วันพุธที่ 30 มีนาคม พ.ศ. 2559

NightCry

                     

                                       บทสรุป Project Scissors : NightCry


By Decibel per oxide



          ---------------------------------------- NOTICE --------------------------------------------------




สิ่งที่ต้องเรียนรู้ก่อนเล่น คือการเดินเรื่องไปสู่ฉากจบที่สมบูรณ์คือ ตัวแปร ที่มีทั้งการกระทำและการเก็บไอเทมตัวแปรต่างๆเพื่อสร้างผลต่างให้เกิดทางแยกในการเดินทางของเรื่องราว โดยสามารถดูได้ในเมนู Save จะแบ่งเป็น

1.เส้นทางสีน้ำเงิน – หมายถึงการเลือกทำหรือเลือกเก็บไอเทมที่เป็นตัวแปรได้ถูกต้อง ผลของเส้นทางสีน้ำเงินที่เริ่มตั้งแต่ บทแรกยันบทสุดท้ายหากทำมาอย่างถูกต้องก็จะได้มาซึ่ง ฉากจบที่สมบูรณ์ หรือ Good Ending – Two Survivor นั่นเอง
2. เส้นทางสีแดง – หมายถึงเส้นทางการเลือกทำที่ผิดและการลืมเก็บไอเทมที่เป็นตัวแปรสำคัญ ซึ่งจะนำมาซึ่งความตายและไม่ถึงจุดหมายคือฉากจบที่แท้จริง แต่การผิดพลาดต่างๆจากเส้นทางนี้ก็จะนำมาซึ่งการสะสม ฉากจบแบบ Bad Ending ที่มีทั้งหมด 7 ฉากจบด้วย โดยฉากจบแบบ Bad Ending – One Survivor นั่นเอง

และคุณสามารถย้อนไปแก้ไขได้ด้วยการโหลดไปยังเหตุการณ์ก่อนหน้าตามจุดต่างๆที่พลาดไปที่แสดงไว้ในแผนพังเรื่องราวบนหน้าจอเมนู Save ครับ
------------------------------------------------------------------------------------------------------


                                                      Chapter 1 


18 สิงหาคม 2016 เวลา 19.26 น. ..เรือสำราญ Oceanus กำลังเดินทางมาจากเมือง Venezia ประเทศ Italy หลังจากแวะรับนักท่องเที่ยวที่ปรเทศอังกฤษแล้วก็มุ่งหน้าเดินทางข้ามทะเลแอตแลนติกเพื่อมุ่งหน้าไปยังเกาะแห่งนึงในทะเลคาริเบียน 




กลุ่มนักศึกษาจากมหาลัยแห่งนึงในอเมริกาเหนือกำลังเฮฮากับงานปาร์ตี้บนเรือเพื่อเลี้ยงฉลองหลังจากฝึกงานที่เกาะแห่งนึงใน Aegean เสร็จสิ้น และ Monica Flores ก็คือหนึ่งในกลุ่มนักศึกษาเหล่านั้น หลังจากที่สนุกอย่างเมามันในงานก็ต้องขอตัวออกมาหาอากาศบริสุทธิหายใจและตามหาเพื่อนชายคนสนิท Henry ที่หายตัวไปจากงานเลี้ยง

                                                   Scene 1

-หลังจากออกมาจากงานเลี้ยงแล้วเข้าไปคุยกับ Clerk เจ้าหน้าที่ของเรือที่เค๊าท์เตอร์ คุยกับเขา 2 ครั้งแล้วสำรวจตรงที่เขาเย็บเสื้อผ้าอยู่ Monicaจะฝากเสื้อคลุมเอาไว้ก่อนจะสอบถามถึง Henry ที่หายตัวไปซึ่ง Clerk ก็จะบอกให้ลองเดินเข้าไปดูด้านในต่อ



-เปิดประตูเข้ามาส่วนในต่อ เดินไปตามทางเดินจนถึง Bar เข้าไปคุยกับชายใส่สูทที่นั่งอยู่กลางบาร์เขาคือ Vigo Boradsov ซึ่งเป็นเจ้าของเรือ คุยกับเขา 2 ครั้งจนเขาบอกว่าต้องการไฟมาจุดแก้วที่มีดวงตาแช่น้ำอยู่ เข้าไปที่เค๊าท์เตอร์คุยกับบาร์เทนเดอร์แล้วหยิบไอเทม กล่องไม้ขีดกลางเค๊าท์เตอร์มา

      

จากนั้นเรียนรู้การใช้ไอ้เทมด้วยการคลิกไอค่อนรูปกล่องสมบัติทางมุมขวาบนแล้วเลือกไม้ขีดไฟออกมา ลากไอค่อนไม้ขีดไฟไปกดที่จุดสำรวจแก้วน้ำใส่ดวงตาที่โต๊ะของ Vogo ก็จะสามารถจุดไฟให้เขาได้ ไม่ได้อะไรนอกจากคำขอบคุณเพราะมันคือการเรียนรู้การใช้ไอเทมนั่นเอง

-จากนั้นเดินทางออกจากบาร์ไปตามทางเดินต่อจนถึงโถงลิฟต์ด้านในจะพบ Kelly และ Jessica ยืนคุยกันอยู่หน้าลิฟต์ คุยกับพวกเธอ 2 ครั้งจนรู้ว่า Henry นั้นรออยู่ที่ชั้นล่าง คุยจบกดลิฟต์ให้เปิดก็จะพบหญิงชราท่าทางประหลาดอยู่รออยู่ในลิฟต์ เข้าไปสำรวจกดลิฟต์ลงไปที่ชั้น B3 ระหว่างทาง หญิงชราจะเริ่มสวดคาถาประหลาดดังออกมา จนลิฟต์ลงไปถึงชั้นล่างสุด Monica ก็ไม่ทันรู้ตัวว่าบรรยากาศรอบๆตัวของเธอนั้นเริ่มเปลี่ยนไปแล้ว ...


- ที่ชั้น B3 หลังจากออกมาจากลิฟต์เดินไปตามทางเดินด้านซ้ายหรือขวาก็ได้จนถึงห้องพักผ่อนตรงกลาง Monica จะพบเด็กหญิงลึกลับคนนึงที่พยายามวิ่งนำทางเธอไป ในห้อง Monica จะพบ Henry ยืนเมาอยู่ด้านใน ดูเหมือน Henry จะกำลังเสียใจกับการที่ Monica ไม่มีใจที่จะยอมเห็นเขาให้เกินกว่าเพื่อน ซึ่ง Monica ก็พยายามจะเข้าไปปลอบใจ คุยกับ Henry 3 ครั้งจนกว่าจะตัดเข้าเหตุการณ์ เมื่อ Henry พยายามจะเข้าไปกดตู้น้ำอัดลมมาเลี้ยง Monica จนมือเขาเริ่มติดกับช่องของตู้ ก่อนที่มันจะตัดแขน Henry ขาดจนนอนตายจมกองเลือดไปต่อหน้าต่อตาจน Monica แทบไม่ทันได้ตั้งตัว



ไม่กี่นาทีต่อมาร่างของตัวประหลาดที่น่าสะอิสะเอียดก็โผล่ออกมาจากกองเลือดของศพ Henry หญิงชราในเสื้อคลุมขาดๆน่าสยดสยองๆกับกรรไกรขนาดใหญ่ในมือที่เรียกว่า Scissorwalker  ไม่ใช่อะไรที่น่าไว้วางใจ และสิ่งที่ Monica ทำได้ในตอนนี้ก็คือ หนีอย่างเดียว


Scissorwalker ศัตรูตัวร้ายที่จะเป็นอุปสรรค์ในการเดินทางเพราะมันจะตามไล่ล่าตลอดทั้งเกม ซึ่งคุณไม่สามารถฆ่ามันได้นอกจากหาทางหลบหนีและที่ซ่อนตัวที่สามารถหยุดยั้งการไล่ล่าของมันในแบบชั่วคราวเท่านั้น 



                                   ** เรียนรู้การหนีและการหลบซ่อนตัว ** 



   

ทันทีที่ Scissorwalker ปรากฏตัวขึ้นมาตัวของ Monica จะเริ่มเข้าสู่ Escape Mode หรือโหมดหนีทันที เพลงประกอบจะเริ่มสยองขึ้น การสำรวจสิ่งต่างๆที่เป็นคีย์ไอเทมจะทำไม่ได้ และในขณะที่วิ่งหนี Monica ก็จะเริ่มหมดแรงลงเรื่อยๆโดยสังเกตได้จากไอสีแดงที่อยู่รอบตัว ทางรอดที่สามารถทำได้คือ 
-หาจุดซ่อนตัวตามที่ต่างๆระหว่างทาง และเมื่อ Scissorwalker มันตามเข้ามาใกล้ก็ต้องกลั้นหายใจด้วยการกดคลิ๊กที่รูปไอค่อนหัวใจที่ขึ้นมาค้างไว้และลากตามไปตามจุดต่างๆของหน้าจอถ้าทำสำเร็จ Scissorwalker ก็จะเลิกค้นหาก็ถือว่ารอดชีวิต ซึ่งจุดซ่อนตัวนั้นแม้จะมีหลายจุดในพื้นที่ แต่ก็ใช่ว่าแต่ละจุดจำทำให้รอดตายเสมอไปและจุดซ่อนตัวต่างๆนั้นไม่สามารถซ่อนตัวซ้ำได้เพราะจะถูกจับได้ทันที จึงจำเป็นต้องใช้จุดซ่อนตัวที่มีอยู่ในพื้นที่ต่างๆหลายจุดให้คุ้มค่าที่สุดเพื่อความอยู่รอด
- ใช้ไอเทมตัวช่วยระหว่างที่มีจัดการ Scissorwalker ได้แก่พวกสเปรย์พริกไทยหรือถังดับเพลิง ซึ่งในขณะที่กำลังหนีอยู่เมื่อพบไอเทมตัวช่วยก็สามารถเข้าไปหยิบใช้มาจัดการ Scissorwalker ให้หนีไปได้เลย 
-ในขณะที่โดนจับสามารถกดเม๊าท์คลิ๊กรัวๆที่ไอค่อนการหนีที่ขึ้นมาเพื่อสลัดมันให้หลุดได้ คลิ๊กรัวจนสีแดงเป็นสีฟ้าก็จะทำให้ Scissorwalker มึนงงจนสามารถซื้อเวลาเพื่อหนีได้ แต่เจ้าตัวร้ายมันจะยังไม่ไปไหนเพราะหายมึนงงแล้วมันจะตามต่อทันที และการสลัดให้หลุดนี้จะทำได้แค่ครั้งเดียวเท่านั้น




**จุดหลบซ่อนในชั้น B3 **
-ในตู้เสื้อผ้าของห้อง 303
-ในตู้เสื้อผ้าของห้อง 308
-ใต้เค๊าท์เตอร์ในร้านขายของ
**จุดหลบซ่อนที่อันตราย **
-ในเครื่องซักผ้าในห้องซักรีด
** อุปกรณ์ตัวช่วย **
-สเปรย์พริกไทยในห้อง 306

                              ** เรียนรู้เกี่ยวกับภัยร้ายรอบๆตัว **

ระหว่างเดินทางนั้นแม้จะไม่ได้กำลังเข้าโหมดหนีจากการไล่ล่าของ Scissorwalker ก็ยังมีอันตรายจากวิญญาณร้ายที่จ้องเอาชีวิตอยู่ ที่ต้องพึงระวังนั่นก็คือ จุดที่มีความมืดนั้นเป็นจุดอันตราย ซึ่งการอยู่หรือเข้าไปในสถานที่ที่มืดๆโดยไม่เปิดไฟฉายนั่นแหละสำคัญ พึงเปิดไฟฉายเอาไว้ทันทีที่ต้องเข้าห้องที่มีความมืดด้วย 

- หลังจาก Scissorwalker เปิดฉากไล่ล่า ก็รีบวิ่งหนีออกไปที่ทางเดินฝั่งขวาของห้องทันที วิ่งไปตามทางจนถึงประตูที่มีไฟเขียวติดอยู่คือห้อง 303 ที่สามารถเข้าได้ เข้าไปแอบในตู้เสื้อผ้าทันทีที่ Scissorwalker ตามเข้ามาค้นหา



 สิ่งที่ต้องทำคือการกลั้นหายใจเพื่อไม่ให้มันเจอตัว ด้วยการกดคลิ๊กที่รูปไอค่อนหัวใจที่ขึ้นมาค้างไว้และลากตามไปตามจุดต่างๆของหน้าจอถ้าทำสำเร็จ Scissorwalker ก็จะเลิกค้นหาก็จะทำให้มันหยุดตามล่าไปอีกซักพัก แต่ถ้ากดไม่ทันจนทำให้มันเจอตัวก็ต้องหนีไปจุดหลบซ่อนต่อไป

-หลังจากที่หนีมันพ้นแล้ว สำรวจห้อง 303 จะพบที่ชาร์จแบตมือถือและกระเป๋าเดินทาง สำรวจรูปจะรู้ว่าเป็นห้องของ John Thompson จากนั้นออกจากห้องแล้วเดินไปที่โถงลิฟต์ทางทิศใต้ที่ขึ้นมาจะพบศพของ John Thompson ตายอยู่ในลิฟต์ สำรวจศพเขา 2 ครั้งจะได้สมาร์ทโฟนมาใช้แต่แบตยังหมดอยู่
-จากนั้นเดินตามทางเดินฝั่งซ้ายไปตามทางจนถึงทางเลี้ยวมุมก่อนถึงร้านค้าจะพบพนักงานของเรือเดินผ่านมา แต่รถเก็บอุปกรณ์จะแล่นมาชนทันที พยายามคลิ๊กให้ไอค่อนเป็นสีฟ้าเพื่อหลบมันให้ทัน รถขนของจะชนพนักงานจนตาย สำรวจศพเขาเก็บ Key card A มา เดินต่อเข้าไปยังร้านค้า สำรวจที่เค๊าท์เตอร์เก็บเงินด้านในจะได้ไอเทมเหรียญเงินมา ส่วนจุดอันตรายคือ ห้ามเปิดตู้ขายน้ำแข็งจะเจอ Scissorwalker ออกมาไล่ล่า


-เดินต่อจากร้านค้าไปจะพบลิฟต์ตัวเล็กทางด้านเหนือของพื้นที่ สำรวจแผงฟิวส์จะพบว่าฟิวส์มันเสีย และลิฟต์นี้จะต้องใช้ Key card ในการเปิดด้วย จากนั้นเดินวนกลับไปจนผ่านห้องที่ Henry ตายคาตู้กดน้ำอัดลม เอาเหรียญเงินที่ได้มาไปใส่ในตู้ขายของทางซ้ายจะมีมือที่สวมแหวนแต่งงานตกลงมาจะได้ไอเทม แหวนแต่งงาน (Wedding Ring) มา ซึ่งเป็นไอเทมที่จะเป็นตัวแปรจุดทางแยกในการเดินทางเพื่อแยกไปตามทางเส้นสีน้ำเงิน  
-จากนั้นกลับไปที่ห้อง 303 ซึ่งเป็นห้องของ John Thompson เจ้าของสมาร์ทโฟนนั่นเอง กดใช้ไอเทมสมาร์ทโฟนกับที่ชาร์ตแบตจนมันเต็ม ก็จะสามารถใช้งานมันได้แล้ว ซึ่งตอนนี้จะสามารถเปิดไฟฉายจากสมาร์ทโฟนได้แล้ว เมื่อสำรวจที่แผงฟิวส์ที่ลิฟต์เสียแล้วมาสำรวจกระเป๋าจะสามารถใส่รหัสเปิดมันได้ โดยสามารถเปิดดูรหัสได้ที่ SNS ในมือถือโดยเลือกโพสที่เพื่อนของ John โพสอวยพรวันเกิดให้เป็นรูปเค๊ก เมื่อดูวันที่โพสคือ 3 – 14 – 2016 ก็จะ ได้รหัส 0317 มาใส่ที่กระเป๋า เมื่อเปิดออกก็จะได้ไอเทม ฟิวส์สำรอง มา เมื่อได้สมาร์ทโฟนใช้งานได้แล้วก็อย่าลืมโพสข้อความขอความช่วยเหลือลงไปใน SNS ด้วย ซึ่งจะเป็นตัวแปรของจุดเปลี่ยนในการเดินทางไปในเส่นทางสีน้ำเงิน 
-ออกจากห้อง 303 เดินไปทางฝั่งขวาจนพบห้อง 308 และ 306 ที่เปิดอยู่ ห้อง 306 นั้นเป็นห้องของ Monica เองแต่ไฟมันดับจึงต้องมีไฟจากสมาร์ทโฟนก่อนจึงจะเข้าไปได้ เข้าไปสำรวจในห้องนอนจะได้ยินเสียงโทรศัพท์จาก Jessica โทรมาขอความช่วยเหลือ จากนั้นเดินไปที่ลิฟต์ตัวเล็กด้านเหนือ เลือกไอเทมฟิวส์สำรองใส่แทนฟิวส์ที่เสียแล้ว ใช้ Key card รูดที่แผงควบคุมทางขวาเพื่อเปิดลิฟต์ลงไปชั้น 1 ต่อได้เลย

                                                 Scene 2

**จุดหลบซ่อนในชั้น 1 **
-ใต้เค๊าท์เตอร์ในบาร์
-ใต้เค๊าท์เตอร์ของแผนกต้อนรับตรงทางเข้า
** อุปกรณ์ตัวช่วย **
-ถังดับเพลิงตรงมุมห้องของแผนกต้อนรับตรงทางเข้า

-เมื่อลงมาชั้น 1 แล้ว เดินย้อนมาตามทางเดินจนถึงบาร์ ในบาร์นั้นไม่มีอะไรสำคัญนอกจากจุดกองเลือดที่หากสำรวจแล้วจะพบศพของคุณ Vigo เจ้าของเรือถูกห้อยแขวนติดกับพัดลมเพดานก่อนที่ Scissorwalker จะออกมาไล่ล่า ฉะนั้นไม่ต้องสำรวจก็ได้ถ้าไม่อยากลำบาก
-เดินออกไปตามทางเดินซ้ายผ่านบาร์ไปจนถึงประตูห้องเก็บของก่อนถึงห้องแผนกต้อนรับ ดันกล่องที่กั้นประตูออกแล้วเข้าไปด้านในห้องเก็บของ สำรวจเก็บกุญแจ Café ที่แขวนอยู่ที่แผงกุญแจมาจุดหมายต่อไปก็ต้องหาว่า Café ที่กุญแจนี้ไขได้มันอยู่ที่ไหน จุดอันตรายคือในล็อกเกอร์อันขวาสุดจะพบศพของ Jessica ตามมาด้วยการไล่ล่าของ Scissorwalker ถ้าไม่อยากลำบากที่ต้องล่ำลาเพื่อนก็ไม่ต้องเปิดออกมาก็ได้ ** แต่การพบศพของ Jessica นั้นจะนำพาไปยังเส้นทางเนื้อเรื่องสายสีน้ำเงินได้ จึงจำเป็นต้องสำรวจพบศพเธอ ** 
-จากนั้นออกจากห้องเก็บของไปตามทางเดินทางต่อจนถึงห้องรับรองตรงหน้าทางที่เข้ามาตอนแรก ดูที่ชั้นวางหนังสือสำรวจหนังสือสีน้ำเงินจะเจอแผนที่ของเรือทำให้รู้ตำแหน่งของ Café ซึ่งจะอยู่บนชั้น 2 ของบาร์นั่นเอง


         

-กลับเข้าไปที่บาร์สำรวจที่กั้นทางขึ้นบันไดจะสามารถเปิดออกและขึ้นไปด้านบนชั้น 2 ของบาร์ได้ (ถ้ายังไม่สำรวจดูแผนที่จะขึ้นไปไม่ได้) ขึ้นมาแล้วจะพบประตูทางเข้า Café ที่ต้องใช้กุญแจห้อง Café เปิดเข้าไป ก่อนเข้าไปนั้นเปิดไฟฉายไว้ด้วยเพราะเป็นห้องมืดและสามารถถูกวิญญาณฆ่าตายได้ทันที


**ถึงตรงนี้จะมีจุดแยกตามเงื่อนไขว่า คุณได้พิมพ์ส่ง SNS ข้อความช่วยเหลือทางสมาร์ทโฟนหรือไม่**

1. ถ้าคุณไม่ได้ส่งข้อความ 

 เมื่อผ่านเข้าไปในห้องด้านในจะพบประตูขึ้นไปบนชั้นดาดฟ้าเรือ  Monica ก็จะพบพวกคนที่ใส่หน้ากากประหลาดกลุ่มนึงพยายามจะเข้าโจมตี แต่ในขณะที่เธอกำลังจะโดนรุมทำร้าย Monica ก็ไหวตัวแล้วโดดลงจากเรือไปในทะเลได้ทัน ท่ามกลางสายตาที่เครียดแค้นของ Scissorwalker ที่เฝ้ามองดูอยู่จากบนเรือ








                  ---------  Monica Ending [The Face Floating on Wave] --------


2.ถ้าคุณส่งข้อความข้อความช่วยเหลือทาง SNS 
Monica จะออกมาเจอกับพนักงานของเรือที่ชื่อ Eric ก่อนที่ทั้งคู่จะหาทางหนีต่อไปด้วยกันได้สำเร็จ
** หากคุณต้องการเก็บฉากจบของตัวละครก็สามารถเลือกไม่ส่งข้อความเพื่อให้พบฉากจบของ Monica ได้ จากนั้นค่อยโหลดเกมมาใหม่แล้ว ส่งข้อความขอความช่วยเหลือทาง SNS ของสมาร์ทโฟนไปแล้วค่อยขึ้นไปบนดาดฟ้าตามปกติก็จะทำให้แยกไปที่เส้นทางสีน้ำเงินได้ ** 





                                                CHAPTER 2 


                                                    Scene 1


18 สิงหาคม 2016 เวลา 21.44 น. ..เรือสำราญ Oceanus





ทางด้านกาบเรืออีกด้าน Leonard Cosgrove อาจารย์ด้านมนุษย์วิทยาที่สนใจศึกษาศาสตร์และเรื่องลึกลับในฐานะอาจารย์ผู้รับผิดชอบกลุ่มนักเรียนที่ออกเดินทางไปฝึกงานในการเดินทางครั้งนี้ กำลังกังวลอย่างมากกับเหตุการณ์ประหลาดที่เกิดขึ้น ที่สำคัญที่สุดคือ อันตรายที่จะเกิดกับนักเรียนของเขา ทันทีที่โทรศัพท์ตรวจสอบความปลอดภัยของ Maria อาจารย์ที่ร่วมในคณะอีกคนนึงและ Rooney  ลูกศิษย์ของเขาเสร็จ Leonard ก็ไม่รอช้าที่จะหาทางทำอะไรซักอย่างเพื่อช่วยนักเรียนของเขาทันที 

-เดินเข้าไปคุยกับ Eric และ Cabie เจ้าหน้าที่ของเรือ 2 คนที่ยืนอยู่ที่กาบเรือ คุยหลายๆรอบจน Leonard สังเกตเห็นแสงไฟที่สว่างจ้าออกมาจากเกาะท่ามกลางความมืดในทะเล เขาจึงคิดว่าแสงไฟนั่นน่าจะเป็นของนักเรียนของเขาที่หนีไปที่เกาะนั่นแน่นอน Leonard จึงหาทางที่จะไปที่เกาะนั่นทันที เดินไปที่สุดทางสำรวจกล่องสีเหลืองจะพบเรือยางกู้ภัยอยู่ กลับมาคุยกับ Eric และ Cabie อีกครั้ง Leonard จึงขอร้องให้เจ้าหน้าที่ทั้งคู่เดินทางไปที่เกาะนั่นด้วยเรือยางกับเขาเพื่อหาทางช่วยนักเรียนของเขาก่อนจะได้รับอันตราย



- เมื่อทั้ง 3 คนพายเรือเข้ามาที่เกาะกลางทะเลได้แล้ว Leonard จะแยกตัวออกไปสำรวจเกาะเพื่อตามหานักเรียนของเขาและที่มาของแสงไฟที่เห็นจากบนเรือทันทีโดยให้ Eric และ Cabie รออยู่ที่ชายหาด
-เดินเข้าไปตามทางจะเห็นเรือยางหลายลำที่มาจอดเกยตื้นที่ชายหาดกับรอยเท้ามากมาย เดินไปสำรวจพุ่มไม้เพื่อมุดผ่านเข้าไปในป่าด้านในของเกาะต่อ ระหว่างทางจะเริ่มพบพวกคนที่สวมหน้ากากประหลาดอยู่ Leonard คาดเดาได้ว่าพวกนี้เป็นพวกคลั่งลัทธิบางอย่างที่เป็นอันตรายแน่นอน เมื่อเจอพวกมันยืนส่องไฟฉายอยู่ก็พยายามหาจังหวะวิ่งผ่านทางเพื่อหลบแสงไฟจากไฟฉายมันไปอีกฝั่ง (ถ้าถูกเห็นตัวก็จะโดนจับและตายทันที) 
-เมื่อผ่านศัตรูตัวแรกมาได้เดินเข้ามาตาทางจะพบกระท่อมไม้ที่ทางแยก เข้าไปด้านในสำรวจเก็บถุงมือกันความร้อน (Non-Slip Glove) บนเตา , ลูกเบสบอลในกล่อง และสำรวจแผ่นกระดาษที่ติดพนังทางซ้ายจะได้ข้อความของคลื่นวิทยุมา สำรวจวิทยุสื่อสารหมุนไปที่คลื่น CH16 จะสามารถติดต่อขอความช่วยเหลือกับหน่วยกู้ภัยยามฝั่งได้



** การส่งวิทยุขอความช่วยเหลือสำเร็จจะทำให้การเดินทางในเกมไปตามเส้นทางสีน้ำเงินได้ ** 
**การส่งสัญญาณวิทยุนั้นสามารถส่งผิดได้ 3 ครั้งก็จะโดนวิญญาณร้ายฆ่าตายทันที ** 

-จากนั้นออกจากกระท่อมสื่อสาร ขึ้นไปตามเส้นทางขึ้นเนินเขาไปจนพบทางเข้าถ้ำ จะมีทางแยก 2 ทาง ไปทางขวาจะพบประตูทางเข้าห้องที่ด้านในมีหลุมลึกที่เต็มไปด้วยตัวประหลาดอยู่ ในห้องที่สำรวจเก็บไอเทม กาว (Super Glue) แล้วออกจากห้องไปตามทางแยกซ้ายต่อจะพบแท่นบูชาอยู่สุดทางฝั่งซ้าย ต้องหลับพวกคลั่งลัทธิไปทางซ้ายสำรวจที่ฆ้องที่วางอยู่บนแท่นและสำรวจมุมทางขวาจะพบไอเทม เศษหน้ากากแตก เก็บมาแล้วหลบศัตรูกลับมาฝั่งขวาอีกครั้ง จากนั้นเลือกไอเทมลูกบอลขว้างไปที่ฆ้องที่อยู่บนแท่นเพื่อปามันไปใส่จนเกิดเสียงดังจนพวกคลั่งลัทธิที่เฝ้าทางอยู่เดินมาดูก็จะสามารถผ่านทางไปด้านในได้
-เข้ามาตามทางจนเจอกระท่อมไม้ทางซ้าย เข้าไปสำรวจด้านในจะพบหน้ากากของพวกคลั่งลัทธิที่แตกอยู่หน้ากระจก เมื่อสำรวจดูจะพบตัวประหลาดในรูปแบบควันที่ออกมาให้เห็นในกระจก สำรวจขวดข้างๆกระจกมาทุกกระจกซะมันก็จะหายไป (ถ้าไม่ทุบกระจกแล้วเดินไปโดนมันจะตายทันที)
-จากนั้นใช้กาวกับหน้ากากที่แตกหน้ากระจกเพื่อซ่อมแซมมันจนได้หน้ากากของพวกคลั่งลัทธิมา ออกจากห้องเข้าไปตามทางจนถึงลานกว้างจะพบพวกคลั่งลัทธิมากมายที่อยู่รอบกองไฟที่พวกมันกำลังเผาคนทั้งเป็นอยู่ ซึ่งแสงไฟจากที่เห็นบนเรือที่ Leonard ตามหาเพราะนึกว่าลูกศิษย์ขอความช่วยเหลือมาก็คือไฟจากกองไฟของพวกมันนั่นเอง
-ตรงนี้ถ้าไม่มีหน้ากากใส่ถ้าเดินเข้าไปจะโดนจับและตายทันที ให้เอาหน้ากากของพวกคลั่งลัทธิมาใส่ (ลากไอเทมมาที่หน้าเลย) ก็จะสามารถเข้าไปด้านในได้ สำรวจที่กองไฟจะพบศพของผู้เคราะห์ร้ายโดนเผาตายอย่างสยดสยอง




                                                      Scene 2

-เมื่อผ่านลานกว้างที่พวกคลั่งลัทธิทำพิธีเผาคนทั้งเป็นมาได้ เดินเข้ามาด้านในจนถึงบ้านไม้หลังใหญ่สำรวจทั่วจะพบว่าประตูทางออกหลังบ้านนั้นมีพวกคลั่งลัทธิเฝ้าอยู่ออกไปไม่ได้ สำรวจเก็บ สมาร์ทโฟนบนโต๊ะกินอาหารเพื่อเมมเบอร์ของ Will Anderson เอาไว้ แล้วเข้าห้องด้านในต่อ เก็บไอเทม เชือก แล้วปีนบันไดไปชั้นบนจะพบว่าเป็นห้องทำงานที่เต็มไปด้วยสัตว์ที่ถูกสต๊าฟและดวงตาที่ถูกต้มในถ้วยบิกเกอร์ สำรวจอ่านบันทึกในชั้นวางหนังสือ สำรวจเก็บไอเทม Hand of Glory ซึ่งเป็นแท่นสัญลักษณ์ที่มีรูปดวงตาซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของพวกลัทธินี้มา


** ตรงนี้เมื่อ Leonard สัญลักษณ์ของพวกคลั่งลัทธินี้แล้ว ก็จะสามารถส่งข้อความทาง SNS ผ่านสมาร์ทโฟนเพื่อเตือนพวกลูกศิษย์ทุกคนให้ระวังและอยู่หาสัญลักษณ์ที่ว่านี้ และจะทำให้การเดินทางในเกมไปตามเส้นทางสีน้ำเงินได้ **

** สำรวจอ่านบันทึกบนชัันวางหนังสือชั้นบน Leonard จะอ่านบันทึกของพวกคลั่งลัทธิ จะทำให้การเดินทางในเกมไปตามเส้นทางสีน้ำเงินได้ **

-จากนั้นกดโทรศัพท์โทรหาเบอร์ของ Will Anderson ทำให้สมาร์ทโฟนบนกินอาหารสั่นจนทำให้พวกคลั่งลัทธิที่เฝ้าประตูหลังอยู่เข้ามาดู รีบใช้เชือกมัดกับเสาทางซ้ายของหน้าต่างแล้วปีนออกไปส่วนหลังบ้านได้เลย (ถ้าปีนลงไปโดยที่ไม่ใช้การโทรล่อให้พวกคลั่งลัทธิที่เฝ้าประตูเข้ามาก่อนจะถูกจับได้และตายทันที)
-เดินทางต่อจากหลังบ้านไปจนพบบ่อน้ำบาดาล กดใช้ไอเทมถุงมือกันความร้อนเพื่อจับเชือกปีนลงไปในบ่อน้ำจนสามารถลงไปที่อุโมงค์ลับใต้ดินได้


** ถ้าไม่ใช้ถุงมือในการจับเชือกปีนลงไปมือจะลื่นตกลงไปในท่อระบายน้ำด้านล่างจนถูกเจ้า Scissorwalker ตัดคนจนตาย และตัดเข้าสู่ ฉากจบของ Leonard - it all to late ทันที ซึ่งจะเป็นการรายงานข่าวถึงการหายไปของ เรือสำราญ Oceanus และผู้โดยสารทั้งหมดอย่างลึกลับ ** 

** ถ้าคุณอยากจะเก็บฉากจบก็ลงไปโดยไม่ใส่ถุงมือ เมื่อตกลงไปตายก็สามารถโหลดใหม่จากหลังบ้านเพือมาใส่ถุงมือปีนลงบ่อน้ำใหม่ก็ได้ ** 

-เข้าไปตามทางของอุโมงค์ ที่ทางแคบที่เต็มไปด้วยมือปีศาจ ใช้ Hand of Glory จุดไฟที่คบเพลิงทางซ้ายนำทางเข้าไปก็จะรอดตาย เข้าไปด้านในต่อจนพบห้องทำพิธี สำรวจโลงศพจะพบร่างของ Jerome ลูกศิษย์คนนึงที่ถูกจับมาทำพิธีจนร่างกายเต็มไปด้วยรอยแผลจากการถูกตีตราสัญลักษณ์บางอย่างเต็มไปหมดแต่โชคดีที่เขายังไม่ตาย สำรวจร่างของ Jerome หลายๆครั้งแล้วสำรวจที่พื้นใกล้ๆโลงศพจะพบสัญลักษณ์ที่พื้นที่ต้องดูจากที่สูง เดินขึ้นบนไดในห้องนี้ไปดูก็จะพบสัญลักษณ์ที่ชัดเจนขึ้น


จากความรู้ในเรื่องเร้นลับของอาจารย์ Leonard ภาพที่เขาเห็นทำให้รู้ว่า ตราสัญลักษณ์นี้เป็นพิธีการสาปแช่งด้วยมนต์ดำ และรอยขีดด้วยเส้นสีดำรอบๆโลงศพที่ใช้บูชายันต์ก็เป็นรูปเรือ Oceanus อาจารย์ Leonard ตีความได้ว่า เรื่องสยองที่เกิดขึ้นบนเรือนั้นเกิดจากการสาปแช่งด้วยมนต์ดำเพื่อเป็นแผนล่อให้ทุกคนหนีออกจากเรือเพื่อมาที่เกาะของพวกคลั่งลัทธิแห่งนั่นเอง เมื่อรู้ความจริงแล้วอาจารย์ Leonard จึงต้องรีบกลับไปเตือนทุกคนบนเรือทันที

-จากนั้นสำรวจที่ผ้าม่านด้านหลังห้องจะพบประตูลับซ่อนอยู่จะทำให้ Leonard ช่วยแบกร่างของ Jerome กลับมาหา Eric และ Cabie ที่ชายหาดได้ ก่อนที่ Leonard จะบอกให้ทุกคนรีบกลับไปที่เรือให้เร็วที่สุดเพื่อเตือนทุกคน



แต่ในขณะที่กำลังจะถึงเรือก็เกิดการระเบิดในเรือขึ้นซะก่อน ด้วยความตกใจและความเป็นห่วงนักเรียน Leonard รีบบอกให้รีบพายไปทีเรือโดยเร็วแต่หันกลับมาอีกทีพวกพนักงานบนเรือก็ใส่หน้ากากของพวกคลั่งลัทธิรออยู่แล้ว .....  




                                                        CHAPTER 3 

                                                            Scene 1


18 สิงหาคม 2016 เวลา 18.12 น. ..เรือสำราญ Oceanus




ในช่วงเวลาหลังจากที่ Monica เดินออกไปจากห้องจัดเลี้ยงไม่นาน Rooney Simpson นักเรียนอีกคนในคณะเดินทางที่มีนิสัยไม่ค่อยจะเป็นมิตรกับสังคมภายนอกกำลังอยู่ท่ามกลางผู้คนในงานเลี้ยง แต่เหมือนจะมีความกังวลใจกับพลังบางอย่างที่พยายามจะสื่อสารกับเธอ ....

-เข้าไปคุยกับเพื่อนทุกคนที่โต๊ะอาหารซึ่งตอนนี้ก็ยังอยู่พร้อมหน้าพร้อมตากันอยู่ทั้ง Monica , Jessica , Kelly , Angie , Jerome อาจารย์ Maria และศาสตราจารย์ Leonard จากนั้นออกไปทางประตูขวาที่กาบเรือ สำรวจที่แผงกั้น Rooney จะสัมผัสที่พลังบางอย่างที่พยายามจะสื่อสารกับเธอ เสียงของเด็กผู้หญิงกำลังบอกให้เธอโดดลงไปในทะเลที่สวยงามเพื่อจะได้อยู่ด้วยกัน ในขณะที่ Rooney กำลังเอนตัวลงไปเพราะถูกครอบงำ โชคดีที่ Jerome เข้ามาจับตัวไว้ได้ทันเธอเลยคืนสติไม่ต้องตกลงไปตาย


-คุยกับ Jerome หลายครั้งจนเขาชวนไปดื่มต่อที่ห้อง จากนั้นเดินกลับเข้าไปที่งานเลี้ยง สำรวจประตูด้านหน้าจะเห็น Monica กำลังคุยกับพนักงานต้อนรับอยู่ด้านนอก (ซึ่งก็คือช่วงแรกในเกมที่ Monica ออกไปนั่นเอง) เสร็จแล้วไปเข้าประตูเล็กฝั่งซ้ายเพื่อเข้าไปที่ทางเดินของส่วนห้องพักได้เลย ซึ่งตอนนี้ก็จะกลับเข้ามาในงานเลี้ยงไม่ได้แล้ว
-เข้าไปตามทางเดินผ่านห้องเล่นบิลเลียดเข้าไปคุยกับ Saul ที่เป็นยามยืนอยู่ด้านในเขาจะช่วยสอนการเล่นบิลเลียดด้วยการส่งข้อความทาง SNS ถึงวิธีการเล่นให้ จากนั้นออกมาเดินเข้าด้านในต่อจนถึงห้อง 102 เปิดเข้าไปจะพบ Jerome นั่งหลับอยู่ ซึ่ง Rooney ไม่รู้เลยว่า Jerome กำลังฝันร้ายถึงปีศาจมือกรรไกรที่พยายามจะมาจับตัวเขา คุยกับเขาหลายๆครั้งจน Jerome ขอตัวไปเข้าห้องน้ำ สำรวจประตูห้องนอน 2 ครั้งจนได้ยินเสียงน้ำไหลแรงๆในห้องน้ำ

** ก่อนจะเปิดเข้าไป สำรวจที่หน้าประตูห้องก่อนจะมีซองจดหมายเสียบอยู่ใต้ประตู เก็บไอเทม ซองจดหมาย (Envelope) มาซึ่งจะทำให้เส้นทางการเดินเรื่องไปสู่เส้นทางสีน้ำเงิน **

-จากนั้นค่อยเปิดเข้าไปในห้องน้ำแล้ว Scissorwalker ก็จะออกมาโจมตี แต่โชคดีอีกครั้งที่ Jerome เข้ามาช่วยเอาไว้ ทำให้ Rooney สามารถหาทางหนีได้ทัน


- เมื่อหนีออกจากห้อง 102 ได้ วิ่งไปตามทางเดินซ้ายออกประตูไปแล้วเข้าประตูทางออกทางซ้ายของทางเดินต่อทันที จะออกมาที่ส่วนของโรงหนัง ลงบันไดเลี้ยวซ้ายเปิดประตูเข้าไปในโซนร้านค้าเลี้ยวขวาไปตามทางจนเจอห้องแรกซ้ายมือที่เข้าได้คือห้องเลี้ยงเด็ก ที่นี่มีที่ซ่อนตัวหลังเครื่องเล่นอยู่

**สำรวจตุ๊กตาผีในเปล แล้วมันจะเข้าโจมตี จังหวะนั้นให้กดคลิ๊กไปที่ตู้หนังสือทางขวา จะทำให้เอาตู้หนังสือมาทับมันได้ จากนั้นไปสำรวจที่แปลจะได้ ลูกบิลเลียด B มา ซึ่งจะมีผลไปถึงฉากจบหากเก็บครบ 3 ลูก ** 

-รอจน Scissorwalker ไปแล้วออกมาจากห้องย้อนกลับมาที่โรงหนังแล้วกลับขึ้นไปที่ทางเดินหน้าห้อง 102 ของ Jerome อีกครั้ง ไปเข้าห้องเล่นบิลเลียด จะพบศพของ Saul นอนตายเพราะถูกลูกดอกปาหน้าอยู่ และตอนนี้ลูกดอกนั้นก็กำลังถูกปาใส่ Rooney โดยเจ้า Scissorwalker กดคลิ๊กเพื่อหลบให้ทันจากนั้นก็รีบหนีมันออกจากห้อง
-วิ่งหนีผ่านโรงหนังเข้าไปในโซนร้านค้าวิ่งผ่านห้องเด็กไปจนสุดทางจะมีห้องน้ำให้แอบ รอจน Scissorwalker ไปแล้วออกมาจากห้องย้อนกลับไปเข้าห้องเล่นบิลเลียดอีกครั้งสำรวจศพของ Saul จะได้ VIP Card Key มาจากนั้นกลับออกมาที่ทางเดินด้านหน้าเดินเลยประตูเข้าโรงหนังไปทางขวาเข้าประตูไปตามทางเดินห้องพักฝั่งซ้าย ระหว่างทางจะพบ บาร์ สำรวจเก็บไอเทม ลูกบิลเลียด C มา แล้วออกมาเดินไปสุดทางจะพบลิฟต์ที่ต้องใช้ VIP Card Key แต่ตอนนี้ถึงมี Card Key แล้วก็ยังไม่มีไฟฟ้าให้ลิฟต์ทำงานได้
-กลับลงไปชั้นโรงหนัง ลงไปเปิดประตูเข้าไปในส่วนของห้องฉายหนัง เข้าไปที่โรงที่ 3 สุดทาง สำรวจด้านในจะพบ Kelly สลบอยู่ เมื่อฟื้นแล้วเธอจะให้เบอร์มาแล้วบอกว่าเธอและเพื่อนๆมีที่ซ่อนตัวที่ปลอดภัยให้ใช้หลบภัยได้ จากนั้นออกมาจากโรงหนังเดินขึ้นบันได Kelly จะโทรมาบอกสถานที่ซ่อนตัวของเธอ ซึ่งก็คือโกดังเก็บของในโซนร้านค้า


-จากนั้นเข้าประตูซ้ายของโรงหนังไปที่โซนร้านค้า เลี้ยวซ้ายไปตามทางผ่านร้านเสื้อผ้าไปก็จะพบประตูเหล็กสีขาวของโกดังที่ว่า สำรวจประตูแล้วกดโทรหา Kelly ให้เธอมาเปิดให้ ด้านในจะพบคนมากมายหลบภัยอยู่ที่นี่ มี อาจารย์ Maria , Angie ,หนุ่มใส่แว่นนรินาม และ คุณ Vigo เจ้าของเรือ
คุยกับ Kelly ให้หมดจะได้เบอร์ของ Jessica และ Monica มา 
คุยกับ Angie ให้หมดจะได้เบอร์ของ John Simpson มา 
คุยกับคุณ Vigo ให้หมดจะได้กุญแจประตูทางออกฉุกเฉินของโรงหนังมา
- แล้วเดินทางเข้าไปยังด้านในโรงหนังที่ประตูทางออกที่สุดทางเดินใกล้โรงที่ 3 เอากุญแจที่ได้มาไขเข้าไปด้านในต่อ


                                                         Scene 2


-ลงมาตามบันไดฉุกเฉินเรื่อยๆจะพบกับ Jerome ยืนรออยู่ คุยให้จบให้หมดทุกประโยค

** ใช้ไอเทม ซองจดหมาย (Envelope) กับเขา เพื่อทำให้เส้นทางในเกมไปตามทางสีน้ำเงิน ** 


Jerome จะเล่าให้ฟ้งว่าตอนนี้คนในเรือส่วนนึงเป็นคนของลัทธิหน้ากาก Hoodlums ที่ตั้งใจจะทำร้ายคนบนเรือ และเอกสารในซองนี้เป็นรูปที่พวกคนกลุ่มนั้นอ้างว่าเป็นครอบครัวที่แท้จริงของเขา ซึ่งเป็นคนของลัทธิหน้ากาก Hoodlums พวกมันเลยพยายามมาชิงตัวเขากลับไป 

-คุยจบเดินตามทางลงบันไดโดดลงไปชั้นล่างสุด ระหว่างทาง Jessica โทรมาเตือนเรื่องของ Eric ที่เป็นพนักงานในเรือว่าเป็นคนไม่ดีก่อนที่เธอจะร้องด้วยความหวาดกลัวแล้วเงียบหายไป เข้าประตูไปด้านในห้องเก็บตู้คอนเทรนเนอร์ เดินเข้าไปที่กลางห้องจะเจอตู้คอนเทรนเนอร์ตกลงมาจากด้านบน พยายามกดให้ทันเพื่อหลบมัน ก่อนที่เจ้า Scissorwalker จะออกมาจากตู้และเข้าทำร้าย พยายามดิ้นหลุดจากมันแล้วรีบสำรวจรางลำเลียงสินค้าเพื่อรีบคลานมุดเข้าไปอีกด้านพร้อมๆกับคลิ๊กเพื่อหลบการไล่ล่าของ Scissorwalker ให้ทันจนหนีเข้าไปด้านในได้


                                                   Scene 3

-เดินเข้าไปตามทางจนถึงห้องเก็บตู้คอนเทรนเนอร์ เข้าไปที่ตู้ที่เปิดอยู่ตรงทางเข้าจะพบสร้อยของโมนิก้าตกอยู่ สำรวจหลายๆครั้งจน Rooney มั่นใจว่า Monica ต้องแอบอยู่ในตู้ไหนซักแห่งแน่นอน จากนั้นเข้าไปสำรวจที่โต๊ะทำงานด้านในเก็บไอเทม Remote Control มา แล้วสำรวจตู้ที่อยู่ตรงข้ามรถโฟลค์ลิฟต์จะพบว่า Monica น่าจะอยู่ด้านในแต่ประตูจะล็อคอยู่ สำรวจขับรถโฟลค์ลิฟต์คันขวาสุดไปพุ่งชนประตูตู้คอนเทรนเนอร์จนหลุดออกแล้วเข้าไปก็จะพบ Monica ยังรอดชีวิตอยู่


-เข้าไปคุยกับ Monica เธอจะบอกให้ระวังชาย Vigo เจ้าของเรือเพราะมันชอบเอาดวงตาต้มในถ้วยบิกเบอร์ ซึ่งเป็นเหมือนที่อาจารย์ Leonard ส่งข้อความมาเตือนเอาไว้ คุยหลายๆครั้งจนจบ แล้วไปปีนขึ้นตู้คอนเทรนเนอร์ที่เจอสร้อยโมนิก้าจะสามารถกดรีโมทยกตัวเองขึ้นไปด้านบน – ขวาจะพบช่องที่สามารถมุดเข้าไปอีกด้านของประตูชัตเตอร์ขนาดใหญ่ได้
-เข้าไปสำรวจที่ห้องเก็บของทางขวาจะพบ Eric และ Cobie ที่บาดเจ็บอยู่ด้านใน ซึ่ง Eric ปฎิเสธเขาไม่ได้ทำอะไรอาจารย์ Leonard แต่เขานั่งเรือออกไปในทะเลแล้วหายตัวไป ก่อนที่ Rooney จะถามถึงการทำให้ลิฟต์ VIP กลับมาทำงานได้ ซึ่ง Eric ก็บอกว่าต้องปีนขึ้นไปจากด้านบนเพื่อไปที่ห้องสื่อสารเพื่อรีบู๊ทเครื่องใหม่ก่อนแต่ตอนนี้ท่อด้านบนยังปิดอยู่
-สำรวจที่ช่องระบายอากาศด้านบนแล้วกดโทรหา Kelly เพื่อให้เธอกดสวิตซ์เปิดช่องจากในฝั่งของโกดังให้ จากนั้นคุยกับ Eric อีกแล้วแล้วสำรวจช่องระบายอากาศก็จะสามารถปีนขึ้นไปด้านบนได้แล้ว

** ก่อนจะสำรวจท่อระบายอากาศเพื่อปีนเข้าไป หากเจอตัว Monica แล้ว Rooney จะขอยาจาก Eric เพื่อไปช่วยรักษาอาการาดเจ็บของ Monica ก็จะได้ไอเทมยา Eric’s Medication มา จากนั้นเอาย้อนกลับไปให้ Monica ในตู้ซะ ก็จะทำให้เส้นทางในเกมไปตามทางสีน้ำเงิน และไม่พบ bad Ending - Purgatory ที่ห้องพยาบาลด้วย ** 

-จากนั้นกลับมาที่ช่องระบายอากาศตรงที่ Eric อยู่แล้วมุดเข้ามาด้านใน อาจารย์ Maria จะโทรเข้ามาบอกว่าปีศาจกรรไกรบุกเข้ามาทำร้ายในโกดังที่ทุกคนซ่อนตัวอยู่แล้ว ที่นี่จะมีช่องระบายอากาศที่ 12 และ 13 ที่ต้องปีนต่อ ถ้าปีนช่อง 12 จะโดนน้ำซัดเข้ามาจนตาย เมื่อปีนขึ้นไปที่ช่อง 13 ทางซ้าย จะพบช่องระบายอากาศที่โกดังที่ Maria กำลังถูก Scissorwalker ฆ่าตาย ต้องพยายามกลั้นหายใจโดยคลิ๊กตามไอค่อนหัวใจให้สีฟ้าตลอดเพื่อให้รอดชีวิตจากตรงนี้ เมื่อรอดแล้วก็คลานเข้าไปลงที่ทางลงสุดทางจะเข้ามาที่ห้องพยาบาลได้


                                                          Scene 4


ที่ห้องพยาบาลถ้าไม่มีไอเทมยา Eric’s Medication ที่เอาไปให้ Monica เข้ามาจะถูกจิตใจของ Rooney จะถูกครอบงำจนหลอนไปเลย เป็น bad Ending – Purgatory ของ Monica 

- ถ้าเอายาให้ Monica แล้วก็เข้ามาด้านในได้เลย เข้าไปเปิดเตียงคนไข้ทางขวาจะพบกับอาจารย์ Leonard ที่ถูกจับมาทดลองจนร่างถูกเอาออกไปหมดเหลือแต่หัวอย่างน่าสยดสยอง แต่เขายังมีชีวิตอยู่และพยายามบอกกับ Rooney ให้ปิดสวิตซ์เครื่องช่วยชีวิตเพื่อฆ่าเขาซะจะได้ไม่ต้องทรมาน



** เข้าไปปิดสวิตซ์เครื่องช่วยชีวิตเพื่อช่วยให้อาจารย์ Leonard พ้นทุกข์ได้เลย ซึ่งจะเป็นทางเลือกให้เนื้อเรื่องเดินทางไปตามเส้นทางสีน้ำเงิน **



แต่มันจะเป็นที่ถูกใจของยัยเด็กผีที่ตามรังควาญ Rooney เป็นอย่างมาก เพราะเธอต้องการให้ Rooney ฆ่าคนจนกลายเป็นคนวิกลจริตตามที่เธอต้องการ แต่ครั้งนี้ Rooney กลับเริ่มจำความจริงทั้งหมดที่จิตใจเธอกำลงปกปิดอยู่ได้ เธอนิ่งไปซักพักก่อนจะเรียกวิญญาณเด็กหญิงว่า Connie และบอกให้หยุดตามรังควาญและให้ยอมรับตัวเองในฐานะน้องสาวที่ตายในอดีตว่าความผิดทั้งหมดไม่ใช่ความผิดของ Rooney แต่เป็นตัว Connie ที่พยายามโดดไปเก็บหมวกตัวเองจนทำให้ต้องเสียชีวิต  Rooney บอกให้Connie หยุดโทษเธอในเรื่องสาเหตุที่ตัวเองเสียชีวิต เธออยากให้น้องสาวของเธอยอมรับความจริงว่าเป็นความผิดของตัวเองและหยุดตามจองเวรกันเสียทีเพราะตอนนี้ Rooney เธออยากใช้ชีวิตในแบบของตัวเองซะที

-จากนั้นเปิดประตูเข้าไปด้านในต่อจนถึงเขตซากตึกในเขตที่พักอาศัย ซึ่งตอนนี้เหมือนจะโดนระเบิดจนทุกอย่างพังไปจนหมดแล้ว เข้าไปด้านในจนถึงหน้าโถงลิฟต์เข้าไปเก็บ Key Card A ที่ตกอยู่ในลิฟต์แล้วรีบกดคลิ๊กเอาตัวรอดให้ทันเพื่อหนีวิญญาณร้ายที่ออกมาโจมตี เข้าไปด้านในต่อจนถึงเขตน้ำท่วมขัง จะเห็นมีสายไฟฟ้าช็อตตกอยู่ แต่สามารถเดินลงไปในน้ำได้เลย ระหว่างทางจะเจอ Scissorwalker โผล่ออกมาจากน้ำเข้าโจมตี พยายามหันหลังกลับแล้วหนีมาสำรวจที่สายไฟฟ้าช็อตเพื่อใช้จัดการ Scissorwalker จนมันหนีไปได้ แล้วค่อยเดินข้ามน้ำไปจนสุดทางเดินเพื่อใช้  Key Card A กับลิฟต์ลงมาที่โซนร้านค้าตรงหน้าโรงหนังอีกครั้ง


                                                      Scene 5


-ลิฟต์จะพาขึ้นมายังโซนร้านค้าหน้าโรงหนัง เดินผ่านมายังร้านเสื้อผ้าเข้าไปสำรวจที่ห้องลองเสื้อจะพบ Angie แอบอยู่ในนี้ คุยให้หมดแล้ว เอาไอเทมแหวนแต่งงาน Wedding Ring ให้เธอ ซึ่งเป็นแหวนในมือของ John แฟนเธอที่ตายในลิฟต์ตอนที่ Monica เจอครั้งแรก Angie ก็ขอบคุณและตอบแทนด้วย ไอเทม ลูกบิลเลียด A ซึ่งเป็นลูกที่ 3 อันสุดท้ายมา
-จากนั้นออกไปเดินขึ้นบันไดที่โรงหนังไป Scissorwalker ก็จะโผล่ออกมาไล่ล่า รีบหนีไปที่ร้านขายเสื้อผ้าเข้าไปแอบที่ราวเสื้อผ้าไว้ทันทีที่ Scissorwalker เข้ามา Angie ที่ตอนนี้หมดสิ้นทุกอย่างก็พร้อมจะสู้ตาย และเธอก็ได้ตายสมใจเมื่อ Scissorwalker เข้าไปเสียบ Angie ตายคาห้องลองเสื้อก่อนจะเดินหายไป เมื่อรอดแล้วขึ้นไปชั้นบนเดินไปทางเดินฝั่งซ้ายเพื่อเข้าไปที่ทางเดินของส่วนซ้ายผ่านห้องบาร์จนถึงลิฟต์ที่จะขึ้นไปชั้น VIP ซึ่งตอนนี้ไฟฟ้าที่ Rooney ช็อตใส่เจ้า Scissorwalker ที่ซากอาคารด้านล่างก็ส่งผลให้ไฟฟ้ากลับมาใช้งานได้ปกติแล้ว ใช้ Key Card VIP กดขึ้นไปชั้นบนได้เลย

-ขึ้นมาที่ชั้น VIP ของเรือซึ่งเป็นส่วนของที่พักของ Vigo Boradsov เจ้าของเรือ เข้ามาตามทางแวะเข้าห้องทำงานของ Vigo สำรวจให้ทั่ว

ที่โต๊ะทำงานจะพบไดอารี่ของ Vigo ที่เป็นภาษารัสเซียแล้วสำรวจคอมบนโต๊ะจะมีไฟล์ที่แปลด้วยระบบแปลภาษาเป็นอังกฤษแล้วอ่านให้หมด


** การอ่านไดอารี่ของ Vigo นั้นจะส่งผลให้เนื้อเรื่องเดินทางไปในเส้นทางสีน้ำเงินซึ่งจะทำให้ Rooney ไม่ตายตอนเข้าไปด้านในจนเจอฉากจบแบบ Bad Ending Pre- established Harmony **

ไดอารี่ของ Vigo นั้นกล่าวถึง Yolanda น้องสาวของเขาที่ให้กำเนิดลูกของเขาที่เกิดจากพิธีกรรมโบราณ และพลังที่นำมาซึ่งชีวิตนิรันดร ซึ่งตอนนี้ Rooney ไม่เข้าใจที่ Vigo เขียนไว้แม้แต่นิดเดียว 

-แล้วกลับออกจากห้อง เดินเข้าไปจนสุดทางจะพบประตูรหัส

** ตรงนี้ถ้าไม่เอาแหวนแต่งงานให้ Angie จะเจอ Vigo รออยู่แล้วจะโดนมันพ่นยาพิษใส่จนกลายเป็นปีศาจฆาตกรไป ** 

- รหัสที่ต้องใช้คือลูกบิลเลียดที่เก็บมาทั้ง 3 ลูกคือกดที่ตำแหน่งลูก 3 – 5 – 9 ที่แป้นประตูก็จะเปิดออก



เข้าไปด้านในจนถึงทำงานของ Vigo อีกห้อง สำรวจให้ทั่วๆเข้าไปเก็บไอเทมดวงตา Eye of Kassites ในตู้เซฟข้างโต๊ะทำงานมา

สำรวจที่ลิ้นชักในโต๊ะตรงทางเข้าจะพบรูปครอบครัวในอดีตของ Jerome ซึ่งก็มีพ่อซึ่งมองเห็นหน้าไม่ชัด แม่ที่กำลังตั้งท้อง และแม่นมที่เป็นหญิงชราอีกคนที่ยืนข้างๆ


**การสำรวจรูปครอบครัวของ Jerome ก็จะเป็นตัวแปรที่ทำให้เรื่องราวในเกมดำเนินไปตามเส้นทางสีน้ำเงินได้ ** 

จากนั้นสำรวจตู้หนังสือจัดการเรียงหนังสือตามรหัสที่ได้มาจากข้อความจาก Jerome ในโทรศัพท์




                      หยิบหนังสือสีเขียวชั้นล่างไปวางชั้นบนเรียงดังนี้


AMORE
PUDICIZIA
MORTE
FAMA
TEMPO
ETERNITIA 

ประตูลับก็จะเปิดออกให้เข้าไปด้านในต่อจนถึงห้องจัดการงานเลี้ยง  ด้านใน Rooney ต้องตกใจเกือบช็อคเมือเห็นทุกคนบนเรือถูกนำเอาศพมาทำเป็นหุ่นเชิดเป็นแขกในงานเลี้ยงที่น่าสยดสยองนี้ ซึ่งแน่นอนว่าเพื่อนเธอหลายคนก็กลายเป็นศพอยู่ที่นี่หมดแล้ว 



ก่อนที่ Vigo Boradsov ตัวแสบในฐานะเจ้าของเรือและเจ้าลัทธิ Mask of hoodlums ต้นเหตุของเรื่องวุ่นวายทั้งหมดจะออกมาพร้อมกับ Scissorwalker ที่เสมือนเป็นทาสรับใช้ ก่อนทีจะมีชายหน้ากากที่ใส่ชุดพนักงานในเรือจะออกมาช่วยจับตัว Rooney ไว้อีกแรงจนเธอดิ้นไม่หลุด 

ในขณะที่ Scissorwalker กำลังย่างสามขุมมาพร้อมกรรไกรขนาดหมายจะแยกชิ้นส่วนร่างกายของ Rooney เสียงที่คุ้นเคยเผยออกมาจากชายหน้ากากบอกว่า Rooney อยู่นิ่งๆเพราะพ่อกำลังจะทำให้ทุกคนทีชีวิตเป็นนิรันดร




 แต่ Monica ก็มาพร้อมไม้หน้าสามออกมาฟาดกระบาลชายหน้ากากจนนอนสลบไปจนเผยให้เห็นใบหน้าข้างในว่าไม่ใช่ใครมันคืน Jerome นั่นเอง  

ตอนนี้ทุกอย่างก็กระจ่างออกมาแล้วว่า Jerome ก็คือลูกชายแท้ๆของ Vigo นามว่า Otto Boradsov ที่เกิดจากแม่ที่เป็นลูกสาวของ Vigo เองที่ชื่อ Yolanda ตามตำราศาสตร์มืดของหมอผีรัสเซียเมื่อ 200 ปีก่อนเพื่อใช้ทำพิธีที่ทำให้กำเนิดเด็กที่มีสายเลือดสมบรูณ์ (IE incest) ก่อนจะพลัดพรากจากกันไปตั้งแต่เด็กจน Jerome ลืมเรื่องราวในอดีตไปจนหมด เวลาผ่านไปพลังของ Vigo จากการศึกษาศาสตร์มืดของรัสเซียโบราณก็ยิ่งแข็งแกร่งมากขึ้น Vigo จึงใช้ศาสตร์มืดของมันครอบงำผู้คนจนกลายเป็นทาสรับใช้เพื่อแลกกับพลังแห่งความอมตะ กำเนิดใหม่กลายเป็นเผ่าพันธุ์ต้องคำสาปที่จงรักภัคดี ในฐานะ ผู้คลั่งลัทธิ Mask of hoodlums และ ได้ใช้ร่างของ Yolanda น้องสาวที่ฆ่าตัวตายเพราะเสียใจที่โดน Vigoข่มขื่นมาสร้างร่างใหม่ที่เกิดจากศาสตร์มืดนามว่า Scissorwalker และควบคุมมันด้วยดวงตาแห่ง Kassites เพื่อเป็นทาสรับใช้ของตัวเอง 

จนเมื่อเวลาที่เหมาะสมมาถึง Jerome ก็เดินทางมากับคณะนักเรียนในเรือสำราญ Oceanus ในฐานะญาติห่างๆของอาจารย์ Leonard ก็มาบรรจบพบเจอกับ Vigo ในฐานะเจ้าของเรือ ที่เริ่มเปิดฉากออกคำสั่งให้ Scissorwalker ไล่ล่าฆ่าทุกคนบนเรือทั้งหมดเพื่อเสริมพลังมือของตัวเอง ก่อนที่จะวางแผนสุดท้ายในการบูชายัญ Jerome ลูกชายตัวเองที่เป็นคนที่มี 2 วิญญาณเพราะเกิดจากพิธีกรรมของศาสตร์มืดกับ Scissorwalker ที่เป็นน้องสาว เพื่อสร้างพลังอำนาจแห่งชีวิตนิรันดรที่เขาหวังเอาไว้ 



Monica กับ Rooney พยายามจะหาทางหนีออกจากที่นี่โดย Monica ใช้ไม้หน้าสามทุกประตูอย่างสุดกำลังในขณะที่ Scissorwalker ก็กำลังเดินเข้ามาหมายปลิดชีวิตทั้งคู่ตามคำสั่งของ Vigo ด้วยคาถาตาปีศาจที่มันใส่อยู่ 

-ในขณะที่ Scissorwalker กำลังเดินเข้ามา Rooney มองซ้ายขวาแล้วรู้ดีว่าลำพังแรงของ Monica ไม่มีทางพังประตูออกไปได้ทันเวลาก่อนที่ Scissorwalker เดินเข้ามาเชือดแน่นอน เธอจึงตัดสินใจใช้คาถาดวงตาปีศาจด้วยการยอมควักดวงตาของตัวเองออกแล้วเอา Eye of Kassites ใส่เข้าไปแทน (เลือกไอเทม Eye of Kassites แล้วกดใช้ที่ส่วนหัวของ Rooney เลย) 




ดวงอำนาจแห่งคาถาตาปีศาจแห่ง Kassites ทำให้ Scissorwalker หยุดชะงักและยอมเชื่อฟังกับคำสั่งใหม่ที่ออกจากปาก Rooney ว่า ให้กลับจัดการฆ่าคนที่ทำให้เธอกลายเป็นปีศาจซะ Scissorwalker จึงเปลี่ยนเป้าหมายและเดินไปฆ่า Vigo ด้วยกรรไกรมรณะจนดับดิ้นตายขาเวที ไม่นานหลังจากผู้ใช้มนต์ดำหมดอำนาจ Scissorwalker แล้ววิญญาณที่ถูกครอบงำด้วยศาสตร์มืดทุกดวงก็สลายกลายเป็นไอสู่สุขคติในทันที 




หมอกหนาค่อยๆจางลงพร้อมแสงพระอาทิตย์ที่สาดส่องเข้ามาด้วยพร้อมเฮลิคอปเตอร์จากหน่วยกู้ภัยมาที่กำลังมาถึง ในห้วงคำนึงของสองสาวผู้รอดชีวิตที่กอดคอรออยู่เหมือนจะรู้ว่าฝันร้ายที่ผ่านมากำลังจะจบลงตรงนี้ในไม่ช้าแล้วอย่างแน่นอน ..........


           --------------------------------------- THE END --------------------------------------------------