วันเสาร์ที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2560

Final Fantasy XV - Episode Gladiolus

             

                  Episode Gladiolus คืออะไร ? และจะหามาเล่นได้ยังไง ?




Episode Gladiolus ก็คือ DLC เนื้อเรื่องเสริมของ Gladio ที่ถูกทำแยกออกมาจากเนื้อเรื่องหลักที่ปล่อยออกมาให้โหลดวันที่ 28 มี.ค 2017


    


โดยสามารถเล่นได้ด้วยการซื้อ Season pass DLC รวมกับ Episode Ignis และ Prompto ที่ออกขายในตอนแรก หรือ จะซื้อแยกเดี่ยวต่างหากในราคา 159 บาทก็ได้


โดยเมื่อโหลดแพทอัพเดทล่าสุด 1.06 – 1.07 ที่ออกมาให้โหลดวันที่ 27 มี.ค 2017 แล้ว จะทำให้หน้าจอหลักมีเมนูใหม่คือ Download Content เมื่อกดเข้าไปจะพบ Episode Gladiolus ที่ซื้อมาอยู่ในนี้ ซึ่งจะเป็นเมนูใหม่ที่แยกออกจากเมนูของเนื้อเรื่องหลักของเกม


                                     คำเตือน (ที่คุณจะทำตามหรือไม่ทำก็ได้)

เรื่องราวใน Episode Gladiolus นั้นเกิดขึ้นหลังจากเรื่องราวในเนื้อเรื่องหลักของเกม หลังจากที่ Gladio ได้พ่ายแพ้ให้กับ Ravus ทำให้ยอมรับความน้อยเนื้อต่ำใจของตัวเองไม่ไหวจนต้องออกเดินทางไปค้นหาทางให้ตัวเองแข็งแกร่งขึ้น ฉะนั้นหากต้องการจะได้รับประสบการณ์เล่นที่สมบูรณ์ก็ควรจบเกมเสียก่อนจะเล่น Episode Gladiolus หรือ ไม่ต้องไปสนอะไร เล่นไปเลยก็สนุกได้ไม่ต่างกันครับ 



             บทสรุป Final Fantasy XV - Episode Gladiolus 



BY Decibel per oxide





[Gladio] – โคตรอิ่มเลยบอกตรงๆ ชาบูให้พ่อครัวเลย 
[Ignis] – ด้วยความยินดี นายรู้สึกมีความสุขมั๊ยตอนอยู่กับท่านแม่ทัพน่ะ
[Gladio] – อืมม
[Prompto] – เอ่อ คือ ..แผลบนหน้านายนั่นมัน ..ไปโดนอะไรมาหรอ ?
[Gladio] – เนี้ยหรอ?



[Noct] – เออ กากบาทรูปตัว X นั่นแหละ 
 [Gladio] – แค่รอยข่วนน่ะ ใครคนนึงที่ทำผิดพลาดครั้งใหญ่เลยล่ะ
[Noct] – ใครคนนึงนี่คงหมายถึงพวกอันธพาลล่ะสิ ?
[Ignis] – นายพูดถึงใคร ใครคนนึงนี่หมายถึงใครหรอ ?
[Gladio] –  .... พวกเขาเรียกมันว่า .. “จอมดาบ” 




                             Main Mission: Of Muscle and Mettle


การบังคับ Gladio ในการต่อสู้นั้นก็คล้ายๆกับ Noctis แต่จะแตกต่างกันที่อาวุธที่ใช้ร่วมกับ Skill ของ Gladio
-ปุ่ม O ใช้ในการโจมตีแบบธรรมดา Gladio สามารถทำคอมโบได้ 4 ชุดที่หนักหน่วงแต่ช้ามาก
-ปุ่มสี่เหลี่ยม ใช้ในการการ์ด โดยในขณะยกโล่การ์ดนั้นเกท Stamina สีน้ำเงินใต้เกทพลังชีวิตจะค่อยๆลดลงจนหมดจะเกิดสภาวะ Vulnerable ที่ไม่สามารถยกโล่การ์ดได้จนกว่าเกท Stamina จะกลับมา , หากกดสี่เหลี่ยมในจังหวะที่ศัตรูโจมตีมาพอดีแล้วกด O จะเกิดการโต้กลับหรือ Counterstrike ที่รุนแรงกลับไปได้ หากสามารถการ์ดป้องกันตัวได้ต่อเนื่องจนทำให้ระดับเปอร์เซ็นต์ของเกทวงกลมทางขวาล่างให้เพิ่มมากขึ้นแล้ว Blocking attacks หรือแรงโจมตีกลับเมื่อใช้การ Parry Counterstrike ก็จะรุนแรงมากขึ้นตามไปด้วย
- Glaive Art เป็น Skill แบบใหม่ของ Gladio เสมือนท่าใหญ่โจมตีแรงที่มีหลายระดับท่า (Perform) โดยการโจมตีศัตรูอย่างต่อเนื่องจนทำให้เกท Valor ค่อยๆสูงขึ้นจนเต็มก็จะค่อยๆเพิ่มระดับท่าต่างๆไปตามท่าที่มี เมื่อต้องการใช้ท่าไหนก็กดสามเหลี่ยมเพื่อโจมตีออกไปได้เลย


[Cor] – Gladio หรอ ?
[Gladio] – ใช่ แล้วคุณคิดว่าใครละ ?
[Cor] – หึหึ ..โทรมารบกวนตอนหงุดหงิดรึเปล่าเนี้ย ?
[Gladio] – คุณมาถึงแล้วหรอ 
[Cor] – ใช่ตอนนี้อยู่ที่ Crow’s Nest
[Gladio] – เยี่ยม และก็ขอบคุณที่ให้เข้าพบนะ เอาละ คุณพร้อมจะไปกันรึยัง ?
[Cor] – แน่นอน แล้วนายละ เตรียมใจเตรียมกายมาดีพอแล้วนะ ?  
[Gladio] – พร้อม เดี๋ยวผมจะไปหาเดี๋ยวนี้ 



                                 ร้าน Crow’s Nest , Taelpar Rest Area 





[Cor] – ชั้นจะถามนายอีกครั้งนะ นายพร้อมที่จะไปเผชิญหน้ากับ “จอมดาบ”  แล้วใช่มั๊ย ?   
[Gladio] – ผมถึงกับต้องรบกวนท่านแม่ทัพให้มาช่วยแบบนี้ คงเปลี่ยนใจไม่ได้แล้วมั้งครับ และผมจะไม่มีวันยอมแพ้จนกว่าจะแข็งแกร่งมากกว่านี้ 
[Cor] – ชั้นจะถามนายอีกครั้ง นายพร้อมหรือไม่พร้อม ?  
[Gladio] – ถ้าไม่ผมจะถ่อมาถึงนี่หรอครับ ?
[Cor] – งั้นนายก็พร้อมที่จะเผชิญหน้ากับความตายแล้วใช่มั๊ย ? Gilgamesh รอทดสอบนายยอยู่ที่ส่วนลึกสุดของถ้ำ กว่า 30 ปีกว่าเราจะค้นพบถ้ำนั่น เราส่งคนมากมายเข้าไปสำรวจแต่ก็ไม่ได้ข้อมูลอะไรเลย และ ..ไม่มีใครรอดกลับมาด้วย 
[Gladio] – ยกเว้นคุณไง ที่เข้าไปทดสอบในถ้ำนั่น แล้วก็รอดออกมาได้
[Cor] – ก็ไม่เชิงหรอก .... เอาละ ไปกันได้แล้ว 



เมื่อนานมาแล้ว Ifrit ผู้ทรยศเข้าเปิดศึกกับเหล่าเทพแห่ง Hexatheon ที่เหลือทั้งหมด หลายราตรีพ้นผ่านการต่อสู้ของเหล่าทวยเทพก็ยิ่งเดือดดาลคลั่งแค้นยิ่งขึ้น จนเศษซากของความรุนแรงจากการเข้าปะทะระหว่าง Bahamut และ Ifrit แตกกระจายร่วงหล่นลงบนยอดเขา Rock of Ravatogh , Taelpar Crag กลายเป็นหุบเขาหินขนาดใหญ่ กลายเป็นรอยแยกคาบผ่าน Duscae และ Cleigne ให้แยกจากกัน จนเป็นสัญลักษณ์อย่างเป็นทางการของเสมือนพยานในความรุนแรงของสงครามการต่อสู้ของเทพเจ้าแห่งดวงดาวทั้ง 6 ในนามของ The Astrals เรื่องราวที่จุดลึกสุดของรอยแยกได้ก่อกำเนิดโล่แห่งราชันย์ที่แท้จริง


                                        Tempering Ground



                        Main Mission: Of Muscle and Mettle





[Cor] – แล้วนายบอกแก็งค์ของนายว่ายังไงว่าทำไมถึงแยกตัวออกมา
[Gladio] – บอกแค่ว่า มีธุระ ไม่อยากให้พวกเขาต้องมาห่วงกันมาก
[Cor] – หรือไม่ก็รู้ดีว่า ความภาคภูมิใจของนายที่เคยมีถูกทำลายจนยับเยินไปหมดแล้ว


ช่วงแรกของถ้ำจะเป็นส่วนของการสักการบูชา เข้าไปตามทางจนเจอศัตรูกลุ่มแรกพวก Soul of Fatitude


วิญญาณ – เจ้ามาที่นี่เพื่อทดสอบความแข็งแกร่งใช่มั๊ย?
[Gladio] – แกเป็นใคร !?
วิญญาณ – หนึ่งในวิญญาณหลายๆดวงที่สิงสู่อยู่ที่นี่ คอยติดตามนายของพวกเราแม้ยามตายและยามเป็น ร่างล้มเหลวแต่วิญญาณยังคงยึดติดอยู่กับรอยของอดีตของพวกเรา 
[Gladio] – ทำไม ?
วิญญาณ – เพื่อทดสอบความตั้งใจของพวกเขาก่อนจะก้าวขึ้นเป็น king’s Shield และเพื่อฝึกพวกเขาให้สืบทอดพลังที่พวกเขากำลังตามหา 

[Cor] – คนของ “จอมดาบ”  ที่สาบานว่าจะจงรักภคดีทั้งยามเป็นยันต้องลงโลง แค่ออกมาทำให้พวกที่ไมแน่วแน่ต้องขวัญผวาแค่นั้น 
[Gladio] – งั้นพวกมันก็ทำได้น่าผิดหวัง เพราะผมไม่ขวัญผวาง่ายๆซะด้วย 

เมื่อกำจัดศัตรูชุดแรกหมดก็ลุยไปตามทาเรื่อยๆ จนเจอทางน้ำที่ต้องสไลด์ตัวลงไปตามทางน้ำไปที่บ่อน้ำด้านล่างจะเจอกับ Boss งูยักษ์ Brunnisormr เมื่อจัดการมันลงได้ Gladio จะพบว่าบรรยากาศรอบๆตัวเปลี่ยนไปพร้อมๆกับได้พบสิ่งที่เข้าต้องการเจอมาตลอดนั่นคือ จอมดาบ Gilgamesh ที่ออกมาปรากฏตัวอยู่ตรงหน้า




[Gilgamesh]- เจ้ามาพิสูจน์ตัวเองว่าเหมาะสมกับสิ่งที่ข้าซ่อนเอาไว้ใช่มั๊ย ?
[Gladio] – แน่นอน ชั้นมาที่นี่เพื่อขอรับการทดสอบของ Gilgamesh






[Gilgamesh]- อะไรที่เจ้าหวังว่าจะได้ไปกันละ?
[Gladio] – พลังยังไงละ แล้วเจ้าจะเป็นคนมอบมันให้ข้า !
[Gilgamesh]- อย่างงั้นหรอ ?




การต่อสู้กับ Gilgamesh เริ่มต้นขึ้นอย่างรวดเร็วเกินกว่าที่ตัว Gladio จะคาดคิดไว้ แต่ก็จบลงอย่างง่ายดายอย่างที่เขามิได้ตั้งใจหมายเช่นกัน



[Gilgamesh]- พลังที่ดุร้ายเฉกเช่นสัตว์ป่าของเจ้าอย่างเดียวที่ข้ารู้สึกประทับใจ แต่มันไม่พอหรอก จำไว้นะ .. มันผู้ใดหรือใครก็ตามที่ครอบครองมัดกล้ามและความกล้าหาญอย่างเท่าเทียมกันต่างหาก ถึงจะได้รับเกรียติที่จะได้ต่อสู้เคียงข้างกับ ราชาที่ถูกเลือก เฉกเช่น คำปฎิญาณที่จะปกปักษ์ผู้พิทักษ์ที่จะเป็นดั่ง โล่ ที่อยู่ข้างพระวรกาย  
[Gladio] – แกจะบอกว่าข้าไม่คู่ควรงั้นเรอะ !!
[Gilgamesh]- ความชั่วร้ายที่กำลังคุกคามผู้คนบนโลกของเจ้านั้นล้วนทรงพลังอำนาจมาก และราชาของราชากับโล่ของเขาจะปกปักษ์รักษาชีวิตพวกเขาให้รอดปลอดภัย และมันผู้ใดที่ไม่คู่ควรหรือยังลังเลใจที่จะลุกขึ้นมารับภารหน้าที่ที่ยากลำบากนี้ มันผู้นั้นก็ต้องจบลงที่นี่ ด้วยคมดาบของข้า 
[Gladio] – ชั้นยังไม่ได้ตัดสินใจในเร็วๆนี้หรอกน่า และการทดสอบนี้ก็ยังเพิ่งเริ่มเท่านั้น !!
[Gilgamesh]- ก็ถ้าเจ้าไม่กลัวตาย ก็จงลุยไปข้างหน้าไม่ต้องมามัวคิดหน้าคิดหลัง และพิสูจน์ให้ได้ว่าเจ้ามีค่าคู่ควรก็แล้วกัน 




[Cor] – นั่นแปลว่าการทดสอบของ “จอมดาบ” ได้เริ่มขึ้นแล้ว 
[Gladio] – “จอมดาบ” งั้นหรอ ..
[Cor] – ก็มันเก่งเรื่องดาบ อะไร? นายหวังว่าจะมีความหมายที่ล้ำลึกกว่านี้รึไง ?


จากนั้นลุยเข้าไปตามทางจนถึงที่ตั้งแค้มป์จุดแรก ทั้งคู่จบลงที่คัฟ นู๊ดเดิ้ลกับบทสนทนาก่อนเข้านอน



[Cor] – “จอมดาบ” มันไม่ได้โผล่ออกมาเพื่อฝึกนาย แต่มันมาเพื่อทดสอบ และมันจะไม่มีวันเลิกราง่ายๆเพราะนายเป็นคนในหน่วย Crownguard ด้วย
[Gladio] – งั้นก็แสดงว่าคงไม่เมตตาหน้าใหม่อย่างผมเลยซินะ แล้วยังไง ความอ่อนแอไม่คู่ควรมีอยู่ในตัวผู้ที่ได้รับใช้ในฐานะโล่ของราชาหรอ ?
[Cor] – ดูตามันสิ เห็นมีความอ่อนแอแฝงอยู่รึเปล่าละ พวกมันทุกคนก็เหมือนคนโง่ที่ยอมถูกลงทัณฑ์เพื่อความทะเยอทะยานที่อยากจะก้าวข้ามสถานะของพวกมันเอง  ... เมื่อก่อนชั้นเองก็เคยโง่แบบนั้น แล้วก็เคยถูกลงทัณฑ์เหมือนกัน
[Gladio] – แต่คุณก็ยังไม่ตายไม่ใช่หรอ ? บางที่คุณอาจแค่ยังไม่มีคุณสมบัติพอที่จะเป็นโล่ของราชาแต่มันคงยังเห็นว่าคุณยังมีค่าที่ควรจะต้องมีชีวิตอยู่ต่อไปก็ได้ 
[Cor] – มันอาจจะคิดแบบนั้น หรือ อาจจะไม่ใช่ ก็ได้ 

หลังจากออกจากจุดที่พักแรก ลุยต่อไปจนถึงทางเข้าห้องแห่งการทดสอบห้องแรก

[Gladio] – ที่นี่มันคืออะไร ?
[Cor] – ห้องทดสอบ จากนี้นายต้องลุยเดี่ยวแล้ว 





[วิญญาณ] – เตรียมพร้อมไว้ นักรบหนุ่ม เพื่อการทดสอบรอคอยเจ้าอยู่ พิสูจน์ให้เห็นถึงความแข็งแกร่งสิ แล้วพลังของพวกข้าจะเป็นของเจ้า




พบ Boss Nergal 

หลังจากจัดการ Nergal ลงได้ เข้าไปสำรวจที่แท่นผลึกด้านในเพื่อรับพลังซึ่งเป็นรางวัลของการทดสอบมาซึ่งจะเป็นการปลอดล็อกท่า “ Tempest” (Perform) ท่าใหม่ของ Glaive Art เพิ่มขึ้นอีก 1 ระดับเป็นระดับที่ 3


[วิญญาณ] – พลังของพวกข้าเป็นของเจ้าแล้วนักรบหนุ่ม จงยืนหยัดเพื่อเป็นโล่ให้กับกษัตริย์ปราบศัตรูให้อยู่หมัดจนไม่เหลือใครกล้ามาท้าทาย 
[Gladio] – ขอบคุณสำหรับคำแนะนำและการยอมรับในตัวผมนะ

[Cor] – เอาละ นายรอดมาได้ ทำได้ดี การทดสอบแรกจบสิ้นลงแล้ว แต่ยังเหลือการทดสอบอีกมากที่รออยู่บนเส้นทางที่มี “จอมดาบ” มันเฝ้ามองอยู่ เตรียมตัวให้พร้อมเอาไว้ด้วย  



                            Main Mission: Path to Perdition  



จากนั้นลุยเข้าไปตามทางจนถึงที่ตั้งแค้มป์จุดที่ 2 การเดินทางของทั้งคู่ก็จบลงที่คัฟ นู๊ดเดิ้ลกับบทสนทนาก่อนเข้านอนอีกครั้ง


[Gladio] – พ่อของผมไม่เคยผ่านการทดสอบของ Gilgamesh ใช่มั๊ย?
[Cor] –  ไม่เคย แล้วนายรู้มั๊ยเพราะอะไร ?
[Gladio] – ผมรู้ ..แต่ผมหมายถึง มันคงไม่ใช่เพราะว่าพ่อกลัวหรอกใช่มั๊ย ?
[Cor] –  พ่อนายเขาไม่เคยกลัวการทดสอบหรอก แต่เขากลัวที่จะล้มเหลวในฐานะหัวหน้าของหน่วย Crowndsguard และกล้วที่จะบกพร่องในหน้าที่ในฐานะโล่ของราชาต่างหาก เขาไม่เคยอยากทิ้งฝ่าบาทเอาไว้รำพังจนถูกไล่ตอนจนจนมุมอย่างที่เคยเป็น แต่ยังไงก็เถอะ จะเป็นโล่ที่ดีได้ยังไงถ้าปกป้องใครไม่ได้จริงมั๊ย ?  แล้วนายละ ห่วงฝ่าบาทที่นายทิ้งไว้ข้างหลังบ้างรึเปล่า ?
[Gladio] – ก็มีบ้าง แต่ผมก็จะทำสิ่งที่ควรทำเพื่อตัวเองเหมือนกับพ่อที่เคยทำสิ่งที่ควรทำสำหรับเขาด้วยเช่นกัน

เมื่อถึงเช้าวันใหม่ก็เริ่มลุยไปข้างหน้าเพื่อมุ่งไปที่ห้องทดสอบห้องต่อไป ระหว่างทางจะมีระบบใหม่คือสามารถจับเสาหินมาใช้เป็นอาวุธได้ด้วย ลุยเข้าไปตามทางต่อจนถึงทางเข้าห้องแห่งการทดสอบห้องที่ 2 เข้าไปพบ Boss วิหคเพลิง enkidu 



[วิญญาณ] – เจ้าผู้มาเยือน เจ้าเคยผ่านราตรีกาลมานานเท่าใดก่อนจะมาถึงครั้งสุดท้ายในคืนนี้ ส่วนข้ามากมายราตรีที่เคยผ่านมาหลายคณานับ มารอดูดีกว่าว่าผู้ท้าชิงคนล่าสุดของพวกเราจะมีชะตากรรมยังไง

หลังจากจัดการ enkidu ลงได้ เข้าไปสำรวจที่แท่นผลึกด้านในเพื่อรับพลังซึ่งเป็นรางวัลของการทดสอบมาซึ่งจะเป็นการปลอดล็อกท่า “ Maelstorm ” (Perform) ท่าใหม่ของ Glaive Art เพิ่มขึ้นอีก 1 ระดับเป็นระดับที่ 5 ซึ่งเป็นระดับสูงสุด  


[วิญญาณ] – จงลุยต่อไปข้างหน้าด้วยพลังที่เปี่ยมไปด้วยความหวังและความฝันของพวกข้า จงมองไปข้างหน้าเพื่อเป็นโล่ของกษัตริย์เพื่อปกปักษ์อนาคตของพวกเราด้วยเถิด ท่านนักรบหนุ่ม 
[Cor] – พลังที่นายได้รับมาจากวิญญาณที่ตายในการทดสอบมากมายหลายรุ่น เป็นสิ่งที่เหล่าผู้โล่แห่งกษัตริย์อยากใช้พลังของตัวเองที่เหลืออยู่สร้างสิ่งดีๆเป็นครั้งสุดท้าย




                                Main Mission: Know Thine Enemy 



ลุยเข้าไปตามทางจนถึงที่ตั้งแค้มป์จุดที่ 3 การเดินทางของทั้งคู่ในวันนี้ก็จบลงที่คัฟ นู๊ดเดิ้ลกับบทสนทนาก่อนเข้านอนเหมือนเดิม


[Cor] – ไม่เคยคิดเลยว่าจะได้กลับมาที่ Tempering Grounds นี่อีกครั้ง
[Glodio] – คุณเคยบอกว่ามัน 30 ปีแล้ว ตอนนั้นคุณได้ฉายา แม่ทัพอมตะ เหมือนตอนนี้รึเปล่า?  แล้ว “จอมดาบ” มันเป็นคนยังไง ?
[Cor] – ชั้นจำอะไรไม่ได้มาก นอกเสียจากตาคู่นั้น เหมือนมันสามารถมองเข้าไปในหัวใจทะลุเข้าไปถึงจิตวิญญาณ มันเหมือนเขาสามารถรู้ทุกการเคลื่อนไหวของชั้นก่อนที่จะเริ่มเคลื่อนไหวซะอีก ไม่ว่านายจะพยายามยังไง ก็ยากที่จะตบตามันได้แน่นอน  
[Glodio] – หึหึ .. งั้นเดี๋ยวเรามารอดูกัน

เมื่อถึงเช้าวันใหม่ก็เริ่มลุยไปข้างหน้าเพื่อมุ่งไปที่ห้องทดสอบห้องต่อไป ระหว่างจะเจอกับ Boss Inannaduru  ลุยเข้าไปตามทางต่อจนถึงทางเข้าห้องแห่งการทดสอบห้องที่ 3


 [วิญญาณ] – ไอ้พวกหน้าโง่มากมายที่ทับถมกายเป็นพันๆอยู่ใต้พื้นเท้าที่พวกข้าเหยียบย่ำ ล้วนโง่เขลาที่อยากลองดีจนไม่ทันตั้งตัวว่าอันตรายที่ซ่อนอยู่กำลังมาถึงตัว ทุกคนล้วนต้องประสบชะตากรรมเดียวกัน เจ้าเองก็เหมือนกัน บางทีเจ้าอาจยังไม่ทันคิด อีกอย่างนึง Lucis ที่เจ้าเรียกว่าบ้านในตอนนี้ก็ไม่มีอะไรที่เหมือนกับ Lucis ที่ข้าเคยรับใช้เลยซักนิด ยุคสมัยของเจ้าจะถูกลืมเลือนไป เพราะความน่าสยดสยองของสงคราม ประเทศที่ถูกปกครองอย่างประคบประหงมโดยกษัตริย์ที่พึ่งพอใจแต่กับความสงบสุขที่จอมปลอม ไม่มีโล่ไหนที่คู่ควรกับการปกป้องกษัตริย์ที่เกิดมาในยุคแห่งความเสื่อมทรามนี้หรอก   ความจริงแล้ว เหล่าโล่แห่งกษัตริย์นั้นมิอาจหลอกลวงใครได้ ไม่แม้แต่ตัวเอง ข้าขอบอกเลยว่า  โล่ที่เปรียบเสมือนความห้าวหาญของแกจะหดหายไปจนไม่เหลือกลายเป็นอาวุธที่ไร้ค่าไม่คู่ควรกับราชาอีกต่อไป  
[Glodio] – เออ พูดจบรึยัง !




เข้าไปด้านในห้องแห่งการทดสอบครั้งที่ 3  เข้าไปพบ Boss Humbaba




หลังจากจัดการ Humbaba ลงได้ เข้าไปสำรวจที่แท่นผลึกด้านในเพื่อรับพลังซึ่งเป็นรางวัลสุดท้ายของการทดสอบมาซึ่งไม่ใช่การปลดล็อกท่าใดๆอีก แต่รางวัลที่ว่าคือใบผ่านทางสุดท้ายที่ถูก Gladio ฉีกทิ้งเพื่อเปิดทางเข้าไปที่ห้องทอสอบของ จอมดาบ Gilgamesh





                                 Main Mission: To Serve as Shield 



ลุยเข้าไปตามทางจนถึงที่ตั้งแค้มป์จุดที่ 4 ซึ่งเป็นจุดพักจุดสุดท้ายแล้ว



[Gladio] – แล้วคุณละ ? ผมอยากรู้ว่าหลังจากที่คุณกลับมาจากการทดสอบของ Gilgamesh ชีวิตมันเป็นไงบ้าง
[Cor] – มาสนใจอะไรชีวิตชั้นนัก ?
[Gladio] – ผมหมายถึง ตอนนั้นคุณเด็กกว่าผมในตอนนี้มาก
[Cor] – ตอนนั้นชั้นหุนหันพลันแล่นมาก ถ้านายอยากจะฟังก็เชื่อเถอะว่ามันเรื่องจริง อย่าไปฟังคนอื่นมันพูดมากนัก ตอนนั้นชั้นมันยะโสโอหังไม่ฟังใคร คิดว่าตัวเองเทพจนไม่มีใครสู้ได้ ..จนกระทั้งถูกมันอัดจนลงไปกองกับฟื้น  .. ชั้นถูกโยนออกมาพร้อมความพ่ายแพ้ ความโอหังที่เคยมีมาหายไปจนหมดสิ้น แต่กับพวกชาวบ้าน “คุณนี่มันอมตะจริงๆ” พวกเขาทุกคนพูดกันแบบนั้น ก็เท่านั้น
[Gladio] –  ลำบากใจไม่น้อยเลยนะแบบนี้.... แต่คุณก็รอดกลับมาได้แบบที่ไม่เคยมีใครทำได้มาก่อน ผมนับถือตรงนี้แหละ 





เมื่อพักผ่อนถึงเช้าวันใหม่ วันแห่งการตัดสินสุดท้ายเริ่มต้นลุยไปข้างหน้าเพื่อมุ่งไปที่ห้องทดสอบห้องต่อไป ซึ่งเป็นห้องทดสอบสุดท้ายที่ จอมดาบ Gilgamesh รออยู่



[Cor] – นายรู้มั๊ยว่าพ่อนายพยายามจะห้ามนาย เหมือนตอนที่เขาพยายามจะหยุดชั้นเมื่อหลายปีก่อน 
[Gladio] – เพราะกฎข้อนึงของ king’s shield อณุญาติให้ทะเยอทะยานได้แต่ความทะเยอทะยานนั้นต้องทำเพื่อประโยชน์กับกษัตริย์ที่ตนร้บใช้เท่านั้น ไม่ใช่ทำเพื่อตนเอง “นายกล้าที่จะยอมสูญเสียทุกอย่างตอนกลับมารึเปล่า ?” พ่อนายถามชั้นแบบนี้ มันเป็นคำพูดที่เขาพยายามจะหยุดชั้น และเขาก็พูดถูกทุกอย่าง ชั้นกลับมามือเปล่า 
[Gladio] – คุณพยายามจะห้ามผมหรอ ?
[Cor] – เปล่า ไม่เคยคิดจะห้าม แต่ชั้นอยากจะเตือนนายเป็นครั้งสุดท้ายถึงอันตรายที่นายกำลังจะเผชิญอยู่เหมือนกับที่พ่อของนายเตือนชั้น ทันทีที่เท้านายก้าวผ่านประตูนั่นไปจะไม่มีทางหันหลังกลับได้อีกแล้ว และไม่มีใครจะช่วยนายได้อีกแล้ว ก้าวผิดเพียงก้าวเดียวอาจทำให้นี่เป็นการพิสูจน์ตัวเองครั้งสุดท้ายของนายเลยก็ได้ 




[Gladio] – ผมไม่เป็นไรหรอกน่า บางทีอาจกลับมาพร้อมของที่ระลึกติดมือมาด้วยก็ได้ 
[Cor] – แค่รอดกลับมาได้ก็พอแล้ว Gladio







[Gladio] – ชั้นมาแล้ว ! เริ่มกันได้เลย 
[Gilgamesh] – ด้วยการกวัดแก่วงดาบแบบถึกๆไร้สมองของแกน่ะหรอ
[Gladio] – เออ แบบนั้นแหละ! ลองดูมั๊ยละ ถ้าแกรับมือไหวอ่ะนะ !




Trick การต่อสู้กับ Gilgamesh ในช่วงแรกนั้น มันจะโจมตีช้ามากรวมทั้งยังใช้ร่างที่มีออร่าสีแดง (ร่างสีแดงจะทำให้พลังโจมตีสูงขึ้นและสามารถโจมตีให้การ์ดแตกได้ภายในครั้งเดียว)




ในการต่อสู้น้อยมาก พยายามกดการ์ดเอาไว้เรื่อยๆแล้วรอโจมตีสวนกลับตอนมันจบคอมโบ ตอดไปเรื่อยๆรอ Glaive Art เต็มจนถึงขั้น Maelstrom แล้วค่อยโจมตี ก็จะจัดการได้โดยไม่เสียพลังมาก




[Gilgamesh] – โจมตีแบบโถมทุ่มกำลังไปหมดแบบนั้นตั้งใจจะเปิดเผยจุดอ่อนให้เห็นรึยังไง คนที่ทำให้ข้าผิดหวังมากมายพบจุดจบที่นี่แล้วแกละ สนใจมั๊ย !?? 





[Gladio] – ไม่ละ ชั้นไม่ได้มาที่นี่เพื่อตาย แต่มาเพื่อพิสูจน์กับแกว่าชั้นมีค่ามากพอ !!! 


สู้กับมันต่อจนพลังของมันหมดหลอด Gilgamesh จะเพิ่มพลังตัวเองจนมีแขนงอกออกมาพร้อมกับดาบเล่มยาวที่เป็นอาวุธลับของมันกับพลังชีวิตที่เต็มหลอดอีกครั้ง



[Gilgamesh] – แกแข็งแกร่งดีนี่  แต่ก็ยังปิดบังจิตใจที่เต็มไปด้วยความกลัวของแกไม่ได้อยู่ดี พลังที่แกมีมันจึงเปล่าประโยชน์ 
[Gladio] – ชั้นยังมีกลเม็ดเล็กๆน้อยซ่อนอยู่ในแขนเสื้ออีกนิดหน่อย ยังไม่แพ้ง่ายๆหรอกน่า ...Cor พูดถูกเรื่องไอ้หมอนี่ มันแกร่งกว่าที่คิดเยอะเลย แต่ชั้นก็ไม่อยากแพ้โดยไม่ได้สู้หรอกน่า !!!




 Gilgamesh ร่างสุดท้ายที่งอกแขนพลังงานออกมาพร้อมดาบยาวเล่มใหญ่ของมันนั้นทรงพลังมาก นอกจากการใช้ดาบ 2 มือที่เต็มเปี่ยมไปด้วยพลังและความเร็วที่เพิ่มขึ้นแล้ว มันยังจะใช้ร่างแดงที่เพิ่มพลังโจมตีที่การต่อสู้ต่อเนื่องและบ่อยมากขึ้น



รวมกับท่าโจมตีด้วยคลื่นพลังของดาบจากระยะไกล ถ้าโดดจากที่สูงอัดกระแทกที่เป็นท่าใหม่ของร่างแดง พยายามการ์ดและทิ้งระยะเอาไว้เวลามันโจมตีด้วยร่างแดงอย่างต่อเนื่อง ที่เหลือก็รอจังหวะสวนกลับ เก็บพลังท่าไม้ตายไปเรื่อยๆรอ Glaive Art เต็มจนถึงขั้น Maelstrom แล้วค่อยโจมตี ก็จะสามารถจัดการมันลงได้


   

[Gladio] – บอกแล้วว่าชั้นไม่ยอมคุกเข้าต่อหน้าใครหน้าไหนทั้งนั้น !! .. โอ๊ยย !  หึหึ แผลนี่ คงไม่ใช่ของที่ระลึกที่ว่าใช่มั๊ย ? ชั้นจะจำเอาไว้เลย พอใช้เวลาซักพักชั้นผมถึงจะเข้าใจ คุณพูดถูก ...ผมกลัว กลัวที่จะยอมรับความจริง ความจริงบางทีผมอาจไม่มีคุณสมบัติที่เหมาะกับงานที่ผมอยากจะทำ ...ผมคงต้องไปแล้ว .. ผมอาจจะมีแต่กล้ามแต่ไม่มีความกล้าหาญอย่างที่คุณบอก แต่ผมก็ยังจะปกป้อง Noct ต่อไปด้วยวิธีที่ผมจะทำได้ก็เท่านั้นแหละ  



[Gilgamesh] – พูดเหมือนกับเป็นโล่ของราชาตัวจริงเลยนะ หวาดกลัวและสับสน เกิดและตายอย่างโดดเดี่ยว ผู้ใดที่มองข้ามความผิดพลาดของตัวเอง มิอาจเรียกตัวเองว่าเป็นโล่ของราชาที่แท้จริงได้ แต่นาย กลับใช้การสร้างความสงบจากข้างในของตัวเอง เพื่อพิสูจน์ว่าตัวเองคู่ควร  ราชาที่ถูกเลือก โชคดีแล้วที่ได้คนอย่างเจ้ามาอยู่ข้างกาย




[Gladio] – คุณหมายความว่า ...
[Gilgamesh] – ข้าขอมอบความไว้วางใจในพลังของข้าให้แก่เจ้าด้วยดาบเล่มนี้ 






[Gladio] – ดาบนี้ ... คุณได้มาจากไหน ?
[Gilgamesh] – จากเด็กหนุ่มคนนึงที่ทำให้ข้าประทับใจในความใจสู้ของเขา แต่ก็ต้องเสียดาบมากมายที่เขาขโมยไปพร้อมๆกับแขนของข้าด้วยเช่นกัน 



[Gladio] – แต่ ผมรับไว้ไม่ได้หรอก ..
[Gilgamesh] – ถ้าเจ้าหนุ่มที่เปี่ยมไปด้วยความกล้าหาญคนนั้นยังมีชีวิตอยู่ เขาก็คงไม่ยึดติดกับสิ่งของที่เป็นวัตถุนักหรอก 
[Gladio] – หึ คุณพูดถูก ในกรณีนี้ถ้าผมรับไปมันก็คงไม่เป็นไรหรอกนะ 




[Gilgamesh] – เอาละ เจ้าจงรีบไปเถอะ จงก้าวไปข้างหน้าด้วยจิตที่ไร้ความสงสัย และ มุ่งไปด้วยใจที่ไร้ซึ่งความกลัวนะ กษัตริย์องค์สุดท้ายของราชวงศ์ Lucis คงมิอาจต่อสู้ได้ดั่งใจหากไร้ซึ่งโล่ข้างกายของเขา  



[Cor] – นายทำได้ !
[Gladio] – แน่นอนสิ 
[Cor] – แถมยังเร็วอีกด้วย ชั้นประทับใจเลยนะเนี้ย 
[Gladio] – ผมเอานี่กลับมาด้วย บางทีคุณอาจจะอยากสนุกกับมัน 
[Cor] – สงสัยอยู่ว่าไปลืมวางมันไว้ที่ไหน ... นายเก็บเอาไว้ใช้เถอะ น่าจะเป็นของที่ระลึกที่ดีกว่าแผลเป็นบนหน้านายแน่นอน  



[Gladio] – คุณรู้มั๊ยว่า จอมดาบเขาบอกว่าเขาเสียแขนในการต่อสู้กับนักดาบหนุ่มคนนึงเมื่อในอดีตน่ะ
[Cor] – แล้วไง ?
[Gladio] – จะเป็นใครก็เหอะ มันก็ได้ทิ้งความประทับใจครั้งสุดท้ายกับเขามาก แถมยังชื่นชมว่าไม่เคยเห็นใครแข็งแกร่งเท่าเด็กหนุ่มคนนั้นมากก่อนซะด้วย 
[Cor] – คุยเรื่องการที่นายผ่านการทดสอบดีกว่านะ นายอยากจะใช้อาวุธของนายประเดิมแบบไหน แล้วคิดว่าจะใช้ได้อย่างช่ำชองรึเปล่า เพราะถ้านายแข็งแกร่งพอจะใช้มัน ก็เหมือนนายกลับมามือเปล่า 
[Gladio] – ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่เห็นเขาบอกว่าถ้านักดาบหนุ่มเจ้าของดาบนั่นยังรอดอยู่จนถึงตอนนี้คงแก่มากและคงไม่ยึดติดกับสิ่งของอะไรของเขาแล้วละ 



[Cor] – ชั้นหวังว่านายคงรู้สึกมั่นใจมากขึ้นจากสิ่งที่นายทำสำเร็จในวันนี้ น้อยคนนักที่จะได้สิทธิ์นี้ ไม่แม้แต่ Cor ที่ได้ฉายาว่า แม่ทัพอมตะ
[Gladio] – ใช่ แต่ผมคงไม่ได้ฉายาเจ๋งๆแบบเขาหรอก แต่ผมก็ภูมิใจที่ผ่านการทดสอบมาได้ ผมจะได้พูดได้เต็มปากซะทีว่า พร้อมแล้วที่จะรับหน้าที่โล่ของราชาที่ถูกเลือกอย่างเต็มตัว ! เอาละ คงถึงเวลาที่โล่ที่จากมาจะกลับไปหาราชาที่แท้จริงของเขาแล้ว ผมไม่อยากให้เขาต้องหวาดกลัวที่ไม่มีผมอยู่ข้างๆต่อไปอีกแล้วละ 




     ----------------------------------------------------------------------------------------------------------





[Gladio] – ฟังแล้วเป็นไงบ้าง ?
[Prompto] – ตรงไปตรงมาดี ช่วยทำให้มั่นใจมากขึ้นว่านายคงช่วย Noct จากพวกตัวร้ายที่จะเข้ามาวุ่นวายได้อย่างไม่มีปัญหา แต่ปกตินายเองก็บู๊ระห่ำทำได้ดีอยู่แล้วนี่ 
[Gladio] – ใช่ แต่ที่แตกต่างคือตอนนี้ชั้นเลิกคิดในแง่ร้ายเกี่ยวกับตัวเองหมดแล้วด้วย  
[Ignis] – ไม่เหมือนกันกับการผ่ายแพ้ของท่านแม่ทัพเมื่อครั้งยังหนุ่ม
[Prompto] – หลังจากวันนั้นคงจะมีใครอีกหลายคนที่เข้าไปทดสอบฝีมือกับ Gilgamesh อีกเพียบแน่ๆเลย
[Noct] – ใช่ พ่อยังบอกเลยเหมือนเขาไปจุดประทัดเรียกแขก
[Prompto] – รู้เยอะจังนะนายอ่ะ
[Ignis] – ถ้า Gilgamesh เนรเทศตัวเองไปในช่วงรัชสมัยของกษัตริย์ผู้ก่อตั้งราชวงศ์ Lucis งั้นก็แสดงว่าเขาเป็นวิญญาณหลอกหลอนผู้คนมา 2พันปีแล้วล่ะสิ 
[Noct] – มันนานมากๆเลยนะนั่น

 

[Gladio] – ทั้งหมดก็เพื่อรอคอยราชาที่ถูกเลือกถือกำเนิด นายแน่ใจแล้วนะว่ารู้ว่าจะระลึกถึงความหลังที่หอมหวานยังไง 
[Noct] – จะพูดไงดีละ ? ตั้งตารอเลยละ ขอให้คุ้มค่าการรอคอยก็แล้วกัน
[Prompto] – เฮ้ย เดี๋ยวๆ ถามจริง
[Ignis] – เช่นกัน ชั้นก็ด้วย 
[Gladio] – แค่เพราะว่านายมีโล่ที่แข็งแกร่งคอยปกป้องแล้วไม่ได้หมายความว่านายจะอู้ได้นะ Noct หึหึ ... แต่ถ้านายคิดจะอู้จริงๆชั้นก็จะพร้อมที่ปกป้องนายอยู่ดีนั่นแหละ . 







    -----------------------------------  END OF STORY  --------------------------------------------------






                                         รางวัลหลังจบเกม 


1.ดาบ Genji Blade ได้มาหลังจัดการกับ Gilgamesh ได้ในโหมดเนื้อเรื่อง ซึ่งสามารถนำดาบ Genji ไปใช้ในโหมดเนื้อเรื่องได้ด้วย

      

2. ท่า Dual Master Glaive Art ท่าโจมตีด้วยดาบคู่ โดยสามารถทำท่านี้ได้โดยโจมตีศัตรูจนเกท Glaive Art เต็มที่ท่า Maelstrom จากนั้นกดสามเหลี่ยมเพื่อใช้ท่า Maelstrom จนจบท่าจะมีปุ่มสามเหลี่ยมให้กดเพื่อทำท่า Dual Master ต่อได้เลยจะสร้าง Damage 9999 เลย  



3. ชุด Rugged Attire ชุดถอดเสื้อนั้นสามารถปลดล็อกได้โดยการเล่นในโหมด Score Attack ซึ่งเป็นโหมดที่ได้เล่นในบทต่างๆของเกมอีกครั้งแบบทำเวลาให้เร็วที่สุดเพื่อเก็บคะแนน

   

โดยต้องทำคะแนน 500.000 ขึ้นไปเพื่อให้ได้ชุด Rugged Attire มา ซึ่งสามารถนำชุด Rugged Attire ไปใส่ในโหมดเนื้อเรื่องได้ด้วย



4. ได้สู้กับ Cor ในโหมด Final Trial




+ ตำแหน่งไอเทมทั้งหมดที่สามารถเก็บได้ระหว่างทาง
http://www.gosunoob.com/final-fantasy-xv/ffxv-all-item-locations-picker-upper-trophy-episode-gladiolus/