วันพุธที่ 11 มิถุนายน พ.ศ. 2557

Murdered : Soul Suspect

                                       


                                          บทสรุป  Murdered : Soul Suspect

By - Decibel per - oxide


ข่าวของ ฆาตกรต่อเนื่อง ได้เปลี่ยนบรรยากาศอันเงียบสงบของถนนธรรมดาสายหนึ่งในเมือง Salem รัฐ
 Massachusetts ให้กลายเป็นบรรยากาศสุดสยดสยองไปในทันทีด้วยภาพวาดรูประฆังที่ถูกวาดขึ้นบนร่างกายศพเหยื่อผู้เคราะห์ร้ายที่มันลงมือฆ่า ทำให้ตำรวจที่กำลังสอบสวนคดีนี้เรียกมันว่า The Bell Killer



ประชาชนที่อาศัยอยู่ในเขตนั้นตกอยู่ในความหวาดกลัวต่างก็ออกมาคาดหวังให้ตำรวจเร่งรัดในการจับกุมตัวมันมาลงโทษให้เร็วที่สุด จนเวลาล่วงเลยมาหลายสัปดาห์คดีก็ไม่คีบหน้า ยังไม่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจหรือผู้เชี่ยวชาญที่เกี่ยวข้องในคดีคนใดสามารถตีความหมายรูประฆังที่เป็นสัญลักษณ์หลังการฆ่าเพื่อต่อยอดไปถึงเจตนาของฆาตกรรายนี้ได้เลย

การที่คุณเติบโตขึ้นบนถนนที่แสนจะโหดร้าย เต็มไปด้วยอันตรายและการเอาตัวรอด คุณจะเริ่มคิดว่าคุณนั้นกล้าแกร่งจนไม่มีใครเอาชนะได้ ไม่มีใครแตะต้องคุณได้และคุณจะไม่มีวันพ่ายแพ้ต่ออันตรายใดๆ แต่ถ้าวันนึงดวงคุณมันถึงฆาตจริงๆ คุณจะพบว่าความกล้าแกร่งที่คุณภาคภูมิใจมันไม่สามารถช่วยคุณได้อย่างที่คุณคิด....

บทเรียนของตำรวจนักสืบ Ronan O'Conner เคยจดจำกำลังจะกลายเป็นความทรงจำสุดท้าย จากตัวอันตรายที่บ่มเพาะมากจากการใช้ชีวิตท่ามกลางสิ่งแวดล้อมที่ต้องเอาตัวรอดตั้งแต่วัยรุ่นจนเติบใหญ่ ใครเลยจะรู้ว่าทุกอย่างจะเปลี่ยนไปจากหน้ามือเป็นหลังมือเมื่อเขาได้พบรักกับ Julia ที่ผลแห่งความรักทำให้เขามุ่งมั่นจนได้เป็นตำรวจนักสืบสมใจอย่างที่ไม่เคยมีใครคาดคิด 




จนวันนึง Julia เกิดเสียชีวิตอย่างปริศนา ผลการตรวจสอบทำให้รู้ว่าเธอเป็นเหยื่อรายนึงของ ฆาตกรต่อเนื่องที่ใครๆเรียกกันว่า  The Bell Killer ทำให้ Ronan ใช้ความมุ่งมั่นทั้งหมดที่มีในการหาเบาะแสจนสำเร็จ เขาได้เจอฆาตกรตัวร้ายในที่ตึก The Regal Apartment จนได้ ...แต่ทั้งหมดมันไม่สำคัญแล้วล่ะ เพราะ Ronan O'Conner กำลังจะ ตาย ในอีกไม่กี่อึดใจ












Ronan พลาดถูกฆาตกรพลักตกหน้าต่าง เขาพยายามสู้จนนาทีสุดท้ายด้วยกระสุนที่มีก่อนรางจะตกกระแทกพื้นอย่างแรง ไม่นาน Ronan รู้สึกตัวอีกครั้ง ก่อนที่จะควักบุหรี่มาสูบด้วยความชินกับความคิดแปลกๆว่าทำไม่เขาตกมาสูงขนาดนี้แต่กลับไม่บาดเจ็บเลย ก่อนที่เขาจะสลัดความคิดต่างๆทิ้งเพื่อไล่ตามฆาตกรเป้าหมายต่อ Ronan พยายามกลับขึ้นไปบนตึกอีกครั้งก่อนจะถูกป้าเจ้าของบ้านเปิดประตูสวนออกมาเห็นภาพตรงหน้าแล้วตกใจหนีไป แต่ Ronan ตกใจกว่าเมื่อเขาหันไปเห็นร่างของเขานอนกองอยู่บนพื้น จะด้วยการที่ดูหนังไซไฟมากหรือความพยายามโดยไม่คิด Ronan พยายามนอนแนบร่างเดิมให้พอดีเพื่อกลับเข้าร่างอีกครั้งซึ่งแน่นอนถ้าไม่นับว่าเป็น มุขตลกที่ขำไม่ออกที่ดีที่สุดแล้ว เขาทำไม่สำเร็จ






ก่อนที่เจ้าฆาตกรจะเดินมากระหน่ำยิงซ้ำที่ร่างของ Ronan 7 นัด...ร่างเนื้อที่ยังพอมีอยู่ในห้วงคำนึงสุดท้ายของ Ronan ก็เริ่มสลายกลายเป็น วิญญาณ ไปพร้อมกับลมหายใจสุดท้ายของตัวเอง...

หลังจากฆาตกรฆ่าโหดเจ้าหน้าที่ Ronan อย่างหนำใจแล้วมันคงไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามันได้เดินผ่านวิญญาณของ Ronan ลอยนวลไปอย่างที่ Ronan ในฐานะวิญญาณเขาทำอะไรไม่ได้เลย .


Ronan ในฐานะวิญญาณมือใหม่ยังแทบไม่คุ้นชินกับสถานะไร้ตัวตนเลยด้วยซ้ำ แสงสว่างนำทางวิญญาณสู่ปรภพก็เริ่มสาดส่องแสงบาง Ronan เดินไปตามแสงอย่างุนงงจนพบ Julia อีกครั้งถึงแม้จะอยู่ในสถานะภาพวิญญาณเหมือนกัน Ronan ก็ไม่สามารถสัมผัสร่างของวิญญาณแฟนสาวได้เลย


ก่อนที่เธอจะบอกกับ Ronan ว่าเธอไม่ได้อยู่ที่นี่แต่อยู่อีกฝากนึงของสะพานและเธอแสดงความกังวลที่ต้องการให้ Ronan หาทางข้ามสะพานให้ได้โดยเร็วก่อนที่จะเกิดอันตราย แต่ยังไม่ทันที่ Ronan จะเข้าในความหมายของคำว่า สะพาน และ อันตราย ที่ว่าร่างเรืองแสงของ Julia ก็หายไปพร้อมกับแสงสว่างจ้าที่นำพาวิญญาณของ Ronan กลับมาที่เกิดเหตุอีกครั้ง

ในที่เกิดเหตุเริ่มมีหนุ่มสาวคู่หนึ่งมาพบร่างของ Ronan พวกเขารีบแจ้งตำรวจให้เข้ามาตรวจสอบในขณะที่ Ronan พยายามที่จะคุยกับพวกเขา(กดสี่เหลี่ยม) แต่ดูเหมือนว่าจะไม่สำเร็จ จน Ronan สังเกตเห็นวิญญาณเด็กผู้หญิงตนนึงที่มาแอบดูก่อนที่เธอจะวิ่งหนีไป



- เดินตามวิญญาณเด็กเข้าไปในซอยก่อนที่เธอจะหายตัวไป เรียนรู้ระบบ Pass Through การเคลื่อนที่ผ่านวัตถุต่างๆได้ในบางจุด (ถ้าผ่านได้ทุกจุดมันก็จะสบายไปหน่อย) เดินผ่านรั้วไม้ไปจนไปถึงสนามเด็กเล่น Ronan จะเข้าไปคุยกับวิญญาณเด็กได้ ก่อนที่ Ronan จะพยายามสอบถามเรื่องต่างๆที่เขาอยากรู้ทั้งการใช้พลังต่างๆ และวิธีที่จะออกจากที่นี่

Ghost Trick # 
Q - ทำไมถึงวิญญาณถึงผ่านสิ่งของไม่ได้ทุกอย่างจน Ronan ถูกประตูกระแทกหน้าได้ ?
A – เพราะวิญญาณไม่สามารถเข้าออกประตูบ้านที่มีเจ้าของอาศัยอยู่ได้นอกจากปรตู หน้าต่าง เปิดอยู่

 เด็กสาวบอกถึงรายเอียดปลีกย่อยเท่าที่เธอรู้เป็นคำบอกใบ้ใหม่ให้กับ Ronan ทั้งเรื่องที่วิญญาณสามารถทำได้ และ อันตรายที่ควรจะรู้เกี่ยวกับการคุกคามของพวกปีศาจ (Demon Threat) ก่อนที่เธอจะหนีไปด้วยความกลัวพร้อมออร่าสีแดงเพลิงที่ปะทุขึ้นมาที่กลางซอย
- กด L2 วิ่งออกจากซอยกลับมาที่จุดเกิดเหตุ




 Ronan จะพบว่ามีตำรวจเริ่มเข้ามาตรวจสอบแล้วแต่เขาก็เจอพฤติกรรมถ่อยๆจากตำรวจท้องที่อย่างจ่า Baxter ที่นอกจากจะสมน้ำหน้าการตายเพราะความอวดเก่งของ Ronan แล้วยังจะพยายามจะเอาหมวกของ Ronan ไปใช้ด้วยซ้ำ นอกจากยืมมองด้วยความแค้นแล้ว Ronan ทำอะไรไม่ได้เลย แต่ก็โชคดีที่ได้เจ้าหน้าที่นักสืบ Rex เพื่อนร่วมงานคนเดียวที่ไม่ยึดติดกับอดีตของ Ronan ที่ยืนมองอยู่จะมัดซัดหน้า Baxter จนมันต้องเดินหนีไป หัวหน้าของ Ronan เอาหวมกมาคืนที่ศพเขาเต็มไปด้วยความเสียใจที่เขากำลังเข้ามารับสะสางคดี The bell แล้วแท้ๆแต่ Ronan ก็ดันผลีผลามมาจับมันเองจนตายในที่สุด Rex ปิดตาที่ยังไม่หลับสนิทของ Ronan ก่อนที่จะสัญญาต่หน้าศพว่าเขาจะทำทุกทางที่จะจับตัวคนร้ายมาลงโมษให้ได้ ซึ่งวิญญาณของ Ronan ก็ยืนรับรู้อยู่ข้างๆด้วยความซึ้งใจแล้ว 


Ronan รู้ดีว่าร่างวิญญาณของเขาคงอยู่ได้ไม่นานนัก เขาจึงต้องรีบสืบหาคนร้ายที่ฆ่าเขาให้ได้ก่อน จากนั้นงานนักสืบในร่างใหม่ของ Ronan ก็เริ่มขึ้น
- ก่อนอื่นเขาต้องการหา เงื่อนงำ (Clue) ต่างๆที่อยู่รอบๆพื้นที่นี้ก่อน ซึ่งที่ต้องหามีทั้งหมด 8 เงื่อนงำคือ
1. ที่ศพของตัวเอง
2. จุดตกของปลอกกระสุนบนพื้น
3. เศษกระจกแตกที่พื้น
4. ปืนที่ตกอยู่
5. ก้นบุหรี่ที่ตกอยู่
จากนั้นจะได้เรียนรู้ในการสิงผู้คนต่างๆ( possess) เพื่อหาข้อมูลเพิ่มได้ด้วยการกด R2 ซึ่งเมื่อเข้าสิงแล้วก็จะมีคำสั่งต่างๆออกมาเพื่อใช้ในควบคุมร่างนั้นๆได้คือ
Influence ชักจูงจิตใจ
Mind Read อ่านใจดูความคิด
peek แอบดู
Eavesdrop แอบฟัง
Dispossess ออกจากร่าง
6.ตอนนี้สามารถแอบดูแอบฟังผู้คนรอบพื้นที่เกิดเหตุได้ทั้งหมดแต่เป้าหมายอยู่ที่ตำรวจชื่อ Robinson ที่ยืนคุยอยู่กับเจ้า Baxter เลือกคำสั่ง Eavesdrop แอบฟังมันคุยกัน ซึ่งมันจะบอกว่ามาที่เกิดเหตุเพราะพยานโทรแจ้งบอก ก็จะได้เบาะแสที่ 6 มา


7. เข้าไปสิงพยานผู้หญิงที่กำลังให้ปากคำตำรวจที่หน้าตกแล้วเลือกคำสั่ง Influence ชักจูงจิตใจให้เธอบอกกับตำรวจว่าเธอเห็นอะไรตอนเกิดเหตุบ้าง ให้เลือกไปที่ข้อมูลที่ Robinson ยืนคุยอยู่กับเจ้า Baxter ที่เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เธอแจ้งความไป เพื่อให้เธอบอกว่าเธอเห็นคนร้ายเป็นผู้ชายใส่ฮู๊ดอยู่บนตึกชั้น 4 (จริงๆแล้วเธอไม่เห็นอะไรเลยด้วยซ้ำ) ก็จะได้เบาะแสที่ 7 มา



8. เข้าไปสิง จ่า Stewart ที่ยืนอ่านกระดาษจดข้อมูลอยู่ แล้วเลือก peek แอบดูกระดาษที่เขาจดบันทึก เลือกมองไปที่ประโยคล่างสุด “ Only Weapon Found at Scene Belong to Ronan “ จะวิเคราะห์ได้ว่า ไม่พบอาวุธอื่นๆในที่เกิดเหตุนอกจากปืนของผู้ตาย ก็แปลว่า คนร้ายใช้ปืนของ Ronan เองยิงเพราะตัวมันไม่มีอาวุธ ก็จะได้เบาะแสที่ 8 มา

จากนั้นกดสามเหลี่ยมเพื่อตัดสินใจ(Conclude) Ronan จะคิดว่าการที่ฆาตกรมาที่นี่ต้องมีเหตุผลบางอย่างแน่นอน เขาจึงคิดต่อไปว่าที่บนห้องของชั้น 4 ต้องมีเบาะแสอะไรอีกมากมายแน่นอน แต่เขาก็ยังกังวลเกี่ยวกฎของวิญญาณในการเข้าออกสถานที่อยู่ ขณะที่กำลังจะตัดสินใจตาม จ่า Stewart เข้าไปในตึกแต่จะพบวิญญาณของผู้หญิงคนนึงเดินออกมาก่อน Ronan จึงเข้าไปถ้าถึงการเข้าออกตึกให้ชัวร์ว่า เขาควรจะรอให้ใครซักคนเปิดประตูจึงจะเข้าตึกได้ใช่มั๊ย ? วิญญาณหญิงสาวตอบให้แน่ใจว่า ใช่ และเขาต้องทำแบบทุกตึก เมื่อเป็นที่เข้าใจกันแล้วก็ตาม จ่า Stewart เข้าไปในตึก Apartment ได้เลย

................................................................................................................................................

เมื่อเข้ามาในตึก Apartments แล้ว จะมีทั้งคนและวิญญาณปะปนกันให้สามารถพูดคุยและอ่านใจได้แต่เป้าหมายอยู่บนชั้น 4 ระหว่างทางจะพบกับน้องวิญญาณเด็กอีกครั้ง Ronan จะเห็นเธอใช้พลังในการวาดตัวอักษรออกมาบนพนังทำให้ Ronan ก็ตัดสินใจขึ้นไปที่เป้าหมายชั้นบนต่อ ในขณะขึ้นยันได Ronan จะพบสิ่งที่หน้ากลัวที่สุดตั้งแต่อยู้ในร่างวิญญาณซึ่งเขารู้ทันทีว่าสิ่งนี้คงจะเป็น ปีศาจ (Demon) ที่น้องวิญญาณพูดถึง ยังไม่ทันขาดคำปีศาจก็เริ่มกรีดร้องและพร้อมจะกลืนกินวิญญาณ Ronan ทันที จนเขาต้องรีบหนีออกมาอีกห้อง ซึ่งตอนนี้ Ronan รู้แล้วว่ามันสามารถดูดพลังของวิญญาณได้



การหนีพวกปีศาจนั้นสามารถทำได้ด้วยการกด R2 จะสามารถแดชหนีได้ จากนั้นจะเห็นจุดที่ Ronan หลบหนีเป็นตามจุดควันสีขาวซึ่งจะสามารถหลบต่อเนื่องจนกว่า ปีศาจ จะเลิกตามได้ 



จากนั้นกด R1 (Approaching Demons ) เพื่อมองทะลุกำแพงดูตำแหน่งของพวกปีศาจและวิญญาณอื่นๆรอบๆตัวได้ ซึ่งมันจะขึ้นเป็นจุดแดงให้เห็น 






และ Ronans ก็สามารถฆ่ามันได้ด้วยการลอบเข้าไปด้านหลังแล้วกด R2 เพื่อดึงวิญญาณที่อยู่ด้านในออกมาก่อนที่จะกดแกนอนาล็อกลงล่างพร้อมกด X ก็จะสามารถทำลายมันได้ ซึ่งเป็นแนวทางในการต่อสู้ของเกมนี้นั่นเอง)

- จากนั้นที่ต้องทำคือลอบหลบและจัดการพวกปีศาจเพื่อไปถึงเป้าหมายที่ชั้น 4 ให้ได้ ที่ห้อง A4 จุดเกิดเหตุจะเต็มไปด้วยตำรวจพิสูจน์หลักฐาน ส่วน Baxter กำลังถูกสั่งให้ตามหาผู้หญิงเจ้าของห้องที่หายตัวไป ทางด้าน Ronan ต้องการหาเป็นสิ่งแรกคือเงื่อนงำว่าทำไมฆาตกรถึงมาที่นี่ ซึ่งต้องการเบาะแสถึง 14 อย่างด้วยกัน คือ
1. จุดที่เชิงเทียนตกลงที่พื้นเป็นร่องรอยการต่อสู้
สำรวจ สมุดบันทึก Psychic ของ Cassandra Foster บนอ่างล้างจาน Ronan จะสัมผัสบางอย่างได้ว่า Joy เจ้าของห้องนั้นยังปลอดภัย (ไม่ใช่เบาะแส)
2. ร่องรอยการต่อสู้ที่เป็นรอยร้าวที่พนัง ทำให้รู้ว่าคนร้ายเป็นคนแข็งแรงมาก
3. สำรวจที่มุมประตูจะพบร่องรอยแห่งความทรงจำที่เหลืออยู่ โดย Ronan สามารถใช้ Ghost Ability Reveal เพื่อเปิดเผยมันออกมาได้ Ronan จะพบร่องรอยของผู้หญิงคนนึงที่กำลังแอบอยู่ซึ่ง Ronan ต้องลองหาคำตอบว่า เธอกำลังคิดจะทำอะไรอยู่ ? โดยการเลือกคำต่างๆ 3 คำออกมา ให้เลือก



Watching (เธอกำลังเฝ้าดูอะไรบางอย่าง)
 Frightened (เธอกำลังตื่นกลัวบางอย่าง)
และกำลังหลบซ่อนอยู่ (Hide)
ก็จะทำให้ Ronan เห็นภาพเหตุการ์ณสั้นๆขึ้นมาว่าฆาตกรพยายามเข้ามาในห้องและโดยมี Ronan ที่ตามเข้ามาจนเกิดการต่อสู้ขึ้นโดยมีเธอแอบดูอยู่ ตอนนี้  Joy จึงเป็นพยานสำคัญที่เห็นเหตุการ์ณทั้งหมด
4. สำรวจตรงจุดหน้าต่างแตก แน่นอนนี่คือจุดที่ Ronan ถูกพลักตกลงไปด้านล่าง
5. สำรวจใบเอกสารคนหายของตำรวจที่วางอยู่บนโต๊ะ จะเห็นว่า Cassandra Foster หายตัวไป
6.สำรวจจุดความทรงจำที่ประตูด้านใน เมื่อเปิดเผยออกมาจะพบเป็นจุดที่ฆาตกรเดินเข้ามา ซึ่ง Ronan ต้องลองหาคำตอบว่ามันกำลังคิดจะทำอะไรอยู่ ? โดยการเลือกคำต่างๆ 3 คำออกมา ให้เลือก



Purposeful (มีจุดประสงค์สำคัญ)
Searching (กำลังค้นหาบางอย่าง)
จะพบว่ามันกำลังหาใครยางคนหรืออะไรบางอย่างอยู่ แต่ยังไม่รู้ว่าอะไร ?
7. สำรวจ ภาพวาดวิเคราะห์จิตวิทยาเด็กที่ตกอยู่มุมห้อง
8.สำรวจปืนกระบอกที่ 2 ของ Ronan ที่ตกอยู่กลางห้อง
9. สำรวจหนังสือเรื่องลึกลับบนโต๊ะในห้องเก็บของ

10. กด สามเหลี่ยม เพื่อหาคำตอบ โดยต้องเลือกเบาะแสต่างๆที่เกี่ยวข้องกันออกมาคือ
- the Searching Killer การตามหาบางอย่างของฆาตกร
- Hiding Witness การหลบซ่อนของพยาน




Ronan ก็จะวิเคราะห์ได้ว่า ฆาตกรเข้ามาตามหาเด็กผู้หญิงแล้วตัวเขาตามมาพบจนเกิดการต่อสู้และโดนพลักตกหน้าต่างส่วนเด็กหญิงหนีไปได้ สรุปได้คือ ตอนนี้เด็กสาวคนนี้ไปไหนหรือหลบซ่อนอยู่ที่ไหนคือสิ่งที่ต้องหาต่อ..ซึ่งเป็นเบาะแสที่ 10.



11. สำรวจกองหลักฐานที่ยังคลุมเครือบนโต๊ะที่ตำรวจกำลังอยู่ก็จะได้เบาะแสที่ 11 มา
12 . คุณตำรวจที่ดูเหมือนจะกำลังคิดไม่ออกเกี่ยวกับภาพมากมายตรงหน้าที่จะโยงไปถึงผู้หญิงเจ้าของห้องที่หายตัวไป Ronan จึงต้องช่วยคิดนิดหน่อย จัดการเข้าสิงตำรวจแล้วเลือก Influence ชักจูงจิตใจให้เขาเลือกรูปที่ควรสนใจ  โดยให้เลือกไปที่ Obscured Photos เพื่อให้ตำรวจดูรูปที่ถูกทับอยู่ ก็จะพบรูปที่ผู้หญิงเจ้าของห้องที่หายไปถ่ายรูปกับบาทหลวงคนนึงอยู่  ก็จะได้เบาะแสที่ 12 มา 




13. ออกจากร่างของตำรวจแล้วเขาจะเดินไปดูรายงานเกี่ยวกับคนหายบนโต๊ะในครัวก็ให้เข้าไปสำรวจดูกองรูปของพยายานบนโต๊ะต่อจากนั้นเลือกดูรูปด้านบนที่เป็นรูปที่ถ่ายกับบาทหลวง (Priest) ก็จะได้เบาะแสที่ 13 คือที่โบสถ์มา 




14. สำรวจกระเป๋าเดินทางตรงโคมไฟที่มุมห้อง Ronan จะตั้งข้อสังเกตว่าถ้ามีใครจะหนีจากที่นี่แล้วทำไมถึงทิ้งกระเป๋าเอาไว้ก็จะได้เบาะแสที่ 14 มา

เมื่อหาจนครบทั้งหมดทุกเบาะแสที่ต้องการแล้ว เดินออกไปทางหน้าต่างห้องได้เลย Ronan จะเห็นว่าโบสถ์ที่เขาต้องการไปตรวจสอบนั้นอยู่ไม่ไกลมาก แต่จากชั้น 4 จะลงไปที่ซอยด้านล่างถึงจะรู้ว่าตกแล้วไม่ตายแต่มันก็ยังเสียวอยู่ดี

ระหว่างทางไปที่โบสถ์นั้นมีอะไรปลีกย่อยปลายทางให้เก็บเยอะแยะ แถมช่วงนี้ยังไม่ต้องกังวลกับพวกปีศาจด้วย
- Ronan เข้ามาที่ซอยตรงข้ามถนนจะพบจุดที่เคยเปลี่ยนชีวิตเขาซึ่งเมื่อทำการเปิดเผยมันออกมาก็จะพบว่าเป็นจุดที่ Julia เคยถูกฆ่าตายที่นี่ ซึ่งมันเป็นจุดแห่งชีวิตของ Ronan ที่ให้เก็บสะสมทั้งหมด 7 จุด
- จากนั้นเข้าไปสิงตำรวจ 2 คนที่ยืนบนถนนเลือก Eavesdrop แอบฟังพวกเขาคุยกัน Ronan จะได้ยินความเห็นของพวกเขาที่ว่า Baxter นั้นเกลียด Ronan มากพอที่อาจจะฆ่าเขาได้เหมือนกัน
- เดินไปตามลุกศรสีขาวนำทางไปตามทางชายหาดเก็บไอเทมสะสมตามทางให้หมดแล้วที่ชายหาดจะพบวิญญาณที่มาขอความช่วยเหลือว่าทำไมเธอถึงตาย ? ซึ่งเป็นเควสย่อยที่ต้องหาเบาะแสจำนวน 5 ชิ้นเพื่อไขคดีให้เธอซึ่งจะทำหรือไม่ทำก็ได้
- เก็บจุด My Life และ Julia Though ที่สะพานริมน้ำให้หมดแล้วเดินไปตามลูกศรสีขวาจนถึงทางเข้าโบสถ์ แถมยังโชคดีที่ประตูหน้าเปิดอยู่ด้วย 


..................................................................................................................................................



  

- เมื่อเข้ามาในโบสถ์แล้วจะพบทั้งวิญญาณและคนในโบสถ์ไม่กี่คน และเบาะแสที่ Ronan ต้องค้นหาก็มีแค่อย่างเดียวคืนพยานที่เขาตามหา เดินไปสำรวจจุดความทรงจำทางขวาของที่นั้งก็จะพบจุดที่เด็กสาวเคยเข้ามาคุยกับบาทหลวงที่นี่จริงๆ แล้วเบาะแสนี้จะนำพา Ronan ไปสู่อะไรนั่นเป็นสิ่งที่เขาต้องคิดต่อ โดยเลือกไปที่เบาะแส the Church ก็จะพบว่าเด็กสาวมาขอความช่วยเหลือจากบาทหลวงเพื่อขอซ่อนตัวอยู่ที่โบสถ์ซึ่งบาทหลวงก็จะยินดีช่วยเหลือโดยจะให้เธอไปพักบนห้องใต้เพดาน

   



- จากนั้นแวะเก็บความทรงจำที่ Ronan ก็เคยแต่งงานกับ Julia ที่นี่ด้วย จากนั้นเดินเข้าไปในห้องพักของบาทหลวงทางที่ประตูทางเข้าด้านซ้ายของเวที ชิ่งทางเดินด้านในนั้นจะมีจุดไฟนรกขวางอยู่ วิญญาณไม่สามารถผ่านได้ แต่ก็สามารถสิงบาทหลวงที่ถูพื้นอยู่แถวนั้นให้ผ่านไปด้านในได้ก็จะพบทางออกมาที่ส่วนลานกว้างด้านในโบสถ์ได้ซึ่งจะเห็นหน้าต่างของห้องใต้หลังคาที่อยู่ชั้นบนแล้วจะพบแมวดำตัวนึงที่โดดลงมาจากชั้นบนเข้าไปที่ห้องด้านล่าง
- เดินตามแมวเข้าไปที่ทางเข้าตึกฝั่งตรงข้ามไปจนถึงลิฟต์จะพบจุดความทรงจำที่สามารถเปิดดูจนพบร่องรอยของเด็กสาวที่กำลังกดลิฟต์ขึ้นไปชั้นบน จากนั้นเข้าไปด้านในจนพบแมวอยู่หน้าห้อง จัดการสิงร่างมันซะ ซึ่งการใช้ร่างของแมวนั้นสามารถกด L2 ในการวิ่งและจะสามารถกระโดดสูงได้ด้วย (ทางโดดขึ้นที่ต่างๆจะเป็นกลุ่มควันเป็นทางบอกเอาไว้ด้วย)
เข้าไปในห้องครัวด้านในจะพบช่องระบายอากาศทางซ้ายที่สามารถมุดเข้าไปด้านจะทะลุออกมาที่ห้องอาหาร   
ที่ในห้องจะพบพวกปีศาจออกมาเพ่นพ่านแล้ว ออกจากร่างแมวแล้วใช้จุดหลบซ่อนเข้าไปใกล้มันแล้วลอบเข้าไปด้านหลังแล้วจัดการมันซะ จากนั้นสิงแมวไปโดดปีนตู้ตรงบันไดขึ้นไปที่ช่องระบายอากาศด้านบนได้ ทะลุมาที่ห้องด้านในจะมีทางออกมาที่ด้านนอกโบสถ์ ปีนนั่งร้านขึ้นไปต่อจนถึงพนังที่มีเถาวัลย์ที่แมวจะสามารถปีนขึ้นไปต่อจนถึงห้องใต้หลังคาได้
- เข้ามาในห้องด้านในออกจากร่างแมวเข้าไปพบเด็กสาวที่เป็นพยานอยู่ด้านในเธอกำลังวุ่นวายใจที่เธอต้องหนีอยู่ตลอดเวลา Ronan จะต้องกาคำตอบว่าเธอรู้อะไรเกี่ยวกับฆาตกร Bell Killer บ้าง จากนั้นก็เริ่มแระติดประต่อเหตุการ์ณให้เธอด้วยการเลือก เหตุการณ์เบาะแส The Searching killer ว่าจริงๆแล้วเจ้าฆาตกรมันตามหาเธอทำไม ?

  แต่จู่ๆเด็กสาวก็สื่อถึงพลังบางอย่างจนรับรู้ว่ามีวิญญาณแอบเข้ามาพยายามจะสิงเธอ เธอจึงสลัดร่าง Ronan ออกจากตัวเธอทันที  



เด็กสาว โธ้เอ๊ย ! นี่พยายามจะเข้าสิงชั้นอีกแล้วหรอ เมื่อไหร่พวกแกจะเลิกยุ่งกับชั้นซะที ?
Ronan – ฟังก่อนสิ ผมพยายามจะหาข้อมูลของไอ้ฆาตกรที่เพิ่งฆ่าผมไปเมื่อไม่กี่ชั่วโมงต่างหาก แกแค่อยากรู้ว่าคุณรู้อะไรเกี่ยวกับมันบ้าง ก็แค่นั้น ! …..เฮ้ เดี๋ยวน๊ะ นี่เธอได้ยินที่ชั้นพูดหรอ ? เธอเห็นชั้นด้วยหรอ ?  โอ้ ให้ตายนี่คุณเป็น ร่างทรง หรอ ? ..นี่ผมเป็นคนที่โขคดีที่สุดในโลกรึไงถึงได้ตัวช่วยที่ยอมเยี่ยมแบบนี้
เด็กสาว นายกับครอบครัวชั้นนี่ก็พอๆกันเลย อยู่ๆก็ชอบให้ช่วยทำนู้นทำนี่ ให้ช่วยตำรวจบ้างล่ะ ทำไมทุกคนถึงคิดว่ามีสิทธิพิเศษในตัวชั้นกันนักน๊ะ ฟังน๊ะ ชั้นไม่ใช่คู่หูนาย ไม่ใช่เพื่อน แล้วยังไม่เคยติดหนี้บุญคุณนายพอๆกับนายก็ไม่ได้ติดหนี้ชั้นเหมือนกัน หัวขวดเอ๊ยยย !
Ronan – เออๆ รู้แล้ว คุณนี่มันก้าวร้าวไม่เบาแฮะ แต่หวังว่าคงไม่บ้าเหมือนเจ้าฆาตกรนั่นน๊ะ ไอ้หมอนั่นมันตามหาเธอ แล้วเธอก็พยายามที่จะหนีมัน ผมแค่อยากรู้ว่าคุณรู้จักไอ้ฆาตกรนี้มากแค่ไหนเท่านั้น ผมขื่อ Ronan O’conner แล้วเธอล่ะ
เด็กสาว ชั้นชื่อ Joy Foster  ..ขอโทษที แล้วเกิดอะไรขึ้นกับคุณหรอ โดนฆาตกรรม? แต่คุณก็ช่วยชีวิตชั้นเอาไว้ คุณต้องการอะไรกันแน่ ?
Ronan – ผมอยากรู้ว่าฆาตกรมันตามล่าคุณทำไม ?
Joy – ชั้นตอนรอยไอ้ฆาตกรนั่นไปที่ห้องของคุณต่างหาก ฆาตกรมันตามล่าคุณทำไมมากว่า ? และไอ้พลังบ้าๆนี่ก็ไม่เคยทำให้แม่ชั้นยอมรับเลยซักครั้ง ชั้นเหมือนจะไร้ตัวตนในสายตาของเธอ
Ronan – แล้วตอนนี้แม่เธออยู่ไหน ?
Joy –  แม่ก็เป็นเหมือนชั้น แต่เธออยากเป็นที่นับถือแม่ชั้นเลยตกเป็นเป้าหมายของมันเหมือนกัน
Ronan – เธอพอจะรู้มั๊ยว่าไอ้ฆาตกรนี่มันเป็นใคร ? เคยเห็นมันมาก่อนหรือเปล่า ?
Joy – หวังพึ่งตำรวจจากหลักฐานที่มีคงยาก ชั้นว่าคุณคงต้องลองถามชาวบ้านเอาเองเพื่อจะมีคนรู้จักมันน๊ะ
Ronan – เฮ้อออ
Joy – โอเค รู้แล้วว่าทำไมคุณต้องการความช่วยเหลือมากนัก
Ronan – ผมไม่ได้ถามไปเรื่อยเปื่อยกับคนทั่วไป แต่พยายามเจาะไปที่พยานที่รู้เห็นที่ยังไม่ตายมากกว่า เธอบอกว่าแม่เธอก็เป็นเป้าหมายของมัน แล้วตอนนี้แม่เธออยู่ไหน ? ถ้าตามหาแม่เธอจนเจอก็อาจจะเจอไอ้ฆาตกรด้วยก็ได้ และไอ้ที่ว่าแม่เธอต้องการเป็นที่นับถือนั่นคือ ?
Joy – แม่ ช่วยทำคดีนี้ร่วมกับตำรวจ ชั้นเจอแค่จดหมายที่แม่เขียนในห้องเกิดเหตุ มันเกี่ยวกับหนังสือของ Bell Killer
Ronan –หนังสือของ Bell Killer ? งั้นก็แปลว่าเธอต้องมีข้อมูลของมันมากกว่านี้แน่ๆ
Joy – ตลอดมาที่แม่และชั้นพยายามจะหนีจากคนอย่างพวกคุณที่ต้องมาขอให้ช่วยอยู่ตลอด ชั้นรักแม่ชั้นและก็กลัวว่าจะเกิดเรื่อร้ายๆกับท่านมาก แต่เราไม่เคยหนีคนอย่างพวกคุณพ้นเลย แม่ชั้นน่ะ ..เธอหายตัวไปเมื่อหลายวันก่อนแล้ว
Ronan – เธออยู่คนเดียวไม่ได้น๊ะหนูน้อย เธอต้องการคอนปกป้องแล้ว เพราะตอนนี้ปัยหาของเธอมันกลายเป็นปัญหาของผมด้วยแล้วล่ะ
Joy – ไม่มีทาง ! ที่คุณช่วยชั้นไว้ชั้นก็จะชดใช้ให้ในซักวันแล้วกันแต่ปัญหาของใครก็ของใครไม่เกี่ยวกัน …..นี่ไง กุญแจที่ชั้นหา ! ..โชคดีคุณตำรวจ บางทีคุณอาจต้องใช้มัน ชั้นไปล่ะ
Ronan – นี่ อย่าเพิ่งไป เราข้างเดียวกันน๊ะ ทำไมไม่รวมมือกันล่ะ 

Joy – ร่วมมือกันหรอ ? แล้วคุณทำอะไรได้บ้างละตอนนี้ คุณตายไปแล้ว ! เพราะฉะนั้น อย่ามายุงกับชั้น !
เสียงตะโกนของ Joy นั้นมีพลังบางอย่างที่ทำให้ร่างวิญญาณของ Ronan ถึงกับกระเด็น เป็นพลังที่ Ronan ต้องการหาคำคอบด้วยเหมือนกันว่ามันเป็นพลังอะไร แต่ตอนนี้เขามั่นใจแล้วว่า Joy ต้องรู้อะไรมากกว่าที่เธอบอกแน่เขาจึงไม่ปล่อยเธอไปง่ายๆแน่นอน แต่ก่อนอื่นต้องหาทางลงไปชั้นล่างให้ได้ก่อน
- สิงแมวโดดลงมาจากหน้าต่างชั้นบนกลับไปในโบสถ์ตามทางเดิมจนถึงทางเดินที่มีจุดไฟนรกอยู่ แต่จะไม่เห็นบาทหลวงที่ถูพื้นแล้ว สำรวจที่เครื่องดูดฝุนเพื่อเปิดมันแล้วบาทหลวงจะเดอินเข้ามาดู จัดการสิงเขาแล้วเขาจะพาเดินผ่านจุดไฟนรกไปด้านในได้
- เมื่อกลับมาที่โถงทำพิธีของโบสถ?จะพบพวกปีศาจเข้ามาในนี้แล้ว แต่ก็จะพบอีกาตัวนึงเกาะอยู่ที่นั่งกลางห้องด้วย ซึ่ง Ronan จะสามารถใช้อีกาเป็นตัวช่วยในการจัดการพวกปีศาจได้โดยการกด R2 เพื่อทำให้อีกามันตกใจเพื่อล่อให้ปีศาจมันเข้าไปดูจากนั้นก็ลอบจัดการมันด้านหลังได้เลย จากนั้นก็ลอบหลบออกมาที่ประตูทางออกจากโบสถ์ได้เลย
- เมื่อกลับมาในเมือง Ronan จะไม่เจอ Joy แล้วซึ่งก็พยายามถามกับแมวแล้วมันก็ได้แต่ขู่ฟ่อใส่ ทำให้เขาต้องคิดเองตามเบาะแสที่ได้มา ให้เลือกไปที่ Witness’s mother Note จดหมายที่แม่ของ Joy ทิ้งข้อความเอาไว้ 






ทำให้ Ronan รู้ว่าแม่ของเธอเขียนบอกไว้ว่าหนังสือบันทึกเกี่ยวกับฆาตกรโดนตำรวจยึดเอาไปแล้วให้เธอไปเอามันมาจากที่สถานีตำรวจ ซึ่งนั่นจะเป็นจุดหมายต่อไปที่ Ronan ต้องเข้าไปหาเบาะแสต่อ
- เดินทางมาตามลูกศรเป้าหมาย ระหว่างทางก็เต็มไปด้วยของสะสมให้เก็บและเควสย่อยช่วยวิญญาณให้ทำบ้างเป็นระยะ เดินมาตามทางจนถึงสถานีตำรวจ 

............................................................................................................................................




สถานีตำรวจเมือง Salem …สถานที่ที่ Ronan คุ้นเคยมันเป็นทั้งที่ทำงานและที่ที่เขาเคยถูกจับมานับไม่ถ้วนในตอนวัยรุ่น เมื่อเข้ามาแล้วเข้าไปในห้องทำงานด้านในซึ่งอย่างน้อย Ronan ก็อุ่นใจเมื่อเห็น Rex เพื่อนรักตั้ง War Room ของคดี Bell Killer ขึ้นมาอย่างจริงจังเสียที ซึ่งในห้องนี้ก็เต็มไปด้วยเบาะแสที่ Ronan ต้องการเสียด้วย โดยมีเบาะแสใหม่ที่เขาอาจยังไม่รู้ที่ต้องค้นหาในห้องนี้ 11 เบาะแส คือ
1.ภาพเหยื่อทุกรายที่แปะอยู่บนบอร์ดที่พนัง
2.กองรูปภาพเกี่ยวกับสัญลักษณ์ของฆาตกรบนตัวเหยื่อ
3. บันทึกการวิจัยเกี่ยวกับที่มาของรูประฆังที่วางอยู่บนโต๊ะใกล้ๆกัน
4. เข้าไปสิง Rex ที่ยืนคุยโทรศัพท์แล้วเลือก Eavesdrop แอบฟังเขาคุย ที่ดูเหมือนสารวัตรจะใส่เกียร์ว่างและพยายามจะบอกว่า Ronan ทำไปโดยไม่เรียกกำลังเสริมตามกฎ ซึ่งก็ทำเอา Rex ที่เป็นทั้งเพื่อร่วมงานและพี่เขยของ Ronan ถึงกับโมโห
5. เข้าสิงตำรวจที่ยืนกลางห้องเลือก peek แอบดูบันทึกรายงานที่เขาถืออยู่ แล้วเลือกดูข้อมูลในบันทัดสุดท้ายจะพบว่าตำรวจไม่พบหลักฐานรอยนิ้วมือหรือ DNA ของคนร้ายในที่เกิดเหตุเลย 

       


6. สำรวจประกาศหาคนหาย Cassandra และ Joy Foster บนโต๊ะ
7.ดูบันทึกสาเหตุการตายของเหยื่อบนโต๊ะมุมห้อง
8.สำรวจดูแผนที่บนบอร์ดที่พนังซึ่งเป็นจุดการเกิดฆาตกรรมของ Bell Killer
9. ภาพสเก็ตใบหน้าคนร้ายที่อยู่บนบอร์ด
10. สิงตำรวจคนที่กำลังนั่งใช้คอมอยู่ แล้วเลือก Influence ชักจูงจิตใจเขาให้หาคำตอยจากหลักฐานทั้งหมด เลือกไปที่หลักฐานประกาศคนหาย Missing person Flyer ให้ตำรวจค้นหาเพิ่มเติม



11. จากนั้นเลือกคำสั่ง peek แอบดูที่หน้าจอคอมเพื่อดูข้อมูลต่อจนพบว่า Joy เคยถูกกักขังเอาไว้ในกฎการคุ้มครองพยานด้วย 



- เมื่อหาหลักฐานครบแล้วก็เข้าไปที่ห้องสอบสวนด้านในจะพบ Joy ถูกตำรวจจับได้และยึดกุญแจไปแล้ว





Ronan – ใจเย็นหนูน้อย เดี๋ยวผมหาทางช่วยเอง ตกลงบันทึกของแม่เธออยู่ที่นี่ใช่มั๊ย ?
Joy – เออ มันสำคัญมาต่อแม่ของชั้น แต่ถ้าหน่อยว่าคนที่ตายแล้วอย่างคุณจะช่วยอะไรได้ ?
Ronan – ผมหาทางช่วยจนได้แหละน่า ตกลงมันอยู่ที่นี่ใช่มั๊ยหนังสือที่ว่าน่ะ แล้วที่นี่ใครที่ทำงานให้แม่ของเธอบ้าง ใคร ?
Joy – ชั้นไม่รู้ แต่แม่เรียกมันว่า ไอ้สารเลว !
Ronan – ไอ้สารเลว ? …. ที่นี่ก็มีอยู่คนเดียว ไอ้ Baxter ..เอาล่ะตามผมมาจะพาออกจากที่นี่เราจะลองไปค้นหาที่ห้องทำงานของมันบนชั้น 2 กัน

Joy – นายจะบ้าหรอมันมีกล้องคอยดูอยู่ !
Ronan – ให้ตายเหอะลืมไปแล้วหรอ ผมเป็นผีน๊ะ 



- ใช้พลังทำให้กล้องเปลี่ยนทิศทาง แล้ว Joy จะเริ่มหนีออกจากห้อง ที่ห้องทำงานของตำรวจจะมีตำรวจยืนตรงทางเดิน เข้าไปทำให้เครื่องถ่ายเอกสารส่งเสียงมันจะเข้าไปดู Joy ก็จะหลบออกมาถึงด้านในได้ ที่กลางห้องก็ทำให้เครื่องถ่ายเอกสารด้าขวาให้ดังขึ้นตำรวจที่หน้าประตูทางขึ้นบันไดด้านในก็จะออกมาดู Joy ก็จะหลบเข้าไปที่ทางขึ้นชั้นบนได้ แต่ที่บันไดทางขึ้นจะมีโพรงไฟนรกขวางอยู่ ถึงแม้ Joy จะเห็นแต่เธอก็ข้ามไปได้แต่ Ronan ไปไม่ได้ ซึ่งคราวนี้ Joy ก็จำยอมให้ Ronan เข้าเธอเพื่อผ่านไปชั้นบนต่อสำเร็จ
- ที่ชั้นบนจะมีตำรวจ 2 คนยืนเฝ้าหน้าห้องอยู่ เข้าไปทำให้โทรศัพท์และเครื่องถ่ายเอกสารด้านในดังขึ้นตำรวจทั้งคู่ก็จะเดินไปดู Joy ก็จะลอบเข้าไปในห้องได้ เป้าหมายคือเข้าไปที่ห้องทำงานของ Baxter ด้านใน 

- เดินเข้าไปที่ห้องทำงานของ Baxter จะพบ Joy กำลังพยายามค้นหาหนังสือของแม่อยู่ Ronan จะแฟ้มที่น่าสนใจกระจัดกระจายบนพื้นห้องเขาจึงเข้าไปสำรวจดู พลังวิญญาณของ Ronan ที่เริ่มแข็งแกร่งพอที่จะสัมผัสวัตถุโดยตรงได้บ้างแล้ว 





ให้เลือกหยิบแฟ้ม Mug Shot ทางซ้ายมาดู ซึ่งเป็นแฟ้มอาชญากรรมที่ Ronan เคยทำไว้ก่อนเป็นตำรวจที่ Baxter พยายามจะใช้อดีตที่ผิดพลาดของเขามาด่าว่าเสมอ แต่ดูเหมือน Rex จะช่วยไม่ให้Baxter เอาข้อมูลในแฟ้มมา Blackmail เขา 

ในขณะที่ Joy พยายามหายังไงก็ยังไม่เจอหนังสือ ตามที่ Ronan ทำงานมาเขารู้ดีว่าตำรวจไม่เก็บแฟ้มสำคัญๆอย่างโจ้งแจ้งแน่นอนเขาจึงพยายามหาหลักฐานเพิ่มต่อทันที ซึ่งจะมีเบาะแสที่ต้องหาในห้องนี้ 10 จุด
1. ข้อมูลจากแฟ้มอาชญากรรม ของ
Ronan เอง
2. บันทึกข้อความในโทรศัพท์บนโต๊ะ
3.คุยกับ Joy ให้เธอเปิดเครื่องบันทึกเสียงให้จะได้เสียงเสียงของ Rex ที่สั่งให้ Baxter เอาหนังสือมาให้เขา ยืนยันว่า Baxter ยังซ่อนหนังสือเอาไว้ในห้องนี้
4. หนังสือบันทึกสถิติต่างๆของเมืองบนโต๊ะ.... ที่
Baxter มันไม่เคยสนใจจะดู
5.สำรวจถ้วยรางวัลแชมป์โบลิ่งของ Bexter บนตู้.... ที่มันใช้เอาไว้โม้ให้ทุกคนฟัง
6.ตั๋วรถออกนอกเมืองที่อยู่ในตู้หนังสือ ....ทำไม
Baxter ถึงจะออกนอกเมือง ?
7.กรอบรูปไปรษณียบัตรตำรวจที่พนังตรงโต๊ะทำงาน
8.กรอบรูปตอนจบจากโรงเรียนตำรวจที่พนังตรงโต๊ะทำงาน



9.สำรวจชั้นวางปืนที่พนังตรงแล้วเลือก Stain / Matches Gun Rock / Imprinted
10. สำรวจด้านซ้ายของชั้นวางปืนก็จะพบสวิตซ์ซ่อนอยู่



- เมื่อหาหลักฐานครบแล้วก็เข้าไปคุยกับ
Joy เพื่อให้เธอมาเปิดช่องลับตรงชั้นเก็บปืนให้ก็จะพบหนังสือบันทึกสภาพจิตใจที่ Cassandra แม่ของ Joy ทำเอาไว้ ซึ่งดูเหมือนฆาตกรจะรู้เรื่องพลังของ Joy ด้วยแต่นอกนั้นก็ยังไม่สามารถตีความออกได้ จน Ronan สังเกตเห็น บัตรเชิญไปงานเลี้ยงที่ พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ของเมืองตกลงมาจากหนังสือ ซึ่งก็เป็นเรื่องแปลกที่มันอยู่ในบันทึกนี้ด้วย Ronan จึงคิดว่าจะลองไปตรวจสอบดู แต่ขณะที่กำลังจะกลับออกมาจะพบว่าพวกตำรวจกำลังจะกลับเข้ามาที่ห้องทำงานแล้ว
- จากนั้นก็ต้องล่อตำรวจให้
Joy หนีออกไปได้ โดยเมื่อตำรวจคนแรกเข้ามาในห้องก็เข้าไปทำให้เครื่องถ่ายเอกสารด้านซ้ายดังขึ้นมันก็จะเข้าไปดู Joy ก็จะหลบออกไปทางขวาจนลงมาที่ชั้นล่างได้ เข้าไปคุยกับ Joy ที่บันไดจะพบ Rex เข้ามาที่นี่พอดี Ronan จึงให้ Joy เข้าไปแอบในห้องทำคดี Bell Killer ก่อน แต่แค่ไม่ทันได้มองหน่อยเดียว Joy ก็หนีออกหน้าต่างไปซะแล้ว 
- ออกจากสถานีตำรวจตามเธอไป Ronan พยายามจะคุยกับเธอถึงอันตรายที่เธออาจจะเจอถ้าคิดจะหาคำตอบเรื่องนี้คนเดียว และที่สำคัญ Joy จะไม่มีวันหาแม่เธอพบถ้า Ronan ไม่ช่วย จากนี้ก็ต้องหาทางอธิบายให้เธอเข้าใจโดยเลือกไปที่เบาะแส Witness Mother's Note Wrote 







Ronan -ฟังน๊ะ เธอจะไปง่ายๆแบบนี้เลยไม่ได้น๊ะ..
Joy - ถ้านายแคร์คดีนั่นมากนายก็หาเบาะแสเอาเองสิ !!
Ronan - เพราะเธอจะไม่มีวันหาแม่เธอพบถ้าไม่มีชั้นน่ะสิ
Joy - อะไรน๊ะ ?
Ronan - แม่ของเธอเขียนบันทึกขึ้นมาเพื่อจับตัว Bell killer โดยไม่ได้คิดถึงตัวเองที่กำลังตกอยู่ในอันตราย ฉะนั้นการที่จะยุติเรื่องนี้ได้ก็ต้องจัดการฆาตกรให้ได้ ซึ่งผมเองก็ต้องการให้ช่วยในบางเรื่องที่ไม่สามารถทำในโลกความจริงได้ และการจะตามแม่เธอให้พบเธอก็ต้องการนักสืบ และผมเป็นตำรวจนักสืบ..
 
Joy - เฮ้ออ.. เคสสุดท้ายที่แม่ทำก่อนหายตัวไปในหนังสือเขียนไว้ว่าที่สุสาน  Ashland Hill ..ไม่รู้สิชั้นเดาว่าแม่คงพบเบาะแสอะไรที่นั่นแน่ๆซึ่งคิดว่าตำรวจก็คงยังไม่ได้ไปตรวจดูเหมือนกัน
Ronan - งั้นเราก็ควรลองไปเช็คดูที่ สุสาน  Ashland Hill
 
Joy - ใช้คำว่า เรา เลยหรอ ?
Ronan - โธ่ไม่เอาน่า เราต้องช่วยกันน๊ะ
 
Joy - นายต้องการชั้นมากกว่าที่ชั้นต้องการนายน๊ะ
Ronan - วินๆน่าคู่หู
  Joy - O.K แต่แค่ตอนนี้น๊ะ
Ronan - ก็ตอนนี้เท่านั้นแหละที่ชั้นต้องการล่ะ
  Joy - งั้นชั้นต้องไปทำธุระบางอย่างก่อนแล้วค่อยเจอกันที่สุสาน
Ronan - ไม่ๆๆ เราต้องไปด้วยกันไม่ว่าเธอจะชอบหรือไม่ก็เถอะ
 
Joy - ถ้านายตามชั้นมาสัญญาก็เป็นอันยกเลิก !

- เมื่อ Joy แยกตัวไปแล้วก็เดินทางไปตามลูกศรเป้าหมายที่ขึ้นมาเพื่อมาที่ทางเข้าสุสานที่อยู่ไม่ไกลมากนัก

.............................................................................................................................................




Ashland Hill Cemetery ..สุสานในเมืองที่ Ronan ไม่ได้มานานแล้วตั้งแต่ Julia ตาย เข้าไปด้านในจะมีวิญญาณมากมายที่สามารถพูดคุยถามไถ่สารทุกข์สุกดิบได้ และทันทีที่เข้ามา Ronan ก็จะรู้สึกว่ามีวิญญาณผู้หญิงคนนึงคอยตามแอบมองเขาอยู่ตลอด จากนั้นเข้าไปหา Joy ที่กำลังหาหลักฐานอยู่ โดยเธอค่อนข้างจะระวังตัวไม่พยายามจะคุยกับ Ronan มากเพราะถ้าคน(ที่ตายแล้ว)ในสุสานเห็นคงจะวุ่นวายน่าดู  ตามที่บันทึกไว้ในหนังสือของแม่เขียนไว้ว่าเกิดการฆาตกรรมที่นี่แต่ดูเหมือนเธอจะยังมืดแปดด้านอยู่ Ronan จึงลองหาเบาะแสที่อยู่แถวๆนี้ดู ซึ่งจะมีสิ่งที่ต้องค้นหาอยู่ 8 จุด
1. สำรวจพลั่วที่วางพิงป้ายหลุมศพข้างๆ
2. สำรวจหินปูทางเดินที่ทางเดินด้านหลัง Joy จะพบว่ามันถูกเปลี่ยนที่
3.สำรวจเทปกั้นพื้นที่ของตำรวจที่อยู่ใต้ต้นไม้
4. คุยกับวิญญาณผู้หญิงที่นั่งพิงป้ายหลุมศพใกล้ๆแม่น้ำเธอจะบอกว่าเธอเห็นบางสิ่งที่ริมแม่น้ำ



5.สำรวจที่ริวน้ำด้านหลังที่วิญญาณผู้หญิงนั่งจะพบจุดความทรงจำของศพ ให้เลือกคำว่า Washed up / Deceased / Tattered แล้วจะเห็นเหตุการ์ณตอนที่ศพนี้ลอยน้ำมาเกยฝั่งและมีวิญญาณผู้ชายคนนึงเห็นเหตุการ์ณอยู่ด้วย                
6. เดินไปคุยกับวิญญาณผู้ชายเสื้อลายอีกฝั่งของทางเดิน เขาจะบอกว่าเห็นอะไรบางอย่างที่พุ่มไม้
7..เดินไปที่สำรวจที่พุ่มไม้ทางขวาจากจุดที่พบศพ แต่มันจะมืดมากจนมองไม่เห็น
8..ไปคุยกับ
Joy เพื่อเรียกให้เธอเอาไฟฉายมาช่วยหาจนพบ เชือกที่มัดศพถูกซ่อนเอาไว้ 



เมื่อหาเบาะแสจนครบแล้ว Ronan จะพยายามนึกว่าเคยเห็นที่ไหนจากเบาะแสที่ได้มา ให้เลือก Pattern of Victim Death บันทึกรูปแบบการตายของเหยื่อที่ได้จากสถานีตำรวจ Ronan ก็จะมั่นใจว่าเป็นฝีมือของ Bell Killer แน่นอน เขาจึงคิดว่าจะขึ้นไปดูที่ต้นแม่น้ำว่าเธอตายยังไงก่อน
- เดินเข้าไปคุยกับ Joy เพื่อปรึกษาว่าจะเริ่มหาจากต้นน้ำส่วนไหนก่อนดีเพราะแม่น้ำมี 2 ฝั่งและกว้างมาก Joy จึงลองเปิดดูในบันทึกซึ่งในหน้านี้จะมีรูปของ Sophia คั่นอยู่พอดีซึ่ง Ronan ก็จะจำได้ว่าเป็นวิญญาณผู้หญิงคนเดียวกับที่ตามดูเขาตั้งแต่เข้ามาแล้ว ก่อนที่เขาจะเห็น วิญญาณของ Sophia แอบดูอยู่ข้างต้นไม้ แต่เมื่อ Ronan พยายามจะเข้าไปถามเธอ เธอก็หายตัวหนีไปแต่ทั้งคู่ลืมตัวจนคุยกันซะเสียงดังทำให้วิญญาณมากมายรู้ว่า Joy สามารถสื่อสารกับวิญญาณได้ พวกมันจึงพยายามรุมเข้ามาขอความช่วยเหลือกันใหญ่ แต่เมื่อเสียงคำรามของปีศาจดังขึ้นพวกมันก็จะหนีไปหมด 



- จากนั้น
Ronan ก็ต้องตามหาวิญญาณของ Sophia ไปพร้อมๆกับต้องหลบพวกปีศาจที่อยู่เต็มพื้นที่ด้วย แต่พื้นที่ในสุสานค่อนข้างกว้างและจุดหมอกที่ซ่อนตัวก็เยอะแยะ จัดการพวกปีศาจได้ไม่ยาก หลบพวกมันเข้าไปตามทางเดินไปสุสานส่วนในจะพบ Sophia กำลังหนีเข้าไปด้านใน เข้าไปตามทางซึ่งระหว่างทางก็มีเหล่าวิญญาณที่ต้องการความช่วยเหลือมากมาย ตามขึ้นไปจนถึงบ้านร้างชั้นบนก็จะพบ Sophia เธอพยายามจะพูดอะไรบางอย่างออกมาแต่ก็เปลี่ยนใจ Teleport หนีไปซะก่อน สร้างความเซ็งให้ Ronan เป็นอย่างมากที่เห็นเธอ Teleport หนีไปตลอด แล้วทำไมเขาถึงทำแบบนั้นไม่ได้บ้าง Ronan จึงทดลองทำดูซึ่งก็แน่นอนว่าต้องทำได้
- กด
L1 ค้างแล้วหาตำแหน่งที่จะไปซึ่งจะปรากฏเป็นจุดสีส้มให้เห็นก่อนที่จะปล่อยปุ่ม L1 เพื่อ Teleport ไปที่นั่น ซึ่งคราวนี้ Ronan ก็จะสามารถเดินทางไปในพื้นที่ที่ไปไม่ถึงต่างๆได้แล้ว จากนั้นก็วาร์ปตามเธอไปตามพื้นขาดชั้นบนไปจนออกมาที่ส่วนนอกของสุสานที่จะเริ่มพบพวกปีศาจมากมายอีกครั้ง ลอบหลบพวกมันเข้าไปจนถึงรั้วลูกกรงด้านใน ผ่านเข้าไปตามทางในป่าจนไปถึงริมแม่น้ำด้านบนจะพบกับ Sophia



-
Sophia พยายามจะบอกบางอย่างกับ Ronan โดยชี้ไปที่ตราตำรวจและขี้ไปอีกที่ต้นไม้ใหญ่เพื่อให้ Ronan เข้าไปตรวจสอบ ซึ่ง Ronan ก็จะรู้ว่าที่ผ่านมาเธอไม่ได้หนีแต่เธอพยายามพา Ronan มาที่นี่ต่างหาก เข้าไปสำรวจที่ต้นไม้ที่คำว่า CRACK 




ก็จะทำให้ Ronan เห็นตอนที่ฆาตกร Bell Killer ฆ่าเธอด้วยวิธีจับมัดกับเก้าอี้ก่อนจับกระแทกต้นไม้แล้วจบด้วยถ่วงน้ำจนตาย จากนั้น Sophia จะพยายามจะให้ Ronan จับมือเธอเพื่อสื่อให้เห็นภาพเหตุการ์ณตอนที่เธอถูกฆ่า แต่ Ronan ไม่อยากให้เธอเจ็บปวดที่ได้เห็นตอนเธอตายซ้ำอีกเพราะเธอยังเด็กเกินไปที่จะทนความเจ็บปวดไหว แต่ด้วยความที่เขาต้องการเบาะแสใหม่จึงต้องยอมจับมือเธอ ทำให้ Ronan ได้เห็นฉากสลดสยองตอนฆาตกรมันลงมือฆ่า Sophia แต่ก็ทำให้เขาได้ยินประโยคที่เป็นเบาะแสใหม่ออกมา 



อย่า ฉันไม่รู้เรื่องการตกลงอื่นๆเลย "
แกทำแบบนี้กับชั้นทำไม แกเป็นใคร !!
แก คือ ...อย่า อย่าฆ่าชั้น อย่าฆ่าชั้นเลย ..หยุดดดดด !!

อะไรคือ ข้อตกลง หรือ จดหมายสัญญา ? เธอพูดเหมือนเธอรู้จักมัน แล้วรู้มั๊ยว่าเครื่องหมายระฆังที่มันวาดก่อนลงมือฆ่าหมายถึงอะไร ? Ronan ยิงคำถามจน Sophia ทนรับไม่ไหวก่อนที่จะกรีดร้องแล้วหายตัวไป และเสียงนั่นก็ทำเอา Ronan สะท้านจนยืนไม่อยู่เหมือนกับที่ Joy เคยทำกับเขาเสียด้วย เขาจึงต้องรีบกลับไปหาคุยกับ Joy ถึงเรื่องนี้ทันที ....

- เดินทางย้อนกลับมาตามทางจนถึงที่สุสานส่วนหน้าที่ Joy อยู่ Ronan จะเล่าสิ่งที่เขารู้มาให้เธอฟัง



Ronan - ใช่ ฆาตกรคือ Bell Killer มันวาดรูประฆังที่แขนของเหยื่อที่ต้นไม้ต้นน้ำจริงๆ
Joy - บอกแล้วว่าแม่ชั้นถูก Case นี่เป็นฝีมือ Bell Killer จริงๆ แล้วคุณเจออะไรที่เกี่ยวกับแม่ชั้นมั๊ย ?
Ronan - เสียใจด้วย ไม่มีเลย แล้วผมก็ไม่อยากเล่าเลยด้วยว่าฆาตกรมันทำยังไงกับ Sophia มัน..โหดร้ายสิ้นดี แต่ก็ได้อะไรบางอย่างมา เธอพูดเกี่ยวกับสัญญา หรือ ข้อตกลงอะไรบางอย่าง ออกมา
Joy - สัญญา ข้อตกลงหรอ ? ในหนังสือไม่มีข้อมูลนี่เลย เอ๊ะ ! เดี๋ยวๆ นี่ไง มี Case นึงที่มีผู้รอดชีวิตคนนึงชื่อ  Iris Campbell แต่ตอนนี้วิกลจริตไปแล้วเขาให้การเกี่ยวกับ การกลั่นแกล้ง และ ข้อตกลงบางอย่างเอาไว้
Ronan - แล้วเธออยู่ที่ไหน
Joy - มันเขียนว่า  Lux Aeterna  รู้มั๊ยที่ไหน ?
Ronan - รู้สิ....โรงพยาบาลบ้า Lux Aeterna ไง
Joy - โอเค งั้นไปกัน
Ronan - เออ ..เธอ..ล่วงหน้าไปก่อนน๊ะ ผมมีธุระจะทำอะไรที่นี่ก่อน นิดหน่อย...
Joy - เยี่ยม..ที่งี้ให้ชั้นไปคนเดียวเฉยเลย โรงบาลบ้าเนี้ยน๊ะ !!


ธุระที่ว่าของ Ronan ก็คือหลุมศพของ Julia ที่ตั้งอยู่ที่นี่นั่นเอง นานเท่าไหร่แล้วก็ไม่รู้ที่ Ronan ไม่เคยเข้ามาเยี่ยมหลุมศพแฟนสาวหลังจากเสียเธอไป .....




" คงอีกไม่นาน ..เราจะได้อยู่ด้วยกัน อยู่ด้วยกันอีกครั้ง อีกไม่นานที่รัก "
ถ้อยคำสั้นๆที่ Ronan บอกความรู้สึกถึงคนรักที่แม้ความตายก็ไม่อาจให้ทั้งคู่ได้พบกัน ก่อนที่ Rex จะเดินเข้ามาพร้อมช่อดอกไม้ไหว้หลุมศพ Julia ผู้เป็นน้องสาว เขาอาจโศกเศร้ายิ่งกว่าหรืออาจไม่ต่างกัน
" ขอโทษด้วย Julia ที่พี่มาพร้อมข่าวร้ายทุกครั้ง "
Rex พยายามบอกกับน้องสาวที่ยังไม่สามารถจับคนร้ายที่ฆ่าเธอมาลงโทษได้
" อย่าห่วงเลย เธอรับรู้แล้วล่ะ "
Ronan พยายามบอกกับ Rex พร้อมสัมผัสปลอบใจเบาๆที่ Rex อาจไม่หยั่งถึง ก่อนที่ Ronan
จะเดินออกจากสุสานทิ้งไว้เพียงความเงียบงันและคราบน้ำตา.....

- จากนั้นเดินทางผ่านตัวเมืองตามลูกศรไปไม่นานก็ถึงทางเข้าโรงพยาบาลบ้า Lux Aeterna

..................................................................................................................................................



Lux Aeterna Asylum ...... เข้ามาพบ Joy ที่หน้าเข้าจะพบเธอค่อนข้างหวาดกลัวที่จะเข้าไปเจอพวกคนบ้าด้านในมากกว่าสู้ผีทั้งป่าช้าเสียอีก Ronan จะให้ Joy พยายามเกลี่ยกล่อมพนักงานให้บอกเลขที่ห้องของ Iris Campbell แต่นอกจากป้าพนักงานตอนรับแกจะไม่ยอมให้เข้าเยี่ยมเกินเวลาแล้วเธอยังกวนประสาทจน Joy เกินจะรับไหวอีกต่างหาก จน Ronan ต้องหาทางทำอะไรซักอย่างให้ป้าพนักวานต้อนรับช่วย Joy ซึ่งต้องหาเบาะแส 4 อย่างเพื่อใช้ในการชักจูงใจเธอ
1. สำรวจรูปแมวที่พนัง
2. สำรวจฟิกเกอร์ T-Rex บนโต๊ะ
3.สำรวจสมุดรายชื่อผู้เข้าเยี่ยมบนโต๊ะ
4.รูปเด็กผู้ชายขาพิการบนโต๊ะ 



- หลังจากหาเบาะแสจนครบแล้วก็เข้าสิงป้าแกได้เลยจากนั้นเลือกคำสั่ง Influence ชักจูงจิตใจ
 แล้วเลือกรูปภาพเด็กผู้ชาย Photo of Boy ซึ่งเป็นภาพลูกชายคนสำคัญของเธอ ป้าแกเลยคิดได้ว่าเด็กสาวตรงหน้าที่เข้ามาเยี่ยมคนไข้ในนี้ก็ต้องการมาหาคนสำคัญไม่แพ้กันเธอจึงถามชื่อคนที่ Joy ตามหาทันที หลังจาก Joy บอกชื่อ Iris Campbell ไปแล้ว ป้าแกจะบอกว่าเขาอยู่ที่นี่อย่างปลอดภัยไม่ต้องกังวล จากนั้น Joy จะแกล้งเดินกลับไป เข้าสิงป้าแกอีกครั้งแล้วเลือก peek เพื่อแอบดูหน้าจอคอมเธอ จากนั้นเลือกอ่านข้อความอันบนสุดก็จะพบว่าห้องของ Iris Campbell คือ 216 นั่นเอง 



- พา
Joy ขึ้นไปชั้นบน ทำลายกล้องวงจรปิดก่อนเข้าทางเดินแล้ว Joy จะเข้าไปด้านในต่อจนถึงห้องโถงใน ทำให้ TV ดังขึ้นจนคนดูแลคนไข้เข้าไปดู จากนั้นทำลายกล้องที่พนังทางขวาแล้ว Joy จะเข้าไปด้านในต่อจนถึงทางเข้าทางเดินด้านในที่มีจุดไฟนรกกั้นอยู่ Ronan จะขอเข้าสิง Joy เพื่อให้พาผ่านเข้าไปด้านในต่อ จนถึงทางเข้าโซนที่มีการป้องกันสูงสุด Joy จะรู้สึกว่ามีผู้คุมตามมาข้างหลังทั้งคู่จึงต้องแยกทางกันไป
- อ้อมไปอีกด้านเข้าไปจนถึงจุดที่มีพื้นทางขาด มองลงไปด้านล่างจะพบแมวเดินอยู่ จัดการสิงมันแล้วเดินเข้าไปในท่อระบายอากาศด้านล่างต่อจนตกลงมาที่ฝาเพดานของห้องโถงชั้นล่าง ในห้องจะเต็มไปด้วยพวกปีศาจ จากนั้นลงมาจากเพดานที่ห้อง 104 แล้วออกจากร่างแมวเดินทะลุประตูมาด้านนอก ลอบจัดการพวกปีศาจแล้วเข้าไปจนถึงทางเดินด้านในจะพบทางที่ถูกของกั้นอยู่ ใช้การ
Teleport ผ่านสิ่งของที่กั้นประตูลูกกรงไปจนถึงทางเดินด้านในก็จะพบ Joy รออยู่ที่หน้าทางเข้าเขตคุ้มกันสูงสุดของตึกคนไข้หญิง ใช้พลังกดสวิตซ์เปืดประตูแล้วเข้าไปทำลายกล้องพี่พนังด้านใน Joy ถึงจะวิ่งตามมา เข้ามาตามทางเดินจนถึงห้อง 216 เป้าหมายแล้ว



- ในห้องจะพบกับ Iris Campbell เหยื่อผู้รอดชีวิตจากฆาตกร Bell Killer ที่ดูเหมือนเธอกำลังจิตตกบ่นพ่มพำอยู่คนเดียว Ronan จึงให้ Joy รับหน้าที่เจรจากับเธอ
Joy - อย่าห่วงเลยน๊ะชั้นไม่ได้มาทำร้ายคุณหรอก
Iris - อย่าฆ่าน้องสาวชั้น !!
Joy - ชั้นไม่ได้มาทำร้ายคุณ แค่อยากถามอะไรบางอย่างหน่อย
Iris - ไปให้พ้นเลยทั้ง 2 คน !!
Ronan - เธอเห็นผมด้วยแฮะ
....ก่อนที่
Iris จะบุกขึ้นมาวาดรูปต่างๆบนพนังอย่างบ้าคลั่งเต็มไปหมด .....



Joy - อ่า..ชั้นจำสัญญาลักษณ์นี่ได้ ! เคยเห็นมาครั้งนึง..ไม่รู้สิ เหมือนจะในหนังสือของแม่ มันคุ้นมากๆ ภาพนึงดูเหมือนจะหมายความว่า การปกป้อง
... Iris ที่กำลังวาดภาพอยู่จับแขนของ Joy ทันที .....
Iris - ไม่ทำสัญญา ไม่ทำสัญญา !!
Ronan - เดี๋ยวๆ สัญญา.. การทำสัญญา !! เธอรู้ ให้ตายสิ เธอรู้เรื่องนี้ !

จากนั้น Ronan จะลองเข้าไปสิง Iris เพื่อจอ่านใจเธอ แต่ดูเหมือน Ronan จะไม่สามารถเข้าสิงเธอได้ เขาจึงเริ่มทำการหาเบาะแสที่เกี่ยวข้องกับภาพวาดต่างๆในห้องแทน โดยต้องหาเบาะแสทั้งหมด 7 อย่าง
1.สำรวจระฆังใหญ่ด้านพนังทางขวาเลือก Key Word 2 คำคือ Bell และ Burned the Stake (ระฆัง และ เสาที่กำลังลุกไหม้) แล้ว Ronan จะเห็นการเขียนรูประฆังบนพื้นทราย



2. สำรวจรูปผู้หญิง 2 คนจับมือกันที่พนังใกล้ๆ Iris เลือก Key Word 2 คำคือ Two Girl และ Linked (ผู้หญิง 2 คนกับการเชื่อมต่อ) แล้ว Ronan จะเห็นตอนที่ Iris และ พี่สาวฝาแฝดของเธอที่กำลังถูกฆาตกรจับตัวได้




3. สำรวจรูปวาดอีกรูปบนพนังอีกด้าน
4. สำรวจดินสอสีบนโต๊ะ
5.สำรวจเตียงที่ล้มอยู่
6.ดูที่ Iris เขียนว่าเธอกำลังวาดรูปสื่อถึงอะไร ? โดยเลือก Key Word 2 คำคือ Tormented และ Chased (ความเจ็บปวดและการตามล่า) แล้ว Ronan จะเห็นตอนที่ Iris ถูกฆาตกรจับตัวได้

          


7.คุยกับ Iris อีกรอบ เธอจะบ่นพึมพำถึง ตาสีฟ้า ตาหมาป่า ที่กำลังจ้องเขม็ง

จากนั้นก็กดสามเหลี่ยมเพื่อเริ่ม Conclude Investigation  การสืบสวนจากเบาะแสทั้งหมดได้เลย Ronan จะเห็นถึงตอนที่ Iris และ พี่สาวของเธอ Rose ถูกฆาตกร Bell Killer จับตัวได้และมันกำลังเตรียมจะเผาพวกเธอ ก่อนที่ Rose จะดิ้นจนหลุดและแกะเชือกให้ Iris แต่ขณะนั้นเจ้าฆาตกรก็หันมาเห็นพอดี Rose จึงสั่งให้ Iris หนีไปก่อนโดยตัวเธอจะเสียสละต้านฆาตกรเอาไว้ Iris ที่หนีไปได้คนเดียวก็ไดแต่หันมามองภาพที่ Rose พี่สาวเธอโดนฆาตกรเผาทั้งเป็นอย่างเหี้ยมโหด...



หลังจากภาพความทรงจำ Ronan พยายามจะเล่าให้ Joy ฟัง แต่ Iris ที่ได้ยินก็ส่งเสียงร้องที่ทรงพลังออกมาทันที " อย่ามายุ่งกับเรา !!...." Iris ตะโกนสุดเสียงก่อนที่จะล้มตัวลงทำเอาทุกคนต่างเข้ามาดูเพราะความเป็นห่วง แต่จู่ๆอีกร่างที่กำลังลุกเป็นไฟก็ค่อยๆปรากฏออกมาจากร่างที่ซ้อนทับกันอยู่ " Rose ให้ตายเถอะ เธอถูกสิง " Ronan รีบบอกทันทีที่เขาเห็นร่างวิญญาณที่กำลังลุกไหม้อย่างเต็มตา




Iris หลังจากรู้สึกตัวเธอกลับกำลังมึนงงกับเรื่องที่เกิดขึ้น Ronan ได้ยินเสียงพวกบุรุษพยาบาลที่ใกล้เข้ามาจึงรีบบอกให้ Joy พาตัว Iris หนีมาด้วยเพราะเธอเป็นพยายามคนสำคัญที่สุดตอนนี้ แต่ดูเหมือนวิญญาณของ Rose จะไม่ยอม Ronan จึงพยายามอธิบายให้เธอฟังว่า จะยอมให้น้องสาวถูกช็อตไฟฟ้ารายวันอยู่ที่โรงพยาบาลบ้านี่หรือจะหนีไปกับพวกเราอันไหนปลิดภัยที่สุดก็คิดเอา จนสุดท้ายวิญญาณของ Rose ก็ใจอ่อนและเปิดประตูให้ทุกคนหนีออกจากที่นื่

- จากนี้ต้องคุ้มกันและเปิดทางให้ Joy และ Iris หนีอออกจากที่นี่ เดินออกมาถึงประตูในห้องโถง เข้าไปกดสวิตซ์ทางซ้ายให้บุรุษพยาบาลเดินเข้าไปดูแล้วกดปุ่มเปิดประตูให้ Joy และ Iris หนีผ่านประตูไป เดินต่ออีกหน่อยก็จะถึงประตูทางออกจากโรงพยาบาลแล้ว Ronan จะเริ่มสอบถาม Iris ถึงเบาะแสต่างๆทันที


    

Ronan - เธอรู้อะไรเกี่ยวกับคำว่า การทำสัญญา บ้างมั๊ย ? แล้วฆาตกรมันถามเธอถึงเรื่องการทำสัญญาหรือเปล่า ?
iris - มันไม่เคยถาม ..แต่มันต้องการให้เราเปิดรับ ปีศาจ เข้ามาในร่างของพวกเราเพื่อทำสัญญากับพวกมัน !
Rose - แต่พวกเราทำให้มันไม่ได้ มันจึงไม่มีเหตุผลที่จะเก็บพวกเราเอาไว้
Ronan - ด้วยการเผาคนนึงและพยายามจะฆ่าอีกคน ..มันเหมือนเคยเห็นรูปแบบนี้จากที่ไหนมาก่อนน๊ะ ?

      
      

- จากนั้น Ronan จะพยายามประติดประต่อเรื่องจากเบาะแสที่เคยได้มา ให้เลือกไปที่ Gala Invitation บัตร์เชิญไปงานเลี้ยงการ่าดินเนอร์ที่พิพิธภัฑ์ประวัติศาสจร์นั่นเอง

- เดินทางมาตามทางที่ลูกศรบอกทาง มีของสะสมมากมายและจิตใจผู้คนอีกเยอะที่สามารถสำรวจตรวจสอบได้ เมื่อไม่มีอะไรทำแล้วก็มุ่งหน้าไปตามทางที่จุดหมายคือ พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ของเมือง Salem ได้เลย

...............................................................................................................................................




Salem History Museum ....... แหล่งเก็บข้าวของอันทรงคุณค่าทางกาลเวลานี้ไม่เคยมีความหมายต่อ Ronan เลยถ้าหลักฐานทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับฆาตกรโรคจิตที่ช่วงชิงชีวิตแฟนสาวหรือแม้แต่ตัวเขาเองมันไม่ได้ชี้ให้มาที่นี่

- เข้ามาด้านในจะพบว่าเป็นงานแสดงนิทัศน์การเกี่ยวกับประวัติศาสตร์พิธีล่าแม่มด ใน Gallows Hill Ronan จึงเริ่มทำการตรวจสอบหาเบาะแสในนี้ทันที โดยต้องหาเบาะแสทั้งหมด 7 จุดด้วยกัน
1. สำรวจที่แท่นที่แขวนคอตรงช่องไม้ที่พื้น เลือก Key Word คำว่า Trap Door Ronan จะเห็นเหตการ์ณในอดีตที่หนูน้อย Abigail William กำลังโดนแขนคอเพราะถูกกล่าวหาว่าเป็นแม่มด ซึ่งก็คือวิญญาณเด็กผู้หญิงคนแรกที่ Ronan เจอนั่นเอง

        


2.ที่เวทีศาลจำลอง สำรวจโต๊ะเอกสารจะพบบันทึกศาล
3.สำรวจเสาที่ใช้ในพิธีเผาแม่มด เลือก Key Word คำว่า Torture / Burned to Death / Rose ( โรส ถูกเผาตาย อย่างทรมาน)

    


4. .สำรวจเสาเก้าอี้ที่ใช้ในพิธีทรมานแม่มด เลือก Key Word คำว่า Water / Down / Sophia ( โซเฟีย จมน้ำตาย)

        



5.สำรวจกองหินที่ใช้ทรมานคนที่ขายวิญญาณให้ปีศาจ (Demonic Contract ) เลือก Key Word คำว่า Stain (รอยเลือด)

      


.6.สำรวจแท่นกีโยตินที่ใช้ตัดคอ
7. สำรวจรูป Judgment House ตรงกลางงานแสดง

หลังจากได้หลักฐานทั้งหมด Ronan จะประเมินจาก Burn at the Stake (เสาที่ใช้เผาแม่มด) / Dunking Torture Chair (เก้าอี้ลงโทษแม่มด) / ก้อนหินที่ใช้ทรมานพวกขายวิญญาณให้ปีศาจ

ก็จะคิดได้ว่า ทำไมฆาตกร Bell killer  ถึงได้ใช้วิธีการฆ่าเลียนแบบการฆ่าแม่มดในสมัยก่อน ? อุปกรณ์ที่ใช้ทรมานแม่มด (The Witch Trial Punishment Device) ? เมื่อ Ronan เดินเข้าด้านในจะพบวิญญาณผู้หญิงที่เดินออกมาจากห้องที่กำลังต่อเติมด้านใน
- ด้านในจะเป็นส่วนของทางรถไฟใต้ดินเก่าที่แม้แต่วิญญาณก็ต้องหลบวิญญาณรถไฟโบราณก่อนจะถูกทับตายอีกครั้ง กะจังหวะหลบรถไปจนสุดทางจะมีทางขึ้นชั้นบนของตึกได้ ระหว่างทางจะพบ
Joy กำลังเปิดหน้าต่างเข้ามา เธอแอบตามมาด้วยทั้งๆที่ Ronan สั่งแล้วให้เธอคอยดู Sophia อยู่ที่โบสถ์ Ronan เล่าสิ่งที่เขาวิเคราะห์ได้ให้ Joy ฟังถึงการฆ่าที่ดูเหมือนพวกล่าแม่มด ก่อนที่ทั้งคู่จะขึ้นไปชั้นบนด้วยกัน
- เมื่อขึ้นมาถึงห้องเก็บของหลักของพิพิธภัณฑ์ ที่นี่ Ronan จะต้องหาเบาะแสในห้องนี้ 14 จุดด้วยกัน
1.สำรวจอุปกรณ์ที่ใช้ในการเดินเรือ
( Ship Telegraph )
2. สำรวจเข็มทิศที่ใช้ในการเดินเรือ (Ship Binnacle )
3.สำรวจสมอเรือโบราณ (Ship Anchor)
4.สำรวจปืนใหญ่โบราณ (Antique Cannon)
5.สำรวจพวกมาลัยเรือโบราณ (Ship Wheel )
6.สำรวจเอกสารเกี่ยวกบพิธีกรรมสังหารแม่มดบนโต๊ะ (Witch Trial Public Sommons)
7.สำรวจสร้อยคอโบราณบนโต๊ะ แล้วเลือก Crystal necklace

   


8.สำรวจรูปที่เกี่ยวกับพิธีล่าแม่มด ( Witch Trial ) บนโต๊ะ
9.สำรวจค้อนของศาลโบราณบนโต๊ะ (Judge Gavel )
10 สำรวจหนังสือบันทึกเกี่ยวกับพิธีกรรมล่าแม่มด(
Witch Trial Notebook ) เมื่อ 1600 ปีก่อน
11.สำรวจบอร์ดที่ติดรูปและข้อมูลเกี่ยวกับเหยื่อของฆาตกร Bell Killer
12.สำรวจรูปผู้เชี่ยวชาญเรื่องพิธีกรรมล่าแม่มด (Witch Trial Authority )
13.สำรวจถังเก็บไวน์ยุคโบราณ
14.สำรวจที่วางแอบไว้หลังชั้นตรงพนังห้องด้านใน Ronan จะสำผัสได้ว่า Baxter เคยมาที่นี่มันสนใจรูปและพยายามที่จะซ่อนมันไว้ จากนั้น Ronan จะเรียกให้ Joy เข้ามายกภาพขึ้นมาดูเธอจะบอกว่าภาพนี้ชืThe Hanged Witch ซึ่งมันก็มีสัญลักษณ์รูประฆังที่เหมือนกับของ Bell Killer พอดี


Ronan จึงเริ่มนำเบาะแสทั้งหมดที่ได้มามองหาจุดสำคัญที่ซ่อนอยู่ โดยต้องเลือกจากเบาะแส 3 อย่างคือ
-
Puritan Mediums were "Witch" สร้อยคอของคนทรง
- Bell Killer Target are Witch  เป้าหมายของฆาตกร
- Symbol on Painting รูปภาพที่มีสัญลักษณ์ ระฆัง

       

Ronan จะวิเคราะห์ว่า เป้าหมายของ Bell Killer ต่างก็เป็น คนทรง ซึ่งสมัยโบราณตอนที่ยังมีพิธีกรรมล่าแม่มด พวกคนทรงเหล่านี้เป็นเป้าหมายหลักที่มักถูกกล่าวหาว่า เป็นแม่มด ! แล้วใครล่ะที่เสียผลประโยชน์จากเหล่า คนทรง ? ....Baxter หรอ ? แล้วหลักฐานอะไรล่ะที่บ่งชี้ไปที่มันบ้าง ? 


     

จากนั้น Ronan จะเริ่มนำเบาะแสที่สำคัญๆมาประกอบกัน โดยต้องเลือก
- Baxter Hide the book ...Baxter มันพยายามจะซ่อนบันทึกของแม่ Joy เอาไว้
- Baxter in Museum ... Baxter มันเคยมาที่พิพิธภัณฑ์ด้วย
- Baxter Looking for the Girl ...Baxter พยายามตามหาเด็กผู้หญิงคนนึงอยู่




Ronan - OK ตอนนี้เรารู้ความหมายของเครื่องหมายระฆังของคนร้ายแล้ว ผู้ตกสงสัยคือ Baxter  เพียงแต่ต้องหาหลักฐานมามัดตัวมันอีกหน่อย เราใกล้ความจริงแล้ว !
Joy - แต่...เรื่องตามหาแม่ชั้น มันไม่ขยับซักก้าว !
Ronan - อย่าเพิ่งบ่นตอนนี้เลยน่า
Joy - นายมันหัวขี้เลื่อยน่ะสิ นายไม่เข้าใจ !
Ronan - ไม่เข้าใจหรอ !! เมียชั้นโดนฆ่าตายมา 3 ปี อาจจะขึ้นสวรรค์สบายไปแล้ว แต่ชั้นยังจับคนร้ายที่ฆ่าเธอไม่ได้เลย เพราะมัวมาติดแหงกอยู่กับเด็กใจแตกอย่างเธอไง !...แม่เธอหายไปกี่วัน 2 หรือ 3 วัน ชั้นสัญญาว่าจะหาแม่เธอให้พบ แต่ถ้าช้าล้มเหลว ถ้าเราล้มเหลว จับตัวคนร้ายไม่ได้ ชั้นก็คงไม่มีหน้าไปพบ Julia อีกแล้ว !!
Joy - เราจะไม่ล้มเหลว !
Ronan - โอ้ ชั้นไม่ต้องการเชียร์ลีดเดอร์หรอกน๊ะตอนนี้ ...
Joy - ชั้นเสียใจด้วยเรื่องเมียของคุณ ชั้นไม่รู้มาก่อน..
Ronan - อืมม ๆๆ ช่างเหอะ เธอกลับไปรอที่โบสถ์ก่อน ชั้นว่าจะลองไปหาหลักฐานที่พอจะใช้มัดตัวเจ้า Baxter
ผู้ต้องสงสัยตัวเป้งของเราหน่อย


- Ronan กลับออกจากพิพิธภัณฑ์ด้วยความมั่นใจเต็มอกว่า Baxter คือ ฆาตกร Bell Killer แต่อย่างน้อยเขาก็ไม่ได้คิดจะตั้งศาลเตี้ยก่อนจะมีหลักฐาน แต่ขากลับออกจากพิพิธภัณฑ์นี้มันไม่ง่ายเหมือนขาเข้าเพราะมันกลับเต็มไปด้วยพวกปีศาจเต็มไปหมด พยายามลอบกลับออกจนถึงทางออกให้ได้

 ในขณะที่เขากำลังจะมุ่งหน้าไปที่ที่พักของ Baxter Ronan จะสังเกตเห็นถึงตำรวจที่กำลังรีบร้อนขับรถจนเกือบจะชนเขา สัญชาติญาณตำรวจบอกเขาทันทีว่าจะต้องเกิดเหตุร้ายอะไรซักอย่างแน่นอน แต่พอเขาพยายามมองไปที่สุดถนนที่รถตำรวจแห่กัยไปก็จะพบว่ามันมุ่งไปที่โบสถ์ Ronan จึงไม่รอช้าที่จะรีบกลับไปที่นั่นทันที …

...............................................................................................................................................



เมื่อมาถึงที่หน้าโบสถ์จะพบว่ามันถูกกันเป็นพื้นที่เกิดอาชญากรรมไปซะแล้ว แต่โชคยังดีที่ Ronan ยังเห็น Joy ยังแอบอยู่หน้าโบสถ์ แต่ไม่ทันขาดคำ Joy ก็ยังไม่พ้นความรั้นที่จะพยายามเข้าไปดูเหตุการ์ณในโบสถ์จนโดนตำรวจจับตัวไว้จนได้ แต่เมื่อ Ronan ตามเข้าไปด้านในโบสถ์เขาก็ยังพออุ่นใจที่ Rex เพื่อนของเขาเขามาคุมสถานะการ์ณด้วยตัวเอง ก่อนที่เขาจะส่งตัวไปที่โรงพัก ซึ่งสำหรับ Ronan เขาคิดว่าเป็นที่ที่ปลอดภัยสำหรับเธอแล้ว หลังจากฟังตำรวจคุยกันก็จะพบว่าพวกเขาก็ยังตามหาตัว Baxter ไม่พบเหมือนกัน และดูเหมือนตำรวจเองก็รู้สึกได้ถึงความไม่ปกติของที่นี่เช่นกัน Ronan จึงรีบเข้าไปตรวจสอบพื้นที่เพื่อค้นหาตัว Iris และหาคำตอบถึงเรื่องที่เกิดขึ้นที่นี่

– ประตูเข้าห้องโถงของโบสถ์ถูกปิดจึงต้องขึ้นไปชั้นบน จะพบในห้องโถงเต็มไปด้วยพวกปีศาจเต็มไปหมด เดินผ่านเข้าไปในส่วนทางเดินด้านในจะพบจุดไฟนรกกั้นทางอยู่ ทำให้วิทยุตรงโต๊ะดังขึ้นให้ตำรวจด้านในเดินมาดู จัดการเข้าสิงเขาแล้วให้พาผ่านจุดไฟนรกไป เมื่อออกมาที่ลานน้ำพุระหว่างอาคาร
Ronan ก็จะพบจุดเกิดเหตุฆาตกรรมซึ่งเหยื่อที่นอนตายอยูก็คือ Iris นั่นเอง

   

 เขาจึงเริ่มที่จะตรวจสอบหาหลักฐานทันที โดยต้องหาเบาะแสทั้งหมด 6 จุดด้วยกัน
1.สำรวจที่จุดพบศพ
Iris จะพบรูประฆังที่แสดงให้เห็นว่าเป็นฝีมือของ Bell Killer แน่นอน จากนั้นเลือก Key Word 3 คำคือ Crushed to Death (ถูกอัดกระแทกจนตายคาที่) / Statue Stones (รูปปั้นหิน) / Improvised Weapon (คนร้ายไม่ได้เตรียมอาวุธมาฆ่า)


     


จะทำให้ Ronan เห็นว่าฆาตกรใช้การดันรูปปั้นหินลงมาทับเหยื่อจนตาย แต่ปัญหาคือ มันเจอตัวเธอได้ยังไง ?
2. สำรวจที่ซากรูปปั้นจะได้หลักฐาน (Topped Over) ว่า ส่วนบนของรูปปั้นนั้นแตกละเอียดจนหมด
3.สำรวจรูปปั้นน้ำพุที่ยังตั้งอยู่ (Statue Original Position) Ronan จะตั้งของสังเกตว่า รูปปั้นปกตินั้นมีน้ำหนักมากแล้วซากรูปปั้นที่ทับเหยื่อถูกนำมาจุดนี้ได้ยังไง ?
4.สำรวจพื้นที่มีรอยร้าว จะได้หลักฐาน (Crushing Impact) ว่า รอยร้าวเกิดจากการกระแทกที่น่าจะเกิดจากการตกจากที่สูง
5.สำรวจรอยเลือดใกล้ๆพื้นที่แตก (Iris’s blood) จะพบว่ามีร่องรอยของการลากศพ
6.สำรวจเศษกระจกแตก( Fallen Glass) ที่พื้นริมหน้าต่าง รอยกระจกแตกที่น่าจะเป็นฝีมือของฆาตกร

ได้เบาะแสครบแล้วก็กดสามเหลี่ยมเพื่อวิเคราะห์หลักฐานได้เลย Ronan จะรู้ว่าฆาตกรโดดลงมาจากชั้นบนแล้วดันรูปปั้นให้ล้มทับเหยื่อก่อนจะใช้เศษรูปปั้นทุ่มซ้ำจนเหยื่อตายคาที่ น่าจะเป็นการตีความจากหลักที่ไม่ยากเย็นอะไรนักสำหรับ Ronan แต่สิ่งที่เขากำลังคิดถึงก็คือ เธอคงจะไม่ตายถ้าเขาไม่ได้พาเธออกมาจากโรงพยาบาล ก่อนที่วิญญาณของ Iris และ Rose จะมาบอกด้วยตัวเองอย่างทันทีทันควันว่า



 อย่าลืมว่ามันยากแค่ไหนที่ทำให้คุณมาถึงจุดนี้ได้ และจำไว้เสมอว่า มันไม่ใช่ความผิดของคุณ
 “ ผมขอโทษ คำพูดเบาๆออกจากปาก Ronan ไม่ใช่การสำนึกผิดแต่เขาคงหมายถึงเขาจะต้องหารตัวการในคดีนี้ให้เร็วที่สุดมากกว่า ก่อนที่เขาจะเงยหน้าขึ้นไปมองที่ชั้นบนของอาคารพร้อมความสงสัยที่ต้องรีบไปตรวจสอบ

- จากนั้นกลับเข้าตัวอาคารอีกครั้งแล้วเดินไปตามทางเดินทางซ้ายจะพบโถงบันไดที่ขึ้นไปชั้นบนได้ ในห้องจัดเลี้ยงงานแต่งงานจะพบศพนอนตายเกลื่อนไปหมด



Ronan จึงรีบเข้าไปหาหลักฐานต่อ โดยต้องหาเบาะแสทั้งหมด 8 จุด
1.สำรวจเปิดจุดความทรงจำกลางห้องจะพบว่า
Iris หนีขึ้นมาที่งานนี้ แล้วเลือก Key word 3 คำคือ Need help (ต้องการความช่วยเหลือ) / Scared (หวาดกลัว) / falling (ร่วงหล่น) 



ซึ่งก็พบว่า Iris หนีขึ้นมาบนห้องจัดเลี้ยงนี้ก่อนตกไปด้านล่าง
2.สำรวจร่างเจ้าบ่าวที่ตายกลางห้อง
3. สำรวจร่างเจ้าสาวที่ตายกลางห้อง
4. สำรวจเศษกระจกแตกข้างๆศพเจ้าบ่าวเจ้าสาว
5. สำรวจหน้าต่างที่มีรอยกระจกแตก
6. สำรวจรอยเท้าที่หน้าต่าง ซึ่งเป็นของ Iris และ ฆาตกรตอนโดดลงไปชั้นล่าง
7.สำรวจศพที่นอนตายบนโต๊ะอาหาร เพราะโดนฆาตกรที่มรกำลังมหาศาลเหวี่ยงกระเด็นออกมา



8. เข้าไปสิงพยานที่กำลังให้ปากคำตำรวจ ใช้คำสั่ง Influence ชักจูงจิตใจ เลือกเหตุการ์ณ Iris Fleeing เพื่อเธอให้ให้การว่า สาเหตุที่ฆาตกรฆ่าคนในงานเลี้ยงนี่ก็เพราะ Iris หนีเข้ามาในห้องนี้เพื่อขอความช่วยเหลือนั่นเอง 


Ronan จะเห็นถึงเหตุการ์ณที่ Iris หนีฆาตกรเข้ามาในห้องจัดเลี้ยง เธอพยายามเอาตัวรอดโดยหาทางเปิดหน้าต่างโดดลงมาชั้นล่างจนขาหัก ในขณะที่ฆาตกรฆ่าทุกคนในงานอย่างเหี้ยมโหดก่อนจะโดดตามมาแล้วใช้ลูกปั้นหินทับ Iris จนตาย แต่ Ronan ก็อดตั้งขอสังเกตไม่ได้ว่า Bell Killer ไม่น่าจะฆ่าเหยื่อรายอื่นที่ไม่ใช่เป้าหมายของมัน ซึ่งมันผิดรูปแบบการฆ่าของมันเป็นอย่างมาก จากนั้น Ronan จะมุ่งเป้าหมายไปที่ห้องของ Joy บนห้องใต้หลังคาต่อทันที  …. งานเลี้ยงแห่งความสุขจบลงด้วยโศกนาฎกรรม Ronan ก็ไม่เคยโทษ Iris แต่เขาโทษความโหดเหี้ยมของ Bell killer ซึ่งเขาสัญญากับตัวเองมาหลายครั้งแล้วว่าจะเปิดโปงแล้วจับมันมาลงโทษให้ได้




- ออกจากห้องขึ้นไปชั้น 3 ต่อจะพบศพของหลวงพ่อ McCauley ในห้อง ซึ่งก็น่าแปลกเข้าไปใหญ่ที่ฆาตกรมันต้องฆ่าบาทหลวงที่ไม่ใช่เป้าหมายของมันด้วยและมันเข้ามาที่นี่ทำไม ? Ronan จึงต้องหาคำตอบโดยต้องหาเบาะแสะทั้ง 5 จุด
1. สำรวจศพบาทหลวงเลือกไปที่
Wound สำรวจบาดแผลที่คอเหยื่อ ซึ่ง Ronan จะคิดว่า Iris น่าจะอยู่ที่นี่ด้วยตอนฆาตกรเข้ามา หลวงพ่อ McCauley จึงพยายามปกป้องเธอจนตัวตาย

   


2.สำรวจรอยเท้าแมวที่อยู่ข้างๆศพบาทหลวง
3.สำรวจร่องรอยความทรงจำตรงโต๊ะทำงานจะพบฆาตกรกำลังดูรูปบนโต๊ะ ต้องเลือก Key Word 2 คำคือ Staring / Discovered 

    



ก็จะพบว่า ฆาตกรตั้งใจมาตามหาคนในรูปก่อนที่บาทหลวงและ Iris จะเข้ามาเจอ
4. สำรวจที่กรอบรูปที่ตกที่พื้น ก็จะพบว่าเป็นรูป Joy กับแม่ของเธอ
5.สำรวจร่องรอยความทรงจำที่พนังทางขวาจะพบร่องรอยของแมวที่อยู่ในห้องตอนเกิดเหตุ และดูเหมือนมันท่าทางตื่นกลัวผีอยู่ (เหมือนตอนที่ Ronan พยายามคุยกับแมวนั่นแหละ)



หลังจากได้หลักฐานครบแล้ว
Ronan จะต้องหาว่าฆาตกรมาที่นี่เพื่ออะไร โดยเลือกจากหลักฐานคือ
-
Dropped Photo รูปของ Joy กับแม่ที่ตกอยู่
-
Killer Interrupted สิ่งที่ฆาตกรยังทำไม่สำเร็จ
Father McCauley Death หลวงพ่อ McCauley โดนฆ่าตาย


    

จากหลักฐานทั้งหมดทำให้
Ronan รู้ว่า จริงๆแล้วฆาตกรจงใจเข้ามาตามไล่ล่า Joy ที่ห้องของเธอในโบสถ์ ในขณะที่หลวงพ่อก็กำลังพา Iris มาพักร่วมกับ Joy ที่ห้องใต้หลังคาแต่กลับพบฆาตกรอยู่ในห้อง bell Killer ก็เลยได้เจอกับ Iris เป้าหมายที่หนีไปได้ของมันอีกครั้ง ซึ่งครั้งนี้มันจึงไม่ยอมพลาดซ้ำสองและมันก็ทำสำเร็จเสียด้วย
.. แล้ว Baxter ผู้ต้องสงสัยคนสำคัญไปไหน ? ..จน Ronan เจอกับแมวตัวเดิมที่อยู่ในโบสถ์นี้ที่ตอนนี้มันเป็นพยานตัวเดียวที่มีเสียด้วย Ronan ไม่มีทางเลือกที่ต้องพยายามผูกมิตรกับมันอีกครั้ง หรือ อย่างน้อยๆก็แคสัมผัสตัวเพื่อจะดูร่องรอยแห่งความทรงจำของมัน 
. ภาพที่มันเห็นคือฆาตกรกำลังเข้าจู่โจมบาทหลวงจนมันทำกุญแจบางอย่างตกลงในช่องระบายอากาศทื่พื้น .ทำให้
Ronan ไม่มีทางเลือกที่จะต้องใช้ร่างเจ้าแมวน้อยเป็นตัวชวยในการลงไปค้นหากุญแจนั่นต่ออีกหน่อยด้วย

     


- เข้าสิงแมวแล้วลงไปตามช่องระบายอากาศที่พื้นจนกลับลงมาที่ห้องจัดงานเลี้ยงอีกครั้ง สำรวจหาของตรงหน้าแล้วเลือก กุญแจ (KEY) ขึ้นมา Ronan


   



จะสัมผัสได้ถึงภาพที่ฆาตกรใช้กุญแจนี้ไขประตูรั้วที่บ้านร้างหลังหนึ่งที่เขาค่อนข้างจะคุ้นเคย
Ronan จึงใช้หลักฐานที่มีประติดประต่อ เลือกไปที่ภาพ Judgment House ซึ่งก็คือคฤหาสถ์ที่ใช้ประชุมของเหล่าผู้เข้าร่วมในการล่าแม่มดในอดีตนั่นเอง หรือ ฆาตกรมันจะซ่อนตัวอยู่ที่นั่น ?  Ronan บอกกับตัวเองว่ามันจะเป็นเป้าหมายต่อไปที่เขาจะไปหาเบาะแสต่อนั่นเอง  …
 - จากนั้นย้อนกลับออกมาจากโบสถ์ได้เลย ซึ่งแน่นอนว่าจะไม่ได้เดินทอดน่องออกมาแน่นอนเพราะมันเต็มไปด้วยฝูงปีศาจมากมายที่ต้องลอบจัดการจึงจะมาถึงทางออกได้ 




ที่หน้าโบสถ์
Ronan จะเห็น Joy ถูกตำรวจควบคุมตัวอยู่แต่ Ronan ก็พอใจเพราะอย่างน้อยเธอก็จะปลอดภัย แต่ในฐานะคู่หูเขาก็ต้องเขาไปเล่ารายละเอียดของเหตุการณ์ด้านในให้เธอฟังด้วย ซึ่งถึงแม้ Ronan จะพยายามเลี่ยงที่จะไม่พูดถึงเรื่องน่าเศร้าบนห้องของเธอให้มากนัก แต่ Joy ก็รู้ดีว่าคนในนั้นน่าจะไม่มีใครรอด และก็อดโทษตัวเองไม่ได้ว่า ทั้งหมดมันก็เป็นเพราะเธอเอง Ronan ไม่ทันได้ปลอบเธอ Rex ยืนอยู่แถวๆนั้นรู้สึกแปลกๆที่ Joy พูดคนเดียวก็เข้าเดินเข้ามาดู ก่อนที่ Rex จะสั่งให้คุมตัว Joy ไปที่โรงพักเพื่อความปลอดภัย เมื่อ Ronan หมดห่วงเรื่องความปลอดภัยของเธอเขาก็เดินทางต่อไปยัง Judgment House ทันที

…………………………………………………………………………………………………….




Judgment House ….. มื่อเดินทางตามลูกศรมาจนถึงที่บ้านแห่งการพิพากษา ที่หน้าบ้านเขาพบรถตำรวจคันนึงจอดอยู่และไฟในห้องชั้นบนของบ้านร้างที่เปิดอยู่ ชั้นละเกลียดตัวเองจริงๆตอนที่คิดถูกเนี้ย ! “ Ronan สบถใส่ตัวเองก่อนที่จะเห็นถึงเหตุไม่ชอบมาพากลของที่นี่เข้าให้แล้ว ..



– เดินเข้ามาในบ้านร้างสำรวจเก็บของสะสมให้ทั่วๆแล้วขึ้นไปจนถึงห้องชั้นบนที่เปิดไฟอยู่ ที่นี่
Ronan แทบไม่ต้องหาหลักฐานอะไรเพราะทุกอย่างมันแทบกองอยู่ตรงหน้า ทั้งตำแหน่งของเหยื่อ และ ถ้อยคำที่บรรยายถึงความเกลียดแม่มดของฆาตกรที่พนัง

นังแม่มด มันก็ติดเชื้อมาจากแม่ของมัน
แม่มันก็แม่ ตัวมันก็แม่มด ข้าจะให้มันพบกับความตายทั้งคู่นั่นแหละ


Ronan รู้ทันทีว่าที่มันเขียนนั้นหมายถึง Joy และ แม่ของเธอ เขาจึงรีบตรวจสอบหลักฐานต่างๆที่มีในห้องทันที ซึ่งต้องสำรวจหาหลักฐานทั้งหมด 6 จุด
1. สำรวจตัวอักษรสีแดงบนพนังที่สื่อถึง
Joy และแม่
2.สำรวจหนังสือพิมพ์เก่าบนโต๊ะมุมห้อง ที่โปรยหัวว่า เพราะปีศาจมันสั่งให้ฉันทำ !”
3. สำรวจหนังสือพิมพ์เก่าบนโต๊ะหนังสือ ที่โปรยหัวว่า ค้นพบเหยื่อ 3 คนถูกแขวนคอ
4.สำรวจแผนที่บนพนังที่เผยให้เห็นถึงตำแหน่งของเหยื่อที่ตายทั้งหมด 
5.สำรวจกองข้าวของบนโต๊ะซึ่งเป็นของเหยื่อที่ฆาตกรขโมยมา

เดี๋ยวน๊ะ ..รูปแบบการฆ่าของ Bell Killer มันต่อยอดมาจากทฤษฎีการล่าแม่มดจากในอดีตแบบก็อปปี้มาเลยนี่นา ..Ronan เริ่มประติดประต่อเรื่องราวได้เพียงหาเบาะแสได้แค่ 5 ชิ้น จนเขาได้ยินเสียงบางอย่างออกมาจากห้องลับที่เตาพิง เมื่อเข้าไปด้านในก็จะเริ่มพบพวกปีศาจออกมาเผ่นพ่านอีกแล้ว 

- ลอบเข้าไปตามทางจนถึงทางลงบันไดที่สุดทางของอาคาร เมื่อลงมาชั้นใต้ดิน
Ronan จะพบศพของ Baxter ผู้ต้องสงสัยคนเดียวของเขานอนตายอยู่ ใจเขาเองก็ไม่อยากบอกว่าเสียดายที่ Baxter ตายเพราะมันก็ทำให้หลักฐานที่มุ่งชี้มาที่มันต้องสลายหายไปหมดเช่นกัน แต่โชคดีตรงที่เป็นโอกาสดีที่คน 2 คนที่ไม่ถูกกันจะได้ปรับความเข้าใจกันในยามเป็นผี วิญญาณ Baxter ในสภาพตาโบ๋ที่แอบดูอยู่ก็ออกมาแก้ต่างให้ตัวมัน



BaxterRonan นี่มันเกิดอะไรกันขึ้นฟ่ะ ?
Ronan - นายมันบ้า นายทำแบบนี้ทำไม ? เอาไอ้พิธีล่าแม่มดบ้าๆนี่กลับมาใช้จนผู้หญิงบริสุทธิ์ต้องมาตายเยอะแยะแบบนี้
Baxter – เฮ้ๆ นี่นายคิดว่าชั้นเป็นฆาตกร Bell Killer งั้นหรอ ชั้นไม่เคยฆ่าใครซักคนน๊ะเว้ย ! นายต้องช่วยชั้นน๊ะ พาชั้นออกไปจากไอ้สถานที่บ้าๆนี่หน่อยเถอะ
Ronan – โอ้..ให้ชั้นพานายออกจากที่นี่ กลายเป็นเพื่อนซี้กันในทันทีเลยน๊ะ นายบอกมาดีกว่าว่ามันเกิดอะไรขึ้นที่นี่ เริ่มจากใครฆ่านายก่อนเลย
Baxter – ก็ Bell Killer ไงไอ้งั่ง แถมยังไม่ได้มีโอกาสเหมาะๆจะเห็นหน้ามันด้วย
Ronan – แล้ว Bell Killer มันไปไหน ?
Baxter – ไม่รู้ว่ะ ไอ้บ้านี่มันเหมือนผีที่จะอยู่แทบจะทุกที่ แต่ตอนที่ชั้นสู้กับมัน มันพูดอะไรบางอย่างออกมาชั้นก็ไม่ค่อยจะเข้าใจทั้งหมดหรอก
Ronan – เดี๋ยวๆ ไอ้บ้านั่นมันพูดกับนายด้วยหรอ ?
Baxter – ก็พูดไม่มากหรอก ตอนที่ชั้นเข้าไปอัดมันชั้นบอกมันว่า แกตายแน่ มันก็บอกออกมาว่า มันพร้อมที่จะตายอยู่แล้ว มันพูดถึง พิธีพิพากษาด้วยเครื่องมือแห่งความตาย อะไรไม่รู้ แล้วมันก็บอกว่า มันจะฆ่าอีกในคืนนี้ !
Ronan – พิพากษาด้วยเครื่องมือแห่งความตาย? มันฆ่ามาตั้งหลายพิธีจนชั้นเดามันไม่ออกแล้ว พิธีการอะไร ?
Baxter – เออ ก็เหมือนกัน
Ronan – เออถามหน่อย แล้วนายมาทำอะไรที่นี่ ?
Baxter – ก็ตามหลักฐานมาสิฟ่ะ ที่ผ่านมาชั้นไม่ได้หยุดสืบน๊ะ ตั้งแต่เรื่อง Cassandra ที่หายไปจนถึงรูปแบบการฆ่าที่มันเลียนแบบจากการล่าแม่มดในอดีต ชั้นตามสืบจนรู้หมดนั่นแหละจน Rex มันปลดชั้นจากตำแหน่งการสืบสวนคดีนี้นั่นแหละ
Ronan – โอเค งั้นนายไปตามหา Cassandra ให้พบแล้วพาเธอมาที่สถานีเพื่อความปลอดภัยก่อนเลย 
Baxter – แล้วนายล่ะ ?
Ronan – ชั้นก็จะทำทุกอย่างที่จะหยุดยั้งแผนต่อไปของไอ้ฆาตกรนั่นให้ได้ไงล่ะ !
หวังว่าอ่ะน๊ะ …

- จากนั้นเข้าไปตามทางเส้นทางอุโมงค์หลบภัยใต้ดินต่อจนถึงคุกใต้ดินที่ชั้นล่าง
Ronan ก็จะเริ่มพบจุดความทรงจำ เขาจึงเริ่มที่จะค้นหาเบาะแสจากบริเวณนี้ก่อน ซึ่งต้องหาเบาะแสทั้งหมด 7 อย่างด้วยกัน 


                 



1. เปิดจุดความทรงจำของผู้นำลัทธิล่าแม่มดที่กลางห้อง เลือก
Key Word 3 คำคือ
Judging (คำพิพากษา)
 Accusing (การกล่าวหา)
Stern
(ความเข้มงวด)
Ronan จะเห็นภาพผู้นำลัทธิกำลังเข้ามาทำการพิพากษาหญิงสาวคนนึงในที่คุมขังข้อหาเป็นแม่มด

      



2. เปิดจุดความทรงจำที่อยู่ตรงโซ่จองจำเลือก Key Word 2 คำคือ
Pleading (คำสารภาพ)
 Imprisoned
(ถูกคุมขัง)
จากนั้น
Ronan จะเห็น Abigail เด็กผู้หญิงที่พบในตอนแรกถูกจับอยู่ที่นี่และกำลังถูกพิพากษาว่าเป็น แม่มด
3. เปิดจุดความทรงจำที่พื้นใกล้ๆ Abigail จะพบรูประฆังที่ถูกวาดลงบนพื้น ใครวาด ?
4. สำรวจโซ่ตรวนที่พนัง
5.เปิดจุดความทรงจำบนถังไม้แล้วสำรวจเทียนไขที่วางอยู่
6.สำรวจกรงไม้แคบๆ
7.สำรวจเตียงนักโทษ

   


หลังจากได้หลักฐานครบแล้ว Ronan จะต้องหาว่า เกิดอะไรขึ้นที่คุกใต้ดินนี้ โดยเลือกจากหลักฐานคือ
Righteous Man ผู้ชายที่คิดว่าตัวเองถูกต้องเสมอ 
- Imprisoned Abigail เด็กหญิงที่ถูกจองจำ
- Symbol in the Cell รูประฆังที่พื้น

จากหลักฐานที่ประกอบกันทำให้
Ronan เห็นถึงเหตุการ์ณที่เกิดขึ้นที่นี่เมื่อในอดีต ภาพเด็กหญิงที่โดนตีตราความผิดในสิ่งที่เธอไม่ได้เป็น 




ผู้นำลัทธิ – เจ้าที่อ้างว่าไม่ได้กระทำผิด แต่เจ้าก็รู้ว่าเจ้ามีมลทิน ข้าในนามของความยุติธรรมของพิพากษาเจ้า ด้วยโทษที่เจ้าควรได้รับ
!
Abigail – ท่านอ้างว่ายืนหยัดด้วยความยุติธรรม แล้วที่เจ้าทำอยู่นี่ยุติธรรมพอแล้วหรือ ?
ผู้นำลัทธิ – ศาล ไม่ใช่สถานที่ที่เหมาะกับฆาตกรที่วิญญาณไม่บริสุทธิ์ที่อยู่นอกศาสนาเช่นเจ้า ข้าจึงรับหน้าที่ที่จะพิพากษาเข้าในคืนนี้ นังแม่มด
!
Abigail – คำกล่าวหาเจ้าเป็นเท็จ
………
Abigail จะเริ่มวาดรูประฆังบนพื้น ………….
ผู้นำลัทธิ – นั่นเจ้ากำลังวาดอะไร
?
Abigail – เครื่องหมายของข้าที่จะสร้างรอยไหม้ประทับไว้ที่เมืองนี้ มันจะพาข้ากลับจากความตายในวันนึง และระฆังของข้าก็จะสั่นเพื่อแม่มดทุกตนในเมืองนี้ !!





เดี๋ยวน๊ะ ..แล้วใครล่ะที่ฆ่าชั้น Abigail ? มันจะเป็นไปได้หรอ ..แต่ถ้าใช้ชั้นก็ต้องหาทางจัดการเธอแล้ว
Ronan บ่นปนสงสัยถึงหลักฐานที่บ่งชี้ออกมา

- จากนั้นเดินย้อยกลับขึ้นมาจากคุกใต้ดินจนถึงจุดที่พบศพของ
Baxter Ronan จะได้ยินวิทยุตำรวจที่ศพของ Baxter แจ้งว่า Rex ที่ว่าจะนำหลักฐานและพยานมาที่สถานีตอนนี้ยังไม่เห็นมา Ronan รู้สึกไม่ดีขึ้นมาทันทีว่า Rex จะพาตัว Joy ไปไหน ?

 
 Ronan จะพยายามนำหลักฐานมาเชื่อมโยงกันเพื่อหาคำตอบว่า ทำไม Abigail ถึงต้องการตัว Joy โดยการเลือกหลักฐานมา 3 อย่างคือ




Killer’s instrument of Death (ฆาตกรจะฆ่าพิพากษาด้วยเครื่องมือแห่งความตายในคืนนี้ ตามปากคำของ Baxter)
- Actual Puritan Era Gallows (งานแสดงพิธีแขวนคอในยุคล่าแม่มดที่พิพิธภัณฑ์)
- is Abigail a Bell Killer (หรือ Abigail ก็คือ ฆาตกร Bell Killer)



พิพากษาด้วยเครื่องมือแห่งความตาย ก็หมายถึง Joy ต้องตายนั่นแหละ ..แล้วเธอจะถูกฆ่าที่ไหน ? ..ก็จะที่ไหน พิพิธภัณฑ์ที่เต็มไปด้วยงานแสดงเครื่องมือแห่งความตาย ไงล่ะ !! ..Ronan คิดออกทันที ปริศนาทั้งหมดคลี่คลายที่เหลือก็แค่ไปช่วย Joy ให้ทันเท่านั้น …. ทนไว้น้องหนู ชั้นกำลังไปแล้ว !!   


- จากนั้นก็กลับออกจากที่บ้านร้างแห่งนี้ ซึ่งก็แน่นอนเหมือนก็อปปี้มาจากข้อความของบทที่แล้ว ขากลับออกจาก Judgment House นี้มันไม่ง่ายเหมือนขาเข้าเพราะมันกลับเต็มไปด้วยพวกปีศาจเต็มไปหมด พยายามลอบกลับออกจนถึงทางออกให้ได้ แล้วเดินทางกลับมาที่พิพิธภัณฑ์อีกครั้ง ….





Ronan เดินทางกลับมาที่ Salem Museum อีกครั้งตามหลักฐานทั้งหมดที่ชี้ให้มาที่นี่ ด้านหน้าที่เงียบสงบเป็นแค่ฉากลวงเพราะความวุ่นวายแสดงให้เห็นทันทีที่ Ronan เหยียบย่างเข้ามา ทั้งข้าวของที่พังและจุดไฟนรกที่ลุกโชนมากกว่าปกติ และเมื่อ Ronan เดินเข้ามาถึงห้องแสดงนิทัศน์การณ์ก็พบชายคนนึงที่กำลังเตรียมอุปกรณ์ในการทรมานแม่มดเพื่อใช้กับ Joy ที่แท่นพิธี Ronan จึงรีบเข้าไปช่วยทันที



Joy – Ronan ช่วยด้วย !
…. อย่าคิด แม้จะก้าวเข้ามาอีกซักก้าวเดียว …
Ronan – โอ้ ไม่น๊ะ …Rex ! …อย่าทำอะไรเธอน๊ะ .. Abigail !
Rex – เห็นทีจะไม่ได้ ดูสิ พิธีล่าแม่มดที่มีประวัติยาวนานถึง 100 กว่าปีกลายเป็นนิทัศน์การณ์งี่เง่าของเมืองนี้ไปแล้ว แถมยังพยายามที่จะทำสัญญากับพวกปีศาจทั้งๆที่พวกมันไม่มีความสามารถอะไรเลย
Ronan – เหมือนที่แกมี ใช่มั๊ย ?
Rex – อย่าเอาชั้นไปเปรียบเทียบกับ Abigail สิ !!
Ronan – โว้ๆๆ ใจเย็น Rex

ตำรวจกลุ่มนึงได้รับแจ้งเหตุจึงตามเข้ามา แต่ Abigail ที่สิงร่าง Rex อยู่ก็ออกมาจัดการพวกตำรวจจนหมด ก่อนที่จะกลับเข้าร่าง Rex ก่อนที่จะเริ่มพิธีกรรมของพวกมันกับ Joy แล้วสร้างจุดไฟนรกขึ้นมากั้น Ronan เอาไว้..

Ronan – Rex ! ไอ้ลูกหมา แกจะทำอะไรเธอ ! ..ไม่ใช่ตอนนี้ ! ไอ้ปีศาจบ้า นี่แกเป็นคนเรียกพวกมันมาทั้งหดมเลยใช่มั๊ย ?
Joy – Ronan ทำอะไรซักอย่างสิ !!
Ronan – ใจเย็นน้องสาว กำลังพยายามอยู่ !


.. เวลาเริ่มนับถอยหลัง 20 นาที 7 คือเวลาที่ Ronan ต้องหาทางช่วย Joy ….




    



– วิ่งเข้าไปที่ลานพิธีแขวนคอแล้วเข้าสิง Joy แล้วเลือก Influence ชักจูงจิตใจเธอ แล้วเลือก Powerful Scream (พลังเสียงที่ทรงพลัง)  ในขณะที่ Rex กำลังจะทำการแขวนคอเธอ Joy จะโกนด้วยเสียงที่ทรงพลังที่เป็นอำนาจพิเศษในการสยบวิญญาณของเธอที่ทำให้วิญญาณของ Abigail กระเด็กหลุดออกจากร่าง Rex ทันที จากนั้นอย่ามัวแต่กลัวร่างที่ยืนจ้องเขม็งด้วยความแค้นของ Abigail เพราะเวลายังจะเดินอยู่ รีบวิ่งเข้าไปที่ตัวเธอแล้วจับแขนเธอทันที 

   
..ทั้ง Ronan และ Abigail จะถูกพาย้อนเวลามาในเหตุการ์ณเมื่อ 100 ปีก่อนในพิธีลงโทษ Abigail William โดยการแขวนคอในความผิดโทษฐานเป็นแม่มด  …


    


        Abigail – แกคิดว่าจะใช้ช่วงเวลานี้ในการจัดการข้าได้เป็นครั้งที่ 2 หรอ !!




.. ก่อนที่ Abigail จะจับแขนของ Ronan กลับเพื่อพาเขากลับไปยังเหตุการ์ณตอนที่เขาโดนฆาตกรฆ่าตายอีกครั้ง 

Ronan – ชั้นรู้ความจริงในการตายของเธอดี แต่ไม่รู้ความจริงเรื่องความตายของชั้นเองแม้แต่นิดเดียว ! เธอใช้ร่าง Rex ฆ่าชั้นหรือเปล่า ?
Abigail – Rex มีอำนาจชี้ขาดที่สุด ..เป็นที่เคารพที่สุด เป็นเจ้าหน้าที่ที่น่าเกรงขามที่สุดในเมืองนี้ แล้วทำไมข้าถึงจะไม่ใช่เขาล่ะ ! ใช่ ข้าใช้ Rex ให้ฆ่าแก !



Ronan – มันจะเป็นไปได้ยังไงก็ Rose บอกว่า ฆาตกรที่ฆ่าเธอมันตาสีฟ้า ต่างหาก !
Abigail – ข้าไม่ได้ใช้ฆาตกรคนเดียวในการฆ่าซักหน่อย ..คนที่ฆ่า Rose ก็คือ Baxter ยังไงล่ะ !



Ronan – แล้วแกฆ่า Baxter ทำไม ?
Abigail – ข้าจะฆ่าฆาตกรของข้าหลังจากที่ใช้งานมันแล้วตลอดแหละ โดยเฉพาะคนที่กำลังถูกค้นพบความจริง
Ronan – แล้วชั้นล่ะ แทบไม่ได้รู้เรื่องความจริงอะไรใน Apartment นั่นเลยด้วยซ้ำ แถมยังไม่ได้เป็นฆาตกรที่แกเลือกด้วย สรุปว่าแกจะฆ่าชั้นทำไม ?



Abigail – แกเป็นของข้า Ronan ..แกฆ่า Sophia ให้ข้า
Ronan – ทำไมชั้นถึงได้.. ไม่จริง ..ชั้นไม่ได้…แก แกควบคุมให้ชั้นฆ่าเธอ 






Ronan เดินเข้าหา Abigail ด้วยความโกรธจนเธอต้องเรียกพวกปีศาจขึ้นมาเพื่อดึงวิญญาณของ Ronan ลงขุมนรก Ronan พยายามดิ้นแต่ก็ไม่หลุดเขาจึงพยายามดึงตัว Abigail ลงนรกไปด้วยกันเสียเลย Ronan คว้าวิญญาณของ Abigail เอาไว้ได้สำเร็จก่อนส่งเธอให้เหล่าปีศาจฉุดรั้งเธอลงขุมนรกแทนเขาที่พยายามกระเสือกกระสนขึ้นจากปากประตูนรกจนได้ 



............................................................................................................................................................







คนเราบางที่มันก็เข้าสู่ด้านมืดของชีวิตกันได้ง่ายๆ แต่บางที่ก็ไม่ ..
ถ้าเราโชคดี เราก็อาจเก็บด้านมืดของเราเอาไว้ให้อยู่ภายใต้ กฎหมาย ได้
Rex ฆ่าคนตาย แต่มันก็ไม่ได้ผิดกฎหมายเสมอไป เพราะโชคดีที่ความจริงไม่ถูกค้นพบ
Joy .. ใช่ .เธอช่วย Rex เอาไว้ด้วยการปกปิดความจริงที่เกิดขึ้น เพราะเหตุผลเดียวคือ ความไว้ใจ
ส่วนความผิดของเธอนั้น ก็เด็กล่ะน๊ะ ไม่มีใครที่คิดจะติดใจเอาความเธอในความห่ามของเด็กผู้หญิงคนนึงที่พยายามจะตามหาแม่หรอก ..และแน่นอนวิญญาณของ
Baxter ก็ไม่ได้ผิดสัญญาจนตามตัวแม่ของเธอมาให้จนได้เหมือนกัน ..

ตำนานของฆาตกร
Bell Killer จบลงไปพร้อมๆกับจุดจบในขุมนรกของ Abigail คดีไม่ได้ถูกปิดลงอย่างเป็นทางการ แต่ความทรงจำที่เลวร้ายก็ถูกรักษาเอาไว้ได้ด้วย เวลา ..พวกเราโชคดีที่เมืองนี้หาหนทางเยียวยาตัวเองให้พบความสงบสุขได้ด้วยตัวของมันเอง 




ความตายเป็นหนี้สินที่ทุกคนต้องชดใช้ในซักวัน ดังคำที่พ่อเคยบอกมาตลอด
ซึ่งก็จริง ..แต่ที่อยากบอกก็คือ ชีวิตมันจะไม่จบลงง่ายๆหรอกถ้าคุณชดใช้หนี้ชีวิตของคุณอย่างตรงไปตรงมาพอ ทำทุกอย่างให้มันถูกต้อง จ่ายหนี้ชีวิตไปให้อย่างน้อยๆก็ให้มันทำให้คุณเดินไปข้างหน้าต่อได้ก็พอ..

[** หนี้สินหลังความตาย ตามหลักศาสนาพุทธ ก็คือ บาปที่เราทำมาก่อนตายไม่ว่าโดยตั้งใจหรือไม่ก็ตาม **
** การจ่ายหนี้ชีวิตล่วงหน้า ตามหลักศาสนาพุทธ ก็คือ การทำบุญผ่อนหนักให้เป็นเบา **]


Ronan ค่ะ !  …...หลังจากพร่ำเพ้อถึงความหลังตรงจุดที่ตัวเองตายไม่นาน เสียงหวานๆของผู้หญิงคนหนึ่งในปรโลกที่เขาคุณเคยก็ดังเข้ามาในโสตประสาทที่โป่รงใสของ Ronan  ..รอยยิ้มที่ห่างหายจากใบหน้าของเขาไปนานก็เด่นชัดขึ้นแทนริ้วรอยแห่งความกังวลต่างๆนานา ได้พบ Julia อีกครั้งอย่างน้อยๆปลายอุโมงค์แห่งความตายก็คงไม่เลวร้ายนักหรอก ….





********************************
THE END *********************************


เปิดแฟ้มคดี แม่มด สุดอื้อฉาวที่หมู่บ้านซาเล็ม (The Salem Witch Trials of 1692)

เมื่อครั้งอดีต  ในยุคกลางขอยุโรป หรือ ที่เรียกกันว่า ยุคมืด คือ ยุคที่อยู่ใต้การปกครองของศริสตจักร การใดก็ตามที่ขัดต่อหลักศาสนา และไม่ทราบซึ่งที่มาของสาเหตุก็ถุกโยงให้ไปเป็นเรื่องฝีมือของปีศาจร้ายและเวทย์มนต์ รวมทั้งพวกที่ต้องการศึกษาหาความรู้ ในศาสตร์ลึกลับเหนือธรรมชาติที่ไม่อาจพิสูจน์ได้ ไม่ว่าจะเป็นไปในแนวทางที่ดีหรือชั่วร้าย เหล่าผู้หยั่งรู้ ที่ถูกแปลตรงตัวตามภาษาแองโกลแซกซอน ที่คำว่า wit หมายถึง หยั่งรู้ ("to know") จึงถูกเรียกจากศริสตจักรว่า witch (แม่มด)

     


และเมื่อ แม่มด ถูกประนามว่าเป็นสัญลักษณ์ของความชั่วร้าย จึงมีการไล่ล่าเพื่อกวาดล้างแม่มดอย่างเอาเป็นเอาตายจากบรรดาบาทหลวง และไม่ว่าจะเกิดเหตุร้านผิดปกติอะไร เช่น ภัยธรรมชาติ โรคระบาด หรือ คนตายโดยไม่ทราบสาเหตุ มักจะมีการกล่าวหาว่าเป็นผลงานของแม่มด ตามด้วยการหาผู้ต้องสงสัย ซึ่งส่วนใหญ่มักจะเป็นแพะรับบาป ด้วยการกล่าวหาส่วนใหญ่เป็นไปอย่างเลื่อนลอย ที่ดูรูปลักษณ์ภายนอก และการกระทำเป็นหลัก เหยื่อส่วนใหญ่คือผู้หญิง โดยเฉพาะหญิงแก่ชรา มักถูกกล่าวหาว่าเป็นแม่มด ผู้หญิงที่โชคร้ายมากมายถูกทรมานด้วยวิธีที่โหดร้ายต่างๆนานาเพื่อให้พวกเธอยอมรับสารภาพตามคำกล่าวอ้าง จากไบเบิลที่ว่า " สูเจ้าจะต้องไม่ทรมานแม่มดด้วยการปล่อยให้มีชีวิต (Thou shlt not suffer a witch to live ) การเข่นฆ่าตอนนั้นจึงได้รับรองว่าเป็นสิ่งชอบธรรมตามหลักศาสนาคริสต์ในยุคนั้น

ในศตวรรษที่ 17 นั้นสมัยก่อนอ่าวแมสซาซูเซตต์สยังอยู่ในสภาพเป็นอาณานิคมของอังกฤษ และยังมีความเชื่อที่เกี่ยวกับภูตผีเพราะพื้นที่นี้เกิดโรคระบาดบ่อยๆ การสอบสวนแม่มดแห่งซาเล็ม เป็นคดีที่ผู้พิพากษาสั่งฟ้องร้องผู้คนกล่าวหาว่ามีใช้เวทมนตร์คาถา โดยเหตุการ์ณเริ่มขึ้นใน Essex, Suffolk, และ Middlesex เมืองเล็กๆในรัฐแมสซาซูเซตต์ เมื่อมีผู้หญิงจำนวนกว่า 150 ถูกจับกุมและจำคุก มีหลายคนถูกแขวนคอ  ประหารชีวิต หรือด้วยเครื่องมือต่างๆ หรือแม้กระทั้งเผาทั้งเป็นให้ถึงแก่ความตายอย่างทรมาน เพียงเพื่อคำสารภาพว่าเป็นพวกนอกรีตและประกอบพิธีลี้ลับเหนือธรรมชาติ

จนในวันที่
20 มกราคม ปี ค.. 1692 คดีนี้ลุกลามไปยังหมู่บ้าน Salem เด็กหญิงหลายคนในหมู่บ้านมีอาการผิดปรกติหลายอย่าง หวีดร้องโหยหวน ล้มชักดิ้นชักงอ หน้าตาบิดเบี้ยว อยู่ในสถาวะไม่รู้สึกตัว กล่าวถ้อยคำดูหมิ่นพระเจ้า ศาสนา ด้วยภาษาโบราณที่ฟังไม่รู้เรื่อง พฤติกรรมประหลาดที่ว่าเกิดขึ้นอีกหลายๆ หลังคาเรือน  หมอประจำหมู่บ้าน คือ William Griggs ใช้เวลานานในการรักษา วิเคราะห์อาการของเด็กๆแต่ผลที่ออกมานั้นไม่เป็นที่พอใจนัก เพราะไม่รู้ต้นสายปลายเหตุของอาการและพฤติกรรมนี้เลย จนเวลาล่วงเลยไปนานจนเกิดเยียวยาผลสรุปที่ออกมาจึงเอนเอียงไปในทางไสยศาสตร์อย่างเลี่ยงไม่ได้ คนในหมู่บ้านต่างลงความเห็นว่าบรรดาเด็กสาวเหล่านี้โดนเวทมนต์คาถาและตกอยู่ภายใต้อิทธิพลของซาตาน เด็กๆถูกกดดันอย่างหนักในการหาแหล่งที่มาและต้นกำเนิดของโรคร้าย จู่ๆพวกเธอก็ได้อ้างชื่อผู้หญิงออกมาสามคนคือ Tituba, Sarah Osburn  และSarah Good ว่าเป็นต้นเหตุของเหตุการณ์ทั้งหมด 

     


กุมภาพันธ์ 1692 ผู้ถูกกล่าวหาทั้ง 3 คนถูกจับ ..มีนาคม 1692 ผู้พิพากษา John Hathorne และ  Jonathan Corwin เริ่มไต่สวนผู้ถูกกล่าวหา ซาร่าห์ กู๊ด และ ซาร่าห์ ออสเบิร์น ซึ่งในระหว่างการไต่สวน เด็กหญิงหลายคนเกิดอาการเป็นลมหน้ามืดขึ้นมาอย่างรุนแรง ทำให้คนที่เฝ้าดูอยู่ พากันเชื่อว่า นี่คือการกระทำของแม่มดอย่างแน่นอน ไม่กี่สัปดาห์ต่อมาชาวเมืองจำนวนมากออกมาต่อว่าว่าเคยถูกก่อกวนและเคยเห็นร่างปีศาจจำแลงของคนในชุมชนเดียวกัน พร้อมกับคำสารภาพมากมายที่พร่ำพรูออกมาอย่างไม่หยุดหย่อนไปพร้อมๆกับผู้ถูกกล่าวหาว่าเป็นแม่มดก็มีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

 ถึงเดือนมิถุนายน
1692 ผู้ว่าการรัฐแมสซาซูเซตต์ส จัดตั้งศาลพิเศษเพื่อพิจารณาคดีแม่มดโดยเฉพาะ เรียกว่า "ศาลพิเศษเพื่อรับฟังความและตัดสินโดยพิจารณาความเชื่อถือ " ศาลแห่งนี้ตัดสินความโดยพิจารณาคดีจากการกล่าวหาซึ่งๆ หน้า มีการประมวลวัตถุพยาน ทั้งที่จับต้องได้และจับไม่ได้ หรือสิ่งที่เหนือธรรมชาติ เช่น เครื่องหมายแม่มดในตัวผู้กล่าวหา การเห็นภาพภูตผี จนถึงตอนนี้ จำนวนผู้ที่ถูกจับทั้งหมดมีจำนวนถึง 150 คน จากซาเล็มและเมืองใกล้เคียง และการประหารแม่มดจึงเริ่มเกิดขึ้น 

       


วันที่ 10 มิถุนายน 1692..  Bridget Bishop เป็นคนแรกที่ถูกประกาศว่ามีความผิดฐานเป็นแม่มด เขาถูกตัดสินประหารโดยการแขวนคอ นับเป็นเหยื่อเคราะห์ร้ายรายแรกภายใต้กระบวนการศาลวันที่
19 กรกฎาคม 1692 Sarah Good หนึ่งในสามคนแรกที่ถูกจับ โดนแขวนคอ พร้อมกับ Rebecca Nurse หญิงชราวัย 71ปี, และ Elizabeth How
 วันที่
19 สิงหาคม 1692.. George Burroghs, John Willard , John Proctor, artha Carrier และ George Jacobs โดนประหารด้วยการแขวนคอ
วันที่
16 กันยายน 1692 .. Giles Cory ชาวนาถูกลงโทษด้วยการเอาก้อนหินทับจนตาย ในระหว่างที่เจ้าหน้าที่เอาก้อนหินทับลงบนอกเขาทีละก้อนๆ เพื่อให้เขาสารภาพนั้น และสุดท้ายเขาก็ตายในระหว่างสอบสวน
วันที่ 22 กันยายน 1692 มาร์ธา คอเร่ย์ ภรรยาของ ไกล์ คอเรย์ ถูกแขวนคอ

จำนวนผู้ที่ต้องประหารทั้งหมด ตั้งแต่เดือนมิถุนายน จนถึงเดือนกันยายนคือ
19 คน และการตัดสินประหารชีวิตด้วยการแขวนคอโดยไร้ความชอบธรรมยังดำเนินการต่อไป ท่ามกลางโชคชะตาของผู้กล่าวหาว่าเป็นแม่มด แม้มีการเปลี่ยนข้าหลวงคนใหม่ เซอร์วิลเลียม ฟิปส์ มารับตำแหน่งใหม่แต่เหตุการณ์เลวร้ายยังเกิดขึ้นเหมือนเดิม

จนกระทั้ง โธมัส แบร็ตเทิล ยอมเสี่ยงชีวิตเขียนจดหมายวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของศาลว่าไม่ยุติธรรมในการไต่สวนคดีแม่มดให้แก่ข้าหลวงฟิลิปส์ จนมีคำสั่งล้มเลิกคดีศาลพิเศษอันนี้ เพราะใช้หลักฐานและพยานที่ไม่อิงตามหลักความเป็นจริง และประกาศอภัยโทษและนิรโทษกรรมแก่ผู้กล่าวหาว่าเป็นแม่มดในที่สุด ผู้พิพากษา
Samuel Sewall หนึ่งในผู้พิพากษา กล่าวคำขออภัยอย่างเป็นทางการต่อโศกนาฏกรรมทั้งหมดที่เกิดขึ้น นอกจากนั้น Ann Putnum หนึ่งในจำนวนเด็กสาวที่เจ็บป่วยตั้งแต่แรก ยังเป็นอีกคนที่ออกมาขอโทษต่อเรื่องทั้งหมด ที่ให้การเท็จจนเป็นต้นเหตุให้คนจำนวนมากต้องเสียชีวิต

วันที่
17 ตุลาคม 1711 หรืออีก19 ปีต่อมา  กฎหมายฉบับใหม่ได้สั่งให้คืนทรัพย์สมบัติที่ยึดมาจากผู้ตายและครอบครัวของผู้ตายให้หมด รวมไปถึงการจ่ายสินไหมทดแทนด้วย และนี่เป็นอันยุติคดีแม่มดในซาเล็มตลอดกาล

สามร้อยกว่าปีผ่านมาจนถึงปัจจุบัน ทุกวันนี้เหตุการณ์
"แม่มดแห่งเมืองซาเล็ม" ยังสร้างเหตุฉงนค้างคาอยู่ในผู้คนจำนวนมากที่ต้องการหาข้อเท็จจริงว่ามันเกิดขึ้นอะไรกันแน่ที่บรรดาเด็กสาวในเมืองต่างพากันล้มเจ็บและออกอาการแปลกประหลาดต่างๆนานา เรื่องราวของการกล่าวหาการใช้เวทมนตร์คาถา, การไต่สวน, ในคดีแม่มดซาเล็มเป็นที่สนใจนักเขียนนิยายมาก และช่วยจินตนาการของนักเขียน และศิลปินมากมายในเวลาต่อมา โดยเห็นได้จากชื่อสถานที่ เหตุการณ์ ในหนังสือนิยาย ภาพยนตร์ หรือแม้กระทั้งเกม Murdered: Soul Suspect ที่เราเล่นๆกันอยู่ก็ได้รับแรงบันดาลใจจากคดีนี้เช่นกัน 

   




     



...ปัจจุบันหมู่บ้านซาเล็มได้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยว ที่มีสถานที่หลายแห่งเกี่ยวข้องและถ่ายทอดเรื่องราวเกี่ยวกับการล่าแม่มด ที่มีผู้มาเยือนเพื่อชมประวัติศาสตร์อันน่าสะพรึงกลัวของเมืองนี้มากมาย ..


credit ………..
http://www.salemwitchmuseum.com/education/
http://atcloud.com/stories/42192 บทความจาก คุณคนดีศรีสังคม
เนื้อหาบางส่วนจากต่วนตูนพิเศษ กันยายน
2544
เรียบเรียงจาก
http://en.wikipedia.org/wiki/Salem_witch_trials


*****************************************************************************


            


ไม่มีความคิดเห็น: