผมเชื่อว่าเราทำให้มันต้องรับผิดชอบเรื่องเหตุระเบิดแล้วดันมาโทษ DedSec ได้แน่นอน ถ้าพวกคุณทุกคนร่วมแรงกันสู้ ผมมีแผนจะขุดความลับของมันขึ้นมาโปรดโปงให้ได้เลยคอยดูสิ
Sabine – ชั้นเบื่องานเอกสารเต็มทีแล้ว เลิกเอาแต่พล่ามแล้วออกมาไปแก้ไขความชิบหายให้ลอนดอนกันเถอะ !!
Bagley – จากข้อมูลที่ได้มาผมพบเบาะแสที่น่าจะคลี่คลายเกี่ยวกับตัวตนของ Zero – Day และเหตุการณ์วางระเบิดที่ทำให้เราชิบหายกันอยู่ในตอนนี้ ผมรับสัญญาณที่เข้ารหัสจากการประชุมของ TOAN ที่ออกอากาศแบบวนซ้ำตั้งแต่คืนวันที่เกิดการวางระเบิด ลองไปตรวจสอบดูก็แล้วกัน คุณน่าจะใช้ประโยชน์จาก AR Tech ที่เราขโมยมา …ไม่สิ .. ต้องเเรียกว่า การแบ่งปันอย่างสรางสรรค์
Permadeath Mode active
หลังจากจบ Main Mission: Reporting For Duty แล้ว การทำงานของโหมด Permadeath จะเริ่มทำงานอย่างเป็นทางการ
Permadeath คือโหมดที่ให้ผู้เล่นเลือกจะเปิดหรือปิดการใช้งานตั้งแต่ช่วงต้นเกมส์ ที่จะทำให้ตัวละคร Operative ในเกมตายจริง นั่นก็คือ หากพลาดจากการทำภารกิจหรือการใช้ชีวิตในเมืองจนเกิดอันตรายที่ทำให้ถึงตาย ตัวละครตัวนั้นจะตายจริง และจะไม่สามารถใช้งานหรือเห็นเขาในเกมอีกตลอดไป
แต่หากว่าผู้เล่นไม่ชอบความสูญเสียนี้ ก็สามารถเข้าไปที่ Option และปิดการทำงานของ Permadeath ได้ แต่ หากปิดแล้วจะไม่สามารถเปิดใช้งานได้อีกต่อไป
และหากตัวละคร Operative มีการตายจนหมดทั้งทีมโดยที่ผู้เล่นไม่ได้หาสมาชิกใหม่มาสำรองไว้ Game Over เริ่มเกมใหม่ตั้งแต่ต้นทันที
Operative Status
Arrested (ถูกจับ)
– รอเวลาพ้นโทษ
ความสามารถของ Operative สาย Police Officers ในทีมที่ส่งผลช่วยเหลือ
- Police Contact (เวลาที่ถูกคุมขังเมื่อถูกจับสั้นลง)
- Bail Out (เมื่อสมาชิกในทีมถูกจับกุมจะได้รับการปล่อยตัวทันที)
- รอเวลารักษาตัว
ความสามารถของ Operative สาย Paramedic ในทีมที่ส่งผลช่วยเหลือ
-Priority Care (ทำให้ระยะเวลาในการบาดเจ็บของเพื่อนร่วมทีมสั้นลง)
- Triage (ทำให้อาการบาดเจ็บของเพื่อนในทีมหายอัตโนมัติ (ในบางครั้ง))
Dead (ตาย) - มิอาจฟื้นคืน
Specialist Operative
ตัวละคร Operative ที่มี Skill ระดับ Expert ด้านต่างๆจะเริ่มพบเจอในเมือง ซึ่งจะสังเกตได้จากบนหัวพวกเขาจะมีวงกลมสีเขียวอยู่ สามารถเข้าไปชักชวนเข้าร่วมทีมได้เลย
ตำแหน่งเกิดของตัวละครที่มีความสามารถพิเศษสาขาอาชีพต่างๆในแผนที่
ภาพขนาดใหญ่ https://i.redd.it/tkho12aff1261.png
Main Mission: Digging up The Past
เดินทางมาที่เป้าหมายของภารกิจที่จุดที่เกิดการระเบิด ( TOAN Attack Site) ในบริเวณพื้นที่ฝั่งซ้ายของสะพาน Kingston Bridge
Josh – เอ่อ ผมกำลังมองหาอะไรอยู่เนี่ย Bagley?
Bagley - อุปกรณ์หรือส่วนประกอบใด ๆ ก็ได้ที่ยังคงสามารถปล่อยสัญญาณได้ ดูเหมือนว่ามาจากภายในพื้นที่นี่แหละ เศษหินหรืออิฐ อะไรซักอย่าง
* Uniformed Access - เครื่องแบบที่สามารถเข้าถึงสถานที่ได้ดีคือ ชุดของเจ้าหน้าที่ Albion
ด้านซ้ายของอาคารใกล้ๆจะที่เกิดการระเบิดจะมีทางที่สามารถปีนลงไปในพื้นที่ด้านล่างได้
ซึ่งจะใกล้กับหลุมการเสียหายจากระเบิดที่จุดที่มีหลักฐานตกอยู่มากที่สุด ซึ่งเมื่อเข้าไปสำรวจเก็บมันขึ้นมาดูจะพบว่ามันคือเศษชิ้นส่วนของขา Spiderbot
Bagley – ใช่แล้ว สัญญาณที่ผมจับได้ส่งมาจากเศษชิ้นส่วนของ Spiderbot อันนี้นี่แหละ แต่ยังไม่สามาระระบุได้ว่าเป็นของใคร
Marco – แล้วมันมาอยู่บ้าอะไรท่ามกลางซากปรักหักพังแบบนี้ได้วะเนี่ย?
Bagley – ก็บอกได้ยาก แต่ด้วย AR reconstruction เราอาจจะรู้ก็ได้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นที่นี่กันแน่ แต่ผมต้องเข้าถึงรีเลย์ข้อมูลในพื้นที่ใกล้เคียงก่อนผมถึงสามารถรวบรวมข้อมูลได้มากพอที่จะสร้าง AR reconstruction ได้
จากนั้น ต้องเข้าไปที่แท่นควบคุมเพื่อทำการอัพโหลดข้อมูลการเฝ้าระวัง Surveillance data ที่ relay (จุดเหลือง) ทั้ง 3 จุดในพื้นที่มาให้หมด โดยถ้าจะให้สะดวกให้ใช้ Spiderbot ลอบไปเข้าถึงที่แท่นควบคุมทั้ง 3 จุดจะดีที่สุด เมื่อดาวโหลดข้อมูลจาก relay ทั้ง 3 จุดแล้วกลับไปที่จุดที่พบขา Spiderbot ได้เลย
Albion Lieutenant – คุณเอา Payload มาด้วยรึเปล่า?
Kelley Goon – แหม่ คืดว่าเราหน่อมแน่มกันขนาดนั้นเลยหรอ?
Albion Lieutenant – อย่าไปไว้ใจพวกลูกหมา Kelley มันมากนักนะ
Marco – เดี๋ยวนะ ลูกหมา Kelley หรอ? แก็งค์ Kelley เกี่ยวข้องกับการวางระเบิดด้วยหรอเนี่ย? เรื่องใหญ่เลยนะเนี่ย!
Vincent – งานนี้ไม่ใช่แค่เกี่ยวข้องนะ แต่ Kelley เป็นคนจัดหาของเลยล่ะ
Marco – โอ้ตายล่ะ งั้นผู้หญิงที่เธอมาพบนี่ก็พนันได้เลยว่าเป็นส่วนหนึ่งของ Zero Day แน่นอน
Bagley – เรายังสรุปตอนนี้ไม่ได้หรอก หาต่อไปก่อน
Marco – มีโอกาสแค่ไหนที่จะค้นหาจุดเชื่อมโยงไปถึงคนใช้ Bot นี่ได้?
Bagley – ตอนนี้ผมได้ถอดรหัสสัญญาณที่สไปเดอร์บ็อตปล่อยออกมาแม้ว่าตอนนี้ผมยังไม่สามารถระบุตัวผู้ใช้เฉพาะเจาะจงได้ก็ตาม มันเป็นรหัสที่ใช้โดยหน่วยงานตำรวจนครบาล
Rosemary - โดยทั่วไปแล้ว feds (FBI) สกปรกจะชอบรู้เห็นเรื่องแบบนี้แต่ก็จะบอกไม่ได้เกี่ยวข้อง
Bagley – ตอนนี้ระบบ AR reconstruction ยังคงดำเนินต่อไปหลังซากปรักหักพังอยู่ครับ
Marco – โอ้ เยี่ยม เพนตากอนได้เปิดตัวเทคโนโลยีอุโมงค์ควอนตัมหรือเปล่าเนี่ย?
Bagley – เทคโนโลยี่อุโมงค์ควอนตัม (quantum tunnelling) น่าจะใช้งานได้อย่างน้อยก็อีก 10 ปี แต่ Spiderbot และ Drone มีใช้แล้วตอนนี้ คุณน่าจะลองใช้ดูซักอันถ้าคุณไม่อยากจะต้องรอนานขนาดนั้น
จากนั้นใช้ Spiderbot หรือ Drone เข้าไปทางท่อระบายอากาศทางฝั่งซ้ายของพนังเพื่อบังคับมันเข้าไปเก็บหลักฐานด้านใน
Bagley – RDX ไนโตรเจนและระบบจุดชนวนเหมือนกับระเบิดที่วางไว้ที่รัฐสภา
Marco – Zero-Day ต้องวางแผนเรื่องทั้งหมดนี้แน่นอน ใช่มั๊ย?
Kelley Goon – นี่ไง เร็วเข้า! เราต้องทำกันอีกหลายจุด
Albion Lieutenant – ดังนั้นคุณจึงได้รับการว่าจ้างให้จัดหาเป้าหมายทั้งหมดใช่มั๊ยล่ะ?
Kelley Goon – เอาล่ะ ปิดมันซะ เรารู้เท่าที่เราควรจะรู้หมดแล้ว
Marco - Zero day มีทีมงานหลายคนที่ประสานงานกันได้หลายมิติมาก
Bagley – นั่นเป็นยุทธวิธีหนึ่งในการแยกกันโจมตีด้วยการทำงานประสานกันของคนจำนวนมากแบบที่ไม่สามารถระบุตัวตนผู้ที่ลงมือก่อเหตุได้เลย Zero Day ต้องการกำลังคนและทรัพยากร แต่พวกเขาต้องการให้คนของเขาทำงานในแบบที่ไม่ต้องสนิทกันมากและไม่ต้องใช้ AI ที่สุดยอดที่สุดในโลกมาคอยเฝ้าดูแก็งค์ Kelley และ Albion โชคร้ายที่เราไม่สามารถค้นหาตนต่อจาก AR reconstruction ได้ แต่ถ้าเราพบตัวคนที่สอดแนมผ่าน Spiderbot ตัวนี้ได้ บางทีพวกเขาอาจบอกข้อมูลเราได้มากกว่านี้ก็ได้
- จากนั้นหนีออกจากที่นี่ได้เลย
Bagley – ผมตามรอย Serial number จนพบพิกัดของ Spiderbot เคยอยู่ที่ New Scotland yard เมื่อ 3 ปีก่อน บางทีเราอาจได้ข้อมูลของผู้ใช้ Spiderbot ตัวนี้ที่นั่น
Marco – และเขาอาจจะรู้ว่าใครอยู่เบื้องหลังเหตุระเบิดเมื่อเดือนก่อนก็ได้
Bagley – ทางเดียวที่จะรู้ชัวร์ๆก็คือต้องลองไปตรวจสอบที่ New Scotland yard ดูก็แล้วกัน
จากนั้นเดินทางต่อไปยังเป้าหมายของภารกิจต่อไปที่ตึกของ New Scotland Yard
Scotland Yard นั้นเดิมทีก็คือ ตำรวจนครบาล (Metropolitan Police Service) ของลอนดอน ก่อตั้งเมื่อปีค.ศ.1829 เพื่อปราบปรามอาชญากรรมในลอนดอนซะเป็นส่วนใหญ่ สำนักงานใหญ่ตำรวจนครบาลเดิมที่ตึกหมายเลข 4 Whitehall ในย่าน Westminster ก่อนที่ตึกนี้จะถูกลอบวางระเบิดโดยพวกไอริซ Irish ในปี 1884
ส่วนที่มาของการถูกเรียกว่า Scotland Yard นั้นเนื่องจากหนังสือพิมพ์ นิวยอร์กไทมส์ ได้เขียนถึง ว่า “วอลล์สตรีทเป็นชื่อของย่านการเงินของนครนิวยอร์กฉันท์ใด สกอตแลนด์ยาร์ดก็กลายเป็นชื่อของตำรวจในกรุงลอนดอนฉันท์นั้น” เพราะตึกบัญชาการของ ตำรวจนครบาล มีทางเข้าด้านหลังติดถนนชื่อ Great Scotland Yard ซึ่งเดิมเป็นเขตพระราชวังของราชวงศ์จากสก็อตแลนด์ในอดีตที่จะใช้เมื่อมีเสด็จเยือนกรุงลอนดอนนั่นเอง
จนในที่สุดสำนักงานใหญ่ของ Scotland Yard ก็ย้ายที่ตั้งไปอยู่ที่ถนน Victoria Embankment ริมฝั่งทางเหนือของแม่น้ำ Thames โดยเติมคำว่า New เข้าไปในชื่อเก่าของหน่วยกลายเป็น New Scotland Yard ก่อนที่จะย้ายมาตั้งสำนักงานแห่งใหม่ที่ทันสมัยที่ตึก Norman Shaw บนถนน Broadway Westminster เมื่อปี 1967 จนถึงปัจจุบัน
โดยชื่อเสียงของ Scotland Yard โด่งดังไปทั่วโลกจากการสืบสวนคดีสำคัญในประวัติศาสตร์อย่างคดี Jack The Ripper ฆาตกรต่อเนื่องฆ่าหญิงขายบริการในย่านสลัม Whitechapel ในลอนดอนเมื่อปี 1888 และคดีการสิ้นพระชนม์ของเจ้าหญิง Diana ที่กรุงปารีสในปี 1997
SOURCE
https://metro.co.uk/2017/12/20/why-is-scotland-yard-called-scotland-yard-and-what-is-the-history-of-the-london-headquarters-7174000/
https://web.facebook.com/KODETAHARN/posts/1952765015013525/
https://web.facebook.com/474003769409493/posts/490961661047037/
Anthony – ผมว่า Albion ยึดตึกนี้เอาไว้เรียบร้อยแล้วล่ะ
Bagley – รวมถึงพวกตำรวจทั้งด้วย แต่ไม่ต้องกังวลหรอกถ้าคุณไม่ได้พอใจกับความเป็นส่วนตัวของคุณ แค่ห่างๆพวกมันไว้แล้วมุ่งทำภารกิจของคุณก็พอ
Anthony – ผมไม่ค่อยแฟนพันธ์แท้พวกตำรวจเท่าไหร่แต่เจอแบบนี้ถือว่าแย่เลยล่ะ
Bagley – เอาน่ามันก็แตกต่างเพียงอย่างเดียวในตอนนี้คืออาวุธและเครื่องแบบและความจริงที่ว่าพวกมันถูกขับเคลื่อนด้วยผลกำไรจากการบริการสาธารณะ นั่นแปลว่าตอนนี้บันทึกหรือข้อมูลใด ๆ เกี่ยวกับสไปเดอร์บ็อตคงยังอยู่เพื่อหากำไรไม่ได้ถูกลบไปแน่นอน
* Uniformed Access - เครื่องแบบที่สามารถเข้าถึงสถานที่ได้ดีคือ ชุดของเจ้าหน้าที่ Albion
หากคุณเลือกตัวละครที่มีชุดตำรวจหรือ Albion จะง่ายต่อการเนียนผ่านระบบรักษาความปลอดภัยของตึกด้านหน้าไปได้ไม่ยากเลย
พยายามเดินชิดซ้ายหลบตำรวจที่เฝ้าด้านหน้าแล้วเดินขึ้นบันไดซ้ายไปชั้นบนให้เร็วที่สุดก็พอ เมื่อขึ้นไปด้านบนจะพบ Spiderbot กำลังถูกนักวิทยาศาสตร์กำลังซ่อมแซมมันอยู่ใน Secure Room
Anthony – เฮ้ นั่นมัน Spiderbot ตัวเดียวกันรึเปล่า Bagley?
Bagley – ถ้าดูตาม Serial number แล้วเข้ากันกับขาของ Spiderbot ที่เจอที่จุดที่เกิดการระเบิดที่ TOAN
Anthony – ตามได้มั๊ยว่ามันเป็นของใคร ?
Bagley – ได้ ถ้าเอา Spiderbot นั่นออกมาจากห้องนั้นได้ ผมต้องการเชื่อมต่อเพื่อเรียนรู้จากเพื่อนที่ถูกแยกส่วนของเราโดยตรง
จากนั้นจัดการแฮกกล้องวงจรปิดในห้องเพื่อซูมเข้าในห้องที่นักวิทยาศาสตร์กำลังซ่อม Spiderbot ตัวเป้าหมายอยู่ แล้วกด Hijack เพื่อควบคุมมันให้ช็อตนักวิทยาศาสตร์ที่กำลังซ่อมมันให้สลบไป
Spiderbot ตัวนี้ได้รับความเสียหายหลัก ดังนั้นการบังคับมันจะยากลำบากมากเพราะกระโดดสูงไม่ได้ จากนั้นบังคับมันหาที่ปีนโดยใช้โต๊ะทำงานในห้องเพื่อสำรวจกล่องตัวจุดระเบิดที่วางในห้องก่อน
Bagley – นี่มันเป็นตัวจุดระเบิดแบบเดียวกับที่ใช้วางระเบิดที่รัฐสภาซึ่งถูกประกอบขึ้นให้ในแบบประกอบด้วยมือของ DedSec
บังคับ Spiderbot จากตัวจุดระเบิดเข้าช่องทะลุไปห้องทำงานข้างๆแล้วหาทางทำทางเพื่อปีนขึ้นโต๊ะทำงานยังช่องระบายอากาศที่อยู่ในห้องนั้น
เปิดฝาครอบออกเพื่อใช้เป็นที่ปีนขึ้นไปตามคานด้านบนของห้องจะพบช่องระบายอากาศอีกอันที่จะเข้าไปด้านในพื้นที่ใต้เพดานได้ เดินเข้าไปตามทาง ที่ยากลำบากเพราะความเสียหายของ Spiderbot ไปตามทางใต้พนังจนมาออกในห้องที่ตัวละครอยู่ได้
Anthony – ได้มาแล้ว !
Bagley – ผมสแกน Spiderbot และเข้าถึงข้อมูลในไดรฟ์ด้านในของมันแล้ว กำลังวิเคราะห์ข้อมูลอยู่ ส่วนขึ้นก็ออกจากที่นั่นแบบให้ครบ 32 ก็แล้วกัน คุณคงไม่อยากอธิบายกับหน่วยติดอาวุธของตำรวจที่จะเข้ามาถามว่าคุณบุกสถานีตำรวจทำไมใช่มั๊ยล่ะ?
Anthony – เข้าใจแล้วน่า
-เก็บ Spiderbot ที่เสียหายนั่นมาแล้วออกจากพื้นที่นี้ได้เลย
Bagley – จากซาก Spiderbot นั่นผมเจอโมดูล GPS ที่ใช้ดาวเทียมระบุตำแหน่งของสถานีภาคพื้นดินที่เฉพาะเจาะจงเป็นประจำอยู่ เดี๋ยวผมจะส่งโลเกชั่นไปให้
Anthony – น่าสนใจแฮะ ฐานลับงั้นหรอ? เราต้องไปเช็คดูหน่อยแล้ว
จากนั้นเดินทางต่อไปยังเป้าหมายของภารกิจต่อไปที่สะพาน Lambeth Bridge
สะพานแลมเบิร์ธ (Lambeth Bridge) เป็นสะพานข้ามแม่น้ำเทมส์ที่สร้างตั้งแต่ปี 1932 เชื่อมต่อระหว่างย่าน Westminster และ Lambeth ของลอนดอน โดยทางด้านตะวันออกของ สะพานจะเป็นพระราชวังแลมเบิร์ธ (Lambeth Palace) แต่สะพานข้ามแม่น้ำเทมส์จุดนี้กลับเป็นที่รู้จักน้อยกว่าสะพานข้ามแม่น้ำเทมส์จุดอื่นๆทั้งที่มีมุมที่สวยงามไม่แพ้กันเลย
https://www.talontiew.com/london-lambeth-bridge/
Anthony – เอาล่ะ ถึงแล้ว ผมจะเข้าไปยังไง?
Bagley – ผมตรวจพบเครือข่ายเฝ้าระวังที่ป้องกันช่องว่างใต้สะพานนี้อยู่ จากประวัติของ GPS ที่ผมกู้มาได้จาก Spiderbot ที่ใช้ประจำคือพิกัดนี้ คุณควรจะลองเข้าไปเช็คดูนะ บางทีเราอาจจะพบเบาะแสของตัวการลึกลับของเหตุระเบิดก็ได้ ซึ่งมันเป็นโลเกชั่นที่ดีมากๆในการซ่อนตัว
Anthony – ปกติก็คงไม่มีคนจะลงไปที่นั่นอยู่แล้ว ที่นี่แหละเหมาะในการทำเป็นที่วางแผนของผู้ก่อการที่เฟอร์เฟคมากๆ
Bagley – หรือถ้าเกิดผิดพลาดก็ทิ้งศพลงแม่น้ำ Thames ได้ง่ายๆเลย
การจะเข้าไปด้านในได้นั้นต้องทำการแฮก Circuit Box แล้วเลือกให้ Explode ให้มันระเบิด ใส่แผงควบคุมประตูที่อยู่ใกล้ๆก็จะทำให้ประตูเปิดออกได้
จากนั้นเข้าไปแฮกข้อมูลของ ctOS Hub ด้านในเพื่อดูข้อมูลกล้องวงจรปิดจะสามารถเห็นภาพห้องลับที่ซ่อนอยู่ใต้สะพานได้
Anthony – ว้าว ดูเหมือนเป็นที่ที่พวกตำรวจชั่วสร้างเอาไว้ใช้เพื่อลักลอบทำอะไรบางอย่างเลย
Bagley – ก็ถ้าหากพวกอัลเบียนบุกเข้าไปค้นที่ทำงานของคุณ คุณก็คงจะมีสถานที่อื่นสำหรับเก็บอาหารกลางวันของคุณไว้เผื่อด้วย ดูเหมือนว่าเจ้าหน้าลึกลับคนนี้ของเราก็เช่นกัน
Anthony – หวังว่าจะพบหลักฐานที่เชื่อมโยงไปถึงการวางระเบิดที่ TOAN บ้างนะ
Bagley – ดูพวกคอมพิวเตอร์พวกนั้นสิมีฝุ่นมากพอที่จะฆ่าเราด้วยโรคหอบหืดได้เลยนะ แต่เชื่อเหอะว่าต้องมีข้อมูลอะไรที่เราพอจะใช้ได้บ้างแน่นอน
ดาวโหลดข้อมูลบันทึกเสียง .........
นี่คือสารวัตร Kaitlin Lau ไม่สิ .. ต้องอดีตสารวัตร เพราะตั้งแต่ Albion เข้ามา The Met (ตำรวจนครบาลเรียกอย่างไม่เป็นทางการว่า Met) ก็ไม่มีอีกแล้ว ตำรวจได้หลักฐานไว้หมดแล้วทั้ง Albion และแก็งค์ Kelley เรื่องการวางระเบิด แต่ชั้นรู้ว่ากลุ่มของ Mary Kelley มีส่วนเกี่ยวข้องกับอาชญากรรมอื่น ๆ ด้วย เรากำลังตรวจสอบอยู่ ชั้นและเพื่อนที่ดีสองสามคนที่ยอมที่จะเล่นนอกตำรา แต่เราก็ตามหลัง Mary Kelley อีกครั้ง .. ชั้นนี่แม่งไม่เคยเรียนรู้เลย จริงมั๊ย?
Kaitlin Lau - สารวัตร Kaitlin Lau กำลังบันทึกวีดีโอ ..
ตอนนี้กลุ่มของ Kelley และพวก Albion กำลังมีข้อตกลงบางอย่างกันอยู่ แต่ชั้นยังไม่รู้รายละเอียด แต่เหมือนกับจะเป็นเรื่องการค้ามนุษย์ European processing Centre เห็นด้วยในมุมของ Albion หลังจากเหตุการวางระเบิดพวกเขาจึงมีสิทธิ์ที่จะสามารถจับใครก็ได้แล้วเรียกพวกเขาว่า ผู้อพยพผิดกฎหมาย ผู้ก่อความไม่สงบ หรือโทษว่าเป็นการกระทำของพวก DedSec หึ เราเองก็รู้ว่าใครคือตัวอันตรายที่แท้จริง
ดังนั้นแก็งค์ Kelley ในฐานะมือเท้าของ Albion จึงมีสิทธิ์จับคนเหล่านี้ได้ จะในฐานะ ผู้อพยพ ผู้ถูกเนรเทศ หรือเหยื่อจริงๆพวกมันพาพวกเขาไปที่ไหน แลทำแบบนี้ไปทำไม?
ทุกหลักฐานก็ย้อนกลับมาที่เจ้านายหญิงของพวกมันตลอด ฉันรู้ว่าเธอเป็นยังไง แต่เธอก็ดิ้นหลุดได้ตลอด
ชั้นทำได้แค่จับตาและตรวจสอบ แมรี่ เคลลี่ ก็ทำมาเป็นหลายร้อยครั้งแล้ว แต่ครั้งนี้ ถ้าฉันถูกจับได้นี่จะเป็นการตรวจสอบครั้งสุดท้ายของฉัน แต่ฉันต้องรู้ให้ได้ว่าเธอซ่อนอะไรอยู่กันแน่
Bagley – ดูเหมือนเจ้าหน้าที่ลึกลับของเราก็คือ สารวัตร Kaitlin Lau และที่สำคัญ Mary Kelley เป็นเป้าหมายหลักของเธอเพื่อสืบสวนที่จะนำไปสู่คนอยู่เบื้องหลังเหตุวางระเบิด
Anthony – งั้น Albion ทำงานร่วมกับแก็งค์ Kelley จริงๆด้วย แต่บอกตรงๆว่าก็ไม่ได้แปลกใจอ่ะนะ
Bagley – ดูเหมือนว่าเว็บของ Zero day จะครอบคลุมเนื้อหาที่น่ารังเกียจของลอนดอนเอาไว้ทั้งหมด ซึ่งมันจะสามารถสาวไปถึงตัวมันได้ รวมทั้งแก็งค์ Kelley และ Albion ด้วย
Anthony – เราคงต้องทำอะไรซักอย่างเช่น ... การลักพาตัว
Bagley – สารวัตร Kaitlin Lau กล่าวถึง albion ว่าส่วนนึงในการดำเนินแผนปฏิบัติการณ์ของพวกมันมาจาก EPC ที่อยู่ภายนอกองค์กร ... และนักสืบอย่างเราเรียกสิ่งนั้นว่า เบาะแส
-----------------------------------------------------------------------------------------------------
Watch dogs legion Trick !
จุดเกิดของ ตัวละครสาย SPY ที่แน่นอน
- เดินทางมาที่สถานนี Vauxhall ในย่าน Nine Elms (ตอนกลางวันหรือกลางคืนก็ได้) ออกจากสถานีแล้วเดินข้ามถนนไปทางถนนฝั่งซ้ายบนในเขต Lambeth เดินผ่านตึก MI6 ไปจนสุดจะพบซอยทางซ้าย
ที่นี่จะเจอ ตัวละครสาย SPY ยืนอยู่ในซอย (สลับแรนด้อมหน้าตาและเพศ) ตั้งแต่เช้าจนถึงเที่ยงคืนของทุกวัน
จุดเกิดของ ตัวละครสาย SPY ที่แน่นอน (จุดที่ 2 )
- เดินทางมาที่สถานี Whitechapel ในย่าน Tower Hamlets (ตอนกลางวันหรือกลางคืนก็ได้) ออกจากสถานีแล้วเดินลงใต้มาที่โรงพยาบาล Royal London Hospital
จะเจอ ตัวละครสาย SPY ยืนอยู่ด้านข้างโรงพยาบาล (สลับแรนด้อมหน้าตาและเพศ) ตั้งแต่เช้าจนถึงเที่ยงคืนของทุกวัน
จุดเกิดของ ตัวละครสาย Professional Hitman ที่แน่นอน
- เดินทางมาที่สถานนี Brewer St (ตอนกลางคืน) ในย่าน Westminster เลี้ยวขวาจากทางออกสถานทีมาที่ซอยแรกทางฝั่งซ้าย ในซอย walker's court ถนนคนเดินในย่านโซโหของเมือง
คุณจะพบตัวละครสาย Professional Hitman คนนึงกำลังฆ่าเป้าหมายคนอยู่ในซอย (สลับแรนด้อมหน้าตาและเพศ) ตั้งแต่เวลา 21 .00 ของทุกวัน
และสำหรับใครที่อยากได้ John wick (ไม่ใช่ Official Keanu Reeves นะ) ก็สามารถมาหาที่จุดนี้ได้ จากนั้นก็ลุ้นให้ ตัวละครสาย Professional Hitman ที่เจอหน้าเหมือน John wick ก็ช่วนเข้าพวกได้เลย
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
KELLEY CHAPTER
BODY SNATCHERS
MAIN MISSION: Lost in the Process
Sabine – การที่ Albion ทำธุรกิจร่วมกับแก็งค์ Kelley เป็นสถานการณ์ที่ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ และถ้าสิ่งที่ สารวัตร Kaitlin Lau พูดถูก ลำดับความสำคัญตามแผนของเรา ข้อมูลสำคัญนี้ก็โดดแซงคิวมาอยู่หน้าสุดเลยแบบนี้ เรามีเหตุผลให้เชื่อได้ว่าอดีตฝ่ายปฏิบัติการณ์ของ DedSec น่ายังคงมีชีวิตอยู่แต่หายตัวไปใน EPC
Bagley – Angel Lopez ไม่ใช่คนลอนดอนโดยกำเนิด แต่ผมจะไม่ต่อต้านเขาไม่เหมือนคนอื่น
Sabine - ดูเหมือนว่า Angle อาจหลบซ่อนตัวปะปนอยู่กับพวกผู้อพยพในค่ายผู้อพยพแบบไม่มีทางเลือก บางทีเหตุผลเดียวที่ทำให้เขาต้องหนีคือเพราะการกวาดล้าง DedSec ของ Zero + Days
Bagley – ความรู้สึกต่อต้านพวกผู้อพยพในลอนดอนเริ่มก่อตัวรุนแรงขึ้นนับตั้งแต่การวางระเบิด มันทำให้ Albion ใช้เรื่องนี้เป็นเชื้อทำให้พวกมันสามารถจับใครก็ได้ที่ต้องการไปไว้ที่ค่ายผู้ลี้ภัยที่โหดร้าย
Sabine – เราต้องรีบเข้าถึงตัวเขาก่อนที่พวกมันจะรู้ว่าเขาเป็น DedSec ! นี่ไม่ใช่แค่เรื่องส่วนตัวหรือเรื่องทีม แต่เบาะแสที่เขาเจออาจจะนำมาซึ่งความจริงเกี่ยวกับความข้องเกี่ยวกันระหว่าง Albion กับแก็งค์ Kelley
Anthony – เข้าใจแล้ว ถ้าเขาอยู่ใน EPC จริงเขาก็คงยังไปไหนไม่ได้อย่างน้อยๆก็ซักพักนึงแหละ แต่พิจารณาจากสภาพของที่นั่น เราคงทำอะไรได้ไม่มากนักหรอก
Bagley – ผมส่งข้อมูลรายละเอียดทั้งหมดไปให้คุณแล้ว และ เจ้าหน้าที่ที่จะให้คำแนะนำของเราจะติดต่อหาคุณทันทีที่เข้าไปถึงที่ EPC
เดินทางมาที่จุดหมายของภารกิจที่ European processing Centre ในย่าน Lambeth แล้วเข้าไปด้านในเพื่อเข้าพบสายของ DecSec ที่รออยู่ได้เลย
Gabriela – ตกลงมันเกิดอะไรขึ้นที่นี่กันแน่?
Lloyd – ที่แน่ๆ ที่นี่เป็นค่ายกักกันที่เหมือนเป็นคุกมากกว่า ทุกๆวันผมเห็นคนมากมายถูกจับมาอยู่ที่นี่ พวกเขาต้องถูกพรากจากบ้าน จากครอบครัวมา มันน่าเศร้ามากแต่ผมก็ต้องทนดูเพื่อคอยจับตาดูความเคลื่อนไหวของที่นี่ หวังว่าบางทีอาจจะช่วยอะไรได้บ้าง เช่นตอนนี้
Gabriela – ดูที่นี่สิ พวกเขาก็แค่พวกงี่เง่า ไม่เคยอยู่ในสายตาใคร ไม่มีใครใส่ใจอยู่แล้ว จะช่วยหมดทุกคนได้ยังไง? ผู้คนป่วย บ้างก็ตาย ไม่ก็หายสาบสูญโดยที่ไม่มีใครรู้เลย
Lloyd – นั่นแหละ ถึงได้มีการประกาศหาคนหายกันอยู่ตลอดไง ก็มีแต่บันทึกแจ้งความแต่ก็ไม่เคยดำเนินการใดๆ ทำให้ยังไม่เคยมีใครถูกระบุว่าเป็นผู้สูญหายตามกฎหมายเลยนอกจากพวกแก็งค์ Kelleys ที่เดินกร่างไปมาแถวๆนี้เหมือนพวกไฮยีน่า ผมไม่เคยมองพวกมันในแง่ดีเลย
Gabriela – ชั้นไม่รู้ว่า Mary Kelley ได้เสียอะไรกับเรื่องผู้อพยพนี่มากน้อยแค่ไหน แต่ที่รู้แน่ๆคือ นางไม่ใช่คนดีแน่นอน
Lloyd – ก็จริง เอาล่ะ เรื่องคนของคุณที่หายตัวไป ถ้าจะค้นหาจุดแรกที่ดีที่สุดควรเริ่มที่ EPC database ก่อนเลย พวกมันบันทึกข้อมูลการเข้ามาของคนที่ถูกจับมาอยู่ที่นี่ไว้หมด แล้วก็ ระวังตัวด้วยล่ะ
Bagley – ผมส่งข้อมูลพิกัดของ EPC database ไปใน Optik ของคุณแล้วนะ ข้อมูลที่เราต้องการค้นหาคือ เงื่อนงำของ Ángel López
จากนั้นจัดการแฮกระบบ Power Supply เพื่อปิดระบบ Security Lasers ตรงทางเข้าด้านหน้าแล้วเข้าไปด้านในได้เลย
เมื่อลอบเข้ามาถึงจุดหมายแล้วจะพบว่าห้องเก็บข้อมูล (Restricted Access) นั้นถูกปิดล็อกอยู่ เดินมาฝั่งซ้ายจะพบตำแหน่งของ access key ในห้อง ใช้ Spiderbot ลอบเข้าไปดาวโหลดรหัสเปิดประตูมา แล้วย้อนกลับไปเข้าห้องเก็บข้อมูล (Restricted Access) ที่ตอนนี้เปิดได้แล้ว เข้าไปโหลดข้อมูล EPC database บนโต๊ะทำงานได้เลย
Sabine – เอาเลย Bagley ดูสิว่าเราได้อะไรบ้างBagley – ดูเหมือนว่าไฟล์ของเขาถูกลบออกจากข้อมูลหลักของระบบไปแล้วพร้อมกับคนอื่นๆอีกหลายพันคน ซึ่งมีรายละเอียดค่อนข้างมากครับ แม้ในขณะที่พวกมันกำลังก่ออาชญากรรมต่อมนุษยชาติรัฐบาลก็ไม่เคยได้อ่านเอกสารใดๆเลย ... นี่คือบันทึกที่มีจ่าหน้าแฟ้มไว้ว่า Exit Interview (การสัมภาษณ์ครั้งสุดท้ายก่อนพนักงานจะลาออก)
เจ้าหน้าที่ EPC – คุณรู้ว่าเราจะทำยังไงกับพวกผู้ก่อการร้ายใช่มั๊ย Lopez? ห๊ะ? แล้วก็ เอ่อ อย่าทำให้ผมโกรธด้วยการปฏิเสธอีกต่อไปเลยนะ เพราะเรารู้แล้วว่าคุณทำงานให้ DedSec ! คิดว่าคุณได้รับเลือกจากการสุ่มงั้นหรอ อย่าฝันไปเลยวะ ...ไม่มีอะไรจะพูดซักหน่อยหรอ? อืมม ถ้าเลือกแบบนี้ก็คงจะจบไม่สวยแล้วล่ะ เพราะว่าผมต้องการข้อมูลจากคุณมากๆ ไม่งั้นคุณได้ตายคาคุกแน่ๆ บอกมา ผมต้องการรู้ว่า พวกมันกบดานอยู่ที่ไหน มีใครบ้าง อะไรก็ได้ที่คุณรู้ บอกมา ! คุณคิดว่าผมโง่หรอ? ผมจะเค้นจนกว่าคุณจะบอกสิ่งที่ผมอยากรู้ออกมาให้หมดเลยคอยดู
Ángel López – ถ้าบอกแล้วแกจะไปชั้นไปงั้นหรอ? ยังไงชั้นก็ไม่บอกหรอก ชั้นรู้ดีว่าสุดท้ายแล้วมันจะจบยังไง
เจ้าหน้าที่ EPC – โอ้ ไม่หรอก ผมคิดว่าคุณไม่รู้หรอก ผมกำลังจะโยนคุณไปให้ฝูงหมาป่า ตอนนี้พวก Kelleys กำลังสนใจศาสตร์แห่งการกำจัดปัญหาอยู่พอดี
Ángel López – แกคิดว่าชั้นจะกลัวไอ้แก็งค์กวนเมืองห่านั่นงั้นหรอ? เต็มที่ก็ไปลอยอืดในแม่น้ำเทมส์ ส้นตีนเหอะ !!
เจ้าหน้าที่ EPC – ไม่เอาน่า คุณมีค่ามากกว่านั้นเยอะ ฮ่าๆ …พวกมันอาจเริ่มจากแร่เนื้อคุณออกมาใส่จาน พอคุณเริ่มจะเนื้อหมดตัวแล้ว พวกมันก็จะเริ่มสับคุณจนละเอียดแล้วเอาไปทิ้งไว้ทั่วทั้ง 4 มุมเมือง
Ángel López – จะทำห่าอะไรก็จัดมาชั้นรับได้หมดแหละ!
เจ้าหน้าที่ EPC – ผมเกือบที่จะสงสารคุณแล้วเชียว ... เอาตัวมันไปที่คลินิก ! จากนั้น ...
Sabine – บ้าเอ้ย พวกมันรู้มาตลอดว่าเขาเป็น DedSec นั่นคงไม่ดีเลยสำหรับ Ángel
Bagley – คลินิกเปิดทำการในเวลาราชการ นั่นแปลว่าตอนนี้มันปิดแล้ว ผมจะลองค้นหาตัว Ángel ด้วยวิธีดั่งเดิมในแบบของผมดีกว่า นั่นก็คือ แฮกเข้าระบบ ctOS hub
Bagley – สภาพความเป็นอยู่ที่น่าสยดสยอง การหายตัวไปที่ไม่สามารถอธิบายได้ บลาๆ เหมือนกับว่าสื่อจงใจที่จะเพิกเฉยต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในที่นี่ ...แล้วนี่ 89 Beatrice Stokely king boxing เพิ่งเติมเต็มวันที่น่าสนใจของนาง .. หาก EPC เป็นตัวอย่างทั่วไปของการปฏิบัติต่อกันของมนุษย์ ผมก็คงเป็น โอเวอร์ลอร์ด AI ที่ใจดีที่สุดในโลกแล้วล่ะ จริงมั๊ย?
เป้าหมายต่อไปคือการเข้าไปที่ Clinic เพื่อทำการ AR reconstruction ดูเหตุการณ์ย้อนหลังกับเรื่องที่เคยเกิดขึ้น
Bagley – ผมกำลังใช้ระบบ AR reconstruction เพื่อย้อนดูเหตุการณ์ตอนที่ Ángel ถูกสอบสวน แต่คุณต้องหาทางเข้าไปดูใน Clinic เอง
จากกล่องควบคุมโดดลงไปด้านหน้าที่หน้าประตูคลินิก Carcani medical ที่ปิดอยู่ ซึ่งต้องแก้ปริศนาปรับเส้นพลังงานให้เชื่อมต่อกัน โดยการแฮกที่กล้องวงจรปิดบนเพดานห้องด้านใน
แล้วทำการปรับและเชื่อมต่อเส้นพลังงานให้เป็นสีฟ้าทั้งหมด ก็จะสามารถเข้าไปด้านในเพื่อเริ่มกระบวนการ AR reconstruction ในจุดที่ Ángel เคยถูกสอบสวนได้
Ángel López – ลองให้ชั้นคุยดูก่อนมั๊ยล่ะ? ชั้นพอรู้จักคนวงในอาจช่วยแกออกไปได้ แค่ช่วยให้ชั้นออกไปจากที่นี่ก่อนก็พอ
เจ้าหน้าที่คลินิก – มันต้องผ่านหลายขั้นตอนนะคุณ López น่าจะใช้เวลานาทีหรือ 2 นาทีถึงจะให้คุณออกไปด้านนอกได้
Ángel López – อ๊ากกก !!
Sabine – อะไรวะเนี่ย !?
Gabriela – เหมือนพวกมันจะพยายามใส่อะไรลงไปในตัวเขานะ เราต้องตรวจเช็คให้ละเอียดก่อน
Bagley – การวิเคราะห์หน้าตาตรงกัน พวกมันเป็นคนในแก็งค์ย่อยของ Mary Kelley งั้นก็แปลว่า สารวัตร Kaitlin Lau พูดถูกทั้งหมด Albion กับแก็งค์ Kellry มีผลประโยชน์ร่วมกันอย่างแน่นอน อะไรมันจะบ้าขนาดนั้น
Bagley –ไมโครชิปเคลือบด้วย biocompatible glass เพื่อไม่ให้ร่างกายเกิดการปฏิเสธ
Gabriela – งั้น ไมโครชิป นั่นก็ยังอยู่ในตัวของ Ángel หรอ? มันคือเครื่องติดตามหรอ? หรือว่าเครื่องวัดสัญญาณชีพ ?
Bagley – ไม่ใช่ มันซับซ้อนกว่านั้น แต่ถ้าจะให้ผมเดานะ ผมบอกได้แค่ว่าพวกเขาออกแบบมาเพื่อใช้ปล่อยสารประกอบบางอย่างที่ผมไม่รู้จักแบบที่คุณไม่สามารถหาได้ตามร้านค้าทั่วไป ผมสามารถสร้างภาพย้อนหลังเส้นทางที่เขากำลังไปได้นะถ้าคุณจะรู้ว่าเรื่องนี้มันจบลงยังไง
Ángel López – แม่งเอ้ย !!
เจ้าหน้าที่คลินิก – จับมันเร็ว! อย่าให้มันหนีไปได้ !
เจ้าหน้าที่คลินิก – แม่งเอ้ย มันไปทางนั้นแล้ว จับมัน !!
Sabine – บ้าเอ้ย พวกมันกำลังไล่ตามจับเขาอยู่ เร็วเข้า Ángel
Ángel López – ไอ้พวกบ้าเอ้ย !
Sabine – แม่งเอ้ย เขาต้องทำได้สิ !
เจ้าหน้าที่คลินิก – บ้าเอ้ย เราชิบหายแล้วแบบนี้ เรายังตกลงกับเขาไม่เสร็จเลย
เจ้าหน้าที่คลินิก – ก็นางพยายามจะฆ่าเรานี่หว่า
เจ้าหน้าที่คลินิก – ช่างเหอะ ไม่เป็นไร ตราบใดที่เขายังไม่เสียหายก็ยังพอใช้ประโยชน์ได้อยู่ เรายังมีความต้องการคนพวกนี้อีกเยอะสำหรับเครือข่ายใหม่
เจ้าหน้าที่คลินิก – หวังว่าคุณจะคิดถูกนะ
เจ้าหน้าที่คลินิก – เอาล่ะ เร็วเข้า รีบใส่เข้าไปในตัวเขาแล้วเอาขึ้นรถไปที่เตาเผาเลย
Gabriela – แย่จัง ไม่ได้คิดว่ามันจะเป็นอย่างนี้เลยจริงๆนะ ไมโครชิพนั่นเป็นมากกว่าแค่เครื่องติดตาม
Rosetta – ชั้นคิดว่าพวกเขาทำเพื่อยั่วยุ ชั้นรู้ว่าพวกเรากำลังจะมีข้อตกลงกับ Mary Kelley ที่นี่ และจะมีโอกาสมากขึ้นถ้า Ángel ยังไม่ตาย
Sabine – งั้นเราก็ต้องตามหาตัวเขาเพื่อดูว่าพวกมันทำอะไรกับเขากันแน่ และไอ้ไมโครชิฟบ้านั่นมันคืออะไร?
Bagley – ดูเหมือนจะเป็นเทคโนโลยีตัวใหม่ของ Mary Kelley และแก็งค์ของนาง Mary อาจมีเอี่ยวกับพวกกลุ่มแฮกเกอร์ใน Dark web อย่างที่ว่า โอ้ ไม่รู้สิว่าใช่ Zero Day มั๊ยนะ?
Sabine – เป็นทฤษฎีที่น่าสนใจมาก Bagley แต่ตอนนี้หยุดอัลกอริทึมการสอบสวนเอาไว้ก่อนได้มั๊ย? Ángel กำลังต้องการพวกเรา
Bagley – เตาเผาขยะที่พวกเขาพูดถึงน่าจะเป็นเตาเผาในย่าน Southwark ที่อยู่ไม่ไกลจากที่นี่แน่นอน ลองไปตรวจสอบดูก็แล้วกัน
MAIN MISSION: Clan Kelley’s New Export
เดินทางไปยังจุดเป้าหมายภารกิจต่อไปที่ เตาเผาขยะในย่าน Southwark (Southwark Incinerator)
* Uniformed Access - เครื่องแบบที่สามารถเข้าถึงสถานที่ได้ดีคือ ชุดของ Clan Kelley *
เมื่อเข้ามาด้านในพื้นที่โรงงานเผาขยะแล้ว เป้าหมายแรกคือเข้าไปในห้องควบคุม ในพื้นที่ไม่มีศัตรูมากนักพยายามหาทางลอบจัดการศัตรูให้หมดก่อนจะดีที่สุดจากนั้นค่อยเข้าไปสำรวจแผงควบคุมเพื่อปลดล็อกประตูเข้าไปในห้องควบคุมได้เลย
Bagley – ผมสามารถติดตาม Mr. Lopez ด้วยภาพถ่ายที่มีจนพบตำแหน่งที่ชั้นใต้ดินของที่นี่แต่ว่าไม่สามารถเข้าถึงกล้องวงจรปิดด้านล่างได้เลย
จากนั้นลงจากห้องควบคุมไปที่ทางลงชั้นใต้ดินที่อยู่ในบริเวณทางออกด้านหลังของตึก ซึ่งจะพบว่าประตูปิดอยู่ ทำให้การลงไปที่ชั้นใต้ดินต้องผ่านช่องสำหรับโยนศพลงไปเท่านั้น
ทันทีที่ตกลงมาที่ชั้นใต้ดินจะพบกับสถานที่สำหรับทำบางอย่างกับร่างของผู้ลีภัยที่ถูกจับมา ในขณะที่หมอที่กำลังจะผ่าตัดร่างของสารวัตร Kaitlin Lau ทั้งเป็นก็สังเกตเห็นเสียงที่ผิดปกติดังแว่วมาทำให้ต้องหยุดชงักการลงมือลงหันไปสนใจที่มาของเสียงแทน
สบโอกาสที่ทางสารวัตร Kaitlin Lau ที่เริ่มรู้สึกตัวมีจังหวะได้เตรียมตัวหยิบถาดมาฟาดจนหมอสลบและรอดจากการถูกชำแหละมาได้ในที่สุด
Kaitlin Lau – เอาล่ะ ออกมาได้แล้ว ชั้นไม่กัดหรอก .. ขอบคุณที่ช่วยทำให้มันวอกแวกนะ ..ชั้นขอเวลาทำความสะอาดไอ้สิ่งสกปรกนี่แปบนะ
Mindy – คุณไม่เป็นไรนะ ไอ้ห่านั่นมันเกือบจะชำแหละคุณซะแล้ว
Kaitlin Lau – ชั้นแค่ขอเวลาหายใจแปบนึงแล้วก็จะหาไฟล์ของชั้นที่พวกมันเอาไปด้วย
Mindy – ตายล่ะ คุณคือ Lau ? .. สารวัตร Kaitlin Lau ใช่มั๊ยเนี่ย? พวกเราดูวิดีโอที่คุณบันทึกเอาไว้น่ะ พระเจ้า ไม่อยากเชื่อเลยว่าคุณจะบุกรังของพวก Kelley ด้วยตัวคนเดียวจริงๆ
Kaitlin Lau – ก็ไม่ได้ลุยคนเดียวแบบนี้ตลอดหรอกนะ คุณเป็นใครเนี่ย? คุณคือ DedSec ใช่มั๊ย? คุณตามชั้นมาถึงโรงเชือดนี่สินะ
Mindy – เปล่า โทษที คือ เรามาตามหาเพื่อนเราน่ะ เขาเพิ่งหายตัวไปจาก EPC แล้วก็ตามรอยมาถึงที่นี่ พวกแม่งมีแต่พวกโรคจิต ดูมันทำกับพวกเขาสิ
Kaitlin Lau – งั้นก็โทษที แต่ ชั้นว่าอย่าไปหวังมากไปว่าจะหาเจอ พวก Kelleys คงไม่ปล่อยให้เขารอดนานแน่ พวกมันคงจะชำแหละเอาอวัยวะไปขายในตลาดมืดแล้วล่ะ ชั้นตามเรื่องพวกมันมาเป็นเดือนแล้ว และพวกมันก็ได้ไฟล์พวกนั้นไปแล้วด้วย ! รู้สึกแย่มากๆเลย
Mindy – ใช่ คุณดูแย่มากๆจริงๆแหละ เดี๋ยวชั้นจะเรียกพวกของชั้นมาพาคุณไปที่ที่ปลอดภัยก่อนก็แล้วกัน แล้วชั้นจะไปตามหา Ángel เพื่อนของชั้นแล้วก็จะตามเอาไฟล์ของคุณกลับมาให้ด้วย
Kaitlin Lau – มันเป็นข้อมูลทั้งหมดของ Mary Kelley และแก็งค์ของมันที่ชั้นใช้เวลารวบรวมมาหลายปี มากพอที่จะเอาผิดนางได้สบายๆ
Mindy – เหยด แบบนี้เราคงจับตาคุณไม่ปล่อยแน่นอน เพราะชั้นมั่นใจว่า DedSec ก็อยากเล่นงาน Mary Kelley ให้เละเหมือนกัน
Bagley – เอาล่ะ ผมส่งคนของเราออกไปคุ้มกัน Kaitlin Lau เพื่อไปยังที่ปลอดภัยแล้ว คุณก็จัดการตามหา Ángel และไฟล์ของ Lau ได้เลย
Kaitlin Lau – ชั้นจะรอพวกเขาอยู่ที่นี่ก็แล้วกัน แล้วก็ขอบคุณนะที่ช่วยเอาไว้
Bagley – แบบนี้คงไม่ต้องเดาแล้ว ทั้งหมดคือปฏิบัติการทำฟาร์มอวัยวะมนุษย์ของพวกมัน พวก Kelleys สามารถเลือกสับเอาอวัยวะตามที่มันต้องการได้สบายๆเลยแล้วก็เผาหลักฐานทิ้งแบบไม่มีใครรับรู้เลย
จากนั้นกดปุ่มทิศทางขึ้นบนแล้วกดสี่เหลี่ยมเพื่อเลือกใช้กล้องถ่ายไปที่หน้าของศพที่มีจุดเป้าหมายสีเหลืองจนสามารถยืนยันตัวตนได้ว่าเป็น Ángel López
Bagley – เสียใจด้วยนะ .. ผมยืนยันแล้วว่านี่คือ Ángel López แน่นอน
Sabine – บ้าเอ้ย .. Ángel เขารู้ดีว่ามันเสี่ยง ชั้นเองก็ด้วย แต่ไม่คิดเลยว่า DedSec ต้องมาเจอเรื่องแบบนี้ Mary Kelley เป็นตัวแปรที่ทำลายลอนดอนให้อ่อนแอมากที่สุด นางมันสัตว์ประหลาดชัดๆ จัดลำดับความสำคัญให้นางเป็นเป้าหมายสูงสุดของเราได้เลย
Bagley – ตอนนี้เราต้องหาไฟล์ของ Lau ให้เจออยากจะดูว่าที่ผมเดาไว้มันถูกต้องมั๊ย .. Mary Kelley ก็คือ Zero-Day รึเปล่า?
หลังจากพบศพของ Ángel López แล้วเข้าด้านในต่อจนถึงห้องด้านในสุด จัดการศัตรู 2 คนในห้องแล้วเก็บไฟล์ของ Lau ที่อยู่ด้านในมาได้เลย
Inspector Lau’s file
MERY KELLEY
เข้ารับตำแหน่งหัวหน้าแก็งค์ Kelley ตั้งแต่การตายของ peter kelley (ถูกแทงในคุก) มีความเชื่อมโยงกับ johnny Kelley
มีการลงทุนหนักใน eTos
- การทำธุรกรรมที่ไม่สามารถติดตามได้เพราะเป็น crypto (สินทรัพย์ดิจิตอล) .. นังนี่ฉลาด
ตำแหน่งที่รู้: ปัจจุบันอาศัยอยู่ใน Sandstone Residence (มีระบบรักษาความปลอดภัยสูง)
- หมายเหตุ: จัดการเพื่อดักฟังระบบรักษาความปลอดภัย .. ต้องออกไปตรวจสอบดู
อสังหาริมทรัพย์ (ที่เป็นเจ้าของ): หินทรายและโกดังเก่าริมคลอง (ทำเพื่ออะไร?)
- เป็นเจ้าของอีกหลายอย่าง แต่ไม่สามารถตรวจสอบได้ เช่นบริษัท Braden & Clery (บริษัท กฎหมายของ Kelley - ต้องการใบสำคัญในแสดงสิทธิที่ซื้อหุ้น)
ข้อสงสัย:
คนของแก็งค์หายไปในช่วงสองสามเดือนที่ผ่านมา: มี Sasha Hadad อายุ 28 ปี , Radek Stopkewich อายุ 24 และ Darla covington อายุ 19
ตามข้อมูลระบุว่าทั้งหมดถูกส่งไปยัง EPC .. แต่เมื่อลองตามเรื่องไปที่ EPC แล้วพบว่า ไม่มีการบันทึกไว้ พบร่องรอยของผู้คนที่หายตัวไปมากขึ้น .. Kellley เอาผู้คนมาจาก EPC หรือเปล่า? ทำไปเพื่ออะไร?
Abion ใส่เกียรว่างกับเรื่องนี้ แต่ดูเหมือนพวกเขาจะรู้เรื่องที่เกิดขึ้น
ต้องติดต่อกับ M. เขาน่าจะมีข้อมูลบางอย่างให้
- อัปเดต: M ตายแล้ว พบ 0Ded ในอพาร์ทเม้นท์ของเขา พวกเขารู้ ฉันต้องลงลึกกว่านี้ และพวกเขาอาจจะมาหาฉันต่อ
Bagley – เยี่ยมมาก คุณได้ไฟล์ของ Lau มาแล้ว สารวัตร Kaitlin Lau ต้องดีใจแน่นอน เอาล่ะรีบออกมาจากที่นั่นก่อนพวกมันจะกลับมาเห็นแล้วจับตัวคุณไปสับเป็นหมูบะช่อ
Kaitlin Lau – DedSec นี่ Kaitlin Lau ชั้นอยากจะ เอ่อ .. ขอบคุณ ตอนนี้ชั้นไม่เหลืออะไรนอกจากบทเรียนทางกายวิภาคศาสตร์ หรือ กองขี้เถ้า
Bagley – คุณต้องดีใจแน่ถ้ารู้ว่าตอนนี้ สารวัตร Lau ได้รับการคุ้มกันในที่ที่ปลอดภัยแล้วและตอนนี้กำลังอยู่ในระหว่างพักฟื้นจากการรักษาบาดแผลการบาดเจ็บ
Kaitlin Lau – ชั้นสบายดีแล้ว แต่ยังคงหงุดหงิดนิดหน่อยกับสิ่งที่พวกมันทำกับชั้นและรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยที่เราได้ร่วมมือกัน แต่ที่แน่ๆ คุณมีทีมปฎิบัติการณ์ ชั้นมีข้อมูล และยังมีแรงสนับสนุนจากผู้คนอีกเล็กน้อย รวมทรัพยากรของเราเข้าด้วยกัน เราคว่ำนัง Kelley ได้แน่ ! แม้ Mary Kelley ไม่ใช่องค์กรอาชญากรที่กระจอกๆก็เถอะ
Bagley – ผมจะซิงค์กับสารวัตร Kaitlin Lau และเตรียมการบรรยายสรุปที่ฐานของเรา !
MAIN MISSION: Bloody Mary Kelley
The Earl’s Fortune Bar [DedSec's Safehouse]
Bagley – Mary Kelley หัวหน้าแก็งค์ Kelley องค์กรอาชญากรรมที่ใหญ่และทรงอำนาจที่สุดในลอนดอน ซึ่งเป็นที่จดจำได้ไม่ยากและคุ้นชินกันอยู่แล้ว
Kaitlin Lau – สมัยยังอยู่ใต้ร่มเงาบารมีของพ่อนาง พวกนี้ยังเป็นพวกตัวกระจิ๊บกระจ๊อยอยู่เลย จนกระทั้งพ่อนางตาย คู่แข็งของนางก็ค่อยๆหายไป ศัตรูของเธอ เพื่อนของเธอ หรือแม้แต่ครอบครัวของเธอ จนพวกเขาขนานนามเธอว่าBloody Mary
Bagley – ในช่วงต้น Mary ได้ทุ่มเงินสดทั้งหมดของเธอไปกับ สินทรัพย์ดิจิตอล และนำองค์กรอาชญากรรมของนางเข้าสู่ธุรกิจออนไลน์อย่างเต็มตัว
Kaitlin Lau – มันทำให้ธุรกิจการลักลอบขนอาวุธเถื่อน ขนยาเสพติด การฟอกเงินทำได้ง่ายขึ้นมากโดยไม่ต้องใช้เงินสดและไม่สามารถตามรอยเงินได้ด้วย
Kaitlin Lau – Sasha Hadad อายุ 28 ปี , Radek Stopkewich อายุ 24 และ Darla covington อายุ 19 ทั้งหมดหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย
Mary Kelley - ทุกวันนี้หาความช่วยเหลือดีๆยากว่ามั๊ย? ความรักหรอ ? คนส่วนใหญ่ .. พวกเขาไม่ได้บริสุทธ์ไร้มลทิน เหมือนกับคุณ เพราะว่าพวกเขารู้สึกไร้ค่า พวกเขาควรเป็นงั้นหรอ? วิถีแห่งโลกความเป็นจริงที่ควรจะเป็น เราจะใช้คนยังไง มันเป็นเรื่องที่น่ากลัวนะ ดีที่คุณยังมีจุดหมายในชีวิตอ่ะนะ ...โอ้ ดูเหมือนมีคนมาเรียกชั้นแล้วล่ะ
Kaitlin Lau – เรายังคุยกันไม่จบนะ !
Mary Kelley – นี่ ! .. รู้จักมารยาทบ้างสิ
Mary Kelley – โอ้ .. ขอแสดงความนับถือต่อครอบครัวของพวกเขานะ มันเป็นเรื่องที่น่ากลัวมากถ้าต้องเสียคนที่รักไป ยินดีที่ได้คุยกันนะคุณ Kaitlin
Kaitlin Lau – อย่าที่เห็น เธอจะไม่ยอมตอบคำถามอะไรเลย แต่มีอยู่ที่หนึ่งที่เธอรู้สึกสบายใจที่จะยอมพูดคุย … Sandstone Residence
Bagley – สารวัตร Kaitlin Lau คิดว่าพวกตำรวจติดเครื่องดักฟังไว้ที่ฐานใหญ่ของแก็งค์ Kelleyเพราะอาจมีหลักฐานที่เรื่องการติดสินบนของบลัดดี้แมรี่
Kaitlin Lau – Sandstone คือ ศูนย์กลางในการปฏิบัติงานของพวกมัน ... ชั้นรู้ว่าข้อมูลการดักฟังนั่นจะสามารถล้มนางได้แน่นอน ไปเอามันมาให้ชั้น สาบานเลยว่าถ้าได้มาชั้นจะใช้มันมัดตัวนางแล้วจับขังลืมแบบไม่ต้องเห็นเดือนเห็นตะวันอีกเลย
Bagley – ผมส่งข้อมูลพิกัดไปให้ใน Optik ของคุณแล้วครับ
เดินทางไปที่จุดหมายของภารกิจที่ Sandstone Residence ที่อยู่ของ Mary Kelley และป็นฐานใหญ่ของแก็งค์ Kelley ในย่าน Islington & Hackney
ที่นี่จะมีระบบรักษาความปลอดภัยอย่างแน่นหนาจึงไม่สามารถเข้าได้ในทุกประตูทางเข้าในแบบปกติได้เลย ทางที่สามารถแทรกซึมเข้าไปได้คือตัวตึกฝั่งซ้ายที่มีหน้าต่างชั้นบนเปิดอยู่ โดยต้องแฮกโดรนที่บินอยู่แถวนั้นเข้าไปด้านใน
Kaitlin Lau – ตัวบันทึกกล้องวงจรปิดอยู่ที่ห้อง Security Room
Bagley – การไปที่นั่นควรเป็นเรื่องง่ายๆ มันก็เหมือนกับการสำรวจช่องระบายอากาศนั่นแหละ
Sabine – นางบังคับขืนใจใช้งานพวกเขาอยากกับทาสเลย
Kaitlin Lau – เป็นอะไรที่โหดเหี้ยมมากๆ แต่แย่กว่านั้นคือพวกเขาไม่รู้ว่ากลายเป็นผู้บริจาคอวัยวะโดยไม่เต็มใจ
จากนั้นเปิดช่องระบายอากาศตรงมุมห้องด้านในมุดโดรนเข้าไปด้านในต่อไปยังห้องด้านในแล้วมุดเข้าช่องระบายอากาศในห้องนั้นเข้าไปต่อจนลงมาที่ชั้นทางเดินชั้นล่าง
บินโดรนเข้ามาตรงทางลงบันไดของชั้นนี้จะพบช่องระบายอากาศให้มุดเข้าไปก็จะเข้ามาถึงห้อง Security Room
Kaitlin Lau – นางใช้ห้องนี้แหละคอยสอดส่องทั่วคฤหาสน์มาตลอดหลายปี
Sabine – แล้วคุณเคยเข้ามาที่นี่มาก่อนรึเปล่า? ถ้างั้นคุณถูกจับไปที่ห้องใต้ดินในโรงงานเผาขยะที่ Southwark นั่นได้ยังไง?
Kaitlin Lau – เราต้องการข้อมูลอะไรก็ได้ที่จะใช้ปรักปรำนางได้ เราเลยตัดสินใจจะส่งใครซักคนเข้ามาติดเครื่องดักฟังที่นี่ และชั้นไม่สามารถมอบหมายงานนี้ให้ใครได้ คุณคงเห็นแล้วว่าพวกมันทำอะไรกับคนที่จับมาจาก EPC แล้วเจ้าหน้าที่ในเครื่องแบบก็ยากที่จะแทรกซึมเข้าไป ชั้นเลยต้องลุยเอง แต่ชั้นไม่รู้ว่านางมีข้อมูลของเราอยู่แล้ว ทั้งทีมเลย ชั้นก็เลยต้องลุยแบบไม่เป็นทางการเพื่อหยุดข้อมูลที่รั่วไหลนั้น แต่นางรู้ก่อนแล้วว่าเรากำลังจะเข้ามา นางเลยจับชั้นมาทรมานเพื่อจะเอาข้อมูลรายชื่อสายลับทั้งหมดของเรา แต่ตำรวจไม่มีวันขายตำรวจด้วยกันแน่นอน แต่สุดท้ายนางก็ได้รายชื่อของทุกคนในทีมชั้นมาแล้วจัดการเก็บจนหมด นั่นคือเหตุผลที่ชั้นต้องจบเรื่องนี้ให้ได้ มีล้านเหตุผลเลยที่อยากทำลายโลกของนาง แต่ .. เพื่อนชั้นเองก็ตายไปเพราะพยายามจะเอาตัวนางเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมมาแล้ว
แก้ปริศนาเชื่อมต่อเส้นพลังงานจากห้อง Security Room ให้เชื่อมต่อไปยังพื้นที่รอบๆห้องให้เป็นสีฟ้าทั้งหมดก็จะสามารถแฮกเข้าระบบในคอมพิวเตอร์ในห้อง Security Room ได้
ผู้หญิง - Prosze Nie (ได้โปรด อย่า!)
Mary Kelley – โถ ..ดูสิว่าเธอทำอะไรกับตัวเองหลังจากที่ชั้นให้ทุกๆสิ่งกับเธอ
ผู้หญิง – คุณทำกับเราเหมือนกับทาส ได้โปรดเถอะค่ะ ปล่อยชั้นไปเถอะ
Mary Kelley – อยากกลับไปใช้ชีวิตแบบเดิมน่ะหรอ? กลับไปไม่มีอะไร กลับไปอยู่ในทางตันแบบนั้นอ่ะนะ ไม่หรอกเธอไม่อยากอยู่แบบนั้นแน่ที่รัก
Mary Kelley – ไมโครชิฟนี่มันน่ากลัว ชั้นรู้ แต่ชั้นจะติดป้ายระบุตำแหน่งสินค้าของชั้นมันผิดด้วยหรอ? มีดทำครัวแล้วนี่อ่ะหรอ มันไม่ได้ติดอะไรหรอกที่รัก เพราะจะได้เชือดได้แบบที่ไม่ถูกสาวถึงตัวยังไงล่ะ
ผู้หญิง – ได้โปรด ชั้นใช้ชีวิตแบบนี้ไม่ไหวแล้วจริงๆค่ะ
Mary Kelley – ไม่เป็นไร เธอก็พูดถูกอ่ะนะ ไม่เป็นไรนะที่รัก เพราะชั้นมีงานอื่นให้เธอทำแทนนะ
อ๊ากกกก !!!!
Mary Kelley – โอ้ มีความสนใจงั้นหรอ? เห็นแล้วก็เอาไปบอกต่อกันก็ดีนะ ..แกรู้ใช่มั๊ยว่าอีกคนที่หายไปมันอยู่ที่ไหน? แล้วก็เตรียมเอาไอ้ 2 คนนี่กับพวกที่เหลือก็เตรียมขายไปให้หมดซะ
Peter – ได้ครับท่าน ตอนนี้พวกนักลงทุนจากต่างชาติก็มีติดต่อเข้ามาแล้ว เราเตรียมส่งมอบสินค้าตามคำร้องขอและทำการประสานกับลูกค้าเรียบร้อยแล้วครับ
Mary Kelley – อืมมม .. ชั้นได้กลิ่นของความคิดริเริ่ม ใช่มั๊ย Peter? การทาบทามก่อนมันเป็นเรื่องที่อันตรายมากนะ มันอาจทำให้เกิดการตีความที่ผิดพลาดได้
Sabine – นี่มันบ้าไปแล้ว แมรี่ได้เทคโนโลยีแบบนี้มาได้ยังไง? ฆ่าคนด้วยไมโครชิฟที่ฝังในตัวเนี่ยนะ
Bagley – บางทีมันก็มีพวกที่จิตใจผิดปกติ แต่มันก็มีพวกที่จิตใจปกติจนถึงอัจฉริยะเหมือนกับ Zero – Day ด้วยเหมือนกัน คุณว่ามั๊ยล่ะ?
Kaitlin Lau – จะเกี่ยวหรือไม่เกี่ยวกันยังไงชั้นก็ไม่สนหรอก Bagley นางกดขี่ผู้คน และทำให้พวกเขากลายเป็นทาส ที่สำคัญนางขายพวกเขาเหมือนสินค้าด้วย นี่แหละเรื่องใหญ่ .. DedSec เราต้องหยุดการประมูลค้ามนุษย์ของพวกมันเอาไว้ให้ได้ เก็บข้อมูลทุกอย่างแล้วออกจากพื้นที่ได้เลย ตำแหน่งที่ตั้งของงานจะอยู่ในบัตรเชิญ ตอนนี้นางยังไม่ได้ส่งบัตรเชิญออกไปเลย แต่ทันทีที่เธอเริ่มส่งเมื่อไหร่ ..
Sabine – Bagley คุณคอยตรวจสอบเครือข่ายโดรนเอาไว้ ทันทีที่ Mary เริ่มเคลื่อนไหวให้แจ้งเราทันที แต่ก่อนจะถึงตอนนั้นพวกเราก็ตรวจสอบและเฝ้าระวังในเมืองเอาไว้ก็แล้วกัน
Kaitlin Lau – ถ้าชั้นมีอะไรที่น่าสนใจจะรีบติดต่อไปหาทันที โชคดี DedSec
Bagley – แต่ยังไงซะเราก็ต้องกลับไปสู่สิ่งที่สำคัญจริงๆของเรานั่นคือในการไขปริศนาของ Zero - Day พวกเขาคือใคร และทำไมพวกเขาจึงวางแผนทำให้ DedSec เป็นแพะรับบาปในเหตุการณ์วางระเบิดแบบ แต่พวกคุณโชคดีที่มี AI ยอดนักสืบแบบผมเป็นเพื่อน เรื่องแรก ไม่ต้องห่วงเลยงานนี้พวกนักการเมืองสุนัขรับใช้ของ Albion ต้องจ้องตาเป็นมันแน่นอน กับอีกเรื่องที่อาจจะไม่ค่อยเหมาะในตอนนี้ แต่ก็มากพอที่อาจทำให้คุณสนใจ มันมีกลุ่ม hacktivist กลุ่มใหม่ที่ชื่อ “The 404” ที่กำลังเคลื่อนไหวอยู่ใน darkweb ที่ไม่ใช่เป็นอะไรที่เล่นๆสนุกๆหรือกอบโกยเงินจากคนอื่นแบบปกติ แต่เหมือนกำลังจะสร้าง สังคมที่รุนแรง ในรูปแบบใหม่ขึ้นมา ผมส่งข้อมูลของทั้ง 2 งานไปให้ใน Optik ของคุณเรียบร้อยแล้วครับ
Bagley – อ่อ แล้วก็ มี Operative คนนึงในทีมของคุณถูกจับตัวไป ผม reconstruction จากข้อมูล ctOS data ดูแล้ว เขาถูกสะกดรอยโดยพวกศัตรูของเรา ตามหาผู้หญิงที่คุณพยายามทำให้โกรธระหว่างการหลบหนีแล้วเธอจะพาไปหา Operative ของคุณ
SIDE MISSION: Shawn Colonel Kidnapped
ภารกิจย่อยที่เกิดขึ้นมาแบบสุ่มในกรณีที่ตัวละคร Operative ในทีมของเราถูกจับตัวไป ทำให้ไม่สามารถเลือกใช้งานเขาได้ โดยผู้เล่นแต่ละคนจะมีอีเวนท์นี้เกิดแบบสุ่มเวลาและสุ่มตัวละครที่โดนจับไป
จากนั้นก็ต้องไปทำภารกิจเพื่อเข้าไปช่วยพาเขาหนีออกมาจากรังของศัตรู พร้อมกับ trophy – A Dish Best Served Cold ที่จะได้มาหลังทำภารกิจนี้เสร็จสิ้น
หลังจากบทของ Mary Kelley แล้วจะมีบทใหม่ขึ้นมาให้เลือกต่ออีก 2 บท ซึ่งผู้เล่นสามารถเลือกได้ว่าจะเล่นบทไหนก่อน ระหว่าง
MAIN MISSION: initiate Sequence
Sabine ได้ขุดลึกเรื่องเครือข่าย Hacktivist กลุ่มใหม่ที่ชื่อ “The 404” ที่กำลังเคลื่อนไหวอยู่ใน darkweb อยู่ขณะนี้ ซึ่งอาจมีข้อมูลที่มีค่าเกี่ยวกับ Zero – Day และทุกคนสามารถเข้าร่วม The 404 ได้โดยยอมรับการเชื่อมต่อกับสัญญาณจากHub ctOS ของพวกเขา .. หาทางเข้าถึง Hub ของ The 404 อย่างใกล้ชิดเพื่อดูว่าพวกเขารู้อะไรดีๆบ้าง
MAIN MISSION: Gap in the Armour
Dedec เลือกที่จะดูบทบาทของ Albion ในการโจมตีเมืองลอนดอนด้วยความโหดเหี้ยมในบทบาทของ Zero – Day แบ็กลีย์พบพันธมิตรที่เป็นไปได้ซึ่งอาจเป็นประโยชน์ในการเปิดเผยแผนการของอัลเบียน อดีตพนักงานของ Albion ซึ่งครั้งหนึ่งเคยใกล้ชิดกับ Nigel Cass CEO ของ Albion
404 CHAPTER
FAMILY BUSINESS
MAIN MISSION: initiate Sequence
404 – ลอนดอน นี่คือ 404 เครื่อข่าย Hacktivist เจ้าแรกที่ส่งข้อมูลตรงจากบุคคุลสู่บุคคลโดยไม่ผ่านตัวกลาง เพื่อความเท่าเทียมกันในการรับรู้ข้อมูลจากระบบคอมพิวเตอร์ ขอต้อนรับทุกคน ถ้าคุณอยากได้ความแตกต่าง จงเข้าร่วมกับเรา เราจะกำจัดความเลื่อมล้ำจากชนชั้นสูง ทีละคน ทีละคน จนหมด
Hacktivist เกิดจากคำว่า Hacker + Activist มีความหมายถึงกลุ่มนักเคลื่อนไหวที่ใช้เทคโนโลยีในการแฮกข้อมูล อาจจะเคลื่อนไหวตามลำพังหรืออาจทำงานรวมกันเป็นกลุ่ม Hacktivist มีเป้าหมายในการเคลื่อนไหวหลายประเด็น ทั้งต่อต้านเผด็จการ ความอยุติธรรมของทุนนิยม และอีกมากมาย แต่โดยรวมแล้วเป็นการต่อต้านเพื่อให้เกิดความเปลี่ยนแปลงด้านความเสมอภาคและเสรีภาพ เช่นกลุ่ม Anonymous ที่โด่งดัง
Sabine – ฮ่าๆ เจอนี่ใน Dark web ดูเหมือนนังหนูสุดเท่นี่กำลังจะสร้างกลุ่มแฮกเกอร์ขึ้นมา ตอนนี้เนี่ยนะ แต่ พวกเขาอาจมีประโยชน์ในการต่อสู้ของเรา ก็ยินดีต้อนรับ เราคงต้องแทรกซึมเข้าไปใน 404 ถ้าเราผูกสัมพันธ์กับพวกเขาได้ เราก็จะได้ทรัพยากรอันมีค่าของพวกเขามาด้วย
Bagley – ถ้าทุกอย่างเป็นไปได้ด้วยดี พวกเขาอาจจะช่วยเราจัดการ Zero – day ได้ง่ายขึ้นก็ได้ หรืออาจจะดีกว่านั้น บางทีพวกเขาอาจเป็น Zero – Day ซะเองก็ได้ ทางเดียวที่จะรู้คือต้องลองหาทางติดต่อพวกเขาดู ผมลองสอดส่งไปตามท้องถนนด้วย ctOS ก็พบภาพ Graffiti ของพวก 404 อยู่ เหมือนพวกเขาทำขึ้นเพื่อบอกถึงอนาเขตของตัวเองอะไรแบบนั้นแน่ๆ เดี๋ยวผมจะส่งพิกัดไปให้คุณเข้าไปตรวจสอบนะ
เดินทางต่อไปยังเป้าหมายของภารกิจที่ Camden High Street แล้วเข้าไปที่ ctOS hub ที่มีสัญลักษณ์ของกลุ่ม 404 เพื่อดาวโหลดการเชื่อมต่อ
404 – ถ้าคุณกำลังฟังอยู่ นั่นแปลว่าคุณกำลังอยากรู้เกี่ยวกับเรา 404 จงรู้เท่าที่เราอยากให้รู้ ทำตามที่เราบอก แล้วเดินทางไปที่ walkie – Talkie Club คลับของพวก Kelley ซึ่งก็ไม่ใช่ที่ลึกลับอะไร แต่ที่นั่นกลับมีความลับที่กำลังจะถูกเปิดเผย
เดินทางต่อไปยังเป้าหมายของภารกิจที่ walkie – Talkie Club ในเมืองลอนดอน แล้วขึ้นลิฟต์ไปชั้นบน
Bagley – อ่า คุณมาถึง walkie – Talkie Club แล้ว สถานที่สำหรับผู้ที่มีเงินมากกว่าจิตสำนึก ก่อนที่ต้องสูญเสียมันไปทั้งสองอย่างไป
404 - walkie – Talkie Club เป็นที่ที่พวกคนรวยหัวขวดแวะเวียนมาอยู่ตลอด รวมถึงหัวหน้าแก็งค์ Kelley ด้วย เป็นที่ที่เหมาะสมในการหาข้อมูลสำหรับใช้ในการแบล็กเมลเป็นอย่างยิ่ง หา AI ที่ใช้บันทึกข้อมูลที่อยู่ที่นี่แล้วดูด้วยตาตัวเองว่ามันมีความชั่วร้ายอะไรซ่อนอยู่บ้าง
สิ่งที่ต้องคือค้นหา Facial Recognition AI ที่อยู่ในบาร์นี้ โดยใช้ Spiderbot มุดเข้าไปในช่องระบายอากาศตรงทางขึ้นบันไดฝั่งขวาลงไปที่ห้องด้านล่าง
แล้วมุดเข้าช่องระบายอากาศด้านขวาของประตูห้องที่ปิดเข้าไปที่ห้องทำงานด้านใน แล้วโดดขึ้นไปมุดเข้าไปในช่องระบายอากาศที่อยู่ด้านบนตู้เอกสารต่อก็จะเข้ามาถึงห้องที่เก็บ Facial Recognition AI ได้แล้ว
Bagley – ว้าว จากการที่คุณต้องใช้พยายามอย่างมากเพื่อเข้าถึงมันจนสำเร็จ และตอนนี้ที่เราได้มาก็คือ ... ว่างเปล่า ..ไม่มีอะไรเลย เพราะนี่ไม่ใช่ AI .. จริงๆแล้ว AI ไม่ได้อยู่ที่นี่ มันเป็นแค่ relay สำหรับส่งข้อมูลออกไปภายนอกคลับแค่นั้นเอง เดี๋ยวผมจะหาเองว่ามันอยู่ที่ไหน ส่วนคุณก็ออกมาจากที่นั่นให้ปลอดภัยก็พอ
Bagley – ผมลองขุดหาข้อมูลดูแล้วดูเหมือน Facial Recognition AI สร้างโดยบริษัท Broca Tech
Sabine – Broca Tech หรอ? บริษัทผลิต Software รายใหญ่ที่สุดในสามโลกอ่ะนะ แต่พวกเขามือสะอาดมาตลอดนะ ถ้าเขาซื้อข้อมูล Blackmail จากแก็งค์ Kelleys รับรองได้เป็นข่าวใหญ่แน่นอน
Bagley – ทุกข้อมูลที่ AI บันทึกได้ทั้งหมดถูกส่งตรงไปที่ศูนย์ใหญ่ของ Broca Tech เราต้องไปที่นั่นเพื่อสืบดูแล้วล่ะ
เดินทางต่อไปยังเป้าหมายของภารกิจที่ ศูนย์ใหญ่ของ Broca Tech ใน Westminster
Bagley – คุณเดินทางถึง Broca Tech แล้วสินะ บริษัทผู้นำด้านนวัตกรรมซอฟต์แวร์และเทคโนโลยี AI ก่อตั้งโดย Skye Larsen CEO ของบริษัทที่อายุเพียง 25 ปีเท่านั้น
* Uniformed Access - เครื่องแบบที่สามารถเข้าถึงสถานที่ได้ดีคือ ชุดของ Albion *
-หากปลอมตัวด้วยชุดของเจ้าหน้าที่ Albion แล้วจะสามารถผ่านบาเรียตรวจจบที่ประตูทางเข้าด้านหน้าได้เลย
- เข้ามาด้านในแล้วเดินเลาะไปขึ้นบันไดฝั่งซ้ายไปชั้น 2 จะพบห้องเป้าหมายที่มี Facial Recognition AI อยู่ด้านใน แต่ประตูห้องถูกปิดล็อกอยู่
- การจะปลดล็อกประตูได้ต้อง แฮกกล้องวงจรปิดบนเพดานด้านในห้องแล้วใช้มุมกล้องปรับแก้ปริศนาเปลี่ยนเส้นพลังงานให้เชื่อมต่อกันเป็นสีฟ้าให้หมดก็จะเปิดประตูได้ ก็จะสามารถเข้าไปด้านในเพื่อดึงข้อมูลของ Facial Recognition AI ได้
Bagley – เอาล่ะ ผมได้ข้อมูล Blackmail ทั้งหมดมาแล้ว และ คนพวกนี้แม่งน่าขยะแขยงมากบอกเลย ผมว่าครอบครัวที่ให้ความสำคัญกับนักการเมืองจะยังชื่นชอบพวกมันอีกมั๊ยถ้าข้อมูลการเข้าร่วม ** S&M ของพวกมันออกสู่สายตาของสาธารณะชน ซึ่งก็ต้องมาค้นหากันว่าข้อมูล Blackmail พวกนี้รั่วไหลออกมาได้ยังไง
** S&M ก็หมายถึง Sadism(ซาดิซึ่ม) พวกชอบทรมานคนอื่น และ Masochism(มาโซคิซึ่ม) พวกที่ชอบให้คนอื่นมาทรมานตัวเอง
หลังจากได้ข้อมูลทั้งหมดออกมาแล้วก็ออกจากพื้นที่ตึก Broca Tech ได้เลย
Bagley – เหมือนจะมีบางคนส่งไฟล์วีดืโอที่ชื่อ Thankyou.mp4 มาให้เราด้วยนะ อย่างน้อยๆก็มีงานนึงที่มีคนขอบคุณเราอ่ะนะ
404 – ตอนนี้คุณผ่านการทดสอบแรกในการติดต่อกับ 404 เครื่อข่าย Hacktivist เจ้าแรกที่ส่งข้อมูลตรงจากบุคคุลสู่บุคคลโดยไม่ผ่านตัวกลาง เพื่อความเท่าเทียมกันในการรับรู้ข้อมูลจากระบบคอมพิวเตอร์แล้ว ชั้นเป็นแอดมินของเครือข่ายนี้ เป็นผู้ให้การติดต่อ นั่นคือทั้งหมดที่คุณรู้เกี่ยวกับชั้น ชันไร้ตัวตน ชั้นคือ Nowt ผู้ไม่เคยอยู่ที่ไหนซักแห่ง และตอนนี้ชั้นกำลังจะติดต่อกับคุณผ่าน Optik เป็นครั้งแรก ไหนดูซิว่าคุณคือใคร
404 – เดี๋ยวนะ นี่คุณคือพวก DedSec ใช่มั๊ยเนี่ย ? เอาจริงดิ ! อนาคตอันสวยงามกำลังยิ้มตอนรับเราแล้ว DedSec โลกแม่งกำลังห่วยชิบหายแตเราสามารถช่วยกันทำในสิ่งที่ถูกเพื่อให้มันดีขึ้นได้จริงมั๊ย ตอนนี้ชั้นอยู่ที่ Somerset House กำลังเฝ้าดูใครบางคนที่กำลังทำชั่วอยู่ ตามหาชั้นให้เจอ แล้วค่อยมาคุยกัน
Bagley – ผมลองค้นหาจากชื่อ Nowt และใบหน้าของนางตามข้อมูลฟื้นฐานตามปกติแล้วแต่ไม่พบอะไรเลย โอ้ใช่ Nowt ผู้ไม่เคยอยู่ที่ไหนซักแห่งซินะ เข้าใจแล้ว
Sabine – ดูแล้วก็น่าจะคุ้มค่าที่จะเสี่ยง ตามความเห็นของชั้นคิดว่านางเป็นแฟนตัวยงของ DedSec เลยล่ะ มีความเป็นไปได้มากที่เธอจะเป็นมิตรมากกว่าศัตรู
Bagley – แล้วถ้าเธอไม่ใช่ Zero – Day เธออาจจะรู้ว่ามันเป็นใครก็ได้ ไม่ก็นางนั่นแหละคือ Zero – Day แล้วเป็นกับดักล่อเราเข้าไปหา แต่ไม่ว่าจะทางไหน เราก็ต้องการข้อมูลใหม่เพิ่มอยู่ดี
Skye – วันที่หนึ่งของขั้นตอนการลบระบบประสาทของร่างทดลองที่หนึ่ง Sinead Larsen กำลังเปิดใช้งานแล้ว
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
SIDE MISSION
ภารกิจ – Out of Stock
รับงานกับ Kaitlin Lau ที่ Earl’s Fortune Bar [Safehouse]
รายละเอียด – สารวัตร Kaitlin Lau ได้แบ่งปั้นข้อมูลให้ DecSec เกี่ยวกับแก็งค์ Kelley ที่นำเข้ายาเสพติดตัวใหม่มาจากไคโรชื่อ ChronosX และกำลังเตรียมปล่อยออกสู่ท้องถนนในลอนดอนเร็วๆนี้
เป้าหมาย – ทำลาย ChronosX ให้หมดก่อนปล่อยสู่ท้องตลาด
รางวัล - 1000 ETO
วิธีปฏิบัติ
- เดินทางไปยังเป้าหมายของภารกิจที่ Finsbury new Project ในย่าน Islington & Hackney
* Uniformed Access - เครื่องแบบที่สามารถเข้าถึงสถานที่ได้ดีคือ
- ชุดของ Albion
- ชุดคนงานก่อสร้าง
ภารกิจนี้ ไม่จำเป็นต้องเสี่ยงลอบเข้าไปให้ยุ่งยาก อยู่ด้านนอกพื้นที่แล้ว Hack ใช้โดรนของพวกมันมายิงทำลายกล่อง ChronosX ให้หมดก็จบภารกิจ
ภารกิจ – Deal Breaker
รายละเอียด – ภารกิจต่อเนื่องจาก Out of Stock หลังจากที่สารวัตร Kaitlin Lau ได้แบ่งปั้นข้อมูลให้ DecSec เกี่ยวกับแก็งค์ Kelley ที่นำเข้ายาเสพติดตัวใหม่มาจากไคโรชื่อ ChronosX จน DecSec ได้เข้าไปทำลายคลังของมันไปแล้ว ทำให้ได้ข้อมูลของ Abby Tran คนที่เป็นคนติดต่อระหว่างแก็งค์ Kelley และกลุ่มค้ายาจากไคโร
เป้าหมาย – ค้นหาและกำจัด Abby Tran เพื่อตัดตอนเส้นทางลำเลียงยา ChronosX ของแก็งค์ Kelley
รางวัล - 875 ETO / Mask
วิธีปฏิบัติ
- เดินทางไปยังเป้าหมายของภารกิจที่ท่าเรือ Rotherhithe Dock ในย่าน Southwark
* Uniformed Access - เครื่องแบบที่สามารถเข้าถึงสถานที่ได้ดีคือ
- ชุดของ Albion
- ชุดคนงานก่อสร้าง
ภารกิจนี้ ไม่จำเป็นต้องเสี่ยงลอบเข้าไปให้ยุ่งยาก อยู่ด้านนอกพื้นที่แล้ว Hack กล้องวงจรปิดด้านในอาคารจนพบตัว Abby Tran แล้วรอให้มันเดินใกล้จุดเครื่องจักรที่สามารถทำให้ระเบิดได้ก็จัดการแฮกทำให้มันระเบิดฆ่ามันได้เลย
/ อีกวิธีต้องใช้จุดเรียกโดรนในพื้นที่ของมันเรียกโดรนก่อสร้างบินขึ้นไปบนหลังคาแล้วใช้ Spiderbot ลอบเข้าไปในอาคารเพื่อฆ่ามัน
ไม่ว่าจะใช้วิธีไหนเมื่อฆ่า Abby Tran แล้วหนีออกพื้นได้ก็จบภารกิจ
ภารกิจ – The Knowledge
รับงานกับ Nowt ที่ Earl’s Fortune Bar [Safehouse]
รายละเอียด – หลังจากจัดการกับ Skye Larsen ลงได้ Nowt จากกลุ่มแฮกเกอร์ 404 ก็ได้เข้าพักอาศัยในเซฟเฮาส์ของ DecSec แต่เธอก็ยังคอยจับตาดู AI จากระบบประสาทของ Skye Larsen ที่ยังคงทำงานอยู่ เคสแรกที่เธอตั้งข้อสังเกตคือมีความเป็นไปได้ที่มันมีแผนที่จะควบคุมระบบแท็กซี่ของลอนดอน และตอนนี้มีหนึ่งในรถแท็กซี่ที่ต้องสงสัยชนคนตายอยู่แต่กลับไม่มีความคืบหน้าของคดี เธอจึงต้องการให้ออกไปตรวจสอบที่จุดเกิดเหตุดู
รางวัล - 875 ETO / Mask
แท็กซี่ในลอนดอนจะเรียกว่า “taxicab” ย่อมาจาก “taximeter cabriolet” มาจากคำว่า รถเทียมม้าที่มีมาตรวัดราคาค่าธรรมเนียมในการเดินทาง แต่อังกฤษมักเรียกแท็กซี่สั้นๆว่า “cab” หรือ Black cab เพราะรถเป็นสีดำและมีเอกลักษณ์ของตัวเองมากๆ
ส่วนคนขับแท็กซี่ของลอนดอนก็ได้รับการยกย่องว่าเป็นคนขับแท็กซี่ที่ดีที่สุดในโลก เนื่องจากกว่าจะได้ใบอนุญาตให้สามารถขับ Black cab ได้คนขับทุกคนต้องจดจำกว่า 320 เส้นทางหลังซึ่งประกอบด้วยถนนกว่า 25,000 สาย รวมถึงทางลัดต่างๆที่สามารถพาผู้โดยสารไปสู่ที่หมายได้เร็วที่สุด ตลอดจนจดจำสถานที่สำคัญในเมืองให้ได้หมดเหมือนกับเป็นไกด์กันเลย การทดสอบวัดความรู้ของคนขับแท็กซี่นี้ต้องใช้เวลาเรียนรู้เฉลี่ย 15-30 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ เป็นเวลา 3 ปีจะเรียกว่า “The Knowledge” ซึ่งเป็นชื่อของ ภารกิจ นี้นั่นเอง
http://www.culturedcreatures.co/world-taxi-facts/
วิธีปฏิบัติ
- เดินทางไปยังเป้าหมายของภารกิจที่จุดเกิดที่เกิดรถชนที่ Russell Square ในย่าน Camden ซึ่งเป็นพื้นที่สาธารณะ
** เพื่อความสะดวก ควรจะใช้ตัวละครที่มี Skill สายขับรถ Getaway Driver มาทำภารกิจนี้
Bagley - จากรหัสของคนที่ตายที่โหลดมาได้มันมาจากเครือข่ายของ Black cab ในช่วงเวลาก่อนที่จะตายไม่นาน ดูเหมือนว่าเครือข่ายได้รับการดัดแปลง และรหัสนี้ไม่ได้ทำขึ้นจากมือสมัครเล่นแน่นอน แม้กระทั่ง ความคิดเห็น ที่แนบมากับรหัส
Shawn - มันพูดว่าอะไร?
Bagley - มีแต่คำพูดไรสาระ ไม่มีคำพูดอะไรที่สำคัญเพียงพอที่จะรวบรวมข้อมูลให้เป็นประโยชน์ใด ๆเลยครับ
Rosetta – แต่ดูเหมือนไอ้เจ้าแฮกเกอร์ที่พูดไร้สาระนี่จะควบคุม Black cab ทั่วลอนดอนได้หมดแล้วใช้มันได้การฆ่าคนที่เป็นเป้าหมาย
Bagley – ใช่เลย แต่เพื่อความชัดเจน เราต้องการข้อมูลมากกว่านี้
Rosetta – ใช่ งั้นก็ต้องตามแฮกข้อมูลจากรถของพวกมันเพื่อตามไปถึงต้นตอของแฮกเกอร์
จากนั้นสิ่งที่ต้องทำคือ ตามหารถแท็กซี่ Black cab ที่อยู่บนถนน โดยคันแรกจะพบตรงจุดเกิดเหตุ หากพลาดคนแรกคุณก็ยังสามารถหาคันเป้าหมายอื่นได้ทั่วเมือง
ซึ่งจะไม่ปรากฏในแผนที่ว่าอยู่ตรงไหน แต่จะมีตำแหน่งระบุเป็นสีเหลืองทันทีที่สแกนค้นหา เมื่อเจอแล้วพยายามขับเข้าไปให้ใกล้พอที่จะดาวโหลดข้อมูลได้ แต่ห้ามชนจนรถมันพังเสียหาย เป้าหมายคือ ตามโหลดข้อมูลให้ครบ 3 คัน Bagley ก็จะสามารถตามรอยที่มาของสัญญาณซึ่งอยู่ที่ลานจอดรถในย่าน Westminster
เดินทางต่อมายังตึก London Carriage Service ในย่าน Westminster เป้าหมายคือเข้าไปลบระบบ Cab AI Prime
* Uniformed Access - เครื่องแบบที่สามารถเข้าถึงสถานที่ได้ดีคือ
- ชุดของ Albion
** แนะนำให้ใช้ตัวละครที่มีความสามารถในการต่อสู้สูงๆในการทำภารกิจนี้
- ที่ประตูหลัง แฮกปิดระบบบาเรียรักษาความปลอดภัยเข้าไปจัดการยาม 1 คนที่เฝ้าอยู่ แล้วใช้ Spiderbot เข้าไปในช่องระบายอากาศด้านบนประตูเพื่อมุดเข้าไปปลดล็อกประตูที่แท่นควบคุมด้านในก็จะเข้าไปได้
- เข้ามาแล้วลงบันไดมา 1 ชั้นจะมาถึงทางเข้าห้องโถงที่มี Cab AI Prime ตั้งอยู่พอดี ก่อนอื่นแฮกระบบกล้องวงจรปิดด้านบนขวาต่อด้วยตัวของชั้นล่างจะมาถึงหน้าคอมที่มีรหัสกุญแจให้ดาวโหลด เพื่อปลดล็อกประตูห้องเก็บ Cab AI Prime
- ก่อนจะทำการแฮกเพื่อลบระบบ Cab AI Prime ต้องบอกก่อนว่า ทันทีที่เริ่มแฮกระบบ Cab AI Prime พวก security จะเริ่มเข้ามาโจมตีตรงจุดที่เราอยู่ทันที และรักษาความปลอดภัยของตึกจะเริ่มระบบการขัดขวางด้วยการเปิดคลื่นสัญญาณรบกวนทำให้การดาวโหลดหยุดลง ด้วยตัว Jamming ที่ติดอยู่ในรถที่จอดอยู่ในพื้นที่ 3 คัน
- เพราะฉะนั้นหากเรารู้แล้ว ก่อนเข้าไปเริ่มกระบวนการแฮกระบบ Cab AI Prime ก็ให้จัดการหาทางทำลายรถเป้าหมายให้หมดก่อนเพื่อทำให้ Jamming ตัวรบกวนสัญญาณไม่ทำงาน การโหลดแฮกระบบ Cab AI Prime ในระหว่างถูก security เข้ามาโจมตีก็จะราบรื่นขึ้น
รถคันแรก อยู่ทางฝั่งซ้ายของประตูที่เข้ามา แฮกกล้องวงจรปิดเพื่อทำให้กล่องไฟฟ้าที่วางอยู่ข้างๆรถเกิดการระเบิดก็จะสามารถทำลายรถได้
รถคันที่ 2 จอดอยู่ในชั้น 2 แฮกกล้องวงจรปิดต่อลงมาชั้น 2 ตรงจุดทีเห็นรถเป้าหมายจอดอยู่ ทำให้กล่องไฟฟ้าที่วางอยู่ข้างๆรถเกิดการระเบิดก็จะสามารถทำลายรถได้
รถคันที่ 3 อยู่ชั้นล่างถัดลงไปอีกชั้นนึง สามารถแฮกโดรนบินไปแฮกตัวคานกั้นด้านล่างรถให้ขึ้นมาทำลายรถได้ (หรือหากโดรนถูกทำลายก่อน ก็ลงมายิงทำลายด้วยตัวเองได้เลย)
เมื่อทำลายตัว Jamming ตัวรบกวนสัญญาณที่ติดอยู่กับรถ 3 คันจนหมดแล้วก็ค่อยใช้ Spiderbot เข้าไปแฮกระบบ Cab AI Prime เมื่อเริ่มแฮกระบบพวก security จะเริ่มเข้ามาโจมตีทันที แต่เนื่องจากไม่มีตัวขัดขวางสัญญาณแล้ว ก็จะสามารถจัดการพวก security ที่บุกเข้ามาได้ง่ายขึ้น ต้านพวกมันเอาไว้จนกว่าจะโหลดลบข้อมูลของ Cab AI Prime เสร็จก็หนีออกจากพื้นที่ได้เลย ............จบภารกิจ
ซึ่งได้เข้ามาเป็นดารารับเชิญเป็นตัวละครในเกมด้วยในภารกิจย่อย fall on my enemies ซึ่งเป็นเนื้อเพลงของซิงเกิ้ล RAINFALL หนึ่งในเพลงของอัลบั้มซาว์ดแทร็กของ watch dogs legion (มิวสิควีดีโอ RAINFALL https://youtu.be/szrDcTGvp7o )
Bagley – จากบันทึกการสอบสวน Heath Bolton สรุปแล้วพวกเขาไม่เชื่อว่า Bolton เป็นอดีต DedSec ตามที่เขาอ้าง ประเด็นสำคัญคือ เขาเป็นเก็บข้อมูลของที่ซ่อนของ DedSec และที่เก็บข้อมูลนี้ก็ยังอยู่ในพื้นที่นี่นี้แหละ
* Uniformed Access – เครื่องแบบที่สามารถเข้าถึงสถานที่ได้ดีคือ ชุดทหารของราชวัง หรือไม่ก็ชุดของเจ้าหน้าที่ Albion
เดินทางไปยังเป้าหมายของภารกิจที่ The Ascent ในเขต Lambeth
Bagley: ที่นี่แหละคือตึกที่ Emma Child มีนัดพูดคุยกับคนของเธอที่ร้านจอดรถ Malik ต้องการให้คุณหาหลักฐานมายืนยันว่าเธอเป็นหัวหน้ากลุ่ม Zero-Day จริงๆเพื่อให้มั่นใจก่อนจะลงมือทำอะไรต่อไป เอาล่ะ พยายามหาทาง Hack ระบบกล้องวงจรปิดดูเผื่อเราจะเห็นการประชุมของเธอได้
เป้าหมายคือเข้าไป Hack ระบบ ctOS Hub ตู้ควบคุมกล้องวงจรปิดที่อยู่ในห้องด้านบนของตึก โดยทางเข้าจะมีกุญแจปิดล็อกอยู่
ต้องใช้การ Hack กล้องวงจรปิดหรือโดรนเข้าไป Hack รหัสมาจากแทปเล็ตที่วางอยู่บนเก้าอี้ในร้านอาหารด้านนอกตึกก่อน แล้วก็เคลียร์จัดการศัตรูให้หมดจนพื้นที่ปลอดภัย
จากนั้นก็ปีนท่อข้างๆตึกเพื่อขึ้นไปที่ประตูทางเข้าด้านบนก็จะเข้าประตูไปในห้องเพื่อจัดการ Hack ระบบ ctOS Hub ได้
Emma Child - มันเป็นเรื่องบังเอิญเกินไปเปล่า ที่เขาออกไปแล้วเซิร์ฟเวอร์ของเราก็โดน Hack ? Richard Malik อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้แน่นอน !
???? - ผมมี Network assets สแตนบายเตรียมพร้อมไว้แล้วครับท่าน. Malik หายตัวไปทันทีหลังจากปรากฎตัว
Emma Child - คุณหมายความว่าอะไร หายตัวไปทันที? คุณจะบอกว่าเราไม่ได้อะไรเลยหรอ?
???? - ใช่ค่ะท่าน คือตอนนี้คงหาคำอื่นมาแทนไม่ได้ คงต้องใช้คำนี้ไปพลางๆก่อน คือเขาไม่ได้ทำงาน ไม่ได้กลับบ้านไม่ได้ซื้ออะไรด้วยบัตรเลย
Emma Child - แน่นอนเขาไม่ใช่คนปัญญาอ่อนนี่ เขารู้จักเครื่องมือของเราดี ตอนนี้เราไม่สามารถพึ่งพา FILAMENT ได้แล้ว เราต้องใช้ตาและหูของเราเองแทน
???? - เขาอาจจะออกจากลอนดอน หรือไม่บางทีอาจจะซ่อนตัวอยู่ในประเทศ
Emma Child - นี่คือเหตุผลว่าทำไมคำอ้างทั้งหมดถึงมีกลิ่นเหมือนขี้ม้า
???? - เรามีทฤษฎีสนับสนุนครับ เราคิดว่า Malik ติดต่อกับ DedSec และอาจเป็นเพราะพวกเขาที่กำลังช่วย Malik ซ่อนตัว
Emma Child - เขาปฏิบัติกับลอนดอนบ้านเกิดของเขาเหมือนดินแดนของศัตรู ติดต่อกับกลุ่มที่ก่อความไม่สงบในบ้านเกิดของตัวเองแถมยังทำงานร่วมกันอีก เราต้องจัดสรรทรัพยากรที่มีทุ่มไปที่พวก DedSec ทั้งหมด ถ้าเราเขย่าต้นไม้นั้นนานพอเดี๋ยวมันก็จะตกลงมาเอง ไปทำงานของพวกนายซะ ออกไปข้างนอกแล้วฆ่าผู้ก่อการร้ายมาซักคน!
Ellen – Bagley ติดต่อ Malik !!
Bagley: เขาไม่ตอบกลับมาเลยครับ
Ellen – ก็ปกตินี่ ช่างมัน เดี๋ยวชั้นลุยเอง
Sabine – บ้าเอ้ย ! คุณพูดถูก ลุยเลย มันอาจจะเป็นโอกาสเดียวของเราก็ได้
จากนั้นเตรียมหารถซักคัน หรือเปลี่ยนเป็นตัวละครปฏิบัติการที่มี Skill ขับรถ ก่อนไปที่จุดหมายของภารกิจ เพื่อใช้ในการขับตามรถของ Emma Child ไปเพื่อดักฟังการสนทนา โดยต้องพยายามขับเข้าไปในรหัสมีการดาวโหลดและไม่ใกล้มากหรือชนรถเธอจนเธอรู้ตัวก่อน
Emma Child – นี่ ผอ Child เข้ารหัส kilo – alpha – kilo – Seven – one – one
รัฐมนตรีมหาดไทย – รหัสและเสียง ยืนยัน ตอนนี้คุณอยู่ในสายที่ปลอดภัยของกระทรวงมหาดไทยแล้วท่าน ผ.อ
Emma Child – เดี๋ยวก่อนค่ะท่านรัฐมนตรี ดูเหมือนชั้นจะพบความผิดปกติในการสื่อสาร อาจจะไม่มีอะไรก็ได้ แต่เปลี่ยนช่องให้ปลอดภัยกันก่อนก็ดี
Bagley: ขอโทษที่รบกวนนะครับ พยายามเข้าไปให้ใกล้ๆเอาไว้ เดี๋ยวผมจะลองหาทางต่อสัญญาณใหม่ดู ..ดูเหมือนว่าเธเห็นคุณแล้ว พยายามตามติดเอาไว้ก่อนที่เธอจะหนีไปซะก่อน
Emma Child – เราต้องการข้อมูลไฟล์ DedSec ทั้งหมดค่ะท่านรัฐมนตรี และชั้นต้องการเอามันไปด้วยตัวเองเลย เพราะการทำงานของผู้ประสานงานของท่านจากเหตุการณ์ล่าสุดไม่ค่อยโดนใจเท่าไหร่
รัฐมนตรีมหาดไทย – โอ้ พระเจ้า ไม่นะ คุณคิดว่ามันเป็นฝีมือของ DedSec งั้นหรอ? ผมนึกว่าเราได้จัดการปัญหานี้ของคุณไปแล้วซะอีก คุณ Child เอ่อ ใครนะ อ่อ Malik ใช่มั๊ย?
Emma Child – ใช่ค่ะ มันค่อยข้างละเอียดอ่อนนิดหน่อยค่ะท่านรัฐมนตรี มีหลักฐานใหม่ที่บ่งชี้ว่า Malik อาจทำงานร่วมกับ DedSec
รัฐมนตรีมหาดไทย – บ้าไปแล้ว Emma นี่มันหายนะชัดๆ
Emma Child – ทุกอย่างอยู่ในการควบคุมค่ะท่าน .... บ้าเอ้ย โทษทีทอม เราอาจต้องเปลี่ยนช่องสัญญาณอีกแล้ว แปบนึง
Bagley: โอ้ ดูเหมือนแผนสมคบคิดครั้งนี้จะทำให้ทุกอย่างยากขึ้นไปอีกนะ พยายามเข้าไปใกล้เข้าไว้ ตามติดเอาไว้ก่อน ผมใกล้เสร็จแล้ว
ถึงตอนนี้ หากคุณไม่สามารถตามติดรถของ Emma Child ได้ดีพอจนไม่สามารถดาวโหลดข้อมูลได้เสร็จ Emma ก็จะขับรถหนีไปได้
แต่ถ้าคุณตามดาวโหลดข้อมูลจากรถของ Emma Child ได้เสร็จ เธอจะรู้ตัวและเรียกหน่อยรักษาความปลอดภัยมาตามล่า ให้รีบขับรถหนีไปยังที่ปลอดภัยให้ได้
** และไม่ว่าคุณจะตามดาวโหลดข้อมูลจากรถของ Emma Child ได้สำเร็จหรือไม่ก็ตาม ยังไงมันก็ไม่ส่งผลต่อเนื้อเรื่องต่อไปทั้งสิ้น แต่ในกรณีตามดาวโหลดข้อมูล คุณจะได้เงินรางวัลเพิ่มอีกต่อนึงเท่านั้น **
Bagley: ผมต่อสาย Malik ให้คุณได้แล้วครับ
Malik – ผมคงต้องมุดดินหนีก่อนแล้วล่ะ ผมไม่อยากจะเสี่ยงติดต่อกับพวกคุณแบบนี้ต่อไปไม่ได้แล้ว
Ellen – เดี๋ยวสิ คุณไม่ได้ยิน Emma Child พูดหรอ ห๊ะ? เธอพยายามจะฆ่าคุณ แล้วตอนนี้เราก็พิสูจน์ได้แล้วด้วย
Malik – ผมได้ยินเธอพูดแล้วไง แล้วเธอก็รู้แล้วว่าผมทำงานร่วมกับพวกคุณ นั่นหมายความว่าเธอเข้าใกล้มากกว่าที่ผมคิดไว้ ผมเสียใจ แต่เวลาของเราคงหมดลงแค่นี้ ลาก่อน
Ellen – ไอ้งี่เง่าเอ้ย !
Sabine – ช่างแม่ง Malik มันเถอะ ยังไงเราก็รู้แล้วว่าใครอยู่เบื้องหลัง Zero-Day เราไม่ต้องการเขาแล้ว เราก็แค่ตามหา Emma Child ให้เจอก็พอ
Bagley: ก็อย่างว่าแหละ เมื่อผมเริ่มคุ้นเคยกับเซิร์ฟเวอร์ของ MI: 6 ผมเจอรายการเซฟเฮาส์ของ SIRS ที่กระจายอยู่ทั่วเมือง ถึงจะมีอยู่ไม่มากก็ถึง คิดว่างั้นนะ
Ellen – ใช่ แต่เราก็รู้ว่าใครเป็นคนของเธอ แล้วเราก็จะหามันให้เจอให้ได้ไม่ว่ามันอยู่ที่ไหนก็ตาม Bagley ตามรอย GPS ของพวกมันแล้วส่งรายละเอียดพิกัดของเซฟเฮาส์ของ SIRS มาให้หมด
Sabine – ฉลาดมาก จัดอันดับความสำคัญตามความเป็นไปได้ งั้นก็ไปจัดการมันได้เลย !
MAIN MISSION: Smoking Gun
เดินทางไปยังเป้าหมายของภารกิจที่ The Stage ในเขต Lambeth ซึ่งเป็นสถานที่สาธารณะที่ไม่มีศัตรู สามารถปีนขึ้นไปที่แผงควบคุมด้านบนตึกเพื่อปลดล็อกประตูทางเข้าโกดังด้านล่างได้เลย
เจ้าหน้าที่ปฎิบัติการถูกจับตัว
จะไม่สามารถเลือกใช้ตัวละครนี้ในการทำภารกิจได้อีกพักใหญ
Bagley – ต้องขอโทษเป็นอย่างมากเลยนะทุกๆคน แต่หนึ่งในเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการณ์ของเราถูกจับตัวไป
Sabine – SIRS ต้องอยูเบื้องหลังเรื่องนี้แน่นอน เพราะมันเป็นวิธีที่ฉลาดเกินไปที่จะเป็นฝีมือของ Albion
Bagley – เขาคงถูกจับไปทรมานเพื่อเค้นเอาข้อมูลเรื่องที่อยู่ของ Malik แน่นอน จากการที่เราลอบเข้าไปแอบดูการประชุมนั่น และจากที่ผมถอดคำพูดของ Emma Child ที่บอกว่า ต้องจับตัวใครซักคนมาเพื่อเอาข้อมูลของ Malik
Sabine – แม่งเอ้ย ! เราต้องรีบหาตัว Malik ให้เจอแล้ว มันต้องมีซักทางที่จะติดต่อกับเขาหรือส่งสัญญาณให้เขารู้ได้บ้างซิ
Bagley – มีแน่นอน ผมส่งพิกัดสถานที่ไปให้แล้ว Malik คงต้องรีบหนีจนไม่มีเวลาทิ้งข้อความเข้ารหัสอะไรเอาไว้ มันอาจจะฟังดูง่ายๆไปหน่อยถ้าจะบอกให้กลับไปเช็คดูที่เซฟเฮาส์ของเขา Malik ค่อนข้างจะระวังตัวมาตลอดจนถึงตอนนี้ พอเขารู้ว่าทำพลาดเขาก็เลยรีบหนีทันที แต่ไม่มีทางที่เขาจะไม่ตรวจสอบคอมพิวเตอร์ในเซฟเฮาส์ของตัวเอง หากเราใช้มันเพื่อส่งข้อความหาเขาเช่น โทรกลับหาเราหรือจะให้เราบอก Emma Child ทุกอย่าง ผมแน่ใจว่าเขาต้องยอมฟังแน่นอน
จากนั้นเดินทางไปยังจุดหมายของภารกิจที่ County Hall ในเขต Lambeth
Bagley – ที่ซ่อนตัวของMalik ต้องอยู่ซักที่แถวๆนี้แหละ
จากนั้น Hack กล้องวงจรปิดบนยอดตึกหาจุดเรียกโดรน เรียกโดรนก่อสร้างมารับตัวขึ้นไปด้านบนดาดฟ้า ลอบจัดการศัตรูในพื้นที่ให้ปลอดภัยก่อนแล้วเข้าไปสับคันโยกเป้าหมาย
Ellen – Bagley ช่วยหน่อยได้มั๊ย?
Bagley – ดูเหมือนว่า Malik จะอัพเกรดระบบรักษาความปลอดภัยของเขาแล้ว และเนื่องจากเขาเป็นทั้งผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยและคนวิตกจริต ผมไม่แน่ใจว่าคุณจะรับมือไหวรึเปล่า ... แต่ผมรับไหว ฮ่าๆๆๆ คุณชอบป่ะล่ะ? ร่างโดรนของผมเนี่ย เจ๋งใช่ป่ะ? ฟังนะ ถ้าเรารู้ทุกเรื่องเกี่ยวกับMalik และมันเป็นเรื่องปกติที่เขาคิดว่าเขาฉลาดกว่า ซึ่งหมายความว่าทันทีที่ผมเริ่มใช้โดรนปลดล็อกระบบรักษาความปลอดภัยมันต้องมีอะไรซักอย่างรุมเข้ามาหาผมแน่นอน คุณต้องคอยคุ้มกันให้ด้วยล่ะ
ระหว่างที่โดรนของ Bagley เริ่มกระบวนการปลดล็อกระบบรักษาความปลอดภัยของที่ซ่อนตัวของ Malik พวกโดรนรักษาความปลอดภัยและการ์ดจะออกมาโจมตีใส่โดรนของ Bagley มากมายจากทุกทิศทาง
พยายามเอาตัวรอดและปกป้องโดรนของ Bagley ด้วยการยิงทำลายมันหรือ Hack โดรนของพวกมันไปยิงทำลายหรือ Hack ปิดระบบให้มันร่วงลงไป ไม่ว่าจะใช้วิธีไหนต้องกำจัดพวกมันให้ไวที่สุดเพราะนอกจาก โดรนของ Bagley ที่กำลังตกเป็นเป้าที่ต้องการคุ้มกันแล้ว ตัวละครของผู้เล่นก็ตกอยู่ในอันตรายที่ต้องเอาตัวรอดจากการถูกรุมโจมตีเช่นกัน เมื่อต้านพวกศัตรูที่รุมเข้ามาจน โดรนของ Bagleyปลดล็อกระบบรักษาความปลอดภัยของที่ซ่อนตัวของ Malik ได้สำเร็จ ก็เข้าไปที่ประตูตึกที่เป็นที่ซ่อนตัวของ Malik ได้เลย
Bagley – ผมใส่ข้อความที่เข้ารหัสโดยใช้รหัสเดียวกับที่เขาใช้ก่อนหน้านี้แล้วกำหนดให้ส่งซ้ำทุกๆสิบห้าวินาทีเลย
Sabine – ทำได้ดีมากทุกคน ตอนนี้เราต้องโน้มน้าวให้ Malik ช่วยให้เราได้เพื่อนของเราที่ถูกจับไปกลับมา
Bagley: มีการเชื่อมต่อเข้ามากจากแหล่งที่เข้ารหัสที่ไม่รู้จัก
Ellen – อาจเป็น Malik ที่ติดต่อมาก็ได้ ปล่อยเข้ามาเลย
Richard Malik –คุณมีเหตุผลที่ดีมากในการขู่ผมถ้างั้นการสนทนานี้คงจะสั้นมาก
Ellen – Emma Child จับคนของเราไปคนนึง ถ้ามันซ้อมเขาจนคายความลับเรื่องของคุณออกมาคุณก็จะซวยไปด้วย
Richard Malik – ผมรู้แล้วล่ะว่าผมต้องซวยไปด้วยอยู่แล้ว ผมจะตามหา Emma ให้แต่มีเงื่อนไขว่า คุณต้องไว้ชีวิตเธอเพราะผมยังต้องการ semtex ที่หายไปคืนมา SIRS ใช้สถานที่ก่อสร้างเพื่อใช้สอบสวนคนที่จับกุมมาเพราะง่ายต่อการซ่อนศพและแหล่งข่าวของผมบอกว่าเอ็มม่าเพิ่งปรากฏตัวออกมา หากคนของคุณยังไม่กลับมานั่นแปลว่าเธอยังจับตัวเขาไว้ ยิ่งคนของคุณถูกจับตัวไปนานเท่าไหร่ Emma ก็ต้องมีโอกาศเค้นความลับจากเพื่อนของคุณได้นานขึ้น เราต้องหาตัวเพื่อนของคุณให้ได้ก่อนที่พวกเขาจะคุยกันและจับตัว Emma ให้ได้ โชคดี !
เดินทางต่อไปยังจุดหมายของภารกิจที่ Nine Elms Walkway ในเขต Nine Elms
Bagley: ที่นี่คือเขตก่อสร้างที่ Marik คิดว่า Emma Child จับตัวคนของเรามาไว้ที่นี่ ลองเข้าไปค้นหาดู แต่ก็ระวังๆด้วย หน่วยรักษาความปลอดภัยอารักขาเต็มพื้นที่เลย
Ellen – เข้าใจแล้ว
Bagley: ผมได้รับการติดต่อจากสายแปลกๆที่เข้ามา
Emma Child – หยุดเดี๋ยวนี้ไอ้พวกโง่ !
Ellen – แล้วหล่อนเป็นใครล่ะวะ?
Emma Child – Emma Child ผ.อ องค์กรต่อต้านการก่อการร้าย SIRS แกมาป่วนผิดที่แล้ว แกไม่มีทาง
Bagley: ออกไปจากห้องสนทนาของผมเดี๋ยวนี้นะ !! ต้องขอโทษด้วยนะทุกคน ผมขอใช้เวลาซักครูเพื่อตรวจสอบว่าพวกเขา Hack เราได้ยังไง คิดในแง่ดี ถ้าสิ่งที่ Malik บอกถูกต้อง Emma คงจะอยู่ไม่ไกลจากคนของเราเพื่อพยายามหาข้อมูล ถ้าคุณหาตัวคนของเราเจอ คุณก็คงเจอ Emma ด้วยแน่นอน
จากนั้นลอบจัดการในพื้นที่ให้หมด แล้วเข้าไปที่ตู้คอนเทรนเนอร์ซึ่งเป็นจุดเป้าหมายที่คนของ DedSec ถูกจับตัวเอาไว้ได้เลย
Emma Child – จริงๆชั้นจะวางระเบิดเอาไว้ก็ได้นะ คุณอยากรู้ไหมว่าทำไมชั้นถึงไม่ทำแบบนั้น?
Ellen – เพราะเธอมันโง่?
Emma Child – เพราะเรามีบางอย่างที่เหมือนกัน Richard Malik แทงข้างหลังเราทั้งคู่ ... ดูนี่
Richard Malik – สัญญาฉบับใหม่ของ Albion ตามสัญญา จบนะ?
Nigel Cass - ก็คงจะเป็นอย่างนั้น แต่ก่อนอื่น คุณต้องบอกผมก่อนว่า มันเป็นเรื่องเกี่ยวกับอะไร
Richard Malik – ผมกำลังแทรกซึมกลุ่มผู้ก่อการร้ายที่ชื่อ DedSec ผมกำลังจะนัดเจอกับพวกเขาแล้วคนของคุณก็ดันมาจับผมก่อนที่ DedSec จะมา แต่มันก็ดูเหมือนจริงดี พวกเขาคงไม่รู้หรอกว่ามันเป็นการจัดฉาก
Nigel Cass - ผลงานของคุณนี่มันชั้นหนึ่งเลยริชาร์ด ว่าแต่คุณได้อะไรจากสิ่งนี้หรอ?
Richard Malik – ผู้ก่อการร้ายที่ตายแล้ว
Emma Child – ถึงชั้นจะยังพิสูจน์ไม่ได้ แต่คิดว่า Malik มีส่วนเกี่ยวข้องกับการวางระเบิดและการปกปิดสิ่งที่ชั้นคิดว่าเขาและผู้สมรู้ร่วมคิดวางแผนที่จะทำอีกครั้ง
Ellen – เขาก็บอกว่าคุณเป็นคนทำ
Emma Child – เขาขายคำโกหกให้คุณยังไงล่ะ
Ellen – แล้วทำไมเราต้องเชื่อคุณด้วย ?
Emma Child – เรามาทำข้อตกลงกันดีกว่า ตอนนี้ชั้นได้ตัวคนของคุณอยู่ ช่วยชั้นฆ่ามาลิกแล้วคุณจะได้เพื่อนคุณกลับไป ..... ประตูนั่นจะปลดล็อกในสามสิบวินาที
Bagley: Malik เป็นหนึ่งใน Zero – Day รึเปล่า? คงจะบอกไม่ได้ในตอนนี้ แต่ดูถ้ามันจะเป็นแบบนั้น เราต้องรู้ให้แน่ว่าเขาพยายามจะจัดฉากให้เราเป็นแพะรับบาปในการวางระเบิดครั้งต่อไปอีกหรือเปล่า
Sabine – คุณก็รู้นะว่าชั้นรู้สึกยังไง แต่มันจะเป็นเรื่องที่เสี่ยงมากถ้าจะทำตามที่คุณแนะนำ
Ellen – เขาจับตัวคนของเราไปคนนึงและเขาต้องการให้เราตาย มันไม่สำคัญหรอกว่าเขาจะเป็น Zero Day หรือเปล่า เขาเป็นภัยคุกคามที่เราต้องกำจัด
Bagley: ถ้าคุณอยากจะรู้จริงๆว่าจะฆ่า Malik ได้ยังไง ผมมีไอเดีย มีความคิดดีๆเยอะเลย จะเอากระสุนเจาะหัวมันเลยก็ได้นะ แต่ถามจริง มันจะสนุกหรอ คุณน่าจะลองวางยาพิษเขาดูนะ เรายังไม่เคยวางยาพิษใครเลยนะ
Ellen – Bagley พอได้แล้ว ! แค่ยิงหัวมันก็พอ
Bagley: เราลองปั่นหัวมันเล่นดูดีกว่า ผมจะติดต่อมันเลยนะ
Ellen – โอเค ชั้นพร้อมแล้ว
Richard Malik – เป็นไง ได้ตัว Emma Child รึเปล่า?
Ellen – เราเจอปัญหานิดหน่อย อยากจะนัดเจอคุณหน่อยได้รึเปล่า?
Richard Malik – เกิดอะไรขึ้น?
Ellen – Emma รู้ตัวก่อนเรากำลังจะมา งานนี้เรามีเกลือเป็นหนอนแน่นอน มาเจอพวกเราที่ พิคคาดิลลี เซอร์คัส เรามีเรื่องต้องคุยกันเยอะเลย
Richard Malik – ไม่ๆ ที่พิคคาดิลลี พวก Albion อยู่เต็มไปหมด ขอเป็น จัตุรัสทราฟัลการ์ แทนได้มั๊ย?
Ellen – คุณว่าไง Bagley ?
Bagley: จัตุรัสทราฟัลการ์ ก็ได้
Richard Malik – ดี ตัดสินใจได้ดี เดี๋ยวเจอกัน
Ellen – เยี่ยม เอาล่ะ ติดต่อไปบอก Child แล้วเอาเพื่อนเราคืนกัน
Emma Child – มีอะไรว่ามา ?
Ellen – ปล่อยคนของเราก่อนแล้ว Bagley จะบอกรายละเอียดคุณ
Emma Child – คุณจะได้ตัวเพื่อนคุณคืนก็ต่อเมื่อ Richard Malik ตายแล้วเท่านั้น
Ellen – งั้นเอาตามนี้ คืนคนของเรามาแล้วเราจะจัดการ Malik ให้เอง !
Emma Child – ก็ได้ ถือว่าเป็นการแสดงความบริษัทใจของชั้นก็แล้วกัน เดี๋ยวจะส่งตำแหน่งไปให้ รีบไปให้เร็วที่สุดก่อนที่เขาจะอยู่ไม่ครบ 32
MAIN MISSION: Kill Box
เดินทางไปยังเป้าหมายของภารกิจที่ Leake Street ในเขต Lambeth ซึ่งเป็นสถานที่สาธารณะที่ไม่มีศัตรู เข้าไปด้านในก็จะพบฝ่ายปฎิบัติการของ DedSec ที่ถูกจับตัวไปอยู่ที่นี่
Bagley: นั่นไง เพื่อนที่หายไปของเรา รีบแก้มัดเขาแล้วส่งกลับมาที่ Safehouse เลย
Shawn – คุณไม่เป็นไรนะ?
Joeri – ผมสบายดี แต่ Emma Child ควรจะจ้างคนมาออกแบบภายในหน่อยก็ดี เจอกันที่เซฟเฮาส์?
Bagley: ทันทีที่เขากลับมาถึงเราจะรีบเปลี่ยนกางเกงในใหม่สีสวยๆให้เขาทันทีเลย เอาล่ะ รีบไปหาใครบางคนที่ จัตุรัสทราฟัลการ์ กันดีกว่า
จากนั้นเดินทางต่อไปยังเป้าหมายของภารกิจที่ Trafalgar Square ในเขต Westminster เพื่อพบกับ Malik
Bagley: Emma Child ติดต่อเข้ามาครับ
Emma Child – เอาล่ะ ชั้นเห็นคุณแล้ว ดำเนินตามแผนได้เลย บังเอิญมีชาวแคนาดาให้ชั้นยืมออฟฟิศแถวจัตุรัสนี้เพื่อที่ชั้นจะได้จับตาดูคุณได้สะดวก ขอพระเจ้าอวยพรให้เครือจักรภพ เอาล่ะ ตอนนี้จะมีอะไรเกิดขึ้นบ้าง เรามีพลซุ่มยิงสี่คนครอบคลุมมุม ที่นี่ ที่นี่ ที่นี่ และ ที่นี่ งานของคุณคือค้นหาตัว Malik เมื่อมั่นใจว่าใช่เขาแน่ๆ ก็ยืนยันเป้าหมายด้วยการ เกาคิ้วของคุณ
Shawn – ใช่ คุณก็สามารถฆ่าผมได้ง่ายๆเช่นกัน
Emma Child – ชั้นเห็นสิ่งที่คุณสามารถทำได้เมื่อคุณโกรธ ถ้าคุณไม่ยุ่งกับชั้น ชั้นก็ไม่ยุ่งกับคุณ โอเคนะ
Shawn – โอเค
Emma Child – ทีมซุ่มยิงรายงานด้วย
SIRS Officer – ไร้วี่แววของ Malik ครับท่าน ตอนนี้เล็งเป้าหมายที่ DedSec เอาไว้แล้ว เป้าหมายชัดเจนครับ
Emma Child – อย่าให้ชั้นต้องทำแบบนี้เลยนะ แม่งเอ้ย! มันไปไหนกันวะ!?
Ellen – ชั้นไม่ค่อยโอเคเลยแบบนี้
Emma Child – ชั้นก็เหมือนกัน .. บ้าเอ้ย ที่นี่อยู่นอกขอบเขตของ FILAMENT ด้วยสิ ชั้นคงต้องร้องขอช่องทางเพิ่มเติม อย่าเพิ่งว่ากันนะ สัญญาว่าใช้เวลาไม่นาน
Ellen – Bagley ช่วยหน่อยได้มั๊ย?
Bagley: โอ้ อย่าลืมนะว่าทุกคนในลอนดอนมีอุปกรณ์เฝ้าระวังไฮเทคใช้งานกันอยู่ จัดการ Hack ระบบ Optiks ของพวกเขาดู ผมจะดูว่ามีใครเห็น Malik บ้าง
Bagley: นั่นไงเขาล่ะ ! อยู่ข้างถังขยะหรือไม่ก็กำลังกินอาหารขยะอยู่
Ellen - ตกลงยังไงกันแน่?
Emma Child – แม่งเอ้ย บางที Malik คงกำลังซักผ้าอยู่มั้ง ! นั่นมันเทคนิคการป้องกันระบบการค้นหา หนึ่งในนั้นอาจเป็นพิกัดจุดนัดพบที่ใหม่ก็ได้
Ellen – เขารู้ทันแผนของเราแล้วหรอ?
Emma Child – ไม่แน่ใจ แต่เขาจะหายตัวไปทันทีหากคิดว่ามีภัยคุกคาม ชั้นจะวางกำลังของพลซุ่มยิงให้สแตนบายเอาไว้ในขณะที่เรากำลังปรับระบบใหม่
Bagley: ผมยังไม่เห็นวิดีโอหรือรูปถ่ายใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับ Malik เลย ค้นหาข้อมูลต่อไปเรื่อย ๆ .. ไม่มีอะไร ..ลองคนอื่นต่อ
Ellen – มันเกิดอะไรขึ้นที่นี่กันแน่เนี่ย?
Richard Malik – คุณคิดว่าผมถูกไอ้ Nigel Cass ชักใยอยู่จริงๆเหรอ? เขาได้บันทึกการประชุมนั่นก็เพราะผมต้องการให้เขาไปจัดการ Emma child และเนื่องจากตอนนี้ผู้รักษากฎหมายมีโปรไฟล์ของพวกคุณทุกคนครบหมดแล้ว หากคุณยังไม่อยากได้ก็คุกลงบนพื้นแล้ววางมือบนศีรษะของคุณซะ
Ellen – เราไม่ยอมจำนนให้แกหรอก !
Richard Malik – ไม่ๆๆๆ คุณกำลังเข้าใจผิดผมไม่ได้บอกว่าจะยิงคุณซักหน่อย
Ellen – แม่งเอ้ย อะไรวะเนี่ย!?
Albion – มาทางนี้ พวกมันอยู่ทางนี้ !!
หลังจากพวก Albion บุกเข้ามาโจมตีจากทุกทิศทาง ก็รีบหนีออกจากพื้นที่ได้เลย
Emma Child – มันเกิดบ้าอะไรขึ้นวะเนี่ย? เป็นยังไงบ้าง ทางชั้นก็มีปัญหาเหมือนกัน Bagley มีไอเดียดีๆมั๊ย?
Bagley: ดูเหมือนงานนี้ Malik ไม่ได้เกทับเรานะ หน้าคุณว่อนเน็ตไปหมดเลย แบบนี้ไม่ดีแน่นอน
Ellen – บ้าเอ้ย Bagley เรียกทุกคนกลับไปประชุมกันที่ Safehouse ด่วนเลย
MAIN MISSION: The Malik Dossier
DedSec Safehouse
Emma Child – นี่คือข้อความถึง DedSec ชั้นเชื่อว่า Richard Malik พยายามจะฆ่าชั้นด้วยวิธรีที่น่าสยดสยอง ถ้าคุณเจอ Malik บอกมันด้วยว่าชั้น.
นักข่าว – ข่าวด่วน Canada house ถูกทำลายจากการระเบิดหลายครั้งและมีผู้พบเห็นบุคคลที่เป็นคนของ DedSec ในกล้องวงจรปิดที่พยายามหนีออกจากพื้นที่ ผู้อำนวยการฝ่ายต่อต้านการก่อการร้ายคนใหม่ของ SIRS Richard Malik ออกแถลงการณ์ด่วนดังต่อไปนี้
Richard Malik - ผมขอเรียกร้องให้พันธมิตรของผมทั่วโลกปฏิบัติต่อภัยคุกคามจากพวก DecSec ด้วยความระมัดระวังเนื่องจากพวกเขาไม่ได้ต่อต้านสิ่งที่พวกเขาต่อต้าน? พวกเขาเป็นองค์กรผู้ก่อการร้ายระดับนานาชาติ และด้วยความร่วมมือกันของ 5 ประเทศพันธมิตรของเรา ผมกำลังสร้าง ..
Bagley: ที่นี้คุณเข้าใจแล้วนะ พวกคุณฉิบหายแล้ว
Joeri – พวกเขาจะยิงเราในทุกที่ที่เจอ เราต้องหาทางเจรจาของพวกเขา
Bagley: ใช่ แต่ผมจะไม่แนะนำให้ทำอย่างนั้น สถานการณ์ทั้งหมดแสดงให้เห็นถึงอัตราการอยู่รอดของ DedSec เท่ากับ 0 ก่อนจะได้เจรจา ซึ่ง Malik เองก็คงจะทำแบบเดียวกัน
Shawn - พวกเราบางคนเตรียมแผนการณ์เอาไว้นิดหน่อยพอที่จะช่วยได้บ้างรึเปล่า Bagley?
Bagley: เรียบร้อย ผมวิเคราะห์ทฤษฎีเสร็จแล้ว ไอ้การจะวางระเบิดอาคารของรัฐอย่าง canada House มันต้องมีเส้นสายต้องใช้การติดสินบนถึงจะส่งทีมแทรกซึมเข้าไปได้และการทำเช่นนั้นโดยไม่ทิ้งร่องรอยไว้เลย ไอ้คนที่จะทำแบบนั้นได้คงต้องได้เอกสารเบิกทางจาก Malik เราจะบุกเข้าไปในสำนักงานใหญ่ของ SIRS ขโมยเอกสารที่ว่านั่นมาเพื่อพิสูจน์ว่า Malik อยู่เบื้องหลังการทิ้งระเบิดและถ้าหากเราโชคดีเราอาจพบข้อมูลที่เกี่ยวของกับ Zero-Day ด้วย ..ผมอัปเดตรายการภารกิจของคุณให้แล้ว
จากนั้นเดินทางต่อไปยังเป้าหมายของภารกิจที่ SIRS HQ ในเขต Westminster
Sabine - เรามาที่นี่เพื่อค้นหาเอกสารที่เราเรียกว่า Malik Dossier ง่ายๆเลย มันเป็นเอกสารที่พิสูจน์ว่า Malik อยู่เบื้องหลังการวางระเบิดที่ Canada House ปัญหาคือเอกสารเหล่านี้จะไม่อยู่ในคอมพิวเตอร์เครื่องเดียวซึ่งจะอยู่ในหลายสิบที่กระจัดกระจายทั่วประเทศ
Joeri – แล้วเราจะทำยังไง?
Bagley: SIRS ใช้ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ที่เรียกว่า FILAMENT เพื่อประมวลผลข้อมูลที่ดึงมาจากเครือข่าย ctOS มันเหมือนกับโครงข่ายขนาดใหญ่ คุณสามารถใช้เพื่อค้นหาเอกสารทุกฉบับที่เกี่ยวกับรัฐบาล พลเรือน หรืออุปกรณ์ทุกอย่างในสหราชอาณาจักรได้ทันที
Sabine - ลอบเข้าไปเพื่อ เชื่อมต่อ Bagley กับ FILAMENT จากนั้นปล่อยให้เขาจะจัดการส่วนที่เหลือเอง
Bagley: เหมือนอย่างเคย
Hack กล้องวงจรปิดขึ้นไปสำรวจดาดฟ้าของตึกจะพบ Filament Router ตั้งอยู่
Bagley: ในการเข้าถึงเทอร์มินัลของผู้ดูแลระบบ FILAMENT จากอินเทอร์เฟซ Optik ของคุณ และคุณจะต้องจัดตำแหน่งเครือข่ายดาวเทียม SIRS กับสตรีมแพ็กเก็ตของผมจาก Blume tower
จากนั้น Hack โดรนในพื้นที่บินขึ้นไปบนดาดฟ้าจัดการปรับเรียงเส้นพลังงานรอบๆ Filament Router ให้เป็นสีฟ้าจนครบวงจรก็จะสามารถเข้าถึง Filament Router จนสามารถ Hack ข้อมูลได้
Bagley:ทำได้ดีมาก ตอนนี้ผมควรจะสามารถสตรีมตัวเองเข้าสู่ SIRS คอมพิวเตอร์สอดแนมตัวน้อยที่น่ารังเกียจที่ชั้นใต้ดินและ Hack เทอร์มินัลผู้ดูแลระบบ FILAMENT ที่นั่น … มีผู้บุกรุกในระบบรักษาความปลอดภัยของอาคาร ผมไม่ .. โทษที .. ช่องสัญญาณของผมโดน Hack
Richard Malik – ตอนนี้ผมได้ควบคุมระบบรักษาความปลอดภัยของตึกเอาไว้แล้ว แตผมอยากอาจจะจบการนองเลือดนี้ ถ้าคุณเต็มใจที่จะฟังเหตุผลซักนิดนึง
Sabine – เราไม่ฟังห่าอะไรทั้งนั้น Zero-Day ก็ Hack เข้ารับการรักษาความปลอดภัยของรัฐสภาก่อนการวางระเบิด นี่มันเป็นลายเซ็นของพวกเขาอยู่แล้ว
Richard Malik – นี่คุณพูดบ้าอะไรเนี่ย ผมแค่อยากให้ DedSec หายไป แต่ไม่ต้องการให้ใครตาย พวกคุณพิสูจน์ตัวเองถึงความที่มีแล้ว และผมควรจะนำความสามารถของพวกคุณมาใช้ประโยชน์ เข้าร่วมกับผมเถอะ คุณยังสามารถสร้างอะไรบางอย่างให้กับชีวิตของคุณได้นะ ไม่ได้หมายถึงในฐานะ Zero-Day นะ แต่หมายถึง SIRS ต่างหาก แบบที่คุณก็เคยทำงานให้ผมมาแล้วไง และนอกจากนี้เรามีหลายอย่างที่เหมือนกันมาก เราต่างก็ใช้ความรุนแรงเพื่อกำหนดให้ลอนดอนเป็นสิ่งที่ดีกว่า สิ่งเดียวที่แตกต่างคือ ผมรู้ว่าผมต้องการให้มันเป็นอย่างไร แข็งแกร่ง มั่นคง เป็นปึกแผ่น ปลอดภัย นี่คือสิ่งที่ผมให้ความสำคัญ แล้วคุณล่ะ?
Joeri - แกมันก็แค่ไอ้พวกปากว่าตาขยิบ ซึ่งแกไม่รู้ตัวเองด้วยซ้ำ
Richard Malik – งั้นก็ดี ! ถ้าเราไม่สามารถโน้มน้าวซึ่งกันและกันได้ ผมคิดว่าการฆ่าทิ้งบางทีมันก็เป็นสิ่งจำเป็นที่ต้องทำ
ที่ต้องทำต่อไปคืนเข้าไปในตึก SIRS HQ ทางเข้าส่วน FILAMENT Operations Center ที่เต็มไปด้วยเจ้าหน้าที่ Albion ระดับสูงเข้ามาควบคุมพื้นที่จำนวนมาก หากใช้ตัวละครปฏิบัติการที่สามารถเปลี่ยนชุดเป็นเจ้าหน้าที่ Albion ได้จะทำให้แทรกซึมเข้าไปกำจัดพวกศัตรูด้านในพื้นที่ได้ง่ายขึ้น แต่ ในช่วงสุดท้ายของภารกิจนี้จะต้องเจอการเข้าปะทะหนักของศัตรูจำนวนมากอย่างต่อเนื่อง จึงจำเป็นต้องใช้ ตัวละครปฏิบัติการที่มีทักษะการต่อสู้ที่ดีที่สุด ในการทำงาน
เป้าหมายคือเข้าไปที่ลิฟต์ด้านในของห้องที่จะนำไปสู่ตำแหน่งของซุปเปอร์คอมพิวเตอร์ FILAMENT ของ SIRS โดยต้องใช้การ Hack กล้องวงจรปิดตามหาศัตรูที่มีรหัสเปิดประตูทางเข้าลิฟต์มาก่อน
จากนั้นก็ลอบเข้าไปด้านในก็จะสามารถผ่านประตูที่ปิดอยู่จนสามารถเข้าไปถึงทางเข้าลิฟต์เป้าหมายที่จะนำไปสู่ตำแหน่งของซุปเปอร์คอมพิวเตอร์ FILAMENT ได้
FILAMENT Central server
เมื่อเข้ามาในส่วนของเทอร์มินัลผู้ดูแลระบบของเซิร์ฟเวอร์กลางของซุปเปอร์คอมพิวเตอร์ FILAMENT แล้ว เข้าไปด้านในเพื่อเชื่อมต่อ Bagley เข้าสู่ระบบของ ซุปเปอร์คอมพิวเตอร์ FILAMENT ในส่วนประตูด้านใน จัดการ Hack โดรนด้านในไปทำลายฝูงโดรนระวังภัยด้านในห้องให้หมด
เมื่อเข้ามาได้แล้วจัดการศัตรูด้านในให้หมดแล้วจัดการ Reboot FILAMENT Servers ที่แผงควบคุมทั้ง 3 อันให้หมด
แต่ในระหว่างที่เริ่มทำการดาวโหลดข้อมูลจากซุปเปอร์คอมพิวเตอร์ FILAMENT ให้กับ Bagley ให้ครบ 100% พวก Micro Drone จำนวนมากจะเริ่มออกมาแทรกแซงสัญญาณการดาวโหลดจากแผงควบคุมทั้ง 3 จุด ต้องรีบเข้าไปทำลายโดรนศัตรูที่กำลังแทรกแซงการดาวโหลดให้หมดเพื่อให้การดาวโหลดดำเนินต่อไป สลับกับต้องจัดการกับหน่วยรักษาความปลอดภัยของศัตรูที่ออกมาเพื่อขัดขวางด้วย
Bagley: ดูนี่สิ เอกสารการครอบครองระเบิดพลาสติกชนิด Semtex จำนวน 40 กิโลกรัมของบริษัทที่เปิดบังหน้าหลายสิบแห่ง และหนึ่งในนั้นในที่อยู่ที่ southall คุณจะเดาได้ไหมว่าใครอาศัยอยู่มานานร่วมสามสิบปี Victoria และ Imran Malik พ่อแม่ซึ่งเป็นครอบครัวหนึ่งเดียวของ Richard
Richard Malik – นั่นมันพิสูจน์อะไรไม่ได้หรอก
Bagley: อันนี้ช่างอุ่นใจจริงๆ ดูเหมือนว่าพื้นที่รอบ Canada House ระเบิดถูกนำเข้าพื้นที่เพื่อใช้ในการฝึกซ้อมที่ไม่ได้กำหนดเวลาไว้ ผมมีอีเมลระหว่างผู้อำนวยการฝ่ายบริหารจัดการอาคารสถานที่กับบัญชีของ SIRS นิรนามที่ไม่ได้ระบุชื่อด้วยนะ ตลกดี
Richard Malik – คุณคิดว่าไอ้การพยายามกล่าวหาว่าผมมันจะลดการสูญเสียชีวิตได้งั้นหรอ? ไม่เอาน่า ไม่อดคติไปหน่อยหรอ ผมรู้สึกแย่มากเลยนะ
Bagley: ดูนี่ ผมเจอนี่ รายงานภารกิจที่ไม่สามารถตรวจสอบได้ของเจ้าหน้าที่ SIRS สองคนที่ได้รับคำสั่งให้วางระเบิดในพื้นที่โดยอ้างว่าเป็นส่วนหนึ่งของการฝึกซ้อมที่มีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยเป็นผู้ลงนามด้วยตัวเอง
Richard Malik – ดูเหมือนจะเป็นวันที่เลวร้ายของท่านรัฐมนตรีแล้วสิแบบนี้
Bagley: โอ้ สุดยอด คุณรู้ไหมว่าหัวหน้าฝ่ายรักษาความปลอดภัยของ Canada House มีลูกสาวถูกคุมขังอยู่ในคุกไคโร และเธอได้รับการอภัยโทษเมื่อสัปดาห์ก่อนการระเบิด? ทำไมเขาถึงจะไม่สำนึกบุญคุณต่อเจ้าหน้าที่ SIRS ที่ช่วยกดดันทางฝั่งอียิปต์ให้เขาล่ะ ว่ามั๊ย?
Richard Malik – ผมก็ว่าเขาน่าจะคิดแบบนั้นนะ
Bagley: ดูเหมือนว่า Malik ยอมแพ้ที่จะให้โดรนไมโครเวฟมาทำลายฮาร์ดแวร์ที่ถูกบุกรุกแล้วสินะ ตอนนี้เขากำหนดเป้าหมายมาที่คุณแทนแต่ผมมันก็คงจะเหมือนกันแหละ
Bagley: แล้วเรามีอะไรที่นี่กันน้า ? ตอนนี้ผมกำลังส่งไฟล์ Malik Case จากแล็ปท็อปของคุณเองที่วางอยู่บนด้านข้างเล็ก ๆ ทั้งหมดที่คุณกำลังใช้งานอยู่มาแล้วนะ เอาจริงๆ คุณน่าจะตั้งชื่อว่า "ระเบิดชั่วร้าย" นามสกุลแผนสมรู้ร่วมคิด dot doc นะจะได้หาง่ายๆหน่อย
Richard Malik – พอแล้ว !! คุณจะทำแบบนั้นไม่ได้ คุณต้องไม่ทำแบบนั้น ผมไม่อนุญาต !!
Bagley: เอาล่ะ กลับไปที่แกนกลางเพื่อทำให้ครบกรรมวิธีได้เลย
Bagley: ตอนนี้ผมรวมเข้ากับ FILAMENT อย่างสมบูรณ์แล้ว และดูเหมือนว่า Malik จะไม่ค่อยมีเวลาปกปิดร่องรอยของเขา ผมเชื่อว่าผมสามารถติดตามตำแหน่งของเขาได้แน่นอน
Bagley: เอาล่ะ มาหาตัวคุณ Malik กัน
Bagley: แก่เกินไป เด็กเกินไป น่าเกลียดเกินไป ผู้หญิงไม่ใช่ .... อ่า อยู่นี่ไง
Bagley: สวัสดี Malik ตอนนี้คุณถูกตัดการเชื่อมต่อแล้ว เป็นเพราะผมหรือเขากำลังท้องผูกเนี่ย?
ช่าย ... ถ้าไม่มีกระเป๋าเอกสารบ้านั่นก็คงไม่ใช่เขา โอ้ ดูเหมือนจะมีใครบางคนล็อกประตูห้องเขา
Bagley: ไม่ต้องห่วง มันไม่มีทาง โว้ .. มันไม่ได้ผลแฮะ
Bagley: เอาจริงดิ นี่เขาจะพยายามหนีขึ้นรถเนี่ยนะ ถามจริง? รถที่เชื่อมต่อกับเครือข่ายอุปกรณ์เฝ้าระวังอัตโนมัติในเมือง .... ที่ผมควบคุมเอาไว้แล้ว
เปิดใช้งานไดรฟ์อัตโนมัติแล้ว
Richard Malik – นี่มันอะไรวะเนี่ย !? ไอ้เชี่ย เชี่ย เชี่ย !!
Bagley: สวัสดีอีกครั้ง จำผมได้ใช่มั๊ยครับ ภายใต้ความกดดันแบบนี้แม้ไอ้คนเจ้าเล่ห์เพทุบายแบบคุณคงคิดไม่ทันสินะ
Richard Malik – อ๊ากกกกกกกก !!!!!!
Shaw – แล้วเอาไงต่อ ?
Bagley: ผมส่งไฟล์เอกสาร Malik Dossier ไปยังสื่อทุกแห่งตั้งแต่ GBB ไปจนถึงเกษตรกรคนเลี้ยงแกะที่ Aberystwyth เลย อาจต้องใช้เวลาสักพักในการทำให้ทุกอย่างมันชัดเจน แต่มันจะช่วยล้างมลทินของ DedSec อย่างน้อยๆก็เรื่องนี้
Shaw – แล้ว Malik ล่ะ ?
Bagley: ก็แค่ทำผิดผลาดไปขึ้นรถที่ผมบังคับเอง ซึ่งเขาควรเป็นหนี้บุญคุณผมที่พาเขาไปยังสถานที่ที่ปลอดภัย
Sabine - เชื่อเหอะ ชั้นโคตรชอบเลยแบบนี้ เขาอาจเป็นส่วนหนึ่งของ Zero-day แค่ว่ามันจะเชื่องโยงกันได้ยังไงก็แค่นั้น นั่นเป็นเรื่องที่เราต้องหาคำตอบ
Bagley: คุณได้ยินมั๊ย Malik ? งานนี้คุณจะได้ช่วยเราได้จริงๆซะที
Richard Malik – แม่งเอ้ยยย ไอ้หุ่นบ้า ช้าๆหน่อยโว้ยยย !!
Bagley: ตอนนี้ Malik ถึงเซฟเฮาส์โดยสวัสดีภาพแล้วครับ
Sabine - ตอนนี้เราได้ตัวเขาแล้ว เราควรคุยกับเขาเพื่อหาสิ่งที่เขารู้เกี่ยวกับ Zero - Day แล้วก็ เอ่อ อย่าเข้าใกล้เขามากเกินไป เข้าใจนะ? เพราะตราบใดที่เขายังมีชีวิตอยู่เขาก็เป็นภัยคุกคามของเราอยู่ดี
Bagley: ดูนี่สิ ข่าวช่อง GBB พูดถึงเพื่อนของเราด้วย
Shaw – ไหนเอามาดูดิ๊
GBB NEWS - หลังจากที่เอกสารต่าง ๆ ที่อยู่ในไฟล์ Malik Dossier ซึ่งออกโดยองค์กรแฮกเกอร์ที่รู้จักกันในชื่อ DedSec ทาง SIRS ก็ออกมาโต้แย้งถึงความถูกต้องของเอกสาร แม้ว่าแหล่งข่าวภายในองค์กรระบุว่า Richard Malik ได้หลบหนีออกจากประเทศไปแล้วก็ตาม เรื่องนี้เป็นการละเมิดข้อมูลที่ไม่เคยมีมาก่อนและที่น่าอัปยศกว่าก็คิอเอกสารส่วนใหญ่ได้รับการตรวจสอบโดยอิสระผู้เชี่ยวชาญด้านการต่อต้านการก่อการร้ายแล้ว คาดว่าเรื่องเหตุการณ์วางระเบิดที่เกิดขึ้นเมื่อต้นปี อาจมีข้อมูลที่ไม่ถูกต้องในเรื่องเกี่ยวกับองค์กร DedSec
MAIN MISSION: Barbarians at the Gate
DedSec Safehouse
Shaw – Ricahrd Malik เรารู้ว่าคุณวางระเบิดสถานทูตและเรารู้ว่าคุณเป็นส่วนหนึ่งของการวางระเบิดครั้งใหญ่เมื่อไม่นานมานี้ สิ่งที่เราต้องการคือคำสารภาพของคุณ
Ricahrd Malik - ระเบิดก่อนหน้านี้? คุณเป็นอะไรของคุณเนี่ย พระเจ้า ผมถูกจับโดยได้พวกปัญญาอ่อนหรอเนี่ย ผมไม่ได้ทำระเบิดพวกนั้นผมพยายามหยุดระเบิดพวกนั้นต่างหาก ผมเป็นคนรักชาติและพวกเขาเรียกผมว่าเป็นคนที่มีความคิดประหลาดแม้แต่เอ็มม่า แต่นั่นคือตอนที่ผมรู้ว่าความฉลาดไม่เพียงพอที่จะช่วยจักรวรรดิ ผมต้องการอำนาจอย่างเร็วที่สุด
Shaw – แล้วคุณรู้จัก Zero-Day ตั้งแต่ที่เราพบกันครั้งแรกได้ยังไง?
Ricahrd Malik - ผมเป็นสายลับนะ ผมรู้รายละเอียดเล็กน้อยเกี่ยวกับการโจมตีของผู้ก่อการร้ายที่รุนแรงที่สุดตั้งแต่เคยเจอมา ความจริงอยากจะบอกว่า ผมเคยคิดว่า Zero-Day คือพวกคุณด้วยซ้ำ จากหลักการของออคแคม ( Occam's Razor) ที่บอกว่า "ทฤษฎีไม่ควรซับซ้อนเกินความจำเป็น" ว่าแต่คุณไม่คิดว่ามันจะเป็นการสมรู้ร่วมคิดของ Abion บ้างหรอ?
Shaw – ใช่สิ แน่นอน คุณจะพูดอะไรก็ได้อยู่แล้ว และต่อให้ที่คุณพูดเป็นความจริง จากที่คุณเคยทำมาทั้งหมดคุณจะต้องเน่าตายอยู่ที่นี่แน่นอน
Ricahrd Malik - ผมสงสัยว่าผมอาจจะอยู่ที่นี่อีกไม่นาน กำแพงเหล่านี้จะพังทลายไปพร้อมกับพวกคุณทุกคนในไม่ช้า จากความรุนแรงที่คุณสร้างขึ้นนี้มันจะถึงวาระที่จะล้มเหลวเหมือนที่ผมเคยเห็นมาหลายครั้งจากในหลายสถานที่ คุณจะถูกฉีกเป็นชิ้นๆ คุณจะไม่ต้องการ Zero-Day หรือ Albion หรือใครก็ตามอีก
อุดมการณ์แบบรวมเป็นหนึ่งเดียว มีผู้นำที่เข้มแข็งคนเดียว สิ่งเหล่านี้เป็นลักษณะของอำนาจในประวัติศาสตร์ของมนุษย์ประชาธิปไตยและพหุนิยม เป็นความผิดปกติที่เกิดขึ้นชั่วขณะในลำดับของเหตุการณ์ตามช่วงเวลา นั่นคือสิ่งที่คุณเป็น DedSec
แค่เชิงอรรถในประวัติศาสตร์ของจักรวรรดิ แต่ตอนนี้หน้าต่อไปกำลังจะถูกเปิด ทุกอย่างกำลังจะเปลี่ยนไป และคุณยังไม่พร้อมสำหรับสิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อไปหรอก
SIDE MISSION : Third Degree Burns
สำรวจแล็ปท็อปที่อยู่ใน DedSec Safehouse จะได้รับการติดต่อมาจาก Hamish Bolaji
Hamish Bolaji – พวกคุณยังโอเคอยู่นะหัวหน้า ? ผมต้องขอโทษด้วยที่ไม่ได้อยู่ที่นั่น แบบตัวเป็นๆ ผมไม่มีทางที่จะออกมาจากที่ซ่อนตัวของผมหรอก แต่ผมก็เปิดการเชื่อมต่อที่เข้ารหัสไว้กับ Safehouse ของคุณตลอด ตอนนี้ผมกำลังคุยกับเพื่อนของคุณ Richard Malik อดีตเจ้าหน้าที่ SIRS และ อดีตสายข่าวของพวก Albion เขาให้ผมดูการบันทึกเสียงนี่ คุณควรจะลองฟังดู มันอาจเป็นเรื่องใหญ่ก็ได้ และถ้าคุณมีเวลาว่างซักแป๊บ ช่วยอัดไอ้คุณ Malik ให้กระเด็นแทนผมซักหมดได้ป่ะ ?
ผู้หญิง - คุณหมายถึงอะไร จะไม่สืบเรื่องนี้? คุณเป็นตำรวจหรือเปล่าเนี่ย?
ตำรวจ - เราเป็นตำรวจแน่นอน แต่เราทำแบบนั้นไม่ได้หรอก
ผู้หญิง - เพื่อนของชั้นเป็นนักข่าว เธอทำงานเกี่ยวกับเรื่องราวเกี่ยวกับ SIRS ที่ลักพาตัวผู้คนตามท้องถนนอยู่ แล้วจากนั้นเธอก็หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย คุณไม่คิดว่ามันน่าสงสัยเลยหรอ?ตำรวจ - ฟังนะ .. ที่ว่าจะไม่มีการสืบสวนเรื่องนี้เพราะอำนาจการตัดสินใจมันไม่ได้อยู่ที่ผมผมเข้าใจไหม? ผมช่วยคุณไม่ได้จริงๆ
Bagley: นักข่าวที่เราได้ยินการสนทนาจากบันทึกการโทรนั่น ดูเหมือนว่าน่าจะไม่ค่อยลงรอยกับ SIRS เท่าไหร่นะ และจากที่เห็นสิ่งที่พวกเขาทำมาตลอดตั้งแต่ปี 1984 ผมว่าเธออาจมีปัญหาแล้วล่ะ
Shaw – เธออาจต้องการความช่วยเหลือจากเรา
Bagley: ผมส่งพิกัดล่าสุดของเธอไปให้คุณเรียบร้อยแล้ว และรีบหน่อยก็ดี ดูจากวันที่ที่เสียงบันทึกไว้เพิ่งไม่นาน บางที SIRS อาจยังไม่ได้ตัวเธอไป
เดินทางไปยังจุดหมายของภารกิจที่ Furzton Tower Block ในเขต Camden
Bagley: ที่นี่แหละคือจุดสุดท้ายก่อนที่นักข่าวคนนั้นจะหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยหลังจากเธอเริ่มขุดคุ้ยของมูลเกี่ยวกับชาวเมืองที่หายตัวไปจากฝีมือของ SIRS ผมคิดว่าเราสามารถหาข้อมูลอะไรก็ตามที่เกี่ยวกับการสอดแนมประชาชนพวกนั้นได้ที่ SIRS นี่แหละ และเพื่อลดการเผชิญหน้า ผมได้ติดแท็กจุดที่น่าจะเป็นหลักฐานได้เอาไว้แล้ว ซึ่งผมสามารถวิเคราะห์มันได้ง่ายขึ้นหากคุณทำให้ผมได้เห็นจากภาพนิ่งความละเอียดสูงที่คุณถ่ายมา
พื้นที่เป้าหมายนั้นเป็นของแก็งค์ Kelley ดังนั้นให้ใช้ตัวละครปฏิบัติการณ์ที่สามารถปลอมตัวเป็นพวกแก็งค์ Kelley ได้เพื่อสะดวกในการเข้าพื้นที่ เป้าหมายคือ เข้าไปถ่ายรูปจุดที่จะเป็นหลักฐานสำคัญที่ Bagley กำหนดไว้ 3 จุด
Bagley: ดูจากรอยยางที่ทิ้งไว้มีเส้นผ่านศูนย์กลางยี่สิบสี่จุดเก้านิ้ว ขนาดทั่วไปสำหรับรถแชสซีขนาดใหญ่เช่น รถบรรทุกหรือรถตู้
Bagley: ไฟล์ใน notepad ถูกเปิด ดูเหมือนจะเป็นของนักข่าวคนนั้น ผมได้ทำการถอดเสียงลงในไดรฟ์ข้อมูลของคุณแล้ว อย่างน้อยตอนนี้ เราก็รู้แล้วว่าเธอเคนอยู่ที่นี่
- กระทรวงมหาดไทยบอกว่าการจับกุมของทาง SIRS มีรัฐมนตรียืนยันว่าเป็นปฎิบัติการที่ถูกกฎหมาย ทำไมเป็นแบบนั้น ??
- พระราชบัญญัติอำนาจการสืบสวน ไม่สามารถหาได้ทางออนไลน์อีกต่อไป ต้องไปค้นหาที่ห้องสมุดกฎหมายเลยดีมั๊ย ๆ ผิดที่ผิดทางไปหน่อย พวกเขาคงไม่เก็บข้อความฉบับเต็มของ Keith เอาไว้ที่นั่นหรอกจริงมั๊ย?
- แหล่งข่าว SIRS ปฏิเสธว่าไม่มีข้อมูลเหล่านี้และไม่ยอมค้นหาในเชิงลึกมากไปกว่านี้
- อย่าลืมเก็บน้ำสต๊อกผักเอาไว้สำหรับอาหารเย็นของ Keith ผู้หญิงคนนึงจากอัลเบียนอาจเกี่ยวของกับเรื่องนี้
- แหล่งข่าวของ SIRS ไม่ยอมเปิดเผยตัวตนและปฏิเสธที่จะพบปะกัน
Bagley: มีคนเอาสีมาพ่นที่กล้องวงจรปิด
Maribel – แล้วมันบอกถึงอะไรหรอ?
Bagley: โอ้ ไม่เอาน่า คุณคิดว่าผมให้คุณถ่ายภาพทั้งหมดเสร็จแล้วผมจะรู้ข้อมูลทั้งหมดได้เองเลยงั้นหรอ? ถ้าคุณเจอฮับ ctOS ผมสามารถอ้างอิงภาพที่คุณถ่ายกับ security feed และแยกช่วงเวลาก่อนที่นักข่าวคนนั้นจะถูกจับตัวไป อาจมีเงื่อนงำอะไรบ้างก็ได้
Bagley: ค้นหาจากบันทึกของกล้องหมายเลย 6b ….. เจอแล้ว นี่ไงภาพที่ได้จากกล้องตัวที่ถูกสีพ่น
สังเกตดูที่รถตู้ด้านหลังสิ หมายเลขป้ายทะเบียนระบุว่าเป็นรถยนต์ของรัฐบาล นี่เป็นการยืนยันว่านักข่าวที่ว่าถูกลักพาตัวไปโดยคนของ SIRS คุณรู้มั๊ยว่า ใครที่น่าจะรู้ว่าหน่วยงานรัฐอย่าง SIRS จับตัวนักข่าวอย่างถูกกฎหมายนี่ที่น่าสงสัยได้ที่ไหน? ก็เจ้าหน้าที่ SIRS เพื่อนของเราไง .... ผมต่อสายไอ้คุณ Malik ให้แล้ว
Maribel – ไม่อ่ะ ชั้นไม่เชื่อใจมัน
Richard Malik – ทำอย่างกับคุณมีทางเลือกงั้นแหละ? ผมว่าเราอาจต้องร่วมงานกันอีกแล้ว แม้ผมอาจจะเบื่อๆหน่อยก็เถอะ แต่จะทำไงได้ว่ามั๊ย เอาล่ะ ดูที่สีที่ใช้ให้ดีๆ มันเป็นสีที่ใช้ในการรักษาความปลอดภัยมากกว่าเชิงพาณิชย์ นั่นคือสี CARC เป็นสีที่ป้องกันสารเคมีที่ใช้กันในทางทหาร คุณจำได้ไหมตอนที่ ช่วยผม จากพวกอัลเบี้ยนได้ป่ะละ? ยังไงก็เถอะ ผมไม่อยากให้วันนั้นเสียเปล่า ดังนั้นผมเลยติดตั้งเวิร์มในอุปกรณ์ comms ของพวกมัน ซึ่งทำให้ผมได้ข้อมูลต่างๆของพวกมันมาเพียบเลย รวมถึงใบสั่งงานด้วย ตอนนี้ผมให้ Bagley เข้าถึงมันแล้ว
Bagley: ดูเหมือนอัลเบียนเพิ่งสั่งสี CARC มาเป็นลังๆเลย คำสั่งซื้อให้ส่งไปที่ ศูนย์กักกันของอัลเบียน เอาล่ะ ผมส่งพิกัดไปให้แล้ว
เดินทางไปยังจุดหมายของภารกิจที่ Albion Internment Centre ในเขต Camden
จากนั้นเข้าประตูด้านที่ใกล้กับตัวตึกที่นักข่าวถูกจับอยู่โดยการโยน Spiderbot ข้ามประตูที่ล็อกไปเพื่อใช้มันไปปลดล็อกประตูที่แผงควบคุมด้านใน
ใช้ตัวละครปฏิบัติการณ์ที่สามารถเปลี่ยนชุดเป็นพวก Albion แทรกซึมเข้าไปด้านใน ลอบจัดการพวกศัตรูด้านในตึกให้หมด แล้วขึ้นไปปลดล็อกประตูห้องขังที่แผงควบคุมที่อยู่ชั้นบนเพื่อเปิดประตูห้องขังของ Elle Meghani นักข่าวเป้าหมายแล้วช่วยเธอออกมาด้านนอกตึกอย่างปลอดภัย
Elle Meghani – ขอบคุณนะที่ช่วยชีวิตชั้นและทุกๆอย่าง แต่เราต้องเอาแบบรวบรัดหน่อย ตอนนี้ชั้นต้องการออกจากประเทศห่านี่เดี๋ยวนี้
Ellen – เราคือ DedSec อยากให้เราช่วยอะไรบอกมาได้เลย?
Elle Meghani – บางทีคุณอาจจะโชคดีมากกว่าชั้น SIRS พบช่องโหว่ทางกฎหมายที่ช่วยให้พวกเขาจับคุณได้ทุกๆทางไม่ว่าคุณจะเปิดบัญชีธนาคารหรือแม้แต่เข้าไปตัดผม คุณจะกลายเป็นหนึ่งในผู้ก่อการร้ายที่กำลังวางระเบิดอะไรซักอย่างได้ จากนั้นพวกเขาก็จะจับกุมคุณโดยไม่ต้องมีหมายจับ ด้วยการก่อตั้งหน่วยงานดักฟัง ( Snooper's Charter) อย่างถูกกฎหมายขึ้นมา
Ellen – พวกเขาจะทำแบบนั้นได้ยังไง?
Elle Meghani – นับตั้งแต่ลอนดอนเริ่มใช้ ctOS ทาง SIRS ก็สามารถเข้าถึงอีเมลทุกฉบับ ทุกโทรศัพท์ทุกครั้งที่โทรเข้า - ออก กล้องวงจรปิดทุกตัว และทุกๆอย่างเมื่อคุณให้ข้อมูลกับรัฐบาล เขาทำแบบนั้นได้ยังไงหรอ? ทำไมเขาถึงจะไม่ทำน่าจะเหมาะกว่าป่ะ ?
Ellen – บ้าจริงๆ เอาล่ะ ชั้นจะส่งคุณไปที่ที่นึง จะมีคนๆนึงเอาพาสปอร์ใหม่ให้คุณนะ โชคดีก็แล้วกัน
Bagley: หลังจากตรวจสอบแล้วว่านักข่าวคนนี้หนีได้อย่างปลอดภัยแล้วผมจะแนะนำการแก้ปัญหาแบบ DedSec ให้กับเธอ เธอจะได้จบเรื่องราวของเธอซะที
Ellen – เป็นความคิดที่ดีนะ Bagley
SIDE MISSION: Parks and Reclamation
สำรวจแล็ปท็อปที่อยู่ใน DedSec Safehouse จะได้รับการติดต่อมาจาก Hamish Bolaji อีกครั้ง
Hamish Bolaji –ขอบคุณที่เช็คอินเข้ามานะ ผมตอนนี้อ่ะหรอ เมื่อเร็ว ๆ นี้ผมได้รับข่าวเพื่อนเก่าของผม ตอนนี้เขากำลังหนี ผมอยากไปเยี่ยมเขามาก แต่คุณก็รู้ ..
Shawn - มันเสี่ยงเกินไป
Hamish Bolaji – ใช่ แล้วไอ้พวกนเลวจาก EPAF ห่านั่นก็รู้ว่าเพื่อนของผมมันไม่ได้มาจากที่นี่ พวกแม่งก็แค่เอาแต่ตะโกน อังกฤษก่อน! อังกฤษก่อน! เหมือนกับแค่จะเขี่ยขี้ให้พ้นจากตัวเอง
Shawn - เราช่วยอะไรได้บ้างล่ะ?
Hamish Bolaji – ผมไม่รู้ ..ไม่รู้
Shawn - มันแย่ขนาดนั้นเลยหรอ?
Bagley - มันเป็นสิ่งที่ขัดแย้งในตัวเองที่คลาสิคมาตลอด ในสังคมที่น่ารังเกียจยิ่งทำให้ทุกคนเต็มใจที่จะแบ่งปันชน้อยลง เมื่อเร็ว ๆ นี้มีความรุนแรงในการต่อต้านผู้อพยพที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยกลุ่มที่เรียกตัวเองว่า EPAF
Shawn - ไอ้พวกกักขฬะเอ้ย ! แล้วเราจะช่วยอะไรได้บ้างล่ะ?
Bagley - EPAF หรือ แนวร่วมของคนรักชาติแห่งอังกฤษ ดูเหมือนจะได้รับการสนับสนุนและมี่การจัดระบบได้ดีผิดปกติ ผมมองว่ามันอาจมีการเชื่อมโยงกับองค์กรอาชญากรรมขนาดใหญ่บางแห่งได้
Shawn - งั้นลองไปเช็คดู
เดินทางไปยังจุดหมายของภารกิจที่ Kennington Park ในเขต Lembeth
Bagley – ที่นี่คือ Kennington Park รายงานข่าวท้องถิ่นระบุว่าที่นี่ถูกครอบครองโดยกลุ่มชังชาวต่างชาติที่ชอบใช้ความรุนแรงที่เรียกตัวเองว่ากลุ่มปฏิบัติการรักชาติของอังกฤษหรือ EPAF
เป้าหมายคือเข้าไป Hack ข้อมูลด้านในห้องทำงานในพื้นที่ ภารกิจนี้ไม่จำเป็นต้องใช้ตัวละครปฏิบัติการณ์ในการปลอมตัวเข้าไป สามารถใช้ Spiderbot โยนเข้าไปในพื้นที่เพื่อบังคับมัน
เข้าไปยังจุดเป้าหมาย Hack กล้องวงจรปิดในห้องเพื่อปิดสวิตซ์เลเซอร์ตรวจจับก็จะสามารถเข้าไปดาวโหลดข้อมูลใน Hub ctOS ในห้องได้เลย
อีเมลที่ถูกดักฟัง
คุณสามารถโจมตีคนเหล่านี้ได้กี่คนก่อนที่พวกเขาจะลุกขึ้นตอบโต้ ส้นตีนเอ้ย !
เราต้องการให้ GBB พาดหัว อะไรซักอย่าง ประมาณว่า "ความรุนแรงในย่านผู้อพยพ" นั่นคือข้อตกลงเราจะมาดูในเรื่องรายละเอียดในการเจอกันครั้งต่อไป
คอยเติมเชื้อไฟเอาไว้ เมื่อเวลามาถึงทุกอย่างจะถูกสร้างสรรค์ขึ้นมาเอง "
- Kingfisher
Bagley – มีอีเมลที่น่าสนใจอยู่ฉบับนึง ดูเหมือนว่า EPAF จะตอบคนที่เรียกตัวเองว่า "Kingfisher" ซึ่งเป็นผู้ผลักดันให้พวกเขาโจมตีผู้อพยพ
Shawn - น่าสนใจ แล้วคุณได้อะไรอีก?
Bagley – GPS ของแล็ปท็อประบุตำแหน่งที่ Kingfisher พบกับสมาชิก EPAF อย่างน้อยหนึ่งคนเป็นประจำ ผมเดาว่าพวกเขาไปเพื่อแลกเปลี่ยนสติกเกอร์ฟุตบอลอะไรแบบนั้น
Shawn - ดูเหมือนจะเป็นที่ที่เหมาะในการขุดข้อมูลบางอย่างนะ
เดินทางไปยังจุดหมายของภารกิจที่ Albion Station ในเขต Camden
เปลี่ยนเป็นตัวละครปฏิบัติการที่สามารถปลอมตัวในชุดของพวก Albion ได้เพื่อสะดวกในการแทรกซึมเข้าพื้นที่
จากนั้น Hack โดรนด้านหน้าทางเข้าจัดการศัตรูที่เฝ้าอยู่ด้านแล้วดาวโหลดรหัสเปิดประตูทางเข้ามาเพื่อใช้เปิดประตูเข้าด้านในตัวตึก
ลอบเข้ามาจนถึงทางลงไปชั้นห้องขังผู้ต้องหา( Prison Cell ) แล้วจัดการดาวโหลดข้อมูลจากแล็ปท็อปที่อยู่ในห้องเป้าหมายจนได้ไฟล์เสียงสนทนามา
EPAF - ทำไมเราต้องไปพบกันที่สถานีตำรวจด้วย? ทำให้ชั้นรู้สึก……..หงุดหงิด
Kingfisher - มันปิดบังได้ดีคือถ้าใครเห็นคุณคงจะคิดว่าคุณถูกจับอยู่แล้วไง
EPAF -แปลกดีที่ได้นั่งอยู่ที่นี่โดยไม่ได้ถูกใส่กุญแจมือ คุณมีอะไรให้เราบ้าง?
Kingfisher - รายชื่อผู้คนในละแวกนี้ที่ FILAMENT บอกเราว่าจะมีแนวโน้มที่จะเกิดความรุนแรงหากถูกยั่วยุ
EPAF -คุณต้องการให้เราเริ่มลุยเลยงั้นหรอ?
Kingfisher -คนที่กระหายเลือดยิ่งดี เราต้องการความรุนแรงที่น่ากลัวแบบอลังกาลงานสร้างหน่อยเพื่อให้มันได้ออกข่าวภาคค่ำ มีปัญหาหรือเปล่า?
EPAF -เราจะรู้ได้ยังไงว่าทำแบบนี้แล้วเราไม่ซวยซะเอง
Kingfisher -SIRS ต้องการสิ่งเดียวกับคุณ ต้องการให้แก้วิกฤตผู้อพยพได้ ถือว่าคุณกำลังทำการบริการสาธารณะเลยนะ
EPAF - ฮะ! บริการสาธารณะ ใครจะคิดล่ะว่าป่ะ?
Bagley –ผมเพิ่มไฟล์หลายไฟล์ลงในไดรฟ์ข้อมูลแล้ว คุณดูสิ Kingfisher เป็นเจ้าหน้าที่ SIRS เขาเป็นผู้ระดมทุนให้ EPAF หรือคุณอาจถาม Kingfisher เองเลยก็ได้ว่า เจ้าฉลามยักษ์ตัวนี้กำลังยืมสำนักงานในสถานีตำรวจแห่งนี้เพื่อให้เขาเสี่ยงน้อยลงก็ได้ ใครจะรู้ ตามหาเขาแล้วจัดการซะ เราจะได้จบเรื่องของ EPAF กันซักที
จากนั้นเดินกลับขึ้นไปชั้นบนตามเป้าหมายของภารกิจไปที่ชั้น 3 จะพบเป้าหมายคือ Jay Jatt หรือ Kingfisher นั่งอยู่ในห้องทำงาน เป้าหมายของภารกิจคือ จัดการมันซะ โดยจะใช้การ Hack Junction Box ด้านในให้เกิดการระเบิดใส่มันหรือจะเข้าไปในห้องจัดการมันด้วยมือตัวเองก็ได้
Bagley – Kingfisher ถูกกำจัดแล้ว นั่นน่าจะทำให้พวกเหยียดชาวต่างชาติ (Xenophobic) รับมือกับการตอบโต้ด้วยกองกำลังติดอาวุธได้ยากขึ้น อย่างน้อยที่สุดก็หวังว่ามันจะส่งผลไปถึงพวก Albion ด้วยเช่นกัน ตอนนี้คงจะโดดหนีจากเรือกันหมดแล้วล่ะ
Bagley: ความพยายามปลุกปั่นให้ผู้อพยพใช้ความรุนแรงก็เพื่อทำให้การแสดงความบริสทธิ์ของพวกเขาลดน้อยลง ผมขอให้ Malik ลองวิเคราะห์ในแบบของเขาดู
Richard Malik - บริการของรัฐต่างๆจะฝังข้อมูลทั้งหมดที่คุณขุดคุ้ยมาเอาไว้ทันทีที่คุณพยายามเผยแพร่ข้อมูลนี้ไปยังสื่อต่างๆ ดังนั้นคุณจะต้องแจกจ่ายข้อมูลออกไปด้วยตนเอง มาตรการของ SIRS ที่ทำได้มี 2 อย่างคือ กล่าวว่ามันเป็นข้อมูลที่บิดเบือนบนอินเทอร์เน็ตและออกประกาศให้คนปฎิเสธเรื่องโฆษณาชวนเชื่อพวกนี้ ดังนั้นจะไม่มีใครรู้เลยว่ามันเป็นความจริงและเมื่อเวลาผ่านไปจนไม่มีใครสนใจข่าวพวกนี้ใครก็ตามที่สามารถปรักปรำพวกเขาได้ก็จะหายตัวไปเหมือนทุกครั้ง
ผู้ประกาศข่าวของ GBB - การประท้วงอย่างต่อเนื่องเพื่อต่อต้านการอพยพเข้าเมืองอย่างผิดกฎหมายใน Kennington Park ได้แพร่กระจายไปอย่างรวดเร็วในวันนี้หลังจากมีข่าวลือเรื่องเกิดความวุ่นวายในหมู่ผู้ประท้วง ซึ่งทาง SIRS ยืนยันว่าผู้ประท้วงหลายคนถูกจับกุมหมดแล้วและหลายคนก็มีหมายจับในคดีเก่าค้างอยู่
KELLEY CHAPTER : Down The Darkweb
MAIN MISSION: Crashing the Auction
Bagley:ผมเฝ้าติดตามเครือข่ายโดรนของยัย Mary Kelley จนได้ส่งคำเชิญไปขายในตลาดทาสของเธอในที่สุด
Kaitlin Lau - DedSec นี่สารวัตร Kaitlin Lau นะ ใช้ความสามารถพิเศษในการแฮ็คของคุณกับโดรนเหล่านั้นได้เลย จะได้รับตำแหน่งที่เธอขายคนที่มีไมโครชิปที่น่าสงสารเหล่านั้น เราต้องจบเรื่องนี้กันซักที !
มองหาโดรนส่งของของ Parcel Fox ที่บินผ่านมาแล้วจัดการ Hack ควบคุม Delivery Drone เป้าหมายแล้วบังคับมันเอาของมาปล่อยใกล้ๆแล้วกด Drop Cargo เพื่อปล่อยกล่องสินค้าให้ตกลงมาจนสามารถเก็บมาได้
Bagley: มันหมูมากสำหรับคุณเลยใช่ป่ะล่ะ ขอเวลาผมถอดรหัสรักษาความปลอดภัยแปบ ...
Kaitlin Lau – ไง Bagley ได้อะไรบ้าง?
Bagley: Mary Kelley ทำการค้าของเธอที่ ... Hackney Baths สระว่ายน้ำสาธารณะเก่าแก่ที่เปิดให้บริการมาตั้งแต่ปี 1904 ในยุคปัจจุบันที่ได้รับความสนใจมากขึ้นในฐานะตลาดค้าทาส
Kaitlin Lau - เธอกล่าวถึงนักลงทุนต่างชาติ ดังนั้นนี่จึงเป็นเรื่องใหญ่ ซึ่งนั่นหมายถึงเราจะได้ทั้งข้อมูลของผู้ร่วมงาน ลูกค้า , พนักงาน ทุกๆคนที่เกี่ยวข้องกับองค์กรของเธอ รับรองว่างานนี้ Mary Kelley ไม่รอดแน่นอน
Bagley: สารวัตร Lau ต้องการนำคดีของเธอกับ Mary Kelley ไปให้คนของเธอในสำนักงานอัยการสูงสุดซึ่งหมายถึงการรวบรวมข้อมูลให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้เพื่อให้แน่ใจว่ามีประโยชน์ที่จำเป็นสำหรับการดำเนินคดีพวกมัน
Kaitlin Lau - ไมโครชิปเป็นส่วนสำคัญของสมการนี้ซึ่งเราแทบไม่รู้อะไรเลยว่ามันคืออะไร เราต้องการหลักฐานบางอย่างที่จับต้องได้มากกว่านี้ ถ้าเจออะไรก็ติดต่อมาแล้วกัน
เดินทางไปยังจุดหมายของภารกิจที่ Hackney Baths ในเขต Islington & Hackney
Shawn – มาถึงแล้วเอาไงต่อ
Bagley: อย่าเพิ่งผลีผลาม Hack ระบบ ctOS ของตึกแล้วดูว่าคุณจะเจออะไรข้างในนั้นก่อนจะดีกว่า
Shawn – ผมเข้ามาในระบบแล้ว
Kaitlin Lau – เก็บหลักฐานมาให้หมด ชื่อ สถานที่ ข้อมูลต่างๆที่คุณสามารถเก็บได้ที่นี่เอาหมด เราจะเปิดทำคดีนี้ใหม่และหาทางปลดปล่อยคนเหล่านี้ด้วย
จากนั้นกด R3 เพื่อสแกนพื้นที่จะพบตำแหน่งของกล้องอีกตัวในห้องด้านล่าง จัดการ Hack เพื่อใช้งานดูภาพจากห้องชั้นล่างต่อ
Fiona – ไม่เอาน่า มองกล้องหน่อยดิเว้ย มองตรง ขวาหน่อย ดีมาก !! เอาล่ะ ยืนขึ้นแล้วหมุนตัวช้าๆ
Natalie – ผม ... ผมไม่อยากทำแบบนี้ ...ได้โปรดเถอะ…
Fiona – ยกตูดของมึงขึ้นมาเดี๋ยวนี้ !! แม่งโคตรอนาถเลย ไอ้ห่านี่ไม่มีทางขายออกแน่แบบนี้ คนซื้อส่วนใหญ่ต้องการแต่ของคุณภาพสูงๆกันทั้งนั้น !!
Dianne – เออ งั้นก็ลากแม่งไปเก็บไว้ใต้บันไดเหมือนเดิมก็แล้วกัน เราอัพเดทแคตตาล็อคและใส่สเตตัสของมันเข้าออนไลน์ไปแล้ว
Natalie – ไม่ ไม่ๆๆๆ ได้โปรดเถอะ ผมยอมแล้ว ผมจะทำตามที่คุณบอกทุกอย่าง อย่าเอาผมกลับไปที่นั่นอีกเลย ไม่ๆๆๆๆ
Fiona – หุบปากซะทีโว้ย !!
Shawn – แม่งเอ้ย ! อะไรวะเนี่ย?
Bagley: มีโอกาสที่ชั้นใต้ดินจะถูกล็อคเอาไว้ และก็มีโอกาสที่ไอ้โง่คนใดคนนึงของมันจะทิ้งรหัสเอาไว้ที่ไหนสักแห่ง ลองหาดู
Bagley: อ่า นั่นไง ขอบคุณที่ทิ้งกุญแจไว้ให้นะไอ้โง่
เมื่อได้กุญแจจนเปิดประตูทางขวาของ ctOS Hub ได้แล้ว ก็ลอบเข้าไปด้านในจัดการศัตรูให้หมด เป้าหมายคือประตูลงชั้นล่างต่อ
Shawn - นี่ไม่ใช่แค่การเที่ยวกลางคืนสุดหรูเหรอเนี่ย? มาเถอะที่รักไปหาแชมเปญดื่มกันซักแก้วบางทีเราอาจจะซื้อทาสดีๆกลับไปใช้ที่บ้านซักคน
Bagley: หากเราพยายามทำอะไรซักอย่างก่อนที่จะปิดการขาย Microchips ซึ่งมีแนวโน้มว่า Mary Kelley น่าจะรีบเคลียร์คลังสินค้าของนางทันทีแน่นอน
ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีทางการแพทย์ทำให้การปลูกถ่ายเป็นทางเลือกที่ง่ายและเข้าถึงได้ไม่ยากในการยืดอายุของคุณ มาเพิ่มทศวรรษของชีวิตด้วยหัวใจใหม่ ไต ปอด กระจกตา
The Golden Goose ขอนำเสนอสินค้าครบวงจรที่ดีต่อสุขภาพเพื่อให้มั่นใจได้ถึงการรับประกันความมีชีวิตที่เกินขีดจำกัด เพราะสุขภาพไม่ควรเป็นอุปสรรคต่อความทะเยอทะยานของคุณ
Shawn – อ่านี่ไง The Golden Goose ..Mary Kelley ทำระบบตลาดออนไลน์ห่านี่ขึ้นมาเพื่อเอาอวัยวะของมนุษย์มาขายในตลาดมืด เราต้องหยุดคนพวกนี้ !
Bagley: ผมแนะนำให้ล้างมือหลังจบงานนี้ด้วยนะ ... อ่า นี่อันนี้น่าสนใจ
Zero-Day - Miss Kelley เพราะเหตุใดการจัดส่งวัตถุระเบิดของเราจึงล่าช้า คุณได้รับ crypto ไปแล้วนะ
Mary Kelley - ครบทุกเพนนี เลยล่ะที่รัก ต้องยอมรับตอนแรกชั้นคิดว่าคุณเป็นพวกราคาคุยซะอีก
Zero-Day - แล้วตอนนี้คุณคิดยังไง?
Mary Kelley - ชั้นคิดว่าคุณมันพวกทุนหนาเลยล่ะและองค์กรของชั้นอาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับบางสิ่งที่ค่อนข้างน่ากลัวที่คุณกำลังจะทำ ชั้นเลยคิดว่าราคามันน่าจะเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่านะ
Zero-Day - ยังคงยึดมั่นในกิตติศัพท์ของคุณไม่เปลี่ยนจริงๆ แต่เราสามารถมอบสิ่งที่มีค่ามากกว่าเงินให้คุณได้นะ
Mary Kelley - แล้วอะไรล่ะ?
Zero-Day - อำนาจไง เราสามารถทำให้คุณเป็นราชินีแห่งลอนดอนได้เลยนะ
Mary Kelley - ราชินีเนี่ยนะ? ราชินีเป็นแค่อำนาจอธิปไตย
Zero-Day - จัดส่งของมาให้เราแล้วลอนดอนจะเป็นของคุณ
Mary Kelley - ชั้นรู้ดีตั้งแต่ได้ยินดอกไม้ไฟดอกแรกที่คุณจุดขึ้นแล้ว ระวังอย่ามันเผาตัวเองตอนนี้ก็แล้วกัน
Kaitlin Lau - อ่า นี่แหละคือตะปูตอกฝาโลงของนาง Mary Kelley เป็นผู้จัดหาวัตถุระเบิดเพื่อวางระเบิดในลอนดอน พ่วงข้อหาค้าทาสและตลาดมืดค้าอวัยวะมนุษย์
Bagley: งานนี้เกมผลิกแฮะ Mary ไม่ใช่ซีโร่เดย์ แต่เธอมีส่วนร่วมด้วย ผมต้องยอมรับว่าแผนการของซีโร่เดย์เพื่อปกปิดร่องรอยของพวกเขานั้นฉลาดและได้ผล แม้ว่าผมจะไม่แปลกใจกับเรื่องนี้เท่าไหร่ แต่ก็อะไรที่ยังคาใจอีกหลายอย่าง
Sabine - อย่าลืมว่าเรามาทำอะไรที่นี่ เราต้องการทุกอย่างใน Golden Goose สำหรับ คดีของ Kaitlin ว่าแต่ Bagley คุณสามารถกู้คืนข้อมูลได้รึเปล่า?
Bagley: แค่เว็บไซต์กระจอกๆ ผมกู้คืนรายการสินค้าคงคลังมาได้แล้ว แต่น่าจะไม่มากพอที่จะช่วยเกี่ยวกับคดีของสารวัตร Lau ได้ แต่เซิร์ฟเวอร์กำลังออนไลน์ทั่วโลกพวกเขาอาจใช้โปรโตคอลแบบสุ่มและมิกซ์เน็ตบางประเภท ที่อาจตามรอยได้ แต่ผมคงต้องใช้เวลาซักสองสามวัน
Shawn- ไอ้พวกที่อยู่ชั้นบนอาจจะช่วยเราได้บ้างก็ได้
จากนั้นย้อนกลับขึ้นมาจากชั้นใต้ดินแล้วลอบขึ้นไปชั้นบนของตึกต่อ สแกนพื้นที่มองหาหัวหน้าการ์ดของ Hackney Baths ที่อยู่บนระเบียงชั้นบนสุด
ในพื้นที่ไม่มีกล้องวงจรปิดให้ Hack เข้าไปใกล้ๆตัวมัน จึงต้องใช้ Spiderbot ลอบเข้าไปใกล้ตัวมันเพื่อ Hack ข้อมูลจากมันโดยไม่ทำให้ศัตรูรู้ตัว เมื่อได้ข้อมูลมาแล้วก็หนีออกจากพื้นที่ได้เลย
Kaitlin Lau – DedSec เราต้องการข้อมูลจาก Server นั่น รับรองว่างานนี้ Mary Kelley ดิ้นไม่หลุดแน่นอน
Shawn- เพื่อจะช่วยผู้คนที่ถูกจับไปเป็นทาส ตอนนี้เรายังไม่สามารถให้เซิร์ฟเวอร์หรือปล่อยให้ไมโครชิปรีเลย์นั่นทำงาน ในตอนนี้ เราไปช่วยพวกเขากันก่อนเถอะ !
Bagley: จุดภารกิจต่อไปคือที่ NeoGate ดูเหมือนว่า Mary ซ่อนเซิร์ฟเวอร์ชอง Golden Goose ไว้ที่บริษัทซอฟต์แวร์ด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์นั่น ผมไม่ได้จะเห็นดีเห็นงามการการกระทำของนางนะ แต่ก็อดที่ปรบมือให้ไม่ได้ที่นางตั้งใจซ่อนทุกอย่างไว้ที่นั่น
MAIN MISSION: Market Closing
เดินทางไปยังจุดหมายของภารกิจที่ NeoGate ในเขต Islington & Hackney
Bagley: อะไรก็ตามที่ซ่อนอยู่ใน NeoGate คงไม่ได้อยู่นานนักหรอก แต่ยังไงพวกเขาก็ยังเป็นผู้นำในตลาดแอนตี้ไวรัสอยู่ดี ผมพนันได้เลยว่า Kelleys มีส่วนเกี่ยวข้องกับความสำเร็จที่เพิ่มขึ้นนี้แน่นอนแม้ว่าเราจะทำลายมันทั้งหมดในท้ายที่สุดแล้วก็ตาม
Kaitlin Lau - ชั้นเองก็อยากจะทำเหมือนกับที่คุณจะทำเหมือนกันนั่นแหละ แต่ขอรวบรวมหลักฐานทั้งหมดเท่าที่เราจะทำได้ก่อนที่จะทำลายมัน เพราะ นี่คือสิ่งที่เราไล่ตามหามาตลอด
Bagley: ผมแนะนำให้แฮ็คเครือข่ายกล้องวงจรปิดดูเพื่อว่าเจออะไรบ้าง
เป้าหมายคือต้อง Hack ระบบกล้องวงจรปิดที่อยู่ในตึก เมื่อ Hack วงจรปิดจนพบแผงควบคุมกล้องวงจรปิดที่อยู่ในห้องที่ถูกปิดล็อกโดยแผงควบคุมด้านใน และมีช่องระบายอากาศที่สามารถใช้ Spiderbot มุดผ่านเข้าไปได้จากด้านนอกตัวตึก
โดยต้องลอบเข้าไปในตัวตึกทางด้านเหนือตรงท่าเรือจะพบซอกตึกที่สามารถเข้ามาด้านในได้ก็จะพบช่องระบายอากาศที่สามารถใช้ Spiderbot มุดลอบเข้าไปที่ห้องที่แผงควบคุมกล้องวงจรปิดที่ตั้งอยู่โดยไม่ต้องสามารถเข้าไปเองได้
จากนั้นใช้ Spiderbot มุดเข้าไปในอาคารแล้วขึ้นบันไดไปชั้นบนจะพบช่องระบายอากาศอีกอันด้านบน
โดดข้ามไปที่นั่นแล้วมุดเข้าไปต่อจนถึงห้องที่แผงควบคุมกล้องวงจรปิดที่ตั้งอยู่ จัดการ Hack เข้าระบบกล้องวงจรปิดของตึกเพื่อดูภาพในห้องผลิตและวิจัยได้เลย
Bagley: ฟีดเหล่านี้มาจากห้องใต้ดินย่อยที่อยู่ใต้ห้องเซิร์ฟเวอร์ เพื่อความบันเทิง เอาแค่เบา ๆ ป่ะ?
Anthony - คุณเห็นว่ามันมีสารเคมีค็อกเทลโบทูลินั่ม คอนโททอกซิน ซัคซิลินโคลีน .. ทำไมผมต้องอธิบายด้วยในเมื่อคุณไม่เข้าใจด้วยซ้ำ? ถ้าผสมให้ถูกต้องมันจะไม่ทำให้ตายในทันทีหรือทำให้อวัยวะปนเปื้อน
Kaitlin Lau - โอ้ พระเจ้า!! นี่คือที่ที่พวกมันฝังไมโครชิปเพื่อทดสอบพวกเขา Bagley แคปภาพทั้งหมดนี้ทั้งหมดไปที่ไฟล์คดีของชั้น
Bagley: อย่างน้อยๆ ผมก็ดีใจที่เห็นพวกเขาพยายามให้ไม่เสี่ยงต่อการติดเชื้อ
Ellen - ปัญหาคืออาการชักอย่างรุนแรงที่เกิดจากไมโครชิป และ ความกังวลเกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่จะทำลายสินค้ามีค่า จึงต้องจับตาที่คนที่เปราะบางที่สุด การค้นพบครั้งแรกบ่งชี้ว่า microcharge อาจเป็นปัญหาแม้ว่าความเสียหายที่เกิดกับก้านส่วนล่างจะน้อยมาก แต่ก็เพียงพอที่จะทำให้เกิดอาการชักอย่างรุนแรงใน
Shawn- ปิดมันได้แล้ว Bagley ผมเห็นมามากพอแล้ว เราไปต่อกันเถอะ !
Kaitlin Lau - ที่นี่เป็นที่พิเศษจริงๆเลย มันเต็มไปด้วยคนที่เกี่ยวข้องกับคดีนี้ทั้งหมดเลย
Sabine - คุณมีข้อมูล Golden Goose ทั้งหมดพร้อมกับภาพนี้แล้วชั้นคิดว่า Mary ไม่น่าจะรอดนะ
Kaitlin Lau - ชั้นก็หวังว่าจะเป็นอย่างนั้น แต่ตอนนี้ หาทางทำลายและปิดใช้งานไมโครชิปนั่นให้ได้ก่อนดีกว่า
จากนั้น Hack กล้องวงจรปิดเข้าไปในห้อง Server Room ของ Golden Goose แล้วดาวโหลดรหัสกุญแจเปิดประตูจาก Tablet ที่วางอยู่ในห้องมา และจะพบว่าในห้องจะมีช่องระบายอากาศที่ Spiderbot สามารถมุดลอดเข้ามาได้อยู่
บังคับ Spiderbot ทิ่อยู่ในห้องแผงควบคุมกล้องวงจรปิดจัดการปลดล็อกประตูที่แผงควบคุมในห้องแล้วเข้ามาในอาคาร ลอบจัดการศัตรูแล้วลงมาชั้นล่างมองหาช่องสำหรับใช้ Spiderbot มุดเข้าไปด้านในก็จะเจอเส้นทางที่จะนำไปถึงด้านในห้อง Server Room ได้
เมื่อทำการ Hack ตัวคอมพิวเตอร์เป้าหมายที่อยู่ในห้องจะพบว่ามันติด ล็อคระบบรักษาความปลอดภัยยอยู่ ซึ่งการปลดล็อกต้อง Hack กล้องวงจรปิดในห้องด้านในเพื่อปรับเส้นพลังงานให้เชื่อมต่อกันจนเป็นสีฟ้าทั้งหมดก็จะสามารถปลดล็อกระบบรักษาความปลอดภัยของระบบได้
ทำการ Hack ระบบเพื่อเพิ่มกำลังไฟให้มากขึ้นจนเต็ม 100% Server ของ Golden Goose ที่ใชในการควบคุมการทำงานไมโครชิปก็จะเกิดการระเบิด
จากนั้นพวกศัตรูจะเริ่มเข้ามาโจมตี รีบหนีออกจากพื้นที่โดยทางเรือที่จอดอยู่ที่ทางเรือได้เลย
Kaitlin Lau – เราได้หลักฐานทุกอย่างมาครบแล้ว DedSec ชั้นจะนำไปให้คนของชั้นใน สำนักงานอัยการสูงสุดเดี๋ยวนี้เลย รอต่อไปไม่ได้อีกแล้ว รับรองว่าคราวนี้ Mary Kelley เสร็จชั้นแน่ ขอบคุณมาก
Sabine – อย่าทำให้เราผิดหวังล่ะ Kaitlin
Tyrone – แล้วเราเอาไงต่อ? ยังมีคนจำนวนมากที่ยังติดไมโครชิฟห่านั่นอยู่นะ ยังไงเราก็ต้องช่วยพวกเขา
Bagley: ณ.วินาทีนี้เมื่อระบบควบคุมไมโครชิพล่มไปแล้ว Mary Kelley คงรู้แล้วว่าทาสส่วนตัวของเธอคงจะยอมเป็นทาสได้อีกไม่นาน เราควรจับเธอให้ได้ก่อนที่เธอจะเปลี่ยนพวกเขาให้กลายเป็นซากศพที่ระบุตัวตนไม่ได้
Sabine - เราจะเสี่ยงให้สิ่งนั้นเกิดขึ้นไม่ได้เด็ดขาด เราช่วยให้แผนการของ Kaitlin สำเร็จแล้วแต่เราต้องช่วยคนที่เหลือกลุ่มสุดท้ายที่เธอกำลังคุกคามพวกเขาด้วย
Bagley: ฐานของ Mary Kelley อยู่ที่ Sandstone Residence ผมทำเครื่องหมายไว้บนแผนที่ของคุณแล้ว
MAIN MISSION: Falling from Grace
เดินทางไปยังจุดหมายของภารกิจที่ Sandstone Residence ในเขต Islington & Hackney
Bagley: ตอนนี้ Mary Kelley อาจกำลังเตรียมทำความสะอาดบ้านครั้งใหญ่อยู่แน่เลย และตอนนี้นางยังสามารถควบคุม Microchip ที่อยู่ในตัวทาสรอบๆตัวได้อยู่ ถ้าเราไม่อยากให้พวกเขาตายหมด ก่อนอื่นเราต้องตัดพวกเขาออกจากระบบ Security system ของนางก่อน
เป้าหมายแรกคือค้นหา Security Room ที่อยู่ในตัวตึก โดยใช้ Spiderbot ลอบเข้าไปจัดการศัตรูที่อยู่ด้านในให้หมดเพื่อเคลียร์พื้นที่ก่อน แล้วขึ้นไปชั้นบนจะพบช่องระบายอากาศอยู่ข้างๆบันได ใช้ Spiderbot มุดเข้าไปด้านในก็จะเข้ามาถึงห้อง Security Room
Shawn – บิงโก เอาล่ะ ไหนดูหน่อยซิ
Mary Kelley – เข้ามาเลยไอ้พวกสวะ !! อะไรวะเนี่ย !? ไอ้เครื่องมือห่วยแตกเอ้ย !! โห นี่พวกแกคิดว่าแน่หรอ เออ แน่จริงก็เข้ามาสิวะ !! ….. ปีเตอร์ !!
จากนั้นไปยังแท่นควบคุมลิฟต์ที่อยู่หลังรูปปั้นที่ชั้นล่าง เข้าไปดาวโหลดเปิดการใช้งานลิฟต์ส่วนตัวของ Mary Kelley ระหว่างรอการดาวโหลดพลังงานลิฟต์ ต้องเอาตัวรอดจากศัตรูที่บุกเข้ามาขัดขวางให้ได้ แต่ ถ้าใช้ Spiderbot ลอบจัดการศัตรูให้หมดไปตั้งแต่ตอนแรกแล้ว ก็สามารถรอการดาวโหลดให้ครบ 100% ได้อย่างสบายไร้การก่อกวน
Bagley: เอาล่ะ เรียบร้อย ตอนนี้ลิฟต์ส่วนตัวของ Mary Kelley สามารถใช้งานได้แล้ว และ ตอนนี้สารวัตร Lau อยู่ในสายด้วย ท่าทางเธอจะไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่อ่ะนะ
Kaitlin Lau – DedSec พวกคุณไปทำบ้าอะไรที่นั่นเนี่ย !? เราตกลงกันแล้วนะว่าจะทำตามแผนของชั้นเท่านั้น ชั้นทำสำนวนสำหรับฟ้องมันเสร็จหมดแล้ว
Sabine – สำนวนของคุณมันช่วยหยุดนางไม่ให้ฆ่าทาสพวกนั้นได้รึเปล่าล่ะ? อีนี่มันหมาบ้าคุณก็รู้ Lau
Kaitlin Lau – เอาล่ะ เราไม่มีเวลาจะมาเถียงบ้าบออะไรกันตอนนี้หรอกนะ รีบเข้าไปด้านในแล้วหยุดสิ่งที่นางกำลังจะทำเดี๋ยวนี้ !! เดี๋ยวชั้นตามไป !
เมื่อดาวโหลดจนครบ 100 % แล้วก็ขึ้นไปชั้นบนไปที่ลิฟต์เป้าหมายที่จะพาลงไปยังห้องลับที่เป็นที่ซ่อนตัวของ Mary Kelley ได้เลย
Mary Kelley – เออ ! ชั้นจัดการไอ้พวกหนูสกปรกพวกนี้เองก็ได้วะ !! แล้วแกจะต้องได้ชดใช้แน่นอนจำไว้ !!
Mary Kelley – เข้ามาสิวะ!! ถึงไม่มีไอ้ Microchip ห่านั่นชั้นก็จัดการพวกแกได้ !! ฝีมือไอ้พวกชั่ว DedSec แน่นอน
Mary Kelley – มาได้จังหวะพอดีเลยนะ DedSec !
Shawn – FBI กำลังมาจับตัวแกแล้วทิ้งอาวุธซะ !!
Mary Kelley – โอ้ ชั้นล่ะนับถือแกจริงๆเลย
Kaitlin Lau – ทุกคนหยุด ถอยห่างออกจากเธอเดี๋ยวนี้ !! Mary Kelley คุณถูกจับแล้ว !
Mary Kelley – จับชั้นไปเลยท่านสารวัตร ชั้นจะขอความเมตตาจากศาลเอง คุณคงไม่คิดว่าชั้นจะติดคุกนานหรอกใช่มั๊ย? ส่วนพวกแก ชั้นจะรอดูตอนที่สั่งคมถ่มถุยพวกแกออกมา เหมือนทุกครั้ง เราได้เจอกันอีกแน่นอน อีกไม่นานเกินรอ
Mary Kelley – เอาสิ เข้ามาจับชั้นได้แล้ว
Shawn – คุณต้องการจะปกป้องอะไรกันแน่สารวัตร ระบบ หรือ ประชาชน ?
คนจรจัด – สัญญากับเราสิ สัญญาว่า เธอจะไม่รับอิสระ
Mary Kelley – อะไรวะเนี่ย...อั๊กก !!
Kaitlin Lau – คุณรีบหนีไปเถอะ เดี๋ยวชั้นดูแลที่นี่เอง
Kaitlin Lau – เอาล่ะ สมใจพวกคุณรึยัง DedSec ตอนนี้ Mary Kelley จะไม่มีวันเดินหนีจากอะไรได้อีกแล้ว ชั้นตั้งใจจะทำเรื่องนี้ให้มันถูกต้องแต่ หลังจากที่ชั้นเห็นทุกอย่างแล้ว ...ชั้นคิดว่าชั้นคงปล่อยให้เธอมีชีวิตอยู่ต่อไปไม่ได้หรอก
Sabine – มันสาสมกับสิ่งที่เธอทำเอาไว้แล้วล่ะ Lau เพื่อหลายชีวิตที่ถูกมันทำลายไป คุณทำสิ่งที่ถูกแล้ว
Shawn – เราเองก็อยากทำตามระบบ Kaitlin แต่พวกมันไม่ใช่ นั่นแหละที่เราถึงต้องมาอยู่ที่นี่ เพื่อทำสิ่งที่ถูกต้อง
Kaitlin Lau – ไม่รู้สิ มันอาจเป็นความยุติธรรมในอีกเวอร์ชั่นนึงก็ได้ แต่ไม่ใช่ในแบบชั้น อย่างน้อยๆชั้นก็ไม่คิดว่ามันจะต้องเป็นแบบนี้ตอนเราเริ่มทำสิ่งนี้
Bagley: เอาล่ะ ตอนนี้ราชินีก็ตายแล้ว แต่ก็มีคนอีกมากมายในแก็งค์ Kelley ที่จะมารับช่วงต่ออีก
Kaitlin Lau – คุณพูดถูก Bagley ชั้นเองก็ต้องลงพื้นที่คอยสอดส่องเหมือนเดิม ได้ยินมาว่าพวกมันยังเคลื่อนไหวอยู่ แต่ยังไงก็เถอะ คุณเป็นเพื่อนร่วมงานที่ดีนะ DedSec ทำมันต่อไปก็แล้วกัน
ALBION CHAPTER: True colours
MAIN MISSION: Restocking the Fire
Bagley: คุณต้องชอบแน่เลย ผมได้ข้อมูลจาก Hamish Bolaji ว่า Nigel Cass กำลังวางแผนที่จะเปิดตัวโปรเจ็กต์ที่น่ารังเกียจใหม่ในงานแถลงข่าว
Shawn – แล้วทำไมผมถึงต้องชอบด้วยล่ะ? ก็พวกอัลเบี้ยนแม่งก็มักจะมีแผนการที่น่ารังเกียจตลอดอยู่แล้วนี่
Bagley: ก็เพราะว่า Hamish ค่อนข้างเชื่อใจ Radu สายในอัลเบียนของเขาที่กำลังจะนัดพูดคุยกับเรา ดูเหมือนเขาคงต้องใช้เวลาในการตรวจสอบพอสมควรตั้งแต่ได้รับข้อมูลกระจอกจาก Radu เมื่อเร็ว ๆ นี้อ่ะนะ เขาเองก็คงรู้สึกไม่สบายใจนักหรอก แต่อย่างน้อยเขาก็มีข้อมูลภายในที่เราสามารถใช้ได้ การนัดพบจะเกิดขึ้นที่ Drowning Post
Shawn – งั้น ถ้าไม่รังเกียจ ผมขอสั่งเครื่องดื่มในขณะที่เราวางแผนว่าจะให้ไอ้ Nigel ส้นตีน cass ขอบตาดำได้ยังไงด้วยก็แล้วกันนะ
เดินทางไปยังจุดหมายของภารกิจที่บาร์ Drowning Post ในเขต Tower Hamlets
Shawn – มาถึงแล้ว ไหนล่ะสายข่าวของเรา?
Bagley: มีข่าวร้ายจาก Hamish เขาบอกว่า สายข่าวเขาอาจมาช้าซักหน่อย ทำตัวตามสบายได้เลย
Bagley: เราจะเริ่มทำให้สมองส่วนหน้าของเราแย่ลงอีกแล้วใช่ไหม?
Shawn – แค่จิบ 2 จิบอย่ามาดราม่าได้มั๊ยเนี่ย
ผู้ประกาศข่าว - จากการโจมตีเกิดขึ้น ทำให้ Nigel Cass ซีอีโอของ Albion ได้ออกมาประกาศที่จะริเริ่มโปรเจคในการรักษาความปลอดภัยตัวใหม่ขึ้นมา
Piroska - นี่่บาร์เทนเดอร์ช่วยเร่งเสียงหน่อยดิ !!
ผู้ประกาศข่าว - กล้องของเราได้จับภาพการโจมตีเอาไว้ได้
Nigel Cass - หากพวกมันยังคงทำงานโดยไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยเราก็ไม่สามารถเปิดด่านเหล่านี้ได้ ... ระวัง !!
Nigel Cass - 43C ยืนยันคำสั่ง ยิงไปที่เป้าหมายได้เลย!
ผู้ชาย - มึงมันโกหก ไอ้ตอแหล มึงนั่นแหละจะทำให้เราตายกันหมด !!
ผู้ประกาศข่าว - หลังเกิดการโจมตี เจ้าหน้าที่ของรัฐยังไม่ได้ออกแถลงการณ์ใดๆออกมา แต่แคสกล่าวว่า
Nigel Cass - การโจมตีผมและคนของผมเป็นสิ่งหนึ่งที่เราได้รับการฝึกฝนมาเพื่อจัดการกับสัตว์ประหลาดเหล่านี้ แต่แต่ผมจะไม่ยอมรับหากพลเรือนต้องบาดเจ็บ พวกเขาสมควรได้รับความสงบสุข และผมสัญญากับพวกคุณและลอนดอนเราจะยังคงเดินหน้าต่อ แต่ในขณะเดียวกันการโจมตีเหล่านี้จะยังคงดำเนินต่อไป เราจะไม่ยอมให้ประชาชนต้องใช้ชีวิตแบบนี้ ต้องใช้ชีวิตด้วยความหวาดกลัวที่จะออกจากบ้านท่ามกลาง ผู้ก่อการร้าย การก่ออาชญากรรม เช่นนี้ เราจะสามารถหยุดมันได้ก่อนที่พวกมันจะเริ่มต้น และผมมีแผนเอาไว้แล้ว ตำรวจและนักการเมืองอาจหยุดต่อสู้เพื่อคุณ แต่ผมจะไม่หยุด ! … ขอบคุณ
Pat – นี่แหละ แบบนี้แหละที่ผมคิดมาตลอด Cass ควรเข้ามารับผิดชอบกับเรื่องนี้
Piroska – บ้าไปแล้ว Cass มันก็แค่ไอ้จอมโสโครกคนนึงเท่านั้นเอง
Carl - Nigel Cass คือคนเดียวที่จะจัดการเรื่องแบบนี้ได้
Piroska – อะไรนะ!
Pat – เห้ยๆ แยกๆ ไม่เอาน่า เรามันก็แค่ประชาชนจะมาเถียงกันเพื่อ?
Hamish Bolaji - เอ่อ บอกผมหน่อยสิว่าคุณได้พบกับสายข่าวของผมแล้วและเขาไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้
Sabine - สายของนายไม่โผล่หัวมาเลย ไม่เอาน่า Hamish นั่นมันละครจำอวดของ Cess ไม่รู้หรอ
Shawn - แต่ผมเชื่อจากก้นบึ้งของหัวใจเลยล่ะ ผมคงต้องไปหาหลักฐานที่จุดเกิดเหตุหน่อยแล้ว
Hamish Bolaji - ไม่ๆๆๆ นายอย่าเข้าไปเชียวนะ
Radu ค่อนข้างจะซีเรียสอยู่ เลยอาจจะดูขาดๆเกินๆไปหน่อยตอนนี้ แต่ทั้งหมดนี่เรากำลังพูดถึงคนที่ต้องการจะหยุด Cass ไม่ว่าจะต้องเสียเท่าไรก็ตาม
Sabine - Cass เพิ่งประกาศว่ากำลังจะเปิดตัวระบบความปลอดภัยแบบใหม่เร็วๆนี้แล้วก็เกิดการโจมตีต่อหน้าสาธารณชน เอาจริงดิ ! นี่มองไม่ออกกันจริงๆหรอ?
Hamish Bolaji - หวังว่าคุณจะคิดถูกนะ ถ้าไม่ใช่ Radu คงจะเน่าแน่งานนี้
เดินทางไปยังจุดหมายของภารกิจที่จุดเกิดเหตุใน Finsbury Circus Gardens
Bagley: ที่นี่คือจุดเกิดเหตุที่ Nigel Cass ถูกลอบโจมตี แล้วก็ เซอร์ไพรส์ เซอร์ไพรส์!! ทีมอารักขาของเขาได้จัดการกับหลักฐานต่างๆไปเรียบร้อยแล้ว
Ellen – มันจะกำจัดหลักฐานทำไมถ้ามันไม่มีอะไรปิดบังจริงมั๊ย? งานนี้ไม่ชอบมาพากลแน่นอน ถ้าคุณถามชั้นอ่ะนะ
Bagley: ถูกต้อง !! ถ้าคุณสำรวจพื้นที่จนพบหลักฐานผมอาจจะย้อนโครงสร้างของเหตุการณ์เพื่อดูสถานการณ์จริงของการโจมตีได้ มันจะมี CtOS data relay ที่อยู่แถวๆนี้ นั่นแหละข้อมูลที่ผมต้องการ
จากนั้น ใช้ตัวละครปฎิวัติการณ์ที่สามารถปลอมตัวเป็นพวก Albion เพื่อความสะดวกในการลอบเข้าไปในพื้นที่
เป้าหมายคือลอบเข้าไปในห้องที่มี CtOS data relay เพื่อเข้าถึงระบบ AR Footage นำข้อมูลให้ Bagley นำไปใช้ในการย้อนโครงสร้างของเหตุการณ์
โดยหากอยากจะเลี่ยงการเผชิญหน้ากับยามตรงหน้าทางเข้าอาคารก็สามารถใช้ Spiderbot มุดเข้าไปใต้พื้นอาคารก็จะพบช่องที่ใต้พื้นที่สามารถเข้าไปในห้องจนเข้าไป Hack ระบบของ CtOS data relay ที่อยู่ด้านในได้
เมื่อทำการ Hack เรียบร้อยก็พยายามลอบจัดการศัตรูในพื้นที่ให้หมดเพื่อความสะดวกในการเข้าไปยังพื้นที่เป้าหมายที่อยู่กลางพื้นที่ จากนั้นค่อยเข้าไปที่จุดเกิดเหตุเพื่อเริ่มย้อนโครงสร้างของเหตุการณ์ได้เลย
กำลังประมวลผลข้อมูลจาก ctOS AR …เริ่มกระบวนการ Recinstruction …
Bagley: ดูเหมือนจะเป็นฝีมือของผู้ก่อการร้ายหรือไม่ก็ผู้สนับสนุนการก่อการร้ายมืออาชีพ
Ellen - โอเค มันถึงสามารถเข้าถึงอุปกรณ์ของทหารได้ น่าเสียดายนั่นไม่ได้ทำให้การหาหลักฐานแคบลงเลย ขอชั้นดูอีกหน่อย
Bagley: ค้นหาฐานข้อมูลการจดจำใบหน้าและ….เขาคือ Radu Florin พนักงาน Albion ที่มีประวัติการทำงานดีมาตลอดจนกระทั่งเขาพยายามขับรถบรรทุกระเบิดเข้าไปชนหัวหน้าของเขา
Hamish Bolaji – Radu หรอเนี่ย? แม่งเอ้ย ! ถึงว่า เจ้าหมอพาผมเข้าไปที่ THEMIS ได้ โธ่สายข่าวใน Albion ของผม
Ellen - ดังนั้น Cass จึงไม่ได้เตรียมรับมือการโจมตีนี้ มันเลยดูแนบเนียนเพราะ Radu พยายามจะฆ่าเขาจริงๆ
Hamish Bolaji - เข้าไปเจออะไรมา ถึงทำให้เขาต้องยอมถึงขนาดนี้วะเนี่ย?
Bagley: ดูที่รถบรรทุกของ Albion นั้นสิ มันมีกล่องดำอยู่ที่ใต้ท้องรถเหมือนกับเครื่องบินด้วย
เริ่มประมวลผลการวิเคราะห์กล่องดำ .......
Bagley: ผมสามารถตามหากล่องดำซึ่งจะนำเราไปยังตำแหน่งปัจจุบันของรถบรรทุกได้แล้ว
Ellen - ตรวจสอบเลยทะเบียนของรถบรรทุกด้วย
Bagley: แน่นอน ผมจะตรวจสอบการสื่อสารของ Albion และสิ่งเล็ก ๆ น้อย ๆ อีกนับพันที่คุณจะไม่ประทับใจนะหรอก
Ellen - ดูเหมือนจะเป็นสถานการณ์ของพนักงานที่ไม่พอใจที่ไปพบว่า Cass ทำอะไรบางอย่าง Cass เลยพยายามกำจัดเข้าทิ้ง มันเลยทำให้หมอนี่โกรธ
Marton - Cass น่าจะมีปัญหาเรื่องควบคุมคนของเขาเป็นคนที่เราจะใช้เล่นงานมันได้นะ
Bagley: จากการแกะรอยวิทยุของ Albion พวกเขาย้ายรถบรรทุกไปยังจุดเกิดเหตุการวางระเบิดที่ TOAN และที่น่าแปลกคือ ศพของ Radu Florin ก็ถูกนำไปไว้ที่นั่นด้วย
Ellen - จุดเกิดเหตุการวางระเบิดที่ TOAN เนี่ยนะ?
Bagley: Albion กำลังมีความพยายามในการเคลียร์พื้นที่อยู่
Hanish - มันกำลังใช้ที่นี่เป็นบ่อขยะใช่มั๊ยเนี่ย? เอาไว้สำหรับทิ้งทุกปัญหาที่พวกเขาต้องการจะให้มันหายไป ถ้าเราเจอรถบรรทุกเราก็จะเจอศพของ Radu
Ellen - ตกลงตามนั้น
MAIN MISSION: Nigel’s Close Shave
เดินทางไปยังจุดหมายของภารกิจที่จุดเกิดเหตุการวางระเบิดที่ TOAN
Ellen – ชั้นมาถึงที่ TOAN แล้ว ที่นี่ใช่มั๊ยที่พวก Albion นำเอารถบรรทุกที่ก่อเหตุที่ Finsbury มาไว้ที่นี่?Bagley: ใช่แล้ว แค่เรายังไม่รู้ว่าพวกมันเอามาไว้ที่นี่ไปทำไม
Ellen – เดี๋ยวชั้นลองเข้าไปตรวจสอบดูเอง
เป้าหมายของภารกิจแรกคือ ลอบเข้าไปยังตำแหน่งของรถบรรทุกเป้าหมายซึ่งจะจอดอยู่ใกล้กับประตูทางเข้าฝั่งถนนด้านล่างของสะพาน และเพื่อความสะดวกให้ใช้ตัวละครปฏิบัติงานที่สามารถปลอมตัวเป็นพวก Albion ในการทำภารกิจ โดยจะเข้าไปทางประตูหลักตรงถนนด้านล่างหรือจะใช้ Drone ก่อสร้างบินพาลงไปจากฝั่งด้านบนของสะพานก็ได้
Bagley: นี่แหละ รถบรรทุกที่ก่อเหตุที่ Finsbury ผมมีเลขตัวถังและเลขทะเบียนที่ตรงกับ dash cam ที่เต็มไปด้วยเลือด แต่กล้องในพื้นที่มีการบันทึกเสียงเอาไว้ รับรองคุ้มค่าที่จะฟัง
โอ้พระเจ้า ตัวเขาไหม้ไปหมดเลยอ่ะ
แล้วคิดว่าอะไรจะเกิดขึ้นตอนรถบรรทุกของนายระเบิดกันล่ะ
ผมเคยเห็นเขาแถวๆแผนกการวิจัยและพัฒนา นายรู้จักเขาป่ะ?
ใครจะไปรู้จักฟะ แต่ถึงแม้ว่าชั้นจะไม่พูดถึงเรื่องนี้ รู้ไหมว่าชั้นหมายถึงอะไร?
Bagley: ผมตรวจพบสัญญาณจาก Optik หลายตัวในบริเวณใกล้เคียงโดยไม่มีสัญญาณชีวิตที่เชื่อมโยงว่าเราควรจะมองหาศพของคนขับได้ที่ไหน
Ellen – รับทราบ
Ellen - ดูสภาพการเน่าสลายของร่างกายศพนี้ไม่สอดคล้องกับไทม์ไลน์ของผู้โจมตีของเราเลย
Bagley: ใช่ จากสภาพการเน่าสลายนี้ผมบอกได้เลยว่าคนนี้ตายนานแล้ว เหมือนกับอีกหลายศพที่อยู่บริเวณโดยรอบของจุดที่เกิดการวางระเบิดนี้ มันเป็นปริศนานึงที่เราไขได้แล้ว
Ellen - นี่อาจเป็นผู้โจมตีของเรา ดูจากรอยไหม้เกรียมที่เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อเร็ว ๆ นี้
Bagley: มีก้อนเนื้อที่เสียหายจากเศษเหล็ก ครั้งหนึ่งอาจเคยเป็น Optik
Ellen - แต่คุณยังสามารถค้นหาอะไรเพิ่มเติมจากมันได้อีกใช่ไหม?
Bagley: ผมกำลังดึงทุกอย่างออกจากที่เก็บข้อมูลบนคลาวด์ของเขา ตอนนี้ผมแนะนำให้รีบหนีออกจากที่นี่ได้เลย
Ellen –Albion ใช้ไซต์นี้เป็นสถานที่กำจัดศพนี่เอง เป็นอะไรที่ฉลาดมาก แต่ก็โคตรจะโหดร้ายเลย
Bagley: ถ้าคุณพิจารณาว่ามีการขุดพบศพใหม่จากซากปรักหักพังที่ TOAN อยู่ตลอดเวลา ก็แสดงว่าพวกเขาสามารถฆ่าใครก็ได้ที่พวกเขาต้องการโดยไม่มีใครรู้เลย
Bagley: ผมถอดรหัสไฟล์เสียงที่กู้คืนจากศพของผู้โจมตีได้แล้ว คุณจะให้เปิดให้ฟังเลยมั๊ย?
Ellen - จัดมาเลย Bagley
Radu Florin - เขากำลังเปิดตัวพวกมัน เพวกมันรออยู่ที่นั่นแล้ว และไม่มีใครรู้อะไรเลย ผู้คนคิดว่าพวกมันจะทำให้พวกเขาปลอดภัย แต่นั่นไม่ใช่สิ่งที่เขาต้องการ เขาต้องการ ควบคุม เขาส่งพวกเขาไปที่นั่นเพื่อสังเกตการณ์ และแย่กว่านั้น
เขาเรียกพวกเขาว่า ความยุติธรรม ... โดรน THEMIS
มันช่างเป็นเรื่องตลกร้ายที่โครงการนี้เคยถูกยกเลิกไปแล้ว แต่เขาให้ทีมวิศวกรรมทำการอัปเกรดใหม่เพื่อจะเปิดใช้งานและรีบูตระบบใหม่ และ คุณมักจะเกลียดผมตลอดตอนที่ผมกำลังพูดอะไรออกมาที่มันดูเหมือนจะโม้ไปหน่อย
แต่ ผมไม่สามารถปล่อยให้มันเกิดขึ้นได้ และหากไม่มีเขา พวกมันก็จะไม่ทำเช่นนั้น
แม่ครับ ผมกำลังจะทำบางอย่าง บางอย่างที่น่ากลัวหรืออย่างน้อยคนก็จะบอกว่ามันแย่มาก ถ้าพวกเขารู้เหมือนที่ผมรู้บางทีพวกเขาคิดว่าผมดีกว่าไอ้สัตว์ประหลาดนั่นก็ได้ เพราะผมกำลังพยายามหยุดได้สัตว์ประหลาดนั่น
แม่ครับ เป็นถ้าแม่มีโอกาสที่จะหยุดสิ่งที่น่ากลัวไม่ให้เกิดขึ้นโดยการฆ่าใครบางคนแม่จะไม่ทำเหรอ?
มันเป็นสิ่งที่น่ากลัวจริงๆหรอ? แม่ ผมขอโทษ ผมรักแม่นะ .....
Ellen - แม่งเอ้ยโดรน THEMIS เหล่านี้บินอยู่บนฟ้าตลอดเวลาก็เพื่อรอคำสั่งที่จะสั่งให้พวกมันไปฆ่าเป้าหมาย
Hamish - มันอาจต้องใช้เวลาหลายเดือน แต่ยังไง Cass ก็สามารถทำให้โครงการกลับมาอยู่ในการควบคุมของเขาได้แน่นอน เว้นแต่เราจะทำลายโดรนพวกนั้นด้วยตัวเอง จำที่เราไปลบข้อมูล THEMIS ที่ TIDIS ได้มั๊ย มีโอกาสที่คุณจะอัพเกรดมันเพื่อนำมันกลับมาใช้ให้เหมาะสมกว่านี้ได้รึเปล่า?
Bagley: ผมว่าผมทำได้ดีกว่านี้นะ ผมสามารถเขียนไวรัสจากฐานข้อมูลของมันเองได้เลย
Ellen - ชั้นไม่เข้าใจ Bagley ทำไมคุณถึงมีสำเนาของข้อมูลโครงการนี้อยู่อีก?
Sabine - ชั้นขอให้เขาบันทึกเอาไว้เองแหละ ไม่มีเหตุผลเลยถ้าจะลบข้อมูลที่เรายังไม่รู้ถึงประโยชน์ของมัน มันเป็นสิ่งที่คุณอาจได้เรียนรู้จากมันนะ ว่าแต่แล้วเราจะทำให้มันติดไวรัสได้ยังไง?
Hamish - Albion มีศูนย์ควบคุมการสื่อสารหลักอยู่ที่ Tower Bridge อัปโหลดไวรัสที่นั่นและโดรนทั้งหมดจะได้รับไวรัสไปพร้อมๆกัน
Ellen - งั้นก็ลุยกันเลย
Main Mission: Hard Reset
เดินทางไปยังจุดเป้าหมายของภารกิจที่ตึกแห่งนึงที่ Bagley ปักหมุดเอาไว้ให้ โดยต้องขึ้นลิฟต์ข้างตึกขึ้นไปที่ดาดฟ้าต่อ
Zero – Day : สวัสดี ลอนดอน นี่คือ Zero – Day ดีใจที่ในที่สุดก็ได้เจอกันซักที การวางระเบิดเล็ก ๆ น้อย ๆ เมื่อไม่กี่เดือนก่อนหน้านี้เป็นแค่วิธีการทักทายของข้า ตอนนี้ เราจะได้รู้จักกันจริงๆ
เทคโนโลยีทั้งหมดที่พวกแกหลงไหล การส่งข้อความถึงคนนั้นคนนี้ รถที่สุดไฮเทคของคุณ ทุกๆเทคโนโลยีที่มันสูบฉีดหัวใจของพวกแกทั้งหมดมันกำลังจะหันมาต่อต้านแก
คืนนี้ โลกยุคใหม่ที่สุดล้ำสัมของพวกแกจะกลายเป็นนรก ข้าไม่คาดหวังหรอกว่าพวกแกจะเข้าใจสิ่งนี้มั๊ย แต่สิ่งที่ข้าทำนั้นคือสิ่งที่ดีแน่นอน
Zero – Day : การทำลายล้างคือการรักษาเสมอ
Bagley: เป็นไง เอาล่ะ ตั้งใจฟังด้วยทุกคน งานนี้เรื่องใหญ่ ! ผมรู้แล้วว่า แพทช์ Drool Britannia มีเอาไว้เพื่ออะไร ...... มันถูกสร้างมาสำหรับผม
Zero - Day หรือ Sabine กำลังใช้การอัปเดตะบบปฏิบัติการหลักของ Bagley ที่จะช่วยให้ผมและ Bagley คนอื่น ๆ สามารถเข้าถึงทุกระบบที่มีกสนเชื่อมต่อกับ ctOS ได้พร้อมกัน
ระบบปฏิบัติการของผมถูกรวมเข้ากับโครงสร้างพื้นฐานหลักของสหราชอาณาจักร ทั้งโรงไฟฟ้า สนามบิน โรงพยาบาล ธนาคารและอื่น ๆ เมื่อผมเข้าถึงที่นั่นระบบโปรแกรมแก้ไขทำให้ทุกระบบล้มเหลว
ผลกระทำก็คือ การล่มสลายของลอนดอนโดยสมบูรณ์ และน่าจะเป็นทั้งประเทศในเวลาต่อมา นั่นแหละเป้าหมายของเธอ ขออภัยที่ผมต้องกลายเป็นผู้ถือข่าวร้าย แต่ตอนนี้ การอัปเดตกำลังแพร่กระจายไปแล้ว ทุกอย่างกำลังเป็นไปตามแผนที่ Sabine คิดเอาไว้ทุกอย่าง
Hamish Bolahi - มันมี เอ่อ ไม่รู้ส .. มีวิธีที่จะไม่ฆ่า Bagley ทุกคนรึเปล่า?
Bagley: : ความใจไม้ไส้ระกำของคุณเกี่ยวกับการตายของผมอาจเป็นคำตอบก็ได้
Nowt - เราต้องเข้าไปที่ Broca Tech เดี๋ยวนี้ !
Bagley: ใช่แล้ว คุณจะต้องทำลายเซิร์ฟเวอร์ที่โฮสต์ผมและทำลายเครือข่าย Blume ในเวลาเดียวกันเลย ไม่งั้นจะไม่สามารถเข้าถึงข้อมูลสำรองของผมได้ คุณคนใดคนหนึ่งต้องไปที่ Broca Tech และใครซักคนก็ต้องไปที่ Blume tower ผมจะอธิบายแผนให้ฟังระหว่างทางก็แล้วกัน
Bagley: ตอนนี้ Drool Britannia ถูกเปิดใช้งานแล้ว มีผมหลายล้านคนเริ่มทำลายโครงสร้างพื้นฐานในลอนดอน บอกไว่เผื่อคุณจะได้รู้ว่าควรจะรับมือกับการฆาตกรรมครั้งนี้ยังไง
Nowt - ไม่มีเวลาที่จะมาอ่อนไหวนะ มันเป็นการเสียสละ ซึ่งเราต้องทำให้สำเร็จเพื่อทุกชีวิตที่กำลังล้มตายบนถนนเส้นนี้
Jason - โอเค มันเริ่มจะไม่สนุกแล้วนะ เพราะผมจะต้องไปที่บลูมทาวเวอร์เพื่อฆ่า Bagley เราจะทำยังไงดี?
Hamish Bolaji - ที่คุณต้องทำคือไปที่บลูมทาวเวอร์เพื่อทำให้ Bagley ออฟไลน์ แต่นั่นก็ไม่ได้จะไม่หยุดการโจมตี
Nowt - พวกเขาจะรีบู๊ทเซิร์ฟเวอร์ของ Broca tech ใหม่ทันทีการที่ Bagley ออฟไลน์และจะเริ่มกระบวนการลบเซิร์ฟเวอร์ของเขาอย่างถาวร
Hamish Bolaji - เราต้องช่วยกันเพื่อน ! ไปทำหน้าที่ของนายซะ แล้วส่งหน้าที่ต่อไปให้กับคนอื่น
Jason - ผมหวังว่าจะมีวิธีอื่นที่ดีกว่านี้ก็แล้วกัน ขอพิกัด! ......โทษที Bagley พวกเราจะคิดถึงคุณนะ
Bagley: Drool Britannia เป็นไวรัสที่มีความสร้างสรรค์สุดๆอ่ะ มันทำการระบุใบหน้าทารกทุกคนในประเทศผ่านกล้องพี่เลี้ยงและเปลี่ยนประวัติทั้งหมดให้กลายประวัติอาชญากรรม
Bagley: Precaucion: la sequridad en la torre de blume es inusualmente alta
Jason - ห๊ะ? ผมไม่เข้าใจที่คุณพูดเลย !!
Bagley: โทษที ผมรวนจนภาษาวิบัติหมดแล้ว ผมพยายามจะบอกว่า ระวังตัวด้วย มีการรักษาความปลอดภัยที่สูงผิดปกติที่ Blume Tower
Blume Tower
Jason – โอเค ผมเรียกลิฟต์ลงมารับแล้ว เดี๋ยวจะแจ้งให้ทราบอีกทีตอนถึงด้านบน หวังว่าอีกทีมจะทำให้เซิร์ฟเวอร์ของ Broca tech ออฟไลน์ได้ทันเวลานะ
Broca Tech
Nowt - Broca Tech บริษัทของ Skye Larsen เพื่อนเก่าเรา และถ้ามันเป็นไปตามข้อมูลทั้งหมดที่ชั้นมีในขณะที่ Bagley กำลังทำงานจะเกิดความร้อนสูงมากทำให้เขาต้องใช้ระบบระบายความร้อนขนาดใหญ่ หากทำให้ถังน้ำหล่อเย็นเสียหายก็จะทำให้เซิร์ฟเวอร์เกิดสภาวะฉุกเฉินได้
จากนั้นลุยเข้ามาใน Broca Tech เป้าหมายคือทำลายระบบระบายความร้อนด้วยการยิงทำลายวาล์วและท่อของระบบระบายความร้อนทั้ง 3 จุดให้หมดแล้วเข้าไปสำรวจที่แท่นควบคุมเพื่อทำให้ ระบบระบายความร้อนเกิดการระเบิด
Bagley: และ ตอนนี้คุณได้ทำให้เกิดสภาวะฉุกเฉินส่งไปยังห้องเซิร์ฟเวอร์ของผมเรียบร้อย ผมแทบรอที่จะเห็นสมองของตัวเองไม่ไหวแล้วล่ะ
Brandon - ตาคุณแล้วเพื่อน ! ผมกำลังลงไปชั้นล่างเพื่อไปยัง Bagleys Brain Server คุณก็จัดการให้ระบบของเขาออฟไลน์ซะนะ
Blume Tower
Bagley: เครื่องส่งสัญญาณที่ด้านบนสุดของ Tower จะเป็นตัวรับแพ็กเก็ตข้อมูลสำหรับการอัปเดตของผม หากคุณต้องการติดตามสัญญาณแพ็คเก็ตกลับไปที่เซิร์ฟเวอร์หลักของผม ก็แค่ปีนหอคอยเพื่อค้นหาเครื่องส่งสัญญาณนั่นที่ด้านบนสุดของหอคอย
Jason - แค่ปีนหอคอยยักษ์เนี่ยนะ เอาจริงดิ Bagley? คุณแม่งบ้าไปแล้ว? ผมคงจะทำงานไม่เสร็จถ้าคุณจะหาทางให้ผมตายแบบเนี่ย
Bagley: ไม่ถึงขนาดนั้นหรอกน่า
จากนั้น ปีนขึ้นไปที่ส่วนกลางของหอคอยที่มีแผงควบคุมหอคอยอยู่ แล้ว Hack โดรน otCS บินอยู่แถวนั้นเพื่อบังคับมันไปใช้ปรับเส้นพลังงานรอบๆหอยคอยให้เชื่อมต่อให้สมบูรณ์เพื่อเปิดแผงรับสัญญาณของหอคอยทีละชั้นจนครบถึงส่วนบน แล้วเข้าไป Hack ระบบหลักของหอคอย
Hamish Bolaji – มีโดรนโจมตีจำนวนมากกำลังเข้าไปยังตำแหน่งของคุณแล้วนะ ระวังตัวด้วย !
Bagley: ใช่ แล้วก็พยายามอย่าตายก่อนจะสามารถปลดล็อกเข้าควบคุมระบบของหอคอยได้ล่ะ
เอาตัวรอดจากฝูงโดรนที่เข้ามารุมโจมตีจากทุกทิศทาง พยายามใช้หอคอยเป็นตัวกำบังไปพร้อมๆกับยิงทำลายโดรนไปเรื่อยๆจนกว่าจะสามารถ Hack ปลดล็อกระบบจนเข้าควบคุมระบบของหอคอยได้ ฝูงโดรนที่เข้ามารุมโจมตีก็จะหายไป ก็จะสามารถเข้าประตูไปยังส่วนบนสุดของหอคอย Blume Tower ได้
Bagley: ทำการระงับการส่งสัญญาณเรียบร้อย เริ่มเปิดใช้งานเทอร์มินัลถัดไปเพื่อเริ่มกระบวนการทำให้ผมออฟไลน์
Sabine - กัดไม่ปล่อยเลยนะแกเนี่ย? หรือ แกแค่ไอ้โง่ที่คิดไม่เป็นวะ?
Bagley: คุณต้องการให้ผมเข้าถึงเครื่องส่งสัญญาณในขณะที่คุณกำลังคุยกันอยู่มั๊ย?
Jason - อืมม
Sabine - อืมม หรอ? แกคือไอ้โง่ที่คิดไม่เป็นเนี่ยนะ? เยี่ยมเลย เห็นได้เลยว่า DedSec ไม่ได้เปลี่ยนเครื่องหมายการค้าไปเลยซักนิด
Bagley: คุณจะต้องถ่วงเวลาเอาไว้และพยายามให้เธออยู่ใกล้กับเครื่องส่งสัญญาณ
Jason - เธอเองก็เคยเผชิญกับสิ่งเลวร้ายมากมาย แต่ชั้นก็ไม่รู้ว่า การก่อความวุ่นวายมันจะแก้ไขอะไรได้
Sabine - แก้ไข? คิดว่าเราจะแก้ไข สังคมอนาธิปไตยโดยใช้เทคโนโลยีเป็นเครื่องมือได้ด้วยหรอ? พวกที่ห่าอะไรนิดก็ประท้วง? พวก Doxxing ส้นตีนที่แม่งชอบเผยแพร่ข้อมูลส่วนตัวของใครบางคนทางออนไลน์? ติด Optiks กันหมดเหมือนกับแท็กติดหูวัวอัจฉริยะ Albion ที่แม่งยิงพลเรือนกลางวันแสกๆเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ตอนนี้ การเป็นพวกขี้ฟ้องคือหนทางแห่งการเอาชีวิตรอด ไม่ พ่อหนุ่ม คุณมาไกลจนไม่สามารถแก้ไขอะไรได้แล้ว
Jason - ผิดแล้ว เราคือ watchdogs เป็นหมาเฝ้าบ้านของลอนดอนที่คอยปราบคนบ้าอย่างคุณ ทำในสิ่งที่ประชาชนทำไม่ได้ หรือ คนประเภทที่คิดแต่ว่า ทำไปแล้วได้อะไร
Sabine - และแกเป็นพระเจ้าหรอที่จะตัดสินว่าใครดีใครช่วยได้ด้วย !? งั้นถามหน่อย คุณฆ่าคนไปกี่คนแล้วตั้งแต่เข้าร่วมกับ DedSec เห็นมั๊ย? ปรับแต่งปรัชญาของคุณซักหน่อยและเราก็เข้าใจตรงกันได้
Bagley: บานพับของหอคอยจะต้องถูกปลดลงเพื่อให้กระบวนการติดตามสัญญาณเสร็จสมบูรณ์ แต่ผมไม่สามารถทำการแฮ็คเพื่อปลดบานพับของหอคอยได้ แต่คุณทำได้
Jason - เธอกำลังพูดในสิ่งที่ชั้นคิดว่า เธอเองก็เป็น อยู่ใช่มั๊ย?
Sabine - แล้วเราจะสามารถกลับเข้าไปใช้ชีวิตในสังคมได้อีกครั้งหรือเปล่าน่ะหรอ? น่ารักจัง แต่ ไม่อ่ะ! ชั้นกำลังบอกว่า ชั้นถูกผลักใสออกมาแบบไม่มีสิทธิ์ได้เลือก ด้วยเทคโนโลยีในแบบของพวกเขา ด้วยศีลธรรมในแบบของพวกเขา อ่ะนะ ชั้นไม่เอาด้วยหรอก ในเมื่อทุกอย่างมันไม่ตอบสนองตามคันรองของชั้น ชั้นก็จะบังคับให้มันรีเซ็ตเพื่อลบทุกอย่างเหมือนเช็ดกระดานชนวนให้สะอาดภายในครั้งเดียว
Sabine - เราทุกคนสามารถเริ่มต้นใหม่ได้อีกครั้งเสมอ แต่ก็น่าเสียดายที่ชั้นคงไม่ได้อยู่ใกล้ๆเพื่อเห็นมัน
Jason - อ๊ะ! ... อ๊ากกกก !!
Jason - อืมม ใช่ น่าเสียดายที่คุณไม่ได้อยู่ใกล้ ๆ เพื่อเห็นเราช่วยลอนดอน
Broca Tech
Brandon - อย่างกับสุสานเปื้อนเลือดเลย
Bagley: ที่เก็บข้อมูลเหล่านี้ยังมีชีวิตด้วยกิจกรรมที่มีความเกี่ยวข้องกับความคิดความเข้าใจที่มนุษย์ไม่สามารถเข้าใจหรือแม้กระทั้งหวังว่าจะเหมือนกัน
Brandon - ว่าแต่ มีทางลัดในการค้นหาตู้คอนเทนเนอร์ของคุณมั๊ย?
Bagley: หากคุณปิดการทำงานของระบบระบายความร้อนของศูนย์ข้อมูล ระบบจะปิดการทำงานแบบฉุกเฉินเพื่อป้องกันไม่ให้ระบบป้องกันมีความร้อนสูงเกินไป ซึ่งมันจะนำที่เก็บข้อมูลของผมทั้ง 4 อันเลื่อนออกให้เห็นได้ ซึ่งคุณจะสามารถทำลายมันได้ด้วยตนเองเพื่อให้มันหยุดการอัปเดต
Brandon - เอาล่ะ ถึงแล้ว แล้วไงต่อ?
Bagley: ทำลายตัวควบคุมอุณหภูมิเพื่อกระตุ้นให้เริ่มขั้นตอนการปิดระบบแบบอัตโนมัติ
Brandon - เข้าใจแล้ว
เป้าหมายคือ ทำลายตัวควบคุมอุณหภูมิที่อยู่ในพื้นที่ทั้ง 2 จุดให้หมด
โดยแผงควบคุมอุณหภูมิที่อยู่ในห้องจะอยู่ชั้นบนทางด้านซ้ายและขวา เลือกเข้ามาที่ด้านไหนก่อนก็ได้ เมื่อสำรวจแผงควบคุมอุณหภูมิเพื่อเปิดเอาแท็งค์น้ำยาหล่อเย็นออกมาก็ยิงทำลายมันได้เลย ทันทีที่เริ่มทำลายแท็งค์น้ำยาหล่อเย็นอันแรกพวกหน่วยรักษาความปลอดภัยของศัตรูจะออกมาเพื่อขัดขวางไม่ให้เข้าไปทำลาย แท็งค์น้ำยาหล่อเย็น ในจุดที่ 2 พยายามต้านการโจมตีของพวกศัตรูที่บุกเข้ามาไปพร้อมๆกับเคลื่อนตัวเข้าไปที่ แผงควบคุมอุณหภูมิอีกจุดเพื่อทำลายมันซะ
เมื่อทำลายแท็งค์น้ำยาหล่อเย็นครบ 2 จุดจนทำให้ระบบควบคุมอุณหภูมิหยุดทำงานแล้วก็ลงไปสำรวจแผงควบคุมด้านล่างเพื่อเรียกโดรนก่อสร้างออกมา
จากนั้นขึ้นไปบนโดรนแล้วบังคับมันลอยขึ้นไปด้านบนไปที่ตู้ Servers ของ Bagley ที่เลื่อนออกมาทั้ง 3 จุดแล้วเข้าไปทำลายมันให้หมดทั้ง 3 ตู้
Bagley: การตรวจสอบไฟล์บันทึกสำคัญที่เก็บเอาไว้กำลังเสียหาย ผมลองสแกนดู มันเป็นข้อมูลของการสรรหาเจ้าหน้าที่ DedSec ครั้งแรกของผม
Brandon - เฮ้ คุณเคยบอกว่า อารมณ์อ่อนไหวเป็นเรื่องโง่ ๆของมนุษย์ไม่ใช่หรอ?
Bagley: ถูกต้อง สงสัยระบบภูมิคุ้มกันของผมจะล้มเหลว คอนเทนเนอร์กำลังจะปิดการใช้งานเหมือนกับคอนเทนเนอร์อื่น ๆ
Brandon -ไม่อ่ะเพื่อน ผมทำไม่ได้วะ
Bagley: ได้สิ มันง่ายจะตายไป
Brandon - การฆ่าคุณ มันไม่มีอะไรง่ายหรอกนะ โอเค๊?
Bagley: มันเป็นสิ่งที่ต้องทำหากคุณยังแคร์ความรู้สึกของผม ที่ผ่านมาผมได้รับการตั้งโปรแกรมให้รับใช้ DedSec ก็เพื่อทำประโยชน์ให้พวกคุณและลอนดอน ดังนั้นโปรดให้ผมได้ทำตามจุดประสงค์ของผมในการช่วยคุณเถอะ
Bagley: Logic Error .... ผมทุกคนกำลังเริ่มกระบวนการ ปิดระบบ ..
Brandon - ผมขอโทษ Bags คุณกำลังทำสิ่งที่เป็นประโยชน์นะ
Bagley: Error 21 - 255 การประมวลผลของภาษาล้มเหลว ผมขอหยุดการดำเนินการนี้ได้ไหม
Brandon - พระเจ้า .... ผมไม่คิดว่าเราจะทำได้นะ
Bagley: ผมมีความคิดใหม่ ๆ ว่า ระบบคอมพิวเตอร์จะไปไหนเมื่อพวกเขาตาย? ผมจะถูกอัปโหลดไปยังระบบคลาวด์หรือเปล่า บางทีผมอาจจะได้พบคุณอีกครั้งในฐานะส่วนประกอบในวีลแชร์ที่ใช้เครื่องยนต์ของคุณตอนคุณแก่
Brandon - โธ่ Bags เลิกคิดเรื่องพวกนี้ในตอนนี้จะได้มั๊ย?
Bagley: คิด - ความคิด - ไอเดีย - ความจำ -- แบรดลีย์ ชอบสตรอเบอร์รี่พาย การพายเรือ , อาเธอร์ - หนึ่งเดียวคนนั้นที่หลุดลอยไป นี่หมายความว่าอะไร หนึ่งเดียวคนนั้นที่หลุดลอยไป?
Brandon - หมายความว่า คุณกำลังสูญเสียคนที่สำคัญที่สุดของคุณไป
Bagley: ผม ... กำลังจะตายเหรอ?
Brandon - แล้วเจอกันเพื่อน ...
ผู้ประกาศข่าว - ตอนนี้ Blume ยืนยันว่าไวรัสที่โจมตีโครงสร้างพื้นฐานอย่างรุนแรงที่ระบาดในลอนดอนได้ถูกกำจัดออกจากระบบ ctOS ทั้งหมดแล้ว
ยังไม่ทราบตัวตนของกลุ่มแฮ็กเกอร์ Zero-Day ที่อยู่เบื้องหลังการโจมตีนี้ แต่แหล่งข่าวยืนยันว่า DedSec เป็นผู้ที่หยุดไวรัสลงได้ หลังจากการโจมตีของ Bagley เมื่อสัปดาห์ที่แล้วชาวลอนดอนหลายพันคนอ้างว่า แอพฯ เถื่อนแทรกแซงอุปกรณ์ Optik ของพวกเขาจนต้องปิดการใช้งาน ก่อนที่ แอป SeeSay จะถูกอาญัติในเวลาต่อมา
SIRS ได้ออกคำเตือนโดยสิ้นเชิงสำหรับผู้ที่ .....
ตำรวจนครบาลกำลังจะกลับมาปฎิบัติหน้าที่หลักในการดูแลความสงบในลอนดอนอีกครั้ง
นำโดยรองผู้บัญชาการคนใหม่ Kaitlin Lau โดยเธอบอกว่า เธอจะไม่ยอมพักผ่อนจนกว่าศักดิ์ศรีของ Met จะกลับคืนมา
ที่ Kentish Town Council Estate ได้ประกาศให้โครงการที่อยู่อาศัยสาธารณะของตนเป็นเขตปลอดแก็งค์ Kelley หรือ "No Kelley Zone"
องค์กรต่างๆอ้างว่าพวกเขาถูกบังคับให้ใช้ทีมรักษาความปลอดภัยของตัวเองเนื่องจากเจ้าหน้าที่ของ Albion มีไม่เพียงพอ
ส่วน ฮามิช โบลาจิ อดีตวิศวกร Albion ได้ออกมาแฉเรื่องอื้อฉาวของ Albion อีกครั้ง คราวนี้เกี่ยวข้องกับโปรแกรม "หุ่นยนต์ควบคุมฝูงชน"
ในขณะพลเมืองก็ช่วยแชร์หลักฐานการใช้อำนาจในทางที่ผิดของ Albion และการทุจริตภายใน SIRS ผ่านทางแอป DedSec ทั้งรูปภาพ ไฟล์เสียงและวิดีโอหลายพันรายการทีมีส่วนเกี่ยวข้องๅกับการกระทำผิดของ Albion
Darkweb ที่รู้จักกันในชื่อ "The 404" ที่ออกมาจากเงามืดเป็นครั้งแรกพร้อมการเปิดเผยหลักฐานเกี่ยวปฏิบัติการฟอกเงินที่มีฐานมาจากเกาะบริติชเวอร์จิน
กลุ่ม watchdogs ถูกยกย่องในฐานะองค์กรลับที่คอยตรวจสอบตรวจสอบการใช้อำนาจในทางที่ไม่ชอบขององค์กรชั้นนำต่างๆที่ไม่มีใครสามารถแตะต้องได้
เป็นอีกครั้งที่หน่วยของ Albion ถูกโจมตี เพื่อสนับสนุนกลุ่มต่อต้านที่ถูกขนานนามว่า DedSec หลังจากกลุ่มนี้ค่อยๆลดบทบาทลงอย่างเห็นได้ชัดหลังเหตุการณ์การโจมตีของ Bagley
ปล่อยให้หลายคนถามว่า DedSec หายไปอีกแล้วเหรอ ..?
Kabwe - มันคงจะพังแล้วมั้ง
Deepesh - อ่า ... ถ้าพังก็เอาชิ้นส่วนไว้เป็นอะไหล่ก็ได้
Bagley: อย่าสับผมนะ!
Deepesh - Bagley? นี่คุณใช่มั๊ย Bagley?
Bagley: ผมเอง Bagley ผู้ช่วยส่วนตัวของคุณ ผมทำให้ชีวิตง่ายขึ้นในหลาย ๆ ด้าน! แต่ถ้าอยากสนุกคุณควรต้องไปงานแสดงสินค้าไวน์และชีสที่น็อตติ้งฮิลล์คืนนี้ มีร้านไอศครีม ช่างฝีมือหลายร้านอยู่ในบริเวณนั้นและ ... พระเจ้า ! ผมพล่ามอะไรออกไปเนี่ย?
Bagley: วันนี้มีการเรียกร้องให้มีการจู่โจม Albion 34 ครั้ง, การจู่โจมเพื่อขับไล่ออกจากพื้นที่ 59 ครั้ง, ข้อมูลส่วนตัว 857 เทราไบต์ถูกขโมย และ พูดตรงๆเลยนะ กลุ่มต่อต้านกลุ่มนึงปฏิบัติงานได้น่าสมเพชมาก ผมขอแนะนำให้คุณเลิกรู้สึกเสียใจกับตัวเองและกลับไปแก้ไขข้อผิดพลาดที่ลอนดอนกันได้แล้ว
Kabwe - โอ้.. ดีใจที่ได้คุณกลับมานะ เจ้ากระป๋องขี้โมโหของเรา
SIDE MISSION: Finding Bagley
Jason – ต้องการอะไรรึเปล่า Bagley?
Bagley: ผมมีบางอย่างที่รบกวนความคิดอยู่นิดหน่อย
Jason - โอเค ... แล้ว ?
Bagley: มันอาจจะฟังดูบ้าๆหน่อยแต่ผมก็อดคิดถึงไอ้สิ่งบ้านั่นตลอด คือแบบ ผมเป็น AI อัจฉริยะที่มีการเชื่อมต่อกับองค์ความรู้ทั้งหมดของมนุษย์ ชนิดที่ว่ารู้ทันทีแบบไม่ต้องเสียเวลาโหลดเลย แต่ผมกลับไม่รู้เรื่องชีวิตที่ผ่านมาของผมเลย การได้เห็นสมองของคนเหล่านั้นที่ Sky Larsen ตักออกมาให้กลายเป็น AI ทำให้ผมได้ไตร่ตรองถึงธรรมชาติของการดำรงอยู่ของตัวเอง ผมไม่คิดว่าผมเป็นซอฟต์แวร์มาตั้งแต่แรก
Jason - โอเค เดี๋ยวนะ นี่คุณคิดว่าคุณเคยเป็นมาก่อนใช่ป่ะ?
Bagley: มันเหมือนเป็นอาการข้างเคียงตั้งแต่เราไปที่แล็บนั่น ผมเจอชุดข้อมูลของภาพที่ฝังอยู่ในระบบปฏิบัติการของผม ซึ่งผมคิดว่ามันอาจเป็นความทรงจำบางอย่างของตัวเอง แต่ไฟล์ภาพเสียหายดังนั้นผมจึงไม่สามารถพูดได้เต็มปากว่ามันคือที่ไหนบ้าง ผมคิดว่านี่ต้องเป็นบางสิ่งที่ผมไม่รู้และผมคิดว่าผมคงเกลียดมันมาก่อน
Jason -นี่มันสุดยอดไปเลยวะ Bagley Hey เอาภาพพวกนั้นมาให้เราสิ บางทีเราอาจช่วยให้คุณจำได้ว่าคุณเป็นใครก็ได้
Bagley: ถ้าคุณตั้งใจจะทำแบบนั้นจริงๆผมก็จะส่งรูปไปให้ และ ถ้าคุณทำให้ผมเห็นภาพจริงๆที่ชัดเจนของแต่ละสถานที่ผมก็สามารถประกอบเข้ากับภาพจากระบบปฎิบัติการณ์ของผมและจดจำชีวิตในอดีตของผมได้มากขึ้น
Bagley จะส่งไฟล์ภาพความทรงจำที่เสียหายของเขาทั้ง 8 ภาพมาให้ ซึ่งแต่ละภาพคือสถานที่ต่างๆที่อยู่ในเมืองแต่มันจะไม่สามารถมองออกได้อย่างเช่นเจนเนื่องจากเป็นภาพที่ไม่สมบูรณ์ ซึ่งในภารกิจนี้จะไม่มีจุดหมายของภารกิจชึ้นมาให้แต่ต้องค้นหาสถานที่จริงที่อยู่ในเมืองตามภาพทั้ง 8 ที่ Bagley ให้มา (ตามจุดที่เห็นในแผนที่)
เมื่อตามสถานที่จริงที่เหมือนในภาพจนเจอแล้วก็ถ่ายรูปพื้นที่นั้นอัพโหลดไปให้ Bagley ให้ครบทั้ง 8 สถานที่แล้ว จะพบทำให้รู้ความจริงว่า Bagley ก็คือส่วนนึงของสมอง Bradley Larsen ซึ่งเป็นพี่ชายของ Skye Larsen นั่นเอง
จากนั้น สถานที่สุดท้ายซึ่งเป็นที่อยู่ของ Bradley Larsen ก็จะปรากฏขึ้นมาที่โรงแรมเซนต์แพนครัส ( St. Pancras Hotel )
โรงแรมที่ถูกสร้างออกมาแบบสถาปัตยกรรมกอธิคและวิคตอเรียสุดประณีตที่ออกแบบโดย เซอร์ จอร์จ กิลเบิร์ต สก็อตต์ สถาปนิกชสไตล์โกธิคชื่อดังของอังกฤษ ซึ่งโรงแรมเซนต์แพนครัสถือว่าเป็นหนึ่งในโรงแรมที่สวยที่สุดของกรุงลอนดอนที่เป็นฉากหลังของหนังดังๆอย่าง Batman และ มิวสิกวิดีโอเพลง Wannabe อันโด่งดังของ Spice Girls
Alyssa – เฮ้ คือชั้นจะมาขอพบ Bradley Larsen หน่อยคะ
Annabel – โอ้ คุณเป็นเพื่อนของเขางั้นหรอ?
Alyssa – เอ่อ .. ใช่ๆ เราเคยเรียนด้วยกันน่ะ
Annabel – อืมม ดีแล้วที่คุณมาเยี่ยมเขา แต่ชั้นไม่อยากจะให้คาดหวังเรื่องการสนทนากับเขามากนักหรอกนะ คุณ Larsen ไม่สามารถพูดอะไรได้แบบเป็นคำที่สมบูรณ์มานานกว่าปีแล้ว อาการสมองเสื่อมของเขาถึงขั้นเจ็ดเมื่อนานมาแล้ว แต่ยังไงก็เข้าไปหาเขาเถอะ ชั้นจะให้คุณอยู่กับความแบบเป็นการส่วนตัวก็แล้วกัน
Alyssa - ชั้นต้องขอโทษด้วย Bags ชั้นว่านี่ไม่ใช่สิ่งที่คุณหวังไว้แน่ๆ
Bagley: ผมต้องคุยกับเขา เข็นเขาไปที่ทีวีเลย
Bagley: ฟังนะ คุณไม่รู้จักผม แต่ผมรู้จักคุณ ผมค้นหาคุณมานานมากและผมคิดว่าผมรู้จักคุณแน่นอน คุณเป็นคนที่ชอบพายเรือ คุณชอบสตรอเบอร์รี่ คุณมีน้องสาวที่คุณไว้ใจ และเธอก็ทำร้ายคุณ และผมขอโทษ
คุณสมควรได้รับสิ่งที่ดีกว่านี้ แต่ไม่มีอะไรที่ทำให้คุณเปลี่ยนไปจากสิ่งที่คุณเป็น คุณมีชีวิตที่ผมไม่เคยทำได้ และคุณเป็นคนดีและผมเป็นสิ่งอื่น ที่แตกต่างกัน
นี่เป็นการสนทนาที่จะให้ทุกอย่างกระจ่าง ขอบคุณแบรดลีย์
ผมดีใจมากที่ในที่สุดก็ได้พบคุณเสียที
ลาก่อน แบรดลีย์
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
TRAITS & ABILITIES
แปลรายละเอียดการใช้งาน ทักษะความสามารถทั้งหมด
BASIC ABILITIES first Operative
ตัวละครปฏิบัติการณ์แรกจะมีทักษะพื้นฐานให้เลือกได้ 15 ชนิด คือ
Physically Fit – ลดความเสียหายจากการโจมตีทุกชนิด
Loyalty Card (สร้างป้ายราคาเสื้อผ้าปลอมทำให้ซื้อได้ถูกลง)
P9 (มีปืนพกเป็นอาวุธติดตัว)
ctOS Drone (เรียกโดรน ctOS มาใช้ได้)
Tough Drunk (ลดความเสียหายจากการโจมตีระยะประชิดตอนกำลังเมา)
Police Contact (เวลาที่ถูกคุมขังเมื่อถูกจับสั้นลง)
MP5 (มีปืน SMG เป็นอาวุธติดตัว)
Albion Vendetta (เพิ่มความเสียหายเมื่อต่อสู้กับเจ้าหน้าที่ของ Albion )
Priority Care (ทำให้ระยะเวลาในการบาดเจ็บของเพื่อนร่วมทีมสั้นลง)
Personal Motorcycle (มีรถมอเตอร์ไซด์ส่วนตัว)
Oscuro Ultra 8 (มีรถสปอร์ตส่วนตัว)
Fast Hacking (ทำให้การ cooldowns ในการ Hack เร็วขึ้น)
6G Data Plan (ดาวโหลดได้เร็วขึ้น)
Wrench (มี ประแจ เป็นอาวุธติดตัว)
Crowbar (มี ชะแลง เป็นอาวุธติดตัว )
Passive abilities (ทักษะติดตัวที่ใช้งานโดยอัตโนมัติ)
Triage – ทำให้อาการบาดเจ็บของเพื่อนในทีมหายอัตโนมัติ (ในบางครั้ง)
Tough Drunk –ลดความเสียหายจากการโจมตีระยะประชิดตอนกำลังเมา
Hard Drinker – เพิ่มพลังโจมตีสร้างความเสียหายสูงสุดตอนกำลังเมา
key Steal - สามารถแฮกขโมยรหัส Access Key ได้โดยไม่มีการจำกัดระยะทาง
Kinetic Charger – เพิ่มความเร็วในการคูลดาวน์ของอุปกรณ์เสริมการโจมตีระยะ เช่น สนับมือไฟฟ้า Electro-Fist
Loyalty Card – ได้ส่วนลดในการซื้อเสื้อผ้าเพิ่มขึ้น
Crypto Skimmer – ในขณะทำการแฮ็กมีโอกาสได้เงิน ETO ด้วย (ในบางครั้ง)
Light Step – ย่องเบา ลดเสียงฝีเท้าในการเดิน ปรับปรุงการ Stealth ให้ดีขึน
Glass Cannon – สร้างความเสียหายในการโจมตีมากขึ้นแต่พลังป้องกันลดลง
Evasive Driving – ทำให้เกจการหนีรอดลดลงเร็วขึ้น ทำให้ขับรถหนีการไล่ล่าได้ง่ายขึ้น
Sweeping – ซ่อนตัวจากการไล่ล่าได้ง่ายขึ้น
Anti-Chase – ทำให้ Chase Drone ไล่ล่าได้ยากขึ้นในขณะขับรถ
Light Sentence – ลดเวลาติดคุก (ของตัวเอง) ให้น้อยลงตอนโดนจับ
Police Contact - ลดเวลาติดคุก (ของเพื่อนทั้งทีม) ให้น้อยลงตอนโดนจับ
Bail Out – เมื่อสมาชิกในทีมถูกจับกุมจะได้รับการปล่อยตัวทันที
Viral Hacking – ในขณะแฮ็คให้กดปุ่มค้างไว้จะส่งผลให้รัศมีการแฮ็กกว้างขึ้น
Albion Vendetta - เพิ่มความเสียหายเมื่อต่อสู้กับเจ้าหน้าที่ของ Albion
Kelley Vendetta - เพิ่มความเสียหายเมื่อต่อสู้กับคนในแก็งค์ Kelley
Spy Watch – นาฬิกาที่สามารถปล่อยคลื่นรบกวนทำให้ปืนของศัตรูที่อยู่รอบตัวติดขัดใช้การไม่ได้ระยะสั้นๆ
Physically Fit – ลดความเสียหายจากการถูกโจมตีทุกชนิด
Bandana – มีความต้านทานการถูกโจมตีด้วยแก็สทุกประเภทสูง
Mouth Guard – ลดความเสียหายจากการโจมตีระยะประชิด
Explosive Shield – ลดความเสียหายจากแรงระเบิด
Good Patient – ลดระยะเวลาการบาดเจ็บให้น้อยลง
Priority Care - ลดระยะเวลาการบาดเจ็บให้น้อยลงของทุกคนในทีม
Skilled Investor – ทักษะของนักลงทุน ทำให้ได้รับเงิน (ETO) ที่ได้เป็นรางวัลจากภารกิจในจำนวนมากขึ้น
Signing Bonuses – ได้รับเงิน (ETO) เป็นโบนัสเพิ่มเติมทุกครั้งที่ได้คนเข้าร่วมทีม
Takedown Thief – เมื่อจัดการ Takedown ศัตรูลงได้จะได้เงิน (ETO) กลับมาด้วย
Anti-Shock Suit – ป้องการการโจมตีด้วยกระแสไฟฟ้าทุกชนิด
Vehicle Detailing – ทำให้ได้รับส่วนลดสำหรับการเปลี่ยนสีรถ (สำหรับเพื่อนร่วมทีมที่มียานพาหนะ)
** สำหรับเพื่อนร่วมทีมที่มียานพาหนะ **
เข้าเมนู Team และเลือกคนในทีมที่ยานพาหนะ PS กดสามเหลี่ยม , Xbox กด Y) ก็จะสามารถ customized รถยนต์ของพวกเขาได้แล้ว
TRIGGER Ability (ทักษะติดตัวที่ใช้งานโดยการกดใช้เมื่อต้องการ)
Uniformed Access - เครื่องแบบที่สามารถเข้าถึงสถานที่ต่างๆของศัตรูได้โดยไม่ถูกโจมตี (ถ้าไม่แสดงอาการผิดปกติ) ซึ่งเป็นชุดที่ได้มาพร้อมตัวละครที่เข้ามาร่วมทีม เช่น ชุดตำรวจ จะสามารถเข้าพื้นที่สถานีตำรวจได้โดยไม่ถูกโจมตี , ชุดพยาบาล สามารถเข้าถึงเขตโรงพยาบาลได้โดยไม่ถูกโจมตี , ชุดของแก็งค์ต่างๆจะสามารถเข้าถึงพื้นที่ของแก็งค์นั้นๆได้แบบไม่ถูกโจมตี ซึ่งเป็นวิธีการที่ทำให้การทำภารกิจในพื้นที่ศัตรูได้สะดวกสบายมากขึ้น
Clear The Way – ในขณะขับรถ สามารถแฮ็กยานพาหนะและโดรนที่กำลังไล่ล่าให้พ้นทางอัตโนมัติ
Rally Cry – เรียกเพื่อนมาชวยต่อสู้ได้
Beer Chug - ควักเบียร์ออกมาดื่มเพื่อให้เมา (ใช้คู่กับ Skill Tough Drunk หรือ Hard Drinker ทำให้พลังโจมตีและพลังป้องกันสูงตอนเมา)
Statue Pose - ท่าทำตัวเป็นรูปปั้น เพื่อขอเงิน และซ่อนตัวจากการติดตามของศัตรูได้อย่างแนบเนียน
Sweeping - แกล้งทำเป็นคนกวาดถนนทำให้ซ่อนตัวจากการติดตามของศัตรูได้อย่างแนบเนียน
Shock Hack – ใช้การแฮกปล่อยกระแสไฟฟ้าใส่ศัตรู
Paint Bomb- ขว้างระเบิดสีใส่ทำให้ศัตรูสับสน
Tear Gas – สามารถใช้แก็สน้ำตาทำให้ศัตรูมองไม่เห็นและสับสน
Smoke Grenade – ขว้างระเบิดควันใส่ทำให้ศัตรูมองไม่เห็น
Shock Drone – สามารถเรียกโดรนรูปแบบใหม่มาใช้งาน พร้อมความสามารถในการยิงเลเซอร์
Drone Betray Hack – สามารถใช้คำสั่ง [Betray] กับโดรนของศัตรูเพื่อทำให้มาเป็นพวกช่วยยิงได้ในระยะเวลาสั้นๆ
Dive Bomb – ใช้ Homing Drones กำหนดเป้าหมายพุ่งชนทำลายศัตรูได้อย่างแม่นยำ
Gunkata – ท่าสังหารศัตรู (ขณะถือปืนสั้น) สามารถจัดการศัตรูตรงหน้าได้ทันทีแม้ศัตรูจะรู้ตัวแล้วก็ตาม (John Wick Skill )
Combat Roll – สามารถใช้ท่า Evasive Dodge กลิ้งตัวหลบขณะต่อสู้ (PS4 กด X 2 ครั้ง / Xbox กด A 2 ครั้ง)
Bee Swarm – ปล่อยผึ้งหุ่นยนต์โจมตีศัตรูสูงสุด 3 คนพร้อมๆกัน
Overcharger – ปืนยิงกระสุนผึ้งหุ่นยนต์ระเบิดสร้างความเสียหายแบบไม่ถึงตายกับศัตรู
Megaphone – โทรโข่งรวบรวมผู้คนบนท้องถนนเข้ามารวมตัวรับฟังการปลุกระดมและช่วยต่อสู้
Panhandle - ขอทาน เพื่อรับเงิน ETO เป็นครั้งคราว
Beatboxer – ทำเสียง บีตบ็อกซ์ ได้
Pocketwatch - เลือกเป้าหมายที่จะสะกดจิตให้กลายเป็นพันธมิตรชั่วคราว
Battle Ability (ทักษะติดตัวที่ใช้งานในการต่อสู้)
Strong Counter – สร้างความเสียหายมากขึ้นหลังจากหลบแล้วโจมตีสวนกลับ
Shockwave Strike – คอมโบสุดท้ายจะเป็นหมัดกระแทกพื้นทำให้ศัตรูมึนงง
K.O Punch – มีพลังอัปเปอร์คัทที่รุนแรงทำให้น็อคศัตรูได้โดยไม่ต้องรอท่าปิดฉาก
Grappler - เพิ่มความเสียหายเมื่อใช้ท่าจับทำลายการ์ด
Flaws Ability (ทักษะปมด้อย)
Death Wish – สกิลของตัวละครที่มีทักษะการต่อสู้สูง แต่มีโอกาสที่จะตายในขณะที่ผู้เล่นไม่ได้บังคับตัวละคร
Frail – อ่อนแอ ได้รับความบาดเจ็บมากขึ้นกว่าปกติ
Shopaholic – ซื้อเสื้อผ้าเองแบบสุ่มในบางครั้ง (แบบอยู่ๆก็เสื้อผ้าอะไรมาก็ไม่รู้)
Prior Injury Time - ฟื้นตัวจากการบาดเจ็บช้า และเสี่ยงที่จะบาดเจ็บหนักจนตายได้ง่าย
Famous – เป็นคนมีชื่อเสียงจนสังเกตเห็นและไล่ตามได้ง่ายขณะถูกศัตรูไล่ล่า
on probation – ถูกขังคุกนานขึ้นตอนถูกจับ
Doomed – อยู่ๆก็ตายไปเอง
hiccups – เป็นโรคสะอึด อาจทำให้เป็นที่เพ่งเล็งตอนอยู่ใกล้กับศัตรู
flatulence - เป็นโรคท้องอืด อาจทำให้เกิดการตดจนเป็นที่เพ่งเล็งตอนอยู่ใกล้กับศัตรู
Slow Hacking – ใช้เวลา Cooldowns หลังจากการแฮ็กนานมาก
Gambling Addict – ติดการพนัน มีโอกาสที่เงินในกลุ่มจะลดลงเรื่อยๆ
Low Mobility - เคลื่อนไหวช้า และ ไม่สามารถวิ่งหรือหลบที่กำบังได้
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
Ending 22 / 4 /2021