วันพฤหัสบดีที่ 18 เมษายน พ.ศ. 2567

FINAL FANTASY XVI : The Rising Tide DLC

   


                FINAL FANTASY XVI : The Rising Tide DLC 


                                 By Decibel Per Oxide



🔻Redeeming Bonus Item 

เมื่อเข้ามาในเกมส์หลักแล้ว อย่าลืมเข้าไปรับไอเทมโบนัสพิเศษจากการซื้อ DLC ที่เมนู Main Menu > System เมื่อเคลียร์ ภารกิจหลัก A Chance Encounter แล้ว 

Bonus Item ประกอบด้วย 

- ดาบ Curtana 
- Torn from the Heavens Orchestrion Roll (เพลงสำหรับใช้กับตู้เพลง) 
- Through the Maelstrom Orchestrion Roll (เพลงสำหรับใช้กับตู้เพลง) 


เนื้อหาของ DLC จะปลดล็อกเมื่อคุณเล่นเนื้อเรื่องหลักถึง บท Back to Origin จนมี Origin ปรากฎอยู่บนแผนที่แล้ว และ เคลียร์ Side quest : Where There’s a will และ Priceless เสร็จสิ้นแล้ว โดยสามารถเข้าไปทำเควส THE RISING TIDE ได้ที่โต๊ะจดหมายในห้องของ Clive ที่ The Hideaway 


จดหมาย ไม่ระบุชื่อผู้ส่ง 


ถึง Cid 


ชั้นจะไม่เสียเวลาประดิษฐถ้อยคำอะไรหรอกนะ ตอนนี้ Dominant แห่ง Leviathan กำลังต้องการความช่วยเหลือ แม้ว่าชั้นจะกำลังกังวลมากว่าจะร่วมมือกับพวกนอกกฎหมายที่มีชื่อเสียงเสื่อมเสียกระฉ่อนไปทั่วแบบคุณดีมั๊ย แต่ The Dame ก็ยืนยันว่า ไม่มีใครเหมาะสมกว่าคุณอีกแล้ว ตอนนี้ชั้นยังไม่อยากเปิดเผยอะไรในจดหมายนี้มากเพราะกลัวว่ามันตกไปอยู่ในมือคนไม่ดี แต่หากมีถ้อยคำใดในจดหมายนี้ทำให้คุณสนใจ ก็ขอให้ไปที่ Northreach แล้วสอบถามกับคนที่ชื่อ Leyla ก็แล้วกัน เธอจะทำให้คุณพอใจอย่างแน่นอน 

Clive - เลวีอาธาน ผู้สาบสูญงั้นหรอ? ..ทำไมถึงมาโผล่เอาตอนนี้ หลังจากเกิดเรื่องมากมาย ทำไมถึงต้องเป็นตอนนี้ด้วยนะ ?

Jill - อะไรมาตอนนี้งั้นหรอ?
Clive - อ่า ไม่รู้ว่าถ้าชั้นบอกเธอแล้วเธอจะเชื่อมั๊ย
Jill - หลังจากที่ผ่านอะไรต่ออะไรด้วยกันมาจนถึงตอนนี้เนี่ยนะ? ชั้นเดาว่า คงไม่มีอะไรที่ทำให้ชั้นแปลกใจได้อีกแล้วล่ะมั้ง
Clive - ก็ได้ งั้นไปเรียก โจชัวร์ มาฟังด้วยเลยก็แล้วกัน เดี๋ยวเราไปคุยกันที่ห้องประชุมก็แล้วกัน
 

Clive - มากันครบแล้วนะ 
Otto - คราวนี้มีเรื่องอะไรอีกล่ะ?
Clive - ผมไม่แน่ใจเหมือนกัน ในจดหมายไม่ได้บอกสาระสำคัญอะไรมากนัก
Joshua - แล้วรู้ที่มาของจดหมายมั๊ยครับ?
Clive - ไม่ได้ระบุชื่อผู้ส่ง แต่ในรายละเอียดพูดถึงเรื่อง The Dame ซึ่งเป็นคนแนะนำให้ติดต่อมาหาชั้น 
Otto - The Dame หรอ? เธอไม่ใช่คนที่จะมาเสียเวลากับเรื่องไร้สาระหรอกนะ แสดงว่าเรื่องนี้มันต้องสำคัญแน่นอน 
Clive - สำคัญ อาจจะน้อยไปด้วย เพราะในจดหมายระบุว่า Dominant แห่ง Leviathan กำลังตกอยู่ในอันตรายและใครบางคนต้องการให้ผมไปช่วยเขา

Joshua - Leviathan เนี่ยนะ??
Jill - งั้นก็แปลว่าผู้ครอบครอง Eikon แห่งน้ำกลับมาแล้วสินะ หลังจากหายไปกว่าร้อยปีอ่ะนะ ? 
Joshua - ถ้าตามเรื่องเล่าขาน น่าจะนานกว่านั้นนะ แม้แต่ลุงปราชญ์ของเรายังมีรู้เรื่องนี้เลย ถ้าแกรู้ว่าพญานาคผู้ยิ่งใหญ่ที่เป็นเรื่องเลาสมัยรุ่นพ่อของเขากำลังจะกลับมาคงจะดีใจจนคลั่งแน่นอน 
Otto - ไอ้เรื่องการตื่นขึ้นของ Dominant อย่างมากก็แค่ปีสองปี แต่นี่มัน ทำไมถึงทิ้งเวลาให้นานเป็นศตวรรษขนาดนั้นด้วย?
Joshua - หากสายเลือดของ Dominant แห่งวารีถูกตัดขาด มันก็ทำให้Dominant คนใหม่ไม่สามารถตื่นขึ้นก็ได้
Clive - แต่ถ้ามีใครซักคนตื่นขึ้นในตอนนี้ก็คงไม่สามารถเลือกเวลาที่เหมาะหรือไม่เหมาะได้หรอก ยิ่งตอนนี้ทุกประเทศสูญเสีย Dominant ไปหมดแล้ว ถ้ามีใครรู้เขาคงต้องรีบไปแย่งชิงตัว Dominant แห่งวารีมาเป็นพวกแน่นอน 
Joshua - แล้ว Twin ก็จะเข้าสู่สงครามอีกครั้ง ซึ่งมันควรเป็นเวลาที่มนุษย์ชาติควรจะเป็นหนึ่งเดียวกันมากที่สุด แล้วจดหมายบอกอะไรอีกมั๊ยครับ?
Clive - ทางเดียวถ้าเราอยากจะรู้รายละเอียดเพิ่มคงต้องไปหาคนๆนึง ซึ่งที The Veil น่าจะช่วยเราได้ 
Otto - นายแน่ใจนะว่ามันไม่ใช่กับดัก?
Jill - ก็เพราะคำเนี่ยแหละ ชั้นเลยต้องขอไปด้วย 
Joshua - ผมก็เหมือนกัน
Clive -  ขอบคุณทั้งคู่เลยนะ ส่วนคุณ Otto 
Otto - เออ ชั้นจะคอยดูแลที่นี่แทนเอง มันก็แบบนี้ตลอดไม่ใช่หรอไง 
Clive - ขอบคุณนะ ก็คงไม่มีใครเหมาะสมกว่าคุณอีกแล้วนี่ 


🔳 Northreach


Leyla - The Veil ยินดีตอนรับค่า …
Clive - คือ เอ่อ ผมมาหาคนชื่อ Leyla น่ะครับ  
Leyla - ก็เจอคนนึงแล้วนี่ไงคะ ฮ่าๆ แล้วเพื่อนๆคุณนี่จะทำด้วยหรือจะแค่ดูเฉยๆอ่ะ?
Clive - เอ่อ คือ ผมไม่ได้จะมาใช้บริการ แค่อยากมาคุยแค่นั้นเอง 
Leyla - จะคุยหรือจะยังไงก็เสียตามราคาเดิมนั่นแหละค่า 
Clive - เรามาเพราะเรื่องจดหมายนี่น่ะ

Leyla - อ่อ จดหมายนี่หรอ ชั้นว่าพวกคุณคงอยากรู้ว่าใครเป็นคนเขียนส่งให้สินะ 
Clive - อยากรู้มากกว่านั้นเยอะเลยครับ 
Leyla - นี่ฟังนะ ชั้นมันก็แค่คนส่งจดหมาย เขาให้มาส่งก็ส่ง ก็คงบอกคุณได้แค่นี้แหละ
Clive - ขอแบบเจาะจงกว่านี้หน่อยสิ
Leyla - ทางเหนือของเมือง บนชายฝั่งของอ่าว Oillepheist ที่นั่นคุณจะเจอเต้นท์และผู้หญิงคนนึงที่อยู่ที่นั่นจะตอบคำถามคุณเอง 
Clive - แค่นั้นหรอ? มีอะไรอีกมั๊ยครับ?
Leyla - อันที่จริงก็มีอีกอย่าง ในทุ่งนั้นมีอะไรมากกว่าดอกไม้ จับดาบในมือไว้แน่นๆด้วยล่ะ 


Clive - นี่ไงเต้นท์ เหมือนที่ Leyla บอกเลย ....ไม่มีใครอยู่ ...ว่าแล้ว ก็ไม่แปลกใจหรอกนะ 


    Clive - มีเรือเทียบอยู่ด้วย ไม่ได้เขียนบอกว่าของใครอีก ...

Clive - กองไฟนี่ยังอุ่นๆอยู่เลย 
????? - นายคือ Cid สินะ ?
Clive - ก็คงงั้น งั้นก็แปลว่าเธอเปรียบชั้นแล้ว เพราะชั้นไม่รู้ว่าเธอคือใคร?

Shula - โทษที ชั้น Shula Tributary แห่ง Mysidia สวรรค์แห่งผืนน้ำแห่งสุดท้ายของชนเผ่า "Motes of Water"

Clive - ชนเผ่า "Motes of Water" งั้นหรอ?
Joshua -ตามตำนานว่ามันคือเผ่าที่ Dominant แห่ง Leviathan ถือกำเนิดครับ ผู้คนที่นั่นดวงตาจะมีสีไพลินและผมสีงาช้าง แต่ไม่น่าเป็นไปได้เพราชนเผานี้หายสาบสูญไปหมดแล้ว 
Shula -หายสาบสูญงั้นหรอ? หรือถูกกำจัด ! แม้ทั้งคริสจักรและสาธารณะรัฐจะพยายามกันอย่างเต็มที่แต่เราก็ยังรอดอยู่ได้ เราได้ปกปิดความลับกับเหล่าสาวกของ Greagor มาเกือบศตวรรษแล้ว 
Clive - รวมทั้งเรื่อง Dominant แห่ง Leviathan ด้วยสินะ


       Shula - สถานที่นั้น ...พวกคุณรู้อะไรเกี่ยวกับมันบ้าง?

Clive - The Surge น่ะหรอ? เคยไปมานานแล้ว 
Jill - นับแต่การล่มสลายของ Drake’s Eye ก็เกือบหนึ่งศตวรรษแล้วมั้ง บางคนบอกทั้งสองมีความเชื่อมโยงกัน แต่ก็ไม่สามารถพูดได้เต็มปากนัก

Shula - หรือจะพูดง่ายๆคือ พวกคุณไม่รู้อะไรเลย ซึ่งก็ไม่ผิดหรอก Leviathan ปลุกเกลียวคลื่นขึ้นมาจากความโกรธเกรี้ยว ไม่นานก่อนที่ทุกอย่างจะสงบลง และ Eikon กับ Dominant ก็ผูกพันธะร่วมกันสำเร็จ ถ้าตามหลักมันจะเป็นงั้น ... แต่ก็อาจจะจบไม่สวยเสมอไป .

Clive - แล้วสรุป เธออยากให้เรา ...
Shula - ช่วยเหลือเขา .. ใช่ สายของชั้นบอกเกี่ยวกับพวกนอกกฎหมายที่มีความสามารถพิเศษในการงัดข้อกับผู้ที่มีอำนาจเหนือกว่า ซึ่งพวกเราทำไม่ได้ เป็นเวลาหลายปีแล้วที่เราค้นหาใครซักคนที่จะสามารถรับมือกับ Eikon ได้ ใครซักคนที่เหมือนกับคุณ แล้วตกลงว่าไง คุณจะช่วยเรามั๊ย?
Clive - แล้ว Dominant ของคุณไปทำอะไรถึงถูกลงโทษแบบนี้?
Shula - เขาทำอะไรน่ะหรอ? เขาทำความผิดครั้งใหญ่ในชีวิตก็คือ เขาดันเกิดมาน่ะสิ แต่เขาก็ควรได้รับชะตากรรมที่ดีกว่าที่คนของชั้นบังคับเขา เขาควรได้รับอิสระ 
Clive - อิสระหรอ .. ก็เหมือนกับสิ่งที่เรากำลังทำกันอยู่ เอาเถอะ ถึงแม้เรื่องราวของคุณอาจจะดู ..แต่ก็มีบางอย่างบอกผมว่าคุณพูดเรื่องจริง งั้นเราจะพยายามอย่างเต็มที่เพื่อช่วย Dominant ของคุณก็แล้วกัน แต่ก่อนอื่นคุณต้องบอกเราทุกอย่างเกี่ยวกับเขาและการถูกจองจำของเขา 

Shula - ชั้นทำได้ดีกว่านั้น เดี๋ยวเล่าให้ฟังระหว่างการเดินทางข้ามอ่าวก็แล้วกัน คนของชั้นรอคุณอยู่ที่นั่น 
Clive - งั้นนำทางไปเลย 





🔳The Lost Cloak (ดินแดนซ่อนเร้นที่สูญหาย)

Northerneastern Storm 


หากคุณสามารถเดินเรือผ่านช่องแคบของภูเขาแห่ง Cloak ได้โดยมีชีวิตรอด คุณก็จะได้รับรางวัลคือทิวทัศน์อันงดงามของพื้นที่รกร้างที่ล่มสลายซึ่งทอดยาวจากอ่าว Oillepheist ไปจนถึง Sea of Grace 


Shula - เอาล่ะ ก่อนอื่นคุณต้องทำความเข้าใจเรื่องนึงก่อน ตอนนี้เรากำลังเดินทางผ่านกำแพง ซึ่งการผ่านนั้นพวกคุณอาจจะต้องทำความคุ้นเคยกับมันนิดหน่อย


Clive - กำแพง? ผมไม่เห็นกำแพงอะไรเลย?
Shula - แน่นอนว่าคุณไม่เห็นอยู่แล้ว นั่นแหละถึงได้บอกไง มันคือม่านพลังที่เรียกว่า มนต์บังตา ที่บรรพบุรุษของเราสร้างขึ้นแล้วส่งต่อรุ่นสู่รุ่นเพื่อปกป้องหมู่บ้านของเราจากพวกที่ชอบสอดรู้สอดเห็น อย่าเพิ่งรีบเชื่อคำพูดชั้น รอดูเองดีกว่า





Clive - อ๊า...เนี่ยนะการผ่านกำแพง นี่มัน แย่ยิ่งกว่าเมาไวน์ Bacchus ซะอีก
 

                        Jill - ไคลฟ์ ดูท้องฟ้านั่นสิ !!


               Clive - ท้องฟ้าสีครามงั้นหรอ? มันเป็นไปได้ไง?


Shula - นี่คุณรู้ใช่มั๊ยว่า มนต์บังตา มันหมายถึงอะไร? มันก็เหมือนการทักทายนั่นแหละ ดีจะตายไป อย่างน้อยๆก็ดีกว่าจ้องเมฆขี้โรคข้างนอกนั่นเยอะเลย 




Shula - เรายังต้องเดินทางอีกไกลกว่าจะถึงหมู่บ้าน และมันก็ไม่ได้ราบรื่นนักหรอก ชั้น เอ่อ หวังว่าพวกคุณจะปีนเขาเป็นนะ 


🔳Cloaktop 


                        Clive - เฮ้ออ ... ถึงซะที ..


Shula - อะไรถึง? นี่คุณคิดว่าถึงแล้วงั้นหรอ? หมู่บ้านไม่ได้อยู่บนยอดเขานี่ซะหน่อย มันต้องข้ามไปอีกฝั่งของภูเขานี่ต่างหาก
Clive - โอเค ... มันแหงอยู่แล้ว ..
Shula - ระวังๆด้วยล่ะ Cid เส้นทางนี้ก็อันตรายไม่น้อยเหมือนกันนะ มันเล่นงานคุณได้ง่ายๆเลยล่ะ ถ้าไม่พลาดตกเขาก็อาจโดนพวกสัตว์ร้ายที่ซุ่มอยู่โจมตีเอาได้
Clive - ขอบคุณที่เตือน แล้วก็ได้โปรดอย่าเรียกผมซิดเลย เรียกไคลฟ์ก็พอ ซิดมันเป็นแค่นามแฝงน่ะ 
Joshua - และคุณก็ต้องรู้ไว้ด้วยนะ Shula ว่าผมไม่มีนามแฝงอะไรแบบเขา
Jill - หรือจะให้เรียก ท่านลอร์ด ดีล่ะ?
Shula - เอาเถอะ สำหรับชั้นมันก็ไม่ต่างกันหรอก 


Joshua - จากที่เห็นผมว่าคนของคุณน่าจะมีคาถาหรือเวทย์อะไรบ้าง แต่ผมยังไม่คุณมีคริสตัลเลยนี่ ?
Shula - Bearers ต้องการคริสตัลร่ายมนต์ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?
Joshua - แล้วไหนตราประทับของคุณ?
Shula - รอชั้นอยู่ที่ Sanbreque ถ้าชั้นไม่ประมาทเลินเล่ออ่ะนะ
Clive - งั้นคงต้องรออีกนานเลยล่ะ 



Shula - บอกให้รู้อย่างนะว่าจับตาสิ่งที่ชั้นจะให้คุณดูให้ดีๆเพราะน้อยคนที่จะได้เห็น โดยเฉพาะคนนอกแบบพวกคุณ 


Clive - ว้าว นี่ไม่ใช่สิ่งที่ผมคิดว่าจะเห็นจากที่นี่เลยนะเนี่ย !!
Shula - ขอต้อนรับสู่ Mysidia … เพื่อนของชั้น 



🔳 Mysidia 

Northern Storm 



Jill - นานมาแล้วที่ชั้นไม่ได้เห็นแดนเหนือที่มีความงดงามขนาดนี้ 
Joshua - ทำไมที่นี่ยังดูสวยงามอยู่ ...


Shula - ชั้นรู้ว่าพวกคุณมีคำถามมากมายที่อยากจะถาม แต่ การเดินทางเรายังอีกไกล ชั้นคิดว่าพวกคุณจะอยากได้ที่พักเพื่อพักผ่อนระหว่างทางหน่อย หมู่บ้านเล็กๆของเราอยู่ไม่ไกลจากนี่ หากพวกคุณต้องการก็ตามมาได้เลย ระหว่างนั้นชั้นจะบอกในสิ่งที่พวกคุณจำเป็นต้องรู้เอง 



คนเฝ้าประตู - ในกระแสน้ำยามเย็น
Shula - แสงยามเช้ากลับคืนมา
คนเฝ้าประตู - เอาล่ะ เปิดประตูได้ Tributary ของเรากลับบ้านแล้ว !


🔳 หมู่บ้าน Haven 

Mysidia


ชาวบ้าน - มีคนนอกมาที่นี่งั้นหรอ? ชั้นไม่เคยเห็นมาก่อนเลย 
ชาวบ้าน -ดูขนาดของเจ้าหมาตัวนั้นสิ !
Shula - เอาล่ะ ทุกคนกลับไปทำหน้าที่ของตัวเองกันได้แล้ว 


Shula - ยังไงก็ต้องขอโทษพวกคุณแทนคนของชั้นด้วยนะ เราไม่ค่อยมีแขกมาเยือนบ่อยนะ เอาจริงๆ ไม่มีเลยมากว่า 
Clive - งั้นพวกผมก็คงเป็นเกรียติที่เป็นคนกลุ่มแรกสินะ 
Joshua - ที่นี่มันเป็นสถานทีที่พิเศษมาก เหมือนกำลังก้าวเข้ามาในอีกโลกนึงเลย
Shula - ตอนนี้พวกคุณเชื่อชั้นรึยังล่ะ?
Joshua - ก็มันเป็นเรื่องที่ยากที่จะเชื่อนี่คุณผู้หญิง คนของคุณมาตั้งถิ่นฐานอยู่ที่แดนหนือนี่ได้ยังไง? หรือผมเข้าใจผิดมาตลอดว่า เผ่า Motes of water เรียกชายฝั่งตอนใต้ของ Ash ว่าเป็นบ้าน จนกระทั่ง Drakes’s Horn ล่มสลาย และ Blight เข้ากลืนกินเกาะ จนบังคับให้พวกเขาต้องหาแผนดินใหม่ที่ไหนซักแห่งเพื่อเป็นที่อยู่
Shula - เราพบกับหายนะของเราไปพร้อมๆกับ Dominant ของเรา ชั้นเชื่อว่าคุณคงเคยอ่านประวัติศาสตร์ที่เขียนโดย Greagorian มาแล้ว แต่บางทีคุณอาจจะลองรับฟังเรื่องนี้ด้วยหูของตัวเองผ่านคำบากเล่าของพวกเราบ้าง


Shula - อาคารหลังนั้นคือ Witanhall ที่ซึ่งคนของชั้นใช้รวมตัวกันในการประชุมหารือเรื่องราวต่างๆ เราไปคุยกันต่อที่นั่นกันต่อได้ แต่ชั้นต้องเตรียมที่นั่นให้พร้อมรับแขกก่อน ระหว่างนี้คุณสามารถเดินเยี่ยมชมหมู่บ้านของเราได้ตามสบายเลยนะ 
Clive - อืมม ได้เลย 



➽ หลังจากสำรวจหมู่บ้านจนพอใจแล้ว ก็เข้าไปที่อาคาร Witanhall ที่อยู่กลางพื้นที่ได้เลย 


Dalina - ขอต้อนรับสู่หมู่บ้าน เฮเว่น นะคะ ตอนนี้ Tributary รอพวกคุณอยู่ด้านใน Witanhall แล้วค่ะ เชิญเข้าไปพบได้เลย 


🔳Witanhall


Shula - ไง คุณคิดยังไงกับสวรรค์เล็กกลางป่าแห่งนี้บ้าง? มันอาจจะไม่ได้สะดวกสบายเหมือนกับถิ่นฐานเดิมทางตอนใต้ของเรา แต่อย่างน้อยมันก็เป็นของเรา 
Clive - และมันไม่ง่ายเลยที่จะเก็บสถานที่นี้ไว้เป็นความลับจนถึงตอนนี้ได้
 Shula - ใช่ มันไม่ง่ายจริงๆนั่นแหละ เราได้อุทิศชีวิตของเราเพื่อรักษามนต์บังตาที่ปกปิดเราไว้ ...  ทั้งเราแล้วก็ Waljas 


Clive - Waljas ที่ว่านี่คือชายคนที่เป็น Dominant แห่ง Leviathan สินะ?
Shula - ใช่แล้ว แต่จะเรียกว่าชายก็คงไม่ถูกเพราะเขายังเป็นทารกอยู่เลย 
Clive - ทารก เนี่ยนะ?
Jill - เอ่อ โทษนะแต่คุณบอกว่า Dominant และ Eikon ของเขาได้ผูกพันธะกันด้านใน The Surge มากว่าศตวรรษแล้ว ซึ่งนั่นมันคงต้องทำให้เขาแก่ลงแน่นอนไม่ใช่หรอ? 
Shula - มันก็ควรจะเป็นอย่างนั้น ถ้าเขาได้รับอนุญาตให้มีอายุมากขึ้นได้อ่ะนะ แต่เวทย์มนต์ที่ผนึกที่นั่นไว้ไม่ทำให้มันเป็นแบบนั้นน่ะสิ 



Jill - โทษนะ ชั้นไม่เข้าใจ?
Shula - Waljas เป็นลูกชายของทวดของชั้น  Leviathan ในตัวเขาตื่นขึ้นมาโดยไม่มีใครได้ตั้งตัว และแทนที่มันจะปล่อยให้เด็กได้ใช้ชีวิตในฐานะสมาชิกคนสำคัญของเผ่า แต่บรรพบุรุษของชั้นดันเอาม่านพลังของเขาไปใช้อย่างอื่น Eikon จึงคิดว่ามันคือการทรยศ และจะเรียกคลื่นยักษ์มาถล่มทั้งหมู่บ้าน ... ถ้าบรรพบุรุษของชั้นไม่หยุดยั้งเขา  
Joshua - ถ้างั้นก็ไม่ใช่ The Surge ที่ผูกมัดเด็กเอาไว้ แต่เป็นเวลาต่างหาก


Shula - ใช่แล้ว 
Clive - โทษนะคือ ผมไม่แน่ใจว่าที่ผมเข้าใจมันถูกต้องมั๊ย
Shula - ชั้นก็ไม่แปลกใจหรอก เพราะเรื่องนี้มันเป็นอะไรที่อธิบายยากมากๆ ซึ่งมันจะง่ายกว่าถ้าชั้นพาคุณไปหาเขาเอง ให้คุณเห็นเองว่าเขาต้องเจอกับอะไรบ้าง 
Clive - เพราะงั้นผมถึงมาที่นี่ไง 
Shula - งั้นก็ไปกันเลย ทางออกทางทิศเหนือของหมู่บ้านจะพาเราไปสู่ The Surge


Dalina - คุณกำลังจะเดินทางไปที่ คลื่น แล้วสินะ Tributary?
Shula - ใช่แล้ว Dalina แล้วเธอได้กระจายข่าวเกี่ยวกับแขกของเราให้คนในหมู่บ้านรู้รึยัง?
Dalina - เรียบร้อยแล้วค่ะ ทุกคนในหมู่บ้านที่รู้ข่าวจะปฎิบัติกับเขาเหมือนเป็นครอบครัวอย่างแน่นอน 


Shula - เอาล่ะ คุณคงไม่มีปัญหาอะไรแล้วในตอนนี้ แต่ยังไงซะชั้นก็อยากให้คุณเก็บตราสัญลักษณ์ของเผ่าเราไว้ เพื่อให้คนของชั้นเข้าใจเกี่ยวกับคุณได้ง่ายขึ้น
Clive - คุณใจดีกับพวกเรามาก เหมือนได้พบกับครอบครัวเลย
Shula - ชั้นก็คิดเหมือนกัน


Dalina - ชั้นคือคนรับใช้ของเลดี้ Shula Tributary แห่ง Mysidia ทำหน้าที่รับใช้และถ่ายทอดคำสั่งของ Tributary  ซึ่งก็อย่างที่เห็นว่าชั้นเป็นผู้แจ้งข่าวกับชาวบ้านเรื่องของพวกคุณตามคำสั่งของ Tributary  ถ้าเกิดคุณมีปัญหาอะไรจะถามเกี่ยวกับหมู่บ้าน หรือเรื่องต่างๆในพื้นที่ของเรา และเพื่อไม่ให้เป็นการรบกวน Tributary จนเกินไป คุณสามารถถามชั้นแทนได้นะ ชั้นจะพยายามตอบให้อย่างดีที่สุดเลยค่ะ 
Clive - ขอบคุณครับ เข้าใจแล้ว 
Dalina - ถ้างั้นก็ขอให้คุณเจอกระแสน้ำที่ดีนะคะ 


Shula - ร้านค้าต่างๆของเราอยู่อีกฝากของสะพานเผื่อคุณอาจจะต้องการซื้อไอเทมก่อนออกเดินทางก็สามารถทำได้เลย แน่นอนแม้ว่าคุณจะเป็นแขกคนสำคัญของเรา แต่คุณก็คงต้องจ่ายเงินซื้อเพราะเราเองก็ยากจนเหมือนกัน 


                            Haven Sidequest unlock !

📗Sidequest : It’s the Thought that Counts 
📗Sidequest : The Pursuit of Knowledge 



              📗  Sidequest : It’s the Thought that Counts


Wyrda - ซิด ..คุณคือ ซิด ใช่มั๊ย? คนที่ Tributary แจ้งข่าวมาถึงพวกเรา? จะว่าอะไรมั๊ยถ้าชั้นอยากจะขอให้คุณช่วยหน่อยนึง
Clive - ช่วยเรื่องอะไรหรอครับ?
Wyrda - มันก็ไม่ใช่ปัญหาใหญ่โตอะไรหรอก คุณรู้จักสามีชั้นมั๊ย Pavaat น่ะ?  เขาเป็นช่างตีดาบประจำหมู่บ้าน คือ ชั้นอยากจะทำของขวัญให้เขาน่ะ เขาเป็นช่างฝีมืออ่ะนะและเขากำลังกังวลใจว่าดอกไม้ที่เขาใช้สำหรับย้อมผ้าเหลือน้อย ชั้นเลยอยากจะขอให้คุณช่วยไปเก็บมันมาแล้วเอาไปให้เขาหน่อยได้มั๊ย? 
Clive - เอ่อ ถ้ามันเป็น ของขวัญ คุณเอาไปให้เขาเองเลยจะไม่ดีกว่าหรอครับ 
Wyrda - ก็จริงนะ แต่เรื่องของเรื่องคือ ชั้นไม่สามารถลงไปที่ .... ได้โปรดมันฟังดูโง่ก็จริง แต่ชั้นจะขอบคุณมากถ้าคุณช่วยชั้น
Clive - ก็ได้ แล้วดอกไม้ที่สามีคุณต้องการมันคือดอกอะไรหรอ?


Wyrda - มันเป็นดอกไม้เล็กๆสีน้ำเงิน ที่ขึ้นอยู่รอบๆบ่อน้ำพุที่ชาวบ้านเรียกว่า Elder’s Blessing น่ะ เราใช้มันสำหรับการย้อมผ้า สีของมันทำให้เรารู้สึกอยู่ใกล้น้ำเสมอ คุณไม่จำเป็นต้องไปลำบากเก็บมันด้วยตัวเองหรอกแค่พูดกับชาวบ้านที่กำลังเก็บดอกไม้และขอแบ่งมาบ้างก็พอ ซัก 2 ตระกร้าก็คงจะพอสำหรับที่สามีชั้นจะใช้ทำงาน 
Clive - ดอกไม้ 2 ตระกร้า โอเค 


คนเก็บดอกไม้ - อ่า ยินดีต้อนรับสู่ Haven นะสหาย 
Clive - ขอบคุณครับ ขอโทษด้วยนะครับที่เสียมารยาทแต่ภรรยาของช่างตีเหล็กขอให้ผมมาหาดอกไม้เพื่อเอาไปให้สามีเธอน่ะ ซักสองตระกร้าก็พอ 
คนเก็บดอกไม้ - ชั้นพอแบ่งให้ได้แค่ตระกร้าเดียว ถ้ามันพอช่วยได้ก็เอาไปได้เลย 
Clive - ช่วยได้มากเลยครับ ขอบคุณมาก ...พวกมันสวยมากเลยนะ
 คนเก็บดอกไม้ - โอ้ มันไม่ใช่แค่สวยนะ แต่มันทำให้ที่นี่กลายเป็นสถานทีพิเศษของเราเลยล่ะ ตำนานเล่าว่า เมื่อตอนที่ผู้คนหนีออกจาก Ash Tributary ในยุคนั้นก็เก็บเอาเมล็ดพันธ์ของมันติดมาด้วย ในขณะที่เขาเดินทางข้ามจาก Twin พวกเขาก็ปลูกมันไว้ทุกที่ที่พวกเขาหยุดพัก ตั้งแต่นั้นเหล่าผู้เฒ่าของเราก็ทำตามจนเป็นประเพณีสืบต่อกันมา จนเมื่อเรามาตั้งรกรากที่ Mysidia ดอกไม้ก็ตามมาด้วย 


Clive - ขอโทษด้วยนะครับแต่จะว่าอะไรมั๊ยถ้าผมจะขอดอกไม้จาก Elder’s Blessing ซักตระกร้า? พอดี ภรรยาของ Pavaat ช่างตีเหล็กขอให้ผมมาหาดอกไม้เพื่อเอาไปให้สามีเธอน่ะ 
คนเก็บดอกไม้ - อ่า Wyrda ต้องการให้คุณช่วยเธอด้วยงานของเราใช่ป่ะ? ได้สิ เอาไปเลย ให้ตาแก่โง่ด้วยบางสิ่งเขาจะได้ไม่ต้องอึดอัดใจ 
Clive - อะไรนะครับ?
คนเก็บดอกไม้ - ช่างเถอะ ตาแก่ Pavaat อาจจะไม่ฉลาดนัก แต่ถ้าคุณเอาของขวัญนี่ไปให้เขา เขาคงไม่โง่พอที่จะปฎิเสธหรอก 
Clive - ดีที่ได้ยินแบบนั้น ยังไงก็ขอบคุณนะครับ 


Pavaat - คุณต้องการอะไร? 
Clive - ภรรยาของคุณขอให้ผมเอาดอกไม้นี้มาให้น่ะ 
Pavaat - เฮ้ออ ... ผู้หญิงนี่น้า ... เอาล่ะ ออกมาได้แล้วชั้นรู้ว่าเธอแอบดูอยู่
Wyrda - ใคร? ชั้นหรอ? 


Clive - คุณจะช่วยอธิบายหน่อยได้มั๊ยว่ามันเกิดอะไรขึ้นเนี่ย? 
Wyrda - ขอโทษค่ะ ชั้นไม่ได้ตั้งใจจะหลอกคุณจริงๆนะ ชั้นก็แค่คิดว่าสามีของชั้นเป็นคนพูดไม่ค่อยเก่ง เข้ากับคนอื่นยาก ก็เลยคิดว่านี่อาจเป็นวิธีที่ดีที่สุดที่จะทำให้คุณสองคนสนิทกัน ก็คุณเป็นนักดายและเขาเป็นช่างตีเหล็กคนเดียวของหมู่บ้าน คงจะน่าเสียดายถ้าคุณไม่สามารถขอความช่วยเหลือจากเขาได้
Pavaat - เหตุผลที่เขาไม่สามารถขอความช่วยเหลือจากชั้นได้ก็เพราะออเดอร์ที่เธอหามาให้ชั้นมันเต็มมืออยู่ไงคุณผู้หญิง 


Pavaat -..ตอนนี้ผมกำลังเคลียร์ทุกงานใกล้เสร็จแล้ว แต่ยังไงซะ ก็ตามที่ Tributary ขอเอาไว้ ว่าให้เราช่วยเหลือคุณ ซึ่งผมก็พร้อมจะทำตามไม่ว่าภรรยาผมจะเข้ามายุ่งหรือไม่อยู่แล้ว เอาล่ะ เข้าใจตรงกันแล้วนะ ถ้าจะให้ช่วยอะไรก็หาวัตถุดิบมา โอเคนะ ?
Clive - โอเคครับ 
Pavaat - งั้นก็ดี ส่วนดอกไม้นี่ชั้นก็ขอรับไว้เพื่อเอาไปทำงานต่อล่ะกัน 
Clive - ผมได้ยินมาว่าคุณจะเอาไปย้อมผ้างั้นหรอ?



Pavaat - ใช่แล้ว ถ้าบดกลีบมันให้ละเอียดหน่อยสีมันจะสดและติดทนมาก ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้าหรือธงต่างๆเพื่อย้ำเตือนว่าพวกเรามาจากไหน
Clive - เฉกเช่น Motes of water บุตรแห่งท้องทะเล 
Pavaat - ถูกต้อง ลวดลายพวกนี้ก็ส่งต่อมาจากบรรพบุรุษของเราเช่นกัน มันเรียกว่า Ceaseless Rill ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของแม่น้ำในชนเผ่าของเรา พร้อมดัวยความแข็งแกร่งของ Leviathan ที่เลื้อนผ่านมันไป ไม่ว่าสายน้ำมันจะมีมากน้อย ไหลหนักเบา หรือเปลี่ยนวิถีไปเช่นไร ดอกไม้ก็จะอยู่กับเราเสมอ เสมือนเติบโตบ่นบ่าของเรา ...เอาล่ะผมต้องการไปทำงานต่อแล้วถ้าจะให้ช่วยอะไรก็บอกแล้วกัน


       ➽ปลดล็อก The Hearth ร้านตีเหล็กของ Pavaat ใน Haven



                  📗  Sidequest : The Pursuit of Knowledge


Bilos - บอกเลยชั้นจะจับขังแน่ถ้าเธอกลับมา คอยดูสิ ...โอ่ โทษทีผมใจลอยไปหน่อย มีอะไรให้ช่วยหรอครับ? ถ้าคุณอยากจะซื้อของคุณคงต้องไปคุยกับเมียผมที่ร้านเลยครับ แต่ตอนนี้เธออาจจะยุ่งๆหน่อยเพราะการจัดของควรเป็นหน้าที่ของลูกสาวผม ซึ่งตอนนี้ไม่รู้เธอหายไปไหน 
Clive - ถ้าคุณไม่ว่าอะไรผมจะลองไปตามหาให้เอามั๊ย?
Bilos - ไม่ๆ ไม่ได้ครับ ผมจะไปขอให้คนนอกแบบคุณทำอย่างนั้นได้ยังไง แต่ ถ้าคุณไม่ว่าอะไร ...
Clive - ผมเต็มใจช่วยอยู่แล้ว ว่าแต่เธอคงไม่ไปไกลใช่มั๊ย?
Bilos - ก็หวังว่าจะไม่นะ เมียผมออกตามหาไปจนทั่วหมู่บ้านแล้วแต่ไม่เจอ อดคิดไม่ได้ว่าเธอจะออกไปผจญภัยเล็กๆน้อยๆแบบที่เคยทำมาตลอด
Clive - ท่าทางเธอจะเป็นคนชอบอิสระสินะ ?
Bilos - อ่า นั่นแหละเธอเลยล่ะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเธอได้ยินข่าวคุณซึ่งเป็นคนนอกเดินทางมา คุณต้องเห็นตาเธอ เป็นประกายเลยล่ะ ถ้าเธอไปตามหาคุณจริงๆก็น่าจะไปแถวประตูทางทิศใต้ที่คุณเข้ามาแน่นอน ลองไปถามยามดูอาจจะได้เรื่องอะไรก็ได้นะ ลูกผมเธอชื่อ Ruqa น่ะ 
Clive - โอเค ถ้าหาตัวเธอเจอจะรีบมาบอกก็แล้วกันครับ ไม่ต้องห่วงนะ


Clive - โทษครับคุณพอเจอเห็นลูกสาวเจ้าของร้านขายของออกมาทางนี้บ้างมั๊ย?
คนเฝ้าประตู - ยัยหนู Ruqa น่ะหรอ? เจอสิ เธอเพิ่งออกประตูไปเมื่อกี้นี่เอง 
Clive - แล้วคุณก็ปล่อยให้เธอออกไปนอกหมู่บ้านคนเดียวเนี่ยนะ ?
คนเฝ้าประตู - ใช่ ก็เธอทำแบบนี้จนเป็นเรื่องปกติอ่ะนะ เธอน่าจะไปตามทางเดินด้านซ้ายที่จะลงไปที่แม่น้ำ แถวนั้นใกล้หมู่บ้านพวกสัตว์ไม่กล้าเข้ามาหรอก ไม่เชื่อคุณลองไปดูก็ได้ เจอเธอแน่นอน 



Ruqa - คุณอยู่นี่เอง หนูตามหาซะทั่วเลย
Clive - หนูคือ Ruqa ใช่มั๊ย?
Ruqa - คุณรู้ชื่อหนูด้วย มีพลังอ่านใจหรอคะ?
Clive - พ่อหนูให้ชั้นมาตามหาเธอน่ะ หนูน่าจะบอกพ่อแม่ด้วยนะเวลาจะออกไปไหน พวกเขาเป็นห่วงมากนะ 
Ruqa - ก็หนูออกมาตามหาคุณไง 
Clive - ตอนนี้ก็เจอแล้วไง จะว่าไงถ้าเราจะกลับหมู่บ้านกันเพื่อบอกพ่อหนูว่าหนูปลอดภัย 
Ruqa - ก็ได้ค่ะ แต่ระหว่างทางคุณช่วยเล่าเรื่องโลกภายนอกให้หนูฟังบ้างได้มั๊ย? หนูอยากจะรู้ทุกอย่างเลย
Clive - ถ้าทุกเรื่องเลยมันน่าจะยาวเลยนะ ฮ่าๆ


Bilos - ขอบคุณนะครับที่ช่วยพาเธอกลับมา และขอโทษด้วยที่ทำให้คุณต้องยุ่งยาก 
Clive - ไม่เป็นไรครับ ยินดีช่วยเลยล่ะ 


Ruqa - พ่อรู้มั๊ยว่ามีหมู่บ้านที่ใหญ่กว่าหมู่บ้านเราสิบเท่าในโลกภายนอกด้วย สิบเท่าเลยนะ พวกเขาเรียกว่า เมือง แล้วเมืองก็มีกำแพงขนาดใหญ่ล้อมรอบ ด้านในก็มีตึกขนาดใหญ่แล้วก็ปราสาทด้วยล่ะ !
Bilos - โอ้ เรื่องนั้นพ่อไม่ห่วงหรอก แต่เรื่องโลกภายนอกเอาไว้เล่าใหพ่อฟังที่หลังนะ ตอนนี้ไปช่วยแม่จัดของที่ร้านด่วนเลย 
Ruqa - ได้ค่ะพ่อ ..


Bilos - ขอบคุณนะที่ช่วยตอบคำถามของเธอ เธอมีคำถามมากมายอยู่ตลอดเลย ที่ถามบ่อยที่สุดก็เรื่องคนที่อยู่นอกกำแพงของเรานี่แหละ ถือว่าคุณสร้างความประทับใจแรกให้เธอได้ดีมากๆเลยล่ะ 
Clive - เราเป็นคนนอกกลุ่มแรกที่เธอเคยเจอหรอครับ?
Bilos - แน่นอน ก็โลกทั้งโลกไม่รู้ว่าเราอยู่ที่นี่ แล้วเราก็ระวังเรื่องคนเข้าออกมากๆด้วย 


Bilos - ถึงแม้ชาวบ้านบางคนต้องเดินทางออกไปซื้อของข้างนอกบ้างบางครั้ง แต่เราก็พยายามจัดการสิ่งของตามที่เรามี รวมทั้งสิ่งของที่ชาวเหนือทิ้งไว้ด้วย 
Clive - ใช่ หมู่บ้านคุณสร้างอยู่บนยอดของโบราณสถานสินะ?
Bilos - ว้าว คุณทำการบ้านมาดีนี่ พวกช่างก่อสร้างเลยไม่ต้องห่วงเรื่องพื้นฐานของหมู่บ้าน เรื่องของใช้ทั่วไปเลยไม่ใช่ปัญหา ยา โลหะ เครื่องไม้เครื่องมือต่างๆ แต่ก็มีของบางอย่างที่เราจำเป็นต้องออกมาหาด้านนอก เราต้องปลอมตัวเป็นพ่อค้าเร่และอธิฐานต่อสวรรค์ว่าอย่าให้มีใครเห็นเราตอนเข้าออกหมู่บ้าน 


Clive - ไม่แปลกที่พวกคุณต้องการเงินมาก
Bilos - ใช่เลย เอาล่ะ ตอนนี้ Ruqa กลับมาทำหน้าที่ของเธอแล้ว เมียผมน่าจะว่างพอที่จะเปิดร้านขายของได้แล้ว ถ้าคุณต้องการอะไรก็เชิญเข้าไปอุดหนุนได้เลยนะครับ 
Clive - ผมนี่อ้ากระเป๋าตังค์รอเลยล่ะครับ 


   ➽ ปลดล็อกร้านค้าของ Nadena 



  ➽ จากนั้น ออกจากหมู่บ้าน Haven ทางประตูทิศเหนือ ผ่านเขตป่า Father’s Fell ไปจนถึงส่วนของ Tailwind Bay 


Joshua - แล้วเราจะข้ามไปที่ The Surge ได้ยังไงเนี่ย?
Shula - เราจะเข้าไปตามชายฝั่งทางเหนือจะมีสะพานข้ามไปยังแหลมได้ 
Joshua - ผมขอถามเกี่ยวไอ้แสงนั่นได้มั๊ย?
Shula - เป็นสิ่งที่ช่วยยึด The Surge ไม่ให้ไหลลงทะเล ไปพร้อมๆกับ Waljas 



Clive - คุณบอกว่าเด็กจะมีพันธะกับ The Surge แต่คุณยังไม่ได้บอกว่าเราจะเข้าถึงตัวเขาได้ยังไง หวังว่าเราคงไม่ต้องกลั้นหายใจใช่มั๊ย?
Shula - ไม่ต้องแน่นอน The Surge อยู่พ้นจากแหลมแต่ไม่ได้จมลงไป ถ้าเราจะเดินเข้าไปจนถึงปลายสุดของมัน จะมีทางลงไปสู่ก้นทะเลไปจนถึงจุดกำเนิด คลื่น 
Clive - เข้าใจแล้ว 


                                     🔳  The Surge


คลื่นนิรันดร์ คำสาปที่ไม่มีวันแตกสลาย เข็มแห่งกาลเวลาได้ระงับความเกรี้ยวกราดของผู้สร้างที่ถูกทรมาน 



Shula - อีกไม่ไกลแล้วล่ะ 
Clive - ดูเหมือนเส้นทางจะมีการดูแลอย่างดี คุณกับพวกชาวบ้านใช้เส้นทางนี้กันบ่อยหรอครับ?
Shula - มีแค่ชั้น ทุกเดือน ไม่เคยขาด มันเป็นหน้าที่ของชั้นในฐานะผู้อวุโสของหมู่บ้านและผู้สืบทอดของ Waljas 
Jill - แต่ ชั้นมั่นใจว่าไม่มีใครโทษคุณกับเรื่องที่เกิดขึ้น ทำไมคุณต้องแบกรับความรับผิดชอบนี้คนเดียวด้วยล่ะ ?
Shula - คุณเข้าใจผิด ชั้นทำเพราะอยากทำเพื่อแสดงให้เห็นว่า เขาไม่ได้อยู่ลำพัง ยังมีบางคนที่อยากยุติความทุกข์ทรมานของเขา เดี๋ยวคุณก็จะเห็นความทุกข์ทรมานนั้นด้วยตาของตัวเอง 


Clive - แสงนั่นคือจุดบอกตำแหน่งของเด็กคนนั้นสินะ?
Shula - จะว่างั้นก็ได้ ..ดูหยดน้ำที่ถูกแช่ไว้กลางอากาศพวกนั้นสิ มันไม่เคยถูกแตะต้องมา 80 ฤดูร้อนแล้ว 
Jill - มันไม่ควรจะเป็นแบบนั้น ..
Clive - ใช่ ไม่ควรอย่างยิ่งเลยล่ะ

                        

    Shula - นั่นไง เขาอยู่นั่น ตรงกลางหลุมนั่น เอาล่ะ ตามชั้นมา





      Clive - เหมือนเขายังอยู่ในสภาพเตรียมเริ่มพิธีกรรมอยู่เลย 


Joshua - ผมไม่เคยลืมตอนที่เข้าพิธีครั้งแรก ตอนนั้นมันมีแต่ความกลัว แต่ก็โตพอที่จะรู้ว่าอะไรกำลังจะเกิดขึ้น เราไม่รู้หรอกว่าทารกคนนี้จะรู้สึกยังไง 


Shula - เขาเป็นเหยื่อของบาปที่มิอาจอภัย ทุกคนมองแค่ว่าเขาเป็นหนทางเดียวที่จะทำให้เรื่องทุกอย่างมันจบลง เขาคงจะกลัวมากแน่ๆ
Clive - ผมจะแบ่งเบาภาระเขาให้เอง 
Shula - คุณคงไม่ได้หมายถึง ...
Clive - คุณจะว่าไงถ้าผมจะบอกว่ามีวิธีที่จะดึงเอา Eikon ออกมาจาก Waljas ? มันจะไม่ทำให้เขาบาดเจ็บหรอก ไม่ใช่ในแบบที่เล่าต่อๆกันมา ผมจะไม่ฆ่า Dominant ถ้าไม่จำเป็น 
Shula - นี่คุณบ้าไปแล้วหรอ?


Clive - มันยากที่จะอธิบาย แต่ผมทำมันได้จริงๆ แม้จะไม่ได้แปลว่าจะไม่มีความเสี่ยงก็เถอะ แต่การเป็นส่วนหนึ่งของ Eikon เป็นทางเดียวที่ต้องทำ ไม่ว่าจะยังไงก็ตาม
Shula - แล้วมันจะเกิดความรุนแรงมั๊ย?
Clive - ผมไม่รู้ ขึ้นอยู่กับพลังของ Eikon แต่ส่วนใหญ่มันก็ผ่านไปด้วยดี แต่ที่รู้ ถ้าเราไม่ช่วยเขา เขาก็จะต้องทรมานต่อไปไม่สิ้นสุด และมันน่าจะเลวร้ายน้อยกว่าทางเลือกอื่นว่ามั๊ยล่ะ?


Shula - ก็ได้ ทำในสิ่งที่คุณต้องทำเถอะ ไม่ว่าผลจะออกมายังไง ชั้นจะรับผลนั้นด้วยตัวเอง 


         Clive - ไม่ต้องห่วงนะเจ้าหนู ชั้นจะแบกรับมันไว้ให้เอง 






                    Clive - ใจเย็น ...เดี๋ยวมันก็จบแล้ว 




Shula - เสร็จแล้วหรอ? 
Clive - คิดว่างั้นนะ ผมรู้สึกว่า Eikon อยู่ในตัวผมแล้ว แต่ดูเหมือนมีบางอย่างผิดปกติ 




Clive - ผมว่าเขาไม่ได้กำลังกลัวแล้วล่ะ แต่เขากำลังโกรธมากกว่า ไหนดูสิว่านายอยากบอกอะไร 


                               BOSS: Perykos 

ไคลฟ์ต้องเรียนรู้ในการใช้ความสามารถใหม่ของ Leviathan ในการเอาชนะศัตรู ซึ่งขณะต่อสู้ยังไม่สามารถเซ็ตหรืออัพเกรดได้ นอกจากเรียกรู้ด้วยการใช้ความสามารถพื้นฐานที่มีให้ในตอนแรกไปก่อน


                   The Rising Tide : The power of Water 


                               Leviathan Eikon Ability 


Serpent’s Cry - ความสามารถในการยิงลูกกระสุนน้ำโจมตีระยะไกล กดสี่เหลี่ยมยิงแบบยิงทีละนัด


 กดสามเหลี่ยนยิงโจมตีเป็นวงกว้างด้วยกระสุนหนัก สามารถกดค้างเพื่อชาร์จยิงเพิ่มความแรงได้ แต่ต้องคอยกด O เพื่อเติมพลังน้ำเมื่อพลังหมดด้วย 


Cross Swell - ท่าอัดกระแทกพื้นเรียกคลื่นรูปทรงพัดเข้าโจมตีจากด้านข้างทั้งสองด้านของเป้าหมาย 


Abyssal Tear - ปล่อยลูกกระสุนน้ำลอยอยู่บนหัว ในระหว่างต่อสู้เกจพลังจะค่อยๆเติม (อัพได้ถึง 4 ระดับ) เมื่อเต็มแล้วกดปุ่มที่เซ็ตท่านี้ไว้จะเป็นการโจมตีด้วยกระสุนน้ำจำนวนมากแบบล็อกเป้าโจมตีเป้าหมาย 


Deluge - ความสามารถในการยิงลูกกระสุนน้ำโจมตีระยะไกลแบบยิงรัว


Tsunami - ท่าใหญ่ของ Leviathan เรียกคลื่นน้ำขนาดใหญ่ซัดโจมตีเป้าหมายทั้งหมดด้วยความรุนแรง 



Clive - ทุกคนปลอดภัยนะ 
Shula - ดูเหมือนเขาจะสงบลงแล้ว 


Clive - คุณบอกว่า Waljas ถูกกักขังเอาไว้ แต่ทำไมเขารู้ว่าเรามาที่นี่ ?
Shula - ชั้น เอ่อ ...ช้นก็ไม่รู้เหมือนกัน เขาไม่เคยแสดงปฎิกริยาอะไรหรือกับใครเลย จนถึงตอนนี้ 
Joshua - เด็กผูกพันธะมาเกือบศตวรรษแล้ว ถ้าเขามีสติรับรู้ตั้งแต่แรก เราต้องหาทางถอดผนึกเขาออก
Shula - มันไม่ง่ายแบบนั้นน่ะสิ ชั้นก็อยากทำแบบนั้นนะ แต่ ...คงต้องใช้เวลาอธิบายเรื่องนี้แบบยาวๆเลยล่ะ เรากลับไปตั้งหลักที่หมู่บ้านก่อนดีกว่าจะได้คุยกัน
Clive - อืมม งั้นเรารีบกลับกันก่อนจะมืดเถอะ 



    Shula - ขอโทษด้วยนะ Waljas แต่ ชั้นต้องทำให้เรื่องนี้มันถูกต้อง 


🔳หมู่บ้าน Haven 


     Shula - ตอนนี้ Leviathan อยู่ในตัวคุณมันเป็นไงหรอ? เจ็บมั๊ย?


Clive - ไม่เจ็บแล้ว คงชินแล้วมั้ง 
Shula - ดีแล้ว เพราะชั้นยังต้องพึ่งความแข็งแกร่งของคุณอยู่ ถ้าคุณอยากรู้เรื่องราวที่เหลือ เราไปคุยกันต่อที่ Witanhall เถอะ 


Shula - ก่อนที่จะเข้าใจเรื่องมนต์ที่ผนึก Waljas ไว้ พวกคุณต้องรู้จักตัวตนที่แท้จริงของพวกเราก่อน และอะไรที่พลักดันให้บรรพบุรุษของเราทำเรื่องโหดร้ายแบบนี้  

🔳Witanhall


Jill - ม่านปักผืนนี้ ....
Shula - เรื่องราวของเรา รวมอยู่ที่นี่ 


Shula - เมื่อประมาณ 700 ปีก่อน หลังจากเดินทางเร่ร่อนมาหลายอายุคน บรรพบรุษของชั้นก็หาที่พักพิงได้ ซึ่งอยู่ทางฝั่งตะวันออกเฉียงเหนือของ Storm แต่ทางศาสนจักร Greagorian ก็ออกมาเรียกร้องให้เราละทิ้งความเชื่อของเราเพื่อแลกกับความปลอดภัย และเมื่อเราไม่ยอมจึงถูกตราหน้ามา พวกนอกรีต ต้องถูกกำจัดเพื่อให้บทเรียนกับผู้อื่น และมันถูกบันทึกไว้ในหน้าประวัติศาสตร์ของจักรวรรดิด้วย 


Shula - พวกเราเหลือผู้รอดชีวิตไม่มาก บางส่วนหลบหนีไปทางเหนือและบางส่วนไปทางตะวันตก ซึ่งนั่นเราได้ค้นพบสิ่งที่จะกำหนดชะตากรรมของเราตลอดไป เรื่องแรก เราค้นพบตำนานเก่าแก่ที่ว่าด้วยเรื่องการสร้างคริสตัลของตัวเอง 
Clive - ผมเคยได้ยินเรื่องนี้มาแล้ว 
Shula - ใช่ มันนำความหวังใหม่มาสู่พวกเรา แม้มันจะเป็นเรื่องโกหกก็ตาม 


Shula - บรรพบุรุษของเราเชื่ออย่างสนิทใจว่าพวกเขาจะสามารถสร้าง พระเจ้าองค์ใหม่ขึ้นมาได้ ถ้าพวกเขาค้นพบคนที่มีหัวใจที่แข็งแกร่งเพียงพอ สิ่งมีชีวิตที่สามารถกำหนดลมฟ้าอากาศที่สวรรค์จะจัดหามาให้


Shula - Dominant Waljas ..เมื่อพวกเขาพบบางอย่างในซากโบราณสถานที่ซึ่งพวกเขาเชื่อว่าสามารถกระตุ้นพลัง aether ของสิ่งมีชีวิตให้พรั่งพรูออกมาได้อย่างรวดเร็ว พวกเขาตั้งใจจะทำให้ Eikon ของพวกเขาโกรธ


Shula - Leviathan ที่ออกมาเพื่อหมายทำลายทุกสิ่งทุกอย่างของเผ่าเรา คงจะทำลายทุกอย่างจนหมดสิ้นแน่ถ้าบรรพบุรษของเราไม่ได้ค้นพบสิ่งมหัศจรรย์ที่สอง นั่นคือ เวทย์หยุดเวลา 


Clive - แล้วพวกเขาไปค้นพบมันได้จากได้ ปกติชาวเหนือไม่มีเวทย์แบบนี้ ถ้ามีเขาคงใช้เอาชนะสงครามไปแล้ว 
Shula - ตอนที่บรรพบุรษของเรามาถึงที่นี่เป็นครั้งแรก ไม่เคยมีใครอาศัยอยู่ เว้นแต่แม่มดเฒ่าที่อาศัยอยู่บนยอดเขา ร่างของเธอถูกคำสาปครอบงำซึ่งเป็นรางวัลที่โหดร้ายที่เธอรับใช้คนแดนเหนือมาหลายปี พวกเขาหมดหวังที่จะป้องกันไม่ให้ Drake’ eyes ล่มสลาย พวกเขาจึงบังคับให้เธอร่ายเวทย์หยุดเวลา
jill - แต่สุดท้าย Drake’ eyes ก็ล่มสลายนี่?
Shula - ใช่ มันล่มสลาย เพราะกว่าที่เธอจะสร้างเวทย์มนต์จนเสร็จสมบูรณ์มันก็สายเกินไป


Shula -เพื่อเป็นการลงโทษกับความล้มเหลวของเธอพวก thegns เนรเทศเธอให้ไปอยู่ที่สถานที่ที่ถูกทอดทิ้ง เพื่อใช้ชีวิตที่เหลืออยู่ไม่กี่วันของเธอ เมื่อทราบถึงความทุกข์ทรมานของเธอ บรรพบุรุษของเราจึงช่วยดูแลเธออย่างดี และเพื่อเป็นการตอบแทน เธอก็มอบความลับของเวทย์หยุดเวลาให้พวกเรา ซึ่งตอนนี้แม้ว่าเธอจะตายไปนานแล้ว แต่มรดกของเธอยังคงอยู่ 


Shula - บรรพบุรุษของเรามีทั้งความรู้จากสมัยโบราณและความลับแห่งเวลา แผนอันทะเยอทะยานของพวกเขาก็เริ่มต้นขึ้น พวกเขาต้องการสร้างมาเธอร์คริสตัลใหม่ขึ้นมา และร่ายมนต์หยุดเวลาให้มันคงอยู่ตลอดไป ความทุกข์ของประชาชนก็จะหมดไป ความเจริญก็จะกลับมาอีกครั้ง และสิ่งที่ต้องแลกมาก็แค่การเสียสละเด็กทารกแค่คนเดียวเท่านั้น เป็นราคาที่เล็กน้อยมากที่ต้องจ่าย พวกเขาเชื่อแบบนั้น 


Clive - เหยื่ออีกคนที่เกิดจากความคิดที่จะพึ่งพาคริสตัลแบบไม่ลืมหูลืมตาของมนุษย์ ...ตอนนี้เรารู้ที่มาของการผนึกแล้ว แล้วเราจะทำลายมันเพื่อให้เวลาไหลแบบเดิมได้ยังไง 
Shula - คุณจำโดมที่ส่องแสงบนภูเขาทางตะวันตกที่เห็นระหว่างทางได้มั๊ย? ด้านในมันคือโบราณสถานเก่าแก่ ที่ซึ่งแม่มดได้สร้าง Vare ซึ่งเป็นท่อส่ง aether ที่เหลืออยู่ของเธอไปที่ The Surge แต่ไม่เคยมีใครเข้าไปที่นั่นนานมากแล้ว และตอนนี้ก็มีคนอื่นที่เข้าไปอ้างสิทธิ์เป็นของตัวเองแล้ว 
Clive - งั้นเราก็หลีกเลี่ยงการต่อสู้ไม่ได้สินะ และจะดีมากถ้าจะมีคนคอยอยู่ดูแลที่นี่ 
Jill - นายคิดว่าหมู่บ้านจะเกิดอันตรายหรอ?
Clive - เห็นตอน aether ของ Waljas มันพุ่งกระจายออกมามั๊ย มันพุ่งเข้าไปหาคนที่มันคุ้นเคยเท่านั้น แล้วถ้ามันมีอีกครั้งล่ะ มันต้องพุ่งมาที่หมู่บ้านนี้อย่างไม่ต้องสงสัย เดาว่ากำแพงน่าจะต้านเอาไว้ไม่ได้นานหรอก 
Joshua - งั้นผมอยู่เฝ้าที่นี่ Phoenix จะดูแลคนของคุณให้ปลอดภัยเอง Tributary 
Shula - ขอบคุณอย่างมากเลยค่ะ 
Clive - งั้นเราควรรีบเดินทางกันเลย เวลาให้ความหวาดกลัวไม่ใช่เรื่องดีที่ต้องทนกันไปได้เรื่อยๆหรอกนะ 


Shula - การไปที่ The Vare ไม่ใช่เรื่องง่าย เราต้องออกทางประตูทิศเหนือ มุ่งขึ้นเหนือ และตะวันตก จากนั้นก็ต้องเข้าป่าลึกอีก 


                 📗 New Haven Sidequest unlock !

Sidequest : The Uninvited Guest  
Sidequest : Roles of Honor
Special Sidequest : What Ails you
Special Sidequest : Bird of Passage 


                📗  Sidequest : The Uninvited Guest  



Jamila - คือ ชั้นมีเรื่องจะรบกวนขอความช่วยเหลือคุณหน่อยน่ะค่ะ 
Clive - ได้สิ มีเรื่องอะไรงั้นหรอ?
Jamila - เอ่อ อย่าพูดดังไปค่ะ 
Clive - งั้นนี้ก็เรื่องซีเรียสสินะ 
Jamila - ใช่ค่ะ ชั้นคิดว่าเราอาจจะมีคนนอกแอบเข้ามา ตอนที่ชั้นกำลังเดินแถวประตูทางทิศใต้ชั้นเห็นร่างใครไม่รู้เคลื่อนไหวอยู่ไกลๆ ใส่เสื้อคลุม ตอนแรกชั้นคิดว่าเป็นพวกของคุณก็เลยไม่ได้ใส่ใจ แต่ พอคิดมาคิดไปเหมือนรูปร่างที่เห็นมันคุ้นๆมากเลยค่ะ


Clive - คุณแน่ใจน่าว่าไม่ใช่ชาวบ้านคนอื่นน่ะ?
Jamila - พูดตรงๆชั้นคิดว่าเป็นคนนอกที่พยายามแอบเข้ามามากกว่า ซึ่งมันอาจเป็นแค่จินตนาการของชั้นเพราะเห็นแค่แว๊บเดียวอาจจะเป็นคุณหรือน้องของคุณก็ได้ แต่ถ้าเป็นคนที่ชั้นคิดว่าเป็นเราจะปล่อยให้เขาไปทั้งที่รู้ความลับของเราแล้วไม่ได้นะ คุณจะช่วยไปเช็คดูให้หน่อยจะได้มั๊ยคะ เขาจะไม่ทำร้ายคุณแน่นอน ชั้นรับประกันเลย เขาแอบในป่าคนเดียวอาจจะบาดเจ็บก็ได้ 
Clive - งั้นก็ได้ จะเป็นคนที่พยายามเข้ามา ชาวบ้านของคุณหรือคนของผมก็เถอะ ไม่ว่าคนที่คุณเห็นจะเป็นใครเราก็ควรไปดูให้รู้แน่ไปเลย เพื่อความปลอดภัย
Jamila - แต่ ถ้าคุณเจอใครก็ตามข้างนอกนั่น สัญญากับชั้นก่อนว่าคุณจะไม่ทำอันตรายเขา 
Clive - ไม่ต้องห่วงผมจะไม่ชักดาบถ้าไม่จำเป็น 
Jamila - ขอบคุณค่ะ
Shula - Jamila คนที่เธอให้ใช้ลูกค้าของเธอที่เธอบอกกับชั้นรึเปล่า?
Jamila - ก็เกรงว่าจะ ....
Clive - ลูกค้า ?
Shula - เดี๋ยวชั้นอธิบายให้ฟังทีหลัง เราไปกันเถอะ 


➽ เดินทางออกไปทางประตูทางทิศใต้ของหมู่บ้าน 


Clive - ขวดหรอ? Breath of the Arbor น้ำหอมจาก Sanbreque แพงไม่ใช่เล่นเลยนะ 


             Clive - ใครอยู่ตรงนั้นน่ะ !? หยุดเดี๋ยวนี้นะ !! 


????? - ช่วยด้วย !! ผมกำลังจะถูกกินแล้ววว !!
Clive - อดทนไว้ก่อน ชั้นจะไปช่วยเดี๋ยวนี้แหละ !!


Clive - นายโอเคนะ ?
????? - ยิ่งกว่าโอเคอีกครับ ผมรอดแล้ว โอ้ ผมควรจะจูบคุณเลยนะแบบนี้ 
Clive - เริ่มจากแนะนำตัวเองก่อนมั๊ยว่านายเป็นใคร !?


Jamila - Herve !! กะแล้วว่าต้องเป็นคุณ คุณมาทำอะไรที่นี่เนี่ย??
Herve - ก็มาหาคุณไงที่รัก ไมได้เจอกันนานแล้วนะ
Jamila - ขอบคุณนะคะที่ช่วยเขาไว้ 
Clive - แล้วตกลงสรุปว่าเขาคือใครครับ?
Jamila - Herve คือ หนึ่งในลูกค้าจำนวนมากของชั้นจากที่ทำงานนอกกำแพงค่ะ 
Herve -หนึ่งในลูกค้าจำนวนมากเนี่ยนะ? โห เมื่อคืนเรายังวางแผนอนาคต กระซิบเพลงรักข้างๆหูกันและกันอยู่เลย แล้วจู่ๆคุณก็หายไปไม่ลากันซักคำ 
Jamila - ชั้นก็ทิ้งจดหมายเอาไว้ให้แล้วไง ชั้นก็บอกแล้วว่าชั้นขอโทษที่เราไม่สามารถอยู่ร่วมกันได้เพราะชั้นไม่มีวันทิ้งครอบครัวของชั้นแน่นอน ชั้นบอกแล้วว่าไม่ต้องตามหาชั้น แล้วคุณรู้จักที่นี่ได้ยังไง? 
Herve - แสงแห่งรักนำทางผมมายังไงล่ะ 
Jamila - Herve !!


Herve - ตอนนั้นผมกำลังเดินแถวชายหาดใกล้กับ Northreach แล้วผมก็เห็นผู้หญิงคนนึงที่มีรูปร่างเหมือนกับคุณ ดวงตาสีน้ำทะเล ผมขาวราวกับหิมะ แล้วจู่ๆเธอกับเพื่อนของเธอก็พายเรือหายไปในเกลียวคลืน ผมเลยรีบหาเรือพายตามไปทันทีเลย 
Clive - น่าจะเป็นตอนที่ Shula พาพวกเรามาที่นี่แน่ๆเลย คือ คุณพายเรือข้ามอ่าวมาเพียงเพราะเห็นผู้หญิงผมสีขาวเนี่ยนะ ?
Herve - พอผมผ่านเข้ามาท้องฟ้าที่เป็นสีเทาหม่นหมองก็เริ่มเป็นสีฟ้าสดใสทันทีเลย นั่นทำให้ผมรู้ว่าแม่นกน้อยของผมอยูไม่ไกลแล้ว 


Jamila - ทำไมคุณถึงตามมาอีก คุณน่าจะลืมชั้นได้แล้ว เหมือนที่ชั้นก็พยายามจะลืมคุณอยู่นะ ยังไงชั้นก็ทิ้งคนของชั้นไม่ได้หรอก Herve และตอนนี้คุณก็มาดันรู้เรื่องความลับของสถานที่นี้แล้ว เราต้องพาคุณกลับไปที่หมู่บ้านเพื่อให้พ่อแม่ของชั้นเป็นคนตัดสินเรื่องนี้   
Herve - จะพาผมไปเจอพ่อแม่คุณหรอ? โอ้แม่นกน้อยของผม
Jamila - เอาล่ะตามชั้นมา Herve ส่วนคุณเดี๋ยวเราค่อยมาคุยเรื่องรางวัลของคุณกันตอนนี้ขอกลับไปเคลียร์เรื่องนี้ก่อนนะ 


Jamila - ต้องขอโทษด้วยนะคะ 
Clive - คุณไม่จำเป็นต้องขอโทษหรอกครับ ผมเดาว่าคุณสองคนเจอกันที่ The Veil ใช่มั๊ย?
Jamila - ใช่ค่ะ ชั้นเคยทำงานที่นั่น ทั้งหมดก็เพื่อเงินที่ทำให้คนของชั้นอยู่รอด ด้วยเหตุผลนี้หลายคนต้องออกไปทำงานนอกกำแพง แต่น้อยคนมากที่จะให้โอกาสกับคนแปลกหน้าอย่างพวกเรา 
Clive - คุณก็เลยต้องทำเพื่อสนับสนุนครอบครัวของคุณอย่างดีที่สุด 
Jamila - ใช่ค่ะ แล้วชั้นก็ไม่เคยเสียใจเลยซักนาทีเดียว และชั้นก็มี The Veil ที่เป็นเสมือนครอบครัวและ The Dame ที่เป็นเสมือนแม่คนที่สองของชั้น จนชั้นได้พบกับ Herve ชั้นไม่เคยคิดว่ามาก่อนเลยว่าความรักของเราจะทำให้คนของชั้นอาจได้รับอันตราย 
Clive - แล้วตกลงคุณจะเอาไงกับเขาล่ะ?
Jamila - ใน Mysidia ของเราก็มีบ้างที่มีคนหลงเข้ามา ทั้งนักสำรวจ พวกคนที่รอดตายจากเรือล่ม แต่สุดท้ายก็ไม่มีใครอยู่ที่นี่ได้นาน 


Shula - เรื่องแบบนั้นมันเกิดก่อนรุ่นของชั้น คุณเข้าใจนะ ชั้นเลยไม่เคยตัดสินใจเรื่องอะไรแบบนี้มาก่อน Jamila ชั้นจะไม่ตำหนิเธอเรื่องนี้หรอกนะ เพราะชั้นเองก็ตัดสินใจเดินทางออกไปข้างนอกและเปิดเผยความลับของเราไม่ต่างกัน ทั้งหมดเป็นความผิดของชั้นเอง และชั้นจะรับผิดชอบเรื่องทั้งหมด้วยตัวเอง 
Jamila - ขอบคุณค่ะ Tributary ชั้นหวังว่าคุณจะเข้าใจว่า Herve ไม่ได้มีเจตนาร้าย เขาเป็นแค่คนโง่คนนึง คนโง่ที่รักชั้น 
Shula - ชั้นจะรับไว้พิจรณา แต่จะฟังแต่เสียงของเธออย่างเดียวไม่ได้หรอกนะ ครอบครัวของคุณก็ต้องตัดสินด้วย คงต้องใช้เวลาในการหารือกันซักพัก หวังว่าเธอคงเข้าใจนะ 
Jamila - ขอบคุณค่ะ Tributary ไม่ว่าจะใช้เวลานานแค่ไหนชั้นก็จะรอ และ ขอบคุณนายท่านมากที่ทำให้เราได้อยู่ด้วยกันอีกครั้ง 


                         📗  Sidequest : Roles of Honor


Qatav - บ้าเอ้ย ที่ชั้นทำบ้าอะไรลงไปเนี่ย? อ่า คุณ คุณช่วยผมได้มั๊ย?  Shula บอกคุณมีฝีมือ จริงมั๊ย?
Clive - ถามทำไมหรอครับ?
Qatav - อ่อ โทษที ผมลืมแนะนำตัวไป ผมชื่อ Qatav ตอนนี้ผมกำลังห่วงเพื่อนร่วมงานผมมาก เข้าไปในป่านานแล้วยังไม่กลับมาเลย คุณจะช่วยตามหาเขาให้หน่อยได้มั๊ย?
Clive - จะลองดูก็แล้วกันครับ ว่าแต่มีอะไรที่ผมต้องรู้อีกม๊ย?
Qatav - โอเค เอ่อ คุณพอจะรู้จัก Glamour มนต์บังตาที่บรรพบุรุษของเราใช้ในการซ่อนสถานที่นี้ใช่มั๊ย? 
Clive - Shula เคยเล่าให้ฟังบ้างแล้วครับ 
Qatav - ดีแล้ว ระหว่างทางคุณจะเห็น Cairns ที่ตั้งอยู่ตามจุดต่างๆ มันเป็นเสาหินที่เป็นตัวส่งต่อมนต์นี้ และผมกับเพื่อนมีหน้าที่ดูแลมัน ถ้าไม่ใช่เพราะเรามันคงจะหายไปนานแล้วล่ะ 
Clive - งั้นคนของคุณที่หายไปในป่าก็เพราะไปดูแลพวก Cairns เหล่านี้สินะ?


Qatav - ใช่เลยครับ เขาเพิ่งมุ่งหน้าไปทาง Father’s Fell แถวๆนั้นมี Cairns 2 จุดที่เขาต้องดูแล อันนึงอยาที่ริมแม่น้ำ Swiftrun และอีกอันอยู่ใกล้ๆ Winged wains 
Clive - เข้าใจแล้ว แล้วเพื่อนของคุณมีลักษณ์ยังไง?
Qatav - เขาชื่อ Nasef สูงพอๆกับผมแต่ไม่มีหนวดเครา ถ้าคุณเจอเขาแล้วเขาไม่บาดเจ็บก็คงดี เพราะไม่งั้นผมต้องเป็นคนรับผิดชอบเรื่องที่เกิดขึ้น ระหว่างคุณออกไปตามหาในป่า ผมจะลองหาในหมู่บ้านอีกรอบก็แล้วกัน 


➽เดินทางออกทางประตูทิศเหนือ ตามไปสำรวจที่ Winged wains 


Clive - นี่คือ Cairns ที่ Winged wains สินะ แต่ไม่มีวี่แวว Nasef เลย ลองไปดูอีกจุดแถวแม่น้ำ Swiftrun ก็แล้วกัน 


Clive - โทษทีครับผมมาตามหาคนชื่อ Nasef
นายพราน - เอ่อ ผมรู้จักเขา เขาเป็นคนดูแล Cairns นี่คุณคงไม่คิดว่าผมเป็นเขาใช่ป่ะ ไม่ใช่ๆ ผมแค่มาล่าสัตว์แถวนี้ คุณอยากเจอเขาทำไมหรอ?
Clive - Qatav เพื่อนของเขาขอให้ผมมาตามน่ะ เห็นว่าออกมาทำงานแล้วไม่กลับไปนานแล้ว คุณเป็นพรานใช่มั๊ย คุณน่าจะรู้จักป่าแถวนี้ดี คุณพอจะเดาได้มั๊ยว่าเขาหายไปไหน?
นายพราน - มันมีสะพานไปทางนั้นไม่ไกล มันพังมาหลายเดือนแล้ว ช่างของเราเพิ่งซ่อมมันเสร็จ ถ้าจำไม่ผิดแถวนั้นก็มี Cairns อยู่ด้วย บางทีเขาอาจจะไปทางนั้นก็ได้ 
Clive - ไปตรวจดูซะหน่อยก็ไม่เสียหาย ขอบคุณนะครับ 


➽เดินทางไปสำรวจที่จุดแถวแม่น้ำ Swiftrun อยู่ในพื้นที่ Rivermmeet ซึ่งเป็นพื้นที่ใหม่ที่เพิ่งเปิดออก 


???? - ออกไปให้พ้นนะไอ้พวกบ้า !!
Clive - รอก่อนผมกำลังไปช่วย !


???? - เฮ้ออ รอดแล้ว ขอบคุณครับ เอ่อ คุณคือ ...
Clive - ผมคือแขกของ Tributary ส่วนคุณคงจะเป็น Nasef 
Nasef - ใช่ครับ ว่าแต่ คุณรู้จักชื่อผมได้ไง?
Clive - Qatav เพื่อนของคุณขอให้ผมมาตามน่ะ เห็นออกมานานแล้วไม่กลับไปซะที
Nasef - อ่อ โทษทีที่ทำให้ต้องลำบากนะครับ พอดีผมมัวแต่ตรวจสอบ Cairns เลยไม่ทันเห็นพวกตัวประหลาดที่บุกเข้ามา 
Clive - แล้ว Cairns พวกนี้มันทำงานยังไงหรอ?
Nasef - มันมีคริสตัลอยู่ข้างในเป็นตัวขับเคลื่อน มนต์บังตา glamour ให้แสดงพลังออกมาน่ะครับ ถ้าในกรณีมันดูดซับ aether มากเกินไปสิ่งที่ห่อหุ้มมันเอาไว้ก็จะหลุดออก หน้าที่ของเราคือดูแลไม่ให้มันเป็นแบบนั้นครับ 
Clive - มันเป็นงานที่สำคัญก็จริง แต่ชีวิตคุณก็สำคัญนะ ถ้าคุณตายไปมันก็ไม่คุ้ม คุณต้องดูแลตัวเองมากกว่านี้ 
Nasef - ใช่ครับ เรื่องนั้นไม่เถียงเลย จริงๆแล้วผมจะทำงานพร้อมกับ Qatav เพื่อดูแลซึ่งกันและกันแต่พอได้ข่าวว่าจะมีคนนอกมา เราก็เลยต้องแยกกันเพื่อทำงานให้เสร็จเร็วที่สุดเพื่อความพร้อมกับการมาถึงของพวกคุณน่ะครับ  มันงี่เง่า ผมรู้ดี 


นายพราน - โอ่ คุณเจอเขาแล้วสินะ
Clive - ดูเหมือนการมาของพวกผมจะทำให้เขากลับไปไม่ทันอาหารเย็นอ่ะนะ 
นายพราน - วันนี้เหมือนป่าจะเต็มไปด้วยตัวประหลาดเยอะเป็นพิเศษ ผมว่าน่าจะมีใครซักคนช่วยคุ้มกันคุณกลับหมู่บ้านนะ 
Nasef - ถ้าคุณกลับไปถึงหมู่บ้านเมื่อไหร่ก็แวะไปหาพวกผมหน่อยนะ ผมมีรางวัลเล็กๆน้อยที่จะให้ในฐานะที่คุณช่วยชีวิตผมน่ะ 

🔳หมู่บ้าน Haven 


Qatav - อ่า ขอบคุณมากนะครับ Nasef บอกผมทุกเรื่องแล้วล่ะ 
Clive - ไม่เป็นไรครับขอให้ Nasef ปลอดภัยก็พอแล้ว มันอาจจะไม่เหมาะถ้าจะให้ผมพูดเรื่องงานของคุณ แต่ อย่าออกไปทำคนเดียวอีกนะ
Nasef - ถ้าจำเป็นจริงๆบางทีเราอาจใช้ glamour เพื่อให้สัตว์ร้ายไม่เห็นเรา แน่นอนว่าอาจจะมีเสียบ้างแต่ก็ยังดีกว่า Cairn พังลงมาแล้วต้องร่ายมนต์ใหม่ทั้งหมด 
Qatav -ชั้นก็ไม่อยากจะเหนื่อยที่ต้องเพิ่มคริสตัลเป็นสองก้อนเหมือนกัน 
Clive - คุณเป็น Bearers งั้นหรอครับ?
Qatav - ใช่เราเป็น ซึ่งก็ต้องขอบคุณที่คนอื่นๆในเผ่าไม่มีใครสามารถจัดการคริสตัลใน Cairns ได้ดีเท่าเรา ดังนั้นที่นี่จึงขาดเราไม่ได้ยังไงล่ะ 
Clive - แล้ว คุณทำงานนี้เพื่อประโยชน์ของทุกคน? หรือว่าเพราะ 
Nasef - ถูกบังคับหรอ? ถ้าข้างนอกน่ะใช่แต่ใน Mysidia ไม่มีทางเป็นแบบนั้นแน่นอน เราไม่ได้มีคนมากมายอะไร เรื่องทะเลาะกันก็มีบ้าง นอกจากเรื่องงี่เง่าๆเล็กๆน้อยๆ เรื่องอื่นๆไม่มีแน่นอน 
Qatav - ยังไงซะวันนี้ก็จบลงด้วยดี  ขอบคุณที่ทำให้เราทั้งคู่ยังมีชีวิตอยู่เพื่อทำหน้าที่ซ่อนที่นี่ให้เป็นความลับต่อไปก็แล้วกันครับ 


ตอนนี้สามารถสำรวจพื้นที่ Rivermmeet ที่เป็นพื้นที่เปิดใหม่ได้แล้ว ที่นี่มี The Hand of Tethys 


 ▓ Trial by Water สถานที่ทดสอบพลังของ Leviathan อยู่ใกล้ทางออกไปยัง Tailwind Bay ทางทิศเหนือ 


รางวัลในการผ่าน Trial by Water คือ The Favor of Water (Tsunami) เครื่องรางที่ทำให้ท่า Tsunami ของ Leviathan รุนแรงขึ้น 7 %


                     🐤  Special Sidequest : Bird of Passage



Manda - คุณก็เป็นไรเดอร์สินะ ?
Clive - ใช่ แล้วรู้ได้ไงล่ะ?
Manda - ชั้นได้กลิ่นโจโคโบะมันลอยออกมาจากตัวคุณเลยล่ะ และไม่ใช่แค่กลิ่นนะ แต่มีบางอย่างบอกชั้นว่า โจโคโบะที่คุณเคยขี่ไม่ใช่กระจอกงอกง่อยด้วย ถ้าให้เดานกของคุณคงจะกินแต่ผักสีเขียวอย่างดีและขนของมันก็สวยงามเพราะถูกเอาใจใส่แปรงขนให้วันละสองครั้งต่อวันด้วย 
Clive - สำหรับ Ambrosia ของชั้นไม่มีอะไรที่ชั้นจะทำให้ไม่ได้หรอก
Manda - Ambrosia หรอ ชื่อน่ารักมาก แล้วเธอมีลักษณะยังไงหรอ?
Clive - เอ่อ ก็ ตัวสูงใหญ่ แข็งแรง ขนสีขาวเหมือนหิมะ 
Mannda - นี่คุณล้อเล่นเปล่าเนี่ย คุณมีโจโคโบะสีขาวงั้นหรอ?
Clive - ชั้นรู้ว่ามันหายาก แต่ ใช่ ชั้นมี 
Manda - ชั้นอยากเห็นจัง พามันมาที่นี่ได้ป่ะ !!?
Clive - ถ้าทำได้ชั้นคงทำไปแล้ว แต่เรือของ Shula น่าจะเอาไม่อยู่หรอก
Mannda - พ่อของชั้นมีเรือ เขาเคยขนส่งโจโคโบะมาแล้ว คุณลองไปคุยกับเขาดูให้เขาพาเธอมาที่นี่เลย และตอนนี้ยิ่งเหมาะเพราะพ่อกลับเตรียมเดินทางออกนอกกำแพงอยู่พอดี ชั้นมั่นใจว่าถ้าคุณขอร้องเขาพ่อต้องช่วยแน่นอน
Clive - เขาจะช่วยจริงอ่ะ? ชั้นก็ว่ามันคงจะดีเหมือนกันนะถ้ามี Ambrosia อยู่ข้างๆ โอเค แล้วชั้นจะหาพ่อเธอได้ที่ไหน?
Manda - พ่ออยู่ที่โกดังเก็บของที่อยู่อีกฝากของลำธาร บอกเข้าว่า Manda ส่งคุณมา 


พ่อของ Manda - คุณคือหนึ่งในพวกคนนอกที่เพิ่งเข้ามาสินะ?
Clive - ใช่ครับ Shula เชิญผมมา และคุณคือพ่อของ Manda ใช่มั๊ย?
พ่อของ Manda - ใช่แล้ว คุณได้ไปทำธุระให้เธอเสร็จแล้วใช่มั๊ย?
Clive - เปล่าครับ คือ เธออยากเห็นโจโคโบะของผมเลยขอให้คุณเอาเรือไปรับมันมาที่นี่ 
พ่อของ Manda - หรือคุณอาจเพียงแค่พูดว่า ไม่ เดี๋ยวนกของเธอก็จะโตขึ้นแล้วก็มีขนงอกสวยงามเองสาวน้อย อะไรแบบนี้
Clive - ถ้าให้พูดตรงๆผมก็คิดว่าถ้ามี Ambrosia อยู่ที่นี่ด้วยก็คงจะดีผมจะได้ใช้ขี่เดินทางไปไหนมาไหนได้ด้วย แล้วคุณพอจะช่วยได้มั๊ย?
พ่อของ Manda - ถ้าคุณต้องการแบบนั้น Tributary สั่งไว้ว่าให้พวกเราช่วยเหลือคุณ ถ้าคุณจะให้ผมเอาเรือไปรับโจโคโบะของคุณมา ผมก็จะทำให้ แต่ถึงกระนั้นพวกนกมันก็ไม่ยอมจะลงน้ำง่ายๆหรอกนะ ผมต้องใช้ mimett gourd ประมาณสองผลเพื่อให้เธอสงบในการลงเรือเดินทางน่ะ 
Clive - แล้วผมจะไปหามันได้จากที่ไหนอ่ะครับ?
พ่อของ Manda - อย่ามาถามผมเลย ผมเคยเอาโจโคโบะขึ้นเรือเมื่อนานมาแล้ว ตอนนี้อะไรๆก็เปลี่ยนไปเยอะ แล้วโดยปกติคุณหามันได้จากที่ไหนล่ะ?
Clive - ถ้าพูดเรื่องของอาหารของโจโคโบะก็คงต้องนึกถึงเจ้าของคอกโจโคโบะสินะ  ...อืมมม คนที่เจอ Ambrosia เป็นคนแรกก็คือเจ้าของคอกที่ Martha’s Rest ถ้าจำไม่ผิดเขาก็มีอาหารของโจโคโบะขายเหมือนกัน ผมคงต้องไปถามเขาดูว่าพอจะมี mimett gourd มั๊ย 
พ่อของ Manda - ผมจะไปซื้อสินค้าแถวๆชายฝั่ง Nortreach คุณไปเอานกของคุณและ mimett gourd มาให้พร้อม ผมจะรอ แต่อย่านานนักล่ะ  เข้าใจนะ?


➽ เดินทางไปที่ Martha’s Rest


Rowan - อ้าว ผมจำคุณได้ คุณคือคนที่ช่วยเจ้า Whiteheart นี่ เป็นไงมันสบายดีมั๊ย?
Clive - สบายดีครับ ขอบคุณครับ
Rowan - ไม่ต้องขอบคุณผม คุณต่างหากเป็นคนช่วยเธอ ว่าแต่คุณมาที่นี่ทำไมหรอ?
Clive - ผมตั้งใจจะมาหาซื้อ mimett gourd น่ะครับ เผื่อคุณจะบอกได้ว่าจะหามันได้จากที่ไหน
Rowan - โอ้ ผมทำได้ดีกว่านั้นอีก ผมมีเต็มคันรถเลยไม่ค่อยมีใครสนใจซื้อมันเลยเนี่ย คุณช่วยเอาไปน่ะดีแล้วก่อนมันจะเน่าเสียอ่ะนะ แต่ก็ต้องระวังพวกนกป่าให้ดีๆล่ะ ผมไม่อยากให้มันไล่ตามคุณเหมือนที่มันทำกับผม 
Clive -  ขอบคุณมากครับ
Rowan - ไม่ต้องขอบคุณ เพื่อนของเจ้า Whiteheart ก็เหมือนเพื่อนของผมนั่นแหละ และในเวลาแบบนี้เพื่อนก็ควรมาอยู่ใกล้ๆกัน นั่นแหละสมควรสุดแล้ว  


พ่อของ Manda - อ่า คุณมาแล้ว งั้นนี่ก็คงเป็น Ambrosia สินะ ว้าว มันงดงามจริงๆด้วย 
Clive - ผมได้ mimett gourd มาด้วย นี่ครับ 
พ่อของ Manda - เยี่ยมเลย ทันทีที่เธอกินมันจนหมดเราก็จะเริ่มออกเดินทางกันเลย
Clive - เรามีทริปนั่งเรือข้ามอ่าวกันนิดหน่อยนะ  Ambrosia ไม่ต้องห่วงแกจะไม่เป็นไรแน่นอน 

🔳หมู่บ้าน Haven 


Clive - เราทำสำเร็จ นี่ไงล่ะ Ambrosia
Manda - คุณทำสำเร็จจริงๆด้วย ว้าวขนมันสีขาวอย่างกับหิมะ สวยมากๆเลยนะสาวน้อย 
พ่อของ Manda - ใจกล้าไม่ใช่เล่นด้วย เธอสงบมาตลอดการเดินเรือตั้งแต่ต้นจนจบเลยนะ mimett gourd อาจจะช่วยนิดหน่อยแต่ถ้าใจไม่นิ่งจริงๆเจอน้ำคงดิ้นไปแล้ว แต่ไม่ใช่รายนี้ 
Clive - Ambrosia ผ่านอะไรๆมาเยอะมาก ผมไม่แน่ใจว่าจะมีอะไรทำให้เธอตกใจได้อีกหรือเปล่าอ่ะนะ 
Manda - เพราะเธอได้อยู่เคียงข้างเจ้านายที่เธอรักที่คอยดูแลเธอด้วยแหละ 


Clive - เปล่า เธอต่างหากเป็นคนดูแลชั้น จริงมั๊ยสาวน้อย?
Manda - ยังไงก็ขอบคุณที่พาเธอมาที่นี่นะ ซักวันชั้นจะเลี้ยงนกให้สวยเหมือนเธอให้ได้คอยดูสิ
พ่อของ Manda - ถ้าคุณต้องการจะนำเจ้า Ambrosia กลับ Northreach ก็บอกผมได้ตลอดเลยนะ เดี๋ยวไปส่งให้ 
Clive - ขอบคุณครับ แต่เราจะลุยด้วยกันที่ Mysidia ด้วยกันจนจบงานเลย เธอจะว่าไง Ambrosia?


หลังจบภารกิจนี้ Clive จะสามารถเรียก Ambrosia มาใช้เดินทางใน Mysidia ได้แล้ว 


                        👥 Special Sidequest : What Ails you



Fanet - พยายามหายใจไว้นะคะ 
Clive - เขาเป็นอะไรหรอครับ?
Fanet - อ่อ คุณคนต่างถิ่นนี่เอง ชั้นชื่อ Fanet เป็นหมอของที่นี่ และนี่คือ Talor คนไข้ของชั้นเอง เขาเพิ่งเริ่มป่วยหลังจากที่คุณมาที่นี่ไม่นาน 
Clive - หวังว่าคงไม่เป็นอะไรร้ายแรงนะ ใช่มั๊ย?
Fanet - ชั้นก็หวังอย่างงั้น แต่ ..มันเป็นอาการที่ชั้นไม่เคยเจอมาก่อน เขาบอกว่าเจ็บไปถึงกระดูก แน่นหน้าอก แต่ก็ไม่มีไข้ ยาแก้ปวดที่แรงที่สุดของชั้นก็บรรเทาอาการเจ็บหน้าอกของเขาไม่ได้เลย ชั้นเริ่มสงสัยแล้วว่า เขาอาจต้องใช้วิธีการรักษาแบบทางเลือกแทน Shula บอกว่าคุณมาที่นี่เพื่อช่วยพวกเรา แล้วคุณพอจะช่วยชั้นได้มั๊ย?
Clive - ถ้าผมทำได้ก็ยินดีครับ 
Fanet - ไม่ต้องห่วง คุณทำได้อยู่แล้ว คุณแค่ต้องไปคุยกับ Pavaat ช่างตีเหล็ก ลูกชายของ Talor เพื่อถามเขาว่าพ่อเค้าไปทำอะไรมาก่อนจะป่วย มันเหมือนมีบางอย่างทำให้เขาเป็นแบบนี้ ชั้นต้องรู้ว่ามันคืออะไร ปัญหาคือ Talor แกอ่อนแอเกินกว่าจะพูด และชั้นก็ทิ้งแกไปไม่ได้ด้วย คุณลองไปคุยกับ Pavaat ส่วนชั้นจะลองคุยกับ Wyrda เมียเขา เพื่อจะรู้อะไรเพิ่มเติมบ้าง  


Pavaat - อ่า คุณนั่นเอง ต้องการให้ช่วยอะไรหรอครับ?
Clive - มีครับ แต่ไม่เกี่ยวกับการตีเหล็ก Fanet บอกให้ผมมาสอบถามเรื่องอาการป่วยของพ่อคุณน่ะ 
Pavaat - อืมม ต้องขอโทษด้วยนะ เธอไม่ควรดึงคุยมาเกี่ยวกับเรื่องนี้ด้วยเลย
Clive - ไม่เป็นไรครับ ว่าแต่พอรู้มั๊ยว่าพ่อของคุณไปทำอะไรมาก่อนที่เขาจะป่วยแบบนี้?
Pavaat - ผมไม่แน่ใจว่ารู้มั๊ยนะ แต่เขามักจะออกไปนอกหมู่บ้านอยู่ตลอด จนช่วงหลังดูเหมือนจะชี้หงุดหงิดมากขึ้น 
Clive - ออกไปข้างนอกบ่อยๆนี่เขาไปไหนครับ?
Pavaat - ก็รอบๆหมู่บ้านนี่แหละ ส่วนใหญ่จะไปบ้านของ Blasir เพื่อนเก่าของเขาซึ่งเป็นชาวประมงอยู่อีกฝากของน้ำพุนั่นแหละ บางทีเขาอาจจะรู้อะไรที่ผมไม่รู้ก็ได้
Clive - งั้นผมจะลองไปคุยกับเขาดู


Blasir - สวัสดีคนแปลกหน้ามีอะไรให้ผมช่วยเรอะ?
Clive - คุณคือ Blasir ใช่มั๊ยครับ Pavaat บอกว่าคุณเป็นเพื่อนซี้กับพ่อเขา ผมเลยอยากจะถามอะไรคุณนิดหน่อยเกี่ยวกับอาการป่วยของเขาน่ะ 
Blasir - บอกตรงๆว่าที่ผ่านมาตั้งแต่หนุ่มๆจนถึงตอนนี้ Talor ไม่เคยป่วยเลยนะ ผมก็แปลกใจว่าทำไมเขาถึงมาป่วยแบบนี้ได้ 
Clive - Fanet เองก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่เธออยากรู้พฤติกรรมล่าสุดของ Talor เผื่อมันจะโยงไปที่สาเหตุของอาการป่วยเขาได้น่ะครับ
Blasir - ก็มีบางเรื่องนะที่ทำให้ผมแปลกใจเหมือนกัน เขาเอาแต่ถามเรื่องป่าบ่อยมาก แล้วก็ชอบถามว่าเห็นอะไรแปลกๆตอนกลับมาจากฝั่งนู้นมั๊ย แน่ใจนะว่าไม่เห็น  อะไรแบบเนี้ย เหมือนกับเขากำลังหวังว่าจะมีอะไรเกิดขึ้น แต่ผมก็ไม่รู้ว่าเรื่องอะไร เพราะเขาไม่เคยบอก
Clive - ฟังดูไม่น่าจะใช้เรื่องปกติแน่นอนแบบนี้ เดี๋ยวผมลงไปคุยกับ Fanet อีกทีว่าเธอได้ข้อมูลอะไรจากเมียเขามาบ้าง 


Fanet - ชั้นคุยกับ Wyrda แล้วแต่เธอไม่บอกอะไรเลย แล้วคุณล่ะได้อะไรมาบ้าง?
Clive - ไม่มีอะไรที่ชี้ชัดเลย แต่มีเรื่องนึงที่น่าสนใจ Blasir เพื่อนของเขาบอกว่าช่วงหลังๆมานี่ Talor ชอบพูดแต่เรื่องป่า และชอบถามว่าระหว่างที่ออกหาปลาเห็นอะไรผิดปกติบ้าง ถามแบบนี้ซ้ำๆกันตลอด 
Fanet - ป่าที่อยู่ระหว่างหมู่บ้านกับชายฝั่งงั้นหรอ?  อืมมม ...ยังไม่แน่ใจนะ แต่ชั้นคิดว่าอาการป่วยของ Talor น่าจะเกี่ยวกับพวก tonberries คุณอาจจะพอเจอพวกมันบ้างตอนมาที่นี่ ตัวเล็กๆถือมีด
Clive - คุณคิดว่าพวกมันทำให้ Talor ป่วยหรอ?
Fanet - เป็นการคาดเดานะแต่ก็ใกล้เคียงที่สุดแล้ว ทางเดียวที่จะรู้แน่คือคุณลองไปตามหาพวกมันแถว Father’s Fell ดูเผื่อจะได้เบาะแสอะไรบ้าง ถ้าที่ชั้นคิดถูก แถวนั้นมีแท่นบูชาที่พวกมันใช้ทำพิธีบางอย่างอยู่ และช่วยอธิบายทุกอย่างที่คุณเห็นให้ชั้นฟังตอนกลับมาก็แล้วกัน และอย่าลืมเอาสิ่งของอะไรก็ตามในแท่นบูชาออกด้วย ชีวิตของ Talor อาจขึ้นอยู่กับมัน 


➽เดินทางออกจากหมู่บ้านทางประตูทิศเหนือมาที่ The Green Altar ตามเป้าหมายของภารกิจ 



Clive - พวกมันทำบ้าอะไรกันเนี่ย? เหมือนทำพิธีกรรมอะไรซักอย่าง ขอโทษที่มาขัดจังหวะก็แล้วกัน 


                     กำจัดฝูง Tonberry Chopper ให้หมด 


Clive - เอาล่ะ คงหมดแล้วนะ ไหนดูสิที่แท่นพิธีมีอะไร? สร้อยเงินงั้นหรอ? เดาว่าพวก Tonberry น่าจะทำมันขึ้นมา และคงจะเป็นสิ่งที่ Fanet บอกเอาไว้ 


Fanet - อ่า คุณกลับมาแล้ว ไง ได้อะไรบ้าง?
Clive - ผมเจอสร้อยเงินจากแท่นบูชา นี่ไง
Fanet - ชั้นว่าแล้ว !!!
Clive - ผมก็ยังงงอยู่ดี 
Fanet - โทษทีค่ะ สร้อยนี้คือ Greagorian maternoster
Clive - สำหรับผู้ศรัทธา แล้วทำไมมันมาอยู่ที่นี่  และ Tonberry เอามันไปทำพิธีกรรมอะไรหรอครับ?
Fanet - คุณต้องเริ่มจาก ทำความเข้าใจพวก Tonberry ก่อน พวกมันกินความเกลียดชังและความทุกข์ทรมาน บางคนว่าถ้าคุณให้ของกับพวกเขาแล้วแสดงความคับข้องใจต่อใครบางคน พวกมันจะทำการสาปแช่งคนๆนั้นให้ 
Clive - คุณจะบอกว่ามีใครบางคนให้พวก Tonberry สาปแช่ง Talor งั้นหรอ?
Fanet - ชั้นบอกอย่างชัดเจนไม่ได้หรอกค่ะ เพราะมันเป็นแค่เรื่องเล่าเก่าแกเท่านั้น แต่พอเจอสร้อยที่แท่นบูชาของ Tonberry ชั้นก็คิดให้เป็นอย่างอื่นไม่ได้เลย 
Clive - แล้ว Talor มีศัตรูในหมู่บ้านนี้บ้างมั๊ย? คนที่มีความแค้นกับเขา
Fanet - ไม่น่ามีนะ และชั้นก็เชื่อว่าคนที่เอาสร้อยไปวางที่แท่นบูชาของ Tonberry ก็คงเป็น Talor เองนั่นแหละ ว่ากันว่าถ้าคุณสาปแช่งวิญญาณที่กลับสู่ท้องทะเลแล้ว คำสาปจะย้อนกลับมาที่ต้นตอแทน


Clive - คุณจะบอกว่าเขาสาปแช่งตัวเองอ่ะนะ
Fanet - เพื่อให้คำสาปตกไปถึงผู้อื่น ใช่ค่ะ 
Pavaat - ตอนที่พ่อของผมยังหนุ่ม เขาเป็นหนึ่งในมีกี่คนที่ได้รับอนุญาติให้ออกนอกกำแพงเพื่อไปค้าขาย เขาบอกว่าตอนที่ไปถึง Sanbreque เขาก็ได้สวยสร้อยนั่นเพื่อปกปิดความเชื่อของตัวเองเพื่อป้องกันไมให้พวก Greagorian ลงโทษ
Clive -แล้วพวกเขาเคยจับพ่อของคุณได้มั๊ย? บางทีอาการป่วยของเขาอาจเกิดจากใครบางคนจากพวกนั้น ?
Pavaat - เรื่องนั้นเขาไม่เคยบอกผมเลย 
Fanet - ชั้นว่าถึงตอนนี้แล้ว เราหยุดคาดเดาเรื่องในอดีตของ Talor เถอะ เราต้องมองที่ปัจจุบันนั่นคือ วิธีถอนคำสาปกันจะดีกว่า 
Clive - ก็ได้ครับ ถ้าได้เรื่องยังไงและอยากให้ผมช่วยบอกได้ตลอดนะครับ 
Fanet - ชั้นจะพยายามก็แล้วกัน ขอบคุณมาก

Pavaat - ผมก็อยากจะขอบคุณเหมือนกันที่นำปัญหาเรื่องพ่อมาให้ สิ่งนี้อาจจะไม่มากมายอะไรแต่ก็อยากให้คุณเก็บไว้ มันเรียดว่า adder stone มันจะทำปฎิกริยากับแร่ธาตหายากบางชนิดที่เราใช้ในการประดิษฐสิ่งของ เมื่อคุณพบสิ่งนี้กับตัวมันจะทำให้ แร่ธาตหายาก ส่งแสงและเสียงออกมาให้คุณได้เห็น คุณก็จะสามารถเข้าไปเก็บมันได้ และถ้าคุณเอามันกลับมาให้ผม ผมก็จะสร้างอุปกรณ์ดีๆให้คุณได้ถ้าคุณสนใจ


หลังจบภารกิจจะได้รับ Adder Stone อุปกรณ์ในการช่วยค้นหาแร่ธาตหายากที่เรียกว่า aquamarine


 พร้อมกับ Serpent Ring Design Draft แบบแปลนสำหรับสร้างเครื่องประดับจากแร่ aquamarine ที่ได้มา ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะเป็นเครื่องประดับเพื่อเสริมความสามารถของ Leviathan


จากนี้ ในขณะที่เดินทางหากคุณเห็น แสงสัญลักษณ์ เสียง หรืออาการสั่นของจอยออกมา ก็ลองสำรวจก็จะพบจุดที่มี aquamarine ซึ่งมีทั้งแบบตกอยู่และ อยู่ในตัวศัตรูที่ต้องกำจัดมันก่อนถึงจะได้มา 


         🔵 ตำแหน่งของ aquamarine ทั้ง 8 อันใน Mysidia

** จุดที่ต้องเอาชนะศัตรูเพื่อเก็บ Aquamarine
-เสือสายฟ้า Quindim
-เต่า Lesser Archelon



➽  เดินทางไปยังพื้นที่ Maiden’s March ตามจุดหมายของภารกิจจนถึงทางเข้าโปราณสถาน Aire of Hours



Shula - พวกคุณเห็นถ้ำตรงหน้านั่นมั๊ย? ไม่ว่าใครก็ตามที่เคยอยู่ที่นี่ได้แกะสลักหินเป็นบันได
Jill - เพื่อใช้ขึ้นไปด้านบนสินะ 
Clive - และ ไม่รู้ว่าสิ่งใดที่รอเราอยู่ที่นั่นด้วย  


                           🔳  The Aire of Hours



Shula - นั้นไง วิหารที่เวลาหลงลืม
Clive - และ The Vare ก็อยู่ข้างในสินะ?
Shula - ใช่ และคุณสามารถเห็นเส้นทางของเวทย์มนต์ได้จากทางเดินกลางของวิหารเลย


Clive - จิล เป็นอะไรรึเปล่า?
Jill - ชั้น เอ่อ ชั้นก็ไม่รู้เหมือนกัน อาจจะไม่มีอะไรก็ได้ 
Clive - โทษทีนะที่ถาม แต่ ทำไมต้องสร้าง The Vare ไว้ที่นี่ด้วยล่ะ?
Shula - คาถานี้เดิมใช้ร่ายใส่ Drake’s eye และที่นี่คือที่เดียวที่สามารถตรวจสอบด้วยตาเปล่าได้ตลอด เพราะมันมองเห็นได้จากระยะไกล 


                      ➽ เดินทางเข้าไปตามซากวิหาร 


                      กำจัด Boss : Master Tonberry 


                           กำจัด Boss : Hreidmar 





Clive - ที่นี่มัน ....มันถูกแช่แข็งด้วยการหยุดเวลา เหมือนกับ The Surge 


Shula - บาปอีกอย่างนึงของบรรพบุรุษของชั้น ..ไปต่อกันได้ยัง?


                          Jill - เดี๋ยวก่อน Shula ...


Jill - ก่อนที่เราจะข้ามเข้าไปในเส้นกาลเวลาที่หยุดนิ่งนั่น ชั้นอยากรู้ก่อนว่าเวทย์มนต์นี้มันทำงานยังไง?
Shula - เราจะไม่ถูกหยุดเวลาไปด้วยหรอก ถ้าคุณหมายถึงแบบนั้น เวทย์มนต์นี้มีผลในขณะที่ร่ายเท่านั้น ไม่ได้เป็นอณาเขตของเวทย์มนต์ 


Shula - ถ้าเราเข้ามาได้ นั่นก็หมายถึง อะไรบางอย่างก็เข้ามาได้เหมือนกัน 
Clive - อย่างที่เราเห็นระหว่างที่เรามาที่นี่สินะ?
Shula - หรือไม่ก็แย่กว่านั้น ...


🔳The Timeless Stones 


Jill - Leviathan เป็นคนทำหรอ?
Shula - แน่นอน เมื่อเขาเริ่มรู้แล้วว่าบรรพบุรุษของเราพยายามที่จะร่ายคาถาที่นี่ เขาเลยพยายามทำลายวิหารนี้ทิ้ง 
Clive - จากที่เห็น ดูเหมือนเขาจะทำได้แค่เกือบ


Clive - ชั้นได้แค่เดาว่าสถานที่นี่มันเป็นยังไงก่อนถูกโจมตี 
Jill - ที่นี่คงเป็นห้องสัการะ เหมือนที่ปราสาทของพ่อชั้น พวกนักบวชจะขึ้นไปแสดงธรรมเทศนาบนนั้น 




                              Clive - พระเจ้า ...


Jill - อย่างที่ชั้นคิดไว้จริงๆด้วย 
Clive - จิล ไม่รู้สึกอะไรกับ aether พวกนี้เลยหรอ?
Jill - รู้สิ เป็นความรู้สึกที่คุ้นเคย รู้สึกตั้งแต่ก่อนเข้ามาแล้วแต่ไม่แน่ใจ จนถึงตอนนี้ นายก็รู้สึกเหมือนกันสินะไคลฟ์? นางกำลังเรียกหาเราอยู่ 
Shula - คุณคงไม่ได้หมายถึงแม่มดใช่มั๊ย?


Jill - ใช่ ชั้นหายถึงนางนั่นแหละ แม้จริงๆแล้วนางจะเป็นมากกว่านั้น มากนั้นมากๆ นางเป็น Dominant ..Dominant ที่ควบคุม Eikon ซึ่งตอนนี้อยู่ทั้งในตัวชั้นและไคลฟ์ 
Clive - ว่าแล้ว ถึงว่าทำไมชั้นถึงไม่เห็น ใครกันจะมีอำนาจการหยุดเวลาได้อีก?
Jill - ไม่มีใครอีกแล้วนอกจาก Shiva แต่การที่ aether ต้องอดทนตลอดหลายปีที่ผ่านมา  ราวกับว่าเธอแบ่งปันมันให้กับคนอื่นเหมือนกับที่ Torgal ได้รับการแบ่งปันจากน้ำแข็งของชั้น 





Clive - สหายของ Shiva สินะ และดูเหมือนจะมีบางอย่างบอกชั้นว่า เขาไม่น่าจะเป็นสหายของเรา 


                          BOSS : Timekeeper


Clive - เอาล่ะ ทำลายมันซะ จะได้จบเรื่องนี้กันซักที  
Shula - เดี๋ยวก่อน คาถามันต้องอ่อนลงกว่านี้ ไม่งั้นไม่ได้ผล


Clive - แล้วเราจะมาที่นี่เพื่อ?
Shula - คุณเคยสงสัยมั๊ยล่ะว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับคลื่นยักษ์นี้ ถ้าชั้นคลายผลึกคาถาภายในครั้งเดียวน่ะ?


      Shula - ชั้นไม่คิดจะทำงั้นแน่ มันต้องใช้ความประณีตกว่านี้ 


    Shula - จาก ลมและแสง น้ำและดิน ขอให้ม่านน้ำแข็งจงจางลง 




               Shula - อ๊ากกก aether มันมากเกินไป !!


                Jill - เอ้านี่ !! .. ให้ชั้น ...ให้เราช่วยเอง !!


                           Shula - เกือบแล้ว !!



Clive - ได้ผลมั๊ย?
Shula - คิดว่าได้ผลนะ การเชื่อมต่อของสถานที่นี้กับเด็กถูกตัดขาดจากกันแล้ว นั่นหมายความว่า Waljas น่าจะ …


                     Ultima - ปลดปล่อยอีกหนึ่งแล้วสินะ 


Ultima - Leviathan ชิ้นส่วนนอกรีตที่สุดของเรา เทพเจ้าผู้ต้องมลทินเพราะน้ำมือมนุษย์ วิญญาณของมันถูกพันธนาการด้วยความโอหังของมันเอง จนมิธอสมาปลดปล่อย


Ultima -  ตอนนี้ ปล่อยให้บาปของมนุษย์ได้รับการไถ่ถอน ด้วยมือของผู้รับใช้ของพระเจ้า 


                                 Clive - ห๊ะ!! ไม่นะ ......


                      Clive - บ้าเอ้ย! อะไรอีกล่ะ!?



Jill - มันกำลังเกิดขึ้นแล้วใช่มั๊ย?
Clive - มันคือ ...
Shula - อะไร? มันเกิดอะไรขึ้น!?
Clive - เรื่องที่เรากำลังกลัวน่ะสิ .. Leviathan อยู่เหนือการควบคุมแล้ว 
Shula - ไม่นะ!


Clive - อย่าเพิ่งหมดหวัง เรื่องมันยังไม่จบ พวกเธอกลับไปที่หมู่บ้านแล้วบอกทุกคนหาที่ซ่อนตัวให้ดี 


       Clive - ส่วนที่เหลือ .... ส่วนที่เหลือปล่อยให้ ifrit จัดการเอง 


                                         The Surge 


🔳Cape Nepto 




Clive - หลังจากถูกจำคุกแปดสิบปี เป็นชั้นๆก็โกรธเหมือนกัน แต่ชั้นจะให้มันจบแบบนี้ไม่หรอกนะ Waljas ถึงเวลากลับบ้านแล้วเจ้าหนู 


                     Clive - ยังมัวแต่ห่วงเล่นอยู่ได้นะ !!


Clive - ชั้นไม่ได้จะมาทำร้ายเธอหรอนะ ... แม่งเอ้ย !! เฉียดไปนิดเดียวเอง !!  ... เอาล่ะ  พอได้แล้ว !!


                                    Clive - Waljas !!




Clive - ชั้นไม่ได้อยากจะทำแบบนี้หรอกนะ ก็หวังว่านายคงจะยกโทษให้ชั้นก็แล้วกัน !!






                                      BOSS: Leviathan 










                                  Shula - Waljas !!




                                   Jill - เขาน่ารักจัง 


          Clive -  แหม่ อยากให้เห็นเขาก่อนหน้านี้จังเลยอ่ะนะ 


Shula - ไคลฟ์ คือชั้น ... ชั้นไม่รู้จะขอบคุณยังไงดี 
Clive - ไม่เป็นไร เรารีบไปหาเบาะแห้งๆให้เขานอนดีกว่า ชั้นไม่อยากจะมอนสเตอร์ตัวน้อยนี้เป็นหวัดน่ะ 


🔳หมู่บ้าน Haven 



Shula - เขาหลับไปแล้วล่ะ 
Jill - ก็เจอวันคืนที่ยาวนานอ่ะนะ 
Clive -แล้วจากนี้ ยังไงต่อ?
Shula - ตอนนี้หรอ เราทำในสิ่งที่ถูกต้องแล้ว 
Jill - ยังไง?
Shula - ให้ Waljas ได้สิทธิที่จะปฎิเสธไง สถานที่นี้จะเรียนรู้และเติบโต ครอบครัวที่รักเขาจะดูแลปกป้องเขา จนวันนึงเมื่อบาดแผลในใจของเขาได้รับการเยียวยาแล้ว เขาก็จะได้ตัดสินใจว่าจะใช้ชีวิตให้คุ้มค่ายังไง ด้วยตัวเขาเอง แต่จนกว่าจะถึงตอนนั้น ชั้นจะอยู่เคียงเขาเอง 
Clive - งั้นเขาก็เป็นเด็กที่โชคดีแล้ว ไม่ใช่เพราะเขาจะได้นักรบที่เก่งที่สุดอยู่ข้างกายเท่านั้น แต่จะได้การสั่งสอนให้ใช้ขวานในการต่อสู้ยังไงด้วย 
Shula -จะทำอย่างเต็มที่ก็แล้วกัน 


Clive - Shula ตอนนี้สัตว์ร้ายที่คุกคามหมู่บ้านเธอมันเชื่องแล้ว จักรวรรดิ์ที่คุมคามคนของคุณก็ล่มสลายแล้ว อาจจะถึงเวลาที่จะละทิ้งเวทย์บังตาของบรรพบุรุษของคุณแล้วเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของ Twin ได้แล้วมั้ง?
Shula - ก็มีโอกาสนะ เพราะเราก็ไม่มีคริสตัลต้องปกป้องแล้วด้วย แต่ เราปลอดภัยแล้วจริงๆหรอ? โลกพร้อมจะยอมรับในสิ่งที่เราเป็นและสิ่งที่เราเชื่อรึยัง ? ถ้าชั้นจำไม่ผิดคุณเองก็เลือกที่จะซ่อนตัวไม่ใช่หรอ?
Clive - ใช่แล้ว
Shula -คนของคุณจะได้รับการต้อนรับอย่างดีใน Haven ตลอดไป
Clive -เฉกเช่น hideaway คนของคุณก็เช่นกัน เราเป็นพันธมิตรกันแล้วนะ ไม่ว่าคุณต้องการอะไร อาหาร อาวุธ ของใช้ อย่าเกรงใจที่จะร้องขอนะ เรายินดีช่วย 


Shula - ขอบคุณนะ คุณใจดีมาก แต่เราจะจัดสรรทุกๆอย่างของเราแบบที่เคยทำมาอย่างดีที่สุดเหมือนเดิม แต่ถ้าคุณต้องการอะไรที่ใช้กอกกู้โลก เราก็ยินดีจะช่วย
Clive - เกรงว่ามันจะเลยคำว่า กู้ มานานแล้วล่ะ ที่ดีที่สุดที่เราจะทำได้ตอนนี้คือ เปลี่ยนโลกที่เหลืออยู่ให้ทุกคนสามารถอยู่ได้อย่างเท่าเทียมมากกว่า


Shula - ช่างเป็นความพยายามที่น่านับถือจริงๆ และมันจะมีที่สำหรับหรือหรือ Waljas รึเปล่า?
Clive - มีสำหรับทุกคนนั่นแหละ ชั้นสัญญา 
Shula - งั้นเราก็จะรอ จนกว่ากระแสน้ำจะพาคุณกลับเข้าฝั่ง 



Jill - นายคิดว่าเขาจะเป็นไรมั๊ย?
Joshua - Waljas หรอ? เวลาจะบอกเองแหละ แต่ผมนึกภาพเวลาในวัยเด็กของเขากับ Mote of water ได้ว่าชาวเผ่านี้จะดูแลเขาอย่างดีแน่นอน


Clive - ตอนที่อยู่บน the Vare Ultima ได้พูดกับชั้นด้วย มันบอกว่า Leviathan เป็นส่วนที่มีมลทินของมัน และบอกให้ชั้นไถ่บาปที่ทำให้มันตกต่ำลง 
Joshua - งั้นหรอครับ? บาปของบรรพบุรุษของ Waljas นั้นมันร้ายกาจมาก บังคับให้เขาให้เป็นคนสำคัญในขณะที่ยังเด็กขนาดนั้น 
Clive - แถมยังแช่เข้าไว้ในห้วงเวลาอีก เพื่อที่เขาจะได้ไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น 


Joshua - แต่ผมอดสงสัยไม่ได้ว่า โศกนาฎกรรมพวกนั้นมันเกิดจากความไม่พอใจของ Ultima รึเปล่า? เพราะพลังของ Eikon ถูกนำไปใช้ในจุดประสงค์นอกเหนือจากที่มันตั้งใจไว้ สำหรับมัน Leviathan คงดูเหมือนเป็นสิ่งที่ไม่เป็นที่พึงปรารถนา
Clive - นั่นเป็นเหตุผลที่ Ultima พยายามพาชั้นไปหาเขาสินะ ? คงกลัวว่าชิ้นส่วนที่มีมลทินจะทำให้ พาหะ ของมันเสียหาย 
Joshua - ก็อาจจะ หรือบางทีมันอาจเห็น Leviathan เป็นแค่ส่วนเกินในข้อกำหนดของมัน สรุปได้ว่า พาหะ ของเขาอาจทำขึ้นเพื่อให้บรรลุจุดประสงค์ของมัน โดยไม่ต้องมีพลังมหาศาลมากมายอะไรเลยก็ได้ 


Clive -จุดประสงค์ของมัน … พวกเขาก็ไม่มีทางหนีรอดได้ แม้แต่ที่นี่ ที่ซ่อนอยู่ใน Mysidia การขอพรจากคริสตัลก็พิสูจน์อะไรไม่ได้นอกจากเป็นสถานที่จองจำ  สถานที่จองจำที่ Waljas ถือกำเนิดและได้รับอิสระภาพที่แลกมาด้วยความยากลำบาก ถ้าโลกยังไม่เปลี่ยนแปลง ถ้าเราไม่เปลี่ยนแปลงมัน เขาก็ต้องทนทุกข์เหมือนกับ Dominant ทุกคนก่อนหน้าเขา


Jill - งั้นเราก็ต้องเปลี่ยนแปลงมัน 
Joshua - เราต้องทำมัน 
Clive - และ เราจะทำมัน !



                      📗 New Haven Sidequest unlock !


📗Sidequest : Last Licks   
📗Sidequest : Beyond the Grave 
📗Sidequest : Lost in the wood 
📗Sidequest : Reign of Pain


                     📗  Sidequest : Beyond the Grave


Dalina - นายท่าน พอมีเวลาซักหน่อยมั๊ยคะ ชั้นมีเรื่องอยากจะขอร้องหน่อย 
Clive - มีเรื่องอะไรงั้นหรอครับ?
Dalina - จริงๆแล้วเรื่องมันยาวค่ะ แต่ก่อนที่จะเล่าให้ฟัง ท่าน Shula เล่าให้คุณฟังเรื่องเกี่ยวกับ แม่มดแห่งแดนเหนือ บ้างแล้วใช่มั๊ยคะ?
Clive - ใช่ครับ เธอบอกว่าบรรพบุรุษของพวกคุณเป็นคนเลี้ยงดูเธอ แล้วเธอก็สอนมนต์หยุดเวลาให้ ซึ่งจริงๆแล้วเธอก็เป็น Dominant เหมือน Waljas ผู้ครอบครองพลังแห่งน้ำแข็ง 
Dalina - ยายทวดของชั้นก็เคยสงสัยเหมือนกัน เธอเล่าให้ฟังว่าเธอเป็นคนดูแลนางตอนก่อนจะสิ้นใจด้วย และเป็นหน้าที่ของเธอที่ต้องคอยดูแลหลุมศพของนาง และตอนนี้หน้าที่นี้ก็ตกทอดมาถึงชั้นแล้ว
Clive - เข้าใจแล้วครับ ว่าแต่คุณจะขอให้ผมช่วยอะไรงั้นหรอ?
Dalina - ก่อนหน้านี้ทางไปสักการะหลุมศพมีต้นไม้ล้มขวางทางอยู่ แต่ตอนนี้คนของเราตัดออกหมดแล้ว ซึ่งเราพบว่าตลอดแนวหน้าผานั่นมีพวกสัตว์ร้ายยึดครองพื้นที่ไปจนหมดแล้ว ซึ่งพวกเราไม่มีฝีมือพอจะจัดการพวกมันได้เลย แต่นายท่านมีฝืมือการต่อสู้ที่ดีกว่า ไม่ทราบว่าพอจะช่วยเคลียร์เส้นทางให้หน่อยได้มั๊ย?
Clive - ได้สิ ผมจะทำให้เส้นทางนั้นปลอดภัยเอง 
Dalina - ขอบคุณค่ะนายท่าน หลุมศพนั่นอยู่ที่ Witchdrop ตั้งอยู่ทางซ้ายของ Winged Wains แล้วเดินตามทางสันเขาไปเรื่อยๆก็ถึงค่ะ 


Clive - ทำไมถึงเอาไปไว้ใกล้จาก Haven ขนาดนี้ล่ะ?
Dalina -มันคือสถานที่ที่เธออาศัยอยู่แต่แรกสมัยที่บรรพบุรุษของเรามาเจอเธอใหม่ๆค่ะ พวกเขาพบเธอในบ้านเก่าๆแถวๆนั้นเลยพยายามที่จะช่วยเธอ พอถึงวันสุดท้ายของเธอย่าทวดของชั้นเลยทำหลุมศพเอาไว้ที่นั่น ตรงที่เธอเรียกว่า บ้าน 
Clive - โอเค เจอซากเรือแล้วเลี้ยวซ้าย จากนั้นก็ขวา นะ 
Dalina -ขอบคุณค่ะนายท่าน ชั้นจะตามไปที่หลุมศพหลังจากเส้นทางปลอดภัยแล้วนะคะ 


➽เดินทางไปที่ Witchdrop ซึ่งก่อนหน้าเคยมีต้นไม้ขวางอยู่แต่ตอนนี้สามารถผ่านได้แล้ว 


➽กำจัดศัตรูที่เจอระหว่างทางให้หมดแล้วเดินขึ้นไปตามสันเขาจนพบหลุมศพ 


                     Clive - นี่คงเป็นหลุมศพที่ว่าสินะ 


Dalina -นายท่าน ขอบคุณที่ทำให้เส้นทางนี้ปลอดภัยอีกครั้ง 
Clive - Ysay คือชื่อของนางงั้นหรอ?
Dalina - ใช่ค่ะ เป็นการยกย่องที่แทบจะไม่เหมาะสมกับ Dominant เลยใช่มั๊ยล่ะคะ หินหลุมศพก็แกะสลักแบบหยาบๆ ไม่มีอะไรนอกจากชื่อ แค่นั้น แต่บรรพบุรุษของชั้นก็เพิ่งมาถึงที่นี่ไม่กี่สัปดาห์ก่อนนางจากไป พวกเขาอาจจะไม่เวลาหรือเรี่ยวแรงพอที่จะสร้างอะไรที่ดีกว่านี้ก็ได้ แต่พวกเขาก็พยายามอย่างเต็มที่เพื่อให้ความฝันของนางเป็นจริง แม้เธอจะได้แค่เฝ้าดูบ้านของเธอจากความตายก็ตาม 


Clive - เธอสถิตอยู่ในซากโบราณด้านล่างนั่นสินะ?
Dalina - ใช่แล้วค่ะ ครั้งนึงที่นั้นเป็นที่พักอาศัยของผู้รับใช้ในวิหาร ตอนที่เจ้าแห่งแดนเหนื่อส่งเธอมาที่นี่เพื่อร่ายมนต์ นางและผู้ติดตามก็อาศัยอยู่ที่นี่ทุกวัน มีพวกสาวใช้ นักบวช และอัศวินที่สาบานจะปกป้องนางจนวันตาย แน่นอนว่าพวกเขาทั้งหมดจากไปนานแล้วกว่าที่บรรพบุรุษของชั้นจะมาถึง ไม่หนีไปก็ตายจากสงครามกับฝั่งตะวันตก 


Clive - ทั้งหมดยกเว้น Ysay ที่ยังคงอยู่จนถึงจุดจบเพียงลำพัง
Dalina -  อย่างน้อยๆมันก็เป็นเรื่องราวที่ถูกส่งต่อไปยัง Haven ในฐานะเรื่องเล่าของบรรพบุรุษ  แต่บทสุดท้ายของนิยายเรื่องนี้ คนที่รู้จริงๆคือ ท่าน Shula และตัวชั้นเอง บางปีหลังจากที่ Ysay จากไปแล้ว ย่าทวดของชั้นมาที่นี่ เพื่อทำความสะอาดหลุมศพของนาง ย่าทวดก็พบกับอัศวินคนนึงที่คุกเข่าต่อหน้าหลุมศพนางในขณะที่สวมเกราะทั้งตัว 


Dalina -  ย่าทวดของชั้นถามว่าเขาเป็นใครก็ไม่ได้รับคำตอบกลับมานอกจากคำถามที่เขาถามว่า บอกข้ามาตามความจริงว่านี่คือหลุมศพของใคร ? ย่าทวดของชั้นจึงเล่าเรื่องทั้งหมดให้เขาฟังว่าเราเจอนางยังไง ดูแลนางยังไง และนางตายยังไง สิ่งที่อัศวินคนนั้นแสดงออกมีเพียง จ้องไปที่ Aire of Hours แล้วก็จากไปโดยไม่พูดอะไร แล้วจากนั้นก็ไม่มีใครเห็นเขาอีกเลย 
Clive - คุณบอกว่าเขาสวมเกราะแบบสวมทั้งตัว เกราะสีดำกับทองรึเปล่า?
Dalina - คุณรู้อะไรเกี่ยวกับเขาหรอคะ?




Clive -  ตอนพวกเราขึ้นไปเพื่อทำลายมนต์สะกดบน Aire of Hours เราเจออัศวินคนนึงที่นั่นเขาก็สวมเกราะแบบทั้งตัวเหมือนกัน เขาปรากฏตัวด้านหน้า The Vare และจาก aether ในตัวเขา ผมรู้สึกได้ถึง Shiva ของแม่มด 
Dalina - ชั้นว่าน่าจะเป็นคนเดียวกันกับที่ย่าทวดของชั้นเห็น หรือเขาอาจจะเป็นอัศวินของ Ysay?
Clive -  ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน ...ก็อาจจะ แต่ที่ผมพูดได้เต็มปากคือเขาพยายามปกป้องสิ่งที่เธอสร้างเอาไว้แน่นอน 


Dalina - หรืออาจเป็นจิตวิญญาณที่เหลืออยู่ใน aether ของเธอถูกเก็บรักษาไว้ใน The Vare บางทีวิญญาณของเขาก็อาจจะยึดติดกับมนต์สะกดของเธอ จึงถึงถูกแช่แข็งไปชั่วนิรันดร์ด้วยกัน 
Clive -  จนกระทั่งเราจบมัน 
Dalina - ถ้าคนที่คุณสู้คืออัศวินของ Ysay การจบมันลงก็เป็นของขวัญที่คุณให้กับเขาได้กลับท้องทะเลกับหญิงที่เขารักอีกครั้ง และถ้าวิญญาณของเขากลับมาเยี่ยมหลุมศพของนาง ชั้นจะถามชื่อเขาเพื่อสร้างหลุมศพและสลักชื่อของเขาไว้ข้างๆเธอ 


    Clive - มันคงทำให้เขากับเธอได้อยู่ร่วมกันอีกครั้ง ตลอดไป ก็ได้




                       📗 Sidequest : Lost in the wood


Ayrik - คุณครับ ได้โปรด ช่วยเราด้วยนะ หมู่บ้านของเรากำลังตกอยู่ในอันตราย ถ้าใครซักคนไม่เข้าไปจัดการต้องแย่แน่เลยครับ 
Clive - เดี๋ยวใจเย็นๆเจ้าหนู เริ่มจากชื่อของเราก่อนดีมั๊ย?
Ayrik - โทษทีครับ ผมชื่อ Ayrik ตอนที่คุณไปที่ Aire of Hours กับท่าน Shula ผม เอ่อ ผมแอบตามไป 
Clive - หนูจะถูกฆ่าตายรู้มั๊ยเนี่ยห๊ะ? 
Ayrik -ท่าน Shula บอกว่าคุณเป็นนักรบที่เก่งมาก ผมก็เลยคิดว่าถ้าอยู่ใกล้ๆจะไม่เป็นอะไรอ่ะครับ จนผมพลัดหลงกับคุณ แล้วผมก็ได้เห็นมัน มันพ่นน้ำออกมาเป็นเสาพายุจนพิ้นดินแตกต้นไม้ขาดสะบั้นหมดเลย
Clive -พ่นน้ำออกมาเป็นเสาหรอ? ตั้งแต่ชั้นมาที่นี่ยังไม่เคยเห็นอะไรแบบนี้ในป่าเลยนะ 
Ayrik - ผมเห็นจริงๆนะ และผมไม่อยากเห็นมันอีกแล้ว คุณจะช่วยไปจัดการมันได้มั๊ยครับ?
Clive - ก็ได้ ถ้าเจ้าตัวนั้นมันมีจริงอย่างที่หนูพูด หมู่บ้านนี้ก็ไม่ปลอดภัย ชั้นจะลองไปดูก็แล้วกัน
Ayrik - ขอบคุณครับ ผมเจอมันแถวๆ Swiftrun บางทีมันอาจยังอยู่ที่เดิมก็ได้ ผมคงไม่ได้ไปข้างนอกอีกแน่ถ้ามันยังอยู่ โชคดีนะครับ 


🔳Riversmeet 


Clive - นั่นนายพรานนี่ ? เกิดอะไรขึ้น? คุณบาดเจ็บหรอ?
นายพราน - เอ่อ คุณคนที่ช่วย Nasef นั่นเอง คือผมกำลังตามรอย ibex อยู่ๆแล้วจู่ๆ ก็มีน้ำพุ่งขึ้นมาจากพื้นดินอัดกระแทนผมจนลอยข้ามนี่เลย
Clive - แล้วคุณเห็นมั๊ยว่ามันเกิดจากอะไร?
นายพราน - ไม่รู้ครับ แต่ผมได้ยินเสียง ดังมากจนหูแทบแตก 



Clive -  ห๊ะ! หรืออาจจะเป็นเจ้าเต่านี่? ปล่อยให้เป็นหน้าที่ผมเอง


                               กำจัด Archelon 


Clive -  อืมม แต่ เจ้าเต่านี่มันไม่ได้เป็นภัยร้ายอะไรกับหมู่บ้านเลยนะ แต่ ก็ไม่น่าแปลกหรอกที่เด็กมันจะกลัวน่ะ



นายพราน - ไม่ว่าจะเจอกับอะไรคุณก็ทำให้มันดูง่ายๆตลอดเลยนะ 
Clive -  ตกลงว่าเจ้าเต่านี่ใช่ตัวที่ทำร้ายคุณมั๊ย? 
นายพราน - เจ้าเต่าเนี่ยนะ ไม่วันมาถึงตัวผมได้โดยผมไม่รู้หรอก กว่ามันจะเข้ามาผมก็ตั้งตัวได้นานแล้ว และมันก็ไม่มีทางสร้างน้ำที่พุ่งแรงจนอัดผมลอยขนาดนี้ได้หรอก 
Clive -  พอดีมีเด็กในหมู่บ้านให้ผมมาดูสัตว์ร้ายที่ทำแบบนี้เหมือนกัน แต่ ..


????? - ก๊าซ !!!!!!!!!!!!!!!!
นายพราน - นั่นไง เสียงนั่น! ที่ผมได้ยินก่อนถูกโจมตี !! เหมือนเสียงมันจะดังมาทางซากโบราณสถานนะ 
Clive -  คุณรีบกลับหมู่บ้านให้หมอรักษาแผลซะ เดี๋ยวผมไปจัดการเอง 


Clive -  พระเจ้า อะไรมันจะโหดเหี้ยมขนาดนี้เนี่ย ไม่ว่ามันจะเป็นตัวอะไร ดูมันจะกระหายเลือดมากๆเลย


                                 BOSS - Thalaos 


Clive -  น่าจะหมดแล้วนะ แต่ยังไงก็ต้องไปบอกเจ้าหนู Ayrik ซะหน่อยว่าตอนนี้อันตรายได้หมดไปแล้ว 


🔳หมู่บ้าน Haven 


Ayrik - อ่า คุณกลับมาแล้ว !!
นายพราน - เป็นไงครับเจอไอ้ตัวที่ทำร้ายผมกับเจ้าหนู Ayrik มั๊ย?
Clive -  เจอ จัดการไปแล้ว หมดตัวปัญหาแล้วนะที่นี้
Ayrik - เย้ !! ผมบอกแล้วว่าคุณต้องทำได้แน่นอน 
Clive -  ก็เพราะเธอมาบอกชั้นว่ามีมันอยู่ไง แต่ก็ไม่ได้แปลว่าเธอควรไปยุ่งกับมันนะ แต่ทุกอย่างก็จบลงด้วยดีแล้วล่ะ 
นายพราน - แล้วตกลงมันคือตัวอะไรครับ?
Clive - มันเป็นองค์รักษ์ที่เกิดจากพลังของ Leviathan เรียกมาเพื่อปกป้องมันน่ะ ตอนเราไปช่วย Waljas ที่ The Surge ก็เคยเจอพวกมันมาครั้งนึง แต่ทำไมมันถึงมาอยู่ในซากวิหารที่ Rivermeet ผมก็ไม่รู้
Ayrik - บางที่มันอาจกำลังมองหาแม่ของมันที่ตายไปแล้วก็ได้ ที่น้ำตกนั่น 


Clive - น้ำตกหรอ? 
นายพราน -ใช่ครับ ตอนที่เขาพรากลูกของเธอไป เธอก็กระโดดลงมาจากน้ำตก เรามักจะไปที่นั่นปีละครั้งเพื่อไว้อาลัยให้ ทุกคนในหมู่บ้านเลย
Clive - egi เกิดจากจิตวิญญาณของเจ้านายมันก็จริง แต่ Waljas ไม่น่าจะรู้ว่าเกิดอะไรกับแม่ของเขานะ 


นายพราน - ถึงยังไงคุณก็ได้จัดการจนเรียบร้อยแล้ว ทำให้เราและ Waljas ได้พักกันซะที ขอบคุณมากครับ 
Ayrik - ขอบคุณครับ !!


                        📗 Sidequest : Reign of Pain


Fanet - คุณคะ คุณ ชั้นมีข่าวจะแจ้ง ชั้นคิดว่าชั้นรู้วิธีล้างคำสาปของ Talor แล้วล่ะค่ะ 
Clive - ว่ามาเลยครับ
Fanet -หลังจากที่สอบถามกับผู้อาวุโสของหมู่บ้าน และค้นทุกอย่างที่มีจากทุกบันทึกที่เรามีในห้องสมุด ชั้นเรียนรู้ว่า Tonberry ไม่ได้สัตว์ประหลาดตัวเขียวชนิดที่เรารู้จัก มันยังมีบางสิ่งที่ใหญ่กว่าและอายุมากกว่านั้น มีเรื่องเล่าของหมู่บ้านที่ว่ากันว่า มี Tonberry king ที่เป็นผู้อาวุโสของพวก Tonberry เป็นผู้สานต่อทุกคำสาปและเวทย์หมดของ Tonberries ทุกตัวก็ยึดโยงไปที่มันเพียงหนึ่งเดียว เพื่อกลืนกินความเจ็บปวดเพียงตัวเดียว


Clive - ก็หมายความว่า ถ้าเรากำจัด Tonberry king แค่ตัวเดียวทุกคำสาปก็จะหมดไปสินะ 
Fanet - ถ้ามันเป็นอย่างที่ชั้นคิดก็ ใช่ค่ะ และราชาของพวกมันต้องตัวใหญ่และแข็งแรงกว่า Tonberry ทั่วไปแน่นอน และถ้าเรื่องเล่าเป็นความจริง พวก Tonberry คงไม่ยอมให้ทำร้ายราชาของมันง่ายๆหรอก มันคงแห่ออกมากันมากมายแน่นอน แต่มันก็เป็นความหวังเดียวที่เรามีในการช่วย Talor เหมือนกัน คุณจะว่าไงคะ?


Clive - ได้สิ แม้การฆ่าราชาจะไม่ได้ล้างคำสาปก็เถอะแต่อย่างน้อยมันจะทำให้ที่นี่ปลอดภัยขึ้น แล้วผมจะหาตัวมันได้ที่ไหน?
Fanet - เรื่องนั้นชั้นก็ยากที่จะบอก มันคงเป็นสถานที่ที่มีแท่นบูชาเหมือนกับที่ Father’s Fell แต่ที่ไหนนี่สิ?


คนเฝ้าประตูทิศใต้ - Fanet นี่เธอกำลังพูดเรื่อง Tonberry อยู่ใช่ป่ะ? เพราะตอนนี้พวกมันยกพวกมาเพียบเลย มาเป็นกองทัพเดินยาวตั้งแต่ภูเขาที่ชายฝั่งมาถึงจนที่นี่ ตอนนี้หัวขบวนของมันอยู่ห่างจากประตูทางทิศใต้ของเราไม่ไกลหรอก 
Fanet - อะไรนะ? พวกมันรู้ได้ยังไง และทำไมต้องตอนนี้ด้วย?
Clive - ทางเดียวที่จะรู้คงต้องไปดูด้วยตาตัวเองแล้วล่ะ ผมจะไปดูที่ภูเขานั้นดูว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่


Clive - บ้าเอ้ย พวกมันมาถึงนี่จริงๆด้วย ใกล้หมู่บ้านแค่นิดเดียวเอง ต้องจัดการให้หมดก่อนจะเป็นอันตรายกับชาวบ้าน 


Fanet - คุณปลอดภัยนะคะ 
Clive - ผมไม่เป็นไร เราจัดการฝูงที่ใกล้หมู่บ้านที่สุดหมดแล้ว 
Fanet - ขอบคุณนะคะ ชั้นกลัวว่าจะเสียคุณทั้งสองคนพร้อมๆกันซะแล้ว เพราะ Talor ก็อาการทรุดลงทันทีที่คุณออกไปเลย ชั้นคิดว่า Tonberry king คงกำลังทำพิธีสาปแช่งเขาอยู่ตอนนี้แน่ๆเลย ชั้นคิดว่าสถานที่ทำพืธีของมันคงอยู่ที่ภูเขานั่นแหละ 
Clive - เดี๋ยวผมไปดูเอง คุณไปดูอาการของ Talor เอาไว้ก็แล้วกัน 


🔳Cloaktop 


                        Clive - คงจะเป็นที่นี่ ไม่ผิดแน่ 




                              BOSS : Tonberry king


   Clive - เรียบร้อย หวังว่าจะล้างคำสาปได้จริงๆเหมือนที่ Fanet ว่านะ 



🔳หมู่บ้าน Haven 



Fanet - ไคลฟ์ คุณกลับมาแล้ว? ทำสำเร็จแล้วใช่มั๊ยคะ? 
Clive - ใช่ สำเร็จ ผมกำลังจะถามว่าอาการของ Talor เป็นไงบ้างแต่ดูจากรอยยิ้มบนใบหน้าของคุณ ผมก็รู้คำตอบแล้วล่ะ


          Fanet - ใช่ค่ะ นั่นไง Talor มานี่สิ ไคลฟ์กลับมาแล้ว!


Talor - ต้องขอขอบคุณมากนะครับนายท่าน ผมไม่รู้จะตอบแทนในสิ่งที่คุณช่วยผมยังไงเลย ผมเป็นหนี้ชีวิตคุณแล้ว 


Clive - ผมดีใจด้วยนะที่คำสาปหายไปแล้ว แต่มีคำถามที่ผมอยากถามหน่อยเพราะคาใจมาแต่แรกแล้ว ทำให้คุณถึงไปให้พวก Tonberry ช่วยที่จุดทำพิธีที่แรกล่ะ?
Talor - เรื่องนั้น ...อืมม จริงๆมันก็เป็นเรื่องที่คุณสมควรที่จะได้รู้เหมือนกัน เมื่อหลายปีก่อนพวก Greagor จับผมได้ที่ Oriflamme แถมยังบังคับให้ผมสารภาพและยัดเยียดข้อหาให้ผมอีก แต่เป็นตายยังไงผมก็ไม่ยอม จนในที่สุดพวกมันก็ยอมปล่อยผม และผมไม่เคยเล่าเรื่องนี้ให้ใครฟังเลย จนกระทั่งคุณมาถึง แล้วผมเห็นดาบของคุณ ความแค้นทั้งหมดของผมก็กลับมา ผมกินไม่ได้นอนไม่หลับ จนคิดได้ว่าถ้าผมเอาสร้อยเก่าให้พวก Tonberry มันจะช่วยให้ผมหายจากความเจ็บปวดได้ ทั้งหมดก็มาจากความโกรธแค้นอย่างเดียวเลย แต่มันกลับทำให้ทุกอย่างแย่ลง 


Clive - Oriflamme ล่มสลาย ชายที่คุณโกรธแค้นก็ตายไปกับอณาจักรด้วย 
Talor - ผมรู้แค่ว่าอยากให้ทุกๆคนพ้นจากปัญหา ...ผมคิดไปว่าพวกคุณเองที่เป็นคนนอกก็เหมือนพวกมัน คนนนอกเหมือนกันหมด แต่ก็ไม่ใช่ ขอบคุณมากนะไอ้ลูกชาย ขอบคุณจริงๆ


Fanet - ไคลฟ์ ชั้นมีบางอย่างที่อยากจะบอกคุณนะ หลังจากที่ชั้นกลับมาที่หมู่บ้านชั้นก็เล่าให้ Talor ฟังว่าคุณทำอะไรเพื่อเขาบ้าง แล้วจู่ๆความเจ็บปวดของเขาก็หายไป
Clive - คุณหมายความว่าไง? ตอนนั้น Tonberry king มันยังไม่ตายเลยนะ ผมต้องลุยกับลูกน้องมันอีกนานเลยกว่าจะเจอตัวมัน
Fanet - อาจมีใครไปเตือนมันว่าคุณกำลังมามันเลยหยุดทำพิธี หรือไม่ก็ พอ Talor รู้ว่าพวกคนนอกทำอะไรเพื่อเขา กำลังใจเขาก็อาจกลับคืนมาก็ได้ จากประสบการณ์ของชั้นอาการป่วยไม่ได้เกิดจากร่างกายทุกครั้งหรอกนะ 



Clive - สรุปว่าคำสาปมันมีจริงมั๊ยหรือมันเกิดจากความรู้สึกผิดในใจของ Talor เองกันแน่? ไม่ว่ามันจะแตกต่างกันยังไงผมก็คงไม่มีทางรู้หรอก 
Fanet - ชั้นก็ไม่รู้ แต่เรื่องนึงที่ชั้นรู้แน่ๆคือ ความเข้มแข็งและความเสียสละของคุณนั่นแหละที่เยียวยาจิตใจของ Talor และมันก็รักษาหัวใจเขาได้ในท้ายที่สุด 
Clive - ผมจะลองไปบอกกับหมอของผมทันที่ที่ผมกลับบ้านก็แล้วกันนะ ฮ่าๆ

                            ⚔ การตีดาบ Tonberry Knife 


วัตถุดิบที่ต้องการส่วนใหญ่ได้มาจาก Kairos Gate และรางวัลจาก Sidequest ชุดสุดท้ายของหมู่บ้าน Haven 

Notched Tang - ได้จากการจัดการ Tonberry King ในเควสย่อย Reign of Pain ที่จะปลดล็อกออกมาหลังจบเนื้อเรื่อง DLC The Rising Tide
Aqueous Membrane -ได้จากการเอาชนะ Thalaos ซึ่งเป็นหนึ่งใน Notorious Marks ใหม่ที่จะพบใน เควสย่อย Lost in the Woods ที่จะปลดล็อกออกมาหลังจบเนื้อเรื่อง DLC The Rising Tide
Orichalcum - รางวัลจาก เควสย่อย Lost in the Woods ที่จะปลดล็อกออกมาหลังจบเนื้อเรื่อง DLC The Rising Tide , 
Fool’s Gold - ได้มาจากการกำจัด Master Tonberry ระหว่างเดินทางไป The Aire of Hours ในเควสหลัก ส่วนอีกอันพบอยู่ในหีบใน Father's Fell


แม้พลังโจมตีจะไม่มาก แต่คุณสมบัติหลักของ Tonberry Knife คือ ค่า Staggerสูงมาก ซึ่งมันจะทำให้สามารถลดเกจ Stagger ของศัตรูด้วยการฟันธรรมดาไม่กี่ครั้งเท่านั้น


                           📗 Sidequest : Last Licks   



Shula - คุณไม่ได้ยุ่งอะไรใช่มั๊ยไคลฟ์ ชั้นคิดว่ามีเรื่องอยากจะให้คุณช่วยอีกเรื่องน่ะ 
Clive - อย่าบอกนะว่ายังมี Dominant จอมเกเรเหลืออยู่อีกน่ะ
Shula - ไม่ใช่หรอก แต่ก็ถือว่าเป็นศัตรูที่อันตรายตัวนึงเหมือนกัน ชั้นว่าจะไปล่ามันหน่อย คุณไปด้วยกันนะ ?
Clive - ได้สิ บอกรายละเอียดมาเลย 
Shula - สัตว์ร้ายสุดเลือดเย็นที่ชื่อ Guivre ซึ่งปกติเราจะปล่อยมันเอาไว้และไม่อยากจะไปยุ่งกับมันเท่าไหร่ แต่ตอนนี้ชั้นต้องการลิ้นของมันนี่สิ  
Clive - ลิ้นของมัน ?


Jamila - ถ้าคุณไม่ว่าอะไร Tributary ชั้นขออธิบายให้เขาฟังเองค่ะ 
Shula - แน่นอน ได้สิ Jamila 
Jamila - น้องสาวชั้นหลังจากคลอดลูกคนแรกมาอาทิตย์แล้ว แต่เธอยังยืนไม่ได้เลยตอนนี้ เราพยายามทุกอย่างที่จะฟื้นคืนจิตใจของเธอทั้งทางหายภาพ และยาสมุนไพรต่างๆ แต่ก็ไม่ได้ผลซักอย่าง จนหมอได้แนะนำว่ามี ซุปชนิดนึงที่มีพลังมากพอที่จะดึงจิตใจเธอกลับมาได้ แต่การหาวัตถุดับนั้นอันตรายมาก
Shula - ไม่ใช่แค่นอกสาวของ Jamila เท่านั้นนะที่จะได้ประโยชน์จากมัน แม่นมที่จะมาทำหน้าที่เลี้ยงดู Waljas เองก็ต้องใช้ด้วย
Clive - ได้สิ เรายินดีจะช่วยอยู่แล้ว 
Shula - ขอบคุณค่ะ งานนี้หนักเกินกว่านักล่าของเราจะรับมือได้ ก็เลยต้องพึ่งฝีมือคุณ แถมเจ้า Guivre เองก็เป็นสัตว์ที่ระวังตัวไม่น้อย มันสามารถจัดการนักล่าเป็นกลุ่มโดยไม่เปิดเผยตัวออกมาเลยได้สบายๆ แถมมันยังจมูกดีๆมาก มันรับรู้การมาของนักล่าได้ไกลมากๆด้วย

Joshua - ถ้างั้นผมว่าพี่ไปกับ Shula แค่ 2 คนน่าจะสะดวกกว่าผมกับ Jill จะรออยู่นี่เอง 
Jill - แล้วชั้นจะช่วยทำน้ำซุปไว้รอก็แล้วกัน 
Jamila - ขอบคุณมากค่ะ พวกคุณใจดีมากๆเลย
Shula - งั้นไปกันเถอะไคลฟ์ เวลาไม่ค่อยท่า เราต้องรีบหน่อย นักล่าของเราให้ข้อมูลมากว่า Guivre มันอยู่แถวๆซากโบราณสถานตรงตีนเขา  แต่ก็อย่างที่บอก Guivre เป็นสัตว์ที่ระวังตัวมาก ก่อนอื่นเราต้องไปหาเหยื่อมาล่อมันออกมาก่อน เนื้อของแพะป่า ibex น่าจะเหมาะที่สุดแล้ว 


Shula - สำหรับ Guivre ไม่มีอะไรที่มันชอบกินมากไปกว่า ibex อ้วนๆอีกแล้ว  
Clive - ดูคุณพูดอย่างมีประสบการณ์มาก เคยล่ามันมาก่อนหรอ?
Shula - พ่อชั้นเคยพาไปล่ามันตอนเด็กๆน่ะ แต่พอพ่อตายแล้ว พ่อของ Jamila ก็รับหน้าที่แทน ครอบครัวของเราสนิทกันมาก แม้น้องสาวของเธอจะไม่ใช่แม่นมของ Waljas แต่ชั้นก็คงนิ่งดูดายไม่ช่วยไม่ได้หรอก


➽เดินทางไปตามจุดหมายของภารกิจที่ Rivers meet จัดการฝูง ibex


Shula -จงคืนกลับสู่อ้อมกอดของท้องทะเลและก้อนเมฆแล้วเกิดใหม่อีกครั้ง  


Clive - เราได้เหยื่อแล้ว แล้วเอาไงต่อ?
Shula - ต่อไปเราจะไปแถว Dark Gate เพื่อเก็บ Loco weed สำหรับเอามาใช้อำพรางกลิ่นของเราไม่ให้เจ้า Guivre มันรู้ตัวก่อน 


➽เดินทางต่อไปยัง Dark Gate ตามจุดหมายของภารกิจที่จุดที่ Loco weed ขึ้นอยู่ 


Clive - เนี่ยหรอ?
Shula - ใช่ ต้นที่ใบเหลืองๆนั่นแหละ Loco weed เก็บมาไม่ต้องเยอะหรอก แล้วเอาใบมันมาขยี้ๆแล้วทาตามเสื้อผ้าของคุณเลย 


Clive - โห กลิ่นของมัน .. คุณควรจะเตือนผมซักนิดนึงนะเรื่องกลิ่นเนี่ย
Shula - เหมือนของเน่าเลยใช่ป่ะล่ะ แต่มันจะช่วยปกป้องเราไปนานเลยล่ะ จะช่วยไม่ให้ Guivre รู้ตำแหน่งของเรา มันจะคิดว่าแค่หนอนกำลังกินซากสัตว์แค่นั้น 
Clive - แหม่ ฟังแล้วรู้สึกดีจังเลย
Shula - แถวนี้เป็นแม่น้ำนะ จบเรื่องแล้วคุณล้างมันออกได้สบายๆเลย


➽เดินทางต่อไปยังซากโบราณสถาน Maiden’s March 


Clive - แล้วเราต้องวางเหยื่อล่อตรงไหน?
Shula - Guivre มันเป็นสัตว์ที่ทำอะไรเป็นนิสัย เราต้องหาร่องรอยที่มันทิ้งเอาไว้ที่ไหนซักแห่งในพื้นที่


➽เข้าไปสำรวจตามจุดหมายภารกิจที่ขึ้นมา 4 จุดเพื่อหาร่องรอยของ Guivre


Clive - มันทำร่องรอยไว้เพื่อสร้างอณาเขตงั้นหรอ?
Shula - ดูแล้วมันน่าจะเป็นฝีมือของ Coeurl มากกว่านะ 


Clive - ซากดูเหมือนถูกฆ่าไม่นานนี้เอง 
Shula - แต่ไม่ใช่ฝีมือ Guivre มันดูสะอาตและเล็กเกินไปด้วย


Clive - นี่รอยเท้าสัตว์นักล่า ดูจากกงเล็บของมันก็รู้ 
Shula - มันไม่ใช่แค่กงเล็บหรอก ไอ้นี่เป็นของ Guivre แน่นอน ชั้นจำไม่ผิดหรอก เอาเหยื่อวางไว้ที่นี่แหละ 



Clive - ยังไม่เห็นวี่แววของมันเลย
Shula - อดทนหน่อยไคลฟ์ การล่าสัตว์ไม่ใช่อะไรที่จะรีบกันได้หรอกนะ
Clive - คุณเคยตามรอยเจ้านี่มาก่อนงั้นหรอ?
Shula - Guivre มันไวมาก ซึ่งนั่นถึงต้องเป็นงานของ Bearer แม้ชั้นจะพอมีฝีมืออยู่บ้าง แต่การเข้าใกล้มันก็ยังเป็นเรื่องที่ยากอยู่
Clive - มีผู้นำไม่กี่คนหรอกที่ยอมเสี่ยงเพื่อคนของตัวเอง 
Shula -ซึ่งเป็นคำพูดของชายที่เข้าไปสู้กับ Eikon เพื่อช่วยเด็กที่ตัวเองไม่รู้จัก มันเป็นแนวทางของ Mote of water ที่จะใช้ความสามารถที่เหมือนของขวัญของเราเพื่อประโยชน์ของส่วนรวม และชั้นก็เชื่อว่า มันก็น่าจะเป็นแนวทางของคุณเหมือนกัน 
Clive - จริงๆมันเป็นของ Cid ชายคนที่ผมแบกรับนามของเขาเอาไว้น่ะ เขาสู้เพื่อคนของเขาและอนาคตของพวกเขาด้วย ผมแค่เดินตามรอยเท้าเขาเท่านั้นแหละ คุณทำให้ผมนึกถึงเขาในหลายๆด้าน 
Shula - ชั้นเนี่ยนะ ดูเหมือนคุณกำลังสับสนระหว่างคำว่ากล้าหาญกับสิ้นหวังแล้วนะ …เดี๋ยว เหมือนมีบางอย่างกำลังมา !



Shula - ในที่สุดแขกของเราก็มาซะที 
Clive - เราจะไม่ออกไปต้อนรับเขาหน่อยหรอ?
Shula - ทำไมทำคงเสียมารยาทแน่เลยว่ามั๊ย?


                               Boss - Guivre


Clive - ดูเหมือนคุณไม่ได้พูดเกินจริงนะ ตอนที่คุณบอกว่ามันเป็นตัวอันตราย
Shula - มันก็แค่ทำตามสัญชาตญาณน่ะ เอาล่ะ แต่ยังไง หมดเจ้านี่ไป แม่น้ำแห่งชีวิตก็ปลอดภัยแล้ว ...แด่กระแสน้ำที่ไหลเชี่ยว บุตรแห่งพายุ ขอให้ดวงวิญญาณของเจ้าจงเป็นอิสระในมหาสมุทรด้วยเถิด ส่วนเนื้อหนังของเจ้าจะเป็นของขวัญให้เราในวันนี้ 


Shula - เอาล่ะ เอาลิ้นมันกลับไปให้ Jamila ที่หมู่บ้านก่อนมันจะเน่าดีกว่า


Jamila - อ่า Tributary , นายท่าน แผนสำเร็จมั๊ยคะ?
Clive - นี่ไง ลิ้นของ Guivre ตามที่สัญญาไว้
Jamila - โอ้ ขอบคุณมากค่ะ ชั้นจะรีบเอาไปใส่ในน้ำซุปทันทีเลย หากคุณไม่ว่าอะไร Tributary
Shula - เอาสิ ถ้ามีอะไรให้ช่วยก็บอกนะ 
Jamila - โอ้ ไม่ๆ ค่ะ คุณทำให้ครอบครัวชั้นมามากพอแล้ว ชั้นไม่กล้าร้องของอะไรอีกแล้วล่ะค่ะ



 Shula - เช่นเดียวกับคุณ ไคลฟ์ ที่ช่วยเหลือครอบครัวชั้นมาตลอด ยังอดเสียใจไม่ได้ที่ยังไม่ได้ตอบแทนอะไรที่เป็นชิ้นเป็นอันเลย นอกจากความภัคดีของชั้น
Clive - แค่นั้นก็เกินพอแล้ว ผมเองก็ขอบคุณเช่นกันนะ
Shula - ขอบคุณชั้นเรื่องอะไร?
Clive - ขอบคุณที่ให้ผมและเพื่อนของผมเข้ามาในหมู่บ้านของคุณ ที่ซึ่งคนของคุณอาศัยอยู่ไง เพื่อเตือนผมว่า โลกใหม่ที่เรากำลังจะสร้าง โลกที่เหล่า Bearers อาศัยร่วมกับอย่างเท่าเทียมและสะดวกสบาย ไม่ใช่แค่การคิดไปเอง 
Shula - จริงๆก็ไม่ได้สะดวกสบายอะไรนะ ทุกวันของพวกเราคือการต่อสู้ แต่อย่างน้อยเราก็ได้ต่อสู้ร่วมกัน นั่นคือความจริง 
Clive - เราก็เหมือนกันทุกคน ผมแค่ขอให้คุณอย่าลืมว่าคุณต้องมีราคาอะไรต้องจ่ายในฐานะ Bearer ก็พอ ผมรู้ว่าคุณอยากทำทุกอย่างเพื่อช่วยเหลือคน แต่ก็อย่าลืมว่า ตอนนี้คุณมีลูกที่ต้องดูแลแล้วนะ แถม Waljas ก็สูญเสียมามากพอแล้ว ทำอะไรต้องคิดให้ดี
Shula - จะจำให้ขึ้นใจเลยล่ะ
Clive - และก็อย่างที่บอก ถ้าหากต้องการอะไรหรือให้ช่วยอะไรบอกเราได้ตลอดนะ 
Shula - ขอบคุณจากใจเลยค่ะ 


หลังจากจบ Sidequest : Last Licks แล้วจะมีอีกหนึ่งภารกิจเสริมของ Shula ออกออกมานั่นคือ The Water of Life ซึ่งเป็นภารกิจเสริมที่สำคัญเพราะจะได้พบกับตัวละครที่คุ้นเคยจาก DLC Echoes of the Fallen ที่กลับมาเปิดเผยความลับที่เชื่อมโยงกันของทั้ง 2 DLC
 

                   📗  Sidequest : The Water of Life  



Shula - ไม่สิ ...มันต้องเป็นเขา 
Clive -มันต้องเป็นใครหรอ? ถ้าคุณไม่รังเกียจ ชั้นขอถามหน่อยก็แล้วกัน


Shula - อ่า ไคลฟ์ ..ไม่รังเกียจหรอก เดี๋ยวชั้นอธิบายให้ฟังเอง คือ สำหรับเรา เมื่อมีทารกเกิดใหม่เราจะมีพิธีต้อนรับให้เขา เป็นพิธีศิลจุ่ม ( The rite of immersion) แต่สำหรับ Waljas ชั้นรู้ว่าเราจะทำแบบนั้นได้มั๊ย เพราะบรรพบุรุษของเราไม่เคยต้อนรับเขาในฐานะคนของเราเลย และนั่นแหละ ชั้นถึงต้องการที่จะเปลี่ยนมัน อีกปัญหาคือ การทำพิธีมันต้องใช้สามอย่าง ทารก พ่อแม่ของเด็ก และพยาน แน่นอนว่าปกติชั้นในฐานะ Tributary ต้องอยู่ในฐานะพยาน แต่ญาติที่ใกล้ชิดที่สุดของ Waljas ที่มีก็คือชั้น ชั้นเลยต้องรับบทแม่แทน 
Clive -ดังนั้นคุณเลยจะให้ผมรับบท พยาน แทนคุณสินะ 
Shula -ถูกแล้วค่ะ พยานต้องเป็นผู้พิทักษ์ทารกที่ไว้ใจได้ ทั้งยามที่ต้องเจอพายุคลื่นลมหรือตอนลมสงบ ชั้นถึงคิดถึงคุณเป็นคนแรกไง
Clive - ได้สิ ผมถึงว่าเป็นเกรียติของผมเลยด้วย 


Shula - ขอบคุณนะ ไคลฟ์ 
Clive - แล้วถ้าเกิดคุณรับบทเป็นแม่ ผมเป็นพยานแล้วใครจะรับบทพ่อ
Shula - ชั้นมีน้องชายอยู่คนนึง ชั้นจะให้เขารับบทพ่อเอง เขาก็แค่พูดตามบทในพิธีแค่นั้นแหละ มาสิ เดี๋ยวชั้นจะแนะนำให้รู้จักก็แล้วกัน 
Clive - ได้สิ และถ้าเขามีอะไรๆเหมือนกับพี่สาวเขา ผมมั่นใจว่าเราก็น่าจะทำเรื่องนี้สำเร็จแน่นอน
Shula - งั้นก็ดีเลย ชั้นบอกให้เขามาที่ Witanhall แล้วล่ะ เราไปรอเขาที่นั่นกันเถอะ 


🔳Witanhall


Shula - ไคลฟ์ ขอแนะนำน้องชายชั้นให้รู้จักนะ 
????? - เดี๋ยวนะ!? นั่น Cid เพื่อนเก่าชั้นนี่?


Clive - นายเองหรอ Famiel!?
Famiel - แหม่ จำชั้นได้ด้วยหรอเนี่ย?  


Shula - พวกคุณสองคนรู้จักกันหรอเนี่ย?
Clive - ผมกับเพื่อนเคยพาเขาตามล่า Dusk Crystals น่ะ เคยช่วยชีวิตเขาเอาไว้ด้วย กี่ครั้งนะ? สามครั้งใช่มั๊ย? 


Famiel - สามครั้งสี่ครั้งใครจะไปนั่งนับกันล่ะ แต่ทันทีที่ Shula บอกกับชั้นว่าได้ติดต่อไปหา Cid The Outlaws เพื่อให้มาช่วย Waljas ชั้นก็มั่นใจเลยว่า เด็กนั่นต้องปลอดภัยแน่นอน ก็ตั้งแต่เจอพวกคุณที่หอคอยนั่นชั้นก็ไม่คิดว่าจะมีใครมีความสามารถมากไปกว่านี้อีกแล้วล่ะ 
Shula - งั้นกลุ่มนักรบรับจ้างที่นายเจอที่ Sagespire ก็คือพวกของไคลฟ์งั้นหรอ? แถมเขายังช่วยชีวิตนายด้วย แหม่ ช่างต่างกับเรื่องที่นายเล่าให้ชั้นฟังตอนแรกเยอะเลยนะ งั้นก็สรุปว่าพวกคุณก็ช่วยครอบครัวชั้นมาสองครั้งแล้วล่ะนะ นายนี่มันจริงๆเลยนะ Famiel ถ้าพูดความจริงซักคร้งมันจะตายหรือไงห๊ะ!?
Famiel - ผมขอโทษ โอเค๊ !? นี่จะด่ากันจนจบพิธีเลยใช่ป่ะเนี่ย ??


Clive - พูดถึงพิธี ตกลงมันมีขั้นตอนยังไง แล้วเราจะต้องทำไงบ้างล่ะ?
Shula - ก็ไม่มีอะไรมาก เราสามคนก็กล่าวอะไรสั้นๆเป็นพิธี แล้วเจิมหน้าผากทารกด้วยน้ำศักดิ์สิทธิ์
Jill - งั้นก็คงไม่มีอะไรที่วุ่นวายสินะ 
Shula - พิธีน่ะมันไม่วุ่นวายแต่การเตรียมการบางอย่างนี่สิ หนึ่งในหน้าที่ของพยานคือ เก็บรวบรวมน้ำศักดิ์สิทธิ์จาก 3 สถานที่สำหรับให้ผู้ประกอบพิธีทั้งสามใช้เจิมเด็ก แต่ไม่ต้องห่วง ชั้นจะนำทางไปยังจุดน้ำศักดิ์สิทธิ์ทั้ง 3 ของเราให้เอง ส่วนนาย Famiel คอยอยู่ที่นี่แล้วเตรียมสถานที่ให้พร้อมด้วย 
Famiel - จัดไปครับ !!
Joshua - ถ้าไม่ว่าอะไร ผมกับจิลของช่วยด้วยได้มั๊ย?
Jill - เราเต็มใจช่วยค่ะ
Shula - ขอบคุณ คุณทั้งสองคนมากๆนะ


Shula - ส่วนเราก็ไปตามเก็บรวบรวมน้ำศักดิ์สิทธิ์กันเลย มันมี 3 ที่ น้ำแห่งภูเขา น้ำแห่งแม่น้ำ และ น้ำแห่งท้องทะเล เราจะเริ่มจากน้ำแห่งภูเขาที่ Maiden’s March ก่อนก็แล้วกัน 



🔳Maiden’s March


Halek - ช่วยด้วยยย มันจะกินเราแล้วววว !!
Marnek - ช่วยด้วย เนี่ยนะ ที่แบบนี้แกจะร้องให้ช่วย ไม่มีใครมา …เฮ้ยย มีคนมาจริงด้วย .... ช่วยด้วยยยยยยย !!!


                                 Boss - Torama 


Clive - พวกคุณไม่บาดเจ็บกันนะ?
Marnek - โอ้ Cid เมฆหมอกของ Haven หมดไปทันทีที่คุณมาถึงจริงๆด้วย
Halek - คุณช่วยชีวิตพวกเราไว้ อีกแล้ว ขอบคุณมาก
Shula -พวกนายอธิบายได้มั๊ยว่ามาที่นี่กันทำไม?
Marnek - หัวหน้าใช้พวกเรามาหาวัตถุดิบทำธูปสำหรับใช้ในพิธีน่ะ Witanhall จะได้มีกลิ่นดีๆสำหรับเจ้าหนูน้อย
Shula - นี่พวกนายจะบอกชั้นว่า นายเสี่ยงชีวิตมาเจอกับสัตว์ร้ายที่นี่เพื่อต้นไม้ไปทำธูปเนี่ยนะ?
Clive - แล้วพวกนายก็ไม่จำเป็นต้องทำทุกเรื่องที่ Famiel เขาสั่งให้ทำก็ได้นะ
Shula - หรือจำเป็นจริงๆก็ควรขอให้นักล่ามากับนายด้วยนะ จำไว้ 
Marnek - เราต้องขอโทษด้วยครับ
Shula - เอาล่ะ รีบกลับหมู่บ้านได้แล้ว ก่อนที่พวกนายจะก่อเรื่องเพิ่มอีก 
Marnek - ได้เลยครับ !!
Shula - อย่าลืมให้ชั้นจัดการน้องชายชั้นตอนกลับไปถึงหมู่บ้านด้วยล่ะ ไคลฟ์


Shula - ฝนที่ตกลงมาจากภูเขาจะไหลมารวมกับที่น้ำพุนี่ 
Clive - จุดกำเนิดของแม่น้ำ ก็คือจุดกำเนิดของชีวิตสินะ  
Shula - ถูกแล้ว ตัก Water of the mountain มาได้เลย


🔳Riversmeet



Shula - สายน้ำในแม่น้ำ มันเคลื่อนไหวและเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา เหมือนกับ ชีวิต 


Shula - ถึงแม้เส้นทางของมันจะคดเคี้ยวบิดเบี้ยวแตกแขนงเป็นลำธารมากมายที่แยกออกจากกัน แต่มันจะไหลไปในทางเดียวกันเสมอ จากต้นน้ำ สู่ทะเล จากจุดเริ่มต้นสู่จุดจบ
Clive - เหมือนกับ เวลา แล้ว Waljas ล่ะ? หลังจากบรรพบุรุษแช่แข็งเขา ดึงเขาให้หลุดออกจาก แม่น้ำแห่งชีวิต?
Shula - พวกเขาทำจริงๆ พรากชีวิตของ Waljas ไปถึง 80 ฤดูร้อน แต่ตอนนี้เขาเป็นอิสระแล้ว แม่น้ำแห่งชีวิตของเขากำลังไหลอีกครั้ง เพื่อการมีชีวิตอยู่ และคุณกับชั้นก็จะไหลรวมไปกับเขา เพราะเราทุกคนล้วนเป็นหยดน้ำจากแม่น้ำสายเดียวกัน 


Clive - ก็น่าคิดนะ หยดน้ำอาจดูไม่สำคัญ แต่ถ้ามันรวมกันจนเป็นกระแสน้ำมันก็จะสามารถตัดผ่านหินที่แข็งแกร่งได้ มันทำให้ผมเชื่อว่า มนุษย์ ยังมีโอกาสเสมอ 
Shula - ชั้นก็เชื่อแบบนั้นเหมือนกัน 



🔳Tailwind Bay 


Shula - สถานที่นี่อันตรายมากตอนที่สภาพอากาศไม่ดี มันจะมีคลื่นสูงซัดเข้ามา ชั้นถึงไม่อนุญาตให้ใครลงไปนอกจากลงไปเอาน้ำศักดิ์สิทธิ์ไปใช้ทำพิธี 
Clive - ผมจะระวังก็แล้วกัน 


Shula - น้ำหลั่งไหลลงสู่ท้องทะเลแล้วลอยขึ้นไปสู่เมฆ เหมือนกับชีวิตเมื่อถึงจุดจบ ที่จริงๆแล้วมันยังไม่จบ มันจะเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง



Clive - ทุกครั้งที่เห็นมัน ชั้นอดตื่นเต้นไม่ได้จริงๆ
Shula - แต่ชั้นกลับรู้สึกสลดและสงสารทุกชีวิตผู้บริสุทธิที่ติดอยู่ในนั้น ทุกครั้งที่เห็นมัน เด็กที่เป็นเสมือนปู่ทวดของชั้นที่ต้องเสียสละตัวเองเพื่อเปลี่ยนชะตากรรมของผู้คน มันเป็นสิ่งที่ผิด เป็นบาปที่ไม่ควรได้รับการอภัย 


Shula - แต่ชั้นมักจะสงสัยเสมอว่า ลูกหลานของชั้นจะอภัยในสิ่งที่ชั้นทำมั๊ย? ในฐานะ Tributary ที่มักต้องเผชิญกับทางเลือกที่ยากเสมอ และถึงแม้ชั้นจะพยายามทำในสิ่งที่ดีที่สุดให้คนของชั้นมาตลอด แต่ที่นี่เราอยู่กับอย่างยากลำบาก ต้องหลบซ่อนจากโลกใบนี้ ชั้นได้ปฎิเสธทางเลือกที่ดีกว่าของพวกเขา เหมือนกับที่บรรพบุรุษชั้นทำกับ Waljas หรือเปล่า?
Clive - ไม่หรอก คุณจะไม่บังคับใครคนใดคนนึงของคุณเพื่อให้ช่วยคนอื่น คุณจะทำสิ่งที่ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ให้กับพวกเขา เช่นเดียวกับผม เราจะแบ่งปันความทุกข์กับพวกเขาเหมือนกับที่เราแบ่งปันความสุข มากที่สุดที่เราจะทำได้คือพยายามทำให้พวกเขาดีขึ้นกว่าเดิม
Shula - คุณพูดถูก ชั้นจะพยายามทำให้คนของชั้นมีพรุ่งนี้ที่ดีกว่า รวมถึง Waljas ด้วย 
Clive - งั้นผมก็ขอให้คุณโชคดี ถ้าเวลาของผมกับเด็กน้อยนั่นเป็นตัวบังชี้ เขาก็กำลังถูกดูแลอย่างดีจากคนที่ดีแล้ว 
Shula - งั้นเราควรกลับไปเริ่มทำที่สิ่งที่ตั้งใจกันเถอะ เพื่อให้เขาได้รับการต้อนรับอย่างดีที่สุดเท่าที่เราจะทำได้ เรากลับหมู่บ้านกัน ชั้นจะดูสิว่าน้องชายของชั้นมันจัดเตรียมสถานที่เสร็จหรือยัง หรือว่าใช้ลูกสมุนทำให้อีก 



🔳หมู่บ้าน Haven / Witanhall


Clive - เราได้น้ำศักดิ์สิทธิ์จากทุกที่มาครบแล้ว มีอะไรเพิ่มเติมอีกมั๊ย
Famiel - ชั้นเตรียมทุกอย่างพร้อมหมดแล้วล่ะ บอกแล้วว่าไว้ใจชั้นได้
Shula - งั้นก็เริ่มกันเลย Famiel นายบอกคนของนายไปเชิญทุกคนมาที่ Witanhall ได้เลย 


Clive - ดะ เดี๋ยวๆ เดี๋ยวก่อน Shula คือผมยังไม่รู้เลยว่าต้องพูดอะไรยังไง
Shula - ไม่เป็นไร มันมีคนมาไม่มากหรอก แล้วก็ยังพอมีเวลาซักซ้อมก่อนได้กว่าพวกเขาจะมากันก็คงซักพักแหละ





Shula - เพื่อนๆทุกคน ที่พวกเรามารวมตัวกันในวันนี้ก็เพื่อต้อนรับเด็กคนนี้เข้าเป็นส่วนหนึ่งของชุมชนด้วยพิธีศิลจุ่มตามธรรมเนียมดั้งเดิมอย่างที่ทำกันมา ในฐานะ Tributary ชั้นก็ได้ทำพิธีนี้กับเด็กๆมาหลายคนแล้ว แต่กรณีของ Waljas พ่อแม่ของเขาเสียไปหมดนามากแล้ว


Shula - ชั้นกับ Famiel น้องชายคือครอบครัวที่เหลืออยู่ของเขา ส่วนคนที่พาเขากลับมาเราจะให้เป็นพยานแทน ..ไคลฟ์ คุณช่วยก้าวออกมาข้างหน้าหน่อยค่ะ 



     Famiel - เฉกเล่นฝนที่ตกลงมาจากภูเขาสูง ที่เราเกิดมา 


Shula - เหมือนแม่น้ำที่ไหลผ่านหุบเขาที่อยู่เบื้องล่าง ที่เราพักอาศัย 



Clive - ดั่งเช่นทะเลที่ไร้ขอบเขตที่กระแสน้ำไหลอย่างเสรี เมื่อเราตาย สู่ก้อนเมฆเพื่อรอเกิดใหม่อีกครั้ง 


Shula -วัฎจักรของน้ำก็คือวัฏจักรของชีวิต และในวันนี้ ฝนก็ตกลงมาจากสวรงสวรรค์อีกครั้ง 


Shula -เด็กคนนี้ Waljas ตอนนี้ได้เข้าร่วมกระแสน้ำกับเราแล้ว และเขาจะไหลไปกับเราจากภูเขาสู่ทะเล 




Shula - คุณแสดงความมีส่วนร่วมที่ดีมากแล้วล่ะไคลฟ์ ขอบคุณมากเลยนะ มันมีความหมายกับเรามากๆเลยค่ะ 
Clive - ผมรู้สึกเป็นเกริยติมากกว่าครับ แม้จะรู้สึกกลัวว่าจะทำผิดพลาดก็เถอะ 


Famiel - ตอนนี้นายก็กลายเป็นส่วนนึงของครอบครัวแล้วนะ เจ้าหนู Waljas เดี๋ยวโตขึ้น ลุง Famiel จะสอนเจ้าท่องโลกเอง 
Shula - โอ้ ไม่ๆ เขาจะไม่ท่องโลกอะไรทั้งนั้น 
Famiel - อ้าว ทำไมอ่า !??


Clive - อย่าเพิ่งรีบร้อนตัดสินสิ บางทีความสามารถพิเศษของน้องชายคุณเรื่องการเอาตัวรอดที่ดีอาจช่วยเขาได้ก็ได้ 
Famiel - ไม่เอาน่า นี่นายคงไม่อยากให้ชั้นใช้ชีวิตแบบนั้นตลอดไปใช่ป่ะ? 


Shula - ชั้นจะสอน Waljas ให้เป็นแบบชั้นเอง สอนทุกอย่างที่ชั้นรู้ เกี่ยวกับชีวิต ผู้คนของเรา และอดีตของเขา เมื่อถึงวันที่ มาเธอร์คริสตัลหมดไปแล้ว เขาก็จะเติบโตขึ้นในยุคที่ไม่มีความสะดวกสบายแล้ว ที่ที่เรามีเพียงตัวเราเองและพวกฟ้องเท่านั้นที่จะพึ่งพาได้ 


Clive - ผมว่าคนของคุณมีการเตรียมตัวดีกว่าคนอื่นแน่นอน เพื่อความอยู่รอดในโลกนี้ พวกเขาไม่เป็นรองใครหรอก และภายใต้การนำของคุณ พวกเขาต้องมีอนาคตที่ดีแน่นอน 
Shula - ถ้าธรรมชาติยังยิ้มให้เราต่อไปอ่ะนะ เพราะถ้าเราไม่มีของขวัญจากเธอ เราก็ไม่เหลืออะไรเหมือนกัน 
Clive - ใช่ แต่มันจะไม่ถึงวันนั้นหรอกถ้าเราหยุดยั้ง Blight ไว้ได้ ต่อให้เราจะสามารถช่วยรักษาดินไว้ได้แค่ผืนเดียว เราก็สามารถหว่านเมล็ดพันธุ์สำหรับโลกใหม่ได้ โลกที่ทุกคนมีอิสระ 
Shula - บางทีเราอาจก้าวพ้นมาจากม่านที่เราซ่อนตัวอยู่ในซักวันก็ได้จริงมั๊ย? จนถึงวันนั้น ชั้นขอให้คุณพบกระแสน้ำที่ดีนะ 
Clive - ขอบคุณ และเราควรกลับกันได้แล้วล่ะ 
Shula - ข้างนอกนั้น ดูแลตัวเองให้ดีล่ะ 
Famiel - หลีกเรื่องอะไรที่เป็นปัญหาเอาไว้ล่ะ ห๊ะเข้าใจนะ 
Clive - หึหึ เช่นกันนะ 


🔳Wall of Memories


First Rain Tailsman 

เครื่องราวที่มีลักษณ์คล้ายธงดูแปลกตา เชื่อกันว่าเป็นตัวแทนของการเดินทางของคนๆนึงตั้งแต่ฝนแรกจนถึงวันกลับสู่ท้องทะเล ชาว Mysudian จะได้เครื่องรางนี้จากเข้าร่วมพิธีศิลจุ่ม ด้วยความหวังที่ว่า การเดินทางของเขาจะยาวนานตราบเท่าลมฝนยังสงบอยู่ 

สายน้ำในแม่น้ำ มันเคลื่อนไหวและเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา เหมือนกับ ชีวิต  ถึงแม้เส้นทางของมันจะคดเคี้ยวบิดเบี้ยวแตกแขนงเป็นลำธารมากมายที่แยกออกจากกัน แต่มันจะไหลไปในทางเดียวกันเสมอ



หลังจากจบภารกิจใน QUEST : The Rising Tide แล้วจะมีสิ่งใหม่ๆปลดล็อกออกมาใน The Hideaway ด้วย  


🔳 Clive’s Chambers > Wall of Memories 


Haven Signboard ตราประจำหมู่บ้าน Haven ของชนเผ่า Mote of Water ที่ Shula ให้มาหลังจาก กำจัด Leviathan จนสามารถปลดปล่อย Waljas Dominant แห่ง Leviathan จากวังวนของเวลาได้สำเร็จ 


 🔳Missives


📜 A New Hope 

ฉันเขียนบันทึกนี้ถึงคุณจากวิทันฮอลล์ ใต้พรมที่มีภาพคอยหลอกหลอนความฝันของฉันมายาวนาน ภายนอกยังดังก้องด้วยเสียงร้องที่ผ่อนคลาย ของ Manda เสียงค้อนของ Pavaat และเสียงคำสาปดังก้องของเขา และ เสียงกระซิบแห่งสายลมผ่านคำอวยพรของผู้เฒ่า สรุปแล้วเกือบทุกอย่างก็เหมือนเดิม ก่อนที่คุณจะมาที่นี่ มีความแตกต่างเพียงประการเดียวคือ เจ้าทารกที่ส่งเสียงร้องอย่างมีความสุขอยู่ข้างๆ ฉัน ประการหนึ่ง ความแตกต่างเล็กๆ น้อยๆ...คือสิ่งที่เปลี่ยนแปลงทุกสิ่งทุกอย่าง

เมื่อบรรพบุรุษของฉันทำบาปร้ายแรงที่สุด ไม่ใช่แค่กับ Waljas เท่านั้นที่ถูกแช่แข็งในห้วงเวลา เป็นเวลาแปดสิบปีแล้วที่พวกเราชาว Motes of Water ผูกพันกับมนต์สะกดที่พวกเขาร่ายในวันนั้น ไม่สามารถแก้ไขความผิดของตนได้ และไม่สามารถก้าวไปข้างหน้าได้ แต่ตอนนี้เราสามารถปลดปล่อยทุกอย่างเหมือนกับ Waljas เราสามารถใช้ชีวิตตามเงื่อนไขของเราเองได้อีกครั้ง อย่างเท่าเทียมกับทุกคน คุณนำของขวัญล้ำค่าที่มาให้เรา และชั้นเชื่อว่า คุณจะนำมันกลับไปให้โลกนี้ด้วยเช่นกัน จงเชื่อมั่นในตัวเอง เหมือนที่เราเชื่อมันในตัวคุณนะ ไคลฟ์ 

                                                                                     Shula 


🔳Arete stone

พลังลึกลับที่ซ่อนอยู่ใน Arete stone พร้อมโหมดท้าทายใหม่ Kairos Gate


                                Clive - นี่มันอะไรกันเนี่ย?


Ultima - Mythos …แม้เจ้าดิ่งลงไปในเหวลึก แต่เจ้าก็ยังคงเต็มไปด้วยความต้องการ และ หิวโหย ข้าประทับใจยิ่งนัก 


                                Clive - แล้วยังไง !??


                  Clive - โอ่ ไม่ๆ ไม่นะ เอาอีกแล้วหรอ??


                              Clive - แฮกกก ๆๆ


                          Clive - อ๊ากกกกกกกกก !!!!






      Ultima - พลังของพวกเรา และ ตอนนี้ มันเป็นของเจ้าแล้ว 


Ultima - ถือว่าเป็นของขวัญ จากข้าถึงเจ้า เพื่อเตรียมรับกับสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น


   Clive - นี่แกยังคิดว่าชั้นจะยอมเป็น พาหะ ของแกอีกงั้นหรอ!? 


Clive -  แต่ก็เถอะ ชั้นจะเก็บของขวัญที่แกให้เอาไว้ก็แล้วกัน และอย่าได้หวังว่าจะได้มันกลับคืนไปล่ะ 


                                  ULTIMATE POWER


                                        Ultima Ability 


Ascension - ท่าโจมตีด้วยการใช้ปีกฟาดฟันศัตรู (สี่เหลี่ยม) และ โจมตีด้วยกระสุนพลัง (สามเหลี่ยม) 


หากหลบแบบกระชั้นชิดได้สำเร็จจะสามารถกด สี่เหลี่ยม โจมตีเป็นท่าเค้าเตอร์ที่รุนแรงได้ เป็นท่าพื้นฐานที่ใช้ในการโจมตีและหลบหลีกได้เป็นอย่างดี 


Dominion - ท่าอัดพลังลงพื้นสร้างดาบเวทย์ขนาดใหญ่พุ่งขึ้นมาโจมตีศัตรูจากพื้นดิน เป็นท่าที่ไม่รุนแรงมากเน้นให้ศัตรูเสียจังหวะตอนลอยขึ้นบนฟ้า 


Proselytize - ใช้ธารพลังงานศักดิ์สิทธิ์โจมตีศัตรูระยะประชิดกินพื้นที่เป็นแนวตรงสั้นๆ สามารถใช้ในขณะลอยตัวในอากาศได้ด้วย 


Voice of God - ท่าที่ใช้ตัวเองเป็นเสาพลังงานศักดิ์สิทธิ์โจมตีศัตรู ข้อเสียคือ ก่อนใช้ท่าใช้เวลาในการร่ายนานอาจถูกศัตรูโจมตีทำให้ถูกยกเลิกได้ 


แต่เมื่อสร้างท่าสำเร็จจะเป็นอมตะ ความรุนแรงต่ำ แต่โจมตีได้ต่อเนื่องยาวนาน เหมาะสำหรับกำจัดศัตรูขนาดเล็กที่มีจำนวนมาก 


Ultimate Demise - ท่าใหญ่ ระเบิดพลังศักดิ์สิทธิ์สร้างความเสียกับศัตรูทั่วพื้นที่อย่างรุนแรง



                                     Kairos Gate


โหมดท้าทายใหม่ที่เพิ่มเข้ามาหลังจบ QUEST : The Rising Tide


โหมดท้าทายที่ให้เข้าไปสู้กับศัตรูทีละกลุ่ม จำนวน 20 Circles และทุกๆ 5 Circles จะพบกับบอสระดับ Eikon โดยระหว่างการต่อสู้แต่ล่ะ Circles จะไม่สามารถเซฟได้ หากพ่ายแพ้ที่ Circles ไหนก็จะต้องกลับมาเริ่มต้นใหม่ทันที แต่รางวัลที่ได้จากการผ่านแต่ล่ะ Circles ไปแล้วจะสามารถรับไว้ได้ 


ก่อนเข้าไปสู้ในแต่ล่ะ Circles จะมีรายละเอียดบอกเอาไว้ในแผนที่ของ Circles  ทั้งจำนวนและประเภทของศัตรู รวมถึงรางวัลที่จะได้จาก Circles  นั้น 

เมื่อผ่านแต่ล่ะ Circles จะได้รับค่า EP (Enhancement Point) และ BP (Boon Point) มามากน้อยแตกต่างกันจากคะแนนการต่อสู้ สำหรับใช้เสริมความแข็งแกร่งให้กับสเตตัสและเป็นตัวช่วยต่างๆในระหว่างต่อสู้ใน  Kairos Gate ได้


EP (Enhancement Point) สำหรับอัพเกรดสเตตัสของไคลฟ์ในขณะต่อสู้ใน Kairos Gate 

🔹Maximum HP (เพิ่มค่าสูงสุดของ HP)
🔹Defense (เพิ่มค่า VIT)
🔹Attack Potency (เพิ่มค่า STR และ WIL ทำให้การโจมตีปกติและคาถาแรงขึ้น)
🔹Eikonic Ability Potency (เพิ่มศักยภาพความสามารถของ Eikon ช่วยเพิ่มค่า STR และ WIL ทำให้การโจมตีรุนแรงขึ้น)
🔹Boon Potency (เพิ่มระดับการได้ค่า Boon สูงขึ้น) 
🔹Boon Duration (ขยายระยะเวลาเมื่อใช้ Boon ประเภทต่างๆให้นานขึ้น)


BP (Boon Point) สำหรับนำไปซื้อ สิ่งที่ช่วยอำนวยความสะดวกต่างๆสำหรับใช้ในการต่อสู้ในแต่ละ Circles 

🔹Near Death Resilience 
- เมื่อพลังชีวิตต่ำว่า 25% จะช่วยลดความเสียหายจากการถูกโจมตีลง 40%
🔹HP Regain Potential 
-เพิ่มศักยภาพการฟิ้นฟูหลังจากได้รับความเสียหาย 40% เกจ HP จะฟื้นฟูอัตโนมัติ 3.0% ทุกๆ 3 นาที
🔹Precision Dodge HP Regain
ช่วยฟื้นฟู HP อย่างน้อย 2.0 % ของค่า HP สูงสุดเมื่อการหลบระยะประชิดสำเร็จ ศักยภาพของเอฟเฟคจะมากน้อยตามพลังโจมตีหลังการหลบระยะประชิด
🔹Post - battle HP Recovery
ฟื้นฟู HP อัตโนมัติหลังจาก Circle 10% ของ HP สูงสุด
🔹Limit Break potency
เพิ่มโบนัสการใช้ Limit Break 15% และฟื้นฟู HP 50% หากเกิดความเสียหายร้ายแรง ลด HP เหลือ 1 และเริ่มใช้ Limit Break ใหม่อัตโนมัติ
🔹Damage Boost 
เพิ่มพลังโจมตี 5 %
🔹Counter potency
เพิ่มความเสียหายจากการเค้าเตอร์ 10 % หลังจากใช้ท่า Heatwave , Rook’s Gambit , Raging Fists หรือ Tatanic Block รวมถึงบวกคะแนน Performance Score 30 %
🔹Recast timer Reduction
ลดเวลาคูลดาวน์การใช้ความสามารถของ Eikon ลง 10 %
🔹Magic Burst cooldown
ลดเวลาคูลดาวน์การใช้ความสามารถของ Eikon ลง 50 % หลังจากใช้ท่า Magic Burst 
🔹Stagger Score Bonus
-เพิ่มความเสียหายเมื่อโจมีศัตรูขณะ Stagger เพิ่มตัวคูณสูงสุด 2.0 % และบวกคะแนน Performance Score 30 % ระหว่างการ Stagger ของศัตรู
🔹Precision Dodge Slowdown
-ขยายระยะเวลาการชะลอเวลาระหว่างการหลบหลีกระยะปนะชิด 0.3 วินาที และลดการลดลงของ Technical Gauge ลง 5 วินาที
🔹Technical Febrir
คงรูปแบบร่าง Febrir ของ Torgal ตลอดการต่อสู้ ลดการลดลงของ Technical Gauge ลง 30% เป็นเวลา 5 วินาที หลังจากสั่งให้ Sic
🔹Technical Combos 
เพิ่มความเร็วของ Technical Gauge 20% เป็นเวลา 5 วินาทีหลังจากใช้การโจมตีแบบคอมโบ
🔹Aerial Attack improment
เพิ่มความเสียหายจากการโจมตีกลางอากาศ 110% เพิ่มความเร็วของ Technical Gauge 60%
🔹Score Bonus
เพิ่มโบนัสของ Performance Score 20 %
🔹Eikonic Ability Score Bonus
เพิ่มโบนัสของ Performance Score 30 % และลดอัตราการลดลงของ Technical Gauge 50% เป็นเวลา 5 วินาที หลังจากใช้ความสามารถของ Eikon กำจัดศัตรู 
🔹Parry Score Bonus
เพิ่มโบนัสของ Performance Score 30 % หลังทำ Parry สมบูรณ์ 
🔹Quick Charge
เพิ่มความเร็วในการชาร์จเกจความสามารถของ Eikon Upheaval , windup และ Ice Age 20 % และเพิ่ม Performance Score 20 %
🔹Parry window Extension
เปลี่ยนชื่อของเป้าหมายเมื่อ Parry สำเร็จและเพิ่มช่องโหว่ของเป้าหมาย 20% หลัง Parry สำเร็จ
🔹Magic Auto Charge
ชาร์จเวทย์มนต์ทุกชนิดหลังใช้งาน (ใช้ได้ต่อเมื่ออัพความสามารถ Charge Magic แล้ว)
🔹Berserker Ring (ความสามารถเหมือนใส่แหวน Berserker Ring) 
เพิ่มความรุนแรงของการโจมตีหลังหลบระยะประชิดสำเร็จ (ไม่สามารถใช้งานได้ในขณะความสามารถ Arm of Darkness , Serpent;s Cry หรือ Ascension ใช้งานอยู่
🔹Timely Strikes (ความสามารถเหมือนใส่แหวน Timely) 
สามารถใช้ท่าคอมโบยากๆที่ซับซ้อนด้วยปุ่มสี่เหลี่ยมปุ่มเดียว (ลดการได้ Performance Score)
🔹Timely Evasion (ความสามารถเหมือนใส่แหวน Timely)
หลบเลี่ยงการโจมตีอัตโนมัติตราบที่สามารถหลบการโจมตีได้ (ลดการได้ Performance Score)
🔹Timely Focus (ความสามารถเหมือนใส่แหวน Timely)
ชะลอเวลาและมีปุ่มขึ้นให้กดก่อนที่การโจมตีของศัตรู(ที่สามารถหลบได้) จะโจมตีถูกไคลฟ์ (ลดการได้ Performance Score)
🔹Timely Assistance (ความสามารถเหมือนใส่แหวน Timely)
สั่งการทำงานของ Torgal อัตโนมัติและปรับให้เข้ากับการโจมตีของไคลฟ์ (ลดการได้ Performance Score)


                                      Original Sin

ขั้นตอนการตีดาบ Original Sin ดาบสุดยอดที่มีพลังโจมตีสูงสุด จาก DLC The Rising Tide (มากกว่า Ultima Weapon และ Omega Weapon Reforged ที่มีพลังโจมตี 700)


1. เล่นเกมรอบ 2 (New Game +) ด้วยระดับความยากสูงสุด (Final Fantasy Mode)
2.จบ DLC The Rising Tide ด้วยระดับความยากสูงสุด (Final Fantasy Mode)


🔳วัตถุดิบที่ต้องใช้ 

- Ultima Weapon ดาบสุดยอดเดิมที่ได้จากการเล่นเกมรอบ 2 (New Game +)
-Tidestrike Reforged ดาบที่ได้จากการกำจัด Leviathan ใน DLC The Rising Tide จากการเล่นเกมรอบ 2 (New Game +) ด้วยระดับความยากสูงสุด (Final Fantasy Mode)
- Flawless Water Shard ไอเทมที่ได้จากการกำจัด Leviathan ใน DLC The Rising Tide จากการเล่นเกมรอบ 2 (New Game +) ด้วยระดับความยากสูงสุด (Final Fantasy Mode)
- Opportunity ไอเทมที่ได้จากการผ่าน Kairos Gate (20Circle)  ด้วยระดับความยากสูงสุด (Final Fantasy Mode)



              -------------  The Rising Tide END -----------------
      
                                    [ 1 / 05 / 2024 ] 





ไม่มีความคิดเห็น: