วันอาทิตย์ที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2561

FAR CRY 5



                              บทสรุป   FAR CRY 5



                                                  BY Decibel per - Oxide






Montana รัฐทางฝั่งตะวันตกสหรัฐอเมริกามีขนาดใหญ่อันดับ 4 ของประเทศ เมืองหลวงของรัฐคือ helena พื้นที่ประมาณ 60% ของรัฐมอนแทนา มีลักษณะเป็นเทือกเขา ตามที่มาของชื่อ มอนแทนา มาจากภาษาสเปน คำว่า montaña ที่แปลว่า "ภูเขา" เศรษฐกิจของรัฐมาจากทางด้านเกษตรกรรมและการท่องเที่ยว



การที่ มอนทานา ถูกเรียกว่า ดินแดนแห่งฟ้ากว้าง (The Big Sky Country) และ รัฐแห่งขุมทรัพย์ ('Treasure State') ที่ใช้ชื่อเล่นว่า "เทรเชอร์สเตท" นั้นเนื่องจากเป็นรัฐที่มีแหล่งแร่และเหมืองแร่เป็นรากฐานทางเศรษฐกิจที่สำคัญของประเทศ จนมีคำขวัญของรัฐว่า "Oro y Plata" ซึ่งเป็นภาษาสเปนแปลว่า ทองและเงิน 



http://www.funtrivia.com/askft/Question30830.html
https://en.wikipedia.org/wiki/Montana




แต่ Hope Country พื้นที่สมมุติที่ตั้งอยู่ในมอนทานา กำลังถูกคลุกคามจากมหันภัยทางความเชื่อจาก ลัทธิที่ชั่วร้ายที่ใช้นามว่า Project at Eden's Gate มี Joseph Seed หรือที่เหล่าสาวกของมันเรียกขานนามว่า "The Father เป็นผู้ชี้นำแนวคิดที่เต็มไปด้วยความรุนแรงและชั่วร้าย 



โดยมีกลุ่มผู้เผยแพร่ที่เรียกว่า "The Heralds" อันประกอบด้วยพี่น้องในตระกูล Seed ที่เหลือคือ  Jacob, John, Faith เป็นผู้นำพาแนวความคิดของลัทธิไปยังชาวบ้านที่อยู่ในพื้นทีให้ยอมรับและทำตามในเชิงกดดันด้วยความหวาดกลัว แม้ลัทธิชั่วจะมีสาวกที่หลงเชื่อเพิ่มจำนวนขึ้นและพร้อมยอมตายเพื่อผู้นำของพวกมันกลายเป็นกองทัพติดอาวุธมากมายหลายพันคนกับชาวบ้านที่ต้องยอมเข้าร่วมเพราะจำนนด้วยความกลัว



 แต่ไม่ใช่ทั้งหมด ยังมีชาวบ้านอีกส่วนนึงที่ไม่ยอมจำนนต่อความกลัวในความเชือผิดๆที่ถูกยัดเยียดให้ พวกเขารวมตัวกันต่อต้านอย่างลับๆในนามของ “กลุ่มต่อต้าน” (The Resistance) เพื่อหวังว่าจะทวงความสงบสุขให้กับบ้านเมืองของตัวเองคืนมาให้ได้ในซักวัน


Mary May Fairgrave - แต่ไม่ว่าที่นี่จะถูกเรียกว่า ดินแดนแห่งท้องฟ้ากว้างใหญ่ รัฐแห่งขุมทรัพย์  หรือตามแต่ผู้คนต่างๆที่เรียกต่างกันมากมายหลายชื่อแต่เราเรียกที่นี่ว่า “บ้าน” 

Pastor Jerome – แม้ว่าเราจะอยู่ที่นี่มาเกือบทั้งชีวิตก็ยังอดที่จะตลึงกับความสวยงามของมันไม่ได้เลย 

Nick Rye – สิ่งสวยงามเหล่านั้น บางทีมันอาจจะทำให้เราทำสิ่งน่าเกลียดกับผู้คนไม่เป็นก็ได้ 

Pastor Jerome – คุณไม่เข้าใจหรอก เอาจริงๆนะ ไม่มีใครเชิญคนพวกนี้เข้ามาหรอก
Nick Rye – พวกเขาดูแตกต่างออกไป เหมือนพวกคลั่งศาสนา พวกชอบใช้กำลัง เหมือนลัทธิเหี้ยๆอะไรซักอย่าง

Mary May Fairgrave – พวกมันเริ่มกว้านซื้อฟาร์มต่างๆ จากนั้นก็ สถานีวิทยุ อยู่ไปนานเขาเสือกมาทำตัวเหมือนตำรวจเฉยเลย 





Pastor Jerome – พวกมันพยายามจะสร้างที่นี่ให้เป็นอธิปไตยในลัทธิของพวกมัน ที่นี่ ใต้จมูกของพวกเรา 

Nick Rye – ไม่มีใครยื่นมือมาช่วยเราเลย พวกรัฐบาลก็หายหัวไปหมด บ้าเอ้ย เราต่างก็ต้องเอาตัวรอดกันเองมาตลอด
Mary May Fairgrave – ผู้คนที่นี่ไม่ต้องการที่จะหลงเชื่อในลัทธิของพวกมัน




Nick Rye – แต่หลายคนก็ต้องยอมทำตามไปเพราะหวาดกลัวพวกมัน 
Pastor Jerome – พวกเราไม่อยากรู้หรอกว่าลัทธิของพวกมันทำอะไรได้บ้าง แต่ไอ้นี่สิตัวร้าย ผู้นำของพวกมัน
Nick Rye –  Joseph Seed 
Mary May Fairgrave – พวกมันเรียกเขาว่า The Father 



Joseph Seed – โลกภายนอกนั้นล้วนมืดบอด พวกเขาไม่มีความเชื่อ ไร้ซึ่งศรัทธรา  แต่ผมจะทำให้พวกเขาเห็นเอง


                                       บทที่ 1


                    Story Mission: THE WARRANT




นายอำเภอ Whitehorse – เฮ้ เจ้าเด็กใหม่ เสียเวลาน่า ที่นี่ไม่มีสัญญาณหรอก
Pratt – เรากำลังข้ามเขตแม่น้ำ Henbane แล้วนะ 
Hudson – โอ้ ให้ตายสิ นั่นไงเขา 



Pratt – พระเจ้า แม่งบ้าชัดๆ
Hudson – เรากำลังถึงเขต Peggie แล้ว
Pratt – อีกไกลมั๊ยครับ?
นายอำเภอ Whitehorse – ก็นานพอที่เราจะมีเวลาเปลี่ยนใจนั่นแหละ  ใช่มั๊ยพวกเรา อยากหัน ฮ กลับยังทันนะ
Burke – นี่คุณจะให้ผมไม่ต้องขอหมายจับจากรัฐบาลกลางใช่มั๊ยครับ นายอำเภอ
นายอำเภอ Whitehorse – เปล่า แต่ผมอยากจะให้คุณข้อเท็จจริงของเรื่องนี้ก่อนว่า Joseph Seed ไม่ใช่คนที่ใครๆจะเข้าไปยุ่งด้วยง่ายๆ เราต้องรีบเข้ารีบออกทำให้เร็วก่อนที่มันจะมุดดินหนีไป บางที แค่บางทีนะ ผมว่าน่าจะดีที่สุดแล้วที่จะปล่อยมันไว้แบบนี้แล้วไม่ต้องไปสนใจมัน
Burke – ก็นะ แต่เราก็มีกฎหมายที่เราต้องยึดถือนะ นายอำเภอ และถึงเวลาแล้วที่ Joseph Seed ต้องเรียนรู้ว่า เขาไม่ได้อยู่เหนือกฎหมาย
นายอำเภอ Whitehorse – Pratt ติดต่อไปหา Dispatch เดี๋ยวนี้ 
Pratt – รับทราบครับ 
นายอำเภอ Whitehorse – Whitehorse ถึง Dispatch ตอบด้วย เปลี่ยน !
Dispatch – ว่ามา Earl 
นายอำเภอ Whitehorse – เราต้องเตรียมการประสานไปที่ Nancy เดี๋ยวนี้เลย เปลี่ยน !



Nancy – รับทราบครับหัวหน้า ตกลงเรายังจะดำเนินตามแผนเดิมใช่มั๊ย? เปลี่ยน !
นายอำเภอ Whitehorse – พวกเราเอ่อ .. ต้องขออภัยด้วย แต่เราลองพูดกับ มาแชล Burke เพื่อนของเราแล้วแต่เขายังยืนยันเหมือนเดิม
Nancy –  โอเค ทราบ โชคดีที่ชั้นไม่ได้อยู่ที่นั่น ถ้ามีปัญหาอะไรก็อย่าลืมแจ้งด้วย เปลี่ยน !

Pratt – บางที่เราควรเอา Nancy ร่วมคณะมาด้วยนะ บางที่ไอ้พวก “peggies” (พวกคลั่งลัทธิ) อาจจะไม่กล้าเข้ามายุ่งกับเธอก็ได้
Nancy –   Pratt !!!
Burke – ทำไมคุณถึงเรียกพวก พวกคลั่งลัทธินั่นว่า “peggies” ล่ะ??
นายอำเภอ Whitehorse – ผมเอามาจากตัวย่อของชื่อลัทธิ Project at Eden's Gate ของพวกมันไง P.E.G - “peggies” นั่นแหละ ส่วนใหญ่เป็นพวกชาวบ้าน จะได้ฟังดูอันตรายมาก ซึ่งนั่นมันสมัยเหมือนหลายปีมาแล้ว ตอนนี้พวกมันกลายเป็นพวกหัวรุนแรงติดอาวุธกันหมดแล้ว แถมไม่ใช่พวกนักรบไก่กาด้วยนะจะบอกให้ 
Burke – นี่คุณกลัวพวกมันหรอครับหัวหน้า?
Pratt – เรามาถึงแล้วครับ ฐานของพวกมันอยู่ข้างใต้นั่นไง



Pratt – โอ้ พระเจ้า .. ดูสิ
Hudson – มันเป็นความคิดที่แย่มากๆเลยเนี้ย
นายอำเภอ Whitehorse – โอกาสสุดท้ายแล้วนะ เปลี่ยนใจรึเปล่า Marshal ..
Burke – เราจะเข้าไปตามแผนเดิม
นายอำเภอ Whitehorse – เอาเครื่องลงได้เลย Pratt




นายอำเภอ Whitehorse นำทีม มาแชล Burke , Hudson และ เจ้าหน้าที่หน้าใหม่ เดินทางเข้าไปยัง Church of Eden’s Gate ท่ามกลางการอารักขาของนักรบติดอาวุธคนของ Joseph Seed จนทำให้สถานการณ์เต็มไปด้วยความกดดัน


นายอำเภอ Whitehorse – โว้วๆ มาแชล เราจะทำเรื่องนี้ตามแผนของชั้น เอาแบบเงียบๆและใจเย็นที่สุด คุณเข้าใจนะ
Burke – ได้เลย
นายอำเภอ Whitehorse – Hudson เฝ้าหน้าประตู ระวังหลังเอาไว้ อยากให้ใครผ่านเข้ามาได้  เด็กใหม่ มากับผม ส่วนนาย Burke  อย่าทำอะไรงี่เง่าเด็ดขาด
Burke – ใจเย็นน่า นายอำเภอ งานนี้คุณได้เลื่อนยศแน่นอน 



Joseph Seed – มีบางอย่างกำลังใกล้เข้ามา พวกคุณรู้สึกได้ใช่มั๊ย เราคือผู้คืบคลานไปสู่จุดที่สิ้นสุดและที่นั่นเราจะเป็นที่นับถือ ที่เราสร้างโปรเจคนี้ก็เพราะเรารู้ว่าอะไรจะเกิดต่อไป พวกเขาจะมา พวกเขาจะเอาทุกอย่างไปจากเรา เอาอาวุธของเราไป เอาเสรีภาพของเราไป เอาความเชื่อของเราไป แต่เราจะไม่ปล่อยให้พวกเขาทำแบบนั้น เราจะไม่เอาความโลภของพวกมัน เราจะไม่เอาความอยุติธรรมหรือความเสื่อมทรามใดๆมาทำร้ายพวกเราอีกแล้ว เราจะไม่ยอมที่จะทนทุกข์อีกแล้ว



นายอำเภอ Whitehorse – ใจเย็น มาแชล อย่าเหนี่ยวไกนะ
Burke – ไม่ ช่างแม่งมันเถอะ .... Joseph Seed นี่หมายจับ ตอนนี้คุณถูกจับแล้ว ข้อหาก่อความรุนแรง ลักพาตัวและทำให้เกืดความเสียหายแต่รัฐ เอาล่ะ ผมจะขอให้คุณก้าวออกมาแล้วยืนมือมาข้างหน้าให้ผมเห็นด้วย 

Joseph Seed – พวกมันอยู่ที่นี่ เหมือนตั๊กแตนที่เข้ามากัดกินไร่นาเรา พวกเจ้าเห็นรึเปล่า พวกมันเข้ามาจับชั้นไปจากพวกเจ้า พวกมันจะมาทำลายทุกอย่างที่เราสร้างมา !!
นายอำเภอ Whitehorse – ใจเย็น มาแชล เอาปืนลงก่อน เอาปืนลง !!



Joseph Seed – ทุกคนเงียบก่อน เรารู้แล้วว่าวันนี้ต้องมาถึง และเราได้เตรียมการไว้หมดแล้ว ออกไปกันก่อนเถอะนะพระเจ้าไม่ยอมให้พวกเขามาเอาตัวชั้นไปหรอก  ข้าเห็นแสงแรกของตะเกียงที่ถูกเปิดผลึกออก และข้าได้ยินเสียงที่ดั่งก้องดุจอัสนีบาตร หนึ่งในสัตว์ร้ายทั้ง 4  กำลังใกล้เข้ามา ข้าเห็น ข้ามองดูมันอย่างชัดเจน ม้าขาวตัวนั้น และ นรก ที่ติดตามมันมา
Burke – เจ้าเด็กใหม่ จับไอ้บ้านี่ได้แล้ว 
Joseph Seed – พระเจ้าไม่ยอมให้เจ้าจับข้าหรอก 


                              จากนั้นต้องเลือกว่าจะจับกุมตัว Joseph Seed หรือไม่ 

- ถ้าเลือกที่จะไม่จับตัวเขา โดยการรอซักพักไม่ต้องกดปุ่มอะไร  นายอำเภอ Whitehorse ก็จะสั่งให้ทีมถอย ท่ามกลางความไม่เห็นด้วยกับมาแชล Burke และ เกม FAR CRY 5 ก็จะจบลงแค่ตรงนี้ ....
- ถ้าเลือกที่จะจับกุมตัว Joseph Seed ชะตากรรมของปลัดหน้าใหม่ในเกม FAR CRY 5 ก็จะเริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการ


นายอำเภอ Whitehorse และลูกทีมจับกลุ่ม Joseph Seed ได้สำเร็จท่ามกลางความวุ่นวายของสาวกที่กำลังเริ่มก่อตัวตามที่คาดไว้ เจ้าหน้าที่หน้าใหม่รีบควบตัวมันไปอย่างระมัดระวังจนถึง ฮ. ที่จอดเตรียมไว้อย่างเร็วไว


แต่เหตุการณ์ก็ไม่ได้เป็นใจ สาวกบ้าคลั่งที่ไม่ยอมให้ศาสดาของพวกมันถูกจับไปจึงเริ่มลุกฮือ เหล่า  “peggies” มากมายพยายามปีนป่ายขึ้น ฮ เพื่อหวังช่วยเจ้านาย สาวกผู้บ้าคลั่งเริ่มยอมตายเพื่อหาทางช่วยศาสดายอมเอาตัวแลกกระสุนเพื่อปีนเข้าให้ถึงตัวเจ้านาย จนทำให้ ฮ เริ่มส่ายเพราะทรงตัวไม่ได้ น้ำหนักมากมายที่โถมขึ้นมาทำให้ ฮ. ต้องตกลงกลางป่าในทันที



                       Story Mission: NO WAY OUT




Nancy – ทุกคนตอบด้วย นี่ Nancy ทุกอย่างโอเคมั๊ย เปลี่ยน !! .....ได้โปรด มีใครอยู่มั๊ยตอบด้วย เปลี่ยน .. นายอำเภอ ปลัด Hudson .. ถ้าได้ยินเสียงตอบกลับด้วย .. ปลัด Pratt คุณอยู่หรือเปล่า ตอบด้วย เปลี่ยน .... Earl ตอบด้วย เปลี่ยน !!  .... ได้โปรด ใครก็ได้ตอบด้วย เปลี่ยน !!

                  Amazing Grace ..How sweet the sound That saved a wretch like me 


Joseph Seed – ข้าบอกแล้วว่าพระเจ้าไม่ยอมให้เจ้าจับข้าหรอก 
Nancy – ได้โปรด ชั้นอยากรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นที่นั้น .. 
Joseph Seed – ปลัด .. ที่นี่ทุกอย่างโอเค ไม่ต้องติดต่อมาอีกแล้วนะ 
Nancy – ค่ะ “คุณพ่อ” (Father) ขอสรรเสริญแด่ท่านคะ 
Joseph Seed – ที่นี้ก็ ไม่มีใครมาช่วยเจ้าแล้วล่ะ


Joseph Seed – ทุกเหตุการณ์ล้วนอยู่ในพระเนตรของพระเจ้า ทุกอย่างอยู่ในแผนที่พระองค์วางเอาไว้ ข้าไม่ไปไหนหรอก ยังอยู่ที่นี่กับพวกเจ้า ..ผนึกแรกได้แตกออกแล้ว การล่มสลายได้เริ่มต้นขึ้นแล้วและเราจะได้ทุกอย่างที่เราต้องการ เราจะอนุรักษ์ไว้ซึ่งตัวตนและสิ่งที่เรามี และ เราจะฆ่ามันทุกคนที่ขวางทางเรา และเหล่าผู้บุกเบิกทางแห่งการพิพากษาจะได้เห็นความจริง แล้วเราจะต้องออกจากที่นี่ เราต้องไปจากที่นี่ !! และ เริ่มต้นการเก็บเกี่ยวผลตอบแทนของพวกเรา !!!!!



Hudson – Pratt ช่วยด้วย !! .ปล่อยนะ อย่ามายุ่งกับชั้น !!! 
Pratt – พระเจ้า !! เราต้องรีบหนีออกจากที่นี่แล้ว !!
Joseph Seed – ปล่อยมันไว้แบบนั้นแหละ ให้มันถูกเผาไป พระเจ้าจะพิพากษาพวกมันเอง 


ในขณะที่สาวกที่บ้าคลั่งของลัทธิ Eden's Gate ลากตัวเจ้าหน้าที่ Hudson ออกไปจากซาก ฮ และก่อนที่กำลังจะเข้ามาจับตัว Pratt และเจ้าหน้าที่หน้าใหม่เป็นรายต่อไป Pratt ก็เริ่มคิดได้ว่า ไม่ควรจะอยู่ที่นี่ต้องรีบหนีให้ไว ส่วนเจ้าหน้าที่หน้าใหม่ที่เพิ่งตั้งตัวได้จากการหมดสติก็เริ่มดึงเข็มขัดนิรภัยจนหลุดออกได้แล้วรีบวิ่งหนีตามไปในที่สุด

หลังจากวิ่งหนีจากการไล่ล่ามาได้ เป้าหมายแรกคือทิศทางที่นำไปยังไฟที่ส่องสว่างจนเห็นได้ชัดจากกระท่อมหลังนึง


เรียนรู้ระบบการ Stealth หรือการลอบฆ่าศัตรูจากด้านหลังด้วย R3 การหลบหลีกศัตรูด้วยการนั่งต่ำและการสังเกต Detection Meter ที่บ่งบอกถึงความสนใจของศัตรู

จัดการศัตรูตัวแรกที่หน้ากระท่อม สำรวจเก็บไอเทมให้หมด จากนั้นสังเกตดูที่ป่าด้านขวาของกระท่อมจะได้ยินเสียงคนพูดมาจากจุดแค๊มป์ไฟที่อยู่ไกลออกไป เดินทางไปที่นั่น จะเริ่มได้ยินวิทยุของ Burke ที่พวกศัตรูดักสัญญาณได้


“ทุกคน ได้ยินผมมั๊ย นี่ Burke นะ .. ผมคิดว่าหนีพวกมันพ้นแล้ว ผมเห็นโรงเลื่อยอยู่ใกล้ๆแล้วก็เอ่อ เห็นสะพานยาวๆ เดี๋ยวผมจะลองพยายามข้ามไปในกระท่อมอีกฝั่ง ถ้ามีคนที่ยังรอดอยู่ ใครได้ยินเสียงผม ...”

ทันทีที่พวกศัตรูที่แค๊มปได้รับข้อมูลพวกมันจึงรีบเดินทางไปที่โรงเลื่อยที่ Burke ซ่อนตัวอยู่ เจ้าหน้าที่หน้าใหม่ก็เช่นกัน  จากนั้น เดินทางไปยังเป้าหมายของภารกิจสีเหลืองที่ขึ้นมาจนถึง โรงเลื่อย จะพบกับ Burke ที่แอบอยู่ด้านใน


Burke – พระเจ้า เจ้าเด็กใหม่หรอกหรอ โทษที นึกว่าพวกมันเข้ามา เข้ามา รีบเข้ามาด้านในก่อนเร็ว ชั้นนึกไม่ออกจริงๆว่าจะเอาไงต่อดี บ้าเอ๊ย เพราะไอ้พวกบ้านี่ ดูครอบครัวแม่งสิ แม่งบ้าทั้งโคตรแน่ๆ 



ก่อนอื่น เราต้องรีบหนีออกจากที่นี่ให้เร็วที่สุด อย่างแรกต้องมีอาวุธติดตัวก่อน เอ้า เอาปืนนี่ไปใช่ เอาล่ะ นั่น สิ่งที่ต้องทำต่อคือไปตามถนนนั่น จะออกจากที่นี่ต้องไปทางเหนือเท่านั้น ใช้เวลาไม่กี่ชั่วโมงก็ถึง Missoula แล้ว จากนั้นค่อยกลับมาที่นี่พร้อมกองหนุนเพื่อจัดการพวกมันให้หมด ...ให้ตายสิ พวกมันมากันแล้ว !!



ร่วมมือกับ Burke ซ่วยกันจัดการพวกคลั่งลัทธิที่บุกเข้ามา ต้านเอาไว้ให้นานที่สุดจน Burke ไปเอารถออกมาเพื่อใช้หลบหนี


รีบขึ้นรถแล้วยิงศัตรูที่ขวางทางและตามไล่ล่ามาเพื่อเอาตัวรอดระหว่างทาง จนถึงสะพาน Henbane ทั้งคู่จะถูกเครื่องบินของพวกศัตรูยิงถล่มใส่จนสะพานจนเกิดการระเบิดขึ้นทำให้รถของทั้งคู่ตกแม่น้ำไป



ทันทีที่เจ้าหน้าที่หน้าใหม่ตะเกียดตะกายหนีจากรถขึ้นจากน้ำได้เขาก็เห็น Burke กำลังถูกพวกคลั่งลัทธิจับตัวไป แต่ตัวเขาเองก็ถูกชายปริศนาที่จู่ก็เขามาจับขาลากไปก่อนที่จะสลบไประหว่างทาง


                                                 Dutch Bunker 




Dutch -นายรู้มั๊ยพ่อหนุ่มว่าอะไรที่มันพล่ามทางวิทยุนั่นหมายความว่ายังไง? มันหมายถึงถนนทุกเส้นที่จะออกจากที่นี่ถูกปิดจนหมดแล้ว สัญญาณมือถือหรือการสื่อสารต่างๆก็ถูกตัดจนหมดแล้ว แปลว่าจะไม่สามารถติดต่ออะไรกับใครจากคนที่นี่ไปหาคนด้านนอกได้อีกแล้ว พูดให้ถูกคือ เราฉิบหายกันหมดไง ทุกอย่างพังพินาศกันหมดแน่ พวกมันคิดว่ากำลังจะถึงวันสิ้นโลกแล้ว พวกมันต่างก็รอคอยวันนั้นให้มาถึงมาเป็นปีๆ รอใครคนนึงให้มาเติมเต็มหลักการของมัน เพื่อหาเรื่องก่อสงครามศักดิ์สิทธิ์ห่าเหวอะไรของมันนั่นไง แล้วนายก็เป็นไปเติมเต็มให้พวกมันเรียบร้อยแล้ว


Dutch - เรื่องฉลาดๆที่ชั้นควรจะทำคือปล่อยให้นายตายไปซะ .. บ้าเอ้ย .. เอาล่ะ ถอดชุดของนายออกแล้วเอาไปเผาซะด้วย ข้างในมีเสื้อผ้าให้เปลี่ยนอยู่ในล็อกเกอร์ เปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วค่อยมาคุยกันว่าเราจะหาทางออกจากสถานการณ์นี้ยังไง



                 Story Mission: A GLIMMER OF HOPE





จากนั้นเข้าไปสำรวจที่ตู้ล็อกเกอร์ในห้องด้านในจะสามารถสร้าง Avatar ตัวแทนของตัวผู้เล่นที่เป็นตัวเอกในการดำเนินเกมได้พร้อมกับเลือกสวมใส่เสื้อผ้าต่างๆได้ด้วย เมื่อแต่งองค์ทรงเครื่องเสร็จแล้ว ก็ออกไปคุยกับ Dutch ที่ห้องทำงานได้เลย


??? – Dutch ลุงอยู่รึเปล่า นี่ Rae-Rae นะ มันเกิดบ้าอะไรขึ้นเนี้ย !! ชั้นได้ยินเสียงปืนยิงกันสนั่นไปหมดเลย แถมยังมีเสียงระเบิดอีก ทำเอาเจ้า Boomer ตื่นใหญ่เลย นับวันไอ้พวก Peggies มันยิ่งมากขึ้นทุกที พวกเราจะยืนหยัดอยู่แค่ไหนเชียว ยังไงถ้าว่างแล้วติดต่อกลับด้วยนะ ดูแลตัวเองด้วยลุง


Dutch – ที่ผ่านมาชั้นยังไม่ได้แนะนำตัวเลย คนที่นี่เรียกชั้นว่า Dutch ชั้นเป็นคนที่พยายามปะติดปะต่อเรื่องเราทั้งหมดเข้าด้วยกันว่าจริงๆแล้วสาเหตุความบ้าคลั่งของที่นี่มันเพราะอะไร แต่ก็ยังไม่ค่อยได้เรื่องเท่าไหร่ แต่ที่แน่ๆคือเพื่อนของนายยังไม่ตาย แค่ตอนนี้นะ ก็ถ้าอยู่ในกำมือของไอ้ครอบครัวบ้าๆของไอ้ Joseph  ก็ไม่รู้จะถูกเจื้อนเป็นชิ้นๆตอนไหน นายต้องการจะช่วยพวกเขากลับมา ชั้นรู้ ชั้นก็มีเพื่อนที่ถูกจับไปเยอะเหมือนกัน ปัญหาคือ งานนี้จะไม่มีใครมาช่วยเราได้ ไม่มีใครรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นที่นี่หรอก พวกเขาไม่รู้จนมันสายเกินไป มันต้องมีใครซักคนนึงข้างนอกนั่นเต็มใจลุกขึ้นสู้กับไอ้พวกลัทธิบ้านี่ เราก็แค่ เราก็แค่จะโชว์ให้พวกเขาเห็นว่าต้องทำยังไง เราต้องสร้างตัวเองขึ้นมาใหม่ให้เป็น กลุ่มต่อต้าน สิ่งแรกที่เราต้องทำก็คือควบคุมเกาะนี้ ครั้งนึงมันเป็นสถานที่พักผ่อนของเรา เผื่อจะได้คิดออกว่าเราจะเอาไงกันต่อไป นี่ปืนกับแผนที่นะ ไปเอามาใช้ซะ แล้วชั้นจะติดต่อไปทางวิทยุอีกที



เมื่อเข้าไปเก็บแผนที่กับอาวุธแล้ว เรียนรู้การใช้ Weapon wheel หรือเมนูอาวุธโดยสามารถกด L1 เพื่อเรียกเมนูมาเลือกอาวุธที่มีติดตัวมาใช้งานได้ด้วยแกนอนาล็อกขวา



Dutch – ไม่นึกมาก่อนเลยนะว่าชั้นจะได้ร่วมงานกับเจ้าหน้าที่ผู้รักษากฎหมายแบบนี้ ชั้นรู้แล้วว่านายอำเภอ Whitehorse คงสอนนายมาหมดแล้ว แต่ Earl กับชั้น ..อาจจะกลับไปเป็นเหมือนเดิมไม่ได้แล้ว จะว่างั้นก็ได้  ก็เรื่องเล็กๆน้อยๆน่ะ เรื่องชั้นไม่ยอมไปเสียค่าปรับ เคยต่อยกันในบาร์สองสามครั้ง บอกตรงๆเลยว่าชั้นคิดว่าเขาเป็นไอ้ตัวแสบคนนึงเท่าที่เคยเจอมาเลย จนกระทั้งไอ้ Joseph Seed เข้ามาที่นี่ 


Richard Roosevelt หรือลุง "Dutch" คือนักสู้ผู้โดดเดี่ยวผู้อยู่ลำพังบนเกาะของตัวเอง ทันทีที่รับรู้ถึงความชั่วร้ายของ โจเซฟ และสาวกของมัน Dutch ก็พยายามเก็บข้อมูลต่างๆของพวกศัตรู
เพื่อเป็นหน่วยข่าวกรองลับให้กับกลุ่มต่อต้านที่ Hope Country 
และเป็นคนที่คอยความรู้กับประชาชนให้เห็นถึงความสำคัญของการลุกขึ้นต่อสู้เพื่อปกป้องสิทธิและเสรีภาพของตัวเอง



แม้ลุง Dutch จะไม่ใช่อาชญากรแต่ก็ไม่ค่อยถูกโรคกับหน่วยงานรัฐเพราะไม่ค่อยเชื่อใจรัฐบาลกลางจึงมักชอบขโมยทรัพยากรท้องถิ่นจนถูกจำคุก 2 คืนในข้อหาดูถูกศาลหลังจากที่ถูกคัดค้านสิทธิในการเก็บน้ำฝนซึ่งเป็นสิ่งที่รัฐกำหนดไว้ว่าห้ามเก็บรวบรวมน้ำฝนโดยไม่ได้รับอนุญาตตามกฎหมายของรัฐมอนทานา โดยมีรองอธิบดี เอ็ดวิน การ์เซีย เป็นผู้กล่าวหา 


หลังจากพูดคุยกับลุง Dutch และทำธุระทุกอย่างเสร็จแล้วก็เดินทางออกมาด้านนอกบังเกอร์ของลุง Dutch ได้เลย ภายนอกจะพบว่าที่ซ่อนตัวของลุง Dutch อยู่ในอาณาบริเวณเกาะเล็กๆกลางพื้นที่ขนาดใหญ่ของ Hope Country ซึ่งทุกคนในกลุ่มต่อต้านจะเรียกขานที่นี่ว่า Dutch’s Island หรือ เกาะของลุงดัตช์ นั่นเอง   

         

                   Story Mission: THE RESISTANCE



หลังจากรอดความตายมาปลัดหน้าใหม่ก็ได้เกิดใหม่อีกครั้งในฐาน นักสู้หนึ่งในกลุ่มต่อต้านลัทธิชั่ว Project at Eden's Gate เพื่อปลดแอก Hope Country กลับคืนมา และหน้าที่พื้นฐานในฐานะคนของกลุ่มต่อต้านที่ต้องปฏิบัติเพื่อผลของชัยชนะประการแรกก็คือ สร้างและขยายกลุ่มต่อต้านให้แข็งแกร่งขึ้น โดยสามารถทำได้ดังนี้


1.ช่วยเหลือชาวบ้านที่ถูกพวกคลั่งลัทธิจับตัวไปตามที่ต่างๆ
2. ทำลาย สัญลักษณ์ของลัทธิ (Cult Properties) ที่มอมเมาประชาชนตามจุดต่างๆ
3.ยึดฐานของพวกสาวกคลั่งลัทธิ (Cult Outpost) เพื่อเอามาเป็นฐานของฝ่ายต่อต้าน 
4.จบภารกิจหลัก 

Mission ทั้งหมดในเกมนั้นประกอบด้วย
1.Story Mission ภารกิจหลักของเนื้อเรื่อง
Side Mission ภารกิจย่อย
Cult Outpost ภารกิจทำลายจุดสัญลักษณ์ของลัทธิ
Prepper Stash ภารกิจค้นหาคลังสินค้าลับ
โดยเข้าไปตรวจสอบภารกิจต่างๆได้ที่เมนู Journal และสามารถเลือกที่จะทำภารกิจไหนก่อนหลังก็ได้โดยการเลือกกำหนดภารกิจที่จะทำ พิกัดของตำแหน่งที่เลือกนั้นก็จะขึ้นมานำทางให้ในแผนที่

จากบังเกอร์ของลุง Dutch มุ่งลงใต้เรื่อยๆจนพบจุดที่พวกสาวกกำลังจับชาวบ้านอยู่ เข้าไปจัดการศัตรูให้หมดแล้วเข้าไปช่วยเขา เมื่อคุยจบจะได้ข้อมูลของ Prepper stash หรือที่ซ่อนของคลังสินค้าที่อู่จอดเรือ ซึ่งจะเป็น Side Mission ชนิดนึงมีสัญลักษณ์สีเขียวในแผนที่


                    ใกล้กับจุดที่ช่วยตัวประกันจะเจอ Johnson Lookout Tower อยู่ใกล้ๆ


เข้าไปสำรวจด้านบนของอาคารจะพบเอกสารที่ทำให้รู้ตำแหน่งของ Cult Shrine ทางด้านเหนือปรากฏขึ้นมาในแผนที่


        

                                 Prepper stash : SUNKEN FUNDS           

มุ่งหน้าไปยังตำแหน่งของ ภารกิจย่อย Prepper stash ที่จุดภารกิจสีเขียวในแผนที่สำรวจที่ทางลงห้อง Boathouse ซึ่งจะเปิดประตูเข้าไปไม่ได้ แวะเข้าไปที่อู่จอดเรือที่อยู่ที่ท่าน้ำใกล้ๆก่อน



ประตูหน้าจะล็อกไม่สามารถเข้าไปด้านในได้ ต้องอ้อมไปด้านหลังของอู่จอดเรือจะพบประตูหลังและกุญแจที่แขวนอยู่ข้างๆประตู สับคัทเอ๊าท์ตรงที่จอดเรือแล้วเอากุญแจไขเปิดออกไปด้านหน้าของอู่จอดเรือได้


จากนั้นกลับไปที่ทางลงห้อง Boathouse จะสามารถเปิดออกได้แล้ว แต่ด้านในจะมีน้ำท่วมอยู่ เข้าไปสำรวจววาล์วทางซ้ายเพื่อปล่อยน้ำออกก่อนก็จะสามารถลงไปที่ Boathouse ได้ ด้านในจะพบ Prepper stash ที่เป็นคลังสินค้ามากมายให้เก็บ ก็เป็นอันจบภารกิจย่อยนี้


** เมื่อได้วัตถุดิบใหม่ๆมาทำให้ตอนนี้สามารถผสม ระเบิดเพลิงได้แล้วด้วยการเลือก Molotovs ในเมนูอาวุธแล้วกดสามเหลี่ยมเพื่อผสม **


                                           

                                    Cult Outpost : Cult Shrine

จากนั้นกำหนดจุดที่จุดภารกิจ Cult Shrine ทางเหนือของแผนที่จะพบ โบสถ์ขนาดเล็กที่เป็นเสมือนศาลเจ้าของพวกสาวกลัทธิ Eden's Gate ลอบเข้าไปจัดการพวกสาวกที่เฝ้าอยู่ให้หมด แล้วยิงทำลายศาลเจ้าที่เป็นสัญลักษณ์ของลัทธิ Eden's Gate ซะก็จะพบภารกิจนี้


 และทันทีที่ทำลาย Cult Shrine จุดแรกได้สำเร็จ ลุง Dutch ที่เห็นผลงานนี้จากไกลๆก็จะแนะนำให้การหากองหนุนให้ในภารกิจหลักใหม่ที่เพิ่มเข้ามาคือ Story Mission: Guns For Hire 



                       Story Mission: GUN FOR HIRE


เดินทางไปยังเป้าหมายของภารกิจสีเหลืองที่ขึ้นมาจะพบชายคนนึงถูกพวกสาวกจับตัวอยู่ ลอบเข้าไปจัดการศัตรูให้หมด แล้วไปช่วยเขาออกมา


Jake Edwards คือทหารรับจ้างระดับ Fighter คนแรกที่สามารถจ้างได้ เมื่อช่วยเขาได้แล้ว กดสามเหลี่ยมเพื่อว่าจ้างเขาได้เลย เขาจะติดตามผู้เล่นไปตลอดเพื่อช่วยต่อสู้กับศัตรูด้วย 

Jake Edwards 
Class - Soldier
Skill1- ซ่อมแซมพาหนะได้ทุกชนิด
Skill2 - ล่อศัตรูมาสนใจมากขึ้นและโจมตีได้แรงขึ้น (ปลดล็อกด้วยการฆ่าศัตรูครบ 12 คน)


จากนั้น ลุง Dutch จะติดต่อมาให้เดินทางไปช่วยเหลือคนที่ถูกจับอยู่ในระแวกนี้อีก 2 คน จุดแรก เดินทางไปยังจุดเป้าหมายของภารกิจที่อาคาร Forest Research Station 


เมื่อเดินทางไปถึงจุดหมายที่ Forest Research Station จะเริ่มขั้นตอนการเรียนรู้การออกคำสั่งของทหารรับจ้างเพื่อนร่วมทีมที่ติดตามมา โดยสามารถชี้เป้าหมายที่จะให้ทหารรับจ้างเคลื่อนที่ไปยังจุดที่ต้องการด้วยการกดปุ่มทิศทางซ้าย และหากต้องการให้ทหารรับจ้างโจมตีเป้าหมาย


ต้องชี้เป้าที่ตัวศัตรูเป้าหมายแล้วกดปุ่มทิศทางซ้าย ทั้งนี้ ทหารรับจ้างเพื่อนร่วมทีมจะพยายามอย่างที่สุดที่จะใช้วิธีลอบฆ่าให้เงียบที่สุด โดยการโจมตีจะเริ่มขึ้นต่อเมื่อศัตรูหรือผู้เล่นเปิดฉากโจมตีก่อนเท่านั้น


เมื่อเข้าไปจัดการพวกศัตรูในพื้นที่จนหมดก็จะจบภารกิจหลักนี้ แล้วเข้าไปคุยกับคนดูแลสถานที่จะได้ข้อมูลพิกัดของ Cult Outpost ที่ Ranger Station มา ก่อนออกมาสำรวจเอกสารบนโต๊ะจะได้พิกัดตำแหน่งของ Cult Shrine มาอีกจุด (แวะไปทำลายก่อนก็ดี)


                                                    Cult Outpost 



                                                        Ranger Station

เมื่อเข้ามาถึงพื้นที่เป้าหมายของภารกิจที่ Ranger Station เข้าไปจัดการศัตรูให้หมดเพื่อยึดที่นี่กลับคืนมาให้กลุ่มต่อต้านก็จะจบภารกิจนี้  ทันทีที่ยึดที่นี่ได้สำเร็จ ลุง Dutch จะแจ้งภารกิจใหม่มาทันที เพื่อให้เข้าไปที่ หอคอยสื่อสาร เพื่อเคลียร์สัญญาวิทยุ สำรวจแผนที่บนโต๊ะในอาคารจะได้พิกัดตำแหน่งของ Central Radio Tower มา


กำหนดภารกิจ Story Mission: THE RESISTANCES  แล้วเดินทางไปยังจุดเป้าหมายจนถึง Central Radio Tower


เมื่อมาถึงแล้วปีนบันไดขึ้นไปจนถึงยอดของเสาสื่อสาร แล้วทำการสับคันโยกเปิดระบบการกระจายคลื่นวิทยุ จะทำให้ ลุง Dutch ได้รับสัญญาณวิทยุได้เต็ม 100% ซึ่งก็เท่ากับภารกิจยึดคืนเกาะของลุง Dutch นั้นประสบความสำเร็จโดยสมบูรณ์แล้ว

จากนั้นจะมีเมนูใหม่เพิ่มเข้ามาคือ Map ที่สามารถซูมเข้าซูมออกเพื่อดูสถานที่ต่างๆอย่างละเอียดได้ด้วยการกด L2 – R2 เมื่อทำการ Zoom Out ขยายพื้นที่ในมุมกว้างจะพบว่า พื้นที่ของ Hope Country นั้นถูกแบ่งสันปันส่วนเป็น 3 เขตใหญ่ๆเพื่อให้กับเหล่าพี่น้องในตระกูล Seed เป็นคนคอยควบคุม


ทางทิศเหนือ ติดเทือกเขา Whitetail Mountains เป็นดินแดนของ Jacob Seed พี่ใหญ่ของตระกูล Seed อันบ้าคลั่ง เป็นสถานที่ฝึกฝนสาวกที่คลั่งลัทธิให้กลายเป็นกองทัพติดอาวุธ


ทางตะวันตกเฉียงใต้ ติดกับแม่น้ำ Henbane River เป็นอาณาเขตของ Faith น้องสาวคนเล็กของตระกูล Seed ผู้คนมากมายที่หายไปล้วนถูกนำตัวมาที่นี่ สถานที่ที่เรียกกันว่า The Bliss


ทางทิศตะวันตก ติดกับ Holland Valley เป็นอาณาเขตของ John Seed พี่ชายคนกลาง เป็นแหล่งรวบรวมทุกอย่างที่ลัทธิมี ทั้งอาหาร อาวุธ วัตถุดิบต่างๆ และแน่นอนที่สุดผู้คนบริสุทธิ์


และคลื่นวิทยุที่แรงขึ้นทำให้ ลุง Dutch สามารถรับรู้ถึงคลื่นวิทยุของเหล่าชาวบ้านและเพื่อนฝูงที่กำลังต้องการความช่วยเหลือมาอย่างชัดเจนทำให้เกิดเป็นภารกิจเสริมมากมายถ้าเดินทางไปตามจุดต่างๆที่ผู้คนกำลังต้องการความช่วยเหลือ


Dutch – ให้ตายสิ ผมเพิ่งได้รับสัญญาณการถ่ายทอดสดของพวกมันที่แทรกเข้ามา เหมือนกับจะเป็น John Seed ที่กำลังถ่ายทอดสด นายอาจจะอยากดูนี่นะท่านปลัด



John Seed – เราต่างก็ล้วนเป็นคนบาป เราทุกๆคนนั่นแหละ พวกคุณๆรวมถึงผม ท่านพ่อลูกดีถึงบาปที่ลึกลงไปในใจของเราที่เป็นเสมือนยาพิษที่กัดกินจิตวิญญาณของเรา แล้วถ้าผมบอกคุณว่า เราสามารถล้างบาปและเป็นอิสระจากบาปของเราได้ล่ะ? ถ้าผมบอกคุณว่า ทุกๆสิ่งที่คุณเคยฝันเอาไว้จะกลายเป็นจริง แล้วถ้าผมบอกคุณว่า เราสามารถเอาชนะทุกๆอย่างได้ล่ะ ถ้าคุณยอมรับความคิดที่ว่า เสรีภาพจากบาปจะเกิดขึ้นได้จากคำพูดที่ทรงพลังที่สุดแค่คำพูดเดียว 



                                                              YESSSSS !!!!


John Seed – ใช่แล้ว ผมมันเป็นคนบาป และ ใช่ ผมต้องการจะปลดเปลื้องบาปนั้นออกไป ใช่ ผมอยากได้ทุกอย่างกลับคืนมา ถ้าหากคุณกำลังชมการถ่ายทอดนี้อยู่ คุณเลือกได้ว่า หากคุณจะเป็นคนที่ใสสะอาด จงสารภาพบาปของคุณซะ แล้วคุณจะได้รับการชดใช้ และ อย่ากังวลไปเลย คุณไม่จำเป็นต้องทำอะไรให้ยุ่งยากหรอก เราจะทำให้เอง ขอต้อนรับเข้าสู่ Eden’s Gate 



Dutch – ตายห่าแล้ว John seed มันได้ตัว Hudson เพื่อนของนายไปแล้วเจ้าหนุ่ม เธอกำลังตกที่นั่งลำบากมากๆเลยล่ะ นายต้องรีบไปช่วยเธอแล้ว !!!!


                                                     จบบทที่ 1




เพื่อปลดล็อกเข้าสู่ดินแดนของหัวหน้าลัทธิ Joseph Seed การจัดการทำลายความเชื่อของพวกลัทธิชั่วและยึดคืนบ้านเมืองคืนมาในแต่ละส่วนที่คนในตระกูล Seed ยึดไปปกครองนั้น  ผู้เล่นมีอิสระที่จะเลือกทำภารกิจหลักเพื่อจัดการยึดพื้นที่ของคนในตระกูล Seed คนไหนก่อนก็ได้ตามความพอใจ จากข้อมูลทั้งหมดที่ลุง Dutch ได้กล่าวมา ทำให้ได้ Story Mission หลักมาอีก 3 ภารกิจคือ


1.Story Mission: Baron Lumber mill ที่ Whitetail Mountains ดินแดนของ Jacob Seed
2 Story Mission: Hope County Jail  ที่ Henbane River ดินแดนของ Faith Seed
3 Story Mission: Fall’s End  ที่ Holland Valley ดินแดนของ John Seed
และอย่าลืมว่าการสร้างความแข็งแกร่งให้กับตัวเองและการหากองหนุนในการต่อสู้ การเดินทางช่วยเหลือชาวบ้านตามภารกิจเสริมต่างๆที่มีโดยรอบพื้นที่นั้นเป็นสิ่งที่สำคัญมากที่ต้องสมควรที่จะทำก่อนการณ์ใดๆ


การยึดพื้นที่แต่ละพื้นที่ให้ได้เบ็ดเสร็จนั้นจะต้องทำให้เกทความเป็นเจ้าของของฝ่ายต่อต้านหรือ Resistance Point ของพื้นที่นั้นเต็ม 100% โดย Resistance Point นั้นจะได้จากค่าตอบแทนในการทำภารกิจต่างๆมากน้อยต่างกันประกอบด้วย
1. Story Mission
2.Side Mission
.การช่วยเหลือชาวบ้านที่ถูกพวกคลั่งลัทธิจับตัวไปตามที่ต่างๆ
3. ทำลาย สัญลักษณ์ของลัทธิ (Cult Properties) ตามจุดต่างๆ เช่น ศาลเจ้า ไซโลเก็บอาหาร รถขนสินค้า
4.ยึดฐานของพวกสาวกคลั่งลัทธิ (Cult Outpost) เพื่อเอามาเป็นฐานของฝ่ายต่อต้าน
เมื่อสามารถเก็บ Resistance Point ได้ครบ 100% แล้วก็จะถือว่าฝ่ายต่อต้านสามารถยึดคืนความเป็นเจ้าของพื้นที่ที่พวกสาวกลัทธิได้ยึดไปโดยสมบูรณ์ 


---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

                                    Challenges และ Skill Perk 

การเติบโตของตัวละครนั้น อาศัยการอัพ Skill ผ่านเมนู Skill Perk และการอัพเกรด Skill ต่างๆนั้นจำเป็นต้องใช้ ’’Perk Points’’ ตามจำนวนที่ Skill ต่างๆต้องการ โดยการได้มาซึ่ง ’’Perk Points’’ แต่ละพ๊อยซ์นั่นต้องผ่านการ Challenges ต่างๆในระหว่างการเล่นเพื่อให้ได้ ’’Perk Points’’ เป็นรางวัล และ เงื่อนไขการผ่าน Challenges ต่างๆ เพื่อปลดล็อก ’’Perk Points’’ สำหรับนำไปใช้อัพ Skill Perk ก็มีดังนี้




                                            Assault Challenges

1.Total Kills / เงื่อนไข ฆ่าศัตรู 100 ตัวด้วยวิธีใดก็ได้ /รางวัล 3 Perk Points
2.Melle Kills / เงื่อนไข ฆ่าศัตรู 10 ตัวด้วยอาวุธ Melee Kills /รางวัล 2 Perk Points
3.Shotgun Kills / เงื่อนไข ฆ่าศัตรู 10 ตัวด้วยปืน Shotgun  /รางวัล 2 Perk Points
4.SMG Kills/ เงื่อนไข ฆ่าศัตรู 10 ตัวด้วยปืน SMG  /รางวัล 2 Perk Points
5.Assault Rifle Kills/ เงื่อนไข ฆ่าศัตรู 40 ตัวด้วยปืน Assault Rifle  /รางวัล 2 Perk Points
6.Sniper Kills / เงื่อนไข ฆ่าศัตรู 10 ตัวด้วยปืน Sniper /รางวัล 2 Perk Points
LMG Kills / เงื่อนไข ฆ่าศัตรู 20 ตัวด้วยปืน Light Machine Gun /รางวัล 3 Perk Points
7.Arrow Kills / เงื่อนไข ฆ่าศัตรู 20 ตัวด้วยธนู /รางวัล 3 Perk Points
8. Flamethrower Kills / เงื่อนไข ฆ่าศัตรู 10 ตัวด้วยปืนพ่นไฟ /รางวัล 3 Perk Points
9.Grenade Launcher Kills / เงื่อนไข ฆ่าศัตรู 10 ตัวด้วยปืน Grenade Launcher /รางวัล 3 Perk Points
10.Rocket Launcher Kills / เงื่อนไข ฆ่าศัตรู 10 ตัวด้วยปืน Rocket Launcher /รางวัล 3 Perk Points
11.Grenade Kills / เงื่อนไข ฆ่าศัตรู 15 ตัวด้วยระเบิดมือ /รางวัล 2 Perk Points
12.Dynamite Kills / เงื่อนไข ฆ่าศัตรู 15 ตัวด้วยระเบิดไดนาไมท์ /รางวัล 2 Perk Points
13.Molotov Kills / เงื่อนไข ฆ่าศัตรู 15 ตัวด้วยระเบิดขวด /รางวัล 2 Perk Points
14. Throwing Knife Kills / เงื่อนไข ฆ่าศัตรู 8 ตัวด้วยมีดขว้าง /รางวัล 2 Perk Points
15.Remote Explosive Kills/ เงื่อนไข ฆ่าศัตรู 3 ตัวด้วยระเบิดรีโมท/รางวัล 2 Perk Points
16.Proximity Explosive Kills / เงื่อนไข ฆ่าศัตรู 3 ตัวด้วยกับระเบิด/รางวัล 2 Perk Points
17.Headshots / เงื่อนไข ฆ่าศัตรู 50 ตัวด้วยการยิงแบบ Headshots /รางวัล 2 Perk Points
18.Hit and Run Kills / เงื่อนไข ฆ่าศัตรู 10 ตัวด้วยยานพาหนะบนพื้นดิน /รางวัล 1 Perk Points
19.Airstrike Kills / เงื่อนไข ฆ่าศัตรู 8 ตัวด้วยยานพาหนะประเภทอากาศยาน/รางวัล 2 Perk Points
20.Long Range Kills / เงื่อนไข ฆ่าศัตรู 5 ตัวจากระยะ 150 เมตร /รางวัล 4 Perk Points
21.Saboteur Kills/ เงื่อนไข ฆ่าศัตรู 3 ตัวด้วยการก่อวินาศกรรม (วางระเบิดรถ)  /รางวัล 3 Perk Points
22.Standard Takedown Kills / เงื่อนไข ฆ่าศัตรู 15 ตัวในระยะประชิด (Takedown)  /รางวัล 3 Perk Points
23.Death From Above Kills / เงื่อนไข ฆ่าศัตรู 4 ตัวด้วยการลอบฆ่าจากด้านบน/รางวัล 3 Perk Points
24.Death From Below Kills / เงื่อนไข ฆ่าศัตรู 2 ตัวด้วยการลอบฆ่าจากด้านล่าง /รางวัล 3 Perk Points
25.Chain Takedown Kills/ เงื่อนไข ฆ่าศัตรู 5 ตัวด้วยการจัดการศัตรูแบบต่อเนื่อง/รางวัล 3 Perk Points
26. Pistol Takedown Kills / เงื่อนไข ฆ่าศัตรู 5 ตัวในระยะประชิดขณะถือปืนพก(ล็อกคอ ศัตรูด้วย Sidearm Takedown แล้วยิงศัตรูอื่นด้วยปืนพก)/รางวัล 2 Perk Points
27. Handgun Kills / เงื่อนไข ฆ่าศัตรู 13 ตัวด้วยปืนสั้น/รางวัล 2 Perk Points



                                          World Challenges

1.Civilians Rescued / เงื่อนไข ช่วยชาวบ้าน 3 คนที่ถูกพวกศัตรูจับเอาไว้ /รางวัล 2 Perk Point
2.Homeopathics Consumed / เงื่อนไข กินสารกระตุ้น (Homeopathics) 6 ครั้ง  /รางวัล 2 Perk Point
3.Distance Travelled by Wingsuit / เงื่อนไข ใช้ Wingsuit ร่อนด้วยระยะทางไกล 2000 เมตร  /รางวัล 2 Perk Point
4.Minutes Spent in Co-op / เงื่อนไข เล่นในโหมด Co-op นาน 1 ชั่วโมง  /รางวัล 3 Perk Point




                                      Guns for Hire Challenges

1.Boomer: Total Kills / เงื่อนไข ใช้ Boomer ฆ่าศัตรู 10 ตัว  /รางวัล 3 Perk Point
2.Nick Rye - Kills From The Air / เงื่อนไข ใช้ Nick Rye ฆ่าศัตรู 5 ตัว  /รางวัล 2 Perk Point
3.Grace: Sniper Kills / เงื่อนไข ใช้ Grace ฆ่าศัตรู 5 ตัว  /รางวัล 2 Perk Point
4. Cheeseburger: Total Kills /เงื่อนไข ใช้หมี Cheeseburger ฆ่าศัตรู 10 ตัว  /รางวัล 2 Perk Point
5. Jess Black:Total Kills /เงื่อนไข ใช้ Jess Black ฆ่าศัตรู 5 ตัว  /รางวัล 2 Perk Point
6. Hurk :Total Kills /เงื่อนไข ใช้ Hurk ฆ่าศัตรู 5 ตัว  /รางวัล 2 Perk Point
7. Peaches: Total Kills /เงื่อนไข ใช้ Peaches ฆ่าศัตรู 10 ตัว  /รางวัล 3 Perk Point
8. Adelaide:Total Kills /เงื่อนไข ใช้ Adelaide ฆ่าศัตรู 5 ตัว /รางวัล 2 Perk Point
9.Sharky: Total Kills /เงื่อนไข ใช้ Sharky ฆ่าศัตรู 5 ตัว /รางวัล 2 Perk Point
10. Fighters Total Kill /เงื่อนไข ใช้ Fighters (คนไหนก็ได้) ฆ่าศัตรู 15 ตัว /รางวัล 3 Perk Point



                                

                                        Hunting Challenges


1.Deer Skinned /เงื่อนไข ล่ากวางพร้อมหนัง 1 ตัว /รางวัล 1 Perk Point
2.Pronghorns Skinned /เงื่อนไข ล่า ละมั่งพรองฮอร์นพร้อมหนัง 1 ตัว /รางวัล 1 Perk Point
3.Elks Skinned /เงื่อนไข ล่า กวางเอลก์ พร้อมหนัง 2 ตัว /รางวัล 2 Perk Point
4.Caribou Skinned /เงื่อนไข ล่า กวางเรนเดียร์ พร้อมหนัง 4 ตัว /รางวัล 3 Perk Point
5. Bison Skinned /เงื่อนไข ล่า วัวไบซัน พร้อมหนัง 3 ตัว /รางวัล 3 Perk Point
6. Moose Skinned /เงื่อนไข ล่า กวางมูส พร้อมหนัง 2 ตัว /รางวัล 3 Perk Point
7. Hares Skinned /เงื่อนไข ล่า กระต่ายป่า พร้อมหนัง 1 ตัว /รางวัล 2 Perk Point
8. Boars Skinned /เงื่อนไข ล่า หมูป่า พร้อมหนัง 2 ตัว /รางวัล 2 Perk Point
9. Skunks Skinned /เงื่อนไข ล่า สกังก์ พร้อมหนัง 3 ตัว /รางวัล 2 Perk Point
10. Wolverines Skinned /เงื่อนไข ล่า วุลเวอรีน พร้อมหนัง 3 ตัว /รางวัล 2 Perk Point
11. Wolves Skinned /เงื่อนไข ล่า วุลเวอรีน พร้อมหนัง 5 ตัว /รางวัล 2 Perk Point
12. Cougars Skinned /เงื่อนไข ล่าเสือพูม่าพร้อมหนัง 5 ตัว /รางวัล 2 Perk Point
13. Black Bears Skinned /เงื่อนไข ล่าหมีดำพร้อมหนัง 2 ตัว /รางวัล 2 Perk Point
14. Grizzly Bears Skinned /เงื่อนไข ล่าหมีกริซลี่ พร้อมหนัง 3 ตัว /รางวัล 3 Perk Point
15. Turkeys Skinned /เงื่อนไข ล่าไก่งวง พร้อมหนัง 2 ตัว /รางวัล 2 Perk Point
16. Eagles Skinned /เงื่อนไข ล่านกอินทรีย์ พร้อมหนัง 3 ตัว /รางวัล 3 Perk Point
17. Kokanees Caught /เงื่อนไข จับปลาเทราต์สีเงินได้ 1 ตัว  /รางวัล 1 Perk Point
18. Artic Graylings Caught /เงื่อนไข จับปลา Artic Graylings ได้ 1 ตัว/รางวัล 1 Perk Point
19. Golden Trout Caught /เงื่อนไข จับปลา Golden Trout ได้ 1 ตัว /รางวัล 1 Perk Point
20. Rock Bass Caught/เงื่อนไข จับปลา Rock Bass (หรือปลา Striped Bass) ได้ 1 ตัว /รางวัล 1 Perk Point
21. Smallmouths Caught /เงื่อนไข จับปลา ปลาแบสปากเล็ก ได้ 1 ตัว /รางวัล 1 Perk Point
22. Largemouths Caught /เงื่อนไข จับปลา ปลาแบสปากใหญ่ ได้ 1 ตัว /รางวัล 1 Perk Point
23. Bull Trout Caught /เงื่อนไข จับปลา Bull Trout ได้ 1 ตัว /รางวัล 1 Perk Point
24. Lake Trout Caught /เงื่อนไข จับปลา Lake Trout ได้ 1 ตัว /รางวัล 1 Perk Point
25. Rainbow Trout Caught /เงื่อนไข จับปลาเรนโบว์เทราต์ได้ 1 ตัว /รางวัล 1 Perk Point
26. Chinooks Caught /เงื่อนไข จับปลา ปลาแซลมอนชินูก ได้ 1 ตัว /รางวัล 1 Perk Point
27. Pallid Sturgeons Caught /เงื่อนไข จับปลา Pallid Sturgeons ได้ 1 ตัว /รางวัล 3 Perk Point
28. Paddlefishes Caught /เงื่อนไข จับปลาฉลามปากเป็ดได้ 1 ตัว /รางวัล 3 Perk Point

                                              SKILL PERK




                                               SURVIVALIST SKILL

Human Fish (1 SP) - ทำให้ว่ายน้ำได้เร็วขึ้นและดำน้ำได้นานขึ้น
Fisher King (4 SP) - ในขณะตกปลาจะทำให้ปลาเหนื่อยเร็วขึ้น  และปลดล็อกเหยื่อแบบใหม่สำหรับปลาที่ตัวใหญ่ขึ้น
King of the Jungle (6 SP) -ลดความเสียหายจากการถูกสัตว์โจมตี ทำให้พวกสัตว์นักล่า (ยกเว้น The Judge Moose) สนใจเหยื่อของตัวเองมากกว่าจะโจมตีผู้เล่นทำให้ ถูกโจมตีจากพวกสัตว์ต่างๆน้อยลง
Repair Torch (5 SP) - Repair cars and open safes สามารถซ่อมแซมรถและเปิดเซฟได้
Black Market  (6 SP)วัตถุดิบในการผสม Remote Explosive ,Proximity Explosive ,Molotovs , Pipe bomb, Sticky Upgrades และ Spacial ammo มีขายแล้วใน Shop
Harvest Master (8 SP) - เพิ่มจำนวนวัตถุดิบที่เก็บได้จากพืชและซากสัตว์มากขึ้น 2 เท่า
Health Boost 1 (6 SP) - เพิ่มจำนวนเกทพลังชีวิตสูงสุดเป็น 150%
Health Boost 2 (7 SP) - เพิ่มจำนวนเกทพลังชีวิตสูงสุดเป็น 200%
Health Boost 3 (8 SP) - เพิ่มจำนวนเกทพลังชีวิตสูงสุดเป็น 250%
Heath Boost 4 (9 SP) - เพิ่มจำนวนเกทพลังชีวิตสูงสุดเป็น 300%




                                               RENEGADE SKILL

Parachute (1 SP) - ปลดล็อกร่มชูชีพสำหรับรองรับการตกจากที่สูง
Wingsuit (2 SP) - ปลดล็อกชุด wingsuit สำหรับใช้ร่อนลงจากที่สูง
Airdrop (10 SP) - เพิ่มเติมออฟชั่นการเลือก airdrop เมื่อใช้ fast travel เดินทางมายังสถานที่ต่างๆ
Vehicle Buster (7 SP) - ทำให้กระสุนสามารถสร้างความเสียหายให้กับยานพาหนะของศัตรูได้มากขึ้น
Weapons Pro (6 SP) - ทำให้การรีโหลดกระสุน การเล็ง และการสลับการใช้งานของอาวุธ SMGs และ shotguns รวดเร็วขึ้น ทำให้ขณะยิงปืนมีการแกว่งน้อยลง และทำให้อัตราการกระจายของกระสุนน้อยลงทำให้กระสุนเข้าเป้าเป็นกลุ่มมากขึ้น
Heavy Weapon Mastery (6 SP) - ทำให้การรีโหลดกระสุน การเล็ง และการสลับการใช้งานของอาวุธ LMGs, launchers ,flamethrower รวดเร็วขึ้น ทำให้ขณะยิงปืนมีการแกว่งน้อยลง และทำให้อัตราการกระจายของกระสุนน้อยลงทำให้กระสุนเข้าเป้าเป็นกลุ่มมากขึ้น
Auto Repair (6 SP) - ยานพาหนะที่ขับขี่อยู่จะซ่อมแซมตัวเองโดยอัตโนมัติ
Rifle Mastery (7 SP) - ทำให้การรีโหลดกระสุน การเล็ง และการสลับการใช้งานของอาวุธ rifles และ sniper rifles รวดเร็วขึ้น และทำให้อัตราการกระจายของกระสุนน้อยลงทำให้กระสุนเข้าเป้าง่ายขึ้น
Saboteur (7 SP) - สามารถทำให้รถติดไฟจนทำให้มันระเบิดได้
Booby Trap (7 SP) - สามารถทำให้รถกลายเป็นกับดักระเบิดเมื่อถูกชนได้




                                                     ASSASSIN SKILL

Grapple (1 SP) - ปลดล็อกตะขอยึดเกาะสำหรับปีนขึ้นที่สูง (และจะเริ่มจุดที่สามารถยึดเกาะได้ตามจุดที่สามารถปีนได้ตามที่ต่างๆด้วย)
Nimble Fingers (4 SP) - ทำให้การ craft items จุดชนวนระเบิดและกับดักรถ ปิดสัญญาณเตือนภัยและเปิดเซฟได้เร็วขึ้น
Sneaky Sprint (4 SP) - ทำให้เคลื่อนที่ในขณะหมอบได้เร็วขึ้น
Master Blaster (5 SP) - ทำให้ความต้องการในการใช้วัตถุดิบในการสร้างระเบิดลดลง 50%.
Takedown Mastery (6 SP) – ปลดล็อกท่า takedowns สำหรับใช้ในการจัดการศัตรู 3 ท่า คือ
1.sidearm takedowns เมื่อกด R3 ใช้ท่า Takedown กับศัตรูระยะประชิด แล้วกด L2
2.chain takedowns หลังจากกด R3 ใช้ท่า Takedown กับศัตรูระยะประชิด เลื่อนแกนอนาล็อกซ้ายเพื่อโจมตีศัตรูใกล้ๆอย่างต่อเนื่องได้อีก
3.melee throw takedowns หลังจากกด R3 ใช้ท่า Takedown กับศัตรูระยะประชิดแล้วกด R2 ขวางอาวุธไปจัดการศัตรูระยะไกลต่อเนื่องได้
Primal Mastery (6 SP) - ทำให้การรีโหลดกระสุน การเล็ง และการสลับการใช้งานของอาวุธ bows และ slingshots รวดเร็วขึ้น
Close combat mastery (6 SP) - ทำให้อาวุธชนิดที่ใช้ตี (Melee weapons) มีความทนทานมากขึ้น และทำให้การรีโหลดกระสุน การเล็ง และการสลับการใช้งานระหว่างปืน handguns กับ อาวุธชนิดที่ใช้ตี (Melee weapons) รวดเร็วขึ้น ทำให้ขณะใช้ปืน handguns มีการแกว่งน้อยลง มีอัตราการกระจายของกระสุนน้อยลงทำให้กระสุนเข้าเป้าเป็นกลุ่มมากขึ้น
Locksmith (6 SP) - สามารถใช้ Lockpick ปลดล็อกเซฟและประตูต่างๆโดยไม่ต้องง้อกุญแจหรือ keycard
Throwback (7 SP) - โยนระเบิดและไดนาไมค์ที่ศัตรูขว้างมาให้กลับไปหามันได้
Ghost (7 SP) - ทำให้เคลื่อนไหวได้เงียบขึ้นและได้รับบาดเจ็บจากการตกจากที่สูงน้อยลง




                                                    PREPPER SKILL

Close Combat Gear Bag (1 SP) -ทำให้สามารถพกกระสุนปืน handgun และอาวุธประเภท melee weapons ได้มากขึ้น
Journey Pack (7 SP) - ทำให้สามารถเก็บไอเทมในช่อง inventory รวมทั้งสามารถพก medkits ได้เต็มที่ 5 อัน
Tactical Ammo Bag (8 SP) - ทำให้สามารถพกกระสุนปืน SMG และ shotgun ได้มากขึ้น
Quiver (8 SP) - ทำให้สามารถพกลูกธนูธรรมดา ลูกธนูไฟ และลูกธนูติดระเบิด ได้มากขึ้น
Rifle Ammo Bag (9 SP) - สามารถพกกระสุน rifle และกระสุน 50 caliber ได้มากขึ้น
Throwables Bag (9 SP) - สามารถพกอาวุธประเภทระเบิด, มีดสำหรับขว้างและเหยื่อล่อศัตรูได้มากขึ้น
Special Ammo Bag (9 SP) - สามารถพกกระสุนเจาะเกราะ (Armor piercing ammo),กระสุนระเบิดเพลิง (incendiary ammo) และกระสุนแบบพิเศษของปืน rocket launcher ได้มากขึ้น
Heavy Ammo Bag (9 SP) - สามารถพกกระสุนปืน LMG , flamethrower, rocket launcher และ grenade launcher ได้มากขึ้น
Additional Holster (8 SP) -สามารถพกอาวุธอันที่ 3 ใน weapon wheel
Weapons Collector (9 SP) -สามารถพกอาวุธอันที่ 4 ใน weapon wheel (ปลดล็อกด้วยการกำจัด Lieutenant ของศัตรูได้ 1 ตัว)




                                                LEADER SKILL 

Boomer (4 SP) - ทำให้เจ้าหมา Boomer กลับมาเร็วขึ้นหลังจากได้รับบาดเจ็บ
Sharky (4 SP) - ทำให้ Sharky กลับมาเร็วขึ้นหลังจากได้รับบาดเจ็บ
Peaches (4 SP) - ทำให้เจ้าเสือ Peaches กลับมาเร็วขึ้นหลังจากได้รับบาดเจ็บ
Jess (4 SP) - ทำให้ jess black กลับมาเร็วขึ้นหลังจากได้รับบาดเจ็บ
Grace (4 SP) - ทำให้ grace armstrong กลับมาเร็วขึ้นหลังจากได้รับบาดเจ็บ
Hurk (4 SP) - ทำให้ Hurk กลับมาเร็วขึ้นหลังจากได้รับบาดเจ็บ
Nick Rye (4 SP) - ทำให้ Nick กลับมาเร็วขึ้นหลังจากได้รับบาดเจ็บ
Adelaide (4 SP) - ทำให้ Adelaide กลับมาเร็วขึ้นหลังจากได้รับบาดเจ็บ
Cheeseburger (4 SP) – ทำให้เจ้าหมี Cheeseburger กลับมาเร็วขึ้นหลังจากได้รับบาดเจ็บ
Leadership (6 SP) – ปลดล็อกช่องของเพื่อนร่วมทีมเพิ่มเติม ทำให้สามารถพาเพื่อนร่วมทีมไปได้พร้อมกัน 2 คน ทั้งระดับ Fighter และ specialists จากกลุ่มมือปืนรับจ้าง Guns for Hire (Nick Rye, Grace Armstrong, Boomer, Jess Black, Hurk, Adelaide Drubman Jr และ Sharkey Boshaw.) ได้ (ต้องได้นักสู้รับจ้างระดับ specialists 3 คนขึ้นไปมาร่วมทีมก่อนถึงจะปลดล็อก)

-------------------------------------------------------------------------------------------------------------

                                        บทที่ 2 

                      

                                               Holland Valley

                                                (ดินแดนของ John Seed)


สิ่งแรกที่ควรทำในช่วงแรกของเกมนั้นคือการสร้างความแข็งแกร่งและหาพวกฟ้องมาเสริมทีม โดยเริ่มจาก
1.เข้าไปที่จุดภารกิจขอความช่วยเหลือตัวละครที่เป็น Guns for Hire (มือปืนรับจ้าง) เพื่อให้ได้มาซึ่งเพื่อนร่วมทีมระดับ specialists โดยในพื้นที่  Holland Valley นี้จะมี specialists อยู่ 2 คนกับอีก 1 ตัว คือ
Nick Rye, Grace Armstrong และเจ้าหมา Boomer เมื่อคุณได้ specialists ครบ 3 คนตามเงื่อนไขแล้วก็จะสามารถปลดล็อก Skill Leadership ออกมาได้
2. พยายามทำตามเงื่อนไขของ Challenges ต่างๆเพื่อให้ได้มาซึ่ง’’Perk Points’’ สำหรับใช่ในการอัพ Skill ให้ได้มาซึ่งพ๊อยซ์ 6 SP จากนั้นนำไปอัพ Skill Leadership จะทำให้คุณสามารถนำพวก specialists 2 คนติดตามมาร่วมต่อสู้ได้ ซึ่งจะทำให้การเดินทางและการต่อสู้ราบรื่นขึ้น
3 Skill สำคัญที่แนะนำให้อัพก่อนคือ Locksmith (6 SP) ซึ่งจะทำให้คุณสามารถใช้ Lockpick ปลดล็อกเซฟและประตูต่างๆได้ เนื่องจากในเซฟแต่ละอันนั้นนอกจากจะมีเงินจำนวนไม่น้อยและไอเทมที่ดีมากๆแล้ว ยังมี ’’Perk Points’’ ซึ่งเป็นพ๊อยซ์สำหรับใช่ในการอัพ Skill ให้เก็บด้วย


                             Guns for Hire Quest

 
                           

                               Story Mission: MAN’S BEST FRIEND


เดินทางไปที่เป้าหมายของภารกิจที่ Rae-Rae’s Pumpkin Farm ซึ่งจะอยู่ในพื้นที่ละแวกเดียวกับ Gardenview Packing Facility ซึ่งเป็น Cult Outpost ที่พวกคลั่งลัทธิยึดครองอยู่


เข้าไปจัดการศัตรูให้หมดแล้วคุยกับหัวหน้าหน่วยกลุ่มต่อต้านที่นั่น จะได้ Side Mission: BEAR NECESSITIES มา (จุดหมายของภารกิจจะอยู่ฝั่งตะวันตกของโรงงาน)

จากนั้นเดินทางเข้าไปที่ Rae-Rae’s Pumpkin Farm ที่อยู่ใกล้ๆกันจะพบพวกคลั่งลัทธิกำลังเข้ามาโจมตีฟาร์มจนเหลือหมาอยู่ตัวเดียว เข้าไปจัดการศัตรูในพื้นที่ให้หมดเพื่อช่วยเหลือเจ้าหมาให้ปลอดภัย ก็จะทำให้ได้เจ้า BOOMER มาร่วมทีม


เข้าเมนู Roster เพื่อนำเอา BOOMER เข้าร่วมติดตาม ในช่องสั่งการที่ว่างอยู่ (ช่วงแรกจะมีแค่ช่องทิศทางซ้าย แต่เมื่ออัพ Skill Leadership จะทำให้สามารถนำพวก specialists มาร่วมติดตามร่วมต่อสู้ได้เป็น 2 ช่อง)


                                                  BOOMER “The Good Boy “

Class – Scout 
 Skill
Pointer – ทำให้เปิดเผยตำแหน่งของศัตรูเมื่อเข้าใกล้
Retriever – ระหว่างการต่อสู้ (อาจจะ) นำอาวุธมาให้

การใช้งาน BOOMER นั้นเหมาะสำหรับการตรวจสอบพื้นที่เพื่อแท็กตำแหน่งของศัตรูและอาจใช้โจมตีศัตรูเดี่ยวได้บ้างแต่ไม่เหมาะกับการใช้โจมตีศัตรูเป็นหลัก



                               Story Mission: GRACE UNDER FIRE


เดินทางเข้าไปยังโบสถ์ Lamb of Church จะพบ Grace มือปืนสไนเปอร์สาวผิวสีถูกล้อมโจมตีโดยพวกสาวกคลั่งลัทธิอยู่ เข้าไปจัดการศัตรูในพื้นที่โบสถ์ให้หมดแล้วขึ้นไปคุยกับเธอที่ชั้นบนของโบสถ์


Grace – ยิงแม่นเหมือนกันนี่ ไปเรียนมาจากไหนหรอ? ชั้นชื่อ Grace นายมาก็ดีแล้ว เห็นหลุมฝังศพด้านล่างนั้นมั๊ย มันเป็นหลุมศพของพวกวีรบุรุษสงคราม และพ่อของชั้นก็คือหนึ่งในนั้น ไอ้พวก Peggies พยามจะทำลายพวกเขาเพื่อลบประวัติศาสตร์ของพวกเรา เพื่อทำให้เราหมดกำลังใจเพราะขาดสิ่งยึดเหนี่ยว มันได้แค่พยายาม เพราะตราบใดที่ชั้นยังหายใจอยู่ ชั้นจะเด็ดหัวไอ้ห่าที่ไหนก็ตามที่เข้ามาแตะต้องหลุมศพพวกนั้นให้หมด ชั้นฝีมือดีก็จริงแต่ก็ต้องการคนระวังหลังให้ เดี๋ยวกองหนุนมันก็คงแห่กันมาอีก

ทันทีที่พวกสาวกคลั่งลัทธิบุกเข้ามาอีกละลอก ลงไปช่วยคุ้มกันป้ายหลุมศพจากพวกสาวกคลั่งลัทธิที่บุกเข้ามาพยายามทำลายมัน พยายามต้านพวกมันเอาไว้อย่าให้หลุมศพถูกทำลาย อย่าพยายามเข้าไปบวกมากเพราะศัตรูเยอะและมีปืนไฟที่สามารถเผาทำลายพื้นที่ได้หมด ทิ้งระยะห่างไว้ รอให้ Grace ยิงสนับสนุนก็เอาตัวรอดได้ไม่ยาก

หลังจากช่วยเธอปกป้องหลุมศพของพ่อและเหล่าวีรชนสงครามสำเร็จแล้ว Grace ก็จะยอมเข้าร่วมทีมในฐานะผู้ติดตามอีกคน


                                    Grace Armstrong “The Sharp – Shooting Hero”

Class – Sniper 
 Skill
Boom Boom – การยิงสไนเปอร์ของเธอจะทำให้ศัตรูเกิดอาการหวาดกลัว 
Friendly Sight – เลเซอร์จากปืนของเธอจะทำให้แยกแยะศัตรูที่อยู่ใกล้ตัวได้ง่ายขึ้น 

การใช้งาน Grace นั้นคือการโจมตีจากระยะไกลด้วยสไนเปอร์ หวังผลได้ 100% แต่อาจจะใช้เวลานานมากหากศัตรูเคลื่อนไหวไปมา ข้อเสียคือ หากใช้การสั่งการจะโจมตีตามคำสั่งช้ามาก  




เมื่อจบภารกิจแล้ว เข้าไปคุยกับ NPC ที่มีรูปสัญลักษณ์ดาวในพื้นที่นี้ จะได้ Side Mission: EXODUS มา



                                      Story Mission:  WINGMAN



เดินทางเข้าไปยังสำนักงานการบิน Rye & Sons Aviation จะพบ Rye เจ้าของสนามบินกำลังถูกล้อมโจมตีโดยพวกสาวกคลั่งลัทธิอยู่ เข้าไปจัดการศัตรูในพื้นที่โบสถ์ให้หมดแล้วขึ้นไปคุยกับ Rye


Rye – ซาบซึ้งมากเลยที่คุณมาช่วยนะ แต่ตอนนี้ผมกำลังเจอปัญหาใหญ่อยู่ เรากำลังติดกับดัก เรากำลังติดกับดักของพวกมัน !! ผมสาบานเลยว่าถ้าเจอตัวไอ้ John Seed ผมฆ่ามันแน่ คุณเห็นไอ้พวก Peggies มันเอาเครื่องบินของผมไปรึเปล่า? ผมต้องการจะเอามันกลับมาและตอนนี้ก็เป็นโอกาสเดียวเลย ผมอยากได้ไปเอามันกลับมาเองแต่ต้องคุ้มครองเมียอยู่ที่นี่และจะไม่ยอมปล่อยเธอที่กำลังท้องอยู่ที่นี่คนเดียวแน่นอน ได้โปรด ครอบครัวผมต้องการให้คุณช่วยหน่อย  โทษที ผมไม่ควรสติแตกแบบนี้ เอ่อ ผมชื่อ Nick Rye ผมก็ไม่รู้ว่าไอ้ John Seed มันจะเอาเครื่องบินผมไปไว้ที่ฟาร์มมันทำไม เครื่องบินลำอื่นก็มีตั้งเยอะเสือกมาเลือกเอาของผม ก็รู้นะว่าขอคุณมากไป แต่ผมไม่มีเพื่อนคนอื่นแล้วจริงๆ



จากนั้นเดินทางไปที่เป้าหมายของภารกิจที่ Seed Ranch ซึ่งเป็นจุด Cult Outpost ที่อยู่ทางใต้ของพื้นที่ เข้าไปจัดการศัตรูให้หมดเพื่อยึดฐานของมันก่อน


(หลังจบภารกิจยึดฐานนี้เสร็จ ลุง Dutch จะติดต่อมามอบ Side Mission : VALLEY ARMED CONVOY ให้เพิ่มเติม)

แล้วค่อยเข้าไปสำรวจในโรงจอดเครื่องบิน ขับมันบินกลับมาให้กับ Rye โดยระหว่างทาง Rye จะสอนพื้นฐานการขับเครื่องบินให้โดยการขับไปยังทิศทางที่เป้าหมายขึ้นมา ทำลายไซโลเก็บอาหารของศัตรูระหว่างและสุดท้ายก็คือการลงจอดที่สนามบินของ Rye


Rye – โอ้พระเจ้าดูเธอสิ บ้าเอ้ย นายทำสำเร็จจนได้ ขอบคุณมากๆนะ Kim !! เราได้เครื่องบินกลับมาแล้ว
Kim – เออ ชั้นได้ยินแล้ว
Rye – มาๆ ช่วยกันเข็นเอาเธอกลับเข้าที่เข้าทางหน่อย นายรู้มั๊ย นายแล้วที่ชั้นไม่ได้รู้สึกดีแบบนี้  Kim ออกมานี่หน่อยเร็วที่รัก !!  นายรู้มั๊ย เครื่องบินนี้เป็นสมบัติของครอบครัวชั้นมา 3 รุ่นแล้วนะ ปู่ของชั้นได้มันมาจากยุคสงครามโลกครั้งที่ 2 เลยนะ ถือว่าเป็นรางวัลชั้นเลิศจากสงครามของปู่เลยล่ะ ..  Kim มารึยัง??
Kim – NICK !!  ... NICK !!  
Rye – Kim เมื่อไหร่เธอจะออกมาได้ซักทีเนี่ย !!
Kim – NICK ไอ้พวก Peggies มันกลับมาอีกแล้ว !!!
Rye – ไอ้พวกเชี่ยนี่เล่นไม่เลิกใช่มั๊ย? ได้เลย โอเค ชั้นจะเล่นมันบนอากาศเอง ส่วนนายลุยบนพื้นนะ ชั้นจะคุ้มครองนายเองคู่หู  Kim เธอหลบอยู่ข้างในก่อนนะ !!

จากนั้นคอยต้านศัตรูที่บุกเข้ามาในบ้านในขณะที่ Rye จะช่วยเป็นกำลังหนุนทางอากาศจนจัดการพวกศัตรูจนหมด


Kim – ไม่นะ Nick เราจะไม่ไปไหนทั้งนั้น นี่มันบ้านของเรา 
Rye – คิมเธอยังไม่เข้าใจ 
Kim – ไม่เข้าใจเรื่องอะไร พวกมันพยายามขโมยเอาที่ดินของเรานะแล้วยังจับตัวเพื่อนๆเราไปอีกคุณก็รู้นี่ ปุ่คุณเป็นคนสร้างที่นี่ขึ้นมานะ คุณจะหันหลังทิ้งมันไปเฉยๆเลยหรอ? จำที่คุณเคยพูดถึงเรื่องที่จะให้ลูกสาวเราเป็นคนคุมกิจการต่อได้มั๊ย?
Rye – ชั้นบอกว่าจะให้ลูกชายเราดูแลกิจการแทนต่างหาก
Kim – คุณก็เห็นตอนทำอัลตาซาวด์แล้วนี่ว่าเธอเป็นผู้หญิง
Rye – จะไปเห็นชัดได้ไงจอขาวดำแบบนั้นน่ะ
Kim – Nick …
Rye – ผมรักคุณนะ เอาล่ะ ท่านปลัด ดูเหมือน ครอบครัว Rye คงจะอยู่ที่นี่ต่ออีกยาวเลย ถ้าคุณอยากจะให้ผมช่วยสู้ก็บอกได้เสมอนะรับรองไม่ทำให้ผิดหังแน่นอน
Kim – ยังไงก็ได้โปรดดูแลเค้าแทนชั้นด้วยนะคะ

                 เมื่อจบภารกิจแล้วก็จะได้ Nick Rye เข้าร่วมทีมในฐานะผู้ติดตามอีกคน



                                             Nick Rye “The King of the Skies”

Class – Pilot
 Skill
Bomb’s away – ทิ้งระเบิดจากเครื่องบินสนับสนุนตามที่หมายที่กำหนด 
Light’En up – ยิงกราดจากเครื่องบินตามที่หมายที่กำหนด

Nick นั้นจะเน้นการโจมตีสนับสนุนทางอากาศอย่างเดียว ไม่ว่าจะยิงโจมตีด้วยการทิ้งระเบิดหรือการยิงกราดตามความเหมาะสมของเป้าหมายตามเป้าหมายที่กำหนดให้แถมยังสามารถทำลายอากาศยานต่างๆของศัตรูในบริเวณที่เกิดการต่อสู้ได้อย่างดีด้วย ข้อเสียคือการทำลายเป้าหมายแบบต่อเนื่องใช้เวลานาน 


                  หลังจากจบภารกิจนี้จะได้ภารกิจใหม่มาคือ Story Mission: WINGMAN มา



                                        Story Mission: WINGMAN 



เข้าไปสำรวจที่เครื่องบินที่จอดอยู่ในรันเวย์แล้วบังคับเครื่องบินบินขึ้นไปทำภารกิจต่างๆคือ
ทำลายปั๊มเก็บน้ำมันของศัตรู 1 จุด
ทำลายขบวนรถ Convoys ของศัตรู 2 จุด


ทำลายเฮลิคอปเตอร์ ของศัตรู 2 ลำ
ทำลายเครื่องบินขับไล่ของศัตรู 1 ลำ
เมื่อจบภารกิจจะได้รับเครื่องบิน Carmina มาใช้ (สามารถเลือกใช้ได้ในโรงจอดเครื่องบินทุกที)


---------------------------------------------------------------------------------------------------------------

                                  Side Mission ที่ Holland Valley



1.BEAR NECESSITIES
วิธีปลดล็อกภารกิจ – คุยกับ NPC ที่ Gardenview Packing Facility
เป้าหมาย – จัดการหมี 3 ตัวที่เป้าหมายของภารกิจ

2. EXODUS
วิธีปลดล็อกภารกิจ – คุยกับ NPC ที่โบสถ์ Lamb of Church
เป้าหมาย – ช่วยเหลือตัวประกันที่ถูกศัตรูจับไป 3 คน

3. VALLEY ARMED CONVOY
วิธีปลดล็อกภารกิจ – ได้จากลุง Dutch ที่ติดต่อมาหลังจากยึด Seed Ranch ได้แล้ว
เป้าหมาย – ทำลายขบวนรถติดอาวุธ 3 ขบวนที่วิ่งไปมาในพื้นที่ให้หมด

4. Uncrate
วิธีปลดล็อกภารกิจ – คุยกับ NPC ในโรงรถหลังจากยึด Cult Outpost US Auto ได้สำเร็จ
เป้าหมาย – ช่วยเหลือนักโทษ 3 คนที่ถูกจับไปรอบๆพื้นที่ ( 2 คนถูกจับอยู่ในคอนเทรนเนอร์ อีกคนถูกจับอยู่ในห้องน้ำที่ต้องเอากุญแจที่วางอยู่บนเค๊าท์เตอร์ไขเข้าไปช่วยออกมา)
** หลังจากยึดได้ที่ US Auto จะเป็นอีกหนึ่งที่สามารถซื้อและปรับแต่งรถของคุณได้ **

5. Light’em Up 
วิธีปลดล็อกภารกิจ – ได้หลังจากทำลาย Silos สำหรับเก็บอาหารของศัตรูอันแรกสำเร็จ
เป้าหมาย – ทำลาย Silos สำหรับเก็บอาหารที่อยู่ในพื้นที่ให้ครบ 14 อัน (สามารถเข้าไปซื้อแผนที่เพื่อระบุตำแหน่งได้ในหัวข้อ item ของทุกร้านค้า)

6. The Judge Moose
วิธีปลดล็อกภารกิจ – คุยกับ NPC หลังจากยึด Cult Outpost Green-Busch Fertilizer Co ได้สำเร็จ
เป้าหมาย – ค้นหาและกำจัดเจ้ากวาง Judge Moose

7. Cow Punching 
วิธีปลดล็อกภารกิจ – คุยกับ NPC หลังจากยึด Cult Outpost Kellett Cattle Co. ได้สำเร็จ
เป้าหมาย – ออกไปที่ทุ่งด้านนอกฟาร์มแล้วจัดการวัวสีดำตัวร้ายที่กำลังโจมตีวัวของฟาร์มซะ แล้ววัวของฟาร์มทั้ง 3 ตัวก็จะกลับเข้ามาในฟาร์ม

8. BAPTISM OF FIRE 
วิธีปลดล็อกภารกิจ – สำรวจจุดรับภารกิจที่เขตก่อสร้างหลังเสร็จสิ้น Story Mission: DEATH WISH
เป้าหมาย – ขับรถติดไฟผ่านจุดเช็คพ็อยซ์ที่เป็นน้ำดับไฟให้ทันก่อนรถระเบิดและเข้าเส้นชัยก่อนเวลาจะหมด
** เมื่อจบภารกิจจะได้รับรถ Uncle Sam เป็นรางวัล (สามารถเลือกใช้ได้ในโรงรถทุกที) **

9. Golden AGE NOSTALGIA 
วิธีปลดล็อกภารกิจ – คุยกับ Nadine สาวผมฟ้าที่จุดรับภารกิจใน Dodd Residence
เป้าหมาย – ค้นหา Comic Book ที่อยู่ตามจุดต่างๆทั่วพื้นที่ให้ครบ 12 อัน  (สามารถเข้าไปซื้อแผนที่เพื่อระบุตำแหน่งได้ในหัวข้อ item ของทุกร้านค้า)

10. PATRIOT ACTS 
วิธีปลดล็อกภารกิจ – คุยกับ Willis Huntley ที่จุดรับภารกิจใน Howard Cabin
เป้าหมาย – ภารกิจตามล่าคนร้ายที่ครอบครองเทปลับ โดยเริ่มจากเดินทางร่วมกับ Willis ไปยังหอตรวจการณ์แล้วจัดการศัตรูให้หมด หลังจากที่ Willis ขึ้นไปส่งข่าวผ่านวิทยุ ทันทีที่คนร้ายเป้าหมายขับ ฮ. ผ่านมา ภารกิจคือขับรถหรือใช้ Wing Suit ร่อนตาม ฮ. ของคนร้ายไป (ห้ามทำลายหรือฆ่าคนร้ายเป้าหมาย) จนกว่า ฮ. จะถึงบ้านเป้าหมาย จากนั้นค่อยจัดการศัตรูในพื้นที่ให้หมดแล้วเข้าไปเก็บวีดิโอเทปลับที่อยู่ในห้องลับใต้ห้องเก็บเครื่องมือข้างบ้านมาให้ Willis ก็จะจบภารกิจ
** หลังจบภารกิจจะปลดล็อก Camo Skin สำหรับปืน SMG-11 ในร้านค้า**

11. Water Works
วิธีปลดล็อกภารกิจ – คุยกับ NPC หลังจากยึด Cult Outpost Sunrise Farm ได้สำเร็จ
เป้าหมาย – ตามหาหัวฉีดสำหรับรดน้ำในไร่ 3 หัวที่หายไปกลับมา
อันแรก – อยู่ท้ายรถพ่วงของรถกระบะที่ขับไปมารอบๆฟาร์ม
อันที่สอง – ค้างอยู่บนกังหนลม (ต้องใช้ปืนยิงให้ตกลงมา)
อันที่สาม – อยู่บนหลังคาบ้านที่ไฟไหม้ (ใช้การโดดเกาะเชือกสลิงขึ้นไป)
จากนั้นนำเอาหัวฉีดทั้ง 3 อันไปติดตั้งที่รางรดน้ำที่ไร่ฟักทองให้ครบก็จะจบภารกิจ

12. What They Carried 
วิธีปลดล็อกภารกิจ – คุยกับลุงคาวบอย Wendell Redler ที่บ้านของเขา (Redler Residence)
เป้าหมาย – ค้นหา Vietnam Lighter ที่อยู่ตามจุดต่างๆทั่วพื้นที่ให้ครบ 12 อัน  (สามารถเข้าไปซื้อแผนที่เพื่อระบุตำแหน่งได้ในหัวข้อ item ของทุกร้านค้า)

13. Free Larry 
วิธีปลดล็อกภารกิจ – เข้าไปช่วย Dr. Larry ที่กำลังติดกับดักในงานทดลองของตัวเองที่ Parker Laboratories
เป้าหมาย – เข้าไปสำรวจปิดเครื่องปั่นไฟทั้ง 3 จุดเพื่อปิดระบบเครื่องกำเนิดสายฟ้าก็จะทำให้ Larry เป็นอิสระ

14. The Hero’s Journey  
สิ่งที่จำเป็น – ต้องอัพ Skill Grapple เพื่อมีตะขอยึดเกาะสำหรับปีนขึ้นที่สูงก่อน
วิธีปลดล็อกภารกิจ – หลังจากเข้าไปช่วย Dr. Larry ที่กำลังติดกับดักในงานทดลองของตัวเองที่ Parker Laboratories ใน Side Mission Free Larry แล้ว เข้าไปคุยกับ Larry อีกครั้ง
เป้าหมาย – เข้าไปที่เสาสื่อสารเป้าหมายแล้วใช้ตะขอปีนขึ้นไปแล้วปีนบันไดต่อจนถึงจุดที่มีจานดาวเทียม จัดการยิงทำลายให้หมดจนถึงยอดของเสา Larry จะขับ ฮ. มารับ ให้ใช้ตะขอเกาะไปที่หอแล้วโหนโดดมาที่ยอดเสาเพื่อยิงทำลายจานดาวเทียม 3 อันสุดท้ายให้หมดแล้วโหนกลับไปขึ้น ฮ. ให้ Larry พากลับไปลงที่ห้องทดลองก็จะจบภารกิจ

15. Close Encounter  
วิธีปลดล็อกภารกิจ – ต้องผ่าน  Side Mission: Free Larry และ Side Mission The Hero’s Journey  ของ Dr. Larry ก่อนแล้ว เข้าไปคุยกับ Larry ที่ Parker Laboratories อีกครั้ง
เป้าหมาย – เข้าไปที่จุดเป้าหมายที่พื้นที่มีสัญลักษณ์ของมนุษย์ต่างดาวแล้วค้นหาวัตถุดิบจากต่างดาว 4 อันให้เจอ
-อันแรกอยู่ท่ามกลางฝูงไก่ง่วง (ที่ดุร้าย)
-อันที่ 2 หมาคาบไป ต้องตามมันไปเรื่อยๆจนกว่ามันจะคายเอง
-อันที่ 3 อยู่บนหลังคาไซโลใหญ่ ต้องปีนหลังคาของไซโลเล็กที่อยู่ใกล้ๆเพื่อปีนขึ้นไปเก็บ
- อันที่ 4 อยู่ที่ซากวัวตาย

16. Out of This World 
วิธีปลดล็อกภารกิจ – ต้องผ่าน  Side Mission: Free Larry , Side Mission The Hero’s Journey และ Close Encounter  ของ Dr. Larry ก่อนแล้วเข้าไปคุยกับ Larry ที่ Parker Laboratories อีกครั้ง
เป้าหมาย – นำเอาวัตถุดิบจากต่างดาว 4 ชิ้นที่ได้มากับ Dr. Larry แล้วเดินทางไปที่จุดเป้าหมายของภารกิจที่ที่โรงไฟฟ้าของพวกลัทธิ จากนั้นเข้าไปจัดการสับคัทเอ๊าท์เพื่อเปิดพลังงานไฟฟ้าทั้ง 5 จุดท่ามกลางพวกสาวกที่บุกเข้ามาโจมตี เมื่อสับคันโยกจนครบแล้วกลับไปหา Larry ที่ Parker Laboratories อีกครั้งแล้วเข้าไปสำรวจเปิดเครื่องปั่นไฟให้เขา สุดท้ายการทดลองของ Dr.Larry ก็ประสบความสำเร็จจนทำให้เขาถูกเครื่องถ่ายเทมวลสารสลายร่างของเขาไปอยู่ ณ.ที่ใด ไม่มีใครรู้

** หลังจบภารกิจจะได้ปืน Magnopulser เป็นรางวัล (สามารถนำมาใช้งานได้ที่ร้านอาวุธทุกๆที่) **

------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------



แวะเข้าไปยังตำแหน่งของ Cult Outpost US Auto แล้วยึดมันมาเป็นของฝ่ายต่อต้านซะ สิ่งที่จะได้จากการยึดที่นี่ได้แล้วคือ
- Side Mission: Uncrate
-  Prepper Stash : Dumpster Diving


- Garage คุณจะได้โรงรถ ซึ่งจะเป็นสถานที่ที่สามารถซื้อและปรับแต่งรถของคุณได้
- Story Mission ของ  Merle Briggs เจ้าของอู่ US Auto

                                Story Mission: DEATH WISH



คุยกับ Merle Briggs เจ้าของอู่ US Auto แล้วเดินทางไปยังปั๊มน้ำมันเป้าหมายของภารกิจ เป้าหมายคือชิงรถ DEATH WISH ที่ศัตรูยึดไปกลับมา ฉะนั้นอย่าทำลายรถที่ศัตรูขับอยู่จนพัง พยายามจัดการฆ่าศัตรูที่ขับและศัตรูในปั๊มน้ำมันให้หมดโดยไม่เกิดความเสียหายต่อรถแล้วขับรถเป้าหมายกลับมาที่ อู่ US Auto


จากนั้น Merle จะพาขับรถ  DEATH WISH ไปที่เป้าหมายพร้อมๆกันเพื่อไปยังพื้นที่ก่อสร้างเป้าหมายที่เป็นที่เก็บและลำเลียงสารมอมเมาของพวกศัตรู  เป้าหมายคือทำลายถังเก็บสารมอมเมาทั้ง 9 อันให้หมดก็จะจบภารกิจ
** เมื่อจบภารกิจจะได้รับรถ DEATH WISH เป็นรางวัล (สามารถเลือกใช้ได้ในโรงรถทุกที) **
** บริเวณเขตก่อนสร้างตรงจุดที่ทำภารกิจจะมีจุดรับ Side Mission: BAPTISM OF FIRE **




                               Story Mission: BAZING THE STEAKS 


-ปลดล็อกจากการคุยกับ NPC ที่ Seed Ranch จะได้รับรู้เรื่องราวของ Zip Kupka มา

จากนั้นเดินทางไปยังจุดหมายของภารกิจที่ Kupka Ranch เข้าไปคุยกับ Zip Kupka อดีตทหารผ่านศึกกับปืนไฟของเขาที่กำลังทำภารกิจทำลายล้างโครงการลับของพวกรัฐบาลที่ทำฟาร์มเลี้ยงสัตว์ที่ผู้คนใช้เป็นอาหารแล้วฉีดสารมอมเมาเข้าไปในสัตว์เหล่านั้น เมื่อนั่งรถกับ Zip มาจนถึง Flatriron Stockyards แล้วก็จัดการศัตรูและสัตว์ที่ถูกมอมยาเป้าหมายทั้ง 7 ตัวให้หมดแล้วจัดการพวกกองหนุนของศัตรูที่บุกมาตอนหลังให้หมดก็จะจบภารกิจ
** หลังจบภารกิจจะได้ Perk ใหม่ใน PERKS MENU **



                               Story Mission: BLOW THEIR MINE



-ปลดล็อกหลังจากจบ Story Mission: BAZING THE STEAKS ของ Zip Kupka ที่ Flatriron Stockyards

จากนั้นเดินทางไปยังเป้าหมายของภารกิจที่เหมือง Calamount Mines เป้าหมายคือระเบิดทำลายทองที่พวกศัตรูขุดขึ้นมา โดยต้องเข้าไปวางระเบิดที่กล่องใส่ทองด้านในเหมืองให้ครบ 4 จุด จากนั้นต้องต้านกองทัพของศัตรูจะบุกเข้ามาซึ่งนอกจากต้องจัดการพวกที่เข้ามาโจมตีแล้วยังต้องไปจัดการศัตรูที่พยายามจะปลดชนวนระเบิดที่ติดตั้งไว้ทั้ง 4 จุดด้วย (สังเกตได้จากจุดสามเหลี่ยมสีแดงที่ขึ้นมาตรงที่จุดวางระเบิด) เมื่อต้านพวกศัตรูและปกป้องระเบิดที่ติดตั้งไว้จนครบเวลาแล้วก็หนีออกจากพื้นที่ไปที่จุดปลอดภัยที่หน้าเหมืองได้เลย
** หลังจบภารกิจจะได้ Skill Dynamite Enhanced ที่จะทำให้ใช้วัตถุดิบในการสร้างระเบิดไดนาไมท์น้อยลง ** 


ในช่วงเวลาที่คุณกำลังดำเนินภารกิจย่อยเพื่อเก็บเงินและเพิ่มเติมความแข็งแกร่งให้ตัวเองก็จะนำมาซึ่งการยึดพื้นที่และสร้างความเสียหายให้กับการครองอำนาจของ เจ้าของพื้นที่ ไปทีละนิด การยึดฐานที่มั่นและทำลายทุกสิ่งที่เป็นของพวกสาวกลัทธินั้นจะได้ Resistance Points หรือ RP ในจำนวนที่แตกต่างกัน โดยในเกทการความเป็นเจ้าของพื้นที่นั้นจะแบ่งออกเป็น 3 ระดับเลเวล 


หลังจากสร้างความเสียหายไปพร้อมๆกับสะสมค่า RP เข้าไปในเกทจนครบตามระดับ แต่ระดับเลเวล เจ้าของพื้นที่ ก็จะส่งกองกำลังมาโจมตีและจับตัวคุณไปเข้า Story Mission ที่กำหนดไว้ทันทีไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ไหนหรือคุณจะเต็มใจมาหรือไม่ก็ตาม 


                             Resistance Level 1: The Cleansing

ทันทีที่คุณสร้างความเสียหายให้กับอาณาจักรของ John Seed จนสามารถเก็บค่า RP จนถึงระดับเลเวล 1 John ก็จะให้พวกสาวกของเขามาจับคุณถึงที่ไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ไหนหรือคุณจะเต็มใจมาหรือไม่ก็ตาม


John Seed – เราสามารถชำระล้างอดีตของเราได้ เราต้องเปิดเผยบาปของเราออกมา เราอาจต้องโดดเดี่ยว แต่หลังจากนั้นเราจะอยู่ท่ามกลางแสงแห่งพระเจ้าที่จะทางเราสู่ประตูแห่งอีเดนของพระองค์  ...ไม่ใช่คนนี้ ..คนนี้ยังไม่บริสุทธิ

Joseph Seed – เจ้าเย้ยหยั้นต่อการชำระล้างงั้นหรอ John?  
John Seed – ผมก็แค่ ..



Joseph Seed – ชูวว ...เจ้าต้องรักพวกเขา John อย่าให้บาปของเจ้ามาขัดขวางความรักที่มีต่อพวกเขา นำเขามาใกล้ๆข้าสิ .. แม้คุณจะพยายามทำทุกอย่างทั้งหมดแล้วคุณก็ยังไม่สามารถพ้นจากบาปของคุณได้ คุณไม่ได้มาที่นี่เพราะเหตุบังเอิญหรอกนะ คุณมาที่นี่เพราะความกรุณาธิคุณของพระเจ้า คุณจะได้รับของขวัญ หากคุณเลือกที่จะโอบกอดของพระเจ้า คุณจะเลือกมันในตอนนี้ หรือจะโยนโอกาสนั้นทิ้งไปล่ะ ..คนๆนี้ต้องได้รับโอกาสที่จะแก้ตัว ไม่งั้นประตูแห่งอีเดนก็จะไม่เปิดรับเจ้านะ John …



John Seed – ครับ Joseph ...  ส่วนเจ้าต้องยอมรับต่อบาปของเจ้า ต้องสารบาปของเจ้า โดยการถูกส่งไปจองจำ และไม่ว่าเจ้าจะมีสิ่งใด ข้าจะพรากทุกอย่างไปจากเจ้า แล้วจากนั้นเราจะดูอีกทีว่าเจ้ามีค้าพอที่จะได้รับโอกาสแก้ตัวหรือเปล่า 

แต่ในขณะที่กำลังถูกสาวกของลัทธิ Eden’s Gate พาตัวเดินทางไปกักขัง ระหว่างทางรถของพวกนักโทษก็ถูกกลุ่มต่อต้านดักโจมตีและเข้าช่วยเหลือเอาไว้ได้ก่อน


หลวงพ่อ Jerome Jeffries  -เมื่อพระเจ้าของคุณนำพาพวกคุณมาสู่ดินแดนแห่งนี้ เข้าครอบครองและขับไล่ผู้ที่อยู่ก่อนออกไป จากบ้านเกิดของเขา แล้วพวกคุณก็ทำลายพวกเขาจนหมดสิ้นทุกอย่างโดยไม่ให้มีโอกาสแม้เจรจาหรือต่อรอง และ แสดงให้พวกเขาเห็นถึงความไร้ซึ่งความเมตตาปราณี .. คุณเป็นอิสระแล้ว มากับผม เราจะยังไปไหนไม่ได้ถ้าทุกอย่างที่นี่ยังไม่โอเค 

หลังจากเป็นอิสระแล้ว ช่วยหลวงพ่อ Jerome นำกองกำลังฝ่ายต่อต้านบุกทะลวงประตูรักษาความปลอดภัยด้านหน้า จัดการพวกศัตรูในพื้นที่ให้หมดแล้วคุยกับ หลวงพ่อ Jerome อีกครั้ง


หลวงพ่อ Jerome –ผมชื่อ หลวงพ่อ Jerome เป็นบาทหลวงอยู่ที่เมือง Fall’s End ขอบคุณที่ช่วยนะ แต่งานเรายังไม่จบ ไอ้พวกสาวกลัทธิมันจับตัวคนบริสุทธิไปมากมายอยู่ตามทาง พวกมันได้ Merle Briggs เพื่อนของผมไปด้วย เราต้องรีบไปช่วยเขาด่วนเลย 

จากนั้นลุยต่อไปตามทางช่วยเหลือพวกกลุ่มต่อต้านที่ถูกจับไประหว่างทางให้หมดจนข้ามสะพานไปที่สุดทางจะพบ Merle ถูกจับอยู่ที่นี่ ช่วยเขาออกมาแล้ว Merle จะเริ่มทำการติดต่อ ฮ. ของฝ่ายต่อต้านมารับตัวออกจากพื้นที่ ระหว่างนั้นต้องต้านพวกสาวกคลั่งที่พยายามบุกเข้ามาจากทุกทิศทางจนกว่าเวลาจะหมดแล้วรีบขึ้น ฮ. เดินทางออกไปยังจุดปลอดภัยพร้อมกับ Merle ก็จะจบภารกิจนี้


                             Resistance Level 2: The Confession


หลังจากที่คุณสร้างความเสียหายให้กับอาณาจักรของ John Seed จนสามารถเก็บค่า RP จนถึงระดับเลเวล 2 John ก็จะให้พวกสาวกของเขามาจับคุณถึงที่ไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ไหนหรือคุณจะเต็มใจมาหรือไม่ก็ตาม ... อีกครั้ง


John Seed – มีญาติคนนึงของผมได้สอนผมเกี่ยวกับคำว่า พลังของคำว่า ใช่  คืนนึงเขาพาผมเข้าไปในครัว แล้วจับผมทุ่มลงกับพื้น ต่อมาผมก็ได้รับประสบการณ์ที่สุดเลวร้าย ผมได้รับความเจ็บปวดแล้วก็เจ็บปวดจนแทบทนไม่ไหว จนผมเริ่มคิดว่าไม่อยากจะทนแล้ว ก็มีบางอย่างเกิดขึ้นข้างในตัวผม ความอิสระ ผมไม่กลัวอะไรอีกแล้ว รู้สึกโปร่งสบาย ผมได้แต่มองพวกเขาแล้วก็หัวเราะออกมา พร้อมกับพูดคำว่า ใช่ ! ผมใช้เวลาเกือบทั้งชีวิตเพื่อจะหาคำพูดอื่นมากกว่าคำว่า ใช่ ผมเปิดรับทุกอย่างด้วยร่างกายผมจนมันกลายเป็นรูพรุนไปหมด จนกระทั่ง Joseph เป็นคนสอนให้รู้จักว่า ความเห็นแก่ตัวจะนำมาซึ่งการได้มาและการพรากไปเสมอ ของขวัญที่แท้จริงไม่ใช่ว่าคุณจะได้รับอะไร ได้เป็นอะไรที่คุณให้ได้ต่างหาก ให้แล้วก็ให้จนเกิดความกล้า กล้าที่จะยอมรับในบาปของคุณเสมือนสลักมันไว้บนร่างกายคุณ แบกมันไว้เหมือนเป็นภาระที่ยิ่งใหญ่และเมื่อคุณเริ่มทนไม่ไหว คุณก็จะได้รับโอกาสในการไถ่บาปอย่างแท้จริง จนเต็มใจที่จะตัดมันออกเหมือนกับมะเร็งร้ายแล้วโชว์มันให้ทุกคนเห็น พระเจ้า นั่นมันเป็นสิ่งที่กล้าหาญมากๆ และผมกำลังจะสอนคูณถึงเรื่องความกล้าหาญหาญนั้น สอนให้คุณกล้าที่จะพูดคำว่า ใช่ เมื่อคุณเผชิญหน้ากับจุดอ่อนของคุณ เผชิญหน้ากับบาปของคุณ คุณจะว่ายข้ามวังวนของความเจ็บปวดไปสู่ อิสระ จนถึงตอนนั้นคุณถึงจะมีโอกาสที่จะได้ล้างบาปอย่างแท้จริง  เอาล่ะ เริ่มที่ใครก่อนดีนะ ...


                                                     ** เลือกตอบ YES **




John Seed – ใช่ !! ใช่ !! ผมสัญญาว่าคุณจะไม่เสียใจที่พูดมันออกมา เกิดที่เราจะเริ่มกันนะ ผมคิดว่าเรามาหาทางออกที่เหมาะสมกับปลัด Hudson กันก่อน ..ผมจะพาเธอกลับไปที่หองของเธอก่อน การสารภาพจำเป็นต้องใช้ความเป็นส่วนตัวอย่างมากรู้มั๊ย .... ชูววว ผมไม่ได้มาที่เพื่อพรากชีวิตใคร ผมมาที่นี่เพื่อให้ ผมมาเพื่อเปิดเผยตัวตนของคุณและยัดเยียดความทรงจำที่เลวร้ายให้คุณเก็บไว้เป็นความหวาดกลัวข้างใน จนบาปของคุณจำต้องสำลักออกมาด้วยตัวของมันเอง ตอนนั้น คุณจะรู้ซึ่งถึงพลังของคำว่า ใช่ อย่างแท้จริง เดี๋ยวผมกลับมานะ ...

หลังจาก John พา Hudson กลับไปห้องขังแล้ว ตอนนี้เป็นช่วงที่มีโอกาสได้หนี โดยการขยับเก้าอี้ที่ถูกมัดอยู่ให้เลื่อนไปจนบันไดไปจะทำให้หลุดจากการโดนมัดได้ จากนั้นก็เก็บอาวุธเท่าที่มีในห้องลอบจัดการศัตรูตามทางเพื่อออกค้นหาห้องขังของ Hudson เพื่อหาทางช่วยเธอออกมา


John Seed – ผมรู้ถึงบาปของคุณแล้ว บาปของคุณมันกำลังขับเคลื่อนตัวคุณในทุกความคิดและทุกๆการกระทำ บาปของคุณคือ ความโกรธ ฮ่าๆ ผมจะให้คุณดื่มด่ำกับมันอย่างเต็มอิ่มไปทั้งร่ายกายและจิตใจ เพราะในท้ายที่สุดคุณก็จะว่างเปล่า ไม่เหลืออะไรเลย และผมจะรอคุณอยู่ที่นี่ ไม่สิ เราทั้งคู่จะรอคุณอยู่ท่นี่

จากนั้นก็ต้องหนีออกมาจากพื้นที่ท่ามกลางพวกสาวกที่บ้าคลั่งบุกเข้ามาจนสามารถหนีออกไปด้านนอกอย่างปลอดภัย


                                                               NOTICE 

การดำเนินเรื่องของ Far Cry 5 นั้นจะมุ่งเน้นไปที่การยึดพื้นที่เป็นหลัก การยึดพื้นที่ก็คือการสะสมค่า Resistance Points หรือ RP ที่ได้เป็นรางวัลจากการทำภารกิจเนื้อเรื่องภารกิจเสริมและเควสอีเวนท์ต่างๆระหว่างทาง จะทำภารกิจไหนก่อนหลังหรือไม่ทำก็ได้ เมื่อสะสมจนค่า RP ได้ระดับเลเวลที่กำหนด (มี 3 ระดับ) แต่ละระดับก็จะปลดล็อกภารกิจหลักที่เป็นของ Boss ในพื้นที่ออกมาแบบอัตโนมัติ และหากคุณสะสมค่า RP จนครบ 3 ระดับครบถ้วนแล้ว ภารกิจตัดสินกับ Boss ในพื้นที่นั้นๆจะปรากฎออกมา โดยไม่สนว่าคุณจะทำภารกิจใดๆเหลือเอาไว้หรือเปล่า ซึ่งถือว่า เป็นเรื่องที่แปลกมากที่เกม Open World ให้ความสำคัญกับภารกิจเสริมน้อยแม้จะมีเยอะก็ตาม ภารกิจในพื้นที่จะมี 2 ชุดคือ ชุดก่อนยึดพื้นที่ได้ กับ ชุดหลังยึดพื้นที่ได้ แม้ยึดพื้นที่ได้ก็ยังมีเควสให้ทำต่ออีกในระดับนึง 


หากคุณทำภารกิจต่างๆอะไรก็ตามจนทำให้ Resistance Points เต็มครบตามจำนวนตามที่พื้นที่ต้องการแล้ว เควสเนื้อเรื่องที่ 3 ของ John Seed ก็จะปรากฏขึ้นมาที่เมือง FALL’S END


                                 Resistance Level 3: The Atonement




เดินทางเข้ามาที่เมือง FALL’S END แล้วมุ่งหน้าไปที่โบสถ์ของเมืองตามที่ John นัดเอาไว้ แต่ทันทีที่เปิดประตูเข้าไปก็ต้องเสียท่าเพราะ John และคนของมันคอยท่าอยู่จนเอาด้ามปืนกระแทกหน้าจนถูกจับตัวได้ในที่สุด ด้านโบสถ์จะพบ John กำลังจัดชุดใหญ่ด้วยการจับ Rae-Rae ,บาทหลวง Jerome และ Nick มาทำพิธีไถ่บาปพร้อมๆกันทันทีที่แขกคนสุกท้ายคือท่านปลัดหน้าใหม่เดินทางมาถึง


John Seed – อยู่นิ่งๆสิ ผมตั้งใจจะสักคำว่า Wrath นะ เดี๋ยวมันจะกลายเป็น Rat ซะ ฮ่าๆ บาปจะต้องถูกแสดงออกมา เราจะยังให้อภัยไม่ได้หากยังแอบซ่อนบาปเอาไว้ บาปของพวกเรา เราซ่อนได้เฉพาะแต่กับตัวเราเอง คุณมิอาจซ่อนมันได้นานหรอก ความจริงที่คุณซ่อนเอาไว้เดี๋ยวคุณก็จะอ้วกมันออกมากองกับพื้นในไม่ช้าแล้ว เอาละเสร็จแล้ว สมบูรณ์แบบมาก !!




John Seed – เอาล่ะ จะเข้าพิธีล้างบาปทำหน้าให้มันดีๆก่อนหน่อยสิ เอาละ ว่าตามนะ ที่พวกเรามารวมตัวกันอยู่ที่นี่เพื่อเป็นพยานให้กับ ..... เฮ้ออ ... ฮ่าๆ  เอาใหม่ๆ เอาใหม่นะ ที่พวกเรามารวมตัวกันอยู่ที่นี่เพื่อเป็นพยานให้กับผู้ที่เข้าร่วมพิธีไถ่บาปให้กับบาปของพวกเขา Nick Rye เอามือวางลงบนคัมภีร์ The Word of Joseph  
Nick – สั้นตีนเถอะ !! ชั้นไม่ยอมทำตามไอ้โรคจิตอย่างแกหรอก !!
John Seed – อ่า ..นี่คือความโลภ คิดถึงตัวเองบ้างสิ Nick มานี่ ข้าจะบอกอะไรให้ ..
Nick – ใช่ .... ใช่ ผมต้องการไถ่บาป .. อ๊ากก อ๊ากกกกก !!!

John Seed – นี่ไงล่ะพลังแห่งคำว่า ใช่ !! พลังที่จะขับไล่บาปของเจ้า ฮ่าๆๆ พลังที่จะทำให้เป็นอิสระ !!




John Seed – เอาล่ะ ตาคุณแล้ว คุณปลัด วางลงบนคัมภีร์ The Word of Joseph  สิ และละทิ้งบาปของคุณ ยอมรับในความละเมิดของคุณ พูดว่า ใช่ สิ .. แค่คำเดียวสั้นๆว่า ใช่ 

ทันทีที่ยอมพูดคำว่า ใช่ แต่ไม่ใช่การยอมรับ เพราะคัมภีร์ที่ซ่อนปืนอยู่ด้านในทำให้มีได้หยิบมันขึ้นมายิงเข้าใส่ John จนเฉียดหูไปก่อนที่ลูกน้องจะรีบพาตัวหนีไปในทันที


จากนั้นจัดการพวกศัตรูในโบสถ์และด้านนอกให้หมด แล้วขึ้นรถที่ Mary May ขับมารับจากนั้นก็ขึ้นไปบังคับปืนกลไล่ยิงถล่มพวกศัตรูที่ตามมา เป้าหมายคือไล่ล่า John Seed ที่กำลังหนีไปยังโรงนาของมัน ในขณะที่กำลังเอาตัวรอดจากการไล่ล่าของศัตรูที่ตามมาทั้งรถและเครื่องบินขับไล่ พยายามเน้นการยิงทำลายเครื่องบินก่อนเพื่อโอกาสรอดที่สูงขึ้น ทันทีที่มาถึงโรงนาของ John Seed พบว่ามันได้ขับเครื่องบินหนีไปแล้ว ทำให้ต้องใช้ Dogfighter ที่จอดอยู่อีกลำรีบบินตามมันขึ้นไปเพื่อไล่ล่าต่อทันที


                                 Story Mission: WRATH


เป้าหมายของภารกิจคือขับเครื่องบินไล่ล่าเครื่องบินของ John Seed แล้วสอยให้มันร่วงซะ ที่เหลือก็คือฝีมือการขับเครื่องบินของคุณที่ต้องยิงมันโดนได้มากแค่ไหนและจะทำให้มันร่วงได้เมื่อไหร่


แต่อาจพอมีกำลังใจหากใครขับเครื่องบินไม่ค่อยเก่งเพราะยังมีเครื่องบินของ Nick เป็นกองหนุนให้เพียงแต่ตอนนี้จะไม่สามารถสั่ง Nick ให้โจมตีได้ดั่งใจ ต้องอาศัยดวงที่ Nick จะช่วยยิงโดนมากที่สุด และเมื่อสอยเครื่องบินของ John Seed จนตกได้จากนั้นก็เข้าไปที่จุดที่เครื่องบินตกเพื่อเก็บกุญแจบังเกอร์ลับจากตัวของมันเพื่อรีบไปช่วยเจ้าหน้าที่ Hudson ที่ถูกจับอยู่


John Seed – แล้วถ้า Joseph พูดถูกล่ะ ? จะไม่ลองหยุดคิดดูซักหน่อยหรอ .. ทุกๆคนคิดว่าเขาเป็นบ้า แต่เขาไม่ได้บ้า ลองดูรอบๆตัวแกดูสิ ..โลกนี้มันกำลังจะตกขอบแล้ว แกรู้สึกได้จากลึกลงไปในกระดูกของแกดี  คิดดูดีๆว่าใครจะให้ใครเป็นคนรับผิดชอบชะตากรรมของแก แกอยากได้กุญแจนี่เพราะคิดว่าจะช่วยผู้คนเหล่านั้นได้หรอ ไม่หรอก พวกเขาปลอดภัยอยู่แล้ว เรามีแผนของเรา แกไม่เข้าใจหรอก แกไม่มีวันเชื่อ แกไม่สนมันซักนิด !!! ..ขอให้พระเจ้าจงเมตากับวิญญาณของแกด้วยเถอะ ..


                             Story Mission: The Quality of Mercy



เมื่อจัดการ John Seed ลงได้และนำกุญแจบังเกอร์ของมันมาได้แล้ว เดินทางมายังจุดภารกิจที John Gate ตรงที่ที่เคยถูกจับแล้วหนีออกมาได้ในรอบที่ 2 ลุยเข้าไปด้านในจนถึงประตูบังเกอร์ลับของ John แล้วเอากุญแจไขเข้าไปด้านใน จากนั้นก็ต้องลุยเดี่ยวเข้าไปตามทางของบังเกอร์ที่เต็มไปด้วยพวกสาวกคลั่งมากมายเป้าหมายคือห้องขังของเจ้าหน้าที่ Hudson ที่ถูกจับอยู่


Hudson – เด็กใหม่หรอ? คุณจริงๆด้วย พระเจ้า นึกว่าคุณจะไม่กลับมาช่วยซะแล้ว มันมีบางอย่าง บางอย่างที่เกิดขึ้นที่นี่ จู่ๆไอ้พวก Peggies ก็กรีดร้องอย่างบ้าคลั่ง และประตูทางออกทั้งหมดก็ปิดขังเราเอาไว้ที่นี่ ชั้นคิดว่าจะติดอยู่ใต้นี้ตลอดไปแล้ว 



ทั้งหมดก็เพราะไอ้บ้านั่น  ไอ้บ้านั่น ที่เราต้องมาลำบากอยู่ที่นี่ตอนนี้ก็เพราะไอ้ห่านี่แหละ ไอ้ Joseph Seed แล้วมันก็ได้แต่เฝ้ามองให้เราร้องขอความเมตตา มันได้แต่เฝ้ามอง !! ... คนพวกนั้น ยังมีคนที่ถูกจับขังอยู่ที่นี่พร้อมกับชั้นอีก เราต้องช่วยพวกเขาออกมาให้หมดแล้วเผาที่นี่แม่งให้เป็นจุลเลย !! มาเถอะ ช่วยชั้นหน่อย 


จากนั้นย้อนกลับขึ้นไปชั้นบนพร้อมกับ Hudson จนถึงห้องควบคุมนักโทษ รอซักพักจนกว่าเธอจะเปิดประตูห้องขังทั้ง 3 ห้องได้หมดก็ลุยออกไปสับคันโยกปล่อยพวกนักโทษจากทั้ง 3 ห้องออกมาให้หมด


เสร็จแล้วเข้าไปด้านในตามจุดหมายของภารกิจจนถึงห้องควบคุม จัดการยิงทำลายแผงควบคุมให้พังให้หมด แล้วลุยเข้าไปที่เป้าหมายต่อไปที่ไซโลขนาดใหญ่ รอให้ Hudson เปิดที่ยืนข้างๆพนังให้ปีนขึ้นด้านบนไป (แผงไหนไม่ออกมาก็ยิงให้มันกางออกมา)


เมื่อปีนขึ้นไปจนถึงด้านบนแล้ว ระหว่างทางเดินเข้าด้านในต้องทำลาย Bliss Container หรือถังสีเขียวสำหรับใส่แก็สมอมเมาให้หมด (ทำลายจนแทบสีเหลืองทางซ้ายบนเต็ม) จากนั้นที่เหลือคือหนีออกจากบังเกอร์นี้ โดยลุยต่อเข้าไปด้านใน ผ่านประตูที่ต้องใช้ Lockpick ไขเปิดขึ้นไปจนถึงส่งสินค้าด้านบนสุด


เมื่อเข้ามาถึงด้านในห้องส่งสินค้าแล้ว จะพบว่าที่นี่กำลังเต็มไปด้วยความวุ่นวายเพราะมันกำลังจะระเบิด พื้นที่เต็มไปด้วยไฟไหม้และเหล่าสาวกที่บ้าคลั่งมากมายที่บุกเข้ามา เป้าหมายคือ สับคันโยกสวิตซ์ 2 จุดเพื่อเปิดหลังคาออก จากนั้นก็ต้องต้านการบุกของพวกสาวกคลั่งจนกว่าหลังคาจะเปิดออกแล้วมี ฮ. ของฝ่ายต่อต้านมารับ โดยใช้ตะขอเกียวยึดโหนไปกับ ฮ ก็จะหนีออกจากที่นี่ได้สำเร็จ


ท้ายที่สุด ฮ. ของฝ่ายต่อต้านช่วยฮีโร่คนใหม่หนีออกมาได้พร้อมเสียงระเบิดกึกก้อง เปลวไฟจากฐานใหญ่ของ John  Seed พวยพุ่งขึ้นฟ้าจนท้องฟ้าที่มืดอยู่กลับสว่างคาตา



ไม่ต่างจากพลุดอกไม้ไฟฉลองวันชาติวันใหม่ เพื่อเฉลิมฉลองชัยชนะของนักสู้กลุ่มต่อต้านแห่ง Holland Valley .. Hope Country



                                                spread eagle bar  



                     Nick Rye – ไอ้บ้าเอ๊ย ชั้นไม่เคยเห็นอะไรที่มันระห่ำแบบนี้มาก่อนเลยนะ



                     หลวงพ่อ Jerome – ฮ่าๆ พ่อรู้ว่าที่เราช่วยคุณไว้ได้เพราะแบบนี้ไง 




Mary May – เฮ้ รู้มั๊ย คุณนำบางสิ่งกลับมา บางสิ่งที่เราไม่คิดว่าจะได้มันคือมาแล้ว ความหวัง ไงล่ะ ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นต่อจากนี้ พวกเราขอร่วมด้วย 



Hudson – งานนี้มันบ้าสุดๆไปเลยว่ามั๊ยน้องใหม่ ..ไม่สิ ตอนนี้คุณเป็นผู้ชี้ชะตาของพวกเราแล้ว ถ้าคุณต้องการให้ช่วยอะไรก็บอกชั้นได้เสมอนะ 



Joseph Seed – ผนึกได้ถูกปลดออกแล้ว ... น้องชายผม John ก็มีคนที่รักเค้าบ้าง แต่บางคนก็กลัวเค้า ทุกคนเข้าใจผิดกันหมดยกเว้นผม John ไม่ได้เกิดมาเป็นปีศาจร้ายหรอก เขาแค่ยังเด็กตอนครอบครัวเรากำลังเดินผ่านขวากหนาม เขาเป็นคนที่มีจิตใจที่เต็มไปด้วยรักและร่าเริง แต่ก็ขี้โมโหง่ายไปหน่อย  John ไม่ใช่คนที่สมบูรณ์แบบอะไรหรอก บ้างครั้งเขาก็ทำตัวไม่ดี แต่เขาก็เป็นพี่น้องของผม ..และผู้ที่ต้องรับผิดชอบต่อการตายของเขาจะต้องถูกลงโทษ ผมขอให้สัญญาเลย 


แม้จะจัดการ John Seed และยึดดินแดนของมันได้แล้ว แต่ลูกน้องขอมันส่วนนึงก็ยังอยู่ในพื้นที่ จึงยังมี Story Mission และ Side Mission ต่างๆอีกที่สามารถทำได้เพิ่มเติมได้ในเมือง FALL’S END ประกอบด้วย


                                               Side Mission: TESTY FESTY

รับภารกิจจาก Casey Fixman พ่อครัวใน Spread eagle bar เพื่อช่วยเติมความฝันของเขาที่ถูกพวก Eden Gate ทำลายไป นั่นคือการจัดการฉลองให้คนในเมืองมากินเลี้ยงกันให้สำเร็จ เขาจึงขอให้ไปเอารถปิ้งย่างจาก Hyde’s Barn มาเพื่อเตรียมจัดงาน  จากนั้นเดินทางไปยัง Hyde’s Barn เข้าไปคุยกับ Kenny Hyde แต่กลับเกิดปัญหาเอารถให้ไม่ได้เพราะกุญแจโรงรถถูกอีแร้งขโมยไป ทำให้ต้องช่วยเขายิงอีแร้งที่บินไปมาให้ร่วงลงมาแล้วไปเก็บกุญแจที่ศพของมัน แล้วเอาไปไขเปิดโรงรถ ยิงทำลายกุญแจประตูหน้าแล้วขับรถปิ้งย่างกลับมาให้ Casey ที่ Spread eagle bar อย่างปลอดภัยก็จะจบภารกิจนี้



                                     Side Mission: PRAIRIE OYSTER HARVEST

หลังจากทำภารกิจ Side Mission: TESTY FESTY จนได้รถปิ้งย่างมาแล้ว เข้าไปคุยกับ Casey Fixman พ่อครัวใน Spread eagle bar อีกครั้ง คราวนี้เขาจะต้องการเนื้อวัวในรูปแบบต่างๆเพื่อนำมาทำอาหารในงาน จากนั้นเดินทางไปยัง Davenport Farm แล้วจัดการหาวัตถุดิบคือ ลูกอัณฑะ 3 ชิ้น ในรูปแบบที่ต่างกันดังนี้
1. โดยเริ่มจากยิงกุญแจประตูรั้วของคอกวัวตัวเมีย (สีขาวดำ) ให้ออกมาจากคอกแล้วรอให้วัวตัวผู้ (สีน้ำตาล) ที่อยู่ในทุ่งขึ้นขี่เตรียมผสมพันธ์แล้วฆ่าวัวตัวผู้ไปเก็บ ลูกอัณฑะ ชิ้นแรกมา


                2.ต้องใช้รถแทรกเตอร์ขับชนวัวจนตายแล้วไปเก็บ ลูกอัณฑะ ชิ้นที่สองมา



                   3. ต้องใช้ไฟในการฆ่าวัวจนตายแล้วไปเก็บ ลูกอัณฑะ ชิ้นที่สามมา


จากนั้นเดินทางไปหา Casey ที่จุดหมายของภารกิจที่เป็นจุดจัดงาน Testy Festival  ก็จะสามารถเริ่มงานเทศกาลได้ในที่สุด ทำให้เกิดภารกิจย่อย Side Mission: A FEW DRINKS LATER ขึ้นมาให้ทำต่อ


                                        Side Mission: A FEW DRINKS LATER


เป้าหมายคือยิงลูกโป่งให้หมดภายในเวลากำหนดในขณะที่กำลังสายตาพร่ามัวเพราะอาการเมา แต่จริงๆ ยิงไปให้โดนเท่าไหร่ก็ได้ไม่จำเป็นต้องหมดก็สามารถผ่านภารกิจนี้เช่นกันเพราะเป็นเพียง Optional ของภารกิจเท่านั้น



                                       Side Mission: SPACIAL DELIVERY

เข้าไปหา Rye กับ Kim ที่ Rye & Sons Aviation จะพบว่า Kim กำลังปวดท้องใกล้คลอดอย่างหนักจึงต้องพาเธอไปหาหมอที่คลีนิคให้เร็วที่สุด โดยจะต้องขับรถพา Rye กับ Kim ไปให้ถึงเป้าหมายให้ทันก่อนเวลาจะหมด เมื่อถึงคลินิกได้อย่างปลอดภัย Kim ก็จะคลอดลูกได้สำเร็จ


และแน่นอนว่าไม่ว่า Rye จะอยากได้ลูกชายมากจนตั้งชื่อกิจการรอแล้ว แต่ลูกของพวกเขาก็เป็นลูกสาวตามที่ Kim ได้ทำอัลตร้าซาวด์ไว้แล้ว ทำให้ Rye ต้องเปลี่ยนชื่อกิจการเป็น Rye & Daughter Aviation แทน ซึ่งจะเห็นได้จากเสื้อกล้ามที่ได้เป็นรางวัลหลังจากภารกิจ


                                             Side Mission: Spray and Pray

เข้าไปจุดภารกิจ Clutch Nixon เพื่อปลดล็อกภารกิจ Side Mission: Spray and Pray จากนั้นขับเครื่องบินรอดไปตามห่วง Checkpoint ระหว่างทางเพื่อให้ถึงจุดหมายก่อนเวลาจะพบให้สำเร็จก็จะจบภารกิจ และได้เครื่องบิน stars stripes เป็นรางวัลด้วย



                                       Story Mission: THE WIDOWMAKER

รับภารกิจจาก Mary May ใน Spread eagle bar เนื่องจากก่อนหน้านี้รถบรรทุกคนโปรดที่ตกทอดมาจากพ่อของเธอถูกพวก Eden Gate ขโมยไปเมื่อเหตุการณ์สงบแล้ว เธอจึงต้องการให้ช่วยไปเอารถของพ่อเธอกลับคืนมา จากนั้นเดินทางไปที่ Grain Elevator ลุยเข้าไปจัดการศัตรูให้หมดแล้วเข้าไปในโกดังเป้าหมายเพื่อขโมยรถบรรทุก WIDOWMAKER ออกมาจากพื้นที่ ลุยขับชนด่านของศัตรูที่กั้นไว้ระหว่างทาง 9 จุดแล้วเอารถกลับมาให้ Mary May ที่บาร์อย่างปลอดภัยก็จะจบภารกิจ  และจะได้รถรถบรรทุก THE WIDOWMAKER มาใช้อีกด้วย



                                         Story Mission: GOOD SAMARITAN

รับภารกิจจากหลวงพ่อ Jerome ในโบสถ์ที่เมือง FALL’S END หลวงพ่อจะเป็นห่วงผู้คนในฟาร์มหมูของวู๊ดสันที่ขาดการติดต่อไปจึงอยากให้ไปตรวจสอบดูหน่อย จากนั้นเดินทางไปที่ Woodson Pig Farm แล้วเข้าไปลุยศัตรูเพื่อช่วยพวกกลุ่มต่อต้านที่ถูกจับอยู่ทั้ง 3 คนให้ปลอดภัยและป้องการฟาร์มจากศัตรูที่บุกเข้ามาให้ได้ก็จะจบภารกิจ


                                              Story Mission: JUMPING SHIP

รับภารกิจจากหลวงพ่อ Jerome ในโบสถ์ที่เมือง FALL’S END อีกครั้ง หลวงพ่อจะมอบหมายงานให้ไปช่วยนำตัวพวกสาวก Eden Gate ที่แปรพักตร์มาสอบสวนหาข้อมูล จากนั้นเดินทางไป Silver Lake Trailer เข้าไปจัดการศัตรูให้หมดเพื่อยึดพื้นที่ ทันทีที่ยึดพื้นที่ได้พวกต่อต้านก็นำกำลังเสริมมาช่วย ในขณะที่พวกสาวกมากมายบุกเข้ามาเพื่อหวังฆ่าคนแปรพักตร์ที่ถูกจับได้ สิ่งที่ต้องทำคือคุ้มกันไม่ให้พวกศัตรูที่บุกมาฆ่าเป้าหมายได้สำเร็จ และหลังจากต้านศัตรูชุดแรกได้แล้ว ก่อนศัตรูชุดต่อไปจะบุกมาต้องแบกตัวคนแปรพักตร์ลุยศัตรูและคุ้มกันเขามาจนถึงท่าเรือเพื่อให้ขึ้นเรือหนีไปได้อย่างปลอดภัยก็จะจบภารกิจ



                                        Story Mission: NO MEANS NO

 ภารกิจสุดท้ายของลุง Dutch ในดินแดนนี้ ภารกิจนี้จะไม่เห็นเป็นตำแหน่งของภารกิจในแผนที่เหมือนภารกิจทั่วไป คุณต้องใช้เครื่องบินติดอาวุธบินขึ้นไปยิงถล่มใส่ป้าย YES บนยอดเขาก่อนภารกิจนี้ถึงจะปลดล็อกออกมาในรายชื่อของภารกิจ จากนั้นยิงทำลายป้าย YES ให้พังจนหมดก็จะจบภารกิจ                   


--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------


                                        บทที่ 3 



                                              Henbane River 

                                                (ดินแดนของ Faith Seed)


                                         Guns for Hire Mission 



                                 Story Mission: HERE KITTY, KITTY




เข้ามาที่โรงงานสตัฟฟ์สัตว์ Peaches Taxidermy ของ Ms. Mable จะพบว่า มิสเมเปิ้ลกำลังมีปัญหาเรื่องที่เจ้า Peaches สัตว์เลี้ยงตัวโปรดของเธอหนีไปตอนที่พวกสาวกลัทธิบุกเข้าโจมตีก่อนหน้านี้ เธอจึงอยากให้ช่วยไปตาม Peaches กลับมาให้


ก่อนออกเดินทางเข้าไปที่จุดหมายภารกิจด้านในเพื่อเก็บเอาเศษเนื้อซึ่งเป็นอาหารของ Peaches มาก่อน จากนั้นเดินทางไปยังจุดหมายของภารกิจใกล้ๆกับโรงงาน


จัดการศัตรูในพื้นที่ให้หมดแล้วกดเมนูอาวุธขึ้นมาแล้วเลือกไปที่ช่องล่างจะพบ Peaches’ Treat ซึ่งก็คือเหยื่อล่อเจ้า Peaches ขว้างเหยื่อลงไปที่พื้นไม่นานเจ้า Peaches ก็จะออกมาจากที่ซ่อนเพื่อกินเหยื่อ


จากนั้นก็ขว้างเหยื่อล่อนำทางเจ้า Peaches เพื่อล่อให้ตามมาเพื่อให้มันกลับมาไปที่โรงงานของมิสเมเปิ้ลอีกครั้ง แต่ขณะที่กลับมาถึงจะพบพวกสาวกลัทธิบุกเข้ามาโจมตี ต้องช่วยจัดการพวกศัตรูในพื้นที่ให้หมดก่อนแล้ว ใช้เหยื่อล่อนำทางเจ้า Peaches กลับไปที่กรงของมันตามเดิม


เมื่อเข้าไปคุยกับมิสเมเปิ้ลอีกครั้ง นอกจากคำขอบคุณที่เธอมีให้แล้วเธอยังตัดสินใจจะมอบเจ้า Peaches ให้ดูแลต่อเพราะเธอไม่อยากเสียเงินค่าอาหารจำนวนมากเพื่อเลี้ยงมันอีกต่อไปแล้ว หลังจากภารกิจก็จะได้ เจ้า Peaches มาร่วมทีมอีกตัว



                                                          Peaches Skill 

POUNCE – สามารถลอบฆ่าศัตรูได้โดยพวกมันไม่รู้ตัว
STALK – สามารถแฝงตัวขณะเคลื่อนที่ตามพุ่มหญ้าสูงๆได้




เดินทางไปยังจุดหมายของภารกิจที่ Drubman Marina ของ Adelaide ที่ตอนนี้ถูกพวกลัทธิยึดเอาไว้ เข้าไปจัดการศัตรูให้หมดเพื่อยึดพื้นที่มาซะ


จากนั้นเข้าไปคุยกับ Adelaide Drubman เจ้าของที่นี่หลังจากที่เธอขอบคุณที่ช่วยแล้วเธอจะขอร้องให้ไปเอา Tulip  ฮ. ลำโปรดและลำอื่นสำหรับใช้ทำงานของเธอที่ถูกพวกลัทธิยึดไป 3 ลำกลับคืนมาพร้อมกับสั่งสอนพวกนักบินที่ขโมยมันไปอย่างสาสมด้วย

                               Story Mission: FRINDLY SKIES


หลังรับภารกิจจะมีจุดพื้นที่เป้าหมายของภารกิจขึ้นมา 3 จุดคือ ที่ หอสังเกตการณ์เฝ้าระวังไฟป่า, กระท่อมล่าสัตว์ และจุดชมวิว


 จากนั้นเดินทางไปยังจุดพื้นที่ของภารกิจจุดไหนก่อนก็ได้ ทั้ง 3 เป้าหมายคือจัดการฆ่านักบินที่ขับ ฮ. ซะโดย 2 เป้าหมายคือ หอสังเกตการณ์เฝ้าระวังไฟป่า, กระท่อมล่าสัตว์ สามารถยิงทำลายคนขับเป้าหมายไปพร้อมกับ ฮ. ได้เลย


ส่วนเป้าหมายที่จุดชมวิวคือ Tulip  ฮ. ลำโปรดของ Adelaide ที่ต้องไปยึดกลับคืนมา โดยต้องรอให้ ฮ. ลงจอดก่อนแล้วค่อยเข้าไปจัดการนักบินก่อนแล้วถึงขับ ฮ. บินกลับมาคืนให้ Adelaide ที่ Drubman Marina


โดยทันทีที่ขึ้น ฮ. ขับเดินทางกลับ Adelaide ก็จะแจ้งมาว่าพวกลัทธิบุกเข้ามาโจมตีอีกรอบ ทำให้ต้องรีบบินกลับไปให้เร็วที่สุดเพื่อช่วยเธอโดยการยิงทำลายพวกศัตรูที่เข้ามาล้อม Drubman Marina ให้หมดแล้วนำ ฮ. ลงจอดให้เรียบร้อย เมื่อเข้าไปคุยกับ Adelaide อีกครั้งก็จะได้รับคำขอบคุณจากเธอพร้อมทั้งได้เธอเข้าร่วมทีมเมื่อจบภารกิจด้วย



                                               Adelaide Drubman SKILL

Call a Chopper – เป็นกำลังเสริมโจมตีทางอากาศและนำส่งเฮลิคอปเตอร์ให้ถึงที่หากต้องการ (กำหนดจุดลงจอดด้วยการใช้ปุ่มทิศทางที่กำหนดไว้เพื่อให้ Adelaide นำ ฮ. ลงจอด)
Less Reload – สามารถโจมตีทางอากาศโดยไม่ต้องรีโหลดกระสุน

หลังจับภารกิจนี้จะได้ Side Quest: RIVER ARMED CONVOY จากลุง Dutch เพิ่มด้วย




                               Story Mission: BURN, BABY, BURN!


 เดินทางไปยังจุดหมายของภารกิจที่ Moonflower Trailer Park เข้าไปคุยกับ Sharky ที่กำลังรอตั้งรับพวกสาวกลัทธิที่กำลังบุกเข้ามา จากนั้นจัดการพวก Angels ที่บุกเข้ามามากมายให้นานที่สุดจนลำโพงที่เป็นตัวกระจายเพลงมันๆเพื่อปลุกใจ Shaky ถูกปิดทำให้เขาต้องขอร้องให้ไปช่วยเปิดการทำงานของลำโพงให้เพราะเขาสู้ต่อไม่สะใจถ้าไม่ได้ยินเพลงโปรดดังๆ


จากนั้นลุยศัตรูลงไปจัดการสับคัทเอ๊าท์เปิดระบบลำโพงทั้ง 4 จุดเพื่อให้เสียงเพลงกลับมาอีกครั้ง ที่เหลือก็จัดการป้องกันพื้นที่โดยจัดการศัตรูมากมายที่บุกเข้ามาให้หมดก็จะพบจบภารกิจ หลังจบภารกิจก็จะได้ Sharky Boshaw เข้าร่วมทีม




                                                Sharky Boshaw  SKILL   

FIRE IT UP – เมื่อยิงโจมตีใส่ศัตรู (ไม่ว่าจะใช้ปืนอะไร) จะทำให้เป้าหมายเกิดการลุกไหม้
SHATTERPROOF – มีความทนทานต่อแรงระเบิดและแรงปะทะ





                                    Story Mission: Hope County Jail  


เดินทางมาที่จุดภารกิจที่เรือนจำ Hope County Jail ตามภารกิจที่ลุง Dutch ให้มาตั้งแรกจะพบว่าผู้คนที่ใช้เรือนจำแห่งนี้เป็นที่หลบซ่อนตัวกำลังถูกพวกสาวกรุมโจมตีอย่างหนัก หลังจากจัดการพวกศัตรูที่อยู่ในพื้นที่ส่วนหน้าจนหมดแล้ว เข้าไปตรวจสอบด้านในก็จะพบว่ามีชาวเมืองมากมายอยู่ที่นี่หนึ่งในคนที่อยู่ในนั้นก็คือ นายอำเภอ Whitehorse  ที่ยังรอดชีวิตอยู่ด้วย 


นายอำเภอ Whitehorse – เราต้องการกระสุนเพิ่มอีก !! … ให้ตายเถอะเจ้าเด็กใหม่ นายช่วยพวกเราให้รอดจากการโดนยำแท้ๆเลย พวกมันบุกเข้ามาประชิดกำแพงมาเป็นวันๆแล้ว คนบาดเจ็บร่างกันระนาวมาจากกำแพงอยู่ตลอด แต่เราก็ยังไม่ยอมง่ายๆหรอกมันก็เหมือนกับการเตะรังแตนดีๆนี่แหละ พวกมันมากันอีกระลอกแล้ว ...หมอ มาทางนี้หน่อย !!! เจ้าเด็กใหม่ ชั้นต้องการให้นายขึ้นไปบนกำแพงนั่นแล้วต้านมันเอาไว้ให้ได้ !!




จากนั้นก็จัดการศัตรูมากมายทั้งที่อยู่ด้านล่างกำแพงจากทุกๆด้านรวมถึงพวก Angle ที่พยายามปีนขึ้นมาบนกำแพงให้หมด


Virgil – นายคนนี้ โทษนะ ใครหรอ??
นายอำเภอ Whitehorse – หนึ่งในทีมผู้ช่วยของชั้นเอง 
Tracey – ไหนคุณบอกว่าผู้ช่วยของคุณถูกจับตัวไปหมดแล้วไง
นายอำเภอ Whitehorse – เหมือนหมอนี่จะรอด แถมเอาคืนไอ้พวก Eden Gate ซะกระอักเลยด้วยเท่าที่ได้ยินข่าวมานะ
Tracey – งั้นหรอ ? ก็หวังว่าจะกางเต็นท์เป็นนะเพราะที่นี่เรามีห้องจำกัด
นายอำเภอ Whitehorse – ฮ่า Tracey นางคงยังไม่สนิทกับนายอ่ะนะ เราเจอแต่เรื่องหนักๆกันมาตลอด เอาล่ะ ที่นี่ยังมีอะไรที่ต้องทำอีกเยอะเลย ชั้นขอตัวก่อนนะ ดีใจที่กลับมาเจ้าเด็กใหม่

หลังจากจบภารกิจที่เรือนจำ Hope County Jail จะมี Story Mission ที่สามารถรับได้จากเหล่าผู้คนที่อยู่ที่นี่ 3 ภารกิจคือ
Story Mission: Salvation รับจาก นายอำเภอ Whitehorse
Story Mission: Clean water Act รับจาก Virgil
Story Mission: False Prophet รับจาก Tracey 


และหลังจากที่ออกจากเรือนจำ Hope County Jail  Virgil ก็จะแจ้งภารกิจใหม่มาอีกภารกิจคือ
Story Mission: War On Drugs ซึ่งเป็นภารกิจระยะยาวในการตามหาและทำลายรถและเรือสำหรับขนยา Bliss ของพวกคนของ Faith
ทำลายรถขนยา 5 คัน
ทำลายเรือขนยา 5 คัน



                                       Story Mission: Salvation




นายอำเภอ Whitehorse – เมื่อ 2 วันก่อนคนของเราสองสามคนหายสาบสูญไป ที่เราบอกได้ก็แค่ พวกเขาหายไปใน The Bliss มีข่าวลือว่ามีสถานที่นึงที่ว่ากันว่าถ้าใครถูกจับตัวไปแล้วจะไม่มีวันได้กลับมา มันเป็นสถานทีที่ถูกควบคุมโดยคนของ Faith ผู้คนถูกสังเวยด้วยการกดน้ำจนตาย ชั้นคิดว่ามันเป็นปัญหาที่แท้จริงของเราและชั้นก็ต้องการใครซักคนไปตรวจสอบที่นั่นดูหน่อย ใครซักคนที่มีฝีมือพอจะรอดกลับออกมาเล่าเรื่องราวต่างๆได้ ดูแลตัวเองด้วยนะเจ้าเด็กใหม่


จากนั้นเดินทางไปที่เป้าหมายของภารกิจที่ The Misery ทางตอนเหนือของทะเลสาบ Rock Bass Lake ลุยเข้าไปในพื้นที่จัดการศัตรูแล้วช่วยคนที่ถูกจับเอาไว้ออกมาให้หมด แล้วคุ้มกันฐานจากศัตรูที่บุกเข้ามาอีกละลอกให้ได้ เมื่อจัดการศัตรูจนหมดแล้ว จะมีจุดเหลืองของภารกิจกำลังใกล้เข้ามา นั่นคือตำแหน่งของนักบวชของพวกลัทธิที่กำลังเดินทางเข้ามาตรงทางเข้าด้านหน้า ดักโจมตีมันซะ เมื่อฆ่ามันได้แล้วก็จะจบภารกิจนี้


 และทันทีที่จบภารกิจ Salvation จะได้ภารกิจใหม่จาก นายอำเภอ Whitehorse ต่อมาทันทีคือ Story Mission: SERVE AND PROTECT  โดยสิ่งที่ต้องทำในภารกิจนี้คือจะต้องช่วยพวกผู้คนที่ถูกคนของ Faith จับไปเป็นตัวประกันในเขตนี้เอาไว้ให้มากที่สุด ถ้าระหว่างทางช่วยพวกตัวประกันเอาไว้มากพอก็จะจบภารกิจนี้ได้ทันที


                                  Story Mission: Clean water Act



Virgil – งานหลักของเราที่นี่ก็คือการหาทางหยุดนัง Faith มันเอาทุกอย่างไปจากผม ทั้งงาน และครอบครัว ทั้งหมดก็เพราะไอ้ Bliss บ้าๆของนังนั่น คุณเองก็เป็นหนึ่งในทีมของเราแล้ว ทีม Cougar และทุกคนในทีมก็ต้องช่วยเหลือกันและกัน ผมอยากให้คุณช่วยหน่อยคุณผู้ช่วย คุณรู้จักโรงงานบำบัดน้ำเสียรึเปล่า ไอ้พวกลัทธิบ้านั่นมันเอา The Bliss ผสมเข้าไปจนหมดแล้ว คนที่กินน้ำเข้าไปต่างก็เปลี่ยนเป็นตัวประหลาดไปจนหมด แต่มันจะทำอย่างนั้นได้ไม่นานหรอก เพราะเรามีแผนจะปิดที่นั่นให้เร็วที่สุด คุณว่าไงล่ะ ช่วยหน่อยได้มั๊ย?

เดินทางไปที่เป้าหมายของภารกิจที่โรงงานบำบัดน้ำเสีย Deep North Water Treatment Plant จัดการศัตรูในพื้นที่ให้หมดแล้วจะต้องเข้าไปจัดการทำลายปั๊มน้ำด้านในโรงงาน 2 จุด ซึ่งประตูทางเข้าของห้องปั๊มน้ำจะถูกปิดกั้นจนหมดไม่สามารถเข้าได้


จากนั้นสังเกตดูใกล้ๆกับอาคารของที่ปั๊มน้ำจะมีบ่อบำบัดน้ำอยู่ใกล้ อาคารทางซ้ายสามารถดำลงไปผ่านท่อเข้าไปจนถึงด้านในอาคารปั๊มน้ำได้เลย



ส่วนอาคารอีกฝั่งทางเข้าตรงท่อในบ่อบำบัดน้ำจะมีแผ่นไม้กั้นอยู่ ใช้ระเบิดลายเปิดทางมันแล้วดำเข้าไปที่ห้องปั๊มน้ำได้ จัดการทำลายปั๊มน้ำจากทั้ง 2 จุดให้หมดก็จะจบภารกิจนี้


                                     Story Mission: False Prophet 




Tracey – เฮ้ ยังไงก็ต้องขอโทษที่พูดไม่ดีด้วยก่อนหน้านี้ด้วยนะ มันดูไม่เจ๋งเลย คือแบบว่าชั้นทำงานหนักมาตลอดถามใครก็ได้ แทบไม่มีเวลาได้พักเลย เอาล่ะ มาเริ่มกันใหม่ดีกว่านะ ขอต้อนรับนะ คุณก็เป็นคนนึงที่เราต้องการให้มาร่วมทีมด้วย ทุกคนที่นี่ต้องแกร่งเพื่อที่จัดการอะไรก็ตามที่จะพยายามผ่านกำแพงนั่นเข้ามา ก็หวังว่าที่ Earl พูดเกี่ยวกับคุณคงเป็นเรื่องจริงนะ พวกเราต่างก็พยายามคิดให้ออกว่าจะเล่นงานไอ้พวก Eden gate ยังไงให้ได้ผลที่สุด ถ้าถามชั้น ชั้นจะเริ่มจากจัดการนัง Faith ก่อนเลย แล้วก็ คุณเห็นรูปปั้นขนาดใหญ่บนเนินเขานั่นมั๊ย แน่นอนใครก็ต้องเห็น นั่นรูปปั้นไอ้ Joseph Seed The Father นัง Faith เป็นคนสร้างมันขึ้นมาเพื่อให้ไอ้พวกผู้แสวงบุญบ้าๆของนางไว้บูชา และพวกมันคงต้องเศร้าแน่ถ้าเกิดเรื่องไม่ดีกับรูปปั้นนั่น ช่ายย เราจะถล่มรูปปั้นบ้านั่นให้เละ ให้ไอ้พวกสาวกมันรู้ว่า พ่อของพวกมันไม่ใช่พระเจ้าห่าอะไรหรอกมันก็แค่คนธรรมดาเหมือนเราๆนี่แหละ ว่าไงล่ะ เอาด้วยมั๊ย ไปสร้างรูขนาดใหญ่ให้รูปปั้นนั่นกัน

ก่อนเริ่มภารกิจนี้ ต้องเตรียมอาวุธและเพื่อนร่วมทีมที่เหมาะสมด้วยคือ ต้องเอาบาซูก้าติดตัวไปหรือใช้เครื่องบินที่ติดปืนกลไปและถ้าจะให้ดีเตรียมเอาเพื่อนที่สนับสนุนการโจมตีทางอากาศไปด้วย


จากนั้นเดินทางไปที่เป้าหมายของภารกิจที่รูปปั้น Joseph Seed บนเนินเขา Joseph’ word เป้าหมายคือ ยิงทำลายรูปปั้นของ Joseph Seed ให้พังให้หมด


แล้วลุยดงศัตรูเข้าไปในซากรูปปั้นจากชั้นล่างขึ้นไปจนถึงชั้นบนสุดแล้วเผาหนังสือคำสอนของ Joseph Seed ที่ Faith บูชาซะก็จะจบภารกิจ



เข้ามาที่จุดภารกิจ Story Mission ของ Dr. Charles Lindsey ที่ Mastodon Geothermal Park ทางเหนือของ Moonflower Trailer Park เข้าไปจัดการศัตรูในพื้นที่ให้หมดแล้วเข้าไปคุยกับ Dr. Charles


                               Story Mission: DOCTOR’S ORDERS




Dr. Charles – ขอบคุณพระเจ้าที่คุณเข้ามาช่วยไว้ได้ทัน ผมเกือบเสียงานวิจัยไปหมดแล้ว ขอบคุณจริงๆที่ช่วยผมไว้นะ  โอเค ผม Dr. Charles Lindsey ผมเป็นหนึงในทีมของพวกต่อต้านจากทางใต้ Faith กับพวก Angels ของเธอเขาโจมตีพวกเราเป็นวันๆแล้ว ผมคิดว่าผมรู้วิธีที่จะทำเหยื่อล่อพวก Angles ได้แล้วล่ะ แต่ตำราส่วนผสมในการทำเหยื่อมันอยู่ในกระเป๋าของผมที่พวกมันโยนลงไปในบ่อน้ำแล้วน่ะสิ และ เอ่อ ผมก็ว่ายน้ำไม่เป็นซะด้วยสิ ผมรู้ๆ ใครจะว่ายน้ำไม่เป็นบ้าง ก็นั่นแหละ ผมเลยอยากให้คุณช่วยดำลงไปเอากระเป๋าผมให้หน่อย 

ดำน้ำลงไปตรงจุดเป้าหมายของภารกิจเพื่อลงไปเก็บกระเป๋าของ  Dr. Charles ที่จมอยู่ใต้น้ำกลับมาให้เขา เมื่อกลับขึ้นมาจัดการป้องกันพื้นที่จากพวกสาวกที่บุกเข้ามาให้หมดแล้วเอากระเป๋าไปคืนให้ Dr. Charles จากนั้นเขาจะต้องการให้ไปหาวัตถุดิบที่จะเอามาใช้ในการทดลองต่อ สิ่งที่ต้องไปหามาคือ
- หนังหมีดำ 2 อัน
-หนังของตัว Promghorn 2 อัน


ถ้ามีไอเทมทั้ง 2 อย่างติดตัวไว้อยู่แล้วก็เอาไปให้ Dr. Charles ได้เลย แต่ถ้ายังไม่มีก็ต้องไปล่ามา โดยวิธีการล่านั้นหลังคุยจบก็จะได้จุดตำแหน่งของจุดล่าสัตว์ (Hunting Spot)ของทั้ง หมีดำและ Promghorn มาให้เมื่อกำหนดภารกิจแล้วเปิดดูแผนที่ก็จะเห็นเป็นจุดหมายให้อย่างชัดเจน


โดยในจุดล่าหมีดำนั้น ให้กดเมนูอาวุธขึ้นมาแล้วเลือกไปที่เหยื่อ (BAIT) ที่ช่องด้านล่างแล้วโยนลงไปเพื่อล่อหมีดำให้ออกมาเมื่อมันออกมาก็จัดการมันเพื่อเก็บหนังได้เลย


ส่วนในจุดล่า Promghorn นั้น หากมองไม่เห็นตัวพวกมันให้กดเมนูอาวุธแล้วกด R1 เลื่อนไปยังเมนู Utility แล้วเลือกยา Ultimate Hunter กดสี่เหลี่ยมใช้มันจะทำให้ประสาทการรับรู้ถึงตำแหน่งของสัตว์ไวขึ้นสามารถเห็นตำแหน่งของพวก Promghorn ได้จากระยะไกลได้ ไปล่าวัตถุดิบที่ต้องการมาให้ครบแล้วเอากลับไปให้ Dr. Charles ที่ห้องทดลองใน Hope County Jail  ก็จะจบภารกิจนี้


                               Story Mission: CLINICAL STUDY



หลังจากจบภารกิจ Story Mission: DOCTOR’S ORDERS แล้วคุยกับ Dr. Charles ที่ห้องทดลองใน Hope County Jail  อีกครั้ง หลังจากนำวัตถุดิบมาให้เขาจนครบแล้ว เหยื่อล่อพวก Angles ก็ถูกสร้างออกมาได้สำเร็จ แต่ ยังต้องการทดสอบการใช้งานก่อน Dr. Charles จึงต้องการให้เดินทางไปยังไร่ปลูกดอก Bliss ของพวกลัทธิเพื่อทดสอบเหยื่อกับพวก Angles ที่ถูกนำมาใช้แรงงานที่นั่นดู


เดินทางไปที่เป้าหมายของภารกิจที่ Pepper Residence จัดการพวกสาวกของลัทธิให้หมด (ห้ามยิงพวก Angles) จากนั้นเอาเหยื่อล่อตัวอย่างที่ได้มาจาก Dr. Charles ไปวางที่โต๊ะเป้าหมายแล้วรีบมันตั้งหลักบนหลังคา เมื่อพวก Angles และตัวสกังก์ที่อยู่ในพื้นที่เข้ามากินเหยื่อก็จัดการฆ่าพวกมันให้หมด

เมื่อทดลองเสร็จ Dr. Charles จะบอกว่าเขามันใจในเหยื่อนี้ 75% แล้วแต่ยังต้องปรับปรุงอีกนิดหน่อยโดยเขาจะให้หาไอเทมวัตถุดิบมาเพิ่มเติมนิดหน่อย หลังจากคุยจบจะได้จุดตำแหน่งการล่า (Hunting Spot) มา โดยวัตถุดิบที่ต้องหาจากนี้คือ
-หนัง Skunk 2 อัน สามารถเก็บในพื้นที่ภารกิจนี้ได้เลยเพราะพวกสกังก์ออกมาให้ยิงเพียบอยู่แล้ว



-หนังหมี Grizzly 3 อัน แต่ หมี Grizzly นั้นจะหายากหน่อยเพราะไม่มีจุดล่าใน Holland Valley ซึ่งถ้าไม่ได้จาก Side Mission ที่ต้องฆ่าหมี Grizzly ต่างๆที่ผ่านมา หรือ ได้จากหมี Grizzly ที่หลุดมาจากภาพลวงตาของหมีดำพื้นที่นี้ หากคุณเผลอไปขายหนังหมี Grizzly ไปจนหมดก่อนหน้านี้แล้ว การจะได้หมี Grizzly มาก็มีทางเดียวคือต้องบินไปที่จุดล่าในเขต Whitetail Mountains ดินแดนของ Jacob Seed กันเอาเอง

เมื่อได้วัตถุดิบมาจนครบแล้ว เอากลับไปให้ Dr. Charles ที่ห้องทดลองใน Hope County Jail  ก็จะจบภารกิจนี้และสามารถอัพเกรดเพิ่มความสามารถของเหยื่อ (Bait) ให้สามารถล่อพวก Angles ได้ด้วย



เข้ามาที่จุดภารกิจ Story Mission ของ Xander Flynn ที่ Drubman Marina เข้าไปคุยกับ Xander เขาจะบอกถึงเรื่องของสารกล่อมประสาทที่ชื่อ The Bliss ที่ตอนนี้แทบจะถูกพวกคลั่งลัทธิกระจายไปจนทั่วพื้นที่ไปหมดแล้ว

                               Story Mission: ECO – WARRIORS



เดินทางไปที่จุดภารกิจที่คลังเก็บสินค้าที่ Ghost Cat Mine ริมแม่น้ำ Henbane เมื่อเข้ามาแล้วเป้าหมายคือทำลายคอนเทรนเนอร์สีเขียวในพื้นที่ให้หมดทั้ง 20 อัน ก็จะจบภารกิจ และจะได้เฮลิคอปเตอร์ Tulip เป็นรางวัลด้วย


-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------


                                              Resistance Mission 




เมื่อดำเนินเกมไปจนสามารถเก็บสะสมค่าความเป็นเจ้าของพื้นที่ Resistance Points หรือ RP ได้ในระดับนึงแล้ว ก็จะพบจุดภารกิจ Resistance Level 1 ระหว่างที่กำลังเดินทางไปมาเป็นตัวภาพลวงตาของ Faith Seed ที่ออกมาแนะนำตัวของเธอ



                                        Resistance Level 1: A LEAP OF FAITH



Faith – ชั้นรู้ว่าคุณได้ยินเรื่องราวของชั้นมาบ้างแล้ว เค้าหาว่าชั้นเป็นคนขี้โกหกและชอบวางยาจิตใจของผู้คน เอาล่ะ ให้ชั้นเล่าเรื่องราวที่ต่างออกไปดีกว่า เรื่องจริงๆที่คุณต้องรู้ .. เรื่องของเด็กผู้หญิงคนนึง ที่เคยถูกชุมชนเนรเทศ โดนเพื่อนรังแก ถูกทำร้ายโดยครอบครัวของเธอเอง ตัวคนเดียว ต้องการความช่วยเหลือ และอยากที่จะตาย และจากนั้นเธอก็พบกับ The Father


เขาให้ความหวังและความมั่นใจกับเธอ The Father แสดงให้เธอเห็นว่า เธอเป็นคนที่เต็มไปด้วยความรักในชีวิตและเป็นคนพิเศษแค่ไหน เขามอบครอบครัวใหม่กับเธอและยอมรับในตัวตนอย่างที่เธอเป็น สาวน้อยผู้นั้นไม่อยากตายอีกต่อไป เธอได้รับเจตจำนงใหม่ในชีวิต 



วันนึง The Father พาเธอมายังที่แห่งนี้แล้วถามเธอว่า เธอจะศรัทธาในตัวเขาหรือไม่ ? ยอมตายแทนเขาได้มั๊ย? เด็กสาวที่เต็มไปด้วยความหวังแห่งการมีชีวิตอยู่มากกว่าใครตอบตกลงอย่างทันใดโดยไม่กลัวสิ่งใดอีก The Father บอกเธอต่อว่า งั้นเธอต้องทดสอบ เขาคงอยากเห็นศรัทธาของเธอที่มีต่อเขา จากนั้นเธอก็หลับตาแล้วทิ้งตัวลงไป ….  The Father รักษาคำพูดของเขาเสมอ เส้นทางสู่อีเดนนั้นจะสดใสแค่ไหนขึ้นอยู่กับความศรัทธาของผู้นั้น 



Burke – เดินตามทาง แล้วโดดสิ 
Faith – คุณต้องมี ศรัทธา .. เอาสิ โดดเลย ชั้นจะให้เจตจำนงใหม่ในชีวิตคุณ ชั้นจะทำให้คุณเป็นอิสระ 



Faith –  .... เป็นไงบ้าง รู้สึกถึงความแตกต่างมั๊ย ? รู้สึกถึงความสดใหม่ของชีวิตรึเปล่า ...นี่มันแค่เริ่มต้นเท่านั้น ก้าวแรกนั้นน่ากลัวเสมอ เราถึงต้องยึดมั่นในศรัทธาอย่างแน่วแน่ไงล่ะ  ..จงเดินไปตามเส้นทางแห่งการแสวงบุญ เดินไปตามเส้นทาง แล้วเราจะเจอกันอีกเร็วๆนี้ ....


เมื่อดำเนินเกมไปจนสามารถเก็บสะสมค่าความเป็นเจ้าของพื้นที่ Resistance Points หรือ RP ได้ในระดับเลเวล 2 แล้ว เมื่อเดินผ่านจุดที่มีไอของยา The Bliss จนเกิดอาการเมายาแล้วสลบไป เหตุการณ์ Resistance Level 2 ก็จะปลดล็อกและเริ่มขึ้นทันที

                             Resistance Level 2: THE BLISS



Faith – คุณกำลังได้รับเชิญเข้าสู่บ้านของพวกเรา เข้าสู่หัวใจของพวกเรา จงเชื่อมั่นในทางเดินของตัวเองแล้วคุณจะได้รับคำตอบในสิ่งที่คุณค้นหา แม้กระทั่งผู้ที่ต่อต้านพวกเราก็จะได้รับการช่วยเหลือเช่นกัน เราทุกคนต่างก็ต้องการการชี้แนะในช่วงเวลาแบบนี้ และตอนนี้คุณก็จะได้เห็นและเข้าใจความจริง

         

Joseph – เพราะงั้นเราจึงต้องเข้มแข็ง เราต้องตื่นตัวอยู่เสมอ เพราะสิ่งที่เราเห็นด้านนอกนั่นเราสร้างมันมาด้วยกัน ใน Eden แห่งใหม่ของเรา  ด้วยความรัก แล้วพวกเขาก็มาและพยายามพรากทุกๆอย่างของเราไป ทุกๆอย่างที่เราสร้างเอาไว้ คุณตัดสินผม คุณตัดสินพวกเรา คุณตัดสินจากสิ่งที่เราทำได้ ผู้คนว่า ผมเป็นบ้า แต่เมื่อคุณตื่นขึ้นในตอนเช้า คุณจะได้รับรู้ถึงข่าวเดิมๆในสิ่งที่ผมทำ 


Joseph –..คุณไม่เคยเห็นความเลวร้ายที่เกิดขึ้นในโลกใบนี้บ้างหรอ? เนี่ยหรอโลกที่เราสร้างไว้ให้ลูกหลานของเรา? ชุมชนถูกฉีกออกจากกัน ผู้นำอ่อนแอเกินกว่าจะทำหน้าที่ของตัวเอง เป็นคนพาลที่ดีแต่ทำแต่เรื่องวุ่นวายแทนที่จะนำไปสู่ความชอบธรรม ... ผมไม่ได้ร้องขอที่จะเป็น แต่ผมถูกเลือกให้เป็น ..


 Joseph – ดูสิ เห็นมั๊ย ทุกสิ่งที่จะเกิดขึ้นในตอนจบ คุณสามารถรู้สึกถึงมันได้ ผมรู้ว่าคุณสัมผัสถึงมันได้ เห็นมั๊ย จุดอ่อนและความอ่อนแอของมนุษย์ชาติ เรากำลังมุ่งไปสู่ความพินาศของพวกเราโดยไม่มีใครคิดจะลงมือทำอะไรเลย ผมเห็นถึงมันได้ คุณก็เหมือนกัน และพวกเราไม่ได้บ้า แล้วพวกเราควรจะทำยังไง? เราต้องนั่งรอสิ่งที่เราหลีกเลี่ยงไม่ได้หรอ? ผมก็ไม่ได้อ้างว่าผมเป็นคนที่สมบูรณ์แบบหรอก ผมแค่เห็นถึงบางสิ่งที่กำลังจะมา บางสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น และผมเลือกที่จะลงมือทำ ผมเป็นผู้นำ เพราะสังคมที่ถูกทำลายจนแตกหักนั้นมีแต่ทางที่ต้องเดินหน้าอย่างเดียว แต่มันเป็นการเดินหน้าแบบย้อนกลับไปยังจุดที่เราเคยเป็นมา บริสุทธิและไร้เดียงสา ปลอดภัยและถูกปกป้องในสวนของเรา และ ผมปกป้องคุณได้ 



นายอำเภอ Whitehorse – เร็วๆสิให้ Adrenaline กับเข้าสิ !!! เร็วๆๆ อย่าฝืนสิเจ้าเด็กใหม่ ใจเย็นสิ !!
Tracey – อย่าดิ้นสิเว้ย ชั้นต้องการให้นายอยู่นิ่งๆหน่อย !!



นายอำเภอ Whitehorse – นั่นแหละ !! ดีมาก ดีๆๆ  พระเจ้านายทำให้พวกเรากลัวกันไปหมดเลยเจ้าเด็กใหม่ 
Virgil – นายอำเภอครับ พวกเด็กๆของเราที่กลับมาไม่ได้ข่าวอะไรเลย พวกเขาบอกว่า ..
นายอำเภอ Whitehorse – ได้ข่าว Burke รึเปล่า?
Virgil –  ตามที่เราคาดคะเนไว้ ..
นายอำเภอ Whitehorse – ให้ตายสิ เขาอยู่ที่ไหน เจอรึยัง?
Virgil –  ให้ตายสิคุณใจเย็นหน่อยได้มั๊ย
นายอำเภอ Whitehorse – นายเริ่มดีขึ้นแล้วนะเจ้าเด็กใหม่ นอนพักซะ เจอกันตอนเช้า


            Tracey – นายสร่างจากพิษ The Bliss เร็วมากเลย ช่วงแรกๆมันอาจจะมึนๆหัวหน่อยนะ


เมื่อดำเนินเกมไปจนสามารถเก็บสะสมค่าความเป็นเจ้าของพื้นที่ Resistance Points หรือ RP ได้ในระดับเลเวล 3 แล้ว เมื่อเดินผ่านจุดที่มีไอของยา The Bliss จนเกิดอาการเมายาแล้วสลบไป เหตุการณ์ Resistance Level 3 ก็จะปลดล็อกและเริ่มขึ้นทันที


                     Resistance Level 3: IGNORANCS IS BLISS



Faith – ขอต้อนรับเข้าสู่ The Bliss … นี่คุณยังไม่เข้าใจอีกหรอว่าเรากำลังพยายามจะสร้างอะไรกันอยู่? หรือคุณไม่แคร์มันมากกว่า ชั้นเห็นคุณวิ่งไปนู้นมานี่อยู่ตลอด มันก่อให้เกิดความรุนแรงต่อผู้อื่นนะ พวกเขาไม่ได้ทำร้ายคุณเลย พวกเขาอยู่อย่างสันติที่นี่ พวกเขาแค่อยากอยู่ที่นี่ ชั้นรู้ว่าคุณยังเต็มไปด้วยความสงสัย แต่นี่เป็นทางเดียวที่จะทำให้เรื่องนี้จบลงอย่างสวยงาม ไม่มีอะไรที่คุณจะเปลี่ยนแปลงมันได้อีกแล้ว เพื่อนๆคุณที่อยู่ด้านนอกนั่น พวกเขาถูกควบคุมโดยความกลัว พวกเขาไม่เข้าใจ แต่เขาคนนั้นเข้าใจ เดี๋ยวเขาจะบอกให้คุณเข้าใจเอง


Burke – ไง เจ้าเด็กใหม่ มาๆ มานี่สิ มาเถอะไม่เป็นไร ชั้นรู้ว่านายจะมาพาชั้นกลับไป แต่ชั้นโอเค เธอเองก็รู้ดี ทุกๆคนต่างก็รู้ดี นายคิดว่าที่นายทำไปคือสิ่งที่ถูกต้อง นายคิดว่าชั้นต้องการความช่วยเหลือ แต่ มันไม่ใช่ ไม่ใช่เลย ชั้นไม่ต้องการจะกลับไปอีกแล้ว แล้วนาย แล้วนายเคยหยุดมองมั๊ย ว่าชีวิตนายเริ่มดีขึ้น ชั้นหมายถึง กับสิ่งที่นายทำมันได้จริงๆ เราต่างก็ชอบบอกว่าเราสามารถทำได้ทุกอย่างใช่มั๊ย? นักร้องยอดนิยม ดาราหนังดังๆ เราก็เป็นมันได้หมดเลยใช่มั๊ยเจ้าเด็กใหม่ ไม่ ไม่ๆ นั่นมันไม่จริงเลย เราแค่อยู่ในโลกธรรมดาๆที่ต้องทำตามที่คนอื่นบอกให้เราทำ วันแล้ววันเล่า ทุกคนคิดว่าพวกเขามีเจตจำนงอิสระ แต่ ไม่เอาน่า นานแค่ไหนที่นายทำอะไรซักอย่างโดยไม่ต้องสนใจอะไร ความต้องการหรอ? ไม่ใช่เลย เจ้าเด็กใหม่ เราไม่ได้ใช้ชีวิตของเราเลย เราแค่อยู่กับพวกเขาแล้วคิดว่าเราได้อยู่ด้วยเจตจำนงอิสระ นั่นมันเรื่องโกหก มันภาพลวงตา ให้ตายสิ ชั้นเคยทำแบบนั้นไปได้ยังไง ชั้นทำเป็นแค่ถูกครับพี่ดีครับนายได้อย่างเดียว อย่างเก็บเด็กส่งของ หรือคนเก็บสะสมขยะ ชั้นทำมาหมดแล้ว ที่พูดมาก็เพราะว่า ... แล้วถ้านั่นเป็นชีวิตจริง ประเด็นคืออะไร ? ที่นี่ให้โอกาสชั้นได้มีโอกาสเปลี่ยน เปลี่ยนเป็นบางสิ่งที่ชั้นไม่เคยเป็นได้มาก่อน เป็นคนที่มีความสุข และในท้ายที่สุดนะเจ้าเด็กใหม่ มันก็แค่ ความสุข ไม่ใช้หรอกหรอที่สำคัญที่สุดน่ะ ... 



จากนั้นพยายามเดินตาม Burke ให้ทันก่อนที่เขาจะเดินพ้นประตูไป เมื่อทำสำเร็จก็จะสามารถช่วย Burke กลับมาที่ฐานในเรือนจำ Hope County Jail  ได้สำเร็จ


นายอำเภอ Whitehorse – พระเจ้า !! Tracey !! เอาสลิงมานี่เร็ว !! ใจเย็น Burke ใจเย็น นายปลอดภัยแล้ว มองที่ชั้นนี่ Burke 
Burke – อ๊ากกก ไม่ๆๆๆ ไม่เอายาแล้วไม่เอา !!!!
นายอำเภอ Whitehorse – Burke เห็นแก่พระเจ้า หยุดได้แล้ว ใจเย็นนน



Burke – ไม่เอา ไม่เอายาอีกแล้ว !!
นายอำเภอ Whitehorse – โอเคๆ เอาล่ะ อยู่เฉยๆ Burke นายยังไม่หมดฤทธิ์ยา Bliss นะ 
Burke – ไม่เอายา เอาปืนลงเถอะ ผมโอเคแล้วนายอำเภอ ผมจะไม่ตะโกนแล้ว โอเคๆ ..
นายอำเภอ Whitehorse – เอาล่ะๆ นั่งลงๆ ค่อยๆ พักก่อน Burke 



Tracey – คุณจะเอาเขาไว้ที่นี่ไม่ได้นะ 
นายอำเภอ Whitehorse – ไม่เอาน่า Tracey
Tracey – ไม่ต้องมาเทซ้ง เทรซี่ ชั้นบอกก่อนนะนี่เป็นความคิดที่แย่มากๆ ชั้นอยู่ที่นี่มาตั้งแต่เกิด คุณไม่รู้จักนังนั่นดีเท่าชั้นหรอก ถ้าเธอลองขุดเข้าไปในหัวใครแล้วล่ะก็ เราไม่มีวันเชื่อใจเขาได้หรอก จำไว้ !!
Virgil –  เอ่อ ..ดะ เดี๋ยวผมจะลองไปคุยกับเธอให้เอง ..    


เมื่อดำเนินเกมไปจนสามารถเก็บสะสมค่าความเป็นเจ้าของพื้นที่ Resistance Points หรือ RP ได้ในระดับเลเวล 4 จนเต็มแล้ว จะเกิดอาการเมายา The Bliss แล้วสลบไป เหตุการณ์ Resistance Level 4 ก็จะปลดล็อกและเริ่มขึ้นทันที


                                           Resistance Level 4




Faith – ชั้นไม่เข้าใจ ... คุณคิดว่าคุณจะทำทุกอย่างเพื่อให้ได้สิ่งที่ต้องการโดยไม่มีผลตามมาน่ะ? ชั้นคิดว่ามันเหมาะสมและยุติธรรมดีแล้วนะ แต่คุณมันเห็นแก่ตัว คุณจะไปบังคับคนอื่นให้หนีไปทั้งที่เขาไม่อยากไปไม่ได้ คุณคิดว่าสิ่งที่คุณทำมันทำให้คุณเป็นอะไร ฮีโร่ งั้นหรอ?



Faith – คุณรู้มั๊ยการแสดงความโอหังต่อหน้าพระเจ้ามันจะเป็นยังไง ชาวกรีกบอกว่ามันเป็นเรื่องอันตรายมากเลยนะ มันเป็นเหมือนเชื้อเชิญให้เทพธิดาแห่งเวรกรรมมาตามสนองสำหรับใครก็ตามที่แสวงหาการลงโทษ ถ้าความรุนแรงเป็นภาษาของคุณ ก็เอาเลยสิ ..


เมื่อเลือดของพวกเขาอยู่ในมือของคุณ เราจะเห็นว่าคุณนั้นเป็นฮีโร่มากแค่ไหน ชั้นเสียใจที่ต้องทำอย่างนี้ ชั้นก็อยากให้มีทางอื่นเหมือนกัน 




                                              Faith –..แต่คุณ ไม่มีทางเลือก 





                                       Story Mission: THE LESSON


เมือรู้สึกตัวอีกครั้งก็พบว่ามาอยู่หน้าเรือนจำ Hope County ที่ตอนนี้ด้านในมีวิทยุแจ้งเตือนเข้ามาว่าถูกศัตรูบุกโจมตีอย่างหนัก ทำให้ต้องรีบเข้าไปด้านในเพื่อช่วยทุกคน ตอนนี้ทั้งเรือนจำเต็มไปด้วยศัตรู ทางเข้าด้านหน้าถูกปิดหมดต้องลุยเข้าไปทางข้างกำแพงฝั่งขวาเพื่อปีนรถขึ้นไปด้านบนกำแพงแล้วไปปีนต่อขึ้นไปที่ช่องระบายอากาศฝั่งซ้ายแทน


เมื่อเข้าไปด้านในแล้ว จะพบว่าพวกศัตรูจับคนไว้เป็นตัวประกันที่ชั้นล่าง จัดการพวกศัตรูให้หมดแล้วช่วยตัวประกันให้หมดก่อนเข้าไปคุยกับ Tracey ที่ถูกจับอยู่ในห้องขัง เธอจะบอกให้ไปหากุญแจมาเพื่อไขประตูปล่อยเธอออกไป โดยต้องไปหากุญแจจากศพของพวกศัตรูที่นอนตายอยู่ในห้องนี้จนเจอแล้วเอาไปไขปล่อยตัว Tracey ออกมา แล้วเข้าไปด้านในต่อจนถึงทำงานด้านในจะพบกับศพของ Virgil เหมือนกับที่เห็นในนิมิตเมายาที่ Faith ให้ดู


Tracey – มาช่วยกันหน่อย กดแผลเขาไว ไม่เอาน่า Virgil อย่าเพิ่งตายนะ ไม่ๆ ....เขาตายแล้ว ฮืออๆๆ นี่คือสิ่งที่นังนั่นทำ กอบโกยและทำลาย ไปหาตัวเธอ แล้วฆ่าซะ อย่าให้มันหนีไปได้ทั้งๆแบบนี้ ...


                                  Story Mission: PARADISE LOST




Faith – ที่นี้คุณก็เห็นแล้วนะว่าเราทำอะไรได้บ้าง .. มาหาชั้นสิแล้วชั้นจะแสดงให้เห็นถึงโลกที่คุณไม่เคยฝันว่าจะได้เห็นมันจริงๆ 

Amazing Grace, How sweet the sound
That saved a wretch like me
I once was lost, but now am found
T'was blind but now I see

Faith – นายอำเภอของคุณเคยทำให้คุณออกนอกเส้นทาง แต่ตอนนี้เขาเข้าใจทุกอย่างแล้ว เขาจึงเข้าร่วมเป็นครอบครัวเดียวกับเราในอีเดน .. และถ้าคุณพยายามที่จะหยุดเขาล่ะก็ ... ฮ่าๆๆ



กำแพงที่กั้นระหว่างคุณกับ The Father กำแพงนั้นที่กันคุณไม่ให้เห็นซึ่งความจริง ชั้นจะทำลายกำแพงนั้นให้เอง นายอำเภอของคุณเขาใกล้แล้ว ใกล้ที่จะพบความจริง คำสอนของ The Father กำลังฝั่งแน่นในใจเขา และถ้าเขาทำได้ เขาก็จะไม่มีวันกลับมาได้อีก แล้วคุณก็ไม่มีทางช่วยเขาได้ด้วย 



คุณไม่รู้ว่าเขาจะทำอะไร คุณไม่เห็นว่าคุณกำลังทำอะไรอยู่หรอ? ใช้ชีวิตกับคมดาบก็จะตายด้วยคมดาบ 
นี่ไม่ใช่ความผิดของชั้นเลย คุณคิดว่าชั้นต้องการทำแบบนี้หรอ? เขามอมยาชั้น ข่มขู่ชั้น ชั้นแค่ 17 เอง ยังเด็กอยู่เลย  คุณไม่มีทางรู้อย่างที่ชั้นรู้หรอก 



Faith – คุณก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดี คุณไม่รู้ว่าทำอะไรลงไปใช่มั๊ย? โจเซฟเชื่อว่า เขาเป็นผู้ถ่ายบาปของพวกเรา และคุณเป็นใครถึงมาตัดสิน คุณเริ่มมันแล้วคุณก็ต้องเป็นคนจบมันด้วยนะ มันต้องเป็นแบบนั้นอยู่แล้ว .. คุณเองก็จะพบเส้นทางของตัวเอง คุณช่วยนายอำเภอได้ คุณเป็นฮีโร่ และหลังจากนั้น คุณก็จะต้องเลือก 


                            Story Mission: WALK THE PATH


หลังจากจัดการ Faith ลงได้แล้ว เดินออกจากสภาพเมายาจนออกมาตามเส้นทางของความเป็นจริง เป้าหมายคือเข้าไปด้านในบังเกอร์ของ Faith ด้านในเต็มไปด้วยไอของดอก Bliss ที่ฟุ้งไปทั่วจนต้องอยู่ท่ามกลางความจริงและอาการภาพหลอนเพราะฤทธิ์ยา จนถึงห้องขังของนายอำเภอ Whitehorse


นายอำเภอ Whitehorse - เมื่อร้องเพลงสรรเสริญของเขาแล้ว เราถึงจะได้เริ่มต้น ....ชั้นเหลือเวลาไม่มากนะเจ้าเด็กใหม่ ..The Bliss นายต้องเป็นคนหยุดมัน นายต้องรีบแล้ว  นายต้องรีบ เจ้าเด็กใหม่ ...


จากนั้นเข้าไปต่อจนถึงห้องด้านใน สิ่งที่ต้องทำคือปิดวาล์วทั้ง 5 อันเพื่อหยุดการกระจายของไอ The Bliss ท่ามกลางศัตรูมากมายที่อยู่ในห้อง มันพร้อมจะรุมโจมตีเข้ามาทันทีที่มันเห็น และมันจะทำให้ภารกิจยากขึ้นเป็นเท่าตัว ทางเลือกนึงคือ คุณต้องพยายามลอบฆ่าพวกศัตรูในห้องให้ได้มากที่สุดเพื่อค่อยๆปิดวาล์วไปทีละอัน เมื่อเลี่ยงไม่ได้แล้วค่อยลุย


เมื่อปิดวาล์วทั้ง 5 อันครบแล้ว เปิดประตูสุดทางไปห้องถัดไปจัดการทำลาย Central Pumps ทั้ง 3 อันให้หมดแล้วลุยต่อเข้าไปด้านในจนถึง Silo เพื่อไปที่ทางออกของบังเกอร์ให้เร็วที่สุด



 เมื่อหนีออกจากบังเกอร์ของ Faith ได้สำเร็จ พวกกลุ่มต่อต้านก็จะระเบิดที่นี่จนเป็นจุลได้ในที่สุด



Tracey – สาระรูปคุณดูไม่ได้เลยนะนายอำเภอ 
นายอำเภอ Whitehorse – ใช่ ผมก็รู้สึกแบบนั่นเหมือนกัน ..
Tracey – ให้ช่วยพาเข้าด้านในมั๊ย?
นายอำเภอ Whitehorse – ไม่ต้องเลย ผมเดินเองได้ 
Tracey – ชั้นไม่คิดว่านายจะทำมันได้จริงๆนะคุณผู้ช่วย คุณช่วยพวกเราไว้ อย่าลืมเรื่องในวันนี้ซะล่ะ 

นายอำเภอ Whitehorse – นายรู้มั๊ย ก่อนที่นายจะมา ชั้นหมดหวังกับทุกอย่างไปแล้ว ไม่เจอแม้ทางออกเลยจริงๆ แต่นายก็นำพาพวกเราไปที่ทางออกนั้นได้ คนดีมากมายต้องมาตายที่นี่ แต่หลายคนก็ยังอยู่ พวกเรารอดมาได้ก็เพราะนาย ชั้นล่ะโคตรภูมิใจในตัวนายจริงๆเลย ตอนนี้ ชั้นอยากให้นายตามหาไอ้ Joseph Seed ห่าอะไรนั่น แล้วจับมันมาดำเนินคดีตามกฎหมาย หรือไม่ก็ กระทืบมันให้จบดินซะ  .. นั่นเป็นคำสั่งนะคุณผู้ช่วย ..



Joseph Seed – ผนึกได้ถูกเปิดขึ้นแล้ว .... Faith ของผม ..Faith ของผม ตอนแรกเธอไม่ได้ชื่อนี้หรอก แต่เธอเต็มไปด้วยความเชื่อมันและ ศรัทธรา  เธอเองก็เหมือนทุกคนที่มาหาผม แตกหักและหลงทาง ผมมอบศรัทธราให้กับเธอ และเธอก็กลายเป็นนางฟ้าที่ สมบูรณ์ และเจ้าพวกคนบาปก็มาพรากเธอไปจากพวกเรา และถ้าเธอคือศรัทธรา ที่หลอมรวมเราไว้ด้วยกัน และเมื่อปราศจากศรัทธราเราก็จะหลงทาง ฉะนั้นเราต้องไม่เสียศรัทธรา  และคนที่พยายามทำให้เราต้องเสียศรัทธราไปจะต้องได้รับความทุกข์ทรมานแสนสาหัส 



แม้จะจัดการ Faith ลงได้แล้ว แต่สาวกของ Eden’s Gate ที่เหลือยังมีเหลืออยู่อีกบางส่วนทำให้สามารถตามเก็บภารกิจย่อยที่ยังไม่ได้ทำได้ และเมื่อนายอำเภอ Whitehorse ติดต่อมาจาก เรือนจำ Hope County Jail  ถึงเรื่องภารกิจที่ค้างคาของ Virgil ที่เสียชีวิตไปแล้ว นั่นคือการทำลายขบวนการผลิตของต้น Bliss ที่พวกสาวกลัทธิของ Faith นำมาทำยาเสพติดมอมเมาประชาชน ภารกิจ Sin of The Father จึงปรากฏออกมาให้ทำ



                                    Story Mission: Sin of The Father





จากนั้นเดินทางไปที่เป้าหมายของภารกิจที่ Jessop’s Conservatory ซึ่งตอนนี้พวกสาวกลัทธิได้เข้ามายึดที่ปลูกพืชในเรือนกระจกกลายเป็นที่เพาะปลูกต้น Bliss ไปแล้ว เข้าไปจัดการศัตรูให้หมดเพื่อยึดพื้นที่กลับคืนมาก่อน



แล้วเข้าไปที่ห้องเก็บของใกล้ๆกับแปลงปลูกเพื่อปิดวาล์วน้ำสปริงเกอร์ที่รดต้นไม้ให้หยุดก่อน จากนั้นก็ใช้ปืนไฟหรือระเบิดไฟปาใส่เพื่อเผาแปลงปลูก Bliss ให้หมดโดยระหว่างที่เผาแต่ล่ะแปลงจะมีพวกสาวกบุกมาพยายามขัดขวาง เมื่อจัดการเผาทั้ง 3 แปลงจนหมดแล้วจะมีวิทยุแจ้งพิกัดของ Feeney หัวหน้าผู้รับผิดชอบการผลิต The Bliss มา



เดินทางไปยังจุดหมายของภารกิจที่ Cheeseburger Bobble Head ใกล้ๆกับ Faith Gate ลงไปในห้องใต้ดินแล้วกำจัด  Feeney ซะ ก็จะจบภารกิจนี้


                  ตำแหน่งของ Shrine ทั้ง 16 จุดใน Henbane River เขตแดนของ Faith Seed




------------------------------------------------------------------------------------------------------------------


                                            บทที่ 4


                                   WHITETAIL MOUNTAINS 

                                                (ดินแดนของ Jacob Seed)


                                        Guns for Hire Mission 




                                 Story Mission: A Dish Served Cold



เดินทางเข้าไปที่ Baron Lumber Mill ตามที่ได้รับวิทยุขอความช่วยเหลือจาก Jess Black เข้าไปในพื้นที่จัดการศัตรูให้หมดเพื่อยึดพื้นที่มาเป็นของฝ่ายต่อต้านก่อนแล้ว ทุกคนที่ถูกจับเอาไว้ก็จะถูกปล่อยออกมารวมถึง Jess Black ด้วย 


Jess Black – ขอบใจนะที่ช่วยชั้นออกมา ชั้นชื่อ Jess นายคงกำลังสู้กับพวกลัทธิบ้านี่อยู่เหมือนกันล่ะสิ เดาว่าคงจะรู้จักกับลุง Dutch ของชั้นแล้วแน่นอน ชั้นมีเวลาไม่มาขอเข้าประเด็นเลยแล้วกัน ตอนนี้ชั้นกำลังตามล่าไอ้ลูกน้องคลั่งของไอ้ Jacob คนนึงอยู่ มันชื่อ The Cook  ใช่ มันฟังดูไม่ค่อยน่ากลัวเท่าไหร่แต่เชื่อชั้นเถอะมันโคตรเหี้ยเลย ชั้นเกือบจะล่ามันได้แล้วนะแต่ไอ้พวก Peggie มันตามมาสมทบซะก่อน และถ้านายกำลังจะจัดการไอ้พวกคลั่งลัทธิใน Ehitetails อยู่ นายจะเอาด้วยกับชั้นก็ได้นะ ไปตามล่าไอ้ Cook ด้วยกัน อย่ามัวเสียเวลาเลย ตามชั้นมา !! 


จากนั้นตาม Jess ไปยังแค้มป์ของพวกศัตรูแล้วเข้าไปช่วยพวกต่อต้านที่ถูกจับไว้ในพื้นที่ 3 คนออกมาโดยห้ามให้เชลยที่ถูกจับโดนฆ่าตายก่อนด้วย ตาม Jess เข้าไปช่วยพวกต่อต้านที่ถูกจับอยู่ในแค้มป์ศัตรู 2 ที่ แล้วเดินทางต่อไปยังแค้มป์ที่ 3 ก็จะพบ The Cook  ที่นี่ เข้าไปจัดการฆ่ามันซะแล้วคุยกับ Jess อีกครั้ง 


Jess Black – ลุง Dutch พูดถูก ถึงแม้ The Cook มันจะตายแล้วชั้นก็คงไม่ได้รู้สึกอะไรอยู่ดี ที่ผ่านมาก็อยู่เพื่อตามหาตัวมันมาตลอด แต่ตอนนี้ ฆ่ามันได้แล้ว ชั้นก็ไม่รู้เลยว่าต่อไปจะทำอะไรต่อดี ลุง Dutch รู้ทันทุกเรื่องจริงๆ ทั้งพวกลัทธิ ..  Eli … บางทีลุงแกอาจจะพูดถูกเรื่องของนายด้วยก็ได้ นาย เอ่อ ..ถ้าอยากให้ช่วยระวังหลังให้ก็เรียกได้ตลอดนะ แล้วก็ ขอบคุณ สำหรับทุกอย่างที่ทำเพื่อชั้นนะ 




                                   Jess Black “The Master Huntress” 
Class – Hunter 
 Skill
Concealment – พวกศัตรูจะเห็นตัวเธอยากมาก  
Feral Friendly – พวกสัตว์ป่าจะไม่เข้าทำร้ายเธอ 



                                   Story Mission: A Right to Bear Arms


เดินทางมาที่ F.A.N.G Center ตามเสียงวิทยุสื่อสารที่ขอความช่วยเหลือจาก Wade Fowler เจ้าของเซ็นเตอร์ เมื่อเข้ามาในพื้นที่แล้วจัดการศัตรูให้หมดเพื่อยึด F.A.N.G Center มาเป็นของฝ่ายต่อต้านก่อนแล้วเข้าไปคุยกับ Wade เจ้าของศูนย์แห่งนี้ที่ขอความช่วยเหลือมา


Wade – ดีใจนะที่นายมาช่วยจากไอ้พวกคลั่งลัทธินั่น แต่มันยังมีปัญหาบางอย่างอีกนิดหน่อย คือเรามีหมีตัวนึงที่ชื่อ Cheeseburger หนึ่งในดาราดังของสัตว์ที่แสดงโชว์ที่นี่ ไม่รู้ว่าเพราะอะไรไอ้พวกลัทธิถึงพยายามจะจับตัวมันไปโชคดีที่มันหนีไปได้ก่อนตอนที่ไอ้พวกลัทธิมันบุกเข้ามา ใครซักคนน่าจะออกไปตามหามันเพื่อให้มันใจว่ามันยังไม่เป็นไร ถ้านายจะไปตามหามันน อย่าลืมเอาปลา Salmon ติดมือไปด้วยล่ะ เอาไปให้เจ้า Cheeseburger มันกิน มันจะได้ญาติดีกับนาย 


จากนั้นเดินทางไปยังเป้าหมายของภารกิจที่จุดตกปลาทางทิศเหนือของ F.A.N.G Center แล้วตกปลาให้ได้ปลา Chinook Salmon มา แล้วเดินทางไปยังเป้าหมายต่อไปที่ Linero Building Supplies 

เข้าไปจัดการศัตรูในพื้นที่ให้หมดแล้วเข้าไปสำรวจให้ทั่วจนพบเจ้า Cheeseburger นอนซมอยู่ด้านใน เอาปลา Chinook Salmon ที่ตกมาได้ให้มันกิน ทันทีที่กินอิ่มเจ้า Cheeseburger ก็จะแสดงความเป็นมิตรด้วย


 ทันทีที่พบตัวเจ้า Cheeseburger แล้วพวกศัตรูจะบุกเข้ามาเพื่อจับตัวมันไป จัดการศัตรูที่บุกเข้ามาให้หมด  Wade ก็จะติดต่อมาด้วยความดีใจก่อนจะมอบเจ้า Cheeseburger ให้ดูแลเพื่อความปลอดภัยจากพวกคลั่งลัทธิที่พยายามจะมาชิงตัวมัน 




                                     Cheeseburger “The Fearsome Grizzly” 

Class – Heavy
 Skill
Bear Arms – เข้าโจมตีศัตรูตรงๆแต่หนักหน่วง   
Cross to Bear – เป็นตัวดึงดูดความสนใจของศัตรูในพื้นที่การต่อสู้ 




                                     Story Mission: The Prodigal Son 


เดินทางมาที่ Fort Drubman ตามเสียงวิทยุสื่อสารที่ถูกส่งมาจาก Hurk Drubman ลูกชายของ Hurk Drubman Sr. อดีตนักการเมืองท้องถิ่นที่เป็นเจ้าของบ้าน เรื่องที่พ่อของเขามีแผนจะจัดการพวกคลั่งลัทธิและกำลังต้องการหาคนช่วยเหลือ


Hurk Sr. – ไง นายคือคนที่กำลังเล่นงานไอ้พวกลัทธิ Eden’s Gate อยู่ในตอนนี้ใช่มั๊ย นึกว่าจะสูงกว่านี้ซะอีก นายมีสิทธิ์ลงคะแนนโหวตเลือกตั้งป่ะ อ่า ช่างมันเหอะ ชั้นก็แค่อยากจะขอความช่วยเหลือเรื่องอื่นมากกว่า เข้าประเด็นเลยล่ะกัน นายรู้จัก Steaming Pile ที่น่าผิดหวังนั่นรึเปล่า นั่นแหละเป้าหมายของเจ้า Hurk Jr. ลูกชายชั้น ไอ้เจ้านี่ถึงมันจะโง่ที่สุดในสามโลกแต่มันก็เป็นคนเอาจริงเอาจังนะ มันกำลังจะไปเอารถหาเสียงคันโปรดของชั้นคืนมา ไปช่วยมันหน่อยแล้วกัน ไปเอารถของชั้นกลับมา ไม่แน่ชั้นอาจจะเริ่มหาเสียอีกครั้งก็ได้ใครจะรู้ 


Hurk Jr. –  โว้ๆๆ เดจาวูชัดๆ นี่เราเคยเจอกันมาก่อนรึเปล่าเนี่ย แต่ก็ช่างเหอะ ฮ่าๆ นายรู้แล้วใช่มั๊ยเรื่องรถของพ่อชั้นที่ถูกพวกคลั่งลัทธิมันชิงเอาไปน่ะ คือถ้าเราเอามันกลับมาให้เขาได้บางทีเขาอาจจะยอมให้ชั้นนอนบนเตียงในห้องแบบสบายๆซักที บอกตรงๆนะเพื่อน นอนข้างนอกแม่งโคตรหนาวเลย เอาล่ะไปกันเถอะเพื่อนไปชิงเอารถของพ่อชั้นกลับมากัน !


จากนั้นตาม Hurk ขับรถเดินทางไปยังหอสังเกตการณ์ Haskell Lookout Tower จัดการศัตรูให้หมดแล้ว Hurk จะขึ้นไปใช้ Zipline โหนตัวลงมาจากด้านบนหอสังเกตการณ์ไปด้านล่างเรื่อยๆ จนถึงแค้มป์ของพวกศัตรูที่รถของ Hurk Sr.จอดอยู่ 


จัดการศัตรูในพื้นที่ให้หมดแล้ว Hurk จะขับรถของพ่อเขาเดินทางกลับไปที่บ้าน ระหว่างทางจัดการยิงคุ้มกันรถให้รอดปลอดภัยจนถึงบ้านให้สำเร็จ Hurk Sr. จะดีใจมากที่ได้รถหาเสียงของเขากลับคืนมาได้ เขาเลยมีแรงจูงใจที่จะเริ่มทำแผนการหาเสียงต่อไป ก่อนที่  Hurk Sr. จะบอกให้ดีใจว่าถ้าเขาต้องการผู้จัดการการหาเสียงของเขา เขาจะติดต่อไป แต่ตอนนี้เขาอนุญาตให้พาลูกชายของเขาติดตามไปด้วยเพื่อจะได้ไม่ต้องมากวนใจตอนเขาเตรียมหาเสียง  



                                     Hurk Drubman Jr. “Just Dangerously Stupid”

Class – RPG
 Skill
Heat Seeker – ปืน RPG ของเขาสามารถช่วยโจมตียานพาหนะของศัตรูทั้งทางอากาศและภาคพื้นดิน    
Junk it – เมื่อเขาใช้ปืน RPG ยิงยานพาหนะต่างๆจะมีพลังทำลายล้างมากขึ้น 



                                Story Mission:  Make Hope Great Again 


หลังจากได้ Hurk คนลูกติดสอยห้อยตามมาเป็นพวกด้วยแล้ว ก่อนออกจากบ้าน Drubman  Hurk ผู้พ่อยังมีอีกภารกิจนึงให้ทำ โดย Hurk ผู้พ่อจะเริ่มสะสมคะแนนเสียงตั้งแต่เนิ่นๆด้วยการเอาใจหัวคะแนนของเขาก่อนเลย โดยจะให้ออกไปช่วยจัดการพวกลัทธิ Eden’s Gate ที่เข้ามาทำลายบ้านของหัวคะแนนเขา 


จากนั้นเดินทางไปยังเป้าหมายของภารกิจที่บ้านของหัวคะแนนของ Hurk ผู้พ่อที่ตอนนี้ถูกโจมตีจนกลายเป็นซากไปแล้ว ก่อนเข้าพื้นที่เตรียมเพื่อนร่วมทีมที่สามารถช่วยโจมตีทางอากาศและอาวุธปืนบาซูก้า RPG มาให้พร้อม  แล้วเข้าไปจัดการพวกศัตรูในพื้นที่ให้หมด เมื่อกำลังเสริมของศัตรูเริ่มบุกเข้ามาอีกละลอก ซึ่งจะมาทั้งทางพื้นดินและ ฝูง ฮ. จำนวนมากที่เข้ามาโจมตีปิดท้าย ถ้าเตรียมเพื่อนและอาวุธที่สามารถโจมตีทางอากาศได้ก็จะจัดการพวกมันได้ไม่ยาก จัดการพวกศัตรูที่ให้หมดก็จะจบภารกิจนี้ พร้อมทั้งได้รถ Nancy รถหาเสียงของ Hurk Sr. เป็นรางวัลด้วย 

-----------------------------------------------------------------------------------------------------------



เมื่อดำเนินเกมไปจนสามารถเก็บสะสมค่าความเป็นเจ้าของพื้นที่ Resistance Points หรือ RP ได้ในระดับเลเวล 1 แล้ว ทันทีที่มีคำว่า You’re Being Hunted ขึ้นมา เหตุการณ์ Resistance Level 1 ก็จะปลดล็อกและเริ่มขึ้นทันที โดย Jacob Seed จะส่งคนมาจับตัวในขณะที่กำลังสู้กับศัตรูอยู่ในสถานที่ใดสถานที่นึงแบบสุ่ม 

                                          Resistance Level 1


                              Story Mission: The World is Weak 




                      Pratt – นายไม่ควรมาตามหาชั้นเลย เจ้าเด็กใหม่ นายควรหนีไปซะ !!




Jacob Seed – โลกนี้มันเปราะบาง อ่อนไหว และเราก็มักจะลืมสิ่งที่แข็งแกร่งกว่าเราเสมอ พวกนายรู้มั๊ย เหล่าวีรบุรุษของเราเคยเป็นพระเจ้ามาก่อน และตอนนี้วีรบุรุษของเราไม่ได้เหมือนพระเจ้าอีกแล้ว อ่อนแอ ปวกเปียก ขี้โรค และถ้าพวกเราปล่อยให้พวกที่อ่อนแอมามีอำนาจกับเรา เราก็ต้องตกใจเมื่อพบว่าตัวเอง ไร้ซึ่งจุดหมาย แต่ประวัติศาสตร์รู้คุณค่าของการเสียสละ การคัดสรรคนที่จะมาเข้าฝูงเดียวกันนั้นต้องทำอย่างจริงจังซ้ำแล้วซ้ำเล่า คนหมู่มากย่อมมีค่าเหนือคนกลุ่มน้อย นั่นแหละคือคำตอบว่าทำไมเราถึงเป็นผู้อยู่รอด และเราก็ลืมเรื่องพวกนี้ไปหมดแล้ว 



Jacob Seed – และตอนนี้ก็เหมาะสมแล้ว ตอนนี้ความบรรลัยกำลังจะมาเยือนเราในไม่ช้า และเวลานี้ก็ถึงเวลาที่ คนกลุ่มน้อยจะมีค่าเหนือคนหมู่มาก และเมื่อประเทศที่ไม่เคยตกต่ำ ไม่รู้จักความหิวโหยและสิ้นหวังกำลังจะเข้าสู่ความบ้าคลั่ง พวกเราก็พร้อมอยู่แล้ว 



Jacob Seed – เราจะคัดสรรคนที่เหมาะสมเพื่อเข้าฝูงของเรา และเราจะทำทุกอย่างที่จำเป็นต้องทำ …..


จากนั้นการทดสอบเพื่อคัดสรรทหารเข้ากลุ่มก็เริ่มขึ้น เสมือนการถูกสะกดจิตให้ต่อสู้กับทหารที่อยู่ตรงหน้าเพื่อไปที่จุดหมายตามเวลาที่กำหนด  จน สลบไป ......


Eli - มันเกิดเรื่องบ้าอะไรที่นี่วะเนี่ย ? wheaty เช็คคนที่ถูกผูกกับเก้าอี้นั่นสิ
wheaty - บ้าเอ้ย กลิ่นมันเหม็นมากที่นี่ ใครช่วยเปิดหน้าต่างหน่อยได้มั๊ย? ปิดไอ้เพลงบ้านั่นด้วย บ้าเอ้ย Sully พวกมันทำอะไรกับนายว่ะ  ทำไมเรามาสนใจที่นี่ด้วย พวกเขาตายกันหมดแล้วล่ะ มีแต่ศพเน่าๆเต็มไปหมด ... เฮ้ย บ้าเอ้ย !! อะไรวะเนี่ย หมอนี่ยังไม่ตายนี่



Eli - มีคนรอดชีวิต 1 คน Walker ไปเอารถมา เอามือมานี่ไอ้หนุ่ม นายปลอดภัยแล้ว 
wheaty - ผู้ช่วยนายอำเภอหรอ พวกเขามาทำอะไรอยู่ที่นี่เนี้ย?
Eli - ไอ้ Jacob มันไม่สนหน้าอินทร์หน้าพรหมหรอก นายจะไม่เป็นไรนะ โอเค Whitetail ขอต้อนรับ
wheaty - ตกลงเราจะเอาเข้าไปที่ Wolf’s Den หรอครับ ?
Eli - แล้วจะมีที่ไหนอีกล่ะ?
wheaty - Tammy ต้องไม่ชอบแน่นอนแบบนี้ ..
Eli - ไม่ต้องห่วงเรื่อง Tammy หรอก เดี๋ยวเธอก็เข้าใจเองแหละ 



wheaty – ใจเย็นๆนะพวก นายไม่เป็นไรแล้ว แต่นายต้องดื่มนี่หน่อย
Tammy – นี่พวกนายบ้ากันไปแล้วใช่มั๊ย?
Eli - ใจเย็นก่อนน่า ผมกับ wheaty ตกลงกันแล้ว 
Tammy – นายไปตกลงกับเขาด้วยงั้นหรอ wheaty?
wheaty – โว้ๆๆ ผมก็ออกความเห็นแบบตรงไปตรงมาแล้วนะ
Tammy – งี่เง่าสิไม่ว่า นี่มันเป็นเรื่องที่อันตรายมากนายสองคนก็น่าจะรู้ดี
Eli -  แล้วจะให้ผมทำยังไง?
wheaty – ก็ปล่อยมันตายไปสิ



Eli -  บ้าเอ้ย Tammy !!
Tammy – เขาอยู่ในห้องสะกดจิตนั่นใครจะรู้ว่าเขาอยู่มานานแค่ไหนแล้ว ชั้นเห็นมาแล้วว่าไอ้คนพวกนั้นมันเป็นยังไง แต่นายไม่ นายไม่เคยเห็น นายเชื่อใจเขาไม่ได้หรอก!
Eli -  ทุกคนก็พูดแบบนี้กับคุณเหมือนกัน โชคดีที่ผมไม่ฟัง นี่ไม่ใช่เวลามาโต้เถียงกันนะ เวลานี่เราต้องการทุกๆคนมาร่วมกับเราให้มากที่สุด เอาล่ะ ออกไปได้แล้ว !! 



           Eli - … ก็อยากที่ผมบอกนั่นแหละ เราต้องการคุณ แต่ตอนนี้พักผ่อนซะก่อนเถอะ 

เมื่อรู้สึกตัวขึ้นมาอีกครั้งจะพบว่าถูกช่วยชีวิตโดยกลุ่มผู้ต่อต้านลัทธิในเขต WHITETAIL MOUNTAINS และถูกพามาที่ Wolf’s Den แหล่งกลบดานใต้ดินของกลุ่มต่อต้าน โดยการนำของ Eli Palmer


                          โดยใน Wolf’s Den จะมีภารกิจหลักจากผู้คนที่นี่ให้ทำ 3 ภารกิจคือ
                         Story Mission: Missing In Action ภารกิจจาก Eli Palmer
                         Story Mission: Gearing Up ภารกิจจาก wheaty
                         Story Mission: Radio Silence ภารกิจจาก Tammy Barnes

                                 Story Mission: Missing In Action 




Eli – ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ Dutch พยายามติดต่อหาคุณตลอดเวลาเลยนะ หวังว่าผมคงคิดถูกนะ ผมรู้ว่าคุณทำวีรกรรมอะไรไว้ทางใต้ของที่นี่ คุณทำให้ The Father ต้องมานั่งคิดหนักถึง 2 ครั้ง และนั่นมันดีมากสำหรับเรา คนของเราตายมาเยอะแล้วจากการพยายามจะยึด Visitor Center สถานที่ที่พวกคลั่งลัทธิมันใช้สำหรับเก็บ The Bliss คนของผมทั้งถูกซุ้มโจมตี ถูกกับดัก จนถูกจับไปก็เยอะแล้ว ถ้าผมส่งไปอีกทีมเกรงว่าเราจะทนความสูญเสียไม่ไหว แต่คุณ คุณมีบางอย่างที่พวกคลั่งลัทธิมันไม่ได้คาดหวังไว้ แถมคุณคือคนเดียวในแถวๆนี้ที่ผมเชื่อใจด้วย ผมนับถือคุณมากนะจากการกระทำที่ได้ข่าวมา คุณต้องไปอย่างเงียบๆหน่อย พวกนั้นมันจมูกไวมาก อาจทำให้คนของเราที่ถูกจับไว้ที่นั่นถูกฆ่าตายได้ ธนูน่าจะเหมาะที่สุด ช่วยพวกเรามาให้ได้นะ โชคดีครับ 


ก่อนอื่น อย่าลืมติดอาวุธธนูและเพื่อนในสายลอบฆ่าติดตัวไปด้วยเพื่อความสะดวกในการผ่านภารกิจ จากนั้นเดินทางไปที่ Visitor Center แล้วลอบเข้าไปช่วยตัวประกันที่ถูกจับตัวไว้ด้านในให้หมดทั้ง 4 คน โดยห้ามให้มีตัวประกันตาย จากนั้นเดินทางไปยังเป้าหมายที่ 2 ที่ Hawkeye Tunnel ลอบจัดการศัตรูในพื้นที่ให้หมดแล้วเข้าไปช่วยตัวประกันที่ถูกจับไว้ 2 คนออกมาให้ปลอดภัยก็จะพบภารกิจนี้

     หลังจากภารกิจแล้วกลับไปคุยกับ Eli ที่ Wolf’s Den อีกครั้งเขาจะมีอีกภารกิจให้ทำต่อ


                                    Story Mission: GET FREE




Eli – ผมมีงานใหม่ให้คุณ คุณจำโรงแรม Grand view ได้มั๊ย? ที่ที่เราช่วยคุณออกมาจากการถูกพวกมันเอาตัวไปสะกดจิต ผมอยากให้คุณไปที่นั่นอีกครั้ง พวกของ Jacob จับหนึ่งในกองกำลังของเราไปคนนึงคือ Brigg ลูกน้องคนสำคัญของเราที่กุมความลับไว้มากมาย แน่นอนว่าเขาหัวอ่อนกว่าคุณเยอะไม่รู้จะทนการล้างสมองของพวกมันได้นานแค่ไหน ผมเลยอยากให้คุณไปช่วยเขาออกมาให้เร็วที่สุด จากนั้นก็ใช้เทปถอดรหัสทางความคิดของ Wheaty ไปเปิดเพื่อปลดความเชื่อที่ผิดๆที่พวกคลั่งลัทธิมันล้างสมองเอาไว้  



จากนั้นเดินทางไปยังจุดหมายของภารกิจที่โรงแรม Grand view แล้วลอบเข้าไปในพื้นที่เป้าหมายคือค้นหาตัว Brigg ที่ถูกจับอยู่ ซึ่งจะอยู่ในห้องบนชั้น 2 ทางระเบียงฝั่งขวา เมื่อเจอตัว Brigg กำลังถูกสะกดจิตอยู่ก็เอาเทปถอดรหัสทางความคิดของ Wheaty เปิดที่เครื่องเล่นเทปซะ ระหว่างนั้นก็จัดการต้านศัตรูมากมายที่พยายามบุกเข้ามาจากทุกด้านให้หมดก็จะจบภารกิจนี้


                                   Story Mission: Gearing Up 




Wheaty – กองกำลังของ Whitetail พร้อมที่จะสู้มาเป็นปีแล้ว แต่ Eli ต้องการให้เรามั่นใจว่าสะสมเสบียงและอาวุธยุทโธปกรณ์มากพอ ทั้งอาวุธ กระสุน หรืออะไรก็ได้ที่เป็นอาวุธเท่าที่จะหาได้ บังเกอร์ของเราต้องการเสบียงและยุทโธปกรณ์พวกนั้นมากๆ ไอ้จะนั่งเฉยๆมันก็คงไม่มีทางได้มา แต่ก็ติดตรงที่ไอ้พวก Peggie ที่คอยขัดแข้งขัดขาพวกเราตลอด ถ้านายไปช่วยเอา อาวุธยุทโธปกรณ์พวกนั้นมาให้จะขอบคุณมากๆเลย ปัญหาอย่างเดียวคือ เราไม่รู้ว่ามันซ่อนอยู่ที่ไหนน่ะสิ ไม่งั้นเขาคงไม่เรียกว่า Safeguards หรือห่าอะไรซักอย่างนี่แหละ หน่วยข่าวกรองของเราได้ข่าวว่ามีที่นึงที่ Jefferson Lookout ทางตะวันตกของที่นี่ ลองแวะไปดูนะ โชคดีล่ะ 


จากนั้นเดินทางไปยัง Jefferson Lookout Tower เข้าไปเก็บแผนที่ Cabins มา จะทำให้รู้ตำแหน่งของ Cabins ทั้ง 2 แห่งมาคือ Cooper Cabin , Redtail Cabins ปรากฏขึ้นมาในแผนที่



เดินทางไปที่ตำแหน่งของ Cabins ทั้ง 2 แห่งแล้วค้นหาเสบียงและอาวุธยุทโธปกรณ์ของศัตรูที่ซ่อนอยู่ให้เจอโดยที่ Redtail Cabins นั้นเสบียงและอาวุธยุทโธปกรณ์จะซ่อนอยู่ในอุโมงค์เล็กๆหลังอาคาร ส่วนที่ Cooper Cabin เสบียงและอาวุธยุทโธปกรณ์จะซ่อนอยู่ในห้องใต้ดินที่ทางลงจะอยู่ข้างๆบ้าน

เมื่อได้เสบียงและอาวุธยุทโธปกรณ์ของศัตรูมาครบทั้ง 2 ที่แล้ว Wheaty จะติดต่อมาให้ไปช่วยเหลือ Kestrel ที่กำลังโดนพวกคลั่งลัทธิพยายามที่จะปล้นเสบียงและอาวุธยุทโธปกรณ์ของฝ่ายต่อต้านไป รีบเดินทางไปยังเป้าหมายที่ขึ้นมาใหม่ที่ Kestrel Cabin


ในขณะที่กำลังจะเข้าไปถึงพื้นที่ Wheaty จะติดต่อมาว่าพวกศัตรูกำลังจะเอาเสบียงหนีไปแล้ว ตรงนี้ถ้าไม่อยากต้องขับรถตามให้ลำบากก็รีบวิ่งไปที่ขบวนรถของศัตรูให้เร็วที่สุดแล้วจัดการยิงศัตรูเป้าหมายให้ได้ก่อนที่มันจะหนีไป เมื่อได้ของคืนมาจนหมดแล้วก็กลับไปคุยกับ Wheaty ที่ Wolf’s Den อีกครั้งก็จะจบภารกิจนี้


                                Story Mission: Radio Silence 




Tammy – ขอพูดแบบรวบรัดเลยล่ะกันนะ ต้องขอโทษด้วยที่พูดจาไม่ดีออกไปในตอนแรก ชั้นยังไม่เชื่อใจคุณเท่าไหร่น่ะ จริงๆก็ไม่ค่อยเชื่อใจใครทั้งนั้นแหละ แต่ Eli บอกว่า นายเชื่อใจได้ ชั้นเองก็อยากจะเชื่ออ่ะนะ แต่ชั้นคงไม่เชื่อง่ายๆถ้าไม่มีอะไรมายืนยัน นายคงต้องพิสูจน์ตัวเองก่อนว่าควรค่าที่จะให้ชั้นเชื่อใจแค่ไหน นี่คือข้อตกลงนะ เจ้า Wheaty มันพยายามจะแฮกระบบสื่อสารของพวกคลั่งลัทธิเพื่อเอาช่องสัญญาณมาใช้งานอยู่ เขาบอกกับ Eli ตลอดแหละว่า ถ้าทำสำเร็จมันจะช่วยทำให้การประสานงานติดต่อกับกองกำลังของเราทำได้ง่ายขึ้น แต่ชั้นมันใจว่าเขาคงอยากจะถ่ายทอดเพลงของเขามากกว่า เราเองก็ตามใจเขานะ แต่ปัญหาคือเขาไม่มีปัญญาทำเองได้ไง เห็นเขาบอกว่าพวกคลั่งลัทธิมันคอยส่งสัญญาณรับกวนอยู่ตลอดจากหอคอยสื่อสาร 2 แห่งของพวกมันกับอีกแห่งที่อยู่บนสัญญาณมือถือกับพวกมันที่อยู่บนถนน ลองไปจัดการกับหอคอยสื่อสารก่อนเลย มันคงทำให้เคลียร์สัญญาณให้เราพอหาตำแหน่งของสัญญาณมือถือของเป้าหมายที่ 3 ได้ ถ้าเจอแล้วชั้นจะติดต่อไป ถ้าคุณทำได้สำเร็จ บางทีมันอาจจะทำให้ชั้นเชื่อใจคุณมากขึ้นก็ได้ 



จากนั้นเดินทางไปยังจุดเป้าหมายของภารกิจที่ South Aerial Tower เสาสื่อสารที่แรก ใช้เชือกตะขอปีนขึ้นไปที่ยอดเสาแล้วยิงทำลายกล่องสีเหลืองที่เป็นเครื่องกวนสัญญาณซะ แล้วจุดหมายต่อไปจะขึ้นมาที่ North Aerial Tower เสาสื่อสารจุดที่ 2 โดยจะใช้ Wing Suit โผบินจากยอดเสาต้นแรกหรือจะเดินทางไปแบบปกติก็สุดแล้วแต่ เมื่อมาถึงแล้วจัดการศัตรูที่เฝ้าอยู่ให้หมดแล้วใช้เชือกตะขอปีนขึ้นไปที่ยอดเสาแล้วยิงทำลายกล่องสีเหลืองที่เป็นเครื่องกวนสัญญาณซะ


เมื่อทำลายตัวก่อกวนสัญญาณจากเสาสื่อสารทั้ง 2 เสาแล้วจุดเป้าหมายใหม่จะขึ้นมาที่ตัวก่อกวนสัญญาณอันสุดท้ายที่อยู่บนรถบรรทุกที่กำลังแล่นไปมาบนถนน ซึ่งการจะตามไปทำลายมันให้มันมีอยู่วิธีเดียวคือใช้ Wing Suit โผบินจากยอดเสาไป ถ้ากะจังหวะลงดีๆจะมาอยู่ดักหน้าขบวนรถคุ้มกันรถบรรทุกได้ จากนั้นก็จัดการทำลายรถบรรทุกเป้าหมายซะ ก็จะจบภารกิจนี้

หลังจากภารกิจแล้วกลับไปคุยกับ Tammy ที่ Wolf’s Den อีกครั้งเธอจะมีอีกภารกิจให้ทำต่อ


                                 Story Mission: Eviction Notice




Tammy – ตอนแรกก็ยังไม่แน่ใจว่านายจะได้กลับมาอีกมั๊ย แต่ที่ไหนได้เซอร์ไพรซ์มากๆเลยนะ พอดีมีงานอยากให้ช่วย พอดีสายข่าวของเราแจ้งเรื่องกระท่อมบนภูเขาที่เรียกว่า Training Ground เป็นที่ที่สำหรับจับคนไปสะกดจิตเพื่อเปลี่ยนเป็นเหล่า ผู้ถูกเลือก (Chosen) นายเคยเจอมาแล้วก็คงรู้ว่าพวกมันทำอะไรที่มันโหดเหี้ยมกับพวกที่ถูกจับไปบ้าง นายรู้มั๊ย Jacob มันจะใช้อะไรเป็นเป้าในการฝึก ร่างของคนเป็นๆไง ไอ้ห่านั่นมันไม่รู้ถึงคุณค่าของชีวิตคนอื่นนอกคนของลัทธิมันหรอก ชั้นอยากให้นายไปที่ Training Ground แล้วฆ่าพวก ผู้ถูกเลือก (Chosen) ทุกตัวที่เจอให้หมดแล้วก็ระเบิดมันให้สิ้นซากซะ !!


จากนั้นมุ่งหน้าไปที่เป้าหมายของภารกิจที่ Training Ground ลุยเข้าไปด้านในจัดการทหารที่เป็น ผู้ถูกเลือก (Chosen) ของ Jacob ที่อยู่ในพื้นที่ 2 คนให้หมด

       

แล้วลงไปชั้นใต้ดินวางระเบิดที่จุดกำหนด 2 จุดแล้วหนีออกจากพื้นที่ให้พ้นจากแรงระเบิด เมื่อสามารถทำลาย Training Ground ได้สำเร็จก็จะจบภารกิจนี้



เมื่อดำเนินเกมไปจนสามารถเก็บสะสมค่าความเป็นเจ้าของพื้นที่ Resistance Points หรือ RP ได้ในระดับเลเวล 2 แล้ว ทันทีที่มีคำว่า You’re Being Hunted ขึ้นมา นั่นแปลว่า Jacob ได้ส่งเหล่าผู้ถูกเลือก (The Chosen) ของมันออกมาไล่ล่าแล้ว  และเหตุการณ์ Resistance Level 2 ก็จะปลดล็อกและเริ่มขึ้นทันทีเมื่อเหล่าผู้ถูกเลือกเข้ามาจับตัวคุณได้ในขณะที่กำลังสู้กับศัตรูอยู่ในสถานที่ใดสถานที่นึงแบบสุ่ม 


                                         Resistance Level 2



                             Story Mission: We Must Be Strong 






joseph seed – ผมรู้ว่าคุณกำลังเจ็บปวด พระเจ้าทรงประทานให้ และพระเจ้าก็ทรงเรียกทุกอย่างคืนไป .. แต่คุณไม่ใช้คนเดียวที่ได้เข้าทดสอบ คุณรู้มั๊ยว่าผมเคยมีภรรยาคนนึง นี่ไงผมสักรูปเธอเอาไว้ด้วย เธอสวยมากเลยใช่มั๊ยละ?




 เรามีลูกคนแรกด้วยกันด้วย แต่ตอนนั้นเรายังเด็กและผมก็เต็มไปด้วยความกลัว กลัวที่จะต้องเป็นพ่อ ไหนจะเรื่องเงินอีก แต่เธอกลับไม่แคร์และยังคงเชื่อมั่นและศรัทธาในสิ่งนั้น เธอ ศรัทธาตลอดมา จนวันนึง เธอเดินทางไปหาเพื่อนของเธอจนเกิดอุบัติเหตุขึ้น และพระเจ้าก็ทรงเอาเธอคืนไป พวกเขารีบเรียกผมให้ไปที่โรงพยาบาลให้ผมเข้าไปในห้องๆนึงแล้วบอกว่าให้ผมเข้มแข็งเพราะลูกน้อยของผมยังมีชีวิตอยู่ พระเจ้าไม่ได้มองข้ามลูกของผม แล้วพวกเขาก็ถึงให้ผมอยู่ในห้องนั้นกับเธอ ผมได้แต่มองจ้องเธอ .. เธอช่างไร้เดียงสา ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ และในโลกนี้เธอก็เหลือผมแค่คนเดียว ไม่มีใครอีกแล้ว ไม่มีที่ให้อยู่ ไม่มีอะไรเลย และในตอนนั้นผมก็รู้ว่า พระเจ้ากำลังทดสอบผม พระองค์ทรงกำหนดเส้นทางใหม่ให้ชีวิตผม ที่ผมต้องทำก็แค่ต้องเลือก จากนั้นผมก็วางมือลงหัวน้อยๆของเธอแล้วผมก็โน้มตัวลงไปสูดดมกลิ่นของเธอ และเราก็ได้สวดวิงวอนไปด้วยกัน อธิษฐานเพื่อสติปัญญา อธิษฐานเพื่อความแข็งแกร่ง จากนั้นผมก็รู้ถึงแผนของพระเจ้าที่บอกให้ผมทำ จากนั้นผมก็เอานิ้วของผมจับไปบนท่อเล็กที่แปะอยู่บนหน้าของนางฟ้าตัวน้อยของผมแล้วบีบมันจนแน่น ... หลังจากนั้นไม่นาน เท้าของเธอก็เริ่มกระตุก กระตุกแล้วเตะเบาๆ จากนั้น เธอก็นิ่งไป สงบ ถูกปลดปล่อย พระเจ้าทรงประทานให้ และพระเจ้าก็ทรงเรียกทุกอย่างคืนไป ความเจ็บปวด ความเสียสละ คือส่วนนึงของการทดสอบครั้งนี้ เพียงทดสอบให้ได้ว่า เราจะทำตามคำบัญชาของพระเจ้าไม่ว่าพระองค์จะร้องขอต่อสิ่งใดก็ตาม 


เมื่อถูก Jacob จับมาที่ St. Francis Veterans Center อีกหนึ่งสนามทดสอบการทดสอบเข้าเป็น ผู้ถูกเลือก (The Chosen) การทดสอบครั้งที่ 2 ก็เริ่มขึ้นอีกครั้ง เมื่อ Jacob เริ่มกระบวนการสะกดจิตผ่านกล่องดนตรีด้วยเพลง Only You การทดสอบจะเพิ่มระยะเวลาในการทดสอบที่ยาวนานกว่าครั้งแรกแต่ที่ต้องทำก็ยังเหมือนเดิมคือการฆ่าทุกคนที่ขวางหน้าเพื่อไปที่จุดหมายตามเวลาที่กำหนด


ท่ามกลางศัตรูที่เข้ามาขัดขวางที่เป็นเหล่าผู้ร่วมทดสอบคนอื่นซึ่งเป็นพวกกลุ่มต่อต้านและชาวบ้านที่บริสุทธิที่ถูกจับมาสะกดจิต จนสุดท้ายก็ได้พลั้งเผลอฆ่าคนบริสุทธิ์มากมายโดยไม่ได้ตั้งใจอีกครั้ง


                                            Resistance Level 3


เมื่อดำเนินเกมไปจนสามารถเก็บสะสมค่าความเป็นเจ้าของพื้นที่ Resistance Points หรือ RP ได้ในระดับเลเวล 3 แล้ว ทันทีที่มีคำว่า You’re Being Hunted ขึ้นมา นั่นแปลว่า Jacob ได้ส่งเหล่าผู้ถูกเลือก (The Chosen) ของมันออกมาไล่ล่าแล้ว  และเหตุการณ์ Resistance Level 3 ก็จะปลดล็อกและเริ่มขึ้นทันทีเมื่อเหล่าผู้ถูกเลือกเข้ามาจับตัวคุณได้ในขณะที่กำลังสู้กับศัตรูอยู่ในสถานที่ใดสถานที่นึงแบบสุ่ม 


                               Story Mission: Sacrifice the Weak





Jacob – 7 วันแล้วนะ นายคงหิวแย่แล้ว คนทั่วไปเต็มที่น่าจะทนได้ไม่เกิน 10 วันหรอก 10 วันที่คนทั่วไปจะล่ะทิ้งความต้องการขั้นพื้นฐานของมนุษย์ไปสู่สัญชาติญาณดั่งเดิมของพวกเขา มันคงยากเกินที่นายจะเข้าใจถ้านายไม่ได้อยู่ถึงตอนนั้น ชั้นเคยอยู่ในสงคราม Gulf war ในอีรัก คืนนึงเราถูกลอบโจมตี ชั้นกับคู่หูชื่อ Miller แยกกันออกปฎิบัติการณ์เพื่อต่อต้านพวกมัน ไม่มีการตั้งตัว ไม่มีอาหาร ขาดการสื่อสาร ห่างจากแค้มป์ไปทางใต้ไกลอยู่เหมือนกัน หลังจากเอาตัวรอดได้จากนั้นเราก็เริ่มเดิน 3 วันแรกชั้นรู้เลยว่าเรากำลังหลงทาง ผ่านไป 6 วันร่างกายก็เริ่มขาดน้ำ นายรู้มั๊ยว่ามันรู้สึกยังไง ไม่นายไม่รู้หรอก ต้องบอกว่า เกินบรรยาย พอวันที่ 7 Miller ก็เริ่มเดินไม่ไหว นายรู้มั๊ยว่าสมองจะเริ่มกินกล้ามเนื้อของร่างกายเพื่อความอยู่รอด นั่นแหละคำตอบว่าทำไม ถึงผอมจนเหลือแต่กระดูก พอผ่านไป 8 วันเราก็พบกับฝูงหมาป่าเข้ามาใกล้ ชั้นมองไปที่ Miller แล้วบอกว่า ตอนนี้พวกเราเป็นตายเท่ากัน แต่ชั้นก็ยอมรับได้นะ มันเป็นการยอมรับแต่โดยดีเลย นายเห็นมั๊ยว่าชั้นไม่ใช่แค่มองไปที่ Miller แต่ชั้นมองเห็นโอกาส มันไม่ใช่สิ่งที่ต้องการหรอก แต่เป็นสิ่งที่ต้องทำ ชั้นถือว่ามันเป็นการทดสอบของชั้นเอง นายเห็นแล้วนะ Miller ได้เสียสละตัวเองเพื่อให้ชั้นได้ไปต่อ จนรอดมาจากทะเลทรายนั่นไปได้ และมันทำให้ชั้นมาอยู่ในจุดนี้  ความอ่อนแอคือเป้าหมายของพวกเขา ..เดี๋ยวนายก็คงจะเข้าใจ ... 




การทดสอบเข้าเป็น ผู้ถูกเลือก (The Chosen) ที่ St. Francis Veterans Center ก็เริ่มขึ้นอีกครั้งเป็นครั้งที่ 3 หลังจาก Jacob เริ่มกระบวนการสะกดจิตผ่านกล่องดนตรีด้วยเพลง Only You การทดสอบจะเพิ่มระยะเวลาในการทดสอบที่ยาวนานกว่าครั้งที่ 2



แต่ที่ต้องทำก็ยังเหมือนเดิมคือการฆ่าทุกคนที่ขวางหน้าเพื่อไปที่จุดหมายตามเวลาที่กำหนด และจบลงด้วยการฆ่าเหล่าผู้ร่วมทดสอบคนอื่นซึ่งเป็นพวกกลุ่มต่อต้านและชาวบ้านที่บริสุทธิ์ที่ถูกจับมาสะกดจิตเหมือนทุกครั้ง


Pratt – เฮ้ๆ ตื่นได้แล้ว ชั้นจะพานายหนีออกจากที่นี่ โอเค นะ แต่แค่นายเท่านั้นนะ แค่นายเท่านั้น ชั้นจะช่วยนายออกไปจากที่นี่ก่อนมันจะเริ่มอีกครั้ง มาสิ ตามมา



มันรู้แล้วว่านายพร้อมที่จะทำ ดูนี่สิ เป้าหมายของนาย  มันวางแผนไว้หมดแล้ว ปัง ปัง ปัง !! 1 ราย 2 ราย มันจะสั่งการในสมองนายโดยไม่รู้ว่ามันเป็นความจริง ถ้ามันควบคุมนายได้สำเร็จ นายจะกลับมาเป็นเหมือนเดิมอีกไม่ได้แล้ว นายเข้าใจนะ เหมือนเดิมไม่ได้แล้ว! 



มานี่ ตามชั้นมา รถบรรทุก มันจะมีรถบรรทุกออกไปจากที่นี่ทุกวัน นายต้องขึ้นไปแอบบนรถนั่น ใกล้เวลาแล้ว ชั้นศึกษาเส้นทางของมันมาเป็นอาทิตย์แล้ว มันเป็นทางเดียวที่นายจะออกไปจากที่นี่ได้ นายจะปลอดภัยถ้านายไม่ ...... โอ ไม่ๆๆ ไม่ใช่ตอนนี้ บ้าเอ้ย ชั้นจะคุมตัวเองไม่ได้ โทษที่นะ  นายหนีไปซะ ไป !!!

                                        Resistance Level 4


เมื่อดำเนินเกมไปจนสามารถเก็บสะสมค่าความเป็นเจ้าของพื้นที่ Resistance Points หรือ RP ได้ในระดับเลเวล 4 แล้ว ทันทีที่มีคำว่า You’re Being Hunted ขึ้นมา นั่นแปลว่า Jacob ได้ส่งเหล่าผู้ถูกเลือก (The Chosen) ของมันออกมาไล่ล่าแล้ว  และเหตุการณ์ Resistance Level 4 ก็จะปลดล็อกและเริ่มขึ้นทันทีเมื่อเหล่าผู้ถูกเลือกเข้ามาจับตัวคุณได้ในขณะที่กำลังสู้กับศัตรูอยู่ในสถานที่ใดสถานที่นึงแบบสุ่ม 


                                               

                                   Story Mission: ONLY YOU





Jacob – อย่าห่วงเลยน่า แกจะได้ออกไปจากที่นี่เร็วๆนี้แน่นอน แต่ แกคิดว่านายเป็นอิสระจริงๆหรอ? ส่วนคู่ของแก อุตสาห์ผ่านปัญหาต่างๆมาได้แล้วแท้ๆ  หมดกันเลย แต่ก็โอเค ตอนนี้เขาคงจะรู้สำนึกแล้วล่ะ ชั้นจะบอกอะไรนะ แกไม่ใช่ฮีโร่อะไรหรอก นายมันก็แค่เครื่องมือของชั้นเท่านั้นเอง เอาล่ะ เดี๋ยวนายจะรู้ถึงเป้าหมายของนาย นายรู้มาตั้งแต่แรกแล้ว..

การทดสอบเข้าเป็น ผู้ถูกเลือก (The Chosen) ที่ St. Francis Veterans Center ก็เริ่มขึ้นอีกครั้งเป็นครั้งที่ 4 หลังจาก Jacob เริ่มกระบวนการสะกดจิตผ่านกล่องดนตรีด้วยเพลง Only You


ที่ต้องทำก็ยังเหมือนเดิมคือการฆ่าทุกคนที่ขวางหน้าเพื่อไปที่จุดหมายตามเวลาที่กำหนด แต่ที่มันต่างจากทุกครั้งก็เพราะครั้งนี้มันจบลงด้วยการฆ่าเหล่าผู้ร่วมทดสอบคนอื่นซึ่งเป็นพวกกลุ่มต่อต้านซึ่งในนั้นคือ Eli หัวหน้ากลุ่มด้วยนั่นเอง


Jacob - Only you can make all this world seem right .. Only you can make the darkness bright …. เฮ้ เพราะนายคนเดียวเท่านั้นนะที่จะทำแบบนี้ได้ แค่นายคนเดียวเท่านั้นแหละ ที่ทำให้เขาไว้ใจได้ ทำงานได้ดีมาก 



นายทำได้จริงๆด้วย นายผ่านการทดสอบแล้ว นายได้เสียสละของนายแล้ว แต่ตอนนี้ นายก็เหลือตัวคนเดียวแล้ว นายอ่อนแอ และเรารู้ดีจะเกิดอะไรขึ้นกับคนอ่อนแอ ชั้นคัดสรรคนเข้าฝูง นั่นแหละที่ชั้นทำ แล้วชั้นจะรออยู่ข้างนอกนะ 



Tammy – Eli !!!! ไม่ๆๆๆ
Wheaty – นายทำห่าอะไรว่ะเนี่ย! นายฆ่าเขาไอ้บ้าเอ้ย !! เขาชื่อใจนายมากนะ แกต้องตาย ชั้นจะฆ่าแก !!



Tammy – เดี๋ยวๆ Wheaty มันเพราะ Jacob ฟังชั้นนะ มันเป็นเพราะ Jacob เราเองก็เคยเห็นเรื่องแบบนี้มาก่อนแล้วไม่ใช่หรอ ทั้ง Ronnie Parker ก็เคยเป็นแบบนี้ แต่เราก็ยังปล่อยไว้เลย ...



Tammy – นาย ! ไปหาตัวได้ห่านั่น นายต้องหาตัว Jacob แล้วฆ่ามันซะ !! หรือไม่ ถ้าเจอกันอีกครั้ง ได้โปรดเถอะ หนีไปซะ ไม่งั้นชั้นจะฆ่านายด้วยมือชั้นเอง 

จากนั้นในขณะที่กำลังอยู่ในอาการถูกครอบงำต้องเข้าไปจัดการทำลายเสาส่งสัญญาณกระจายเสียงสำหรับใช้สะกดจิตทั้งหมด 6 อันในพื้นที่ให้หมด


เมื่อทำลายเสาส่งสัญญาณกระจายเสียงสำหรับใช้สะกดจิตทั้งหมด 6 อันในพื้นที่แล้วอาการที่ถูกสะกดจิตจะหายไปแล้วกลับมาสู่โลกความจริง



แต่ความวุ่นวายก็ยังไม่จบลง เพราะการต่อสู้ยังดำเนินต่อไปท่ามกลางศัตรูมากมายที่บุกเข้ามาโดยมี Jacob ที่ยิง Rifle มาจากยอดเขา เป้าหมายคือบุกเข้าไปให้ถึงตัว Jacob บนยอดเขาให้ได้


Jacob – พี่น้องชั้นบนว่าเรื่องพวกนี้กำลังจะมาถึง ชั้นไม่รู้หรอกว่าเขารู้ได้ยังไง ได้พูดคุยกับพระเจ้ารึเปล่า แต่ก็ไม่สำคัญแล้ว เพราะเขาพูดถูกหมดเลย มวลมนุษย์ชาติกำลังเข้าสู่วิกฤติอีกครั้ง มันก็ไม่สำคัญแล้วเพราะเราได้สร้างทุกอย่างไว้เสร็จสิ้นแล้ว เราจะหาทางจะทำลายมันให้ได้ บาบีรอน โรม อาณาจักรที่ยิ่งใหญ่ก็ยังล่มสลายได้ อเมริกาก็ไม่ต่างกันหรอก เราคิดว่า เราไม่มีวันถูกทำลายได้ 



สงครามโลกที่ 2 เราก็เคยมาผ่านมาแล้ว เราก็ยังอยู่รอด แต่ยังไงซะมันก็จะนำพาพวกเราให้เข้าใกล้จุดสิ้นสุด และนี่คือที่ที่เราอยู่ตามหมายกำหนดการที่เราวางไว้ ที่เหลือก็แค่รอใครซักคน พลผลักเราเข้าไป และ ไอ้หนู แกได้ผลักเราเข้าไปในสถานการณ์นั้นเรียบร้อยแล้ว แกทำทุกอย่างอย่างที่เขาบอกว่าแกจะทำโดยที่แกไม่รู้ตัว แกมันช่างไม่รู้อะไรซะเลย ..




                                Story Mission: Casualties of War





หลังจากจัดการ Jacob ลงได้แล้ว เดินทางมายัง Jacob’s Armory ซึ่งเป็นบังเกอร์สำหรับเก็บอาวุธยุทโธปกรณ์ของลัทธิ Eden’s Gate ทางตอนเหนือของเขต WHITETAIL MOUNTAINS


จัดการศัตรูที่เฝ้าอยู่ด้านหน้าทางเข้าแล้วลุยเข้าไปด้านในของบังเกอร์ เข้าไปจนถึงห้องควบคุมหลักใช้กุญแจที่ได้มาจากศพของ Jacob ไขเพื่อเปิดการทำงานของระบบ



ภาพในกล้องวงจรปิดจะแสดงให้เห็นที่คุมขังของ Pratt ที่อยู่ด้านในบังเกอร์ จากนั้นลุยต่อไปจนถึงห้องขังของ Pratt เพื่อช่วยเขาออกมา


Pratt – เจ้าเด็กใหม่ นี่นายจริงๆใช่มั๊ย? มันบอกว่าชั้นมันอ่อนแอถึงต้องเจอแบบนี้ บางทีมันอาจจะพูดถูก ชั้นสมควรโดนแล้ว บางที บางที บางทีชั้นน่าจะทำแบบนี้ แบบนี้!! แบบนี้ !!!



พวกมันสร้างให้ชั้นแข็งแกร่ง ใช่ ..และตอนนี้พวกมันกำลังอ่อนแอ และไอ้พวกอ่อนแอต้องถูก คัดออกกกกกกก !!!! 

หลังจากที่เจ้าหน้าที่ Pratt ที่หลุดออกจากที่คุมขังเริ่มบ้าคลั่งทำลายระบบทุกอย่างจนที่นี่กำลังจะระเบิดเพื่อเอาคืน ทั้งคู่ก็ต้องลุยศัตรูมากมายเพื่อหนีออกมาให้รอดจนถึงด้านนอกให้ได้


ทุกๆอย่างที่ Jacob ก็จะระเบิดเป็นจุลไปพร้อมกับอาจของมัน ทำให้ WHITETAIL MOUNTAINS  เขตปกครองสุดท้ายของลัทธิ Eden’s Gate ตกเป็นของฝ่ายต่อต้านได้ในที่สุด


Tammy – เราทุกคนต่างก็ค้นพบหาทางใน WHITETAIL ในแบบของตนเอง แต่คนที่นำพาพวกเราให้พาพบกันที่นี่ได้จากเราไปแล้ว ครอบครัว มิตรสหาย Eli เป็นทุกสิ่งที่กล่าวมาแทนที่จากที่เราเคยเสียไป เขาแสดงให้พวกเราเห็นว่า สิ่งเดียวที่เรามีคือพวกเราสามารถพึ่งพาซึ่งกันและกันได้ เขาเคยเป็นเพื่อนที่แสนดี ของชั้นและทุกๆคน และชั้นจะคิดถึงเขาตลอดไป 



Wheaty – Eli บอกว่า ถ้าเราคิดว่าถ้าเราแค่รอซักพักพวก Eden’s Gate ก็จะจากไป แต่พวกมันจะไม่ไปไหน เหมือนมะเร็งร้ายที่ไม่มีวันตาย มีแต่จะเจริญเติบโต และแพร่กระจายกัดกินไปทั่ว นอกจากเราจะตัดมันออกไป 



เราจะทำให้ไอ้พวก Peggies มันรู้ว่าพวกมันไม่ต้องรอให้ถึงวันสิ้นโลกว่าจะมาถึงเมื่อไหร่เพราะเราต้องจัดการพวก Eden’s Gate ให้หมดสิ้นไปในวันนี้ และเราจะไม่หยุดจนกว่าจะลากคอพวกมันมาแขวนคอที่ต้นไม้ต้นนี้ให้หมดทุกตัว !!


Joseph seed – ผนึกอีกอันก็ได้ถูกปลดออกแล้ว ครอบครัวของชั้น พี่ชั้น น้องชั้นถูกเอาคืนกลับไปจากชั้นหมดแล้วจากฝีมือของไอ้งูพิษที่อยู่ในสวนของเรา !!! ชั้นคิดว่าชั้นรู้ถึงแผนการของพระเจ้า แต่ชั้นคิดผิด ชั้นมันมืดบอดเอง



แต่ตอนนี้ชั้นเห็นแล้ว แกเอาครอบครัวของชั้นไปชั้นก็พรากครอบครัวของแกบ้าง เราจะต้อนรับพวกเขาด้วยโอบกอดให้เหมือนกับที่เราจะต้อนรับแก เราจะรอแกอยู่ตรงที่ทุกอย่างมันเริ่มขึ้น   


หลังจากจัดการยึดพื้นที่ของ John, Faith และ Jacob 3 พี่น้องตระกูล Seed จนหมดสิ้นแล้ว พื้นที่ส่วนของ Joseph seed ที่เกาะทางตอนเหนือของเขต Henbane River ก็ถูกเปิดเผยออกมา พร้อมภารกิจสุดท้ายที่โบสถ์แรกที่เรื่องราวทั้งหมดได้เริ่มขึ้น 
   

                                        บทที่ 5

                                            Joseph's Region

                                            Cult Compound 



                                    Story Mission: Where it all Began





                                                     Church of Eden’s Gate




Joseph seed – เมื่อลูกแกะได้ทำลายผนึกทั้ง 5 ให้เปิดออกและเมื่อข้าได้ก้มมองดูใต้แท่นบูชาจิตวิญญาณของคนที่ต้องทนทุกข์ทรมานและถูกสังหารเนื่องจากพระวจนะของพระเจ้า แกได้ทำมรณสักขีกับขอบครัวของชั้น แต่ชั้นก็ได้เตรียมพร้อมเอาไว้แล้ว ที่จะทำกับครอบครัวแกเหมือนกัน 



Joseph seed –  แต่พระเจ้าทรงกำลังมองเราอยู่และพระองค์จะตัดสินเราจากสิ่งที่เราทำ จากที่เราจะตัดสินใจทำในช่วงเวลานี้ ชั้นเคยบอกแกแล้วว่าเราต่างมีชีวิตอยู่บนโลกนี้อย่างหมิ่นเหม่ จากทุกๆการข่มเหง จากทุกความยุติธรรม ทุกอย่างที่เกิดจากการเลือกจากบาปของเรา แล้วที่ไหนที่บาปเหล่านั้นชักนำเรา? แล้วที่ไหนกันที่บาปเหล่านั้นชักนำแกล่ะ เพื่อนของแกทุกคนจะถูกพรากไปและจะเจ็บปวดอย่างทรมาน นั่นเป็นเพราะความผิดของแกเอง คนมากมายนับไม่ถ้วนที่ต้องถูกฆ่าตายนั่นก็เป็นความผิดของแก โลกนี้กำลังจะลุกเป็นไฟก็เพราะความผิดของแก มันคุ้มค่ารึเปล่าล่ะ? คุ้มรึเปล่า เมื่อไหร่ที่แกจะตระหนักว่าทุกปัญหาไม่สามารถแก้ไขได้ด้วย กระสุน?

Joseph seed –  ตอนที่แกมาที่นี่เป็นครั้งแรก ชั้นให้ทางเลือกกับแก ให้แกเลือกที่จะเดินจากไปซะ แต่แกก็เลือกที่จะไม่ทำ ต่อหน้าพระพักตร์ที่กำลังมองเราอยู่ ชั้นจะให้แกเลือกอีกครั้ง ครั้งสุดท้าย วางปืนลง แล้วพาเพื่อนๆของแกไปซะ ปล่อยให้ชั้นอยู่กับคนของชั้น และแกก็ไปอย่างสันติ อย่าลืมนะว่าพระเจ้ากำลังมองดูเราอยู่ 


                                    [เลือก O เข้าจับกุม] ---- [เลือก X เดินจากไป] 



Joseph seed –  ทุกๆการข่มเหง จากทุกความยุติธรรม ทุกอย่างที่เกิดจากการเลือกจากบาปของเรา John คิดผิดว่าบาปของแกคือความโกรธ แต่มันไม่ใช่ บาปของแกไม่ใช่ความโกรธ เหมือนแกกำลังอยากจะดูโลกถูกเผาอย่างภาคภูมิใจ  เมื่อตราประทับอันที่หกถูกปลดออก จะทำให้เกิดแผ่นดินไหวอย่างรุนแรง !!!

ทันที่บทเจรจาของทั้งคู่ไม่เป็นผล บทลงโทษที่ Joseph เตรียมไว้ก็เริ่มต้นขึ้น โดยที่เขาจะเอาสารละเหย Bliss ที่เตรียมมาลาดลงจนทั่วพื้นที่ทำให้เพื่อนๆที่ถูกจับตัวมากลายเป็นศัตรูที่เข้ามาต่อสู้ช่วย Joseph จนหมด


โดยเพื่อนชุดแรกที่กลายเป็นลูกน้องของมันคือ นายอำเภอ Whitehorse , เจ้าหน้าที่ Hudson และเจ้าหน้าที่ Pratt ตอนนี้ยังไม่ต้องสนใจโจมตี Joseph เพราะมันเป็นแค่ภาพลวงตา ที่ต้องทำคือต้องช่วยเพื่อนให้หลุดจากการถูกครอบงำก่อน และต้องทำให้เร็วที่สุดด้วย


 โดยการยิงพวกเพื่อนๆให้บาดเจ็บล้มลงแล้วรีบเข้าไปช่วยดึงให้ลุกขึ้นมาเท่านี้เพื่อนๆก็จะกลับมาต่อสู้เคียงข้างด้วยอีกครั้ง


เมื่อได้เพื่อน 3 คนแรกมาเป็นพวกเหมือนเดิมแล้ว Joseph ก็จะส่งเพื่อนชุดที่ 2 ที่ถูกครอบงำออกมาช่วยโจมตีต่อประกอบด้วย  หลวงพ่อ Jerome, Tammy, Nick Rye และ Mary May ช่วยทุกคนเพื่อให้คืนสติกลับมาอยู่ข้างเดียวกันให้เร็วที่สุด


ตอนนี้จะสามารถช่วยเพื่อนทั้ง 7 คนให้คืนสติกลับมาช่วยสู้ด้วยได้แล้ว Joseph ก็นำเพื่อนชุดที่ 3 ที่ถูกครอบงำออกมาช่วยโจมตีซ้ำอีก ประกอบด้วย Jess Black, Hurk Drubman, Grace, Tracey และ Wheaty รีบช่วยทุกคนเพื่อให้คืนสติกลับมาอยู่ข้างเดียวกันให้เร็วที่สุด


จากนั้น 4 เจ้าหน้าที่รัฐและ 8 คนจากกลุ่มต่อต้านต้องช่วยกันจัดการ Joseph seed ลงให้ได้ ซึ่งถึงตอนนี้ก็คงไม่มีอะไรยากแล้ว


Joseph seed –  แม้แต่บนสวรรค์ก็ยังเต็มไปด้วยความเงียบงัน เมื่อตราอันที่ 7 ได้ถูกเปิดออก ความเงียบก็ครอบคลุมสวรรค์ แล้วข้าพเจ้าก็เห็นทูตสวรรค์ทั้งเจ็ดองค์ที่ยืนอยู่หน้าพระเจ้านั้น ได้รับพระราชทานแตรเจ็ดคัน และทูตสวรรค์อีกองค์หนึ่งถือกระถางไฟทองคำออกมายืนอยู่ที่แท่น พระเจ้าได้ทรงประทานเครื่องหอมเป็นอันมากแก่ทูตองค์นั้น เพื่อให้ถวายร่วมกับคำอธิษฐานของธรรมิกชนทั้งปวงบนแท่นทองคำที่อยู่หน้าพระที่นั่งนั้น



นายอำเภอ Whitehorse - Joseph seed แกถูกจับแล้ว !
Joseph seed –  และควันเครื่องหอมนั้นก็ลอยขึ้นไปพร้อมกับคำอธิษฐานของธรรมิกชนทั้งหลาย จากมือทูตสวรรค์สู่เบื้องพระพักตร์ของพระเจ้า แล้วทูตสวรรค์องค์นั้นก็นำกระถางไปบรรจุไฟจากแท่นจนเต็ม และโยนกระถางนั้นลงบนแผ่นดินโลก ทำให้มีเสียงฟ้าร้อง เสียงต่างๆ ฟ้าแลบและแผ่นดินไหว ลูกเห็บและไฟ ปนด้วยเลือดก็ตกลงมาบนแผ่นดิน



พระเจ้า !! โอ้ พระเจ้า !!! ดูนั่นสิ !!! ใครจะรู้ว่าความพ่ายแพ้ของ Joseph seed จะถูกใช้เป็นการปลดผนึกแผนการร้ายที่มันอ้างอิงจาก หนังสือวิวรณ์ในคัมภีร์ไบเบิลในบทวิวรณ์ 6:1-17 ที่ว่าด้วยคำพยากรณ์ของวันสิ้นโลกได้สำเร็จ 


ระเบิดนิวเคลียร์ลูกใหญ่ถูกทำให้ระเบิดขึ้นไม่ไกลจากที่นี่จนทำให้ทุกคนเห็นเต็มตา จนนายอำเภอ Whitehorse ไม่รอช้ารีบบอกให้ทุกคนคุมตัว Joseph หนีออกจากที่นี่ให้เร็วที่สุด


เวลา 2 นาทีกว่าคือเวลาที่พอจะขับรถหนีแรงระเบิดกัมมันตรังสีที่ไล่หลังมาเพื่อไปให้ได้ไกลที่สุดโดยมีเป้าหมายอยู่ที่หลุมหลบภัยที่เป็นบังเกอร์ที่อาศัยของลุง Dutch แต่ในระหว่างทางที่เต็มไปด้วยไฟที่ลุกไหม้และความวุ่นวายทำให้รถของทุกคนไปไม่ถึงจุดหมาย คว่ำหงายท้องลงข้างทางก่อนถึง บังเกอร์ที่อาศัยของลุง Dutch ไม่ไกล


Joseph seed –   แกรู้มั๊ยว่านี่มันหมายถึงอะไร? มันหมายความว่ามันจะไม่ทำให้พวกนักการเมืองกล้าปริปาก มันหมายความว่าทุกๆนิติบุคคลจะถูกลบจนหมดสิ้น มันหมายความว่าโลกจะใสสะอาดด้วยไฟจากความชอบธรรมของพระเจ้า แต่ที่สำคัญที่สุดก็คือ มันแปลว่า ชั้นพูดถูก ยุคสมัยแห่งความล่มสลายได้มาถึงแล้ว โลกที่เราเคยรู้จัก ได้สูญสิ้นไปแล้ว 



Joseph seed –    ชั้นรอวันนี้มานานมาก ..ชั้นรอคอยวันนี้มานาน วันที่คำพยากรณ์ที่พระเจ้ากระซิบบอกข้างๆหูชั้นได้เกิดขึ้นจริงๆเสียที ชั้นเตรียมครอบครัวของชั้นไว้ก็เพื่อการนี้และแกก็พรากพวกเขาไปจากชั้นจนหมด ชั้นจะฆ่าแกให้สาสมกับสิ่งที่แกทำเลย แต่ ตอนนี้ที่ข้าเหลืออยู่ก็มีแต่แกเท่านั้น แกคือครอบครัวของชั้นแล้ว 



Joseph seed –  และเมื่อโลกนี้พร้อมที่จะกำเนิดใหม่อีกครั้ง เราก็จะขยับออกไปสู่แสงสว่าง ชั้นคือพ่อของแก แล้วแกก็คือลูกของชั้น และเราสองคนจนช่วยกันนำพาลัทธิ Eden’s Gate ใหม่ให้เดินไปข้างหน้าต่อไปด้วยกัน ..


---------------------------------------------- THE END ------------------------------------------------------




เจตจำนงอันบิดเบี้ยวของ Joseph seed ชายวิกลจริตที่อ้างเรื่องราวจากหนังสือวิวรณ์ในคัมภีร์ไบเบิลบทที่ 6:1-17 ที่ว่าด้วยคำพยากรณ์ของวันสิ้นโลกมาใช้เป็นแนวทางในการเปลี่ยนโลกให้เป็นไปตามต้องการของตัวเอง ชายผู้ยอมสังเวยคนในครอบครัวของตัวเองเพียงเพื่อให้เข้าตามหลักมรณสักขี หรือ การทำ “martyr” ที่เกิดจากการฆ่าผู้ศรัทธราเพื่อพยายามกำจัดคริสต์ศาสนิกชน ก่อนที่คริสต์ศาสนาจะเป็นศาสนาที่ถูกต้องตามกฎหมาย คริสต์ศาสนิกชนคนแรกและอีกมากมายที่เป็นมรณสักขีจะถูกขว้างด้วยก้อนหินจนถึงแก่ชีวิตเพียงเพราะศรัทธาในพระเยซู ชีวิตของผู้คนมากมายที่ต้องตายไปก็เพื่อเป็น “พยาน” ให้สามารถอ้างเหตุผลให้กลายเป็นคุกคามทางศาสนากำมะลอของตัวเอง 

Joseph seed จึงเป็นแค่ผู้ป่วยทางจิตที่จัดอยู่ในประเภท “การหลงผิด” หรือ “Delusion” ที่ทำให้เกิดความเชื่ออย่างผิดๆและเชื่ออย่างฝังแน่น (“False Belief and Fix”) ประกอบกับอาการหูแว่ว (Auditory Hallucination) และอาการเห็นภาพหลอน (Visual Hallucination) ความผิดปกติของความคิดทำให้ Joseph มีความเชื่อ มีพฤติกรรม มีการกระทำ ที่ผิดไปจากคนปกติทั่วๆไป และความเชื่อนี้ไม่สามารถอธิบายได้ตามหลักของความจริงหรือตามหลักของความเชื่อที่มีอยู่ในสังคมนั้นๆได้ แต่ Joseph ก็เชื่ออย่างสนิทใจกับความเชื่อของเขากับเรื่องราวที่เกิดกับตัวเขาว่ามันเป็นความจริง ทั้งหมดทั้งปวงก็เกิดจากความเสียใจจากการสูญเสียคนภรรยาไปนั่นเอง 

http://haamor.com/th/%E0%B9%82%E0%B8%A3%E0%B8%84%E0%B8%88%E0%B8%B4%E0%B8%95/

--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

                                                    UPDATE 1 / 6 / 2018 

---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

                                      FAR CRY 5 - WORLD MAP 


                             
แผนที่ขนาดใหญ่แบบ Google Map เปิดเผยจุด Location สำคัญทั้งหมดในเกมอย่างเป็นทางการ สามารถคลิ๊กเข้าไปดูได้ตามลิงค์ด้านล่างครับ

-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------



                                            "เราจะไม่ปล่อยให้ความโลภของพวกเขา
                                                     ความอยุติธรรมของพวกเขา
                                                    ความเลวทรามของพวกเขา
                                                       ทำร้ายเราได้อีกต่อไป"
                                                            -THE FATHER-