Episode Gladiolus คืออะไร ? และจะหามาเล่นได้ยังไง ?
โดยสามารถเล่นได้ด้วยการซื้อ Season pass DLC รวมกับ Episode Ignis และ Prompto ที่ออกขายในตอนแรก หรือ จะซื้อแยกเดี่ยวต่างหากในราคา 159 บาทก็ได้
โดยเมื่อโหลดแพทอัพเดทล่าสุด 1.06 – 1.07 ที่ออกมาให้โหลดวันที่ 27 มี.ค 2017 แล้ว จะทำให้หน้าจอหลักมีเมนูใหม่คือ Download Content เมื่อกดเข้าไปจะพบ Episode Gladiolus ที่ซื้อมาอยู่ในนี้ ซึ่งจะเป็นเมนูใหม่ที่แยกออกจากเมนูของเนื้อเรื่องหลักของเกม
คำเตือน (ที่คุณจะทำตามหรือไม่ทำก็ได้)
เรื่องราวใน Episode Gladiolus นั้นเกิดขึ้นหลังจากเรื่องราวในเนื้อเรื่องหลักของเกม หลังจากที่ Gladio ได้พ่ายแพ้ให้กับ Ravus ทำให้ยอมรับความน้อยเนื้อต่ำใจของตัวเองไม่ไหวจนต้องออกเดินทางไปค้นหาทางให้ตัวเองแข็งแกร่งขึ้น ฉะนั้นหากต้องการจะได้รับประสบการณ์เล่นที่สมบูรณ์ก็ควรจบเกมเสียก่อนจะเล่น Episode Gladiolus หรือ ไม่ต้องไปสนอะไร เล่นไปเลยก็สนุกได้ไม่ต่างกันครับ
บทสรุป Final Fantasy XV - Episode Gladiolus
BY Decibel per oxide
[Gladio] – โคตรอิ่มเลยบอกตรงๆ ชาบูให้พ่อครัวเลย
[Ignis] – ด้วยความยินดี นายรู้สึกมีความสุขมั๊ยตอนอยู่กับท่านแม่ทัพน่ะ
[Gladio] – อืมม
[Prompto] – เอ่อ คือ ..แผลบนหน้านายนั่นมัน ..ไปโดนอะไรมาหรอ ?
[Gladio] – เนี้ยหรอ?
[Noct] – เออ กากบาทรูปตัว X นั่นแหละ
[Gladio] – แค่รอยข่วนน่ะ ใครคนนึงที่ทำผิดพลาดครั้งใหญ่เลยล่ะ
[Noct] – ใครคนนึงนี่คงหมายถึงพวกอันธพาลล่ะสิ ?
[Ignis] – นายพูดถึงใคร ใครคนนึงนี่หมายถึงใครหรอ ?
[Gladio] – .... พวกเขาเรียกมันว่า .. “จอมดาบ”
Main Mission: Of Muscle and Mettle
การบังคับ Gladio ในการต่อสู้นั้นก็คล้ายๆกับ Noctis แต่จะแตกต่างกันที่อาวุธที่ใช้ร่วมกับ Skill ของ Gladio
-ปุ่ม O ใช้ในการโจมตีแบบธรรมดา Gladio สามารถทำคอมโบได้ 4 ชุดที่หนักหน่วงแต่ช้ามาก
-ปุ่มสี่เหลี่ยม ใช้ในการการ์ด โดยในขณะยกโล่การ์ดนั้นเกท Stamina สีน้ำเงินใต้เกทพลังชีวิตจะค่อยๆลดลงจนหมดจะเกิดสภาวะ Vulnerable ที่ไม่สามารถยกโล่การ์ดได้จนกว่าเกท Stamina จะกลับมา , หากกดสี่เหลี่ยมในจังหวะที่ศัตรูโจมตีมาพอดีแล้วกด O จะเกิดการโต้กลับหรือ Counterstrike ที่รุนแรงกลับไปได้ หากสามารถการ์ดป้องกันตัวได้ต่อเนื่องจนทำให้ระดับเปอร์เซ็นต์ของเกทวงกลมทางขวาล่างให้เพิ่มมากขึ้นแล้ว Blocking attacks หรือแรงโจมตีกลับเมื่อใช้การ Parry Counterstrike ก็จะรุนแรงมากขึ้นตามไปด้วย
- Glaive Art เป็น Skill แบบใหม่ของ Gladio เสมือนท่าใหญ่โจมตีแรงที่มีหลายระดับท่า (Perform) โดยการโจมตีศัตรูอย่างต่อเนื่องจนทำให้เกท Valor ค่อยๆสูงขึ้นจนเต็มก็จะค่อยๆเพิ่มระดับท่าต่างๆไปตามท่าที่มี เมื่อต้องการใช้ท่าไหนก็กดสามเหลี่ยมเพื่อโจมตีออกไปได้เลย
[Cor] – Gladio หรอ ?
[Gladio] – ใช่ แล้วคุณคิดว่าใครละ ?
[Cor] – หึหึ ..โทรมารบกวนตอนหงุดหงิดรึเปล่าเนี้ย ?
[Gladio] – คุณมาถึงแล้วหรอ
[Cor] – ใช่ตอนนี้อยู่ที่ Crow’s Nest
[Gladio] – เยี่ยม และก็ขอบคุณที่ให้เข้าพบนะ เอาละ คุณพร้อมจะไปกันรึยัง ?
[Cor] – แน่นอน แล้วนายละ เตรียมใจเตรียมกายมาดีพอแล้วนะ ?
[Gladio] – พร้อม เดี๋ยวผมจะไปหาเดี๋ยวนี้
ร้าน Crow’s Nest , Taelpar Rest Area
[Cor] – ชั้นจะถามนายอีกครั้งนะ นายพร้อมที่จะไปเผชิญหน้ากับ “จอมดาบ” แล้วใช่มั๊ย ?
[Gladio] – ผมถึงกับต้องรบกวนท่านแม่ทัพให้มาช่วยแบบนี้ คงเปลี่ยนใจไม่ได้แล้วมั้งครับ และผมจะไม่มีวันยอมแพ้จนกว่าจะแข็งแกร่งมากกว่านี้
[Cor] – ชั้นจะถามนายอีกครั้ง นายพร้อมหรือไม่พร้อม ?
[Gladio] – ถ้าไม่ผมจะถ่อมาถึงนี่หรอครับ ?
[Cor] – งั้นนายก็พร้อมที่จะเผชิญหน้ากับความตายแล้วใช่มั๊ย ? Gilgamesh รอทดสอบนายยอยู่ที่ส่วนลึกสุดของถ้ำ กว่า 30 ปีกว่าเราจะค้นพบถ้ำนั่น เราส่งคนมากมายเข้าไปสำรวจแต่ก็ไม่ได้ข้อมูลอะไรเลย และ ..ไม่มีใครรอดกลับมาด้วย
[Gladio] – ยกเว้นคุณไง ที่เข้าไปทดสอบในถ้ำนั่น แล้วก็รอดออกมาได้
[Cor] – ก็ไม่เชิงหรอก .... เอาละ ไปกันได้แล้ว
เมื่อนานมาแล้ว Ifrit ผู้ทรยศเข้าเปิดศึกกับเหล่าเทพแห่ง Hexatheon ที่เหลือทั้งหมด หลายราตรีพ้นผ่านการต่อสู้ของเหล่าทวยเทพก็ยิ่งเดือดดาลคลั่งแค้นยิ่งขึ้น จนเศษซากของความรุนแรงจากการเข้าปะทะระหว่าง Bahamut และ Ifrit แตกกระจายร่วงหล่นลงบนยอดเขา Rock of Ravatogh , Taelpar Crag กลายเป็นหุบเขาหินขนาดใหญ่ กลายเป็นรอยแยกคาบผ่าน Duscae และ Cleigne ให้แยกจากกัน จนเป็นสัญลักษณ์อย่างเป็นทางการของเสมือนพยานในความรุนแรงของสงครามการต่อสู้ของเทพเจ้าแห่งดวงดาวทั้ง 6 ในนามของ The Astrals เรื่องราวที่จุดลึกสุดของรอยแยกได้ก่อกำเนิดโล่แห่งราชันย์ที่แท้จริง
Tempering Ground
Main Mission: Of Muscle and Mettle
[Cor] – แล้วนายบอกแก็งค์ของนายว่ายังไงว่าทำไมถึงแยกตัวออกมา
[Gladio] – บอกแค่ว่า มีธุระ ไม่อยากให้พวกเขาต้องมาห่วงกันมาก
[Cor] – หรือไม่ก็รู้ดีว่า ความภาคภูมิใจของนายที่เคยมีถูกทำลายจนยับเยินไปหมดแล้ว
ช่วงแรกของถ้ำจะเป็นส่วนของการสักการบูชา เข้าไปตามทางจนเจอศัตรูกลุ่มแรกพวก Soul of Fatitude
วิญญาณ – เจ้ามาที่นี่เพื่อทดสอบความแข็งแกร่งใช่มั๊ย?
[Gladio] – แกเป็นใคร !?
วิญญาณ – หนึ่งในวิญญาณหลายๆดวงที่สิงสู่อยู่ที่นี่ คอยติดตามนายของพวกเราแม้ยามตายและยามเป็น ร่างล้มเหลวแต่วิญญาณยังคงยึดติดอยู่กับรอยของอดีตของพวกเรา
[Gladio] – ทำไม ?
วิญญาณ – เพื่อทดสอบความตั้งใจของพวกเขาก่อนจะก้าวขึ้นเป็น king’s Shield และเพื่อฝึกพวกเขาให้สืบทอดพลังที่พวกเขากำลังตามหา
[Cor] – คนของ “จอมดาบ” ที่สาบานว่าจะจงรักภคดีทั้งยามเป็นยันต้องลงโลง แค่ออกมาทำให้พวกที่ไมแน่วแน่ต้องขวัญผวาแค่นั้น
[Gladio] – งั้นพวกมันก็ทำได้น่าผิดหวัง เพราะผมไม่ขวัญผวาง่ายๆซะด้วย
เมื่อกำจัดศัตรูชุดแรกหมดก็ลุยไปตามทาเรื่อยๆ จนเจอทางน้ำที่ต้องสไลด์ตัวลงไปตามทางน้ำไปที่บ่อน้ำด้านล่างจะเจอกับ Boss งูยักษ์ Brunnisormr เมื่อจัดการมันลงได้ Gladio จะพบว่าบรรยากาศรอบๆตัวเปลี่ยนไปพร้อมๆกับได้พบสิ่งที่เข้าต้องการเจอมาตลอดนั่นคือ จอมดาบ Gilgamesh ที่ออกมาปรากฏตัวอยู่ตรงหน้า
[Gilgamesh]- เจ้ามาพิสูจน์ตัวเองว่าเหมาะสมกับสิ่งที่ข้าซ่อนเอาไว้ใช่มั๊ย ?
[Gladio] – แน่นอน ชั้นมาที่นี่เพื่อขอรับการทดสอบของ Gilgamesh
[Gladio] – พลังยังไงละ แล้วเจ้าจะเป็นคนมอบมันให้ข้า !
[Gilgamesh]- อย่างงั้นหรอ ?
การต่อสู้กับ Gilgamesh เริ่มต้นขึ้นอย่างรวดเร็วเกินกว่าที่ตัว Gladio จะคาดคิดไว้ แต่ก็จบลงอย่างง่ายดายอย่างที่เขามิได้ตั้งใจหมายเช่นกัน
[Gilgamesh]- พลังที่ดุร้ายเฉกเช่นสัตว์ป่าของเจ้าอย่างเดียวที่ข้ารู้สึกประทับใจ แต่มันไม่พอหรอก จำไว้นะ .. มันผู้ใดหรือใครก็ตามที่ครอบครองมัดกล้ามและความกล้าหาญอย่างเท่าเทียมกันต่างหาก ถึงจะได้รับเกรียติที่จะได้ต่อสู้เคียงข้างกับ ราชาที่ถูกเลือก เฉกเช่น คำปฎิญาณที่จะปกปักษ์ผู้พิทักษ์ที่จะเป็นดั่ง โล่ ที่อยู่ข้างพระวรกาย
[Gladio] – แกจะบอกว่าข้าไม่คู่ควรงั้นเรอะ !!
[Gilgamesh]- ความชั่วร้ายที่กำลังคุกคามผู้คนบนโลกของเจ้านั้นล้วนทรงพลังอำนาจมาก และราชาของราชากับโล่ของเขาจะปกปักษ์รักษาชีวิตพวกเขาให้รอดปลอดภัย และมันผู้ใดที่ไม่คู่ควรหรือยังลังเลใจที่จะลุกขึ้นมารับภารหน้าที่ที่ยากลำบากนี้ มันผู้นั้นก็ต้องจบลงที่นี่ ด้วยคมดาบของข้า
[Gladio] – ชั้นยังไม่ได้ตัดสินใจในเร็วๆนี้หรอกน่า และการทดสอบนี้ก็ยังเพิ่งเริ่มเท่านั้น !!
[Gilgamesh]- ก็ถ้าเจ้าไม่กลัวตาย ก็จงลุยไปข้างหน้าไม่ต้องมามัวคิดหน้าคิดหลัง และพิสูจน์ให้ได้ว่าเจ้ามีค่าคู่ควรก็แล้วกัน
[Cor] – นั่นแปลว่าการทดสอบของ “จอมดาบ” ได้เริ่มขึ้นแล้ว
[Gladio] – “จอมดาบ” งั้นหรอ ..
[Cor] – ก็มันเก่งเรื่องดาบ อะไร? นายหวังว่าจะมีความหมายที่ล้ำลึกกว่านี้รึไง ?
จากนั้นลุยเข้าไปตามทางจนถึงที่ตั้งแค้มป์จุดแรก ทั้งคู่จบลงที่คัฟ นู๊ดเดิ้ลกับบทสนทนาก่อนเข้านอน
[Cor] – “จอมดาบ” มันไม่ได้โผล่ออกมาเพื่อฝึกนาย แต่มันมาเพื่อทดสอบ และมันจะไม่มีวันเลิกราง่ายๆเพราะนายเป็นคนในหน่วย Crownguard ด้วย
[Gladio] – งั้นก็แสดงว่าคงไม่เมตตาหน้าใหม่อย่างผมเลยซินะ แล้วยังไง ความอ่อนแอไม่คู่ควรมีอยู่ในตัวผู้ที่ได้รับใช้ในฐานะโล่ของราชาหรอ ?
[Cor] – ดูตามันสิ เห็นมีความอ่อนแอแฝงอยู่รึเปล่าละ พวกมันทุกคนก็เหมือนคนโง่ที่ยอมถูกลงทัณฑ์เพื่อความทะเยอทะยานที่อยากจะก้าวข้ามสถานะของพวกมันเอง ... เมื่อก่อนชั้นเองก็เคยโง่แบบนั้น แล้วก็เคยถูกลงทัณฑ์เหมือนกัน
[Gladio] – แต่คุณก็ยังไม่ตายไม่ใช่หรอ ? บางที่คุณอาจแค่ยังไม่มีคุณสมบัติพอที่จะเป็นโล่ของราชาแต่มันคงยังเห็นว่าคุณยังมีค่าที่ควรจะต้องมีชีวิตอยู่ต่อไปก็ได้
[Cor] – มันอาจจะคิดแบบนั้น หรือ อาจจะไม่ใช่ ก็ได้
หลังจากออกจากจุดที่พักแรก ลุยต่อไปจนถึงทางเข้าห้องแห่งการทดสอบห้องแรก
[Gladio] – ที่นี่มันคืออะไร ?
[Cor] – ห้องทดสอบ จากนี้นายต้องลุยเดี่ยวแล้ว
[วิญญาณ] – เตรียมพร้อมไว้ นักรบหนุ่ม เพื่อการทดสอบรอคอยเจ้าอยู่ พิสูจน์ให้เห็นถึงความแข็งแกร่งสิ แล้วพลังของพวกข้าจะเป็นของเจ้า
พบ Boss Nergal
หลังจากจัดการ Nergal ลงได้ เข้าไปสำรวจที่แท่นผลึกด้านในเพื่อรับพลังซึ่งเป็นรางวัลของการทดสอบมาซึ่งจะเป็นการปลอดล็อกท่า “ Tempest” (Perform) ท่าใหม่ของ Glaive Art เพิ่มขึ้นอีก 1 ระดับเป็นระดับที่ 3
[วิญญาณ] – พลังของพวกข้าเป็นของเจ้าแล้วนักรบหนุ่ม จงยืนหยัดเพื่อเป็นโล่ให้กับกษัตริย์ปราบศัตรูให้อยู่หมัดจนไม่เหลือใครกล้ามาท้าทาย
[Gladio] – ขอบคุณสำหรับคำแนะนำและการยอมรับในตัวผมนะ
[Cor] – เอาละ นายรอดมาได้ ทำได้ดี การทดสอบแรกจบสิ้นลงแล้ว แต่ยังเหลือการทดสอบอีกมากที่รออยู่บนเส้นทางที่มี “จอมดาบ” มันเฝ้ามองอยู่ เตรียมตัวให้พร้อมเอาไว้ด้วย
Main Mission: Path to Perdition
จากนั้นลุยเข้าไปตามทางจนถึงที่ตั้งแค้มป์จุดที่ 2 การเดินทางของทั้งคู่ก็จบลงที่คัฟ นู๊ดเดิ้ลกับบทสนทนาก่อนเข้านอนอีกครั้ง
[Gladio] – พ่อของผมไม่เคยผ่านการทดสอบของ Gilgamesh ใช่มั๊ย?
[Cor] – ไม่เคย แล้วนายรู้มั๊ยเพราะอะไร ?
[Gladio] – ผมรู้ ..แต่ผมหมายถึง มันคงไม่ใช่เพราะว่าพ่อกลัวหรอกใช่มั๊ย ?
[Cor] – พ่อนายเขาไม่เคยกลัวการทดสอบหรอก แต่เขากลัวที่จะล้มเหลวในฐานะหัวหน้าของหน่วย Crowndsguard และกล้วที่จะบกพร่องในหน้าที่ในฐานะโล่ของราชาต่างหาก เขาไม่เคยอยากทิ้งฝ่าบาทเอาไว้รำพังจนถูกไล่ตอนจนจนมุมอย่างที่เคยเป็น แต่ยังไงก็เถอะ จะเป็นโล่ที่ดีได้ยังไงถ้าปกป้องใครไม่ได้จริงมั๊ย ? แล้วนายละ ห่วงฝ่าบาทที่นายทิ้งไว้ข้างหลังบ้างรึเปล่า ?
[Gladio] – ก็มีบ้าง แต่ผมก็จะทำสิ่งที่ควรทำเพื่อตัวเองเหมือนกับพ่อที่เคยทำสิ่งที่ควรทำสำหรับเขาด้วยเช่นกัน
เมื่อถึงเช้าวันใหม่ก็เริ่มลุยไปข้างหน้าเพื่อมุ่งไปที่ห้องทดสอบห้องต่อไป ระหว่างทางจะมีระบบใหม่คือสามารถจับเสาหินมาใช้เป็นอาวุธได้ด้วย ลุยเข้าไปตามทางต่อจนถึงทางเข้าห้องแห่งการทดสอบห้องที่ 2 เข้าไปพบ Boss วิหคเพลิง enkidu
[วิญญาณ] – เจ้าผู้มาเยือน เจ้าเคยผ่านราตรีกาลมานานเท่าใดก่อนจะมาถึงครั้งสุดท้ายในคืนนี้ ส่วนข้ามากมายราตรีที่เคยผ่านมาหลายคณานับ มารอดูดีกว่าว่าผู้ท้าชิงคนล่าสุดของพวกเราจะมีชะตากรรมยังไง
หลังจากจัดการ enkidu ลงได้ เข้าไปสำรวจที่แท่นผลึกด้านในเพื่อรับพลังซึ่งเป็นรางวัลของการทดสอบมาซึ่งจะเป็นการปลอดล็อกท่า “ Maelstorm ” (Perform) ท่าใหม่ของ Glaive Art เพิ่มขึ้นอีก 1 ระดับเป็นระดับที่ 5 ซึ่งเป็นระดับสูงสุด
[วิญญาณ] – จงลุยต่อไปข้างหน้าด้วยพลังที่เปี่ยมไปด้วยความหวังและความฝันของพวกข้า จงมองไปข้างหน้าเพื่อเป็นโล่ของกษัตริย์เพื่อปกปักษ์อนาคตของพวกเราด้วยเถิด ท่านนักรบหนุ่ม
[Cor] – พลังที่นายได้รับมาจากวิญญาณที่ตายในการทดสอบมากมายหลายรุ่น เป็นสิ่งที่เหล่าผู้โล่แห่งกษัตริย์อยากใช้พลังของตัวเองที่เหลืออยู่สร้างสิ่งดีๆเป็นครั้งสุดท้าย
Main Mission: Know Thine Enemy
ลุยเข้าไปตามทางจนถึงที่ตั้งแค้มป์จุดที่ 3 การเดินทางของทั้งคู่ในวันนี้ก็จบลงที่คัฟ นู๊ดเดิ้ลกับบทสนทนาก่อนเข้านอนเหมือนเดิม
[Cor] – ไม่เคยคิดเลยว่าจะได้กลับมาที่ Tempering Grounds นี่อีกครั้ง
[Glodio] – คุณเคยบอกว่ามัน 30 ปีแล้ว ตอนนั้นคุณได้ฉายา แม่ทัพอมตะ เหมือนตอนนี้รึเปล่า? แล้ว “จอมดาบ” มันเป็นคนยังไง ?
[Cor] – ชั้นจำอะไรไม่ได้มาก นอกเสียจากตาคู่นั้น เหมือนมันสามารถมองเข้าไปในหัวใจทะลุเข้าไปถึงจิตวิญญาณ มันเหมือนเขาสามารถรู้ทุกการเคลื่อนไหวของชั้นก่อนที่จะเริ่มเคลื่อนไหวซะอีก ไม่ว่านายจะพยายามยังไง ก็ยากที่จะตบตามันได้แน่นอน
[Glodio] – หึหึ .. งั้นเดี๋ยวเรามารอดูกัน
เมื่อถึงเช้าวันใหม่ก็เริ่มลุยไปข้างหน้าเพื่อมุ่งไปที่ห้องทดสอบห้องต่อไป ระหว่างจะเจอกับ Boss Inannaduru ลุยเข้าไปตามทางต่อจนถึงทางเข้าห้องแห่งการทดสอบห้องที่ 3
[วิญญาณ] – ไอ้พวกหน้าโง่มากมายที่ทับถมกายเป็นพันๆอยู่ใต้พื้นเท้าที่พวกข้าเหยียบย่ำ ล้วนโง่เขลาที่อยากลองดีจนไม่ทันตั้งตัวว่าอันตรายที่ซ่อนอยู่กำลังมาถึงตัว ทุกคนล้วนต้องประสบชะตากรรมเดียวกัน เจ้าเองก็เหมือนกัน บางทีเจ้าอาจยังไม่ทันคิด อีกอย่างนึง Lucis ที่เจ้าเรียกว่าบ้านในตอนนี้ก็ไม่มีอะไรที่เหมือนกับ Lucis ที่ข้าเคยรับใช้เลยซักนิด ยุคสมัยของเจ้าจะถูกลืมเลือนไป เพราะความน่าสยดสยองของสงคราม ประเทศที่ถูกปกครองอย่างประคบประหงมโดยกษัตริย์ที่พึ่งพอใจแต่กับความสงบสุขที่จอมปลอม ไม่มีโล่ไหนที่คู่ควรกับการปกป้องกษัตริย์ที่เกิดมาในยุคแห่งความเสื่อมทรามนี้หรอก ความจริงแล้ว เหล่าโล่แห่งกษัตริย์นั้นมิอาจหลอกลวงใครได้ ไม่แม้แต่ตัวเอง ข้าขอบอกเลยว่า โล่ที่เปรียบเสมือนความห้าวหาญของแกจะหดหายไปจนไม่เหลือกลายเป็นอาวุธที่ไร้ค่าไม่คู่ควรกับราชาอีกต่อไป
[Glodio] – เออ พูดจบรึยัง !
เข้าไปด้านในห้องแห่งการทดสอบครั้งที่ 3 เข้าไปพบ Boss Humbaba
หลังจากจัดการ Humbaba ลงได้ เข้าไปสำรวจที่แท่นผลึกด้านในเพื่อรับพลังซึ่งเป็นรางวัลสุดท้ายของการทดสอบมาซึ่งไม่ใช่การปลดล็อกท่าใดๆอีก แต่รางวัลที่ว่าคือใบผ่านทางสุดท้ายที่ถูก Gladio ฉีกทิ้งเพื่อเปิดทางเข้าไปที่ห้องทอสอบของ จอมดาบ Gilgamesh
Main Mission: To Serve as Shield
ลุยเข้าไปตามทางจนถึงที่ตั้งแค้มป์จุดที่ 4 ซึ่งเป็นจุดพักจุดสุดท้ายแล้ว
[Gladio] – แล้วคุณละ ? ผมอยากรู้ว่าหลังจากที่คุณกลับมาจากการทดสอบของ Gilgamesh ชีวิตมันเป็นไงบ้าง
[Cor] – มาสนใจอะไรชีวิตชั้นนัก ?
[Gladio] – ผมหมายถึง ตอนนั้นคุณเด็กกว่าผมในตอนนี้มาก
[Cor] – ตอนนั้นชั้นหุนหันพลันแล่นมาก ถ้านายอยากจะฟังก็เชื่อเถอะว่ามันเรื่องจริง อย่าไปฟังคนอื่นมันพูดมากนัก ตอนนั้นชั้นมันยะโสโอหังไม่ฟังใคร คิดว่าตัวเองเทพจนไม่มีใครสู้ได้ ..จนกระทั้งถูกมันอัดจนลงไปกองกับฟื้น .. ชั้นถูกโยนออกมาพร้อมความพ่ายแพ้ ความโอหังที่เคยมีมาหายไปจนหมดสิ้น แต่กับพวกชาวบ้าน “คุณนี่มันอมตะจริงๆ” พวกเขาทุกคนพูดกันแบบนั้น ก็เท่านั้น
[Gladio] – ลำบากใจไม่น้อยเลยนะแบบนี้.... แต่คุณก็รอดกลับมาได้แบบที่ไม่เคยมีใครทำได้มาก่อน ผมนับถือตรงนี้แหละ
เมื่อพักผ่อนถึงเช้าวันใหม่ วันแห่งการตัดสินสุดท้ายเริ่มต้นลุยไปข้างหน้าเพื่อมุ่งไปที่ห้องทดสอบห้องต่อไป ซึ่งเป็นห้องทดสอบสุดท้ายที่ จอมดาบ Gilgamesh รออยู่
[Cor] – นายรู้มั๊ยว่าพ่อนายพยายามจะห้ามนาย เหมือนตอนที่เขาพยายามจะหยุดชั้นเมื่อหลายปีก่อน
[Gladio] – เพราะกฎข้อนึงของ king’s shield อณุญาติให้ทะเยอทะยานได้แต่ความทะเยอทะยานนั้นต้องทำเพื่อประโยชน์กับกษัตริย์ที่ตนร้บใช้เท่านั้น ไม่ใช่ทำเพื่อตนเอง “นายกล้าที่จะยอมสูญเสียทุกอย่างตอนกลับมารึเปล่า ?” พ่อนายถามชั้นแบบนี้ มันเป็นคำพูดที่เขาพยายามจะหยุดชั้น และเขาก็พูดถูกทุกอย่าง ชั้นกลับมามือเปล่า
[Gladio] – คุณพยายามจะห้ามผมหรอ ?
[Cor] – เปล่า ไม่เคยคิดจะห้าม แต่ชั้นอยากจะเตือนนายเป็นครั้งสุดท้ายถึงอันตรายที่นายกำลังจะเผชิญอยู่เหมือนกับที่พ่อของนายเตือนชั้น ทันทีที่เท้านายก้าวผ่านประตูนั่นไปจะไม่มีทางหันหลังกลับได้อีกแล้ว และไม่มีใครจะช่วยนายได้อีกแล้ว ก้าวผิดเพียงก้าวเดียวอาจทำให้นี่เป็นการพิสูจน์ตัวเองครั้งสุดท้ายของนายเลยก็ได้
[Gladio] – ผมไม่เป็นไรหรอกน่า บางทีอาจกลับมาพร้อมของที่ระลึกติดมือมาด้วยก็ได้
[Cor] – แค่รอดกลับมาได้ก็พอแล้ว Gladio
[Gladio] – ชั้นมาแล้ว ! เริ่มกันได้เลย
[Gilgamesh] – ด้วยการกวัดแก่วงดาบแบบถึกๆไร้สมองของแกน่ะหรอ
[Gladio] – เออ แบบนั้นแหละ! ลองดูมั๊ยละ ถ้าแกรับมือไหวอ่ะนะ !
Trick การต่อสู้กับ Gilgamesh ในช่วงแรกนั้น มันจะโจมตีช้ามากรวมทั้งยังใช้ร่างที่มีออร่าสีแดง (ร่างสีแดงจะทำให้พลังโจมตีสูงขึ้นและสามารถโจมตีให้การ์ดแตกได้ภายในครั้งเดียว)
ในการต่อสู้น้อยมาก พยายามกดการ์ดเอาไว้เรื่อยๆแล้วรอโจมตีสวนกลับตอนมันจบคอมโบ ตอดไปเรื่อยๆรอ Glaive Art เต็มจนถึงขั้น Maelstrom แล้วค่อยโจมตี ก็จะจัดการได้โดยไม่เสียพลังมาก
[Gilgamesh] – โจมตีแบบโถมทุ่มกำลังไปหมดแบบนั้นตั้งใจจะเปิดเผยจุดอ่อนให้เห็นรึยังไง คนที่ทำให้ข้าผิดหวังมากมายพบจุดจบที่นี่แล้วแกละ สนใจมั๊ย !??
[Gladio] – ไม่ละ ชั้นไม่ได้มาที่นี่เพื่อตาย แต่มาเพื่อพิสูจน์กับแกว่าชั้นมีค่ามากพอ !!!
สู้กับมันต่อจนพลังของมันหมดหลอด Gilgamesh จะเพิ่มพลังตัวเองจนมีแขนงอกออกมาพร้อมกับดาบเล่มยาวที่เป็นอาวุธลับของมันกับพลังชีวิตที่เต็มหลอดอีกครั้ง
[Gilgamesh] – แกแข็งแกร่งดีนี่ แต่ก็ยังปิดบังจิตใจที่เต็มไปด้วยความกลัวของแกไม่ได้อยู่ดี พลังที่แกมีมันจึงเปล่าประโยชน์
[Gladio] – ชั้นยังมีกลเม็ดเล็กๆน้อยซ่อนอยู่ในแขนเสื้ออีกนิดหน่อย ยังไม่แพ้ง่ายๆหรอกน่า ...Cor พูดถูกเรื่องไอ้หมอนี่ มันแกร่งกว่าที่คิดเยอะเลย แต่ชั้นก็ไม่อยากแพ้โดยไม่ได้สู้หรอกน่า !!!
Gilgamesh ร่างสุดท้ายที่งอกแขนพลังงานออกมาพร้อมดาบยาวเล่มใหญ่ของมันนั้นทรงพลังมาก นอกจากการใช้ดาบ 2 มือที่เต็มเปี่ยมไปด้วยพลังและความเร็วที่เพิ่มขึ้นแล้ว มันยังจะใช้ร่างแดงที่เพิ่มพลังโจมตีที่การต่อสู้ต่อเนื่องและบ่อยมากขึ้น
รวมกับท่าโจมตีด้วยคลื่นพลังของดาบจากระยะไกล ถ้าโดดจากที่สูงอัดกระแทกที่เป็นท่าใหม่ของร่างแดง พยายามการ์ดและทิ้งระยะเอาไว้เวลามันโจมตีด้วยร่างแดงอย่างต่อเนื่อง ที่เหลือก็รอจังหวะสวนกลับ เก็บพลังท่าไม้ตายไปเรื่อยๆรอ Glaive Art เต็มจนถึงขั้น Maelstrom แล้วค่อยโจมตี ก็จะสามารถจัดการมันลงได้
[Gladio] – บอกแล้วว่าชั้นไม่ยอมคุกเข้าต่อหน้าใครหน้าไหนทั้งนั้น !! .. โอ๊ยย ! หึหึ แผลนี่ คงไม่ใช่ของที่ระลึกที่ว่าใช่มั๊ย ? ชั้นจะจำเอาไว้เลย พอใช้เวลาซักพักชั้นผมถึงจะเข้าใจ คุณพูดถูก ...ผมกลัว กลัวที่จะยอมรับความจริง ความจริงบางทีผมอาจไม่มีคุณสมบัติที่เหมาะกับงานที่ผมอยากจะทำ ...ผมคงต้องไปแล้ว .. ผมอาจจะมีแต่กล้ามแต่ไม่มีความกล้าหาญอย่างที่คุณบอก แต่ผมก็ยังจะปกป้อง Noct ต่อไปด้วยวิธีที่ผมจะทำได้ก็เท่านั้นแหละ
[Gilgamesh] – พูดเหมือนกับเป็นโล่ของราชาตัวจริงเลยนะ หวาดกลัวและสับสน เกิดและตายอย่างโดดเดี่ยว ผู้ใดที่มองข้ามความผิดพลาดของตัวเอง มิอาจเรียกตัวเองว่าเป็นโล่ของราชาที่แท้จริงได้ แต่นาย กลับใช้การสร้างความสงบจากข้างในของตัวเอง เพื่อพิสูจน์ว่าตัวเองคู่ควร ราชาที่ถูกเลือก โชคดีแล้วที่ได้คนอย่างเจ้ามาอยู่ข้างกาย
[Gladio] – คุณหมายความว่า ...
[Gilgamesh] – ข้าขอมอบความไว้วางใจในพลังของข้าให้แก่เจ้าด้วยดาบเล่มนี้
[Gladio] – ดาบนี้ ... คุณได้มาจากไหน ?
[Gilgamesh] – จากเด็กหนุ่มคนนึงที่ทำให้ข้าประทับใจในความใจสู้ของเขา แต่ก็ต้องเสียดาบมากมายที่เขาขโมยไปพร้อมๆกับแขนของข้าด้วยเช่นกัน
[Gladio] – แต่ ผมรับไว้ไม่ได้หรอก ..
[Gilgamesh] – ถ้าเจ้าหนุ่มที่เปี่ยมไปด้วยความกล้าหาญคนนั้นยังมีชีวิตอยู่ เขาก็คงไม่ยึดติดกับสิ่งของที่เป็นวัตถุนักหรอก
[Gladio] – หึ คุณพูดถูก ในกรณีนี้ถ้าผมรับไปมันก็คงไม่เป็นไรหรอกนะ
[Gilgamesh] – เอาละ เจ้าจงรีบไปเถอะ จงก้าวไปข้างหน้าด้วยจิตที่ไร้ความสงสัย และ มุ่งไปด้วยใจที่ไร้ซึ่งความกลัวนะ กษัตริย์องค์สุดท้ายของราชวงศ์ Lucis คงมิอาจต่อสู้ได้ดั่งใจหากไร้ซึ่งโล่ข้างกายของเขา
[Cor] – นายทำได้ !
[Gladio] – แน่นอนสิ
[Cor] – แถมยังเร็วอีกด้วย ชั้นประทับใจเลยนะเนี้ย
[Gladio] – ผมเอานี่กลับมาด้วย บางทีคุณอาจจะอยากสนุกกับมัน
[Cor] – สงสัยอยู่ว่าไปลืมวางมันไว้ที่ไหน ... นายเก็บเอาไว้ใช้เถอะ น่าจะเป็นของที่ระลึกที่ดีกว่าแผลเป็นบนหน้านายแน่นอน
[Gladio] – คุณรู้มั๊ยว่า จอมดาบเขาบอกว่าเขาเสียแขนในการต่อสู้กับนักดาบหนุ่มคนนึงเมื่อในอดีตน่ะ
[Cor] – แล้วไง ?
[Gladio] – จะเป็นใครก็เหอะ มันก็ได้ทิ้งความประทับใจครั้งสุดท้ายกับเขามาก แถมยังชื่นชมว่าไม่เคยเห็นใครแข็งแกร่งเท่าเด็กหนุ่มคนนั้นมากก่อนซะด้วย
[Cor] – คุยเรื่องการที่นายผ่านการทดสอบดีกว่านะ นายอยากจะใช้อาวุธของนายประเดิมแบบไหน แล้วคิดว่าจะใช้ได้อย่างช่ำชองรึเปล่า เพราะถ้านายแข็งแกร่งพอจะใช้มัน ก็เหมือนนายกลับมามือเปล่า
[Gladio] – ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่เห็นเขาบอกว่าถ้านักดาบหนุ่มเจ้าของดาบนั่นยังรอดอยู่จนถึงตอนนี้คงแก่มากและคงไม่ยึดติดกับสิ่งของอะไรของเขาแล้วละ
[Cor] – ชั้นหวังว่านายคงรู้สึกมั่นใจมากขึ้นจากสิ่งที่นายทำสำเร็จในวันนี้ น้อยคนนักที่จะได้สิทธิ์นี้ ไม่แม้แต่ Cor ที่ได้ฉายาว่า แม่ทัพอมตะ
[Gladio] – ใช่ แต่ผมคงไม่ได้ฉายาเจ๋งๆแบบเขาหรอก แต่ผมก็ภูมิใจที่ผ่านการทดสอบมาได้ ผมจะได้พูดได้เต็มปากซะทีว่า พร้อมแล้วที่จะรับหน้าที่โล่ของราชาที่ถูกเลือกอย่างเต็มตัว ! เอาละ คงถึงเวลาที่โล่ที่จากมาจะกลับไปหาราชาที่แท้จริงของเขาแล้ว ผมไม่อยากให้เขาต้องหวาดกลัวที่ไม่มีผมอยู่ข้างๆต่อไปอีกแล้วละ
----------------------------------------------------------------------------------------------------------
[Gladio] – ฟังแล้วเป็นไงบ้าง ?
[Prompto] – ตรงไปตรงมาดี ช่วยทำให้มั่นใจมากขึ้นว่านายคงช่วย Noct จากพวกตัวร้ายที่จะเข้ามาวุ่นวายได้อย่างไม่มีปัญหา แต่ปกตินายเองก็บู๊ระห่ำทำได้ดีอยู่แล้วนี่
[Gladio] – ใช่ แต่ที่แตกต่างคือตอนนี้ชั้นเลิกคิดในแง่ร้ายเกี่ยวกับตัวเองหมดแล้วด้วย
[Ignis] – ไม่เหมือนกันกับการผ่ายแพ้ของท่านแม่ทัพเมื่อครั้งยังหนุ่ม
[Prompto] – หลังจากวันนั้นคงจะมีใครอีกหลายคนที่เข้าไปทดสอบฝีมือกับ Gilgamesh อีกเพียบแน่ๆเลย
[Noct] – ใช่ พ่อยังบอกเลยเหมือนเขาไปจุดประทัดเรียกแขก
[Prompto] – รู้เยอะจังนะนายอ่ะ
[Ignis] – ถ้า Gilgamesh เนรเทศตัวเองไปในช่วงรัชสมัยของกษัตริย์ผู้ก่อตั้งราชวงศ์ Lucis งั้นก็แสดงว่าเขาเป็นวิญญาณหลอกหลอนผู้คนมา 2พันปีแล้วล่ะสิ
[Noct] – มันนานมากๆเลยนะนั่น
[Gladio] – ทั้งหมดก็เพื่อรอคอยราชาที่ถูกเลือกถือกำเนิด นายแน่ใจแล้วนะว่ารู้ว่าจะระลึกถึงความหลังที่หอมหวานยังไง
[Noct] – จะพูดไงดีละ ? ตั้งตารอเลยละ ขอให้คุ้มค่าการรอคอยก็แล้วกัน
[Prompto] – เฮ้ย เดี๋ยวๆ ถามจริง
[Ignis] – เช่นกัน ชั้นก็ด้วย
[Gladio] – แค่เพราะว่านายมีโล่ที่แข็งแกร่งคอยปกป้องแล้วไม่ได้หมายความว่านายจะอู้ได้นะ Noct หึหึ ... แต่ถ้านายคิดจะอู้จริงๆชั้นก็จะพร้อมที่ปกป้องนายอยู่ดีนั่นแหละ .
----------------------------------- END OF STORY --------------------------------------------------
รางวัลหลังจบเกม
2. ท่า Dual Master Glaive Art ท่าโจมตีด้วยดาบคู่ โดยสามารถทำท่านี้ได้โดยโจมตีศัตรูจนเกท Glaive Art เต็มที่ท่า Maelstrom จากนั้นกดสามเหลี่ยมเพื่อใช้ท่า Maelstrom จนจบท่าจะมีปุ่มสามเหลี่ยมให้กดเพื่อทำท่า Dual Master ต่อได้เลยจะสร้าง Damage 9999 เลย
3. ชุด Rugged Attire ชุดถอดเสื้อนั้นสามารถปลดล็อกได้โดยการเล่นในโหมด Score Attack ซึ่งเป็นโหมดที่ได้เล่นในบทต่างๆของเกมอีกครั้งแบบทำเวลาให้เร็วที่สุดเพื่อเก็บคะแนน
โดยต้องทำคะแนน 500.000 ขึ้นไปเพื่อให้ได้ชุด Rugged Attire มา ซึ่งสามารถนำชุด Rugged Attire ไปใส่ในโหมดเนื้อเรื่องได้ด้วย
4. ได้สู้กับ Cor ในโหมด Final Trial
+ ตำแหน่งไอเทมทั้งหมดที่สามารถเก็บได้ระหว่างทาง
http://www.gosunoob.com/final-fantasy-xv/ffxv-all-item-locations-picker-upper-trophy-episode-gladiolus/