วันอาทิตย์ที่ 1 มีนาคม พ.ศ. 2558

Tales of Zestiria

           


                                 บทสรุป Tales of Zestiria (テイルズ  オブ  ゼスティリア)


BY Decibel per oxide 


ทวีปใหญ่ที่เก่าแก่แห่งหนึ่งที่ชื่อว่า Glynnwood ซึ่งถูกแบ่งแยกโดยสองขั้วประเทศมหาอำนาจ คือ อาณาจักร ไฮแลนด์ (ハイランド) ที่มีรากฐานการปกครองในแบบกษัตริย์อันเก่าแก่ที่เน้นการอยู่รวมกันอย่างเป็นปึกแผ่นภายใต้กฎระเบียบอันเดียวกัน และ อาณาจักร โรเเรนท์ (ローランス) ในฐานะรัฐอิสระที่ไม่ขึ้นตรงกับใครที่ภายในอาณาจักรประกอบด้วยสมาคมและกลุ่มต่างๆหลากหลายมากมาย จากการที่ทั้งสองฝ่ายมีความเชื่อ ศรัทธา และวัฒนธรรมที่ต่างกันอย่างสิ้นเชิง ทั้งสองประเทศต่างจึงมักเกิดสงครามการสู้รบเพื่อแย่งชิงความเป็นต่อในเรื่องผลประโยชน์ต่างๆที่มีอยู่ในทวีป ซึ่งก็ส่งผลให้เกิดมลภาวะที่เป็นพิษความเสื่อมโทรมต่อทวีป รวมไปถึงอารมณ์ความเกลียดชังระหว่างคนของทั้ง 2 อาณาจักรกันมาตลอด และ มลภาวะที่เป็นพิษที่ว่าก็ให้เกิดสัตว์ประหลาดที่เรียกว่า เฮียวมะ (Hyoma) ขึ้นมา พวกมันมาไหนไม่มีใครรู้ ว่ากันว่ามาจากกลิ่นอายอันแสนชั่วร้ายของจักรพรรดิมาร ไซคะโนะเคงชุ 災禍の顕主  ไม่นานพวกมันก็เริ่มกลืนกินสิงสู่มนุษย์ให้กลายเป็นปีศาจจิตใจชั่วร้ายจนเกิดวามเดือดร้อนไปทั่ว ทวีปที่ยิ่งใหญ่จึงเริ่มเข้าสู่กลียุค 

  



แต่ในความมืดมืดก็ย่อมมีแสงสว่างแห่งทางออกเสมอ ในอดีตมีเรื่องเล่าที่เป็นตำนานแห่งทวีป Glynnwood ที่กล่าวถึง เผ่าพันธุ์ลึกลับที่เรียกตัวเองว่า เทนโซกุ (天族) หรือ สายเลือดสวรรค์ ("Heaven Family" ) ว่ากันว่าพวกเขามีพลังเหนือธรรมชาติที่สามารถขจัดปัดเป่าสิ่งชั่วร้ายต่างได้ และยังสามารถส่งต่อพลังให้กับมนุษย์คนใดก็ตามทีมีปฏิกิริยาของพลังบางอย่างในตัวที่เชื่อมต่อกับพวกเขา ซึ่งจะก่อให้เกิดนักรบผู้มีพลังพิเศษที่เรียกว่า โดชิ (導師) นักพรตผู้ยืมพลังจากพระเจ้า จากตำนานที่ขับขานก่อให้เกิด ความหวังของผู้คน ที่จะตามหา โดชิ ผู้กล้าที่มีพลังแห่ง ทายาทแห่งสวรรค์ เพื่อหยุดยั้งยุคสมัยแห่งความหายนะให้พ้นจากทวีป Glynnwood จากพวก เฮียวมะ ที่ชั่วร้ายได้ สุดท้ายก็เหลือแค่ว่า ตำนานของพวกเขาเป็นแค่เรื่องเล่าหรือความจริงที่ซ่อนเร้นอยู่เท่านั้น

                   

                  


กล่าวถึง สุเรย์ (スレイ) เด็กหนุ่มผู้คลั่งไคล้ตำนานโบราณของเผ่าสายเลือดสวรรค์ชนิดเข้าเส้น โบราณสถานบนยอดมาบิโนกิโอ(マビノギオ山岳遺跡) จึงเป็นสถานที่ประจำของเขาในการหาความรู้จากภาพวาดโบราณต่างๆอยู่ตลอด ครั้งนี้ก็เหมือนทุกครั้ง ขณะ สุเรย์ กำลังดื่มด่ำกับสิ่งที่เขาค้นคว้าจนไม่ลืมหูลืมตาเจ้ามิคูริโอ้  (ミクリオ ) เพื่อนซี้สุดเฮี้ยบที่โตมาด้วยกันตั้งแต่เด็กก็เข้ามาเตือนให้เห็นถึงกลุ่มเมฆสีดำประหลาดที่กำลังคลื่นที่เข้ามาใกล้ แรงสั่นสะเทือนทำให้ มิคูริโอ้ เกือบจะตกลงไปข้างล่าง โชคดีที่ สุเรย์ คว้าเขาเอาไว้ได้ทัน ก่อนที่ทั้งคู่จะตกลงไปด้านล่างด้วยกันเพราะพื้นที่พังลงไปเพราะแรงสั่นสะเทือน

เมนูหลักของเกม 
1.アイテム ไอเทมต่างๆที่มี
2.術技 เทคนิคและท่าในการต่อสู้
3.สวมใส่ อาวุธ เครื่องป้องกัน 
4.サボートダレントซัพพอร์ท ทาเลนท์ความสามารถพิเศษ
5. バトルアクト แบทเทิ่ล แอค Skill เสริม ที่ต้องใช้ค่า AP ในการติดตั้ง
6.ビジュアル เครื่องประดับพิเศษ 
7.ตั้งค่าแผนการต่อสู้
8.ライブラリ ไลบรารี่ หนังสือรวบรวมข้อมูลสำคัญต่างๆในเกม
9. ツステム  ซิสเต็ม สำหรับปรับค่า Option และ Lord เกม

                 *********************************************************

                                バトルアクト แบทเทิ่ล แอค ประกอบด้วย 

                           ** เครดิตผู้แปล คุณ Naruphun Chotechuang **
                         https://www.facebook.com/naruphun.chotechuang

สายสนับสนุน サポート
A การ์ด A ガード [AP 4]
ผลลัพธ์ ในช่วงที่สามารถป้องกันได้นั้น ตัวละครที่บังคับจะป้องกันอัตโนมัติ 5 ครั้ง แต่เกรดที่จะได้รับลดลงครึ่งหนึ่ง
เงื่อนไขการเรียนรู้ – ไม่มี

A ไซด์สเตป  Aサイドステップ [AP 4]
ผลลัพธ์ ในช่วงที่สามารถสเตปได้นั้น เมื่อตัวละครที่บังคับจะโดนการโจมตีในแนวตั้ง จะไซด์สเตปอัตโนมัติ 5 ครั้ง แต่เกรดที่จะได้รับลดลงครึ่งหนึ่ง
เงื่อนไขการเรียนรู้ - ไม่มี

A แบ็คสเตป  A バックステップ  [AP 4]
ผลลัพธ์ ในช่วงที่สามารถสเตปได้นั้น เมื่อตัวละครที่บังคับจะโดนการโจมตีในแนวนอน จะแบ็คสเตปอัตโนมัติ 5 ครั้ง แต่เกรดที่จะได้รับลดลงครึ่งหนึ่ง
เงื่อนไขการเรียนรู้ –ไม่มี

A ฟรอนท์สเตป Aフロントステップ [AP 4]
ผลลัพธ์ ในช่วงที่สามารถสเตปได้นั้น เมื่อตัวละครที่บังคับจะโดนการโจมตีแบบอาวุธขว้าง จะฟรอนท์สเตปอัตโนมัติ 5 ครั้ง แต่เกรดที่จะได้รับลดลงครึ่งหนึ่ง
เงื่อนไขการเรียนรู้ - ไม่มี

A ดิวินนิที Aディヴィニティ [AP 10]
ผลลัพธ์ เมื่อตัวละครที่บังคับได้รับความเสียหายมากกว่าพลังชีวิตที่เหลืออยู่ ถ้าเหลือเกจ BG มากกว่า 1 จะทำการรวมร่างคามุยอัตโนมัติ
เงื่อนไขการเรียนรู้ อีเวนท์เปลี่ยนรวมร่างคามุย

A ไฟแนลลิที Aファイナリティ [AP 10]
ผลลัพธ์ เมื่อตัวละครที่บังคับมีเกจ BG มากกว่า 3 และสามารถออกท่าไม้ตายลับได้นั้น จะทำการใช้อัตโนมัติ
เงื่อนไขการเรียนรู้ เมื่อปลดปล่อยท่าไม้ตายลับสำเร็จ

สาย การบังคับ 操作応用
ฟรี แอนด์ ฟรี フリー&フリー [AP 5]
ผลลัพธ์ ใช้สติ๊กซ้ายในเวลาปกติสามารถวิ่งได้อย่างอิสระ กด L2+สติ๊กซ้ายจะเคลื่อนที่เป็นแนวเส้น
เงื่อนไขการเรียนรู้ โจมตีต่อเนื่อง 50 ฮิต

สกาย รีคาฟเวอร์รี่ スカイリカバリー [AP 5]
ผลลัพธ์ ระหว่างที่โดนโจมตีกระเด็นกลางอากาศ กด□เพื่อเด้งตัวขึ้นมาได้
เงื่อนไขการเรียนรู้ – ไม่มี

ชื่อบัทเทิ้ลแอค ลองก์ สเตป ロングステップ [AP 20]
ผลลัพธ์ ระยะในการสเตปเพิ่มขึ้น
เงื่อนไขการเรียนรู้ ระหว่างใช้คามุยทำความเสียหายรวมทั้งหมด 10000

ชื่อบัทเทิ้ลแอค เบิร์น สเตป バーンステップ [AP 20]
ผลลัพธ์ เมื่อทำการฟรอนท์สเตปแล้วจะถึงเป็นการโจมตีต่อเนื่องอีกหนึ่งครั้ง (ครั้งเดียวเท่านั้น) แต่จะใช้ค่า SC มากกว่าปกติ 10
เงื่อนไขการเรียนรู้ ใช้สเตปเพื่อฟื้นฟูค่า SC 300 ครั้ง

ฟาสท์ รันファストラン[AP 20]
ผลลัพธ์ เมื่อกด L2+สติ๊กซ้ายความเร็วในการฟรีรันจะเพิ่มขึ้น
เงื่อนไขการเรียนรู้ ใช้สเตปเพื่อฟื้นฟูค่า SC 1000 ครั้ง

สาย ป้องกัน 防御
แอค อะพีล การ์ดアピールガード [AP 2]
ผลลัพธ์ ระหว่างป้องกัน อัตราการเข้ามาโจมตีตัวเราของศัตรูเพิ่มขึ้น สามารถควบคุมการเคลื่อนไหวของศัตรูได้ง่ายขึ้น
เงื่อนไขการเรียนรู้ ใช้การ์ดชาร์จ 100 ครั้ง

ไฮด์ การ์ด ハイドガード [AP 4]
ผลลัพธ์ ระหว่างป้องกัน อัตราการเข้ามาโจมตีตัวเราของศัตรูยากขึ้น
เงื่อนไขการเรียนรู้ ใช้การ์ดชาร์จ 200 ครั้ง

พุช การ์ด プッシュガード [AP 6]
ผลลัพธ์ การใช้ฟรอนสเตปก็สามารถหลบการโจมตีพิเศษได้ แต่จะใช้ค่า SC มากกว่าปกติ 10
เงื่อนไขการเรียนรู้ ใช้สเตปเพื่อฟื้นฟูค่า SC 20 ครั้ง

สพลิท การ์ด スプリットガード [AP 20]
ผลลัพธ์ ก่อนจะโดนการท่าไม้ตายลับจากศัตรูให้กด□เพื่อลดความเสียหายที่จะได้รับ ต่อการโจมตีหนึ่งครั้งในท่าไม้ตายลับ
เงื่อนไขการเรียนรู้ ใช้การ์ดชาร์จ 1000 ครั้ง

สไนป์ การ์ด スナイプチャージ [AP 1]
ผลลัพธ์ ป้องกันเป็นเวลา 1 วินาทีขึ้น การโจมตีครั้งต่อไปจะให้ผลสำเร็จเป็นสองเท่า
เงื่อนไขการเรียนรู้ – ไม่มี

บลาสทฺ การ์ด ブラストチャージ [AP 2]
ผลลัพธ์ ป้องกันเป็นเวลา 1.5 วินาทีขึ้นไปเกจ BG จะเพิ่มขึ้น
เงื่อนไขการเรียนรู้ ใช้คามุย 5 ครั้ง

เบรก การ์ด ブレイクチャージ [AP 3]
ผลลัพธ์ ป้องกันเป็นเวลา 2 วินาทีขึ้นไป เมื่อโจมตีต่อจากนั้นศัตรูจะไม่สามารถการ์ดได้
เงื่อนไขการเรียนรู้ ใช้การ์ดชาร์จ 30 ครั้ง

สาย เทคนิค テクニカル
อัปเปอร์ ไพรซฺ アッパープライス [AP 0]
ผลลัพธ์ ระหว่างใช้ท่าไม้ตายแล้วกด☓ค้าง จะใช้ท่าไม้ตายขั้นสูงที่เรียนรู้ไปแล้วแบบต่อเนื่องได้
เงื่อนไขการเรียนรู้ เมื่อได้รับท่าขั้นสูง 1 ท่า (สเรย)

ชาร์จ แอนด์ แคส チャージ&キャスト[AP 0]
ผลลัพธ์ เมื่อร่ายเวทย์เทพเสร็จแล้วกด◯ค้าง จะร่ายเวทย์เทพขั้นสูงที่เรียนรู้ไปแล้วแบบต่อเนื่องได้
เงื่อนไขการเรียนรู้ ต่อสู้ 1000 ครั้ง

ฮาฟ แอนด์ ฮาฟ ハーフ&ハーフ [AP 2]
ผลลัพธ์ เมื่อติดตั้งแล้ว คนที่ติดตั้งจะสร้างความเสียหายจากปกติเพียง 50%
เงื่อนไขการเรียนรู้ โจมตีต่อเนื่อง 60 ฮิต

สเตป สเปล サブパーチェンジサブパーチェンジ [AP 5]
ผลลัพธ์ ระหว่างร่ายเวทย์กดสติ๊กซ้ายจะทำการสเตปและยังร่ายเวทย์ต่อได้
เงื่อนไขการเรียนรู้ โจมตีต่อเนื่อง 150 ฮิต

ซัพเปอร์ เชนจ์ サブパーチェンジ [AP 5]
ผลลัพธ์ กดL2+ทิศทาง ตัวละครคู่หูที่ไม่ได้บังคับจะเปลี่ยนคู่เผ่าเทพ
เงื่อนไขการเรียนรู้ ความยากระดับเซคันด์ขึ้นไป ต่อสู้ 100 ครั้ง

ซัพดิวินนิที サブディヴィニティ [AP 5]
ผลลัพธ์ ระหว่างรอ หรือโจมตีต่อเนื่อง กดL2+L1 แล้วตัวละครคู่หูที่ไม่ได้บังคับจะสามารถคามุยได้ ตัวละครนั้นเสียเกจ BG 1 เกจ
เงื่อนไขการเรียนรู้ ความยากระดับเซคันด์ขึ้นไป ต่อสู้ 200 ครั้ง

คาแร็กเชนจ์ キャラチェンジ [AP 5]
ผลลัพธ์ กด□+ทิศทางจพสามารถเปลี่ยนตัวละครที่บังคับได้
เงื่อนไขการเรียนรู้ ความยากระดับเซคันด์ขึ้นไป ต่อสู้ 30 ครั้ง

สาย บลาสทฺ ブラスト
พาทเนอร์ บลาสทฺ パートナーブラスト [AP 4]
ผลลัพธ์ หลังโจมตีต่อเนื่อง 1 ครั้งกดR2ค้าง เสีย BG 1 เกจ พาร์ทเนอร์จะฟื้นฟู SC 50 พร้อมทั้งเล็งโจมตีเป้าหมายของเรา
เงื่อนไขการเรียนรู้ บลาสทฺ 20 ครั้ง

โบลว์ บลาสทฺ ブロウブラスト [AP 4]
ผลลัพธ์ หลังโจมตีต่อเนื่อง 2 ครั้งกดR2ค้าง เสีย BG 1 เกจ โจมตีศัตรูให้กระเด็น
เงื่อนไขการเรียนรู้ บลาสทฺ 50 ครั้ง

เชน บลาสทฺ チェインブラスト [AP 4]
ผลลัพธ์ หลังโจมตีต่อเนื่อง 3 ครั้งกดR2ค้าง เสีย BG 1 เกจ ฟื้นฟู SC 50 และสามารถจะโจมตีต่อเนื่องได้อีกหนึ่งชุด
เงื่อนไขการเรียนรู้ บลาสทฺ 500 ครั้ง

สาย คามุย 神依能力
รีเวนเจอร์ [AP 20]
ผลลัพธ์ ระหว่างคามุย ตอนป้องกันความเสียหายที่ได้รับล่าสุด จะไปเพิ่มเป็นเท่าหนึ่งในพลังโจมตี
เงื่อนไขการเรียนรู้ ระหว่างใช้คามุยทำความเสียหายรวมทั้งหมด 40000

รีไวน์เนอร์ リヴァイヴァー [AP 25]
ผลลัพธ์ เมื่อได้รับการโจมตีที่ทำให้ตาย จะทำคามุยอัตโนมัติ แต่ใช้กับเผ่าเทพไม่ได้ (หนึ่งครั้งเท่านั้น)
เงื่อนไขการเรียนรู้ คามุย 10 ครั้ง

อัลลิมิต [AP 25]
ผลลัพธ์ พลังชีวิตสูงสุดเมื่อคามุยเกิน 9999
เงื่อนไขการเรียนรู้ คามุย 1000 ครั้ง

สาย แบนนิช  バニッシュ
ไฮด์ แบนนิช [AP 10]
ผลลัพธ์ ระหว่างที่ศัตรูติดสตันการใช้แบนนิชบาสทจะออกเร็วขึ้น
เงื่อนไขการเรียนรู้ แบนนิช 1 ครั้ง

แบนนิช เชน [AP 12]
ผลลัพธ์ ระหว่างคามุย ใช้แบนนิชบาสทโดนศัตรูแล้วกด○+R2ค้างไว้จะท่าไม้ตายลับคามุยต่อเนื่อง
เงื่อนไขการเรียนรู้ แบนนิช 200 ครั้ง

ท่าไม้ตายลับ [AP 20]
เธอทีน เชนซ์
ผลลัพธ์ เมื่อโจมตีต่อเนื่อง 30 ครั้งขึ้นไปแล้วกดท่าไม้ตายลับ จะทำให้ทุกตัวแต่ละตัวใช้BGที่จำเป็นลดลงเหลือ 1 เกจ
เงื่อนไขการเรียนรู้ โจมตีต่อเนื่อง 100 ครั้ง

เทนเธาว์เซอนด์ [AP 30]
ผลลัพธ์ ความเสียหายรวม 10000 ขึ้นไปแล้วกดท่าไม้ตายลับ จะทำให้ทุกตัวแต่ละตัวใช้BGที่จำเป็นลดลงเหลือ 1 เกจ
เงื่อนไขการเรียนรู้ ทำความเสียหายระหว่างคามุยรวม 30000

เดธรี เรฟ [AP 40]
ผลลัพธ์ พลังชีวิตต่ำว่า 25% กดท่าไม้ตายลับ จะทำให้ทุกตัวแต่ละตัวใช้BGที่จำเป็นลดลงเหลือ 1 เกจ
เงื่อนไขการเรียนรู้ ใช้ท่าไม้ตายลับ 50 ครั้ง

คูลบิวตี้  [AP 30]
ผลลัพธ์ หลบการโจมตีโดยไม่ได้รับการความเสียหายต่อเนื่อง 4 ครั้งจากอะราวด์สเตปสำเร็จ กดท่าไม้ตายลับใช้BGที่จำเป็นลดลงเหลือ 1 เกจ
เงื่อนไขการเรียนรู้ ใช้ท่าไม้ตายลับ 150 ครั้ง

เดสตินี่ ทู [AP 50]
ผลลัพธ์ กดท่าไม้ตายลับ ตอน SC 100 ใช้BGที่จำเป็นลดลงเหลือ 1 เกจ
เงื่อนไขการเรียนรู้ ใช้ท่าไม้ตายลับ 300 ครั้ง

เฟรนด์ ลิงค์ [AP 50]
ผลลัพธ์ ระหว่างใช้ท่าไม้ตายลับกด○รัวแล้ว ยังเหลือ BG มากกว่า 3 เกจจะใช้ท่าไม้ตายลับต่อเนื่องอีก
เงื่อนไขการเรียนรู้ อ่านแผ่นศิลาทั้ง 78 อัน แล้วไปจุดเซฟดูการสนทนาแล้วจะได้มา

 สาย เกรด
EXP ฮาฟ  [AP 0]
ผลลัพธ์ ค่าประสบการณ์เหลือครึ่งหนึ่ง
เงื่อนไขการเรียนรู้ ซื้อจากร้านเกรด

EXP ดับเบิ้ล [AP 0]
ผลลัพธ์ ค่าประสบการณ์ 2 เท่า มีผลซ้อนกับ EXP ทริปเปิ้ลได้
เงื่อนไขการเรียนรู้ ซื้อจากร้านเกรด

EXP ทริปเปิ้ล [AP 0]
ผลลัพธ์ ค่าประสบการณ์ 3 เท่า มีผลซ้อนกับ EXP ดับเบิ้ลได้
เงื่อนไขการเรียนรู้ ซื้อจากร้านเกรด

EXP เงิน [AP 0]
ผลลัพธ์ ค่าประสบการณ์ที่ได้จะผันแปรกับเงินที่ได้
เงื่อนไขการเรียนรู้ ซื้อจากร้านเกรด

เงินดับเบิ้ล  [AP 0]
ผลลัพธ์ เงิน 2 เท่า
เงื่อนไขการเรียนรู้ ซื้อจากร้านเกรด

เรียนรู้สองเท่า [AP 0]
ผลลัพธ์ เมื่อเลเวลขึ้น ความเร็วในการเรียนรู้ท่าไม้ตายจะเพิ่มเป็นสองเท่า
เงื่อนไขการเรียนรู้ ซื้อจากร้านเกรด

โดลูมิน ดับเบิ้ล [AP 0]
ผลลัพธ์ โดลูมินที่เซตจะเพิ่มความสกิล 2 เท่า
เงื่อนไขการเรียนรู้ ซื้อจากร้านเกรด

ดรอป ดับเบิ้ล [AP 0]
ผลลัพธ์ อัตราดรอป 2 เท่า
เงื่อนไขการเรียนรู้ ซื้อจากร้านเกรด

เอ็กเทน สกิล [AP 0]
ผลลัพธ์ สกิลที่ดับเบิ้ลหรือทริปเปิ้ลของอุปกรณ์สวมใส่ถึง จะเกิดผลเซมเกิดขึ้น
เงื่อนไขการเรียนรู้ ซื้อจากร้านเกรด

เกรด ดับเบิ้ล [AP 0]
ผลลัพธ์ ได้เกรด 2 เท่า
เงื่อนไขการเรียนรู้ ซื้อจากร้านเกรด

แอดวาน ดีไวน์ [AP 0]
ผลลัพธ์ เมื่อคามุย เมื่อทั้งคู่ใช้สกิลผสมกันจะทำให้เกิดโบนัสสกิล
เงื่อนไขการเรียนรู้ ซื้อจากร้านเกรด

ผล 2 เท่า [AP 0]
ผลลัพธ์ ไม่ว่าจะเป็นศัตรูหรือข้างเรา จะได้รับผลสเตตัสผิดปกติสองเท่า
เงื่อนไขการเรียนรู้ ซื้อจากร้านเกรด

เสียหาย 2 เท่า [AP 0]
ผลลัพธ์ ไม่ว่าจะเป็นศัตรูหรือข้างเรา เสียหายสองเท่า
เงื่อนไขการเรียนรู้ ซื้อจากร้านเกรด

Cr. ข้อมูลภาษาญี่ปุ่นจาก 
http://kouryakutsushin.com/toz/%E3%83%90%E3%83%88%E3%83%AB%E3%82%A2%E3%82%AF%E3%83%88



                            ***********************************************************


                                        รู้ไว้ใช่ว่า – จะรู้ได้ไงว่าจะต้องไปไหนต่อ ?

ปกตินั้นเนื้อเรื่องหลักของเกมจะมีสัญลักษณ์รูปดาวสีทองขึ้นในแผนที่ให้เสมอ แต่บางครั้งมันไม่ได้ขึ้นให้เห็นในแผนที่หลัก ซึ่งต้องเข้าไปในพื้นที่นั้นๆถึงจะเห็น ซึ่งบางครั้งและหลายครั้งที่จะไม่เห็น ดาว ขึ้นมาในแผนที่ ทำให้หลายคนไปไม่ถูก มีทางอออกและคำแนะนำง่ายๆคือ ให้ถามเพื่อน A.I ที่วิ่งตามอยู่นั่นแหละ ไม่ว่าจะเป็น อาริเซีย หรือ โรเซ่ ก็ดูรายชื่อ เควสหลักที่มีรูปดาวอยู่หน้าชื่อ (ถ้าเป็นดาวสีม่วงและเครื่องงหมาย! ก็คือ ภารกิจย่อย) จากนั้นก็ต้องมองหาชื่อสถานที่ที่เขียนบอก ซึ่งต้องอาศัยความจดจำสถานที่ต่างๆบ้าง หรือ ดูเทียบเอาในสถานที่ในแผนที่ที่จุดวาร์ป 






ซึ่งอย่างที่ยกตัวอย่างในรูป มีคำที่เป็นสถานที่อยู่คือ พื้นที่เพาะปลูก พัลบาเรย์ (パルバレイ牧耕地) และ สะพาน คาเมรอต キャメロット大陸橋 ซึ่งก็คือทางออกทางซ้ายบนของ พัลบาเรย์ นั่นเองครับ


สัญลักษณ์ต่างๆของมิชชั่น 
ดาวสีทอง เมนมิชชั่น หรือ ภารกิจหลักของเนื้อเรื่อง 
ดาวสีม่วง หินโดเซกิมิชชั่น หรือ ภารกิจในการหาหินโดเซกิทั้ง 15 อัน 

รูปเครื่องหมาย ! ซับมิชชั่น หรือ ภารกิจรองของเนื้อเรื่อง


                                  ***************************************



โบราณสถานบนยอดมาบิโนกิโอ้ (マビノギオ山岳遺跡) 

- ทันที่ตกลงมาด้านล่าง สุเรย์ และ มิคุริโอ้ก็เข้าไปสำรวจโบราณสถานด้านในทันที ผ่านจุดเซฟแรกของเกม ซึ่ง จุดเซฟนั้นจะไม่แสดงให้เห็นตำแหน่งในแผนที่ต่อเมื่อยังไม่ได้เข้าไปสำรวจ / แท่นอักขระโบราณ ซึ่งก็คือที่สอนถึงระบบพื้นฐานต่างๆในเกม ทุกครั้งที่อ่านก็จะได้ค่า AP มา ซึ่งค่า AP นี้จะสามารถนำไปใช้ในการกำหนด Skill เสริมต่างๆที่ใช้ในระหว่างเดินทางและขณะต่อสู้ได้ด้วย / แอ๊คชั่นขณะเดินทางในดันเจี้ยนได้ในขณะนี้คือกด สี่เหลี่ยมในการฟันสิ่งกีดขวางต่างๆ ซึ่งสิ่งแรกที่เจอคือ ใยแมงมุม และทันทีที่ที่ศัตรูตัวแรกของเกมโผล่ออกมา ปีศาจแมงมุม หรือ พวกเฮียวมะจามิติมืดตามเรื่องเล่าโบราณที่ท่านผู้เฒ่าเล่าให้ มิคุริโอ้ ฟังมาตลอด ทั้ง 2 คนก็ต้องเข้าไปจัดการพวกมัน

 ระบบการต่อสู้ที่เรียกว่า LMBS ของตระกูลเทล ออฟ นั้นหลายคนคงคุ้นเคยกันมากแล้ว ซึ่งก็คือ กด O โจมตีปกติ กด X ท่า Skill กดสี่เหลี่ยม การ์ด และแดชหลบด้วยการใช้แกนอนาล็อกซ้ายในขณะที่การ์ด ตามปกติ แต่ถาเป็นตัวละครอื่นๆในปาร์ตี้ที่เป็นชาว สายเลือดสวรรค์ นั้นก็จะออกมาในรูปแบบของนักเวทย์นั่นแหละครับด้วยการ กด O โจมตีปกติ กด X ท่าร่ายเวทย์ต่างๆ 

- ระหว่างเดินทางเข้าไปในโบราณสถาน สุเรย์ จะเห็นผู้หนึ่งนอนสลบอยู่ที่ชั้นล่างไกลๆจึงรีบลงไปตรวจสอบเพื่อหาทางช่วย  ผ่านห้องโถงใหญ่ที่มีจุดเซฟ ขึ้นไปชั้นบนที่จุดดาว ซึ่งจะเป็นจุดที่ยืนลงไปที่กลางลานตรงที่ผู้หญิงสลบอยู่พอดี แต่ดูเหมือนมันจะสูงเกินกว่าจะโดดลงไปแล้วไม่ตาย ขณะที่กำลังเข้าไปสำรวจที่ทางด้านแคบๆฝั่งซ้าย มิคุริโอ้ จะเห็นทางที่เขาพอจะทำได้ จึงบอกให้ย้อนกลับลงไปที่ชั้นล่าง ย้อนกลับไปที่ห้องกว้างที่มีจุดเซฟ ตรงนี้ มิคุริโอ้ จะใช้เวทย์น้ำของเขาทำสะพานน้ำแข็งข้ามไปฝั่งตรงข้ามได้สำเร็จ ทั้งคู่จะเข้าไปช่วยผู้หญิงชุดสีแดงนิรนามคนนึงที่นอนสลบอยู่ ก่อนที่ สุเรย์ และ มิคุริโอ้ จะพาเธอกลับไปพักที่หมู่บ้านก่อน เดินผ่านห้องเข้าไปด้านในก็จะทะลุออกมาที่ด้านหลังของโบราณสถานได้

หมู่บ้านลอยฟ้าของชาวสายเลือดสวรรค์ (天族の杜イズチ) 

สุเรย์ ตัดสินใจพาหญิงสาวนิรนามชุดแดงมาที่หมู่บ้านของเขาเพื่อรักษาอาการบาดเจ็บท่ามกลางความไม่พอใจและไม่ไว้ใจของ มิคุริโอ้ เพราะหมู่บ้านลอยฟ้าแห่งนี้ก็ไม่แตกต่างกับอนาเขตลับของเหล่าชาวสายเลือดสวรรค์ที่หลบลี้หนีจากสังคมมนุษย์ และ สุเรย์ ก็เป็นมนุษย์คนเดียวที่ถูกเก็บมาเลี้ยงตั้งแต่ยังเด็กจนสามารถอยู่ร่วมกับชาวสายเลือดสวรรค์อย่างเชื่อใจแถมยังได้เพื่อนซี้อย่าง มิคุริโอ้ ชาวสายเลือดสวรรค์ที่โตมาพร้อมกัน และนั่นทำให้ สุเรย์ นั้นโลกสวยพอที่จะพยายามที่จะเดินทางหาคำตอบที่จะทำให้มนุษย์กับเหล่าสายเลือดสวรรค์อยู่ร่วมกันอย่างสงบสุขเหมือนในยุคโบราณได้บ้าง

- เข้าไปที่บ้านหลังบนสุดที่เป็นจุดเขียว เข้าเป็นคุยกับผู้เฒ่าジイジหัวหน้าหมู่บ้าน
- เข้าไปที่บ้านหลังที่อยู่ใกล้จุดเซฟซึ่งก็คือบ้านของสุเรย์ มิคุริโอ้จะเอาถุงมือโบราณที่ได้จากโบราณสถานมาให้ ออกไปช่วยสาวน้อยชุดแดงที่อยู่ด้านนอกมากินอาหารก่อนที่จะพัก 1 คืน
- ตอนเช้าออกมานอกบ้าน เข้าไปที่บ้านผู้เฒ่าสุเรย์จะถูกผู้เฒ่าใช้ให้ไปล่าหมูป่า เขาจึงชวนสาวน้อยปริศนาคนนี้ไปด้วย ระหว่างทางจะแนะนำให้รู้จักกับจุดเหตุการณ์สำคัญต่างๆระหว่างทางที่สุเรย์จะบันทึกเป็นภาพลงสมุดของเขา โดยทั้งหมดก็จะถูกเก็บไว้ในเมนู ดีสคัฟเวอร์รี่ ディスカバリー   ซึ่งทุกครั้งที่พบจุดเหล่านี้ก็จะได้ + AP ด้วย

- จากนั้นจัดการมอนสเตอร์หมูป่ารอบๆนี้จนพอใจแล้วกลับบ้านของสุเรย์  ตอนเช้าคุยกับสาวปริศนาคนนี้อีกครั้งเธอก็จะแน่นำตัวว่าเธอชื่อ อาริเชีย (アリーシャ)    

                   

หลังจากแนะนำตัวกันแล้ว อาริเชีย ก็จะขอตัวกลับเมืองของเธอ ซึ่งที่เคยคุยกับสุเรย์นั้นเธอบอกแค่ว่าบ้านของเธออยู่ที่เมือง เลดี้ เลค (レディレイク) แต่เธอไม่เคยที่จะบอกเป้าหมายและสาเหตุที่เธอเข้าในโบราณสถานนั้นเลยซักครั้ง ทันทีที่ อาริเชีย ไปแล้ว ท่านผู้เฒ่าจะนำเอามีดสั้นที่เธอทำตกเอาไว้มาให้ดู และบอกให้รู้ว่ามันเป็นของล้ำค่าของชาว ไฮแลนด์ แต่ก่อนที่จะควรกังวลเรื่องนี้ ท่านผู้เฒ่าจะรู้สึกได้ถึงไอแห่งความชั่วที่บุกรุกเข้ามาที่นี่จึงให้ทุกคนรีบไปตรวจสอบ

- เข้าไปที่จุดดาวนพื้นที่ ที่ริมหน้าผาจะพบกับ แวมไพร์ตัวนึงกำลังดูดเลือดชาวบ้านอยู่ มันไม่แสดงตัวตนหรือชื่อเสียงเรียงนามนอกจากเสียงหัวเราะและรอยยิ้มที่น่าสะอิสะเอียน สุเรย์ กับ มิคุริโอ้ จึงรีบเข้าไปจัดการมันทันที
Boss แวมไพร์ ???? L.V 4 HP 1000  ตอนนี้จะสามารถใช้ท่า Skill 「天滝破]ท่ากด X แรกของ สุเรย์ได้แล้ว ซึ่งต้องเข้าไปติดตั้งในเมนู Skill  หลังจากจบการต่อสู้ สุเรย์ กับ มิคุริโอ้ จะสู้มันไม่ได้เพราะมันสามารถหันไปดูดเลือดจากศพเพื่อเพิ่มพลังได้เรื่อยๆ จนท่านผู้เฒ่าและชาวบ้านทั้งหมดจะเข้ามาช่วยจนเจ้าแวมไพร์รีบหนีไป

จากเหตุการณ์ที่น่าสยดสยองนี้ท่านผู้เฒ่ารู้ดีว่า อำนาจของ 災禍の顕主จักรพรรดิแห่งความมืดและเหล่า เฮียวมะ ปีศาจลูกสมุนของมันเริ่มแข็งแกร่งขึ้นทุกทีแล้วและในคืนนั้น สุเรย์ ก็ไม่สามารถนอนหลับได้อีกเลย ภาพของชาวบ้านที่ถูกพวก เฮียวมะ ฆ่าอย่างโหดเหี้ยมยังตามมาหลอกหลอนจนเข้าต้องหาทางทำอะไรซักอย่าง เพราะถ้ามันหนีจากที่นี่ไปได้มันก็ต้องไปทำเรื่องชั่วร้ายที่เมืองใกล้เคียงได้เหมือนกัน ซึ่งเมืองที่ใกล้ที่สุดก็คือเมือง เลดี้ เลค บ้านของ อาริเซีย นั่นเอง สุเรย์เริ่มเป็นห่วงและไม่รอช้าที่จะเก็บข้าวของออกเดินทางในกลางดึกทันทีเพื่อจะได้ไม่มีใครรู้

-ออกจากบ้านแล้วไปที่จุดดาวตรงทางออกด้านล่างของแผนที่

ในขณะที่สุเรย์จะออกพ้นประตูหมู่บ้าน เขาหันไปดูบ้านเป็นครั้งสุดท้ายก่อนที่จะตัดสินใจว่าจะออกไปทำในสิ่งที่ถูกเพียงลำพัง แต่พอหันกลับมาก็เจอ มิคุริโอ้ เพื่อนรักที่รู้ทันมันดักรออยู่แล้ว มิคุริโอ้บอกว่าท่านผู้เฒ่ารู้ดีอยู่แล้วว่า สุเรย์จะต้องออกไปเดินทางค้นหาความจริงต่อ ท่านจึงมอบกระบอกสูบยาเอาไว้ให้เป็นที่ระลึกกับฝากมีดสั้นของ อาริเซีย ให้เอาไปคืนเธอด้วย ไม่มีคำสัญญาใดๆก่อนที่สุเรย์และมิคุริโอ้จะย่างก้าวออกจากบ้านเกิด นอกจากพันธะอันยิ่งใหญ่ในหัวใจของสองเผ่าพันธุ์ที่มีร่วมกันมาเหมือนในครั้งอดีตกาล  

-หลังออกจากหมู่บ้านลอยฟ้าของชาวสายเลือดสวรรค์ (天族の杜イズチ) ก็จะออกมาที่เขตป่า アロダイトの森 ผ่านออกมาทางฝั่งขวามาที่เขตที่ราบ レイクピロー高地 ก็จะถึงเขตลานกว้างที่จะมีทางแยกไปตามที่ต่างๆได้อีกมากมาย แต่ตรงหน้าก็คือเมือง เลดี้ เลคレディレイクเป้าหมายที่เดินทางมาแล้ว

- ที่ด้านหน้าทางเข้าจะเจอรถขนของของพวกพ่อค้าที่กำลังจอดขนของขวางทางเข้าอยู่ เข้าไปคุยกับ โรเซ่ (ロゼ) แม่ค้าหน้าเลือด เธอต้องการเงิน 1000 กิลด์ถ้าต้องการที่จะผ่านทางอย่างะสะดวก แน่นอนว่าไม่มีเงินถึงแน่นอน ย้อนกลับออกมาที่สะพานด้านนอก มิคุริโอ้จะแนะนำให้อย่าไปเสียเงินให้ลองถามทหารถึงอาริเซียจะดีกว่า พอเดินเข้าไปอีกครั้งจุดดาวก็ขึ้นที่ทหาร เมื่อเข้าไปคุยกับทหารรถขนของสินค้าที่ขวางทางอยู่ก็จะขนเสร็จจนสามารถผ่านทางเข้าเมืองได้แล้ว


เมืองริมทะเลสาบ เลดี้ เลค (レディレイク)





-เข้ามาในเมืองแล้วเข้าไปสำรวจที่จุดดาวให้หมดซึ่งจะพบว่ามีชาวเมืองหลายคนที่ถูกปีศาจ เฮียวมะ ครอบงำอยู่ จากนั้นเข้าไปที่ทางออกขวาล่างของแผนที่จะเข้ามาในเขตเมืองด้านใน ที่จุดดาวก็คือบ้านพักของ อาริเซีย แต่พอเข้ามาก็จะพบหมาตัวนึงกำลังเห่าไอวิญญาณอยู่ ไม่นานมันก็ปรากฏตัวออกมาเป็นเจ้าแวมไพร์ตัวเดิม ก่อนที่มันจะหนีไปจากที่นี่ทันที
- ตามมันย้อนมาที่โซนกลางของเมือง เข้าไปที่ซอยด้านบนของแผนที่จะพบหมาที่ตามไล่เห่ามันโดนฆ่าตายไปแล้ว เข้าไปด้านในก็จะเจอตัวเจ้าแวมไพร์ สุเรย์และมิคุริโอ้จึงต้องเข้าไปสู้กับมันอีกครั้ง
Boss แวมไพร์ ???? หลังจากพยายามจัดการมันจนได้แล้ว มันจะพยยามปล่อยพลังโจมตีใส่มิคุริโอ้จนบาดเจ็บ ก่อนที่มีกลุ่มคนลึกลับกลุ่มนึงเข้ามาแทรกแซงการต่อสู้ พวกมันเข้ามาใช้มีดบังคับให้สุเรย์หยุดต่อสู้ ก่อนที่จะเข้าไปจับตัวเจ้าแวมไพร์แล้วสลายตัวกันไป
- จากนั้นเข้าไปที่จุดดาวในมืองที่ด้านหลังโบสถ์ เพื่อจะขอเข้าไปพบอาริเซียที่กำลังทำพิธีบางอย่างอยู่ด้านใน ตรงนี้จะมีจุดดาวอยู่หลายที่ที่จะทำให้เข้าไปด้านในได้ แต่ทางที่ดีเข้าคุยกับ โรเซ่ แม่ค้าหน้าเลือดที่เจอหน้าเมือง เธอจะเดินเข้าออกได้สบายแปลว่าเธอเส้นใหญ่ไม่เบา ทันทีที่เข้าไปคุยกับเธอๆก็ต้องการเงิน 1000 กิลด์เพื่อแลกกับพาเข้าด้านในอีกแล้ว แต่สามารถเอาไอเทมดีๆแลกแทนได้ ซึ่งก็สามารถกดเลือก ไอเทม「ジイジのキセルを渡す」กล้องยาสูบที่ท่านผู้เฒ่าให้มานี่แหละเอามาทำประโยชน์ไปก่อน เมื่อได้เงินแล้ว โรส ก็จะพาเข้าไปด้านในโบสถ์ได้

 ด้านในโบสถ์จะพบว่ากำลังมีการทำพิธีกรรมบางอย่างอยู่ ในเวทีมีดาบแห่งสวรรค์ที่ปักอยู่บนแท่นที่มีคนมากมายที่พยายามจะดึงมันออกแต่ก็ยังไม่มีใครสามารถทำได้ จนอาริเชียออกมาพร้อมกับ มัลทราน องค์รักษ์ของเธอ อาริเซียในฐานะเชื้อพระวงศ์ผู้สืบทอดตำแหน่งกษัตริย์คนสุดท้ายแห่งไฮแลนด์ แต่เธอไม่ได้สนใจหรือยึดติดกับสิ่งที่เธอเป็นไปมากไปกว่าความสุขของบ้านเกิดของเธอ สิ่งที่เธอพยายามทำมาตลอดคือบอกถึงภัยร้ายจากพวกปีศาจเฮียวมะที่กำลังย่างกรายเข้ามา อาริเซียพยายามหาทุกวิธีที่จะรับมือกับพวกมันและหนึ่งในทางออกก็คือตำนานเล่าขานของ ผู้ที่เรียกว่า นักพรต ที่สามารถใช้พลังจากชาวสายเลือดสวรรค์ในการขจัดมารได้ เธอจึงพยายามที่จะหาใครก็ได้ที่จะสามารถดึงดาบสวรรค์ขึ้นมาได้ และสามารถใช้พลังของไลล่า (ライラ) หญิงสาวชาวสายเลือดสวรรค์ที่นอนอยู่บนบัลลังค์ นั่นคือสาเหตุที่ทำให้เธอดั้นด้นไปถึงหมู่บ้านลอยฟ้าของชาวสายเลือดสวรรค์แต่ก็ต้องไปนอนสลบอยู่ในโบราณสถานนั่นเอง แต่ดูเหมือนว่ายิ่งไม่มีใครดึงดาบขึ้นได้ทุกคนก็จะเห็นว่ามันเป็นแค่นิทานหลอกเด็กที่ไม่เป็นความจริง ซึ่งถึงแม้ความเป็นเชื้อพระวงศ์ของเธอก็ไม่สามารถต้านทานอำนาจของรัฐมนตรีของอณาจักรที่มีระบบปกครองด้วยรัฐสภาได้มากนัก ความเชื่อถือของอาริเซียจึงแทบที่จำต่ำเตี้ยติดดิน



แต่แล้วจู่ๆ ไลล่าก็มีปฏิกิริยาบางอย่างจนแสดงพลังออกมาจนสามารถเปิดเผยร่างที่แท้จริงของพวกปีศาจเฮียวมะที่แฝงตัวเป็นชาวบ้านได้ จนปีศาจมากมายก็ออกมาในโบสถ์จนเกิดความวุ่นวายไปหมด จนสุดท้าย อาริเซีย ก็จำต้องใช้ความเชื่อสุดท้ายที่เธอเพิ่งพบเจอ สุเรย์ เด็กหนุ่มที่เป็นมนุษย์หนึ่งเดียวที่อยู่ร่วมกับชาวสายเลือดสวรรค์มาตั้งแต่เด็ก ลองขึ้นไปดึงดาบดู ท่ามกลางปีศาจมากมายที่บุกเข้ามา สุเรย์ไม่มีทางเลือกที่ต้องลองดูซักตั้งก่อนจะดึงดาบแห่งสวรรค์ขึ้นมาจากแท่นอย่างง่ายดาย และมันก็ทำให้  ไลล่า สามารถใช้พลังของเธอจัดการพวกปีศาจลงได้ ก่อนที่สุเรย์จะเข้าไปช่วยจัดการพวกมันด้วยจนสามารถจัดการปีศาจได้จนหมดจนสามารถเรียกศรัทธราของชาวเมืองกลับมาได้อีกครั้ง  อาริเซีย ทั้งแปลกใจและดีใจที่ สุเรย์ เด็กหนุ่มจากเมืองลับแลจะสามารถใช้พลังของชาวสายเลือดสวรรค์ในฐานะ นักพรต ตามตำนานโบราณได้จริงๆ หลังจากความวุ่นวายลง รัฐมนตรีบาธโรลเข้ามาตรวจสอบความเรียบร้อย เขารับรู้ในศัทธราที่อาจะเป็นภัยต่ออำนาจการปกครองของเขาในซักวันก่อนที่จะออกจากที่นี่ไปพร้อมกับ สุเรย์ ที่สลบล้มลงเพราะหมดแรง 

1 คืนที่สุเรย์สลบไปก็ตื่นขึ้นมาในโรงแรมในเมืองเลดี้ เลค (レディレイク) ท่ามกลางชาวบ้านมากมายให้การต้อนรับอย่างวีรบุรุษผู้ให้ความหวังทันทีที่ออกจากห้อง

- จากนั้นออกจากโรงแรมแล้วเข้าเมืองไปที่ทางออกซ้ายล่างของแผนที่มาที่จุดชมวิวริมน้ำ



ที่ท่าน้ำ ไลล่า จะเล่าความเป็นมาของการต่อสู้ระหว่างเหล่าสายเลือดสวรรค์และกองทัพแห่งความมืดของจักรพรรดิมาร  災禍の顕主 รวมทั้งเรื่องราวของเธอว่า เธอคือ เทนโซกุ หรือชาวสายเลือดสวรรค์ที่เป็นเสมือนผู้คุมกฎผู้ที่สามารถทำสัญญาระหว่างมนุษย์และชาวสายเลือดสวรรค์ให้รวมร่างเข้าทรงแล้วใช้พลังร่วมกันได้ ในฐานะผู้พิทักษ์ดาบสวรรค์ที่รอคอยคนที่จิตใจที่บริสุทธิ์มากพอที่จะทำสัญญากับเธอได้ สุเรย์จึงเป็น โดชิ หรือ นักพรต หนึ่งเดียวที่มีพลังตรงกับเธอที่เธอรอคอยมานานแสนนาน เธอยังบอกต่ออีกว่า นักพรต นั้นนอกจากจะร่วมกันต่อสู้โดยใช้พลังของชาวสายเลือดสวรรค์แล้ว ยังสามารถเป็นร่างทรงที่จะให้ชาวสายเลือดสวรรค์ที่มีพลังของธาตุต่างๆเข้าประทับทรงรวมร่างกับนักพรตในการต่อสู้กับปีศาจได้ด้วย 

- จากนั้นกลับไปที่โรงแรม คุยกับเจ้าของโรงแรมเขาจะเลี้ยงอาหารเพื่อเป็นขอบคุณที่ช่วยเมืองเอาไว้ ก่อนที่จะเอาชุดนักพรตและสัมภาระพร้อมกับจดหมายที่อาริเซียฝากเอาไว้มาให้ หลังจากสวมใส่ชุดนักพรตใหม่แล้วก็ออกนอกโรงแรมได้เลย ซึ่งตอนนี้ข้างๆโรงแรมก็จะมีจุดสีแดงที่เป็นร้านขายอาวุธ เครื่องป้องกัน และ ไอเทมต่างๆแล้ว
- ออกไปที่ตลาดหน้าโบสถ์คุยกับ โรส แล้วสำรวจลังขายของก็จะได้หมวกคาวบอยที่เป็นไอเทมสวมใส่มา แล้วไปที่ทางออกซ้ายล่างของแผนที่มาที่จุดชมวิวริมน้ำจะพบกับแม่ค้าเร่ตัวน้อย かめにん ซื้อไอเทม地図 มาจากเธอ 100 กิลด์แล้วคุยกับชายที่จุดดาว ประตูทางเข้าท่อระบายน้ำที่สุดซอยก็จะสามารถเข้าไปด้านในได้แล้ว

ทางระบายน้ำใต้เมือง (ヴィヴィア水道遺跡 )

- ที่หน้าทางเข้าจะเจอปีศาจเมือกกำลังกินชาวบ้านอยู่ ทุกคนจึงเข้าไปช่วยจัดการเจ้าปีศาจเมือก スライムグラットและลูกสมุน スライム อีก 3 ตัวให้หมด จะพบว่า มิคุริโอ้ไม่ได้ร่วมสู้ด้วย แถมทำอามณ์หงุดงหงิดที่จะไม่ยอมร่วมลุยเข้าไปที่นี่ด้วย ทำให้สุเรย์ต้องเข้าไปกับ ไลล่าแทน
-เข้าไปด้านในทางระบายน้ำจนถึงจุดดาวที่เป็นประตูที่ล็อกอยู่ เลือกไอเทม [王家のナイフ] ซึ่งก็คือมีดสั้นของอาริเซียมาใช้ในการงัดให้ประตูเปิดก็จะเข้าไปด้านในได้ เข้าไปจนถึงแท่นที่วาง ลูกแก้วแห่งธาตุไฟ ไลล่าจะเก็บมาให้สุเรย์ใช้ จากนั้นเข้าไปที่ประตูทางขวาที่ปิดอยู่ กดขึ้นบนเพื่อใช้หมัดไฟใส่แท่นคบเพลิงให้ติดประตูก็จะเปิดให้ไปต่อ หมัดไฟก็จะเป็นแอ็คชั่นทริคอันใหม่ของการเดินทาง




-จากนั้นเข้าไปต่อจนถึงทางที่มีพวปีศาจเมือกขวางทางอยู่ เข้าไปสู้กับมันซะ แต่ขณะที่สู้จะพบว่าพวกมันบุกเข้ามาจำนวนมากจนกำลังจะหมดแรงสู้ไม่ไหว ไลล่า จึงบอกให้ใช้พลังของลูกแก้วแห่งไฟในการรวมร่างเข้าทรงกับตัวเธอจนกลายเป็น นักพรตอัคคี 神依・火 อาวุธคือดาบไฟที่สามารถกวัดแก่วงจัดการศัตรูได้จำนวนมากๆในครั้งเดียว ซึ่งระบบนี้คือ ระบบ คามุย (神依化) หรือการทรงเทพนั่นเองโดยสามารถใช้ได้ด้วยการกด L1 และใช้ค่า BG1 ในการแปลกร่าง 

- ผ่านพวกปีศาจเมือกมาได้ก็เข้าไปที่ประตูแล้วกดขึ้นบนใช้หมัดไฟกับเสาคบเพลิง 2 จุดก็จะเปิดประตูอ้อมกลับมาลงบนไดมาที่ทางเข้าด้านหน้าได้แล้ว
- ออกจากท่อระบายน้ำเข้าทางเข้าขวาล่างของเมืองกลับไปหา อาริเซีย ที่บ้านเอาไอเทม [王家のナイフ]มีดสั้นให้กับเธอ แล้วตามไปคุยกับเธออีกครั้งที่โบสถ์ อาริเซีย ก็จะร่วมทางด้วย
- จากนั้นออกนอกเมืองไปที่ที่ราบ レイクピロー高地 ด้านหน้าเดินทางอ้อมไปทางขวาเพื่อไปที่ทางเข้าจุดสีแดงทางฝั่งซ้ายบนก็จะพบทางเข้าโบราณสถานใต้ดินการาฮัท (ガラハド遺跡)

โบราณสถานใต้ดินการาฮัท (ガラハド遺跡)
-เข้ามาด้านในแล้วจะพบหมอกสีดำที่กั้นทางอยู่กดขึ้นบนแล้วใช้หมัดไฟทำลายมันได้ เข้าไปด้านในจนถึงห้องเก็บธนูเทพวารี ซึ่งไลล่าจะไม่สามารถแตะต้องได้เพราะไม่ใช่พลังในสายของเธอ ทุกคนจึงต้องเลยผ่านไปก่อน แต่จะเห็นมือของใครคนนึงเข้ามาหยิบธนูเอาไว้ เข้าประตูหลังห้องไปต่อไปจะมีทางแยกซ้าย ขวา ทางซ้ายจะเป็นทางลงไปเก็บไอเทม ส่วนทางขวาจะเป็นทางลงไปยังเป้าหมายรูปดาว
- ผ่านจุดเซฟเข้าไปในห้องด้านในทุกคนจะเจอปีศาจตะขาบเข้ามารุมโจมตี オオムカデ 3 ตัว LV 10 จัดการพวกมันให้หมด แต่ดูเหมือนพวกมันจะเข้ามาเพิ่มอีกเพียบ



ในขณะที่ทุกคนกำลังจะแย่ มิคุริโอ้ ก็จะโผล่ออกมาช่วยด้วย ธนูเทพวารี 称号「陪神たる友」จากนั้นสุเรย์ก็จะสามารถรวมร่างเข้าทรงกับมิคุริโอ้จนกลายร่างเป็น 神依・水 นักพรตวารี ได้ อาวุธคือธนูน้ำแข็งที่สามารถยิงต่อเนื่องได้อย่างรุนแรง ซึ่งสามารถใช้งานได้ด้วยการกด L1 และใช้ค่า BG 1 ในการแปลงร่าง

** ตอนนี้โดยในฉากต่อสู้ต้องกดปุ่มทิศทางเพื่อเลือกระหว่าง ไลล่า กับ มิคุริโอ้ ในการใช้รวมร่างเข้าทรงได้ **

 -  หลังจากจัดการศัตรูจนหมดแล้วเข้าไปด้านในต่อจนถึงบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ อาริเซียจะตักมันกลับมา และทันทีที่จบเรื่อง สุเรย์ก็หมดแรงสลบลงอีกครั้ง

สุเรย์ตื่นขึ้นอีกครั้งในเช้าอีกวันในโรงแรมในเมือง เลดี้ เลค (レディレイク)
- ออกจากโรงแรมแล้วไปที่จุดดาวในเมือง จะพบกับบาทหลวงบรูโน่ ブルーノอาริเซียจะขอให้ไปช่วยที่โบสถ์เพื่อทำพิธีกับน้ำมนต์ศักดิสิทธิ์
- จากนั้นออกจากเมือง ที่ที่ราบレイクピロー高地 ด้านหน้า เดินทางไปที่ทางออกจุดสีเขียวทางซ้ายล่างของแผนที่มาที่  フォルクエン丘陵 แล้วไปที่จุดสะพานขาด คุยกับทหารตรงจุดดาวแล้วจะเจอปีศาจงูน้ำเข้ามาโจมตี ウロボロス LV9 HP 3048 เข้าไปจัดการมันซะ แล้วมันจะกลายร่างกลับเป็นคน ซึ่งก็คือ อุน  ウーノเจ้าเมืองและผู้ดูแลด้านพิธีกรรมของโบสถ์แห่งเลดี้ เลค นั่นเอง

- จากนั้นพาเขากลับมาที่โบสถ์ในเมืองเลดี้ เลค (レディレイク) เพื่อทำพิธีอัญเชิญน้ำมนต์ศักดิ์สิทธิ์ หลังจากสำฤทธิ์ผลเมือง เลดี้ เลค ก็จะเป็นเซฟโซน จุดปลอดภัยจากพวกปีศาจ

และจากนี้ที่เมื่อคุยกับ อุย ก็จะมีคำสั่ง 地の主メニュー ที่ให้ฟื้นฟูอณาเขตของเมืองได้ หรือก็คือ effect location ในการเสริมเงื่อนไขพิเศษต่างๆเพื่อความสะดวกและได้เปรียบของตัวละครในขณะอยู่ในพื้นที่นี้นั่นเอง โดยจะประกอบด้วย 
セーブポイント間移動 ในจุดเซฟจะมีคำสั่ง วาร์ป หรือ Fast travel เพิ่มเข้ามาโดยการกดสี่เหลี่ยมก็จะสามารถวาร์ปเลือกเดินทางไปตามเมืองต่างๆที่เคยผ่านมาได้แล้ว
恩恵セット Skill Support ต่างๆที่เป็นผลประโยชน์เสริมที่จะได้รับในฉากแผนที่ การเดินทางและการได้รับไอเทมในพื้นที่
アイテム奉納 การอุทิศไอเทมต่างๆมาแลก Grade ให้เลเวลมากขึ้น เพื่อปลดล็อก Skill Support แบบใหม่ๆเพิ่มขึ้นมา

- หลังเสร็จพิธี ซิโมน หนึ่งในคนของคณะรับมนตรีที่แอบตามทุกคนมาตลอดก็จะออกมาเอาสาสน์เชิญให้สุเรย์และพวกเข้าไปพบฝ่ายปกครองของเมืองทันที ออกจากโบถส์ไปที่ทางเข้าด้านขวาล่างของเมืองมาในเขตบ้านของ อาริเซีย ประตูทางเข้าที่จุดแดงด้านล่างจะสามารถเข้าไปด้านในได้แล้ว

ปราสาท ラウドテブル王宮
-ตามทหารเข้าไปด้านในตึกจนถึงห้องรอง สำรวจห้องให้ทั่วๆแล้วซักพักทหารจะมาพาตัว สุเรย์ เข้าไปคนเดียว ตามทหารเข้าไปถึงห้องประชุม ซึ่งก็จะพบกับคณะรัฐมาตรีต่างคือ ชิโมน สังฆราช นาทาเอล , มาเทียร์ และ บาธโรล ทันทีที่เริ่มคุยกัน บาธโรลและคณะเห็นว่าการกระทำของ สุเรย์นั้นสามารถกู้ศรัทธราของประชาชนคืนมาได้ พวกมันจึงพยายามจะต่อรองเพื่อใช้เป็นเครื่องมือในการซื้อความนิยมจากประชาชนเสียเลย บาธโรล โยนเงินสุเรย์เพื่อขอบคุณเรื่องที่ช่วยเมืองและอยากจะให้เขาทำงานให้กับทางคณะรัฐบาลเพื่อต้องการให้ทำงานให้ทางรัฐบาลแทนอาริเซีย แน่นอนว่าสุเรย์แทบไม่ต้องคิด เขาไม่เอาด้วยและลุกขึ้นเพื่อออกจากห้องทันที เจ้า บาธโรล โกรธมากเลยเรียกทหารเข้ามจับ ในขณะที่อารเซียและพวกที่เหลือในห้องก็ตามมาช่วยสุเรย์ด้วยเหมือนกัน
- จัดการทหารที่บุกเข้ามาให้หมด แล้วกลุ่มคนลึกลับที่สวมหน้ากากจะบุกเข้ามาจี้คณะรัฐมนตรีให้ยอมจำนนก่อนที่พวกมันจะหนีไปแล้วบอกให้พวกสุเรย์หนีออกมาจากที่นี่ด้วยกัน ออกมานอกห้องพวกทหารมากมายจะเข้ามาล้อมแต่ คนของพวกสวมหน้ากากก็จะมานำทางเข้าไปด้านในจนถึงทางลับในห้องเก็บของซึ่งมันจะเข้าไปทะลุถึงชั้นใต้ดินของปราสาทได้

ヴィヴィア水道遺跡・王宮地下エリア ทางระบายน้ำใต้ปราสาท 
- หนีเข้ามาตามทางระบายน้ำ ระหว่างทางต้องเจอกับมินิบอส エキドナ L.V 10 เข้ามาขวางทาง จัดการมันซะแล้วเข้าไปด้านในต่อจนถึงประตูที่สุดทาง กดขึ้นบนใช้หมัดไฟต่อยจุดไฟที่เสาคบเพลิงก็จะเปิดประตูทะลุออกมาที่ทางระบายน้ำใต้เมือง เมืองเลดี้ เลค ได้แล้ว กลับออกมาในเมืองแล้วเข้าไปที่โรงแรมพักผ่อน 1 คืน

- ตอนเช้า ออกจากเมืองมาที่ที่ราบレイクピロー高地 ด้านหน้าเมืองแล้วเดินทางไปที่ทางออกจุดสีเขียวทางซ้ายล่างของแผนที่มาที่  フォルクエン丘陵 แล้วไปที่จุดสะพานขาด คุยกับคุณลุงネイフトนายช่างใหญ่หัวโล้น ตรงจุดดาว เขาจะบอกว่าไม่สามารถซ่อมสะพานให้ได้เพราะมีมังกรบินมาก่อกวนทำให้ลูกน้องไม่กล้ามาทำงาน จากนั้นออกมาที่ทางออกทางซ้ายของพื้นที่มาที่เขต ภูเขาเรบลู๊ค 霊峰レイフォルク กองทหารที่เคยขวางทางอยู่ก็จะหายไปแล้ว

ภูเขาเรบลู๊ค レイフォルク
-ขึ้นไปตามทางขึ้นเขา ที่สุดทางเดินจะพบเจ้า มาอุนเท็น โทรล  マウンテントロール ที่มีเลเวลถึง 44 เข้ามาโจมตี แน่นอนว่าสู้ไม่ได้ พยายามถอยฉากถ่วงเวลาไปจนกว่าจะตัดเข้าเหตุการณ์ที่มีชายผมยาวกับผืนคู่ออกมาเปิดตัวโดยการเข้าไปจัดการเจ้าโทรลยักษ์นี่อย่างง่ายดาย ก่อนที่จะประกาศกร้าวว่าชื่อ ซาบีต้า ザビーダ แล้วเข้ามาสู้กับพวกสุเรย์โทษฐานที่จะมาจัดการมังกรที่กำลังจะเป็นเหยื่อของเขา มินิบอส ซาบีต้า ザビーダ นั้นเลเวลไม่มากมาย พยายามสู้ไปเรื่อยๆซักพักมันก็จะหยุดสู้ไปเอง มันจะยอมให้พวกของสุเรย์ลองเข้าไปปราบมังกรดูแต่มันก็เตือนอย่างสุภาพไว้ว่างานนี้ระวังนองเลือดเอาไว้ด้วยก็ดี



- จากนั้นเดินขึ้นเขาต่อ ก็จะเจอชายสวมหน้ากากที่เป็นพวกของกลุ่มคนลึกลับที่เจอมาตลอดพยายามเข้ามาขัดขวางไม่ให้ขึ้นไปบนภูเขา ซึ่งก็ต้องสู้กับเขา มินิบอส 男暗殺者 ไม่น่าจะเป็นปัญหาเพราะพี่แกมาคนเดียวด้วย จัดการมันซะและพวกของมันจะเข้ามาช่วยซึ่งดูสรีระแล้วรู้ทันทีว่าเธอเป็นผู้หญิง ขึ้นเขาต่อ เข้าไปสำรวจที่แท่นบูชามังกรที่จุดดาวแล้วขึ้นไปด้านบนจนสุดก็จะพบมังกรตัวเป้าหมายที่จะมาจัดการ  แต่ก่อนที่จะเข้าไปสู้เด็กสาวตัวน้อยถือร่มท่าทางเย็นชาออกมาใช้เวทย์ดินของเธอกักตัวมังกรไว้ ซึ่งดูเหมือน ไลล่าจะรู้จักเธอดีว่าคือ เอโดน่า ก่อนที่แม่หนูจะบอกให้ทุกคนเตรียมเผ่นได้เลย ส่วนเจ้ามังกรหลังจากดิ้นหลุดจากผึกดินได้แล้วก็โผลงมาสู้ทันทีแต่ขอโทษเถอะ เจ้ามังกรไอเซน アイゼンドラゴン นั้นพี่แกเลเวล 80 เลยน๊ะ ไม่ต้องไปทำอะไรเลย เลือกคำสั่งหนีตามที่แม่หนูเอโดน่าบอกได้เลย

- เมื่อหนีออกมาได้แล้ว เดินไปที่จุดดาวที่ศาลบูชามังกรกลางภูเขาก็จะพบแม่หนูถือร่มรออยู่



 ไลล่านั้นรู้จักหนูน้อยคนนี้ดีในนามของ เอโดน่า エドナ  (หรือจะเรียก เอ็ดน่า แบบฝรั่งก็สุดแล้วแต่ครับ ) สาวน้อยชาวสายเลือดสวรรค์ธาตุดินที่สุดแสนจะเย็นชา ปากร้ายและไม่เคยที่จะไว้ใจพวกมนุษย์ แถมเอโดน่าเธอยังเรียกมังกรไอเซนว่าพี่ชายอีกด้วย แต่หลังจากพูดคุยกันแล้วเธอก็เริ่มรู้สึกถึงความใสซื่อของสุเรย์ที่ผ่านมาทางคำพูดรวมทั้งได้รับการเกลี่ยกล่อมจากไลล่าชาวสายเลือดสวรรค์ผู้พี่ที่เธอนับถือ เอโดน่าจึงตกลงยอมช่วยเหลือ จากนั้นไลล่าก็จะทำสัญญาระหว่างเอโดน่ากับสุเรย์ให้สามารถใช้ร่าง นักพรตผสุธา神依・地 ได้แล้ว




 ซึ่งจะมีทีเด็ดอยู่ที่หมัดเหล็กที่มีพลังทำลายล้างสูงมาก จากนั้นเอโดน่าจะบอกว่าการล่ามังกรนั้นจะต้องมีพลังดาร์ก้อนบัสเตอร์ด้วย ซึ่งเธอรู้จักคนที่มีพลังนี้อยู่ และมังกรที่จะล่านั้นไม่ใช่เจ้ามังกรไอเซนบนเขานี้ 

-จากนั้นลงเขากลับมาที่  フォルクエン丘陵 ที่จุดสะพานขาดระหว่างทางจะเจอพวกกลุ่มคนลึกลับที่สวมหน้ากากเข้าโจมตีอีกครั้ง ซึ่งครั้งนี้ก็จะเป็นผู้หญิงตัวเล็กที่อยู่ในกลุ่ม มินิบอส 女暗殺者 นั้นเห็นตัวเล็กๆมาคนเดียวเหมือนตัวก่อนหน้าแต่ความเร็วแล้วพลังโจมตีของเธอนั้นสุดแรงกว่าที่คิดชนิดที่ประมาณไม่ได้เลยล่ะ (หรืออาจเพื่อย้ำเตือนว่าเธอจะเป็นตัวละครสำคัญอีกตัวก็ได้) เมื่อจัดการเธอได้แล้ว ชายสวมหมวกก็จะเข้ามารวดเร็วดุจสายลม ไลล่ารู้จักเขาดีว่าชื่อ เดเซล ชาวสวรรค์ธาตุลมสุดนอกคอกที่ไม่ชอบคบค้าสมาคมกับใคร ก่อนที่เดเซลจะช่วยพานินจาหญิงสวมหน้ากากหนีไปโดยไม่พุดไม่จา จากนั้นเข้าไปที่จุดสะพานขาดคุยกับลุง ネイフトนายช่างใหญ่หัวโล้น แล้ว สุเรย์จะเข้าทรงร่างนักพรตผสุธาต่อหน้าชาวบ้านเพื่อใช้เวทย์ดินในการทำทางเชือมสะพาน ตอนแรกชาวบ้านที่เห็นก็ต่างหวาดกลัว แต่ลุง ネイフトนายช่างใหญ่หัวโล้นกลับเข้ามาขอบคุณและว่ากล่าวพวกลูกน้องก่อนที่จะให้ช่วยกันซ่อมสะพานให้เสร็จทันที หลังจบเหตุการณ์เข้าไปที่สะพานก็จะสามารถโดดข้ามไปอีกฝั่งได้แล้ว ซึ่งตัวเกมก็จะถามว่าถ้าข้ามไปแล้วจะไม่สามารถย้อนกลับมาได้อีก(เฉพาะช่วงนี้) พร้อมแล้วก็เลือกตกลงโดดข้ามไปได้เลย
- ข้ามมาที่ที่ราบ フォルクエン丘陵 ฝั่งตะวันออก พื้นที่กว้างที่หลักที่มีทางแยกไปที่อื่นมากมายแต่ตอนนี้ที่สามารถเข้าไปได้มีแค่เมืองมารีน 大樹の街マーリンド ที่อยู่ทางทิศเหนือเท่านั้น

เมืองแห่งต้นไม่ใหญ่ มารีน 大樹の街マーリンド
-ที่นี่เป็นที่ตั้งของต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ และเอโดน่าบอกว่ามีคนที่เธอรู้จักที่สามารถใช้ท่าสังหารมังกร ดาร์ก้อนบัสเตอร์ได้ แต่เข้ามาแล้วจะเห็นว่าที่นี่มีไอปีศาจที่กำลังเกาะกินพื้นที่และผู้คนอยู่เต็มไปหมด เมืองจึงดูมืดมนไม่สดใสเหมือนแต่ก่อน ทันทีที่เข้ามาก็จะเจอปีศาจหมา ハウンドドッグเข้าโจมตีทันที จัดการซะแล้วเข้าไปสำรวจเมืองให้ทั่วๆเพื่อทำลายไอปีศาจตามที่ต่างๆให้หมดด้วยการกดปุ่มขึ้นบนเพื่อใช้หมัดไฟ จากนั้นเข้าไปที่โบสถ์ทางเหนือของเมือง ด้านในจะพบทหารไฮแลนด์ที่เข้ามาช่วยดูคนเจ็บอยู่ เมื่อออกมาจากโบสถ์ทุกคนจะเห็นมังกรสีแดงโฉบลงมาที่ลานกว้างด้านในของเมืองจึงตามเข้าไปดู
- ที่ลานกว้างตรงต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ จะเจอมังกรแดง ドラゴンパピー อยู่ แต่เมื่อทุกคนเข้าไปไกลมันจะตื่นและจะเข้าจู่โจมเข้ามาจนทุกคนต้องหนีเข้าไปในโบสถ์ เมื่อออกมาจากโบสถ์จะมีจุดดาวขึ้น 2 จุดคือด้านซ้ายและกลางเมือง เข้าไปที่จุดดาวด้านซ้ายจะผ่านลานกว้างเข้ามาที่คฤหาสถ์ ดัมโนเนียร์ ダムノニア美術館

หอศิลป์ ดัมโนเนียร์ ダムノニア美術館
-เข้ามาด้านในตามทาง ใช้ท่าหมัดไฟต่อยทำลายใยแมงมุมเพื่อเปิดทางเข้าด้านในไปเรื่อยๆจนถึงบันไดทางขึ้นไปที่ระเบียงชั้นบนผ่านโถงบันไดกลางมาอีกด้านแล้วเข้าไปจุดดาวที่ห้องใหญ่สุดทาง เข้าไปสำรวจรูปวาดที่พนังด้านใน ก็จะมีอัศวินสีทองขนาดใหญ่ปรากฏตัวออกมา Boss ไนท์ อาร์เธอร์ ナイトアーサー ถึงจะตัวใหญ่แต่ถ้าเลเวลพอจะสู้สีหรือสูงกว่าก็ไม่มีปัญหา เพราะมันมีดีแค่ถึก ใช้ร่างนักพรตผสุธาของเอโดน่าอัดหนักๆต่อเนื่องกันก็จะสามารถจัดการได้



หลังจากจัดการแล้วทุกคนก็ต้องตะลึงเพราะคนที่อยู่ข้างในกลายเป็นตัวประหลาดบ้องแบ๊วที่ชื่อ แอคแทค アタック  เป็นตัวประหลาดที่เรียกว่า นอร์มิน ノルミンตัวเดียวกับเจ้าตุ๊กตาที่ห้อยอยู่ที่ร่มของเอโดน่านั่นแหละ ซึ่งเอโดน่าจะบอกให้ตกใจอีกว่าเจ้านี่แหละที่มีท่า ดาร์ก้อนบัสเตอร์ที่จำจัดมังกรได้ แต่ดูเหมือนเจ้า อาทัค นี่ค่อนข้างจะดราม่ากับเรื่องอดีตจนมัวแต่ร้องไห้ตลอด ตามไปคุยกับมันที่จุดดาวไปเรื่อยๆจนสุดท้ายมันก็มัวแต่ร้องไห้เลยไม่ยอมจะช่วยอยู่ดี 

- คุยจบแล้วออกจากหอศิลป์ แล้วไปที่จุดดาวกลางเมืองคุยกับ อาคาธาร์ アガサ แล้วตามมาคุยกับเธอที่จุดดาวต่อไปที่สุสานข้างโบสถ์ ทุกคนจะเห็นเธอถูกปีศาจสิงอยู่และพยายามเอาตำราโบราณมาขายให้ชายคนนึงที่สุสาน  อาริเซียจึงเข้าไปยึดตำราคืนมาแล้วหลังคุยจบ อาคาธาร์ จะให้คีย์ไอเทม 書庫のカギ มา
-และถ้าใช้หมัดไฟต่อยทำลายไอปีศาจทุกจุดในเมืองจนหมดแล้วก็จะมีจุดดาวขึ้นมาที่ลานกว้างตรงต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ เข้าไปที่หน้าคฤหาสน์ เอโดน่า จะเข้าไปตามตื้อเจ้า แอคแทค ด้วยตัวเองอีกครั้ง จนสุดท้ายไม่รู้เอโดน่าใช่ไม้ตายอะไร แอคแทค ก็เดินตามเธอต้อยๆออกมาแล้วพร้อมที่จะช่วยเหลือในการปราบมังกร  จากนั้นจะมีจุดแดงขึ้นที่บ้านหลังข้างๆลานกว้างเข้าไปแล้วทุกคนจะขึ้นไปแอบบนหลังคาและก็จะเห็นมังกรแดงกำลังบินไปมาอยู่บนฟ้า สุเรย์ จึงใช้ร่างนักพรตวารียิงธนูที่อัดแน่นไปด้วยพลังดาร์ก้อนบัสเตอร์ของเจ้า แอคแทค จนกลายเป็นลูกธนูพลังแสงที่สามารถยิงจนมังกรแดงร่วงลงมาที่พื้นได้ จากนั้นมันจะเข้ามาสู้ด้วยทันที Boss มังกรแดงปาปี้ ドラゴンパピー ถึงจะเป็นมังกรแต่ตัวนี้ทุกคนพอจะสู้ได้แล้ว พยายามทิ้งระยะและหลบการพ่นไฟโจมตีของมันให้ดีก็จะจัดการมันได้

 

หลังจากจัดการมังกรแดงได้มันก็จะกลายร่างกลับมาเป็น โรฮัน ロハン เจ้าเมืองมารีนที่หายสาบสูญไปนั่นเอง  หลังจากคุยกับเขา เขาจะพยายามใช้พลังเพื่อขจัดปัดเป่าสิ่งชั่วร้ายในเมืองออกไป แต่ดูเหมือนยังมีพลังปีศาจบางอยู่อยู่ในป่าใกล้ๆจึงยังไม่สามารถขจัดไอปีศาจออกจากเมืองได้หมด โรฮัน จึงขอให้ไปตรวจสอบที่ซากโบราณสถานโบรุส  ボールス遺跡 ที่อยู่ในป่าใกล้ๆนี่ดูหน่อย 

 จากนี้ก็จะสามารถใช้คำสั่ง 地の主メニュー  ที่ตัวโรฮันและจุดเซฟได้แล้ว แน่นอนว่าจุดเซฟสามารถใช้วาร์ปได้แล้ว และก็จะสามารถใช้เมนู ノルミンをセット ซึ่งเป็น Skill Support ที่เป็นผลประโยชน์เสริมที่จะได้รับในการต่อสู้กับศัตรูชนิดต่างๆในพื้นที่ โดยจะสามารถเลือกนอร์มินที่มีอยู่มาติดตั้งเข้าไป โดยพวกนอร์มินแต่ละตัวจะมีความสามารถที่ให้มาแตกต่างกัน ยกตัวอย่างตอนนี้ก็จะมีแค่เจ้าแอคแทค アタックที่สามารถเลือกติดตั้งเข้าไปซึ่งความสามารถของมันคือ + พลังโจมตีอีก 4 % นั่นเอง





** รายชื่อพวก นอร์มิน ノルミン นั้นก็จะมีมากมายถึง 50 ตัวกระจายอยู่ตามพื้นที่ต่างๆ หากเจอพวกมันก็สามารถเข้าไปคุยแล้วให้อาวุธหรือชุดป้องกันอะไรก็ได้ให้มันไปมันก็จะยอมให้ใช้งานและชื่อของมันก็สามารถมีให้เลือกใช้ในเมนู  ノルミンをセット ที่จุดเซฟในเมืองมารีน **

รายชื่อพวก นอร์มิน ノルミン ตั้งแต่ตัวที่ 1 - 50 พร้อมซับพอร์ทที่จะได้รับและที่อยู่ของพวกมัน
                            ** เครดิตผู้แปล คุณ Naruphun Chotechuang **   

                      https://www.facebook.com/naruphun.chotechuang


1 アタック  แอคแทค พลังโจมตี+4% ได้หลังเคลียร์เหตุการ์ณที่หอศิลป์ ดัมโนเนียร์
2 マインドมายด์ พลังโจมตีเวทย์+4% อยู่ที่ ซากโบราณสถานโบรุส
3ディフェンス ดีเฟน พลังป้องกัน+4% อยู่ที่ สะพานทางทิศใต้ของเมืองแห่งต้นไม่ใหญ่ มารีน
4 レジスト  รีซิสเทินซ พลังป้องกันเวทย์+4%อยู่ที่ ข้างโบสถ์เมืองแห่งต้นไม่ใหญ่ มารีน
5 スピリッツสปิริต สมาธิ+4%  ซากโบราณสถานโบรุส อยู่ที่ ส่วนทิศตะวันตกเฉียงเหนือ บริเวณกลางๆทิศตะวันออก
6 ランページแรมพิจ อัตราความเสียหายจากสตัน+20% อยู่ที่ ตะวันออกของที่ราบเกรฟกัลด์ ฐานทัพไฮแลนด์
7 ルーンรูน เวลาที่ความสามารถจะเพิ่มขึ้น+15% อยู่ที่ บริเวณใกล้ทางออกป่าวอร์กลัน
8ブロック บล็อค ความสามารถในการป้องกัน+5% อยู่ที่ ใกล้ๆซากโบราณสถาน เท็นทาเจล ในป่าวอร์กลัน
9 レストフルเรส ออฟ เวลาที่ความสามารถจะลดลง+8% อยู่ที่ ซากโบราณสถาน เท็นทาเจลเตียงนอนห้องเล็กทิศตะวันตก
10 グッドウィルกู๊ดเวล เวลาถูกสตันลดลง+20% อยู่ที่ ถ้ำลาโมลักส่วนกลางทิศใต้
11 ブラッディスタンบลัดดี้ เมื่อสตันสำเร็จพลังชีวิต+40  อยู่ที่ สุสานในเมืองแห่งช่างลาสทอนเบล
12 プレジャーเพรชเชอร์ เมื่อโจมตีต่อเนื่องพลังชีวิต+4 อยู่ที่ สวนสาธารณะทางทิศใต้เมืองแห่งช่างลาสทอนเบล
13 プライム  พรีม เมื่อป้องกันพลังชีวิต+10  อยู่ที่ ทุ่งหญ้าแห่งชัยชนะปากทางเข้าด้านป่ามาโรรี่
14 ゲインเกน เมื่อศัตรูถูกทำลายพลังชีวิต+50 อยู่ที่ ทิศตะวันออกเฉียงใต้ของทุ่งหญ้าแห่งชัยชนะบริเวณที่มีต้นไม้สามต้น
15 リリーブ   รีรีฟ เมื่อเกจBGถูกใช้พลังชีวิต+50 อยู่ที่ ป่ามาโรรี่ส่วนทิศตะวันตกห้องเล็กๆทางทิศตะวันออก
16 ファントムスタンแฟนธอม เมื่อสตันสำเร็จเกจSCฟื้นฟู+10 อยู่ที่ ทางเหนือของทุงหญ้าเลี้ยงสัตว์ปาลบาเร่ย์
17 チェイン  เชน เมื่อโจมตีต่อเนื่องSCลดลง+1% อยู่ที่ ทุงหญ้าเลี้ยงสัตว์ปาลบาเร่ย์ ทางเข้าเพนดราโก
18 ミラージュมิราจ เมื่อป้องกันเกจSCฟื้นฟูเร็วขึ้น+4% อยู่ที่ ซากโบราณสถานกาเฟรียสชั้นใต้ดิน 2 บริเวณตรงกลาง
19 ガイザーไกเซอร์ เมื่อโดนทำความเสียหายSC+8 เมืองหลวงเพนดราโก อยู่ที่ ส่วนเหนือบริเวณม้านั่งทางทิศตะวันตกเฉียงใต้
20 ジャスティスจัสติส เมื่อหลบได้เกจSC+10  อยู่ที่ เมืองหลวงเพนดราโก น้ำพุบริเวณลานกว้าง
21 テンペストเทนเพรส เมื่อโจมตี 10 ฮิตเกจBGเพิ่ม+5% อยู่ที่ ถ้ำกันเบียร์
22 ワンダー  วันเดอร์ เมื่อศัตรูถูกทำลายเกจBGเพิ่ม+8% อยู่ที่ หน้าผาไบโลบ
23フォレスト ฟอเรสต์ เมื่อป้องกันเกจBGเพิ่ม+25% อยู่ที่ ถ้ำอิเดล
24 フェザーเฟธเธอะ เมื่อหลบได้เกจBGเพิ่ม+16% อยู่ที่ โกโดจิน
25 テンションスタンเทนชั่น เมื่อสตันสำเร็จเกจBGเพิ่ม+8% อยู่ที่ โกโดจิน
26 パラライズマヒแพระไลซ ความสามารถต่อต้านอาการชา+10% อยู่ที่ วิหารแห่งไฟอิกูเรน ชั้นบน
27 バーニングเบิร์นนิ่ง ความสามารถต่อต้านแผลไฟไหม้+10% อยู่ที่ วิหารเพนดราโก ชั้น 3 ทางใต้
28 スロウสโลว์ ความสามารถต่อต้านอาการเท้าหนัก+10% อยู่ที่ ที่ล่าสัตว์ไอฟรีด
29 ポイズン พอยซั่น ความสามารถต่อต้านพิษรุนแรง+10% อยู่ที่ ซากโบราณสถานวิลชูว ชั้นใต้ดิน 3 ทางทิศตะวันตก
30 クラウディเคลาว์ดี ความสามารถต่อต้านอาการเหนื่อยล้า+10% อยู่ที่ วิหารแห่งดินโมลโกส
31ビースト บีสต์ ความสามารถต่อสู้สัตว์ป่า+10% อยู่ที่ วิหารแห่งน้ำรูเฟยชั้น 3
32 クラストครัสท์ ความสามารถต่อสู้เปลือก กระดอง+10% อยู่ที่ ผาเวสเทินโฮด
33 インフィニอินฟินิ ความสามารถต่อสู้ไร้รูปร่าง+10% อยู่ที่ ซากโบราณสถานกันกาเรน ชั้น 5
34 アパッドอะพ็อด ความสามารถต่อสู้ไร้ขา+10% อยู่ที่ วิหารแห่งลมกวินิเวียร์
35 ピニオンพีนีออน ความสามารถต่อสู้สัตว์ปีก+10% อยู่ที่ สะพานแคเมลอด อยู่ในกล่องตรงแคมป์ระหว่างทาง
36 セリアンซีเลี่ยน ความสามารถต่อสู้มนุษย์สัตว์+10% อยู่ที่ ทุ่งหญ้าซาฟก็อด โขดหินทางเหนือ
37 アーマーอาร์เมอร์ ความสามารถต่อสู้หุ้มเกราะ+10% อยู่ที่ ทุ่งหญ้าซาฟก็อดตรงต้นกระบองเพชรทางทิศตะวันตกเฉียงใต้
38 アンデッドอันเดธ ความสามารถต่อสู้อันเดธ+10% อยู่ที่ ถ้ำไตรไซโซ ส่วนตะวันออกเฉียงเหนือ
39 デーモンเดม่อน ความสามารถต่อสู้ภูติอสูร+12% อยู่ที่ หนองพอยซั่นเนอร์แบ็ค
40 ドラゴン   ดราก้อน ความสามารถต่อสู้มังกร+15% อยู่ที่ ป่าสีถ่านลิซแว็ค
41 ヴォイドวอยด์ ความรุนแรงของการโจมตีไร้ธาต+10% อยู่ที่ ซากโบราณสถานอัลโตส
42 ファイア ไฟย่า ความรุนแรงของการโจมตีธาตุไฟ+10% อยู่ที่ เมืองปราการโรกลิน ทิศตะวันตกเฉียงเหนือ
43 アースเอิร์ท ความรุนแรงของการโจมตีธาตุดิน+10% อยู่ที่ เมืองปราการโรกลิน ทิศตะวันออกเฉียงใต้
44 アクアอควา ความรุนแรงของการโจมตีธาตุน้ำ+10%  อยู่ที่ ซากโบราณสถานเมลชิโอ ชั้นใต้ดิน 2
45 ウィンドวินด์ ความรุนแรงของการโจมตีธาตุลม+10% อยู่ที่ ภูเขาเรย์โฟลก์
46 ペネトレイトเพนนิเทรท ความเสียหาย40ลงมาจะไม่กระเด็น อยู่ที่ ป่าอโรได
47 シールドชิลด์ ร่างเหล็กระหว่างร่ายเวทย์+1 อยู่ที่ ซากโบราณสถานภูเขามาบิโนคีโอ
48 プリベントพรีเวนท์ ทุกความเสียหายลดลง 30  อยู่ที่ หมู่บ้านเริ่มต้นคัมรัน
49 インヴァリドอินวะลิด ความเสียหายรวม 400 ลงมาไร้ผล อยู่ที่ บัลลังก์อัลทรัสชั้น 3
50 フェニックスฟินิกส์ ป้องกันการสิ้นสภาพการต่อสู้+20% อยู่ที่ วิหารแห่งไฟอิกูเรนส่วนลึกสุด

 (เมื่อพบโนลูมิน 49 ตัวกลับไปนอนโรงแรมหนึ่งคืน จะมีจดหมายมาส่งให้ไปวิหารไฟ ไปส่วนลึกสุดพบฟินิกส์ ต่อสู้ชนะจะได้มา ระหว่างต่อสู้ถ้าฟินิกส์ตายจะฟื้นขึ้นมา ถ้าดวงไม่ดีก็จะฟื้นขึ้นมาบ่อย)


                 
*****************************************

- หลังจบเรื่องวุ่นๆก็เข้าโรงแรมพักผ่อน 1 คืนตอนเช้า ขบวนคาราวานขายของของเจ๊ โรส ก็จะเข้ามาค้าขายทันทีหลังจากเมืองกลับสู่สภาพปกติ เดินมาที่จุดดาวกลางเมืองจะพบว่ามีเหตุวุ่นวายขึ้นเมื่อกลุ่มทหารประจำเมืองที่นำโดย ลูคัส ルーカスกำลังโวยวายที่เข้ามาจัดการปีศาจแล้วไม่ได้รับเงิน ถ้ามี 5000 กิลด์ก็ให้มันไปซะ ซึ่งจะทำให้มาคัสเห็นถึงน้ำใจของสุเรย์จึงทอนมาให้ 2500 กิลด์เป็นการตอบแทน ออกจากเมือง แล้วเดินทางเข้าไปที่ทางเข้าด้านซ้ายของแผนที่ที่เป็นจุดสีแดงมายังป่า ボールス遺跡

ซากโบราณสถานโบรุส  ボールス遺跡
-เข้ามาด้านในป่าจนถึงจุดดาวในพื้นที่ก็จะพบปีศาจต้นไม้ エビルプラントอยู่ เข้าไปจัดการมันซะ จากนั้นกลับเมืองมารีน เข้าไปคุยกับ ลูคัส ルーカス ที่จุดดาว แล้วเข้าพักโรงแรม 1 คืน ตอนเช้าก่อนออกจากห้องจะเจอนินจาหน้ากากที่มาพร้อมกับเดเซล พวกเขาพยายามาเตือนถึงภัยที่กำลังใกล้เข้ามาก่อนที่จะหายตัวไป ออกมาที่จุดดาวตรงลานกว้างคุยกับโรฮันว่ากำจัดปีศาจที่ปล่อยไอปีศาจที่ป่าหมดแล้ว ตอนนี้เมืองมารีนก็จะไม่ใช่เมืองที่ถูกสาปอีกต่อไปแต่กลบเป็นเมืองที่เป็นสถานที่ตั้งของต้นไม่ศักดิ์สิทธิ์คู่อณาจักรเหมือนเดิม คุยจบออกไปที่จะดาวที่ทางออกเมืองจะเจอทหารไฮแลนด์บาดเจ็บเข้ามา มันมาบอกข่าวถึงการเปิดศึกของอณาจักร์ โรแรนท์ และทางรัฐบาลต้องการตัว อาริเซีย กลับไปที่เมืองโดยด่วน จากนั้นกลับไปคุยกับลูคัสที่จุดดาวในเมือง เพื่อขอให้เขาช่วยรบกับพวกอณาจักร์ โรแรนท์ที่กำลังบุกเข้ามา จนสุดท้าย ลูคัส ก็ตกลงจะยอมช่วย
- ทุกคนจะมาส่งตัวอาริเซียให้ทหารไฮแลนด์ที่สะพานด้วยความเสียใจ (อาริเซียจะออกจากกลุ่ม) จากนั้นเดินทางจุดทางเข้าสีเขียวทางใต้ของแผนที่จะเข้ามาที่ ที่ราบเกรฟกัลด์ グレイブガント盆地

ที่ราบเกรฟกัลด์ グレイブガント盆地 
-ที่นี่ทหารจากอนาจักร์ไฮแลนด์และอนาจักรโรแรนท์เปิดฉากรบใส่กันอย่างดุดเดือดจนกลายเป็นสนามรบที่กว้างไกลสุดลูกหูลูกตา เข้าไปที่จุดดาวที่เป็นค่ายทหารของไฮแลนด์ เข้าไปคุยกับรันด้อน ランドンแม่ทัพไฮแลนด์ในเต้นท์เพื่อถามหาหน่อยของ ลูคัส แต่แม่ทัพจะไม่สนใจที่จะช่วยเหลือ จากนั้นผ่านค่ายทหารออกไปที่จุดดาวในสนามรบ สุเรย์จะเห็นหน่วยของลูคัสกำลังโดนทหารโรแรนท์ล้อมโจมตีอยู่อีกฝากของเขา

สุเรย์คิดอยู่นานระหว่างชีวิตของลูคัสกับความยุ่งยากที่จะตามมาถ้าต้องเปิดเผยพลังและความเป็นนักพรตของตัวเอง แต่สุเรย์ก็ตัดสินใจที่จะเข้าไปช่วยไม่ว่าจะเกิดอะไรตามมาก็ตาม เข้ามาจัดการทหารโรแรนท์จำนวนมากที่บุกเข้ามาให้หมด แน่นอนว่าพลังอันร้ายกาจของนักพรตทีมีเหล่าสายเลือดสวรรค์เป็นกำลังนั้นไม่มีมนุษย์หน้าไหนจะต้านทานได้ ไม่ว่าจะมองเป็นกองทัพก็ตาม นั่นทำให้กองทัพของโรแรนท์ที่เริ่มจากห้าวเป้งไม่เกรงกลัวกลายเป็นต้องแตกกระเจิงหนีหัวหดไปจนหมด แต่นั่นก็ต้องแลกมาด้วยความหวาดกลัวจากสายตาของ ลูคัส และคนของเขาที่เห็นถึงพลังอันน่ากลัวของสุเรย์จนได้แต่เงียบไม่มีคำพูดใดๆออกมาแม้แต่คำว่า ขอบคุณ  

สุเรย์เดินหน้าต่อด้วยการใช้พลังนักพรตถล่มกองทัพหลักของโรแรนท์ที่กำลังทำศึกกับไฮแลนด์จนหนีกระเจิงแพ้พ่ายไปในที่สุด นั่นทำให้กองทัพของไฮแลนด์ได้รับชัยชนะ แต่ใครจะรู้ว่าศัตรูที่แท้จริงที่น่ากลัวกว่ากำลังจะย่างกรายเข้ามา หลังจบศึกสุเรย์รู้สึกได้ถึงพลังความชั่วของปีศาจที่กำลังแพร่กระจายปกคลุมไปทั่วสนามรบ เหล่าสายเลือดสวรรค์ทุกคนรู้ดีว่า จักรพรรดิมารกำลังมาที่นี่แล้ว แต่สุเรย์ไม่สนใจเขาพยายามเข้าไปเพื่อหาทางช่วยเหลือพวกทหาที่กำลังถุกกลืนกิน แต่สุดท้ายก็สายเกินแก่ ตอนนี้ทั้งทหารไฮแลนด์และโรแรนท์ที่กำลังสู้กันในสนามรบโดนไอปีศาจสิงจนกลายเป็นร่างปีศาจเป็นหนึ่งเดียวกันจนหมดแล้ว และศัตรูของพวกมันก็คือ สุเรย์และเหล่าสายเลือกสวรรค์ที่อยู่ตรงหน้านั่นเอง 






-เดินเข้าไปที่จุดดาวในสนามรบก็จะพบกับแม่ทัพ รันด้อนที่ถุกกลืนกินจนกลายเป็น Boss แม่ทัพมาร ランドン師団長 ไปแล้ว พยายามใช้ร่างนักพรตผสุธาจัดการมันเพราะมันค่อนข้างอึดพลังโจมตีหนักจะสามารถตอดพลังมันได้เร็วกว่า จากนั้นก็แค่รอให้เครื่องหมาย ! ขึ้นมาแล้วแดชหลบดาบใหญ่ของมันไปข้างหลังให้ทันเพื่อโจมตีโต้และใช้ท่าเติม HP อยู่ตลอดเท่านั้น แถมยังสามารถใช้ท่าไม้ตายใหม่ 秘奥義を使 ด้วยการกด R2 + O โดยต้องใช้ค่า BG3
- ตอนนี้ที่นี่เต็มไปด้วยททารของทั้ง 2 ฝ่ายที่ถูกกลืนกินจนหมดพวกมันจะเก่งขึ้นถึกขึ้นแต่ก็ให้ค่า Exp เยอะกว่าเดิมด้วย ในค่ายมีจุดเซฟอยู่ ใช้ตรงนี้เก็บเลเวลได้อย่างสบายเลย เก็บเลเวลจนพอใจแล้วค่อยเดินไปที่จุดดาวกลางสนามรบ




ทุกคนจะได้พบกับจักรพรรดิมาร ไซคะโนะเคงชุ 災禍の顕主 จ้าวแห่งภัยพิบัติ  ที่เปิดตัวออกมาในฐานะศัตรูที่แท้จริงที่สุดแสนจะน่ากลัวที่ทำเอาเหล่าสายเลือดสวรรค์ถึงกับต้องถอยหลังหนึ่งก้าวทันทีที่เห็นหน้ามัน แต่สุเรย์ก็ยังมุ่งมั่นที่จะเข้าไปลองสู้กับมันซักตั้ง เขาเรียกไลล่ามาเข้าทรงเพื่อใช้ร่างไฟเข้าโจมตีทันที แต่ดาบสวรรค์ในมือกลับเป็นได้แค่ดาบของเล่นที่จักรพรรดิมารต้านได้อย่างสบายมือ หลังจากฝุ่นจากหายก็เหลือแค่เสียงหัวเราสะใจของจักรพรรดิมารที่หนีไปแล้วทิ้งให้สุเรย์อยู่ท่ามกลางทหารที่ถูกสิงที่ตอนนี้เป็นกองทัพมารทัพใหม่ของมันไปแล้ว สุเรย์มองหาพรรคพวกทั้งหมดแต่ก็กลับไม่ได้เจอใครเลย เขาพยายามสู้ทหารมารตัวแล้วตัวเล่าจนหมดแรง จนสุดท้ายนินจาหน้ากากคนนึงก็มาช่วยเอาไว้ แต่กองทัพมารนั้นมากมายจนไม่สามารถต้านไหวจึงพยายามแบกสุเรย์ที่หมดแรงสลบไปหนีจากที่นี่ แต่ระหว่างที่กำลังหนีอย่างสุดกำลังทั้งคู่ก็โดนทหารมารปาหอกใส่จนตกลงไปที่ป่าด้านล่างด้วยกันทั้งคู่


สุเรย์ตื่นขึ้นอีกครั้งใน ป่าวอร์กลัน (ヴァーグラン森林) กับแอสแซสซินหน้ากากที่ตอนนี้หน้ากากแตกนอนสลบอยู่ตรงหน้า และภายใต้หน้ากากก็ไม่ใช่ใครที่ไหนเจ๊ โรเซ่ คนในกลุ่มคาราวานพ่อค้านั่นเอง สุเรย์จึงตัดสินใจแบบเธอเข้าไปในป่าเพื่อขอความช่วยเหลือต่อไป
- แบบโรเซ่เข้าไปจนถึงจุดเซฟกลางป่า โรเซ่จะเริ่มรู้สึกตัวขึ้นมา จากนั้นตามเธอไป เธอจะนำทางสเรย์เข้าไปในป่า จนถึง ซากโบราณสถาน เท็นทาเจล(ティンタジェル遺跡群) โรเซ่จะแนะนำให้รู้จักเพื่อนและหัวหน้ากิลด์ของเธอ เมวิน メーヴィン ที่เป็นนักโบราณคดีที่คลั่งไคล้ตำนานเทพไม่ต่างกับสุเรย์เลย




                           

ซึ่งก็ทำให้รู้ว่าตัวจริงของ โรเซ่ (ロゼ ) นั้นเป็สมาชิกของกิลด์นักค้าที่ชื่อว่า “ปีกแห่งเซคิเรย์” (セキレイの羽 ) งานค้นหาสมบัติตามซากโบราณสถานไปขายนั้นเป็นงานที่ต้องพบเจออันตรายอยู่ตลอด ทำให้เธอต้องฝึกปรือมีดสั้นจนถึงขั้นเก่งกาจไม่ต่างอะไรกับสมาชิกคนอื่นๆของกิลด์ที่ดูแล้วไม่ได้ค้าขายเก่งอย่างเดียวแน่นอน ก่อนที่โรเซ่จะชวนสุเรย์ลงไปด้านล่างของ ซากโบราณสถาน เท็นทาเจล เพื่อพักผ่อนและดูการทำงานของกิลด์เธอ

 ซากโบราณสถาน เท็นทาเจล(ティンタジェル遺跡群)   
-ลงมาด้านล่างจะพบคนของกิลด์เซคิเรย์มากมายอยู่ที่นี่ พวกเขากำลังมีเป้าหมายที่จะขุดค้นที่นี่แต่ดูเหมือนยังไม่มีอะไรคืบหน้าเพราะยังไม่มีครเปิดประตูเข้าไปด้านในได้เลย เดินเข้าไปสำรวจให้ทั่วๆแล้วสำรวจประตูใหญ่ด้านในที่จุดดาวแล้วเข้าไปพักผ่อนที่ที่พักตรงจุดดาวในห้องทางขวา 1 คืน

 ตอนเช้า ในขณะที่สุเรย์กำลังคิดถึงพวกเพื่อนๆทุกคน จู่ๆก็ได้ยินเสียงของทุกคนแว่วเข้ามาในหัวก่อนที่เพื่อนสายเลือดสวรรค์ของเขาทุกคนจะปรากฎตัวออกมา ในขณะที่ทุกคนกำลังคุยกันถึงเหตุการณ์ต่างๆ โรเซ่ก็ผ่านเข้ามาเห็น เธอค่อนข้างจะงงเพราะเธอนั้นมองไม่เห็นพวกสายเลือดสวรรค์จึงเห็นแต่จะเห็นแค่สุเรย์กำลังยืนพูดอยู่คนเดียว เธอจึงเข้ามาถามด้วยความแปลกใจ สุเรย์นั้นอยากให้โรเซ่นั้นได้ทำความรู้จักกับเพื่อนๆของเขา จึงลองขอกับไลล่าเพื่อลองถ่ายทอดพลังให้กับโรเซ่เพื่อเธอจะได้มองเห็นทุกคน แต่ทันทีที่สุเรย์เข้าไปจับมือโรเซ่เพื่อพยายามถ่ายทอดพลัง นั่นก็ทำให้โรเซ่ยืนงงปนเขิลอยู่นานจนสุดท้ายเมื่อความอายถึงที่สุดเพราะอยู่ต่อหน้าพรรคพวกเธอ ก็เลยต่อยสุเรย์จนลงไปนอนนับดาวก่อนจะวิ่งหนไปด้วยความอาย นั่นทำให้ไลล่านั้นเริ่มรู้สึกถึงพลังบางอย่างที่ซ่อนอยู่ในตัวของโรเซ่แต่ก็ยังไม่ได้พูดออกมา 

-เดินไปที่จุดดาวคุยกับเดเซล แล้วไปที่จุดดาวตรงทางออก ในขณะที่สุเรย์กำลังจะออกจากที่นี่ ไลล่าจะแนะนำให้ลองหาทางเข้าไปข้างในโบราณสถานกันก่อนเพราะเธอมีความเชื่อมั่นว่าจะมีคำตอบดีๆอยู่ด้านใน จากนั้นเดินไปที่จุดดาวที่ประตูกลที่เป็นทางเข้าที่ยังปิดอยู่ ทุกคนจะพยายามหาทางเปิดมันโดยมีโรเซ่มายืนคอยเยาะเย้ยอยู่ มองดูที่พื้นมุมของของประตูจะมีสวิตซ์สีเหลลี่ยมอยู่ที่พื้น เหยียบอันแรกนี้แล้วจะมีอีก 2 สวิตซ์อยู่ในห้องพักด้านขวาและด้านซ้าย กับอันสุดท้ายอยู่ใกล้พนังตรงข้ามกับประตู เหยียบครบ 4 จุดแล้วมาสำรวจประตูกลมันก็จะเปิดออกได้แล้ว ทำให้ทุกคนตกใจกันมากโดยเฉพาะโรเซ่ ก่อนที่เธอจะเดินแย่งเข้าไปสำรวจก่อนโดยมีเดเซลเดินตามเข้าไปด้วย
- ตามโรเซ่เข้าไปด้านในจะเห็นเธอกำลังโชว์เกรียนจับนู้นจับนี่จนไปโดนคันโยกสวิตซ์กับดักทำให้ห้องที่พวกสุเรย์อยู่ถูกปิดตายทันที จากนั้นเดินไปสำรวจที่พนังทั้ง 2 ด้านตรงจุดที่สำรวจได้แล้วทุกคนจะมารวมกลุ่มปรึกษากัน ตอนนี้จะมีจุดดาวขึ้นที่เพื่อนทุกคน
-คุยกับไลล่า แล้วปีศาจงู サーペントจะถูกปล่อยออกมา จัดการมันให้หมด
-คุยกับเอโดน่า จะมีแก็สพิษถูกปล่อยออกมา สำรวจดูที่พื้นที่สีเหลี่ยมตรงกลางห้องจะมีสวิตซ์ให้เหยียบอยู่ตรงมุมทั้ง 4 ให้เหยียบไล่ตามนี้ [บนซ้าย – ล่างขวา – บนขวา – ล่างซ้าย] แก็สพิษก็จะหายไป
- จากนั้นคุยกับ มิคุริโอ้ ประตูด้านในก็จะเปิดออก เข้าไปด้านในห้องบูชามังกร ドラゴンの廊下ก็จะเห็นโรเซ่กำลังโดนปีศาจอัศวินมังกรทำร้ายอยู่แต่เธอมองเห็นเป็นแค่ลมหมุนที่ทำให้เธอบาดเจ็บ สุเรย์จึงรีบเข้าไปช่วยทันที


สุเรย์วิ่งเข้าไปพลักโรเซ่จนกระเด็นเพื่อให้เธอหนีกลับไปด้านในก่อนเข้าไปสู้กับปีศาจอัศวินมังกร ดาร์ก้อนนิลด์ドラゴニュート เพื่อต้านมันเอาไว้ ขณะที่กำลังสู้อย่างดุเดือด โรเซ่กลับไม่ยอมดีแต่กลับโชว์เกรียนเข้ามสู้ๆทั้งที่กำลังกลัวอยู่เพราะเธอไม่รู้ว่าสุเรย์กำลังสู้อยู่กับอะไรจนสุดท้านก็โดนฟาดกระเด็นออกมา จนสุดท้ายมิคุริโอ้เห็นท่าไม่ดีจึงใช้พลังเพื่อพยายามสื่อสารกับโรเซ่ เพื่อให้เธอยอมรับในพลังของตัวเธอ แล้วลองเพ็งมองดูด้วยจิตที่บริสุทธิ์ที่เปี่ยมไปด้วยความเชื่อดู นั่นทำให้พลังในตัวของโรเซ่ตื่นขึ้น เธอเห็นมิคุริโอ้ เห็นว่าสุเรย์กำลังสู้กับปีศาจมังกร และเห็น เดเซล ชาวสายเลือดสวรรค์ที่ตามเธอมาตลอด ใช่แล้วโรเซ่ก็มีจิตอันบริสุทธิ์ที่สุดแข็งแกร่งและสามารถเป็น นักพรต ได้ไม่ต่างกับสุเรย์ ไลล่าจึงบอกให้สุเรย์ต้านปีศาจมังกรเอาไว้แล้ว เพื่อรอจนกว่าเธอจะสัญญาให้โรเซ่กับสายเลือดสวรรค์ทุกคนจนเสร็จ

  


Boss ปีศาจอัศวินมังกร ดาร์ก้อนนิลด์ ドラゴニュート นั้นเลเวล 24 และพลังหมื่นกว่า ยังไงก็สู้ไม่ไหว(ตามเนื้อเรื่อง) ฉะนั้นพยายามใช้ร่างคามุยต้านเอาไว้ให้นานที่สุด ตอดๆเติมพลังๆจนกว่าโรเซ่จะออกมาช่วยในร่าง นักพรตอัคคี เพื่อช่วยสุเรย์ต่อสู้

  



 พร้อมกับการเข้าร่วมของ เดเซล (デゼル) สายเลือดสวรรค์ฐาตุลมจอมนอกคอกที่ยอมตกลงทำสัญญากับสุเรย์ให้สามารถใช้ร่าง นักพรตวายุ   神依・風 ด้วย ตอนนี้มีนักพรต 2 คนกับอีก 1 ร่างใหม่แล้ว ปีศาจอัศวินมังกร ดาร์ก้อนนิลด์ แค่นี้สู้ไม่ได้ให้มันรู้ไป 
  
   


                               

ดาร์ก้อนนิลด์ที่เก่งกาจตอนแรกที่เจอตอนนี้ตัวเลขเสียเลือดก็ไหลออกเป็นน้ำเมื่อเจอนักพรตที่ใช้ร่างคามุยถึง 2 คน มันมีดีที่โล่แค่อย่างเดียว ท่าโจมตีก็หลบได้ไม่ยากพยายามแดชหลับไปโจมตีมันด้านหลังเรื่อยๆก็จัดการมันได้ เมื่อชนะแล้วร่างที่แท้จริงที่ถูกปีศาจครอบงำก็จะคืนร่างกลายเป็นโออิชิ オイシหมาเทพผู้พิทักษ์โบราณสถาน หลังจบเหตุการณ์ก็จะได้โรเซ่ และ เดเซล เข้ากลุ่มกับร่างคามุยนักพรตวายุ และทริคเกอร์คอมมานใหม่ แดชสายลม โดยการกดปุ่มทิศทางไปทางขวาจะสามารถแดชข้ามทางที่ขาดอยู่ไปได้ 


  


- จากนั้นมุ่งหน้าเข้าไปในโบราณสถานต่อ โดยลงมาจากบันไดซ้ายหรือขวาจากชั้นบนลงมา ซึ่งที่นี่เหมาะในการเก็บเลเวลอย่างมาก เข้าไปที่จุดดาวกลางพื้นที่เก็บลูกแก้ว 黄の瞳石・ドヴァー มา สิ่งที่ต้องทำต่อไปคือกดสวิตซ์ 3 จุดเพื่อทำทางให้สำหรับแดชผ่านที่ทางเชื่อมที่หายไปของชั้นบน โดยสวิตซ์ที่ต้องเหยียบมี 3 ที่คือ จุดแรกจะอยู่ในตรงกลางพื้นที่วงกลมด้านซ้ายที่ต้องแดชข้ามทางขาดไปเพื่อเหยียบมัน จุดที่ 2 ตรงห้องกลาง และจุดที่ 3 ก็จะอยู่ในตรงกลางพื้นที่วงกลมด้านขวา แล้วกลับขึ้นไปชั้นบนทางเดินกลางที่ขาดอยู่ก็จะมีพื้นที่ยืนออกมา 3 จุดให้สามารถแดชข้ามไป เก็บไอเทมในกล่องแล้วเปิดประตูเข้าไปด้านใน ทุกคนจะพบแผนที่โบราณที่ไลล่าบอกว่ามันบอกตำแหน่งที่อยู่ของมังกรตัวต่อไปได้
- กลับมาคุยกับหมาเทพโออิชิ แล้วออกนอกฐานได้เลย โรเซ่ก็จะร่วมกลุ่มไปด้วย ในพื้นที่ป่าวอร์กลัน (ヴァーグラン森林) เดินทางเข้าไปที่จุดทางเข้าซ้ายล่างของแผนที่ จะเข้ามาที่หน้าทางเข้าเมือง รัสทอนล์เบล (職人の街ラストンベル)


นครแห่งงานช่าง รัสทอนท์เบล (職人の街ラストンベル) 





ตั้งแต่หน้าเมืองที่เข้ามาแล้ว ทุกคนจะสังเกตเห็นว่าที่นี่ถูกควบคุมโดยทหารของอณาจักร์ โรแรนท์ และทันทีที่เข้ามาในเมือง พวกของสุย์ก็ถูกตรวจเข้มโดยผู้ดูแลที่นี่แม่ทัพ เซอร์เก้ (セルゲイ) ซึ่งทุกคนก็พยายามเนียนรอดไปได้ด้วยใบผ่านการค้าข้ายของกิลด์ โรเซ่



-เข้ามาในเมืองแล้วสำรวจจุดดาวเพื่อชาวเมืองคุยกันทุกจุดแล้วไปที่โบสถ์ของเมือง แต่ก็ถูก เซอร์เก้ ตามมาเพราะจับได้ถึงความแปลกๆหลายอย่างของสุเรย์ ซึ่งสุเรย์ก็ยอมรับตรงๆในแนวของเขาว่าที่ต้องข้ามเขตมาเพราะต้องการจะช่วยทุกฝ่ายเรื่องร้ายๆที่กำลังเกิดขึ้น และเป้าหมายของเขาคือหาทางเข้าไปที่โบราณสถานบูชาอัคคีอิกเรน แต่สุดท้ายเพื่อพิสูจณ์ทุกอย่างจึงต้องเกิดการต่อสู้ขึ้น แต่เป็นการดวลกันต่อตัวที่หน้าโบสถ์ เซอร์เก้ นั้นมีท่าดาบที่ดูง่ายอยู่แล้วในการที่จะแดชหลบแต่เมื่อใกล้ตายมันจะใช้ท่าดาบวนรอบตัวหลบได้ยากเพราะมันกินพื้นที่การโจมตีค่อนข้างเยอะ หลังจากชนะแล้ว เซอร์เก้ ก็จะยอมรับในฝีมือของสุเรย์ อย่างน้อยๆก็ตอนนี้
- จากนั้นตามไปคุยกับ เซอร์เก้ อีกครั้งที่สุดดาวหลังเมือง เขาจะบอกที่ตั้งของมันให้ แต่นั่นมันต้องผ่านเมืองหลวงเพนดราโกแห่งอณาจักรโรแรนท์ เขาจึงนัดให้ไปเจอที่นั่นเพื่อจะดำเนินกการในการผ่านด่านให้ ทำธุระในเมืองนี้เสร็จแล้วก็ออกจากเมืองทางประตูฝั่งซ้ายได้เลย

จากประตูด้านซ้ายของนครแห่งงานช่าง รัสทอนท์เบล (職人の街ラストンベル) จะออกมาที่ที่ราบ凱旋草海   ตรงกลางพื้นที่จะมีลานประลองด้วยถ้าอยากทดสอบฝีมือก็ลงไปได้เลย ซึ่งสุเรย์ต้องเข้าไปประลองเดี่ยวคนเดียวถ้า LV 28 – 30 ก็พอผ่านได้สบายอยู่ ผ่านเข้าไปที่ทางออกฝั่งซ้ายของแผนที่ต่อจะออกมาที่ พื้นที่เพาะปลูกพัลบาเรย์ パルバレイ牧耕地 ที่มีฝนตกทั่วพื้นที่ ที่นี่มีทางแยกทางออกมาหลายทางแต่ส่วนใหญ่จะถูกกั้นทางหรือไม่ก็มีไอปีศาจและศัตรูระดับสูงนพื้นที่จนไม่สามารถผ่านไปไหวอยู่แล้ว

 ที่สำคัญๆคือทางเข้าโบราณสถาน กาบีรีส ガフェリス ที่อยู่ทางทิศเหนือ



 ลงไปด้านในจะเป็นที่เก็บเลเวลอย่างดี เรื่องที่ต้องเจอต่อไปนั้นแนะนำให้ทำให้สุเรย์และพรรคพวกอยู่ระดับเลเวล 30 อัพจะดีที่สุด และด้านในโบราณสถานนี้ถ้าได้ทริคเกอร์คอมมานด์ของธาตุดินมาครบเมื่อไหร่ก็จะสามารถใช้เปิดทางลับที่พนังในการผ่านเข้าไปชั้นล่างสุดเพื่อจัดการเจ้าแม่งป่องยักษ์เลเวล 36 ได้ (ไม่มีอะไรเป็นพิเศษนอกจากที่เก็บไอเทมกับข้อมูลมอนเตอร์ใหม่ๆ) จากนั้น ก็เดินทางไปที่ทางเข้าเมืองทางทิศใต้ของแผนที่ก็จะถึงมหานคร เพนดราโก้  (聖なる皇都ペンドラゴ)

มหานครศักดิ์สิทธิ์ เพนดราโก้  (聖なる皇都ペンドラゴ)

ที่นี่คือเมืองหลวงที่ของอณาจักรโรแรนท์ ทั้งกว้างขวางและสง่างามด้วยความยิ่งใหญ่ของปราสาทที่เป็นเหมือนป้อมปราการ แต่ตอนนี้มันกลายเป็นเมืองที่ถูกไอปีศาจเข้าครองงำโดยที่แม้คนที่อยู่เมืองยังแทบไม่รู้ตัว เมื่อเข้ามาจะพบเซอร์เก้กำลังสู้กับพวกชาวบ้านที่โดนครอบงำอยู่ เข้าไปคุยกับเขาแล้วเขาจะให้ตามไปคุยในห้องทำงานที่ป้อมต่อ




-  เมืองค่อนข้างจะดูกว้างขวาง แต่ไม่ว่าจะเข้าทางขวาหรือด้านล่างของแผนที่มันก็คือทางไปที่ส่วนในของปราสาทที่มีทางเข้าห้องบัญชาการณ์ของกองทหารโรแรนท์อยู่ ตามไปคุยกับเซอร์เก้ที่นั่น แล้วกลับมาเข้าโรงแรมที่หน้าเมือง ทุกคนจะกินอาหารและพักผ่อน 1 คืน
- ตอนเช้า ออกมาที่ส่วนในของเมืองในส่วนเดียวกับทางเข้าห้องบัญชาการณ์ของเซอร์เก้ จะพบว่าจุดสีแดงทางซ้ายล่างจะสามารถเข้าไปในโบสถ์ของเมืองได้แล้ว เข้าไปคุยกับบาทหลวงด้านในแล้วเขาจะพาไปดูแท่นจารึกโบราณ แต่จู่ก็มีไอความมืดปกคลุมเข้ามาจนทำให้พลังของสายเลือดสวรรค์หายไปกันหมด เหลือแค่สุเรย์กับโรเซ่เท่านั้น เมื่อย้อนกลับออกมาหน้าโบสถ์ก็จะพบกับผู้หญิงลึกลับคนนึงที่อ้างตัวว่าเป็นผู้คุมกฎของเมืองที่ชื่อ มาชิโดร่า マジドラ แน่นอนมันก็ถูกครอบงำโดยไอปีศาจเหมือนกัน มันจึงเข้าโจมตีใส่สุเรย์และโรเซ่ทันที โชคดีที่เหล่าเพื่อนๆสายเลือดสวรรค์เข้ามาช่วยไว้จนสามารถหนีออกมาจากโบสถ์ได้สำเร็จ

** หลังจากจบเหตุการณ์ มิคุริโอ้จะให้ทริคเกอร์คอมมานด์ของสายวารีมาให้ใช้ นั่นก็คือ การกดปุ่มทิศทางทางซ้ายเพื่อสร้างฟองอากาศออกมาเป็นลูกโป่งคลุมตัวเพื่อใช้ในการพรางตัว **

-เข้าไปที่ทางเข้าเมืองด้านในที่จุดดาวในห้องบัญชาการณ์ของเซอร์เก้ สุเรย์จะเข้าไปบอกถึงเรื่องที่เกิดขึ้น เขาจึงต้องรีบไปยังโบราณสถานบูชาอัคคีโดยด่วนกว่าที่ปีศาจมันจะแข็งแกร่งกว่านี้ จากนั้นเซอร์เก้จะให้สุเรย์ออกไปซ้อมดาบกับเขาเพื่อเป็นฝึก พยายามฟันโจมตีไปเรื่อยๆจนกว่าจะเข้าเหตุการ์ณ แล้วเซอร์เก้จะบอกถึงตำแหน่งของหมู่บ้านบนยอดเขาที่โดดเดี่ยวชื่อ โกโดจิน ゴドジン และจะมอบบัตรผ่านทาง ローランスの通行証 มาด้วย ไปที่จุดดาวตรงทางออกของเมือง ทุกคนจะเห็นปีศาจกิ่งก่าซุ่มโจมตีอยู่ที่มุมขวาของกำแพง เดินเข้าไปใกล้กับประตูให้มากที่สุดแล้วกดปุ่มทิศทางด้านซ้ายเพื่อใช้ลูกโป่งน้ำอำพรางตัวออกไปที่ประตูก็จะสามารถออกจากเมืองได้

ที่พื้นที่เพาะปลูกพัลบาเรย์ パルバレイ牧耕地 ย้อนกลับไปที่ทางออกฝั่งขวาของแผนที่กลับไปยังเขตที่ราบ凱旋草海  แถวหน้าเมือง รัสทอนท์เบล (職人の街ラストンベル) แล้วไปที่จุดแดงที่เป็นทางออกด้านซ้ายล่างของแผนที่ต่อ ตรงนี้จะเคยมีทหารมากั้นทางอยู่แต่ตอนนี้สามารถผ่านทางเข้าไปด้านในอุโมงค์ใต้ดินกันบูเรีย (カンブリア地底洞) ได้แล้ว

อุโมงค์ใต้ดินกันบูเรีย (カンブリア地底洞) - ช่องเขา バイロブグリフ崖道
-เข้ามาในถ้ำแล้วเข้าไปที่จุดดาวสีม่วงด้านในที่เป็นเควสย่อยระหว่างทางแวะเก็บลูกแก้ว アインス มาซึ่งจะเป็นลูกแก้วที่บรรจุความเป็นมาอันยิ่งใหญ่ของมหานครศักดิ์สิทธิ์ เพนดราโก้ เอาไว้ จากนั้นก็ใช้ความสามารถของแดชสายลมโดดไปตามถ้ำด้านขวาจนถึงด้านในเก็บไอเทม ปราบแรร์มอนสเตอร์(ถ้าไหว) แล้วค่อยย้อนออกมาทางฝั่งซ้ายของถ้ำเพื่อออกไปที่ทางออกที่ช่องเขา バイロブグリフ崖道

ทันที่ที่เข้ามาจะเจอปีศาจนก グリフォン เข้าโจมตี ใช้ดาบตัดต้นไม้ที่ขวางทางเข้าฝั่งซ้ายแล้วแดชผ่านทางเข้าไปต่อ แวะจุดแดงซ้ายล่างของแผนที่จะเป็นถ้ำแห่งความเงียบอิเดล イデル  ด้านในจะมีนอร์มินフォレスト ฟอเรสต์ ให้เก็บ และที่นี่ก็ยังเป็นที่เก็บเลเวลได้อยากสะดวกและรวดเร็วที่นึงด้วย จากนั้นค่อยไปที่จุดเข้าหมู่บ้านด้านซ้ายล่างบนเนินก็จะถึง หมู่บ้านลับแล โกโดจิน (忘れられた村ゴドジン)

หมู่บ้านลับแล โกโดจิน (忘れられた村ゴドジン)
-หมู่บ้านหลังเขาที่ห่างไกลความเจริญ แต่คนที่นี่กลับตัดสินใจอยู่ที่นี่เพื่อปกป้องสิ่งล้ำค่าบางอย่าง และนั่นคือสิ่งที่สุเรย์จะเข้ามาหาคำตอบที่นี่ เข้ามาแล้วจะพบกับหัวหน้าหมู่บ้าน สุรันจิ スランジ เข้ามาคุยด้วย พวกเขาดูไม่ไว้ใจการมาของคนแปลกหน้าแน่นอนแต่ก็ได้ความเป็นกิลด์พ่อค้าของโรเซ่จึงทำให้เนียนผ่านไปได้ เข้าไปตามจุดดาวคุยกับทุกคนให้หมด แล้วเข้าไปตามจุดดาวต่อไปเพื่อแอยฟังชาวบ้านคุยกันตามจุดต่างๆ ซึ่งก็จะพบหัวหน้าหมู่บ้านและคนของเขากำลังทำตัวแปลกอยู่ที่ถ้ำหลังหมู่บ้าน แต่ดูเหมือนว่าทุกคนจะตามไปไม่ได้เพราะพวกมันเข้าไปแล้วใช้ก้อนหินก้อนใหญ่ปิดทางเข้าเอาไว้ เอโดน่าจึงแก้ปัญหาให้ด้วยการสอนท่าถล่มภูผาของเธอให้

** หลังจากจบเหตุการณ์ เอโดน่าจะสอนให้ทริคเกอร์คอมมานด์ของสายดินให้ นั่นก็คือ การกดปุ่มทิศทางทางลงล่างเพื่ออัดกระแทกทำลายหินก้อนใหญ่ๆได้ ซึ่งก็จะทำให้สามารถทำลายก้อนหินที่กั้นทางตามที่ต่างๆที่เคยไปไม่ได้ได้ทั้งหมดแล้ว ถ้าว่างก็ควรจะย้อนไปเก็บไอเทมตามเส้นทางเหล่านั้นด้วย และตอนนี้ สุเรย์ ก็มีทริคเกอร์คอมมานด์ครบทั้ง 4 ธาตุแล้ว **

-ทำลายหินเข้าไปตามทางเดินของอุโมงค์จนพบกับปีศาจเสือ ワーガイガー เข้าโจมตี จัดการมันซะมันก็แค่ศัตรูธรรมดาไม่ใช่บอส ซึ่งก็จะพบว่าเป็นพวกชาวบ้านที่ถูกสิงสู่ จากนั้นหมู่บ้าน สุรันจิ จะออกมาอธิบายว่าพวกเขานั้นก็ถุกผลกระทบจากไอปีศาจแต่ไม่สามารถละทิ้งที่นี่ไปได้เพราะมีบางสิ่งที่ต้องปกป้องนั่นก็คือ วิหารบูชาอัคคีที่อยู่ด้านในถ้ำนั่นเอง สุเรย์จึงอธิบายให้ฟังถึงเหตุผลการมาของพวกเขา ก่อนที่หัวหน้าหมู่บ้านจะสลบไป ออกมาคุยกับชาวบ้านทุกคนที่ล้อมหัวหน้าหมู่บ้านที่นอนอยู่ให้หมดทุกคนแล้วก็จะได้รัอณุญาติให้เข้าไปด้านในถ้ำได้ เข้าไปในอุโมงค์จนถึงด้านในก็จะถึงทางเข้าวิหารบูชาอัคคี อิกเกรน (火の試練神殿イグレイン)

วิหารบูชาอัคคี อิกเกรน (火の試練神殿イグレイン)


                           


                           
               

-เข้ามาแล้วเป้าหมายที่ต้องทำคือ เพิ่มระดับลาวาในบ่อตรงกลางห้องเพื่อจะได้แดชเข้าไปที่ลิฟต์กลางได้นั่นเอง เริ่มจากทางเข้าประตูทางซ้ายก่อนเพราะประตูทางขวายังเปิดไม่ได้ ซึ่งต้องจุดไฟในการเปิดประตู

   

** การจะเปิดประตูได้นั้นต้องใช้การกดขึ้นบนเพื่อให้หมัดไฟจุดไฟที่กระถางคบเพลิงเรียงให้ถูกต้อง สังเกตดูที่พื้นของกระถางจะมีขีดสีทองๆบอกจำนวนอยู่ I – II - III - IIII ก็แค่จุดเรียงตามขีดเลขจาก 1 ไปจนถึง 4 ให้เรียงกันก็จะเปิดประตูนั้นๆได้ทุกประตูของที่นี่ ซึ่งไมได้เป็นโค๊ดลับซับซ้อนอะไรเลย  **
-จุดกระถางไฟเปิดประตูทางซ้ายมาที่โซนกลางบนซึ่งเป็นบันไดทางลง ผ่านไปทางประตูซ้ายเพื่อจุดกระถางเพลิงเปิดประตูไปโซนซ้ายบน แล้วจุดกระถางเพลิงเปิดประตูกลางออกไปจุดคบเพลิงหลังเทวรูปก็จะทำให้ลาวาไหลออกมาจากปากเทวรูปทำให้ลาวาในบ่อเพิ่มขึ้น
-จากนั้นย้อนกลับมาที่โซนกลางเพื่อลงบันไดมาชั้นล่างต่อ ยังไม่ต้องสนใจประตูกลางทางเข้าบ่อลาวา ให้เปิดประตูไปที่ห้องขวาบนของชั้นล่างนี้แล้วอ้อมวนขวามาจนถึงห้องขวาล่างจะมีทางขึ้นไปชั้นบน ขึ้นมาที่ห้องขวาบนของชั้นบน (ซึ่งเป็นชั้นเดียวกับทางเข้าที่ประตูขวาเปิดไม่ได้นั่นแหละ) แล้วเปิดประตูคบเพลิงผ่านเข้ามายังห้องซ้ายล่าง จุดคบเพลิงเปิดประตูกลาง ออกไปจุดคบเพลิงหลังเทวรูปก็จะทำให้ลาวาไหลออกมาจากปากเทวรูปทำให้ลาวาในบ่อเพิ่มขึ้นจนเต็มได้ที่แล้ว
-ลงบันไดจากห้องขวาบนของชั้นบนลงมาชั้นล่างแล้วเปิดประตูโซนกลางลางเข้าไปที่บ่อลาวา จะพบว่าสามารถแดชข้ามพื้นที่ลอยอยู่บนลาวาเพื่อไปที่ลิฟต์กลางพื้นที่ได้แล้ว (ตอนนี้โซนด้านบนก็สามารถเข้ามาที่บ่อลาวาเพื่อเก็บไอเทมได้แล้วด้วย) จากนั้นสำรวจพื้นสัญลักษณ์แห่งไฟลิฟต์ก็จะลงมาชั้นล่างจนถึงห้องบูชาอัคคี
- ในห้องสุเรย์จะเห็นศิลาจารึกโบราณมากมายตั้งอยู่ ทำให้เขาตื่นเต้นมากก่อนที่ไอความชั่วร้ายจะปกคลุมไปทั่วทำให้พวกสายเลือดสวรรค์ถูกสลายพลังไปจนหมดเหลือแค่ สุเรย์กับโรเซ่เท่านั้น ก่อนที่อัศวินมังกร ซาลามานเดอร์ サラマンダー จะออกมาโจมตีทั้งคู่ ซึ่งเลเวลของมันนั้นถุกแรนด้อมออกมาให้มากกว่าสุเรย์เสมอไม่ว่าจะเก็บมาดียังไงก็ตาม นั่นแปลว่าจะสู้ไม่ได้นั่นเอง เมื่อมันเริ่มโจมตีไม่ต้องสนอะไร รีบวิ่งไปสำรวจ แท่นศิลาจารึกโบราณทั้ง 4 จุดในห้องให้เรืองแสงให้หมด ไอความมืดก็จะหายไป เหล่าเพื่อนสายเลือดสวรรค์ก็จะกลับมาช่วยสู้ได้อีกครั้ง




Boss อัศวินมังกร ซาลามานเดอร์ サラマンダーก็มีดีที่โล่ป้องกันเหมือนทุกตัว ถ้าที่ผ่านมาเก็บเลเวลไม่ได้รับรองว่าผ่านมันลำบากมาก พยายามจัดการมันจนพลังใกล้หมด มันจะมอบดาบเพลิง 火の秘力の証 ให้ทำให้สามารถใช้ ท่าไม้ตาย 神依・火の秘奥義「ブランブレイブ」ของร่างคามุยได้ ด้วยการกด R2 + O กับ BG4 จากนั้นก็ใช้ท่านี้จัดการมันซะ แล้ว ซาลามานเดอร์ ก็จะกลายร่างกลับเป็น ปราชญอัคคี เอ็คเซล เข้ามามาพูดคุยกับพวกสุเรย์ถึงการทดสอบของเขาที่ตอนนี้ สุเรย์และไลล่าผ่านการทดสอบแล้ว

จากนั้นกลับไปที่เมือง เพนดราโก้  (聖なる皇都ペンドラゴ) อีกครั้ง แต่จะไม่สามารถวาร์ปเข้าไปที่เมืองได้เลยเพราะเนื้อเรื่องมันอยู่ในเมือง เต็มที่ก็วาร์ปไป パルバレイ牧耕地 แล้วเลือก ペンドラゴ入口ซึ่งก็จะมาโผล่ที่หน้าประตูเมืองครับ

-เข้ามาในเมือง เพนดราโก้  คุยกับทหารที่จุดดาวตรงทางเข้าเมือง แล้วไปคุยกับเซอร์เก้ในป้อมด้านในเมือง จะพบว่าเขากกำลังเตรียมการณ์ในการลุยกับพวกปีศาจในโบสถ์แล้ว ซึ่งทำให้สุเรย์กังวลมากเพราะรู้ว่าหน่วยของเซอร์เก้จะไม่มีวันชนะ แต่ก็ไม่สามารถที่จะห้ามจิตใจที่กล้าหาญของทหารที่อยากรักษาเมืองเอาไว้ได้เหมือนกัน คุยจบออกมาจากป้อมแล้วเข้าไปที่จุดทางเข้าสีแดงด้านซ้ายล่างของแผนที่ซึ่งก็วิหารแห่งเพนดาร์โก้  (ペンドラゴ教会神殿)


วิหารแห่งเพนดาร์โก้  (ペンドラゴ教会神殿)



 



-เข้ามาแล้วสำรวจเก็บลูกแก้วไฟ 小さな赤の石版ที่วางบนพนังตรงหน้า (จุดขาวๆเล็ก) แล้วจะได้เห็นความทรงจำในอดีตของไลล่าและนักพรตคนก่อนหน้านี้ของเธอ เมื่อได้ลูกแก้วไฟมาแล้วก็จะสามารถเปิดประตูที่มีสัญลักษณ์แห่งไฟ (สีแดง) ได้ ในวิหารด้านในจะมีพื้นที่ 2 โซนที่เชื่อมต่อกัน และเต็มไปด้วยห้องโถงมากมายที่ต้องใช้ลูกแก้ว 小さな赤の石版 ธาตุต่างๆในการเปิดประตู สิ่งที่ต้องทำในนี้ เปิดประตูไฟเพื่อตามหาลูกแก้ว 小さな赤の石版 ธาตุอื่นๆ ซึ่งมันจะอยู่ในห้องโถงต่างๆในพื้นที่ฝั่งอยู่ที่พนังเป็นจุดขาวๆเหมือนลูกแรกที่เก็บตรงทางเข้า เปิดประตูจนสามารถหา 小さな赤の石版 ธาตุ ดิน , น้ำ , ลม ก็จะสามารถเปิดประตูสัญลักษณ์ของธาตุต่างๆได้ สีเขียว(ลม) สีฟ้า (น้ำ) สีเหลือง (ดิน) เมื่อเก็บไอเทม และ นอร์มิน จนครบแล้วเข้าไปที่โซนด้านในที่หน้าจุดเซฟเอาลูกแก้ว小さな赤の石版 ทั้ง 4 เปิดประตูใหญ่เข้าไปจะพบกับกองทหารของเซอร์เก้ยืนแข็งเป็นหิน และเมดูซ่าจอมชั่วร้ายที่เกาะกินผู้คุมกฎของเมืองก็จะออกมา 

  


Boss メデューサ
นั้นพลังป้องกันมันไม่ได้มีมากมายอะไร จุดร้ายกาจของมันก็แน่นอนคือลแสงที่จะทำให้แข็งเป็นหินแล้วมันจะโจมตีแบบรวดเดียวตายได้เลย ฉะนั้นพยายามสร้างคอมโบให้ต่อเนื่องกันให้นานที่สุดทำให้มันตั้งตัวไม่ได้กะสามารถลดพลังมันลงไปได้เรื่อยๆ แต่ระวังช่วงสุดท้ายด้วยทันนทีที่พลังมันจะหมดมันจะปล่อยลำแสงเป็นหินตลอด ปิดท้ายด้วยร่างธนูจากระยะไกลได้เลย

เมื่อจัดการมันได้ พลังของเมดูซ่ายังกล้าแกร่งที่จะยืนพร่ำถึงอำนาจมืดของเจ้านายมันอยู่ได้ตลอด ไม่มีทางเลือกที่สุเรย์จะต้องปลิดชีพร่างที่มันสิงสู่เพื่อปลดปล่อยเธอจากปีศาร้าย สุเรย์ทำใจอยู่นานที่จะพยายามแทงมีดสั้นลงบนร่างเธอ แต่สุดท้าย โรเซ่ ก็เข้ามาขวางไว้และแทงมันตายด้วยมือของเธอเอง นั่นเพราะเธอไม่อยากให้คนที่มีจิตใจบริสุทธิ์อย่างสุเรย์ต้องแปดเปื้อน เพราะอย่างน้อยงานแบบนี้เธอก็ทำมาตลอดเหมือนเป็นเรื่องธรรมดาไปแล้ว  หรือจะให้ง่ายกว่านั้นก็ใช้ร่างคามุยสายลมของเดเซล นั่นเพราะเดเซลเขาตาบอดผลของเวทย์มนต์เมดูซ่าที่ทำให้คนมองกลายเป็นหินจึงหมดความหมาย

-ออกมาที่จุดดาวในเมือง จะพบกับเซอร์เก้และกองทัพของเขาที่เข้ามาขอบคุณพวกของสุเรย์ และจากนั้นภาพตรงหน้าที่เห็นก็คือความสงบสุขที่กลับมาเยือนที่ เพนดาร์โก้ อีกครั้งหลังจากมันหายไปนาน ผู้คน รอยยิ้ม ชีวิตที่เริ่มต้นขึ้นใหม่ นั่นเป็นการบอกที่ดีกับตัวสุเรย์ว่าสิ่งที่เขาทำมาน่ะถูกแล้ว
-เข้าไปในโรงแรมจะเจอเมวิลอีกครั้ง เขาจะบอกถึงโบราณสถานใหม่ที่เขาเพิ่งค้นพบกับสุเรย์เผื่อจะสนใจในฐานะคนบ้าตำนานโบราณเหมือนกัน จากนั้นพักผ่อน 1 คืน กลางดึกทุกคนจะได้ยินเสียงคำรามดังก้องขึ้นจนต้องรีบออกไปดู เดินเข้าไปที่ลานกว้างด้านในป้อมจะเจอปีศาจสิงโตขนาดใหญ่รออยู่ เข้าไปจัดการมันซะ แล้วมันจะกลายร่างกลับเป็น แมวเทพ ムルジム ผู้ปกปักษ์รักษาเมือง ซึ่งก็จะสามารถใช้เมนู 地の主メニュー  เพื่อติดตั้งพลังเสริมและนอร์มินในการเพิ่มความเป็นต่อในพื้นที่ได้แล้ว

-จากนั้นออกจากเมือง เพน ดาร์โก้ แล้วมุ่งหน้าไปที่ทางออกที่จุดเขียวฝั่งซ้ายล่างของพื้นที่ ที่มีหินขว้างทางอยู่ ตอนนี้สามารถต่อยทำลายมันจนผ่านเข้าไปได้แล้ว เข้ามาที่ พื้นที่ล่าสัตว์ แหลมอายฟรี่ต  アイフリードの狩 พื้นที่นี้ศัตรู LV 38 อัพ ถ้าเลเวลไมถึงก็สามารถเก็บได้จากที่นี่ได้เลย ฝั่งขวาของแผนที่จะพบ เมวิล รออยู่บนเนินหน้าทางเข้าโบราณสถาน ウェルシェ ด้านในเป็นที่เก็บไอเทม เก็บเลเวล ภาพดิสคอฟเวอร์รี่ และจัดการแรร์มอนสเตอร์ เจ้าดวงตาปีศาจパックベアード ที่อยู่ด้านในเท่านั้น ทำอะไรจนพอใจแล้วออกมาได้เลย ส่วนทางเข้าจุดแดงทางด้านขวาสุดของพื้นที่ใกล้ๆกันก็คือ วิหารบูชาปฐพี โมลกอส (地の試練神殿モルゴース) เป้าหมายนั่นเอง

วิหารบูชาปฐพี โมลกอส (地の試練神殿モルゴース)
เมื่อเข้ามาด้านในวิหารจะพบกับมิโนทอร์ขนาดใหญ่ที่ยืนเฝ้าอยู่ กับ ท่าน ภาวัน  パワントนักปราญผสุธา ที่ดูเหมือนจะขี้หลีเกินความรอบรู้ไปหน่อย เขาขี้หลีกับสาวทุกคนแต่ยกเว้นเอโด้น่า และก่อนที่เรื่องจะวุ่นวายไปกว่านี้เอโดน่าจึงเข้าไปตะหวาดใส่มิโนทอร์ให้หนีไปซะ แล้วมันก็หนีไปอย่างรนรานจริงๆ ทำให้ทุกคนงงกันมาก




- จากนั้นก็เข้าไปด้านในได้เลย ปริศนาของที่นี่ไม่ซับซ้อนมาก ก่อนอื่นตามหาเจ้า มิโนทอร์ ก่อนซึ่งมันจะหนีเข้าไปที่ห้องแรกฝั่งซ้าย ก่อนจะเข้าไปหามันให้กดปุ่มทิศทางซ้ายเพื่อใช้บาเรียม่านน้ำ เพื่อพรางตาเข้าไปใกล้มันถึงจะได้สู้กับมัน (ถ้าเดินเข้าไปหาเลยมันก็จะวิ่งหนีไปตามเคย)

   


Boss มิโนทอร์ ミノタウルスใช้ร่างคามุยสายดินของเอโดน่าจะง่ายขึ้นเพราะพลังโจมตีหนักหรือมันเกรงเอโดน่าอยู่ก็ไม่แน่ใจ
-จัดการ มิโนทอร์ ได้แล้ว เข้าไปที่ห้องด้านขวาบนจะมีบันไดลงไปชั้นล่าง ต่อยเสาปูนทำให้พื้นลดระดับลง แล้วไปลงห้องทางซ้ายบนต่อลงไปต่อยเสาเดียวกันจากอีกด้านก็จะทำให้สามารถเข้าประตูด้านในสุดของวิหารได้แล้ว สุเรย์แลเอโดน่าจะเข้าไปคุยกับ ท่าน ภาวัน パワントนักปราญปฐพีที่รออยู่ ซึ่งก็จะทำให้ได้พลังสุดยอดแห่งสายดินและท่าไม้ตายของนักพรตปฐพี 神依・地の秘奥義「アーステッパー] มาด้วย

เสร็จเรื่องแล้วออกจากที่นี่ เป้าหมายต่อไปคือ ที่ราบเลคพิโร่(レイクピロー高地) ที่อยู่ฝั่งของไฮแลนด์ ซึ่งตอนนี้จะไม่สามารถวาร์ปได้ ต้องเดินเท้าเท่านั้น โดยเริ่มจากวาร์ปไปที่ ป่าวาร์กลัน (ヴァーグラン森林) แล้วเข้าไปที่ทางเข้าด้านขวาล่างของแผนที่ไปที่ ถ้ำราโมรัค  ซึ่งก็จะสามารถต่อยก้อนหินที่ขวางทางเพื่อเก็บไอเทมแล้วเปิดทางไปต่อได้แล้ว จากนั้นเข้าไปจนสุดทางจนถึงทางออกมาที่พื้นที่ フォルクエン丘 ฝั่งตะวันออกที่เป็นของไฮแลนด์ใกล้ๆกับเมืองแห่งต้นไม้ มารินด์(大樹の街マーリンド) ซึ่งก็จะมาอยู่ตรงแถวๆสะพานที่เคยขาดนั่นแหละ ซึ่งตอนนี้มันถูกสร้างใหม่แล้ว

-เดินเข้ามาคุยกับอาริเซียที่สะพาน แล้วเดินทางต่อไปทางออกทางซ้ายบนของพื้นที่เขตที่ราบเลคพิโร่(
レイクピロー高地) แถวๆหน้าเมือง เลดี้เลค(湖上の街レディレイク) นั่นแหละครับ ที่ด้านเหนือของพื้นที่จะมีน้ำตกขนาดใหญ่อยู่ที่ตอนแรกไม่สามารถผ่านเข้าไปได้ แต่ตอนนี้สามารถแดชผ่านน้ำตกเข้าไปด้านในน้ำตกได้แล้ว และที่นี่ก็เป็นที่ซ่อนของ วิหารบูชาวารี ลูเฟรย์ (水の試練神殿ルーフェイ) นั่นเอง

วิหารบูชาวารี ลูเฟรย์ (水の試練神殿ルーフェイ)              
-เข้ามาจะพบกับนักปราญวารี ออร์โทล アウトル เขาจะบอกว่าเทพพิทักษ์ อาชูร่า กำลังถูกครอบงำโดบไอปีศาจจนอาละวาดไปทั่ว เขาจึงจะให้สุเรย์และเพื่อนขึ้นไปหยุดอาชูร่าที่ชั้นบนของวิหาร 





-เป้าหมายและปริศนาของที่นี่นั้นก็คือ ขึ้นไปชั้นบนสุดโดยต้องหลบดวงตาเวทย์เพื่อไม่ให้ถูกวาร์ปออกมาเท่านั้น สังเกตดูแต่ละห้องของพื้นที่จะมีดวงตาเวทย์อยู่ตามพนัง เมื่อเดินเข้าไปในระยะขอบเขตของสายตามันจะวาร์ปส่งกลับมาชั้นล่างทันที ซึ่งที่ทำได้ก็แค่หาทางหลบให้พ้นด้วยการกดปุ่มทิศทางซ้ายเพื่อใช้บาเรียม่านน้ำหลบในระยะสั้นเพื่อผ่านเข้าไปนั่นเอง
- เริ่มจากเข้ามาด้านในที่โถงแรกมีทางแยกซ้ายขวา ให้ไปทางขวาด้วยการใช้บาเรียหลบตาเวทย์ 2 ดวงไป เข้าไปตามทางจนขึ้นบันไดไปชั้น 2 แล้วออกไปที่ทางเชื่อมเพื่อทะลุไปอีกฝั่ง ตรงประตูจะมีจุดสีม่วงๆ มันคือจุดวาร์ปเมื่อสำรวจแล้วก็จะมีจุดวาร์ปขึ้นที่ห้องโถงแรกตรงทางแยกที่สามารถขึ้นมาชั้นนี้ได้เลย จากนั้นเข้าไปต่อจนถึงบันไดไปช้ 3
- ที่ชั้น 3 ออกประตูมาที่ส่วนกลางของวิหารเพื่อขึ้นทางลาดไปที่ชั้น 4 ต่อซึ่งก็จะเห็นมีจุดวาร์ปอยู่ จากนั้นอ้อมมาทางฝั่งล่างของพื้นที่ซึ่งต้องพยายามหลบดวงตาเวทย์ให้ดีด้วย เมื่อออกมาที่ทางด้านล่างจะออกมาส่วนกลางของวิหารและจะมีทางลาดลงมาที่ชั้น 3 อีกด้าน
- ที่ชั้น 3 ของฝั่งบนหลบดวงตาเวทย์อ้อมมาที่ส่วนห้องโถงใหญ่ของชั้นที่มีแท่นอยู่กลางน้ำ หลบดวงตาเวทย์ขึ้นไปบนแท่นที่สัญลักษณ์รูปดวงตราที่พื้นก็จะวาร์ปขึ้นไปที่แท่นกลางน้ำของชั้นที่ 4 ได้ จากนั้นก็หลบด้วยตามแล้วเข้าประตูทางเดินกลางไปก็จะเข้าไปถึงจุดเซฟและห้องด้านในที่มี
Boss อาชูร่า アシュラ รออยู่ 

  


- จัดการมันซะแล้ววาร์ปกลับมาลงมที่โถงแรกของทางเขาคุยกับ นักปราญวารี 
ออร์โทล アウトル เขาจะมอบดาบแห่งความมืดให้ ซึ่งสุเรย์จะไม่ต้องการจะรับเอาไว้ แต่จู่ๆผู้ที่ยินดีจะรับไว้ก็เข้ามาชิงไป ซึ่งก็คือ มัลโดรัน  (マルトラン) เสนาธิการแห่งไฮแลนด์ที่อยู่ข้างกายอาริเซียนั่นเอง ไม่ต้องบอกว่าเธอโดนครอบงำด้วยไอความมืดเข้าไปเต็มๆ ก่อนที่จะมันวาร์ปหนีไปพร้อมดาบ

   
เมื่อได้พลังสุดท้ายแห่งวารีมาแล้ว ก็ออกจากวิหารบูชาวารี ลูเฟรย์ ได้เลย เป้าหมายต่อไปคือ วิหารบูชาวายุ กิเนเวียร์ (風の試練神殿ギネヴィア) แต่แวะเข้าเมือง เลดี้เลค(湖上の街レディレイク) ก่อนก็ดีเพราะจะได้แวะเข้าไปเตือนอาริเซียถึงเรื่อง มัลโดรัน  เสนาธิการของเธอด้วย ซึ่งมันจะขึ้นเป็นเควสย่อยรูปเครื่องหมายตกใจที่อยู่ที่บ้านของอาริเซีย  และในเมืองเลดี้เลคก็มีเควสย่อยรูปดาวสีม่วงอยู่เยอะ นอกจากเควสย่อยของอาริเซียแล้วก็ยังมี เควสลูกแก้วความทรงจำที่โบสถ์ เควสเด็กถูกปีศาจสิง ด้วย ซึ่งจะทำหรือไม่นั้นไม่ได้เกี่ยวอะไรกับเนื้อเรื่องหลักครับ

จากนั้นเดินทางต่อ วาร์ปมาที่ พื้นที่เพาะปลูกพัลบาเรย์ (
パルバレイ牧耕地) แล้วเข้าไปที่ทางออกกลางของฝั่งซ้ายที่ตอนแรกยังมีไอปีศาจปกคลุมอยู่ซึ่งตอนนี้จะสามารถผ่านเข้าไปได้แล้ว จะเข้ามาที่เขตทางเดิน ช่องเขา เวสรอนโฮล ウェストロンホルドの裂 และจุดสีแดงด้านใต้ของแผนที่ก็คือที่ตั้งของ วิหารบูชาวายุ กิเนเวียร์ (風の試練神殿ギネヴィア) นั่นเอง 

วิหารบูชาวายุ กิเนเวียร์ (風の試練神殿ギネヴィア)

ทันทีที่เข้ามาด้านนอกวิหารที่สูงลิบก็จะเห็นผู้ชายคนนึงกำลังโดดลงมาจากหอคอย สุเรย์จึงพยายามช่วยเอาไว้ได้สำเร็จ แต่จากนั้นเทพพิทักษ์ ดูลราฮัน デュラハンก็ตามลงมาพร้อมกับ ซาบีต้า ที่เหมือนกำลังต่อสู้กับยังไม่เสร็จ ทันทีที่ถึงพื้น จะเห็นทันทีว่า ดูลราฮัน นั้นถูกครอบงำและบาดเจ็บสาหัสจากฝีมือของ ซาบีตา ก่อนที่มันจะหนีเข้าหอคอยไป เหลือแต่ซาบีต้าที่หันมาสู้กับพวของสุเรย์แทน


Boss ซาบีต้า ザビーダ นั้นมาด้วยเลเวลไม่มากและสู้ตามสไตล์ผ่อนปรนจึงไม่มีอะไรน่ากังวล เมื่อชนะแล้ว ซาบีต้าก็จะจากไปแบบชิวๆเหมือนเดิม คุยกับชายที่ตกลงมาแล้วเข้าไปในวิหารได้เลย




- วิหารบูชาวายุ กิเนเวียร์ นั้นเป็นหอคอยที่สูงลิบ เป้าหมายก็คือขึ้นไปจนถึงชั้นบน ปริศนาและการทำทางก็คือ การขึ้นลิฟท์ที่พื้นตามจุดต่างๆไปชั้นต่อๆไป ซึ่งมันจะขึ้นแบบเรียบง่ายไปจนถึง 4 – 5 ชั้น จากนั้นจะเริ่มมีตัวแปรอีกอันเข้ามาคือ สวิตซ์รูปปีกหมุน ที่สามารถเปิดปิดแผ่นหินที่กั้นทางตามจุดต่างๆให้สามารถผ่านไปได้หรือเข้าไปเก็บไอเทมต่างๆได้ ซึ่งการปิดเปิดแผ่นหินนี่แหละในบางจุดเมื่อเปิดหรือปิดไปแล้วมันจะส่งผลไปถึงชั้นบนต่อไปด้วย ซึ่งอาจทำให้มันเปิดทางไว้หรือปิดทางกั้นจนไปต่อไม่ได้เมื่อขึ้นต่อไป 

          


ฉะนั้นถ้าขึ้นไปแล้วมันถูกแผ่นหินกันไว้ก็ต้องพยายามมองลงมาข้างล่างว่าแผ่นไหนกั้นแล้วค่อยลงไปแก้ไขมัน ซึ่งมันจะไม่สามารถเขียนบอกได้ตามแผนที่ที่ค่อนข้างดูลำบาก นอกจากจะเจอแล้วแก้ไป ซึ่งมีน้อยจุดมากที่จะติดที่กั้นแผ่นหินส่วนใหญ่จะเป็นชั้นก่อนถึงชั้นบนสุดเท่านั้น -  เมื่อถึงชั้นที่มีจุดเซฟเปิดประตู ไปก็จะขึ้นไปจนถึงดาดฟ้าของหอคอยได้

 

ซึ่งจะได้พบกับ ปราญวายุ วาเดล  ワーデル จากนั้นก็เข้าไปที่ลานกว้าง Boss ดูลราฮัน デュラハン ก็จะลงมาสู้ด้วย หลังจากจัดการมันได้แล้ว เข้าไปคุยกับ ปราญวายุ วาเดล ก็จะได้ 神依・風の秘奥義「シルフィスティア」ซึ่งเป็นท่าไม้ตายของร่างคามุยสายลมมาใช้ หมดธุระแล้วก็ออกจากหอคอยได้เลย

  เป้าหมายที่จะไปต่อไปคือที่ ลานสู้รบ เกรฟกัน (グレイブガント盆地) ซึ่งจะวาร์ปไปไม่ได้เลย ทางที่จะไปได้คือต้องวาร์ปเดินทางมาที่ ป่าวากลัน (ヴァーグラン森林) แล้วออกมาที่ทางออกด้านขวาไปที่ ลานสู้รบ เกรฟกัน (グレイブガント盆地) ก็จะพบจุดดาวที่ค่ายทหารโรแรนท์ เข้าไปที่นั่นจะพบ โทรุ และ ฟุยรุ กำลังคุกับพวกทหาร จากนั้นทั้งคู่จะพาสุเรย์มาคุยในป่าต่อ

- จากนั้นวาร์ปเดินทางต่อมาที่ พื้นที่เพาะปลูก พัลบาเรย์ (パルバレイ牧耕地) แล้วเข้าไปที่หน้าเมือง เพนดราโก (ペンドラゴ教会神殿) จะพบซาบีต้ามายืนรออยู่ แน่นอนไม่มีเรื่องอะไรมากไปกว่าท้าดวลกับเดเซลเหมือนเดิม

 

Boss ซาบีต้า ザビーダ รอบนี้มาด้วยเลเวล 42 แต่การต่อสู้ก็ตามสไตล์ผ่อนปรนเหมือนเดิม หลังจากชนะ (มาหลายรอบแล้ว) ซาบีต้าก็ต้องยอมรับผลการต่อสู้ซะที เขาจะมอบปืน“ซิกฟรีท”  ジークフリート ของเขาให้กับสุเรย์เอาไว้ใช้ยามฉุกเฉินหรือไม่ก็ไว้ให้เดเซลมันฆ่าตัวตายไปซะ (ซาบี้ต้าคงไม่คิดว่าที่ปากสุนัขเอาไว้มันจะเป็นจริง ) ก่อนที่ซาบีต้าจะนอนหงายมองท้องฟ้าอย่างปล่อยวาง

-หลังต่อสู้เสร็จ เข้าเมือง เพนดราโก (ペンドラゴ教会神殿) ไปได้เลย จากนั้นทำธุระอะไรที่อยากทำให้หมดก่อนแล้วเข้าพักที่โรงแรม ตอนกลางคืนออกมาตรงลานด้านหน้าทางออก จะได้เจอกับเจ้าแวมไพร์หนึ่งในตัวที่ปล่อยเชื้อร้ายกันกินผู้คนมาแต่แรก ซึ่งตอนนี้รู้แล้วว่ามันชื่อ ลูนาล  ルナール ก่อนที่มันจะเข้ามาต่อสู้ทันที

 


เมื่อจัดการมันได้แล้ว เสียงผู้หญิงลึกลับคนนึงจะด่าถึงความไม่ได้เรื่องของ ลูนาล ก่อนที่จะส่ง ลูนาล อีก 3 ตัวออกมาพร้อมๆกัน จัดการพวกมันให้หมด แล้วเข้าไปที่จุดดาวด้านหน้าปราสาทในเมือง จะพบผู้หญิงลึกลับคนนึงซึ่งมองจากรุปกายภายนอกแล้ว สายพลังของเธอเป็น ความมืด แน่นอน

สาวน้อยลึกลับไม่ยอมบอกชื่อเสียงเรียงนาม แต่สุเรย์รู้ดีว่ามันคือผลผลิตของจ้าวแห่งภัยพิบัติ  ไซคะโนะเคงชุ 災禍の顕主  แน่นอน แต่ ดูเหมือนเดเซลจะรู้จักเธอดีมากก่อน เพราะสายน้อยลึกลับคนนี้ก็พยายามขุดอดีตอันปวดร้าวที่น้อยคนจะรู้ขึ้นมาจนทำเอา เดเซล ออกอาการที่จะเข้าห่ำหันทันที ก่อนที่เธอจะเรียกอสูรจากความมืดออกมาต่อสู้ ซึ่งมันกลับทำให้เดเซล โกรธยิ่งกว่าเดิม 

Boss ฟิวเฟส フューズドフェイス ก้อนเนื้อที่น่าขยะแขยงที่หลอมรวมมนุษย์กับไอปีศาจ เวเวลมันนั้นสู้ถึง 80 แต่มันก็ไม่ได้มาเพื่อสู้เต็มรูปแบบ พยายามทำคอมโบไปเรื่อยๆจนมันเริ่มหนีไปเอง

แต่ความโกรธของเดเซลทำให้เขาขาดสติ ก่อนที่จะถือวิสาสะรวมร่างกับโรเซ่ เพื่อตามมันไปทันที เขาพุ่งเข้าหามันแล้วพร้อมที่จะขยี้มันให้ย่อยยับแต่ทันทีที่มีใบหน้าคนนึงที่เขาเคยรู้จักโผล่ออกมาก็ทำให้เดเซลหยุดชะงักคิดถึงความหลังที่เลวร้ายที่เคยเกิดขึ้น เมื่อในอดีต เดเซล ยังประจำการในฐานะทหารของโรแรนท์กับหัวหน้าของเขา เขาใช้ชีวิตร่วมกับมนุษย์ด้วยความผูกพันมาก่อนที่จะถูกเจ้าโคนัน เสนาธิการทหารที่โดนไอปีศาจครอบงำสั่งลงโทษร้ายแรง นั่นทำให้ โรเซ่ ที่อยู่ที่นั่นด้วยโกรธมากจึงพุ่งเข้าไปฆ่าโคนันทันที แต่มันกลับทำให้ไอปีศาจที่สิงสู่ในตัวมันหลุดออกมาและกำลังจะเข้าไปสิงสู่ร่างของโรเซ่แทน แต่หัวหน้าของเดเซลรีบเอาตัวเองมาขวางจนต้องรับไอปีศาจทำให้กลายเป็นปีศาจก้อนเนื้อ ฟิวเฟส ที่เป็นทาสรับใช้พวกมารมาจนถงวันนี้ นั่นคือทั้งหมดที่ทำให้เดเซลคลั่งแค้น ทำตัวโดดเดี่ยวเพื่อออกตามไล่ล่าพวก โซม่า มาตลอด เขาอยากจะปลอดปล่อยหัวหน้าของเขาจะร่างปีศาจแต่ก็ยังใจแข็งไม่พอ ในช่วงที่เดเซลกำลังสะดุดกับอารมรณ์ความหลัง ฟิวเฟส  ก็แทงเข้าไปที่ร่างของเดเซลและโรเซ่ที่รวมร่างอยู่เต็มๆ ในขณะที่เดเซลกระเด็นไปพร้อมความบาดเจ็บหนัก มันก็จับโรเซ่ไว้ได้   

   


-ทางด้าน สุเรย์ และพวกที่เหลือก็ต้องสู้กับ Boss สาวน้อยลึกลับ???  ซึ่งมันก็ไม่ได้มีพิษสงอะไรมาก นอกจากแยกร่างมากมายเข้ามโจมตี ใช้ร่างดินของเอโดน่า กดขวา + O ใช้ท่ากระแทกพื้นก็จะทำลายมันได้หลายๆตัวพร้อมกันได้

ทันทีที่สุเรย์จบเรื่องกับ สาวน้อยลึกลับ แล้วเขาก็รีบเข้าไปช่วยเดเซลกับโรเซ่ทันที เดเซล บาดเจ็บหนักแต่พร้อมทำใจที่จะทำลายร่างเน่าๆของหัวหน้าเขาได้แล้วเพื่อแลกกับชีวิตที่กำลังตกอยู่ในอันตรายของโรเซ่ เดเซลขอใช้ปืนที่ซาบีต้าให้ไว้เพื่อช่วยโรเซ่ ด้วยการรวมร่างกับสุเรย์พร้อมท่าไม้ตายใหม่กับปืนสายลมของซาบีต้า ซึ่งไลล่ารู้ดีว่ามันต้องใช้พลังชีวิตทั้งหมดของเดเซลในการใช้ท่านั้น แต่สุดท้ายเดเซลก็ตัดสินใจที่จะทำ เขายิงกระสุนแงสายลมด้วยร่างคามุยวายุจนสามารถทำลายร่างปีศาจก้อนเนื้อลงได้ โรเซ่ ปลอดภัย แต่ ร่างพลังงานของเดเซลก็กำลังหมดพลังและสลายไป

  



 แต่โรเซ่กับเดเซลก็พอมีเวลาที่จะล่ำลากัน คำตอบรับมากมายที่โรเซ่เอ่ยออกมาเพื่อตอบรับคำสั่งเสียสุดท้ายของเดเซลทั้งน้ำตาก่อนที่ เดเซลจะสลายร่างไปพร้อมกับปลดพันธนาการของความแค้นในอดีต หลังการจากไปของ เดเซล สาวน้อยลึกลับ ก็ฉวยโอกาสหนีไป ก่อนที่ซาบีต้าจะตามเข้ามาเห็นเหตุการณ์ ก็พบแค่หมวกกับปืนของเดเซลแล้วเท่านั้น 

- หลังจบเหตุการ์ณในคืนที่เลวร้ายนั้น คุยกับทุกคนที่จุดดาวให้หมด แล้วจุดดาวที่เหลือ 2 จุดคือในโรงแรมกับออกที่ทางออก เลือกอันไหนก็ได้ ก็จะตัดมาที่ในตอนเช้าทันที ขณะที่ทุกคนกำลังเตรียมออกเดินทางต่อ ซาบีต้า ก็เข้ามาพบ เขาไม่ได้จะมาหาเรื่องแต่จะมาเข้าร่วมทีมเพื่อสานต่ออุดมการณ์ของ เดเซล เพื่อนร่วมชะตากรรมแห่งวายุต่อ



ซึ่ง ซาบีต้า ザビーダ หรือ ซาเบียส เพื่อนใหม่ศัตรูเก่ากับปืนคู่ใจ “ซิกฟรีท” สายเลือดสวรรค์รักอิสระดุจสายลมที่พร้อมจะห่ำหั่นพวกปีศาจด้วยแรงลมที่บ้าคลั่งของเขาอย่างไม่มีลังเล จากวันแรกถึงวันนี้ก็ยังไม่มีใครรู้จุดหมายที่แท้จริงของเขา นอกจากตลกร้ายปนรอยยิ้มที่กวนประสาทที่เขามีให้กับคนรอบข้าง แต่ก็สามารถใช้พลังร่วมรบกับนักพรตได้ไม่ต่างจากคนอื่นถ้าเขาอยากที่จะทำ ซึ่งซาบีต้าจะมาเข้าร่วมด้วยเลเวลกับอาวุธและชุดป้องกันต่างๆที่เคยเซ็ทไว้ให้เดเซลนั่นแหละ และความสามารถระหว่างซาบีต้ากับเดเซลก็ไม่มีอะไรแตกต่างกันมากเมื่อรวมร่างเป็นคามุยวายุ

-จากนั้นออกเดินทางจากเมือง เพนดราโก (ペンドラゴ教会神殿) แล้ววาร์ปเดินทางมาที่ ป่าวากลัน (ヴァーグラン森林) แล้วออกมาที่ทางออกด้านขวาไปที่ ลานสู้รบ เกรฟกัน (グレイブガント盆地) อีกครั้งก็จะพบจุดดาวที่นี่

เมื่อเข้าไปสุเรย์และพวกจะได้เจอกับ จ้าวแห่งภัยพิบัติ  ไซคะโนะเคงชุ 災禍の顕主ที่รออยู่ที่นี่ ซึ่งจากการรวบรวมลูกแก้ความทรงจำก็ทำให้รู้ความเป็นมาและชื่อของมันแล้วนามขิงมันคือ เฮลดัลฟ์  ヘルダルフ และสายน้อยลึกลับที่เป็นเสมือนพลังในด้านมืดของมัน ไซม่อน サイモン (ฟังชื่อแล้วไม่น่าจะใช้ผู้หญิงปกติเสียแล้ว) ก่อนที่ไซม่อนจะใช้พลังบาเรียความมืดกักขังเพื่อนทุกคนของสุเรย์เอาไว้เหลือแต่ สุเรย์และไลล่าเท่านั้น

                    

Boss เฮลดัลฟ์ ヘルダルフ นั้น เลเวลปาเข้าไป 80 นั่นแปลว่าไม่สามารถเอาชนะมันได้แน่ ฉะนั้นก็ไม่ต้องไปเปลืองแรงและเสียของไปเยอะกับการต่อสู้นี้ พยายามคอมโบต่อเนื่องไปเรื่อยๆจนมันเริ่มใช้ท่าไม้ตาย 「真・獅子戦吼」จนกระเด็นกระดอนไปจนหมด ในขณะที่กำลังเสียท่า โรเซ่ ก็จะเข้ามาช่วยจนสามารถจับตัวไซม่อนเอาไว้ได้ แต่ เฮลดราฟ ก็ยิงพลังใส่ทั้งโรเซ่และไซม่อนไปพร้อมๆกัน สุดท้ายเมื่อมันประกาศศักดิ์ดาจนทุกคนลุกไม่ขึ้นกันหมด มันก็เดินจากไปพร้อมเสียงหัวเราะที่โอหังเช่นเดิม

- จากนั้นวาร์ปเดินทางต่อมาที่ พื้นที่เพาะปลูก พัลบาเรย์ (パルバレイ牧耕地) แล้วออกที่ทางออกฝั่งซ้ายบนเข้ามาที่สะพานข้ามทวีปคาเมลอต  (キャメロット大陸橋) ต่อ


สะพานข้ามทวีปเคเมลอต  (キャメロット大陸橋) - เมืองแห่งหอคอยโรกุริน (塔の街ローグリン)

-เดินข้ามผ่านสะพานขนาดใหญ่ไปจนถึงสุดทางจะเจอ ปีศาจปลาหมึกยักษ์ ขวางทางอยู่จัดการมันซะแล้วข้ามไปอีกฝั่งของสะพานจะเข้ามาที่เขตทุระกันดาร ザフゴット ซึ่งจะมีทางออกอยู่ 3 ทางคือ บนซ้าย, บนขวา และ ล่างซ้าย เพื่อไม่ให้เป็นการงง ก็ไปที่จุดหมายตามเนื้อเรื่องก่อนนั่นก็คือ จุดซ้ายบนที่เมืองแห่งหอคอยโรกุริน (塔の街ローグリン) ซึ่งก็จะเจอ เมลวิน (メーヴィン) รออยู่




เขาจะต้องการให้สุเรย์รวบรวม หินแห่งดวงตา (瞳石)  มาให้ครบเสียก่อน (ก่อนออกจากเมืองคุยกับเอกิว (エギーユ) ด้วยเพื่อเปิดมิชชั่นหาหินโดเซกิด้วย )




                                             ภารกิจรวบรวมหินแห่งดวงตา (瞳石集め)

หินแห่งดวงตา (瞳石) นั้นก็คือลูกแก้วที่เก็บแล้วจะเห็นความเป็นมาในช่วงก่อนที่จะเกิดกลียุค ที่ผ่านมาเราก็จะเห็นภาพต่างๆที่เก็บได้ที่เป็นความทรงจำที่สำคัญต่างๆทั้งของ ไลล่ากับนักพรตคนก่อนของเธอ การต่อสู้ร่วมกับของชาวสายเลือดสวรรค์และมนุษย์ รวมไปถึงเหตุการณ์ที่มารร้ายได้ถือกำเนิด 

ซึ่งหินแห่งดวงตา (瞳石) มีทั้งแบบได้มาตามเนื้อเรื่องและแบบต้องทำภารกิจเสริม สิ่งที่ต้องทำก็คือ
1. ทุกครั้งที่เข้าเมืองหรือผ่านที่ต่างๆแล้วเห็น ดาวสีม่วง ในแผนที่ นั่นคือผู้ให้มิชชั่นตามหาหินโดเซกิ เข้าไปคุยรับฟังข่าวก่อน แล้วรายละเอียดของมิชชั่นก็จะอยู่กับโรเซ่ คุณสามารถคุยเพื่อดูรายละเอียดได้ 
2. จากนั้นก็ต้องตามไปทำเควสตามสถานที่ต่างๆที่มีจุดดาวสีม่วงแสดงให้เห็นซึ่งสามารถดูได้ในจุดเซฟในรายชื่อสถานที่ที่ต้องการวาร์ป คุณก็ต้องตามไปทำมิชชั่นจุดดาวม่วงนั้นๆให้ครบ 
3. มิชชั่นดาวม่วงนั้น ก็มีทั้ง แค่ตามไปพูดคุย หยิบมาแบบสบายๆ ไปจนถึงต้องจัดการแรร์มอนสเตอร์เก่งๆถึงจะได้มันมา หรือหลังจบเหตุการณ์ต่างตามเควสย่อยนั้นๆ 

ซึ่งจริงๆแล้วผู้เล่นเองก็ได้หินหินแห่งดวงตาบางอันมาตลอดการเล่นแล้ว แต่คงไม่ได้ตั้งใจว่ามันจะเป็นของจำเป็นที่ต้องมาตามหาในช่วงหลัง เพราะส่วนนึงมันก็อยู่กับแรร์มอนสเตอร์ที่เก่งกาจจนคุณต้องหลีกทางให้มันจนลืมมันไปในที่สุด นั่นทำให้ ถึงตอนนี้ แต่ละคนที่เล่นมาอาจมี หินแห่งดวงตา (瞳石) ที่เก็บมาได้ไม่เท่ากัน

ซึ่งหินแห่งดวงตา (瞳石) ทั้งหมดนั้นจะมี 15 อัน การได้มานั้นอาจจะแรนด้อมว่าจะได้หินอันไหนก่อนหลังต่างกันไปในแต่ละคน แต่สถานที่และเงื่อนไขนั้นจะเหมือนเดิม หินทั้ง 15 อันนั้นประกอบด้วย

1.赤の瞳石・トゥリア
2.緑の瞳石・アインス
3.黄の瞳石・ドヴァー
4.赤の瞳石・トヴォ
瞳石エピソード
5.赤の瞳石・フューラ
6.黄の瞳石・アジーン
7.緑の瞳石・ツヴァイ
8.黄の瞳石・トリー
9.紫の瞳石・エーク
10.紫の瞳石・ドー
11.赤の瞳石・エット
12.緑の瞳石・ドライ
13.緑の瞳石・フィーア
14.緑の瞳石・フュンフ
15.緑の瞳石・ゼクス


              ส่วน หินแห่งดวงตา (瞳石) ที่ผมเก็บได้ก่อนหน้านี้นั้นมีอยู่ 8 อัน คือ

1.ได้ตามเนื้อเรื่องในช่วงแรกของเกม
2.วางอยู่โบถส์ของเมือง เพนดาร์โก้ ในช่วงกลางๆของเกม 
3.ได้จากในโบสถ์เมืองมาริน (大樹の街マーリンド) หลังจบเหตุการณ์ในเนื้อเรื่องของเมือง พอเจออาคาธาร์ที่สุสาน แล้วมาคุยกับลุงหัวโล้นที่สร้างสะพานที่จุดฟ้าๆในเมือง พอเข้าไปในโบสถ์ก็จะเห็น หินแห่งดวงตา วางอยู่ 
4.ได้จากเนื้อเรื่องหลักในโบราณสถานทินทาเจล(ティンタジェル遺跡群) หลังจบเหตุการณ์ในเนื้อเรื่อง
5. ต้องเปิดเควสด้วยการคุยกับชายที่ยืนอยู่บริเวณต้นไม้ใหญ่ในเมืองมารินก่อนแล้วไปที่ โบราณสถานโบลุส(ボールス遺跡) ที่ส่วน北西部ก็จะเจอหินแห่งดวงตาอีก 1 อัน
6. ต้องเปิดเควสด้วยการคุยกับชายที่มีดาวม่วงที่เมืองเมืองลัสดอนเบล (職人の街ラストンベル) แล้วไปที่ถ้ำ カンブリア地底洞 ไปตามจุดดาวสีม่วงได้เลยจะได้มาอีก 1 อัน ซึ่งก็จะได้เจอกับเทพประจำเมือง ลาสดอนเบลด้วย จากนั้นกลับมานอนในโรงแรม 1 คืน ตอนกลางคืนออกมานอกโรงแรมจัดการหมาป่าที่ทำร้ายชาวบ้านแล้วออกจากเมืองที่ทางออกด้าน เข้าไปจัดการ บอสมนุษย์หมาป่า บรีดวูลฟ (ブリードウルフ) จัดการมันซะก็จะได้ หินแห่งดวงตามาอีก 1 อันพร้อมทั้งได้เทพกลับมาดูแลเมืองลัสดอนเบลด้วย ซึ่งก็จะทำให้สกิลและนอร์มินเพื่อความได้เปรียบในพื้นที่ได้แล้ว 
7. คุยกับคนที่มีดาวสีม่วงในเมือง ลาลัสดอนเบล (ラストンベル) แล้ววาร์ปไปที่ป่าวากลัน (ヴァーグラン森林) จะมีจุดดาวสีม่วงที่หน้าโบราณสถานทินทาเจล(ティンタジェル遺跡群) ฐานของโรเซ่ เข้าไปไปช่วยเด็กๆจาก บอส โดริอาร์ด(ドリアード) หลังจบมิชชั่นก็จะได้ หินแห่งดวงตา มา 1 อัน
8. เข้าไปที่เมืองเลดี้เลค レディレイクก็จะพบดาวสีม่วงของพวกเด็กๆ ตามไปดูตามที่ต่างๆของเมืองจนหมดก็จะได้ หินแห่งดวงตา มา 1 อัน


  จากนั้นก็คือตามเก็บ หินแห่งดวงตา (瞳石) ในส่วนที่ยังเหลือล่าสุดที่ผมยังขาดไปอีก 7 อันครับ 

  


- ก่อนอื่นสำรวจในพื้นที่เขตทุระกันดาร ซัฟก็อด ザフゴットนี้ให้ทั่วๆจะเจอแรร์มอนสเตอร์ ไฮเอเลเฟ่น ハィエファントที่เป็นช้างแมมมอสยักษ์สีม่วงๆเดินอยู่ในส่วนล่างของพื้นที่ เข้าไปจัดการมันซะ ก็จะได้ผู้เฒ่า อารากัน アラカン ที่เป็นผู้ดูแลเมืองกลับคืนมา ซึ่งก็จะทำให้มีคำสั่ง 地の主メニュー ที่จุดเซฟในการสร้างความได้เปรียบของเขตนี่ได้แล้ว
-ที่จุดแดงทางขวาบนของแผนที่จะเป็นทางเข้าโบราณสถาณ โทริสอิล トリスインルด้านในไม่มีอะไรพิเศษ เป็นที่เก็บเลเวล เก็บไอเทมและจัดการเจ้าแรร์มอนสเตอร์ หมัดปีศาจ
-ตรงกลางพื้นที่จะมีซากหมู่บ้านที่โดนทำลายอยู่ ที่นี่จะมี บอส สเตนโน่ ステンノー อยู่ ซึ่งมันจะเป็นหนึงในพี่น้องของเมดูซ่าที่เหลืออยุ่ เข้าไปจัดการมันซะ ก็จะได้หิน 紫の瞳石・ドー  (อันที่ 9)
-ที่ทางซ้ายของแผนที่จะเป็นทางเข้าไปใน เขตหนองน้ำ พริทซันเนอร์แบก  プリズナーバック湿原 ซึ่งก็จะมีทางแยกที่สามารถเข้าไปได้อีก 2 ทาง คือ
ฝั่งซ้าย - ตรงจุดเซฟที่ซากหมู่บ้านที่โดนทำลาย หาดีๆจะมี บอส อูลเยล エウリュアレーน้องของเมดูซ่าอีกตัวนึง จัดการมันซะ แล้วข้ามบึงไปก็จะเจอทางเข้าโบราณสถานอัลโตส アルトウス ด้านในไม่มีอะไรพิเศษ เป็นที่เก็บนอร์มิน ヴォイドวอยด์ ที่เก็บเลเวล เก็บไอเทมและจัดการเจ้าแรร์มอนสเตอร์ ก็จะสามารถเปิดห้องสมบัติตรงกลางที่เต็มได้ด้วยเงินมากมาย
ฝั่งขวา –จะเข้ามาที่เขตป่าแล้ง リヒドワーグ灰枯林เข้าไปจนถึงด้านในจะเจอแรร์มอนสเตอร์ ไททั่น テイータン ก็จะได้ หิน 紫の瞳石・エーク (อันที่ 10)  

- เดินทางเข้าไปที่เมือง เพนดราโก้ (聖なる皇都ペンドラゴ) จะเจอเซอร์เก้คุยกับชาวบ้าน จากนั้นนอนพักโรงแรม ตอนกลางคืนออกมาไปที่หน้าโบสถ์ในเมืองจะเจอเซอร์เก้กำลังช่วยคนบาดเจ็บอยู่ เข้าไปในโบสถ์จะพบคนบาดเจ็บนอนอยู่ คุยกับบาทหลวงก็จะได้ หิน 赤の瞳石・エット (อันที่ 11)  
-วาร์ปไปที่โบราณสถาน กาบีรีส ガフェリス ทางตอนเหนือของพื้นที่เพาะปลูกพาร์บาเรย์ (パルバレイ牧耕地) ซึ่งหลายคนคงเข้ามาเก็บเลเวลในตอนต้นเรื่องแล้วนั่นแหละ เข้าไปในห้องในสุดของชั้น 3 ที่ห้องแรร์มอนสเตอร์แมงป่องยักษ์จะมี หิน 緑の瞳石・ドライ(อันที่ 12)  ตกอยู่ เก็บมาซะส่วนแมงป่องยักษ์จัดการยังไงก็ได้ตามสะดวก
- ( ต้องคุยกับพ่อค้าในเมืองเพนดราโก(ペンドラゴ) ก่อน)  วาร์ปมาที่เขตทางเดินช่องเขา เวสทรอนโฮลด์ ウェストロンホルドの裂 ตรงที่เคยไปวิหารบูชาวายุ กิเนเวียร์ (風の試練神殿ギネヴィア) ตรงกลางพื้นที่จะเห็นว่ามีจุดสีฟ้าอยู่ จะเป็นจุดดาวสีม่วง เข้าไปคุยกับชายที่บาดเจ็บในกลุ่มทหาร แล้วเดินขึ้นเนินของพื้นที่นี้ ด้านบนจะเจอแรร์มอนสเตอร์ ก็อบลินลอร์ด ゴブリンロード จัดการมันซะก็จะได้ หิน 緑の瞳石・フィーア(อันที่ 13)  
-  (ต้องรับเควสจากคุยคนที่ยืนอยู่หน้าหอศิลป์ดัมโนเนียร์ในเมืองมาริน (大樹の街マーリンド)  ก่อน )จากนั้น วาร์ปมาที่เขตที่ราบ凱旋草海 ข้างๆเมือง รัสทอนท์เบล (職人の街ラストンベル)  แล้วออกที่ทางออกด้านเหนือของแผนที่ไปที่เขต มาโอรี่ マロリー เข้าไปด้านในใช้หมัดต่อยหินเปิดทางใหม่เข้าไป ด้านในจะเจอแรร์มอนสเตอร์นักยักษ์ クジャクオウจัดการมันซะแล้วจะได้คีย์ไอเทมมา จากนั้นวาร์ปไปที่ เมืองแห่งต้นไม้มาริน(大樹の街マーリンド) แล้วเอาไปให้ชายที่มีดาวสีม่วงขึ้นอยู่ที่หน้าหอศิลป์ดัมโนเนียร์(ダムノニア美術館)  แล้ววาร์ปไปที่ ทางระบายน้ำ วิเวียร์(ヴィヴィア水道遺跡) ใต้เมือง ลดี้เลค(湖上の街レディレイク) ที่จุดดาวม่วงทุกคนจะแอบฟัง อาริเซีย คุยกับคนของเธอ เมื่อทุกคนไปหมดแล้ว ก็ลงไปเก็บ หิน 緑の瞳石・フュンフ(อันที่ 14) มาได้เลย เสร็จแล้วก็อย่าลืมแวะไปที่บ้านของอาริเซียที่เป็นจุดเครื่องหมาย ! เพื่อปิดเควสด้วย

-อันสุดท้ายร้ายสุดครับ ต้องเปิดเควสด้วยการคุยกับคนที่มีดาวม่วงใน เมือง โกโดจิน (忘れられた村ゴドジン) ก่อน แล้ววาร์ปเดินทางไปที่ เขต  バイロブクリフ崖道西部 เพื่อเข้าที่ ถ้ำอิเดล(イデル鍾洞) เข้าไปด้านในสุด ใช้หมัดต่อยหินเข้าไปจนผ่านจุดเซฟ ในห้องด้านในเจ้าบอสก็จะเอาโจมตีโดยคุณไม่ทันเห็นมัน เพราะ เจ้า ツチノコ มันคือทากหรืองูดินอะไรซักอย่างที่ตัวเล็กจนมองแทบไม่ออก จัดการมันซะ ก็จะได้หิน  緑の瞳石・ゼクス ( อันที่ 15)  อันสุดท้าย (สำหรับผม) 

- เมื่อหา หินแห่งดวงตา ครบแล้ว ก็เดินทางกลับไปที่เมือง โรกุริน (塔の街ローグリン) เพื่อคุยกับเมวินได้เลย และทันทีที่ได้หินความทรงจำมาครบ มาวิน ก็จะนำทางเข้าไปที่ซากหอคอยด้านใน แท่นหินศักดิ์สิทธิ์ 神秘の石碑 ก็จะฉายภาพเรื่องราวต้นเหตุในยุคอดีตให้ดู





เส้นทางของเหล่าสายเลือดสวรรค์กับมนุษย์ที่พวกเขาคัดเลือดให้เป็นนักพรตเพื่อสู้เคียงข้างไปกับพวกเขาในหน้าที่รักษาความสมดุลย์ในดินแดนแห่งนี้ดำเนินมาตั้งแต่ยุคอดีต ไลล่า (ライラ) สาวสายเลือดสวรรค์สาวกับ มิเกล (ミクル) นักพรตหนุ่มที่โชคชะตาพาให้ทั้งคู่มาร่วมสู้ด้วยกันก็คงดำเนินไปไม่ต่างกัน ทั้งคู่ต่อสู้ร่วมกันไปทั่วทั้งดินแดน จนบ้านเมืองเข้าสู่สันติ นักพรตหนุ่มจึงอยากจะยุติหน้าที่ของตนแล้วไปใช้ชีวิตเยี่ยงคนธรรมดา 




  

เขาจึงร่ำลาไลล่า สายเลือดสวรรค์สาวเพื่อไปสร้างครอบครัวของตัวเอง ทิ้งอดีตแห่งความเป็นนักพรตและความทรงจำกับเหล่าสายเลือดสวรรค์ให้กลายเป็น แค่บันทึกการผจญภัยที่สุดมหัศจรรย์เล่มนึง





 ก่อนที่จะใช้แรงกายแรงใจทั้งหมดเริ่มก่อร่างสร้างหมู่บ้านที่เงียบสงบขึ้นมาแล้วเรียกมันว่า หมู่บ้านแห่งการเริ่มต้น (始まりの村)  เฉกเช่นเจตนารมณ์ของ และอยู่อย่างสงบสุขกับน้องสาว มิวส์ (ミュース) และลูกชายวัยทารกของเธอที่ชื่อว่า มิคุริโอ้ (ミクリオ )





ในขณะที่ทางด้าน อาณาจักร โรเเรนท์ ที่สุดยิ่งใหญ่เกรียงไกร กำลังเฉลิมฉลองกับการสืบทอดอำนาจจากรัชทายาทสู่กษัตริย์องค์ใหม่ เฮลดัลฟ์  (ヘルダルフ) ผู้ครองแผ่นดินแห่งโรแรนท์ เฮลดัลฟ์ที่เต็มไปด้วยความทะเยอทะยานและอำนาจที่มากล้นในมือ เข้าทำทุกอย่างเพื่อเอาชนะศัตรูคู่อริอย่างไฮแลนด์ ด้วยการขยายอณาเขตการปกครองเพื่อสร้างฐานทัพที่แข็งแกร่ง แต่หารู้ไม่ว่า ความสงบสุขที่ดำเนินไปมันกลับอยู่ในกงล้อเดียวกันกับการบ่มเพาะพลังของความชั่วร้ายที่กำลังรอเวลาที่เหมาะสมของมันเฉกเช่นเดียวกัน สุดท้ายเส้นทางแห่งความทะเยอทะยานก็บรรจบกับเส้นทางความสงบของอดีตนักพรตหนุ่ม มิเกล 




เมื่อ เฮลดัลฟ์  นำทัพเข้าไปถึงยังหมู่บ้านของมิเกลและร้องขอเพื่อต้องการที่แห่งนี้ไว้เป็นที่สร้างฐานทัพเพื่อยุทธศาสตร์การรบของโรแรนท์ โดยเฮลดัลฟ์สัญญากับมิเกลว่าเขาจะไม่ทอดทิิ้งและช่วยปกป้องหมู่บ้านจากพวกไฮแลนด์ เฮลอัลฟ์อ้างความชอบธรรมในการปกป้องอณาจักร์ในฐานะทหารที่ไม่แตกต่างจากนักพรตที่ทำมา ทำให้มิเกลต้องพยายามชื้อเวลาเอาไว้จน เฮลดัลฟ์นำกองทหารโรแรนท์ฺกลับไป ท่ามความไม่พอใจของชาวบ้านที่วิหารเทพ มาโอเทราซุ จะต้องถูกทำลายไปด้วย  แต่ทันทีที่ทหารโรแรนท์พ้นหมู่บ้าน ทหารไฮแลนด์ก็เข้าบุกถล่มหมู่บ้านของมิเกลทันที และด้วยความที่เขาไม่เคยคิดที่จะปกป้องตัวเอง ได้้แต่หวังแต่ความช่วยเหลือจากทหารโรแรนท์ ความผิดพลาดของมิเกลนั้นแพงนักเพราะมันทำให้หมู่บ้านของเขาถูกทำลายราบคาบภายในเวลาไม่นาน




มิเกลเห็นหมู่บ้านของเขาถูกทำลายด้วยฝีมือของทหารไฮแลนด์แต่ก็ได้รู้จากชาวบ้านที่กำลังจะตายว่าเป็นการใส่ร้ายของ เฮลดัลฟ์ จากนั้นชาวบ้านจะรีบมาบอกว่าทหารบุกเข้าไปเผาแท่นบูชาของเทพ มาโอเทราซุ แล้วและ มิวส์ น้องสาวของเขาก็อยู่ที่นั่น มิเกลจึงรีบเข้าไปช่วยทันที พอเข้าไปถึงที่เกิดเหตุที่ไฟลูกไหม้ไปทั่ว มิวส์ น้องสาวของเขาตะโกนให้ช่วย มิคาริโอ้ ที่ตกอยู่กลางกองไฟ มิเกลจึงรีบเข้าไปช่วยทันที แต่ไฟที่โหมอย่างหนักทำให้มิเกลไม่สามารถหนีออกมาได้ด้วยความโกรธแค้นและเสียใจที่หมู่บ้านและสิ่งที่เขารักถูกทำลายจนหมด มิเกลหันไปเห็นแท่นบูชา เทพ มาโอเทราซุ (マオデラス)
ที่เขานับถืออยู่ตรงหน้าเขาจึงนำทารกน้อยมิคาริโอ้ไปทำพิธีบูชายัญทันทีเพื่อเปลี่ยนมันเป็นคำสาปที่ชั่วร้ายส่งไปถึงคนที่พรากทุกอย่างไปจากเขา... กษัตริย์ เฮลดัลฟ์  แห่งโรแรนท์ 




เมื่อวันเวลาผ่านไปคำสาปก็บังเกิดผลกษัตริย์ เฮลดัลฟ์  หมดความน่าเชื่อถือลงในเวลาไม่นานนักทั้งจากทั้งศาสนจักรและคนรอบข้าง ความกดดันเปลี่ยนผันไปเป็นความเกลียดชัง กับคนรอบข้างจนถึงครอบครัวของตัวเอง เมื่อขาดซึ่งผู้นำที่เข้มแข็ง อนาจักรที่แข็งแกร่งก็เริ่มถดถอยลงทุกวันทั้ง และทั้งหมดก็อยู่ในสายตาของ เด็กสาวลึกลับคนนึง ที่เฝ้ามองดูอณาจักร์นี้และเริ่มที่จะเปลี่ยนมันให้เป็นสนามเด็กเล่นแห่งนรกอเวจีของเธอ กษัตริย์หนุ่มที่ถูกความมืดมิดเกาะกินจิตใจจนแทบไม่เหลือความเป็นคน เขาเริ่มฆ่าลูกเมียตัวเองด้วยความโหดเหี้ยมและเหยียบย่างเข้าสู่ศาสตร์มืดอย่างเต็มตัว และกำเนิดใหม่ในนามของ ราชาแห่งความหายนะ ไซคะโนะเคงชุ (災禍の顕主) ในที่สุด ก่อนที่จะเริ่มคิดปกครองทุกสิ่งในแผ่นดิน แกลนวู๊ด ด้วยการดูดกลืนพลังแห่งเทพ มาโอเทราซุ (マオデラス) จนแผ่นดินเริ่มเสื่อมสลายลงไปด้วยเมฆหมอกแห่งความมืดชั่วกัปชั่วกัลป์    





หลังเหตุการณ์ของโศกนาฎกรรมที่เลวร้ายจบลง ผู้เฒ่าเซนไร ゼンライและ คณะของกชาวสายเลือดสวรรค์ก็เดินทางเข้ามาเพื่อช่วยเหลือแต่มันเหลือแค่ซากหมู่บ้านที่ถูกทำลายย่อยยับไปแล้ว ผู้เฒ่าได้เจอเด็กทารกคนนึงที่อยู่ในอ้อมกอดของศพชายคนนึงที่นอนอยู่ 





เขาจึงตัดสินใจนำเด็กทารกคนนั้นมารักษาให้เกิดใหม่ จนกระทั้ง มิวส์ ที่ยังรอดชีวิตเดินอ้มร่างที่เต็มไปด้วยเลือดของทารกน้อย มิคาริโอ้ ลูกของเธอ เขามาหาและพยายามขอร้องให้ช่วยลูกชายของเธอด้วย แต่มิวส์ ก็รู้ดีเมื่อเห็นทารกน้อยลูกของ เซย์เรน セレン ที่นอนตายอยู่ถูกอุปการะไปแล้ว นั่นทำให้ผู้เฒ่าบ่ายเบี่ยงอยู่นาน จนสุดท้ายท่านก็ยอมรับลูกของมิวส์ที่เพิ่งตายมาดูแลอีกหนึ่งคนและ มิคุริโอ้ ก็จะได้รับพรแห่งเทพในการกำเนิดใหม่ในฐานะคนของสายเลือดสวรรค์ นั่นแปลว่ามิวส์ก็จะไม่ได้เจอลูกชายของเธออีกต่อไป  




และจากวันนั้น ทารกน้อยที่ถูกถวายตัวกลายเป็นเผ่าสายเลือดสวรรค์ มิคุริโอ (ミクリオ) และอีกหนึ่งทารกน้อยผู้รอดชีวิตจากความหายนะของสงครามนามว่า สุเรย์ (スレイ) บัดนี้ ทั้งสองได้เติบใหญ่ในฐานะ นักพรตและสหายร่วมรบชาวสายเลือดสวรรค์ที่ต้องการลบล้างความผิดที่เกิดจากนกพรตรุ่นก่อน ทุกคนจึงพยายามอย่างหนักที่จะหาทางช่วยโลกจากราชาแห่งความหายนะที่เกิดจากผลในสิ่งที่คนยุคก่อนได้ทำไปทั้งจะตั้งใจหรือไม่ก็ตาม การเดินทางที่เป็นภารกิจร่วมของเหล่าผลพวงความผิดพลาดจากโศกนาฎกรรมในยุคก่อนจึงเริ่มต้นขึ้นนับแต่นั้น  


Cr. ขอบพระคุณแนวคิด ตรรกะและหลักทางภาษาของคุณ “Lastwaltz” Naruphun Chotechuang เพื่อนเก่าสมัย Gcon ที่ส่งตรงจากญี่ปุ่นมากๆครับ ที่ทำให้ผมเขียนบทความนี้ออกมาได้กระจ่างมากขึ้น 


-แต่ทันทีที่พวกของสุเรย์รับรู้เรื่องราวต่างๆจนหมด เมื่อกลับออกไปจากห้อง เมวิน ที่รออยู่ก็ถามถึงความพร้อมของทุกคนก่อนจะเจอกับ  ราชาแห่งความหายนะ ไซคะโนะเคงชุ ซึ่งนั่นหมายถึงถ้าทุกคนมือไม่ถึงพอที่จะผ่านเขาไปได้ ก็ไม่จำเป็นต้องตะเกียดตะกายไปตายให้ไกลขนาดนั้น มาวิน กล่าวก่อนจะเปิดฉากสู้ทันที



Boss เมลวิน (メーヴィン) ถึงแม้จะเป็นการต่อสู้กับคนที่ไม่ใช่ศัตรู แต่เมลวินก็มีไม้เด็ดพอกับท่าไม้ตายไปบ์ยาสูบพิฆาตของเขา หลังจากสู้กับเขาจนพลังใกล้หมด เมลวิน จะขอให้สุเรย์สู้อย่างเต็มที่ คำว่าสู้เต็มที่คือสู้กันให้ตายไปข้าง ไม่งั้นก็ไม่มีทางสู้กับ เฮลดัลฟ์ ได้ หลังจากเอาชนะ เมลวิน ได้ ก็จะเหลือแค่ค่ำสั่งเสียสุดท้ายของเมลวินเพื่อให้ทุกคนโชคดีในการต่อสู้ครั้งสุดท้าย
- หลังจากที่ฝังศพของเมลวินแล้ว ทุกคนก็ต้องเดินหน้าต่อ ตอนนี้จะยังใช้จุดวาร์ปไปในไม่ได้เพราะเนื้อเรื่องอยู่ที่สะพานข้ามทวีปเคเมลอต  (キャメロット大陸橋) เดินเข้าไปทีสะพานจนถึงจุดที่ตั้งร้านขายของ จะได้ยินชาวบ้านคุยกับเรื่องการเตรียมตัวเข้าสู้สงครามอีกรอบของทั้งไฮแลนด์และโรแรนท์เพราะเห็นถึงความตึงเครียดเกิดขึ้นที่ด่านของทั้ง 2 อณาจักร์ จากนั้นก็ต้องวาร์ปเดินทางมาที่ ป่าวากลัน (ヴァーグラン森林) แล้วออกมาที่ทางออกด้านขวาไปที่ ลานสู้รบ เกรฟกัน (グレイブガント盆地) ต่อจะพบจุดดาวที่ด่านของทหารโรแรนท์ ทุกคนจะเข้าไปแอบฟังทหารเข้าไปรายงานสถานการณ์กับแม่ทัพ ถึงความวุ่นวายที่เกิดขึ้นที่เมืองลัสดอนเบลซึ่งพวกเขาคิดเอาว่าเป็นฝีมือของพวกไฮแลนด์ ทุกคนจึงติดสินใจที่ไปตรวจสอบที่นั้นทันที แต่เมื่อเข้ามาที่จุดเซฟในป่าก็จะพบว่า โทรุ ที่บาดเจ็บมาแล้วบอกทุกคนว่าที่เมืองเพนดาร์โก้ก็ถูกโจมตีอย่างหนักแถมเอกิลและพวกของโรเซ่ก็กำลังถูกจับอยู่ที่นั่นด้วย โรเซ่ก็จะขอตัวแยกตัวออกจากกลุ่มเพื่อเดินทางไปที่นั่นที่นั่นก่อน (ตอนนี้ในปาร์ตี้ตอนต่อสู้จะมีแค่สุเรย์กับสายเลือดสวรรคอีกคนที่เลือกสู้เท่านั้นจึงไม่เหมาะที่จะเดินทางไกลไปไหน)
- ตอนนี้ภารกิจจะมีให้ไปได้ 3 ที่โดยจะเลือกไปทางไหนก่อนก็ได้ ระหว่าง  เมืองรัสดอนเบล ラストンベル , เมืองเพนดาร์โก้ ペンドラゴ และด่านของทหารไฮแลนด์ที่ ลานสู้รบ เกรฟกัน (グレイブガント盆地) ฝั่งขวา คุณจะไปทางไหนก่อนก็ได้แต่ผมจะเลือกไปตามแผนที่พวกสุเรย์วางไว้ก็แล้วกัน
- เดินทางไปที่เมืองรัสดอนเบล ラストンベル เข้ามาที่จุดดาวในเมืองจะเห็นเซอร์เก้ถูกชาวเมืองรุมด่าว่าไม่รู้จักหาทางปกป้องการรุกรานของไฮแลนด์ ซึ่งสุเรย์ก็รู้ดีว่าเซอร์เก้นั้นยอมโดนด่าเพราะเขารู้ดีว่าเป็นฝีมือของพวกมาร จากนั้นเดินตามเซอร์เก้ออกมาที่หน้าเมือง เพื่อดูเขานำกองทหารออกลาดตระเวน ซึ่งก็จะเจอพวกเฮียวมะออกมาทำร้ายเด็กทันที เซอร์เก้จะเข้ามาช่วยเอาไว้ ก่อนที่ชาวบ้านคนนึงจะแสดงตัวออกมาว่ามันคือ ไซม่อน ที่ปลอมตัวมา เข้าไปจัดการทหารกิ่งก่า アーマーナイト 3 ตัวให้หมด แล้วตามไซมอ่นเข้าไปในป่าต่อจนถึงจุดดาว ก็จะพบกับเซอร์เก้ที่เป็นไซม่อนปลอมตัวมาเข้ามาสู้
Boss セルゲイเซอร์เก้ (ตัวปลอม) จัดการมันได้แล้ว ไซม่อนก็จะหนีไป กลับไปที่หน้าเมือง รัสดอนเบล จะพบกับเซอร์เก้ที่ออกมาพบกับทหารชองทั้ง 2 ฝ่ายนอนตายอยู่ด้วยกัน นั่นทำให้เขารู้ทันทีว่า แผนของพวกมารร้ายก็คือสร้างสถานการณ์เพื่อเสี้ยมให้ทั้ง 2 อณาจักรทำสงครามกันนั่นเอง แต่โชคดีที่เด็กที่เขาช่วยเอาไว้กลับบอกพ่อแม่ก็ทำให้มีชาวบ้านส่วนนึงออกมาให้กำลังใจและพร้อมจะทำตามคำสั่งของเซอร์เก้ในการปกป้องเมืองต่อไป
- จากนั้นเดินทางไปเมืองเพนดาร์โก้ ペンドラゴ ต่อ ไปที่จุดดาวจะเห็นประกาศจับตาย ลูนาล จากกิลด์สายลมปีศาจ  風の骨 ในนามของกิลด์พ่อค้า ปีกแห่งเซคิเรย์ ของพวกโรเซ่ เข้าโรงแรมพัก 1 คืน ตอนกลางคืนออกมาที่จุดดาวตรงลานกว้างในเมืองจะพบ ลูนาล จับตัวพวกของโรเซ่เอาไว้ ทันที่โรเซ่มาถึง สุเรย์ก็จะให้โรเซ่เข้าไปช่วยพวกของเธอโดยพวกสุเรย์จะต้าน ลูนาล เอาไว้



Boss ルナール ลูนาล หลังจากสู้ไปได้ซักพักทันทีที่โรเซ่ช่วยเพื่อนเธอได้ก็จะกลับมาเข้ากลุ่มช่วยสู้ จัดการลูนาลซะ สุดท้าย สุเรย์ก็จะใช้พลังตรึงมันเอาไว้แล้วปล่อยให้เป็นหน้าที่ของโรเซ่ในการสังหารมัน แต่สุดท้ายลูนาลจะยอมตายด้วยการระเบิดตัวเองมากกว่า หลังจบเรื่องโรเซ่ก็จะยังคงอยู่ดูความเรียบร้อยในเมืองนี้กับเพื่อนของเธอต่อก่อน
- เป้าหมายต่อไปคือ ลานสู้รบ เกรฟกัน (グレイブガント盆地) ฝั่งขวาซึ่งเป็นด่านทหารฝั่งของไฮแลนด์ โดยต้องวาร์ปเดินทางไปที่เขต โฟลค์เคน  (フォルクエン丘陵) แล้วเดินออกทางฝั่งซ้ายล่างของแผนที่ก็จะเข้ามาที่ค่ายทหารไฮแลนด์ที่ ลานสู้รบ เกรฟกัน (グレイブガント盆地) แล้ว 
- ในค่ายทหารของไฮแลนด์ที่เกรฟกัน (グレイブガント盆地)  จะพบ มัลโดรัน กำลังสั่งการรบอยู่ แน่นอนว่าทุกคนรู้ดีว่าเสนาธิการข้างกายของอาริเซียว่าถูกพวกมารสิงอยู่ แต่ด้วยความที่เธอเป็นถึงอาจารย์ของอาริเซีย ทำให้ทุกคนต้องปิดปากเงียบจนถึงตอนนี้ เมื่อคุยกับมัลโดรันจนมันจะเรียกให้ทุกคนตามมันไปคุยเป็นการส่วนตัวหน่อย  ซึ่งมาถึงจุดที่สงครามกำลังจะเกิดอีกระลอกทุกคนจึงต้องรีบไปเตือนอาริเซียกันก่อน
- เดินทางต่อไปยังเมือง เลดี้เลค(湖上の街レディレイク) แล้วเข้าไปหาอาริเซียที่บ้าน เพื่อนเตือนเรื่องสงครามที่จะเกิด แต่อาริเซียก็ยังวางใจเพราะมัลโดรันที่เป็นคนที่เธอนับถือดูแลแนวหน้าอยู่แล้ว จึงต้องเป็นหน้าที่ของเอโดน่าที่ต้องอัดความจริงใส่หน้าเธอด้วยการบอกตรงๆไปว่า มัลโดรัน นั้นถูกมารสิงอยู่ ทำให้อาริเซีย ต้องตามไปพิสูจณ์ความจริงด้วยตัวเธอเอง และอาริเซียก็จะกลับมาเข้ากลุ่มอีกครั้ง
- ตอนนี้จุดวาร์ปใช้ไม่ได้จึงต้องเดินทางออกจากเมือง เลดี้เลค(湖上の街レディレイク) แล้วออกทางทางออกซ้ายล่างไปที่เขต โฟลค์เคน  (フォルクエン丘陵) ก็จะพบจุดดาวขึ้นมาที่หน้าทางเข้า ค่ายทหารที่เกรฟกัน (グレイブガント盆地) ก็จะพบมัลโดรันที่รออยู่ จากนั้นตามเธอไปต่อที่ทางเข้าป่าโบลุส(ボールス)
แล้วเข้าไปจนถึงสุดทางโซนนุดก็จะเจอ มัลโดรัน รออยู่ ตอนนี้มันไม่มีอะไรต้องปิดบังแล้วเพราะสงครามขั้นแตกหักกำลังจะเกิด มันจึงงัดอาวุธมารของมันออกมาเพื่อเตรียมเข้าโจมตีทุกคน นั่นเป็นหลักฐานยืนยันกับอาริเซียที่ทุกคนเตือนเธอนั้นเป็นความจริง



Boss มัลโดรัน (マルトラン) ออกโรงด้วยเลเวล 61 หรือเลเวลเดียวที่สุเรยมีนั่นแหละ การต่อสู้กับมันไม่มีอะไรมากในช่วงแรกแต่ต้องระวังในช่วงพลังมันใกล้จะหมดเพราะมันจะขนท่าใหญ่ท่าไม้ตายออกมาใช้ จนตายกลุ่มได้เหมือนกัน ฉะนั้นจะทำคอมโบก็ต้องดูจังหวะและตแหน่งให้ดี พยายามอย่าไปกองอยู่ในจุดเดียวตรงหน้ามันก็พอ
-หลังจากจัดการมัลโดรันลงได้ สุเรย์จะใช้ท่าขจัดมารกับเธอแต่ดูเหมือนมารจะฝังลึกจนไม่สามารถช่วยได้แล้ว ซึ่งมัลโดรันรู้ดี เธอจึงยอมที่จะตายด้วยคมหอกของอาริเซียแทนด้วยการจับหอกของอาริเซียแทงเข้าร่างตัวเองจนตาย อาริเซียแทบจะรับไม่ได้กับสิ่งที่อาจารย์ของเธอทำลงไป จึงร้องไห้เสียใจวิ่งเข้าป่าไป ตามไปที่จุดดาวในป่า สุเรย์จะเข้าไปปลอดอาริเซียจนทำให้เธอรู้สึกดีและพร้อมที่จะเดินหน้าต่ออีกครั้ง จากนั้นอาริเซียก็จะกลับไปเตรียมกำลังพลที่เมืองต่อ ทำให้เธอต้องออกจากกลุ่มไปอีกแล้ว ในขณะที่ไซม่อนก็ปรากฏตัวออกมาเย้ยว่าจะพยายามไปก็ไร้ค่าเพราะตอนนี้สงครามได้ประทุขึ้นแล้ว ทันที่ไซม่อนหายตัวไป โรเซ่ก็ตามมาสมทบอย่างไวเพื่อร่วมทีมไปต่อสู้ด้วยอีกครั้ง
- จากนั้นออกจากป่าแล้วเดินทางไปยัง ค่ายทหารที่เกรฟกัน (グレイブガント盆地) ได้เลย ซึ่งก็จะพบว่าทั้งสองฝ่ายเข้าสู้รบกันแล้ว และก็เป็นไปตามแผนของ เฮลดัลฟ์ ทหารส่วนนึงที่มันได้วางยาด้วยการให้พวกปีศาจเข้าสิงเอาไว้ก็เริ่มรากฎกลายออกมาเป็นนักรบปีศาจเข้ามากัดกินกันมั่วไปหมด สร้างความหวาดกลัวให้กับทหารของทั้ง 2 ฝ่ายที่ได้เห็น และปิดท้ายตัวมังกรทองร่างยักษ์ที่กลายร่างจากชายคนนึงออกมาถล่มสนามรบจนทำให้ทหารของทั้ง 2 ฝ่ายต้องหนีตายกันเจ้าละหวั่น จุดดาวที่ขึ้นมากลางลานต่อสู้นั่นก็คือมังกรทองที่ต้องไปจัดการ



 ฉะนั้นถ้ายังไม่พร้อมก็ควรเก็บเลเวลจากทหารกิ่งก่าที่อยู่ในพื้นที่ไปก่อนซึ่งค่อนข้างจะเก็บเลเวลได้ง่ายและเร็วเพราะพวกแพ้ไฟและดินที่สามารถจัดการให้มันตายโดยไม่ยุ่งยากและให้ค่า Exp กันถึงชุดละ 200 กว่าๆ เมื่อพร้อมแล้วก็เข้าไปที่จุดดาวได้เลย

                            

- Boss มังกรทอง เทียร์แมท  ティアマット มันจะมาพร้อมความแข็งแกร่งของเลเวลทีมากกว่าสุเรย์ 1 ขั้น การโจมตีที่เน้นกระทืบพื้นสร้างความเสียหายทั้งกลุ่ม บวกกับทำให้เกิดอาการชักกระตุกจนทำให้ทำคอมโบและใช้ไอเทมเติมพลังให้ตัวเองไม่ได้อีก สิ่งที่ทำได้คือ ทิ้งระยะห่างเอาไว้เพื่อสนับสนุนเพื่อนที่โจมตีอยู่ เมื่อถึงจังหวะที่มันเริ่มชะงักหรือมึนงงหรือแพ้ทางก็เข้าไปทำคอมโบได้เลย


 

การต่อสู้ของพวกสุเรย์ดำเนินต่อไปอย่างยากลำบาก แต่นั่นมันกลับส่งผลให้ประจัก์ในสายตาของทหารทั้ง 2 อณาจักร์ว่าศัตรูที่แท้จริงคือใครและพวกนักพรตและสายเลือดสวรรค์พยายามแค่ไหนที่จะหยุดมันในขณะที่พวกเขาทั้ง 2 อณาจักร์มัวแต่ตีกันเพราะแรงยั่วยุจากปีศาจมานานปี สุดท้ายเมื่อตาสว่างทหารของทั้งไฮแลนด์และโรแรนท์ก็ร่วมแรงร่วมใจกันลุกขึ้นต่อสู้ร่วมกัน โดยการนำของแม่ทัพของพวเขา อาริเซียแห่งไฮแลนด์ และ เซอร์เก้แห่งโรแรนท์ เป้าหมายคือศัตรูเดียวกัน มังกรที่สุดแข็งแกรงที่อยู่ตรงหน้านั่นเอง 

- การต่อสู้ของพวกสุเรย์ก็จะดำเนินต่อไปพร้อมๆกับแรงสนับสนุนของทหารทั้ง 2 ฝ่าย แต่การต่อสู้ก็ต้องขึ้นอยู่กับทักษะการต่อสู้ของเราเองเหมือนเดิม เพียงแต่ถ้าพวกทหารโจมตีเข้ามามันจะทำให้มังกรเกิดการชะงักขึ้น และการทำคอมโบต่อเนื่องจากตรงนี้ก็จะสร้างความเสียหายให้มันได้ในระดับ 5000 – 10000 ได้เลยยิ่งถ้าพร้อมใช้ท่าใหญ่ของร่างคามุยด้วยแล้วยิ่งลดเลือดมันได้เยอะมาก

 

สุดท้ายด้วยความร่วมมือของทุกคนที่ช่วยเกื้อหนุนเหล่านักพรตและสายเลือดสวรรค์ที่เป็นแนวหน้าทำให้สามารถจัดการล้มมังกรที่ทรงพลังอำนาจลงได้ นั่นเป็นการแสดงให้ทหารของทั้ง 2 อณาจักร์เห็นว่าถ้าร่วมมือกันก็สามารถทำได้ทุกอย่าง แม้แต่สุเรย์ยังต้องยอมทำใจที่จะต้องฆ่าคนบริสุทธิที่อยู่ในร่างมังกรร้ายเพื่อทุกอย่างจะได้จบลง เสียงโห่ร้องยินดีดังก้องสนามที่เคยกึกก้องไปด้วยแรงอาฆาตที่ทั้ง 2 ฝ่ายเคยถาโถมเข้าหากันมาตลอดหลายปี บัดนี้เมฆหมอกร้ายของที่นี่ถูกแทนที่ด้วยแสงสีทองแห่งความหวังที่ส่องผ่านก้อนเมฆเข้ามาอย่าช้าๆเหมือนกำลังบอกว่า ยุคสมัยแห่งกลียุคอาจกำลัจะจบลงในไม่ช้านี้แน่นอน ...  


-หลังจบศึกหนักทุกคนก็มาล้มแผ่นอนหงายหมดแรงกันที่ ป่าวากลัน (ヴァーグラン森林) จากนั้นเดินต่อไปยังโบราณสถานทินทาเจล(ティンタジェル遺跡群) ฐานของพวกโรเซ่เพื่อพักเอาแรงก่อน ตอนเช้าก็ออกเดินทางมายังเมือง เมืองรัสดอนเบล ラストンベル ที่อยู่ใกล้ๆ จะพบอาริเซียนำทหารเดินทางมาที่หน้าเมืองและได้รับการต้อนรับอย่างดีจากแม่ทัพเซอร์เก้ที่ออกมาต้อนรับพสเข้าเมืองด้วยตัวเอง ตามเข้าไปที่โบสถ์ของเมืองจะเห็นทั้งคู่ทำสัญญาสงบศึกและปรองดองกัน จากนั้นออกมาที่จุดดาวหน้าเมือง ทุกคนก็จะแยกย้ายกันพักผ่อน

สุเรย์ยืนมองบรรยากาศในเมืองยามค่ำคืน ภาพของทหารทั้ง 2 ฝ่ายต่างพูดคุยกันอย่างเป็นกันเอง ท่ามกลางรอยยิ้มของประชาชนในเมือง กลิ่นไอของความสุขฝุ้งกระจายจนสัมผัสรู้ได้พอๆกับเหล่าสายเลือดสวรรค์ที่ที่แยกย้ายกันพักผ่อนพูดคุยแลกเปลี่ยนความรู้สึกกันตามที่ต่างๆของเมืองอย่างมีความสุข บัดนี้ไฮแลนด์และโรแรนท์แน่นแฟ้นรวมกันเป็นหนึ่ง ที่เหลือต่อไปก็คือชิงความสงบสุขที่หมดไปจาก แผ่นดิน แกลนวู๊ด คืนมาจากราชาแห่งความหายนะ เฮลดัลฟ์ ..

-หลังจบเหตุการณ์ ตอนนี้ที่ ลานสู้รบ เกรฟกัน (グレイブガント盆地) นั้นสามารถวาร์ปไปได้แล้วทั้งจากค่ายทหารของทั้งไฮแลนด์และโรแรนท์ ที่นี่ยังมีเมดูซ่าเหลืออยู่ที่ซากหมู่บ้านที่ต้องกำจัดตามเควสย่อยที่รับไว้อีก 2 ตัว กับโบราณสถานเมลชิโอ้ メルジオ ที่อยู่ด้านล่างของพื้นที่ที่ต้องเปิดสำรวจ และที่นี่ยังเป็นสถานที่ที่สามารถใช้เก็บเลเวลได้อย่างดี พื้นที่กว้างรอบนอกมีทหารกิ่งก่า มันแพ้ไฟและดินอย่างชัดเจนนั่นทำให้จัดการมันได้ไม่ยากชุดนึงก็จะได้ Exp ถึง 200 ส่วนด้านในโบราณสถานเมลชิโอ้นนั้นมี มอนสเตอร์ที่ตัวเป็นก้อนหลากสีอยู่ทั้งหมด ซึ่งกลุ่มของตัวสีแดงนั้นก็สามารถให้ Exp ได้ถึง 200 อัพเช่นกัน กว่าซึ่งถ้านับความรวดเร็วในการได้มากับค่าของ Exp ของทั้ง 2 จุดก็ช่วยกระตุ้นยอดเลเวลรวมของทีมได้รวดเร็วอยู่ครับ

-จากนั้น เป้าหมายต่อไปก็คือหมู่บ้านลอยฟ้าของชาวสายเลือดสวรรค์ (天族の杜イズチ) หรือหมู่บ้านแรกบ้านของสุเรย์นั่นแหละ แต่จะไม่สามารถวาร์ปได้เพราะเหตุการณ์จะอยู่ที่ป่าอโลไดท์ (アロダイトの森) ซึ่งก็ต้องวาร์ปมาที่เขตเลคพิโร่(レイクピロー高地) หน้าเมือง เลดี้เลค(湖上の街レディレイク) แล้วเลือกไปที่ (アロダイトの森) ก็จะมี่จุดเซฟหน้าทางเข้าป่า เมื่อเข้าไปในป่าทุกคนจะรู้ทันทีว่าไอความมืดได้ปกคลุมมาถึงที่นี่แล้ว สุเรย์จึงเป็นห่วงผู้เฒ่าジイジอย่างมาก ศัตรูในป่าตอนนี้ไม่ได้กระจอกเหมือนช่วงแรกของเกมอีกแล้ว มันเต็มไปด้วยโกเลมและปีศาจต้นไม้ขนาดใหญมากมาย แต่ก็แพ่ธาตุแพ้ทางจนรู้ทางและให้ Exp ค่อนข้างเยอะและง่ายได้ในการเก็บเลเวลด้วย เมื่อเข้าไปจนถึงหน้าหมู่บ้านของชาวสายเลือดสวรรค์หาที่เซฟได้เลยเพราะจุดดาวมีบอสรออยู่
- Boss เซลเบลอส  ケルベロス หมาสามหัวจากนรกที่คุ้นเคย เข้าไปจัดการมันซะ แล้วเข้าไปสำรวจที่บ้านของสุเรย์ปรากฏว่าเละเทะจนไม่สามารถนอนได้อีกแล้ว เข้าไปบ้านของผู้เฒ่าก็จะพบชาวบ้านทุกคนยั้งแอบอยู่อย่างปลอดภัย แต่พวกเขาบอกว่าตอนนี้ ผู้เฒ่าジイジ ได้ออกไปยับยั้งภัยร้ายด้วยตัวเองที่หมู่บ้านแห่งการเริ่มต้น คัมรัน แล้ว

- เป้าหมายต่อไปคือเป้าหมายสุดท้ายของเกมนั่นก็คือ หมู่บ้านแห่งการเริ่มต้น คัมรัน(始まりの村カムラン) ซึ่งมันจะอยู่ที่โบราณสถานบนภูเขามาบิโนกิโอ (マビノギオ山岳遺跡)  ซึ่งเป็นดันเจี้ยนแรกของเกมนั่นเอง เข้าไปที่โบราณสถานมาบิโนกิโอที่อยู่ในหมู่บ้านจะโดยการวาร์ปไปที่พื้นที่ マビノギオ山岳遺跡 แล้วเลือกชื่อล่างสุด หรือจะเดินเข้าประตูมาจากหลังรูปปั้นใหญ่แล้วลงบันไดแรกลงไปด้านล่างก็จะเจอประตูใหญ่ที่ตอนนี้สามารถเปิดเข้าไปได้แล้ว

หมู่บ้านแห่งการเริ่มต้น คัมรัน(始まりの村カムラン)
-ที่นี่คือจุดเริ่มต้นของเรื่องราวโศกนาฎกรรมทั้งหมดตั้งแต่อดีต แต่ในพื้นที่ซากหมู่บ้านกลับไม่มีอะไรให้ทำมากนอกจากเก็บเลเวลและจัดการ แรร์มอนสเตอร์ โอดีน オーディン ยืนตระหง่านอยู่ในเลเวลมหาศาล เมื่อจัดการได้จะได้ดาบเทพของมันมา ดาบที่สามารถตีผสมได้กับดาบทุกชนิดสามารถเพิ่ม Skill เข้าไปไม่รู้จบ แต่พลังโจมตจะมีแค่ 10 เท่าเดิมตลอด (เทพมาก) ที่นี่มีแม่ค้าน้อยขายไอเทมด้วย เตรียมตัวให้พร้อมแล้วผ่านหมู่บ้านเข้าไปด้านในต่อจะเข้ามาที่ โบราณสถานมาบิโนกิโอส่วนใน マビノギオ山岳遺跡深部 ได้

โบราณสถานมาบิโนกิโอส่วนใน マビノギオ山岳遺跡深部 






- ที่นี่จะเป็นเส้นทางผ่านไปสู่ดันเจี้ยนสุดท้าย เก็บของตามห้องต่างๆให้หมด ระหว่างทางจะพบศพของชาวเมืองมากมาย หนึ่งในนั้นก็จะพบ มิวส์ แม่ของมิคุริโอ้อยู่ด้วย ซึ่งเธอจะใช้พลังสุดท้ายของเธอเสริมพลังให้จนร่างของเธอสลายไปเหลือเอาไว้แต่ไม้เท้าให้มิคุริโอ้ใช้ต่างหน้า (แต่ต้องเสียใจด้วยที่ไม้เท้าของมิวส์นั้นไม่มีพลังอำนาจอะไรในฐานะอาวุธสุดยอดหรอกน๊ะครับ) เข้าไปจึงจุดดาวระหว่างทางเดินกลางก็จะถูกดูดเข้ามาในทะเลทรายต่างมิติ ซึ่งแน่นอนทุกคนรู้ดีว่าเป็นฝีมือของเจ๊ ไซม่อน เข้ามาด้านในทะเลทรายที่ค่อนข้างจะเดินไปตามทางลำบากเพราะไร้ทิศทาง

                    

เข้าไปจนพบร่างของสุเรย์และโรเซ่ในฟอร์มของคามุยรออยู่ ซึ่งคราวนี้ก็ต้องสู้กับร่างของตัวเอง ที่อาจจะค่อนจะงงมากหน่อย ซึ่งจะต้องจัดการที่จุดดาวทั้ง 2 จุดระหว่างทางเดินให้หมด เวทย์มนต์ของไซม่อนก็จะหายไป จุดเซฟและจุดวาร์ปก็จะออกมาหน้าห้องด้านใน เข้าไปจะพบกับทางตันซึ่งทุกคนก็รู้ทันไซม่อนหมดแล้วจึงรีบเรียกมันออกมาสู้ให้จบๆ ไซม่อนมันจึงยอมออกมา




Boss ไซม่อน サイモン การต่อสู้กับมันในครั้งนี้เป็นการต่อสู้ครั้งสุดท้ายแล้ว ซึ่งก็ทำให้รู้ว่าไซม่อนนอกจากใช้วิธีป่วนทำให้วุ่นวานสับสนไปทั่วแล้วนั้น ฝีมือการต่อสู้ของมันนั้นแทบจะไม่ได้สร้างความลำบากให้มากมายเลย เมื่อจัดการมันได้แล้ว ไซม่อนก็จะโดนทุกคนเมินใส่ในฐานะที่เป็นคนเติมไฟทำให้ทุกอย่างมันวุ่นวายขึ้นกว่าที่มันควรจะเป็นจนเกือบจะทำให้ผู้คนบริสุทธ์มากมายต้องตายไป แต่สิ่งที่ทำก็กลับไม่สำเร็จและไม่ได้ทำให้ตัวเองมีค่าและเป็นที่ต้องการเลยซักนิด ก่อนที่ทุกคนจะเดินข้ามไซม่อนไป ทิ้งให้มันนั่งร้องไห้แหกปากอยู่อย่างผู้แพ้คนเดียว จากนั้นเข้าประตูใหญ่ด้านในไปก็จะเข้ามาถึงซากโบราณสถานบัลลังก์แห่งอัลโทริอุส(アルトリウスの玉座)

บัลลังก์แห่งอัลโทริอุส(アルトリウスの玉座)
-เข้ามาจนถึงด้านในปราสาทโถงแรกจะมีประตู 3 ด้าน เข้าประตูกลางจะเป็นโถงบันไดขึ้นไปที่ระเบียงกลางที่หักอยู่ ออกทางประตูขวาจะออกมานอกปราสาท ใช้การแดชผ่านทางขาดเข้าไปจนถึงประตูขวาทางเข้าหอคอยขวา เข้ามาในห้องโถงจะมีกระถางไฟให้จุด จุดเรียงตามขีดของพื้นกระถางจาก 1 – 4 ประตูห้องโถงบนเปิด ขึ้นไปจะเจอบอส นักรับปีศาจ カトブレパス กลับลงมาที่ห้องโถงออกทางประตูขวาจะมีบันไดลงไปชั้นล่างเพื่อออกไปนอกปราสาท
-ที่ด้านนอกทางเดินทางขวาจะเป็นทางไปทำลายไอความมืดเพื่อกลับมาโถงแรกตรงทางเข้า ส่วนทางตรงจะเข้าไปที่หอคอยกลาง ในห้องโถงนี้จะมีปีกกังหันให้ใช้ลมหมุนจากซ้ายไปขวาต่อเนื่องกันประตูโถงบันไดด้านบนเปิด ขึ้นไปจัดการบอส กิ่งก่ายักษ์อาเมน アーマーンแล้วกลับลงมาที่ห้องโถงออกทางประตูซ้ายที่เป็นจุดเขียวไปด้านนอก เข้าไปที่ประตูสุดทางจะเข้ามาที่ระเบียงทางเชื่อมที่เป็นรูปสีเหลียมผืนผ้า ไปออกที่ทางออกอีกฝั่งก็จะออกมาด้านนอกปราสาทด้านซ้ายได้
-จะมีทางวนไปทำลายไอความมืดที่ทางเข้าด้านซ้ายของโถงแรก และอีกทางจะเป็นทางเข้าหอคอยด้านขวา ในห้องโถงประตูกลางจะเป็นโถงบันไดขึ้นไปจัดการบอส นกยักษ์ฟีโป้กรีฟ ヒポグリフจัดการแล้วลงมาที่ห้องโถงออกประตูซ้ายลงมาชั้นล่างจะมีทางออกไปที่ส่วนนอก ไปเข้าประตูสุดทางเดินจะเข้ามาที่ฝั่งซ้ายโถงบันไดกลางที่หัก ออกทางประตูซ้ายจะออกมาส่วนนอกปราสาท เข้าประตูสุดทางเดินจะเข้าไปที่ หอคอยส่วนใน ในห้องโถงจะมีบ่อน้ำอยู่ตรงกลางห้อง โถงบันไดหลบดวงตาปีศาจที่จะทำให้วาร์ปกลับมาในห้องโถงขึ้นไปจัดการบอส มังกรดิน ไดนาซอร์ ダイナソア แล้วกลับลงในห้องโถงบ่อน้ำ ออกที่ประตูทางออกจะมาที่ส่วนนอก เข้าไปตามทางเดินก็จะถึงบันไดขนาดใหญ่ที่เป็นทางขึ้นไปยังวิหารแห่ง เทพ มาโอเทราซุแล้ว ตรงนี้จะมีจุดเซฟและจุดวาร์ปสุดท้ายของเกมอยู่ ขึ้นไปด้านบนเพื่อเข้าไปด้านในพบกับ เฮลดัลฟ์ ที่รออยู่ด้านใน

** เจ้าบรรดาบอสตามหอคอยนั่นมันเป็นแรร์มอนสเตอร์ซึ่งมันไม่ใช่บอสรองหรืออะไรที่ต้องทำเพื่อผ่านทางทั้งสิ้นครับ มีให้ไว้สะสมข้อมูล ทดสอบฝีมือและเก็บเลเวลมหาศาลจากมันเท่านั้น ถ้าไม่อยากยุ่งกับมันก็ไม่จำเป็นต้องไปสู้กับมันก็ได้ **

** จุดเซฟนี้เป็นจุดสุดท้ายของเกมแล้ว และมันยังคงสามารถใช้วาร์ปไปมาตามที่ต่างๆได้อยู่ ฉะนั้นถ้าอยากจะทำอะไร ค้นหาสิ่งไหนที่ยังหลงเหลือก็สมควรไปทำเสียก่อนครับ ** 




หนึ่งในบอสระดับความมัน 5 ดาวอีกตัวที่อาจจะหลงลืมไปและสำควรที่จะแวะไปทักทายมันก็คือ มังกรไอเซน アイセン ครับ ซึ่งสามารถขึ้นไปหามันได้ด้วยการเลือกวาร์ปเดินทางไปที่หุบเขาบูชามังกร เรย์ฟลูค (霊峰レイフォルク) โดยขึ้นไปที่จุดเซฟล่าสุดช่วงกลางภูเขาที่มีหินขวางอยู่ ต่อยมันผ่านขึ้นไปจนถึงยอดเขาก็จะพบมังกร ไอเซน เข้ามาโจมตี ด้วยเลเวล 80 ของมันนั้นถือว่าหนักหน่วงครับ แถมเอโดน่ายังนับถือเจ้ามังกรนี่ว่าเป็นพี่ด้วย ทำให้เธอไม่ยอมร่วมสู้ด้วยถ้าจะฆ่ามัน แต่มันก็มีมุขตลกอยู่ว่า ถ้าเลเวลเรายังไม่ถึงเอโดน่าก็จะไม่ช่วยสู้ แต่ถ้าเลเวลเราพอไหวแล้วจะมีฉากเหตุการณ์อยู่ตรงทางขึ้นเขาก่อน ซึ่งเอโดน่าก็จะร้องไห้ที่จะฆ่า ไอเซน แต่พอเข้าถึงยอดเขา เอโดน่า ก็จะตามมาช่วยสู้ด้วย ซึ่งถ้าคุณสามารถผ่านบรรดาแรร์มอนสเตอร์ 3 ตัวที่อยู่ในบัลลังก์แห่งอัลโทริอุสมาได้ คุณก็สามารถฟัดกับมังกรไอเซนได้แล้ว แต่ก็อย่าหวังว่าจะได้ดาบมังกร ชุดมังกร น๊ะ เพราะถ้าเอาชนะมันได้แล้ว นอกจาก Exp มหาศาลที่จะได้แล้วก็ยังมี ปลามังกรเกาะแขน ที่สวมใส่เล่น กับจุดดิสคัฟเวอรรี่บนยอดเขา เท่านั้น (คุ้มมาก)




ทันทีที่ทุกคนได้พบเฮลดัลฟ์อีกครั้ง สุเรย์รู้ดีว่าท่านผู้เฒ่าที่เหมือนกับพ่อของเขาที่ถูกจับมาคงไม่เหลือชีวิตรอดแล้ว ก็คงไม่มีอะไรต้องคุยกันมากเพราะรู้กันหมดทั้งจุดหมายและเจตจำนงของมันแล้วที่เหลือก็แค่หยุดมันเท่านั้น ซึ่งเฮลดันฟ์ก็มั่นใจในพลังของมันไม่น้อยไปกว่าเดิม มันมีทั้งพลังของผู้เฒ่าแห่งสายเลือดสวรรค์ที่อยู่ในมือซ้ายของมันเสมือนโล่มที่จะทำให้สุเรย์ต้องคิดหนัก กับพลังแห่งเทพ มาโอเทราซุ (マオデラス) หนึ่งใน 5 เทพที่ค้ำจุลโลกก็ถูกมันช่วงชิงมาจนหมด 

  


Boss – เฮลดัลฟ์ ヘルダルフ ร่างแรกปกติของมันนั้นคุณเคยปะทะมาแล้วถึงจะไม่เต็มรุปแบบแต่ก็ไม่มีอะไรต่างจากเดิม มันไม่แพ้ธาตุอะไรเลย ฉะนั้นมีอะไรหนักสุดและคิดว่าได้เปรียบที่สุดของคุณใส่เข้าไปให้หมด


เมื่อจัดการมันจนพลังใกล้หมด มันจะใช้ร่างของผู้เฒ่าที่มันดูกกลืนมาอยู่ที่มือซ้ายเพื่อป้องกันตัวจากสุเรย์ท่ำลังบุกกเข้ามาหวังจะเผด็กศึก สุเรย์รีบรวมร่างเข้าทรงกับมิคุริโอ้ทันที เฮลดัลฟ์ที่กางมือที่มีใบหน้าของผู้เฒ่าออกเพื่อหมายให้สุเรย์ลังเลที่จะโจมตีเข้ามา ทันทีที่สุเรย์หลับตาเขาก็นึกถึงคำพูดต่างๆที่ผู้เฒ่าเคยสอนเอาไว้ถึงเรื่องความรับผิดชอบในฐานมนุษย์ที่สามารถใช้พลังของสายเลือดสวรรค์ สุเรย์จึงตัดสินใจโถงพลังเข้าใส่ใบหน้าของท่านผู้เฒ่าที่ฝ่ามือซ้ายของเฮลดัลฟ์จนมันบาดเจ็บหนักไปพร้อมกับร่างที่สลายไปของท่านผู้เฒ่าที่เป็นเสมือนพ่อของเขา สุเรย์ร้องลั่นแต่ยังไม่ใช่เวลาที่จะเสียใจ เพราะทันทีที่เฮลดัลฟ์เริ่มสู้ไม่ไหวมันจึงต้องงัดไม้เด็ดสุดท้ายมาใช้ นั่นคือใช้พลังแห่งเทพ มาโอเทราซุ ที่มันชวงชิงมาเพื่อสร้างเป็นร่างใหม่เข้าไปต่อสู้





Boss -神依化ヘルダルフ เทพเจ้า เฮลดัลฟ์  ร่างใหม่ใหญ่มหึมา HP 180000 – 200000 และไม่แพ้ธาตุใดๆทั้งสิ้น โชคดีที่การโจมตีของมันแทบไม่มีท่าใหญ่โครมด้วยเวทย์อลังกาลทั่วจอ มีแค่ทุบพื้นกวาดมือไปทั่วพื้นที่เท่านั้น ที่ต้องทำคือต้องใช้ร่างคามุยที่ละร่างเข้าต่อสู้ เมื่อโจมตีมันจนลดเลือดมันได้ระดับหนึ่งมันจะเริ่มใช้ท่าใหญ่ยิงลำแสงจากปากซึ่งทำให้ตายหมดจอทันที ซึ่งต้องรีบโจมตีที่หน้ามันให้สุดกำลังจนกว่ามันจะมึนงง ก็จะสามารถกด L1 ใช้ท่าใหญ่ได้ พลังมันก็จะลดฮวบ แต่ร่างที่เราใช้ท่าใหญ่แล้วก็จะหายไป จากนั้นก็เลือกใช้ร่างคามุยที่เหลือสู้ต่อทำเหมือนเดิม แต่ความทนทานและความเสียหายที่ต้องทำให้มันมึนงงจนสามารถใช้ท่าไม้ตายได้จะเพิ่มขึ้น นั่นแปลว่าคุณต้องทำคอมโบให้แรงที่สุดก่อนมันจะเป่าคุณตายยกจอนั่นเอง ถึงตอนนี้แล้วมีอะไรใส่ไปให้หมดครับ ทั้งหมดก็แล้วแต่เลเวลและฝีมือของคุณแล้ว เมื่อใช้ไม้ตายกับมันครบ 4 ธาตุร่างเทพเฮลดัลฟ์ก็จะถูกทำลายลง

ทันทีที่จัดการร่างเทพของเฮลดัลฟ์จนสิ้นฤทธ์ แต่ที่หมดไปมันก็คือพลังของเทพ มาโอเทราซุ เท่านั้น มันอาจทำให้เฮลดัลฟ์หมดไม้ตายสุดยอดและความมั่นใจไปบ้างแต่ความทะเยอทะยานและพลังปีศาจของมันยังมากพอให้มันยืนขึ้นมาอีกได้ไม่ยาก สุเรย์เองถึงหมดพลังไปเยอะแต่เขาก็ยังยืนอยู่ได้เช่นกัน แต่เส้นทางจากนี้มันคงจะเกินมือของโรเซ่เพื่อนของเขาไปแล้ว สุเรย์ตัดสินใจใช้พลังทุบพื้นที่ตรงบัลลังย์ให้หล่นไปด้านล่างพร้อมกับ ฮลดัลฟ์ พร้อมคำพูดที่บอกกับโรซ่ไกลๆที่พอจะอ่านปากได้ว่า “ลาก่อน” 




ที่เหลือจากนี้มีแค่ นักพรตสุเรย์ และ ราชาแห่งความหายนะ เฮลดัลฟ์ ที่จะตัดสินกันด้วยพลังที่เหลืออยู่ การต่อสู้กับเฮลดัลฟฺ แบบตัวต่อตัวนั้นคุณไม่ต้องไปกังวลเพราะเป็นการสู้แบบปิดท้ายเรื่องเท่านั้น เพราะหลังจากสู้ไปได้ซักพักจนสามารถใช้ท่าใหญ่ได้ สุเรย์ก็จะโถมพลังใส่จนสุดแรงไปพร้อมๆกับการตั้งรับที่เฮลดัลฟ์มันคิดว่าสุดแรงเฉกเช่นกัน แสงและความมืดปะทะกันอย่างรุนแรง และสุดท้ายความสว่างจ้าก็เอาชนะความมืดมิดได้ทุกครั้ง ร่างของเฮลดัลฟ์กระเด็นไปกระแทกบัลลังย์จนแตกหัก พลังแห่งเทพ มาโอเทราซุ หลุดออกมาพร้อมๆกับไอปีศาจจนเหลือแค่ร่างของอดีตราชาผู้สิ้นหวัง






 สุเรย์ค่อยๆเดินไปอย่างช้าจนถึงตรงหน้าเฮลดัลฟ์ นี่เป็นเพียงไม่กี่ครั้งที่สุเรย์ยอมที่จะจับดาบแล้วแทงเข้าร่างศัตรูอย่างไม่ลังเล เฮลดัลฟืสิ้นไจไปพร้อมกับพลังแห่งธาตุทั้ง 4 ดิน น้ำ ลม ไฟ ที่ถูกช่วงชิงไปก็เป็นอิสระขึ้นไปสู่ฟากฟ้า


   

 สุเรย์ไม่รอช้าที่จะจบภารกิจสุดท้ายของเขาด้วยการปลดลปล่อยพลังแห่งเทพ มาโอเทราซุ ที่ถูกดูดกลืนมาใช้ในทางที่ชั่วร้ายกระจายกลับไปเป็นพลังที่ยิ่งใหญ่ที่คอยค้ำจุลโลกตามเดิม 






แสงสว่างอันศักดิ์สิทธิ์ฟุ้งกระจายไปทั่วท้องฟ้าของดินแดน เกลนวู๊ด เหล่า เฮียวมะ ที่ชั่วร้ายที่หวังจะสิงสู่และกลืนกินมวลมนุษย์ก็สูญสิ้น ความสงบสุขและรอยยิ้มของผู้คนเริ่มคิดพร้อมกับแสงวันใหม่อย่างช้าๆ สองอณาจักร์ที่บาดหมางก็ปรองดองจนเป็นแผ่นดินเดียวกันและอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุข






หลายปีต่อมา ที่หน้าหลุมศพของโรเซ่ นักพรตคนใหม่ถูกเลือกสรร เพื่อให้หน้าที่อันยิ่งใหญ่และศักดิ์สิทธิ์นี้ให้คงดำรงอยู่ เพื่อสร้างสมดุลของแสงให้มากพอที่ความมืดจะได้มิอาจกร่ำกราย เพื่อความหวังและศัทธราที่ตกทอดกันมาแต่ยุคโบราณให้สืบตำนานต่อไป    




หลายปีต่อมา .  มิคุริโอ้ ในวัยหนุ่ม ยังคงเดินทางไปตามโบราณสถานต่างๆจนทั่ว เพื่อทบทวนถึงความหลังในสิ่งที่เขาเคยสูญเสียไปนั่นคือ การผจญภัยที่ยิ่งใหญ่กับเพื่อนที่รู้ใจคนเดิม หรืออาจตามหา เด็กหนุ่มผู้บ้าคลั่งตำนานสายเลือดสวรรค์เพื่อนคู่ใจที่ได้จากเขาไปนานแล้ว ในทุกย่างก้าวที้เดินไปกับทุกสัมผัสที่เขาแตะลงไปที่ทุกสิ่งก่อสร้างของตำนานอันเก่าแก่ก็เพื่อหวังว่าจะทำให้เขานึกถึงเพื่อนคนนั้นของเขาอีกครั้ง อาจเพียงเท่านั้นที่เขาหวัง 







ก่อนที่จุดที่เขาไปโดนจะทำให้พื้นที่เขายืนอยู่ถล่มลง ในขณะที่มิคิริโอ้กำลังจะตกลงไปด้านล่าง มือๆนึงก็คว้าจับมือช่วยดึงเขาเอาไว้ได้ แสงสว่างที่สาดส่องจนใบหน้าของคนๆนั้นถูกบดบังด้วยเงาจนไม่รู้ว่าเป็นใคร แต่เมื่อมือที่จับอยู่ใส่ถุงมือที่เขาเคยให้ไว้ รอยยิ้มจากหัวใจมิคุริโอ้ ก็ตอบคำถามแทนความรู้สึกข้างในว่า หมอนี่เป็นใคร ขึ้นมาทันที .......


******************************* THE END  ***********************************

Cr. ขอขอบพระคุณแนวคิด ตรรกะและหลักทางภาษาของคุณ “Lastwaltz” Naruphun Chotechuang เพื่อนเก่าสมัย Gcon ที่ส่งตรงจากญี่ปุ่นมากๆครับ ที่ทำให้ผมเขียนบทสรุปนี้ออกมาได้กระจ่างใสมากขึ้นเยอะ  





ถ้ามี Save data จาก Tales of ของ PlayStation 3 ภาคก่อนๆทุกภาค จะสามารถนำมาปลดล๊อคเครื่องประดับพิเศษในเกมส์ Tales of Zestiria ได้ด้วย
- Save data จาก Tales of Vesperia จะได้รับตุ๊กตาเป็น Yuri
- Save data จาก Tales of Graces F จะได้รับตุ๊กตาเป็น Sophie
- Save data จาก Tales of Xillia จะได้รับตุ๊กตาเป็น Jude กับ Milla
- Save data จาก Tales of Xillia 2 จะได้รับตุ๊กตาเป็น Ludger
- Save data จาก Tales of Symphonia จะได้รับตุ๊กตาเป็น Lloyd
- Save data จาก Tales of Symphonia: Dawn of the New World จะได้รับตุ๊กตาเป็น Marta



ไม่มีความคิดเห็น: