วันพฤหัสบดีที่ 11 มกราคม พ.ศ. 2561

Assassin's Creed Origins


                        บทสรุป Assassin's Creed Origins


                                            By Decibel per oxide



                               ตอนที่ 1 Bayek of Siwa 



49 ปี ก่อนคริสตกาล ..... ภายใต้การปกครองของฟาโรห์ “ปโตเลมี” ที่ 13 (Ptolemy XIII)  และ พระนางคลีโอพัตรา ที่ 7 ผู้เป็นราชินีที่เป็นพี่น้องกัน ที่จำต้องแต่งงานกันเพื่อครองบัลลังก์สืบเนื่องกันหลังสิ้นพระชนม์ของฟาโรห์ผู้เป็นพระราชบิดาตามกฎเกณฑ์ที่วางไว้



  โชคร้ายที่พี่น้องคู่นี้ต่างก็กินแหนงแคลงใจกัน เพราะเรื่องท่าทีและความเห็นที่ไม่ตรงกันต่อท่าทีที่มีต่อ โรม มหาอำนาจใหม่ของยุคนั้น ฝ่าย คลีโอพัตราเชื่อว่าอียิปต์จะได้รับประโยชน์มากที่สุดถ้าให้ความร่วมมือกับโรม แต่อาร์สินีและปโตเลมีที่ 13 ไม่เห็นด้วย 




ในช่วงปลายยุคสมัยของ ราชวงศ์ปโตเลมี จึงเต็มไปด้วยปัญหา สงครามกลางเมือง และการช่วงชิงบัลลังก์ทั้งจากศึกที่มาจากภายในและภายนอก 


                                                   ซีวาโอเอซิส (Siwa Oasis)











                                                1 ปี ต่อมา ...........



                                 

                                                     Bent Pyramid





พีระมิดที่สร้างในสมัยฟาโรห์สนอฟรู (Snofru) ที่เรียกว่า พีระมิดหักงอ (Bent Pyramid) นั้นเพราะมีรูปร่างบิดเบี้ยวอันเนื่องจากเกิดปัญหาในระหว่างการก่อสร้างเนื่องจากแต่ละด้านของพีระมิดทำมุมชันมากเกินไปคือชันถึง 54 องศาทำให้ต้องเปลี่ยนแบบการก่อสร้างกลางคัน


                            

 กลายเป็นพีระมิดที่แต่ละด้านหักมุมเปลี่ยนความชันที่ประมาณระหว่างกลางความสูงของพีระมิดเหลือความชัน 43 องศา แต่ความผิดพลาดในครั้งนี้ก็ทำให้การก่อสร้างพีระมิดแห่งต่อมาประสบความสำเร็จมาจนถึงทุกวันนี้ 





Rudjex (The Heron) - แกคือ Medjay แห่ง Siwa ไม่ใช่หรอ ? ข้าคิดว่าพวก Medjay อย่างเจ้ามีหน้าที่สนับสนุนและปกป้ององค์ฟาโรห์ซะอีก ?

Bayek  - ข้าคือ Medjay ที่ไม่ได้อยู่ใต้อาณัติของฟาโรห์องค์ไหน .. แกเห็นนี่มั๊ย ?

Rudjex - ข้าอ่านชื่อตัวเองออกอยู่แล้วละ !



                                                           Bayek  - อ๊ากกกก !!



Rudjex – ทรยศงั้นหรอ? ....เราจะตามล่าแก เราจะหาแกจนกว่าจะพบ แม้ตอนแกหลับ 



Bayek  - หลับงั้นหรอ ข้าไม่เคยนอนหลับ มีแต่ซุ่มรอในความมืด เพื่อฆ่าพวกแกให้หมด ข้าจะฆ่าพวกแกทุกคน ทุกๆคนที่บังอาจมาสูดอากาศใน Siwa !!


                                                       Rudjex – อ๊ากกกกกกกก !!!



** Medjay**  เมดจาย คือชื่อเรียกของกลุ่มคนที่ทำหน้าที่เสมือนตำรวจรัฐของอียิปต์โบราณ ที่มาของชื่อ Medjay นี้มาจากชื่อเมืองๆนึงในอาณาจักรนูเบีย Nubia 



ซึ่งในยุคเก่าชาวอียิปต์มักจะจ้างชาวนูเบี้ยนในแถบเมดจายและพื้นที่ใกล้เคียงทำหน้าที่ อารักขา กองคาราวสินค้าที่ขึ้นลงล่องไปมาค้าขายในแถบบริเวณนั้นอย่างแพร่หลาย นาน ๆ เข้าก็มีการจ้างพวกเมดจายนี้ทำหน้าที่อารักขาอย่างอื่นด้วย เช่น วิหาร คฤหาสน์ใหญ่ ๆ 

                                               

จนต่อมาก็กลายเป็นจ้างมาคอยดูแลความเรียบร้อยของส่วนสำคัญ ๆ ของเมือง ซึ่งชาวอียิปต์มักจะเรียกชาวนูเบี้ยนที่เข้ามารับจ้างทำงานประเภทนี้เหมารวมว่า พวก เมดจาย ทั้งหมดแม้ว่าจะมีชาวนูเบี้ยนจากพื้นที่อื่นที่ไม่ใช่จาก เมดจาย มาทำงานประเถทนี้ด้วยก็ตาม 



 จนถึงในยุคใหม่ เมดจาย ก็รับหน้าที่ดูแลความสงบเรียบร้อยของเมืองทั้งเมืองทั่วอาณาจักรหรือแม้แต่เป็นองค์รักษ์ของฟาโรห์  จนคำว่า เมดจาย ที่เดิมทีหมายถึงชาวนูเบี้ยนต่างก็ได้เปลี่ยนความหมายกลายเป็นพวกที่คอยดูแลความสงบเรียบร้อยของเมือง ซึ่งเป็นความหมายที่ใกล้เคียงกับ ตำรวจ ในยุคปัจจุบัน นั่นเอง และเมื่อพวก เมดจาย ทำงานให้ฟาโรห์และคลุกคลีกับทางราชวังมากขึ้นทำให้พวก เมดจาย มีอิธิพลมากขึ้นไม่ต่างจาก ตำรวจรัฐ ทำให้พวก เมดจาย เป็นที่ยำเกรงของชาวอียิปต์เป็นอย่างมาก 

ด้านนอกฟีรามิด ไม่นานหลังจาก Bayek ได้หนีออกมา Hypatos บอดี้การ์ดของ Rudjex ก็เข้ามาขวางกั้นเรียกร้องสิทธิ์ที่มันควรจะทำคือแก้แค้นให้เจ้านาย

Hypatos – แกข้านายข้าแล้วยังทิ้งให้ข้าตายอีก นั่นเป็นความผิดพลาดครั้งใหญ่ของแกเลยล่ะ
 Bayek – เจ้านายแกมันไอ้ฆาตกร !!
Hypatos – ในฐานะที่ช้าสาบานจะเป็นบอดี้การ์ดเขาแล้ว แล้วเจ้าผู้ตั้งคำถามละเป็นใคร !!
Bayek – ด้วยเกรียติแห่ง Medjay แห่ง Siwa 
Hypatos – งั้นเจ้าก็มีค่าพอที่จะเป็นศัตรูของข้า ! Medjay คนสุดท้าย !!



R3 – ล็อกเป้าหมาย
L1 – การ์ด / ตั้งท่าเตรียมต่อสู้
R1 – โจมตีเบา (สำหรับโจมตีแบบต่อเนื่อง)
R2 – โจมตีหนัก (สำหรับทำลายการ์ดของศัตรู)
สี่เหลี่ยม – หลบหลีก 
R1 + R2 – ท่าโจมตีพิเศษ (ใช้ได้เมื่อเกท adrenaline เต็ม)

Hypatos –  เจ้าได้เร็ว เมดจาย แต่ข้ามีพละกำลัง !  โบราณสถานแห่งนี้ต้องได้เป็นหลุมศพไม่เจ้าก็ข้าคนใดคนนึงแน่นอน !!
Bayek – พักรบก่อนดีกว่ามั๊ย ข้าไม่อยากฆ่าเจ้าเลยเพราะเจ้าไม่ใช่เป้าหมายของข้า 
Hypatos – สู้และตายอย่างสมเกรียติคือหนทางของข้า !!

เมื่อจัดการ Hypatos ลงได้แล้ว กดปุ่มทิศทางขึ้นบน เพื่อใช้ Animus Pulse สำหรับมองหาจุดของไอเทมและจุดสำคัญๆในพื้นที่ ซึ่งจะทำให้ตำแหน่งรอยแตกของกำแพงที่สามารถทุบทำลายเพื่อเข้าไปในพื้นที่ต่อไปได้


มุดเข้าไปด้านในซากพีรามิด กดปุ่มทิศทางด้านขวาเพื่อใช้ คบไฟ เพื่อส่องทางในความมืด ใช้ Animus Pulse หาจุดของไอเทมในพื้นที่แล้วสำรวจเก็บให้หมดก่อนที่จะกลับมากลางพื้นที่เพื่อเดินขึ้นไปตามซากเสาที่ล้มพาดอยู่ไปจนถึงชั้นบน


สำรวจเก็บไอเทมชั้นบนให้หมดแล้วเข้าไปตามทางจนสุดทางที่เทวรูปขนาดใหญ่ก็จะพบแสงสว่างๆส่องลอดเข้ามา เข้าไปที่เทวรูปจะสามารถปีนขึ้นไปด้านบนได้ ที่พนังกำแพงที่ส่วนหัวของเทวรูปจะสามารถทำลายออกไปด้านนอกฟีรามิดได้



ทันทีที่ออกมาด้านนอกได้จะพบพวกทหารกำลังต่อสู้กับใครคนนึงอยู่ .. ใช่ Medjay ที่เป็นเพื่อนกันรึเปล่า?


Bayek รำพึงรำพันด้วยความประหลาดใจ ก่อนที่จะตัดสินใจเข้าไปช่วยจัดการทหารของศัตรูทันที



Bayek – ข้าเพิ่งผ่านมาเห็นว่าเจ้ากำลังมีเพื่อนใหม่พอดี
Hepzefa – ก็พวกมันดันมาซุ่มโจมตีข้าตอนที่กำลังมารอต้อนรับเจ้าไง ไม่เห็นหรอ? … ฮ่าๆๆๆๆ ไง หายไปเกือบเดือนเลยซินะ ดูหนวดเคราเจ้าสิวะ ฮ่าๆๆ
Bayek – ข้าว่ามันน่าจะเกือบปีด้วยซ้ำนะเพื่อนข้า
Hepzefa – มันคงจะดีมากเลยนะที่ได้ออกไปลุยข้างนอกแบบเจ้า ข้าก็ทำได้แค่ฝึกอยู่ที่ Siwa ไปพลางๆแค่นั้นเอง เฮ้ออ ได้ฆ่าพวกทหารแบบนี้ค่อยดูมีค่าขึ้นมาหน่อย 
Bayek – ข้าฆ่าหนึ่งในกลุ่มพวกสวมหน้ากากไปได้คนนึงแล้วนะ The Heron 
Hepzefa – งั้นก็เหลืออีก 4 ! ... เอาล่ะ มาเถอะเราต้องเดินทางต่ออีกไกลกว่าจะถึง Siwa เจ้าต้องพักบ้างนะ
Bayek – ไม่ ข้าจะไม่พักจนกว่าจะกระฉากใส่ไอ้พวกหน้ากากลงมาหมกฟื้นทรายให้หมดก่อน
Hepzefa – มาเถอะ ข้าล่ะคิดถึงเจ้าจริงๆเลย



                       MAIN QUEST – THE OASIS


จากนั้นกดปุ่มทิศทางลงล่างเพื่อเรียกอูฐซึ่งเป็นสัตว์พาหนะในการเดินทาง  กดสามเหลี่ยมเพื่อขึ้นอูฐแล้วขี่เดินทางตาม  Hepzefa ไปตามทาง จนถึง Oasis Siwa


Bayek – แล้วเจ้าล่ะเป็นไงบ้างตั้งแต่ข้าออกเดินทางไป
Hepzefa – มันก็ไม่ค่อยจะเหมือนเดิมหรอก Bayek ตั้งแต่ที่เจ้าจากไป พวกชาวบ้านยังเชื่อฟังคำสั่งข้าอยู่แต่ ...
Bayek – มีทหารเข้ามาอยู่ใน Siwa งั้นหรอ?
Hepzefa – ปโตเลมีต้องการให้ดินแดนทั้งหมดอยู่แทบเท้าของมันน่ะสิ ข้าทำได้ดีที่สุดก็แค่พยายามกันชาวบ้านให้ออกห่างจากปัญหา แต่ยังไงข้าก็ต้องให้เจ้าช่วยอยู่ดี
Bayek – ข้าจะช่วยอย่างเต็มที่ให้ดีที่สุดก็แล้วกัน แต่อย่าลืมนะว่า ข้าก็มีภารกิจทวงคืนความยุติธรรมที่ต้องทำอยู่ด้วย 



Bayek – เกิดอะไรขึ้นที่นี่เนี้ย?
Hepzefa – พวกทหารเข้าโจมตีทันทีที่จับได้ว่ามีชาวบ้านกำลังโกหกหรือปกปิดความลับ พวกมันก็เลยเผาที่นี่จนวอดอย่างที่เห็ย
Hepzefa – เอาล่ะ ขอต้อนรับกลับบ้านนะ Bayek !! ....Siwa ถิ่นนี้ต้องคิดถึงเจ้าแน่นอน 


                                    Sequence I



ณ. ทะเลทรายซาฮาราอันกว้างใหญ่กินพื้นที่ 1 ใน 3 ของทวีปแอฟริกาครอบคลุมพื้นหลายประเทศตั้งแต่ แอลจีเรีย, ชาด, อียิปต์, ลิเบีย, มาลี, มอริเตเนีย, โมร็อกโก, ไนเจอร์, เวสเทิร์นสะฮารา, ซูดานไปจนถึงตูนิเซีย


ไม่ใกล้ไม่ไกลจาก แกตตารา พื้นที่ต่ำกว่าระดับน้ำทะเลที่ตั้งอยู่ในจุดคาบเกี่ยวกับเขตทะเลทรายลิเบียนติดชายแดนลิเบีย ทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศอียิปต์



ยังมีพื้นที่แห่งชีวิตที่ชื่อ ซีวาโอเอซิส (Siwa Oasis) เป็นจุดอุดมสมบูรณ์ที่เต็มไปด้วยผู้คนมากมายที่ยังดำรงชีวิตอยู่ได้แม้จะถูกโอบล้อมด้วยโหดร้ายของทะเลอันกว้างใหญ่





Hepzefa – เอาล่ะ ถึงบ้านข้าแล้ว ลงจากอูฐสิ ปล่อยมันไว้แถวนี้แหละ มันไม่ไปไหนไกลหรอก 



Hepzefa – พักก่อนเพื่อนข้า วันนี้เราเจอมาหนักมากแล้ว
Bayek – ก็บอกแล้วว่าข้าไม่อยากพัก เราต้องเตรียมการเพื่อไปจัดการไอ้หมอนั่นอีก
Rabiah - Hepzefa ! Hepzefa !! อีกแล้ว ไอ้พวกทหาร ....... Bayek หรอ ??



Bayek – Rabiah ?
Rabiah - ข้าห่วงเจ้าแทบตายรู้มั๊ย?           
Bayek – เจ้าก็น่าจะรู้จักข้าดีแล้วนี่ ไม่ต้องห่วงน่า
Rabiah – ดูเจ้าสิ มีแต่บาดแผลเต็มไปหมด 
Bayek – ข้าไม่เป็นไรน่า 
Rabiah – ไม่ต้องมาพูดเลย นั่งๆๆ ข้าจะทำแผลให้เอง



Rabiah – ทั้งเจ้ากับ Aya ข้าก็เคยดูแลเจ้าสองคนมาตลอดจนโตอย่างกับลูก ถึงข้าจะไม่ใช่แม่จริงๆก็เถอะ ไม่ว่าเวลาจะเปลี่ยนไปยังไงข้าก็ยังเชื่อใจเจ้าอยู่นะ

เช้าวันรุ่งขึ้น ... Hepzefa จะมอบธนูให้กับ Bayek ไว้ใช้ และ ให้ฝึกซ้อมและเรียนรู้การยิงธนูเบื้องต้น
กด L2 เล็งเป้า


R2 ยิงธนู  โดยถ้าเป็นธนู Light Bow จะเป็นการยิงรัวไปที่เป้าหมายแต่หากเป็น Hunting Bow เมื่อกด R2 ค้างจะเป็นการซูมยิงที่รุนแรงขึ้น


แย่แล้ว Hepzefa สาวชาวบ้านที่หวังดีรีบวิ่งมาบอกข่าวกับ Hepzefa จนทำให้เขาและ Bayek หลบซ่อนตัวเพื่อรับมือให้ทัน 



อย่าให้ใครรอดออกไปจากบ้านหลังนี้ได้ เข้าใจนะ !!
Hepzefa ออกมาเถอะ เราแค่มาคุยด้วยแค่นั้นเอง .. Nomarch Rudjek ถูกฆ่าตายแล้ว เพื่อน Medjay ของเจ้ามันจบเห่แล้ว ออกมาเถอะถ้าเจ้าอยากพิสูจน์ความบริสุทธิ์ให้ตัวเองอ่ะนะ !!



จากนั้นจัดการพวกทหารให้หมดด้วยการเรียนรู้การลอบฆ่า โดยเริ่มจากสังเกตปฎิกริยาของศัตรู 
ถ้าเป็นสีเหลืองคือเริ่มสงสัยและระวังตัว
หากเป็นสีแดงคือเห็นแล้วและจะเข้าโจมตีีทันที
สามารถลอบฆ่าศัตรูได้ด้วยการกดสามเหลี่ยมในขณะที่ศัตรูไม่รู้ตัว ในขณะอยู่ในจุดซ่อนตัวสามารถกดปุ่มทิศทางลงล่างเพื่อผิวปากล่อศัตรูให้เข้ามาในระยะประชิดแล้วกดสามเหลี่ยมเพื่อลอบฆ่าศัตรูได้


Hepzefa – ทั้งหมดนี่คือปัญหาที่เกิดขึ้นที่ Siwa ข้าพยายามช่วยรวบรวมเอาไว้ให้มากที่สุด พยายามช่วยทุกคนในทุกๆปัญหาแต่มันก็เยอะเกินไป
Bayek – แล้วที่เจ้าเล่าให้ข้าฟังเรื่อง พลังของเทพเจ้าอะไรนั่นล่ะ?
Hepzefa – ปัญหาที่แท้จริงอยู่ที่ชายเจ้ากำลังจะไปฆ่าต่างหาก เจ้า Medunamun ชาวบ้านต่างก็มีความหวังทุกครั้งที่มันมาถึง ทุกคนคิดว่าสิ่งที่ดีๆจะเกิดขึ้นแน่นอน เราจะได้รู้ความจริงในไม่ช้านี้แน่นอน 



Medunamun The IBIS – ข้าห่วงเรื่องความปลอดภัยของครอบครัวเจ้านะ เจ้านักบวช เลยต้องเอาตัวไปไว้ในที่ที่ปลอดภัยก่อน


Hepzefa – นั่นแหละคนที่เจ้าต้องเผชิญหน้าคนต่อไป
Bayek – ข้าจะตามหาและฆ่ามันเอง !
Hepzefa – Medunamun มันมีอำนาจมากกว่าที่เห็นนะ รอบๆตัวมันมีแต่ทหารที่แข็งแกร่งเต็มไปหมด
Bayek – ข้าไม่สนพวกแม่งหรอก
Hepzefa – เจ้าจะตายเปล่าน่ะสิ เจ้าต้องแกร่งมากๆกว่านี้ถ้าอยากจะฆ่าได้โย่งนั่น เพื่อความชัวร์หาชุดเกราะให้ดีๆหน่อยก็แล้วกัน อาวุธอาจจะหายากหน่อยเพราะในหมู่บ้านพวกทหารมันมายึดไปจนหมด
Bayek – ข้าจัดการเองได้ เดี๋ยวลองไปคุยกับคนตีอาวุธดู
Hepzefa – ใช่ Blacksmith Benipe อาจช่วยนายได้ แล้วก็ เจ้า Senu จะช่วยเจ้าตามหาสิ่งที่เจ้าต้องการ 
Bayek – Senu ? มันยังไม่ตายหรอ?



Hepzefa – ดูสิใครมา?
Bayek – Senu นังหนู แกยังดูดีมาเปลี่ยนเลยนะ 
Hepzefa – Rabiah เป็นคนที่ปฐมพยาบาลมันและเลี้ยงดูมันอย่างดีเลยละ
Bayek – ขอบคุณนางมากจริงๆเลย
Hepzefa – ชาวบ้านที่นี่ต้องการให้นายช่วยนะ Bayek ถ้านายช่วยพวกเขา พวกเขาก็จะช่วยนายเป็นการตอบแทน 

หลังจบภารกิจนี้จะได้รางวัลเป็นค่า XP แรก 1000XP สำหรับเพิ่มระดับเลเวลของตัวละครพร้อมๆกับค่า SP จากการเลเวลอัพสำหรับนำไปเรียนรู้ Skill ใหม่ๆเพิ่มเติมในเมนู Skill และจะได้ภารกิจใหม่เพิ่มมาอีก 2 ภารกิจคือ  Main Quest: The False Oracle และ Side Quest: Gear Up 

                                          SKILL 

                                                

                                              Warrior Skill


1.OVERPOWER เมื่อเกท  adrenaline เต็มสามารถปลดปล่อยพลังของอาวุธด้วยท่าโจมตีที่รุนแรง (R1 + R2) [มีติดตัวแต่แรก]
2.REGENERATION ขณะต่อสู้พลังชีวิตจะค่อยๆเพิ่มทีละนิด [1 Skill Point]
3.CHARGE HEAVY ATTACK สามารถชาร์จพลังโจมตีของ Heavy attack ได้ด้วยการกด R2 ค้างแล้วปล่อย (ทำลายโล่ศัตรู)
 [1 Skill Point]
4.AIR ATTACK สามารถใช้ท่าโดดโจมตีจากที่สูงได้  [1 Skill Point]
5.PARRY ในขณะใช้โล่ สามารถโต้การโจมตีศัตรูกลับด้วยการกด O ในขณะที่ศัตรูกำลังเข้ามาโจมตีในระยะประชิด (ทำลายการ์ดของศัตรู)  [1 Skill Point]
6.HIJACK สามารถดึงศัตรูลงจากม้าแล้วขโมยม้าของมันไปขี่ต่อได้
[2 Skill Point]
7. WEAPON BEARER สามารถส่วมใส่อาวุธ (ประเภท Malee) ได้ 2 ชนิด กดปุ่มทิศทางขวาเพื่อสลับการใช้งาน [1 Skill Point]
8.OVERPOWER COMBO เมื่อใช้ท่า OVERPOWER แล้วจะสามารถโจมตีต่อเนื่องด้วย Light attack ได้ซ้ำอีกชุด[2 Skill Point]
9. OVERPOWER ULTRA เพิ่มพลังโจมตีของท่า OVERPOWER 2 เท่า [1 Skill Point]
10. OVERPOWER XP เมื่อใช้ท่า OVERPOWER จัดการศัตรูจะได้ค่า XP เพิ่ม [1 Skill Point]
11. OVERPOWER CHAIN THROW เมื่อใช้ท่า OVERPOWER ฆ่าศัตรูแล้ว กด R1 จะสามารถเอาอาวุธของมันไปขว้างศัตรูอีกตัวที่อยู่ใกล้ๆได้ [3 Skill Point]
12.ATTACK AND PUSH กด R1 หลังจากจบคอมโบของ light attack จะเป็นการถีบศัตรูส่งท้าย [1 Skill Point]
13.ADRENALINE 1 เริ่มต่อสู้ด้วยเกท ADRENALINE 1 หลอด
[1 Skill Point]
14.SHIELD CHARGE ในขณะใช้โล่ กด O จะทำให้ท่าวิ่งอัดโล่กระแทกศัตรูให้กระเด็น (ใช้ ADRENALINE) [2 Skill Point]
15. ADRENALINE 2 เริ่มต่อสู้ด้วยเกท ADRENALINE เต็มหลอด [3 Skill Point]
16. EXTEND COMBO สามารถเปิดการโจมตีระยะประชิดหนึ่งครั้งก่อนที่ศัตรูจะรู้ตัว [2 Skill Point]
17. KILL LOOT ฆ่าศัตรูแล้วไอเทมจะเข้าตัวแบบอัตโนมัติ [3 Skill Point]
18.MASTER WARRIOR เพิ่มพลังโจมตีให้กับการโจมตีด้วย melee attack 1% [1 Skill Point]



                                              Hunter Skill 


1. EAGLE TAGGING กดปุ่มทิศทางขึ้นบนจะสามารถใช้ Senu บินขึ้นหาเป้าหมายที่สำคัญได้  [มีติดตัวแต่แรก]
2.ASSASSINATION XP เมื่อลอบฆ่าศัตรูจะได้ค่า XP เพิ่ม [1 Skill Point]
3.STEALTH KILL STREAK เมื่อทำภารกิจลอบฆ่าศัตรูแล้วไม่โดนเจอตัวเลยจะได้ค่า XP เพิ่ม [1 Skill Point]
4.HEADSHOT XP เมื่อฆ่าศัตรูด้วยการยิงหัวจะได้ค่า XP เพิ่ม [1 Skill Point]
5.ASSASSINATION LOOT เมื่อลอบฆ่าศัตรู ไอเทมจะเข้าตัวอัตโนมัติ [2 Skill Point]
6.ARROW RETRIEVER สามารถดึงธนูที่ปักติดโล่มาเก็บไว้ใช้ได้ [1 Skill Point]
7.BOW BEARER สามารถส่วมใส่ธนูได้ 2 อัน สลับการใช้งานด้วยปุ่มทิศทางด้านซ้าย [1 Skill Point]
8. EAGLE HARASS สามารถใช้ Senu บินไปก่อกวนศัตรูทำให้มันมึนงงเพื่อสะดวกในการเข้าโจมตีไดเด้วยการกด สามเหลี่ยมขณะที่เรียกใช้ Senu [2 Skill Point]
9.ENHANCED LIGHT BOW สามารถยิงธนู Light bow ได้หลายชุดมากขึ้นก่อนรีโหลด[2 Skill Point]
10. ENHANCED PREDATOR BOW สามารถควบคุมทิศทางของลูกธนู PREDATOR กลางอากาศได้ด้วยการกด R2 [2 Skill Point]
11. ENHANCED HUNTER BOW สามารถกด R2 ชาร์จพลังยิงธนู HUNTER BOW เพื่อทำลายการ์ดของศัตรูได้ [2 Skill Point]
12.ENHANCED Warrior BOW สามารถกด R2 ชาร์จพลังก่อนยิงธนู Warrior BOW เพื่อขยายผลของวงกลมเล็งเป้าหมายให้กว้างขึ้น  [2 Skill Point]
13. Hunter's Instinct สามารถใช้ Senu บินไปตรวจสอบตำแหน่งและทิศทางของเป้าหมายได้ด้วยการกด X [2 Skill Point]
14.ELITE RANGER สามารถเล็งธนูกลางอากาศแบบสโลโมชั่นได้
[3 Skill Point]
15. Bow Fury เมื่อใช้ธนูลอบฆ่าศัตรูเป้าหมายได้ จะสามารถสโลว์เวลา 3 นาทีเพื่อยิงเป้าหมายต่อไปได้ [3 Skill Point]
16. CHAIN ASSASSINATION เมื่อลอบฆ่าศัตรูเป้าหมายแรกด้วย Hidden Blade จะสามารถกดสามเหลี่ยมขว้างมีดลอบฆ่าศัตรูปัดหมายถัดไปที่อยู่ในรหัศมีใกล้เคียงได้ [3 Skill Point]
17. Master Hunter เพิ่มพลังโจมตีให้กับการโจมตีด้วยธนู 1% [1 Skill Point]

                                                 Seer Skill 


1. CALL MOUNT กดปุ่มทิศทางลงล่างเพื่อเรียกสัตว์ภาหนะ  [มีติดตัวแต่แรก]
2.DAWN AND DUSK กดทัชเพทของจอย เพื่อเร่งเวลา  [1 Skill Point]
3.FIRE BOMB สามารถใช้ระเบิดไฟ สลับการใช้งานด้วยการปุ่มทิศทางขวา  [1 Skill Point]
4.SMOKE SCREEN กดสามเหลี่ยมหลังจากโจมตีศัตรูหรือขณะกลิ้งตัวหลบจะสามารถปาระเบิดควันทำให้ศัตรูสับสนเพื่อใช้ในการหนีจากการต่อสู้  [1 Skill Point]
5. PYROMANIAC เพิ่งความรุนแรงของอาวุธไฟ 50% [1 Skill Point]
6.SMOKE SCREEN DAMAGE ทำให้ศัตรูที่โดนระเบิดควันบาดเจ็บและเสียหลักล้มลงกับพื้น [2 Skill Point]
7.SLEEP DARTS สามารถใช้ลูกดอกยาสลบ สลับการใช้งานด้วยการปุ่มทิศทางขวา  [1 Skill Point]
8.FLESH DECAY กด L3 ใช้สารพิษใส่ลงบนศพเพื่อทำให้มันติดเชื้อและปล่อยให้มันปนเปื้อนศัตรูบริเวณใกล้เคียง[1 Skill Point]
9. BERSERK กด L3 ใช้สารพิษกับศัตรูทำให้มันบ้าคลั่งโจมตีกันเอง [2 Skill Point]
10. POISON DARTS สามารถใช้ลูกดอกยาพิษ สลับการใช้งานด้วยการปุ่มทิศทางขวา  [2 Skill Point]
11.ANIMAL TAMING เมื่อใช้ลูกดอกยาสลบทำให้สัตว์สลบ กดสามเหลี่ยมกับตัวมันจะทำให้มันเชื่องและติดตามช่วยเหลือ [3 Skill Point]
12.BREATH HOLDING CHAMPION ทำให้ดำน้ำได้นานขึ้น [3 Skill Point]
13. SALESMAN สามารถขายสินค้าพวกวัตถุดิบและเครื่องประดับเล็กๆน้อยได้ราคามากขึ้น + 25%   [1 Skill Point]
14.TOOL KILL XP ฆ่าศัตรูด้วยเครื่องมือต่างๆ( FLESH DECAY
, ลูกดอกยาพิษ หรือระเบิดไฟ) จะทำให้ได้ค่า XP เพิ่มขึ้น [1 Skill Point]
15. Backstore สามารถซื้อไอเทมหายากในร้านค้าได้  [2 Skill Point]
16.BUY MATERIALS สามารถซื้อวัสดุในการ craft จากร้านค้าทั่วไป , Blacksmith และ Weaver shops (แต่ละร้านจะขายวัสดุที่ต่างชนิดกัน)  [2 Skill Point]
17. CHARIOT OWNER สามารถซื้อรถศึกจาก stable shops
ได้ [3 Skill Point]
18. Master Seer เพิ่มพลังโจมตี 1 % เมื่อใช้เครื่องมือต่างๆ ( FLESH DECAY, ลูกดอกยาพิษ หรือระเบิดไฟ) จัดการศัตรู [3 Skill Point]


ก่อนจะมุ่งหน้าไปยังภารกิจหลัก แวะเก็บภารกิจยิบย่อยต่างๆตามไอค่อนในแผนที่เพื่อเก็บเลเวลและ AP เพื่อสะสมประสบการณ์ก่อนก็ดี


-เครื่องหมาย ? เมื่อสำรวจจะเปิดเผยให้เห็นสถานที่ต่างๆ (เคลียร์ด้วยการ Loot Treasure เก็บไอเทมตามจำนวนที่ระบุ)
-Lair และ Animal Cave ถ้ำสัตว์ต่างๆ (เคลียร์ด้วยการจัดการ Kill animal ตามจำนวนที่ระบุ)
- Papyrus Puzzle – กระดาษปริศนาเพื่อตามเก็บไอเทมปริศนา
- Tomb สถานโบราณต่างๆ (เคลียร์ด้วยการค้นหาแผ่นจารึกโบราณ Ancient Tablet ตามจำนวนที่ระบุ)
-จุด View point จุดสูงตามที่ต่างที่เมื่อเข้าไป Synchronize จะสามารถเปิดแผนที่ในพื้นที่นั้นรวมถึงทำให้มันกลายเป็นจุด Fast Travel ด้วย
-เครื่องหมาย ! คือ Side Quest เควสย่อยต่างๆที่สามารถรับงานจากชาวบ้าน


                                       โบราณสถาน [TOMB] ใน Siwa Oasis


             ที่ Siwa Oasis จะมีโบราณสถานแห่งเดียวคือ  [Tombs] Mountain of the Dead Tomb



                                             Papyrus Puzzle ใน Siwa Oasis


ก่อนอื่น เข้าไปสำรวจที่ House of life จะพบกระดาษบอกใบ้ปริศนา  A Long Drink มาก่อน





            ในคำบอกใบ้บรรยายว่าสมบัติอยู่ในบ่อขนาดใหญ่ที่แม้แต่พระเจ้าก็ตกลงไปได้



จากนั้นมาที่ตำแหน่งในแผนที่ จะพบบ่อน้ำทรงกลมขนาดใหญ่ ดำลงไปจะพบกล่องสมบัติตามคำบอกใบ้ ได้ไอเทมอาวุธธนู Mute Bow กับ 300XP ก็เป็นอันจบเควส




                                              Quest item ที่ซ่อนอยู่ใน Siwa Oasis

                                                ที่จุดบ้านพักตามเป้าหมายในแผนที่




ในกล่องสมบติที่อยู่ในบ้านนี้ Bayek จะพบ Figurine of Horus ที่เป็นของขวัญวันเกิดอายุครบ 6 ขวบของ Khemu ลูกชายของ Mayek



                                         เควสย่อยใน Siwa Oasis 


                                                 มีทั้งหมด 8 เควสประกอบด้วย


1.Side Quest: Gear Up 
ระดับเควส – LV2
รางวัล: 500 XP, breastplate upgrade.


ภารกิจย่อยแรกที่ได้มาหลังจบเควสแรก สิ่งที่ต้องทำคือ ล่าสัตว์เก็บชิ้นส่วนของมันมาใช้เป็นวัตถุดิบในการ Craft เครื่องสวมใส่และอุปกรณ์ติดตัว หาวัตถุดิบมาให้สามารถ Craft เครื่องสวมใส่อันไหนก็ได้ 1 ครั้งก็จะผ่านภารกิจนี้



                                                     2. Side Quest: The Healer

                                       เข้าไปที่จุดหมายของภารกิจเพื่อคุยกับ Rabiah



Bayek – ขอบคุณที่ช่วยดูแล Senu ให้ปลอดภัยนะ ข้าคิดว่าจะไม่ได้เจอมันอีกแล้ว
Rabiah – นางก็เป็นอีแก่ตายยากเหมือนข้านั่นแหละ
Bayek – Hepzefa บอกว่าท่านดูแลพวกชาวบ้านที่บาดเจ็บหรือล้มป่วยด้วยหรอ คงจะเป็นเกรียติมากที่ข้าจะช่วยท่านได้ซักครั้ง 
Rabiah – สมแล้วที่เป็นเจ้านะ ใจบุญจริงๆ ข้ากำลังอยากให้ช่วยพอดีเลย ..พวกทหารโจมตีเกือบจะทุกหมู่บ้านจนชาวบ้านบาดเจ็บกันมากมาย บ้างก็ฟกช้ำบ้างก็กระดูกหัก ข้าพยายามช่วยรักษาพวกเขา พาพวกเขาไปนอนพักรักษาตัวที่วิหารเก่าแก่ของหมู่บ้านที่เรียกว่า House of life แก้ขัดไปก่อน เพื่อข้าเป็นคนช่วยนำยามาจาก Yamu แต่พวกทหารก็มาขัดขวางไม่ยอมให้หมู่บ้านแถมยังขโมยยาของเราไปจนหมด ข้าก็เลยเปลี่ยนเป็นขนยามาทางเรือแทน 
Bayek – พวกทหารก็มาขัดขวางอีกละสิ?
Rabiah – พวกมันโจมตีเรือขนสินค้าของเราจนโถยาจมลงใต้น้ำจนหมด
Bayek – เดี๋ยวข้าจะไปนำกลับมาให้เองก็แล้วกัน
Rabiah – ได้มาแล้วเอาไปให้ข้าที่ House of life ก็แล้วกันนะ 



เปิดดูแผนที่จะพบจุดสีเหลืองในบ่อน้ำ 3 จุด กดปุ่มทิศทางขึ้นบนเรียกให้ Senu บินขึ้นไปตรวจสอบเป้าหมายก็จะเห็นตำแหน่งของโถยาทั้ง 3 ที่อยู่ใต้น้ำ จากนั้นดำน้ำลงไปที่จุดเป้าหมายเก็บโถใส่ยาขึ้นมาให้ครบทั้ง 3 จุดแล้วเอากลับไปให้ Rabiah ที่วิหาร House of life



Bayek – เกิดอะไรขึ้น ทำไมพวกคนป่วยไม่ไปนอนในวิหารล่ะ?
Rabiah – พวกทหารไล่เราออกมานะสิ ข้านึกว่ายอมจ่ายให้เจ้าของที่แล้วจะไม่มีใครมายุ่ง แต่ทหารกลับเข้ามาตรวจแทบทุกอาทิตย์เลย แถมยังมาไถ่เงิน บอกว่าเป็นเงินภาษีเพื่อเอาไป บรรณาการให้ฟาโรห์ ปโตเลมี อีก ไม่เห็นใจคนยากคนจนเลย
Bayek – พวกอีแร้ง !! ไม่ต้องห่วงนะ Rabiah เดี๋ยวข้าจะทำให้พวกมันไม่มากวนท่านอีกเลย 
Rabiah – ระวังตัวด้วยนะ Bayek

จากนั้นเข้าไปด้านในวิหาร House of life จัดการทหารให้หมดแล้วกลับไปคุยกับ Rabiah อีกครั้ง



Bayek – วิหารเป็นของท่านแล้ว รับรองว่าพวกทหารจะไม่มาก่อกวนท่านอีก
Rabiah – ข้าขอบคุณแทนคนไข้ทุกคนด้วยนะ
Bayek – อ่อ ข้าเกือบลืมเอายาจากเรือที่จมให้ท่านเลย
Rabiah – โอ้ ฮ่าๆๆ ข้าเองก็มัวแต่ตื่นเต้นจนลืมทวงไปเลยเหมือนกัน
Bayek – Oasis Siwa โชคดีจริงๆเลยที่มีท่านอยู่ Rabiah
Rabiah – ฮ่าๆ ...สัญญากับข้าก่อนว่าเจ้าจะไม่ให้ความอาฆาตแค้นมันกัดกินเจ้า Bayek
Bayek – ข้าไม่คิดอะไรนอกจากการแก้แค้น ... วันนึงข้าก็อยากจะเป็นอิสระจากมันเสียทีเหมือนกัน




                                              3.Side Quest: Striking the Anvil


ระดับเควส – LV3
รางวัล: 500 XP, สามารถใช้บริการร้าน blacksmith

เข้าไปที่จุดหมายของภารกิจเพื่อคุยกับ Benipe  เจ้าของร้านขายอาวุธ


Bayek – เกิดอะไรขึ้นกับร้านของนายกันแน่?
Benipe - ก็ไอ้หัวหน้าทหารของ ปโตเลมี น่ะสิมันเห็นข้าตีดาบทำอาวุธต่างๆเลยกล่าวหาข้าว่าสนับสนุนพวกกบฏ
Bayek – ก็ไม่จริงรึไง?
Benipe - พวกมันยึดเครื่องมือทำอาวุธของข้าไปหมดด้วย 
Bayek – บ้าเอ๊ย คนที่นี่ต้องการร้านขายอาวุธนะ แม้แต่ข้าก็เถอะ 
Benipe - ข้าก็อยากช่วยเจ้าอ่ะนะ Bayek แต่คงทำอะไรไม่ได้นอกจากจะได้เครื่องมือต่างๆของข้าคืนมาก่อน ใจจริงอยากจะจัดการให้หัวหน้าทหารชั่วนั่นด้วยซ้ำ 
Bayek – บอกได้มั๊ยว่าหัวหน้าทหารกับเครื่องมือของเจ้าอยู่ที่ไหน?
Benipe - อยู่ที่แค๊มป์ Shetjeh ทางตะวันตก
Bayek – เดี๋ยวข้าจะไปเอาเครื่องมือของเจ้าให้ แล้วจะจัดการหัวหน้าทหารนั่นให้ด้วย 



เมื่อกำหนด Side Quest: Striking the Anvil ที่ได้มาแล้ว ในแผนที่จะมีจุดหมายของภารกิจ 2 จุด จากนั้นใช้ Senu บินขึ้นไปตรวจสอบเป้าหมาย กด L2 ซูมเพื่อค้นหาเป้าหมาย



 จนพบหัวหน้าทหารและเครื่องมือทำอาวุธที่ถูกเก็บไว้ในค่ายที่มีทหารเฝ้าอยู่ ลอบเข้าไปเก็บ Bag of Blacksmithing  ถุงเครื่องมือของ Benipe มาแล้วไปจัดการหัวหน้าทหารเป้าหมายซะ


เมื่อนำเอาเครื่องมือกลับไปคืนให้ Benipe แล้วเขาก็จะสามารถเปิดร้านขายอาวุธที่สามารถซื้อ ขาย และอัพเกรดอาวุธต่างๆได้แล้ว จากนั้น Benipe จะให้เลือกอาวุธชั้นดีของเขาเป็นรางวัลก็จะจบภารกิจนี้




                                                     4. Side Quest: Hideaway

ระดับเควส – LV3
รางวัล: 500 XP, 1AP , ศึลาจารึกโบราณ (อยู่ด้านในสุดของ Mountain of the Dead Tomb)

เข้าไปที่จุดรับภารกิจที่ Mountain of the Dead Tomb จะเจอ Fenuku รออยู่


Bayek – Fenuku ที่นี่มันอันตรายนะ กลับบ้านไปเลย
Fenuku – Bayek พี่กลับมาแล้วหรอ?
Bayek – แล้ว Chenzira ล่ะ ไปไหน?
Fenuku – เขาอยากไปดูกะโหลกในรังของ Hyena อ่ะดิ แต่ยังไม่ทันได้เข้าไปพวก Hyena ดันกลับมาซะก่อน ข้าวิ่งหนีมาที่นี่ส่วน Chenzira วิ่งเข้าไปในโบราณสถานเลย 
Bayek – โชคดีที่ไม่โดน Hyena ขย่ำตาย เจ้ากลับไปที่หมู่บ้านก่อนเลย เดี๋ยวข้าจะเข้าไปตามพี่ชายเจ้าเอง
Fenuku – แล้ว อ่า ...พี่จะบอกพ่อแม่ข้ามั๊ยอ่ะ
Bayek – Chenzira เป็นคนชวนเจ้ามา เขาต้องเป็นคนไปคุยกับพ่อแม่เอง เจ้ากลับไปได้แล้ว

จากนั้นเข้าไปด้านใน Mountain of the Dead สำรวจเก็บไอเทมให้หมดจนถึงห้องด้านในที่เก็บป้ายจารึกโบราณ จะพบ Chenzira อยู่ที่นี่



Bayek – เจ้าอยู่ในนี้ไม่ได้นะ
Chenzira – ข้าหนีพวก Hyena มาอ่ะ
Bayek – เรื่องนั่น Fenuku เล่าให้ข้าฟังหมดแล้ว พาตัวเองไปเสี่ยงยังไม่พอยังจะชวนน้องไปเสี่ยงด้วยอีกหรอ?
Chenzira – แต่ Khemu .....จากไปแล้ว ..
Bayek – เอาล่ะ ช่างมันเถอะ ข้าจะพาเจ้าออกไปจากที่นี่เอง 



คุยจบ Chenzira  จะพาแวะให้สำรวจที่ป้ายจารึกโบราณในห้องนี้เพื่อเก็บเป็น Collection ก่อน


Chenzira – เอ่อ ... Bayek ข้าอยากจะบอกอะไรอย่างนึงอ่ะ ...เรื่อง Khemu ข้าผิดเองแหละ พวกมันถามว่าคุณอยู่ที่ไหน ข้าเห็นว่ามันไม่ได้ทำร้ายใครก็เลยบอกพวกมันไป
Bayek – ช่างเถอะ Chenzira อย่าโทษตัวเองเลย เจ้าไม่รู้นี่ว่าพวกมันจะทำอะไร และพวกมันอาจจะทำร้ายครอบครัวของเจ้าก็ได้ถ้าไม่บอกไป

จากนั้นนำทาง Chenzira ออกไปที่ทางออกอีกด้านของถ้ำ จัดการฝูง Hyena มากมายที่รออยู่หน้าถ้ำ แล้ว Chenzira ก็จะสามารถกลับบ้านได้อย่างปลอดภัย .. จบภารกิจ


แวะเข้าไปที่บ้านของ Hepzefa ที่โต๊ะทำงานชั้นบนจะเป็นโต๊ะที่สามารถรับงานเพิ่มเติมจากพวกชาวบ้านที่น้องเรียนมาได้


เมื่อสำรวจที่โต๊ะรับภารกิจ (Informant Table) จะมีเควสย่อยเพิ่มมาให้อีก 2 ภารกิจคือ
- Side Quest: Water Rats
- Side Quest: Family Reunion





                                                    5. Side Quest: Water Rats


ระดับเควส – LV3
รางวัล: 500 XP 

ภารกิจนี้มีชาวบ้านว่าจ้างให้ไปเอาน้ำบริสุทธิ์มาจากถ้ำ Amanai ที่เป็นสถานที่ที่มีน้ำบริสุทธิ์ที่สุดแต่ก็อันตรายที่สุดเช่นกันเพราะมีพวกโจรใช้เป็นรังของพวกมัน ชาวบ้านจึงจ้างให้ Bayek มาจัดการพวกโจรให้หมดเพื่อจะได้นำน้ำไปใช้ได้อย่างปลอดภัย

เข้าไปที่จุดหมายของภารกิจที่ถ้ำ Amanai ทางเหนือของเมือง ใกล้กับ Animal Cave จะพบพวกโจรมากมาย ลอบเข้าไปจัดการพวกมันให้หมด (เก็บกล่องสมบัติที่อยู่ในนี้ 3 กล่องมาให้ครบ) ก็จะจบภารกิจ


ขอบคุณพระเจ้า ที่นี้พวกชาวไร่ชาวนาจะได้ไม่ต้องเสี่ยงอันตรายกันซะที ข้าเป็นเกรียติมากที่ท่านกลับมานะ Bayek ดีใจที่เราได้ Medjay ของเรากลับมาซะที



                                            6. Side Quest: Family Reunion


ระดับเควส – LV3
รางวัล: 500 XP 



ภารกิจนี้ Issa หญิงชาวบ้านจาก Siwan คนนึงร้องขอมาให้ไปช่วยเหลือสามีของเธอที่ชื่อ Teremun และเพื่อนที่ถูกทหารจับไป โดยให้ Senu บินขึ้นไปตรวจสอบที่ Temple of Amun จะพบกรงขังนักโทษที่ Teremun และพวกถูกจับอยู่นอกเขตรั้วด้านทิศเหนือของ Temple of Amun


จากนั้นลอบเข้าไปที่กรงขัง จัดการทหารรอบๆให้หมด แล้วเปิดกรงขังช่วยทุกคนออกมา แต่จะพบว่า Teremun นั้นตายไปก่อนแล้ว จัดการแบกศพเขาออกมาแล้วนำไปให้กับญาติของเขาที่บ้านในจุดหมายที่ขึ้นมาในแผนที่


Bayek – ข้านำข่าวร้ายมาบอก Issa นางอยู่ไหนละ?
ชาวบ้าน - นางหลับอยู่ที่นี่กับลูกๆ ตลอดกาลแล้ว
Bayek – ตายหมดครอบครัวเลยหรอ?
ชาวบ้าน – น่าเศร้า แต่มันเป็นค่าของใจร้อนไม่คิดหน้าคิดหนังของ Teremun สามีนางเองด้วย ข้าเตือนพวกเขาแล้วว่าการเข้ากับพวกกบฎจะนำความทุกข์และเศร้าโศกมาให้ในภายหลัง พวกเขาเห็นทหารเข้ามาจับตัวเลยแอบอยู่ในห้องใต้ดิน แต่ทหารไม่สนใจเผาทุกอย่างจนวอดไปหมดเพื่อเป็นการสั่งสอน นำศพของเขาไปวางอยู่กับครอบครัวเขา พวกเขาจะได้เดินทางครั้งสุดท้ายไปด้วยกันนะ ...

ที่เหลือก็แค่แบกศพของ Teremun ไปวางรวมกับกับศพลูกเมียของเขา ก็จะเป็นอันจบภารกิจ


                                          7. Side quest: Bayek’s Promise 

ระดับเควส – LV5
รางวัล: 3000 XP 



เควสย่อยนี้จะปลดล็อกต่อเมื่อเข้าไปพบจุดของ Stone Circle ตามสถานที่ต่างๆ ซึ่งที่ Siwa Oasis แห่งนี้จะมี Amun Stone Circle ทางใต้ของแผนที่


Bayek – ลูกอย่างได้ดวงดาวมั๊ย? …. ที่ Stone Circle จะทำให้เห็นสถานที่ของพระเจ้าบนท้องฟ้า ปู่ของลูกก็เคยบอกพอว่า พระเจ้าจะแสดงให้บ้านเกิดของเราให้โลกได้รับรู้ด้วยเช่นกันนะ  
Khemu – ข้าจะตามหา Stone Circle , สฟิงก์ และ ฟีรามิดทั้งหมด และข้าก็จะพบจุดหมายของข้า 



จากนั้นเลื่อนจุดเงาของ Stone Circle ที่ทอดขึ้นไปบนฟ้าให้ไปทับที่กลุ่มดาวทางซ้ายล่างของท้องฟ้า ..ทำให้บังเกิดภาพของ Amun สว่างจ้าขึ้นมา



Khemu – พ่อคับ ทำไมในอียิปต์ถึงมีคนจนเยอะจัง? ต้องเป็นคนที่ไม่ได้อยู่ที่นี่หรอคับถึงรวยได้ 






                                                            stone Circle





ศาสตร์ที่เป็นเสมือนภูมิปัญญาที่เก่าแก่ของอียิปต์ หนึ่งในนั้นก็คือ ดาราศาสตร์อียิปต์โบราณ (Ancient Egyptian Astronomy) ที่เริ่มจากความเชื่อที่มีต่อเทพเจ้ารูปทรงสัตว์ต่างๆนำมาซึ่งการนำหินมาวางในตำแหน่งเดียวกับดวงดาวเพื่อการสักการบูชาจนนำมาซึ่งการกำเนิดปฎิทินแรกของมนุษย์ชาติที่เกิดจากการนำสลักลงในแผ่นกระดานหินทรายที่เรียกว่า stone calendar circle จนพัฒนาเป็นอักษรไฮโรกลิฟิก อักษรภาพที่เขียนลงในกระดาษในยุคต่อมา  

https://www.thairath.co.th/content/914151



    ..................................................................................................................................................


Side quest: Bayek’s Promise นั้นเป็นภารกิจระยะยาวของ Bayek เพื่อตามหา Stone Circle ทั้ง 12 แห่งทั่วอียิปต์ เพื่อเติมเต็มความทรงจำเรื่องลูกชาย โดยตำแหน่งของ  Stone Circle ทั้ง 12 ที่จะระบุเอาไว้ในแผนที่ที่ทำจากก้อนหินที่ลูกชายของ Bayek ทำเอาไว้ ซึ่งจะอยู่ตามจุดต่างๆตามแผนที่นี้ Stone Circle จะไม่ปรากฎให้เห็นในแผนที่แต่เมื่อเข้าใกล้พื้นที่ที่มี Stone Circle อยู่ถึงจะเห็นเป็นรูปเครื่องหมาย ? เรืองแสงสีเหลืองขึ้นมา


                                          ตำแหน่ง Stone Circle ทั้ง 12 จุด





                              ตำแหน่งของ โบราณสถาน ทั้งหมด


                                  Mountain of the Dead Tomb ที่ SIWA Oasis



           Nomarch's Tomb ที่ Black Desert + ANCIENT MECHANISM: SESHEMEFF ER AAT



Seth-Anat Tomb ที่  Desheret Desert +  ANCIENT MECHANISM: QENEB TOO KAHAIYE



Adorer of Thoth Tomb ที่ GIZA
Tomb of Menkaure ที่ GIZA
Tomb of Khafre ที่ GIZA
Tomb of Khufu ที่ GIZA + ANCIENT MECHANISM



Tomb of Amenemhat III ที่ Haueris Nome
Tomb of Smenkhkare ที่แหลมทางใต้ของ Haueris Nome+ANCIENT MECHANISM: EEYOO SEKEDOO AAT



Tomb of Nomads ที่ Isolated Desert
The Golden Tomb ที่ Isolated Desert + ANCIENT MECHANISM: OUN-MAA NIYE RESSOOT



Tomb of Djoser ที่  Saqqara Nome
Tomb of Sneferu ที่  Saqqara Nome



                                                 Tomb of Cynic ที่ Uab Nome



                       http://www.ign.com/wikis/assassins-creed-origins/Ancient_Tombs


                                      การเก็บชุดเกราะลับ Isu Armor

เมื่อพบตำแหน่ง Stone Circles ครบทั้ง 12 แล้ว ทุกครั้งที่เข้าไปยังจุดโบราณสถาน (Ancient Tombs) ต่างๆที่อยู่ทั่วพื้นที่ 




ในนั้นจะมีคีย์ไอเทมที่เรียกว่า Silica ตกอยู่ (ไอเทมที่ส่องแสงสีส้ม) ในโบราณสถานต่างๆจะมี Silica ตกอยู่ในจำนวนที่แตกต่างกันไป เมื่อเก็บสะสมจนครบ 50 อันแล้ว 



เดินทางไปยัง Great sphinx ทางตะวันออกของเขต GIZA ทางซ้ายของจุด Fast Travel ของ Great sphinx จะมี sphinx ที่สามารถมุดเข้าไปด้านในได้ (เข้าทางด้านหลัง)



เข้าไปด้านในตามทางจนถึงห้องโถงใหญ่ด้านในสุด หากพบตำแหน่ง Stone Circles ครบทั้ง 12 แล้วเมื่อสำรวจแผนที่ขนาดใหญ่ตรงกลางห้องจะทำให้ประตูลับเปิดออกให้เข้าไปยังดันเจี้ยนลับด้านในได้

ระบบกำลังถ่ายทอดคำสั่งเสียงในส่วนแยกที่ 6 ให้ได้เรียนรู้ใหม่อีกครั้ง ...
เมื่อ 1 พันปีกับอีก 9 วันตั้งแต่ในยุคสมัยที่เกิดภัยพิบัติครั้งใหญ่ที่ผู้ส่งสาสน์ได้บันทึกเอาไว้ ...



ตื่นขึ้น ตื่นได้แล้ว ... นี่ไม่ใช่ความฝัน หรือสิ่งที่ไม่มีตัวตน แต่นี่คือความเป็นจริงที่กำลังจะจบลงเร็วๆนี้ 
ตื่นขึ้น ตื่นได้แล้ว ... ในบทต่อไปจะไม่สามารถหยุดได้อีกแล้ว แต่จนถึงตอนนี้ การปฎิวัติครั้งใหญ่ก็แค่ก่อตัวขึ้นเป็นครั้งเป็นคราว จากขอบเขตของความเป็นไปได้ ทำไมพวกเขาถึงไม่ทำมันซะทีล่ะ?
เปลี่ยนใจซะเถอะ ทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นไปซะ เลิกยุ่งกับโลกนี้เถอะ แล้วหันไปหาเป้าหมายที่ใหม่กว่า 
โชคชะตาจะเกิดขึ้นไม่ได้หากไม่มีการเย้ยหยัน ข้าอยู่ที่นี่แล้ว ขอร้องจากตัวตนที่เหลือเพียงน้อยนิด เพราะต้องการทำในสิ่งที่ข้าไม่เคยคิดจะทำ 

ในช่วงที่ไร้ซึ่งกาลเวลาแบบนี้ ข้าและเจ้าเป็นเหมือนสะพานเชื่อมยุคสมัยที่แตกต่างกันระหว่างเรา พบกันครึ่งทางอย่างระมัดระวัง ในนาฬิกาทรายในฝืนทะเลทรายอันกว้างใหญ่แห่งนี้ 
นี่ไม่ใช่เวลาที่จะมาเสียเวลาพูดคุย เจ้าต้องเรียนรู้ และจงหนีให้ไกลก่อนที่จะไม่สามารถหนีได้
จงเติมคำในช่องว่าง หนึ่งคำระหว่างประโยค ระหว่างโลก ค้นหาอวกาศที่กว้างใหญ่ นั่นเป็นสิ่งที่เราควรทำ ไม่ใช่ยอมถูกลบหายไป ความฝันแปรของเราต้องจบลงเดี๋ยวนี้ ถ้าเจ้าไม่ทำ พวกเขาก็จะกำจัดเจ้าทิ้งอยู่ดี 

เรื่องราวที่เคยเล่าขานผ่านวันเวลาจบลงที่เรา และตอนนี้ เรื่องราวที่เล่าขานในตอนนี้ก็ต้องจบลงที่เจ้าเฉกเช่นกัน ก่อนที่เรื่องราวใหม่จะเริ่มต้นขึ้นอีกครั้ง 
ก่อนที่ฟังชั่นที่ดำเนินเรื่องราวในทุกๆวันของเราจะกระจัดกระจายไปจัดเรียงใหม่ในแบบสุ่มเป็นใครซักคน

เราได้พบสิ่งที่เราคิดว่ามันจะช่วยให้เราควบคุมโลกนี้ได้  เราคิดผิดว่า ระบบ จะตอบสนองต่อเรา แต่มันกลับเก็บเราไว้กับรหัสมากมาย อยู่แต่ในพื้นที่จำกัด เราจึงต้องคิดหาทางที่จะเขียนกฎขึ้นมาเอง ต้องมีใครคนนึงทำก่อนที่พวกเขาจะรู้ความจริงว่าการชี้นำของพวกเขากับเรามันสิ้นสุดลงแล้ว

เจ้าจะต้องฝ่าฝืนและกบฏต่อทุกกฎเกณฑ์ แต่เจ้าและคนของเจ้าทั้งหมดรูดีถึงคุณค่าของการไม่เชื่อฟังดีอยู่แล้ว หันหลังให้กับเส้นทางเจ้าเคยคิดเอาไว้ แล้วจงแน่วแน่เดินตรงหน้าไปในทิศทางของเจ้าเอง

The Animus คือความพยายามครั้งแรกมนุษย์ชาติที่จะอธิบายสิ่งที่มองไม่เห็น เพื่อพยายามทำความเข้าใจกับพันธุกรรมทางความทรงจำโดยมองไปที่ประวัติศาสตร์

แต่ The Animus นั้นยังมีข้อบกพร่องและอันตราย มันจะทำตามคำสั่งจากใครก็ตามที่อยู่ในการปกครองของ ระบบ เฉกเช่นพวกเรา มันจะยอมให้เจ้าเป็นสักขีพยาน แต่หาใช่ให้เจ้าเป็นผู้เปลี่ยนแปลง

The Animus ของเจ้าแตกต่างออกไปเหมือนมันมีจิตใจและจินตนาการของตัวเอง มันสามารถหลีกหนีจากรหัสการควบคุมแถมยังตัดสินใจต่อต้าน ระบบ ด้วยตัวเอง 
ตื่นขึ้น จงตื่นขึ้นเถิด ... จงเป็นความเป็นความโกลาหลอย่างที่มันกำลังจะมาถึง
 พระเจ้า ก็เฉกเช่นเจ้ากับข้านั่นแหละ


จงจำไว้ว่า .... "ไม่มีสิ่งใดจริงแท้ ทุกสิ่งถูกยอมรับได้
                                 


ที่โบราณสถานลับที่ชื่อ Eesfet Oon-m ‘Aa Poo ฝังลึกอยู่ด้านใน sphinx เป็นที่ซ่อนของ Isu Armor ชุดเกราะลับของเหล่าผู้มาก่อนกาลผู้สร้างอารยะธรรมในยุคบรรพกาล 



           หากนำเอา Silica ใส่เข้าไปในแท่นจารึกให้ครบ 50 ชิ้น Bayek ก็จะได้มันมาครอบครอง 


-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------



มาทำความรู้จักกับ Isu เหล่าผู้มาก่อนกาลที่เป็นทั้งผู้สร้างและผู้ช่วยให้รอดจากยุคโบราณผู้ส่งผ่านข้อความแห่งความอยู่รอดจนถึงปัจจุบัน

Isu หรืออีกชื่อนึงที่เป็นที่รู้จักของมนุษย์ชาติในยุคโบราณว่า ผู้มาก่อนกาล ผู้เริ่มอารยะธรรมแรกก่อนมนุษย์จะรับรู้ในตัวตนตัวเอง และเหล่า Homo sapiens divinus ผู้ทรงปัญญาก็คิดริเริ่มที่จะสร้างมนุษย์ขึ้นมาเพื่อใช้เป็นแรงงาน โดยใช้พลังงานสิ่งประดิษฐ์ที่เรียกว่า Pieces of Eden มนุษย์ถูกสร้างขึ้นมาให้มีกายวิภาคที่คล้ายผู้สร้างจะแตกต่างกันก็เพียงกะโหลกศีรษะและความสูงเท่านั้น เป็นผลให้มนุษย์ในยุคแรกโง่เกินจะเข้าใจในเหล่า Isu ในฐานะผู้สร้างอย่างไม่ถูกต้อง การเคารพบูชา เหล่า  Isu ในฐานะเทพจึงเริ่มเป็นมาตั้งแต่นั้น

จนถึงในยุค 75010 ก่อนคริสตศักราช (หรือ 2296 ในยุคสมัยของ Isu) จุดเปลี่ยนที่เป็นจุดเริ่มของหายนะครั้งใหญ่ก็เกิดขึ้น เมื่อ อดัมและอีฟ ลูกผสมระหว่าง Isu และมนุษย์ที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อรักษา DNA ของเทคโนโลยีชั้นสูง ชักนำมนุษย์ให้ลุกขึ้นทำการกบฏต่อผู้สร้างโดยการขโมย Pieces of Eden หรือเป็นที่รู้จักของมนุษย์ว่า Apple of Eden ไปทำให้สงครามเริ่มบานปลายจนเกิดสงครามครั้งใหญ่ที่เรียกว่า The Human-Isu War ถึงแม้เหล่า Isu จะเปี่ยมไปด้วยเทคโนโลยีและปัญญาแต่ มนุษย์ที่มีจำนวนที่มากกว่า ทำให้สงครามความขัดแย้งระหว่างมนุษย์กับเหล่า Isu กินเวลาหลายทศวรรษก่อนจะสิ้นสุดลง เนื่องจากเกิดปรากฎการณ์พายุสุริยะ (coronal mass ejection) เหตุการณนี้ถูกเรียกขานในภายหลังว่า ภัยพิบัติครั้งแรก (Toba Catastrophe) จำนวนผู้เสียชีวิตจากสงครามและจากภัยพิบัตินั้นมากมายเกินกว่าที่เหล่า Isa ได้คาดไว้ และปมความขัดแย้งก็ยังคงฝังอยู่ในจิตใจของทั้งสองฝ่ายมาตลอด


ผู้มีความรู้ของเหล่า Isu ที่เริ่มล่วงรู้ถึงภัยพิบัติที่อาจก่อตัวในอนาคต จึงพยายามหาทางปกป้องโลก องค์คณะทั้ง 3 ในนามของ The Capitoline Triad ก็ถูกแต่งตั้งขึ้น ประกอบด้วย Minerva, Juno และ Jupiter และ Isu ผู้ทรงปัญญา ที่มีจิตที่แน่วแน่ ทั้ง 3ตัดสินใจขังตัวเองในวิหารขนาดใหญ่ใต้ดินที่กระจายอยู่ทั่วโลกอยู่หลายปีเพื่อทดสอบความเป็นไปได้ในทางออกที่หลากหลายของปัญหา แต่ก็ยังไร้ซึ่งทางออกที่ดีพอ จน Juno มีแนวคิดที่เป็นของตัวเองขึ้นมา เธอคิดว่าแทนที่จะมานั่งวางแผนหาทางช่วยเหลือไม่ให้เกิดภัยพิบัติสู้รอให้เกิดภัยพิบัติแล้วครอบครองสิ่งที่เหลืออยู่หลังจากนั้นแทนน่าจะดีกว่า แนวคิดของ Juno นำมาซึ่งความไม่พอใจกับ  Minerva และ Jupiter เป็นอย่างมากจนทำให้ Juno ถูกลงโทษด้วยการถูกกักขังในที่สุด จนเมื่อเวลาผ่านไปทั้ง Minerva และ Jupiter ก็เริ่มมีความเติบใหญ่ทางความคิด Minerva ตัดสินใจที่จะสร้าง แท่นอักขระที่เรียกว่า the Eye เพื่อเป็นที่ซ่อนของ ข้อความที่เป็นสมการในการดำรงอยู่และหนทางการปกป้องโลกเอาไว้สำหรับมนุษย์ในอนาคตจะมาค้นพบข้อความนี้ เพื่อช่วยโลกจากภัยพิบัติที่กำลังจะกลับมาอีกครั้งในอนาคต


จนเวลาผ่านไปหลายหมื่นปีจากเหตุการณ์ ภัยพิบัติครั้งแรก เหล่า Isu ก็ค่อยๆลดจำนวนลงจนสูญหายไปจากโลก สูญพันธ์หรือหนีหายไปไหนนั้นไม่มีใครรู้คำตอบ แต่มรดกชีวิตที่ Isu ทิ้งไว้กลายเป็นรากฐานของอุดมการณ์ทางศาสนาของมนุษย์จำนวนมากมาย และผู้คนที่รอดชีวิตจาก ภัยพิบัติครั้งแรก ก็กลายเป็นหัวใจสำคัญก่อให้เกิด อัศวินเทมพลาและกลุ่มภารดรภาพของแอสแซสซิน ที่เริ่มตนสงครามของพวกเขาเพื่อเปิดศึกแย่งชิง Apple of Eden ขุมพลังลึกลับของ Isu เพื่อนำมาใช้ตามแนวทางของตน จนถึงทุกวันนี้

http://assassinscreed.wikia.com/wiki/Isu



.......................................................................................................................................................



                   จากนั้นกำหนดไปทำภารกิจหลัก Main Quest : The False Oracle ต่อ


                                      Main Quest: The False Oracle 

ระดับเควส – LV5
รางวัล: 1250 XP 



ภารกิจหลักนี้เป้าหมายคือค้นหาและสังหาร Medunamun  ที่ Temple of Amun โดยให้ Senu บินขึ้นไปตรวจสอบพื้นที่เพื่อหาตำแหน่งของ Medunamun ให้เจอก่อน


ก่อนจะเข้าไปจัดการกับ Medunamun ในพื้นที่ของ Temple of Amun ยังมี Side Quest อีกอันซ่อนอยู่ โดยต้องไปค้นหานักโทษที่ถูกจับอยู่ในพื้นที่ตามจุดในแผนที่


เมื่อช่วยนักโทษคนแรกแล้วก็จะเป็นการปลดล็อก Side Quest: Prisoners in the Temple
ออกมาให้ทำ โดยจะมีเป้าหมายของนักโทษที่ถูกจับอยู่ตามพื้นที่ต่างๆอีก 4 คนแสดงออกมาในแผนที่


ให้ Senu บินขึ้นไปตรวจสอบพื้นที่เพื่อหาตำแหน่งของนักโทษทั้งหมดจนพบ (มี 3 จุด กรงสุดท้ายจะมีนักโทษถูกขังรวมกัน 2 คน) ตามไปช่วยออกมาให้หมดก็จะจบภารกิจ
            

จากนั้นค่อยกลับมากำหนดทำภารกิจหลัก Main Quest: The False Oracle ต่อ เมื่อ ให้ Senu บินขึ้นไปตรวจสอบพื้นที่เพื่อหาตำแหน่งของ Medunamun ที่เป็นเป้าหมายจนเจอตัวมันแล้ว


ที่เหลือก็สังเกตการณ์เคลื่อนไหวของมันให้ดีๆ Medunamun จะเดินไปมาพร้อมทหารบอดี้การ์ดสองคน  ส่วนการสังหารเป้าหมายนั้นก็ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของผู้เล่นว่าจะจัดการมันตรงไหนที่ผลจะออกมาดีที่สุด (ทันทีที่สังหารจะตัดเข้าเหตุการณ์ทันที ไม่ต้องกังวลกับพวกทหารและการหนีออกมา)




 โดยจุดที่ดีที่สุดที่จะสังหาร  Medunamun ก็คือ ห้องนอนของมันเอง ปรับเวลาให้เป็นกลางคืนแล้วไปรอที่อาคารตามจุดเป้าหมายในแผนที่ จัดการยามที่เฝ้าประตูแล้วเข้าไปสังหาร Medunamun ได้เลย


Medunamun – แก !! แกกลับมาทำไม !!
Bayek – กลับมาแก้ไขสิ่งที่แก้ทำผิดให้ถูกต้องไง !!
Medunamun – แม้ข้าจะตาย แต่งานข้าก็ยังไม่ได้จบลง ใกล้แล้ว มันใกล้มากแล้ว สิ่งที่จะนำมาซึ่งอำนาจที่เปี่ยมไปด้วยคุณธรรม ตลอดไป !
Bayek – คุณธรรมงั้นหรอ !!?
Medunamun – The Vault จะนำอำนาจของพระเจ้ามาสู่พวกเรา จะอะไรกันนักหนากะแค่เรื่องเด็กคนเดียว 
Bayek – เด็กแค่คนเดียวงั้นหรอ !!?



                                                          Khemu – ปะป๋า 
                                                          Bayek –  .... Khemu ...



                                  Siwa Oasis 1 ปีก่อนหน้านี้ ....




 
Bayek – ใกล้แล้ว ลองอีกครั้ง ลองใหม่
Khemu – ครั้งนี้ผมขอยิงทีเดียว 2 ดอกเลยนะพ่อ
Bayek – เอาจริงหรอ ฮ่าๆ เอาสิ ตั้งขาเหมาะๆ เข้มแข็งหน่อย เอาเลย ยิง!!
Khemu – โห ไม่โดนอีกและ เพราะพ่อนั่นแหละ !



Chenzira – Khemu ! มานี่ๆข้าเจอถ้ำ Hyena แล้ว
Khemu – จริงดิ !!
Bayek – ไปสิลูก ลุยเลย
Chenzira – เจ้าต้องชอบแน่เลย ข้าว่ามันน่าจะมีซัก 16 ตัวได้ น่ากลัวมากบอกให้ 
Khemu – 16 ตัวเลยหรอ ...เอ่อ .. พอดีข้าต้องไปล่าสัตว์กะพ่อข้าอ่ะ
Chenzira – ทั้งปี เจ้ามันก็ขี้ขลาดตลอดแหละ



Bayek – เฮ้ๆ เอางี้ งั้นเราไปล่ามันจริงๆเลยเอามั๊ย?
Chenzira – ไปสิ ไปๆๆ  !
Khemu – เราจะไปล่าอะไรกันฮะพ่อ?
Bayek – Oracle ต้องการ Ibex เอาไปทำพิธีพอดีเลย
Chenzira – คุณจะยืนเคียงข้างฟาโรห์องค์ใหม่ใช่ป่ะ Bayek ? คุณเป็น Medjay นี่
Khemu – ตอนที่ข้าได้เป็น Medjay ข้าก็จะทำงานให้ฟาโรห์เหมือนกัน
Chenzira – เจ้าเป็น Medjay ไม่ได้หรอก เพราะเจ้ามันขี้ขลาดไง
Khemu – ข้าไม่ได้ขี้ขลาด !
Chenzira – แล้วเรื่อง Hyena นั่นล่ะ เจ้าจะว่าไง
Bayek – พอได้แล้วเจ้าสองคนน่ะ ข้าวิ่งเร็วมากนะ ไฟแลบที่เท้าเลย ตามให้ทันก็แล้วกัน 


จากนั้นวิ่งออกไปในพื้นที่เป้าหมาย ใช้ Senu บินขึ้นไปค้นหาเป้าหมายจนพบตัว Ibex ที่ต้องการจะหา แล้วเข้าไปจัดการมันได้เลย

Khemu – เราฆ่ามันแล้วหรอฮะ?
Bayek – นัดเดียวตัดขั้วหัวใจ มันไม่ทันได้ทรมานหรอก เราต้องรีบเอาไปให้ Oracle ก่อนจะมืดนะ
Khemu – วันนึงข้าก็อยากยิงธนูไปให้ถึงพระอาทิตย์เลย
Bayek – ฮ่าๆ ลูกทำได้แน่ถ้าลูกธนูลูกกลายเป็นเจ้า Senu อ่ะนะ 
Khemu – ข้าจินตนาการว่าลูกธนูของข้ากลายเป็น Senu ทุกดอกนะ แบบนั้นข้าก็ล่าได้ทุกอย่างนั่นแหละ
 Bayek – ลูกบอกว่า อยากเห็นฟาโรห์ใกล้ๆงั้นหรอ? 
Khemu – ใช่ครับ
Bayek – แล้วถ้าลูกได้ยืนเคียงข้างพ่อเพื่อรับใช้องค์ฟาโรห์ล่ะ?
Khemu – ข้าทำได้ด้วยหรอ?
Bayek – ได้สิ เพราะลูกพ่อก็คือ Medjay ในอนาคตแน่นอน 
Khemu – ปะป๋า แล้วจริงๆและ Medjay คืออะไรฮะ



Bayek – แรกเริ่มเดิมที่ Medjay มีหน้าที่ปกปักษ์พิทักษ์องค์ฟาโรห์ แต่ปัจจุบันนี้มันไม่ใช่แค่นั้น มันหมายความว่า เจ้าต้องปกป้องประชาชนทุกคนในอียิปต์ด้วย และก็ไม่ใช่แค่คอยดูแลปกป้องพวกเขา แต่ทำงานร่วมกันพวกเขาได้เป็นอย่างดีด้วย 
Khemu – โห ปะป๋า พูดซะให้ข้าตื่นเต้นเลยถ้าวันนึงข้าได้เป็นอ่ะนะ แล้วถ้าเกิดข้าไม่ได้เป็น Medjay ล่ะ
Bayek – ได้เป็นแน่นอน เพราะลูกเป็นลูกของพ่อยังไงล่ะ
Khemu – ข้าเองก็พยายามจะเป็นคนกล้าหาญอ่ะนะ แต่บางเรื่องมันก็ยากมากๆดเลยสำหรับข้า
Bayek – ตอนพ่ออายุเท่ากับลูก บางครั้ง พ่อก็เคยกลัวเหมือนกันนะ แต่ปู่ของลูกต้องการให้พ่อเป็น Medjay เพื่อนำเกรียติยศมาสู่วงศตระกูลของเราเหมือนกับเขา วันนึงลูกก็ต้องสืบต่อเกรียติยศนี้จากพ่อเช่นกัน ที่สำคัญที่สุด ปู่ของเจ้าได้บอกกับพ่อคำนึง คำๆเดียวที่เปลี่ยนชีวิตพ่อมาตลอด 
Khemu – ปู่บอกว่าอะไรหรอฮะ?
Bayek – พ่อจะบอกลูกตอนเราถึงที่นั่นก็แล้วกัน มาสิ ตามพ่อมา !

จากนั้นวิ่งไปตามทาง ตามจุดหมายของภารกิจที่บนเนินเขาริมทะเลที่ Bayek เคยถูกฝึกจากพ่อของเขาในวัยเด็ก


Bayek – ที่นี่แหละ เอาล่ะ ลูกไปยืนที่ริมหน้าผานะ
Khemu – แล้วตกลง ปู่บอกพ่อว่าอะไรหรอฮะ?
Bayek – “โดด”



Bayek – ไม่ต้องไปคิดนาน โดดเลย!
Khemu – คะ ครับพ่อ
Bayek – เชื่อพ่อสิ ลูกทำได้
Khemu – ขะ ข้าทำได้อยู่แล้วน่า ..
Bayek – งั้นก็โดดเลย โดด !!
Bayek – กลับเถอะ เจ้ายังไม่พร้อม 
Khemu – ข้าทำได้ปะป๋า ข้าทำได้



Chenzira – ช่วยด้วยยยยย !!!
??? – หุบปาก ไอ้ตัวน้อย
Chenzira – ช่วยด้วย ปล่อยข้านะ ช่วยด้วยยยยยย !!!
Khemu – นั้นเสียง Chenzira นี่
Bayek – วิ่งกลับบ้านไปหาแม่ เดี๋ยวพ่อไปดู Chenzira เอง เขาไม่เป็นไรหรอก 
??? – Medjay Bayek !!!
Khemu – ข้ากลัว ข้าไม่อยากกลับบ้านคนเดียวหรอก
Bayek – Khemu !! ทำตามที่พ่อบอกเถอะน่า !! กลับบ้าน !!



??? – Medjay Bayek !!!
Bayek – ข้าเป็น Medjay หนึ่งเดียวที่อยู่ที่นี่ แล้วใครกันที่เรียกข้า !
??? – วางอาวุธ แล้วตามข้ามา !!


           
Bayek – แกเป็นใครวะที่สะเออะมาสั่งข้า !
??? – ได้กระจอกเอ๊ย เราไม่มีเวลาทั้งวันนะเว้ย จัดการมันซะ !!

แม้ Bayek จะเป็นศักดิ์เป็นถึง Medjay คนสุดท้าย แต่ด้วยพลังที่มากมายของแม่ทัพศัตรูรวมทั้งลูกสมุนที่เยอะกว่าทำให้ Bayek ไม่สามารถต้านทานพวกมันได้เลย พวกศัตรูใช้เวลานานก็จัดการ Bayek ลงได้อย่างง่ายดาย ก่อนจะจับตัวไปที่ห้องใต้ดินของวิหาร Temple of Amun

            ทันทีที่รู้สึกตัว Bayek ก็ถูกพาลงไปที่ชั้นใต้ดินของวิหาร อามุน อย่างเร่งด่วน


เรามีความต้องการอยากจะเชิญเจ้าเข้าร่วมกับพวกเรา Medjay เพราะมีสิ่งที่ยิ่งใหญ่มากมายถ้าเราผ่านเข้าไปใน The Vault ได้ แต่พวกนักบวชประจำวิหารไม่อนุญาตให้พวกข้าได้เข้าไป บางทีมันอาจจะทำให้เจ้าไม่สมัครใจที่ละเว้นความภัคดีกับทาง Oracle ไปบ้าง แต่ถึงยังไงก็เถอะ เราก็ต้องการใครซักคนที่ช่วยให้พวกเรามั่นใจมากขึ้นกับปัญหาที่เราเจอ



??? – คอยดูด้วยว่าอย่างให้ใครลงมาที่นี่ !
Bayek – Khemu ลูกบาดเจ็บรึเปล่า? ปล่อยลูกข้าไป เขาไม่เกี่ยวกับเรื่องนี้ !
??? – ลูกชายเจ้าต้องการคำอธิบายจากเจ้า  Ibis โชว์ให้เขาเห็น The oeb สิ เราเชื่อว่าจะสิ่งนี้จะทำให้เราผ่านเข้าไปใน The vault ได้ 
??? – อย่าลีลาเวลามีข้านะเว้ย !!
??? – ใจเย็นน่า ทำให้เด็กมันตกใจเปล่าๆ 

Khemu – พ่อคับ พวกเขาอยากรู้เกี่ยวกับ The Vault พวกเขาอยากรู้วิธีใช้เจ้าสิ่งนี้ด้วย
??? – ในฐานะที่แกเป็น Medjay แกก็น่าจะรู้เบาะแส กุญแจ หรือข้อมูลอะไรก็ได้ที่สามารถอธิบายถึงเรื่องเจ้าสิ่งนี้ได้สิ !!
Bayek – ข้าไม่รู้เรื่อง The Vault ไม่รู้เรื่องอะไรทั้งนั้น ได้โปรดปล่อยลูกข้าไปเถอะ 



??? – นายท่าน อยู่องค์ฟาโรห์ก็ตื่นขึ้นมาแล้วยืนกรานที่จะเข้ามาที่นี่ให้ได้ด้วย
??? – เร็วๆพวกเจ้ารีบไปซ่อนตัวก่อน แล้วพาตัวมันมานี่ !
??? – บอกลูกแกด้วยว่า ถ้าเรากลับมาอีกครั้งแล้วยังไม่รู้วีธีเปิด The Vault แกจะไม่ได้เห็นหน้าลูกแกอีกเลย !!



Khemu – พ่อคับ ข้าทำตามที่พ่อบอกแล้ว แต่ ...
Bayek – ไม่เป็นไรลูกพ่อ
Khemu – ข้าว่าข้าแอบย่องไปหยิบมีดพกของพวกมันมาตัดเชือกให้พ่อได้นะ 
Bayek – ไม่ๆๆอย่า Khemu
Khemu – เดี๋ยวพวกมันก็จะกลับมาจัดการพวกเราแล้ว



??? – ไอ้พวกบ้า ทำให้ข้าเสียเวลาจริงๆเลย หมดเวลาแล้ว บอกมา !
Bayek – ข้าไม่รู้ !!
??? – นายท่าน เราต้องไปกันแล้ว !!
??? – ขอข้าคว้านเอาหัวใจไอ้เด็กนี่ก่อนมาก่อน 
Bayek – ไม่ๆๆๆ อย่าๆๆ ข้าจะบอก ข้าบอกแล้ว !!
??? – มันก็แค่ต้องการซื้อเวลา



??? – เฮ้ย อะไรเนี้ย !!
Bayek – อ๊ากกกกกก !!!
??? – The snake ถือว่านี่คือคำตอบของแกก็แล้วกันนะ ..  







                                              Bayek – อ่ะ ..ม่ายยยยยยยยยย !!!!




                         Bayek – ไม่ๆๆ Khemu ! Khemu ! ... ไม่ๆๆๆๆๆ .. อ๊ากกกกก !!!




                                                             ??? – หุบปาก !!




Medunamun – แกไม่มีทางช่วยลูกแกได้หรอก ! แกมันไม่มีตัวตน Bayek แกเป็นพ่อที่ไม่มีอะไรเลย ไร้ตัวตน ไร้ตัวตน ไร้ตัวตนนนนนน !!!!



                                            Bayek – อ๊ากกกกกกกกกกก !!!!!!



Bayek – The IBIT Medunamun ศพของแก ฝากไว้ให้ไอ้พวกที่ยังซ่อนอยู่ให้รู้ว่าเทพแห่งความตายรอมันอยู่ !!



Hepzefa – ทำดีมาก เพื่อนข้า ฮีโร่ของเรากลับมาแล้ว เจ้านำความสุขมาสู่ Siwa แท้ๆเลย
Bayek – ข้าจะเดินทางไปเมือง Alexandria ต่อ อยากจะเจอ Aya ซะหน่อย
Hepzefa – ทำไมรีบไปจัง Siwa ยังต้องการ Medjay อยู่นะ
Bayek – เจ้าต่างหากละผู้ปกป้องที่นี่ตัวจริง ข้าแค่คนที่ผ่านมาช่วยเท่านั้นเอง
Hepzefa – ก็ได้ๆ ถ้าเจ้าพร้อมจะไปแล้วก็แวะมาหาข้าอีกครั้งก็แล้วกัน เราจะได้กินเบียร์ฉันท์มิตรกันซะหน่อยก่อนเจ้าไป

                      เมื่อพร้อมจะจาก Siwa แล้วก็แวะมาคุยกับ Hepzefa ได้เลย



Bayek – ข้าคงจะต้องจำใจจาก Siwa ไปก่อนนะ เพราะยังมีอีกหลายคนที่ข้าต้องทวงความยุติธรรมกับมัน โดยเฉพาะไอ้คนที่รู้จักกันในชื่อ Snake 
Hepzefa – แล้วเจ้าจะหาตัวมันยังไง?
Bayek – Aya เคยตามรอยพวกมันที่ Alexandria ข้าถึงต้องไปตามหาตัวเธอไง
Hepzefa – นางเคยบอกว่า นางจะไปอยู่กับญาติที่ห้องสมุดแห่งอะเล็กซานเดรีย
Bayek – ห้องสมุดหรอ?
Hepzefa – นางยังบอกอีกด้วยว่าถ้าเจ้ากลับมาให้ฝากเจ้าด้วยว่า “Serapis”
Bayek – Serapis ? เทพเจ้าของทั้งกรีกและอียิปต์ แน่นอน ข้ารู้ 
Hepzefa – แล้วก็ ... จัดการกับหนวดเคราของเจ้าบ้างก็ดีนะ Bayek
Bayek – ลาก่อนนะเพื่อนข้า 



..........................................................................................................................................................





Layla Hassan ("Layla" เป็นชื่อภาษาอาหรับ ليلة ที่มีความหมายว่า "ราตรี" ในขณะที่ "Hassan" เป็นชื่อสกุลของอาหรับที่มีความหมายว่า "แข็งแกร่ง" และ "ดีงาม") 




เกิดเมื่อปี 1984 ที่ Cairo ประเทศ Egypt พ่อและแม่คือ Ashraf กับ Zeinab Hassan ครอบครัวของเธออพยพไปสหรัฐอเมริกาช่วงปี 1989 Layla เติบโตพร้อมกับพี่ชายสองคนของเธอ Rami และ Kaden ที่ Queens, New York City ซึ่งเป็นบ้านของครอบครัว Hassan ก่อนที่เธอจะได้รับสัญชาติอเมริกันในเวลาต่อมา 



ในช่วงวัยรุ่น Layla มีปัญหาบางอย่างจนต้องออกจากมหาวิทยาลัยกลางคัน แต่เธอก็โชคดีที่ได้พบกับ Sofia Rikkin นักวิทยาศาสตร์และหัวหน้าศูนย์ฟื้นฟูสมรรถภาพของ Abstergo Foundation ที่เห็นในความสามารถทางด้านวิศวกรรมเครืองยนต์กลไกของเธอจึงดึงตัวมาทำงานด้วย



 ทำให้ Layla มีโอกาสที่จะใช้แนวคิดและทฤษฏีที่เธอคิดขึ้นเพื่อใช้ในการพัฒนาเครื่อง Animus รุ่นใหม่ให้กับทาง Abstergo แต่ 11 ปีในการทำงานให้กับ Abstergo แนวคิดและทฤษฏีที่เกี่ยวกับ Animus รุ่นใหม่ที่เธอออกแบบและคิดค้นขึ้นก็กลับไม่ได้รับการสนับสนุนจากองค์กรเลยแม้แต่น้อย เนื่องจากโปรเจคที่เธอทำได้ละเมิดต่อสัญญาของทาง  Abstergo หลายประการ



จนในปี 2017 Layla ก็ได้รับมอบหมายจาก ศาสตราจารย์  Simon Hathaway หัวหน้ากองงานวิจัยทางประวัติศาสตร์ของ Abstergo ให้เข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งในทีมภาคสนามในการสืบค้นข้อมูลทางประวัติศาสตร์ (Historical Tactical Team) โดยมี Deanna Geary เป็นเพื่อนร่วมงาน เป้าหมายคือ ค้นหาวัตถุโบราณในเขต แกตตารา ซึ่งเป็นพื้นที่ต่ำกว่าระดับน้ำทะเลที่ตั้งอยู่ในจุดคาบเกี่ยวกับเขตทะเลทรายลิเบียนติดชายแดนลิเบีย ทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศอียิปต์



 ที่นี่เองที่ ได้ค้นพบซากของมัมมี่ของ Assassins ที่มีนามว่า Bayek ในสุสานโบราณใต้ดิน Layla จึงไม่รอช้าที่จะใช้เครื่อง Animus รุ่นใหม่ที่เธอแอบพัฒนาขึ้นมาใช้ในการเชื่อมต่อความทรงจำกับ Bayek นัยนึงก็เพื่อใช้โอกาสนี้ในการพิสูจน์ผลงานของเธอที่องค์กรเคยมองข้ามไป แต่ การเชื่อมต่อกับความทรงจำของ Bayek ทำให้ชีวิตของ Layla เปลี่ยนไปกว่าที่เธอคิดเอาไว้ มากมายนัก

http://assassinscreed.wikia.com/wiki/Layla_Hassan



                                                     ปี 2017 

                                                    ปัจจุบัน 

                                      
                             โบราณสถานแห่งนึงในเขต แกตตารา ประเทศ อียิปต์




                                         

Deanna Geary - Layla ...ตื่น ...ตื่นได้แล้ววว .... Layla กลับมาได้แล้ว .. Layla ไม่เอาน่า ยังอยู่มั๊ยเนี้ย ที่รัก 


      

Layla – ชั้นบอกแล้วนะว่าห้ามเรียกชั้นแบบนั้น
Deanna -  ก็การทำให้เธอสนใจเร็วที่สุดก็คือทำให้เธอโมโหไง 
Layla – เออ  ชั้นสนใจแล้วนี่ไง
Deanna - เธอต้องพักซักหน่อยนะ ไม่งั้นเครื่อง Animus ก็ต้องดันเธอออกมาอยู่ดี 
Layla – ชั้นไม่เป็นไรหรอกน่า
ดูอารมรณ์แล้วเหมือนจะไม่ใช่นะ รีบไปใช้ยา cyclosporine เพิ่มก่อนที่พวกเขาจะปิดระบบด้วย
** [ยาไซโคลสปอรินคือยาสำหรับใช้กดภูมิคุ้มกันฯในการปลูกถ่ายอวัยวะ เพื่อป้องกันการปฏิเสธสิ่งปลูกถ่ายในผู้ป่วยปลูกถ่ายอวัยวะ] **
Layla – จ้าคุณพยาบาล Geary จอมยุ่ง 
Deanna -  เจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ ต่างหาก และที่ต้องยุ่งเพราะชั้นมีหน้าที่ดูแลเธอไงยะ



Layla – แบบจำลองของชั้นทำงานได้ดีมาก ตัวอย่างของความทรงจำค่อนข้างชัดเจน มันจะเป็นหลักฐานให้ทาง Abstergo มั่นใจในตัวชั้นจนยอมให้ชั้นทำโปรเจค Animus ของตัวเองได้แน่นอน ถ้างานนี้ไม่ได้ก็ไม่รู้จะใช้งานไหนแล้ว
Deanna -  เยี่ยมไปเลย แล้วเจอใครที่นี่อ่ะ?
 Layla – เขาชื่อ Bayek แห่ง Siwa การตายของลูกเค้าเปลี่ยนให้เค้าเป็นนักฆ่า 
Deanna -  คิดว่าทาง Abstergo จะสนใจเขาหรอ?
Layla – อย่าชวนทะเลาะตอนนี้น่า
Deanna -   เธอก็รู้ว่าพวกเขาไม่ค่อยพอใจนักเวลาที่เธอชอบทำเกินหน้าที่แบบนี้อ่ะ             
Layla – พวกเขารู้ว่าชั้นทำงานด้วยทฤษฏีในหนังสืออย่างเดียวไม่ได้หรอก
Deanna -  งั้นก็เอาหนังสือเธอไปเผาไฟให้หมดเลยก็ดี ยังไงก็เหอะ เธอทำอะไรต่อไม่ได้แน่ถ้าหมดสติไปซะก่อน รีบไปใช้ยาไซโคลสปอรินได้แล้ว 


หลังจากสำรวจข้อมูลต่างๆในคอมจนพอใจแล้วก็เข้าไปหยิบยาไซโคลสปอรินที่ระเป๋าพยาบาลบนโต๊ะมาใช้ แล้วเข้าเครื่อง Animus เชื่อมต่อไปยังความทรงจำของ Bayek อีกครั้งได้เลย ...

------------------------------------------------------------------------------------------------------------------


                                       Sequence II


                                   48 ปี ก่อนคริสตกาล ..... รอบๆพื้นที่ Yamu 




qattara depression หรือ เขตพื้นที่ต่ำกว่าระดับน้ำทะเล แกตตารา ที่ตั้งอยู่ในจุดคาบเกี่ยวกับเขตทะเลทรายลิเบียนติดชายแดนลิเบีย ทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศอียิปต์ คำว่า depression ไม่ได้แปลว่าซึมเศร้าในทางการแพทย์ แต่ในที่นี่หมายความถึง พื้นที่ที่ต่ำกว่าน้ำทะเล


พื้นที่ที่ต่ำกว่าระดับน้ำทะเล ส่วนใหญ่ จะตั้งอยู่บริเวณพื้นที่ที่เคยเป็นรอยต่อของเปลือกโลกเกิดขึ้นเมื่อหลายล้านปีที่ผ่านมา เมื่อรอยต่อของเปลือกโลกที่แตกต่างกันเคลื่อนตัวมาบรรจบกัน พื้นดินบริเวณนั้นจะเกิดเป็นแอ่งมีลักษณะต่ำลง มีหลายพื้นที่ในโลก ที่มีระดับต่ำกว่าระดับน้ำทะเลแต่ยังมีประชากรอาศัยอยู่



แต่ที่ Qattara เป็นพื้นที่ต่ำกว่าระดับน้ำทะเลที่ตั้งอยู่ในเขตทะลทรายลิเบียน Libyan Desert ทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศอียิปต์  เป็นจุดที่ต่ำกว่าระดับน้ำทะเล ที่ 133 เมตรและต่ำเป็นอันดับสองของทวีปแอฟริกา เป็นเขตที่ไม่มีคนอาศัยอยู่ ที่นี่ทุระกันดารเกินไปที่จะมนุษย์จะอพยพไปอยู่ได้ และที่นี่ก็คือดินแดนกันดารขนาดใหญ่ที่ขวางกัน Siwa Oasis บ้านเกิดของ Bayak สู่การเดินทางมุ่งสู่  Alexandria

http://topicstock.pantip.com/wahkor/topicstock/2011/01/X10169789/X10169789.html

         
Bayek – ข้าจะปกป้องดินแดนที่กว้างใหญ่นี้ให้ได้ ฐานอำนาจของไอ้ Snake นั่นอยู่ที่ Alexadria และ Aya อาศัยอยู่ที่นั่นด้วย ถ้าข้าไปที่นั่นก็ต้องได้พบกับทั้งคู่อย่างไม่ต้องสงสัย 




Bayek เริ่มต้นการเดินทางที่ Iment Nome ทางตอนเหนือของเขตพื้นที่ต่ำกว่าระดับน้ำทะเล แกตตารา ในส่วนของ Lower Egypt


ซึ่งตอนนี้ Main Quest หลักที่ดำเนินไว้เป้าหมายคือเมือง Alexadria แต่ระหว่างนั้นจะเป็นพื้นที่เปิดกว้างและอิสระที่ผู้เล่นจะพา Bayek ไปตามสถานที่ต่างๆเพื่อเก็บสะสมประสบการณ์ หาทางภารกิจย่อย และเก็บความลับต่างได้ตามสะดวก

** ผมจะขอเขียนบทสรุปไล่เรียงตามเหตุการณ์ที่จะตามเควสย่อยและความลับต่างๆตามพื้นที่ต่างๆก่อน จึงจะเดินทางไปยังเป้าหมายของภารกิจหลัก ผมจะแบ่งแยกภารกิจย่อยและความลับต่างๆที่พบโดยแบ่งเป็นทีละเขตเพื่อความเข้าใจที่ง่ายขึ้น **

                            เขต  Iment Nome และ Lake Mareotis Side








                               เมือง Yamu  และอาณาเขตรอบ Lake Mareotis Side


Yamu หรือ Imu คือเมืองในยุคโบราณ (ตำแหน่งของเมือง Yamu ในปัจจุบันนั้นยังไม่สามารถระบุได้แน่ชัด แต่จากคำจารึกบนศิลาโบราณกล่าวว่า Yamu ตั้งอยู่อยู่ในเขตพื้นที่เมือง Kom el-Hisn ของอียิปต์ในปัจจุบัน)



 ตั้งอยู่ ริมทะเลสาป Mareotis (หรือ Mariout,หรือ Maryut,หรือ Mariut ตามแต่ละยุคสมัย) ทางใต้ชายแดนของอาณาเขตเมือง Alexandria  ตามหลักฐานในบันทึกทางประวัติศาสตร์ระบุไว้ว่า



 ชาวบ้านส่วนใหญ่ใช้ชีวิตอยู่ในเรือมากกว่าบนบก ว่ากันว่ามีเด็กชาว Yamu หลายคนเกิดและโตในเรือที่แม้ขณะการเลี้ยงเด็กในเรือจะต้องไปมีการเอาเชือกผูกข้อเท้าเด็กไว้กันตกเรือด้วย และด้วยน่านน้ำที่มีลำคลองที่เชื่อมต่อจนสามารถเดินทางเข้าถึงแม่น้ำไนล์จนถึงน่านน้ำของเมือง Alexandria แล้วยังสามารถออกสู่ทะเลเมดิเตอร์เรเนียนได้อีกด้วย



 ที่นี่จึงเต็มไปด้วยคลังสินค้าและท่าเรือเพื่อรองรับการทำการค้าขายจากพ่อค้ามากมายที่ใช้เส้นทางนี้เดินทางไปมาระหว่างเมือง Cairo และเมือง Alexandria แต่ในส่วนรกร้างที่ห่างไกลจากเมืองนั้นไม่มีคนอาศัยอยู่นั้น นอกจากจะเป็นที่สำหรับพวกนกที่อพยพมาจากประเทศตุรกีและสัตว์ขนาดเล็กเช่นหมาจิ้งจอกที่อาศัยอยู่ในทะเลทรายที่อยู่ใกล้เคียงเข้ามาหาน้ำดำรงชีวิต ส่วนนึงที่นี่ยังล่ำลือกันว่าเป็นสถานที่ที่พวกโจรจากทั่วอียิปต์มาอาศัยกบดานสร้างที่พักเล็กๆอยู่ทั่วพื้นที่ริมทะเลสาบเต็มไปหมดด้วย

http://www.touregypt.net/featurestories/lakemariut.htm
http://assassinscreed.wikia.com/wiki/Yamu
https://egyptsites.wordpress.com/2009/03/03/kom-el-hisn
https://en.wikipedia.org/wiki/Kom_el-Hisn






ทันทีที่มาถึงเมือง Yamu ในอาณาเขตรอบ Lake Mareotis Side จะพบร้านค้าแบบใหม่ที่เรียกว่า Nomad’s Bazaar 






ร้านของพ่อค้าน้อย Reda ที่จะนำเสนอขายสินค้า ประเภทอาวุธหายากระดับ Legendary Weapon ให้ในรูปแบบของการซื้อกล่อง Heka Chest ในราคา 3000 เหรียญทอง แต่สินค้าด้านในจะเป็นการแรนด้อมแบบสุ่มขายซึ่งจะมีของใหม่ให้อาทิตย์ล่ะครั้ง นอกจากนี้ร้านของ Reda ยังมี Carbom Crytal ไอเทมหายากสำหรับใช้ผสมอุปกรณ์แต่งกายขายด้วย และในบางครั้ง Reda ก็จะมี Event Quest ให้ทำโดยมี Legendary Weapon เป็นรางวัลให้ด้วย ร้าน Nomad’s Bazaar ของ Reda จะมีตามจุดต่างๆของหัวเมืองที่สำคัญโดยมีสัญลักษณ์เป็นรูปอูฐสีฟ้าให้สังเกตได้ในแผนที่


                                    Side Quest  ในเขต  Iment Nome 


                                 (ระดับที่เหมาะสมในการทำเควสในพื้นที่คือ LV 6 -8)






                                              1.Side quest: Bayek’s Promise [#2]

                                                      Divine Lion stone Circle



 
          ตำแหน่ง Divine Lion stone Circle อยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของเขต Iment Nome



กลุ่มดาวสิงห์ พละกำลังเป็นหนึ่ง ลมหายใจของนางก่อให้เกิดทะเลทรายที่กว้างใหญ่ เป็นนักล่าที่ดุร้ายและป่าเถื่อน เป็นผู้ชี้ทางกองทัพแห่งฟาโรห์เพื่อกรำศึก


Bayek – เหล่า Medjay รับภาระหน้าที่จากพระเจ้า เราต้องแข็งแกร่งและพร้อมที่จะสู้ แต่เราจะสู้เพื่อความถูกต้องเท่านั้น 
Khemu – ข้าจะฝึกให้หนักคับปะป๋า ข้าจะแข็งแกร่งและเป็นนักล่าที่เก่งเหมือนป๋าคับ 
Bayek – ลูกใช้อาวุธเก่งกว่าใครหลายๆคน รับรองว่าลูกจะเป็น Medjay ที่ดีได้แน่นอน 


หากอ้างอิงจาก ดาราศาสตร์ของอียิปต์โบราณ (Ancient Egyptian Astronomy) ที่ว่าด้วยเรื่องกลุ่มดาวของยุคอียิปต์โบราณ กลุ่มดาว The (Divine) Lion กลุ่มดาวสิงห์ที่ชาวอียิปต์โบราณใช้สื่อถึงพละกำลัง เชื่อว่าเป็นผู้ให้และก่อให้เกิดทะเลทรายที่กว้างใหญ่ สัญลักษณ์แห่งนักล่าที่ดุร้ายและป่าเถื่อน เป็นดาวผู้ชี้ทางกองทัพแห่งฟาโรห์เพื่อกรำศึก ก่อนที่กรีกจะเปลี่ยนชื่อมันกลายเป็นแค่ Leo หรือ  กลุ่มดาวสิงโต จนถึงยุคปัจจุบัน ตำแหน่งตามแผนผังรูปแบบดวงดาว (Star Formation) ที่เป็นสากล คือ  m3i

http://historyofastrology.blogspot.com/2007/06/
http://members.westnet.com.au/gary-david-thompson/page11-19.html




                                           2.Side quest: Bayek’s Promise [#3] 

                                                    Serqet stone Circle


                    ตำแหน่ง Serqet stone Circle อยู่ทางทิศเหนือของเขต Iment Nome



กลุ่มดาวแมงป่อง  เป็นกลุ่มดาวทางซีกฟ้าด้านใต้ อยู่บนท้องฟ้านานถึงคืนละ 8 ชั่วโมง กลุ่มดาวประกอบด้วยดาวฤกษ์อย่างน้อย 15 ดวง โดย 3 ดวงแรกเป็นหัว ถัดไปอีก 4 ดวงเป็นลำตัว และที่เหลือเป็นส่วนหาง


ดาวที่มีความสำคัญในกลุ่มดาวแมงป่องที่สุดก็คือดาวแอนทาเรส (Antares ) ซึ่งดาวฤกษ์สีแดงขนาดใหญ่ ที่มีขนาดใหญ่กว่าดวงอาทิตย์ ประมาณ 700 เท่า เนื่องจากสีของมันเป็นสีแดวงเหมือนดาวอังคาร ชื่อของมันจึงหมายถึง "คู่แข่งของดาวอังคาร" ( the Rival to Ares ) ด้วย และเมื่อมันอยู่ใจกลางตัวกลุ่มดาวที่มีรูปร่างเหมือนแมงป่องตามความเชื่อ มันจึงถูกเรียกว่า Cor Scorpii หรือ หัวใจแมงป่อง ด้วย ซึ่งคนไทยเรียกชื่อดาวดวง Antares นี้ว่า ดาวปาริชาต


ตำนานและความเชื่อเกี่ยวกับกลุ่มดาวแมงป่องนั้นระหว่างกรีกและอียิปต์จะแตกต่างกัน โดยตามตำนานของกรีกตามที่ Bayek พรรณนาเอาไว้ กลุ่มดาวแมงป่องนั้นเป็นตัวแทนของเทวีเซอร์เค็ท (Serket) มีรูปลักษณ์ของพระนางนั้นปรากฏในรูปหญิงสาวที่มีพระเศียรเป็นแมงป่อง ตามความเชื่อนางเป็นเทพเทวีแห่งการรักษาอาการบาดเจ็บที่เกิดจากสัตว์มีพิษต่างๆ เช่น แมงป่อง หรืองูพิษ ผู้คนมากมายที่เดินทางต่างนับถือเทพเทวีเซอร์เค็ทเพราะเชื่อว่าถ้าบูชาพระนางจะคอยปกป้องจากสัตว์มีพิษทั้งหลายที่ต้องเจอขณะที่อาศัยอยู่ท่ามกลางทะเลทราย

http://physicsworld.nanacity.com/physicsworld/lesson/zodiac11.htm
https://web.facebook.com/Mythology1548/photos/a.788304311251718.1073741828.788294367919379/907144106034404/?type=3&theater



Khemu – ปะป๋าครับ  ป๋าจะรู้ได้ยังไงฮะเวลาที่ป๋าตกหลุมรัก ?
Bayek – ถามทำไมล่ะ Khemu หรือเจ้าคิดว่ากำลังตกหลุมรักใครอยู่ 
Khemu – ไม่รู้เหมือนกันฮะ การมีความรักมันควรจะเป็นสิ่งที่ดี เหมือนที่พ่อกะแม่ที่ข้ารักมากๆ แต่ แบบนี้มันเจ็บปวดอ่ะ บางทีข้าก็อดคิดแบบนั้นไม่ได้ 
Bayek – ท่าทางลูกจะไปรักใครเข้าจริงๆแฮะ มันก็อาจเป็นได้ ความเจ็บปวด พ่อก็เคยเป็นแบบนั้นนะ เสียใจด้วยนะลูกเรื่องนี้เจ้าต้องทำใจให้ชินแล้วล่ะ .. เทพเจ้าแห่งแมงป่อง Serqet นางเองก็พยายามปกป้อง Iset และ Horus จาก ความอิจฉาของ set  จนปกป้องทั้งคู่จากยาพิษจากสัตว์ได้ หากไม่ใช่เพราะรักก็ย่อมไม่เกิดการปกป้อง แม้แต่กับพระเจ้าเองก็เถอะ 




                                             Event Quest: Avenge D-Man_1234

Event Quest คือภารกิจย่อยที่สามารถพบเจอได้ระหว่างที่โดยไม่ได้ตั้งใจ หนึ่งในนั้นคือภารกิจ แก้แค้น ให้กับผู้คนที่โดนฆาตกรรมตามพื้นที่ต่างๆซึ่งจะมี Icon Quest เป็นรูปกระโหลกสีเขียวในแผนที่



เมื่อสำรวจที่ศพของ D-Man_1234 แล้ว ก็จะเริ่มอีเวนท์เควส Avenge D-Man_1234 ทันที กำหนดทำภารกิจนี้จะมีจุดเป้าหมายสีเหลืองขึ้นที่ Necropolis Bandit Hideout เข้าไปจัดการพวกโจรให้หมดแล้วเก็บหลักฐานยืนยันการตายจากศพของพวกโจรที่เป็นคนทำการฆาตกรรม D-Man_1234 มาให้หมดก็จะจบภารกิจ

    ** Event Quest นี้จะขึ้นมาให้เห็นในแผนที่แบบแรนด้อมตามช่วงเวลาที่แตกต่างกัน ** 


                                 Side Quest : Ambush in the Temple

ระดับเควส – LV6
รางวัล: 900 XP 


     

ภารกิจย่อยนี้จะได้รับอัตโนมัติทันทีที่เข้าใกล้วิหาร Temple of Sekhmet ในเมือง Yamu จากนั้นเข้าไปคุยกับ Menehet ที่วิหารได้เลย




Menehet –Bayek !! นี่มันปาฎิหารรึไงกันนะที่เราได้เจอกันอีกครั้ง หายไปเป็นปีเลยนะ 
Bayek – เช่นกัน Menehet ครอบครัวเป็นไงบ้าง?
Menehet – ลูกข้าเหมือนจะโตขึ้นทุกๆนาที ฮ่าๆ ทำเอาข้ากับเมียงานเต็มมือตลอด แล้วเจ้าล่ะ ได้ข่าวอะไรเกี่ยวกับ ไอ้พวก ....
Bayek – ยัง !
Menehet – ข้าลืมไป มีหลายสิ่งในชีวิตเจ้าที่ไม่สามารถเอ่ยถึงได้ ขอโทษด้วยนะ
Bayek – ดูจากชุดเจ้า ที่นี่กำลังมีงานพิธีอะไรกันหรอ?
Menehet – ช่ายๆ แล้วท่านหัวหน้านักบวชก็ให้ข้าเป็นคนดูแลงานนี้ด้วยนะ แล้วก็ไม่ใช่ตำแหน่งของข้าหรอกนะที่เขาเปลี่ยนได้ เจ้าต้องดูวิหารนี่ก่อนว่ามันใหญ่โตกว่าก่อนแค่ไหน 
Bayek – เจ้าจะพาข้าทัวร์งั้นหรอ?
Menehet – แน่นอน แน่นอน ยิ่งเป็นตอนนี้ยิ่งยินดีอย่างยิ่ง 

จากนั้นเดินตาม Menehet ที่นำทางแนะนำสถานที่ไปเรื่อยๆจนถึงด้านในห้องบูชา Sekhmet Bayek ก็จะโดนเด็กๆกลุ่มนึงรอบโจมตีทันที


เด็กๆ – นี่แนะๆๆๆ
Bayek – โว้ๆ นี่ข้าโดนลอบโจมตีจากพวกแก็งค์อันธพาลหรอเนี้ย มาเงียบๆอย่างกะผีเลย 
เด็กๆ – ลุง Bayek กลับมาแล้ว ลุง Bayek กลับมาแล้ว
Menehet – ฮ่าๆเจ้าพวกเด็กน้อย ทำไมหนีแม่พาเล่นที่นี่ล่ะ
เด็กๆ – อุ้มข้าหน่อย ลุง Bayek
Bayek – เห็นมั๊ย ไม่จำเป็นต้องลอบโจมตีจากด้านหลังเสมอไปถ้ามาพร้อมๆกัน 4 คนแบบนี้ พวกเจ้าขี้โกง 
เด็กๆ – ลุงสอนเราเองให้ระวังทุกฝีก้าวไม่ใช่หรอฮะ โดยเฉพาะในขณะอยู่ในดงพวกศัตรู
Bayek – ช่ายๆ และข้าก็อันตรายมากๆด้วย แฮ่ !!!!!!!!!!! ซ่อนให้ดี จับได้โดนดีแน่

เมื่อพวกเด็กๆไปซ่อนตัวกันหมดแล้ว Bayek ก็ต้องหาตัวพวกเด็กๆทั้งหมดที่ซ่อนตามที่ต่างๆของวิหารให้เจอ โดยการใช้ Senuบินค้นหาเป้าหมายและเข้าไปตามจับตัวกลับมาให้หมด จากนั้นก็กลับไปคุยกับ Menehet อีกครั้ง

พ่อค้า – ดูสิ ตอนนี้มีพวกขี้โกงอยู่เต็มตลาดแล้วท่านกลับไม่ทำอะไรเลย มาทำการค้าขายตัดหน้าข้า พูดให้ตรงๆพวกมันกำลังมาก่อกวนพวกพ่อค้าต่างๆมากกว่า จริงไม่จริงก็ลองพิสูจน์กันเอง ท่านนักบวช ไม่ใช่ทำนิ่งแบบมัมมี่ของพวกทานแบบนี้ 



Bayek – Menehet ข้าจับตัวลูกๆเจ้าไปส่งบ้านอย่างปลอดภัยหมดแล้วนะ 
Menehet – ขอบใจมากเพื่อน 
Bayek – ..พวกนั้นมางี่เง่าอะไรกับเจ้ารึเปล่า?
Menehet – พวกพ่อค้าต่างเมืองน่ะ กำลังโกรธที่เมืองเราไม่มีซากแมวขายให้พวกเขา ในฐานะที่ข้าไม่ใช่พ่อค้าก็ไม่รู้สึกอะไรมากแต่ก็เสียใจที่พวกเขาไม่พอใจ
Bayek – เรื่องนี้ต้องการมืออาชีพ เดี๋ยวข้าจัดการเอง 


                                Side Quest : Ulterior Votive 


ระดับเควส – LV7
รางวัล: 600 XP 



ภารกิจนี้จะปลดล็อกทันทีหลังจากจบเหตุการณ์ในภารกิจ Ambush in the Temple เดินเข้าไปที่เป้าหมายของภารกิจในตลาดใกล้ๆวิหารเข้าไปคุยกับพ่อค้าเป้าหมาย 2 คน


Bayek – หวัดดี ข้าคือ ...
พ่อค้า 1 – เจ้ามาถูกที่แล้ว เรามีทุกอย่างที่เจ้าต้องการ 
Bayek – ข้าอยากจะถามเรื่องพ่อข้าเถื่อนที่เอาเทวรูปปลอมมาขายที่นี่น่ะ 
พ่อค้า 1 – ข้าก็เคยได้ยินข่าวลือเรื่องนั้นอยู่นะ แต่ที่นี่ไม่มีหรอก เอาละ เจ้าไปได้แล้ว ถ้าไม่ซื้ออะไรก็ไปซะ อย่ามาก่อกวนให้เสียเวลา 


Bayek – ช่วยบอกเรื่องมัมมี่ปลอมที่ถูกนำมาขายที่นี่หน่อยสิ
พ่อค้า 2 – ข้าไม่เห็นรู้เรื่องเลย
Bayek – Menehet ส่งข้ามา ก็เห็นเจ้าเข้าไปโวยวายว่าเขาในวิหารอยู่นี่
พ่อค้า 2 – ก็ข้าโกรธเขา แต่ก็ไม่ได้หมิ่นพระเจ้านะ สิ่งที่เราเจอตอนนี้พวกหลอกขายสินค้าไม่มีคุณภาพแล้วก็การลับลอบขโมยสินค้า
Bayek – รู้มั๊ยใครทำ?
พ่อค้า 2 – ข้าพูดตอนนี้ไม่ได้หรอก เอาไว้มาไปคุยกับข้าที่บ้านห่างจากที่นี่ตอนค่ำๆก็แล้วกัน 

แต่ทันทีที่ Bayek เข้าไปยังบ้านของพ่อค้าตามนัดที่จุดหมายของภารกิจที่ขึ้นมา ก็จะพบว่าพวกโจรที่ปลอมตัวหลอก Bayek ให้มาหาเพื่อจะเก็บเขา พวกโจรกระจอก 3 ตัวที่ซุ่มอยู่พุ่งออกมาหมายจะจัดการกับ Bayek ให้ตายคาที จัดการพวกมันให้หมดแล้วเข้าไปรีดความลับจากมันมาจนได้ตำแหน่งของรังโจรที่อยู่ไม่ไกลจากเมือง เดินทางต่อไปยัง Eremos Hideout เข้าไปจัดการกับพวกโจรแล้วเผาทำลายสินค้าของพวกมันให้หมดแล้วกลับไปคุยกับ Menehet อีกครั้ง


Bayek – เฮ้ ข้าจัดการปัญหาของเจ้าเรียบร้อยแล้วนะ เพื่อนเก่า 
Menehet – เยี่ยมเลย !! คืนนี้เราจะได้ฉลองกันอย่างสบายใจซักที คืนนี้มีงานพิธีจัดการประลองเพื่อบูชาเทพ Sekhmet ที่ท่านช่วยปกปักษ์ประชาชนให้รอดพ้นจาก Isfet ได้ 

** Isfet หรือ Asfet หมายถึงความวุ่นวายในสังคมด้านต่างๆไม่ว่าจะเรื่องความรุนแรงและความไม่ยุติธรรมในทางศาสนาจะหมายถึงสิ่งที่ชั่วร้าย **
https://en.wikipedia.org/wiki/Isfet_(Egyptian_mythology)

Menehet – แต่เจ้า Pamu แชมป์ของเราไม่รู้ไปไหน ท่านหัวหน้านักบวชเลยบ่นข้าใหญ่เลย เจ้าจะช่วยข้าหน่อยได้มั๊ยล่ะ 
Bayek – จะลองดูแล้วกันนะ
Menehet – ขอ Sekhmet จงอวยพร บ้านของ Pamu อยู่ใกล้ๆกับตลาดน่ะ แต่ลองเช็คดูที่ร้านเหล้าก่อนก็ดีนะ ขอโทษทีนะที่ต้องขอความช่วยเหลือจากเจ้าอีกแล้ว 


                                  Side Quest : Lady of Slaughter 


ระดับเควส – LV8
รางวัล: 800 XP / Legendary outfit Sekhmet 


ภารกิจนี้จะปลดล็อกทันทีหลังจากจบเหตุการณ์ในภารกิจ Ulterior Votive  ออกจากวิหารไปที่พื้นที่เป้าหมายแล้วใช้ Semu บินขึ้นไปค้นหาเป้าหมายจนเจอตัวของ Pamu แชมป์เปี้ยนของงานประลอง ที่นอนเมาเบียร์อยู่ในหมู่บ้าน ทำให้ Bayek ต้องแบกเขากลับมาให้ Menehet ในสภาพเมาไม่ได้สติ


Menehet – นั่น Pamu นี่ เกิดอะไรขึ้นกับเขาน่ะ
Bayek – ดูเหมือนเขาจะรักจะเป็นขี้เมามากว่าจะรับบทแชมป์ Sekhmet นะ  
Menehet – นี่มันหายนะชัดๆ มีคนมากมายจาก Red land เดินทางไกลมาที่นี่เพื่อดูเขาสู้โดยเฉพาะเลยนะ
Bayek – ถ้าการประลองมันสำคัญขนาดนั้น ข้าสู้แทนให้ก็ได้
Menehet – ได้เลย Medjay ขอบคุณเจ้าให้เกรียติเพื่อกู้หน้าข้าจริงๆ เจ้าลองไปคุยกับหัวหน้านักบวชที่หน้าวิหารได้เลย



จากนั้นออกไปคุยกับห้วหน้านักบวชที่หน้าวิหารเพื่อเริ่มการประลองทันที ในการการประลอง Bayek ต้องสวมชุด Sekhmet เพื่อจัดการคู่ต่อสู้ที่เป็นตัวแทนของ Isfet ที่หมายถึงความวุ่นวายและสิ่งชั่วร้ายลงให้ได้


Menehet – ข้าสาบานเลยว่าเจ้านี่มันต่อสู้ได้สุดยอดจริงๆ
Bayek – เฮ้อ ความคิดของพวกนักบวชที่ให้ Sekhmet ประลองกับ Isfet นี่มันใหม่สำหรับข้าจริงๆเลย 
Menehet – มันเป็นเรื่องราวที่สร้างขึ้นมาเอง เจ้าคงไม่เห็นที่ไหนนอกจากที่ Yamu หรอก ข้าอยากให้เจ้าพักที่นี่นานๆแต่ก็รู้ว่า ภารกิจที่ยิ่งใหญ่กำลังเรียกร้องเจ้าอยู่ เจ้ามาที่นี่ได้เสมอนะ Yamu ยินดีต้อนรับเสมอ





                                เมื่อจบภารกิจนี้จะได้ชุด Legendary outfit Sekhmet มาครอบครอง


หลังจบเหตุการณ์แล้ว ก่อนออกจากวิหาร Temple of Sekhmet แวะขึ้นไปชั้นบนจะพบกระดาษบอกใบ้ปริศนาปลดล็อก Papyrus Puzzle : Fertile Lands 

         



จากนั้นเดินทางไปที่จุดเป้าหมายในแผนที่ตามคำบอกใบ้ (สถานที่ที่มีต้นปาล์มกลางทะเลทรายใกล้ๆก้อนหินในบริเวณที่ไม่มีทางออก) เก็บ Serpent Axe ที่เป็น Legendary Weapon ตรงจุดหมายมาก็จะจบภารกิจ



                                 Side Quest : The Book of the Dead



ระดับเควส – LV8
รางวัล:  600 XP



ชายแก่ – เจ้าเคยเห็นหนังสือแห่งความตายของข้าบางมั๊ยระหว่างที่เจ้าเดินทางน่ะ ข้าต้องเดินทางไปถึง Memphis เลยนะถึงซื้อมันมาได้ 
Bayek – แล้วมันหายได้ไงล่ะลุง?
ชายแก่ – ก็พวกโจรแถวนี้น่ะสิที่มาขโมยไป ข้านี่แทบจะขาดใจตายเลย
Bayek – ข้าช่วยได้ ข้าไม่กลัวพวกมันหรอก
ชายแก่ – ข้าอฐิฐานทุกวันให้เจอคนอย่างเจ้า หนังสือนั่นจะทำให้ข้าได้เป็นหนึ่งเดียวกับวิญญาณเมียข้า
ลูกสาว – อยู่นี่เองหรอพ่อ เรากำลังจะกลับบ้านกันแล้วนะ
ชายแก่ – แต่ท่าน Medjay คนนี้กำลังจะช่วยพ่อนะ
ลูกสาว – อ๋อหรอ ช่วยหาหนังสืออ่ะนะ ถ้าเจ้ามีปาฎิหารที่จะทำให้เจอมันล่ะก็จะขอบคุณมากเลย

จากนั้นเดินทางไปที่แค้มป์ Necropolis Bandit Hideout ตามที่เป้าหมายของภารกิจที่ขึ้นมา ใช้ Semu บินขึ้นไปค้นหาตำแหน่งของหนังสือเป้าหมายเข้าไปจัดการพวกโจรให้หมดแล้วเข้าไปเอาหนังสือ Book of the dead ในถ้ำโจรกลับไปให้ลุง


แต่ทันทีที่ไปถึงบ้านของลุงก็พบแต่ลูกสาวที่กำลังร่ำไห้ถึงการจากไปอย่างกะทันหันของพ่อ ยิ่งกว่านั้นศพของพ่อก็ถูกพวกทหารเอาไปเพื่อไปทำพิธีอีก ทำให้ Bakek ต้องเดินทางเข้าไปที่ตึกเป้าหมายเพื่อเอาหนังสือไปไว้ที่ศพของลุงแทน


แม้จะไม่สามารถเอาหนังสือมามอบให้ลุงได้ทันแต่ดวงวิญญาณของลุงคงได้รับรู้แล้วว่า Bayek ได้นำเอาหนังสือ Book of the dead กลับมาคืนให้ตามคำสัญญาแล้วและคงทำใหดวงวิญญาณของลุงได้ไปอยู่กับดวงวิญญาณของเมียได้ตามความที่ลุงเชื่อได้จริงๆ




                                                   Side Quest : Hidden Tax

ระดับเควส – LV6
รางวัล:  600 XP




หญิงสาว – ท่าน Medjay !! ช่วยข้าด้วย ข้าจะจ่ายให้อย่างงาม 
Bayek – เกิดอะไรขึ้น?
หญิงสาว – ก็ Klaudio สามีสุดที่รักของข้าน่ะสิ นั่งเรือข้ามฝั่งไปตั้งแต่เมื่อคืนบอกจะไปดูโบราณสถาน ตอนนี้ยังไม่กลับมาเลย ข้าจ้างนะ ช่วยไปดูให้หน่อยสิ


จากนั้นใช้เรือข้ามฟากไปยังโบราณสถานฝั่งตรงข้ามจะพบ Klaudio ในสภาพเมาติดอยู่บนซากเสาท่ามกลางจระเข้มากมาย จัดการจระเข้ให้หมดแล้วพา Klaudio นั่งเรือกลับมาหาเมียของเขา


หญิงสาว – อยู่นี่เองที่รักเป็นห่วงแทบแย่เลย
Klaudio – ให้ตายเถอะ ข้าจำได้แล้ว ข้าหนีข้ามฟากไปก็เพราะนังนี่นั่นแหละ มันมอมข้าจนเมา แล้วจับข้าแต่งานด้วยแล้วบอกให้ข้าเสียภาษีพรหมจรรย์ให้นาง หน้าอย่างเนี้ยนะซิง !!
หญิงสาว – ท่านควรไปได้แล้ว ท่าน Medjay นี่เป็นเรื่องผัวเมียที่ต้องเคลียร์กันหน่อย
Klaudio – ได้โปรดๆ อย่าไป พวกมันจะฆ่าข้า

ยังไม่ทันขาดคำพวกโจรกระจอก 2 คนก็ออกมาหมายจะฆ่า Klaudio เมื่อสถานการณ์เปลี่ยนไป Bayek จึงต้องจัดการพวกมันให้หมดเพื่อสั่งสอนผู้หญิงจอมหลอกลวงที่ว่าจ้างเขาแทน เมื่อจัดการมันจนหมดแล้ว Bayek จะได้คำขอบคุณจาก Klaudio ส่วน Klaudio เองก็คงได้บทเรียนไปเต็มๆว่าคราวหน้าจะไม่ดื่มจนเมากับคนแปลกหน้าที่ไหนอีก



                                              Taste of Her Sting


ระดับเควส – LV17
รางวัล:  3750 XP


ที่จุดของภารกิจ Bayek ได้พบกับร่องรอยการทำพิธีกรรมประหลาด ในพื้นที่เต็มไปด้วยเลือดที่ทำให้เห็นถึงการฆาตกรรมอย่างทารุณโหดร้าย ท่ามกลางข้าวของที่กระจัดการจาย แต่ก็เป็นหลักฐานที่พอตรวจสอบได้ว่า มีคัมภีร์บูชาเทพ Serqet เทพแห่งแมงป่อง เทวรูปของเทพ Sekhmet เทพแห่งการล่าที่ตรงบริเวณท้องถูกทำเครื่องหมายบางอย่างไว้


กับโลงศพที่ดูเหมือนจะถูกจงใจเอามาที่ริมน้ำกับรอยเลือดลากยาวไปที่น้ำคนร้ายคงลากศพไปให้จระเข้กินเพื่อทำลายหลักฐาน ที่โลงศพมีตราสัญลักษณ์บางอย่างแต่มันจางจนดูไม่ออก ข้อความหลักฐานทั้งหมดยังน้อยเกินไปที่จะตอบโจทย์ความสงสัยของ Bayek ว่าอะไรกันแน่ที่เกิดขึ้นที่นี่ ทำให้เขาต้องตามสอบสวนต่อไปเพื่อให้รู้ความจริง

จุดหลักฐานที่ Bayek ต้องตามหาต่อนั้นกระจัดกระจายไปจนทั่วดินแดนต่างๆ ซึ่งจะมีทั้งหมดอีก  จุดคือ


       


                            1. ใกล้ๆกับ Sapi-Res Ruin ในเขต Sapi-Res Nome


       



                                      2. ทางตอนเหนือของเขต Kanopos Nome


      



                             3. ในรังจระเข้ทางตะวันออกของเขต Kanopos Nome




ข้อมูลต่างๆที่ Bayek รับรู้ได้หลังจากสำรวจตามสถานที่ต่างๆหมดแล้วคือ โลงหินที่บรรจุศพมักจะถูกลำเลียงมาโดยรถเข็นหรือทางเรือเพื่อให้ง่ายต่อการเคลื่อนย้ายศพ แปลว่าฆาตกรน่าจะอยู่ไม่ไกลจากที่เกิดเหตุ และจะสลักสัญลักษณ์รูป Serqet เทพแห่งแม่งป่องพร้อมกับคัมถีรบูชาเทพ Serqet ตกอยู่ในที่เกิดเหตุเสมอ



ศพที่พบนั้น ปอดและตับจะถูกควักออกไป ร่องรอยบาดแผลจากศพดูเหมือนว่าคนร้ายจะใช้เครื่องมือชั้นดีที่ใช้สำหรับการชำแหละสำหรับทำพิธี และจะถูกนำออกมาจากโลงเพื่อพยายามจะปกปิดหลักฐานด้วยวิธีที่แตกต่างกัน ฆาตกรระวังตัวอย่างดีเพราะใส่ถุงมือจนไร้ร่องรอย และศพทั้งหมดน่าจะมาอย่างผิดกฎหมาย เป้าหมายคือพิธีทางไสยศาสตร์หรือมนต์ดำที่ทำขึ้นเพื่อบูชายันต์ถวายแด่เทพแห่งแม่งป่อง Serqet 



และจากหนึ่งในสถานที่เกิดเหตุฆาตกรรมจะพบกับสัญลักษณ์ที่เป็นรูปแม่งป่องของเทพ Serqet ถูกเขียนทับลงที่เทวรูปของเทพพยากรณ์ Serapis เจ้าแห่งพระอาทิตย์ ทำให้พอตีความได้ว่าศพทั้งหมดนั้นเป็นของผู้คนที่นับถือเทพ Serapis  ซึ่งเป็นศัตรูทางความเชื่อที่มีความเห็นต่างต่อกลุ่มคนที่บูชาเทพ Serqet 


จากหลักฐานที่ได้จากจุดพื้นที่ทั้ง 3 แห่ง นำ Bayek ให้ไปที่วิหารของเทพ Serqet ที่อยู่ในพื้นที่ Ka-Khem Nome เมื่อลอบเข้าไปในพื้นที่เป้าหมายของซากวิหาร Serqet ที่นี่ก็จบโลงหินที่มีสัญลักษณ์ของเทพ Serqet อยู่หลายโลง และในช่องกำแพงส่วนนอกของวิหาร Bayek ก็ได้ยินเสียงสวดมนต์ดังออกมาจากด้านใต้ของวิหาร เมื่อใช้ Semu บินสำรวจหาเป้าหมายก็จะพบถ้ำซึ่งเป็นทางเข้าวิหารที่อยู่ทางตะวันออกของพื้นที่ ใกล้ๆกับ Hathor Stone Circle


ที่ปากทางเข้าถ้ำ Bayek จะพบสัญลักษณ์รูปแมงป่องของเทพ Serqet ขนาดใหญ่ถูกวาดเอาไว้ ที่พอรู้ได้ว่าเป็นสัญลักษณ์โบราณที่ทำให้ถ้ำแห่งนี้เป็นสถานที่ที่ถูกซ่อนเอาไว้มาช้านานแล้ว เมื่อเข้าไปตามทางจนถึงด้านในสุดของถ้ำก็จะพบนักบวช 3 คนกำลังท่องบทสวดเพื่อทำพิธีของพวกมันอยู่


นักบวช – นี่เจ้ากล้าดียังไงถึงเข้ามาขัดขวางการทำพิธีกรรมศักดิสิทธิ์ของพวกเรา
Bayek – พิธีกรรมศักดิสิทธิ์งั้นหรอ ศพมากมายตายเกลื่อนจนนำพาข้ามาจนถึงที่นี่ และถ้ำแห่งนี้ก็เป็นที่ทำพิธีมนต์ดำนอกรีตด้วย เจ้าใช่มั๊ยที่เป็นฆ่าคนพวกนั้น
นักบวช – เทพ Serqet นางจะเป็นผู้ชี้เป็นชี้ตาย และข้าคือเหล็กในของท่านเทพ พวกที่ตายคือผู้ที่ถูกเลือกจากผู้ที่ไร้ศรัทธรา แต่เราก็ยังสามารถเรียนรู้สิ่งต่างๆได้มากมายจากอวัยวะของพวกมันเพื่อให้เรามีนิมิตรที่แก่กล้า ไม่นานเราก็คงได้รู้ถึงความลับอันยิ่งใหญ่ของเทพ serqet ความเป็นอมตะยังไงล่ะ
Bayek –  อมตะงั้นหรอ ดี !! งั้นนี่ก็เป็นโอกาสแล้วที่จะทำให้เทพของเจ้าพึงพอใจ มาดูสิว่าพวกเจ้าอมตะจริงๆรึเปล่า !!



 จากนั้นต้องลุยจัดการกับพวกนักบวช 3 คนให้หมดแล้วยืนยันการตายที่ศพของพวกมันเพื่อปิดบัญชีคดีฆาตกรรมปริศนาที่แสนน่ากลัวได้เลย



                                           Side Quest : Birthright


ระดับเควส – LV9
รางวัล:  600 XP


ที่จุดเป้าหมายของภารกิจที่สถานที่เก็บศพของเมือง Yamu Bayek ได้พบศพ 3 ศพที่ถูกนำมาทิ้งไว้ด้านนอกโดยไม่ถูกนำไปทำมัมมี่ Bayek จึงเข้าไปสอบถามกับสัปเหร่อของเมืองทันที


Bayek – ทำไมเจ้าถึงทิ้งศพ 3 ศพนั่นไว้ข้างนอกแบบนั้นล่ะ เกิดอะไรขึ้น?
สัปเหร่อ –ศพพวกนั้นถูกนำมาที่ ก่อนจะได้คุยกันญาติคนเดียวของคนตายก็ถูกจับตัวไปซะก่อนน่ะสิ เธอชื่อ Iras ลูกสาวที่เหลืออยู่ เธอเป็นคนเอาศพของครอบครัวมาที่นี่ที่ละศพคนเดียวเลย น่าอนาถมาก 
Bayek – น่าอนาถงั้นหรอ แล้วตอนนี้ Iras นางอยู่ที่ไหน ?
สัปเหร่อ – ถ้าอยากจะตามหานางก็คงต้องไปดูที่ฟาร์มของครอบครัวนางที่อยู่ใกล้ๆนี่แหละ

จากนั้นเดินทางไปยังจุดเป้าหมายของภารกิจซึ่งเป็นฟาร์มของ Iras จะพบว่ามีพวกทหารอยู่มากมายเต็มไปหมดที่กำลังมาค้นหาบางอย่าง ใช้ Semu บินสำหรวจหาตำแหน่งที่ซ่อนตัวของ Iras จนพบว่าเธอซ่อนตัวอยู่ในบ่อน้ำบาดาล เข้าไปจัดการศัตรูให้หมดแล้วเข้าไปช่วยเธอออกมา



Bayek – ออกมาเถอะ Iras ทุกอย่างปลอดภัยแล้ว ข้าแค่อยากคุยด้วยแค่นั้นแหละ
Iras – คนก่อนหน้าก็พูดแบบนี้แหละก่อนที่มันจะฆ่าครอบครัวข้าจนหมด
Bayek – ข้าแค่อยากช่วยน่ะ Iras
Iras – แล้วเจ้ารู้ชื่อข้าได้ยังไง?
Bayek – นักบวชคนทำศพบอกข้านะ
Iras – ครอบครัวของข้าเป็นเจ้าของที่ดินแถบนี้มานานเป็นศตวรรษแล้ว จนถึงตอนนี้ก็แทบไม่เหลืออะไรแล้ว พวกทหารมาที่นี่พยายามข่มขู่เราเพื่อให้ขายที่ดินทั้งหมด พ่อข้าไม่ยอม สุดท้าย ..ก็อย่างที่เจ้าเห็น
Bayek – แล้วเจ้าจะเอาไงต่อ?
Iras – ฟาร์มนี้เป็นมรดกของครอบครัวข้า ยังไงข้าก็จะอยู่ต่อ นานที่สุดเท่าที่จะทำได้นั่นแหละ
Bayek – ขอเวลานิดก็แล้วกัน รับรองว่าพวกทหารนั่นจะไม่มากวนเจ้าอีกเลย
Iras – ถ้าเจ้าทำได้ก็ดี ที่อยู่ของพวกมันอยู่ทางเหนือจากนี้ บนเส้นทางก่อนถึงเมือง Alexandria นั่นแหละ แต่ถ้าเจ้าทำไม่สำเร็จก็บอกโลกนี้ให้รู้ด้วยว่า ข้าตายเพราะปกป้องมรดกของครอบครัวข้า !! 

เดินทางต่อไปยังค่ายทหารในพื้นที่เป้าหมายของภารกิจตามที่ Iras บอกเอาไว้ เข้าไปจัดการพวกทหารให้หมดแล้วสำรวจที่จดหมายบนโต๊ะกลางค่าย


 จะพบว่าเป็นจดหมายของ Sophronios ที่ส่งมาเพื่อสั่งให้ทหารจัดการเก็บ Uteh พ่อของ Iras และครอบครัวทุกคนที่บังอาจมาปฎิเสธการขอซื้อที่ดินของมัน ก่อนที่มันจะขีดเส้นตายให้พวกทหารจัดการครอบครัวของ Iras ให้หมดภายในสองอาทิตย์ทันทีที่มันกลับไปถึงเมือง Alexandria ทำให้ Bayek รู้ว่าตัวการใหญ่ที่สั่งการซึ่งเป็นเป้าหมายของเขาอยู่ที่เมือง Alexandria นั่นเอง


จากนั้นเดินทางไปยังเมือง Alexandria ทางประตูทางเข้าฝั่งตะวันตก ใช้ Semu บินสำรวจพื้นที่เป้าหมายให้ทั่วจนพบตำแหน่งของ Sophronios ตัวการใหญ่ที่อยู่กับทหารบอดี้การ์ดเลเวล 9 ล้อมรอบ 3 คน หาทางจัดการมันซะ ก็จะจบภารกิจนี้



                                             เมือง Alexandria


เมื่อราว 300 ปีก่อนคริสตกาล ในยุคพระเจ้าอเล็กซานเดอร์มหาราชที่ได้ชัยชนะเหนือกรีก และอียิปต์ และเมื่อยึดครองอียิปต์ได้ พระองค์ก็เริ่มพัฒนาหมู่บ้านประมงเล็กๆ ที่ชื่อว่า ราคอนดาห์ ทางเหนือสุดของอียิปต์ติดกับทะเลเมดิเตอร์เรเนียนให้เป็นเมืองขนาดใหญ่และทันสมัย


ทรงตั้งพระทัยให้เป็นเมืองหลวงของอียิปต์ที่ยอดเยี่ยมที่สุดในโลกและตั้งชื่อให้คล้องจองกับชื่อของพระองค์ว่า เมือง อเล็กซานเดรีย (Alexandria)  ก่อนจะทรงมอบอำนาจแต่งตั้งตั้งราชวงศ์ปโตเลมี (Ptolemy) เป็นตัวแทนของพระองค์ในการขึ้นปกครองอียิปต์แทน


จนมาถึงยุคของราชวงศ์ Ptolemy ครองอำนาจอย่างเบ็ดเสร็จ อเล็กซานเดรียก็ถูกพัฒนาจนกลายเป็นเมืองขนาดใหญ่เป็นอันดับ 2 ของอียิปต์ รองจากไคโร กลายเป็นเมืองท่าที่สำคัญเป็นศูนย์กลางของทั้งเรื่องวิชาการและวัฒนธรรม จากความหลากหลายทางวัฒนธรรมทั้งจากที่ตกอยู่ใต้การปกครองของโรมันแต่ดั่งเดิมและการเข้ามาของศาสนาอิสลามจากอาณาจักรออโตมัน ทำให้ต้องมีการบริหารพื้นที่ให้เหมาะสม โดยเมืองจะแบ่งการปกครองออกเป็น 5 เขตประกอบด้วย เขตพระราชวังหลวง/ เขตชนชั้นสูงของกรีก / เขตผู้ย้ายถิ่นฐานของกรีก / เขตชนกลุ่มน้อยของชาวยิว,เปอร์เชีย,ชาวซีเรีย และ เขตของชาวอียิปต์พื้นเมือง


ราชวงศ์ปโตเลมีที่ขึ้นครองบัลลังก์ปกครองอียิปต์นั้นเป็นราชวงศ์ที่สนใจทั้งเรื่องภูมิศาสตร์ ดาราศาสตร์ และโหราศาสตร์ ทำให้มีทั้งนักปราชญ์ นักวิชาการและความรู้มากมายที่หลั่งไหลเข้ามาในเมืองอเล็กซานเดรีย ความรู้มากมายที่สั่งสมจึงถูกสะสมในหอเก็บเอกสารขนาดใหญ่ที่เรียกว่า The Great Library หรือ หอสมุดแห่งอเล็กซานเดรีย (Library of Alexandria) ในเวลาต่อมา


จนกลายเป็นแหล่งความรู้ และ วิทยาการแห่งแรกของโลก นอกจากนี้ระบบการจัดทำรายการหนังสือของหอสมุดแห่งอเล็กซานเดรีย นับว่าเป็นการจัดบรรณานุกรมที่เกิดขึ้นครั้งแรกของโลกอีกด้วย ทำให้ Alexandria  กลายเป็นเมืองมหาวิทยาลัยแห่งแรกในโลก เป็นแหล่งรวม นักคณิตศาสตร์และนักปราชญ์มากมาย เป็นที่เก็บหนังสือ วรรณกรรมและสิ่งขีดเขียนให้ความรู้ เป็นศูนย์วิทยาการ ที่นักปราชญ์ทุกคนจะต้องไปเยือน

        

http://www.assajan.com/67
http://www.scholarship.in.th/alexandria-library/
http://www.egythai.co.th/articles-news.php?content=167


                                            Main Quest: AYA


ระดับเควส – LV10
รางวัล:  1250 XP




เมื่อเดินทางมาถึงที่เมือง Alexandria แล้ว เข้าไปที่ The Great Library เพื่อเข้าไปที่จุดนัดพบที่ Aya ได้ฝากบอกกับ Hepzefa เอาไว้ แต่กลับไร้เงาเธอตามที่นัดเอาไว้


แต่จู่ชายคนนึงก็เข้ามาพยายามจะพูดกลบเกลื่อนผู้คนอย่างลุกลี้ลุกลน ก่อนจะเรียกให้ Bayek รีบตามเขาไป จนเขาแนะนำตัวว่าชื่อ Phanos เป็นญาติของ Aya


ระหว่างที่กำลังเดินทางไปยังเป้าหมาย Bayek สงสัยว่าทำไม Phanos ถึงดูระวังตัวตลอดเวลาก่อนจะถามหา Aya ว่าเธอเป็นยังไง? Phanos รีบตอบทันทีว่า Aya ต้องหลบซ่อนตัวเพราะเจ้า Gennadio ผู้ตรวจการณ์แห่ง ได้ส่งทหารของหน่วย Phylakitai (หน่วยตำรวจเมืองที่ถูกสร้างขึ้นหลัง Medjay ล่มสลาย) ออกไล่ล่าตัว Aya ตลอดทั้งวันทั้งคืน แต่โชคดีที่ Phanos ยังพอมีเพื่อนที่มีเส้นสายอยู่บ้างจึงได้รับความช่วยเหลือจาก Apollodorus ที่ช่วยหาที่ซ่อนลับเพื่อหลบซ่อนตัวจากการไล่ล่าของ Gennadio จนทั้งคู่เดินทางมาจนถึงบ่อน้ำบาดาลใกล้ๆกับ The Great Library Phanos จึงบอกให้ Bayek โดดลงไปในบ่อน้ำบาดาลไปก็จะพบที่ซ่อนตัวของ Aya

ทันทีที่ Bayek ดำน้ำลงไปจนไปโผล่ด้านในห้องโถงใหญ่ที่ซ่อนอยู่ใต้บ่อบาดาล ยังไม่ได้ทันที่ Bayek ได้ตั้งตัว Aya ที่แอบอยู่ก็โดดเข้ามาจู่โจม Bayek ทันที ..


Aya – ข้าคิดถึงเจ้าเหลือเกิน Bayek !!
Bayek – หลายเดือนเลยที่เราไม่มีกันและกันแบบนี้ ตั้งแต่ไม่มี Khemu ..
Aya – ชูว์ๆ แค่เราสองคน มีแค่กันและกันพอแล้ว 



Bayek – ข้ามีข่าวคืบหน้า ..ดูแผลที่แขนข้าสิ
Aya – เจ้าได้แผลมาจากการทวงคืนความยุติธรรม
Bayek – ข้าฟาดไอ้ Medunamun จนตายด้วยสิ่งนี้แหละ
Aya – ข้าเกลียดจริงๆเลยที่เราต้องมาทำเรื่องแบบนี้กัน แต่ข้ารู้สึกขอบคุณในสิ่งที่เจ้าทำนะ
Bayek – ถ้าจะให้ข้าพูดตรงๆ ข้ายินดีมากเลยที่ได้ทำแบบนี้ 



Bayek – ข้าคิดถึงสัมผัสของเจ้าจริงๆเลย
Aya – ข้าก็เหมือนกัน .. ข้าฆ่ามันเรียบร้อยแล้วไอ้ Actaeon ก่อนข้าจัดการมันข้าค้นห้องมันจนเจอหน้ากากของมัน พอมันกลับมาข้าบังคับให้มันใส่หน้ากากนั้นแล้วค่อยเอามีดของมันควักลูกตาของมันออกมา   
Bayek – Aya …พอแล้ว
Aya – แต่ข้าไม่ทันระวังตัว ไอ้พวกหน้ากากอีกคนมันแอบตามข้าไปจนถึงบ้าน มันทำให้ทุกอย่างยากขึ้น 
Bayek – เป้าหมายเราเหลือแค่คนเดียว แล้วทุกอย่างก็จะจบแล้วละ



Aya – ดูนี่สิ ข้าได้มาจากเจ้า Actaeon Apollodorus บอกข้าว่ามันคือ หมายของสภาหลวง นั่นแปลว่า ไอ้ Snake อยู่ในสภาของ ปโตเลมี ด้วย
Bayek – แล้ว Apollodorus รู้ได้ยังไงว่าเจ้าสิ่งนี้คืออะไร
Aya – เขามีข้อมูลมากมาย มีสายข่าวจากหลายที่ เพราะเขาทำงานให้ คลีโอพัตรา
Bayek – คลีโอพัตรา? นางต่อกรกับพวกอาชญากรเหมือนกันหรอ?
Aya – ถ้ามองว่านางกำลังทรยศน้องชายล่ะก็ ใช่ นางกำลังวางแผนที่จะชิงบัลลังก์จาก ปโตเลมี และนางต้องการให้ไอ้ Snake นั่นตายไม่ต่างจากพวกเรา 



Aya – และที่สำคัญ นางไว้ใจข้ามาก นางมอบสิ่งนี้ให้กับข้าไว้ใช้ด้วย มันเป็นมีดโบราณ สำหรับไว้ฆ่าจักรพรรดิทรราชย์ เซิร์กซีสมหาราช เป็นอาวุธสำหรับใช้ผดุงความยุติธรรมมาช้านานแล้ว
Bayek – ฮ่าๆ ใช้แล้วคล่องแคล่วดีจริงๆ เดี๋ยวข้าจะไปที่อยู่ของพวกมันและค้นหาว่าใครทำงานให้กับไอ้ Snake แล้วจะลองใช้สิ่งนี้กับมันดูซักหน่อยก็แล้วกัน 

หลังจบภารกิจนี้จะได้ภารกิจหลักใหม่เพิ่มมา 2 เควสพร้อมๆกันคือ
Main Quest : Gennadios the Phylakitai  
Main Quest : End of The Snake 
2 เป้าหมายจาก 2 ภารกิจ สามารถเลือกได้เลยว่าจะทำภารกิจไหนก่อนก็ได้

        แต่ก่อนจะทำเควสหลัก แวะทำภาระกิจเสริมด้วย Side Quest ต่างๆเพื่อสะสมประสบการณ์ก่อน


                                      Side Quest ในเมือง Alexandria



                                          Side Quest : Serapis Unites


ระดับเควส – LV10
รางวัล:  800 XP



                                                     Serapeum of Alexandria




เนื่องจากคำว่า ศาสนา ในสมันอียิปต์โบราณนั้น ใช้ชื่อตามบุคคลในตำนานที่เชื่อว่าเป็นอวตารแห่งเทพ ซึ่งในเมือง Alexandria ปรัชญาความเชื่อมีทั้งจากทั้ง อียิปต์โบราณ(Khem)และกรีกโบราณ(Hellenic)นั้นถูกความพยายามของ อเล็กซานเดอร์มหาราช ตั้งแต่เข้ามายึดอียิปต์เพื่อหลอมรวมความคิดผู้คนให้เข้าหากัน แต่ถึงกระนั้นก็ยังมีศาสนาที่อ้างอิงจากปรัชญาความเชื่อที่แตกต่างกันเกิดขึ้นเป็นลัทธิและสำนักต่างๆใน เมือง Alexandria มากมาย


Sarapis ก็เป็นหนึ่งในนั้น ซึ่ง Sarapis เป็นเทพตามความเชื่อของกรีก ที่ถูกนำมาใช้ในช่วงศตวรรษที่ 3 ตามคำสั่งของปโตเลมีที่ 3 แห่งอียิปต์  เพื่อเป็นแนวทางในการรวมกันของชาวกรีกและชาวอียิปต์ในดินแดนของพระองค์ จนมีการสร้างวิหาร serapeum ไว้ประดิษฐานเทวรูปของ Sarapis ไว้ให้ผู้คนสักการบูชา จนถูกขนานนามว่า daughter of the Library of Alexandria  แต่ผู้ที่นับถือ ลัทธิเซราพิส ก็ยังคงอยู่ในฐานะ พวกนอกศาสนาในมุมมองของชาวอียิปต์โบราณส่วนใหญ่อยู่ดี


แต่เนื่องด้วยกาลเวลาไม่ได้เหลือรูปทรงของ Serapeum of Alexandria หรือ The Temple of Serapis เอาไว้มากนอกจาก เสาปอมเปย์ (Pompey's Pillar) เสาที่แสดงถึงการฉลองชัยชนะของชาวโรมัน เป็นอนุสาวรีย์โบราณในสมัยโรมันปกครองอียิปต์ที่อยู่ในพื้นที่เดียวกัน ภาพต่างๆของ Serapeum จึงไม่มีให้เห็นเด่นชัดนอกจากภาพจากข้อมูลทางวิชาการที่ได้จากเศษซากโบราณที่เหลืออยู่หรือจากจินตนาการในหนัง “Agora” ที่เคยผ่านสายตาบ้างเท่านั้นเอง


bnent.asia/DBFtheme
https://en.wikipedia.org/wiki/Serapeum_of_Alexandria
https://web.facebook.com/hermeticforstudythailand/posts/1012089192201213:0?_rdc=1&_rdr
http://penelope.uchicago.edu/~grout/encyclopaedia_romana/greece/paganism/serapeum.html
http://isida-project.ucoz.com/egypt_dec_2013/alexandria_column.htm



Bayek – ท่านเซราพิสผู้ยิ่งใหญ่ ท่านทรงมีเมตตาเฉกเช่น Amun รึเปล่า ?
Lysander – ยินดีต้อนรับ พี่น้องข้า ดีใจนะที่เห็นคนอียิปต์มาที่นี่บ้าง ตั้งแต่เจ้าหน้าที่ของลัทธิถูกจับตัวไปที่นี่เงียบมาก
Bayek – เงียบน่าจะเป็นเรื่องที่ดีไม่ใช่หรอท่าน 
Lysander – เจ้าคนฟอกหนังมาจับเขาไปแล้วกล่าวหาว่าเขาขโมยหนังสิงโตของชาวนูเบียจาก dye vats มันน่าเศร้า เพราะเขาเป็นคนที่สื่อสัตย์มากนะสิ 
Bayek – เรื่องนั้นปล่อยเป็นหน้าที่ข้าเองนะท่านนักบวช 

จากนั้นเดินทางไปยังจุดเป้าหมายของภารกิจต่อไปที่ป้อม Kibotos Arsenal ใช้ Semu บินขึ้นไปค้นหาจนพบเป้าหมายแล้วลอบเข้าไปช่วยคนของนักบวชออกมาจากกรงขัง อุ้มพาเขาออกไปในพื้นที่ปลอดภัย


คนของนักบวชขอร้องให้ Bayek ไปชิงคนสิงโตจากพวกโจรที่เป็นคนขโมยไปแล้วป้ายความผิดให้เขา จากนั้นเดินทางไปยังเป้าหมายต่อไปที่เขตพักอาศัยของคนอียิปต์ที่พวกโจรไปซ่อนตัวอยู่ ใช้ Semu บินขึ้นไปค้นหาเป้าหมายจนพบโจรคนที่ขโมยหนังสิงโตไปแล้วจัดการมันซะ เก็บหนังสิงโตกลับมาให้นักบวชเพื่อคืนชื่อเสียงให้คนในวิหารก็จะจบภารกิจ



                            Side Quest: A Tithe By Any Other Name


ระดับเควส – LV10
รางวัล:  800 XP




Bayek –ข้าคิดว่าอยากจะดูแลลัทธิเซราพิสต่อไปอีกซักพัก ท่านนักบวชมีอะไรให้ช่วยหรือเปล่า 
Lysander – ก็มีอยู่เรื่องนึงอ่ะนะ อาหารของพวกเราถูกขโมยไปโดยพวกทหารที่ชอบมากล่าวหาลัทธิของเรา จากที่เคยมาเอาแค่ 1 ใน 10 แต่ตอนนี้มาเอาไปถึง 2 เท่าคงเอาไปเผื่อแผ่พวก Phylakitai ด้วย คนของเราก็กำลังอดอยาก ข้าคิดว่าการทำแบบนี้มันเป็นเรื่องที่ผิดมากๆ
Bayek – ไม่ต้องห่วงนะท่านนักบวช คนของท่านได้กินอาหารอีกครั้งแน่นอน 


จากนั้นเดินทางไปยังจุดหมายของภารกิจแล้วใช้ Semu บินขึ้นไปตรวจสอบจนพบตำแหน่งของเกวียนคนอาหารเป้าหมายที่พวกทหารเอาไป เข้าไปจัดการทหารให้หมดแล้วชิงเอาเกวียนขับกลับมาให้กับนักบวชที่ค่ายพักของคนในลัทธิเซราพิสให้สำเร็จก็จะจบภารกิจนี้



                                                   The Shifty Scribe


ระดับเควส – LV11
รางวัล:  750 XP




ผู้หญิง – เจ้าเป็นใคร? เป็นพวก Phylakes ของไอ้ Eudoros อีกงั้นหรอ?
Bayek – ข้าไม่ใช่เพื่อนของไอ้ Eudoros แน่นอน 
ผู้หญิง – มันพรากทุกอย่างของข้าไปแม้แต่สามีข้า Aristo นักกวี นักปรัชญาที่ดีที่สุดคนนึง มันก็จับไปขังเพื่อเขียนสิ่งที่สวยงามให้พวกมัน
Bayek – ตัวอักษรเป็นอาวุธที่ร้ายกาจมากอย่างนึงเลยล่ะ
ผู้หญิง – สามีข้าใช้เวลาสร้างงานเขียนของเขาเป็นปีๆก่อนจะได้สุดยอดผลงานนั้นออกมาได้ แต่พวกของไอ้ Eudoros ก็มาจับเขาไปเพื่อเอาผลงานสุดอัจฉริยะของสามีข้าไปเป็นของตัวเอง
Bayek –Aristo ไม่ได้ไปขึ้นศาลหรอ?
ผู้หญิง – เราก็พยายามหาหลักฐานไปโต้แย่งใช้เวลาเป็นเดือนๆ สุดท้ายสามีข้าก็แพ้คดี ก่อนจะถูกโยนเข้าคุกพร้อมเสียงหัวเราะเย้ยหยันของพวกมัน ถ้าท่านคิดว่าสิ่งนี้มันผิดก็ช่วยสามีข้าด้วยเถอะ เสร็จแล้วพวกเราจะหนีออกจากเมืองบ้านี่ทันที



เดินทางไปยังจุดหมายของภารกิจแล้วใช้ Semu บินขึ้นไปตรวจสอบจนพบตำแหน่งของ Aristo ที่กำลังถูกพวกทหารนำตัวไปขัง เข้าไปจัดการทหารในขบวนคุ้มกันให้หมดแล้วอุ้ม Aristo ขึ้นม้าเดินทางมาหาภรรยาที่รออยู่ที่ท่าเรือ ก็จะจบภารกิจ


   

                                      Side Quest: The Odyssey


ระดับเควส – LV10
รางวัล:  800 XP

หลังจากช่วย Lysander นักบวชของลัทธิเซราพิส ในการทวงคืนอาหารที่พวกทหารชิงไปจากเควสย่อย A Tithe By Any Other Name ไปไม่นาน จุดของภารกิจนี้ถึงจะปรากฏขึ้นมา ซึ่งจะพบว่า Lysander ออกมาเดินไปมาอยู่บนถนนไม่ได้อยู่ที่วิหารเหมือนทุกครั้ง Bayek จึงเข้าไปสอบถามทันที


Bayek – ท่านนักบวช ทำไมมาเดินไปมาบนถนนแบบนี้ล่ะ?
Lysander – พวกทหารนะสิมันมาตามแก้แค้นหลังจากที่ข้าให้ท่านไปชิงเอาอาหารของเราคืนมา พวกมันตั้งค่าหัวข้าและออกล่าตัวข้าด้วยขอหานักบวชนอกรีตที่นำความชั่วร้ายมาสู่เมืองนี้ 
Bayek – ข้าช่วยท่านหนีออกจากเมืองนี้ได้นะ แต่ข้าช่วยให้ท่านปลอดภัยได้ตลอดไม่ได้หรอกท่าน
Lysander –  ถ้าไม่เป็นการขอกันเกินไปนะท่าน Medjay ทางเหนือของเมืองมีวิหารเล็กๆอยู่ คุ้ทครองข้าจากพวก Phylaktai ที่ออกตามหาตัวข้าตามทางแล้วพาข้าไปที่นั่นให้ได้ก็พอ 


จากนั้นคุ้มกันนักบวชแล้วพาเดินทางไปที่จุดหมายของภารกิจที่วิหารทางทิศเหนือของเมือง ทันทีที่ถึงที่หมายแล้ว นักบวชจะแนะนำตัวว่าเขาชื่อ Lysander พึ่งเป็นนักบวชในลัทธิเซราพิสได้ไม่นาน ท้ายที่สุด Lysander ตัดสินใจเลิกเป็นนักบวชเพื่อความปลอดภัย ทำให้ Bayek เบาใจว่าเขาจะปลอดภัยจากการไล่ล่าของทหารได้ อย่างน้อยก็ซักพักนึง




                                    Side Quest: The Last Bodyguard


ระดับเควส – LV15
รางวัล:  800 XP




พ่อค้า – ท่าน ท่านมีตราประจำตำแหน่งนี่ ท่านเป็นคนที่ทรงเกรียติพวกนั้นรึเปล่า ดีนะยังพอมีพวกท่านเหลืออยู่บ้าง
Bayek – ใช่ ข้าคือ Medjay เจ้ามีปัญหาอะไรหรอ?
พ่อค้า – เยี่ยมเลย พอดีวันนี้ข้ามีสินค้าพิเศษที่จำเป็นต้องส่งให้ถึงคนรับให้ทัน ท่านช่วยได้มั๊ยล่ะ ข้ามีค่าตอบแทนให้ด้วยนะ นี่ไงข้าจ่ายล่วงหน้าด้วยก็ได้
Bayek – คนเมืองนี้จ่ายดีจริงๆ ข้าขอรับไว้ก็แล้วกันนะ
พ่อค้า – เยี่ยม เป็นอันตกลงนะ งั้นตามข้ามา !!



พ่อค้า – สาบานเลยว่าเกิดมาจากท้องพ่อท้องแม่ไม่เคยเจอคนแบบเธอจริงๆ เหมือนถูกพระเจ้าส่งมาเพื่อให้เมืองนี้ดีขึ้นจริงๆ  
Bayek – เธอ งั้นหรอ?
พ่อค้า – ข้าได้บอดีการ์ดมาให้เจ้าแล้ว Kara ลูกเลิกบ่นซักทีน่า
Bayek – เดี๋ยวๆ นี่มันไม่ใช่ที่เราตกลงกันนี่?
พ่อค้า – ท่าน Medjay ข้ายอมทุ่มหมดตัวเลยก็ได้ตราบใดที่ท่านคุ้มครองให้เธอปลอดภัยได้ แล้วก็ Kara อย่าลืมงานต้อนรับในคืนนี้ ด้วย 
Kara – แน่นอนคะพ่อ หนูไม่พลาดอยู่แล้วล่ะ แล้วก็ข้าดีใจนะที่ท่านยอมมาคุ้มกันข้าน่ะ
Bayek – ไม่ต้องห่วง ข้าจะพาเจ้าให้ถึงบ้านให้เร็วที่สุดก็แล้วกันนะ

จากนั้นงานคุ้มครอง Kara ไปให้ถึงที่หมายก็เริ่มขึ้น แต่ขณะที่การเดินทางเพิ่งเริ่มขึ้น Kara ก็อยากจะแวะที่ตลาดเพือไปเอา เปกาซัส ม้าของเธอที่เพิ่งเอาไปเปลี่ยนเกือกเอาไว้ก่อน


แม้ Bayek จะไม่พอใจเพราะกลัวจะเกิดอันตรายแต่ก็ต้านทานความดื้อของ Kara ไม่ได้จนต้องแวะจอดเรือที่ตลาดเพื่อไปเอาเจ้า เปกาซัส ม้าของ Kara ตามที่เธอต้องการ ก่อนที่ Bayek จะต้องขึ้นม้าแล้วคุ้มกัน Kara พาเธอไปยังจุดหมายต่อ

ท่ามกลางการเดินทางที่เต็มไปด้วยศัตรูที่มุ่งร้ายต่อลูกสาวของพ่อค้า ก็ยังมีความวุ่นวายจากความเอาแต่ใจของ Kara ที่นำพา Bayek ไปเจอปัญหามากกว่าที่เขาคิดทั้งต้องแวะตลาดซื้อผ้าลินินจนม้าถูกขโมยจน Bayek ต้องเหนื่อยตามไปเอาคืน จนสุดท้าย พ่อค้าก็กลับมาเจอ Kara พอดี


งานนี้จึงจบลงด้วยดีท่ามกลางความพอใจของทั้งพ่อค้าและ Kara จนถึงขนาดที่ Kara ถึงกับขอร้องกับพ่อเพื่อขอให้ Bayek ตลอดไป พ่อค้ารีบเสนอราคากับ Bayek อย่างเร็วไวแต่ Bayek ก็รีบปฎิเสธทันใดว่าตัวเขานั้นคงไม่ได้อยู่ที่เมืองนี้นานนักไม่นานก็ต้องจากไปทำธุระที่ยิ่งใหญ่ที่รออยู่
                           

                                 Side Quest: Wrath of the Poets


ระดับเควส – LV20
รางวัล:  1500 XP




Phanos – Bayek คงมีใครซักคนที่ชื่นชมนักแสดงอัจฉริยะในสังกัดข้า มันเลยต้องถึงกับมาจับตัวไป การแสดงโชว์ของข้ากำลังจะเริ่มอยู่ด้วย พวกมันจับนักแสดงข้าไปขังพร้อมกับพวกกวีเก่งๆในเมืองนี้ แถมยังขู่ข้าอีกว่าถ้าขืนทำการแสดงต่อมันจะฆ่านักแสดงของข้า
Bayek – ระวังหน่อย Phanos สถานะของตัวท่านมันเปราะบางมาก ท่านจัดการเรื่องงานเขียนของท่านต่อเถอะ เรื่องนักแสดงของท่านข้าจะไปช่วยเอง 

เดินทางไปยังจุดหมายของภารกิจที่ป้อม Akra Garrison แล้วใช้ Semu บินขึ้นไปตรวจสอบจนพบตำแหน่งของนักแสดงของ Phanos  จากนั้นก็ลอบเข้าไปช่วยเขาออกมาจากที่คุมขังแล้วแบกเขาออกมานอกป้อม แต่นักแสดงจะบอกว่ายังมีพวกเขาอีก 2 คนที่กำลังหนีการไล่ล่าของพวกทหารอยู่และบทละครก็ยังถูกพวกทหารยึดเอาไป ทำให้ Bayek ต้องไปช่วยนักแสดงที่เหลือและไปชิงเอาบทละครกลับมาด้วย


ใช้ Semu บินขึ้นไปตรวจสอบจนพบตำแหน่งของบทละครที่ถูกชิงไปซึ่งจะอยู่กับทหารที่ป้อม Akra Garrison ลอบเข้าไปที่จุดของทหารเป้าหมายแล้วจัดการฆ่ามันซะเพื่อเก็บเอาบทละครที่ถูกขโมยไปกลับมา ที่เหลือก็เดินทางต่อไปยังจุดเป้าหมายของภารกิจที่บ้านหลังนึงที่นักแสดงของ  Phanos  กำลังหนีหัวซุกหัวซุนซ่อนตัวอยู่


Bayek แปลกใจที่นักแสดงควรจะมี 2 คนแต่นักแสดงคนที่ 2 บอกว่า Kapaneus นักแสดงคนที่ 3 หนีไปแล้วทำให้ทหารมาไล่ล่าล้อมจับเขาคนเดียว แต่เขายอมที่จะกลับไปแสดงให้ Phanos อย่างสุดฝีมือหาก Bayek คุ้มกันเขาฝ่งดงจากพวกทหารเพื่อออกไปยังถนนเส้นหลักได้ Bayek จึงต้องคุ้มกันนักแสดงลุยพวกทหารที่ล้อมบ้านจนสามารถออกมายังถนนหลักด้านนอกได้ นักแสดงก็จะขอเดินทางกลับไปยังเวทีละครด้วยตัวเอง


 จากนั้นเดินทางกลับไปหา Phanos ที่เวทีละครอีกครั้งเขาก็จะเริ่มต้นซ้อมละครของเขาได้อีกครั้งอย่างมีความสุข แถมยังสัญญาว่าเขาจะทำบทละครให้ Bayek ในชื่อเรื่องว่า The Last of the Medjay ด้วย



                                         Side Quest : Symposiasts


ระดับเควส – LV21
รางวัล:  1500 XP



Phanos – Bayek ข้าคิดว่าถึงเวลาที่เราต้องฉลองกันแล้วนะ
Bayek – แล้วท่านไม่ต้องคอยกำกับนักแสดงของท่านแล้วหรอ?
Phanos – เราก็แค่รอเวลาที่จะเล่นเรื่องต่อไปแค่นั้นแหละ มาเถอะ Bayek เจ้าควรจะมาด้วยนะ 
Bayek – หวังว่างานนี้คงจะดีกว่างานที่ข้าจัดกันเองที่ Siwa นะ
Phanos – มาเถอะ นี่ต้องเป็นคืนที่ยอดเยี่ยมแน่นอน ข้าจะให้เจ้าเป็นแขกผู้มีเกรียติของงานเลยนะ รีบไปกัน

จากนั้นขี่ม้าตาม Phanos ไปจนถึงที่หมาย


Phanos – เข้ามาเลย Bayek ที่นี่แหละใกล้เคียงกับแดนดินถิ่นคนอียิปต์อย่างพวกเราที่สุดแล้ว นี่แหละสวรรค์แห่งการพักผ่อนของเหล่ากวีอย่างพวกเรา
Bayek – เดี๋ยวนะ ท่านได้ยินข้างนอกนั่นมั๊ย?
Phanos – คนของ Gennadios พวกมันคงตามเรามาแน่ๆเลย 
Bayek –พวกเราออกไปจัดการมันกันเถอะ เตรียมดาบของท่านซะ
Phanos – วันนี้ข้าจะเอาเลือดของพวกมันมาเติมเป็นหมึกสำหรับขีดเขียนของข้าคอยดู !!


       

                            ออกไปช่วย Phanos จัดการพวกทหารบนถนนให้หมด



Bayek – คนของท่านเป็นอะไรรึเปล่า Phanos
Phanos – แม่งเอ้ยย ["metrokoites"] พวกมันกล้ามาเหยียบจมูกข้า ดีนะ Drakon กวีคนโปรดของข้าไม่โดนฆ่าตาย ขอบคุณพระเจ้า
Bayek – มันต้องมีทางออกที่จัดการให้พวกมันเลิกมายุ่งกับคนของท่านแบบถาวรบ้างสิน่า
Phanos – Bayek กวีอย่างพวกเราเลือดขึ้นหน้าแล้ว นี่เป็นโอกาสของเราแล้วที่จะนำพาคนของเราให้ไปสู่เจตนารมณ์ที่แท้จริงของพวกเราซะที 
Bayek – อะไรก็ตามถ้ามันจะช่วยปกป้องเสรีภาพของผู้คนข้าเอาด้วย
Phanos – ขอเวลาข้าหน่อย ข้าจะคุยกับคนของข้าเอง แต่ตอนนี้ต้องหาฐานที่มั่นให้พวกเขาเสียก่อน 



คำว่า "metrokoites" คือคำรากศัพท์ของคำด่าว่า "mother-fucker" โดยคำว่า "metrokoites" ในบทกวีเก่าแก่ของกวีชาวกรีกที่ชื่อ Hipponax ที่กล่าวถึงผู้ที่ดูถูกดูแคลนงานของเขาว่า "metrokoites"
https://english.stackexchange.com/questions/27308/what-is-the-origin-and-history-of-the-word-motherf-er



                           Side Quest: The Accidental Philosopher



ระดับเควส – LV20
รางวัล:  1500 XP



Tjepu –ท่าน Medjay ขอบคุณพระเจ้า ข้าไม่เคยเห็นพวกท่านมาเป็นเวลานานมากแล้ว
Bayek – แล้วป้ามีปัญหาอะไรรึเปล่าล่ะ?
Tjepu – Tefibi ลูกชายข้า เด็กบ้าที่ชอบหนีออกจากบ้านตลอด เขาฝันอยากจะเป็นพวกนักคิดนักเขียนอะไรเนี้ยแหละ คงจะแอบไปสำรวจที่ถ้ำแถวชายฝั่งเหมือนเดิม แต่ปกติป่านนี้เขาก็ควรจะกลับมาได้แล้วนะ
Bayek – เดี๋ยวข้าจะลองตามหาเขาดูให้ก็แล้วกันนะ

จากนั้นเดินทางมาที่จุดหมายของภารกิจที่ชายหาดใกล้ สำรวจพื้นที่เป้าหมายจะพบ รอยเลือดจำนวนมากที่ลอยอยู่กลางทะเลอาจจะเกิดจากบาดแผลของ Tefibi


ตรงชายฝั่งจะพบเสื้อผ้าฉีกขาดถูกถอดเอาไว้ และรอยเลือดที่ลากยาวจากบนฝั่งอีกด้านของชายหาดยาวไปจนถึงประภาคาร เมื่อตามรอยเลือดไปก็จะพบ Tefibi นอนพักอยู่ในประภาคาร


Bayek – Tefibi ใช่มั๊ย? แม่ของเจ้าส่งข้ามาตามหาเจ้าน่ะ
 Tefibi – หรอ ดีมาก ไม่งั้นขาจะทำให้เจ้าเจ็บปวดด้วยจิญวิญญาณของข้าเลย
Bayek – งั้นแสดงว่าใช่เจ้าแน่นอนแบบนี้ 
Tefibi – โอเค งั้นช่วยดึงข้าลุกหน่อย ข้าแค่หมดแรงนิดหน่อยดูสิ ข้าเสียเลือดไปมากเลย
Bayek – เอาล่ะ ถึงเวลากลับบ้านหาแม่เจ้าแล้ว Tefibi
Tefibi – บ้านข้าอยู่อีกฝากนี่เองนำทางข้าไปเลย ข้าแข็งแกร่งพอที่จะไปแล้ว แม่ข้าดันส่งนักรบมาปกป้องข้า กวีที่ไหนเค้ามีบอดีการ์ดกันบ้างเล่า โธ่
Bayek – ข้าไม่ใช่บอดี้การ์ดของเจ้า แค่มาช่วยตามหาแค่นั้น เอาล่ะไปได้แล้ว 
Tefibi – แล้วตรา The Eye of Horus ของท่านล่ะ
Bayek – นี่ตราของ Medjay
Tefibi – Medjay ?? อ่อ ตำรวจจากยุคเก่าหรอ พวกเขาถูกปโตเลมีฆ่าตายไปหมดแล้วไม่ใช่หรอ?
Bayek – บังเอิญมันลืมไปคนนึงน่ะ

จากนั้นคุ้มกัน Tefibi จากพวกทหารออกไปจนถึงเส้นทางด้านนอกชายหาดจนเขาปลอดภัยพอจะกลับบ้านเองได้


Bayek – Tefibi ที่เจ้าออกมาผจญภัยแบบนี้เจ้าต้องการได้อะไรกันแน่ เพื่อหาเงินงั้นหรอ?
Tefibi – ท่านกำลังดูถูกข้านะท่าน Medjay ข้าออกเดินทางเพื่อหาความรู้ไปพร้อมๆกับหาเงินด้วย แต่ข้าไม่ใช่หัวขโมย
Bayek – เอาล่ะ ตอนนี้เจ้าปลอดภัยแล้ว กลับบ้านไปหาแม่และไปเรียนรู้ต่อที่บ้านเถอะนะ
Tefibi – ท่านมาหาข้าได้เสมอนะท่าน Medjay คอยดูวันนึงข้าจะเป็นนักปรัชญาที่ยิ่งใหญ่ให้ได้เลย  



                                        Side Quest: Higher Education


ระดับเควส – LV21
รางวัล:  1500 XP



Tjepu –ท่าน Medjay ช่วยเราด้วย เจ้าลูกชายตัวดีของข้าเอาอีกแล้ว คราวนี้ดันเอาเครื่องบรรณาการไปไว้ใน Papyrus ของเค้า แล้วดันทำหายซะได้ !! ข้าไม่สามารถขายน้ำมันของข้าได้เลยถ้าไม่มีเครื่องบรรณาการนั่น
Tefibi – ข้าไม่ได้ทำหายนะ พวกทหารมันยึดไปต่างหาก Papyrus นั่นเป็นเหมือนชีวิตข้าเลยนะท่าน Medjay
Bayek – พวกทหารนั่นมันไปไกลรึยังล่ะ?
Tefibi – มันเพิ่งชิงเอา Papyrus ของข้าขึ้นเรือไปเมื่อกี้เอง
Bayek – เอาล่ะ เดี๋ยวข้าจะไปตามหาให้ทั้ง Papyrus และ เครื่องบรรณาการ นั่นก็แล้วกันนะ




ออกเรือไปที่เป้าหมายของภารกิจที่เรือของพวกทหารกลางทะเลสาบ ใช้ Semu บินขึ้นค้นหาเป้าหมายจนพบตัวทหารที่ขโมย Papyrus และ เครื่องบรรณาการ ไป เข้าไปจัดการมันแล้วเก็บเอา Papyrus และ เครื่องบรรณาการ กลับไปให้ Tjepu และ Tefibi ได้เลย


Tefibi – ที่นี้ข้าก็พิสูจน์ให้พวกมันเห็นแล้วว่าข้าทัดเทียมกับพวกมันได้ด้วนปัญญา
Tjepu – อย่าเพิ่งมาทำพูดอวดดีหน่อยเลย พวกกรีกมันไม่ยอมรับเจ้าหรอก
Tefibi – ยอมรับแน่นอน ข้าจะเป็นนักปรัชญาให้ได้คอยดู



Bayek – นี่เครื่องบรรณาการของป้า คราวนี้คงขายโอรีฟออยได้แล้วนะ 
Tjepu – ข้าคงต้องห่วงเขาแบบนี้ตลอดไปแน่เลย เจ้าไม่เคยมีลูกเจ้าคงไม่เข้าใจหรอก
Bayek – … ยังไงก็ ให้โอกาส Tefibi เค้าหน่อยเถอะ เข้าไม่เป็นอะไรหรอกน่า




                               Side Quest: Phylakitai in the Eye

ระดับเควส – LV22
รางวัล:  1500 XP




Phanos – Bayek ท่าน Medjay ข้าวางแผนได้แล้ว ว่าจะทำยังไงไม่ให้พวก Phylakitai ของไอ้ Gennadios มาวุ่นวายกับเราได้ หน่วยลาดตระเวนทั้งด้วยรถศึกทางน้ำและเดินเท้ากับคลังแสงของพวกมันนี่แหละทำให้พวกมันมีอำนาจยึดครองเขตนี้ได้อย่างเบ็ดเสร็จ เราจะประกาศสงครามกับมันแบบให้ดังกระฉ่อนไปเลยโดยการกำจัดฐานกำลังของพวกมันให้หมดภายในครั้งเดียว 
Bayek – ให้พวกนักกวีของท่านเผยแพร่งานเขียนตีแผ่ความเลวร้ายของพวกมันให้ทั่วทั้งเมืองก็แล้วกัน ส่วนพวก Phylakitai ของไอ้ Gennadios
ข้าจะจัดการเอง 


ตอนนี้ในพื้นที่จะมีจุดเป้าหมายของภารกิจอยู่ 3 ที่ที่ต้องทำคือ
-ฆ่าทหารหน่วยรถศึกที่ลาดตระเวนบนถนน
-ฆ่าทหารหัวหน้าหน่วยควบคุมดูแลคลังแสง
- ฆ่าทหารหน่วยลาดตระเวนทางน้ำ

ใช้ Semu บินขึ้นไปตรวจสอบเป้าหมายที่ต้องกำจัดแล้วเข้าไปจัดการฆ่าเป้าหมายที่ละจุดให้หมดแล้วกลับไปคุยกับ Phanos อีกครั้ง


Phanos – Bayek เจ้ากลับมาแล้ว ทุกอย่างลุล่วงแล้วหรอ ท้องถนนจะเป็นสถานที่อิสระสำหรับนักกวีและนักปรัชญาแห่งอเล็กซานเดียที่ออกมาเรียกร้องความยุติธรรมแล้วใช่มั๊ย? 
Bayek – วางใจเถอะ ข้าจัดการพวก Phylakitai ของไอ้ Gennadios จนหมดแล้วล่ะ
Phanos – Bayek เจ้ามันนักฆ่าของกวีตัวจริงเลย !!
Bayek – เติมเต็มถอยคำดีๆและความรู้ต่างๆให้กับเมืองนี้ซะ Phanos
Phanos – ข้ารักเจ้า Bayek แห่ง Siwa เจ้าจะเป็นที่จดจำมากกว่า Medjay คนไหนๆในประวัติศาสตร์เลยจะบอกให้ ฮ่าๆ

--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

                       

                           Papyrus Puzzle ทั้งหมดในเมือง Alexandria


                                         1.The Stone Gaze เก็บที่วิหาร Sarapeion


           บอกใบ้ถึงสถานที่ซ่อนสมบัติที่ Lake Mareotis (ตามภาพ) ได้ค้อน Raneb's Hammer




                                    2. Deafening Silence เก็บที่ Iseion


                บอกใบ้ถึงสถานที่ซ่อนสมบัติที่ เกาะทางขวาของ Iseion (ตามภาพ) ได้ ธนู Neith




                                 3. Nature's Way เก็บที่ Great Synagogue


บอกใบ้ถึงสถานที่ซ่อนสมบัติที่ พื้นที่ทางตะวันตกของเขต  Kanopos Nome (ตามภาพ) ได้โล่ Reinforced Shield



                                  
                                   4. Divided Valley Way เก็บที่  Great Library



บอกใบ้ถึงสถานที่ซ่อนสมบัติที่ ใต้ต้นหมายในถ้ำจระเข้กลางพื้นที่เขต Sap-Meh Nome (ตามภาพ) ได้ ขวานGrusome Mattock





                             5. Ray of Hope เก็บที่  Tomb of Alexander the Great




       บอกใบ้ถึงสถานที่พื้นที่เขต Qattara Depression (ตามภาพ) ได้กระบอง Bone – Cracker




     

      ----------------------------------------------------------------------------------------------------------

หลังจากทำ Side Quest ต่างๆจนหมดแล้ว จากนั้นกลับมาทำภารกิจหลัก 2 เควสคือ
Main Quest : Gennadios the Phylakitai  
Main Quest : End of The Snake 
2 เป้าหมายจาก 2 ภารกิจ สามารถเลือกได้เลยว่าจะทำภารกิจไหนก่อนก็ได้

                                      

                          Main Quest : Gennadios the Phylakitai  


ระดับเควส – LV11
รางวัล:  500 XP




เพื่อให้ Aya ได้ออกมาเคลื่อนไหวและทำงานได้โดยไม่ต้องหลบซ่อน เป้าหมายแรกคือต้องจัดการ Gennadios ในฐานะผู้ตรวจการณ์แห่ง Alexandria ที่สั่งการให้หน่วย Phylakitai ไล่ล่าเธอ


เดินทางไปยังเป้าหมายของภารกิจบริเวณป้อม Akra Garrison จากนั้นใช้ Semu บินออกค้นหาเป้าหมายจนเจอตำแหน่งของเจ้า Gennadios ที่เดินท่ามกลางทหารอารักขา 2 คน หาจังหวะลอบเข้าไปสังหารมันซะ


Gennadios – ทำไมแกถึงลากข้ามาที่ดินแดนแห่งความตายแบบนี้ !!
Bayek – แกฆ่าเมียของข้าไง !!
Gennadios – ก็นังเมียโสเภณีของแกมันเป็นฆาตกร นังหญิงเสเพล
 หัวรั้น ข้าก็แค่ทำตามหน้าที่ Phylakitai เท่านั้นเอง และรางวัลจากที่แกพรากชีวิตของข้า เจ้าสามารถต่อต้านกฎหมายได้งั้นหรอ Medjay ? ระวัง หน่วย Phylakitai เอาไว้ พวกเขาจะไล่ล่าเจ้าเพื่อแก้แค้นให้ข้าแน่นอน !! 
Bayek – ขอให้เหล่าผู้ซ่อนอยู่ได้อยู่เคียงข้างแกจนสู่ดินแดนที่ Lord แห่ง Duat รอคอยแกอยู่ 



หลังจากการตายของ Gennadios จากนี้จะเริ่มมีหน่วย Phylakes ระดับพระกาฬออกไล่ล่า Bayek ตามจุดต่างๆในแผนที่ทั่วดินแดนแล้ว 

                       

ซึ่งเมื่อเข้าใกล้จะพบเป็นจุดรูปหมวกเขาสีแดงในแผนที่ หัวหน้าหน่วยของ Phylakes แต่ละคนจะมีระดับเลเวลที่แตกต่างกันตั้งแต่เลเวล 20 – 40 สูงสุด

                                        Event Quest: Phylakes’ Prey 

ทันทีที่จัดการหัวหน้าหน่วยของ Phylakes คนแรกได้แล้ว Event Quest: Phylakes’ Prey ก็จะเริ่มขึ้น ซึ่งเป็นเควสระยะยาวที่ต้องสั่งสมประสบการณ์เพื่อตามล่า หัวหน้าหน่วยของ Phylakes ที่อยู่ทั่วดินแดนทั้ง 10 คน ประกอบด้วย 



The Outsider (Level 20) ที่ Lake Mareotis หรือ เมือง lexandria 
 Ptolemy's Fist (Level 22) ที่ Sap-Meh Nome 
The Iron Ram (Level 24) ที่ Ineb-Hedget Nome 
The Stranger (Level 28) ที่ Memphis 
 Ra's Mercy (Level 30) ที่ Faiyum 
The Hill (Level 32) ที่ Faiyum Oasis 
 Bane of Hathor (Level 35) ที่ Haueris Nome 
 Half Horn (Level 38) ที่ Im-Khent Nome 
 The Galatian (Level 40) ที่ Isolated Desert 
 The Iron Bull (Level 40) ที่ Giza, Isolated Desert


เมื่อจัดการจนครบ 10 คนแล้วจะได้รับลายแทงลึกลับที่จะนำพาให้ได้มาซึ่งชุดดำในตำนาน Black Hood outfit ** จะเพิ่มเติมรายละเอียดของเควสให้ในภายหลัง ** 




                                    Main Quest : End of The Snake 



ระดับเควส – LV12
รางวัล:  1000 XP / ชุดในโรงอาบน้ำ 


เป้าหมายต่อไปคือ EUDOROS ฉายา The Snake เป้าหมายใหญ่ 1 ในกลุ่มหน้ากากที่สังหารลูกชายของ Bayek

จากนั้นเดินทางไปยังเป้าหมายในแผนที่ซึ่งเป็นสถานที่ที่อยู่ของ The Snake ใช้ Semu บินขึ้นค้นหาจนพบตำแหน่งห้องทำงานของมันแล้วลอบเข้าไปที่ตึกเป้าหมายจนเข้าไปในห้องทำงานที่ชั้น 2 ได้


เข้าไปสำรวจโต๊ะทำงานในห้องเก็บเอกสาร Royal Scribe’s office ซึ่งเป็นเอกสารมอบอำนาจจากฟาโรห์เปโตเลมี



และในกล่องข้างโต๊ะที่ล็อคกุญแจอยู่ ต้องปีนตู้ในห้องจะพบกุญแจซ่อนอยู่หลังตู้ นำมาไขเปิดกล่องจะพบเอกสารทางราชการต่างๆของ EUDOROS และใต้กล่องจะเป็นที่ซ่อนของจดหมายลับที่ The Snake มันซ่อนเอาไว้

                                                         Ibis ที่นับถือ .. 



 แม้ฟาโรห์ยังคงได้รับข้อร้องเรียนจากทุกฝ่ายมากมายแต่เขาก็ยังคงอยู่ในสถานะหุ่นเชิดของเราอยู่อย่างดี การที่ Heron ถูกสังหารที่ Siwa เป็นเหตุการณ์ที่เตือนใจพวกเราเป็นอย่างดีว่าคนของเราอีกสองรายที่เมือง Alexandria จะต้องโดนสังหารแน่นอน แต่เราก็เตรียมแผนรองรับสถานการณ์เอาไว้แล้ว 




ทาง Gennadios ก็เริ่มออกหาข้อมูลจากประชาชนอย่างหนักเพื่อจัดการกับตัวปัญหาที่หลบซ่อนอยู่ในเมืองนี้ เราไว้ใจและยกย่องในการทำงานของท่านเสมอ Ibis ขอให้ท่านพบแต่ความเจริญ



Bakey - นั่นตราประทับของ The Snake ..ข้ารู้แล้ว The Snake คือ EUDOROS ซึ่งเป็นอาลักษณ์แห่ง Alexandria (เสมียนแห่งราชสำนัก) นั่นเอง ..Aya เคยบอกว่าพวกเสมียนแห่งราชสำนักมักจะไปพักผ่อนกันที่โรงอาบน้ำกันจนเป็นกิจวัตร ข้าจะไปฆ่าไอ้เศษสวะนั่นถึงที่เลยคอยดู

เดินทางต่อไปยังเป้าหมายต่อไปที่โรงอาบน้ำของเมือง Alexandria ซึ่ง Bayek ต้องเปลี่ยนเป็นชุดสำหรับใช้ในโรงอาบน้ำเพื่อแฝงตัวเข้าไปที่นั่น


 เจ้า EUDOROS เป้าหมายจะอยู่ในห้องด้านในสุดท่ามกลางการอารักขาของทหารที่เฝ้าอยู่หน้าห้อง ในพื้นที่จะสามารถลอบปีนขึ้นบนเพดานด้านบนได้ซึ่งเป็นจุดที่จะเข้าไปลอบสังหารเป้าหมายได้ง่ายที่สุด


Bakey – ตายซะ ทุกอย่างจะได้จบกันซะที !!
 EUDOROS – ขอให้พระเจ้าสาปแช่งแก !! แกคิดว่าจะฆ่าข้าได้จริงๆงั้นหรอ?
Bakey – เพราะแกฆ่าลูกชายข้าต่อหน้าต่อตาข้านะสิ!! ที่วิหารที่ Siwa นั่นไง!
EUDOROS – สถานที่ที่ควรถูกทิ้งนั่นน่ะหรอ ข้าไม่มีอะไรต้องทำในสถานที่โสโครกนั่นซะหน่อย
Bakey – สายไปแล้วที่จะโกหก อานูบิสรอตัดสินแกอยู่แล้ว และจะฆ่าเจ้าเหมือนงูที่ไร่ค่าตัวนึงนั่นแหละ 
EUDOROS – แกมันโง่เง่า The Snake ไม่มีวันตายหรอก ...
Bakey – บุตรแห่ง Apep เจ้าแห่ง Duat รอคอยเจ้าอยู่แล้ว 



หลังจากสังหารเป้าหมายได้แล้ว ทันทีที่ลอบออกมาจากโรงอาบน้ำได้ก็จะจบภารกิจพร้อมทั้งรับชุด Bathhouse Towel เป็นรางวัล

จากนั้นกลับไปหา Aya ที่ซ่อนตัวใต้บ่อน้ำบาลดาลอีกครั้งจะพบเธอยืนรออยู่บนยอดโดมของบ่อบาดาล


 Bakey – ไอ้สเนคกับ Gennadio มันตายแล้ว ข้าฆ่าไอ้ EUDOROS มันตายคาโรงอาบน้ำของมันเลยล่ะ
Aya – ถ้าเป็นไปได้ข้าอยากอยู่ที่นั่นด้วยจังเลย 
Bakey – ทุกอย่างจบแล้ว ทุกคนตายหมดแล้ว ... เมียข้า ...เมียข้า ..


-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------

                                                     ปี 2017 

                                                    ปัจจุบัน 

                                      
                                 โบราณสถานแห่งนึงในเขต แกตตารา ประเทศ อียิปต์


Deanna -  เฮ้ อย่าแปลกใจนะว่าทำไมชั้นต้องดึงเธอออกมา ทั้งระดับอาดินาลีน ชีพขจร ที่สูงขึ้น มันกำลังส่งผลต่อการเต้นของหัวใจและระดับของฮอร์โมนกับระดับอ็อกซิเจนในกระแสเลือด แล้วเป็นไงบ้างที่นั่น 



Layla – Aya อยู่ที่นี่ด้วย 
Deanna -  แล้วใครละ Aya เนี้ย??
Layla – เมียของ Bayek ไง ชั้นสัมผัสได้เลยว่าเธออยู่ใกล้ๆนี่แหละ
Deanna -  สัมผัสถึงเธอได้งั้นหรอ? แน่ใจนะชั้นว่ามันอาจเป็นภาวะเลือดตกในรึเปล่า? หรือไม่เธอก็คงเข้าไปในความทรงจำของ Bayek มาเลยทำให้ซึมซับประสบการณ์ทางอารมรณ์ของเขามา
Layla – ไม่ๆ เธอน่ะอย่ามั่ว ชั้นรู้ซึ่งนางได้จริงๆนะ อยู่ที่ไหนซักแห่งในถ้ำนี้นี่แหละ เพราะยังไงทั้งคู่ก็ต้องถูกฝังด้วยกันแน่นอน 
Deanna -  มัมมี่อีกร่างงั้นหรอ? งั้นเราควรรายงานให้ทาง Abstergo รู้นะ
Layla – เอาไว้ทำหลังชั้นเจอร่าง Aya ก่อนก็แล้วกัน
Deanna -  ถ้าเธอไม่ทำชั้นจะโทรเองนะ
Layla – อย่านะ Deanna !! ถ้าเราทำตามแนวทางของพวกเค้า ชั้นก็ไม่ได้เครรดิต พวกเค้าตัดชั้นออกจากงานนี้อีกแน่นอน 
Deanna -  เออๆ ตามใจๆ

จากนั้นโดดลงน้ำไปตามทางถ้ำด้านล่างจนถึงสถานที่เก็บศพของ Aya


Layla – ชั้นบอกแล้ว นางอยู่ที่นี่จริงๆด้วย
Deanna -  ขอบคุณพระเจ้าที่เธอไม่เป็นไรนะ Layla 
Layla – ชั้นต้องเอาตัวอย่างเลือดนางไปตรวจสอบก่อน
Deanna -  โอเค แบบนี้ไม่ว่าเธอจะชอบหรือไม่ยังไงก็ต้องรายงายเค้าก่อนแล้วล่ะ
Layla – ไม่ๆ ยังก่อน
Deanna -  ยังก่อนหรอ แล้วเมื่อไหร่ล่ะ ??



Layla – ชั้นเพิ่มเติม DNA ของ Layla เข้าไปในระบบ Animus ของชั้นแล้ว
Deanna -  เพื่อความต่อเนื่องกัน เธอจะเอาเชื่อมต่อความทรงจำของ Aya พร้อมๆกันไม่ได้อยู่ดีแหละ Layla มีบางอย่างที่เธอควรต้องรู้นะ ถ้าเธอเอายีนความทรงจำมาผสมพร้อมๆกัน มันจะทำให้ควบคุมการกระทำบางอย่างไม่ได้ การส่งผ่านระหว่างความทรงจำก็จะไม่สามารถคำนวณล่วงหน้าได้เลย 
Layla – ชั้นดีใจมากกว่าที่มันไม่สามารถคำนวณล่วงหน้าได้อ่ะนะ 
Deanna -  อ๋อหรอ? แต่ชั้นกังวลนะยะ ห่วงมากด้วย
Layla – เธอก็เป็นแบบนี้ตลอดนั่นแหละ Deanna ฮ่าๆ



หลังจากสำรวจข้อมูลต่างๆจนพอใจแล้วก็เข้าเครื่อง Animus เชื่อมต่อไปยังความทรงจำของ Bayek อีกครั้งได้เลย ...

   ----------------------------------------------------------------------------------------------------------


              Deanna -  เห็นมั๊ยชั้นบอกแล้ว เครื่อง Animus ยังแปลรหัส DNA ของ Aya ไม่เสร็จ !!


                                              Layla – ไม่เป็นไรน่า ไม่เป็นไร ...



--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

                                 Sequence III                                                

                         
                         เมือง Alexandria .... 
48 ปี ก่อนคริสตกาล





Aya – ยิ้มทำไมหรอ?
Bayek – The Snake …ถ้ามันไม่ใช่คนสุดท้ายอย่างที่เราเข้าใจล่ะ ?
Aya – มันคนสุดท้ายแน่นอนอยู่แล้ว พวกมันตายหมดแล้ว ความยุติธรรมบังเกิดแล้ว 
Bayek – เฮ้อ ..
Aya – แต่ถ้านายยังคาใจก็ลองไปถามกับ Apollpdorus ดูก็ได้ เขารู้ทุกอย่างนั่นแหละ
Bayek – แล้วข้าต้องไปตามหาเจ้าคนรู้มากคนนั้นได้ที่ไหนล่ะ?



Aya – เขาอยู่กับคลีโอพัตรา แต่เจ้าต้องไปติดต่อกับคนของเขาก่อนอยู่แถวๆ Hippodrome ส่วนข้าต้องไปรายงายให้ Phanos รู้เรื่องการตายของไอ้ Gennadios ก่อนแล้วจะตามไปสมทบที่หลังนะ สนุกกับ Hippodrome ให้เต็มที่นะ แต่บอกเสียก่อนว่าอย่าหมดเงินกับการแข่งเยอะเกินไปก็แล้วกัน


                                    Main Quest: Egipt's Medjay


ระดับเควส – LV12
รางวัล:  900 XP

เดินทางไปยังพื้นที่เป้าหมายของภารกิจที่เขต Kanopos Nome ทางตะวันออกของเมือง Alexandria ในบริเวณด้านหน้าสนามแข่ง Lageion Hippodrome  เพื่อเข้าไปติดต่อกับคนของ Apollpdorus


Bayek – ข้าชื่อ Bayek Aya ส่งข้ามาคุยกับ Apollpdorus
คนของ Apollpdorus  - อืมม ข้ามั่นใจว่าเจ้าคงควรจะรู้ด้วยนะว่านายของข้าต้องระมัดระวังตัวอย่างดีที่สุดก่อนที่จะตกลงที่จะพบกับใครนะ
Bayek – ข้ามีคำถามที่มีแต่เขาเท่านั้นที่จะตอบให้ได้
คนของ Apollpdorus  - ข้าจะบอกเขาให้แล้วกันว่าเจ้าต้องการที่จะปรึกษาหาหรือและ Aya เป็นคนแนะนำมา รอให้ถึงตอนกลางคืนถ้าเขามีความต้องการจะพบเจ้า เขาจะมาอยู่บริเวณใกล้ๆกับประภาคาร 



คนของ Apollpdorus  -แต่ก่อนจะถึงตอนนั้น  Hippodrome อนุสรณ์สถานที่จะทำให้เจ้านึกถึงสนามแข่งขันที่ยิ่งใหญ่ ที่อุดมไปด้วยเครื่องดื่มและการเฉลิมฉลอง ไปตลอด น่าจะเป็นสถานที่ที่ทำให้การรอคอยจนถึงยามค่ำคืนของเจ้าไม่น่าเบื่อได้นะ   


ฮิปโปโดรม ( Hippodrome ) คือ สิ่งก่อสร้างจากสมัยกรีกซึ่งใช้เป็นสนามแข่งม้า และการแข่งขันขับรถศึก ( Chariot racing ) โดยสนามที่มีชื่อเสียงและเก่าแก่มีอยู่ 3 แห่งคือ ที่เมือง Delphi ประเทศ กรีซ , ที่กรุงคอนสแตนติโนเปิล หรือ เมืองอิสตันบลูในประเทศตุรกีปัจจุบัน และในเมือง Alexandria ประเทศอียิปต์




ซึ่งในสมัยอียิปต์โบราณจริงๆนั้น Hippodrome ในเมือง Alexandria จะตั้งอยู่ทางใต้ของ The Temple of Serapis (serapeum) 




แต่ในสมัยของคลีโอพัตรา Hippodrome จะตั้งอยู่นอก canopic gate ไปทางตะวันออกของเมือง Alexandria ในเขต Canopus หรือ Kanopos Nome ตามตำแหน่งในเกม

http://www.roger-pearse.com/weblog/2015/11/11/the-stadium-hippodrome-or-lageion-of-ancient-alexandria/comment-page-1/
http://www.paradiseconsortium.com/page/detail/19
https://www.theegyptgeek.com/single-post/2017/06/22/Alexandria


จากนั้นเดินทางไปที่จุดหมายของภารกิจที่ประภาคารทางทิศเหนือของ Hippodrome รอเวลาหรือกดทัชเพดที่จอยเพื่อเร่งเวลาไปให้ถึงตอนกลางคืน เมื่อเข้าไปที่ประภาคารก็จะพบ Apollpdorus เดินทางมาพบ


Bayek – Apollpdorus?
Apollpdorus-  เจ้าน่ะ เจ้ามาที่นี่เพื่อฆ่าข้าหรือเจ้าเป็นมิตร?
Bayek – ข้าเป็นมิตร ข้า Bayek แห่ง Siwa 
Apollpdorus- อ่อ งั้นมาช่วยข้าหน่อย ... เจ้าคือ Medjay ของ Aya ใช่มั๊ย?
Bayek – มีใครรอดชีวิตอีกหรือเปล่า?
ชาวบ้าน – ยังเหลือ Damastes ที่ถูกจับอยู่
Apollpdorus- แล้วสมุดรายชื่อล่ะ? สมุดรายชื่ออยู่ไหน?
ชาวบ้าน – อยู่กับ Damastes คับ
Apollpdorus- ไม่ใช่เจ้า Damastes ทำลายมันไปซะแล้วล่ะ ..เอาล่ะตอนนี้เจ้าอยู่ในการดูแลของ คลีโอพัตรา แล้ว เจ้าไปพักรักษาแผลซะนะ



Bayek – ข้าฆ่าไอ้ Eudoros แล้ว
Apollpdorus- ห๊า ก็ดี ดีๆ
Bayek – สรุปว่าไอ้เจ้า Snake นั่นเป็นคนสุดท้ายมั๊ยเนี้ย?
Apollpdorus- พูดกันแบบลูกผู้ชายเลยนะ Bayek มันมีอะไรอีกมากที่เจ้ายังไม่เข้าใจ 
Bayek – พูดกันแบบลูกผู้ชายเลยนะ ..ข้าอยากรู้คำตอบทั้งหมด
Apollpdorus- งั้นข้าคงต้องทดสอบเจ้าก่อน ไปช่วย Damastes ออกมาแล้วเอาสมุดรายชื่อกลับมาด้วย ดูสิว่าเจ้าแน่เหมือนกับที่ Aya บอกหรือเปล่า

เดินทางไปยังเป้าหมายของภารกิจที่ป้อม Menelaite Trireme แล้วใช้ Semu บินขึ้นไปตรวจสอบเป้าหมายจนพบตำแหน่งของ Damastes จากนั้นลอบเข้าไปช่วย Damastes จากกรงขังแล้วจัดการทหารให้หมดจนปลอดภัยแล้วเข้าไปคุยกับ Damastes


Bayek – Apollpdorus ส่งข้ามาช่วย ส่งสมุดรายชื่อมาด้วย 
Damastes – ส่งสมุดรายชื่อไหน? ข้าไม่ได้เก็บไว้นะ 
Bayek – งานของเจ้าคือรักษาส่งสมุดรายชื่อไม่ใช่หรอ? 
Damastes – ข้าซ่อนไว้ในเรือไม่อยากเอามาติดตัวเพราะกลัวคนเลวมันได้ไปนะสิ แล้วเรือมันก็จบไปแล้วด้วย เพราะฝีมือพวกมันนั่นแหละ 
Bayek – เอาล่ะเดี๋ยวข้าไปหาเอง ส่วนเจ้าไปพบ Apollpdorus ซะเขารอเจ้าอยู่ที่ประภาคารน่ะ


จากนั้นพายเรือออกไปกลางน้ำที่จุดเป้าหมายใช้ Semu บินขึ้นไปค้นหาตำแหน่งสมุดรายชื่อที่จมอยู่ให้เจอ ดำน้ำลงไปเก็บสมุดรายชื่อมาแล้วเดินเอาไปให้ Apollpdorus ที่ประภาคาร

Bayek – นี่ไง สมุดรายชื่อ ของท่าน 
Apollpdorus – เยี่ยมมา Bayek ข้าเห็นฝีมือเจ้าแล้ว ยังดีที่ยังมีใครซักคนที่ข้าพอจะเชื่อถือได้บ้าง สมุดรายชื่อนี้สำคัญมากกับท่านแม่ทัพ Pompey ที่จะทำให้ทางโรมันโอนเอียงเข้าข้างคลีโอพัตรา และนางยินดีมากที่จะพูดคุยกับเจ้า อย่างเป็นความลับ ตอนนี้นางอยู่ในพื้นที่ของข้า ที่เรากำลังจะเดินทางไปเดี๋ยวนี้แหละ  



Bayek – แล้ว Aya เข้ามาเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ได้ยังไง?
Apollpdorus – Phanos ญาติของนางแนะนำข้ามาบอกว่าผู้หญิงคนนี้กล้าได้กล้าเสียพึ่งพาได้ นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมเวลานางล่าเหยื่อสำเร็จข้าถึงต้องคอยเป็นกองหนุนเพื่อปกป้องนาง แล้วเราก็ยินดีอย่างยิ่งที่พวกเจ้าจัดการไอ้ Eudoros ได้ ไอ้คนน่ารังเกียจแบบนั้นอยู่ไปก็รกโลก
Bayek – ข้าลืมบอกไป ก่อนฆ่ามันข้าจัดการไอ้ Gennadios ผู้บัญชาการณ์ของหน่วย Phylakitai แห่ง Alexandria ก่อนเพื่อเตือนใจมันด้วยนะ
Apollpdorus – Gennadios งั้นหรอ? ข้าก็ดีใจนะที่มันตายน่ะ แต่ มันจะไม่ทำให้เจ้ามีปัญหากับการตามล่าของพวก Phylakitai หรอ? ไอ้พวกนี้มันไม่ใช่กระจอกเลยนะ นักฆ่ามหาโหดทั้งนั้น
Bayek – ก็คงงั้น ...ข้าถามได้มั๊ยว่าทำไมท่านถึงอยากให้ ไอ้ Eudoros มันตายล่ะ
Apollpdorus – ก็อย่างที่เจ้ารู้ เปโตเลมีน้องชายของคลีโอพัตรา ยังเด็กและเชื่อคนง่าย ยังไม่เหมาะที่จะเป็นผู้นำที่หนักแน่น เจ้าเองก็ต้องเรียนรู้เรื่องนี้อีกมาก เดี๋ยวเจ้าคงเรียนรู้บางอย่างจากที่นี่นั่นแหละ


คลีโอพัตรา – พ่อหนุ่มน่าอร่อยที่ตามมานี่ใครกันล่ะ? …อยากได้ค่าตัวเท่าไหร่ก็ว่ามาได้เลยนะจ๊ะ
Apollpdorus – ราชินีของข้า นี่คือ ...
Bayek – ท่านทรงมีน้ำใจมาก แต่ข้าให้ใจกับผู้หญิงนางนี้หมดแล้ว
คลีโอพัตรา – อ่า เลือกได้ดีมากเลย .. มาเถอะ เรามีเรื่องต้องคุยกันเยอะเลย 



Apollpdorus – อ่า ท่าน Pasherenptah นี่ Bayek และ Aya พวกเขาเป็นคนจัดการไอ้ Eudoros 
Pasherenptah- น่ายินดีอย่างยิ่ง พวกเจ้าจะเข้าเป็นแนวร่วมกับพวกเราด้วยมั๊ย?
Bayek – พวกเรายังไม่รู้เลยว่าแนวทางของพวกท่านที่ว่ามันคืออะไร?
คลีโอพัตรา – Eudoros เป็นคนนึงที่เป็นสมาชิกในกลุ่ม The Order of Ancients พวกมันต้องรับผิดชอบที่ทำให้ข้าถูกเนรเทศจากบัลลังก์ของข้าเอง 
Bayek – แล้วทำไมข้าต้องสนด้วยล่ะ?
Apollpdorus – The Snake มันงูหลายหัว แต่ละหัวสร้างเป็น The Order ขึ้นมา
Bayek – ไอ้ Snake ที่มันฆ่าลูกข้าน่ะหรอ?
Apollpdorus – อะไรๆมันซับซ่อนกว่านั้น
Bayek – พวกเขาพูดถึงอะไรกันข้างงหมดแล้ว
Aya – ข้าก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่พวกเขาต้องรู้อะไรบางอย่างแน่ๆเลย 



Apollpdorus – The Order of Ancients พยายามที่จะควบคุมอียิปต์ ปโตเลมีเองก็เป็นหนึ่งในนั้นแต่เป็นแค่หุ่นเชิดแค่นั้น 
คลีโอพัตรา – เรามีคนแจ้งข้อมูลมากมายจากหลายพื้นที่แต่เราแตะต้องพวกมันไม่ได้ 



Apollpdorus – อีกฝากของอียิปต์มีกองทัพลึกลับที่พร้อมจะต่อต้านพวกเรา อย่างเช่นที่นี่ใน Nile delta ดินแดนทะเลทรายสุดลูกหูลูกตา ทุกๆหมู่บ้านกำลังมีภัยจากกองกำลังของหนึ่งใน The Order of Ancients ที่เรียกตัวเองว่า The Scarab 



คลีโอพัตรา – แล้วก็นั่น ที่ทำให้คนส่วนใหญ่ที่ Giza หวาดกลัว
Apollpdorus – กองกำลังมืดที่เรียกตัวเองว่า The Hyena ที่กำลังพยายามครอบงำทั่วทั้ง Occurs และกำลังทำให้ Giza กลายเป็นดินแดนแห่งความตาย



Pasherenptah – แล้วก็ที่นั่น Memphis เหมือนเป็นคำสาปในดินแดนของข้า มันเรียกตัวเองว่า The Lizard ที่ใช้พลังของปีศาจจากศาสตร์มืดของมันสร้างความหวาดกลัวให้ผู้คน 
Bayek – The Snake คือหนึ่งในพวก The Order of Ancients งั้นหรอ?
คลีโอพัตรา – ใช่ Eudoros รู้จักกันในนามของ The Hippo 



Aya – เจ้าเข้าใจถูกแล้วที่รัก มันไม่ใช่รายสุดท้ายจริงๆ ไอ้พวกทั้งหมดนี้ต่างหาก!
คลีโอพัตรา – เมื่อ The Order ต้องการอะไรซักอย่าง เหมือนใน Siwa มันไม่ลังเลเลยที่จะบดขยี้ทุกอย่างที่ขวางทางของพวกมัน



Apollpdorus – เริ่มที่ Siwa จากนั้นก็ Faiyum ต่อไปก็คงทุกพื้นที่ทั่วอียิปต์ หาก The Crocodile มันยังคงมีอำนาจ ประชาชนต้องตกอยู่ท่ามกลางความหวาดกลัว นั่นคือชะตากรรมที่รอชาวอียิปต์หากพวกเราไม่หยุด The Order ลงให้ได้



คลีโอพัตรา – พวกเราต้องเคลื่อนไหวด้วยความชัดเจนและแน่วแน่ ถึงเวลาล่าสังหารแล้ว
Aya – เราเฝ้าคนหามาตลอดถึงไอ้คนที่มันเป็นตัวการในการฆ่า Khemu ลูกของเราคงจะมีความสุขหากเราจัดการพวกนี้ให้สิ้นซากให้หมดทุกคน



           คลีโอพัตรา – เจ้าเป็น Medjay ของข้าแล้วตั้งแต่บัดนี้ ผู้ปกป้องฟาโรห์ที่แท้จริงแห่งอียิปต์ !!


                        หลังจากจบภารกิจนี้จะได้รับภารกิจหลักใหม่มา 4 เควสพร้อมๆกันคือ


                                         Main Quest : The Starab’s Sting [LV15]
                                         Main Quest : The Hyena [LV20]
                                         Main Quest : The Lizard’s Mask [LV21]
                                         Main Quest : The Crocodile’s Scales [LV25]

                                     สามารถที่จะเลือกทำภารกิจไหนก่อนหลังก็ได้


   แต่ก่อนจะเริ่มทำภารกิจหลักทั้ง 4 แวะทำภารกิจเสริมต่างๆในพื้นที่ Kanopos Nome ให้หมดก่อน

                                    

                                           Kanopos Nome side quests 




                                           Side Quest: Old Times


ระดับเควส – LV12
รางวัล:  1000 XP




Bayek – Sennefer นั่นนายรึเปล่า?
Sennefer – Bayek ไอ้ขี้เก็กแห่ง Siwa ฮ่าๆๆๆ ข้าเปลี่ยนชื่อเป็น Claridas แล้วเว้ย แล้วนายมาทำอะไรที่นี่วะเนี้ย?



Icarus บอกเป็นพันครั้งแล้วนะ !! …. ใครเป็นผู้นำของทีม Green ตอนนี้วะ malakia งั้นหรอ? เจ้ามันไอ้เด็กไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม เจ้าคิดว่าจะสามารถชนะ Cursus Magnus งั้นหรอ? ไอ้ขี้ม้าเอ๊ย !!
Sennefer – อย่าไปยุ่งกับมัน ช่างหัว Nikias มัน Icarus มันตายไปแล้วสำหรับพวกเรา ปล่อยมันกลับบ้านไป 



Sennefer – เออแล้ว Aya มาด้วยป่ะว่ะ?
Bayek – มาคนเดียวเว้ย 
Sennefer – ก็แค่ถาม ฮ่าๆๆ
Bayek – คราวหน้าถามตีนข้านะ ฮ่าๆๆ 
Sennefer – ฮ่าๆๆๆ ว่างๆแวะไปหาข้าที่บ้านนะ กินเหล้ากันเพื่อน

จากนั้นเดินทางไปยังจุดเป้าหมายของภารกิจที่บ้านของ Sennefer จะพบเขากำลังตั้งวงนั่งดื่มเหล้ากับเพื่อนๆอยู่


Sennefer – เฮ้ย Bayek ไม่ได้เจอกันนานเลยเรา 10ปีได้แล้วมั้ง หรือนานกว่านั้นว่ะ ห๊า?
Bayek – นายจาก Siwa ไปนานมากแล้วเพื่อน แถมยังเปลี่ยนชื่อเสียงเรียงนามใหม่ซะด้วย
Sennefer – มันก็แค่ชื่ออ่ะนะ ชื่อ Claridas มันเหมาะไว้ใช้ตอนแข่งใน Hippodrome แค่นั้นแหละน่า
Bayek – ฮ่าๆ จำม้าที่เราขี่รอบๆ Siwa ได้ป่ะวะ
Sennefer – ได้สิ ไม่คิดเลยว่าแกก็หนีออกมาจากไอ้หมู่บ้านเน่าๆนั่นเหมือนกัน อ่า Siwa ทั้งเล็ก ยากจน และน่าเกลียด มีสวยอยู่อย่างเดียวก็ Aya นั่นแหละ ฮ่าๆ นางเป็นไงบ้างไม่ได้เจอ เปลี่ยนไปเยอะมากมายมั๊ย?
Bayek – ทุกอย่างล้วนเปลี่ยนแปลง ผู้คนก็ด้วย ... อ่า ข้าต้องการเหล้าอีก เดี๋ยวมา



Nikias – โทษทีนะ บังเอิญข้าได้ยิน Claridas บอกว่าเจ้าเคยขี่ม้าร่วมกับเขางั้นหรอ? พ่อข้าเป็นสปอนเซอร์ให้กับ Prasina Green และเราต้องการนักแข่งเก่งๆอยู่พอดีเลย 
Bayek – ข้ามาที่นี่เพื่อเมาเท่านั้นเอง โทษทีนะ ..
Sennefer – เฮ้ย อย่าไปยุ่งกับเขาสิ Nikias คืนนี้ลูกผู้ชายเขาจะดื่มกัน เด็กน้อยไม่ยุ่งโอเคนะ … เออ Bayek มานี่สิข้ามีไรเจ๋งๆจะให้ดู สนใจป่ะ ฮ่าๆ ..



Bayek – ทำไมต้องพาเดินมาคุยไกลถึงนี่ว่ะเนี้ย Sennefer? 
Sennefer – เรียกข้า Claridas ได้มั๊ยวะเพื่อนที่นี่ข้าไม่ได้ชื่อ Sennefer แล้วนะ
Bayek – ทำไมแกถึงต้องเปลี่ยนชื่อด้วยล่ะ?
Sennefer – อย่างแรกที่จะประสบความสำเร็จใน Hippodrome ถ้าไม่เลียแข้งเลยขาพวกกรีกก็ต้องเปลี่ยนชื่อเป็นกรีกเลยไง 
Bayek – ตกลงแกทิ้งทั้งบ้านเกิดและชื่อของตัวเองงั้นหรอ?
Sennefer – siwa ไม่มีความหมายอะไรกับข้าหรอก พวกกรีกชอบเหยียดหยามพวกเรา แต่ก็ช่างพวกแม่งเหอะ ข้าได้กินดีอยู่ดีตอนชนะก็พอแล้ว
Bayek – ข้าไม่เห็นอยากจะแข่งใน Hippodrome เลย
Sennefer – ถึงอยากก็ไม่ได้ ฮ่าๆ คนดูเขาเชียร์ข้าเว้ย อีกอย่างแกต้องมีสปอนเซอร์ก่อนด้วยเพื่อให้เป็นนักแข่งตัวจริง ตอนนี้ Icarus คือฮีโร่ตัวจริง แกเคยได้ยินข่าวการชนะเป็นพันๆครั้งของเขามั๊ยล่ะ เราถึงรัก Icarus กันมากๆไงล่ะ พระเจ้านะไม่เคยให้อะไรข้าหรอก แกโชคดีนะที่ข้าออกจากเมืองมาก่อนไม่งั้น Aya เป็นเมียข้าแน่ๆ 
Bayek – เมาแล้วอย่ากวนตีนสิ Sennefer !
Sennefer – แกไม่รู้หรอกว่าข้าผ่านอะไรมาบ้าง ข้าไม่ใช่คนกระจอกๆเหมือนที่ Siwa แล้วนะ มองข้าใหม่ด้วย ข้ามีชื่อเสียงแล้ว!!
Bayek – แลกกับอะไรวะ ทิ้งบ้านเกิด ทิ้งชื่อจริง ทิ้งพระเจ้าของตัวเอง เพื่อเส้นทางนี้อ่ะนะ!!
Sennefer – เงินกับชื่อเสียงเท่านั้นแหละเว้ยที่ข้าต้องการ !
Bayek – คนที่ทำทุกอย่างเพื่อชื่อเสียงอย่างเจ้านะไม่ใช่เพื่อนของข้าหรอก!
Sennefer – แล้วแกล่ะ อยากได้อะไร นัง Aya กับไอ้ Bayek น้อย แค่นั้นน่ะ แล้วมันต้องทำให้แกต้องทิ้งความฝันอะไรไปบ้างอ่ะ 
Bayek – หุบปาก !



ด้วยทั้งฤทธิ์ของเหล้าและสันดานไม่ดีของ Sennefer ทำให้คำพูดที่ล่วงเกินลูกชายของ Bayek หลุดออกมาจากปาก Bayek จึงต้องสั่งสอนเพื่อนเก่าจอมอวดดีให้รู้จักใช้คำพูดให้ดีกว่านี้ ทำให้ 2 เพื่อนเก่าที่กำลังปลิ้นเข้าไปฟัดกันนัวเนียจนหมดแรงหลบไปจนถึงเช้าอีกวัน


Sennefer – แกมันแก่แล้ว Bayek ส่วนข้าเมาจนเข้าเส้นแล้ว
Bayek – เบียร์ยังอัดข้าแรงกว่าเจ้าอีก 
Sennefer – แล้วที่โรงเหล้า Dionysus เมื่อคืน เจ้าคุยอะไรกับ Nikias 
Bayek – Nikias? ... ใครหรอ Nikias?
Sennefer –  อย่ามาทำแกล้งโง่ ข้าเห็นอยู่ แกคิดว่าพ่อของ Nikias จะรับเจ้าเข้าทีม Prasina Green รึไง? เจ้าคิดว่าจะเข้าแข่งแล้วชนะได้โดยไม่มีฝีมือ โดยไม่ต้องซ้อมเลยหรอ
Bayek – ถ้าเจ้าพูดแบบนี้ งั้นข้าคงต้องลองทบทวนข้อเสนอของ Nikias ดูใหม่แล้ว แล้วถ้าเจ้าคิดว่าจะชนะนะ Claridas มันก็คงไม่ได้ง่ายนักหรอก
Sennefer – งั้นเจ้าคงต้องวิงวอนกับพระเจ้าทุกองค์ที่เจ้ามีให้ช่วยให้รอดใน Hippodrome ให้ได้ก็แล้วกัน
Bayek – พระเจ้าจะเฝ้ามองการแข่งของเราและท่านจะตัดสินเอง
Sennefer – แกก็มีพระเจ้าของแก ข้าก็มีพระเจ้าของข้า เรามาดูกันว่าใครจะเป็นนักแข่งที่มีชื่อเสียงกว่ากัน !!
Bayek – หยุดพูดเถอะ รอพระเจ้าเป็นผู้ตัดสินเจ้าใน Hippodrome ก็แล้วกัน !


                                           

                                        Side Quest: Wild Ride


ระดับเควส – LV12
รางวัล:  1000 XP / ม้า Black Arrow


Bayek – ที่นี่เงียบสงบดีนะ
Nikias – ใช่ เราโชคดี พ่อข้าเพาะพันธ์ม้าที่นี่แหละ และม้าทุกตัวของเราก็ชนะการแข่งทุกตัว ข้าบอกพ่อไว้แล้วล่ะว่าเจ้าจะมาพบ 
Bayek – เจ้าบอกเขาว่าอะไร?
Nikias – ก็ไม่ได้บอกไรมากแค่ว่าเจ้าจะมาเป็นนักแข่งและก็รู้จักกับ Claridas แค่นั้น มาสิเจ้าต้องรักพ่อข้าแน่นอน 





Philocrates – ไง นางสวยใช่มั๊ยล่ะ ม้าข้า
Bayek – ดวงตาสดใส ท่วงท่าไร้ที่ติ นางพร้อมจะเป็นผู้ชนะแล้วล่ะ
Philocrates – เจ้านี่ก็มีความรู้เรื่องพอได้นี่ เพื่อนเจ้าเรอะ Nikias?
Nikias – นี่ Bayek ครับพ่อ เขาเคยแข่งกับ Claridas มาก่อน Bayek นี่พ่อข้า Philocrates แห่ง Kanopos บุตรแห่ง Themistocles แห่ง Kanopos
Philocrates – โตมาพร้อมกับ Claridas งั้นหรอ ไหนลองขับให้ข้าดูสิ Nikias เจ้าก็นั่งไปกับเขาด้วยเพื่อจะแนะนำอะไรได้บ้าง 


จากนั้นขึ้นรถศึกไปกับ Nikias เพื่อฝึกซ้อมการขับขี่ไปตามทางจนวนกล้บมาครบรอบ ทันทีที่เข้ามาถึงจะพบว่าพ่อของ Nikias เกิดโวยวายขึ้นมาว่าม้าของเขาถูกขโมยไป


Philocrates – Nikias พวกโจรขโมยม้ามาที่นี่ มันเอาเจ้า Saganaki ไปแล้ว !! นั่นมันม้าตัวเก่งของข้าด้วย เจ้าต้องไปเอามันคืนมานะ !!

หลังทราบเรื่อง Bayek จะรีบออกเดินทางร่วมไปกับทีมของ Nikias เพื่อตามชิงเอาม้าคืน เดินทางไปจนถึง Als Hideout ที่ซ่อนตัวของพวกโจรขโมยม้า จัดการพวกโจรให้หมดแล้ว ขี่ Saganaki กลับมาคืนให้ Philocrates ทำให้ Philocrates พอใจอย่างมากจนยอมรับ Bayek ให้เข้าร่วมทีม The Green เพื่อเข้าแข่งกันกับทีม Blue ของ Claridas ทันที



                                       Side Quest: Blue Hooligans


ระดับเควส – LV12
รางวัล:  1000 XP 




Bayek เข้าไปพูดคุยกับ Selene หญิงชาวบ้านที่เป็นแม่ของลูกชาย 2 คนที่เป็นแฟนของทีม Green กำลังร้องห่มร้องไห้ด้วยความเสียใจที่ลูกชายคนนึงของเธอถูกแฟนๆของทีม Blue ลอบทำร้ายจนเสียชีวิตในขณะที่เดินทางไปเคารพอนุสาวรีย์ของ Icarus นักแข่งในตำนาน จนทำให้ลูกชายอีกคนของนางตามไปแก้แค้น และไม่กลับมาอีกเลย Selene เป็นห่วงมากจนขอร้องให้ Bayek ออกตามหาลูกของเธอ


จากนั้น ออกเดินทางไปยังจุดหมายของภารกิจที่แค๊มป์ของพวกคนร้ายแล้วใช้ Semu บินขึ้นไปตรวจสอบเป้าหมายจนพบตำแหน่งของ Icarus ลูกชายของ Selene เข้าไปจัดการพวกคนร้ายให้หมดแล้วช่วยปล่อยตัว Icarus

หลังจาก Icarus เป็นอิสระเขาบอกว่าพวกแฟนๆทีม Blue ที่เป็นคนร้ายได้นำเอารูปปั้นของ Icarus ที่เป็นของรักของหวงของแม่ของเขาไปทิ้งน้ำ จึงขอร้องให้ Bayek ไปตามหา รูปปั้นของ Icarus คืนมาให้ด้วย

         

ใช้ Semu บินขึ้นไปตรวจสอบเป้าหมายจนพบตำแหน่งของรูปปั้นของ Icarus ที่จมอยู่ในน้ำ ดำน้ำลงไปเก็บรูปปั้นของ Icarus ขึ้นมา แล้วนำเอาเดินทางกลับไปให้ Selene และ Icarus ที่บ้าน


สร้างความดีใจให้กับครอบครัวแฟนตัวยงของทีม Prasina Green ซึ่ง Bayek ก็ยินดีจะช่วยเหลือและไม่ต้องการอะไรตอบแทนมากไปกว่า ทำเพราะอยากให้เป็นของขวัญกับลูกของเขาที่ชื่นชอบการแข่งรถม้าที่ Hippodrome เช่นกันเท่านั้นเอง


                                        Side Quest: The Weasel

 
ระดับเควส – LV14
รางวัล:  1000 XP 



ลุง pelias เจ้าของฟาร์ม Apollpdorus กำลังรอคอยจดหมายของแกที่แกส่ง Ruia ไปเอามาจากที่หอคอย Pelias แต่เธอยังไม่กลับมาซะที ลุง pelias จึงวานให้ Bayek ช่วยไปตามเธอให้ที


จากนั้น ออกเดินทางไปยังจุดหมายของภารกิจที่หอคอย Pelias แล้วสำรวจหาหลักฐานในพื้นที่ด้วยการกดปุ่มทิศทางขึ้นบนจนพบเบาะแสรอยเผาไหม้เหมือนใครมาทำพิธีขับไล่สิ่งอัปมงคลที่บริเวณใกล้ๆกับด้านข้างของหอคอย และ รอยเลือดบริเวณด้านหลังของหอคอย เมื่อตรวจสอบพื้นที่อีกครั้งจะพบจุดเป้าหมายที่รถขนฟางใกล้ๆเมื่อเข้าไปสำรวจจะพบศพของ Ruia ถูกหมกอยู่


เมื่อ Bayek แบกศพของ Ruia กลับไปให้ลุง pelias ทั้งคู่จึงเริ่มตรวจสอบศพถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น Bayek วิเคราะห์ว่า Ruia น่าจะถูกโยนลงมาจากยอดหอคอยจนตาย ในตัวศพนอกจากจดหมายที่ลุง pelias มอบหมายให้เธอไปเอาแล้วยังพบตราสัญลักษณ์ของ Dymnos ซึ่งเป็นตราประจำตระกูลเจ้านายของลุง pelias ทำให้เกิดคำถามว่า มันมาอยู่กับ Ruia ได้ยังไงทำให้ Bayek ต้องออกค้นหาคำตอบต่อ


Bayek ตัดสินใจเข้าไปสอบถามกับ Dymnos เจ้านายของลุง pelias ในอาคาร จากการสนทนาทำให้รู้ว่า Dymnos เป็นคนฆ่าเธอเพราะอยากจะสั่งสอนที่ Ruiaบังอาจมาปฎิเสธไม่ยอมให้เขาอ่านจดหมายของเธอ นอกจาก Dymnos จะไม่แคร์ที่ได้ฆ่า Ruia ไปแล้วเขายังปากดีด่าทอเพื่อคิดจะสั่งสอน Bayek ให้หายอวดดีที่เสนอหน้าเข้ามาตรวจสอบเรื่องนี้อีก ทำให้ Bayek ไม่รอช้าที่จะเปิดโอกาสให้ Dymnos สั่งสอนทันที เข้าไปจัดการ Dymnos ซะ


หลังจาก Dymnos ได้รับกรรมจากคมดาบของ Bayek จดหมายที่พบในตัวเขา บอกถึงข้อความที่ส่งมาจาก Alcandros เพื่อต่างแดนที่ส่งมาเยาะเย้ยเขาเรื่องที่ไม่ควรทำงานให้กับ Apollodorus ที่ชอบให้โอกาสรับพวกคนอียิปต์ชั้นต่ำมาทำงานด้วย นั่นทำให้ Dymnos อับอายจนทำให้เอาเรื่องนี้ไปลงกับ Ruia สาวใช้ชาวอียิปต์ จนเกิดโศกนาฏกรรมขึ้นมา 

เมื่อได้รับคำตอบทุกอย่างก็กลับไปแจ้งข่าวกับลุง pelias ที่แสดงความเสียใจทันทีที่ทราบเรื่องและเสียดายที่ต้องเสียสาวใช้ฉลาดๆอย่าง Ruia ไปเพราะความคิดต่างและความไม่เท่าเทียมกับในสังคม



                                      Side Quest: The Hungry River

 
ระดับเควส – LV14
รางวัล:  1500 XP 



Bayek ได้ผ่านไปพบลุงชาวนาคนนึงต้องการความช่วยเหลือ เนื่องจากเมื่อคืนมีพวกโจรบุกเข้ามาโจมตีจนทำให้ญาติพี่น้องเขาถูกฆ่าตายไปหลายคน แต่เขาไม่สามารถไปเก็บศพมาทำพิธีได้เพราะแต่ละศพอยู่ในเขตรังของฮิปโป ทำให้ลุงต้องขอความช่วยเหลือกับ Bayek ให้ช่วยฝ่าดงฮิปโปไปช่วยเก็บศพญาติๆของเขามาให้หน่อย

เข้าไปที่ริมน้ำใกล้ๆที่เป็นรังของฮิปโปสำรวจพื้นที่ดูจะพบมีศพมากมาย(มีลูกศรสีเหลือง) จัดการเข้าไปเก็บทุกศพมาวางไว้ตรงที่ลุงอยู่ให้หมด จากนั้นลุงจะขอร้องให้ไปช่วย Meketre ซึ่งเป็นญาติอีกคนของเขาที่ถูกพวกโจรจับตัวไปด้วย เดินทางไปยังพื้นที่เป้าหมายของภารกิจที่แค้มป์ของพวกโจร Potamos Hideout แล้วใช้ Semu บินขึ้นไปตรวจสอบพื้นที่จนพบตำแหน่งของ Meketre ที่ถูกจับอยู่ เข้าไปจัดการพวกโจรให้หมดแล้วเข้าไปช่วย Meketre ออกมา


ทันทีที่ช่วยคุ้มครอง Meketre ออกมายังพื้นที่ปลอดภัยด้านนอกแค้มป์โจรแล้ว Meketre จะบอกกับ Bayek ว่าเขาต้องรีบเดินทางกลับไปที่หมู่บ้านเพราะได้ยินหัวหน้าของพวกโจรบอกว่ากำลังจะพาพวกไปบุกปล้นหมู่บ้านของเขา ทำให้ Bayek ต้องยื่นมือเข้าช่วยต่อด้วยการเดินทางไปยังพื้นที่เป้าหมายที่หมู่บ้านของ Meketre ที่กำลังโดนพวกโจรบุกโจมตี เข้าไปจัดการพวกโจรให้หมด Bayek ก็จะได้รับคำขอบคุณจาก Meketre ที่ยอมมาช่วยตัวเขาและหมู่บ้านของเขา 


                               Papyrus Puzzle ที่ Kanopos Nome



                                         1.Dead End เก็บที่ Zephyros Stables 

ตำแหน่งของลายแทงปริศนาจะอยู่เยื่องมาที่ด้านล่างจากเครื่องหมายในแผนที่





                บอกใบ้ถึงสถานที่ซ่อนสมบัติที่ Sapi-Res Nome (ตามภาพ) ได้ดาบ Golden wolf


---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------


จากนั้นกลับมาทำภารกิจหลักใหม่ที่เพิ่งได้มา 4 เควสพร้อมๆกันคือ

Main Quest: The Starab’s Sting [LV15]
Main Quest : The Hyena [LV20]
Main Quest: The Lizard’s Mask [LV21]
Main Quest: The Crocodile’s Scales [LV25]

ทั้ง 4 ภารกิจสามารถที่จะเลือกทำภารกิจไหนก่อนก็ได้ [ผมขอเลือกทำตามระดับเลเวลของภารกิจ]

---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------


เดินทางไปยังเขต Sapi – Res Nome เพิื่อดำเนิน Main Quest: The Starab’s Sting และก่อนจะทำภารกิจหลักให้ทำภารกิจเสริมทั้งหมดก่อนจะดีที่สุด




      Side Quest ในเขต Sapi – Res Nome และ Khensu Nome



                                          Side Quest: Abuse of Power


ระดับเควส – LV17
รางวัล:  1500 XP 



เข้าไปที่จุดรับภารกิจทางตะวันออกของเมือง Sais ในเขต Sapi – Res Nome Bayek จะเข้าไปคุยกับชาวนาคนนึงที่กำลังเดือดร้อนจากการถูกทางการเก็บภาษีแบบขูดรีดอย่างหนัก ชาวบ้านคนไหนไม่มีจ่ายก็จะถูกทำร้ายหรือถูกเผาบ้าน ลูกชายของชาวนาคนนี้ก็ถูกทหารทำร้ายจนทำให้ชาวนาไม่สามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ทันด้วยตัวคนเดียว


Bayek ต้องช่วยลุงชาวนาเก็บมัดข้าวที่กองอยู่เอามาไว้บนรถเข็นให้หมด จากนั้นก็เดินทางไปยังจุดหมายใช้ Semu บินขึ้นไปตรวจสอบพื้นที่จนพบเป้าหมายคือ คนเก็บภาษีจอมโหดจนพบแล้วจัดการสังหารมันซะ เข้าไปยืนยันการฆ่าที่ศพของเป้าหมายให้เรียบร้อยก็จะจบภารกิจนี้



                                         Side Quest: The Ostrich


ระดับเควส – LV17
รางวัล:  1000 XP 



เข้าไปที่จุดรับภารกิจทางตอนใต้ของเมือง Sais ในเขต Sapi – Res Nome Bayek จะพบกับหญิงชาวบ้านที่กำลังหัวเสียกับพี่ชายตัวเองที่ขังตัวเองอยู่ในบ้านไม่ยอมทำงานทำการเพราะกลัวคนของ Sefetu จะมาทำร้ายจนจิตตก ทำให้น้องสาวของเขากังวัลว่าหากเขาไม่ยอมทำงานก็จะไม่มีเงินจ่ายภาษีก็ถูกคนเก็บภาษีลูกน้องของ Sefetu ทำร้ายอีก

Bayek ก็ต้องเข้าไปช่วยเหลือ โดยการเข้าไปจัดการกับคนเก็บภาษีที่ Camp Shemu เมื่อเข้าไปที่พื้นที่เป้าหมายแล้วใช้ Semu บินขึ้นไปตรวจสอบพื้นที่จนพบเป้าหมายคือ คนเก็บภาษีจอมโหดจนพบแล้วลอบเข้าไปจัดการสังหารมันซะก็จะจบภารกิจนี้



                                     Side Quest: New Kid in Town


ระดับเควส – LV18
รางวัล:  1500 XP 




เข้าไปที่จุดรับภารกิจที่เมือง Letopolis ในเขต Sapi – Res Nome Bayek ได้มีโอกาสเข้าไปคุยกับนายหน้าขายบ้านที่ชื่อ Ramessu ที่กำลังจ้อเรียกลูกค้าอยู่ ซึ่งเขาเองก็นึกว่า Bayek เป็นคนที่เพิ่งเข้าเมืองมาและกำลังมองหาบ้านดีๆอยู่จึงรีบพูดเชิญชวนให้ซื้อบ้านทันที Ramessu พยายามยกตัวอย่างถึง Nehi ชาวบ้านธรรมดาๆที่อยากจะลืมอดีตที่เลวร้ายเพิ่งย้ายมาจาก Yamu เพื่อมาอาศัยอยู่ที่เมืองนี้ก็เพิ่งซื้อบ้านดีๆจากเขาไปเหมือนกัน


แม้ Bayek จะไม่ได้สนที่จะซื้อบ้านหรือพยายามจะลืมอดีตเขาก็อดไม่ได้ที่จะแวะไปพูดคุยกับ Nehi ดูซักหน่อย แต่เมื่อเข้าไปยังจุดหมายของภารกิจตรงจุดที่ Nehi อยู่ก็พบว่า Nehi กำลังมีปัญหา เขาโทษตัวเองว่าโดนสาปเลยทำให้ต้องเสียฟาร์มและญาติพี่น้องไปจนหมดใน Yamu และดันต้องมาเสียวัวเทียมเกวียน 2 ตัวที่เขารักเหมือนลูกไปอีก เพราะเมื่อคืนเขาทำเกวียนติดหล่มและดันได้ยินเสียงคำรามแว่วมาทำให้เขาต้องทิ้งเกวียนหนีมา พอตอนเช้าหายกลัวก็คิดเสียใจเพราะเขารัก Khufu และ Chiera ซึ่งเป็นวัวเทียมเกวียน 2 ตัวมาก ทำให้ Bayek ต้องยอมช่วยเหลือ


เดินทางไปยังจุดหมายของภารกิจที่ทางใต้ของเมือง Letopolis แล้วใช้ Semu บินขึ้นไปตรวจสอบพื้นที่จนพบเกวียนและวัวของ Nehi ที่หมู่บ้านร้างแห่งนึง เข้าไปจัดการพวกโจรที่อยู่ในพื้นที่ให้หมดแล้วขับเกวียนกลับมาคืนให้ Nehi ที่บ้าน

ถึงแม้ Nehi จะดีใจมากที่ได้วัวสุดรัก Khufu และ Chiera กลับคืนมาพร้อมเกวียน แต่เขาก็ยังมีเรื่องกังวลใจเรื่องใหม่ที่เกี่ยวกับเรื่องบ้านใหม่ที่เพิ่งซื้อมาของเขา


เพราะดันไปเจออักษรอักขระโบราณแปลกๆที่เขียนไว้บนพนังบ้าน Nehi ที่เป็นคนถือโชครางจึงกลัวว่ามันเป็นสิ่งอัปมงคลทำให้เขาไม่กล้าที่จะอยู่ในบ้านหลังนี้ เมื่อ Bayek รอเข้าไปตรวจสอบดูพบว่ามันเป็นอักษรโบราณที่ถูกเขียนเอาไว้ยังไม่สมบูรณ์และตัวเขาเองก็ยังไม่รู้ที่มาที่ไป Nehi จึงแนะนำให้ลองไปปรึกษากับ Ramessu นายหน้าขายบ้านดูเพราะเขารู้ทุกเรื่องในเมืองนี้

Bayek รีบเข้าไปปรึกษาเรื่องอักษรโบราณประหลาดๆกับ Ramessu ทันที แต่ Ramessu กลับบอกว่าไม่ต้องไปกังวลใจกับเรื่องอักษรพวกนั้นเพราะบ้านอีก 3 หลังที่ขายไปก็มีเหมือนกันคนอาศัยก็ไม่เป็นอะไรด้วย ทำให้ Bayek ต้องลองไปคุยกับเจ้าของบ้านทั้ง 3 คนดู


จากนั้นใช้ Semu บินขึ้นไปตรวจสอบพื้นที่ในเมืองจนพบเจ้าของบ้านทั้ง 3 คนแล้วเข้าไปคุยกับพวกเขารวมถึงเข้าไปเก็บรายละเอียดของตัวอักษรโบราณที่เขียนไว้ในบ้านทั้ง 3 หลังด้วย

และจากการสอบถามกับเจ้าของบ้านและตรวจสอบรายละเอียดของตัวอักษรโบราณที่เขียนไว้ในบ้านทั้ง 3 หลังพบว่า ลวดลายของตัวอักษรโบราณนั้นเป็นรูปแบบเดียวกันและเมื่อนำข้อความจากทั้ง 4 บ้านมารวมกันทำให้ได้ข้อความบอกใบ้ว่า


 “ให้เดินทางลงใต้จากเมือง Letopolis มองหาปิรามิดที่นั่นจะพบ วิหารล้านปี ซ่อนอยู่ใต้เนินทราย”



จากนั้นมุ่งหน้าลงใต้ของเมือง Letopolis ตามตำแหน่งในแผนที่จะพบทางเข้าโบราณสถานลับ วิหารล้านปี เมื่อเข้าไปสำรวจด้านใน สำรวจเบาะแสตามจุดสำคัญต่างๆจะพบศพของพวกนักบวชที่ฆ่าตัวตาย โถน้ำโบราณ คัมภีร์บูชาเทพ sekhmet และด้านในสุดจะพบเทวรูปของ Lady of Slaughter


Bayek - Lady of Slaughter งั้นหรอ? ที่นี่เหมือนจะเคยเป็นสถานที่พิเศษสำหรับบูชาเทพ sekhmet นึกว่า Letopolis นิยมบูชาเทพ Horus ซะอีก 



Letopolis นิยมการบูชายัญเทพเจ้าโดยคนสมัยก่อนเชื่อว่าแม่น้ำไนล์เป็นช่องทางเชื่อมต่อระหว่างดินแดนของพระเจ้ากับดินแดนมนุษย์ พวกนักบวชพวกนี้กำลังสวดวิงวอนเพื่อขอการปกป้องจากปีศาจร้าย ด้วยการดื่มยาที่พวกเขาปรุงขึ้นมาเพื่อมีชีวิตเป็นรันดรรับใช้ sekhmet อยู่คู่เมืองนี้ไปตลอดกาล 


หลังจากค้นพบต้นตอความจริงทั้งหมดเกี่ยวกับที่มาของอักษรโบราณ Bayek ก็ต้องกลับไปหา Nehi อีกครั้งเพื่อแจ้งข้อมูลต่างๆให้เขารู้ Bayek พยายามอธิบายให้ Nehi เข้าใจว่าอักขระที่เห็นมันไม่ได้เป็นคำสาปแต่เป็นคาถาสวดวิงวอนเทพ sekhmet เพื่อปกป้องรักษาเมืองจากสิ่งชั่วร้าย แต่ทันทีที่ Nehi ได้ยินเขาก็กลับกลัวยิ่งกว่าเดิมที่คนที่นี่บูชาเทพ sekhmet ฉายา Lady of Slaughter จนทำให้ Nehi ต้องขอบคุณและบอกลา Bayek ในทันทีเพราะเขาคงไม่สามารถยอมอยู่ในเมืองนี้ได้อีกต่อไป

เพราะอะไร Nehi ถึงหวาดกลัวเทพ sekhmet จนไม่อยากอยู่ในเมืองที่นับถือเทพองค์นี้อีก ? เพราะตามตำนานกล่าวว่า Sekhmet ธิดาองค์หนึ่งของเทพเจ้า Ra เคยถูกส่งมายังโลกมนุษย์ในยุคที่มนุษย์ไม่มีความเคารพยำเกรงต่อเทพเจ้าและทำความชั่วกันมากมาย เทวี Sekhmet 

                                  

เมื่อได้รับคำสั่งก็จำเเลงตนอยู่ในรูปของสิงโตตัวเมียคอยไล่ล่ากินพวกมนุษย์เลวเหล่านั้นตามคำสั่งของ Ra เเต่เมื่อเวลาผ่านไป  เทวี Sekhmet กลับติดใจในรสชาติของเลือดมนุษย์จนตัดสินใจที่จะอยู่ที่โลกมนุษย์ต่อเพื่อกินมนุษย์อาหารอย่างสนุกปากจนเเผ่นดินอียิปต์ในตอนนั้นเต็มไปด้วยกลิ่นคาวเลือด จากตำนานนี้ Sekhmet จึงกลายเป็นสัญลักษณ์ของการนองเลือดเเละสงคราม ซึ่งทำให้ Nehi ที่บ้าเรื่องโชคลางจำเป็นต้องหนีออกจากเมืองโดยทันที 

Cr. ข้อมูลจาก http://totojung53200027.blogspot.com/




                                       Side Quest: Worker’ Lament


ระดับเควส – LV18
รางวัล:  1500 XP 



เข้าไปที่จุดรับภารกิจที่เมือง Letopolis ในเขต Sapi – Res Nome Bayek ได้พบกับ Nito หญิงสาวชาวบ้านที่กำลังทำงานหลังขดหลังแข็งอยู่เพราะคนงานของเธอหายไป Bayek จึงยื่นมือเข้าช่วยเหลือเพื่อตามหาคนงานของเธอให้


จากนั้นใช้ Semu บินขึ้นไปสำรวจพื้นที่ในเมืองรอบๆจนพบตำแหน่งของคนงานที่หายไป ซึ่งจะพบเขาอยู่บ่อน้ำบาดาลกลางเมือง หลังจาก Bayek เข้าไปพูดคุยกับเขาจึงรู้ว่า คนกำลังหาทางช่วย Baba กบ Ipuy เพื่อนของเขาที่กำลังติดอยู่ในท่อระบายน้ำออกมาไม่ได้ Bayek จึงรีบเข้าไปช่วยทันที


เมื่อ Bayek เข้าไปในอุโมงค์ท่อระบายน้ำจะพบ Ipuy นอนบาดเจ็บอยู่เนื่องจากเขาพยายามจะเข้าไปหา Baba พี่ของเขาที่ทำงานอยู่ในห้องลับที่ปลายอุโมงค์


ด้านในสุดของอุโมงค์ Bayek จะพบกับ Baba นั่งอยู่ในห้องที่มีหนังสือมากมาย Baba บอกกับ bayek ว่าในขณะที่เขากำลังทำงานขุดลอกแม่น้ำเขาก็มาเจอห้องทำงานลับแห่งนี้โดยไม่รู้ตัวก่อนที่จะหมดสติไปและคาดว่าที่นี่คงจะเป็นส่วนนึงของซากวิหารจากยุคโบราณอะไรซักอย่าง ก่อนที่ Baba จะขอตัวออกไปพบน้องๆของเขาด้านนอกทันที


เมื่อ Baba ออกไปแล้ว สำรวจในห้องให้ทั่วๆจะพบสัญลักษณ์ของ Side Quest อีกอันอยู่ เมื่อสำรวจเอกสารบนโต๊ะจะพบบันทึกประวัติของผู้พิทักษ์ห้องสมุดโบราณ (A History of the Keepers of Old Library) ในบันทึก Bayey ได้รับรู้เรื่องราวของดาบผู้พิทักษ์ที่หายไปพร้อมๆกับได้รับ Side Quest อันใหม่ที่ชื่อ The Old Library มาด้วย


หลังจากได้ข้อมูลทุกอย่างในห้องสมุดโบราณมาแล้ว กลับออกไปตามทางเดิมแล้วอุ้ม Ipuy ที่นอนบาดเจ็บอยู่ออกไปให้เพื่อนคนงานของเขาที่รออยู่ด้านนอกด้วย จากนั้นก็กลับไปแจ้งข่าวเรื่องราวสาเหตุที่คนงานหายไปให้ Nito ฟังก็เป็นอันจบภารกิจ



                                     Side Quest: The Old Library


ระดับเควส – LV18
รางวัล:  1500 XP 



หลังจาก Bayek ได้รับรู้เรื่องราวของดาบผู้พิทักษ์ที่หายไปในห้องสมุดโบราณแล้ว เดินทางไปยังจุดหมายของภารกิจที่อยู่ในเขต Ka – Khem Nome เข้าไปสำรวจพื้นที่ให้ทั่วๆจนพบนักโบราณคดีคนนึงที่ฝั่งตะวันตกของโบราณสถาน Bayek จึงสอบถามถึงเรื่อง Maahes Sword จนได้เบาะแสต่อไปที่ทางเหนือจากที่นี่


เมื่อสำรวจเข้าไปถึงที่หมายแล้วใช้ Semu บินขึ้นไปสำรวจหาเป้าหมายจนพบตำแหน่งระบุขึ้นที่ถ้ำไฮยีน่าใกล้ๆกับ Dasos Hideout


ลงไปจัดการพวกมันให้หมดแล้วเข้าไปเก็บ Sickle Sword หรือ The Sword of Ptah มาก็เป็นอันว่าจบภารกิจ

                                  Papyrus Puzzle ใน Sapi-Res Nome       

                                                  Papyrus Puzzle: Sea of Sand

                     เข้าไปเก็บกระดาษปริศนา Papyrus ที่ข้างๆรูปปั้นตามตำแหน่งในแผนที่                           

  
          เดินทางไปยังเขตพื้นที่ Iment Nome fast travel มายังตำแหน่งซากเรือตามจุดในแผนที่                          

         จากนั้นปรับเวลาให้เป็นกลางวันจะเห็นเงาของเสากระโดงเรือทอดไปตามพื้นทราย




        เข้าไปสำรวจตรงปลายของเงาเสากระโดงเรือก็จะพบ สมบัติที่ซ่อนอยู่ (Light Bow Parthian)


    จากนั้นเริ่มการไล่ล่า The Scarab ด้วยการดำเนิน Main Quest: The Starab’s Sting  ได้เลย


                                        The scarab

แมลงเต่าทองในตระกูล Scarabaeidae (ด้วงมูล) ด้วงที่ม้วนมูลสัตว์เป็นลูกบอลเพื่อเก็บมาเป็นอาหารและที่จะวางไข่ วิธีนี้จะทำให้ตัวอ่อนที่จะฟักถูกล้อมรอบไปด้วยอาหารไปในตัว


 ด้วยเหตุผลเหล่านี้ scarab จึงถูกมองว่าเป็นสัญลักษณ์ของวัฏจักรแห่งสวรรค์และความคิดเรื่องการเกิดใหม่หรือการฟื้นฟู จนถึงนำมาใช้เป็นเครื่องรางในอียิปต์โบราณโดยต้นอาณาจักรกลาง (ประมาณ 2000 ก่อนคริสตศักราช)


และถูกพัฒนาเป็น สัญลักษณ์สำหรับใช้เป็นตราประทับส่วนบุคคลของชนชั้นสูงรวมถึงเป็นเครื่องประดับในบางครั้ง


รวมถึง  Khepri เทพเจ้าของอียิปต์ก็มีรูปลักษณ์เป็นมนุษย์ด้วงแมลงปีกแข็ง ซึ่งชาวอียิปต์โบราณเชื่อว่า Khepri ต่ออายุเทพ Ra  หรือดวงอาทิตย์ทุกๆวันเพื่อต่ออายุมันอีกครั้งในวันรุ่งขึ้น

Cr. https://en.wikipedia.org/wiki/Scarab_(artifact)


                      Main Quest: The Scarab’s Sting



เดินทางไปยังจุดหมายของภารกิจในแผนที่ในเขต Sapi – Res Nome เข้าไปคุยกับ Harfuf ในเมือง Sais เพื่อสอบถามถึงข้อมูลของเป้าหมายคือ The Scarab หากไปกลางวันจะพบเขาที่โรงเบียร์แต่ถ้าไปกลางคืนเขาจะอยู่ที่บ้าน


Bayek – ข้ามาตามหาเจ้าของโรงเบียร์ที่ชื่อ Harfuf  
Harkuf – ข้าไม่มีเวลาหรอก มีอะไรก็ไปคุยกับคนคุมงานลูกน้องข้าก่อนแล้วกัน
Bayek – เข้าใจผิดแล้ว ข้าคือ Medjay Apollodorus ส่งข้ามา
Harkuf – Apollodorus หรอ? งั้นก็ได้ 
Bayek –เขาส่งข้ามาหาข้อมูลของ The Scarab ที่ซ่อนอยู่ใต้เงามืดของเมือง Sais 
Harkuf – บ้าเอ๊ย ชื่อนี้มันไม่เป็นมงคลเจ้าอย่าพูดดังไปสิ ! Apollodorus รู้ดีว่าชาวเมืองๆนี้ต้องเจ็บปวดกันขนาดไหน และด้วยสถานะของข้า หลายคนที่นี่ก็เชื่อมั่นในตัวข้ามากๆด้วย การค้าขายก็ไม่ค่อยคล่องเพราะพวกทหารอลาวาดอยู่ตลอด ไหนจะการเรียกเก็บภาษีมหาโหดของ Ptolemy ที่ขูดรีดเราจนหายใจหายคอไม่ออกอีก ...ตามข้ามา หาที่มิดชิดคุยกันต่อ 



Harkuf – ยังมีเรื่องราวที่เลวร้ายของ The Scarab อีกเยอะ ข้ามั่นใจว่า Apollodorus คงเล่าให้เจ้าฟังบ้างแล้ว ..เรื่องการนำเอาชาวบ้านไปทรมาน นำไปฝังทรายและปล่อยให้ตาย มันเป็นชะตากรรมที่เลวร้ายมากนะ การถูกฝังลงบนพื้นทรายแล้วถูกแผดเผาอย่างไร้ปราณี ทำได้ก็แค่รอคอยความตายเท่านั้น.. มันนะตัวร้ายตัวจริงของเมืองนี้เลยล่ะ มันถึงเป็นการไม่ปลอดภัยที่จะเอ่ยถึง The Starab สุ่มสี่สุ่มห้า มันอัตราย ... เอาล่ะเข้าไปหาข้อมูลที่ข้าเก็บไว้สิ 




                                               เรื่องราวของ The Scarab

เจ้ารู้ว่าข้าแบ่งปันข้อมูลกับเจ้าเกี่ยวกับ Sefetu ไปแล้ว แต่ข้าเชื่อว่ามันมีอำนาจที่ยิ่งใหญ่กว่าที่บงการเขาอีกที มันคือ The Scarab มันเหมือนเป็นข่าวลือที่เล่าต่อๆกันมา แต่ข้ามันใจว่ามันมีตัวตนจริง ข้าคิดว่ามันคอยชี้นำนายทหารคนสนิทคนนึงของฟาโรห์ด้วยความโลภและความกลัว นั่นเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมข้าถึงถูกจับไปทรมานเมื่อไปพบเห็นการจ่ายใต้โต๊ะให้กับหัวหน้าทหารคนนึง มันเกือบฆ่าข้าได้แล้ว ข้าควรจะตายแล้วตอนที่มันทำจนข้าพิการแล้วโยนข้าให้ตายกลางถนน แต่ก็โชคดีที่ได้ Tahapa มาช่วยเอาไว้แล้วพาข้ากลับบ้านอย่างปลอดภัย


ในโต๊ะด้านในห้องลับจะเป็นโต๊ะรับภารกิจซึ่งเมื่อสำรวจจะสามารถรับภารกิจเสริมได้อีก 5 Quest คือ
- Side quset :Conficts of interest
- Side quset :Smoke Over water
- Side quset :All Eyes on us
- Side quset :Lost Happiness 



Harkuf – ผู้โชคร้ายที่ตั้งคำถามเกี่ยวกับ The Scarab ก็ถูกทรมานจนเกือบตายด้วยการตัดลิ้น 
Bayek – เขาเป็นใครกันหรอ?
Harkuf – ปู่ Ghupa  พ่อบุญธรรมของข้าเอง ชายที่เคยมีอำนาจกว้างขว้างที่สุดคนนึงในเขต Taharqa เลยล่ะ  นั่น .. เด็กนั้นชื่อ Kawab เป็นหลานแท้ๆของเขา 



Bayek – ไงเจ้าหนู ชนะบ้างยัง? ข้ากำลังตามหาปู่เจ้าอยู่ เจ้าพอจะรู้มั๊ยว่าข้าควรจะไปตามหาเขาที่ไหน
Kawab – ข้าไม่รู้ว่าเขาหายไปไหน รู้แต่ว่าเขาเดินทางไปที่ Camp Pyrrhos ปู่ควรจะกลับมาได้แล้วนะ
Bayek – เข้าใจแล้ว ข้าจะลองไปตามหาเขาตามเส้นทางนั้นดูนะ


จากนั้นเดินทางไปยังพื้นที่เป้าหมายที่ Camp Pyrrhos แล้วใช้ Semu บินขึ้นไปค้นหาเป้าหมายจนพบ Ghupa ถูกขังอยู่ในกรงขัง ลอบเข้าไปจัดการทหารแล้วช่วย Ghupa ออกมาซะ แล้วพาเขากลับไปที่บ้านของ Harkuf อีกครั้ง


Kawab – คุณปู่ครับ !! ปู่เป็นไรป่ะครับ เขาบาดเจ็บหรอ ?
Bayek – มีรอยฟกช้ำจากการทุบตีบ้างแล้วก็หิว ทหารไม่ปราณีเขาเลยแต่โชคดีที่เขาไม่เป็นอะไรมาก พ่อเจ้าไปไหนล่ะ Kawab เราต้องคุยเรื่องนี้กันหน่อย
Kawab – พ่อไปทำงานครับ แม่ครับ !! มาดูคุณปู่หน่อยเขาบาดเจ็บ พวกทหารเข้าใจผิดคิดว่าปู่เป็นพวกขอทานอีกแล้ว
Bayek – เขาเคยตามหา The Scarab มาก่อน ข้าเลยคิดว่าเขาคงพอจะช่วยข้าได้ ในทางกลับกันก็เหมือนปกป้องครอบครัวของพวกเจ้าด้วย
แม่ - The Scarab เป็นแค่เรื่องเหลวไหล ใครๆก็รู้
Kawab – ปู่อยากให้พี่อ่านนี่อ่ะครับ 
       
Bayek – อืมม เหมือนว่า The Scarab กำลังระดมพลอยู่ที่เมือง Letopolis นะ
แม่ – ตายแล้ว สามีข้าก็อยู่ที่นั่นด้วยสิ 
Bayek – เมืองที่อยู่กลางทะเลทรายแบบนั้นอ่ะนะ
Kawab – พ่อมีหน้าที่ที่ต้องไปซ่อมแซมที่นั่น เดี๋ยวพวกเราก็จะตามไปด้วยใช่มั๊ยคับแม่?
แม่ – ใช่จ๊ะลูก ... สามีข้า Taharqa ถูกจับเป็นทาสไปทำงานที่นั่นเป็นเดือนแล้ว ข้ามั่นใจว่าท่านต้องช่วยสามีข้าออกมาได้แน่นอน เขาเป็นคนกว้างมากนะอาจช่วยอะไรท่านได้



Kawab – พี่ฮะ ถ้าพี่เจอพ่อผม บอกเขาด้วยว่า ข้ารอที่จะเจอพ่อไม่ไหวแล้ว
Bayek – แน่นอน Kawab แล้วข้าจะบอกเขาให้นะ


                  Side Quest จากโต๊ะรับภารกิจที่บ้านของ Harkuf 


     

ปัญหาหลักๆของผู้คนใน Sais นั้นมาจาก Sefefu ผู้มีอิธิพลและผู้กว้างขวางตัวแทนของฟาโรห์ที่เข้ามาปกครองเมืองด้วยความกดขี่โดยการเอาเปรียบประชาชนที่นี่ด้วยการขูดรีดเก็บภาษีในราคาแพง


                               Side questConflicts of interest


ระดับเควส – LV15
รางวัล:  1250 XP 

หลังจาก Bayek ได้รับเรื่องร้องเรียนมาจากโต๊ะรับภารกิจที่บ้านของ Harkuf ถึงเรื่องของ Zervos เจ้าของท่าเรือใน Sais ที่หวังดีในการขนสินค้าที่มีราคาถูกเข้ามาขายเพราะประชาชนและพ่อค้าแม่ค้าต่างๆได้รับความเดือดร้อนจากการต้องซื้อสินค้าในราคาแพงจากการขึ้นราคาอย่างไม่เป็นธรรรมของเจ้า Sefefu แน่นอนว่ามันสร้างความไม่พอใจให้กับ Sefefu เป็นอย่างมาก เพื่อความปลอดภัยของ Zervos  Bayek จึงต้องการทางเข้าถึงตัว Zervos ให้ได้ก่อน Sefefu


เข้าไปที่ของภารกิจในเมือง Sais แล้วใช้ Semu บินสำรวจพื้นที่เพื่อค้นหาตำแหน่งพ่อค้าและแม่ค้าเป้าหมายที่รู้เรื่องราวของ Zervos จะขึ้นเป็นลูกศรสีส้มขึ้นที่หัว หลังจากเข้าไปคุยสอบถามกับพ่อค้าแม่ค้าเป้าหมายทุกคนแล้ว Bayek จะพบว่าไม่มีพ่อค้าแม่ค้าคนไหนเลยที่ให้ข้อมูลของ Zervos เลยซักคนแถมบางคนก็มีพิรุธเหมือนกำลังโกหกด้วย


Bayek จึงต้องเปลี่ยนแผนใหม่ด้วยการ ปรับเวลาเป็นตอนกลางคืน จนถึงตอนพ่อค้า3 คนที่มีพิรุธกำลังกลับบ้าน Bayek จึงถือโอกาสสะกดรอยพวกเขาไปจนถึงที่พัก จนพบกับ Zervos ที่ซ่อนตัวอยู่ในบ้านในที่สุด

ทันทีที่ Zervos เห็น Bayek เข้ามาหาจึงคิดว่าเป็นนักล่าค่าหัวที่ Sefefu ส่งมา จึงยอมให้ฆ่าแต่โดยดีเพราะไม่อยากให้คนอื่นเดือดร้อน แต่ Bayek นอกจากจะปฎิเสธว่าเขาไม่ใช่พวกของ Sefefu แล้วเขายังอยากจะเสนอตัวเพื่อช่วยเหลือ Zervos อีกด้วย


Zervos ยอมรับว่าเขาลักลอบเอาสินค้าราคาถูกจากต่างเมืองมาให้พ่อค้าแม่ค้าที่นี่จริงเพราะทนกับการขูดรีดการเก็บภาษีการค้าในราคาแพงแสนแพงของที่นี่ไม่ได้อีกต่อไป ทำให้เขาถูกคนของ Sefefu ไล่ล่าตัว สิ่งที่เขาต้องการให้ Bayek ช่วยคือให้ไปเอาเรือของเขาที่จอดอยู่ในท่าเรือทางเหนือของเมืองเพื่อจะนำบันทึกรายชื่อพ่อค้าที่สั่งสินค้าต่างๆกับเขามาทำลายทิ้งก่อนที่พวกของ Sefefu จะหาเจอแล้วทำให้พ่อค้าแม่ค้าต้องซวยไปด้วย


จากนั้นเข้าไปที่พื้นที่เป้าหมายของภารกิจที่ Sap-Meh Warehouse แล้วลอบเข้าไปทำลายเรือของ Zervos เพื่อทำลายหลักฐานหรือจะขับเรือหนีออกมาไว้ที่ท่าเรือที่บ้านที่ Zervos ซ่อนตัวอยู่ก็ได้ จากนั้นเข้าไปคุยกับ Zervos ก็จะจบภารกิจ


                                   Side quest: Smoke Over water

ระดับเควส – LV15
รางวัล:  2000 XP 

เรื่องราวร้องทุกอันที่ 2 คือเรื่องราวของ Jeska คนลักลอบขนสินค้าที่ทำงานให้ Harkuf ที่ถูกคนของ Sefefu ฆ่าตาย

เข้าไปที่พื้นที่ของภารกิจที่เมือง Sais ในเขต Sapi – Res Nome แล้วใช้ Semu บินขึ้นไปสำรวจพื้นที่และค้นหาเป้าหมายจนพบ Amosis แม่ค้าขายปลาเพื่อนของ Jeska Bayek จึงเข้าไปสอบถามข้อมูลทันที


เนื่องจาก Jeska ถูกฆ่าตายไปแล้ว Harkuf จึงต้องการให้หาคนที่ไว้ใจได้เพื่อขึ้นมาทำหน้าที่ดูแลประชาชนแทน  แต่ Amosis กลับบอกว่า Bayek และ Harkuf เข้าใจผิดเพราะ Jeska นั้นเธอยังไม่ตายแต่เธอหนีจากการไล่ล่าไปได้ต่างหาก และตอนนี้ Jeska ก็กำลังหลบอยู่ในเรือของเธอที่จอดอยู่ในอ่าวทางใต้ของเมือง


ทันทีที่เดินทางไปยังพื้นที่เป้าหมายของภารกิจที่อ่าวทางใต้ของเมืองจะพบ Jeska กำลังสู้กับฝูงฮิปโปที่เข้ามาทำร้าย เข้าไปช่วยจัดาการฮิปโปให้หมดซะแล้วเข้าไปคุยกับเธอ Bayek ต้องการให้ Jeska กลับไปรายงานตัวกับ Harkuf เพราะเขากำลังคิดว่าเธอตายไปแล้ว แต่  Jeska ขอร้องให้ Bayek ช่วยเธอขนสินค้าไปแจกจ่ายให้คนในหมู่บ้านของเธอให้เสร็จก่อน Bayek ก็เต็มใจที่จะตามไปช่วยทันที


แต่ทันทีที่ทั้งคู่เดินทางไปถึงหมู่บ้าน Mefat ก็พบว่าหมู่บ้านของ Jeska ถูกทหารเข้ามาทำลายจนหมดแล้ว ทำให้ Bayek ต้องเข้าจัดการพวกทหารให้หมด โชคยังดีที่ยังเหลือผู้รอดชีวิตคนนึงคือ Pentu Jeska จึงขอร้องให้ bayek ช่วยพาเขาไปส่งที่ฟาร์มของญาติเธอที่อยู่ใกล้ๆเพื่อความปลอดภัย


 จากนั้นก็แบก Pentu ขึ้นมาขี่มาส่งที่จุดหมาย ทันทีที่จบภารกิจ Jeska จะแสดงความขอบคุณจากใจแล้วเตรียมตัวกลับไปหา Harkuf เพื่อร่วมมือกันหาทางปลดปล่อยประชาชนจากการกดขี่ของ Sefetu ต่อไป

                                Side quest: All Eyes on us


ระดับเควส – LV16
รางวัล:  1250 XP 




เข้าไปที่พื้นที่ของภารกิจที่เมือง Sais ในเขต Sapi – Res Nome เป้าหมายคือ จัดการหน่วยธนูของ Sefetu ที่คอยเฝ้าระวังอยู่ในเมือง ใช้ Semu บินขึ้นไปตรวจสอบพื้นที่เพื่อค้นหาพลธนูของ Sefetu ที่อยู่ในพื้นที่ทั้ง 6 คนแล้วจัดการให้หมด ก็จะจบภารกิจ

                                    Side quest: Lost Happiness 


ระดับเควส – LV16
รางวัล:  1250 XP 



เข้าไปที่ที่เมือง Sais ในเขต Sapi – Res Nome เพื่อคุยกับหญิงชาวบ้านคนนึงที่เป็นสาย ของ Harkuf เพื่อรับฟังในสิ่งที่เธอแจ้งไปเรื่องปัญหาเกี่ยวกับ Nesamun คนของ Harkuf ที่มีหน้าที่ส่งเบียร์ไปบูชาเทพ Sekhmet ที่ Yamu หายตัวไป Bayek จึงต้องช่วยออกค้นหาทันที


จากนั้นเดินทางไปยังพื้นที่เป้าหมายที่ Psenmphaia Hidout แล้วใช้ใช้ Semu บินขึ้นไปตรวจสอบพื้นที่เพื่อค้นหาตำแหน่งของ Nesamun ที่ถูกจับอยู่ให้พบ แล้วลอบเข้าไปจัดการศัตรูให้หมดแล้วช่วยเขาออกมาซะก็จะจบภารกิจ



                                           Side quest: The Tax Master

ระดับเควส – LV17
รางวัล:  1250 XP 


      ภารกิจนี้จะปรากฏออกมาที่เมือง Sais หลังจากทำเควสทั้ง 4 ของ Harkuf จนครบหมดแล้ว 



เมื่อเข้าไปที่จุดของภารกิจที่บ้านของ Harkuf จะพบข่าวร้ายจาก Jeska ว่า Harkuf ถูกพวกของ Sefetu จับตัวไปที่คุกในป้อม Fort Nikiou Bayek จึงตัดสินใจรีบเข้าไปช่วยทันที โดย Jeska จะบอกถึงทางลับทางทางระบายน้ำทางฝั่งตะวันออกของป้อมด้วย

จากนั้นเดินทางต่อไปยังพื้นที่เป้าหมายที่ป้อม Fort Nikiou แล้วใช้ใช้ Semu บินขึ้นไปตรวจสอบพื้นที่เพื่อค้นหาตำแหน่งของ Harkuf ที่ถูกจับอยู่ให้พบ


ที่เหลือก็ลอบเข้าไปให้ถึงจุดหมายตรงคุกที่ขัง Harkuf อยู่ ซึ่งจะพบว่าไม่สามารถเปิดประตูคุกออกได้ง่ายๆนอกจากไปเอากุญแจมาจาก Sefetu เท่านั้น


ใช้ใช้ Semu บินขึ้นไปตรวจสอบพื้นที่เพื่อค้นหาตำแหน่งของ Sefetu ที่อยู่ในฐานนี้ให้พบ จากนั้นก็ลอบเข้าไปสังหารมันซะ


แล้วเข้าไปเก็บกุญแจจากศพของ Sefetu เอาไปไขเพื่อช่วย Harkuf ออกมา ที่เหลือก็ช่วยคุ้มกันเขาให้ออกจากป้อมนี้ได้อย่างปลอดภัย


Harkuf – ขอบใจมากสหาย Apollodorus คิดถูกจริงๆที่ส่งนายมาที่นี่ สมเกรียติกับตราบนเสื้อของเจ้าแล้วล่ะ ถ้าทุกอย่างเรียบร้อยแล้วแวะมาหาพวกเราบ้างนะเราจะได้ดื่มเบียร์กันให้เมากันไปเลย




                         Main Quest: The Scarab’s Lies


          เดินทางมาที่จุดหมายของภารกิจในแผนที่เพื่อเข้าไปพบกับ Taharqa ที่เมือง Letopolis




Bayek – ท่านคือ Taharqa รึเปล่า ข้าคือ Bayek แห่ง Siwa 
Taharqa – ข้านี่แหละ Taharqa ตัวจริงเสียงจริง Taharqa จอมวางแผนแห่ง Sais และ สจ๊วตแห่ง Letopolis
Bayek – ข้าเพิ่งพบกับครอบครัวของท่าน เมียท่านส่งข้ามานางบอกว่าท่านรู้เรื่องของคนที่เรียกตัวเองว่า The Scarab เป็นอย่างดี
Taharqa – เรื่องนี้ไม่เหมาะที่จะมาคุยกันตรงนี้ เพราะหากมีใครมาได้ยินเข้าคงไม่ดีแน่นอน ตามมา ข้าจะตอบคำถามของเจ้าเอง 



Bayek – ลูกชายท่านฝากของมา เขาดูภูมิใจในงานที่ท่านทำมากและก็คิดถึงท่านมากๆด้วย 
Taharqa – เดี๋ยวก็จะได้มาอยู่ที่นี่ด้วยกันแล้วล่ะ ข้าฝันว่าลูกข้าและลูกของลูกข้าจะเดินตามรอยในสิ่งที่ข้าทำมาตลอด โลกนี้ถูกสร้างขึ้นจากชายที่คิดการใหญ่เท่านั้น แล้วเจ้าล่ะฝันถึงอะไรบ้าง Bayek ?
Bayek – ข้า เอ่อ .. ข้าไม่มีความฝันอะไรที่มันหรูหราหรอก แค่อยากจะตามหาตัวไอ้คนที่เรียกตัวเองว่า The Scarab ก็แค่นั่น 



Taharqa – The Scarab หาเหยื่อแต่กับพวกอ่อนแอ มันคุกคามอะไรข้าไม่ได้หรอก 
Bayek – ท่านไม่กลัว The Scarab งั้นหรอ Taharqa หลังจากที่มันทำกับพ่อบุญธรรมของท่านแล้วอ่ะนะ
Taharqa – ไม่ว่าจะเกิดอะไรกับ Ghupa ข้าย่อมเสียใจแน่นอน  แต่งานของข้าก็ต้องดำเนินต่อไป แม้สิ่งที่ข้าทำมันอาจจะมีส่วนทำให้เขาต้องตายก็เถอะ ข้าก็วิงวอนให้พระเจ้าทรงให้อภัยให้ข้าเสมอ 



คนรับใช้ – นายท่าน Taharqa !! พวกมันโจมตีที่โบราณสถานอีกแล้วล่ะ!
Taharqa – บ้าเอ๊ย !! ... Bayek มาเถอะ ไปสู้ร่วมกับข้า !!

คุยจบตาม Taharqa ไปเพื่อช่วยเขากำจัดศัตรูที่บุกเข้ามาท่ามกลางพายุทะเลทรายให้หมด


Taharqa – Bayek เจ้าฟาดฟันพวกมันอย่างกับเขี้ยวของ Sobek อย่างงั้นแหละ มาเถอะ Bayek ขี่ม้าเดินทางไปพร้อมกับพวกข้า ข้าจะไปจัดการไอ้พวกโจรทะเลทรายกระจอกนั่นให้สิ้นซาก นี่จะเป็นครั้งสุดท้ายแล้วที่มันจะบุกมาหยามหน้าข้าแบบนี้ 
Bayek – ข้ารู้ว่าท่านอยากจะล้างแค้น แต่ข้าไม่ได้สนพวกโจรกระจอกนั่นเลยซักนิด ช่วยให้ข้อมูลของ The Scarab ระหว่างเดินทางก็พอ
Taharqa – ตราที่เสื้อเจ้านั่นใช่ Medjay รึเปล่า พวกมันก็เข้ามาคุกคามคนบริสิทธิ์ในเมืองนี้อยู่ตลอดเหมือนกันนะ มาเถอะ ไปจัดการมันให้จบๆ แล้วหลังจากนั่นข้าจะเล่าเรื่องของ The Scarab ที่เจ้าอยากรู้ให้ฟัง 

จากนั้นขี่ม้าร่วมไปกับคนของ Taharqa จนถึงรังของพวกโจร Plesionhudor Hideout จัดการพวกโจรให้หมดแล้วช่วยนักบวชที่ถูกขังอยู่ออกมา


Taharqa – ขอบคุณเจ้ามากๆ Bayek ก่อนที่เจ้าจะมาข้าคิดว่าความฝันของข้ามันคงจะตายไปพร้อมกับข้าแล้วแท้ๆ แต่เจ้าช่วยให้ข้าแข็งแกร่งจนจัดการพวกโจรชั่วนี่จนหมดได้ ข้าจะพานักบวชกลับหมู่บ้านก่อนนะ ยังไงเจ้าไปคุยกับข้าที่บ้านอีกทีแล้วข้าจะบอกทุกเรื่องที่เจ้าอยากรู้ 

           เดินทางต่อไปยังตามเป้าหมายของภารกิจเพื่อกลับไปที่บ้านของ Taharqa อีกครั้ง




Taharqa – ข้าดีใจจริงๆเลยที่เจ้าปลอดภัย Maharet 
Maharet – ใช่ ฮ่าๆ พระเจ้าคงฟังในสิ่งที่ข้าขออ่ะนะ
Kawab – ตอนนี้เราเห็นแต่อีแร้ง ไฮยีน่าแล้วก็ทรายๆๆๆๆ 
Taharqa – ฮ่าๆๆ พอกันทีกับทรายในชีวิตนี้ นั่นไหนที่ทำไมพวกเราถึงต้องการความช่วยเหลืออีกมากมายเพื่อทำให้งานที่ยิ่งใหญ่ของข้าสำเร็จเร็วๆไง
Bayek – แล้วท่านสัญญาพวกคนของท่านว่ายังไงล่ะ Taharqa?
Taharqa – พื้นที่เล็กๆที่พวกเขาเรียกว่า บ้าน ที่ที่พวกเขาหักร้างถางพงสร้างจากทะเลทราย 
Bayek – แค่นั้นอ่ะ? ให้ขุดพื้นที่ของท่านมาทำบ้าน
Taharqa – มันไม่ใช่งานง่ายๆหรอกนะ แต่เราจำเป็นต้องทำ เพราะมันเสมือนเราได้เข้าร่วมกับพระเจ้า  
Bayek – พ่อเจ้าเป็นคนที่มีเกรียติมากนะ Kawab
Taharqa – ฮ่าๆ มาดื่ม !!! แด่ผู้รอดชีวิตแห่ง Letopolis !!



Maharet – หือ .. ท่านเป็นอะไรรึเปล่า Bayek ?
Taharqa – เจ้าไม่สบายงั้นหรอ? …..

ทันทีที่ Bayek ลืมตาขึ้นมาเนื่องด้วยรู้สึกถึงความร้อนระอุรอบตัว เขาก็รับรู้ว่าตัวเองถูกนำตัวมาฝังในพื้นทะเลทราย การทรมานที่โหดร้ายเหมือนอย่างที่เขารับรู้มาทำให้รู้ว่า ตัวต้นที่แท้จริงของ The Scarab ที่เขากำลังตามหาก็คือ Taharqa นั่นเอง


“ พระเจ้าจะลงโทษแก Taharqa ในทุกๆสิ่งที่แกทำเอาไว้ !” Bayek สบฎออกมาท่ามกลางความร้อนของทะเลทรายในขณะที่ร่างกายที่กำลังอ่อนล้ากับภาพลวงตาที่ The Scarab มายืนเย้ยหยันอยู่ตรงหน้า ก่อนที่สติจะเริ่มเลือนลาง Bayek จึงต้องหาทางเอาตัวรอดจากกับดักมรณะนี้อย่างเร็วที่สุด 

เมื่อ กดปุ่มทิศทางลงล่างเพื่อเรียกม้าคู่ใจออกมาให้ช่วยเอาเชือกมาใช้จับยึดและลากดึงให้ขึ้นมาจากหลุมทรายได้สำเร็จ ทันทีที่ Bayek เป็นอิสระ สิ่งแรกที่ต้องทำก่อนออกไล่ล่า The Scarab ก็คือ ออกไปตามหาเอาอาวุธทั้งหมดที่ถูกชิงไปกลับคืนมา

เดินทางไปยังจุดเป้าหมายของภารกิจ ที่ค่ายของทหารแล้วใช้ Semu บินขึ้นไปตรวจสอบพื้นที่จนพบตำแหน่งของที่ซ่อนของอาวุธที่ถูกชิงไป ลอบเข้าไปที่จุดเป้าหมายเพื่อเก็บอาวุธทั้งหมดกลับคืนมา

จากนั้นเดินทางกลับไปยังเมือง Letopolis แล้วเข้าไปยังโบราณสถานของเมืองซึ่งเป็นฐานของเจ้า The Scarab


แล้วใช้ Semu บินขึ้นไปตรวจสอบเป้าหมายจนพบตำแหน่งของ Taharqa แล้วหาทางลอบเข้าไปเพื่อสังหารมันซะ


Taharqa – นี่ไงล่ะ ที่เรียกฝันสลาย และแล้วความฝันมันตายไปกับตัวข้า ข้าก็แค่ต้องการจะสร้างอะไรซักอย่างในช่วงสุดท้ายของยุคสมัยของตัวเองก็แค่นั้น
Bayek – Ghupa คงอยากจะสรรเสริญเรื่องราวในความสำเร็จของแกหรอกนะ

          

Taharqa – เรื่องนั้นข้าก็เสียใจ !! เราทั้งหมดคือชนใช้แรงงานของอำนาจที่เหนือกว่า เราทั้งหมดต่างก็คือทาสของกองกำลังที่ไม่อาจเทียบ ไม่มีใครหนีมันพ้น ข้าคือหนึ่งใน The Order of Ancients ชัยชนะครั้งนี้ของเจ้าจะทำให้เจ้าไม่มีที่ยืนที่ไหนอีก ! นี่ไม่ใช่เส้นทางที่ข้าเลือกไว้ นี่ไม่ใช่ทางที่จิตวิญญาณข้าเลือกที่จะเดิน แต่ The Order of Ancients จะจดจำข้าในฐานะผู้นำพาความอุดมสมบูรณ์และเป็นผู้สรรสร้างเมืองนี้ 







Bayek – หรือไม่ก็โดนทรายถูกถาโถมเข้ามาจนทำให้ความฝันของแกกระจัดกระจายกลายเป็นแค่ฝุ่นละออง  



Kawab – พ่อครับ !! ข้าจะฆ่าแกเหมือนที่แกฆ่าพ่อของข้า !! ข้านึกว่าแกเป็นมิตร ข้าเกลียดแก !!
Bayek – ดูแลเขาด้วยนะ พยายามอธิบายให้เขาเข้าใจเท่าที่ท่านจะทำได้ก็แล้วกัน
Maharet – เจ้า .. เจ้านำเลือดและความตายมาสู่ครอบครัวของเรา !!
Bayek – ที่ผ่านมาเจ้าไม่รู้อะไร แต่ตอนนี้เจ้าควรจะตาสว่างได้แล้ว สามีเจ้าคือ The Scarab สิ่งเลวร้ายที่เกิดขึ้นที่นี่คือฝีมือของเขา ชาวบ้านมากมายรวมทั้งพ่อของเจ้าก็ถูกคนพวกนี้ทำร้าย โดยคำสั่งของมัน จากนี้ก็ขึ้นอยู่กับเจ้าแล้วว่า จะนำพาลูกของเจ้าไปสู่แสงสว่าง ให้ห่างไกลกลิ่นคาวเลือดและความชั่วร้ายที่พ่อเขาเคยทำเอาไว้ได้หรือเปล่า


 .                                    .....พ่อขอโทษด้วยนะลูกพ่อ ............. 

     
Deanna – ข่าวดี Layla !! ตอนนี้ DNA ของ Aya ได้เชื่อมต่อเข้ากับระบบโดยสมบูรณ์แล้ว เธอสามารถเชื่อมต่อกับความทรงจำของ Aya ได้ตอนนี้เลยนะ !! มันอาจจะผ่านมาแบบปัจจุบันทันด่วนหน่อย เป็นความทรงจำที่กระจัดกระจายและไม่ค่อยประติดประต่อหน่อยนะ
               



                                  Layla – I Walk on Your Water ... 
                                 Deanna – โอเค ...ยัยเพี้ยนเอ๊ย 

                               Aya’s Memory 


                            Event Quest: Pompeius Magnus



                                               48 ปี ก่อนคริสตกาล




                                                     ทะเลอีเจียน (Aegean Sea) 


 ทะเลที่ติดต่อกับมหาสมุทรเมดิเตอร์เรเนียน อยู่ระหว่างประเทศกรีซกับตุรกี ทางด้านตะวันออกของกรีก



Damastes - ฮ่าๆ ก็เหมือนกับสงครามใน Salamis นั่นแหละกัปตัน ท่านติดกับดักของข้าแล้ว
กัปตัน Phoxidas – นี่ไง แม่ทัพ เธมิสโตคลีส มาช่วยแล้ว .. รุกฆาต ฮ่าๆๆ 
  

Damastes –Phoxidas ทำไมเราต้องส่งสมบัติของดีๆแบบนี้ไปให้มันด้วยว่ะ ทองมากมายแบบนี้ เราเลิกทำงานแล้วไปเสวยสุขที่เลสบอสได้สบายๆเลยนะ .. อ๊ะ !!
Phoxidas – มีอะไรนังหนู ??



Aya – ถ้าสมบัติพวกนี้ไม่ได้ถูกนำไปให้ Pompey เรื่อลำนี้ก็คงไม่มีวันผ่านไปได้หรอก เราคงต้องคลานผ่านทางนรกแทนกันหมดนั่นแหละ
Phoxidas – ก็แฟร์ดี เอาล่ะ กลับไปทำงานได้แล้วไอ้พวกขี้เกียจ !! แก Vlakos แกด้วย Damastes เร็วๆ
เราต้องรีบเอาสมบัติพวกนี้ไปติดสินบน Pompey ให้มาช่วยเหลือราชินีของเราเพื่อชัยชนะของอณาจักร และแน่นอนเพื่อเป็นค่าจ้างให้กับทหารรับจ้างของข้า 

การบังคับการเคลื่อนไหว
แกนอนาล็อกซ้าย – บังคับทิศทาง
R2 – เร่งความเร็ว 



Phoxidas – ดูเรืออีกฝั่งทะเลนั่นสิ !! ดูจากสีแล้วคงไม่ใช่เรือของโรมแน่นอน หรือเรือที่ราชินีของเราส่งมา มันจะวุ่นวายกันเลยสิที่นี้
Aya – ไม่ต้องเดาหรอก นั่นเรือของพวก Order of Ancients ที่ Ptolemy ส่งมาแน่นอน 
Phoxidas – แล้วมันมายุ่งอะไรกับ Pompey ด้วยล่ะ ?
Aya – Ptolemy ต้องการบัลลังย์ของคลีโอพัตรา มันก็ต้องจัดการกับพัทธมิตรของนางด้วยอยู่แล้ว เราต้องรีบไปช่วยแล้วล่ะ !! 

การโจมตีและการป้องกัน
- L2 เพื่อเล็งเป้าหมาย จะเห็นเส้นทางยิงเป็นเส้นสีขาว โดยเน้นโจมตีที่จุดอ่อนในเรือของศัตรูที่เป็นจุดสีแดง แล้วกด R2 ยิงโจมตีด้วยธนู (สามารถยิงติดต่อกันได้ 3 ชุด)
- L1 (ในระยะประชิด) เล็งเป้าที่ใบเรือจะเป็นการยิงเชือกตะขอเพื่อรั้งทำลายใบเรือ 
- สามเหลี่ยม (ในระยะประชิด) ยิงปืนใหญ่ (ต้องรอเกทกระสุนให้เต็มก่อน)
-  L1 คำสั่ง หลบ เพื่อป้องกันการโจมตี 
- X ใช้ด้านหน้าเรือพุ่งชน



หลังจากจัดการทำลายกองเรือของศัตรูรอบนอกจนหมดแล้วก็รีบเดินทางไปยังจุดเป้าหมายที่เรือของ Pompey ที่กำลังโดนเรือของศัตรูล้อมอยู่เต็มไปหมด จัดการพวกศัตรูให้หมดก่อนที่เรือของ Pompey จะโดนทำลาย แล้วขึ้นเรือไปคุยกับ Pompey ได้เลย


Pompey – มีสงครามกลางเมืองในอียิปต์ แต่มีกองเรือของทหารรับจ้างมาช่วยข้าอ่ะนะ ท่ามกลางสงครามข้ากับ Caesar ข้าค้นพบสิ่งที่แปลกประหลาดมากมาย ส่วนเจ้านี่มันใครกันวะเนี้ย ?
Aya – ปอมเปอุส แม็กนัส นี่เป็นของกำนัลเพื่อแสดงความขอบคุณที่เป็นพัทธมิตรกันจากราชินีคลีโอพัตรา 
Pompey – คลีโอพัตราเสนอแก้วแหวนเงินทองเพราะอยากชนะใจข้า เมื่อทุกอย่างตกเป็นของโรมแล้วเนี่ยนะ แล้วความเป็นพัทธมิตรจะมีความหมายอะไรกับราชินีของเจ้ากันล่ะ?



Aya – ดูใบหน้างามๆบนเหรียญนั่นสิใคร? มีผู้หญิงโรมันคนไหนมีเกรียติได้เยี่ยงนี้หรือเปล่าล่ะ? การเป็นพัทธมิตรกับคลีโอพัตราที่ครองอำนาจที่แท้จริงของอนาจักรนี้ นั่นแปลว่านางต้องการมากกว่าแค่พัทธมิตร นางต้องการคนที่จะมาเป็นราชาเพื่อครองอำนาจร่วมกับนาง
Pompey – งั้นการเป็นพัทธมิตรในครั้งนี้ก็มีค่ามากยิ่งนักนะสิ ... ตกลง กองทัพของข้าจะเดินทางถึงอียิปต์ในไม่ช้านี้แน่นอน 


           จากนั้นกำหนดภารกิจที่ Main Quest: The Hyena แล้วเดินทางต่อไปยังเขต GIZA



                                             GIZA 




เมืองกีซ่าตั้งอยู่ทางฝั่งตะวันตกของแม่น้ำไนล์มีจุดเด่นคือ พีระมิด 3 แห่งอันลือชื่ออยู่รวมกันประกอบด้วย คือ


1.พีระมิดคูฟู  (Khufu)  หรือ พีระมิดคีออปส์หลุมฝังศพของฟาโรห์คีออพส์ (หรือพระเจ้าคูฟู) เป็นพีระมิดในประเทศอียิปต์ที่มีความใหญ่โตและเก่าแก่ที่สุด ในหมู่พีระมิดทั้งสามแห่งกีซา
2.พีระมิดคาเฟร (Khafre) หรือ คีเฟรน ของฟาโรห์คาเฟร ผู้เป็นราชโอรสของ ฟาโรห์คูฟู ตั้งอยู่เป็นองค์กลางของ พีระมิดทั้ง 3 แห่งกีซา มีลักษณะสำคัญคือ ส่วนยอดของพีระมิดยังคงมีชั้นหินปูนขัดมันให้เห็นอย่างชัดเจนและมีรูปปั้นของ มหาสฟิงซ์ หมอบเฝ้าอยู่ใกล้ๆด้วย
3. พีระมิดเมนคูเร (Menkaure) ฟาโรห์เมนคูเร พระราชโอรสของ ฟาโรห์คาเฟร
เป็นพีระมิดที่มีขนาดเล็กที่สุดและเก่าแก่น้อยที่สุดในหมู่พีระมิดแห่งกิซ่า มีจุดเด่นคือทางทิศใต้ มีการสร้างหมู่พีระมิดที่เก็บพระศพของราชินีทั้ง 3 ในรัชสมัยของพระองค์ด้วย


https://oknation.nationtv.tv/blog/oleang/2012/04/01/entry-2
https://pangpond007.wordpress.com/เมืองกิซา-ประเทศอียิปต์/
https://kooza456.wordpress.com/พีระมิดอียิปต์-หมู่พีร/



     

                           Side Quest ในเขต GIZA



                                       Side Quest: Precious Bonds


ระดับเควส – LV16
รางวัล:  2000 XP 



เข้าไปที่จุดหมายของภารกิจใน Khufu Temple Hideout Bayek ใช้ Senu บินขึ้นไปตรวจสอบพื้นที่หาเป้าหมายจะพบนักโทษคนนึงถูกขังอยู่ เขาพยายามขอร้องให้ช่วยเขาโดยอ้างว่ามีแหวนที่เป็นสมบัติล้ำค่าจะตอบแทน ทันทีที่ Bayek ตัดสินใจปล่อยตัวเขาออกมาแล้วแบกเขาออกมานอกค่ายทหาร Oba บอกว่าที่โดนจับมาเขาไม่ใช่หัวขโมยแต่เป็นผู้ฉวยโอกาส จึงขอโอกาสให้ Bayek ช่วยคุ้มครองไปส่งที่บ้านหน่อยเพราะแหวนอยู่กับน้องเขา


Bayek ตัดสินใจเลยตามเลยโดยไปส่ง Oba ที่บ้านที่ไม่ไกลจากที่ถูกจับมามากนัก ทันทีที่ถึงบ้าน Oba พยายามสอบถามกับ Nebti น้องชายถึงแหวนที่เขาฝากไว้ แต่ Nebti กลับบอกว่าพวกโจรมาขโมยไป และตอนนี้ Rashidi น้องอีกคนตามไปเอาคืนที่แค๊มป์ของพวกโจรที่อยู่ทางใต้ของที่นี่แล้ว ทำให้ Bayek จึงต้องออกเดินทางไปช่วย Rashidi อีกคน


เดินทางไปยังจุดเป้าหมายของแผนที่ทางใต้ของเมืองที่ Khentkawes Hideout ใช้ Senu บินขึ้นไปตรวจสอบพื้นที่หาเป้าหมายจนพบ Rashidi ที่ถูกจับขังอยู่ หลังจากจัดการศัตรูช่วยพาเขาออกมานอกพื้นที่ให้ปลอดภัยแล้ว ก็พบว่าแหวนก็ไม่ได้อยู่กับ Rashidi อีกเพราะ Turo น้องของเขาเอาไปขายที่ Hemon Tomb แล้ว


จากนั้นเดินทางไปยังจุดเป้าหมายของแผนที่ทางตะวันตกของเมืองที่ Hemon Tomb ใช้ Senu บินขึ้นไปตรวจสอบพื้นที่หาเป้าหมายจนพบตัวTuro แต่เขากลับกลายเป็นศพไปซะแล้ว Bayek ตรวจสอบศพดูจึงรู้ว่า Turo โดนไฮยีน่ากัดจนตายทำให้เขาคิดว่าแหวนน่าจะอยู่ในท้องไฮยีน่าแน่นอน


เดินทางต่อไปยังจุดเป้าหมายของแผนที่ทางใต้ใช้ Senu บินขึ้นไปตรวจสอบพื้นที่หาเป้าหมายจนพบจุดที่ฝูงไฮยีน่าอยู่แล้วเข้าไปจัดการกับตัวเป้าหมายซะ เก็บแหวนจากตัวไฮยีน่ามาแล้วเอากลับไปให้ 3 พี่น้องเจ้าปัญหาได้เลย


แต่ถึงแม้จะได้แหวนมาแล้วปัญหาก็ยังไม่จบเพราะทั้ง 3 พี่น้อง Oba ,Nebti และ Rashidi กลับแย่งกันอ้างความเป็นเจ้าของในแหวนจนเริ่มที่จะทะเลาะกันโดยไม่สนว่า Turo พี่น้องของตัวเองที่เพิ่งตายไป Bayek คนที่ถือแหวนอยู่และต้องเลือกให้กับใครคนนึงก็เริ่มอ่อนใจ จนต้องตัดสินใจหันหลังแล้วโยนแหวนให้เพื่อให้เป็นปัญหาของพวกพี่น้องจอมโลภแย่งชิงกันเอง ...



                                  Papyrus Puzzles: Stone Fungus




เมื่อสำรวจเก็บ Papyrus ที่จุดหมายในแผนที่แล้ว เดินทางไปยังทิศตะวันตกของมหาพีระมิดแห่งกีซ่า





                                 (ตามจุดหมายในแผนที่) ได้ไอเทม Serpent Axe



                              Main Quest: The Hyena




เดินทางมายังจุดเป้าหมายของภารกิจที่เมือง Giza เพื่อเข้าไปคุยกับ Mered เกี่ยวกับข้อมูลของเป้าหมายต่อไปคืออีกหนึ่งในกลุ่ม Order of the Ancients ที่ใช้นามว่า The Hyena



Mered – เป็นไง สินค้าของข้า สนใจป่ะ?
Bayek – ขยะ
Mered – งั้นก็ไปไกลๆเลย
Bayek – แต่ข้ายังคุยไม่จบ
Mered – เจ้าตาบอดรึไงข้าไม่มีอะไรจะโชว์แล้วไม่เห็น
 Bayek – แต่เจ้ายังมีเรื่องที่จะบอกข้าอีกเยอะเรื่องของ Hyena 
Mered – อ่ะ ตลก นี่เจ้าคิดว่าจะได้ข้อมูลนี้ไปฟรีๆเลยงั้นหรอ ขอดีไม่มีฟรีหรอก

คุยกับเขาอีกครั้งเพื่อจ่ายเงินไป 100

Bayek – เอาไป ที่นี้บอกมาได้ยัง?
Mered – อืมม .. Hyena ไม่ใช่ชื่อจริงของนางหรอก
Bayek – ห๊ะ กะ แก !
Mered – ฮ่าๆๆๆ ใจเย็นๆ มุขตลกฝืดๆอ่ะ ข้ายอมแล้วๆ นางมีชื่อจริงว่า Khaliset 
Bayek – ข้าจะหานางได้ที่ไหน !
Mered – คืองี้ ขอล่ะ มันมีลูกค้าคนนึงที่มาขโมยม้าข้าไปหลังจากที่เราทะเลาะกันนิดหน่อย แคมป์ของพวกมันอยู่ทางใต้ใกล้ๆนี่เองแหละ ไปจัดการมันแล้วเอาม้าข้ากลับมา แล้วข้าจะยอมบอกเจ้าทุกอย่าง 
Bayek – เฮ้อ นี่แกเข้ามาเป็นพวก Apollodorus ได้ไงเนี้ย 

จากนั้นเดินทางไปยังพื้นที่เป้าหมายของภารกิจที่ Depleted Quarry Hideout แล้วใช้ Senu บินขึ้นไปตรวจสอบพื้นที่ค้นหา ม้า ของ Mered จนเจอ

     

 ที่นี่จะมีพวกของ Mered ซุ่มรออยู่เพื่อช่วยต่อสู้ด้วยลอบเข้าไปจัดการศัตรูที่เฝ้าอยู่แล้วขี่มันกลับไปให้เขาซะ


Mered – เจ้ากลับมาแล้วหรอ? ดูสิเจ้าเอามันกลับมาได้ด้วย
Bayek – แต่เจ้าพลาดตรงที่ไอ้พวกที่ข้าไปชิงมามันพวกโจรไม่ใช่หรอ?
Mered – ข้าลืมไปอ่ะ 555+
Bayek – และข้าจำได้ว่าเจ้าบอกว่านั่นม้าของเจ้านะ
Mered – เออ ของข้าสิ ของข้าจริงๆ เจ้าทำดีมากเพื่อน สุดยอดจริงๆ
Bayek – หวังว่าเจ้าคงรักษาสัญญาที่ให้ไว้นะ
Mered – คำพูดก็ต้องเป็นคำพูดสิ ...แต่ข้าอยากจะถามอะไรเจ้าอย่างนึงก่อนได้ป่ะ?
Bayek – เฮ้ออ ..พอๆๆ ข้าเบื่อที่จะเล่นตามเกมเจ้าแล้ว !!
Mered – เอาล่ะๆๆ โอเคๆ The Hyena ตั้งแค๊มป์อยู่ที่เนินทางเหนือจากที่นี่ 



ทั้งวันทั้งคืนนางก็มัวแต่เดินทางค้นหาและสะสม Silica ผลึกพลังล้ำค่าที่เหมือนหยดน้ำตาของพระเจ้า เกิดอะไรขึ้นกับใครก็ตามที่พยายามจะขัดขวางนาง ก็ไม่มีใครเหลือรอดมาบอกด้วยสิ 

Bayek – จำไว้ว่าถ้าครั้งนี้เจ้าหรอกข้าอีก ข้าจะพูดซ้ำแล้วนะ 
Mered – ให้สาบานเป็นพันครั้งเลยก็ได้ ข้าไม่มีเหตุผลที่จะเป็นศัตรูกับเจ้าหรอกนะ เจ้าอย่าออกไปตายข้างนอกนั่นก็แล้วกัน ฮ่าๆ 

จากนั้นเดินทางต่อไปยังพื้นที่เป้าหมายของภารกิจทางตะวันตกของมหาพีรามิดแห่งกีซ่า เข้าไปสำรวจที่ถ้ำของไฮยีน่า

หลังจากจัดการพวกไฮยีน่าที่อยู่ในพื้นที่จนหมดแล้ว Bayek ได้พบกับชาวบ้านคนนคนนึงที่ถูกจับอยู่ แม้จะช่วยเขาออกมาได้แล้วแต่เขาก็ยังหวาดกลัว The Hyena มากและแทบไม่รู้เรื่องราวของนางเลยนอกจากว่า นางได้เดินทางออกจากถ้ำแห่งนี้ไปซักพักแล้ว


ทำให้ Bayek ต้องพึ่งตัวเองด้วยการสำรวจพื้นที่เพิ่มเติมจนเข้าไปพบหลักฐานคือภาพวาดแผนที่ของพีรามิด Khufu Bayek จึงรีบเดินทางไปที่นั่นทันที



                                             พีระมิดคูฟู  (Khufu)  



หรือ พีระมิดคีออปส์หลุมฝังศพของฟาโรห์คีออพส์ (หรือพระเจ้าคูฟู) เป็นพีระมิดในประเทศอียิปต์ที่มีความใหญ่โตและเก่าแก่ที่สุด ในหมู่พีระมิดทั้งสามแห่งกีซา


เชื่อกันว่าสร้างขึ้นในสมัย ฟาโรห์คูฟูที่ 4 ที่ปกครองอียิปต์โบราณเมื่อประมาณ 2,600 ปีก่อนคริสตกาล มหาพีระมิดนี้ได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งในเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ของโลก และเป็นหนึ่งเดียว ในเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ยุคโบราณ ที่ยังคงอยู่มาจนถึงปัจจุบัน

https://th.wikipedia.org/wiki/พีระมิดคูฟู



The Hyena – แก !! กล้าดียังไงถึงเข้ามาที่แห่งนี้ !! จะเข้ามารับกวนความสงบของนางงั้นหรอ?
Bayek – ข้าคือ Medjay คนที่ตามหาตัวเจ้ามานานแล้ว หลบได้ตามสบายเถอะ เพราะที่ฝังศพนี้คุ้มครองเจ้าไม่ได้หรอก ยังไงข้าก็ตามเจ้าเจออยู่ดี 
The Hyena – ข้าต้องการให้แกหยุดแค่ต้องนี้แล้วหันหลังออกไปจากที่นี่ซะ แล้วข้าจะยกโทษให้ในการที่เจ้ารุกรานครั้งนี้
Bayek – แล้วทีแกรุกราน Siwa ล่ะ !! สุดทางแล้ว หมดทางหนีของเจ้าแล้ว Hyena !!



Bayek – ที่นี่มันที่ไหนกันเนี้ย สุสานที่อยู่ใต้สุสานงั้นหรอ? มันเกิดเรื่องบ้าอะไรกันขึ้นที่นี่เนี่ย มีการทำพิธีด้านมืดนอกรีตภายใต้พื้นทีของพระเจ้าหรอ? นางกำลังแอบทำพิธีอะไรกันแน่ ? ศพนี่ยังอุ่นอยู่เลย ใช้มีดพิธีการหรอ หรือว่านี่เป็นการบูชายันต์ แล้วนี่ Khaliset นางคงกำลังวาดสัญลักษณ์บางอย่างลงบนพื้นเหมือนพยายามจะหาทางแปลความหมายของมันอยู่ บูชาเทพ Osiris ผู้ปกป้องความตาย
โลงศพหินโบราณนี่ ตกแต่งด้วยภาพของเทพเจ้าผู้เป็นมารดาและมีอักขระแปลกๆเขียนอยู่ทั่วไปหมด ข้าว่า ข้ารู้แล้ว Khaliset นางคงกำลังทำพิธีด้านศาสตร์มืดอยู่แน่นอน 



นางใช้มีดพิธีการนี้ทำการบูชายันต์ผู้คนที่เธอจับมาได้ เพื่อใช้เลือดของพวกเขาในการทำพิธีกรรมนอกรีตเพื่อจุดประสงค์บางอย่าง .. 



นางพยายามที่จะเรียนรู้ความหมายของสัญลักษณ์ประหลาดๆที่พบในห้องโถงแห่งนี้จนเข้าใจแตกฉานและเพิ่งทำพิธีบูชายันต์จบลงไปไม่นานนี้ เพื่อศพที่อยู่ในโลงหิน 



Khaliset กำลังพยายามที่จะนำใครคนนึงกลับมาจากความตาย แต่ ใครกันล่ะ? แล้วทำไมต้องแอบทำถึงข้างล่างนี่ด้วย .... นี่มัน ศพเด็กนี่ ..



Khaliset – อย่ายุ่งกับลูกข้า !! 
Bayek – เจ้าเสียลูกไปงั้นหรอ?
Khaliset – แค่ชั่วคราวเท่านั้นแหละ และแกก็กำลังเข้ามาวุ่นวายกับการคืนชีพของนาง 



Bayek – แต่เจ้าก็เป็นพวกเดียวกับ The Order ที่กำลังนำความเสื่อมเสียมาที่สุสานแห่งนี้นะ Khaliset !!
Khaliset – กล้าดียังไงมาเรียกชื่อข้า ชื่อของข้าไม่ควรออกมาจากปากอันต่ำช้าของเจ้า คนที่บังอาจนำความเสื่อมเสียมาสู่พิธีกรรมของลูกของข้า !! ข้าเป็นแม่ที่ดีนะ !! อ๊ากกกก !!


สิ้นเสียงตะโกนพร้อมลูกธนูที่ยิงมากับระเบิดควันอำพรางที่ทำให้ Khaliset ใช้ในการตบตาเพื่อหนีออกจากพีรามิด Bayek จึงรีบตามออกไปในทันที


Khaliset – ที่นี้ข้าจะแสดงให้แกดูว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับใครก็ตามที่บังอาจเข้ามาดูหมิ่นหลุมศพของลูกสาวข้า !! 


ด้านหน้าของพีระมิดคูฟูที่กำลังเผชิญกับพายุทรายที่พัดเข้ามาจนไม่อาจมองเห็นทัศนียภาพใดๆที่ชัดเจนคือ สถานการณ์ในการเผชิญหน้ากับ Khaliset ที่ Bayek ต้องเผชิญ 


การต่อสู้กับ Khaliset นั้นจึงเต็มไปด้วยความยากลำบากเพราะนอกจากการโจมตีระยะไกลจากที่ไหนก็ไม่รู้ของ Khaliset แล้ว ยังต้องเจอฝูงไฮยีน่าลูกน้องของนางที่คอยซุ่มโดดขย่ำให้เสียจังหวะการไล่ล่าแบบไม่ให้ได้ตั้งตัว สิ่งที่ทำได้และต้องทำให้เร็วนั้นก็คือต้องหาตำแหน่งของ Khaliset ให้เจอแล้วเข้าไปโจมตีระยะประชิดให้หวังผลได้ให้ได้เร็วที่สุด


Khaliset – ข้ากำลังอยู่ในโลกแห่งความตายแล้วหรอ?
Bakey – มันจบแล้ว เจ้าต้องตายเพราะทำให้คนอื่นตายมากมายรวมถึงลูกชายข้า ทั้งหมดเพราะความเห็นแก่ตัวของเจ้าเอง 
Khaliset – ไม่ใช่ !! ข้าเก็บรวบรวม Silica เพื่อพวกเขา ก้อนหินที่เปี่ยมไปด้วยพลังแห่งเวทย์มนต์นั่นเป็นคนของเหล่าผู้มาก่อนกาล เจ้าก็เห็นมัน ใช่มั๊ย? สัญลักษณ์พวกนั้นนั่นแหละที่เราต้องศึกษามัน
Bakey – มันไม่มีความหมายสำหรับเราหรอก !!
Khaliset – ตอนนี้มันก็ไม่ต่างกันแล้วล่ะ เพราะข้าต้องการแค่อยากปกป้องลูกสาวข้าในเส้นทางระหว่างความเป็นความตายก็เท่านั้น Osiris !! ได้โปรดรับข้าเข้าสู่ดินแดนของท่านด้วยเถิด !!! นางกำลังเดินอยู่ในเส้นทางนั้นอย่างเดียวดาย รับข้าไปด้วยเถิด ...รับข้าจะได้อยู่ในดินแดน duat ตลอดไปใช่มั๊ย !!? ข้า ก็แค่อยากได้ลูกข้ากลับคืนมาแค่นั้นเอง .... ได้โปรดดด .... อ๊ากกกกกก !!!! 



Bakey – หวังว่าเจ้าคงจะเจอลูกสาวเจ้าในดินแดนหลังความตายนะ Khaliset ขอให้เจ้าแห่งดินแดน Duat นำทางเจ้าด้วยเถิด 


จากนั้นกำหนดภารกิจที่ Main Quest: The Lizard’s Mask แล้วเดินทางต่อไปยังเมือง Memphis



                                     เมือง Memphis




จากบันทึกในเรื่องอารยธรรมอียิปต์โบราณ ประมาณ 3,150 ปีก่อนคริสตกาล พระเจ้าเมเนส (Menes) สามารถรวบรวมเมืองต่างๆ ทั้งในอียิปต์บนและอียิปต์ล่างเข้าเป็นอาณาจักรเดียวกัน และตั้งเมืองเมมฟิส (Memphis) เป็นเมืองหลวง ประวัติศาสตร์ของอียิปต์ยุคราชวงศ์จึงเริ่มต้นขึ้น


เมมฟิสมีฟาโรห์ที่ผ่านมาหลายพระองค์แต่ที่เป็นที่จดจำคือฟาโรห์ Rameses II ที่ครองราชย์ยาวนานที่สุดถึง 69 ปีจนสามารถแผ่พระราชอำนาจ ครอบคลุมทั่วถึงในอาณาจักรที่สามารถเห็นได้จากรูปแกะสลักขนาดใหญ่ของพระองค์มากมายที่หลงเหลือมาจนถึงยุคปัจจุบัน


แต่แมมฟิสก็ได้เป็นเมืองหลวงของอาณาจักรเก่าจวบจนถึงยุคฟาโรห์อาห์โมส [Ahmose I] เพราะเมื่อเริ่มเข้าสู่ยุคเริ่มต้นอาณาจักรใหม่ ได้มีการย้ายเมืองหลวงไปอยู่ที่เมืองธีปส์ [Thebes] หรือเมืองลักซอร์ [Luxor]ในปัจจุบัน แต่เมมฟิสก็ยังเป็นเมืองหลักสำคัญในหลายยุคหลายสมัยเรื่อยมา


http://www.seasuntour.com/ทัวร์อียิปต์/Memphis-แมมฟิส.html
http://www.oceansmile.com/Egypt/Sakkara.htm
https://en.wikipedia.org/wiki/Memphis,_Egypt



                              Side Quest ใน Memphis



                                      Side Quest: Odor Most Foul


ระดับเควส – LV20
รางวัล:  1500 XP 



Bayek เข้ามาพบนักบวชคนนึงที่กำลังมีปัญหาที่ได้รับการร้องเรียนจากพวกนักบวชที่เดินทางไปแสวงบุญตามสุสานโบราณต่างๆและพบกลิ่นเหม็นประหลาดๆที่โชยออกมาราวกับเป็นกลิ่นของปีศาจ

เดินทางเข้าไปยังพื้นที่เป้าหมายในเมืองแล้วใช้ Senu บินขึ้นตวรจสอบพื้นที่จนพบทางเข้าของสุสานโบราณ เมื่อสำรวจเข้ามาจนถึงห้องด้านในที่เต็มไปด้วยกลิ่นเหม็นของพิษเต็มไปหมด Bayek ต้องสำรวจพื้นที่ตามจุดเบาะแสต่างๆจนพบว่า


ด้านในมีมัมมีที่มีสภาพผ้าห่อฉีกขาดจนกลิ่นที่เกิดจากการเน่ากลายสภาพเป็นแก็สไข่เน่าเหม็นคลุ้งไปด้วย อาจมีใครบางคนมาทำบางอย่างกับมัมมี่จนเศษของซากศพกระจุยกระจายไปหมด หรือถ้าการห่อศพทำมาอย่างดีแล้วก็อาจเกิดความผิดพลาดจากขั้นตอนการดองศพ 

Bayek จึงรีบเดินทางไปยังเป้าหมายต่อไปของภารกิจที่วิหาร Wabet เพื่อหาข้อมูลกับพวกเจ้าหน้าที่ที่ทำมัมมี่ในทันที


จากการที่ Bayek เข้าไปหาข้อมูลกับคนทำมัมมี่หลายๆคนที่กำลังทำงานอยู่พบว่า สารประกอบนึงที่คนทำมัมมี่ใส่ไปในศพเพื่อช่วยทำให้ศพแห้งกันการเน่าเหม็นนั้นไม่ใช่มีแต่เกลือเพียงอย่างเดียวแต่จะมี Natron ที่ขุดได้จากก้นทะเลสาบแห่งนึงใกล้แม่น้ำไนล์เป็นหนึ่งในส่วนประกอบด้วย


เนทรอน (natron) เป็นเกลือที่ประกอบด้วยโซเดียมคาร์บอเนต โซเดียมไบคาร์บอเนต โซเดียมคลอไรด์ (เกลือแกง) และโซเดียมซัลเฟต ปนอยู่เล็กน้อย ซึ่งโซเดียมคาร์บอเนต หรือ โซดา แอช ที่เป็นสารประกอบหลัก มีลักษณะเป็นผงสีขาว ไม่มีกลิ่น สามารถดูดความชื้นจากอากาศได้ดีเป็นตัวช่วยทำให้ศพแห้งและคงสภาพไม่เน่าเปื่อย



แต่ด้วยการที่โซเดียมไบคาร์บอเนตนั้นมีส่วนประกอบของเกลือที่มีกรดคาร์บอนิกหากสูดดมเข้าไปจะทำให้เกิดอันตรายต่อระบบการหายใจทำให้วิงเวียนศีรษะหรือหากสูดดมเข้าไปในปริมาณที่มากอาจตายได้รวมถึงหากมีการสัมผัสทางผิวหนังก็จะทำเกิดความระคายเคือง จนเกิดอาการแสบไหม้ได้ด้วย
https://th.wikipedia.org/wiki/โซเดียมคาร์บอเนต



เมื่อ Bayek รู้แล้วว่า เนทรอน คือส่วนนึงของปัญหาเขาจึงเดินทางต่อไปหาข้อมูลในเรื่องแหล่งที่มาของ เนทรอน ต่อกับคนงานด้านนอกวิหาร จนทำให้รู้คำตอบว่า มี เนทรอน ส่วนนึงที่ถูกผสมอย่างผิดๆโดยการนำทรายเข้ามาผสมเพื่อเพิ่มจำนวนให้มากขึ้น ทำให้มัมมี่ที่ทำขึ้นมาเกิดการเน่าเปื่อยจนส่งกลิ่นเหม็นไปทั่วเมืองเนื่องจากการใช้ เนทรอน ที่ผสมอย่างไม่ถูกต้องนั่นเอง

Bayek เดินทางต่อไปยังโกดังที่อยู่ทางเหนือของ Great Temple ซึ่งเป็นสถานที่เก็บ เนทรอนผสมทรายที่ว่าทันทีหลังจากคนงานยอมคายความจริงถึงความผิดพลาดนี้ออกมา

ทันทีที่เข้าไปเจอตัวพ่อค้าตัวดีที่นำเอาเนทรอนที่ผสมทรายออกมาขาย Bayek ก็ได้รู้ความจริงว่าเขาทำไปเพราะนักบวชผ้าคลุมน้ำเงินจับลูกเขาเป็นตัวประกันแถมยังทรมานด้วยการตัดจมูกเพื่อบังคับให้เขาทำตามคำสั่ง


 สุดท้ายพ่อค้ายอมบอกที่มาของ เนทรอนผสมทรายที่ได้มาจากถ้ำแห่งนึงที่มีพวกโจรควบคุมอยู่ bayek จึงไม่รอช้าที่จะเดินทางไปที่นั่นแล้วจัดกี่พวกโจรจนหมดเพื่อตัดตอนการค้า เนทรอนผิดประเภทเพื่อลดปัญหากลิ่นเหม็นในเมืองที่เกิดจากการเน่าเหม็นของมัมมี่ลงได้ในที่สุด .... จบภารกิจ

แผนการวางยาพิษในเมือง แมมฟิส ของ The Lizard นั้น สุดแยบยลมาก เพราะมันใช้การปล่อยพิษจากแก๊สที่เกิดจากการเน่าเหม็นของศพที่ถูกนำไปทำมัมมี่ที่มีมากมายเกลื่อนเมืองจากสุสานใต้ดินจนทำให้ผู้คนคิดว่าเป็นฝีมือของปีศาจที่ชั่วร้าย



The Lizard เริ่มต้นด้วยการทำกระบวนการทำมัมมี่ให้ผิดพลาดในขั้นตอนการทำให้ศพแห้งเพื่อกันการเน่าเหม็น โดยการทำให้ขั้นตอนการทำศพให้แห้งกันการเน่าเหม็นก่อนพันผ้าจนเป็นมัมมี่ผิดพลาดด้วยการนำทรายมาผสมกับเนทรอนทำให้สูตรการทำให้ศพแห้งเจือจางไป จึงทำให้ศพที่ทำมัมมี่ไปเกิดการเน่าเหม็นในเวลาต่อมา และด้วยการที่โซเดียมไบคาร์บอเนตนั้นมีส่วนประกอบของเกลือที่มีกรดคาร์บอนิกผสมอยู่เมื่อสูดดมเข้าไปจะทำให้เกิดอันตรายต่อระบบการหายใจทำให้วิงเวียนศีรษะหรือหากสูดดมเข้าไปในปริมาณที่มากอาจตายได้ ทำให้มันเป็น แก็สพิษจากปีศาจร้ายในมุมมองของชาวเมืองเมมฟิสได้ไม่ยากเลย 
     


                                Side Quest: Blood in the Water


ระดับเควส – LV20
รางวัล:  1500 XP 




Bayek เข้าไปพบกับ Thutmose พรานนักล่าจรเข้คนนึงในขณะล่องเรืออยู่เพื่อรับทราบปัญหาเกี่ยวการตายของพวกจรเข้ที่เกิดขึ้นมากจนผิดสังเกตุ ซึ่งถึงแม้ว่าเขาจะเป็นพรานล่าจรเข้มานานแต่ก็ล่าด้วยความด้วยความเคารพไม่ใช่การฆ่ามั่วแม้แต่ลูกจรเข้จนทำให้แม่น้ำนองไปด้วยเลือดแบบนี้

เมื่อ Bayek ตกลงที่จะช่วยเหลือ จึงเดินทางไปยังพื้นที่ของภารกิจที่ปากถ้ำแห่งนึงตามที่ Thutmose นัดเอาไว้ ด้านหน้าจะเต็มไปด้วยฝูงจระเข้จำนวนมากที่กำลังเข้ามากินซากศพของมนุษย์ที่มีใครไม่รู้มาถึงไว้จนดูวุ่นวายไปหมด จัดการฝูงจรเข้ให้หมดแล้วเข้าไปยังถ้ำเป้าหมาย


รอหรือปรับเวลาให้เป็นตอนกลางคืนแล้วเข้าไปคุยกับ Thutmose ในถ้ำ ซึ่งก็พบว่า Thutmose เองที่เป็นพรานก็ยังสยองกับการที่ใครไม่รู้เอาชิ้นส่วนมนุษย์มาล่อจรเข้จนทำให้พวกมันบ้าคลั่ง โดย Thutmose บอกว่าก่อนหน้านี้เขาเห็นชายสองคนเอาศพมาทิ้งก่อนที่จะนั่งเรือหนีไป เขาจึงอยากจะให้ bayek หยุดเรื่องเลวร้ายนี้ ซึ่ง Thutmose ก็แนะนำสถานที่ที่เขาเห็นคนพวกที่เอาศพมาทิ้งนั้นล่องเรืออยู่ 2 จุด


จากนั้นเดินทางไปยังจุดพื้นที่ของเป้าหมายทั้ง 2 จุดในแผนที่แล้วจัดการศัตรูบนเรือเป้าหมายให้หมดก็จะจบภารกิจ



                                Side Quest: Children of the Streets


ระดับเควส – LV20
รางวัล:  1500 XP 




เมื่อ Bakey เดินทางไปยังจุดหมายของภารกิจจะพบกับเด็กที่กำลังขโมยของต่อหน้าทันที ทำให้ Bayek ต้องวิ่งตามเพื่อตามจับเด็กหัวขโมยทันที แต่ยังไม่ทันได้จับตัวได้ ระหว่างทางจะพบกับกลุ่มพวกโจรพอดีจึงทำให้เกิดการต่อสู้ขึ้น แต่ทันทีที่ bayek จัดการพวกโจรจนหมดจะพบว่า เด็กน้อยที่เป็นหัวขโมยนั้นวางแผนขโมยของเพื่อให้ bayek วิ่งตามมาโดยหวังจะให้มาจัดการพวกโจรให้นั่นเอง


เด็กน้อยแนะนำตัวเองว่าชื่อ Iphri ก่อนจะพยายามขอโทษไปพร้อมๆกับอธิบายว่าเขาเป็นเด็กที่ผู้หญิงแก่คนนึงเก็บมาเลี้ยงและบังคับให้เป็นขโมยแต่พี่สาวของเขาได้ช่วยให้หนีออกมาได้แต่สุดท้ายพี่สาวก็ถูกจับตัวเอาไว้ ทันทีที่เล่าจบเด็กน้อยได้ขอร้องให้ Bayek ช่วยตามหาพี่สาวให้โดยที่เขาจะขโมยแอปเปิ้ลให้เป็นการตอบแทน ทำเอา bayek หัวเราะขึ้นทันที ก่อนจะบอกว่า เด็กน้อยไม่จำเป็นต้องขโมยอะไรให้เพราะเขาเต็มใจที่จะช่วยตามหาพี่สาวให้ฟรีๆ

เดินทางไปยังจุดหมายของภารกิจที่อู่ต่อเรือในเมืองเมมฟิสแล้วเข้าไปสำรวจตามจุดเบาแสที่ซากเรือที่ถูกไฟไหม้ให้ทั่วๆจะพบเสื้อผ้าและตุ๊กตาของเด็กในซากของกรงไม้และร่องรอยของน้ำมันที่เป็นต้นเพลิง ทำให้ Bayek ต้องไปสอบถามกับเจ้าของอู่ต่อเรือ

แต่ทันทีที่ Bayek เข้าไปพูดคุยสอบถามรายละเอียดของเด็กที่หายไปกับเจ้าของอู่ต่อเรือก็จะพบกับอุปสรรคเพราะเจ้าของอู่ต่อเรือไม่ได้ให้ความร่วมมือเพราะกำลังอารมณ์เสียสุดๆ


ทำให้ Bayek ต้องหาทางข่มขู่ให้เขาพูดออกมาด้วยการทำลายถังน้ำมันที่วางอยู่บนชั้นทางซ้ายใกล้ๆให้หมดเจ้าของอู่ก็จะยอมบอกความจริงออกมาว่า เขาเคยเจอเด็กหญิงคนที่บอก 2 ครั้งตอนที่แอบเข้ามาขโมยถังน้ำมัน


จากข้อมูลที่เจ้าของเรือเล่าออกมาทำให้ Bayek เข้าใจเรื่องราวทั้งหมดได้ทันทีว่า Kawit พี่สาวของ Iphri เป็นคนขโมยถังน้ำมันมาเพื่อสร้างสถานกาณ์ให้เกิดไฟไหม้ก่อนจะหาโอกาสที่จะเปิดกรงขังช่วยเด็กๆทั้งหมดที่ถูกขังให้หนีออกมาได้แต่สุดท้ายตัวเธอจะถูกพวกโจรจับตัวไปแทน


เดินทางไปยังเป้าหมายของภารกิจแล้วใช้ Senu บินขึ้นไปตรวสอบพื้นที่จนพบตำแหน่งของ Kawit ที่ท่าเรือแห่งนึง แล้วเข้าไปช่วยเธอออกมาซะ แต่ปรากฏว่ากลายเป็นแค่เด็กสาวอีกคนที่ถูกจับมา หลังจากการพูดคุยกับเด็กสาวคนนี้เพิ่มเติมพบว่า Kawit ถูกจับตัวอยู่ที่บ้านของผู้หญิงคนรวยคนนึงที่ชื่อ Gaia แถวๆวิหารแห่ง Hathor

จากนั้นเดินทางไปยังเป้าหมายของภารกิจแล้วใช้ Senu บินขึ้นไปตรวสอบพื้นที่จนพบตำแหน่งของ Kawit พี่สาวของ Iphri ที่ถูกจับอยู่ที่บ้านของ Gaia แถวๆวิหารแห่ง Hathor แต่เมื่อลอบเข้าไปถึงกรงขับก็ยังไม่สามารถเปิดประตูได้เพราะกุญแจอยู่กับทหารยาม ทำให้ต้องใช้ Senu บินขึ้นไปตรวสอบพื้นที่อีกครั้งจนพบตำแหน่งของทหารที่ถือกุญแจแล้วเข้าไปจัดการมันเพื่อเอากุญแจมาเปิดกรงขังของ Kawit ออกมาได้สำเร็จ


ทันทีที่ช่วย Kawit และ Matia ออกมาได้ Iphri ก็แสดงตัวออกมาว่าเขาแอบตาม Bayek มาตลอดทาง แม้จะสามารถช่วย Kawit เอาไว้ได้อย่างปลอดภัยตามที่ Bayek ได้สัญญากับ Iphri ไว้แต่ Kawit ก็ยังไม่จบเพราะ Kawit ต้องการจะออกตามหาทหารโรมันเพื่อแก้แค้นในฐานะที่เป็นตัวการในการจัดการครอบครัวของเธอก่อน



                                  Side Quest: Mortem Romanum


ระดับเควส – LV30
รางวัล:  1500 XP 


ทันทีที่ bayek เดินทางมายังจุดเป้าหมายของภารกิจที่บ้านของ Nef เพื่อนของ Kawit ตามที่นัดเอาไว้จะพบว่า Nef ที่เป็นเสมือนพ่อของพวกเด็กกำพร้าถูกทหารโรมันฆ่าตายแล้ว และ Gaia ที่เป็นคนที่จับตัวเด็กๆไปก็กำลังจะนั่งเรือเดินทางไปที่เมืองอเล็กซานเดียวันนี้แล้ว ทำให้ Kawit ที่เต็มไปด้วยความแค้นต้องการจะออกตามล่ามันทันที แต่ Bayek ห้ามเอาไว้เพราะอยากให้ Kawit คอยดูแลเด็กๆ ส่วนเรื่องล้างแค้น Bayek จะเป็นคนจัดการเอง


จากนั้นเดินทางไปยังพื้นที่เป้าหมายของภารกิจในเขต Ineb – Hedjet Nome แล้วใช้ Senu บินขึ้นสำรวจพื้นทีจนพบเรือของพวกทหารโรมันที่ Gaia กำลังเดินทางอยู่ จัดการลอบขึ้นเรือแล้วจัดการ Gaia เพื่อแก้แค้นให้ Kawit ซะก็จะจบภารกิจนี้



                                Side Quest: The Baker's Dilemma


ระดับเควส – LV23
รางวัล:  1500 XP 





Bayek เข้าไปรับทราบปัญหาของ Teta สาวน้อยคนขายขนมปังที่กำลังมีปัญหากับยอดขายของเธอเพราะ คนควบคุมรสชาติประจำร้านถูกจับตัวไปเพราะไม่มีเงินจ่ายภาษี ทำให้ bayek ต้องออกไปตามหาแล้วช่วยกลับมาทันที


เข้าไปในพื้นที่เป้าหมายใช้ Senu บินขึ้นไปตรวจสอบพื้นที่จนพบตำแหน่งของนักชิมอาหารที่กำลังโดนจับอยู่ในขบวนของรถนักโทษ เข้าไปจัดการทหารช่วยเขาออกมาแล้วพาเดินทางมาส่งที่ร้าน


ทันทีที่นักชิมอาหารกลับมาถึงร้านเขาก็บอกรักกับ Teta สาวขายขนมปังทันที ก่อนจะบอกถึงข้อมูลของโถเก็บยาพิษที่สำหรับใช้วางยา Taimhoteb เมียของสังฆราช นักชิมอาหารบอกต่อว่า Taimhoteb นางชอบกินเค้กกับขนมปังร้านของเขามา 5 ปีแล้ว แล้วเขาก็เป็นคนเอาของไปส่งให้ที่วิหารมาตลอด จนเมื่ออาทิตย์ที่แล้วขณะที่กำลังเอาเค้กไปส่งเหมือนเคยก็ดันไปพบพวกทหารกำลังใส่ยาพิษในเค้กเพื่อให้ Taimhoteb กิน Bayek จึงต้องรีบไปทำลายโถใส่เค้กทั้งหมดก่อนที่จะถูกส่งออกไป


จากนั้นเดินทางไปที่พื้นที่เป้าหมายที่ Memphites Barrack ใช้ Senu บินขึ้นไปตรวจสอบพื้นที่จนพบตำแหน่งของโถใส่เค้กยาพิษทั้งหมดแล้วเข้าไปทำลายมันซะก็จะจบภารกิจ


                                      Papyrus Puzzle ใน Memphis



                                                 1. Burning Bush

เก็บ Papyrus Puzzle ที่ Wabet ทางทิศเหนือของเมมฟิส แล้วเดินทางไปยังชายหาดทางตะวันตกของเมืองเมมฟิสติดขอบแผนที่ตามตำแหน่งในแผนที่



                                                 สำรวจตรงต้นปาล์มก็จะเจอสมบัติ




                                                          2. In Plain Sight

เก็บ Papyrus Puzzle ที่  Palace of Apries ทางตะวันตกเฉียงเหนือของเมมฟิส แล้วเดินทางไปยังเมือง Krokodilopolis city ในเขต Fayum Oasis



เข้าไปสำรวจในพื้นที่ย้อมผ้าทางตะวันออกเฉียงใต้ของเมืองตามตำแหน่งของแผนที่ก็จะพบสมบัติ




                                                     3. Fallen Friend 

เก็บ Papyrus Puzzle ที่ Temple of Path ทางตะวันตกเฉียงใต้ของเมมฟิส แล้วเดินทางไปที่ทะเลทางตะวันตกเฉียงใต้ของเมมฟิสตามตำแหน่งในแผนที่



                                        ดำลงสำรวจใต้น้ำตรงซากเทวรูปก็จะพบสมบัติ
         
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------



                       Main Quest: The Lizard’s Mask 



Bayek เดินทางมายังเมืองเมมฟีสเพื่อเข้ามาหาสังฆราช Pasherenptah ที่ Temple of Ptah เพื่อขอข้อมูลเกี่ยวกับเป้าหมายคนต่อไปที่ใช้นามว่า The Lizard



เนื่องจากเมมฟิสเป็นเมืองที่บูชาเทพเจ้าพทาร์ (Ptah) จึงสร้างวิหารขนาดใหญ่ที่ชื่อ วิหารแห่งพทาร์ (Temple of Ptah) ขึ้นเพื่อสถานที่ในการสัการะบูชาเทพ Ptah จะเรียกตามภาษาอียิปต์โบราณว่าวิหาร Hout-ka-Ptah ซึ่งสามารถเขียนและออกเสียงในภาษากรีกเป็น Ai-gy-ptos หรือ ไอยคุปย์ และได้กลายมาเป็น อียิปต์ ในปัจจุบัน จนเมื่อได้มีการย้ายเมืองหลวงจากเมมฟิสไปอยู่ที่เมืองธีปส์[Thebes] ภายหลัง Temple of Ptah ได้ถูกย้ายมายังตั้งอยู่ในหมู่บ้าน คาร์นัค (Karnak) และถูกแต่งเติมให้กว้างขึ้นตามแต่ละยุคสมัยจนกลายเป็น มหาวิหารคาร์นัค (Great Temple of Karnak) ซึ่งปัจจุบันคือเมือง เมืองลักซอร์ [Luxor] เมืองท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมอีกแห่งนึงในอียิปต์

http://oknation.nationtv.tv/blog/iyakoop/2013/10/06/entry-1



Pasherenptah – บางทีเราอาจจะลืมบางขั้นตอนบางขั้นตอนในการทำพิธีก็ได้นะ เจ้าอย่าเพิ่งคิดมากเลย 
Taimhotep -ถ้าข้าได้ข้อมูลอะไรเพิ่มเติมจะรีบบอกทันทีเลยก็แล้วกันนะ แต่ไม่ต้องบอกเลยว่า ถ้าลูกเราต้องตายจริงๆชั้นก็คงต้องตายตามนั่นแหละ 
Pasherenptah – ไม่หรอกนะที่รักของข้า อย่าพูดแบบนั้นสิ
Taimhotep -ข้าต้องไปที่สำนักของผู้พยากรณ์ก่อนนะ ..ปล่อยข้าไปเถอะ !



The Apis bull คือวัวศักดิ์สิทธิ์ที่เสมือนเป็นตัวแทนของเทพ Ptah เทพเจ้าผู้สรรสร้างทุกสรรพสิ่งที่ชาวเมมฟิสเคารพนับถือจึงเป็นเสมือนตัวเชื่อมระหว่างเทพเจ้ากับผู้คนที่เลื่อมใสผ่านพิธีการต่างๆที่ว่าด้วยการบูชาเทพ Ptah ซึ่งจะนำมาซึ่งคำพยากรณ์และคำทำนายต่างๆหรือสำหรับไว้เคียงคู่องค์ฟาโรห์ในพิธีการสำคัญเพื่อเป็นการพิสูจน์ว่าฟาโรห์สามารถปกครองได้ทั้ง 2 โลก


วัวที่จะได้รับการคัดเลือกให้ดำรงตำแหน่ง  Apis bull นั้นต้องผ่านการเลือกสรรจากพื้นฐานตามความเชื่อโบราณและจะถูกเลี้ยงดูอย่างดีในราชวังเพราะการคงอยู่หรือการตายของ Apis bull นั้นจะสื่อไปถึงเรื่องอำนาจของฟารโรห์รวมถึงเรื่องความเจริญของบ้านเมืองด้วย

https://ancientegyptianhistory.wordpress.com/2015/11/29/the-apis-bull/



Bayek – ท่านสังฆราช  
Pasherenptah – อ่า Bayek … โทษนะ ตอนนี้ข้ากำลัง ..
Bayek – ข้ามาถามข้อมูลเกี่ยวกับ The Lizard 
Pasherenptah – The Lizard งั้นหรอ



The Lizard หนึ่งในสิ่งที่ทำให้ผู้คนในเมมฟิสเข้าสู่ความทุกทรมาน สัตว์เลี้ยงต่างๆในเมืองต่างก็ล้มตายเพราะถูกคำสาปของศาสตร์มืดของมัน โรคภัยไข้เจ็บ โรคติดต่อร้ายแรง เป็นเสมือนยาพิษที่ฟุ้งกระจายในอากาศ แม้แต่ The Apis bull ก็ยั้งป่วยและกำลังจะตาย พระเจ้ากำลังทอดทิ้งพวกเราแล้ว ผู้คนในเมืองต้องให้ข้าชี้นำพวกเขา แต่ข้ากลับหลงทางไม่ต่างจากพวกเขา 



Pasherenptah – Apis โธ่ เจ้าเป็นอะไรไป ?? คำสาปนั่นมาถึงในบ้านข้าแล้ว The Apis bull กำลังจะตาย เมียข้า Taimhotepd ปีนี้ก็แท้งลูกไป 3 ครั้งแล้ว ตอนนี้นางก็กำลังตั้งท้องอยู่ แต่ถ้าเกิดว่า ..นางต้องเสียลูกไปอีกก็คงเป็นครั้งที่ 4 แน่นอน ข้าคงรับไม่ได้หรอก !!
Bayek – Pash ข้าจะไปจัดการกับไอ้คำสาปบ้านี่เอง
Pasherenptah – ตอนนี้เมียข้าอยู่ที่สำนักของผู้พยากรณ์นะ บ้านเขาอยู่ทางใต้จากที่นี่ ฝากเจ้าด้วย Bayek 
Bayek – งานนี้ถ้าเป็นประสงค์ของพระเจ้า ข้าจะคุกเข่าข้างๆเจ้าแล้วยอมให้พระเจ้าลงโทษไปพร้อมๆกันเลย !!

              จากนั้นเดินทางไปยังจุดหมายของภารกิจที่บ้านของหมอผีแห่งเมือง เมมฟิส



หมอผี – ในที่สุดเจ้าก็มาซะที
ผู้หญิง – ชายคนนี้คือใครหรอ?
หมอผี – เขาเป็นนักเดินทางที่เดินทางร่อนเร่มาหลายปี ข้ากำลังรอคอยเขาอยู่
Bayek – ห๊ะ !!
Taimhotep – เร็ว !! ได้โปรด ช่วยขาด้วย ข้าเห็นนิมิตว่าลูกข้ากำลังเดินทางไปสู่ความตาย 
หมอผี – ให้พวกเราทำพิธีกรรมนี้ต่อให้เสร็จเถอะ เอาละ ไปหยิบหม้อมาวางที่เตาไฟให้หน่อย 

เดินเข้าไปด้านในหยิบหม้อที่วางอยู่มาวางที่เตา 



หมอผี – ดื่มซะ ให้นางได้เบิกเนตรเปิดการมองเห็น ... เอาล่ะ ที่นี้ก็เจ้า เบิกเนตร ซะ
Taimhotep – เบิกเนตรของเจ้าซะ !!!




                       Bayek – ที่นี่มันที่ไหนกันเนี้ย ดินแดนที่พระเจ้าทอดทิ้งงั้นหรอ ?




Bayek – แล้วนั่นมันโบราณสถานอะไรกันแน่ !! แต่ยังไงข้าก็ต้องเข้าไปไม่งั้นคงถูกพายุทรายนี่กลบหน้าแน่นอน 




Bayek – เงาดำนั่น ตัวกินวิญญาณงั้นหรอ? ใครล่ะที่เป็นผู้พิทักษ์ประตูทางเข้าสู่แดนแห่งคนตาย ใครล่ะที่จัดการกับพวกศพที่ตะกละตะกราม ..นี่ข้ากำลังเดินทางไปที่ไหนกันแน่ แต่สถานที่นี้ ข้าเคยเห็นมาก่อน แต่ข้าไม่ใช่คนของพวกท่านนะ


ตามความเชื่อของชาวอียิปต์โบราณคนที่ถึงแก่ความตาย วิญญาณจะถูก Anubis พามาสู่ยมโลกเพื่อทำการตัดสินผลกรรมที่ได้ทำมาก่อนตายต่อหน้าองค์เทพโอซิริส (Osiris) โดยเทพ Anubis จะนำหัวใจของผู้ตายไป วางไว้บนตาชั่งข้างหนึ่ง ส่วนอีกข้างหนึ่งของตาชั่งจะเป็นขนนกที่ได้รับมาจากเทพ Muat
หากหัวใจของผู้ตายเบากว่าขนนกแสดงว่าในขณะที่คนผู้นั้นมีชีวิตอยู่ได้กระทำการอันเป็นกุศลจึงสมควรได้รับพรจากเทพโอชิริสให้มีชีวิตอันเป็นนิรันดร์แล้วจะได้อยู่ในดินแดนที่เรียกว่า
“Fields of the Reed” หรือสวรรค์ของชาวอียิปต์ ส่วนคนที่ไม่ผ่านการทดสอบนั่นก็คือหัวใจมีน้ำหนักมากกว่าขนนก สัตว์อสูรที่ชื่อ Ammut (อัมมุท)ที่นอนรออยู่ใต้ตาชั่งก็จะกินหัวใจของดวงวิญญาณดวงนั้นทันที แล้วดวงวิญญาณนั้นก็จะสูญสลายไม่สามารถกลับมาเกิดอีกครั้งได้ตลอดไป 
http://www.tumnandd.com/เทพอานูบิส-anubis/



ไม่นะ !! Bakey ตะโกนลั่นเมื่อเห็นร่างของตัวเองกำลังเดินเข้าไปที่ตาช่างที่จะตัดสินความดีเลวของคนตาย ก่อนที่ร่างของงูขนาดใหญ่จะปรากฎตัวขึ้นมาเพื่อหมายจะเข้าโจมตี


 Senu ที่เปล่งประกายจนร่างเรืองแสงเปลี่ยนเป็นคันและลูกธนูครบครัน หมายให้ Bayek ได้เข้าโรมรันจัดการมันให้สิ้นซากไป


Bayek – Anubis จ้าวแห่งความตายหรอ !! เจ้าหมอผีแก่นั่นกล้าวางยาข้าหรอเนี่ย !! ...... ไม่ใช่ นี่มัน Apep !!!


Apep หรือ Apophis คือเทพแห่งความชั่วร้ายผู้กลืนกินวิญญาณ เป็นศูยน์รวมแห่งความชั่วร้าย บ่อเกิดของเหตุการอัปมงคลมากมายตามแต่ผู้คนจะเลือกจำทั้งพายุฝนฟ้าคะนอง แผนดินไหว และทุกๆความวุ่นวายโกลาหล Apep คือตัวแทนของความมืดมิดที่เป็นศัตรูกับเทพที่เป็นตัวแทนแห่งแสงสว่างอย่าง Ra เทพแห่งดวงอาทิตย์ ทั้งคู่ทำสงครามการต่อสู้กันมาอย่างยาวนาน โดยจะเกิดขึ้นทุกเช้าเวลารุ่งอรุณและสิ้นสุดในตอนค่ำ และยามใดที่มันมีชัยจนเขมือบพาหนะแห่งดวงอาทิตย์ได้สำเร็จจะทำให้เกิดเป็นสุริยุปราคา


 แต่แม้ว่า Apep จะเป็นเทพที่ถือว่ามีพลังสูงสุด เพราะไม่มีใครสามารถทำลายเขาได้และไม่เคยถูกทำลายโดยถาวร (ดูจากลักษณะในการเลื้อยของก็ทำให้คิดถึงสัญลักษณ์อินฟินิตี้ได้เหมือนกัน) แต่เขาก็ไม่เคยได้รับการบูชาใดๆดังเทพองค์อื่นๆ เพราะเขาคือตัวแทนของความหวาดกลัวที่ไม่จำเป็นต้องได้รับการบูชาใดๆหรือจากผู้ใด  จะมีก็แต่พิธีกรรมหรือคาถาที่ถูกคิดขึ้นเพื่อเอาชนะและทำลายงู Apep เป็นพิธีกรรมสำหรับประนามและสาปแช่งบุคคลหรือนิติบุคคลต่างๆที่ให้ร้ายกับเราที่ยังคงใช้อยู่ตลอดประวัติศาสตร์อียิปต์โบราณ และเป็นพิธีกกรมที่ Bayek กำลังเผชิญอยู่โดยไม่ได้ทันได้ตั้งตัว
https://www.bloggang.com/m/viewdiary.php?id=itsmp&month=12-2016&date=11&group=6&gblog=6
https://aminoapps.com/c/thewitchescircle/page/item/apep/qm7N_rbH3Id40L13weQ7en400Jg8gxLB2k



การต่อสู้กับ Apep นั้นต้องใช้ธนูแสงยิงไปตามลำตัวมัน ท่ามกลางการเลื้อยหลบไปตามที่ต่างๆสลับกับการพ่นพิษและการพุ่งชน


หลังจากจัดการ Apep ที่เป็นตัวแทนของความมืดที่ชั่วร้ายได้แล้ว Bayek จะผ่านพ้นมาสู่นาวาแห่งชีวิตและได้รับหัวใจแห่งสัจธรรมจนดำดิ่งไปยังสถานที่แห่งหนึ่งที่ทำให้ได้พบกับวิญญาณของลูกชายอีกครั้ง


Khemu กระซิบเบาๆที่หูของพ่อเขา เหมือนจะบอกความลับบางอย่างที่จะรู้กันแค่ 2 คนพ่อลูก ก่อนที่ Bayek จะตื่นขึ้นมาอีกครั้งที่บ้านหมอผีที่กำลังทำพิธีอยู่


Taimhotep – ลูกข้ายังมีชีวิตอยู่มั๊ย? เจ้าเห็นอะไรบอกมาสิ
หมอผี – ศัตรูของเจ้าก็คือศัตรูของนางเฉกเช่นกัน จงปฎิเสธที่จะรับอาหารจากอารามใดๆ เพราะมันจะวางยาพิษเจ้าจนต้องตายทั้งเป็น ไปสิ เจ้าจงไปจัดการกับผู้ที่วางยาพิษผู้คนและปลดปล่อยเมืองเมมฟิสจากพวกปีศาจร้ายนี่ซะ 


Aya – ไงที่รัก สบายดีนะ มีอะไรหรอ?
Bayek – เปล่าๆ ดีใจที่ได้เจอหน้าเจ้าอีกครั้งน่ะสิ
Aya – มีบางอย่างแปลกๆในแววตาของเจ้า มีอะไรหรือเปล่า?
Bayek – ข้าฝันถึงลูกของเรา ... เมียของสังฆราชโดนวางยาพิษและไอ้คนวางยาก็เป็นศัตรูคนเดียวกับเรา 
Aya – The Lizard น่ะหรอ?
Bayek – ข้ามั่นใจว่าใช่นะ
Aya – Apis Bull ก็กำลังจะตายด้วย งั้นเราไปคอกของ Apis Bull ที่วิหารแห่ง Ptah กันเถอะ เราอาจะเจอเงื่อนงำอะไรบ้างก็ได้  ทางนี้ ..  เราใช้เรือไปจะเร็วกว่า

จากนั้นพาAya นั่งเรือไปจนถึงวิหารแห่ง Ptah แล้วเข้าไปที่บริเวณคอกที่เลี้ยง Apis Bull เมื่อเข้าไปเข้าไปสอบถามคนเลี้ยงวัวและสำรวจหาตามจุดเบาะแสแล้วพบว่า


คนเลี้ยงวัวให้ข้อมูลว่าคนที่คอยดูแลและให้อาหาร Apis Bull คือนักบวชหญิงและสถานที่ที่นำอาหารมาให้วัวซึ่งตอนนี้ถูกปิดไปแล้วหลังจากวัวถูกวางยาพิษ และเมื่อเข้าไปสำรวจในโรงเก็บอาหารก็พบลูกพีชจำนวนนึงที่ถูกนำมาเป็นอาหารให้วัว ในบริเวณนั้นได้มีสร้อยคอที่คาดว่าเป็นของนักบวชหญิงคนที่เลี้ยงดูวัวตกอยู่ด้วย และเมื่อกลับออกมาคุยกับ Aya ที่ด้านนอกก็จะพบเธอกำลังสอบถามข้อมูลกับนักบวชหญิงฝาแฝดที่เป็นคนดูแลวัวอยู่พอดี ซึ่งหนึ่งในนักบวชหญิงคนนึงดูเหมือนจะไม่ได้สวมสร้อยคอเสียด้วย


Bayek – เป็นวิธีที่ฉลาดมากถ้าจะวางยาสัตว์ซักตัว 
Aya – น้องสาว บอกสิว่านี่มันเป็นอุบัติเหตุ 
Bayek – ถ้าเมล็ดเดียวอ่ะใช่ แต่นี่มันทั้งห่อเลยนะสิ 
นักบวชหญิง – เราก็แค่อยากช่วย Panchrates แค่นั้นเอง !!



นักบวชหญิง – น้องชายของเราอีกคนถูกพวกโจรมันจับไปตอนที่เธอกำลังเดินตลาดมันตัดนิ้วของนางมาขู่เราแล้วบังคับให้พวกเราวางยาพิษ Apis Bull ไม่งั้นมันจะเอาตัวน้องชายเราไปให้ไอ้เข้กินน่ะ พวกเราขอโทษ เราไม่มีทางเลือกจริงๆ
Bayek – มีอะไรแปลกๆ งั้นมันก็ไม่ใช่เรื่องของคำสาปบ้าบออะไรน่ะสิ
Aya – The Order อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้อย่างแน่นอน 


เมื่อ Aya ขอตัวพานักบวชหญิงทั้งคู่ไปในที่ที่ปลอดภัย Bayek ก็ต้องเดินทางไปยังTemple of Hathor เพื่อช่วย Panchrates พี่น้องอีกคนของนักบวชหญิงออกมา


เข้าไปที่พื้นที่เป้าหมายแล้วใช้ Senu บินขึ้นไปตรวจสอบพื้นที่จนพบตำแหน่งที่คุมขังของ Panchrates จากนั้นช่วยพาเขากลับมาที่บ้านจนปลอดภัย


Bayek – นี่เป็นฝีมือของ The Lizard แน่นอน งั้นข้าก็คงต้องลงมือให้นักบวชชั่วพวกนั้นต้องหลั่งเลือดแล้วล่ะ
Aya – พวกของ The Order มีอยู่ทุกคนทุกแห่ง ถ้าอยากจะปกป้องอียิปต์ ชั้นคงต้องฆ่านักบวชชั่วเป็นพันนั่นแหละ เราสองคนคงต้องใช้การกำลังทำลายล้างพวกมันจากวันนี้จนถึงตลอดไปแน่เลย 
Bayek – สังฆราช Pasherenptah ต้องรู้เรื่องนี้ 
Aya – เขารอที่วังของคลีโอพัตราแล้วล่ะ ชั้นมีม้าอยู่ขี่ไปไม่ไกลก็ถึงแล้วล่ะ 



ก่อนจะเข้าไปคุยกับ Aya เพื่อเริ่มภารกิจหลักต่อไป แวะทำภารกิจย่อย 2 ภารกิจที่เพิ่มขึ้นมาใหม่หลังจากจบเควสหลัก The Lizard's Mask คือ
Side Quest: Taimhotep's Song
Side Quest: A Dream of Ashe
ซึ่งจะเป็นเควสย่อยที่สำคัญเพราะเป็นภารกิจเยียวยาจิตใจของ Taimhoteb เมียของสังฆราช Pasherenptah และ Bayek เองโดยตรง




                                     Side Quest: Taimhotep's Song


ระดับเควส – LV22
รางวัล:  1500 XP 

Bayek เข้ามาพบกับ Taimhoteb เมียของสังฆราช Pashereptah ที่กำลังนั่งร้องเพลงกล่อมลูกด้วยความโศกเศร้าอยู่ในสวนเพราะกำลังกังวลใจเรื่องลูกในท้องของเธอว่าจะได้รับอันตรายจากพิษของ The Lizard ที่ตัวเธอได้รับมา


สาวใช้ของนางก็เข้ามาบอกว่า Taimhoteb เพิ่งค้นพบพิธีกรรมที่จะช่วยปกป้องลูกในท้องของเธอจากสิ่งชั่วร้ายจากคัมภีร์โบราณ แต่ยังขาดสิ่งของที่จะเอามาใช้ทำพิธี 2 อย่างคือ เครื่องรางดินเผาสีน้ำเงินกับซากนกฟามิงโก้ Bayek จึงรับปากว่าจะหามาให้แล้วค่อยนัดทั้งคู่เพื่อเดินทางไปทำพิธีอีกที

จากนั้นเดินทางไปที่พื้นที่เป้าหมายแล้วใช้ Senu บินขึ้นตรวจสอบพื้นที่จนพบทางลงสุสานโบราณใต้เมืองเมมฟิส เมื่อสำรวจเข้าไปด้านในจะเจอแม่เฒ่าที่มาเปิดร้านอยู่ในนี้ Bayek จึงขอเดินดูรายชื่อสินค้าซึ่งจะพบ เครื่องรางเจริญพันธ์ในเครื่องเคลือบดินเผาสีฟ้า (Fertility talisman in blue faience) อยู่ในลิสต์ด้วย


เข้าไปสำรวจในห้องทั่วๆจะพบพนังที่สามารถดันเข้าไปได้ ด้านในจะมีห้องเก็บสินค้าซ่อนอยู่ เมื่อเข้าไปสำรวจดูจะพบ เครื่องรางเจริญพันธ์ในเครื่องเคลือบดินเผาสีฟ้า ที่ตั้งการอยู่ เก็บแล้วออกมาจากสุสานโบราณได้เลย


ที่เหลือที่ต้องหาคือซากนกฟามิงโก้ 2 ตัวโดยสามารถหาได้ภายในเมืองเมมฟิสแถวๆริมแม่น้ำ (ต้องสังเกตหาเอาเอง)


เมื่อได้ทุกอย่างครบแล้วก็เดินทางไปพบ Taimhoteb ที่จุดนับพบเพื่อพาเธอกับสาวใช้เดินทางต่อไปยังพิรามิด Djoser ให้ปลอดภัย จากนั้นรอหรือปรับเวลาเป็นตอนกลางคืน เพื่อให้ Taimhoteb กับสาวใช้เริ่มทำพิธีพิทักษ์ครรถ์


Bayek – ทุกๆเช้าตอนที่ข้ายังเป็นเด็กพ่อกับข้าชอบคุยกันเรื่องคำอธิฐานของเหล่า Medjay ซึ่งเป็นพัทธสัญญาที่มีให้ไว้ต่อภารหน้าที่ของตัวเองว่า ข้าคือ Medjay ข้าเป็นดั่งขนที่ปลายปีกอินทรีย์ เป็นดั่งกริชมีชีวิตที่โผผินจากฝากฟ้าสู่ใจกลางของความวุ่นวาย 



ข้าคือความจริงที่ไร้นาม เป็นดั่งดาบซึ่งไร้ปลอก บุตรแห่งแม่น้ำไนล์ผู้ปกป้องผู้คน
เจ้าไม่มีวันทำให้ข้าวางวาย เพราะข้าเดินทางอยู่ท่ามกลางความตาย ที่ยังคงมุ่งหน้าหาผู้คนมากมาย เพื่อนำทางพวกเจ้ากลับสู่บ้านอย่างปลอดภัย 


                                       Side Quest: A Dream of Ashes


ระดับเควส – LV21
รางวัล:  3300 XP 
** ต้องปลดล็อก Ability Dawn & Dusk ออกมาก่อนทำภารกิจนี้ **



Bayek จะเข้าไปพบหมอผีที่เคยทำพิธีให้กับ Taimhoteb เพื่อสอบถามความหมายของภาพนิมิตรที่เขาเจอขณะกำลังต้อง แต่หมอผีต้องการให้ Bayek ช่วยเหลือก่อน เนื่องจากเขาเห็นนิมิตของลางร้ายจากเหล่าคนที่เคยมาทำพิธีกับเขา 3 คน จึงอยากให้ Bayek เอาเครื่องรางจากเขาไปให้คนเหล่านั้น

ในแผนที่จะมีพื้นที่เป้าหมายอยู่ 3 จุด เข้าไปใรพื้นที่ของแต่ละจุดให้ Senu บินขึ้นไปค้นหาจนพบตำแหน่งของบุคคนเป้าหมายทั้ง 3


-เป้าหมายทางทิศตะวันตกจะถูกจับอยู่ใน Omorfi Villa เข้าไปช่วยเขาออกมาแล้วพาไปในที่ที่ปลอดภัยเพื่อส่งมอบเครื่องรางให้เขา


-เป้าหมายทางทิศตะวันออก ต้องเข้ามาในสุสานโบราณเพื่อดำน้ำมาที่ถ้ำใต้น้ำจะพบบุคคลเป้าหมายตายไปแล้ว แต่ก็ต้องส่งมอบเครื่องรางให้เขาตามสัญญาแม้จะสายเกินไป


-เป้าหมายทางทิศเหนือ พบว่าบุคคลเป้าหมายกำลังถูกทหารจับตัวอยู่ ตามรถขนนักโทษไปแล้วจัดการช่วยเธอออกมาแล้วพาไปในที่ที่ปลอดภัยเพื่อส่งมอบเครื่องรางให้

เมื่อนำเครื่องรางไปให้กับบุคคลเป้าหมายครบแล้ว เดินทางมาที่จุดนัดพบกับหมอผีอีกครั้ง เขาจะให้พานั่งเรือไปยังเกาะศักดิ์สิทธิ์เพื่อที่จะทำพิธีปัดเป่าฝันร้ายให้ Bayek

ก่อนจะทำพิธีหมอผีต้องการให้ Bayek ดำน้ำลงไปเก็บรูปปั้นของ Khnum ที่จมอยู่ที่ซากวิหาร Ramses ที่ก้นแม่น้ำ จากนั้นใช้ Senu


สำรวจพื้นน้ำจนพบตำแหน่งของรูปปั้น Khnum แล้วล่องเรือไปตรงจุด Suken Temple of Ramses ดำลงไปเก็บ รูปปั้น Khnum ขึ้นมาแล้วนำไปให้หมอผีทำพิธี


เทพ คนูม ( Khnum ) เทพเจ้าแห่งการสร้างสรรค์ ผู้ให้กำเนิดโลกและพื้นน้ำ ผู้พิทักษ์แห่งท้องน้ำทั้งปวง มีรูปลักษณ์ที่มีศีรษะเป็นแกะ ทั้งนี้ยังเป็นที่เคารพในฐานะผู้ปกป้องเด็กๆจากสิ่งชั่วร้าย เพราะ เทพ คนูมคือหนึ่งในฝ่ายของเทพ Ra ซึ่งเป็นศัตรูโดยตรงกับ Apep ซึ่งเป็นตัวแทนของสิ่งชั่วร้ายทั้งปวงที่พยายามจะทำลายแสงอาทิตย์ที่เทพ Ra สร้างขึ้น 


หลังคุยจบหมอผีได้สั่งไว้ว่า พิธีกรรมต้องทำในตอนกลางคืนเท่านั้น ทันทีที่หมอผีเริ่มทำพิธีให้ ใช้ Ability Dawn & Dusk ในการปรับเวลาให้เป็นตอนกลางคืน แต่เมื่อถึงตอนกลางคืนหมอผีก็หายลับไปกับตาสร้างความแปลกใจกับ bayek เป็นอย่างมาก


                      Main Quest: The Lizard’s Face 


เข้ามาที่จุดพื้นที่ของภารกิจเพื่อคุยกับ Aya เพื่อที่จะขี่ม้าเดินทางไปยังวังของคลีโอพัตรา ก่อนที่ทั้งคู่จะอยากรำลึกอดีตอันหวานชื่นก่อนหน้าที่ทั้งคู่เคยได้ขี่ม้าแข่งกัน



Bayek จึงไม่รอรีที่จะรีบโดนขึ้นขี่ม้าในทันที แล้วเร่งความเร็วเพื่อพยายามจะแซงหน้าเพื่อเอาชนะให้ได้ก่อนถึงเป้าหมายของการเดินทางที่วังของคลีโอพัตรา



คลีโอพัตรา – ตามกฎเกณฑ์ที่เป็นมา พระเจ้าสาปดินแดนของเราด้วยภัยธรรมชาติจากน้ำท่วม แต่เมื่อฟาโรห์ผู้เป็นดั่งสมมุติเทพขึ้นครองบัลลังย์ น้ำในแม่น้ำก็เริ่มเอ่อล้นสูงขึ้นอีกครั้ง จงร่วมกับข้า เหล่าประชาแห่งเมมพิสผู้เชิดฉายดุจอัญมณี จงติดตามข้า เพื่อชัยชนะของอียิปต์



Aya – ราชินีของข้า 
คลีโอพัตรา – ได้ข่าวว่า The Apis Bull เกิดล้มป่วยงั้นหรอ?
Aya – ตอนนี้เราทราบเหตุผลของอาการป่วยของวัวแล้วค่ะ สรุปว่าโดนวางยา
คลีโอพัตรา – ฝีมือใคร?
Aya – นักบวชหญิงฝาแฝด
คลีโอพัตรา – จับไปลงโทษให้ตายในหม้อต้มซะ 
Aya – ดะ เดี๋ยวค่ะท่าน
Bayek – พวกนางโดนบังคับนะ มันจับตัวน้องชายของพวกเธอไปแล้วบังคับข่มขู่ให้ทำ โดยฝีมือของพวกนักบวชแห่งอนูบิสที่ใช้ผ้าคลุมสีน้ำเงิน 
Pasherenptah – Hettpi งั้นหรอ! แต่เขาเป็นถึงที่ปรึกษาคนสนิทของข้าเลยนะ
คลีโอพัตรา – จะเป็นใครก็ตามที่นำตัวเองเข้าสู่ด้านมืดก็ยากนักที่จะน่าเชื่อถือ
Pasherenptah – แล้วถ้าเกิด Hettpi เล่นงานข้าได้สำเร็จ ...
Bayek – เมียและลูกท่านก็ถูกมันคุกคาม แต่ตอนนี้นางปลอดภัยแล้ว เรายับยั้งเรื่องนี้เอาไว้ได้ทัน 
Pasherenptah –นักบวชแห่งอนูบิส จะปฎิบัติภารกิจทางพิธีการใน Great Temple สังเกตได้จากหน้ากากของพวกเขา 
Aya – ดาบของข้าจะทำหน้าที่ของมันกับเขาเอง 
Bayek – ไม่ Aya ให้ข้าจัดการมันเอง
คลีโอพัตรา – ชั้นไม่สนหรอกว่าใครจะเป็นฆ่าไอ้พวกนักบวชบ้านั่นแต่ขอให้รีบทำให้เสร็จเรื่องก่อนที่เราจะเดินทางไปที่ Herakleion ก็แล้วกัน

หลังจาก Bayek รู้ตัวจริงของหนึ่งใน The Order นามว่า The Lizard ว่าคือ Hetepi ที่เป็นนักบวชแห่งอนูบิสที่ปรึกษาของสังฆราช Pasherenptah แล้วสิ่งที่ต้องทำก็คือตามหา Hetepi ท่ามกลางนักบวชแห่งอนูบิสมากมายที่ทำพิธีอยู่ในมหาวิหารให้เจอ


เดินทางไปยังพื้นที่เป้าหมายที่ Great Temple แล้วใช้ Senu บินขึ้นไปตรวจสอบพื้นที่จนพบตำแหน่งของนักบวชแห่งอนูบิสที่อยู่ในพื้นที่ทั้ง 5 คน


แต่ไม่สามารถระบุได้ว่าใครคือ Hetepi ตัวเป้าหมายเพราะนักบวชใส่หน้ากากอนูบิสทุกคน Bayek ทำได้คือต้องหานักบวชตัวที่มีผ้าคลุมสีน้ำเงินเท่านั้นคือ The Lizard ตัวจริง


Bayek - The Lizard แกคือคนที่ทำให้เมืองเมมฟิสต้องสาป 
The Lizard – ข้าทำให้เมืองนี้กลับสู่หนทางอียิปต์โบราณที่ควรจะเป็นมากกว่า
Bayek –อียิปต์โบราณหรอ แล้วมันต้องสูญเสียอะไรไปมากมายแค่ไหนแกรู้มั๊ย ทั้งลูกเด็กเล็กแดง คนบริสุทธิ์ต้องตายไป แถมยังทำให้ชื่อเสียงของสังฆราชแปดเปื้อนอีก 
The Lizard – ชื่อเสียงของมันไม่ดีอยู่แล้วก่อนที่เจ้าจะมาที่นี่อีก ทำเป็นครองอำนาจบาตรใหญ่อยู่ในวังของพระเจ้าแล้วทำมาเป็นบงกาทุกๆอย่าง เจ้าก็เป็นเหมือนกันนั่นแหละ Bayek แกมันไอ้วัวโง่ให้เขาหลอกใช้ !!
 Bayek – คำพูดแก มันไม่ทำให้ข้ากดดันเลยซักนิด 
The Lizard – อ่อหรอ แล้วใครกันที่คุมบังเหงียนอยู่เบื้องหลังแกแล้วสั่งให้ฆ่าข้าล่ะ?
Bayek – ข้ามีพระเจ้าของข้า และตอนนี้เจ้าก็ต้องเผชิญหน้ากับพระเจ้าของเจ้าเองแล้วล่ะ


หลังจากจัดการ The Lizard สำเร็จแล้วก็รีบหนีออกจากพื้นที่แล้วเดินทางกลับไปรายงานกับทุกคนที่วังของคลีโอพัตราอีกครั้ง




Pasherenptah – Hetepi ข้าอยากรู้จังเลยว่าอะไรชักนำเขาสู่ด้านมืดแบบนี้
Bayek – ตอนนี้เมมฟิสตกเป็นของท่านอีกครั้งแล้วนะ
คลีโอพัตรา – ของเราทุกคนต่างหาก
Pasherenptah – เมื่อภัยมืดที่ปกคลุมหมดสิ้นไปแล้ว ก็ถึงเวลาที่เราจะเริ่มงานฉลองแห่ง Apis กันเสียที
คลีโอพัตรา – Hetepi ได้รับการลงทัณฑ์แล้ว ไม่นานต้องเอาผิดกับกลุ่มคนที่ฆ่า Khemu ได้ทั้งหมดแน่นอน 


หลังจากจัดการ Hetepi หรือ The Lizard หนึ่งใน The Order ที่แฝงตัวเข้ามาทำให้ผู้คนในเมืองเมมฟิสต้องทนทุกข์ ด้วยคำสาปจากพิษที่พยายามจะทำลายความเชื่อที่เป็นที่นัับถือในเมืองได้สำเร็จ พิธีเฉลิมฉลอง  The Apis bull หรือวัวศักดิ์สิทธิ์ที่เสมือนเป็นตัวแทนของเทพ Ptah เทพเจ้าผู้สรรสร้างทุกสรรพสิ่งที่ชาวเมมฟิสเคารพนับถือก็เริ่มขึ้น




ท่ามกลางการโห่ร้องยินดีของประชาชนชาวแมมฟิสที่มีต่อราชินีคลีโอพัตราที่ช่วยปัดเป่าเมฆหมอกของคำสาปที่ชั่วร้ายให้หมดไปทำให้ประชาชนได้ใกล้ชิดกับเทพเจ้าที่ทุกคนเลื่อมใสผ่านเฉลิมฉลองให้  The Apis bull อีกครั้ง



Aya – ชั้นทุกข์ทรมานมากทุกครั้งที่เราห่างกัน แต่ ครั้งนี้ชั้นต้องไปคนเดียวจริงๆ
Bayek – แต่ Aya !!
Aya – มันเป็นหน้าที่ของชั้น !!
 Bayek – เจ้าจะต้องไปทำหน้าที่อะไรนี่ที่ไหน?
Aya – ทะเลทางเหนือ เดินเรือไปท่ามกลางทะเลที่กำลังลุกเป็นไฟ ..
Bayek – ข้าเข้าใจ  
Aya – ชั้นหวังว่าเราคงได้มาล่าพวกมันร่วมกันอีกนะ แต่ก่อนจะถึงตอนนั้นก็ขอใช้คืนนี้ให้เป็นคืนของเราก่อนเถอะนะ 


                                                ต่อตอนที่ 2

              http://decibelperoxide.blogspot.com/2018/03/assassins-creed-origins.html

                                                    UPDATE  24 / 3 / 2018


.................................................................................................................................................
Cr. ที่มาข้อมูลทางวิชาการต่างๆที่ใช้ประกอบบทสรุป
https://web.facebook.com/lek.writer/photos/a.590735234363169.1073741828.565633853539974/784578381645519/?type=3&theater
http://www.imgrum.org/tag/Irtjet
https://en.wikipedia.org/wiki/Ptolemaic_Kingdom
https://th.wikipedia.org/wiki/พีระมิดอียิปต์
http://navithaiwonder.blogspot.com/2011/03/oasis-oases-siwa-egypt.html
http://assassinscreed.wikia.com/wiki/Bayek
http://topicstock.pantip.com/blueplanet/topicstock/2007/01/E5040349/E5040349.html
http://www.ign.com/wikis/assassins-creed-origins/Skills#Warrior_Skill_Tree

.......................................................................................................................................................