วันพฤหัสบดีที่ 19 ธันวาคม พ.ศ. 2556

บทสรุป Killzone Shadow Fall





                                                   บทสรุป Killzone Shadow Fall


BY Decibel per – oxide




3 ทศวรรษจากเหตุการ์ณใน Killzone 3 สงครามระหว่าง Vektan ISA และ Helghast จบลง อย่างน้อยๆก็ตอนนี้ กระสุนนัดสุดท้ายของยุคสงครามจบลงด้วยชัยชนะของชาว Helghan และเรียกยุคใหม่นี้ว่า Terracide หลังสงครามผ่านไปไม่นาน บ้านเมืองถูกสร้างขึ้นใหม่ในชื่อ New Helghan Sector และ การเจรจาของทั้ง 2 ฝ่ายก็ประสบผลสำเร็จ Helghan ผู้กำชัยก็อณุญาติให้ผู้รอดชีวิตของ Vektan ลี้ภัยออกจากดาวเคราะห์ Vekta เพื่อหาที่อยู่ใหม่ในฐานะผู้อพยพลี้ภัยสงคราม ชาว Vektan ส่วนใหญ่ยอมทิ้งดาวบ้านเกิดที่ถูกทำลายจนย่อยยับให้ตกอยู่ภายใต้การควบคุมของชาว Helghan เอาไว้เบื้องหลัง ชาว Vektans ที่ไม่มีกำลังพอที่จะลี้ภัยก็ถูก Helghan ปกครองอย่างเหี้ยมโหดทำให้ Vektans ที่เหลือรอดทนถูกกดขี่ไม่ไหวต้องก่อตั้งกองกำลังใต้ดิน Shadow Marshal เพื่อต่อต้านอำนาจการปกครองของ Helghast เพื่อทวงคืนแผนดินเกิด



Chapter 1: Father

27 ธันวาคม ปี 2370 เวลา 0.34 am / Vekta City , New Helghan Sector




Michael Kellan พร้อมชายกลุ่มนึงพร้อมอาวุธลอบเข้าไปพาตัวหนูน้อย Lucas ลูกชาย เพื่อหลบหนีออกจากค่ายกักกันของ Helghan เดินตามพ่อไป (กด X ) โดดลงไปชั่นล่าง พ่อพยายามปลอบหนูน้อย Lucas ให้ลืมบ้านเกิดที่ถูกยึดครองเพื่อหาทางหนีออกจากที่นี่ ค่อยๆตามพ่อไปพร้อมรอจังหวะคำสั่งที่พ่อบอกระหว่างทางเพื่อไม่ให้ถูกยิงตาย จนถึงซากตึกด้านในจะพบกับคนของหน่วย Shadow Marshal ที่ชื่อ Sinclair ก่อนที่ผู้พ่อจะฝากฝังให้พาตัวหนูน้อย Lucas หนีออกจากพื้นที่อย่างปลอดภัย ระหว่างที่ทั้หงดมกำลังลอบหลบหนี ทหาร Helghast ก็มาพบตัว Michael และ Lucas Michael พยายามปกป้องลูกชายพร้อมทวงถามความยุติธรรมในฐานะผู้เป็นเจ้าของบ้านเกิด แต่ ทหาร Helghast ก็ยิง Michael ตายไปต่อหน้า Lucas ขณะที่ โชคร้ายกำลังมาเยือน Lucas Sinclair ก็เข้ามาสังหารกลุ่มทหาร Helghast จนหมดแล้วพา Lucas หนีออกจากพื้นที่ ทิ้งเอาไว้แต่ศพของ Michael ผู้เป็นพ่อและแรงแค้นที่จะติดตัวหนูน้อย Lucas ต่อไปอีกนานแสนนาน ….






8 ปีต่อมา … Lucas Kellan ในวัยรุ่นได้เข้าร่วมการทดสอบของ หน่วย Shadow Marshal เป็นครั้งแรก





14 ปีต่อมา … Lucas Kellan เข้าร่วมการฝึกใน Shadow Marshal Program และผ่านการทดสอบที่แสนโหดเหี้ยมได้สำเร็จ



The Wall  …7 มิถุนายน ปี 2390 Lucas แทรกซึมเข้าสู่ New Helghan Sector เขตปกครองของ Helghast และยอมถูกเพื่อจะล้วงความลับ ก่อนที่เขากำลังถูกประหารพร้อมกับนักโทษหญิงคนนึง ก่อนที่หน่วย Shadow Marshal จะบุกเข้าช่วยเหลือและพาตัว Lucas กลับฐาน ส่วนนักโทษหญิงหนีไปได้ Lucas ถูกส่งตัวเข้าพบ Sinclair ที่ตอนนี้เขานั่งเก้าผู้บัญชาการ์ณของ หน่วย Shadow Marshal อย่างเต็มตัว เขาพยายามว่ากล่าวกับ Lucas ถึงนิสัยมุทะลุของ Lucas ที่พยายามแทรกซึมเพื่อช่วยหน่วย Shadow Marshal ที่ติดอยู่หลังกำแพงของพวก Helghast จนถูกจับได้ แต่ Sinclair ก็มอบภาระกิจช่วยเหลือนี้กับ Lucas อย่างเป็นทางการเสียเลย

Chapter 2: The Shadows

New Helghan Sector, Visary Park 21 มิถุนายน ปี 2390 , 8.32am
Lucas พร้อมออกปฏิบัติการ์ณแทรกซึมอีกครั้ง ในซากของห้องนึงใน Visary Park
[กดปุ่มทิศทางขึ้นบนเพื่อดูรายละเอียดของเป้าหมายที่ต้องทำ]
เพื่อเป้าหมายในเข้าไปพบทีมที่ลอบเข้าไปชิงข้อมูลลับก่อนหน้านี่ซึ่งพวกเขากำลังรอส่งต่อข้อมูลให้ที่ไหนซักแห่งในเขตท่อระบายน้ำ [กดปุ่มทิศทางด้านขวา เรียนรู้การใช้เครื่องสแกนสภาพแวดล้อม ซึ่งจะสามารถสแกนหาตำแหน่งของศัตรูรวมถึงเป้าหมายต่างๆที่อยู่รอบๆตัวได้ด้วยสังเกตดูที่พื้นที่มีตัวอักษร Follow the Ratway จะมีทางให้ลงไปชั้นล่างต่อได้ ลอบเข้าไปด้านในจนขึ้นมาด้านบนของอีกด้านจะพบทหาร Helghast ศัตรูตัวแรก ปีนขึ้นไปบนกล่องด้านหลังมันแล้วโดดลงไปเสียบได้เลย [ เรียนรู้การใช้ Malee Weapon ด้วยการกดแกนอนาล็อคซ้าย R3 ลงไปตรงๆลอบเข้าไปตามทางจนถึงทางออกของซากตึก จะพบทหาร Helghast กลุ่มนึงอยู่ที่กล่องไอเทม ขณะที่มันกำลังโจมตี หุ่นโดรน OWL ที่อยู่ในกล่องที่ทีมแรกทิ้งเอาไว้ก็ออกมาจัดการทหาร Helghast จนหมด



** การบังคับ OWL นั้นต้องอาศัย Touch Pad ที่อยู่ด้านหน้าของจอยบังคับในการลูกไปตามทิศทางต่างๆ
- ขึ้นบน Attack Mode คำสั่งโจมตีศัตรู
- ทางขวา Zipline Mode คำสั่งในการเคลื่อนที่ไปยังที่ต่างๆด้วยลวดสลิง Zipline
- ลงล่าง Shield Mode คำสั่งในการเปิดเกราะบาเรียป้องกันตัว
- ทางซ้าย Stun Mode คำสั่งในการใช้พลังไฟฟ้าทำให้ศัตรูมึนงงและปลดล็อคเสาสัญญาณเตือนภัยของศัตรูได้



** และจงอย่าลืมว่า หุ่นโดรน OWL คือเพื่อนรวมรบคนเดียวของคุณในทุกเส้นทาง การประสานงานและใช้ประโยชน์จากมันให้เกิดประโยชน์จะทำให้คุณเดินหน้าต่อไปได้อย่างไม่มีปัญหาถ้าคุณเลือกใช้มันอย่างถูกวิธี

จากนั้นลงไปที่กล่องไอเทมจะได้ปืนมาใช้แต่ตอนนี้มันยังไม่มีกระสุน ใช้ OWL สั่งให้ใช้ Stun Mode กับเสาสัญญาณเตือนภัยของศัตรูก่อนแล้วปีนเขาขึ้นไปด้านบน ที่หน้าผาฝั่งตรงข้ามจะมีทหารศัตรูอยู่กลุมนึง ยังไม่มีกระสุนให้ยิงต้องใช้ OWL สั่งให้มันลงไปโจมตีศัตรูให้หมด แล้วกดใช้ Zipline Mode ลงไปที่ด้านล่างของหน้าผาจะพบกล่องไอเทมก็จะได้กระสุนมาใช้แล้ว (จริงๆก็เก็บจากศพศัตรูได้ตามปกติแต่ตอนนี้เป็นการแนะนำเท่านั้นจากนั้นเลาะหน้าผาไปฝั่งซ้ายหาทางใช้สลิง Zipline Mode ลงไปจนถึงพื้นล่างสุด จะพบทหารศัตรูมากมายลาดตระเวณอยู่ที่ต้องลอบจัดการมันให้หมด พยายามองหาเสาสัญญาณเตือนภัยของมันเพื่อใช้ OWL ปลดล็อคก่อนเพื่อกันมันเรียกกำลังเสริมมา ลอบเข้าไปถึงอาคารด้านในขึ้นไปชั้นบนแล้วใช้ ใช้สลิง Zipline โหนข้ามมาที่ซากอาคารอีกฝั่ง จัดการศัตรูให้หมดแล้วเข้าไปชั้นล่างจะพบกับ หน่วย Shadow Marshal ที่ลอบเข้ามาก่อนหน้านี้ พวกเขาจะให้แผงบันทึกข้อมูลที่ได้มากับ Lucas

จากนั้นขึ้นบันไดออกมาที่พื้นที่ด้านหลังรูปปั้นขนาดใหญ่จะพบซากของยานที่นี่ ติดตั้งระเบิด C4 ซะ ทหารศัตรูจะเริ่มเข้ามาโจมตีจากทุกด้าน กดลงล่างเพื่อเปลี่ยนระบบของปืนเป็นไรเฟิ่ล แล้วกด R2 จะเป็นการชาร์ทยิงจากระยะไกลได้ จัดการศัตรูให้หมดแล้วขึ้นเขามาจนเห็นอาคารใหญ่บนยอดเขา ปีนขึ้นไปด้านบนจนถึงอาคาร จัดการศัตรูบนนั้นให้หมดแล้วใช้ OWL ปิดระบบรักษาความปลอดภัยด้วย ขึ้นไปที่ป้อมปืน AA Guns ด้านบนใช้ระเบิด C4 ติดตั้งให้หมด แล้วเป้าหมายต่อไปจะขึ้นมาที่หอคอนสื่อสารทางฝั่งขวาต่อ ลุยต่อไปจนถึงหอคอยเป้าหมายจัดการศัตรูให้หมดแล้วขึ้นไปที่ห้องควบคุมด้านบนจนพบคอมพิวเตอร์หลัก สั่งให้ OWL เข้าไป Hack ระบบของคอมซะ จากนั้นลุยศัตรูเข้าไปต่อจนถึงหน้ารูปปั้นขนาดใหญ่ จัดการศัตรูให้หมดแล้วลุยเข้าไปด้านในอาคารใต้รูปปั้น ลุยขึ้นไปจนถึงที่จอดยานบนดาดฟ้าตึกที่อยู่หลังรูปปั้นขนาดใหญ่ เตรียมพบศึกหนักกับศัตรูที่บุกเข้ามาพร้อมกับยานลำเลียง พยายามจัดการศัตรูให้หมดแล้วต้านมันเอาไว้จนกว่าจะมีคำสั่งให้หนี ก็รีบขึ้นไปที่ยานบินที่จอดอยู่ที่ลานจอดด้านใน Lucas ก็จะกดระเบิดที่วางเอาไว้ทั้งหมดจนหอคอยสื่อสารของกองทัพ Helghast ถูกระเบิดไปจนหมดพร้อมกับรูปปั้นขนาดใหญ่ของผู้นำของพวกมัน



ที่ฐานบัญชาการ์ณ Shadow Marshal Lucas จะเข้าไปพบ Sinclair ที่กำลังดูข้อความของหน่วยรบที่ส่งมาเพื่อขอความช่วยเหลือจาก ISA Cassandra Sinclair จึงมอบหมายให้ Lucas แทรกซึมเข้าพื้นที่ทันที เพื่อพาตัว Dr.Massar หนีออกมาก่อนที่พวก Helghast จะได้ตัวไปก่อน

Chapter 3: The Doctor
22 มิ.2390, 9.54p.m. สถานีอวกาศ ISA Cassandra
Lucas ถูกส่งตัวเข้าด้านในสถานีอวกาศที่มีสภาพสูญญากาศที่ไม่มีแรงโน้มถ่วง ซึ่งการเดินทางก็ต้องใช้การลอยตัวไปมา [กด X ขึ้นบน / กด O ลงล่าง] เข้าไปด้านในลอยตัวลงด้านล่างจนถึงทางเข้าด้านในจะเริ่มพบทหาร Helghast จัดการศัตรูให้หมดแล้วจะมีจุดหมายสีแดงขึ้นมา 2 จุด (ซึ่งที่นี่จะใช้มุขเก็บไอเทมต่างๆมาใช้ในการเปิดเส้นทางที่วกวนนั่นเอง) เข้าไปที่จุดแรกเครื่องกำเนิดไฟฟ้า ดึงเอา Petrusite Capacitor ออกมาแล้วยกเข้าไปที่วงแหวนด้านใน เอา Petrusite Capacitor ใส่เข้าไปที่ช่องตรงพื้นทางเดินแสง ซึ่งจะต้องไปหา Petrusite Capacitor อีก 4 ตัวที่อยู่รอบๆวงแหวนมาใส่ที่ช่องด้านในวงแหวนให้สามารถทำพื้นแสงเพื่อเดินผ่านวงแหวนที่เริ่มหมุนไปมาจนถึงอีกด้านให้ได้ จะพบบันไดขึ้นด้านบนต่อ จัดการศัตรูชั้นบนให้หมดแล้วเข้าไปด้านในจะพบช่องทางสู่ช่องตรงกลางของสถานีที่เป็นสูญญากาศ ลอยตัวขึ้นไปที่ประตูทางขึ้นด้านบนเข้าไปด้านในจัดการศัตรูให้หมดแล้วเข้าไปเก็บ Petrusite Capacitor ที่ตกอยู่ด้านในแล้วยกเอามาใส่ที่ช่องหน้าประตูที่ปิดอยู่ประตูจะเปิดเข้าไปได้ ด้านในหา Petrusite Capacitor เอามาใส่ประตูด้านในเปิดเข้าไปต่อ สำรวจจนพบประตูที่แผงควบคุมมีไฟช็อต ใช้ OWL ทำการ Hack จนเกิดการระเบิดทำให้ประตูทางซ้ายเปิดออกได้ จัดการศัตรูด้านในให้หมดแล้วย้อนขึ้นไปเก็บแท่ง Petrusite Capacitor ที่ชั้นบนลงมาแล้วเอาไปใส่ที่ช่องใส่ที่พื้นด้านหน้าประตูด้านในก็จะผ่านเข้าด้านในได้

ที่ช่องทางเดินจะมีที่สแกนมือทางขวาเพื่อเปิดประตูขึ้นไปเก็บ Comic แล้วกลับลงมาเข้าไปตามทางเดินฝั่งซ้ายต่อ แผ่นทะลุเข้ามาในห้องทำงานด้านในขึ้นไปชั้นบนจะทะลุออกมาที่ชั้นลอยอีกด้าน ใช้ OWL ทำการ Hack ที่แท่นควบคุมด้านในเพื่อเปิดการทำงานของระบบหลัก ดูที่จอมอนิเตอร์จะพบคนสองคนกำลังเปิดประตูเข้าไปด้านใน จากนั้นเข้าด้านในต่อจนถึงทางออกที่ปล่องสุญญากาศเมื่อสแกนมือเปิดเข้าไปด้านในแล้ว ทิ้งตัวลงมาตามปล่องหลบแสงเลเซอร์ลงไปด้านล่างจนถึงทางเข้า ด้านในจะเป็นห้องทดลองขนาดใหญ่ เมื่อเข้าไปสำรวจที่เตียงผ่าตัด Lucas จะโดนผู้หญิงลึกลับที่อยู่ในชุดทหาร Helghast ที่แอบอยู่ลอบโจมตี



 หลังจากสวนกลับจนสามารถโจมตีกลับได้แล้ว เธอจะวิ่งหนีเข้าด้านใน วิ่งตามเธอเข้าไปแต่ก็ต้องหยุดเพราะแสงความร้อนที่ส่องเข้ามาทางหน้าต่างฆ่าหทาร Helghast ไปต่อหน้าต่อตา เพราะที่นี่กำลังจะถูกทำลายด้วยพลังรังสีความร้อน ย้อนกลับออกมาที่ห้องทดลองมองดูที่พื้นจะมีทางลงไปใต้พื้นห้องได้ เข้าไปตามทางจนถึงบันไดปีนขึ้นไปบนทางเดินชั้นบน ศัตรูที่อยู่อีกฝากจะเริ่มเปิดฉากโจมตี พร้อมๆกับรังสีความร้อนที่ส่องผ่านทางหน้าต่างเข้ามาด้วย ที่นี่เป็นพื้นที่ที่มองเห็นศัตรูได้ยากพยายามใช้การสแกนหาตำแหน่งของศัตรูตลอดเวลาด้วย  จัดการศัตรูให้หมดแล้วพยายามเดินหลบรัวสีความร้อนและเหล็กที่กำลังหลอมละลายตามทางจนโดดลงมาชั้นล่างได้สำเร็จ ลุยเข้าไปตามทางด้านใน ระหว่างทางสามารถยิงทำลายหน้าต่างให้รัสีความร้อนส่องเข้ามาฆ่าพวกศัตรูได้ด้วย ลุยเข้าด้านในต่อจนถึงห้องยานหนีภัยในขณะที่ในห้องกำลังเริ่มระเบิด Sinclair จะสั่งให้รอจนกว่ายานกู้ภัยจะมารับ แต่เกิดการระเบิดภายในห้องเสียก่อนทำให้ร่างของ Lucas กระเด็นออกไปนอกสถานีอวกาศทันที



ภายในยานของ Helghast หัวหน้าทหารหญิงพาตัว Dr.Massar หนีขึ้นยานมาได้สำเร็จหลังจากหัวหน้าทหารหญิงพยายามสอบสวน Dr.Massar แต่ไม่สำเร็จจนเธอต้องสั่งยานหนีออกจากที่นี่ต่อหน้าต่อตา Lucas ที่กำลังล่องลอยอยู่กลางอวกาศในขณะที่รังสีความร้อนจากกวงอาทิตย์กำลังทำลายสถานีอวกาศ ISA Cassandra จนใกล้ระเบิดจนสุดท้ายยานลำเลียงของ Shadow Marshal ก็มารับ Lucas ไว้ได้สำเร็จในที่สุด 

Chapter 4: The Patriot 
29 มิ.2390, 10.59a.m. Vekta City
ขณะที่ Lucas กำลังเดินทางเข้ามารายงานตัวที่ตึกฐานบัญชาการ์ณ จู่ๆก็เกิดการะเบิดขึ้น เสียงร้องด้วยความเจ็บปวดของประชาชนในเมืองระงมไปทั่ว Lucas พยายามรวบรวมสติภายใต้ฝุ่งควันและซากความเสียหายจากระเบิดจนเขาเริ่มเห็นทหารจากหน่วยพยาบาลเข้ามาในพื้นที่ ซึ่งทำให้เขาเบาใจอยู่ไม่นานจนมันชักปืนออกมายิงทั้งหทารและพลเรือนที่กำลังบาดเจ็บตายไปทีละคน ก่อนที่มันจะเดินเข้ามาและกลายร่างเป็นทหาร Helghast แล้วเตรียมจะเข้ามาสังหาร Lucas เป็นรายต่อไป แต่โชคดีที่ Lucas สามารถจัดการแทงสวนเข้าไปได้ก่อน



เมื่อรอดมาได้แล้วกดปุ่มทิศทางขวาเพื่อเติมพลังชีวิตเสียก่อน ที่ลานกว้างนั้นเต็มไปด้วยทหาร Helghast มากมายที่บุกเข้ามาแบบไม่ให้ทันตั้งตัว จัดการให้ลุยเข้าไปจนสุดทางจะพบยานรบของ Helghast ดักยิงจนไปต่อไม่ได้ รีบกระโดดลงพื้นที่เป็นรอยลงไปยังอาคารด้านล่างก่อน จัดการศัตรูที่ทางเดินรูปวงกลมให้หมดแล้วเข้าด้านในต่อจนถึงห้อง Security Room จะพบว่าระบบรักษาความปลอดภัยทั้งหมดถูกปิดเอาไว้จนหมด สั่งให้ OWL เข้าไป Hack เปิดระบบทั้งหมดก็จะทำติดต่อกับ Sinclair ได้แล้ว จากนั้นเข้าไปด้านในจนพบทางออกจากตัวตึกได้จะพบกับกองทหาร Shadow Marshal ที่จะชี้ทางให้ไปพบ Sinclair ที่กำลังยืนตรวจพื้นที่อยู่กลางลานกว้าง ทันทีที่ Lucas เข้าไปรายงานตัว Sinclair ก็จะพาตัวให้ตามเขาขึ้นไปที่เฮลิคอปเตอร์เพื่อตรวจสอบสาเหตุของการถูกโจมตี Sinclair พยายามชี้ให้เห็นความเสียหายของเมืองที่เกิดจากฝีมือของพวก Helghast ซึ่งเป็นสาเหตุที่เขาต้องเดินหน้าทำสงครามเพื่อจัดการพวก Helghast ให้สิ้นซากไปให้ได้ ก่อนที่ทั้งหมดจะเข้าที่ทางฐานก็ส่งของมูลที่ได้มาให้ซึ่งตามข้อมูลแผนก่อการร้ายครั้งนี้เป็นฝีมือของ Vladko Tyran ฉายา Black Hand และตอนนี้มันก็กระจายกำลังเข้ายึดรถไฟบรรทุกขีปนาวุธของทหารทั้ง 3 จุดเอาไว้ได้แล้ว ซึ่ง Sinclair จะสั่งให้ Lucas ออกปฏิบัติการหยุดยั้งแผนของ Tyran เอาไว้ให้ได้ 



เมื่อลงมาจาก ฮ. แล้วก็ลุยศัตรูเข้าไปตามทางรถไฟฟ้าตามทางผ่านรถไฟหลายๆขบวนจนไปถึงที่หัวขบวนของรถไฟ Lucas จะพบระเบิดจำนวนมากมายอยู่ในโบกี้หน้าสุด ซึ่งแน่นอนว่า Lucas ไม่มีทางจะปลดชนวนมันได้ Sinclair จึงขับ ฮ. มารับ ให้ Lucas โดดกลับขึ้นไปแล้วเขาจะชี้ให้ทำลาย Drive System ที่เชื่อมต่อระหว่างรางด้านบนกับรถไฟเพื่อหยุดรถไฟก่อนที่จะพุ่งชน Central Station ที่มีประชาชนอยู่มากมาย พยายามยิงไปที่จุด Drive System ทั้ง 4 จุดจนมันถูกทำลายจนหมดก็จะทำให้รถไฟพร้อมระเบิดตกรางลงไประเบิดที่ด้านล่างได้สำเร็จ แต่ตอนนี้ Vladko ที่สั่งการอยู่ที่ Upper Town ได้ปิดระบบลิฟต์หลักทั้งหมดแล้ว Sinclair จะสั่งการกับ Lucas ให้ร่วมทีมกับทีมภาคพื้นดินหาทางขึ้นไปยัง Upper Town เพื่อไล่ล่า Vladko ให้ได้

ลุยเข้าไปพร้อมกับหน่วยภาคพื้นดินเป้าหมายแรกคือลงไปในโดมตรงกลางซึ่งทางลงนั้นสามารถลงบันไดได้ทางประตูทาง 2 ด้านหรือจะโดดทะลุกระจกลงไปพร้อมกับหน่วยภาคพื้นดินเลยก็ได้ ( แต่มันจะเสียเปรียบสุดๆเพราะโดดลงไปในห้องท่ามกลางทหาร Helghast แล้วล่ะก็โอกาศรอดยาก) ฉะนั้นใช้หุ่น OWL จัดการ Hack เปิดประตูใดประตูนึงค่อยๆลุยลงไปข้างล่างจะเหมาะที่สุด ด้านในจะมีศัตรูจำนวนมากค่อยๆสแกนหาศัตรูค่อยกำจัดไปแล้วเข้าไปที่เป้าหมายที่จุดขาวที่ขึ้นมาเพื่อตามช่วยตัวประกันให้หมดทั้ง 2 กลุ่ม แล้วลุยต่อไปจนออกมาที่ทางเชื่อมนอกอาคารที่เลื่อนไปมา พยายามโดดไปให้ถึงนั่งร้านตรงข้ามต่อจนพบ Tyran กำลังจะขึ้นยานหนี 



Lucas กระโดดตามอย่างแรงและใช้ลวดสลิงมัดที่ยานของมันเอาไว้ได้ หลังจากพยายามปีนต่อขึ้นไปถึงตัวยาน Lucas ก็ได้พบกับ Tyran มันออกมาประกาศชัยชนะในแผนที่มันลงมือทำก่อนจะควักปืนออกมาหมายจะยิงหัว Lucas ให้กระจุย ก่อนที่ Lucas จะหสจังหวะเสียบมีดเข้าที่เท้าของมันก่อนที่จะโดนมันถีบกระเด็นลงจากยาน Lucas ใช้เบาะนิรภัยรองรับเอาไว้ได้อย่างปลอดภัยแต่เขาก็ปล่อยให้ Tyran มันหนีไปได้อย่างน่าเจ็บใจ



ที่ห้องทำงานของ Sinclair อย่างน้อยถึงแม้จะจับตัว Tyran เอาไว้ไม่ได้แต่อย่างน้อยก็ทำให้รู้ว่าในฝ่ายเรามีคนทรยศอยู่จริงๆและไม่ใช่แค่การรุกรานจากภายนอก แต่เป็นการรุกรานเข้ามาจนถึงบ้านเกิดเราแล้วด้วย และนั่นทำให้เราต้องเร่งในการจัดการพวกมันขั้นเด็ดขาดให้เร็ววันที่สุด แต่ Lucas ก็ถูกชื่นชมว่าเขาได้ช่วยคนบริสุทธิ์เอาไว้ได้จำนวนมากเช่นกันซึ่งมันสำคัญยิ่งกว่าสิ่งใด แต่ Sinclair ก็ย้ำให้ฟังอีกครั้งถึงสิ่งที่ศัตรูได้ทำกับพวกเรา พวกมันรู้ดีว่าเรามีกองทัพที่เข้มแข็งแต่เราเองก็ต้องแสดงให้พวกมันเห็นด้วยว่า เราแข็งแกร่งกว่าที่มันคิดเอาไว้ ก่อนที่ Sinclair จะบอกภาระกิจต่อไปที่จะส่ง Lucas แทรกซึมเข้าไปที่ค่ายของผู้ลี้ภัยเพื่อพบกับสายข่าวของฝ่ายเราที่ชื่อรหัสว่า Zeus และเขาจะเป็นของบอกตำแหน่งของ Tyran ให้ ตามหาตัวมันแล้วสังหารมันซะ และจะนำพาไปจนถึง Extraction site ในที่สุด

Chapter 5: The Helghast  
1st ก.ค 2390, 6.45p.m. . Vekta City - Helghan Sector



Lucas ปลอบแปลงเป็นพวกผู้อพยพเพื่อแทรกซึมเข้ามาที่ค่ายของผู้ลี้ภัยที่เต็มไปการรักษาความปลอดภัยของ Helghast เต็มพื้นที่ได้สำเร็จ จนเมื่อเข้าไปจนถึงขบวนรถไฟลำเลียงเชลยกด R2 เพื่อกดชนวนระเบิดที่วางเอาไว้จนทำให้ทหาร Helghast ด้านในบาดเจ็บจนหมด จน Lucas ฉวยโอกาสแย่งอาวุธจากพวกมันได้สำเร็จ ในขณะที่พวกเชลยทั้งหมดก็หนีออกจากรถไฟได้ทั้งหมด จากนั้น Lucas ติดต่อกลับไปถามข้อมูลของ Zeus เพิ่มเติม Sinclair แต่ก็ได้ข้อมูลมาแค่ อยู่ในที่ไหนซักแห่งในเขตกักกันที่ 47 เท่านั้น

จากนั้นลงจากรถไฟเข้าไปในเขตพักอาศัยลุยเข้าไปด้านในจนถึงเป้าหมายแรกที่ที่นัดหมายกับ Zeus แต่กลับไม่พบใครที่นั่นเลย ใช้หุ่น OWL ทำการ Hack ที่แท่นควบคุมเพื่อฟังบันทึกของ Zeus ที่เก็บเอาไว้จนรู้ตำแหน่งของจุดที่ซ่อนตัวของเขามา จากนั้นลุยต่อเข้าไปในเขตกักกันด้านในที่ต้องลุยผ่านด่านตรวจที่เต็มไปด้วยทหารด้วย ลุยเข้าไปจนถึงที่ซ่อนลับของ Zeus ซึ่งดูแล้วเหมือนคนไม่เต็มมากกว่า แต่อย่างน้อยเขาก็ชี้ที่อยู่ของ Tyran ให้ได้โดยมันจะอยู่ในชั้นล่างสุดของหอคอยขนาดใหญ่ของมัน



 เมื่อ Zeus ทำหน้าที่ของมันแล้วมันก็จะขอร้องให้ Lucas ลบข้อมูลของตัวมันออกจากระบบด้วย (ซึ่งจะเป็น Secondary Mission ที่จะแสดงเป้าหมายเป็นรูปจุดหมาย (E) ในแผนที่นั่นเอง ซึ่งสามารถเลือกทำหรือไม่ทำก็แล้วแต่คุณ ) เก็บระเบิด C4 และตัวจุดระเบิดในห้องของ Zeus มาด้วย แล้วย้อนออกมาจากห้องได้เลย

ตอนนี้จะมีจุดเป้าหมายของภาระกิจขึ้นมา 2 จุดคือ

จุด (E) Secondary Mission Erase Zeus name ที่ต้องแวะเข้าไปที่ห้องข้อมูลแล้วใช้หุ่น OWL ทำการ Hack ที่เมนเฟรมเพื่อลบประวัติของ Zeus ก็เป็นอันเรียบร้อย



จุด (D) Main Mission Descend into Containment ซึ่งก็คือภาระกิจหลัก ที่เป้าหมายคือไปสู่ทางเข้าหอคอย Container Canyon ลุยเข้าไปตามเขตกักกันด้านในต่อจนถึงลิฟต์ขนาดใหญ่ 2 ตัวที่จะพาลงไปชั้นล่าง ลุยเข้าไปตามหอคอยที่ซับซ้อนจนถึงที่ซ่อนตัวของ Tyran ที่อยู่ในคอนเทรนเนอร์ชั้นล่างสุดซึ่งจะพบมันกำลังติดต่อกับหัวหน้าของมันและกำลังหัวเสียเรื่องอาวุธเสริมที่ส่งมาล่าช้า จนมันเห็น Lucas ที่เข้ามาจากด้านหลังก่อนที่ Lucas จะกดสวิตซ์ทำให้คอนเทรนเนอร์ที่เป็นห้องของ Tyran เลื่อนขึ้นด้านบนอย่างรวดเร็วท่ามกลางการต่อสู้ของทั้งคู่ที่เริ่มขึ้น ใช้ R3 Malee Attack กับมัน



 ขณะต่อสู้ Lucas เสียท่าจนถูกมันถีบตกลงมาด้านล่างอีกครั้งแต่ถือว่าเป็นโชคดีที่ คอนเทรนเนอร์ของ Tyran เลื่อนไปกระแทกเพดานด้านบนจนเกิดการระเบิดทำให้ Tyran ที่อยู่ในนั้นถูกระเบิดไปด้วยเลย Lucas ที่ตกลงมาด้านล่างเมื่อรู้สึกตัวแล้วก็รีบรายงานกลับหา Sinclair ว่าเขาจัดการ Tyran เป้าหมายได้แล้วท่ามกลางพื้นที่ที่กำลังจะถล่ม Sinclair รีบสั่งให้หนีออกจากที่นี่ทันทีก่อนที่จะมาถูมิใจในผลงาน ระหว่างที่กำลังหนีไปที่ลิฟต์เพื่อลงจากชั้นนี้ ยานขนส่งของกองทหาร Helghast ก็ลงจอดดักหน้าพร้อมส่งทหารเกราะหนักออกมาล้อมมากมายจน Lucas ถูกจับตัวได้ในที่สุด …

......................................................................................................................................................

ในห้องสอบสวน Lucas ถูกรีดข้อมูลอย่างหนักของทั้งชื่อและผู้สั่งการ ซึ่งเป็นโอกาสอันดีในการพิสูจน์ความภักดีของ Lucas ด้วยเลือดด้วยเนื้อของเขาท่ามกลางแรงกระแทกของกระบองไฟฟ้าถูกกระหน่ำซัดใส่นับครั้งไม่ถ้วนก็ไม่สามารถรีดข้อมูลออจากจากปากของ Lucas จนทหารที่ทรมานต้องถอดใจออกไปพักนอกห้อง หญิงลึกลับในชุดทหาร Helghast ที่ Lucas เคยพบที่แอบอยู่ในห้องรีบออกมาหา



ทหารหญิง -  ไม่ต้องกลัวฉันไม่ได้มาทำร้าย แค่อยากบอกว่าการโจมตีที่เมือง Vekta นั้นกองทัพ Helghast ในการควบคุมของฉันนั้นไม่ได้รู้เรื่องด้วย เราไม่อยากก่อสงครามเพิ่ม อยากรู้ว่านายรู้ตัวผู้ว่าจ้าง Tyran ให้ลงมือหรือเปล่า ? ใช่  Jorhan Stahl หรือเปล่า ?
Lucas ฉันจะไปรู้หรอว่ามันเป็นใครแต่ก็รู้ว่ามันอยู่ที่ Helghan แน่นอน แถมมันยังใช้ Dr.Massar ที่เธอเป็นคนจับมาในการสร้างอาวุธให้มันจนทำให้ชาว Vaktains ต้องล้มตายมากมาย ซึ่งนั่นเธอเองก็ต้องรับผิดชอบด้วย !



ขณะที่ทหารหญิงกำลังพยายามสอบถามความจริงจาก Lucas หญิงชราในชุดชนชั้นปกครองชั้นสูงที่เธอเรียกว่า แม่ ก็เข้ามา นายทหารหญิงรู้ทันทีว่า แม่ของเธอนั้นได้ผลประโยชน์มาบางอย่างจาก Stahl จึงยอมที่จะไม่รู้ไม่เห็นถึงการโจมตีตามแผนของ Stahl ก่อนที่นายทหารหญิงจะโดนตบเพราะความปากดีห่อนที่จะถูกทหารควบคุมตัวไป แล้วเริ่มสั่งให้ทหารเริ่มการทรมาน Lucas อีกครั้ง !

Chapter 6: The Agent  
6th  ก.ค 2390, 9.46p.m. ในห้องขังแห่งหนึ่งใน Helghan Sector ..
Lucas ที่ถูกขังอยู่หลังถูกซ้อมอย่างหนัก ได้บินเสียงติดต่อมาของหน่วยภาคพื้นดินที่ตามเข้ามาช่วยออกจากที่นี่ Lucas พยายามจะบอกให้พวกเขาเตือนถึงอันตรายกับ Sinclair ก่อนแต่หน่วยที่จะเข้ามาช่วยบอกให้หนีออกจากที่นี่ให้ได้ก่อน หลังจากประตูคอนเทรนเนอร์ห้องขังถูกเปิดออกแล้ว หนีออกมาตามทางที่เสียงของทหารทีมช่วยเหลือที่คอยบอกทาง ระหว่างทางจะยังไม่มีอาวุธและยังบาดเจ็บจนยังไม่สามารถลอบสังหารได้จึงต้องลอบหลบทหารผ่านไปตามทางให้ได้ จนการติดต่อของทีมช่วยเหลือของทหารขาดหายไป ที่ทางเดิน Lucas จะพบทหารหญิงอีกครั้ง เธอกำลังเข้าไปอัดทหาร Helghast ฝ่ายของเธอจนหมอบก่อนที่จะเข้ามาหา Lucas ก่อนที่เธอจะร่วมมือด้วยที่จะหาความจริงของเรื่องทั้งหมดก่อนที่ทั้ง 2 ฝ่ายจะรบกันโดยไร้เหตุผล



ก่อนที่จะนำทาง Lucas ให้หนีออกจากที่นี่ด้วย ระหว่างทางที่ทั้งคู่หนีออกมา เธอจะพยายามบอกให้ Lucas กลับไปบอกหัวหน้าของเขาให้อย่าเพิ่งเปิดฉากโจมตีก่อนที่จะหาความจริงและคนทรยศของทั้ง 2 ฝ่ายได้ก่อน และที่สำคัญที่สุดดูเหมือน Dr.Massar เองถูกทั้ง 2 ฝ่ายหลอกใช้ให้สร้างอาวุธเท่านั้น หลังจากใช้ลิฟต์เลื่อนเข้ามาจนถึงด้านในแล้ว จากนั้นจะสามารถสั่งการเธอได้เสมือนกับ Owl ด้วย L1 ให้เธอยิงทำลายช่องระบายอากาศ ก่อนที่เธอจะให้โยนหุ่น Spider Mine เข้าไปในช่องระบายอากาศแล้วให้บังคับมันไปช็อตแท่นควบคุมประตูอีกด้านให้เปิดออกได้แล้ว Lucas ก็จะสามารถเข้าประตูบนบันไดซ้ายได้แล้ว ในห้องสไลด์หน้าจอย Touch Pad ขึ้นบนเพื่อเปลี่ยนไปบังคับ Spider Mine มุดเข้าไปอีกด้านของประตูเพื่อช๊อตไฟให้มันเปิดออกด้านนอกได้ เมื่อออกมาด้านนอกอาคารแล้ว ทหารหญิงจะให้ปืนพกกับ Lucas ก่อนที่เธอจะย้ำเตือน Lucas อีกครั้งว่าอย่าลืมเด็ดขาดว่า ที่เราทั้งคู่ยอมเสี่ยงทำแบบนี้เพื่ออะไร เธอบอกอีกด้วยว่า Sinclair หัวหน้าของ Lucas เป็นคนดีจงเชื่อฟังการนำของเขาให้ถึงที่สุดก่อนที่เธอจะแนะนำตัวว่าเธอชื่อ “ Echo “ก่อนที่เธอจะเปิดการทำงานของชุด Stealth หายตัวเพื่อคอยคุ้มครอง Lucas




** การใช้งาน Echo **
Echo เพื่อร่วมทางคนใหม่โดยเธอจะมาแทนที่หุ่น Drone Owl นั่นเอง ซึ่งก็จะใช้งานและสั่งการคล้ายๆกันคือ กด L1 กับศัตรูที่มีรูปเป้ายิงสีขาวขึ้นที่บนหัว แปลว่าอยู่ในระยะยิงของ Echo ก็จะจัดการสุ่มยิงด้วยสไนเปอร์ของเธอที่เป้าหมายต่างๆที่ Lucas ได้ พลังโจมตีจะมากกว่า หุ่น Drone Owl แบบยิงทีเดียวจอดแต่ก็ต้องอาศัยระยะเวลาการเล็งที่ช้ากว่า เหมาะอย่างยิงที่จะใช้สังหารศัตรูที่อยู่ระยะไกล และเธอยังมีอุปกรณ์อย่าง Spider Mine เพื่อให้ Lucas ใช้แทรกซึมเข้าไปตามที่แคบๆเพื่อช่วยในการเปิดประตูต่างๆได้ด้วย

จากนั้นเป้าหมายต่อไปคือมุ่งหน้าไปที่ Containers Center 37 ลุยเข้าไปตามทางจนถึงทางขาด สไลด์หน้าจอย Touch Pad ขึ้นบนใช้ Spider Mine ที่อยู่อีกฝั่ง บังคับให้มันไปช็อตแท่นควบคุมด้านในจะทำให้สะพานออกมาให้ข้ามไปอีกฝั่งได้ ลุยเข้าไปด้านในต่อจนถึงทางขึ้นด้านบน เข้าไปจัดการทหาร Helghast ที่กำลังจับกุมชาวบ้านอยู่ แล้วชาวบ้านจะเปิดประตูห้องด้านในให้เข้าไปเก็บ Comic แล้วปีนขึ้นบนหลังคาห้องนี้ขึ้นไปที่ด้านบนจะพบช่องระบายอากาศที่สามารถมุดเข้าไปด้านในจะมีทางลงไปยังห้องด้านในได้ ลุยต่อเข้าไปตามาทางจนถึงเขต Containment City หรือเขต สลัมของเขต New Helghan ที่นี่มีประชาชนที่ต้องการให้ช่วยมากมายที่สามารถหยิบยื่นความช่วยเหลือเล็กๆน้อยๆให้เขาได้ ทั้งยับยั้งการฆ่าตัวตายของเด็กและให้ไอเทมเติมพลังกับคนที่บาดเจ็บ จากนั้นเข้าไปด้านในต่อจนถึง Containment Center จัดการศัตรูให้หมดพื้นที่แล้วโดดลงทางฝั่งขวาจะมีทางเดินข้ามมาฝั่งตรงกันข้ามได้ จากนั้น Echo จะแจ้งว่า Attack Drone ขนาดใหญ่กำลังบุกเข้ามา เก็บระเบิด EMP Grenade เพื่อใช้ปาใส่มันให้มัน Stun จนหยุดนิ่งก่อนแล้วจะยิงโจมตีมันได้ง่ายขึ้น จากนั้นขึ้นไปที่ลิฟต์ด้านบนจะพบทหาร Helghast มากมายออกมา จัดการมันให้หมดแล้วขึ้นลิฟต์ใหญ่ขึ้นไปชั้นบน เข้าไปที่ Loading Bay สไลด์หน้าจอย Touch Pad ขึ้นบนใช้ Spider Mine ที่ประตูฝั่งขวา บังคับให้มันเข้าไปช็อตที่แท่นควบคุมประตูทางขวาจะเปิดออก เข้าไปตามทางจนถึงทางขึ้นชั้นบนสุด จะพบ Echo รออยู่




เธอจะให้ปืน Sniper Rifle มาแล้วเธอจะข้ามไปอีกฝั่งแล้วจะให้คอยยิงคุ้มกันให้เธอ จากนั้นยิงไปตามจุดหมายสีขาวที่มีทหารศัตรูอยู่ให้หมด แล้ว Echo เธอจะเข้าไปกดสวิตซ์ให้ตู้คอนเทรนเนอร์ตรงจุดที่ Lucas ยืนอยู่ให้เลื่อนไปอีกฝั่งได้ โดดลงไปในตู้คอนเทรนเนอร์แล้วส่องยิงทหาร 2 คนที่หอควบคุมเครนผ่านทางตะแกรงลูกกรงแล้ว Echo จะเข้าไปควบคุมเครนให้เอาตู้คอนเทรนเนอร์อีกอันให้เลื่อนมาต่อกัน ปีนกลับขึ้นไปก็จะเดินต่อมาด้านในได้ ส่องยิงทหารศัตรูบนหอคอย 2 จุดซ้ายขวาตรงหน้าให้หมด แล้ว Echo จะบังคับให้ตู้คอนเทรนเนอร์ตรงจุดที่ Lucas เลื่อนเข้าไปฝั่งตรงข้ามสำเร็จ ก่อนที่เธอจะทวงปืนของเธอคืนจาก Lucas แล้วช่วยกันลุยเข้าด้านในต่อ จนถึงหน้าห้องควบคุมของอีกฝั่ง จัดการทหาร Helghast มากมายที่ออกมาให้หมด  ทหาร Helghast จะส่งกองหนุนออกมาป้องกันห้องควบคุมมากมายและจะออกมาเรื่อยๆไม่หยุด พยายามต้านเอาไว้แล้วเข้าไปจนถึงห้องควบคุมให้ได้

 จากนั้น Echo จะตามเข้ามาทำการ hack ข้อมูลในห้องควบคุม ซึ่งเธอจะต้องการพลังงานเพิ่มในการใช้ดาวน์โหลด จากนั้นไปถอดแท่นพลังงาน Petrusite capacitor ในห้องออกมา แล้วลุยออกมาด้านนอกห้องควบคุม เอาไปใส่ที่เสาพลังงานที่อยู่ด้านนอกแล้วต้านศัตรูรอจนกว่า Echo จะ hack ระบบจนเสร็จก็จะได้ระบบป้องกันตัวเอง ATACs มาใช้งาน กด L1 ชี้เป้าสั่งให้ Drone ที่บินคุ้มกันที่นี่ทั้งหมดให้ยิงทำลาย Attack Drone ขนาดใหญ่ที่บุกเข้ามาให้หมด (ไม่ต้องช่วยยิงให้เปลืองกระสุนแค่ยืนดูเฉยๆมันก็ถล่มไม่มีเหลือแล้ว) จากนั้นจัดการทหารอีกกลุ่มที่ออกมาให้หมดแล้วรอจนกว่า Echo จะตามออกมา เพื่อ Set ระบบของยาน ATAC เพื่อให้ Lucas ใช้หนีออกจากที่นี่ โดยเธอจะขอร้องให้รีบไปบอก Sinclair ให้ระวับการตอบโต้ทั้งหมดก่อน ซึ่ง Echo จะขอเวลาไปล่าสังหาร Dr.Massar ที่กำลังผลิตอาวุธให้กับ Stahl ซึ่งถ้า Dr.Massar ตายซะดาวขยะดวงนี้ก็คงไม่มีความหมายอะไรสำหรับ Stahl อีกต่อไป Lucas ตกลงจะทำตามที่เธอบอกก่อนจะรีบปีนขึ้นไปบนยาน ATAC แล้วรอให้มันบินออกจากที่นี่ แต่เมื่อบินออกนอกเขตการควบคุมของเสาควบคุม ยานก็เริ่มตกลงพื้นแต่โชคดีที่มันตกลงหน้ากำแพงที่หน้าทางเข้าของฝ่าย Vektan พอดี จากนั้นก็รีบวิ่งฝ่าดงกระสุนเข้าไปที่ประตูของกำแพงได้เลย ขึ้นไปจนถึงดาดฟ้าของกำแพงที่ลานจอดยานก็จะพบยานลำเลียงของทหาร Vektan ที่บินมารับพาหนีออกจากที่นี่ได้สำเร็จ 





เมื่อกลับมาถึงฐานบัญชาการ์ณ Lucas รีบเข้าไปแจ้งให้ให้ Sinclair รู้ทันที 
Sinclair – ให้หยุดยิงหรอ นี่นายจะบ้าหรอ ! เราต้องเชื่อมันในกลยุทธ์การรบของพวกเราน๊ะ
Lucas - แต่ Echo คนของ Helghast เป็นคนช่วยผมออกมาน๊ะ
Sinclair – ลูกสาวของ Visari น่ะหรอ ? นี่นายขัดคำสั่งฉันแล้วข้ามไปอีกฝั่งกับเธองั้นหรอ ? ที่เธอบอกว่าจะฆ่า Dr.Massar ต่างหากที่เป็นสิ่งเดียวที่เราต้องการ ..ฟังน๊ะ ทั้งไอ้พวก Black Hand, Visari หรือจะ Stahl มันก็ไม่แตกต่างกันหรอก เพราะภาระกิจหลักของพวกมันก็คือ เขี่ยพวกเราให้พ้นทางไม่ใช่หรอ และมันก็จะเป็นอย่างนั้นตลอดไปด้วย โธ่ พระเจ้า Lucas แม้แต่พ่อเธอก็โดนพวกมันฆ่าตายไปต่อหน้าต่อตาจำไม่ได้แล้วหรอ แล้วนายจะทำให้พ่อนายตายไปฟรีๆอย่างนั้นหรอ ? แล้วพวกคนบริสุทธิ์ที่ต้องตายไปอีกล่ะ ไม่เลย Lucas พวก Helghast ไม่ใช่พวกที่จะเชื่อใจได้นายก็รู้ ฉะนั้นสิ่งที่จะทำให้เรามีชัยก็แค่กำจัด Dr.Massar เพื่อหยุดยั้งการผลิตอาวุธของพวกมัน และนั่นจะทำให้ Visari ไม่มีกดขี่พวกเราได้อีก ตลอดไปด้วย แล้วสุดท้ายเราก็จะได้ บ้าน ของพวกเรากลับคืนมา !!

Sinclair – จากข้อมูลที่นายได้มาทำให้รู้ว่า ตำแหน่งของฐานของพวก Black Hand น่าจะอยู่รอบๆวงโคจรของดาวดวงนี้แน่นอน ซึ่งฉันจะให้นายแทรกซึมเข้าไปเพื่อเป้าหมายในการค้นหาและทำลายอาวุธของพวกมันและจากนั้นก็สังหาร Dr.Massar เสียด้วย แล้วอย่าให้ Echo หรือใครมายุ่งกับการปฏิบัติงานนี้ ทำให้ฉันเห็นว่ายังเชื่อใจนายได้ Lucas


Chapter 7: The Handler   
7th  .2390, 8.36a.m. Helghan Orbit – Mining facility 746B



เมื่อ Lucas ถูกส่งตัวเข้ามาที่หน้า Mining facility 746B ก็ทรงตัวด้วยชุดอวกาศลอยมาที่เป้าหมายสีแดงก็จะพบจุดที่สามารถเจาะเข้าไปด้านในได้ เข้าไปจนถึงแกนกลางแล้วกระโดดทิ้งตัวลงมาด้านล่างตามปล่องของแกนจนถึงด้านล่างสุด Lucas จะทะลุพนังเข้าไปด้านในแกนกลางได้ ที่นี่ค่อนข้างกว้างและซับซ้อนมากแต่เส้นทางไปนั้นมีทางเดียว พยายามจัดกี่ศัตรูไปทีละนิดก็จะเข้าไปด้านในได้จนถึงห้องข้อมูลเมนเฟรม เข้าไปกดสวิตซ์ระบบระบายอากาศด้านในเพื่อเปิดช่องกลางห้องออก ศัตรูมากมายจะเริ่มออกมาจัดการมันให้หมด แล้วโหนเชือกลงไปที่ปล่องกลางห้องลงไปด้านล่าง ใช้หุ่น Owl hack ระบบเปิดประตูเข้าไปด้านใน ระหว่างทางต่อจากนี่จะเต็มไปด้วยทหาร Helghast มากมายที่ป้องกันที่นี่อยู่ การใช้โล่บาเรียจาก Drone Owl จึงจำเป็นมากในการตั้งรับและโต้กลับการโจมตีของศัตรูแบบอยู่กับที่ ลุยลงไปด้านล่างเรื่อยๆจนถึงห้องทดลองในการผลิตอาวุธ เข้าไปที่ Lower Lab จะพบ Dr.Massar อยู่ด้านใน

Lucas จะรีบรายงานกับ Sinclair ทันที ถึงเขาจะควบคุมตัว Massar เอาไว้ได้แล้วแต่เขากลับไม่พบอะไรที่เป็นอาวุธที่น่ากลัวที่เธอสร้างขึ้นเลย จน Massar ต้องบอกกับ Lucas ว่า พวกนายมาสายเกินไปแผนทุกอย่างและอาวุธทั้งหมเฃดถูกติดตั้งเอาไว้หมดแล้ว และสุดท้ายพวกนายก็กำลังจะตายกันหมดในไม่ช้า Sinclair จึงเตรียมส่งหน่วย ISA เข้าโจมตีเพื่อทำลายอาวุธนั่นทันทีโดยจะให้ Lucas เข้าร่วมทีมไปด้วย แต่พวกทหาร Helghast มากมายก็บุกเข้ามาในห้อง จน Dr.Massar ฉวยโอกาสหนีออกไปได้ จัดการทหารศัตรูให้หมด แล้วเปิดประตูออกจากห้องทดลองนี้โดดออกไปในอวกาศ ด้านนอกจะเต็มไปด้วยตู้คอนเทรนเนอร์บรรจุอาวุธที่กำลังถูกลำเลียงไป ยิงทำลายตู้คอนเทรนเนอร์อาวุธที่เลื่อนไปมาให้หมดสลับกับยิงต้านจรวดของศัตรูที่ยิงเข้ามาหาด้วย พยายามยิงทำลายตู้คอนเทรนเนอร์อาวุธด้านนอกให้หมดก่อนเวลานับถอยหลังจะหมด จากนั้นตามรางของตู้คอนเทรนเนอร์ที่เหลือผ่านประตูเข้าไปด้านใน ลุยเข้าไปด้านในจนถึงที่จอดของตู้คอนเทรนเนอร์ก็จะพบ Dr.Massar รออยู่ที่นี่ ตามเธอเข้าไปด้านในก็จะพบห้องเก็บอาวุธที่เธอสร้างให้ Helghast ทั้งหมดอยู่ที่นี่ Dr.Massar พยายามบอกถึงสิ่งที่เธอทำอย่างภาคภูมิใจในความสามารถเดียวที่เธอมีโดยไม่ได้สนว่าจะทรงผลให้เกิดอะไรตามมาบ้าง จนทหารหน่วยเสริมของ Vektan ISA ก็ตามมายึดอาวุธและควบคุมตัว Dr.Massar เอาไว้ได้สำเร็จ



จากนั้นทหาร Helghast มากมายจะบุกเข้ามาเพื่อชิงตัว Dr.Massar ภาระกิจจะขึ้นมาให้ป้องกันเชลยแต่จริงๆเอาตัวเองให้รอดก้พอแล้วงานนี้ พยายามจัดการฝูงทหารที่บุกเข้ามาให้หมดพร้อมกับยานขนส่งที่ระดมพลเข้ามาเสริมเรื่อยๆยิงทำลายยานขนส่งให้ได้ก่อน (ใช้ป้อมปืนกลที่อยู่ที่นี่จะเร็วที่สุด) จากนั้นหน่วย Red Team ของ Echo จะบุกเข้ามาพร้อมกับหน่วยทหารของ Vektan ISA ที่กำลังควบคุมตัว Dr.Massar กลับไปให้ Sinclair ตามคำสั่ง โดยมี Lucas อยู่ตรงกลางกระบอกปืนและความขัดแย้งที่กำลังตรึงเครียด ต่างฝ่ายต่างก็พยายามทำตามหน้าที่แต่สุดท้าย Echo ก็เปิดฉากยิง Dr.Massar จนตายไปพร้อมทหาร Vektan ISA ทันที



Lucas ต่อว่า Echo ทันทีที่เธอด่วนตัดสินใจทำแบบนี้ลงไปก่อนทั้งๆที่เรากำลังจะหาอาวุธทั้งหมดจนเจอแล้วเรื่องทุกอย่างก็จะจบแล้วแท้ๆ แต่ Echo ก็ยังยืนยันว่า Dr.Massar นั้นต้องตายสถานเดียวทุกอย่างถึงจะจบ จากนั้นเธอจะพา Lucas ขึ้นยานเล็กออกไปนอกอวกาศเพื่อลอบตามยานลำเลียงที่กำลังหนีไปเพื่อตามอาวุธที่เหลือต่อ ระหว่างการบินตามยานลำเลียงจะพบว่ายานถูกยิงจนตกลงสู่ดาว Helghan ทำให้ทั้ง Lucas และ Echo ต้องนำยานเล็กของทั้งคู่ดำดิ่งสู่บรรยากาศของดาว Helghan ตามไปด้วยทันที

Chapter 8: The Dead   
7th  .2390, 5.35p.m. ดาว Helghan



เมื่อทั้งคู่ผ่านเข้าสู่บรรยากาศของดาว Helghan ก็ต้องสละยานเล็กขณะที่กำลังทิ้งดิ่งลงมายังซากเมืองด้านล่างก็พยายามทรงตัวให้เข้าไปตามเส้นทางของ Landing Zone เอาไว้ให้ได้ ก็จะลงมาสู่ที่ซากตึกอย่างปลอดภัย



 เดินเข้าไปด้านในต่อเก็บแท่นพลังงาน Petrusite capacitor แล้วถือเข้าไปต่อจนพบ Echo อยู่ข้างๆเครื่อง Canister แล้วยิงใส่มันจนทำให้เกิดจุดแรงดึงดูด (Gravity Point) ที่ทำให้ลอยขึ้นไปชั้นบนได้ ผ่านเข้าไปตาทมซากตึกจนออกมาส่วนหลังของซากเมือง เข้าไปจบพบ Canister อีกจุด แล้วยิง Drone ที่บินอยู่ใกล้ๆจะได้ Petrusite capacitor ตกลงมา แล้วเอามาใส่ Canister ยิงมันให้ระเบิดจะทำให้เกิดจุดแรงดึงดูด ( Gravity Point) เมื่อโดดตามแสงออร่าสีเขียวขึ้นไปบนซากตึกด้านบนต่อ เข้าไปด้านในจนพบ เครื่อง Canister จุดที่ 3 เอา Petrusite capacitor ที่ตกอยู่ใกล้ๆมาใส่แล้วพวก Attack  Drone มากมายจะออกมาโจมตี พยายามจัดการให้หมดหรือโดดหนีตามแสงสีเขียวขึ้นบนซากตึกด้านบนเลยก็ได้

ขึ้นมาจนถึงซากตึกบัญชาการ์ณด้านบนแล้วใช้สลิงโหนเข้าไปที่หน้าตึกจะพบ While Scan Unit เฝ้าอยู่จัดการพวกมันให้หมด แล้วใช้สลิงโหนตัวลงไปด้านล่างซึ่งที่นี่จะพบ Petrusite capacitor ตกอยู่ 2 อัน ให้เอาไปใส่ที่ Canister ตรงกลาง 1 อันและทางซ้ายสุด(ตามสายไฟไป)อีก 1 อัน รีบหนีออกมาจาก Canister เพราะมันจะซ็อตจนตายได้ แต่ก็จะทำให้จุดแสงออร่าทั้งหมดในตึกเริ่มทำงานแล้ว While Scan Unit ที่หน้าทางเข้าก็จะถูกทำลาย จากนั้นเข้าไปด้านหน้าทางเข้า เข้าไปด้านในซากตึกต่อแล้วโดดลงไปตามช่องลิฟต์จนมาถึงชั้นล่างของซากตึกแล้วปีนออกมาด้านนอกตรงหน้าผาก็จะพบยานของพวกศัตรูกำลังลงจอด เมื่อเฝ้าสังเกตการ์ณดูจะพบ Tyran ที่ยังไม่ตายกับทหารกลุ่มนึงที่กำลังขึ้นยานออกไป Lucas จึงคิดแผนที่จะตามทิศทางของยานของ Tyran ซึ่งมันจะนำไปที่ซ่อนของอาวุธแน่นอน



จากนั้นเข้าไปตามทางช่องภูเขาต่อระหว่างทางจะพบ While Scan Unit ขนาดใหญ่ที่คอยสแกนหาเป้าหมายให้พวก Drone ที่บินอยู่มากมายลาดตระเวณอยู่เพื่อโจมตีผู้บุกรุก ซึ่งรอบๆตัวมันถ้ามองจากสายไฟที่โยงมาจะมี Canister อยู่ 2 เครื่อง พยายามเลาะฝั่งซ้ายเข้าไปตามทาง มองหา Petrusite capacitor ที่ตกอยู่หรือยิงทำลาย Drone ที่บินอยู่ให้ Petrusite capacitor ตกลงมาก็ได้ หามา 2 อันเพื่อมาใส่ที่ Canister ทั้ง 2 จุด While Scan Unit ขนาดใหญ่ ก็จะถูกทำลาย จากนั้นเข้าไปที่จุด Gravity ที่มีแสงสีเขียวเริ่มทำงานก็จะโดดลอยขึ้นมาด้านบนได้ จะพบกับ Echo รออยู่ ทั้งคู่จึงเข้าไปด้านในหุบเขาต่อพร้อมกัน ระหว่างทางจะพบยานขนาดใหญ่ที่เคลื่อนตัวออกจากช่องเขา เมื่อ Echo ตามเข้าไปดูที่ด้านในช่องเขานั้นก็จะพบ Tyran และ อาวุธมากมายอยู่ในฐานลับของมัน






Chapter 9: The Destroyer     
7th  .2390, 9.12p.m. ดาว Helghan – Old Ryrrhus




เมื่อมาถึงด้านบนเนินเขา Lucas และ Echo เตรียมลุยเข้าไปฐานของ Tyran เพื่อหยุดแผนชั่วของมัน โดยใช้สลิงโหนลงไปที่หน้าผาด้านล่างต่อ ผ่านถ้ำเข้าไปด้านในจะพบฐานด้านหน้าที่เต็มไปด้วยทหาร Helghast มากมาย พยายามใช้ Rifle ลอบยิงพวกมันจากด้านบนให้มากที่สุดก่อนแล้วจึงค่อยลุยลงไปด้านล่างต่อ ในพื้นที่มีทหาร Helghast เพียบและมาอีกอย่างต่อเนื่อง ซึ่งตอนนี้จะมี Objective ที่ต้องทำคือ



- จุด E และ D เข้าไปวางระเบิดทำลายจุด Army calls ที่ใช้เรียกกำลังเสริม 2 จุดก็จะทำให้ระบบ Mobile Scan Unit ของศัตรูถูกทำลายไปด้วย
จากนั้นก็ต้านทหารศัตรูรอให้ Echo ลอบเข้าไปด้านในเพื่อเปิดประตูทางเข้าให้ เมื่อเข้ามาในโกดังจะพบว่าไม่มีอาวุธอยู่เลย จากนั้นที่ประตูชัตเตอร์ใหญ่ต้องยืนสแกนนิ้วจากฝั่งขวาพร้อมกับให้ Echo สแกนจากฝั่งซ้ายก็จะเปิดเข้าไปส่วนของอุโมงค์รถไฟใต้ดินได้

เข้าไปจัดการทหารที่เฝ้าอยู่ให้หมดเพื่อเคลียร์พื้นที่ แล้วขึ้นรถรางเข้าไปด้านในต่อจะพบกองทัพของพวก Black Hand และ Stahl มากมายที่ยึดที่นี่อยู่และกำลังรอที่จะตอบโต้กลับทันทีที่ Sinclair เริ่มโจมตี Echo จึงย้ำเตือนกับ Lucas อีกครั้งว่า Visari ผู้นำของเธอนั้นไม่มีทางเลือกเพราะโดนบังคับเธอจึงพยายามบอกให้ Lucas รีบไปบอก Sinclair ให้อย่ารีบโจมตี แต่เขากลับไม่คิดจะฟังเพื่อเรา และถ้าเราไม่หยุดยั้งพวกมัน Vekta จะไม่เหลือแน่นอน Lucas จึงพยายามติดตอกลับไปยังฐานอีกครั้งเพื่อเตือน Sinclair ว่า Stahl นั้นเตรียมกองทัพและอาวุธหนักมากมายเพื่อรอโจมตีโต้กลับเพื่อความชอบธรรมของมันอยู่ แต่เขากลับติดต่อกลับไม่ได้เลย

จากนั้นลุยเข้าไปต่อจนถึงห้องควบคุม จัดการศัตรูด้านในให้หมดแล้ว Echo จะเข้าไปตรวจสอบหาตำแหน่งของคลังอาวุธ ช่วงนี้ทหารศัตรูมากมายจะบุกเข้ามาจากทุกทาง พยายามคุ้มครองเอาไว้และมุ่งหน้าไปที่จุดหมายใหม่ที่ขึ้นมาเพื่อใช้ Owl Hack ระบบรักษาความปลอดภัย แล้วลุยกลับมาหา Echo อีกครั้ง แล้วลุยเข้าไปที่จุดหมายใหม่ด้านในต่อ ระหว่างทางจะพบกับ Tyran ที่ขับยานเข้ามาโจมตีจน Lucas กระเด็นตกลงไปด้านล่าง Tyran จะเข้ามาโจมตีต่ออีกครั้ง แต่โชคดีที่ Tyran มันลงจากยานมาสู้ด้วยตัวเอง



Boss Tyran นั้นลุยเดี่ยวพร้อม Shield Drone 2 ตัวที่คอยสร้างบาเรียปองกันตัวให้ Tyran สลับกับเข้าโจมตีเป็นระยะ ฉะนั้นไม่ต้องยิงไปที่ Tyran เพราะมันยิงไม่เข้าต้องยิงไปที่ Shield Drone ทั้ง 2 ตัวจนกว่ามันจะพัง จากนั้น Echo จะเข้าไปควบคุมตัว Tyran เอาไว้ได้สำเร็จก่อนที่จะเริ่มสอบสวน




Echo – พวกเราจะหยุดมันได้ยังไง ตอบ !
Tyran – ฮ่าๆ New Helghan ดินแดนแห่งความมหัศจรรย์ที่มีทั้งคนขี้ขลาดและคนทรยศ อย่าลืมสิ
Echo – อาวุธทั้งหมดอยู่ที่ไหน !
Tyran – อาวุธ.. จุดจบที่สุดแสนจะมหัศจรรย์ของพวกแกทุกคนนั่นหรอ ฮ่าๆๆ การรุกรานต้องเสียค่าใช้จ่ายเสมอ แต่พวกแกจะไม่มีวันได้รูหรอก ฮ่าๆๆ
ก่อนที่ Echo จะหมดความอดทนและประเคณกระสุนใส่มันนับไม่ถ้วนจน Tyran ตายคาที่ ก่อนที่ Lucas จะพยายามติดต่อกับฐานอีกครั้งเพื่อพยายามบอกให้ Sinclair ถอยทัพก่อนจะได้รับความย่อยยับ แต่ดูเหมือน Sinclair จะไม่ยอมรับฟังเหมือนเดิม แม้ Lucas จะพยายามบอกว่ากองกำลังกำลังจะเดินเข้ามาในกับดัก Echo จะบอกให้ Lucas หยุดพยายามอธิบายแล้วรีบไปจัดการ Stahl ตัวการใหญ่ทุกอย่างก็จะจบ จากนั้นลุยเข้าไปที่จอดยานลำเลียง จัดการทหารศัตรูที่เฝ้าอยู่ให้หมด แล้วขึ้นยานลำเลียงออกเดินทางต่อขึ้นไปด้านบนพื้นผิวดวงดาวที่เต็มไปด้วยไฟสงครามที่กำลังเริ่มคลุกรุ่น 



สงครามที่เริ่มเปิดฉากด้วยอาวุธร้ายแรงแบบเต็มพิกัดของ Stahl จนกองทัพ Vektans โดนโจมตีอย่างหนัก จนยานของ Lucas และ Echo ก็โดนคลื่นพลังของอาวุธจนทำให้ยานเสียความทรงตัวแต่โชคยังดีที่ Lucas กระโดดลงไปที่แสงออร่าฟ้าที่เป็นจุด Telepot จนถูกดึงตัวลอยขึ้นไปจนถึงยอดหอคอยที่เป็นทางเข้าสู่ Stahl’s base



เมื่อเข้ามาด้านในหอคอยแล้ว จากนี้จนถึงห้องด้านบนจะเต็มไปด้วยศัตรูมากมายที่เป็นทหารเกราะบาเรียล้วนๆ พยายามลุยเข้าไปด้านในยาวไปจนถึงห้องควบคุมลิฟต์ จัดการศัตรูให้หมดแล้วขึ้นลิฟต์กลางห้องไปด้านบนต่อ แต่ Stahl ก็รู้ถึงการมาและจุดประสงค์ที่ Lucas กำลังจะเข้ามาฆ่าเขาแล้วเช่นกัน ก่อนที่มันจะประกาศกร้าวออกลำโพงขณะที่ Lucas กำลังขึ้นลิฟต์มาชั้นบน

Stahl – ชั้นรู้ว่าปกกำลังจะมาฆ่าชั้น และรู้ว่าแกพยายามจะปกป้องบ้านเมืองแกอยู่ ซึ่งก็ต้องขอชื่นชมด้วยใจที่แกสู้มาจนถึงขนาดได้ทั้งที่ไม่มีใครช่วย ทั้งที่พวก Vektans นั้นเต็มไปด้วยพวกที่เห็นแก่ตัวแท้ๆ และพวกแกก็ยังขาดซึ่ง ความอดทน เหมือนอย่างที่พวกเรามี พวกเราจึงแข็งแกร่งกว่าแก ! เรามีความเชื่อ และความเชื่อนนั้นก็ไม่มีวันสั่นคลอน ไม่ว่าพวกแกจะร่ำร้องกันแค่ไหนก็ตาม ซึ่งถึงแม้แกจะฆ่าชั้นจนตายก็ไม่ได้ทำให้อะไรเปลี่ยน ก็แค่ยืดเวลาของความพ่ายแพ้ของพวกแกไปอีกหน่อยเท่านั้นเอง มันเป็นแค่หลักของชีวิตง่ายของพวกเราที่พวกแกไม่มีวันเข้าใจ ไม่ต้องคิดมาก แกแค่เกิดมาแล้วอยู่ผิดข้างเท่านั้นเอง ทหาร ..


เมื่อลิฟต์ขึ้นมาจนถึงห้องควบคุมอาวุธด้านบนสุด Lucas จะพบกับ Stahl ในผู้บัญชาการณ์ทหารสูงสุดของ Helghast ที่อยู่ในสภาพใกล้ตายท่ามกลางสายระโยงระยางมากมายเพื่อยื้อชีวิต แล้วที่มันพร่ำบอกมาตลอดถึงความกล้าหายและอำนาจมากมายของมันนั้นเพื่ออะไร เพื่อร่างเน่าๆแบบนี้น่ะหรือ ? Lucas พยายามตั้งคำถามในใจ ก่อนที่เสียงปืนจะดังขึ้นพร้อมกระสุนนัดแรกทะลุเข้าที่หัวของ Stahl ส่วนกระสุนนัดที่สองเข้าที่กลางอกของ Lucas เต็ม และทั้งหมดมาจากปากกระบอกปืนของผู้ชักใยอยู่เบื้องหลังที่เพิ่งแสดงตัวออกมา Sinclair นั่นเอง ก่อนที่มีนจะแจ้งบอกฐานว่าอาวุธทั้งหมดมันควบคุมเอาไว้ได้แล้ว 



Sinclair – ชั้นรู้ ไอ้ลูกชาย ยานมันซื่อสัตย์เกินไป เหมือนพ่อของนายนั่นแหละ ซึ่งมันไม่เหมาะเลยกับสถานะการ์ณในตอนนี้ แต่ละวันที่ผ่านมา New Helghan อยู่รอดมาได้ก็เพราะเรายอมให้ถูกคุกคาม พวกเราแสดงให้ศัตรูของเราเห็นแบบนั้นมาตลอด แต่คราวนี้เราจะคุกคามพวกมันบ้าง และจะคุกคามตลอดไปด้วย และที่ผ่านมาชั้นเหนื่อยมากที่ต้องคอยปกป้องนายมาตลอด ไอ้ลูกชาย ขอโทษน๊ะ ชั้นไม่อยากเป็นคนๆนั้นแล้วล่ะ 

ก่อนที่ Sinclair จะเหนี่ยวไกปล่อยกระสุนนัดสุดท้ายลั่นออกมาใส่ Lucas อีกครั้ง ……
ก่อนที่สัญญาณทุกอย่างจะขาดหายไป ….

Chapter 10: The Savior    
5th  ส.ค 2390, เวลา 12.45p.m. เมือง Vekta City
เสียงสัญญาณเตือนภัยดังขึ้น..ท่ามกลางความวุ่นวายที่ทุกหน่วยถูกแจ้งว่า มีผู้บุกรุกำลังบุกเข้ามา ชายลึกลับที่กำลังลอบเข้ามาในเมืองด้วยฝีมือและทุกความชำนาญที่ Shadow Marshal สมควรจะมี จนอยากที่จะมีใครหยุดยั้งเขาได้ (สิ่งที่ต้องทำก็คือ ลอบเข้าไปด้วยความสามารถขั้นพื้นฐานทั้งหมดที่เคยเล่นมาเพื่อเข้าไปที่จุดหมาย) ชายลึกลับลอบเข้ามาจนถึงหน้าต่างตึกเก่าตรงข้ามลานพิธี ที่ Sinclair ในฐานะผู้บัญชาการ์ณทหารสูงสุดแห่ง Vektans กำลังกล่าวเชิดชูความกล้าหาญของเหล่าผู้เสียชีวิตจากสงครามครั้งสุดท้ายที่สามารถประกาศชัยเหนือ Helghast อย่างเด็ดขาดด้วยคุณธรรมและความสามารถของตัวเขาเองจนบ้านเมืองรอดพ้นจากการถูกกดขี่ตลอดกาล



ท่ามกลางสุนทรพจน์ที่สวยหรูของ Sinclair ในฐานะผู้ทรงอธิพลแห่งยุคใหม่ของ Vektans ช่วงเวลาแห่งความสำเร็จของบ้านเมืองยุคใหม่ที่กำลังจะเริ่มขึ้นนั้นก็เป็นช่วงเวลาเดียวกับชายลึกลับที่กำลังบรรจงใส่กระสุนลงที่ช่องกระสุนปืนของเขา ก่อนที่จะลั่นไกปล่อย กระสุนแห่งความชอบธรรม คืนไปสู่คนที่พรากความเป็นธรรมไปจากเขาอย่างแม่นยำ ……



          “ บางครั้ง อำนาจ นั้นได้มาและเสียไปอย่างรวดเร็ว ถ้าสิ่งที่เราได้มานั้น ไม่ชอบธรรม






********************************* THE END ***********************************




วันอังคารที่ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2556

บทสรุป Dead Rising 3

                                                    




                                                       บทสรุป Dead Rising 3


BY Decibel per - oxide


Chapter 0 : Dead End

DAY 1

เมือง Los Perdidos, California วันที่ 3 มีนาคม 2017 (10 ปีจากภาค 2 )



เวลา 7.14 AM ประกาศเตือนการติดเชื้อฉบับแรก ท่ามกลางซากเมืองที่ว่างเปล่าไร้ซึ่งสิ่งมีชีวิต

6 ชั่วโมงจากการประกาศเตือนวิกฤติของการระบายของเชื้อไวรัส ทำให้จำเป็นต้องสร้างเขตกักกันโรคกว่า 500 จุดทั่วเมือง

12 ชั่วโมงจากการประกาศเตือนวิกฤติของการระบายของเชื้อไวรัส เมืองทั้งเมืองตกอยู่ในสภาพเสียหายย่อยยับ การอพยพของประชาชนก็เริ่มขึ้น อย่างอลหม่าน

24 ชั่วโมงจากการประกาศเตือนวิกฤติของการระบายของเชื้อไวรัส ผู้คนมากมายติดเชื้อกลายเป็นซอมบี้มากมายจนเกิดจะควบคุม ยุทธการทำลายล้างซอมบี้ด้วยการโจมตีทางอากาศของรัฐบาลกำลังจะเริ่มขึ้นในไม่ช้าต่อจากนี้ 

36 ชั่วโมงจากการประกาศเตือนวิกฤติของการระบายของเชื้อไวรัส กองทัพทหารเข้าพื้นที่และเริ่มเข่นฆ่าทุกอย่างที่ขวางหน้าเพื่อแก้ไขสถานะการ์ณ ทำให้ผู้รอดชีวิตที่ยังหลงเหลือต้องหนีเพื่อเอาชีวิตรอด รัฐบาลได้มีแผนที่จะใช้ zombrex chips ที่สร้างจากยา zombrex ฝังลงไปที่สมองของผู้ติดเชื้อที่กำลังจะกลายเป็นซอมบี้เพื่อหวังที่จะรักษา ควบคุมและตรวจสอบตำแหน่งเสมือนติดตั้ง GPS เอาไว้ แต่สุดท้ายแผนนี้ก็ไม่ได้ผลแต่กลับทำให้ผู้ติดเชื้อเพิ่มจำนวนเป็นวงกว้างจนยากที่จะควบคุมอีกต่อไป



.จุดหนึ่งในเขตเมืองที่ถูกทำลายย่อยยับ ชายหนุ่มในชุดนายช่าง Nick Ramos ที่มีหมายเลข 12 สักทีคอ ก็กำลังทำทุกวิธีที่จะหนีออกจากเมืองในสภาพที่กำลังบาดเจ็บ เดินเข้าไปที่หน้าทางเข้าเขตกักกันเชื้อเพื่อเก็บถุงขนม Snack เพื่อเรียนรู้ในการใช้ไอเทมเติมพลังชีวิตเบื้องต้น






 [กด B ในการเก็บไอเทมเติมพลังแล้วกด X ในการกิน ]
เมื่ออาการบาดเจ็บเริ่มหายเป็นปกติแล้ว เดินเข้าไปหยิบประแจที่หน้าประตูทางเข้าเขตกักกันที่เต็มไปด้วยฝูงซอมบี้ที่พยายามจะพังรั้วเข้ามา
[กด X ใช้อาวุธโจมตีแบบปกติ]
ใช้ประแจในการทำลายประตูเข้าไปด้านใน เข้าไปตามทางเก็บอาวุธอะไรก็ได้เพิ่มเติมเพื่อเรียนรู้การเรียกใช้อาวุธที่มี และเรียนรู้การเคลื่อนไหวเบื้องต้นในการเอาตัวรอดเข้าไปด้านใน
[การกด RB เพื่อใช้แกนอนาล็อคในการเลือกอาวุธ]
[กดปุ่มทิศทางลงล่างในการทิ้งสิ่งของที่กำลังถืออยู่]
[กด Y ใช้อาวุธโจมตีแบบหนัก] [กด Y ค้างเพื่อกระทืบซอมบี้ที่อยู่กับพื้น]
[กด LT ในการเล็งเป้า + RT ยิงอาวุธปืน]
[กด A เพื่อกระโดดและปีนขึ้นที่สูง]
[กดแกนอนาล็อกซ้ายเพื่อกลิ้งตัวหลบ]

ใช้อาวุธทำลายประตูด้านในเข้าไปต่อ จากนั้นก็ลุยเอาตัวรอดกับฝูงซอมบี้มากมายด้านในไปต่อจนสามารถเก็บไฟฉายมาไว้ใช้ที่โต๊ะด้านในได้ จากนั้นก็พยายามหนีออกจากตึกที่มืดมิดและเต็มไปด้วยซอมบี้มากมายจน Nick ไม่มีทางเลือกที่ต้องเสี่ยงตายกระโดดลงไปที่ฝั่งทางออกของเขตกักกันได้สำเร็จ Nick พยายามทรงตัวขึ้นมาจากความมึนงงท่ามกลางฝูงซอมบี้ที่กำลังไล่ล่าจากทุกทิศทาง รอยยิ้มที่สิ้นหวังก็เริ่มออกมาให้เห็นที่มุมปากเพราะเครื่องโบอิ้งลำมหึมากำลังเสียการทรงตัวและเริ่มทิ้งดิ่งลงมาที่พื้นที่ที่ Nick อยู่ จนเขาต้องหาทางหลบเอาตัวรอดจากแรงระเบิดจากซากของเครื่องบินโบอิ้งที่กระแทกพื้นอย่างแรง เหมือนจะเตือนสติ Nick ชายผู้โชคร้ายที่ยังรอดชีวิตว่า การเดินทางของชีวิตต่อจากนี้ไม่มีอะไรง่ายอีกต่อไปแล้ว …..





…………………………………………………………………………………………………






เรียนรู้เกี่ยวกับ Attribute & Skill
ความแข็งแกร่งเพื่อความอยู่รอดของ Nick นั้นสามารถเพิ่มได้ด้วยวิธีต่างๆคือ
1. เพิ่มได้ด้วยค่า PP ที่ได้จากรางวัลของการทำภาระกิจต่างๆทั้งภาระกิจหลักและภาระกิจรองรวมทั้งภาระกิจช่วยเหลือผู้รอดชีวิต ซึ่งค่านี้ยังส่งผลให้ประสบการ์ณของ Nick เลเวลอัพขึ้นได้และทุกครั้งที่มีการเลเวลที่เพิ่มขึ้น Nick ก็จะได้ Skill การต่อสู้ใหม่ๆปลอดล็อคมาให้ใช้ด้วยโดยสามารถดูความสามารถต่างๆได้ในเมนู SKILL และทุกๆการ Level up 1 ครั้งก็จะได้ค่า Attribute Point มาโดยสามารถนำไปอัพค่า Attribute ความสามารถด้านต่างๆของ Nick ได้ที่เมนู PLAYER โดยความสามารถด้านต่างๆประกอบด้วย
Combo Categories คือ ความสามารถที่เกี่ยวกับการประดิษฐ์ทั้งอาวุธและรถศึกต่างๆ
Life คือ ทุกอย่างเกี่ยวกับพลังชีวิตและความสามารถในการอยู่รอด
Inventory คือ จำนวนอาวุธ,สิ่งของ และ อาหาร ที่สามารถถือติดตัวได้
Melee คือ ความสามารถในการต่อสู้ด้วยมือเปล่า
Ranged คือ ความสามารถในการใช้อาวุธ
Mechanic คือ ความสามารถที่เกี่ยวกับด้านช่าง (Skill ที่ช่วยเสริมความสามารถให้กับ การประดิษฐ์)
Agility คือ ความคล่องตัวและความว่องไวในการเคลื่อนที่
Smarts คือ ความสามารถที่ทำให้ได้รางวัลและของตอบแทนต่างๆให้มากขึ้นกว่าปกติ
2. PP TRIAL ซึ่งก็คือการทำสิ่งต่างๆให้เข้าข้อกำหนดที่เงื่อนไขของการทดสอบต่างๆก็จะได้รางวัลเป็นค่า PP ในจำนวนต่างๆตามความยากง่ายของการทดสอบ

……………………………………………………………………………………………………




เรียนรู้เกี่ยวกับ  Map & Mission
ภาระกิจต่างๆนั้นมีมากมายซึ่งสามารถดูได้จากสัญญาลักษณ์ต่างๆในแผนที่โดยแบ่งออกเป็น
1.ภาระกิจหลักของเนื้อเรื่อง (Chapter Mission) เป็นภาระกิจที่เกี่ยวข้องกับเนื้อเรื่องหลัก จะแสดงเป็นรูป สี่เหลี่ยมสีเหลือง ในแผนที่
2.ภาระกิจเสริม (Side Mission) เป็นภาระกิจรองที่ไม่เกี่ยวกับเนื้อเรื่องหลักซึ่งจะได้ผลตอบแทนเป็นค่า PP และสิ่งของอาวุธต่างๆ  โดยภาระกิจรองจะประกอบด้วย
- ภาระกิจเสริม จะแสดงเป็นรูป สี่เหลี่ยมสีม่วง ในแผนที่
- ภาระกิจล่าสังหาร (Psycho Mission) ภาระกิจไล่ล่าบอสย่อยต่างๆในเกม จะแสดงเป็นรูป หัวกระโหลกสีแดง ในแผนที่
- ภาระกิจช่วยเหลือคน (Help Mission) ภาระกิจในการช่วยเหลือผู้รอดชีวิตตามจุดต่างๆของเมืองจะแสดงเป็นรูปคนในแผนที่

** โดยภาระกิจทั้งหมดจะมีเกทเวลาบอกด้วย ซึ่งถ้าเกทเวลาหมดภาระกิจนั้นๆก็จะหายไปทันที **
……………………………………………………………………………………………………


Green Zone (จุดปลอดภัย)
ที่จุดปลอดภัยที่เป็น Green Zone นั้นมีสิ่งต่างๆที่ Nick สามารถทำได้คือ
1. ส่งตัวผู้ที่รอดชีวิตได้ที่บอร์ดประกาศหาคนหาย (Survivor Bulletin Board) ทั้งหมดมีประมาณ 24 ที่ต้องพบเจอระหว่างทางซึ่งในระหว่างที่ช่วยพวกเขามาได้จากจุดต่างๆถ้าพาเข้ามาส่งที่บอร์ดคนหายได้พวกเขาและเธอก็จะกลายเป็นผู้รอดชีวิตแต่ถ้าเกิดโชคร้ายต้องตายระหว่างก็จะตายไปจริงๆตลอดไป

                    

2. เปลี่ยนชุดต่างๆได้ที่ตู้เสื้อผ้า





3. เก็บและเปลี่ยนอาวุธได้ที่ตู้ Locker 



.................................................................................................................................................................


เส้นทางเบื้องหน้าท่ามกลางซากเครื่องบินที่กำลังลุกไหม้ของ Nick จะไม่เดี่ยวดายอีกต่อไปเมื่อด้านหน้าเต็มไปด้วยฝูงซอมบี้จำนวนมหาศาลที่แห่กันเข้ามาเพราะได้ยินเสียงระเบิด เป้าหมายต่อไปของ Nick คือมุ่งหน้าไปที่ร้านอาหารที่อยู่อีกฝั่งของพื้นที่เพื่อหาผู้รอดชีวิตคนอื่นๆ จากนั้นก็ต้องเอาตัวรอดจากฝูงซอมบี้ที่ ต้องหลบ ต้องซัด ต้องปีนป่ายข้ามสิ่งกีดขวางต่างๆให้เร็ว ระหว่างทางจะเจอผู้รอดชีวิตคนอื่นที่กำลังถูกรุมทำร้ายทั้ง Emily, Cindy และ Dan ที่ Nick ไม่สามารถจะช่วยเหลือพวกเขาได้แน่นอน รีบหนีฝ่าเข้าด้านในเอาตัวรอดจะดีกว่า ลุยเข้าด้านในแล้วปีนข้ามหลังคาทางด่วนข้ามไปอีกด้านของถนนจะพบฝูงซอมบี้มากมายแน่นขนัด ซึ่งต้องพยายามเดินทางไปตามหลังคารถอย่างแม่นยำและรวดเร็วที่สุดเพราะถ้าตกลงไปล่ะก็บาดเจ็บแน่นอน ลุยเข้าไปจนถึงอาคารที่สุดถนน เมื่อทะลุผ่านอุโมงค์มาฝั่งตรงข้ามได้ก็จะพบร้านอาหาร Dilly Dinner

ด้านในร้านอาหารจะพบกลุ่มผู้รอดชีวิตที่ส่วนหนึ่งคือ Rhonda หัวหน้าของเขา, Dick เพื่อนคนขับรถบรรทุก และAnnie เพื่อนหญิงอีกคนที่ดูเหมือนว่าเธอกำลังติดเชื้ออยู่ด้วย ที่ดูเหมือนพวกเขาทุกคนที่นี่จะฝากความหวังไว้กับ Nick ที่เสี่ยงชีวิตออกไปหาอาหารและอาวุธแต่กลับไม่ได้อะไรติดมือกลับมาเลย ดูเหมือน Nick จะห่วง Annie ที่ต้องฉีดวัคซีนอยู่ตลอดเวลาอยู่เป็นพิเศษ เมื่อ Nick ไม่ได้เสบียงกลับมา ทำให้ทุกคนในร้านอาหารเริ่มทะเลาะกันในเรื่องหาทางรอดจนเกิดอุบัติเหตุจนทำให้ตู้เพลงส่งเสียงดังทำให้ฝูงซอมบี้ด้านนอกพยายามบุกเข้ามาด้านใน ทำให้ปีเตอร์และแม่ของเขาถูกกัดกินไปในที่สุด ทำให้ Nick ต้องหาทางรอดออกจากที่นี่ให้ได้โดยเริ่มจากหาอาวุธที่ดีกว่าเดิมก่อน เข้าไปเก็บค้อนที่เค๊าท์เตอร์ก็จะได้ Blueprint สำหรับใช้สร้าง Sledge Saw อาวุธใหม่มา

………………………………………………………………………………………………………




เรียนรู้การผสมและสร้างอาวุธ (Combine two Weapons)
ความสามารถด้านช่างของ Nick พระเอกของภาคนี้ที่สามารถนำอาวุธหลายๆอันมาผสมรวมกันจนเกิดเป็นอาวุธใหม่ได้ด้วย แต่ต้องอาศัยการเก็บ Blueprint ของอาวุธนั้นๆที่ตกอยู่ตามที่ต่างๆมาก่อนจึงจะสามารถไปหาวัตถุดิบต่างๆที่ต้องใช้มาผสมอาวุธใหม่ๆขึ้นมาได้ โดย Nick สามารถผสมและสร้างได้ตั้งแต่อาวุธจนถึงรถศึกเลยทีเดียว ยกตัวอย่างการผสมอาวุธ
 - เก็บค้อน และ Cement Saw ที่จุดหมายมา แล้วกด RB เพื่อเข้าเมนู inventory และกด A เพื่อสร้างอาวุธใหม่ Sledge Saw ออกมา
………………………………………………………………………………………………………….

หลังจากได้อาวุธใหม่ เลื่อยผสมค้อน ที่สุดร้ายกาจมาแล้ว จากนั้นก็ออกไปด้านนอกจัดการศัตรูแล้วลุยคุ้มครองทุกคนไปจนถึงประตูใหญ่ กดสวิตซ์เปิดประตูแล้วขึ้นรถที่จอดอยู่แถวนั้นไปแล้วขับลุยฝูงซอมบี้ด้านหน้าไปตามทาง ชนพวกมันให้เละจนถึงจุดหมายสีเหลืองคืออู่ของ Rhonda ด้านในขณะที่ทั้ง 3 รอดชีวิตมาถึงแต่ Rhonda ก็ยังสติแตกที่ไม่มีทหารหรือตำรวจเข้ามาช่วยเหลือที่นี่เลย ด้านในจะพบซอมบี้ที่หลงเหลืออยู่ด้านในหลังจาก Rhonda อัดมันจนสมองกระจายไปกองกับพื้นแล้ว Nick จะสังเกตเห็น GPS Zombrex ในหัวของซากซอมบี้ขณะที่กำลังงัดมันออกมาโทรศัพท์มือถือของศพก็ดังขึ้น ปลายสายอ้างว่าเขาเป็นตำรวจ Nick พยายามจะจอความช่วยเหลือกับเขาแต่ชายที่อ้างว่าเป็นตำรวจจะให้ Nick ตามหาร่างทดลองซอมบี้ ZDC มาให้เขาก่อน เดินเขาจะให้ Nick เดินทางไปสำรวจที่โรงแรมที่อยู่ทางทิศเหนือจากที่นี่ แล้วเขาจะติดต่อมาอีกครั้ง

ภายใน Rhonda Garage สำรวจให้ทั่วจะมี Blue Print ให้เก็บด้วย ซึ่งก็คืออาวุธผสมแบบใหม่คือ Jack in the Box ซึ่งต้องใช้ กล่องกระดาษ(Card board Box) แล้วเอาไปผสมกับหุ่นยนต์เด็กเล่นสีเหลืองก็จะได้ Jack in the Box มาใช้ สำรวจเก็บของจนพอใจแล้วก็ออกจากที่นี่แล้วมุ่งหน้าไปยังจุดเป้าหมายสีม่วงที่ขึ้นมา ซึ่งเป้าหมายสีม่วงก็คือที่หมายของ เควสย่อย (Side Quest) นั่นเอง ระหว่างทางก็อยู่ที่คุณแล้วล่ะว่าจะรอดไปด้วยวิธีไหน ด้านในโรงยิม Aduna Boxing Gym จะพบ Bob ผู้รอดชีวิตที่กำลังต้องการความช่วยเหลืออยู่บนเวทีมวย เข้าไปจัดการฝูงซอมบี้รอบๆเวทีมวยเพื่อช่วย Bob ออกมา การช่วยผู้รอดชีวิตนั้นจำเป็นต่อการได้มาซึ่ง PP ในการเอาไว้อัพเกรด Skill ของ Nick ด้วย ยิ่งช่วยได้หลายคน Nick ก็มีโอกาศจะแข็งแกร่งมากขึ้นด้วยนั่นเอง จากนั้นเดินทางต่อไปยังสุดเป้าหมายสีม่วงปีนขึ้นชั้น 2 ของโรงแรมจะพบ Anna กำลังพ่นสีอยู่ เข้าไปคุยเพื่อรับเควสย่อยจากเธอ 

Side Mission: Signs of safely 
เป้าหมายคือไปตามเก็บสเปรย์กระป๋องมาให้เธอ 3 กระป๋องตามจุดสีม่วงในแผนที่ ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่ยากเลยถ้ารอบๆตัวไม่ได้มีพวกซอมบี้เพ่นพ่านอยู่มากมาย ระหว่างที่ต้องตามเก็บสเปรย์กระป๋องให้ครบก็จะพบ Crystal หนึ่งในผู้รอดชีวิตที่ต้องเข้าไปช่วยด้วย เมื่อเก็บสเปรย์กระป๋องมาจนครบแล้วก้เอากลับไปให้ Anna เพื่อจบเควสย่อย แล้วก็จะได้ Anna เข้าร่วมทีมของผู้รอดชีวิตด้วย ซึ่งแปลว่าเธอจะเดินตามในฐานะ AI ช่วยสู้ได้ในระดับหนึ่งแต่ก็ต้องพยายามหาอาวุธและดูแลชีวิตของเพื่อนใหเดีด้วยเพราะถ้าพลาดท่าตายขึ้นมาก็จะตายไปเลยทันที

Psycho Mission: garden of Peace
เป้าหมายที่เป็นเควสย่อยอีกรูปแบบนึงคือรูปหัวกระโหลกสีแดงซึ่งก็คือการเข้าไปจัดการบอสย่อยของพื้นที่ เมื่อลุยเข้ามาจนถึงพื้นที่รูปกระโหลกสีแดงจะพบกับ บอส Zhi นักบวชจีนรออยู่ เมื่อจัดการมันได้ก็จะได้ค่าตอบแทนที่สุดคุ้มค่าถึง 20000 PP และอย่าลืมเก็บกุญแจ Happy Good Mart Key มาจากศพของ Zhi และอาวุธพลอง Guan Dao ของมันมาด้วย



จากนั้นก็มุ่งหน้าไปยังจุดเป้าหมายสีเหลืองที่อู่ Rhonda Garage เพื่อทำ Mission หลักต่อได้เลย

Chapter 1: Mad in America

DAY 2

ที่อู่ Rhonda Garage Nick, Rhonda และ Dick ได้รับข่าวร้ายจากข่าวทาง TV จากการแถลงข่าวของนายพล John Hemlock ที่ได้รับไฟเขียวจากประธานาธิบดีในการทิ้งระเบิดทำลายเมืองที่เต็มไปด้วยซอมบี้ให้สิ้นซากทั้งหมด ซึ่งแน่นอนว่าทุกคนจะต้องหาทางออกนอกเมืองให้เร็วที่สุด เป้าหมายคือสะพานทางออกเดียวที่เหลืออยู่แต่การเดินทางไปที่นั่นคงจะวิ่งฝ่าดงซอมบี้ไปไม่ถึงแน่นอน แต่ Nick มีแผนที่ดีกว่านั้นโดยเขาจะทำการดันแปลงรถ 2 คนให้แข็งแกร่งพอที่จะขับลุยเข้าไปจนถึงสะพานได้ จากนั้นก็เริ่มดันแปลงรถได้เลย เข้าไปสำรวจที่รถทั้ง 2 คันที่อู่ กด LB และ A เพื่อเริ่มดันแปลงรถเป็นรถหุ้มเกราะ Turret Rig  จนสำเร็จ



 จากนั้นก็ขับมุ่งหน้าไปยังเป้าหมายสีเหลืองที่เขตกักกันโรคได้เลย (ระหว่างทางอย่าลืมช่วย Margaret ด้วย) แต่รถก็ไม่ได้ทำให้สบายไปตลอดทางหรอกน๊ะเพราะช่วงสุดท้ายก็จะเจอซากรถมากมายกั้นทางเอาไว้ให้ต้องเดินทางลุยต่อไปอีกจนได้ เมื่อลุยเข้ามาจนถึงทางเข้าเขตกักกันโรคก็จะพบทหารที่ดูแลที่นี่อยู่ถูกฆ่าจนหมดแล้ว จากนั้นแก็งค์มอเตอร์ไซด์ที่คุมที่นี่อยู่จะออกมาโจมตี การจัดการแก็งค์ซิ่งจอมโหดทั้ง 10 ตัวนั้นสามารถใช้รถยนต์ที่จอดอยู่ไล่ขนมันได้เลย เมื่อจัดการทั้ง 10 ตัวหมดแล้วก็จะพบกับหัวหน้าแก็งค์ของมันที่ออกมาพร้อมกับมอเตอร์ไซด์ศึกสุดโหดของมันออกมาสู้กับ Nick อีกรอบ



Boss – Gang Leader มันจะเข้าโจมตีด้วยรถศึกของมันที่สามารถพ่นไฟได้อย่างต่อเนื่อง พยายามล่อให้มันชนที่กำแพงตึกเพื่อให้มันหยุดยิ่งก่อนแล้วค่อยใช้ระเบิดเพลิงขว้างใส่มันก็จะสามารถขึ้นไปกด Y + B เพื่ออัดมันบนรถได้ พยายามกะจังหวะให้ดีๆเพราะระเบิดเพลิงที่มีอยู่รอบๆก็มีอยู่จำนวนไม่มากนัก เมื่อ Nick จัดการมันได้แล้ว เขากลับรู้สึกเสียใจเพราะที่ผ่านมาเคยฆ่าแต่พวกซอมบี้แต่นี่เป็นครั้งแรกที่เขาฆ่าคนธรรมดา จนสุดท้าย Rhonda ก็เข้ามาช่วยพูดให้กำลังใจ Nick ให้ลุกขึ้นอีกครั้งด้วยข้อคิดง่ายๆว่า ไม่สู้ก็โดนฆ่า ไม่หนีก็ตาย

จากนั้นก็มุ่งหน้าไปยังจุดเป้าหมายสีเหลืองในแผนที่ได้เลย

Chapter 2: it’s somebody Funeral

DAY 3

เข้าไปพบกับ Diego ที่โกดังที่กำลังสติแตกจนได้เจอกับ Nick เพื่อนเก่าเขาจะเริ่มมีความหวังเพราะ Nick เป็นช่างที่น่าจะช่วยเขาซ่อมเครื่องบิเก่าที่อยู่ที่นี่ให้ลินหนีออกจากที่นี่ได้เขาจึงชักชวนให้ Nick มาช่วยซ่อมเครื่องบิน แต่ในขณะที่ Nick เอื้อมมือไปหยิบกุญแจเครื่องบินก็โชคร้ายเจอซอมบี้ที่ซ่อนอยู่เข้ามากัดที่มีเข้าจนได้ Rhonda รีบบอกให้ Nick ไปหา Zombrex ที่อยู่กับ Morgues มารักษาด่วน โดยเธอ , Dick และ Diego จะล่วงหน้าไปก่อน

ตอนนี้ในแผนที่นอกจากจุดเหลืองในแผนที่ที่เป็น Mission หลักแล้ว จะมี Side Mission สีม่วงที่เพิ่มเข้ามาอีก 3 จุดคือ

- [Side mission] In the Cards
คุยกับ Simon บนหลังคาของร้านขายปืน ซึ่งเขาต้องการไพ่ Tarot Card ของเขาที่หายไปทั้ง 5 ใบมาให้ แต่จริงๆแค่ไปหา Death card บนศพในห้องน้ำมาให้ก็จะจบเควสและได้ Simon เข้าร่วมทีม ซึ่งอีก 4 ใบถ้าเจอเมื่อไหร์ก็ค่อยมาให้เขาทีหลังเอาก็ได้



- [Side Mission] Craven Consultant
คุยกับ Rave ที่ห้องครัวในอาคารเป้าหมาย เขาต้องการ Meat Cleaver และ Chainsaw ไปหามาได้เมื่อไหร์ก็เอากลับมาให้เขาแล้วเขาจะให้ Blue Print Mini Chainsaw + 10000PP
- [Side Mission] Darker Gods
เข้าไปคุยกับ Christine ที่สุสานแล้วไปจัดการทำลายตราเวทย์มนต์สีแดงที่พื้นภายในสุสานด้วยการฆ่าซอมบี้ในขณะที่มันยืนอยู่บนตราสีแดงแล้วตราสีแดงก็จะหายไป โดยต้องทำลายให้หมด 5 จุด แล้วกลับไปหา Christine เธอก็จะทำการฆ่าตัวตายแต่ Nick ก็จะได้มีด Bowie จากศพเธอมาใช้

จากนั้นในแผนที่นอกจากจุดเหลืองในแผนที่ที่เป็น Mission หลักได้เลยซึ่งก็จะอยู่ที่สถานที่เผาศพหลังสุสานนี่เอง เข้าไปจะพบกับ Gary เขาจะบอกว่า Zombrex อยู่ที่นี่แน่นอนแต่ก่อนอื่น Nick ต้องช่วยงานเขาก่อน จากนั้นเขาจะสอนให้เรียนรู้การจับผึ้ง Queen Bee มาใช้จัดการกับฝูงซอมบี้จำนวนมากๆได้ในครั้งเดียว โดยเมื่อเจอผึ้งที่ว่านี้บินอยู่ที่ไหนก็จับมันมาเก็บไว้ใช้ในยามฉุกเฉินได้เทีนบกับอาวุธชั้นดีอย่างหนึ่งเลย



จากนั้นก็เดินทางเข้าไปที่จุดเหลืองเป้าหมายต่อไปที่บนหลังคาของตึกที่เผาศพโดยต้องการปีนขึ้นหลังคารถขึ้นไป จะพบกระจกหน้าต่างที่สามารถทุกแล้วโดดเข้าไปในตึกได้ จากนั้นไปเปิดประตูให้ Gary เข้ามาในตึกแล้วช่วยกันลุยเข้าไปจนถึงห้องเย็นที่ใช้แช่ศพ สำรวจตามช่องใส่ศพเพื่อหาศพของ Nicole และ Morgues ให้เจอ แล้วไปคุยกับ Gary ที่จุดเหลืองในห้องด้านในต่อที่โลงบนโต๊ะ Nick จะพบศพของผู้หญิงที่หน้าตาคล้ายกับ Annie เพื่อนสาวของเขาอยู่ในโลง แถมตู้เก็บ Zombrex ที่ Nick ต้องการก็ดันมีคนมาขโมยก่อนซะแล้ว ทำให้ Nick ถึงกับหมดหวังจนอยากให้ Gary ยิงเขาให้ตายไปซะแต่ด้วยความซุ่มซาม Gary ก็ล้มจนปืนลั่นทำให้แม้แต่กระสุนนัดสุดท้ายที่จะปลิดชีพตัวเองยังไม่มีเหลือให้ Nick เลย จากนั้น Gary จะแบบศพของผู้หญิงไปที่รถแล้วเขาจะให้ Nick ขับไปที่บาร์ของเจ้านายเขาดู ที่บาร์ The Diamond Panty ต่อ

Chapter 3: The Diamond Panty
จากนั้นขับรถลุยไปยังจุดเป้าหมายสีเหลืองต่อจนถึงบาร์ The Diamond Panty เข้าไป Nick ก็อดที่จะเปิด TV ดูข่าวร้ายของสถานะการ์ณของเมืองไม่ได้ซึ่งก็จะทำให้เขารู้ข่าวร้ายเพิ่มว่า เขตกักกันโรคในเมืองนั้นแทบจะไม่มีที่ไหนผลอดภัยอีกแล้ว ขณะที่กำลังนั่งเซ็ง Gary ก็จะโดนเจ้านายว่าที่เอาศพผู้หญิงมาผิดตัว ทำให้ Nick ค่อนข้างจะงงว่าเจ้านายของ Gary จะหาศพไปทำไมในเมื่อที่นี่จะถูกระเบิดทิ้งภายในไม่กี่วัน Gary จะมีแผนให้ Nick ลองไปพาผู้หญิงที่ชื่อ Annie ที่ Nick เคยพูดชื่อออกมาพามาให้หัวหน้าของเขาดูหน่อยเผื่อจะใช้คนที่เขาตามหาอยู่ก็ได้ แล้วเจ้านายอาจจะให้น้ำมันเป็นรางวัลให้ไปใช้กับเครื่องบินที่ Nick ต้องการก็ได้ Nick  ดูไม่มั่นใจที่จะยอมตกลงแต่ถ้ามันเป็นทางเดียวที่จะหนีออกจากที่นี่ได้ก็น่าจะดีกว่ารอให้ระเบิดลงแล้วตายกันหมด Nick จึงจะลองหาทางดู จากนั้นออกจากบาร์เดินทางต่อได้เลย



[Side Mission] Love the Neighbor
คุยกับ Matt และ Elka พวกเขาต้องหาให้หาอะไรก็ได้ที่กินเป็นอาหารได้มาให้ 5 อย่าง จากนั้นหาทุกอย่างที่เป็นอาหารมาใส่ลังอาหารให้ครบแล้วคุยกับทุกคู่ก็จะจบเควสและได้รางวัลมา 20,000PP

[Side Mission] Time for Hero
ฝ่าดงซอมบี้ไปที่เขตก่อสร้างคุยกับ Kenny เขาต้องการให้ไปหาตุ๊กตา Limited Edition Frank Statues มาให้เขา ซึ่งเก็บตัวแรกบนหลังคามาให้เขาก็จะจบเควส ซึ่งเป็นการสอนให้ตามเก็บ Limited Edition Frank Statues ที่เหลืออีก 70 ตัวตามที่ต่างๆเพื่อแลกเป็นค่า PP โดย 1 ตัวจะได้ 2000 PP จากนั้นโดดลงไปจัดการซอมบี้ที่ด้านล่างด้วยมือเปล่า (ท่า Y + B) ให้ครบ 5 ตัวแล้วกลับไปคุยกับ Kenny อีกครั้งก็จะจบเควสแล้วรับค่าเหนื่อยมาอีก20,000 PP




จากนั้นขับรถลุยไปยังจุดเป้าหมายสีเหลืองต่อจนถึงโรงเก็บเครื่องบินจะพบ Rhonda, Dick และ Diego รออยู่ ทั้งหมดกำลังพยายามจะซ่อมเครื่องบินกันอยู่ Nick พยายามบอกว่าเขาไม่ได้น้ำมันมาแต่ได้พบกับชายคนนึงที่มีน้ำมันให้แต่ต้องการจะแลกกับ Annie ซึ่งทำให้ Nick ไม่มีทางเลือกที่ต้องหาตัว Annie ไปให้มัน ซึ่ง Rhonda ก็เข้าใจและบอกที่อยู่ของ Annie ให้ Nick โดยให้เดินทางตามสัญลักษณ์ที่เธอเขียนให้ดูก็จะพบตัว Annie




[Side Mission] Let’s blow this Town
ไปที่คุยกับ Hank ที่หน้ารถบ้านของเขาจะพบว่ารถบ้านของเขาเสียซึ่งต้องไปหาไอเทมต่างๆมาให้คือ
 Propane Tank (ถังแก็สสีแดง)
Acetylene Tank (ถังออกซิเจน)
Gasoline Canister (แกลลอน น้ำมันเบนซิน)



ทั้ง 3 อย่างหาได้จากรอบๆพื้นที่ แล้วเอาทั้งหมดไปให้ Hank (ให้ทีละอันน๊ะ) แล้ว Hank จะเอามาระเบิดรถบ้านของตัวเองเพื่อทำลายซอมบี้ที่อยู่รอบๆจนตัวเองก็ตายไปด้วยในที่สุด แต่ Nick จะได้ไป 40,000PP แบบคุ้มทุน

[Side Mission] Zombie Gone Wild
เข้าไปคุยกับ Joey ที่บ้านของเขาที่เขต Sunset Hill ซึ่งเขากำลังต้องการจะถ่ายหนังที่ต้องใช้ซอมบี้มาแสดงด้วย โดยที่ต้องไปล่อซอมบี้ผู้ชาย 5 ตัวให้เข้ามาที่ห้องถ่ายหนังด้านในให้ได้ ก็จะได้ค่าเหนื่อยมา 25,000PP


จากนั้นก็มุ่งหน้าไปยังจุดเป้าหมายสีเหลืองในแผนที่ที่จุดขวาสุดของเขต Sunset Hill นี้ต่อได้เลย
Nick เข้ามาที่ที่ซ่อนตัวของกลุ่มคนที่ติดเชื้อ เข้าไปคุยกับ Lauren เพื่อถามหา Annie แน่นอนว่า Lauren ต้องให้ทำอะไรให้เธอก่อนแน่นอนโดยจะต้องไปหาของต่างมาให้เธอดังนี้
- Tattoo Kit
- Lauren’s Ring Box
ลุยไปที่จุดเหลืองที่ขึ้นมาทั้ง 2 จุดแล้วไปเอาไอเทมทั้งหมดกลับมาให้ Lauren แล้วเธอจะเปิดประตูให้เข้าไปในอาคารได้ จากนั้นตาม Lauren ไปจนถึงอาคารด้านใน Nick จะโดนชายกลุ่มนึงไล่ยิงจนตกลงมาชั้นล่างแต่โชคดีที่เป็นคนของ Annie เอง 





หลังจากได้พบกับ Annie แล้ว Nick ไม่รอช้าที่จะรีบบอกให้เธอไปกับเขาทันที แต่กำให้คนของ Annie เริ่มไม่ไว้ใจ Nick ขึ้นมาแต่ Nick ก็ยังยืนยันความบริสุทธิ์ใจว่าเขามีทางที่จะพาทุกคนหนีออกจากที่นี่ได้ถ้า Annie ยอมไปพบชายคนนึง เพื่อแลกกับน้ำมันที่จะใช้กับเครื่องบินได้ จากนั้น Red มือขวาของ Annie จะพา Nick ขึ้นไปดูข้อมูลบางอย่างในห้องทำงาน แผนของรัฐที่คนของเขาค้นพบว่าไม่ว่ายังไงรัฐก็จะกำจัดทุกคนที่ออกมาจากเขตเมืองที่ติดเชื้อนี้ทั้งหมดอยู่ดี และถ้าอยากจะทำให้พวกติดเชื้ออย่างพวกเราก็ควรที่จะทำลายเสาวิทยุของทางรัฐที่คอยจับความเคลื่อนไหวของทุกคนก่อน นี่คือข้อตกลง แน่นอนว่า Nick ไม่มีทางเลือกจึงต้องยอมตกลงรับข้อเสนอกับเรดทันที 



จากนั้นสิ่งแรกที่ Nick ต้องทำคือ
 ลุยไปที่จุดเหลืองที่ขึ้นมาทั้ง 3 จุดเพื่อทำลายเสากล้องวงจรปิดให้หมดทั้ง 3 เสา  
จากนั้นจะมีจุดเหลืองอีก 2 จุกขึ้นมาซึ่งก็คือ จานส่งสัญญาณ Relay อีก 2 จุด
 และสุดท้ายจุดเหลือง 2 จุดสุดท้ายคือ ต้องเผาทำลายคลังอาวุธและกระสุนให้หมดทั้ง 2 จุด 
โดยจุดที่ 2 Nick จะเข้าไปพบหมอโรคจิต Albert ที่พยายามจะเอาตัว Nick ไปใช้ในการทดลองยาของมัน



Boss Dr. Albert เจ้าหมอโรคจิตไม่ได้มีพละกำลังอะไรเลยแต่สิ่งที่ Nick ต้องเผชิญคือความหลอนประสาทในยาที่มันฉีดให้ Nick ในตอนแรกมากกว่า Albert จะเดินหลบซ่อนไปทั่วตึกแล้วอาศัยจะหวะที่ Nick กำลังเบลอแล้วใช้เลื่อนผ่าตัดของมันลอบโจมตีได้ตลอด พยายามมองหามันให้เจอก่อนแล้วลอบเข้าไปจัดการมันจากด้านหลังเรื่อยๆเอา ซึ่งก็ต้องหาจังหวะดีๆด้วยเพราะระหว่างนั้นภาพที่คุณและ Nick จะเบลออยู่ตลอดเวลา หลังจากจัดการมันได้แล้วก็เข้าไปทำลายคลังอาวุธเอาสุดท้ายที่ด้านในตึกได้เลย (ผสม Acid jar ขว้างใส่ได้เลย)

จากนั้นเดินทางกลับไปยังฐานลับของพวก Annie ที่จุดเหลืองในแผนที่ เมื่อมาถึงแล้ว Nick พยายามจะถามถึงความสัมพันธ์ของ Annie และ Red แบบกระอักกระอ่วน แต่ยังไม่ทันที่จะได้คำตอบ Red ก็รีบมาบอกว่าเขาได้รับการติดต่อมาจากเพื่อนที่ชื่อ Angel ว่ามีผู้รอดชีวตกำลังโดนโจมตีที่สถานีตำรวจ โดยที่ Red จะขอให้ Nick ช่วยอีกครั้งโดยจะให้ไปที่สถานีตำรวจส่วนเขาและ Annie จะไปพบ Angle มี่โรงแรมในเมือง Central ก่อนแล้วจะตามไป Nick จำใจต้องยอมทำตามแผนของ Red แต่อย่างน้อยๆเขาก็ได้เห็นรอยยิ้มเล็กออกมาจาก Annie บ้างแล้ว สำรวจที่บอร์ดรายชื่อผู้รอดชีวิตจะได้ Side Mission Blood Barter มาเพิ่มด้วย

[Side Mission] Blood Barter
เดินทางไปที่จุดม่วงทางซ้ายล่างของเมืองเข้าไปคุยกับ Troy แล้วไปที่บาร์เป้าหมายม่วงต่อไปจะพบกับ Kent และ Jesse แล้ว Kent จะเข้ามาสู้พร้อมๆกับ Jesse จัดการแต่ Kent คนเดียวพอแล้วเก็บสร้อยล็อคเก็ตของมันมาแล้ว Jesse จะยอมมาเป็นพวกด้วย จากนั้นเอากลับไปให้ Troy ก็จะจบเควสและจะได้ 25,000PP เป็นรางวัล




จากนั้นก็มุ่งหน้าไปยังจุดเป้าหมายสีเหลืองในแผนที่ที่จุดขวาของแผนที่ที่สถานีตำรวจนี้ต่อได้เลย

เมื่อ Nick เข้ามาจนถึงสถานีตำรวจที่ลานจอดรถจะพบกับ Hilde ตำรวจสาวกับหน่วยสวาทที่นำเอาข้อมูลจากกล้องวงจรปิดมาส่งให้ จากนั้นสองสามีภรรยาที่กำลังบาดเจ็บจะเข้ามาขอให้ตำรวจช่วยเหลือ แต่กลับโดนยัยตำรวจหญิงโรคจิตก็กลับฆ่าทั้งคู่ตายไปต่อหน้าต่อตาจน Nick ต้องออกมาไปช่วย Hilde สั่งให้หน่วยสวาทจัดการกับ Nick ก่อนที่มันจะหนีขึ้นไปชั้นบน จัดการหน่วยสวาทให้หมดแล้วลุยตาม Hilde ขึ้นไปด้านบนสถานีตำรวจที่เต็มไปด้วยฝูงซอมบี้มากมาย จนถึงห้องทำงานด้านในจะพบกับ Hilde รออยู่



Boss Hilde the Sergeant ตำรวจหญิงโรคจิตที่มาพร้อมปืนคู่ แน่นอนว่าจะต้องหาปืนดีๆซักกระบอกในการดวลกับมัน แต่จริงๆแล้วการใช้ปืนสูกับมันนั้นเป็นการสิ้นเปลืองกระสุนแบบไม่มีวันชนะเพราะกระสุนมันจะไม่มีหมดแต่ของเราเกลี้ยงก่อนมันตายแน่นอน จึงต้องใช้วิธียิงให้มันเสียหลักก่อนแล้วค่อยๆเข้าไปใกล้มันจนสามารถโจมตีมันด้วยการโจมตีระยะใกล้จะทำให้มันแทบจะทำอะไรเราไม่ได้เลย ยกเว้นตอนที่พวกหน่วยสวาทลูกน้องมันจะตามมาช่วยเท่านั้น เมื่อจัดการมันได้แล้ว Hilde จะงัดบาซูก้ามายิงถล่มใส่ Nick แต่ก็โดนพุ่งใส่จนกระเด็นลงไปกระแทกหน้าจิ้มนมที่ชั้นล่างจนสามารถเอา Flash Drive ข้อมูลจากกล้องมาจาก Hilde ได้ในที่สุด

จากนั้นก็เดินทางลุยต่อไปยังโรงแรมที่นัดพบกับ Annie และ Red ที่จุดเป้าหมายสีเหลืองในเขต Central City ได้เลย

เมื่อมาถึงโรงแรมจะพบ Annie และ Red ที่กำลังเสียใจกับการสูญเสีย Angel เพื่อนของพวกเขา เมื่อ Nick กลับมาพร้อมกับข้อมูลภาพจากกล้องวงจรปิดที่ส่วนใหญ่จะเป็นภาพเกี่ยวกับความโหดร้ายที่กองทหารของรัฐสังหารผู้บริสิทธิและความเหี้ยมโหลดของพวกซอมบี้ Annie จึงอยากจะนำข้อมูลไปเปิดเผยให้โลกเห็นถึงความโหดร้ายของที่นี่ แต่ Red จะยังอยากสู้เพื่อทุกคนที่นี่ต่อเพราะคิดว่ายังไงความยุติธรรมมันก็ไม่มีจริง Annie พยายามชี้ให้เห็นถึงโสกนาฎกรรมของ Angel ให้ดูเป็นตัวอยากกับการจะอยู่เพื่อสู้ในที่แบบนี้ จนสุดท้าย Red ขอร้องให้ Nick ช่วยเหลือเขาครั้งสุดท้ายก่อนที่จะไปเอาน้ำมันแล้วหนีออกจากที่นี่ด้วยกันทั้งหมด โดยนัดให้ไปพบเขาที่หอคอยในอีก 1 ชั่วโมงข้างหน้า แต่ก็ทำให้ Annie โกรธสุดกับการตัดสินใจของทั้งคู่

[Side Mission] A Question of Law
เข้าไปคุยกับ Carrie ที่หน้าสำนักงานทนายความเธอจะต้องการให้ Nick ไปเอากระเป๋าเอกสารกลับมาให้เธอ จากนั้นลุยไปที่จุดสีม่วงอีกจุดเพื่อฝ่าดงซอมบี้ไปเอากระเป๋าเอกสารที่ตกอยู่หน้าศาลกลับมาให้เธอ นอกจากเธอจะตามมาด้วยแล้วยังจะได้ปืน Shot Gun ของเธอมาใช้และได้อีก 20,000PP เป็นค่าตอบแทนด้วย (เอาปืน Assault Gun + Shot Gun = ปืน Z.A.R สุดยอดดด)
[Side Mission] Lesser Evil



ไปคุยกับ Big D ที่กลางสะพานทางฝั่งใต้ของเมืองเขาต้องการให้หารถแบบ Combo มาให้เขา โดยต้องไปหารถยนต์ 2 คันมาผสมกันจนได้ Junk Car มา (จริงๆเอารถอะไรก็ได้มาผสม Combo 2 คันก็เป็นอันได้หมด) แล้วขับรถไปให้ Big D แล้วขับพาเข้าไปยังห้องของเขาที่จุดสีม่วงต่อไป



 เมื่อมาถึงแล้ว Big D จะพังประตูเข้าไปด้านกลับพบว่ามันจับผู้หญิงเอาไว้บนเตียงแล้วจะให้ Nick ร่วมด้วย Nick จึงต้องจัด Big D ซะแล้วช่วย Candy ที่ถูกจับมัดอยู่บนเตียงออกมาก็จะได้ค่าตอบแทน 25,000PP มาจากเธอแทน


[Psycho Mission] All you can eat
เดินทางมาที่เป้าหมายสีม่วงที่ห้องครัวในตึกแห่งนึงเข้ามาด้านในจะพบ ยัยอ้วน ที่กินทุกอย่างที่ขวางหน้ากับคนรับใช้ของเธอและตอนนี้มันกำลังจะกิน Nick ที่เผลอหลุดคำว่า อ้วน ออกมาจากปาก Side Mission ก็จะกลายเป็น Psycho Mission ที่ต้องจัดการยัยอ้วน Darlene ทันที



Boss Darlene ยัยอ้วนจอมตะกละที่นั่งรถเข็นพุ่งเข้าชนโจมตีไม่ใช่ปัญหาใหญ่เพราะในห้องครัวนั้นมีสิ่งของต่างๆที่ขวางทางอยู่ในห้องมากมายที่ทำให้มันเคลื่อนที่ไม่ง่ายนักจนสะดวกในการโจมตีของ Nick อย่างสบายเพียงแค่ต้องอดทนกับความอึดและพลังชีวิตที่เยอะแยะของ Darlene เท่านั้นเอง หลังจากจัดการยัยอ้วนอัปลักษณ์ได้ด้วยความสะอิดสะเอียนแล้วก็จะได้ 20,000PP มาเป็นรางวัลและได้กุญแจ Buffet Kitchen ที่ตกอยู่มาด้วย  


จากนั้นก็เดินทางลุยต่อไปยังที่นัดพบกับ Red ที่จุดเป้าหมายสีเหลืองที่ Communication Tower ได้เลย


Chapter 4: Kidnapped

DAY 4

Nick เดินทางมาจนถึงหอคอยสื่อสารพบกับ Annie แต่กลับโดน Gary หักหลังเพราะเหมือนมันจะรู้ดีว่า Nick คงไม่ยอมจับตัว Annie มาส่งให้เจ้านายของมันง่ายๆแน่นอน มันจึงตามมาเพื่อจับ Annie ด้วยตัวเอง แต่ขณะนั้นหน่วยสวาทก็เข้ามาโจมตีและจับตัว Annie ไปแทน เมื่อ Nick รู้สึกตัวอีกครั้งหลังจากสลบไปด้วยด้ามปืน Red พยายามถามถึงเรื่องที่เกิดขึ้นแต่เขาเองก็ยังไม่เข้าใจว่าพวกหน่วยสวาทจะจับตัว Annie ไปเพื่ออะไรแต่เขาพอจะรู้ว่าฐานของพวกสวาทนั้นอยู่ที่ค่ายกักกัน (Prison Camp) Red จะให้ Nick ช่วยไปหารถมาเพื่อเตรียมเดินทางไปช่วย Annie แล้วค่อนตามไปพบเขาที่ห้องทำงานเพื่อวางแผนลุย

[Side Mission] Family Style Dinning
เข้าไปคุยกับ Jason ที่สรว่ายน้ำของบ้านเขาที่เต็มไปด้วยซอมบี้ แต่ซอมบี้ทุกตัวกลับเป็นครอบครัวของเขาเองด้วย Jason จะขอให้ไปหาอาหารมาให้พวกซอมบี้หน่อย ซึ่ง Nick ก็ต้องลุยไปหาอาหารมาให้โดยเอาอะไรมาก็ได้ที่มันเป็นไอเทมอาหารแล้วเอากลับมาให้ Jason เพื่อรับรางวัล 25,000PP



[Psycho Mission] Playtime
เข้าไปที่ร้าน Sex Shop XXX Store จะพบกับคนที่ถูกจับมาทรมานและเจ้าของสถานที่สุดวิปริต เจ้า Dylan จอมเซ็กซ์ ที่มาพร้อมปืนพ่นไฟรูปร่างร่างคล้ายกระจู๋ขนาดใหญ่ การโจมตีของมันนั้นนอกจากจะยิงปืนไฟได้จากระยะไกลแล้วยังเก็บเรื่องท่าจับล็อคสุดพิศดารต่างๆนานาที่รับรองว่าคุณไม่อยากจะโดนแน่นอน ฉะนั้นทางที่ดีควรยิงมันจากระยะไกลจะดีกว่าเพราะอย่างน้อยปืนไฟมันก็ยิงมาได้ในระยะไม่ไกลมากนัก เมื่อจัดการดับตัณหาของเจ้า Dylan ได้ลงได้แล้วก็จะสามารถช่วย Eric และ Julia 2 ผู้โชคร้ายเอาไว้ได้ด้วย ส่วนปืนกระจู๋พ่นไฟ Lust cannon ของเจ้า Dylan นั้นคุณจะหยิบมาใช้หรือไม่ก็เรื่องของคุณน๊ะครับ(ฮา) + 30,000PP



จากนั้นหารถอะไรก็ได้ขับมาที่ร้านขายรถมือ 2 ที่เป้าหมายสีเหลืองเพื่อพบกับ RED เขาจะให้ชี้ให้ดูฐานกักกันของพวกทหารที่ล้อมด้วยรั่วไฟฟ้าและด้านในนอกจาก Annie แล้วยังมีคนบริสุทธิ์อีกมากมายถูกจับอยู่ โดย Red จะให้ Nick หาทางเข้าไปด้านในเพื่อปิดสวิตซ์พลังงานไฟฟ้าของรั้วแล้วเขาจะเป็นคับรถเข้าไปรับพาหนีออกมาในภายหลัง

[Side Mission] Speed Freak
เข้าไปคุยกับ Derex เขาจะให้ Nick วิ่งนำทางฝ่าฝูงซอมบี้ให้เขาไปตามจุดสีม่วงเรื่อยๆจนกว่าจะถึงที่หมายที่เป็นที่เป็นร้านขายอาวุธ(ฟังดูเรียบง่ายแต่เส้นทางนั้นค่อนข้างไกลและต้องระวังไม่ให้ Derex มันตายด้วย)ก็จะพบภาระกิจก็จะได้รับ 25,000PP

จากนั้นกลับไปที่ฐานกักกันของพวกทหารใช้รถขับตะลุยเข้าไปในรั้วเลยแล้วจัดการทหารให้หมดแล้วลุยเข้าไปด้านในก็จะพบทางเข้าศูยน์บัญชาการ์ณด้านใน Nick จะลอบเข้าไปแอบฟังคนด้านในคุยกันซึ่งก็จะพบกับผู้หญิงที่นั่งรถเข็นพยายามต่อรองกับนายพลเพื่อยื้อเวลาในการทำลายที่นี่เอาไว้ให้ครบ 6 วันเพื่อค้นหาใครบางคนอยู่และพวกมันได่จับภรรยาของประธานาธิบดีเอาไว้อีกด้วย ก่อนที่พวกมันจะเริ่มกาทดลองเอาหนอนปรสิตบางอย่างใส่เข้าไปในปากของ ภรรยาของประธานาธิบดีจนเธอกลายเป็นซอมบี้ 







นายพลต้องการให้ตามหาตัว Diego มาโดยด่วนก่อนจะเอ่ยชื่อหญิงที่อยู่บนรถเข็นว่า Marian แต่ Nick ก็แอบเห็นแล้วว่าเธอเองก็ติดเชื้อจนต้องพึ่ง Zombrex อยู่ด้วยเหมือนกัน หลังจากพวกมันไปจนหมดแล้ว Nick จะรีบเข้าไปหาเครื่องกำเนิดไฟฟ้าต่อทันที แต่ก็โชคไม่ดีที่มีพวกทหารกลับเข้ามาเห็นจนต้องจัดการมันให้หมดแล้วเข้าไปด้านในต่อจนพบเครื่องกำเนิดไฟฟ้าที่ห้องด้านใน ซึ่งจะมีอยู่ทั้งหมด 2 เครื่อง จากนั้นลุยเข้าไปจนถึงที่กักกันเชลยเพื่อช่วย Annie และพวกเธอออกมา ซึ่งจะพบว่า Gary ก็ถูกจับเอาไว้ด้วย Annie ไม่อยากให้ช่วยมันออกมาด้วยแต่ Nick ก็ไม่ได้ใจร้ายขนาดนั้นเขาจะตัดสินใจช่วย Gary ออกมาด้วย เมื่อออกมาแล้วจะพบ Red บุกเข้ามาช่วยแล้วให้รีบหนีขึ้นไปที่รถแวนที่เขาจอดเตรียมเอาไว้ให้ แต่เมื่อออกมาที่หน้าทางออกจะพบหัวหน้าหทารออกมาขัดขวางเอาไว้




Boss – Commander เจ้าหัวหน้าทหารนั้นไม่มีอะไรมากนอกจากหทารที่มีปืนธรรมดาๆเท่านั้นและด้วยตอนนี้มีพวกเยอะกว่าด้วยยิ่งจัดการได้ไม่ยากมากนัก จากนั้นเก็บ Key card มาจากศพมันแล้วไขประตูทางออก แต่ Gary ก็พยายามจะจับตัว Annie อีกครั้งแต่ Nick เข้ามากันเอาไว้ สุดท้าย Gary ก็ไม่สู้กับ Nick เพราะเห็นแกบุญคุณที่ Nick เคยช่วยชีวิต ก่อนที่มันจะแยกทางออกมาไป ทหารที่เหลือตามมาจับ Nick อีกครั้งแต่ Red ก็ตามมาช่วยเอาไว้ได้ ก่อนที่ Red จะเอาหมายจับชายที่ถูกหมายหัวว่าเป็นผู้ก่อการร้ายและชายที่ว่าก็มีหมายเลขที่คอเหมือนกันกับ Nick ซึ่ง Nick ก็ทั้งตกใจและแปลกใจเพราะเขายืนยันว่าเขาจำอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้ไม่ได้เลยจริงๆ และ Nick ก็ยังยืนยันจะให้ทุกคนรีบหนีไปด้วยกันด้วยเครื่องบินที่จอดอยู่ที่โรงเก็บใกล้ๆ แต่ Red ก็จะต้องไปตามหาพวก Annie และเพื่อนๆในกลุ่มก่อนโดยให้ Nick ตามไปที่คาราโอเกะบาร์ที่ Sunset Hill ด้วย ก่อนที่ Red จะบอกตำแหน่งของน้ำมันที่เขาพบกับ Nick ก่อนที่เขาจะไปด้วย ซึ่งมันอยู่ที่ General Store ที่ใต้ทางด่วนนั่นเอง



     

[Side Mission] Under Armed
มุ่งหน้าไปที่สถานีตำรวจ เข้าไปคุยกับ Dwayne ที่ห้องทำงานด้านในแล้วไปตามเอาไอเทมอาวุธต่างมาให้เขาคือ
ระเบิด( Grenade)
ปืนพก (Hand Gun)
โล่ตำรวจ( Riot Shield)
ปืนช็อตกัน (Shot Gun)
โดยไอเทมทั้งหมดจะหาได้จากรอบๆสถานีตำรวจหรือถ้าเคยมีเก็บเอาไว้ในช่องไอเทมหรือตู้เก็บของก็กลับไปเอามาให้เขาก็ได้ จากนั้นก็จบภาระกิจแล้วรับไป 40,000PP แล้วก็จะได้ Dwayne ร่วมทางมาอีกด้วย

[Side Mission] Dog Gone
เข้าไปคุยกับพ่อครัว Jorge ที่หน้าโรงงานรีไซเคิ่ลแล้วพาเขาไปที่ครัวของร้านอาหารต่อแล้วต้านซอมบี้ที่จะเข้ามาในร้านอาหารเอาไว้จนกว่า Jorge จะทำอาหารเสร็จก็จะจบภาระกิจแล้วรับ 40,000PP ไปแบบสบายๆ แล้วก็จะได้ พ่อครัว Jorge ร่วมทางมาอีกด้วย



จากนั้นเดินทางต่อไปยังจุดเป้าหมายสีเหลืองในแผนที่จะพบทางเข้า General Storage แล้วเข้าไปในห้องทำงานเก็บ Storage Locker Key บนโต๊ะมาแล้วเอาไปไขเปิดประตูชัตเตอร์ด้านในก็จะพบกับซอมบี้ผึ้งไวรัส มนุษย์กลายพันธุที่นายพล Hemlock สร้างขึ้นมา อยู่ด้านในซึ่งแม้แต่พวกหน่วยสวาทที่เข้ามาพบก็ดดนฝูงผึ้งในปากมันเข้าโจมตีจนติดเชื้อเป็นซอมบี้จนหมด จากนั้นรีบเข้าไปที่รถบรรทุกเชื้อเพลิงแล้วขับหนีออกมาจากที่นี่ได้เลย จากนั้นก็ทำวิธีที่จะขับรถเชื้อเพลิงให้อยู่รอดปลอดภัยจนถึงโรงเก็บเครื่องบินให้ได้  เมื่อมาถึงแล้ว Rhonda จะดีใจมากที่ Nick รอดกลับมาได้พร้อมเชื้อเพลิง แต่เธอกลับรู้สึกผิดที่ต้องทิ้งทุกอย่างที่เธอสร้างมาในร้านของเธอไป ซึ่ง Nick ก็จำเป็นต้องแจ้งข่าวร้ายที่เขาแอบฟังข้อมูลจากนายพล Hemlock มาว่าเหลือเวลาอีกแค่ 6 วันที่นี่ก็จะโดนรัฐบาลระเบิดเป็นจุลอยู่ดี และข่าวร้ายนี้ก็ทำเอาทั้ง Rhonda และ Dick ตกอยู่ในความเงียบงันทันที

Chapter 5: The Mutations

DAY 4



แต่หลังจากน้ำมันแล้ว Rhonda ก็ต้องบอกว่าเครื่องบินจำเป็นต้องใช้ชิ้นส่วนในการซ่อมแซมอีกซึ่งเธออยากให้ Nick ไปลองหาดูที่ Supply House และที่สำคัญที่สุดคือกุญแจเครื่องบินนั้นอยู่กับชายที่ชื่อ Diego คนเดียวกับที่ Nick เคยเจอและได้ยินพวกของนายพล Hemlock ระดมพลตามล่าเขาและตามที่ได้ยินมาตอนนี้เขาอยู่ที่พิพิธภัณฑ์นั่นเอง

[Side Mission] Kin & Comfort
เข้าไปคุยกับ Kelsey บนดาดฟ้า แล้วคุ้มกันและพาเธอเดินทางมาจนถึงบ้านของครอบครัวเธอ(ที่อยู่ไกลแสนไกล)  จากนั้นตามเธอเข้าไปในบ้านก็จะพบว่าครอบครัวเธอกลายเป็นซอมบี้ไปหมดแล้ว จัดการซอมบี้ในบ้านให้หมดแล้วคุยกับ Kelsey ก็จะได้ค่าตอบแทนมา 25,000PP แล้วก็จะได้คาวบอยสาว Kelsey ตามมาเป็นพวกด้วย
[Side Mission] Don’t look now
เข้าไปที่ห้อง Security room คุยกับ kyla แล้วต้องหาไอเทมเอกสาร Suspicious Document มาให้เธอ 3 อันตามจุดสีม่วงที่ขึ้นมา ก็จะได้ค่าตอบแทนมา 25,000PP

[Psycho Mission] Look in the Mirror
เข้ามาที่โรงเรียนสอนโยคะจะพบกับ Boss Jherii ครูโยคะกระเทยควายจอมโหดที่จะสอนให้รู้ถึงคำว่าความแข็งแกร่ง การจสู้กับมันนั้นห้ามบวกเด็ดขาดเพราะที่ยกน้ำหนักมันยังยกมาฟาดได้สบาย พยายามหาอาวุธที่เป็นตัวล่อในการโจมตีอย่าง Cuddly Bear และปืนที่ใช้ยิงจากระยะไกลจะดีที่สุด หลังจากสั่งสอนให้มันเห็นความแข็งแกร่งที่เหนือกว่ามันแล้วก็จะได้ค่าเหนื่อยมา 30,000PP



จากนั้นก็มุ่งหน้าลุยไปยังจุดเป้าหมายสีเหลืองที่พิพิธภัณฑ์ก็จะพบกับ Diego ที่ห้องโชว์ด้านอวกาศ หลังจาก Nick ได้เห็น Diego ออกมาในชุดนักบินอวกาศ เขาก็พยายามชวนให้ Diego หนีออกจากที่นี่ด้วยกันทางเครื่องบิน แต่ยิงคุยก็จะรู้ว่า Diego มันรั่วไปแล้วล่ะครับ ไม่มีทางเลือกที่ Nick ต้องสู้กับมัน การโจมตีของ Diego นั้นเป็นบินร่อนโจมตีด้วยปืนไฟเป็นหลัก ซึ่งก็ต้องจัดการมันด้วยอาวุธปืนเท่านั้นผสมกับการเข้าไปซ้ำมันตอนที่มันตกลงมาที่พื้นได้ด้วยก็จะจัดการมันได้



หลังจากอัดจน Diego หายรั่วแล้ว มันก็จะพา Nick เข้าไปดูด้านในห้องโชว์ประวัติของการเกิด Zombie ซึ่งก็มีรายงานบันทึกไว้มากมายตั้งแต่การแผ่ระบาดครั้งแรกที่ Smithville และเหล่าผู้กล้าที่รอดชีวิตทุกคน (เหล่าตัวเอกที่ผ่านมาของ Dead Rising นั่นแหละ) จน Nick สังเกตเห็นพวกซอมบี้ในยุคแรกเริ่มระบาดนั้นแต่ละตัวจะมีตัวเลขที่ลำคอเหมือนกับเขาไม่มีผิด ทำเอา Nick เริ่มหวาดๆกับความทรงจำที่หายไปของเขาขึ้นมาบ้างแล้ว จนต้องรีบตัดบทถามถึงกุญแจของเครื่องบินกับ Diego ซึ่งก็ได้ความมาว่า ก่อนหน้านี้มีพวกแก็งค์บุกเข้ามาและพวกมันก้เอากุญแจเครื่องบินไปเรียบร้อยแล้ว ทำให้ Nick ต้องรีบไปหากุญแจกลับคืนมาให้เร็วที่สุด 



[Side Mission] Will Or Away
เข้าไปคุยกับ Phil ที่จุดรับเควส เขาต้องการให้ตามหาคนที่ชื่อ Warren แล้วเดินทางลุยไปที่จุดเป้าหมายสีม่วงจุดต่อไปเพื่อตามหา Warren แล้วพากลับมาหา Phil แต่ปรากฏว่าทั้งคู่เป็นคู่อริกันจนต้องจบลงที่ต้องช่วยกันรุมจัดการ Phil ซะ แล้วคุยกับ Warren ก็จะได้ค่าตอบแทนมา 25,000PP

จากนั้นเดินทางไปยังจุดหมายสีเหลืองที่สนามเทนนิสที่พวกแก็งค์วิ่งรวมตัวกันอยู่ ร่วมมือกับ Diego จัดการฆ่าพวกมันให้หมด แล้วเก็บ Plan Key มาจากศพพวกมัน แล้วจากนั้นก็มุ่งหน้าพา Diego กลับมาที่โรงเก็บเครื่องบินได้เลย ด้านในจะพบว่า Rhonda เตรียมพ่นสีเครื่องบินในแนวของเธอเตรียมเอาไว้แล้วก่อนที่ทั้งหมดจะฟังข่าววิทยุถึงเรื่องการขึ้นดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของเมือง เมือง Los Perdidos แทนนายกคนเดิมที่หายสาปสูญไป ก่อนที่ Rhonda ไปเตรียมชิ้นส่วนมาซ่อมแซมเครื่องบินของเธอต่อ

[Side Mission] Fashion Victim
คุยกับ Lena แล้วต้องคุ้มกันเธอมาช็อปปิ้งที่ร้านขายเสื้อผ้าต่างๆ 3 ร้านแต่ยังไม่จบเรื่องเพราะต้องไปลุยไปหารองเท้าที่เธอต้องการที่อยู่อีกร้านมาให้เธออีก 1 คู่ แล้วก็รอให้เธอเข้าไปแต่งองค์ทรงเครื่องในห้องแต่งตัวจนออกมาจนเสร็จก็จะจบภาระกิจ แล้วจะได้ค่าตอบแทนมา 40,000PP
[Side Mission] Contraband Conditions
เข้าไปพบกับ Marcus นักบิดที่กำลังเดือดร้อนเพราะรถฮาเลย์ของเขาพังอยู่ งานนี้กินหมูสำหรับช่าง Nick เพราะเขาสามารถซ่อมได้อย่างรวดเร็วแบบจบภาระกิจรับเครดิตไป 20,000PP เนาะๆและได้ Marcus ซ้อนท้ายมาอีกด้วย

[Side Mission] Eat the Rich



เข้าไปคุยกับ Jose บนดาดห้าตึกเป้าหมายแล้วไปตามหาเศษมือของซอมบี้ (Hunk of Meat) มาให้เขา 5 อัน ซึ่งถ้าไม่มีเก็บเอาไว้ก็ต้องลงทุนมองหาเอาตามพื้นรอบๆดูเอาละครับ ซึ่งจะพบว่ามันเอามากินเพื่อเพิ่มพลังครับ ซึ่งก็จะจบภาระกิจได้ค่าตอบแทนมา 30,000PP และ จอมพลัง Jose ก็จะร่วมเดินทางไปด้วย
[Psycho Mission] Remotely Helpful



เข้าไปยังคฤหาสถ์หรูที่จุดเป้าหมายจะพบกับเศรษฐีโรคจิต Teddy ที่มีอาวุธจำนวนมากอยู่ในครอบครองและมันกำลังจะระเบิดที่นี่ทิ้ง เพียงแต่ตัวมันไม่ได้อยู่ที่นี่เท่านั้นเอง Nick ก็ต้องรีบออกมาค้นหาที่อยู่ของมันโดยด่วน ซึ่งต้องหาแผงควบคุมและทำลายให้หมดทุกจุดในบ้านแล้วประตูห้องควบคุมก็จะเปิดออก เมื่อเข้าไปด้านในก็จะพบกับ Teddy อยู่แถมยังกลัวจนหัวหดจนตกใจหัวใจวายตายไปซะก่อนซึ่ง Nick ยังไม่ได้ทำอะไรเลยด้วยซ้ำ เมื่อมันตายแล้ว Nick ก็จะได้กุญแจ Police Station Armory มาอีกด้วย



จากนั้นเดินทางไปยังจุดเป้าหมายสีเหลืองเพื่อกลับไปหา Rhonda ที่โรงเก็บเครื่องบินได้เลย

Chapter 6: Captured

DAY 5

ที่โรงเก็บเครื่องบินเรื่องยุ่งก็ยังไม่จบเมื่ออาไหล่ที่ Rhonda พยายามออกตามหานั้นอยู่กับชายคนหนึ่งที่เขต Sunset Hill Rhonda จึงให้ Nick รีบไปเอามันมาให้เร็วที่สุด จากนั้นก็เดินทางมุ่งหน้าไปที่จุดเหลืองในแผนที่จนถึงบ้านเป้าหมาย เมื่อ Nick เข้าไปด้านในระบบรักษาความปลอดภัยของบ้านจะเริ่มทำงาน บ้านจะถูกปิดล็อคทางเข้าออกทุกด้านแถมสัญญาณเตือนภัยก็ยังดังเรียกแขกอย่างต่อเนื่อง จัดการซอมบี้ที่เข้ามาในบ้านให้หมดแล้วเข้าไปที่แผงควบคุมสัญญาณเตือนเพื่อปิดมันซะ จากนั้น Nick จะมองหา Altimeter อาไหล่เครื่องบินซึ่งมันจะอยู่ที่หน้าห้องเก็บของที่ชั้นล่างใต้แผ่นไม้ที่ทับอยู่ จากนั้นวิ่งไปที่ห้องเก็บของที่ฝั่งตรงข้ามของถนนเข้าไปเก็บไอเทม Flywheel ที่อยู่ในกล่องไม้มาอีกอันก็เป็นว่าได้อาไหล่มาครบแล้ว

[Side Mission] The Hunter Doug
เข้าไปที่ South Almuda Station แล้วจัดการทหาร Spec Ops ที่อยู่ด้านในให้หมดแล้วเข้าไปคุยกับ Doug ที่อยู่ด้านในเพื่อช่วยเขาก็เป็นอันจบภาระกิจ ได้เครดิต 15,000PP แล้วก็จะได้นายพราน Doug ติดตามมาอีกด้วย

จากนั้นก็เดินทางไปที่จุดเป้าหมายสีเหลืองเพื่อกลับไปที่โรงซ่อมเครื่องบินได้เลย  



เมื่อกลับมาถึงที่โรงซ่อมเครื่องบิน Nick โชว์อาไหล่ชิ้นสุดท้ายที่เขาได้มาอยากยากเย็นด้วยความภาคภูมิใจกับเพื่อนๆที่รออยู่ หลังจาก Rhonda ทำการซ่อมเครื่องบินจนเสร็จเรียบร้อยแล้วท่ามกลางความดีใจของทุกคน แต่ Rhonda กลับเดินหิ้วกระเป๋าเดินออกจากโรงเก็บเครื่องบินหน้าตาเฉย Nick พยายามจะถามว่าเธอจะไปไหน Rhonda ยอมรับว่าเธอไม่สามารถทิ้งคนรักของเธอที่หายตัวไปได้ เธอจะกลับไปรอที่อู่ของเธอเพื่อรอให้เขากลับมา ความตั้งใจที่หนักแน่นของ Rhonda นั้นยากที่ Nick จะยื้อเอาไว้ได้จนเขาต้องยอมทำใจลาจากกับ Rhonda ก่อนที่ Diego จะให้กุญแจเครื่องบินกับ Nick เพื่อเตรียมออกเดินทาง แต่เมื่อทุกคนออกไปนอกโกดังก็จะพบหน่วยสวาทเข้ามาลอบโจมตีจนจับทุกคนไปได้จนหมดในที่สุด



Nick รู้สึกตัวอีกครั้งก็พบว่าถูกจับมาในห้องทดลองพร้อมกับ Diego ที่กำลังดิ้นไม่หยุดเพราะความกลัวซึ่งช่วงนั้นทำให้ Nick เห็นหมายเลข 49 ที่ก้านคอของ Diego ก่อนที่ Marian ที่เป็นคนควบคุมการทดลองจะเริ่มออกมาคำสั่งให้เริ่มขั้นตอนการ กระตุ้น ได้เลย ไม่ทันขาดคำที่ Nick จะตั้งคำถามว่าพวกมันจะกระตุ้นอะไร ปืนลำแสงขนาดใหญ่ก็เริ่มยิงใส่ร่างของ Diego ทันที ลำแสงทำให้หนอนปรสิตและผึ้งไวรัสออกมาจากร่างของ Diego และเข้าโจมตีใส่นักวิจัยและทหารที่อยู่ในห้องจนเกิดความโกลาหลไปทั่ว ทำให้ Marian ต้องสั่งยกเลิกการทดลองแล้วรีบหนีออกจากห้องควบคุมทันที ในขณะที่ปืนรังสีกำลังเลื่อนไปยิงใส่เป้าหมายต่อไปซึ่งก็คือร่างของ Nick แต่เขาพยายามดิ้นอย่างสุดแรงจนหลุดออกไปได้ จากนั้นในขณะที่ Nick หนีออกไปนอกห้องเขาพบกับนักวิจัยหญิงคนนึงที่แนะนำตัวว่าเธอชื่อ Isabelle keyes และเธอรู้จัก Nick ดีและรอคอย Nick มานานแล้ว



ไม่นาน Nick ก็เริ่มจำขึ้นมาได้บ้างแล้วว่าเธอเป็นต้นเหตุของวิกฎติไวรัสที่ Willamette แล้วเข้าไปบีบคอหมายจะฆ่าทิ้งเพื่อแก้แค้นให้ Diego ด้วย แต่ Isabelle พยายามจะแก้ตัวว่าเธอถูกใส้ร้ายกับเรื่องที่ว่ามาทั้งหมดมาตลอด เธอยืนยันว่าเธอไม่ใช่ผู้ก่อการร้ายแต่เป็นคนที่พยายามจะหยุดสิ่งทีเกิดขึ้นโดยมีตัว Nick เป็นตัวแปรสำคัญ และเธอยืนยันว่า Nick จะไม่ตายแบบ Diego แน่นอน ก่อนที่ Isabelle จะยืนยันอีกครั้งว่า พวกหนอนปรสิตนั้นไม่ได้อยู่ในตัว Nick แน่นอน ก่อนที่เธอพยายามจะพาตัว Nick เข้าด้านในแต่ Marian ก็ออกมาสั่งปิดทางออกจา Nick ตามออกไปไม่ทัน Nick พยายามบอกให้ Isabelle ไปรอเขาที่โกดังเก็บเครื่องบินก่อน ซึ่ง Isabelle รับปากว่าจะเล่าทุกอย่างให้เขาทันทีที่ Nick ตามไปถึง ก่อนที่ Marian จะเปิดการทำงานของแขนกลขนาดใหญ่เพื่อโจมตีใส่ Nick







Boss Loaders แขนกลจะโจมตีโดยการเลื่อนไปมาและขว้างถังน้ำมันใส่จนเกิดระเบิดเป็นวงกว้างทั่วห้องไปหมดได้ พร้อมกับฝูงซอมบี้ที่ออกมาโจมตีเสริมด้วย พยายามหลบแล้วเข้าไปให้ใกล้มันมากที่สุดจะโจมตีมันได้ง่ายที่สุด ระหว่างทางนั้นมีแขนกล Loaders อยู่หลายจุด ต้องพยายามจัดการให้เร็วเพื่อหนีออกไปที่จุดเหลืองด้วย เมื่อทำลายแขนกลจนหมดแล้วก็ปีนขึ้นไปด้านบนต่อ แจนกลพยายามพุ่งเข้าโจมตีใส่ Nick แต่เขาหลบได้จนมันไปกระแทกถังน้ำมันกระเด็นไปใส่ห้องควบคุมที่ Marian อยู่ แรงระเบิดทำให้โครงเหล็กลงมาทับ Marian เต็มๆ จนสุดท้าย Nick ก็หนีออกจากที่นี่ได้ในที่สุด ก่อนจะขาดใจตาย Marian ยังคงรำพึงรำพันออกมาเป็นเสียงที่ใกฃ้จะหมดแรงว่า พวกเธอจะจับตัว Nick มาได้อย่างแน่นอนไม่ว่าเป็นหรือตาย ภายใต้การแอบสังเกตการ์ณของ นายพล Hemlock อย่างเงียบๆ ท่ามกลางไฟที่กำลังโหมไหม้ไปทั่วห้องทดลอง


Chapter 7

DAY 6

Nick หลังจากหนีรอดมาได้อย่างสบักสะบอมก่อนที่เขาจะตั้งสติอย่างแน่วแน่เพื่อเรียกกำลังใจที่จะต้องพาตัวเขาและเพื่อนทั้งหมดหนีออกจากนรกแห่งนี้ให้ได้ แต่ก่อนอื่นเขาต้องไปตามหา Annie เพื่อหนีไปด้วยกันด้วย จากนั้นเดินทางต่อไปยังจุดหมายสีเหลืองมุ่งหน้ามาที่คาราโอเกะบาร์ แต่เมื่อเดินทางมาถึงห้าง metro แล้ว Nick จะได้ยินเสียงจากลำโพงจากคนที่อยู่ด้านในที่มันบอกว่าจำ Nick ได้ดีก่อนที่มันจะปิดล็อกประตูทุกด้านให้ Nick อยู่กับฝูงซอมบี้มากมาย สิ่งที่ต้องทำคือลุยฝูงซอมบี้ลงไปที่ห้องใต้ดินจะพบแผงควบคุมประตู แต่เมื่อสำรวจดูแล้วจะพบว่ามันเสียอยู่ จากนั้นลุยไปยังเป้าหมายต่อไปเพื่อไปเก็บกล่องสายไฟมา แล้วเอากลับไปซ่อมแซมแผงควบคุมไฟให้ทำงานแล้วเข้าไปกดสวิตว์ที่แผงควบคุมก็จะสามารถเปิดประตูออกได้แล้ว  จากนั้นก็มุ่งหน้ามาที่คาราโอเกะบาร์ต่อจะพบ Gary ที่รออยู่



Gary พยายามจะขัดขวางไม่ให้ Nick ผ่านเข้าไปในร้าน เพราะต้องทำตามคำสั่งของเจ้านายของเขาที่สั่งให้จับตัว Annie เอาไว้ แต่เหนือสิ่งอื่นใดเขาไม่มีเหตุผลที่จะมีชีวิตอยู่อีกแล้วไม่ว่า Nick จะพยายามอ้างถึงเรื่องหนีออกไปจากที่นี่แค่ไหนก็ตาม เพราะ Rhonda หญิงคนรักของเขาหายสาปสูญไปแล้ว Nick เองถึงกับหลุดหัวเราะออกมาเพราะเขาเองก็เพิ่งรู้ว่าชายคนรักที่ Rhonda เจ้านายสาวห้าวของเขาออกตามหาก็คือ Gary แต่เมื่อ Gary เห็น Nick หัวเราะก็คิดไปว่ากำลังหัวเราะเยาะความรักของเขา Gary เลยประกาศกร้าวเลยว่า ถ้า Nick ต้องการเข้าไปช่วย Annie ที่อยู่ด้านในก็ต้องพิสูจน์ให้เขารู้สึกได้ว่า อยากจะมีชีวิตอยู่อีกครั้งเท่านั้น และนั่น Nick รู้ดีว่าต้องไปตามหา Rhonda มาหา Gary นั่นเอง

[Side Mission] Memory Lane
เข้าไปคุยกับป้า Meryl แล้วพาป้าแกไปรำลึกความหลังตามสถานที่ต่างๆที่ขึ้นมาในเป้าหมาย ร้าน Chams of Desire, ลานกว้างที่ Almuda central และสุดท้ายที่ Mausoleum ซึ่งก็จะได้ 5000PP ในแต่ละที่ที่พาแกไปและสุดท้ายก็จะได้ป้า Meryl ร่วมทีมด้วยอีกคน
[Side Mission] The Hunted Lauren
เข้าไปที่ลานกว้างที่ Lauren ถูกพวกทหารจับเอาไว้ จัดการทหารให้หมดก็จะช่วย Lauren เอาไว้ได้ รับค่าเหนื่อย 15,000PP และได้นักล่าซอมบี้ Lauren ร่วมทีมด้วย
[Side Mission] The Hunted Winnie
เข้าไปที่จุดที่ Winnie ถูกพวกทหารจับเอาไว้ จัดการทหารให้หมดก็จะช่วย Winnie เอาไว้ได้ รับค่าเหนื่อย 15,000PP และได้นักล่าซอมบี้ Winnie ร่วมทีมด้วย
[Side Mission] Drug's Lover
เข้าไปหา Adam ที่ติดอยู่บนเวทีคอนเสริต์ท่ามกลางซอมบี้ที่รุมล้อมเพราะเสียงจากลำโพงรอบๆพื้นที่ ซึ่ง Nick ต้องลุยไปทำลายลำโพงให้หมด แล้วจะได้รับ 25,000PP พร้อมกับได้ Adam เข้าร่วมทางด้วย
[Psycho Mission] Single White Male
เข้าไปที่จุดหมายจะพบผู้หญิงถูกจับตัวอยู่ Nick ก็พยายามจะเข้าไปช่วยแต่เจ้าช่างอ้วน Kenny จะไม่ยอมให้ใครหน้าไหนมาแย่งความเป็นฮีโร่ของมันแน่นอน (ประมาณว่าจับเองช่วยเองเพราะอยากเป็นฮีโร่ครับ) มันคิดว่ามันเป็นฮีโร่ในนามของ “KICK” ก่อนที่มันจะหาเรื่อง Nick เพื่อแย่งชิงความเป็นฮีโร่ แล้วการต่อสู้ก็เกิดขึ้น



Kenny นั้นสามารถผสมอาวุธได้เหมือน Nick แต่ช้ากว่า ฉะนั้นต้องอาศัยการโจมตีที่รวดเร็วก่อนมันหาอาวุธมาใช้ได้ หลังจากอัด Kenny จนมันแพ้ไปแล้วยังมีหน้ามาร้องไห้ว่าทำไมต้องเตะๆๆมันเพราะมันชื่อ KICK ใช่มั๊ย อย่าไปสนใจมันเลยครับอัดเสร็จได้ 40,000PP ก็พอแล้ว แต่ก็จะได้ ช่างอ้วน Kenny ร่วมทีมด้วยน๊ะ ^_^


จากนั้นก็มุ่งหน้าไปที่จุดหมายสีเหลืองในแผนที่เข้าไปที่โรงซ่อมเครื่องบินได้เลย

ด้านในโรงซ่อมเครื่องบินจะพบ Rhonda อีกครั้งแต่ดูเหมือนเธอจะบาดเจ็บสาหัสโดนกัดจนนอนแขนขาดอยู่ด้านใน เมื่อ Nick เข้าไปดูอาการจะพบว่าเธอเลือดออกไม่หยุด Nick จึงต้องไปหาอุปกรณ์ปฐมพยาบาลเพื่อห้ามเลือด Rhonda ก่อนเธอจะตาย โดยที่ Rhonda จะบอกว่าให้ไปเอาอุปกรณ์ปฐมพยาบาลที่ร้านขายยา Roy’s mart จากนั้นก็รีบลุยไปจนถึงร้านร้านขายยา Roy’s mart ไปเอาอุปกรณ์ปฐมพยาบาลมาให้เร็วที่สุดเพราะระหว่างนี้พลังชีวิตของ Rhonda จะลดลงตลอดเวลา



 เมื่อได้ อุปกรณ์ปฐมพยาบาลมาแล้วก็รีบเอากลับไปใช้กับ Rhonda ทันที จนเมื่อเธอหายดีแล้ว Nick จะรีบบอกว่าเขาเจอตัว Gary แล้วและต้องพาตัว Rhonda ไปหาโดยด่วน แต่สภาพของ Rhonda นั้นคงจะเดินไปไม่ไหวเธอจึงออกความคิดว่าให้ Nick สร้างแขนเทียมที่เป็นอาวุธให้เธอเพื่อจะได้คุ้มครองเธอเดินทางไกลๆได้ จากนั้นก็เก็บชิ้นส่วนอาไหล่ต่างๆในอู่นี้มาคือ Soldering Iron / Hinge และ Acetylene tank เอามาสร้างแขนปืนพ่นไฟให้ Rhonda ใช้ คราวนี้ก็พร้อมออกลุยไปพร้อม Nick เพื่อกลับไปหา Gary สุดที่รักแล้ว



เมื่อ Gary ได้พบ Rhonda สุดที่รักของเขาแล้ว เขาก็อารมณ์ดีและจะจอมทำตามข้อตกลงที่จะเปิดประตูให้ Nick เข้าไปหา Annie ที่อยู่ด้านในแต่เพื่อความปลอดภัย Gary ได้จับ Annie มัดไว้บนฟอร์เต้นรำที่มีฝูงซอมบี้อยู่ด้านล่างเต็มไปหมด แปลว่า Nick ต้องเหนื่อยที่จะบุกฝ่าเข้าไปจัดการพวกซอมบี้มากมายเพื่อช่วย Annie เอาเอง

จากนั้นก็ลุยเข้าไปในคาราโอเกะบาร์จัดการฝูงซอมบี้รอบๆตัว Annie ให้หมดก็จะช่วยเธอเอาไว้ได้ Annie ดีใจที่ Nick บุกเข้ามาช่วยเธอถึงที่นี่ แต่ก็อดไม่ได้ที่จะถามถึง Red ซึ่ง Nick ก็บอกได้แค่ว่าได้นัดกับ Red ให้มาเจอที่โรงเก็บเครื่องบินด้วยแล้ว จนสุดท้าย Annie ก็ต้องยอมสารภาพว่าที่ผ่านมาเธอคบกับ Red เป็นแฟนกันมานานแล้ว แต่เธอก็ดีใจที่ Nick ได้เปิดเผยความรู้สึกดีๆกับเธอออกมาตรงๆเสียทีหลังจากปิดมานาน Nick ได้แต่ยิ้มเศร้าก่อนที่จะดึงมือ Annie ให้หนีไปกับเขาทันที



จากนั้นก็เดินทางพา Annie กลับไปยังอู่ซ่อมเครื่องบินอีกครั้งตามเป้าหมายสีเหลืองที่ขึ้นมา ที่โรงเก็บเครื่องบินนั้นทุกคนยังอยู่กันครบแถม Red ก็ยังเดินทางมาสมทบพร้อมกับ Isabelle แล้วด้วย แต่ดูท่าทาง Annie จะเกิดอาการแปลกเพราะเธอไม่ได้ฉีดยามานานแล้ว Red รีบบอกให้ทุคนเตรียมตัวออกเดินทาง แต่ Nick จะขอให้ Isabelle เล่าความจริงทุกอย่างที่รู้เกี่ยวกับตัวเขามาทั้งหมดตอนนี้เลย ในขณะที่ Annie ก็รู้จักดีซึ่งในข้อมูลของกลุ่มเธอ Isabelle คือคนของกลุ่มต้นเหตุที่ทำให้เกิดการแพร่กระจายของไวรัสทำให้ Isabelle ต้องเล่าทุกอย่างให้ทุกคนฟัง



เมื่อหลายปีมาแล้วรัฐบาลได้เข้ามาสร้างห้องทดลองใกล้ๆกับหมู่บ้าน Willamette ที่ Isabelle อาศัยอยู่ พวกมันเข้ากัดกินทุกอย่างจนการทดลองลับเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วอย่างรวดเร็ว และทุกอย่างก็เปลี่ยนไปเมื่อทหารเข้ามาควบคุมการทดลองที่เหมือนเป็นการเริ่มหว่านเมล็ดพันธุ์แห่งความชั่วร้ายไปทั่ว จนเมื่อ Dr.Barnaby เดินทางมาพร้อมกับผึ้งพาหะของไวรัส จนสุดท้ายวิกฎติซอมบี้ก็เกดขึ้น จากนั้นรัฐก็เริ่มปกปิดความจริงด้วยการสังหารทุกคนที่เกี่ยวข้องจนหมด Dr.Carlito หัวหน้านักวิทยาศาสตร์ท้องถิ่นในกลุ่มของ Isabelle ที่เห็นถึงความผิดพลาดในการทดลองเหมือนกับที่เกิดกับ Diego Dr.Carlito จึงเริ่มปล่อยเด็กๆที่ถูกนำมาเพื่อทดลองกลับบ้าน และไม่คิดจะที่จะทดลองอะไรก็ตามที่ควบคุมไม่ได้แบบนี้อีก ก่อนที่ Dr.Carlito ที่รู้สึกผิดจึงสร้างภูมิคุ้มกันให้กับเด็กกำพร้าคนหนึ่งที่อยู่ในกลุ่มของเด็กที่ถูกจับมาทดลองก่อนปล่อยไป และเรียกเด็กหนึ่งเดียวที่มีภูมิคุ้มกันไวรัสนรกนี้ว่า ” Orphans immune “ และร่างทดลองเด็กคนที่ 12 คนนั้นก็คือ Nick Ramos นั่นเอง …

Nick ได้ฟังจบก็ถึงกับตกใจแต่ก็แอบดีใจที่ Annie และทุกคนที่ติดเชื้อนั่นมีทางพอที่จะรักษาได้แล้ว ระหว่างนั้น Red จะเรียกทุกคนให้ออกมาข้างนอก เมื่อทุกคนออกไปแล้วก็พบว่ามันเป็นกับดักของ Red ที่ทรยศเพื่อเงินค่าหัวของ Nick 5 ล้าน แล้วร่วมมือกับพวกทหารเข้ามาล้อมจับกุมตัว Isabelle และ Annie เข้าไปเก็บไว้ในตู้คอนเทรนเนอร์ ก่อนที่ Red จะบังคับตู้คอนเทรนเนอร์พาตัวทั้งคู่หนีไป



จากนั้น Nick ต้องลุยกับพวกหน่วยสวาทสลับกับยิงแกนของเครนจนกว่ามันจะพังทำให้ตู้คอนเทรนเนอร์ตกลงมาด้านล่างได้สำเร็จ ในขณะที่ Nick รีบเข้าไปช่วย Annie และ Isabelle Red ก็จะลอบเข้ามาโจมตีจนตกลงไปด้านล่าง การต่อสู้กับนักล่าค่าหัว Red ก็เริ่มขึ้น



อาวุธของ Red คือมีดสปาร์ต้าที่โจมตีระยะใกล้ได้อย่างรวดเร็ว พยายามใช้อาวุธระยะไกลหรืออาวุธที่ติดสายฟ้าหรือระเบิดไฟจัดการกับมันจะได้ผลดีที่สุด สุดท้าย Red ก็โดนผลกรรมแห่งความโลภของมันที่มาในรูปแบบของตู้คอนเทรนเนอร์ที่ลงมาทับร่างมันจนเละแล้ว Nick ก็จะสามารถช่วย Annie เอาไว้ได้อีกครั้ง ในขณะที่ทั้งคู่กำลังกอดกันด้วยความดีใจ เสียงเรียกของชายกลางคนคนนึงก็ดังขึ้น Katey Katey! Annie รู้ดีถึงเสียงของพ่อเธอที่หายสาปสูญไปหลายปี 




ชายวัยกลางคนที่พลัดหลงกับลูกสาวมาเกือบ 2 ปีและในแต่ละวันเขาเอาแต่คนหายา Zombrex มาตลอดเพื่อหวังว่าจะได้เจอลูกสาวของเขาอีกครั้ง แต่ดูเหมือน Nick จะไม่ค่อยจะไว้ใจ ทำให้ชายวัยกลางคนถึงกระตะหวาดออกมาว่า นายคือใครกันว่ะไอ้หนุ่ม Nick Ramos Annie รีบแนะนำให้พ่อเธอรู้จักเพื่อนชายของเธอ ก่อนที่ Nick จะถามกลับว่าแล้วน้าละชื่ออะไร ก่อนที่ชายวัยกลางคนจะเดินเข้าไปหา Nick ด้วยใบหน้าที่เคร่งเครียดก่อนจะแนะนำตัวว่า Chuck Greene !



หลังจากทำความรู้จักกันแล้ว Isabelle จะมาทักทาย Chuck เพื่อนเก่าหนังเหนียวของเธออีกครั้ง ส่วน Gary และ Rhonda ก็ขับรถมาร่ำลาทุกคนและทั้งคู่ก็ยังจะยินยันที่จะหนีจากที่นี่ทางรถตู้ด้วยกันแค่ 2 คน ก่อนที่ Nick , Annie , Dick , Isabelle และ Chuck Greene จะขึ้นเครื่องบินเพื่อหนีออกจากที่นี่ด้วยความรู้สึกที่ผ่อนคลาย

แต่ขณะที่ทุกคนกำลังเอาเครื่องขึ้นวิทยุก็เริ่มถ่ายทอดการเตรียมยิงระเบิดเพื่อทำลายที่นี่โดยคำสั่งของนายพล Hemlock ข่าวนี้ทำให้ทุกคนถึงกับหยุดฟัง Isabelle เริ่มพูดถึงการรักษาที่กำลังจะใกล้ค้นคว้าเสร็จแล้วถ้าได้เลือดที่เปีนวัคซีนของ Nick มาใช้แต่คนหลายคนอาจกำลังต้องตายก่อนจะมีโอกาสรักษา ทำให้ Nick และ Chuck ต่างมองหน้ากันและตกลงมาจะไปจัดการเจ้านายพล Hemlock ให้หายแค้นก่อนเพราะอย่างน้อยอาจช่วยหลายคนที่เมืองนี้ได้




DAY 7

จากนั้นทั้งคู่ก็ลุยไปตามเป้าหมายสีเหลืองในแผนที่เพื่อเดินทางไปยังที่สนามบินของพวกทหารจะพบเครื่องบินลำเลียงขาดใหญ่ที่มี นายพล Hemlock และ Marian ที่น่าจะตายไปแล้วพูดคุยกันอยู่



Marian - นายรู้ใช่มั๊ยว่าแผนที่ทำมากำลังจะล้มเหลวที่ทำให้ The Orphans Nick หนีรอดไปได้
นายพล Hemlock -  ก็ไม่เห็นเป็นไร พวกเราสามารถสร้างซอมบี้ได้อีกทุกที่และทุกเวลาจะกลัวอะไรและเมื่อแผนสำเร็จลงเมื่อไหร่ค่อนกำจัด The King ที่หลังก็ได้ ก่อนที่ที่นี่จะหายไปด้วยระเบิด Neutron Bomb ของพวกเรา
Marian – แต่เรากำลังจะทิ้งที่นี่ไปทั้งที่ยังหาทางรักษาไม่ได้น๊ะ
นายพล Hemlock – รักษา เรอะ งี่เง่าน่ะ Marian เธอและพี่ของเธอเป็นสร้างมันขึ้นมาเองทั้งหมดน๊ะ ถ้างั้นก็ไม่ต้องห่วงเรื่องรักษาแล้วล่ะ …
นายพล Hemlock จับ Marian โยนลงไปตายอนาถที่พื้นก็จะสั่งให้ทหารปล่อย Drone เพื่อเก็บตัวอย่าง King Zombie ที่อยู่ทั่วมาเป็นตัวทดลองต่อก่อนจะระเบิดที่นี่ทิ้ง

จากนั้นภาระกิจสุดท้ายของฮีโร่แอนตี้ซอมบี้ทั้ง 2 ยุคก็เริ่มขึ้นโดยต้องร่วมกันลุยเข้าไปทำลาย Drone 60 ตัวที่กำลังจับตัว King Zombie ที่อยู่ทั่วเมืองให้หมดในขณะที่เครื่องบินของ นายพล Hemlock ก็กำลังจะบินหนี เมื่อทำลาย Drone ทั้งหมด 6 0ตัวจนหมดแล้ว Nick จะใช้ตัวสุดท้ายในการลอยตัวขึ้นไปบนเครื่องบินลำเลียงของนายพล Hemlock คนเดียว ก่อนที่ Nick จะเข้าไปอัดนักบินจนทำให้เครื่องบินตกลงมาด้านล่างสำเร็จ นายพล Hemlock ที่ยังรอดชีวิตแต่ก็บาดเจ็บหยิบปืนของมันไล่ล่าเปิดศึกสุดท้ายกับ Nick



Boss Hemlock แข็งแกร่งทั้งรุกทั้งรับแต่โชคยังดีที่มันไม่ได้ใช้ปืนยิงโจมตี พยายามใช้อาวุธที่เป็นธาตุต่างๆโจมตีมันให้ต่อเนื่องก็จะจัดการมันได้ Nick พยายามจะบอกกับ Hemlock หลังมันพ่ายแพ้ว่า
Nick  - Marian บอกแกหรือยังว่า ฉันมีเลือดที่เป็นวัคซีนที่จะสามารถรักษาการติดเชื้อไวรัสที่ชั่วร้ายของมันได้จริงๆ
Hemlock - นี่แกคิดว่ามันเป็นไวรัสที่รักษาได้จริงๆหรอ ? แกมันไม่รู้อะไรเลยจริงๆมากกว่า !
ก่อนที่ Nick จะหงุดหงิดกระโดดถีบจน Hemlock กระเด็นไปโดนใบพัดคอปเตอร์จนตายกลายเป็นชิ้นๆในที่สุด 



Nick นั่งทรุดลงกับพื้นด้วยความเหน็ดเหนื่อยจากการต่อสู้ที่ยาวนานก่อนที่จะค่อยๆหยิบวิทยุเรียกเครื่องบินของเพื่อนๆมารับ กับรอยยิ้มที่มุมปากว่าอย่างน้อยตอนนี้ทุกอย่างก็จบลงด้วยดี



ท่ามกลางวิกฤติไวรัสที่เลวร้ายที่ยังคงไม่มีทางออก การขึ้นเครื่องของ Nick ไม่ใช่ การหนีปัญหา แต่เป็นการเดินทางเพื่อเริ่มต้นแก้ปัญหาเพื่อกลับมาเพื่อแก้ไขเรื่องราวทั้งหมด ด้วยความรับผิดชอบทั้งหมดที่แฝงอยู่ในตัวเขาเฉกเช่นเลือดเนื้อที่เขาไม่มีวันปฏิเสธได้แน่นอน

หลังจากการตายของ นายพล Hemlock ถูกรายงายว่าเสียชีวิตโดยไม่ทราบสาเหตุ การควบคุมและความรับผิดชอบทั้งหมดตกไปอยู่กับอำนาจของคณะรัฐมนตรีชุดใหม่

ขณะที่ยอดผู้สูญหายในเหตุการณ์วิกฤติไวรัสนรกที่เมือง Los Perdidos พุ่งไปถึง 1 หมื่นคน ซึ่งก็หวังเพียงว่าจากเหตุการ์ณร้ายที่เกิดขึ้นทั้งหมดจะเป็นบทเรียนซึ่งจะนำพาไปถึงข้อมูลที่เป็นประโยชน์ที่จะใช้หาทางในการรักษาการติดเชื้อจากปรสิตซอมบี้ต่อไป ในอนาคต ….

……………………………………………………………………………………………………




ท่ามกลางความมืดมิดในซากห้องทดลองใต้ดินของกองทัพที่ถูกทิ้งร้าง หญิงลึกลับในชุดนักวิจัยเดินลับๆล่อเข้ามาในห้องควบคุมก่อนที่จะเปิดดูบันทึกการสนทนาระหว่าง Marian และ Isabelle ก่อนหน้าเหตุการร้ายทั้งหมดจะเกิดขึ้น





Marian – นี่เธอจะทำให้เกิดการระบาดของไวรัสจนลุกลามจนยากจะควบคุมส่งผลให้มีคนตายมากมายเพื่อจะตามหา ” Orphans immune “ ในการรักษาเท่านั้นหรือ ? ไม่เหมาะมั้ง
Isabelle – มันเป็นทางเลือกเดียวนี่ Marian เพราะฉันมั่นใจว่า เขาคนนั้นยังหลบซ่อนอยู่ในเมืองนี้แหละ แถมมันยังไม่รู้ตัวเองเสียด้วยสิ การสูญเสียคนเป็นพันเป็นหมื่นมันแทบไม่มีค่าเลยถ้าเทียบได้กับการค้นพบการรักษา แล้วทำไมเราถึงไม่เดินแผนของเราต่อละ ให้นายพล Hemlock ทำตามแผนรุกรานของมันต่อไป
Marian – ที่เธอพยายามออกความเห็นนี่แสดงว่าเธออิจฉาชั้นใช่มั๊ย ที่เสนอแผนที่เต็มไปด้วยความเสี่ยงมากมายเพื่อเป้าหมายของเธอเอง
Isabelle – นี่แกยังคิดว่ายังจะเดินได้อีกครั้งหรอ ? คิดว่าจะรักษาได้จริงๆหรอ ?
Marian – หุบปาก ! นี่เธอยังโชคดีน๊ะที่ขาชั้นไม่ดี
Isabelle – แกหยุดชั้นไม่ได้หรอก เพราะหน้าประวัติศาสตร์ใหม่ของการรักษานั้นต้องเป็นของชั้นคนเดียว ไม่ใช่แก และชั้นจะทำไม่ได้ถ้ายังค้นหาคนที่เป็นวัคซีนไม่เจอ
Marian – ทำไมเธอถึงต้องยอมทำถึงขนาดนี้ เพื่อเงินเรอะ ?
Isabelle – เลิกพูดถึงเรื่อเงินกระจอกๆนั่นเถอะ ชั้นทำเพราะต้องการกู้ศักดิ์ศรีของครอบครัวชั้นคืนต่างหาก ให้เป็นฮีโร่สักครั้งหลังถูกป้ายความผิดมานาน ครั้งนี้จะไม่ใช่ทั้ง Frank west หรือ Chuck Greene อีกแล้ว พวกเขาปล่อยให้ชั้นตายมาครั้งหนึ่งแล้ว ต่อจากนี้พวกมันจะเป็นแค่ความมืดภายใต้เงาของชั้นตลอดไป และทั้งหมดจะเกิดขึ้นเมื่อชั้นหาทางรักษาได้
Marian – แถมใครก็ไม่มีวันล่วงรู้ว่าเธอเป็น ฆาตกรสังหารหมู่ อีกด้วย น่าสนใจมาก ..ฉันละกลัวจริงๆเลย กลัวว่าจะกลายเป็นปีศาจแบบเธอในสักวัน Isabelle Keyes …



ก่อนที่หลักฐานบันทึกการสนทนานี้จะถูกทำลายทิ้งไปพร้อมกับ ความจริง สุดท้ายที่หายไปในความมืดมิดในห้องปิดตายโดยไม่มีใครล่วงรู้ ตลอดไป ………….

…………………………………………………………………………………………………

And the devil did grin, for his darling sin is pride that apes humility
                                                            - Samuel Taylor coleridge -
…………………………………………………………………………………………………

Result
จบด้วย Ending S
จบด้วยระดับเลเวล 37
ฆ่าซอมบี้ได้ทั้งหมด 17,375 ตัว
เคลียร์ Chapter Mission ทั้งหมด 9 Mission
เคลียร์ Side Mission ทั้งหมด 32 Mission

ช่วยผู้รอดชีวิตได้ทั้งหมด 20 จาก 24 คน