วันเสาร์ที่ 4 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

FINAL FANTASY XV [ACT 2 the Scourge of the Stars บทที่ 7 - 13]


                        บทสรุป FINAL FANTASY XV
                   
 [ACT II - 
the Scourge of the Stars]  



By Decibel per - oxide




                                          ACT I :  CHAPTER 1 - 6 

                   http://decibelperoxide.blogspot.com/2016/12/final-fantasy-xv.html





                                      CHAPTER 7: Party of Three 





         





                     ชั้นน้อมรับคำอวยพรจากเธอนะ ขอบใจมาก ลูน่า ....





                     
เหตุการณ์ต่อเนื่องอันเนื่องจาก เรือเก่าของราชา Regis ที่เป็นตัวเลือกสุดท้ายสำหรับใช้เดินทางมุ่งสู่ Altissia ในยามวิกฤติก็ต้องติดปัญหา เนื่องจากจำต้องใช้เวลาในการซ่อมแซมแถมวัตถุดิบที่ต้องใช้ดันไปอยู่ที่ซากโบราณสถานที่ถูกครอบครองโดยพวกจักรวรรดิทางตอนเหนือของ Cleigne ยังไม่รวมที่ Gladiolus มาขอตัวเดินทางไปทำธุระสำคัญส่วนตัว ทำให้ทีมของเจ้าชาย Noctis จำต้องเดินทางกับมิตรแค่ 3 คน ....




                                  Main Mission: Party of Three




                                            หลายวันต่อมา 





[Ignis] – จำได้ว่าถ้ำน้ำตกเคยอยู่แถวๆนี้นะ
[Prompto]- ถ้านายหมายถึงทะเลสาปละก็น่าจะอยู่ที่ไหนซักแห่งทางเหนือของที่นี่แหละ
[Ignis] – ยังไงก็ต้องระวังตัวด้วย เราไปไหนพวกจักรวรรดิมันตามมาด้วยแน่นอน 

       

[Prompto]- เดี๋ยวนะ แล้วทำไมอยู่ๆประตที่พวกจักรวรรดิมันปิดไว้ถึงเปิดได้ละ ?
[Ignis] – พวกมันคงไม่มาไขกุญแจเปิดประตูให้พวกเราหรอก มันเหมือนมันรอการมาของเรามากกว่า 
[Prompto]- ถ้าจะมีพวกจักรวรรดิซักคนมารอพวกเรา ชั้นพนันเลยว่าต้องเป็นไอ้หมอนั่นอีกแน่นอน 
[Ignis] – เอกอักคราชทูต Izunia .
[Noct] – ไม่เถียง ตราบใดที่มันเคยพาพวกเราเข้ามาครั้งนึงแล้ว ครั้งนี้ก็มันอีกแน่นอน 
[Ignis] – ว่าแต่ เขาจะปล่อยพวกเราให้ออกมารึเปล่านี่สิ อย่าลืมนะว่าตอนลุยเข้ามาตอนแรก แม่ทัพ Cor มากับเราด้วย  
[Prompto]- จริงด้วยแฮะ เออ ว่าแต่ตอนนี้เขาไปไหนเนี้ย รู้ป่ะ
[Ignis] – เท่าที่รู้ เขาน่าจะกำลังไปขอแรงพวก Hunter จัดการปัญหาบางอย่างที่เกี่ยวกับพวกมอนสเตอร์นี่แหละมั้ง 
[Noct] – ลุยไม่หยุดสมชื่อ จอมทัพอมตะ จริงๆแฮะ 




[Ignis] – พ้นอุโมงค์มาก็มาต้อนรับเลย เราต้องระวังตัวเป็น 2 เท่าด้วยนะ
[Noct] – อืมม รู้แล้ว ยิ่งไม่มี Gladiolus อยู่ด้วย ยิ่งไม่มีที่สำหรับความผิดพลาดเลย ! 




                                    เขตพื้นที่  THE VESPERPOOL


เมื่อผ่านเข้ามาในพื้นที่ Vesperpool ทางประตูด้านเหนือของเขต Cleigne ก็จะเริ่มพบทหารของจักรวรรดิลาดตะเวณตามทาง ลงไปจัดการให้หมด หลังจากขับรถต่อมาจนถึงตรงบึง Vesperpool Prompto ก็เกิดอยากได้โลเกชั่นในการถ่ายรูปขึ้นมาทันที ตอบตกลงแวะถ่ายรูปให้เขาหน่อยก็ดีเหมือนกัน



                                  Side Quest: Photo Op: Lakefront 






จากนั้นก็มุ่งไปที่จุดเป้าหมายของภารกิจหลัก Party of Three ทางเหนือของบึงก็จะพบกับ Ardyn รออยู่ที่นี่


 [Ardyn] – ท่านสุภาพบุรุษทั้งหลาย อะไรจะบังเอิญขนาดนั้น 
[Promto] – เฮ้อออ ก็บอกสิว่ายืนรออยู่ โธ่ !
[Ardyn] – แถวๆนี้มีเพื่อนๆทหารจักรวรรดิของผมไม่น้อยเลยนะ แต่ไม่ต้องกลัว ผมพูดให้แล้ว มาสิ ตามมา อย่าเดินช้านักละ ผมไม่อยากทิ้งให้หลงทาง และที่สำคัญที่สุด ดูจากตอนนี้ที่พวกคุณมีกันแค่ 3 คนก็แปลว่าพวกคุณพยายามหลีกเลี่ยงการต่อสู้ให้ได้มากที่สุดแน่นอนเลย ... โอ้ คงเป็นภารกิจที่เสี่ยงสินะ 
[Ignis]- เราไม่จำเป็นต้องบอกนายหรอก
[Ardyn] – ง้นก็บอกสิว่ามาทำอะไรกันที่นี่ คงไม่ใช่มาศึกษาเรื่องโบราณคดีใช้มั๊ย .. งั้นให้เดาคงเป็น มาหา Mythril ใช่ป่ะ ?
[Promto] – หมอนี่มันเดาทางเราออกหมดเลยจริงๆ
[Ardyn] – ก็ไม่ทั้งหมดหรอก แปบนะ ผมของเวลาแปบนึง
[Promto] – ขอเวลาทำอะไรอีกละ !
[Noct] – ใครจะไปรู้กับมันละ
 [Ardyn] – เอาละ ผมคุยกับคนของผมเคลียร์แล้ว เข้ามาได้เลย พวกทหารจะไม่ทำอะไรหรอกในฐานะแขกของผม แต่ทางเราก็ต้องให้คนของเราติดตามเข้าไปด้วยอ่ะนะ คิดซะว่าให้ไปเป็นคนคุ้มกับพวกคุณจากอันตรายก็แล้วกัน



[Aranea]- พวกนายเป็นเด็กใหม่ที่พวกเขาส่งมาฝึกพิเศษกับชั้นงั้นหรอ ? ปลอมตัวไม่เนียนเลยนะเจ้าชาย
--[ เลือก Remain Silent คือ ไม่ตอบอะไรเลย] --
 [Aranea]- เอาเถอะ ไม่พูดก็ช่วยไม่ได้นะเด็กใหม่ ไม่ใช่เรื่องที่ทหารรับจ้างอย่างชั้นจะยุ่งหรอกนะ ตามมาชั้นจะนำทางให้ ทำไงได้เขาจ้างให้ชั้นมาคุ้มกันพวกนาย เข้าไปข้างในนั้นก็ระวังตัวหน่อยละกัน 
[Ardyn] – ผมเชื่อว่าพวกคุณเป็นพลเมืองดีนะ ผู้การ Aranea Highwind ผมฝากเขาไว้กับคุณแล้วนะ


 *** ตอนนี้ Aranea จะเข้าร่วมปาร์ตี้แทน Gladio ชั่วคราว แต่จะไม่สามารถพาขึ้นรถหรือขี่โจโกโปะได้ หากอยากพาเธอทัวร์เก็เลเวลก็ควรพาออกไปทำก่อนที่จะเข้าไปใน ดันเจี้ยน Steyliff Grove *** 


                                              Steyliff Grove


                               (ดันเจี้ยนนี้เข้าได้เฉพาะตอนกลางคืนเท่านั้น)




[Ignis] – โบราณสถานใต้น้ำงั้นหรอ ? งดงามเกินคำบรรยายจริงๆ
[Prompto]- ดูข้างบนเพดานดิ ! นี่หมายความว่าเราอยู่ใต้น้ำจริงๆใช้ป่ะเนี้ย ? ว้าว ดูปลาพวกนั้นดิ
[Noct] – นี่มันสถานที่บ้าอะไรกันเนี้ย 
[Ignis] – เหมือนว่าเรากำลังอยู่ใต้น้ำมันจริงๆซะด้วย
[Prompto]- อ๊า ..ชั้นเริ่มหายใจลำบากแล้วละพวก 
[Noct] – หยั่งกับกำลังอยู่ในความฝันเลย
[Prompto]- Gladio ต้องคลั่งแน่ถ้ารู้ว่าพลาดอะไรไปอ่ะนะ  เอ่อ เราต้องไปทางนนี้กันจริงๆใช่มั๊ย ? คือเอ่อ ..พอเข้าในแถวๆนี้เริ่มใจคอไม่ดีเลยแฮะ บอกไม่ถูกว่าเพราะอะไร มันก็ไม่ชัวร์ 100 % หรอกนะ คือ ชั้นก็แค่ ...



[Ignis] – พวกจักรวรรดิมาค้นหาอะไรที่นี่กันแน่เนี้ย
[Aranea]-ตัวอย่างต้นแบบบางอย่าง และพวกเราก็กำลังแพร่พันธ์พวกมัน 
[Prompto]-ตัวอย่างต้นแบบ ? มันคืออะไรหรอ 
[Aranea]- พวก Daemons ไง 
[Prompto]- เรื่องทั้งหมดนี่ เรากำลังพูดเรื่องพวกจักรวรรกับพวก Daemons งั้นหรอ ?
[Aranea]- แล้วนายคิดว่าไงละ ?
[Prompto]- เยี่ยม ชั้นละชอบเล่นเกมส์ตอบคำถามกันแบบนี้จริงๆ   
 [Aranea]- หมดเวลา ! … พวกจักรวรรดิกำลังสร้างอาวุธด้วยตัวเองไง 
[Prompto]- พวก Daemons หรอ ??
[Aranea]- ใช่ ! และชั้นก็มั่นใจว่าอีกไม่นานพวกนายก็ต้องเจอกับพวกมันแน่นอน ถึงพวกมันจะยังไม่สมบูรณ์นักก็เถอะ แต่ถึงตอนนั้นชั้นคงไปไกลแล้วละ
[Prompto]- จริงอ่ะ ? แล้วถ้าออกจากพวกจักรวรรดิไปแล้วเธอมีแผนจะทำอะไรต่อละ ? 
[Aranea]- ก็ทุกอย่างที่ชั้นอยากทำนั่นแหละ ชั้นเป็นทหารรับจ้างนะ ก็อาจจะลองไปรับจ้างล่ามอนสเตอร์แถวๆนี้ดูก็ได้ 
[Ignis]- แล้วถ้าคำตอบของทหารจักรวรรดิคือไม่ให้คุณออกละ มันไม่ตามเล่นงานคุณหรอ?
[Aranea]- เรื่องนั้นไม่ต้องห่วงหรอกท่านจักรพรรดิกับผ.บ สูงสุดคนใหม่เป็นคนให้สัญญากับชั้นไว้แล้ว 




[Prompto]- นี่มันสะพานงั้นหรอ เอาละเมื่อถึงสะพานก็คงต้องข้ามนี่นะ
[Noct] – มีอะไรหรอ ?
[Prompto]- เปล่าๆ ชั้นก็แค่อยากให้มันจบๆซักที ใจคอไม่ค่อยดีวะเพื่อน ..เอ่อ ไอ้ตัวใหญ่ดูดุๆนั่น ใช่ที่ชั้นคิดป่ะวะ 



                                                      Boss Quetzalcoatl LV32

หลังจากจัดการ มังกร Quetzalcoatl ได้แล้วก็เข้าด้านในสุดทางเดินเพื่อเก็บ Mythril Ore คียไอเทมที่ต้องการไปใช้ซ่อมเรือได้เลย



[Ignis] – งั้นธุระของพวกเราก็คงจบตรงนี้สินะ
[Prompto]-เออ นี่ ท่านผู้การ
[Aranea]- เรียกชั้น Aranea เถอะ
[Prompto]- เธอบอกว่าพวกจักรวรรดิจะใช้ Daemons ที่พวกมันสร้างขึ้นมาใช้เป็นอาวุธงั้นหรอ ?    
[Aranea]- ฟังนะ นายเคยเห็นทหารจักรกล magitek Troopers แล้วใช่มั๊ย ? 
 [Noct] – MTs น่ะหรอ?
[Aranea]- พวกมันเกิดจากพันธุกรรมของ Daemons ที่สร้างขึ้นในห้องทดลอง ยุคมืดกำลังจะมาถึงแล้ว ถ้าชั้นเป็นคุณก็คงต้องระวังก้นของเจ้าชายให้ดีเลยละ ไม่สิ ต้องก้นกษัตริย์สินะ

หลังจบเหตุการณ์ ถ้าเก็บของทุกอย่างที่ต้องการในดันเจี้ยนนี้จนพอใจแล้วก็เลือกวาร์ปกลับไปที่ทางเข้าได้เลย ออกมาแล้วก็เข้าไปหา Aranea ที่รออยู่หน้าดันเจี้ยน


[Aranea]-ยินดีด้วย การฝึกของพวกนายจบลงแล้ว เส้นทางที่พวกนายจะต้องเดินต่อไปข้างหน้ายังต้องเจอสิ่งท้าทายอีกมากมาย และไม่ว่ามันจะยากเย็นแสนเข็ญยังไงก็อย่าให้ใครมาบอกว่าเราควรต้องเดินยังไงนะ 



[Ignis] – ถึงแม้คุณจะถูกจ้างมา ไม่ว่าจะโดยตั้งใจหรือไม่ก็เถอะ แต่การช่วยเหลือของคุณก็มีค่าแบบหาค่ามิได้สำหรับพวกเรามากเช่นกันครับ
[Aranea]- อืมม บอกชั้นหน่อยสิ คือชั้นไม่รู้ว่า พวกคุณจะยกโทษให้มุขตลกแย่ๆที่ชั้นหยอกล้อไปตลอดทางได้รึเปล่า 
[Ignis] – หึๆ เดินทางปลอดภัยก็แล้วกันนะ Aranea
[Aranea]- อืมม ได้ ขอบคุณนะ จะพยายามก็แล้วกัน เอาไว้ชั้นจะช่วยเทรนให้พวกคุณอีกทีแล้วกันถ้าเราเจอกันระหว่างทางอ่ะนะ อ่อ ก่อนที่ชั้นจะลืม ท่านฑูตบอกให้ชั้นไปส่งพวกนายถึงที่ด้วย ถ้าพวกนายพร้อมจะกลับก็ไปหาชั้นตรงจุดจอดยานแล้วกันนะ 

[Ignis] – เออ Noct .. Cindy บอกชั้นอย่างนึง เธอบอกว่าเราควรจะกลับไปที่เมือง Lestallum เห็นว่าเพื่อนของเธอที่เป็นเอ็นจิเนียในโรงไฟฟ้าน่าจะช่วยปรับแต่ง Mythril 
[Prompto]- อ่าห๊ะ นั่นก็แปลว่าจะช่วยให้เรือเราใช้งานได้เร็วขึ้นด้วย 
[Ignis] – เอาเป็นว่า ถ้านายพักผ่อนและทำทุกอย่างจนพอใจแล้ว เราก็ค่อยไป Lestallum ก็แล้วกัน  .....



การเข้าไปคุยกับ Aranea ที่จุดของภารกิจตรงจุดจอดยานหน้าดันจี้ยนนั้น จะออกเดินทางไปที่เมือง Lestallum และเท่ากับต้องการจบบทที่ 7 นี้ แต่ก่อนจะจบบทควรทำ Side Quest ที่อยู่ที่นี่ให้หมดเสียก่อน


       Side Quest ที่สามารถทำได้ในเขต The Vesperpool






                                         Side Quest Mountain of Misfortune

จุดแรกที่ใกล้กับภารกิจหลักคือ ภารกิจตามเก็บ Dog Tag ของ Hunter มาให้ Dave ซึ่งจุดตกของ Dog Tag จะอยู่ทางเหนือของบึง The Vesperpool ใกล้ๆกับจุดภารกิจหลัก



      เก็บได้แล้วก็รอออกจากพื้นที่นี้เมื่อไหร่ก็ค่อยเอาไปให้ Dave เพื่อรับรางวัลในภายหลัง




                                    Side Quest: The Ever Valorous Regalia

ภารกิจตามเก็บไอเทมแต่งรถของ Cindy ซึ่งจุดตกของ Supercharger ที่เธอต้องการจะอยู่บริเวณด้านหน้าทางเข้าป่า The Myrlwood



ตรงบริเวณจุดตกของไอเทมนั้นจะมีฝูง Cockatrice อยู่เข้าไปจัดการมันให้หมดแล้วเก็บ Supercharger ที่ซากรถมา ที่เหลือก็รอออกจากพื้นที่นี้เมื่อไหร่ก็ค่อยเอาไปให้ Cindy ที่ Hammerhead เพื่อรับรางวัลในภายหลัง


                                               ป่า The Myrlwood




                                                 

ในป่า The Myrlwood ที่อยู่ทางซ้ายของพื้นที่นั้นจะมี Side Quest รวมกันอยู่ถึง 3 เควสในที่เดียว เริ่มจาก



                                           1. Side Quest: No Pain, No Gem 

ภารกิจการหา Ruby Stone ไปให้ Dino ที่ค้างคาเอาไว้ตั้งแต่บทที่แล้วเพราะยังไม่สามารถเข้ามาที่ป่า The Myrlwood พื้นที่ที่มีไอเทมที่ต้องการได้ ซึ่งคียไอเทมเป้าหมายที่ Dino เขาต้องการจะอยู่ภายในวงกลมสีฟ้าภายในพื้นที่ช่วงแรกของป่า Myrlwood



 จุดเก็บไอเทมจะอยู่ทางฝั่งซ้ายล่างใกล้ๆกับทางเข้า (ตามรูป) เก็บมาแล้วก็รอออกจากพื้นที่นี้เมื่อไหร่ก็ค่อยเอาไปให้ Dino เพื่อรับรางวัลที่รีสอร์ท Galdin Quay ในภายหลัง



                          2.Side Quest: The Professor’s Protégé – Myrlwood Firefly  

ภารกิจการหาหิ่งห้อย Myrlwood Firefly ไปให้ Sonia ซึ่งคียไอเทมที่เธอต้องการจะอยู่ช่วงกลางของป่า Myrlwood ผ่านที่ตั้งแคมป์ Pectriche Haven มาด้านในซ้ายสุด



 เข้ามาก็จะเห็นจุดที่มี Myrlwood Firefly กระพริบอยู่ในพื้นที่ใกล้ๆกัน 3 จุด เข้าไปเก็บมาให้หมดแล้วค่อยรอเอาไปรับรางวัลจาก Sonia ในภายหลัง




                                           3. Side Quest: The Myrlwood

ภารกิจสำรวจป่า Myrlwood นั้นมอนสเตอร์เป้าหมายก็คือ Boss Treant LV38 ซึ่งจะอยู่ตรงพื้นที่ในการเก็บหิ่งห้อย Myrlwood Firefly ให้ Sonia


หลังจัดการมันได้แล้วก็เข้าด้านในพื้นที่จนสุดก็จะพบกับ Royal Tomb – Tomb of the Rogue ซ่อนอยู่ด้านในสุดของพื้นที่ป่า The Myrlwood

      


                เข้าไปด้านในก็จะได้ Royal Arm - Star of the Rogue มาครอบครอง




A queen spurred this public eye and took to the shadows. This was her shuriken. From near and far, it traces deadly arcs to the left and right.





อาวุธลับของราชินีที่เร้นในวรกาย ซ่อนจากสายตาผู้คนรอบกาย 4 คมแฉกที่กุมความเป็นตาย พุ่งตรง วนเวียน ซ้าย ขวา ไกล ใกล้ ไม่ให้รู้ที่มาแต่พร้อมปลิดชีพดับชีวาศัตรูภายในพริบตาก่อนจะรู้ตัว ขออัญเชิญ 4 คมแฉกทรงดารา ศาตราแห่งราชินี Star of the Rogue 



Star of the Rogue
Attack 177
Critical 2
Fire Resist +20
Ice Resist +20
Lightning Resist +20



เมื่อทำทุกอย่างจนหมดแล้ว ก็เข้าไปคุยกับ Aranea ตรงจุดจอดยานหน้าดันจี้ยน Steyliff Grove เพื่อออกเดินทางกลับไปที่เมือง Lestallum ได้เลย ......




--------------------------------------- END OF CHAPTER ----------------------------------------------



                       CHAPTER 8: Seaworthy 



ในขณะที่กลุ่มของ Noct กำลังรีบเข้าไปหาแร่ Mythril ในโบราณสถาน Steyliff Grove จนได้มาสำเร็จจากการช่วยเหลือของ Aranea Highwind นายพลประจำกองเรือรบของจักรวรรดิ Nifheim ได้ไม่นาน จู่ๆ Cindy ที่เพิ่งได้รับแจ้งข่าวขอความช่วยเหลือจากป้า Holly เอนจิเนียของเมือง Lestallum เพื่อนของเธอว่า มีกลุ่ม Daemon ได้บุกเข้ามาในโรงไฟฟ้าหลักของเมืองจนไฟฟ้าไม่ทำงานจนทำให้เมืองทั้งเมืองต้องอยู่ในความมืดมิด ทำให้ Cindy ต้องส่งข่าวไปยัง Ignis เพื่อขอความช่วยเหลือ โดยมี Aranea อาสาที่จะขับยานมาส่งให้ถึงที่ตามคำสั่งที่ได้รับมา ...    


                                           เมือง Lestallum 



[Araea]-  ตื่นแต่เช้าอย่างสุดใสหน่อย เจ้าชายรูปหล่อ เราถึงแล้ว ดูเหมือนต้นตอของปัญหาจะอยู่ที่โรงไฟฟ้าของเมืองนะ จริงๆก็อยากช่วยอ่ะนะ แต่ตอนนี้หมดแรงไม่มีแรงทำไรเลยจริง แล้วชั้นก็ได้รับคำสั่งให้มาส่งพวกนายอย่างเดียวด้วยสิ โชคดีนะ หนุ่มๆ 






                         Main Mission: A Precious source of Power 



                                   EXINERIS Power Plant






[Prompto]- ว้าววว ชุดน่ารักอ่ะ Noct
[Noct] – งั้นนายลองมาใส่ดูบ้างมั๊ยละ !
[Ignis]- ถ้าจะมีใครซักคนเข้าไปซัดกับพวก Daemon ในนั้นก็คงจะเป็นนายนั่นแหละ เหมาะสมที่สดแล้ว

[Holly] - เทสๆ ได้ยินเสียงชั้นแล้วนะ ก่อนอื่นขอบคุณมากที่มาช่วยจัดการมอนสเตอร์ให้ เสร็จแล้วชั้นจะได้มีเวลาสกัดแร่ Mythril ให้พวกเธอด้วย แล้วก็มี Hunter คนนึงเขาอาสามาช่วยด้วย เขาล่วงหน้าไปรอเธออยู่ที่ด้านในแล้วละ ชั้นเดาว่าพวกมันคงมีมากเกินกว่าที่คนเดียวจะรับมือไหวอ่ะ แต่เธอ 2 คนช่วยกันน่าจะพอไหวแน่นอน ที่ต้องทำก็คือ เข้าไปปรับเจนเนอ์เรเตอร์ด้านในให้มันคงที่ ขืนปล่อยให้มันทำงานเกิดพิกัดได้ระเบิดตายกันทั้งเมืองแน่เลย รีบหน่อยก็แล้วกัน !

-จากนั้น Noct ต้องเข้าไปในโรงไฟฟ้าที่กำลังร้อนจัดเพื่อกำจัดพวก Daemon จำนวนมากที่เข้ามาป่วนที่นี่ โดยต้องจัดการศัตรูที่ออกมาให้หมด 2 ชุดภายในเวลาที่กำหนดแล้วกลับออกจากที่นี่ได้เลย


[Holly] – ทำงานได้ดีมาก เอานี่ที่สัญญาไว้ แร่ Mythril ที่ชั้นสกัดให้แล้ว สำหรับพวกนายแล้วก็ขอบคุณนะที่อุตสาห์แวะเข้ามาช่วย




[Prompto]- เฮ้ ดูสิ พี่เบิ้มกลับมาแล้ว ฮ่าๆ
[Ignis] – นี่ไง ฮันเตอร์ที่ล่วงหน้าไปก่อน
[Gladio] - หนึ่งเดียวคนนี้นี่แหละ ฮ่าๆ ไงเป็นไงบ้างตอนชั้นไม่อยู่
[Prompto]- ก็ไม่เลวร้ายอะไรนี่ เพราะมีใครบางคนมาช่วยแทนที่นายไง
[Gladio] – จะใครที่ไหนก็ช่างเถอะ ตอนนี้ชั้นกลับมาแล้ว แถมเจ๋งกว่าเก่าด้วยนะ



[Iris] – เฮ้ Noct ..Gladdy ไม่น่าเชื่อเลย ฮ่าๆ
[Gladio] – ขอบคุณที่ช่วยดูแลเธอให้นะ Dustin
[Iris] – นี่ Gladdy พี่จะยอมขอโทษ Noct เค้ามั๊ยเนี้ยที่ทำให้เขาต้องเจอศึกหนักขนาดนี้อ่ะ 
[Noct] – ก็เขานั่นแหละที่ช่วยชั้นสู้ในนั้นเมื่อกี้ 
[Iris] – ในโรงไฟฟ้าอ่ะหรอ งั้นก็แสดงว่าพวกนายได้ แร่ Mythril มาอยู่ในมือแล้วละสิ เยี่ยมเลยชั้นจะได้เอามันไปให้ Cid ... อ่อ บางทีพวกนายอาจจะอยากพักผ่อน อาบน้ำอาบท่ากันก่อน งั้นมาเจอชั้นที่แหลม Cape Caem เมื่อพวกนายพร้อมก็แล้วกันนะ 


จากนั้น ตามไปคุยกับ Iris ที่จุด S แถวๆจุดชมวิวหน้าเมือง เธอมีบางอย่างจะให้ Noct …



[Iris] – นายจำที่ชั้นซื้ออะไรบางอย่างที่ร้านค้าเมื่อตอนที่เราไปเดินเล่นกันได้มั๊ย ?
[Noct] - … อ่า มั้งนะ 
[Iris] – อะ นี่สำหรับนาย 
[Noct] – มะ มันคืออะไรเนี้ย ?



[Iris] – ก็นายต้องออกไปเจออันตรายทุกๆวัน ชั้นก็เลยอยากให้นายมีหลักประกันความปลอดภัยให้ตัวเองบ้าง มันคือ Lucky Charm เป็นเครื่องรางแห่งความโชคดี จะเรียกว่า Moogle ก็ได้นะ เอามันพกติดตัวพวกนายทุกคนเลยนะ รับรองเวลาเจอเรื่องขับขันมันช่วยนายได้แน่นอน แต่ถ้ามันพังชั้นจะจัดการซ่อมให้เอง เอาละ แล้วเจอกันที่ Cape Caem นะ



ไอเทม Moogle Plushie ก็คือไอเทมสำหรับล่อศัตรูให้โจมตีเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจ ใช้งานโดยการกด R2 แล้วเลื่อนสลับจากเมนูไอเทมโดยใช้ปุ่มทิศทาง

                       

                     Hunts Quest ที่ร้านอาหารในเมือง Lestallum




1.Hunts Quest – Help Needed in EXINERIS
ระดับความยาก – LV24
เป้าหมาย – กำจัด Garchimacera 8 ตัว
ถิ่นที่อยู่ – EXINERIS Power Plant
ช่วงเวลา –กลางคืน
Star – 2 ดาว (ครบดาวได้เพิ่ม Rank นักล่า)
ค่าหัว – 35,40 Gil
รางวัลนำจับ – Megalixir



2. Hunts Quest – In a Heat Haze of Glory 
ระดับความยาก – LV52
เป้าหมาย – กำจัด Aramusha 1 ตัว
ถิ่นที่อยู่ – EXINERIS Power Plant
ช่วงเวลา –กลางคืน
Star – 4 ดาว (ครบดาวได้เพิ่ม Rank นักล่า)
ค่าหัว – 14,490 Gil
รางวัลนำจับ – Silver Bangie


                                  Side Quest ในเมือง Lestallum 




                    Side Quest ของป้า Holly หัวหน้าผู้ดูแลโรงไฟฟ้า


1.Side Quest : Steam Valve Inspection
รางวัล Exp 2000 / เงิน 2500 Gill

เข้าไปคุยกับป้า Holly ที่หน้าโรงไฟฟ้า เธอจะขอแรงให้ไปตรวจเช็ควาล์วพลังงานที่อยู่ทั่วเมืองให้หน่อยเนื่องจากเธอปวดหลัง


 จากนั้นก็สำรวจในเมืองให้ทั่วๆภายในเขตวงกลมสีฟ้า มองหาวาล์วสีฟ้าที่อยู่ในเขตวงกลมแล้วเข้าไปสำรวจตรวจเช็คให้หมดให้ครบ 8 อัน แล้วก็กลับมารับรางวัลกับป้า Holly ได้เลย


2. Side Quest: Power to the Pylons 
รางวัล Exp 3000 / เงิน 5000 Gill

เข้าไปคุยกับป้า Holly ที่หน้าโรงไฟฟ้าครั้งนี้เธอจะให้ไปช่วยตรวจเช็คเสาเคเบิ้ลของรถกระเช้าไฟฟ้าตามจุดต่างๆรอบๆพื้นที่นอกเมือง 3 จุด ซึ่งจะประกอบด้วยเควสย่อยอีก 3 เควสให้ทำ



- Power to the Pylons I เสาต้นแรกจะอยู่ทางฝั่งซ้ายของเมือง ปีนขึ้นไปบนเสาเคเบิ้ลแล้วทำการซ่อมแซมรถกระเช้าไฟฟ้าที่ติดค้างอยู่
- Power to the Pylons II เสาต้นที่ 2 แถวๆเมือง Old Lestallum เข้าไปในพื้นที่วงกลมสีฟ้าแล้วมองหาเสาที่มีรถกระเช้าค้างอยู่แล้วจัดการปีนขึ้นไปซ่อม
- Power to the Pylons III เสาต้นที่ 3 ทางซ้ายจากจุดเสาที่ 2 ใกล้ๆกับจุดตั้งแคมป์ Dainse Haven เข้าไปในพื้นที่วงกลมสีฟ้าแล้วมองหาเสาที่มีรถกระเช้าค้างอยู่ จากนั้นก็ปีนขึ้นไปซ่อมมันซะ
ซ่อมหมดทั้ง 3 จุดแล้วก็กลับไปรับรางวัลกับป้า Holly ได้เลย

3. Side Quest: Holding back the Dark 
รางวัล Exp 4,000 / เงิน 10,000 Gill

เข้าไปคุยกับป้า Holly ที่หน้าโรงไฟฟ้า เธอต้องการให้เดินทางไปตรวจสอบเครื่องกำเนิดไฟฟ้าตาม Outpost ต่างๆให้หน่อย จากนั้นก็ออกเดินทางไปตามจุดภารกิจตาม Outpost ต่างๆเพื่อตรวจเช็คจุดให้แสงสว่างของเมือง



-ที่ Burbost Souvernir Emporium 
-ที่ Coernix Station – Couthess
ทั้ง 2 ที่เสาไฟฟ้าส่องสว่างเป็นปกติดีจนมาถึงที่สุดท้าย
-ที่ Cauthess Rest Area ต้องเจอกับพวกมอนสเตอร์เข้ามาลอบโจมตี จัดการให้หมดแล้วตรวจเช็คจุดสุดท้ายให้เรียบร้อยแล้วก็กลับไปรับรางวัลกับป้า Holly ได้เลย


Holly ได้บอกความในใจหลังจากช่วยงานของเธอว่า แม้เธอจะสุขภาพไม่ดีนักแต่ก็อยากช่วยเหลือผู้คนเพราะในอดีตเธอได้สูญเสียเพื่อนรักไปเพราะถูกพวก Daemon ฆ่าตายอย่างเหี้ยมโหด เธอจึงตั้งใจที่จะออกช่วยเหลือผู้คนจากพวก Daemon ด้วยการออกติดตั้งไฟฟ้าตามหัวเมืองและจุดพักแรมต่างๆให้ส่องสว่างเพื่อเป็นปกป้องผู้คนจากพวก Daemon ที่จะออกมาในยามค่ำคืน แม้เสียอดีตไปแต่เธอไม่ยอมเสียแนวทางและความตั้งใจของตัวเอง I Lost my Past but I Never Lost My Way 



                            Side Quest: A Need for Noodles 


เข้ามาที่จุดตัว S ที่บริเวณถนนหน้ารถขาย Cup Noodle Gladio จะเริ่มอยากกิน Cup Noodle ของโปรดขึ้นมาจึงชวนเพื่อนๆแวะกินที่รถขายก็จะเป็นการเริ่มเควสโปรโมท Cup Noodle ของ Gladio ไปในทันที


[Gladio] – เฮ้ พวกนายว่าเราควรจะแวะเข้าซัด Cup Noodle ที่รถขายกันซักหน่อยดีมั๊ย ?
[Prompto] – ชั้นเองก็ชอบกินนะ Cup Noodle เนี้ยคงไม่มากเท่ากับพี่เบิ้มของเราแน่นอน 
[Gladio] – ก็มันไม่มีเหมือนอาหารอื่นนี่ มันทำง่ายรวดเร็วทุกครั้งที่หิวแถมยังอร่อยด้วยนะ ชั้นยังจำได้ดีตอนที่กินมันครั้งแรกเลยละ
[Prompto] – มันอร่อยจนทำให้ตายสว่างจนลืมดินเนอร์มื้อที่กินก่อนหน้านี้เลยรึไง 

[Gladio] – ชั้นมีบางอย่างเพิ่งนึกได้ ชั้นน่ะชอบทำอะไรในแบบที่เป็นตัวของตัวเองตลอด แม้แต่อาหารอ่ะนะ เรื่องรสชาติต้องมาก่อน และรสชาติจะดีได้มันก็ต้องเริ่มจากวัตถุดิบและส่วนผสมนายว่ามั๊ย ? ถ้าสมมุติว่านายอยากจะทำ Cup Noodle กิน ที่ใส่วัตถุดิบแบบใหม่ๆไม่ซ้ำใคร นายอยากได้แบบไหนที่ถ้าได้กินไปแล้วจะโคตรอร่อยถึงใจสำหรับนายมากๆอ่ะ ตกลงนายชอบกิน Cup Noodle ที่ใส่ส่วนผสมของอะไร ?  ระหว่าง เนื้อ ไข่ หรือ กุ้ง 



 Noct สามารถเลือกได้ 3 อย่างคือ 
-ไข่ (Egg) 
-เนื้อสัตว์ (Meat) 
-กุ้ง (Shrimp)] 

(ผมเลือกเนื้อ) 

[Gladio] – นั่นแหละที่ชั้นกำลังจะพูดถึง เนื้อสับละเอียด คือกุญแจของ Cup Noodle เลยละ งั้นจะรออะไรอีกละ ออกไปข้างนอกกันไปหาวัตถุดิบกัน หาเนื้อที่ดีเลิศของจริง ที่สามารถใช้ทำ Cup Noodle ให้อร่อยอย่างสมบูรณ์แบบในแบบของเราเองได้จริงๆ 
[Noct] – เออๆ เอาไงก็ว่าตามนายแล้วกัน  


                               Side Quest: The Perfect Cup


ภารกิจต่อเนื่องที่ Noct ต้องออกไปล่าตามวัตถุดิบที่เลือกเอาไว้เพื่อเอามาทำเป็นส่วนผสมของ Cup Noodle

1. ถ้าเลือก เนื้อ ภารกิจเป้าหมายก็จะได้เดินทางไปที่จุดหมายของภารกิจที่ทางใต้ของ Prairie Outpost ในเขต Leide และต้องเจอกับ Boss Rogue Behemoth จัดการมันได้ก็จะได้เนื้อของ เบฮีมอธ มา
2. ถ้าเลือก ไข่ ภารกิจเป้าหมายก็จะได้เดินทางไปที่จุดหมายของภารกิจที่ภูเขา Rock of Ravatogh เป้าหมายคือเข้าไปเก็บไข่ Glimmering Egg ที่ลานกว้างขนาดใหญ่ที่เป็นรังนกยักษ์บนยอดภูเขา
3. ถ้าเลือก ไข่ ภารกิจเป้าหมายก็จะได้เดินทางไปที่จุดหมายของภารกิจที่ริมชาดหาดใกล้ๆกับ Cape Caem ในเขต Cleigne เพื่อเข้าไปสู้กับ Boss Karlabos. จะได้วัตถุดิบ Karlabos Carapace มา

                                        Cup Noodle หน้าเนิ้อเบฮีมอธ 


ไม่ว่าจะเลือกวัตถุดิบแบบไหน เมื่อได้มาแล้วก็เข้าไปที่ที่จุดตั้งแคมป์เพื่อทำ Cup Noodle ในแบบฉบับที่คุณเลือกเอาไว้แน่นอน



[Gladio] – พวกนายรู้อะไรมั๊ย ? เรากว่าจะได้วัตถุดิบมาแต่ละอย่างไม่ใช่ง่ายๆเลยนะ มันทำให้ Cup Noodle ออกมาถูกใจชั้นมากๆ  
[Ignis] – บางที ไม่แน่เราอาจจะปรับปรุงสูตรและรถชาติให้มันสมบูรณ์แบบขึ้นอีกก็ได้นะ 
[Gladio] – สรุปแล้วมันไม่เกี่ยวเลยว่าจะเราจะเลือกใช้ส่วนผสมไหนถึงจะดีที่สุด จริงๆแล้วทั้ง เนื้อ ไข่ หรือ กุ้ง ก็มีรสชาติที่กลมกลืนแตกต่างกันไปตามความอร่อยที่เป็นแบบฉบับของตัวเอง นั่นแหละเคล็ดลับความอร่อยอยู่ที่ความเข้ากันได้นั่นเอง
[Prompto] – ใช่ นายพูดถูก อย่างน้อยมันก็ทำให้นายรู้คุณค่าในความอร่อยของ Cup Noodle ในแบบของมันเองจริงๆซะที  



หลังจาก Gladio กลับมาร่วมทีมและหลังจากเคลียร์ Tomb of the Rogue แล้ว เข้าไปค้างแรมที่จุดตั้งแคมป์ Capatis Haven ในเขต The Vesperpool ในคืนนั้น Gladio จะชวน Noct ออกไปตกปลาในตำนานกัน



[Gladio] – เฮ้ Noct พรุ่งนี้เราจะไปตกปลากันหน่อยมั๊ย นายจะว่าไง
[Noct] – ทำไมอยู่ก็คิดจะชวนละ?
[Gladio] – ก็เราอยู่กันที่บึง The Vesperpool ไม่ใช่หรอ ที่นี่มันถิ่นของ เจ้าแห่งทะเลสาบเลยนะ 
[Noct] – เจ้าแห่งอะไรนะ ? ไหนเล่าให้ฟังหน่อยสิ
[Gladio] – เจ้าปลายักษ์ ที่ไม่เคยมีใครตกมันได้เลยยังไงละ 
[Noct] – เข้าใจเล่นมุขมายั่วชั้นนะ 
[Gladio] – แต่นายควรจะลองนะ ไอ้เจ้านี่มันตำนานของจริงเลยละ ว่าไง จะลองไปเย่อกับมันหน่อยมั๊ยละ
[Noct] – Sure ! ทำไมจะไม่ละ เอาสิ เป็นเจ้าก็ต้องจับปลาเจ้าสิ ชั้นพูดถูกมั๊ย ?
 [Gladio] – ฮะ เออ รู้แล้วละ .. เตรียมเหยื่อได้เลย
[Noct] – ทำไม ? นายจะไปตอนนี้เลยหรอ ?
[Gladio] – ใช่ ตอนนี้เลย โทษที ชั้นนอนพอแล้ว และอีกอย่างไอ้ปลานั่นมันจะออกมาตอนตอนหัวค่ำเท่านั้นซะด้วยสิ 
[Noct] – หัวค่ำเท่านั้นงั้นหรอ  เอาละ เพื่อปลาล้ำค่าตัวนั้น ไปกัน 


                                  Side Quest: Liege of the Lake



เข้าไปที่จุดตกปลาใกล้ๆร้าน Bert's Bobbers 'n' Stuff ฝั่งตรงข้ามของที่ตั้งแคมป์ Capatis Haven เป้าหมายคือ ปลา Noble Arapaima เหยื่อที่ใช้ ควรใช้ Lure Tidal Might Levathan หรือ Lure Giant Needle 10,000 Gold Gigantuar



 ปลา Noble Arapaima นั้นมีขนาดใหญ่ที่ทั้งอึดและแรงต้านเยอะมาก จังหวะที่จะสาวเบ็ดได้นั้นจะมีเพียงตอนที่มันนิ่งที่สุดไม่กี่นาทีเท่านั้นเอง



[Gladio] – เราทำได้แล้ว Noct !
[Noct] – ฮ่าๆๆ โห มันสัตว์ประหลาดชัดๆเลย 
[Gladio] – เดี๋ยวๆ เหมือนมีอะไรบางอย่างติดมากับมันด้วยนะ 
[Noct] – อะไรเนี้ย เหมือนจะเป็น Lure อะไรซักอย่าง
[Gladio] – คิดซะว่ามันเป็นถ้วยรางวัลก็แล้วกัน สำหรับชัยชนะอีก 1 ครั้งจากหลายๆที่เคยสู้มาอ่ะนะ
[Noct] – Lure นี่รูปร่างดีนะ เราเก็บมันไว้ใช้ได้เลย 
[Gladio] – ดี แต่แค่ตัวนี้ยังไม่พอคงต้องขอตกเพิ่ม ลอง Lure ใหม่ตัวต่อไปเพื่อความมันส์เท่านั้นก็พอ นายนี่มันไอ้ตัวร้ายเลยรู้มั๊ย
[Noct] – เออ รู้สิ ช่วยไม่ได้ ก็คนมันเจ๋งนี่หว่า


เมื่อตกได้จะได้รางวัลคือ Lure Big Blaze Bahamut ที่ติดมากับปลา Lure สุดยอดที่ไม่มีวันหายและตกได้กับปลาทุกชนิด มาครอบครอง


 ถ้าใน Side Quest: The Perfect Cup คุณเลือกเมนู เนื้อ ก็จะได้มาล่า Rogue Behemoth ในพื้นที่เป้าหมายตรงบริเวณทิศใต้ของ Prairie Outpost ในเขต Leide ซึ่งระหว่างกำลังเข้าไปยังจุดหมายภารกิจ 



พวกของ Noct ก็สังเกตยานเหาะลำใหญ่ของพวกจักรวรรดิกำลังมาลงจอดที่ฐานของพวกจักรวรรดิในพื้นที่นี้พอดี ทำให้เกิด Side Quest: Formouth Garrison ซึ่งเป็นภารกิจบุกฐานของศัตรูเพิ่มขึ้นมาอีกภารกิจนึง

     

                                Side Quest: Formouth Garrison




[Gladio] – งานนี้ท่าจะมันแฮะ แผนว่าไง ?
[Ignis] – ถ้าจะต้องเผชิญหน้าก็ต้องเจอการต่อต้านที่รุนแรงแน่นอน ก็งต้องใช้การลอบเข้าไปด้านในเหมือนเดิม เราต้องเข้าไปในฐานมันโดยไม่ให้พวกมันรู้ตัว เต็มที่ก็ลอบจัดการพวกทหารไปทีละคนเท่าที่จำเป็น เพื่อให้ไปทำลายเป้าหมายตามเวลาที่เราพอจะมีอยู่คือก่อนถึงเช้าให้ทัน ..เอาละพร้องรึงยัง


                                        Formouth Garrison


ลอบเข้าไปด้านในฐาน โดยพยายามลอบฆ่าทหารจักรวรรดิเท่าที่พอทำได้โดยให้อย่าออกไปโดนแสงไฟของสปอตไลท์และสามารถเข้าไปจัดการทหารที่คุมไฟสปอตไลท์อยู่เพื่อปิดมันได้ด้วย เป้าหมายคือเข้าไปทำลายแกนพลังงาน Magitek Generator ที่อยู่กลางพื้นที่

หลังจากเข้าไปทำลาย Magitek Generator ท่ามกลางศัตรูทั้งทหารและหุ่นยนต์มากมายที่บุกเข้ามาจนหมด แต่แล้วก็ต้องเจอกับกองหนุนของศัตรูอีกชุดที่บุกเข้ามาล้อมโจมตีแบบเต็มน่านฟ้า


[Gladio] – ดูนั่น Noct บนฟ้าพวกมันแห่กันมาอีกเพียบ
[Loqi] – ไม่คิดว่าเราจะได้เจอกันอีกเร็วขนาดนี้นะฝ่าบาท
[Caligo] – แกโง่มากที่เสนอหน้าโผล่มาที่นี่อีก ยอมแพ้ซะ ถ้าไม่ เราจะทำให้แกยอมแพ้เอง 
[Gladio] – พวกนี้มันใครกันฟะ !
[Ignis] – Loqi กับ Caligo 2 ผู้บัญชาการณ์ของกองทัพจักรวรรดิ 
[Prompto] – Noct นี่เป็นโอกาสของเราที่จะทำแต้มกันหน่อยว่าป่ะ ?
[Noct] ได้ ! งั้นมาจัดการให้จบๆไปเลยดีกว่า 
[Caligo] –  จับเป็นเจ้าชาย นอกนั้นจัดการพวกที่เหลือให้หมด !!!



จากนั้นกำจัดศัตรูจำนวนมากทั้งพวก Magitek Imperial Trooper , หุ่น MA Hoplomachus , หุ่น MA Veles – Bis ที่ออกมาอย่างต่อเนื่องให้หมด

[Gladio] – อะไร หมดแล้วหรอ !! มาสู้ต่อสิ กำลังมันเลย !!
[Loqi] – มีความพยายามกันจังนะ ! เดี๋ยวจะเล่นให้หลับเลย แกบังทำให้ข้าต้องเสียเกรียติ คราวนี้ละถึงทีข้าเอาคืนบ้างละนะ !

จัดการหุ่น MA-X Cuirass LV51 และหุ่น MA-X Dux LV51อีก 2 ตัวที่ Loqi ส่งลงมาอีกรอบให้หมด

[Loqi] – เป็นไม่ได้ ทำไมพวกมันแข็งแกร่งขนาดนี้ !?
[Caligo] – บ้าเอ๊ย !! นึกไม่ถึงเลยว่าผลมันจะออกมาแบบนี้ !! 
[Ignis] – Noct ธุระของเราที่นี่จบแล้ว กลับกันเถอะ 


                          การเก็บ Machinery Weapon Drillbreaker




หลังจากจบภารกิจแล้วจะได้คีย์ไอเทม Strange Engine มา จากนั้นทุกคนจะออกมาที่หน้าฐานทันที แต่ก่อนจะไป กลับไปด้านในฐานอีกครั้งเพราะยังมีอาวุธ Machinery Weapon Drillbreaker ที่ซ่อนอยู่ที่ฐานนี้อีกอันที่ต้องเก็บ โดยตำแหน่งของ Drillbreaker จะตกอยู่ด้านบนขวาของแผนที่ (ดูตามแผนที่) 





และการ Upgrade Drillbreaker นั้นต้องการคีย์ไอเทม Magitek Core ในการอัพเกรด ซึ่ง Magitek Core นั้นจะดรอปจากหุ่น MA-X Dux ที่เพิ่งสู้ในฐานเมื่อกี้นี้นั่นเอง หลังจบภารกิจถ้าว่างก็แวะเอา Magitek Core ไปให้ Cid อัพเกรด Drillbreaker ให้กลายเป็น Drillbreaker II ได้เลย




   ----------------------------------------------------------------------------------------------------------


           Side Quest ค้างจากบทที่ 7 ที่ยังไม่ได้ขึ้นรางวัล



1.Side Quest: The Ever Valorous Regalia 
-นำเอาคีย์ไอเทม Supercharger ที่ Cindy ต้องการไปให้เธอที่ Hammerhead ซึ่งเมื่อติดตั้งแล้ว Supercharger จะทำให้รถวิ่งเร็วขึ้นเป็น 60 ก.ม / ช.ม เมื่อจบเควสนี้แล้ว Cindy จะให้ภารกิจใหม่มาอีก 1 อันให้ทำต่อ


                                 Side Quest : The Ever Illustionus Regalia 


ผู้ว่าจ้าง Cindy
EXP – 3000
รางวัล – Enhanced Headlight  

Cindy ต้องการให้ไปเอาไอเทม Enhanced Headlight ด้านในดันเจี้ยน Crestholm Channels ที่ Crown City มาให้เธอ


 เมื่อติดตั้ง Enhanced Headlight จะทำให้สามารถเดินทางโดยรถเวลากลางคืนได้โดยพวก daemon จะไม่โจมตีจนต้องหยุดรถอีกแล้ว



2.Side Quest Mountain of Misfortune 
-นำ Dog Tags ที่เก็บมาได้กลับไปคืนให้ Dave ที่ Meldacio Hunter HQ ก็เป็นอันจบภารกิจ


3. Side Quest: The Professor’s Protégé – Myrlwood Firefly  
-นำเอาหิ่งห้อย Myrlwood Firefly ที่ได้มากลับไปให้ Sonia ที่ Meldacio Hunter HQ ก็เป็นอันจบภารกิจ


4.Side Quest: No Pain, No Gem 
-เอา Ruby Stone ที่เก็บมาได้กลับไปให้ Dino ที่รีสอร์ท Galdin Quay เมื่อนำส่งของชิ้นแรกเสร็จแล้ว คุยกับ Dino เขาจะมีเควสย่อยงานต่อไปให้ทำต่อ


                                     Side Quest: A Treasure Beyond Measure

ผู้ว่าจ้าง Dino
EXP – 3000
รางวัล – Emerald Bracelet


-เดินทางมาที่หอคอย Costlemark Tower ลงไปที่จุดเป้าหมายสีฟ้าเก็บ Emerald Stone มา




      ----------------------------------------------------------------------------------------------------------

                     

                 Side Quest ที่สามารถทำได้ในบทที่ 8              



                  Hunts Quest ที่ร้านอาหารใน Meldacio Hunter HQ


1.Hunts Quest – Treat from the Thicket [Rank6]
ระดับความยาก – LV33
เป้าหมาย – กำจัด Killer wasp 7 ตัว
ถิ่นที่อยู่ – The Vesperpool
ช่วงเวลา –กลางวัน
Star – 3 ดาว (ครบดาวได้เพิ่ม Rank นักล่า)
ค่าหัว – 5,550 Gil
รางวัลนำจับ – Mega Phoenix

2.Hunts Quest – Sefty Now Mighty Foes [Rank6]
ระดับความยาก – LV35
เป้าหมาย – กำจัด Lich 3 ตัว
ถิ่นที่อยู่ – Steyliff Grove
ช่วงเวลา – กลางคืน
Star – 3 ดาว (ครบดาวได้เพิ่ม Rank นักล่า)
ค่าหัว – 6,060 Gil
รางวัลนำจับ – Mega Phoenix

3.Hunts Quest – Mission Invincible [Rank6]
ระดับความยาก – LV38
เป้าหมาย – กำจัด Black Flan 3 ตัว
ถิ่นที่อยู่ – The Vesperpool
ช่วงเวลา – กลางคืน
Star – 3 ดาว (ครบดาวได้เพิ่ม Rank นักล่า)
ค่าหัว – 7,020 Gil
รางวัลนำจับ – Mega Phoenix

4.Hunts Quest – Divine Beast of the Underworld [Rank6] 
ระดับความยาก – LV38
เป้าหมาย – กำจัด Quetzacoatl 1 ตัว
ถิ่นที่อยู่ – Steyliff Grove
ช่วงเวลา – กลางคืน
Star – 3 ดาว (ครบดาวได้เพิ่ม Rank นักล่า)
ค่าหัว – 7,110 Gil
รางวัลนำจับ – Mega Phoenix

5.Hunts Quest – Hunter HQ Line of Defense [Rank6] 
ระดับความยาก – LV42
เป้าหมาย – กำจัด Mushmahhu 3 ตัว และ Mushussu 3 ตัว
ถิ่นที่อยู่ – Risorath Basin
ช่วงเวลา – กลางวันและกลางคืน
Star – 3 ดาว (ครบดาวได้เพิ่ม Rank นักล่า)
ค่าหัว – 8,660 Gil
รางวัลนำจับ – Ice Crest

6.Hunts Quest –Lavable Little Gluttons [Rank6]
ระดับความยาก – LV44
เป้าหมาย – กำจัด Regaltrice 5 ตัว
ถิ่นที่อยู่ – The Vesperpool
ช่วงเวลา – กลางวัน
Star – 3 ดาว (ครบดาวได้เพิ่ม Rank นักล่า)
ค่าหัว – 8,980 Gil
รางวัลนำจับ – Mega Phoenix

7.Hunts Quest – Felling the mad Old Trees [Rank6]
ระดับความยาก – LV46
เป้าหมาย – กำจัด Treant 1 ตัว
ถิ่นที่อยู่ – The Vesperpool
ช่วงเวลา – กลางคืน
Star – 3 ดาว (ครบดาวได้เพิ่ม Rank นักล่า)
ค่าหัว – 9,980 Gil
รางวัลนำจับ – Mega Phoenix

8.Hunts Quest – Serpent of Risarath Basin [Rank7] 
ระดับความยาก – LV54
เป้าหมาย – กำจัด Midgardsorrmr 1 ตัว
ถิ่นที่อยู่ – The Vesperpool
ช่วงเวลา – กลางคืน
Star – 4 ดาว (ครบดาวได้เพิ่ม Rank นักล่า)
ค่าหัว – 15,690 Gil
รางวัลนำจับ – Mega Phoenix


    

                                Side Quest : Navyth’s Challenge 


ผู้ว่าจ้าง Navyth
EXP – 3000

รางวัล –  Invincible Iron Giant Lure 

เข้าไปหา Navyth ที่จุดตกปลา West Bank ในฝั่งตะวันตกของ the Vesperpool เขาจะท้าทายให้ Noct ไปหาปลาที่ต้องการมาคือ ปลา Vesper Gar 


โดยสามารถตกได้ที่จุดตกปลา East Bank ซึ่งอยู่อีกฝั่งของบึงนี้  Lure ที่เหมาะสมคือ Tidal Might Leviathan เมื่อตกมาได้แล้วหรือเคยตกมาได้แล้วตอนไปตกปลากับ Gladio ในเควสย่อย Liege of the Lake ก็สามารถเอามาให้ Navyth ได้เลย


                                   หลังจากจบเควสย่อย Navyth’s Challenge แล้ว





ทำการปลดล็อกจุดตกปลาให้ครบทั้ง 18 จุดแล้ว Navyth จะไปรออยู่ที่จุดปลาหน้ารีสอร์ท Galdin Quay เพื่อให้ภารกิจตกปลาสุดท้ายของเขา 



[Noct] – ผมมาตามที่คุณบอกแล้วไหนละเจ้าปลายักษ์อะไรของคุณน่ะ ?
[Navyth] – แค่มาถามหรอ หรือตั้งใจวางแผนมาตกมันจริงๆจังๆ 
[Noct] – ไม่รู้เหมือนกันนะ อาจจะทั้งสองอย่างนั่นแหละ
[Navyth] – ฮ่าๆๆ ชั้นละนับถือใจนายจริงๆเลยไอ้หนุ่ม แต่นายต้องรู้ไว้ก่อนนะว่าเจ้านี่มันไม่ใช่แค่ปลาธรรมดาเหมือนปลาทั่วๆไปนะ มันขนาดยักษ์ของแท้ที่ไม่เคยมีใครเคยเจอใหญ่ขนาดนี้มาก่อน ทุกคนที่นี่ไม่มีใครเลยที่จะไม่เคยได้ยินเรื่องเล่าขานของมัน และสำหรับนักตกปลาด้วยแล้วเจ้านี่เป็นความฝันที่ทุกคนอยากจะมาพิสูจน์ตัวเองด้วยการลองตกมันซักครั้งในชีวิตแต่ถึงวันนี้หลายๆคนยังเป็นเหมือนฝันลมๆแล้งๆอยู่เหมือนเดิม
[Noct] – เป็นฝันที่ไม่เคยเป็นจริงเลยหรอ ? ผมไม่คิดงั้นอ่ะ ผมลองดูดีกว่า 
[Navyth] – แน่นอนอยู่แล้วสำหรับนายอ่ะนะ ฮ่าๆ ขอให้โชคดีก็แล้วกัน 



                               Side Quest: Angler’s Nightmare 

ผู้ท้าทาย – Navyth
ปลาที่ต้องการ – ปลา Murk Grouper ขนาดใหญ่ฉายา Devil of the Cygillan  
EXP – 5,000
รางวัล – เบ็ดตกปลา Traquility 



จากนั้นเตรียมเบ็ด Lure และสายเบ็ดที่ดีที่สุดก่อนเข้าไปตกปลาที่ชายหาดหน้า รีสอร์ท Galdin Quay (ที่ตกได้คือใช้ Lure – Big Blaze Bahamut ) แล้วตกปลา Murk Grouper ขนาดใหญ่ขึ้นมาให้ได้ (จุดสีน้ำเงิน)


      


[Noct] – เป็นไง ผมจับได้แล้วนี่ไง ฮ่าๆ 
[Navyth] – ไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเองจริงๆที่วันนี้จะได้เห็นเจ้าปีศาจแห่ง ถูกลากจนต้องโจนขึ้นเหนือคลื่นแบบนี้ นายนี่มันเจ๋งจริงนี่หว่าไอ้หนุ่ม จริงๆชั้นเองก็ไม่ควรเรียกนายว่าไอ้หนุ่มอีกแล้วด้วยสิ จะว่าไปแล้วชั้นยังไม่รู้แล้วว่านายชื่ออะไร ?
[Noct] – เอ่อ .. Gar … Noct Gar 



[Navyth] – เอาละ Noct Gar บัดนี้ชื่อเสียงของนายจะไม่ใช่เป็นแค่ประวัติศาสตร์ ตอนนี้นายได้กลายเป็นระดับตำนานไปแล้ว ตำนานที่ยังมีชีวิต ฮ่าๆ อันที่จริงชั้นมองข้ามช็อตไปถึงตอนนายมีเสียงโด่งดังเลยด้วยซ้ำ วันนี้นายโชว์ให้ชั้นเห็นความมหัศจรรย์ของนายไปแล้ว คุ้มค่าสำหรับสิ่งนี้ เอ้านี่ของนาย Noct Gar สุดยอดเบ็ดตกปลานามว่า Traquility ! 


                            Side Quest: The Professor’s Protégé – Griffon      

ผู้ว่าจ้าง Sonia
EXP – 12,000
รางวัล – Safety Bit 

เข้าไปที่ปั๊ม Coernix station – Cauthess จะพบ Sonia อยู่ ครั้งนี้เธอต้องการให้ไปหา Griffon feather มาให้เธอ


 โดยตำแหน่งของ Griffin นั้นจะอยู่ทางทิศเหนือของพื้นที่ Alstor Slough ในเขต Duscae ด้านหน้าช่องเขาที่เคยเข้าไปที่เสาสายฟ้าในภารกิจของ Ramuh จะออกมา (ตรงจุดในรูปของแผนที่) ทุกช่วงเวลาโดยจะออกมาแค่ 1 วันครั้ง ซึ่งถ้าเคยเข้าไปสู้มาแล้วก็นำเอาออกมาให้ Sonia ได้เลย



                ร้านอาหารใน Verinas Mart ที่ทางขึ้นเขา Ravatogh       



เข้าไปนั่งในร้านอาหารแล้วเลือกเพื่อพูดคุยกับลุงเจ้าของร้านก็จะทำให้ได้ข่าวการหายตัวไปของ David Auburnbrie หรือ Hunter Dave เจ้าเก่าที่เพื่อนๆฮันเตอร์ได้แปะประกาศขอความช่วยเหลือให้ช่วยหาตัว Dave หลังจากที่ออกไปทำงานที่ Malmalam Thicket แล้วยังไม่กลับมา ก็จะได้ Side Quest: The Witch of woods มา


                                    Side Quest: The Witch of woods

เดินทางเข้ามาที่จุดเป้าหมายภารกิจสีฟ้า ตรงป้ายทางขึ้นดันเจี้ยน Malmalam Thicket ก็จะพบ Dave ยืนอยู่ที่นี่



[Dave] – นายเป็นบ้าอะไรของนายถึงถ่อมาถึงนี้ได้วะไอ้หนู ?
[Noct]- ก็บังเอิญได้ยินมาว่าคุณหายไปแถวๆนี้น่ะสิ
[Dave] – ห่วงชั้นรึไง ? 
[Noct]- ห่วงที่คุณแหกกฎมากกว่า
[Dave] – นายก็เจอชั้นแล้วนี่  Malmalam Thicket ป่าต้องห้าม ที่นี่เป็นตายเท่ากันอะไรก็เกิดขึ้นได้ทั้งนั้นแหละ ถ้าประเมินพลาดขึ้นมาทุกอย่างก็จบลงง่ายๆเหมือน มันถึงเหมาะสำหรับฮันเตอร์ตัวจริงไงละ มันมี 1 ในพวกนักล่าเพื่อนของเราเพื่อมาช่วยเหลือเพื่อนที่บาดเจ็บ แต่ก็ไม่ได้กลับมาฐานทั้งคู่
[Noct]- ถ้านายต้องการให้ช่วย ชั้นเขาไปตามหาให้นายก็ได้นะ เอามั๊ยละ?
[Dave] – ขอโทษที่โยนปัญหาให้อีกแล้วนะไอ้หนู ตามทางแยกเล็กๆทางซ้ายนี่ไปจะมีกระท่อมยายเฒ่าคนนึงอยู่ นายลองไปถามแกดูอาจจะมีข้อมูลของฮันเตอร์ทั้ง 2 คนบ้างก็ได้นะ ชั้นอยากเข้าไปเองอยู่หรอกแต่กฎมันห้ามไว้ เราเก็บ Dog Tags ได้แต่ห้ามเข้าไปที่ Malmalam Thicket ก็เลยต้องกลับก่อนแล้วกัน นายดูแลตัวเองด้วยละเจ้าหนู

จากนั้นเดินเข้าไปต่อตามจุดหมายของภารกิจสีฟ้า ตามเส้นทางแยกด้านซ้ายของเส้นทางมุ่งสู่ Malmalam Thicket จะพบ House of Hexes กระท่อมขายของของยาย Kimya



[Kimya] – ยินดีต้อนรับจ้า ชั้น Kimya เธอมาตามหาอะไรแถวนี้หรอ ? 
[Noct]- มาตามหา Dog Tags นิดหน่อยน่ะยาย 
[Kimya] – พวกเดียวกับพวกฮันเตอร์ที่หายไปนั่นใช่มั๊ย หายเข้าไปในป่าลึก หัวหน้าเขาคงส่งมา เธอก็ด้วยหรอ ?
[Noct]- จะว่าใช่มันก็ใช่อ่ะนะยาย เออผมถามหน่อยสิ ทำไมพวกฮันเตอร์ถึงมีกฎไม่ให้สมาชิกทั้งหมดขึ้นมาที่นี่ละครับ ?
[Kimya] – เพราะพวกเขาเกลียดชั้นนะสิ พวกเขาโยนชั้นออกไปจากป่าแล้วเรียกชั้นว่า แม่มด ด้วย 
[Noct]- อะไรนะ ? ยายน่ะหรอเป็นแม่มด 
[Kimya] – Brew potion ที่ชั้นทำมันทำให้ชั้นกลายเป็นแม่มดในสายตาพวกเขา 
[Noct]- ยายน่ะหรอเป็นแม่มด 
[Kimya] – เธอเชื่อพวกเขามั๊ยละ ? เอาละ ก่อนจะอธิบายอะไรให้ฟัง พวกเธอลองไปค้นหาของที่เธอต้องการกันก่อนแล้วกัน เจอแล้วค่อยกลับมา ชั้นจะรอที่นี่แหละ

เดินทางเข้าไปด้านในดันเจี้ยน Malmalam Thicket เข้าไปตามทางโดยเป้าหมายของภารกิจหรือจุดที่ Dog Tags ตกจะอยู่ภายในวงกลมสีฟ้าของภารกิจ



ที่ลานกว้างด้านในสุดหน้า Tomb of the Pious (ตามตำแหน่งในรูป) เก็บได้แล้วก็กลับมาหายาย Kimya ที่กระท่อมอีกครั้ง



 [Kimya] – เจอสิ่งที่ต้องการแล้วหรอ ? ป้ายระบุตัวตนของนักล่านั่นจะได้ถูกส่งกลับบ้านซะที เอาละ ที่นี้ชั้นขอฝากข้อความถึงชายคนที่เธอกำลังจะเอา Dog Tags ไปส่งหน่อยก็แล้วกันนะว่า “ท่ามกลางทางเดินชีวิตที่มีทางเลือกมากมาย ทางเดียวที่ไม่ควรย่างกรายคือ เส้นทางที่ไม่ได้เลือกด้วยใจของเราเอง“
[Noct]- ได้สิครับ เอ่อ แต่ยายจะไม่อธิบายให้เข้าใจหน่อยหรอ ?
[Kimya] – Brew potion ที่ชั้นทำขึ้น มันพิเศษสุด ถ้าพวกเขาพยายามเปิดใจเพื่อทำความเข้าใจกับมันหน่อย พวกเขาคงไม่เรียกชั้นว่า แม่มด หรอก 
[Noct]- แล้ว Brew potion ที่ว่ามันเป็น Potion แบบไหนหรอครับ ?
[Kimya] – ต้านทานพลังของพวก Daemon มันประกอบขึ้นด้วยพรแห่ง Oracle Potion ของชั้นจะทำให้คนที่ใช้มันแข็งแกร่งขึ้น เมื่อก่อนนานมาแล้ว พวกฮันเตอร์ยังต้องการ Potion ของชั้นในการเยียวยาอยู่ ใช่ ก็จริงที่เหมือนกับชั้นไปมอมเมาพวกเขา ก็มันเป็นเหล้าหมักนี่ อันนี้ยอมรับ แต่ก็โกรธมากที่หัวหน้าของพวกฮันเตอร์ดันมาบอกว่า Potion ของชั้นเป็นของอันตราย น้องชั้นบอก เดี๋ยวชั้นจะจัดการพวกมันเอง ! ชั้นจะช่วยพวกเขาก็ช่วยไม่ได้ 
[Noct]- น้องของยายทำให้ป่านี้กลายเป็นป่าต้องห้ามหรอครับ 
[Kimya] – ทารุณโหดร้ายอย่างสุดสยอดสยองเลยละ มันเป็นความผิดของเธอ ไม่ใช่ชั้น แต่เรื่องสำคัญที่สุดก็คือ ลูกชายของเธอกลับเรียนรู้และตัดสินใจที่จะเป็นหัวหน้ากลุ่มฮันเตอร์ในซักวัน ..มันเป็นความต้องการของเขาเอง 


-เมื่อได้ Dog Tags ที่ต้องการมาแล้วก็นำมันเดินทางกลับไปให้ Dave ที่ Meldacio Hunter HQ



[Dave] – พวกนายกลับมาจนได้นะ เป็นไงได้มารึเปล่า ?
[Noct]- ได้สิ และมีของแถมด้วยนะ มีแม่มดคนนึงฝากข้อความมาหาคุณด้วย
[Dave] – หรอ .... แล้วเธอว่าไง ?
[Noct]- เธอว่า เส้นทางเดินนั้นมีมากมายแต่เส้นทางที่แท้จริงนั้นมีเพียงหนึ่ง คุณต้องเรียนรู้ที่จะเชื่อใจตัวเอง ..อะไรแบบนี้แหละ มั้ง 
[Dave] – งั้นหรอ ... ขอบใจมากที่มาบอกนะ นั่นเป็นคำพูดที่ชั้นอยากได้ยินจริงๆเลย ชั้นต้องฝืนใจตัวเองมากรู้มั๊ยที่จะต้องยอมกลับมาที่ฐานแทนที่จะเข้าไปหาป้ายชื่อนั่นด้วยตัวเอง รู้มั๊ยทำไม ? ที่ผ่านมาชั้นทำตามกฎของฮันเตอร์มาตลอดเท่าที่จะทำได้ ซึ่งถ้าครั้งนี้ชั้นยอมฝืนกฎ แม้มันจะควรทำ แต่มันจะไม่ทำให้ชั้นรู้สึกผิดเลยรึไง ? คิดๆแล้ว ชั้นคงไม่มีวันยอมรับตำแหน่งผู้นำของเหล่าฮันเตอร์ต่อไปได้อีกแน่นอน ..อย่างน้อยตอนนี้ชั้นก็ได้รู้แล้วว่าอะไรที่ชั้นขาดหายไปมาตลอด ขอบใจมากนะไอ้หนู สิ่งที่นายทำให้ชั้นมีค่ามากกว่าที่นายคิดเยอะ แม้เส้นทางเดินอาจจะอีกยาวไกลแต่ชั้นก็ยังจะตามหาป้ายชื่อของเหล่าฮันเตอร์ที่เสียชีวิตต่อไปเพราะถ้าชั้นไม่ทำก็คงไม่มีใครทำแน่นอน  

จากนั้นอย่าเพิ่งออกจาก Meldacio Hunter HQ แวะเข้าไปคุย Sonia ที่มีเครื่องหมาย ? ขึ้นที่หัวพร้อมจะให้ภารกิจเสริมอันใหม่อยู่อีกคน

                                    Side Quest: The Fogs of Legend 


ผู้ว่าจ้าง – Sonia
เป้าหมาย – ตามหา กบสายรุ้ง Rainbow frog 5 ตัว
EXP – 15,000
รางวัล – Ribbon 




เควสนี้การตามจับกบสายรุ้งนั้นจะไม่มีการระบุตำแหน่งในแผนที่ให้ โดย Sonia จะบอกใบ้ให้แค่ว่าให้ออกตามหาตามที่ที่มีน้ำอยู่เท่านั้น และทั้ง 5 ตัวจะอยู่ในพื้นที่ Duscae

                      ตัวที่ 1 – อยู่ที่ใกล้จุดตกปลา West Bank ที่บึง the Vesperpool





                                  ตัวที่ 2 – อยู่ที่บึงทางใต้ของบึง Alstor Slough 





ตัวที่ 3 – อยู่ที่บึงเล็กๆใน Saxham potpost ทางใต้ของปั๊ม Coernix station ในพื้นที่ Cauthess 






                   ตัวที่ 4 – ริมคลองฝั่งซ้ายของจุดทางแยกของคลอง Ravatoghan Trail 





                  ตัวที่ 5 – ริมคลองด้านซ้ายของฐาน Fort Vaullerey ของพวกจักรวรรดิ




หลังจากเอากบสายรุ้งทั้ง 5 ตัวกลับไปให้ Sonia ก็จะได้ Ribbon ไอเทมที่ป้องกันอาการผิดปกติทางสเตตัสทุกชนิดมาเป็นการตอบแทน

      

          Hunt Quest ที่ร้านอาหารใน Verinas Mart ที่ทางขึ้นเขา Ravatogh



ตอนนี้ Hunt Quest ที่ร้านอาหารนี้ก็จะปลดล็อกเควสล่ามอสเตอร์อันใหม่ที่สำคัญมากเควสนึงคือ


                       Hunt Quest : Feathered Giant of the Firemoke 





ซึ่งเป็นภารกิจล่านกยักษ์ Zu ที่อยู่บนยอดเขา The Rock of Ravatogh อย่าลืมรับงานเพื่อไปเสพสู้ความอลังกาลของเจ้านกยักษ์ Zu ที่รังของมันด้วย



                        Side Quest ของ Wiz ที่ ฟาร์ม Chocobo Post





                             Side Quest: Savior of the Species 


เข้ามารับภารกิจจาก Wiz เขาต้องการจะให้ตามหาและเก็บไข่ของ Black Chocobo ซึ่งเป็น Chocobo พันธ์หายากที่หายสาบสูญไปจากพื้นที่นานแล้ว เมื่อได้ข่าวเรื่องที่มีคนแม่ของ Black Chocobo ที่ออกไข่และกำลังบาดเจ็บหนัก Wiz จึงของแรงให้ Noct เข้าไปช่วยเก็บไข่กลับมาให้เร็วที่สุด



จากนั้นมุ่งหน้ามาที่จุดหมายของภารกิจที่ใกล้จุดตกปลา East Bank ที่ The Vesperpool ก็จะพบไข่ตกอยู่ท่ามกลางฝูงจระเข้ Sahagin มากมายที่กำลังจะรุมกิน เข้าไปจัดการ Sahagin ให้หมดแล้วไข่กลับมาให้ Wiz


[Noct]- โชคดีที่เราพบมันทันเวลายังอุ่นๆอยู่เลย
[Wiz]- เธอปล่อยให้เป็นหน้าที่ชั้นเถอะ ที่เหลือชั้นดูแลเอง
[Noct]- แต่เราไม่เจอแม่ที่บาดเจ็บของมันเลย
[Wiz]- เป็นเรื่องที่น่าเสียใจจริงๆ แต่ก็เอาเถอะอย่างน้อยเราก็ช่วยรักษาไข่เอาไว้ได้ ชั้นมั่นใจว่าจะดูแลจนกว่ามันจะฟักแน่นอน ชั้นจะส่งข้อความไปบอกก็แล้วกัน นายจะได้มาดูลูกเจี๊ยบ Black Chocobo ทันทีที่มันฟักนะ
[Noct]- ผมตั้งตารอเลยละครับ
[Gladio] – ไม่มีที่ไหนจะดูแลไข่นี่ดีเท่าที่ฟาร์มของ Wiz อีกแล้วละ  
[Prompto] – เดี๋ยวเราค่อยกลับมาดูแล้วกันไม่นานได้เห็นลูกเจี๊ยบแน่นอน


    


               Side Quest ช่วยคนรถเสียที่สามารถเจอในบทที่ 8


1. Side Quest: Dude, Where’s My Car? จอดอยู่ที่โรงนาทางเหนือของที่จอดรถที่ Pallareth Passในเขตพื้นที่เขต Duscae




2. Side Quest: Keep Calm and Keep Driving จอดในป่าริมเส้นทางฝั่งขวาของ The Vesperpool ในเขตพื้นที่เขต Cleigne จะเจอรถเมื่อถึงบทที่ 8 หลังพบรถเสียใน Side Quest: Dude, Where’s My Car? แล้ว



           Side Quest ช่วยเหลือคนบาดเจ็บที่สามารถเจอได้ในบทที่ 8


1. Wrecked with Anxiety ที่พุ่มใหม่ด้านใต้ของ Cauthess The Disc ในเขตพื้นที่เขต Duscae เจอตัวเมื่อถึงบทที่ 8 ตอนกำลังเดินทางมากลับมาที่ Cape Caem




2. The Faint of Heart  อยู่ด้านใน Nebulawood รังของ Behemoth ในเขตพื้นที่เขต Duscae เจอตัวเมื่อถึงบทที่ 8 และต้องผ่าน Hunt Quest A Behemoth Undertaking ก่อน





       -----------------------------------------------------------------------------------------------------



                           เมื่อเดินทางมาถึง Cape Caem ……………






ทันทีที่ขึ้นมาที่ประภาคาร ในขณะกำลังเดินขึ้นมา Prompto ก็มองหาโลเกชั่นถ่ายภาพที่ระลึกของตัวเองพบอีกจุดคือที่หน้าประภาคาร ซึ่งก็คือ Side Quest Photo Op: Beacon ที่ต้องถ่ายรูปกับ Prompto นั่นเอง

             

                                      Side Quest: Feline Feast



เมื่อเดินทางมาที่ Cape Caem เข้าไปที่ด้านหลังประภาคารจะเจอแมวนอนอยู่ซึ่งก็คือแมวตัวเดิมที่เคยเจอที่สะพานทางเดินเข้าไปที่ร้านอาหารรีสอร์ท Galdin Quay และทำอาหารให้มันกินไปแล้วครั้งนึงแล้วนั่นเอง


-เข้าไปคุยกับ Monica ที่บ้านหลังทางขวาของประภาคาร เธอจะสามารถทำอาหารแมวให้ได้โดยต้องหาปลา Dark Allural Sea Bass มาให้เธอ พร้อมกับแนะนำอีกว่า หามไม่อยากเสียเวลาก็ไปหาซื้ออาหารแมวมาแทนก็ได้


อาหารที่จะต้องหามาให้แมวนั้นสามารถหามาได้ 3 ทางคือ

1.ลงทุนซื้อ luxury cat food ราคา 20000gil จากรถขายของหน้า Cape Caem มาให้มัน


2. หาปลามาทำอาหารให้มัน โดยต้องไปตกปลา Dark Allural Sea Bass ที่จุดตกปลา Caem Shore ทางขวาของ Cape Caem แล้วเอาไปให้ Monica ที่อยู่ในบ้านทางขวาของประภาคารเพื่อให้เธอทำเป็น luxury cat food มาให้แมว


เมื่อแมวได้อาหารแล้ว ภารกิจก็จะจบลงพร้อมรางวัลเป็น Sky Gemstone คีย์ไอเทมสำหรับอัพเกรด Machinery Weapon Circular Saw


(ซึ่ง Sky Gemstone นั้นก็สามารถหาได้อีก 2 ทางคือ ใช้เหรีญแลกเอาที่งานคานิวาลหรือรอเก็บใน Chapter 12 ตอนนั่งรถไฟมา Tenebrae ทางขวาของจุดภารกิจหลัก Where She Live )



                          Side Quest: Crazy about Cactuars


เข้ามาด้านในบ้านทางขวาของประภาคารที่ Cape Caem คุยกับ Talcott


[Noct] – เป็นไงบ้าง Talcott ?
[Talcott] – สบายดีครับเจ้าชาย Noctis 
[Noct] – เล่นอะไรอยู่น่ะ
[Talcott] – อ๋อ นี่เป็น ฟิกเกอร์ Cactuars ครับ ผมชอบ Cactuars มากๆเลย ชอบหาซื้อสะสมถ้ามีขายตามที่ต่างๆ หาสีที่มันต่างๆกันน่ะครับ ผมตามเก็บจนเกือบจะครบคอลเลคชั่นแล้วนะ เสียดายยังขาดสีเหลืองกับสีน้ำเงินอยู่ เคยเห็นมันขายตามร้านต่างๆบ้างมั๊ยครับ ?
[Noct] – ไม่ค่อยได้สังเกตอ่ะนะ แต่ไม่เป็นไรถ้าชั้นเจอสีที่เธอขาดไปชั้นจะซื้อมาฝากก็แล้วกันนะ
[Talcott] – โอ้ ขอบคุณมากครับ

ตอนนี้จะมีภารกิจแยกออกมา 2 อันเพื่อตามหาฟิกเกอร์ Cactuars มาให้ Talcott คือ

1. A Cactuette of Wood ซื้อได้ที่ร้านค้าใน Wiz Chocobo Post ราคา 500 Gil



2. A Cactuette of Mortar ซื้อได้ที่ร้านค้าที่เมือง Lestallum (ที่ลุงเจ้าของร้านยืนอยู่กับหลานชาย) ราคา 700 Gil


หลังจากซื้อ ฟิกเกอร์ Cactuars 2 ตัวที่ Talcott ขาดไปมาให้จนครบแล้วก็จะจบภารกิจ แต่ยังมี ฟิกเกอร์ Cactuars รุ่นพิเศษที่เป็นของหายากที่สามารถเอามาให้ Talcott ได้อีกคือ

3- Cactuars Sculpture (Cactuar หินอ่อน) ฟิกเกอร์รุ่นพิเศษ ซื้อได้ที่ร้านค้าที่เมือง Altissia ราคา 3000 Gil



4- Effigy Cactuars (Mythril Catuar) ตัวสุดท้ายเก็บได้ที่ Formouth Garrison โดยจะเห็นต่อเมื่อได้มาครบ 3 ตัวแล้ว






เท่านี้ก็จะตามเก็บฟิกเกอร์ Cactuars 4 ตัวมาให้ Talcott ซึ่งมีอยู่แล้ว 1 อันจนครบชุดคอเลคชั่น 5 ตัวแล้ว



      



            จากนั้นเข้าไปคุยกับ Iris ที่ยืนอยู่หน้าบ้านข้างๆประภาคาร จะมีเมนูให้เลือก 2 อัน



- Tend to the Garden สอนวิธีการทำไร่ปลูกพืชใน Cape Caem
- Give me a Status Update สอบถามสิ่งที่ต้องทำในภารกิจต่อไป


                         Side Quest: Living off the Land

 เมื่อเลือกเมนู Tend to the Garden กับ Iris เธอจะสอนวิธีปลูก Caem Carrot โดยจะให้เมล็ดพันธ์มา จากนั้นก็เข้าไปที่แปลงปลูกพืชทางซ้ายของบ้านเพื่อทำการหว่านเมล็ดที่แปลงปลูก ที่เหลือก็รอให้ผ่านไป 1 คืนค่อยกลับมาดูก็จะพบว่าต้นแครอทเริ่มโตให้เก็บเกี่ยวได้แล้ว


                                                 เงื่อนไขการเพาะปลูก

- Caem Carrot นั้นสามารถเน่าเสียได้หากปลูกแล้วไม่มาเก็บในเวลานาน
- เมื่อปลูกพืชแต่ละครั้งจะทำให้คุณภาพดินแย่ลง ต้องทิ้งระยะจากการเดินเรื่องในเกมซักระยะถึงปลูกได้อีก
- ผลผลิตที่ได้นั้นขึ้นอยู่กับสภาพอากาศด้วย 

และทันทีที่เก็บเกี่ยว Caem Carrot ที่เป็นผลผลิตแรกมาได้ชายแปลกหน้าที่ชื่อ Tony ก็จะเข้ามาพูดคุยต่อรองเพื่อขอแลกซื้อผลผลิตทันที


[Tony] – ได้ข่าวว่านายจะทำสวนที่นี่หรอ ?
[Noct] – ใช่ ว่าแต่นายเป็นใครละ ?
[Tony] – โอ้ โทษที ผมชื่อ โทนี่ เป็นเจ้าของภัตตาคารไม่ไกลจากที่นี่ กำลังมองหาพวกวัตถุดิบอาหารคุณภาพดีๆอยู่พอดี ดูพืชของคุณงามดีจัง ท่าทางจะเป็นของดีใช้ได้เลย ยินดีจะร่วมธุรกิจกันมั๊ยละ ? ผมยินดีจ่าย จะรับเป็นเงิน Gil หรือแลกของก็ได้นะ 




การซื้อขายแลกเปลี่ยนกับโทนี่นั้นสามารถแลกของได้จาก Caem Carrot ที่ปลูกได้ ประกอบด้วย

- Caem Carrot 1 หัวแลกได้ 500 Gil
- Caem Carrot 2 หัวแลก (Ulwaat Berries) คีย์ไอเทมสำหรับเควสย่อย Berried Memories ของ Coctura ที่ Galdin Quay เมื่อจบเควสจะมีเมนู เค้ก Tenebraen Beery Opera ขายในราคา 12000 Gil กินแล้วทำให้พลังโจมตีเวทย์สูงขึ้นแต่จะทำให้พลังโจมตีทางกายภาพลดลง


- Caem Carrot 3 หัวแลก (Auto part) ไอเทมแต่งรถ
- Caem Carrot 4 หัวแลก (Weapon) อาวุธ ซึ่งอาวุธที่แรกได้ส่วนใหญ่จะเป็นของหายาก อาวุธที่สามารถแลกได้คือ

1.มีดคู่ Plunderers คีย์ไอเทมที่ใช้อัพเกรดคือ Barbed Scythe ได้จาก Soldier Wasps มอนสเตอร์ผึ้งยักษ์ในดันเจี้ยน Malmalam Thicket



 2. ดาบใหญ่ Force Stealer คีย์ไอเทมที่ใช้อัพเกรดคือ Monster Claw ได้จาก Bandersnatch มินิบอสในดันเจี้ยน Malmalam Thicket


3. ปืน Valiant คีย์ไอเทมที่ใช้อัพเกรดคือ Earth Gemstone ซึ่งสามารถเก็บได้ตามพื้นที่ทั่วไป หรือสามารถแลกได้ในงานคานิวัลราคา 40 เหรียญ


4.โล่ Absorb Shield คีย์ไอเทมที่ใช้อัพเกรดคือ Spiked Armor ได้จาก เต่า Skarnbulette เจอเยอะในเขต Duscaeหรือเจอใน Hunt Quset Hammer the Cannibals





                                Main Mission: Brave New World


เมื่อทำ Side Quest และทุกอย่างที่อยากทำในพื้นที่จนหมดแล้ว เข้าไปในประภาคารที่ Cape Caem เพื่อลงลิฟต์ไปที่ชั้นใต้ดินที่เป็นโรงเก็บเรือได้เลย  




ในขณะที่กำลังจะเข้าไปที่ประภาคารเสียงเห่าของ Umbra ที่ดังจนทำให้ Noct ต้องหยุดเพื่อหันมาดูก็พอจะรู้ได้ว่า มันได้นำข้อความของ Luna มาส่งให้อีกครั้ง 

“ชั้นรออยู่ที่ Altissia นะ “ ของความในใจของ Luna ถูกถ่ายทอดมาเป็นตัวอักษรถึง Noct 



             Noct คิดในใจก่อนจะเขียนตอบออกไป “จะรีบไปให้เร็วไว้เท่าที่ทำได้” ในทันที

เลือกตอบอะไรไปก็แล้วแต่ใจได้เลย .........

be there as fast as I can “จะรีบไปให้เร็วไว้เท่าที่ทำได้”
Getting ready to set sail “พร้อมจะขึ้นเรือแล้ว”
Got it “รับทราบแล้ว?”




[Talcott] – เจ้าชาย Noctis ตอนนี้ท่านแม่ทำมารอพบฝ่าบาทเพื่ออำลาด้วยครับ ได้ยินว่าฝ่าบาทเอารถ Regalia ขึ้นเรือไปด้วยจริงๆหรอ หวังว่าคงไม่ลืมอะไรก่อนไปนะใช่ป่ะท่าน เดินปลอดภัยนะครับฝ่าบาท แล้วก็ไม่ต้องห่วงนะ ผมนะแข็งแกร่งพอที่จะปกป้องทุกๆคนตอนที่ฝ่าบาทไม่อยู่ได้สบายๆครับ 


           
[Iris]- สงสัยคงต้องล่ำลากันแล้วสินะ รถ Regalia ใส่ไว้ใต้เรือเรียบร้อยแล้วนะ แล้วก็หวังว่าเธอคงจะรับใช้นายได้ดีพอเหมือนกับตอนอยู่ที่นี่นะ  อย่าไปทำพังละลุง Cid เอาพวกนายตายแน่ๆ เอาละชั้นว่าคงต้องล่ำลากันแค่นี้แหละนะ 



         

[Cor] – ชั้นมีเรื่องบางอย่างจะขอระบายหน่อย 
[Noct] – เรื่องอะไรครับ ?


 
[Cor] – ชั้นเสียใจ เสียใจที่ไม่ได้อยู่กับพ่อของเธอตอนนั้น ชั้นเคยสาบานว่าจะปกป้องกษัตริย์ด้วยชีวิต แต่ชั้นกลับไม่แข็งแกร่งพอที่จะยึดถือมันไว้ได้ 



[Cid] – ไม่มีใครหยุดเรื่องที่มันต้องเกิดขึ้นได้หรอก  
 [Noct] – อืมม ผมก็เข้าใจอยู่ 



[Cid] – มีอีกอย่างที่นายต้องเข้าใจ ทุกๆคนที่อยู่เคียงข้างนายน่ะ วันนึง ถ้าเกิดพวกเขาช่วยแก้ปัญหาให้นายไม่ได้ นายก็ต้องยอมรับถึงเรื่องที่จะเกิดกับพวกเขาให้ได้ด้วย เพราะนายจะหนีมันไม่พ้นและไม่มีวันลืมมันได้หรอกนะ ..เจ็บปวดเหมือนตกนรกทั้งเป็นเลยละ จงจำไว้นะ พวกเขาไม่ใช่บอดี้การ์ดของนาย แต่เป็นพวกฟ้องเป็นพี่น้องกับนาย ..จงเชื่อมั่นในตัวพวกเขา และจงเชื่อใจซึ่งกันและกันเสมอนะ 



[Cor] – เอานี่ Magic Flask สิ่งที่นายต้องใช้ในการต่อสู้น่ะไม่ใช่แค่ดาบอย่างเดียวหรอกนะ เวทย์มนต์ก็สำคัญเหมือนกัน จำไว้เสมอนะว่า ศัตรูที่มันจ้องจะทำร้ายนายน่ะมันไม่ใช่เหตุผลกับนายหรอกนะ ชั้นก็เตือนทุกคนเรื่องนี้ตลอดแหละ



[Talcott] – ฝ่าบาท ! เจ้าชาย Noctis !
[Noct] – ว่าไง มีอะไรหรอ ?
[Talcott] – ได้โปรดกลับมาเร็วนะครับฝ่าบาท เราต้องการกษัตริย์ของพวกเรา
[Noct] – ได้ !! เชื่อมือชั้นเถอะ ! 







   --------------------------------------- END OF CHAPTER ----------------------------------------------         



                             CHAPTER 9 : Callings



                                  Yureil Plaza , เมือง Altissia 




[Ardyn] – งานแต่งงานจะเริ่มอยู่แล้วยังไร้เงาเจ้าสาวอยู่เลย เรามาที่นี่ก็เพื่อ “The Hydraean” และคุณเองก็ล่วงหน้ามาเพื่อเตรียมทุกอย่างให้เป็นไปตามแผน
[Ravus] – ปล่อยเป็นหน้าที่ของชั้นเอง
[Ardyn] – เอ่อ.. แต่เดี๋ยวพวกนอกคอกนั่นก็ทำให้กองทัพจักรวรรดิต้องต่อสู้กับพวกมันอยู่ดี .... คุณได้คุยกับ Lady Lunafreya แล้วรึยังละ ?
[Ravus] – คุยทำไม ?
[Ardyn] – เพื่อให้ยัยเลขาส่วนตัวนั่นอยู่ให้ถูกที่ถูกทางตอนที่คุณต้องออกไปจัดการกับ “The Hydraean”  เพื่อเห็นแก่น้องสาวผู้น่าสงสารของคุณ




                        ...... ผมรู้ว่า มันมีราคาในการทำสัญญาที่ต้องจ่ายอยู่นะ 



                        Main Mission: Altissia, City on the Sea






[Prompto] – พวกนายรู้ป่ะ ชั้นคิดอยากล่องเรือแบบนี้มาตลอดเลยจริงๆนะ   
[Gladio] – นายยุ่งมากหรอ หาเวลาบอกตอนที่อยู่ที่ Insomnia ไม่ได้เลยรึไง 
[Prompto] – ออกมาแตะขอบฟ้าแบบนี้ มันสุดยอดจริงๆ แม่งชีวิตเปลี่ยนเลยจริงๆนะ
[Ignis] – เราจะไม่ไปแตะขอบฟ้าที่ไหนทั้งนั้นจนกว่าจะเดินทางไปถึงเมือง Altissia เลิกมโนได้แล้ว พรอมโตะ 
[Prompto] – ทันทีที่เราก้าวออกจากเรื่องก็ถือว่าเรากำลังอยู่ต่างประเทศอยู่แล้วแหละน่า 
[Ignis] – เตรียมเป็นบ้านนอกเข้ากรุงไว้ด้วยก็ดีนะ การเป็นคนต่างถิ่นในเมืองใหญ่น่ะค่อยข้างลำบากเลยละ
[Gladio] – ก็คิดเอาไว้สิว่าที่เราต้องไปที่นั่นมันเพราะอะไร ?
[Noctis] –พวกเราผ่านกันมาเยอะแล้วละน่า
[Ignis] – และก็ยังคงต้องผ่านไปอีกเยอะเลยละ 
[Prompto] – ต่อไปนี่อะไร ปะทะกับ Leviathan ใช่ป่ะ ?
[Gladio] – เราต้องไปทำสัญญากับเทพประเภทไหนอีกเนี้ย ?
[Ignis] – ว่ากันว่าเป็นงูขนาดใหญ่ที่สุดเดือดดาลที่สุดในท้องทะเลเลยละ
[Noctis] – ตอนนี้พวกเราก็ลอยเท้งเต้งอยู่กลางทะเลของพวกเรากันเองกันอยู่แล้วอ่ะนะ 
[Prompto] – ไม่อยากให้ Lady Lunafreya ต้องมาแบกรับภาระหนักทั้งหมดนี่อยู่คนเดียวเลยจริงๆนะ แล้วนายก็คงอยากเจอเธอแทบใจจะขาดแล้วจริงป่ะ Noct ฮ่าๆ 



[Noctis] – ลูน่า อ่ะหรอ ? ตอนนี้คิดแค่ให้เธอปลอดภัยก่อนจะดีกว่านะ 
[Ignis] – เห็นด้วย ความปลอดภัยของ Lady Lunafreya ต้องมาก่อน 
[Gladio] – อยู่ท่ามกลางอาณาเขตของพวกจักรวรรดิแบบนี้คงปลอดภัยได้ไม่นานนักหรอก
[Prompto] – นายคิดว่าเธอกำลังตกอยู่ในอัตรายหรอ ?
[Ignis] – พวกจักรวรรดิกำลังออกตามหาแหวนของ Lucis ชั้นไม่หวังเลยว่าพวกมันจะปราณีและไม่พุ่งเป้าไปที่ Oracle อย่าง Lady Lunafreya 
[Gladio] – ถ้าปราศจากแหวน คริสตัล ก็ไม่ต่างจากหินทับกระดาษธรรมดาแค่นั้นเองแหละ 
[Prompto] – อืมม เข้าใจละ แล้วมีใครรู้มั๊ยว่า Lady Lunafreya เธอมีแหวนอยู่กับตัวรึเปล่าอ่ะ ?
[Ignis] – เหมือนว่าฝ่าบาทจะทรงไว้ใจให้เธอครอบครองมันไว้ก่อนออกจาก Crown City นะ 
[Gladio] – เธอเก็บมันไว้กับตัวมาตลอดทางจนถึงเมือง Altissia นั่นแหละ
[Noctis] – แหวนนั่นเป็นสิ่งสำคัญ เรื่อง Leviathan ก็ด้วย แต่ เรื่อง Luna ต้องมาก่อน
[Ignis] – รู้มั๊ย ชั้นคิดว่าเราน่าจะกลับไปหาเจ้า Ravus มันซักหน่อย นายพอจะนึกออกมั๊ยว่า อุปกรณ์ที่ใช้ทำแขนเทียมของเขามันทำมาจากที่ไหน Gladio ?
[Gladio] – เออ จำได้แน่นอน 
[Ignis] – มันสูญเสียแขนไปก็เพราะรุกล้ำเข้าไปในแหวนแห่งกษัตริย์ แต่ก็ได้แขนใหม่มาพร้อมพลังใหม่ๆด้วยเหมือนกัน
[Gladio] – นั่นเป็นเรื่องที่ใช้อธิบายง่ายๆว่าทำไม่พระโอรสแห่ง Tenebrae ถึงได้กลายมาเป็นผู้บัญชาการณ์ทหหารของกองทัพจักรวรรดิ Niffheim 
[Noctis] – นึกภาพไม่ออกเลยว่าหมอนี่มันได้ผ่านอะไรมาบ้างก่อนหน้านี้น่ะ
[Ignis] – ได้ยินข่าวลือที่รบกวนใจมาตลอดทางที่ว่า ลอร์ด Ravus ได้ครอบครองดาบของฝ่าบาทนี่สิ 
[Noctis] – ดาบของพ่อหรอ ?
[Prompto] – หมายถึงพลังของมันเหมือนกับพลังแห่งกัษัตริย์หรอ ?
[Ignis] – ยังบอกไม่ได้หรอก ชั้นแค่คาดการณ์จากข่าวลือเฉยๆ Ravus พกดาบติดตัวก็จริงแต่ก็ยังไม่ยืนยันว่าใช่หรือเปล่า 
[Gladio] – อยากได้พลังจนต้องยอมเป็นสุนัขรับใช้ของไอ้เอกอัคราชฑูตนั่นเลยหรอ ? แถมยังถือดาบที่เป็นของศัตรูอย่างภาคภูมิใจอีกต่างหาก ช่างมีเกรียติซะจริงๆ
[Prompto] – แล้วตอนนี้พวกจักรวรรดิมันกำลังตามหา Leviathan เหมือนเราอยู่รึเปล่าก็ไม่รู้อ่ะนะ ?
[Ignis] – อันนี้การันตีได้เลยว่า จากที่พวกมันทำพลาดจน Noct สามารถอัญเชิญเหล่ามนต์อสูรต่างๆมาได้ก่อนหน้านี้ ครั้งนี้พวกมันก็ต้องพยายามทำอีกแน่นอน 
[Prompto] – เราก็จะให้พี่เบิ่มไททั่นกระทืบมันแล้วบอก เฮ้ย ขอบใจที่ช่วยหาให้นะไง ฮ่าๆๆ 
[Ignis] – เจ้าทูตนั่นคงมีวาระซ่อนเร้นของมันเอาไว้อยู่แล้วละ 
[Prompto] – บางที่มันอาจจะมาช่วยเราบอกทหารของมันให้เปิดทางให้เราหนีแบบตอนนั้นก็ได้นะ 
[Noctis] – แต่ไอ้หมอนี่มันทำตัวแปลกๆจริงๆนะ 
[Gladio] – ชั้นรู้ว่าที่มันช่วยเราก็เพราะมันต้องการอะไรบางอย่าง แต่ตอนนี้ยังไม่รู้ว่ามันคืออะไร 
[Prompto] – นายคิดว่าเราจะเจอมันอีกงั้นหรอ ?
[Ignis] – แน่นอน ไม่ต้องสงสัยเลย
[Prompto] – ไม่ค่อยถูกชะตามันหรอ Gladio
[Gladio] – ชั้นเกลียดใครแล้วเกลียดเข้าใส้เลยละ
[Ignis] – อย่างที่ Gladio บอกนั่นแหละ พฤติกรรมของมันน่าจะแฝงประโยชน์ให้ตัวเองมากกว่าที่จะทำเพื่อคนอื่น แต่ตอนที่มันมาเสนอตัวช่วยพวกเราชั้นก็เห็นแววตาที่เปี่ยมไปด้วยความเมตตาของมันอยู่นะ  
[Noctis] – อืมม ชั้นก็รู้สึกแบบนั้นเหมือนกัน
[Prompto] – ชั้นว่าพวกนายคิดมากไปป่ะวะ
[Ignis] – ก็อาจจะนะ แต่ชั้นมักจะชอบคิดต่างไว้เป็นทางเลือกเสมอแหละ 
[Prompto] – อืมม เฮ้อออ นี่เราจะถึงยังเนี้ย นานแล้ว เบื่อจัง
[Ignis] – ก็ไหนว่าอยากเดินเรือมานานแล้วไง
[Prompto] – ก็ใช่ แต่เห็นทะเลเรียบๆนานๆตลอดทางก็เบื่อเหมือนกันนะ
[Gladio] – เมื่อกี้ชั้นยังได้ยินแกบอกว่าสุดยอด เปลี่ยนชีวิต อะไรของแกอยู่เลย ฮ่าๆ 



[ Cid ] – หวังว่าไม่นานเธอคงได้แหวนของพ่อกลับมานะ 
[Noctis] – อืมม ครับ เมื่อเราไปถึง Altissia นี่แหละ 
[Cid] – สำหรับพ่อของเธอ มันเหมือนเป็นมรดกเลยนะ
[Noctis] – พ่อเคยพูดไว้แบบนั้นหรอครับ ?
[Cid] – พกติดตัวมาตลอดเวลาที่ครองราชย์ เป็นภาระที่หนักไม่เบาเลยนะ
ถึงจะเป็นแค่แหวนวงนิดเดียว แต่บอกเลยว่าน้ำหนักของมันมหาศาล ตั้งแต่เขาขึ้นครองราชในฐานะกษัตริย์ ยังไม่เคยเห็นเขายิ้มเลยซักครั้ง
[Gladio] – เดี๋ยวนะ คุณอยู่ในพิธีสวมมงกุฎด้วยหรอ ?
[Cid] – เปล่า ชั้นจากเมืองไปนานมากแล้ว 
[Noctis] – แล้วก็ถูกขอร้องให้กลับมาอีกในที่สุด
[Cid] – เพิ่งหลุดออกจากทีมของพ่อของเธอก็ช่วงเกือบท้ายๆของการเดินทางแล้วละ เราเพิ่งหาโกรธกันจากที่ไม่ค่อยร่องรอยกันเมื่อปีที่แล้วนี่เอง แต่ไม่ค่อยได้เจอหน้ากันอีกเลย 



[Cid] – ตอนนี้พวกนายก็ไม่มีที่อยู่แล้วสิ รถ Regalia ก็ต้องเก็บไว้ก่อน ที่ Altissia ก็เป็นเมืองน่าอยู่นะ พวกเธอก็น่าจะอยู่ที่นั่นได้ดีไม่ต่างจากบ้านหรอกว่ามั๊ยละ ? ระหว่างนั้นชั้นจะปรับแต่งรถไว้ให้แล้วกัน แต่ก็คงทำอะไรได้ไม่มากนักหรอกนะตั้งแต่ Cindy มาดูแลแทนยัยแก่ของชั้น เธอเป็นคนที่สู้งาน ไม่กลัวหรอกเรื่องงานหนักแบบผู้ชาย ใครจะรู้ ตอนเด็กเธอลำบากมามาก พ่อแม่ของเธอหายสาปสูญไปตั้งแต่ยังเด็ก มันยากเกินที่เด็กคนนึงจะเข้าใจและคงจะเจ็บปวดมากๆด้วย ...แล้วดูเธอตอนนี้สิ 




                                                                  Art By - @CrimblySun 


[Prompto] – ดูไม่ออกเลยซักนิด เธอร่าเริงอยู่ตลอดเลยละ
[Cid] – ก็นะ ก็แค่อยากบอกว่าเธอผ่านอะไรมาไม่น้อยเลยนะ 

[Gladio] – เออ ลุงถึงเวลาที่ลุงต้องแชร์ประสบการณ์เกี่ยวกับเมือง Altissia ให้พวกเราฟังบ้างแล้วละ 
[Cid] – ได้ จากการที่เคยอยู่มาครั้งนึง เป็นเมืองที่น่าอยู่ เมืองใหญ่ที่เก่าแก่ แต่มันไม่เหมือนกับ Crown City หรอกนะ 
[Ignis] – พวกนายคงต้องดูแลตัวเอง ต้องปรับตัวให้ดีๆในสถานที่ต่างถิ่นแบบนี้ ก็เท่านั้น
[Cid] – ได้เปลี่ยนวิวทิวทัศน์บ้างมันก็ควรจะดีกับพวกนายไม่มากก็น้อยอ่ะนะ
[Gladio] – เอาละ ไม่มีอะไรจะถามแล้ว นี่ใกล้จะถึง Altissia แล้วใช่มั๊ย ?
[Cid] – ไม่นานก็ถึงแล้วละ ลมช่วยเราขนาดนี้ 
[Ignis] – Lodgings แล้วเรื่องที่พักของเราละ 
[Cid] – มันไม่ใช่โรงแรมนะ ชั้นรู้จักทีนึง weskham กับ Regis และก็ชั้นเคยมาครั้งนึง
[Prompto] – อ๋อ รูปที่เห็นในอู่ของลุงอ่ะนะ 
[Cid] – เออ นั่นแหละ มันมาเปิดร้านอาหารหรือคาเฟ่อะไรนี่แหละ ลองไปหาดูเองละกัน 
[Gladio] – แล้วที่นั่นมันมีชื่อมั๊ยละ ?
[Cid] – Magee หรือ Magoo หรือ Maagho อะไรซักอย่างนี่แหละ แต่บอกไว้เลยนายเชื่อมือตาแก่ wes มันได้เลยนะ ถึงจะเป็นคนพูดมากหน่อยก็เถอะ



เสียงจากผู้ประกาศช่าว – ทางรัฐบาลได้มีแถลงการณ์ออกมาภายใต้การตื่นขึ้นของ The Hydraean และข่าวการปราศรัยของ Lady Lunafreya ที่มีรายงานว่าเสียชีวิตเมื่อก่อนหน้านี้ ซึ่งกำลังถูกจับตามองกันอย่างมากเพราะเป็นการปรากฏตัวต่อสาธารณะชนครั้งแรกของเธอหลังจากเกิดเหตุความรุนแรงในพิธีลงนามที่ Insomnia 



[Prompto] – Lady Lunafreya เธอจะออกมาพูดด้วยหรอ
[Gladio] – ฟังเหมือนจะเป็นแบบนั้นนะ
[Cid] – ขอให้ใช้สติปัญญากับการปราศรัยครั้งนี้ด้วยเถอะนะ 
[Ignis] – คงอีกไม่นานแล้วละ Noct 
[Noct] – อืมม 



[Altissian Guard] – ไม่ทราบว่าเรือนี้มีบัตรผ่านรึเปล่าครับ ?
[Prompto] – อ่า เอ่อ ... บัตรผ่านหรอ ?
[Cid] – ใจเย็นไอ้หนู ชั้นมีอยู่ อะ นี่ไง
[Altissian Guard] – บัตรมันเก่าแก่มากเลยนะครับ แต่ก็เอาเถอะ ก็ยังใช้ได้อยู่ คุณผ่านได้ครับ 

[Ignis] – เตรียมการณ์เอาไว้ล่วงหน้าเลยหรอครับ ?
[Cid] – จะว่างั้นก็ได้ สามสิบปีกว่าเห็นจะได้แล้วมั้ง 
[Gladio] – ทหารนั่นถึงใช้คำว่า เก่าแก่ ไงละ ฮ่าๆ 
[Cid] – แต่ก็ถือว่าเป็นโชคดีของเราไม่ใช่หรอพ่อหนุ่มที่มันยังใช้ได้น่ะ 



                                                เมือง Altissia 



[GateKeeper] – อยากทราบวัตถุประสงค์ในการมาที่นี่ของพวกท่านหน่อยครับ
[Noct]- วัตถุประสงค์หรอ ?




สามารถเลือกได้ว่า
-ถาม Ignis
-ปล่อยให้ Cid จัดการ  (ผมเลือกถามซิด)

[Cid] –เรามาหา เอ่อ Magee หรือ Magoo หรือ Maagha อะไรซักอย่างนี่แหละ ประมาณนั้น
[GateKeeper] – ไม่เคยได้ยินชื่อที่คุ๊อ้างถึงเลยครับ งั้นพวกคุณคงต้องจ่ายเงินเพิ่มเป็นค่าผ่านทางเข้าเมืองในแบบที่ไม่มีเป้าหมายที่แน่ชัดนะครับ
[Cid] – อะไรกันนักหนาวะ !! ... ไอ้หนุ่มนี่เป็นทริปของเธอ ต้องจ่ายเองนะ ชั้นส่งแค่นี้แหละ !



[Gladio] – เอาไง เราจะลองไปดูที่อยู่ของ weskham กันหน่อยมั๊ย ?
[Prompto] – ใช่ ไปกัน บาร์ Maagho ใช่ป่ะ 
[Ignis] – ถึงเวลาน้ำชาพอดีเลยด้วย
[Noct] – โอเค งั้นลองไปเช็คดูกันเลยก็แล้วกัน 


     
เมื่อเดินทางมาจนถึงเมือง Altissia เดินเข้าไปที่เป้าหมายของภารกิจหลัก Altissia, City on the Sea ที่อยู่ทางขวาของพื้นที่ ระหว่างทุกคนจะได้ยินผู้หญิงสองคนคุยกันแว่วมาจนต้องหลุดฟังเพราะมันดันเป็นเรื่องของ Luna



[ผู้หญิง 1] – ร้าน Vivenne Westwood Strore หรอ ? แต่ร้านนี้ไม่ได้สำคัญจนเธอต้องสนใจเลยนะ 
[ผู้หญิง 2] – แหม่มันสำคัญตรงที่เธอกลับมานี่แหละ รีบไปดูกันดีกว่าพวกเธอ



[Prompto] – นั่นต้องเป็นชุดที่เราเห็นในหนังสือพิมพ์นั่นแน่ๆเลย
[Ignis] – น่าจะใช่แน่นอนนะเพราะชื่อดีไซเนอร์คนออกแบบก็คนเดียวกัน
[Prompto] – ไปดูกันหน่อยมั๊ยละ ?
[Gladio] – มันก็ขึ้นอยู่ว่าจะแทงใจดำให้เจ้าบ่าวเจ็บปวดหรือเปล่าที่งานแต่งของเขาต้องถูกยกเลิกไปน่ะ 
[Prompto] – แล้วใครบอกว่าเราทำให้มันกลับมาไม่ได้กันละ ? ก็งานแต่งมันก็ยังดำเนินอยู่นี่ไง
[Ignis] – แน่นอน เราไปดูด้วยตาตัวเองกันดีกว่า

คุยจบจะได้ Side Quest: Symbol of the Peace มาเป้าหมายคือตามหา ร้าน Vivenne Westwood Strore ที่ตั้งแสดงชุดแต่งงานของ Luna ซึ่งจะไม่มีตำแหน่งของเควสขึ้นมาให้ พยายามเดินไปตรงแถวๆจุดภารกิจหลัก ร้านจะอยู่ชั้นบนสุดของตึก


[Prompto] – อะไรมันจะคนเยอะขนาดนั้น
 [Ignis] – และนั่นก็ชุดแต่งงานไงละ บอกแล้ว
[Prompto] – ทำไมทุกคนดูมีความสุขจังกะอีกแค่ชุดแต่งงานชุดเดียวเนี้ย แต่ก็นะ ชั้นดีใจกับนายด้วยจริงๆที่ Lady Lunafreya เธอยังปลอดภัยดี 
[Gladio] – เอาน่า อย่างน้อยนายก็ทำให้มันเกิดขึ้นได้ มันกลายเป็นสัญลักษณ์แห่งสันติภาพไปแล้วนี่ .. หลังจากเราทำทุกอย่างจนเสร็จหมดแล้วก็ค่อยมาคิดเรื่องพิธีกรรมก็แล้วกัน
[Ignis] – เป็นความคิดที่ดีมาก
[Noctis] – อืมม ชั้นก็คิดไว้งั้นเหมือนกัน


-จากนั้นเดินทางมาที่จุดภารกิจหลักต่อที่บาร์ Maagho โดยต้องนั่งเรือกอนโดล่าไปจอดที่ floating Market Station – Maagho ก็จะพบกับ weskham เพื่อนของ Cid และยังเป็นพระสหายที่ร่วมผจญภัยกันมาของราชา Regis ด้วย


[weskham]- ขอต้อนรับสู่ Accordo หนุ่มๆ Cid บอกไว้แล้วว่าพวกนายจะเข้ามาที่นี่ ชั้น Weskham Armaugh โตขึ้นเยอะเลยนะเจ้าชาย ก็แน่นอนอ่ะนะเธอคงไม่ได้เป็นเด็กตลอดไปอยู่แล้วนี่ เป็นไง มาหาเจ้าสาวที่นี่หรอ สนุกกับการเดินทางไกลรึเปล่าละ ? เหมือนเธอจะมีคำถามเยอะเลยนะ เชิญถามมาได้เลย 
[Noctis] – เมืองนี้เป็นเมืองขึ้นของพวกจักรวรรดิด้วยใช่มั๊ยครับ ?
[weskham]- โอ้ ฮ่าๆ ระวังตัวจริงๆเลยนะ ชั้นเข้าใจ ก็ใช่แต่ก็ไม่ถึงกับต้องหลบตามเงามืดตลอดหรอกนะ แค่คอยระวังเป็นครั้งคราก็พอ เพราะที่นี่พวกจักรวรรดิมันให้อิสระต่อประชาชนค่อนข้างมาก แถมผู้คนที่นี่ก็ยอมรับในการเข้ามาของจักรวรรดิและไม่มีการต่อต้านอะไรเพราะ เราต้องการทำอะไรหรือร้องขออะไรไป Nifiheim ก็อณุญาติให้ทั้งหมด และดูเหมือนพวกเขาจะไม่ค่อยฉลาดหลักแหลมเท่าไหร่หรอกที่ยอมให้ Oracle ปรากฎตัวต่อสาธารณะชน ในขณะที่ทางรัฐบาลของเรากลับนิ่งเฉยและพยายามทำให้เรื่องนี้เป็นเรื่องลึกลับจับต้องไม่ได้ไปซะงั้น 



 [Noctis] – คุณคิดจริงๆหรอว่า Luna จะให้ที่อยู่ของเธอจริงๆ ? 
[Weskham]- ก็ถ้าเสียงตามสายที่ประกาศไปทั่วเมืองมันพอเชื่อถือได้ละก็ ..ใช่!
[Ignis] – พอรู้มั๊ยครับว่า Lady Lunafreya ตอนนี้อยู่ที่ไหน   
[weskham]- คงที่ไหนซักแห่งในเมืองนี้แหละ และคงไม่มีใครที่จะจับตัวเธอทันทีที่เหลือบเห็นเธอด้วย พวกสื่อที่ถึงแม้จะสนใจข่าวนี้แต่ทำเงียบเฉยไปจะดีกว่า ตราบใดที่ไม่ได้ถูกแทรกแซงจากรัฐบาล นั่นทำให้ยืนยันได้เรื่องเกี่ยวกับข่าวลือ เกี่ยวกับความไม่พอใจของพวกทหารจักรวรรดิจนต้องออกจากเมืองไป 

[Noctis] – คุณเห็นพวกทหารจักรวรรดิเข้ามาที่นี่บ่อยมั๊ยครับ ?
[weskham]-  ก็มีบ้าง พวกมันเข้ามาที่บ้านชั้นบ่อยเหมือนกัน การที่มีทหารจักรวรรดิเข้าออกเมืองเป็นเรื่องที่คนที่นี่ส่วนใหญ่ชินกันหมดแล้วจึงไม่ค่อยได้สนใจว่าพวกมันมีมากน้อยยังไงด้วย จะมีก็แต่เจ้าผู้บัญชาการร์ทหารสูงสุดที่เข้ามากร่างบ้างในทุกครั้งที่มันเข้ามาที่เมืองนี้  
[Noctis] – Ravus 
[weskham]-   ยิ่งพวกมันพลาดจาก Titan The Archaean ที่ Lucis เป้าหมายต่อไปของพวกมันจึงพุ่งเป้าต่อมายังที่ Altissia ทันที ดูเหมือนพวกจักรวรรดิจะไม่ได้ให้ความสำคัญกับโลกนี้มากนัก พวกมันต้องการครองสวรรค์มากกว่า 



[Noctis] – เรื่อง Leviathan มีอะไรเปลี่ยนแปลงเกี่ยวกับมันบ้างมั๊ยครับ ?
[Weskham]- ที่แน่ๆ ตอนนี้การตลาดแถวๆท่าเรือนั้นพุ่งกระฉูด และเห็นว่าทางรัฐบาลจะทำการเปิดแท่นบูชา Tidemother เร็วๆนี้ด้วยเพื่อเตรียมทำพิธีอัญเชิญ ในขณะที่อีกมือนึงก็เตรียมกักตุนสินค้ายังชีพในสถานะการฉุกเฉินเอาไว้อย่างเร่งด่วน ชั้นก็อยากจะถามว่า ถ้าพวกจักรวรรดิมันอยากจะตัดหน้าในการจับ Leviathan ทำไมต้องมาเสียเวลาทำพิธีอัญเชิญเพื่ออะไร ? ถ้าพวกเธอต้องการอะไรเพิ่มเติมรู้แล้วนะจะหาชั้นได้ที่ไหน  ... อ่า Camelia ที่รัก ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ
[Camelia]- ชั้นได้ยินมาว่าคุณมีแขกคนพิเศษงั้นหรอ ?
[Weskham]- โอ้ นี่คุณฟังข่าวลือด้วยหรอ 



[Camelia]-ท่านสุภาพบุรุษ ขอโทษที่ทำให้เสียเวลานะ ชั้นชื่อ Camelia Claustra 
[Ignis]- เลขานุการเอก แห่ง มลรัฐปกครองตนเอง Accordo
[Camelia]- คุณคงทราบนะว่า Lady Lunafreya อยู่ภายใต้การดูแลของเรา และทางจักรวรรดิต้องการให้เรามอบตัวเธอให้ 
[Noctis] – ว่าไงนะ !?
[Camelia]- ทางชั้นเองก็ไม่เต็มใจยินยอมนักหรอก จนกว่าจะได้ผลตอบแทนที่ดีพอ ชั้นถึงมาขอเจรจากับทาง Lucis ก่อน ถ้าคุณต้องการจะพูดคุยกันก็เข้ามาหาชั้นที่คฤหาสน์ได้นะ   



[Weskham]- เธอนี่ช่างหาผลประโยชน์ได้ถูกเวลาจริงๆ แต่ชั้นยืนยันได้นะว่าจิตใจเธอเองก็ไม่ได้ชั่วร้ายอะไรนักหรอก แต่อย่าเพิ่งไปคิดอะไรตอนนี้เลย พวกเธอคงเหนื่อยจากการเดินทางไกล ชั้นพอจะแนะนำที่พักดีๆให้พวกเธอนอนคิดสบายๆได้จนถึงเช้าค่อยว่ากันใหม่ก็แล้วกัน สนใจมั๊ยละ ?
[Noctis] – ครับ เราก็คิดว่างั้นเหมือนกัน 
[Weskham]-จงจำไว้เสมอนะว่าจากนี้ จงทำตามหัวใจของตัวเอง และจงทำทุกอย่างด้วยความระมัดระวังอย่างที่สุด แต่ไม่ว่าพวกเธอขาดเหลืออะไร Maagho Bar ของชั้นก็พร้อมจะจัดให้ตามที่ต้องการเสมอนะ  



                             Hunt Quest ที่ Maagho Bar ของ Weskham


1.Hunts Quest – Bewitched Blade stains The Waters
ระดับความยาก – LV17
เป้าหมาย – กำจัด Ronin 1 ตัว
ถิ่นที่อยู่ – เมือง Altissia
ช่วงเวลา – กลางคืน
Star – 2 ดาว (ครบดาวได้เพิ่ม Rank นักล่า)
ค่าหัว – 3,130 Gil
รางวัลนำจับ – Megalixir

2.Hunts Quest – A Nightmare Upon the Water   
ระดับความยาก – LV20
เป้าหมาย – กำจัด Hecteyes 2 ตัว
ถิ่นที่อยู่ – เมือง Altissia
ช่วงเวลา – กลางคืน
Star – 2 ดาว (ครบดาวได้เพิ่ม Rank นักล่า)
ค่าหัว – 3,280 Gil
รางวัลนำจับ – Megalixir


3.Hunts Quest – I’II Weeds Grow in the Night  
ระดับความยาก – LV22
เป้าหมาย – กำจัด Alv 3 ตัว
ถิ่นที่อยู่ – เมือง Altissia
ช่วงเวลา – กลางคืน
Star – 2 ดาว (ครบดาวได้เพิ่ม Rank นักล่า)
ค่าหัว – 3,450 Gil
รางวัลนำจับ – Megalixir

4.Hunts Quest – Back Alley spook 
ระดับความยาก – LV26
เป้าหมาย – กำจัด Mindflayer 2 ตัว
ถิ่นที่อยู่ – เมือง Altissia
ช่วงเวลา – กลางคืน
Star – 2 ดาว (ครบดาวได้เพิ่ม Rank นักล่า)
ค่าหัว – 3,990 Gil
รางวัลนำจับ – Heliodor Bracelet

5.Hunts Quest – A Lost panting  
ระดับความยาก – LV32
เป้าหมาย – กำจัด Chadarnook 1 ตัว
ถิ่นที่อยู่ – เมือง Altissia
ช่วงเวลา –  กลางวันและกลางคืน
Star – 3 ดาว (ครบดาวได้เพิ่ม Rank นักล่า)
ค่าหัว – 5,480 Gil
รางวัลนำจับ – Handkerchief

6.Hunts Quest – The Case of the Disappearing Hunter    
ระดับความยาก – LV29
เป้าหมาย – กำจัด Tonberry 2 ตัว
ถิ่นที่อยู่ – เมือง Altissia
ช่วงเวลา – กลางวัน และ กลางคืน
Star – 3 ดาว (ครบดาวได้เพิ่ม Rank นักล่า)
ค่าหัว – 5,480 Gil
รางวัลนำจับ – Megalixir

7.Hunts Quest – Will o the wisps out on the town  
ระดับความยาก – LV31
เป้าหมาย – กำจัด Grenade 2 ตัว
ถิ่นที่อยู่ – เมือง Altissia
ช่วงเวลา – กลางคืน
Star – 3 ดาว (ครบดาวได้เพิ่ม Rank นักล่า)
ค่าหัว – 5,120 Gil
รางวัลนำจับ – Mega Phoenix

8.Hunts Quest – Tourists fade into the Night    
ระดับความยาก – LV35
เป้าหมาย – กำจัด Salpinx 2 ตัว
ถิ่นที่อยู่ – เมือง Altissia
ช่วงเวลา – กลางคืน
Star – 3 ดาว (ครบดาวได้เพิ่ม Rank นักล่า)
ค่าหัว – 6,140 Gil
รางวัลนำจับ – Mega Phoenix

9.Hunts Quest – The Tragic Facts    
ระดับความยาก – LV41
เป้าหมาย – กำจัด Master Tonberry 1 ตัว
ถิ่นที่อยู่ – เมือง Altissia
ช่วงเวลา –กลางคืน
Star – 3 ดาว (ครบดาวได้เพิ่ม Rank นักล่า)
ค่าหัว – 8,360 Gil
รางวัลนำจับ – Mega Phoenix

10.Hunts Quest – King of the Great Escape    
ระดับความยาก – LV50
เป้าหมาย – กำจัด Bavarois 1 ตัว
ถิ่นที่อยู่ – เมือง Altissia
ช่วงเวลา –กลางคืน
Star – 4 ดาว (ครบดาวได้เพิ่ม Rank นักล่า)
ค่าหัว – 13,190 Gil
รางวัลนำจับ – Crusader’s Anklet

เมื่อเคลียร์ Hunt Quest จากทุกทีมาจนหมดจนถึงที่นี่ ดาวที่สะสมมาทั้งหมดก็จะทำให้ได้ Hunter Rank เป็นระดับ 8 แล้ว 


                                Side Quest: The Cursed Canvas 


เควสถ่ายรูปของ Vyv ที่รับมาตั้งแต่ที่เมือง Lestallum จุดถ่ายภาพที่ค้างอยู่นั้นอยู่ที่เมือง Altissia ก่อนอื่นต้องเข้าไปถามกับ weskham ที่บาร์ Maagho ก่อนจึงจะได้จุดหมายของภารกิจจุดต่อไปขึ้นมาในแผนที่ ซึ่งเป็นตำแหน่งของภาพวาดต้องสาป



โดยต้องรับ Hunt Quest A Lost panting จาก Weskham ที่ Maagho Bar มาด้วย จากนั้นนั่งเรือมาที่ท่าเรือ Ministerial Quarter Station ใกล้ๆกับจุดหมายภารกิจ ลงเรือแล้วขึ้นบันไดไปชั้นบน เข้าไปตามทางเดินข้ามไปอีกฝั่งจนเจอทหารเฝ้าทางลงไปที่ห้องเก็บของชั้นล่างอยู่


 ด้านล่างจะเป็นห้องเก็บของที่มีภาพวาดของ Lakshmi อยู่พร้อมกับจุดเกิดของ Boss Chadarnook ปีศาจที่เป็นเป้าหมายของเควส จัดการมันซะก็จะจบทั้งเงื่อนไขถ่ายถาพ ใน Side Quest: The Cursed Canvas และ Hunt Quest A Lost panting ไปพร้อมๆกัน


           

                             จุดแลกเหรียญ Oracle Ascension Coin





หากนั่งเรือไปลงที่ท่าเรือ Palsino Street Station จะพบชายที่ชื่อ Alession นั่งอยู่ในร้านอาหารหน้าท่าเรือ ซึ่งสามารถเอาเหรียญ Oracle Ascension Coin ที่สะสมไว้จากการได้ตามที่ต่างๆมาแลกไอเทมต่างๆกับเขาได้

      

Megalixir - 1 เหรียญ
Fire Crest  - 4 เหรียญ
Ice Crest - 4 เหรียญ
Lightning Crest - 4 เหรียญ
Dark Crest - 8 เหรียญ
Mighty Guard - 20 เหรียญ
Stone Wall - 30 เหรียญ
Ribbon  - 40 เหรียญ

โดยไอเทมที่น่าสนใจที่สุดก็คือ Ribbon ของสวมใส่กันความผิดปกติของทุกสถานะที่สามารถแลกได้ในราคา 40 Oracle Ascension Coin



                                   ลานประลอง Arena Galviano





หากนั่งเรือไปยังส่วนทางขวาล่างของเมืองจะพบกับ ลานประลอง Arena Galviano ที่มีแมทช์การประลองมอนสเตอร์ที่เรียกว่า Totomosttro ให้เข้าไปเล่นพนันเพื่อนำเหรียญ Galviano Medal ที่ได้จากการเล่นพนันไปแลกไอเทมดีๆมากมาย โดยสามารถอธิบายการเล่นพนันการประลองมอนสเตอร์ได้ดังนี้

1.Wager เริ่มพนัน โดยมีกติกาง่ายๆคือเลือกมอนสเตอร์ที่จะลงไปสู้ หากตัวที่เราเลือกนั้นชนะเหลือตัวสุดท้ายก็จะได้รางวัลมาตามอัตราต่อรอง ซึ่งจะมีตัวช่วยในการเลือกมอนสเตอร์ให้ได้เปรียบในการเอาชนะ โดยสามารถดูได้ 3 อย่างคือง



- Odds อัตราต่อรองหากมอนสเตอร์ตัวนั่นๆชนะ
- Condition สถานะทางร่างกายของมอนสเตอร์
- Team Composition ระดับเลเวลของตัวละคร

การเลือกก็จำเป็นต้องเลือกดูตามความเหมาะสมของปัจจัยทั้ง 3 อย่างให้ดี อัตราการต่อรองที่สูงนั่นหมายถึงมอนสเตอร์ตัวนั้นชนะได้ยาก สภาพร่างกายที่แข็งแกร่งหรืออ่อนแอ กับ ระดับเลเวลของศัตรู ยิ่งกว่านั้นยังต้องดูความสามาถของมอนสเตอร์ตัวนั้นรวมถึงเรื่องจำนวนของทีมด้วย เมื่อเลือกทีมได้แล้วก็ใส่จำนวนเหรียญ Galviano Medal เพื่อลงเดิมพัน

กติกาคือ
1. มอนสเตอร์ทีมที่เหลือเป็นตัวสุดท้ายภายในเวลาที่กำหนดเป็นผู้ชนะ
2. เหรียญรางวัลที่ได้จากการชนะ มากน้อยตามเงินที่เดิมพันและราคาต่อรองของมอนสเตอร์ตัวนั้นๆ  
3.หากทีมพ่ายแพ้จะเสียงเงินเดิมพันทั้งหมดที่ลงไป 
4. หากเวลาหมดก่อนจะมีฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดชนะ ถือว่าคือ การเสมอ คืนเหรียญที่ลงเดิมพันทั้งหมด 



ตัวช่วยในการเชียร์มอนสเตอร์ที่เลือกไว้นั้นเรียกว่า Horns หรือแตร์สำหรับเป่าเชียร์มอนสเตอร์ที่ลงแข่ง โดยระหว่างการแข่งหากมีปุ่มวงกลมให้กดรัวๆจนแถบสีเต็มก็จะทำให้ความสามารถของแต่ละ Horns มีเอฟเฟคต่างๆที่ไม่เหมือนกันออกมา ซึ่งสามารถกด L1 – R1 ในการสลับการใช้งาน Horn ต่างๆ

1.Horn of Fortitude มีแต่แรกแล้ว ความสามารถคือ Heals เพิ่มพลังชีวิตมอนสเตอร์เล็กน้อย
2. Horn of Resolve ราคา 30000 Gil ความสามารถคือ เพิ่มพลังโจมตีให้มอนสเตอร์
3. Horn of Tenacity ราคา 30000 Gil ความสามารถคือ เพิ่มพลังป้องกันให้มอนสเตอร์
4. Horn of madness ราคา 18000 Gil ความสามารถคือ เพิ่มพลังป้องกันให้มอนสเตอร์สูงสุด แต่พลังป้องกันจะต่ำสุด
5. Horn of Cleansing ราคา 8000 Gil ความสามารถคือ รักษาอาการผิดปกติทางสเตตัสของมอนสเตอร์



                      ** Horn ต่างๆสามารถซื้อได้ที่ร้านหน้าทางเข้าลานประลอง ** 

2. Prizes รางวัลสำหรับนำเอาเหรียญ Galviano Medal ที่ได้มาแลก โดยมีรางวัลต่างๆคือ


- Magitek Generator อุปกรณ์แต่งรถที่ทำให้ไม่ต้องใช้น้ำมันอีกต่อไป -  3600000 เหรียญ
-Diamond Bracelet – 1250000 เหรียญ
-Big Bang สติ๊กเกอร์แต่งรถ -450000 เหรียญ
-Mythic Color Samples สีแต่งรถ – 360000 เหรียญ
-Arapaima Roe - 240000 เหรียญ
-Enforcer ปืนที่มีระดับ critical hit สูง -180000 เหรียญ
-Precision Lance หอกที่มีระดับ critical hit สูง  – 120000 เหรียญ
- Llymlaen ลอกตกปลาที่ดีที่สุดในเกม – 85000 เหรียญ
- Big Mater Typhon รัวตกปลาแบบสั่น - 45000 เหรียญ
- Silver Bangle - 34000 เหรียญ
- Turbocharger อุปกรณ์แต่งรถเพิ่มความเร็วสูงสุด – 15000 เหรียญ
- Coeurl Whiskers – 7500 เหรียญ
- Great Garula Tusk - 2500 เหรียญ

3. Medals – นำเงินมาใช้แลกเหรียญ Galviano Medal เพื่อเอาไว้ใช้พนัน (10 Gil ต่อ 1 เหรียญ)
4. Leave – ออกจากการแข่งขัน


                                         Side Mission: Photo Op 



1. Photo Op: PARK  จุดถ่ายภาพของ Prompto ที่บริเวณ จุตรัส Listro Park

2. Photo Op: Palace  พยายามเดินด้านหลังโรงแรม Leville ไปมาจน Prompto เรียก จุดถ่ายรูปจะอยู่บนจุดขึ้นเรือด้านบน

3.  Photo Op: Dock จุดที่ Prompto พบจุดถ่ายภาพคือที่ท่าเรือด้านหน้าโรงแรม Leville  โดยให้เดินเข้าไปตามทางเดินที่จอดเรือด้านหน้า

4. Photo Op: Bar จุดที่ Prompto พบจุดถ่ายภาพคือบริเวณทางเดินฝั่งตรงกันข้ามกับ Maagho Bar 



เมื่อทำทุกอย่างที่สำคัญในเมืองหมดแล้ว เดินทางไปที่โรงแรม Leville  ** อย่าลืมแวะซื้อ Cactuar Scuipture ที่ร้านค้าหน้าโรงแรมกลับไปฝาก Talcott ด้วย ** จากนั้นเข้าไปด้านในโรงแรม จะพบ Gentiana กับเจ้า Umbra มารอที่หน้าฟอร์ทของโรงแรม



หากคิดว่าอานาคตข้างหน้ามันยังไร้ซึ่งความแน่นอน หนทางแห่งความทรงจำของเทพแห่งดวงดาวจะเปิดทางให้ผู้เป็นราชาได้ก้าวเดินเข้าสู้เส้นทางเพื่อย้อนคืน..


ตอนนี้จะสามารถใช้ความสามารถของ Umbra ในการย้อนกลับไปยังโลกกว้างได้อีกครั้ง โดยจะมีคำสั่ง Call Umbra ในทุกที่ที่มีที่พัก



คุยกับ Umbra เลือกตอบ Travel past Lucis Umbra ก็จะพา Noctis วาร์ปกลับไปยังที่พักครั้งล่าสุดในพื้นที่ของโลกกว้างอีกครั้ง เพื่อทำภารกิจย่อยต่างๆที่จะปลดล็อกออกมาให้สามารถทำได้ใน Chapter 9 นั่นเอง ...




                                 - PAST of LUCIS - 



 ทันทีที่วาร์ปกลับมาที่โลกกว้างอีกครั้ง Cindy ก็จะติดต่อมาหาทันที

[Cindy] – ฮัลโหล เอ่อ องค์ชาย คือจะว่าอะไรมั๊ยถ้าอยากจะให้มาที่ Hammerhead หน่อยน่ะ แบบขอด่วนเลยนะ คือเรากำลังเจอสถานการณ์ที่น่ากลัวมากๆอ่ะ มันเหมือนมีบางอย่างทำทุกอย่างใน Leide มันสั่นสะเทือนเลื่อนลั่นไปหมด พวกฮันเตอร์ก็แห่กันไปดูจนหมดแล้วแหละแต่ ชั้นว่าพวกเขาคงกำลังไม่พอแน่นอน คือ มันต้องใช้คนที่มากๆๆกว่านั้นอ่ะนะ พวกนายรีบมาด่วนเลยนะ


                          Side Quest: Let Sleeping Mountains Lie 


-เดินทางมาที่ อู่ Hammerhead ในเขต Leide แล้วเข้าไปคุยกับ Cindy


[Cindy] – มันมีอะไรบางอย่างที่มีขนาดใหญ่ที่ทำให้เกิดแผ่นดินไหวไปทั่วทางใต้ใกล้ๆกับ Longwythe Dave กับพวกฮันเตอร์คนของเขากำลังเข้าไปดูอยู่ ไอ้เจ้าสิ่งที่มันทำให้คนแตกตื่นกันไปทั่วก็เพราะไม่เคยมีใครได้ยินเสียงดังแบบนี้มาก่อนผู้คนเลยต่างกังวลกันไปหมด ชั้นเองก็ชักจะหวั่นๆเหมือนกัน หวังว่า Dave กับคนของเขาจะทำอะไรได้บ้างอ่ะนะ 

- จากนั้นเดินทางมาที่จุดหมายของภารกิจที่ Longwythe Rest Area แล้วเข้าไปคุยกับ Dave ที่หน้าที่พัก


[Dave] – ชั้นเห็นสัญชาติญาณนักล่าของพวกนายไม่ใช่ธรรมดาเลยเรียกกลับมาที่นี่ คนของชั้นบอกว่า เห็นแค่เงาขนาดใหญ่และรู้สึกได้ถึงแรงสั่นสะเทือนอย่างรุนแรงแต่ยังไม่มีใครเห็นตัวมันเลย ตอนนี้พวกเขากำลังเตรียมสเบียงอาหารเพื่อรอกำลังมาสมทบเพิ่มอยู่ แต่มีคนจาก Galdin ที่ชื่อ Dino บอกว่าเขามีข้อมูลของผู้ต้องสงสัยที่ว่านี่ นายลองไปคุยกับเขาดูหน่อยมั๊ย เพื่อจะได้ข้อมูลอะไรเพิ่มบ้าง

Dave จะพา Noct เข้ามาคุยกับคนที่ชื่อ Dino ที่อ้างว่ามาทำข่าวและมีเบาะแสสำคัญเกี่ยวกับเหตุการณ์สั่นสะเทือนประหลาดที่เกิดขึ้น ด้านในร้าน Crownest ตอนนี้จะเต็มไปด้วยเพื่อนๆที่ Noct รู้จักมากมายมารวมตัวกันอยู่ที่นี่เพื่อพูดคุยปรึกษาหาทางออกด้วยบรรยากาศเคร่งเครียด เข้าไปคุยหาข้อมูลกับทุกๆคนในร้านก็จะได้ทั้งข้อมูลและไอเทมดีๆติดไม่ติดมือมาใช้ด้วย


[Vyv] – ผมเห็นคุณกะเพื่อนที่ออกล่ามาตลอดด้วยนะ ไม่แปลกที่จะมาร่วมงานนี้ด้วย คนของผมเอง Dino เขาชอบมาทำข่าวตามสถานที่ที่มันอันตรายน่ะ คิดดูสิจะขายได้เท่าไหร่ถ้าได้รูปดีๆมา ดูก็รู้ว่านี่มันเป็นเรื่องตำนานเก่าแก่ของ Longwythe “ตำนานจากอดีตกลับมาหลอกหลอนถึงปัจจุบัน” พาดหัวหน้า 1 แบบนี้เลยคนชอบแน่นอน !
[Sania] – มาช้าจังเลยนะหนุ่มๆพวกนี้ ไงสนใจแรงสั่นสะเทือนประหลาดนี่เหมือนกันหรอ ? ชั้นมันชอบตามศึกษาเรื่องชีวะวิทยาโบราณด้วย จะว่างั้นก็ได้นะ ตอนแรกก็ยังลังเลอยู่ แต่ถ้าพวกนายสนใจจะช่วยจะดีมากๆเลย เขาเรียกอะไรนะ ยอดเขาแห่ง Longwythe วู้ !!! นี่มันตำนานชัดๆ ชั้นอยากจะเข้าไปตรวจสอบมันใกล้ๆเต็มทีแล้ว !!
[Navyth] – Noctis ไอ้หนุ่มนายเห็นแรงสั่นสะเทือนข้างนอกนั่นมั๊ย ? เล่นเอาปลาที่ชั้นเล็งไว้กลัวจนหนีหายไปหมดเลย ดีนะที่ยังพอตกได้บ้าง แต่ถึงงั้นก็เถอะ ไอ้แรงสั่นสะเทือนนี่มันผิดปกติมากจริงๆ ยังไงก็ตาม ชั้นก็ยังคงตกปลาต่อไปแน่นอน อยากสั่นก็สั่นไปเหอะ ถ้าเหยื่อดียังไงปลามันก็ไม่หลุดหรอกจริงมั๊ย ฮ่าๆ



[Dino] – ไม่ต้องบอกก็รู้ Dave บอกพวกนายแน่เลยถึงตามมาถึงนี่ได้ แต่ชั้นออกมารายงานข่าวเรื่องแผ่นดินไหวนะ แต่ชั้นมีข้อตกลงที่ดีๆนะ ให้ชั้นช่วยแชร์ข้อมูลจากสกู๊ปข่าวที่ได้มาละกัน สิ่งที่เขาเล่าๆกันมาจากการสืบเสาะตามสถานที่ต่างๆ พอรู้ได้ว่าเบาะแสที่ได้คือ ตัวมันเป็นหิน แล้วก็อยู่แถวๆ Crown City เธอชื่ออะไรนะ Monica ? เธอนั่นเป็นคนตามมันมาจนถึง Longwythe เธอนั่นแหละให้ข่าวชั้นมา
[Coctura] – แหม่ นึกว่าจะหลบพ้นแล้วนะ คือชั้นไม่ได้มาทำอาหารที่นี่หรอก แค่ผ่านมาส่งข่าวสารแค่นั้นแหละ แล้วก็ แฮะๆ ช็อปปิ้งอีกนิดหน่อย แผ่นดินไหวสร้างแรงสั่นสะเทือนไปจนถึงที่ Quay จนเรือไม่สามารถออกจากท่าได้ ภัตราคารก็เสียหายด้วย เราต้องรีบแก้ปัญหานี่เดี๋ยวนี้



หลังจากคุยกับทุกคนในร้านทั้ง Cid , Iris , Talcott , Holly , ป้า Kimya และ Takka ,และจดหมายแสดงความห่วงใยจาก Wiz บนโต๊ะ ทุกคนต่างก็จะให้ความเห็นจากสิ่งที่ตัวเองเคยได้ยินมาถึงเรื่องราวของตำนานสัตว์ขนาดใหญ่ที่กำลังสร้างความเสียหายจากแผ่นดินไหวจากแรงสั่นสะเทือนที่เกิดขึ้น เมื่อได้ไอเทมต่างๆติดมือมาจากการให้กำลังใจหลังจากพูดคุยกับทุกๆคนแล้วก็กลับไปคุยกับ Dave เพื่อออกจากร้านแล้วเดินทางต่อไปยังเป้าหมายที่ขึ้นมาใหม่เพื่อเข้าไปคุยกับ Monica ต่อ

ก่อนออกเดินทางแวะพักโรงแรมที่นี่ซักคืน ในคืนนั้นหลังเข้าพักที่ Noct จะออกมานั่งกินลมชมวิวอยู่บนหลังคาก่อนที่ Prompto จะตามมาแล้วทั้งคู่ก็เริ่มเปิดใจสนทนากัน ..


[Prompto] – ไง ทำไรอยู่ ?
[Noctis]- ก็ไม่ได้ทำอะไรนี่ นั่งชิวๆ
[Prompto] – อืมม หรอ ดีๆ ..เฮ้ออ ..

เลือกตอบ [Make Small Talk] (พูดอะไรออกมานิดหน่อย) 

[Noctis]- วันนี้ก็ถือว่านรกอีกวันอ่ะเนอะ ..
[Prompto] – ช่ายๆ แต่ก็หนุกดีนะ ทุกวันสนุกหมดอ่ะ ถ้าเรามีอะไรให้ฆ่าอ่ะนะ เฮ้อ ชั้นก็นึกภาพไม่ออกเหมือนกันนะที่คนอย่างชั้นจะได้มาทำงานแบบนี้ แถมยังได้ออกไปผจญภัยพร้อมกับพวกนายอีกด้วย  
[Noctis]- ใช่ ใครจะคิดเนอะ
[Prompto] – นึกๆแล้ว นี่เราเป็นเพื่อนกันนานแค่ไหนแล้วเนี้ย เดี๋ยวนะ  เริ่มตั้งแต่ไฮสคูล ก็คง อืมม .. 5 ปีแล้วป่ะ
[Noctis]- มันนานกว่านั้น จริงๆเรารู้จักกันตั้งแต่สมัยประถมแล้วไม่ใช่รึไง ?
[Prompto] – ห๊ะ นี่นายยังจำได้ด้วยหรอ ?
[Noctis]- คงจะลืมยากอ่ะนะ ในช่วงเวลานั้น  
[Prompto] – แหม นายรู้มั๊ย มันไม่ใช่เรื่องง่ายๆนะที่จะได้รู้จักคนในราชวงศ์น่ะ
[Noctis]- ตอนเราเจอกันตอนไฮสคูล นายหลอกชั้นว่าเราเจอกันครั้งแรกไม่ใช่หรอ ?
[Prompto] – เออ ช่าย ตอนนั้นชั้นก็กวนประสาทไปงั้นแหละ ... เฮ้อ รู้สึกเหมือนวันเก่าๆเลยเนอะ 
[Noctis]- นายพูดเหมือนมันเพิ่งจะเกิดขึ้นงั้นแหละ มันนานมากแล้วนะ
[Prompto] – โอ้ Noct ..นายนี่มันไม่เข้าใจอะไรเลยจริงๆ ... เฮ้อ ก็ตอนนั้น ชั้นเคย ... ช่างมันเถอะ .

เลือกตอบ [Urge him] (พูดกระตุ้นให้พูดต่อ)

[Noctis]- อ้าว เฮ้ย อย่าพูดครึ่งๆกลางๆแบบนี้ดิ
[Prompto] – เออ ชั้นรู้ ชั้นก็แค่เป็นคนขี้อายมากๆ ไม่ค่อยจะกล้าพูดอะไรกับผู้คนซักเท่าไหร่  ไม่แปลกหรอกที่จะไม่เคยมีเพื่อนจริงๆจังๆเลยซักคน จริงๆแล้วไม่เคยมีเพื่อนเลยมากกว่า ที่ผ่านมาชั้นก็โดดเดี่ยวมาตลอด พอนึกถึงตอนนั้นทีไรก็รู้สึกว่าตัวเองแม่ง..  ไร้ค่า 




เลือกตอบ [Express interest] (ให้ความสนใจเป็นพิเศษ)

[Noctis]- เรื่องนี้ใช่มั๊ยที่มันกำลังรบกวนใจนายอยู่อ่ะ
[Prompto] – เอ่อ ชั้นหมายถึง เวลาที่นายมองชั้น นายคงไม่คิดหรอกว่าชั้นจะคิดอะไรที่ซีเรียสๆแบบนั้นเป็น ก็คงแค่เห็นว่าเป็นคนที่ตลกเฮฮาไปวันๆ แต่นั่นมันไม่ใช่ตัวจริงของชั้นหรอกนะ  เบื้องหลังการพูดเล่น หัวเราเฮฮา แบบนั้น จริงๆชั้นเป็นคนคิดมากเลยละ ชั้นคิดมาตลอดว่าต่ำต้อยกว่านายทุกคน ชั้นไม่ใช่เชื้อพระวงศ์เหมือนนาย ไม่ได้แข็งแกร่งเหมือน Gladio ไม่ได้ฉลาดเหมือน Ignis ทำอาหารกินเองไม่เป็นด้วยซ้ำ ชั้นไม่มีอะไรดีเลย เข้ากับคนอื่นก็ไม่เก่ง ทุกครั้งที่พยายามจะเข้าหาหรือมีปฎิสัมพันธฺกับคนอื่นก็ถูกตอบกลับมาแบบแปลกๆตลอด แต่เมื่อชั้นออกมาลุยผจญภัยข้างนอกกับพวกนาย ชั้นสนุกมาก สนุกจนลืมว่าชั้นเคยเป็นยังไง แม้ว่าความเป็นจริงมันขะถาโถมเข้ามาเหมือนโดนน้ำเย็นๆสาดหน้าให้สะท้านอยู่ตลอด แต่ชั้นก็ไม่สนหรอก เพราะต้องการที่จะทำ เพราะทุกๆความเลวร้ายที่ชั้นผ่านมาได้นั่นมันพิสูจน์ได้ว่าชั้นดีพอ 

เลือกตอบ [Comfort him] (พูดปลอบใจเขา) 

[Noctis] -นายจะคิดยังไงก็ได้ แต่สำหรับชั้น ชั้นคิดว่านายดีพอสำหรับชั้นวะ 
[Prompto] – นายคิดว่าชั้นทำดีแล้วจริงๆหรอ ?
[Noctis]- ก็เออสิ มีอะไรรึเปล่าละ ?
[Prompto] – อ่า ไม่ ไม่ได้ว่าอะไรแน่นอน โทษที ชั้นก็แค่รู้สึกว่าทุกอย่างที่เคยคิดไว้มันเป็นจริงอย่างที่เคยตั้งใจไว้เร็วจนไม่ทันตั้งตัวเลยน่ะสิ 
[Noctis]- รู้ตัวก็ดีแล้ว นายคิดว่าชั้นจะยอมเสียเวลากับไอ้ขี้แพ้คนเดิมนั่นอีกรึไง
[Prompto] – ฮ่าๆ นายนี่มันบ้าจริงๆเลยวะ พูดจริงๆนะ ชั้นคิดว่า อยากจะขอบคุณที่ยอมมาเสียเวลาและให้โอกาสกับคนขี้แพ้อย่างชั้น .. เฮ้อ รู้สึกดีมากเลยที่ได้พูดออกไป เหมือนยกภูเขาออกจากอกเลยจริงๆ 
[Noctis]- ดีใจที่ได้ยินแบบนั้นนะ 
[Prompto] – เอาละ ชั้นก็จะก้าวต่อไปและต่อไปๆ คงเป็นทางเดียวที่ชั้นจะทำได้อ่ะนะ 
[Noctis]- เออ ..นายควรทำแบบนั้นนั่นแหละ 





     ** เมื่อเลือกตอบทำให้ Prompto สบายใจได้แล้วก็จะได้ The Playful Pop Filter เป็นรางวัล ** 

 



จากนั้นเดินทางไปตามจุดหมายของภารกิจต่อไปเพื่อเข้าไปพบ Monica และ Dustin ที่กำลังสะกดรอยตามหาข่าวตัวการที่ทำให้เกิดแผ่นดินไหวอยู่



[Monica]- ดีใจที่เจอฝ่าบาทอีกนะ เจ้าชาย Noctis จากที่ชั้นกับ Dustin ได้สืบเรื่องของแรงสั่นสะเทือนรุนแรงที่เกิดขึ้นเมื่อเร็วๆนี้ ชั้นตามสืบหาข้อมูลต่อจนรู้ว่า แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นนั้นเกิดจากสัตว์โบราณขนาดใหม่ที่เรียกว่า “Adamantoise” เจ้าสัตว์ร้ายนี่อันตรายจนพวกเราไม่สามารถเข้าใกล้ได้เลย ถ้าฝ่าบาทตัดสินใจแล้วว่าจะเสี่ยงที่จะเข้าไปใกล้มัน ก็ขอให้ระมัดระวังตัวมากๆด้วยนะคะ 



ทันทีที่คุยจบเจ้าเต่ายักษ์ Adamantoise ก็จะปรากฏตัวออกมาทันที ตอนนี้ยังไม่สามารถสู้มันได้ ให้ต้านมันไว้จนกว่าเวลา 3 นาทีจะหมดแล้วค่อยหนีออกจากการต่อสู้ จากนั้นหากต้องการจัดการเต่ายักษ์ Adamantoise ให้สิ้นซากก็ต้องเข้าไปรับ Hunt Quest กับ Takka ที่ร้านอาหารใน Hammerhead ได้เลย


                    Hunt Quest: Lenely Rumblings in Longwythe


 ระดับความยาก – LV99
เป้าหมาย – กำจัด เต่ายักษ์ Adamantoise 1 ตัว 
ถิ่นที่อยู่ – Longwythe Peak
ช่วงเวลา – ตลอดเวลา  
Star – 5 ดาว (ครบดาวได้เพิ่ม Rank นักล่า) 
ค่าหัว – 50,000 Gil 
รางวัลนำจับ – Adamantite Bangle 



ทันทีที่รับเควสมา แรงสั่นสะเทือนเลื่อนลั่นก็เริ่มสั่นขึ้นทันที ท่ามกลางผู้คนที่แตกตื่นจนหลบเข้าไปที่พักจนหมดก็ปรากฎเจ้าเต่ายักษ์ Adamantoise ออกมาที่ Longwythe Peak ในบริเวณลานกว้างด้านหน้าของ Hammerhead เตรียมตัวให้พร้อมแล้วเข้าไปจัดการมันได้เลย



จุดอ่อนของเต่ายักษ์ Adamantoise นั้นอยู่ที่ตาและสามารถโจมตีทีขาให้รุนแรงต่อเนื่องจนทำให้มันล้มได้ ซี่งจะทำให้มันสลบไปชั่วขณะจนสามารถโจมตีมันได้รุนแรงกว่าเดิม ที่เหลือก็อยู่ที่ฝีมือ ระดับเลเวลและสเตตัสของตัวละครที่เตรียมตัวมาแล้ว





..................................................................................................................................................

           

                Side Quest ที่สามารถทำได้ใน Chapter 9


                      Side Quest ช่วยคนรถเสีย 

                                      ในเขตพื้นที่ Leide]


 1. Side Quest – Automotive Agitation รถจอดเสียอยู่ที่ลานจอดรถที่ Abandoned Barn ทางตะวันตกของ the three Valleys

   



 2. Side Quest – Careless in a Car รถจอดเสียอยู่ใต้สะพานลอยทางตะวันตกของเขตพื้นที่ Leide ก่อนถึงหน้าทางเข้าเมือง Crown City



      



                            **  จบทุกภารกิจช่วยคนรถเสียในพื้นที่ Duscae **    
                                   


                                    [ในเขตพื้นที่ Duscae]  


1. Side Quest: Tune-Up Shmune-Up เจอรถที่ริมทางแยกซ้ายของ Secullam pass ในเขต Duscae





2. Side Quest: The Perpetual Passenger เจอรถที่ทางแยกใกล้ๆจุดจอดรถ Old Holty Ranch ทางใต้ของฟาร์ม Wiz Chocobo post






3. Side Quest: Through a Rose-Tinted Windshield เจอรถที่ริมถนนทางเหนือของพื้นที่ Kettier hightland ในเขต Duscae






4. Side Quest: Hurrying Home เจอรถในป่าข้างทางในทางเชื่อมระหว่าง Causcherry Plains และ หอคอย Costlemark Tower ในเขต Duscae





                             **  จบทุกภารกิจช่วยคนรถเสียในพื้นที่ Duscae **  


                                 [ในเขตพื้นที่ Cleigne]  


1. A Manic Motorist เจอรถที่จุดจอดรถ Ravatoghan Trail ริมถนนที่มุ่งสู่ภูเขา the rock of Ravatogh





2. Alone on the Road เจอรถที่ริมถนนตรงหน้าทางขึ้นภูเขา the rock of Ravatogh






3. Pedal to the Metal เจอรถที่ทางแยกด้านใต้ของฐาน Fort Vaullerey





                               ** จบทุกภารกิจช่วยคนรถเสียในพื้นที่ Cleigne **  



                    Side Quest ช่วยเหลือคนบาดเจ็บ 


                                        [ในเขตพื้นที่ Leide]


1. Side Quest – When you Believe คนบาดเจ็บจะอยู่ในซากโบราณที่ลานกว้างหน้าดันเจี้ยน Keycatrich Trench ทางเหนือของเขต Leide





                                ** จบทุกภารกิจช่วยคนบาดเจ็บในพื้นที่ Leide **


                                       [ในเขตพื้นที่ Duscae]  


1. In Low Spirits คนบาดเจ็บจะนั่งอยู่ริมเนินเขาด้านบนของฐาน Aracheole Stronghold






2. The Verge of Despair คนบาดเจ็บนั่งอยู่ตรงโขดหินริมรั้วสุดเขตป่าทางซ้ายของจุดพักแรม Wainterre Haven ฝั่งซ้ายของ ฐาน Aracheole Stronghold






3. Weary and Wounded คนบาดเจ็บนั่งอยู่ริมกำแพงในบริเวณฝั่งซ้ายบนของหอคอย Costlemark Tower







4. Down on your Luck คนบาดเจ็บอยู่ในป่าที่ตีนเขาทางขวาของ Saxham Outpost ทางใต้ของปั้ม Coernix Station ในเขต Cauthess




                              ** จบทุกภารกิจช่วยคนบาดเจ็บในพื้นที่ Duscae **  


                                      [ในเขตพื้นที่ Cleigne]  


1.  Losing Heart คนบาดเจ็บจะอยู่ในป่าเรียบถนนเส้นทางเหนือของเมือง Old Lestallum




2. Keeping the Faith (ต้องเจอจุดคนเจ็บใน Side Quest: Losing Heart ก่อน) คนบาดเจ็บจะอยู่ที่เนินหินริมแม่น้ำเรียบถนนทางใต้ของดันเจี้ยนน้ำตก Greyshire Glacial Grotto





3. Injured and Introspective คนบาดเจ็บจะอยู่บนเนินหินทางขวาของทางขึ้นภูเขา The Rock of Ravatogh





4. Blame the Beasts! คนเจ็บจะอยู่ในป่าทางใต้ของจุดตั้งแค้มป์ Capitis Haven ด้านใต้ของบึง The Vesperpool




5. Not so Easy Anymore คนเจ็บจะอยู่ริมบึงด้านขวาบนของ The Vesperpool ทั้งซ้ายของทางเข้าดันเจี้ยน Steyiff Grove





                            ** จบทุกภารกิจช่วยคนบาดเจ็บในพื้นที่ Cleigne **  

** ถึงตรงนี้ side Quest ช่วยคนรถเสียและช่วยฮันเตอร์ที่บาดเจ็บก็จะครบทั้ง 60 ภารกิจแล้ว ** 





                         Side Quest  - Scraps Of Mystery เก็บแผนที่ลึกลับ


ภารกิจต่อเรื่องจาก Chapter 3 หลังจากที่เก็บ Mystery Map XIII ที่ด้านซ้ายของบ้าน Hexes ตรงหน้าทางเข้าดันเจี้ยน Malmalam thicket ได้ Side Quest Scraps of Mystery XIII มาแล้ว

เข้าไปที่จุดเป้าหมายของภารกิจนั้นต้องขึ้นลิฟต์ไปบนชั้น 2 ของประภาคารที่แหลม Cape Caem ที่ตอนบทที่ 3 นั้นยังไม่สามารถขึ้นลิฟต์ไปชั้นบนได้


แต่เมื่อกลับมาจาก Altissia แล้วเมื่อเข้าไปที่ประภาคารจะสามารถขึ้นไปชั้น 2 ได้แล้ว เดินวนไปอีกด้านของทางเดินก็จะเจอ Sylvester's Map Piece M ให้เก็บ



- แผนที่อันที่ 14 อันสุดท้าย  Mystery Map XIV เก็บที่ซากรถข้างบ้านร้างตรงลานกว้างทางใต้ของฐาน Fort Vaullerey ตามจุดในแผนที่ จะได้ Side Quest Scraps of Mystery XIV มา


          



เข้าไปที่จุดเป้าหมายของภารกิจที่ขึ้นมาที่ด้านในดันเจี้ยนถ้ำน้ำแข็ง Greyshire Glacial Grotto เข้าไปด้านในตามตำแหน่งในแผนที่ เก็บ Sylvester's Map Piece N มา




เมื่อเก็บแผ่นที่ลึกลับ Mystery Map จนครบ 14 จะทำให้แผนสมบูรณ์ทำให้ตำแหน่งที่ซ่อนของสมบัติลึกลับขึ้นมาที่ด้านบนภูเขา The Rock of Ravatogh พร้อมกับ Side Qiest: X Marks the spot


                                  Side Qiest: X Marks the spot




จากนั้นก็มุ่งหน้าไปที่ภูเขา The Rock of Ravatogh แล้วขึ้นไปบนเขาตามตำแหน่งในแผนที่




เก็บสมบัติมาจะพบว่ามันคือ Mythril Ingot และขอความของนาย Sylvester คนทำแผนที่ใจความว่า

The Tresure is not which you find at journey’s end but the journey itself this is immutable truth because I say so and I’m the One who hid the maps Thank you for the memories 

Your sincerely
Sylvester Yeagre




สิ่งสำคัญของการเดินทางไม่ใช่ ทรัพย์สมบัติที่คุณจะพบเมื่อสิ้นสุดการเดินทางแต่หากเป็นการเดินทางเองต่างหากที่สำคัญ ไม่มีอะไรเปลี่ยนความจริงนี้ได้ เพราะว่าผมได้บอกเอาไว้และยากที่จะมาอธิบายว่าทำไมต้องเป็นแบบนั้น  ผมเป็นหนึ่งในคนที่ซ่อนแผนที่พวกนั้นเอง ขอบคุณสำหรับความทรงจำที่ดี
 ... ขอแสดงความนับถือ Sylvester Yeagre


จากนั้นเดินทางมาที่เมือง Lestallum เข้าไปหาเจ้าอ้วน Vyv เพื่อนำเอาภาพต้องสาปของนาง Lakshmi ที่ถ่ายได้ที่เมือง Altissia มาให้เขาเพื่อจบ side Quest The Cures Canvas พร้อมรับรางวัลได้เลย



     และทั้งหมดคือ Side Quest ทั้งหมดที่สามารถทำได้ในดินแดน Lucis นี้แล้ว 




                    
เมื่อทำทุกอย่างที่ อาณาจักรลูซิส จนครบถ้วนตามที่ต้องการแล้ว ก็เข้าที่พักเลือก Call Umbra วาร์ปกลับไปที่ Altissia เพื่อดำเนินภารกิจของเนื้อเรื่องใน Main Mission: The Summit ต่อได้เลย



                                 Main Mission: The Summit


นั่งเรือไปลงที่ท่า Ministerial Quarter Station แล้วเข้าไปที่เป้าหมายของภารกิจที่คฤหาสน์ของ Camelia เลขานุการเอก แห่ง มลรัฐปกครองตนเอง Accordo เมื่อเข้าไปด้านในแล้ว การเจรจาต่อรองระหว่าง Noct และ Camelia ก็เริ่มขึ้น โดยเป้าหมายคือเลือกตอบบทสนทนาเพื่อให้ Camelia ยอมรับ

ผลคะแนนจากการเลือกคำตอบต่างๆที่ได้แตกต่างกันนั้น ทำให้ผลการเจรจาจบลงต่างกันและได้ไอเทมรางวัลในจำนวนต่างกันเท่านั้น แต่จะไม่ส่งผลไปเปลี่ยนแปลงเนื้อเรื่องของเกมแต่อย่างใด โดย Line คำตอบและคะแนนจะเป็นไปตามตารางด้านล่าง






     ผมจะลงคะแนนคำตอบแต่ละอันไว้ให้เพื่อสะดวกในการเลือกตอบโดยคำตอบที่ดีจะเป็นสีส้ม  

 


[Noctis] – ก่อนอื่นเลย ….




ตัวเลือกแรก : Express gratitude (แสดงความรู้สึกขอบคุณ +3 ) , Probe knowledge (ทดสอบความรู้ +2) , Pry into private affairs (สอดรู้สอดเห็นเรื่องส่วนตัว)

[Noctis] – ผมขอขอบคุณที่ยอมให้เข้าพบแบบเป็นการส่วนตัวนะครับ
[Camelia] – มันเป็นสิ่งสำคัญที่ควรปฎิบัติกับกษัติรย์น่ะ Weskham ไม่ได้มีส่วนโน้มน้าวชั้นให้ทำอะไรทั้งนั้น ทั้งหมดเป็นการตัดสินใจของชั้นเอง ถึงแม้ว่าสถานการณ์ที่ในตอนนี้ไม่มีทางเลือกให้มากนัก ก็ทั้งกษัตริย์และ Oracle ต่างก็มาอยู่พร้อมหน้ากันที่ Altissia กันหมดแล้ว 
[Noctis] – นั้นคุณกำลังบอกว่า Luna อยู่ในการดูแลของคุณแล้วใช่หรือเปล่า ?



ตัวเลือกที่ 2 : Show concern for Accordo (แสดงความเป็นห่วง Accordo +2)  , Doubt Luna’s Security (ไม่ไว้ใจในความปลอดภัยของลูน่า +1 ) , Demand to see Luna (ต้องการขอพบลูน่าก่อน)

[Noctis] – การทำแบบนั้นมันไม่เป็นการนำประเทศของคุณต้องเสี่ยงไปด้วยหรอ ?  
[Camelia] – ท่านกังวัลเรื่องความสัมพันธ์ของเรากับทางจักรวรรดิ์ด้วยงั้นหรอ ? แต่มันก็จริง Oracle คือความเสี่ยงมาก แต่เราก็เตรียมการในเรื่องการซ่อนตัวเธอไว้เป็นอย่างดีแล้ว แต่ไม่ว่ายังไงก็เถอะ จากนี้ทั้งหมดมันก็ขึ้นอยู่กับนายแล้ว เอาละ ชั้นขอถามอะไรเป็นการส่วนตัวหน่อยจะได้มั๊ย ทำไม Oracle ต้องพยายามค้นหาและปลุก Hydraean ให้ตื่นขึ้นมาด้วยละ? 



ตัวเลือกที่ 3 : Be truthful (ตอบแบบเปิดเผยความจริง +2) , Answer vaguely (ตอบแบบคลุมเครือ +1) , Tell her nothing (ไม่ตอบอะไรเลย)

[Noctis] – เธอกำลังดำเนินการไปตามข้อกำหนดที่เป็นธรรมเนียมปฎิบัติที่ทำกันมา ส่วนผมก็สามารถอัญเชิญ leviathan เพื่อเอามาใช้ประโยชน์ในการต่อสู้ได้ 
[Camelia] – หึหึ เป็นคำตอบที่ชั้นอยากฟังมานานแล้ว แต่ ไม่ว่าจะเป็นกษัตริย์หรือไม่ก็แล้วแต่ ก็ไม่มีสิทธิ์จะอัญเชิญเทพเจ้าเพื่อไปใช้ในเรื่องส่วนตัวจริงมั๊ย ? ชั้นพูดตรงๆเลยนะ ชั้นห่วงว่ามันอาจจะทำให้เกิดเรื่องวุ่นวายขึ้นมาได้ คุณเองน่าจะรู้ดีที่สุดว่า The Archaean ทำให้เกิดอะไรขึ้นที่ Lucis เพราะตามข่าวว่าคุณก็อยู่ที่นั่นด้วย ไหนลองบอกชั้นสิว่า มันเกิดอะไรขึ้นที่นั่นกันแน่ ?



ตัวเลือกที่ 4: Be truthful (พูดความจริง +1) ,Be cheeky (พูดแบบเจ้าเลห์ กวนๆ)

[Noctis] – ผมได้พบกับ ไททั่น และเขาก็ให้พลังกับผมมา 
[Camelia] – เหมือนอย่างตำนานเคยกล่าวไว้ใช่มั๊ย แต่คิดว่าพวกจักรวรรดิ์คงไม่ชอบใจแน่ๆ แม้กระทั้งตอนที่เรากำลังคุยกันอยู่พวกเขาก็อาจกำลังเคลื่อนพลโดยไม่มีการแจ้งเตือนจนเกิดความวุ่นวายขึ้นจนเกิดสงครมขึ้นก็อาจเป็นได้ แต่ยังไงก็เถอะ ชั้นจะไม่ยอมให้เกิดความวุ่นวายหรือสงครามในประเทศของชั้นไม่ว่าจะเพราะพวกจักรวรรดิ์หรือเทพเจ้าองค์ไหนก็เถอะ



ตัวเลือกที่ 5: Allude to a common enemy (พูดถึงการมีศัตรูร่วมกัน) (1) , Show concern for the city (แสดงความกังวัลเรื่องบ้านเมือง) (2) , Be realistic (พูดถึงสิ่งที่เป็นเหตุเป็นผลที่สามารถทำได้จริง) (3)

** ตัวเลือกชุดนี้เลือกอันไหนก็ได้ (1) (2) (3) จะทำให้เกิดชุดคำถามใหม่ที่แตกต่างกันและมีผลของคะแนน + ไม่เหมือนกันดังนี้ **



คำตอบที่ดีท่สุดคือ Line ที่ 2 Show concern for the city (แสดงความกังวัลเรื่องบ้านเมือง)

[Noctis] – มันคงจะเกิดหายนะแน่ๆถ้าการต่อสู้เกิดขึ้นในเมืองที่เต็มไปด้วยผู้คนอ่ะนะ
 [Camelia] – ใช่เลย เราถึงต้องการให้มีแผนการอพยพประชาชนของเราไงละ



ตัวเลือกที่ 6: Agree with her (เห็นด้วยตามที่เธอพูด) + 3 , Cut to the chase (พูดเข้าประเด็นโดยไม่วกวนไปมา ) +5   , Distance yourself (เปลี่ยนมุมมองของตัวเอง)

[Noctis] – ข้อตกลงของคุณคืออะไรบอกมา 
[Camelia] – ต้องเข้าใจก่อนว่า การจะทำการอพบยอย่างที่ว่าท่ามกลางสถานการณ์ความวุ่นวายนั้นเป็นไปได้ยากมาก และเพื่อไม่ให้เกิดการโกลาหล เรามาเข้าเรื่องข้อตกลงของเรากันดีกว่า เพื่อให้ความวุ่นวายที่อาจจะเกิดขึ้นขยายวงออกไป ถ้าหากคุณต้องการดำเนินแผนการตามที่ตั้งใจไว้ คุณต้องรับรองความปลอดภัยให้ประชาชนของชั้นโดยการอพยพพวกเขาไปอยู่ในที่ปลอดภัยด้วย  



ตัวเลือกที่ 7: Agree to help evacuate (ตกลงที่จะช่วยอพยพ +4) , Suggest further measures (เสนอแนะมาตรการณ์เพิ่มเติมให้ +2) , Feign apathy (แกล้งทำเป็นแสดงอาการเมินเฉยไม่สนใจ)

[Noctis] – ตกลง ผมจะทำตามที่คุณขอ
[Camelia] – ชั้นอยากจะฟังอะไรอีกอย่างนึงจากคุณ ตราบใดที่รับประกันว่าประชาชนของชั้นยังปลอดภัยอยู่ เมื่อพิธีกรรมเริ่มขึ้น ชั้นจะไม่ขอก้าวกายและมีส่วนร่วมในการรับผิดชอบขณะที่คุณทำพิธีกรรมของคุณนะ คุณจะต้องดำเนินการทุกอย่างด้วยตัวเอง ตกลงมั๊ย ? .. นอกนั้นชั้นก็ไม่ติดขัดอะไรแล้ว 



ตัวเลือกที่ 8: Act confident (แสดงออกแบบเชื่อมั่นในตัวเอง +1) , Act displeased (แสดงความไม่พอใจแต่ก็ต้องทำ+3) , Act worried (แสดงความกังวล)

[Noctis] – ไม่มีปัญหา ... เรารู้ดีว่าจะดูแลตัวเองกับเรื่องนี้ยังไง 
[Camelia] –
 ขอบคุณมาก ชั้นขอโทษด้วยที่เราช่วยอะไรไม่ได้มาก แต่ชั้นมั่นใจว่าคุณคงรู้วิธีที่ดีแล้วนะว่า คนของคุณไม่กี่คนจะรับมือกับกองเรือรบของพวกจักรวรรดิ์ได้ยังไง ... ทั้งหมดนั่นคือข้อตกลงของเรา คุณต้องช่วยเรื่องอพยพประชาชนของเราและต้องจัดการพวกจักรวรรดิ์ด้วยตัวเอง ว่ายังไง ตกลงมั๊ย ? 



ตัวเลือกที่ 9: Agree amicably (ตกลงกันฉันท์มิตร +3 ) , Accept casually (ตอบตกลงไปงั้น +1) , Respond pompously (ตอบโต้อย่างหยิ่งยะโส)

[Noctis] – ตกลง เราจะสู้ไปด้วยกันเฉกเช่นพัทธมิตร
[Camelia] – พัทธมิตร ? ตกลงคุณเชื่อใจว่าเราให้เป็นส่วนนึงในการดูแล Oracle ให้ปลอดภัยแล้วหรอ ? ขอเตือนเป็นครั้งสดท้ายนะ ภาระหน้าที่ของชั้นคือดูแลให้ประชาชนของชั้นปลอดภัย หากมีเรื่องผิดพลาดที่ทำให้เกิดอัตรายกับพวกเขาไม่ว่าจะตั้งใจหรือไม่ ชั้นจะคิดบัญชีกับทั้งคุณและ Oracle อย่างสาสม



ตัวเลือกที่ 10: Empathize with her position (เห็นอกเห็นใจเรื่องตำแหน่งของเธอ) (1)  , Return the threat (พูดข่มขู่กลับไป) (2) , Remain silent (ยังคงนิ่งเฉยไม่พูดอะไร)

** ตัวเลือกชุดนี้เลือกอันไหนก็ได้ (1) (2) (3) จะทำให้เกิดชุดคำถามใหม่ที่แตกต่างกันและมีผลของคะแนน + ไม่เหมือนกันดังนี้ **



คำถามแยกชุดนี้นั้นไม่มีผลแตกต่างเรื่องคะแนน + มากนัก แต่คำตอบใน Line ที่ 2 Return the threat (พูดข่มขู่กลับไป)  นั้นจะมีชุดคำตอบที่มีคะแนน + มากที่สุด

[Noctis] – ถ้าคุณหักหลังพวกเรา เราก็จะคิดบัญชีกับพวกคุณเหมือนกัน 
[Camelia] – ผู้นำเท่านั้นที่ควรจะรู้ว่า เมื่อไหร่ที่ควรจะงัดความแกร่งของตัวเองออกมาใช้ หวังว่าคุณคงจะเข้าใจถึงเรื่องนี้นะ 

                              เลือกตอบ Show understanding (เข้าใจแล้ว)

[Noctis] – เข้าใจแล้ว 
[Camelia] – ยัง เธอยังไม่เข้าใจหรอก เธอยังเด็กและต้องเรียนรู้อีกเยอะ 
[ทหาร] - ถึงเวลาแล้วครับมาดาม 
[Camelia] – มอบหมายเรื่องการอพยพให้กับเพื่อนทั้ง 3 คนของคุณให้เรียบร้อยนะ ส่วนจะทำยังไงนั่นแล้วแต่พวกคุณ ข้อมูลที่เราได้รับมา ยานรบ 4 ลำของพวกจักรวรรดิกำลังเคลื่อนพลเข้ามาประชิดแล้ว เตรียมพร้อมรบแบบเต็มรูปแบบเอาไว้ด้วย ชั้นยินดีที่ได้คุยด้วย และเรายังสามารถเจรจาให้ได้ผลประโยชน์งอกเงยด้วยกันทั้งสองฝ่ายในท้ายที่สุดด้วย 





                       รางวัลที่ได้จากการเจรจา ตามแต้มที่ได้จากการเลือกตอบมาทั้งหมด

- คะแนนรวมมากกว่า 19 แต้ม คือ การเจรจาที่ทำให้ทั้ง 2 ฝ่ายเชื่อใจซึ่งกันและกันอย่างสมบรูณ์ จะได้ Oracle Ascension Coins  4 เหรียญ
-คะแนนรวม 13 - 19 แต้ม คือ การเจรจาออกมาเป็นผลดี จะได้ Oracle Ascension Coins  3 เหรียญ 

-คะแนนรวม 7 - 12 แต้ม  คือ การเจรจาที่ทำให้ทั้ง 2 ฝ่ายพอจะมั่นใจซึ่งกันและกันได้บ้าง จะได้ Oracle Ascension Coins  2 เหรียญ 

-คะแนนรวมน้อยกว่า 7  แต้ม คือ การเจรจาไม่เป็นผลดีนัก จะได้ Oracle Ascension Coins  1 เหรียญ 

** ผลของการเจรจาจากการเลือกตอบนั้นจะส่งผลกับไอเทมที่ได้กับภาพคัทซีนตอนหลังเจรจาเท่านั้น แต่จะไม่ส่งผลทำให้เนื้อเรื่องเปลี่ยนแปลง ** 





[Camelia] – ชั้นจะไม่ให้สัญญากับสิ่งที่ชั้นช่วยไม่ได้หรอกนะ 
[Weskham] – แน่นอน คุณเองก็เปิดโอกาสให้พวกเขาอย่างเต็มที่แล้ว
[Camelia] – ทำไงได้ ชั้นมักใจอ่อนกับเด็กหนุ่มที่กำลังตกทุกข์ได้ยากด้วยสิ เขาเสียพ่อ สูญเสียพลังแห่งคริสตัล และยังจะมาพราก Oracle ไปจากเขาอีกหรอ ? ... เราเห็นความบ้าคลั่งของพวกจักรวรรดิมาเป็นสิบๆปีแล้วมั้ง หวังแต่ว่ามันจะจบลงซะที ..


                                          ในวันทำพิธี ........




[Ignis] – ก่อนที่พิธีจะเริ่มเราต้องคอยสังเกตการณ์ให้ดีว่าพวกจักรวรรดิจะไม่มารบกวน Leviathan 
[Gladio] – แล้วก็ต้องอึดเพื่อให้ต้านพวกมันให้นานพอจนกว่าเจ้าชายจะทำสัญญาจนได้พลังของ Leviathan มาด้วย 
[Prompto] – แล้วแผนการอพยพคนของพวกเราละรายละเอียดว่าไง ?
[Ignis] – แผนที่เป็นไปได้มากที่สุดคือต้องให้ Leviathan ช่วย 
[Gladio] – ช่วยยังไง ?
[Ignis] – ก็เหมือนกับตอน Titan พวกจักรวรรดิก็จะต้องตามมาจับตัว Leviathan ด้วยเช่นกัน
[Prompto] – ด้วยฉมวกอะไรนั่นน่ะหรอ 
[Ignis] – ถ้าเราสามารถกันพวกจักรวรรดิออกจาก Leviathan ได้นานพอ เมื่อ Noct ได้พลังของเธอมาก็จะใช้พลังของเธอจัดการพวกมันได้ 
[Gladio] – ทฤษฎีฟังดูดีมาก แต่ประเด็นคือถ้า noct ไม่สามารถทำสัญญากับ Leviathan ได้พวกเราก็จบ  
[Ignis] – ตื่นตัวเอาไว้แล้วกัน ให้พร้อมผลิกแพลงแผนไปตามสถานการณ์
[Noct] – โอเค ตามนั้น .


[Camelia] –หากสุดวิสัยจริงๆ คุณจะช่วยขว้างสามง่ามลงทะเลซักโครมเผื่อพวกเขาจะหยุดฟังบ้าง ตอนนี้คนที่จะสามารถปกป้อง Oracle ได้ก็คงเป็นตัว Oracle เองแล้วละ 
[Lunafreya] – ชั้นเข้าใจคะ ชั้นจะใช้ประโยชน์ที่แท่นบูชาให้ดีที่สุด
[Camelia] – อย่าลืมนะว่าเธออยู่ภายใต้การสอดส่องจากพวกจักรวรรดิอยู่น่ะ 
[Lunafreya] – ไม่ลืมคะ
[Camelia] – คิดซะว่าพวกมันเป็นเครื่องประดับของปีศาจที่คอยตามสาปส่งจนต้องยอมสัญญากับมันก็แล้วกัน debt  
[Lunafreya] – ชั้นเป็นหนี้ท่านคะ 
[Camelia] – ก่อนที่ทุกอย่างจะจบลง ได้โปรดเดินไปที่แท่นพิธีด้วยตัวเองเถอะ แต่จะไม่มีการคุ้มครองจากเราแล้วนะ 
[Lunafreya] – ก็คงต้องเป็นแบบนั้นแหละค่ะ 
[Camelia] – เอาละ คุณควรไปได้แล้วนะ ...มวลชนของคุณกำลังรออยู่



[Prompto] – Noct นายประจำที่แล้วน่ะ
[Noct] – เออ
[Gladio] – อย่าลืมแผนที่วางไว้นะ
[Noct] – พวกนายก็เหมือนกันนะ 




[Lunafreya] – เพื่อนๆที่รัก ก่อนที่ชั้นจะมายืนตรงหน้าพวกคุณในวันนี้ ด้วยความหวังที่มีเพียงริบหลี่จากคำพูดที่ชั้นเคยพูดเอาไว้ จะปีนข้ามผ่านกำแพงนั่นอย่างช้าๆแต่มั่นคง แสงสว่างในโลกของเรากำลังริบหรี่ ในขณะที่เงามืดเริ่มปรากฎช้าๆและเริ่มคงอยู่นานขึ้น นานขึ้น จนกระทั่งเริ่มปกคลุมให้ทุกอย่างยอมจำนนอยู่ในความมืดมิด และความมืดนี่แหละที่ก่อให้เกิด ความหวาดกลัว ความเกลียดชังและความโศกเศร้าขึ้นในหัวใจของมนุษย์



เถ้าถ่านของ Lucis ความฝันของสันติภาพถูกทำให้บิดเบี้ยวกลายเป็นฝันร้ายแห่งความตายและการถูกทำลายล้าง อ้างสิทธิ์ของการมีอยู่และจากไปของมากมายหลายชีวิตกับอีกมากมายดวงวิญญาณที่ต้องพบพานความโศกเศร้า ดังนั้นชั้นจึงอยากจะขอร้องให้พวกคุณอย่าเพิ่งยอมแพ้ต่อความสิ้นหวัง จงมีศรัทธราแด่พระผู้เป็นเจ้าของเราที่กำลังเฝ้ามองอยู่จากเบื้องบน ด้วยพรอัญศักดิ์สิทธิ์ของพวกเขาที่ได้นำพาแสงแห่งสวรรค์ให้ส่องผ่านดวงดาวที่สว่างยามค่ำคืน เพื่อส่งลงมาขจัดปัดเป่ามหัตภันร้ายจากความมืดมิด 





และที่ชั้นมายืนอยู่ตรงหน้าพวกคุณตรงนี้ ที่ Altissia เพื่อส่งเสียงเรียก Leviathan เทพธิดาแห่งท้องทะเล จิตวิญญาณที่หยั่งลึกลงไปในในท้องมหาสมุทร เพื่อทำพิธีอัญเชิญบูชา เจรจากับ Hydraean  แต่ก่อนอื่น ชั้นจะขอให้คำมั่นสัญญากับทุกท่านด้วยเกรียติแห่ง Oracle ว่า ชั้นจะไม่ยอมเลิกลาและไม่หยุดพักจนกว่าความมืดมิดจะถูกขับไล่ไปจนได้แสงสว่างกลับคืนมา อีกครั้ง 



[Ignis] – Noct พวกจักรวรรดิเคลื่อนพลมาถึงแล้วนะ
 [Noct] – อืมม เห็นแล้ว
[Ignis] – รอให้มันเข้าไปที่ลานจอด มองหาจุดซุ่มโจมตีที่ได้เปรียบเพื่อเข้าประชิดพวกมันได้เลย  
[Noct] – โอเค พวกนายจัดการเรื่องอพยพคนให้เรียบร้อยแล้วกัน 
[Prompto] -  มันเริ่มขึ้นแล้วสินะ 





                                                   ที่แท่นทำพิธี 







[Leviathan] – เพราะโง่หรืออยากตายกันแน่ถึงได้กล้ามารบกวนข้าเวลานอน !





[Lunafreya] – ข้าคือ Lunafreya สายเลือดแห่ง Oracle ข้ามาเพื่อขอวิงวอนท่านให้ออกมาพูดคุยเพื่อทำสัญญาเพราะตอนนี้ราชาต้องการพึ่งพาพลังของหินศักดิ์สิทธิ์ที่เปี่ยมไปด้วยพลังของท่าน



[Leviathan] – ช่างน่าเวทนา กองกระดูกกับเศษเนื้อที่ไร้ซึ่งสติปัญญาที่จะหยั่งรู้ถึงหน้าที่การปกครองยังจะมาเสนอหน้าเรียกร้องอยากจะถือครองอำนาจของเทพเจ้า  




[Ignis] – Noct  The Hydraean ตื่นขึ้นมาแล้ว !
[Noct] – แล้วประชาชนล่ะ อพยพหมดรึยัง ?
[Gladio] –ใกล้แล้ว นายล่วงหน้าไปก่อนเลย พวกเราจะตามไปหลังอพยพคนหมดแล้ว  

    

[Ignis] – กองยานของจักรวรรดิมันเข้ามาล้อม The Hydraean แล้ว รีบเลย Noct !
[Gladio] – การทำพิธีอัญเขิญจะเริ่มแล้วหรอ ?
[Noct] – ใกล้แล้ว !!!
[Prompto] –ถึงเวลายืมมือ The Hydraean มาใช้งานแล้วใช่ป่ะ 





                                   Main Mission: Into the Fray 



ลุยเดี่ยวเข้าไปตามทางจนถึงจุดเป้าหมายของภารกิจ ซึ่งเป็นตำแหน่งด้านหลังตึกตรงข้ามกับแท่นทำพิธี ท่ามกลางความวุ่นวายตรงหน้าทั้ง Leviathan ที่กำลังท้าทายใส่ Luna ที่กำลังเริ่มเจรจาและกองยานของจักรวรรดิที่ล้อมเข้ามาหมายจะจับ Leviathan



[Leviathan] – ต่ำต้อยนัก ! พวกเจ้ามันก็แค่รอยเปื้อนเล็กๆที่ไม่นานก็จางหาย ยังมาทำเป็นรู้ดีถึงเหล่าเทพผู้สร้างงั้นหรอ ?
[Lunafreya] – ชั้นรู้ และท่านก็ควรรู้ไว้ด้วยว่า ราชาของราชาทั้งปวงนั่นสามารถขจัดปัดเป่าความมืดมิดจากดวงดาวของเราได้ 




[Leviathan] – หยาบคายยย บังอาจดูหมิ่นข้า ไอ้พวกมนุษย์อกตัญญู หลงลืมเร็วไป ในยุคที่เทพเจ้านั้นเป็นผู้ยิ่งใหญ่เป็นผู้ปกครอง
[Lunafreya] – ที่ผ่านมาความเมตตากรุณาที่มวลมนุษย์ชาติได้รับมาก็พร้อมจะมอบถวายความบูชาสรรเสริญให้ แต่นี่คือการวิงวอนน้อมขออย่างสุภาพไม่ต่างกับการบวงสวรงใต้แทบเท้าท่านผู้เป็นเทพ เฉกเช่นกัน  
[Leviathan] – การกล่าวถึงราชานอกรีตของเจ้า คือเปรียบเสมือนการดูหมิ่นลวงเกินเหล่าทวยเทพที่ข้ามิอาจทน !! 




[Lunafreya] – Leviathan !!!
[Leviathan] – อ๊ากกกก !!


[Lunafreya] – -ข้าสัญญาว่า กษัตริย์ของชั้นจะพิสูจน์ตัวเองให้ท่านเห็นว่าเขามีค่ามากพอ !
[Leviathan] – แต่ถ้าไม่มากพอ เวลากินอาหารของข้าก็จะเริ่มขึ้น และมันจะไม่จบลงจนกว่าข้าจะเคี้ยวไอ้ราชาแห่งมลทินนี่ให้ป่นจนชิ้นสุดท้ายอย่างสุดตะกละตะกลามแน่นอน .... มาสิ อยากทำสัญญาก็เข้ามา !! สวรรค์ และ โลก . สูงและต่ำ ..เกิดและหวนกลับ 

-ในขณะที่ Noct ลุยมาถึงจุดเป้าหมายซึ่งเป็นระเบียงด้านบนสุดของอาคารพอดี

[Ignis] – Noct !! Prompto กำลังมุ่งหน้าไปทางนายแล้วนะ  
[Noct]- ห๊ะ แล้วพวกนายละ ? 
[Ignis] – เรารออยู่ในตึกชั้นล่างนี่แหละ 
[Prompto] – Noct โดดเลย !!!
[Noct]- ดะ โดดหรอ ! โดดทำไม ?
[Prompto] – ไม่ใช่เวลามาถามเว้ย โดดดด!!
[Noct]- เออ !! …..แมร่งเอ้ยยยย !!



[Prompto] – ไง รถใหม่เว้ย ฉกมาจากพวกจักรวรรดิ นี่จะทำให้เราเข้าใกล้มันได้ง่ายขึ้นไง 
[Noct]- เอาจิงดิ !! นายหาชั้นเจอได้ไงฟะ ?
[Prompto] – ตัวนางออกจากมหึมาขนาดนี้จะไม่เห็นได้ไงละ เอาละ กำลังไปแล้วนะ !!! เกาะแน่นๆนะชั้นจะพาไปส่งถึงที่เล๊ยยย
[Noct]- เออ !! อย่าให้นานนักละ !!




ใช้การ Block และ Parry เพื่อลุยผ่านมังกรน้ำที่บินผ่านรอบๆตัว Leviathan จนถึงด้านบนสุดที่สามารถกดสามเหลี่ยมเพื่อ Wasp Strike ไปที่หัวของ Leviathan ได้เลย





                                                         [Noct] – Leviathan!




Request her Power – ประทานพลังให้ชั้นเถอะ (สมควรเลือกข้อนี้)
Demand her Power – เฮ้ย พลังของแกนะ เอามาให้หมด !! 
ตามด้วยเลือก Maintain a commanding tone อีก 2 ครั้ง เมื่อเริ่มต่อสู้จะทำให้ Leviathan แข็งแกร่งขึ้นในขณะต่อสู้ แต่จะได้โบนัส 10 AP มาด้วย




                          Main Mission: The Trial of Leviathan



[Noct] – คงไม่มีทางเลือกที่จะต้องอัดแกให้หมอบแล้วสินะ ! 

หลังจาก Noct ตามตื้อเพื่อขอเจรจาทำสัญญาจนถูกสะบัดจนล่วงลงมาในท้ายที่สุด จากนั้นก็ให้ Wasp strike เข้าไปโจมตีมันอีกชุดก่อนที่ Noct จะโดนซัดกระเด็นออกมาแบบหมดทางสู้อีกครั้ง ในขณะที่ Luna ที่มองดูอยู่อย่างเป็นห่วงก็อยู่ในสภาพบาดเจ็บและหมดแรงทรุดไปในขณะกำลังจะเข้าไปหา Noct จนกระทั่งชายคนนึงปรากฏตัวออกมา






[Ardyn] – เอาละ ..ไหนล่ะ แหวนน่ะ ? อืมม เปลี่ยนใจและ เธอกะจะเก็บมันไว้ให้เขาใช่ป่ะ 







                                                    ---- ฉึก !! ------







[Lunafreya] – อึกก !!
[Ardyn] – และ จะทำให้เขานึกถึงเรื่อง คริสตัล ด้วย
 [Ardyn] – นี่เจ้าชาย  เจ้าสาวรออยู่เนี่ย ! 





[Lunafreya] – ชั้นจะมอบแหวนให้กับราชาที่คู่ควรเท่านั้น เมื่อคำทำนายเสร็จสมบูรณ์ ผู้เป็นดั่งทาสรับใช้ของความมืดมิดทั้งมวลก็จะรู้ซึ้งถึงคำว่า สันติภาพ 





[Ardyn] – ชิ !! ... หวานจังเลยนะ ... ได้โปรด lady Lunafreya .. เชิญคุณก่อนเลย 






แม้ร่างกายจะมีบาดแผลสาหัส แต่ Luna ยังคงพยายามยืนหยัดตะเกียดตะกายหมายจะช่วย Noct ซึ่งนอนเจียนตายภายใต้สถานการณ์ที่กำลังคับขัน  Leviathan กำลังใกล้เข้ามาเพื่อหมายขย่ำ 








Luna ยันพื้นฝืนกำตรีศูลข้างกายออราเคิ่ลก่อนร่ายมนต์ เพื่อก่อเกิดพลังแห่งสุสานของบรรพชนของทุกราชวงศ์ แสงสีเหลืองเป็นสายส่งต่อมารวมกัน 










โอบอุ้มพยุงร่างของเจ้าชายเพื่อมุ่งหมายให้ลุกขึ้นสู้ ให้ศัตรูที่ดูหมิ่นมันตระหนักรู้ว่าควรคู่คำว่า ราชา 



Boss – Leviathan นั้น Noct จะสามารถใช้ร่างที่เสริมด้วยวิญญาณบรรพชนจนสามารถใช้อาวุธประจำราชวงศ์ได้อย่างไม่จำกัดรวมถึงสามารถใช้ Trident of the Oracle อาวุธประจำกายของ Luna ไปพร้อมๆกันด้วย





พยายามโจมตีไปเรื่อยๆทั้งโจมตีปกติและ Wasp Strike เพื่อเล็งไปที่หัวของ Leviathan อย่างต่อเนื่อง สลับกับกดปุ่มควิกไทม์ตามเหตุการณ์ที่ขึ้นมา




เมื่อทำให้มันบาดเจ็บในระยะเวลานึง ก็จะทำให้ Leviathan ล้มลงจนสามารถเข้าไปตัดคีบของมันได้ทีละครีบจนสามารถหยุดความโอหังของ Leviathan ลงได้ในที่สุด





ทันทีที่ Noctis พิชิต Leviathan จนเกือบสิ้นฤทธิ์ พลังศักดิ์สิทธิ์ที่เคยนำชัยก็หมดพลังจนใช้ได้เพียงส่งให้ถึงพื้นอย่างปลอดภัย

 


Luna ที่ยืนแทบไม่ไหวทำได้แค่คลานไปประคองป้องกันแม้ว่าตัวเองก็ไม่มีพลังเหลือเลยซักนิดทำได้แค่ส่งอธิฐานจิตอวยพร เพื่ออ้อนวอน ในขณะที่ Leviathan ยังไม่ยอมเลิกลา




“ขอพรแห่งดาราอันนำมาซึ่งความโชคดีช่วยนำพาแสงและชีวี ....”  พรที่ Luna เอ่ยยังไม่จบดี ไททั่นก็ปรากฏตัวขึ้นมายืนขวางทันที 



 

                          

ก่อนจะใช้กำปั้นอัดปฐพี สร้างกำแพงหินเพื่อปิดกั้นกำแพงคลื่นน้ำที่ Leviathan ถาโถมเข้ามาใส่ Noct และ Luna 



             



แผ่นดินปะทะคลื่นทะลสะเทือนเลื่อนลั่นสายน้ำปั่นป่วนบ้าคลั่งสาดกระเซ็น จนค่อยกลบร่างของราชาและออราเคิ่ลที่เคยเคียงคู่กันมามิอาจรู้ชะตากรรม ......





[Lunafreya] – Noctis 
[Noct] – Luna หรอ ?
[Lunafreya] – เธอหาทางกลับมาที่นี่จนได้นะ



[Noct] – และ เธอก็หาชั้นเจอเหมือนกัน
[Lunafreya] –จะมีโอกาสได้เจออีกครั้งหรือเปล่า .. ใคระรู้ ?
[Noct] – เธอหมายความว่ายังไง ทำไมถึงจะไม่เจอชั้นอีกละ ?
[Lunafreya] – เพราะคำอธิฐานของชั้นมันสัมฤทธิ์ผลแล้วน่ะสิ 
[Noct] – แต่ ... แล้วมันไม่ส่งผลถึงเราทั้งคู่หรอกหรอ ?




[Lunafreya] – แค่เธอคนเดียวเท่านั้น Noctis ดวงดาวส่องแสงเพื่อเธอแล้ว ซึ่งทำให้เธอกลับคืนมาเป็นเธออีกครั้งนี่ไงละ 





[Lunafreya] – เธอจำดอกไม้ที่ชั้นให้ดูที่ Tenebrae เมื่อนานมาแล้วได้มั๊ย ? เธอจะพบพวกเขายังรออยู่ ในหุบเขาที่เต็มไปด้วยดอกไม้ที่เบ่งบาน 
[Noct] – แล้ว เธอจะอยู่ที่นั่นด้วยรึเปล่า ?





                                     [Lunafreya] – ……………. ไม่อยู่หรอก






[Lunafreya] – อยากให้ชั้นอยู่กับเธอด้วยหรอ? แต่ ที่เราอยู่ด้วยกันตอนนี้มันก็น่าจะเพียงพอแล้วนะ
[Noct] – มันไม่ถูกต้องอ่ะ ชั้นก็แค่ ...ชั้นก็แค่อยากจะช่วยเธอให้ปลอดภัย





[Lunafreya] – เมื่อใดที่โลกรอบๆตัวเธอกำลังล่มสลายไปพร้อมกับความหวังที่กำลังพังทลาย

        

      



                                 แล้วพบตัวเองอยู่อย่างโดดเดี่ยวท่ามกลางความมืดมิด






   ลองมองดูไปที่ที่ไกลออกไป เธอจะรู้ว่าชั้นกำลังเฝ้าดูเธอจากที่นั่น และ ชั้นจะเฝ้าดูเธอตลอดไป 


            


                                            ลาก่อน Noctis ที่รัก 













 [Ignis] – กลับมาแล้วหรอ .. ชั้นจะไปบอกทุกคนให้รู้นะ คิดว่าอาจใช้เวลาซักหน่อย 
[Noct] – อ่ะ ! นายบาดเจ็บนี่ !?




[Ignis] – แค่การสังเวยเล็กน้อยในการต่อสู้ที่ยิ่งใหญ่น่ะ
[Noct] – แล้ว Luna ล่ะ ?
[Ignis] – เธอจากไปแล้ว 





[Noct] – ....ฮือ ...
[Ignis] – Umbra ทิ้งนั่นไว้ให้นายด้วย 






        


[Noct] – ....ฮือ ฮื้ออออๆ










  --------------------------------------- END OF CHAPTER ---------------------------------------------- 




                     Chapter 10 -The Heart of a King



                                         The Scourge of the Stars 






                             หลายอาทิตย์ต่อมา  Succarpe , Magna Fortia 






[prompto] – ถ้างั้น เราก็ต้อง เดินทางต่อไปที่ Tenebrae ต่อใช่มั๊ย ?
[Ignis] – ยังจนกว่าเราจะแวะไป Royal Tomb ที่ Cartanica ก่อน 
[prompto] – นายแน่ใจนะว่ารู้ตัวว่ากำลังทำอะไรอยู่
[Ignis] – คงต้องรอให้บาดแผลมันซ่อมแซมตัวเองหน่อย ไม่นานสายตาคงจะดีขึ้นบ้าง 


[Gladio] – นายเป็นบ้าอะไรวะ Noct !?
[Noct] – เป็นอะไรงั้นหรอ ?
[Gladio] – เราจะไม่ไป Tenebrae อะไรทั้งนั้น นายต้องรู้จักโตได้แล้วและรู้จักที่จะทำใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นซะที  
[Noct] – เพราะชั้นทำใจได้ เลยมาถึงที่นี่ไม่เห็นรึไง !?
[Gladio] – บางทีถ้านายว่างมากหรือไม่หรือบ่ากว่าแรงอะไรก็ช่วยแหกตาดูรอบๆตัวหน่อย ว่ามีใครที่เขากำลังบาดเจ็บแสนสาหัสมากกว่านายอยู่ !!



[Noct] – เอามือออกไปเดี๋ยวนี้ !!
[Gladio] – แล้วแหวนน่ะ มันคับมากรึไงนายถึงถือไปมาแทนที่จะสวมมันซะ ! เธออุตสาหะสละชีวิตให้ นายก็ควรจะรู้หน้าที่สิว่าต้องทำอะไร ไม่ใช่มามัวนั่งเศร้าโทษตัวเองอยู่แบบนี้
[Noct] – นายคิดว่าชั้นไม่รู้ว่าควรทำอะไรรึไง !?
[Gladio] – ไม่เลยซักนิด !! Ignis ก็ต้องตาบอดเพราะนายด้วยอีกคน เพื่ออะไรวะ? 
[Ignis] – พอแล้ว Gladio !!!
[Gladio] – นายคิดว่านายเป็นกษัตริย์หรอ ? แต่นายมันตัวตลกชัดๆ !!
[Noct] – หุบปาก !!!



[Prompto] - เฮ้ยๆๆอย่าทะเลาะกัน !!
[Noct] – เออ ชั้นเข้าใจแล้ว !! เข้าใจแล้วพอใจยัง !!?
[Gladio] – ถ้าเข้าใจเงยหน้าแล้วเอาหัวออกจากตูดนายซะทีสิวะ !
[Prompto] – Noct จะไปไหน ?!
[Gladio] – ปล่อยเขา !




                                  Main Mission: Off the Rails


ในระหว่างรถไฟที่กำลังเดินทางไปยังสถานี Cartanica นั้น สามารถเดินไปมาบนรถไฟได้เพื่อเก็บไอเทมต่างๆตามโบกี้




(แต่ไม่มีไอเทมอะไรที่สำคัญมาก) เช่น Hi-Elixir , Remedy และ Graiean Medal of Distinction เมื่อเดินไปมาในระยะเวลานึงรถไฟก็จะเดินทางถึงจุดหมายที่สถานี Cartanica






                            Main Mission: The Hand of the King



                                         สถานี Cartanica 



ก่อนเข้าไปยังจุดหมายของภารกิจที่ลิฟต์ลงไปยังเหมืองใต้ดินเพื่อเดินทางไปยัง Royal Tomb ที่อยู่แถบนี้เป้าหมายคือ Royal Arms ที่ซ่อนอยู่





เมื่อลงมาจากขบวนรถที่เดินทางมาแล้ว แวะเข้าไปที่รถไฟอีกขบวนที่จอดอยู่ที่รางอีกฝั่งที่นี่จะมีรถสเบียงให้ซื้ออาหารใหม่ๆและมีตู้นอนให้สามารถเรียก Umbra เพื่อพาย้อนกลับไปที่ Lucis ในอดีตได้ด้วย



(ในกรณีหากยังไม่ได้ทำ Side Qest ต่างๆหรืออยากกลับไปทำ Time Quest ใหม่ๆที่ออกมา) หากพร้อมเดินทางก็เข้าไปที่จุดหมายของภารกิจที่ลิฟต์ลงด้านล่างได้เลย

ระหว่างที่กำลังจะลงลิฟต์ Ignis จะเข้ามาสอบถามว่า พร้อมจะออกเดินทางรึงยัง ? ซึ่งตอนนี้นั้น Ignis อยู่ในสภาพตาบาดเจ็บทั้ง 2 ข้างจนมองไม่เห็น Noct จึงจะต้องเลือกว่าจะพา Ignis ไปด้วยหรือไม่


-Take Ignis along (พา Ignis ไปด้วย) 
 -Leave Ignis Behind (ให้ Ignis รออยู่ที่นี่)
** เลือกข้อไหนก็ได้ เพราะยังไง Ignis ก็จะดิ้อตามไปด้วยอยู่ดี **



                                       เหมือง  Fodina Caestino





เหมืองที่เคยอุดมสมบูรณ์ไปด้วยแร่ธาตุที่มีค่าต่างๆนานา ก่อนจะถูกปิดตัวไปไม่กี่ปีที่ผ่านมาเพราะภาวะของสงคราม ปัจจุบันจึงกลายสภาพเป็นเหมืองร้างที่เต็มไปด้วยน้ำท่วมขังกับมอนสเตอร์มมากมายที่เข้ามายึดเป็นที่อยู่อาศัย และสุสานของราชวงศ์ที่รอการค้นพบเร้นสายตาผู้คนซ่อนอยู่ใต้ดิน …

-ในการเดินทางนั้นตอนนี้ Ignis  นั้นตามองไม่เห็นแต่ก็พยายามใช้ไม้เท้าแล้วร่วมเดินทางมาด้วย การเดินทางจึงค่อนข้างช้าเพราะทุกคนต้องรอ Ignis เพื่อดูแลความปลอดภัยให้ รวมทั้งตอนนี้ Ignis ก็ไม่สามารถเข้าร่วมต่อสู้และทำอาหารดีๆให้ในจุดพักแรมอีกด้วย ตัวเกมจะบอกให้ Noct นั้นเดินรอ Ignis ที่กำลังบาดเจ็บด้วย แต่ถ้ามัวแต่รอรับรองไม่ได้ไปถึงไหนแน่นอน ก็พยายามเดินลุยไปตามปกติ แม้เพื่อนๆจะตามไม่ทันบ้างแต่ศัตรูในพื้นที่ก็ไม่มีอะไรน่ากลัว
-ในพื้นที่เหมืองพยามเดินสำรวจให้ทั่วๆเพื่อเก็บไอเทมต่างๆและเปิดแผนที่ให้หมดจะพบจุดตั้งแคมป์ Pantagh Haven ด้วย


จากนั้นค่อยเข้าไปที่จุดหมายของภารกิจกลางพื้นที่ตรงแท่นขุดเจาะขนาดใหญ่ จะมีบันไดเดินลงไปที่ส่วนล่างของแท่นขุดจนพบแกนสว่านขนาดใหญ่ที่เจาะพื้นคาเอาไว้จนขวางเส้นทางที่จะลงไปยังถ้ำด้านล่าง Ignis เลยบอกให้ลองไปเปิดเครื่องควบคุมของแท่นเจาะดูเผื่อมันจะสามารถยกสว่านยักษ์ให้พ้นทางได้



- จากนั้นเดินย้อนกลับขึ้นไปตรงแท่นขุดเจาะด้านบนตรงแท่นควบคุม เข้าไปกดสวิตซ์เพื่อเปิดการทำงาน แต่จู่เครื่องก็ดับ Prompto จึงเข้าไปสำรวจที่แผ่นการะดาษที่แปะอยู่จึงรู้ว่า “ ในกรณีที่เครื่องยนต์ไม่ทำงานให้ใช้พลังงานสำรองจาก backup generator โดยกุญแจเปิดจะอยู่ที่ชั้นวางของ”



 ทำให้ต้องลุยเข้าไปที่เป้าหมายของภารกิจที่ขึ้นมาใหม่จนพบกุญแจ Gernerator Key บนชั้นวางของที่ด้านบนเนิน


- เมื่อหยิบกุญแจ Gernerator Key บนชั้นมาแล้วก็ย้อนกลับไปที่แท่นขุดเจาะอีกครั้ง จากนั้นลงไปตามบันไดที่จะลงไปที่ส่วนล่างจะพบแผงควบคุม backup generator ตั้งอยู่ระหว่างทางลงบันได ใช้กุญแจเปิดการทำงานของมันให้หมด



แล้วกลับขึ้นไปกดสวิตซ์ที่แผงควบคุมหลักบนแท่นขุดเจาะอีกครั้งก็จะสามารถเปิดการทำงานของแท่นขุดจนทำให้สามารถยกแกนสว่านที่เจาะพื้นขวางทางลงด้านล่างขึ้นได้
-กลับลงบันไดไปส่วนใต้ของแท่นขุดเจาะอีกครั้งก็จะสามารถผ่านตรงที่สว่านขวางลงไปที่ถ้ำด้านล่างได้แล้ว

[Gladio] – เดี๋ยวก่อน ! นายแน่ใจแล้วนะว่านายพร้อมกับเรื่องนี้ นายคิดว่านายมีคุณสมบัติพอหรือเปล่า ?
[Noct] – พร้อมเรื่องอะไร !?
[Gladio] –  พร้อมที่จะเผชิญหน้ากับเหล่าบรรพบุรุษเพื่อแสดงให้พวกเขามันใจได้ว่าพลังทั้งหมดที่ยืมพวกเขามา นายมีปัญญาเอาพลังความแข็งแกร่งนั้นพาทุกคนลุยไปให้ถึงจุดหมายปลายทางได้ !?

  

สามารถเลือกตอบได้ 2 ข้อคือ
Show frustration (แสดงความขัดข้องใจ)
[Noct] – นายคิดว่าชั้นชอบที่ผู้คนต้องมาสังเวยชีวิตเพื่อนชั้นนักหรอ !? คนแล้วคนเล่าที่ต้อง ....
[Gladio] – ช่างเหอะ ! ชั้นนึกว่านายเข้าใจภาระหน้าที่ของนายดีแล้วซะอีก แต่ชั้นคิดผิด !!

Show resolve (แสดงออกถึงการตัดสินใจที่แน่วแน่)
[Noct] - ทำได้สิ และจะทำให้ได้ไม่ว่าจะชอบหรือไม่ด้วย ให้สมกับที่ได้รับมอบหมายหน้าที่ของความเป็น กษัตริย์ ที่ได้รับมา
[Gladio] - ขอให้มันจริงอย่างที่พูดเถอะวะ นั่นแปลว่าหลังจากนี้ นายควรคิดถึงเรื่องนี้อย่างจริงจังเสียทีได้แล้ว !!


**ไม่ว่าจะเลือกตอบแบบไหน คำพูดของ Gladio ก็แทงใจ Noct จนทำให้ Strength เพิ่ม 50% ในฉากต่อสู้ทันที ** 




เมื่อเดินลงไปจนถึงก้นบ่อที่เต็มไปด้วยน้ำเสีย ก็จะเจอประตูของ Royal Tomb แต่จะเต็มไปด้วยไข่ที่น่าขยะแขยงเกาะขวางทางเข้าประตูอยู่เต็มไปหมด ในขณะที่ทุกคนกำลังสงสัยว่ามันคือไข่ของตัวอะไร ตัวแม่เจ้าของไข่ก็จะปรากฏตัวออกมา



Boss Malboro LV38 เมื่อจัดการกับมันไปเรื่อยๆจนพลังใกล้จะหมดมันก็จะสามารถฟื้นพลังกลับคืนมาได้เสมอจนไม่สามารถฆ่ามันได้ แถมยังมี Skill สุดโหดประจำตัวอย่าง Bad Breath ที่ทำให้คนที่สูดดมมันจะเกิดการผิดปกติกับสเตตัสทุกชนิดโดยเฉพาะ Berserk


เมื่อ Malboro มันฟื้นพลังกลับมาอีกครั้ง ก็รีบหนีออกห่างจากมันไปที่ลูกศรแดงที่ขึ้นมาเพื่อรวมตัวกันเพื่อประเมินสถานการณ์ Ignis จะช่วยคิดหาทางแก้ไขปัญหาด้วยการ ขวางระเบิดเพลิงเข้าไปในปาก Malboro เพื่อให้เกิดการระเบิดสร้างความเสียหายจากด้านใน ตอนนี้เมื่อโจมตีมันจนพลังหมดอีกครั้งก็จะสามารถจัดการ Malboro ลงได้แล้ว


** หลังจบการต่อสู้ Ignis ก็จะสามารถเข้าร่วมการต่อสู้ด้วยอีกครั้งพร้อม Skill Technique: Libra Elementia ที่เพิ่มเข้ามาให้ใช้ด้วย ** 

เมื่อจัดการ Malboro ได้แล้วเข้าไปสำรวจประตูสุสานอีกครั้ง Noct จะใช้เวทย์ไฟทำลายไข่ที่กั้นประตูออกแล้วเข้าไปไปใน Tomb of the Warrior เข้าไปอัญเชิญ Royal Arms Katana of the Warrior มาใช้ได้เลย


"A king was changed forever when his beloved queen was taken from him prematurely. This was his katana. It is drawn and strikes in a single heartbeat."



“ราชาผู้เปลี่ยนไปไม่มีวันหวนกลับเมื่อราชินีอันเป็นที่รักล่วงลับก่อนเวลา นี่คือศาตราทรงญี่ปุ่นคู่พระหัตถ์ราชา ชักดาบฟันพร้อมฆ่าในหนึ่งอึดใจคะตะนะของนักรบแห่งศักดินาที่เรียกขานนามว่าซามูไร” ขออัญเชิญคะตะนะแห่งนักรบขององค์กษัตราไปใช้งาน  


Katana of the Warrior

Attack 361
Critical 3
Spirit +100
Fire +25
Ice +25
Lightning +25
Dark -50



[Gladio] – ทุกอย่างโอเครึเปล่า นายไหวนะ ?
[Ignis] – โคตรรู้สึกไม่ดีเลย แล้วก็ไม่อยากต้องมานั่งอดทนกับการทะเลาะในเรื่องที่ไม่เป็นเรื่องที่แบบนี้มาพักใหญ่แล้ว ขอพูดตรงๆเลยแล้วกันว่าการมองเห็นของชั้นมันคงจะดีเหมือนเดิมยากแล้วละ อย่าเพิ่งโกรธกันเลยนะเพราะยังไงชั้นก็ยังขออยู่กับพวกนายต่อ อย่างน้อยๆก็จนกว่าจะถึงที่สุดนั่นแหละ  
[Gladio] – โทษนะ แต่สำหรับชั้น สงคราม นี่มันเป็นเรื่องคอขาดบาดตายนะ  
[Prompto] – แต่ที่พวกเรามาถึงที่นี่ ...
[Gladio] – มันไม่เกี่ยวกับเรื่องของพวกเรา ดูเขาให้ดีๆสิ !??
[Prompto] – อ๋อ หรอ แต่ยังไงเขาก็มีสิทธิ์ที่จะเลือกไม่ใช่หรอ ?
[Gladio] –ตอนนี้มันมากเกินกว่าที่มานั่งสนว่าเขาต้องการอะไรแล้ว



[Ignis] – ชั้นเข้าใจดีแล้วละน่า !! ชั้นจะไม่ขอให้พวกนายต้องมารอชั้นแล้วทำให้การเดินทางช้าลงหรอกนะ ถ้าชั้นลุกไม่ไหวเมื่อไหร่ ชั้นก็จะยอมถอนตัวแต่โดยดี 
[Gladio] – เฮอะ !! ว่าไงละฝ่าบาท ?
[Ignis] – Noct นายเป็นกษัตริย์ และกษัตริย์จะอยู่เฉยไม่ได้ กษัตริย์ต้องผลักดันตัวเองให้ก้าวไปข้างหน้าเสมอ และต้องไปลืมที่จะยอมรับผลของการตัดสินใจที่ตัวเองทำลงไปโดยไม่มามัวเสียใจภายหลัง Gladio Noct เขามีสิทธิ์โดยชอบธรรมในจุดยืนของเขาและมีเพียงเขาเท่านั้นที่ทำได้ ตอนนี้เขาพร้อมแล้วละ  
[Gladio] – งั้นก็แล้วแต่นาย พวกเรากำลังจะเข้าสู่การเสี่ยงชีวิตครั้งใหญ่ เราต้องทำให้ดีมากกว่า “แค่พร้อม” 




เมื่อหมดธุระที่เหมืองแห่งนี้แล้วก็เดินทางออกจากที่นี่เพื่อกลับไปที่สถานีรถไฟ Cartanica ได้เลย


 เมื่อกลับมาที่สถานีรถไฟ Cartanica แล้วไม่มีอะไรคาใจที่ต้องทำที่ไหนอีกก็เข้าไปคุยกับนายสถานีเพื่อออกเดินทางมุ่งสู่ Tenebrae ต่อได้เลย


[Noct] – เรายังอยู่ตรงนี้ก็เพื่อนายนะ 
[Prompto] – ใช่แล้ว มาให้ชั้นช่วยนะ รถออกแล้วเราไปกันโล๊ดด
[Gladio] – เราเคลียร์กันแล้วนะ
[Ignis] – แจ่มแจ้งชัดเจนเลยละ
[Noct] – เฮ้ เดินระวังนะ
[Ignis] – นายอย่ามาคอยกดดันแบบนี้จะได้มั๊ย ?



   




  --------------------------------------- END OF CHAPTER ----------------------------------------------




                      CHAPTER 11 – In the Dark 






[Ignis] – รู้สึกดีจริงๆเวลานั่งรถไฟเนี้ย อยากจะลองขับรถไป Gralea กับพวกเราซักครั้งมั๊ยละ ?  
[Noct] – ถ้าพวกเขายอมให้ไปอ่ะนะ 
[Ignis] – ตอนนั้นเราโชคดีนะที่มี Regalia แต่ตอนนี้เราเป็นหนี้บุญคุณท่าน Camelia มากๆที่ตอบแทนความช่วยเหลือของเรา
[Noct] – จะขอบคุณมากกว่านี้ถ้าลดราคาให้อีกนิดก็คงจะดีอ่ะนะ 
[Ignis] – พวกจักรวรรดิใช้เครื่องรับส่งสัญญาณในระดับที่เรียกว่าสุดไฮเทคนะ จำตอนที่ Hydraean กำลังคลั่งได้มั๊ย ก่อนที่พวกจักรวรรดิมันจะล่าถอยไปก็ยังอุตสาหะส่งไม้เด็ดเอาไว้ เจ้าเอกอัคราชทูตนั่นไง เท่าที่จำได้ พอรู้ตัวอีกทียานของมันก็เข้าไปถึงที่ลานทำพิธีที่ Luna อยู่เรียบร้อยแล้ว และตอนนั้นชั้นก็กำลังจะหมดสติ ไม่มีแรงที่จะไปหยุดมันได้เลย 
[Noct] –ชั้นดีใจมากที่นายยังไม่ตาย 
[Ignis] – ดูสิ เหมือนกับจะมีใครกำลังเข้ามานะ
[Noct] – Gladio น่ะ กำลังเดินเข้ามา ว่าแต่เขาไปไหนมา ?
[Ignis] – ไปลาดตระเวนดูรอบๆหาดูบางอย่างที่หูชั้นมันรู้สึกว่าผิดปกติน่ะ




[Gladio] – งานเสร็จเรียบร้อยครับกัปตัน
[Ignis] – ยอดเยี่ยม 
[Noct] – ตกลงหูนายได้ยินอะไรมา?
[Ignis] – ข่าวลือหนาหูตั้งแต่เมื่อคืน
[Gladio] – ยิ่งเวลาผ่านไปพวกมันยิงเติบโตขึ้นทุกวัน 
 [Ignis] – ตั้งแต่มันเข้ายึด Lucis จนถึงตอนนี้พวกมันแสดงให้เห็นความแข็งแกร่งที่เปลี่ยนไปจากเดิมมากมายเลย และยังคงเติบโตไปเรื่อยๆด้วย 
[Gladio] – พวกจักรวรรดิเข่นฆ่าผู้คนมานานแล้ว ไม่แปลกหรอกที่ทั้งโลกจะวุ่นวายและไร้กฎระเบียบ 
[Ignis] – เมื่อคืนที่ผ่านมาสัมผัสได้ว่ามี Daemons เกิดมากขึ้น และชั้นก็ยังแอบได้ยินพวกผู้โดยสารพูดถึงกรณีแบบนี้เหมือนกัน
[Gladio] – แล้วเขากำลังจะส่งนายให้ไปตรวจสอบความจริงที่ว่านี้ดู เอาละ อย่าให้พวกมันรอนานละ 
[Ignis] – เดี๋ยวพวกเรากลับมานะ




[Prompto] – ไง อยู่นี่เองหรอเพื่อน นายเห็นนั่นรึยังดูสิ แทบไม่น่าเชื่อเลยวะ 
[Noct] – เออ ไม่เคยอะไรแบบนี้มาก่อนเลย ดูไม่ค่อยมีเหตุผลซะเลย 








                ....... อะ มันเกิดอะไรขึ้นเนี้ย ทำไมทุกอย่างหยุดนิ่งหมดเลยละ .....!???





[Ardyn] – เป็นเรื่องลึกลับของจริงเลยใช่มั๊ย ??  ผมไม่ค่อยจะชอบหิมะตกเท่าไหร่หรอก มันหนาวจนขนลุก เหมือนมีความรู้สึกว่ามีใครบางคนแอบขึ้นมา ผมเองก็ไม่ได้เห็นจากนิมิตรด้วยสิเพราะช่วงนี้ค่อนข้างเหนื่อย โลกนี้ช่างมหัศจรรย์จริงๆ 

…โว้ๆๆ  เกิดอะไรขึ้น ต่อยผมทำไมเนี้ย ... ??! ใจเย็นสิพวก ไม่คิดว่าจะทำแบบนี้  คุณเป็นอะไรเนี้ย ?? .. 

[Noct] – หุบปาก !!!
[Ardyn] – เฮ้ยย ระวังหน่อยสิ เดี๋ยวๆๆ เอาจิงดิ !!?



…. ไม่เอาน่า Noct คุณกลัวผมหรอ ?! ไม่เอาน่า พอแล้ว .!! มันอันตรายนะแกว่งดาบของคุณไปๆมาๆแบบนั้นน่ะ ...

[Noct] – คิดว่าตลกรึไงห๊า !!!
[Ardyn] – เอาจิงหรอ คุณพยายามจะฆ่าผมจริงๆหรอเนี้ย ??
[Noct] – ทำไมถึงจะไม่ละว่ะ !!!!???




                 … แกตามชั้นไปทุกที่เลยรึไง ?? ทั้งหมดมันเป็นความผิดของแก !!!

[Ardyn] – คุณพูดถึงเรื่องอะไรเนี้ย ???  คุณหมายถึงแบบนั้นจริงๆหรอ Noct?
[Noct] – ก็เออสิวะ !! แกจะพูดให้เป็นอย่างอื่นได้ไงวะ ???
[Ardyn] – ไม่เอาน่า Noct คุณจะไม่ยอมปล่อยผมจริงๆหรอ เราคุยกันซักแปบได้มั๊ยเนี้ย ??
[Noct] – ไม่คุยโว้ยย !!!

----- โครมมมมม !!!!!!!!! --------------




[Prompto] – Noct ! นายเป็นอะไรเปล่า ??
[Noct] – ไม่ .. Ardyn มันอยู่ที่ไหน ?
[Prompto] – เดี๋ยวนะ มันอยู่ที่นี่ด้วยหรอ ? ถ้ามันอยู่ที่นี่จริงๆก็คงจะอธิบายได้เลยว่าเหตุการณ์แปลกๆพวกนี้มันเกิดเพราะอะไร  พนันได้เลยว่ามันนั่นแหละที่เป็นต้นเหตุที่ทำให้รถไฟหยุด ตอนนี้ Ignis กับ Gladio ล่วงหน้าไปตรวจสอบที่ห้องเครื่องก่อนแล้ว ชั้นว่าเราไปตรวจดูที่ท้ายขบวนกันดีกว่า !




                        Main Mission: Express Train for Trouble 




                                             Eusciello Outpost 


-ทันทีที่รู้สึกตัว Noct ก็ต้องลุยเข้าไปที่ท้ายขบวนกับ Prompto เพื่อเช็คดูว่าเกิดอะไรขึ้นรถไฟถึงต้องหยุด แต่ขณะที่วิ่งไปตามโบกี้ก็จะพบสาเหตุที่ทำให้รถไฟต้องหยุดเพราะว่าพวกทหารจักรวรรดิได้เข้ามาปิดล้อมรถไฟจากทุกด้านไว้จนหมดแล้ว แถมยังยิงถล่มใส่รถไฟที่มีชาวบ้านผู้บริสุทธิมากมายจากทุกด้าน จากที่ต้องจัดการพวกทหารจักรวรรดิที่เริ่มบุกขึ้นมาบนรถบางส่วนพอถึงท้ายขบวนก็ต้องเจอกับระเบิดที่ทำลายรถไฟจนเป็นรู ทำให้ Noct ต้องตัดสินใจออกไปลุยกับพวกมันด้านนอกรถไฟเพื่อปกป้องผู้บริสุทธิทันที



- จัดการพวกทหารจักรวรรดิที่บุกเข้ามามากมายจากทุกด้านให้เร็วที่สุดก่อนที่เกทความเสียหายของรถไฟจะโดนทำลายจนหมด (เกมจะโอเวอร์ทันที) ซึ่งสิ่งที่จะทำให้รถไฟเสียหายมากที่สุดที่ต้องรีบทำลายก่อนคือพวก Shock Troopers ที่เมื่อเข้ามาใกล้จะเริ่มระเบิดตัวเองใส่ กับรถถังที่จะเข้ามาตอนสุดท้าย




โดยต้อง Wasp strike ขึ้นไปบนรถถังแล้วทำลายแผงพลังงานของมันให้ระเบิด ก่อนที่ Prompto จะเรียกให้ตามขึ้นรถไฟที่กำลังแล่นออกไป



- Wasp strike กลับขึ้นไปบนรถไฟที่กำลังวิ่งอยู่แล้วจัดการพวกทหารจักรวรรดิที่บุกขึ้นมาให้หมด ก่อนที่ฝูงยานบินของจักรวรรดิจะตามมาประกบหวังจะทำลายรถไฟไปพร้อมๆกับพวกของ Noct



การทำลายกองยานเหาะของพวกจักรวรรดิทำได้โดยการ Wasp strike ขึ้นไปเกาะที่ยานแล้ว Wasp strike เข้าไปที่ด้านในยานอีกที




ทำลายทหาร Shock Troopers ที่อยู่ด้านในแล้วรอให้มันระเบิดทำลายยานเองแล้วรีบหนีออกมาก่อนยานแต่ละลำจะระเบิด

 


จัดการทำลายยานทีละลำได้จำนวนนึง Noct จะเห็นสิ่งผิดปกติบนหลังคารถไฟจึงรีบ Wasp strike ไปดูทันที



ภาพที่ Noct เห็นคือ Ardyn กำลังใช้ปืนจี้ Prompto อยู่ทำให้ Noct ต้องรีบไปช่วยทันทีโดยการโจมตีใส่ Ardyn จนตกรถไฟไป แต่สิ่งที่เป็นจริงกลับไม่ใช่สิ่งที่ Noct เห็นเพราะคนที่เห็นว่าเป็น Ardyn นั้นจริงๆแล้วก็คือ Prompto


[Ardyn] – คุณอยู่ในความมืดมานานแค่ไหนแล้วเนี้ย ??

Ardyn ตัวจริงที่ยังอยู่บนรถไฟพูดประโยคปริศนาออกมาให้ฟังก่อนจะซัด Noct จนสลบคาหลังคาโบกี้รถไฟในทันที …



  --------------------------------------- END OF CHAPTER ----------------------------------------------




                       CHAPTER 12 – End of Days





[Noct] –  อ๊า.... แมร่งเอ้ย ...
[Ignis] – เกิดอะไรขึ้น ??
[Noct] –  ignis นายต้องหยุดเรื่องบ้าๆพวกนี้ซะที ! Prompto ตกรถไฟไปแล้ว ชั้นฟาดเขาตกไปเอง หมายถึง Ardyn มันใช้แผนสลับตัวหลอกน่ะ ชั้นไม่รู้ว่า Prompto อยู่ไหนแล้วตอนนี้ แต่เราจะทิ้งเขาไม่ได้นะ 
[Ignis] – ใจเย็นก่อน Noct ชั้นก็ห่วง Prompto เหมือนกันนายนั่นแหละ แต่ถ้าจะหยุดรถไฟตอนนี้ก็จะอันตรายต่อทุกคนบนรถ เหมือนจอดรถเอาเหยื่อส่งให้พวก Daemon ยังไงหยั่งงั้นแหละ
[Noct] –   แล้วจะให้ทำยังไง !??
[Ignis] – ก่อนอื่นนะ เราจะส่งผู้โดยสารที่เป็นชาวบ้านทุกคนลงที่ Tenebrae ก่อน ไม่นานก็จะถึงสนานีข้างหน้านี่แล้วละ 
[Noct] – แล้ว Prompto ล่ะ ??
[Ignis] – พุ่งเป้าไปที่ไอ้ทูตนั่นก่อน เพราะมันเองก็คงจะใช้เวลาอีกนานกว่าจะรู้ว่าเราทิ้ง Prompto ไว้ตรงไหน ในอีกกรณีบางที Prompto อาจพยายามติดต่อกลับมาหาเราเองก็ได้ ตอนนี้คงได้แค่รออย่างมีความหวังแค่นั้นแหละ นายมาที่นี่ไหวมั๊ย Gladio ก็อยู่ที่นี่กับชั้นด้วย 
[Noct] – อย่างน้อยนายสองคนก็ยังปลอดภัย โอเค เดี๋ยวชั้นตามไป ก็คงจะซักพักนะจนกว่าชั้นจะจัดการไอ้พวกที่ชอบแอบขึ้นรถไฟฟรีพวกนี้ให้หมดซะก่อน 



                                     Main Mission: No Turning Back


ทันทีที่เข้าอุโมงค์ทางโค้งบนภูเขา Deamon มากมายก็เริ่มบุกเข้ามา วิ่งลุย จัดการ gargoyle และ snaggas ที่บุกขึ้นมาบนหลังคารถไฟจนถึงหัวขบวนแล้วจัดการศัตรูที่ออกมาไปเรื่อยๆจนกว่ารถไฟจะพ้นอุโมงค์


ทันทีที่ขบวนรถไฟที่เต็มไปด้วยพวก Deamon มากมายรุมเข้าโจมตีจน Noct เกินจะรับมือ จู่ๆ Leviathan ก็ปรากฎตัวขึ้นมาจากน้ำตกบนหุบเขา




ก่อนเริ่มขจัดปัดเป่าพวกปีศาจด้วยพายุเทพสายน้ำที่สาดฟาดกระเซ็นจนพวกปีศาจถูกทำลายกระเด็นตกรถจนหมด ก่อนที่ Noct จะประสบคือ Fenestala Manor คฤหาสน์ของตระกูลของ Luna กำลังลุกไหม้จากการถูกโจมตี





                                        อาณาจักร Tenebrae




[Atanea] – แหม่ดูสิใครอยู่ตรงนี้ 
[Noct] – Atanea .. เดาว่าเราต้องขอบคุณคุณในเรื่องยุ่งๆพวกนี้ใช่มั๊ยล่ะ?
 [Atanea] – มันอาจมีอะไรมากกว่าที่เธอเห็นก็ได้ อยากรู้มั๊ยละว่าพวกคุณควรขอบคุณใคร ? ตามชั้นมา 



                               Main Mission: Where she lived



เดินตาม Atanea เข้าไปตามทาง ....




[Atanea] – อืมม จำได้ว่าแก็งค์ของพวกนายมีอีกคนไม่ใช่หรอ ? 
[Noct] – ใช่ ก็มีอีกคน
[Ignis] – เราคลาดกันนิดหน่อย 
[Atanea] – ตายแล้วหรอ ?
[Noct] – ก็ ... ยังไม่รู้เหมือนกัน
[Atanea] –  งั้นก็อย่ามัวซึม ความหวังยังมีก็หวังต่อไปนะ ในขณะเดียวกันก็จัดการที่สิ่งพอทำได้ก่อนแล้วกัน 
[Gladio] – ก็ถ้าคนที่เราควรขอบคุณที่ช่วยพวกเราไม่ใช่คุณงั้นใครละ
[Atanea] –  ขอบคุณ Daemons สัตว์เลี้ยงของทหารจักรวรรดิก็แล้วกัน
[Gladio] – จักรวรรดิที่เธอรับใช้อ่ะหรอ ?
[Atanea] –  เคยรับใช้ จ๊ะ ตอนนี้ชั้นกับคนของชั้นทำธุรกิจค้นหาและช่วยเหลือแล้ว
[Ignis] – คุณพูดถึงเรื่องการช่วยเหลือผมเลยมีเรื่องจะถามหน่อย คือปัญหาขแงเราตอนนี้คือเราไม่สามารถพาผู้โดยสารเดินทางต่อได้เลย 
[Atanea] –  ได้ งั้นปล่อยเป็นหน้าที่ของชั้นเอง ว่าแต่คุณมีคนที่ขับรถไฟได้รึเปล่าละ ?
[Ignis] – นั่นแหละที่ผมกำลังจะถาม ทหารของคุณมีคนที่ขับรถไฟได้ซักคนมั๊ยละ 
[Atanea] –  อืมม มีสิ อันที่จริง ชั้นมีให้ 2 คนเลยละ



[Atanea] –  นี่ไงเอ็นจิเนียคนใหม่ของคุณ Biggs กับ Wedge ไม่ต้องห่วงนะ พวกเขาไว้ใจได้ 
 [Biggs] – เราจะทำให้เต็มที่แล้วกัน ว่าแต่ จะให้เราทำอะไรหรอ ?
 [Atanea] –  ขับรถไฟไปส่งผู้โดยสารที่ Gralea  
[Wedge] – แค่นั้นหรอ ?
[Biggs] – ได้เลยเดี๋ยวเราจัดการให้
[Gladio] – ต้องขอโทษด้วยนะที่ทำให้คุณเสียงานเสียการของพวกคุณ
[Atanea] –   อืมม ไม่เป็นไร ไม่ต้องห่วงพวกเราหรอกนะ 



[Noct] – ขอบคุณที่ช่วยเรานะ
[Biggs] – เราดีใจที่ได้ช่วยมากกว่า ทุกทีล้วนมีแต่อันตรายไปหมด สถานการณ์ตอนนี้เราก็มีแต่ต้องช่วยเหลือกันคุณว่ามั๊ยละ 
[Wedge] –โดยเฉพาะตรงช่องเขานั่น
[Biggs] – ตรงนั้นหนาวเย็นมากผิดปกติ น้ำแข็งเทพเจ้ารึไงไม่รู้ทำไมมันเย็นยะเยือกขนาดนั้น ก่อนเดินทางผมแนะนำให้พวกคุณเตรียมตัวให้พร้อมด้วยแล้วกัน เออ ผมเกือบลืม ผมไปเจอกับหญิงชราคนนึงที่เคยทำงานที่คฤหาสน์ Fleuret เห็นเธอตามหาคุณอยู่นะ บอกว่ามีเรื่องสำคัญจะบอกนะครับ 



เดินเข้าไปที่ส่วนในสุดของพื้นที่จะพบหญิงชรายืนรออยู่




[Maria] – เจ้าชาย Noctis นั่นคุณใช่มั๊ยคะ ?
[Noct] – อืมม ใช่ มีอะไรรึเปล่าครับ ?
[Maria] – โอ้ ขอเทพแห่งดวงดาวจงอวยพรนะ ชั้นเคยเห็นมาตั้งแต่เด็กดูสิตอนนี้โตเป็นหนุ่มแล้ว ชั้นชื่อ มาเรียคะ เป็นคนรับใช้ที่ คฤหาสน์ Fleuret ไม่แน่ใจว่าจะจำได้มั๊ยเพราะมันนานมากแล้ว แต่ถ้าจำไม่ได้ก็ไม่เป็นไรหรอกคะเพราะชั้นก็ไม่ใช่สำคัญอะไร ชั้นแค่อยากจะบอกว่า Lady Lunafreya เธอต้องเสี่ยงชีวิตอย่างมากที่ต้องนำแหวนจากวิหารไปส่งให้ถึงมือคุณ .. เธอส่งมอบแหวนให้คุณรึยังคะ ?  
[Noct] – ....อืมม ครับ ได้รับแหวนแล้ว ...
[Maria] – พระเจ้า โล่งอกเสียที Lord Ravus ก็ด้วย เขาคงจะดีใจมากถ้ารู้ข่าวนี้ 
[Noct] – Ravus เนี่ยนะ ?








[Lunafreya]- ชั้นขอร้องละพี่ ได้โปรด ช่วยเอาแหวนนี่ไปส่งให้ Noctis แทนชั้นหน่อย ร่ายกายของชั้น มันเริ่มไม่ไหวแล้ว 




[Ravus] – ไม่ได้หรอก พี่คงทำให้ไม่ได้ ... เธอทำด้วยมือของเธอเองน่าจะดีกว่า
ส่งมอบแหวนและเป็นแรงบันดาลใจให้กับราชาที่เธอเพรียกหา เธอจะยอมแพ้ไม่ได้นะ 





[Lunafreya]- แต่ .. ชั้น  ไม่แข็งแรงพอ คงจะไปไม่ไหว ... 
[Ravus] – ตามหามันสิ Lunafreya เธอต้องมีเจตจำนงของตัวเอง ไปหา Noctis แสดงให้เขาเห็นความจริงในหัวใจของเธอสิ 




[Maria] – ชั้นเข้าใจว่าคุณต้องไปที่เมืองหลวงของพวกจักรวรรดิต่อ แต่ Lord Ravus เก็บรักษาโลงศพของราชา Regis เอาไว้ และเขาก็ตั้งใจว่าจะส่งคืนให้กับคุณด้วย แม้ชั้นเองจะพอรู้ว่ามันไม่ง่ายเลยที่คุณทั้งสองคนจะไปเจอกันก็เถอะ 
[Noct] – ไม่ว่าจะยังไงผมก็จะไปเอามาจากเขาเองครับ
[Maria] – ชั้นขออธิษฐานให้ทุกอย่างมันเป็นไปด้วยดีนะคะ  


 (ใกล้ๆที่เธอยืนอยู่มีไอเทม Sky Gemstone ไอเทมสำหรับอัพเกรดอาวุธ Circular Saw ใครขี้เกียจทำเควสอาหารแมวหรือไม่อยากซื้อที่งานคานิวัลก็สามารถเก็บได้ที่นี่) 




[Maria] – ชั้นได้รู้มาจากลอร์ด Ravus ว่าเจ้า Pryna ที่น่าสงสารได้จากไปแล้วในวันเดียวกับที่เสีย Lady Lunafreya  บางที ก็เหมือนเป็นการปลอบใจพวกเรา ที่ได้รู้ว่าอย่างน้อยในที่สุดพวกเขาก็ได้อยู่ด้วยกันตลอดไป ส่วน Umbra เองก็คลุ้มคลั่งที่ต้องเสียนายหญิงและเพื่อนรักไปพร้อมๆกัน
[Noct] – อืมม ใช่ Umbra มันก็แกร่งมากนะ 




[Aranea] – จำเรื่องที่ชั้นเคยบอกว่า Crystal ถูกพวกมันเก็บรักษาเอาไว้ในที่แห่งนึงได้มั๊ย? พวกมันไม่ยอมให้ใครเข้าใกล้เจ้าสิ่งนี้เลย แม้แต่ตัวจักรพรรดิเองก็ไม่เคยเข้าไปใกล้ พวกนักวิจัยของพวกมันมีทฤษฎีว่า Crystal อาจทำให้เกิดภัยคุกคามกับพวก Daemons ได้ พอพวกมันรู้อย่างนั้นเลยเป็นเหตุผลที่เอกอัคราชทูตแนะนำให้จักรพรรดิเอามันออกไปจากที่แรก ไม่รู้สิ แต่ตามความเห็นชั้นคิดว่ามันเป็นทฤษฎีที่ฟังไม่ขึ้นอ่ะนะ  มันอธิบายได้ชัดเจนเลยว่า ทำไมถึงต้องให้พวกการ์ดคุ้มกัน Crystal ตลอดเวลาและพวกมันเก็บพวก Daemons ไว้ที่อ่าวได้ยังไง พูดง่ายๆก็คือว่า เราติดแหงกอยู่ที่สถานีข้างทางนี่ต่อไปจนกว่านายจะไปเอาอะไรก็ตามที่เป็นของนายกลับคืนมาได้อ่ะนะ    



[เด็กหญิง] – เจ้าชาย Noctis คะ คุณตื่นเต้นที่จะได้แต่งงานกับ Lady Lunafreya รึเปล่าคะ ? หนูดูเธอจะตื่นเต้นมากๆที่จะได้แต่งานกับคุณน่ะคะ เธอดูมีความสุขมาตอนที่ชุดเจ้าสาวถูกส่งมาถึง เธอรักคุณมากจริงๆนะคะเจ้าชาย Noctis  




[Gentiana] – ตอนแรก พ่อจะโศกเศร้ากับชะตากรรมของลูกชายที่ถูกเลือก นอกจากใน Tenebrae ทั้งคู่ได้รับการปลอบโยน ถ้าที่ผ่านมาไม่ใช่เพราะ Oracle ใครเลยที่ทำให้พวกเขาสงบใจลงจากความหวาดกลัวได้ แต่ตอนนี้ก็มีเด็กหญิงที่มีพลังอันยิ่งใหญ่ในฐานะ Oracle อยู่ตรงนี้ 



[Lunafreya] – ชั้นเองก็ไม่สามารถช่วยอะไรได้มากไปกว่าให้คำแนะนำกับราชาที่ถูกเลือกได้นิดๆหน่อยๆด้วยเสียงอธิฐานของ Oracle ที่พอจะนำทางให้ ถึงแม้ว่า .. ชั้นเองก็กลัวว่าเขาจะเห็นว่ามันเป็นเรื่องไร้สาระ แต่ การที่จะได้อยู่ใกล้ๆ Noctis อีกครั้ง แม้จะแค่ช่วงเวลาสั้นๆ มันก็มีความหมายกับชั้นมากเหลือเกิน  ชั้นไม่อยากจะเป็นแค่คนนำทางเขาเท่านั้น แต่ ชั้นอยากยืนเคียงข้างเขาด้วยคะ





[เด็กหญิง] – Lady Lunafreya เธอกำลังกลุ้มใจว่าเธอจะเป็นภาระสำหรับคุณในวันแต่งงานน่ะคะ ไม่จริงใช่มั๊ยคะ ?
[Noct] – ไม่จริงหรอกจ๊ะ ไม่ใช่แน่นอน




[Ignis] – ปราสาทเสียหายมากหรือเปล่าล่ะ ?
[Gladio] – เคยดีกว่านี้น่ะ ห่วงพวกชาวบ้านมากกว่าที่ต้องเจอเรื่องหนักแบบนี้กันอยู่ตลอด  
[Ignis] – และไอ้ทูตนั้นก็หาเรื่องให้พวกเขาต้องเจอเรื่องแย่ๆซ้ำไปอีก
[Gladio] – หาเรื่องให้พวกเราด้วยนะสิ เล่นซะออกนอกลู่นอกทางมาขนาดนี้ รู้เลยว่าคงชอบที่จะเล่นงานพวกเราเป็นหลักเลย แต่ก็ถือว่าเป็นโอกาสที่ดีที่มันพุ่งเป้าไปที่ Prompto เราเลยมีเวลาพอตั้งตัวเคลียร์ปัญหาต่างๆได้ ก็หวังว่ามันคงไม่ทำให้ Prompto ต้องวุ่นวายมากก็พอ จริงๆ Ravus ก็ไม่ได้อยู่ในสถานะที่ดีไปกว่า Lunafreya หรอกนะ 
[Ignis] – น่าเห็นใจ เราเองก็ไม่มีโอกาสได้พูดอะไรกับเขามากนัก หวังว่าโลงศพของฝ่าบาทจะยังรอเราอยู่ที่เมืองหลวงนะ
[Gladio] – ก็ขอให้นานตราบเท่าที่ Ravus ยังเป็นคนครอบครองอยู่แทนที่จะเป็นไอ้เจ้าฑูต Ardyn นั่นก็แล้วกัน แทบไม่อยากจะเชื่อด้วยซ้ำว่าบ้านตระกูล Fleuret จะต้องพบจุดจบแบบนี้ 





หลังจากคุยกับทุกคนเพื่อรับรู้เรื่องราวต่างๆจนพอใจแล้ว เข้าไปคุยกับ Biggs กับ Wedge ที่รถไฟได้เลย



[Aranea] – ไม่ต้องห่วงเรื่องชาวบ้านที่นี่นะ พวกเขาจะปลอดภัยแน่นอน แต่กับพวกนายชั้นคงบอกไม่ได้เต็มปากนะ ที่เมืองหลวงของพวกมัน ระวังตัวเองให้ดีด้วยแล้วกัน
[Noct] – ขอบคุณมาก Aranea แล้วเจอกันนะ ...หืมม หิมะตกงั้นหรอ?
[Gladio] – ย้ายตูดขึ้นรถได้แล้วเว้ย Noct !



ระหว่างเส้นทาง Ghorovas Rift ก่อนถึงเมืองหลวงของจักรวรรดิ ......



[Biggs] – ผู้โดยสารโปรดทราบ !! เส้นทางที่เราจะเดินทางไปปลายทางคือเมืองหลวงของจักรวรรดิ ขอจงเดินทางโดยสวัสดิภาพครับ !! เมื่อใกล้จะถึงแล้วกระผมจะแจ้งอีกทีนครับ
[Gladio] – ด้านนอกมีแต่หิมะตกเต็มไปหมด ไม่แปลกใจหรอกที่มันจะหนาวเข้ามาจนถึงด้านในแบบนี้ 
[Ignis] – เราคงจะเข้าใกล้ซากของ The Clacian เข้าไปทุกทีแล้วละ
[Gladio] – เราคงจะขออัญเชิญมาทำสัญญาไม่ได้แล้วใช่มั๊ยเหลือแค่ซากแบบนี้ 
[Ignis] – หวังแค่เราจะผ่านตรงช่องแคบไปได้อย่างปลอดภัยไม่เกิดอุบัติเหตุอะไรก็พอแล้ว 
[Gladio] – ชั้นว่า ผ่านช่องแคบไปแล้วน่าเป็นห่วงมากกว่านะ

จากนั้นจะสามารถเดินได้อย่างอิสระได้ซักพัก เข้าไปเก็บไอเทมตามโบกี้ต่างๆจนสุดขบวนได้เลย แล้วรอจนกว่าจะมีโทรศัพท์มาแจ้งว่า รถไฟกำลังเกิดปัญหาเพราะมีไอเย็นและ Daemons มากมายเข้ามาขวางเส้นทางของรางทำให้ Noct และเพื่อนๆต้องรีบลงไปตรวจสอบดู



                        Main Mission: Breath of the Glacian 


รถไฟถูกหยุดด้วยไอเย็นและDaemons มากมายตรงบริเวณเศษซากของ The Clacian จัดการศัตรูที่ออกมาให้หมด ปิดท้ายด้วย Boss Deathclaw 



[Gladio] – เฮ้ย Noct !
[Noct] – อะไรอีกละ ?
[Gladio] – นายต้องขึ้นมาดูบนรถนี่ มีบางอย่างไม่ค่อยปกติ มาเถอะ Iggy
[Noct] – แปบๆกำลังตามไป ...... ห๊ะ !! ไม่มีทาง Ardyn !! แก หยุดนะ !! ไอ้บ้าเอ๊ย !! 

[Noct] – หยุดนะ ! บ้าเอ๊ย !! หยุดเดี๋ยวนี้ !!!  เขาอยู่ที่ไหน Prompto เพื่อชั้นอยู่ที่ไหน !!??

    


[Ardyn] – โอ้ นายนั่นเอง ผมห่วงเพื่อนของคุณมากนะ ตกจากรถไฟแบบนั้น ทำไมไม่คว้ามือเขาเอาไว้
ให้ทันละ ? ความหนาวเย็นยะเยือกนี่คงเป็นฝีมือของเธอแน่นอน




                             
                                             อ่า ....ใบหน้าที่เธอใส่อยู่ในวันนี้ เธอ........ 





[Gentiana] – จงทำมันให้สำเร็จเฉกเช่นที่สัญญาไว้กับ Oracle  





[Noct] – Gentiana เธอเองหรอ เธอคือ Shiva The Glacian หรอ? 
[Shiva] – ราชาแห่งราชาจงโปรดคืนแสงกลับมาให้โลกาอีกคราด้วยเถิด 

A strong and noble woman was loved by the world. She granted succor to the star and brought man and god together. This was the trident of her line. It makes allies of the wielders holograms.



สตรีผู้แข็งแกร่ง ทรงเกรียติและสูงศักดิ์ อันเคยเป็นที่รักของโลกา
นำพรจากเทพแห่งดารามาเกื้อหนุนมนุษย์กับเทพยดาไปพร้อมๆกัน
นื่คือตรีศูลสายเลือดออราเคิลแห่งเทเนไบน์ มันสร้างร่างพันธมิตรมายารอบกายให้เจ้านายผู้ใช้งานมัน 





Trident of the Oracle
Attack 388
Critical 5
MP +60




[Ravus] – เลิกเถอะน้องพี่ งานนี้มันบ้ามากเลยนะ ไอ้เด็กนั่นไม่มีทางเป็นราชาได้หรอก !
[Lunafreya]- Noctis คือราชาที่ถูกเลือก มันถูกกำหนดมาแล้วคะ พี่กับประชาชนทุกคนเองก็รู้ดี 
[Ravus] – พี่รู้ !! แต่เธอจะเอา ชีวิตไปทิ้งเปล่าๆนะ !!




[Lunafreya]- นั่นมันก็อาจจะ !! ........แต่ชั้นเลือกแล้ว ..ขอเพียงแค่ ...ขอเพียงแค่ได้ยินเสียงเขาอีกครั้ง ถ้าเราจะได้หัวเราะด้วยกันเหมือนตอนเด็กๆ ชั้นก็ยอม ฮืออๆๆๆ




[Noct] – เฮ้ ทุกคนตื่นได้แล้ว 
[Gladio] – นี่มันเกิดอะไรขึ้นวะเนี้ย !!
[Ignis] – นายไม่เป็นไรนะ 
[Noct] –  ไม่เป็นไร แต่ชั้นเจอกับ The Glacian ด้วย แต่ไม่เป็นไรหรอก เธอไปแล้วละ พวกนายรีบไปดูคนขับของพวกเราก่อนเถอะ  


[Noct] –  ห๊ะ ...ลูน่า .............. 




[Noct] –   ชั้นขอโทษนะที่ไม่สามารถไปอยู่ที่นั่นกับเธอได้ ...ฮือออ 




[Ardyn]- ผมรู้สึกว่า ผมก็น่าจะมีสิทธิ์เรียกคุณว่า Noct ได้เหมือนกันนะ ตอนที่ผมกำลังโดนความหนาวเย็นนั่นเล่นงานจนตาย ผมรู้สึกได้เลยว่า นั่นแหละคือความแข็งแกร่งของเทพเจ้า แต่หลังจากนั้นก็จำได้ว่า ตัวเองเป็นอมตะนี่หว่า นั่นแหละที่เป็นเหมือนพรและคำสาปของผม





 [Ardyn]- การโจมตีของคุณทำร้ายผม ก็เอาเถอะ ไม่เป็นไร แต่ความรู้สึกของผมนี่สิ ...และหลังจากที่ความทรงจำของเราแบ่งปันกัน คุณจำนี่ได้มั๊ย ?  




[Ardyn]- อ่า ผมควรจะถามดีมั๊ยนะถ้าคุณจำเขาได้อยู่แล้ว ความจริงที่ย้ำเตือนมาจากอดีตใช่มั๊ยละ ?   อ่ะๆๆ คุณเอาไปไม่ได้ มันไม่ใช่ของคุณนะ 
[Noct] – เขาอยู่ไหน ??
[Ardyn]- เขาหรอ ? ไอ้หนุ่มสิงห์ปืนไวแต่ยิงอะไรไม่ค่อยโดนน่ะหรอ 
[Noct] – อยู่ที่ไหน !!?





[Ardyn]- จะที่ไหนนะใน Gralea ที่ทำเนียบในจักรววรดิหรือเปล่านะ ? แต่รับรองเลยว่าเขาต้องยินดีมากที่ได้เจอนายแน่นอน หรือคุณจะไปตามหาคริสตัลของคุณก่อนดี ส่วนเรื่องปีศาจพวกนั้น คุณควรจะใช้สิ่งนี่นะ ..และหลังจากที่คุณออกไปแล้ว ผมก็จะไม่เหนี่ยวรั้งคุณจากเพื่อนของคุณอีกแล้ว 






  --------------------------------------- END OF CHAPTER ----------------------------------------------




                        CHAPTER 13 – Redemption





[Ignis] – เราควรจะวางแผนให้เห็นภาพรวมก่อนที่จะถึง Gralea นะ
[Gladio] – ชั้นนึกไม่ออกด้วยซ้ำว่าต่อไปมันจะเป็นยังไง 
[Noct] – ต้องเจอกับฝูง Daemon เพียบ นายก็รู้นี่
[Gladio] – ไม่ต้องมาทำเป็นเตือนชั้นหรอกน่า
[Ignis] – เมื่อเราไปถึงแล้ว เราต้องเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการลุยเข้าไปใน “The Keep” ด้วย 
[Noct] – “The Keep” หรอ? 
[Ignis] – “Zegnautus” ป้อมปราการขนาดใหญ่ของพวกจักรวรรดิ พูดได้ว่า ยากที่จะตีแตกได้ 
 [Noct] – งั้น Prompto กับ Crystal ก็คงอยู่ด้านในของป้อมที่ว่านั่นแหละ
[Gladio] – มันเอาอะไรของเราเข้าไปเราก็จะเอากลับออกมาให้หมด แล้วเราจะเชื่อเรื่องที่ว่าคริสตัลมันสามารถกำจัดพวก Daemons ได้จริงหรือเปล่า ?
[Ignis] –มันสามารถกำจัดพวก Daemons ได้มั๊ย ? ก็ต้องลองพิสูจน์ดู มันก็ยังพอมีเหตุผลที่เชื่อถือได้อยู่ แต่เราต้องเสี่ยงหน่อย ต้องอย่าอยู่ในตอนกลางคืนนานเกินไปเพราะยิ่งนานพวก Daemon ก็จะยิ่งแข็งแกร่งขึ้น แต่ถ้าเราทำสำเร็จ พิสูจน์ความจริงที่ว่านี้ได้ แสงแห่งคริสตัลก็ไม่ใช่แค่ช่วยอาณาจักร Lucis ได้ แต่มันจะช่วยได้ทั้งโลกเลยด้วย 
[Noct] – หึ ยังไงเราก็จะหามันให้เจอและเอามันกลับคืนมาให้ได้

[Gladio] – อะไรอีกวะเนี้ย ?!
[Ignis] – เกิดอะไรขึ้น ทำไมรถไฟถึงจอดละ ?
[Gladio] – ให้เดานะ ต้องมีอะไรมาป่วนข้างรางอีกแน่นอนเลย 



                            Main Mission: The Imperial Capital 





[Gladio] – อะไรอีกหรอ ??
[Biggs] – มันพยายามจะขังเราให้อยู่ในอุโมงค์รวมกับพวก Daemons รีบหนีเข้าไปเมืองก่อนเลยไม่ต้องห่วงพวกเราครับ !!!
[Noct] – เฮ้ย !! ทำไมอาวุธมันใช้ไม่ได้ ??
[Gladio] – หลบ Noct !!
[Ignis] – วิ่ง !!!

หลังจากที่ Ardyn ได้ทำบางอย่างกับ Noct ในช่วงที่คุยกันก่อนหน้านี้ทำให้ Noct ไม่สามารถใช้อาวุธได้ ทำได้อย่างเดียวคือต้องหนีพวกปีศาจไปให้ถึงรถที่จอดไว้ท้ายขบวนให้เร็วที่สุดเพื่อขับรถหนีจากรถไฟ


[ผู้ประกาศ] – เพิ่มระดับการรักษาความปลอดภัยในระดับ 4  จะเริ่มทำการปิดกั้นประตูอุโมงค์ที่จะเข้าสู่เมืองเดี๋ยวนี้ !!


ตอนนี้มีเวลา 2 นาทีที่จะต้องรีบขับรถเพื่อเข้าไปใน Gralea ให้ทันก่อนที่ประตูของระบบรักษาความปลอดภัยจะปิดจนหมด



[Gladio] – เหยียบให้มิดเลย !! ระวังชนด้วย !! 
[Noct] – ขอบคุณที่สอนนะ !!
[Ignis] – ถึงไหนแล้ว !?? 
[Noct] – ในอุโมงค์ข้างทางรถไฟ !
[Gladio] – จะเป็นจะตายก็อย่าหยุดนะไม่งั้นมันจับเราแน่ !!
[Noct] – เออ ก็เร็วเท่าที่จะเร็วได้แหละน่า จับดีๆแล้วกัน !!



[Ignis] – เสียงอะไรน่ะ !??
[Noct] – มันพยายามยิงถล่มเราให้เละคารางรถไฟน่ะสิ !!
[Gladio] – แบบนี้นัดเดียวจอดเลยนะ !!
[Ignis] – เรื่องเล็กน้อยน่าเชื่อใจฝีมือขับรถของ Noct หน่อย !! 
[Gladio] – หลบซ้ายขวาสลับกันแบบนั้นแหละ !
[Ignis] – Regalia พังแน่ถ้าโดนแบบนี้เรื่อยๆ มีสามาธิในการขับด้วย Noct 
[Noct] – ต้องทำได้สินังหนู ต้องผ่านมันไปให้ได้สิ!!
[Ignis] – คงหนีพ้นแล้ว ! หาที่จอดเลย !!




[Gladio] – เธอคงไปได้แค่นี้แหละ 
[Noct] – พวกเราเองก็ทำดีที่สุดแล้วละ ...











                           ขอบคุณสำหรับทุกอย่างนะครับพ่อ ......





[Gladio] – สรุปว่าลุยเข้าไปด้านในรังของพวกจักรวรรดิแบบมือเปล่าเนี้ยนะ ??
[Ignis] – แล้วก็ต้องระวังไม่ให้คริสตัลโดนพวก Daemon ทำลายในตอนหนีออกมาด้วย 
[Gladio] – เดาว่าที่เราเจอแต่ทางเลือกยากๆแบบนี้ คงไม่มีทางให้หันหลังกลับกันแล้วใช่มั๊ย ??



                                       เมือง Gralea


ทันทีที่ลงจากซาก Regalia ที่ต้องจอดพังไว้ข้างทาง เมื่อวิ่งผ่านซากรถไฟเข้าไปด้านใน Noct ก็ถูกกั้นเอาไว้จากเพื่อนด้วยโบกี้รถไฟที่ตกลงมา


ตอนนี้สามารถเลือกได้ว่าจะเลือกดำเนินเรื่องที่เส้นทางไหน ระหว่าง
- เส้นทางของ Noctis แบบลุยเดี่ยว
- เส้นทางของ Gladiolus และ Ignis

แนะนำให้เลือกทางของ Noct เพราะจะเจอเหตุการณ์ในเนื้อเรื่องที่เป็นแก่นมากกว่า โดยเฉพาะการได้มาซึ่ง Sword of the Father และหากอยากจะเล่นเส้นทางของ Gladiolus และ Ignis ก็สามารถสลับเล่นได้ในจุดที่พักของพื้นที่เมือง Gralea ได้ หรือ หลังจบเกมแล้วก็สามารถเข้าไปเล่นเส้นทางของ Gladiolus และ Ignis ในเมนู Chapter 13 , Verse 2 ที่หน้าจอเมนูหลักซึ่งเป็นเมนูใหม่ที่เพิ่มขึ้นมาในอัพเดทแพทล่าสุดที่ผ่านมาก็ได้เช่นกัน

จากนั้นวิ่งหนีพวกปีศาจตามทางเข้าไปจนถึงทางเข้าในอาคารโรงงานขนาดใหญ่ Noct ที่ตอนนี้ไม่มีอาวุธที่สำหรับไว้ใช้งาน



ท่ามกลางพวกปีศาจมากมายตามทางที่ต้องเอาตัวรอด Noct จึงไม่มีทางเลือกที่จะสวมใส่แหวน Ring of Lucii ที่แม้แต่นิดเขาก็ไม่อยากคิดจะใส่เพราะทำใจไม่ได้ที่ลูน่าต้องสละชีวิตให้เพื่อส่งแหวนให้ถึงมือเขา


ทันทีที่สวมแหวน Ring of Lucii พลังแห่งกษัตริย์ลูซิสก็จะเข้าสิงสถิตเป็นพลังให้ Noctis ใช้เป็นเวทย์มนต์แห่ง Arcana เพื่อไว้ใช้ในการต่อสู้ได้ โดยแหวนจะทำให้ Noct สามารถใช้พลังเวทย์สุดยอดได้ 3 แบบคือ
1. เวทย์ Death ที่จะสามารถดูดพลังชีวิตศัตรูมาเป็นพลังชีวิตของตัวเอง โดยการกดปุ่ม R1 + O



2. เวทย์ Alterna สร้างAOE effect หรือแบล็กโฮลขนาดใหญ่ที่สามารถดูดศัตรูให้ไปยังมิติอื่นได้ทันที โดยการกดปุ่ม R1+ สามเหลี่ยม ซึ่งจะกินค่า MP ทั้งหมดที่มี


3. เวทย์ Holy สำหรับโจมตีศัตรูด้วยการ Counter Attack ในขณะกลิ้งตัวหลบ โดยการกดปุ่ม R1 + สี่เหลี่ยม





                                  Main Mission: A King’s Struggle 




-เป้าหมายแรกที่ต้องทำคือ หาทางเข้าไปที่ห้องควบคุมของที่นี่เพื่อเปิดประตูทางเข้าไปยังลิฟต์สำหรับเดินทางไปที่ Zegnautus Keep ที่อยู่ด้านใน


 จากนั้นลุยเข้ามาด้านในจะพบว่าประตูทางเข้าที่ข้างทางเดินทั้งหมดถูกปิดอยู่ เข้าไปที่สุดทางเดินด้านในจะเจอตู้ควบคุม เมื่อสับคันโยก จะทำให้ประตูแรกทางฝั่งซ้ายตรงทางที่เข้ามาเปิดออก


-เข้าไปด้านในตามทางจนถึงห้องโถงด้านในจะพบตู้ควบคุมอันที่ 2 เมื่อสับคันโยกแล้วจะทำให้ประตูระหว่างทางเดินเปิดออกทั้งหมด จากนั้นลุยออกไปที่ทางเดินแรกที่เข้ามาอีกครั้งเพื่อเข้าประตูทางขวาของทางเดินที่เปิดออกเพื่อไปยังเป้าหมายของภารกิจที่ขึ้นมาเพื่อไปยังห้องควบคุม


 กดสวิตซ์ที่แผงควบคุมเพื่อเปิดประตูทางเข้าที่จะไปยังลิฟต์สำหรับเดินทางไปที่ Zegnautus Keep ที่อยู่ด้านใน
-ย้อนกลับออกมาตรงทางเดินแรกอีกครั้ง เข้าประตูสุดท้ายของทางเดินฝั่งซ้ายใกล้ๆกับตู้ควบคุมแรก เข้ามาตามทางด้านในระหว่างทางจะเจอห้องที่ไฟสีฟ้าติดอยู่



เข้าไปจะพบว่ามันคือห้องพักที่สามารถพักและเซฟเกมได้ แต่ไม่สามารถกลับไปยัง Lucis ในอดีตได้ และที่นี่ยังมีจุด Side Quest หรือจุดที่สามารถสลับไปเล่นในเส้นทางของ Gladiolus และ Ignis เมื่อครั้งที่ต้องแยกทางกันในตอนต้นของ Chapter 13 ได้แล้ว ซึ่งจะมีจุดสลับทางเดินอยู่ในทุกห้องพักเซฟเป็นรูปเครื่องหมาย   ?   โดยจะสลับไปเล่นเส้นทางของ Gladiolus และ Ignis ที่ห้องไหนก็ได้ หรือจะรอจบเกมแล้วไปเล่นในเมนู Spacial ที่หน้าจอแรกก็ได้เช่นกัน


** คำเตือน **  หากเลือกเล่น Gladiolus และ Ignis  จนจบ จะตัดมาที่เรื่องราวของ Noct หลังจากได้ดาบของราชา Regis แล้วทันที ซึ่งจะทำให้ข้ามเรื่องราวในระหว่างการเดินทางของ Noctis ไป หากใครไม่อยากพลาดเหตุการณ์สำคัญของ Noct แนะนำให้เซฟเกมไว้แล้วค่อยเข้าไปเล่นเส้นทางของ  Gladiolus และ Ignis  เพื่อดูเรื่องรววที่เกิดขึ้น แล้วค่อยโหลดเซฟขึ้นมาเดินเรื่องของ Noct ต่อที่หลัง ** 


----------------------------------------------------------------------------------------------------------------

Chapter 13, verse 2 คือบทเรื่องเพิ่มเติมในบทที่ 13 ที่เพิ่มเข้ามาพร้อมแพทอัดเดทล่าสุด ที่สามารถเล่นบท  Gladiolus ที่กำลังเดินทางไปกับ Ignis ในอีกเส้นทางคู่ขนานกับ Noctis ซึ่งจะบอกเล่าเรื่องราวของ Chapter 13 ในเชิงรูปธรรมที่ชัดเจนมากขึ้น 

----------------------------------------------------------------------------------------------------------------

                      

                       Chapter 13, verse 2: For King and Comrade


กล่าวถึงเส้นทางอีกด้าน เส้นทางของ  Gladiolus และ Ignis ที่แยกทางกับ Noctis ที่ทางรถไฟก่อนเข้าเมือง Gralea


[Gladio] – อึ๊บ !! ขึ้นมา !
[Ignis] – นี่เป็นทางไปต่อของเราหรอ ?
[Gladio] – ก็คงทางนี้แหละ อันที่จริงชั้นไม่เห็นทางไปข้างหน้าโดยไม่มีพวก Daemon ขว้างอยู่ซักทาง facing 
[Ignis] – ตอนนี้ Noct กำลังลุยเดี่ยวอยู่ มันก็คงจะมีซักทางแหละที่เราพอจะช่วยเขาได้



[Ardyn] – บางทีผมก็พอจะช่วยได้นะครับ 
[Gladio] – แกมาทำบ้าอะไรที่นี่วะ !!
[Ardyn]  - ทำไมละ แวะเอาของขวัญมาให้ไม่ได้หรอ ?



[Gladio] – อะไรวะเนี้ย !?
[Ardyn]  - เห็นมั๊ย ให้ของขวัญไปแล้ว คิดว่าอาจจะได้คำขอบคุณมาบ้างก็เท่านั้นแหละ  
 [Gladio] –  เพื่ออะไรวะ ! มันเป็นกลลวงงี่เง่าอีกอันของแกงั้นหรอ ?             
[Ardyn]  - ผมก็แค่อยากช่วยให้พวกคุณมีโอกาสช่วยเพื่อนมากขึ้น ไม่ได้ต้องการอะไรมากกว่านี้หรอกน่า 
[Ignis] – ชั้นไม่เชื่อใจมันหรอกนะ !
[Gladio] –  เหมือนกัน ! แต่ในสถานการณ์นี้ ดูเหมือนเราคงต้องการตัวช่วยจากทุกที่หาได้อ่ะนะ 

[Ignis] – ชั้นก็แค่ต้องระมัดระวังให้มากเพราะถ้า Noct เป็นอะไรไปละก็ชั้นคง ...
[Gladio] –  เราจะเดินไปข้างหน้าไม่ได้หรอกนะถ้านายมัวมาห่วงหน้าผะวงหลังอยู่แบบนี้ นายเลิกคิดแต่เรื่องสิ่งที่แก้ไขอะไรไม่ได้แล้วมาคิดเรื่องที่เราพอจะทำได้ในตอนนี้จะดีกว่านะ     
[Ignis] – นายพูดถูก ไอ้ที่แล้วก็ให้มันแล้วไปดีกว่า 

-จากนั้นลุยเข้าไปตามทางซึ่งจะเป็นเส้นทางเดียวกับที่ Noctis ลุยเข้าไปก่อนหน้านี้เพียงแต่ไม่ต้องแก้ปริศนาอะไรเลยเท่านั้นเอง ส่วนเพลย์เกมที่ต้องใช้ Gladio เป็นตัวบังคับลุยก็ใช้ระบบบังคับเหมือนกับใน Episode Gladio แต่จะไม่สามารถเปลี่ยนอาวุธ ชุด หรือสะสมไอเทมใดๆที่คาบเกี่ยวไปในเนื้อเรื่องหลักได้


[ผู้ประกาศข่าว] – นี่คือหน่วยงานกลางเพื่อความมั่นคงของจักรวรรดิ ตอนนี้สถานการณ์ที่ส่วนของห้องทดลองกำลังเริ่มบานปลาย ขอให้ประชาชนทุกคนเตรียมอพยพมาที่ศูนย์อพยพที่ทางการเตรียมไว้ให้เร็วที่สุด หากใครไม่ทำตามจะถูกดำเนินคดีในข้อหาผิดวินัยรายแรงทันที สถานนีจะรายงานข่าวสถานการณ์ฉุกเฉินนี้จนกว่าหน่วยงานกลางเพื่อความมั่นคงของจักรวรรดิจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง ขอขอบคุณที่ให้ความร่วมมือ   
[Gladio] –  นายคิดว่า สถานการณ์ที่ว่ามันหมายถึง พวกเรา หรืออะไรกันแน่ 
[Ignis] – น่าจะเป็นอย่างหลังนะ ชั้นสันนิฐานเอาน่ะ แต่ยังไงก็เหอะ เนื้อหาข่าวฟังดูน่าเชื่อถือ เปิดหูเปิดตาไว้บ้างก็ดีเพราะข่าวสารจะช่วยให้เราเข้าใจเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นภายนอกได้ง่ายขึ้น 

-จากนั้นลุยเข้าไปตามทางในเส้นทางเดียวกับ Noctis จนถึงลิฟต์ขึ้นไปชั้นบน ขณะลุยเข้าไปตามทาง Ardyn จะประกาศเครื่องขยายเสียงเพื่อแนะนำให้เข้าไปในทางลับที่มันเปิดให้ จนเข้าไปถึงที่จุดหมายภารกิจที่ขึ้นมาที่ห้องควบคุม

[Gladio] –  เฮ้ Iggy ชั้นคิดว่าเรามาถึงห้องควบคุมแล้วนะ มันมีจอมอนิเตอร์เพียบเลย
[Ignis] – ไหนลองดูสิว่ากล้องต่างๆจะช่วยทำให้เราหาสิ่งที่เรากำลังตามหาอยู่ได้มั๊ย? 



[Gladio] –  ชั้นมันประเภทโลว์เทคด้วยสิ ไม่ค่อยถนัดพวกเทคโนโลยีพวกนี้เลย แต่จะลองทำเท่าที่ทำได้ละกัน ไหนดูสิเรามีอะไรบ้าง ? อืมม เหมือนพวกมันจะลบข้อมูลไปเกือบหมดเลยนะ 
[Ignis] – ลบหมดเลยหรอ ?
[Gladio] –  ใช่ .... เดี๋ยวนะ เหมือนจะมีอยู่อันนึงที่ยังไม่ได้ลบ พวกมันลืมหรือตั้งใจทิ้งไว้ให้เราดูกันแน่นะ 
[Ignis] – ลองเข้าไปดูสิ เผื่อมันจะช่วยบอกตำแหน่งของ Noctis หรือ Prompto กับเราได้บ้าง 






[Ledolas] – พลังของ The Hydraean คืออะไร ? แล้วแหวนสุดล้ำค่าของข้าอยู่ไหน ? 




[Ravus] – อยู่ในการครอบครองของ Oracle พวกเขาอยู่กับราชาแล้ว พวกเขาคือผู้ที่คู่ควรที่จะเป็นเจ้าของมันอย่างแท้จริง และวันนึงเขาจะใช้พลังของเขากำจัดเป่าสิ่งที่ชั่วร้ายด้วยพลังของเทพแห่งดวงดาวที่เรานับถือ 
[Ledolas] – แต่คริสตัลมันเป็นของข้า ข้าต่างหากที่เป็นราชาที่แท้จริง 
[Ravus] – ไม่ใช่หรอก Noctis ต่างหาก ไม่มีทางเป็นใครอื่นแน่นอน โดยเฉพาะไอ้พวกหุ่นเชิดของพวกปีศาจ 




[Ledolas] – แกต่างหากละ หุ่นเชิด และตอนนี้แกก็สมควรต้องตายแล้ว !






                                         [Ravus] – อ๊ากกกกกกกก !!!









[Ravus] – แฮก.. สุดท้าย นายก็มาถึงจนได้ Noctis ! พระเจ้าเข้าข้างเราแล้วส่งให้เจ้ามาถึงนี่ได้ ด้วยเลือดเนื้อของ Oracle  ... นี่ไง ดาบชองพ่อนาย แล้วลุยไปข้างหน้าต่อเถอะ ราชาของข้า สาดส่องแสงของเจ้าออกมาให้โลกได้เห็น 




                                                    [Ravus] – อั๊กกก !!! 







[Ardyn] – เลิกประจบประแจงผมซะที ผมทนความเป็นผู้กล้าจอมปลอมของคุณมานานเกินพอแล้ว คุณพยายามที่จะปกป้องโลกแต่มันไม่พอหรอก เพราะคริสตัลเลือกผม ไม่ใช่คุณ






                                     ... โอ้ว ..การถูกปฎิเสธมันเจ็บปวดใช่มั๊ยละ ฮ่าๆๆ




[Ignis] – นั่นใช่ Noct รึเปล่าน่ะ ?
[Gladio] – ไม่ใช่ นั่นไอ้ทูต Ardyn มันปลอมตัวเป็นเขา
[Ignis] – ฟังดูเหมือน Ravus พยายามจะคืนดาบของฝ่าบาทให้ Noct นะ
[Gladio] – แถมยังหมดข้อข้องใจแล้วเรียก Noct ว่าเป็นราชาของเขาอย่างเต็มปากเสียด้วย ....ไปกันเถอะ ถ้ามันฆ่าได้แม้ Ravus กับ Noct มันก็คงไม่เว้นหรอก 
[Ignis] – งั้นเราก็คงมัวเสียเวลาไม่ได้แล้วละ เราต้องถึงตัว Noct ก่อนมันให้ได้  

-จากนั้นเข้าลิฟต์ในห้องควบคุมกล้องวงจรปิดขึ้นไปด้านบนต่อที่ส่วนของโกดังเก็บสินค้าแล้วลุยเข้าไปตามทางจนถึงจุดหมายของภารกิจคือโถงลิฟต์ใหญ่ที่ปลายทาง แต่ต้องเจอกับ Iron Giant ที่ออกมาขวางทางเสียก่อน จัดการมันซะแล้วขึ้นลิฟต์ใหญ่ไปชั้นบนต่อ ลุยเข้าไปตามทางจนถึงจุดหมายของภารกิจที่ห้องควบคุมอีกห้อง


[Gladio] – นั่นมัน ?
[Ignis] – เจออะไรหรอ ?
[Gladio] – คริสตัลของเราไงเห็นในภาพกล้องวงจรปิด
 [Ignis] – งั้นเราคงเข้าใกล้เป้าหมายแล้วละ ลองไปดูที่แผงควบคุมสิว่าจะเจออะไรบ้าง  




[Ignis] – ถ้ามันจัดวางเหมือนที่วิหารของเราก็แสดงว่ามันต้องมีบาเรียที่ปิดกั้นตรงทางเข้าแน่นอน 
[Gladio] – งั้นเราก็ปิดบาเรียนั่นซะ นายจะบอกให้ชั้นทำแบบนั้นใช่มั๊ย? 
[Ignis] – ใช่เลย






[FORAS] – พวกหัวขโมยไม่สามารถหลบเลี่ยงเงื้อมมือของความยุติธรรม คริสตัลนั่นเป็นของข้า ไม่มีวันที่ข้าจะยอมเสียมันให้พวกแกแน่นอน




                                คริสตัล ...พลังแห่งแสง ...ทุกอย่างล้วนเป็นของข้า !




Boss - FORAS มันจะออกมาในเลเวล 38 ที่ค่อนข้างอึดและมักจะหายตัวไประหว่างต่อสู้จนทำให้คอมโบขาดตอน เมื่อจัดการมันได้จนพลังหมดมันก็จะหายตัวไป



[Ignis] – ชั้นไม่ได้ยินอะไรเลย มันตายแล้วหรอ ? 
[Gladio] – ยัง ดูเหมือนไอ้ตัวนั้นมันจะหายตัวหนีไปก่อน แปลกมาก ชั้นไม่เคยเห็นพวก Daemons ที่พูดได้แบบนี้มาก่อนเลยนะ 
[Ignis] – ไม่มีใครควบคุมพลังของคริสตัลได้หรอก 
[Gladio] – ชั้นคิดว่า Aranea พูดถูก พวก Daemons กลัวพลังแสงของคริสตัลแน่นอน  
[Ignis] – มันเหมือนแม่งเม่าบินเข้ากองไฟ บางทีอาจะมีใครบางคนกำลังบิดเบือนข้อเท็จจริงอยู่ก็ได้ 
[Gladio] – จะยังไงก็เถอะ ตอนนี้มอนสเตอร์บ้านั่นยังคงอาละวาดอยู่นะ 
[Ignis] – งั้นเราต้องรีบตามหา Noct และ Prompto ให้เจอก่อนมันให้ได้ 

-จากนั้นตามเสียงของ Ardyn ไปจนถึงพนังที่มีตราสัญลักษณ์ตามที่มันบอกทางจะพบประตูลับเปิดทางลับขึ้นไปชั้นบนต่อได้ เข้าไปตามทางจนถึงทางแยก แวะขึ้นไปที่แยกด้านบนจะมีห้องพักให้เซฟอยู่ ทันทีที่ออกมาจากห้องเพื่อเดินไปตามจุดหมายของภารกิจกำหนด Ignis ก็จะเริ่มได้ยินเสียงของ Noct แว่วออกมาจากปลายเส้นทางของประตูที่เปิดออก


[Gladio] – ไอ้บ้านั่นมันจะเปิดทางล่อเราไปเรื่อยๆใช่มั๊ย ห๊ะ! 
[Ignis] – เดี๋ยวก่อน! นายได้ยินมั๊ย ?
[Gladio] – ได้ยินอะไร ?
[Ignis] – เสียงของ Noct ไง ชั้นได้ยินชัดแจ๋วเลย ..ทางนี้ ตามชั้นมา !!




 ----------------------------- verse 2: For King and Comrade Complete ! ---------------------------





[ผู้ประกาศข่าว] – ห้องทดลองตอนนี้ปราศจากผู้รอดชีวิตและไร้การควบคุมมาเกือบ 2 อาทิตย์แล้ว พวก Daemon ที่ถูกคุมขังเอาไว้ได้หลุดออกมาด้านนอกจำนวนมากจนทำให้ระบบรักษาความปลดภัยทั้งหมดเสียหายไม่สามารถใช้งานได้ทำให้ การก่อจารจลของพวกปีศาจที่น่ากลัวกำลังรุกลามเข้าสู่ใจกลางของเมือง Gralea อย่างรวดเร็ว ในขณะที่ระบบการสื่อสารระหว่างโรงงานทั้งหมดก็ไม่สามารถใช้งานได้ ในขณะที่ระบบการขนส่งทางรถไฟของจักรวรรดิเป็นอัมพาตไม่สามารถใช้งานได้รวมถึงการเดินทางโดยรถไฟไปยัง Accordo ก็ถูกยกเลิกทั้งหมดเช่นเดียวกัน 
[ผู้ประกาศข่าว] – เรากำลังพูดถึงเหล่าฮันเตอร์ที่ไม่ว่าจะเป็นใครมาจากไหนหรือมีฝีมือเก่งกาจระดับไหนก็ตาม แน่นอนที่สุดว่า เราต้องการทุกความช่วยเหลือที่หาได้ในตอนนี้เท่าที่จะสามารถหาได้ แต่ชั้นคิดว่า ท่านผู้ฟังจำนวนมากต่างก็ห่วงว่าการช่วยเหลือที่ว่าจะมาได้ทันเวลาที่จะช่วยให้รอดจากอันตรายรึเปล่ามากกว่า
[Ezma] – รายงานเบื้องต้น ตอนนี้ฮันเตอร์ระดับอวุโสที่เดินทางมาจากฐานใหญ่นั้นมีจำนวนมากพอที่จัดการปัญหาต่างๆได้ เรากำลังทำงานร่วมกันเป็นทีมเพื่อนำความสงบสุขกลับมาให้เร็วที่สุดและเราไม่มีวันส่งฮันเตอร์หน้าใหม่เข้าร่วมภารกิจอันตรายนี้เด็ดขาด แต่เราจะแบ่งพวกเขาเป็นทีมย่อยเพื่อทำภารกิจที่อันตรายน้อยกว่าเช่นดูแลความปลอดภัยให้ผู้อพยพแทน
[Dave] – ก็เหมือนกับเมื่อวาน เราพยายามเปิดประตูเชื่อมระหว่างเมือง Lestallum เพื่อช่วยเหลือผู้อพยพจำนวนมากเอาไว้ได้สำเร็จ ไม่ว่าพวกท่านจะมาจากไหน พวกเราขอต้อนรับเข้าสู่ดินแดน Lucis ตอนนี้ประชาชนทุกหมู่เหล่าเป็นหนึ่งเดียวกันแล้ว หากใครก็ตามต้องการความช่วยเหลือหรือผู้คุ้มกันหากท่านทำได้ติดต่อมาหาเราที่ฐานบัญชาการของฮันเตอร์เราจะส่งฮันเตอร์ออกไปช่วยเหลือ ขอย้ำมันอันตรายมากหากท่านเดินทางคนเดียว ผมถึงจึงขอใช้โอกาสนี้ในการถามกับพี่น้องชาวเมือง Lestallum ว่าพร้อมที่จะกระทำกับผู้อพยพจาก Niflheim ด้วยความเคารพซึ่งกันและกันอย่างที่พวกเราฐานะที่เป็นประชาชนเหมือนกันสมควรได้รับหรือเปล่า ตอนนี้ Lestallum คือแสงสว่างแห่งความอยู่รอดเดียวที่เหลืออยู่ แม้ตอนนี้ความมืดจะปกคลุมท้องฟ้าจนมืดมิด ก็ขอให้มันอย่าได้ปกปิดหัวใจที่ดีงามของทุกคนไปด้วยเลยนะครับ




- ทำธุระให้เสร็จแล้วเข้าไปตามทางเดินด้านในต่อจนถึงจุดหมายของภารกิจตรงประตูที่เปิดออกเพื่อเข้าไปที่ห้องลิฟต์ที่ด้านใน เพื่อขึ้นไปยังชั้นบนของตึกต่อ


                                              Zegnautus


-เมื่อขึ้นลิฟต์มาชั้นบนของตึกแล้ว ระหว่างทางจะเริ่มพบพวก Rogue Axeman ที่เป็นศัตรูระหว่างเพิ่มขึ้นมา พวกมันไม่เก่งมากแต่ท่ามกลางสถานการณ์น้อยอาวุธแบบนี้ การที่ศัตรูมาพบเจอแล้วเข้ามารุมเป็นจำนวนมากพร้อมๆกันอาจสร้างความลำบากได้ แต่มีทางเลือกให้คือการเข้าไปหลบตามจุดซ่อนตัวในพนังที่พบเห็นได้ระหว่างทางเพื่อหาจังหวะโจมตีด้านหลังให้ได้เปรียบและเพื่อฟื้น MP




-เข้าไปด้านในตามทางห้องด้านบนสุดจะเป็นห้องพักสำหรับเซฟและสลับไปเล่นในเส้นทางของ Gladiolus และ Ignis ทำธุระให้เสร็จแล้ว เข้าห้องทางขวาของห้องพักเก็บ Security Card LV1 มาก่อนแล้วค่อยเดินต่อเข้าไปถึงประตู A-01 ที่ต้องใช้ Security Card เปิดเข้าไปด้านใน
- ในห้องโถงจะมีประตู A-03 ที่ยังปิดอยู่เพราะต้องใช้ Security Card LV3 มาใช้ในการเปิด จึงต้องเข้าไปตามประตู A-01 ที่เปิดได้อีกด้านไปต่อจนถึงห้องซ้ายล่างของแผนที่



เพื่อนำ Security Card ไปใส่เครื่องอัพเกรดให้เป็น LV2 ก่อนแล้วค่อยเดินทางต่อเข้าไปยังจุดหมายของภารกิจคือประตู A-02 ที่สุดทางเพื่อขึ้นบันไดไปชั้นบนต่อ




-ขึ้นมาชั้นบนแล้วเข้าไปด้านในต่อผ่านห้อง 4 ห้องที่ต้องใช้ Security Card LV3 ในการเปิดไปก่อนจนถึงสุดทางในห้องขังจะพบ Prompto นอนสลบอยู่



 แต่ประตูกรงด้านหน้าไม่สามารถเปิดได้ จากนั้นเข้าไปที่ห้องทางซ้ายของห้องขังตรงมุมห้องด้านขวาบนจะมีช่องทางให้มุดเข้าไปออกด้านหลังของห้องขังได้ จัดการปีศาจแมงมุม Uttu ที่ออกมาซะแล้วค่อยมุดลังเข้าไปในห้องขังได้



- แต่เมื่อพยายามเข้าไปจะช่วย prompto ก็จะพบว่าจริงๆมันเป็นร่างของทหารจักรวรรดิที่ตายเพราะเป็นแผนตบตาของ Ardyn อีกตามเคย ในห้องจะมีเครื่องอัพเกรด Security Card จาก LV2 เป็น LV3 ซึ่งจะทำให้สามารถเกิดประตู A-03 ที่เคยปิดอยู่ได้หมดแล้ว


-จากนั้นออกมาจากห้องขัง ผ่าน 4 ห้องที่ตอนนี้สามารถใช้ Security Card LV3 เปิดเข้าไปได้แล้ว เก็บไอเทมในห้องทั้ง 4 มาให้หมด ห้องที่ 2 ทางซ้ายจะมีไอเทม Magnetron ให้เก็บด้วย จากนั้นอย่าลืมแวะไปที่ห้องทางขวาสุดของพื้นที่เพื่อเปิดเข้าไปเก็บ Magitek Core ซึ่งเป็นคียไอเทมสำหรับอัพเกรด Drillbreaker  มาด้วย (หากใครยังไม่ได้อัพเกรด)


- จากนั้นย้อนกลับลงไปที่ชั้น 2 แล้วเข้าไปที่ห้องโถงกลางที่มีประตู A-03 ที่เคยเปิดไม่ได้ก็จะสามารถเปิดเข้าไปในห้องลิฟต์ที่จะพาไปที่โถงลิฟต์หลักของ Zegnautus ได้



-ที่ชั้นบนจะเป็นห้องโถงลิฟต์หลักของ Zegnautus ที่จะสามารถลงไปยังส่วนของ Zegnautus Keep ที่เก็บซ่อนคริสตัลได้ เข้าไปสำรวจที่ลิฟต์กลางจะพบว่าต้องเปิดที่แท่นควบคุมก่อน และเมื่อเข้าไปสำรวจที่ Generator  ควบคุมลืฟต์ที่อยู่ด้านขวาบนของลิฟต์จะพบว่าจำเป็นต้องใช้ Keyacrd ในการเปิด ภารกิจต่อไปก็คือตามหา Krycard ที่หายไปมาเปิด Generator  ควบคุมลิฟต์

- จากนั้นเข้าไปที่ช่องทางด้านในทางขวาของลิฟต์ ด้านในจะมี Daemons มากมายทั้งตัวใหญอย่าง Gargantua หรือพวกตัวเล็กๆอย่าง Rogue Axeman จะลุยหรือจะหลบไปก็สุดแล้วแต่



เป้าหมายคือเข้าไปที่จุดเป้าหมายของภารกิจที่ลิฟต์เล็กด้านในเพื่อขึ้นไปยังห้องควบคุมด้านบนเก็บ Generator Keycard มาแล้วเอาย้อนกลับไปใส่ที่ Generator  ควบคุมข้างๆลิฟต์ ก็จะสามารถเปิดการทำงานของลิฟต์ใหญ่ได้สำเร็จ แต่ในขณะที่ Noct กลับจะเดินกลับไปที่ตัวลิฟต์เพื่อขึ้นไปชั้นบนต่อ



 เสียงเตือนของ Ardyn ที่ว่า “เวลาจะปีนขึ้นที่สูงระวังจะตกลงด้านล่างด้วยนะ” ก็ดังขึ้นมาพร้อมๆกับเจ้า Deamons ยักษ์ Gargantua จะเข้ามาขวางหน้าแล้วฟาดดาบใส่ Noct จนต้องโดดหลบแต่ทางเดินกลับพังลงทำให้ Noct ต้องตกลงไปชั้นล่างทันที







                     ไปสบายเถอะนะ นายทำได้ดีที่สุดแล้ว  Ravus .... 






Noctis may have the storm’s blessing but his power remain as feeble as a breeze open your eyes Lunafreya and see the futility of your Toils He is Unworthy of your sacrifice and of king Regis’s Sword 



Noctis อาจจะได้รับพรศักดิ์สิทธิ์มากมายจากการทำสัญญาอัญเชิญเทพแห่งดวงดาวต่างๆ แต่พลังที่เหลืออยู่ของเขาตอนนี้มันเหลือน้อยนิดดุจสายลมที่แผ่วเบา จงลืมตาดูให้ดีสิ Lunafreya จงดูความไร้ค่าที่น้องต้องเหน็ดเหนื่อยลงแรงไป Notis ไม่คู่ควรกับสิ่งที่น้องเสียสละให้ ไม่คู่ควรแม้จะครอบครองดาบของราชา Regis พ่อของเขาเองด้วยซ้ำ 



I Shall send an escort you and Gentiana will return to the manor it is dangerous to remain in Lucis The Empire fears the Covenant with the Archaean and ere long they will come for you 



พี่จะส่งหน่วยคุ้มกันไปพร้อมกับ Gentiana เพื่อพาน้องกลับไปยังบ้านเราเพราะใน Lusic ยังคงเต็มไปด้วยอันตรายอยู่ แต่ก็เป็นโอกาสที่ดีเพราะตอนนี้พวกจักรวรรดิกำลังหวาดกลัวว่า Noctis จะทำสัญญากับ the Archaean ตัดหน้าพวกมันจนต้องทุ่มกำลังทั้งหมดไปที่เขา ซึ่งมันจะคงจะอีกนานกว่าที่พวกจักรวรรดิจะถึงตัวน้อง



Rely upon the Altissian if you mush and Cease all contact with the empire if you seek a convenant you Know full well the Cost Should Noctis Succeed in Claiming the power I Shall gladly restore his father’s sword to him 


บางทีถึงเวลาที่น้องคงต้องเชื่อใจชาว Altissia แล้ว ถ้าน้องเลิกยุ่งและเลิกที่จะติดต่อกับพวกจักรวรรดิแล้วพยายามหาทางหาข้อตกลงกับทาง Altissia ให้ได้ น้องก็รู้ดีว่าผลตอบแทนที่จะได้มาคือการทำให้ Noctis ในการได้มาซึ่งพลังของเขา และพี่เองก็ยินดีอย่างยิ่งที่จะนำดาบของพ่อของเขาไปคืนให้เขาเอง




A king was father to the Chose One, and nurtured the Light that would shine upon all creation. This was his mighty sword. It makes the great greater.



สมบัติหนึ่งเดียวที่กษัตริย์ผู้เป็นพ่อเคยเลือกใช้ เพื่อดำรงไว้ซึ่งแสงสว่างที่เป็นดั่งความหวังแห่งการสรรสร้างทุกสรรพสิ่ง นี่คือดาบที่เคยเป็นศาสตราข้างพระวรกายที่สร้างความเกรียงไกรให้พระบิดาผู้ยิ่งใหญ่เป็นราชาเหนือราชาใดๆตลอดมา  


Sword of the Father
Attack 141
Critical 6
Strength +100
Magic +100



                                  Main Mission: Zegnautus Keep 



-หลังจากที่ Noct ได้ดาบของราชา Regis ผู้เป็นพ่อพร้อมทั้งเห็นการตายอันน่าเวทนาของ ravus ลุยเข้าไปด้านในจนถึงห้องพักเซฟแรกแล้วไปต่อตามแยกต่อไป จะเริ่มโดนแก็สพิษออกมาเล่นงานตามทางเดินซึ่งจะทำให้ HP ลดลงที่ละนิดเรื่อยๆ วิ่งลุยเข้าไปที่เป้าหมายของภารกิจที่ห้องควบคุมเพื่อกดสวิตซ์เปิดพัดลมดูดเอาแก็สพิษออกไปให้หมด


-จากนั้นลุยต่อไปตามจุดหมายของภารกิจ ที่ห้องที่มีเครื่องอัพเกรด Key Card เป็น LV4  ลุยต่อไปตามจุดหมายภารกิจใหม่ที่ขึ้นมา ผ่านห้องเซฟที่ 2 ไปจนถึงที่จุดหมายคือลิฟต์ขึ้นชั้นบนต่อ แต่เมื่อเข้าไปกดลิฟต์ในระหว่างที่รอลิฟต์ให้ขึ้นมานั้น FORAS ก็ออกมาโจมตีใส่ Noct ทันที

      

การต่อสู้กับ FORAS นั้น Noct สามารถจัดการได้ไม่ยาก แต่ปัญหาคือไม่ว่าจะตายกี่ครั้งมันก็จะกลับมาใหม่อีกครั้งตลอด แปลว่ามันฆ่าไม่ตาย ที่ทำได้คือรอเวลาจนกว่าลิฟต์จะขึ้นมาแล้วรีบหนีเข้าไปในลิฟต์ขึ้นไปชั้นบนนั่นเอง

-เมื่อขึ้นลิฟต์มาชั้นบนแล้วจะพบว่าพื้นที่นี้ไฟดับทั้งหมด ต้องลุยเข้าไปแบบมืดๆจนถึงจุดเป้าหมายของภารกิจที่ห้องควบคุมเพื่อเปิดตู้ควบคุมพลังงานแรกก่อน ด้านบนของห้องจะมีห้องเซฟ จากนั้นลุยต่อไปจนถึงจุดหมายของภารกิจต่อไปท่ามกลางการไล่ล่าของเจ้า FORAS ตลอดทาง ลุยเข้าไปจนถึงห้องควบคุมพลังงานที่ 2 กดสวิตซ์ที่แท่นควบคุมซะ แล้วลุยต่อไปตามจุดหมายของภารกิจเพื่อเข้าไปที่ลิฟต์ขึ้นชั้นบนตัวต่อไป


-ขึ้นมาชั้นบนแล้วลุยเข้าไปจนถึงห้องควบคุมตามจุดหมายของภารกิจที่ขึ้นมา สิ่งที่ต้องทำในห้องนี้คือต้องเปิดสวิตซ์ควบคุมประตูทั้ง 3 อันโดยใช้ Keycard 3 อันเพื่อเปิดทางเข้าไปยังส่วนในต่อให้ได้ โดยจะสามารถเปิดได้ครั้งละ 2 ระบบของแผงควบคุมเท่านั้น หากเปิดทั้ง 3 ระบบจะทำให้ระบบยกเลิกหมด
-กดสวิตซ์แผงควมคุมอันซ้ายสุดด้วย Keycard ที่มีติดตัวก่อน ประตูต่างๆในพื้นที่จะเปิดออกตามระบบ จากนั้นออกทางประตูขวาของห้องนี้ไปห้องขวาบนที่ประตูเปิดออกเพื่อเก็บ Keycard B มา


 แล้วกลับมาห้องควบคุมหลักเอา Keycard B ไปใช้กับแผงควบคุมอันกลางเพื่อเปิดประตูส่วนขวาล่าง ลุยเข้าไปที่ห้องขวาล่างที่เปิดออกเข้าไปเก็บ Keycard C มา


-กลับมาห้องควบคุมหลักเอา Keycard c ไปใช้กับแผงควบคุม จากนั้นกดอันขวา และ อันกลาง (Keycard B) ให้ทำงาน 2 อัน เพื่อเปิดประตูส่วนด้านซ้ายล่าง จากนั้นออกทางประตูซ้ายของห้องควบคุมลุยเข้าไปที่ห้องซ้ายล่างที่เปิดออก ผ่านห้องที่มีตู้ขายไอเทมไปตามทางจะเจอบันไดขึ้นไปชั้นบนต่อ ทางขวาสุดของพื้นที่จะมีห้องพักเซฟอยู่



- จากนั้นลุยต่อไปตามจุดหมายของภารกิจ ที่ห้องที่มีเครื่องอัพเกรด Key Card เป็น LV5 แล้วลุยต่อผ่านประตู A - 05 เข้าไปที่ห้องโถงที่มีโดมขนาดใหญ่ที่เป็นห้องควบคุมหลักกลางห้องและตู้ใส่ทหารจักร Magitek มากมายรอบๆพนังห้อง


เมื่อเข้าไปกดสวิตซ์ด้านหลังโดมขนาดใหญ่เพื่อให้โดมค่อยๆเลื่อนขึ้นไปชั้นบน ระบบรักษาความปลอดภัยก็จะเริ่มทำงานโดยทหารจักรกล Magitek จะบุกออกมาโจมตีมากมาย รีบเข้าไปที่ทางแยกที่เป็นจุดภารกิจแล้วเข้าไปตามทางเดินแยกทางขวา (จัดการศัตรูที่ตามมาให้หมดก่อน) สุดทางเดินจะเจอเครื่องอัพเกรด Key Card เป็น LV6 แล้วกลับมาที่โดม


 จัดการศัตรูชุดใหญที่ออกมาให้หมดแล้วเข้าไปตามทางเดินไปเปิดเข้าประตู A – 06 ที่อีกด้านของโดมต่อ ผ่านเข้าประตูไปตามทาง สุดทางเดินด้านขวาจะมีห้องพักให้เซฟ จัดการธุระให้เรียบร้อยเมื่อเข้าไปตามทางด้านในต่อ


ระหว่างทาง Noct จะเข้าไปติดกับดักของ Ardyn โดยถูกกักอยู่ในทางเดินที่เต็มไปด้วย จักรกล Magitek พนังห้องที่เป็นไฟฟ้าช็อตและกำลังขยับแคบลงมาเพื่ออัด Noct เข้ามาเรื่อยๆ จัดการทหารจักรกล Magitek ให้หมดแล้ว Gladio กับ Ignis ที่เดินทางตามมาก็จะมาเจอแล้วช่วยออกมาจากห้องกับดักได้สำเร็จ


[Gladio] – เฉียดฉิวเลยแฮะ 
[Noct] - พวกนายตามได้ไงเนี้ย ??
[Gladio] – ขอบคุณกันซักคำก็ไม่มีเลยนะ 
[Noct] – เออ ขอบคุณ
[Ignis] – หลังจากที่เราแยกทางกันไป เราก็ได้รับคำ “ขอบคุณ” จากคนที่คุ้นเคย
 [Gladio] – ไอ้บ้านั่นเล่นเราซะหัวหมุนเลยนะ แต่อย่างน้อยตอนนี้เราก็กลับมารวมกันได้ซะที  



---------------------------------------------------------------------------------------------------------------


                                  เอกสารที่ตกหล่นใน Zegnautus




รายงานความเสียหาย สถานบันวิจัย Magitek 
จากเหตุการณ์ความวุ่นวายที่เกิดขึ้นทางเหนือและตะวันตก พวก Daemons บุกเข้าทำลายจนถึง MRF (magitek Research Facility) อย่างรวดเร็วจนเกิดความเสียหายในวงกว้างจนเกิดความเสียหายกับอุปกรณ์และเครื่องมือสำคัญๆทำให้ไม่สามารถควบคุมทหารจักรกล MTs (Magitek) ให้เป็นไปตามโปรแกรมที่ตั้งเอาไว้ โดยเฉพาะกับหน่วย Rogue Unit ในขณะเดียวกัน MTs จำนวน 125 ยูนิตที่ผ่านการทดสอบการทนทานต่อการติดเชื้อหายสาปสูญไปทั้งหมด 





รายงานเรื่อง การนำปรสิตกลายพันธ์มาประยุกต์ใช้ทางการทหาร
เนื่องจากตัวอย่างทดลองขนาดใหญ่ที่ได้ให้ผลการทดสอบที่ส่งผลให้ได้มาซึ่งข้อสรุปสุดท้ายว่า โดยทั่วไปผลตอบรับที่ดีนั้นมักจะเกิดขึ้นกับปรสิตที่เป็นสัตว์เซลเดียวมันจะทำปฎิกริยากับข้อมูลคุณลักษณ์ของพวกปีศาจ ที่สามารถค้นหาและปูทางไปยังปีศาจตัวนั้นๆเพื่อสามารถควบคุมแล้วนำมาใช้เป็นอาวุธได้ และนี่คือก้าวแรกในการค้นพบการควบคุมสิ่งมีชีวิตกลายพันธ์ รายงานนี้ จะนำไปเป็นข้อเสนอแนะกับท่าน Verstael besithia รัฐมนตรีผู้กำกับดูแลด้านการวิจัยของจักรวรรดิ เพื่อให้พิจราณาถึงรายละเอียดของงบประมาณตามที่ทางเรายื่นขอเสนอไปเพื่อให้โครงการณ์นี้ได้คุณภาพที่มากกว่าเดิม  



รายงานฉบับที่ 16/5
ค้นพบว่าทหารจักรกล MTs (Magitek) ที่ติดเชื้อไม่ได้หายไปแต่มันเปลี่ยนร่างเป็น Daemons นั่นทำให้พวกเราเห็นการท้าทายทางศัทธราครั้งใหญ่ ที่แม้แดนดินถิ่นอาศัยที่เสมือนอยู่ต่อพระพักตร์ของพระเจ้าก็ยังไร้ค่าเมื่อต้องเผขิญหน้ากับพวกปีศาจ และถึงแม้ว่าจะได้ต้นแบบมาจากมนุษย์ ทหารจักรกล MTs (Magitek) ก็ไม่อาจขยายพันธ์หรือควบคุมมันได้



รายงานฉบับที่ 28/6
ตอนนี้พลเมืองเกินครึ่งเปลี่ยนเป็น Daemons หมดหวังที่จะช่วยเหลือให้พวกเขากลับเป็นปกติได้อีก ยังไม่รวมทหารจักรกล MTs (Magitek) ที่กำลังบ้าคลั่งอาละวาดอยู่นอกเมือง ทั้งเมืองเต็มไปด้วยฝูง Daemons ทำให้ประชาชนที่เหลือไม่สามารถหนีออกมาได้ 




รายงานเรื่อง การทดสอบคลื่นพลัง Wallbreker wave 
คลื่นพลังก่อให้เกิดผลที่ดีเยี่ยมในการต่อสู้จริง มันสามารถใช้ยับยั้งความสามารถในการ Warpstrike รวมทั้งความสามารถพิเศษต่างๆของหน่วย Kingglaive อย่างได้ผลโดยใช้หลักการเดียวกับบาเรียของอาณาจักร Lucis 



รายงานเรื่อง การทดสอบคลื่นพลัง Wallbreker wave ฉบับที่ 2
รายงานฉบับนี้เป็นการลงความเห็นว่า นอกจาก Wallbreker wave จะสามารถทำให้พลังของบาเรียมีสถานะเป็นกลางแล้ว มันไม่ได้สามารถทำลายกำแพงบาเรียของ Lucis ได้อย่างเดียวเท่านั้น แต่ทุกเวทย์มนต์ที่สร้างขึ้นโดยชาวลูเซี่ยนก็จะถูกสลายไปได้ด้วย ยิ่งกว่านั้น จากฐานข้อมูลที่ได้มาในภายหลังจากการเผชิญหน้ากับ Shiva ครั้งล่าสุด Wallbreker wave ยังสามารถส่งผลทำให้พลังของเทพแห่งดวงดาวอ่อนแรงลงได้ด้วย 




                            Main Mission: Reunion and Recovery



-หลังจาก Gladio และ Ignis เข้ามาช่วย Noct ให้รอดจากกับดักได้อย่างหวุดหวิดจนทั้ง 3 ได้กลับมาร่วมกลุ่มรวมทางกันได้อีกครั้ง ที่เหลือก็คือตามไปช่วยเพือนอีกคนที่ยังหายไปนั่นคือ Prompto
-จากเส้นทางกับดักลุยต่อเข้าไปตามทางของจุดหมายภาระกิจที่ขึ้นมาที่ห้องควบคุมของห้องขัง เข้าไปสำรวจที่แผงควบคุม Noct จะเห็นว่ามันล็อกอยู่นั่นแปลว่ามันจะต้องมีใครถูกขังอยู่แน่นอน เปิดสวิตซ์แล้วประตูด้านซ้ายและขวาของห้องควบคุมจะเปิดออก เข้าไปเก็บไอเทมที่ห้องประชุมทางซ้ายก่อนแล้วค่อยเข้าไปที่ส่วนของห้องขังทางด้านขวา เข้าไปจนสุดทางก็จะพบ Prompto ถูกจับอยู่ในห้องขัง


[Gladio] – นายไม่เป็นไรนะ ?
 [Ignis] – บาดเจ็บตรงไหนรึเปล่า ให้ช่วยอะไรมั๊ย ?
[Prompto] – ชั้นไม่เป็นไร .. ขอบคุณมาก Noct บอกชั้นหน่อยสิ นายห่วงชั้นบ้างรึเปล่าอ่ะ ?




[Noct] – (Yeah) ก็ห่วงสิ ถามอะไรแบบนั้นวะ 
[Prompto] – ก็จริงอ่ะนะ ไม่งั้นนายจะตามมาช่วยชั้นทำไม เหมือนที่ชั้นรู้ว่านายต้องมานั่นแหละ ชั้นถึงบอกตัวเองไงว่าชั้นจะตายไม่ได้จนกว่าจะได้เห็นนายและได้ยินนายเรียกชั้น ชั้นไม่ได้แกล้งพูดนะ ชั้นคิดแบบนั้นจริงๆ 
[Noct] – ชั้นขอโทษ 
[Prompto] – ไม่เป็นไร ตอนนี้ทุกอย่างโอเคแล้วละ 


       


-เมื่อได้ทุกคนกลับมารวมทีมกันหมดแล้ว ลุยย้อนกลับไปห้องโถงที่มีโดมทรงกลมขนาดใหญ่อีกครั้ง





[Ignis] – Noct นายได้ยินอะไรมั๊ย ชั้นได้ยินเสียงบางอย่างที่เคยได้ยินบนรถไฟก่อนที่อาวุธของนายจะใช้ไม่ได้น่ะ ชั้นว่ามันอาจจะมีทางที่จะทำลายมันเพื่อให้นายใช้อาวุธได้อีกครั้งก็ได้นะ เสียงมาจากตรงนั้น !
[Noct] – ไอ้โดมเนี้ยหรอ ? ประตูมันล็อกนะสิ
[Ignis] – เสียงมันดังมาจากข้างใน มันจะไม่มีทางเข้าไปได้เลยหรอ

[Prompto] – พวกทหารจักรกล MTs พวกมันมีบารโค๊ดที่สามารถเปิดได้เหมือนกับชั้นนี่แหละ 
[Noct] – สำหรับพวกมัน ประตูนี่จะไม่มีวันล็อกใช่มั๊ย ?
[Prompto] – ใช่ ที่ชั้นเปิดมันได้ ... ชั้นก็เป็นหนึ่งในพวกมัน จะบอกว่าโตใน Lucis มันก็ไม่ใช่ซะทีเดียวหรอก ...พวกนายเหมือนเป็นเพื่อนคนเดียวที่ชั้นรู้จัก ชั้นแค่หวังว่า ไอ้สิ่งที่ชั้นเป็นมันคงจะอยู่ร่วมกับทุกคนได้ก็แค่นั้น  



[Noct] –  ช่างแม่งงงเห๊อะ!!! ใครสนกันละว่านายจะเกิดจากที่ไหน ?
[Ignis] – ชั้นก็ไม่เห็นว่านานจะเปลี่ยนมาทำร้ายพวกเรา ไม่ว่าจะตอนนี้หรือตอนไหนก็เถอะ 
[Prompto] – ขอบใจพวกนายทุกคนมาก ...ยังไงชั้นก็คงไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้หรอกว่าชั้นมาจากไหน หรือชั้นเป็นใคร ?
[Noct] – แล้วไอ้เรื่องนายมาจากที่ไหนมันสำคัญกับนายตั้งแต่เมื่อไหร่ฟ่ะ นายไม่เคยปฏิบัติต่อชั้นเหมือนชั้นเป็นเจ้าชายเลยซักที 
[Gladio] – โดนเข้าแล้ว ฮ่าๆๆ
[Ignis] – ไม่เคยเรียกว่าฝ่าบาทซักครั้งด้วยซ้ำ  
[Noct] – มาทำเรื่องของเราให้จบๆกันเหอะ มาเร็ว ประชาชนของชั้น  
[Gladio] – ฮ่าๆๆ นายยังเป็นพวกเราอยู่ใช่มั๊ย ?
[Ignis] – นอกเสียจากว่านายจะไม่อยากเป็น 
[Prompto] – อืมมม !!




-จากนั้น เข้าไปด้านในห้องกำเนิดพลังงานแล้วสำรวจที่เครื่องควบคุมเพื่อทำลายมันซะ

[Prompto] – เป็นไง ได้ผลป่ะ ?
[Ignis] – ไอ้เครื่องนี่มันพังแล้ว พลังของ Noct น่าจะกลับมาใช้งานได้เหมือนเดิมแล้วนะ 
[Gladio] – เอาเลย ลองๆ 



[Prompto] – ว้าว ฮ่าๆ สำเร็จ
[Gladio] – เจ้าชายของเรากลับมาแล้ว !

หลังจาก Noct ได้พลังทั้งหมดกลับมาแล้ว ตอนนี้จะสามารถกลับไปในอดีตที่ Lucis โดยใช้คำสั่ง Call Umbra ในทุกที่พักได้แล้ว

จากนั้นลุยกลับไปที่ห้องควบคุมใกล้ๆคุกอีกครั้ง จัดการศัตรูให้หมด ตอนนี้ประตู A-07 จะสามารถเปิดได้ด้วยบาร์โค๊ดในตัว Prompto โดยไม่ต้องใช้ Keycard แล้ว ลุยเข้าไปตามทางของเขตเลเวล 7 ผ่านห้องที่มีตู้ขายของไปห้องด้านในจะเจอเจ้า Foras ออกมาโจมตีอีกครั้ง จัดการให้หมดแล้วลุยเข้าไปด้านในต่อจนถึงห้องพักหน้าลิฟต์


** ห้องพักนี้จะเป็นห้องพักสุดท้ายของบทนี้ อยากจะกลับไปทำอะไรในอดีตก็กลับไปทำก่อนได้ **

ทำธุระเรียบร้อยแล้วเข้าไปขึ้นลิฟต์กลับไปยังส่วนของ Hangar เป้าหมายคือกลับไปที่ลิฟต์กลาง แต่กลับเจอบางอย่างที่มาขวางทางเสียก่อน

[Ardyn] – ฝ่าบาทครับ พลังแห่งคริสตัลอันเป็นที่รักของท่านรออยู่น่ะ เพื่อจะได้ความเร้าใจขึ้นหน่อยปล่อยให้เดินเล่นมานานแล้ว เพื่อไม่ให้กาลเวลาทำให้พวกคุณหลงลืมบางอย่างไป  



 [Ravus] – ฆ่าชั้น.......... จบมันซะ ! …………..


Boss Ravus ร่างที่ถูกกลืนกิน  จัดการมันซะ !!!



[Gladio] – เสียใจด้วยกับการจบลงของตำแหน่งผู้บัญชาการณ์ทหารสูงสุด หรือ จะอะไรก็เถอะ เขาเคยเป็นชายที่เต็มไปด้วยความหวังและความฝันที่เต็มเปี่ยม 



[Prompto] – อ่า ...น่าสยดสยองชิบเป๋งเลย 
[Ignis] – ใจคอมันช่างโหดร้ายที่เปลี่ยนคนให้กลายเป็นปีศาจได้ลงคอ 

[Gladio] – ระวัง พวกมันกลับมาอีกแล้ว !! เข้ามาจากทุกทิศทางเลย 
[Prompto] – กำจัดยังไงก็ยังออกมาเพิ่มใหม่ได้เรื่อยๆด้วย !!
[Ignis] – Noct นายคงต้องล่วงหน้าไปก่อนแล้ว รีบไปที่คริสตัลเลยเร็ว !




[Noct] – อะไรนะ ?
[Ignis] – นายรีบไปเอาพลังจากคริสตัลมาให้ได้ ทางนี้เราจัดการเอง นายได้พลังมาค่อยมาจัดการพวกมัน !! ไม่งั้นพวกเราได้ตายกันหมดตรงนี้แน่นอน !!
[Gladio] – Iggy พูดถูก เราไม่มีทางเลือกแล้ว 
[Noct] – แล้วพวกนายละ ?
[Prompto] – เราก็ถูไถสู้ไปจนได้แหละ นายไปเถอะ !!

[Ardyn] – นายอยากจะได้คริสตัลจนยอมทิ้งเพื่อนไว้ข้างเลยหรอ ?
[เสียงประกาศ] – ประตูโกดังกำลังจะปิดแล้วกรุณาอยู่ให้พ้นทางด้วย
[Ardyn] – คิดให้เร็วหน่อยแล้วกันนะ เป็นผมก็ไม่อยากจะต้องตัดสินใจแบบนี้เหมือนกัน


 ....ทรยศเพื่อนฟ้องของตัวเองเพื่อสิ่งที่ยิ่งใหญ่กว่า เป็นก้าวแรกของการเป็นกษัตริย์นะฝ่าบาท ! 


… ถ้าคุณอยากจะได้พลังแห่งคริสตัลคุณก็ต้องเตรียมตัวที่จะเสียทุกอย่างด้วยนะ





หลังจากสู้กับ Ravus เสร็จพวกปีศาจจะบุกมามากมาย ไม่ว่ายังไงก็จัดการไม่หมดเพราะมันจะเกิดใหม่ได้ตลอด ทุกคนจึงบอกให้ Noct หนีไปคนเดียวเพื่อขอพลังของคริสตัลกลับมาช่วยทุกคน ทันทีที่หนีออกจากการต่อสู้แล้วเข้ามาที่ลิฟต์ ระบบรักษาความปลอดภัยจะเริ่มนับถอยหลังในการปิดประตูทางออกทันที


[Noct] – อย่างเพิ่งตายกันนะทุกคน !! 

[Ardyn] – นี่คุณคิดเอาเองหรือเปล่าว่าพวกเพื่อนรักของนายจะรอดจริงๆน่ะ การที่คนพวกนั้นต้องยอมตายเพื่อคุณ คุณเคยสงสัยมั๊ยว่าในใจพวกเขาคิดยังไง ? คุณยังจำคำพูดสุดท้ายของพวกเขาได้หรือเปล่า 

[Noct] – ชั้นจะกลับมาเพื่อทุกคน ชั้นสัญญา !!




[Noct] – ทำไมมันไกลนะน๊ะ ... คริสตัลต้องอยู่ที่นั่นแน่นอน ทุกๆคนคาดหวังกับมันมาก คาดหวังกับตัวชั้นด้วย 





[A                          rdyn] – การเดินทางของคุณสิ้นสุดแล้ว Noct 







                          [Noct] – ได้โปรด ... ช่วยผมหยุดพวกปีศาจด้วยเถอะ 







                                                [Noct] – อั๊กก !! อ๊ากก …ทำไมเนี้ย !!! 







                [Ardyn] – ราชาผู้ถูกเลือกจะไม่ได้รับอันตรายจากแสงสว่าง จริงหรอ ? 





ขออณุญาติให้ผมได้สร้างความเพลิดเพลินด้วยเรื่องเล่าเมื่อครั้งเก่าซักเรื่องนะครับ ย้อนกลับไปในอดีตเมื่อยุคก่อนเก่านานมาแล้ว ได้เกิดภัยพิบัติที่นำมาซึ่งความหายนะกับมวลมนุษย์ชาติแบบที่ไม่มีสิ่งใดมาหยุดยั้งได้ด้วยการเปลี่ยนมนุษย์ให้กลายเป็นมอนสเตอร์ เป็นพวกปีศาจอย่างที่คุณเห็นนั่นแหละ




 มีแต่เพียงอาณาจักร Lucis เท่านั้นที่จะสามารถเยียวยาการกลายพันธ์นี้ได้ คนครึ่งปีศาจมากมายเหนือคณานับต่างเข้ามารับการรักษาจากพลังของชายผู้นึงที่สามารถดูดเอาปีศาจที่สิงสู่ผู้คนมาอยู่ในร่างกายตนเองได้ ร่างกายที่กักเก็บปีศาจมากมายเหนือคณานับเพื่อเยียวยารักษาผู้คน กลับถูกราชาจอมริษยาที่ยังไม่ถูกเลือกโดยคริสตัลอ้างว่าที่ชายผู้ช่วยให้รอดนั้นทำได้ก็เพราะแท้จริงแล้วเขาเป็นปีศาจ จนต้องถูกเนรเทศออกนอกอาณาจักร ...จากนั้น มันก็ทำให้เขากลายเป็นปีศาจไปจริงๆ !  





ผมเคยบอกชื่อคุณไปครั้งนึงใช่มั๊ย แต่จริงๆมันไม่ใช่ชื่อดั่งเดิมของผมตั้งแต่เกิดหรอกนะ ต้องเรียกผมว่า Ardyn Lucis Caelum น่าจะเหมาะกว่า และคุณคงเดาไม่ออกหรอกว่าจริงๆแล้ว Izunia เนี้ยมันเป็นชื่อใคร 



Noctis ... การจะฆ่าคุณให้ถึงตายมันก็ไม่ได้จะทำให้ผมพอใจนักหรอกนะ คุณจงรับพลังของคริสตัลไปซะ แล้วก็จงลุกขึ้นมาในฐานะผู้ถูกยอมรับโดยคริสตัล ให้คุณหลงเหลือเป็นราชาที่ถูกเลือกคนสุดท้าย ราชากับคริสตัลก็จะหมดสิ้นไปเมื่ออยู่แทบเท้าผม นั่นแหละ มันถึงทำให้ผมรู้สึกถึงคำว่า สมสม อย่างแท้จริง ...




กลับมาเร็วๆก็แล้วกัน ผมจะเก็บเพื่อนๆของคุณเอาไว้ให้จนกว่าคุณจะพร้อมนะ Noctis 







ด้วยความเชื่อที่ว่า หินศักดิ์สทธิ์นี้จะช่วยชำระล้างพวกปีศาจที่ชั่วร้ายให้พ้นไปจากโลกนี้ Noct เอื้อมคว้าหวังพลังกลับถูกฉุดกระชากเข้าไปข้างสู่ด้านในหินนั้นอย่างฉับพลัน ถูกปล่อยให้แคว้งคว้างอย่างลำพังและเดียวดายจนเวลาผ่านไปเนินนานหลายสิบปี .........  




[Bahamut] – จงเข้มแข็งไว้ เจ้าผู้ถูกเลือก ชะตากรรมของโลกนี้กำลังตกเป็นของราชาแห่งราชา พรหมลิขิตของเจ้าถูกกำหนดแล้วโดยพระผู้เป็นเจ้าเพื่อถวายตัวตามคำพยากรณ์แห่งแสงจากคริสตัล ด้วยบัญญัติแห่งข้า วิวรณ์แห่งมหา บาฮามุท 



[Noctis]- ที่นี่คือที่ไหน ? [What is this place?]
[Bahamut] – ใจกลางแห่งคริสตัล มิได้อยู่ในเงื่อนไขเชิงบรรทัดฐานใดๆ ของจิตวิญญาณแห่งดวงดาว และมันเป็นสถานที่ที่ราชาจะได้มาซึ่งพลังที่เขาร้องของ
[Noctis]- เพื่อนๆของผมอยู่ไหน? [Where are my friends?]
[Bahamut] – พวกเขายังยืนหยัดสู้กับความมืดมิดและยังเปี่ยมไปด้วยความหวังเพื่อค้ำจุลศรัทธาว่าราชาของพวกเขาจะกลับมาเพื่อปลดปล่อย ด้วยพันธะสัญญาของการตื่นขึ้น เหล่าเทพแห่งดวงดาวทั้ง 6 ก็จะกลับมาในช่วงเวลาของคำพยากรณ์ เวลาที่คริสตัลส่องแสงสู่แหวนแห่งราชาอย่างสมบูรณ์ ถึงตอนนั้น เหมือนแหวนศักดิ์สิทธิ์ถูกเติมเต็มก็จะทำให้ราชาขึ้นเป็นราชาของราชาอย่างสมบูรณ์ และด้วยมือของราชาที่แท้จริงเท่านั้นที่จะเป็นอมตะจากผู้ที่ถูกสาปและความชั่วร้ายเลวทรามทั้งหลายจนสามารถขับไล่มันไปได้จนหมดสิ้น ก็จะนำมาซึ่งแสงสว่างกลับคืนสู่โลกนี้อีกครั้ง




[Noctis]- ใครคือผู้ถูกสาปครับ ? [Who is the Accursed?]
[Bahamut] – ชายที่ถูกสาปด้วยชีวิตชั่วนิรนัดร และความเป็นอมตะของเขาผู้นั้นก็เกิดเป็นโรคระบาดที่สร้างจากความชั่วร้ายของพวกปีศาจ ร่างกายที่เจือปนไปด้วยสิ่งไม่สะอาดผิดศีลธรรมและวิญญาณที่ไม่คู่ควรกับแสงแห่งคริสตัลและเป็นสิ่งต้องห้ามที่จะรับซึ่งอำนาจใดๆ





 จิตใจของเขาบิดเบี้ยวไปด้วยความอาฆาตแค้น และความแก้แค้นของเขาก็คือการนำมาซึ่งความมืดมิดมากัดกินโลกของเรา มีเพียงราชาที่แท้จริงที่ได้รับเลือกโดยแสงแห่งคริสตัลและด้วยพลังแห่งบรรพบุรุษที่มี ถึงจะสามารถหยุดมหัตภัยร้ายที่น่าชิงชังที่บ้าคลั่งครั้งนี้ลงได้ 




[Noctis]- พรหมลิขิตที่ว่าคืออะไรครับ ? [“What is Providence?]
[Bahamut] – มีเพียงคนเดียวที่จบคำสาปที่ไม่มีวันตายได้ พลังที่ยิ่งใหญ่กว่าเทพแห่งดวงดาวทั้ง 6 ชำระล้างด้วยแสงทั้งหมดของคริสตัลและคมดาบของเหล่าผู้ปกครองจากอดีตกาล และด้วยภาระที่ตำแหน่งของกษัตริย์ผู้ถูกเลือกต้องน้อมรับต้นทุนนั้นมันหนักหนานักเพราะมันคือ ชีวิตของเขาเอง แม้ราชาของราชาจะมีพลังอำนาจที่ขจัดปัดเป่าความชั่วร้ายให้หมดไปได้ แต่ก็มีต้นทุนที่ต้องจ่ายมากมาย 




ค่าใช้จ่ายของทั้งผู้ช่วงชิงและผู้ปกป้อง ต้นทุนที่จะนำมาซึ่งแสงอรุณรุ่ง คือชีวิตของผู้ถูกเลือกที่ต้องลงทุนด้วยตนเอง 




การที่ผู้คนมากมายสังเวยทุกอย่างให้กษัตริย์ ก็เพื่ออีกมากมายนักที่กษัตริย์ต้องเสียสละชีวิตทั้งหมดของตัวเองตอบกลับเพื่อชดเชย 





ตอนนี้จงเข้าไปสูภาวะการสะท้อนเพื่อย้อนกลับไปพร้อมกับแสงสว่างที่เปล่งประกายอยู่ภายใต้พรหมลิขิตที่เจ้าเลือกไว้ 






[Bahamut] – เมื่อแสงสาดส่องจนเต็มประกาย จงกลับไปยังอาณาจักรของเจ้า ณ. ที่ที่ผู้ช่วงชิงราชบัลลังก์มันรออยู่ กลับไปทวงคืนราชบัลลังย์และทำให้การร้องขอของราชาที่แท้จริงให้เสร็จสิ้นโดยสมบูรณ์เถิด ... 







                                              หลายสิบปีผ่านไป 


                           Angelgard – Stone Prison , อาณาจักร Lucis



                                                   [Noctis]-   ไง Umbra ……






                                         [Noctis]-   จะรออยูที่ Hammerhead งั้นหรอ ..







 --------------------------------------- END OF CHAPTER ----------------------------------------------

                                                                                                                           

                                      ต่อ ACT II :  CHAPTER 14 - 15

       http://decibelperoxide.blogspot.com/2017/04/final-fantasy-xv-act-3-end-of-road-14-15.html