วันพุธที่ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

Wolfenstein: The New Order

The Reich is in Power จักรวรรดิที่ทรงพลังไร้ผู้ต้านทาน
The World is Enslaved ที่ทำให้ทั้งโลกต้องตกเป็นทาส
The Resistance Must Rise การต่อต้านจำต้องบังเกิด
Nowhere to Run เมื่อไม่มีที่ไหนจะให้หนีได้อีกต่อไป ....
                             
ซีรีย์ Woifenstein นั้นไม่ว่าน้องๆหลายท่านอาจเกิดไม่ทันได้เล่น หรือ ไม่ได้ฝักใฝ่ฝั่ง PC ในการดำเนินชีวิตจนไม่เคยรู้จัก แต่ก็ถือว่ามันเป็นเกมแนวทหารมุมมองที่ 1 ที่ว่าด้วยการไล่ล่า ฮิตเลอร์ ที่มีอายุและความเป็นมาเก่าแก่เกมนึงเลยล่ะ แถมคนที่จะเคยเล่นภาคแรกและรู้ความเป็นมาอย่างถี่ถ้วนนั้นก็คงต้อง เกมเมอร์สาย PC ที่มีอายุ 30 อัพเป็นอย่างน้อยเป็นแน่แท้ แต่ก็พอจะเล่าย่อๆเพื่อเป็นความรู้กันได้บ้าง 

ซีรีย์ Wolfenstein นั้นตามหลักจะแบ่งไทม์ไลน์ออกเป็น 2 ส่วนคือ


  



 ยุคแรก ตั้งแต่ภาคแรกคือ Castle Wolfenstein ภาคแรกเมื่อปี 1981 ที่ออกกับ  Apple II, MS-DOS, Atari 400/800, Commodore 64 ที่สมัยนั้นเรียกเกมแนวนี้ว่า stealth-based action-adventure shooter game
กับ ภาคที่ 2 Beyond Castle Wolfenstein ออกในปี 1984 กับ Apple II, MS-DOS, Atari 400/800, Commodore 64 จนถึงภาคที่ 3 Wolfenstein 3D ออกเมื่อปี 1992 กับเครื่อง MS-DOS, Archimedes, Mac OS, Apple IIGS, Amiga 1200, PC-98SNES, Atari Jaguar, 3DO, GBA Windows Mobile, iOS, Android (รวม Spear of Destiny ภาคเสริมของภาค 3D ไปด้วย)  ที่เนื้อเรื่องจบลงที่ฮิตเลอร์ถูกกำจัดลงไปแล้ว ซึ่งทั้ง 2 ภาคที่กล่าวมาก็ถือว่าเก่าแก่กันพอสมควร ซึ่งก็ทำให้ทั้งเรื่องกราฟฟิก ระบบเพลย์เกม รวมทั้งเนื้อเรื่องจนถึงตัวเอกก็ยังค่อนข้างไม่มีรูปธรรมที่ชัดเจนนัก จนยากที่ ตัวผม จะกล่าวถึงได้เพราะไม่เคยได้สัมผัส

จากนั้นจะเข้าสู่ยุคที่ 2 ที่ทั้งหมดของเนื้อเรื่องถูกนับใหม่อีกครั้งพร้อมกับ ฮิตเลอร์ ที่ยังไม่ตายและความสัมพันธ์ของตัวละครหลักๆที่เปลี่ยนไป


    



ก็คือตั้งแต่ ภาค Return to Castle Wolfenstein ออกปี 2001 กับ Microsoft Windows, Linux, OS X และออกให้ Console เป็นครั้งแรกด้วยโดยลงให้กับ PlayStation 2 และ Xbox รุ่นแรก (รวมภาคเสริม Wolfenstein: Enemy Territory ที่ออกในปี  2003 ไปด้วย) ในภาระกิจ Operation Resurrection ที่ B.J ในวัย 32 ต้องกลับมารับงานเพื่อหยุดยั้งแผนการโจมตีด้วยจรวดมิดไซด์ที่เป็นอาวุธลับสุดยอดของพวก นาซี และจะเริ่มได้รบทัพจับศึกกับกองทัพสุดแหวกแนวของนาซีต่างๆทั้ง อันเดด หุ่นรบไซบอร์ก ของ Wilhelm Strasse หรือ Deathshead นักวิทยาศาสตร์สติวิปราศแห่งกองทัพนาซี และปิดท้ายเรื่องด้วยความที่ว่า  Adolf Hitler.นั้นยังมีชีวิตอยู่ ตามด้วยภาคที่ไม่อยากนับก็ต้องนับก็คือภาค Wolfenstein RPG ในปี 2008 ที่ออกให้เฉพาะ Java ME และ iOS เท่านั้น (RPG ที่ว่าไม่ใช่ใส่คำสั่งแล้วโดดออกไปตีน๊ะครับ ก็เป็นเกมยิงมุมมองบุคคลที่ 1 เหมือนเดิมแต่เน้นให้มีการพูดคุยหาข่าวสารมากขึ้น )
 จนถึงภาค  Wolfenstein ในปี 2009 ที่ออกทั้งบน Microsoft Windows และเครื่องคอนโซลยุคใหม่อย่าง PlayStation 3 และ Xbox 360 ด้วย กับ Project Nachtsonne ที่ B.J ต้องหยุดยั้งหน่วย SS โดยการนำของนายพล Zetta ที่กำลังมีแผนการ์ณในการค้นหา Veil Energy ขุมพลังมหาศาลที่ซ่อนตัวอยู่ในมิติคู่ขนาน Black Sun ซึ่งไทมไลน์ที่ 2 นี่ก็อาจที่จะเริ่มมีคนได้เคยพบเห็นและคงได้ผ่านมือเกมเมอร์สายคอนโซลหลายคนกันบ้างแล้ว



ก่อนที่ซีรีย์นี้จะจางหายไปจากหน้าประวัติศาสตร์ของเกมไปถึง 5 ปี ก่อนที่จะโผล่มาให้เล่นอีกครั้งในยุค Next Gen ในภาค The New Order ด้วยฝีมือของ Machine Games อดีตทีม Star breeze ที่เคยพัฒนา The Darkness มาแล้ว ด้วยความสวยงามของ id Techs Engine ของพวกเขา แถมยังแอบเนียนดัดแปลงไทม์ไลน์เนื้อเรื่องให้ผู้เล่นในยุคใหม่ไม่ให้ต้องไปกังวลและงงกับเนื้อเรื่องที่ไม่ค่อยเสถียรของยุคเก่ามากนัก โดยใช้เนื้อเรื่องในภาค Return to Castle Wolfenstein นำมาปัดฝุ่นดัดแปลงให้กระชับและเพิ่มเติมและเปลี่ยนแปลงตอนจบเสียใหม่โดยเปลี่ยนประวัติศาสตร์โลกใหม่ด้วยให้ฝ่ายนาซีเป็นฝ่ายชนะสงครามโลกครั้งที่ 2 และให้ยึดโลกทั้งโลกไว้ในครอบครองกันไปเลย แต่ก็ต้องเจอกับคู่ปรับตลอดกาลอย่างพระเอกคนเดิมของเรา William Joseph "B.J." Blazkowicz  พี่คนอึดตายยากที่คุณคุ้นเคย บลาสโควิซ สมัยนั้นยึดตำแหน่งตัวเอกมาอย่างยืนยาวแทบจะทุกภาคของ Wolfenstein ยกเว้นแค่ภาคเดียวคือ Enemy Territory ที่แต่ละภาระกิจก็วนอยู่กับ การถูกจับ หนีออกมาได้ ไปช่วยเพื่อนที่ถูกจับ แล้วก็ถูกจับอีกครั้ง แม้แต่ภาคล่าสุดนี้ B.J ยังคงต้องลากสังขารมาเผชิญกับดราม่าแห่งสงครามนาซียุคใหม่ในวัยที่ล่วงเลยไปถึง 49 ปี(แต่รับรองว่ายังไม่แก่เกินแกงแน่นอนครับ)


Cr. เครดิตข้อมูลจาก
http://wolfenstein.wikia.com/wiki/Wolfenstein_Wiki

http://en.wikipedia.org/wiki/Wolfenstein_%28series%29
http://www.swantiez.org/wolf/encyclopedia/?lang=en

                ******************************************************


                       



           
                                             บทสรุป  Wolfenstein : The Old Blood

By Decibel per - oxide




   ผลจากความขัดแย้งของประชาชาติต่าง ๆที่เกิดขึ้นสะสมมาก่อนเดือนสิงหาคม ค.ศ. 1939 อันเนื่องมาจากความตกต่ำทางเศรษฐกิจเงื่อนไขหรือข้อบังคับบทลงโทษตามสนธิสัญญาสันติภาพและความล้มเหลวขององค์การสันนิบาตชาติ  โดยชนวนที่นำไปสู่สงครามนั้น กองทัพเยอรมนีบุกโปแลนด์แบบสายฟ้าแลบ เมื่อวันที่ 1 กันยายน ค.ศ.1939 เนื่องจากโปแลนด์ปฏิเสธที่จะยกเมืองท่าดานซิกและฉนวนโปแลนด์ให้เยอรมนี อังกฤษและฝรั่งเศสซึ่งทำสัญญาค้ำประกันเอกราชของโปแลนด์ได้ยื่นคำขาดให้เยอรมนีถอนทหารออกจากโปแลนด์แต่ฮิตเลอร์ปฏิเสธ ดังนั้น ในวันที่ 3 กันยายน ค.ศ. 1939 อังกฤษและฝรั่งเศสจึงประกาศสงครามกับเยอรมนีทันที การแบ่งกลุ่มของประเทศคู่สงคราม ฝ่ายอักษะ ได้แก่ เยอรมนี อิตาลี และญี่ปุ่น ฝ่ายพันธมิตรได้แก่ อังกฤษ ฝรั่งเศส และรัสเซีย สงครามโลกครั้งที่ 2 (World War II ) จึงเริ่มขึ้น ...

      

            ** ขยายความตามท้องเรื่อง ** สงครามโลกครั้งที่ 2 กับสงครามใน Wolfenstein

เนื่องจากเหตุการณ์ต่างๆในเกมนั้นเป็นการนำเอาเหตุการณ์จริงมาแต่งรวมกับเหตุการณ์สมมุติ ช่วงเวลาต่างๆในเกมจึงคลาดเคลื่อนจากความเป็นจริงไปมาก จึงต้องมาทำความเข้าใจกันก่อนว่า สงครามโลกครั้งที่ 2 ในประวัติศาสตร์เกิดขึ้นในปี ค.ศ. 1939 – 1945 รวมเวลา 6 ปี โดยในช่วง 1946 นั้นเป็นช่วงพื้นฟูประเทศกันในช่วงหลังสงคราม แต่ในเกม Wolfenstein ภาค The New Order นั้นใช้เวลาช่วงปี 1946 นี้เป็นช่วงเวลาเอาคืนจากพวกนาซีในฐานะผู้ชนะสงคราม ช่วงเวลาในเหตุการณ์ต่างๆของเกมจึงเป็นการสมมุติขึ้น 




อย่างเช่น ในช่วงเหตุการณ์ในขณะที่นาซีเยอร์มันกำลังบุกเข้ายึดออสเตรียที่พระเอก "B.J." เดินทางมาในต้นเรื่องนั้น ในเกมระบุว่าเป็นวันที่ 15 มีนาคม ปี 1946 (ตามรายงานข่าววิทยุในรถ) แต่เหตุการณ์เยอร์มันกำลังบุกเข้ายึดออสเตรีย ที่เรียกว่า Annexation Austrian นั้นเกิดขึ้นจริงในวันที่ 12 มีนาคม ปี 1938 จึงนำเสนอมาเพื่อป้องกันความสบสนครับ

Cr. อ้างอิงข้อมูลจาก
http://en.wikipedia.org/wiki/Anschluss
http://www.history.com/this-day-in-history/germany-annexes-austria



15 มีนาคม ปี 1946 ... ในช่วงเหตุการณ์ในขณะที่นาซีเยอร์มันกำลังบุกเข้ายึดออสเตรีย William Joseph "B.J." Blazkowicz ในนามของ หน่วยรบพิเศษ OSA (Office of Secret Actions) กำลังปฏิบัติหน้าที่ใน ภารกิจลับ “Wolfstone”  เป้าหมายคือปลอมตัวเพื่อแทรกซึมเข้าใน Castle Wolfenstein ป้อมปราการขนาดใหญ่ที่ฝั่งตัวลึกเข้าไปในภูเขาทางตอนเหนือของเยอร์มันซึ่งเป็นฐานหลักในการสั่งการในสงคราม เพื่อขโมยเอกสาสำคัญของ Helga Von Schabbs 





เจ้าหน้าที่พิเศษของหน่วย SS ที่มีหน้าที่เดินทางไปทั่วโลกเพื่อตามหาพลังเหนือธรรมชาติที่ลี้ลับมาสร้างอาวุธตามคำสั่ง เพื่อเข้าถึงที่เก็บตัวอย่างอาวุธทำลายล้างจากเทคโนโลยีพลังเหนือธรรมชาติที่ Wilhelm Strasseนักวิทยาศาสตร์สุดวิปราศฉายา Deathshead แห่งกองทัพนาซีคิดค้นขึ้น ซึ่งอาวุธที่ว่าเป็นตัวแปรที่จะทำให้เยอร์มันชนะในสงครามโลกครั้งที่ 2 นี้อย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาด ซึ่งหนทางเดียวที่จะหยุดยั้งมันได้ฝ่ายพันธมิตรก็ต้องหวังพึ่ง "B.J." ในการแทรกซึมเข้าไปขโมยเอาตัวอย่างอาวุธของพวกมันเอาพัฒนาเพื่อใช้ต่อกรกับสงครามในช่วงสุดท้ายที่กำลังจะมาถึง 

                                               Prologue: GERMAN ALPS
         
“สงครามก็เปรียบเสมือนโรคร้ายที่ติดเชื้อทางกระแสเลือดโดยมีทหารเป็นภาหะ 
ผมรู้สึกได้ถึงความปั่นป่วนของพายุที่บ้าคลั่งของสงครามนี้อยู่ตลอด”




"B.J." ขณะครึ่งหลับครึ่งตื่นเพราะความเหนื่อยล้าในสงครามอาจดูไม่งามนักสำหรับการเปิดตัวฮีโร่สงครามที่เป็นตัวเอกของเกม แต่ Wesley สายลับสัญชาติเวลส์ โค๊ดเนม Agent One เพื่อนสายลับร่วมปฏิบัติการณ์ในครั้งนี้ ซึ่งแน่นอนว่าคำว่า One นั้นหมายถึงอันดับหนึ่งในงานที่เขาทำแน่นอน Wesley จำต้องปลุก B.J เพราะใกล้ถึง Paderborn Bridge จุดตรวจแรกก่อนถึง Castle Wolfenstein เพื่อยำเตือนให้รู้ถึงชื่อปลอม ผู้บัญชาการณ์ Franz ตัวแทนของหน่วย SS จาก Frankfurt ที่  B.J. ต้องทำตัวให้เนียนเพื่อผ่านทางเข้าไปอย่างปลอดภัย 



-เดินตาม Wesley เข้าไปด้านในทางเข้าจนถึงจุดตรวจซึ่งจะได้พบกับ Rudi Jäger ผู้คุมจอมโหดแห่งคุกใต้ดินของที่นี่เข้ามาทักทายถึงที่มาของ Frankfurt แต่เมื่อ  B.J. ตอบไปว่า “Hot dog” ก็ถึงกับฮาลั่นกันหมดแต่ก็โชคดีที่ผ่านเข้าไปได้ เมื่อขึ้นลิฟต์ไปชั้นบน Wesley จะแยกตัวออกไปหาแฟ้มลับจากอีกที่ ส่วน "B.J." ก็ต้องไปค้าหาในห้องทำงานด้านใน

เรียนรู้ระบบการบังคับเบื้องต้น
LT – RT – ใช้อาวุธปืน
RS แกนอนาล็อกขวา กดลงไปตรงใช้อาวุธประเภท Melee และการลอบฆ่า
B –ก้มต่ำ
A – กระโดด 
X – สำรวจ / รีโหลดกระสุน 
LS แกนอนาล็อกซ้าย กดลงไปตรงใช้สำหรับการวิ่ง / กด B ขณะวิ่งจะเป็นการสไลด์ตัว 
RB – กดค้าง เปิดเมนูอาวุธเลือกอาวุธ / สามารถเซ็ทให้ปุ่ม Y เป็นปุ่มช็อตคัทในการสลับอาวุธในขณะต่อสู้ได้ด้วย 
RB – กดครั้งเดียว ขว้างระเบิด 
ปุ่มทิศทางขึ้นบน – เปลี่ยนฟังก์ชั่นอาวุธ (ใช้ปืนคู่)
ปุ่มทิศทางซ้าย ขวา - เปลี่ยนฟังก์ชั่นอาวุธ
ปุ่มทิศทางลงล่าง – ดูแผนที่และจุด Objective เป้าหมายที่ต้องไป

** ไอเทม Health นั้นคือ อาหาร ที่ทำให้พลังชีวิตเพิ่มจากเดิมที่มีอยู่ปกติ ถ้าเก็บกล่องอาหารต่างๆเพิ่มระหว่างทางอย่างต่อเนื่องจะทำให้เกิดการ Overcharge ที่จะทำให้ค่าพลังชิตสูงขึ้นกว่าเกทที่มีอยู่จนเป็นตัวเลขสีเหลืองแต่มันจะค่อยๆลดลงเรื่อยๆขณะเดินทาง ซึ่งเป็นประโยชน์ในช่วงต่อสู้
** ไอเทม Armor คือเกราะป้องกันตัวที่เก็บได้จากเศษชิ้นส่วนของศัตรู หรือ ที่อยู่ตามที่ต่างๆระหว่างทาง มันจะช่วยรับความเสียหายแทนจนกว่าตัวเลขของเกราะจะหมดถึงจะเสียพลังชีวิต ซึ่งเกทเกราะ Armor ก็สามารถทำให้ Overchargeได้ด้วยแต่ต้องปลดล็อกความสามารถ Armor Upgrade ก่อน
** ระบบเพลย์เกมหลักๆก็คือ ตามสถานการณ์และแนวการต่อสู้ที่ถนัด ตั้งแต่การลอบฆ่าอย่างมีชั้นเชิงเพื่อลดการปะทะหรือจะยิงแหลกแจกกระสุนก็ไม่ว่ากันถ้าสถานการณ์นั้นๆคุณมีปืนให้ใช้ 

                                                            PERKS




Perks ก็คือระบบการเติบโตของตัวละคร เป็นการอัพเกรดความสามารถด้านต่างๆของ B.J. ให้มีมากขึ้น โดยแต่ละความสามารถจะต้องปลดล็อกมันออกมาด้วยการทำ Challenge ต่างๆตามเงื่อนไขก่อน

1.Engle eyes – โชว์ตำแหน่งของของสะสมต่างๆให้เห็นในแผนที่ทั้งหมด
ปลดล็อกด้วยการ – ลอบฆ่า Commander ให้ได้ 20 คน
2. Reload Mash – ทำให้การรีโหลดกระสุนเร็วขึ้น
ปลดล็อกด้วยการ – ฆ่าศัตรูด้วยกระสุนชุดสุดท้ายที่มีให้ได้  20 คน
3. Carry Heavy Machinegun – สามารถเก็บปืนขนาดใหญ่ (MG46) มาในช่องเมนูอาวุธได้ 
ปลดล็อกด้วยการ – ฆ่าศัตรูด้วยปืน MG46 200 คน (ปืนกลหนักของพวก Supersoldlaten นั่นแหละ)
4.Quick Turn – สามารถหมุนตัวโจมตีได้ 180 องศาและเล็งแบบออโตทันทีกับศัตรูที่อยู่ใกล้ๆ
 ปลดล็อกด้วยการ – ฆ่าศัตรูจากที่กำบัง 50 คน
5. Schockhammer Clip + - เพิ่มจำนวนกระสุนปืน Schockhammer ขึ้นอีก 6 
ปลดล็อกด้วยการ – ฆ่าศัตรูด้วยปืน Schockhammer 50 คน
6. Bombenschuss Clip + - เพิ่มจำนวนกระสุนปืน Bombenschuss ขึ้นอีก 5
ปลดล็อกด้วยการ – ฆ่าศัตรูด้วยปืน Bombenschuss  50 คน
7. Amumunition Upgrade – เก็บกระสุนได้มากขึ้นอีก 20 % 
ปลดล็อกด้วยการ – ฆ่าศัตรูด้วยการยิงปืน 2 มือ 100 คน
8. Grenade Belt – เพิ่มจำนวนระเบิดที่ถือได้อีก 2 
ปลดล็อกด้วยการ – ฆ่าศัตรู 3 คนด้วยระเบิดครั้งเดียว 
9. Armor Upgrade I – ปลดล็อกความสามารถ Overcharge เกทพลังเกราะ
ปลดล็อกด้วยการ – เก็บหมวกทหารให้ครบ 100 อัน
10. Armor Upgrade II – เพิ่มค่าเกท Armor ขึ้นอีก 25 
ปลดล็อกด้วยการ – ทำการ Overcharge ให้ถึง 200
11. Kampfpistole + - เพิ่มจำนวนกระสุนปืน Kampfpistole อีก 3 
ปลดล็อกด้วยการ – ฆ่าศัตรูด้วยปืน Kampfpistole  50 คน
12. Tough Skin – เพิ่มความทนทานของร่างกายเมื่อโดนศัตรูโจมตีด้วยอาวุธแบบ Melee 
 ปลดล็อกด้วยการ – ใช้ท่อนเหล็กฟาดหัวศัตรูแบะ 10 คน
13. Health Upgrade I –  ทำให้ค่าพลังชีวิตพื้นคืนเร็วขึ้น 30 %
ปลดล็อกด้วยการ – ทำการ Overcharge ให้ถึง 200
14. Health Upgrade II –  ทำให้ค่าพลังชีวิตพื้นคืนมากขึ้นอีก 5 Point
ปลดล็อกด้วยการ – ทำการ Overcharge ให้ถึง 200
15. . Health Upgrade II –  เพิ่มค่าพลังชีวิตพื้นขึ้นอีก 25 
ปลดล็อกด้วยการ – ทำการ Overcharge ให้ถึง 300
16. Vampire – ปลดล็อกความสามารถพื้นคืนพลังชีวิตจากการลอบฆ่าศัตรู
ปลดล็อกด้วยการ –ลอบฆ่าศัตรูให้ได้ 25 คน


-เมื่อเข้ามาถึงห้องทำงานจะเริ่มเห็นทหารนาซีพร้อมอาวุธหนักแล้ว พยายามลอบฆ่ามันให้หมดแล้ว Wesley จะวิทยุติดต่อมาว่าเขาเข้าไปถึงเซฟเป้าหมายแล้วแต่แฟ้มสำคัญกลับถูกเครื่องย้ายไปแล้ว

ทันทีที่ Wesley นั้นพบว่าแฟ้มลับถูกนำไปเก็บซ่อนไว้ที่อื่นแล้ว เขาจึงรีบให้ B.J. ใช้วิทยุสื่อสารในห้องเพื่อสื่อสารเพื่อติดต่อกับ Kessler ซึ่งสายของฝ่ายพันธมิตรที่แฝงตัวคอยหาข่าวอยู่ในหมู่บ้าน Paderborn Village ว่าจะใช้แผนอะไรต่อ Kessler ติดต่อกลับมาว่าให้เข้ามาพบเขาที่บาร์ในหมู่บ้านก่อนแล้วค่อยคิดแผนต่อไป



- จากนั้นเข้าไปที่โต๊ะทำงานในห้องใช้เครื่องสื่อสารติดต่อกลับไปหา Kessler ทันทีที่พูดจบพวกทหารนาซีมากมายก็จะเริ่มบุกเข้ามา จัดการพวกมันให้หมดแล้ว Wesley จะเอาบันไดจากชั้นบนลงมาให้ปีนขึ้นไป ตาม Wesley เข้าไปในห้องด้านในแล้วมุดลงไปที่ช่องระบายอากาศด้านล่างแต่ก็กลับพบ Jäger และทหารจักรกล Supersoldlaten มารอต้อนรับด้วยหมัดจน B.J. สลบคาที่



                               ** ขยายความตามท้องเรื่อง **   หน่วย SS

  หน่วย SS ที่ “B.J."  ปลอมตัวนั้นรู้จักกันดีในชื่อ กองพันสายฟ้า SS หรือ SchutzStaffel ซึ่งมีความหมายว่ากองกำลังป้องกัน (Protection Squad) กองทหารส่วนตัวของท่านผู้นำ’ Adolf Hitler ที่สร้างวีรกรรมโฉดชั่วเอาไว้มากมายในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 หน่วย SS นั้นเริ่มต้นจากกองพลร่มขนาดเล็กในกองทัพเยอรมนี โดยการนำของ Heinrich Himmler และขยายขอบเขตอำนาจการดำเนินงานอย่างกว้างขวางทั้งส่วนของการทหาร และทางการเมือง อิทธิพลของ SS เริ่มมากขึ้นจนสามารถกำจัดอำนาจของ Sturmabteilung (SA) หรือ ‘กองพันเสื้อน้ำตาล’ กองทัพดั้งเดิมในการนำของ Ernst Röhm จนกลายเป็นกองทัพหลักระดับสูงในพรรคนาซี



     เกณฑ์การสรรหาสมาชิก SS นั้นจะคัดเลือกโดยยึดหลักแนวคิด ‘ชนเผ่าอารยันอันบริสุทธิ์’ คือ เป็นคนขาว ร่างกายกำยำสมบูรณ์ เลือดเยอรมันแท้ไม่มีเชื้อสายใดเจือปน เข้ามาอยู่ในสังกัด และพร้อมที่จะกำจัดความ ‘ผู้ที่อ่อนด้อยกว่าทางเชื้อสายเผ่าพันธุ์’ ทั้งชาวต่างชาติ คนผิวสี หรือแม้กระทั่งคนในชาติเดียวกัน และที่สำคัญที่สุดคือ คนยิว

     ภายหลังจากสงครามโลกครั้งที่ 2 เหล่าสมาชิกของ SS ที่เห็นเค้าลางแห่งความพ่ายแพ้ เริ่มหลบหนีไปยังประเทศแถบแอฟริกาใต้ ก่อนจะถูกจับกุมเพื่อมาดำเนินคดีในข้อหาอาชญากรสงคราม ซึ่งส่วนใหญ่นั้นได้รับโทษคือการประหารชีวิต สำหรับ Heirich Himmler นั้น เสียชีวิตหลังจากทำสัญญาสงบศึกกับทหารสัมพันธมิตร ด้วยการกระทำอัตนิวิบาตกรรมในปี 1945

Cr.-ข้อมูลจาก 
http://www.soccersuck.in.th/boards/topic/914263



                                   PART ONE - Rudi Jäger and the Den of Wolves


                                                 CHAPTER 1: PRISON 

ไม่กี่ชั่วโมงหลังจากนั้น B.J และ Wesley ก็ถูกควบคุมตัวมาขังอยู่ในคุก Kennels 

- ทันทีที่รู้สึกตัวขึ้นมาในคุก คุยกับ Wesley ผ่านทางลูกกรงคุกด้านในจะพบว่า Wesley ถูกขังอยู่อีกที่นึง ซึ่ง B.J ก็ต้องหาทางไปช่วย แต่ก่อนอื่นต้องหนีออกจากห้องขังของตัวเองก่อน สำรวจปีนขึ้นไปตามท่อเหล็กที่พนังจนมันพังตกลงมาแต่ก็โชคดีที่ได้เศษของท่อที่หักมาเป็นอาวุธ ซึ่งมันสามารถปรับรูปแบบได้ทั้งแบบแยกส่วนถือ 2 มือและเอามาต่อกันเป็นแบบยาวด้วยการกดปุ่มทิศทางขึ้นบนแล้วแต่การใช้งาน (ส่วนใหญ่มันก็ปรับให้ตรงการใช้งานเองนั่นแหละ) สำรวจที่พนังที่มีรอยแตกจะสามารถใช้ท่อ 2 ชิ้นเจาะยึดพนังปีนขึ้นมาด้านบนได้
-เมื่อออกมาจากคุกแล้วจะเริ่มพบทหารจักรกล Supersoldlaten เดินตรวจการณ์อยู่ตามทางเดิน ในกรณีที่ไม่มีปืนยิงนั้นการจัดการเจ้านี้สามารถทำได้ด้วยโดยสำรวจที่แท่นพลังงานที่มีคันโยกอยู่ กด X ค้างจนไฟเขียวขึ้นแล้วเจ้า Supersoldlaten มันจะทรุดตัวหมดพลังชั่วคราว รีบเข้าไปกดแกนอนาล็อกขวา RS ที่ด้านหลังมันเพื่องัดสายเคเบิ้ลพลังงานออกจากตัวมันได้เลย ก็จะสามารถเอาปืน MG46 ของมันมาใช้งานได้ (ถือได้แต่เก็บเข้าช่องอาวุธไม่ได้) จากนั้นก็เข้าไปกดคันโยกปิดระบบไฟฟ้าที่ประตูแล้วใช้ท่องัดประตูออกมาด้านนอกต่อ (ซึ่งจะไม่สามารถเอาปืนกลของศัตรูผ่านเข้ามาด้วยได้)
-ออกมาที่ทางเดินเก็บแผนที่ที่โต๊ะ จัดการหมาสงครามตามทางเดินแล้วเข้าไปด้านในจะเริ่มพบ ทหารจักรกล Supersoldlaten จัดการมันเหมือนเดิมจนเปิดประตูเข้าไปด้านในได้ เข้ามาที่โถงด้านในจะเจอประตูทางลงบันไดปิดอยู่ โดดขึ้นไปตามท่อเพื่ออ้อมประตูลงมาตามบันไดชั้นล่างได้ สุดทางเดินทางซ้ายจะมีที่ใช้ท่อท่อเหล็กปีนพนังขึ้นไปด้านบนเพื่อปีนช่องระบายอากาศต่อ
-โดดลงมาเรียนรู้การใช้ท่อฟาดเอาไอเทมหรืออาวุธในกล่อง จากนั้นจัดการ ทหารจักรกล Supersoldlaten ตามทางเดินไปเปิดประตูเข้าด้านในต่อ เข้ามาตามทางเดินหลบทหารจักรกลไปเข้าช่องทางขวากลางทางเดินเพื่ออ้อมเข้าไปด้านหลังประตูลูกกรง เข้ามาต่อจนถึงลิฟต์สับคันโยกหลังลิฟต์แล้วลงลิฟต์ไปชั้นล่างต่อ
-เข้าไปตามทางเดินยาวหลบทหารจักรกลไปปีนพนังสุดทางขึ้นมาด้านบนจะออกมาที่คุกด้านในที่มีหมาสงครามเฝ้าอยู่ จัดการมันให้หมดแล้วมุดตามช่องที่พนังเข้ามาในห้องขังโดยจะสามารถงัดช่องที่พื้นให้เปิดลงด้านล่างได้ ซึ่งจะเปิดได้หลายห้องส่วนจะลงที่ห้องไหนก็ได้เพราะยังไงก็มารวมที่ทางเดียว
-ลงมาที่ทางระบายน้ำใต้คุกเข้าไปด้านในใช้ท่อเหล็กทำลายกำแพงร้าวทางซ้ายเข้าไปปีนขึ้นด้านบนจะเข้ามาที่คุกในต่อ จัดการหมาเฝ้ายามแล้วมุดเข้าช่อง G ด้านซ้ายในเพื่อปีนขึ้นมาชั้นบนจัดการ Supersoldlaten แล้วเข้าไปตามทางเดินด้านซ้ายในจะมีที่ปีนขึ้นช่องระบายอากาศได้
-โดดลงมาจากท่อที่คุกในเขต Sanitarium Prison ที่เป็นที่ขังนักโทษที่ใช้ในการทดลองของ Helga เข้าไปเก็บแผนที่ที่ทางเดินในก่อนแล้วเข้าห้อง C4 งัดเปิดพื้นลงมาห้อง C11 ชั้นล่าง เข้าไปจัดการทหารที่ห้องควบคุมจะได้มีดมาใช้แล้วงัดขึ้นไปที่ช่องระบายอากาศจะลงมาที่คุกส่วนในที่มีหุ่นยนต์หมาเฝ้าอยู่ หลบมันไปงัดเข้าประตูทางซ้ายขึ้นบันไดไปชั้นบน ทีทางเดินฝั่งตรงข้ามจะมีท่อระบายอากาศให้งัดขึ้นไปด้านบนต่อจนมาออกที่ส่วนล่างสุดของคุก
-ในส่วนทางระบายน้ำหลักที่เป็นที่ขนส่งของคุก เป้าหมายคือเข้าไปสับคันโยกที่แท่นพลังงานบนทางเดินด้านบนแล้วมาขับเรือออกไปจากที่นี่ แต่ที่นี่เต็มไปด้วยทหารเฝ้ามากมายและยังมีศัตรูที่เป็นระดับผู้บัญชาการณ์ (Commander) อยู่ 2 ตัว ศัตรูพวกหัวหน้านี้หากทำให้เกิดการ Alert ขึ้นมันจะเรียกกองหนุนออกมามากมายกว่าเดิม ซึ่งก็มีทางแก้คือลอบจัดการศัตรูให้เนียนจนกว่าจะเจอตัวมันและฆ่ามันได้ก่อนโดยไม่ให้มันรู้ตัวนั่นเอง โดยดูตำแหน่งของ Commander ที่เรดาร์ที่ขึ้นมาด้านบน
- หลังจากที่เปิดพลังงานจนขับเรือออกมาได้แล้ว ใช้ปืนกลที่เรือยิงถล่มทหารนาซีบนฝั่งและหุ่นโดรนที่เข้ามาขัดขวางให้หมดจนเรือเข้าไปถึงอาคารด้านในได้ ลงจากเรือมาสับคันโยกปิดประตูแล้วนั่งเรือเข้าด้านในต่อ

                                          CHAPTER 2: DOCK

เป้าหมายของ B.J. ทันทีที่หนีออกมาจากคุกได้ แน่นอนว่าก่อนจะทำตามแผนต่อไปเขาจะต้องตามไปช่วย Wesley มาให้ได้ก่อน และ สถานที่ที่ Wesley น่าจะถูกจับตัวไปก็ไม่พ้น Wolfenstein Keep สถานที่คุมขังพิเศษที่อยู่ถัดจากทางน้ำนี่แน่นอน ซึ่งแผนของ B.J. ที่เขาคิดในใจให้เราได้ยินก็คือ ฆ่าพวกนาซีให้เหี้ยนแล้วช่วย Wesley หนีออกมา 

-จากประตูด้านใน ลงไปขับเรือเล็กต่อ ยิงถล่มศัตรูเข้าไปจนถึงท่าจอดต่อไป รีบลงไปที่ท่าตรงหัวมุมจะมีคันโยกเปิดประตูน้ำ ลุยลงไปเปิดแล้วรีบกลับมาขับเรือเข้าประตูที่เปิดไปต่อ เทียบท่าเล็กเข้าไปสับคันโยกเปิดประตูด้านในก็จะเข้ามาเทียบท่าเรือหน้าทางเข้า Wolfenstein Keep ได้แล้ว
- ที่ท่าเรือหน้าทางเข้า Wolfenstein Keep ประตูขนาดใหญ่ตรงหน้าคือสิ่งที่ต้องหาทางเปิดมันเพื่อเข้าไปด้านใน ด้านหน้ามี Commander  2 นายที่ต้องระวัง คนนึงอยู่บนทางเดินด้านบนอีกคนอยู่ในห้องทางขวา จัดการทหารคนแรกที่ท่าเรือจะได้ปืน Bombenschuss ซึ่งเป็นปืนไรเฟิ่ลที่ใช้ยิงจากระยะไกลแต่ตอนแรกจะยังไม่มีตัว Scope และ มีดขว้าง (กดแกนอนาล็อกขวา RS ลงไปตรงเหมือนลอบฆ่าจะเป็นการปามีด) เป้าหมายคือจัดการทหารในห้องทางขวาเพื่อเก็บกุญแจแล้วเอาไปไขประตูลูกกรงด้านในไปต่อ
- เข้ามาในโกดังสินค้า ลอบจัดการศัตรูแล้วเข้าไปงัดพื้นด้านในสุดทาง B.J. จะตกลงมาตามช่องทางยาวจนถึงบ่อน้ำด้านล่าง ขึ้นมาจากน้ำปีนพนังขึ้นมาบนขอบทางด้านบน
** เรียนรู้การลอบยิงจากขอบด้วยการกด LB ค้างแล้วใช้แกนอนาล็อกขวาเลื่อนตัวขึ้นลงเพื่อใช้ปืนยิงทหารด้านบนแล้วค่อยปีนขึ้นไป **
- เข้าไปตามทางด้านในจนถึงสุสานใต้ดิน ลอบจัดการศัตรูขึ้นไปจนถึงสุสานส่วนบนก็จะเริ่มพบ พื้นที่ที่มี Commander  2 นายที่ต้องระวัง เป้าหมายคือห้องที่ชั้นบนงัดประตูเหล็กแล้วสไลด์ผ่านเข้าไป
- ออกมาที่ระเบียงด้านนอกข้างๆประตูใหญ่ด้านนอก เก็บ Scope ตัวซูมของปืน Bombenschuss ปิด เปิดการใช้งานมันด้วยการกดปุ่มทิศทางไปทางขวา จากนั้นใช้มันยิงพวกสไนเปอร์ที่อยู่อีกฝั่งให้หมด แล้วเข้าไปสับคันโยกที่แท่นเพื่อปลดล็อกที่กั้นประตูใหญ่อันแรกออก แล้วลงไปที่ท่าเรือด้านหน้าประตูอีกครั้ง จัดการศัตรูให้หมดแล้วไปตรงคันโยกที่มุมทางซ้ายของท่าเรือ มองไปที่ฝั่งตรงข้ามจะเห็นประตูเปิดอยู่ ว่ายน้ำเข้าไปขึ้นฝั่งที่นั่นแล้วจะเจอทางเดินเรียบฝั่งมาปีนหน้าต่างเข้าไปที่ตึกฝั่งขวาของประตูใหญ่ได้
- ด้านในตึกจะเริ่มพบพวกทหารเกราะหนัก Heavy Soldier ซึ่งพวกมันจะมีความอึดมากกว่าทหารธรรมดาและยิงหัวแบบนัดเดียวตายยากมาก เข้าไปจัดการมันซะก็จะได้ปืน Schockhammer ของมันมาใช้ ซึ่งเป็นปืนประเภทช็อตกันที่รุนแรงหนักหน่วงที่ใช้สำหรับฆ่าเจ้า Heavy Soldier นั่นแหละ จากนั้นลุยออกไปที่ระเบียงด้านนอก ออกไปสับคันโยกปลดล็อกที่กั้นประตูอันที่ 2 ออก แล้วกลับมาที่หน้าประตูตรงท่าเรือ จัดการฝูงทหารนาซีที่ออกมาให้หมดแล้วเปิดประตูเข้าไปใน Wolfenstein Keep ได้เลย

                                          CHAPTER 3: WOLFENSTEIN KEEP 

-เข้ามาที่หน้าห้องโถงแรกจะพบทหารนาซีมากมายออกมาต้อนรับ รวมทั้งทหารจักรกล Supersoldlaten ด้วยซึ่งมันจะมีเป็นชนิดไร้สายเคเบิ้ล แต่มีจุดอ่อนอยู่ที่ไฟสีฟ้าๆบนไหล่ของมัน จัดการศัตรูชุดแรกจนหมดแล้วเข้าไปห้องควบคุมด้านใน สับคันโยกสวิตซ์เพื่อเปิดประตูลูกกรงด้านบนทั้งหมด ทหารนาซีมากมายอีกชุดจะออกมา จัดการมันให้หมดแล้วขึ้นไปที่ระเบียงด้านบนซึ่งจะมีป้อมปืนให้ใช้อยู่ จัดการศัตรูหมดแล้วก็เข้าไปงัดประตูเหล็กที่อยู่ระเบียงตรงข้ามป้อมปืนเข้าไปต่อ
- เข้ามาที่ในห้องครัว ตรงนี้สามารถเดินบนขื่อไม้บนหลังคาได้ ที่นี่มี Commander 2 นายที่หาตัวง่ายมาก คนแรกอยู่ตรงทางเดินซ้ายของห้อง อีกคนอยู่ที่สุดทางด้านในห้อง ใช้ขื่อไม้นี่แหละเข้าไปลอบจัดการมันได้ ส่วนศัตรูด้านล่างมีทหารเพราะเหล็กกับนาซีธรรมดาจะฆ่าจะแกงยังไงก็ตามใจ เป้าหมายคืองัดประตูเหล็กบนขื่อไม้ด้านขวาบนของห้องไปต่อ  
- เข้ามาในเขตพักอาศัยในปราสาทโบราณ เข้าไปตามทางเดินในจนถึงจุดกำแพงอิฐร้าวที่สามารถทุบทำลายผ่านเข้าไปได้ ด้านในปราสาทจะมี Commander 2 นาย คนนึงอยู่ในห้องอาหาร อีกคนอยู่ในทางเดินระเบียงชั้นบน เป้าหมายคือเข้าไปที่ประตูเหล็กในห้องชั้นบน งัดเข้าไปแล้วจะเจอจุดกำแพงอิฐร้าวที่สามารถทุบทำลายผ่านเข้าไปต่อได้
- ออกมาที่ระเบียงด้านนอก มีสไนเปอร์ด้านบน ป้อมปืนด้านล่าง จัดการให้หมดเดินไปสุดทางจะมีที่มุดเข้าช่องระบายอากาศเข้ามาที่ห้องสมุดต่อ ในห้องสมุดจะมี Commander 1 คนซึ่งจะอยู่ด้านในห้องบนระเบียงชั้นบนของห้องสมุดใกล้ๆกับ จุดที่ต้องงัดประตูไปส่วนต่อไปด้วย แต่ต้องหลบทหารเกราะหนักในห้องขึ้นไปให้ดีๆ
- เมื่องัดเข้ามาถึงห้อง Anatomical Theater ก็จะพบ Wesley ถูกจับทรมานที่เก้าอี้ไฟฟ้าอยู่ ทันทีที่ B.J. เข้าไปช่วย เจ้า Rudi Jäger ก็ออกมาพร้อมเจ้า Creta  หมาของมัน และ เข้าโจมตีใส่จนสามารถจับตัว B.J. มัดกับเก้าอี้ไฟฟ้าได้



 B.J. เริ่มถูกทรมานด้วยกระแสไฟฟ้าเพื่อแลกกับคำตอบว่ารายชื่อสายลับของพวกพันธมิตรที่แทรกซึมอยู่มีใครบ้าง ในขณะที่ Wesley ก็กลายเป็นอาหารเย็นของเจ้า Creta ไปซะแล้ว และทันทีที่ B.J. ยอมบอกชื่อสายลับไปคนนึงที่ชื่อ ซานตา ครอส Jäger ก็ยิ่งหงุดหงิดกับการกวนโทสะของ B.J. มากขึ้น มันเริ่มใช้แท่งเหล็กแท่งเข้าที่ขา B.J. แล้วเพิ่มกระแสไฟซ็อตเพิ่มเข้าไปอีก B.J. ยิ่งทรมานและแค้นมากขึ้น เขาสบถไปว่าทันทีที่เขาหลุดไปได้เขาจะฆ่า Jäger ทันทีแล้วตามด้วยเจ้า Creta หมาของมัน และ B.J. ก็เริ่มฉวยโอกาสใช้จังหวะที่มันช็อตไฟฟ้าดิ้นหลุดออกมาแล้วดึงแท่งเหล็กที่ทิ่มขาเอาไปปักคาที่อกของ Jäger จนได้ ก่อนที่จะกระหน่ำแทงไม่ยั้งกับเจ้า Creta ที่พุ่งเข้ามากัดจนเละคาที  B.J. เองก็เสียใจที่ต้องผิดคำพูดเพราะเขาดันไปฆ่าหมาของมันก่อนซะได้ เพราะ Jäger ที่บาดเจ็บก็ฉวยโอกาสหนีไปเสียก่อน แต่มันก็ไม่ลืมกดสัญญาณเตือนภัยเรียกลูกน้องมารุมกินโต๊ะ B.J.

-ตอนนี้จะมีทหารนาซีจำนวนมากบุกออกมาโจมตี ในขณะที่ B.J. ไม่มีปืนเลยซักกระบอก พยายามหาจังหวะใช้มีดฆ่าทหารตัวแรกให้ได้เพื่อเอาปืนมาใช้ให้เร็วที่สุด แล้วที่เหลือก็ใช้ความเร็วและทักษะในการเอาตัวรอดจากดงทหารศัตรู ต้านเอาไว้จนกว่าทหารชุดที่ออกมาจากประตูด้านบนขวาจะออกมา ก็รีบลุยเข้าไปที่ประตูนั่นกดปิดสัญญาณเตือนภัยแล้วหนีขึ้นลิฟต์ไปด้านบนได้เลย


                                              CHAPTER 4: ESCAPE

ตอนนี้ B.J. สูญเสีย Wesley ที่เป็นสายลับและผู้ประสานงานในภารกิจไปแล้ว เขาจึงไม่มีทางเลือกมากนักเขาที่ต้องเดินทางไปพบ Kessler สายลับอีกคนที่อยู่ในหมู่บ้าน Paderborn Village ด้วยตัวเอง แต่เส้นทางนั้นด่านแรกคงต้องผ่านสะพาน Paderborn Bridge ท่ามกลางการไล่ล่าของพวกนาซีไปให้ได้เสียก่อน 
- จากในลิฟต์ ปีนขึ้นด้านบนไปต่อจะมาออกที่ส่วนห้องเครื่องของสถานีรถกระเช้า ลอบผ่านขึ้นไปจนถึงบนสถานีรถกระเช้า เป้าหมายคือหาทางใช้รถกระเช้ากลับขึ้นไปบนสะพาน Paderborn Bridge ให้ได้ ที่สถานีจะเริ่มพบ Commander 2 นายที่ต้องระวังซึ่งจะอยู่ทางฝั่งซ้ายและขวาของพื้น เป้าหมายคือขึ้นไปบนหลังคาของห้องควบคุมที่มีทหารจักรกล Supersoldlaten เดินตรวจตราอยู่ เพื่องัดเข้าไปด้านใน สับคันโยกเปิดช่องทางออกของรถกระเช้า ทันทีที่ประตูเปิดออกศัตรูจะเริ่มโจมตีเข้ามาทันที สิ่งที่ต้องทำคือลุยศัตรูแล้วเข้าไปในรถกระเช้าให้ได้
-เมื่อรถกระเช้าเริ่มออกจากท่าแล้ว ก็เอาตัวรอดจากการยิงโจมตีจากศัตรูจากกระเช้าข้างๆให้หมด แล้วปีนขึ้นบนหลังคารถกระเช้าแล้วโหนสลิงไปที่รถกระเช้าที่จอดที่สถานีถัดไป จัดการศัตรูด้านในสถานีให้หมดแล้วสับคันโยกบนห้องควบคุมชั้นบนเพื่อเปิดการทำงานของรถกระเช้าที่จอดอยู่ แล้วลุยลงไปเข้ากระเช้าทางขวาเพื่อเดินทางต่อ รถกระเช้าจะเลื่อนไปที่สถานที่ถัดไป ระหว่างทางจะมีศัตรูยิงมาจากสถานีตรงข้ามกับโดรนที่บินเข้ามาโจมตีจนหมด (ใช้ไรเฟิ่ลยิงจะดีที่สุด) ทันทีที่ปีนขึ้นไปบนหลังคาก็จะถูกโดรนยิงใส่จนรถกระเช้าตกลงไปที่แม่น้ำด้านล่าง  B.J. จะถูกซากระกระเช้าอัดกระแทกจนจมลงไปด้วย รีบกด X งัดประตูออกไปก่อนจะจมน้ำตายแล้วว่ายน้ำตามทางออกไปจนถึงทางขึ้นฝั่ง
- ในเขตถ้ำ เมื่อขึ้นมาจนถึงส่วนบน ที่ค่ายตรงเนินเขาจะเริ่มพบ Commander 2 นายที่ต้องระวัง ซึ่งมันจะอยู่บนระเบียงด้านบนและถ้ำด้านในที่อยู่ใกล้ๆกันหาไม่ยากเพียงแต่ต้องหลบทหารเกราะหนักที่เดินอยู่กลางพื้นที่ขึ้นไปให้ได้ก็พอ จากนั้นก็ปีนเนินเขาด้านบนขึ้นไปต่อ
- ขึ้นมาบนเนินเขาด้านบนจะมี Commander 1 คนที่อยู่ด้านในบนพื้นที่ ซึ่งต้องหลบทหารเกราะเหล็ก และทหารที่ป้อมปืนขึ้นไปก็จะเห็น Commander ยืนอยู่ตรงทางเดินด้านนอก เมื่อเริ่มจัดการมันไปแล้วก็จะเจอทหารจักรกล Supersoldlaten ที่อยู่ตรงทางเดินยิงถล่มทันที พยายามจัดการพวกมันให้หมด แล้วเข้าไปถึงลิฟต์ด้านในเพื่อขึ้นมาด้านบนต่อ
- ออกมาตามทางเดินจนถึงทางออกจากถ้ำก็จะมาถึงตีนสะพาน Paderborn Bridge จากนั้นปีนขึ้นไปบนสะพาน ลุยผ่านเข้าไปด้านในจนถึงประตูที่งัดเข้าไปในช่องลิฟต์ต่อ ซึ่งจะลงมาอยู่บนลิฟต์ที่กำลังเลื่อนอยู่ รีบงัดเข้าไปจัดการทหารในลิฟต์ ก็จะออกมาที่จุดตรวจตรงทางเข้าสะพาน Paderborn Bridge ที่จุดแรกที่เข้ามาตอนแรก จัดการศัตรูให้หมดแล้วออกมาส่วนในของสะพาน จะพบทหารนาซีออกมาขัดขวางมากมาย ทั้งทหารธรรมดา ทหารจักรกล Supersoldlaten และหมาจักรกลที่เข้ามาโจมตีปิดท้าย จัดการมันให้หมดแล้วข้ามสะพานไปอีกฝั่ง ที่ป้อมด้านซ้ายจะมีจุดอิฐร้าวที่ใช้ท่อฟาดทำลายผ่านออกไปทางริมทางเดินฝั่งซ้ายของสะพานก็จะเข้ามาที่ทางเข้าหมู่บ้าน Paderborn Village ได้



- ที่หมู่บ้าน Paderborn Village เข้ามาจนถึงร้านเหล้าเป้าหมายที่นัดเอาไว้ เด็กสาวคนนึงเปิดช่องประตูออกมารับรหัสผ่านจาก B.J ก่อนจะเปิดให้เข้าไปด้านใน เธอแนะนำตัวว่าชื่อ Annette และก็จะได้เจอกับ Ludwig Kessler หัวหน้ากลุ่มคนเยอรมันที่ต่อต้านนาซี สายลับที่คอยประสานงานข่าวในเรื่องตำแหน่งของ Helga Von Schabbs ให้กับฝ่ายพันธมิตร แต่ในขณะที่กำลังคุยกัน ทหารนาซีจะบุกเข้ามาตรวจค้นจนเกิดการยิงต่อสู้ขึ้นจนทำให้ Annette บาดเจ็บ เข้าไปสำรวจเปิดช่องทางลับที่พื้นร้านเพื่อให้ Kessler และ Annette เข้าไปซ่อนตัวก่อน ส่วน B.J ก็ต้องมีหน้าที่จัดการทหารนาซีมากมายที่กำลังบุกเข้ามาให้หมด พยายามหาที่เหมาะที่ได้เปรียบที่สุดเพราะมันจะบุกเข้ามาอย่างต่อเนื่องจำนวนมาก เมื่อจัดการหมดแล้วในขณะที่ B.J คิดว่าทุกอย่างปลอดภัยจึงเข้าไปเปิดให้ Kessler และ Annette ออกมา แต่เสียงของโจทย์เก่าก็แหกปากตะโกนออกมาด้วยความแค้น

Boss Rudi Jäger มาพร้อมชุดเกราะ Power Armor เข้ามาโจมตีทันที Jäger Power Armor นั้นโจมตีด้วยปืนกลหนักและต่อเนื่อง แต่สถานที่ในนี้นั้นมีที่หลบที่เป็นต่อมากมาย พยายาดักยิงมันจนกว่ามันจะทรุดแล้วเข้าไปกด RS เพื่องัดชุดเกราะมันออกที่ละจุดจนครบ 3 จุด B.J ก็จะสังหาร Jäger ลงได้




เมื่อจัดการ Jäger ลงได้ Kessler และ Annette ก็จะพาลงไปยังถ้ำลับใต้ร้านที่มีเรือจอดรออยู่ Kessler ให้ข้อมูลว่าจากข่าวที่เขาได้มานั้นตอนนี้ Helga กำลังอยู่ที่เมือง Wolfburg ถ้าเจอตัว Helga ก็จะเจอแฟ้มลับของ Deathshead ที่ต้องการซึ่ง Kessler ก็กำลังจะพา B.J ล่องเรือไปที่นั่น ซึ่ง B.J นั้นไม่เข้าใจว่า Kessler บอกว่าที่ Wolfburg คือเมืองที่เต็มไปด้วยความตาย แต่ทำไมถึงต้องให้ Annette ตามไปที่อันตรายแบบนั้นด้วย ซึ่ง Annette จึงบอกให้ฟังว่าเธอเป็นเด็กสาวในครอบครัวชนชั้นกลางที่เคยอาศัยอยู่ทางตอนใต้ของเยอรมัน จนเกิดสงครามพ่อของเธอก็ถูกเกณฑ์ไปสร้างทางรถไฟในค่าย Bolzano ซึ่งอยู่ที่ไหนซักแห่งในอิตาลี เธอจึงตัดสินใจเข้าร่วมกันต่อสู้กับฝ่ายพันธ์มิตรเพื่อต่อต้านนาซีและออกตามหาเพื่อช่วยเหลือพ่อของเธอ 


                   PART TWO - The Dark Secrets of Helga Von Schabbs

                                               Chapter 5: Wulfburg

ทันทีที่เรือของ B.J, Kessler และ Annette เดินทางมาถึงเมือง Wulfburg แล้ว Kessler จะให้ B.J เดินทางเข้าไปที่บ้านของ Agent Two สายลับอีกที่แฝงตัวอยู่ทีนี่โดยบ้านของสายลับคนนี้จะอยู่ข้างๆร้านขายขนมปัง เพื่อให้พาเข้าถึงตัว Helga ที่อยู่ที่ไหนซักแห่งในเมืองนี้ โดยที่ Kessler และ Annette จะรอฟังข่าวอยู่ที่ท่าเรือนี้ 

-ออกจากกระท่อมจอดเรือแล้วเข้าไปในเขตท่าเรือ จะเริ่มพบ Commander 2 คนที่ต้องระวัง เส้นทางคือลอบไปทางฝั่งซ้ายขึ้นไปชั้นบนของห้องของบ้านแล้วโดดทะลุหน้าต่างมาที่เขต Pump House ต่อซึ่งจะเป็นเขตลานกว้างของเมือง จะเริ่มพบ Commander 2 คน ทางแยกซ้ายตรงทางเดินจะมี Commander คนแรกเดินไปมาอยู่ ลอบลงไปจัดการแล้วกลับมาที่ทางแยกอีกครั้ง จากนั้นพยายามชิดขวาไปเรื่อยๆจนมาถึงด้านขวาของลานตรงกลาง จัดการทหารหลังรถบรรทุกแล้วโดดไปหลบหลังรถทางขวาเพื่อหลบทหารจักรกล Supersoldlaten ที่เดินไปมาตรงกลาง ดูจังหวะแล้วรีบอ้อมรถไปที่กำแพงฝั่งขวาต่อเพื่อปีนขึ้นไปที่ระเบียงบนตึกฝั่งขวา ตรงทางเดินนี้จะเจอ Commander คนที่ 2 จัดการมันซะ แล้วเดินเลาะหลังคาทางขวาไปลงไปที่ซอยทางขวาของตึกได้เลย
-เดินไปสุดทางของซอยก็จะเป็นร้านขนมปังและบ้านเป้าหมายที่อยู่ข้างๆ ทันทีที่ B.J เคาะประตูเพื่อบอกรหัสลับ ผู้หญิงด้านในบ้านจะให้เอากุญแจที่ซ่อนอยู่ใต้หินทางขวาเปิดเข้าประตูลูกรงอ้อมไปหลังบ้านเพื่องัดหน้าต่างเข้ามาด้านในได้

Agent Two สายลับของเมือง Wulfburg ก็คือ Pippa Shepherd สาวเยอรมันคลั่งชาติที่สุดแอนตี้นาซี ขนาดแม่ของเธออพยพไปที่ลอนดอนตั้งนานแล้วเธอยังเลือกที่จะฝังตัวอยู่ที่เพื่อเป็นสายลับที่แฝงตัวในคราบของนางพยาบาลเพื่อคอย ส่งข่าวต่างๆให้ฝ่ายพันธ์มิตร ข่าวที่ได้จาก Pippa ก็คือข่าวดีที่ Helga นั้นยังอยู่ที่นี่ ตอนนี้เธออยู่ที่บาร์ในเมือง ซึ่ง Pippa นั้นรู้ดีว่า Helga นั้นเป็นคอไวน์ที่ชอบดื่มไวน์อย่างหนัก เธอจึงจะให้ B.J ลอบเข้าไปที่บาร์แล้วปลอมตัวเป็นเด็กเสิร์ฟเข้าถึงตัว Helga เพื่อหาทางชิงแฟ้มลับมา แต่การลอบเข้าไปครั้งนี้ต้องห้ามพกปืนไปด้วย 

- สำรวจที่กล่องในห้องเพื่อเอาปืนทั้งหมดเก็บเอาไว้แล้วโดดลงไปในทางลับใต้พื้นบ้านที่จะเป็นอุโมงค์น้ำพาไปโผล่ที่ในเมืองแถวๆหลังบาร์ได้ เมื่อเข้าไปด้านหลังบาร์ที่ในห้องครัวสำรวจหยิบผ้ากันเปื้อนและถาดขวดไวน์แล้วเดินยกขึ้นไปที่ชั้น 2 เพื่อเอาไปเสิร์ฟที่ห้องของ Helga

ด้านในห้องจะพบกับ Helga Von Schabbs และมือขวาของเธอ Schreiner ที่เป็นถึงระดับรองผู้บัญชาการณ์ของหน่วย SS ยัย Helga นี่แหละที่เป็นเฟืองตัวสำคัญที่ถูกส่งตัวไปทั่วโลกเพื่อค้นหาวัตถุดิบสุดประหลาดจากที่ต่างๆเพื่อนำมาใช้ในการพัฒนาอาวุธพลังเหนือธรรมชาติของ Deathshead ที่กำลังจะทำให้กองทัพนาซีได้รับชัยในสงครามครั้งนี้ และ B.J ก็แทบที่จะเข้าไปฆ่ามันไม่ไหวทันที่อยู่ตรงหน้ามัน แต่ก็ต้องเนียนทำเป็นเสิร์ฟไวน์ไปวางบนโต๊ะและฉวยโอกาสหยิบแฟ้มลับที่วางอยู่ติดมือไปด้วย (ไม่ต้องถามผมน๊ะว่า B.J รู้ได้ยังไงว่าเป็นแฟ้มลับ) แต่ในขณะมีกำลังจะเนียนออกนอกห้อง Helga ก็ดันเรียกเข้าไปคุยด้วย มันก็ถามเรื่องบ้านเกิดเรื่องอะไรไปจนถึงอวดแผนที่สถานที่เก่าแก่ที่มันเพิ่งสำรวจพบด้วย




 ก่อนที่มันจะให้ B.J ลองเทสรสชาติของไวน์ให้ ซึ่งแน่นอน B.J ดื่มแล้วก็ต้องบอกว่ามันอร่อย แต่สำหรับคอไวน์ขั้นเทพอย่าง Helga นั้นไวน์ขวดนี้สุนัขไม่รัปทานมากๆ ซึ่ง Helga ก็ไม่ได้แปลกใจอะไรที่คนเสิร์ฟไวน์กลับเทสรสชาติไวน์ไม่เป็นก็เพราะมันไม่ใช่คนเสิร์ฟไวน์แต่มันเป็นสายลับยังไงล่ะ ก่อนที่ Helga จะแทงมีดลงที่มือ B.J แล้วสั่งให้ Schreiner จัดการฆ่าทิ้ง แต่จู่ๆก็เกิดแรงสั่นสะเทือนและระเบิดอย่างรุนแรงจนทำให้เมืองทั้งเมืองเสียหายอย่างหนัก B.J ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ หลังจากที่รู้สึกตัวอีกครั้ง Helga และ Schreiner ก็รีบหนีไปพร้อมกับแฟ้มลับแล้ว


                                               Chapter 6: RUIN

ทันทีที่รู้สึกตัวขึ้นมา B.J รู้ดีว่า Helga และ Schreiner เอาแฟ้มลับหนีหายเข้ากลีบเมฆอีกแล้ว แต่โชคดีที่มันยังทิ้แผนที่โบราณสถานที่มันกำลังค้นพบ B.J จึงพอจะรู้ว่าควรจะตามมันไปที่ไหน แต่ก่อนอื่นเขาควรกลับไปหา Kessler และ Annette ที่กระท่อมจอดเรือก่อน แต่ระหว่างที่กำลังออกจากซากของบาร์ที่กำลังไฟไหม้ B.J ก็เจอทหารนาซีที่ต้องจัดการตามปกติ แต่ครั้งนี้มันไม่เหมือนก่อน เพราะพวกทหารนาซีที่ตายจากการระเบิดมันกลับกลายเป็นซากศพที่เดินได้และโจมตีกันเป็นกลุ่มอย่างน่ากลัวกว่าเดิม B.J ไม่เข้าใจว่าทำไมพวกซากศพจากการระเบิดถึงมีชีวิตขึ้นมาอีก แต่ยังไงเขาก็ต้องฝ่ามันออกไปเพื่อกลับไปให้ Helga และ Schreiner ให้ได้อยู่ 

** พวกซากศพเดินได้นี้อาจจะเรียกว่าผีดิบ ซอมบี้ ก็ได้ แต่อยากจะให้เรียกมันว่า Shambler ซึ่งเป็นชื่อที่ตัวเกมกำหนดมาจะดีที่สุด **

- เป้าหมายที่ต้องไปก็เป็นเส้นทางเดิมที่มาจากท่าเรือนั่นแหละเพียงแต่สภาพมันพังทลายกว่าเดิม และระหว่างทางนั้นก็เต็มไปด้วยพวก Shambler เต็มไปหมด พวกมันมีทั้งที่สามารถฟาดด้วยท่อนเหล็กให้ตายได้ง่ายๆกันแบบที่ถือปืนยิงมั่วแต่ถูกเป้าเกือบทุกนัดด้วย พวกมันจะอยู่กันเป็นกลุ่มและพุ่งเข้าโจมตีเร็วกว่าที่มันเป็นทหารนาซีปกติมาก ระหว่างที่เข้ามาถึงซากบ้านของ Pippa ก็เห็นเธอถูกพวก Shambler กัดจนกลายเป็นพวกมันไปแล้ว จัดการฆ่าเธอซะแล้วลุยยาวไปตามทางจนถึงท่าเรือ แต่ที่เรือจะไม่พบ Kessler และ Annette แล้วแต่จะได้ปืน Sawed of Shotgun มาใช้แทน แต่ไม่นาน  Kessler ก็จะติดต่อมาว่าพวกเขาจำเป็นต้องหนีเอาตัวรอดจากพวกซากศพเดินได้ และตอนนี้ก็กำลังถูกพวกมันล้อมอยู่ในซากตึกซึ่งเขาก็จำเป็นต้องแยกกับ Annette ที่หนีไปอีกทางนึงแล้ว  ออกจากท่าเรือไปทางฝั่งซ้าย ตามจุดหมายในแผนที่ ก็จะมาถึงชั้นบนของซากตึกเป้าหมายที่ Kessler และ Annette หนีเข้ามา

** ที่ทางแยกนี้ต้องเลือกว่าจะไปช่วยใครระหว่าง ไปทางแยกขวาเพื่อช่วย Kessler หรือลุยไปตามแยกซ้ายเพื่อเข้าไปช่วย Annette และถ้าเลือกที่จะช่วยใครไปแล้วอีกคนที่ไม่ได้ไปช่วยก็จะตายทันที แต่ไม่ต้องไปคิดมากเพราะไม่ได้ทำให้ฉากจบเปลี่ยนแปลงใดๆทั้งสิ้น ** 

- ผมเลือกลุยไปทางขวา เพื่อเข้าไปช่วย Kessler ในห้องด้านใน แต่หลังจากช่วยได้แล้วเขาจะแยกทางไปจัดการเรื่องเกี่ยวกับความแค้นส่วนตัวก่อนแล้วให้ B.J รีบตามไปจัดการ Helga ให้ทันก่อนมันจะเอาแฟ้มลับหนีไปได้
- จากนั้นเข้าไปตามซากตึกโหนสลิงมาที่ซากตึกฝั่งซ้ายก็จะพบ Annette ที่กำลังโดนกัดและกลายร่างเป็น Shambler ไม่มีทางเลือกที่คุณต้องจัดการเธอซะ แล้วโดดลงจากซากตึกทางหน้าต่างด้านหน้าซึ่งจะเห็นหุ่น Laderroboter ของนาซีจอดนิ่งอยู่ โดดลงไปในน้ำแล้วดำน้ำมุดเข้าไปใต้พื้นก็จะเข้ามาตรงหุ่นได้ B.J ไม่รอช้าที่จะโดดขึ้นไปขับขี่มันเพื่อไล่ล่า Helga ให้ทันก่อนที่จะสายเกินไป


                                               Chapter 7: Old Town

*การบังคับหุ่น Laderroboter*
แกนอนาล็อกซ้าย LS – บังคับทิศทาง
แกนอนาล็อกขวา RS – บังคับมุมกล้อง
LT – โจมตีด้วยแขนซ้าย
RT – โจมตีด้วยแขนขวา
LT + RT – ทุบพื้น 2 มือ
RB – เลือกให้มือขวาใช้ปืน กด Y กลับมาขับหุ่นต่อ
B – ลงจากหุ่น

- เส้นทางของ B.J ในพื้นที่นี้นั้นสั้นแต่แปลกใหม่ในระบบการเล่น เพราะได้บังคับหุ่นลุยด้วย แต่ถึงจะอยู่บนหุ่นก็อาจโดนพวก Shambler ปีนขึ้นมากัดได้ และในพื้นที่ก็จะเต็มไปด้วยพวก Shambler ทีบางจุดจะมีพวกมันออกมามาจบสิ้น ภารกิจนี้พยายามเดินหน้าลุยเข้าไปให้เร็วที่สุดจะดีกว่า บังคับหุ่น Laderroboter ทำลายประตูแรกเข้าไปด้านใน ยิงเชือกที่ยกสะพานให้สะพานทอดลงมาแล้วข้ามไปทำลายประตูที่ 2 จะเจอประตูลูกกรงปิดอยู่ ลงจากหุ่นไปเข้าบ้านด้านหลัง เข้าไปเก็บกุญแจแล้วเอามาไขเข้าไปด้านซากโบสถ์ ลุยอ้อมไปทางขวามาทางซ้ายจนเจอคันโยก สับคันโยกเปิดประตูลูกกรงใหญ่ออกแล้วกลับไปขับหุ่นลุยเข้ามาจนถึงประตูไม้ด้านใน ทำลายแล้วเข้าไปต่อก็จะพบทางเข้าซากโบสถ์ในเขตเมืองโบราณ


                                                Chapter 8: DIG SITE 

B.J ใช้หุ่น Laderroboter ลุยเข้ามาจนถึงทางเข้าซากโบสถ์ในเขตเมืองโบราณที่เป็นจุดหมายในแผนที่ของ Helga ด้านในเป็นพื้นที่รกร้างที่ถูกทอดทิ้งมานาน แต่ทำไมพวกนาซีจึงเข้ามาทำการขุดค้นที่นี่กันจนเป็นพื้นที่สำคัญนั่นคือสิ่งที่จะเข้าไปหาคำตอบด้านใน 

- ในพื้นที่หน้าซากโบสถ์จะเริ่มพบ Commander 2 คนที่ต้องระวัง เส้นทางที่สะดวกที่สุดคือเดินเลาะสุสานทางฝั่งซ้ายจนสุดทางจะเห็น Commander คนนึงอยู่ในบ้านทางซ้ายและบนหอสังเกตการณ์ทางขวาใกล้ๆ ซึ่งจะสามารถส่องยิงจัดการได้ทั้งคู่เลย จากนั้นลงเนินไปตรงจุดที่มีระเบิดให้เก็บจะมีพื้นที่เป็นโพรงให้โดดไปด้านล่างได้ ซึ่งจะเป็นทางลัดลอดผ่านไปที่จุดที่เป็นทางไปที่ทางออกจากพื้นที่ได้เลย สับคันโยกปิดไฟฟ้าแล้วงัดเข้าไปได้เลย
- เข้ามาในเขตสุสานโบราณ ช่วงแรกนั้นสามารถลุยเข้าไปจนถึงลิฟต์ตัวในได้เลยเพราะมีศัตรูไม่มาก เมื่อลงมาในชั้นล่างจะเริ่มมี Commander 1 คนซึ่งจะอยู่ในถ้ำส่วนบนของฝั่งซ้าย ที่นี่มีศัตรูค่อนข้างเยอะเป้าหมายคือปิดเข้าประตูไฟฟ้าที่สุดทางเดิน
- เข้ามาถึงพื้นที่จุดเจาะชั้นในสุดจะเป็นโบราณสถานที่จะเห็นพวกทหารนาซีกำลังยิงใส่พวก Shambler ในขณะที่พวกมันเองถ้าโดนยิงจนตายมันจะกลายเป็น Shambler เข้ามาโจมตีอีกรอบได้ด้วย จัดการให้หมดแล้วเข้ามาทางฝั่งขวาสุดทางเดินจะมีช่องให้มุดเข้ามาด้านใน จะออกมาที่โบราณสถานอีกด้าน ลุยเข้าไปตามทางจนถึงห้องโถงบันไดวน ลงไปด้านล่างจนถึงบ่อน้ำแล้วว่ายน้ำไปปีนขึ้นฝั่งตรงข้าม มุดเข้าไปตามโพรงถ้ำจนเข้าถึงห้องพิธีกรรมด้านในได้
- ที่ห้องพิธีกรรม เตรียมเก็บของให้พร้อมก่อนแล้วค่อยกดแท่นกลางห้อง ประตูหินจะค่อยๆเปิดออกท่ามกลางพวก Shambler ที่โผล่ออกมาจากช่องต่างๆมากมาย พยายามต้านมันเอาไว้จนกว่าประตูจะเปิดออกก็รีบประตูที่เปิดไปด้านในได้เลย

ห้องพิธีกรรมด้านในสุด โถงถ้ำที่เก็บความลับตั้งแต่ยุคอดีตกาล ห้องเซฟของอารยะธรรมโบราณแห่งความชั่วร้ายของกษัตริย์ otto ทันทีที่ B.J เข้ามาถึงเขาก็ถูก Helga และ Schreiner ที่อยู่ที่นี่จับได้อีกครั้ง ซึ่งก็ตรงกับในขณะที่ Helga กำลังตันกับปัญหาการแก้ปริศนาของแท่นอักขระตรงหน้าพอดี และทันทีที่เธอค้นตัว B.J จนเจอบันทึกแผนที่ของเธอที่เขาเอาติดตัวมาด้วย Helgaก็ถึงกับจูบ B.J ไปฟอดใหญ่ๆด้วยความดีใจที่เขาช่างเป็นตัวช่วยที่ดีเหลือเกิน นั่นทำให้ Helga หันไปสนใจแก้ปริศนาอักขระตรงหน้าจนไม่สนใจ B.J เลยแม้แต่นิดเดียว 




สุดท้าย Helga พยายามแก้ปริศนาจนเปิดสวิตซ์ที่แท่นอักขระได้สำเร็จ แรงสั่นสะเทือนอย่างรุนแรงก็เริ่มเกิดขึ้น มันรุนแรงจน Schreiner ต้องย้ำถามอีกครั้งว่าวิธีที่ Helga มันถูกต้องหรือไม่กันแน่ จนร่างที่ใหญ่โตและสุดอัปลักษณ์ของอสุรกายตัวนึงก็โผล่ขึ้นมาจากหลุมลึกในถ้ำ มันไม่ใช่ ที่นี่ไม่ใช่ที่เก็บพลังอำนาจที่ยิ่งใหญ่ของ กษัตริย์ otto แต่มันเป็นกรงขังสัตวืเลี้ยงสุดวิปลาสของเขาต่างหาก ทันที่ที่ Helga หายตกใจเธอจึงพยายามเข้าไปเพื่อทำความรู้จักและควบคุมมันจนทำให้สามารถนิ่งสงบอยู่ตรงหน้าเธอได้ Helga กำลังดีใจที่เธอควบคุมสัตว์ร้ายได้สำเร็จ ส่วน Schreiner นั้นยังไม่มั่นใจ ในขณะที่ B.J รู้ดีว่าความซวยกำลังจะเกิดขึ้นไมช้าเขาจึงไม่รอช้าที่จะพยายามงัดโซ่ที่มันขาจนหลุดออก ซึ่งเป็นเวลาเดียวกับที่อสูรร้ายร่างยัก์ตรงเข้างับร่างของ Helga และ Schreiner จนกระเด็นไปคนละทิศทาง เพราะอสุรกายที่ Helga คิดว่ากำลังควบคุมมันได้จริงแล้วมันก็ตัววายร้ายที่ตาบอด 

     

Boss - The Monstrosity ก็อย่างที่บอกเจ้าอสุรกายยักษ์ตัวนี้มัน ตาบอด ฉะนั้นมันจะไม่โจมตีก่อนเลยหากส่งเสียงหรือยิงใส่มันเพราะหากทำให้มันรู้ตำแหน่งแล้วมันจะทุบอย่างไม่เกรงใจทันที พูดง่ายๆก็คือ ยิงตรงไหนทุบตรงนั้นนั่นแหละ การโจมตีมีทั้งทุบและกวาดมือด้านข้าง พยายามก้มต่ำเอาไว้ปลอดภัยสุด จุดอ่อนของมันอยู่ที่ปาก ปืนที่สร้างความเสียหายมันได้มากที่สุดคือ Kampfpistole ด้วยการเล็งยิงใส่ปากมัน ระหว่างสู้กับมันพวกทหารนาซีที่เป็น Shambler จะออกมาด้วย มันจะยิงทั้งอสุรกายและ B.J แต่ก็แทบไม่ต้องทำอะไรกับมันมากนักเพราะทันทีที่มันยิงโจมตีมาก็จะโดนทุบตายทันที แต่ควรใช้จังหวะนี้ โจมตีใส่เจ้าอสุรกายยักษ์และรีบหลบมากกว่า

ทันทีที่จัดการสัตว์เลี้ยงสุดโหดของกษัตริย์ otto ลงไปได้ ก็เดินเข้าไปหา Helga ที่นอนบาดเจ็บหายใจรวนรินพร่ำบ่นถึงความสำเร็จที่อยู่ตรงหน้ากลับหายไปภายในไม่มีกี่นาที จัดการให้มันเงียบปากไปตลอดกาลซะ แล้วเก็บแฟ้มลับในมือถือมา แต่แรงสั่นสะเทือนก็ทำให้เพดานถล่มลงมาทับ B.J จนเขาสลบไปเช่นกัน

ไม่กี่อึดใจ B.J ก็รู้สึกตัวอีกครั้งจากการช่วยเหลือของ Fergus Reid จ่ากองร้อยของกองกำลังผสมของฝ่ายพันธมิตรมาช่วยเอาไว้ เพราะตามรอยมาจากข้อมูลที่ Pippa ส่งไปให้ นั่นทำให้ B.J รอดชีวิตอีกครั้ง 




ในขณะเดินทางกลับไปรวมพล B.J เห็นความเสียหายของบ้านเมืองและผู้คนที่ล้มตายมากมายรวมทั้งเพื่อนรวมงานเขาด้วย มันทำให้เศร้ามากกว่าจะภูมิใจในความสำเร็จของภารกิจ แต่ Fergus พยายามบอกกับ B.J ว่า ไม่ว่า B.J จะทำอะไรลงไป แต่ผลที่ได้มันยิ่งใหญ่ บันทึกได้มานั้นหมายถึงเราได้ตำแหน่งสถานที่เก็บวัตถุดิบสำคัญของอาวุธพลังเหนือธรรมชาติของพวกนาซีแล้วและมันมีความหมายต่อคำว่าชัยชนะของฝ่ายพันธ์อย่างมาก ขอให้เขารู้ไว้แค่นั่นก็พอ 

ที่ฐานทัพอากาศ Kinloss ทันทีที่รู้ตำแหน่งของที่เก็บวัตถุดิบของอาวุธเหนือธรรมชาติของ Deathshead แห่งกองทัพนาซีจากบันทึกลับที่ได้มาจาก B.J กองทัพพันธ์มิตรทั้งหมดก็ทุ่มกำลังยาตราทัพเพื่อหมายที่จะเข้าไปชิงมันมาเพื่อหวังได้ชัยในสงครามเหนือพวกนาซี และแน่นอน B.J ก็คือหนึ่งในทหารที่จะเข้าสู่ปฏิบัติการณ์นี้ด้วย 

 


    

Fergus – บ้าเอ๊ย นี่รอบตัวเรามีแต่อะไรว่ะเนี้ย Blazko มีแต่ทหารหน้าละอ่อนทั้งนั้น
B.J – งานนี้เราคงได้เป็นพี่เลี้ยงเด็กแล้วล่ะ Fergus
Fergus – ใกล้ถึงสมรภูมิของเราแล้วล่ะ นายเพิ่งล้มเจ้าตัวประหลาดยักษ์ได้ แต่ยังมีปีศาจอีกฝูงใหญ่รออยู่ข้างนอกให้กกำจัดอีกเยอะเลย และพวกเรามีโอกาสเดียวที่จะเผด็จศึกพวกมันซะด้วย ก็หวังว่าคงจะราบรื่น ความหวังของโลกเลยน๊ะเนี้ยเรา ไม่ค่อยจะกดดันเท่าไหร์เล๊ย   
B.J – ปีศาจหรือไอ้พวกที่ชั่วร้ายน่ะ มันไม่เคยตายหรอไม่ว่าจะฆ่ามันกี่ครั้งก็เถอะ มันก็แค่เปลี่ยนรูปร่างเปลี่ยนชื่อไปเป็นอย่างอื่แค่นั้นแหละ บางที่ก็รู้สึกถึงความกดดันที่ต้องแบกโลกเอาไว้ทั้งใบเหมือนกัน ผมก็แค่พยยามที่จะไม่แบกมันเอาไว้ และถ้าสมรภูมินี้เป็นมันจะเป็นครั้งสุดท้ายจริง บางที่ผมอาจจะได้พักซักทีเหมือนกัน  

แม้ชะตากรรมและผลของสงครามนั้นคุณอาจจะพอทราบแล้วจากภาค The New Order แต่โชคชะตาที่ดูเหมือนจะสดใสของ กัปตัน Blazkowicz และกองทัพพันธ์มิตรก็ยังดำเนินต่อไปอย่างมีความหวังเพื่อส่งต่อเรื่องราวไปยังภาค The New Order ต่อไป



********************* To be Continue.. Wolfenstein : The New Order ******************







            *******************************************************************

                                  
                  


                                                บทสรุป  Wolfenstein: The New Order

BY - Decibel per - oxide

    ผลจากความขัดแย้งของประชาชาติต่าง ๆที่เกิดขึ้นสะสมมาก่อนเดือนสิงหาคม ค.ศ. 1939 อันเนื่องมาจากความตกต่ำทางเศรษฐกิจเงื่อนไขหรือข้อบังคับบทลงโทษตามสนธิสัญญาสันติภาพและความล้มเหลวขององค์การสันนิบาตชาติ  โดยชนวนที่นำไปสู่สงครามนั้น กองทัพเยอรมนีบุกโปแลนด์แบบสายฟ้าแลบ เมื่อวันที่ 1 กันยายน ค.ศ.1939 เนื่องจากโปแลนด์ปฏิเสธที่จะยกเมืองท่าดานซิกและฉนวนโปแลนด์ให้เยอรมนี อังกฤษและฝรั่งเศสซึ่งทำสัญญาค้ำประกันเอกราชของโปแลนด์ได้ยื่นคำขาดให้เยอรมนีถอนทหารออกจากโปแลนด์แต่ฮิตเลอร์ปฏิเสธ ดังนั้น ในวันที่ 3 กันยายน ค.ศ. 1939 อังกฤษและฝรั่งเศสจึงประกาศสงครามกับเยอรมนีทันที การแบ่งกลุ่มของประเทศคู่สงคราม ฝ่ายอักษะ ได้แก่ เยอรมนี อิตาลี และญี่ปุ่น ฝ่ายพันธมิตรได้แก่ อังกฤษ ฝรั่งเศส และรัสเซีย สงครามโลกครั้งที่ 2 (World War II ) จึงเริ่มขึ้น ...

                

ซึ่งประเทศเยอรมันภายใต้การนำของ ท่านผู้นำ’ Adolf Hitler เข้าร่วมสงครามนี้ด้วยเหตุผลความเป็น ลัทธิชาตินิยม ของตัวเองแต่ไปอ้างความไม่ยุติธรรมของสนธิสัญญาแวร์ซาย ทำให้ อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ ในฐานะผู้นำเยอรมนีหันไปใช้ลัทธินาซี เพื่อสร้างประเทศให้ยิ่งใหญ่เช่นเดียวกับ Benito Mussolini  ผู้นำอิตาลีที่หันไปใช้ลัทธิฟาสซิสต์ นอกจากนี้ยังเกิดทฤษฎีชาตินิยมในเยอรมนีว่าด้วยความเหนือกว่าในทางเผ่าพันธุ์ ที่ทำให้ฮิตเลอร์ใช้นโยบายกวาดล้างชาวยิวในดินแดนยึดครองต่าง ๆ จนเป็นการฆ่าล้างเผ่าพันธุที่โลกไม่มีวันลืมรวมระยะเวลาถึง 6 ปีเต็ม (ค.ศ. 1939 – 1945

แต่เกือบจะทุกภาระกิจชั่วของพวกนาซีนั้นก็ถูกขัดขวางจากชายที่สาบานว่าจะทำลายกองทัพนาซีให้หมดสิ้นเพื่อมาตุภูมิ William Joseph "B.J." Blazkowicz ในฐานะเจ้าหน้าที่พิเศษแห่งหน่วยรบพิเศษ OSA (Office of Secret Actions)แห่งสหรัฐอเมริกา ซึ่งก็สร้างความเสียหายกับกองทัพนาซีของฮิตเลอร์มาตลอดหลายปี

                 

                                                   William Joseph "B.J." Blazkowicz  
  บลาสโควิซ ยึดตำแหน่งตัวเอกมาอย่างยืนยาวแทบจะทุกภาคของ Wolfenstein ยกเว้นแค่ภาคเดียวคือ Enemy Territory จากนายทหารยศ จ่า โนเนมจนได้เป็นเจ้าหน้าที่สายลับพิเศษที่ขึ้นตรงกับหน่วย OSA (Office of Secret Actions) ที่ออกปฏิบัติการไล่ล่าและขัดขวางทุกแผนที่คิดทำลายโลกของพวก นาซี มาแล้วแทบจะทั่วยุโรปที่ว่ากันว่า เขาผ่านมาแล้วถึง 14 สมรภูมิ (และเป็นน่าแปลกแต่ตลกว่าพี่แกออกมาแต่ละภาคสีผมแทบจะไม่เหมือนกันซักภาค ตามหลักคือ น้ำตาล แต่บางภาคก็ ดำ ไปจนถึง เหลือง ส้ม เลยก็มี )



                                    Chapter 1 Deathshead's Compound


ปี 1946 ก่อนสงครามจะจบสิ้นไม่นาน

หน่วยรบพิเศษ OSA (Office of Secret Actions)นำกองกำลังร่วมผสมกับกองทัพสหรัฐในการบุกป้อมลับ Baker Shore ของนาซี เพื่อล้อมจับเป้าหมายสำคัญ Wilhelm Strasse นักวิทยาศาสตร์สุดวิปราศแห่งกองทัพนาซีฉายา Deathshead โดยการนำของ Captain Blazkowicz หอกข้างแคร่ของนาซีอีกครั้ง ท่ามกลางสมรูภูมิที่เหี้ยมโหดในช่วงสุดท้ายของสงครามที่ยาวนานที่สุดขาดแคลนที่แม้แต่กำลังพลที่ส่วนใหญ่นั้นจำเป็นต้องเกณฑ์เด็กวัยรุ่นมามากมายเพื่อออกรบ ที่พอจะพึ่งได้ในประสบการ์ณในการรบก็น่าจะเหลือแค่จ่า Fergus Reid หัวหน้าหน่วยย่อยเท่านั้น  B.J ที่เต็มไปด้วยความเป็นห่วงพวกเด็กๆที่ยังไม่ควรออกมาสู้รบ แต่เมื่อประเทศชาติต้องการชายทุกวัยย่อมควรจะได้รับหน้าที่ที่ทรงเกรียตินี้ สิ่งที่ B.J จะทำได้ก็คือให้กำลังใจเหล่าทหารหนุ่มที่ไร้ประสบการ์ณรบรอบๆตัวเขาเท่าที่จะทำได้ 



ภาระกิจแรกพร้อมอาวุธแรกแค่
SubMachine Gun ที่ต้องฝ่าด่านป้อมปืนขนาดใหญ่ด้านหน้าป้อมนั้นแสนสาหัส ลุยเข้าไปตามหลุมบังเกอร์ของพวกนาซีเข้าไปตามอาคารย่อยไปพร้อมๆกับการเรียนรู้ระบบการบังคับเบื้องต้นต่างๆในการต่อสู้ทั้งการใช้ปืนและการลอบสังหาร  หลังจากลุยดงทหารนาซีทั้งทหารเดินดินจนถึงพวกหมาไซบอร์ก Kampfhund , Panzerhund และทหารนาซีซุปเปอร์โซลเยอร์เกินมนุษย์อีกมากมาย แต่ B.J ก็นำทัพของเขาฝ่าฟันเข้ามาถึงจุดที่ใกล้ที่สุดของป้อมจนได้ ก่อนที่เขาจะนำทีมไปกับจ่า Fergus และทหารเด็กที่ด้อยประสบการ์ณอีก 2 นายบุกปีนขึ้นไปบนหอคอยในฐานะทัพหน้าสำเร็จ B.J และลูกทีมต่างแยกกันตามหาเป้าหมาย Deathshead อย่างรีบเร่ง ทุกคนบุกเข้าไปจนถึงห้องทดลองลับของมันได้สำเร็จ ไฟที่กำลังโหมไหม้เพราะแรงระเบิดทำให้ทีมต้องหนีเข้าไปหลบในห้องปิดตายห้องหนึ่งที่เต็มไปด้วยแคปซูลประหลาดมากมาย ในขณะที่ลูกทีมกำลังบาดเจ็บและเสียขวัญ แต่จู่ๆพวกทหารจักรกล Supersoldatien ก็ออกมาโจมตีจนลูกทีมคนนึงถูกมันฆ่าทันที พยายามจัดการมันให้ได้ด้วยการวิ่งวนในห้องแคบๆและทิ้งระยะยิงต่อเนื่องไปเรื่อยๆ

 จนสุดท้ายก่อนที่ B.J จะรู้ตัวทีมของเขาก็ตกเข้าไปอยู่ในห้องกับดักของ Deathshead เข้าจนได้ หลังจากกำแพงห้องที่ค่อยๆบีบอัดเข้ามาจนสามารถจับทีมของ B.J ได้ทั้งหมดแล้ว เจ้า Deathshead ไม่รอช้าที่จะเข้ามาเลือกหาอัวยวะจากลูกน้องของ B.J เพื่อนำไปทดลองทางทหารเสมือนมันกำลังเดินในตลาดสดหาซื้อผักปลา ท่ามกลางการยั่วยุของมันที่จะให้ B.J เลือกที่จะบอกทุกอย่างของแผนการ รวมถึงตำแหน่งที่ตั้งของกองทัพพันธมิตร หรือไม่ก็ปล่อยให้ทุกคนในทีมต้องตายกันหมดโดยไม่สามารถช่วยใครได้ซักคนแม้เขากำลังร้องขอชีวิตอยู่ตรงหน้า




 และเมื่อ B.J ไม่คิดจะเลือก เจ้า Deathshead ก็ยกระดับความรุนแรงโดยให้ B.J ต้องเลือกให้ลูกน้องคนนึงต้องตายแต่อีกคนต้องรอดหรือไม่ก็ตายทั้งคู่ ทำให้ B.J ต้องตัดสินใจเลือกด้วยความแค้น พลทหาร Probst Wyatt คือคนที่โชคร้ายคนนั้น ภาระกิจสนุกสุดโฉดของ Deathshead จบลงก่อนจะโบกมือลา B.J ที่เต็มไปด้วยความแค้นด้วยรอยยิ้มที่น่าสะอิสะเอียน




B.J ที่ผ่านสมรภูมิมามากมายก็เพิ่งมารู้ซึ้งถึงบทเรียนที่แสนสาหัสที่ Deathshead มันสอนให้
ที่ผ่านมาฉันเห็นมาแล้วทั้งความเจ็บปวดและความตาย
ผู้คนมากมายที่ต้องสูญเสียอวัยวะที่ทั้งเจ็บปวดและสุดแสนจะทรมาน ฉันเห็นมานับต่อนักแล้ว
แต่ฉันก็ไม่เคนเห็นถึงความหมายของคำว่า อำมหิต เลย...จนกระทั่งตอนนี้ !

แต่ยังไม่ใช่วันที่ฉันจะยอมแพ้แล้วตายอยู่ที่นี่... ก่อนที่จะทั้ว B.J และทีมของเขาจะต้องเผชิญชะตากรรมสุดท้ายกับระเบิดจำนวนมากที่พร้อมจะระบิดที่นี่อีกในไม่กี่นาที จ่า Fergus ก็ใช้ไหวพริบส่วนตัวจนสามารถดิ้นหลุดจากเชือกที่มันตัวเขาอยู่มาได้ ก่อนที่เขาจะโดดจู่โจมใส่ทหารจักรกล Supersoldatien ที่เฝ้ายามอยู่ จากนั้น B.J เข้าไปหยิบท่อนเหล็กที่พื้นฆ่าทหารจักรกลช่วย Fergus เสียก่อนแล้ฟาดทำลายท่อพ่นไฟให้หมดเพื่อช่วยเพื่อนที่เหลือ แล้วเข้าไปที่หน้าต่างจัดการทำให้สายไฟที่ขาดมาถูกันให้ต่อเนื่องจนไฟสามดวงติดจะทำให้หน้าต่างเปิดออกได้ นาทีสุดท้ายก่อนชนวนจะเริ่มจุดระเบิด B.J และพวกโดดออกทางหน้าต่างป้อมได้สำเร็จท่ามกลางการระเบิดที่เกิดขึ้นตามหลัง ทุกอย่างที่น่าจะจบลงด้วยดีก็ไม่เป็นดังหวังเมื่อแรงระเบิดทำให้เศษชิ้นส่วนของระเบิดเข้ามากระแทกหัวของ B.J อย่างจังจนร่างที่ไร้สติของเขาตกลงในทะเลทันที


                 
ชะตากรรมของ B.J นั้นยังไม่จบสิ้นท่ามกลางชะตากรรมของโลกที่พลิกผัน 21 ธ.ค 2548  กองทัพนาซีงัดไม้เด็ดด้วยระเบิดพลังทำลายล้างสูง Atomic Bomb ทิ้งใส่ กรุงปารีส ตามด้วย กรุงนิวยอร์กเมืองหลวงของอเมริกาจนทำให้ฝ่ายพันธมิตรเสียหายยับเยินจนทำให้มีผู้เสียชีวิตถึง 2 แสนคนภายในเวลาไม่ถึงชั่วโมงส่งผลให้สหรัฐอเมริกาประกาศยอมแพ้ในที่สุด .....



ในขณะที่ B.J ที่รอดตายอย่างปาฏิหาริย์ก็ถูกจับส่งโรงพยาบาลบ้าก่อนที่หมอจะวินิจฉัยว่าเขา ความจำเสื่อมเพราะสมองส่วนนึงเสียหายอย่างหนัก คณะแพทย์ไมมีทางเลือกที่ต้องรักษาไปตามบุญตามกรรมจนต้องถูกทิ้งลืมอยู่ที่โรงพยาบาลบ้าแห่งนี้ ท่ามกลางเวลาที่เปลี่ยนแปลงไปกองทัพนาซีก็ไม่หยุดแค่ย่างก้าวแรกแห่งชัยชนะกับนิวยอร์ก พวกมันกรีฑาทัพรุกไล่ยึดต่อไปที่ละประเทศด้วยกองทัพซุปเปอร์โซลเยอร์ที่สุดแข็งแกร่งจนยากที่ใครจะต้านทาน ฝ่ายพันธมิตรทั้ง อังกฤษ ฝรั่งเศส และรัสเซีย ถูกกองทัพนาซีเข้าตีจนแตกพ่ายภายในเวลาไม่นาน



จนท้ายที่สุด..พวกมันก็ยึดได้ทุกประเทศทั่วโลกมาอยู่ในการปกครองของมันจนหมดสิ้นในปี1960 และจากวันนั้น ฮิตเลอร์และกองทัพจักรวรรดินาซีของมันก็ทำให้ โลก ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป ........

Chapter 2 : Asylums

ปี 1960 ประเทศ โปแลนด์ .... บรรยากาศในโรงพยาบาลที่ยังเหลือรอดอยู่ไม่กี่แห่งในยุคหลังสงครามที่เพิ่งจะเป็นจุดเริ่มต้นแห่งความเปลี่ยนแปลงนั้นแทบจะหยุดนิ่งและโสมมไม่ต่างกัน บรรดาคนไข้ที่อยู่ไปวันๆท่ามกลางกลุ่มหมอที่แทบไม่เหลือจิตสำนึกที่จะทำหน้าที่ของเขา B.J มองผ่านหน้าต่างๆที่แผ่นผ้าม่านปลิวอย่างแผ่วเบาไปวันแล้ววันเล่าที่เหมือนวันเวลาของเขาในที่แห่งนี้จะหยุดนิ่งไม่ต่างอะไรกับความทรงจำในสมองของเขาท่ามกลางความผันแปรแบบสุดขั่วในโลกภายนอก ดูเหมือนจะมีสิ่งเดียวที่  B.J ยังจดจำได้ว่ามันคือ สิ่งสวยงาม นั่นก็คือมือน้อยๆที่บอบบางของนางพยาบาลคนนึงที่คอยดูแลตัวเขาและผู้ป่วยทั่วไปด้วยรอยยิ้มที่อบอุ่นมาตลอดหลายปี Anya Oliwa คือชื่อของเธอและเป็นสิ่งเดียวที่น่าจดจำในโรงพยาบาลที่น่าเบื่อแห่งนี้สำหรับ B.J

แต่..วันคืนที่แสนน่าเบื่อผ่านไปวันแล้ววันเล่าจนกองกำลังหน่วยคอมมานโดของ Deathshead ก็บุกเข้ามที่โรงพยาบาลแห่งนี้ด้วยภาระกิจในการค้นหาทหารฝ่ายศัตรูที่ยังหลงเหลือแต่จริงๆแล้วพวกมันน่าจะเข้ามาตามหาอวัยวะของมนุษย์เพื่อเอาไปให้  Deathshead ใช้ในการทดลองทางทหารเสียมากกว่า คนไข้รวมทางหมอที่พยายามเข้าไปห้ามปรามก็ถูกสังหารโหดไปทีละคนภายใต้อารมรณ์ที่รับรู้ได้แต่ไม่ยี่หระของ B.J จนทหารนาซีนายนึงที่ฆ่าคนไข้และบรรดาหมอในห้องจนเหี้ยนก็เดินตรงเข้ามาตรงหน้าของ BJ เพื่อหมายจะสังหารเป็นรายสุดท้าย



ไอ้พวกนาซี สวะ !! B.J สบถขึ้นมาพร้อมกับกัดฟันด้วยความแค้นก่อนที่จะพุ่งเข้าไปใช้เหล็กแหลมที่ตกอยู่เสียบเข้าที่คอของมันอย่างเลือดเย็น ความแค้นต่อพวกนาซีที่เข้าไปกระตุ้นต่อมนักล่าของ B.J เข้าอย่างจัง ยังไม่รู้ว่าเขาจะจำทุกอย่างที่ผ่านมาได้แค่ไหนแต่มันไม่สำคัญอีกแล้วเพราะตอนนี้เขาจะฆ่ามันให้เหี้ยนสมความแค้นที่สะสมมาก็คงพอใจแล้ว

- เป้าหมายคือการฆ่าพวกนาซีในห้องโถงของโรงพยาบาลให้หมด แต่ความนึกคิดแรกของมนุษย์ที่ผ่านเข้ามาในขณะที่ B.J สวมวิญญาณนักฆ่าก็คือ เป็นห่วง Anya นางพยาบาลผู้แสนดีของเขานั่นเอง ลุยจัดการศัตรูจนเปิดประตูออกมาที่สวนด้านหน้าโรงพยาบาล จะพบทหารนาซีมากมายและ Anya ก็กำลังจะถูกจับขึ้นรถไป จัดการพวกนาซีให้หมด ปิดท้ายด้วยกองกำลังของหุ่น Drone จำนวนมากที่เริ่มบินเข้ามา พวก Drone จะมีความรวดเร็วในการเข้าโจมตี ซึ่งจะทำให้ลำบากในการยิงให้โดนแบบจะๆในระยะไกลมากๆ ให้สุ่มรอจังหวะในที่กำบังแล้วใช้ช็อตกันยิงจัดการมันในระยะใกล้จะรวดเร็วและปลอดภัยที่สุด จัดการศัตรูให้หมด เก็บของสะสมต่างๆในฉากให้หมด แล้วเข้าไปสำรวจที่ร่างของ Anya ที่นอนสลบอยู่ใต้รถเพื่อพาเธอหนีออกจากพื้นที่ได้เลย



B.J อุ้ม Anya ขึ้นรถแล้วขับอกจากพื้นที่ทันที ในระหว่างที่ Anya ยังนอนไม่ได้สติ B.J ที่ยังไม่เต็มร้อยก็เผลอหลบไปในขณะขับรถจนเจอด่านของพวกนาซีโดยไม่ทันตั้งตัว นายทหารนาซีโดดขึ้นไปบนรถเพื่อจะสังหารคนบนรถทันที Anya รู้สึกตัวขึ้นเธอก็ต้องรีบบังคับรถทันที ขณะที่ B.J พยายามต่อสู้กับนายทหารนาซีที่เกาะขึ้นมาบนรถ สัญชาติญาณของB.J ถูกปลุกขึ้นอีกครั้งพร้อมกับมีดพกที่ถูกชักขึ้นมาเพื่อเสียบคอทหารนาซีจนตายคารถ แต่การฆ่าทหารนาซีซึ่งเป็นสิ่งเดียวที่ B.J ถนัด มันเกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า อีกครั้งและอีกครั้ง แต่มันก็ทำให้ความทรงจำของเขากลับคืนมา ...B.J แนะนำตัวกับ Anya ที่กำลังมึนงงต่อเหตุการ์ณว่าจริงๆแล้วตัวเขาคือ  William Joseph Blazkowicz  หน่วยรบพิเศษ สหรัฐอเมริกา แต่นางพยาบาลทหารอย่าง Anya กลับไม่ได้รู้สึกตกใจอะไรมากไปกว่า จะไปไหนกันต่อ.. B.J นิ่งเงียบพร้อมเตรียมอาวุธเท่าที่มีในมือ ก่อนจะบอกกับ Anya ไปว่า ที่ไหนก็ได้ ไปที่ไหนก็สุดแล้วแต่ได้เลย ...



Anya ตัดสินใจขับรถพา B.J มาที่บ้านของเธอก่อน โดยมีปู่และย่าของเธอรออยู่ ก่อนจดรถ B.J สังเกตเห็นนายทหารของนาซีหน่วย SS ที่ถูกจับอยู่ในรถติดมาด้วยเขาจึงจับตัวลงมาซ้อมก่อนที่จะส่งตัวให้ปู่ Roman และย่า Olenka รุมด่าให้สะใจ



ในมือค่ำ Anya บอกกับ B.J ว่าเขาถูกส่งมาเข้าที่โรงพยาบาลด้วยอาการสมองกระทบกระเทือนและความทรงจำเสียหายไปบางส่วนและอยู่ที่โรงพยาบาลมานานถึง 14 ปีแล้ว และทันทีที่ B.J รู้ว่า ค.ศ ที่เขาอยู่ตอนนี้คือ 1960 ก็ถึงกับตกใจ B.J รีบถามข่าวของกองทัพสหรัฐทันที แต่ข่าวร้ายที่เขาไม่เคยรู้ก็ถูกเปิดเผยจากครอบครัวของ Anya ว่า ไม่มีกองทัพอเมริกา ไม่มีผู้อพยพ มีแต่ผู้ชนะคือพวกนาซี และ อเมริกายอมแพ้เพราะโดนระเบิดปรมาณูไปเมื่อ 12 ปีก่อนแล้ว ฝ่ายพันธมิตรทุกคนถูกจับเมือ B.J รับรู้ความจริงที่เขาพลาดมาถึง 14 ปีก็ถึงกับเงียบไปทันที ....



ความสบสนที่สุดขัดใจผลักดันให้ B.J ลุกจากโต๊ะอาหารลงไปที่ห้องใต้ดินเพื่อคุยกับนายทหารนาซีที่เขาจับตัวมาได้ ทันทีที่ Keller  เห็น B.J เข้ามาก็ได้แต่พ่นโอ้อวดทั้งชื่อและระดับยศในหน่วย SS ของมันในกองทัพนาซีเพื่อหวังขู่ให้กลัว แต่หารู้ไม่ว่าจะทำให้มันตายเร็วขึ้นมากกว่าเดิม B.J ที่เข้ามากับความเงียบกำลังหาอุปกรณ์ต่างๆที่เหมาะจะทำให้นาซีที่เขาจะคุยด้วยยอมปลิปากจนสุดท้ายก็พบเลื่อนยนต์ที่เหมาะมือ คำถามเดียวที่เขาต้องการรู้คำตอบจากปากนาซีผู้โชคร้าย ก็คือ "ทหารสหรัฐที่ถูกจับตัวทั้งหมดอยู่ที่ไหน ? ครั้งแรกเมื่อจบคำถาม นายทหารนาซีตาเดียวก็ยังปฎิเสธก่อนที่เลื่อนยนต์จะบั่นใกล้ถึงคอมัน สุดท้ายมันก็ยอมคายบอกชื่อสถานที่ออกมา สถานกักกัน Eisenwald Prison ที่เบอร์ลิน  



ปู่ของ Anya มอบชุดเก๋าของเขาให้กับ B.J เพื่อให้เดินทางไปยังเบอร์ลินพร้อมกับ Anya ด้วยก่อนที่จะขู่ทิ้งท้ายว่าถ้าทำหลานสาวของเขาบาดเจ็บจะได้เจ็บตัวเป็นสองเท่าแน่นอน ก่อนที่ทุกคนจะอาสาพา B.J ไปส่งให้ไกลที่สุดสู่โลกใหม่ที่เขาอาจไม่คุ้นเคย

Chapter 3 : A New World
ก่อนที่ทุกคนจะใช้แผนให้ B.J และ Anya แอบอยู่ในท้ายรถกะบะจนถึง East Section ที่เป็นด่านของพวกนาซี ก็ถูกทหารยามตรวจค้นจนพบแต่มันก็หัวกระเด็นด้วยช็อตกันคุณปู่ไปเสียก่อน หน้าที่ต่อไปเป็นของB.J ที่จะฆ่าพวกนาซีให้หมดค่ายเพื่อให้ทุกคนผ่านไปต่อได้
- ลอบหรือลุยเข้าไปจัดการทหารนาซีในด่านให้หมด แล้วกลับมาที่รถของปู่แล้วทุกคนจะเดินทางผ่านเข้าไปจนถึงทางข้ามสะพานที่เต็มไปด้วยทหารนาซีมากมาย รถของปู่ถูกกระหน่ำยิงจน B.J ต้องหนีลงมาด้านล่าง
- ลุยจัดการทหารนาซีชั้นล่างให้หมดแล้วต่อสายไฟลิฟต์ขึ้นชั้นบนของสะพาน ลอบเข้าไปจนถึงห้องควบคุมด้านใน จัดการทหารนาซีให้หมดแล้วปีนขึ้นสับคันโยกชั้นบนของห้องเพื่อเปิดทางออกของสะพานด้านนอก แล้วลุยกลับออกมาที่รถของทุกคนเพื่อผ่านเข้าไปอีกด้านของสะพานก็จะพบด่าน
West Section (ซึ่งดูเหมือนจะไม่รู้เลยว่าเกิดอะไรขึ้นข้างๆ) ที่นี่นั้นดูเหมือนจะเงียบแต่ทหารนาซีมีไม่น้อยเลย พยายามลอบฆ่าแบบเงียบๆไปจนสุดความสามารถก่อนแล้วค่อยยิงถล่มกับมัน จัดการเคลียให้หมดแล้วกลับมาที่รถของปู่เพื่อออกเดินทางหนีจากทีนี่ แต่พวกนาซีก็ส่งอาวุธหนักตามมาทันที Boss Guard Robot 2 ตัวที่ออกมาโจมตีพร้อมๆกัน จัดการมันให้ได้ ชั้นบนของด่านมีปืนกลหนักให้หยิบใช้ด้วยแต่ก็อย่าประมาทเพราะมันค่อนข้างอึดมากๆเพราะฉะนั้นอย่าบวกและอย่าเสียดายระเบิด เมื่อจัดการมันลงได้แล้ว กลับไปที่รถ ปู่และย่าก็จะพา B.J และ Anya ซ่อนตัวลอบเข้าไปขึ้นรถไฟเดินทางต่อไปยังเป้าหมายคือประเทศเยอรมันได้สำเร็จ

ภายในขบวนรถยามค่ำคืนที่กำลังมุ่งสู่เยอรมัน B.J ยังต้องพยายามระวังตัวเป็นพิเศษเพราะทุกตารางนิ้วของขบวนนั้นเต็มไปด้วยพวกนาซี จนขณะที่เขากำลังเข้ามาที่ตู้เสบียงเพื่อเอากาแฟไปกินกับ Anya ที่ตู้นอน แต่ก็บังเอิญพบกับนายทหารหญิง Frau Engel และ Bubi ทหารคนสนิทของเธอ แถมยังโชคร้ายกว่านั้นเมื่อมันดันชอบใจในโครงร่างของ B.Jจนถูกเรียกมานั่งทดสอบกับมัน ก่อนที่ Frau จะเริ่มให้ B.J ดูและเลือกรูปภาพต่างๆของมัน



- ถ้าไม่อยากยิงกันจนหูดับตับไหม้ก็เลือกๆไปตามความพอใจไปเถอะเพราะสุดท้ายก็เป็นเรื่องตลกของทหารนาซีโรคจิตเท่านั้นก่อนที่มันจะปล่อยตัว B.J ไป 



กาแฟ 2 แก้วถึงห้องนอนของ
Anya โดยไม่เสียเลือดเนื้อ จากกาแฟ 2 ถ้วยที่เต็มเปี่ยมไปด้วยคาเฟอีนที่ทำให้ทั้งคู่ผ่อนคลายจนสุดท้ายก็ลงเอยที่ บนเตียง บางวันแย่ บางวันร้าย บางวันโศกเศร้า บางวันสูญเสีย แต่วันนี้คงเป็นวันดีที่สุดของ B.J ในรอบ 14 ปี แน่นอน ...

Chapter 4 : Eisenwald Prison
ความหวานชื่นผ่านเลยไปไม่รู้กี่ยก จนทั้งคู่ตื่นขึ้นที่โรงแรม Gleichmut Hotel ในกรุงเบอร์ลิน Anya ที่เพิ่งตื่นนอนในสภาพเปล่าเปลือยก็รีบย้ำเตือน B.J ถึงภาระกิจที่เขาต้องทำต่อจากนี้ ก่อนที่พวกนาซีจะเริ่มตรวจค้นพื้นที่ประจำวันของมัน เมื่อออกนอกโรงแรม Anya จะชี้ให้ B.J ลอบขึ้นไปบนรถขนส่งที่จอดอยู่หน้าตึกบัญชาการ์ณตำรวจลับเพื่อไปที่คุกต่อ ก่อนที่เธอจะส่งจูบแห่งโชคให้แล้วแยกตัวออกไป ปล่อยให้ B.J ยืนทำใจกับบ้านเมืองที่เปลี่ยนไปอย่างเต็มๆตา
- ลอบจากบนหลังคาโรงแรมเข้ามาที่ตึกข้างๆเข้าไปจนถึงห้องเก็บเครื่องมือด้านในเก็บปืน Laser Cutter มาใช้ จากนั้นขึ้นไปชั้นบนแล้วใช้ Laser ยิงตัดไปที่ลูกกรงที่กั้นห้องอยู่เข้าไปอีกฝากได้ (Laser Cutter นั้นต้องใช้แบตเตอร์รี่เป็นพลังงานซึ่งสามารถเก็บเอาตามทางหรือใช้ชาร์จไฟกับที่ชาร์จที่พนังในบางจุดของพื้นที่ก็ได้)ผ่านเข้าไปจะพบหน้าต่างที่สามารถเปิดออกไปที่หลังคาด้านนอกก็จะสามารถโดดข้ามไปเข้าในตึกส่วนขนย้ายนักโทษได้
- ลอบเข้ามาที่ส่วน
Prison Transport Section จนถึงห้องด้านในจัดการนายทหารในห้องแล้วเปิดหน้าต่างออกมาด้านนอกจะมองเห็นทางเดินลำเลียงนักโทษ เดินไปตามท่อน้ำตามระเบียงตามพวกนักโทษที่เดินอยู่ด้านล่างจนถึงรถขนนักโทษก็จะสามารถโดดขึ้นบนหลังคารถได้ ระหว่างทาง B.J ก็ต้องทนเห็นสภาพบ้านเมืองที่กลายเป็นของพวกนาซีไปจนหมดสิ้น อิฐหินดินปูนทุกก้อนที่เสริมสร้างจนเป็นบ้านเมืองที่สุดหรูหราและแข็งแกร่งของพวกมันทำเอา B.J แทบจะทำความอึดอัดไม่ไหว จนรถขนนักโทษเดินทางมาถึงคุก B.J ก็ต้องทำเห็นสภาพนักโทษของพวกนาซีที่โดนทารุณมากมาย เขาให้สัญญากับตัวเองว่ายังไงก็ต้องช่วยเพื่อนๆของเขาออกมาให้ได้
- ที่คุก Eisenwald Prison ลอบออกจากรถขึ้นไปที่ตัวตึกจนถึงดาดฟ้าจัดการทหารยามที่อยู่บนนั้นแล้วใช้ Laser Cutter ตัดโซ่ที่คล้องประตูผ่านเข้าไปด้านในต่อ ลงไปต่อจนถึงทางเดินระหว่างตึกใช้ Laser Cutter ตัดลูกกรงที่ตึกอีกฝั่งเข้าไป ลอบเข้าไปที่ด้านบนของตึกอีกฝั่งเพื่อมุดเข้าช่องระบายอากาศเข้าด้านในตึกต่อ แต่ทันทีที่โผล่เข้ามาก็จะพบเจ้า หมาไซบอร์ก Panzerhund ออกมาไล่งับทันที รีบวิ่งสไลด์ลอดใต้ท่อลงไปที่ช่องด้านล่างแล้วใช้ Laser Cutter ตัดโซ่ให้ทางเปิดลงไปด้านล่างตามทางใต้พื้นขึ้นไปถึงห้องน้ำ ลอบเข้าไปต่อจนถึงห้องพักทหารสำรวจเก็บกุญแจที่กล่องที่พนังแล้วเอาไปไขเปิดประตูที่สุดทางเดินเข้าไปในห้อง Cool Loader Room
-  ส่วนนี้จะมีทางลงชั้นล่างหลายทางที่สามารถลอบลงไปจัดการทหารที่เดินไปมาเพื่อความชัวร์ เป้าหมายคือเข้าไปที่ประตูที่อยู่อีกฝั่งของทางเดินด้านบนแล้วใช้ Laser Cutter ตัดโซ่เข้าไปต่อ รีบวิ่งไปตามทางเดินด้านในเพราะเจ้า Panzerhund ที่อยู่บนพื้นด้านล่างมันจะกระโดดงับเอา ที่สุดทางใช้ Laser Cutter ตัดโซ่เปิดช่องทางข้างๆออกก็จะเข้าไปที่ Cell Block B ได้ ส่วนในจะเป็นส่วน Zellenblock B -2 ที่กักขังเชลยศึกอเมริกัน เข้าไปสังหารทหาร 2 คนที่หน้าลิฟต์กลางห้องแล้วขึ้นลิฟต์ไปชั้นบนต่อจนถึงห้องคุมขังพิเศษด้านบนเปิดเข้าไปฆ่าทหารยามที่เฝ้าอยู่ด้านในแล้วจะพบเชลยศึกถูกล่ามโซ่เอาไว้ 5 คน ใช้ Laser Cutter ตัดโซ่ช่วยพวกเขาออกมาให้หมด



หนึ่งในเชลยศึกคือ
Fergus Reid สหายร่วมรบที่เคยร่วมภาระกิจไล่ล่า Deathshead กันมา Fergus ที่ไม่ได้เจอกัปตัน Blazkowicz ของเขาถึง 10 กว่าปีก็ต้องดีใจอย่างสุดชีวิตที่ไอ้ตัวแสบที่ชอบไล่ฆ่านาซีเพื่อนเขายังมีชีวิตอยู่ หลังจากที่กำลังดีใจกันได้ไม่นาน ทหารนาซีอีกกลุ่มก็เริ่มบุกเข้ามา Fergus สั่งให้พวกเพื่อนๆเขารีบหาสิ่งของมากั้นประตูห้องแต่ก็ต้องโดนปืนที่ยิงทะลุตายไปอีกหลายคน เลือดเพื่อนฟ้องที่กระเด็นเปื้อนหน้าของ B.J และความเก็บกดของ Fergus ทำให้รู้ได้ไม่ยากว่าทหารนาซีที่อยู่อีกฝั่งประตูต้องตายในไม่กี่อึดใจแน่นอน

- ระหว่างที่ทุกคนกำลังช่วยกันกั้นประตูต้านพวกนาซี ใช้ Laser Cuter ตัดโซ่ตรงด้านบนประตูเพื่อเปิดช่องระบายอากาศปีนขึ้นไปที่ช่องระบายอากาศจนมาทะลุที่ห้องควบคุมด้านใน สังหารผู้คุมแล้วเก็บปืน Automatic Shotgun มาใข้แล้วเปิดประตูออกไปยิงตลบหลังกลุ่มทหารนาซีที่อยู่หน้าประตูคุกให้หมด สุดท้ายในห้องเชลยก็ตายเกลื่อนเหลือแต่ Fergus ที่ยังใช้ไหวพริบรอดมาได้เช่นเคย เข้ามาในห้องควบคุมกดสวิตซ์ด้านในพร้อมๆกับ Fergus เพื่อปล่อยเชลยศึกทั้งหมด พร้อมๆกับทหารนาซีที่บุกเข้ามา ลุยฆ่าพวกมันให้หมดท่ามกลางการโห่ร้องดีใจของเชลยศึกที่เป็นอิสระ(แต่มันก็ไม่หยิบปืนมาช่วยสู้น๊ะ) ลุยลงมาจนถึงทางลงที่ชั้นล่างจะพบความเสียหายจนเกิดไฟรั่วที่พื้น ปิดคันโยกที่แผงควบคุมตรงบันไดแล้วรีบวิ่งตาม Fergus ที่ไปหาคีมถ่างประตูมาแล้วเขาจะจัดการเปิดประตูออกไปด้านนอกตามทาง จัดการทหารเกราะหนักที่บุกเข้ามาให้หมดเพื่อคุ้มครองเขา พยายามห่วงตัวเองเอาไว้เพราะ Pergus มันไม่ตาย ลุยตาม Fergus ออกมาจนถึงด้านนอกคุกแล้วขับรถลุยหนีออกจากที่ตึกออกมาที่ถนนจนรถคว่ำ ความซวยมาเยือนเมื่อรถถังของนาซีกำลังตามมายิงถล่มอีกระลอก รีบใช้ Laser Cutter ตัดโซ่ที่ท่อระบายน้ำเพื่อหนีลงมาในท่อด้านล่าง เมื่อเข้าไปจนถึงปลายทางท่อก็จะพบ Anya เปิดฝาท่อยืนมือเข้ามาช่วยทั้งคู่เอาไว้

Chapter 5: A New Home
B.J , Pergus และ Anya หนีรอดจากสถานการณ์สุดเลวร้ายมาได้ หลังจากตั้งสติกันได้แล้ว Fergus จะนำทางทุกคนไปหากลุ่มเพื่อนขอเขา ซึ่งต้องดำน้ำพุกลางเมืองเบอร์ลินลงไป ด้านล่างจะเป็นทางลับเข้าไปสู่ถิ่นที่ Fergus เรียกว่า Kreisau HQ ด้านหน้าจะได้พบกับเพื่อนเก่าร่างยักษ์ Max Hass และ Klaus ที่ออกตามมาทุกคนต่างดีใจที่ได้เจอ Pergus อีกครั้ง แต่ดูเหมือน B.J จะไม่สบอารมณ์เมื่อเห็นรอยสักรูปสวัสดิกะที่แขนของชายที่ชื่อ Klaus จึงโดดเข้าไปหวังจะอัดนาซีให้น่วมตามสัญชาติญาณ แต่โชคดีที่ Fergus มันห้ามเอาไว้ได้ทัน ก่อนที่เขาจะอธิบายว่าทุกคนที่อยู่ที่นี่คือ กลุ่มต่อต้านนาซีลับที่เป็นการรวมตัวกันของกลุ่มคนที่เกลียดชังพวกนาซีเป้าหมายของกลุ่มก็แน่ชัดคือ ล้มล้างระบอบการปกครองของพวกนาซี ในนามของ Kreisau Circle

******************************************************************************

               


                 Kreisau Circle:: ศักดินาผู้เฝ้ารอการล่มสลายแห่งอาณาจักรไรช์ที่ 3

 ในช่วงระยะเวลาแห่งการเถลิงอำนาจของพรรคนาซี ภายใต้การนำของท่านผู้นำ Adolf Hitler นั้น แน่นอนว่ากลุ่มอำนาจเก่าที่เคยทรงอิทธิพลในประเทศเยอรมนีย่อมถูกลดชั้นความสำคัญ และนั่นสร้างความไม่พอใจให้กับกลุ่มคนเหล่านั้นเป็นอย่างมาก อันเป็นที่มาของ กลุ่ม Kreisau Circle’ อันเป็นชื่อที่ตำรวจลับเกสตาโปใช้เรียกเหล่าศักดินาที่ถูกหมายหัวว่ามีความเสี่ยงและเป็นภัยต่อความมั่นคงของรัฐ ที่มาชุมนุมวางแผนในการล้มล้าง Hitler  โดยมีสมาชิกหลักตัวตั้งตัวตีอยู่ 3 คน อันประกอบไปด้วย Helmuth James von Molke, Peter Graf Yorck von Wartenberg และ Adam von trot zu Solz ส่วนสมาชิกคนอื่นๆ นั้นก็มาจากกลุ่มสาขาวิชาชีพ ความเชื่อ ปูมหลัง และชาติกำเนิดที่หลากหลายแตกต่างกันออกไป ตั้งแต่นักการเมือง นักบวช นักการฑูต ไปจนถึงผู้นำสหภาพแรงงาน โดยเป้าประสงค์หลักๆ ของกลุ่มนี้คือจัดการกับสภาพสังคมที่กำลังระส่ำระสาย และหาหนทางในการปกครองที่มีเสถียรภาพ ปราศจากการครอบงำคนหมู่มากดังที่ Hitler ได้กระทำลงไป

 เนื่องด้วยพรรคนาซีเล็งเห็นว่ากลุ่ม Kreisau Circle นั้นเป็นภัยต่อความมั่นคง ซ้ำทางด้านสัมพันธมิตรเองก็เล็งเห็นถึงช่องทางที่จะใช้ประโยชน์ของกลุ่มในฐานะสายติดต่อภายใน ทำให้มีการกวาดล้างกันอย่างจริงจังในตลอดช่วงระยะเวลาแห่งสงคราม แต่ถ้าดูจากเป้าประสงค์ของกลุ่มจริงๆ จะพบว่า พวกเขาไม่ได้มีความต้องการที่จะกำจัดใครออกไปอย่างถาวร หวังเพียงแค่การประนีประนอมและหาหนทางที่ถูกต้อง เท่านั้น วีรกรรมสำคัญของกลุ่ม Kreisau Circle นั้นเกิดขึ้นในวันที่ 20 กรกฏาคม 1944 ภายหลังการจับกุม Helmuth James และหนึ่งปีก่อนการสิ้นสุดสงคราม ในแผนการก่อวินาศกรรมลอบสังหาร Adolf Hitler แต่ประสบความล้มเหลว อันนำไปสู่การล่มสลายของกลุ่มในเวลาต่อมา

  สำหรับความเกี่ยวพันของกลุ่ม Kreisau Circle กับซีรีส์ Wolfenstein นั้น แตกต่างออกไปจากประวัติศาสตร์ที่มีอยู่จริง โดยในเกม พวกเขาจะเป็นกลุ่มติดอาวุธต่อต้านนาซีที่ให้การสนับสนุน BJ อย่างลับๆ มาตั้งแต่ภาค Return to Castle Wolfenstein และเข้ามาเกี่ยวข้องอย่างเต็มตัวในภาค New Order นี้ด้วย

เครดิตข้อมูลจาก http://www.online-station.net/entertainment/story/36

****************************************************************************




 โดยมี Caroline Becker เป็นผู้นำและผู้ก่อตั้งกลุ่ม ก่อนที่ Caroline จะแสดงตัวออกมาพร้อมรถเข็นคู่กาย
B.J จำเธอได้ดีตั้งแต่อดีต ครู Becker ที่สูญเสียพ่อจากฝีมือนาซีชั่วที่เคยช่วยเหลือกันอย่างลับๆในภาระกิจบุกรังนาซีเมื่อในอดีต แต่ B.J ไม่คิดว่าเพียงในเวลาไม่กี่ปีหน่วยงานของเธอจะแทรกซึมเข้ามาสร้างฐานลับกันถึงกลางกรุงเบอร์ลินที่เป็นฐานหลักของนาซีแบบนี้ได้ และที่สำคัญที่สุดทั้งคู่ต่างก็ดีใจที่อีกฝ่ายยังรอดมาจนถึงวันนี้กันได้มากกว่า ก่อนที่เธอจะบอกถึงสิ่งที่พวกของเธอได้ข้อมูลมาก็คือ แฟ้มลับ ที่ชื่อ Project Whisper ซึ่งเธอจะขอให้ B.J ไปนำมันมาให้เธอโดยต้องไปลองถามกับ Klaus ดูเพราะ Max เพื่อนของเขาได้มันมาก่อนที่จะสติฟั่นเฟือนไปจากการทดลองจึงทำให้ทุกคนหาแฟ้มไม่เจอ
- สำรวจห้องต่างๆให้ทั่วๆก็จะพบลูกทีมที่อยู่ที่นี่อีก 2 คนคือ
Tekla และ Bobby Bram ที่ต่างก็ไม่ค่อยจะเต็มพอๆกับทุกคนที่นี่ จากนั้นเดินขึ้นไปคุยกับ Klaus บนห้องจะพบเขาอยู่กับ Max B.J นั้นไม่ค่อยเชื่อใจในตัวของ Klaus มากนักเพราะความที่เขาเป็นคนเยอรมันแถมยังเคยเป็นพวกนาซีมาก่อนอีก เมื่อ B.J ถามถึงแฟ้มลับทื่ชื่อ Project Whisper กับเขาแต่จู่ Max ซึ่งฟังภาษาอังกฤษแทบไม่ออกกลับรู้สึกหวาดกลัวขึ้นมาทันทีเมื่อได้ยินคำว่า Project Whisper Klaus บอกว่า Max เคยถูกจับไม่ทดลองมาแล้วจึงยังจำฝังใจอยู่กับคำๆนี้ก่อนที่เขาจะบอกที่อยู่ของแฟ้มให้ B.J ซึ่งเขาบอกแค่ว่ามันซ่อนอยู่ในชั้นล่าง แต่ไม่รู้ว่า Max ซ่อนเอาไว้ที่ไหนเหมือนกัน 



จากนั้นเดินเข้ามาที่ห้องของ Max (ห้องที่มีของเล่นเยอะๆนั่นแหละ) มองหาเศษไม้ที่แปะอยู่บนพนัง งัดมันออกก็จะพบแฟ้มลับที่ซ่อนอยู่ แล้วนำมันกลับมาให้ Caroline 







Caroline จะเรียกทุกคนเข้าประชุมก่อนที่จะสาธยายถึงเจ้า Project Whisper ที่ว่าซึ่งก็คือแบบแปลนที่ใช้สร้าง เฮลิคอปเตอร์ แอร์คราฟที่ออกแบบมาให้โจมตีแบบซุ่มเงียบที่สามารถหลบเลี่ยงเรดาห์ได้อย่างมืประสิทธิ์ภาพสูงสุด โดยพวกนาซีมีแผนที่จะสร้างตัวต้นแบบขึ้นมา 3 ลำที่ซ่อนอยู่ที่โรงงาน London Nautica Research Facility รอบๆกรุงลอนดอน เป้ามหายของกลุ่มก็คือ ทำลายแบบแปลนเครื่องต้นแบบทั้งหมด ซึ่ง Caroline จะมอบหมายให้ B.J นำทีมในการปฏิบัติการ์ณในครั้งนี้แบบเต็มรูปแบบและก็ยังแอบหวังเอาไว้ว่า B.J คงจะไม่สนิมขึ้นหลังจากที่ถูกดองเป็นผักมาถึง 10 กว่าปี

Chapter 6 : London Nautica

 กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ... Bobby Bram จะรับหน้าที่พา B.J ขับรถเข้ามาชี้เป้าในฐานะคนในพื้นที่ เมื่อเข้ามาจนส่วถึงหน้าทางเข้าโรงงาน London Nautica แล้ว Bobby ก็ปฎิบัติการ์ณครั้งสุดท้ายด้วยจิตใจที่คลั่งแค้นด้วยการเป็นคาร์บอมบ์ขับรถพุ่งเข้าไประเบิดที่ด่านของทหารหน้าโรงงานเพื่อเบนความสนใจให้ B.J ลอบเข้าไปอีกด้านนึงได้
- เข้าไปตามทางถนนที่ถูกทำลายจนย่อยยับจนถึงตางข่ายกันทาง ใช้ Laser Cutter ตัดมันผ่านเข้าไประหว่างทางต้องเจอการไล่ล่าของ Panzerhund และ Guard Robot ที่ออกมาขัดขวางจัดการมันซะแล้วเข้าไปจนถึงซากตึก London Nauticaที่ห้องโถงทหารนาซีพร้อม Guard Robot อีกกลุ่มก็ออกมาต่อต้าน ที่ปลอดภัยที่สุดคือหาที่กำบังเหมาะๆบนชั้น 2และอย่ายืนเป็นเป้านิ่งเพราะศัตรูจะสามารถขึ้นมาถึงตัวได้จากทุกทิศทาง จัดการพวกมันให้หมดแล้วแวะลงไปที่ซอกด้านในของชั้นล่างเพื่อเก็บปืน Marksman Rifle มาใช้ แล้วเก็บไอเทมต่างๆในห้องโถงให้หมด (ที่ห้องครัวชั้นบนมีทางขึ้นช่องระบายอากาศให้เก็บของด้วย)
- จากนั้นมันสับคันโยกประตูทาวเข้าด้านในที่โถงชั้นล่างเข้าไปในห้อง Moon Dome จัดการศัตรูในห้องให้หมด ส่วนใหญ่จะซุ่มยิงจากชั้นบนและฝูงโดรนที่เข้ามาก่อกวน จัดการให้หมดแล้วขึ้นไปจนถึงห้องควบคุมชั้นบนสุด สับคัยโยกเปิดประตูทางเข้าปีกทางเดินด้านในออก แต่จะมีดาวเทียมจำลองที่แขวนกั้นทางเข้าอยู่ ใช้ Laser Cutter ตัดโซ่ที่แขวนดาวเทียมจะเข้าไปด้านในปีนทางเดินด้านในได้
- ลุยเข้าไปตามทางเดินด้านในจนสุดทางแล้วใช้ Laser Cutter ตัดโซ่ที่กั้นแผ่นไม้ที่พนังทางซ้ายมุดเข้าไปตามช่องระบายอากาศจนถึงช่องลิฟต์ โดดต่อไปตามลิฟต์เพื่อไปปีนเชือกขึ้นไปตามกำแพงไปด้านบนที่เต็มไปด้วยฝูง Drone ที่เข้ามาก่อกวนจนถึงช่องด้านบน มุดเข้าไปในช่องลิฟต์ด้านใน ยิงตัวเกาะลิฟต์ทั้ง 4 ด้านให้พังแล้วมันจะยกตัว B.J ขึ้นไปชั้นบนต่อแล้วมุดเข้าไปตามช่องระบายอากาศจนถึงห้องทำงานด้านใน B.J จะประสานงานกับ Anya จนสามารถได้ข้อมูลรหัสลับที่อยู่ในห้องมา (Da'at Yichud




จากนั้นปีนบันไดในห้องขึ้นไปด้านบนแล้วเดินเข้าไปด้านบนของกล่องใสกลางห้อง ใช้ Laser Cutter ตัดโซ่ด้านบนกล่องแล้วลงมากดสวิตซ์ที่แท่นควบคุมจะทำให้ปืนเลเซอร์ขนาดใหญ่ในกล่องยิงทะลุจนเป็นรูขนาดใหญ่ทะลุออกมา เดินเข้าไปเก็บปืน Laserkraftwerk ขนาดใหญ่ด้านในมาใช้แทน Laser Cutter อันเดิมได้เลย



- จากนั้นนำมันมายิงแผ่นเหล็กที่ปิดช่องระบายอากาศในห้องออกเพื่อมุดเข้าไปด้านในจนถึงช่องลิฟต์ด้านใน ใช้ Laser Cutter ยิงตัวยึดลิฟต์ทั้ง 4 มุมเพื่อให้ลิฟต์ตกลงไปชั้นล่างแล้วปีนบันไดในช่องลิฟต์ขึ้นไปที่ลิฟต์ตัวบนต่อ ใช้ Laser Cutter ตัดตัวยึดลิฟต์ตัวบนให้ลิฟต์ตัวบนตกลงไปด้านล่างก็จะเห็นแผ่นเหล็กที่สามารถใช้ Laser Cutter ตัดทะลุเข้าไปด้านในจะพบช่องทางที่สามารถมุดเข้ามาที่โรงเก็บเครื่องบินได้
- ในโรงเก็บจะพบเครื่องต้นแบบของเฮลิคอปเตอร์ใน
Project Whisper อยู่ในนี้แต่ด้านในจะเต็มไปด้วยการอารักขาจากทหารนาซีมากมาย พยายามลอบฆ่าแบบเงียบๆให้มากที่สุดจนสุดท้ายก็ค่อยลงไปลุยกับ Guard Robot ด้านล่างและกองทหารที่เหลือที่ตามออกมา เมื่อจัดการศัตรูจนหมดแล้วหุ่นขนาดใหญ่ก็จะตามออกมา 



Boss - Heavy Robot
การโจมตีจะเหมือนกับ Guard Robot นั่นแหละเพียงแต่มันอึดกว่ามาก ในห้องมีอาวุธและกระสุนเหลือเฟือ สามารถใช้ปืนกลที่ติดอยู่ที่เฮลิคอปเตอร์โจมตีมันได้ด้วยแต่ไม่แน่นำเพราะจะทำให้กลายเป็นเป้านิ่งได้ เมื่อจัดการมันได้แล้ว ปีนบันไดตรงลิฟต์ที่หุ่นถูกส่งลงมาขึ้นไปใช้ Laser Cutter ตัดช่องระบายอากาศเข้าไปด้านในจะขึ้นมาที่ทางเดินชั้นบนได้ เข้าห้องควบคุมด้านในกดสวิตซ์เปิดหลังคาโรงจอดเครื่องบินแล้ว Caroline และพวกจะใช้เครื่องร่อนบินเข้ามาทันที




- ลงไปที่จุดที่ Caroline อยู่แล้วอุ้มเธอขึ้นไปที่เฮลิคอปเตอร์ ในขณะที่ทีมที่เหลือก็ขโมยเฮลิคอปเตอร์อีก 2 ลำหนีไปตามแผน ระหว่างเตรียมการขึ้นบิน B.J อดถามไม่ได้ว่าที่ผ่านมา Caroline รอดมาได้ยังไงเพราะเขาคิดมาตลอดว่าเธอตายไปแล้ว Caroline เล่าให้ฟังสั้นๆว่าหลังจากศึกกับ Hans Grosse แล้วเธอก็บาดเจ็บสาหัส มารู้สึกตัวอีกที่ก็ที่โรงพยาบาลใน Kreisau ก็เสียขาไปแล้ว B.J แสดงความเสียใจกับขาทั้ง 2 ข้างของเธอที่เสียไป แต่ Caroline ได้หัวเราะแล้วบอกว่า จะเสียใจไปทำไมกับการที่เดินไม่ได้ถ้ารู้จักเรียนรู้ที่จะบินให้เป็น ก่อนที่เธอจะขับเฮลิคอปเตอร์ต้นแบบของนาซีทั้ง 3 ลำกลับไปที่ฐานได้ตามแผนด้วยความสะใจ

Chapter 7 : A Mystery





หลังทุกคนกลับฐานสิ่งแรกที่ต้องทำคือหาคำตอบของรหัสลับ(Da'at Yichud ) ที่ได้มา สรุปการประชุม Anya วิเคราะห์ว่ามันน่าจะเป็นกลุ่มคนหรืออะไรบางอย่าง ซึ่ง Caroline ก็จะให้เธอสืบต่อโดยให้ B.J คอยช่วยเธออีกแรง Anya วิเคราะห์ให้ B.J ฟังต่อว่า เธอคิดว่าพวกนาซีกำลังวางแผนจะสร้างอะไรบางอย่างขึ้นมา ส่วนรหัสเธอคิดว่าน่าจะเป็นกลุ่มคนบางกลุ่ม เธอจึงขอให้ B.J ช่วยไปตรวจสอบและหาตัวอย่างมาให้เธอ และก่อนไปที่ลืมไม่ได้คือ จูบ แห่งกำลังใจที่เธอมอบให้ B.J

- คุยกับ Anya จบเดินลงไปที่ห้องเก็บเฮลิคอปเตอร์ตรงที่ Klaus คุยกับ Max สำรวจให้ทั่วจะมีกองเศษไม้อยู่ใกล้ๆจะทำให้ B.J ตกลงไปใต้ท่อระบายน้ำใต้ดิน จะพบว่าเคยเป็นฐานส่วนล่างที่ตอนนี้รกร้างไปแล้วเข้าไปด้านในจนถึงท่อน้ำ สุดทางด้านขวาเข้าไปเก็บกล่องอัพเกรดปืน Laserkraftwerk Reflection ก่อนแล้วค่อยเดินไปทางฝั่งซ้ายต่อจนพบประตูที่มีโซ่คล้องอยู่ ใช้ Laser ตัดเข้าไปด้านในจะเริ่มมีพวก Drone ออกมาโจมตี ลุยเข้าไปที่บันไดสุดทางเดินก็จะกลับมาที่ห้องเก็บเฮลิคอปเตอร์ในฐานได้อีกครั้ง
-
B.J จะทำการค้นหาตัวอย่างชิ้นส่วนจากกล่องสินค้าในเฮลิคอปเตอร์ เสียงของเลื่อนทำให้ Max ประสาทเสียจน Klaus ต้องพาหนีไปด้านใน แต่ B.J ก็ไม่ได้สนใจจน Caroline ที่รู้ดีว่า B.J นั้นเกลียดพวกนาซีเข้าใส้เข้ามาเล่าประวัติที่น่าเศร้าของ Klaus ให้ฟังว่าถึงแม้เขาจะเป็นเยอร์มันแต่ครอบครัวเขาก็ถูกนาซีฆ่าตายจนหมดเช่นกัน ถึงแม้เขาเองจะเคยเป็นพวกนาซีมาก่อนแต่เขาก็แค้นนาซีไม่ต่างจากทุกคน คุยจบเก็บตัวอย่างกลับไปให้ Anya
- คุยกับ
Anya แล้วเข้าไปหา Fergus ในห้องเพื่อเอากุญแจจากเขา ซึ่งตอนนี้ Fergus ดูเหมือรชนกำลังสติแตกเพราะพิษของสงครามแต่ B.J ก็ยุ่งเกินจะใส่ใจในตอนนี้ ได้ของแล้วกลับมาเข้าห้องประตูสีส้มทางขวาที่ Anya นั่งอยู่เข้าไปเก็บเอกสารบนโต๊ะมาแล้วนำแท่นคอนกรีตกับบันทึกไปให้ Anya วิเคราะห์ได้เลย
- จากผลวิเคราะห์
Anya จะรู้ว่าแท่นคอนกรีตนี้มันคือ Uber Concrete เป็นคอนกรีตที่คิดค้นขึ้นแบบพิเศษที่มีเฉพาะในจักรวรรดิแต่มันยังผสมได้ไม่สมบรูณ์ และโค๊ดเนม (Da'at Yichud ) ก็คือกลุ่มคนงานที่เคยสร้างมันเป็นกลุ่มแรกและตามรายชื่อคนที่ยังพอมีชีวิตอยู่ชื่อ Set Roth ซึ่งยังถูกใช้แรงงานอยู่ในแค้มป์คนงานที่โครเอเชีย Caroline ต้องการข้อมูลจากเขา และทางเดียวที่จะเข้าไปหาตัว Roth ที่ค่ายพักคนงานที่มีพวกนาซีคุ้มกันอย่างดีได้ก็ต้องปลอมตัวเป็นคนงานเข้าไป...พร้อมมั๊ย Blazkowicz ? Caroline เอ่ยถาม...



Chapter 8: Belica Camp





ค่ายพักคนงาน Belica Camp / Northern Croatia...B.J ปลอมตัวเป็นคนงานเพื่อเข้ามาที่ไซด์งานที่สุดโหดร้ายที่นี่เขายังได้พบนายทหารหญิง Frau Engel อีกครั้งซึ่งเธอก็ยังโหดไร้ที่ติดเช่นเดิม
 - B.J ถูกส่งเข้าไปตีตราติดรหัสและใช้ยูนิฟอร์มคนงานในเขต Black 6 ก่อนถูกส่งตัวเข้าไปทำงานที่เครื่องผสมซีเมนต์ทันที ที่นี่จะได้พบกับคนงานผิวดำคนนึงที่อยู่ที่นี่มาก่อน B.J เลยถามหาชายที่ชือ Set Roth ชายผิวดำบอกว่าเคยได้ยินชื่อ Roth ว่าอยู่รอดอยู่ที่นี่ได้นานที่สุด แต่เขาอยู่ Block 4 เขาจึงแนะนำให้ไปถามชายที่ชื่อ Milo ที่อยู่ Block 4 ดูเผื่อจะแลกเสื้อกันได้
- จากนั้นต้องเนียนทำงานไปก่อน เรียนรู้การใช้เครื่องผสมซีเมนต์โดยการสับคันโยกทางขวา 1 ครั้ง
/ หมุนแกนทางซ้าย 1 ครั้ง แล้วกดปุ่มตรงกลาง ทำไปเรื่อยๆจนกว่าเครื่องมันจะพังแล้วยามจะออกจากพื้นที่ รีบเข้าไปคุยกับ Milo ที่ยืนอยู่ที่เครื่องข้างๆ B.J จะบอกว่าเขารู้ที่ซ่อนของภรรยาเขาเพื่อขอแลกเสื้อนักโทษกัน ตอนนี้ B.J จะใส่เสื้อของเขต 4 ขณะที่ยามก็สั่งปิดโรงงานเพราะเครื่องผลิตเสียจึงเรียกนักโทษกลับเข้าตามเขตของตัวเอง ชายผิวดำกล่าวคำอวยพรให้ B.J โชคดีก่อนที่จะแนะนำตัวว่า Bombate



- B.J ได้เข้าไปยังโซนเขต 4 ของแค้มป์ Belica ได้สำเร็จ จากนั้นเดินเข้าไปในเขตห้องพักจะพบชายแก่คนนึงกำลังดูแลคนป่วยอยู่ B.J รู้ทันทีว่าเขาคืน Set Roth จึงแสดงตัวว่าจะเข้ามาช่วยเหลือ แต่ Roth คิดว่าเขาไม่ต้องการความช่วยเหลือ แต่คนที่ถูกจับอยู่ที่นี่ต่างหากที่ต้องการความช่วยเหลือ เขาจึงมีข้อแม้อย่างหนึ่งถ้าต้องการให้เขาไปด้วยก็คือ พาเขาไปเอางานวิจัยของเขาที่ซ่อนอยู่ที่นี่ ติดตรงที่ทันมีหุ่น Herr Foust  คอยดูแลที่นี่อยู่แต่เขาก็มีอุปกรณ์ที่เขาคิดค้นขึ้นมาที่จะสามารถควบคุมพวกหุ่นได้ด้วย แต่ยังขาดแบตเตอร์รี่ Detronic Battery และเขาต้องการให้ B.J ไปหามันมาให้เขา
- คุยกับ set จบเดินไปที่ตึกด้านซ้าย แวะคุยกับชายที่ยืนอยู่ใต้ต้นไม้ใกล้ตึกเพื่อรับเควสตามฆ่าผู้คุมจอมโหดฉายา The Knife จากนั้นเปิดเข้าไปที่ประตูทางขวาของตึกจะเข้ามาที่ห้องทิ้งศพ เข้าไปด้านในแล้ว B.J จะเสียท่าโดนผู้คุมจอมโหดจับตัวไว้ได้ก่อนที่จะโดนทารุณจนเอาร่างไปทิ้งรวมกับศพเชลยคนอื่น B.J ที่อาการล่อแล่ด้วย HP5 ก็ยังไม่ตายเขาตื่นขึ้นอีกครั้งในห้องเผาศพก่อนที่จะดึงมีดที่เสียบติดอยู่ที่พุงมาใช้เป็นอาวุธเฉพาะหน้า ฆ่าทหารยามตรงหน้าเตาเผา



 แล้วลอบเข้าไปด้านในหาตัวผู้คุมจอมโหดที่อยู่ในห้องด้านในฆ่ามันซะแล้วค่อยลอบเข้าไปต่อจนถึงห้องควบคุม กดสวิตซ์ปิดระบบรักษาความปลอดภัยที่แท่นควบคุมแล้วกลับไปหา Set ได้เลย
  - กลับไปคุยกับ Set ที่โซน 4 จะให้หาทางเข้าไปยังห้องควบคุมในโซน 6 เพื่อเข้าไปเอา Detronic Battery มาให้เขาอีก จากนั้นเข้าประตูทางซ้ายกลับเข้าไปในโรงงานอีกครั้งเข้าไปกดสวิตซ์เปิดประตูเข้าไปยังเขตคุมขังโซน 6 ต่อ (อย่างง่ายดายเนอะ) เข้าไปที่ตึกขวาบนของแผนที่ ต่อสายไฟเปิดประตูเข้าห้อเก็บของทางขวาจะมีบันไดปีนขึ้นไปชั้น 2 ของตึก เข้าไปด้านในลอบเข้าไปที่ชั้นใต้ดินเก็บแบตเตอร์รี่ที่ติดอยู่กับแผงควบคุม B.J จะถูกไปช็อตจนสลบไปจน  Engel และ Bubi เข้ามาตรวจพบก็จะจำได้ว่าเคยเจอกันที่บนรถไฟและมั่นใจว่า B.J เป็นสายลับอเมริกันที่ยังหลงเหลืออยู่ Engel จึงสั่งนำตัวไปประหารพร้อมเชลยที่ร่วมรู้เห็นในเขต 4 ทั้งหมดในทันที



-
B.J และ Set กับกลุ่มนักโทษในโซน 4 ส่วนหนึ่งกำลังจะถูกประหารด้วยการใช้หุ่น Herr Foust ยิงทิ้งทีละคน Set รีบถามหาแบตเตอร์รี่ที่เขาสั่งให้ไปหามาซึ่งก็โชคดีที่ B.J เก็บเอาไว้ได้ด้วย (ทั้งๆที่สลบอยู่)เขารีบส่งให้ Set ทันทีขณะที่ Engel ก็เตรียมสั่งให้เตรียมยิง ซักพักหุ่น Herr Foust ก็เข้าไปโจมตีพวกทหารก่อนที่จะหันมาจับ Engel ฉีกปากจนเลือดทะลัก แต่ Engel มันก็ยังพยายามคลานเข้ามาฝากรอยแค้นไว้กับ B.J ทั้งๆที่ปากฉีกว่า ไม่ว่า B.J จะหนีไปไหนก็จะตามล่าจนเจอและจะแก้แค้นอย่างสาสม ก่อนที่หุ่นจะมาคว้าตัวมันเหวี่ยงกระเด็นไปอัดกับต้นไม้ Set รีบสั่งให้ B.J ขึ้นไปบังคับหุ่น Herr Foust ลุยหนีออกไปที่หน้าทางออก




 เรียนรู้การบังคับหุ่นขับลุยทำลายศัตรูไปตามทางจนถึงหน้าทางออก ต้านศัตรูเอาไว้จนกว่า Set จะเข้าไปเตรียมรถที่จะใช้หนีเสร็จ จากนั้นลงจากหุ่นแล้วเข้าไปคุยกับ Set ที่รถเพื่อหนีออกจากที่นี่ ในขณะที่มีเชลยอีก 3 คนที่ B.J ตัดสินใจให้หนีมาด้วยกันคือ Bombate , Milo และ ภรรยาของเขาแต่ก็โชคร้ายที่เจอ Engel ที่โผล่มาจากหลุมทั้งที่ปากยังแหกอยู่ มันมาพร้อมความแค้นกับปืนคู่กระบอกโตก่อนจะยิงใส่รถของพวก Bombate แต่ก็รอดตายกันหมดคันแต่โชคดีที่ B.J และ Set ขับหนีไปอีกทางได้ทันพร้อมกับนักโทษเขต 4 อีกกลุ่มใหญ่






เมื่อกลับมาถึงฐาน Set Roth ในฐานะวิศวะกรที่เหลืออยู่ของ Da'at Yichud ก็อธิบายถึงความหมายของคำว่า Da'at yichud ว่ามันเป็นเสมือน เทคโนโลยีล้ำสมัยในยุคโบราณที่กลุ่มของเขาได้คิดค้นได้โดยบังเอิญ ก่อนที่จะถูกพวกนาซียึดครองไปและบังคับให้สร้างเทคโนโลยี่สุดไฮเทคให้พวกมันจนทำให้พวกมันชนะสงครามในที่สุด แต่ก็ใช้ว่าพวกเขาจะไม่ได้เตรียมการณ์ถึงสิ่งนี้เอาไว้ Da'at yichud ยังซ่อนไม้สุดท้ายเอาไว้เผื่อฉุกเฉินซึ่งพวกเราเรียกกันว่า " Safe - Keep " มันเป็นเทคโนโลยี่ขั้นสุดยอดที่พวกเราเก็บรักษาเอาไว้อย่างดีที่ใต้ทะเลลึกของ Atlantic และการจะไปนำมาได้ก็จำเป็นต้องใช้ U - Boat เรือดำน้ำลึกในการเดินทาง Caroline จะถามว่า แล้วเราจะสร้างมันได้ยังไง ? Set ตอบอย่างมั่นใจว่า ฉันเป็นวิศวะกรอัฉริยะแห่ง Da'at Yichud น๊ะ ให้หลับตาสร้างยังได้เลย ......

Chapter 9: New Tactics




ค่ำคืนหลังภาระกิจที่แสนเหนื่อยล้า ยังดีที่ B.J ยังมีอ้อมกอดอุ่นๆของ Anya ให้ได้พักใจ (เข้าไปที่เตียงในห้องพักแล้วนอนซะ)  แต่จะหลับลงได้ยังไงถ้ายัย Tekla มานั่งจ้องอย่างไม่มีมารยาท แล้วก็พร่ำบอกถึงการที่เธอนอนไม่หลับเพราะคำถามที่คาใจอยู่ในหัวตลอดเวลาว่า คนเราจะทำยังไงถ้าขาดซึ่งความตระหนักรู้ ก่อนที่สมองที่กึ่งที่จะเพี้ยนของเธอจะส่งให้พ่นคำพูดด้วยศัพท์ประหลาดๆที่เกี่ยวกับการสูญเสียซึ่งตัวตนในสังคมวปิริตที่ทำให้ผู้คนกำลังกลายเป็น เครื่องจักรที่มีชีวิต ก่อนที่เธอจะพร่ำยาวจน Anya แล้วเธอก็เดินจากไป ..



รุ่งเช้า
B.J เดินไปคุยกับ tekla อีกครั้งเธอก็ยังพุดด้วยคำพูดแปลกตลอดเวลา แต่ประโยคนึงที่เข้าถึงใจ B.J ก็คือ ในโลกแห่งกิเลสในตอนนี้ ไม่มีทางที่จะชนะศึกแน่นอน เราจะยังคงรบต่อไปอย่างไม่รู้จบ B.J จึงต้องไปว่า ใครจะยังไงเขาไม่รู้ แต่สำหรับเขา ทำในสิ่งที่ต้องทำในตอนนี้ ก็แค่นั้น B.J ถามถึงปืนของพวกนาซีมากมายที่ Tekla เอามาเรียงตรงหน้ามากมายว่าเอามาทำไม Tekla ว่าเธอจะเอาไว้ฆ่านาซี แต่ดูเหมือนเธอจะยิงปืนไม่เป็นเสียด้วยซ้ำ B.J จึงสอนให้เธอใช้ปืน ซึ่งมันก็กลับทำให้ Tekla ดูมีสติมากขึ้นกว่าตอนที่พยายามพูดกับคนอื่นเยอะเลย

- จากนั้นทำภาระกิจ
Find Welding Equipment ที่ค้างไว้ต่อ เมื่อเข้าไปที่ห้องของ Fergus จะเห็นป้ายเขียนไว้ว่า เขาทำงานอยู่ที่โรงเก็บเฮลิคอปเตอร์ เดินเข้าไปที่ Hangar จะพบ Fergus กำลังเช็คระบบอยู่บนเฮลิคอปเตอร์ B.J จะเข้ามาถามหาอุปกรณ์ในการเชื่อม Fergus นึกอยู่นานกว่าจะจำได้ว่า เครื่องเชื่อมโลหะมันจมอยู่ในน้ำพุมานานแล้ว จุดสีเหลืองเป้าหมายก็จะขึ้นมาที่ด้านใต้ของแผนที่ กลับเข้าไปคุยกับ Bombate ที่ห้องควบคุมด้านในฐานซึ่งเขาจะนั่งขวางประตูทางลงไปที่ห้องไอน้ำชั้นใต้ดินอยู่ B.J จะเปิดเข้าไปที่นั่นต่อ
– ลงมาในส่วนห้องไอน้ำชั้นใต้ดินของฐานแล้วเข้าไปด้านในจนถึงทางลงท่อน้ำ ใช้
Laser ตัดพนังเข้าไปแล้วโดดลงไปงมเครื่องเชื่อมที่จมอยู่ใต้น้ำ แล้วว่ายน้ำไปตามท่อจนถึงทางขึ้นด้านใน เงยหน้าขึ้นบนจะพบบันไดแขวนอยู่ ใช้ laser ยิงโซ่ให้ขาดแล้วปีนบันไดขึ้นชั้นบนต่อ เข้าไปด้านในจนถึงห้องโถงใหญ่ขึ้นไปสำรวจกดสวิตซ์ที่แท่นควบคุมด้านในแล้ว ทหารไซบอร์ก Supersoldaten 2 ตัวจะออกมาจากพื้น จัดการพวกมันด้วยปืนเลเซอร์หรือจะตัดโซ่ให้กล่องลงมาทับ หรือจะจัดการตัวนึงให้ได้แล้วเก็บปืนกลของมันมายิงอีกตัวก็ได้ จากนั้นประตูใหญ่ด้านในจะเปิดออกให้เข้าไปด้านในต่อจนถึงพนังที่ต้องใช้ Laser เจาะจนผ่านเข้าไปด้านในตามทางก็จะออกมาที่ห้องเก็บของบนชั้น 2 ของตึกบัญชาการ์ณได้ จากนั้นเอาอุปกรณ์เชื่อมไปให้ Set แล้วคุยกับ Anya เพื่อจบ Chapter นี้ได้เลย

Chapter 10: Berlin Catacombs 

Klaus รีบขึ้นมาตาม B.J ด้วยความร้อนใจทันทีเมื่อเรือดำน้ำถูกซ่อมแซมจนเสร็จ แต่ก็พบว่า B.J กำลังนัวเนียกับ Anya อยู่ในห้อง(อีกแล้ว) ก่อนที่เขาจะขัดจังหวะทั้งคู่เพื่อเรียกให้ B.J เตรียมปฏิบัติการ์ณ Klaus และ max นำเรือดำน้ำไปส่งให้ที่ทางลงท่อระบายน้ำ เพื่อให้ B.J ขับดำน้ำลงไปที่ สุสานใต้น้ำ เพื่อเข้าไปค้นหาสุดยอดอาวุธที่ Set อ้างถึง 




- ขับ Tunnel glider ดำน้ำเข้าไปตามท่อจนถึงสุดทางที่ไปไม่ได้ ออกจากเรือว่ายน้ำเข้าไปตามท่อด้านในต่อจนถึงทางเข้าสุสานโบราณ ว่ายน้ำขึ้นไปเกาะปีนบันไดที่ทางขึ้นด้านใน ขึ้นไปกดสวิตซ์ท่แท่นคบคุมด้านบน กดค้างเอาไว้จนกว่าใบพัดขนาดใหญ่ที่หักอยู่ลงไปใต้น้ำให้ตรงกันทั้ง 2 ใบพัดแล้วลงไปในน้ำอีกครั้ง ดำน้ำผ่านช่องใบพัดที่หักของพัดลมไปจนถึงทางขึ้นด้านใน ปีนขึ้นไปชั้นบนต่อเข้าไปจนถึงแท่นควบคุมน้ำด้านใน กดสวิตซ์ค้างจนกว่าน้ำจะลงมาท่วมจนถึงขอบพื้นที่ยืนแล้วโดดลงน้ำจะว่ายไปจนถึงพื้นยืนอีกอันด้านในได้ โดดลงไปที่แอ่งน้ำในห้องด้านในดำลงไปจะพบกับระเบิดใต้น้ำ ใช้เลเซอร์ยิงตัดโซ่ให้ขาดจะทำให้ระเบิดลอยไประเบิดลุกรงที่กั้นท่อด้านในให้เปิดออกได้ ว่ายเข้าไปในท่อแล้วปีนขึ้นด้านบนจนถึงบ่อน้ำหมายเลข 6 โดดดำลงไปใต้น้ำแล้วดำต่อไปตามช่องทางด้านล่างตามท่อน้ำเล็กๆส่องท่อไปจนถึงทางขึ้นบกด้านใน เข้าไปที่แท่นชาร์ทแบตเตอร์รี่ปืนเลเซอร์ข้างๆลังแถวนั้นจะมีตัวอัพเกรดปืน Laserkraftwerk Strobe อยู่ด้วย เข้าไปด้านในใช้ Laser ตัดตาข่ายเข้าไปจนถึงทางรถไฟใต้ดิน
- ภายในทางรถไฟใต้ดินจะเริ่มมีทหารนาซีอยู่แล้ว จัดการพวกมันให้หมดจะด้วยลอบฆ่าหรือโครมครามก็สุดแล้วแต่ จากนั้นไปกดสวิตซ์ที่แท่นด้านในเปิดประตูขึ้นไปจนถึงห้องควบคุมกดสวิตซ์ที่แผงควบคุมซะ รถไฟขบวน 2106 ก็จะเลื่อนออกมาพร้อมทหารนาซีอีกกลุ่มใหญ่ ลงมาจัดการพวกมันให้หมดแล้วขึ้นไปที่หน้าโบกี้คนขับเพื่อขับรถไฟออกจากที่นี่ไปพบกับทีมของ Klaus ที่รออยู่




 ก่อนที่ทุกคนจะช่วยกันดัดแปลงอาวุธในรถไฟ ก่อนที่ Klaus จะให้ปืน Shot gun Shrapnel และอุปกรณ์ดักสัญญาณกับ B.J แล้วให้เขาซ่อนตัวอยู่ในขีปนาวุธของเรือดำน้ำเพื่อตกตาพวกนาซี ในการลอบขึ้นเรือดำน้ำต่อ

Chapter 11: U-BOAT

เรือดำน้ำ ขณะเดินทางในทะเล แอตแลนติก …. ทหารนาซีนำขีปนาวุธบนรถไฟขนส่งขึ้นมาที่เรือดำน้ำ U – BOAT แผน เมื่อออกมาจากขีปนาวุธแล้วก็เริ่มทำการแทรกซึมได้เลย 
- เส้นทางในเรือดำน้ำนั้นไม่ค่อยจะวกวนมากสามารถลอบฆ่าทหารตามจุดต่างๆได้อย่างไม่มีปัยหามากนัก เมื่อลอบเข้าไปจนถึงด้านในใช้ Laser เจาะพนังเข้าไปจะเข้าไปถึงที่ห้องควบคุมเรือ ที่นี้ก็เลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องลุยแล้ว จัดการศัตรูให้หมดแล้วเข้าไปที่ห้องสื่อสาร ใช้ปืน Laser ตัดโซ่ปล่อยทุนลอยทั้ง 4 จุดข้างๆแท่นควบคุมก่อนแล้วสำรวจที่แท่นควบคุมวิทยุสื่อสารเพื่อติดตั้งอุปกรณ์แจ้งพิกัดเข้าไป  เพื่อให้ทีมที่เหลือตามมาสมทบ



– ทีมทั้งหมดจะดำน้ำลงไปที่จุดลึกที่สุดจนถึงโบราณสถานใต้น้ำโดย Set จะดำน้ำลงมานำทางไปด้วยตัวเอง จากนั้นตาม Set และ Fergus เข้าไปจนถึงห้องควบคุมที่เป็นห้องโถงที่มีแกนรูปร่างประหลาดอยู่กลางห้อง Set จะเข้ากดแท่นควบคุมในห้องจนทางเดินใต้น้ำออกมา Set จะเอาสิ่งที่เขาเรียกว่า Da'at yichud Prism ประกอบเข้าไปในปืนเลเซอร์ Laserkraftwerk ของ B.J



  แล้วเขาจะให้นำปืนไปยิงลูกกลมๆที่แท่นกลางห้อง เมื่อเอาปืน Laserkraftwerk ยิงไปที่ลูกกลมจะพบว่ามันจะมีพื้นที่ยืนยื่นออกมาให้สามารถโดดต่อเนื่องขึ้นไปจนถึงด้านบนแกนได้ กดสวิตซ์ที่แท่นด้านบนจะทำให้พื้นเลื่อนขึ้นไปชั้นบนสุดได้ (หันหลังมาอีกทีตาลุง Set และ Fergus ตามมายืนข้างๆอย่างรวดเร็ว (^_^)




- ทั้ง 3 จะเข้ามาถึง Da'at yichud Chamber ได้สำเร็จ เก็บไอเทมทองๆทั้งหลายแหล่ในห้องให้หมด ตามเสาจะมีสวิตซ์ในช่องวงกลมให้กด แต่ยังไม่ต้องไปกดให้เข้าไปเก็บลูกกลมข้างๆเสาทีมีสวิตซ์สีทองในวงกลมมาก่อน แล้วเอาไปใส่ในแท่นประกอบหุ่น Supersoldaten ที่ Fergus ยืนสำรวจอยู่ได้เลย







ในขณะที่ทุกคนกำลังวุ่นกับเครื่องจักรสุดไฮเทค
Anya ก็ติดต่อมาจากอัฟริกาเธอแจ้งมาว่าหัวหน้าทีมวิจัยของ Deathshead กำลังจะเริ่มทดลองงานวิจัยใหม่ Supersoldaten Program “ และกำลังเดินทางไปที่ฐานบนตัวจันทร์ของพวกนาซีคืนนี้ด้วยรถไฟขนส่งที่ Anya กำลังจะส่งจุดพิกัดสถานที่ไปให้เพื่อให้ Blazkowicz ไปจัดการมันเสียก่อน แล้วมุ่งหน้าไปที่ฐานบนดวงจันทร์ และจะต้องไปชิงรหัสยิงนิวเคลียร์ของพวกนาซีที่อยู่บนนั้นมาด้วย และทั้งหมดก็เป็นภาระกิจที่ Blazkowicz ต้องไปทำ




 แต่จะหยุดไอ้รถไฟความเร็วสูงนั่นได้ยังไงล่ะ ? Fergus ยิงคำถามที่ Anya เองก็ไม่ได้เตรียมแผนเอาไว้
 Set มีแผนที่จะเสนอ เขาพบลูกเหล็กแปลกๆในห้อง ซึ่งเขาคิดว่าถ้าทิ้งบอมบ์ลงที่หัวขบวนรับรองว่าไม่ว่ารถไฟขบวนไหนก็ต้องจอดแน่นอน
แล้วจากนั้นฉันก็จัดการมันด้วยไอ้นี่เอง.. ! Fergus คุยโวหลังจากเข้าไปเล่นเครื่องจักรแปลกๆจนมันสร้างชุดเกราะ Supersoldaten สวมใส่บนร่างของเขาอย่างพอเหมาะ ได้มันสมใจ Fergus ล่ะทีนี้




Chapter 12: Gibraltar Bridge

B.J และ Pergus ขับเฮลิคอปเตอร์บรรทุกลูกเหล็กประหลาดบินมาถึงสะพาน Gibraltar Bridge ตามแผน และเมื่อขบวนรถไฟขนส่งของนาซีมาถึง B.J ก็ส่งลูกเหล็กประหลาดทิ้งลงไปดักรถไฟให้หยุดทันที แต่ลูกเหล็กของ Set ให้ผลดีกว่านั้นมันยิงเชือกออกจากตัวมันไปทั่วสะพานจนรางรถไฟพังวินาทสันตะโรไปทั่ว เล่นเอา B.J ถึงกับตกใจ แต่ดูเหมือน Pergus จะไม่สนใจเพราะ ยังไงรถไฟมันก็หยุดตามแผนได้แล้ว แต่ที่ B.J กังวลก็คือ ตู้รถไฟที่ห้อยอยู่ใต้สะพานนั่นคือ ตั๋วที่จะใช้ไปสถานีอวกาศบนดวงจันทร์ ที่เขาต้องเสี่ยงตายไปเอาต่างหาก ..



- ลุยเข้าไปตามซากโบกี้รถไฟที่คว่ำอยู่ เส้นทางไม่วกวนแต่อาจจะดูลำบากแต่ทางไปจะตายตัวและศัตรูน้อยแต่ของให้เก็บเพียบ เข้าไปจนถึงจุกที่โบกี้หมายเลข 6 ห้อยอยู่ จากนั้นเดินไปตามแกนเหล็กเข้าไปที่มุมทางซ้ายใช้ Laser ตัดตระแกรงเข้าไปด้านเก็บไอเทมอัพเกรดปืน Laserkraftwerk : Tesla มาใช้ แล้วเดินเข้าไปตามทางจนถึงทางออก โดดมาที่โบกี้ตรงข้ามแล้วเดินไปตามเสาเหล็กลงมาที่ซากสะพานด้านล่าง ที่นี่จะเต็มไปด้วยศัตรู ซึ่งต้องใช้ความระมัดระวังเพราะพวกมันอยู่พื้นที่ที่มีที่กำบังอย่างดีและมองเห็นได้ยาก จัดการพวกมันให้หมด แล้วลุยเข้ามาที่ทางขึ้นใต้สะพานมาที่ชั้นลอยกลางสะพานจะพบพื้นตะแกรงที่ใช้ Laser เจาะเข้าไปได้ ลงมาชั้นล่างจนมาถึงทางออกที่ระเบียงด้านนอก จังหวะที่ B.J โดดข้ามไปที่ระเบียงอีกฝั่ง Supersoldaten ตัวนึงก็เข้ามาโจมตีทันที แต่ก็ได้ Furgus ที่ขับ ฮ. มาตัดหัวมันจนขาดจนช่วย B.J ไว้ได้ จากนั้นโดดขึ้น ฮ. ยิงศัตรูจนมาถึงซากสะพานอีกด้าน โดดลงจาก ฮ. แล้วลุยเข้าไปตามทางจนถึงจุดที่รถโบกี้หมายเลข 6 ห้อยอยู่ จากนั้นโดดลงไปตามโบกี้แนวตั้งจนถึงด้านล่างก็จะพบศพของหัวหน้าทีมวิจัยของนาซี 




จากนั้น Blazkowicz ปลอมตัวแล้วใช้บัตรผ่านของหัวหน้าทีมวิจัยปลอมตัวผ่านด่านตรวจขึ้นไปยังยานลำเลียงเพื่อมุ่งสู่สถานีอวกาศบนดวงจันทร์ได้สำเร็จตามแผน 




Chapter 13: Lunar Base
สถานีอวกาศบนดวงจันทร์ … หลังจากยานลำเลียงถึงสถานีแล้วทันทีที่ทุกคนลงจากยานจนหมด B.J ก็เริ่มแผนการทันที แต่ก่อนอื่นต้องไปเอาอาวุธและสัมภาระทุกอย่างคืนมาก่อน 

- เดินออกจากยานเข้ามาด้านในโคโลนี่จนพบนายทหารที่มาต้อนรับ จากนั้นก็ฉวยโอกาศมุดเข้าไปในช่องลำเลียงกระเป๋าฝั่งขวาเข้าไปจนถึงห้องเก็บสัมภาระเพื่อทำการเปลี่ยนชุดและเตรียมอาวุธที่เตรียมเอาไว้ในกระเป๋าเดินทาง B.J จะติดต่อไปยัง Anya และ Caroline เพื่อยืนยันภาระกิจ



Anya จะให้ B.J เริ่มภาระกิจในการตามหารหัสยิงนิวเคลียร์ทันที โดยเธอจะให้ B.J ไปหาชุดอวกาศมาใช้ในการเดินทางเสียก่อน หลังจากได้ปืนมาแล้วก็เจาะพนังทางขวาของจุดที่เปลี่ยนชุดเข้าไปในห้องควบคุมแล้วกดสวิตซ์เปิดประตูใหญ่ตรงทางเดินด้านนอก แล้วลอบเข้าไปด้านในตามทางจนถึงห้องโถงกลาง จัดการศัตรูให้หมดแล้วเก็บเครื่องอัพเกรดปืน Laserkraftwerk : Targeting Scope แล้วเข้าไปที่ทางแยกในช่องทางเดินหมายเลข 1 สุดทางเดินจะมีบันไดลงชั้นล่างต่อ  เข้าไปตามทางเดินด้านในจะเริ่มพบศัตรูออกมา จัดการมันให้หมด (ซึ่งสามารถใช้ปืน Laserkraftwerk ยิงโซ่ที่พนังทำให้ใช้ไฟและแก็สเป็นกับดักในการช่วยศัตรูได้ด้วย) ลุยเข้าไปจนสุดทางจะมีทางที่สามารถมุดเข้าไปในช่องทางด้านในพนังได้
– ลอบเข้าไปตามทางจนออกมาถึงห้องทำงานด้านใน จัดการศัตรูให้หมดแล้วเข้าไปที่ห้องที่สุดทางเดินจะมีช่องระบายอากาศให้มุดเข้าไป เข้าไปตามทางช่องระบายอากาศจนถึงส่วน
Air Lock ของสถานีอวกาศก็จะพบชุดอวกาศอยู่ที่นี่ จากนั้นเดินออกไปสู่ด้านนอกของสถานี ด้านนอกอวกาศจะเต็มไปด้วย Drone ที่รักษาการ์ณอยู่ จัดการพวกมันให้หมดแล้วเข้าไปในสถานีอีกตึก 




ด้านในเมื่อเข้ามาแล้วสำรวจที่โต๊ะก่อนเข้าประตูชัตเตอร์ชั้นใน
B.J พักนั่งคิดถึงเรื่องในตอนที่อยู่ที่แค้มป์ Belica Camp เขาเห็นศพของผู้หญิงคนนึงที่เขาเคยรู้จักในสมัยบ้านเมืองยังสงบสุข เธอนอนตายอย่างสุขแสนอนาถหลังจากที่ครอบครัวของเธอคงถูกฆ่าไปก่อนหน้านี้แล้วเป็นแน่ B.J ยังเฝ้าถามตัวเองอยู่ตลอดว่า ถึงตอนนี้ ในบ้านเมืองแบบนี้ เขายังสามารถที่จะเชื่อใน พระเจ้า อยู่ได้อีกมั๊ย หรือพระองค์กำลัง ทดสอบ พวกเราอยู่ แต่ถ้าความระทมทุกข์ของมวลมนุษย์ในครั้งนี้คือ การทดสอบของพระเจ้า พวกเราก็คงกำลังทำผิดพลาดครั้งใหญ่กันแน่นอน
B.J คิดไปพลางก็หยิบมีดขึ้นมาแล้วกรีดลงบนท่อนแขนที่ถูกตีตรารหัสของนักโทษในครานั้นแล้วดึงหนังที่เป็นตราแห่งทาสออก หรือเพราะอย่างน้อยถ้าภาระกิจสุดท้ายเขาต้องตาย ก็คงอยากตายอย่าง เสรีชน

- จากนั้นเปิดประตูชั้นในลอบเข้าไปตามทางจนถึงห้องควบคุม จัดการศัตรูในห้องให้หมดแล้วเข้าไปขึ้นลิฟต์ด้านในห้องไปชั้นบนต่อ จัดการศัตรูในชั้นให้หมด (และถ้าเปิดแผนที่ดูจากตรงนี้นั้นจะพบว่าจุดเหลืองเป้าหมานั้นอยู่อีกไกล) เดินทางเปิดประตูไปทางด้านบนของแผนที่ต่อ จนถึงห้อง Decontamination Block D - 7 Anya จะติดต่อเข้ามาถึงเรื่องตำแหน่งที่ซ่อนของรหัสที่อยู่ที่ห้อง War Room เดินผ่านห้องนี้ไปจนถึงห้องวางแผน ขึ้นไปที่ทางเดินด้านบนก็จะพบคอมพิวเตอร์เก็บข้อมูลที่เก็บรหัสยิงนิวเคลียร์ 




- เมื่อ B.J จัดการปริ๊นรหัสออกมาเรียบร้อยแล้ว Anya จะแจ้งให้เขาหนีกลับมาที่โลกในทันที และ Klaus จะรออยู่ที่ลอนดอนเพื่อรับกลับมาที่เบอร์ลินทันที แต่ก่อนจะห่วงเรื่องนั้นก็ไกลเกิดไปเพราะทันทีที่ขโมยรหัสออกไป พวกทหารนาซีก็ส่งสุนัขไซบอร์สงครามเข้ามาโจมตีทันที จัดการพวกมันให้หมดแล้วย้อนกลับไปห้องที่ผ่านมา จุดเป้าหมายจะอยู่ที่ช่องทางลงใต้พื้นห้องต่อ เข้าไปตามทางจนทะลุผ่านเข้ามาในห้องด้านใน จัดการศัตรูให้หมด ด้านในตรงจุดที่เติมแบตเตอรี่ ใช้ปืน Laser ตัดพนังเข้าไปในห้องต่อไป จัดการศัตรูในห้องให้หมดแล้วเข้าไปที่ช่องระบายอากาศที่เปิดอยู่มุดผ่านทะลไปที่ทางลงบันได ลุยเข้าไปถึงสถานีจอดยานลำเลียง จัดการศัตรูให้หมดแล้วขึ้นยานลำเลียงไปจนมันจอด จากนั้นเปิดช่องใต้พื้นในยานลงไปด้านล่าง ลุยไปตามรางจนถึงสถานียานลำเลียงที่ 2 ลุยเข้าไปด้านในจนถึงโรงจอดยานอวกาศ จัดการศัตรูที่ออกมาให้หมด แล้วเข้าไปในยานสินค้าได้เลย ในห้องบังคับยานกัปตันรีบแจ้งฐานถึงผู้ก่อการร้ายที่บุกเข้ามาแต่ก็ไม่ทันการเพราะ B.J เข้ามาถึงห้องคนขับแล้วก่อนที่ B.J จะจ้วงแทงทหารกัปตันอย่างไม่ยั้งก่อนชิงเอายานสินค้าขับกลับมายังโลก เป้าหมายคือ London Nautica



การพุ่งเข้าบรรยากาศอย่างแรงจนยานแทบจะฉีกเป็นชิ้นๆ
กับการต้อนรับของทหารนาซีที่กำลังเปิดฉากยิงโจมตีตั้งแต่ยานที่กำลังจะพ้นเข้าบรรยากาศโลก
อันตรายมากมายเกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่านับครั้งไม่ถ้วนทำให้
B.J
อดคิดไม่ได้ว่า
ถึงตอนนี้เขาเจอมาเกือบจะครบทุกอันตรายในโลกแล้ว แต่มันก็ทำเอาท้องใส้ปั่นป่วนทุกที
เห็นสงครามมาเป็นพันครั้งแล้ว
เห็นพระอาทิตย์ตกแทบจะไม่ซ้ำที่
เห็นมาแล้วกระทั้งฝุ่นที่ฝุ้งขึ้นมาจากพื้นผิวดวงจันทร์
แต่ที่อยากเห็นจริงๆน๊ะหรอ แค่อยากเห็นหน้าเธออีกครั้งก็พอ …


ห้วงคำนึงของ
B.J หยุดลงก็เมื่อยานสินค้าที่ขับฝ่าบรรยากาศและฝูงกองบินของนาซีเข้ามากระแทกพื้นฐานจอดยานที่ London Nautica เข้าอย่างจัง …..

Chapter 14
ยานของ
B.J จอดแน่นิ่งอยู่บนที่จอดยานบนยอดตึกแบบใกล้จะร่วงไปข้างล่างเต็มที เขารู้สึกตัวอีกครั้งเพราะเสียงความวุ่นวายของทหารนาซีที่กำลังยิงถล่มอยู่รอบๆยาน จนยานโดนระเบิดจนกำลังจะร่วงตกไปด้านล่าง B.J ใช้สติที่มีรีบทรงตัวก่อนวิ่งไปกระโดดจับเชือกออกทางท้ายลำรอดได้อย่างหวุดหวิด

- เข้ามาในอาคารสถานีจอดยาน ลอบจัดการศัตรูเข้ามาจนถึงนั่งร้านระเบียงด้านนอก ใช้ Laser ยิงโซ่นั่งร้านด้านนึงให้ขาดจะลงมาที่ทางเดินชั้นล่างต่อได้ Anya จะติดต่อมาว่าตอนนี้คนขับสุดหล่อ Klaus ขับรถมาจอดรอรับที่ลานจอดรถแล้ว จากนั้นเข้ามาที่หน้าต่างของตึกอีกด้าน เข้ามาในห้องจนถึงหน้าต่างด้านในต่อสายไฟที่แผงควบคุมให้นั่งร้านเลื่อนลงมาที่หน้าต่าง ขึ้นไปที่นั่งร้านเดินอ้อมมาที่ตึกอีกด้าน ลุยเข้าไปด้านในจนถึงห้องที่เป็นช่องที่พนังจะพบเฮลิคอปเตอร์ของศัตรูเข้ามาโจมตี จัดการมันให้ร่วงซะแล้วลงไปตามซากตึกลุยศัตรูไปชั้นล่างเรื่อยๆจนถึงนั่งร้านตัวใหญ่ เข้าไปกดสวิตซ์ให้มันเลื่อนพาลงไปที่หน้าตึกได้ ขณะที่ Klaus จอดรถรออยู่ก็เริ่มโวยวายว่าหุ่นขนาดใหญ่กำลังเข้ามาโจมตีแล้ว
Boss London Monitor หุ่นยักษ์ 3 ขานั้นต้องใช้ปืน Laserkraftwerk ชาร์ทยิงไปที่ตาของมันจนทำให้มันหยุดนิ่ง จากนั้นมันจะระดมยิงด้วยจรวดมิดไซด์จากช่องทั้ง 6 ช่องที่แขน ใช้ Laserkraftwerk ชาร์ทยิงไปช่องของจรวดที่มือของมันจนระเบิดให้หมดทุกช่อง แล้วมันจะใช้แกนด้านล่างโจมตีด้วยการพ่นไฟ รอให้มันหยุดแล้วเข้าไปยิงส่วนเข้าไปในปล่องยิงด้านล่างของมันเรื่อยๆจนพังก็จะจัดการมันได้



หลังจากจัดการมันได้
London Monitor จะเกิดการระเบิดอย่างรุนแรงทำให้ B.J โดนแรงระเบิดจนสลบไป แต่ Klaus จะรีบเข้ามาลาก B.J ขึ้นรถช่วยเอาไว้ได้ทัน เมื่อได้สติแล้ว B.J จะติดต่อกลับฐานทันที แต่ดูเหมือนจะติดต่อไม่ได้ จน Fergus แอบติดต่อมาด้วยน้ำเสียงที่ตื่นกลัว เขาบอกว่าตอนนี้ที่ฐานโดยพวกนาซีบุกเข้ามามากมายด้วยการนำของยัย Frau Engel ตัวแสบที่ดูเหมือนมันจะยังไม่ตาย ตอนนี้ Fergus คุ้มครอง Caroline มาแอบพวกมันอยู่โนโรงเก็บเฮลิคอปเตอร์ หลายคนพยายามแอบจนพ้นแต่บางคนก็ไม่ รวมทั้ง Anya , Set และ Bombate ก็ถูกจับไปด้วย ทันทีที่ได้ยินอย่างนั้น B.J รีบบอกให้ Klaus เหยียบมิดรีบไปที่ฐานที่น้ำพุทันที Klaus เร่งความเร็วจนรถพุ่งจากบนสะพานลงไปชนกลุ่มทหารนาซีที่ทางเข้า แต่พวกมันที่เหลือก็เข้ามาล้อมจับและยิง Klaus ตายไปต่อหน้าต่อตา B.J จากนั้นมันจะเริ่มที่จะยิง B.J เป็นรายต่อไปแต่ Max ก็เข้ามาช่วยเอาไว้ได้ทัน

Chapter 15
ฐาน
Monument of the True / กลางกรุงเบอร์ลิน …..
- ลุยเข้าไปด้านในฐาน จัดการศัตรูให้หมดเข้าไปที่จุดเป้าหมายในช่องระบายอากาศ ระหว่างที่คลานเข้าไป B.J จะได้เจอกับ Tekla ที่เคยปิดตัวเองอยู่แต่ในห้อง เธอยังคงพูดจาวกวนตามเคย แต่ศพนาซีกองโตในห้องนั้นเป็นผลจากปืน 6 กระบอกที่ B.J เคยสอยเธอยิงมาก่อนแน่นอน จนถึงวันนี้ Tekla ยังอดชื่นชม B.J ไม่ได้



ที่ผ่านมาไม่รู้ว่านายผ่านเส้นทางที่ยาวไกลและแสนจะยากลำบากนี่มาได้ยังไง แต่สำหรับชั้น 19 ปีที่ทนทุกข์มันจะจบลงในวันนี้ ก่อนที่เธอจะเปิดประตูที่กั้นเอาไว้ออกแล้วใช้วิชายิงปืนอันน้อยนิดของเธอจัดการพวกนาซีที่บุกเข้ามาคนแล้วคนเล่าแต่สุดท้ายก็ต้านพวกมันเอาไว้ไม่ไหว
Tekla ถูกยิงจนพรุนนอนตายต่อหน้าต่อตา B.J แต่อย่างน้อยวันนี้ Tekla ก็ได้ลุกขึ้นสู้เพื่อปลดปล่อยตัวเองจากพันธนาการทั้งปวงแล้ว
- จากนั้นคลานทะลุออกจากช่องระบายอากาศมาอีกฝั่งลัยเข้าไปตามทางด้านในส่วนใต้ดินของฐานจนทะลุมาที่ช่องระบายอากาศด้านในพอออกมา
B.J จะเจอ Guard Robot 2 ตัวเข้าปิดล้อมทันที ก่อนที่ร่างๆนึงจะโดดเข้ามาทำลายพวกหุ่นจนหมดภายในเวลาไม่กี่นาที Caroline กับชุดเกราะ Supersoldaten ที่มันนอกจะทำให้เธอเดินได้อย่างปกติก็ยังทำให้เธอแข็งแกร่งขึ้นกว่าเดิมด้วย เธอบอกว่าเสียใจที่ปล่อยให้ ก่อนที่จะให้กระสุนกับ B.J เพื่อเตรียมลุยต่อและเธอมีแผนที่จะชิงเอาเฮลิคอปเตอร์คืน
- จัดการพวกทหารนาซีในห้อง
Caroline จะร่วมสู้ด้วย เธอจะโดดขึ้นไปหาเฮลิคอปเตอร์ที่เข้ามาโจมตี เมื่อจัดการศัตรูในห้องจนหมด Caroline ก็จะยึดเฮลิคอปเตอร์เอาไว้ได้พร้อม Fergus ที่เพิ่งออกมาจากที่ซ่อน จากนั้นรีบขึ้นเฮลิคอปเตอร์ออกจากที่นี่ได้เลย แต่จู่ Max ก็อุ้ม Klaus ในสภาพใกล้จะขาดใจตามมาขึ้นมาได้ทัน 



ลมหายใจสุดท้ายของ
Klaus ที่เหลือไว้เพื่อบอกบางอย่างกับ Max ชายร่างยักษ์แต่หัวใจเป็นเด็กน้อยที่เปรียบเสมือนน้องชายเขามาตลอด Klaus บอกให้ Max เข้มแข็ง หยุดร้องไห้และลุกขึ้นสู้อีกครั้งได้แล้ว ดูรอบๆตัวสิ นายไม่ได้อยู่คนเดียวหรอกน๊ะ Max ก่อนที่ Klaus จะขาดใจตายในขณะที่เฮลิคอปเตอร์กำลังเริ่มขึ้นบน สร้างความเสียใจกับทุกคนอย่างมาก




เฮลิคอปเตอร์ของทุกคนบินมาสู่ยอดของโบราณสถานกลางทะเลแอตแลนติกในเวลาใกล้ค่ำ ในช่วงเวลาพักความเงียบทำให้ความนึกคิดของ
Blazkowicz ล่องลอยไปถึงภาพเขากำลังเอนหลังดูลูกๆวิ่งเล่นในขณะที่ Anya ภรรยากำลังทำงานบ้าน ก่อนที่ทั้งคู่จะโอบกอดกันท่ามกลางความอบอุ่น ทั้งหมดมันอาจเป็นแค่ภาพฝันหวานที่กำลังจะสลายไปยามตื่นกลับมาสู่โลกแห่งความจริง แต่บางทีสัจธรรมข้อนี้มันอาจจะเป็นสิ่งที่ดีก็ได้ เพราะอย่างน้อยมันก็จะทำให้ไม่ลืมว่า เรากำลังสู้เพื่อใคร





ฝันหวานของ Blazkowicz ถูกปลุกให้ตื่นด้วยคำสั่งเรียกประชุมของ Caroline ถึงเวลาเผด็จศึกนาซีด้วยทีมที่เหลืออยู่แค่ Caroline, Fergus และ Max กับแผนสุดท้ายที่ Fergus ตรวจสอบแล้วว่าที่ซ่อนตัวของ Deathshead น่าจะอยู่ที่ใต้โบราณสถานใต้น้ำแห่งนี้ ภาระกิจของ B.J ก็คือดำลงไปอีกครั้ง เข้าไปในโซนห้องขังแล้วปล่อยนักโทษออกมาให้หมด เมื่อทุกคนขึ้นเฮลิคอปเตอร์จนปลอดภัยแล้ว ก็สั่งยิง Atomic Bomb ประเคนให้ Deathshead ..บู๊มมมม !! เรียบร้อย . Fergus สาธยายแผนให้ฟังก่อนที่ทุกคนจะให้กำลังใจกับ B.J ให้ปลอดภัยกับงานใหญ่ครั้งสุดท้ายที่มีอนาคตของโลกเป็นเดิมพัน ..

Chapter 16
Baltic Sea ใกล้ชายฝั่งของเยอรมัน … Blazkowicz ใช้รถถังสะเทิ้นสะเทิ้นบกด้วยเทคโนโลยีโบราณของ Set เดินทางใต้น้ำหลบการตรวจจับของพวกนาซีจนขึ้นมาถึงชายฝั่งทะเล Baltic ที่เป็นที่ตั้งของตึกบัญชาการณ์ของ Deathshead ที่เชื่อมต่อกับโบราณสถานใต้ทะเล B.J เปิดฉากโจมตีด้วยปืนใหญ่ที่บรรจุกระสุนของอารยะธรรมโบราณเข้าไปทำลายกองกำลังป้องกันที่หน้าชายฝั่งจนหมด ก่อนจะว่ายน้ำขึ้นฝั่งลุยต่อทันที

- จากนั้นลุยเข้ามาจากชายฝั่งเข้ามาถึงในอาคารชั้นล่าง ลุยเข้าไปด้านในอาคารที่เต็มไปด้วยทหารนาซีจำนวนมาก ที่มีแม้กระทั้ง Guard Robot เดินไปมาในตึก จัดการพวกมันให้หมดลุยเข้าไปจนถึงบันไดทางลงชั้นล่างด้านใน เข้ามาตามทางเดินจนถึงส่วนพื้นที่ว่างระหว่างตึก ด้านนอกที่มีทหารและหุ่น Guard Robot จำนวนมาก แต่ก็สามารถเลือกที่จะหลบเลี่ยงได้ด้วยการเจาะพนังทางขวาของทางเดินใกล้ทางเข้าโถง จะสามารถมุดเข้ามาในห้องโถงด้านขวาได้ซึ่งทำให้สามารถใข้เสาแอบลอบฆ่าทหารแล้วค่อยๆอ้อมไปที่กดสวิตซ์ที่แท่นหน้าประตูเป้าหมายฝั่งขวาได้ง่ายกว่า แต่ถ้าอยากลุยก็ไม่ต้องคิดมาก ลุยเข้าไปจัดการมันให้หมดแล้วค่อยไปเปิดประตูไปต่อก็ได้เลย
- เข้าไปด้านในห้องโถง 2 ชั้นของตึกฝั่งตรงข้ามด้านในเต็มไปด้วย
Heavy Robot และทหาร Supersoldaten ติดอาวุธหนักจำนวนอีกไม่น้อย ฉะนั้นถ้ายังไม่อยากนอนเร็วก็ล่อมันมาสู้ตรงหน้าประตูทางเข้าห้องจะดีที่สุดเพราะอย่างน้อยพวกหุ่นยักษ์มันก็ไม่ตามมา จัดการศัตรูให้หมดแล้วเข้าไปที่ประตูสุดทางในห้อง เปิดเข้าไปจนถึงห้องทดลองด้านในเข้าไปที่บันไดปีนขึ้นด้านบน B.J ก็จะถูก Bubi ที่ดักรออยู่เข้ามาลอบทำร้ายโดยการฉีดยาสลบใส่ B.J ก่อนจะจับตัวไป        
-B.J ตื่นมาอีกครั้งด้วยความมึนงงของพิษยาจะพบ Bubi กำลังถ่ายทอดบรรยากาศให้ Frau Engel ดูก่อนที่จะเริ่มเฉือน B.J อย่างเมามันส์หวังจะเอาเป็นของขวัญให้ Frau Engel ในขณะที่มันจ้วงแทง B.J อย่างไม่ยั้งเพื่อทำให้คนรักของมันพอใจ B.J ก็ฉวยโอกาสกัดคอมันตอนมันยื่นหน้ามาใกล้ก่อนที่จะใช้มีดที่มันแทงเขาคืนให้ที่มุมด้านซ้ายของขมับของมันจน Bubi ตายคาที่เป็นของขวัญให้กับ Frau Engel แทน

            



 จากนั้นปีนบันไดในห้องขึ้นไปชั้นบนจะพบลิฟต์ ลงไปชั้น B3 ต่อ ลงมาจนถึงชั้นของส่วนคุกจะพบกับกลุ่มของ Anya , Set และ Bombate กำลังหนีพร้อมเชลยอีกจำนวนมาก ทุกคนต่างดีใจที่อีกฝ่ายยังไม่ตาย แต่ขณะที่กำลังจะหนีจากลิฟต์ที่ค้าง ขณะที่ทุกขึ้นไปบนชั้นที่ปลอดภัยแล้ว ลวดสลิงขิงลิฟต์กลับขาดทำให้ B.J ต้องตกลงไปชั้นล่างอีกครั้ง เมื่อลิฟต์เปิดที่ชั้นล่าง B.J ก็ได้รับการต้อนรับจากเจ้าบ้านอย่าง Deathshead

      

สำหรับ Deathshead แล้ว Captain Blazkowicz เป็นคนนึงในโลกที่มันจะไม่มีวันลืมตั้งแต่อดีตจนถึงตอนนี้ก็มีแต่ Blazkowicz นี่แหละที่เป็นหอกข้างแคร่ของนาซีมาตลอด มันจึงมีของขวัญที่จะมอบให้ในวันที่เจอกันอีกครั้ง ก่อนที่มันจะหยิบแคปซูลสมองของ พลทหาร Wyatt คนที่ B.J เลือกที่จะให้เขาตาย จนสุดท้ายก็โดน Deathshead ดูดสมองและไขสันหลังมาเก็บเอาไว้ และตอนนี้มันก็จะเอาสมองของพลทหาร Wyatt ใส่เข้าไปในหุ่นรุ่นใหม่ของมัน และทันทีที่สมองและกลไกของหุ่นเริ่มตื่นขึ้นก็จะมาดูกันว่า พลทหาร Wyatt จะให้อภัยหัวหน้าของมันหรือเปล่า ?     

         




       



ทันทีที่หุ่น Prototype เริ่มทำงานด้วยพลังสมองของพลทหาร Wyatt มันก็เข้าจู่โจมใส่ B.J ทันที ทำให้เขากระเด็นออกไปด้านนอกพร้อมอาวุธกระเด็นตกจนหมดเหลือแค่มีดพกแค่เล่มเดียว สิ่งที่ต้องทำก็คิอ หลบการโจมตีของมันแล้วไปฟันทำลายกล่องที่มุมด้านในเก็บระเบิดไฟฟ้ามาขว้างใส่มันจนมันหยุดนิ่งแล้วรีบเข้าไปสำรวจที่ตัวมัน B.J จะเข้าไปคุยกับสมองของ Wyatt ซึ่งเขาเองแม้จะอยู่ในหุ่นแต่ที่ผ่านมาเขาไม่เคยคิดโทษ B.J เลย เขาขอร้องให้ทำลายเขาซะก่อนที่จะถูกควบคุมจนทำเรื่องเลวร้าย ทำให้ B.J ไม่มีทางเลือกที่จะหยิบแคปซูลสมองของ Wyatt จากหุ่นมายิงทำลายทิ้งเพื่อปลดปล่อยวิญญาณของพลทหาร Wyatt 





       


แต่การต่อสู้เพิ่งเริ่มต้นเมื่อ Deathshead ขับหุ่นของมันซึ่งใหญ่และทรงพลังกว่าเข้าโจมตีใส่ B.J ทันที แถมหุ่นของ Deathshead ยังมีระบบบาเรียป้องกันไม่สามารถโจมตีเข้าอีกด้วย ถ้าสังเกตดูจะพบว่าพลังบาเรียของมันมาจากสายเคเบิ้ลที่ต่อเชื่อมไปยังเรือเหาะทีบินอยู่ 2 ลำรอบๆที่นี่ สิ่งที่ต้องทำคือหลบการโจมตีของมันแล้วรีบเจาะพนังเข้าไปในทางเดินส่วนในของลูกกรงแล้วขึ้นไปที่มุมของพื้นที่จะมีป้อมปืนอยู่ซึ่งมันจะสามารถเล็งยิงยานเหาะด้านบนได้พอดี ทำลายยานเหาะทั้ง 2 ลำด้วยป้อมปืนทั้ง 2 ด้านของพื้นที่แล้วก็ยิงโจมตีใส่หุ่นของ Deathshead  ได้เลย เมื่อไม่มีบาเรียไม่นานมันก็ระเบิดจนตกไปที่ด้านล่างของพื้น เก็บกระสุน ระเบิดในพื้นที่ตุนไว้ให้หมดแล้วค่อยลงไปที่รอยแยกของพื้นไปที่ห้องไอน้ำเพื่อเข้าไปสู้กับ Deathshead อีกรอบ ตอนนี้หุ่นของมันไม่มีบาเรียแล้วสามารถหาจังหวะระดมยิงมันได้ตามปกติได้เลย ตัวต่อตัวแล้ว มีเท่าไหร่ก็ใส่ไปให้หมด  

สุดท้ายหุ่นของ Deathshead ก็ทนการถล่มยิงของ B.J ไม่ไหวจนระเบิดและหยุดทำงานในที่สุด B.J ไม่รอช้าที่จะเข้าไปจัดการ Deathshead ทันที ประตูห้องบังคับถูกกระชากออกจนกระเด็นมันบงบอกให้รู้ว่า B.J ควบคุมสติไม่อยู่อีกแล้ว ตอนนี้เขาไม่แล้วรู้ว่ามันเพราะภาพความทรงจำแห่งความแค้นในคืนที่ลูกน้องเขาถูกฆ่าตายหรือเพราะภาระกิจกู้โลกกันแน่ที่ผลักดันให้ B.J กระชากตัว Deathshead  ออกมาอย่างสุดแรงพร้อมความคิดมากมายในหัวที่เขาอยากจะทำกับมัน



Deathshead - ยังไงข้าก็ไม่มีวันคุกเข่าให้แก
Blazkowicz - งั้นข้าก็จะเฉือนแกทั้งยืน
B.J คว้าตัว Deathshead มากระหน่ำแทงแบบไม่ยั้ง 4 ครั้งแทน 14 ปีแห่งความแค้นที่แสนจะสะใจ B.J แต่ Deathshead ก็แสบกว่าที่คิดมันหยิบระเบิดในตัวมันออกมาดึงสลัก .".หลอกง่ายจริงๆ ".. คำพูดสุดเหยียบหยามสุดท้ายจาก Deathshead ถึง B.J ศัตรูคู่แค้นก่อนระเบิดจะทำงานจนระเบิดร่าง Deathshead จนเละไปพร้อมกับร่างของ B.J ที่หนีไม่ทันเพราะไม่ทันตั้งตัว .......

     


          B.J ยังรอดชีวิตแต่ก็บาดเจ็บสาหัส....จนเคลื่อนไหวไม่ได้แล้ว


... วิทยุจาก Fergus ติดต่อเข้ามาว่าทางด้านของเขาจัดการเตรียมระเบิด Atomic Bomb เอาไว้เรียบร้อยแล้ว และทันทีที่ B.J แจ้งตอบมาว่าในพื้นที่ทุกคนหนีรอดได้เขาจะเริ่มทิ้งระเบิดถล่มฐานของ Deathshead ให้ราบคาบตามแผนสุดท้ายทันที....

  แต่ด้วยความเป็นห่วง Anya คนรักทำให้เขาไม่ว่างที่จะตอบกลับ เขาพยายามขยับตัวด้วยแรงที่ยังพอเหลืออยู่เพื่อไปมองจุดที่เฮลิคอปเตอร์มารับเหล่าพรรคพวกของเขา ภาพลางๆจากดวงตาที่เริ่มตาพล่ามัวเขามองเห็น สาวแกร่ง ที่กำลังถือตะเกียงโบกไปมาเพื่อนำทางเหล่าเชลยผู้รอดชีวิตให้รีบหนีมาขึ้นเฮลิคอปเตอร์ให้ทัน รอดแล้วสิน๊ะที่รัก....



ทุกความเหนื่อยล้าของเธอจงมอบมาให้ฉัน
ทุกความสับสนและทุกความใฝ่หาในเสรีภาพอันมากล้นของเธอ ฉันจะปลดปล่อยมันให้
 ทุกเคราะห์ร้ายและความเศร้ามองของเธอจงส่งผ่านมันมา ....
ความปั่นป่วนและวุ่นวายจงโยมมันมา ให้ชั้น ..

....ทันทีที่เฮลิคอปเตอร์ของทุกคนบินพ้นออกจากน่านฟ้าจนปลอดภัย Fergus ก็ติดต่อมาอีกครั้ง
Fergus - Blazko ตอบด้วย ที่นั่นเคลียร์ที่จะให้ฉันยิงนิวเครียร์หรือยัง ?




  Blazkowicz - ...เคลียร์แล้ว นายยิงได้เลย......

............................................................... THE END .............................................................................

ตำแหน่งของสะสมทั้งหมด Collectible Locations Guide (Gold Items, Enigma Codes, Letters)

...........................................................................................................................................................