บทสรุป Project Zero: Nuregarasu no Miko [零 ~濡鴉ノ巫女~]
By – Decibel per - oxide
บทนำ 序 水籠
ในคืนนึงที่แสนมืดมิด เด็กสาวคนนึงที่นอนทอดร่างอยู่ในสายน้ำ ปลอยผมสีดำสลวยถูกปล่อยปลิวไปตามกระแสน้ำที่กลมกลืนจนแทบเป็นสีเดียวกัน ทันทีที่เธอรู้สึกตัวขึ้นมาก้พบว่าเธออยู่ที่บนธารน้ำหน้ากระท่อมไม้เก่าๆแห่งนึง ตัวเธอทั้งเปียกและหนาวเหน็บแต่สัญชาติญาณความอยากรู้ของเธอทำให้ต้องหาทางเข้าไปสำรวจด้านใน แต่ทันใดนั้นเธอก็เห็นวิญญาณมากมายกำลังโผล่ขึ้นมาจากน้ำ ทำให้ความจำเป็นที่ต้องเข้ากระท่อมนั้นมากขึ้นไปอีก
- หันอนาล็อกขวา หันหลังเตรียมโกยไปที่ประตูกระท่อมได้เลยแต่เวรกรรมวิญญาณกลุ่มนั้นเหมือนจะรู้ทันที่เข้ามาดักหน้าเธอไว้ ดันอนาล็อกซ้ายวิ่งหลบไปที่ประตูที่อยู่ด้านหลังพวกมันให้เร็วเพื่อวิ่งเข้าไปในประตูกระท่อมทันที และทันทีที่เข้ามาได้แล้วประตูกระท่อมก็ปิดทันที เหมือนจะช่วยให้รอดจากพวกวิญญาณที่ตามมา แต่บรรยากาศในกระท่อมนั้นก็สยองไม่ต่างกัน เดินเข้ามาตามทางเรื่อยๆก็จะรู้สึกได้ว่ามีบางอย่างตามมา พอหันมาก็จะพบวิญญาณตามมาจริงๆ อยู่ไปทำไมกด ZL วิ่งเข้าไปด้านในให้เร็ว แต่แล้วประตูด้านในก็ปิดลง และทันทีที่เธอสัมผัสที่ประตูเธอก็รับรู้ถึงภาพในอดีตถึงเรื่องราวของ คนทรง การทรมาน และการฆาตกรรม ที่สุดแสนเลวร้ายที่เคยเกิดขึ้นที่นี่
- จากนั้นหันหลังมาจะเจอวิญญาณฝูงใหญ่กำลังตามมาอีก รีบวิ่งไปที่แยกทางเดินทางซ้าย แต่สุดทางเดินอะไรดำๆก็เริ่มโผล่ขึ้นมาวิญญาณอีกกลุ่มมาดักหน้าอีก รีบหันหลังกลับได้ที่ประตูเดิมได้เลย ตอนนี้มันจะเปิดรอรับแล้ว เข้ามาด้านในห้องโถงที่เต็มไปด้วยน้ำท่วมขังจะพบกล่องโบราณใบนึงวางอยู่ และทันทีที่พยายามลุยน้ำเข้าไปสำรวจก็จะเริ่มเห็นเส้นผมยาวสยายออกมาจากกล่องพร้อมเจ้าของเส้นผมที่ค่อยๆออกตามมา ก่อนที่เส้นผมดำยาวที่น่าขยะแขยงเริ่มเลื้อยเข้ามาพัวพันตัวเธอ
ไม่มีเสียงใดๆเล็ดรอดออกมาจากลำคอของเธอ ก่อนที่วิญญาณร้ายจะถึงตัวเธอและโอบอุ้มหายไปท่ามกลางสายฝนในความมืดมิดของภูเขา ฮิคามิยามะ
.. มิอุ ฮินาซากิ เด็กสาวใจเด็ดที่ออกตามหาแม่ของเธอที่หายสาปสูญไปที่ ภูเขา ฮิคามิยามะ และถึงตอนนี้ก็ยังไม่มีใคนได้ข่าวเธออีกเลย …
** Notice จากผู้เขียน **
**ลองมองดูดีๆ Miu Hinasaki นั้นดันมีนามสกุลเดียวกับ Miku Hinasaki ตัวเอกจาก Fatal Frame ภาคแรก ด้วยทั้งหน้าตาและใส่ชุดก็ดันไปคล้าย Miku มากๆอีก บางทีเธออาจเกี่ยวข้องอะไรกับ Miku ก็เป็นด้ายย **
………………………………………………………………………………………………….
ภูเขา ฮิคามิยามะ มีจริงหรือเปล่า ???
ภูเขา ฮิคามิยามะ .ในเกมนั้นเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์หรือต้องสาปที่เชื่อกันว่าเป็นเสมือนประตูเชื่อมระหว่างโลกคนเป็นและโลกของคนตาย ที่นี่ถูกกล่าวถึงมากถึงเรื่องที่มีผู้คนมากมายที่ย่างก้าวเข้ามาแล้วไม่เคยได้กลับออกไป หลายคนว่ากันว่าพวกเขาเหล่านั้นถูกวิญญาณร้ายนำตัวไปซ่อนและถูกกักไว้ในโลกวิญญาณของเหล่าคนตายนั่นเอง
แต่.. ถ้ากล่าวถึงความเป็นจริงภูเขา ฮิคามิยามะ นั้น อาจ ถูกดัดแปลงมาจาก ภูเขา คามิยามะ(Kamiyama) ที่อยู่ในอณาเขตของ หุบเขาโอวาคุดานิ เป็นหุบเขาที่อยู่ในวนอุทยานแห่งชาติฮาโกเน่ในประเทศญี่ปุ่น ที่ประกอบไปด้วย ภูเขาคามิยามะ (Kamiyama) และ ภูเขา โคมางาทาเกะ (Komagatake) ซึ่งภูเขาคามิยามะ ของเรานั้นขึ้นชื่อในเรื่องของบ่อน้ำพุร้อน บ่อน้ำร้อน เกิดจากการระเบิดของภูเขาไฟเมื่อประมาณ 3 พันปีก่อน ในปัจจุบันหุบเขานี้ ก็ยังเป็นภูเขาไฟที่ยังไม่สงบ พร้อมที่จะระเบิดอีกทุกเมื่อ แถมด้านบนของหุบเขายังมีควันสีขาวๆ พวยพุ่งอยู่ตลอดเวลา เป็นควันที่มาจากความร้อนใต้พื้นดินโดยมีแก๊สกำมะถันปนอยู่ ทำให้มีกลิ่นของกำมะถันอยู่ทั่วบริเวณ ซึ่งมีกลิ่นฉุน จึงเรียกว่าหุบเขานี้ว่าหุบเขานรก
และที่ Shirazu No Mori สถานที่แห่งหนึ่งของภูเขาฮิคามิยามะ ว่ากันว่าคนมักมาฆ่าตัวตายที่นี่แม้ว่าจะมีรั้วกั้นแน่นหนาแล้วก็ตาม จึงมีเรื่องร่ำลือกันต่างๆนานาตามมาว่าคนเหล่านั้นตายเพราะถูก ฆ่า ตั้งแต่ฆาตกรจนถึงวิญญาณที่ชั่วร้าย
ส่วน Mikomori Onsen บ่อน้ำพุร้อนในภูเขาคามิยามะนั้น มีบ่อน้ำร้อนแร่กำมะถัน ที่มีความร้อนสูงถึง 80 องศาเซลเซียส สามารถต้มไข่ให้สุกได้ ซึ่งน้ำร้อนที่มีแร่กำมะถันเข้มข้นปะปนอยู่ ทำให้เมื่อต้มไข่ออกมา ทำให้ไข่กลายเป็นสีดำ จึงเป็นที่มาของชื่อไข่ดำ เชื่อกันว่าถ้าได้กินไข่ดำ 1 ฟองจะมีอายุยืนขึ้น 7 ปี แต่ในเกมตอนนี้กลายเป็นบ้านผีสิงไปแล้ว ใครจะเข้าไปต้มไข่เสี่ยงทายก็เชิญครับ รับรองอายุน่าจะสั้นมากว่าแน่นอน ^_^
…………………………………………………………………………………………
บทที่ 1 残影
ในบรรยากาศตอนพระอาทิตย์อัสดง หญิงสาวคนนึงมักเห็นตัวเองยืนอยู่ที่ริมหน้าผาอย่างโดดเดี่ยว และเหมือนกับว่าห้วงลึกในจิตใจของเธอกำลังจะสั่งให้โดดลงไปซะให้มันจบๆไป … ก่อนที่เสียงเรียกชื่อเธอจะดังขึ้นก่อนที่ความนึกคิดของเธอจะกลับมาสู่ห้วงปัจจุบัน
…ยูริ ! ..โคสึคาตะ ยูริ ….ฮิโซกะ คุโรซาว่า หญิงสาวเจ้าของร้านขายของเก่า Kurosawa Antiques ที่ยืนรอเธออยู่ที่หน้าบ้านร้างหลังนึงเรียกให้เธอเข้าไปหาเพื่อมอบ กล้องโบราณ ที่เธอมีเก็บไว้มอบให้กับ ยูริ
ฮิโซกะ ญาณทิพย์ เจ้าของร้านขายของเก่าที่มีพลังพิเศษที่สามารถสื่อถึงพลังวิญญาณได้ เล่าให้ฟังถึงความพิเศษของกล้องตัวนี้ที่เธอเรียกว่า กล้องสะกดวิญญาณ ให้ฟัง พร้อมทั้งสอนวิธีการใช้เบื้องต้น
- กด X เพื่อใช้งานกล้อง
- เรียนรู้การเก็บแต้มจากความสมบูรณ์ขององค์ประกอบภาพที่ถ่าย ขยับตัวจอย Gamepad หรือใช้แกนอนาล็อกขวาให้ไปตรงกับกรอบสีฟ้าในแนวนอน ซึ่งจะทำให้เก็บรายละเอียดหลักของภาพได้ 1 จุด เมื่อกด ZR คือการกดชัตเตอร์ถ่ายรูปแบบปกติ สำหรับถ่ายรูปเพื่อสะสมหรือภาพปริศนาที่ต้องการจะจดจำ ซึ่งถ้ารูปได้องค์ประกอบภาพที่ดีก็จะได้ Portrait point ในจำนวนที่มากกว่าปกติ
จากนั้นเลื่อนกล้องให้มุมรูปเป็นแนวตะแคงเพื่อเก็บรายละเอียดภาพให้ไกลขึ้น ทำให้เก็บรายละเอียดหลักของภาพได้ 2 จุด จากนั้นขยับมุมกล้องให้เป็นแนวตั้งสำหรับใช้ เก็บรายละเอียดหลักของภาพได้ 3 จุด จากนั้นกด ZL เพื่อใช้เลนซ์ซูมไปที่จุดสำคัญของภาพ แล้วกด ZR ชัตเตอร์ถ่ายแบบปกติ เสร็จแล้วก็กด X เพื่อเก็บกล้อง
- หลังจากเรีบนรู้การถ่ายรูปคนกันแล้วคราวนี้ ฮิโซกะ จะให้ยูริเข้าไปในบ้านร้างเพื่อทำภาระกิจถ่ายรูปเป้าหมายมาให้เธอ จากนั้นก็เข้าไปด้านในบ้านร้างได้เลย ยูริเองก็มีพลังในการสื่อสารกับวิญญาณและโลกแห่งคนตายได้ฉะนั้นถ้าในบ้านพี่ผีเธอต้องเห็นแน่นอน เมื่อรู้สึกผิดปกติก็อย่าลืมยกกล้องมาถ่ายรูปวิญญาณที่ออกมาเก็บไว้เพื่อเก็บ Point เอาไว้ใช้ได้ แต่ต้องรีบน๊ะไม่ใช่ดาราเพราะมันแว๊บมาแล้วมันจะแว๊บไปได้ในทันทีต้องรีบกดถ่ายให้ทันดัวย แต่ก็ไม่ต้องกลัวจะพลาดเพราะระหว่างทางถ้า ยูริ มีสัมผัสถึงวิญญาณขึ้นมาก็จะมีลูกศรสีขาวบอกทิศทางให้ที่ริมขอบจอด้วย
- เมื่อเข้ามากลางทางจะพบกับ ฮิโซกะ ที่ตามเข้าเพราะเธอจะเข้ามาสอนเทคนิคเพิ่มเติมให้ ซึ่งก็ทำให้ยูริเห็นวิญญาณที่กำลังติดตาม ฮิโซกะ เข้าเต็มๆเหมือนกัน จากนั้นกด ZR ยูริจะสามารถเห็นและสะกดรอยไอวิญญาณสีขาวๆที่เดินไปมาได้ กด ZR ตามรอยวิญญาณเข้าไปจนถึงประตูห้องด้านใน จากนั้นก็ตั้งกล้องเก็บภาพด้วยแนวนอนไปที่ลูกบิดประตูที่มีไอวิญญาณกด ZL ซูมก่อนกดชัตเตอร์ ZR ก็จะทำให้ได้เบาะแสเป็นรูปถ่ายวิญญาณออกมา มันก็คือแนวทางการแก้ปริศนาที่ให้ไปตามหาสถานที่ที่เห็นในภาพเพื่อนำไอเทมมาใช้เปิดประตูนั่นเอง
- มุดย้อนกลับไปด้านนอกแล้วเข้าประตูอีกทางไปก็จะพบห้องที่มีวิกผมเห็นในรูป
เก็บไอเทมกุญแจห้องที่ตู้ทางซ้ายมาแล้วกลับมุดกลับเข้าไปไขในห้องที่ปิดอยู่ เข้ามาในห้องแล้วตั้งกล้อง กด ZL ซูม ถ่ายหนังสือที่มีไอวิญญาณที่ตกอยู่มุมห้อง
เมื่อ ฮิโซกะ ทำการสำรวจหนังสือเสร็จแล้วก็มุดกลับออกมาด้านนอก แต่เจ้าวิญญาณปิดประตูตรงหน้าไปแล้ว เดินตาม ฮิโซกะ ไปตามทางเดินด้านซ้ายต่อ ผ่านโถงบันไดลงไปด้านในต่อ ระหว่างทาง ยูริ จะเจอวิญญาณผู้ชายที่มันตามฮิโซกะมา เข้าโจมตีจนเธอล้มลงจนมือเผลอไปกดชัตเตอร์กล้องแต่มันกลับสามารถทำร้ายวิญาณร้ายนั้นได้ด้วย
- จากนั้นก็ต้องทำในสิ่งที่ ฮิโซกะ ลืมสอนเธอก็คือใช้กล้องสะกดวิญญาณสู้กับวิญญาณร้าย ซึ่งก็แค่ยกกล้องขึ้นมาแล้วกด ZR ชัตเตอร์ก็จะโจมตีมันได้แล้ว หรือ ถ้ามันมาในจำนวนที่มากกว่า 1 ตัวก็พยายามเก็บรายละเอียดของทุกตัวให้เข้าในเฟรมหน้ากล้องให้มากที่สุด แล้วก็กด ZL ซูมเสริมแรงเข้าไปอีกก่อนที่จะกด ZR ลั่นชัตเตอร์
ความรุนแรงของการยิงภาพถ่ายนั้นขึ้นอยู่กับระยะห่างที่ถ่ายด้วย และถ้าถ่ายได้ในระยะใกล้บวกกับเก็บจำนวนวิญญาณกับรายละเอียดภาพให้สมบูรณ์ก็จะทำให้รุนแรงและได้แต้มสะสมมากขึ้นด้วย
หลังจากจัดการวิญญาณตัวแรกในชีวิตด้วยกล้องสะกดวิญญาณ ยูริถึงกับตัวสั่นด้วยความกลัว ก่อนที่ ฮิโซกะ ที่เฝ้าดูอยู่ห่างๆจะเข้ามาสวมกอดเพื่อเป็นกำลังใจ บางทีเธออาจกำลังบอกเป็นนัยๆว่า นี่คือชะตากรรมที่ ยูริ จะต้องเผชิญมากว่า โดดลงหน้าผาในยามพระอาทิตย์อัสดงก็เป็นได้ ..
.......................................................................................................................................
กล่าวถึง เร็น โฮโจ นักเขียนเรื่องลี้ลับใส้แห้งที่กำลังสนใจเกี่ยวกับเรื่องราวคำสาปและการบูชายัญของมิโกะหรือคนทรงในสมัยโบราณอยู่ แต่ดูเหมือนข้อมูลในสมองจะยังไม่พอจนต้องนอนกลุ้ม ถึงขนาดฝันถึงพิธีกรรมโบราณนั่นทุกครั้งที่หลับตา
ในขณะที่ รุย คากามิยะ ผู้ช่วยที่เคารพในตัวเร็นมากๆเธอเรียกเร็นว่าอาจารย์ทั้งๆที่งานเขียนของเขายังไม่เป็นที่รู้จักด้วยซ้ำ เธอเองก็พยายามหาทางช่วยโดยอยากให้ลองไปปรึกษา ยูริ เพื่อนสนิทของเร็นดูเพราะเธอมีพลังที่สื่อถึงวิญญาณได้น่าจะพอช่วยอะไรได้บ้าง แต่ก็ถูก เร็น ปฏิเสธมากตลอดเพราะเขาอยากจะลองหาข้อมูลด้วยตัวเอง จน รุย ต้องหาหลักฐานเพิ่มเติมมาให้คือข้อมูลและรูปถ่ายเก่าของพิธีกรรมบูชายัญมิโกะซึ่งอยู่ที่ ภูเขาฮิคามิยามะ ด้วยเพื่อหาข้อมูลและภาพถ่ายที่ได้มาทำให้ความคิดของเร็นผุดขึ้นในหัวว่าควรจะไปหาข้อมูลในการเขียนหนังสือเล่มใหม่ของเขา
โดยบางทีเร็นอาจไม่รู้เลยว่า ความน่าสยดสยอง กำลังรอเขาอยู่
...........................................................................................................................................
** ส่วน Hisoka Kurosawa พี่สาวเจ้าของร้านขายของเก่าเธอก็ดันนามสกุลเดียวกับ Rei Kurosawa ตัวเอกของ Fatal Frame 3 อีกแล้วยังเป็นผู้ที่มีพลังวิญญาณเหมือนกันด้วย ซึ่งทั้งคู่อาจจะเกี่ยวรึไม่กันเลยก็เป็นได้ **
............................................................................................................................................
บทที่ 2 日上山
骨董・喫茶 Kurosawa Antiques ร้านขายของโบราณของ ฮิโซกะ อยู่ในหมู่บ้านที่อยู่ตีนเขาฮิคามิยามะ ซึ่งยูริทำงานประจำอยู่ที่นี่ด้วย และด้วยพลังการสื่อสารกับวิญญาณที่เธอมีถูกพูดกันปากต่อปากจนมักมีชาวบ้านมาร้องขอความช่วยเหลือจากเธอให้ตามหาผู้คนที่เดินทางไปเที่ยวน้ำพุร้อนที่ ภูเขาฮิคามิยามะ แล้วหายสาปสูญไปอยู่ตลอด
และคืนนี้ก็เช่นกัน หญิงสาวรูปร่างบอบบางหน้าตาเต็มไปด้วยความทุกข์เดินเข้ามาในร้าน เธอแนะนำตัวว่าชื่อ ฮิมิโนะ ฟูยูฮิ 氷見野 冬陽 เพื่อขอให้ช่วยออกตามหา ฮารุกะ เพื่อนของเธอที่หายตัวไปที่ภูเขาเขาฮิคามิยามะ แต่ยูริเองที่ไม่ค่อยมั่นใจในพลังของตัวเองก็พยายามแบ่งรับแบ่งสู้ว่าเธอต้องลองปรึกษา ฮิโซกะ ซึ่งเป็นเจ้าของร้านดูก่อน เด็กสาวคนนั้นจึงเดินออกจากร้านไปทันที ยูริสัมผัสได้ถึงพลังบางอย่าง … บางทีที่คุยด้วยอาจไม่ใช่คน !
- จากนั้นเดินขึ้นชั้นบนสำรวจเก็บของตามห้องต่างๆให้หมดแล้วเข้าห้องประตูสีเงินตรงระเบียงทางเดินซึ่งเป็นห้องของ ฮิโซกะ สำรวจจดหมายบนโต๊ะที่มีทั้งรูปและข้อความของเด็กสาวที่มาขอความช่วยเหลือเมื่อกี๊ ยูริรู้ทันทีว่า ฮิโซกะ คงจะล่วงหน้าไปที่ภูเขาก่อนแล้ว แถมยังเอากล้องสะกดวิญญาณไปด้วย ยูริจึงไม่มีทางเลือกที่จะต้องตามไปด้วยความเป็นห่วงโดยใช้รูปภาพเป็นสื่อในการออกตามหา
- เมื่อยูริเดินทางมาถึงทางขึ้นภูเขาฮิคามิยามะ เธอก็เริ่มใช้รูปเบาะแสในการออกตามหาทันที กด ZR ค้างเพื่อออกติดตามร่องรอยของวิญญาณไป
พลังตามรอยวิญญาณของยูรินั้นเรียกว่า ” Kagemi “ ซึ่งเป็นความสามารถในการตามหาสิ่งของหรือคนที่สูญหายโดยการตามเบาะแสจากสิ่งของต่างๆที่เกี่ยวข้องกับเป้าหมาย ซึ่งอาจจะเป็นรูปถ่าย , เสื้อผ้า หรือ เส้นผม ซึ่งเมื่อกด ZR ค้างเอาไว้ก็จะพบกลุ่มควันขาวๆเป็นร่องรอยของวิญญาณคนเป็นที่ยูริสัมผัสได้
- ตามกลุ่มควันสีขาวไปเรื่อยๆระหว่างทางสังเกตข้างๆทางด้วยเพราะจะมีไอเทมตกอยู่ทั้ง แผนที่ที่มีเบาะแส กับ ไอเทมทั่วไป (ตอนกด ZR ในการเก็บก็ลุ้นกันเองน๊ะว่าจะเจออะไรบ้าง) ตามไอวิญญาณเข้าไปจนถึงลานตะเกียงที่อยู่ด้านบนของน้ำตก จะพบไอเทมบางอย่างตกอยู่ที่ริมน้ำ สำรวจเก็บจะพบว่ามันคือ กล้องสะกดวิญญาณของ ฮิโซกะ ที่ทำตกไว้นั่นเอง
- ตอนนี้ ยูริจะได้กล้องพร้อมฟิมส์และเล็นท์พิเศษแถมมาด้วย เมื่อได้กล้องมาแล้ววิญญาณ 2 ตัวที่อยู่ในน้ำจะเริ่มโจมตีทันที จัดการพวกมันให้หมดแล้วสำรวจให้ทั่ว ที่น้ำตกถ้าลองชะโงกดูอาจเห็นถึงพลังบางอย่างก็เป็นด้าย จากนั้น กด ZR ตามรอยไอวิญญาณไปต่อจนถึงทางแยก มันจะเดินไปทางแยกขวา แต่ก็สามารถแวะไปเก็บไอเทมทางแยกซ้ายก่นก็ได้ ไปตามแยกขวาจนถึงรั้วตาข่าย เก็บจอดหมายที่พงหญ้าทางซ้ายแล้วมุดลอดรั้วเข้าไปต่อจนถึงโคนต้นไม้ที่มีไอเทมตกอยู่ ยูริจะสัมผัสได้ถึง ฮิมิโนะซัง เคยมาที่นี่ (แสงวาบสีขาวๆนี่สัมผัสถึงเบาะแสน๊ะครับไม่ใช่ผี) เข้าไปสำรวจเก็บจดหมายอีกฉบับที่โคนต้นไม้ จากนั้นกลุ่มวิญญาณมากมายรอบๆต้นไม้จะเข้าโจมตีทันที ในขณะที่สู้อยู่เมื่อ ยูริ ได้สัมผัสวิญญาณตนนึงก็จะเห็นภาพชายคนนึงที่หลงเข้ามาที่นี่และถูกพวกวิญญาณจับตัวไปด้วย จัดการพวกมันให้หมดแล้ว กด ZR ตามไอวิญญาณไปต่อ
- ตามไอวิญญาณเข้ามาจนถึงศาลเจ้าร้างแห่งนึงบนภูเขา ที่เต็มไปด้วยตุ๊กตา สำรวจดูแล้วกด ZR ตามไอวิญญาณไปต่อ จนถึงทางขึ้นบ้านไม้ ยูริจะสัมผัสได้ถึง ฮิมิโนะซัง มาที่นี่ เข้าไปเก็บจดหมายอีกฉบับที่หน้าประตู พอเงยหน้าขึ้นมาก็จะพบวิญญาณเด็กผู้หญิงตัวนึงอยู่ตรงหน้าพอดี (แค่ออกมาให้ถ่ายรูปเฉยๆ) จากนั้นตามไอวิญญาณที่เดินไปทางขวาของศาลเจ้าต่อ พอผ่านมาหน้าศาลเจ้าจะพบวิญญาณเด็กหญิงออกมา 3 ตัวเลยยกกล้องขึ้นมาถ่ายให้หมด เดินตามไอวิญญาณต่อไปจนถึงบ่อน้ำ จะเจอวิญญาณกลุ่มนึงเข้าโจมตี จัดการมันให้หมด แล้วตามไอวิญญาณไปต่อจนถึงทางแยกก็จะพบ ฮิมิโนะซัง ยืนอยู่ทางแยกขวา
- เมื่อยูริเข้าไปสัมผัสตัวเธอก็จะรับรู้ถึงเหตุการณ์ในอดีตที่มีนักเรียนหญิง 5 มาฆ่าตัวตายที่นี่พร้อมกัน จากนั้นยูริจะพาเธอออกจากที่นี่ คุ้มครอง ชิมินะซัง และตัวเองจากพวกวิญญาณข้างทางที่จะเข้าโจมตี แต่ขณะที่ต่อสู้กับรรดาผีๆ จู่ๆ ยูริก็หลงกับ ฮิมินะซัง ซะแล้ว เดินกลับมาที่หน้าศาลเจ้าจะพบ ฮิมิโนะซัง กำลังหนีเข้าไปในบ้านร้างข้างศาลเจ้า จัดการกลุ่มผีเด็กหน้าศาลเจ้าให้หมดแล้วตามไปคุยกับเธอหน้าประตูบ้านต่อ
- จากนั้นเดินออกมาหน้าศาลเจ้าแล้วไปตามทางเดินทางซ้ายต่อจนพบไอเทมตกอยู่ในคูน้ำ เมื่อสำรวจดูก็จะพบว่าเป็นสร้อยคอของ ฮิโซกะ ตกอยู่และทำให้ยูริเห็นภาพเหตุการณ์ที่ ฮิโซกะ ถูกวิญญาณผู้หญิงที่อยู่ในน้ำจับตัวไปจนทำให้เธอทำกล้องหล่นแล้วลอยน้ำจนยูริไปพบที่ริมบึงนั่นเอง
- เดินตรงไปถึงทางแยกแล้วไปทางซ้ายตามทางจนถึงบึงใหญ่จะพบ ฮิมิโนะซัง ยืนถือมีดตากฝนอยู่อีกฝั่งของบึง ก่อนที่จะค่อยๆบรรจงใช้มีดปาดคอตัวเองไปพร้อมๆกับขณะที่กำลังฮัมเพลงอยู่อย่างมีความสุข ก่อนที่จะมาโผล่ข้างหลังด้วยสภาพศพไม่ค่อยสวยแล้วเข้าโจมตียูริทันที ฮิมินะซัง จะโจมตีพร้อมๆกับหัวอีก 4 หัวที่ลอยไปมา เคลื่อนที่ไม่ค่อยเร็วมากพอดักทางได้อยู่
และหน้าตาของผีฮิมินะซังยังถือว่าน่ารักอยู่จึงพอที่จะให้เข้ามาใกล้ๆซึ่งจะสามารถยิงช็อตแรงๆได้อย่างจะๆโดยไม่น่ารังเกลียดมาก
- เมื่อจัดการ วิญญาณฮิมิโนะซัง 首を切った冬陽 ได้แล้ว เข้าไปสำรวจที่มีดของเธอยูริจะเห็นภาพในอดีตครั้งที่ ฮิมินะซัง เธอเข้ามาตามหา ฮารุกะ เพื่อเธอที่นี่ แต่กลับพบวิญญาณของมิโกะกำลังฆ่าตัวตายมันจึงบังคับให้เธอเชือดคอตัวเองตายแบบมันด้วย ก่อนเชือด ฮิมินะซัง ก็เห็นวิญญาณของฮารุกะเพื่อนของเธอแอบดูอยู่ด้วย
- ก่อนที่วิญญาณของ ฮารุกะ จะค่อยๆกลายร่างเป็นวิญญาณที่ดูทรงพลังแล้วเดินตรงเข้ามาหายูริและโจมตีเธอทันที วิญญาณมิโกะเฮี้ยน 濡鴉ノ巫女 จัดการมันซะ แล้วลงจากเขาได้เลย ระหว่างทางใรขณะที่ยูริกำลังลงมาถึงบึงด้านล่างก็จะพบศพของมิโกะมากมายลอยออกมาให้เห็นจน ยูริ ต้องหนีออกจากที่นี่ทันที …
บทที่ 3 弔写真
ที่ห้องทำงานของ เร็น โฮโจ นักเขียนเรื่องลี้ลับใส้แห้งที่กำลังขะมักเขม้นหาข้อมูลจากบันทึกโบราณที่ รุย คากามิยะ ผู้ช่วยทอมบอยของเขาหามาให้แต่ดูเหมือนจะยังไม่มีอะไรคืบหน้า จน เร็น พบรูปถ่ายเก่าใบนึงที่ตกลงมาจากหนังสือ แถมมิโกะสาวในรูปยังยิ้มให้เขาซะด้วย ไม่ว่าจะตาฝากหรือเปล่าเร็นก็คิดว่ารูปนี้เป็นเบาะแสสำคัญของเขาไปซะแล้ว
- ลุกขึ้นมาสำรวจห้องให้ทั่วจะพบ เร็น เองก็มีกล้องโบราณที่เขาสะสมเอาไว้ด้วยเหมือนกัน สำรวจจุดสำรวจสำคัญๆและเก็บไอเทมในห้องมาให้หมดแล้วออกประตูเดินทางมุ่งสู่ ภูเขาฮิคามิยามะ ได้เลย
- เร็นและรุย จะเดินทางมาที่ Mikomori Onsen บ่อน้ำพุร้อนในเขตภูเขาฮิคามิยามะ ก่อนเข้าไปก็ทำการทดสอบกล้องโดยลองถ่ายกับ รุย ดูซัก 3 – 4 ภาพก่อนด้วยปุ่ม R ในการกดชัตเตอร์
จากนั้นเร็นกับรุยจะเข้าไปสำรวจในซากตึกด้วยกัน (ตึกเดียวกับที่ยูริเข้าไปทดสอบตอนแรกนั่นแหละ) เดินสำรวจ ลุยถ่ายรูปผีไปตามทาง จนถึงด้านในจัดการวิญญาณผู้หญิงชุดม่วงแล้ว เร็น จะเข้าไปสัมผัสกับวิญญาณจนเห็นเหตุการณ์ที่ชายคนนึงหลงเข้าไปในภูเขาแล้วถูกวิญญาณในบ่อน้ำจับตัวไป มุดเข้าไปในด้านในต่อจนถึงห้องใน ถ่ายรูปไอเทมที่มีไอวิญญาณอยู่บนตู้จะได้จดหมายมาก็จะพบชายคนนั้นซึ่งเป็นเจ้าของห้องออกมาทักทายให้บันทึกภาพ
- มุดย้อนกลับออกมาแล้วออกไปตามทางเดินซ้ายเพื่อขึ้นไปชั้นบนได้เลย ขั้นไปที่ห้องโถงชั้นบนสำรวจเก็บไอเทมให้หมดแล้วเข้าไปที่ประตูห้องที่ทางเดินด้านในถ่ายรูปไอวิญญาณที่ประตู จะได้รูปถ่ายบอกใบสถานที่มา
จากนั้นลงบันไดมาชั้น 2 แล้วเลี้ยวซ้ายลงชั้นล่างต่อจะพบช่องที่พนังเหมือนในรูป ถ่ายรูปมันซะแล้วมันจะเปิดออกเข้าไปเก็บกุญแจมา จากนั้นวิญญาณในช่องจะออกมาโจมตีทันที จัดการมันซะแล้วกลับไปห้องชั้นบนได้เลย
– ขึ้นมาชั้นบนจะพบวิญญาณของชายเสื้อขาวเข้ามาโจมตี จัดการมันซะแล้วมันจะตกหน้าต่างไป เก็บจดหมายที่ตกอยู่มา จากนั้นเอากุญแจไปไขประตูด้านในทางเดินจะมีทางขึ้นไปชั้นบนจนถึงดาดฟ้า จะพบวิญญาณชายเสื้อขาวอีกรอบคราวนี้มันกำลังโดดตึกแขวนคอตาย ถ่ายรูปเก็บไว้แล้วเข้าไปเก็บจดหมายลาตายมันมา จากนั้นเข้าประตูกลางของตึกชั้นดาดฟ้าเข้าไปถ่ายรูปไอเทมที่มีไอวิญญาณบังที่ตกอยู่บนพื้น เร็น จะเก็บรูปมาบางอย่างมาได้
- แต่จู่ๆ รุย ก็เกิดอาการแปลกๆเธอถูกวิญญาณร้ายควบคุมให้ไปแขวนคอตัวเองที่ดาดฟ้า เมื่อเร็นเห็นจึงรีบออกไปช่วยทันที ออกมาจัดการวิญญาณหญิงแหวนคอที่บังคับรุยอยู่ซะ
เมื่อช่วยเธอได้แล้วในขณะที่ทั้งคู่กำลังจะออกจากที่นี่ วิญญาณมิโกะเฮี้ยน 濡鴉ノ巫女 ที่เผยตัวออกมาจากด้านหลังก็จะออกมาโจมตีใส่เร็นทันที จัดการมันซะแล้วเก็บจดหมายที่ตกจากตัวมันมา แล้ว เร็น ก็จะช่วยรุยเอาไว้ได้สำเร็จ
บท 間ノ雫 影見
ที่ร้าน Kurosawa Antiques … คืนต่อมาหลังจากการหายไปของ ฮิโซกะ สำหรับยูรินั้นเป็นคืนที่ยากยิ่งที่สุดที่จะข่มตามหลับ แต่ก็เป็นโชคดีในโชคร้ายของยูริที่ความสามารถของเธอทำให้อย่างน้อยก็รู้ว่า โอกาสรอดของ ฮิโซกะ ที่เผชิญกับวิญญาณร้ายนั้นมันน้อยนิด แต่อย่างน้อยเธอยังอยู่ที่ใดที่หนึ่งแน่นอน ยูริจึงไม่รอช้าที่จะใช้ความสามารถที่มีในค้นหาเธอทันที โดยเริ่มจากข้อมูลคดีคนหายที่ ฮิโซกะ กำลังตามสืบอยู่ก่อน
– สำรวจเก็บกล้องและภาพถ่ายบนโต๊ะแล้วออกจากห้อง เปิดประตูกระดาษสีขาวตรงช่วงทางเดินเข้าไปก็จะเริ่มพบร่องรอยของวิญญาณ ฮิโซกะ ทันที รีบถ่ายรูปเธอแล้วเข้าไปสำรวจในห้องต่อ ใช้กล้องถ่ายที่โต๊ะทำงานจะเห็นมีรอยไอวิญญาณอยู่ ซึ่งจะทำให้ได้ภาพถ่ายบอกใบ้มา
- จากนั้นออกจากห้องเดินไปตามระเบียงทางเดินจนถึงบันไดทางลงชั้นล่างก็จะพบวิญญาณ ฮิโซกะ กำลังจะเข้าอีกห้องที่ระเบียง ในห้องไม่มีอะไรสำคัญ ถ่ายรูปเธอเพื่อเก็บแต้มแล้วเดินไปตามระเบียงที่มีหน้าต่างกระจกต่อจนถึงมุมทางเดินก่อนถึงบันไดขึ้นชั้นบนจะมีห้องอยู่
ซึ่งก็คือห้องที่อยู่ในรูปถ่ายบอกใบ้ สำรวจใต้เตียงเก็บกุญแจสีทอง , สมุดบันทึก และรูปถ่ายมา แล้วขึ้นบันไดกลับไปห้องประตูสีขาวอีกครั้ง
- เอากุญแจที่ได้มาไขลิ้นชักที่โต๊ะทำงานจะได้สมุดบันทึกข้อมูลและรูปถ่ายของคนที่หายสาปสูญไปทั้ง 3 คนที่ ฮิโซกะ ถูกว่าจ้างให้สืบหาอยู่ จากนั้นลงมาที่ชั้นล่างตรงหน้าร้านจะพบวิญญาณของ ฮิโซกะ กำลังเดินออกประตูไป ตอนนี้ยูริก็รู้แล้วว่าวิญญาณของ ฮิโซกะ กำลังบอกถึงเบาะแสะบางอย่างเพื่อให้ยูริสืบสวนเพื่อช่วยคนที่หายไปทั้ง 3 คนต่อจากเธอ ซึ่งไม่ต้องบอกก็รู้ว่ายูริจำต้องขึ้นเขาต้องสาปอีกครั้งแน่นอน
บทที่ 4 神隠シ
ยูริจำต้องเดินทางมาหาความจริงในคดีของฮิโซกะ ที่ภูเขา ฮิคามิยามะ อีกครั้ง .. โดยใช้รูปถ่ายที่ได้จากแฟ้มการสืบสวนของ ฮิโซกะ เริ่มจาก ฮารุคาว่า โมโมเซะ 百々瀬春河 หรือ ฮารุกะ เพื่อนที่หายตัวของ ฮิมิโนะ จนทำให้วิญญาณของเธอถึงกับต้องมาว่าจ้าง ยูริ ด้วยตัวเองก่อนเลย
- ทันทีที่ ยูริ ก้าวขึ้นเขาระหว่างทางเข้าถ้ำเธอก็พบร่องรอยของวิญญาณ ฮารุกะ ทันที ถ่ายรูปเก็บไว้แล้วเก็บจดหมายฉบับแรกที่ก้อนหินมา ขึ้นไปตามทางขึ้นเขาจนถึงลานตะเกียงที่ใช้ทำพิธี ถ่ายรูปวิญญาณที่อยู่กลางลานแล้วเข้าไปเก็บจดหมายฉบับที่ 2 ที่ตกอยู่มา พอเงยหน้ามาก็พบวิญญาณมิโกะ 2 ตัวรุมโจมตีทันที จัดการพวกมันให้หมดแล้วยูริจะสัมผัสที่วิญญาณของพวกเธอทำให้เห็นนิมิตรในอดีตที่มีมิโกะจำนวนมากที่กำลังทำพิธีอยู่ที่นี่โดนชายลึกลับคนนึงเข้ามาฆ่าตัดคอจนตายหมู่อย่างโหดเหี้ยม
- จากนั้นก็กด ZR สะกดรอยวิญญาณของ ฮารุกะ ไปต่อจนถึงทางแยกไปทางแยกขวาต่อ เข้าไปตามทางมุดรั้วเข้าไปจนถึงสะพานก็จะพบวิญญาณ ฮารุกะ ออกมาให้ถ่ายรูปอีกครั้ง พอเดินเข้ามาจนถึงป่าด้านในจะพบถุงผ้าเก่าตกอยู่
เมื่อยูริเข้าไปสำรวจก็จะพบเจอวิญญาณของชายที่บ้าคลั่งเข้าโจมตีทันที บอสตัวนี้ทั้งถึกทั้งรวดเร็วแถมยังโจมตีอย่างรุนแรงที่สุดเท่าที่เจอมาด้วย พยายามเคลื่อนไหวหรือกด B หลบบ่อยๆ และใช้ช็อตเด็ดยิงถ่ายแบบจะๆเน้นๆมันจะตายไวยื่งขึ้นเพราะถ้ายิงแบบเจ๊าะแจะรับรองได้สู้กันทั้งคืนแน่ พอมันแพ้มันจะไฟลุกท่วมตัวและพยายามพุ่งเข้าชนก่อนหายตัวไป หลบมันให้ดีๆด้วย
- กด ZR ตามรอยวิญญาณต่อไปจนถึงสะพานทางแยกบริเวณหน้าศาลเจ้าตุ๊กตา คาตาชิโร่ จะพบวิญญาณของชายบ้าคลั่งล้มลงที่นี่ก่อนจะหนีไปอีก เข้าไปเก็บจดหมายฉบับที่ 3 ที่ริมน้ำตรงสะพานขาด แล้วเข้าไปที่ศาลเจ้าตูกตาจะพบวิญญาณฮารุกะกำลังเดินเข้าไปที่บ้านร้างหลังศาลเจ้า ถ่ายรูปแล้วตามเข้าไปเลย
– ด้านในบ้านร้างหลังศาลเจ้าจะเต็มไปด้วยตุ๊กตาที่มีขนาดเท่ากับคนมากมายยืนอยู่จนน่าขนลุก สำรวจเข้าไปจนถึงห้องโถงด้านในที่มีโต๊ะตั้งโชว์ตุ๊กตา เข้าไปเก็บจดหมายฉบับที่ 4 แล้วยูริจะเห็นภาพวิญญาณฮารุกะกำลังมุดเข้าไปที่ช่องลับที่มุมห้อง เมื่อเข้าไปสำรวจก็จะพบกรงไม้อยู่ด้านใน สำรวจเสร็จขณะที่ยูริกำลังเดินออกจากห้องเธอก็พบตุ๊กตาตัวขนาดเท่าคนตัวนึงพูดกับเธอ
มันบอกว่าชื่อ ชิราจิกุ 白髪の少女 และพยายามจะยืนตุ๊กตาบางอย่างให้ แต่วิญญาณของเด็กๆจะออกมาเตือนยูริซะก่อน
– ถ่ายรูปที่โต๊ะวางตุ๊กตาจะพบไอวิญญาณที่นี่ก็จะได้รูปภาพบอกใบ้สถานที่มา เข้าไปในบ้านต่อ ผ่านลอนกลางบ้านที่มีน้ำขังอยู่ ข้ามไปเข้าบ้านหลังในทะลุออกมาที่ป่าหลังบ้านทางประตูหลังบ้านฝั่งขวา จะพบตุ๊กตาที่ถูกนำมาแขวนคอเอาไว้ตามต้นไม้มากมาย ถ่ายรูปตุ๊กตาที่ถูกแขวนอยู่ตามในรูปจะได้ตุ๊กตา ฮิโตกาทามิ มา
- จากนั้นวิญญาณเด็ก 3 คนจะเข้าโจมตี จัดการมันให้หมด แล้วยูริจะเข้าสัมผัสวิญญาณจนเห็นภาพในอดีตที่เด็กทั้ง 3 มาเล่นซ่อนหาที่นี่จนพบกับ ชิราจิกุ และแน่นอนว่าโดนเธอชวนมาเล่นเป็นเพื่อนแบบถาวรทันที
- เมื่อได้ตุ๊กตามาแล้วก็กลับเข้ามาทางหลังบ้านซึ่งจะเห็นวิญญาณ ชิราจิกุ พยายามมาชี้ทางให้เข้ามาทางประตูฝั่งซ้าย ด้านในจะเต็มไปด้วยน้ำท่วม แต่ก็จะมีไอเทมดีให้เก็บด้วย แต่ชิราจิกุชี้ทางให้ก็แสดงว่าต้องเจอดีด้วย ยูริจะพบกับวิญญาณของนักบวชหญิงที่ฆ่าตัวตายหมู่อยู่ที่นี่เข้าโจมตี จัดการมันซะแล้วลุยกลับมาจนถึงห้องโถงโชว์ตุ๊กตาอีกครั้ง
- เมื่อนำตุ๊กตา ฮิโตกาทามิ มาวางบนโต๊จะพบกับวิญญาณของ ชิราจิกุ ออกมาสู้ด้วยทันที เธอไม่มีอะไรมากนอกจากทำตัวเบลอๆให้หาตัวไม่เจอถ่ายไม่ถูกแค่นั้น หลังจากจัดการ ชิราจิกุ ได้แล้วนำตุ๊กตาฮิโตกาทามิไปวางบนโต๊ะแล้ว ยูริจะพยายามออกจากที่นี่แต่ประตูทุกทางปิดหมดจนเธอไม่มีทางเลือกที่ต้องลงไปทางกรงที่ซอกมุมห้องด้านในแทน
- ประตูลับนำยูริเข้ามาจนถึงถ้ำใต้ศาลเจ้า จะเริ่มพบไอวิญญาณของฮารุกะอีกครั้ง ลุยพวกวิญญาณตามเข้าไปด้านในถ้ำยูริจะพบกล่องมากมายที่ลอยอยู่ในน้ำ ซึ่งเมื่อสำรวจดูก็จะพบว่าหนึ่งในกล่องนั่นมีร่างของ ฮารุกะ นอนหมดสติอยู่ด้านใน เมื่อยูริสัมผัสโดนตัวเธอก็ทำให้รู้ว่า เธอถูกผู้หญิงในชุดเสื้อคลุมใช้พลังจากลูกแก้วบางอย่างเพื่อล่อลวงให้ฮารุกะเข้ามาที่ถ้ำนี้และโดนมันจับขังไว้ในกล่องรวมกันผู้หญิงรายอื่นๆ ส่วนเพราะอะไรนั้นยูริไม่ได้สนใจเพราะทันทีที่ ฮารุกะ เริ่มรู้ตัวถึงแม้ว่ายังไม่ได้มีสติมากเธอก็ต้องพา ฮารุกะ หนีออกจากที่นี่ก่อน
- ทันทีที่ช่วยฮารุกะออกมาพวกวิญญาณของผู้หญิงที่ตายในกล่องขังอิจฉาจนต้องออกมาโจมตีทันที จัดการพวกมันให้หมดแล้วคุ้มครองฮารุกะกลับขึ้นมาที่ห้องตุ๊กตาเพื่อออกมานอกศาลเจ้าให้ได้ เมื่อออกมาถึงหน้าศาลเจ้าแล้วจู่ๆ ฮารุกะ ก็วิ่งเข้าป่าไปทันที เก็บจดหมายฉบับที่ 5 ที่ตกอยู่มาแล้วรีบตามเธอไป ตอนนี้ถ้าไม่อยากหลงก็อย่าเพิ่งงกไอเทม รีบวิ่งตามฮารุกะไปก่อน ผ่านสะพานไปจะพบเธอยืนรออยู่กลางบึง
- ฮารุกะจะชี้ให้ดูวิญญาณของ ฟูยูฮิ ฮิมิโนะให้ดูก่อนที่มันจะเริ่มเข้ามาโจมตีทั้งคู่ วิญญาณฟูยูฮิจะค่อยๆเดินเข้าโจมตีแบบเนิบๆแต่ทางของเธอคือ ยิ้มก่อนที่จะหายตัวพุ่งเข้ามาฟันทำให้เดาทางยาก ซึ่งเมื่อเห็นมันเริ่มยิ้มก็ถอยฉากออกเตรียมโต้ได้เลย เมื่อจัดการได้แล้ว ฮารุกะ จะเรียกชื่อ ฟูยูฮิ … ออกมา ซึ่งแปลว่าเธอยังจำเพื่อนเธอได้ดี จากนั้นยูริก็จะพาฮารุกะออกจากภูเขากลับไปที่ร้านได้อย่างปลอดภัย
ที่ร้าน Kurosawa Antiques …
ยูริ พาฮารุกะกลับมาพักฟื้นโดยมี เร็น และ รุย เดินทางมาสมทบด้วย เร็นพยายามจะสอบถามเรื่องราวต่างๆ แต่ดูเหมือนฮารุกะจะยังช็อกจนพูดอะไรออกมาไม่ได้มาก ทุกคนจึงให้เธอพักให้สบายใจก่อน จากนั้นทุกคนจะแยกย้ายไปพักผ่อน ยูริ ที่เดินมาเจอเร็นกำลังนอนหลับที่โซฟาก้ดันมือบอนเอามือไปแตะตัวจนรับรู้เรื่องราวในอดีตของเร็น
ภาพที่ยูริเห็นคือ เร็น ในวัยเด็กที่ดูเหมือนเขาเองเคยพยายามที่จะฆ่ามิโกะคนนึงอยู่เหมือนกัน แต่รุยดันมาขัดจังหวะเข้ามาเรียกซะก่อนจนเร็นตื่น แล้วทั้งคู่ก็จะขอตัวกลับเพื่อไปหาข้อมูลกันต่อ
ในคืนที่เหนื่อยล้าของยูริ เธออาบน้ำชำระล้างร่างกายไปพร้อมๆกับความเครียด แต่ขณะที่กำลังจะเอนตัวลงน้ำให้สบายตัว จู่ๆเส้นผมประหลาดก็ออกมารัดคอของเธอจนหายใจไม่ออก รู้สึกตัวอีกทีก็จะพบว่าถูกขังอยู่ในลังเหมือนฮารุกะ แต่พอพยายามจะเปิดลังหนีออกมาก็จะพบวิญญาณที่น่าขยะแขยงโผล่ออกมาตรงหน้า..
..แต่ก็โชคดีทีมันเป็นแค่ฝันร้าย… ยูรินอนไม่หลับอีกเลย เธอได้แต่เดินไปมาในร้านเพื่อแก้เบื่อ แต่กลับรู้สึกมีเสียงดังมาจากชั้นล่างจึงลงไปดูแต่ก็ไม่พบอะไร ยูริเลยลองเข้าไปเปิดดูกล้องวงจรปิดดู ก็พบว่า
…ฮารุกะกำลังเดินโซเซออกจากร้านไปพร้อมๆกับ วิญญาณของ ฟูยูฮิ เสียแล้ว ……..
บทที่ 5 マヨイガ
หลังจากกลับจากบ้านของยูริ เร็น ก็ยังครุ่นคิดไม่ตกถึงคดีของ ฮารุกะ ที่ดูเหมือนมันจะเกินเลยและน่าหวาดกลัวเข้าไปทุกที เร็น จึงเอาวีดีโอเทปที่เขาได้มาลองเปิดดูซึ่งก็เป็นบันทึกของนักท่องเที่ยวที่เข้าไปลองดีที่ศาลเจ้าร้างจนเกิดเหตุสยองขึ้น เทปจบลงพร้อมกับเสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นพอดิบพอดี..
ปลายสายคือเสียงของ ซาคากิ คาซูยะ 榊一哉เด็กหนุ่มที่อยู่ในลิตส์รายชื่อของคนที่หายสาปสูญไปนั่นเอง
ซาคากิ ไม่ได้พูดอะไรมากไปกว่า ตอนนี้เขาติดอยู่ที่ศาลเจ้าร้าง ก่อนที่จะวางหูไปทันที ด้วยความงุนงงและอยากรู้ที่อัดแน่นอยู่ในใจ เร็น เขาจึงไม่รอช้าที่จะเก็บของแล้วชวน รุย ผู้ช่วยสาวทอมไปหาข้อมูลยัง ศาลเจ้าตุ๊กตา คาตาชิโร่ ที่เกิดเหตุทันที โดยไม่รู้ว่าบางคนหรือบางสิ่งได้ควบคุมให้ ซาคากิ ล่อเขาให้ไปที่นั่น
- ทันทีที่เตรียมของเสร็จก็ออกประตูห้องมาได้เลย เร็นและรุย เดินทางมาถึง ศาลเจ้าตุ๊กตา คาตาชิโร่ ทันที เมื่อเข้ามาในบ้านร้างหลังศาลเจ้า เข้ามาแล้วเปิดประตูใหญ่ทางขวาของทางเดินเข้าไปจะพบช่องทางลงทางลับใต้ดินได้เลย แต่ในขณะที่เร็นกำลังลงไปสำรวจข้างใต้ศาลเจ้า
รุยก็กลับรู้สึกถึงพลังบางอย่างทำให้เธอเดินเข้าไปดูในห้องตุ๊กตาคนเดียวจนได้พบกับวิญญาณตุ๊กตา ชิราจิกุ เจ้าเดิมที่พยายามจะยื่นตุ๊กตาต้องสาปให้เธอ ในขณะที่ เร็น ที่สำรจดูช่องที่ลงชั้นใต้ดินนั้นเต็มไปด้วยน้ำท่วมลึกมากจนไม่สามารถลงไปได้ พอหันมาก็ไม่พบรุยที่เดินตามมาซะแล้ว พอเดินเข้ามายังห้องตุ๊กตาก็พบแต่ความว่างเปล่า จู่ๆ วิญญาณเด็ก 3 ตัวก็ออกมาชวนเล่นซ่อนหาแล้วก็หนีไป ซึ่งการแก้ปริศนาก็ต้องตามหาพวกวิญญาณเด็กทั้ง 3 ให้เจอนั่นเอง
- ออกจากห้องตุ๊กตาทางประตูด้านซ้ายของชั้นวางตุ๊กตาไปต่อ ลงไปยังชั้นล่างที่เต็มไปด้วยน้ำท่วมขังจนถึงบันไดทางขึ้นอีกด้าน เข้าไปด้านในต่อจนมาออกที่ประตูหลังที่ป่าสุสานตุ๊กตา สำรวจเก็บของให้ทั่วๆก่อนแล้วค่อยกลับเข้าประตูหลังของศาลเจ้าฝั่งขวาไปต่อ ตรงทางเดินที่พื้นไม้เป็นหลุม
ถ่ายรูปตรงนี้จะพบวิญญาณเด็กหญิงแอบอยู่ จากนั้นเข้ามาด้านในจนถึงลานกลางของศาลเจ้าที่เต็มไปด้วยน้ำท่วม ลุยน้ำขึ้นไปที่ทางเดินด้านขวาไปเข้าประตูขวาต่อ เข้าไปยังห้องเก็บของที่มีชั้นวางตุ๊กตา
เมื่อหาจนตรบแล้วก็จะเห็นวิญญาณเด็กผู้ชายทำของตกอยู่ที่ลานน้ำท่วมตรงกลางบ้าน
- เดินเลี้ยวขวาออกไปยังลานน้ำท่วมกลางพื้นที่แล้วเข้าไปเก็บ บันทึกบอกใบที่ตกอยู่มา แล้วย้อนกลับเข้าประตูเดิมมาในห้องที่มีห้องเก็บของที่เจอวิญญาณตัวสุดท้ายแล้วเดินเข้าประตูเล็กที่อยู่ตรงกันข้ามประตูที่เข้ามาไป หันทางซ้ายเดินไปที่ห้องเก็บของที่อยู่สุดทางเดิน เปิดเข้าไปจะเจอตุ๊กตาตั้งอยู่ ตั้งกล้องถ่ายรูปไอวิญญาณที่พื้นหน้าตุ๊กตาก็จะพบตัว รุย ที่โดนวิญญาณตุ๊กตา ชิราจิกุ พามาซ่อนได้สำเร็จ
- จากนั้นจะพบวิญญาณเด็กหญิงที่ทางเดินซึ่งเธอจะนำทางเร็นและรุยให้ตามเธอไปจนถึงลานน้ำท่วมกลางพื้นที่ วิญญาณเด็กจะเปิดประตูกลางให้เข้าไปต่อ เมื่อเข้าไปแล้วจะพบกับ บอส วิญญาณชายแบกกล่อง จัดการมันซะแล้ว เร็น จะเข้าไปสัมผัสวิญญาณของมันจนเห็นภาพในอดีตที่ชายที่แบกลังกำลังโดดลงจากหน้าผาบนยอดเขา
จน รุย เรียกสติของเร็นให้กลับมาแล้วเปิดประตูด้านในกลับไปที่ห้องตุ๊กตาอีกครั้ง เร็นจะได้เจอกับ วิญญาณตุ๊กตา ชิราจิกุ ซึ่งทำให้เขาจำได้ว่าเคยเจอมาแล้วเมื่อในอดีต ก่อนที่ ชิราจิกุ จะหายตัวหนีไป
- เดินเข้าไปสำรวจตรงมุมห้องที่เป็นทางลับลงชั้นใต้ดินต่อ เข้าไปตามทางในถ้ำใต้ศาลเจ้าจนถึงบึงน้ำที่เต็มไปด้วยลังมากมายตามที่ ฮารุกะ บอก ด้านใน เร็น จะพบประตูที่มียันต์มากมายแปะอยู่ ซึ่งปิดตายด้วยตราสัญลักษณ์ ตั้งกล้องถ่ายตรงไอวิญญาณที่ประตูจะได้รูปบอกใบ้มา
ซึ่งต้องสำรวจกล่องในน้ำใบทางขวาของประตูยันต์ ตามในรูป แล้ววิญญาณในกล่องจะออกมาสู้ จัดการมันซะแล้วเข้าไปสำรวจที่กล่องจะได้ ตราสัญลักษณ์ มา นำเอาไปเปิดประตูยันต์เข้าไปด้านในได้เลย
จากนั้น เร็น ก็จะเริ่มสัมผัสได้ถึงวิญญาณของเจ้าบ้านทันที บ้านค่อนข้างกว้างและซับซ้อนด้วยห้องมากมาย พยายามอย่ากลัวหลง สำรวจเก็บไอเทมให้ทั่วๆ พยายามตามวิญญาณที่บอกใบ้ทางไปเรื่อยๆ ที่ชั้นล่างจะมีบันไดขึ้นชั้นบนทางด้านฝั่งซ้าย ขึ้นไปจะพบวิญญาณเจ้าของบ้านออกมาให้ถ่ายรูป เก็บบันทึกที่ชั้นวางหนังสือแล้วเข้าไปในห้องด้านในจะเป็นห้องสมุด เข้าไปเก็บหนังสือด้านในมาอีกเล่ม ด้านในเป็นโต๊ะทำงานของเจ้าของบ้าน ซึ่งวิญญาณเขาก็จะออกมายืนยันให้ด้วย เข้าไปเก็บสมุดอีก 2 เล่ม เทปคาสเซ็ท 1 ตลับในห้องทำงาน รุย จะเรียกให้ไปสำรวจที่ช่องทางเดินด้านขวาจะมีประตุเข้าไปยังห้องเก็บของด้านบนจะมีบันไดขึ้นไปห้องเก็บของชั้นบนด้วย ปีนชะโงกขึ้นไปมองไปทางขวาจะได้บันทึกอีกเล่ม
- กลับออกจากห้องสมุดลงมาชั้นล่างจะพบว่าห้องนั่งเล่นที่ประตูเคยเปิดอยู่นั้นปิดซะแล้ว เมื่อเปิดออกดูจะพบวิญญาณกล่องออกมาโจมตี จัดการมันซะแล้วเร็นจะเข้าไปสัมผัสวิญญาณของมันทำให้เห็นถึงตอนที่เจ้าของบ้านชาวต่างชาติโดนปีศาจมิโกะเฮี้ยนในชุดผ้าคลุมฆ่าตาย
เก็บบันทึกบนกล่องมาแล้วทันทีที่เปิดประตูเข้าด้านในก็จะเจอวิญญาณชายแบกกล่องเข้าโจมตีทันที จัดการมันซะแล้วเข้าไปที่หลังบ้านที่วิญญาณชายแบกกล่องบุกเข้ามา เข้าประตูทางฝั่งซ้ายไปต่อ ผ่านห้องนั่งเล่นจนไปถึงประตูหน้าบ้าน จะพบวิญญาณกล่องไม้ออกมาโจมตี จัดการมันซะแล้วหนีออกจากบ้านทางประตูหน้าได้เลย แต่เมื่อทั้งคู่หันกลับไปดูจะพบว่าบ้านหลังใหญ่ที่เข้าไปผจญภัยเมื่อครู่ก็หายวับไปกับตาเสมือนกับว่ามันไม่เคยมีอยู่ และสถานที่ที่ทั้งคู่อยู่กลับเป็นอาคารสถานีรถกระเช้า ชิราซูโนโมริม่า ที่ภูเขา ฮิคามิยามะ ซะอย่างนั้น
แต่ทั้ง เร็น และรุย ที่ตอนนี้เต็มไปด้วยปริศนาที่ดับมืดอยู่เต็มสมองก็ไม่รีรอที่จะขึ้นกระเช้าไปในทันทีเหมือนกัน ..
บทที่ 6 永久花
ทางด้าน ยูริ หลังจากพยายามตามหาพี่ ฮิโซกะ จากเบาะแสลิสต์รายชื่อบรรดาคนที่หายตัวไปทั้ง 3 ที่ ฮิโซกะ กำลังทำคดีอยู่จนสามารถช่วยเหลือ ฮารุกะ หนึ่งในผู้เคราะห์ร้ายมาได้ แต่ก็ต้องเสียเธอไปหลังจากที่โดนวิญญาณ ฟูยูฮิ เพื่อนสนิทลากกลับขึ้นเขาไปอีกครั้ง ยูริ ไม่รีรอที่จะออกตามหาพี่ ฮิโซกะ ของเธอต่อจากเบาะแสคนหายคนต่อไป มิอุ ฮินาซากิ …
- พอเข้ามาในสถานที่เบาะแสวิญญาณของ มิอุ ก็เริ่มนำทางทันที ถ่ายรูปแล้ววิ่งเลาะริมฝั่งน้ำมุดรั้วตามเธอไปจนถึงสถานีรถไฟ เข้าไปในตู้รถไฟแล้วกดสวิตซ์ออกเดินทางขึ้นเขาเคฟลูก้าได้เลย ลงจากรถไฟแล้วแวะเข้าไปเก็บไอเทมต่างในห้องควบคุมก่อนแล้วค่อยลงจากสถานี
- ลงจากสถานีจะเข้าสู่เขตป่าเขา เข้าไปด้านในจะพบ มิอุ กำลังเดินเข้าไปในวัดร้าง (แวะลงไปเก็บไอเทมที่ด้านล่างก่อนก็ดี) จากนั้นค่อยตามเข้าวัดร้างไป เปิดเข้ามาก็เจอกับวิญญาณมิโกะเฮี้ยนที่ออกมาร่ายรำต้อนรับทันที จัดการมันซะแล้ว ยูริ จะใช้สัมผัสสื่อวิญญาณดูความทรงจำของมันซึ่งก็จะเห็นภาพชายแบกกล่องที่กำลังโดนมิโกะเฮี้ยนตามล่าไล่ล่า
- จากนั้นสำรวจเก็บไอเทมรอบๆพื้นที่ให้หมดแล้วเข้าไปในห้องบูชาพระโถงกลางจะพบวิญญาณของ มิอุ กำลังเดินเข้าไปตามช่องทางเดินด้านขวา ตามเข้าประตูขวาไปและเข้าประตูกลางตรงทางเดินต่อไปจนถึงห้องสุดทางเดินเลยบันไดทางลง เข้าไปจนถึงประตูใหญ่จะทะลุออกมาที่ระเบียงทางเดินอีกด้าน แล้วเดินไปเข้าประตูที่สุดทางเดินต่อ แวะเก็บไอเทมต่างๆในห้องด้านซ้าย แล้วค่อยลงบันไดที่สุดทางเดินไปชั้นล่างต่อ
- ชั้นล่างจะเป็นพื้นที่น้ำท่วมขัง แวะออกไปเก็บไอเทมที่ระเบียงด้านนอกแล้วกลับเข้ามา เดินไปเข้าห้องที่สุดทางเดินด้านในจะพบวิญญาณมิอุเดินเข้าไปยังช่องทางเดินด้านซ้าย ตามเข้าไปจนถึงประตูสุดทางเดิน ด้านในจะเป็นห้องโถงใหญ่ที่มีน้ำท่วมขังและกล่องที่วางอยู่กลางห้อง ถ่ายรูปที่ไอวิญญาณบนกล่องก็จะได้รูปบอกใบ้มา
- จากนั้นออกจากห้องย้อนกลับไปทางที่เข้ามาแล้วไปตามทางแยกอีกด้านเข้าประตูสุดทาง เข้ามาในห้องโถงกว้างที่เต็มไปด้วยน้ำท่วมขัง วิญญาณมากมายจะออกมาโจมตี จัดการซะแล้วออกประตูอีกด้านไป เข้าไปสุดทางจะพบบันไดขึ้นชั้นบนต่อ ขึ้นมาแล้วเข้าประตูกลางทางขวาของระเบียงทางเดินต่อจนถึงประตูที่มุมก่อนถึงบันไดทางลง เข้าไปที่ประตูสุดทางจะเข้ามาถึงห้องทำพิธี จัดการวิญญาณนักบวชซะ แล้วเข้าไปถ่ายรุปที่จุดไอวิญญาณที่โต๊ะบูชาก็จะได้ภาพบอกใบ้ออกมา 3 ภาพ
- ย้อนออกจากห้องทำพิธีแล้วลงบันไดตรงหน้ามาชั้นล่างที่มีน้ำท่วมขัง เข้าประตูซ้ายมือตรงมุมทางเดินก่อนถึงบันไดทางขึ้นที่สุดทางอีกด้านจะเป็นห้องเก็บโลงศพ ถ่ายรูปวิญญาณมิโกะที่ม่านหน้าต่างมา ซึ่งก็จะตรงกับรูปคำใบแรก
จากนั้นจัดการมันซะด้วยแล้วเข้าไปเก็บบันทึกตรงที่วิญญาณทำตกไว้ที่หลังม่านแล้วออกประตูหลังม่านไปต่อ
- เข้ามาตามทางเดินน้ำท่วมขังจนถึงทางแยก 3 ทางบันไดด้านหน้า ทางขวา และลานฝั่งซ้าย หันไปทางซ้ายจะพบวิญญาณอยู่บนเรือ ถ่ายรูปมันซะก็จะตรงตามรูปบอกใบที่ 2 เก็บบันทึกที่ตกอยู่
จากนั้นเดินไปทางด้านท้ายเรือที่ประตูตรงทางเดินใกล้ๆบันไดทางขึ้นทางแยกตรงจากทางที่เข้ามา เข้าไปแล้วหันไปทางซ้ายจะเจอ หน้าต่างลูกกรงไม้ที่มีวิญญาณอยู่อีกด้าน
ถ่ายรูปซะก็ตรงกับรูปคำใบ้ที่ 3 เก็บบันทึกตรงมุมหน้าต่าง เมื่อทำครบทั้ง 3 คำใบ้แล้วก็จะได้ตรากระจกรูปไฟ มากาชิฮิ มา
– จากนั้นย้อนกลับมาที่ห้องทำพิธีอีกครั้งแล้วเอา ตรากระจกรูปไฟ มากาชิฮิ ใส่ที่แท่นบนโต๊ะบูชาจะทำให้ช่องที่พื้นด้านหลังแท่นบูชาเปิดออก ย้อนกลับออกจากห้องทำพิธีจนถึงบันไดลงชั้นล่างที่มีน้ำท่วมขังแล้วเดินวนไปขึ้นบนไดทางขึ้นที่สุดทาง เข้ามาแล้วไปตามทางเดินแยกซ้ายแล้วเลี้ยวขวาไปเข้าประตูที่สุดทางจะกลับมาที่ห้องโถงใหญ่ที่มีน้ำท่วมขังและกล่องที่วางอยู่กลางห้องได้
- จัดการบอส วิญญาณผีน้ำ ที่ออกมาให้ได้แล้วเข้าไปสำรวจที่กล่องยูริก็จะสามารถช่วย มิอุ ที่ถูกขังอยู่ได้สำเร็จ จากนั้นเมื่อพาเธอออกจากห้องก็จะพบว่าน้ำเริ่มเจิ่งนองเข้ามาจนท่วมขังพร้อมๆกับวิญญาณร้ายในชุดผ้าคลุมที่ค่อยๆย่างกรายออกมาขัดขวางที่หน้าทางเดิน
- ยูริ พา มิอุ ออกมาจนถึงเขตป่าแล้วเข้ามาที่สถานีรถไฟ แต่จะพบว่ามันไม่มีพลังงาน จากนั้นต้องเข้าไปในห้องควบคุมจัดการวิญญาณให้หมดแล้วกดสวิตซ์เปิดการทำงานของรถกระเช้า แล้วออกมาขึ้นรถกดสวิตซ์หน้ารถออกเดินทางได้เลย แต่เวรกรรมทำให้ขากลับไม่ได้สบายเหมือนขามา จู่ๆรถไฟก็เกิดหยุดกลางคัน ทำให้ทั้งคู่ต้องลงกลางป่าเพื่อเดินทางต่อกันเอง
– จากนี้เป็นเส้นทางเดินลุย เพราะไม่มีปริศนาอะไรที่ต้องแก้นอกจาก หาทางเอาตัวรอดจากเส้นทางที่ยาวไกลและเต็มไปด้วยภูติผีตลอดทาง ลุยเข้ามาตามเส้นทางป่าจนถึงประตูลูกกรงที่เปิดออกมาสู่ถนนเรียบทางขึ้นเขา แล้วลุยต่อเข้าไปในอุโมงค์จนทะลุออกมาอีกด้าน ลุยเข้าไปตามทางในอุโมงค์ที่กำลังก่อสร้างจนมาออกที่ตึกร้างในเขตน้ำพุร้อนได้ ทั้งคู่ก็จะหนีออกจากภูเขาได้สำเร็จ
ที่ร้าน Kurosawa Antiques … ยูริ พามิอุ กลับมาพักฟื้นโดยมี เร็น และ รุย มาสังเกตการณ์ด้วยเช่นเคย หลังจาก รุย เรียก เร็น ออกไปดูงานต่อ ยูริ ที่รู้สึกแปลกๆกับ มิอุ มาตั้งแต่แรกเจอ ก็เริ่มมือบอนเอามือไปแตะตัวมิอุ เพราะอยากรู้เรื่องราวในอดีตของเธอทันที …
ยูริ ล้วงลึกเข้าไปอดีตของ มิอุ ได้แค่ว่า มิอุ นั้นเคยเป็นนางแบบถ่ายชุดว่ายน้ำ แต่..ยูริ กลับถูก มิอุ ใช้พลังล้วงลึกเข้ามาความคิดจนรับรู้อดีตของเธอแทน
ยูริ ในวัยเด็กนั้นเธอมีพลังที่สามารถมองเห็นวิญญาณแต่เธอแทบจะไม่เข้าใจถึงพลังตัวเองเลยแม้แต่นิด เธอรู้แค่ว่าเธอถูกวิญญาณนั้นตามหลอกหลอนไปทุกทีจนทุกย่างก้าวของเธอเต็มไปด้วยความหวาดกลัว วันนึงที่ท่ารถเมล์หลังเลิกเรียน แม้ในขณะที่เดินถนนในตอนกลางวัน ยูริ ก็รับรู้ได้ถึงวิญญาณสยองที่กำลังเดินตามเธอ ด้วยความกลัวเธอก็ได้แต่ปิดตาปิดหูและพร่ำว่าอยากกำจัดมันไปให้พ้นๆ แต่เมื่อลืมตามาอีกครั้ง ก็พบว่า ผู้คนมากมายที่อยู่บนถนนรอบตัวเธอกลับบาดเจ็บล้มตายเป็นจำนวนมาก
.. ด้วยความสำนึกผิด เธอคิดว่าจะฆ่าตัวตายด้วยการโดดลงที่หน้าผา และนั่นคือ ก่อนที่ยูริจะถูกช่วยเหลือ ได้รับการเรียนดูและฝึกฝนจาก ฮิโซกะ คุโรซาว่า พี่สาวเจ้าของร้านขายของเก่าที่มีพลังเหมือนกับเธอ
ทันทีที่สติคืนมาอีกครั้ง ยูริ ก็ถูก มิอุ ล้วงความลับจนหมดแล้ว .. เมื่อตาของทั้งคู่ประสานกัน ยูริ ก็เริ่มรับรู้ทันทีว่า เด็กสาวที่ชื่อ มิอุ ฮินาซากิ คนนี้ไม่ธรรมดาซะแล้ว ….
บทที่ 7 逢生
ถึงแม้ว่าทั้ง ยูริ และ มิอุ จะเพิ่งหนีตายกันมาจากวัดร้าง แต่ วิญญาณผู้หญิงในชุดดำที่แสนน่ากลัว ที่ไร้ตายเธอมา มันตรงกับรูปที่เป็นเบาะแสหลักของ ฮิโซกะ ด้วย ยูริจึงจำต้องขึ้นเขาอีกครั้งเพื่อตามเบาะแสด้วยรูปภาพของวิญญาณหญิงชุดดำว่าจริงๆแล้วมันคืออะไรกันแน่ ?
– เข้ามาในเขตสวนหินดอกไม้กังหันจะเจอวิญญาณเด็ก 3 ตัวดักรออยู่ ทางเดินด้านซ้ายจะพบเบาะแสของฮิโซกะบอกทางอยู่ เข้าไปตามช่องทางด้านซ้ายต่อจนถึงสุดทาง ที่ลานเล็กๆด้านในที่เต็มไปด้วยกล่องสีดำ ยูริพบหญิงชราในชุดผ้าคลุมดำที่เตรียมกล่องวางไว้ข้างตัวพร้อมทั้งใช้ตราสัญลักษณ์ส่องไฟมาที่เธอ จนทำให้ยูริต้องมนต์บางอย่าง ลืมตาขึ้นมาอีกครั้งก็กำลังจะถูกจับกล่องซะแล้ว ในขณะที่หญิงชราในชุดดำกำลังจะเดินเข้ามา ยูริก็พยายามดิ้นจนงัดกล้องออกมาใช้จนได้
- ใช้กล้องโจมตีมันจนหลุดออกมาจากกล่องได้ จากนั้นก็จะสามารถออกมาสู้ด้านนอกกล่องได้ตามปกติ จัดการมันซะ เก็บบันทึกและเล็นท์อัพเกรดแล้ว ตามเบาะแสของ ฮิโซกะ เข้าไปตามเส้นทางด้านในต่อจนถึงทะเลสาปขนาดใหญ่ด้านใน ยูริ จะพบเบาะแสของ ฮิโซกะ เดินลุยน้ำเข้าไปต่อจนทำให้เธอเองต้องลุยน้ำตามลงไปด้วย
เมื่อถึงกลางน้ำ ยูริก็เริ่มเห็นผมดำสลวยค่อยๆผุดขึ้นจากน้ำก็รูทันทีว่าใบหน้าที่สุดสยองของวิญญาณสาวชุดดำต้องโผล่ตามมาแน่นอน ซึ่งก็เหมือนเดิม ยูริ ไม่สามารถทำอะไรมันได้เลย ทางเดียวคือต้องพยายามหาทางหนีขึ้นมาบนฝั่งให้ได้ โดยพอมันเริ่มโจมตีก็ถ่ายรูปเก็บแต้มไปก่อนจากนั้นก็หันหลังกลับแล้วโกยในน้ำให้สุดแรงไปข้างหน้าเรื่อยๆในขณะที่มันก็โผล่ออกมาดักหน้าอีก แถมยังมีหมอกสีเขียวปกคลุมให้ดูทิศทางยากด้วย พยายามหลบหลีกตอนมันโผล่ออกมาดักหน้าแล้วเดินหน้าไปเรื่อยๆไม่นานยูริก็หนีรอดขึ้นมาบนฝั่งได้สำเร็จ
บทที่ 8 大禍刻
ที่ร้าน Kurosawa Antiques …ในคืนหลังจากที่ยูริหนีรอดมาจากทะเลสาปมรณะได้ ขณะที่ยูริและมิอุกำลังหลับด้วยความหมดแรง เร็นและรุยก็เริ่มงานของทั้งคู่ด้วยการตั้งกล้องวงจรปิดเอาไว้ทั่วบ้านเพื่อสังเกตสิ่งผิดปกติ ในขณะที่ทั้งคุ่กำลังเฝ้าดูกล้องในห้องของทั้ง ยูริ และ มิอุ จู่ๆเร็นก็เห็นทั้งคู่เริ่มดิ้นทุรนทุรายขึ้นมา พร้อมๆกับ รุย ผู้ช่วยของเขาที่จู่ๆก็ล้มลงเหมือนไม่รู้สึกตัวเหมือนโดนสะกดไปอีกคน เร็น ชายหนุ่มผู้โชคดีท่ามกลางหญิงสาวน่ารัก 3 คนที่กำลังไม่มีสติพร้อมกล้องวงจรปิดรอบบ้าน ถ้าไม่นับเรื่องผีละก็ เร็นก็ถือว่าโชคดีสุดๆแล้ว
- สำรวจเก็บบันทึกสำคัญๆในห้องให้หมดแล้วสำรวจมอนิเตอร์เพื่อตรวจสอบกล้องวงจรปิดได้เลย (โดยใช้ Gamepad นี่แหละ) ไล่ดูกล้องไปทีละตัวแล้วสังเกตที่กล้องเบอร์ 10 ที่บริเวณหน้าร้านชั้นล่างจะเริ่มพบสิ่งผิดปกติเข้ามาทางประตูแล้ว และกล้องเบอร์ 4 ที่ห้องของยูมิก็จะเห็นวิญญาณกำลังเข้าไปก่อกวนเธอที่เตียง
รีบออกจากห้องแล้วขึ้นไปที่ห้องของยูริที่ชั้น 3 จะพบวิญญาณของ ฟูยูฮิ อยู่ในห้อง จัดการมันซะ เมื่อมองออกนอกหน้าต่างจะพบวิญญาณอีกหลายตัวที่กำลังปรากฎตัวออกมาให้ถ่ายรูป แวะเข้าไปเก็บบันทึกต่างๆและถ่ายรูปผีในกระจกที่ห้อง ฮิโซกะ ที่อยู่ชั้นนี้ซะด้วย แล้วค่อยไปลงบันไดที่สุดทางเพื่อกลับลงไปห้องทำงานตัวเอง
- สำรวจจอมอนิเตอร์อีกครั้งตรวจดูกล้อง 2 และ 12 จะพบวิญญาณของ ฮารุกะ กำลังเดินเข้าไปยังห้องของ มิอุ รีบขึ้นไปที่ชั้นบน เข้าห้องสุดทางเดินจะเป็นห้อง มิอุ แต่จะพบว่าเธอปลอดภัยดี กลับมาที่ห้องทำงานจะพบว่ามีบางอย่างแอบเข้ามาเปิด TV เล่น สำรวจปิด TV ก็จะเห็นวิญญาณกำลังจะทำลายรุยอยู่ จัดการมันซะ
– สำรวจจอมอนิเตอร์ต่อตรวจดูกล้องเบอร์ 10 หน้าร้านชั้นล่างจะมีวิญญาณอยู่ รีบออกไปหน้าร้านจัดการวิญญาณ 2 ตัวที่อยู่ที่นั้นซะ แล้วกลับมาสำรวจจอมอนิเตอร์ในห้องทำงานอีกครั้ง ที่กล้อง 4 ห้องยูริมีวิญญาณอีก 3 ตัวกำลังจะรุมเธออยู่ แต่พอหันกลับมาก็จะไม่พบ รุย อยู่ในห้องแล้ว รีบขึ้นไปชั้นบนเข้าห้อง ยูริ จะเห็นรุยกำลังเดินเข้าไปด้วย
- เดินเข้าห้องยูริจะพบว่า เร็น จะเข้ามาในบ้านของมาโยก้าในภูเขาแทนและพบ รุย กำลังเดินเข้าไปด้านใน ตามเธอขึ้นไปจนถึงห้องสมุดเข้าไปในห้องทำงานของมาโยก้า จะพบรุยอยู่ในห้องเก็บของด้านในที่มีกล่องดำวางอยู่
เมื่อเร็นพยายามเข้าไปจับแขนเธอ เขาก็จะสะดุ้งตื่นกลับมาที่ห้องอีกครั้ง เร็นรู้สึกเหมือนครึ่งหลับครึ่งตื่น จึงรีบใช้กล้องวงจรปิดตรวจดูอย่างละเอียดอีกครั้งก็จะพบว่า จริงๆแล้วเร็นนั้นเผลอหลับไปตั้งแต่แรกจึงทำให้ รุย นั้นถูกวิญญาณของ ฮารุกะ จับตัวไป และ ยูริ ก็ถูกวิญญาณของ ฟูยูฮิ จับตัวหายไปเช่นกัน
แต่ มิอุ กลับรู้สึกตัวขึ้นมาอีกครั้งพร้อมสติครบถ้วน เธอจึงไม่มีทางเลือกที่ต้องใช้กล้องของ ยูริ เพื่อออกไปช่วย ยูริ ซึ่งเร็นเองก็ไม่ค่อยจะยินดีนักเพราะเขาก็เป็นห่วง มิอุ ด้วย แต่เขาเองก็คงตามไปคุ้มครองไม่ได้เพราะเขาก็ต้องรีบตามไปช่วยผู้ช่วยของเขา ซึ่งเร็นก็รู้ดีว่าเขาจะตามไปช่วย รุย ได้ที่ไหน
..ในขณะที่ มิอุ กำลังจะเดินออกประตูไป เร็น ก็พยายามจะห้าม แต่ทันทีที่เขาสัมผัสถูกตัว มิอุ เขาก็รู้สึกถึงอะไรบางอย่าง ..เขารู้สึกเหมือนว่า มิอุ คือ มิโกะที่เขาเคยฆ่าตายในวัยเด็กขึ้นมาทันที ..
บทที่ 9 柩籠
ตอนนี้ยังไม่มีใครล่วงรู้ถึงอดีตความเป็นมาและพลังลึกลับของ ฮินาซากิ มิอุ มากนักรู้เพียงแต่ว่า เธอถูกวิญญาณจับตัวไปเพราะพยายามตามหา แม่ ของเธอที่หายสาปสูญไป และเพราะเธอเป็นไม่ค่อยแสดงความรู้สึกออกมาจึงไม่มีใครรู้ว่าในใจเธอมีความกล้ามากแค่ไหน แต่เรื่องพลังวิญญาณเธอมีไม่ต่างจากยูริเลยแม้แต่นิดเดียว เผลอๆอาจมากกว่าด้วยซ้ำ ไม่ว่ายังไงตอนนี้ มิอุ เธอได้สะพายกล้องสะกดวิญญาณเดินทางมุ่งสู่ภูเขา ฮิคามิยามะ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว เพื่อตามหา ยูริ และ รุย ที่ถูกวิญญาณจับตัวไป
- ทันทีที่มิอุขึ้นรถไฟตรงขึ้นสู่เขตภูเขาวิญญาณมากมายก็ออกมาต้อนรับเธอทันที จัดการวิญญาณที่สถานีให้หมด แล้วเข้าสู่เขตป่าเขาได้เลย เข้ามาจนถึงหน้าทางเข้าวัดร้าง กด ZR ตามไอวิญญาณของ ยูริ ไปได้เลย ระหว่างทางก็จะมีเบาะแสของยูริคอยบอกตลอดทาง เส้นทางของมิอุเป็นเส้นทางลุยยาวซึ่งเป็นเส้นทางเดิมที่ยูริเคยมาตอนบทที่ 8 นั่นแหละ เพียงแต่มิอุอาจต้องเจอกองทีพวิญญาณเข้ามาขัดขวางเธอเยอะกว่าเท่านั้นเอง ถ้าจำทางไม่ได้ก็พยายามกด ZR ตามรอยยูริไปเรื่อยๆเอา เริ่มเดินทางจากเส้นทางเลาะเข้ามาตรงทางเข้าวัดร้าง ผ่านเขตสุสานที่วกวน มาถึงศาลเจ้ากังหันดอกไม้ แล้วออกไปที่จุดหมายคือ ทะเลสาปมรณะที่สุดทาง
- ที่ทะเลสาปมรณะ มิอุ พบ ยูริ กำลังเดินลงไปในน้ำเธอจึงรีบลงไปช่วยทันที และทันทีที่มือของ มิอุ ที่แตะถูกตัวพร้อมคำพูดปลอบใจทำให้ ยูริ นึกถึงตอนที่ ฮิโซกะ โอบกอดและปลอบใจเธอก่อนจะดึงเธอขึ้นจากขุมนรกด้วยมือที่อ่อนโยน และครั้งนี้ก็ไม่ต่างกันเลย
- ทันทีที่ทั้งคู่เจอกันแขกเจ้าประจำก็ออกมาขัดขวางทันที วิญญาณหญิงชุดดำโผล่ขึ้นมาจากน้ำอย่างช้าๆก่อนจะเข้ามาเอาชีวิตของทั้งคู่ทันที ถึงแม้จะเป็นมิอุตอนนี้ก็ยังทำอะไรมันไม่ได้นอกจากถ่ายรูปงามๆเก็บแต้มแล้วหันหลังโกยขึ้นฝั่งให้เร็วที่สุด แต่กับมิอุดูเหมือนมันจะไล่ล่าเธอเกินกว่าแค่ชายหาด พยายามหนีต่อแบบไม่ต้องห่วงยูริเพราะเมื่อถึงจุดหมายเธอก็จะมารออยู่เอง จัดการวิญญาณทั่วไปที่มาขวางทางแล้วรีบหนีไปจนถึงที่เขตของสถานีรถไฟมันจึงจะเลิกตาม มิอุก็จะช่วยยูริเอาไว้ได้สำเร็จ …
บทที่ 10 幽婚
ทางด้าน เร็น ก็ออกเดินทางมุ่งสู่ภูเขา ฮิคามิยามะ จากอีกด้านเพื่อออกตามหา รุย ผู้ช่วยของเขาที่เคยเห็นในนิมิตรว่าเธอถูกอยู่ที่บ้านร้างของมาโยก้า ..
– เส้นทางของ เร็น นั้นเริ่มตั้งแต่เขตป่าภูเขาเลย ซึ่งก็เป็นแผนที่เดิมในตอนแรกๆ แต่เส้นทางจะเต็มไปด้วยวิญญาณร้ายที่ออกมาขวางทางมากกว่าเดิม ตลอดเส้นทางไม่มีปริศนาอะไร พยายามใช้การกด ZR ตามร่องรอยของรุยไปเรื่อยๆ ซึ่งก็เป็นโอกาศอันดีที่จะออกนอกเส้นทางเพื่อสำรวจให้ทั่วๆเก็บไอเทมก่อนก็ได้ หรือถ้าขี้เกียจก็เข้าไปที่เป้าหมายคือ ศาลเจ้าตุ๊กตา คาตาชิโร่ ได้เลย จากนั้นก็เข้าที่ห้องตุ๊กตาเพื่อลงไปยังทางลับใต้ดินสู่ถ้ำใต้ศาลเจ้า ลุยเข้าไปด้านในต่อจนถึงบ้านร้างของมาโยก้า
- เข้ามาที่บ้านร้างของมาโยก้าแล้ว สำรวจเก็บไอเทมให้ทั่วๆก่อนเพราะที่นี่ก็ไม่มีปริศนาเช่นกัน จากนั้นค่อยมุ่งหน้าขึ้นไปยังห้องสมุดชั้นบน เข้าไปในห้องเก็บของในห้องทำงานของมาโยก้าตามที่เคยเห็นในฝันก็จะพบ รุย ถูกจับมาขังไว้ในกล่องดำ เร็น ดีใจที่สามารถช่วย รุย ได้ในที่สุด
ทันทีที่รุยลืมตาขึ้นเธอก็โผเข้ากอดอาจารย์ของเธอด้วยความดีใจทันที เร็นเองก็ดีใจเช่นกัน แต่การกอดเริ่มเปลี่ยนเป็นการฉุดรั้งและดึงเร็นลงไปในกล่องดำด้วยโดยเขาไม่ทันได้ตั้งตัว …!
- เร็นรู้สึกตัวขึ้นมาอีกครั้งที่บ้านแห่งหนึ่งที่เขาไม่คุ้นเคย และเขาก็ไม่ทันสังเกตว่าถูกเฝ้ามองดูอยู่จากสายตาของมิโกะแก่ๆที่แสนหน้าเกลียดอยู่ที่หน้าต่างอย่างเงียบก่อนที่มันจะหายตัวไป เมื่อเก็บบันทึกในห้องมาอ่านจะทำให้รู้ว่าที่นี่เป็นบ้านของ ซาคากิ คาซูยะ 榊一哉เด็กหนุ่มที่อยู่ในลิตส์รายชื่อของคนที่หายสาปสูญไปนั่นเอง จากนั้นเร็นจะเริ่มสำรวจสถานที่ทันที ที่ชั้นนี้ไม่มีอะไรสำคัญ สำรวจเก็บของในห้องต่างให้หมดแล้วค่อยลงไปชั้นล่าง
– เข้ามาในห้องชั้นล่างจะเต็มไปด้วยรูปเก่าๆแปะบนพนังมากมายและที่เร็นก็ได้พบเบาะแสของ ซาคากิ ปรากฏให้เห็นด้วย สำรวจเก็บบันทึกในห้องแล้วออกมาที่ทางเดินด้านใน ถ่ายรูป ซาคากิ ที่แอบอยู่ตรงป้ายผ้าแล้วเข้าไปเก็บสมุดบันทึกตรงจุดที่วิญญาณหายไปมาอีกเล่ม จากนั้นสำรวจห้องต่างๆตามทางเดินของชั้นนี้เพื่อเก็บของให้หมด(ที่ประตูสุดทางเดินด้านในผ่านห้องนี้ไปจะเจอบันไดขึ้นชั้นบนของอีกฝั่งก็คือห้องชั้นบนที่เพิ่งลงนั่นแหละ) จากนั้นกลับไปเข้าห้องถัดจากห้องรูปเก่าที่ออกมาด้านแรกจะเป็นห้องอาหาร จัดการวิญญาณมิโกะให้หมดแล้วเปิดประตูออกไปที่ระเบียงทางเดินของสวนญี่ปุ่นกลางบ้าน
- เมื่อเดินเข้ามาตรงสุดทางเดินจะพบหญิงชราคนนึงออกมาเชิญให้เข้าประตูสุดทางไป ในห้องด้านในเร็นจะพบผู้หญิงในชุดกิโมโนโบราณคนนึงที่หน้างดงามนั่งอยู่ พอเข้าไปใกล้นางก็เปลี่ยนเป็นวิญญาณเฮี้ยนผ้าคลุมดำที่น่าขยะแขยงทันที
แต่หลังจากรู้สึกตัวอีกที เร็น ก็กลับมาอยู่ในอ้อมกอดของรุยในบ้านร้างมาโยก้าแล้ว และโชคดีที่รุยก็กลับมาเป็นปกติเหมือนเดิมอีกครั้งด้วย
- จากนั้นก็พารุยออกจากที่นี่ได้เลย ขณะที่กำลังออกจากห้องสมุดเร็นก็ได้พบเบาะแสทางวิญญาณของซาคากิขึ้นมาอีกครั้ง
ลงมาชั้นล่างเข้าห้องโถงที่ทางเดินด้านในจะพบ ซาคากิ ปรากฏตัวขึ้นอีกครั้งข้างๆกล่องดำที่วางอยู่กลางห้อง ทะลุผ่านห้องนี้ไปจะออกมาที่ทางเดินด้านใน เลี้ยวขวาไปตามทางเดินขวาจนถึงประตูทางออกตรงสุดทางเดินจะพบไอวิญญาณอยู่ที่ลูกบิดประตู ถ่ายรูปมาซะก็จะได้รูปบอกใบ้มา
– จัดการวิญญาณที่ออกมาจากมุมทางเดินให้หมดแล้วกลับมาที่ห้องโถงที่มีกล้องกลางห้อง ถ่ายรูปรูปที่เรียงกันอยู่บนของประตูตามที่เห็นในรูปบอกใบ้ก็จะได้กุญแจประตูมา
จากนั้นวิญญาณร้ายในกล่องจะเริ่มออกมาโจมตี ซึ่งก็ไม่ใช่ใครที่ไหนวิญญาณของ ซาคากิ นั่นเอง จัดการมันซะแล้วเอากุญแจไปไขประตูทางออกจากบ้านแล้วมุ่งหน้าไปที่สถานีรถไฟได้เลย เร็น ก็จะพา รุย หนีออกมาได้สำเร็จ
ในขณะที่ทั้งคู่กำลังนั่งรถไฟกลับบ้าน รุย ที่นั่งอยู่ที่เบาะตรงกันข้ามถึงกับขยับมานั่งข้างๆเร็นก่อนที่เธอจะหลับบนไหล่เร็นด้วยความเหนื่อยล้า ทิ้วไว้แต่รอยยิ้มเล็กๆบนใบหน้าเร็นที่ตอนนี้คงเริ่มรู้สึกอะไรกับผู้ช่วยสาวคนนี้มากกว่าเดิมซะแล้ว …
บทที่ 11 夜泉子
ทางด้าน มิอุ หลังจากช่วย ยูริ กลับมาได้อย่างปลอดภัยแล้ว แต่จุดมุ่งหมายของเธอยังไม่จบ เพราะตราบใดที่เธอยังไม่สามารถตามหาแม่ของเธอได้ เธอคงไม่มีวันนอนตาหลับแน่นอน และคืนนี้ก็เช่นกัน มิอุ ตื่นขึ้นกลางดึกเพื่อเริ่มแผนของเธออีกครั้ง แต่ก่อนอื่นเธอต้องการอาวุธและเบาะแสคนหายของฮิโซกะที่อยู่กับยูริมาก่อน
- ออกจากห้องเดินไปตามทางเดินจนถึงห้องของยูริตรงบันไดทางลงเข้าไปเก็บกล้องสะกดวิญญาณและรูปในแฟ้มคดีคนหายของ ฮินาซากิ มิกุ แม่ของเธอ จากนั้นก็ลงไปชั้นล่างออกประตูที่หน้าร้าน มิอุ ก็จะขึ้นรถไฟเดินทางมาที่ ภูเขาฮิคามิยามะ ทันที
** ถึงตอนนี้คงได้เปิดเผยกันแล้วว่า ฮินาซากิ มิอุ ก็คือลูกสาวของ ฮินาซากิ มิกุ นางเอกในภาคแรกจริงๆ แถม มิกุ เธอก็ไม่ยอมเปลี่ยนชุดซะด้วย กลัวจำไม่ได้ ^_^ **
- จากสถานีรถไฟ เดินทางเข้าเขตป่าเข้าจนถึงหน้าวัดร้าง เลาะเข้าทางเล็กข้างๆทางขวาของทางเข้ามาจนถึงสุสานเจดีย์ที่น้ำท่วมขัง เดินเลาะมาทางฝั่งขวาจะพบเบาแสของมิกุเดินนำทางให้เห็น เดินเลาะไปทางฝั่งขวาต่อจนถึงทางขึ้นฝั่งที่เป็นทางที่มีดอกไม้แดงข้างทาง
(ซึ่งเป็นทางไปที่บ้านของ ซาคากิ ที่เร็นเคยมาหลงอยู่ที่นี่นั่นแหละ) จะพบเบาะแสของมิกุให้เห็นอีกครั้ง เข้าไปตามทางจนถึงตัวบ้านก็จะพบเบาะแสของมิกุเดินเข้าไปในบ้านโบราณนั่นไป
- ตามเข้ามาในบ้านห้องแรกจะเป็นห้องบรรพบุรุษที่เต็มไปด้วยรูปภาพเก่าจะพบวิญญาณคนรับใช้แก่เดินผ่านให้ถ่ายรูป ออกประตูขวาขึ้นบันไดไปชั้นบนจะพบวิญญาณของ ซาคากิ เดินผ่านให้ถ่ายรูป เดินตามมันไปที่ทางเดินแยกขวาประตูสุดทางเปิดไม่ออกให้เข้าประตูเลื่อนไปในห้องแล้วเลื่อนดูช่องระหว่างห้องจะเจอคนนอนอยูในห้องด้านในที่ปิดอยู่ จากนั้นวิญญาณของ ซาคากิ จะโผล่ออกมาสู้ จัดการวิญญาณเจร็อคนี่ซะ จากนั้นออกจากห้องเข้าประตูจรงทางเดินด้านซ้ายจะเป็นบันไดลงชั้นล่างต่อ
- เข้าประตูไปในห้องเก็บของเก็บไอเทมให้หมดแล้วเปิดประตูอีกด้านทะลุเข้าไปในส่วนในต่อ ซึ่งก็จะพบวิญญาณเจร็อคของ ซาคากิ โผล่มาอีกแล้ว สำรวจห้องต่างๆแล้วเข้าห้องอาหาร ถ้ากด ZR ดูจะพบเบาะแสของไอวิญญาณเข้าไปทางประตูด้านขวาในห้องกินอาหารต่อ แต่มิอุจะตามเข้าไปไม่ได้ ถ่ายรูปไอวิญญาณตรงมือจับประตูก็จะได้รูปบอกใบ้มา
– เข้าห้องประตูเลื่อนตรงสุดทางเดินที่มีผ้าม่านกั้นในห้องลองกดเปิดม่านดูจะพบ มิกุ นั่งส่องกระจกอยู่ก่อนที่จะค่อยๆจางหายไป จากนั้นกลับมาห้องกินอาหารอีกครั้งจะเจอวิญญาณมิโกะออกมาสู้จัดการมันซะ แล้วจะสามารถเข้าประตูเลื่อนด้านขวาของห้องไปได้ ผ่านเข้าไปจะเป็นทางออกมาถึงระเบียงทางเดินนอกบ้าน ซึ่งก็จะพบวิญญาณยายแก่เดินอยู่ ตามมันไปเข้าห้องประตูเลื่อนที่สุดทางเดิน
– ในห้อง มิอุ จะเห็นกล่องดำขนาดใหญ่เธอจึงพยายามเข้าไปเปิดดูแต่วิญญาณยายแก่จะออกมาขัดขวางซะก่อน มันจะเข้าโจมตีขณะที่มิอุกำลังล้มอยู่ด้วย รีบตั้งกล้องแล้วยิงช็อตเด็ดให้มันชะงักไปก่อนถึงจะถึงตัวแล้วค่อยตั้งหลักจัดการกับมัน ซึ่งไม่มีอะไรมากเพราะยายแกเน้นแอบ
- เมื่อจัดการมันได้แล้ว มิอุ จะเข้าไปเปิดกล่องเพื่อช่วย มิกุ แม่ของเธอออกมาได้ ทันทีที่มิอุสัมผัสโดนตัวแม่ของเธอก็จะเห็นภาพตอนที่ มิกุ ถูกล่อลวงมาให้มาที่บ้านหลังนี้เพื่อเข้าพิธีวิวาห์กับ ซาคากิ หลังจากที่ มิกุ เริ่มได้สติแล้วก็พาแม่ลุยกลับออกมาจากบ้านโบราณ เมื่อออกมาพ้นถึงเขตสุสานเจดีย์ มิอุ ก็จะแม่ของเธอหนีกลับมาที่ร้านได้สำเร็จ
หลังจากการต่อสู้ที่แสนเหนื่อยล้าต้องแลกมากด้วยความกล้าของเด็กสาวคนนึงที่พยายามจะช่วยแม่ของเธอที่หายไปกลับคืนมา คืนนี้ที่สองแม่ลูกนอนหมดแรงกอดกันช่างเป็นคืนที่อบอุ่นที่สุด..อย่างน้อยๆก็คืนนี้
บทที่ 12 彼岸船
หลังจากที่ ยูริ ตกใจตื่นขึ้นอีกครั้งหลังหายจากอาการโดนของไป เมื่อเธอหายดีแล้วเธอจึงไม่รีรอที่จะออกตามหา พี่ฮิโซกะ และ หาความจริงกับวิญญาณเฮี้ยนชุดดำนั่นให้ได้
- สำรวจในบ้านให้ทั่วจะพบ มิกุ นอนหมดแรงอยู่ในห้องชั้นบนและลงมาชั้นล่างก็จะพบ มิอุ นั่งบ่นพรึมพ่ำอยู่คนเดียวที่หน้าร้าน เมื่อออกจากร้าน ยูริ จะเดินทางมาที่ภูเขา ฮิคามิยามะ ตรงหน้าทางเข้าวัดร้างทันที
** ก่อนอื่นต้องจำที่นี่ให้ดีๆด้วยเพราะต้องมาหลายรอบ ที่นี่จะมีบันไดทางขึ้นอยู่ 2 ด้าน ด้านท้ายเรือคือทางที่ลงมา และ ด้านขวาของเรือที่ต้องใช้ตราสัญลักษณ์ 2 อันในการเปิดซึ่งเป็นปริศนาหลักของที่นี่ **
- ถ่ายรูปวิญญาณที่เรือ แล้วเก็บบันทึกที่เรือมา เข้าไปที่ประตูตรงช่องทางเดินทางซ้ายจากท้ายเรือต่อ เข้าไปตามทางจนถึงโถงถ้ำด้านในจะพบไอเทมบางอย่างติดอยู่บนถังน้ำที่ย้อยบนเพดานถ้ำ
จัดการวิญญาณแบกกล่องที่ออกมาแล้วเข้าไปด้านในต่อจนเจอประตูที่สุดทางด้านในถ้ำ เข้าไปจะมีบันไดขึ้นไปยังสะพานข้ามน้ำไปยังประตูฝั่งตรงข้าม (บนสะพานถ้ามองทางด้านซ้ายจะเห็นลานน้ำท่วมที่เรือลอยอยู่ด้านล่าง ส่วนทางด้านขวาจะเป็นประตูใหญ่ที่มีน้ำท่วมขังอยู่ )
- เข้ามาแล้วจะมีทางแยกทางตรงและทางเดินด้านขวาที่มีวิญญาณเดินไป เดินไปทางตรงจนถึงประตูสุดทาง ไม่ต้องเข้าประตูแต่เข้าช่องทางเดินด้านซ้ายของประตูไปต่อจนถึงประตูที่สุดทางด้านซ้าย เข้าไปจะเป็นทางเดินในห้องที่มีน้ำท่วมขังและมีกล่องอยู่กลางห้อง แต่จะมีลูกกรงไม้กันอยู่ เดินทางขวาไปจะพบประตูบานใหญ่ เปิดเข้าไปแล้วมุดเข้าไปในถ้ำเล็กๆด้านในจะมีแท่นบูชาศพอยู่ เข้าไปสำรวจจะเห็นมีไอวิญญาณปกคลุมอยู่ ใช้กล้องถ่ายเข้าไปจะทำให้เห็นกล่องไม้ปรากฏออกมาเก็บตราสัญลักษณ์แห่งเมฆมา
- จากนั้นย้อนกลับไปจนถึงลานน้ำท่วมที่มีเรือลอยอยู่ ออกประตูมาแล้วเดินเลาะทางเดินไปทางซ้ายแล้วขึ้นบันไดซ้ายไปชั้นบนต่อ เข้าประตูซ้ายมาด้านในจะพบประตู 2 ด้านที่สุดทางเดิน เข้าประตูเล็กขวาบนมาในห้องที่มีกล่องดำวางอยู่หลายกล่อง เข้าประตูหลังห้องไปต่อตามทางเดินไปจนถึงประตูต่อไปจะเข้ามาถึงถ้ำเล็กๆที่มีบ่อน้ำบาดาลอยู่ เข้าไปสำรวจเพื่อปลดเชือกผูกถังให้หล่นไปในบ่อ
- ย้อนจากบ่อบาดาลกลับมาทางเดิม ในห้องที่มีกล่องดำจะเริ่มมีวิญญาณออกมาต้อนรับแล้ว จัดการให้หมดแล้วย้อนกลับออกมาที่ลานน้ำท่วมที่มีเรือลอยอยู่ เข้าประตูตรงทางเดินท้ายเรือเข้าไปยังถ้ำที่เห็นไอเทมแขวนอยู่บนเพดานอีกครั้ง ตอนนี้มันจะตกลงมาแล้วเพราะเชือกที่ทิ้งลงมาจากบ่อบาดาลนั่นแหละ เก็บไอเทมหมุดกุญแจสีทองที่ตกอยู่มา
- ย้อนกลับออกมาจนถึงลานน้ำท่วมขังที่มีเรือลอยอยู่อีกครั้งแล้วขึ้นบันไดทางซ้ายของทางเดินไป ขึ้นมาแล้วเลี้ยวขวาเข้าห้องโถงใหญ่ที่มีตะเกียงมากมาย แล้วลงบันไปเล็กลงไปใต้ห้องนี้จะเจอหีบใหญ่ที่อยู่ในลูกกรงไม้ที่เคยเข้าจากด้านนอกไม่ได้นั่นเอง สำรวจกล่องแล้วใช้หมุดกุญแจสีทองไขเปิดกล่องออกแล้ว ยูริ จะมุดเข้าไปด้านในจะพบแท่นบูชาศพที่มีกล่องวางอยู่ สำรวจเก็บตราสัญลักษณ์แห่งจันทรามา
- จากนั้นย้อนกลับมาที่ลานน้ำท่วมที่มีเรือลอยอยู่ แล้วขึ้นบันไดอีกด้านไปจะพบประตูใหญ่ที่เคยเปิดไม่ได้อยู่ ใช้ตราสัญลักษณ์ทั้ง 2 อันที่ได้มาเปิดเข้าไปจะพบแท่นบูชาศพด้านในถ่ายรูปที่จุดไอวิญญาณที่ศพจะได้รูปบอกใบ้มา
ซึ่งเป็นรูปของประตูใหญ่ที่อยู่ฝั่งตรงข้ามที่เรือขวางอยู่นั่นเอง ลงมาที่ลานน้ำท่วมแล้วเข้าไปตรงเรือถ่ายรูปไปที่ประตูใหญ่เหมือนในรูป ประตูใหญ่ด้านในก็จะเปิดออก ยูริก็จะขึ้นเรือล่องออกไปทางประตูใหญ่ได้แล้ว
- ยูรินั่งเรือล่องเข้ามาตามเวิ้งน้ำกว้างจนเริ่มเห็นวัดโบราณขนาดใหญ่อยู่ตรงหน้า 水上ノ宮 เมื่อเรือจอดที่ท่าน้ำก็เข้าไปด้านในได้เลย จากท่าน้ำเข้ามาจนถึงประตูทางเข้าลานวัดด้านหน้าที่มีน้ำท่วมขัง เก็บไอเทมให้หมดแล้วเข้าไปที่ประตูใหญ่ด้านในได้เลย
- ผ่านประตูหน้า 2 ชั้นเข้ามาจนถึงห้องแรกที่มีกล่องดำอยู่กลางห้อง เข้าไปสำรวจดูก็จะพบพี่ ฮิโซกะ อยู่ข้างใน ทันทีที่ยูริสัมผัสตัวเธอก็ทำให้รับรู้ถึงเจตนารมณ์และคำสอนที่ ฮิโซกะ สอนเธอไว้ตั้งแต่วันแรกที่ฉุดเธอขึ้นจากนรก แต่พอรู้สึกตัวอีกทียูริก็พบพลังงานบางอย่างมาอยู่ด้านหลังเธอ วิญญาณพรายน้ำโผล่ออกมาและโจมตีใส่ ยูริ ทันที จัดการวิญญาณพรายน้ำให้ได้แล้วเข้าไปสัมผัสวิญญาณของมัน
ยูริ จะรับรู้ได้ว่าพรายน้ำตนนี้ก็คือเพื่อนสนิทของ พี่ฮิโซกะ ที่โดยครอบงำจนโดดหน้าผาตายไปก่อนหน้านี้หลายปี เป็นเรื่องที่ฝังใจ ฮิโซกะ มาตลอดและนั่นเป็นสาเหตุที่เธอถูกวิญญาณของเพื่อเธอล่อลวงมาเพื่อเป็นตัวตายตัวแทนเหมือนรายอื่นๆ และเป็นคำตอบว่าทำไม ฮิโซกะ ถึงตั้งใจที่จะใช้พลังของเธอช่วยเหลือผู้คนและแน่นอนรวมทั้งตัวยูริที่กำลังจะโดดหน้าผาวันนั้นด้วย ..
– จากนั้นก็พา ฮิโซกะ ลุยกลับออกมาเรือ แล้วยูริก็จะสามารถช่วยฮิโซกะเอาไว้ได้สำเร็จ
ที่ร้าน Kurosawa Antiques …
ยูริ ชงนำชาให้กับ ฮิโซกะ ที่นั่งจิบด้วยอาการผ่อนคลาย ใบหน้าของทั้งคู่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม ยิ้มที่เปื้อนหน้าของยูริคือความดีใจที่เธอสามารถช่วยเหลือผู้มีพระคุณของเธอเอาไว้ได้ ส่วนยิ้มเล็กๆที่มุมปากของฮิโซกะคือความภูมิใจที่ได้เห็นน้องสาวและลูกศิษย์คนเก่งของเธอเติบโตขึ้นแล้ว ฮิโซกะรู้ดีว่าตอนนี้ยูริไม่ใช่แค่ได้ช่วยเหลือคนอื่นด้วยพลังของเธอที่เธอเคยหวาดกลัวเท่านั้น แต่เธอได้ช่วยเหลือตัวเองจากวังวนจากความผิดบาปในจิตใจเอาไว้ได้อีกด้วย …
สำหรับ ฮิโซกะบรรยากาศที่โต๊ะชาในวันนี้ก็แทบไม่ได้แตกต่างจากหลายปีก่อนเลยแม้แต่นิดเดียว เพียงแค่มันได้สลับที่กันเท่านั้นเอง …
บทที่ 13 禍津陽
ที่ร้าน Kurosawa Antiques …
นาฬิกาขานเวลาตีบอกว่า เที่ยงคืน แสงจันทร์ที่สาดส่องคืนนี้ดูมันแดงผิดปกติ แดงเหมือนสีเลือด ในขณะที่ทุกคนกำลังหลับไหลอาจด้วยอ่อนเพลียหรือต้องมนต์ตรา แต่คืนนี้ เร็น กลับข่มตานอนไม่ลง เขายืนจ้องแสงจันทร์สีแดงฉานที่ส่องผ่านกระจกหน้าต่างอย่างเงียบๆอยู่คนเดียวจนเวลาผ่านไปไม่นาน เส้นผมสลวยที่ยืดยาวลงมาจากขอบหน้าต่างทำให้เขารู้ชะตากรรมในคืนนี้ทันทีว่ากำลังจะเจอกับอะไร แต่ที่ทำได้ในตอนนี้คือปกป้องทุกคนที่กำลังหลับอยู่ให้ได้ก่อน
- ตอนนี้แทบทุกที่ในร้านเต็มไปด้วยวิญญาณร้าย ออกไปจัดการพวกมันให้หมด เป้าหมายคือเข้าไปตามห้องของ มิอุ กับ มิกุ , ยูริ , ฮิโซกะ และ รุย เพื่อคุ้มกับพวกเธอ แล้วอย่าลืมเก็บบันทึกต่างๆในห้องของพวกเธอมาด้วย จากนั้นกลับห้องทำงานดูมอนิเตอร์ตรวจดูต่อ กล้อง 2 จะเห็นวิญญาณตรงทางขึ้นบันได ดูกล้องต่างๆให้ทั่วๆ แล้วออกนอกห้องจะพบวิญญาณของ ฟูยูฮิ รออยู่ในห้อง จัดการมันซะ จากนั้นดูมอนิเตอร์อีกรอบที่กล้อง 9 จะเจอวิญญาณผู้หญิงปรากฏอยู่ ออกจากห้องไปตามหาดู ถ้าไม่พบก็กลับมาที่ห้องทำงานจะพบวิญญาณชายแบบกล่องเข้ามาโจมตี จัดการมันซะ แล้วดูมอนิเตอร์อีกรอบที่กล้อง 10 จะเจอวิญญาณของ ซาคากิ ที่เค๊าท์เตอร์ขายของหน้าร้าน ออกจากห้องตามลงไปหน้าร้าน จัดการวิญญาณซาคากิซะแล้ว ถ่ายรูปเมนูบนเค๊าท์เตอร์ที่มีไอวิญญาณอยู่ จะได้สมุดบันทึกมา
- กลับไปห้องทำงานดูมอนิเตอร์อีกครั้งจะพบคลื่นรบกวนที่กล้อง 5 และ 7 ออกจากห้องขึ้นไปชั้นบนจะพบฝูงวิญญาณมากมายอยู่ จัดการมันให้หมดแล้วกลับมาห้องทำงานดูมอนิเตอร์ต่อจะพบว่ากล้อง 11 มีคลื่นพลังงานรบกวน ออกจากห้องขึ้นชั้นบนไปห้อง ฮิโซกะ เก็บบันทึกที่ตกอยู่มาแล้วถ่ายรูปวิญญาณผู้หญิงในชุดเจ้าสาวอยู่ในกระจก จากนั้นกลับมาห้องทำงานดูมอนิเตอร์ต่อที่กล้อง 6 เร็นจะเห็นตัวเองอยู่ในภาพ กำลังเดินไปตามทางเดินและไปในห้องสุดทางเดิน แล้วจู่ๆ เร็นก็รู้สึกตัวว่าตัวเองอยู่ที่บ้าน ซาคากิ อีกครั้ง
ทันทีที่ เร็น เดินเข้าไปในห้องพิธีที่สุดทางเดิน เร็น ก็จะพบสาวงาม 6 นางในชุดแต่งงานนั่งรอเขากันอยู่ ซึ่งแต่ละคนก็น่าคุ้นๆกันทั้งนั้น …..
บทอำลา 夜泉ノ花嫁
ที่ร้าน Kurosawa Antiques … ไม่มีกี่ชั่วโมงหลังจากนั้น ความทรงใจในหัวของยูริทั้งด้านดีและไม่ดีตอนนี้มันสับสนปนเปจนกลายเป็นความฝันที่ครึ่งหลับครึ่งตื่น ตั้งแต่โศกนาฎกรรมที่เธอไม่ได้ตั้งใจจะก่อ จนถึงพิธีกรรมบูชายันต์เหล่าหญิงสาว หญิงสาวที่เป็นเหล่าคนทรง ด้วยการหมกกล่องที่เต็มไปด้วยของเหลวสีดำ ที่ตามหลอกหลอนเธอจนถึงตอนนี้ และทันทีที่เธอตื่นขึ้น รอบๆตัวในห้องนั้นเต็มไปด้วยหมอกจนแทบไม่รู้ว่านี่เป็นความฝันหรือความจริง …
- ภายในร้านจะเต็มไปด้วยหมอกเต็มไปหมด เดินเข้าหาทุกคนที่นอนอยู่ในห้อง มิอุ กับ มิกุ , ยูริ , ฮิโซกะ และ รุย ซึ่งทั้งหมดก็หลับแบบไม่ได้สติ ตอนนี้ยูริสามารถใช้พลังในการแตะตัวพวกเขาในการดูความหลังได้ด้วย ยกเว้น 2 แม่ลูก มิอุ กับ มิกุ สำรวจเก็บทุกอย่างจนพอใจแล้วก็ออกทางประตูหน้าได้เลยยูริจะขึ้นไปยังภูเขาฮิคามิยามะอีกครั้งทันที
- เดินยาวตั้งแต่ทางขึ้นเขา ผ่านอาคารร้างที่บ่อน้ำพุร้อน มิโกะโมริ ฮอนเซ็น 水籠温泉 一縷荘จนถึงเส้นทางขึ้นเขา 楔ヶ淵จะเริ่มพบกลุ่มวิญญาณมิโกะ 死を看取る巫女เข้าโจมตีมาจากบนเนินน้ำตก จัดการให้หมดแล้วเข้าไปต่อจนถึงลานตะเกียงจะพบวิญญาณอีกกลุ่ม จัดการให้หมดแล้วเข้าไปในป่าต่อจนถึงรั้วที่ต้องมุดเข้าไปในเขตป่า 不知ノ森ต่อ เข้ามาตามทางจนถึงสะพานข้ามบึงที่ขาด เลาะป่าไปทางขวาของสะพานขาดต่อ ถึงตรงนี้ป่าจะกว้างและมองทางยาก พยายามกด ZR ตามรอยไอวิญญาณไปจะดีที่สุด
– ตามรอยไอวิญญาณไปตามทางในป่า ตลอดทางจะมีแต่กลุ่ม วิญญาณมิโกะ 死を看取る巫女เข้าโจมตีซึ่งนั่นแปลว่ามาถูกทางแล้ว เข้ามาจนถึง 胎内洞窟อุโมงค์รอดช่องเขาที่กำลังก่อสร้างที่เชื่อมต่อไปจนถึงอุโมงค์ของถนนที่สร้างเสร็จแล้ว ลุยไปตามถนนคอนกรีตจนสุดทางก็จะถึงบันไดขึ้นไปยังทางขึ้นสู่ภูเขาในเขตสถานีรถไฟฟ้า ผ่านสถานีรถไฟไปอีกด้านจะเข้าสู่อุโมงค์ 胎内洞窟ถ้ำใต้ศาลเจ้า เข้ามาแล้วมุดเข้าช่องทางด้านขวาต่อตามทางจนถึงประตูทางออกที่สุดทางจะมาทะลุในเขตป่าหน้าวัดร้าง เข้าไปที่หน้าวัดจะพบ門へと誘う花嫁 วิญญาณของผู้หญิงในชุดผ้าคลุม ออกมาต้อนรับก่อนที่จะส่งวิญญาณคนแบกกล่องเข้ามาโจมตี จัดการมันซะ แล้วเข้าประตูวัดไปได้เลย
ภาพความฝันที่เลื่อนรางในยุคอดีตที่ตากล้องโฮโจถูกเชิญให้ไปถ่ายรูปมิโกะสาวสวยในพิธีสำคัญ และ เด็กชายโฮโจและเด็กหญิงผมขาวเริ่มชัดเจนขึ้น อย่างน้อยภาพในความฝันที่เห็นตัวเองในวัยเด็กที่ถือมีดก็ไม่ได้ฆ่าเด็กผู้หญิงผมขาวคนนั้นเขาแค่ตัดปอยผมเธอเป็นที่ระลึกก่อนเธอจะถูกบูชายันต์ในกล่องมรณะในไม่กี่อึดใจ ก่อนที่ โฮโจ เร็น จะสะดุ้งตื่นขึ้นหลังจากเขาเผลอหลับไปในตอนที่เฝ้าดูมอนิเตอร์กล้องอยู่
- ทันทีที่ตื่นขึ้นมาเร็นก็พบว่าในร้านเต็มไปด้วยหมอกเต็มไปหมด แถมรุยที่นอนที่โซฟาก็ไม่ยอมรับรู้อะไรอีกด้วย ออกมาสำรวจในบ้านให้ทั่วๆเพื่อเก็บไอเทมก่อนแล้วกลับเข้ามาที่ห้องทำงาน สำรวจเก็บไอเทมในกล่องบนชั้นหนังสือจะได้ปอยผมสีขาวกับสมุดบันทึกมา
และเพื่อที่จะรู้ความจริงที่เขาหลงลืม เร็นจึงจะใช้หลักฐานที่เขามีเพื่อใช้เป็นเบาะแสต่อ จากนั้นออกจากห้องทำงานเร็นจะเดินทางมาที่ภูเขาฮิคามิยามะทันที
- เร็น เริ่มเดินทางขึ้นเขาที่อาคารร้างที่บ่อน้ำพุร้อน มิโกะโมริ ฮอนเซ็น 水籠温泉 一縷荘 ทันทีที่ข้ามสะพานเขาก็พบกับเบาะแสของตากล้องโบราณ 麻生邦彦ปรากฏขึ้นมาทันที และเมื่อเขาหายไปก็ตั้งกล้องถ่ายไปที่บันไดทางขึ้นเขาก็จะได้รูปวิญญาณของผู้หญิงในยุคโบราณมา ซึ่งการถ่ายรูปตามจุดที่มีวิญญาณของเร็นนั้นจะไม่ได้รูปบอกใบ้เหมือนทุกครั้งแต่จะได้รูปถ่ายในยุคโบราณของสถานที่นั้นๆมาแทน
- จากนั้นขึ้นบันไดไปมุดลอดเสาไม้ที่ล้มขวางทางด้านบนเข้าด้านในต่อจะเข้ามาที่เขตเส้นทางขึ้นเขา 楔ヶ淵 เดินเลาะหน้าผาไปจนเริ่มเห็นลานตะเกียงที่มีน้ำท่วมขังอยู่ด้านล่าง ถ่ายรูปไปที่ลานจะได้รูปในยุคโบราณมา จากนั้นเร็นจะเห็นตากล้องโบราณเดินอยู่ที่ลานด้านล่างไป เดินตามลงไปเก็บบันทึกที่ตกอยู่แล้วเข้าไปในป่าต่อจนถึงบันไดขึ้นเนินไปมุดเข้ารั้วลวดหนามไปในเขตป่า 不知ノ森ต่อ
- ตามร่องรอยไอวิญญาณไปจนถึงหน้าศาลเจ้าตุ๊กตา จะพบตากล้องโบราณที่นี่ ยกกล้องถ่ายเข้าไปที่ศาลเจ้าจะได้รูปถ่ายยุคโบราณของศาลเจ้ามา ซึ่งก็จะติดวิญญาณของมิโกะผมขาวมาด้วย เก็บบันทึกที่ตกอยู่หน้าศาลแล้วเข้าไปในบ้านร้างหลังศาลเจ้าได้เลย
- ลุยเข้ามาด้านในจนถึงลานกลางบ้านที่มีน้ำท่วมขังอยู่ เข้าประตูเลื่อนด้านซ้ายไปจะพบมิโกะผมขาวแอบดูอยู่หลังตุ๊กตา เดินไปเข้าประตูสุดทางเดินเข้าไปในผ่านห้องเก็บตุ๊กตาไปจนถึงประตูทางออกที่ป่าสุสานตุ๊กตาหลังสุสานได้ ถ่ายรูปมิโกะผมขาวที่มายืนรอต้อนรับแล้วเข้าไปเก็บบันทึกที่ตกอยู่มา เข้าไปในป่าสุสานตุ๊กตาจะเริ่มพบเบาะแสของ ตากล้องโบราณ ปรากฏออกมา ตามเข้าไปจนถึงเขตป่าด้านในต่อก็จะมาโผล่ที่หน้าวัดร้างได้
– จากนั้นเดินเลี้ยวขวาตรงทางเข้าวัดร้างเข้าพงหญ้าเข้าไปตามช่องทางเดินเล็กๆ ไปทางสุสานเจดีย์ที่มีน้ำท่วมขัง เลาะทางขวาไปจนถึงทางขึ้นบนบกตามเส้นทางที่มีดอกไม้สีแดงอยู่ข้างทางไปต่อ
- ทางด้าน ยูริ เดินทางมาจนถึงวัดโบราณกลางน้ำ水上ノ宮อีกครั้ง แล้วเข้าไปด้านในลานกว้างก่อนถึงทางเข้าวัด จะมีฝูงวิญญาณมากมายเข้ามาโจมตี ไล่จัดการพวกมันให้หมดแล้วเดินลุยน้ำเข้าตรงลานพิธีตรงกลางพื้นที่ตรงส่วนหน้าของวัดจะพบ วิญญาณพรายน้ำ เพื่อน ฮิโซกะ อีกครั้ง จัดการมันซะแล้วเข้าไปที่ทางเข้าด้านในวัดได้เลย
– ที่ห้องสวดมนต์ด้านในจะมีกล่องดำวางอยู่ จากนั้นต้องรับมือกับวิญญาณนักบวชดำ ขาว ตามด้วย หญิงชราชุดดำกับกระจกสะกดวิญญาณ จัดการพวกมันซะแล้ว ยูริ จะเข้าไปสัมผัสวิญญาณของหญิงแก่ทำให้รู้เรื่องราวบางอย่างของมัน
ภาพเหตุการณ์ในอดีตเผยให้เห็นถึงหญิงชราคนนี้ที่พยายามทำพิธีบางอย่างด้วยกล่องดำที่ลานพิธีติดหน้าผาด้านหลังวัด จนเกิดอาเพศ ทำให้มีน้ำสีดำต้องสาปจำนวนมากไหลทะลักออกมาจากกล่องดำเข้าท่วมพื้นที่ในภูเขาทั้งหมด ทั่วพื้นที่ของภูเขาคราคร่ำไปด้วยคำสาปที่แสนชั่วร้ายและจากวันนั้นก็ทำให้ ภูเขาฮิคามิยามะ ไม่เคยเหมือนเดิมอีกเลย …
ก่อนที่ มิอุ จะตกใจตื่นขึ้นมา แต่บนเตียงกลับไม่มีแม่เธอนอนอยู่แล้วเหลือทิ้งไว้ก็เพียงกล้องสะกดวิญญาณและรูปภาพพิธีแต่งงานโบราณที่ตกอยู่
- เก็บกล้องและรูปถ่ายเบาะแสมาแล้วออกมาที่ระเบียงหน้าห้อง มิอุ จะเห็นแม่เดินออกนอกร้านไป ตามออกไปได้เลย ทันทีที่ มิอุ ออกจากร้านก็จะเข้ามาที่หน้าประตูทางเข้าสวนหินกังหันดอกไม้ หน้าศาลเจ้าเด็ก แล้วตามรอยมิกุเข้าไปจนถึงบึงมรณะ
- ทางด้านเร็นหลังจากเข้ามาจนถึงบ้านของ ซาคากิ สำรวจเก็บไอเทมให้ทั่วๆแล้วเข้าห้องกินอาหารทะลุออกมาที่ทางเดินระเบียงด้านนอกขณะกำลังเดินเข้าไปห้องพิธีกรรมที่สุดทางเดินก็จะพบวิญญาณหญิงเดินเข้ามา ดูเหมือนมันจะไม่ได้พยายามขัดขวางอะไรเร็นแถมยังเชื้อเชิญให้เข้าไปด้านในด้วยซ้ำ แวะเข้าห้องประตูเลื่อนตรงมุมทางเดินเข้าไปถ่ายรูปน้องมิโกะผมขาว แล้วเก็บบันทึกที่ตกอยู่มา แล้วค่อยออกไปเข้าห้องพิธีกรรมที่สุดทางเดิน ที่ประตูทางเข้าด้านในต้องใช้รูปเจ้าสาวโบราณกับปอยผมมิโกะผมขาวในการเข้าไปด้านใน
ด้านในห้องพิธีกรรม เร็น จะพบกับเจ้าสาวคนสวยของเขารออยู่ ซึ่งแท้ที่จริงก็คือวิญญาณของหญิงชุดดำ เธอเชื้อเชิญเร็นให้เข้ามาใกล้ๆ เข้ามาสัมผัสเธอ สัมผัสความจริงที่เร็นอาจมิอาจจำได้ในชาตินี้
ความรู้สึกที่อบอุ่นในอ้อมกอดที่คุ้นเคย ของหญิงสาวที่เป็นอดีตคนรักของตากล้องหนุ่มที่ต้องพลัดพรากกันในชาติที่แล้ว ซึ่งตากล้องหนุ่มในอดีตชาติคนนั้นก็คือ เร็น ในชาตินี้นั่นเอง ความทรงจำในอดีตชาติ ความรักและการจากลาพลั่งพรูเข้ามาจนทำให้น้ำตาของเร็นไหลออกมาโดยไม่รู้ ก่อนที่ร่างของเจ้าสาวก็ค่อยๆเลือนลางหายไป …
ทางด้านมิอุ เธอ ก็เข้าไปถึงตัว มิกุ แม่ของเธอที่กำลังเดินเข้าสู่สายน้ำแห่งความตาย ทั้งคู่พร้อมทั้งวิญญาณมากมายกำลังยืนดูแสงสว่างจากที่เป็นเสมือนประตูสู่ปรภพ ทั้งคู่ยืนมองแสงสว่างจ้าที่งดงามด้วยกันเสมือนเพื่อแค่ให้เห็นเป็นบุญตา ก่อนที่มิอุจะดึงมือแม่ของเธอให้หันหลังกลับไปด้วยกัน จนมิอุตกใจตื่นอีกครั้งในห้องที่มีแม่เธอมาอยู่ในอ้อมกอดอีกครั้ง ..
- ทางด้าน ยูริ ที่วัดโบราณกลางน้ำ ประตูใหญ่ตรงหน้าคือเส้นทางที่เธอต้องเข้าไปจบโศกนาฎกรรมครั้งนี้ให้เร็วที่สุด เมื่อลุยเข้าไปจนถึงทางออกด้านก็จะเป็นเส้นทางไปที่หน้าผาหลังวัดลานซึ่งเป็นที่ทำพิธีบูชายันต์กล่องดำที่เป็นต้นเหตุของคำสาปทั้งหมด
ยูริพบกับ วิญญาณมิโกะเฮี้ยนสมดังตั้งใจ ไม่ว่าโศกนาฎกรรมจะเกิดจากอะไร หรือ เพราะเหตุใด พิธีกรรมนอกรีต น้ำตา ความพรัดพราก หรือ ความแค้น ทุกอย่างจะต้องจบลงแค่วันนี้ วิญญาณมิโกะเฮี้ยนนั้นการโจมตีส่วนใหญ่จะเป็นการพุ่งโจมตีจากระยะไกล ที่ดูเหมือนจะง่ายเพราะมีระยะในการโจมตี แต่การจะจัดการกับเธอได้โดยเร็วนั้นต้องใช้การถ่ายแบบ Fatal Frame แบบต่อเนื่อง ซึ่งการรอจังหวะให้เธอเข้ามาใกล้ระยะโพกัสให้เกิดความรุนแรงนั้นก็ต้องเสี่ยงกับการโดนมันพุ่งเข้าถึงตัวได้พอๆกัน
หลังจากจัดการมันได้แล้ว ยูริ จะเข้าไปสัมผัสสื่อวิญยาณกับร่างของเธอซึ่งนั่นเป็นสิ่งที่ยูริอยากรู้เป็นที่สุด พิธีกรรมนอกรีตประจำตระกูล ที่ต้องบูชายัญเจ้าสาวที่เป็นลูกสาวในตระกูล โดยการใส่ลงในกล่องดำแล้วเทน้ำสีดำที่เกิดจากพิธีไสยเวทย์จากการบูชายันต์หมักศพเหล่ามิโกะคนทรงวิญญาณเพื่อเพิ่มพลังให้พิธีกรรม ก่อนจะโยนหีบทิ้งลงหน้าผาให้จบลงกันทะเล วิญญาณบริสุทธิที่ถูกพรัดพรากจากคนรักหลอมรวมกับความคลั่งแค้นของเหล่ามิโกะผู้ถูกบูชายันต์ ก่อให้เกิดพลังแห่งความแค้นมหาศาลที่ทำให้พิธีกรรมครั้งนี้กลายเป็น คำสาปอาเพศในสภาพน้ำสีดำที่เน่าเหม็นไปด้วยคำสาปแช่งท่วมท้นออกมาจนทั่วพื้นที่ และไม่มีใครหน้าไหนจะหยุดมันได้ จนถึงรุ่นลูกรุนหลานในชาติภพปัจจุบัน
ทันที ยูริ เห็นภาพความจริงจากอดีต เธอจึงเข้าไปสวมกอดร่างมิโกะเฮี้ยน เพียงเพื่อจะดึงเอาวิญญาณบริสุทธิ์ของเจ้าสาวที่แสนดี ( ซึ่งก็คืออดีตชาติของ ฮินาซากิ มิกุ แม่ของ มิอุ ในชาตินี้) ที่กำลังจะตกนรกหมกไหม้อย่างไม่เป็นธรรม ด้วยคำพูดของยูริที่ว่า จงทำเพื่อคนรักของคุณในชาตินี้ (ซึ่งก็คือ โฮโจ เร็น นั่นเอง) จนสามารถสลายความแค้นของเหล่ามิโกะลงได้ เหลือไว้แต่เพียงร่างที่สวยงามของเจ้าสาวที่แสนสวยก่อนร่ำลาไปกับแสงสวางที่เป็นปลายทางของปรภพไปพร้อมๆกับคำสาปที่เกาะกินภูเขาฮิคามิยามะมายาวนาน
ท้องฟ้าสดใส แสงสว่างกลับคืนมายังอีกครั้ง ด้วยฝีมือของ โคสึคาตะ ยูริ จาก พลัง ที่เธอเคยหวาดกลัว ..
--------------------------------------------- THE END -----------------------------------------------
หลังจบคุณจะได้ bonus episode ให้เล่นเป็น Ayane จาก DOA และ Ninja Gaiden ในการปราบผีด้วย แต่เธอไม่เกี่ยวอะไรกับเรื่องหลักน๊ะ เอามันเฉยๆครับ