วันจันทร์ที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2559

FINAL FANTASY XV



ในยุคแห่งการก่อกำเนิด (Genesis) ของโลกที่เรียกว่า Eos ตามตำนานที่ว่ากันว่าถูกสร้างขึ้นจากสิ่งมีชีวิตชั้นสูงจากยุคก่อนกาลและปกปักษ์รักษาโดยเทพแห่งดวงดาวทั้ง 6 ในนามของ The Astrals หรือ The Hexatheon  ประกอบด้วย


                  

Titan the Archaean
Ramuh the Fulgurian
Leviathan the Hydraean
Shiva the Glacian
Ifrit the Inferian
Bahamut the Draconian

จนกระทั้งถึงในยุคนึง Ifrit 1 ใน 6 ของเทพแห่งดวงดาวที่อารักขาดินแดนแห่ง Eos ได้ทรยศต่อศรัทธราของตัวเองแล้วเริ่มเปิดศึกกับเทพที่เหลือทั้ง 6 ด้วยการใช้ชีวิตของชาว Eos เป็นเดิมพัน โดยการส่งโลกระบาดแห่งความมืดที่ชั่วร้ายที่เรียกว่า Starscourge โรคที่เปลี่ยนคนให้กลายเป็นปีศาจ ที่เกิดจากปรสิตประหลาดในเม็ดเลือดที่ทำให้มนุษย์เกิดการกลายพันธ์แถมยังปลดปล่อยอนุภาคดูดซับแสงจำนวนมากเพื่อส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของระบบนิเวศอย่างรุนแรงที่ทำให้เกิดความมืดของบรรยากาศที่ต่อเนื่องเป็นเวลานานเพื่อทำให้พวกปีศาจแข็งแกร่งในโลกที่แสนมืดมิด

    

 เพื่อให้เป็นปรปักษ์กับพลังแห่งแสงของเทพทั้ง 6  Bahamut 1 ในเทพผู้ยิ่งใหญ่แห่ง astrals จึงมอบพลังส่วนหนึ่งให้กับมนุษย์ผู้ถูกเลือก 2 คนเพื่อใช้ต่อต้าน Starscourge โรคร้ายแห่งความมืดที่กำลังกลืนกินผู้คน คนนึงคือ
ราชาที่แท้จริงแห่งอาณาจักร Lucis ที่จะถูกเลือกจากคริสตัล หินศักดิ์สิทธิ์ของขวัญล้ำค่าจากทวยเทพ  ให้เป็นผู้ครอบครองแหวนแห่งราชาที่เรียกว่า Ring of the Lucii แหวนแห่งแสงศรัทธราที่สามารถเรียกใช้ขุมพลังเวทย์ที่ยิ่งใหญ่จากคริสตัล อีกหนึ่งคือ Oracle แห่งอาณาจักร Tenebrae ผู้เกื้อหนุนด้วยพลังในการเพรียกหาเหล่าเทพแห่ง astrals มาเป็นตัวช่วยสนับสนุนให้กับราชาผู้ถูกเลือก จนสามารถขับไล่ความมืดมิดจากโรคระบาด Starscourge ที่คร่าชีวิตผู้คนมากมายลงได้ในที่สุด..

        


ราชวงศ์ Lucis ได้ส่งต่อพลังแห่งแสงสว่างให้กับทายาทรุ่นสู่รุ่นด้วยแหวนแห่งราชา Ring of the Lucii เพื่อเป็นตัวแทนเพียงหนึ่งเดียวในการพิทักษ์ไว้ซึ่งหินคริสตัลศักดิ์สิทธิ์ที่เป็นดั่งเกราะแห่งแสงศักดิ์สิทธิ์ที่เปี่ยมด้วยพลังอำนาจยิ่งใหญ่ดุจเทพเจ้าที่สามารถกำจัดทุกความมืดมิดในโลกนี้ ด้วยค่าใช้จ่ายที่ต้องใช้คือ ชีวิตของตัวเอง ที่จะต้องค่อยๆร่อยหรอหมดไปทีละนิดเพราะต้องใช้พลังชีวิตในทุกวินาทีเพื่อแบกรับพลังของคริสตัล

ในขณะที่แผนเยียวยารักษาโลกจากโรคระบาด Starscourge ดำเนินต่อไปอย่างสัมฤทธิ์ผลต่อเนื่องมาหลายพันปี Bahamut ก็หายตัวไปจากโลกแห่ง Eos แล้วปล่อยให้ภาระอันยิ่งใหญ่ตกอยู่ในมือของมวลมนุษย์เป็นผู้ควบคุมและดูแลกันเองมานับแต่นั้น  


Cr. - เรียบเรียงจาก
http://finalfantasy.wikia.com/wiki/Eos_(Final_Fantasy_XV)
http://finalfantasy.wikia.com/wiki/Kingsglaive:_Final_Fantasy_XV
http://finalfantasy.wikia.com/wiki/Final_Fantasy_XV/Timeline


       ศักราชของโลก FFXV นั้นเรียกว่า M.E. แทน AD , BC ในโลกแห่งความจริง


ด้วยมนต์แห่งโชคชะตา ที่ทำให้ Regis แห่ง Lusicได้พบกับเธอที่อาณาจักร Accordo controlario ในฐานะ Oracle แห่งอาณาจักร Accordo แม้การพบกันครั้งแรกของทั้งคู่คืองานประชุมที่ว่าด้วยการป้องกันภัยที่เกิดจากการรุกรานของจักรวรรดิ Niflheim ที่กำลังมีเป้าหมายจะยึดครองอาณาจักร Tenebrae และ Accordo ความเห็นของ Regis ต่อที่ประชุมนั้นเขายังมั่นใจว่า ทุกอย่างสามารถแก้ไขได้โดยไม่ให้เกิดความรุนแรง ซึ่งตรงกับความเห็นของ Áurea ต่างกับความเห็นของอีกหลายเสียงในที่ประชุมที่เห็นว่าหนทางเดียวในการยุติสงครามก็คือหยุดยั้ง จักรวรรดิ Niflheim ท่ามกลางความแตกต่างทางความเห็นของที่ประชุมที่แบ่งเป็น 2 ทางเลือก พวกเขาต้องเลือกแค่เพียง 1 เท่านั้น






Regis แต่งงานกับ Áurea ไม่นานหลังจากการประชุมใหญ่ครั้งนั้น จนเมื่อกษัตริย์แห่ง Lucis สวรรคต Regis ได้ขึ้นครองราชย์สมบัติในฐานะราชาแห่ง Lucis องค์ต่อไป ทำให้ราชา Regis ต้องใช้ความระมัดระวังให้มากเพราะนับแต่ที่เขาขึ้นปกครอง อาณาจักร Lucis ทั้งตัวเขารวมทั้งครอบครัวก็จะตกเป็นเป้าหมายของศัตรู  



732 M.E. - Lunafreya Nox Fleuret ถือกำเนิด
733 M.E. -Gladiolus Amicitia  เกิด ( 2 เมษายน)
734 M.E. -Ignis Scientia เกิด ( 7 กุมภาพันธ์)
735 M.E. - Noctis Lucis Caelum  เกิด (30 สิงหาคม)  Prompto Argentum เกิด (25 ตุลาคม)


จนเมื่อ Noctis เกิด มันเป็นช่วงเวลาที่เปี่ยมไปด้วยความสุขของทั้ง Regis และ  Áurea แต่ก็เป็นช่วงเวลาที่เหลือน้อยสำหรับคำว่า สันติภาพ ของอาณาจักร Lucis เฉกเช่นกัน 


จนถึงวันนึง วันที่แสนเลวร้าย ในงานเลี้ยงในพระราชวังแห่ง Lucis มีคนพยายามที่จะลอบวางยาพิษเพื่อลอบปลงพระชนม์ ราชา Regis แต่เหยื่อผู้เคราะห์ร้ายกลับกลายเป็น Áurea แทน ยาพิษทำให้ Áurea ล้มป่วยอยู่หลายวันจนกระทั้งเธอทนพิษไม่ไหวจนต้องเสียชีวิตไปในที่สุด 




Áurea เสียชีวิตลงท่ามกลางความโศกเศร้าของ ราชา Regis ที่ภรรยาของเขาต้องจากลาลูกน้อย Noctis ที่เพิ่งคลอดหลังจากเริ่มใช้ชีวิตคู่กับราชา Regis สุดที่รักได้แค่  5 เดือนเท่านั้น  แต่ก่อนเธอตาย เธอได้เขียนจดหมายลาให้กับ Noctis ลูกชายของเธอ ความว่า


                                                      ถึงลูกรักของแม่ ..

แม่พยายามอย่างถึงที่สุดที่จะใช้ชีวิตอยู่กับลูกให้นานกว่านี้ แต่ชีวิตมันก็ไม่มีอะไรแน่นอน แม่ยอมเสียทุกอย่างเพื่อแลกกับการที่จะได้เห็นลูกเติบโต ได้เห็นก้าวแรกของลูกในวันที่หัดเดิน เมื่อลูกโตขึ้นลูกคงจำแม่ไม่ได้แล้ว เพราะวันนั้นคงไม่มีแม่อยู่คอยช่วยเหลือ แม่ไม่อยากให้ลูกโตขึ้นมากับความทรงจำแบบนั้น แต่โชคร้ายที่มันควรจะเป็นช่วงเวลาหนึ่งที่เราจะใช้เวลาอยู่ร่วมกัน 
...
ยกโทษให้แม่ด้วยนะที่มีชีวิตอยู่กับลูกได้ตลอด แม่เสียใจที่พลังมากมายของแม่มิอาจโกงความตายได้ แต่แม่ก็รู้ว่าพ่อของลูกจะคอยอยู่ดูแลลูกไม่ห่าง ลูกและพ่อของลูกคือแสงสว่างนำทางของแม่ในช่วงเวลาที่แสนเจ็บปวดนี้ เห็นรอยยิ้มที่แสนธรรมดาของลูกทำให้แม่มีความสุขและสงบ แม้แม่อาจจะต้องจากไปตอนนี้ แต่อย่าห่วงเลย ลูกจะได้รับการดูแลอย่างดี พ่อของลูกจะคอยปกป้องลูกและรักลูก แม่จะอยู่ข้างๆลูกตลอดแม้ลูกจะมองไม่เห็น จงเข้มแข็งไว้ลูกรักของแม่ แม่จะรักลูกตลอดไป วันนึงพวกเราจะได้อยู่ด้วยกันอีกครั้ง 

ภาพประกอบโดย @CrimblySun 
แปลจากบทความของ ch0inessa
http://promptothedanger.tumblr.com/post/131056437985/final-fantasy-xv-noctiss-mother



                                                     ปีที่ 744 M.E. ..





Noctis ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากการถูกอสูรโจมตีขบวนรถเดินทางทำให้มีคนตายมากมายก่อนที่ราชา Regis พ่อของเขาจะมาช่วยเอาไว้ แต่ผลของการถูกโจมตีก็ทำให้ Noctis ต้องอยู่ในสภาพโคม่า ถูกกล่าวถึงในตอนต้นของ Episode 1 และ Episode 5 ของอนิเมชั่น Brotherhood  


ในขณะที่ Noctis อยู่ในอาการโคม่า ไม่ได้สติ เขาฝันว่าไปอยู่สถานที่แปลกประหลาดแห่งนึงและได้พบเจอกับ Carbuncle ที่ออกมาเพื่อแนะนำและช่วยเหลือ Noctis จนสามารถออกจากโลกประหลาดที่เป็นเสมือนฝันร้ายในยามที่เขาตกอยู่ในอาการโคม่าได้สำเร็จ ซึ่งเป็นเหตุการณ์ใน Platinum Demo 







กล่าวถึง Lucis อาณาจักรแห่งเวทย์มนต์ที่แสนสงบสุขภายใต้ภายใต้การปกครองของกษัตริย์ Regis Lucis Caelum ที่ 113  และพลังอำนาจการปกป้องจาก คริสตัล 




และจักรวรรดิ Nifheim ผู้เชี่ยวชาญการรบและเครื่องจักรสงครามภายใต้การปกครองของ จักรพรรดิ Iedolas Aldercapt ต้นเหตุแห่งสงครามที่ยาวนานของสองขั่วอำนาจมาตลอดหลายปี






เวลาผ่านไปท่ามกลางกองทัพที่เปี่ยมไปด้วยเทคโนโลยี่ที่ล้ำสมัยของ Nifheim ที่กรีฑาทัพไปยังหลายประเทศใกล้เคียงเพื่อแผ่อำนาจการปกครองของมัน เหลือแต่เพียง Insomnia เมืองหลวงด่านสุดท้ายของชาวลูเซียน ทางเลือกสุดท้ายที่อาณาจักร Lusic ใช้ปกป้องกันตัวเองจากการรุกรานของกองทัพ จักรวรรดิ  Nifheim คือการสร้างกำแพงเวทย์มนต์จากพลังอำนาจของคริสตัลทำให้รอดพ้นการโจมตีของ Nifheim มาได้หลายปี


 แต่ราชา Regis ก็ต้องแลกมากับภาระที่ต้องใช้สมาธิในการควบคุมกำแพงเวทย์มนต์ ซึ่งก็ทำให้สภาพร่างกายรวมถึงพลังในการอัญเชิญอาวุธมีประสิทธิภาพถดถอยลงทุกวัน เฉกเช่น ราชาของ Lucis ในทุกๆรุ่นได้ปกปักษ์รักษา อาณาจักร Lucis ให้สงบสุขมา 150 ปีก็เพราะกำแพงเวทย์มนต์ที่องค์ราชาแต่ละรุ่นสร้างขึ้นแลกกับพลังชีวิตของตัวเองเพื่อเป็นกำแพงปกป้องประชาชน


ท่ามกลางความรุนแรงของสงครามที่เริ่มค่อยๆก่อตัว เจ้าชาย Noctis ได้เดินทางมายังอาณาจักร Tenebrne เพื่อรักษาอาการป่วยที่เกิดจากการโดนมอนสเตอร์ทำร้ายเมื่อครั้งอดีตพร้อมกับพระบิดา ราชา Regis แห่ง Lucis





 ภายใต้การต้อนรับและดูแลอย่างฉันท์จากราชินี Sylva Nox Fleuret เจ้าชาย Ravus Nox Fleuret และเจ้าหญิง Lunafreya Nox Fleuret  แห่งราชวงศ์ Tenebrne



ในขณะที่ไฟสงครามที่แผ่ขยายไปทุกพื้นที่ แม้กระทั้ง อาณาจักร Tenebrne ในช่วงเวลาแห่งมิตรภาพนี้ก็ไม่เว้น Nifheim บุกโจมตี Tenebrne ในขณะที่ทุกคนยังไม่ได้ระวังตัวเป้าหมายคือไล่ล่า ราชา Regis แห่ง Lucis จนสร้างความวุ่นวายไปทั่ว ผู้คนมากมายต่างหนีเอาชีวิตรอด





ราชินี Sylva ปกป้อง Ravus ลูกชายด้วยชีวิต ในขณะที่ ราชา Regis ก็รีบพาเจ้าชาย Noctis พร้อมทั้งเจ้าหญิง Lunafreya หนีเอาชีวิตรอด




แต่เสียงเรียกให้ช่วยของ Ravus พี่ชาย ก็ทำให้ เจ้าหญิง Lunafreya ต้องยอมสลัดมือจาก ราชา Regis เพื่ออยู่รอรับชะตากรรมเดียวกับพี่ชายของเธออย่างเด็ดเดี่ยว นับแต่นั้น อาณาจักร Tenebrne ก็ตกเป็นเมืองขึ้นของ Nifheim ศัตรูตัวร้ายของอาณาจักร Lucis ..


12 ปีต่อมา ... จากเหตุการณ์ดั่งกล่าวอาณาจักร Lucis ก็ไม่ได้นิ่งนอนใจจึงสร้างหน่วยรบพิเศษที่ได้การส่งมอบพลังพิเศษจากพลังแห่งคริสตัลของราชา Regis ในนามของ The Kingsglaive ขึ้นมาเพื่อเป้าหมายในการพิทักษ์ราชาและเอกราชของอาณาจักร


 ซึ่งมีเจ้าหน้าที่ระดับหัวกระทิ ประกอบด้วย Titus Drautos ผู้บัญชาการณ์ของหน่วย ,Nyx Ulric ,Luche Lazarus , Libertus Ostium , Sonitus Bellum  ,Axis Arra ,Tredd Furia,Pelna Khara และเจ้าหน้าที่หญิงหนึ่งเดียว Crowe Altius


 ท่ามกลางการบุกประชิดดินแดนของ Nifheim  การต่อสู้ที่ทั้งเหล่ามอนสเตอร์มากมายที่ Niflheim ส่งมาประชิดชายแดน การต่อสู้ดำเนินไปท่ามกลางความวุ่นวายเพราะ Niflheim งัด Beast อสูรยักษ์ออกมาถล่มหน่วย Kingsglaive จนยับเยิน  หลังจบการต่อสู้ทางฝ่าย Niflheim กลับส่งตัว อาดีน อินซูเนีย เข้ามาเป็นผู้เจรจายื่นข้อเสนอในการทำสนธิสัญญาสันติภาพเพื่อสงบศึกตามที่ตกลงกันที่จะยุติความขัดแย้งที่ยาวนาน โดยมีเงื่อนไขว่า อาณาจักรลูซิสต้องส่งมอบดินแดนทั้งหมดให้อยู่ในการปกครองของ Niflheim  และ เจ้าชาย Noctis ในฐานะรัชทายาทแห่งราชวงศ์ Lucis จะต้องแต่งงานกับเจ้าหญิง Lunafreya แห่ง Tenebrae ในฐานะรัฐที่อยู่ภายใต้การปกครองของจักรวรรดิ Niflheim เพื่อเป็นเหมือนโซ่คล้องสายสัมพันธ์ที่ดีต่อกันของ  2 อาณาจักร

หลังจากทั่วทั้งอาณาจักรทราบข่าวถึงเรื่องการยื่นข้อเสนอของ Niflheim ความแตกแยกทางความคิดต่างๆนานาของแต่ละฝ่ายก็เริ่มขัดแย้งกันทันที ทางฝ่ายสภาสูงที่ได้ผลการประชุมที่ต่างก็เห็นด้วยและไม่เห็นด้วยที่จะให้ยอมทำตามข้อเสนอ สำหรับ ราชา Regis รู้ดีว่าสังขารของเขาตอนนี้คงไม่นานพอที่จะป้องป้องบ้านเมืองและประชาชนได้ แต่การยุติสงครามจะทำให้เกิดสันติภาพที่ทำให้ไม่มัผู้คนล้มตายอีก ขอเสนอของเสียงส่วนใหญ่ของสภาจึงอิงตามประกระแสรับสั่งของราชา Regis คือ ยอมรับข้อเสนอของ Niflheim เมื่อมีการประกาศอย่างเป็นทางการ  ประชาชนในเมืองหลวงที่เริ่มแตกแยกกลายเป็นฝ่ายปฎิวัติเพราะไม่พอใจที่ราชา Regis ยอมยกดินแดนให้กับ Niflheim อย่างง่ายดาย

แต่ราชา Regis ก็มีแผนสำรองไว้ เขาต้องการให้ เจ้าชาย Noctis ไปพบกับเจ้าหญิง Lunafreya ในสถานที่ที่ไกลจากเมืองหลวงเพื่อความปลอดภัยจากสถานการณ์ที่กำลังจะเกิดขึ้นในเมืองหลวงทันที  .....




                             FINAL FANTASY XV             

                    [ACT I : The tale of the Chosen King Savior to the Star]




                                      Prologue                       






ท่ามกลางไฟนรกที่ร้อนระอุในช่วงเวลาของอนาคตข้างหน้าที่ยังมาไม่ถึงเจ้าชาย Noctis รัชทายาทของราชวงศ์ Lucis ในวัยกลางคนกำลังยืนเผชิญหน้ากับ ปีศาจร้ายที่นั่งอยู่บนบัลลังก์แห่งกองไฟ มองดูความวอดวายของเจ้าชายและผองเพื่อนร่วมตาย


 Gladiolus Amicitia , Ignis Stupeo Scientia และ Prompto Argentum ที่กำลังดิ้นทุรนทุราย เพื่อปกป้องเจ้าชายจากไฟที่ลุกไหม้ไปทั่ว



                          ... ย้อนกลับเมื่อก่อนการล่มสลายจะเริ่มขึ้น 

                 

        เรื่องราวเหตุการณ์ปลีกย่อยก่อนที่ Noctis จะออกเดินทางสู่ Altisisa 




                       แปลและอ้างอิงจาก CD Final Fantasy XV: Prologue Drama 

https://www.youtube.com/watch?v=2sKE0tanbFw
Cr. ภาพวาด Crimson Sun
https://twitter.com/CrimblySun



                             Scene 1: The Day before Departure 

ที่ Apartment ของเจ้าชาย Noctis  

 เสียงริงโทนของโทรศัพท์ของ Noct ดังขึ้นในเช่้าของวันที่ก่อนจะเดินทางมุ่งสู่ Altisisa ซึ่งเจ้าชายก็ได้แต่งัวเงียกดตัดสายทิ้งไปก่อนจะหลับต่ออย่างไม่ใยดี ก่อนที่อีกสายของโทรศัพท์อีกเครื่องจะดังต่อเนื่องขึ้นทันที ทำให้ Noct ต้องรีบรับเพื่อตัดความรำคาญ

[Noctis] – ว่า ....
[Ignis] – อรุณสวัสดิ์ ตกลงจะรับโทรศัพท์ได้รึยัง
[Noctis] – โทสับไหน ? ไม่เห็นรู้เรื่องเลย
[Ignis] – งั้นหรอ ก็ชั้นเพิ่งโทรหาเมื่อกี้ไง
[Noctis] – อืมมม .. เช้าแล้วหรอเนี้ย ?
[Ignis] – กำลังจะเข้าไปหานะ เตรียมแต่งตัวให้พร้อมไว้ก็แล้วกัน ไม่ต้องนอนต่อละ ! ฝ่าบาทท่านต้องที่จะคุยด้วยด่วนเลย
[Noctis] – เออๆ รู้แล้วละน่า ตื่นแล้วๆ


                            Scene 2: En Route to the Citadel 


Star of Lucis รถคู่กายของเจ้าชาย Noctis กำลังมุ่งไปยังวิหารแห่ง Insomnia ตามคำสั่งของพระบิดาที่ต้องการให้เข้าเฝ้า โดยมี Ignis เป็นคนขับส่วน Noct ก็นั่งเป็นผู้โดยสารหลังจากถูกไม่อณุญาติให้ขับรถเองมาในช่วงเวลานึง

ในรถของ Noctis (Star of Lucis) 

[Noctis] – เราไม่ได้ขับรถไปด้วยกันนานเลยว่ามั๊ย ?
[Ignis] – นายเพิ่งเลิกขับรถเองมาแค่เดือนเดียวเองก่อนที่ชั้นจะเข้ามาทำหน้าที่นี้แทนให้ไม่ใช่หรอ
[Noctis] – ยังไงนายก็ต้องมาเป็นโชเฟอร์ขับให้อยู่ดีนั่นแหละ ก็ห้ามชั้นขับกันเองไม่ใช่รึไง
[Ignis] – เฮ้อ ... ขับรถให้นาย มันเป็นงานง่ายๆซะที่ไหนกันเล่า
[Noctis] – อ้าว แล้วทำไมวันนี้ถึงใช้รถคันนี้ละ
[Ignis] – ชั้นได้รับคำสั่งจากนายพล Drautos ให้ใช้คันนี้เพราะ Regalia จะเอาไปใช้รับคนสำคัญในงานเซ็นสนธิสัญญาสงบศึกที่กำลังจัดขึ้นไง แต่ไม่ต้องห่วงหรอกเราจะเลี่ยงไม่ไปในเส้นทางนั้นแล้วมุ่งหน้าไปที่วิหารอย่างเดียวเลย
[Noctis] – จะเอา Regalia ไปใช้นานมั๊ยละ ?
[Ignis] – ก็คงนานเท่าที่พวกเขาต้องการใช้นั่นแหละ
[Noctis] –อืมม ได้นั่งรถใหม่ๆไม่ซ้ำกันทุกวันก็ดีเหมือนกัน
[Ignis] – ชอบขับรถไปข้างนอกไม่เหนื่อยบ้างรึไง เห็นซีเรียสเรื่องจะเอาใบอณุญาติขับขี่ให้ได้ตลอด
[Noctis] – ที่นี่รถติดอยู่ตลอด น่าเบื่อ บนไฮเวย์ชั้นอยากจะไปไหนก็ได้ตามใจไม่ต้องขออณุญาติใครด้วย แล้วก็ดีกว่ามานั่งในที่นั่งผู้โดยสารแบบนี้ด้วย
[Ignis] – อย่างน้อยๆนายก็หลับได้ไม่ใช่รึไง ?
[Noctis] – เออ ก็จริง .. พูดถึงเรื่องรถก็เลยคิดขึ้นได้ แล้วเราจะให้เจ้า Prompto มันมาขับ Regalia บ้างได้มั๊ยเนี้ย ?
[Ignis] – ถ้ามันได้ยินคงทำตาปิ้งๆด้วยความดีใจเลยละมั้ง แต่ นายจะเป็นคนขับเองหรอ ?
[Noctis] – ชั้นน่ะหรอ ? ก็อาจจะไม่ได้ขับเก่งอะไรหรอกนะ ก็พอๆกับ Prompto นั่นแหละ
[Ignis] – แต่นี่ถือว่าเป็นครั้งแรกเลยนะที่ Gladiolus หรือ ชั้นจะได้ขับรถเดินทางออกจาก Crown city สงสัยเหมือนกันว่ามันจะเป็นยังไง

                                   Scene 3: Chaptain Drautos

ในขณะที่ Ignis และ Noctis ขับรถเข้ามาถึงที่จอดรถบริเวณหน้าทางเข้าวิหาร ก็ต้องเจอกับนายพล Drautos ที่มารอพวกเขาอยู่ที่ปลายทางเดิน  

[Drautos] – เรากำลังรออยู่เลยครับ องค์ชาย
[Noctis] – ไม่ได้เจอกันนานเลยนะครับ ท่านนายพล Drautos
[Drautos] – Ignis เอารถไปไว้ที่ไหนละ ?
[Ignis] – จอดที่ลานจอดเรียบร้อยแล้วครับ
[Drautos] – องค์ชายจะเดินทางกลับบ้านเลยหรือเปล่าหลังทำภารกิจเสร็จ
[Noctis] – ก็คิดเอาไว้ว่างั้นนะ
[Drautos] – งั้นเดี๋ยวผลจะแจ้งให้คณะผู้ติดตามทราบในภายหลังนะ Ignis เตรียมพร้อมเรื่องการสื่อสารต่างๆให้สามารถติดต่อกันได้ตลอดด้วยนะ ฝ่าบาทคงกำลังมัวแต่ยุ่งกับการเตรียมงานในวันนี้แน่นอน
[Noctis] – งั้นหรอ เห็นเขาบอกว่างานนี้จะจัดแบบสบายๆไม่ใช่หรอ ?
[Drautos] – การเปิดการเจรจาล่าช้ากว่ากำหนดการณ์ไปเยอะมากแล้วด้วย  องค์ชายเตรียมการณ์เดินทางสำหรับวันพรุ่งนี้ไว้แล้วใช่มั๊ยครับ ยังไงก็ขอให้ไปพบท่านก่อนออกเดินทางก่อนก็แล้วกันนะครับ
[Ignis] – ท่านนายพลครับ ! .. เอ่อ เรื่องพิธีลงนามน่ะ ยังไม่มีการตัดสินใจที่แน่นอนใช่มั๊ยครับ
[Drautos] – อืมม ใช่ ชั้นเข้าใจความกังวลใจของเธอนะ ฝ่าบาทจะต้องดำเนินการอย่างระมัดระวังและรัดกุมอย่างที่สุดแน่นอน เธอจะได้ทราบข่าวที่แน่นอนอีกครั้งหลังทุกอย่างเข้าที่เข้าทางแล้วอ่ะนะ


                                   Scene 4: Iris Amicitia

ระหว่างที่ Noctis และ Ignis กำลังเดินผ่านโถงแรกของวิหารก็ได้เห็น Iris กำลังคุยกับพ่อบ้าน Scientia ลุงของ Ignis ผู้ดูแลวิหาร ถวายงานรับใช้ราชา Regis ซึ่งระหว่างที่ Noctis กำลังเดินลงบันไดลงไปที่ห้องโถงก็เลยได้ยินเรื่องราวที่ทั้งคู่กำลังสนทนากัน

[พ่อบ้าน Scientia] – ชั้นเกรงว่าพ่อของเธอคงยังกำลังประชุมอยู่นะ
[Iris] – อ่า Noct !!
[Noctis] –ว่าไง Iris
[พ่อบ้าน Scientia] – องค์ชาย Noctis
[Noctis] – อ่อคุณ Scientia แล้วพ่อผมละ
[พ่อบ้าน Scientia] – ยังประชุมอยู่เลยขอรับ ผมคิดว่าน่าจะกำลังจะตกลงกันได้เร็วๆนี้แหละขอรับองค์ชาย ขอโทษเธอด้วยนะIgnis
[Ignis] – ไม่มีปัญหาครับคุณลุง
[Noctis] – เอาละ เราคงต้องหาอะไรทำฆ่าเวลากันก่อนละ
[Iris] – เตรียมตัวเดินทางพร้อมรึยังอ่ะ Noct
[Noctis] – อืมม ก็เรียบร้อยดีนะ
[Iris] – ดีแล้ว แต่ เฮ้ออ อยากไปเป็นแขกในงานแต่งงานของเธอจังเลยเนอะ
[Noctis] – ก็อยากให้ไปอ่ะนะ แต่ มันไกลจะตายไป
[Iris] – แล้ววันนี้จะให้ชั้นไปที่ห้องนายด้วยมั๊ยละ ?
[Noctis] – ห้องที่วิหารอะหรอ ?
[Iris] – เปล่าๆ หมายถึงห้องที่ Apartment อ่ะ
[Noctis] – ไม่ต้องเลย !
[Iris] – น่า นะๆๆ แหม พวกเธอ 4 คนจะจัดงานปาร์ตี้กันคืนนี้ใช่ป่ะละรู้นะ
[Ignis] – ฮ่าๆ เปล่าหรอก พวกเราแค่ไปช่วยทำความสะอาดน่ะ
[Iris] – ทำความสะอาดหรอ ?
[Noctis] – มันมีพวกแมลงสาปเต็มไปหมดนั่นนะสิ
[Iris] – ยี้ น่าขยะแขยงอ่า
[Noctis] – ฮ่าๆ ถึงกับเปลี่ยนใจเลยหรอ แล้วเธอจะทำไรที่นี่อ่ะ ?
[Iris] – อ๋อ ชั้นเอาเสื้อมาให้พ่อเปลี่ยนนะ แกคงยุ่งมากเลยต้องนอนค้างที่นี่เลยนะสิ
[Ignis] – ท่าน Clarus อึดอยู่แล้วน่า
[Noctis] – แล้วพ่อชั้นละอาการเป็นไง ?
[พ่อบ้าน Scientia] – ตอนนี้สุขภาพของฝ่าบาทยังอยู่ในเกณฑ์ดีขอรับ ถึงแม้ว่าจะแสดงอาการเหนื่อยออกมาบ้างก็เถอะ
[Noctis] – พ่อยังเดินได้มั๊ยอ่ะครับ เดินไหวรึเปล่า ?
[พ่อบ้าน Scientia] – ยังเดินได้ดีขอรับองค์ชาย ชั้นจะส่งข้อความที่เธอฝากไปให้ทันทีเมื่อท่านว่างนะ Ignis
[Ignis] – ได้ครับ ขอบพระคุณมากครับคุณลุง งั้นพวกผมขอตัวเข้าไปที่ห้องของ Noctis ก่อนนะครับ
[Iris] – Noct ยินดีกับการแต่งงานของเธอด้วยนะ
[Noctis] – อืมม ต้องไปแล้วละ ไว้ค่อยคุยกันใหม่นะ


                          Scene 5: En Route to Noct's Room


ในขณะที่ Noctis และ Ignis กำลังเดินทางไปตาม ระเบียงใหญ่ของวิหารเพื่อเดินทางไปที่ห้องของตัวเอง ท่ามกลางการทักทายอย่างเป็นทางการของทหารที่รักษาการณ์ที่ประจำตำแหน่งตามทางเดิน

Guard A: อรุณสวัสดิครับ องค์ชาย Noctis
Guard B: อรุณสวัสดิครับ องค์ชาย Noctis
[Noctis] – อืมม อรุณสวัสดิ์ ..ต้องมาเจออะไรที่เป็นทางการแบบนี้อีกแล้ว
[Ignis] – อย่าไปแสดงอาการรังเกียจสิ นี่มันก็เป็นการเคารพตามระเบียบของทหารธรรมดาเท่านั้นเองนะ
[Noctis] – ก็ไม่ต้องก้มหัวเคารพอะไรถึงขนาดนั้นก็ได้

ระหว่างนั้นเจ้าหน้าที่หน่วย Kingsglaive 2 นายที่กำลังผ่านทางเดินมาอย่างเร่งรีบจึงชนเข้ากับ Noctis อย่างจัง

[Noctis] – อั๊ก !!
Kingsglaive A : โทษทีครับเป็นอะไรรึเปล่า ? เป็นความผิดของผมเองครับผม
Kingsglaive B: ระเบียงทางเดินไม่ใช่ที่ที่จะมายืนเกะกะขวางทางนะ!!
[Ignis] – เห็นมั๊ย ? ไม่ใช่ทุกคนหรอกนะที่จะมีมารยาทพอที่จะแสดงความเคารพกันหมดทุกคน ดูจากชุดแล้วน่าจะเป็นเจ้าหน้าที่หน่วย Kingsglaive คงมัวแต่ทำภารกิจป้องเมืองอยู่ด้านนอกจนไม่มีเวลามาทำความรู้เจ้าชายละมั้ง
[Noctis] – ช่างเหอะน่า เขาทำหน้าที่ปกป้องศัตรูอยู่รอบนอกของเมืองจะมารู้จักชั้นได้ยังไงละ
[Ignis] – ยิ่งกำลังถึงช่วงเวลาการทำพิธีเซ็นสนธิสัญญายิ่งทำให้พวกเขาวุ่นกันมากขึ้นไปอีก ไหนจะต้องดูแลความสงบภายในเมืองอีกก็คงทำให้พวกเขาวุ่นมากขึ้นกับภารกิจที่เพิ่มจากเดิม
[Noctis] – เกี่ยงกับเรื่องป้องกันพวกศัตรูภายนอกที่จะบุกเข้ามาในอาณาจักรน่ะหรอ ?
[Ignis] – ใช่เลย
[Noctis] – แต่ถึงอย่างนั้นพวกเขาก็อาศัยอยู่ใน Crown City ด้วยไม่ใช่รึไง
[Ignis] – ถึงอย่างงั้นก็เถอะ ..ตอนนี้ก็มีหลายหัวเมืองที่พยายามจะยกเลิกการเป็นเมืองงขึ้นกับ Lusic เพราะกลัวผลกระทบเรื่องการเซ็นสัญญากับทางจักรวรรดิไปด้วยเต็ม
[Noctis] – อืมม นายก็พูดมีเหตุผลนะ


                             Scene 6: Tailsman and sword 


หลังจากผ่านทางเดินของวิหารที่เต็มไปด้วยความวุ่นวายก่อนจะถึงวันงานทำพิธีเซ็นสนธิสัญญาสงบศึก Noctis และ Ignis ก็เข้ามาจนถึงส่วนตัวได้สำเร็จก่อนที่ Noct จะเริ่มเก็บของเพื่อเตรียมตัวออกเดินทาง

[Ignis] – ตกลงตอนนายกลับมาจะใช้ห้องนี้อีกมั๊ย ?
[Noctis] – หืมม ก็ยังไม่ได้คิดไว้เหมือนกันว่าจะเอายังไง
[Ignis] – พยายามตั้งสติหน่อยแล้วกัน ต่อไปนี้นายจะไม่ได้ใช้ชีวิตเพื่อตัวนายเองอีกแล้ว
[Noctis] – นายหมายถึง Luna? เธอแวะมาที Insomnia แล้วหรอ?
[Ignis] – เหมือนว่าความตั้งใจที่อยากทุกอย่างให้สำเร็จมันยังไม่แน่วแน่พอมั้ง  เฮ้อ ..ว่าแต่นายเห็น Umbra รึยังไงล่ะ ?
[Noctis] – ยังเลย ชั้นเพิ่มเขียนข้อความในสมุดฝากมันไปไม่กี่วันเอง เธอคงกำลังยุ่งๆกับเรื่องพิธีด้วยมั้งเลยยังไม่ตอบกลับมาเลย เออนี่ Ignis นายเลือกเอาเองแล้วกันอะไรที่จะเอาไปใช้ในการเดินทางอ่ะ
[Ignis] – เฮ้ออ .. ชั้นจะเลือกสุ่มๆใส่ไปให้ก่อนแล้วกันนายอย่าลืมมาจัดของนายเองที่หลังด้วยละ
[Noctis] – เมื่อก่อน ตอนกลางคืนชั้นเคยแอบหนีออกจากห้องนี้มานับไม่ถ้วนแล้วรู้มั๊ย
[Ignis] – เออ รู้สิ ชั้นก็ไปกับนายด้วยไง ก็ห้ามกี่ครั้งก็ไม่เคยฟัง ขี้เกียจจะอธิบายเหตุผลกับนายแล้วละ
[Noctis] – แล้วก็มีใครบางคนที่ขี้โมโหพยายามจะยัดเยียดหนังสือของเขาให้ชั้นอ่านด้วยใช่มั๊ย ?
[Ignis] – ฮ่าๆ ก็ตอนนั้นชั้นยังเด็กนี่ ชั้นน่ะ สะสมหนังสือไว้เพียบเลย แต่ดูเหมือนจะมีอยู่แค่เล่มเดียวที่ชอบมาก เจ้าชายน้อย ของพวกเราไง เป็นหนังสือภาพที่ดีมากๆเลย
[Noctis] – ใช่เลย !
[Ignis] – มันเลยอาจกลายเป็นติดนิสัยชอบหนีออกนอกลู่นอกทางประจำเลย
[Noctis] – หรอ ? ชั้นนึกว่าเพราะชั้นเกลียดเพราะเบื่อที่ต้องถูกขังอยู่ที่นี่เสียอีก ทุกๆคนไม่ยอมที่จะเลิกยุ่งกับชั้นซักที
[Ignis] – อาจะเพราะทุกคนเขาห่วงนายมากก็ได้นะ
[Noctis] – จริงเร้อ ?
[Ignis] – ก่อนที่นายจะบาดเจ็บหนักในตอนนั้นนายเป็นเด็กที่ร่าเริ่งและซนมากๆ
[Noctis] – แล้วจากนั้นชั้นก็กลายเป็นเด็กที่พูดน้อยและชอบแยกตัวออกจากสังคมมาตลอด
[Ignis] – แล้วนายก็เริ่มเปลี่ยนไปมากจนชั้นยังตกใจเลย
[Noctis] – จริงหรอ ?
[Ignis] – ทำไมจะไมละ ก็ขนาดตอนที่นายชวนชั้นหนีออกจากห้องอีกครั้งชั้นยังไม่ปฎิเสธเลย
[Noctis] – ฮ่าๆ
[Ignis] – เพราะชั้นเริ่มรู้ตะหงิดๆแล้วว่าชาตินี้ห้ามไปนายก็คงไม่เชื่อหรอก
[Noctis] – ทำไมความทรงจำของชั้นต้องมีเรื่องให้นายบ่นทุกครั้งเลยนะ
[Ignis] – ที่บ่นก็เพื่อดึงนายไม่ให้หลุดออกจากความเป็นเจ้าชายก่อนได้รับอณุญาติยังไงละ
[Noctis] – เออ ชั้นผิดเองนั่นแหละ แต่ก็อดไม่ได้ที่จะขอบใจนายอ่ะนะ
[Ignis] – หึหึ บอกตรงๆชั้นก็ไม่ได้ดีใจนักหรอกนะที่ต้องมานั่งบ่นจู้จี้กับนายตลอดแบบนั้น แต่พอทำๆไปมันก็เลยกลายเป็นส่วนนึงของงานไปโดยไม่รู้ตัวเลย
หืมมม … นี่เรากลายเป็นพวกโหยหาอดีตไปแล้วหรอ ?
[Noctis] – ก็แค่ชวนคุยฆ่าเวลาอย่าไปคิดไรมาก
[Ignis] – ก็จริง แต่อดีตมันก็เป็นสิ่งเตือนใจที่สำคัญมากของเราด้วยไม่ใช่หรอ ?
[Noctis] – อย่างน้อยก็เอาไว้ใช้ระหว่างเดินทางหรือเรื่องจิปาถะอะไรซักอย่างได้บ้างแหละน่า
[Ignis] – มั่นใจเลยว่ามันสามารถทำได้มากกว่านั้นแน่ๆ ประสบการณ์บางอย่างแม้มันจะดูเล็กๆน้อยแต่บางทีมันอาจจะช่วยเราจากความตายได้ก็ได้นะ
[Noctis] – เฮ้ออ ลืมอะไรอีกนะ ?
[Ignis] – ดาบไง
[Noctis] – อ่อ จริงด้วย ! จะว่าไปที่ผ่านมาได้ประสบการณ์ดีๆจากเจ้าดาบนี้เยอะเลยนะ
[Ignis] – มันเคยสร้างปัญหาใหญ่ให้กับวิหารแห่งนี้ทันทีที่นายได้มามากกว่า
[Noctis] – ฮ่าๆ เออรู้แล้วน่า เสียดายที่ยังทำ Warp strike กับดาบนี่ไม่ค่อยดีเท่าไหร่
[Ignis] – ถ้าไม่ใช่เพราะตอนเด็กนายได้รับบาดเจ็บ มันก็คงไม่มีปัญหาอะไรหรอก ถ้าไม่มองโลกแง่ร้ายจริงๆที่นายทำอยู่ตอนนี้มันก็ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้แล้วละ
[Noctis] – อืมม จริงๆจะดีไม่ดียังไงชั้นไม่ค่อยจะมีทางเลือกมากนักด้วยอ่ะนะ

---- ติ๊ดดดด !!!! ----

[Ignis] – ฮัลโหล Ignis พูดครับ .. อย่างงั้นหรอ ..ได้ครับ ผมจะรีบไปที่นั่นทันทีเลย ... เขาโทรมาบอกว่าวันนี้ฝ่าบาทยุ่งมากๆคงไม่มีเวลาพอมาพบพวกเราแล้วละ
[Noctis] – อืมม
[Ignis] – ชั้นเองก็ต้องไปเตรียมเช็คกระเป๋าเดินทางเพื่อดูความเรียบร้อยซักหน่อยก่อนนะ ระหว่างนั้นนายก็จัดเตรียมของให้เรียบร้อยด้วยละ
[Noctis] – รับทราบคร๊าบ ..


                                Scene 7: The Crownsguard


เสียงดาบไม้กระทบกันสลับกับเสียงล้มกระแทกพื้นที่ดังสนั่นซ้ำแล้วซ้ำเล่ามาจากห้องซ้อมการต่อสู้ของหน่วย Crownsguard ในขณะที่ Clarus ในฐานะองค์รักษ์ของราชา Regis แต่เข้ามาคุยกับ Gladio ลูกชายถึงเรื่องมาตการณ์ในการรักษาความปลอดภัยในงานลงนามสนธิสัญญาที่กำลังจะมาถึง

[Gladio] – ทำไมแม่ทัพ Cor ถึงต้องออกนอกเมืองในวันสำคัญแบบนี้ด้วยก็ไม่รู้
[Clarus] – Crownsguard ก็ปฎิบัติหน้าที่รักษาความปลอดภัยในแบบที่เคยทำตามปกติไปเหมือนเดิมนั่นแหละ
[Gladio] – ทำไมงานอารักขาในวิหารงานนี้ต้องตกเป็นหน้าที่ของพวก Kingsglaive ด้วยละครับ เหมือนเป็นการดูถูกพวกเราเลยนี่พ่อ
[Clarus] – ฮ่าๆ Gladiolus ลูกพ่อ ถึงเวลาที่ต้องสู้กับจริงๆ Kingsglaive เขามีฝีมือมากๆนะ
[Gladio] – แล้ว King’s Shield แบบเราจะมีไปทำไม ? หน้าที่อารักขาพื้นที่ด้านในมันของเราชัดๆ
[Clarus] – มันเป็นหน้าที่ที่ตกทอดสืบต่อกันมา Crownsguard คือสิ่งรับประกันความปลอดภัยและคุณภาพชีวิตของประชาชนใน Clown city
[Gladio] – เราเป็นโล่ของกษัตริย์มากกว่าโล่ของประชาชนนี่ครับ
[Clarus] – ถูกต้อง แต่ ประชาชนก็เป็นสิ่งที่ค้ำจุลฝ่าบาทเหมือนกันนะ ฉะนั้น จะ Kingsglaive หรือ King’s Shield ทำหน้าที่มันก็ไม่ต่างกันหรอก ภารหน้าที่ของตระกูล Amicitia ของเราที่ต้อง ปกป้องคุ้มครองและสนับสนุนเกื้อกูลพระราชาก็ยังเปี่ยมไปด้วยศักดิ์ศรีเหมือนเดิม
[Gladio] – เรื่องนั้นผมทราบดีแน่นอนครับ
[Clarus] – การทำสนธิสัญญาครั้งนี้จะทำให้ Lusic ยิ่งใหญ่ไม่ต่างจากเดิมแน่นอน  Gladiolus !!! จงจำไว้ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นลูกต้องปกป้ององค์ชาย Noctis ให้ถึงที่สุดนะ
[Gladio] – รับทราบครับ !!
[Clarus] – และไม่ใช่เพราะเขาจะเป็นว่าที่กษัตรย์องค์ต่อไป แต่จงปกป้องในฐานะเพื่อนสนิทที่ร่วมทางกันที่พร้อมจะจมหัวร่วมท้ายตายแทนกันได้ด้วยกันนะ !! ส่วนพ่อเองก็จะปกป้ององค์ราชาด้วยชีวิตเช่นกัน !!! พ่อมอบความไว้วางใจให้ลูก ไม่ว่าจะเจ้าจะอยู่ที่ไหนก็จงจำไว้ให้ดี
[Gladio] – รับทราบครับ !!

----- ก๊อกๆๆๆ --------

[Clarus] – เข้ามา !
[Cor] – ขออภัยที่ต้องเข้ามาขัดจังหวะนะครับ
[Clarus] – แม่ทัพ Cor หรอ ?
[Prompto] – ขออภัยด้วยครับที่ต้องขัดจังหวะ เอ๊ะ เดี๋ยว Gladio นี่
[Gladio] – ห๊ะ แล้วนายมาทำอะไรที่นี่อ่ะ Prompto
[Cor] – ผมพาเขามาที่นี่เพื่อเอาชุด Crownsguard ให้เขา ผมคิดว่าเขาจำเป็นต้องพบกับท่าน Clarus ด้วย
[Gladio] – ทำไมละ ?
[Clarus] – เธอคือ Prompto Argentum ใช่มั๊ย ?
[Prompto] – อะ ครับผม
[Clarus] – ชั้นไม่เคยเจอเธอมาก่อนเลยนะ เธอผ่านการฝึกมาเรียบร้อยรึยัง ได้รับบาดเจ็บรึเปล่า ?
[Prompto] – อะ คะ ครับ ผมผ่านการฝึกมาพักนึงแล้ว แต่ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นผมก็จะปกป้องเจ้าชาย Noctis ด้วยชีวิตแน่นอนครับ !!
[Clarus] – เข้าใจแล้ว ยังไงก็ตามก็ขอให้สิ่งที่ฝึกมามันปกป้องตัวเธอเองได้ด้วยก็แล้วกันนะ แค่นั้นมันก็มากพอแล้วละ เธอได้ไปด้วยก็เพราะเธอเป็นเพื่อสนิทนะ ซึ่งก็เป็นเหตุผลที่มากพอแล้วละที่เธอสมควรที่จะได้ไป จงภูมิใจในสิทธิ์นี้ของเธอด้วยละ !
[Prompto] – ครับผม ! ขอบคุณมากครับ
[Clarus] – เอาละ ชั้นคงไม่มาเหนี่ยวรั้งเธออยู่นี่หรอกนะ ไปเตรียมตัวให้พร้อมก่อนการเดินทางเถอะ
[Prompto] – ครับ ขอตัวเลยนะครับผม
[Gladio] – เฮ้อ เยี่ยม .. โอเค ผมก็คงต้องขอตัวไปเตรียมตัวด้วยนะพ่อ
[Clarus] – อืมม แล้วค่อยเจอกัน

[Clarus] – นายเจอ Drautos รึยัง ?
[Cor] – ยังครับ ผมมีเรื่องจะถามเขาอยู่แต่หาตัวไม่เจอเลย
[Clarus] – ช่วงหลังๆนี่เขาดูไม่ค่อยดีเท่าไหร่นะ
[Cor] – ครับ คงเพราะเรื่องพิธีลงนาม นี่แหละ และถ้าผมเดาไม่ผิดนะก็คงมีเรื่องความวุ่นวายภายใน Kingsglaive เองด้วย
[Clarus] – เฮ้ออออ ..
[Cor] – ผมน่ะ เอ่อ ... สามารถจะทิ้งหน้าที่ในพื้นที่ที่รับผิดชอบไว้ได้หรือเปล่าครับ ?
[Clarus] – อืมม ก็อย่างที่ชั้นกล่าวไปก่อนหน้านี้แหละ ฝ่าบาทได้เตรียมแผนรองรับทุกอย่างไว้หมดแล้ว
[Cor] – ท่านไม่รู้สึกถึงพิรุธบ้างหรอครับ ? ที่หน่วย Crownsguard ถูกตัดออกจากหน้าที่การปกป้องวิหาร
[Clarus] – รู้สิ ..แต่ยังไม่อยากกังวลเกินไปก่อนจะถึงวันลงนาม
[Cor] – ผมว่าการป้องกันเรื่องเลวร้ายที่อาจจะเกิดขึ้นที่ดีที่สุดคือเราต้องอยู่ที่วิหารนี้นะครับ !!
[Clarus] – ใจเย็นหน่อย Cor .. ถ้าเกิดอะไรผิดพลาดประชาชนที่มาร่วมงานจะเกิดอันตรายไปด้วย จงเชื่อมันในตัวฝ่าบาท แต่อย่าลืมสอดส่องดูพื้นที่สาธราณะเอาไว้ให้ดีก็แล้วกัน แต่อย่าให้มันโจ่งแจ้งนักนะ
[Cor] – ท่านหมายความว่า ..มันจะมีเรื่องไม่ดีเกิดขึ้นจริงๆหรอครับ
[Clarus] – เป็นทางเลือกที่ Lusic มีไม่มากนักหรอกในตอนนี้ ฝ่าบาทเองก็กังวลเรื่องนี้มานานแล้ว
[Cor] – อย่าบอกนะครับว่า ..
[Clarus] – ชั้นเชื่อว่านายคงจะมีแผนสำรองกับ Kingsglaive ไว้แล้วแน่นอน จริงมั๊ย ? เมื่อถึงเวลาต้องสู้กับพวกจักรวรรดิจริงๆ ก็คงจะไม่มีโอกาสแบบนี้แล้ว
[Cor] – แล้วถ้าปล่อยไปจนเรื่องมันบานปลายเลวร้ายขึ้นมาละครับ !! ผมมั่นใจในฝีมือและประสบการณ์ของผมว่าจะช่วยได้แน่นอน ให้ผมอยู่เคียงข้างองค์ราชาเถอะนะครับ
[Clarus] – ชั้นพูดไปแล้วจะไม่พูดซ้ำสองนะ !! ถ้าหากเกิดความผิดพลาดขึ้นมา ประชาชนจะได้รับอันตราย  “ชั้นหวังว่า ถึงเวลาถ้ามันจะเกิดขึ้นจริงๆเราจะมีความสามารถมากพอที่จะอพยพประชาชนจำนวนมากได้ทันเวลา” นั่นเป็นสิ่งที่ฝ่าบาททรงรับสั่งเอาไว้ !!



                                   Scene 8: Prompto & Gladio 


การสนทนาดำเนินไประหว่างที่ Prompto และ Gladio เดินไปตามทางเดินในวิหารแห่ง Insomnia

[Gladio] – ตกลงนายจะรอ Noct อยู่ที่นี่เลยหรอ ?
[Prompto] – ไม่อ่ะ ชั้นคงต้องกลับบ้านก่อนแหละ
[Gladio] – ทำไม ? นายลืมอะไรอีกละ
[Prompto] – เปล่าๆ ชั้นว่าจะเอาไอ้เจ้านี่ไปโชว์ให้ครอบครัวดูหน่อยนะ ฮ่าๆ ชุดของ Crownsguard นี่ไง แล้วก็จะไปบอกด้วยว่าชั้นจะได้ร่วมทรปกับเจ้าชายด้วย
[Gladio] – เออ เข้าใจแล้ว
[Prompto] – อีกอย่าง ชั้นก็ไม่ได้กลับบ้านนานแล้ว ไม่ได้เจอญาติๆตั้งแต่เด็กเลยมั้ง ถ้าไม่เจอใครก็กลับแค่นั้นเอง
[Gladio] – โทษทีนะ อาจต้องทำให้เสียเวลาหน่อย พอดีวันนี้ต้องไปกินอาหารนอกบ้านกับครอบครัวหน่อยวะ ครอบครัวชั้นไม่ได้เลี้ยงฉลองพร้อมหน้ากันแบบนี้บ่อยๆหรอกนะ
[Prompto] – ว้าว เยี่ยมเลย ฝากทักทาย Iris ด้วยนะ
[Gladio] – เออ นึกขึ้นได้เธอเคยบอกว่าเคยเจอนายเมื่อวันก่อนด้วยนะ
[Prompto] – จริงดิ ที่ไหน ?
[Gladio] – เห็นนายกำลังถ่ายรูปอยู่ในสวน เธอว่างั้นนะ
[Prompto] – อ่า ชั้นทำแบบนั้นอยู่บ่อยๆอ่ะนะ แหม่เว้ย ทำไมเธอไม่เรียกชั้นเลยวะนะ
[Gladio] – ชั้นก็ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าช่างจ้ออย่างเธอจะไม่ยอมทักนาย
[Prompto] – ห๊ะ ฮ่าๆ นายคิดงั้นจริงหรอ ? หรือ ชั้นคงดูเหมือนคนไม่ดีละมั้ง
[Gladio] – ชั้นว่านายชอบไปขี้หลีจนเธอไม่ไว้ใจมั้ง ?
[Prompto] – พอเลย ขอเวลานอกเว้ย เปลี่ยนเรื่องพูดเหอะวะ
[Gladio] – ฮ่าๆๆๆ


                                     Scene 9: The Kingsglaive


Drautos เข้ามาในห้องประชุมของหน่วย Kingsglaive โดยมี Libertus ยืนรอรับคำสั่งอยู่

[Drautos] – Libertus นายรู้มั๊ยตอนนี้ Nyx อยู่ที่ไหน ?
[Libertus] – เมื่อกี้ยังเห็นอยู่แถวๆนี้เลยครับ มีธุระด่วนหรือเปล่าครับ
[Drautos] – องค์ชายกำลังจะเดินทางกลับ Apartment แล้ว ชั้นอยากได้ใครซักคนขับรถไปส่งท่านหน่อย
[Libertus] – ห๊า ? ให้ไปส่งเจ้าชายเนี้ยนะครับ ! ผมไม่ได้รับงานเสริมเป็นพี่เลี้ยงเด็กนะครับ
[Drautos] – ก็เราเอารถท่านมาใช้ในงานรับรองแขกไม่ใช่หรอ ? เราก็ต้องเป็นคนอำนวยความสะดวกให้ท่านสิ
[Libertus] – เอารถท่านมาใช้หรอครับ ?
[Drautos] – เราต้องการรถที่ภูมิฐานพอที่จะใช้รับส่งและคุ้มกันแขกคนสำคัญจากต่างแดน
[Libertus] – โห ประเทศที่เป็นเจ้าภาพจัดงานนี่ไม่มีรถคันอื่นอีกแล้วใช่มั๊ยครับเนี้ย
[Drautos] – ฮ่าๆ นายไม่เห็นด้วยกับพิธีลงนามใช่มั๊ยละ?
[Libertus] – น่าจะประมาณนั้นแหละครับ จริงๆผมก็ต้องการสันติภาพไม่ต่างจากทุกคนหรอกนะ ที่ไหนในโลกก็คงไม่มีใครอยากรับภาระกับผู้บาดเจ็บจากสงครามแน่นอน
[Drautos] – แต่นายก็ยังไม่เต็มใจยอมรับสันติภาพครั้งนี้ไม่ใช่หรอ ?
[Libertus] – แล้วแน่ใจแล้วหรอว่าได้มีการะดมความคิดเห็นของคนในประเทศแล้วว่าคิดเห็นหรือมีความต้องการไปในทิศทางเดียวกันหรือเปล่า ?
 [Drautos] – เฮ้อ ... แล้ว ขานายเป็นไงบ้างละ ?
[Libertus] – ก็ยังเดินเองโดยไม่ใช้ไม่เท้าไม่ได้อ่ะครับ
[Drautos] – หรอ โทษทีนะที่ต้องสั่งให้นายออกไปทำงานอีก นี่เป็นรายละเอียดของภารกิจที่ได้รับมอบหมายนะ อ่านซะให้เข้าใจด้วย หลังจากเสร็จภารกิจแล้วก็กลับบ้านพักผ่อนได้เลยนะ
[Libertus] – แล้วเรื่ององค์ชายละครับเอาไง ?
[Drautos] – เดี๋ยวชั้นจะให้ Nyx ไปดูแลเอง
[Libertus] – โทษทีนะครับที่ช่วยอะไรไม่ได้ ผมต้องขอตัวกลับบ้านก่อนนะครับ
[Drautos] – อืมม เดินทางปลอดภัยนะ




                                      Scene 10: A Call from Ignis


ในขณะที่ Noct กำลังนั่งรอด้วยความเบื่อหน่ายในห้องของตัวเองในวิหาร เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น ซึ่งทำให้ Noct รีบรับทันทีเพราะอาจจะมีอะไรที่ทำให้คลายความเบื่อหน่ายไปได้บ้าง

[Noctis] – ฮัลโหล
[Ignis] – ผมมาแล้ว จัดของอะไรต่ออะไรเสร็จยัง
[Noctis] – เรียบร้อยนานและ
 [Ignis] – โทษทีที่ช้านะ นายคงต้องกลับ Apartment คนเดียวแล้วละ
[Noctis] – อืมม ไม่เป็นไร ว่าแต่นายมีปัญหาอะไรรึเปล่า ?
[Ignis] – ผมต้องเวลาจัดของนานหน่อย เลือกลำบากเพราะแต่ละอย่างก็จำเป็นในการใช้งานในอนาคตได้ทั้งนั้น คงต้องขอเวลาอีกหน่อย แต่ ผ.บ Drautos โทรมาบอกชั้นว่าเขาเตรียมรถจอดที่ด้านนอกให้นายแล้ว โทษทีนะที่ชั้นยังกลับไปด้วยไม่ได้
[Noctis] – อืมม
[Ignis] – ส่วน Prompto กับ Gladio กำลังจะตามไปในตอนหลังนะ แล้วก็อย่าทำตัวขี้เกียจละ ไม่มีพวกเราคอยดูแลก็จัดการทำอะไรให้เป็นระเบียบเรีนบร้อยด้วยนะ
[Noctis] – เอออ ....






                                     Scene 11: Iris and Libertus


ในขณะที่ Libertus ทำภารกิจที่ได้รับมอบหมายที่วิหารเสร็จสิ้นและกำลังเตรียมตัวกลับบ้าน ในขณะที่เดินบ่นเรื่องการเมืองการเมืองไปตามประสาปากบ่นปนตาไม่ได้มองเลยเดินสะดุดไม้เท้าหลุดจากมือจนล้มลง โชคดีที่ Iris ที่กำลังเดินอยู่แถวนี้เห็นเข้าเลยมาช่วยเอาไว้

 [Libertus] – อ๊ากก !! โธ่เว้ยยย !!
 [Iris] – คุณเป็นไรรึเปล่าคะ ? นี่คะไม้เท้า
[Libertus] – เฮ้ออ ผมผิดเองแหละ ยังใช้ไม่เท้าบ้านี่ไม้ชินซักที
[Iris] – คุณบาดเจ็บจากการสู้รบที่เกิดขึ้นเมื่อเร็วๆนี้หรอคะ ?
[Libertus] – มันเป็นหน้าที่น่ะครับ ... อึ๊บบบ อ่า
[Iris] – คุณเป็นสมาชิกในหน่วย Kingsglaive ด้วยหรอคะ ?
[Libertus] – อืมม ใช่ครับ
[Iris] – ใช่ชื่อ Nyx ป่ะคะ ?
[Libertus] – อ๋อ ไม่ใช่ครับผม Libertus
[Iris] – หรอคะ โทษทีนะคะที่ทักผิดคน
[Libertus] – แล้วมีธุระอะไรกับ Nyx รึเปล่าอ่ะครับ ?
[Iris] – ไม่ใช่กับ Nyx โดยตรงหรอกคะ แต่เป็นองค์ชายมากกว่า
[Libertus] – หืมม แล้วเธอเป็นใครละเนี้ย ?
[Iris] – ชั้นชื่อ Iris Amicitia คะ
[Libertus] – Amicitia หรอ? หมายถึงตระกูล Amicitia นะหรอ !
[Iris] – ใช่คะ พ่อกับพี่ชายเป็นเจ้าหน้าที่ Crownground คะ ก็เลยสนิทกับองค์ชายด้วย
[Libertus] – อ๋อ แล้วมีธุระอะไรกับองค์ชายหรอครับ ? อย่าบอกนะว่าเธอมารอเขาอยู่ที่นี่น่ะ
[Iris] – ใช่คะ พอดีชั้นได้ยินว่าจะมีคนขับรถมารับเขาที่นี่อ่ะ
[Libertus] – อ๋อ ใช่ๆเราเตรียมรถจอดเอาไว้ด้านซ้ายของที่นี่แล้วละ น่าจะออกเดินทางไปเป็นชั่วโมงแล้วนะ
[Iris] – อ่อ หรอคะ ขอบคุณนะคะที่บอก
[Libertus] – แล้วมีธุระอะไรสำคัญมากหรือเปล่าผมจะได้ฝากบอกไปที่คนขับให้
[Iris] – อ๋อ มะ ไม่ต้อง ...
[Libertus] – โหล ...เฮ้ย Nyx แกอยู่ไหนวะเนี้ย หรอ ..อ้าว เจ้าชายละ?
.. ว่าแล้วเชียว เอาละไม่มีไรแล้ว แค่นี้นะ ... เฮ้อ โชคไม่ดีหน่อยนะ เพราะเจ้าชายกลับถึงบ้านแล้วอ่ะครับ
[Iris] – ขอโทษที่ทำให้วุ่นวายนะคะ ขอบคุณมากๆเลยคะ
[Libertus] – ไม่เป็นไรครับ ว่าแต่เธอเป็นเพื่อนกับองค์ชายหรอ ? ถ้าไม่เจอเขาวันนี้ทำไมไม่มาหาเขาพรุ่งนี้อีกทีละ มันก็ง่ายๆไม่ใช่หรอ
[Iris] – อ่า ก็จริงอย่างคุณว่านั่นแหละ .. แต่วันนี้มัน เอ่อ เป็นวันพิเศษเท่านั้นเอง
[Libertus] – อ่า ไม่คิดเลยว่าองค์ชายจะเป็นคนแบบนี้ ทรงขี้ลืมอย่างร้ายกาจมากเลย
[Iris] – ฮ่าๆ พูดอีกก็ถูกอีกคะ ประมาณนั้น
[Libertus] – แต่ถึงเค้าจะเป็นเจ้าชายก็น่าจะรับโทสับเพื่อนได้ไม่ใช่หรอ ? ทำไมไม่ลองโทรหาเขาละ
[Iris] – ไม่ๆๆ ชั้นไม่เคยทำแบบนั้นมาก่อนเลยนะ
[Libertus] – แต่เธอก็มีเบอร์เขาใช่ป่ะละ ?
[Iris] – ก้อ .. มีคะ
[Libertus] – งั้นก็โทรเลย โทรเลย !
[Iris] – แต่ ถ้าชั้นโทรหาเขาแบบนั้นพี่ชายชั้นเอาตายแน่เลย
[Libertus] – ถ้าพี่เธอจะทำแบบนั้นชั้นจะจัดการให้เองน่า วันนี้เป็นวันพิเศษไม่ใช่หรอไงละ เอาเลย โทรเลย ! ไหนๆก็มาถึงขนาดนี้แล้วจะไม่ลองพยายามดูหน่อยหรอ ?

----- Iris ต่อสายหา Noct -------

[Noctis] – ฮัลโหล !!
[Iris] – เอ่อ Noct หรอ
[Noctis] – Iris หรอ ว่าไงมีอะไรเกิดขึ้นหรอ ?
[Iris] – อ๋อ อ่อ เออ ปะ เปล่าหรอก ขอให้เดินทางปลอดภัยนะ ชั้นหมายถึง อ่อ ชั้นอยากบอกว่า ยินดีด้วยนะ
[Noctis] – อะ อ่อ อืมม โทรมาแค่นี้อ่ะนะ ?
[Iris] – อ่อ อืมม ฮ่าๆๆ ใช่ อยากบอกแค่นี้แหละ
[Noctis] – อืมม ขอบคุณมากนะ กำลังจะเตรียมตัวเดินทางแล้วละ
[Iris] – ลาก่อนนะ

[Libertus] – ได้พูดสิ่งที่อยากพูดแล้วสินะ
[Iris] – อืมมม ฮืออๆ โทษนะชั้นก็แค่ ...
[Libertus] – ผมก็ต้องขอโทษด้วยนะ ชอบยุ่งเรื่องชาวบ้านทุกทีเลย ฮ่าๆ พอดีมีน้องสาวที่ห่วงๆอยู่คนนึงเหมือนกัน ผมมันพี่ชายจอมจุ้นซะด้วยสิ ฮ่าๆ ส่วนเรื่องของเธอ ชั้นไม่รู้หรอกนะว่าเรื่องราวมันเป็นไง แต่จะเอาใจช่วยก็แล้วกันนะ ! แล้วเจอกันนะสาวน้อย
[Iris] – อืมม ค่ะ ขอบคุณนะคะ Libertus ขอให้ขาหายไวๆนะ




                                          Scene 12: Help Arrives


เมื่อถึงเวลาเกือบย่ำค่ำ Ignis ก็เดินทางมาถึงที่บ้านพักของ Noct ก่อนจะแวะพูดคุยกับทหารที่รักษาการณ์อยู่ที่หน้าตึกด้วยความเป็นกันเอง

[Ignis] – ขอบคุณมาก เหนื่อยหน่อยนะช่วงนี้
[Guard] – เช่นกันครับ
[Prompto] – เฮ้ !! Ignis เพิ่งมาถึงหรอ งานเยอะน่ะสิ
[Ignis] – ใช่เลยละ แล้วตกลงได้เจอญาติของนายมั๊ยละ?
[Prompto] – ไม่ครับ ไม่เจอใครซักคน
[Ignis] – แย่หน่อยนะ
[Prompto] – ช่างเถอะ ก็มันช่วยไม่ได้นี่นะ แต่ว่า Gladio นี่เขาเตรียมตัวออกทริปพร้อมแล้วนะ ฮ่าๆ
[Ignis] – นายหมายถึงพวกอุปกรณ์ตั้งแคมป์น่ะหรอ ?
[Prompto] – เตรียมอุปกรณ์ครบทุกอย่างเลยมั้ง ฮ่าๆ เวลาผมถามว่าเตรียมไปทำไมนักหนา ... “ทำกับข้าวไง” เขาบอกงี้
[Ignis] – อืมม อย่างน้อยก็มีคนพึ่งพาได้คนนึงละนะ
[Prompto] – นายเป็นคนชอบทำอาหารหรอ Ignis ? ทำบ่อยมั๊ย
[Ignis] – คงจะเรียกว่าบ่อยไม่ได้หรอกนะ ทำเองทุกครั้งน่าจะเหมาะกว่า
[Prompto] – ผมเคยกินมือเย็นฝีมือคุณกับ Noct ครั้งเดียวเอง โคตรอร่อยเลยอ่ะ
[Ignis] – จริงหรอ ?
[Prompto] – แต่มันทำให้ชั้นสงสัยว่าถ้าไปทำตอนตั้งแค๊มป์มันจะอร่อยเหมือนกันมั๊ยอ่ะ ? และมันต้องใช้เครื่องครัวครบๆหรือเปล่าอ่ะตอนเราอยู่ข้างนอกน่ะ ต้องลองไปถาม Noct ดู เขาคงจะตอบทันทีเลยว่า อร่อยแบบไม่ต้องสงสัยแน่นอน ฮ่าๆ แหม่ ชั้นนี่มันช่างมโนเก่งจริงๆเลย
[Ignis] – สงสัยชั้นคงต้องพยายามไม่ให้ผิดหวังซะแล้ว งั้นคงต้องถามนายหน่อยว่าชอบกินอาหารแบบไหน ?
[Prompto] – ผมชอบพวกของกินเล่นกรุบๆกรอบๆ ไม่ค่อยชอบกินอาหารเป็นมื้อใหญ่เท่าไหร่ ส่วนใหญ่ผมกินได้หมดแหละ แต่ชอบอาหารที่มันรสเผ็ดเป็นพิเศษ
[Ignis] – อืมม เข้าใจแล้ว ชั้นเองก็ต้องเรียนรู้เกี่ยวกับพวกวัตถุดิบอาหารจากต่างถิ่นให้มากขึ้นเพื่อให้ได้อาหารที่มีรสชาติแปลกใหม่ด้วย
[Prompto] – เยี่ยมไปเล๊ย !!

-------- ติ้งต่อง -----------

[Noctis] – เข้ามาเลยครับ !


                                        Scene 13: Cleaning 


ค่อนข้างจะล่าช้ากว่าแผนที่วางไว้ไปหน่อย เมื่อ Ignis ,Prompto และ Gladio ต้องยุ่งกับการช่วย Noct เก็บกวาดห้องเพื่อเก็บของเตรียมตัวเดินทาง

[Prompto] – อึ๊บ !! เอาตรงนั้นมาใส่ตรงนี้ อะ โว้ๆๆ นั่นมัน เห็นแล้วคิดถึงอดีตเลย หนังสือการตูนพวกเนี้ย
[Noctis] – ยังมีอีกนะ ตรงนั้นไงด้านหลังนายอ่ะ นี่ไงๆ
[Prompto] – โห การตูนเรื่องนี้อยากอ่านอีกจังเลย
[Noctis] – เอาดิ ทำไมไม่อ่านละ
[Prompto] – อืมม เดี๋ยวค่อยอ่าน
[Gladio] – เดี๋ยวๆ อะไรคือเดี๋ยวอ่านของนาย ?
[Ignis] – นาย 2 คนนี่งานไม่คืบหน้าเลยรู้มั๊ย ชั้นเข้าใจว่าการมานั่งรำลึกอดีตมันทำให้รู้สึกดีนะ แต่
 [Prompto] – แต่นายจะเป็นคนขนทั้งหมดนี่ไปที่วิหารใช่ป่ะ ถ้านายรีบขนๆไปให้หมดชั้นจะได้ไม่ต้องเห็นมันอีกไง
[Gladio] – งั้นก็เก็บไอ้ที่นายชอบไว้แล้วกัน
[Prompto] – ได้หรอ ?
[Noctis] – ไม่มีทาง !!!
[Gladio] – โธ่เอ้ย ยังไงนายก็คงไม่เปิดไอ้กล่องพวกนี้อีกแล้วไม่ใช่เรอะ?
[Noctis] – เปิดสิ เดี๋ยวจะแวะไปเช็คดู่บ่อยๆด้วยว่ามีใครขโมยอะไรไปหรือเปล่า
[Ignis] – ใครจะไปรู้ว่ากี่ปีกว่าจะได้ไปหาของพวกนี้อีก
[Prompto] – นายก็พูดซะเซ็งเลย
[Gladio] – เออ ทำใจซะแล้วก็แพ็คของต่อให้เสร็จได้แล้ว

[Gladio] – เอาละ อึ๊บ !! นี่คงกล่องสุดท้ายแล้วนะ
[Prompto] – เฮ้อออออ เสร็จซะที !!! ห้องนี้ใหญ่กว่าที่คิดเยอะเลยแฮะ
[Ignis] – ชั้นว่านี่เป็นครั้งสุดท้ายที่เราจะได้เห็นห้องนี้แล้วละ ถึงแม้จะได้กลับมาซักวัน Noct ก็คงได้เริ่มชีวิตใหม่ไปแล้วละ
[Prompto] – แปลกที่ชั้นนึกภาพ Noct ในแบบนั้นไม่ออกเลยแฮะ
[Gladio] – ฝ่าบาทก็แค่ไปแต่งงานนะ
[Noctis] – ชั้นมากกว่าที่นึกภาพตัวเองแบบนั้นไม่ออก แต่มันก็คงจะต้องมีทางออกดีๆไม่ทางใดก็ทางนึงแหละน่า
[Prompto] – นายคิดมากหรือกังวลอะไรเลยหรอ Noct ?
[Noctis] – อืมมมมมม .. ก็แค่ตื่นขึ้นมาในเช้าของอีกวันแค่นั้นเอง
[Ignis] – ใช่เลยละ
[Gladio] – เนี้ยนะ ไม่คิดมาก ฮ่าๆๆ
[Noctis] – ชั้นก็มีคิดมากบ้างเหมือนกันแหละน่า โอเค๊ ! แต่นายรู้มั๊ย เรื่องพวกนี้ชั้นคงไปคาดหวังอะไรกับมันล่วงหน้าไม่ได้หรอกนะ
[Gladio] – แหม่ ชั้นรู้หรอกน่าว่านายพยายามจะบอกอะไร ?
 [Prompto] – การเกิดเป็นเจ้าชายมันไม่ใช่เรื่องง่ายๆเลยใช่มั๊ยละ
[Ignis] – เหนือสิ่งอื่นใด เรามาช่วยกันภาวนาให้พวกเราเดินทางปลอดภัยกันก่อนเลยดีมั๊ย
[Prompto] – พรุ่งนี้แล้วสินะ พรุ่งนี้ๆๆๆ ชั้นนี่โคตรกังวลเลยจริ๊งๆ ว่าแต่นายรู้ทางดูแผนที่เส้นทางข้างนอกดีแล้วแน่นะ
[Ignis] – ดูไว้แบบคร่าวๆน่ะ ไม่มีเวลาพอจะหาข้อมูลเลย
[Gladio] – เหมือนว่าทุกคนจะหมกหมุ่นกับการเตรียมการเดินทางกันจริงๆเลยนะ ฮ่าๆ
[Prompto] – เดี๋ยวชั้นจะดูแผนที่เอง เผื่อไปถามใครแล้วไม่มีใครรู้
[Noctis] – โลกภายนอกมันกว้างน้า
[Prompto] – อ่อ แล้วถ้าพวกมอนสเตอร์มันโผล่ออกมาอีกล่ะ ??!!
[Gladio] – ชั้นฟังพ่อเล่าให้ฟังมาบ้างแหละน่า ที่แน่ๆมันคงไม่เหมือนที่ Crown city นี่เท่าไหร่หรอกนะ
[Ignis] – ชั้นได้ยินมาว่าวัฒนธรรมข้างนอกนั่นเหมือนกับ insomnia เมื่อ 30 ปีก่อนเลย คงเหมือนกับฉากถ่ายรูปแบบย้อนยุคละมั้ง
[Prompto] – ถ่ายรูปหรอ ? ฟังแล้วทำให้ชั้นรู้สึกอยากไปค้นหาพอๆกับหวาดกลัวเลยนะเนี้ย เฮ้อออ ไม่รู้คืนนี้จะนอนหลับมั๊ยน้า !
[Noctis] – งั้นทำไมเราไม่เปลี่ยนบรรยากาศกันบ้างละ ?
[Prompto] – เล่นเกมหรอ ? ฮ่าๆ ความคิดดี มาเล๊ย !
[Ignis] – นี่จะเปิดเล่นกันตอนนี้เลยจริงๆหรอเนี้ย ? ดูเวล่ำเวลากันบ้างสิ!
[Gladio] – ไม่มีอะไรเสียหายหรอกน่า ตอนนี้ Noct คงกังวลใจมากกว่าพวกเราเยอะ เล่นเป็นเพื่อนเขาหน่อยก็ดี
[Noctis] – คิดซะว่า นี่เป็นการนั่งเล่นเกมในห้องนี้เป็นครั้งสุดท้ายแล้วก็ได้
[Ignis] – เฮ้ออออ... มาๆๆ



                                         Scene 14: Comrades


ในห้องของราชา Regis ในค่ำคืนก่อนวันสำคัญ Clarus ที่เป็นเสมือนสหายและองค์รักษ์คนสนิท ได้เข้ามาพูดคุยและให้กำลังราชาของเขาที่กำลังอ่อนล้า

[Regis] – การประชุมที่ไม่มีวันจบสิ้นจริงๆ
[Clarus] – ไม่แปลกใจเลยที่หลังเริ่มรู้สึกยอกขึ้นมาแล้ว
[Regis] – ฮึๆๆ เฮ้อออ ...
[Clarus] – ฝ่าบาทโอเคนะ ดูเหมือนจะเหนื่อยๆ แล้วไปพบ Noctis แล้วรึยัง
[Regis] – โชคไม่ดี .. ยังไม่มีเวลาเลย
[Clarus] – ก็เข้าใจอยู่นะ แต่ยังไงถ้าผ่านพรุ่งนี้ไปได้ก็คงได้พักแล้วละ ที่เหลือพวกเรื่องสัมเภเหระไม่สำคัญต่างๆเดี๋ยวชั้นจัดการให้เอง
[Regis] – เฮ้อ ทำแบบนั้นไม่ได้หรอก ถ้าชั้นลาพัก ภาระหนักก็ไปลงที่คณะรัฐมนตรีอีก ไม่นานประเทศนี้ก็คงไม่ได้เป็นของเราอีกแล้วละ
[Clarus] – ถ้าไม่ไหวก็เลิกทำมันให้หมดเลยสิ
[Regis] – ฮ่าๆๆ  แต่ไม่ต้องห่วงหรอก ชั้นยังแข็งแรงอยู่
[Clarus] – ชั้นรู้ ว่าแต่ ได้ติดต่อกับ Cid บ้างรึเปล่าละ ? ถ้าไม่มีเวลาเดี๋ยวจะได้จัดการให้มั๊ย ?
 [Regis] – ไม่เป็นไร อาจช้าหน่อย แต่เดี๋ยววันนี้ชั้นโทรหาเขาเอง
[Clarus] – ให้ Cid เป็นคนจัดการจะดีหรอ
[Regis] – อืมม ... แต่เขาเคยบอกชั้นว่า “ถ้านายคิดจะทิ้งลูกชายหรือเพื่อนที่ห่วงใยไปเมื่อไหร่ ชั้นจะออกตามหานายจนเจอแล้วจับมาตบด้วยความเคารพแล้วค่อยถามนายตรงๆว่า ทำไมต้องทำแบบนั้น”
[Clarus] – แสดงกริยากับกษัตริย์แบบนี้ได้ไงคงต้องจับมาปรัยทัศนะคติกันแล้วละมั้ง หึหึ
[Regis] – ชั้นอาจทำให้คนคิดถึงในฐานะกษัตริย์ แต่ สำหรับ Cid เขามองแบบเข้าถึงในแบบเป็นส่วนตัวมากกว่า
[Clarus] – แล้วนายตอบว่าไง ?
[Regis] – “เป็นความผิดของชั้นเอง แต่ชั้นยังไม่ต้องการพบนายในตอนนี้”
[Clarus] – เที่ยงธรรมสมกับเป็นกษัตริย์จริงๆ
[Regis] – กษัตริย์ที่เที่ยงธรรมเนี้ยนะ ? กษัตริย์ที่ชอบปิดบังความจริง ..... แม้กระทั่งลูกของตัวเอง ...มากกว่า
[Clarus] – เฮ้ออ.....มันไม่ใช่เรื่องง่ายๆเลยที่บอกกับองค์ชาย ..เมื่อถึงเวลาจริงๆ ชั้นก็ไม่รู้ว่าจะบอกออกไปได้รึเปล่าก้ไม่รู้ คือมันไม่รู้จะหาคำอะไรอธิบายออกไปให้มันเหมาะสมเพื่อให้เขามากกว่า ..
[Regis] – Clarus ...
[Clarus] – แต่ก็ดีแล้วละ Regis พวกเขาไม่ใช่เด็กๆกันแล้วละ วันนึงก็จะเข้าใจกันเอง
[Regis] – ขอบใจมากนะ … เพื่อประโยชน์ในอนาคต ชั้นต้องทำในหลายอย่างที่ยากจะเข้าใจ แต่มันเป็นทางเลือกเดียวที่ชั้นจะทำได้ แม้จะต้องทิ้งเกียรติยศหรือแม้จะต้องสังเวยสิ่งต่างๆมากมายด้วยมือของชั้นเอง หรือจะถูกมองว่าเป็นกษัตริย์ผู้โง่เขลายังไงก็ตาม แถมยังต้องทำให้ตระกูล Caelums และ Amictia ต้องแปดเปื้อนไปด้วย เพราะงั้นชั้นถึงต้องขออภัยกับนายไง Clarus
[Clarus] – หึหึ ..นายลืมแล้วหรอ สำหรับชั้นนายนะเป็นมากยิ่งกว่ากษัตริย์ เพราะนายเป็นเพื่อนแท้ของชั้น ไม่ต้องสนใจว่าอะไรจะเกิดขึ้นเพราะยังไงความจริงก็จะไม่มีวันเปลี่ยนแปลง




                              Scene 15: The Morning of Departure

เสียงริงโทนปลุกแจ้งเตือนทำให้ทุกคนต้องตื่นพร้อมๆกัน ในรุ่งเช้าก่อนการเดินทาง

[Noctis] – อืมมม
[Prompto] – ห้าววว ยังง่วงอยู่เลย
[Gladio] – อ่า อืมมม
[Ignis] – เอาละ ทุกคนตื่นได้เลย เราต้องรีบไปเข้าเฝ้าฝ่าบาทที่วิหารกับแล้ว
[Noctis] – อืมม รู้แล้วน่า ......




        ท้องพระโรงของพระราชวังแห่ง Lucis , เมืองหลวง Insomnia








[Regis] – นี่เป็นคำสั่งในพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน ให้ส่งพวกเจ้า 3 คนกับลูกชายของข้า เจ้าชาย Noctis 
[Noctis] – ขอบพระทัยพะยะคะ .....ฝ่าบาท 



[Regis] – ออกเดินทางกันได้แล้ว ขอให้พระเจ้าคุ้มครองนะ 
[Noctis] – ได้ ..!
[Gladiolus] – อ่อ ..น็อก ..

[Prompto] – เจ้าหญิงก็ยังเป็นเจ้าหญิงวันยังค่ำนั่นแหละ 
[Ignis] – พิธีกรรมของทางราชวังเยอะเกิน
[Gladiolus] –ไม่ใช่นายซักหน่อยที่ต้องเป็นคนถ่อไปไกลขนาดนั้นน่ะ แถมยังเป็นการเดินทางแบบไม่เป็นทางการซะด้วย 



[Drautos] – ฝ่าพระบาทครับ !
[Noctis] – อะไรอีกละ ?



[Regis] – พ่อเกรงว่ายังมีบางอย่างที่ไม่ได้บอกกับแก เจ้าเป็นตัวเลือกหนึ่งเดียวในภารกิจที่ยิ่งใหญ่ที่ไม่มีใครทำได้นอกจากเจ้าเท่านั้นนะจำเอาไว้  
[Noctis] – ว่าแต่เขาอิเหนาเป็นเองหรือเปล่าพ่อ 
[Regis] –จริงๆก็ไม่อยากรบกวนเลย แต่ ยังไงก็ขอให้พวกเจ้าช่วยเคียงข้างนำทางและดูแล ไอ้เจ้าลูกจอมอวดดีของชั้นด้วยแล้วกันนะ



[Ignis] – ขอรับฝ่าพระบาท 
[Gladiolus] –เจ้าชายต้องไปจนถึง Altissia ต่อให้ต้องตายก็ยอมครับ
[Noctis] –  ไม่อยากจะขัดจังหวะหรอกนะ แต่เขาสตาร์ทเครื่องรถรอไว้นานและ Drautos เขาอยู่ในมือท่านแล้วนะ !



[Regis] –และมีอีกเรื่องนึง อย่าลืมรักษามารยาทกับเจ้าสาวของเจ้าด้วยละ
[Noctis] – แล้วแต่ฝ่าบาทจะบัญชาเลยครับ แล้วท่านก็อย่าลืมดูแขกผู้ทรงเกรียติจาก Nifheim ให้ดีด้วยละ 


[Regis] – เจ้าไม่ต้องมากังวลเรื่องนั้นหรอก
[Noctis] –  พ่อเองก็เหมือนกันแหละ ไม่ต้องห่วงผมมากหรอก  
 [Regis] – จริงจังหน่อย ! ครั้งนึงเจ้าก็เกือบเอาชีวิตไม่รอดมาแล้ว
[Noctis] – คิดว่าผมจะเอาตัวไม่รอดรึไง ?
[Regis] – แค่อยากให้แน่ใจว่าเจ้าพร้อมรึเปล่าที่จะทิ้งบ้านเมืองไวข้างหลัง
[Noctis] – ไม่รู้ว่าพ่อจะคิดยังไง แต่ผมพร้อมอยู่แล้ว พร้อมมาตลอดนั่นแหละ



[Regis] – ดูแลตัวเองกับการเดินทางไกลด้วยนะ ไม่ว่าเจ้าจะไปที่ไหนก็ตาม สายเลือดแห่ง Lucis จะอยู่กับเจ้าไปทุกที่ จำไว้ จงภูมิใจในตัวเองนะลูกพ่อ 



 หลังจากพวกของ Noctis ออกเดินทางไปแล้ว  ราชา Regis จึงมีรับสั่งให้ Titus ผ.บ หน่วย Kingsglaive ส่งตัว Crowe ไปทำภารกิจลับเพื่อพาตัว เจ้าหญิง Lunafreya จากอาณาจักร Tenebrae เพื่อไปพบกับ Noctis ที่จุดนัดพบ แต่ทุกอย่างกลับไม่เป็นไปตามแผน เมื่อ Ravus พี่ชายเจ้าหญิง Luna ที่กลายเป็นคนของ Niflheim ออกมาขัดขวางเพื่อให้ Luna อยู่จนถึงวันทำพิธี ในขณะที่ เจ้าหน้าที่ Crowe ก็ถูกฆ่าตายอย่างเป็นปริศนาที่จุดนัดพบในภารกิจรับตัวเจ้าหญิง Luna

 การตายของ Crowe ทำให้หน่วย Kingsglaive ระส่ำระสาย เมื่อ Libertus ที่รักเธอเหมือนน้องสาวโกรธแค้นราชา Regis ที่ส่งเธอไปตาย จึงออกจากหน่วย Kingsglaive ไปเข้ากับกลุ่มกบฏประชาชน  และการทรยศของทั้ง Luche Lazarus รวมถึง Titus Drautos ผู้บัญชาการณ์ของหน่วยซึ่งแท้จริงก็คือ นายพล Glauca ผู้บัญชาการณ์แห่งกองทัพ Niflheim ที่แฝงตัวเข้ามา โชคดีที่ Nyx Ulric เจ้าหน้าที่ฝีมือดีของ Kingsglaive ที่เปี่ยมไปด้วยความจงรักษ์ภัคดีรู้ทัน ที่รู้ถึงแผนร้ายของ Niflheim ก่อนพิธีเซ็นต์สัญญา จากเบาะแสที่ Crowe ที่ไว้เป็นพิกัดในนาฬิกาข้อมือก่อนตาย เมื่อตรวจเช็คตามพิกัดก็พบกองเรือรบขนาดใหญ่ของ Niflheim ที่ดักซุ่มรอเวลาโจมตีอยู่ Nyx จึงรีบเข้าไปเตือน ราชา Regis ก่อนจะได้รับคำสั่งให้ไปหาทางช่วยเหลือเจ้าหญิง Lunafreya ที่เป็นเสมือนเหยื่อล่อ ราชา Regis หนีออกไปในที่ปลอดภัยพร้อมๆกัน



ในขณะที่การเดินทางของ เจ้าชาย Noctis , Gladiolus, Ignis และ Prompto ที่กำลังมุ่งสู่เมือง Altissia เมืองหลวงแห่งอาณาจักร Accordo เพื่อเข้าพบเจ้าหญิง Lunafreya นั้น จะคาบเกี่ยวกันระหว่าง เรื่องราวการเดินทางในอนิเมชั่น Brotherhood ที่นำเสนอถึงที่มาที่ไปในความสัมพันธ์ของเพื่อนๆที่อยู่รอบตัวเจ้าชาย เส้นทางข้างหน้าก็จะเข้าสู่เรื่องราวของเกมหลัก Final Fantasy XV อย่างเต็มตัว ......




                    บทสรุป FINAL FANTASY XV




BY Decibel per – oxide




                            Chapter 1: Departure 




[Noctis]- เฮ้ออ …
[Gladiolus] – สงสัยมุขโบกรถคงใช้ที่นี่ไม่ได้ผลซะแล้วละนะ นึกว่าคนนอกเมืองจะเฟรนรี่ซะอีกนะเนี้ย 



[Ignis] – บางที เราจะไปได้ไกลแค่ไหนก็ขึ้นอยู่กับความเมตตาของคนแปลกหน้าอ่ะนะ 
[Gladiolus] – สรุปว่าเข็นกันเหอะพี่น้อง !
[Prompto] – ดันตัวเองให้ลุกยังไม่ไหวเล๊ย 



[Gladiolus] – ลุก !  เร็ว รถมันเดินไปเองไม่ได้นะเว้ย !
[Prompto] – พระเจ้า นึกว่าเรามีรถเอาไว้ใช้เดินทางซะอีกนะเนี้ย 
 [Noctis]-  มันคงจะดีกว่านี้อ่ะนะ ถ้า .....ไม่ต้องมาเลยแต่แรก 



 [Gladiolus] –  เอ้า หนึ่ง สอง สาม ดัน !!!
  [Noctis]-   ไม่อยากจะเชื่อจริงๆเล๊ยว่าต้องมาทำแบบนี้
  [Gladiolus] –  ไม่ใช่การเปิดตัวตำนานอย่างที่ตั้งใจไว้หรอเจ้าชาย Noctis?
  [Ignis] – ก็มีแต่พวกเรานี่แหละที่ต้องดูแลกันไปตลอดทาง            
[Prompto] – ก็ทำอยู่เนี้ยไม่ใช่เรอะ ! 
[Gladiolus] – หวังว่านี่คงไม่ใช่ลางไม่ดีของเราอ่ะนะ 
[Prompto] – ช่วยไรอย่างได้ป่ะวะ Gladio 
[Gladiolus] – อะไร ! 
[Prompto] – นายเข็นเองคนเดียวได้ป่ะวะ
[Gladiolus] – คนเดียวเลยอ่ะนะ ? เลิกคิดได้เลยโว้ย Prompto
  [Ignis] – เก็บแรงคุยไว้เข็นดีกว่ามั๊ย ? 
  [Noctis]- นายมาเปลี่ยนกับชั้นได้แล้ว Ignis
[Gladiolus] – เปลี่ยนคนดันข้างหลังก่อนดีกว่ามั๊ย 
[Prompto] – ชั้นก็เหนื่อยแล้วนะเว้ย แล้วจะรู้ได้ไงว่ามันใกล้ถึงอู่แล้วเนี้ย
  [Ignis] – ไม่ต้องห่วงชั้นดูแผนที่แล้ว
[Noctis]- แผนที่ว่า อู่ Hammerhead ใกล้สุดอ่ะนะ
[Prompto] – แน่ใจนะว่าเป้าหมายต่อไปเรามันถูกทางน่ะ
[Gladiolus] – มีทางเดียว ตรงยาวไป อย่างที่เห็นตามแผนที่โลกนี่แหละ !
[Noctis]- โลกที่กว้างใหญ่ ...ที่คุ้นเคย
 [Ignis] – และเต็มไปด้วยความสวยงามที่น่าอัศจรรย์ 


When the night has come
เมื่อถึงคราที่ราตรีมาเยือน
And the land is dark
ท่ามกลางดินแดนที่มืดมิด
And that moon is the only light we’ll see
มีเพียงแสงจันทร์เท่านั้นที่ส่องสว่างให้มองเห็น

No, I won’t be afraid.
ไม่… ฉันไม่กลัวหรอก
No, I won’t
ไม่ ฉันไม่กลัว
Just as long as you stand, stand by me
ตราบเท่าที่มีคุณยืนเคียงข้างกัน เคียงข้างฉัน

And darlin’, darlin’, stand by me. Oh stand by me
โอ้ ที่รัก เคียงข้างกัน ยืนเคียงข้างฉัน
Oh stand, stand by me, common stand by me, yeah.
เคียงข้างกัน… เคียงข้างฉัน มาสิ มายืนเคียงข้างฉัน 

When the sky that we look upon should tumble and fall
เมื่อเราเห็นท้องฟ้าพังร่วงหล่นลงมาตรงหน้า
Or the mountain they should crumble to the sea.
หรือภูผาจะถล่มจมลงท้องทะเล

I won’t cry, I won’t cry.
ฉันจะไม่ร้องไห้ ฉันจะไม่ร้องไห้หรอก
No, I won’t shed a tear.
ฉันจะไม่มีวันหลั่งน้ำตา
Just as long as you stand, stand by me.
ตราบเท่าที่มีคุณยืนเคียงข้างกัน เคียงข้างฉัน

… Stand By Me, Ben E King, 1961  Cover By Florence & The Machine …
https://www.youtube.com/watch?v=hwZNL7QVJjE





                                              เขตพืนที่ LFIDE



                            Hammerhead Service ... The Three Valleys  




[Cindy] – ปล่อยให้ผู้หญิงรอนานไม่ดีนะรู้มั๊ย ?  ว่าแต่ คนไหนอ่ะเจ้าชาย ? อ่า คนนี้เอง ยินดีด้วยกับงานแต่งงานนะคะ 
 [Noctis]- มันยังไม่ได้เป็นรูปเป็นร่างเลยงานน่ะ   
[Cindy] – ว่าที่เจ้าบ่าวของเลดี้ Lunafreya มาที่ Hammerhead แค่นี้ก็เยี่ยมแล้วคะ
[Ignis] – ต้องขอโทษด้วยนะที่ใช้เวลานานไปหน่อย 
[Cindy] – คุณนี่พูดขอโทษคล่องเป็นบ้าเลยนะ ฮ่าๆ
[Gladiolus] – แล้วคุณคือ ..?




[Cindy] – ชั้น Cindy คะ Cindy Aurum เป็นช่างซ่อมรถ หลานสาวปู่ Cid  




[Cid ] – ป่ง ปู่อะไรกัน ชั้นยังหนุ่มอยู่นะ แล้วหลานชั้นก็ไม่ใช่ช่างกระจอกๆด้วยนะ ดูรถนี่สิรุ่น Classic เลยนะเนี้ย ... เจ้าชาย Noctis  เฮ้อ.. เหมือนพวกเขากำลังพรากพ่อของคุณไปพร้อมๆกับเกรียติยศของท่านด้วยนะ คุณต้องเดินทางอีกไกลไอ้หนู ความสับสนวุ่นวายมากมายจะทำให้คุณไม่มีที่ให้ไปเร็วขึ้น 



.. ส่วนรถนี่ เธอคงต้องใช้เวลาซักพักนะ เอาไปจอดในอู่เลย แล้วจะไปไหนก็ไปก่อนได้เลย ...



[Cindy] – ได้ยินปู่พูดแล้วนะ เข็นเข้าไปด้านในได้เลยพวก !!


-จากนั้นเข้าไปคุยกับ Cindy ที่ยืนรออยู่



[Cindy] – เดาว่าคงไม่เคยออกมาแถวนี้กันแน่นอนเลย ใช่ป่ะ ? ลองไปสำรวจรอบๆให้คุ้นชินเส้นทางดูก่อนดิ  เอานี่แผนที่ จะได้ไม่หลงทางไง  (ได้รับ World map ) ส่วนรถคงต้องรอซักพักนะ ขาดเหลืออะไรอีกมั๊ยบอกได้นะ ?



** สามารถถามพูดคุยกับ Cindy ได้โดยไม่เกี่ยวกับเนื้อเรื่อ **
ask for a discount ถามเรื่องราคา
ask for a loan ถามเรื่องการกู้เงิน
ask my friend ถามเพื่อนๆในกลุ่ม

จะเลือกถามข้อไหน Cindy ก็จะรู้ว่าเจ้าชายมีปัญหาเรื่องการเงินแน่นอน เธอจึงจะให้งานไปทำเพื่อช่วยลดค่าแรงที่ต้องจ่ายเธอ งานแรกที่เธอให้มาคือ The Pauper Prince 

หลังจากรับงานแรกจะได้ค่า AP 10 หน่วย พร้อม Bronze Bangle ซึ่งเป็นไอเทมสวมใส่จาก Cindy พร้อมทั้งคำเตือนว่า ระวังถ้ายังไม่แกร่งพออย่าไปไหนมาไหนตอนกลางคืนเพราะจะเจอกับพวก Daemon ศัตรูระดับความโหดเรียกพี่ที่จะออกมาขย้ำจนตายคาที่ได้ง่ายๆถ้าไม่ระวัง

... และที่สำคัญกว่าห้ามบอกเรื่องทำงานแลกค่าลดราคากับปู่ Cid เด็ดขาด นั่นเป็นสิ่งที่ Cindy ย้ำเตือนไว้ก่อนเริ่มภารกิจแรกของเกม ...


ค่า AP นั้นก็คือ Ability Point ที่จะเอาไว้ใช้อัพ Skill ความสามารถใหม่ๆของ Noctis และเพื่อนๆ ในตาราง Skill Astralsphere ในเมนู Ascension 
         


                                   ตาราง  Ascension




                                                 Magic


 1. Elementalism [24 AP]- สามารถดูดเวทย์จากจุดเวทย์ได้มากขึ้น
2. Elementality [72 Ap] - สามารถดูดเวทย์จากจุดเวทย์ได้มากขึ้นไปอีก
 3.Enhanced Elementality [99 AP] - สามารถดูดเวทย์จากจุดเวทย์ได้มากที่สุด
4.Elemagnetism [48 AP] – เพิ่มประสิทธิภาพและอัตราการดูดซึมพลังงานของอาวุธธาตุให้สูงขึ้น
5.Magic Level [48 AP] - เพิ่มประสิทธิภาพการใช้เวทย์มนต์ของเพื่อนในปารตี้ให้มากขึ้นจากระดับเลเวลของแต่ละคน
6.Magic Level II [99 AP] -เพิ่มประสิทธิภาพการใช้เวทย์มนต์ของเพื่อนในปารตี้ให้มากขึ้น 3 เท่าจากระดับเลเวลของแต่ละคน
7.Powercraft [20 AP] -ทำให้ค่า Potency ในการผสมเวทย์มนต์เพิ่มขึ้นอีก 10  (ค่า Potency ยิ่งสูงก็จะสามารถผสมเวทย์มนต์ออกมาได้ระดับสูงมากขึ้น)
8. Magic Action [24 AP] - ได้รับ AP กลับมาเมื่อใช้เวทย์มนต์
9. Bonuspell [333 AP] - ทำให้ได้โบนัสพิเศษ(จากการผสมเวทย์มากกว่า 1 ธาตุ) เป็นคาถาชนิดพิเศษ (ชื่อของโบนัสจากเวทย์ที่ผสมได้จะมีคำว่า Cast ต่อท้าย) ที่ดีมากขึ้น
10. Bonuspell II [999 AP] - Recieve two extra spells when crafting
ทำให้ได้โบนัสพิเศษ(จากการผสมเวทย์มากกว่า 1 ธาตุ) เป็นคาถาชนิดพิเศษ (ชื่อของโบนัสจากเวทย์ที่ผสมได้จะมีคำว่า Cast ต่อท้าย) 2 ชนิด
11. Extra Powercraft 99 AP - ทำให้ค่า Potency ในการผสมเวทย์มนต์เพิ่มขึ้นอีก 30 (ค่า Potency ยิ่งสูงก็จะสามารถผสมเวทย์มนต์ออกมาได้ระดับสูงมากขึ้น)
12. Super Powercraft 555 AP -ทำให้ค่า Potency ในการผสมเวทย์มนต์เพิ่มขึ้นอีก 50 (ค่า Potency ยิ่งสูงก็จะสามารถผสมเวทย์มนต์ออกมาได้ระดับสูงมากขึ้น)
13. Ultimate Powercraft 999 AP -ทำให้ค่า Potency ในการผสมเวทย์มนต์เพิ่มขึ้นอีก 100 (ค่า Potency ยิ่งสูงก็จะสามารถผสมเวทย์มนต์ออกมาได้ระดับสูงมากขึ้น)




                                             Recovery


1.Hang In [12 AP] - อัตราการฟื้นฟูของ HP ขณะที่อยู่บนจุด point-warp ให้เร็วขึ้น
2. Sprinter [24 AP] – ค่าความอึดมากขึ้นทำให้วิ่งได้นานขึ้น อยู่บนจุด point-warp ได้นานขึ้น
3. Distance Runner [99 AP] – ค่าความอึดมากยิ่งขึ้นและอัตราการลดลงของเกท Stamina ช้าลงทำให้วิ่งได้นานยิ่งขึ้นและอยู่บนจุด point-warp ได้นานขึ้น

4. Saviours Fortitude [20 AP] (ทุกคน) - เพิ่มพลังป้องกันให้กับเพื่อนในปาร์ตี้หลังจากช่วยเขาเวลาใกล้ตาย
5. Saviours Vengeance –[48 AP] (ทุกคน) - เพิ่มอัตราการเกิด Critical hit ให้กับเพื่อนในปาร์ตี้หลังจากช่วยเขาเวลาใกล้ตาย
6. Saviours Force [48 AP] (ทุกคน) -เพิ่มพลังโจมตีให้กับเพื่อนในปาร์ตี้หลังจากช่วยเขาเวลาใกล้ตาย

7. Comeback [99 AP] (ทุกคน) - เติมพลังชีวิตให้กับเพื่อนในปาร์ตี้หลังจากช่วยเขาเวลาใกล้ตาย
8.Rapid Regen [10 AP] (Noctis) - อัตราการฟื้นฟู HP และ MP สูงขึ้นขณะอยู่ในที่กำบัง
9. First Aid [24 AP] (Gladiolus) -ฟื้นฟูพลังชีวิตให้ตัวเองเล็กน้อยด้วยไอเทมเติม HP เมื่อ HP เหลือต่ำมาก
10. Advanced First Aid [99 AP] (Gladiolus) -ฟื้นฟูพลังชีวิตให้ตัวเองมากขึ้นอีกด้วยไอเทมเติม HP เมื่อ HP เหลือต่ำมาก
11. Expert First Aid [333 AP] (Gladiolus) -ฟื้นฟูพลังชีวิตให้ตัวเองจนเต็มด้วยไอเทมเติม HP เมื่อ HP เหลือต่ำมาก
12. First Aid [24 AP] (Ignis) ฟื้นฟูพลังชีวิตให้ตัวเองเล็กน้อยด้วยไอเทมเติม HP เมื่อ HP เหลือต่ำมาก
13. Advanced First Aid [99 AP] (Ignis) - ฟื้นฟูพลังชีวิตให้ตัวเองมากขึ้นอีกด้วยไอเทมเติม HP เมื่อ HP เหลือต่ำมาก
14. Expert First Aid [333 AP] (Ignis) - ฟื้นฟูพลังชีวิตให้ตัวเองจนเต็มด้วยไอเทมเติม HP เมื่อ HP เหลือต่ำมาก
15. First Aid [24 AP] (Prompto) -ฟื้นฟูพลังชีวิตให้ตัวเองเล็กน้อยด้วยไอเทมเติม HP เมื่อ HP เหลือต่ำมาก
16. Advanced First Aid [99 AP] (Prompto) - ฟื้นฟูพลังชีวิตให้ตัวเองมากขึ้นอีกด้วยไอเทมเติม HP เมื่อ HP เหลือต่ำมาก
17. Expert First Aid [333 AP] (Prompto) - ฟื้นฟูพลังชีวิตให้ตัวเองจนเต็มด้วยไอเทมเติม HP เมื่อ HP เหลือต่ำมาก



                                                 Techniques


** Techniques คือท่าโจมตีเสริมของเพื่อนทั้ง 3 ที่สามารถสั่งได้ด้วยการกด L1 และเปลี่ยนของแต่ละคนได้ในเมนู Gear 
** tech bar คือ แถบสีเขียวเป็นแทบพลังการพร้อมใช้งานของของท่า Techniques ของแต่ละคน มี 3 ขีด แต่ละท่าจะเสียพลังของ tech bar มากน้อยต่างกัน  

1.Tech Strike [48 AP] (Noctis) - tech bar เพิ่มมากขึ้นเมื่อ Noctis โจมตีศัตรู
2.Tech Damage [99 AP] (Noctis) - tech bar เพิ่มมากขึ้นเมื่อ Noctis โดนโจมตี
3. Quick Tech [333 AP] (Noctis) – เพิ่มอัตราความเร็วของการเพิ่มขึ้นของ tech bar สูงสุด

4. Star Shell [8 AP] (Prompto) – ยิงปืนพลุขึ้นฟ้าล่อศัตรู ทำให้ศัตรูสับสนและอ่อนแอลง ใช้เกท tech bar 1 ขีด
5. Recoil [18 AP] (Prompto) โจมตีด้วยปืน machinery Weapon ด้วยความรุนแรง ใช้เกท tech bar 2 ขีด (ท่านี้จะใช้ได้จำเป็นต้องมี machinery Weapon ใช้ก่อน)
6. Gravisphere [18 AP] (Prompto) ใช้ machinery Weapon ยิงสร้างสนามแรงดึงดูดดึงศัตรูให้มาอยู่รวมกันเป็นกลุ่ม ใช้เกท tech bar 2 ขีด (ท่านี้จะใช้ได้จำเป็นต้องมี machinery Weapon ใช้ก่อน)
7. Trigger Happy [72 AP] (Prompto) ยิงปืนคู่รัวเป็นชุดถล่มศัตรู เพิ่มอัตราการเกิด Critical hit ใช้เกท tech bar 3 ขีด
8. Snapshot Skill เสริมนอกตารางได้จาก Skill ถ่ายรูปของ Prompto ใช้สำหรับถ่ายรูปในขณะต่อสู้ ใช้เกท tech bar 1 ขีด

9.  Dawnhammer [8 AP] (Gladiolus) ใช้ดาบใหญ่ฟาดโจมตีจากด้านบนอย่างรุนแรง ใช้เกท tech bar 2 ขีด
10. Cyclone [18 AP] (Gladiolus) ใช้โล่อัดกระแทกพื้นทำให้ศัตรูล้ม มึนงง ใช้เกท tech bar 2 ขีด (ท่านี้จะใช้ได้จำเป็นต้องมี shield ใช้ก่อน)
11. Royal Guard [18 AP] (Gladiolus) ใช้โล่ป้องกันการโจมตีของศัตรูให้ Noctis ใช้เกท tech bar 1 ขีด (ท่านี้จะใช้ได้จำเป็นต้องมี shield ใช้ก่อน)
12. Impulse [72 AP] (Gladiolus) ใช้ดาบใหญ่ตวัดสร้างคลื่นพลังโจมตีศัตรูเป็นวงกว้างอย่างรุนแรง ใช้เกท tech bar 3 ขีด
13. Limit Break [999 AP] ท่าพลังโจมตีสูงสุดของ Gladiolus

14. Regroup [8 AP] (Ignis) เรียกเพื่อนทุกคนมารวมตัวกันเพื่อรักษาอาการบาดเจ็บและในขณะยืนรวมกัน HP จะฟื้นฟูเร็วขึ้น ใช้เกท tech bar 2 ขีด
15. Overwhelm [18 AP] (Ignis) โจมตีศัตรู 1 ตัวที่ Noctis กำลังโจมตีอยู้ ด้วยท่า Deathblow ทำให้ศัตรู Break ใช้เกท tech bar 2 ขีด
16. Enhancement [18 AP] (Ignis) เสริมพลังธาตุที่เป็นจุดอ่อนของศัตรูให้กับอาวุธของ Noctis ใช้เกท tech bar 1 ขีด
17. Sagefire [72AP] (Ignis) โจมตีศัตรูเป้าหมายด้วยท่ามีดสั้นเพลิงคู่พลังทำลายล้างสูง ใช้เกท tech bar 3ขีด
18.Limit Break [999 AP] ท่าพลังโจมตีสูงสุดของ Ignis



                                              Combat


1. Airstep [6 AP] - สามารถแดชกลางอากาศได้ 1 ครั้ง (ใช้แกนอนาล็อกซ้าย + O) หลังเข้าโจมตี
2. Death Drop [28 AP] - หลังจากกด O กลางอากาศเพื่อวาร์ปไปที่ตำแหน่งของศัตรูเพื่อโจมตีศัตรูจากด้านบนได้
3. Osmostrike [52 AP] - ฟืนฟู MP เมื่อโจมตีกลางอากาศทำคอมโบอย่างต่อเนื่อง
4. Airsplip [16 AP] – หลบการโจมตีของศัตรูจากกลางอากาศด้วยการสี่เหลี่ยมค้าง
5. Airstride [52 AP] - สามารถใช้ Airstep (ใช้แกนอนาล็อกซ้าย + O) ได้ 2 ครั้งได้หลังจากโจมตีกลางอากาศไปแล้ว
6. Airdance [333 AP] - สามารถใช้ Airstep (ใช้แกนอนาล็อกซ้าย + O)  ได้ตลอด

7. Light Phase [8 AP] –ทุกการกระทำที่ต้องเสีย MP จะเสียค่า MP น้อยลง
8. Ultralight Phase [32 AP] - ทุกการกระทำที่ต้องเสีย MP จะเสียค่า MP น้อยลงมากขึ้นอีก
9. Experimagic [99 AP] - เพิ่มค่า MP ของ Noctis ให้มากขึ้นอีกจากที่ได้รับจากการอัพเลเวล

10.Chained Fury [10 AP] – เมื่อเข้าโจมตีอย่างต่อเนื่องโดยไม่ได้รับบาดเจ็บพลังโจมตีจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
11. Warp Factor [24 AP] - เพิ่มพลังโจมตีของท่า warp-strike
12. Warp Factor II [52 AP] - เพิ่มพลังโจมตีของท่า warp-strike ให้มากขึ้นอีก
13. Point-Blank Warp-Strike [333 AP] - เพิ่มโอกาสทำให้เกิดการโจมตีแบบ critical hit เมื่อใช้ท่า warp-striking โจมตีศัตรูในระยะประชิด
14. Daemon Destroyer [24 AP] -เมื่อโจมตีด้วยท่า warp-strike กับพวก daemon จะทำให้การ์ดแตกจนเกิดสภาวะ break ได้ (Skill จำเป็นในการใช้สู้กับพวก Daemon เลยละ)

15. Stalker [28 AP] - เพิ่มพลังโจมตีเมื่อโจมตีศัตรูจากด้านหลังหรือจากจุดที่มันมองไม่เห็น (blindside)
16. Super Stalker [64 AP] -เพิ่มพลังโจมตีเมื่อโจมตีศัตรูจากด้านหลังหรือจากจุดที่มันมองไม่เห็น (blindside) ให้มากขึ้นไปอีก

17.Blink [16 AP] - เมื่อใช้ท่าหลบการโจมตีของศัตรูในระยะประชิด (กดสี่เหลี่ยมหลบ) จะไม่เสียค่า MP
18. Blink Boost [32 AP] - เมื่อใช้ท่าหลบการโจมตีของศัตรูในระยะประชิด (กดสี่เหลี่ยมหลบ) จะไม่เสียค่า MP และฟื้นฟู MP ด้วย
19. Warp Decoy [48 AP] - ทิ้งภาพโฮโรแกรม (ตัวล่อ) เอาไว้ให้ศัตรูสับสนหลังจากใช้ท่า warp-strike
20. Static Edge [64 AP] - Significantly increase damage dealt after entering stasis  พลังโจมตีเพิ่มสูงขึ้นในขณะเข้าสภาวะ stasis (MP หมด) **แน่นอนว่าเมื่อเข้าสภาวะ stasis จะโจมตีไม่ได้แต่ counter-attack แล้วสวนกลับได้ พลังโจมตีที่เพิ่มขึ้นก็คือ พลังโจมตีสวนกลับจากการ counter-attack นั่นเอง **
21. Impervious [333 AP] – ไม่ได้รับบาดเจ็บเมื่อถูกโจมตีหากกดสี่เหลี่ยมหลบทันทีในขณะที่โดนโจมตี





                                              Teamwork


** Teamwork จะว่าด้วย Skill ที่เกี่ยวกับการใช้ท่า link strike ระหว่างการต่อสู้  link strike คือท่าโจมตีประสานระหว่าง Noctis กับเพื่อนๆที่อยู่ใกล้ๆซึ่งจะเกิดขึ้นหลังจากที่กดการ์ด (สี่เหลี่ยม) และต่อด้วย Parry (กดวงกลม) กับศัตรูสำเร็จแบบอัตโนมัติ **

1. First Shot [6 AP] (Prompto) -เมื่อเริ่มเข้าสู่การต่อสู้ Prompto จะเปิดฉากยิงก่อนทำให้ได้เกท tech bar ที่เพิ่มขึ้น
2. Shock Drop [24 AP] (Prompto)- Prompto จะใช้ท่า Shock Drop หรือการใช้ machinery weapon ยิงไฟฟ้าสนับสนุนเมื่อ Noctis โดดเข้าโจมตีศัตรูกลางอากาศ
3. Sharp Shock [99 AP] (Prompto) - ทำให้พลังโจมตีของท่า Shock Drop เพิ่มมากขึ้น
4. Scintilla [18 AP] (Prompto) - ใช้ท่ายิง counter-attack และทำให้ศัตรูเกิดอาการมึนงง
5. Ballistic [64 AP] (Prompto) - เปิดฉากยิงอย่างรวดเร็วและรุนแรงทำให้ศัตรูถอยหนี

6. Link Up [8 AP] (ทุกคน) - ทำให้ท่า link strike รุนแรงขึ้น
7. Super Link Up [32 AP] (ทุกคน) - ทำให้ท่า link strike รุนแรงมากขึ้น 8.Critical Link [333 AP] (ทุกคน) - เมื่อใช้ท่า link strike สำเร็จจะเกิด critical hit ทุกครั้ง
9. Limitless Link [999 AP] (ทุกคน) -ทำให้ใช้ท่า link strike รุนแรงสูงสุด (เท่ากับท่า limit Break)
10. Deathblow [16 AP] (ทุกคนยกเว้น Noctis) - ใช้การโจมตีที่รุนแรงกับศัตรูที่ใกล้ตาย
11. Ultimate Deathblow [99 AP] (ทุกคนยกเว้น Noctis) - ใช้การโจมตีที่ความรุนแรงมากกับศัตรูที่ใกล้ตาย

12. Reflex [6 AP] (Gladiolus) -โจมตีสวนกลับด้วยดาบใหญ่ที่มีความรุนแรงสูงจนทำให้ศัตรูหวาดกลัว
13. Engage [18 AP] (Gladiolus) – โจมตีก่อนด้วยท่าโจมตีอย่างรุนแรงด้วยดาบใหญ่
14. Intercept [64 AP] (Gladiolus) - ใช่โล่ป้องกัน Noctis จากการโจมตีของศัตรู
15. Antagonize [24 AP] (Gladiolus) - ใช้ท่าเตะที่ทำให้ศัตรูเป็นอัมพาตชั่วคราว
16. Acute Antagonism [99 AP] (Gladiolus) - ทำให้ Gladiolus ใช้ท่า link strike อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นทั้งพลังโจมตีและป้องกัน

17. Analyze [6 AP] (Ignis) - Ignis จะใช้เวทย์ libra สแกนศัตรูที่ Noctis ล็อกเป้าไว้แล้ววิเคราะห์หาจุดอ่อนของศัตรูอัตโนมัติแล้วแสดงผลให้เห็นก่อนเริ่มการต่อสู้ (Skill นี้จะส่งผลต่อล็อกเป้าที่ศัตรูแล้ว ทันทีที่เปิดฉากต่อสู้ Ignis จะเริ่มวิเคราะห์ ซึ่งจะแสดงเป็นรูปกระดาษที่บนหัวของศัตรูและมีแถบสเตตัส HP และจุดอ่อนของศัตรูให้เห็นด้านซ้ายบนของจอ)
18. Vemon Fang [24 AP] (Ignis) - ในขณะที่ Noctic กำลังโจมตีศัตรูอย่างต่อเนื่อง Ignis จะสนับสนุนด้วยการใช้ท่ามีดสั้นติดพิษกับศัตรู
19. Virulent Venom [64 AP] (Ignis) -เพิ่มอัตราที่ทำให้การติดพิษจากท่ามีดพิษของ Ignis รุนแรงขึ้น
20. Lancet [18 AP] (Ignis) ทำการ counter-attack การโจมตีของศัตรูพร้อมดูดพลังชีวิตของมันด้วยหอก (polearm)
21. Regenerate Heal [99 AP]  (Ignis) -ใช้ไอเทมเติมพลังชีวิตให้กับ Noctis และเพื่อนๆที่อยู่ใกล้ๆ





                                                      Stats


1. Health Level I [10 AP] (ทุกคน)- เพิ่มจำนวนของค่าพลังชีวิตให้กับทุกคนในปาร์ตี้ x2 หลังจากเลเวลอัพ
2. Health Level II [99 AP] (ทุกคน)- เพิ่มจำนวนของค่าพลังชีวิตให้กับทุกคนในปาร์ตี้ x5 หลังจากเลเวลอัพ
3. Health Level III [333 AP] (ทุกคน) -เพิ่มจำนวนของค่าพลังชีวิตให้กับทุกคนในปาร์ตี้ x10 หลังจากเลเวลอัพ
4. Strength Level [99 AP] (ทุกคน) – เพิ่มระดับของค่าพลังโจมตีทางกายภาพให้กับทุกคนในปาร์ตี้มากขึ้นหลังจากเลเวลอัพ
5. Spirit Level [99 AP] (ทุกคน)-เพิ่มระดับของค่าพลังโจมตีเวทย์ให้กับทุกคนในปาร์ตี้มากขึ้นหลังจากเลเวลอัพ
6. Vitality [99 AP] (ทุกคน) – เพิ่มระดับของค่ากำลังกาย(พลังป้องกัน)ให้กับทุกคนในปาร์ตี้มากขึ้นหลังจากเลเวลอัพ

7. Accessory Slot [16 AP] (Noctis) - เพิ่มช่องสวมใส่ accessories เป็น 2 ช่อง
8. Accessory Slot [333 AP] (Noctis) - เพิ่มช่องสวมใส่ accessories เป็น 3 ช่อง
9. Accessory slot [16 AP] (Gladiolus) - เพิ่มช่องสวมใส่ accessories เป็น 2 ช่อง
10. Accessory Slot [333 AP] (Gladiolus) - เพิ่มช่องสวมใส่ accessories เป็น 3 ช่อง
11. Accessory slot [16 AP] (Ignis) - เพิ่มช่องสวมใส่ accessories เป็น 2 ช่อง
12. Accessory Slot [333 AP] (Ignis) - เพิ่มช่องสวมใส่ accessories เป็น 3 ช่อง
13. Accessory slot [16 AP] (Prompto) - เพิ่มช่องสวมใส่ accessories เป็น 2 ช่อง
14. Accessory Slot [333 AP] (Prompto) - เพิ่มช่องสวมใส่ accessories เป็น 3 ช่อง



                                 

                                           Exploration


1. Happy Camping [20 AP] (ทุกคน)- เมื่อเข้าพักที่แค้มป์จะได้ค่า AP สูงขึ้น
2. Happier Camping (ทุกคน)[48 AP] - เมื่อเข้าพักที่แค้มป์จะได้ค่า AP สูงมากขึ้น
3. Fitter Survival [99 AP] –ทำให้ได้ไอเทมหลังการต่อสู้ 2 เท่า (บางครั้ง) (จาก survival skill ของ Gladio)
4. Fittest Survival [999 AP] - ทำให้ได้ไอเทมหลังการต่อสู้ 2 เท่า (ทุกครั้ง) (จาก survival skill ของ Gladio)

5. Roadrunning [32 AP] (ทุกคน) - ได้รับค่า AP จากการขับรถเดินทางไกลๆ
6. Roadlife [99 AP] (ทุกคน)-ได้รับค่า Exp จากการขับรถเดินทางไกลๆ

7. Angler Action [18 AP] (Noctis) - ได้รับค่า AP จากการตกปลา
8. Reel Experience [333 AP] (Noctis) -ได้รับค่า Exp จากการตกปลา
9. Item Angler [84 AP] (Noctis) -ได้รับไอเทม 2 เท่าจากการตกปลา
10. Expert item Angler [555 AP] (Noctis) - ได้รับไอเทม 3 เท่าจากการตกปลา
11. Sportfishing [99 AP] (Noctis) -ทำให้ได้รับโบนัส AP มากขึ้นหากตกปลาขนาดใหญ่ได้

12. Snapshot [12 AP] (Prompto) -ทำให้ถ่ายรูปในฉากต่อสู้ได้ 5 รูป
13. Aperture [333 AP] (Prompto) -มีโอกาสได้รับโบนัสค่า AP จากการถ่ายภาพในขณะต่อสู้

14. Aftertaste [18 AP] (Ignis)  -อัพค่าสเตตัสให้มากขึ้นหลังกินอาหารที่แค้มป ทำให้โบนัสของอาหารหลังการกินสูงขึ้นและส่งผลนานขึ้น
15. Appertize [20 AP] (Ignis)  -ทำให้ได้ค่า AP มากขึ้นหากทำอาหารโปรดของเพื่อนในกลุ่ม
16. Lingering Aftertaste [99 AP] (Ignis)  - อัพค่าสเตตัสให้มากขึ้นหลังกินอาหารที่แค้มป ทำให้โบนัสของอาหารหลังการกินสูงขึ้นและส่งผลนานมากขึ้น
17. Persistent Aftertaste [333 AP] (Ignis) - Greatly enhance status boost time from meals eaten at camp อัพค่าสเตตัสให้มากขึ้นหลังกินอาหารที่แค้มป ทำให้โบนัสของอาหารหลังการกินสูงขึ้นและส่งผลนานมากยิ่งขึ้น

18. Chocojockey [32 AP] (Noctis) -ได้รับค่า AP เมื่อชนะการแข่ง chocobo
19. Chocoboracer [99 AP] (Noctis) -ได้รับค่า EXP เมื่อชนะการแข่ง chocobo

20. Chocobump [32 AP] (ทุกคน) -ได้รับค่า AP จากการขี่ chocobo เดินทางไกลๆ
21. Chocobonus [99 AP] (ทุกคน) -ได้รับค่า Exp จากการขี่ chocobo เดินทางไกลๆ



  

                                            Wait Mode 


Skill ทั้งหมดสำหรับผู้เล่นที่เล่นด้วย Wait Mode หรือโหมดที่รอเวลาโดยเฉพาะ โดยโหมดนี่จะหยุดรอการกระทำต่างๆเมื่อ Noctic หยุดเคลื่อนไหว จะทำให้สามารถตัดสินใจกระทำได้นานขึ้น 



แต่ก็จะมีเกทรอเวลาสีฟ้าที่ค่อยหมดลงเรื่อยๆเพื่อป้องไม่ให้คิดนาน โดยสามารถเข้าไปปรับได้ใน Option – Combat – wait หรือ Active 

1. Elementalist [32 AP] (ทุกคน) - เพิ่มความเสียหายเมื่อโจมตีศัตรูตัวที่ใช้การสแกนหาธาตุจุดอ่อนของศัตรูแล้ว (ส่งผลเฉพาะตัว Noctis) ใน Wait Mode นั้น Noctis จะสามารถสแกนดูจุดอ่อนศัตรูได้ด้วยการกด R1 ค้าง


2. Sage [99 AP] (ทุกคน) - เพิ่มความเสียหายเมื่อโจมตีศัตรูตัวที่ใช้การสแกนหาธาตุจุดอ่อนของศัตรูแล้ว (ส่งผลกับเพื่อนทั้งทีม)
3. Warp Ambush [18 AP] (Noctis) – เมื่อโจมตีด้วยท่า warp-strike กับศัตรูที่ไม่รู้ตัวจะทำให้การโจมตีของ Noctis รุนแรงขึ้น หรือ Break ให้มันล้มได้ (ในโหมดนี้จะมีเส้นโยงการโจมตีระหว่างศัตรูกับพวก Noctis โดยศัตรูรู้ตัวคือ ศัตรูที่มีเส้นสีแดงโยงมาหา Noctis นั่นเอง)
4. Warp Ambush [99 AP] (Noctis) – เมื่อโจมตีด้วยท่า warp-strike กับศัตรูที่มีพลังชีวิตเหลือครึ่งเดียวจะทำให้การโจมตีของ Noctis รุนแรงขึ้น
5. Presto Libra [12 AP] (Noctis) - ทำให้ใช้เวทย์ Libra สแกนหาจุดอ่อนของศัตรูได้เร็วขึ้น
6. Time-Restore [48 AP] (Noctis) – สามารถฟื้นฟูเกทรอเวลาได้เมื่อกำจัดศัตรูได้
7. Time-Freeze [99 AP] (Noctis) – หยุดเวลา ทำให้เกทรอเวลาไม่ลดลง

Cr. อ้างอิงจากการใช้งานจริงและข้อมูลเสริมจาก



สิ่งแรกที่ต้องเรียนรู้คือเรื่อง Quest หรือภารกิจที่ต้องทำ เมื่อกดเข้าเมนู Quest ในเมนูหลักจะเห็นถึงรายละเอียดของภารกิจต่างๆที่รับมาทั้งหมดระหว่างทาง หากมีมากกว่า 1 ภารกิจก็สามารถเลือกกำหนดภารกิจที่จะทำได้อย่างอิสระ จุดเป้าหมายที่ต้องทำของภารกิจที่เลือกก็จะขึ้นมาให้เห็น ซึ่งตอนนี้จะมีแค่ภารกิจหลักภารกิจแรกอันเดียว โดยจุด Objective หรือเป้าหมายของภารกิจหลักจะแสดงให้เห็นเป็นรูป !  สีส้มในแผนที่



                                   Main Mission – The Pauper Prince



ระดับความยาก – Level 1 
ผู้ว่าจ้าง - Cindy
เป้าหมายคือ – จัดการมอนสเตอร์ที่จุดเป้าหมาย 
EXP – 100
รางวัล – ไม่มี

เข้ามาที่พื้นที่เป้าหมายของภารกิจจุดแรก เป้าหมายคือจัดการมอนสเตอร์ที่ออกมาให้หมดพร้อมกับเรียนรู้ระบบต่อสู้เบื้องต้น

-กด O โจมตีปกติ จะเรียกว่า Blitz ที่สามารถโจมตีต่อเนื่องได้
- สี่เหลี่ยมการ์ด กลิ้งตัว และ Counter attack ตามด้วยปุ่ม O
- ปุ่มทิศทาง บน ล่าง ซ้าย ขวา สำหรับเปลี่ยนการใช้งานของอาวุธ
-R1 ล็อกเป้าหมาย + สามเหลี่ยมคือท่า Warp strike ที่ใช้โจมตีจากระยะไกลมีความรุนแรงกว่าโจมตีปกติแต่ก็เสียค่า MP มากกว่าด้วย
- เมื่อใช้ MP จนหมดจะเกิดอาการ Stasis จะทำให้ไม่สามารถโจมตีหรือใช้ Warp strike ได้นอกจากการ Counter attack จนกว่าค่า MP จะกลับมาด้วยการเข้าไปหลบในที่กำบังหรือรอเวลาซักพัก
- การระวังไม่ให้ MP หมด ก็ต้องหมั่นประครองการใช้ท่าต่างๆไปพร้อมๆกับใช้จุด Point warp หรือจุดที่สามารถใช้ Warp strike ไปอยู่ที่สูงให้เป็นประโยชน์เพราะจะทำให้ค่า HP และ MP ฟื้นฟูกลับมาเร็วมาก
- L1 สำหรับใช้ท่า Techniques หรือท่าโจมตีเสริมของเพื่อนทั้ง 3 จะมีแถบคำสั่งสีเขียวที่เรียกว่า tech bar ออกมาที่มุมซ้ายของจอ สามารถสั่งได้ด้วยการกดปุ่มทิศทาง ซ้าย – บน ขวา  เพื่อสั่งการให้เพื่อแต่ละใช้ท่าตามต้องการ และ  tech barก็ต้องรอเวลาในการเต็มจากการกำจัดศัตรูหรือโดนโจมตี ตัวละครในกลุ่มแต่ละคนจะสามารถเปลี่ยนท่า Techniques อื่นได้ในเมนู Gear และสามารถอัพท่า Techniques ใหม่ๆได้ในตาราง Skill

เมื่อจัดการมอนสเตอร์จนหมดก็จบเควส Cindy จะติดต่อมาให้ทำงานใหม่ โดยจะให้ไปช่วยเพื่อนของเธอที่ชื่อ Dave ที่กำลังเดือดร้อนโดนมอนสเตอร์รุมเล่นงานที่กระท่อมโรงนาเก่าแห่งนึง ซึ่งก็คือ Quest ใหม่ที่ชื่อ Hunter Become the Hunted


                              Main Mission – Hunter Become the Hunted 

ระดับความยาก – Level 1 
ผู้ว่าจ้าง - Cindy
เป้าหมายคือ – ตามหาและช่วยเหลือ Dave ที่กระท่อมโรงนา 
EXP – 30 
รางวัล – Magic Flask 

เข้าไปที่เป้าหมายภารกิจแรกที่กระท่อมโรงหน้าเก่าที่ใกล้ที่สุด แต่จะไม่พบ Dave แถมยังถูกพวกมอนสเตอร์ลอบโจมตีอีกต่างหาก จัดการศัตรูให้หมดแล้ว Ignis จะแนะนำให้ไปหาดูที่โรงนาที่ต่อไป เมื่อเข้ามาจะพบ Sabertusk มากมายล้อมกระท่อมอยู่ เรียนรู้การใช้จุด Point warp หรือจุดที่สามารถใช้ Warp strike ไปอยู่ที่สูงให้เป็นประโยชน์เพราะจะทำให้ค่า HP และ MP ฟื้นฟูกลับมาเร็วมาก Warp strike ไปที่กังหันลมแล้วจัดการ Sabertusk ให้หมด ก็จะสามารถช่วย Dave ที่บาดเจ็บอยู่ในกระท่อมได้


[Gladiolus] – ดูสิเราเจอใคร ? ชายของชั่วโมงนี้เลย Dave ป่ะ เรากำลังตามหานายอยู่พอดีเลย สบายดีมั๊ย ?
[Dave] – ถ้าไม่นับว่าติดอยู่ที่นี่หลายชั่วโมง ข้อเท้าเคล็ดก็ถือว่าโอเค น่าหัวเราะตัวเองนะจะปิดจ๊อบได้อยู่แล้วแต่กลับมาเสียทีไอ้พวกหมาบ้านั่นจนได้ แถมยังมีพวกมันที่เหลือรอดไปได้อีกด้วย ถึงนายจะดูไม่เหมือนนักล่าเท่าไหร่ แต่จะลองช่วยงานไปจัดการไอ้ลูกหมาพวกนั้นให้ชั้นได้พักหน่อยได้มั๊ยละ ?



Do it for Free – ได้ เดี๋ยวทำให้ฟรีเลย
Do it for a price – ได้แต่ต้องมีค่าจ้างนะ
Ark my Friends – เดี่ยวถามเพื่อนก่อน 

จะเลือกข้อไหนก็ได้ แต่ก็อยากให้ช่วย Dave ซึ่งก็จะทำให้ได้เควสใหม่คือ The Mutant Marauder มา

ในขณะที่กำลังเดินทางไปทำภารกิจต่อไปก็จะเริ่มเข้าสู่ตอนมืดพอดี Ignis เลยแนะนำให้แวะไปตั้งแค๊มป์เพื่อพักแรมในตอนกลางคืนก่อนดีกว่า ซึ่งก็จาก Cindy เคยเตือนไว้ว่า ระวัง ! ถ้ายังไม่แกร่งพออย่าไปไหนมาไหนตอนกลางคืนเพราะจะเจอกับพวก Daemon ศัตรูระดับความโหดเรียกพี่ที่จะออกมาขย้ำจนตายคาที่ได้ง่ายๆ เลือกตอบ Yeah Good Idea กับเขาเพื่อพักเรื่องภารกิจไปที่จุดเป้าหมายใหม่ที่ขึ้นมาที่ Merrioth Haven ซึ่งเป็นสถานที่สำหรับตั้งแค้มป์ที่พักนั่นเอง


                                                        การตั้งแค้มป์ 



การตั้งแค้มป์เพื่อพักผ่อนนั้นเป็นเรื่องที่สำคัญมากในเกมนี้มากๆคือ
1. ประสบการณ์ทั้งหมดที่ลุยมาในรูปแบบของค่า Exp นั้นจะถูกนำมานับเพื่อเพิ่มระดับเลเวลในตอนพักแรม ซึ่งหากเดินลุยมาทั้งวันได้ค่า Exp มามากมายแต่ในขณะที่ทำภารกิจอยู่เลเวลก็จะไม่ขึ้นจนกว่าจะมานับรวมเพื่อเพิ่มระดับเลเวลตอนพักแรมหรือพักโรงแรมเท่านั้น


2. การทำอาหารและการกินอาหาร นอกจากอาหารจะช่วยรักษาฟื้นฟูพลังกายที่เสียไปแล้ว อาหารที่กินแต่ละประเภทที่ Ignis เป็นคนปรุงนั้นจะมีค่าโบนัสของอาหารที่จะได้หลังกินไม่เหมือนกัน ตั้งแต่ เพิ่มค่าสเตตัสต่างๆให้สูงขึ้นหรือการได้ Exp เป็น 2 เท่า ซึ่งจะแสดงผลในวันรุ่งขึ้น


3. การนั่งดูภาพความทรงจำในการเดินทางที่ Prompto ในฐานะตากล้องประจำทีมเป็นคนแอบถ่ายเอาไว้ เป็นภาพตลกๆรวมถึงเท่มากที่จะแรนด้อมออกมาให้ดู และสามารถเซฟหรือแชร์ไปอวดยังโซเชียลได้ด้วย



                                                         การเซฟเกม



การเซฟเกมสามารถทำได้ 3 แบบคือ
1.ออโต้เซฟอัตโนมัติทุกครั้งหลังเช้าของอีกวันหลังตื่นนอนจากแค้มป์หรือโรแรม
2.ออโต้เซฟอัตโนมัติจากจุด Check point ต่างๆของเนื้อเรื่อง
3. Manual Save สามารถกดปุ่ม option เพื่อเรียกเมนูเซฟ – โหลด ขึ้นมาโดยจะสามารถเลือกเซฟไว้ที่ Slot ที่ 3 และสามารถเซฟได้ทุกทีทุกเวลา ยกเว้นเวลาอยู่ในฉากต่อสู้


                                              เรียนรู้เรื่องเวทย์มนต์ 

รอบๆที่ตั้งแค้มปหรือระหว่างทางตามที่ต่างๆจะมีจุดดูดพลังธาตุของเวทย์มนต์อยู่ ซึ่งจะมีแค่ ไฟ น้ำแข็ง และ สายฟ้า แต่จะสามารถนำธาตุทั้ง 3 มาผสมหรือเรียกว่าการ  Craft Magic เพื่อให้เกิดเวทย์ใหม่ๆหรือผลลัพธ์ออกมาที่แปลกไปจากเดิมได้


การ Craft Magic นั้นสามารถทำได้ในเมนู Elemancy ซึ่งการผสมธาตุให้ออกมาเป็นเวทย์นั้นค่า Potency นั้นสำคัญที่สุด ยิ่งค่า Potency สูงก็จะเพิ่มระดับขั้นของเวทย์มนต์ให้สูงขึ้นไปด้วย โดยถ้าจะผสมแบบธาตุหลักทั้ง 3 ธาตุแบบเท่าๆกันก็จะได้เวทย์ที่รุนแรงขึ้นดังนี้
Potency 1-99 =Fire
Potency 1-99 =Blizzard
Potency 1-99 =Thunder
Potency 100-199 =Fira
Potency 100-199= Blizzara
Potency 100-199=Thundara
Potency 200 ขึ้นไป = Firaga , Blizzaga และ Thundaga


และถ้าผสมทั้ง 3 ธาตุโดยใช้ค่า Potency 99 ทั้ง 3 ธาตุผสมกัน ยังสามารถได้โบนัสเอฟเฟคพิเศษจากการผสมด้วย โดยจะสามารถเลือกไอเทม อาหารและวัตถุดิบต่างๆมาผสมให้ได้เวทย์ + ความสามารถพิเศษต่างๆอีกสังเกตดูชื่อเวทย์ที่จะผสมได้จะเปลี่ยนไป ซึ่งหากเลือกไอเทมต่างๆผสมเข้าไปจะมีความสามารถใหม่ๆอีกมากมายเช่น

unicast : ร่ายเวทย์ระดับ Tier 3 ออกมาแบบสุ่ม 3 ธาตุ
Dualcast –โจมตีด้วยเวทย์นั้น2ครั้ง
Tricast –โจมตีด้วยเวทย์นั้น3ครั้ง
Quadcast –โจมตีด้วยเวทย์นั้น4ครั้ง
Quintcast –โจมตีด้วยเวทย์นั้น5ครั้ง
Healcast –มีผลทำให้ฟื้นค่า HP
Venomcast –มีโอกาสทำให้ศัตรูคิดสถานะพิษ
Stopcast –มีโอกาสทำให้ศัตรูคิดสถานะหยุดอยู่กับที่
Cursecast –มีโอกาสลดพลังโจมตีหรือป้องกันของศัตรู
Killcast –มีโอกาสทำให้ศัตรูตายทันที
Expericast –ได้รับโบนัส EXP เพิ่มขึ้น
Freecast –มีโอกาสร่ายเวทย์แล้วไม่เสียจำนวนเวทย์ที่มีอยู่
Failcast –มีโอกาสใช้แล้วลมเหลวหรือโจมตีเวทย์รุนแรงกว่าเดิม
Powercast –เพิ่มความรุนแรงให้เวทย์ตอนใช้
Blastcast –สร้างความเสียหายเป้นวงกว้างและโดนทั้ง2ฝ่าย
Maxicast –ทำให้สร้างความเสียหายทางเวทย์ได้เกิน9999
และอีกมากมาย ...........

-การเพิ่มช่องในการเก็บเวทย์ที่ผสมนั้นจะต้องมีคีย์ไอเทม Magic Flask มาก่อนซึ่งจะได้ตามเนื้อเรื่องครับ

Cr. ขอบคุณข้อมูลจากคุณต้น Warintorn Jaiyen 
https://web.facebook.com/media/set/?set=oa.931599220288633&type=1&_rdr



                                         Main Mission – The Mutant Marauder


ระดับความยาก – Level 2 
ผู้ว่าจ้าง - Dave
เป้าหมายคือ – จัดการมอนสเตอร์ที่จุดเป้าหมาย
EXP – 200 
รางวัล – 

-เข้าไปที่จุดเป้าหมายของภารกิจจะพบมอนสเตอร์ขนาดใหญ่ เจ้าแรดยักษ์ นอเลือด Bloodhorn การต่อสู้กับมอนสเตอร์ระดับบอสกลางที่มีขนาดใหญ่จำเป็นต้องเรียนรู้ การกด L1 สำหรับใช้ท่า Techniques หรือท่าโจมตีเสริมของเพื่อนทั้ง 3 จะมีแถบคำสั่งสีเขียวที่เรียกว่า tech bar ออกมาที่มุมซ้ายของจอ สามารถสั่งได้ด้วยการกดปุ่มทิศทาง ซ้าย – บน ขวา  เพื่อสั่งการให้เพื่อแต่ละใช้ท่าตามต้องการ และ tech barก็ต้องรอเวลาในการเต็มจากการกำจัดศัตรูหรือโดนโจมตี ตัวละครในกลุ่มแต่ละคนจะสามารถเปลี่ยนท่า Techniques อื่นได้ในเมนู Gear และสามารถอัพท่า Techniques ใหม่ๆได้ในตาราง Skill


เมื่อจัดการ Bloodhorn ได้แล้ว Cindy จะติดต่อมาเพื่อขอบคุณที่ช่วย Dave จนปลอดภัยแล้ว เธอจึงให้ Noctis กลับมาที่ Hammerhead เพื่อฟังข่าวดีจากเธอเล่นกัน ...จุดภารกิจต่อไปของ Main Mission The Mutant Marauder คือมุ่งหน้ากลับไปดูรถ Regalia ที่ฝาก Cindy ซ่อมที่ Hammerhead  ...


ก่อนจะไป ... เรีบนรู้เรื่องราวต่างๆภายในพื้นที่เสียก่อนก็ดี เพราะจะมีหลายสิ่งหลายอย่างให้สำรวจเพื่อเปิดแผนที่และทำความรู้จักสถานที่ต่างๆในพื้นที่ รวมทั้งทำ Side Quest ต่างๆที่มีมากมายเพิ่มสร้างรายได้และประสบการณ์ก่อน โดยภารกิจเสริมหรือ Side Quest นั้นก็มีมากมายทั้งจากตัวละคร NPC หลัก ซึ่งจะแสดงให้เห็นเป็นเครื่องหมาย  ?   ในแผนที่ กับ ภารกิจนักล่ามอนสเตอร์ Hunt Quest ตามร้าน  Crow’s nest Diner ที่มีอยู่ทั่วไปตามเขตต่างๆ


 


         Hunt Quest ที่  ร้านอาหาร Crow’s nest Diner ในเขต Longwythe 





1.Hunts Quest – Mineside Mischief Makers 
ระดับความยาก – LV7
เป้าหมาย – กำจัด Goblin 7 ตัว
ถิ่นที่อยู่ – The Callaegh Step
ช่วงเวลา – กลางคืน
Star – 1 ดาว (ครบดาวได้เพิ่ม Rank นักล่า)
ค่าหัว – 1740 Gil
รางวัลนำจับ – Hi – Elixir

2.Hunts Quest – The Hunter-slaying Herd
ระดับความยาก – LV8
เป้าหมาย – กำจัด Magnanir 2 ตัว และ Mesmenir 4 ตัว
ถิ่นที่อยู่ – Longwythe Peak
ช่วงเวลา – กลางวัน
Star – 1 ดาว (ครบดาวได้เพิ่ม Rank นักล่า)
ค่าหัว – 1830 Gil
รางวัลนำจับ – Hi – Elixir

3.Hunts Quest – Squash the Squirmers   
ระดับความยาก – LV14
เป้าหมาย – กำจัด Flan 5 ตัว
ถิ่นที่อยู่ – Longwythe Peak
ช่วงเวลา – กลางคืน
Star – 2 ดาว (ครบดาวได้เพิ่ม Rank นักล่า)
ค่าหัว – 2280 Gil
รางวัลนำจับ – Hi – Elixir

4.Hunts Quest – Cranky Crustaceans [Rank 2]    
ระดับความยาก – LV18
เป้าหมาย – กำจัด Shieldheads 3 ตัว
ถิ่นที่อยู่ – Longwythe Peak
ช่วงเวลา – กลางวัน และ กลางคืน
Star – 2 ดาว (ครบดาวได้เพิ่ม Rank นักล่า)
ค่าหัว – 3160 Gil
รางวัลนำจับ – Megalixir

5.Hunts Quest – Sting in the Tail [Rank 3]  
ระดับความยาก – LV25
เป้าหมาย – กำจัด Sapgyrtail  5 ตัว
ถิ่นที่อยู่ – Longwythe Peak
ช่วงเวลา – กลางวัน และ กลางคืน
Star – 2 ดาว (ครบดาวได้เพิ่ม Rank นักล่า)
ค่าหัว – 3720 Gil
รางวัลนำจับ – Megalixir

5.Hunts Quest – Beast over Brawn  [Rank 3]    
ระดับความยาก – LV27
เป้าหมาย – กำจัด Grandhorn 2 ตัว และ Dualhorn 3 ตัว
ถิ่นที่อยู่ – The Weaverwilds
ช่วงเวลา – กลางวัน และ กลางคืน
Star – 2 ดาว (ครบดาวได้เพิ่ม Rank นักล่า)
ค่าหัว – 4010 Gil
รางวัลนำจับ – Megalixir        
                 

                                          เรียนรู้เรื่อง Hunter Rank



เงื่อนไขการทำ Hunts Quest นั้นจะมี Hunter Rank หรือระดับของนักล่าเป็นตัวกำหนด หาก Rank หรือระดับของนักล่าไม่ถึงก็ยังไม่สามารถทำได้ เงื่อนไขการเลื่อนขั้นของ Hunter Rank นั้นใช้การสะสมดาวซึ่งเป็นรางวัลจากการผ่านเควสล่าต่างๆ เมื่อสะสมดาวได้ครบตามจำนวนก็จะสามารถเลื่อนระดับของ Hunter Rank ให้สูงขึ้นได้ ซึ่งจะทำให้สามารถทำ Hunts Quest ที่มีระดับสูงขึ้นได้ 


                               Prairie Outpost ในเขต Keycatrich Ruin




Side Quest – Dust to Dust 
ระดับความยาก – Level 8
ผู้ว่าจ้าง – Dave
EXP – 600
รางวัล – Mega-potion x 5



เป้าหมายคือ – ตามหา dog tag ของพวก Hunter มาให้ Dave
การทำภารกิจ – ออกไปที่ที่จุดเป้าหมายของภารกิจรูป ! ในแผนที่จัดการมอนสเตอร์ให้หมดแล้วเก็บ Dog tag ที่ซากรถแล้วเอากลับมาให้ Dave




...จุดภารกิจต่อไปของภารกิจ The Mutant Marauder คือมุ่งหน้ากลับไปดูรถ Regalia ที่ Hammerhead ...




[Cindy] – ขอโทษที่ต้องให้รอนะ เป็นไงเธอดูงดงามยัง ?
[Gladiolus] – เธอสวยงามสุดบนท้องถนนเสมอนั่นแหละ 
[Prompto] – เธอกลับมาแว้วว ! เรามาถ่ายรูปคู่กับเธอกันหน่อยดีกว่า มาๆ



[Cindy] – แชะ !! เรียบร้อย .. นี่แหละเหตุผลที่ทำไมต้องขับขี่อย่างปลอดภัยละ โอ้ เออ ก่อนที่ชั้นจะลืมนะ คุณพอจะ เออ แวะส่งของอะไรให้ชั้นซักหน่อยได้ป่ะ

- เลือก Accept ตกลงรับงานช่วยเธอหน่อยก็ดี -




[Cindy] – เยี่ยมเลย ถ้าคุณเซยเยสชั้นก็พร้อมจะแพ็คของทันทีเลยละกัน แวะไปส่งที่โรงแรมระหว่างทางที่คุณจะไป Galdin แล้วก็เอาของฝากไว้ให้กับเจ้าของโรงแรมได้เลยนะ แค่นั้นแหละง่ายๆ  


                           Main Mission – The Errand Prince



ระดับความยาก – Level 2 
ผู้ว่าจ้าง - Cindy
เป้าหมายคือ – เอาของไปส่งที่โรงแรมในเขต Longwythe Peak
EXP – 50
รางวัล – 

[Ignis] – ตอนนี้เธอก็พร้อมออกเดินทางแล้ว เพื่อความไม่ประมาทนายจะทดลองขับเธอดูก่อนมั๊ย Noctis ?


take her for a spin – ขับรถด้วยตัวเอง
Leave it to Ignis – ให้ Ignis เป็นขับแทน



                                                 เมนูหลักของรถ Regalia 


Auto – กำหนดเส้นทางและขับขี่แบบอัตโนมัติ ซึ่งสามารถเดินทางไปตามจุดต่างๆเล่น ที่จอดรถของพื้นที่นั้นๆ , สถานที่ทำภารกิจ หรือ กำหนดจุดเดินทางด้วยตัวเอง 
Manual – ขับด้วยตัวเอง
Shop – ซื้อของแต่งรถ 
main menu – เข้าเมนูหลัก 



แผง Touch pad – Navigator กำหนดตำแหน่งในแผนที่ในการเดินทาง
R2 – คันเร่ง
L2 – เบรค
สี่เหลี่ยม – กลับรถ
O – ลงจากรถ เข้าที่จอดรถ
L1 – R1 – เปลี่ยนวิวในการขับรถ
ปุ่มทิศทาง บน เล่น – หยุดเพลงในวิทยุ
ปุ่มทิศทาง ซ้าย – ขวา เล่น – หยุดเพลงในวิทยุ
เกทน้ำมันอยู่ทางฝั่งมุมซ้ายของจอ 


** กดเข้าเมนูของแผนที่จะมีคำสั่ง กลับไปที่รถ เพิ่มขึ้นมา ** 




                                         Hammerhead service Station Menu 

-Service the Regalia (บริการซ่อมรถจากการเสียหายต่างๆ)
- Customize the Regalia (บริการขายอุปกรณ์ตกแต่งรถ)


                                     ร้านอาหาร Takka’s PIT STOP





1.Hunts Quest – Howling wind of Hunger
ระดับความยาก – LV2
เป้าหมาย – กำจัด Sabertusk 7 ตัว
ถิ่นที่อยู่ – The Weaverwilds
ช่วงเวลา – กลางวัน และ กลางคืน
Star – 1 ดาว (ครบดาวได้เพิ่ม Rank นักล่า)
ค่าหัว – 740 Gil
รางวัลนำจับ – Hi – Elixir

2.Hunts Quest – Varmints of the wastelands  
ระดับความยาก – LV5
เป้าหมาย – กำจัด Mesmenir 5 ตัว
ถิ่นที่อยู่ – The Weaverwilds
ช่วงเวลา – กลางวัน
Star – 1 ดาว (ครบดาวได้เพิ่ม Rank นักล่า)
ค่าหัว – 980 Gil
รางวัลนำจับ – Hi – Elixir

3.Hunts Quest – Gorgers in the Dust  
ระดับความยาก – LV7
เป้าหมาย – กำจัด Flexitusk 3 ตัว
ถิ่นที่อยู่ – Ostium Gorge
ช่วงเวลา – กลางวัน และ กลางคืน
Star – 1 ดาว (ครบดาวได้เพิ่ม Rank นักล่า)
ค่าหัว – 1570 Gil
รางวัลนำจับ – Iron Bangle

4.Hunts Quest – raindrop in the Night 
ระดับความยาก – LV15
เป้าหมาย – กำจัด Jumbo Flan 1 ตัว
ถิ่นที่อยู่ – The Weaverwilds
ช่วงเวลา – กลางคืน
Star – 2 ดาว (ครบดาวได้เพิ่ม Rank นักล่า)
ค่าหัว – 2390 Gil
รางวัลนำจับ – Megalixir

5.Hunts Quest – Wild Beauties 
ระดับความยาก – LV22
เป้าหมาย – กำจัด Anaklaban 3 ตัว
ถิ่นที่อยู่ – The Weaverwilds
ช่วงเวลา – กลางวัน
Star – 2 ดาว (ครบดาวได้เพิ่ม Rank นักล่า)
ค่าหัว – 2350 Gil
รางวัลนำจับ – Megalixir

6.Hunts Quest – Bounty Hunted Beauties 
ระดับความยาก – LV28
เป้าหมาย – กำจัด Anaklaban 3 ตัว และ Anak 3 ตัว
ถิ่นที่อยู่ – The Weaverwilds
ช่วงเวลา – กลางวัน
Star – 2 ดาว (ครบดาวได้เพิ่ม Rank นักล่า)
ค่าหัว – 2200 Gil
รางวัลนำจับ – Megalixir





...จุดภารกิจต่อไปของภารกิจ The Errand Prince คือเอาของไปส่งที่โรงแรมในเขต Longwythe Peak .....

เมื่อเดินทางมาถึงโรงแรมใน Longwythe เพื่อส่งของให้เจ้าของโรงแรมเสร็จก็จะได้รับพัสดุชิ้นที่ 2 เพื่อไปส่งต่อที่เป้าหมายคือ รีสอร์ท Galdin Quay ที่เขต Vannath Coast ทางใต้ของพื้นที่


เจ้าของโรงแรม – พวกคุณอุตสาหะเดินทางมาถึงที่นี่เพื่อส่งของให้หรอ ? แหม ชอบคุณมากเลยนะพ่อหนุ่ม เดี๋ยวเราจัดการต่อกันเองพวกเธอจะได้ไม่ต้องเหนื่อยนะ




                                             ---- โฮ่งงๆๆๆ ---



[Noctis] – หืมม Umbra หรอ ? 
[Prompto]- เอาอะไรมาให้เราถึงนี่เนี้ย เจ้าหนู
[Gladiolus] – เจ้าหมานี่ตามรอยกลิ่นเก่งฉิบเป๋งเลย
[Ignis] – พูดให้ถูกก็คงเพราะจมูกของมันนั่นแหละที่หาเราเจอ
[Prompto]- แกรู้ตลอดเลยใช่มั๊ยเจ้าหนู
[Noctis] – แปบนะ ...


                                   อาณาจักร Tenebrne 12 ปี ก่อนหน้านี้ ....




[Noctis] – ดอกไม้สวยจัง 
[Lunafreya] – มันเป็นดอกไม้ชนิดเดียวกับที่เราเห็นที่มงกุฎของเราไง



[Noctis] – อ๋อ ใช่ๆ ดอก Sylleblossoms 
[Lunafreya] – คือ .. ตอนเธอกลับบ้าน ชั้นอยากให้ช่วยเก็บสมุดนี้ไปด้วย.. จะได้มั๊ยละ ?
[Noctis] – ได้สิ 




[Lunafreya] – ไม่ใช่แค่นั้นนะ ชั้นอยากให้เธอ เขียนอะไรบางอย่างลงไปในสมุดนี่แล้วส่งมันกลับมาหาชั้นด้วยนะ 


                                       “มันถึงเวลาที่ชั้นต้องจาก Tenebrne แล้ว “ 



Noctis สามารถเขียนตอบได้ระหว่าง
Finally going to see you after all these years ยังไงผมก็จะไปเจอคุณหลังจากที่เราไม่ได้เจอกันนานหลายปี 
Just left the Crown city เพิ่งออกไปจาก Crown city หรอ ?
Got it .. เข้าใจแล้ว 

เลือก Finally going to see you after all these years ไปคงดีที่สุดแล้ว



[Noctis] – เอาละ เรียบร้อยแล้วนะ ดูแลมันให้ดีละ 
[Prompto]- ชั้นรู้ว่ายังไงนายก็ไม่บอกชั้นหรอก
[Noctis] – งั้นก็ไม่น่าถาม ..

จากนั้นคุยกับชาวบ้านที่มายืนใกล้ๆ จะเห็นว่ามีสัญลักษณ์ ? ที่หัวแปลว่าเขามี Quest ให้ทำ


พนักงานต้อนรับ – ขอเวลาแปบสิครับ ผมเห็นที่จ่าหน้าที่อยู่ของที่ส่งว่าถึง Meldacio  
[Gladiolus] – Meldacio ฐานของพวกนักล่าค่าหัวอ่ะหรอ ?
พนักงานต้อนรับ – ใช่ครับ พวกนักล่า เขาน่าจะอยู่แถวๆนี้แหละ ซักทีนั่นแหละ คุณต้องส่งของให้พวกเขาอีกมั๊ยอ่ะ ช่วยเอาของนี่ไปส่งให้เขาหน่อยได้มั๊ยครับ ? 

คุยจบจะได้คียไอเทม Sealed Envelope มาพร้อม Quest - Gone Hunting


Quest – Gone Hunting  
ระดับความยาก – Level 5
ผู้ว่าจ้าง – Dave
เป้าหมายคือ – ตามหาตัวนักล่าค่าหัว Dave ที่หายไป
EXP – 500
รางวัล – Hi-potion x10

คุยกับพนักงานต้อนรับเดินข้ามไปฝั่งตรงข้ามจะพบ Dave ยืนอยู่หน้าอาคารไม้ใกล้ๆนี่เองเข้าไปคุยกับเขาได้เลย


[Dave] – ดูสิใครมา ชั้นยังติดหนี้นายครั้งนึงนะไอ้หนู 
[Noctis] – น่าจะสองครั้งแล้วนะครับ มีคนฝากของนี่มาให้คุณน่ะ 
[Dave] – .. เฮ้อ ดูเหมือนเขาจะพบอีกอันนึงแล้วสินะ 
[Prompto]- อะไรอีกอันหรอครับ ?
[Dave] – Tag ที่เป็นป้ายประจำตัวน่ะสิ มันเหมือนเป็นสัญลักษณ์ที่ระบุตัวตนของพวกเรา



[Prompto]- อะไรนะ หมายถึงคุณลืมว่าตัวเองเป็นใครหรอถึงต้องมีป้ายระบุตัวตนนะ 
[Dave] – พวกเราเหล่านักล่าใช้ชีวิตเดินทางท่ามกลางอันตรายจะตายเมื่อไหร่ใครจะไปรู้ บางทีก็ได้ Tag นี่แหละเป็นของชิ้นสุดท้ายที่ระบุตัวตนของพวกเราตอนตายไปแล้ว อย่างน้อยๆก็ครอบครัวของพวกเรานั่นแหละ อย่างน้อยพวกก็จะได้รู้ถึงการจากไปของเรา ถ้าพวกนายเจอ Tag ของพวกนักล่าแถวๆนี้ก็เอามันกลับมาให้ชั้นด้วยแล้วกันนะ ชั้นจะส่งมันให้ครอบครัวผู้ตายเอง 
[Noctis] – แน่นอน ได้สิ 

จากนั้นเข้าไปคุยกับเจ้าของร้านอาหาร Crow’s nest Diner เลือกคุยเพื่อถามข้อมูลกับเขาก็จะได้ตำแหน่งของ Tag ในแผนที่มา เข้าไปที่จุดเป้าหมายของเควสรูป ! สีฟ้า


จุดแรกเข้าไปเพื่อสำรวจร่องรอยของพวกนักล่าแล้วจุดเป้าหมายที่ 2 จะขึ้นมาให้เข้าไปที่นั่นแล้วเก็บ Tag กลับไปให้ Dave



[Dave] – เจออันนึงแล้วหรอ ? พวกนายทำได้ดีมากๆ
[Noctis] – ได้มาแค่เศษที่เหลือเท่านั้นแหละครับ
[Dave] – ชั้นทำใจมาแต่แรกแล้วตั้งแต่มาทำงานเป็นนักล่าว่าชีวิตของนักล่าจะไม่มีคำว่าปลอดภัย นั่นเป็นเหตุผลข้อนึงที่ทำให้ Tag มันมีความสำคัญกับชั้นมากๆ เพราะ Tag ของพวกเราที่ทำให้เราไม่ถูกลืมไปตลอดกาล ชั้นถึงย้ำเตือนคนของชั้นเสมอ ไม่ว่าเจอ Tag ที่ไหนให้เก็บมาด้วย ชั้นจะได้พาเด็กของชั้นกลับบ้านไปพร้อมๆกัน 


...จุดภารกิจต่อไปของภารกิจ The Errand Prince หลังจากส่งของให้ Cindy เสร็จแล้วก็ต้องเดินทางไปยัง รีสอร์ท Galdin Quay ที่เขต Vannath Coast ทางใต้สุดของแผนที่ต่อ .........


[นักข่าว] - ข่าวต่อไปของเราวันนี้ …. เลดี้ Lunafreya แห่งTenebrae เตรียมที่จะแถลงการณ์เตรียมพร้อมในพิธีทำสนธิสัญญา คุณมีความเห็นว่าไงบ้างครับ

[Lunafreya] – ไม่ว่าจะคำๆไหนก็ไม่สามารถนำความสุขมาสู่หัวใจของชั้นได้ นอกจากคำว่า สันติภาพ มันเป็นความภาคภูมิใจที่ชั้นเลือกไม่ได้ แต่การหมั้นของชั้นก็กำลังเป็นส่วนหนึ่งของหน้าประวัติศาสตร์ที่มีสนติภาพเป็นพื้นฐาน แต่ท่ามกลางความยินดีก็ยังมีเสียงนึงที่ก้องเข้ามาในความรู้สึกถึงความกังวลใจและความกลัวที่ว่าจะทำหน้าที่ของ Oracle ไม่สมบูรณ์อย่างที่ตั้งใจ แต่ก็จงมั่นใจว่าการแต่งงานของชั้นจะไม่ได้ตั้งอยู่บนความพอใจของชั้นคนเดียวแน่นอน คุณจะยังเจอชั้นตามเมืองและหมู่บ้านต่างๆเหมือนอย่างที่เคยเจอมาตลอดและชั้นก็จะอวยพรขอให้พระเจ้าคุ้มครองพวกคุณทุกคนต่อไปแน่นอน 

[นักข่าว] - เลดี้ Lunafreya จะเดินทางออกจากTenebrae เพื่อเข้าพิธีแต่งงานอีกไม่วันหลังจากนี้ ได้โปรดคอยติดตามว่า ตำแหน่งหน้าที่ Oracle แห่ง Tenebrae จะถูกยกเลิกไปด้วยหรือเปล่า

[Prompto]- สนธิสัญญาหรอ ?
[Ignis]- แน่นอน .. เป็นพิธีกรรมที่เรียบง่ายที่สุดแล้ว
[Gladiolus] – หนึ่งในข้อตกลงที่ทำขึ้นเพื่อเป็น สัญลักษณ์แห่งสันติภาพ
[Prompto]- มันเป็นการแต่งงานเพื่อผลประโยชน์ใช่มั๊ยเนี้ย ? 
[Ignis]- ถึงแม้เธอจะเป็นถึงเจ้าหญิงแต่ก็ทรงไม่ถือตัวและยอมรับฟังคำวิจารณ์ของทุกคนมาตลอดนะ 


                                    รีสอร์ท Galdin Quay








                                    ภัตตาคาร Mother of Pearl 





1.Hunts Quest – Peace to the Beach     
ระดับความยาก – LV11
เป้าหมาย – กำจัด Rubyshears 3 ตัว
ถิ่นที่อยู่ – Vannath Coast
ช่วงเวลา – กลางวัน และ กลางคืน
Star – 1 ดาว (ครบดาวได้เพิ่ม Rank นักล่า)
ค่าหัว – 390 Gil
รางวัลนำจับ – ไม่มี

2.Hunts Quest – The Gourmands of Vannath   
ระดับความยาก – LV17
เป้าหมาย – กำจัด Sparkshears 3 ตัว
ถิ่นที่อยู่ – Vannath Coast
ช่วงเวลา – กลางวัน และ กลางคืน
Star – 1 ดาว (ครบดาวได้เพิ่ม Rank นักล่า)
ค่าหัว – 600 Gil
รางวัลนำจับ – ไม่มี

3.Hunts Quest – Stealers of Lives   
ระดับความยาก – LV17
เป้าหมาย – กำจัด Glamhoth 7 ตัว
ถิ่นที่อยู่ – Vannath Coast
ช่วงเวลา –กลางคืน
Star – 1 ดาว (ครบดาวได้เพิ่ม Rank นักล่า)
ค่าหัว – 610 Gil
รางวัลนำจับ – ไม่มี

4.Hunts Quest – Footfalls in the Dark  [Rank 3]      
ระดับความยาก – LV20
เป้าหมาย – กำจัด Hobgoblin 5 ตัว
ถิ่นที่อยู่ – Vannath Coast
ช่วงเวลา –กลางคืน
Star – 2 ดาว (ครบดาวได้เพิ่ม Rank นักล่า)
ค่าหัว – 3250 Gil
รางวัลนำจับ – Megalixir

5.Hunts Quest – A Nightmare Came by Ferry  [Rank 3]      
ระดับความยาก – LV28
เป้าหมาย – กำจัด Seadevil 5 ตัว
ถิ่นที่อยู่ – Vannath Coast
ช่วงเวลา – กลางวัน และ กลางคืน
Star – 2 ดาว (ครบดาวได้เพิ่ม Rank นักล่า)
ค่าหัว – 4250 Gil
รางวัลนำจับ – Carbon Bangle 1 อัน



ที่รีสอร์ท Galdin Quay เข้าไปที่จุดเป้าหมายของภารกิจที่ท่าเรือด้านหลังภัตตาคาร Mother of Pearl


[ชายแปลกหน้า] – ผมเกรงว่าพวกคุณจะโชคไม่มีดีนะ
[Noctis] – หมายถึงพวกเราอ่ะหรอ ?
[ชายแปลกหน้า] – เรือที่กำลังมารับพวกคุณน่ะสิ
[Prompto]- เกิดอะไรขึ้นกับพวกเขาหรอ ?




[ชายแปลกหน้า] – พวกเขาคงออกมารับพวกคุณไปไหนไม่ได้แล้วอ่ะนะ
[Gladiolus] – แล้วนายเป็นใคร ?
[ชายแปลกหน้า] – ผมก็แค่นักเดินทางที่ความอดทนน้อยจนต้องขอไปเปลี่ยนเรือยังไงละ แต่ ถ้ายังไม่เลิกยิงกันเราก็ยังไปไหนไม่ได้อยู่ดีนั่นแหละ  ... เอ้า รับไป !!!!!



[Gladiolus] – นี่มันอะไร ? ของที่ระลึกรึไง 
[ชายแปลกหน้า] – จัดให้ ! เงินช่วยเหลือค่าเดินทางของพวกคุณอ่ะนะ 



[Gladiolus] – อ๋อหรอ แล้วใครละที่เป็นคนจ่ายให้พวกเรา 
[ชายแปลกหน้า] – จากผู้ขายคนนึงที่สนผลที่ตามมา 




จากนั้นเดินไปที่ท่าเรือสำรวจที่ป้ายจะพบว่า วันนี้เรือขนส่งกลับหยุดให้บริการ เมื่อเดินผ่านโต๊ะของผู้โดยสารจะพบชายคนที่ทักทายเข้ามา



[Dino] – ตามข้อมูลที่ผมได้มา ตอนนี้ทางจักรวรรดิกำลังมีมาตรการเข้มงวดไม่ให้เรือเข้าออกในท่าเรือ Altssia เลยนะครับ ซึ่งมันคงจะทำให้คุณไปงานแต่งงานสายซะด้วยนะ จริงมั๊ยเจ้าชาย Noctis … ผมชื่อ Dino Ghiranze ยินดีที่ได้รู้จักครับ รัชทายาทแห่งราชวงศ์ Lucis นักล่ามอนสเตอร์ในรถสุดหรู แน่นอนละคุณคงไม่รู้พวกข้อมูลการแจ้งเตือนพวกนี้ และคงไม่มีใครมาบอกคุณนอกจากจะเป็นนักข่าวดีๆอย่างผม ถือว่าคุณโชคดีนะเนี้ย ซึ่งถ้าคุณต้องการผมมีข้อตกลงดีๆมานำเสนอ


Listen to him ฟังมันซะหน่อย
Stand my ground ยังยืนยันตามแผนเดิม 




** เลือก Listen to him ได้เลย ** 

[Noctis] – โอเค คุณต้องการอะไรว่ามา ?
[Dino] – ไหนเอาแผนที่การเดินทางของคุณมาซิ .. เอาละ ผมระบุตำแหน่งที่คุณจะต้องไปเอาไว้แล้วนะ คุณแค่ไปที่จุดนั้นแล้วหา Gemstone มาให้ผมซักอันเท่านั้นแหละ ถ้าทำได้ผมจะเอาเรือของผมมารับคุณออกจากเมืองนี้ โอเคนะ?



                   Main Mission – A Gentlemen’s Agreement  




ระดับความยาก – Level 3 
ผู้ว่าจ้าง – Dino 
เป้าหมายคือ – เข้าไปที่จุดเป้าหมายของภารกิจรูป! แล้วเก็บ Gemstone กลับมาให้ Dino 
การทำภารกิจ - ที่จุดเป้าหมายของภารกิจรูป! ที่อยู่ระหว่างเส้นทาง เดินขึ้นไปตามเนินเขาตามจุดเป้าหมายจนเจอจุดที่ Gemstone ตกอยู่



แต่มันดันไปอยู่ใกล้ๆกับจุดที่มอนสเตอร์นกยักษ์ขนาดใหญ่ที่กำลังหลับอยู่ ต้องย่องเข้าไปเก็บเพื่อไม่ให้มันตื่นเพื่อเก็บ Garnet Stone มาแล้วเอากลับไปให้ Dino    
EXP – 300
รางวัล – 

เมื่อรับภารกิจ A Gentlemen’s Agreement มาแล้วขณะที่กำลังเดินทางออกจาก ภัตตาคาร Mother of Pearl จะพบแมวน้อยผู้หิวโหยระหว่างทางเดิน ก็จะได้ Quest Kitty Catering  มาอีกอัน



                                                    Quest – Kitty Catering



ระดับความยาก – Level 1 
ผู้ว่าจ้าง – แมวที่หิวโหย 
เป้าหมายคือ – หาอาหารมาให้แมว 
การทำภารกิจ – ภารกิจนี้ต้องใช้ปลาที่ตกมาได้มาให้อาหารแมว ในครั้งแรกแมวจะไม่ยอมกิน ต้องนำเอาปลาไปให้ Coctura พนักงานขายของในภัตตาคาร Mother of Pearl เพื่อเอาปลาไปทำอาหารแล้วค่อยเอากลับมาไปให้แมว 



EXP – 600
รางวัล – Dragon Scales 



- เมื่อได้ Garnet Stone มาแล้วเอากลับไปให้ Dino เพื่อจบภารกิจ



[Dino] –  ว้าว เจ่งมาเลยพวกนาย คือตอนแรกโทษทีนะที่พูดจาไม่ค่อยดีใส่ สันดานนักข่าวน่ะ อย่าถือสาเลยนะ ตอนกลางวันผมเป็นนักข่าว กลางคืนก็เป็นพ่อค้าเพชรพลอยไปตามเรื่อง แต่ผมสามารถเปลี่ยน Rare Coin ต่างๆที่คุณเก็บได้เป็นของที่ระลึกเล็กน้อยๆแต่เปลี่ยนไปด้วยพลังของ Oracle ได้นะ ถ้าอยากได้อะไรเพิ่มก็ให้กลับมาซื้อกลับผมได้เลยนะ 



 - หลังจบภารกิจ A Gentlemen’s Agreement กับ Dino แล้ว  หากยังไม่ได้ทำอะไรในบทที่ 1 ก็ให้ไปทำให้เสร็จก่อนเพราะหลังจบภารกิจนี้ก็จะเข้าสู่เรื่องราวบังคับไปจนจบบทที่ 1 ทันที ...

หลังจากที่ทุกคนเข้าพักที่ รีสอร์ท Galdin Quay 1 คืนเพื่อรอเรือมารับในตอนเช้า เหตุการณ์ร้ายก็เริ่มปะทุขึ้นที่อาณาจักร  Lucis อย่างที่ไม่มีใครได้ทันคาดคิด   



                                    ทางด้านอาณาจักร  Lucis 





ในช่วงที่เริ่มพิธีการเซ็นต์สัญญาราชา Regis ก็ลุกขึ้นต่อสู้กับจักรพรรดิ Iedolas ทันที  ขณะที่ Nyx Ulric บุกเข้าไปช่วย เจ้าหญิง Lunafreya จาก Kingsglaive ผู้ทรยศได้สำเร็จ ท่ามกลางความวุ่นวาย คนของ Niflheim ก็ลอบเข้าไปทำลายแกนส่งพลังของคริสตัลทำให้บาเรียแห่งแสงที่ปกป้องอาณาจักร Lucis อยู่ต้องสลายไป เมื่อมีบาเรียกองเรือรบของ Niflheim ก็เริ่มบุกถล่ม Insomnia ตามแผนที่แท้จริงของพวกมันทันที


ในขณะที่ทางราชา Regis และ Clarus (พ่อของกลาดิโอ) องค์รักษ์ข้างกายต้องเผชิญกับนายพล Glauca ที่บุกเข้ามาที่ท้องพระโรง Clarus ก็ต้องถูกฆ่าตายด้วยฝีมือของ นายพล Glauca เพื่อปกป้องกษัตริย์ ก่อนที่ Nyx และ เจ้าหญิง Lunafreya จะมาช่วยไว้



 ราชา Regis มอบแหวนแห่งราชา Ring of the Lucii ก่อนบอกกับเจ้าหญิง Luna ให้เอาไปให้เจ้าชาย Noctis ที่จุดนัดพบที่เมือง Altissia  ไม่ใช่เพื่อช่วยลูกแต่เพื่อช่วยคนทั้งโลก ก่อนที่ ราชา Regis จะกั้น Nyx และ เจ้าหญิง Lunafreya ด้วยบาเรียเวทย์แล้วเข้าต่อสู้กับ นายพล Glauca จนถูกฆ่าตายต่อหน้าต่อตา Nyx และ เจ้าหญิง Lunafreya ที่อยู่อีกฝากของบาเรีย


ภารกิจสุดท้ายของ Nyx Ulric คือต้องกำจัดนายพล Glauca เพื่อปกป้องเจ้าหญิง Lunafreya ให้สามารถเอาแหวนแห่งกษัตริย์ Ring of the Lucii ไปส่งต่อให้ ทายาทคนเดียวของราชวงศ์ Lusic นั่นก็คือ เจ้าชาย Noctis ท่ามกลางการต่อสู้กับ นายพล Glauca  Nyx ในฐานะ Kingsglaive ที่ไร้พลังจากกษัตริย์นั้นไม่สามารถต่อกรกับ นายพล Glauca ได้เลย


จนสุดท้าย Nyx จึงต้องยอมขอพลังจากแหวนแห่งกษัตริย์ Ring of the Lucii เพื่อปกป้องแหวนไม่ให้อยู่ในมือของคนชั่วแลกกับชีวิตของเขาเอง พลังที่ยิ่งใหญ่ที่ Nyx ได้มาก็สามารถจัดการนายพล Glauca ลงได้สำเร็จก่อนที่ร่างของเขาจะสลายไปพร้อมอรุณรุ่งของวันใหม่


 เจ้าหญิง Luna ที่ได้รับการช่วยเหลือจาก Libertus ก็ออกเดินทางจากซากเมืองหลวง Insomnia เพื่อตามหารัชทายาทคนสุดท้ายของราชวงศ์ Lucis นามว่า Noctis Lucis Caelum เพื่อส่งต่อแหวนแห่งกษัตริย์ Ring of the Lucii เพื่อกอบกู้อาณาจักร Lucis จากเงื้อมมือของ Niflheim ให้กลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง


 เช้าวันรุ่งขึ้นที่ รีสอร์ท Galdin Quay ก่อนที่ทุกคนจะขึ้นเรือออกเดินทางตามหายกำหนดการณ์ ทุกสิ่งก็ต้องหยุดชะงักกับข่าวร้ายที่มากับหน้าข่าวของหนังสือพิมพ์ที่ Ignis มายื่นให้



[Ignis] – ทั้งหมดอยู่ในหนังสือพิมพ์ ...
[Noctis] – มีอะไรหรอ ?
[Prompto]- Insomnia ล่มสลายงั้นหรอ ?
[Noctis] – อะไรนะ !!
[Ignis] – นายต้องใจเย็นก่อนนะ ฟังชั้นอธิบายก่อน 
[Noctis] – เออ เย็นแล้ว พูดมา !!
[Ignis] – เมืองของเราถูกพวกจักรวรรดิโจมตี พวกมันยึดเมือง Crown City เอาไว้ได้แล้ว 



[Gladiolus ]- หอคอยของโบสถ์ถูกระเบิดย่อยยับจนควันดำปกคลุมท้องฟ้าเหมือนกับตอนกลางคืน ..... พบศพกษัตริย์ว่าทรงสิ้นพระชนม์แล้ว 
[Noctis] – เดี๋ยวๆ ไม่ใช่แล้ว !! เกิดการเข้าใจผิดแน่นอน
[Ignis] – เราไม่มีทางรู้ได้หรอก...
[Noctis] – อะไร รู้ว่าอะไร !!
[Ignis] – เหตุการณ์มันเกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อคืนวานแล้ว
[Noctis] – แต่ทำไมถึงให้ไปจัดงานแต่งงานที่ Altissia ละ !!
[Ignis] – ชั้นรู้ นั่นมันเป็นแผนของพระองค์ แล้วข่าวการโจมตีที่ออกตามข่าวก็เหมือนกันหมด มันอาจจะเป็นข่าวที่บิดเบือนก็ได้ใครจะรู้ ?



[Noctis] – โกหกชัดๆ ..
[Gladiolus ]- แล้วเราจะรู้ได้ไงมันจริงไม่จริงถ้าเราไม่ไปเห็นด้วยตาตัวเอง
[Prompto]- หมายความว่าเราต้องกลับไปที่ Insomnia 
[Ignis] – มันอาจไม่ปลอดภัยสำหรับพวกเราก็ได้นะ 
[Prompto]- แล้วรู้ได้ไงว่าที่นี่เราจะปลอดภัย 
[Gladiolus ]- ตกลงกลับเมืองเราใช่มั๊ย ?
[Noctis] – ใช่ ....





                                      Main Mission -  III Tidings





ระดับความยาก – Level 1 
ผู้ว่าจ้าง – Noctis
เป้าหมายคือ – หาทางเข้าเมืองหลวง Insomina 
Exp - 350


[Prompto]-หวังว่าทุกคนที่นั่นคงไม่เป็นไรนะ 
[Noctis] – หวังแต่สิ่งดีๆไว้คือสิ่งเดียวที่เราควรจะทำในตอนนี้นะ 
[Ignis] – อย่าเพิ่งหมดศรัทธราเป็นพอ 
[Noctis] – หรอ ? แล้ว ศรัทธรามันช่วยหยุดยานรบของกองทัพพวกจักรวรรดิได้รึเปล่าละ ? พ่อชั้นก็เต็มเปี่ยมไปด้วย ศรัทธรา ไม่ใช่รึไง
[Gladiolus ]- พอได้แล้ว นายพักบ้างก็ดีนะ
[Prompto]- พวกจักรวรรดิมันจอมโกหก มันทรยศพวกเรา !!
[Ignis] – การคาดเดามั่วจะทำให้เราหลงทาง ตอนนี้เราต้องค้นหาแต่ความจริงเท่านั้น 
[Noctis] – ทุกอย่างที่นายค้นพบก็จะมีแต่คำโกหกทั้งนั้นนั่นแหละ 



[Gladiolus ]- ดูขนาดยานรบของพวกมันสิ 
[Ignis] – ยานรบของพวกจักรวรรดิ พวกมันส่งทหารจักรกลที่สร้างจากเทคโนโลยี Magitek ที่เรียกว่ากองทหาร Magitek infantry ให้ออกรบแทนพวกมัน
[Gladiolus ]- หุ่นยนต์หรอ ?
[Ignis] – มันคือส่วนผสมระหว่าง Humanoid กับอาวุธร้ายแรง รวมเป็นอาวุธสงครามที่ทรงอำนาจ 
[Prompto]-มันไม่เหมือนที่พวกมันตั้งใจจะทำสัญญาเพื่ออสันติภาพบ้านั่นเลยซักนิด !!  



[Ignis] – ดูนั่น พวกมันยึดด่านตรวจที่กั้นเมือง Crown City เอาไว้หมดแล้ว 
[Gladiolus] - ถ้าเส้นทางถูกกั้นเราก็จะหาอีกเส้นทางเพื่อผ่านเข้าไป กฎง่ายๆของชั้นไง 

ที่จุดตรวจผ่านแดนที่เมือง Crown City ในเขต Ostium Gorge ทางฝั่งขวาของแผนที่จะเต็มไปด้วยทหารของพวกจักรวรรดิปิดกั้นเส้นทางเอาไว้จนทำให้คณะของเจ้าชายต้องหาทางเลี่ยงไปอีกทางที่ซากตึกด้านขวา จากนั้นต้องลุยทหาร  Magitek Solider ของพวกจักรวรรดิตามทาง เพื่อทะลุออกไปที่เนินเขาที่สามารถมองเห็นสถานการณ์ในมุมกว้างของเมืองหลวง  Insomnia อย่างชัดเจน


เสียงข่าวจากวิทยุ – การสู้รบระหว่าง 2 อาณาจักรสงบลงอย่างชั่วคราวเมื่อไม่นาน มานี้ นอกเหนือจากข่าวที่เราเคยรายงานไปแล้วถึงเรื่องการสิ้นพระชนม์ของ กษัตริย์ Regis ข่าวล่าสุดได้รับการยืนยันแน่ชัดแล้วว่า เจ้าชาย Noctis Lucis Caelum รัชทายาทแห่ง Lucis และ เจ้าหญิง Lunafreya Nox Fleuret ได้เสียชีวิตลงแล้วเช่นกัน 



[Noctis] – ฮัลโหล !! Cor หรอ ?  มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่เนี้ย ?
[Cor] – นายทำได้จนได้นะ ตอนนี้อยู่ที่ไหน?
[Noctis] – ผมอยู่นอกเมือง ยังหาทางเข้าเมืองไม่ได้เลย
[Cor] – ดีแล้ว
[Noctis] – ดีแล้วหรอ ? คุณพูดจริงหรอเนี้ย ! ข่าวบอกผมตายแล้วพร้อมพ่อกับ Luna ด้วย แล้วมันดีตรงไหน ??
[Cor] – ฟังนะ เดี๋ยวไปเจอผมที่ Hammerhead ส่วนเรื่องการสวรรคตของพระองค์ ...มันเป็นความจริง 



และถ้าอยากรู้ความจริงทั้งหมด คุณรู้นะจะเจอผมได้ที่ไหน 
[Ignis] – ท่านแม่ทัพว่าไง  



[Noctis] – เขาให้ไปเจอที่ Hammerhead
[Gladiolus ]- แล้วพระองค์ละ ?
[Noctis] – … สิ้นแล้ว ..





 ---------------------------- END OF CHAPTER  ------------------------------------------

                   

                                     [Trick]

            การไล่ลา Cactuar เพื่อเก็บเลเวลแบบก้าวกระโดดในบทที่ 1 





 การเจอตัว Cactuar ที่แน่นอน 

1. เจ้ากระบองเพชร Cactuar LV15 HP5000 แพ้ปืนดาบเล็ก เวทย์ไฟ ตำแหน่งที่มันจะออกมาอยู่บริเวณ ระหว่าง Wenverwild กับ Hammerhead ด้านซ้ายของจุดตั้งแค้มป์ Cotisse Haven วาดวงกลมไว้ตรงช่วงบนของจุดเก็บสมบัติ จะออกมาแบบแรนด้อมไม่ซ้ำจุด แต่จะออกมาในบริเวณนี้แน่นอน


2. ก่อนอื่นกำจัแรดยักษ์แถวๆต้นไม้ก่อน ตากนั้นก็รอเจ้า Cactuar มันออกมา  เวลาที่แน่นอนที่มันเริ่มออกมาคือเช้าถึงเย็น แต่จะแรนด้อมออกในแต่ละช่วงเวลาและมีจุดเกิดที่ไม่ซ้ำกัน ต้องเดินวนจนได้ยินเสียงของมันก็จะเจอตัวมันเอง แต่จะมีจุดนึงที่เป็นจุดที่มันเกิดอย่างแน่นอนที่สุดคือตรงจุดที่ไกลๆกับที่มอนสเตอร์แรดยักษ์อยู่ ดังในภาพ


3. ความร้ายกาจของมันนอกจากความเร็วสูงแล้วก็จะมีทั้งทำให้สับสนและท่าพันล้านเข็มที่ยิงมาจน HP เหลือ 1 แต่ถ้าจัดการได้ฟัน EXP 5000 – 6000 สบายๆ



                         Machinery Weapons ในเขตพื้นที่ LFIDE


Machinery Weapons คืออาวุธปืนที่ทุกตัวละคนสามารถใช้เป็นอาวุธหลักได้ด้วยและเป็นอาวุธสำคัญสำหรับท่า Techniques ของ Prompto ด้วย โดยสามารถสวมใส่ที่ Primary Arms ช่องล่าง




ในพื้นเขตที่ LFIDE จะมีซ่อนอยู่ 2 อันที่ปากทางเข้าและด้านในของ  ดันเจี้ยนทางเหนือสุดของ Keycatrich Trench



                                                        1.Bioblaster 





 อยู่บนเนินหินทางซ้ายของทางเข้าดันเจี้ยนทางเหนือสุดของ Keycatrich Trench



                                                 2.Auto Crossbow 





 อยู่ด้านในสุดของดันเจี้ยนทางเหนือของ Keycatrich Trench ในห้อง Boss Arachne



                          Quest จาก Dungeon ในเขตพื้นที่ LFIDE




                                    
                                     1. Quest - Crestholm Channels   

ระดับความยาก LV.45

EXP – 8000



ทางเข้าอยู่ตรงลูกกรงกันทางฝั่งขวาของถนน  ลงไปตามซากอาคารจนถึงที่ลงทางระบายน้ำใต้ดินในเขต Ostium Gorge ทางตะวันออกของพื้นที่ มอนสเตอร์เลเวลประมาณ 35 – 46 และศัตรูระบบ Boss ย่อยมากมาย เป้าหมายคือลงไปชั้นล่างสุดเพื่อจัดการกับ Boss มังกร JORMUNGAND  LV50



                                                   2. Quest - Balouve Mine 

ระดับความยาก LV.50
EXP – 10000




ทางเข้าเหมืองอยู่ใกล้ๆจุดจอดรถในเขต Callacgh steps ระหว่างเส้นทางลงใต้ของพื้นที่ ด้านในมี 4 ชั้น มอนสเตอร์ด้านในจะมี Goblin LV7 ธรรมดาๆแต่สุดทางที่ชั้น 4 F จะเจอกับ Boss Aramusha LV52




** หลังจากถึงบทที่ 2 ** เมื่อปลดล็อกเรื่องราวของ Royal Tomb และ Royal Arm แล้ว หลังจากจัดการ Aramusha ที่ชั้นล่างสุดของเหมืองได้แล้ว





เมื่อกลับมาที่นี่อีกครั้ง ขึ้นบันไดทางขวามาชั้น 2 สำรวจรอยแยกที่พนังจะสามารถเข้าไปด้านในช่องทางลับซึ่งจะนำพาไปยัง Tomb of the Clever ที่เก็บรักษา Bow of the Clever อาวุธแห่งกษัตราเล่มที่ 3 [นอกเส้นทางเนื้อเรื่อง ] 



กษัตริย์ผู้มากด้วยความเชี่ยวชาญทั้งศาสตร์การรบและสติปัญญาเหนือคณานับ นึ่คือ หน้าไม้ ที่ใช้สำหรับแบกรับหน้าที่ส่งเหล็กแหลมพุ่งข้ามผ่านสนามรบเสียบทะลุร่างเหล่าศัตรูที่ขวางทางให้ดับดิ้นสิ้นใจรวดเร็วทันใจก่อนที่ใครจะทันตั้งตัว ขออัญเชิญ ศาตราแห่งความเฉลียวฉลาด Bow of the Clever 





Bow of the Clever 
ATK+203
Magic+80
Shot Resistance+50%




                                      3. Quest - Keycatrich Trench 





ทางเข้าดันเจี้ยนอยู่ทางเหนือสุดของ The Weaverwilds ในเขต Keycatrich Ruin ด้านในมี Boss Arachne และ Machinery Weapons Auto Crossbow






                 CHAPTER 2 – No Turning Back 













                                         The Power of King


[Gladiolus ]- ไม่ต้องเดาเลยว่าพวก Crownsguard คงเริ่มเคลื่อนไหวแล้ว
[Ignis] – ถ้าเพิ่งไม่มั่นใจนักเพราะยังไม่เห็นพวก Marshal ออกมาทำอะไรเลยซักนิด
 [Prompto]- ผมนึกภาพไม่ออกเลยด้วยซ้ำว่าตอนนี้ในเมืองของเราจะเป็นยังไงบ้าง
[Ignis] – เดี๋ยวคงมีรายงานออกมา ไม่นานหรอก
[Gladiolus ]- ใช่ เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ที่ยากที่มีใครไม่สนใจ
[Prompto]-  แล้วพวกเราละ เอาไงต่อ ? 
[Gladiolus ]- เราคงต้องไปที่ Hammerhead ก่อนแล้วค่อยหาที่พักกันทีหลัง



[Gladiolus ]-ผมได้รับข้อความจากน้องสาวเมื่อกี้ ตอนนี้เธออยู่กับผู้ลี้ภัยที่ชายแดนของ Lestallim
[Prompto]-  เฮ้อ ก็ยังดีที่รู้ว่า Iris เธอปลอดภัย 
[Gladiolus ]- ก็ใช่ ..แต่ก็มีอีกหลายชีวิตที่ไม่ได้โชคดีแบบนี้นะ 
[Ignis] – อย่าเพิ่งหมดอาลัยตายอยาก Noct เราต้องหาทางแก้ไขให้เร็วที่สุด
[Prompto]-   เราคงไม่มีทางหันหลังกลับไปอีกแล้ว มุ่งไปข้างหน้าอย่างเดียว
[Noctis] – ... เฮ้อ ... ไม่หันหลังกลับ ..เอาสิ ไปกันเลย 




                                        เขตพืนที่ LFIDE

                      Hammerhead Service ... The Three Valleys  .. 


เมื่อเดินทางมาถึง Hammerhead จะพบ Cindy ที่ยืนรออยู่จะบอกให้เข้าไปคุยกับ Cid ที่รออยู่ด้านในอู่



[Cid] – คริสตัล และ แหวนแห่งกษัตริย์ พวกเขาจะทำยังไงกันต่อหลังจากนี้นะ 
[Ignis] – ต่างก็ใช้คำว่า สันติภาพ มาเป็นข้ออ้างกันทั้งนั้น ..
[Noctis] – พวกมันทำกับพ่อเหมือนเป็นคนโง่อย่างงั้นแหละ
[Cid] – อย่าทำตัวเป็นเด็กสิ .. Reggie ไม่ได้เพิ่งเกิดเมื่อวานนะ ที่ Lucis ต้องพ่ายแพ้ต่อการตกลงในครั้งนี้ พ่อของเธอก็ทำดีที่สุดเท่าที่จะทำได้แล้ว เขาเห็นความไม่ชอบมาพากลมาแต่ไกลแล้วเพียงแต่เขาไม่อยากแพ้ก่อนที่จะได้สู้ ถึงแม้ว่าในที่สุด ... ก็นะ.. ชั้นแทบจำครั้งสุดท้ายที่ชั้นเห็น Reggie ไม่ได้แล้ว เหมือนมันจะนานเป็นชาติเลยมั้ง



[Cid] – ถ้าเธออยากได้ข้อมูลอะไรเพิ่มก็ไปคุยกับ Cor เอานะ เขาทิ้งข้อความเอาไว้บอกว่าจะรออยู่ที่สุสานทางเหนือของที่นี่ ซึ่งพวกเธอก็คงจะต้องผ่าน Prairie Outpost ก่อน ลองไปหาข้อมูลจากที่นั่นเพิ่มเติมก่อนแล้วกันนะ  





คุยกับ Cid จบจะได้ Main Mission Legacy มา เป้าหมายแรกคือเดินทางไปที่จุดหมายของภารกิจที่ Prairie Outpost ทางเหนือของแผนที่



   ก่อนออกเดินทางแวะทำ Quest ย่อยจากคนที่มีเครื่องหมาย ? สีเหลืองที่ Hammerhead ก่อน



[Cid] – ได้ของดีอะไรมาหรอ ไอ้หนู ?
[Noctis] – นี่นะหรอ ? ของบางอย่างที่เราเก็บได้หลังจากจัดการกับพวกทหารของจักรวรรดิครับ  
[Cid] – ชั้นคิดว่ามันทำจากที่เมือง Crown City นะ ถ้าเธอชอบชั้น Mod ให้ได้ดีกว่านี้อีกนะถ้าหาวัตถุดิบมาให้ชั้นได้อ่ะนะ 
[Noctis] – Mod ยังไงหรอครับ ?
[Cid] – นี่บอกตรงๆนะ ชั้นไม่ได้เงินซักบาทเพราะ Ciddy เธอดูแลอู่เองทั้งหมด นอกจากเงินเล็กๆน้อยๆจากการต่อเติมเสริมแต่งอุปกรณ์นู้นที่นั่นไปเรื่อย ถ้าเธอหาพวกชิ้นส่วนวัตถุดิบตามที่ชั้นต้องการมาได้ ชั้นก็สร้างให้ได้หมดนั่นแหละ



                         Side Quest จาก CID ที่ Hammerhead



ถ้าเข้าไปคุยกับ ลุง Cid อีกครั้งก็จะมี ภารกิจเสริมให้ทำอีกมากมาย ซึ่งส่วนใหญ่คือการอัพเกรดอาวุธต่างๆ (การอัพเกรดอาวุธ ต้องถอดอาวุธที่ต้องการอักเกรดออกจากการสวมใส่ด้วย) โดย Side Quest ของ Cid จะประกอบด้วย


1. Quest – Cid Sophiar, Master Mechanic 
ผู้ว่าจ้าง – Cid
EXP – 500
ต้องการ – หา Metal Scrap มาให้ Cid (เก็บที่ด้านหลังเค๊าท์เตอร์ของภัตตาคารใน Galdin Quay)
รางวัล – Drain Lance II

2. Quest – A Better Engine Blade
ผู้ว่าจ้าง – Cid
EXP – 500
ต้องการ – หา Rusted bit มาให้ Cid (เก็บที่ปลายทางเดินที่ทางเรือใน Galdin Quay หรือ บนหอสังเกตการณ์ที่ Prairie Outpost)
รางวัล – Engine Blade II

3. Quest – A Better Drain Lance II
ผู้ว่าจ้าง – Cid
EXP – 500
ต้องการ – หาไอเทม Coeurl Whiskers มาให้ Cid  ใกล้สุดคือหาจากด้านในดันเจี้ยน Keycatrich Ruins   หรือ รางวัลจาก Hunter Quest - Hunters of Seculiam pass ที่รับงานได้ในร้านอาหารใน Taelpar Outpost)
รางวัล – Drain Lance III

4. Quest – A Better Auto Crossbow
ผู้ว่าจ้าง – Cid
EXP – 2000
ต้องการ – หาไอเทม Cactuar needle มาให้ Cid (ได้จากกระบองเพชร Cactuar) 
รางวัล – Auto Crossbow Plus
** เมื่อให้วัตถุดิบไปแล้วต้องรอให้ Cid สร้างอาวุธซักพักจนกว่าเขาจะโทรบอก**

5. Quest – A Better Bioblaster 
ผู้ว่าจ้าง – Cid
EXP – 2000
ต้องการ – หาไอเทม Dynamo มาให้ Cid (ได้จากการจัดการมอนสเตอร์งูยักษ์ Midgardsormr  แล้วเข้าไปเก็บไอเทมนี้ที่ริมแม่น้ำแถวๆหน้าดันเจี้ยน Greyshire Glacial Grotta) ** อยู่นอกพื้นที่ของบทที่ 2 **




รางวัล – Bioblaster Plus

6. Quest – A Better Engine Blade II
ผู้ว่าจ้าง – Cid
EXP – 800
ต้องการ – หาไอเทม Gemstone มาให้ Cid (ได้จาก Dino ในภารกิจ A Gentlemen’s Agreement ก่อนจบบทแรก)
รางวัล – Engine Blade III
** เมื่อให้วัตถุดิบไปแล้วต้องรอให้ Cid สร้างอาวุธซักพักจนกว่าเขาจะโทรบอก**

7. Quest – A Better Engine Blade III
ผู้ว่าจ้าง – Cid
EXP – 1000
ต้องการ – หาไอเทม Sturdy Helixhorn มาให้ Cid
การจะได้มาซึ่ง ไอเทม Sturdy Helixhorn นั้นยังอยู่นอกเขตพื้นที่ของบทที่ 2 โดยต้องไปรับ Quest Hunting : The Last Spiracorns ที่ Old Lestalium outpost จากนั้นกินอาหาร Mother & Child Bowl เพื่อเพิ่มอัตราการดรอปไอเทมของศัตรู 50 % ถ้าจะให้ดีก็ต้อง
ใช้อาวุธ Sword of the Wise หรือ Hardedgesword เพื่อเพิ่มอัตราการ Breakในขณะที่เข้าไปล่าตัว Duplicron ให้ล็อกออนไปที่เขาเพื่อโจมตีจนทำให้มันหัก (มีคำว่า Break ขึ้นมา) ก็จะได้ไอเทม Sturdy Helixhorn  มา
รางวัล – Ultima Blade


                           Side Quest จาก Cindy ที่ Hammerhead


                             สำรวจที่ปั๊มเติมน้ำมันเพิ่มรับภารกิจเสริมของ Cindy  





1. Quest – The Ever Regal Regalia 
ระดับความยาก – Level 8
ผู้ว่าจ้าง – Cindy
EXP – 150
ต้องการ – เป้าหมายของภารกิจจะอยู่ที่อุโมงค์ร้างทางตะวันตกของ Weaverwilds  ลุยพวก Goblin เข้าไปด้านในเพื่อเก็บ Aero Wak กลับไปให้ Cindy




เมื่อได้ Aero Wak มาแล้ว เข้าไปด้านในอุโมงค์ต่อจนถึงทางออกที่โรงงานร้างจะได้ยินเสียงคนร้องให้ช่วย ทำให้ได้  Rescue Quest มาอีกอัน


2. Quest – Tired of Running  
ระดับความยาก – Level 5
ผู้ว่าจ้าง – Hunter
EXP – 300
รางวัล – 500 Gil
ต้องการ – เข้าไปในพื้นที่ภารกิจวงกลมสีฟ้า หาในซอกของตู้คอนเทรนเนอร์ด้านในจะพบ Hunter บาดเจ็บอยู่ เอา Potion ให้เขาเพื่อรักษาการบาดเจ็บจนหายก็จะจบภารกิจ




                                     Side Quest – Rescue ช่วยเหลือคนบาดเจ็บ

Hunter ที่บาดเจ็บจะซ่อนอยู่ตามที่ต่างๆโดยจะไม่มีเป้าหมายในแผนที่แต่จะส่งเสียงเรียกขอความช่วยเหลือให้ได้ยิน ภารกิจของ Quest จึงจะมีขอบเขตให้ค้นหาขึ้นมา พยายามตามหาผู้บาดเจ็บแล้วเอา Potion หรือ Antidotes ให้เขาก็จะจบภารกิจ



                                                           รายละเอียด

- เควสช่วยเหลืออันแรกจะเจอในขณะเข้าไปทำ Quest : The Ever Regal Regalia ของ Cindy โดยเมื่อได้ Aero Wak มาแล้วให้เดินทะลุออกไปที่ปลายทางของอุโมงค์ก็จะได้ยินเสียงคนเรียกให้ช่วยก็จะพบ เควสช่วยเหลือแรก

-การเจอผู้บาดเจ็บนั้นจะเจอเรียงกันตามหมายเลขในแผนที่ ซึ่งแต่ละจุดจะปรากฏให้เห็นแบบไม่ระบุเวลาอาจกลางวันหรือกลางคืนก็ได้ และบางจุดจะปรากฏให้เห็นต่อเมื่อผ่านภารกิจในเนื้อเรื่องหลักในแต่ละบทไปแล้ว 



                                   ** จุดที่มีคนบาดเจ็บตามหมายเลขในแผนที่ **


1. Side Quest – Tired of Running 
รางวัล 500 exp, 900 gil
เงื่อนไข – เจอหลัง Quest : The Ever Regal Regalia ของ Cindy

2. Side Quest – Palpable Pain 
รางวัล 350 exp, 900 gil
เงื่อนไข – ต้องเจอจุดที่ 1 ก่อน และจะปลดล็อกหลังจากถึงบทที่ 2 แล้ว

3. Side Quest – When you Believe
รางวัล 1000 exp, 6000 gil
เงื่อนไข – ต้องเจอจุดที่ 2 ก่อน และจะปลดล็อกหลังจากถึงบทที่ 9 แล้ว

4. Side Quest – Search and Rescue 
1.Tired of Running
รางวัล 500 exp, 900 gil
เงื่อนไข – ไม่มีเงื่อนไขการเจอ (เจอตอนไหนก็ได้)

5. Side Quest – Lost Without a Potion
รางวัล 350 exp, 900 gil
เงื่อนไข – ต้องเจอจุดที่ 4 ก่อน  และจะปลดล็อกหลังจากถึงบทที่ 2 แล้ว

6. Side Quest – Distress in the Desert
รางวัล 350 exp, 900 gil
เงื่อนไข – ต้องเจอจุดที่ 4 ก่อน  และจะปลดล็อกหลังจากถึงบทที่ 2 แล้ว

7. Side Quest – A Cry for Help
รางวัล 300 exp, 500 gil
เงื่อนไข – เข้าไปคุยกับเจ้าของโรงแรมใน  Longwythe Rest Area ในช่วงภารกิจ "The Errand Prince" ส่งของ Cindy หลังซ่อมรถเสร็จ

8. Side Quest – Scared and Stranded
รางวัล 350 exp, 900 gil
เงื่อนไข – ต้องเจอจุดที่ 7 ก่อน และจะปลดล็อกหลังจากถึงบทที่ 2 แล้ว

9. Side Quest – An Exaggerated Injury
รางวัล 350 exp, 900 gil
เงื่อนไข – ต้องเจอจุดที่ 8 ก่อน และจะปลดล็อกหลังจากถึงบทที่ 2 แล้ว

10. Side Quest – Conceal, Don’t Feel
รางวัล 300 exp, 500 gil
เงื่อนไข – ต้องเจอจุดที่ 7 ก่อน

Cr.รูปภาพแผนที่จาก 
http://www.gosunoob.com/final-fantasy-xv/ffxv-rescue-quest-locations/



3. Quest – The Ever Elegant Regalia 
ระดับความยาก – Level 8
ผู้ว่าจ้าง – Cindy
EXP – 500
รางวัล – Basic Color Samples และ Racing Stripes
ต้องการ – Redstone Shard ที่ balouve Mines โดยไอเทมจะตกอยู่ทางขวาของลิฟต์ลงชั้นล่างของเหมือง ซึ่งถ้าใครเคยเข้ามาลุยที่นี่แล้วคงเก็บไว้กันหมดแล้วแน่นอน เก็บมาแล้วก็เอากลับไปให้ Cindy ได้เลย

4. Quest – The Ever Gleaming Regalia 
ระดับความยาก – Level 10
ผู้ว่าจ้าง – Cindy
EXP – 600
รางวัล – Basic Color Samples และ Racing Stripes
ต้องการ – เป้าหมายของภารกิจอยู่ในเขต Alstor Slough ซึ่งยังอยู่นอกเขตพื้นที่ของบทที่ 2






                     Side Quest จาก Takka เจ้าของร้านอาหาร PIT SHOP




1.Quest – Secenic Delivery 
ระดับความยาก – LV1
ผู้ว่าจ้าง – Takka
EXP – 300
ต้องการ – หาไอเทม Lucian Tomato มาให้ Takka (ซื้อได้จากร้าน Peddler ที่ Prairie Outpost และร้านค้าที่ Galdin Quay )
รางวัล – Gighee Ham x2 , Leiden Potato X2 , Sheep Milk x2 , Funguar X2

2.Quest – Hunters and Gatherers  
ระดับความยาก – LV6
ผู้ว่าจ้าง – Takka
EXP – 500
ต้องการ – หาไอเทม Daggerquill breast มาให้ Takka (ได้จากมอนสเตอร์ Daggerquill มอนสเตอร์บินได้ที่ซากรถตรงทางแยกซ้ายทางใต้ของ Prairie Outpost ตรงที่เคยมาเก็บ Dog Tag ให้ Dave)



รางวัล – Cleigne wheat x5, Dualhorn Steak x5, Leiden Pepper x5

3.Quest – Emergency Delivery   
ระดับความยาก – LV11
ผู้ว่าจ้าง – Takka
EXP – 1000
ต้องการ – หาไอเทม Garula Sirloin มาให้ Takka (จุดเป้าหมายจะอยู่ในเขต Alstor Slough นอกพื้นที่ของบทนี้)


รางวัล – Cleigne wheat x5,Killer Tomato x5, Saxham,Rice Pepper x5



                 หากนอนพัก 1 คืน Dino จะโทรมาหาเพื่อให้งานทำอีก 1 side Quest 




1.Quest – The Aspiring Artisan
ระดับความยาก – LV6
ผู้ว่าจ้าง – Dino
EXP – 500
ต้องการ – Amethyst  Stone
รางวัล – Amethyst Bracelet
คุยกับ Dino ที่รีสอร์ท Galdin Quay เขาต้องการให้ไปหา Gemstone มาให้เขาเหมือนเดิม จากนั้นเข้าไปที่จุดภารกิจ Side Quest ที่พื้นที่ Longwythe peak  ที่จุดเป้าหมายวงกลมสีฟ้าที่ต้องหา Gemstone ให้เจอ


ในระหว่างนั้น Magitek Army ทหารของจักรวรรดิพร้อมหุ่น MA Veles จะบุกเข้ามาทันที จัดการพวกมันให้หมดแล้วเข้าไปที่ด้านบนของรัศมีวงกลมก็จะเจอก้อนผลึก Amethyst  Stone เก็บกลับไปให้ Dino เพื่อจบภารกิจ

2.Quest – A Stone-Studded Stunner   
ระดับความยาก – LV15
ผู้ว่าจ้าง – Dino
EXP – 1000
ต้องการ –
รางวัล – Heliodor Bracelet
คุยกับ Dino ที่รีสอร์ท Galdin Quay อีกครั้งเขาต้องการให้ไปหา Gemstone มาให้อีกอัน (จุดหมายของภารกิจที่ต้องไปเก็บนั้นอยู่ที่เขต Kettier highland ซึ่งอยู่นอกเขตพื้นที่ของบทที่ 2 นี้จึงต้องพักเอาไว้ก่อน ..)





                                    Main Mission – Legacy    


ระดับความยาก – Level 5
ผู้ว่าจ้าง – Cor 
EXP – 400

เข้าไปที่ Prairie Outpost ที่จุดเป้าหมายของภารกิจจะพบกับ Monica Elshett หนึ่งในหน่วย Crownsguard ลูกน้องของ Cor



[Monica] –ฝ่าบาท ชั้นดีใจมากคะที่ท่านปลอดภัย
[Gladiolus ]- โมนิก้า แล้วคนที่เหลือละ ?
 [Monica] – Crownsguard ส่วนใหญ่ปฏิบัติหน้าที่ไม่สำเร็จ พวกเราที่เหลือก็พอทำได้แค่เข้าไปคุ้มกันคุณหนู Iris เพื่อหนีออกจากเมืองคะ Dustin คนของเราอยู่กับเธอเพื่อพาเธอไปลี้ภัยที่เมือง Lestallum 
[Gladiolus ]- ผมเป็นหนี้พวกเขาครั้งใหญ่เลยละ 
[Monica] – มุ่งหน้าไปที่สุสานกษัตริย์ Tomb of the wise marshal จะรออยู่ที่นั่นคะ 

* ได้ Magic Flask คีย์ไอเทมที่จะทำให้ช่องการผสมเวทย์เพิ่มขึ้นมาอีก 1 ช่อง *



                            Main Mission – The Power of King






จากนั้นมุ่งหน้าไปที่จุดเป้าหมายใหม่ในแผนที่เข้าไปยัง สุสานกษัตริย์ Tomb of the wise ทางเหนือของ Prairie Outpost ต่อ เข้าไปด้านในก็จะพบ Cor รออยู่ ...



                                             -ROYAL TOMB -

                                              Tomb of the wise




[Cor] – มาถึงซะทีนะฝ่าบาท
[Noctis] – งั้นก็บอกมาซักทีว่าให้ผมมาที่นี่เพื่ออะไร ?




[Cor] – พลังแห่งกษัตริย์พันธะแห่งจิตวิญญาณกษัตริย์ที่ส่งต่อจากรุ่นเก่าสู่รุ่นใหม่
หนึ่งดวงวิญญาณที่อยู่ตรงหน้าเพื่อยืนยันสิทธิในพลังแห่งบรรพบุรุษเพื่อส่งต่อภาระหน้าที่ให้สมกับเป็นกษัตริย์รุ่นต่อไป 
[Noctis] – ภาระหน้าที่ของกษัตริย์อะไรกัน ?
[Cor] – ตอนนี้ไม่ใช่เวลามาตอบคำถามของฝ่าบาทหรอกนะ แต่ ..กษัตริย์ทุกพระองค์ต้องสาบานว่าจะปกป้องประชาชนของตนเอง 



[Noctis] – และเขาก็เลือกที่จะทอดทิ้งผู้คนจำนวนมากเพื่อมาปกป้องแค่รู้ชายตัวเองแค่คนเดียว !  
[Cor] – แล้วนานแค่ไหนแล้วละที่ท่านคอยปกป้องคุณ เพราะพระองค์ท่านมอบความไว้วางใจเพื่อส่งต่อบทบาทแห่งผู้พิทักษ์ให้คุณ
[Noctis] – มอบความไว้วางใจผมงั้นหรอ ? แล้วทำไมเขาถึงไม่ยอมบอกผมแบบนี้ละ ? ทำไมเขาถึงได้แต่ยืนยิ้มตอนที่ผมออกเดินทางมา ? ทำไม ! ทำไมเขาต้องโกหกผมด้วย ...

     

[Cor] – วันนั้น พระองค์ท่านไม่ต้องการให้ฝ่าบาทจดจำท่านในฐานะกษัตริย์ ในเวลาที่ฝ่าบาทกำลังจะจากท่านไป ท่านอยากให้จดจำท่านในฐานะพ่อเท่านั้นเอง ท่านยังเชื่อมั่นในตัวฝ่าบาทมาตลอดว่าเมื่อเวลานั้นมาถึงฝ่าบาทต้องมีพลังมากพอที่ปกป้องประชาชนของฝ่าบาทได้สำเร็จอย่างแน่นอน 
[Noctis] – เหมือนเขาไม่เคยให้ทางเลือกกับผมเลยด้วยซ้ำ ...





กษัตริย์ทรงสร้างกำแพงมนต์ตราที่ทรงพลานุภาพเพื่อปกป้องราชอาณาจักร ศาสตรานี้เคยเป็นที่ประจักษ์ของราชาว่าใช้ขจัดปัดเป่า ทำลายล้างศัตรูได้ภายในพริบตาด้วย warp-strikes ที่รวดเร็วเหนือธรรมดา ขออัญเชิญ ศาสตราแห่งปฏิภาณที่ค้ำจุนพระปรีชาของกษัตรา Sword of the Wise



                                   Royal Arm - Sword of the Wise 







 Attack: + 194
 Defend: + 30
Max HP:   + 100
Vitality: + 30
Spirit: + 30
 Magic: + 30                                                
 Effect - เพิ่มความเร็วและย่นระยะทางเมื่อใช้ท่า warp-strikes

Royal arm นั้นมีพลังโจมตีที่สูงกว่าอาวุธปกติมากแต่เวลาใช้ก็จะเสียพลังชีวิตไปด้วยเช่นกัน ยิ่งโจมตีศัตรูจำนวนมากพลังชีวิตก็จะลดจนเกือบหมดได้ในเวลารวดเร็ว ฉะนั้นหากจะนำ Royal arm ไปใช้ในการต่อสู้ก็อย่าลืมตุน Potion ไปจำนวนมากเพื่อลดอัตตาเสี่ยงการตายของ Noctis และพลังของ Royal arm ก็จะไม่มีผลกับการใช้ท่า link – Strikes ด้วย  



[Cor] – พลังแห่งราชาสถิตอยู่ในกายท่านแล้วฝ่าบาท ..แต่พลังแห่งบรรพบุรุษก็ไม่ได้มีแค่หนึ่งเดียวหรอกนะ สุสานแห่งกษัตริย์ยังมีอีกมากมาย ผมจะคอยแนะนำให้เมื่อถึงเวลา.. การเดินทางของฝ่าบาทเพิ่งเริ่มต้นนั้น แต่ยังมีสุสานแห่งกษัตริย์อีกแห่งใกล้ๆนี้ที่ผมต้องพาเข้าไปก่อน มันอยู่ที่ Keycatrich Trench ใกล้นี่เอง แต่ด้านในค่อนข้างอันตรายมาก ผมจะไปกับฝ่าบาทด้วยไม่ได้จะช่วยหรอกนะ แต่เพื่อประเมินความแข็งแกร่งของฝ่าบาทต่างหาก 
[Prompto]- แล้วสุสานพวกนี้ยังมีอีกเยอะมั๊ยเนี้ย ?
[Ignis] – Royal arm ที่อยู่ในสุสานกษัตริย์เท่าที่รู้มีทั้งหมด 13 อัน ส่วนตำแหน่งของสุสานกษัตริย์แต่ละทีไม่ค่อยรู้เลย เราคงต้องพึ่งพวก Hunter เพราะเขาเป็นนักสำรวจอาจจะรู้ที่อยู่ของสุสานที่ซ่อนอยู่ก็ได้ ใกล้สุดก็คือที่ Keycatrich Trench นี่แหละ 

ออกเดินทางออกจากสุสานกษัตริย์แล้วเข้าไปที่จุดหมายของภารกิจต่อไปคือที่ดันเจี้ยน Keycatrich Trench ดันเจี้ยนอยู่ทางเหนือสุดของ The Weaverwilds ในเขต Keycatrich Ruin ที่เต็มไปด้วยกองทหาร Magitek Infantry ของจักรวรรดิ Niflheim ที่เริ่มเข้ามายึดพื้นที่ ขณะที่ลุยเข้าไปที่นั่นพร้อมกับ Cor ที่เข้าร่วมปาร์ตี้ด้วย จะจัดการพวกศัตรูให้หมดหรือไม่ก็ได้เป้าหมายคือ เข้าไปด้านในดันเจี้ยนให้ได้ก็เป็นพอ



                                                          Keycatrich Trench

ก่อนเข้าไปด้านใน Cor จะให้กุญแจสำหรับเปิดสุสานกษัตริย์กับ Noctis ก่อนจะแยกตัวรออยู่ด้านนอก ด้านใน Keycatrich Trench จะพบกับพวก Goblin มากมายปลายทางจะเจอกับ Boss Arachne และมี Machinery Weapons Auto Crossbow แต่หากใครที่เคยเข้ามาลุยที่ Keycatrich Trench มาแล้วก็ลุยกับพวก Goblin ตามทางจนถึงส่วนในสุดก็จะพบประตูของสุสานกษัตริย์ที่นี่


                                          -ROYAL TOMB -

                                     Tomb of the Conqueror 






เมื่อเข้าไปด้านใน Noctis จะได้อาวุธแห่งราชาอันที่ 2 ขวานแห่งราชา Axe of the Conqueror มาครอบครอง


ชื่อเสียงจากความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ของจอมราชันย์ที่ได้มาจากความชำนาญเรื่องศาสตราวุธจนขยายอาณาจักรให้กว้างไกลสุดลูกหูลูกตาและทำให้ปวงประชาชนมีความเจริญรุ่งเรืองตามมา ขวานใหญ่นี้เคยเป็นศาสตราของราชาที่แม้จะเชื่องช้าแต่พลังทำลายนั้นสร้างความหายนะล้นเหลือเกินศัตรูจะทัดทาน ขออัญเชิญ ศาสตราแห่งผู้พิชิตที่นำชัยให้กษัตรา  Axe of the Conqueror




                                        Royal Arm - Axe of the Conqueror

 
                                   

Attack +483
Critical +2
Strength +60
Vitality -80
Effect – มีพลังโจมตีที่หนักหน่วงสร้างความเสียหายเป็นวงกว้าง ข้อเสียคือ ช้า และ พลังป้องกันต่ำ ข้อที่ต้องควรระวังคือ อย่าใช้มันกับท่า warp strike เพื่อจัดการศัตรูจำนวนมากหากไม่เตรียม Potion ไว้มากพอ เพราะแม้มันจะสร้างความเสียหายให้ศัตรูอย่างมากแต่มันก็จะทำให้พลังชีวิตหมดหลอดไปอย่างรวดเร็วด้วย 


 จากนั้นก็กลับออกไปที่หน้าทางออกดันเจี้ยนได้เลย Cor จะโทรมาบอกถึงข้อมูลต่อไป


[Cor] – ได้มาแล้วสินะ ..รู้สึกได้ว่าเสียกษัตริย์ไปอีกองค์เลย
[Noctis] – กำลังยุ่งๆกับการจัดการกับคลังอาวุธนิดหน่อยครับ
[Cor] – ดีใจที่ได้ยินแบบนั้น ผมมีภารกิจใหม่ให้ฝ่าบาท ตอนนี้พวกจักรวรรดิกำลังจะสร้างฐานทัพใหม่ทางตะวันตกของ Duscae ผมต้องการให้ฝ่าบาทเข้าไปแทรกแซงพวกมัน แต่ก่อนอื่นผมต้องพาฝ่าบาทออกไปทางตะวันตกของที่นี่ก่อน ยังมีสุสานกษัตริย์อีกมากมายที่ซ่อนอยู่ที่นั่น ก่อนอื่นแวะไปคุยกับ โมนิก้า ก่อนเธอมีรายละเอียดเพิ่มเติมจะบอกฝ่าบาทเรื่องภารกิจ  




                       Main Mission – Declaration of War



เข้าไปที่ Prairie Outpost ที่จุดเป้าหมายของภารกิจเพื่อคุยกับ Monica



[Monica] – ฝ่าบาท Marshal ได้บอกเรื่องแผนกับชั้นไว้แล้วคะ เราเจอประตูหลังของฐานทัพพวกจักรวรรดิได้แล้ว เดี๋ยวชั้นจะส่งตำแหน่งให้นะคะ ทางเข้าอยู่ตรงด้านซ้ายของประตู Norduscaen Blockade ถ้าฝ่าบาทพร้อมแล้วไปที่นั่นได้เลย คะ  

เข้าไปที่เป้าหมายของภารกิจทางซอกเขาด้านซ้ายของประตู Norduscaen Blockade ฝั่งตะวันตกจาก Prairie Outpost จะพบ Monica รออยู่ เธอจะบอกแผนที่จะแบ่งการโจมตีเป็น 2 กลุ่มตามแผนของ Cor ที่ต้องการโจมตีศัตรูจากทั้ง 2 ด้านพร้อมๆกัน โดยที่ Noctis ต้องลุยไปพร้อมกับ Cor แค่ 2คนโดยไม่มีเพื่อนทั้ง 3 คนร่วมทางด้วย

เข้าไปด้านในแล้วลุยจัดการทหารของพวกจักรวรรดิไปจนทะลุออกมาที่ด้านในของด้านที่อีกด้านของประตูก็จะสามารถเปิดประตูด่านให้ Ignis , Prompto และ Gladiolus เข้ามาร่วมกลุ่มอีกครั้งได้


[Loqi] – หยุดอยู่แค่ตรงนั้นแหละ มาทางไหนกลับไปทางนั้นเลยนะพวกแกทั้งหลาย แหม่ๆ จอมทัพอมตะ Cor ยังไม่ตายหรอเนี้ย เอาละแกรอดตายที่วิหารนั่นได้ แต่แกไม่รอดมือข้าคนนี้แน่นอน ตำนานของแกจะจบลงในวันนี้แล้ว !




จัดการ Boss Loqi และ หุ่น MA-X Cuirass LV22 




การต่อสู้กับหุ่นของ Loqi นั้นไม่มีปัญหาเพราะเลเวลไม่สูงมากรวมทั้งยังมี Cor แม่ทัพอมตะร่วมปาร์ตี้ที่สามารถใช้ท่า Lion Roar ที่รุนแรงแถมกินเกทแค่ 1 ขีดเท่านั้น




            ** เมื่อจัดการมันสำเร็จจะได้ Machinery Weapons – Circular saw มาใช้ด้วย **





[Cor] – ยอดเยี่ยมมาก ! เห็นฝีมือฝ่าบาทแบบนี้แล้วทำให้ผมเบาใจหมดห่วงขึ้นเยอะเลย ผมคงต้องขอตัวไปดูลาดราวพวกจักรวรรดิแถวๆนี้ก่อนนะ โอกาสหน้าคงได้เจอกัน ดูแลตัวเองด้วยฝ่าบาท 


[Gladiolus]- มันก็ไม่เลวเหมือนกันนะที่ได้ออกมานอกเขตเมืองแบบนี้  
[Prompto]- ช่าย นอกเมืองยังมีอะไรที่เราไม่เคยเห็นอีกเยอะเลยนะจะบอกให้
[Ignis] – ไปกันเถอะ เรามีเรื่องอีกมากมายที่ต้องทำนะ
[Gladiolus]- รีบหรอ ? นี่มันเพิ่งเริ่มเท่านั้นนะ 
[Noctis] – เฮ้อ ....





   ---------------------------- END OF CHAPTER  ------------------------------------------




    [Side Quest  ในเขตพื้นที่ LFIDE ที่สามารถทำได้ในบทที่ 2 ]


                         Side Quest ช่วยคนรถเสีย ในเขตพื้นที่ LFIDE








                                                    รายละเอียด 

-การเจอคนที่รถเสียนั้นจะปรากฏให้เห็นแบบไม่ระบุเวลาอาจกลางวันหรือกลางคืนก็ได้ 
-การเจอคนที่รถเสียนั้นจะเจอเรียงกันตามหมายเลขในแผนที่ ซึ่งแต่ละจุดจะปรากฏให้เห็นแบบไม่ระบุเวลาอาจกลางวันหรือกลางคืนก็ได้ และบางจุดจะปรากฏให้เห็นต่อเมื่อผ่านภารกิจในเนื้อเรื่องหลักในแต่ละบทไปแล้ว 




สิ่งที่คนที่รถเสียต้องการคือนำเอา Repair kit มาให้เขา ไอเทม  Repair kit ซื้อได้ที่ร้านอะไหล่ยนต์ (mini mart) ที่  Hammerhead ราคา 100 Gil




                            ** ลำดับของจุดที่มีรถเสียตามหมายเลขในแผนที่ **


1.Side Quest – Highway Helper 
รางวัล 300 exp, 500 gil
เงื่อนไข – ไม่มีเงื่อนไขในการเจอ (เจอตอนไหนก็ได้)

2. Side Quest – Stranded on the sand  
รางวัล 500 exp, 900 gil
เงื่อนไข – ต้องเจอจุดที่ 1 ก่อน

3. Side Quest – Readside Assistance 
รางวัล 500 exp, 900 gil
เงื่อนไข – ต้องเจอจุดที่ 2 ก่อน

4. Side Quest – Automotive Agitation ***เควสนี้จะปลดล็อกเมื่อถึงบทที่ 9 และต้องเจอจุดที่ 2 ก่อน
รางวัล 1500 exp, 6000 gil
เงื่อนไข – ต้องเจอจุดที่ 2 ก่อน

5. Side Quest – Broken Down
รางวัล 300 exp, 500 gil
เงื่อนไข – ไม่มีเงื่อนไขในการเจอ (เจอตอนไหนก็ได้)

6. Side Quest – Car-Mic Retribution *** เควสนี้จะปลดล็อกเมื่อถึงบทที่ 4 ต้องเข้าไปที่ Cape Caem ในเขตพื้นที่ Cleigne และต้องเจอจุดที่ 5 ก่อน
รางวัล 500 exp, 1500 gil
เงื่อนไข – ต้องเจอจุดที่ 5 ก่อน

7. Side Quest – Waiting for Help*** เควสนี้จะปลดล็อกเมื่อถึงบทที่ 4 และต้องเจอจุดที่ 6 ก่อน 
รางวัล 350 exp, 900 gil
เงื่อนไข – ต้องเจอจุดที่ 6 ก่อน

8. Side Quest – Unlucky Driver 
รางวัล 300 exp, 500 gil
เงื่อนไข – ไม่มีเงื่อนไขในการเจอ (เจอตอนไหนก็ได้)

9. Side Quest – One Tune-up Too Many 
รางวัล 350 exp, 900 gil
เงื่อนไข – ต้องเจอจุดที่ 8 ก่อน

10. Side Quest – Careless in a Car *** เควสนี้จะปลดล็อกเมื่อถึงบทที่ 9 และต้องเจอจุดที่ 1 ก่อน
รางวัล 1500 exp, 6000 gil
เงื่อนไข – ต้องเจอจุดที่ 8 ก่อน


Cr.รูปภาพแผนที่จาก
http://www.gosunoob.com/final-fantasy-xv/ffxv-broken-cars-locations/


                     

  ภารกิจย่อยเก็บแผนที่ลึกลับ Sylvester's Map ในเขตพื้นที่ LFIDE ทั้ง 5 อัน





                                  Side Quest - Scraps of Mystery 


แผนที่ลึกลับนั้นมีทั้งหมด 14 แผ่น และจะไม่มีบอกในแผนที่ ต้องค้นหาเองจนเมื่อเจอ Mystery Map แล้วรายชื่อพร้อมจุดหมายภารกิจของ Side Quest Scraps of Mystery จึงจะปรากฏขึ้นมาในแผนที่ให้เข้าไปเอา Sylvester's Map ต่อ
           

 1. เก็บ Mystery Map I ที่ Longwythe Rest Area Outpost จะได้ Side Quest Scraps of Mystery I เข้าไปที่จุดเป้าหมายของภารกิจเก็บ Sylvester's Map Piece A มา

      



2. เก็บ Mystery Map II ที่ Prairie Outpost  จะได้ Side Quest Scraps of Mystery II มา เข้าไปที่จุดเป้าหมายของภารกิจเก็บ Sylvester's Map Piece B 
                 






3 เก็บ Mystery Map III ที่ตรงทางแยกทางใต้ของ Prairie outpost จะได้ Side Quest Scraps of Mystery III มา







                  เข้าไปที่จุดเป้าหมายของภารกิจเก็บ Sylvester's Map Piece C 





 
4. เก็บ Mystery Map IV ที่ฝั่งขวาของด่าน Crown City จะได้ Side Quest Scraps of Mystery IV มา





ซึ่งจะต้องลงไปในท่อระบายน้ำของดันเจี้ยน Crestholm Channels ใกล้ๆจุดที่เก็บได้





                  เข้าไปที่จุดเป้าหมายของภารกิจเก็บ Sylvester's Map Piece D 

5. เก็บ Mystery Map V ที่ใต้ท่อในเขต Three Valleys ตามจุดในแผนที่ จะได้ Side Quest Scraps of Mystery V มา




                 เข้าไปที่จุดเป้าหมายของภารกิจเก็บ Sylvester's Map Piece D มา






                                           อาณาจักร Nilheim


                                             The Imperial Capital Gralea  





[Iedolas] – เจ้าชายหนีจากความตายได้งั้นหรอ? แล้วแหวนนั่นละอยู่ไหน ?
[Ravus] – Lunafreya เอามันหนีไปด้วยครับ
[Iedolas] – หามันให้พบแล้วฆ่าเธอซะ ..แหวนนั้นเป็นชิ้นส่วนสุดท้ายที่สำคัญมาก
[Verstael] – ข้าว่าเราควรไว้ชีวิตนางก่อนนะครับ พลังอำนาจทั้ง 6 นั่นยังมีความลับมากมายที่เราไม่รู้ แล้ว Oracle ก็เป็นกุญแจสำคัญของกษัตริย์แห่ง Lucis อีกด้วย ตัวเธอจนปลดล็อกความลับหลายๆอย่างเลย 



จริงมั๊ยท่านผู้บัญชาการณ์ ? ท่านลอร์ด Ravus ตอนนี้ท่านเป็นผู้ควบคุมกองทหารแห่งจักรวรรดิแล้ว
[Ravus] – ประเด็นคือ ตอนนี้จำนวนผู้อพยพยังมีจำนวนมาก แต่ข้ากับคนของข้าก็พยายามอย่างเต็มที่ที่จะตามหาตัวเจ้าชายและ Oracle ให้จงได้ !
[Iedolas] – ข้าปลื้มติยิ่งนัก คริสตัลของข้า ..


               


                       CHAPTER 3: The Open World





[Prompto]- โลกที่กว้างใหญ่ พวกเรามาแล้ว !! 
[Gladiolus]- เราสามารถหนีมาได้หลังจากที่สร้างความชิหายให้พวกมันได้ก็ดีแล้ว 
[Ignis] – ดินแดนที่เรากำลังจะไปนี่มันกว้างใหญ่มากเลยนะถ้าเทียบกับ Leide 
[Prompto]- ยิ่งใหญ่ยิ่งดีเพราะจะได้มีอะไรใหม่ให้ตื่นตาให้ค้นหามากว่าด้วย
[Ignis] – เมื่อเข้ามาที่ดินแดน Duscae อาณาเขตที่เราจะต้องเจอก่อนเรียกว่า Wetlands ดินแดนแห่งป่าเขาลำเนาไพรและเจ้า Chocobo ทางตะวันตกคือเขต Cleigne เราจะเจอเมือง Lestallum ที่นั่น 
[Prompto]- โอ้ นั้นเป็นที่ที่ Iris เดินทางไปไม่ใช่หรอ ?
[Gladiolus]- ขออย่าให้มันสายเกินไปเลย ถึงแม้ตอนนี้จะรู้ว่าเธอปลอดภัยดีก็เถอะ บางทีเธออาจจะไปรวมกลุ่มกับพวก Meteor 
[Noctis] – หมายถึง The Meteor of The Six หรอ ?
[Ignis] – เหมือนจะเป็นกลุ่มที่มีอำนาจต่อรองใน Lestallum มากอยู่นะ 
[Gladiolus]- งั้นเราก็ต้องรีบไปที่นั่นกันแล้วละ 
[Ignis] – เราคงต้องขับกันอีกไกล แวะเติมน้ำมันที่นี่ก่อนก็ดีเหมือนกันนะ









                             

                                เขตพืนที่  Duscae








                                       Coernix station Outpost – Alstor Slough 





[Noctis] – ฮัลโหล ..
[Iris ] –  Noct
[Noctis] – Iris หรอ ?
[Iris ] –  นายจริงๆด้วย ดีใจจังที่ได้ยินเสียงนาย ตอนนี้ชั้นโอเค เราหนีมาถึง Lestallum สำเร็จ ตอนนี้กำลังหาข่าวต่างๆอยู่ แล้วตามมาละ ถ้ามาถึงที่นี่แล้วบอกด้วยแล้วค่อยมาเจอกันนะ 
[Noctis] – ได้ๆ ไว้เจอกัน 


                  หลังคุยจบจะได้ Main Mission Burden of Expectation จาก Iris มา



[Gladiolus]- ไอริส หรอ ? อืมม ไม่โทรพี่ชายตัวเองเลย เยี่ยมมาก
[Ignis] – แสดงว่าข่าวการเสียชีวิตของนายยังไม่แพร่กระจายออกจาก Lucis 
[Prompto]- แล้วชั้นละ เธอพูดอะไรถึงชั้นป่ะ ?  เออ นี่มาถึงนี่แล้วชั้นมีไรจะบอก Chocobo ไง นะๆ ไปดู Chocobo กัน !
[Ignis] – เราไม่มีเวลาทำเรื่องแบบนั้นหรอกนะ เราต้องรีบไปที่ Lestallum ก่อน
[Prompto]- โห มันเป็นทางผ่านอยู่แล้ว แวะแปบนึงก็ได้นะๆ 



ตอนนี้ต้องเลือกระหว่าง 
-Go to Chogobo Post   ไปดู Chogobo ก่อนตามคำขอของ Prompto
-Go to Lestallum First  ไปที่เมือง Lestallum ก่อนตามที่ Ignis บอก

ถ้าเลือก Go to Chogobo Post ตามคำขอของ Prompto ก็จะได้ Side Quest Friends of Feather มา เป้าหมายคือ ฟาร์ม Wiz Chogobo Post
     


             ที่ปั๊ม Coernix station ในเขต Alstor Slough นี้จะมีคนที่ให้ภารกิจย่อยอยู่ 2 คนคือ



               
1. Side Quest :Final Resting Plains 

ระดับความยาก: LV10
ผู้จ้าง: Dave 
Exp: 800
รางวัล: Elixir x10



ภารกิจตามหา Dog Tag ของเหล่า Hunter ผู้เสียชีวิตของ Dave จุดหมายของภารกิจอยู่ที่เขต Rydielle Ley แต่ถ้าเข้าไปถามข้อมูลกับเจ้าของร้าน Crow’s nest Diner ก็จะได้จุดที่ Dog Tag ตกอยู่อย่างชัดเจนขึ้น เข้าไปที่เป้าหมายแล้วเก็บ Dog Tag กลับมาให้ Dave ก็จะจบภารกิจ



2. Side Quest: The Professor’s Protégé 
ระดับความยาก: LV14
ผู้จ้าง: Sonia
Exp: 3000 
รางวัล: Star Pendant 

Gladiolus จะแนะนำให้รู้จักกับผู้หญิงคนนึงที่เป็นนักชีวะวิทยาและการเอาตัวรอดในป่าที่ชื่อ Sonia เมื่อ Noctis เข้าไปทักตามคำแนะนำของ Gladiolus Sonia เลยถือโอกาสขอความช่วยเหลือ Noctis โดยการให้ไปตามจับกบโบราณ Red Frog มาให้



จุดเป้าหมายก็คือแถวๆบึงใหญ่ใน Alstor Slough จากนั้นก็ตามจับกบสีแดง 5 ตัวในเขตเป้าหมายโดยจะไม่มีจุดแสดงบอกในแผนที่มาให้ครบแล้วเอากลับไปให้ Sonia เพื่อจบภารกิจได้เลย


                              Hunts Quest ในร้าน Crow’s nest Diner ที่ Coernix station

1.Hunts Quest – Galloping Garulas 
ระดับของนักล่าที่ต้องการ – Rank 2
ระดับความยาก – LV12
เป้าหมาย – กำจัด Green Garula 3 ตัว และ Garula 3 ตัว
ถิ่นที่อยู่ – Alstor Slough
ช่วงเวลา – กลางวัน
Star – 2 ดาว (ครบดาวได้เพิ่ม Rank นักล่า)
ค่าหัว – 2010 Gil
รางวัลนำจับ – Hi-Elixir

2.Hunts Quest – Beasts wallow in the Wetland 
ระดับของนักล่าที่ต้องการ – Rank 2
ระดับความยาก – LV14
เป้าหมาย – กำจัด Yellowtooth 5 ตัว
ถิ่นที่อยู่ – Alstor Slough
ช่วงเวลา – กลางวันและกลางคืน
Star – 2 ดาว (ครบดาวได้เพิ่ม Rank นักล่า)
ค่าหัว – 2330 Gil
รางวัลนำจับ – Warrior’s Anklet

3.Hunts Quest – Untamed wild Horses 
ระดับของนักล่าที่ต้องการ – Rank 3
ระดับความยาก – LV25
เป้าหมาย – กำจัด Spiracorn 7 ตัว
ถิ่นที่อยู่ – Alstor Slough
ช่วงเวลา – กลางวัน
Star – 2 ดาว (ครบดาวได้เพิ่ม Rank นักล่า)
ค่าหัว – 3870 Gil
รางวัลนำจับ – Megalixir

4.Hunts Quest – Reign Triumphant
ระดับของนักล่าที่ต้องการ – Rank 4
ระดับความยาก – LV32
เป้าหมาย – กำจัด Garulessa 1 ตัว และ Garula 5 ตัว
ถิ่นที่อยู่ – Alstor Slough
ช่วงเวลา – กลางวัน
Star – 3 ดาว (ครบดาวได้เพิ่ม Rank นักล่า)
ค่าหัว – 5280 Gil
รางวัลนำจับ – Mega Phoenix

5.Hunts Quest – The Rogues of Rydielle Ley
ระดับของนักล่าที่ต้องการ – Rank 4
ระดับความยาก – LV35
เป้าหมาย – กำจัด Cockatrice 3 ตัว
ถิ่นที่อยู่ – Rydielle Ley
ช่วงเวลา – กลางวัน
Star – 3 ดาว (ครบดาวได้เพิ่ม Rank นักล่า)
ค่าหัว – 5880 Gil
รางวัลนำจับ – Mega Phoenix
 
6.Hunts Quest – Marsh Madnessi the Giant Awakens 
ระดับของนักล่าที่ต้องการ – Rank 4
ระดับความยาก – LV38
เป้าหมาย – กำจัด Catoblepas 1 ตัว
ถิ่นที่อยู่ – Alstor Slough
ช่วงเวลา – กลางวันและกลางคืน
Star – 3 ดาว (ครบดาวได้เพิ่ม Rank นักล่า)
ค่าหัว – 6560 Gil
รางวัลนำจับ – Blue Choker

ที่บึงใกล้ๆกับจุดที่ล่า Yellowtooth 5 ตัวใน Hunts Quest: Beasts wallow in the Wetland จะมีอีกหนึ่ง Side Quest: Fishing Buddies  ของ Navyth นักตกปลารุ่นเดอะอยู่ที่ใกล้ๆจุดตกปลาของบึงด้วย


Side Quest: Fishing Buddies  
ระดับความยาก: LV11
ผู้จ้าง: Navyth
Exp: 1500
รางวัล: Knife T. Tonberry 

ภารกิจของลุง Navyth นักตกปลารุ่นเก๋าที่เข้ามาท้าทาย Noctis โดยเป้าหมายของภารกิจคือให้ตกปลา Crag Barramundi มาให้ได้ โดยการตกปลา Crag Barramundi นั้นมีเงื่อนไขคือ



 จำเป็นต้องใช้ lure ประเภท Sweet Jamming: Custard หรือ Bomber: Ice Bomb ในการตกด้วย ซึ่งสามารถหาซื้อได้ที่ร้านในปั๊ม Coernix station





ทางทิศตะวันตกของพื้นที่ Duscae ใกล้ทางเข้าพื้นที่ The Vesperpool ใกล้ๆกับจุดตั้งแค๊มป์ Mynbrum Haven แถวจุดภารกิจ Side Quest: Reliable Royalty Dino จะมีจุดภารกิจตกปลาอันที่ 2 ของลุง Navyth อยู่ด้วย  



Side Quest: Fishing Naturally 
ระดับความยาก: LV23
ผู้จ้าง: Navyth
ต้องการ: ปลา Cheryycomb Trout 
Exp: 2000
รางวัล: คันเบ็ด Butterfly Edge

ภารกิจของลุง Navyth นักตกปลารุ่นเก๋าที่เข้ามาท้าทาย Noctis โดยเป้าหมายของภารกิจคือให้ตกปลา Cheryycomb Trout มาให้ได้


 โดยการตกปลา Cheryycomb Trout นั้นมีเงื่อนไขคือ จำเป็นต้องใช้ lure ประเภท Whiskers: Crystal lure ในการตกด้วย




 ซึ่งสามารถหาซื้อที่ร้านขายของใน  Burbost Souvenir Emporium Outpost ได้ต่อเมื่อ Noctis ได้ Skill fishing rank 5 และ ต้องตกในเวลาพลบค่ําและรุ่งเช้าเท่านั้น 




               ปั้ม Cauthess Rest Area ที่ด้านใต้ของ Cauthess,The Disc


       



                           ในพื้นที่ Duscae ที่นี่จะมีคนที่ให้ภารกิจย่อยอยู่ 2 คนคือ



1. Side Quest: A Rocky End
ระดับความยาก: LV12
ผู้จ้าง: Dave 
Exp: 1000
รางวัล: Hi- Elixir x10




ภารกิจตามหา Dog Tag ของเหล่า Hunter ผู้เสียชีวิตของ Dave จุดหมายของภารกิจอยู่ที่แยก Secullam Pass ทางตะวันตกเฉียงใต้ของปั๊ม เข้าไปที่เป้าหมายแล้วเก็บ Dog Tag กลับมาให้ Dave ก็จะจบภารกิจ



2. Side Quest: The Professor’s Protégé 
ระดับความยาก: LV15
ต้องการ Yellow Frog 5 ตัว 
ผู้จ้าง: Sonia
Exp: 4000 
รางวัล: Rainbow Pendant 



จุดหมายของภารกิจจะอยู่ในเขต Kettier highland เข้าไปในพื้นที่รอบๆบึงแล้วหากบสีเหลืองมาให้ครบ 5 ตัว แล้วกลับไปหา Sonia เพื่อรับรางวัลและจบภารกิจได้เลย


               Hunts Quest ในร้าน Crow’s nest Diner ที่ Cauthess Rest Area



1.Hunts Quest – Hammer the Cannibals
ระดับของนักล่าที่ต้องการ – Rank 3
ระดับความยาก – LV38
เป้าหมาย – กำจัด Skarnbulette 3 ตัว และ Bulette 3 ตัว
ถิ่นที่อยู่ – Kettier Hightland
ช่วงเวลา – กลางวันและกลางคืน
Star – 3 ดาว (ครบดาวได้เพิ่ม Rank นักล่า)
ค่าหัว – 6910 Gil
รางวัลนำจับ – Mega Phoenix

2.Hunts Quest – Thing from the Pass  
ระดับของนักล่าที่ต้องการ – Rank 3
ระดับความยาก – LV41
เป้าหมาย – กำจัด Necromancer 3 ตัว
ถิ่นที่อยู่ – The Fallgrove
ช่วงเวลา –กลางคืน
Star – 3 ดาว (ครบดาวได้เพิ่ม Rank นักล่า)
ค่าหัว – 8080 Gil
รางวัลนำจับ – Rune Earring

3.Hunts Quest – Body Snatchers  
ระดับของนักล่าที่ต้องการ – Rank 5
ระดับความยาก – LV44
เป้าหมาย – กำจัด Bussemand 3 ตัว และ Hobgoblin 5 ตัว
ถิ่นที่อยู่ – Saxham Outpost
ช่วงเวลา –กลางคืน
Star – 3 ดาว (ครบดาวได้เพิ่ม Rank นักล่า)
ค่าหัว – 8890 Gil
รางวัลนำจับ – Mega Phoenix



                           ปั้ม Taelpar Rest Area ในเขต Schier heights 



 ที่นี่จะมีคนที่ให้ภารกิจย่อยอยู่ 1 คนคือ



1. Side Quest: Swallowed by shadows 
ระดับความยาก: LV17
ผู้จ้าง: Dave
Exp: 1200
รางวัล: Hi Elixir x 10 




ภารกิจตามหา Dog Tag ของเหล่า Hunter ผู้เสียชีวิตของ Dave จุดหมายของภารกิจอยู่ที่เขต The Fallgrove  เข้าไปที่เป้าหมายแล้วเก็บ Dog Tag กลับมาให้ Dave ก็จะจบภารกิจ





                 Hunts Quest ในร้าน Crow’s nest Diner ที่ Taelpar Rest Area



1.Hunts Quest – Horned Hunting Hazards 
ระดับของนักล่าที่ต้องการ – Rank 3
ระดับความยาก – LV23
เป้าหมาย – กำจัด Dualhorn 3 ตัว
ถิ่นที่อยู่ – Secullam Pass
ช่วงเวลา – กลางวันและกลางคืน
Star – 2 ดาว (ครบดาวได้เพิ่ม Rank นักล่า)
ค่าหัว – 3480 Gil
รางวัลนำจับ – Megalixir

2.Hunts Quest – Hunters of Secullam pass 
ระดับของนักล่าที่ต้องการ – Rank 3
ระดับความยาก – LV34
เป้าหมาย – กำจัด Coeurl 5 ตัว
ถิ่นที่อยู่ – Secullam Pass
ช่วงเวลา – กลางวัน
Star – 3 ดาว (ครบดาวได้เพิ่ม Rank นักล่า)
ค่าหัว – 5,600 Gil
รางวัลนำจับ – Earth Pendant

3.Hunts Quest – Reclaming Schier Heights  
ระดับของนักล่าที่ต้องการ – Rank 4
ระดับความยาก – LV37
เป้าหมาย – กำจัด Redlegs 3 ตัว และ Hundlegs 4 ตัว
ถิ่นที่อยู่ – Schier Heights
ช่วงเวลา – กลางวันและกลางคืน
Star – 3 ดาว (ครบดาวได้เพิ่ม Rank นักล่า)
ค่าหัว – 6,200 Gil
รางวัลนำจับ – Mega phoenix

4.Hunts Quest – A Roaring in the Night   
ระดับของนักล่าที่ต้องการ – Rank 4
ระดับความยาก – LV37
เป้าหมาย – กำจัด Iron Giant 2 ตัว
ถิ่นที่อยู่ – Schier Heights
ช่วงเวลา –กลางคืน
Star – 3 ดาว (ครบดาวได้เพิ่ม Rank นักล่า)
ค่าหัว – 6,310 Gil
รางวัลนำจับ – Mega phoenix




                  ------------------------------------------------------------------------------    

    [ เก็บตก Side Quest จากบทที่ 2 ที่ทำต่อเนื่องมาถึงพื้นที่ Duscae ในบทที่ 3 ] 




                          Side Quest : The Ever Gleaming Regalia ของ Cindy

ระหว่างเข้าไปล่า Yellowtooth 5 ตัวใน Hunts Quest : Beasts wallow in the Wetland นั้นระหว่างทางจะเป็นจุดภารกิจ Side Quest :The Ever Gleaming Regalia ของ Cindy อยู่ด้วย เข้าไปที่จุดภารกิจเก็บไอเทม Fiberglass Coating จากซากรถ


แล้วเก็บเอาไปให้ Cindy ที่ Hammerhead เพื่อรับรางวัล Basic Color Samples และ Racing Stripes ได้เลย เมื่อจบภารกิจก็จะสามารถใช้ Fiberglass Coating ในการเคลือบรถได้ด้วย ทำให้ฝุ่นเกาะรถน้อยลงทำให้ดูใหม่อยู่เสมอ


เมื่อจบ Side Quest: The Ever Gleaming Regalia ของ Cindy แล้ว คุยกับเธอจะให้ภารกิจเสริมใหม่มาคือ


 Side Quest: The Ever Valorous Regalia
ระดับความยาก LV26
ผู้จ้าง Cindy
Exp : 1000 
รางวัล: ????

เป้าหมายของภารกิจคือต้องไปเก็บ Supercharger อุปกรณ์แต่งรถอีกอันที่ Cindy จะเอามาแต่งรถให้ถ้าหามาให้เธอได้ จุดเป้าหมายของภารกิจจะอยู่ในเขต The Vesperpool ซึ่งอยู่นอกเขตของบทที่ 3 ต้องพักไว้ก่อน ......



                                  Side Quest: Emergency Delivery ของ Takka



ใกล้ๆกับจุดภารกิจ The Ever Valorous Regalia ของ Cindy ก็จะมีจุด Side Quest : Emergency Delivery ของ Takka เจ้าของร้านอาหาร PIT SHOP ที่ Hammerhead อยู่ด้วย ที่จุดเป้าหมายเก็บไอเทม Garula Sirloin 


ซึ่งก็คือต้องจัดการพวกวัวกระทิง Garula ก็จะได้ไอเทมเนื้อสันอกของ Garula (Garula Sirloin) มา เอาไปให้ Takka ที่ Hammerhead เพื่อรับรางวัล Cleigne wheat x5,Killer Tomato x5, Saxham,Rice Pepper x5

       เมื่อจบภารกิจ Emergency Delivery แล้วคุยกับ Takka อีกครั้งก็จะมีภารกิจใหม่ขึ้นมาคือ




Side Quest: Everyone Loves Beans 
ระดับความยาก LV22
ผู้จ้าง Takka
ต้องการ : Beans 
Exp : 1500 
รางวัล: Leiden Pepper x 5 , Hulldagh Nutmeg x5 และ Kller Tomato x5

จุดเป้าหมายของภารกิจจะอยู่ทางมุมซ้ายของพื้นที่ Duscae นี้ต่อเลย ที่พื้นที่เป้าหมายที่รถขนถั่วโดนปล้นจะพบพวก Havocfang อยู่แถวนั้นด้วย จัดการพวกมันให้หมด รถขนถั่วกฌจะเดินทางไปส่งให้ Takka ต่อได้ แล้วกลับไปรายงาน Takka  ที่ Hammerhead เพื่อรับรางวัลได้เลย


เมื่อจบภารกิจ Everyone Loves Beans แล้วคุยกับ Takka อีกครั้งก็จะมีภารกิจใหม่ขึ้นมาคือ


Side Quest: Lestallum’s Finest
ระดับความยาก LV28
ผู้จ้าง Takka
ต้องการ : ให้ไปซื้อเครื่องปรุงของอาหารที่เมือง Lestallum 
Exp : 2000
รางวัล: Griffon Breast x 2 , Saxham Rice x5 และ Schier Tumeric x5 



                           Side Quest – A Stone-Studded Stunner ของ Dino

เควสที่เคยรับจาก Dino ที่รีสอร์ท Galdin Quay เพื่อออกมาเก็บ Heliodor Stone มาให้เขา เป้าหมายของภารกิจจะอยู่ที่เขต Kettier highland ทางใต้ของดินแดน Duscae เข้าไปที่จุดเป้าหมาย กำจัดพวก Hundlegs ให้หมด



แล้วเข้าไปเก็บ Heliodor Stone ตามก้อนผลึกมาให้ครบ 3 ก้อนแล้วเอากลับไปให้ Dino ที่รีสอร์ท Galdin Quay เพื่อรับ Heliodor Bracelet เป็นรางวัล



   เมื่อจบภารกิจ A Stone-Studded Stunner แล้วคุยกับ Dino อีกครั้งก็จะมีภารกิจใหม่ขึ้นมาคือ




Side Quest: Reliable Royalty  
ระดับความยาก LV20
ผู้จ้าง Dino
ต้องการ : Sapphire
Exp : 1500
รางวัล: Sapphire Bracelet



จุดเป้าหมายของภารกิจคือทางทิศตะวันตกของพื้นที่ Duscae ใกล้ทางเข้าพื้นที่ The Vesperpool เข้าไปที่เป้าหมายแล้วค้นหากองผลึกให้เจอก็จะพบ Sapphire ให้เก็บอยู่ที่ริมแม่น้ำ ได้แล้วก็เอากลับไปให้ Dino รีสอร์ท Galdin Quay ได้เลย

เมื่อจบภารกิจ Reliable Royalty    แล้วคุยกับ Dino อีกครั้งก็จะมีภารกิจใหม่ขึ้นมาคือ


Side Quest: No Pain No Gem  
ระดับความยาก LV25
ผู้จ้าง Dino
ต้องการ: Ruby Gem 
Exp : 1500
รางวัล: Ruby Bracelet

จุดเป้าหมายของภารกิจคือทางทิศตะวันตกของพื้นที่ The Vesperpool ที่อยู่นอกพื้นที่ของบทที่ 3 ..ก็ต้องพักเอาไว้ก่อน 



            --------------------------------------------------------------------------------------------





                                      Side Quest: Friends of Feather

ระดับความยาก: LV15
ผู้จ้าง: Prompto
Exp: 1500
รางวัล: Chocobo Whistle 





ที่ Wiz Chocobo ที่ Malacchi Hill เมื่อเข้ามาถึงแล้วก็เข้าไปคุยกับ Wiz ที่เป็นทั้งเจ้าของฟาร์มและเจ้าของร้านอาหารของที่นี่ได้เลย



[Prompto]- โทษฮะลุง คือเราอยากจะขี่โจโกโปะหน่อยได้ป่ะครับ ?
[Wiz]- อยากขี่โจโกโปะเรอะ ลุงก็ไม่ชอบหรอกนะที่ต้องขัดใจลูกค้านะ แต่เรายอมคงปล่อยให้โจโกโปะออกไปนอกฟาร์มตอนนี้ไม่ได้หรอกนะ ถ้าตราบใดที่ไอ้เจ้า Deadeye ยังออกมาหากินแถวๆนี้ ไอ้เจ้า Deadeye นี่มันยิ่งดุร้ายไม่เหมือนกับ Behemoth ตัวอื่นๆด้วยสิ แถมกลิ่นสาปของมันก็ยังทำให้นกของลุงตื่นตลอดเลย เพื่อความไม่ประมาทเราเลยต้องยกเลิกการเช่าของลูกค้าตอนนี้ไปก่อนน่ะ เราไม่มีทางเลือกจริงๆ แต่ถ้าพวกเธอไปล่าเจ้า Deadeye ให้นะรับรองได้ขี่โจโกโปะแน่นอน ลุงมีรางวัลให้ด้วย อยู่ที่ว่าพวกเธอจะไหวหรือเปล่าด้วย เพราะมันอันตรายมาก ลุงไม่ว่าหรอกถ้าจะปฏิเสธอ่ะนะ 



จุดสีฟ้าเป้าหมายของภารกิจ Friends of Feather จะไปขึ้นที่ซากเมืองร้างที่เป็นที่หากินของเจ้า Deadeye เข้าไปที่นั่นค่อยๆย่องเข้าไประหว่างทางจะพบซากต้นไม้หักมากมายเพราะฝีมือของมัน ค่อยๆเข้าไปจนเจอตัวเจ้า Deadeye ที่กำลังกินเหยื่ออยู่



จากนั้นก็ลอบตามมันไปจนถึงรังโดยห้ามให้มันรู้ตัวหรือหายไป เข้าไปจนถึงซากเมืองร้างที่เป็นรังของมันแล้วที่เหลือก็จัดการมันได้เลย 



Boss “Deadeye”  Behemoth เลเวล 15 จะใช้ถังระเบิดที่วางอยู่ในพื้นที่จัดการมันตามคำแนะนำของ Ignis หรือจะจัดการมันตามความสะดวกยังไงก็ได้ถ้าเลเวลมากพอก็คงไม่มีปัญหาอะไร

เมื่อกลับมาคุยกับ Wiz เพื่อแจ้งข่าวว่ากำจัด Deadeye ได้แล้วก็จะถือว่าผ่าน Hunts Quest : A Behemoth Undertaking และเควส Friends of Feather ไปพร้อมๆกัน


รางวัลสำคัญที่ได้จาก Wiz คือสามารถเปิดให้เช่า Chocobo มาขี่ได้แล้วโดยสามารถเช่าแบบเหมาวันมาใช้ได้ อัตราค่าบริการแค่วันละ 50 gil เท่านั้น เช่าครั้งเดียวได้เป็นเซ็ท 4 ตัวเลย


 และยังได้ไอเทม Chocobo Whistle สำหรับใช้เป่าเรียกโจโกโปะที่เช่าไว้ออกมาใช้งานตามที่ต่างๆได้ด้วย โดยการกด R2 ปุ่มเดียวกับการใช้ไอเทมแล้วกดปุ่มทิศทางซ้าย – ขวาเลื่อนเปลี่ยนเป็นเมนูของ Chocobo



สามารถตั้งชื่อ เปลี่ยนสี และ สวมใส่เหรียญรางวัลต่างๆจากการแข่งได้ที่ Camilla  ที่ยืนอยู่ข้างๆคอก Chocobo ซึ่งเธอจะมีไอเทมต่างๆที่จำเป็นสำหรับ Chocobo ขายด้วย


                        ไอเทมสำหรับ Chocobo (เลือกใช้ตอนพักแรมที่จุดตั้งแค๊มป์)

Mimett Greens : ใช้เพิ่มเกทกำลังกายให้ Chocobo
Reagan Greens : ใช้เพิ่มอัตราการร่อนของ Chocobo ให้นานขึ้น
Gysahl Greens: หรือ Carrots อาหารสำหรับ Chocobo
Curiel Greens: เพิ่มสปีดการวิ่ง (มีขายหลังจบ sidequest “Bird on the Brink”)
Sylkis Greens: เพิ่มศักยภาพของทุก abilities (มีขายหลังจบ sidequest “Savior of the Species”)


                              Chocobo Level up Rewards


ทุกครั้งที่ใช้งาน Chocobo ยิ่งใช้เดินทางนานเท่าไหร่ chocobo ก็จะมีการเลเวลอัพตัวเองขึ้นไปเรื่อยๆ โดยแต่ละระดับขั้นของเลเวลก็มีรางวัลเป็น Ability ต่างๆของ chocobo ติดให้มาด้วย (กดใช้งานด้วยปุ่ม R2 แล้วใช้ปุ่มทิศทางเลื่อนจากเมนูไอเทม)

-Level 2 (ใช้งานต่อเนื่อง 2 นาที) ปลดล็อก ability “Dash de Chocobo” เรียก Chocobo ให้มาพาหนีจากการต่อสู้
-Level 3 (ใช้งานต่อเนื่อง 6 นาที) ความแข็งแรง + 10 และ เพิ่มความเร็วในการวิ่งเป็น 20 ไมล์ต่อชั่วโมง
-Level 4 (ใช้งานต่อเนื่อง 8 นาที) ปลดล็อก ability “Kick de Chocobo” ทำให้ Chocobo เข้ามาช่วยสู้กับศัตรูได้
-Level 5 (ใช้งานต่อเนื่อง 12 นาที) ความแข็งแรง + 10 และ เพิ่มความเร็วในการวิ่งเป็น 28 ไมล์ต่อชั่วโมง
-Level 6 (ใช้งานต่อเนื่อง 16 นาที) ปลดล็อก ability “Dance de Chocobo” Chocobo จะออกมาเต้นเพื่อบัฟเพิ่มความสามารถให้ในขณะต่อสู้

-Level 7 (ใช้งานต่อเนื่อง 18 นาที) ความแข็งแรง + 10 และ ทำให้กระโดดสูงขึ้น 8’8”
-Level 8 (ใช้งานต่อเนื่อง 20 นาที) ปลดล็อก ability “Rush de Chocobo” ability ทำให้ chocobo เคลื่อนไหวอย่างเข้าโจมตีอย่างรวดเร็วและรุนแรงขึ้น
-Level 9 (ใช้งานต่อเนื่อง 20 นาที) ความแข็งแรง + 10 และ ทำให้เกทstamina เพิ่มเร็วมากขึ้น
Level 10 (ใช้งานต่อเนื่อง 20 นาที) ปลดล็อก ability “Link de Chocobo,” ทำให้ chocobo เข้าร่วมช่วยต่อสู้ในท่า Blindside-link attacks ได้




                                            Chocobo races 


                        เงื่อนไขและในการปลดล็อกการแข่ง Chocobo ในแต่ละแมทช์ 


แมทช์แรก แข่งกับ Prompto
เงื่อนไข : แข่งได้หลังจากจบ Side Quest “A Behemoth Undertaking.” รางวัล : Rounsey Medal

แมทช์ที่ 2 แข่งกับ Gladio
เงื่อนไข : แข่งได้หลังจากแข่งชนะ Prompto แล้ว
รางวัล : Destrier Medal

แมทช์ที่ 3 Chocobo Hoops: Grange Gallop แข่งวิ่งลอดห่วงทำเวลา
เงื่อนไข : แข่งได้หลังจากแข่งชนะ Gladio แล้ว
รางวัล : Short Course Medal

แมทช์ที่ 4 แข่งกับ Ignis
เงื่อนไข : แข่งได้หลังจากแข่งชนะแมทช์ Chocobo Hoops: Grange Gallop และถึงบทที่ 5 แล้ว
รางวัล : Corser Medal

แมทช์ที่ 5 Full Field (แข่งพร้อมกันทุกคน)
เงื่อนไข : แข่งได้หลังจากแข่งชนะ Ignis แล้ว
รางวัล : Fat Chocobo Medal

แมทช์ที่ 6 Chocobo Hoops: Rocky Race
เงื่อนไข : แข่งได้หลังจากแข่งชนะแมทช์ Full Field แล้ว
รางวัล : Long Course medal.

แมทช์ที่7 แข่งกับ Iris
เงื่อนไข : แข่งได้หลังจากแข่งชนะแมทช์ Chocobo Hoops; Rocky Road, และถึงบทที่ 6 แล้ว
รางวัล : Jennet Medal

หลังจากชนะทุกแมทช์แล้ว เข้าไปรับ Jockey Master Medal เป็นรางวัลได้ที่เค๊าท์ฝ่ายจัดการแข่งขันได้เลย



                       Hunts Quest จาก Wiz ในร้านอาหารที่ Wiz Chocobo


1.Hunts Quest – A Behemoth Undertaking   
ระดับของนักล่าที่ต้องการ – Rank 3
ระดับความยาก – LV15
เป้าหมาย – กำจัด Deadeye เจ้า Deadeye
ถิ่นที่อยู่ – The Nebulswood
ช่วงเวลา – กลางวันและกลางคืน
Star – 2 ดาว (ครบดาวได้เพิ่ม Rank นักล่า)
ค่าหัว – 3,020 Gil
รางวัลนำจับ – Amethyst Bracelet

2.Hunts Quest – Red in the Tooth and Claw 
ระดับของนักล่าที่ต้องการ – Rank 3
ระดับความยาก – LV12
เป้าหมาย – กำจัด Voretooth 9 ตัว
ถิ่นที่อยู่ – Malacchi Hill
ช่วงเวลา – กลางวันและกลางคืน
Star – 2 ดาว (ครบดาวได้เพิ่ม Rank นักล่า)
ค่าหัว – 2,140 Gil
รางวัลนำจับ – Hi-Elixir

3.Hunts Quest –Excrcism of the Nebulawood
ระดับของนักล่าที่ต้องการ – Rank 3
ระดับความยาก – LV19
เป้าหมาย – กำจัด Mindflayer 3 ตัว
ถิ่นที่อยู่ – Nebulawood
ช่วงเวลา –กลางคืน
Star – 2 ดาว (ครบดาวได้เพิ่ม Rank นักล่า)
ค่าหัว – 3,190 Gil
รางวัลนำจับ – Moon Pendant

4.Hunts Quest –Thunder in them that Hills  
ระดับของนักล่าที่ต้องการ – Rank 3
ระดับความยาก – LV21
เป้าหมาย – กำจัด Thunder Bomb 5 ตัว
ถิ่นที่อยู่ – Malacchi Hill
ช่วงเวลา –กลางคืน
Star – 2 ดาว (ครบดาวได้เพิ่ม Rank นักล่า)
ค่าหัว – 3,330 Gil
รางวัลนำจับ – Megalixir

5.Hunts Quest – A Most Behemoth Undertaking   
ระดับของนักล่าที่ต้องการ – Rank 8
ระดับความยาก – LV62
เป้าหมาย – กำจัด Behemoth Tyrant 1 ตัว
ถิ่นที่อยู่ – The Nebulswood
ช่วงเวลา – กลางวันและกลางคืน
Star – 4 ดาว (ครบดาวได้เพิ่ม Rank นักล่า)
ค่าหัว – 19,540 Gil
รางวัลนำจับ – Gold Bangle



                   Side Quest จาก Wiz ในร้านอาหารที่ Wiz Chocobo


1.Side Quest: Where the wild Chocobo Are 
ระดับความยาก: LV8
ผู้จ้าง: Wiz
Exp: 500
รางวัล: Xelphatol apple seed , Doman Plum Pits และ Mamook pear seed

ภารกิจนี้ต้องออกไปตามถ่ายรูป Chocobo ป่าหายากให้ Wiz โดยจุดหมายของภารกิจจะอยู่ในซากเมืองที่เคยเป็นรังของ Deadeye เมื่อเข้าไปจนเจอเจ้า Chocobo ตัวเป้าหมายแล้ว พยายามวิ่งจับตัวมันให้ทันเพื่อเอามาให้ Prompto ถ่ายรูป เสร็จแล้วก็ไปรับรางวัลและจบเควสกับลุง Wiz ได้เลย

2 .Side Quest: Bird on the Brink
ระดับความยาก: LV9
ผู้จ้าง: Wiz
Exp: 1000
รางวัล: Curiel Greens

Wiz ต้องการให้ไปช่วยเหลือ Chocobo ที่บาดเจ็บและตื่นกลัวจากการที่ถูกมอนสเตอร์ทำร้าย เข้าไปที่จุดหมายของภารกิจ จะเจอ Chocobo บาดเจ็บอยู่ เอา Potion ให้มันจนหายแล้วก็ไปรับรางวัลและจบเควสกับลุง Wiz ได้เลย

3 .Side Quest: A Feathery Feast   
ระดับความยาก: LV10
ต้องการ : ไอเทม aegir root
ผู้จ้าง: Wiz
Exp: 1500
รางวัล: -

Wiz ต้องการให้ไปหา aegir root มาให้เขาเพื่อทำอาหาร ซึ่งไอเทม aegir root สามารถเก็บได้จากจุดเก็บวัตถุดิบใกล้ๆรีสอร์ท Galdin Quay (เข้าไปคุยกับคนขายอาหารในภัตตาคารเพื่อปลดล็อกจุดก่อนก็ได้ เสร็จแล้วก็นำกลับไปให้ลุง Wiz เพื่อรับรางวัลและจบเควสได้เลย

4 .Side Quest: Chase that Chocobo!  
ระดับความยาก: LV12
ผู้จ้าง: Wiz
Exp: 2000

รางวัล: Valfruit Seeds,O’ghomoro Berry Seed ,Cieldalaes Pineapple Seed , Han Lemon Seed
Wiz ต้องการให้ไปช่วยเหลือ Chocobo ที่บาดเจ็บที่ถูกมอนสเตอร์ทำร้าย เข้าไปที่จุดหมายของภารกิจ จะเจอ Chocobo บาดเจ็บอยู่ จัดการศัตรูรอบๆให้หมดแล้วเอา Potion ให้มันจนหายแล้วก็ไปรับรางวัลและจบเควสกับลุง Wiz ได้เลย



        ที่ด้านหลังฟาร์มโจโกโปะ จะมีชายขี้สงสัยคนนึงที่มีเครื่องหมาย ? ของภารกิจย่อยอยู่

    ว้าว !! จุดตกของอุกาบาตนั่นยังมีไฟลุกอยู่เลย ถ้าเข้าไปใกล้ๆมันจะปลอดภัยมั๊ยนะ ??



[Ignis] – สิบปากว่าไม่สู้ตาเห็นนะ Noct ทำไมเราไม่ลองไปสำรวจดูที่ Disc Cauthess กันดูหน่อยละ ?

เมื่อเลือกตอบ Go to the Disc Cauthess ก็จะได้ Side Quest : Pilgrimage จาก Ignis ทันที


1.Side Quest: Pilgrimage
ระดับความยาก: LV16 
ผู้จ้าง: Ignis
Exp: 500
รางวัล: - 

จากนั้นก็เดินทางมุ่งสู่ the Disc Cauthess พื้นที่จุดตกของอุกาบาตรจากยุคโบราณกลางพื้นที่ Duscae ที่เป็นเป้าหมายของภารกิจได้เลย



[Prompto]-ชั้นรู้นะว่า นั่นมันเป็นจุดตกของอุกาบาตจากยุคดึกดำบรรพ์เลย ใช่ป่ะละ ?  
[Ignis] – ถูกต้อง และมันก็ยังลุกไหม้มาจนถึงทุกวันนี้ด้วยนะ 
 [Gladiolus]- และก็กลายเป็นพลังงานที่สำคัญของเมือง Lestallum ด้วย
[Prompto]- จิงดิ ? โห ..
[Ignis] – แต่เป็นพลังงานคนละอย่างกับพลังงานจากคริสตัลที่ Crown City ใช้นะ 
[Noctis] – ผมคิดว่า ซักวันคงจะเข้าใจเหตุผลการมีอยู่ของมันอ่ะ



 เมื่อเข้ามาถึงที่หมายจะพบประตูทางเข้าที่ปิดอยู่ก่อนที่พวกทหารจักรวรรดิพร้อมหุ่น MA-X Maniple LV23 จะออกมา จัดการพวกศัตรูให้หมด แล้ว Ignis ซึ่งเริ่มเห็นท่าไม่ดีจึงรีบบอกให้ Noct หนีออกจากที่นี่ก่อนที่กำลังเสริมของพวกจักรวรรดิจะตามมาสมทบ



ทันทีที่จบภารกิจ Gladio ที่เริ่มหงุดหงิดจึงทวงถามขึ้นมาว่า ตกลงจะไปเมือง Lestallum กันได้รึยังเพราะน้องสาวเขารออยู่ ถ้ายังอยากจะหาอะไรเพิ่มเติมจากที่นี่ต่ออีกหน่อยก็เลือก Wander around some more แต่หากไม่มีอะไรทำแล้วก็ตอบ Go to Lestallum เพื่อเดินทางไปที่เมือง Lestallum ในภารกิจหลัก Burden of Expectation ได้เลย 




                        MAIN MISSION : Burden of Expectation


ระดับความยาก: LV10
ผู้จ้าง: Iris 
Exp: 1500
รางวัล: Magic Flask 



   

                                                 เมือง Lestallum





เมื่อเข้ามาถึงที่หน้าเมือง Lestallum Gladiolus จะรีบบอกให้ทุกคนเข้าไปที่โรงแรม Leville ซึ่งเป็นที่นัดหมายกับ Iris น้องสาวของเขาทันที





แต่ในขณะที่ทุกคนกำลังจะเข้าไปที่โรงแรม ก็เกิดแรงสั่นสะเทือนประหลาดๆขึ้นมาพร้อมกับภาพนิมิตรที่ทำให้ Noctis เห็นดวงตาที่หน้ากลัวขนาดใหญ่จนทำให้ปวดหัวขึ้นมาอีกครั้ง 



[Ignis] – เป็นอะไร Noct ?
[Noctis] – มันเริ่มมีอาการปวดหัวแปลกๆอีกแล้วนะสิ 
[Prompto]-นายโอเคนะ ?
[Noctis] – เออ ไหว 

    

[Iris] – เฮ้ Gladdy ! ฮ่าๆ
[Gladiolus]- Iris
 [Iris] – ดูพวกนายสิ มาถึงที่นี่กันเองจนได้ด้วย
[Prompto]- ขอพูดไรอย่างได้ป่ะ เธอโคตรน่ารักเลยอ่ะ ฮ่าๆ
[Iris] – เท่าที่ชั้นคิดดูแล้ว พวกนายจะมาค้างที่นี่กันด้วยใช่มั๊ยละ?  
[Ignis] – เป็นแผนของเราอยู่แล้วละ
[Gladiolus]- ถ้าน้องมีเวลาว่างเมื่อไหร่เรามีเรื่องต้องอัพเดทกันหน่อย
[Iris] – ได้เลย !     

[Gladiolus]- Jared และ Talcott พวกเขาอยากจะเจอนายน่ะ 
[Talcott]- เจ้าชาย Noctis ไม่ต้องห่วงนะฝ่าบาทจะปลอดภัยเมื่ออยู่กับผม
[Jared]- ขอประทานโทษด้วยนะครับ อย่าถือสาหลานผมเลยนะ เขากำลังเรียนรู้การเป็นผู้จัดการโรงแรมน่ะครับ 
[Noctis] – ไม่เป็นไร ผมชอบนะ 
[Jared]- ฝ่าบาททรงกรุณาแต่พวกกระหม่อมก็ว่ามันไม่บังควรหรอกนะครับ
 [Talcott]- ขอให้หลับฝันดีนะครับฝ่าบาท 


[Noctis] – เออ นี่ Iris ตกลงมันเกิดอะไรขึ้นที่ในเมือง Crown City บ้างละ
[Iris] – ไม่ค่อยดีเลย วิหารถูกโจมตีจากพวกศัตรู กองทัพแปลกๆที่บุกเข้ามาจากด้านนอกมากมายเต็มไปหมด ในคราวเดียวเลย 
[Ignis] – แผนโจมตีเป้าหมายด้วยความชาญฉลาดตามสูตรกลยุทธ์ของพวกจักรวรรดิเลยละ  
[Ignis] – เอ่อ ..รู้มั๊ย ถ้านายอยากรู้เรื่องอะไรอีกก็ถามชั้นได้เลยนะ ทุกเรื่องเลยนะ




[Noctis] – อืมม ..ได้สิ ....... อะไร ?
[Ignis] – ก็เรื่องเจ้าหญิง Lunafreya ไง ชั้นได้ยินว่าเธอก็อยู่ในเมืองตอนนั้นด้วยนะ แต่ก็มีคนยืนยันว่าเห็นเธอหนีออกไปได้แล้ว มันก็หมายความว่า อย่างน้อยๆเธอก็ยังไม่เป็นอะไรอ่ะนะ 
[Noctis] – ดีใจที่ได้ยินแบบนี้อ่ะนะ ขอบคุณมาก 
[Iris] – เอาละ วันนี้พวกนายพักผ่อนกันก่อนดีกว่า ฝันดีนะทุกๆคน



                                            -- เช้าวันรุ่งขึ้น --







[Iris] – อรุณสวัสดิ์ตาขี้เซา 
[Noctis] – อืมม มอนิ่ง แล้วคนอื่นๆไปไหนหมดละ ?
[Iris] – อ๋อ พวกเขาไปเดินเล่นชมเมืองกับ Talcott น่ะ เราก็ควรไปกันบ้างดีป่ะละ



                                                   *** เลือก Accept ไปได้เลย ****

[Noctis] –
เอาสิ ทำไมจะไม่ละ 
[Iris] – เยี่ยมเลย เดี๋ยวชั้นจะพาชมจุดสำคัญๆของเมืองกันนะ 


                                   Quest: A Stroll for Two 


จากนั้นก็ตาม Iris ไปตามจุดต่างๆของเมือง ซึ่งจะมีการเลือกตอบการสนทนาในเรื่องต่างๆที่ Noctis ต้องตอบ Iris แม้จะไม่สำคัญมากมายจนถึงส่งผลต่อความเปลี่ยนแปลงของเรื่องราวอะไรแต่ก็มีความแตกกันของการได้รางวัลเล็กๆน้อยๆกับการเลือกตอบครั้งนี้เหมือนกัน

[Iris] – เนี้ยเค้าเรียกว่าตลาด Partellum นายสามารถหาซื้อของทุกอย่างจากที่นี่เลยอ่ะนะ สุดยอดเลยป่ะละ ถ้าชั้นอยากได้อะไรก็ซื้อทุกอย่างที่ชั้นต้องการได้หมดเลยนะ 




Act Uninterested (ไม่เห็นน่าสนใจอะไรเลย) ได้ 2AP
Act interested (น่าสนใจนะ) ได้ 250 Exp




[Iris] – ที่นี่เป็นเสมือนโรงไฟฟ้าของเมือง มันใช้สำหรับดึงพลังงานมหาศาลที่อยู่ใต้เมืองมาใช้ นำความเจริญมาให้เมืองนี้มากมายเลยละ ที่สำคัญนะ มีแต่ผู้หญิงเท่านั้นนะที่ทำงานที่นี่ได้ อันที่จริง มีผู้หญิงคนเดียวที่คุมที่นี่และทำหน้าที่ทุกอย่างคนเดียวด้วยนะ 



Encourage Her (ให้กำลังใจเธอ) ได้ 250 Exp
Express Concern (แสดงความเป็นห่วงเธอ) ได้ 2AP


     

[Iris] – ตรงนี้เรียกว่า Pegglar เป็นจุดชมวิวของเมือง เป็นไง วิวสวยใช่ป่ะละ? ดูสิ นู้นนะ เห็นไปถึงจุดดาวตกเลยนะ อืมม นี่ๆ นายรู้ป่ะ ตอนนี้เราเหมือนมาเดทกันเลยนะว่าป่ะ ?



Deny the suggestion (บ้าหรอ ไม่ใช่แล้ว) ได้ 250 Exp
Make light of the subject (มองว่าเรื่องนี้ไม่ค่อยสำคัญหรือเป็นเรื่องไม่เครียด ตลกกลบเกลื่อนตามสถานการณ์ไป) ได้ 2AP

[Iris] – เราไม่เคยทำอะไรสนุกๆด้วยกันแบบนี้มานานแล้ว เหมือนตอนเราเป็นเด็กเลยเนอะ ขอบคุณนะ Noct



Agree with Iris (เห็นด้วยกับเธอ)
Make light of the subject (มองว่าเรื่องนี้ไม่ค่อยสำคัญอะไร) ได้ 2AP
Change the subject (เปลี่ยนเรื่องพูด) ได้ Elixir.


หลังจากเดินชมเมืองจนพอใจแล้ว Iris ก็จะบอกให้ Noctis กลับไปรวมตัวกับทุกคนที่โรงแรม


[Prompto]- เฮ้ ดูดิใครกลับมา Talcott เอาเลยบอกเรื่องที่นายเล่าให้ชั้นฟังกับ Noct เลยสิ
[Talcott]- ได้เลย ! จัดให้
[Jared]- จะพูดอะไรก็ขอให้มันสุภาพหน่อยนะหลาน 
[Prompto]- แหม่ไม่ต้องมาสุภาพกับผมนักหรอกผมไม่ใช่เชื้อพระวงศ์อะไรหรอกนะ  
[Talcott]- ฝ่าบาทเคยได้ยินเรื่อง ดาบที่ซ่อนอยู่ในถ้ำหลังน้ำตกปะครับ เหมือนจะเป็นหนึ่งในดาบที่เป็นเรื่องเล่าขานเป็นตำนานคู่บ้านคู่เมืองนี้แน่นอน 
[Noctis] – อืมม ขอบคุณที่เล่าให้ฟังนะ Talcott 
[Talcott]- ยินดีครับฝ่าบาท 

คุยจบจะได้ Quest :The Sword in the Waterfall มาซึ่งเป้าหมายคือถ้ำน้ำแข็ง Greyshire Glacial Grolto ที่อยู่หลังน้ำตก ซึ่งก็คือสถานทีที่จะนำพาเข้าไปที่ Tomb of the Wanderer ที่เก็บ Royal Arm Sword of Wanderer แต่ถ้าใครแวะเข้าไปเอาดาบนี้มาก่อนหน้าแล้ว Quest :The Sword in the Waterfall ก็จะไม่ออกมาอีก

        


[Noctis] – อะ อ๊ากก !! ….บ้าเอ๊ย เป็นแบบนี้อีกแล้ว !
[Iris] – เฮ้ นายเป็นไรรึเปล่า Noct ?



[Gladiolus]- เขาไม่เป็นไรหรอกน้อง ... เออนี่ ชั้นว่าเราคงต้องหาทางเข้าไปดูไอ้สถานที่ที่เขาเรียกกันว่า Disc กันหน่อยแล้ว
[Prompto]- งั้นเราลองไปส่องดูมันชัดๆที่จุดชมวิวก่อนก็ดีเหมือนกันนะ 



[Ignis] – จริงๆการไปที่นั่นมันอยู่นอกแผนเราไปหน่อย แต่ มันก็เป็นการดีเหมือนกันที่จะได้เริ่มต้นหาสาเหตุซะที ลองเข้าไปสำรวจหลักฐานต่างๆที่นั่นดูจะได้รู้ว่า ทำไม Noct มันถึงมีอาการแบบนี้อยู่บ่อยๆ 
                    

 หลังคุยจบจะได้ภารกิจหลักอันใหม่มาคือ The Way of Gods and King ซึ่งจะเป็นภารกิจสุดท้ายของบทที่ 3 และจะจบบททันทีก่อนที่จะออกจากเมืองเพื่อมุ่งหน้าไปยังพื้นที่ Cauthess Disc ฉะนั้น หากยังมีอะไรที่ต้องทำในบทที่ 3 ถ้ายังไม่เข้าไปจุดหมายของภารกิจที่จุดชมวิวของเมืองก็ยังสามารถขับรถออกจากเมืองไปในโลกภายนอกได้ตามปกติ 



                      Side Quest ของเหล่าพ่อค้าในเมือง Lestallum 



1.Side Quest :Mind the Trap 
ระดับความยาก: LV10
ผู้จ้าง: Proprietor’s Grandson 
Exp: 1500
รางวัล: ????

ภารกิจของหลานเจ้าของร้านขายไอเทมในตลาด เขาต้องการให้ไปตามหาฮันเตอร์ที่ตกลงทำสัญญากันไว้ว่าจะไปล่ามอนสเตอร์เอาวัตถุดิบมาให้แต่ตอนนี้กลับหายเงียบ จุดหมายของภารกิจจะขึ้นมาที่ Taelpar rest Area เข้ามาคุยกับ Hunter ที่รับงานไว้ก็จะรับรู้ปัญหาว่า ที่ของส่งไม่ได้เพราะไม่สามารถเข้าพื้นที่ไปเก็บวัตถุดิบได้เกิดจากมีกับดักขนาดใหญ่อยู่เต็มไปหมด



เป้าหมายใหม่ของภารกิจจะขึ้นมาที่ทุ่งหญ้าใกล้ๆปั๊ม ที่ต้องทำคือเข้าไปในพื้นที่วงกลมสีฟ้าของภารกิจเพื่อเก็บกู้กับดักออกให้หมดทั้ง 5 อัน จากนั้นก็กลับไปบอกกับ Hunter และไปรายงานผลการทำงานกับหลานเจ้าของร้านไอเทมเพื่อจบภารกิจและรับรางวัลเป็น สิทธิ์พิเศษในการซื้อไอเทมในราคาที่ถูกลง




2. Side Quest : Van Interrupted  
ระดับความยาก: LV10
ผู้จ้าง: เจ้าของร้านขายวัตถุดิบทำอาหาร 
Exp: 2000
รางวัล: ????

เข้าไปคุยกับเจ้าของร้านขายวัตถุดิบทำอาหารในตลาดเพื่อรับรู้ถึงปัญหาคือรถขนส่งวัตถุดิบโดนมอนสเตอร์โจมตีจนทำให้คนขับตายและสินค้าก็ไม่ถูกส่งมาให้ เมื่อเดินทางไปที่จุดหมายของภารกิจก็จะพบรถบรรทุกสินค้าจอดตายอยู่ในป่าริมแม่น้ำท่ามกลางฝูงผึ้ง Killer Bee มากมายเฝ้าอยู่ จัดการศัตรูให้หมดแล้วเก็บเอาสินค้าบนรถกลับมาให้เจ้าของร้านไอเทมเพื่อจบภารกิจและรับรางวัลได้เลย

3. Side Quest : Van Interrupted Again
ระดับความยาก: LV15
ผู้จ้าง: เจ้าของร้านขายวัตถุดิบทำอาหาร 
Exp: 2500
รางวัล: ????

เข้าไปคุยกับเจ้าของร้านขายวัตถุดิบทำอาหารในตลาดเพื่อรับรู้ถึงปัญหาเดิมๆคือรถขนส่งวัตถุดิบโดนมอนสเตอร์โจมตีจนทำให้คนขับตายและสินค้าก็ไม่ถูกส่งมาให้ เมื่อเดินทางไปที่จุดหมายของภารกิจก็จะพบรถบรรทุกสินค้าจอดตายอยู่ท่ามกลางมอนสเตอร์ที่อยู่รอบๆรถ จัดการศัตรูให้หมดแล้วเก็บเอาสินค้าบนรถกลับมาให้เจ้าของร้านไอเทมเพื่อจบภารกิจและรับรางวัลเป็น สิทธิ์พิเศษในการซื้อไอเทมในราคาที่ถูกลง



4. Side Quest : On the Hunt for a harvest 
ระดับความยาก: LV10
ผู้จ้าง: เจ้าของร้านขายวัตถุดิบอาหาร
Exp: 2000
รางวัล: ????

เจ้าของร้านขายวัตถุดิบซึ่งเป็นเจ้าของฟาร์ม Furloch Farms ต้องการความช่วยเหลือเกี่ยวกับปัญหาที่เกิดขึ้นที่ฟาร์มของเขา จากนั้นเดินทางไปที่จุดหมายของภารกิจที่ฟาร์ม Furloch Farms เพื่อคุยกับหลานของเจ้าของร้านที่เป็นผู้ดูแลฟาร์มถึงปัญหาที่เกิดขึ้น ว่าพื้นที่เพราะปลูกถั่วเขียวกำลังโดนมอนสเตอร์บุกทำลายจนจะทำให้เมล็ดพันธ์เสียหาย เข้าไปในพื้นที่เป้าหมายของแปลงถั่วเขียวที่มีมอนสเตอร์มากมายอยู่ จัดการมันให้หมดแล้วเก็บ Green Bean มา คุยกับหลานเจ้าของร้านผู้ดูแลฟาร์ม แล้วเอา Green Bean กลับไปให้เจ้าของร้านเพื่อจบภารกิจ และรับรางวัลเป็น สิทธิ์พิเศษในการซื้อไอเทมในราคาที่ถูกลง

5. Side Quest : Wild about Onions  
ระดับความยาก: LV12
ผู้จ้าง: เจ้าของร้านขายวัตถุดิบอาหาร 
Exp: 2500
รางวัล: ????

เข้าไปคุยกับเจ้าของร้านขายวัตถุดิบซึ่งเป็นภารกิจย่อยที่ 2 ของ เจ้าของฟาร์ม Furloch Farms คนเดิม ครั้งนี้เขาต้องการให้ไปเอา Bulbous Onion จากฟาร์มอื่นมาให้เขา จากนั้นเข้าไปที่จุดหมายของภารกิจใกล้ๆกับฟาร์มโจโกโปะเก็บ Bulbous Onion แล้วเอา กลับไปให้เจ้าของร้านเพื่อจบภารกิจ

6. Side Quest : Vegging Out
ระดับความยาก: LV20
ผู้จ้าง: เจ้าของร้านขายวัตถุดิบอาหาร 
Exp: 3000
รางวัล: ????

เข้าไปคุยกับเจ้าของร้านขายวัตถุดิบซึ่งเป็นภารกิจย่อยที่ 3 ของ เจ้าของฟาร์ม Furloch Farms คนเดิม ครั้งนี้เขาต้องการให้ไปเอา Aromatic Root มาให้เขา จากนั้นเข้าไปที่จุดหมายของภารกิจแล้วเก็บ Bulbous Onion แล้วเอา กลับไปให้เจ้าของร้านเพื่อจบภารกิจและรับรางวัลเป็น สิทธิ์พิเศษในการซื้อไอเทมในราคาที่ถูกลง



7. Side Quest : Ace of Carapace
ระดับความยาก: LV15
ผู้จ้าง: เจ้าของร้านขายอาวุธ  
Exp: 1500
รางวัล: ????

เข้าไปคุยกับเจ้าของร้านขายอาวุธ เขาต้องการให้ไปเก็บ Bulette Carapace หรือกระดองของมอนสเตอร์ที่ชื่อ Bulette เพื่อเอามาให้เขาใช้เป็นวัตถุดิบทำอาวุธ เข้าไปที่พื้นที่เป้าหมาของภารกิจ จัดการ Bulette ฝูงใหญ่แล้วจะได้ Bulette Carapace ซึ่งเป็นกระดองของมันมา แล้วเอา กลับไปให้เจ้าของร้านขายอาวุธเพื่อจบภารกิจและรับรางวัลเป็น สิทธิ์พิเศษในการซื้อไอเทมในราคาที่ถูกลง

8. Side Quest : Tails spin   
ระดับความยาก: LV20
ผู้จ้าง: เจ้าของร้านขายอาวุธ  
Exp: 2000
รางวัล: ????

คุยกับเจ้าของร้านขายอาวุธอีกครั้ง ภารกิจที่ 2 ของเขาคือต้องการให้ไปเก็บ Spiracorn Tail หรือ หางของ Spiracorn เพื่อเอามาให้เขาใช้เป็นวัตถุดิบทำอาวุธ เข้าไปที่พื้นที่เป้าหมาของภารกิจ จัดการ Spiracorn แล้วจะได้ Spiracorn Tail มาแล้วเอา กลับไปให้เจ้าของร้านขายอาวุธเพื่อจบภารกิจ


9. Side Quest : Sting your praises  
ระดับความยาก: LV25
ผู้จ้าง: เจ้าของร้านขายอาวุธ  
Exp: 4000
รางวัล: ????

ภารกิจที่ 3 ของเจ้าของร้านขายอาวุธ ครั้งนี้เขาต้องการให้ไปเก็บ Saphyrtails Stingers หรือ เหล็กในของ Saphyrtails เพื่อเอามาให้เขาใช้เป็นวัตถุดิบทำอาวุธ เข้าไปที่พื้นที่เป้าหมาของภารกิจ จัดการ Saphyrtails แล้วจะได้ Scorpion Stinger มา แล้วเอา กลับไปให้เจ้าของร้านขายอาวุธเพื่อจบภารกิจและรับรางวัลเป็น สิทธิ์พิเศษในการซื้อไอเทมในราคาที่ถูกลงไปอีก



10. Side Quest : The Perfect Landscape  
ระดับความยาก: LV8
ผู้จ้าง: Vyv  
Exp: 1,000
รางวัล: 5,000 Gil 

ตากล้องปริศนานามว่า Vyv ที่บอกว่าตนเองเป็นเจ้าของสื่อสิ่งพิมพ์ชื่อ Meteor Publishing บรรณาธิการหนังสือผู้บ้าคลั่งดาวตกและตำนานโบราณของที่นี่ ยืนอยู่ที่จุดชมวิวของเมือง เขาจะให้ภารกิจกับ Noctis เพื่อที่จะไปถ่ายรูปตามสถานที่ต่างๆที่เขาต้องการเพื่อเอามาลงในหนังสือ


ที่แรกก็คือ Disc of Cauthess โดยเป้าหมายภารกิจจุดแรกคือการถ่ายมุมด้านเหนือของ The Disc และจุดเป้าหมายต่อมาคือ มุมด้านใต้ของ The Disc เมื่อถ่ายจนครบทั้ง 2 จุดแล้วก็นำเอารูปกลับไปให้ Vyv เพื่อจบภารกิจและรับรางวัลได้เลย

11. Side Quest: An Eye for island
ระดับความยาก: LV10
ผู้จ้าง: Vyv  
Exp: 1,500
รางวัล: 7,500 Gil 



ภารกิจที่ 2 จาก Vyv นักข่าวจาก Meteor Publishing คนเดิมที่ยืนอยู่ที่จุดชมวิวของเมือง ครั้งนี้เขาจะให้ไปถ่ายรูปที่ Umbral Isle of Angelgard มาให้เขา จุดถ่ายรูปจะอยู่ที่ท่าเรือของรีสอร์ท Galdin Quay


12. Side Quest: Aftermath of Astral war
ระดับความยาก: LV12
ผู้จ้าง: Vyv  
Exp: 2,000
รางวัล: 10,000 Gil 

ภารกิจที่ 3 จาก Vyv นักข่าวจาก Meteor Publishing คนเดิม ครั้งนี้เขาจะให้ไปถ่ายรูปสถานที่ต่อไปก็คือ riff Valley รอยแยกขนาดใหญ่ ตำนานเก่าแก่ที่แบ่งแยกดินแดน Duscae และ Cleigne ออกจากกัน


จุดถ่ายภาพ จุดแรกจะอยู่บนหอตรวจการณ์ที่ Coernix Bypass ส่วนจุดที่ 2 อยู่บนถนนเส้นมุ่งสู่ Secullam Pass ใกล้ๆเมือง Old Lestallum เมื่อถ่ายครบแล้วก็นำเอารูปกลับไปให้ Vyv เพื่อจบภารกิจและรับรางวัลได้เลย


13. Side Quest: of Gods and King 
ระดับความยาก: LV14
ผู้จ้าง: Vyv  
Exp: 2,500
รางวัล: 12,500 Gil 

ภารกิจที่ 4 จาก Vyv นักข่าวและ CEO จาก Meteor Publishing คนเดิม ครั้งนี้เขาจะให้ไปถ่ายรูปสถานที่ต่อไปก็คือ Tomb of the Tall ในป่าใกล้ๆหอคอย Costlemake Tower


 โดยต้องถ่าย 2 จุดที่ด้านหน้าสุสานและตรงปากทางเข้าสุสาน เมื่อถ่ายครบแล้วก็นำเอารูปกลับไปให้ Vyv เพื่อจบภารกิจและรับรางวัลได้เลย


14. Side Quest: Vyv Volcanic Inspiration 
ระดับความยาก: LV20
ผู้จ้าง: Vyv  
Exp: 3,000
รางวัล: 15,000 Gil 

ภารกิจที่ 5 จาก Vyv ครั้งนี้งานใหญ่เพราะเขาต้องการให้ไปถ่ายรูปปากปล่องภูเข้าไปบนยอดเขา The Rock of Ravatogh กันเลย




 จุดถ่ายรูปนั้นอยู่ที่ฝั่งขวาของส่วนกลางของทางขึ้นเขาที่ทางเดินเต็มไปด้วยลาวาร้อน เมื่อถ่ายครบแล้วก็นำเอารูปกลับไปให้ Vyv เพื่อจบภารกิจและรับรางวัลได้เลย ก่อนที่ Vyv จะบอกว่าเขาจำได้นานแล้วว่าลูกจ้างถ่ายรูปคนนี้คือเจ้าชาย Noctis


15. Side Quest: A Place to Call Home
ระดับความยาก: LV22
ผู้จ้าง: Vyv  
Exp: 3,500
รางวัล: 17,500 Gil

หลังจากที่ Vyv รู้ถึงตัวตนของ Noctis แล้ว ภารกิจที่ 6  เขาจึงขอให้ไปถ่ายที่ Clown City บ้านเกิดของเจ้าชายให้หน่อย ถึงแม้จะเข้าไปที่เมืองไม่ได้ตอนนี้ก็ถ่ายจากนอกเมืองให้ก็ยังดี


จุดถ่ายรูปจะอยู่ที่ Hill Overlooking Isomnia ทางซ้ายของประตูเมือง Clown City  เมื่อได้แล้วก็นำเอารูปกลับไปให้ Vyv เพื่อจบภารกิจและรับรางวัลคือการปลดล็อก The Monochromatic time filter) ไว้ใช้งานสำหรับการถ่ายรูปขาวดำด้วย

16. Side Quest: The Pen is Mightier than the sword  
ระดับความยาก: LV25
ผู้จ้าง: Vyv  
Exp: 4,000
รางวัล: 20,000 Gil 

ภารกิจที่ 7 จาก Vyv ครั้งนี้ เขาต้องการให้ไปถ่ายภาพของฐานของพวกทหารจักรวรรดิที่อยู่ในพื้นที่ทั้ง 3 จุดคือ


-Leide imperial base
-Duscae imperial base
-Cleigne imperial base
เมื่อได้แล้วก็นำเอารูปกลับไปให้ Vyv เพื่อจบภารกิจและรับเงินรางวัล ก่อนที่ Vyv จะบอกให้อุ่นใจว่าเขาและองค์กรของเขาจะร่วมต่อสู้กับพวกจักรวรรดิ์เพื่อกอบกู้ราชบัลลังก์ลูซิสคืนมา

17. Side Quest: The Cursed Canvas  
ระดับความยาก: LV30
ผู้จ้าง: Vyv  
Exp: 5,000
รางวัล: 25,000 Gil

ภารกิจที่ 7 จาก Vyv งานนี้เขาถึงกับเล่นไสยศาสตร์เพราะต้องการให้ Noct ไปถ่ายรูปของภาพวาดต้องสาปที่ชื่อว่า Lakshmi ที่เมือง Altissia เพื่อพิสูจณ์ดูสิว่าผีตามตำนานที่เล่าขานนั้นเป็นจริงหรือเปล่า ... ซึ่งงานนี้ก็ต้องรอจนกว่าการเดินทางจะถึงที่ เมือง Altissia ...




                         Main Mission: The Way of Gods and King



ในขณะที่ทุกคนกำลังเข้าไปที่จุดชมวิวเพื่อตรวจสอบสถานที่ที่เกิดการปะทะของอุกาบาตเมื่อในอดีตจนเกิดร่องรอยความเสียหายเป็นรูปวงกลมเป็นวงกว้างที่ต่อมาเรียกกันว่า The Disc นั้น Noct และพวกก็ได้พบกับชายในชุดเสื้อคลุมประหลาดอีกครั้ง ...


[????] – อะไรจะบังเอิญขนาดนั้น ..
[Gladiolus]- ชั้นไม่คิดว่ามันจะบังเอิญขนาดนั้นนะ 
[????] – เคยฟังบทกวีที่ใช้สอนเด็กกันบ้างมั๊ย 


“From the deep the Archaean calls Yet on deaf ears the Gods tongue falls , the king made to kneel in pain he crawls 



ณ. ร่องรอยแห่งเวลาที่เนิ่นนานถูกทิ้งร้างไว้ เสียงเพรียกหาจากยุคดึกดำบรรพ์อันแสนไกล กษัตริย์ผู้ทนทุกข์ทรมานยังต้องยอมหมอบคลานคุกเข่าวิงวอน แต่พระผู้เป็นเจ้าก็ไม่เคยอาวรณ์ ทำบ้าใบ้ไม่ยอมตอบสนองคำวิงวอนแต่อย่างใด 



[Prompto]- ถามจริง แล้วเราจะเดินเท้าขึ้นไปหาเขาด้วยตัวเองจะได้รึเปล่า ?
 [????] – พวกนายต้องตั้งใจที่จะฟังเสียงเพรียกนั่น ไปที่ Archaean แล้วไปฟังคำวิงวอนของเขาเอง  ..และผมสามารถพาไปได้นะ 



[Gladiolus]- ตกลง เราเอาด้วย !
[Noctis] – อืมม ไม่รู้สิ ?
[Prompto]- เราก็แค่ขับรถไปหรอ ?
[Gladiolus]- แต่ต้องคอยระวังหลังพวกเราเองกันให้ดีแค่นั้น
[Ignis] – ฟังดูก็แฟร์ดีนะ
[Noctis] – งั้นก็ไปกัน !!



[Ardyn] – ผมเป็นคนที่ไม่ค่อยจะมีพิธีรีตองอะไรหรอกนะ แค่คนนอกที่อยากมาให้คำแนะนำดีๆแค่นั้นเอง ได้โปรดเรียกผมว่า Ardyn ก็ได้ครับ ตามผมมาทางนี้ครับ ไปที่จอดรถนะ ผมจอดรถของผมไว้ที่นั่น รถผมเธอก็เก่าแก่เหมือนกันนะ อาจจะโทรมกว่า Regalia แต่เธอก็ไม่เคยทำให้ผมผิดหวังเลยนะจะบอกให้ 

[Ardyn] – แล้วตกลง เราจะขับรถไปกัน 2 คันเลยหรอ ? อืมม ถ้าจะให้เกรียติผมเลือกนะ ผมก็อยากเลือกให้เจ้าชายเป็นคนขับตามมา ดีมั๊ย ?




Take the wheel (ขับ Regalia เองเลย) จะได้ 500 Exp
Ride with Ardyn (นั่งรถไปกับ Ardyn) จะได้รับ 2 AP
Drive Ardyn Car (ขับรถของ Ardyn) จะได้รับ 1 AP กับ 100 Exp 
Leave it to Ignis (ให้ Ignis เป็นคนขับ Regalia) Ignis จะได้ Exp คนเดียวเต็มๆ 1000 exp 



 ---------------------------- END OF CHAPTER  ------------------------------------------






           SIDE QUEST และ ความลับต่างๆที่สามารถตามหาได้ในบทที่ 3 



               Hunts Quest ที่ร้านอาหาร (ฝั่งซ้าย) ในเมือง Lestallum




1.Hunts Quest – Avenge the Abglers  
ระดับของนักล่าที่ต้องการ – Rank 4
ระดับความยาก – LV24
เป้าหมาย – กำจัด Albinogin 3 ตัว
ถิ่นที่อยู่ – Callatein’s Plunge  
ช่วงเวลา – กลางวันและกลางคืน
Star – 2 ดาว (ครบดาวได้เพิ่ม Rank นักล่า)
ค่าหัว – 3,660 Gil
รางวัลนำจับ – Megalixir

2.Hunts Quest – Ruler of brave Skies    
ระดับของนักล่าที่ต้องการ – Rank 4
ระดับความยาก – LV30
เป้าหมาย – กำจัด Griffon ตัว
ถิ่นที่อยู่ – Kelbass Grassland  
ช่วงเวลา – กลางวันและกลางคืน
Star – 3 ดาว (ครบดาวได้เพิ่ม Rank นักล่า)
ค่าหัว – 4,935 Gil
รางวัลนำจับ – Mega Phoenix

3.Hunts Quest – Off with their Heads  
ระดับของนักล่าที่ต้องการ – Rank 4
ระดับความยาก – LV31
เป้าหมาย – กำจัด Arbagadol 2 ตัว และ Arba 3 ตัว
ถิ่นที่อยู่ – Kelbass Grassland  
ช่วงเวลา – กลางวัน
Star – 3 ดาว (ครบดาวได้เพิ่ม Rank นักล่า)
ค่าหัว – 5,070Gil
รางวัลนำจับ – Lighting Crest

4.Hunts Quest – Disquieted Queen    
ระดับของนักล่าที่ต้องการ – Rank 4
ระดับความยาก – LV38
เป้าหมาย – กำจัด Killer Queen 3 ตัว
ถิ่นที่อยู่ – Corernix Bypass    
ช่วงเวลา – กลางวันและกลางคืน
Star – 3 ดาว (ครบดาวได้เพิ่ม Rank นักล่า)
ค่าหัว – 6,850Gil
รางวัลนำจับ – Mega Phoenix



               Hunts Quest ที่ร้านอาหาร (ฝั่งขวา) ในเมือง Lestallum




1.Hunts Quest – Secure the Mountain pass    
ระดับของนักล่าที่ต้องการ – Rank 3
ระดับความยาก – LV12
เป้าหมาย – กำจัด Saberclaw 9 ตัว
ถิ่นที่อยู่ – Pallareth pass    
ช่วงเวลา – กลางวันและกลางคืน
Star – 2 ดาว (ครบดาวได้เพิ่ม Rank นักล่า)
ค่าหัว – 2,270Gil
รางวัลนำจับ – Hi-Elixir

2.Hunts Quest – Cool Callatein Mist    
ระดับของนักล่าที่ต้องการ – Rank 4
ระดับความยาก – LV22
เป้าหมาย – กำจัด Ice Bomb 5 ตัว
ถิ่นที่อยู่ – Callatein’s Plunge  
ช่วงเวลา – กลางคืน
Star – 2 ดาว (ครบดาวได้เพิ่ม Rank นักล่า)
ค่าหัว – 3,380Gil
รางวัลนำจับ – Megalixir

3.Hunts Quest – To Sting in Anger    
ระดับของนักล่าที่ต้องการ – Rank 4
ระดับความยาก – LV22
เป้าหมาย – กำจัด Brutal bee 3 ตัวและ Killer Bee 5 ตัว
ถิ่นที่อยู่ – Corernix Bypass    
ช่วงเวลา – กลางวันและกลางคืน
Star – 2 ดาว (ครบดาวได้เพิ่ม Rank นักล่า)
ค่าหัว – 3,390Gil
รางวัลนำจับ – Green Choker

 4.Hunts Quest – To Catch a Frog      
ระดับของนักล่าที่ต้องการ – Rank 5
ระดับความยาก – LV27
เป้าหมาย – กำจัด Hekatontoad 2 ตัว
ถิ่นที่อยู่ – Pallareth pass    
ช่วงเวลา – กลางวัน (ตอนฝนตก)
Star – 2 ดาว (ครบดาวได้เพิ่ม Rank นักล่า)
ค่าหัว – 4,070Gil
รางวัลนำจับ – Megalixir

5.Hunts Quest – Long Necks on the plains      
ระดับของนักล่าที่ต้องการ – Rank 5
ระดับความยาก – LV28
เป้าหมาย – กำจัด Arba 5 ตัว
ถิ่นที่อยู่ – Kelbass Grassland  
ช่วงเวลา – กลางวัน
Star – 2 ดาว (ครบดาวได้เพิ่ม Rank นักล่า)
ค่าหัว – 4,480Gil
รางวัลนำจับ – Megalixir

6.Hunts Quest – They Came back from the Mountain      
ระดับของนักล่าที่ต้องการ – Rank 5
ระดับความยาก – LV30
เป้าหมาย – กำจัด Megaloclaw 5 ตัว
ถิ่นที่อยู่ – Corernix Bypass    
ช่วงเวลา – กลางวันและกลางคืน
Star – 3 ดาว (ครบดาวได้เพิ่ม Rank นักล่า)
ค่าหัว – 4,480Gil
รางวัลนำจับ – Mega Phoenix

7.Hunts Quest – Rainstorm Duell poison Frog of Wennath      
ระดับของนักล่าที่ต้องการ – Rank 5
ระดับความยาก – LV32
เป้าหมาย – กำจัด Gaiatoad 1 ตัว
ถิ่นที่อยู่ – Upper Wennath    
ช่วงเวลา – กลางวัน (ตอนฝนตก)
Star – 3 ดาว (ครบดาวได้เพิ่ม Rank นักล่า)
ค่าหัว – 5,350Gil
รางวัลนำจับ – Mega Phoenix

8.Hunts Quest – Acquit Not Evil          
ระดับของนักล่าที่ต้องการ – Alphagin 3 ตัว และ Sahagin 2 ตัว
ระดับความยาก – LV32
เป้าหมาย – กำจัด Gaiatoad 1 ตัว
ถิ่นที่อยู่ – Upper Wennath    
ช่วงเวลา – กลางวันและกลางคืน
Star – 3 ดาว (ครบดาวได้เพิ่ม Rank นักล่า)
ค่าหัว – 6,650Gil
รางวัลนำจับ – Knight’s Anklet


--------------------------------------------------------------------------------------------------------------

  

                          *** เก็บตก Side Quest ที่ทำค้างไว้ ***





Side Quest: Lestallum’s Finest  ภารกิจย่อยต่อเนื่องของ Takka ที่เคยค้างไว้เพราะต้องรอมาซื้อวัตถุดิบอาหารที่เมือง Lestallum 




- เมื่อมาถึงเมือง Lestallum แล้วเข้าไปที่ร้านเป้าหมายของภารกิจ สำรวจที่ของขายที่มีคำว่า Quest (ไม่ใช่คุยกับพ่อค้านะ) พ่อค้าจะบอกวัตถุดิบที่ Noct ต้องการนั้นของยังไม่มาส่ง เขาจึงให้ Noct ลองไปตรวจสอบดูว่าเกิดอะไรขึ้นกับรถขนสินค้ากันแน่


 จากนั้นเดินทางไปที่จุดหมายของภารกิจที่ขึ้นมาก็จะพบจุดที่มีลังสินค้าอยู่ เข้าไปจัดการมอนสเตอร์ให้หมดแล้วเก็บเอากล่องสินค้ากลับไปให้เจ้าของร้าน แล้ว Noct ก็จะได้วัตถุดิบในการทำอาหารตามที่ Takka ต้องการ จากนั้นก็เอาวัตถุดิบกลับไปให้ Takka ที่ร้านที่ Hammerhead เพื่อจบเควสและรับรางวัลได้เลย

เมื่อจบ Side Quest: Lestallum’s Finest แล้วก็จะมีเควสใหม่ซึ่งเป็น เควสสุดท้าย ของ Takka เพิ่มเข้ามาอีกคือ


Side Quest: A Meat Most Magnificent 
ผู้จ้าง : Takka
EXP : 3000
รางวัล: Allural X5 , Kettier Ginger x5


เข้าไปที่เป้าหมายของภารกิจที่ขึ้นมาใหม่ในแผนที่ที่ปั๊ม Coenix Station – Alstor คุยกับเจ้าของร้านอาหาร  Crow’s nest Diner แล้วเลือกทำ Hunts Quest – Marsh Madnessi the Giant Awakens เพื่อล่าเจ้ายักษ์ Catoblepas จัดการได้แล้วจะได้ Catoblepas brisket มาแล้วนำเอากลับไปให้ Takka เพื่อจบเควสและรับรางวัล


และในร้านก็จะมี Sizzling Humango Steak ขายในราคา 2600 gil เอฟเฟคของมันคือ กินแล้วสามารถวิ่งได้ตลอดโดยเกท Stamina ไม่ลด และ + HP เพิ่มอีก 1000



           ---------------------------------------------------------------------------------------------------

                     Side Quest ช่วยคนรถเสีย ในเขตพื้นที่เขต Duscae 




                                                      รายละเอียด 

-การเจอคนที่รถเสียนั้นจะปรากฏให้เห็นแบบไม่ระบุเวลาอาจกลางวันหรือกลางคืนก็ได้
-การเจอคนที่รถเสียนั้นจะเจอเรียงกันตามหมายเลขในแผนที่ ซึ่งแต่ละจุดจะปรากฏให้เห็นแบบไม่ระบุเวลาอาจกลางวันหรือกลางคืนก็ได้ และบางจุดจะปรากฏให้เห็นต่อเมื่อผ่านภารกิจในเนื้อเรื่องหลักในแต่ละบทไปแล้ว
-สิ่งที่คนที่รถเสียต้องการคือนำเอา Repair kit มาให้เขา ไอเทม  Repair kit ซื้อได้ที่ร้านอะไหล่ยนต์ (mini mart) ที่  Hammerhead ราคา 100 Gil


                           ** ลำดับของจุดที่มีรถเสียตามหมายเลขในแผนที่ ** 

1. Side Quest: New to The Road เจอ เจอรถเมื่อถึงบทที่ 3
2. Side Quest: I'm Late! เจอรถเมื่อผ่าน เควสหลัก "Retrieve the Regalia" เมื่อได้รถคืนมาแล้วในบทที่ 5 และหลังพบรถเสียจุดที่ 1 แล้ว
3. Side Quest: Shoulda Been Serviced เจอรถในบทที่ 6 แถวๆเมือง Lestallum
4. Side Quest: That Brand-New Car Smell เจอรถเมื่อถึงบทที่ 6 หลังพบรถเสียจุดที่ 3 แล้ว
5. Side Quest: Tune-Up Shmune-Up เจอรถเมื่อถึงบทที่ 9 และหลังพบรถเสียจุดที่ 3 แล้ว
6. Side Quest: The Jolly Joyrider เจอ เจอรถเมื่อถึงบทที่ 3
7. Side Quest: The Perpetual Passenger เจอรถเสียหลังจบเควส Through a Rose-Tinted Windshield ในบทที่ 9 และเจอจุดรถเสียในจุดที่ 6 แล้ว
8. Side Quest: Through a Rose-Tinted Windshield เจอรถเมื่อถึงบทที่ 9 และหลังพบรถเสียจุดที่ 7 แล้ว
9. Side Quest: Hurrying Home เจอรถเมื่อถึงบทที่ 9 และหลังพบรถเสียจุดที่ 8 แล้ว
10. Side Quest: Wild Beasts On The Open Road เจอรถเมื่อถึงบทที่ 3


Cr.รูปภาพแผนที่จาก
http://www.gosunoob.com/final-fantasy-xv/ffxv-broken-cars-locations/

       

          Side Quest – Rescue ช่วยเหลือคนบาดเจ็บ ในเขตพื้นที่เขต Duscae 




                                                   รายละเอียด

-Hunter ที่บาดเจ็บจะซ่อนอยู่ตามที่ต่างๆโดยจะไม่มีเป้าหมายในแผนที่แต่จะส่งเสียงเรียกขอความช่วยเหลือให้ได้ยิน ภารกิจของ Quest จึงจะมีขอบเขตให้ค้นหาขึ้นมา พยายามตามหาผู้บาดเจ็บแล้วเอา Potion หรือ Antidotes ให้เขาก็จะจบภารกิจ
-การเจอผู้บาดเจ็บนั้นจะเจอเรียงกันตามหมายเลขในแผนที่ ซึ่งแต่ละจุดจะปรากฏให้เห็นแบบไม่ระบุเวลาอาจกลางวันหรือกลางคืนก็ได้ และบางจุดจะปรากฏให้เห็นต่อเมื่อผ่านภารกิจในเนื้อเรื่องหลักในแต่ละบทไปแล้ว





                         ** ลำดับของจุดที่มีคนบาดเจ็บตามหมายเลขในแผนที่ **

1.All by Myself เจอตัวเมื่อถึงบทที่ 3
2.In Low Spirits เจอตัวเมื่อถึงบทที่ 9 หลังพบคนบาดเจ็บจุดที่ 1 แล้ว
3.The Verge of Despair เจอตัวเมื่อถึงบทที่ 9 หลังพบคนบาดเจ็บจุดที่ 2 แล้ว
4.Accursed Curiosity เจอตัวเมื่อถึงบทที่ 3หลังพบคนบาดเจ็บจุดที่ 1 แล้ว
5. A Hurting Heart เจอตัวเมื่อถึงบทที่ 3
6.Weary and Wounded เจอตัวเมื่อถึงบทที่ 9 หลังพบคนบาดเจ็บจุดที่ 5 แล้ว
7.Trembling with Fear เจอตัวหลังจบ Hunt Quest "A Behemoth Undertaking" ที่ฟาร์มโจโกโปะในบทที่ 3 แล้ว
8.The Faint of Heart   คนเจ็บอยู่ด้านใน Nebulawood รังของ Behemoth ในเขตพื้นที่เขต Duscae เจอตัวเมื่อถึงบทที่ 8 และต้องผ่าน Hunt Quest A Behemoth Undertaking ก่อน

9.Wrecked with Anxiety เจอตัวเมื่อถึงบทที่ 8 ตอนกำลังเดินทางมากลับมาที่ Cape Caem
10.Down on your Luck เจอตัวเมื่อถึงบทที่ 9


Cr.รูปภาพแผนที่จาก


           ------------------------------------------------------------------------------------------------


                                       

                                 เขตพื้นที่เขต Cleigne


                        เมือง Old Lestallum ริมแม่น้ำ River Wennath




             
 

                        ที่เมือง Old Lestallum จะมีคนที่ให้ภารกิจย่อยอยู่ 2 คนคือ



                 
1. Side Quest : A Blackwoods Burial 
ระดับความยาก: LV20
ผู้จ้าง: Dave
Exp: 1500
รางวัล: Phoenix Down x 10 




ภารกิจตามหา Dog Tag ของเหล่า Hunter ผู้เสียชีวิตของ Dave เข้าไปถามข้อมูลกับเจ้าของร้าน Crow’s nest Diner ก็จะได้จุดที่ Dog Tag ตกอยู่อย่างชัดเจนขึ้น เข้าไปที่เป้าหมายแล้วเก็บ Dog Tag กลับมาให้ Dave ก็จะจบภารกิจ



2. Side Quest : Washed Away 
ระดับความยาก: LV22
ผู้จ้าง: Dave
Exp: 1800
รางวัล: Phoenix Down x 10 




ภารกิจตามหา Dog Tag ของเหล่า Hunter ผู้เสียชีวิตของ Dave เข้าไปถามข้อมูลกับเจ้าของร้าน Crow’s nest Diner ก็จะได้จุดที่ Dog Tag ตกอยู่อย่างชัดเจนขึ้น เข้าไปที่เป้าหมายแล้วเก็บ Dog Tag กลับมาให้ Dave ก็จะจบภารกิจ



3. Side Quest: The Professor’s Protégé - Gigantoad
ระดับความยาก: LV28
ต้องการ – Slimy Oil
ผู้จ้าง: Sonia
Exp: 5000
รางวัล: Moon Pendant 




         ไอเทม Slimy Oil นั้นจะดรอปจากมอนสเตอร์ Gigantoad จุดที่มันเกิดใกล้สุดก็คือ



           

บริเวณแถวๆบึง Alstor Slough ทางใต้ของ ปั๊ม Coernix Station – Alstor โดยมันจะออกมาในช่วงที่ฝนตกเท่านั้น




               Hunts Quest ในร้าน Crow’s nest Diner ที่ เมือง Old Lestallum



1.Hunts Quest – The Last Spiracorn

ระดับของนักล่าที่ต้องการ – Rank 3
ระดับความยาก – LV29
เป้าหมาย – กำจัด Duplicorn 2 ตัวและ Spiracorn 3 ตัว
ถิ่นที่อยู่ – Lower Wennath
ช่วงเวลา – กลางวัน
Star – 2 ดาว (ครบดาวได้เพิ่ม Rank นักล่า)
ค่าหัว – 3480 Gil
รางวัลนำจับ –

**ภารกิจการล่านี้สำคัญกว่าปกติเพราะ Spiracorn นั้นดรอปไอเทม Sturdy Helixhorn ซึ่งเป็นคีย์ไอเทมที่ Cid ต้องการใน Side Quest  A Better Engine Blade III ที่จะทำให้ Engine Blade กลายเป็น Ultima Blade ได้


โดยการจัดการกับ Spiracorn เพื่อให้มันดรอปไอเทม Sturdy Helixhorn นั้นก็ต้องล็อกเป้าโจมตีขึ้นไปบนเขาของมันแล้วโจมตีจนมันหัก(มีคำว่า Break ขึ้นมา)   ซึ่ง ไอเทม Sturdy Helixhorn ก็จะแรนด้อมดรอปด้วย พยายามเซฟไว้ก่อนเข้าไปล่าก็ดี ถ้ามีอาหาร Mother & Child Bowl เพื่อเพิ่มอัตราการดรอปไอเทมของศัตรู 50 % กินไปด้วยก็ดีหรือจะใช้อาวุธ Sword of the Wise หรือ Hardedgesword เพื่อเพิ่มอัตราการ Break ด้วยก็ได้จนกว่ามันจะดรอป Sturdy Helixhorn ออกมา


จากนั้นเอาไปให้ Cid ใน Side Quest  A Better Engine Blade III เพื่อตีดาบ Engine Blade ให้กลายเป็น Ultima Blade ได้แล้ว


2.Hunts Quest – Shear Force 
ระดับของนักล่าที่ต้องการ – Rank 3
ระดับความยาก – LV34
เป้าหมาย – กำจัด Mightyshears 3 ตัว
ถิ่นที่อยู่ – Lower Wennath
ช่วงเวลา – กลางวันและกลางคืน
Star – 3 ดาว (ครบดาวได้เพิ่ม Rank นักล่า)
ค่าหัว – 5,730 Gil
รางวัลนำจับ – Mega Phoenix

3.Hunts Quest – Blobs Ashore  
ระดับของนักล่าที่ต้องการ – Rank 3
ระดับความยาก – LV35
เป้าหมาย – กำจัด Gelatin 3 ตัว
ถิ่นที่อยู่ – Malmalam Thicket
ช่วงเวลา –กลางคืน
Star – 3 ดาว (ครบดาวได้เพิ่ม Rank นักล่า)
ค่าหัว – 5,920 Gil
รางวัลนำจับ – Titanium Bangle

4.Hunts Quest – Malmalam Mirage
ระดับของนักล่าที่ต้องการ – Rank 3
ระดับความยาก – LV51
เป้าหมาย – กำจัด Bandersnatch
ถิ่นที่อยู่ – Malmalam Thicket
ช่วงเวลา –กลางวันและกลางคืน
Star – 4 ดาว (ครบดาวได้เพิ่ม Rank นักล่า)
ค่าหัว – 13,500 Gil
รางวัลนำจับ – Mega Phoenix


5.Hunts Quest – Herald from the Depths   
ระดับของนักล่าที่ต้องการ – Rank 5
ระดับความยาก – LV40
เป้าหมาย – กำจัด Karlabos
ถิ่นที่อยู่ – Leirity Seaside
ช่วงเวลา –กลางวันและกลางคืน
Star – 3 ดาว (ครบดาวได้เพิ่ม Rank นักล่า)
ค่าหัว – 7,730 Gil
รางวัลนำจับ – Mega Phoenix




                        Verinas Mart ที่ตีนเขา Rock of Ravatogh 



ที่ Verinas Mart จะมีคนที่ให้ภารกิจย่อยอยู่ 1 คนคือ
                   

1. Side Quest : The Professor’s Protégé –Wyvern
ระดับความยาก: LV35
ต้องการ : Wyvern Wing
ผู้จ้าง: Sonia
Exp: 8000
รางวัล: Earth Pendant
เข้าไปในบริเวณภูเขา Rock of Ravatogh ระหว่างที่จะขึ้นไปยัง Royal Tomb : Tomb of the Fierce จะเจอพวกมังกร Wyvern อยู่หลายจุด จัดการมันซะก็จะได้ Wyvern Wing มา เอากลับไปให้ Sonia เพื่อรับรางวัลและจบภารกิจได้เลย




                    Hunts Quest ในร้านอาหารหน้าร้าน Verinas Mart


1.Hunts Quest – Deadly Extermination 
ระดับของนักล่าที่ต้องการ – Rank 3
ระดับความยาก – LV37
เป้าหมาย – กำจัด Soldier Wasp 3 ตัวและ Killer Wasp 3 ตัว
ถิ่นที่อยู่ – Ravatoghan trail
ช่วงเวลา – กลางวันและกลางคืน
Star – 3 ดาว (ครบดาวได้เพิ่ม Rank นักล่า)
ค่าหัว – 6,440 Gil
รางวัลนำจับ – Mega Phoenix

2.Hunts Quest – Verinas mart Under Threat  

ระดับของนักล่าที่ต้องการ – Rank 3
ระดับความยาก – LV38
เป้าหมาย – กำจัด Wyvern 7 ตัว
ถิ่นที่อยู่ – Ravatoghan trail
ช่วงเวลา – กลางวันและกลางคืน
Star – 3 ดาว (ครบดาวได้เพิ่ม Rank นักล่า)
ค่าหัว – 7,290 Gil
รางวัลนำจับ – Sapphire Bracelet

3.Hunts Quest – Red Lightning of Ravatogh
ระดับของนักล่าที่ต้องการ – Rank 5
ระดับความยาก – LV44
เป้าหมาย – กำจัด Copperoc 3 ตัว และ Thunderoc 3 ตัว
ถิ่นที่อยู่ – Ravatoghan trail
ช่วงเวลา – กลางวัน
Star – 3 ดาว (ครบดาวได้เพิ่ม Rank นักล่า)
ค่าหัว – 9,140 Gil
รางวัลนำจับ – Mega Phoenix

 


                                            Meldacio Hunter HQ 


ที่ฐานบัญชาการณ์ของเหล่าฮันเตอร์ มีคนที่ให้ Side Quest คือ


1. Side Quest : Mountains of Misfortune 
ระดับความยาก: LV35
ผู้จ้าง: Dave
Exp: 2000
รางวัล: Megalixir

ภารกิจตามหา Dog Tag ของเหล่า Hunter ผู้เสียชีวิตของ Dave เข้าไปถามข้อมูลกับเจ้าของร้านอาหารก็จะได้จุดที่ Dog Tag ตกอยู่อย่างชัดเจนขึ้น แต่เป้าหมายของ Dog Tag ที่ตกอยู่ในเขต The Vesperpool เกินเขตพื้นที่ของบทที่ 3 เพราะประตู Pallarethan Blockade ยังไม่เปิดจึงยังไปได้จึงต้องพักไว้ก่อน 



2. Side Quest: The Professor’s Protégé – Myrlwood Firefly 
ระดับความยาก: LV45
ต้องการ – หิ่งห้อย Myrlwood Firefly
ผู้จ้าง: Sonia
Exp: 10000
รางวัล: Golden Hourglass

ภารกิจช่วยงานวิจัยของ Sonia ครั้งนี้เธอต้องการให้ไปตามจับ หิ่งห้อย Myrlwood Firefly มาให้ แต่จุดเป้าหมายของ Myrlwood Firefly นั้นอยู่ในเขต The Vesperpool เกินเขตพื้นที่ของบทที่ 3 เพราะประตู Pallarethan Blockade ยังไม่เปิดจึงยังไปได้จึงต้องพักไว้ก่อน



                            Hunts Quest ในร้านอาหารที่ Meldacio Hunter HQ

1.Hunts Quest – Voltage Fluctuation  
ระดับของนักล่าที่ต้องการ – Rank 4
ระดับความยาก – LV29
เป้าหมาย – กำจัด Thunderoc 9 ตัว
ถิ่นที่อยู่ – Pallareth Pass
ช่วงเวลา – กลางวัน
Star – 2 ดาว (ครบดาวได้เพิ่ม Rank นักล่า)
ค่าหัว – 4,650 Gil
รางวัลนำจับ – Megalixir



    

              --------------------------------------------------------------------------------------------------
               

                   Side Quest ช่วยคนรถเสีย ในเขตพื้นที่เขต Cleigne 




                          ** ลำดับของจุดที่มีรถเสียตามหมายเลขในแผนที่ **

1. Side Quest: Dude, Where’s My Car? เจอรถเมื่อถึงบทที่ 8
2. Side Quest: Keep Calm and Keep Driving เจอรถเมื่อถึงบทที่ 8 หลังพบรถเสียจุดที่ 1 แล้ว
3. Side Quest: Big Head behind The Wheel เจอรถเมื่อถึงบทที่ 3 ต้องแวะเข้าไปสำรวจที่ Cape Caem ก่อน
4. Oh my Grease-Monkey Goddess! เจอรถเมื่อถึงบทที่ 6 หลังพบรถเสียจุดที่ 3 แล้ว
5. Vehicle Vexation เจอรถได้ทันทีเมื่อเข้ามาในเขตพื้นที่ Cleigne
6. A Driver in Despair เจอรถเมื่อถึงบทที่ 6 หลังพบรถเสียจุดที่ 5 แล้ว
7. My Beloved Chariot เจอรถได้ทันทีเมื่อเข้ามาในเขตพื้นที่ Cleigne
8. A Manic Motorist เจอรถเมื่อถึงบทที่ 9 หลังพบรถเสียจุดที่ 7 แล้ว
9. Alone on the Road เจอรถเมื่อถึงบทที่ 9 หลังพบรถเสียจุดที่ 7 แล้ว
10. Pedal to the Metal เจอรถเมื่อถึงบทที่ 9 หลังพบรถเสียจุดที่ 8 แล้ว


Cr.รูปภาพแผนที่จาก
http://www.gosunoob.com/final-fantasy-xv/ffxv-broken-cars-locations/



           Side Quest – Rescue ช่วยเหลือคนบาดเจ็บ ในเขตพื้นที่เขต Cleigne




                          ** ลำดับของจุดที่มีคนบาดเจ็บตามหมายเลขในแผนที่ **

1. Almost Out of Hope เจอตัวเมื่อถึงบทที่ 3
2. Poor, Misfortunate Soul เจอตัวเมื่อถึงบทที่ 3 หลังพบคนเจ็บจุดที่ 1 และเคลียร์ Quest The Sword in the Waterfall ลุยดันเจี้ยน ถ้ำน้ำแข็ง Greyshire Glacial Grolto แล้ว 




** ถ้าในกรณีเข้าไปเก็บดาบได้ก่อนจะได้รับเควส The Sword in the Waterfall ที่เมือง Lestallum จาก Talcott นั้น คนเจ็บจะยังไม่ปรากฎตัวออกมา ก็สามารถรอจนจบเควส "A Stroll for Two" ของน้องไอริสในช่วง ใกล้จะจบบทที่ 3 คนเจ็บก็จะปรากฎตัวออกมาให้ช่วย ** 

3.A Little Slip-Up เจอตัวทันทีเมื่อถึงบทที่ 6
4.Keeping the Faith เจอตัวเมื่อถึงบทที่ 9 หลังพบคนเจ็บในจุดที่ 6 แล้ว
5.Injured and Introspective เจอตัวเมื่อถึงบทที่ 9 หลังพบคนเจ็บในจุดที่ 4 แล้ว
6.Alas, Poor Hunter เจอตัวเมื่อถึงบทที่ 6 ที่จุดตกปลาริมแม่น้ำ Maidenwater หน้าทางไปดันเจี้ยน Malmalam Thicket
7.Losing Heart เจอตัวเมื่อถึงบทที่ 9 หลังพบคนเจ็บในจุดที่ 6 แล้ว
8.Blame the Beasts! เจอตัวเมื่อถึงบทที่ 9
9.Not so Easy Anymore เจอตัวเมื่อถึงบทที่ 9 หลังพบคนเจ็บในจุดที่ 8 แล้ว
10.Scared and Lonely เจอตัวทันทีเมื่อถึงบทที่ 6


Cr.รูปภาพแผนที่จาก 
http://www.gosunoob.com/final-fantasy-xv/ffxv-rescue-quest-locations/

 
        ----------------------------------------------------------------------------------------------------


     จุดถ่ายรูปของ Prompto ในภารกิจย่อย Photo Ops ที่ถ่ายได้ในบทที่ 3

1.Photo Op: Mountain ถ่ายได้ทันทีเมื่อเข้าบทที่ 3
2. Photo Op: Quay ถ่ายได้ทันทีเมื่อเข้าบทที่ 3
3. Photo Op: Disc  ถ่ายได้ทันทีเมื่อเข้าบทที่ 3
4.Photo Op: Waterfall ถ่ายได้ทันทีเมื่อเข้าบทที่ 3
5.Photo Op: Volcano ถ่ายได้ทันทีเมื่อเข้าบทที่ 3
6.Photo Op: Lestallum  ถ่ายได้เมื่อถึงบทที่ 3  หลังจบเควส "A Stroll for Two" ของน้องไอริสแล้ว





      -----------------------------------------------------------------------------------------------------------






 ภารกิจย่อย (Scraps Of Mystery) จุดเก็บแผนที่ลึกลับ ในเขตพื้นที่เขต Duscae และ Cleigne ในบทที่ 3 


แผนที่ลึกลับนั้นจะไม่มีบอกในแผนที่ ต้องค้นหาเองจนเมื่อเจอ Mystery Map แล้วเงื่อนไขของ Side Quest Scraps of Mystery จึงจะปรากฏขึ้นมาในแผนที่ให้เข้าไปเอา Sylvester's Map มาได้ 

                                                [ เก็บต่อจากบทที่ 2 ]


                                             1. Mystery Map VI 







 ที่ข้างรถในจุดจอดรถที่ The Nebulawood จะได้ Side Quest Scraps of Mystery VI 
เข้าไปที่จุดเป้าหมายของภารกิจเก็บ Sylvester's Map Piece F มา





                                             2.  Mystery Map VII




ที่สนามแข็งโจโกโปะจะได้ Side Quest Scraps of Mystery VII


เข้าไปที่จุดเป้าหมายของภารกิจที่ The Malacchi hills ทางเหนือจากสนามแข่ง เก็บ Sylvester's Map Piece G มา


                                                           3.  Mystery Map VIII



ที่โกดังใน Cauthess Rest Area จะได้ Side Quest Scraps of Mystery VIII 



เข้าไปที่จุดเป้าหมายของภารกิจที่ซากยานของจักรวรรดิแถวๆ Mencemoor ทางซ้ายของ Cauthess the Disc เก็บ Sylvester's Map Piece H มา


                                                   4.  Mystery Map IX



ที่ Taelpar Rest Area Outpost จะได้ Side Quest Scraps of Mystery IX 


เข้าไปที่จุดเป้าหมายของภารกิจที่ป่าทางเหนือของดันเจี้ยน Daurell Caverns แถวๆ Causcherry Plains  เก็บ Sylvester's Map Piece I มา



                                                   5. Mystery Map X




ที่ Kelbass Grasslands จะได้ Side Quest Scraps of Mystery X 



เข้าไปที่จุดเป้าหมายของภารกิจทางทิศใต้จากจุดที่เก็บ  เข้าไปเก็บ Sylvester's Map Piece J มา



                                                 6.Mystery Map XI





 เก็บตรงจุดจอดรถที่ Pallareth Pass จะได้ Side Quest Scraps of Mystery XI เข้าไปที่จุดเป้าหมายของภารกิจที่เมือง Lestallum



                 แผนที่จะอยู่ตรงทางเดินในรูป เข้าไปเก็บ Sylvester's Map Piece K มา



                                                      7. Mystery Map XII 


ที่ Meldacio Hunter HQ ในถังขยะหลังบ้านDave จะได้ Side Quest Scraps of Mystery XII


เข้าไปที่จุดเป้าหมายของภารกิจที่ซากอาคารในเขต Pallareth Pass เข้าไปเก็บ Sylvester's Map Piece L มา


                                                     8. Mystery Map XIII




ที่ด้านซ้ายของบ้าน Hexes ตรงหน้าทางเข้าดันเจี้ยน Malmalam thicket จะได้ Side Quest Scraps of Mystery XIII มา




จากนั้นเข้าไปที่จุดเป้าหมายของภารกิจซึ่งจำเป็นต้องขึ้นลิฟต์ไปบนชั้น 2 ของประภาคารที่แหลม Cape Caem เพื่อเข้าไปเก็บ Sylvester's Map Piece M


  แต่ในบทที่ 3 นั้นยังไม่ได้กุญแจลิฟต์ที่จะขึ้นไป การเก็บแผนที่ของบทที่ 3 จึงหยุดไว้แค่นี้ 
                              

     ............................................................................................................................................



   ROYAL TOMB และ ROYAL ARM ทั้ง 5 ในพื้นที่เขต Duscae และ Cleigne


1.Tomb of the Pious ที่ดันเจี้ยน Malmalam Thicket (LV35)
ที่หน้าทางเข้าสุสานจะต้องจัดการ Boss Bandersnatch ที่เฝ้าอยู่ก่อน

A king ruled the realm according to divine law and worked hand in hand with the Oracle. This was his staff. It smites foes with a blade of light.



กฎของกษัตริย์ที่ช่วยคุ้มครองอาณาจักรมายาวนานขึ้นอยู่กับคำพยากรณ์ที่ต้องได้การสนับสนุนโดย Oracle จากรุ่นสู่อีกรุ่น สิ่งนี้คือไม้ธารพระกรแห่งกษัตริย์ คทาที่ทำให้เหล่าศัตรูพ่ายแพ้ยับด้วยคมมีดแห่งแสง ขออัญเชิญไม้ธารพระกรแห่งกษัตรา คทาแห่งศรัทธรา Scepter of the Pious



Royal Arm - Scepter of the Pious 
Attack Power: 237
Critical: 3
Magic: +150
Dark Resistance: +50%


2. Tomb of the fierce บนภูเขา The Rock of Ravatogh (LV30)

A king was gentle before his people but an ogre on the battlefield. This was his mace. It deals crippling blows to mighty foes



กษัตริย์ผู้สุภาพอ่อนโยนต่อปวงประชาแต่สามารถกลายเป็นยักษาที่สามารถเข่นฆ่าศัตรูที่ย่างกรายเข้ามาด้วย กระบองค้อนแห่งกษัตรา อัดกระแทกติดพสุธามอบความง่อยเปลี้ยเสียขาให้เหล่าศัตรูที่บังอาจกล้าด้านหน้ามาเผชิญ ขออัญเชิญ กระบองค้อนแห่งความอำมหิต


Royal Arm - Mace of the Fierce 
ATK+334
HP+300
Shot Resistance-50%


3. Tomb of the Wanderer ที่ด้านในสุดของถ้ำน้ำแข็ง Greyshire Glacial Grolto ซ่อนอยู่หลังน้ำตกในเขต Callatein Plunge ใกล้ๆกับ Burbost Souvenir Emporium Outpost

"A king was quick like the wind and went where no man had gone before. These were his blades. Apart they rain fury – together they deliver thundering blows."



กษัตริย์ผู้ปราดเปรียวดุจสายลมและพุ่งทะยานไปในทุกแห่งหนในที่ที่ไม่มีผู้คนใดเคยไปถึง ด้วยดาบคู่ 2 คมเล่มนี้ที่พร้อมจะกระจายความเดือดดาลดั่งสายฝนฉีกร่างเหล่าศัตรูอย่างสาสม หนึ่งดังสนั่นดั่งสายฟ้าฟาดแต่อีกหนึ่งพิฆาตเงียบดุจสายลม  ดาบคู่ผู้หลงทางแต่กลับมาบรรจบพบพานที่จุดสิ้นสุดของชะตากรรมของศัตรูทุกหมู่ชน ขออัญเชิญ Sword of Wanderer 



Royal Arm - Sword of Wanderer
Attack 152
Critical +4  
Vitality +50
Spirit +50


4. Tomb of the Just ตั้งตระหง่านกลางพื้นที่ของ Thommel's Glade.

"A queen devoted herself to peace and was loved by all. This was her shield. It deflects blows and bolsters recovery when raised in defense."


ราชินีผู้ยอมอุทิศทั้งชีวิตเพื่อสันติภาพและความรัก โล่นี้ที่เธอเคยใช้ ปกป้อง ปกปักษ์ รองรับ ฟื้นคืนกลับความเป็นธรรม เพื่อป้องกันเหล่าศัตรูที่หมายลดทอนสันติของอาณาจักรและความสุขของประชาชน ขออัญเชิญ โล่แห่งความยุติธรรม Shield of the Just




Shield of the Just
Attack Power: 251
Critical: 1
HP: +500
MP: +50
Strength: -100
Vitality: +100
Spirit: +30
Fire Resistance: +10%
Ice Resistance: +10%
Lightning Resistance: +10%
Dark Resistance: +10%
Shot Resistance: +10%


5. Tomb of the Tall ที่หอคอย Castlemark Tower (LV55)
Tomb of the Tall นั้นเดิมอยู่ในเขต Schier Heights ซึ่งถ้าหากแวะเข้าไปค้นหาดูก็จะพบข้อความของพวกขโมยสมบัติในสุสานเขียนว่า “อาวุธถูกพวก Daemon ขโมยไปที่หอคอย Castlemark Tower แล้ว การจะหยิบเอา Royal Arm เล่มนี้มาใช้ก็เลยไม่ได้ง่ายด่งใจ เพราะต้องไปบุกหอคอย Castlemark Tower ที่เต็มไปด้วย Daemon โหดๆแทน

หอคอย Castlemark Tower นั้นอยู่ในเขต The Fallgrave และเนื่องจากเป็นหอคอยปีศาจทางจะเปิดให้เข้าเฉพาะกลางคืนเท่านั้น การเดินทางในดันเจี้ยนนี้ต้องบอกว่าหฤโหด ทั้งศัตรูที่แม้จะเลเวลไม่สูงมากแต่ระดับกวนประสาทนี่ได้ใจเลยทั้ง Galvanade (Level 54) ตัวพ่อของฝูง Thunder Bomb มอนระเบิดสีฟ้าที่ระเบิดตัวพร้อมๆกันได้เรื่อยๆ การจะกำจัดมันให้หมดต้องจัดการ Galvanade ให้ได้ตัวเดียวเท่านั้น ไม่งั้นจัดการ Thunder Bomb ไปเท่าไหร่ก็ออกมาได้เรื่อยๆ และ Yojimbo (Level 45) ซามูไรโหดที่มีท่าดาบที่ทำให้ตายได้ทันทีไม่ว่ามันจะเลเวลน้อยแค่ไหนก็ตาม

การเดินทางด้านในหอคอยนั้น ช่วงแรกคือการลุยศัตรูลงไปชั้นล่างเรื่อยๆจนถึงห้องโถงที่เป็นทางเข้าของห้องใต้ดินที่ทางเข้ามันจะเป็นดันเจี้ยนเขาวงกตที่โหดมากๆหากเลเวลต่ำกว่า 50 ในห้องโถงจะมีทางลงใต้ดินทั้งหมด 4 จุดตามมุมห้องทั้ง 4 ด้านกับจุดสีแดงซึ่งเป็นที่วาร์ปกลับไปที่ทางออก (ถ้ากำจัดศัตรูจนหมดจนมาถึงชั้นนี้ได้ ศัตรูด้านบนหอคอยจะไม่ออกมาอีกแล้ว กลับขึ้นไปเซฟได้เลย



ตามแผนที่ สิ่งที่ต้องทำกับปริศนาที่นี่คือ ลงไปในช่องทางลงด้านขวาบน ล่างขวา และล่างซ้าย ซึ่งทางลงดันเจี้ยนเขาวงกตในแต่ละจุดจะนำไปที่ห้องโถงชั้นล่างสุดที่มี บอสย่อยอยู่ คือ Red Giant ที่จะเจอตั้งแต่ 1 ตัวจนถึง 3 ตัวพร้อมๆกัน ยังไม่รวมพวกศัตรูตัวอื่นๆที่ออกมาด้วย เมื่อจัดการบอสจากทั้ง 3 ทางลงจนหมดแล้ว (จะมีเครื่องหมายถูกขึ้นในแผนที่) ให้กลับลงไปที่ทางลงด้านซ้ายบนของจุดวาร์ปสีแดง


ลงไปตามทางจนถึงทางแยกในจุดที่เห็นในแผนที่ให้ไปทางซ้ายต่อ (ถ้าไปทางขวาจะเจอ บอส ย่อยของที่นี่ซึ่งก็คือพวก Red Giant 3 ตัวรวมไอ้เมดูซ่า Nagarani อีก 1)

    

 จะเข้าไปจัดการให้หมดก็ดีนะ ถ้าแน่พอ เข้าไปตามทางแยกซ้ายต่อลุยศัตรูไปตามทางก็จะถึงลิฟต์ขนาดใหญ่ที่จะพาลงไปสู่ห้อง Boss มังกร Jabberwock (Level 58) แพ้น้ำแข็ง


เมื่อจัดการมันได้ก็จะได้ครอบครอง Royal Arm - Greatsword of the Tall ที่มันขโมยมาจาก Tomb of the Tall ได้สำเร็จ ** ถ้าอยากเจอมันอีกครั้งก็ไปรับ Hunts Quest ในร้าน Crow’s nest Diner ที่ Cauthess Rest Area ได้หลังจบภารกิจนี้ ** 

"A king was built like a mountain, towering over all others. This was his greatsword. The resonating blade rips and tears through foes."



กษัตริย์ผู้ถูกสร้างให้เสมือนเป็นจตุรเทพที่ตั้งตระหง่านเป็นเสาหลักดั่งภูผาสูงส่งกว่าสิ่งใดจะมาโค่นล้ม ดาบแห่งกษัตริย์ที่สุดแสนงดงามสะท้อนความล้ำค่าให้เกรียติยศแห่งกษัตราเลื่องลือไกลแต่ก็สามารถชำแหละด้วยเลื่อยมหาประลัยฉีกทึ้งร่างเหล่าศัตรูที่เป็นภัยได้ไม่ต่างกัน ขออัญเชิญจ้าวแห่งดาบเลื่อยใหญ่ที่แสนน่าเกรงขาม Greatsword of the Tall



Royal Arm - Greatsword of the Tall
ATK+518
HP+200
Spirit-30 
All Magic Resistances-40%


                       
หลังจากได้อาวุธของเหล่ากษัตริย์จากในอดีตมาส่วนนึงซึ่งมากพอที่จะทำให้ Noctis สามารถวิงวอนขอพลัง Armiger ในฐานผู้ใช้อาวุธจาก Royal Arm ได้ โดยจะมีเกท Armiger Bar เพิ่มขึ้นมาทางมุมซ้ายของจอ มันจะเพิ่มขึ้นทุกครั้งที่ Noctis โจมตีและถูกโจมตี 



เมื่อเกมเต็มแล้วก็กด L1 + R1 เพื่อระเบิดพลัง Armiger ออกมาได้ ซึ่งจะทำให้ Ability ของอาวุธ Royal Arm ที่ใช้เพิ่มสูงมากขึ้นกว่าเดิม (แต่ก็ยังเสีย HP ทุกครั้งที่ใช้เหมือนเดิม) และ Armiger nexus ก็จะถูกเพิ่มเข้าไปในตาราง Astrasphere เพื่อให้เอา AP อัพเกรดให้พลังที่ได้จาก Royal Arm เพิ่มมากขึ้นกว่าเดิมด้วย 


                                        Ascension - Armiger

1.Armiger Harvester – ทำให้มีการสะสมเกท Armiger มากขึ้นเมื่อโจมตีศัตรู [24AP]
2. Iron Armiger – ทำให้เกท Armiger ลดช้าลงเมื่อใช้ท่า Armiger Power [24AP]  
3. Armiger Action – ทำให้ได้ค่า AP หลังจากใช้ท่า Armiger Power




แต่พลังที่ยิ่งใหญ่ของกษัตราก็มาพร้อมภาพนิมิตที่ทำให้ Noctis เห็นภาพพื้นดินที่กำลังลุกไหม้ที่จุดดาวตกกับดวงตาขนาดใหญ่ที่แสนน่ากลัวกำลังจ้องมองมา ....



                    CHAPTER 4: Living Legend 




                             THE BLESSING OF THE GODS




                                 Main Mission: A Dubious Drive




[Ardyn] – พูดให้เคลียร์กันก่อนนะว่านี่ไม่ใช่การแข่งรถแต่พวกคุณก็ต้องตามติดผมตลอดแบบไม่ให้คาดสายตาด้วยนะ ถ้าคาดจากกันก็เป็นว่าพวกคุณหลงทาง โอเคนะ และก็ระวังอันตรายที่จะเกิดระหว่างเดินทางด้วยละบางครั้งของพวกนี้มันจะมาแบบไม่ทันได้ตั้งตัวเลยละ
[Noctis] – รู้แล้วละ ผมพร้อมเดินทางนานแล้ว
[Ardyn] – แล้วแต่คุณนะ ขับรถปลอดภัยก็แล้วกัน



[Prompto]- ไอ้หมอนี่ ทีแรกก็ Galdin ตอนนี้ Lestallum อะไรมันจะบังเอิญขนาดนั้น 
[Gladiolus]- มันยิ่งกว่าความบังเอิญอีกนะ ชั้นคิดว่ามันสะกดรอยตามพวกเราไปทุกทีด้วยซ้ำ 
[Ignis] – แต่มันจะตามไปถึงเมื่อไหร่ ? คำถามนี้มันรบกวนจิตใจผมมาก พอๆกับไม่รู้ว่าจริงๆแล้วมันเป็นใครด้วย  
[Prompto]- ชั้นนึกภาพไม่ออกเลยว่าถ้าหมอนี้เป็นคนของจักรวรรดิ
[Gladiolus]- ไม่ได้ใกล้เคียงกับชาว Lucian เลยมากกว่า 
[Ignis] – ไม่ว่ายังไงก็ตาม ตอนนี้ผมก็ยังไม่เชื่อใจเขาอยู่ดี
[Prompto]- แต่มันก็เป็นทางเดียวที่จะพาเราเข้าไปที่ Disc of Cauthess ได้อ่ะนะ
[Gladiolus]- แล้วความเห็นของฝ่าบาทคิดยังไงกับไอ้เจ้า Ardyn บ้างละ ?
[Noctis] – ยังไม่ได้คิดอะไรมากอ่ะ ในสายตาชั้น เขาก็เป็นแค่ตาแก่ที่ดูประหลาดๆคนนึงก็แค่นั้นเอง
[Prompto]- พูดตรงดีจริงๆนะ ฮ่าๆ
[Gladiolus]- นั่นเป็นเหตุผลว่า ทำไมเราใช้ความระมัดระวังและต้องมีแผนเอาไว้เสมอไง 
[Noctis] – ก็ถึงต้องมีนายคอยระวังหลังให้พวกเราอยู่ตลอดไง 
[Ignis] – อาการปวดหัวเป็นไงบ้างละ Noct ?
[Noctis] – ตอนนี้สบายดี แต่มันจะปวดอีกเมื่อไหร่ก็ไม่รู้หรอกนะ 
[Gladiolus]- ก็ถึงไม่อยากให้นายเป็นคนขับรถไง 
[Prompto]- นายไม่ไหวเมื่อไหร่ก็หยุดได้นะ Noct โอเคมั๊ย ?




                             Coernix Station ในเขต Cauthess 






[Ardyn] – อยากจะบอกว่า วันนี้เราพอกันแค่นี้ พักตรงนี้ก่อนดีมั๊ย ?
[Gladiolus]- อยากจะบอกว่า เราจะไป Cauthess ต่อกันได้รึยัง ?
[Ardyn] – The Archarean ไม่หนีไปไหนหรอกน่า 
[Ignis] – นี่พวกเราไม่ได้อยู่ในการดูแลของคุณใช่มั๊ยเนี้ย ?
[Prompto]- นี่เราคงไม่ต้องพักแรกกับ Ardyn ด้วยใช่มั๊ย ?
[Noctis] – ไม่มีวันซะละ !
[Ardyn] – โอ้ ผมเกรงว่าคงไม่ต้องกลัวหรอกนะ ผมไม่เคยไปนอนด้านนอกแบบนั้นเลยซักครั้ง เสียเงินไปนอนในโรงแรมกันน่าจะดีกว่านะครับ


                             ** ได้ Beast whistle นกหวีดสำหรับใช้เรียกมอนสเตอร์ **



 ใช้งานโดยกด R2 แล้วเลื่อนด้วยปุ่มทิศทางซ้ายขวาจากเมนูไอเทม ในเมนูเดียวกับ นกหวีดเรียกโจโกโปะ จะสามารถเรียกมอนสเตอร์ในจุดเกิดขึ้นมาใหม่หลังจากกำจัดไปแล้วได้ตลอด เหมาะสำหรับการเก็บเลเวลนั่นเอง 


ที่ Coernix Station ในเขต Cauthess … กลุ่มชาวบ้านสองสามคน กำลังฟังวิทยุที่กำลังถ่ายทอดกระจายเสียงของเจ้าหญิง Lunafreya ที่กำลังพูดถึงเรื่องสันติภาพและการเยียวยาไปในทุกเส้นทางที่เธอเหยียบย่างไปท่ามกลางการเอาใจช่วยและห่วงใยของประชาชน



[Lunafreya] – ได้โปรดให้ลุงเขาพักซักพักเถอะนะ ชั้นจะพยายามช่วยเท่าที่จะทำได้นะคงจะช่วยคลายความเจ็บปวดให้ลุงได้บ้าง 


      


[ลุง] – Lady Lunafreya …




[Lunafreya] – ขอความศักดิ์สิทธิ์ของดาราแห่งชีวิต มอบแสงสว่างเพื่อขจัดความมืดมิดให้พวกเราด้วย  




[Lunafreya] – ชั้นพอทำให้ลุงได้เต็มที่แค่นี้นะคะ แต่เชื่อว่าลุงจะดีขึ้นในไม่กี่วันแน่นอนคะ 
[ลุง] – โอ้ มหัศจรรย์แท้ Lady Lunafreya ขอบใจนะ ขอให้พระเจ้าคุ้มครองนะ



[หญิงแก่]- โอ้ Lady Lunafreya ยายรอจนค่ำก็เพื่อจะมาเจอเธอนี่แหละ 
[Lunafreya] – เพลียแย่เลยนะคะคุณยาย
[หญิงแก่]- แน่นอน สำหรับคนแก่ แต่มันก็คุ้มค่านะที่ได้มาเจอสิ่งที่สวยงามแบบนี้
[Lunafreya] – เรามาเริ่มกันเลยนะคะ 



ที่จุดแวะพักที่ Coernix Station ในเขต Cauthess หากเข้าไปคุยกับ Ardyn ที่ยืนอยู่ในร้านค้า จะเท่ากับเริ่มภารกิจหลัก Onward to the Disc แล้วลากยาวไม่มีอิสระอีกจนจบบทที่ 4 ฉะนั้นหากต้องการทำอะไรก่อนในบทนี้ก็แวะไปทำให้เรียบร้อยก่อนก็ดี ส่วนภารกิจย่อยที่ปลดล็อกออกมาให้ทำในบทนี้ได้คือ

   จุดถ่ายรูปของ Prompto ในภารกิจย่อย Photo Ops ที่ถ่ายได้ในบทที่ 4





 


   Photo Op: Quarry จุดถ่ายภาพจะอยู่ใกล้ๆกับ Balouve Mines ในเขต Callaegh Steps




 เมื่อทำทุกอย่างจนพอใจแล้วก็เข้าไปคุยกับ Ardyn ที่ยืนรออยู่ในร้านค้าที่ Coernix Station ในเขต Cauthess เริ่มภารกิจหลัก Onward to the Disc เพื่อเดินทางตามเขาไปที่ Disc of Cauthess ได้เลย




                            Main Mission: Onward to the Disc






[Gladiolus]- ใครจะไปรู้ว่าการใช้พลังของดาวตกมาเป็นตัวล่อให้ติดกับมันจะได้ผล เป็นแผนที่อัจฉริยะจริงๆเลยมัน
[Prompto]- นี่เราต้องเข้าไปใกล้ๆไอ้สิ่งนั้นกันจริงๆดิ ?
[Ignis] – พวกเขาเก็บเกี่ยวพลังงานจากเศษของดาวตกที่แตกกระจายอยู่รอบๆตอนมันตกกระแทกพื้น ไม่สิ ต้องบอกว่า เกือบตก เพราะ The Archaean รับมันเอาไว้ได้เสียก่อน 
[Gladiolus]- และก็แบบรับเจ้าสิ่งนั้นมาจนถึงทุกวันนี้ด้วย
[Noctis] – แบกกันมานานขนาดนั้น เดาว่าคงไม่มีวันขาอ่อนกันเลยใช่มั๊ยเนี้ย ?
 [Ignis] – เขาแบบรับภารกิจที่ไม่มีวันจบสิ้นจากดาวตกอันทรงพลังที่ควรจะกระแทกพื้น ตามความเชื่อของผู้คนที่เล่าต่อๆกันมา ถือว่าเป็นบุญคุณอันใหญ่หลวง เขาจึงเป็นเสมือนสิ่งศักดิ์สิทธิ์ขนาดใหญ่ให้ประชาชนแห่ง Duscae ได้เคารพบูชาเสมอมา

[Ignis] – อ่อ แล้วนายรู้มั๊ยว่า ที่ที่เราจะไปนั่นมันร้อนมากเลยนะ แน่ใจนะว่ากล้องนายจะไม่เสียน่ะ ?
[Prompto]- ตราบใดที่ผมยังไม่ได้เปิดหน้าเลนส์มันก็คงไม่เป็นไรหรอกมั้ง 
[Gladiolus]- เราไม่ยกโทษให้หรอกนะถ้านายทำมันพังน่ะ
[Noctis] – เก็บไว้ในรถมั๊ยละ ?
[Prompto]- ฝันไปเหอะ เอาไปด้วยเฟ้ย โอกาสดีๆที่จะได้เข้าไปใกล้ๆ The Archaean ผมคงต้องเตะตัวเองจนตายแน่ถ้าไม่เอากล้องเข้าไปด้วยอ่ะนะ 
[Gladiolus]- นายพูดเหมือนเป็นตากล้องมืออาชีพงั้นแหละ 
[Prompto]- อย่างที่เขาเคยพูดไว้ พยายามแล้วล้มเหลวดีกว่าล้มเหลวโดยไม่ได้พยายาม ** นั่นแหละ
[Noctis] – ฟังนายพูดเข้าสิ 
[Prompto]- ก็บอกอยู่ว่าเขาพูด ชั้นไม่ได้พูด 


                        ** Better to try and fail than never to try 

               (พยายามแล้วล้มเหลวดีกว่าล้มเหลวโดยไม่ได้พยายาม)

                            บทกวีโดย William F. O'Brien

Some say risk nothing, try only for the sure thing,
Others say nothing gambled nothing gained,
Go all out for your dream.
Life can be lived either way, but for me,
I'd rather try and fail, than never try at all, you see.

Some say "Don't ever fall in love,
Play the game of life wide open,
Burn your candle at both ends."
But I say "No! It's better to have loved and lost,
Than never to have loved at all, my friend."

When many moons have gone by,
And you are alone with your dreams of yesteryear,
All your memories will bring you cheer.
You'll be satisfied, succeed or fail, win or lose,
Knowing the right path you did choose.

http://www.poemhunter.com/poem/better-to-try-and-fail-than-never-to-try-at-all/


[Prompto]- เฮ้ๆ แล้วแว่นนายจะไม่เป็นไรแน่หรอ ร้อนๆแบบนั้น
[Ignis] – ไม่ใช่เรื่องที่นายต้องมากังวลซักหน่อย
[Gladiolus]- ใช่ ตาของ Iggy มันไม่ได้แย่ขนาดนั้นซักหน่อย
[Ignis] – การมองเห็นของผมจะแย่ลงถ้าไม่ได้การรักษาจากเลนส์ในแว่นเท่านั้นเอง 
[Prompto]- แล้วทำไมนายไม่ถอดมันออกบ้างอ่ะ ?
[Ignis] – เอ่อ ..ก็
[Noctis] – นายยังไม่เข้าอีกรึไง ?
[Gladiolus]- Iggy ชอบมองโลกในแบบสดใสและชัดเจนมากกว่าไง
[Ignis] – แน่นอนที่สุด แค่ชั้นไม่เคยต้องมานั่งอธิบายอะไรที่มันกำกวมแบบนั้นออกมาเท่านั้นเอง 



[Ardyn]- ฮัลโหล นี่ชั้นเอง ช่วยเปิดประตูให้หน่อยครับผม 
[Prompto]- เฮ้ย เปิดจริงด้วย !
[Ardyn]- จริงๆก็ไม่ค่อยชอบเท่าไหร่หรอกนะที่ต้องทำแบบนี้ แต่ผมว่า เราไม่ควรจะเข้าไปด้วยกันหรอกว่ามั๊ย ? ไอ้การนัดสัมภาษณ์กับเทพเจ้าเนี้ย
[Prompto]- จะทิ้งกันเลยว่างั้น ?
[Ardyn]- ผมคงต้องส่งคุณแค่นี้นะ เมื่อผ่านประตูไปนั่นธุระของคุณ ผมก็ขอลาตรงนี้เลยแล้วกันนะครับ 



                             Main Mission: The Archaean 




[Ignis] – หวังว่าเราคงไม่ต้องเจอกับเขาอีกนะ 
[Prompto]- โห หยาบคาย ไม่คิดว่านายก็คิดแบบนี้เหมือนกันนะเนี้ย
[Noctis] – Ignis เล่นมุขแบบนี้คิดแล้วก็สยองเหมือนกันนะ ..เอาละถึงแล้วคงจะเข้าไปทางนี้แหละ
[Gladiolus]- ระวังพวกจักรวรรดิมาพบเข้าด้วยนะ 



[Prompto]- นั่น ใช่สิ่งที่ชั้นคิดไว้หรือเปล่าอ่ะ ?
[Ignis] – ไม่คิดว่าจะพบ Royal Tomb ที่นี่เลยนะ 
[Gladiolus]- จะไม่เสียใจภายหลังแน่นะฝ่าบาทที่จะใช้พลังจากเจ้าสิ่งนี้น่ะ
[Noctis] – เข้าไปเอามาแล้วรีบออกมาให้มันจบๆไปเถอะ 


                                 Tomb of the Mystic 





A king rose to protect the world with the Oracle. This was his sword. When swung, it enhances the wielder's prowess.


ราชันย์ผู้ลุกขึ้นสู้เพื่อปกป้องโลกพร้อมกับ The Oracle ดาบนี้เคยเป็นศาสตรา ยามใดเมื่อตวัดกวัดแกว่งยิ่งเพิ่มฤทธาป้องปัดด้วยความองอาจหาญกล้ายากที่ภัยพาลจะมาถึงตัว  ขออัญเชิญดาบอาคมแห่งกษัตรา Blade of the Mystic 





Blade of the Mystic 
Attack : 396
Critical : 6
HP : +150
Vitality : +30
Dark Resistance : +20

ทันทีที่ได้ Royal Arm มา แรงสั่นสะเทือนก็เริ่มรุนแรงขึ้นพร้อมอาการปวดหัวของ Noctis รอยแตกของพื้นที่เกิดจากแรงกระแทกของพื้นที่สั่นไหวทำให้ Prompto และ Ignis แยกทางไป


 เหลือแต่ Gladiolus ที่ยังมือไวคว้ามือ Noctis เพื่อไม่ให้ตกไปด้านล่างไว้ได้ทัน ก่อนที่ร่างอันมหึมาของ Titan ขุมพลังศักดิ์สิทธิ์ในรูปแบบของสิ่งมีชีวิตชั้นสูงผู้ปกปักษ์จากยุคก่อนกาลก็ลุกขึ้นมาเหมือนจะส่งข้อความบางอย่างที่ Noctis ไม่เคยเข้าใจ


[Noctis] – ให้ตายเหอะ !! เจ้านี่มัน The Archaean ง้นหรอ ?
[Gladiolus]- เหมือนว่าเราจะไปกวนเจ้ายักษ์นี่จนตื่นด้วยสิ 
[Noctis] – อั๊ก!! เหมือนมันพยายามจะบอกอะไรผมซักอย่าง แต่ไม่รู้ ไม่เข้าใจว่ามันคืออะไร !

[Prompto]- เฮ้ย Noct !! นายไม่เป็นไรนะ 
[Ignis] – ขอบคุณพระเจ้าที่นายปลอดภัย ตรงนั้นมีทางปีนขึ้นมามั๊ย ?
[Noctis] – ไม่มี แต่มันมีทางไปต่ออยู่ แต่ไม่รู้จะไปออกที่ไหนนะ 
[Gladiolus]- นายสองคนหาทางลงมาก่อนดีกว่า 
[Ignis] – โอเค เดี๋ยวหาทางดู ระวังตัวกันด้วยละ !

จากนั้นก็ลุยเข้าไปตามเส้นทางด้านในที่มีพื้นที่ติดไฟที่ทำให้ Overhead ได้กับศัตรูอีกประปรายและการก่อกวนของ Titan ตลอดทางของการหลบหนี ท่ามกลางอาการเหนื่อยล้าที่ Noct แสดงออกมาระหว่างทางทำให้ Gladiolus ที่ทนเห็นไม่ได้ต้องแสดงอาการเดือดดาลขึ้นมาทันที

[Gladiolus]- ถ้านี่คือการต้อนรับฉันท์มิตรของมัน นึกไม่ออกเลยว่าถ้าในฐานะศัตรูจะเป็นยังไง ?
[Noctis] – อยากคุยกับมันหรอ ? เออ เหมือนกัน !
[Gladiolus]- ดีที่ยังมีแรงมาต่อล้อต่อเถียงนะ รีบไปต่อได้แล้ว 
 [Noctis] – วิ่งจนขาลากแล้วยังไม่พ้นซะที เหนื่อยแล้วนะเว้ย !!

[Gladiolus]- ชั้นเริ่มจะหมดความอดทนกับเสียงบ่นอู้อี้ของนายแล้วนะ Noct! สงบสติอารมณ์หน่อยสิวะ ! 
[Noctis] – ไปให้พ้นเลย !
[Gladiolus]- นายมีสายเลือดราชันย์อยู่ในตัวรึเปล่า นายเป็นรัชทายาทมั๊ย ตอบมาสิ !? 




[Noctis] – เออ มีสิ !! ไม่ลืมหรอกน่า ! ยังไงชั้นก็ทิ้งมันไม่ได้แม้จะอยากก็เถอะ แล้วทำไมหรอ ??!!




[Gladiolus]- ชั้นไม่ได้บอกให้นายทิ้งมันหรือลืมมัน แต่อยากให้นายรู้ไว้อย่างนึง ไม่ใช่แค่นายเท่านั้นนะที่ต้องมาเจอกับช่วงเวลาที่มันลำบากยากเข็นนะ พวกเราทุกคนต่างก็เคยผ่านมากันหมดแหละ ตระกูล Amicitia ของชั้นสาบานกันมารุ่นต่อรุ่นว่าจะถวายงานเคียงข้างพระราชา เป็นเสมือนโล่ข้างวรกายของพระองค์เพื่อปกป้องพระองค์ด้วยชีวิต และชั้นก็แบบรับหน้าที่แห่งความภูมิใจนี้มาตลอด ฉะนั้น ถ้านายควบคุมตัวเองไม่ได้ ชั้นก็จะเป็นคนเตือนสตินายเอง มันเป็นหน้าที่ชั้น ปล่อยให้ชั้นทำมันเถอะ 



[Gladiolus]- มีสายเข้า รับก่อนเถอะ !
[Noctis] – Ignis หรอ ว่าไง ?
[Ignis] – นายปลอดภัยดีนะ เยี่ยม! พวกทหารจักรวรรดิเข้ามาในพื้นที่แล้วตอนนี้ 
[Noctis] – เอ่อ อ่า สายหลุดไปแล้ว แต่ฟังคล้ายๆว่าเราจะมีพวกทหารจักรวรรดิ์เข้ามาแจมด้วยแล้วนะ ! 
[Gladiolus]- แบบนี้ ที่นี่คงร้อนยิ่งกว่าเดิมเยอะเลย 



จากนั้นก็เข้าไปจัดการทหารจักรวรรดิที่บุกเข้ามาให้หมดท่ามกลางร่างมหึมาของ Titan ที่ยืนตระหง่านบ่นพึมพำค้ำคออยู่ไม่ไกล ...



                               Main Mission: The Trial of Titan 





[Noctis] – เฮ้ย !! ชั้นอยู่นี่แล้วไง !
[Titan] – ๑$#?&&฿S&*$๓๓๑?
[Noctis] – อ๊าก !! มันต้องการบ้าอะไรกันแน่ว่า เลิกเข้ามายุงกับหัวชั้นซะที !! 





                                           อะ เฮ้ย ! นี่แกล้อเล่นใช่มั๊ย !?



จากนั้นก็ต้องเอาชีวิตรอดจากการโจมตีของ Titan ท่ามกลางการช่วยเหลือของเพื่อนในกลุ่มที่ค่อยๆกลับมาทีละคน และ การแทรกแซงของทหารจักรวรรดิที่ต้องการจะจับ Titan  และในระหว่างการต่อสู้จะปลดล็อกท่าพิเศษที่เรียกว่า Armiger Chain ออกมาด้วย


                               เรียนรู้การใช้งาน Armiger Chain



Armiger Chain ก็คือท่าใหญ่ของท่า Armiger ที่เมื่อเกท Armiger เต็มจนกด L1 + R1 ระเบิดพลัง Armiger ที่จะทำให้ Noctis สามารถโจมตีด้วย Royal Arm ได้อย่างรุนแรงและมีประสิทธิภาพมากกว่าเดิม และเมื่อกด L1 + R1 อีกครั้งก็จะทำให้เกิดท่ารวมพลังโจมตีระหว่าง Noctis กับเพื่อนทั้ง 3 โดยใช้เกท Armiger ที่มีอยู่ทั้งหมดในการโจมตีศัตรูที่รุนแรงขึ้นเรียกว่าท่า Armiger Chain นั่นเอง

ท่าพิเศษนี้ที่จะเพิ่มเข้ามาในตาราง Ascension ที่สามารถอัพเพิ่มความสามารถในการใช้งานได้หลังจากต่อสู้กับ Titan แล้ว


- Armiger Warchain : เพิ่มพลังโจมตีให้กับท่า Armiger Chain 50 %
-  Armiger Chain Reaction : เมื่อใช้ท่า Armiger Chain จัดการศัตรูได้จะได้รับ 1 AP
- Armiger Sagechain: เมื่อใช้ท่า Armiger Chain จัดการศัตรูได้จะได้รับ ค่า Exp
-  Armiger Freechain: สามารถใช้ท่า Armiger Chain โดยไม่เสียค่า MP นาน 60 วินาที


การต่อสู้จบลงด้วยการที่  Noct สามารถทำลายแขนของ Titan ลงได้สำเร็จด้วยพลัง Armiger Chain  และระเบิดเวทย์น้ำแข็งของทุกคน




 คราใดที่สิ่งมีชีวิตชั้นสูงผู้ปกปักษ์จากยุคก่อนกาลที่แพ้ภัยผู้มีสายโลหิตแห่งราชันผู้เคียงคู่เทพพยากรณ์ ยามนั้นพลังเทพแห่งดวงดาวจะคงอยู่เพื่อปกปักษ์พิทักษ์วรกายให้คลายจากอันตรายทั้งหลายทั้งปวง ..

        



[Noctis] – อั๊กกก !! นี่มันอะไรกันอีกละ !!! … มันต้องการอะไรกันแน่ ?? ..ห๊า





                     … Luna ? แกเคยพูดกับเธอหรอ ? ก็แล้วทำไม ? อ๊ากกกก !!!


      


                 ** Noctis ได้รับ The Mark of the Aechaean สัญลักษณ์แห่ง Titan **


               การอัญเชิญเทพแห่งดวงดาว Astral หรือ มนต์อสูร

การที่จะทำให้มนต์อสูรแต่ละตัวออกมาช่วยในการต่อสู้นั้นเป็นแบบสุ่มทั้งหมดโดยจะมีแค่เงื่อนไขเล็กๆน้อยๆที่เป็นตัวทำให้ % การออกมาของมนต์อสูรมากขึ้นเท่านั้น โดยเมื่อทำตามเงื่อนไขแล้วก็สามารถกดใช้งานด้วยปุ่ม L2 ที่แสดงขึ้นมาให้กดเมื่อมนต์อสูรตัวนั้นพร้อมจะให้อัญเชิญ

เงื่อนไขที่จะทำให้ % ในการอัญเชิญ Titan ออกมาได้ง่ายขึ้นก็คือ จะออกมาเฉพาะในพื้นที่กว้าง ไม่สามารถออกมาในดันเจี้ยนได้ และในระหวางการต่อสู้เพื่อนร่วมทีมต้องตายด้วย 

** อ้างอิงจาก **
https://web.facebook.com/media/set/?set=oa.935217659926789&type=1&_rdr







[Ignis] – ต่อด้วยพวกจักรวรรดิเลยหรอ ตอนนี้เลยอ่ะนะ !! 
[Prompto]- นะ นั่นมัน ไอ้หมอนั่น !






[Ardyn]- แปลกใจจังที่เจอกันอีกที่นี่อ่ะนะ อันที่จริงถ้าจะพูดอย่างเป็นทางการหน่อย ผมก็เป็นคนแนะนำให้มาที่นี่เองนี่นา อ่อ ลืมแนะนำตัวเลย Izunia .. Ardyn Izunia คือชื่อกระผมเองครับ
[Ignis] – Ardyn Izunia เอกอัครราชทูตแห่งจักรวรรดิ งั้นหรอ ?
[Ardyn]- ก็แล้วแต่ว่ามันสำคัญกับพวกคุณในแบบไหน ก็สุดแล้วแต่จะเรียกอ่ะนะ ผมรับรองไว้ว่าจะพาเข้าไปอย่างปลอดภัย เชิญให้เขาไปถึงที่ แต่พวกคุณกลับทำลายโอกาสของคุณด้วยการพยายามจะทำให้ตัวเองถูกหินถล่มฝังอยู่ที่นี่เองไม่ใช่หรอ ?



[Ignis] – การที่ต้องมาตายที่นี่ไม่ได้อยู่ในแผนของเรานะ Noct แต่ดูเหมือนคงจะไม่มีทางเลือก เราคงต้องหนีกันก่อนแล้ว
[Noctis] – อืมม ชั้นรู้ ! 


       
--------------------------------------- END OF CHAPTER ----------------------------------------------




                    CHAPTER 5: Dark Clouds 




                       7 วันต่อมา หลังจากเกิดเหตุที่ The Disc of Cauthess 






[ผู้ประกาศข่าว] - ผู้บัญชาการณ์ทหารสูงสุดแห่งจักรวรรดิ Ravus Nox Fleuret ได้ออกกฎอยัการศึกพร้อมส่งหน่วยทหารเข้าพื้นที่เพื่อปิดทางเข้าออกชายแดนระหว่างเขตต่างๆ เราจะมาฟังความเห็นของท่านผู้บัญชาการณ์กันนะคะ
[Ravus] – เราเชื่อว่าผู้ก่อเหตุความวุ่นวายผู้อยู่เบื้องหลังการโจมตีวิหารนั่นมีส่วนในการนำผู้ลี้ภัยอพยพหนีเข้ามายัง Duscae และการที่เราปิดกั้นพื้นที่ในตอนนี้ก็เพื่อสะดวกในการสกัดจับผู้ก่อการร้ายกกลุ่มนี้ไม่ให้หนีออกนอกพื้นที่ ผมเข้าใจถึงเรื่องความเดือนร้อนของประชาชนทั่วไปในมาตการณ์กวดขันของเรา แต่ก็ขอให้เชื่อมั่นว่าเราต้องทำเพื่อนำสิ่งดีๆมาสู่ประชาชนทุกคนแน่นอน 
[ผู้ประกาศข่าว] -และผู้บัญชาการณ์ Ravus ยังคงพยายามอย่างหนักในการส่งทหารของจักรวรรดิ์ในการกู้คืน Crown city ให้กลับเป็นสภาพเดิมอีกครั้งให้เร็วที่สุด



[ผู้ประกาศข่าว] – ส่วนเรื่องแผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นในเขต Duscae และ Cleigne เมื่อเร็วๆนี้นั้นได้สงบลงแล้ว โดยทางผู้บัญชาการณ์ Ravus ได้ให้ความคิดเห็นถึงเรื่องข้อสรุปและสาเหตุที่เกิดขึ้นไว้ดังนี้คะ
 [Ravus] – เรื่องสาเหตุของการสั่นสะเทือนนั้นเกิดจากที่มีกลุ่มผู้ไม่หวังดีได้ทำการปลุก The Archaean ให้ตื่นขึ้นจนทำให้มันเกิดโกรธขึ้นมา แต่ทางทหารของทางจักรวรรดิ์ก็ได้เข้าปฎิวัติการอย่างเร่งด่วนในการยับยั้งและเบี่ยงเบนเจ้ายักษ์นั่นไม่ให้สร้างความเสียหายเป็นวงกว้างได้สำเร็จ 
[ผู้ประกาศข่าว] – แต่ได้มีพยายที่รู้เห็นเหตุการณ์ได้ยืนยันแล้วว่า ยักษ์ Titan หายตัวไปจาก The Disc of Cauthess แล้ว



                                            เขตพื้นที่ Duscae





** ตอนนี้จะไม่มีรถใช้ ต้องใช้การเดินและขี่ โจโกโปะ ในการเดินทางแทน
** ตอนนี้จะถูกจำกัดพื้นที่อยู่แค่ในเขต Duscae เท่านั้น 


                                           Wiz Chocobo Post 





[Prompto]- นี่ชั้นไม่อยากจะเชื่อเลยจริงๆนะ หมายถึง ทำไมมันต้องเอารถเราไปด้วยวะ แล้วตอนนี้เราจะทำยังไง จะเอาคืนได้ไงละเนี้ย ?   
[Ignis] – เราคงต้องรอจนกว่าสายข่าวของ Cindy ที่กำลังออกตามหาข่าวในพื้นที่ต่างๆส่งข่าวมานั่นแหละ อย่าเพิ่งหมดหวังกันซะก่อนละ 
[Gladiolus]- จะหลอกตัวเองไปทำไม ? ก็รู้ๆอยู่ว่าพวกจักรวรรดิยึดมันไป 
[Prompto]- งั้นบางทีเราอาจลองไปคุยกับ Ardyn อีกทีเผื่อมันจะช่วยเราได้ดีมั๊ยละ ?
[Gladiolus]- มันเป็นเอกอัคราชทูตของจักรววรดิ์นะ !
[Ignis] – มันจะสร้างปัญหามากกว่าเป็นทางแก้ปัญหาแน่นอน ทำตามแผนที่ตั้งไว้ รอข่าวจาก hammerhead จบ ! 
[Gladiolus]- ในระหว่างนั้นก็สองเท้าก็ย่ำต๊อกยาวไป
[Prompto]- เฮ้ย ดูดิ ! นั่น Umbra มา





                        Main Mission: The Hexatheon’s Blessings 


เมื่อเข้าไปคุยกับ Umbra จากนั้นเดินตามมันเข้าไปในป่าจะพบว่า Umbra นำทางไปหา Gentiana ที่มาส่งข้อความแทน Luna นั่นเอง



[Noctis] – Gentiana ?
[Gentiana] – จงฟังข้า .. หินที่ใช้นมัสการพระมหากษัตริย์ เมื่อพายุเริ่มพัดมาพร้อมคำสวดวิงวอนให้พรอันศักดิ์สิทธิ์ จะเปิดทางให้อิทธิฤทธิ์ของหินศักดิสิทธิ์แห่งราชา พร้อมกับ Oracle ที่จะออกมาขับขานพระนามแห่งกษัตริย์คู่กาย   
[Noctis] – Luna ตอนนี้เธออยู่ที่ไหนหรอ ?
[Gentiana] – ที่ตาของพายุ ...เมื่อการทำสัญญาเริ่มต้นขึ้นอย่างช้าๆ Oracle และแหวนแห่งราชา จะรอคอย กษัตริย์ผู้เป็นเจ้าของอยู่ที่กำแพงน้ำโดยไม่หลงทางไปทีใด  



[Ignis] – เธอเป็นผู้ส่งข่าว เป็นจิตวิญญาณที่ซื่อสัตย์ของ Oracle
[Prompto]- วิญญาณเลยหรอ จริงดิ ?
[Gladiolus]- ที่เราเจออยู่ตอนนี้มันเลยความเป็นจริงไปเยอะแล้วเพื่อนเอ้ย 



                        “คำอธิฐานของชั้นจะอยู่กับเธอเสมอนะ Noctis “






                              ชั้นน้อมรับคำอธิฐานของเธอนะ ขอบคุณมากลูน่า







    ไปบอกเธอนะวา ชั้นโอเค และเธอจะรออีกไม่นานหรอก เดี๋ยวเราจะได้อยู่ด้วยกันอีกครั้งแน่นอน 





                          อาณาจักร Tenebrae 12 ปีก่อนหน้านี้ ......






[Luna] – พลังแห่งคริสตัลที่มอบให้มวลมนุษย์ชาตินั้นทำให้เราเจริญรุ่งเรืองและยืนหยัดมาจนถึงวันนี้เลยนะ 
[Noctis] – อ้าว ถ้าพลังแห่งคริสตัลเป็นของทุกคนงั้นทำไมมีแต่ Lucis ของเราที่ใช้พลังของมันได้ละ ?
[Luna] – เหล่ากษัริย์แห่ง Lucis ที่สืบต่อกันมาก็ไมได้ใช้พลังของคริสตัลแต่พียงอย่างเดียวหรอกนะ พวกท่านกำลังปกป้องมันด้วย 



[Noctis] – เดี๋ยวนะ พ่อของผมก็กำลังปกป้องมันอยู่หรอ? 
[Luna] – ใช่สิ
[Noctis] – ไม่เห็นเคยรู้มาก่อนเลย
[Luna] – "มงกุฎกษัตริย์แห่งแสง จะเรียกหาพลังแห่งคริสตัล" เพื่อปกป้องคริสตัลให้ปลอดภัยจนกว่าจะสิ้นอายุขัยของราชาแต่ละพระองค์ 
[Noctis] – แล้วชั้นเป็นผู้ถูกเลือกหรอ ?




[Luna] – ใช่จ๊ะ มีเพียงสายเลือดแห่งกษัตริย์ที่แท้จริงเท่านั้นที่จะได้อาบพลังแห่งคริสตัล ชำระล้างทุกๆมลทินด้วยพรของเทพแห่งดวงดาวเพื่อปกปักษรักษาจากภัยอันตรายใดๆ




[Noctis] – เธอคิดว่าชั้นจะทำแบบนั้นได้จริงๆหรอ ?
[Luna] – ในฐานะ Oracle ชั้นมีหน้าที่ทำให้เธอทำมันได้ และกษัตริย์ก็ต้องการเรียกหาพลังจาก Oracle เช่นกัน 
[Noctis] – ถ้างั้น ... ชั้นจะทำให้ได้ ! ชั้นจะไม่ทำให้เธอผิดหวังหรอกนะ 
[Luna] – ชั้นรู้ว่าเธอจะไม่ทำให้ผิดหวังอยู่แล้วละ 




[Gentiana] – จงตามถอยคำที่กล่าวมาเป็นตามเส้นทางที่ถูกกำหนดไว้ สายฟ้าที่ฟาดใส่เป็นเสมือนสิ่งเหนี่ยวรั้งสวรรค์กับโลกมนุษย์ไว้ พายุนั้นมิได้คงไว้อย่างถาวรเสมือนแสงแห่งนิรันดร แสงสะท้อนจากหินศักดิ์สิทธิ์ที่กำลังตามหาราชาที่แท้จริง 


[Ignis] – Lady Lunafreya จะยังคงปลอดภัยดีตราบใดที่แหวนยังอยู่ในมือเธอ
[Prompto]- ที่เราต้องทำก็คือมุ่งหน้าไปให้ถึง Altissia ใช่ป่ะ 
[Ignis] – ใช่เราต้องนั่งเรือไป แต่ยังไม่ใช่สิ่งที่เราจะทำในตอนนี้หรอกนะ 
[Gladiolus]- ที่ท่าเรือลับนั่นใช่มั๊ย ? หึหึ โชคดีที่ชั้นให้ Iris เตรียมการเอาไว้แล้ว 
[Prompto]- ถ้างั้น ระหว่างนี้เราก็ .....
[Noctis] – มุ่งหน้าไปที่พายุนั่นไง !
[Prompto]- งั้นๆแหละ ไม่เห็นมีอะไรพิเศษ ก็แค่ต้องเจอเทพอีกตัวนึงเท่านั้นเอง 



ก่อนจะออกจาก Wiz Chocobo Post อย่าลืมแวะเข้าไปที่สนามแข่ง Chocobo races ด้วยเพราะจะมีแมทช์การแข่ง Chocobo ที่ปลดล็อกในบทที่ 5 ออกมาให้แข่งด้วย


แมทช์ที่ 4 แข่งกับ Ignis
เงื่อนไข : แข่งได้หลังจากแข่งชนะแมทช์ Chocobo Hoops: Grange Gallop และถึงบทที่ 5 แล้ว
รางวัล : Corser Medal

แมทช์ที่ 5 Full Field (แข่งพร้อมกันทุกคน)
เงื่อนไข : แข่งได้หลังจากแข่งชนะ Ignis แล้ว
รางวัล : Fat Chocobo Medal

แมทช์ที่ 6 Chocobo Hoops: Rocky Race (แข่งโดดลอดห่วงทำเวลา)
เงื่อนไข : แข่งได้หลังจากแข่งชนะแมทช์ Full Field แล้ว
รางวัล : Long Course medal.





จากนั้นเดินทางไปที่จุดเป้าหมายของภารกิจคือ เข้าไปที่จุดของ Runestones of Ramuh 2 จุดทั่วพื้นที่ Duscae เพื่อแสดงตัวในฐานะทายาทของราชาแห่งแสงให้ Ramuh เทพแห่งดวงตนที่สองได้รับรู้ ..



        


              เข้าไปที่จุดเป้าหมายของภารกิจที่ Runestones of Ramuh จุดแรก



       และเมื่อ Noctis ได้เข้าสัมผัสถึงพลังของ Ramuh ความทรงจำเมื่อครั้งเก่าก็กลับคืนมา


                             อาณาจักร Tenebrae เมื่อ 12 ปีก่อน




[Gentiana] – อ่า ตื่นแล้วหรอคะเจ้าชายน้อย 
[Noctis] – เอ่อ คุณคือ ...
[Gentiana] – Gentiana คะเป็นผู้ส่งสาสน์จาก Oracle ฝ่าบาทกำลังอ่านเรื่องราวของพวกเราอยู่หรอคะ



[Noctis] – อ่อ หนังสือนี่อ่ะหรอ ผมก็กำลังพยายามอ่านอยู่นะ แต่ก็ไม่ค่อยรู้เรื่องหรอกจะเข้าใจก็เฉพาะตอนที่ Luna อธิบายให้ฟังเท่านั้นแหละ 
[Gentiana] – Luna .. Lady Lunafreya นะหรอ
[Noctis] – ใช่ครับ Lunafr … Luna 



[Getiana] – ฟังแล้วรู้สึกดีขึ้นมาทันทีเลยที่เห็นกษัตริย์กับ Oracle สนิทสนมกันอย่างดี เพราะชะตากรรมของโลกเราขึ้นอยู่กับสิ่งนี้นั่นแหละ 



[Noctis] – ผมจำได้แล้ว เมื่อตอนอยู่ที่ Tenebrae กับ Gentiana

[Gentiana] – การเปิดเผยเป็นนัยๆของผู้ที่ส่งพายุออกมาเสมือนว่ากำลังรอคอย กษัตริย์แห่งแสง จงรีบไปที่ตาของพายุโดยเร็วเถิด เหล่าศัตรูมากมายกำลังกำลังหวาดกลัวกับราชาคนใหม่ที่กำลังจะถือกำเนิดขึ้นมาจนต้องออกตามหาตราสัญลักษณ์ที่เป็นหนทางของการกำเนิดใหม่ไม่ให้สมบูรณ์ได้อย่างที่ตั้งใจ


จากนั้นก็ออกเดินทางไปยังจุดเป้าหมายของภารกิจที่ Runestones of Ramuh ในจุดที่ 2 เพื่อสัมผัสพลังของ Ramuh







[Gentiana] – เมื่อ Oracle เป็นผู้เพรียกหาพระเจ้าให้ตื่นจากนิทราเพื่อวิงวอนให้ตามหาราชาที่แท้จริง 





[Gentiana] – จงเดินทางไปที่ถ้ำ Fociaugh Hollow ทางทิศตะวันออกตามสายฟ้าที่ปรากฎเถิด ตราสัญลักษณ์นั้นตั้งตระหง่านอยู่ลึกลงไปในใจกลางก้อนหินซึ่งเป็นที่สถิตของ Runestone แหล่งกำเนิดพลังที่แสนยิ่งใหญ่ที่ไม่ยอมให้ผู้ใดได้ค้นพบมัน ………….



                              Main Mission: The Trial of Ramuh 



จากนั้นเดินทางตามแสงของสายฟ้าไปที่จุดเป้าหมายของภารกิจซึ่งจะพบถ้ำขนาดใหญ่ที่เปิดทางเข้าให้เห็นออกมา นั่นคือ ถ้ำ Fociaugh Hollow ดันเจี้ยนที่เป็นที่สถิตของ Runestones of Ramuh อันสุดท้ายนั่นเอง


                                       Fociaugh Hollow


ลุยเข้าไปตามทางด้านในจนถึงโถงถ้ำขนาดใหญ่ก่อนถึงจุดเป้าหมายของภาระกิจที่เป็นที่สถิตของ Runestones of Ramuh อันสุดท้าย จะพบกับปีศาจงู Naga ออกมาขัดขวาง


 “ลูกของข้า .. อยู่ที่ไหน ?” เจ้า Naga  มันถามออกมา โดยสามารถเลือกตอบได้ระหว่าง

- I Know where (ชั้นรู้ว่ามันอยู่ไหน)
- Can’t help you (ชั้นช่วยไม่ได้หรอก) 

ไม่ต้องกังวลไปเลือกอันไหนมันก็หาว่าพวกของ Noct เอาลูกมันไปอยู่ดี จบลงด้วยการต่อสู้กับ Boss Naga LV30 ที่ไม่ใช่ปัญหาในการเอาชนะ



เข้าไปด้านในสุดของถ้ำตามทางเดินด้านซ้ายจนถึงที่สถิตของ Runestones of Ramuh อันสุดท้าย


    


 เมื่อ Noctis สัมผัสได้ก็จะได้ Mark of the Fulgurian สัญลักษณ์แห่ง Ramuh มาครอบครอง ...

  



การอัญเชิญ Ramuh ออกมานั้นจะสามารถออกมาได้ทั้งในที่แจ้งและในดันเจี้ยน เงื่อนไขที่ทำให้ % การให้ Ramuh ออกมานั้น จะออกมาในตอนนี้อยู่ในการต่อสู้กับศัตรูเก่งๆแบบต่อเรื่องในระยะเวลานานๆ (6 -7 นาที) สังเกตุได้จากเริ่มมีเมฆดำเข้าปกคลุมและเพลงจะเริ่มเปลี่ยนก็จะมีไอค่อนปุ่ม L2 ขึ้นมาให้กดอัญเขิญ 

 ** อ้างอิงจาก **
https://web.facebook.com/media/set/?set=oa.935217659926789&type=1&_rdr
https://www.primagames.com/games/final-fantasy-xv/tips/final-fantasy-15-all-summons-and-astrals-how-summon



จากนั้นก็กลับออกมาจากดันเจี้ยน Fociaugh Hollow ได้เลย

[Prompto]- เฮ้ย พายุหยุดแล้วเว้ย !
[Gladiolus]- สงสัยท่านรามูคงจะอาบน้ำจนเบื่อแล้วมั้ง 
[Ignis] – ระวัง เครื่องบินของพวกจักรวรรดิ !!
[Prompto]- โห ลำโคตรใหญ่ ไม่เคยเห็นแบบนี้มาก่อนเลยอ่ะ !



[Noctis] – ฮัลโหล ..
[Cindy] – ไงฝ่าบาท มีขาวเกี่ยวกับรถของพวกนายที่ให้ตามหามาบอกนะ ตอนนี้ชั้นเจอมันแล้ว มันอยู่ในฐานของพวกจักรวรรดิ คือจะให้ชั้นซ่อมรถอะงานหวานหมูเลย แต่จะบุกลุยทหารจักรวรรดิเข้าไปเอารถมาให้คงขอผ่านอะนะฝ่าบาท
[Noctis] – ไม่ต้องห่วง เรื่องนั้นพวกเราจัดการเอง ขอบคุณสำหรับข้อมูลนะ ไว้ค่อยคุยกัน บาย  


          
[Gladiolus]- ใครหรอ ?
[Noctis] – Cindy น่ะ
[Prompto]- เฮ้ย นายจะใช้น้ำเสียงแบบนั้นกับเธอไม่ได้นะเฟ้ย !
[Noctis] – ได้สิ ก็เพิ่งพูดไปนั่นไง
[Ignis] – แล้วเธอว่าไงบ้าง ?
[Noctis] – อ่อ เธอเจอรถแล้ว Regalia ของเราอยู่ในฐานของพวกจักรวรรดิน่ะ
[Ignis] – แล้วคิดว่าจะไปชิงเธอกลับมาเมื่อไหร่ ?
[Noctis] – ตอนนี้เลยไง !




                              Main Mission: Engaging the Empire





เดินทางไปที่เป้าหมายของภารกิจที่ฐานของทหารจักรวรรดิในพื้นที่ Kebass Grassland เพื่อลอบเข้าไปชิงเอา Regalia รถคู่ใจที่โดนยึดไปคืนมา



[Noctis] – นี่มันฐานทัพอะไรของมันฟ่ะน่ะ 
[Gladiolus]- ฐานสำหรับเก็บหุ่นยนต์และรถถังของพวกมัน แต่ดูจากกำแพงบาเรียที่คลุมอยู่คงไม่ใช่แค่ฐานธรรมดาแล้วละ  
[Ignis] – น่าจะเป็นของเก่าเก็บตั้งแต่ยุคสงครามในอดีตที่พวกทหารจักรวรรดิ์เอามาใช้ในการปกป้องตัวเอง ก็แปลว่า การเข้าไปมันไม่ใช่เรื่องง่ายๆอย่างที่คิดแล้ว
ชั้นว่าเราแวะเข้าไปพักตั้งแคมป์วางแผนกันก่อนดีกว่านะ

จากนั้นออกมาจากหน้าฐานแล้วเข้ามาที่จุดตั้งแค๊มป์ Sothmocke Haven ที่อยู่ไม่ไกลจากฐานนักเพื่อพักค้างเพื่อที่ทุกคนจะได้วางแผนการบุกฐานให้รัดกุมก่อนเข้าไป

[Prompto]- เอ่อ พูดก็พูดทำไมชั้นไม่เห็นเคยรู้จักแหลม Caem มาก่อนเลยแฮะ ... มันดังหรอ?
[Ignis] – คนส่วนมากไม่รู้หรอกเพราะมันเคยเป็นท่าเรือลับของราชวงศ์
[Gladiolus]- หวังว่าทุกอย่างจะอยู่ในสภาพเดิมเหมือน 30 ปีที่แล้วนะ 
[Prompto]- สรุปว่าถ้าเจอท่าเรือที่ว่าก็จะเจอเรือใช่ป่ะ
[Noctis] – มั้งนะ 
[Gladiolus]- ถ้าไม่เจอก็หาลำอื่นแทน
[Prompto]- โทษนะ ! .. หายังไง ??



[Noctis] – มีไอเดียอะไรแจ่มๆมั๊ย Ignis ?
[Ignis] – ความมืดไง เราต้องใช้ความมืดในการอำพรางตัวเข้าไปโดยหลีกเลี่ยงการปะทะที่รุนแรงเกินจำเป็น นั้นแปลว่าเราควรต้องเข้าไปในตอนกลางคืนจะดีที่สุด แล้วใช้เวลาทีมีอยู่ทั้งคืนให้เต็มในการหาที่ซ่อนของ Regalia ให้เจอก่อนที่จะเช้า นี่เป็นแผนที่ดีที่สุดเท่าที่เราจะหาได้แล้ว
[Noctis] – ฟังดูเข้าท่านะ 
[Prompto]- เอาละ ! งั้นเราไปเอารถเราคืนกันเถอะ !!!



                                ฐาน Aracheole Stronghold




ทันทีที่เข้ามาในพื้นที่ของฐานด้านใน ในขณะที่ Noct อยากที่จะหาทางทำลายตัวกำเนิดบาเรียของพวกจักรวรรดิ แต่ Ignis จะบอกให้แค่เข้าไปชิงรถกลับมาแล้วหนีออกจากที่นี่ก็พอ


การลอบเข้าไปในฐานของพวกทหารจักรวรรดินั้นจะเป็นโหมดสุ่มเงียบท่ามกลางพื้นที่ที่เต็มไปด้วยศัตรู โดย Noct จะสามารถใช้ความสามารถใหม่นั่นคือ Warp Kill หรือการ Warp Strike สังหารศัตรูจากด้านหลัง จะทำให้จัดการศัตรูได้โดยไม่เกิดการต่อสู้ขึ้นอย่างโจ่งแจ้ง และต้องหลบแสงจากสปอตร์ไลท์ตรวจจับเพื่อไม่ให้ศัตรูเจอตัว แต่ถ้าสุดวิสัยก็จะเกิดการต่อสู้ในแบบศัตรูปกติได้เช่นกัน


เมื่อเข้าไปถึงจุดหมายของภารกิจก็จะเป็นจุดที่ Regalia จอดอยู่ แต่ในขณะที่ทุกคนกำลังจะเข้าไปขับเพื่อหนีออกจากพื้นที่โดยไม่มีใครรู้ตามแผน แต่จู่หุ่น หุ่น M.A.X Maniple พร้อมทหารจักรวรรดิมากมายก็บุกเข้ามาเหมือนว่ามันจะรู้ว่าพวก Noct จะเข้ามา จึงเกิดการต่อสู้ขึ้นจนได้ หลังจากจัดการศัตรูจนหมด Ignis เลยไม่มีทางเลือกจึงต้องลุยเข้าไปจัดการศัตรูมันให้หมดรวมถึงทำลาย Generator ตัวกำเนิดพลังของฐานซึ่งเป็นตัวสร้างบาเรียที่อยู่ด้านในให้หมดซะเลย



จากนี้ก็ลุยเข้าไปในพื้นที่ด้านในแบบไม่ต้องสุ่มเงียบกันแล้ว ด้านในพื้นที่เป้าหมายที่มี Generator อยู่ก็จะพบ M.A.X Maniple ขนาดใหญ่พร้อมทหารจักรวรรดิมากมายออกมาขัดขวาง เข้าไปทำลาย Generator และศัตรูให้หมด


แต่ก่อนจะเข้าไปที่จุดหมายของภารกิจที่ Regalia จอดอยู่ แวะเข้าไปที่ห้องทำงาน ตามตำแหน่งในภาพ เพื่อเก็บ Machinery Weapon: Gravity Well ออกมาด้วย




Machinery Weapon: Gravity Well ปืนแรงดึงดูดที่สามารถดึงศัตรูให้เข้ามารวมเป็นกลุ่มพร้อมกัดกร่อนพลังชีวิตเล็กน้อยเพื่องายต่อการโจมตีเป็นกลุ่ม


 สามารถอัพเกรดได้โดย เข้าไปคุยกับ Cid ที่ Hammerhead เพื่อรับเควส A Better Gravity Well เพื่ออัพเกรด Gravity Well


โดยต้องใช้ไอเทม Hydraulic Cylinder ที่ตกอยู่ทางเหนือของฐานในพื้นที่ hulldngh pixe (ตามรูป) จากนั้นก็รอจนกว่าเขาจะทำเสร็จก็จะโทรบอกเอง เมื่อมารับของก็จะได้ Gravity Well II ไปใช้งาน


    เมื่อสำรวจเก็บไอเทมตามห้องต่างๆหมดแล้วก็กลับไปที่จุดที่ Regalia จอดอยู่ได้เลย ...




[Prompto]- เอ่อออ .. พะ พวกเรา ..!!
[Ravus]- ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ Noctis



[Noctis] – Ravus 
[Ravus]- นายเพิ่งได้รับของขวัญสุดพิเศษจากพายุนั่นสินะ แถมยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจะได้รับผลอะไรตามมา
[Gladiolus]- ระวัง !!



[Ravus]- ทุกคนอย่าขยับ .. รัชทายาทเขาจะคุยกัน คนอื่นไม่เกี่ยว เป็นได้ก็แค่พยานที่จะได้รู้เห็นถึงช่วงเวลาที่มีเกรียติเพื่อต้อนรับ ราชา ที่ถูกเลือก
[Noctis] – นายจะมัวรับใช้ไอ้พวกจักรวรรดิสกปรกที่กำลังไล่ล่าน้องสาวของนายเองไปทำไมกัน !
[Ravus]- ข้าไม่ได้รับใช้ แต่ข้าเป็นผู้ควบคุม !! 

[Ravus]- โล่ของกษัตริย์งั้นหรอ ?
[Gladiolus]- รู้ก็ดีแล้ว !!
[Ravus]- โล่ห่วยๆแบบนี้จะป้องกันอะไรได้ ห๊า !!



[Noctis] – อยากเจ็บตัวใช่มั๊ย ! งั้นเข้ามา !!
[Ravus]- การเลือกสรรจะต้องล้มเหลว นั่นเป็นเพราะชะตากำหนดมาแล้ว



[Ardyn]- เอาละๆ พอแค่นี้แหละนะ … มีอะไรให้ช่วยมั๊ย ฝ่าบาท ?
[Noctis] – ไม่ใช่จากแก !!
[Ardyn]- โอ้ แต่ที่ผมมาที่นี่ก็เพราะอยากช่วยจริงๆนะ 
[Ignis] – จะช่วยยังไง ?
[Ardyn]- โดยการสั่งพวกทหารให้ถอยทัพไง
[Ignis] – แกคิดว่าพวกเราจะเชื่อแกงั้นหรอ ?
[Ardyn]- กว่าเราจะได้เจอกันอีกครั้ง ก็คงเป็นตอนข้ามทะเลไปแล้วนั่นแหละ ก็เรื่องธุรกิจที่เรามีร่วมกันเกี่ยวกับเหล่าเทพอารักษ์นั่นแหละ จริงมั๊ย ?  ลากันตรงนี้นะฝ่าบาท เดินทางปลอดภัยนะครับ 


[Prompto]- เอ่อ พวกเรา รู้มั๊ยว่าไอ้หมอนั่นเป็นใครกันน่ะ ?
[Ignis] – Ravus Nox Fleuret โอรสคนโตแห่งอาณาจักร Tenebrae เป็นพี่ชายแท้ๆของ Lady Lunafreya ไง  




[ผู้ประกาศข่าว] – ในที่สุดหลังจากที่ทางจักรวรรดิได้ปิดกั้นเส้นทางออกในเขต Duscaen มาเป็นเวลานานก็ได้มีคำสั่งออกมาให้เปิดเส้นทางทั้งหมดแล้วนะครับ และ ทหารของจักรวรรดิ์ก็ได้เริ่มรื้อสิ่งปลูกสร้างต่างๆทางการทหารออกจากพื้นที่ทั้งหมดอีกด้วย ทางด้านรัฐบาลชั่วคราวที่เมืองหลวง insomnia ก็คาดหวังว่า เมื่อการจราจรทั่วพื้นที่กลับเป็นปกติ จะเป็นผลดีที่จะทำให้การเลือกตั้งที่กำลังจะเกิดขึ้นมีประสิทธิ์ภาพที่ดีขึ้นด้วย 
[Prompto]- ไหนใครก็ได้ลองอธิบายให้เข้าใจหน่อยสิว่า ไอ้คนนั้นมันเป็นพี่ชาย Luna เนี้ยนะ !?
[Ignis] – เขาเป็นถึงผู้บัญชาการณ์ทหารสูงสุดของจักรวรรดิ ภาวะสงครามส่งเสริมให้เขาใหญ่โตอย่างรวดเร็วเลยละ 
[Gladiolus]- เป็นโอรสคนโตของอาณาจักร Tenebrae  ก็ใช่ว่าจะต่ำต้อย ยังไงก็ยังมีโอกาสเติบโตมีอำนาจใหญ่โตได้เหมือนกันนั่นแหละ 
[Prompto]- แล้วทำไมมันต้องอยากไปบังคับบัญชาทหารของจักรวรรดิ์ด้วยละ ?
[Noctis] – ใครสนกันละ ?
[Gladiolus]- เพราะมันทะเยอทะยายและกระหายในอำนาจไงถามได้
[Noctis] – Ravus มันต้องการพลังนักใช่มั๊ย ได้ งั้นชั้นจะมันลิ้มรสเอง !  


ตอนนี้จะได้รถ Regalia กลับมาใช้งานตามเดิมแล้ว เส้นทางต่างๆของพื้นที่ปิดกันเขต Duscaen ก็ถูกเปิดให้ใช้งานสรรจรได้ตามปกติแล้ว และเมื่อเดินทางได้ปกติแล้ว ก็จะสามารถตามทำ Side Quest ที่ปลดล็อกให้ทำในบทที่ 5 ได้แล้ว


    --------------------------------------------------------------------------------------------------------

     

             จุดภารกิจถ่ายรูปของ Prompto ที่สามารถถ่ายได้ในบทที่ 5



       Photo Op:  Battlefield ที่ซากรถถังใกล้ๆกับ Prairie Outpost ในพื้นเขตพื้นที่ LFIDE



    Side Quest ช่วยคนรถเสีย ในเขตพื้นที่เขต Duscae ที่ทำได้ในบทที่ 5


- Side Quest: I'm Late! เจอรถหลังจากผ่านเควส "Retrieve the Regalia" ซึ่งก็คือตอนที่ได้รถกลับคืนมาแล้ว และต้องหลังเจอรถเสียใน Side Quest: New to The Road แล้ว





                                      Side quest: Berried Memories






ผู้จ้าง: Coctura
ต้องการ: Ulwaat Berries.
EXP : 5000
รางวัล: 3,000 gil 
Leiden Sweet Potato
Fine Cleigne Wheat
Ulwaat Berries

เข้าไปรับเควสกับ Coctura แม่ครัวสาวที่รีสอร์ท Galdin Quay เธอต้องการ Ulwaat Berries เพื่อเอามาทำเป็นวัตถุดิบในการทำเค็ก Tenebrean Cake ขาย


       ** คีย์ไอเทมของเควสนี้ต้องหาหลังจากจบเควส Living off the Land ของ Iris ** 



          ------------------------------------------------------------------------------------------------
               


Main Mission: Engaging the Empire ต่อเนื่องในช่วงสุดท้ายคือ มุ่งหน้าไปหา Iris ในโรงแรมที่เมือง Lestllum เพื่อให้เธอพาไปที่ประภาคารเก่าพื้นที่แหลม Cape Caem



[Iris]- Gladdy .. พี่คะ หนูเสียใจที่ทำให้ผิดหวัง
[Noctis] – เป็นอะไร เกิดอะไรขึ้น ?
[Iris]- แผนการของเราที่ Cape Caem ..ชั้นทำไม่สำเร็จ พวกจักรวรรดิมันเข้ามาถึงก่อน ...



[Iris]- มันพยายามสอบสวนพวกเรา แต่ไม่มีใครยอมพูดถึงเรื่อง Noct มันเลยสั่งสอนด้วยการ ... โธ่... ลุง Jared 
[Gladiolus]- เธอหมายความว่าไง ? เกิดอะไรกับ Jared ?
[Iris]- เราทำอะไรไม่ได้เลยจริงๆ !



[Talcott] – ฮือออๆๆ 
[Noctis] – ขอโทษนะ พวกเราไม่ควรมาที่นี่เลย ..
[Talcott] – ฮือออๆๆ ผมหยุดพวกมันไม่ได้ ฮื้อออๆๆ
[Noctis] – ชั้นเองก็หยุดมันไม่ได้เหมือนกัน ปล่อยพวกมันไปก่อนเถอะ แต่พวกมันต้องชดใช้สิ่งที่พวกมันทำลงไปแน่นอน ชั้นสัญญา 
[Talcott] – ผมเชื่อมั่นในตัวฝ่าบาทครับ ...



[Iris]- ชั้นบอก Talcott แล้วว่าเรากลับไปที่ Cape Caem อีกครั้ง เรา ..เราไม่สามารถอยู่ที่นี่ต่อโดยไม่ทำอะไรเลยได้อีกแล้วล่ะ ..
[Noctis] – .... ชั้นเข้าใจ ....






--------------------------------------- END OF CHAPTER ----------------------------------------------





                            ท่ามกลางการถลำลึกด้วยศึกหนัก ......................





                 ค่ำคืนหนึ่งที่ลางร้ายโถมทะลักเข้ามาในห้วงสำนึก




                                                     การต่อสู้ ที่ดำมืด 





                                            การสูญเสีย ในควันปืน 



      


                       ที่ทำให้ Noctis ต้องสะดุ้งตื่น ฟื้นคืนสู่ความจริง ....





   ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------


                                 CHAPTER 6: A Way Forward 





[Gladiolus]- หลังจากเกิดเรื่องแบบนี้ชั้นคงปล่อยเธอไปคนเดียวไม่ได้แล้วล่ะ คงต้องให้นั่งเบียดเข้าไปในรถเพื่อเดินทางไปด้วยกันอย่างน้อยๆก็ระยะหนึ่งอ่ะนะ 

[Ignis] – แล้วจากนี้เอาไงต่อ ?
[Gladiolus]- ชั้นไม่อยากให้ Cid กับ Cindy รอนานพวกเขาน่าจะซ่อมเรือนั่นเสร็จแล้วมั้ง ลองไปคุยดูหน่อยจะดีกว่า 
[Ignis] – งั้นงานนี้เราก็ควรต้องขอบคุณพวกเขาสินะ 
[Gladiolus]- จริงๆแล้วน่าจะเป็นลุง Jared ต่างหากที่เราควรต้องขอบคุณ


จากนั้นออกไปคุยกับ Iris ที่รออยู่ตรงรถที่จอดอยู่ที่ปั๊มน้ำมันหน้าเมือง ทันทีที่คุยกับ Iris ก็จะเท่ากับเริ่ม Main Mission: All Set to Set Sail


ทั้งหมดจะขึ้นรถออกเดินทางมุ่งสู่ แหลม Cape Caem ทันทีโดยไม่สามารถลงจากรถหรือออกนอกเส้นทางได้จนกว่าจะถึงที่หมาย  ** ฉะนั้นหากยังมีธุระอะไรต้องทำก็ควรทำก่อนจะเข้าไปคุยกับ Iris เพราะยังสามารถเอารถไปใช้ได้อย่างอิสระอยู่ ** 



    Side Quest ที่สามารถทำได้ก่อนเดินทางไป Cape Caem



                 Side Quest ช่วยคนรถเสีย ที่ปลดล็อกออกมาในบทที่ 6


1. Side Quest: Shoulda Been Serviced ถนนทางทิศใต้ของเมือง Lestallum ในเขตพื้นที่เขต Duscae




2. Side Quest: A Driver in Despair ในเขตพื้นที่ Cleigne (ตามตำแหน่งในรูป) และต้องช่วยจุดรถเสียใน Side Quest: Vehicle Vexation ก่อน




3. Side Quest: That Brand-New Car Smell ในเขตพื้นที่เขต Duscae ปลดล็อกเมื่อถึงบทที่ 6 และช่วยจุดรถเสียใน Side Quest: Shoulda Been Serviced แล้ว




4. Side Quest: Oh my Grease-Monkey Goddess! ที่ Coennix Bypass ในเขตพื้นที่ Cleigne เจอรถเมื่อเริ่มบทที่ 6






         Side Quest – Rescue ช่วยเหลือคนบาดเจ็บที่ปลดล็อกออกมาในบทที่ 6


1.Scared and Lonely ที่ Coennix Bypass ในเขตพื้นที่ Cleigne เจอตัวเมื่อถึงบทที่ 6




2. A Little Slip-Up ในเขตพื้นที่ Cleigne เจอตัวเมื่อถึงบทที่ 6





3. Alas, Poor Hunter ที่จุดตกปลาริมแม่น้ำ Maidenwater หน้าทางไปดันเจี้ยน Malmalam Thicket ในเขตพื้นที่ Cleigne





              Chocobo Racing แมทช์สุดท้ายที่ปลดล็อกออกมาในบทที่ 6


หลังจากชนะการแข่งในแมทช์ Chocobo Hoops; Rocky Road, และถึงบทที่ 6 แล้ว แมทช์ที่ 7 การแข่งครั้งสุดท้ายจะปลดล็อกออกมา คู่ต่อสู้คือ Iris กับ Pink Chocobo ของเธอ


Iris นั้นเป็นคู่แข่งที่น่ากลัวที่สุด เพราะ Pink Chocobo ของเธอนั้นวิ่งได้เร็วมากๆ แต่ก็มีวิธีเอาชนะแบบโกงๆได้คือ ก่อนแข่งให้พักแคมป์เพื่อให้ Chocobo กินอาหาร Curiel Greens เพื่อเพิ่มสปีดการวิ่ง ซึ่งจะทำให้ได้เปรียบการแข่งได้มากกว่าเดิม แต่ก็ไม่ได้แปลว่าชนะแบบชิวๆเพราะ Iris สามารถใช้ความเร็ววิ่งตามมาติดๆและจะแซงได้ทุกเมื่อหากเกทความอดทนหมด ตรงนี้ต้องใช้การวิ่งบังหน้าเธอเอาไว้ไม่ให้แซง ก็จะสามารถหาจังหวะเข้าเส้นชัยในช่วงสุดท้ายได้



เมื่อชนะ Iris ได้แล้วจะได้เหรียญรางวัล Jennet Medal มา และเมื่อชนะทุกแมทช์แล้วก็จะได้เหรียญแห่งแชมป์ Jockey Master Medal อันสุดท้ายมาครองด้วย




เมื่อพร้อมแล้วก็ไปคุยกับ Iris ที่รออยู่ตรงรถที่จอดอยู่ที่ปั๊มน้ำมันหน้าเมือง Lestllum เพื่อเริ่ม Main Mission: All Set to Set Sail ทั้งหมดจะขึ้นรถออกเดินทางมุ่งสู่แหลม Cape Caem ทันที




                                 Main Mission: All Set to Set Sail 






[Iris]- เห็นรถ Regalia ทีไรก็ทำให้ชั้นนึกถึงบ้านเกิดทุกทีเลย 
[Prompto]- อย่างว่าแต่นึกถึงบ้านเลย รถของเราไม่เหมือนกับรถใครบนถนนแถวๆนี้เลยด้วยซ้ำ 
[Iris]- แถมยังกว้างกว่าที่คิดด้วยนะ ตอนแรกบอกตรงๆนึกภาพไม่ออกเลยว่าจะนั่งอัดเข้ามาในรถเพื่อไปที่ Cape Caem พร้อมๆกันหมด 5 คนได้ไงถ้า 1 ในนั้นมีพี่ชายร่างบึกของชั้นร่วมทางไปด้วยเนี้ย  เออแล้วนายเคยขับรถคันนี้บ้างมั๊ยอ่ะ Noct 
[Noct]- ไม่เคยสิแปลก 
[Iris]- ทางโรงแรมไม่มีห้องพอสำหรับเก็บกระเป๋าเดินทางของชั้นแล้วด้วย โชคดีที่พวกนายช่วยแบกกันขึ้นมา
[Gladiolus]- คิดเรื่องที่เราต้องทำที่ Cape Caem กันก่อนดีมั๊ย ?
[Ignis]- จะเป็นยังไง เดี๋ยวไปถึงนั่นก่อนแล้วค่อยคิดก็แล้วกัน 



[Iris]- โห ดูนั่นดิเห็นมั๊ย Rock of Ravatogh คิดว่าใช่นะ
[Gladiolus]- นึกว่ารู้จริงซะอีก
[Prompto]- เธอนี่รู้เรื่องต่างๆเยอะเหมือนกันนะเนี้ย
[Iris]- อันนี้ต้องขอบคุณลุง Jared อ่ะนะที่เล่าให้ฟังตลอด ..

[Iris]- ขอบคุณที่ช่วยขับรถให้นะคะ Ignis
[Ignis] – ยินดีครับ
[Iris]- พี่ Ignis ขับอยู่คนเดียวเลยหรอคะ ?
[Prompto]- ชั้นก็ขับได้นะ 
[Noct]- ชั้นก็ขับได้เหมือนกัน
[Gladiolus]-จริงๆแล้วมันไม่ใช่เพราะ Iggy ขับรถเป็นคนเดียวคนเดียวเลยต้องขับหรอก แต่มีเขาคนเดียวต่างหากที่เราไว้ใจที่สุดต่างหาก
[Iris]- โห อีก 2 คนทีเหลือนี่ขับรถแย่มากๆเลยหรอคะ
[Noct]- มันไม่ได้แย่ขนาดนั้นซะหน่อย จริงป่ะ Prompto
[Prompto]- ช่าย !! นี่ถ้าน้อง Iris ไม่ได้อยู่ในรถชั้นคงขัดการสั่งสอนพี่บึกนี่ไปแล้วโทษฐานมาพูดจาให้ร้ายเราอ่ะเนอะ Noct 
[Gladiolus]- แน่ใจนะว่าจะไม่แวะพักซักหน่อยน่ะ Iris
[Iris]- หนูโอเคคะพี่
[Prompto]- เรามีแซนวิชอยู่หลังรถสนป่ะละ?
[Noct]- ไม่หิวหรอ Prompto ถึงขนาดยอมแบ่งของกินให้เลยนะ
[Iris]- ชั้นโอเคจริงๆยังไม่หิวหรอก
[Ignis] – ก็แล้วแต่นะ 



[Prompto]- เอ่อ พวกเราเหมือนเราจะมีข่าวร้ายอ่ะนะ
[Gladiolus]- โอ้ เยี่ยม ไอ้เครื่องบินยักษ์มาอีกลำแล้ว 
[Ignis] – ไปสอยมันให้ล่วงกันเลยดีมั๊ย ?
[Iris]- จะดีหรอ Noct ?
[Noct]- ใจเย็นน่า พวกเราเอาอยู่ 

ทันทีที่ทุกคนเห็นเครื่องบินขนาดใหญ่ของพวกจักรวรรดิแวะเข้าไปที่ ฐานทัพ Fort Vaullerey Ignis จึงแวะจอดที่ Old Lestallum ก่อนที่ Main Quest: Imperial Infiltration จะสอดแทรกเข้ามาให้ทำระหว่างเดินทางไปที่ Cape Caem



[Noct]-...เราไปทวงความยุติธรรมให้ลุง Jared กันเถอะ
[Prompto]- ใช่ !! แล้วก็เพื่อ Talcott ด้วย 
[Gladiolus]- น้องรอที่นี่ก่อนนะ Iris
[Noct]- ได้คะพี่ โชคดีกลับมานะทุกคน 




                            Main Quest: Imperial Infiltration 



                                          Fort Vaullerey



เมื่อเข้ามาที่จุดเป้าหมายของภารกิจที่หอสังเกตการณ์ใกล้ๆกับฐาน Fort Vaullerey Ignis ก็จะเริ่มแจกแจงแผนให้ทุกคนฟัง


[Noct]- เอาละ ตกลงแผนว่าไง ?
[Ignis] – ตามหาผู้บัญชาการณ์ในฐานของมัน เป้าหมายเป็นนายทหารที่ค่อนข้างแข็งแกร่ง แต่การจัดการหัวหน้าของพวกมันก่อนจะทำให้พวกทหารลูกสมุนในฐานยอมจำนนได้ง่ายขึ้น โดยเราจะแบ่งกันเป็น 2 กลุ่ม Prompto กับ Gladio ไปทำลายเครื่องกำเนิดพลังงานของฐาน ส่วนชั้นกับ Noct จะเข้าไปจัดการกับหัวหน้าทหาร เอาละ Noct พร้อมยัง ?


ทันทีที่ตอบตกลง ปฎิบัติการณ์ยึดฐาน Fort Vaullerey ก็เริ่มขึ้น เข้าไปด้านในฐานจนเจอ Caligo Ulldor หัวหน้าทหารของที่นี่กำลังเดินบ่นเข้าไปด้านในฐาน


[Caligo ] – ยังจะมาอวดดีของขึ้นค่าจ้างอีกหรอ !?? อย่าหวังเลยขอบอก จ่ายแพงก็ไม่ได้ทำให้ชื่อเสียงที่แปดเปื้อนหายได้หรอกเว้ย  ไม่รู้ท่านเสนาบดีเล่นตลกอะไรกันแน่ ข้าไม่ได้โง่นะเว้ย บังเอิญไปรึเปล่า ? โธ่ ข้าว่าเขาส่งยัย Highwing มาคอยสอดส่องข้าแน่นอน แค่ชั่วคราวไม่ว่ากัน แต่ถ้าเขายืนยันว่าจะเชื่อถือยัยนั่นมากกว่าข้า ข้าก็ไม่เอาด้วยหรอก ! มันพยายามจะมายึดเอากองทหาร magitek ของข้าสืไม่ว่า ข้าคงต้องรีบหาเวลาไปเมือง Lestallum เพื่อรวบรวมพรรคพวกมาจัดการยัย Highwing จอมอวดดีให้เร็วที่สุดหลังจากจบภารกิจนี้แล้วนี่แหละ ! เพราะข้าคงซวยถ้าปล่อยให้มันได้ตัวเจ้าชายไปก่อนข้า! ข้าจะให้โอกาสนัง Highwing เพื่อรอคำตอบจากมันอีกแค่ครั้งเดียว วางกำลังทหารรอไว้ที่นี้ เมื่อท่านแม่ทัพมาถึงค่อยส่งเธอไปหา 




เป้าหมายของ Noct และ Ignis ก็คือลอบตามผู้บัญชาการณ์ทหารของฐานไปเรื่อยๆ โดยระหว่างทางนั้นห้ามไม่ให้พวกมันเห็นตัวเด็ดขาด




จนถึงด้านใน ที่ Ignis จะสั่งให้เข้าไปจัดการเป้าหมาย วาร์ปสไตรท์ทำให้มันสลบ ในขณะที่ฝ่าย Prompto กับ Gladio ก็สามารถเข้าไปทำลายเครื่องกำเนิดพลังงานของฐานได้พร้อมๆกัน



[Ignis] – ดูเหมือนพวกนั้นจะทำสำเร็จแล้วนะ เอาละนายไปรวมกลุ่มกับพวกเขาเพื่อเข้าไปทำลายแกนกำเนิดบาเรียที่ด้านในได้เลย ส่วนชั้นจะพบไอ้หัวหน้าทหารนี่ออกจากฐานเอง ไปได้แล้ว !



                 ตำแหน่งที่ซ่อน Machinery Weapon Noiseblaster 






ก่อนจะไปไหน อย่าลืมเข้าไปที่ห้องทำงานด้านซ้ายบนจากจุดที่ยืนคุยกับ Ignis ด้านในจะมี Machinery Weapon Noiseblaster ซ่อนอยู่ เข้าไปเก็บมาซะ 




ส่วนการอัพเกรด Noiseblaster นั้นต้องใช้คีย์ไอเทม Magnetron ซึ่งสามารถเก็บได้ที่ Zegnautus Keep สถานที่ในภารกิจหลักที่ยังมาไม่ถึง หรือ สามารถใช้เหรียญ 40 อันแลกได้ในเค๊าท์เตอร์แลกของรางวัลในงาน Carnival  




จากนั้นก็ลุยเข้าไปที่เป้าหมายของภารกิจที่จะพบ  Prompto กับ Gladio รออยู่ในเขตที่เก็บเสาพลังงานบาเรีย โดยมี Boss หุ่นยนต์ MA-X Maniple ออกมาขัดขวาง จัดการศัตรูให้หมดไปพร้อมๆกับทำลายเสาพลังงานบาเรียซะ แล้ว Ignis ก็จะตามเข้ามารวมกลุ่ม



[Ignis] – ดีใจนะที่เห็นพวกนายทำสำเร็จ
[Noct]- ไม่ใช่หมายของว่านายทำไมสำเร็จหรอ ?
[Ignis] – ชั้นเอาเชลยของเราไปฝากพวก Hunter ขังเอาไว้ก่อน จากนั้นพวก Hunter ก็แจ้งข่าวมาว่าเจ้าหัวหน้าทหารนั่นดันหนีไปได้ซะแล้ว วันนี้มันโชคดีที่รอดไปได้แต่คราวหน้าอาจไม่รอด  
[Noct]- ชั้นโคตรดีใจเลยที่ช่วยมันให้เป็นแบบนั้นจริงๆเลยนะ  

จากนั้นในระหว่างเดินย้อนออกมากำลังจะเดินไปที่จุดหมายของภารกิจที่ทางออกของฐาน Noct ก็จะถูกลอบโจมตีโดยศัตรูลึกลับที่ดักรออยู่


[Aranea]- ไงจ๊ะพ่อรูปหล่อ

จากนั้นทั้งหมดต้องสู้กับ Boss Aranea Highwind  LV26 ทันทีโดยไม่ทันได้ตั้งตัว การต่อสู้ของเธอนั้นเน้นสายนักรบมังกรที่จะเน้นการโดดโจมตีจากที่สูงตลอด Wrap strike ขึ้นไปดวลกับเธอกลางอากาศจะสนุกกว่า



[Aranea]- วิ้ว พอแค่นั้นแหละ มันใช่เวลารึไง ?
[Noct]- เวลาอะไร ?
[Aranea]- เวลาทำงานสิจ๊ะ ตอนนี้เวลาเลิกงานนะ ชั้นคนนี้ไม่ทำงานล่วงเวลาหรอกจะบอกให้ จะทำก็ต้องเมื่อมีค่าจ้างเพิ่มให้เท่านั้นแหละจ๊ะ เอาไว้เล่นกันใหม่ก็แล้วกันนะ พ่อรูปหล่อ 

[Noct]- หล่อนเป็นใครฟ่ะเนี่ย ?
[Prompto]- ชั้นชักเป็นห่วง Iris ขึ้นมาตะหงิดๆแล้วละ
 [Ignis] – ชั้นว่าเธอไม่เป็นไรหรอก
[Gladiolus]- แต่เราก็ไม่ควรปล่อยให้เธอรอนานนะ รีบกลับกันดีกว่า 

จบภารกิจจะได้รางวัลคือ Unstable Stabilizer ซึ่งเป็นคีย์ไอเทมสำหรับอัพเกรด Regalia ให้กลายเป็น Regalia Type F ที่สามารถบินได้ในตอนจบเกมนั่นเอง

หลังจากจบภารกิจ ทุกคนจะกลับไปหา Iris ที่ Old Lestallum เพื่อเตรียมตัวเดินทางมุ่งสู่ แหลม Cape Caem ต่อซึ่งจะกลับไปดำเนินตาม Main Mission: All Set to Set Sail ต่ออีกครั้ง


เมื่อขึ้นรถไปจะออกเดินทางต่อเนื่องสู่ Cape Caem ทันที แต่ หากยังไม่ใช้รถหรือออกเดินทางตอนนี้ ก็จะสามารถใช้ช่วงเวลาในช่วงนี้ใช้ชีวิตกับ Iris ที่จะอยู่ร่วมสู้ในปารตี้ด้วยตราบใดที่ยังไม่ขึ้นรถออกเดินทาง แต่จะสามารถพาเดินทางแค่ในพื้นที่ของเขต Cleigne เท่านั้นเพราะหลังจากเกิดเหตุที่พวก Noct โจมตีฐานของพวกทหารจักรวรรดิ พวกมันก็ทำการปิดพื้นที่เส้นทางระหว่างเขตอีกครั้ง 



                                       จุดเก็บปืน Cerberus Rifle



หลังจากเป็นอิสระแล้ว ย้อนเข้าไปในฐาน Fort Vaullery อีกครั้ง เพื่อไปยังจุดเก็บปืน Cerberus Rifle อาวุธปืนสำคัญที่ต้องเก็บอีกอัน โดยเมื่อเข้าไปที่ทางเข้าแล้ว เลี้ยวซ้าย วิ่งลอดยานบินที่จอดอยู่ มองไปที่ห้องทำงานตรงมุมซ้ายของพื้นที่ด้านในจะมี  ปืน Cerberus Rifle ให้เก็บ


ปืน Cerberus Rifle เป็นอาวุธปืนที่สามารถซูมยิงศัตรูได้ในขณะต่อสู้ วิธีการใช้คือ
R1 เล็งเตรียมใช้ปืน
สามเหลี่ยม ซูมยิง
O ยิงปืน


เมื่อทำทุกอย่างจนพอใจแล้วก็ค่อยกลับไปขึ้นรถที่จอดอยู่ที่ Old Lestallum เพื่อเดินทางไปยัง Cape Caem ต่อตาม Main Mission: All Set to Set Sail ต่ออีกครั้งได้เลย


[Gladiolus]- ชั้นต้องหาทางแก้มือให้ได้เลยคอยดูสิ !
[Ignis] – ดูจากฝีมือของเธอแล้ว นายคงจะดีใจกว่าถ้าไม่ได้ทำแบบนั้นนะ
[Prompto]- ใช่ งานนี้พี่บึกของเราไม่มีอะไรไปเทียบเธอได้จริงๆด้วย
[Ignis] – ชั้นคิดว่างานนี้เราคงไม่สามารถผ่านเธอไปได้ง่ายๆแน่ถ้าไม่มี แม่ทัพ Cor
[Prompto]- สถานการณ์คงจะเปลี่ยนแน่นอนถ้าตอนนี้เขาอยู่ที่นี่อ่ะนะ 
[Gladiolus]- แต่ถ้าเธอเสนอหน้ามาเล่นแรงอีกครั้งเราคงต้องหาทางจัดการกันเองแล้วละ ไม่ต้องรอพึ่งใครหรอก


[Prompto]- Malmalam Tricket หรอ ? คิดว่าสถานที่นี่กับชั้นอะไรน่าค้นหามากกว่ากันอ่ะ Iris 
[Noct]- ไม่เคยจะล้มเลิกความพยายามหม้อจริงๆเลยนะนายเนี้ย 
[Ignis] – ก็ถ้าเรื่องราวที่พวกเขาเล่าขานเกี่ยวกับ Malmalam Tricket เป็นความจริงอ่ะนะ  
[Gladiolus]- งั้นทำไมเราไม่ลองเข้าไปค้นหาดูละว่าจะเจออะไรที่เรามองหาอยู่รึเปล่า 

ตรงนี้จะสามารถเลือกได้ว่าจะแวะเข้าไปสำรวจที่ดันเจี้ยน Malmalam Tricket ที่อยู่บนภูเขาหรือไม่ หากคุณได้เคยขึ้นมาสำรวจ Tomb of the Pious ที่ดันเจี้ยน Malmalam Thicket และเก็บ Scepter of the Pious มาแล้วที่นี่ก็ไม่มีเหตุการณ์อะไรเพิ่มเติมอีก แต่ แวะพา Iris เที่ยวหน่อยก็ดี


[Ignis] – เอาละถึงแล้ว 
[Iris]- เออ นี่ ตอนขึ้นมาชั้นเห็นมีคนขี่โจโกโปขึ้นมาด้วยละ พวกนายเคยขึ่ขึ้นเขาที่นี่รึเปล่าอะ ชั้นพนันเลยว่ามันต้องหนุกแน่นอน 
[Ignis] – Noct จัดนกให้สาวหน่อยเร้ว  

หลังจากทำทุกอย่างที่ Malmalam Tricket เสร็จสรรพก็ขึ้นรถออกเดินทางต่อ




[Iris]- พวกนายตื่นเต้นป่ะเนี้ยที่กำลังจะได้ไปที่ Altissia อ่ะ 
[Noct]- ก็มีบ้างนะ 
[Iris]- ชั้นนี่ อิจ มากบอกตรงๆ
[Gladiolus]- เราไม่ได้ไปเที่ยวกันหรอกนะ Iris 
[Iris]- ก็จริงนะ จริงๆชั้นไม่ได้อิจฉาอะไรหรอก แค่รู้สึกสนุกมากตอนออกท่องเที่ยวกับพวกนายมากกว่า แต่เดี๋ยวมันก็จะกลายเป็นอดีตแล้วเมื่อถึงที่แหลม Caem 
[Gladiolus]- ทำไมพูดแบบนั้นละ ?
[Prompto]- เราเที่ยวกันได้ตลอดอยู่แล้วน่า จริงมั๊ย ? 

[Gladiolus]- พ้กกันหน่อยดีมั๊ย ชั้นว่าให้คนขับพักหน่อยก็ดีนะ 
[Prompto]- โคตรแปลกใจอะ ทำไมชั้นไม่เคยได้ยินประโยคแบบนี้ออกจากปากเขามาก่อนเลยแฮะ
[Ignis] – เพราะที่ผ่านมาไม่มีใครเอาน้องสาวมานั่งในรถด้วยไงละ 


ตรงนี้จะสามารถเลือกได้ว่าจะแวะที่จุดชมวิวริมทะเล Leirity Seaside หรือเปล่า ที่นี่ก็ไม่มีเหตุการณ์อะไรพิเศษ นอกจากแอบฟังชาวบ้านคุยกัน


นายได้ยินเรื่องที่เกิดขึ้นที่ฐานของพวกจักรวรรดิป่ะวะ
เออดิ เห็นว่ามีพวกลูเซียนกลุ่มนึงลอบเข้าป่วนฐานจนเละเลย
ไม่ใช่ถล่มฐานอย่างเดียวนะ เล่นซะผู้บัญชาการณ์ของพวกมันซะเดี้ยงจนต้องเข้าโรงบาลเลยด้วย !

 ทำให้สรุปได้ว่า ผบ. Caligo คนของพวกจักรวรรดิที่พวก Noct จับไปแต่หนีไปได้นั่นยังไม่ตายแต่เดี้ยงจนเข้าโรงพยาบาลนั่นเอง 

หลังจากอยู่ที่จุดชมวิวริมทะเล Leirity Seaside จนพอใจแล้วก็ขึ้นรถออกเดินทางต่อได้เลย



[Iris]- เริ่มได้กลิ่นเกลือในอากาศแล้วละ 
[Ignis] – อากาศชายทะเลไง เรากำลังขับอยู่เหนือมันพอดีเลย
[Iris]- สวยจัง
[Ignis] – เป็นทิวทัศน์ที่งดงามมากเลยละ
[Iris]- ว้าว ดูสะพานนั่นสิ 
[Ignis] – มีทางน้ำลอดใต้สะพานด้วยนะ 
[Iris]- เดี๋ยวคงได้เห็นตอนข้ามสะพานใช่ปะ ? นี่ไงๆ ใกล้ถึงทางลงแล้ว


ตรงนี้จะสามารถเลือกได้ว่าจะแวะที่จุดพักผ่อนใต้สะพานใหญ่ Spelcray Haven จุดชมวิวใต้สะพานจุดสุดท้ายก่อนถึงประภาคารที่ปลายแหลม Caem


ที่นี่จะมีจุดที่พักแรม และจุดตกปลาสำหรับพา Iris ไปพักผ่อน ถ่ายรูปที่ระลึกเป็นจุดสุดท้ายก่อนที่เธอจะออกจากกลุ่ม

หลังจากแวะตามจุดชมวิวต่างๆจนพอใจแล้วก็ขึ้นรถเดินทางต่อไปยังเป้าหมายสุดท้ายที่ประภาคารที่ปลายแหลม Caem ได้เลย



[Iris]- Ignis ส่วนใหญ่พี่ทำอาหารอยู่คนเดียวเลยละคะ ?
[Ignis] – ส่วนใหญ่ทำคนเดียวหมดอ่ะนะ
[Iris]- Gladdy ทำไมพี่ไม่ช่วยอ่ะ ? …. Noct นายละ ? .
[Gladiolus]- เอ่อ ...
[Noct]- อืมม .. เอ่อ  ก็แล้วแต่โอกาสอ่ะนะ
[Ignis] – โอกาสไหนหรอ ?
[Prompto]- แต่ผมช่วยนะ จัดโต๊ะไง ผมทำคนดียวตลอดแหละ ฮ่าๆ



                                            Cape Caem


เมื่อเดินทางมาถึงแหลม Cape Caem แล้วจะพบกับ Cindy รออยู่ ทันทีที่คุยกับเธอ Iris ก็จะออกจากกลุ่มไปที่บ้านตรงแปลงเพาะปลูกทันที



[Noct]- เรือเป็นไงบ้าง ?
[Cindy]- ป๋ากำลังคิดอยู่ว่าจะหาทางซ่อมยังไง น่าจะซักพัก เพราะมันมีอะไหล่บางอย่างที่ยังหาไม่ได้อยู่ 
[Gladiolus]- สงสัยต้องยกเครื่องใหม่แน่เลย 
[Cindy]- แต่อย่าห่วงเลย ป๋าแกจะไม่ไปไหนจนกว่างานจะเสร็จแน่นอน แต่อะไหล่ที่ต้องการก็ยากใช่เล่นนะ แต่บางทีพวกนายอาจช่วยได้ก็ได้ จริงเราก็พอมีตัวช่วยอยู่อ่ะนะ Dustin กับ Monica 2 คนนี้มีทุกอย่างที่เราต้องการเสมอแหละ 
[Ignis] – Crownguard อย่างเราก็พึ่งพาได้เสมอเหมือนกันนะ
[Cindy]- ปัญหาคือ โชคไม่ดีที่งานนี้ 2 คนนี้ไม่มีของที่เราต้องการเลย เราสั่งของไปแล้วแต่ดูเหมือนจะหามาให้ไม่ได้เลยเจ้า วัตถุดิบที่เรียกว่า แร่ Mythril เนี้ย ซึ่งก็รู้กันอยู่ว่า แร่ Mythril ไม่ได้หาได้ง่ายๆในแถบนี้เลย นอกจากจะมีคนที่รู้เรื่องราวต่างๆเยอะๆอาจจะพอมีข่าวข้อมูลของ Mythril ก็ได้
[Prompto]- เจ้าหนู Talcott น่ะหรอ ?
[Cindy]-ใช่เลย ฉลาดมาก รับรองเจ้าหนูนี่คงรู่อะไรดีๆไม่มากก็น้อยแน่ๆเลย
[Ignis] – เราจะลองไปถามดู 



[Cindy]- เอาละ ป๋า รออยู่ในประภาคารนะ ได้ของมาแล้วค่อยไปให้แก ส่วนชั้นคงต้องขอตัวเก็บของกลับไป Hammerhead ก่อนนะ ไว้ค่อยเจอกัน บาย 

                    ** ถ้าอยากจะอัพเกกรดอาวุธในช่วงนี้ Cid จะอยู่ในประภาคารนะ **





คุยกับ Cindy จบเจ้าหนู Talcott ที่ยืนอยู่กับ Iris ที่บ้านตรงพื้นทีเพาะปลูก ก็จะตะโกนเรียกให้ไปหา




 [Talcott]- เจ้าชาย Noctis ครับ !! ทางนี้ บ้านเราอยู่นี่ .. คุณ Cindy คงบอกเรื่องที่เธอต้องการแร่ชนิดพิเศษที่เรียกว่า Mythril มาเป็นอะไหล่ซ่อมเรือแล้วใช่มั๊ยครับ จำเรื่องที่น้ำตกได้ป่ะครับ เหมือนกันเลย ผมเคยอ่านเจอในบันทึกของคุณปู่ มันเขียนถึงถ้ำโบราณแห่งนึงใกล้ๆกับทะเลสาปทางเหนือจากที่นี่ แล้วก็เขียนอีกว่า จะหา Mythril ได้จากที่นั่นด้วย 


ถ้าเลือกตอบตกลงกับ Iris ตอนนี้ก็จะจบ Main Mission: All Set to Set Sail พร้อมกับจบบทที่ 6 ในทันที 

แต่ก่อนจะจบบทที่ 6 ลองแวะไปทำ Side Quest ต่างๆที่ปลดล็อกออกมาหลังจากเดินทางมาที่ Cape Caem แล้วก็ยังสามารถทำได้อยู่


                            Side Quest ช่วยคนรถเสีย 


1. Side Quest – Car-Mic Retribution ในเขตพื้นที่ LFIDE




  



2. Side Quest – Waiting for Help ในเขตพื้นที่ LFIDE ต้องเจอจุดรถเสียใน Side Quest : Car-Mic Retribution ก่อนจึงจะปลดล็อกออกมา



    


              เมื่อทำทุกอย่างจนหมดแล้วกลับไปคุยกับ Iris ที่ Cape Caem ได้เลย




[Iris]- ทะเลสาบที่น้องมันพูดถึงชั้นมั่นใจว่ามันต้องหมายถึง vesperpool ชัวร์เลย ชั้นเลยไปถาม Monica มาเธอเลยบอกเส้นทางที่สามารถผ่านประตูที่พวกจักรวรรดิปิดกั้นทางไว้ให้ด้วยนะ 

[Gladiolus]- อืมม เดี๋ยวขอพวกพี่คุยกันแปบนึงนะ 
[Iris]- อ่า .. โอเค เดี๋ยวไปรอข้างในนะ 

[Gladiolus]- จะเป็นอะไรมั๊ยถ้าภารกิจซ่อมเรือครั้งนี้จะไม่มีชั้นไปด้วย พอดีมีธุระส่วนตัวต้องเคลียร์นิดหน่อยน่ะ
[Noct]- ..[สงสัยงานนี้เขาคงอยากจะฉายเดี่ยว] ..



Let him go – ให้เขาไป [ได้ 600 Exp]
Ask how long – ถามว่าไปนานมั๊ย? [ได้ 2 AP] 
defer to Ignis – แล้วแต่ Ignis [Ignis จะได้ 1500 Exp คนเดียว] 


         ไม่ว่าจะเลือกตอบอะไร Gladiolus ก็ต้องออกจากปาร์ตี้ไปช่วงระยะเวลานึงอยู่ดี 



--------------------------------------- END OF CHAPTER ----------------------------------------------



                                        

                                        ต่อ ACT II CHAPTER 7 - 13 

                                http://decibelperoxide.blogspot.com/2017/02/final-fantasy-xv.html