วันพฤหัสบดีที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2558

ZOMBI




                                                    บทสรุป ZOMBI  (ZombiU Port)


BY Decibel per - oxide


                                           โหมดที่ใช้ในการเลือกเล่น

Chicken - Easy mode ทุกครั้งที่ตายจะ random ไปเกิดกับตัวละครใหม่อีกคนต่ออีก
Standard - Normal mode ทุกครั้งที่ตายจะ random ไปเกิดกับตัวละครใหม่อีกคนต่ออีก
Survival - Hard mode โหทดยากนี้เมื่อเราตายแล้วจะไม่มีการ Random ไปเกิดใหม่กับตัวละครอื่นอีกแล้ว ตายแล้ว game over เริ่มใหม่ทันที



                “ในวันหนึ่งข้างหน้าเหล่ามวลมนุษย์จะต้องมองหาซึ่งความตาย
                 และจะไม่มีวันค้นพบหนทางสู่ความตายนั้นจนต้องดิ้นรนหาความตายด้วยตัวเอง 
                  เพราะความตายเท่านั้นถึงจะเป็นอิสระจากพวกมัน” 

                                                                                       Revelation 9.6 

เมื่อศาสตร์แห่งการแปรธาตุเพื่อหวังสร้างความมั่งมีฟุ้งกระจายไปในอากาศกลายเป็นเศษซากของโอกาสที่สร้างความหายนะใหญ่หลวงยิ่งกว่าความยากจน เมฆหมอกแห่งความตายปกคลุมไปทั้งดินแดน เหล่ามวลมนุษย์ที่ไม่ได้เตรียมพร้อมยอมรับกับความโง่เขลาก็ต้องยอมจำนนต่อความเน่าเหม็นที่เข้ามาปกคลุม ท่ามกลางความโหดร้ายที่แม้พระเจ้าก็ยังไม่เอ่ยพระโอฐตอบรับความปราณี จุดจบของโลกที่ไม่มีค่าในสายตาพระองค์กำลังจะมาถึง หรือมันเป็นแค่แผนการชำระล้างบาปจากเทวะทูตเพื่อการหวนคืนแห่งการเริ่มต้นของยุคใหม่อีกครั้ง 




พระคัมภีร์ได้กล่าวเอาไว้ มันก็ถูกอ้างอิงตามตำนานแห่งคำพยากรณ์ของ John Dee เมื่อ 400 ปีก่อนที่ว่า ในอนาคตข้างหน้าโลกจะพบกับมหัตภัยร้ายจนเกิดกลียุคที่เขาเรียกมันว่า “The Black Prophecy”  ทำให้เขาเขียนบันทึกล้ำค่าถึงทางรอดจากภัยร้ายนี้ขึ้นมามากมาย ก่อนมันจะหายไปตามกาลเวลาเหมือนไม่เคยมีอยู่จริง 







จนในเดือน พฤศจิกายน ปี 2012 ตำนานจากทฤษฎี“The Black Prophecy”  ของ John Dee  ก็เกิดขึ้นจริงๆ เมื่อเกิดเหตุโรคระบาดประหลาดขึ้นที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ เชื้อไวรัสร้ายสายพันธ์ ANP192 ที่ทำให้คนที่ติดเชื้อกลายเป็นซากศพเดินได้ภายในเวลา 22 วัน ก่อนที่พวกมันจะออกกัดกินผู้คนไปทั่วจนการติดเชื้อแพร่กระจายทำให้ลอนดอนกลายเป็นนรกบนดินภายในเวลาไม่นาน 




เหล่าผู้รอดชีวิตที่หลงเหลือต่างรวมตัวกันและสร้างที่หลบภัยใหม่ขึ้นที่ใต้พระราชวังบัคกิ้งแฮม โดยตั้งชื่อกลุ่มว่า 'Ravens of Dee' และทำการศึกษาทฤษฎีต่างๆของ John Dee  ที่ตกทอดมาจากยุคโบราณเท่าที่จะค้นหามาได้เพื่อหาวิธีหยุดยั้งไวรัสร้ายที่กำลังทำลายเมือง โดยการนำของ Sondra Kelley ผู้นำกลุ่มที่ออกต่อต้านทำลายพวกติดเชื้อเท่าที่จะทำได้ไปพร้อมกับช่วยเหลือผู้รอดชีวิตให้หนีออกจากเมือง และทางรอดที่เหมือนแสงสว่างในความมืดมิดคือทีมนักวิทยาศาสตร์ที่กำลังค้นหาผลงานล้ำค่าของ John Dee  นั่นก็คือ“Panacea” สูตรยาแก้พิษ วัคซีนป้องการติดเชื้อไวรัส ANP192  ให้สำเร็จให้เร็วที่สุดให้ได้

Cr. - ข้อมูลเนื้อเรื่องจาก https://en.wikipedia.org/wiki/ZombiU


ณ.จุดๆนึงท่ามกลางความวุ่นวายในยามค่ำคืนบนถนนของกรุงลอนดอน เงาลางๆท่ามกลางความเน่าเหม็นของซากศพที่กองทับถมบนถนน Matthew Steven  ชายหนุ่มวัย 26 ปีอดีตผู้จัดการศูนย์ IT ที่กลายสภาพเป็นแค่ชายผู้โชคร้ายที่กำลังจะถูกฝูงซอมบี้ไล่กัดกินจากทุกทิศทาง 




       

(ตัวละครอาจแรนด้อมเป็นตัวละครอื่นได้ แต่ผมจะใช้ชื่อ Matthew ในการเรียกตัวเอกของผมเพื่อสะดวกในการเขียนครับ)

แต่ในความกดดันก็ยังมีความหวังเมื่อกล้องวงจรปิดที่ติดตั้งอยู่เริ่มเปิดการทำงานเพราะการสั่งการของใครบางคน ชายปริศนาส่งเสียงเรียก Matthew ให้หนีไปยังที่ปลอดภัยตามที่เขาบอกมา Matthew ไม่รอช้าเพราะมัวห่วงความเชื่อใจ เขาจึงตัดสินใจเผ่นไปตามเสียงที่สั่งมาทันที 



                                         เรียนรู้การบังคับเบื้องต้น   

A - สำรวจ
B – ใช้ไอเทมเสริม 
X - รีโหลดกระสุน
Y – สแกนเรดาร์
LB- ใช้สแกนเนอร์
RB- หันหลังกลับอย่างรวดเร็ว
LT- เตรียมใช้อาวุธ
RT – ใช้อาวุธชนิดฟาดตีในการกระแทกศัตรู 
LT – RT – ใช้อาวุธ
L – แกนอนาล็อกซ้าย บังคับทิศทาง / กดตรงกลางเพื่อวิ่ง
R – แกนอนาล็อกขวา บังคับมุมกล้อง / เปิด ปิด ไฟฉาย 
Back – ดูของในเป้เก็บของ 
ปุ่มทิศทาง D-pad – ปุ่มเลือกใช้อาวุธและไอเทมที่สวมใส่เอาไว้


-จากนั้นวิ่งเข้าไปตามทางให้เร็วที่สุดเข้าไปด้านในจนถึงบันไดปีนขึ้นไปที่ช่องระบายอากาศจะทำให้ตกลงมาที่ตึกด้านใน เรียนรู้การเปิดไฟฉาย (ซึ่งไฟฉายจะมีค่าของแบตอยู่ทางมุมขวา เมื่อใช้ต่อเนื่องจนหมดต้องรอซักพักจนกว่าแบตจะคืนสภาพจึงจะใช้ได้อีกครั้ง) วิ่งเข้าไปด้านในต่อจนพบผู้ซอมบี้มหาศาลที่กำลังตามเข้ามา รีบลงบันไดไปที่ประตูสุดทางให้เร็วที่สุดทันที

* ตรงนี้หากคุณเกิดลุกลี้ลุกลนเพราะความไม่คุ้นชินจนตัวละครแรกโดนกัดตาย เกมจะเปลี่ยนไปใช้ผู้รอดชีวิตรายอื่นในการดำเนินเรื่องทันที และบางทีถ้าโชคไม่ดีคุณอาจจะเห็น Matthew ที่คุณบังคับให้โดนกัดตายกลายเป็นซอมบี้มาไล่กัดกินคุณแทนด้วยเหมือนกัน *

ในห้องที่มืดมิดที่ค่อยสว่างขึ้นเมื่อสายตาเริ่มคุ้นชิน Matthew ก็ถูกปลุกให้ตื่นขึ้นด้วยเสียงของชายปริศนาเพื่อพูดคุย




The Prepper  - เอาละตื่นได้แล้ว นายดูดีนี่นา โทษทีที่ต้องบอกว่าถ้านายกำลังคิดว่ากำลังจะตื่นจากฝันร้ายละก็ผมก็ขอบอกว่าฝันร้ายที่ว่าสำหรับที่นี่มันก็แค่วันธรรมดาวันนึงเท่านั้น คุณโชคดีแล้วที่ผมเจอคุณขอต้อนรับเข้าสู่ Safe House ที่พักสุดปลอดภัย ส่วนผมเพื่อนๆเรียกกันว่า “The Prepper”  เพราะอะไรนะหรอเพราะผมเป็นคนชอบ เตรียมพร้อมยังไงละ คุณอาจจะว่าผมขี้โม้แต่เอาจริงๆผมก็อยู่ที่นี่มาได้นานโขอยู่นะ เอาละเห็นของที่วางอยู่บนโต๊ะเครื่องมือนั่นมั๊ยไปหยิบมาใช้ซะ




ของที่ว่าก็คือ  Prepper  Pad ไอเทมไฮเทคสารพัดประโยชน์ที่เป็นตัวช่วยอำนวยความสะดวกเพื่อความอยู่รอดของคุณ ซึ่งในเวอร์ชั่น Wiiu นั้นเจ้า Prepper  Pad นี่จะสามารถใช้ในการดูแผนที่หรือสแกนสิ่งต่างๆได้โดยผ่านหน้าจอของ Joy pad ของเครื่อง WiiU เป็นหลัก แต่ในเวอร์ชั่นใหม่นี้หน้าจอที่ว่าจะมาขึ้นให้เห็นทางมุมของของจอแทน ซึ่งอาจจะดูโบราณว่าเดิมไปบ้างแต่มันสะดวกสบายในการมองมากกว่าเดิมเยอะครับ 




โดย Prepper  Pad  นั้นสามารถทำได้หลายอย่างคือ
1. ดูแผนที่ 
2. กด LB ค้างเพื่อใช้หน้าจอมันในการสแกนพื้นที่รอบๆเพื่อบ่งบอกให้เห็นจุดสำคัญต่างๆให้ชัดเจนขึ้น โดยเมื่อสแกนตามจุดสีขาวแล้วก็จะเห็นเป็นสีต่างๆคือ 
- วงกลมสีส้มคือทางเข้าออกนั่นคือประตูทั้งหมดที่ออกได้และยังไม่ได้ซึ่งประตูที่ยังออกไม่ได้ก็จะต้องใช้คีย์การ์ด , Lock pick หรือ ค้อนในการงัดไม้เพื่อเปิด โดยจะมีสัญลักษณ์เป็นวงกลมสีส้มที่มีตัว X สีดำด้านใน 
- สีน้ำเงิน คือไอเทมต่างๆที่มีทั้งที่ตกตามพื้น ในกล่องต่างๆและตามศพของซอมบี้ที่ตาย 
- สีเขียวคือเป้าหมายหลักที่ต้องทำ   
4. ใช้เป็นเรดาร์ในการหาตำแหน่งซอมบี้ 
3. สแกนถอดรหัสประตู 

สำรวจใน Safe House ให้ทั่วๆก็จะพบทั้งลังเก็บของและเตียงนอนที่เป็นที่พักผ่อนเพื่อฟื้นพลังชีวิตและเป็นการเซฟเกมในตัวด้วย โดยการเซฟเกมนั้นนอกจากจะเซฟได้ด้วยการนอนในที่นอนแล้วยังมี Auto Save ที่จะเซฟให้อัตโนมัติในทุกครั้งตามทางเข้าออกของพื้นที่ต่างๆด้วย
-จากนั้นเข้าไปที่จุดเป้าหมายสีเขียวด้านในเพื่อเปิดเครื่องปั่นไฟทำให้ในห้องที่ไฟฟ้าใช้งานอีกครั้ง เมื่อเดินมาที่โต๊ะควบคุมกล้องวงจรปิดก็จะพบว่ามันเป็นจุด Mission Brief หรือจุดรับภารกิจหลักทั้งหมดของเรื่องนั่นเอง ซึ่งแน่นอนว่าคนที่จะเป็นคนที่คอยสั่งการให้ทำสิ่งต่างๆก็คือ The Prepper ชายปริศนาที่ช่วย Matthew ไว้นั่นเอง



- ที่โต๊ะรับภารกิจ งานแรกที่ The Prepper  ให้ทำก็คือเป้ใบสำคัญที่เขาเรียกว่า B.O.B ที่ย่อมาจาก “Bug – out Bag.” ซึ่งด้านในมันมีไอเทมสำคัญต่างที่จำเป็นต้องใช้ แต่ตอนนี้มันอยู่ที่หลังของซอมบี้ตัวนึงที่กำลังตะเกียดตะกายติดอยู่ที่หน้าต่างด้านในตึก ซึ่ง Matthew  ต้องไปเอาเป้นั่นมาใช้
-เมื่อรับภารกิจแรกแล้วก็ออกทางประตูซ้ายของห้องไปด้านในตัวตึก ระหว่างทาง The Prepper จะสอนวิธีใช้เรดาร์ในการสแกนพื้นที่เพื่อหาตำแหน่งซอมบี้ด้วยการกด Y ก็จะเห็นตำแหน่งของซอมบี้กระพริบเป็นสีแดง ครั้งแรกนี้จะเป็นการหาตำแหน่งซอมบี้เพื่อเข้าไปหาตัวมันแต่ต่อไปการใช้เรดาร์จะเพื่อมองเห็นตำแหน่งของซอมบี้ในพื้นที่เพื่อหลบเลี่ยงมัน เดินเข้าไปที่จุดแดงในแผนที่จะพบซอมบี้เป้าหมายติดอยู่ที่หน้าต่าง เก็บไม้คริกเก็ตที่วางอยู่ข้างๆมาใช้ฟาดมันให้เละแล้วหยิบเป้ของมัน


**  เรียนรู้การใช้เป้ ** ด้วยการกดปุ่ม back เพื่อดูของภายในเป้ ซึ่งมันจะเป็นเมนูไอเทมไปในตัวด้วย เพราะจะสามารถเซ็ทอาวุธและไอเทมต่างๆไว้ที่ปุ่มลัดเพื่อใช้งานที่ปุ่มทิศทางได้ด้วย  และข้อควรจำคือ ทุกครั้งที่จะเปิดเอาของจากเป้ตัวละครจะอยู่ในสภาพเรียลไทมคือ สามารถได้รับอันตรายได้หากมีศัตรูเข้ามาทำร้าย ซึ่งจำเป็นต้องหาที่ปลอดภัยในการนั่งเปิดเป้ให้ดีด้วย 




เมนูในเป้ประกอบด้วย
1.My Resources คือช่องไอเทมในเป้ที่สามารถเก็บได้ เริ่มจาก 14 ช่องแต่สามารถอัพเกรดเพิ่มจำนวนได้อีก
2.My Gear คือ ช่องเก็บคีย์ไอเทมทั้งหมดซึ่งไม่เกี่ยวกับจำนวนช่องของไอเทมปกติ
3.My Mission คือ ภารกิจที่กำลังทำ เป็น Objective ที่บอกถึงสิ่งที่กำลังทำอยู่ซึ่งมันจะมีเป้าหมายสีเขียวให้เห็นในแผนที่อยู่แล้ว
4. My ID รายละเอียดของตัวละครที่เล่นอยู่ ทั้งเวลาที่อยู่รอด จำนวนการฆ่าพวกติดเชื้อ 
5.My Skill คือ รายละเอียดการอัพเกรดอาวุธ
6.My Map คือแผนที่ที่ตัวละครเขียนขึ้นเองจากเส้นทางที่ถูกเปิดขึ้นในแผนที่ตอนเดินทาง 
7.My Notebook แฟ้มเก็บไฟล์ต่างๆที่เจอ
8. Survivor Guide รายละเอียดแนะนำระบบการเล่นเกม 

-จากนั้นกลับมาที่ Safe house แล้วดูที่มอนิเตอร์เพื่อรับภารกิจต่อไป โดยครั้งนี้ The Prepper   จะบอกให้ไปเปิดระบบการเชื่อมต่อของกล้องวงจรปิด ( CCTV) ตามจุดต่างๆของเมืองซึ่งความสำคัญของภารกิจนี้ก็คือ ทุกครั้งเมื่อคุณไปยังสถานที่ใหม่ๆจะไม่มีแผนที่ขึ้นมาให้เห็นจนเมื่อคุณไปพบกล่องควบคุมกล้องวงจรปิดของพื้นที่นั้นและทำการเชื่อมต่อมันแล้วถึงจะมีแผนที่ขึ้นมาให้เห็นเพื่อสะดวกในการเดินทางนั่นเอง โดยกล่องรับสัญญาณแรกที่ใกล้ที่สุดก็คือที่ Brick Lane Markets
- รับภารกิจแล้ว เดินไปตามจุดหมายสีเขียวโดยมุดผ่านประตูเป้าหมายแต่จะพบว่าประตูมันล็อกซึ่งต้องใช้ Key card ในการเปิด โดยเดินไปตามจุดหมายใกล้ๆ ปีนหน้าต่างเข้าไปจัดการซอมบี้ซะ จากนั้นเปิดประตูเข้าไปสำรวจตู้เก็บของจะได้ Key card มา แล้วเอากลับไปเปิดประตูเดิมที่เปิดไม่ได้ เข้าไปตามทาง เข้าห้องควบคุมทางซ้ายสำรวจเก็บไอเทมต่างๆมาให้หมดแล้วค่อยปีนลงกระไดไปเก็บไอเทม Fire Speed Upgrade ที่ใช้สำหรับอัพเกรดปืนมาแล้วออกประตูไปได้เลย




 Brick Lane Markets  ตลาดนัดบนถนน Brick Lane ที่โด่งดังของลอนดอน ที่มักจะคราคร่ำไปด้วยผู้คนมากมายที่มาจับจ่ายซื้อขายของกันอย่างเนื่องแน่นในทุกวันอาทิตย์ กลับกลายเป็นถนนแห่งความสยดสยองของฝูงซอมบี้กินคน เมื่อเข้ามาแล้ว จะเจอประตูล็อคอยู่จัดการสแกนพื่อเปิดประตู เดินเลาะทางขวามา มองไปทางซ้ายจะเห็นไฟสีแดงกระพริบเข้าไปจะพบกล่องควบคุมกล้องวงจรปิดอยู่ เมื่อทำการสแกนแล้วก็จะเป็นการเปิดแผนที่ใน Brick Lane Markets นี้ทั้งหมด แล้วเดินไปที่จุดหมาย ระหว่างจะเห็นประตูที่มีรูปบ้านอยู่ นั่นหมายถึงในนี้จะมีท่อซึ่งเป็นทางลัดกลับไป Safe House ได้

โดยแต่ละพื้นที่ก็จะมีท่อทางลัดกลับ Safe House หลายจุดยิ่งเปิดได้มากเท่าไหร่ก็จะมีจุดกลับ Safe House หลายที่มากขึ้นด้วย ซึ่งตอนนี้จะกลับหรือไม่ก็สุดแล้วแต่เพราะภารกิจยังไม่จบ



-จากนั้นจึงเปิดประตูใกล้ๆไป ( อีกประตูจะยังเปิดไม่ได้ต้องมี lock pick ก่อน ) เมื่อเปิดประตูออกไปปีนบันไดทางขวาขึ้นไปพลุมาใช้ แล้วค่อยเดินไปที่จุดหมายจนเจอประตูทางเข้า ขณะที่กำลังจะเข้าไปสัญญาณเตือนภัยจะดังขึ้นทำให้ฝูงซอมบี้ออกมามากมายทั้งด้านหน้าและหลัง จัดการแค่ซอมบี้ที่ทางเข้าให้เร็วที่สุดหรือใช้พลุขว้างล่อพวกมันไปทางอื่นแล้วรีบวิ่งเข้าประตูไปในซุปเปอร์มาร์เก็ตได้เลย
- เข้าไปในห้องต่อไปจะพบประตูถูกปิดด้วยแผ่นไม้อยู่ เข้าไปที่จุดหมายในห้องด้านในเก็บ ค้อน มาก่อน ซึ่งมันจะเป็นคียไอเทมที่ทำให้สามารถงัดประตูที่มีไม้กั้นอยู่ออกให้เปิดได้ (กด B ใช้และกด A รัวๆจนกว่าเกทจะเต็ม)  เข้ามาแล้วจัดการซอมบี้แล้วเก็บไอเทมมาให้หมดแล้วเดินลงไปที่ห้องใต้ดินไปต่อ จะพบกล่องควบคุมกล้องวงจรปิดอยู่อีกกล่อง ทำการสแกนเพื่อเปิดแผนที่ให้หมด เก็บไอเทมให้หมดแล้วกลับขึ้นมา จากนั้นเดินไปออกอีกประตูนึงของซุปเปอร์มาร์เก็ตที่มีไม้กั้นอยู่กลับออกมาด้านนอก จะเริ่มเจอซอมบี้ชนิดใหม่ที่ร้องเสียงเป็นอาวุธ  จัดการมันด้วยปืนจะดีที่สุด จากนั้นก็กลับไปลงท่อกลับมาที่ Safe House ได้เลย
-  เข้าไปเก็บไอเทมมาให้หมดแล้วก็ให้มาสำรวจที่มอนิเตอร์ จะเห็นพวกซอมบี้จะบุกมามากมายทั้ง 3 ทางของพื้นที่ด้านในตึก The Prepper  เลยสั่งให้ออกไปจัดการพวกมันให้หมด
-  กลับไปสำรวจที่โต๊ะมอนิเตอร์อีกครั้ง The Prepper  จะให้ภารกิจใหม่มาโดยบอกให้เดินทางไปพบที่พระราชวัง Buckingham  ต่อ

 เป้าหมายครั้งนี้ The Prepper  บอกเป็นนัยๆแค่ว่า เขาหวังว่าจะได้อาวุธและเสบียงต่างๆเพิ่มที่นั่น 


-  เข้าไปไปที่จุดหมายสีเขียวที่ขึ้นมาเพื่องัดประตูเพื่อเข้าไปเอา Key Card  มาก่อนแล้วจากนั้นค่อยไปที่ประตูชัตเตอร์ทางออกที่เป็นเป้าหมายเพื่อออกไปด้านนอกต่อ ใช้ปืนกลหนักที่ติดอยู่ยิงซอมบี้ข้างล่างแล้วเดินไปทางซ้ายไปตามทางที่จุดหมายขึ้นมาจนสุดทางแล้วใช้ Key Card เปิดประตูเข้าไปจะมาออกที่สถานีรถไฟใต้ดิน เดินเข้ารถไฟไปออกอีกฝั่งนึงเข้าประตูและพบทางลงไปชั้นใต้ดิน เดินผ่านเข้าไปเรื่อยๆจนถึงประตูทางออกมาจะมาที่ส่วนของ Victoria Memorial ….


เส้นทางใต้ดินที่อยู่ข้างใต้ของประติมากรรม Victoria Memorial ที่ตั้งตระหง่านอยู่ในสวนด้านหน้าพระราชวัง Buckingham ที่เคยเป็นแหล่งที่มีนักท่องเที่ยวมากมายเข้าไปถ่ายรูปกันเสมอ แต่ตอนนี้แค่โผล่ขึ้นไปมองกยังไม่คุ้มค่าที่จะเสี่ยงแล้ว



Victoria Memorial  อนุสรณ์สถานที่สร้างถวายพระราชินีวิคตอเรีย โดย George V และลูกพี่ลูกน้องของเขา Wilhelm II ของเยอรมัน ซึ่งเป็นหลานชายทั้งสองอาวุโสของพระราชินีวิคตอเรีย สร้างโดยประติมากรที่ชื่อ Sir Thomas Brock เริ่มก่อสร้างในปี 1911 และสร้างแล้วเสร็จในปี 1924 …

-จากนั้นเดินไปตามท่อจนถึงทางแยก ทางซ้ายประตูจะยังไปไม่ได้ เดินลงช่องไปที่ทางแยกทางขวา ปีนบันไดขึ้นไปเรื่อยๆ จนเจอทางแยก 3 ทาง
- ทางขวายังไปไม่ได้ ไม่ต้องไปสนใจ
- ทางซ้าย เข้ามาจะเจอท่อทางลับกลับ Safe House เปิดฝารอไว้ก่อนหรือจะแวะกลับไปเก็บของก่อนก็ได้
- ย้อนกลับมาที่ทางแยก ขึ้นบันไดวนไปด้านบน จะออกมาที่ลานตู้คอนเทนเนอร์ และจะพบว่าเริ่มมีฝนตกลงมาเพื่อเพิ่มให้บรรยากาศมันสยดสยองมากขึ้นไปอีก เข้าไปงัดประตูตู้คอนเทนเนอร์เข้าไปจะพบกล่องควบคุมกล้องวงจรปิด ทำการสแกนเพื่อเปิดแผนที่ซะ สำรวจในห้องเก็บปืน Rifle กระสุน และไอเทมมาให้หมด ขากลับออกมาจากตู้คอนเทรนเนอร์จะพบฝูงซอมบี้บุกเข้ามามากมายบุกเข้ามาพร้อมการเปิดตัวซอมบี้ทหารที่ใส่หมวกกันน็อคที่สุดแสนจะอึดด้วย จัดการให้หมด
- จากนั้นเดินไปที่ประตูปรากฏว่ามันล็อคซึ่งต้องใช้ lock pick มาไขยังเปิดไม่ได้ เดินต่อไปที่จุดหมายสีเขียวที่ขึ้นมาก่อน จะมาโผล่ที่หน้าพระราชวัง Buckingham  เดินไปด้านหลังจะมีตู้เก็บกระสุนและระเบิดมือให้เก็บ และสำรวจดูแถวนั้นจะพบ lock pick ให้เก็บด้วย จากนั้นขากลับฝูงซอมบี้มากมายจะเริ่มบุกเข้ามา รีบไปที่ป้อมปืนกลแล้ว จัดการยิงถล่มพวกมันให้หมด แล้วกลับไปที่ประตูที่ต้องใช้ Lock pick เปิดออก
- เข้ามาแล้วเก็บไอเทมให้หมดแล้วลงท่อไปด้านล่าง เดินไปตามทางระบายน้ำใต้ดิน เดินไปจนถึงทางแยกซ้าย –ขวา ไปทางซ้ายก่อน ข้ามคูไปเพื่อออกมาด้านนอก เดินไปทางซ้ายจะเจอเต็นท์ สำรวจแถวๆ นี้ให้ทั่ว แล้วงัดเข้าประตูที่มีไม้กั้นอยู่ไปต่อ เก็บของแถวๆหนองน้ำนี้ ให้หมด โดยมุดท่อไปจนสุดทางเราจะเจอกล่องควบคุมกล้องวงจรปิด จัดการแสกนเพื่อเปิดแผนที่ทั้งหมด จากนั้นให้กลับสู่เส้นทางเดิมแล้วไปตามทางแยกทางขวาต่อ เดินตามทางที่จุดหมายสีเขียวที่ขึ้นมา จนเข้ามาถึงแค้มป์หลบภัย สำรวจกล่องควบคุมกล้องวงจรปิดเพื่อสแกนปิดแผนที่ซะก่อน จากนั้นเดินไปตามทางเล็กๆลงไปด้านล่าง ตามทางที่จุดหมายสีเขียวที่ขึ้นมาในแผนที่ จนเข้าไปในส่วนชั้นใต้ดินของพระราชวัง Buckingham..



Buckingham Palace Underground เส้นทางใต้พระราชวัง Buckingham นั้นถือว่าลึกลับซับซ้อนมากที่สุดแห่งหนึ่งในลอนดอน เส้นทางต่างๆก็เชื่อมต่อกับเส้นทางของรถไฟใต้ดิน London underground  ที่มีชื่อเสียงรู้จักกันไปทั่ว 




โดยยังมีเส้นทางลับอีกมากมายที่ยังไม่ได้รับอนุญาตให้บุคคลทั่วไปเข้าไปสำรวจ ทำให้หลายเส้นทางยังคงเป็นความลับอยู่จนถึงทุกวันนี้


- เมื่อเข้ามาที่ชั้นใต้ดินของพระราชวัง Buckingham แล้ว เดินไปตามทางจนถึงประตูทีต้องแสกนเพื่อเปิดเข้าไป สำรวจเก็บไอเทมต่างๆมาให้หมดผ่านช่องแคบๆ เข้าไปแล้วผนังเป็นรูปอีกา ซึ่งเป็นตราสัญลักษณ์ของกลุ่ม Raven นั่นเอง ผ่านลงไปจนถึง ห้องเซฟ  ในนี้จะมีประตูที่สามารถ Lock pick ไขเข้าไปได้ เดินเข้าไปจะได้ยินเสียงของชายคนนึงที่ดังผ่านเครื่องขยายเสียงออกมาทันที่ที่เข้าไป


Dr. Knight – เฮ้ คุณนะ คุณเข้ามาที่นี่ได้ยังไง ? แต่ช่างเหอะ ดูคุณไม่ใช่พวกติดเชื้อนนั่นก็โอเคแล้ว บางที่คุณอาจช่วยผมได้ เอาไว้อธิบายที่หลังแล้วกันนะ ผมชื่อ Dr. Peter Knight ไม่ต้องห่วงนะ ฮ่าๆ ไว้ใจได้  ผมพูดออกมาจากเครื่องกระจายเสียงจากในห้องทดลองด้านในนะ นี่คุณมาตามหาผมแน่ๆเลย ใช่มั๊ย ? ที่นี่มันซับซ้อนหน่อยนะ คุณหาทางเข้ามาเจอกันหน่อยแล้วกันระวังพวกติดเชื้อด้วยละ เมื่อก่อนยังมีพวกทหารคอยคุ้มกันอยู่ ตอนนี้ไม่มีเหลือแล้วละ 

- จากนั้นก็เดินลงไปตามทางจนถึงหน้าทางเข้าห้องทดลองชั้นล่าง คุยจบเขาจะปลดล็อคประตูให้ เข้ามาในห้องโถงสำรวจเก็บไอเทมให้ทั่ว ตอนนี้จะมีประตูเดียวที่เปิดได้ เข้าไปตามทางนี้ ตามทาง จนพบทางลงทางซ้ายที่ลงบันไดมีห้องน้ำข้างล่างเก็บไอเทมให้หมด จากนั้นให้เดินตรงไปตามทางจนเจอประตูที่เปิดเข้าไปจนพบ ห้องทดลองของ Dr. Knight




Dr. Knight – โอเค เข้ามาเลย ยินดีต้อนรับนะ คิดซะว่าเป็นบ้านตัวเองก็แล้วกัน แต่อย่าแตะต้องอะไรมั่วๆละ ส่วนใหญ่มันเป็นการทดลองของผมนะมันสำคัญมากๆด้วย ขอโทษทีที่ผมออกไปต้อนรับคุณแบบใกล้ชิดไม่ได้นะ แต่เชื่อผมเหอะมันดีต่อเราทั้งคู่แน่นอน ตอนนี้ผมกำลังยุ่งเลย กำลังทดลองหาวัคซีนป้องกันไวรัสอยู่ ใกล้ได้เรื่องแล้วละ จริงๆมันควรจะเสร็จไปตั้งนานแล้วแหละถ้าไอ้พวกทหารงี่เง่านั้นไม่มาวุ่นวายซะก่อน แล้วก็ถ้าไม่เป็นการรบกวน บางทีคุณอาจจะช่วยงานผมได้นะ คือ ตอนนี้ผมต้องการข้อมูลสำคัญในหนังสือ De Rimedi Secreti ของ Konrad Gesner เพราะข้อมูลของ John Dee ที่ผมมีก่อนหน้านี้มันแค่ฉบับก็อปปี้เท่านั้น หนังสือเล่มนั้นมันจะอ้างอิงข้อมูลอะไรหลายๆอย่างของ John Dee ได้เยอะเลย และถ้าผมเดาไม่ผิดมันต้องอยู่ในห้องสมุดของพระราชวังที่ชั้นบนแน่นอน มีลิฟต์ตัวนึงที่จะพาคุณขึ้นไปที่นั่นด้วย 

-จากนั้นก็เดินไปตามทางที่จุดหมายสีเขียวขึ้นมาจนพบลิฟต์ แล้ว Dr. Knight จะเปิดลิฟต์ให้แล้วขึ้นลิฟต์ต่อไปยังส่วนบนต่อซึ่งเป็นพระราชวัง Buckingham ส่วนใน




พระราชวัง Buckingham ที่อยู่อย่างเป็นทางการของควีนอลิซาเบธและบรรดาเชื้อพระวังของอังกฤษ  สร้างขึ้นสำหรับดยุคแห่งบัคคิงแฮมในปี 1705 เดิมครั้งแรกเรียกว่า Buckingham House จนมาถึงปี 1761 พระเจ้าจอร์จที่ 3 และ Queen Charlotte ก็ใช้เป็นที่ประทับ และถูกเรียกกันติดปากในตอนนั่นว่า The Queen House จนในที่สุดในปี 1837ก็กลายเป็นพระราชวังอย่างเป็นทางการในยุคของของสมเด็จพระราชินีวิกตอเรีย และถูกขยายเพิ่มเนื้อที่ให้ใหญ่ขึ้นให้สมพระเกรียติ โดยสถาปนิก John Nash and Edward Blore ใช้เวลาสร้าง 3 ปีก่อนจะเปลี่ยนชื่อเรียกอย่างเป็นทางการว่า Buckingham Palace …

- เข้ามาแล้วเก็บไอเทมจอฃดหมายในห้องมาแล้วเข้าด้านในจะมีทางขึ้นข้างบน  ขึ้นมาก็ให้ระวังซอมบี้ชนิดใหม่ ที่พ่นน้ำลายพิษเป็นอาวุธได้ สำรวจให้ทั่วๆ แล้วขึ้นมาตามทางด้านบน ลุยไปจนถึงทางที่มีไฟไหม้ ขึ้นบันไดทางซ้ายเก็บของไปตามทาง เดินไปจนเจอที่ปีนบันไดลงมาด้านล่าง ไปตามทางเรื่อยๆ ฝ่าดงซอมบี้จนเข้ามาด้านในสุด จะเป็นห้องทำงาน ค้นให้ทั่ว จนเจอ หนังสือ De Rimedi Secreti ที่ค้นหาอยู่



- จากนั้นช่องลับจะเปิดออกมา มุดเข้าไปด้านใน มองไปที่มุมด้านบนของห้องจะพบกล่องควบคุมกล้องวงจรปิดอยู่ เข้าไปสแกนเพื่อเปิดแผนที่ซะก่อน จากนั้นมุดเข้าช่องลับไปต่อ มุดเข้าไปให้ไปทางขวาต่อเข้าไปเก็บไอเทมอัพเกรดเป้ให้มีช่องเก็บของได้มากขึ้น จากนั้นค่อยกลับไปด้านซ้าย ปีนบันไดลงมาเก็บ หน้าไม้ มาใช้ แล้วเดินไปจนสุดทางจะมาออกที่ห้องโถงบันไดกลาง แล้วค่อยเดินกลับไปที่ลิฟต์เพื่อเอาหนังสือไปให้ Dr. Knight  ที่ห้องทดลอง




ระหว่างทาง Dr. Knight   จะบอกตลอดว่า หนังสือเล่มนี้จะบอกถึงข้อมูลที่ทำให้วัคซีนที่เขากำลังคิดค้นขึ้นได้ผลสำเร็จ หลังจากที่เขาเคยทำลองผิดพลาดจนทำให้เมียเขาติดเชื้อจนตายมาแล้ว ก่อนที่  Dr. Knight  จะฉีดยาตัวอย่างที่เขาทำขึ้นแต่ยังไม่สมบรูณ์เพื่อประทังอาการติดเชื้อของเขา ซึ่งทันทีที่เอาหนังสือ De Rimedi Secreti มาถึงมือเขา ทำให้ Dr. Knight  ดีใจอย่างมากที่โอกาสที่จะแก้ปริศนาแห่ง “เลือดสีดำ” ของอาการติดเชื้อของไวรัส ANP192  ลงได้สำเร็จ 

- จากนั้นช่องลับจะเปิดออกมา มุดเข้าไปด้านใน มองไปที่มุมด้านบนของห้องจะพบกล่องควบคุมกล้องวงจรปิดอยู่ เข้าไปสแกนเพื่อเปิดแผนที่ซะก่อน จากนั้นมุดเข้าช่องลับไปต่อ มุดเข้าไปให้ไปทางขวาต่อเข้าไปเก็บไอเทมอัพเกรดเป้ให้มีช่องเก็บของได้มากขึ้น จากนั้นค่อยกลับไปด้านซ้าย ปีนบันไดลงมาเก็บ หน้าไม้ มาใช้ แล้วเดินไปจนสุดทางจะมาออกที่ห้องโถงบันไดกลาง
- แล้วค่อยเดินกลับไปที่ลิฟต์เพื่อเอาหนังสือไปให้ Dr. Knight  ที่ห้องทดลอง เมื่อเขาได้หนังสือที่ต้องการแล้ว Dr. Knight  ก็จะอัพเกรด Prepper Pad ให้มันสามารถสแกนหาสิ่งมีชีวิตรวมถึงซอมบี้ได้แบบอัตโนมัติโดยไม่ต้องคอยกดสแกนให้เมื่อยแล้วแล้ว พร้อมกับได้ไอเทม เข็มฉีดยา มาใช้ด้วย

** การใช้เข็มฉีดยา **
ก่อนอื่นต้องสแกนหาซอมบี้ที่อยู่ตัวเดียวทีนี่เมื่อเข้าไปหามันจะพบว่ามันจะเป็นสีเขียว ให้จัดการมันซะ แล้ว ใช้เข็มฉีดยา ดูดเลือดซอมบี้มาเก็บไว้ ซึ่งมันจะมีประโยชน์ตอนโดนซอมบี้จับได้ เพราะเมื่อใช้เข็มฉีดยากับมันๆก็จะหยุดเคลื่อนไหว แล้วก็จะสามารถหนีได้อย่างปลอดภัย ถ้าใช้ไปจนหมดหลอดแล้ว ก็หาซอมบี้สีเขียวมาดูดเลือดใหม่มาอีกได้ 




Dr. Knight   - ยังเหลือข้อมูลที่ผมต้องการอีกอย่างคือหนังสือ “Studium Contagione” ที่เป็นบันทึกเกี่ยวกับข้อมูลการติดเชื้อทั้งหมดที่ John Dee เขียนขึ้นมาเองเลย ตอนนี้มันอยู่กับ Ron Freedman คนของกลุ่ม Raven ที่อยู่ของเขาคือที่ บาร์ที่ชื่อ Ron Freedma’s Flat ที่ถนน Brick lane คุณต้องไปเอามาให้ผมโดยด่วนนะ

- ทำธุระในห้องให้เสร็จแล้วค่อยลงท่อ กลับไปที่เขต Brick lane Market  อีกครั้ง เพื่อไขประตูซ้ายมือที่เคยเปิดไม่ได้ด้วย Lock pick ที่ได้มาใหม่ เข้าไปเก็บไอเทมต่างๆมาให้หมดก่อนแล้วจากนั้นค่อยออกไปตามที่จุดหมายสีเขียวที่ขึ้นมา มุดรั้ว เลี้ยวซ้ายเข้าประตูไปด้านใน ลงบันไดไปข้างล่าง เข้าไปตามทางด้านในผ่านสถานีรถไฟดินไปตามทางจนถึงบันไดทางขึ้น ปีนขึ้นไปจะมาโผล่ที่ Brick Lane Flats  แหล่งบันเทิงบนถนน Brick Lane ที่เต็มไปด้วยผับบาร์ดีๆมากมาย ที่ตอนนี้แทบจะเรียกได้ว่ามีแต่ซอมบี้ที่เข้ามาเที่ยว
-จากนั้นไต่ลัง ขึ้นนั่งร้านและข้ามกำแพง มุดรั้วเข้ามาจนถึงประตูทางขวาใช้ Lock Pick ไขเปิดเข้าไป เก็บกระเป๋ายาและ ไอเทมอัพเกรดปืนมาแล้วไปเข้าประตูต่อไป จากนั้นฝูงซอมบี้จะแห่งเข้ามามากมาย จัดการพวกมันให้หมด แล้วเดินขึ้นทางลาดเลี้ยวซ้ายปีนลังขึ้นข้างบน ทางขวาจะมีท่ออากาศอยู่ให้มุดเข้าไปในนั้นจะมีกล่องควบคุมกล่องวงจรปิดอยู่ เข้าไปสแกนเปิดแผนที่ให้หมดซะ แล้วค่อยกลับมาด้านที่ห้องด้านบน เข้าประตูที่มีไม้กั้นไป เก็บไอเทมให้หมด ด้านในจะพบประตูที่ต้องใช้ Password ในการเปิดตอนนี้ยังเปิดไม่ได้ เดินผ่านไปก่อนได้เลย
- งัดเข้าประตูไปแล้วปีนข้ามไปอีกโกดัง จัดการซอมบี้ให้หมด ลงมาแล้วจะเจอประตูห้องที่ล็อกอยู่ ซึ่งสำรวจดูแล้วว่ามันจะต้องเข้าจากด้านบน เดินไปที่บันไดปีนขึ้นตามทาง จนมาลงที่เพดานของห้องที่ผ่านมา เก็บไอเทมในห้องให้หมดแล้วเปิดประตูกลับออกมา เดินลงมาด้านล่างจะเจอห้องท่อทางลับกลับ Safe  House จัดการเปิดท่อปลดล็อกเอาไว้ซะก่อน แล้วค่อยลุยฝูงซอมบี้ไปต่อจนถึงลิฟต์ทางขวา จะลงลิฟต์มาที่ Ron Freedma’s Flat ต่อได้

 - เข้ามาที่ Ron Freedma’s Flat บาร์ชื่อดังในย่าน Brick Lane Flats  ที่นี่จะเป็นห้องแคบๆที่เต็มไปด้วยซอมบี้ซึ่งทำให้มันอันตรายสุดๆ จัดการซอมบี้ในห้องครัวให้หมด จากนั้นมุดช่องระบายอากาศเข้าไปในผับจะพบปาร์ตี้ซอมบี้ ห้ามไปปิดเพลงของมันเด็ดขาด ใช้ระเบิดขว้างไปกลางวงปาร์ตี้ของพวกซอมบี้ก็จะจบลงทันที ลุยผ่านห้องนอน มุดช่องระบายอากาศต่อไปจนถึงห้องขนาดใหญ่ จัดการซอมบี้ซะให้หมด สแกนกล่องควบคุมกล้องวงจรปิดเพื่อเปิดแผนที่ซะ แล้วผลักตู้ออกจะพบทางไปต่อ

ในห้องทำงานที่มีพรมแดง จัดการซอมบี้ด้านในให้หมด สำรวจเปิดโคมไฟที่โต๊ะจะเห็นรหัสขึ้นมา (1527) (อาจแรนด้อมเป็นตัวเลขอื่น)  แล้วเอาไปใส่ที่เซฟด้านหลัง เก็บหนังสือ “Studium Contagione” มา

- มุดช่องระบายอากาศไปต่อที่ห้องครัวต่อแล้วมุดช่องระบายอากาศต่อไปอีกก็จะตกลงมาข้างล่าง จัดการซอมบี้ให้หมดแล้วเดินไปตามทางจะมาออกที่ Palace Underground เส้นทางชั้นใต้ดินของพระราชวัง Buckingham อีกครั้ง

- เดินตามทางเส้นทางชั้นใต้ดินของพระราชวัง Buckingham มาจนเจอประตูที่ต้องใส่รหัส ไปสแกนดูที่รูปใกล้ๆ ซึ่งยังไม่สามารถถอดรหัสได้ ลองสแกนที่พื้นดูจะเห็นเส้นสีขาวขึ้นมา เดินตามเส้นนี้ไป จนถึงบันไดขึ้นไปแล้วเดินตามเส้นหารูปทั้ง 4 ให้เจอ แล้วขึ้นไปด้านบนกลับไปหา Dr. Knight ที่ห้องทดลองเอาหนังสือให้เขา



บันทึก “Studium Contagione” นั้นเผยให้เห็นข้อมูลของจดหมายฉบับสุดท้ายที่ John Dee เขียนถึง Francis Bacon  ผู้ช่วยของเขาที่เป็นคนของกลุ่ม Raven ซึ่งเป็นรายละเอียดของ Panacea Code หรือวัคซีนรักษาการติดเชื้อนั่นเอง ซึ่งหากหาจนหมดที่เหลือมาให้ครบทั้งหมดก็จะสามารถผลิตวัคซีน Panacea สำหรับใช้ยับยั้งการแพร่เชื้อได้แน่นอน 

- จากนั้น Dr. Knight จะให้ไปหาจดหมายของ John Dee ทั้ง 7 ฉบับ มาให้เขา โดยจดหมายในกล่องจะเป็นจดหมายฉบับแรก จากนั้นกลับลงท่อกลับมาที่ Safe  House อีกครั้ง กลับมาสำรวจที่หน้าจอมอนิเตอร์ จะเห็นว่าพื้นที่ไหนที่มีรูปจดหมายขึ้นมาแสดงว่ามีจดหมายให้เก็บ

- เดินไปตามทางที่จุดหมายขึ้นมาจนถึง Victoria Memorial  ไปต่อจนมาออกแถวๆ ท่อน้ำทิ้ง เดินออกประตูซ้ายมาที่เต้นท์กองขยะริมน้ำ จะมี keycard อยู่ เก็บมา แล้วมาเปิดประตูในท่อ จะมี จดหมายของ John Dee ฉบับที่ 2 อยู่กับระเบิด C4 เก็บมาให้หมด

ขณะกำลังเดินทางผ่านมายังท่อระบายน้ำใน Green Park ก็จะได้ยินเสียงวิทยุแทรกเข้ามาซึ่งเป็นเสียงของ Sondra Kelley หัวหน้ากลุ่ม 'Ravens of Dee' ที่ประกาศเพื่อส่งข่าวบอกผู้รอดชีวิตที่ได้ยินว่าให้มาที่หอคอยลอนดอนได้ทันทีหากต้องการจะหนีออกจากที่นี่เพราะกำลังมีเฮลิคอปเตอร์เข้ามารับ “The Prepper” ที่ได้ยินสัญญาณวิทยุก็ถึงกับแสดงความไม่พอใจออกมาทันที โดย “The Prepper” แปลกใจที่ Sondra นั้นยังรอดอยู่เหมือนกัน  ก่อนที่เขาจะพยายามบอกว่า Sondra และกลุ่ม Raven ของเธอพยายามจะปล้นทุกอย่างไปจากเขาฉะนั้นจึงต้องระวังเธอไว้ให้ดี แน่นอนว่าไม่ว่าคำพูดของ “The Prepper” จะน่าเชื่อถือหรือไม่ แต่อยากน้อยแวะเข้าไปดูที่จุดที่ ฮ. จะมาหน่อยก็คงจะดีเหมือนกัน

- จากนั้นเดินออกมาที่กองขยะริม ไปตามจุดหมายที่ขึ้นมา  เข้าไปวางระเบิด C4 เพื่อเปิดทางแล้วเดินต่อจนมาออกที่ริมแม่น้ำเทมส์ที่เป็นที่ตั้งของ Tower of London




หอคอยแห่งลอนดอน (Tower of London ) เป็นพระราชวังหลวงและป้อมปราการตั้งอยู่บนฝั่งแม่น้ำเทมส์ในกรุงลอนดอนในอังกฤษ เป็นพระราชวังที่เดิมสร้างโดยพระเจ้าวิลเลียมที่ 1 แห่งอังกฤษ เมื่อปี ค.ศ. 1078เป็นสถาปัตยกรรมแบบโรมาเนสก์ พระราชวังเป็นรู้จักกันในนามว่า “หอคอยแห่งลอนดอน” ตัวปราสาทตั้งอยู่ภายในโบโรแห่งทาวเวอร์แฮมเล็ทส์และแยกจากด้านตะวันออกของนครหลวงลอนดอน  ด้วยลานโล่งที่เรียกว่าเนินหอคอยแห่งลอนดอน หรือ “ทาวเวอร์ฮิล”  หอคอยแห่งลอนดอนมักจะรู้จักกันในการเกี่ยวข้องกับหอขาว (White Tower) ซึ่งแต่เดิมเป็นหอสีขาวที่สร้างโดยพระเจ้าวิลเลียมที่ 1 แห่งอังกฤษในปี ค.ศ. 1078 แต่กลุ่มสิ่งก่อสร้างทั้งหมดของหอคอยแห่งลอนดอนตั้งอยู่รอบวงแหวนสองวงภายในกำแพงและคูป้องกันปราสาท ตัวหอคอยใช้เป็นป้อม พระราชวังของพระมหากษัตริย์ และที่จำขังโดยเฉพาะสำหรับนักโทษที่มียศศักดิ์สูงเช่นพระราชินีนาถอลิซาเบธที่ 1ก็เคยทรงถูกจำขังในหอคอยโดยพระราชินีนาถแมรี และยังเป็นที่สำหรับประหารชีวิตและทรมาน คลังเก็บอาวุธ ท้องพระคลัง สวนสัตว์ โรงกษาปณ์หลวง หอเก็บเอกสาร หอดูดาว และตั้งแต่ปี ค.ศ. 1303 เป็นที่เก็บรักษามงกุฎและเครื่องราชาภิเษกของสหราชอาณาจักร




หอคอยแห่งลอนดอนคนเชื่อกันอีกว่า ผีดุ เพราะมีคนเด่นคนดังในอดีตหลายคนโดนประหารในป้อมปราการนี้วิธีประหารมีสองอย่างคือ ตัดคอด้วยขวานและเอาเชือกผูกคอนักโทษเหมือนในหนังจะลองไล่รายชื่อนักโทษที่ถูกฆ่าให้ฟังเฉพาะที่สำคัญๆ เริ่มที่มเหสีสองคนของพระเจ้าเฮนรี่ที่ 8 คือควีนแอนน์ โบลีน (แม่ควีนอลิซาเบธที่ 1) ถูกตัดคอด้วยดาบพ.ศ 2079และควีนแคทเธอรีน ฮาวเวิร์ดถูกตัดคอด้วยขวาน พ.ศ 2085 พระเจ้าเฮนรี่ที่ 8 มีมเหสี 6 คน โดนประหารไปสอง โทษฐานคบชู้สู่ชาย มีบันทึกว่ามีคนเห็นวิญญาณควีนทั้งสองอยู่เนื่องๆหลังจากโดนตัดคอ ต่อมาคือเลดี้เจน เกรย์  เลดี้เจนเป็นธิดาของดยุคแห่งซัฟโฟล์คถูกผลักดันจากคนใกล้ตัวให้ขึ้นเป็นราชินี ข้ามหน้าข้ามตารัชทายาทแท้จริงคือเจ้าหญิงแมรี่และเจ้าหญิงอลิซาเบธ (พี่น้องคนละแม่ พ่อคือเฮนรี่ที่ 8) เลดี้เจนเป็นราชินีได้ 9 วันก็ถูกประหารเมื่อพ.ศ 2097 โดยควีนแมรี่ จ้าหญิงอลิซาเบธก็เคยถูกพี่สาวสั่งขังเหมือนกันแล้วปล่อยออกมาภายหลังได้เป็นควีน  ผีเลดี้เจนยังคงวนเวียนอยู่ในควีน เฮ้าส์ สถานที่คุมขังก่อนโดนประหารทหารยามเห็นวิญญาณของเลดี้เจนล่าสุดตอนหลังสงครามโลกครั้งที่สอง



ย้อนไปก่อนหน้ามีเจ้าชายน้อยสองพระองค์หายสาปสูญไปในปราสาทนี้คือเจ้าชายอายุ 12 ปีและอายุ 9 ปีโอรสของพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 4 ข่าวลือว่าถูกอาคือพระเจ้าริชาร์ดที่ 3 ฆ่าแย่งราชสมบัติ ต่อมามีการบูรณะปราสาทและได้พบโครงกระดูกเด็กเข้าใจว่าเป็นโครงกระดูกของเจ้าชายทั้งสอง ไม่นับขุนนางข้าราชการประชาชนนักโทษที่ถูกประหารอีกมากมายฉะนั้นหอคอยแห่งลอนดอนจึงเป็นที่รวมวิญญาณที่มากสุดแห่งหนึ่งของโลก ปัจจุบันป้อมเหล่านี้เป็นที่เก็บเกราะอาวุธโบราณ และทรัพย์สมบัติเพชรพลอยอัญมณีของควีนองค์ปัจจุบัน มีการเลี้ยงอีกาไว้ภายในวังไม่ให้บินหนีด้วยการขลิบปีก ตำนานว่าถ้าอีกาในวังไม่มีจะทำให้ราชวงศ์ล่มสลาย ซึ่งมาถึงยุคสมัยที่ซอมบี้ครองเมืองก็ถึงคราวที่หอคยแห่งนี้จะมี ผีดุ จริงๆตามคำร่ำลือจริงๆแล้ว

Cr http://www.bbc.co.uk/thai/highlights/story/2004/12/041225_ghosts.shtml

-จากนั้นเดินเข้ามาตามทางด้านในเก็บ  ปืนสไนเปอร์ตกอยู่กับศพซอมบี้มา แล้วปีนบันไดลงมาก็จะถูกสัญญาณรบกวน รีบเดินเลาะริมน้ำไปจัดการทำลายเสาวิทยุซะ ตรงนี้ประตูลงเรือยังเปิดไม่ได้ จำสถานที่เอาไว้แล้วข้ามไปก่อน หันหน้าไปที่สะพานลอนดอนแล้วมองทางซ้ายบน จะมีกล่องควบคุมกล้องวงจรปิดอยู่ ใช้สไนเปอร์ยิงซอมบี้ที่ติดระเบิดอยู่ให้มันจะระเบิดต่อเนื่องไปทำลายตัวอื่นๆ ให้หมด แล้วเข้าไปสแกนกล่องควบคุมวงจรปิดเพื่อเปิดแผนที่ให้หมด เข้าไปด้านในทางขวาจะเป็นทางไปเปิดท่อทางลับกลับไปที่ Safe  House ได้ (จะกลับหรือไม่ก็สุดแล้วแต่)
-  ลุยต่อไปที่ลานด้านนอกจะมีทางลงไปจนถึงคุกใต้ดิน ในนี้มืดและแคบเดิน สำรวจหากล่องควบคุมกล้องวงจรปิดเพื่อสแกนเปิดแผนที่ก่อน แล้วค่อยเข้าไปใช้ Lock Pick เปิดประตูเข้าไปด้านในตามทางจนเจอประตูที่เราต้องแสกนจึงจะเปิดได้ ลงไปสู่คุกใต้ดินที่เป็นส่วนที่น้ำท่วม เข้ามาด้านในใช้สแกนดูลูกศรไปจนเจอสัญลักษณ์ จัดการสแกนให้ประตูเปิดออก เดินขึ้นไปจนเจอประตูฟ้าที่ต้องใช้รหัสในการเปิด มองทางซ้ายจะมีช่องอยู่ให้มุดเข้าไป จะมาโผล่ในห้องที่มีชุดเกราะเหล็ก เข้าไปสแกนสัญลักษณ์แล้ว Prepper Pad ก็จะอัพเกรดขึ้นมาอีกขั้นซึ่งจะทำให้มันสามารถถอดรหัสได้แล้ว
- เก็บปืน AK-47 แล้วสแกนดูให้ทั่วๆ จะเห็นตู้ที่สามารถเลื่อนมันออกได้ จะพบกับรหัสอยู่ (ซึ่งมันจะ Random สุ่มออกมาไม่เหมือนเดิมสำหรับผู้เล่นแต่ละคน ) ใช้รหัสนี้เปิดประตูหรัสเพื่อไปต่อ
- ออกมาด้านบน เดินขึ้นไปตามทาง ฝ่าดงซอมบี้เก็บของ ไปเรื่อยๆ จนมาถึงลานจอดเฮลิคอปเตอร์ แต่ก็โชคร้ายที่มีฝูงอีกามารุมก่อกวน ฮ.จนตกไป เมื่อหมดหวังแล้วก็งัดประตูเพื่อไปต่อ เดินไปตามจุดหมายสีเขียวที่ขึ้นมาซึ่งจะเป็นเส้นทางลงท่อกลับมาที่ Safe  House อีกครั้ง
-  แต่ที่ Safe  House ก็มีเมื่อเรื่องวุ่นวายขึ้นอีกเมื่อ น้ำมันสำหรับเครื่องปั่นไฟเริ่มหมดลง จึงต้องหยุดภารกิจหาจดหมายของ john Dee เอาไว้ชั่วคราวเพื่อไปเอาน้ำมันมาเติมเพื่อความอยู่รอดกันก่อน
-  โดยภารกิจที่ต้องไปหาน้ำมันมาใส่เครื่องปั่นไฟนั้น ปั๊มน้ำมันจะอยู่ในเขต Spitalfields Green โดยต้องลงท่อกลับไปที่ Brick Lane Market  แล้วแวะเดินมาตรงจุดที่เป็นกล่องควบคุมกล้องวงจรปิด เข้ามาจะมีที่ให้วางระเบิด C4 เข้าไปเก็บจดหมายของ john Dee ฉบับที่ 3 มาก่อน
- จากนั้นก็เดินไปต่อตามจุดหมายสีเขียวที่ขึ้นมา แล้วสแกนหาให้ทั่วก็จะเจอรหัส 2 ชุด แล้วเอาไปใช้เปิดประตูข้างหน้า เข้าไปตามทางจนถึงเขต Spitalfields Green ต่อ


ย่าน Spitalfields แหล่งรวมวัฒนะธรรม ศิลปะ และบันเทิงแบบครบวงจร กลางเมือง London ที่ตอนนี้กลายเป็นแหล่งรวมซอมบี้ที่หิวกระหายไปซะแล้ว

                            

- เมื่อปีนกระไดขึ้นมาจนถึงข้างบน จัดการซอมบี้ให้หมดแล้วเข้าไปทำลายเสาวิทยุให้คลื่นรบกวนหายไปก่อน แล้วเข้าไปด้านในจะพบว้าข้างหน้าเป็นทุ่งกับระเบิดที่มีฝูงซอมบี้อยู่มากมาย ทำให้ไม่รู้เลยว่าอะไรมันน่ากลัวกว่ากัน ใช้พลุขว้างไปแถวๆนั้นซอมบี้จะกรูกันไปที่พลุแล้วมันก็จะระเบิดไม่เหลือซาก
- จากนั้นไปทางซ้ายใช้ Lock Pick เปิดประตูเข้าไป ยิงทำลายเสาคลื่นบกวนในกรงซะก่อน ที่ประตูที่ต้องใส่รหัส จะมีกล่องควบคุมกล้องวงจรปิดอยู่ สแกนเปิดแผนที่ให้เรียบร้อย จากนั้นย้อนกลับมาสแกนที่บ้านใกล้ๆบ้านหมา จนเห็นรูปขึ้นมา ( จำเอาไว้ด้วย ) เดินต่อไปจนถึงหน้าปั๊มน้ำมัน ตรงรถยนต์ที่มีลายธงชาติอังกฤษ ด้านบนจะเห็นกล่องควบคุมกล้องวงจรปิด จัดการสแกนเปิดแผนที่ทั้งหมดซะ แล้วเข้าไปทางซอกด้านขวาจะมีบันไดปีนไปด้านบนจะพบห้องที่มีประตูรหัส ซึ่งจะต้องไปหารหัสมาเปิด ให้นึกถึงรูปที่สแกนแถวบ้านหมาให้ออก ก็จะเห็นรูปบอกใบ้ โดยต้องเดินทางไปที่บริเวณที่เห็นในรูป ซึ่งก็คือไปที่ด้านบนต่อจากนี้อีกหน่อยนั่นเอง
- ที่บนดาดฟ้า มองไปที่ผ้าใบสีฟ้าชั้น 2 แถวๆทางไปประตูอีกา ตรงจุดเซฟ แล้วแสกน จะเจอรหัส 4 ตัว เอาไปเปิดประตูรหัสเข้าไปเก็บไอเทมมาให้หมด จากนั้นลงมาแล้วเดินไปที่ปั๊มน้ำมันใช้ Lock Pick เปิดประตูเข้าไปในปั๊มน้ำมัน จะพบกับ Vakram กับลูกชายของเขา


 เมื่อขอน้ำมันจาก Vakram เขาก็จะให้ไปเอายามาแลกกับน้ำมันต่อ จากนั้นเดินทางไปตามที่จุดหมายสีเขียวขึ้นมาจนถึงประตูลงสู่ใต้ดินซึ่งจะเป็นเส้นทางไปสู่เขตพื้นที่ Bacon Fields

-ในเขต Bacon Fields ที่นี่จะเป็นลานกว้างที่มีซอมบี้อยู่มากมาย ทางขวาบนกำแพงจะมีกล่องควบคุมก้อลงวงจรปิดอยู่ เข้าไปสแกนเปิดแผนที่ แล้วเดินผ่านใต้สะพานไปที่ตึก Nursery เข้าไปใน ผ่านห้องน้ำ มุดช่องระบายอากาศเข้าไปที่หน้าออฟฟิตใช้ Lock pick เปิประตูใกล้ๆ แล้วลงบันไดไปข้างล่างก่อน ที่ใต้บันไดจะมีช่องระบายอากาศให้มุดเข้าไปจะพบกล่องควบคุมกล้องวงจรปิดอยู่ สแกนมันเพื่อเปิดแผนที่ซะ จากนั้นเดินต่อไปยังจุดหมายสีเขียวที่ขึ้นมาตามทาง จนเจอประตูที่ต้องใช้ Key Card เปิด เข้าห้องทางซ้ายสำรวจหาเก็บ Key card  มาเปิดประตูเข้าไปเก็บไอเทมด้านในแล้วจะตกลงไปด้านล่างต่อ
- ที่นี่จะเริ่มพบกับซอมบี้ที่หายตัวได้ จัดการมันซะ แล้วสแกนดูให้ทั่วจะมีรหัสอยู่ 3 ตัว เอาไปเปิดประตู ( รหัสตัวสุดท้ายที่ขาดไป สามารถสุ่มได้อย่างง่ายๆเลย) เข้าไปเก็บ C4 และ ปืนกล UMP-45 submachine gun และ ไอเทมต่างๆออกมาให้หมด จากนั้นเป้าหมายต่อไปก็คือเอายาไปให้ Vakram ที่ปั๊มน้ำมัน
-แต่ระหว่างที่ผ่านทุ่ง Baconfields ประตูจะเกิดล็อคขึ้นมา แถมพวกซอมบี้ก็โผล่มามากมายอีก พยายามต้านมันเอาไว้จนกว่า Dr. Knight จะเปิดประตูให้ รีบเข้าประตูไปได้เลย

- จากนั้นเพื่อไม่ให้ดูยุ่งยากและไม่ต้องหลงทางในการกลับไปที่ปั๊มน้ำมัน ก็ลงท่อกลับไปที่ Safe House แล้วค่อยลงท่อมาที่ตลาดนัด Brick Lane Market เดินไปทางเหนือสู่ Spitalfields Green เพื่อไปปั๊มน้ำมันอีกครั้ง

เมื่อเข้าไปในปั๊มน้ำมันจะพบว่า Vakram กลายเป็นซอมบี้กำลังแทะลูกชายอย่างเอร็ดอร่อยเลยไปซะแล้ว (ไม่น่าไปเอายามาให้มันให้เสียเวลาเลย) 



- จัดการมันซะ แล้วสำรวจเก็บไอเทมให้ทั่ว ซึ่งตอนนี้ Prepper Pad ก็จะอัพเกรดให้เปิดประตูโดยไม่ต้องใช้ Key Card แล้ว ไปตามจุดหมายสีเขียว เพื่อไปเปิดประตูไปเก็บถังน้ำมัน และปืน Shotgun ที่ด้านนอกแล้วเปิดประตูเพื่อลงท่อกลับมาที่ Safe house ได้เลย จัดการเติมน้ำมันให้เครื่องปั่นไฟจนไฟฟ้ากลับมาเหมือนเดิมแล้ว

-จากนั้นเดินตามจุดหมายสีเขียวที่ขึ้นมาจะไปถึงที่ โบสถ์ St . George’s เข้าไปตามทางผ่านป้อมปืนลงมา Hack ประตูด้านล่างไป ลุยผ่านฝูงซอมบี้ในท่อ สำรวจให้ทั่วจะมีตู้ขวางอยู่ทางซ้ายมุดไปเก็บ C4 และเมื่อเลื่อนตู้ออกแล้วจะสามารถเดินไปต่อได้ จัดการซอมบี้ให้หมด ทางซ้ายจะเจอจุดวาง C4 เพื่อเปิดกำแพงเข้าไปเก็บไอเทมมาให้หมด สำรวจดูจะมีประตูนึงที่เข้าไปที่ห้องที่มีรูปอีกาอยู่ ซึ่งจะมีประตูที่ต้องใช้ Password ในการเปิด จัดการสแกนกล่องควบคุมกล้องวงจรปิดหน้าห้องเพื่อเปิดแผนที่ให้หมดก่อน จากนั้นเดินหาจุดที่มีรูปอีกาที่เชื่อมต่อกันได้พอดีแล้วสแกนที่นั่น ก็จะได้ Password มา เอามาใส่ที่ประตู เข้าไปเก็บไอเทมมาให้หมด และที่นี่จะมีช่องระบายอากาศที่สามารถเปิดท่อกลับไป Safe house ได้ด้วย
-  มุดเข้าไปต่อแล้วจะมาโผล่ที่ใต้ดินเป็นเหวลึกๆ ค่อยๆเดินไปตามทาง เข้าไปจนเจอบันไดปีนขึ้นไป ก็จะโดนคนลึกลับกลุ่มนึงจับตัวไป จากนั้นก็จะถูกจับให้มาเล่นเกมของพวกมัน โดยจะต้องเอาตัวรอดจากฝูงซอมบี้ที่ถูกส่งออกมาภายใต้อาวุธที่มีให้ในจำนวนจำกัดให้ได้ เมื่อชนะเกมส์แล้วจะได้เป้และอุปกรณ์ทุกอย่างกลับคืนมา  เก็บปืนกลมาใช้ แล้วสแกนหาเก็บไอเทมที่นี่ให้หมดก่อนกลับลงมาตามทางที่ปีนขึ้นมา แล้วมุดเข้าช่องระบายอากาศเพื่อลงท่อกลับมาที่ Safe house ได้เลย เมื่อเตรียมตัว พักผ่อนเรียบร้อยแล้ว ก็เริ่มเดินเรื่องในการหาจดหมายของ John Dee ฉบับที่ 4 ที่เหลือต่อกันได้เลย
-เริ่มจากที่ตลาดนัด Brick Lane Flat กลับไปที่ประตูอีกาที่โกดังนั้นแล้วหาจุดที่จุดรูปอีการวมกันได้พอดีแล้วสแกนก็จะได้รหัสมา ด้วยศักยภาพของ Prepper Pad ที่อัพเกรดแล้วนั่นเอง เข้าไปเก็บจดหมายของ John Dee ฉบับที่ 4 พร้อมปืนกล MP5 ออกมา
-  กลับมาลงท่อไปต่อที่ Spitalfields Green ไปที่ประตูแถวๆทุ่งกับระเบิดแล้วสแกนประตูจะเปิดออก เข้าไปเก็บ จดหมายของ John Dee ฉบับที่ 5 มา
- ลงท่อไปต่อที่ Tower of London ที่ประตูเรือที่เคยเข้าไม่ได้ในตอนแรก เมื่อสแกนที่ประตูก็จะเปิดออก เข้าไปเก็บ จดหมายของ John Dee ฉบับที่ 6 , ปืน Shot Gun และ ไอเทมต่างๆออกมาให้หมด
- กลับมาลงท่อไปที่ Baconfields ที่บ้านเล็กๆมุมของทุ่งที่ซอมบี้เดินไปมาเยอะๆ สแกนเปิดประตู เข้าไปเก็บ จดหมายของ John Dee ฉบับที่ 7 และ ปืนแม็กนั่ม ออกมา
- เมื่อได้จดหมายของ John Dee ครบทั้ง 7 ฉบับแล้วก็เอากลับไปให้ Dr. Knight ที่ห้องทอลอง ได้เลย




Dr. Knight – โอ้พระเจ้า จดหมายของ Dee ทั้ง 7 ฉบับกับ Code “Panacea” ทั้งหมด ไม่รู้จะขอบคุณคุณยังไงเลย ผมจะได้เริ่มทำงานซะที เวลามันจะเหลือไม่พอแล้ว ยังไงก็ขอบคุณนะ

 ตอนนี้รหัสจากรูป 4 แห่งที่เคยส่องแล้วดูไม่ออก เมื่อกลับไปส่องอีกทีคราวนี้จะเห็นรหัสได้แล้ว จากนั้นลงท่อเพื่อกลับไป Safe house  ไม่นาน Dr. Knight ก็จะติดต่อมาว่าตอนนี้เขาทำวัคซีน “Panacea” ได้สำเร็จแล้ว เขาจึงรีบนัดให้ไปพบเขาที่ห้องทดลองใน Queen Quarter ทันที แต่ ทางด้าน “The Prepper”  ที่ฟังการสนทนาในวิทยุสื่อสารก็เริ่มแสดงความไม่พอใจออกมาทันที

“The Prepper”  - พระราชวัง ด็อกเตอร์ วัคซีน นี่มันเรื่องอะไรกัน นี่คุณแอบไปทำงานให้พวกนักวิจัยนั่นทั้งๆที่ผมก็หาทางช่งยคุณอยู่ตลอดเนี้ยนะ กล้ามาก ผมเคยเตือนคุณแล้วนะเรื่องพวกนักวิทยาศาสตร์พวกมันนั้นนะ ที่มันเกิดโรคระบาดแบบนี้ขึ้นมาไม่ใช่ความผิดของพวกมันหรอ อยากจะเล่นบทพระเจ้าไง คุณเองก็ถูกพวกมันหลอกใช้แล้ว ไม่มีหรอกยารักษาบ้าบออะไรนั่นนะ อย่างไอ้พวกนักวิจัยพวกนั้นนะหรอจะคิดทำวัคซีนแก้พิษ เพราะงั้นไง Safe House ที่ผมสร้างขึ้นมันถึงสำคัญที่สุดไงล่ะ ที่ผมกับคุณทำมาทั้งหมดก็เพราะใช้ที่นี่เป็นที่อยู่รอดของเราไม่ใช่หรอ ! คุณทำให้ผมผิดหวัง ผมนึกว่าเราเป็นคู่หูกันเสียอีก เสียใจจริง “The Prepper”  เลิกการติดต่อ !! 

- จากนั้นก็จัดการ เซฟ พักผ่อน จัดเตรียมไอเทมต่างๆให้พร้อมก่อนออกเดินทาง โดยต้องลงท่อมา Palace Underground แล้วมุ่งหน้าไปตามจุดหมายที่จุดหมายสีเขียวที่ขึ้นมาต่อ


                                            THE POINT OF NO RETRUN 

     ** [ ตรงนี้เป็นจุดสุดท้ายของเกมแล้ว ถ้ายังมีอะไรค้างคาใจที่ต้องทำก็ไปทำเสียก่อนได้เลย ] **

-ที่ Palace Underground  เมื่อเข้ามาแล้วไปที่จุดหมายสีเขียวจะพบประตูที่ต้องใช้ลูกตามาสแกน จากนั้นเดินทางไปที่พระราชวัง Buckingham อีกครั้ง โดยใช้การลงลิฟต์ไป  เมื่อออกจากลิฟต์ก็จะพบซอมบี้มากมายมาต้อนรับลุยฝ่าไปตามทางไปที่จุดหมายที่ขึ้นจนถึงห้องที่เคยไฟไหม้ตอนนี้ไฟก็จะดับแล้ว จะสามารถสแกนเปิดประตูได้ ในห้องจะพบกับวอมบี้อยู่กลุ่มนึง สังเกตดูจะพบหนึ่งในนั้นคือ Dr. Knight ที่กลายเป็นซอมบี้ไปซะแล้ว
- จัดการมันให้หมดแล้วควักลูกตาของ Dr. Knight ออกมา จากนั้นจะมีประตูที่ต้องใส่รหัสอีก หารหัสมาโดยส่องไปที่เสาทางขวา หาจุดที่มีตัวเลขที่อ่านออกได้ครบทั้ง 4 หลัก แล้วเอารหัสมาเปิดประตู เข้ามาจะพบกล่องควบคุมกล้องวงจรปิดอันสุดท้ายของเกมแล้ว) สแกนเปิดแผนที่ให้หมด แล้วให้วาง C4  เปิดทางเข้าด้านใน  เก็บไอเทมให้หมด มุดช่องระบายอากาศเข้าไปในห้องครัว ลุยฝ่าซอมบี้ไปตามทาง มุดเข้าช่องระบายอากาศไปด้านหลังหลังจะมีท่อให้เปิด
- มุดท่อไปโผล่ Underground Palace เดินผ่านห้อง Lab มาทางซ้าย ลุยพวกซอมบี้เข้าไปด้านในจนถึงท่อที่มาโผล่ที่ข้างห้องน้ำ จากนั้นลุยขึ้นไปข้างบน จนถึงประตูที่ต้องใช้สแกนลูกตาอีกครั้ง ใช้ลูกตาสแกนเข้าไป ลงมาข้างล่างลุยซอมบี้ เข้ามาในห้องที่มีน้ำท่วม เข้าไปด้านในลงจากช่องระบายอากาศ ใช้ Lock Pick เปิดเข้าไปต่อ เข้ามาจนถึงห้องทำงานด้านใน เข้าไปที่คอมพิวเตอร์ Download  สูตรยา Panacea ซึ่งเป็นวัคซีนแก้การติดเชื้อซอมบี้มา แล้วสัญญาณเตือนภัยจะเริ่มดังขึ้นทำให้พวกซอมบี้ทั้งหมดรุมกันเข้ามาหามากมาย
- อย่าลืม ! โหลดเสร็จแล้วก่อนหนีก็อย่าลืมหยิบ USB ข้อมูลของวัคซีน Panacea ที่คอมพิวเตอร์มาด้วย จากนั้นก็โกยยาวไม่ต้องหันมองหลังจนถึงทางออก ซึ่งจะโผล่ออกมาบนถนนที่อนุสาวรี Victoria memorial หน้าพระราขวัง  Buckingham จะพบสภาพของเมืองลอนดอนที่ไฟไหม้ลุกลามไปทั่วเมือง ซึ่งมันก็ทำให้พวกซอมบี้ติดไฟทำให้สถานการณ์เลวร้ายขึ้นไปอีก

และระหว่างทางก็จะได้ยินเสียงประกาศของกลุ่ม 'Ravens of Dee' ที่ประกาศเพื่อส่งข่าวบอกผู้รอดชีวิตที่ได้ยินว่า ตอนนี้ทางทหารได้ไฟเขียวในการสั่งทิ้งระเบิดที่นี่ให้ราบแล้ว จึงให้รีบมาที่หอคอยลอนดอนในทันทีเพื่อหนีออกจากที่นี่กับเฮลิคอปเตอร์เที่ยวสุดท้ายที่กำลังมารับ แต่ก่อนจะไปขึ้นเครื่องต้องรีบกลับไปเก็บของที่ Safe House ก่อนเพื่อเตรียมพร้อมในการเอาชีวิตรอดครั้งสำคัญ 

- จากนั้นเดินทางไปตามจุดเขียวเพื่อกลับไปที่ Safe House เพื่อเตรียมเก็บของหนีได้เลย และทันที่มาถึงก็จะได้พบกับเสียงตัดพ้อของ “The Prepper”  ที่ดังขึ้นมาทางวิทยุสื่อสารอีกครั้ง 

  “The Prepper”  - เอาละเห็นชัดแล้ว ที่ผ่านมาคุณมันก็เสแสร้งแกล้งทำเป็นอยู่ข้างเดียวกับผมแล้วก็แอบไปคบคิดกับไอ้พวกนักวิทยาศาสตร์และพวก Raven บ้านั้น ใช่สิ เพื่อความอยู่รอดของตัวเอง ใช่ ผมรู้ ! แล้วใครวะที่มันช่วยคุณมากจากกองไฟที่กำลังจะโดนพวกซอมบี้กัดกินนะ ก็เพราะผมช่วยไง แต่ตอนนี้ ไม่ใช่อีกต่อไปแล้ว คุณไม่ได้อยู่ในสถานะภาพของ “ผู้รอดชีวิต” เหมือนกันผมอีกแล้ว ไปซะ ไปให้พ้นๆได้เลย !!  คนอย่างพวกคุณมันเลวร้ายกว่าพวกติดเชื้อที่นี่หลายเท่านัก 




หลังจากออกไปจากห้องแล้ว ประตูห้องลึกลับที่ไม่เคยบอกออกได้ก็ค่อยๆเปิดออกช้าๆ ปรากฏภาพของชายพิการแขนขวาขาขวาขาดคนนึงที่ก้าวออกมาจากด้านใน ใช่แล้ว  “The Prepper” ชายผู้เตรียมพร้อมที่จะอยู่รอดที่หยิ่งในศักดิ์ศรีของ ผู้รอดชีวิต อยู่ทีนี่มาตลอด เขาถูกทรยศ เจ็บปวด และโดดเดี่ยวอยู่ที่นี่มานานพอที่จะโหยหาคำว่าเพื่อนรวมชะตากรรมมาเนิ่นนาน และนี่ก็เป็นอีกครั้งที่เขาถูกทอดทิ้งเพราะเหนี่ยวรั้งผู้รอดชีวิตคนสุดท้ายเอาไว้เป็นเพื่อนตายไม่ได้ ก่อนที่เขานั่งลงที่เก้าอี้หน้าจอมอนิเตอร์ตัวเดิมที่เขาใช้เฝ้าดูทุกซอกเมืองของลอนดอนมาตลอดหลายปีที่เกิดการติดเชื้อ เพื่อช่วยเหลือผู้คน แต่ โชคชะตาที่ผูกติดมากับศักดิ์ศรีที่เขาอยู่รอดมาอย่างยาวนานอย่างทระนงในฐานะ “ผู้เตรียมพร้อม” ทำให้เขาเลือกที่จะจบชีวิตไปพร้อมกับ Safe House ที่พักสุดปลอดภัยอันเป็นที่รักและแบกรับศักดิ์ศรีของการเป็นผู้รอดชีวิตไปตลอดกาล 




- จากนั้น ..  ทางรอดเดียวจากนี้ คือลุยไปตามทางของจุดเป้าหมายสีเขียวเพื่อมุ่งหน้าไปที่ลานจอเฮลิคอปเตอร์บนดาดฟ้าของ  Tower of London  ไม่ต้องสนใจอะไรแล้ว ท่ามกลางซอมบี้มากมายที่เข้ามาขวางทาง สิ่งที่ต้องทำคือ วิ่งลุยและเอาตัวรอดไปให้ถึงที่หมายให้เร็วที่สุด เพื่อขึ้นเฮลิคอปเตอร์ของ Sandra ที่รออยู่ให้ทัน อนาคตของโลกนี้และตัวคุณขึ้นอยู่กับฝีเท้าของคุณแล้วว่าคุณจะหนีรอดจากนรกลอนดอนนี้ได้หรือเปล่า ….




   

   


                การกระทำในช่วงสุดท้ายนั้นจะส่งผลในฉากจบทั้ง 3 แบบคือ

Ending A – Best Ending   หนีขึ้นเฮลิคอปเตอร์ได้ทันและเอาสูตรวัคซีน Panacea มาด้วย
Ending B - Good Ending  หนีขึ้นเฮลิคอปเตอร์ได้ทัน แต่ไม่ได้เอาสูตรวัคซีน Panacea มาด้วย
Ending C - Worst Ending  ไม่ได้เอาสูตรวัคซีน Panacea มา แถมยังหนีขึ้นเฮลิคอปเตอร์ไม่ทัน …


     ----------------------------------------- The End ------------------------------------------------


Cr. ข้อมูลต่างเกี่ยวกับเมืองลอนดอนในการประกอบบทความจาก 
https://en.wikipedia.org/wiki/London
https://th.wikipedia.org/wiki/ลอนดอน





จากอารัมภ์บทถึงฉากจบซอมบี้ไม่มียู  เล่าเรื่องผ่านความในใจของตัวละครบ้าใบ้ในเกม 

“ในวันหนึ่งข้างหน้าเหล่ามวลมนุษย์จะต้องมองหาซึ่งความตาย
และจะไม่มีวันค้นพบหนทางสู่ความตายนั้นจนต้องดิ้นรนหาความตายด้วยตัวเอง  เพราะความตายเท่านั้นถึงจะเป็นอิสระจากพวกมัน”

พระคัมภีร์บท Revelation 9.6  ได้กล่าวเอาไว้ และมันก็ถูกอ้างอิงตามตำนานแห่งคำพยากรณ์ของ John Dee เมื่อ 400 ปีก่อนที่ว่า ในอนาคตข้างหน้าโลกจะพบกับมหัตภัยร้ายจนเกิดกลียุคที่เขาเรียกมันว่า “The Black Prophecy”  ทำให้เขาเขียนบันทึกล้ำค่าถึงทางรอดจากภัยร้ายนี้ขึ้นมามากมาย ก่อนมันจะหายไปตามกาลเวลาเหมือนไม่เคยมีอยู่จริง

จนในเดือน พฤศจิกายน ปี 2012 ตำนานจากทฤษฎี“The Black Prophecy”  ของ John Dee  ก็เกิดขึ้นจริงๆ เมื่อเกิดเหตุโรคระบาดประหลาดขึ้นที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ เชื้อไวรัสร้ายสายพันธ์ ANP192 ที่ทำให้คนที่ติดเชื้อกลายเป็นซากศพเดินได้ภายในเวลา 22 วัน ก่อนที่พวกมันจะออกกัดกินผู้คนไปทั่วจนการติดเชื้อแพร่กระจายทำให้ลอนดอนกลายเป็นนรกบนดินภายในเวลาไม่นาน

เหล่าผู้รอดชีวิตที่หลงเหลือต่างรวมตัวกันและสร้างที่หลบภัยใหม่ขึ้นที่ใต้พระราชวังบัคกิ้งแฮม โดยตั้งชื่อกลุ่มว่า 'Ravens of Dee' และทำการศึกษาทฤษฎีต่างๆของ John Dee  ที่ตกทอดมาจากยุคโบราณเท่าที่จะค้นหามาได้เพื่อหาวิธีหยุดยั้งไวรัสร้ายที่กำลังทำลายเมือง โดยการนำของ Sondra Kelley ผู้นำกลุ่มที่ออกต่อต้านทำลายพวกติดเชื้อเท่าที่จะทำได้ไปพร้อมกับช่วยเหลือผู้รอดชีวิตให้หนีออกจากเมือง และทางรอดที่เหมือนแสงสว่างในความมืดมิดคือทีมนักวิทยาศาสตร์ที่กำลังค้นหาผลงานล้ำค่าของ John Dee  นั่นก็คือ“Panacea” สูตรยาแก้พิษ วัคซีนป้องการติดเชื้อไวรัส ANP192  ให้สำเร็จให้เร็วที่สุดให้ได้

และ คุณ คือหนึ่งและอีกหลายคนที่เป็นผู้รอดชีวิตที่ถูกช่วยเหลือจากชายลึกลับที่เรียกตัวเองว่า “The Prepper” (ผู้เตรียมพร้อม)  และถูกชักจูงให้ทำตามภารกิจของเขาโดยอ้างว่ามันคืนหนทางรอดที่แท้จริงของผู้ที่จะเรียกตัวเองว่า ผู้รอดชีวิตในเมืองนรกแห่งนี้  

แต่ในระหว่างปฏิบัติภารกิจตามรวบรวมข้าวของในการยังชีพต่างๆตามคำสั่งของ“The Prepper”   คุณก็จะโชคดีที่ได้รับข่าวสารจาก Sondra  ผู้นำกลุ่ม 'Ravens of Dee' ที่กำลังพยายามทุกทางที่จะหาทางพาทุกคนหนีออกจากเมืองนี้ และก็โชคดียิ่งกว่าที่ได้พบกับ Dr. Knight  นักวิจัยของ 'Ravens of Dee' ที่ยังรอดชีวิตและซ่อนตัวอยู่ในห้อง Lab ใต้พระราชวัง Buckingham  ที่กำลังค้นหาสูตรวัคซีนยารักษาเชื้อร้ายให้ทันเวลา และจากการช่วยเหลือของคุณในการตามหาบันทึกสูตรยาลับของ John Dee  มาให้จนทำให้เขาสร้างวัคซีน “Panacea” ที่เป็นยารักษาไวรัสขึ้นมาได้สำเร็จ แต่ความโชคร้ายของ Dr. Knight  ที่ต้องติดเชื้อและต้องตายด้วยฝีมือคุณ ทำให้ทางออกเดียวของคุณคือ เอาสูตรยาเอาล้ำค่าหนีออกมาที่จุดขึ้น ฮ. เที่ยวสุดท้ายที่ Sondra ผู้นำกลุ่ม 'Ravens of Dee' กำลังมารับพาหนีออกจากเมืองก่อนที่ทหารจะเอาเครื่องบินมาทิ้งระเบิดเพื่อจบเรื่องทุกอย่าง แต่คุณก็ต้องหนีเอาชีวิตรอดท่ามกลางเสียงกร่นด่าลับหลังของ “The Prepper”  ชายผู้ที่เคยช่วยชีวิตคุณ เพราะคิดว่าคุณทรยศด้วยความยึดติดในศักดิ์ศรีของผู้รอดชีวิตหลังจากผ่านความโหดร้ายที่ถูกทอดทิ้งมาอย่างโดดเดี่ยวมาแรมปี จนภารกิจสุดท้ายที่คุณกำลังหนีออกมา  ศักดิศรีของชายปริศนาที่ชื่อว่า “The Prepper”  ก็ต้องจบลงไปพร้อมกับระเบิดที่ถูกทิ้งลงมาถล่มฝูงซอมบี้ไปพร้อมกับเมืองลอนดอน


                -------------------------------------------------------------------------------

ไม่มีความคิดเห็น: