วันจันทร์ที่ 7 กันยายน พ.ศ. 2558

Metal Gear Solid V : Ground Zero & The Phantom Pain NEW TIMELINE ของ 2 ชายผู้ขายโลก


   

                                             NEW TIMELINE ของ 2 ชายผู้ขายโลก

ปี 1935  John ถือกำหนด แต่ทุกคนกลับรู้จักเขาในชื่อ Jack ในเวลาต่อมา

ปี 1950 เข้าร่วมรบในสงครามเกาหลีในนามของหน่วย Green Berets จากการฝึกปรือของ The Boss ในเรื่องการต่อสู้และการอยู่รอดมาตั้งแต่อายุ 15

ปี 1954 Jack เข้าร่วมสงครามที่เกาะ Bikini ในการทดลองทิ้งระเบิดไฮโดรเจน หลังจบงาน Jack ตาม The Boss ไปที่รัสเซียเพื่อฝึกการต่อสู้ CQC และทุกศาสตร์การเอาตัวรอดจนจบหลักสูตรก่อนที่ทั้งคู่จะแยกทางกันไปตามเส้นทางตัวเอง

ปี 1961 Jack เข้าร่วมภารกิจแทรกซึมครั้งแรกกับเพื่อนทหารคนสนิทที่ชื่อ Python ในสงครามเวียตนามหลังจบงานเขาก็สูญเสีย Python ไปในภารกิจ หลังกลับมา Jack เริ่มมีปมเล็กขึ้นมาระหว่างฟังการให้สัมภาษณ์ของประธานาธิบดี จอห์น เอฟ แคนาดี้ ถึงการปัดความรู้เห็นถึงปฎิบัติการแทรกซึมที่เขาต้องสูญเสียเพื่อนไปรวมทั้งทหารหลายนายที่ต้องเสียชีวิต

ปี 1964 Jack จะถูกดึงตัวไปร่วมทีมหน่วยรบพิเศษของ CIA ในนามหน่วย FOX unit ของผู้พัน ซีโร่ และได้เริ่มงานกับผู้พัน Roy Campbell ในปฎิบัติงานแรกในนามของหน่วย FOX unit ที่ชื่อปฎิบัติการ Snake ในโค๊ดเนม Naked Snake จนสามารถหยุดแผนร้ายของ GRU โดยการนำของนายพล Volgin กับหน่วย Cobra Unit องค์รักษ์ของมันที่รัฐบาลสหรัฐแจ้งว่ามีหนอนบ่อนใส้อยู่ในนั้นซึ่งสุดท้ายก็รู้ว่าคนทรยศที่ถูกกล่าวหาก็คือ The Boss อาจารย์ของเขานั่นเอง หลังการต่อสู้จบด้วยชัยชนะของ สเนค ก่อนจะมารู้ว่า



The Boss ไม่เคยคิดที่จะหักหลังประเทศชาติแต่อย่างใด ที่เธอมาแทรกซึมเข้ามาอยู่กับ Volgin นั้นเป็นการจัดฉากของรัฐบาลอเมริกาเองเพื่อจะเข้าถึงข้อมูลของ Philosopher Legacy และทำลาย Shagohod ทุกๆอย่างดำเนินไปด้วยดีแต่เกิดจุดหักเหขึ้นเมื่อ Volgin ใช้หัวรบนิวเคลียร์ยิงทำลายโรงงาน นิวเคลียร์ ทำให้อเมริกาไม่มีข้อจะแก้ตัวกับโซเวียตเพื่อหลบเลี่ยงสงครามที่จะเกิดขึ้นจึงต้องบอกว่า The boss เป็นผู้ทรยศและไม่มีทางเลือกที่ต้อง กำจัดเธอ หน้าที่สุดท้ายของเธอก็คือ ไม่อณุญาติให้รอดกลับบ้าน เธอต้องการเป็นคนทรยศในสายตาทุกคนในประเทศ แต่จริงๆแล้วภาระกิจที่ต้องทำของเธอคือ จงรักภักดี จนนาทีสุดทีสุดท้าย 

แจ็ค สูญเสียดวงตาข้างขวาไปจากเหตุการณ์ทั้งหมด แต่ก็ได้มาซึ่งอุดมการณ์ที่ใหญ่ยิ่งของผู้เป็นอาจารย์มาแทน

ส่วน Volgin หลังจากประทะกับเสนคก็บาดเจ็บสาหัสจนถูกส่งตัวไปมอสโคว์ให้ Code Talker ใช้ทดลองปรสิต ในขณะที่เจ้าหน้าที่คนนึงของหน่วย XOF หน่วยลับของ CIA ที่คอยทำหน้าที่เก็บกวาดทุกความผิดพลาดที่หน่วยหลัก FOX ทำไว้เริ่มไม่พอใจในความไม่เป็นธรรมในการทำงาน จนสุดท้ายผลของการทำงานทำให้เขาบาดเจ็บและเสียโฉมจนต้องเปลี่ยนตัวเองเป็น Skull Face วายร้ายที่วางแผนจะทำลายทุกอย่างที่ผู้พันซีโร่ และหน่วย FOX เคยทำไว้โดยไม่มีใครล่วงรู้

ปี 1970 – Jack ปฎิบัติงานในฐานะ FOX Unit เป็นครั้งสุดท้ายโดยการนำของ Roy Campbell หลังจากผู้พัน ซีโร่ จะยกเลิกหน่วยแล้วแยกตัวออกไปทำริเริ่มโครงการลับที่ชื่อว่า Les Enfant Terrible ก่อนที่จะเข้ามาชวน Jack ให้ร่วมด้วยโดยอ้างว่าโครงการณ์นี้ คือการโคลนร่าง Jack ขึ้นมา เพื่อสร้างกองทัพสุดยอดทหารเพื่อสานต่ออุดมการณ์ของ The Boss

ปี 1972 – ผู้พันซีโร่สร้างกลุ่ม The Patriots แหล่งเงินทุนขนาดใหญ่เพื่อใช้สนับสนุนเป้าหมาย ประกอบด้วย Major Zero , Dr. Clark  Para – medic , ดาร์พาชีฟ ซิกิ้น , Big boss , Ocelot และ Eva เพื่อสนับสนุนโครงการลับที่ชื่อว่า Les Enfant Terrible จนประสบความสำเร็จจนได้กำเนิดร่างโคลน 2 คนจาก DNA ของ Jack นั่นคือ Eli โค๊ดเนม Liquid Snake และ David โค๊ดเนม Solid Snake ด้วยการฝากครรถ์ของ Eva หรือ Big mama  แต่สุดท้ายเมื่อรู้ว่าโครงการณ์นี้ไม่ได้สร้างโลกในอดุมคติของ The Boss แต่เป็นแผนการของผู้พันซีโร่ ที่ทำไปเพราะต้องการใช้แหล่งเงินทุนจาก The Patriots ครอบงำฐานอำนาจของอเมริกามาเป็นของตัวเองทั้งหมด Jack จึงแตกหักกับ ผู้พันซีโร่ และคิดว่าเขาเป็นศัตรูมานับแต่นั้น

ก่อนที่ Jack และ Roy Campbell จะเอา Fox Unit มาปัดฝุ่นสร้างหน่วยงานใหม่ในนาม FOX HOUND เพื่อต่อต้านภัยร้ายจากอาวุธไฮเทคที่เป็นเสมือนฐานยิงจรวดเคลื่อนที่ (ที่ต่อมาเรียกกันว่า เมตัล เกียร์) โดยการสนับสนุนลับๆจากอเมริกา แต่เมื่อมันเริ่มดูไม่เข้าถ้าเมื่อมีอเมริกามาเกี่ยวข้อง Big Boss ก็จำต้องแยกตัวออกไปโดยไม่ล่ำลาหลังจบงาน

ปี 1974  - ถึงคราที่ Jack อดรนทนไม่ไหวถึงผู้มีอำนาจในมือที่ล้วนแต่จะทำเพื่อสร้างอำนาจให้ตัวเอง หลังจากถูกทรยศมานับครั้งไม่ถ้วน ก่อนจะเจอกับ Kazuhira Miller ในขณะช่วยงานกลุ่มกบฏที่ต่อต้านรัฐบาลโคลัมเบีย ก็ถึงเวลาที่กองทัพของทหารที่ไร้ชายแดนของ Jack ก็จะถือกำเนิดขึ้นในนาม Militaries Sans Frontiers (MSF) เพื่อสร้างฐานอำนาจการต่อรองกับฝ่ายผู้มีอำนาจต่างๆให้เป็นไปตามแนวทางตัวเองบ้างเสียที ก่อนจะก่อร่างสร้างตัวด้วยฐานที่เป็นเหมือนบ้านที่เรียกว่า Mother Base  และคำเรียกขานของเหล่าทหารก็แทนตัวผู้นำของ Jack ว่า “Big Boss” มาตั้งแต่นั้น

ปี 1975 -  Mother base ถูกทำลายโดยหน่วย XOF ของ Skull Face Big Boss, Miller ,Paz และ แพทย์สนามคนนึงที่อยู่บน ฮ. ขณะหลบหนีโดนระเบิดที่ฝังอยู่ในร่างของ Paz ระเบิดจนทุกคนบาดเจ็บสาหัส แต่โชคดีที่แพทย์สนามได้เอาตัวเองบังร่างของ Big Boss เอาไว้จากแรงระเบิด ผู้พันซีโร่ใช้เส้นสายช่วยพา Big Boss มาซ่อนตัวและรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลแห่งหนึ่งในไซปรัส ก่อนที่ซีโร่จะวางแผนสร้างตัวตายตัวแทนให้ Big Boss แล้วบอกให้ Ocelot เป็นคนดำเนินการ ในขณะที่ Skull Face และหน่วย XOF ก็เข้าครอบงำอัฟกานิสถานในขณะที่อยู่ในการปกครองของโซเวียตเพื่อค้าอาวุธและบีบบังคับให้ Code Talker ให้เริ่มทดลองสร้างปรสิต Vocal Cord ปรสิตเส้นเสียงที่หวังจะทำลายภาษาอังกฤษให้หมดไป

16 มีนาคม 1975 13.31น. โรงพยาบาล Mena de Barranquilla , โคลัมเบีย ทีมแพทย์พยายามช่วยชีวิตทั้ง 3 ชีวิตที่รอดมาจากเฮลิคอปเตอร์ระเบิดได้ Big Boss , Miller และ แพทย์สนามที่อยู่ใน ฮ.  Big Boss นั้นถูกยื้อชีวิตเอาไว้จนรอดแต่ก็ต้องนอนโคม่าอยู่หลายปี ส่วนแพทย์สนามบาดเจ็บหนักเพราะเอาตัวมาขวางรับแรงระเบิดให้ Big Boss เต็มๆ อาการเขาจึงหนักกว่าทุกคน ทั้งแขนขาด ร่างกายเต็มไปด้วยสะเก็ดระเบิด และมีเศษกระดูกที่ฝั่งเข้าไปที่ขั้วหัวใจและที่หัวกะโหลก ก่อนที่จะถูกช่วยชีวิตแต่ก็ต้องโคม่าไปพร้อมๆกับ Big Boss

หลังจาก Big Boss ตื่นจากโคม่า Ocelot ได้เข้ามาปรึกษาเพื่อเริ่มแผนการ “Doublethink” ที่จะสร้างตัวแทน Big Boss ขึ้นมาอีกคนเพื่อใช้เป็นกันชนตัวล่อแทนกับทุกฝ่ายทั่วโลกที่หมายจะเด็ดหัว ตามแผนของผู้พันซีโร่ เพื่อให้ Big Boss ตัวจริงได้มีเวลาพักฟื้นและเริ่มแผนสร้าง Outer Heaven ใหม่แบบจริงๆจังๆ ซึ่งตัวแทน Big Boss ก็ไม่ใช่ใครที่ไหน เขาคือแพทย์สนามผู้จงรักภักดีที่ช่วยบังระเบิดให้ Big Boss นั่นเอง ก่อนที่จะเริ่มปลูกถ่ายความคิดและสติปัญญาตามวิธีการสะกดจิตหลอกตัวเองของ CIA ตามที่ Ocelot ถนัด ตลอดเวลาที่เขาโคม่าเพื่อทำให้ตื่นขึ้นมาเขาคิดว่าตัวเองเป็น Big Boss

ปี 1976 -  โครงการลับ Les Enfant Terrible ถูกยกเลิก Eli ถูกพาตัวมาที่ประเทศอังกฤษ ในขณะที่ผู้พันซีโร่เริ่มป่วยจากอาการสมองเสียหายเพราะถูกเล่นงานจากปรสิตของ Skull Face

ปี 1977 –  มีการทดลองระเบิดนิวเคลียร์ขึ้นที่ทะเลทราย Kalahari ประเทศแอฟริกาใต้ การระเบิดที่เกิดขึ้นถูกนานาชาติกดดันอย่างหนักให้แอฟริกาใต้ยุติการทดลองทันที ผู้พัน ซีโร่ แวะเยี่ยม Big Boss ที่โรงพยาบาลก่อนที่จะหลบซ่อนตัวและไม่แสดงตัวกับสาธรณะอีกเลย

ปี 1984 -  11 มีนาคม 02.03 น. โรงพยาบาล Dhekelia SBA Memorial, Cyprus
แพทย์สนามก็ตื่นขึ้นมาจากโคม่า เมื่อเวลาผ่านไป 9 ปี ! ในสภาพอ่อนเพลีย เสียแขน และร่างกายเต็มไปด้วยเศษกระสุน หัวถูกตรึงด้วยเศษกระดูกยื่นแหลมจนคล้ายปีศาจ 3 อาทิตย์ผ่านไปหลังจากฟื้นตัวก็ถูกนักฆ่าสาวเข้ามาหวังจะฆ่าแต่โชคดีที่ได้คนไข่พันหน้าข้างเตียงช่วยเอาไว้จนสามารถหนีการไล่ล่าออกมาจากโรงพยาบาลได้แต่สุดท้ายก็ต้องรถคว่ำเพราะถูก ฮ ไล่ยิง แต่ Ocelot จะเข้ามาช่วยพาคนไข้ที่พันหน้าออกไป จนสุดท้ายก็เปิดเผยความจริงว่า คนไข้ที่ปิดหน้าคือ Big Boss ตัวจริงนั่นเอง ก่อนที่ Big Boss จะเตรียมหนีกลบดานแล้วปล่อยให้แพทย์สนามที่คิดว่าตัวเองเป็น Big Boss รับหน้างานไปเพื่อซื้อเวลาไปจนกว่าเขาจะพร้อม และแผน “Doublethink” เรื่องตัวตายตัวแทนของ Big Boss ก็เริ่มขึ้นโดยที่ไม่มีใครรู้ตัว ตั้งแต่วันนั้น พร้อมๆกับ Big Boss ในฉายาใหม่ว่า Punished “Venom” Snake

ปี 1991 – Liquid Snake (Eli) และ Solid Snake (David) ถูกส่งเข้าสู่สนามรบเป็นครั้งแรก พร้อมๆกับการล้มสลายของโซเวียต

ปี 1995 – Big Boss ‘s Phantom ในฐานะของหัวหน้าของหน่วยเฉพาะกิจ Fox Hound ภายใต้การควบคุมของกองทัพสหรัฐอเมริกาถูกส่งให้ไปปฎิบัติหน้าที่ยับยั้งกลุ่มก่อการร้ายที่ชื่อว่า “Outer Heaven” ในแอฟริกาใต้ที่หวังจะใช้ฐานยิงอาวุธนิวเคลียร์รุ่นใหม่ที่สามารถยิงได้จากทุกพื้นที่ในโลกเพื่อต่อรองที่จะได้มาซึ่งอำนาจทั้งหมดบนโลก โดยเจ้าหน้าที่หน้าใหม่นามว่า David โค๊ดเนม Solid Snake ที่ถูกส่งเข้าพื้นที่เพื่อตามหาเจ้าหน้าที่ Fox Hound ชื่อ Grey Fox ที่หายสาบสูญหลังถูกส่งเข้าแทรกซึมเข้าพื้นที่ ก่อนที่เรื่องจะผลิกผันเมื่อ Big Boss ‘s Phantom เปิดเผยตัวเองในตอนจบว่า เขาคือหัวหน้าแห่ง  “Outer Heaven” หลังจบการต่อสู้ Big Boss ‘s Phantom  ก็ต้องตายด้วยฝีมือของ Solid Snake




* อ้างอิงจากไทม์ไลน์หลังเครดิตฉากจบของ MGSV ที่แบ่งแยกระหว่าง Big Boss ทั้ง 2 ร่างด้วยคำต่อท้ายว่า Phantom *


ปี 1995 –  เกิดเหตุวุ่นวายท่ามการวิกฤการณ์พลังงานขาดแคลน เมื่อมีกลุ่มก่อการร้ายกลุ่มนึงจับตัว Dr. Marv นักวิทยาศาสตร์ที่สามารถสร้างจุลชีวที่สามารถผลิตน้ำมันเชื้อเพลิงได้ไปที่ Zanzibar เกาะทางตะวันออกของแอฟริกา ทำให้หน่วย Fox Hound ภายใตการนำของผู้พัน รอย แคมป์เบล ต้องออกปฎิบัติงานเพื่อช่วยเหลือ Dr. Marv โดยเจ้าหน้าที่ David โค๊ดเนม Solid Snake ก็ถูกเรียกมาใช้งานอีกครั้ง และสุดท้ายก็จะรู้ความจริงว่า Big Boss เป็นหัวหน้ากลุ่มก่อการร้ายแห่ง Zanzibar นั่นเอง  จนต้องปะทะกับ Solid Snake อีกครั้ง และครั้งนี้จบลงด้วยการพ่ายแพ้ของ Big Boss ‘s Phantom ซึ่งนำมาซึ่งคำกล่าวที่ว่า “คนแพ้เท่านั้นที่จะออกจากสงครามได้ ส่วนคนชนะต้องสู้ไปจนวันตาย” ก่อนจะถูกไฟครอกทั้งตัว

                       

แต่หลังจากเหตุการณ์ครั้งนั้น Big Boss ก็ยังไม่ได้ตายจริงๆ เขาถูกผู้พันซีโร่จับมาขังเอาทั้งในสภาพที่ใกล้ตายแล้วใช้ Nano machine ควบคุมความคิดทั้งหมดเอาไว้ ซึ่งหลังจากนั้น Zero ก็ไม่ไว้ใจใครอีกโดยเปลี่ยนมาใช้ AI อัจฉริยะทั้ง 5 คือ GW, TJ, AL, TR และ JD ในการควบคุมข้อมูลแหล่งเงินทุนและข้อมูลสำคัญทั้งหมดของอมเมริกาในฐานะ The Patriots แทนตั้งแต่นั้นมา

ปี 2005  –  Eli (Liquid Snake) และ David (Solid Snake) ปะทะกันครั้งแรกและครั้งสุดท้ายที่ เกาะ Shadow Moses ก่อนที่ Liquid Snake จะเสียชีวิตด้วยไวรัส Fox Die

ปี 2009  –  เปิดตัว Solidus Snake ร่างโคลนที่เกิดจากการผสมระหว่าง Liquid Snake กับ Solid Snake ในฐานะประธานาธิบดีคนที่ 42 ของอเมริกาที่ต้องลงจากตำแหน่งจากเหตุการณ์ที่เกาะ Shadow Moses จึงคิดการใหญ่โดยการร่วมมือกับทหารรัสเซียกับกลุ่มก่อการร้าย Dead Cell ทำการจับตัวประธานาธิบดีสหรัฐเป็นตัวประกันพร้อมยึดแท่นขุดเจาะน้ำมัน Big Cell โดยมี Solid Snake และ Raiden ตัวละครใหม่มาช่วยแก้วิกฤติครั้งนี้

ปี 2014 -  Big Boss ที่ถูก A.I “JD” ควบคุมสติเอาไว้ก็ได้ Ocelot และ Eva ช่วยเขาออกมาได้สำเร็จโดย Ocelot ใช้นาโนแมชชีนสะกดจิตให้ตัวเองสวมบุคลิกของ Liquid หลอก AI “JD” ให้สับสนจนสามารถช่วยเอาตัว Big Boss ออกมาได้ ก่อนที่ Eva จะช่วยสร้างร่างกายใหม่ให้เขาด้วยชิ้นส่วนร่างกายของ Liquid และ Solidus จนเขาสามารถจัดการกับผู้พันซีโร่ลงได้ และตอนนี้ Big Boss ก็พาตัวผู้พันซีโร่ที่แก่ชราจนต้องนั่งรถเข็ญพร้อมด้วยสายน้ำเกลือมา ยืนยันกับ Solid Snake ว่าสงครามทั้งหมดจบลงแล้ว



                            สิ้นปี 2014 -  Big Boss เสียชีวิตอย่างสงบ เมื่ออายุ 79 ปี 


                       





เครดิต 
-ไทมไลน์จาก End Credits MGSV 
- ถอดเทป The Truth Record บทสนทนาเรื่อง Doublethink 
- ข้อความบางส่วนจาก สกู๊ปพิเศษ เจาะลึกเรื่องราวของซีรีส์เกม Metal Gear Solid 4: Guns of the Patriots จากบอร์ด Online Station เมื่อ 27 November 2008 www.online-station.net/feature/feature/450
www.online-station.net/feature/feature/450
http://metalgear.wikia.com/wiki/Big_Boss
https://en.wikipedia.org/wiki/Big_Boss_(Metal_Gear)
 และจากความทรงจำของผมเอง
        
    


        “ต้องการหยุดสงครามความขัดแย้งที่มีอยู่ทั่วโลกด้วยการกุมอำนาจทั้งหมดไว้คนเดียว”

ใช่ ..นั่นคือเป้าหมายของเขาที่คุณกำลังหลงลืมไปพร้อมๆกับบทบาทที่ Big Boss เปิดตัวในเกมตลับฟามิคอม ในยุคที่คุณบางคนอาจยังไม่ทันเกิด ซึ่งแม้มันจะเก่าเก็บ แต่เป้าหมายที่ยิ่งใหญ่ของ Big Boss ก็เป็นรูปเป็นร่างและหยุดนิ่งในกาลเวลามาตั้งแต่ครั้งนั้นแล้ว นานจนคุณลืมกันไปแล้วว่า “เขาเป็นตัวร้ายของเกม”






Metal Gear Timeline เรียงตามลำดับเหตุการ์ณสำคัญของเนื้อเรื่อง เพื่อความเข้าใจต้อนรับการมาของ Metal Gear Solid: Ground Zero


                                     Metal Gear Solid 3: Snake Eater (1964)
             


ปี ค.ศ 1940 – 1980 สงครามเย็น ความขัดแย้งครั้งใหม่ระหว่าง ทุนนิยมและคอมมิวนิสต์  สหรัฐอเมริกาและโซเวียต เกิดความขัดแย้งบานปลายกันอย่างเงียบๆมาตลอดหลังจบสงครามโลกครั้งที่ 2  ทั้ง 2 ฝ่ายไม่ได้ปะทะกันทางกองกำลังทหารอย่างตรงไปตรงมา แต่เป็นสงครามทางการเมืองที่ส่งผลกระทบไปทั่วโลกที่เกิดจากประเทศที่เป็นฝ่ายสนับสนุนของทั้ง 2 ฝ่าย


อเมริกาและ CIA ได้มีคำสั่งให้หน่วย FOX HOUND ในสังกัดเข้าแทรกแซงในการพาตัวนักวิทยาสตร์ชาวโซเวียตที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการพัฒนาอาวุธสุดยอดของโซเวียตหลบหนี ภารกิจ Virtuous mission ก็เริ่มขึ้นโดยการควบคุมของ Major zero หัวหน้าหน่วย FOX HOUND เริ่มส่ง Jack สายลับที่เก่งที่สุดในหน่วยออกปฏิบัติหน้าที่เข้าแทรกซึมในโค๊ดเนมว่า Naked Snake จนเหตุการ์ณผลิกผันทำให้ Snake เข้าไปผัวพันกับการแย่งชิงอาวุธชนิดใหม่ ฐานยิงขีปนาวุธเคลื่อนได้ที่สามารถยิงจากทุกที่ของโลกนามว่า metal Gear จากกลุ่มผู้ก่อการร้ายโดยการนำของ Volgin และหน่วยรบที่แข็งแกร่งของมัน คอบบร้า” และชาตะกรรมก็นำพาให้ Snake มาพบพานกับ The Boss อดีตหัวหน้าหน่วย FOX ที่สลับขั่วมาอยู่ฝ่ายตรงข้ามในฐานะหัวหน้าหน่วย คอบบร้า และการพบกับระหว่าง Snake และ The Boss ในครั้งนั้นก็จบลงพร้อมกับโชคชะตาที่เปลี่ยนไปของ Naked Snake

                                      Metal Gear Solid: Peace Walker (1974)
                       


เรื่องราวของ Naked Snake กับโค๊ดเนมและสถานะภาพใหม่ว่า “Big Boss “ ในยุคบุกเบิกของกองทัพ Militaries Sans Frontiers ตามแผนการใหญ่ที่วางไว้


                                 เหตุการณ์ใน    Metal Gear Solid V: Ground Zero (1980

                     



                                  เหตุการณ์ใน  Metal Gear Solid V : The Phantom Pain 


                                          

                                                        Metal Gear (1995) 

                                     

Outer Heaven กองกำลังผู้ก่อการร้ายกลุ่มใหม่ที่กำลังเริ่มก่อความวุ่นวายด้วยการทดลองสร้างอาวุธร้ายแรงชนิดใหม่ หน่วย FOX HOUND ภายใต้การนำของ Big Boss ถูกเรียกมาเพื่อหยุดยั้งภัยร้ายครั้งนี้ ด้วยการส่ง Grey Fox  สุดยอดสายลับมือหนึ่งของหน่วยเข้าแทรกซึมในพื้นที่เกิดเหตุ แต่จู่ๆ Grey Fox ก็หายสาปสูญและขาดการติดต่อไปโดยไม่ทราบสาเหตุ Big Boss จึงตัดสินใจส่งเจ้าหน้าที่หน้าใหม่ Solid Snake ออกปฏิบัติการ์ณจนสามารถช่วยเหลือ Grey Fox กลับมาได้พร้อมกับข้อมูลของสุดยอดอาวุธของฝ่ายศัตรูที่ชื่อว่า Metal Gear จนสุดท้ายทุกอย่างก็เปิดเผยว่า แท้จริงแล้ว หัวหน้ากองกำลังนักรบรับจ้าง OUTER HEAVEN ในเงามืด ก็คือ Big Boss หัวหน้าหน่วย FOX HOUND นั่นเอง ตำนานบทใหม่ของ Solid Snake ที่สามารถทำลายกองกำลัง OUTER HEAVEN และ อาวุธสุดร้ายกาจ Metal Gear ของ Big Boss ด้วยตัวคนเดียวก็เริ่มต้นขึ้น …

                                    


                          
                                               Metal Gear 2: Solid Snake (1999) 
                 


Solid Snake ออกปฏิบัติการ์ณภายใต้สังกัด FOXHOUND อีกครั้งโดยการนำของรอย แคมป์เบล หัวหน้าหน่วยคนใหม่ เพื่อหยุดยั้งแผนการร้ายของ Big Boss พร้อมมือขวาของมัน Grey Fox ที่ชักใยอยู่ที่รัฐอิสระ ซันชิบาร์ ในการชิงจุลชีวะภาพในการผลิตน้ำมัน ท้ายที่สุด Solid Snake ก็สามารถล้มแผนร้ายของ Big Boss ได้อีกครั้ง และจัดการ Grey Fox คนทรยศ และ Metal Gear อาวุธสุดร้ายกาจที่ Big Boss พยายามสร้างขึ้นมาอีกครั้งลงได้ ก่อนที่ Solid Snake จะหายตัวไปพร้อมคำพูดสุดท้ายของ Big Boss ที่สุดเท่ว่า “ สงครามไม่มีวันจบ ผู้แพ้เท่านั้นที่จะเป็นอิสระจากสมระภูมิ ส่วนผู้ชนะจะต้องสู้ต่อไปจนตาย “ 

                                  



                                                    Metal Gear Solid (2005) 

                                       


เหตุร้ายเกิดขึ้นอีกครั้งที่เกาะ Shadow Moses สถานีวิจัยอาวุธนิวเคลีย์ถูกยึดโดยกลุ่มผู้ก่อการร้าย ที่เป็นฝีมือของอดีตหน่วย FOX HOUND ภายใต้ชื่อชื่อ Son of Big Boss โดยการนำของหัวหน้าผู้ก่อการร้ายนามว่า Liquid Snake ผู้ที่มีหน้าตาเหมือนกับ Solid Snake อย่างกับคนเดียวกัน พร้อมกองทัพสุดยอดทหาร Genome Soldier  โดย Liquid มีแผนที่จะนำเซลที่เหลืออยู่ของ Big Boss มาทำให้กองทัพสุดยอดทหารที่แข็งแกร่งที่สุด Solid Snake จึงถูกผู้พันแคมป์เบลส่งมาเพื่อยับยั้งพวกมัน การเผชิญหน้ากันครั้งแรกของ Solid Snake และ Liquid Snake ที่จบลงด้วยไวรัส Fox Die … (ภาคนี้ถูกรีวเมคอีกครั้งในชื่อว่า twin Snake กับเครื่อง GC ด้วย) 

.........................................................................................................................................................
                                   


ซึ่งภาคนี้ได้เปิดเผยความลับของโศกนาฎกรรมอันเลวร้ายที่สำคัญที่สุดในซีรีย์คือ
โครงการลับ Les Enfants Terribles ที่หวังจะสร้างสุดยอดนักรบเพื่อกองทัพที่สมบูรณ์แบบโดยใช้ยีนของ Big Boss (Naked Snake) ซึ่งร่างโคลน 3 คนแรกที่สมบูรณ์แบบที่สุดคือ
Liquid Snake
Solid Snake
และ Solidus Snake โคลนที่สมบูรณ์แบบที่สุดจาก DNA ของ Big Boss ที่เกิดจากการผสานเซลของ Solid Snake และ Liquid Snake

           
                       



.....................................................................................................................................................

                                        Metal Gear Solid 2:Son of Liberty (2007)

                             


Solid Snake ภายใต้สังกัดใหม่ในนามองค์กรต่อต้านอาวุธนิวเคลียร์และ Metal Gear ที่มีชื่อว่า Philanthropy เพื่อหยุดยั้ง Metal Gear “RAY” โดยฝีมือกลุ่มก่อการร้าย เดธเซล กับการกลับมาของ Liquid ที่แฝงตัวอยู่ในชีวิตอีกครึ่งของ Ocelot และการปรากฎตัวของเจ้าหน้าที่สายลับคนใหม่ Raiden (ที่ทราบภายหลังว่าเป็นลูกเลี้ยงอดีตนักรบในสังกัดของ Solidus Snake ที่ถูกลบความส่งจำโดยนาโนแมชชีนในสมองเพื่อแทรกซึมเข้ามาตรวจสอบเหตุการ์ณที่ Big Shell) ที่ต้องทำให้ Solid Snake กลายเป็นพระรอง พร้อมกับการพบกันครั้งสำคัญกับ Solidus Snake โคลนที่สมบูรณ์แบบที่สุดจาก DNA ของ Big Boss .. Snake คนสุดท้ายแห่งโปรเจคท์ Les Enfants Terribles ….

                                  Metal Gear Solid 4 : Guns of The Patriots (2014) 

                           


สงครามครั้งสุดท้ายของ Solid Snake กับกองทัพ Outer Heaven ที่เกิดใหม่ในสถานะภาพกองทัพทหารรับจ้างอิสระที่ไม่ขึ้นตรงต่อใคร ภายใต้การนำของ Liquid ในร่างของ Ocelot จุดสุดท้ายแห่งเรื่องราวของ Solid Snake กับเวลาสุดท้ายของชีวิตที่ไม่ใช่เวลาที่เหลือของชีวิตแต่เป็นเวลาทั้งหมดที่สเนคสามารถใช้ได้ตามความต้องการของตัวเองเสียทีหลังสงครามที่ยาวนาน ….

และ Metal Gear Rising: Revengeance (2023) ปฏิบัติการเต็มรูปแบบของ Raiden

....................................................................................................................................................

ป.ล ซีรีย์ Metal Gear ยังมีภาคยิบย่อยอีกมายซึ่งมีทั้งภาคที่ ฮิเดโอะ โคจิม่า โปรดิวเซอร์คนสำคัญไม่มีส่วนเกี่ยวของและภาคย่อยทุถูกสร้างเพื่อเอาใจเครื่องต่างๆที่ไม่ค่อยมีความสำคัญของเนื้อเรื่องหลักมากนัก มีทั้ง
Metal Gear Solid: Portable Ops 
Metal Gear Snake’s Revenge (ภาคนี้หนักสุด)
Metal Gear Ghost Babel
ซึ่งก็ขอละเอาไว้แบบไม่ต้องกล่าวถึงหรือบางครั้งก็คิดซะว่า ไม่มีมันอยู่ ก็ได้ครับ

.....................................................................................................................................................

                           
      



                                       บทสรุป Metal Gear Solid V: Ground Zero 

BY Decibel per - oxide

เรื่องราวเริ่มต้นมาตั้งแต่ ปี1974 [เหตุการ์ณในภาค Peace Walker ] … Big Boss ได้ก่อตั้งกองทหารที่มีชื่อว่า Militaires Sans Frontieres หรือ "Soldiers Without Borders" ในประเทศโคลัมเบีย เพื่อถ่วงดุลอำนาจทางการทหารระหว่างกองทัพฝ่ายตะวันตกและตะวันออก ในขณะเดียวกัน ทางประเทศ Costa Rica ที่อยู่ภูมิภาคอเมริกาใต้ด้วยกัน ที่ประกาศตัวเป็นกลางและไม่ติดอาวุธ ตามเงื่อนไข Nation without a Military แต่ทว่ากลับมีข่าวว่ากองกำลังไม่ทราบฝ่าย ที่ติดตั้งอาวุธรุ่นล่าสุด ก่อตัวขึ้นใน Costa Rica ทางกองทัพ Militaires Sans Frontieres ของ Big Boss จึงเข้าทำการตรวจสอบ เพื่อรักษาความสงบสุขในประเทศที่อยู่ในเงื่อนไขห้ามติดตั้งอาวุธ



                                    บทสรุป Metal Gear Solid: Peace Walker 
          http://decibelperoxide.blogspot.com/2014/03/metal-gear-solid-peace-walker_11.html


เรื่องราวบานปลายและเชื่อมโยงไปถึงโครงการ Metal Gear ZEKE และ สาวน้อย PAZ Ortega Andrade สายลับ หน้าที่ทำงานให้กับไซเฟอร์ ในภารกิจแทรกแซงเพื่อทำให้ Big Boss ล้มเลิกหน่วยทหารรับจ้างและกลับไปอเมริกา แต่ด้วยความสนิทสนมระหว่าง PAZ และทุกคนในฐานที่เป็นมิตรกับเธอทำให้เธอเริ่มจะใจอ่อน แต่เธอขัดขืนคำสั่งของไซเฟอร์ไม่ได้ และเธอคิดเสมอว่ามีสายลับของไซเฟอร์อีกคนอยู่ในฐานคอยจับตาดูเธออยู่ สุดท้าย Paz อาศัยความวุ่นวายตอนที่ Gálvez หนีจากคุก เธอฉวยโอกาสขึ้นไปควบคุม Metal Gear ZEKE  จุดประสงค์ของเธอคือใช้ ZEKE ยิงนิวเคลียร์ไปยังอเมริกา และป้ายความผิดที่ยิงอเมริกาให้กองทหารรับจ้าง Soldiers Without Borders ของ Big Boss ตามคำสั่งของไซเฟอร์ ทำให้ Big Boss ต้องออกไปสู้กับ Paz ที่ควบคุม Metal Gear ZEKE จนชนะซึ่งสุดท้ายเธอก็ตายไปพร้อมกับ ZEKE ที่ระเบิด


10 วันหลังจากนั้น  ..  Big Boss กลับได้รับข่าวกรองมาว่า Paz นั้นเธอยังไม่ตายและถูกช่วยชีวิตโดยชาวประมงที่พบเธอลอยน้ำอยู่กลางมหาสมุทรในทะเลแคริบเบียนเมื่อหลายปีก่อน และสุดท้าย Paz ก็ถูกจับและถูกสอบสวนอยู่ที่ Camp Omega ค่ายทหารทางใต้ของประเทศคิวบาซึ่งอยู่ที่ไหนสักแห่งใกล้สาธารณรัฐโดมินิกันที่ควบคุมโดยกองกำลังไม่ทราบฝ่ายที่เรียกตัวเองว่า “ XOF” โดยการนำของชายคนนึงที่ใช้ Code name ว่า “Skull Face” 



(ดูจากบาดแผลบนใบหน้าขอเดาว่าน่าจะเป็น Frank Jaeger หรือ Cyborg Ninja นั่นแหละ)  ในขณะเดียวกันทาง UN ก็กำลังตรวจสอบนิวเคลียร์ที่ Mother Base ซึ่งเวลาดังกล่าวทำให้ Big Boss เกรงว่า Paz อาจต้องหลุดบอกข้อมูลเกี่ยวกับ Militaires Sans Frontieres ในท้ายที่สุด Big Boss และ Kaz จึงตกลงกันว่าจะทำทุกวิถีทางเพื่อช่วยเหลือ Paz ผู้ซึ่งจะเป็นทางเดียวในการเชื่อมโยงไปถึงตัว Cipher พร้อมกับหาทางช่วย Chico (น้องชายคนเล็กของ Amanda Valenciano Libre ผู้นำกบฏ Sandinista ) ที่ถูกจับขังอยู่ที่ใดที่หนึ่งด้วย



ก่อนหน้านั้นไม่นาน.. Skull Face เข้าตรวจสอบพูดคุยกับ Chico ในที่คุมขังอีกครั้ง เสียงพร่ำบ่นถึงแผนการของมันไม่ได้ทำให้หนุ่มน้อย Chico จนใจและหายจากสภาพจิตใจหลุดลอยได้แม้แต่น้อย Skull Face ย้ำเตือนกับ Chico กับความคิดถึงที่เขาฝากให้ Big Boss ก่อนที่มันจะออกเดินทางขึ้น ฮพร้อมแกะป้าย XOF เพื่อเปลี่ยนสถานะตัวเอง แผนการ Trojan Horse ของ Skull Face ก็เริ่มขึ้นพร้อมๆเสียงเพลง Here’s to you จากเทปที่ Chico เปิดคลอตามเบาๆ



..หลังเสียงเฮลิคอปเตอร์ของกองกำลังไม่ทราบฝ่ายค่อยๆจากไป Big Boss ก็เข้าพื้นที่เพื่อเริ่มภาระกิจช่วยเหลือของเขาทันที ….

Mission: Ground Zero
16 มีนาคม 1975 , 00.00 , Us Naval Prison Facility , Cuba …



Snake เข้าพื้นที่เริ่มภารกิจแทรกซึมที่ค่ายโอเมก้าเป้าหมายคือ ช่วยเหลือตัวประกัน Chico และ Paz ที่ถูกซ่อนตัวอยู่ในพื้นที่ แต่ก่อนที่จะเข้าพื้นที่ก็ต้องเรียนรู้การบังคับที่สำคัญเบื้องต้นกันก่อน
ปุ่ม L2 เพื่อใช้วิทยุติดต่อกับ Miller ที่ฐาน ซึ่งจะบอกถึงรายละเอียดของเป้าหมายและสิ่งที่ต้องทำ
– ปุ่ม ย่อตัวและหมอบคลานคือการหลบศัตรูที่ดีที่สุด
– ปุ่ม R2 เพื่อใช้กล้องตรวจสอบพื้นที่และกำหนดตำแหน่งของศัตรู (กดแกนอนาล็อกขวาเพื่อการ Zoom)
– ปุ่ม สามเหลี่ยมใช้สำหรับแอ๊คชั่นต่างๆทั้งปีน ป่าย และ สำรวจ
– ปุ่ม L1 – R1 ใช้อาวุธปืน ปุ่ม ในการรีโหลด และใช้ในการแบกร่างของศัตรู
กดแกนอนาล็อกซ้ายลงไปตรงๆจะเป็นการวิ่ง
– สามารถดันแกนอนาล็อกขวาไปตามทิศทางของกำแพงเพื่อหลบและกดแกนอนาล็อกขวาลงไปตรงๆเพื่อชะโงกดูศัตรูซึ่งก็จเป็นการมาร์คตำแหน่งของศัตรูไปในตัวได้ด้วย
– ปุ่ม R1 สำหรับการใช้มือเปล่าโจมตี และ การใช้ CQC โจมตีศัตรู

- iDroid อุปกรณ์สื่อสารแบบออนไลน์ กดปุ่ม Start ใช้เรียกดู เมนูหลัก ประกอบด้วย
Mission info เงื่อนไขและเป้าหมายในภาระกิจที่ทำ
Log บันทึกการพูดคุยในแบบตัวอักษร
Call helicopter เรียกเฮลิคอปเตอร์มารับ โดยสามารถกำหนดได้ตามจุด Landing Zone เท่านั้นโดยจะมีทั้งจุดที่ปลอดภัยและจุดที่เต็มไปด้วยศัตรู 
Cassette Tape เทปบันทึกเสียงในเหตุการ์ณต่างๆของตัวละครที่สำคัญ

** การใช้ CQC คือระบบการต่อสู้ระยะประชิดของ Snake **
ซึ่งจะแตกต่างกันตามน้ำหนักที่กดลงไป โดยจะมีทั้งกดครั้งเดียวแรงๆเพื่อโจมตีศัตรูตรงๆหรือเหวี่ยงไปกระแทกพนังๆรอบๆตัวให้สลบ และที่สำคัญที่สุดคือ การล็อคศัตรูจากด้านหลังเพื่อหาประโยชน์จากมันได้ด้วย โดยเมื่อกด RT ค้างล็อคคอมันได้แล้ว สามารถกด L2 แล้วใช้แกนอนาล็อกขวาเลือกการกระทำต่างๆได้คือ
เลือกไปทางซ้ายเพื่อสั่งให้มันเรียกเพื่อนที่อยู่ใกล้ๆมาเป็นเหยื่อคนต่อไปได้
เลือกไปด้านบนจะเป็นการบังคับถามข้อมูลต่างๆจากมัน ซึ่งจะทำให้ได้ข้อมูลสำคัญหลักๆของเกมไปจนถึงที่ซ่อนของกระสุน อาวุธ หรือ Collection ของสะสมในเกม โดยเมื่อได้ข้อมูลมาแล้วจะทำให้มีจุด สีเหลืองเพิ่มขึ้นมาในแผนที่ตามจุดต่างๆที่ได้ข้อมูลมา

จากนั้นก็เริ่มปฏิบัติการ์ณแทรกซึมได้เลย



ภาระกิจแรกคือ ช่วยเหลือ Chico ที่ตามรายงานจะถูกขังอยู่ที่คุกเก่าทางด้านขวาของแผนที่ เมื่อลอบเข้าไปจนถึงหน้าคุกแล้วก็ลองใช้กล้องส่องมองให้ทั่วๆก็จะพบมีคนถูกจับอยู่ในกรง คน โดยที่ Chico จะอยู่ที่กรงทางซ้ายของประตูทางเข้าด้านหน้า การจะลอบเข้าไปนั้นก็มีหลายทางทั้งสะเดาะห์กุญแจไขเข้าไปด้านหน้า ปีนหลังคาด้านหน้าข้ามไป หรือ จะปีนหอคอยด้านหลังแล้วโดดลงมาก็สุดแล้วแต่ ที่นี่จะมียามอยู่ คน เมื่อลอบเข้ามาได้แล้ว เข้าไปที่กรงเบอร์ 2458 ของ Chico ซึ่งก็จะพบว่าเขาอยู่ในสภาพหวดกลัวจนสติแตก Snake จึงต้องจำใจรัดคอทำให้สลบก่อนจะแบกออกมา ซุ่มรอจนกว่าจะมีทหารวิ่งมาจากด้านนอกแล้วเปิดประตูลูกกรงเข้ามาตรวจนักโทษแล้วค่อยลอบอุ้ม Chico เลาะริมหน้าผาไปทางขวาของคุกไปที่จุด Landing Zone แล้วกดเมนู Call helicopter เรียกเฮลิคอปเตอร์มารับ ซึ่งจะพานักโทษที่เหลือมาด้วยก็ได้ ก่อนจะพาตัว Chico ส่งขึ้นเฮลิคอปเตอร์แล้ว Snake จะถามถึงที่คุมขังตัว Paz ซึ่ง Chico จะบอกว่าเธอตายแล้ว แต่ก็จะส่งเทปที่อัดเอาไว้ในระหว่างที่ถูกจับมาซึ่งเป็นที่ที่ได้พบ Paz ครั้งล่าสุด ในเทปเมื่อเปิดฟังจะเป็นเสียงของสภาพแวดล้อมระหว่างทางที่ Chico ถูกพาตัวไป ซึ่งต้องพยายามฟังเสียงที่อยู่ตามทางให้ดี (สามารถฟังซ้ำได้โดยกด Start เข้าเมนูที่ Cassette Tape )



ภาระกิจที่สองคือ ช่วยเหลือ Paz โดยทางฟังจาก Cassette Tape ที่ Chico ให้มาก็คือเส้นทางจากจุดส่งตัวขึ้น ฮตรงบริเวณคุก เดินลอดใต้สะพาน ผ่านลานจอด ฮขึ้นไปทางด้านบนของแผนที่จะมีประตูใหญ่ที่เวลาเปิดมีเสียงดังของไซเรน ซึ่งจะเกาะรถบรรทุกมาจากตีนสะพานก็ได้ หรือจะง่ายหน่อยก็เข้าประตูแดงทางขวาของประตูใหญ่ไป หลบทหารและกล้องลงไปที่ชั้นใต้ดินตรงไปทางซ้ายก็จะพบ Paz ถูกขังอยู่ในกรง สภาพก็เธอก็สติแตกไม่ต่างจาก Chico อุ้มเธอหนีออกมาจะพบว่าพวกทหารศัตรูเริ่มรู้ตัวว่านักโทษหายไปจึงเริ่มระดมพลออกไล่ล่า อุ้ม Paz หนีออกมา (อุ้มเข้าประตูใหญ่ที่โรงเก็บรถขับรถบรรทุกมาก็ได้จะง่ายที่สุดอุ้มพามาจนถึงจุด Landing Zone แล้วเรียกเฮลิคอปเตอร์มารับได้เลย


ระหว่างเดินทางกลับฐาน Chico จะสังเกตเห็นท้องของ Paz มีร่องรอยผ่าตัดจึงบอก Big Boss ให้ใช้แพทย์ช่วยกันผ่าออกจนพบระเบิดเวลาถูกยัดเอาไว้ในท้องของเธออย่างโหดเหี้ยม จากนั้นจะได้รับรายงานจาก Mother Base ว่าถูกกองกำลังไม่ทราบฝ่ายบุกโจมตี เมื่อเฮลิคอปเตอร์ของ Big Boss ไปถึงจะพบฐานกลางทะเลถูกโจมตีอย่างหนักจนไม่อาจต้านทานมันได้ Big Boss พยายามหาทางลงไปช่วย Miller ออกจากพื้นที่แล้วบินหนีออกมาอย่างสุดแสนเจ็บใจ Miller ที่เจ็บใจยิ่งกว่าเมื่อเห็นยัย Paz นก หัวอยู่ที่นี่ด้วย แต่ทันที่ Paz รู้สึกตัวขึ้น เธอก็ลุกลี้ลุกลนพยายามบอกกับ Big Boss ว่าตัวเธอมีระเบิดซ่อนอยู่ Big Boss พยายามบอกให้ใจเย็นเพราะแพทย์ได้ผ่าออกไปแล้ว Paz ฉวยโอกาศที่ทุกคนเผลอแล้วเปิดประตูเฮลิคอปเตอร์ออกก่อนจะโดดออกไป เธอบอกกับ Big Boss เป็นครั้งสุดท้ายว่า ระเบิดในตัวเธอยังมีอีกลูก ก่อนที่ร่างของเธอจะระเบิดเป็นจุล แรงระเบิดทำให้ Big Boss และทุกคนบาดเจ็บไปพร้อมๆกับความเสียหายของ เฮลิคอปเตอร์ที่เสียก่อนทรงตัวตกลงทะเลทันที !..







ควันที่เกิดจากความพินาศย่อยยับของ Mother นั้นเห็นไปถึงตลอดแนวชายฝั่ง สื่อต่างๆพุ่งเป้าไปที่เรื่องขัดผลประโยชน์ของกลุ่มทหารรับจ้างที่มีสหรัฐคอยหนุนหลัง แต่เลขาธิการ์ณวความมั่นคงของสหรัฐต่างก็ออกมาปฎิเศษว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการ์ณนี้ รายงานจาก IAEA และ UN ที่เข้าตรวจสอบพื้นที่ให้ความเห็นว่า ไม่มีหลักฐานที่ผิดปกติที่โยงใยไปถึงกลุ่มทหารรับจ้างกลุ่มต่างๆที่มีมากมายหลายองค์กร IAEA และ UN จึงปฏิเสธที่จะไม่ยุ่งเกี่ยวกับเหตุการ์ณนี้อย่างสิ้นเชิง และจะไม่ขุดคุ้ยในเหตุการ์ณนี้อีกต่อไป … 

เสียงพูดคุยต่อลองครั้งสุดท้ายระหว่าง Paz และ Skull Face
 Skull Face พยายามสอบถามถึงที่อยู่ของ Cipher และ ผู้พัน Zero ที่หายสาปสูญไป
Paz ยอมที่จะบอกถ้า Skull Face ฆ่า ผู้พัน Zero ให้เธอ
Skull Face ตอบตกลงว่าจะฆ่าแน่แต่ไม่ใช่ เพื่อเธอ
 แต่ Paz มีดีกว่านั้นเพราะเธอจะบอกให้ด้วยว่า จริงๆแล้ว ผู้พัน Zero ก็คือ ………….



---------------------------------------------------------------------------------------------------------

                                                            Side Ops Mission



                                                           Eliminate the Renegade Threat

3 ธันวาคม 1974 13.18 น. , A Pseudo – Historical Recreation, Us Naval Prison Facility , Cuba



ภาระกิจนี้เป้าหมายคือสังหารเป้าหมาย คนคือ Glaz (The Eye), และ Politz (The Finger) โดยทั้ง จุด นั้นจะแสดงขึ้นมาในแผนที่ Politz  อยู่บริเวณด้านหน้าตึกบัญชาการณ์ด้านบน และ Glaz จะอยู่บริเวณค่ายผู้อพยศด้านล่าง
ก่อนอื่นต้องกด Start ดูหน้าตาเป้าหมายที่เมนู Mission info ก่อน เลือกไปที่จุดเป้าหมายจุดใดก่อนก็ได้แล้ว ส่องกล้องมองหาตัวมันให้เจอ ส่วนใหญ่เป้าหมายมันจะอยู่กับลูกน้องเป็นกลุ่มเสมอ เมื่อส่องเจอแล้วจะมีจุดวงกลมแดงขึ้นที่หัวเป็นการมาร์ค 



-  จากนั้นจะสังหารมันยังไงก็ได้ตามที่ถนัดจะลอบย่องเงียบหรือจะเข้าไปที่รถบรรทุกบนสะพานหน้าทางไปคุก บนกระบะจะมีปืน 
Sniper ให้เก็บ สามารถยิงเป้าหมายจากระยะไกลได้เลย แล้วรีบหนีออกค่ายได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งจะทำให้ภาระนี้ได้ Rank S ได้ด้วย
ภาระกิจนี้ห้ามให้ศัตรูรู้ตัวจน Alert เด็ดขาดเพราะเป้าหมายทั้ง จะหนีจากพื้นที่จนเกมโอเวอร์ทันที
ถ้ามัวแต่ช้าจนเป้าหมายเปลี่ยนสถานที่ ก็ต้องรอฟังการชี้ตำแหน่งของเป้าหมายจากวิทยุสื่อสารอีกครั้งหรือหาเอาเองจนเจอให้ได้ 

--------------------------------------------------------------------------------------------------


                                                          Intel operative Rescue 

ภาระกิจนี้จะบู๊ล้างผลาญซึ่ง Big Boss ต้องนั่ง ฮบุกลุยเข้าไปในค่ายเพื่อพาเป้าหมายหนีออกมาให้ได้
– เมื่อ ฮเข้ามาจนพบเป้าหมายโดนล้อมยิงอยู่ ช่วยยิงคุ้มกันให้เป้าหมายจนปลอดภัย แล้วช่วยยิงคุ้มกันเขาจากบน ฮจนรถของเป้าหมายโดนยิงจนพัง จัดการศัตรูรอบๆพื้นที่ให้หมดแล้วลงจาก ฮไปอุ้มเขาขึ้นไปที่รถแต่ปรากฎว่ารถพังซะแล้ว ขณะที่รถถังของศัตรูจะไล่ตามมาถึง จัดการรถถังด้วยระเบิดและปีนที่มีจนมันพัง แล้วอุ้มเป้าหมายพาหนีขึ้น ฮที่เขามาลงจอดได้เลย เมื่อเห็นหน้าเป้าหมายตอนอยู่ใน ฮก็จะพบว่าเป้ามหมายที่เข้าไปช่วยก็คือ ฮิเดโอะ โคจิม่า แถมโดนไดเร็คเตอร์เทพบ่นใส่เสียด้วยว่า ทำไมปล่อยให้เขารอตั้งนาน 



-----------------------------------------------------------------------------------------------------



                                                    Classified Intel Acquisition 


เป้าหมายของ Big Boss คือ ลอบเข้าพื้นที่เพื่อหาสายลับแล้วเอาเทปข้อมูลมาจากเขา



– Big Boss จะเข้าพื้นที่โดยแอบเข้ามากับรถบรรทุก พอรถแล่นมาถึงหอคอยสังเกตการ์ณทางซ้ายล่างของค่ายก็มองซ้ายมองขวาว่าปลอดภัยแล้วโดดลงไปได้เลย
เมื่อลอบเข้าไปจนถึงหอสังเกตการ์ณแล้ว กด Start ดูหน้าตาสายลับเป้าหมายที่เมนู Mission info ก่อน แล้วปีนขึ้นไปบนหอคอย จัดการทหารแล้วเปิดไฟบนหอคอยเพื่อส่งสัญญาณให้สายลับ
จากนั้นรอซักพักจนสายลับเป้าหมายวิ่งมาทางถนนเส้นทางซ้ายของหอคอยพร้อมหทารอีกคน พยายามจัดการที่มากับมันซะจนมันอยู่คนเดียว แล้วเข้าไปล็อคคอมันเลยแล้วจะได้ข้อมูลของเทปเป้าหมายมา
– เดินไปตามทางของถนนฝั่งซ้ายของหอคอยจนมาถึงเขตโกดังสินค้าจะพบสายลับเป้าหมายอีกคนอยู่หน้าโกดังกับทหารหัวโล้น จะลอบล็อคคอให้ก่อนก็ได้ แต่เทปเป้าหมายอยู่กับทหารหัวโล้น จัดการล็อคคอแล้วบังคับให้มันบอกความลับมา (กด RT ล็อคตัวแล้วกด L2 พร้อมกดอนาล็อกขวาขึ้นบนมันก็จะโยนเทปที่ต้องการให้มา จากนั้นก็ขับรถบรรทุกหรือนั่ง ฮออกจากพื้นที่ได้เลย ก็เป็นอันจบภาระกิจ 

----------------------------------------------------------------------------------------------------------



                                                        Destroy the Anti – Air
9 มกราคม 1975  7.10 น. , A Pseudo – Historical Recreation, Us Naval Prison Facility , Cuba



เป้าหมายของ 
Big Boss คือ ทำลายเป้าหมายปืนต่อสู้อากาศยานในพื้นที่โดยใช้ระเบิด C4 (ด้วยการกด L1 + R1 ที่เป้าหมายแล้วกดระเบิดด้วยการกด L1 + สามเหลี่ยมหรือปืนบาซูก้า (ถ้ามี)  ในพื้นที่จะมีป้อมปืนกลอยู่จุด แต่ทำลายทั้งหมดแค่ กระบอกก็จะจบภาระกิจ แล้วหนีออกจากพื้นที่ ขณะที่กำลังหนีจะมีทั้งรถถังของศัตรูออกมาไล่ล่าที่ถนนใต้สะพาน  จะทำลายรถถังที่เข้ามาก่อนก็ได้ โดยใช้ระเบิด C4 วางเป็นชุดที่ถนนใต้สะพานแล้วไปแอบรอกดระเบิดตูมเดียวจอด จนเครื่องบินทิ้งระเบิดจะเข้าพื้นที่ในช่วงสุดท้าย เฮลิคอปเตอร์ มารับแล้วเวลาจะเริ่มนับถอยหลัง ถ้ามีเวลาทันอย่าลืมแวะเข้าไปช่วยตัวประกันในคุกหนีออกจากพื้นที่ไปด้วยเลย ก็เป็นอันจบภาระกิจ

-----------------------------------------------------------------------------------------------------

                  



                                   ที่ซ่อนของ XOF Patch ทั้ง ชิ้น โดยหาจากตำแหน่งดังนี้

                                                                    Patch #1




                                                                     Patch #2



                                                                      Patch #3



                                                                     Patch #4



                                                                           Patch #5





                                                                        Patch #6



                                                                          Patch #7



                                                                           Patch #8



                                                                            Patch #9


ติดอยู่ที่ตัว Snake มาตั้งแต่ตอนปีนเขาช่วงแรกนั่นแหละ หมอบแล้วกด L1 จะนอนหงาย – นอนคว่ำ ป้ายก็จะหลุดออกมาได้

                   เมื่อเก็บครบทั้ง ชิ้นก็จะปลดล็อก Extra Ops Mission ออกมา

โดยในเวอร์ชั่น PS3 – PS4 จะเป็นภาระกิจลับที่เรียกว่า Deja Vu ในรูปแบบเมตัลเกียร์ยุคปี1998



ส่วนในเวอร์ชั่น Xbox360 – Xbox One จะเป็นภาระกิจลับที่เรียกว่า Jamais Vu โดยจะเป็นภาระกิจของ Raiden



-------------------------------------------------------------------------------------------------------

                                                    

                                                        Chico's Cassette Tape

- Chico's Cassette Tape 1: ได้เป็นรางวัลจากการจบ Mission "Intel Operative Rescue" Side Op.
- Chico's Cassette Tape 2: อยู่ในภาระกิจ Ground Zeroes  บนหอสังเกตการณ์ที่ตึกบัญชาการ์ณ ตรงที่คุมขัง Paz
- Chico's Cassette Tape 3: ได้จาก Chico ตอนก่อนขึ้น ฮหลังจากช่วยเขาได้.
- Chico's Cassette Tape 4: ได้จากการช่วยเหลือเชลยศึกในกรงขังคอนช่วย Chico
- Chico's Cassette Tape 5: อยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือในตึกบัญชาการ์ณ ทางแยกทางขวาจากตรงที่คุมขัง Paz
- Chico's Cassette Tape 6: อยู่ในภาระกิจ Eliminate the Renegade Threat ในคลังอาวุธใกล้ๆจุดเริ่มต้นภาระกิจ Ground Zeroes ทางใต้ของเขตโกดังสินค้า
- Chico's Cassette Tape 7: อยู่ในภาระกิจ Destroy the Anti-Air Emplacements ได้จากเชลยศึกในห้องไอน้ำ
- Argent Recording : อยู่ในภาระกิจ Classified Intel Acquisition รัดคอบังคับเอาจากทหารตรงทางเดินที่จอดรถบรรทุกส่วนที่เข้าทางประตูใหญ่ที่มีเสียงไซเรนเวลาเปิด
- Classified Intel Data: อยู่ในภาระกิจ Classified Intel Acquisition รัดคอบังคับเอาจากทหารในห้องไอน้ำ
เทปเพลง "Here's to You" Song: อยู่ในกรงขังใกล้ๆกับกรงขัง Chico
 - เทปเพลง  "Resurgence" / "Theme of Tara" เพลงของ Deja Vu / Jamais Vu อยู่ด้านนอกของถ้ำตรงชายหาดด้านทิศตะวันออกเฉียงเหนือ
เพลงประกอบเกม Zone of the Enders: The 2nd Runner - Beyond the Bounds: ได้เป็นรางวัลจากการจบทุกภาระกิจในระดับ Hard


---------------------------------------------------------------------------------------------------------
                 


30 เมษายน 1975  หัวคะแนนของ โฮจิมิน พ่ายแพ้ ในรัฐบาลเวียตนามยุคใหม่

ปี 1976 โครงการลับ Les Enfants Terribles ที่หวังจะสร้างสุดยอดนักรบเพื่อกองทัพที่สมบูรณ์แบบโดยใช้ยีนของ Big Boss ถูกโละทิ้ง

24 ธันวาคม 1975 โซเวียตบุกโจมตีอัฟกานิสฐาน

ปี 1975 .. หลังจากได้ทราบข่าวว่า Paz รอดชีวิต หลังจากจมลงสู่ทะเล และถูกช่วยไว้โดยนักตกปลา ทางฝ่าย Cipher คิดว่า Paz คงจะแปรพักตร์ไปเป็นพวกเดียวกับ Big Boss ไปแล้ว จึงสั่งจับกุมตัวเธอส่งตัวไปสอบสวนที่ Camp Omega ที่ คิวบา ซึ่งที่นั่นมี Chico ถูกจับอยู่ด้วย Big Boss และ Kaz  จึงต้องวางแผนที่จะไปช่วย Chico และ Paz กลับมา เพราะพวกเขาอาจจะเปิดเผยข้อมูล ให้ Cipher รู้ และอาจจะทำให้รู้เรื่องราวของ Cipher จากพวกเขาด้วยเหมือนกัน 




และหลังจากช่วยเหลือ Paz และ Chico ออกมาได้  ซึ่ง Paz นั้นโดนทำการทรมานอย่างหนักจากฝีมือชายที่ชื่อ Skull Face ที่ตอนนี้ Big Boss ก็ยังไม่รู้ว่ามันเป็นใครรวมถึงเป้าหมายของมันด้วย ระหว่างทางกลับบน ฮ. Big Boss ก็ให้ทีมแพทย์มาดูอาการแล้วก็พบว่าในตัวของ Paz นั้นถูกเอาระเบิดใส่มาในช่องท้องด้วย ซึ่งคงเป็นการสอนแผนเพื่อหวังจัดการ Big Boss 





        

แถมเมื่อกลับมาที่ฐาน Mother Base ก็พบว่าถูกตลบหลังจากกองกำลังไม่ทราบฝ่าย Big Boss จึงรีบถอนกำลังออกไป  ระหว่างนั้น Paz ก็ตื่น เธอคงรู้ดีว่ามีระเบิดอีกลูกอยู่ในตัวจึงตัดสินใจเปิดประตู ฮ. แล้วกระโดดออกไปทันที 

    

 แรงระเบิดพุ่งกระจัดกระจาย เลือดเนื้อเศษกระดูกมากมายเข้าใส่ร่างกาย Big Boss เฮลิคอปเตอร์เสียการควบคุมระเบิดควันคลุ้งตกไปกลางทะเล ไฟที่ลุกโชนจากความเสียหายทั้งหลายทั้งมวลกำลังค่อยๆมอดลงอย่างช้าๆไปพร้อมๆกับความฝันแห่งอุดมการณ์อันแรงกล้าที่มลายกลายเป็นศูนย์ไปตั้งแต่ครั้งนั้น 




We passed upon the stair, we spoke of was and when
Although I wasn't there  , he said I was his friend
Which came as some surprise , I spoke into his eyes
I thought you died alone,  a long long time ago

Oh no, not me
I never lost control
You’re face to face
With the man who sold the world

Yesterday up on the stair    I met a man who wasn't there                                             
He.....wasn't there again today    I wish that man would go away

I laughed and shook his hand, and made my way back home
I searched for form and land, for years and years I roamed
I gazed a gazley stare at all the millions here
We must have died along, a long long time ago
Who knows? not me
We never lost control
Youre face to face
With the man who sold the world




The man who sold the world บทเพลงที่คุ้นเคยของชายที่ทำได้แม้ขายโลกของตัวเองเพื่ออุดมการณ์ที่ตั้งใจ แว่วระงมปนเสียงกระสุนแห่งความทุกข์ระทมที่สับสนวุ่นวายในเศษซากแห่งความทรงจำในคืนวันที่สงครามไม่เคยจบสิ้นท่ามกลางแดนดินที่สูญสิ้นเกินกว่าจะเรียกว่าสวรสวรรค์ ที่เหมือนมันกำลังพรั่งพรูออกมาจากร่างกายของชายที่กำลังลืมตาฟื้นขึ้นมาจากนรกอเวจี 




                               บทสรุป - Metal Gear Solid V: The Phantom Pain



By Decibel per – oxide 


Phantom Pain นั้นหากใครไม่ทราบมันไม่ได้แปลว่า ความเจ็บปวดของปีศาจ ให้ได้เท่อย่างที่ตั้งใจอย่างเดียวนะ แต่สื่อความนัยของมันหมายถึง อาการที่เกิดจากความเจ็บปวดทางจิตใจอย่างนึงที่ชื่อทางการแพทย์ว่า Phantom Syndrome: Overlooked Problem หรือ Phantom Pain ซึ่งเป็นอาการของ ผู้ป่วยที่สูญเสียอวัยวะที่มักมีอาการที่เรียกว่า “ปวดหลอน” ที่เกิดขึ้นได้ภายหลังถูกตัดแขน หรือขา อาการปวดหลอนหากปรากฏอยู่เป็นเวลานานนอกจากจะส่งผลกระทบต่อการรักษาแล้วยังส่งผลต่อสภาพจิตใจ เกิดความเครียด วิตกกังวล ต่างๆนานาตามมา ซึ่งในทางการแพทย์มองได้ 2 อย่างคือ เกิดจากภาวะความผิดปกติของกล้ามเนื้อและเนื้อเยื่อต่างๆหลังอัวยวะถูกตัด และ ความหวาดกลัวที่จิตใจสร้างขึ้นมาเองทั้งก่อนและหลังการผ่าตัด ในทางเดียวกัน ความสูญเสียของตัวละครหลายตัวของ MGSV นั้นก็เข้าค่ายความสูญเสียที่จะแทนค่าคำว่า “Phantom Pain” ได้เกือบทั้งหมด ซึ่งทางแก้ไขทางการแพทย์ก็อาจจำเป็นต้องใช้การทำความเข้าใจเพื่อเยียวยาจิตใจที่เพิ่งสูญเสียชิ้นส่วนของร่างกายไป แต่สำหรับ Big Boss และเหล่า ไดมอนด์ ด็อก การเยียวยาสลายแผลใจคือการเอาคืนให้ได้หลายเท่าทวีคูณอย่างเดียว 

Cr. บทความวิชาการของ เบญจวรรณ วงศ์ปราชญ์ อาจารย์พยาบาลภาควิชาความรู้พื้นฐาน กองการศึกษา วิทยาลัยพยาบาลกองทัพบก
https://www.tci-thaijo.org/index.php/JRTAN/article/viewFile/25166/21427




                                                        - PROLOGUE -

                                                        AWAKENING 


…. 3 วันหลังจากการตื่นจากโคม่า ....




หมอ – สวัสดีครับ คุณได้ยินผมมั๊ย พอพูดไหวมั๊ยครับ เคลื่อนไหวศรีษะไหวมั๊ย ถ้าคุณได้ยินลองผยักหน้าให้ผมดูสิ (ขยับแกนขวาขึ้น – ลง)  ลองมองขึ้นบนสิครับ (ขยับแกนขวาให้มุมมองขึ้นบน) เยี่ยมมาก ตอนนี้รู้สึกยังไงบ้าง ? พูดได้มั๊ย คุณชื่ออะไรครับ ? เกิดเมื่อไหร่ พอจำได้มั๊ยครับ ?  (ใส่ชื่อและวันเกิดของคุณเข้าไป) โอเค จากนี้ผมอยากให้คุณทำตัวสบายๆนะ เป็นช่วงเวลาที่สำคัญมาก ผมมีอะไรจะบอกคุณอย่างนึง ฟังและก็อย่าเพิ่งตื่นตระหนกกับมันละ คือ คุณได้อยู่ในอาการโคม่า ไม่ได้สติมา ระยะเวลานึง ใจเย็นๆ ผมรู้ว่าคุณก็อยากรู้ว่ามันนานแค่ไหน ซึ่งผมเกรงว่าจะต้องบอกตรงๆว่า 9 ปี !!

…. หนึ่งอาทิตย์ หลังจากการตื่นจากโคม่า ....




หมอ – ผ่านมาอาทิตย์นึงแล้ว อาการคุณทรงตัวขึ้นเยอะเลย ที่นี้เรามาลองพยายามให้คุณลุกจากเตียงกัน อย่าห่วงนะถ้าไม่มีแรงเพราะกล้ามเนื้อคุณหมดสภาพไปนาน แต่เดี๋ยวมันจะค่อยคืนสภาพขึ้นมาที่ละน้อยเองหลังจากผ่านการบำบัดของเรา และตามหลักของการรักษาผมก็ต้องอธิบายบางอย่างให้คุณฟังเกี่ยวกับอาการของคุณหน่อย  9 ปีก่อนคุณได้รับการบาดเจ็บ จากการระเบิด เราตรวจพบเศษชิ้นส่วนจากสิ่งต่างๆที่ระเบิด ทั้งเศษของระเบิด ทั้งเศษชิ้นส่วนของฟันและกระดูก ที่เราสามารถเอาออกได้เราก็ทำไปหมดแล้ว ก็เหลือแต่บางชิ้นส่วนที่มันก็ได้ฝังอยู่ในจุดที่สำคัญๆตามร่างกายคุณหลายจุดที่ยังไม่สามารถเอาออกได้ ทั้งจุดที่ใกล้หัวใจและกะโหลกของคุณ แต่โชคดีที่มันไม่ส่งผลร้ายต่อชีวิตคุณอย่างที่เห็น  ซึ่งแน่นอนว่าเราต้องเอามันออกอย่างระวัง ซึ่งมันจะทำให้คุณเจ็บปวดทั้งกายและใจอย่างมาก แล้วนี่ก็คือภพเอ็กซ์เรย์ของร่งกายคุณ ที่นี่คุณก็คงพอเห็นภาพแล้วนะ และที่สำคัญที่สุดมันอาจทำให้ร่างกายคุณไม่เหมือนเดิมไปบ้าง คุณต้องเห็นมันด้วยตัวเอง โปรดก้มลงมองดูที่แขนซ้ายครับ .. เข้มแข็งไว้ครับ 



…. สองอาทิตย์ หลังจากการตื่นจากโคม่า ....




หมอ – ผมคงต้องบอกความจริงคุณอีกเรื่องคือ มีคนบางกลุ่มไม่ต้องการให้คุณตื่นขึ้นมาอีก เพราะคุณควรตายไปแล้ว แต่คุณกลับรอด คุณจำเป็นต้องรู้ว่าตัวคุณมีศัตรูอยู่ทั่วไปหมดก่อนที่ออกไปโลกภายนอกอีกครั้ง หรือบางทีพวกมันอาจทำให้คุณไม่มีโอกาสออกไปจากที่นี่ด้วยซ้ำ 





ผมคงจำเป็นต้องให้คุณเปลี่ยนรูปโฉมกันก่อนอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ (คุณอยากจะให้ Avatar ตัวแทนในโหมดออนไลน์ของคุณเป็นยังไงก็สร้างตัวตนได้ตอนนี้เลย)  โอเค ดีมาก ที่นี้เรามาเอาผ้าพันแผลออกจากหัวคุณก่อน ผมอยากจะบอกว่าการเปลี่ยนโฉมของคุณมันจะช่วยปกป้องคุณจากคนที่พยายามจะฆ่าคุณ และตั้งแต่วันนี้ไม่ว่าที่ผ่านมาคุณจะชื่ออะไรตอนนี้คุณมีชื่อใหม่ว่า Ahab แล้วก็จะดูหน้าของคุณนั่นคือทั้งหมดที่คุณมีอยู่จนถึงวันนี้ และต่อไปในวันพรุ่งนี้คุณจะต้องเป็น ปีศาจร้าย แทน  



ระหว่างที่พูดกัน หมอ ก็ถูกนักฆ่าหญิงลึกลับบุกเข้ามาฆ่าโดยไม่ทันตั้งตัว
“ มีคนไข้รายนึงเห็นหน้าชั้น ... ไม่ต้องห่วง กำลังจัดการ”

ยังไม่ทันที่จะเหนี่ยวไกใส่หน้าโชคดีที่มีชายแปลกหน้าที่มีผ้าพันแผลปิดหน้าเข้ามาช่วยเอาไว้ การต่อสู้เกิดขึ้นท่ามกลางความมึนงงของ Boss ที่กำลังไม่พร้อมด้วยร่างกายและสติ เขาพยายามสำรวจร่างกายที่มีมือปลอมเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของร่างกาย ก่อนที่สาวนักฆ่าจะโดนอะไรซักอย่างทำให้ไฟครอกตัวตกหน้าต่างไป




คนไข้แปลกหน้า – ไปเร็ว Ahab ถึงเวลาหนีแล้ว 
Boss – แล้วผู้หญิงละ ?
คนไข้แปลกหน้า – โดนไฟครอกตกลงไปตายแล้วมั้ง ใครสนละ ?
Boss – นายเป็นใคร ?
คนไข้แปลกหน้า – ผมเป็นใครหรอ ?  ถามตัวเองก่อนดีมั๊ย แต่ยังไงผมก็ดูความเคลื่อนไหวคุณมาตลอด 9 ปีนั่นแหละ เรียกว่า Ishmael ก็แล้วกัน .. มันเกิดบ้าอะไรกันเนี้ย !!  ข่าวดี ตอนนี้คุณยังมีแผ่นดินให้ยืน ข่าวร้ายคนทั้งโลกกำลังต้องการให้คุณตาย ! ตามมาทหาร ไอ้พวกที่ว่ามันกำลังมาตามหานายแล้ว ..  แล้วก็นี่ยาฉีดเล็กน้อยที่จะทำให้คุณกลับเข้าเกมอีกครั้ง 


11 มีนาคม 1984 02.03 น. …. Dhekelia SBA Memorial Hospital, Cyprus  




-พยายามตาม Ishmael ไปเรื่อยๆ (แกนซ้ายบังคับการเคลื่อนไหว) ออกไปตามทางเดินจนเริ่มเห็นร่างของผู้หญิงผมแดงตัวเล็กที่ใส่เสื้อแขนยาวมัดคนบ้ากำลังบินขึ้นฟ้าทะลุช่องลิฟท์ไปต่อหน้าต่อตาท่ามกลางความสงสัยของทั้งคู่แต่สิ่งที่ทำได้ตอนนี้ก็คือเดินหน้าหนีต่อไป สภาพโรงพยาบาลเต็มไป้วยความวุ่นวายของกลุ่มติดอาวุธมากมายที่บุกเข้ามาฆ่าทุกคนจนหมดเหมือนพยายามจาอะไรบางอย่าง กับ อาวะธชีวภาพแปลกที่มีตัวเป็นไฟลุกทั้งตัวกับผู้หญิงพลังจิตบินได้ที่ยังไม่ทราบฝ่ายก็ออกมาฆ่าทหารอีกฝ่ายจนมันวุ่นวายไปหมด

** เรียนรู้การเคลื่อนไหว **
ปุ่ม X  - ก้มต่ำ หมอบคลาน
ดันแกนอนาล็อกซ้ายเข้าพนังเพื่อเข้าที่กำบัง
กดสามเหลี่ยนเพื่อรักษาอาการบาดเจ็บเบื้องต้นในกรนณีเลือดเกือบหมดหลอดจนกระพริบ 

- แล้วตาม Ishmael ไปเรื่อยๆ ท่ามกลางการสังหารหมู่คนไข้และเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลมากมาย จนได้ปืน AM D114 จากศพทหารมาใช้เป็นกระบอกแรกของเกม แล้วลุยลงไปจนถึงชั้นล่างของโรงพยาบาล

** เรียนรู้การใช้อาวุธ **
L1 เล็ง R1 ยิง 
O รีโหลดกระสุน 
กดแกนอนาล็อกขวาสลับทิศทางการยิง 
R2 – เปลี่ยนมุมมองเล็งยิง 





-ที่ชั้นล่างหน้าทางออกทหารมากมายบุกเข้ามา จากนี้จะจัดการยังไงก็ได้ทั้งจัดการให้หมดด้วยปืนที่มีกระสุนน้อยนิดกับลอบหลบพวกมันไปที่ประตูหน้า ก็จะเจอกับสาวพลังจิตผมแดงออกมาจัดการทหารแล้วปิดทางออกด้วยซากคอปเตอร์ก่อนที่ทหารที่เหลือจะเผชิญหน้ากับชายลึกลับที่มีร่างลุกเป็นไฟจนทหารถูกฆ่าจนหมด ตอนนี้ก็พยายามหนีเข้าไปตรงหน้าซากคอปเตอร์ ทหารอีกกลุ่มจะใช้รถถังพังเข้ามา แต่สุดท้ายก็ต้องถกกำจัดจนหมดด้วยฝีมือชายที่ร่างลุกเป็นไฟเหมือนเดิม จนแม้รถหุ้มเกราะก็พังไม่เหลือซากจนแรงระเบิดทำให้ Boss กระเด็นออกไปหน้าโรงพยาบาล




 ก่อนที่ชายร่างลุกไปไฟจะเดินย่างสามขุมตามมาหา Boss ซึ่งถึงแม้จะยิงไปหมดกระสุนก็หยุดมันไม่ได้ แต่สุดท้าย Ishmael ที่หายหน้าไปนานก็ขับรถพยาบาลมาชนมันจนกระเด็นก่อนจะ Boss หนีไปได้อย่างปลอดภัย

    

ทั้งคู่ขับรถหนีไปท่ามกลางความวุ่นวายของชายที่ร่างลุกไฟที่กำลังถล่มทุกอย่างไล่หลังกับคอปเตอร์สงครามที่ยิงถล่มจากด้านหน้าทำให้รถของทั้งคู่ถูกยิงถล่มจน Ishmael บาดเจ็บสลบไปทำให้รถเสียการควบคุมพุ่งชนด่านคว่ำข้างทางไป ทันที่ Boss คลานออกมาได้ สาวพลังจิตผมแดงก็มายืนอยู่ตรงหน้ากับคอปเตอร์ที่บานมาขนาบหน้าเพื่อเตรียมยิง ก่อนที่สาวผมแดงจะสั่งให้ชายที่ร่างเป็นไฟกลายร่างเป็นวาฬที่ลุกเป็นไฟพุ่งขึ้นมาขย่ำคอปเตอร์ทหารจนพังไปท่ามกลางความมึนงง ไม่นานวาฬไฟก็พุ่งขึ้นเป็นนกไฟแล้วถลาลงเป็นร่างของชายขี่ม้าแล้วเตรียมควบไล่ล่าต่อทันที 



ก่อนที่ชายลึกลับคนนึงจะขี่ม้าเข้ามาแล้วบอกว่า “ให้รีบขึ้นม้ามาเพราะเป็นพวกเดียวกัน “ แน่นอนว่า Boss ไม่มีทางเลือกจึงโดดขึ้นม้าไปทันที 



- จากนี้ก็ใช้ซ็อตกันที่ได้มายิงสกัดชายร่างติดไฟที่ขี่ม้าไฟไล่ล่ามา จนกว่าจะถึงที่ท่าเรือ แต่ทั้งคู่ก็จะถูกแรงระเบิดทำให้ตกลงไปยังตลิ่งด้านล่าง โดยมีสองตัวประหลาดที่มาอยู่ตรงหน้าก่อนที่มันจะหายตัวไปต่อหน้าจน Boss รอดได้อย่างงงงวย

“ผมชื่อ โอเซล็อต Revolver “Shalashaska” Ocelot .. Big Boss คุณรู้จักผมดีว่าเป็นใคร “



Ocelot – มีชายคนนึงมอบหมายงานมาให้ผมทำ 2 อย่าง ข้อแรก พาคุณหนีออกจากโรงพยาบาลนั่น และข้อสองให้หาทางไปช่วยเหลือตัวเขาเอง คุณจำได้มั๊ย เมื่อ 9 ปีก่อน เพื่อนซี้คุณ Kazuhira Miller นั่นแหละชายคนนั้น ก่อนที่กองทหารของคุณจะถูกถล่มยับจากกองกำลังของ Cipher ซึ่งคุณควรจะตายตรงนั้น จนวันนี้ Cipher มันรู้ว่าคุณยังมีชีวิตอยู่จึงออกตามฆ่าคุณ และก็ไม่แค่มันนะที่ต้องการให้คุณตาย โลกทั้งโลกก็อยากให้คุณตายเหมือนกัน คุณจะร่วมกับผมและมิลเลอร์ สร้างกองทัพของเราขึ้นมาอีกครั้ง แล้วแต่คุณเลือก ..?  สิ่งแรกที่ต้องทำ เราต้องไปช่วยเหลือมิลเลอร์ที่อัฟกานิสถานกันก่อน 




Big Boss – อัฟกานิสถาน หรอ ?
Ocelot – ไม่ได้ติดตามสถานการณ์โลกเพราะโคม่าสินะ 4 ปีก่อนพวกโซเวียตเข้ารุกรานอัฟกานิสถาน พวกมิสลิมก็รวบรวมกำลังตอบโต้โดยการหนุนหลังของชาติตะวันตก มิลเลอร์ก็ได้เริ่มฝึกพวกทหารมูจาฮีดีนหลังจากเขาถูกทหารโซเวียตจับ กองทัพแดงที่ 40 ที่สุดแข็งแกร่งที่มีกำลังพลกว่าแสนที่กระจัดการะจายอยู่ทั่วแผ่นดิน จนเมื่อวานมีพวกโซเวียตก็จับตัวมิลเลอร์ได้ใกล้กับชายแดนปากีสถาน 3 วันแล้วที่เขาอยู่ในการควบคุมของพวกโวเวียตและคงทนการทรมานเพื่อบีบเอาข้อมูลไม่ถึงอาทิตย์แน่ๆ หรือไม่ก็ยอมตายให้แผ่นดินอัฟกันกลบหน้าไปซะให้รู้แล้วรู้รอด .. ผมให้เต็มที่ก็ 2 อาทิตย์ งานนี้มันไม่ได้มีความหมายต่อมิลเลอร์เลยซักนิด แต่ที่ทำเพราะอยากให้คุณปลอดภัยเท่านั้นเอง  เอาละ นี่ไงการเดินทางของเรา กับเรือ ล่าวาฬ 7 วันถึงท่าเรือ Qasim ที่เหลือก็ภาวนาให้มิลเลอร์มันอึดได้นานพอเท่านั้นแหละ

Mission Task 
- จบ Mission โดยไม่ใช่ Reflex Mode
- จบ Mission โดยไม่โดนชายที่ลุกเป็นไฟโจมตีตอนที่หนีกับโอเซล็อต 

** Reflex Mode คือทุกครั้งที่เข้าไปเจอศัตรูโดยที่ไม่ทันตั้งตัวหรือเพราะไม่ทันเห็นตำแหน่งมัน จะมีการสโลว์เวลาให้ช้าลงให้ Boss สามารถตอบโต้บางอย่างเพื่อการเอาตัวรอดได้ ทั้งกด R1ใช้ CQC ในระยะประชิดหรือชักปืนขึ้นมายิงก่อนเพื่อป้องกันตัวให้รอดสถานการณ์นั่นเอง ** 



                                                  CHAPTER 1 

                                                  REVENGE

จากท่าเรือที่ Cyprus ผ่านท่าเรือ SAID ติดชายแดนจอร์แดนตรงช่องแคบ SUEZ CANAL ผ่านมาถึงซูดานที่อ่าวอีเดน .. มือที่จับกระสุนแทบไม่เป็นก็สุดเหลือจะทน




 ..  ผ่านทะเล Arabian จนถึงท่าเรือ Qasim ที่การาจี  ระหว่างการเดินทาง แขนเทียมที่ใช้ไม่ได้การก็ถูกทดแทนด้วยแขนกลที่เหมาะสมกับการรบ กระสุนครบปืนครบ นักรบก็คืนชีพอีกครั้งที่อัฟกานิสถานตามเวลาที่ต้องการพอดี ..  





             
ปี 1978 อัฟกานิสถานก็เกิดสงครามจากการทำรัฐประหารระหว่าง กลุ่มกบฏมุสลิมต่อต้านรัฐบาล “มูจาฮีดีน” กับรัฐบาลอัฟกันฯใหม่และกองทัพโซเวียต จนสามารถโค่นล้มอำนาจของ ซาร์ดาร์ เดาวด์ คาน ประธานาธิบดีของอัฟกานิสถานผู้ซึ่งขึ้นมามีอำนาจโดยการโค่นล้มกษัตริย์มาก่อนหน้านี้ลงได้จากการลอบสังหาร และ รัฐบาลคอมมิวนิสต์ที่ฝักใฝ่โซเวียตภายใต้การปกครองของ นัวร์ มูฮามัด ทารากิ ก็ถูกจัดตั้งในปี 1979 ภายใต้การหนุนหลังของโซเวียตจากผลประโยชน์มากมายในประเทศ แต่ไม่นานก็เกิดการทำรัฐประหารอีกครั้งโดย ฮาฟิซูลล่าห์ อามิน จนทำให้เขามีอำนาจเบร็จเสร็จ ซึ่งก็ทำให้ข้อตกลงต่างๆในเรื่องผลประโยชน์ระหว่างผู้นำคนเก่าที่ฝักใผ่โซเวียตกับโซเวียตเปลี่ยนแปลงไป การเสียผลประโยชน์จึง เป็นปัจจัยให้โซเวียตเข้ามารุกรานเพื่อโค่นล้มรัฐาบาลของอามินจนสำเร็จ และตั้งให้ บาบราก คาร์มาล เป็นประธานาธิบดีในเวลาต่อมา 





แต่สงครามระหว่าง กลุ่มกบฏมุสลิมต่อต้านรัฐบาล “มูจาฮีดีน” กับรัฐบาลอัฟกันฯใหม่ที่มีกองทัพโซเวียตหนุนหลังก็ยังคงดำเนินต่อไป แม้แต่ประชาชนชาวอัฟกันลุกขึ้นต่อต้านกันมากมาย และโดยได้รับการสนับสนุนจาก อเมริกา ซาอุดิอาระเบีย อิสราเอล จีน ปากีสถาน และ กลุ่มอิสลามมู จาฮีดีน กองทัพประชาชนชาวอัฟกันก็มีจำนวนไม่น้อยที่ได้เข้าร่วมสงครามกลางเมือง ถึงแม้ว่าโซเวียตจะมีอาวุธที่เหนือกว่า และมีกำลังอากาศเพียงฝ่ายเดียว ฝ่ายต่อต้านก็สามารถหลีกเลี่ยงสิ่งเหล่านั้นได้ สงครามได้กลายเป็นการปักหลักสู้กันโดยกองทัพของโซเวียตควบคุมพื้ที่ในเมือง และกลุ่มกองโจรได้ปฏิบัติการอย่างเป็นอิสระในพื้นที่ชนบท ซึ่งส่วนใหญ่เป็นภูเขา ทำให้สงครามที่โซเวียตคิดว่าจะจบลงง่ายๆนั้นยืดเยื้อและยาวนานจนส่งผลเสียให้โซเวียตไม่น้อยเหมือนกัน 

Cr. https://blog.eduzones.com/poonpreecha/89191




                                          Episode 1 - PHANTOM LIMBS

                                       
Mission Task 
ภารกิจหลัก
- เข้าไปขโมยข้อมูลของมิลเลอร์ทิ้งไว้ในหมู่บ้าน Da Wialo Kallai 
- ช่วยมิลเลอร์ออกมาจากที่คุมขังในเมือง Ghwandai (Da Ghwandai Khar)

ภารกิจย่อย 
-จบ Mission โดยโดนไม่ถูกพวก Skull เจอตัว
- หาโคตรเพชรที่ Spugmay keep เจอ (อยู่บนเนินเขาทางขวาของซากปรักหักพัง)
- จับตัวหัวหน้าทหารที่ Wakh sind – Barrack ส่งกลับฐาน
- จับตัวคนขับรถบรรทุกที่ หมู่บ้าน Da Wialo Kallai ส่งกลับฐาน

** Mission Task ก็คือ Objective ต่างๆที่ต้องทำในภารกิจ ซึ่งก็มีทั้งเป้าหมายที่ต้องทำเป็นหลักๆกับ เป้าหมายรองที่ทำเพื่อท้าทายความสามารถและสามารถ + ค่า GMP หลังจบงานเป็นโบนัสเพิ่มได้ด้วย ซึ่งทำให้เล่นภารกิจได้หลายรอบและหลากหลายมากขึ้น  ** 

ท่ามกลางพายุทรายที่พัดกระหน่ำก็คงไม่เท่าความแค้นที่ฟังแน่นในใจ Big Boss และ Ocelot ควบม้าผ่านไปแบบไม่ใยดี 9 ปีที่จากไปกลับมาใหม่อีกครั้งด้วยโค๊ดเนมใหม่ Punished “Venom” Snake กับภารกิจแรกคือช่วยเพื่อนรัก Miller หลังจากผ่านพายุทะเลทรายมาได้ทั้งคู่ก็จะมาถึงที่ Spugmay keep ปากทางเข้าของทุ่งกว้างแห่ง North Kabul 




Ocelot – ไง ใช้การได้ดีนะแขนใหม่ หลังจาก 9 ปีที่นอนเป็นผัก ตื่นขึ้นมาก็บุกเดี่ยวแทรกซึมเข้าฐานใหญ่ของทหารโซเวียต เป็นการวอร์มอัพที่ดีนะ ตอนนี้มิลเลอร์ถูกจับตัวอยู่ที่ไหนซักห่งในเมือง Da Ghwandai Khar ลองเช็คนำแหน่งใน iDROID ดูสิ 

      




                                                  การใช้งาน iDROID

อุปกรณ์สื่อสารรับส่งข้อมูลสารพัดประโยชน์ที่เป็นเสมือนตัวช่วยอันสำคัญของ Big Boss ด้วยการกดปุ่ม Start เพื่อเรียกใช้งานหน้าจอ ก็จะมีเมนูต่างๆคือ 

1.MAP ดูแผนที่ ซึ่งจะมีจุดหมาย ภารกิจหลัก ที่เป็นกรอบสี่เหลี่ยมสีเหลืองให้เห็นชัดเจน รวมทั้งยังสามารถกดหนดเป้าหมายต่างๆที่จะเดินทางไปขึ้นมาเองได้ด้วย 
2. Mission ภารกิจทั้งหมดของเกม
-Mission List รายชื่อภารกิจหลักของเนื้อเรื่อง จะแสดงเป็นกรอบสีเหลืองในแผนที่
-Side Op List รายชื่อภารกิจหลักเสริม จะแสดงเป็นวงกลมสีม่วงในแผนที่ 

**ซึ่งการรับภารกิจต่างๆนั้นสามารถทำได้ทั้งบน ฮ. ซึ่งจะสามารถเลือกรับงานและจุดลงจอดที่ใกล้ที่สุดได้เลย หรือขณะอยู่บนภาคพื้นดิน รับงานได้ต้องไปที่จุดส่งข้อมูลตามจุดเหลืองที่ขึ้นมาก่อนแล้วจึงจะเริ่มงานได้ (ซึ่งบางครั้งจุดรับงานจะอยู่ไกลจากจุดที่อยู่มากมาย) ** 

Cassette tape เทปที่มี ทั้งเสียงคำสั่งภารกิจและเพลงต่างๆ
-Log – ข้อมูลการสื่อสารและข้อความในเอกสารที่ได้มา 
Return to Mother Base กลับฐาน 

3. Mother Base
Customize ออกแบบแต่งเติมฐาน ทั้งการเปลี่ยนสีและตราสัญลักษณ์รวมถึงแก้ไข Avatar ของคุณด้วย 
Development – สร้างอาวุธและไอเทม 
Resources วัตถุดิบต่างๆที่เก็บมา  
Staff Management จัดการส่วนการทำงานของเจ้าหน้าที่ในฐาน
Database ข้อมูลต่างๆ 

-Ocelot จะให้ดูแผนที่สถานที่เมือง Da Ghwandai Khar ที่มีกรอบสีเหลืองอยู่ ซึ่งมิลเลอร์ถูกจับตัวไปที่นั่นแต่ปัญหาคือไม่รู้ถูกจับไปตรงไหน จากนั้นกด R2 ใช้กล้องส่งทางไกลดูที่หมู่บ้านทางขวาที่มีแสงกระพริบออกมาที่ตึก ซึ่งนั่นคือหมู่บ้าน Wialo (กด L1 กำหนดจุดหมายผ่านกล้องไว้ที่นั่นได้เลย)  เป็นที่แรกที่มิลเลอร์ไปเมื่อหลายวันก่อนและถูกจับได้ที่นั่น ซึ่งน่าจะมีข้อมูลแผนการเดินทางของเขาที่ถูกทหารยึดเอาไว้อยู่ แผนแรกคือลอบเข้าไปที่ หมู่บ้าน Wialo เก็บข้อมูลการเดินทางของมิลเลอร์ในฐานของทหารโซเวียตออกมาก็จะทำให้รู้ตำแหน่งแน่นอนที่มิลเลอร์ถูกจับอยู่


Ocelot – ก็อย่างที่ผมบอก ให้แค่ 3 วันมิลเลอร์ก็คงทนทรมานไม่ไหวจนคายความลับทั้งหมดหรือไม่ก็คงยอมตายคาที่ นั่นเป็นเวลาที่คุณมี Boss ถ้าเราพลาดและเขาตาย เราก็คงหมดโอกาสแก้แค้น อัฟกานิสถานเป็นพื้นที่กว้างมากและทั้งหมดตกเป็นของทหารโซเวียตที่ตั้งค่ายทหารมากมายหลายจุด นั่นคือศัตรูที่คุณต้องระวัง หมั่นใช้กล้องส่องทางไกลทุกย่างก้าวด้วยก็แล้วกัน เมื่อไรที่คุณทำงานเสร็จเราจะได้เจอกันอีกครั้ง จากนี้ไปทุกอย่างขึ้นกับการตัดสินใจและประสบการณ์ของคุณแล้ว Boss คุณเป็นตำนานที่เฉิดฉายมาจากสนามรบ นั่นเป็นคำตอบว่าทำไมงานนี้ถึงเป็นของคุณคนเดียว เก็บ 9 ปีให้เป็นความหลัง แล้วหวนกลับมาครองบัลลังย์ในฐานะ Big Boss นั่นแหละที Kaz เขาต้องการ  อ่อ แล้วก็ ผมพบของนี้ที่ศพของบอดี้การ์ดของมิลเลอร์ซึ่งแน่นอนว่าตายหมดแล้ว ซึ่งแน่นอนว่าคุณคงเหมาะสมที่จะคืนแว่นคู่กายของเขาด้วยตัวเอง



-จากนั้นก็เริ่มภารกิจแรกกันเลย เริ่มเดินทางมุ่งหน้าไปที่หมู่บ้าน Da Wialo Kallai ซึ่งก่อนเดินทางก็ต้องทำความเข้าใจว่า การเดินทางของเกมนี้มีระบบเวลาเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย โดยแต่ละช่วงเวลานั้นนอกจากบรรยากาศที่เปลี่ยนไปแล้ว เงาและความมืดจะทำให้ได้เปรียบได้การหลบซ่อน และ การเคลื่อนไหวและตำแหน่งของศัตรูก็จะเปลี่ยนตามช่วงเวลาด้วย ทุกตารางนิ้วของพื้นที่แสนกว้างก็เต็มไปด้วยทหารโซเวียตที่เป็นศัตรู การเดินทางจึงควรตรวจสอบสิ่งต่างๆที่อยู่ในพื้นที่บ่อยๆด้วย

เรียนรู้การใช้งาน Buddy 

คู่หูนั้นสามารถสั่งการได้ด้วยระบบจัดการที่เรียกว่า Call Menu (กด L2 แล้วใช้แกนขวาเลือกคำสั่งต่างๆของแต่ละตัว) ซึ่งคำสั่งต่างๆที่ใช้งานได้จะเพิ่มขึ้นต่อเมื่อระดับเลเวลของคู่หูเพิ่มขึ้น
ซึ่งคู่หูแรกที่มีก็คือ D- House ม้าคู่ใจ ก็มีการบังคับง่ายๆคือ 
สี่เหลี่ยมเร่งความเร็ว
สามเหลี่ยม ขึ้นลงม้า
X – หลบข้างตัวม้า 
Call Menu กด L2 แล้วใช้แกนขวาเลือกคำสั่งต่างๆ
-เรียกม้า
-ไล่ม้าให้ไป

เรียนรู้ระบบการลอบจัดการศัตรู

เริ่มจากการเข้าจากด้านหลังแล้วกดปุ่ม R1 เพื่อล็อกคอ หรือ หากจวนตัวเจอศัตรูด้านหน้าก็สามารถใช้ Reflex Mode สโลว์เวลาเข้าไปล็อกตัวมันได้เช่นกัน ซึ่งจะมีเมนูต่างเพิ่มขึ้นมาให้ทำกับศัตรู
- กด L2 – ข่มขู่รีดความลับ ซึ่งศัตรูส่วนใหญ่จะเป็นทหารรัสเซียจึงไม่สามารถพูดจาข่มขู่กันรู้เรื่องเพราะไม่รู้ภาษาของมัน โดยต้องดำเนินเรื่องไปจนจับทหารที่เป็นล่ามภาษารัสเซียได้ในเควสย่อยก่อน ซึ่งเมื่อข่มขู่ทหารศัตรูได้แล้วก็จะทำให้แผนที่แสดงให้เห็นไอเทมและเป้าหมายต่างๆที่กำลังตามหาในภารกิจด้วย (แถมยัง +ค่าHeroism ให้อีกนิดหน่อย) 
-กดปุ่มสี่เหลี่ยมค้างเพื่อทำให้สลบ ซึ่งก็สามารถกด O แบกไปซ่อนหรือ สามเหลี่ยมเพื่อใช้บอลลูนส่งตัวกลับฐานก็ได้
- กดสามเหลี่ยม ฆ่าทิ้ง 

-เริ่มลอบเข้ามาในหมู่บ้าน Da Wialo Kallai เป้าหมายคือไพล์ข้อมูลของมิลเลอร์ที่ถูกยึดเอาไว้



ซึ่งจะอยู่ที่บ้านหลังใหญ่ที่มี 2 ชั้นและมีผ้าแดงแขวนอยู่ ไพล์จะอยู่บนโต๊ะทำงานห้องชั้นบน ลอบเข้าไปเอาได้แล้วหนีออกมาได้เลย ตอนนี้ก็จะทำให้รู้ตำแหน่งแน่นอนของมิลเลอร์แล้ว

-มุ่งหน้าไปที่ เมือง Da Ghwandai Khar ที่มีกรอบสีเหลืองอยู่ต่อ ที่นี่จะเป็นที่ที่มิลเลอร์ถูกจับอยู่ ซึ่งจะถูกจับอยู่ในอาคารหลังใหญ่ด้านหลังเมืองเลย ลอบเข้าทางด้านหลังด้านขวาแล้วอ้อมมาเข้าทางประตูสีฟ้าด้านหลังตึกก็จะเข้าไปที่ห้องคุมขัง Miller ได้


Miller – จะเอาอะไรกันอีกวะ !!
Big Boss – Kaz ที่ผมเอง ผมมาพาคุณหนีออกไป
 Miller – สเนค ??? 
Big Boss – มันทำอะไรกับตาของนาย 
Miller – ไม่รู้ ... มันสว่างจ้าไปหมดเลย
Big Boss – นี่ แว่นคู่ใจนาย
Miller – ทำไมถึงให้รอนานนะวะ ...




-จากนั้นก็แบบมิลเลอร์ออกมาเพื่อพาออกจากที่นี่ โดย Ocelot จะกำหนดจุดลงจอดรับของ ฮ. มาให้ซึ่งก็คือตีนสะพานริมภูเขาทางฝั่งซ้ายของเมือง สามารถแบบมิลเลอร์เลาะไปทางซ้ายแล้วออกจากเมืองได้เลย จนมาถึงจุดรับตัวทันทีที่ ฮ. กำลังลงจอดก็เกิดมีหมอกหนาออกมาทำให้ลงจอดไม่ได้ จึงต้องหาจุดลงลงจอดใหม่ที่ไกลกว่านี้ และในขณะนั้นทหารหน่วย Skull กลุ่มนึงที่ออกมาก็เกิดการเปลี่ยนแปลงไป




       

สภาพของมันไม่ต่างกับอาวุธชีวภาพที่มากฝีมือและแสนน่าเกลียดแต่ที่แน่ๆมันจะมาตามฆ่าสเนคและมิลเลอร์แน่นอน แถมตอนนี้มันยังแข็งแกร่งจนไม่สามารถจัดการมันได้เสียด้วย  มิลเลอร์รู้จักมันดีจึงบอกให้สเนครีบหนีโดยอย่าให้มันเห็นทันที การหนีจากพวก Skull นั้นทำได้ 2 อย่างคือ ใจเย็นๆรอดูการเดินของมันซึ่งมันจะมาทางด้านอีกฝั่งของสะพานซึ่งมันจะเดินแบบแรนด้อมไม่แน่นอน ถ้าโชคดีจะมีจังหวะที่ทางโล่งๆซักด้าน แล้วหาทางหลบจากแนวสะพานออกมาด้านนอก หรือถ้าถูกมันเจอตัวมันก็จะเข้าโจมตี ก็จะสามารถควบม้าหนีได้ทันอยู่จนถึงจุดลงจอดของ ฮ. ที่จุดต่อไปก็จะพามิลเลอร์หนีไปได้สำเร็จ



Miller –  เรากำลังจะมุ่งหน้าไปที่เกาะ Seychelles ตอนนี้มันเป็นบ้านใหม่ของเราแล้ว เฮ้ .. ปฎิบัติของเราเมื่อ 9 ปีก่อน พยายามปั้นแต่งโลกนี้ให้สวยงามตามความฝันในอนาคตของพวกเรา แล้วพวกมันก็มาทำลายไปจนหมด  ผมจะสร้างมันขึ้นมาใหม่ ในที่แห่งใหม่ ด้วยกัน ให้มันเรียกว่า บ้าน อีกครั้ง ใช่... เรามันเป็นแค่หมาใช่มั๊ยต้องทำตัวลับๆล่อให้รอดพ้นสายตาไอ้ Cipher ต้องขุดค้นหาทุกอย่างเพื่อความอยู่รอด ทุกคนสกปรกที่ได้มา ทุกหนทาง สุดท้ายเราก็ทำได้ นายเห็นตรานี่มั๊ย .. “ไดมอนด์ ด็อก”  



บ้านใหม่ของเรา รังปีศาจเหมือนดังเก่าก่อน  ทั้งชัยชนะ ความสูญเสีย ความตาย เราผ่านกันมาหมดแล้ว ใช่ ผมจำมันได้ทั้งหมดแล้ว แล้วทำไมเรายังอยูที่นี่ ก็เพื่อไอ้ Cipher  ทุกคืนผมรู้สึกได้ถึงแขนและขาที่เสียไป ร่างกายสูญเสียได้ เพื่อนสหายก็ตายหมด ความเจ็บปวดทั้งหมดมันไม่เคยจางหาย มันยังอยู่กับผมตลอด นายก็คิดเหมือนกันใช่มั๊ย สเนค ที่อยากจะออกล่าไอ้ Cipher ไม่ว่ามันจะทำงานให้ US หรือใครหน้าไหน มันก็แค่ฐานส่งต่ออำนาจให้ Zero แค่นั้น พวกมันมาถึงที่นี่ก่อนเราแล้วนายเห็นที่ Cyprus มั๊ย แล้วก็ที่อัฟกานิสถาน Cipher มันครองหมด กลืนกินทุกอย่างจนฐานอำนาจใหญ่ขึ้น ใหญ่ขึ้น ใครจะรู้ว่ามันจะใหญ่ได้ถึงไหน  Boss !! เราต้องให้มันชดใช้อดีตของเรา เอาทุกอย่างของเราที่มันเอาไปคืนมาแล้วผมถึงจะตายตาหลับ จนกว่าเราจะทำมันจนสำเร็จ !!  ถึงแล้วบ้านของเรา Mother Base แห่งใหม่ ไม่ว่ามันจะเคยพรากอะไรจากเราไป เราจะสร้างมันให้ใหญ่กว่าเดิม !!




Big Boss -  Kza .. ผมจะต้องทำยังไง ?? 

Miller – Boss ??

Big Boss –  บอกผม ....ต้องทำยังไง ... เหมือนกับที่คุณเคยทำมาทั้งหมด !! 


                                            Episode 2 - DIAMOND DOGS


Mother Base, Seychelles Water 



Miller – ทุกอย่างเปลี่ยนแล้ว Boss เราเสียงเงินมากมายเพื่อสร้างทหารกลุ่มใหม่ เพื่อสู้กับ Cipher ต้องเฉือนร่างกายตัวเองขายกิน ทำงานสงครามสกปรกทุกอย่างก็เพื่อแก้แค้น !!  ระบบธุรกิจใหม่ที่หากำไรได้จากสงคราม โลกเรียกมันว่า “Wet Work” แล้วเราก็ตอบรับ ไม่ได้ดีนักหรอกแต่ก็พออยู่รอดได้ Cipher ส่งเราลงนรก แต่เราจะลงให้ลึกยิ่งกว่าขุมนรกเพื่อทวงทุกอย่างคืนมา 
Big Boss – ผมรู้ ผมพร้อมจะเป็นปีศาจ ยังไงสวรรค์ไม่ใช่ที่ของผมอยู่แล้ว

    

Miller – จำไว้ เราไม่ใช่หมาข้างถนน เราคือ “ไดมอนด์ ด็อก”  สงครามของสุนัขสงครามอย่างพวกเราจาก 9 ปีก่อน มันจะจบลงวันนี้ เราเล่นงานมันได้ Boss คุณสามารถสร้างกองทัพได้เท่าที่คุณต้องการ 
Big Boss – ผมขอย่างเดียว Kaz .. เราจะไม่สู้เพื่ออดีตหรอก แต่เราจะสู้เพื่ออนาคต !!!



-เข้าไปคุยกับ Ocelot เขาก็จะบอกถึงหลักสำคัญที่จะทำให้กองทัพแข็งแกร่ง ซึ่งก่อนจะมีสิ่งต่างๆทั้งอาวุธ ยุทโธปกรณ์ต่างๆนั้นเป็นต้องมีบุคลากรที่ดีก่อน และก็ไม่ต้องไปหาไกลที่ไหน ทุบหัวทหารศัตรูที่พากลับฐานแล้วมาดันสันดานให้เป็นพวกเดียวกันก็เท่านั้นเอง และอุปกรณ์ที่สำคัญที่จะทำอย่างที่ว่าได้ก็คือ “Fulton Recovery” 


                                    ** การใช้งาน Fulton Recovery **

ร่มบอลลูนอัจฉริยะที่ใช้สำหรับฉกตัวทหารศัตรูหรือนักโทษต่างๆกลับมาฐานได้  โดยวิธีการง่ายๆก็คือ จัดการทำให้ศัตรูสลบแล้วก็เข้าไปกดสามเหลี่ยมค้างแล้วมันก็จะส่งตัวคนนั้นกลับมาเป็นเจ้าหน้าที่ที่ฐานทันที โดย Fulton Recovery นั้นก็มีระดับเลเวลในการทำงานเหมือนกันซึ่งหากได้รับการพัฒนาให้ความสามารถสูงขึ้นก็จะมีทั้งจำนวนและการแบบน้ำหนักบรรทุกได้มากขึ้นด้วย ซึ่งทำให้สามารถฉกของมาได้แทบทุกอย่างตั้งแต่คน สัตว์ หรือแม้กระทั้งอาวุธและยานภาหนะ แต่การนำสิ่งของกลับฐานก็จะต้องเสียค่าขนส่ง (Support Cost) ด้วยโดยจะหักจากค่า GMP ที่มีอยู่หลังจบภารกิจ 

                         เงื่อนไขและการอัพเกรดอุปกรณ์หากิน Fulton Recovery 

LV1 – ได้มาแต่แรกอยู่แล้ว
LV2 - + 2 Cargo นอกจากเงินและเลเวลของทีม R & D แล้ว ยังจำเป็นต้องจับทหารที่มี Skill Transportation Specialist มาเสริมด้วย ซึ่งทหารที่มี Skill นี้สามารถตรวจสอบได้ที่ด้านบนของเมนูภารกิจ
LV3 –  นอกจากเงินและเลเวลของทีม R & D แล้ว ยังจำเป็นต้องมี คีย์ไอเทม ประกาศนีย์บัตร์ Master Certificate (Fulton) ด้วย ซึ่งได้จากการใช้บอลลูนหลายๆครั้งนั่นเอง 

LV4 – 390000 GMP + R&D และ Support LV 33

Kid Fulton - บอลลูนสำหรับขนเด็ก ต้องได้คีย์ไอเทม 
Conch Shell จาดกการสู้กับ Eli ในเควสย่อย Eli Challenge 


Wormhole (หลุมดำ) GMP 850000 + R&D Team LV40 +  Support Team LV40



ซึ่งทหารที่จับมานั้นแต่ละคนจะมีสเตตัสบอกความชำนาญของแต่ละคนอยู่ซึ่งสามารถส่องดูได้ด้วยกล้องส่องทางไกลโดยจะระบุเป็นตัวอักษรตั้งแต่  E – S++ แทนระดับความสามารถต่างๆตามไอค่อน 


รูปดาบไขว่ ทหารที่มีความสามารถด้านการรบ สำหรับเข้าทีม Combat Units
รูปประแจ ทหารที่มีความสามารถในการผลิตอาวุธและไอเทม สำหรับเข้าทีม R&D Team 
รูปหกเหลี่ยมขาว – ดำ ทหารที่มีความสามารถในการผลิตวัตถุดิบต่างๆ สำหรับเข้าทีม Base Development 
รูปกล่อง ทหารที่มีความสามารถในการผลิตไอเทมซับพอร์ทสำหรับเข้าทีม Support Unit 
รูปแถบ 3 เส้น ทหารที่มีความสามารถในการหาข่าวสำหรับเข้าทีม Intel Team 
รูปแค็ปซูลยา ความสามารถในการผลิตยาฟื้นฟูรักษา Medical Team

หลังจากจับทหารศัตรูมาได้แล้ว พวกเขาก็จะถูกจับเข้าทีมงานตามแต่ที่สเตตัสของแต่ละคนระบุเอาไว้ ซึ่งทหารบางคนก็จะมี Ability และ Skill พิเศษติดตัวมาด้วย โดยเราสามารถเข้าไปจัดการได้ผ่าน iDROID ด้วยคำสั่ง Staff Management 

** โดยในตอนแรกนั้น ความสามารถที่เป็นประโยชน์กับฐานก็คือ รูปประแจ สำหรับเข้า(R&D Team) และ รูปกล่อง (Support Unit) และจะมีทีมงานต่างๆเพิ่มเข้ามาทีหลัง ** 


                                  
                                                Base & Staff Management  


การบริหาร Mother Base ถึงแม้จะมีตารางต่างๆมากมายแต่สิ่งสำคัญที่สุดอย่างเดียวของการบริหารที่ว่า ก็คือ การสรรหาบุคคลากรดีๆมาร่วมทีม หรือจับมันใส่บอลลูนลอยกลับฐาน นั่นเองครับ ซึ่งมีสิ่งที่คุณต้องรู้ก่อนคือ

 Mother Base นั้นมีแผนกต่างๆคือ

R&D Team - ผลิตผลิตอาวุธ และ ไอเทมต่างๆ
Support Unit – เกี่ยวกับงานซับพอร์ททางอากาศต่างๆ
Base Development – ทีมก่อสร้าง และ ค้นหาและผลิตวัตถุดิบ (Material) ต่างๆ (เพื่อใช้ในการก่อสร้างและสร้างอาวุธ)
Intel Team – คือหน่วยข่าวกรอง ทำให้รู้ความเคลื่อนไหวศัตรู ซึ่งหากมีเลเวลที่สูงจะเริ่มเห็นจุดแดงตำแหน่งศัตรูและไอเทมในฐานศัตรูได้แบบคร่าวๆ รวมถึงพยากรณ์ลมฟ้าอากาศด้วยซึ่งก็จะมีคำเตือนก่อนพายุทรายหรือฝน โดยจะรายงานบอกเป็นเสียงให้ได้ยิน
Combat Units หน่วยทหารรับจ้าง ที่คุณสามารถส่งทีมทหารออกไปทำภารกิจเพื่อเงินและไอเทมดีๆได้ในเมนู Combat Development ของเมนู Mission และยังสามารถเอาทหารในทีมไปเล่นแทน Boss ได้ด้วย โดยเปลี่ยนที่ Character ก่อนเริ่มภารกิจ
Medical Team  หน่วยพยาบาล ผลิตไอเทมพวกยาเติมพลังต่างๆ และรักษาทหารที่บาดเจ็บกลับมาจากภารกิจ Combat Development หรือทหารที่เรายิงบาดเจ็บก่อนจับมา ซึ่งทหารบาดเจ็บก็จะอยู่ใน Sickbay ที่เป็นห้องพยาบาล รอวันรักษา ซึ่งช้าเร็วก็ขึ้นกับเลบเวลของทีมนี้แหละ
Security Team ฝ่ายระวังป้องกัน (เล่นถึงแล้วจะมาขยายความอีกทีครับ)

ซึ่งหน่วยงานทั้งหมดจะทำงานได้มีประสิทธิ์ภาพนั้นต้องขึ้นอยู่กับระดับเลเวลของทีม โดยการเพิ่มระดับเลเวลทีมก็จะขึ้นอยู่กับ เลเวลรวมของบุคลากรในทีมนั่นเอง คุณจึงจำเป็นต้องไปชิงตัวเอาทหารเก่งๆของศัตรูมาทำงานครับ

การสรรหาทหารนั้นคุณก็ต้องใช้กล้องส่องดูเพื่อตรวจเช็คสเตตัสของแต่ละคนก่อนจับเพื่อไม่ต้องเสียเงินค่าขนส่ง ซึ่งทหารแต่ละคนจะมีสเตตัสบอกความชำนาญของแต่ละคนเป็นรูปไอค่อนต่างๆอยู่ โดยจะระบุเป็นตัวอักษรตั้งแต่  E – S++ แทนระดับความสามารถ
รูปดาบไขว่ ทหารที่มีความสามารถด้านการรบ สำหรับเข้าทีม Combat Units
รูปประแจ ทหารที่มีความสามารถในการผลิตอาวุธและไอเทม สำหรับเข้าทีม R&D Team
รูปหกเหลี่ยมขาว – ดำ ทหารที่มีความสามารถในการก่อสร้างและผลิตวัตถุดิบต่างๆ สำหรับเข้าทีม Base Development
รูปกล่อง ทหารที่มีความสามารถในการซับพอร์ทสำหรับเข้าทีม Support Unit
รูปแถบ 3 เส้น ทหารที่มีความสามารถในการหาข่าวสำหรับเข้าทีม Intel Team
รูปแค็ปซูลยา ความสามารถในการผลิตยาฟื้นฟูรักษา Medical Team

** ซึ่งทหารบางคนจะแสดงให้เห็นว่ามีความสามารถพิเศษ (Specialist) เป็นรูปวงกลมสีขาว ก่อนจับมานั้นจะเห็นเป็นรูป ?? ซึ่งจะมีทั้งเป็นแบบ Action Skill และ Base Skills ซึ่งความสามารถพวกนี้ก็จะเข้ามาเป็น Skill ของทีม มันจำเป็นในการทำให้ทีมนั้นๆสามารถผลิตอาวุธและไอเทมดีๆได้ ซึ่งทหารที่มีความสามารถพิเศษบางตัวนั้นหาจับยากมาก **

ทหารทั้งหมดที่จับมาจะเข้ามาในเมนู Staff Management และพวกเขาก็จะถูกจับเข้าทีมงานตามแต่ที่สเตตัสที่มาที่ดีที่สุดของแต่ละคนระบุเอาไว้ไปเข้าทีมงานนั้นแบบอัตโนมัติ  เช่น หากมีสเตตัสที่ตรงตาม R&D Team (สเตตัสรูปประแจ) และ Support Unit (สเตตัสรูปกล่อง) ในระดับสูงก็จะถูกยัดเข้าทีมนั้นๆโดยอัตโนมัติเอง และหากจำนวนคนในทีมเต็มแล้วทุกครั้งที่คุณจับทหารเก่งๆมาทหารที่มีความสามารถต่ำกว่าก็จะถูกคัดออกมาที่ห้อง Waiting Room ทันที โดยคุณอาจจะสลับสำเปลี่ยนคนได้ตามต้องการด้วยก็ดูเอาว่าทหารคนไหนเก่งด้านในก็ยัดเข้าทีมนั้นแต่จริงๆระบบมันจะทำให้คุณหมดแล้วละ และหากไม่พอใจกับระดับความสามารถของทหารที่กองอยู่ใน Waiting Room ก็สามารถคัดออกได้เช่นกันด้วยการเลือก Dismiss ไล่ออกไปได้เลยครับ

Sickbay Room คือห้องพยาบาลสำหรับทหารที่บาดเจ็บจาก ภารกิจ Combat Development หรือทหารที่เรายิงบาดเจ็บก่อนจับมา ซึ่งทหารบาดเจ็บก็จะอยู่ใน Sickbay ที่เป็นห้องพยาบาล รอวันรักษา
ฺBrig คือ คุกที่ขังทหารที่กระด้างกระเดื่องตอนจับมาตอนแรก รอปรับนิสัยหน่อยก็จะเข้ามาใช้งานได้


** หลักในการตามหาทหารที่มีความสามารถพิเศษ (Specialist) ดีเพื่อประโยชน์ในการผลิตอาวุธและไอเทมดี **




ซึ่งไอเทมหรืออาวุธบางชนิดนั้นนอกจากจะต้องใช้เงินกับระดับเลเวลของทีมงานแล้วยังจะต้องเอาความสามารถพิเศษของทหารในแบบเฉพาะอีกด้วย ยกตัวอย่างเช่น

Futon  บอลลูนจับทหารในระดับ + 2 Cargo นั้นจะต้องใช้ทหารที่มีความสามารถพิเศษ Transportation Specialist เพื่อสร้างมันด้วย แล้ว ทหารที่มีความสามารถ Transportation Specialist หาได้จากไหน ซึ่งก็สามารถดูได้จากด้านบนของหน้าเมนูรายละเอียดภารกิจ ซึ่งจะบอกถึง ประเภทของทหาร Specialist ระดับสูงที่อยู่ในพื้นที่ เมื่อรู้ว่าพื้นที่ภารกิจนั้นๆจะเจอ ที่เหลือคุณก็ต้องหาตัวมันเอาเอง โดยเริ่มจากจับทหามาขู่เพื่อให้มันบอกตำแหน่ง Specialist ซึ่งจะแสดงเป็นจุดเหลืองกระพริบบนสามเหลี่ยมแดงแทนตัวทหารในแผนที่ครับ จากนั้นก็ตามไปชิงตัวมันกลับฐานได้เลย เท่านี้ก็จะทำให้บอลลูนสมารถยก ตู้คอนเทรนเนอร์ และรถต่างๆกลับไปใช้ได้แล้วครับ



                การสร้างอาวุธและไอเทมต่างๆนั้นจะสร้างได้ต้องการปัจจัย 3 อย่างคือ 

- ค่า GMP (Gross Military Product) (หรือเงินที่ได้รับเป็นรางวัลหลังจบมิชชั่น)
-ระดับเลเวลของ R&D Team และ Support Unit + Skill พิเศษของทีมที่ได้จากทหารกับอาวูและไอเทมบางชนิด
- วัตถุดิบ (สำหรับอาวุธและไอเทมบางชนิด)
-คีย์ไอเทมพิเศษ (สำหรับไอเทมบางชนิด)
- แบบแปลน (Blueprint) (สำหรับอาวุธและไอเทมที่หายากและทีมยังไม่มีเลเวลพอจะผลิตได้)




                                    Development (ฝ่ายพัฒนาและเสริมสร้าง) 

1.Weapon & Item ผลิตอาวุธและไอเทม 
2.Buddy Equipment ผลิตเครื่องสวมใส่ของคู่หู
3. Helicopter ผลิตยุทโธประกรณ์ของเฮลิคอปเตอร์ 


** จะสามารถสร้างได้มากมายหลายชนิดขึ้นก็จากการระดับเลเวลของทีม R&D Team และ Support Unit + กับความสามารถของบุคลากรที่ได้มา กับ แบบแปลน (Blueprint) ต่างๆที่หามาได้นั่นเอง 
** อุปกรณ์ทีสร้างเสร็จจะเก็บไว้ในคลังเพื่อรอให้สวมใส่ก่อนภารกิจหรือจะให้จัดส่งมาถึงที่ก็ได้หากต้องการเร่งด่วน โดยใช้ iDROID สั่งที่ Mission - Helicopter – Supply 

-หลังจากเรียนรู้การจัดการ Mother Base เป็นเบื้องต้นจาก ocelot จนหมดเรียบร้อยแล้ว ก็เรียกเฮลิคอปเตอร์มารับที่ลานจอดเพื่อเดินทางไปทำภารกิจต่อไปได้เลย 


                                       Episode 3 – THE HERO WAY

Mission Task 
ภารกิจหลัก
- สังหาร หัวหน้าทหารหน่วยรบพิเศษ Spetsnaz ที่หมู่บ้าน Da Shago Kallai

ภารกิจย่อย 
- จับตัว หัวหน้าทหารหน่วยรบพิเศษ Spetsnaz ที่หมู่บ้าน Da Shago Kallai
- ลอบสังหาร หัวหน้าทหาร Spetsnaz จากระยะไกล (ใช้ไรเฟิ่ลส่องเอาจากนอกเมืองเลยครับ)
- เก็บสมุนไพร Irona ที่ทะเลทรายระหว่างหมู่บ้าน Da Shago Kallai กับ Spugmay keep (พุ่มไม้ดอกสีแดงอยู่บนเนินกลางทะเลทราย)  
- หาวัตถุดิบลับที่ซ่อนอยู่ในหมู่บ้าน Da Shago Kallai ให้เจอ




-  ภารกิจนี้เป็นภารกิจแรกที่ Boss จะทำในฐานะของ Diamond Dogs ซึ่งก็คือภารกิจในการลอบสังหารหัวหน้าทหารหน่วยรบพิเศษ Spetsnaz ที่กำลังบุกยึดหมู่บ้าน Shago อยู่ในตอนนี้ เป้าหมายอยู่ที่หมู่บ้าน Da Shago Kallai ลอบเข้าไปที่นั่นได้เลย โดยเป้าหมายที่เป็นหัวหน้าทหารนั้นตอนกลางวันมันจะอยู่ในห้องทำงานในตึกใหญ่ๆท้ายหมู่บ้าน สามารถลอบเข้าทางฝั่งซ้ายของหมู่บ้านจะเข้าถึงทางตึกได้ง่ายหน่อย ถ้าเข้าทางขวาของหมู่บ้านก็ต้องปีนด้านหลังตึกเป้าหมายขึ้นไปอีกที จัดการสแกนหาตรวจสอบจนพบเป้าหมายก่อน หรือ เล่นรอบหลังที่สามารถพูดและฟังภาษารัสเซียได้แล้วก็สามารถจับทหารคนใดคนนึงมาขู่เอาตำแหน่งของเป้าหมายได้เลย การฆ่านั้นจะลอบเข้าฆ่าหรือจะยิงจากไรเฟิ่ลจากระยะไกลก็ได้ หรือ จะทำให้สลบแล้วส่งตัวกลับฐานก็จะดีสุดเพราะจะได้ไว้ใช้งาน ซึ่งก็จะผ่านภารกิจนี้ได้เหมือนกันครับ ทำทุกอย่างเสร็จสิ้นแล้วก็หนีออกจากหมู่บ้านได้เพื่อจบภารกิจได้เลย 

                                                                             
                                                ** Side OPS ** 

หลังจากภารกิจนี้หลังจากที่กลับขึ้น ฮ แล้ว Ocelot จะแจ้งรายละเอียดเกี่ยวกับภารกิจเสริม ซึ่งสามารถดูได้จากรายชื่อภารกิจเสริมในเมนู Side OPS โดยจะมีภารกิจที่ชื่อ Extract Interpreter (Russia) จะเป็นภารกิจย่อยที่สำคัญมากเพราะเป็นภารกิจในการจับตัวล่ามแปลภาษารัสเซีย เพราะหากจับตัวเขากลับมาที่ฐานได้ ก็จะทำให้ Boss สามารถสื่อสารและเข้าใจภาษารัสเซียได้แล้ว ซึ่งแปลว่า จะสามารถใช้การขุมขู่ทหารรัสเซียให้มันบอกรายละเอียดไอเทมและสิ่งสำคัญที่เราจะหาในพื้นที่นั้นๆได้แล้วนั่นเอง ซึ่งภารกิจ Extract Interpreter (Russia) ก็ง่ายมากเพราะเป้าหมายอยู่ในค่ายย่อยกลางทางสามารถหาสำรวจค้นตัวได้ง่าย และหลังจบภารกิจนี้ก็จะเริ่มมีภารกิจต่างๆเข้ามาให้ทำแล้ว ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นภารกิจช่วยเหลือนักโทษเหลือตามหาเหล่าบุคลากรทางทหารที่เก่งมารวมงานนั่นเอง โดยเฉพาะล่ามแปลภาษาเพราะยังมีภารกิจ Extract Interpreter ที่เป็นของล่ามภาษาอื่นๆให้ไปฉกตัวมาอีกหลายคน โดยภาระกิจย่อยนั้นจะแสดงเป็นรูปวงกลมสีม่วงในแผนที่ครับ 


                                             Episode 4 – C2W

Mission Task 
ภารกิจหลัก
- ยืนยืนเป้าหมายของเรดาร์สื่อสารในฐาน Eastern Communication Post 
- ทำลาย เรดาร์สื่อสารในฐาน Eastern Communication Post 3 จุด

ภารกิจย่อย 
- ตามหา Rough Diamond ที่ซ่อนอยู่ในฐาน
- ทำลายห้องสื่อสารในฐานด้วย (ห้องจะอยู่ด้านในซ้ายติดหน้าผาที่เข้ามา (ใช้ C4 ระเบิดเอา)
- ช่วยเหลือตัวประกัน 2 คนที่หมู่บ้าน Da Wialo Kallai  (จะอยู่ในอาคารเล็กใกล้ๆกันของทางฝั่งซ้ายของหมู่บ้าน) ซึ่งข้อย่อยนี้ถ้าจะทำเมื่อเริ่มรับงานแล้วให้แวะไปทำก่อนเลย)
- ใช้บอลลูนยกตูคอนเทรนเนอร์วัตถุดิบกลับฐาน (ต้องมีบอลลูกที่เลเวลสูงๆก่อน) 


ก่อนเริ่มภารกิจมีจุุดสำคัญฯอยู่คือ ช่วยเหลือเจ้าหมาน้อยที่เมื่อมันโตขึ้นก็จะกลายเป็นคู่หูคนสำคัญของ Boss ด้วย หลังจากลงจอด ฮ. ที่สุดลงจอดจะพบลูกหมาอยู่ใกล้ที่ลงจอดด้วย จับใส่บอลลูนกลับฐานไปฝฝากให้ Ocelot ฝึกแล้วหมั่นกลับฐานบ่อยๆก็จะเจออีเวนท์ที่เห็นเจ้า DD เติบโต จนสามารถเข้ามาร่วมทีมได้ในที่สุดครับ






ภารกิจนี้จะได้รับมอบหมายให้ลอบเข้าไปทำลายระบบสื่อสารของทหารรัสเซียที่ Eastern Communication Post ซึ่งเมื่อลอบเข้ามาทางสันเขาทางด้านซ้ายของฐานแล้วใช้กล้องส่องทางไกลดูเรดาร์เป้าหมายทั้ง 3 จุดคือ อันแรกทางขวาใกล้ๆทางเข้า, ด้านหน้าของฐาน และ ด้านหลังสุดของฐาน แล้วจัดการวาง C4 ไว้ให้หมดทั้ง 3 จุดก่อน แล้วค่อยลอบเข้าในห้องสื่อสารด้านซ้ายของฐานที่ติดกับหน้าผาวาง C4 ไว้อีกจุดแล้วหาที่เหมาะกดระเบิดให้พร้อมๆกันให้หมด หรือจะเอาง่ายหน่อยก็ลอบเข้าไปที่ห้องสื่อสารแล้วใช้ปืนกลเก็บสียงทำลายมันซะ ก็จะได้ตามเงื่อนไขหลักกับเงื่อนไขการทำลายห้องสื่อสารไปพร้อมๆกันด้วยเลย จากนั้นก็หลบหนีออกจากฐานได้เลย  




เมื่อจบภารกิจ ทาง Ocelot จะแจ้งว่ามีหน่วยงานใหม่เพิ่มขึ้นมาที่ฐานซึ่งก็คือ Base Development หรือฝ่ายค้นหาและผลิตวัตถุดิบ ซึ่งก็คือสเตตัสของทหารที่เป็นไอค่อนรูปหกเหลี่ยมดำขาวติดกันนั่นเอง โดยหน่วยงานนี้จะทำหน้าที่ทำเหมืองและขุดค้นหาวัตถุดิบต่างๆเพื่อมาสนับสนุนการสร้างสิ่งต่างๆ พร้อมกับคำสั่งในเมนู Mother Base อันใหม่คือ Base Facilities หรือการสร้าง Mother Base เพิ่มเติมจากของเดิมที่มีแค่โครงสร้างของฐานบัญชาการนั่นเอง 

 

Base Facilities จะประกอบด้วย 
1.Command Platform โครงสร้างฐานบัญชาการณ์ 
2.R&D Platform โครงสร้างฐานแผนกพัฒนาอาวุธและไอเทม 
3. Base Development Platform โครงสร้างฐานแผนกหาวัตถุดิบ
4.Support Platform โครงสร้างฐานแผนกสร้างอุปกรณ์สนับสนุนและช่วยเหลือ
5. Intel Platform โครงสร้างฐานของหน่วยข่าวกรอง
6. Medical Platform โครงสร้างฐานแผนกรักษาพยาบาล

** โดยการสร้างโครงสร้างฐานแผนกต่างๆเพิ่มขึ้นบนทะเลนั้นจำเป็นต้องใช้ระยะเวลาในการสร้างด้วย เมื่อสร้างเสร็จฐาน Mother Base ก็จะกว้างมากขึ้นไปอีก และการสร้างฐานการผลิตเพิ่มขึ้นมาก็จะทำให้เพิ่มจำนวนของทีมงานแต่ละทีมและสร้างงานใหม่ๆออกมาได้มากชึ้นด้วย ** 



…  และตอนนี้หลังจากจับลูกหมาได้ใน EP4 หากอยากแวะมาดูความเปลี่ยนแปลงของโครงสร้างที่เพิ่มขึ้นที่ Mother Base Boss ก็จะเจอกับลูกหมาตาเดียวสุดน่ารักที่ Ocelot กำลังปั้นมันให้ทำงานในฐานะหมาสงครามของไดมอนด์ ด็อกอยู่ แต่ดูเหมือนตอนนี้จะยังไกลเกินฝันแต่ก็คงไม่นานเกินรอแน่นอน .... 


                                   Episode 5 – OVER THE FENCE

Mission Task 
ภารกิจหลัก
-ช่วยเหลือเอ็นจิเนียร์ออกมาจากที่คุมขังส่งตัวกลับมาที่ Mother Base 

ภารกิจย่อย
- ใช้บอลลูนพาตัวเอ็นจิเนียร์ลอยขึ้นจากชั้นล่างของโรงงานร้างให้ทะลุพื้นที่เป็นรูด้านบนส่งตัวกลับ Mother Base
-ช่วยเหลือนักโทษในฐานนี้ออกมาด้วย 
-ใช้บอลลูนยกรถ Four – Wheel ที่จอดอยู่ในฐานกลับมาที่ Mother Base ด้วย
-เก็บ Blueprint ที่อยู่ในห้องพกหัวหน้าทหารมาด้วย 


ภารกิจนี้ Ocelot จะแจ้งว่ามีเอ็นจิเนียร์ชาวโซเวียตคนนึงที่มากด้วยความสามารถและมีความจำเป็นต่อการเติบโตของกองทัพ Diamonds Dogs อย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งควมสามารถด้านไบโอเทคโนโลยีที่เกี่ยวกับการสร้างอัวยวะเทียมต่างๆซึ่งมันเหมาะกับการพัฒนา Bionic Arm ของ Boss เป็นอย่างมาก ซึ่งถ้าได้เขามาร่วมงานก็จะทำให้ทีมงาน R&D Team นั้นเติบโตและแข็งแกร่งขึ้นมา และตอนนี้เขาถูกจับอยู่ในที่ Wakh sind – Barrack ภารกิจของ Big Boss ก็คือต้องไปช่วยเขาออกมา 

      


-ที่ Wakh sind – Barrack นั้นเป็นฐานที่ค่อนข้างกว้างมากศัตรูเยอะกว่าที่อื่นการจะเข้าไปอย่างเหมาะสมก็ควรสูบการ์ให้เย็นใจจนเวลาผ่านไปจนมืดก่อนแล้วค่อยลอบเข้าไป เป้าหมายคือโรงงานร้างขนาดใหญ่ด้านในพื้นที่ซึ่งหากเข้าทางตรงก็ต้องลอบผ่านทางขึ้นเนินเขาที่มีทหารมากมายเข้าไปจนถึงรั้วด้านใน ผ่านรั้วไปมองทางซ้ายก็จะเห็นซากโรงงาน ฝั่งขวาจะเป็นห้องพักทหารที่ในห้องของหัวหน้าทหารยืนเฝ้าอยู่ในห้องจะมี Blueprint ของปืน UN อยู่ 


แต่ก็สามารถเข้าทางลัดได้ด้วย โดยจะต้องเข้ามาตามเส้นทางถนนฝั่งใต้ของฐานแล้วมองดูป้ายโฆษณาทางขวาจะมีเนินอยู่ด้านบน ทางขึ้นก็ค่อยๆไล่ระดับหาที่สามารถปีนได้ขึ้นไปก็จะถึงด้านบนได้ โดยจะเป็นทางลงด้านหลังฐานที่ติดกับภูเขาใกล้ๆกับซึ่งจะลงมาใกล้ๆกับด้านข้างๆของซากโรงงานได้ง่ายมาก 

-ปีนหน้าต่างเข้าไปก็ลงไปชั้นล่างได้เลย ด้านในทหารเยอะเพราะต้องเฝ้าตัวประกันสำคัญ แต่ตรงทางลงจะมีทางปิดหม้อแปลงไฟให้ดับแล้วรอจับทหารที่เข้ามาดูข่มขู่เอาตำแหน่งห้องขังนักโทษมา ซึ่งจะเป็นประตูสีแดงด้านใน สะเดาะกุญแจเข้าไปก็จะเจอตัวเอ็นจิเนียเป้าหมาย จัดการอุ้มออกมาที่ห้องกลางจะมีช่องที่พื้นชั้นบนเป็นรูอยู่ สามารถใช้บอลลูนพาเขาหนีจากชั้นล่างนี้ได้เลย จากนั้นหากไม่มีอะไรทำแล้วก็หนีออกจากฐานได้เลยเพื่อจบภารกิจ ...


หลังจากจบภารกิจเอ็นจิเนียที่ได้มาก็จะเข้าไปทำงานในทีม R&D Team และได้ใช้ความสามารถด้านไบโอเทคโนโลยีของเขาสร้างแขนกล Bionic Arm แบบต่างๆตามแต่จะคิดค้นจากวัตถุที่มีออกมาให้ซื้อใช้แล้ว 


                                   Episode 6 – WHERE DO THE BEES SLEEP ?

Mission Task 
ภารกิจหลัก 
-เข้าไปค้นปืนบาซูก้าวีถีไกล “Honey Bee” ในห้องเก็บของในถ้ำน้ำตก 
-จัดการพวก Skulls ให้หมด

ภารกิจย่อย
-ช่วย Hamid ให้ได้ก่อนถูกพาตัวมาที่ถ้ำ
-ค้นหา “Honey Bee” เจอเองโดยไม่ได้ต้องให้ Hamid บอกตำแหน่ง 
-จับตัวทหารสไนเปอร์ 2 คนที่ Mountain Relay Base ตรงสะพาน
-ทำลายเฮลิคอปเตอร์ลาดตระเวนที่บินอยู่หน้าทางเข้า Da Smasei Laman   

จากข่าวกรองที่ได้มานั้น หน่วยหนึ่งของพวกมูจาฮีดีนที่รับการหนุนหลังจาก CIA ของสหรัฐอย่างลับทั้งเรื่องอาวุธและเสบียงต่างๆ แต่การรบกับพวกทหารโซเวียตครั้งล่าสุดกองทหารมูจาฮีดีนก็แพ้ย่อยยับ จนทำให้อาวุธระดับมหาประลัยของ CIA ที่มอบให้พวกมูจาฮีดีนใช้ก็ถูกหมกไว้ในถ้ำลับของพวกมูจาฮีดีนที่ซากโบรานสถาน Da Smasei Laman อย่างไร้ค่า แต่ทันทีที่ทหารโซเวียตรู้เรื่องอาวุธนี้พวกมันจึงระดมทหารออกค้นหาที่ถ้ำลับของพวกมูจาฮีดีน ไปพร้อมๆกับจับคนของมูจาฮีดีนที่ชื่อ Hamid ที่รู้ที่ซ่อนของอาวุธชิ้นนี้มาทรมานเพื่อให้ระบุตำแหน่งของมันออกมาด้วย อาวุธสุดยอดที่ว่าคือปืนบาซูก้าวีถีไกลสุดไฮเทคที่ชื่อ “Honey Bee” ที่หากโซเวียตได้ไปใช้จะทำให้ CIA ถึงกับหมดราคา แต่นั่นไม่ใช่เรื่องที่ ไดมอนด์ ด็อก ต้องสนใจความรู้สึกของอเมริกันหรือใครเพราะสิ่งที่อยากได้คือชิงอาวุธมากคุณค่านี้มาครองก่อนใครจะแย่งไป ซึ่งภารกิจนี้ Boss ถูกมอบหมายจาก Ocelot ให้เดินทางเข้าไปที่โบรานสถาน Da Smasei Laman เพื่อชิง “Honey Bee” มาก่อนที่พวกโซเวียตจะได้มันไป ...

-ทันทีที่ถูกปล่อยตัวจาก ฮ. ก็ต้องเดินทางไกลไปตามช่องเขาอีกนานกว่าจะถึงป้อม Da Smasei Laman ซึ่งต้องผ่านค่ายเล็กของทหารโซเวียตเยอะแยะ จนมาถึงสะพานขนาดใหญ่ก็จะพบป้อมขนาดใหญ่ที่กั้นทางจากทั้ง 2 ด้าน โดยสามารถเลาะลงไปทางฝั่งขวาไปด้านล่างเพราะน้ำมันแห้งหมดจนเดินผ่านไปถึงทางขึ้นบันไดอีกฝั่งได้ และถ้าใช้เวลาเร็วพอที่ทางออกอีกฝั่งของสะพานก็จะเจอคนของมูจาฮีดีนที่ชื่อ Hamid ถูกจับทรมานเพื่อเค้นที่ซ่อนของ “Honey Bee” อยู่ ตรงนี้มีทหารจำนวนมากมายเลย ซึ่งตรงนี้จะยากมากที่จะลอบเข้าไปช่วยโดยไม่มีการปะทะ ถ้าจะบุกถล่มเข้าไปช่วย Hamid เลยก็ทำได้ก็จะทำให้ช่วยพาเขากลับฐานซึ่งก็จะได้ตำแหน่งของ “Honey Bee” มา แต่ถ้ามัวช้า Hamid ก็จะถูกพวกโซเวียตพาตัวขึ้นรถเดินทางไปที่ป้อม Da Smasei Laman ต่อทันที ซึ่งจะทำงานยุ่งยากกว่าเยอะ

-เดินทางต่อมาจนถึงป้อง Da Smasei Laman ที่เป็นพื้นที่กว้างมากและยังมีช่องทางเข้าไปยังถ้ำลับของพวกมูจาฮีดีนด้วย ด้านในยิงสุดซับซ้อนและมีทหารมากมาย ซึ่งถ้าช่วย Hamid ที่สะพานแล้ว จะมีเส้นทางลัดอยู่ทางขวาของทางเข้าโบราณสถานซึ่งมันจะเป็นทางยาวเข้าไปถึงถ้ำด้านในได้เลยแบบรวดเร็ว แต่ ถ้าหากว่าพลาดจากการช่วย Hamid ที่สะพานก็จะเห็นเขาถูกจับมาที่หน้าทางเข้า ซึ่งถ้ายังไม่ได้ตัว Hamid มาก่อนจะทำให้การเข้าไปหาอาวุธเป้าหมายที่ซ่อนอยู่ในถ้ำน้ำตกด้านในนั้นจะยากขึ้น ทำให้ต้องพยายามเข้าไปช่วย Hamid ท่ามกลางกลุ่มทหารที่กำลังจะพาตัวเข้าไปที่จุดซ่อนอาวุธมาก่อน ในขณะที่ทหารกำลังพาตัวเขาเข้าไปจะค่อยๆลอบจัดการระหว่างแล้วส่ง Hamid กลับฐานก็จะได้ตำแหน่งที่ซ่อน“Honey Bee”  มา หรือจะลอบตามจนเจอของก่อนแล้วค่อยจัดการทหารเพื่อช่วย Hamid ก็ได้ 

-ลอบเข้าไปตามทางในถ้ำน้ำตกขนาดใหญ่จนถึงห้องเก็บของเป้าหมายตามที่ระบุไว้ซึ่งอยู่ในห้องเก็บของด้านในสุดของถ้ำ ก็จะได้  “Honey Bee”บาซูก้าวีถีไกลสุดไฮเทคมาครอบครอง จากนั้นก็หาเก็บของให้หมดแล้วเตรียมตัวให้พร้อมแล้วกลับออกไปที่หน้าทางเข้าถ้ำอีกครั้ง



และทันทีที่ Big Boss ย่างขาออกมาหน้าถ้ำหมอกหนาก็เริ่มเข้าปกคลุม ไม่นานร่างของเด็กสาวที่แสนแปลกประหลาดก็ลอยผ่านหมอกผ่านออกมา ยังไม่ทันคลาดสายตามือเหล็กขนาดใหญ่ก็ออกมาคว้าตัว Big Boss ไปทันที ก่อนที่จะรู้สึกตัวอีกทีก็พบกับไอ้หน้าผี Skull Face !!


Skull Face – หยุดพักร้อนสบายดีนะ Big Boss ...โอ้ ว้าว คุณเปลี่ยนไปเยอะเลยนี่ คุณกลายเป็นปีศาจเพื่อจะเปลี่ยนพลังเล็กๆน้อยที่จะฮึดสู้หรอ ?  แหม ผมว่าคุณวางแผนไกลไปหน่อยมั๊ย …หมายถึงถ้าคุณรอดจากที่นี่ไปได้น่ะนะ .. ถึงเวลาสู่สุขติแล้ว ..เจอกันในนรกนะ BOSS !

    

Skull Face หนีหายไปกับหุ่นขนาดใหญ่ท่ามกลางความวุ่นวายในสายหมอกหนา ไม่นานก็ปรากฏตัวพวก Skull ออกมาไล่ล่าฆ่าทหารโซเวียตก่อนจะดูดกลืนมาเป็นพวกของมัน 


Miller –  ดูขนาดมหึมาของมันสิ นั่นมันตัวบ้าอะไรวะ !! … นั่น SKULLS !! .. Mist Unit Skulls มันทำอะไรกับพวกทหารอีก !! 

       



-จากนั้นก็ต้องจัดการหน่วย Mist Unit Skulls ให้หมด ซึ่งปืนธรรมดาจะยิงมันไม่ถูกเพราะมันเคลื่อนที่เร็วเหมือนหมอกต้องงัด“Honey Bee” มาใช้ล็อกเป้ายิงมันเท่านั้นถึงจะจัดการมันได้ พยายามหาที่หลบเหมาะๆเพราะพวกทหารโซเวียตจะโดนสิงจนเป็นพวกมันด้วย กระสุน “Honey Bee” มีอยู่ 8 นัด พยายามล็อกออนยิงแต่พวก Skulls อย่างเดียวโดยไม่ต้องไปยิงพวกทหารที่ถูกสิงให้เปลืองกระสุน เมื่อจัดการ Skulls ได้หมดทุกตัว ทหารที่เหลือก็จะกลับเป็นเหมือนเดิม จัดการเคลียร์หมดแล้วเก็บของให้หมดแล้วออกไปที่จุดรับตัวขึ้น ฮ. กลับออกมาได้เลย 


Ocelot - Mist Unit Skulls หรอ ? ดูพลังกับแรงกระโดดของมันสิ  มันไม่ใช่มนุษย์แน่นอน ผิดมนุษย์มนาเกินไป  
Big Boss – แต่มันโจมตีพวกโซเวียตด้วยนะ 
Ocelot – แล้วยังไอ้หน้าผีกับหุ่นยักษ์ของมันอีก พวกมันเป็นใครวะ ?
Big Boss – CIPHER !
Ocelot – พวกมันต้องการอะไร ? มีเป้าหมายอะไรกันแน่  แล้วทำไมต้องอัฟกานิสถาน ??  และที่ผมสงสัยที่สุด 
Big Boss – เกิดอะไรขึ้นกับพวกของ Hamid
Ocelot – ใช่เลย นักรบมูจาฮีดีนที่สุดแกร่งถูกฆ่าตายหมดโดยไม่ทันได้สู้ทั้งๆที่มีอาวุธมากมายที่ได้จาก US นั่นแหละที่ผมสงสัยมาก
Big Boss – เราถึงมาที่นี่เพื่อหาคำตอบไงละ ..! 


เมื่อจบภารกิจ ทาง Ocelot จะแจ้งว่ามีหน่วยงานใหม่เพิ่มขึ้นมาที่ฐานซึ่งก็คือ Intel Team หรือ หน่วยข่าวกรองที่เขาสร้างขึ้นและดูแลการทำงานด้วยตัวเอง ซึ่งก็คือสเตตัสของทหารที่เป็นไอค่อนรูปเส้นแถบ 3 แถบนั่นเอง โดยหน่วยงานนี้จะทำหน้าที่ออกลาดตระเวณหาข่าวเรื่องความเคลื่อนไหวต่างๆ ทั้งการเคลื่อนไหวของศัตรู ที่จะสามารถเห็นวงกลมสีแดงในแผนที่แสดงว่าเป็นจุดที่มีศัตรูอยู่ รายงานล้มฟ้าอากาศและข่าวต่างๆผ่านทางเสียงแจ้งเตือน ซึ่งจะทำให้การทำงานของ Boss ง่ายขึ้นเยอะ และก็จะสามารถสร้าง Intel Platform โครงสร้างของหน่วยข่าวกรองในคำสั่ง Base Facilities ของเมนู Mother Base ได้ด้วย 


                                   Episode 7 – RED BRASS


Mission Task 
ภารกิจหลัก 
-สังหารหรือจับตัวหัวหน้าทหารที่ หมู่บ้าน Da Wialo Kallai 
-สังหารหรือจับตัวหัวหน้าทหารจาก Da Shago Kallai
-สังหารหรือจับตัวหัวหน้าทหารจาก Wakh sind – Barrack

ภารกิจย่อย
-จับตัวหัวหน้าทหารทั้ง 3 คนกลับ Mother Base
- สังหารหรือจับตัวหัวหน้าทหารกับลูกน้องของมันขณะกำลังอยู่ในรถ (รวม 4 คน) 
-รอให้หัวหน้าทั้ง 3 เข้ามาประชุมกันที่หมู่บ้าน Da Wialo Kallai แล้วแอบฟังให้จบก่อนฆ่าหรือจับกุม
-ช่วยเหลือนักโทษ 2 คนที่ Da Ghwandai Khar



ข่าวที่ได้จากกลุ่มกบฏในอัฟกานิสถานบอกถึงข่าวลับที่ได้มาจากสายลับของเขาเรื่องของการนัดประชุมหัวหน้าของโซเวียตระดับสูง 3 คนที่จะมานัดประชุมลับกันที่หมู่บ้าน Da Wialo Kallai โดยหากสามารถสังหารหัวหน้าทหารกลุ่มนี้ทั้งหมดก็จะทำให้โซเวียตระส่ำระสายไม่น้อยแน่นอน แต่หากกลุ่มกบฏออกปฎิบัติงานนี้เอง สายลับที่แฝงตัวอยู่อาจถูกเปิดโปงได้ งานนี้จึงตกมาถึงมือ Diamond Dogs และ Big Boss จึงถูกมอบหมายให้ไปจัดการลอบสังหาร 3 หัวหน้าทหารนี่ซะ ...

         
   


-เมื่อเริ่มภารกิจ ทันทีที่ ฮ.ลงจอด ในแผนที่ก็จะเห็นรถของหัวหน้าทหารจากหมู่บ้าน Da Shago Kallai จากฝั่งใต้และหัวหน้าทหารจากป้อม Wakh sind – Barrack ทางเหนือเริ่มออกเดินทางเป็นจุดแดงๆมาตามถนนสู่หมู่บ้าน Da Wialo Kallai แล้ว ภารกิจคือจัดการสังหารพวกมันทั้ง 3 คนตามแต่แนวทางของคุณ หรือ จะชิงตัวมันกลับมาใช้งานที่ฐานก็ได้ การจัดการเป้าหมายทั้ง 3 นั้นทำได้มากมายทั้งจัดการหัวหน้าทหารที่นั่งรถมาจากทางเหนือและใต้ก่อนจะถึงเมืองหรือจะรอให้มันมารวมกันแล้วค่อยจัดการก็ได้ แต่ก็เหมือนเดิมทำให้สลบแล้วพาตัวกลับมาทำงานที่ฐานจะดีกว่าฆ่าเยอะเพระก็ถือว่าจบตามเงื่อนไขของภารกิจเหมือนกัน 

ทันทีที่การปฎิบัติงานครั้งนี้สำเร็จ กองทัพโซเวียตรีบสั่งระดมพลกองพันที่ 40 เพิ่มเติมเต็มอัตราศึกในอัฟกานิสถาน ทั้งบุคลากรทหารและยุทโธประกรณ์ใหม่อีกมากมายซึ่งมันส่งผลดีกับ ไดมอนด์ ด็อก ในการแย่งชิงมันมาเป็นของตัวเองได้มากขึ้น


เมื่อจบภารกิจ ทาง Ocelot จะแจ้งว่ามีหน่วยงานใหม่เพิ่มขึ้นมาที่ฐานซึ่งก็คือ Medical Team หรือ หน่วยรักษาพยาบาล ซึ่งก็คือสเตตัสของทหารที่เป็นไอค่อนรูปแค็ปซูลยานั่นเอง โดยหน่วยงานนี้จะทำหน้าที่รักษาอาการบาดเจ็บของทหาร และก็จะสามารถสร้าง Medical Platform โครงสร้างของหน่วยรักษาพยาบาลในคำสั่ง Base Facilities ของเมนู Mother Base ได้ด้วย 



                                                  Episode 7 – RED BRASS

Mission Task 
ภารกิจหลัก 
-สังหารหรือจับตัวหัวหน้าทหารทั้ง 3 คน

ภารกิจย่อย
- สังหารหรือจับตัวหัวหน้าทหารกับลูกน้องของมันขณะกำลังอยู่ในรถ (รวม 4 คน) 
-รอให้หัวหน้าทั้ง 3 เข้ามาประชุมกันที่หมู่บ้าน Da Wialo Kallai แล้วแอบฟังให้จบก่อนฆ่าหรือจับกุม
-ช่วยเหลือนักโทษ 2 คนที่ Da Ghwandai  หมู่บ้าน Da Wialo Kallai 
-สังหารหรือจับตัวหัวหน้าทหารจาก Da Shago Kallai
-สังหารหรือจับตัวหัวหน้าทหารจาก Wakh sind – Barrack
-จับตัวหัวหน้าทหารทั้ง 3 คนกลับ MotheKhar


ข่าวที่ได้จากกลุ่มกบฏในอัฟกานิสถานบอกถึงข่าวลับที่ได้มาจากสายลับของเขาเรื่องของการนัดประชุมหัวหน้าของโซเวียตระดับสูง 3 คนที่จะมานัดประชุมลับกันที่หมู่บ้าน Da Wialo Kallai โดยหากสามารถสังหารหัวหน้าทหารกลุ่มนี้ทั้งหมดก็จะทำให้โซเวียตระส่ำระสายไม่น้อยแน่นอน แต่หากกลุ่มกบฏออกปฎิบัติงานนี้เอง สายลับที่แฝงตัวอยู่อาจถูกเปิดโปงได้ งานนี้จึงตกมาถึงมือ Diamond Dogs และ Big Boss จึงถูกมอบหมายให้ไปจัดการลอบสังหาร 3 หัวหน้าทหารนี่ซะ ...

 -เมื่อเริ่มภารกิจ ทันทีที่ ฮ.ลงจอด ในแผนที่ก็จะเห็นรถของหัวหน้าทหารจากหมู่บ้าน Da Shago Kallai จากฝั่งใต้และหัวหน้าทหารจากป้อม Wakh sind – Barrack ทางเหนือเริ่มออกเดินทางเป็นจุดแดงๆมาตามถนนสู่หมู่บ้าน Da Wialo Kallai แล้ว ภารกิจคือจัดการสังหารพวกมันทั้ง 3 คนตามแต่แนวทางของคุณ หรือ จะชิงตัวมันกลับมาใช้งานที่ฐานก็ได้ การจัดการเป้าหมายทั้ง 3 นั้นทำได้มากมายทั้งจัดการหัวหน้าทหารที่นั่งรถมาจากทางเหนือและใต้ก่อนจะถึงเมืองหรือจะรอให้มันมารวมกันแล้วค่อยจัดการก็ได้ แต่ก็เหมือนเดิมทำให้สลบแล้วพาตัวกลับมาทำงานที่ฐานจะดีกว่าฆ่าเยอะเพระก็ถือว่าจบตามเงื่อนไขของภารกิจเหมือนกัน

ทันทีที่การปฎิบัติงานครั้งนี้สำเร็จ กองทัพโซเวียตรีบสั่งระดมพลกองพันที่ 40 เพิ่มเติมเต็มอัตราศึกในอัฟกานิสถาน ทั้งบุคลากรทหารและยุทโธประกรณ์ใหม่อีกมากมายซึ่งมันส่งผลดีกับ ไดมอนด์ ด็อก ในการแย่งชิงมันมาเป็นของตัวเองได้มากขึ้น

เมื่อจบภารกิจ ทาง Ocelot จะแจ้งว่ามีหน่วยงานใหม่เพิ่มขึ้นมาที่ฐานซึ่งก็คือ Medical Team หรือ หน่วยรักษาพยาบาล ซึ่งก็คือสเตตัสของทหารที่เป็นไอค่อนรูปแค็ปซูลยานั่นเอง โดยหน่วยงานนี้จะทำหน้าที่รักษาอาการบาดเจ็บของทหารใน้ห้องพยาบาลของฐานที่เรียกว่า Sickbay ซึ่งก็จะมีไอค่อยรูปหัวใจเพิ่มขึ้นมาในเมนูการจัดการ Mother Base ด้วย และก็จะสามารถสร้าง Medical Platform โครงสร้างของหน่วยรักษาพยาบาลในคำสั่ง Base Facilities ของเมนู Mother Base ได้ด้วย จากนั้นไอเทมจำพวกรักษาเยียวยาต่างๆก็จะถูกผลิตออกมาทั้ง Ration , Pentazemon ที่เป็นยาเสริมที่ทำให้ใช้ Reflex Mode ไม่จำกัดได้ในระยะหนึ่ง 


                               Episode 8 – OCCUPATION FORCES 

Mission Task 
ภารกิจหลัก 
-ค้นหาไพล์คำสั่งปฎิบัติการณ์ที่ หมู่บ้าน Qarya Sakhra Ee
-สังหารหรือจับตัวหัวหน้าทหารที่เดินทางมากับขบวนรถถัง
-ทำลายรถถัง TT77 Noorog ให้หมดทุกคน 

ภารกิจย่อย
-จัดการหัวหน้าทหารและทำลายรถถังก่อนจะถึงที่หมาย (ป้อม Smasei Fort)
-ช่วยนักโทษที่ หมู่บ้าน Qarya Sakhra Ee
-ชิงรถถังกลับฐานให้หมดทุกคัน (ต้องมีระดับเลเวลบอลลูนสูงๆ)

**[อาวุธที่จำเป็นในการปฎิบัติงาน – RPG, Rocket Launcher, C4, กับระเบิด] **

กลุ่มกบฎอัฟกันยังคงส่งข่าวกรองที่มีค่าเพื่อแลกเปลี่ยนกับการร่วมงานในการจัดการทหารโซเวียตกับ ไดมอนด์ ด็อก ไม่ขาดสาย ครั้งนี้สายข่าวรายงานถึง หัวหน้าทหารยศในพันคนนึงที่ถือว่าเป็นระดับมันสมองของกองทัพ ด้วยความฉลาดในการรบของเขากับแผนลับที่มันกำลังจะโจมตีกลุ่มมูจาฮีดีนแบบถอนรากถอดโคนโดยที่ยังไม่รู้ว่ามันมีแผนการณ์อะไรกันแน่ Big Boss จึงเข้ามาปฎิบัติกาณ์แทรกซึมเข้ามาที่หมู่บ้าน Qarya Sakhra Ee ซึ่งเป็นฐานของมันเพื่อค้นหาไฟล์ข้อมูลแผนการลับเพื่อต้องการรู้ให้ได้ว่ามันคืออะไร 




-เมื่อเดินทางมาถึงหมู่บ้าน Qarya Sakhra Ee แล้วสำรวจให้ทั่วๆจะเห็นว่าเป็นหมู่บ้านที่ตั้งอยู่บนเนินเขาและมีทางเข้า 2 ทาง เป้าหมายนั้นคือไพล์ลับที่อยู่บนห้องที่บ้านหลังบนสุดของเขา ที่นี่ค่อนข้างแคบและทหารเยอะแม้แต่ตอนกลางคืน ฝั่งทางเข้าด้านซ้ายจะขึ้นมาถึงเป้าหมายได้ง่ายที่สุดเพราะหลังจากหลบหรือจัดการทหารที่หน้าทางเข้าแล้วจะสามารถลอบต่อเนื่องติดริมซ้ายของหมู่บ้านขึ้นไปถึงบ้านเป้าหมายได้เลย

   

และทันทีที่เข้ามาถึงข้อมูลแล้วทำให้รู้ถึงแผนการของมันทันทีซึ่งก็คือเตรียมการถล่มพวกมูจาฮีดีนด้วยกองกำลังรถถังของมัน และ Ocelot ก็จะแจ้งว่าตอนนี้หัวหน้าทหารเป้าหมายกำลังเคลื่อนย้ายรถถังของมันไปเสริมกำลังที่ป้อม Smasei Fort แล้ว จึงเป็นการดีที่จะใช้โอกาสนี้ในการจัดการหัวหน้าคนนี้ไปพร้อมๆกับรถถังของมันซะเลย 

-เป้าหมายจากนี้คือ จับ หรือ ฆ่า หัวหน้าทหารที่เป็นเป้าหมายและ ทำลาย หรือ ยึด รถถังของมันด้วย ซึ่งทันทีที่ได้เห็นไฟล์ Ocelot ก็จะส่งพิกัดของขบวนรถถังมาให้ทันที ซึ่งมันกำลังเดินทางมาตามถนนอีกฝั่งโดยจะมาผ่านทางที่ หมู่บ้าน Qarya Sakhra Ee โดยมีเป้าหมายที่ป้อม Smasei Fort เส้นทางที่เหมาะสมเท่าที่เวลาจะพอมีคือจัดการหัวหน้าทหารไปพร้อมๆกับขบวนรถถังของมันเลย จุดที่เหมาะคือถนนเส้นทางซ้ายก่อนถึงหมู่บ้านตามเส้นทางที่มันขับมานั่นแหละ เพราะแถวนั้นปลอดศัตรูมากกว่าฝั่งทางขวา ซึ่งการจะฆ่าหัวหน้าทหารไปพร้อมๆกับทำลายรถถังนั้นไม่ยากครับ แต่ถ้าจะจับตัวหัวหน้าทหารกับยึดรถถังกลับบ้านสิเรื่องใหญ่ 

** ตามแผนที่ผมใช้ ** 
1.แผนฆ่าและทำลายรถถังให้หมด ขบวนรถของมันมีรถถังปิดหน้าปิดหลังและหัวหน้าทหารอยู่บนรถบรรทุกตรงกลาง  เพราะสามารถใช้ระเบิด C4 วางดักไว้ที่ถนน รถถัง 1 คันใช้ C4ปกติ 2 อันก็พังแล้ว จากนั้นก็ตามเก็บงานด้วย RPG หรือ Rocket Launcher ก็จะทำลายทั้งหมดได้ไม่ยากนัก หรือ จะเอาแบบถล่มเอามันก็ต้องไปขโมยรถยิงจรวดของศัตรูที่จอดอยู่กลางพื้นที่ทางถนนฝั่งขวาของหมู่บ้าน Sakhra Ee แล้วรอให้ขบวนรถผ่านหมู่บ้านมาจนถึงถนนฝั่งขวาที่จะไปป้อม Smasei Fort ก็เอารถยิงจรวดถล่มมันทั้งขบวนได้เลย
2.แผนทำลายรถถังและจับตัวหัวหน้าทหาร เริ่มจากวาง C4 ไว้ 2 จุดๆละ 2 อัน เว้นระยะห่างๆกันแถวๆที่มีก้อนหินขนาดใหญ่ที่ใช้กำบังได้แถวๆหน้าหมู่บ้านตรงถนนฝั่งซ้าย รอจนรถถึงหน้าขบวนมาถึงระเบิดจุดแรกก็กดเลยรถถังคันแรกจะพัง รอให้รถของหัวหน้าทหารที่อยู่คันที่ 2 ขับหนีไปแล้วรีบออกจากมุมหินมาปีนขึ้นกระบะรถ รอให้รถถังคันที่ 2 ผ่านระเบิด C4 จุดที่ 2 ก็กดระเบิดทำลายเลย จากนี้ก็นอนแอบบนรถบรรทุกของหัวหน้าทหารให้แล่นผ่านฐานทหารไป พอปลอดศัตรูก็ยิงคนขับจากด้านหลังแล้วจับตัวหัวหน้าทหารกลับได้
3. แผนจับตัวหัวหน้าทหารและเอารถถังกลับฐาน ถ้าจะเล่นแผนนี้ต้องมีอบอลลูนที่มีเลเวลสูงๆก่อน แล้วก็วางระเบิด C4 แค่ลูกเดียวเพื่อให้มันแค่พังไม่ระเบิดจอดก่อนเข้าเมือง  จากนั้นปีนขึ้นรถหัวหน้าทหารไปจับมันตอนผ่านหมู่บ้าน แล้วค่อยกลับมาเอารถถังกลับฐานด้วยบอลลูน

-เมื่อจัดการทั้งหัวหน้าทหารและรถถังได้แล้วก็เรียก ฮ. กลับฐานได้เลยเป็นอันจบภารกิจ  


** ระหว่างนี้ Miller จะแจ้งข่าวกรองจากเขาว่า มีสไนเปอร์มือดีของโซเวียตที่หายตัวซึ่งเขาคาดว่ามันจะกำลังออกมาไล่ล่า Boss  และช่วงนี้ถ้าผ่านมาที่ Shifap Ruin จะทำให้ Boss ต้องเจอกับการลอบโจมตีของสไนเปอร์สาวลึกลับที่แม่นระดับทำให้ตายได้ทันที ซึ่งเป็นเรื่องราวของตอน CLOAKED ใน Episode 11 ที่สามารถข้ามมาเล่นก่อนได้หากคุณแวะมาเจอเธอที่นี่ก่อน แต่ถ้าผ่าน Episode 10 แล้วไม่เจอ Episode 11 ก็ให้แวะมาหาเธอได้ที่ Shifap Ruin ครับ  ** 

[เพื่อความต่อเนื่องก็ขอเอาเหตุการณ์นี้ไปเรียงต่อจาก Episode 10 เพื่อความต่อเนื่องของเรื่องราวนะครับ]





เมื่อจบภารกิจ ทาง Ocelot จะแจ้งว่ามีหน่วยงานใหม่เพิ่มขึ้นมาที่ฐานซึ่งก็คือ Battle Unit หรือ หน่วยทหารรับจ้าง ซึ่งก็คือสเตตัสของทหารที่เป็นไอค่อนรูปดาบไขว่ โดยหน่วยงานนี้แน่นอนว่าคือหน่วยรบประจำฐานนั่นเอง และก็จะสามารถสร้าง Battle Unit Platform โครงสร้างของหน่วยทหารรับจ้างในคำสั่ง Base Facilities ของเมนู Mother Base ได้ด้วย สิ่งที่เพิ่มเข้ามาพร้อมหน่วยนี้คือ

   

-  คำสั่ง Combat Development หรือการส่งทีมทหารไปทำงานตามที่ต่างๆเพื่อเงินและไอเทมดีๆมาใช้  ซึ่งการออกทำงานนอกพื้นที่ของพวกทหารก็ต้องอาศัยระดับเลเวลระหว่างทีมทหารของเรากับฝ่ายศัตรู ซึ่งในตารางงานจะมีเปอร์เซ็นต์โอกาสแพ้ชนะให้ดูด้วย ก็ถือว่าเป็นหน่วยงานที่สร้างรายได้และความแข็งแกร่งของฐานที่สุดแล้ว
- สามารถเอาทหารที่อยู่ในทีม Battle Unit มาใช้ในภารกิจต่างๆได้ด้วย โดยสามารถเลือกได้ในเมนู Character ก่อนเริ่มภารกิจ 


                               Episode 9 – BACK UP, Back Down  


Mission Task 
ภารกิจหลัก 
-ทำลายรถหุ้มเกราะ
-ทำลายรถยิงจรวดหรือเฮลิคอปเตอร์ 

ภารกิจย่อย
-จบภารกิจโดยไม่ขอกระสุนเพิ่มเลย 
- ค้นหารถบรรทุกขนอาวุธของศัตรูให้เจอ
-ชิงเอารถหุ้มเกราะทุกคันกลับฐาน
-จับตัวนักโทษที่กำลังหนี 6 คนกลับฐาน
-จับตัวทหาร 4 คนที่กำลังตามจับนักโทษกลับฐาน

**[อาวุธที่จำเป็นในการปฎิบัติงาน – RPG, Rocket Launcher,C4] **

ภารกิจต่างตอบแทนจากความช่วยเหลือของกลุ่มกบฏที่เคยให้ข่าวกรองดีๆกับ ไดมอนด์ ด็อก มากมาย ถึงครั้งนี้ กลุ่มกบฎก็ต้องการความสนับสนุนจากไดมอนด์ ด็อกในภาระกิจที่พวกเขาจะบุกถล่มค่ายของทหารโซเวียต แต่ติดตรงที่พวกกบฎกังวลเกี่ยวกับเรื่องรถหุ้มเกราะมากมายของโซเวียตที่อาจทำให้งานนี้ล้มเหลว Big Boss จึงต้องออกโรงช่วยเหลือในภารกิจที่ต้องทำลายรถหุ้มเกราะของทหารโซเวียตเพื่อช่วยให้กลุ่มกบฎทำงานสำเร็จ .... 

-ทันทีที่เริ่มภารกิจ จะเริ่มมีเวลานับถอยหลังซึ่ง Ocelot ก็บอกว่ามันเป็นเวลาที่พวกกบฏในการปฎิบัติการณ์ ซึ่งแปลว่า 15 นาทีนี้เป็นเวลาทั้งหมดที่ Boss มีในการทำลายรถหุ้มเกราะของศัตรู ตอนนี้ที่ต้องก็คือ ทำลายรถหุ้มเกราะที่แล่นมาจากเส้นทางต่างๆทั้ง 7 คันให้หมดก่อนเวลาจะหมด ซึ่งรถจะขับเข้ามาที่ละชุด จะทำลายมันด้วยการใช้ Rocket Launcher ยิงหรือวางกับดักระเบิด C4 ก็ได้ แต่ทางที่ดีควรขี่ม้าไปหารถตามจุดต่างๆให้เร็วที่สุดจะดีกว่าโดยงานนี้ต้องใช้ทักษะการยิงปืนบนหลังม้าและการขอ Supply ลูกกระสุนและระเบิดต่างๆด้วย เพราะยังไง Rocket Launcher และ C4 ที่มีก็ไม่พอจะทำลายรถทั้ง 7 คันหมดแน่นอน และในระหว่างไล่ล่าทำลายรถเกราะก็จะมีรถจี๊บของทหารโซเวียตที่จับพวกกบฏเป็นตัวประกันผ่านมาด้วยซึ่งจะเป็นรูปสามเหลี่ยมสีม่วงขึ้นมาให้ ที่ต้องทำคือเข้าไปช่วยเขาออกมาโดยจัดการคนขับ 2 คนเพื่อให้รถหยุด ซึ่งเสี่ยงกับการทำให้ตัวประกันตายมากๆแทบทุกวิธี


หลังจากจบภารกิจนี้ Ocelot จะแจ้งมาถึงเรื่องแรงกดดันจาก NGO อนุรักษ์สัตว์ที่ต้องการให้สร้างศูยน์อพยพสัตว์ที่ได้รับผลกระทบต่อภัยของสงครามที่อัฟานิสาถาน ทางไดมอนด์ ด็อก จริงต้องสร้างส่วน Animal Conservation Platform เพิ่มขึ้นมาเพื่อดูแลสัตว์ที่จับมาระหว่างที่เจอในพื้นที่ ซึ่งการเพิ่มเติมนี้เป็นแค่การบอกกล่าวให้เรื่องราวสมบูรณ์ไม่ได้มีเมนูอะไรที่จะเพิ่มเติมมาใน Mother Base ด้วย 

   


ในขณะนั่ง ฮ. กลับ Miller ได้ติดต่อมาถึงเรื่อง Dr. Emmerich หรือ Huey นักวิทยาศาสตร์ที่เคยร่วมงานกันสมัย Peace Walker Project และถูกโยงให้มีส่วนรู้เห็นกับการที่ Mother Base ถูกถล่มเมื่อ 9 ปีก่อน และคาดว่าเขาทำงานให้ Cipher และตอนนี้เขาติดต่อเข้ามาเพื่อจะให้ข้อมูลบางอย่าง มันเป็นเรื่องที่ Miller รอมาทั้งชีวิตที่จะรู้ความจริงจากปากของ Huey ถึงใครก็ตามที่อยู่เบื้องหลังและสั่งทำลายฐาน Miller จึงบอกให้ Boss ลองแวะไปที่โรงไฟฟ้า Serak Power Plant ตามที่ Huey นัดหมายมา 




**ซึ่งภารกิจที่ว่านี้คือ Make Contact with Emmerich จะอยู่ในรายชื่อเควสย่อย Side OPS และถ้าแวะเข้าไปทำภารกิจเสริมนี้มันจะต่อเนื่องไปถึงภารกิจหลัก HELLBOUND ของ Episode 12 ทันที ** 

จากนั้น Ocelot จะติดต่อมาให้กลับมาที่ Mother เพราะว่าเขามีอะไรจะอวด และทันทีที่เดินทางกลับมายังฐานแล้ว ทำธุระให้เสร็จและในขณะที่จะขึ้น ฮ. กลับออกไปทำภารกิจ Ocelot ก็จะเอาของมาอวดอย่างที่บอก ซึ่งก็คือ เจ้าหมาตาเดียวที่เขาเก็บมาเลี้ยงและฝึกฝนให้เป็นสุนัขสงครามนามว่า DD ก่อนที่มันจะมาอยู่ในฐานะ Buddy ตัวที่ 2 ของ Boss 





**คำสั่งการ DD [กด L2 เลือกคำสั่งสังการ] **
Wait รอ
Come เรียก
Keep them Busy สั่งโจมตีทำให้ศัตรูปั่นป่วน
Bark เห่า (ใช้เป็นตัวล่อ) 

** ความสามารถของ DD ** 
-เป็นตัวล่อให้ศัตรูสับสน 
-ช่วยถ่วงเวลาในกรณีที่เข้าโจมตีศัตรู 2 ตัว
-ความสามารถด้านการดมกลิ่น DD จะสามารถบอกสถานะรอบตัวให้ได้ทันทีที่มันมองเห็นทั้งตำแหน่งศัตรู ตำแหน่งอาวุธ และ สมุนไพรต่างๆได้อย่างรวดเร็ว

** ข้อด้อยของ DD ก็มีตรงที่หากนำมาใช้ในระยะทางไกลแล้วไม่มีรถก็ต้องวิ่งกันยาวๆ DD จึงเหมาะกับสถานะการเฉพาะที่หรือสั่งให้มาส่งทาง ฮ. หากต้องการจะเหมาะที่สุด **  





                                       Episode 10 – Angel with Broken wing 

Mission Task 
ภารกิจหลัก 
-ช่วยเหลือและชิงตัวนักโทษที่ชื่อ Malax 

ภารกิจย่อย
-ชิงเอารถหุ้มเกราะหน้า Yakho Obo Supply Outpost กลับฐาน
-ช่วยเหลือนักโทษ 3 คนที่ หมู่บ้าน Lamar Khaate
- ช่วยนักโทษ 2 คนที่ Yakho Obo Supply Outpost
แอบฟังทหารคุยกับ Malax ที่กำแพงด้านหลังห้องขังให้จบ

ภารกิจที่ได้รับมอบหมายในครั้งนี้คือ เข้าไปช่วยเหลือนักรบของมูจาฮดีนที่ชื่อ Malak ซึ่งตอนนี้ถูกพวกทหารโซเวียตจับเอาไว้ที่ใดที่หนึ่งซึ่งตำแหน่งล่าสุดที่ได้ตามข่าวคือที่หมู่บ้าน Lamar Khaate ซึ่ง Miller นั้นสงสัยว่า ชายคนนี้มีความลับอะไรที่โซเวียตต้องมากมายถึงขนาดถูกจับตัวเอาไว้ Boss จึงมีหน้าที่ลอบเข้าไปค้นหาความจริงที่ว่านั่น ...



-เป้าหมายแรกคือ ลอบเข้าไปที่หมู่บ้าน Lamar Khaate ค้นหาตัวนักโทษที่ถูกจับอยู่ ถ้าลองจับตัวทหารที่นั่นขู่เอาความลับดูจะเห็นว่ามีทั้งนักโทษที่เป็นเป้าหมายที่อยู่บ้านด้านหน้าซากตึกและพวกนักโทษปกติที่ซากตึกที่จะช่วยหรือไม่ก็แล้วแต่ เมื่อลอบเข้าไปจนถึงตัวนักโทษเป้าหมายแล้ว ทันทีที่ส่งตัวเขากลับฐานก็จะทำให้ได้ตำแหน่งของ Malax ที่ถูกจับตัวไปที่ Yakho Obo Supply Outpost
-ออกจาก หมู่บ้าน Lamar Khaate เดินทางขึ้นเหนือต่อจนถึง Yakho Obo Supply Outpost ซึ่งค่อนข้างเป็นพื้นที่กว้างและเต็มไปด้วยทหารมากมายตามจุดสำคัญๆไว้หมด เริ่มจากจับทหารแถวหน้าฐานมาขู่จนได้ที่อยู่ของ Malak มาหรือถ้านำ D- Dog ตามมาด้วยมันก็จะบอกตำแหน่งให้เอง ซึ่งก็คือในห้องขับของบ้านที่อยู่ในรั้วด้านในที่ด้านหน้ามีรถหุ้มเกราะอยู่ ทางปลอดภัยมี 2 ทางคือ


- ถ้าเข้าทางด้านใต้สามารถลอบเลาะมาทางด้านซ้ายจนถึงด้านซ้ายของรั้วได้ ซึ่งก็จะเห็นว่า Malak นักโทษเป้าหมายนั้นอยู่ในห้องติดกำแพงด้านซ้าย ด้านหลังกำแพงมียามที่ประตูจัดการซะแล้วเลยประตูไปจะมีช่องให้มุดเข้าไปด้านใต้ของรั้วด้านในได้ ในช่องใต้พื้นแยกขวาจะไปออกหน้าบ้านที่ขังนักโทษปกติ 2 คนจะช่วยออกมาด้วยก็ได้  ส่วนทางแยกขวาจะมาโผล่ที่หน้าบ้านที่คุมขังตัว Malak
- ถ้าเข้าด้านบนของฐาน ต้องเสียเวลาอ้อมหน่อยแต่จะสามารถเข้ามาถึงรั้วด้านในได้ทันทีเลย ซึ่งกำแพงรั้วฝั่งขวาก็มีทางให้มุดเข้าไปจนถึงห้องขังของ Malak ได้เหมือนกันแต่จะเร็วกว่าและเจอทหารน้อยกว่ามาก
-เมื่อถึงตัว Malak แล้วก็ต้องพาตัวเขาออกมา ซึ่งจะไม่สามารถส่งขึ้นทางบอลลูนได้ด้วย ทำให้ต้องแบกเขาไปขึ้น ฮ. กลับเท่านั้น จุดลงจอดของ ฮ.นั้น ใกล้สุดจะอยู่ที่ด้านเหนือของฐาน ซึ่งการพาเขาออกไปนั้นเจ้า D- Dog เป็นตัวช่วยที่สำคัญมากเพราะจะสามารถใช้แผน เห่า ล่อให้ทหารไปกองรวมกันอีกด้านของกำแพงแล้วจะสามารถรีบแบก Malak ออกทางด้านเหนือไปที่จอด ฮ. ได้ง่ายได้ขึ้นทันที เท่านี้ก็จะช่วย Malak ออกมาได้แล้ว..




Miller –  บอส เจ้า Malak ไม่รู้เรื่องอะไรในสิ่งที่เรากำลังตามหาเลย แต่มันก็บอกว่าหมู่บ้านของเขาถูกทำลายก่อนหน้าที่เขาถูกจับมานานแล้ว ชาวบ้านทุกคนตายในกองเพลิงกันหมด แต่ยังแปลกใจว่าทำไมเขาถึงยังรอดอยู่ได้แค่คนเดีย คำถามคือ แล้วใครจ้างให้เราตามหาเขา แล้ว Malak ก็ยังบอกอีกว่าเขาเจอทหารแปลกตอนกลับไปที่หมู่บ้าน ซึ่งเป็นหน่วย XOF ของ Cipher แน่นอน ตามทษฎีผมคิดว่า พวกมันคงอยากจะเก็บเจ้า Malak ก่อนที่พวกโซเวียตจะได้ตัวไปแน่นอน สำคัญคือเขารู้อะไร Cipher มันคงกะใช้เราให้ช่วยพาตัวเขาออกมาเพราะคิดว่าพวกเราทำได้แน่นอน มันก็แปลกอยู่ เหมือนกับตอนที่ Hamid บอกเราเรื่องอาวุธ Honey Bee นั่น แต่ยังไงซะ เราก็ได้ตัวเขามาแล้ว เขาเป็นพวกเราแล้ว ผมจะแกล้งบอกนายจ้างเราว่ายกเลิกสัญญาเพราะเป้าหมายตายแล้วก็แล้วกันครับ เพราะถ้ามันเป็น Cipher มันก็ต้องชดใช้ค่าจ้างให้เราด้วยอย่างอื่นอยู่ดี ครอบครัวและหมู่บ้านของ Malak ถูกทำลายหมด เขาคงอยากแก้แค้น พูดง่ายๆเขาเป็นพวกเราแน่นอน 


** จากนี้หากคุณต้องการจะทำภารกิจเสริม Make Contact with Emmerich ซึ่งเป็นเควสย่อยพิเศษที่จำเป็นต้องทำที่เป็นสีเหลืองอยู่ในรายชื่อเควสย่อย Side OPS เป้าหมายคือเข้าไปติดต่อกับ Dr. Emmerich ที่โรงไฟฟ้า แต่ระหว่างทางที่ผ่านมาถึง Shifap Ruin Boss ก็จะเจอกับการลอบยิงของสไนเปอร์ลึกลับทันที ** 

[Episode 11 นี้สามารถข้ามมาเล่นก่อนได้หากคุณบังเอิญผ่านทางมาที่ Shifap Ruin ก่อนหน้านี้ก็จะทำให้ได้เจอ Quiet ลอบยิงและเข้าสู่ Episode 11 ทันทีได้เหมือนกัน]




                                       Episode 11 – CLOAKED IN SILENCE


Mission Task 
ภารกิจหลัก 
-จัดการกับ Quiet ไม่ว่าจะแบบพลังหมดหรือสลบ
-ตัดสินใจที่จะพาเธอกลับฐาน 

ภารกิจย่อย
-จัดการ Quiet โดยไม่ใช้อาวุธร้ายแรง (ยิงด้วยปืนยายสลบ)
- ลอบจัดการ Quiet ได้โดยไม่โดนเธอยิงเลย

** อาวุธจำเป็นที่สมควรต้องติดตัวมาคือ Rifle ** 

ระหว่างทางก่อนหน้านี้ Miller จะได้ข่าวกรองชิ้นสำคัญมาคือ ตอนนี้มีสไนเปอร์มือดีคนนึงที่กำลังออกไล่ล่า Boss อยู่ทางโซเวียตเรียกกันว่า Tixij หรือแปลว่า Quiet หรือ เงียบ นั่นเอง ซึ่ง Miler คาดว่ามันเป็นสไนเปอร์มือสังหารของ Cipher ที่ถูกส่งให้มาไล่ล่า Boss โดยเฉพาะ เขาจึงเตือนให้ฟังเพื่อให้ระวังตัวก่อน 


- เดินทางมาที่ Shifap Ruin (ไม่ว่าจะบังเอิญหรือจงใจมา) Boss จะถูกสไนเปอร์ที่ Miller เตือนเอาไว้ลอบยิงทันที และการต่อสู้เพื่อเอาตัวรอดในสถานการ์ณคับขันก็เริ่มขึ้น การต่อสู้กับ Quiet นั้นอัตรายมากเพราะฝีมือมันนั้นแม่นแบบจับวาง แถมยังซ่อนตัวเก่งด้วย ซึ่งสามารถหาตำแหน่งมันได้จากการทีมันยิงมาแล้วมองหาแสงกระพริบของเลนท์เอา หรือจะให้เนียนกว่านั้นก็ต้องหาตำแหน่งปลอดภัยแล้วค่อยๆใช้กล้องหาตำแหน่งที่มันซ่อนอยู่เอาเอง การล็อกเป้ามายไร้ผลเพราะทันทีที่มันโดนยิงหรือมันรู้ตัวว่าเข้าใกล้มันก็จะวาร์ปหนีไปซ่อนตัวที่ใหม่ทันทีอย่างรวดเร็ว ถ้าสังเกตดีๆมันจะมีที่ซ่อนตัวซ้ำๆกันอยู่ไม่กี่ที่ ซึ่งการสู้กับมันนั้น จำเป็นต้องใช้ไรเฟิ่ลเป็นตัวช่วยหากต้องการยิงมันแบบปกติจนพลังชิวิตมันหมด หรือ ลอบไปใช้ปืนยาสลบยิงจนเกทความอึดหมดก็จะสามารถจัดการมันได้เหมือนกัน



                              วิธีเอาชนะน้องเงียบให้ได้ Rank S แบบลูกผู้ชาย ^_^

                                1 ใช้กล้องส่อง กำหนด mark point ที่ตัวเธอ
                                2 สั่ง supply ให้ตกใส่หัวเธอ 2 กล่อง ก็สลบ


ทันที่ที่จัดการมันได้และเข้าไปถึงจุดที่มันบาดเจ็บอยู่จะพบว่าสไนเปอร์คนนี้เป็นผู้หญิงและมีความสามารถบางอย่างในตัวเธอที่ดูผิดปกติกว่าคนธรรมดาอยู่



Miller – บอส นั่นแหละมือปืนของ Cipher ที่มันส่งมาเก็บคุณ ฆ่ามันซะ !!
Ocelot – อย่า บอส เธอดูแปลกประหลาดเราครวตรวจสอบให้แน่ก่อนว่ามันเป็นอะไรแน่ แถมฝีมือเธอก็น่าจะเป็นประโยชน์กับเราด้วย
Miller – อย่าบอกนะว่าจะนำศัตรูกลับมาที่ฐานเรานะ บอส !!
Ocelot – ไม่น่าเชื่อว่าคุณจะจับเธอแบบเป็นๆได้ เอาเธอกลับมาฐาน เราจะมาดูกันว่าเธอพิเศษยังไงกันแน่ 
Miller – อันตรายกับเราเกินไป ฆ่าเธอซะบอส !!
Ocelot – ให้บอสเป็นคนตัดสินแล้วกัน 

ทันทีที่ Boss ตัดสินใจอุ้ม Quiet ขึ้น ฮ. กลับฐาน ระหว่างทางก็จะพบว่า Quiet เธอตื่นขึ้นมาแล้วหลุดออกจากกุญแจมืออย่าง่ายดายก่อนจะหายตัวไปทั้งๆที่อยู่บน ฮ. สร้างความแปลกใจให้ Boss มากๆ 




ในขณะที่ ฮ. กำลังกลับฐานจู่ก็พบสัญญาณการติดตามของเครื่องบินขับไล่ที่ตามมาโจมตี ในขณะที่บอสกำลังหาทางรับการโจมตีและทำลายมันก่อนที่ศัตรูจะรู้ตำแหน่งของ Mother Base และความกังวลใจของทุกคนที่คิดว่าเพราะ Quiet ที่หนีไปศัตรูเลยรู้ตำแหน่งและตามมาได้ ในขณะที่เครื่องบินขับไล่จะตามยิงถล่มใส่ ฮ. อยู่ข้างเดียว จู่ Quiet ที่หายไปก็ปรากฎตัวขึ้นแถมยังจะใช้สไนเปอร์ของบอสในการช่วยจัดการกับเครื่องบินขับไล่ด้วย ก่อนที่ Boss กับ Quiet จะช่วยกันทั้งปืนกลและสไนเปอร์จัดการจนเครื่องบินขับไล่ถูกทำลายไปได้สำเร็จ Quiet ก็ยังแสดงน้ำใจด้วยการคืนปืนให้พร้อมทั้งเอามือสอดเข้ากุญแจมือให้อยู่ในภาพถูกจองจำเหมือนเดิมโดยไม่พูดอะไรซักคำ แต่สายตา Boss ที่มองเธอก็ทำให้รู้สึกเหมือนมีบางอย่างที่พอจะเชื่อใจเธอได้บ้างขึ้นมาทันที

แต่ขณะที่ ฮ. กลับถึงฐาน ทุกคนบน ฮ. กลับถูกเล็งปืนเขาใส่และหมายจะถูกยิงทันทีที่พาศัตรูเข้ามาที่ฐาน ในขณะที่ Boss ยังคงยืนยันว่าจะนำ ฮ. ลงจอดแม้จะต้องโดนยิง แต่ Quiet ก็เหมือนจะเข้าใจเลยตัดสินใจโดดลงไปด้านล่างเองทันทีเพื่อไม่ให้ Boss ถูกยิง 

ทันทีที่ Quiet โดดลงมาถึงพื้นด้วยความสามารถการล่องหนของเธอจนทำให้ทหารที่เข้ามาจับถึงกับวุ่นวายไปทั่วแต่สุดท้ายเธอก็ปรากฎตัวออกมาแบบไม่มีทีท่าในการรุกราน 





Ocelot – ล้อมเธอเอาไว้ 
Miller – ยิงเลย !!
Ocelot – แต่เธอช่วย Boss เอาไว้นะ !
Miller – ช่วยตัวเองมากกว่า ยิงเลย !!
Big Boss – จับเธอไปขังไว้ก่อน 
Miller – แต่ บอส !
Big Boss – จับตาดูเธอไส้ก่อน 
Ocelot – ได้ครับ เอาละจับเธอไปขังไว้ 



แต่ Quiet ก็ยังยืนนิ่งไม่ไหวติงทั้งยอมรับและปฎิเสธ จน Boss ต้องเอามือไต่ไหล่แล้วผยักหน้าเบา Quiet จึงยอมทำตามให้จับกุมตัวโดยไม่ขัดขืนทันที 




Miller – บอส คุณต้องเสียใจที่ทำแบบนี้ .. ยัยผู้หญิงนั่น .
Big Boss – ผมรู้ เธอรู้ตำแหน่งของฐานเราแล้ว ยังไงวันนี้ก็คงยังไม่ถึงเวลาที่ต้องฆ่าเธอหรอก ยังไม่ถึงเวลา และเมื่อถึงเวลาผมจะเป็นคนเหนี่ยวไกด้วยตัวเอง ... 

Quiet จะถูกไดมอนด์ ด็อกจับกุมและ Ocelot จะทำการตรวจสอบความสามารถพิเศษของเธอว่ามันคืออะไรให้ได้และเธอรู้อะไรเกี่ยวกับ Cipher มาน้อยแค่ไกนก่อนจะตัดสินใจว่าจะทำยังไงกับเธอต่อไป ....



** จากนั้นก็เริ่มทำภารกิจย่อย Make Contact with Emmerich จะอยู่ในรายชื่อเควสย่อย Side OPS ต่อเนื่องไปถึงภารกิจหลัก HELLBOUND ของ Episode 12 ต่อได้เลย ** 


                                  Side OPS - Make Contact with Emmerich

ก่อนหน้านี้ Miller ได้รับการติดต่อจาก Dr. Emmerich หรือ "Huey" เพื่อนเก่าสมัยที่เคยทำงานร่วมกันในโปรเจค Peace walker ในอดีตให้เข้าไปพบที่โรงไฟฟ้า Serak Power Plant Miller จึงให้ Boss เข้าไปตรวจสอบทันทีเพราะ Dr. Emmerich คืออีกหนึ่งผู้ต้องสงสัยที่อาจรู้เห็นว่าใครเป็นคนวางแผนทำลาย Mother Base เดิมเมื่อ 9 ปีก่อน 

-เดินทางต่อมาที่ โรงไฟฟ้า Serak Power Plant ซึ่งที่นี่นั้นระดับการรักษาความปลอดภัยอยู่ในเกณฑ์ที่ต่ำมาก สามารถหลบลอบเข้าไปทางขวายาวไปจนถึงประตูด้านในสุดได้เลย

แต่ทันทีที่ผ่านเข้าประตูหลังไป Boss ก็ต้องตกใจที่ด้านในเป็นโรงเก็บหุ่นขนาดใหญ่และทหารที่เตรียมการอย่างวุ่นวายอยู่ และตอนนี้เจ้า Skull face ก็กำลังคุยอยู่กับ Dr. Emmerich ด้วย 



Dr. Emmerich – เดี๋ยวนะ นี่ไม่ใช่ที่เราตกลงกันไว้นี่ 
Skull face – มีการเปลี่ยนแปลงในขั้นตอนสุดท้ายนิดหน่อย 
Dr. Emmerich – การพัฒนาแบบควบคุมระยะไกลหรือแบบ A.I อัตโนมัติผมยังทำไม่เสร็จซะหน่อย 
Skull face – ใครบอกหรอว่าจะทำแบบ A.I น่ะ ? นั่นมันสมัยเมื่อ 10 ปีที่แล้วได้แล้วมั้งระบบแบบนั้น 
Dr. Emmerich – เราถึงพยายามพัฒนาให้มันสามารถควบคุมได้โดยมนุษย์ไงละ ผมรู้ว่าคุณรีบแต่ ผมต้องการเวลาอีกหน่อยให้มันสมบรูณ์กว่านี้นะ
ทหาร – เราดักพบสัญญาณการติดต่อระหว่าง Dr. Emmerich กับ Big Boss ครับ 

    

Skull face – ... มีแผนจะหนีแล้วหรอ ด็อกเตอร์ ห๊า ?
Dr. Emmerich – อ่อ คือ ... 
Skull face – งั้นข้าของขาคืนแล้วกัน !! … ตอนนี้ “Sahelanthropus” เป็นของข้าแล้ว  ฟังนะ ข้าอาจจะหลบอยู่ในเงามืดมานาน แต่ข้าก็จะไม่ยอมถูกปฎิเสธจากมาตฐานของคนทรยศแบบแกหรอกนะ ! และก็หวังว่าเพื่อนแกจะตามมาช่วยแกตามที่ขอด้วยนะ ... เอา Emmerich ไปขังไว้ที่ฐานใหญ่ !! เรามีอะไรที่ต้องใช้งานมันอีกหน่อย 



                                   Episode 12 – HELLBOUND 

Mission Task 
ภารกิจหลัก 
-ติดต่อกับ Dr. Emmerich
- ช่วยเหลือ Dr. Emmerich

ภารกิจย่อย
- ชิงหุ่น Walker ที่ Afghanistan Central Base Camp กลับฐาน
-ระหว่างอุ้มพา Dr. Emmerich หนีห้ามให้เขาถูกยิงบาดเจ็บ
-หาโปสเตอร์ Glamor model ใน Afghanistan Central Base Campให้เจอ
- หา Blueprint ใน Afghanistan Central Base Campให้เจอ


-หลังจาก Dr. Emmerich ถูกพาตัวไปแล้ว หุ่น “Sahelanthropus”  ก็จะถูกเก็บเข้าโรงเก็บพร้อมกำลังทหารและ Skull Face ที่ถอนกำลังออกไปจนหมด ด้านในโรงเก็บเหลือทหารไม่มาก ลอบปีนขึ้นไปที่โต๊ะทำงานด้านบนจะพบเอกสารบนโต๊ะเข้าไปสำรวจดูก็จะทำให้รู้ว่า Dr. Emmerich ถูกพาตัวไปที่ Afghanistan Central Base Camp จากนั้นก็พยายามลอบออกมาจากโรงไฟฟ้านี้ ซึ่งขากลับนี่จะต่างจากขาเข้าเพราะทหารจะเริ่มเข้ามาค้นหามากมายรวมทั้ง ฮ. ติดอาวุธที่บินตรวจการณ์อยู่รอบๆพื้นที่ด้วย
-หลังจากที่ลอบออกมาได้แล้ว เป้าหมายต่อไปคือ Afghanistan Central Base Camp ที่อยู่ด้านซ้ายของโรงไฟฟ้า ซึ่งที่นี่จะเป็นฐานใหญ่ของทหารโซเวียตประจำอัฟกานิสถานด้วยทำให้พื้นที่ทั้งกว้างและมีทหารคุ้มกันมากมายทั้งรถหุ้มเกราะและ Walker ที่ทหารใช้ในการลาดตระเวน เมื่อเข้ามาแล้วจัดการทหารตัวใดตัวนึงเพื่อข่มขู่เอาที่อยู่ของ Dr. Emmerich  ซึ่งจะอยู่ในโรงเก็บเครื่องบินฝั่งซ้ายด้านในสุด พื้นที่นี้อาจกว้างแต่ก็มีสิ่งกำบังมากอยู่ที่สามารถลอบเข้าไปถึงที่หมายได้ แต่ด้านหน้าห้องทำงานของ Dr. Emmerich  นั้นมีทหารคุ้มกันอยู่หลายคนมาก จึงจำเป็นต้องใช้ D-Dog เป็นตัวล่อพวกมันด้วยการเห่า


Dr. Emmerich  - Snake ? นั่นใช่คุณแน่หรอ ?
Big Boss - Dr. Emmerich เชิญไปกับผม !

-ทันทีทีได้ตัว Dr. Emmerich มาแล้วแต่ไม่สามารถใช้บอลลูนพาเขากลับไปอย่างง่ายดายแน่ ซึ่งต้องแบกเขาไปจุดรับตัวที่ ฮ. จะลงมารับที่หน้าฐาน หรือจะใช้ Walker Gear ในห้องทำงานแบกตัว Dr. Emmerich  ลุยออกมาก็ได้ เป้าหมายคือจุดลงจอดรับตัวที่หน้าทางเขาฐาน

แต่ระหว่างที่ ฮ. กำลังลงจอดเพื่อเข้ามารับตัว หุ่นขนาดใหญ่ก็โผล่ออกมาขัดขวางพร้อมกับสาวพลังจิตและ Skull face ที่ยืนสั่งการอยู่ในมือของหุ่นยักษ์ 






Ocelot – นี่แหละ เมตัลเกียร์ของพวกโซเวียต !!
Dr. Emmerich – เป็นไปไม่ได้ ! ก็ผมยังสร้างไม่สำเร็จเลยนี่ 
Skull face - Dr. Emmerich คุณถูกไล่ออก คุณไม่จำเป็นกับงานของผมอีกแล้ว นี่คือ “Sahelanthropus”  ของจริง !! แกกับเพื่อนแกต้องตายที่นี่ วันนี้ ..วันที่ อาวุธ รู้จักเรียนรู้ที่จะพัฒนาตัวเองให้สูงสุด !! 

-จากนั้นก็อุ้มพา Dr. Emmerich หนีออกจากที่นี่ไปก่อน ตอนนี้จะมีจุดลงจอด ฮ. จุดใหม่ขึ้นมาให้ เป้าหมายคือ เข้าไปที่จุดลงจอด ฮ. โดยที่หุ่น “Sahelanthropus”  ไม่เห็น ฮ. ถึงจะเข้ามาลงจอดได้ แต่ถ้ามันยังตามไล่ทันอยู่ จะไม่สามารถขึ้น ฮ. ได้ต้องล่อมันไปให้ไกลจากจุดลงจอดให้ได้เสียก่อนค่อยวนกลับมาที่จุดรับตัว

ทันทีที่ขึ้น ฮ.ได้ก็จับปืนกลยิงถล่ม “Sahelanthropus”  ที่กำลังจะโดดตามมาให้ถูกทำลายตกไประเบิดด้านล่างซะ Big Boss ก็จะพา Dr. Emmerich หนีออกมาได้สำเร็จ



Dr. Emmerich – มันคือ หุ่น 2 เท้าที่ถูกพัฒนาขั้นสูงสุดของอาวุธในยุคสมัยนึงของมนุษย์ มันคือ  “Sahelanthropus”  ทำไมพวกมันทำสำเร็จโดยไม่ต้องมีผมละ ?


Mother Base, Seychelles Water ที่ห้องสอบสวน 101 Command Platform 6 ชั่วโมงหลังจาก Dr. Emmerich ถูกทรมานอย่างหนัก ...... 



Dr. Emmerich – ทำไมถึงทำแบบนี้ ผมอยู่ข้างพวกคุณนะ แล้วทีเขาละ มิลเลอร์เป็นคนติดต่อกับ Cipher มาตั้งแต่แรกเมื่อ 9 ปีก่อนนะ เขาทำงานให้มันนะ เขานั่นแหละคนทรยศ !!  นั่นๆ อะไรเซรั่มอีกแล้วหรอ ไม่ๆๆๆ ม่ายยยย !! ทำไม ??
Miller – แกคือคนที่รอดชีวิต พวกเราสูญเสียหมดทุกอย่าง ยกเว้นนาย  
Dr. Emmerich – อ๊ากกกกกกกกกกกก !!



Miller – ยาที่ทำให้พูดความจริงไม่ได้ผล เขาเหมือนมียีนต์พิเศษบางอย่างปกป้องอยู่ 
Big Boss – แล้ว เขาพูดอะไรออกมาบ้าง ?
Miller – ประโยคเดียวกับเมื่อ 6 ชั่วโมงที่แล้ว “ผมไม่รู้จริงกับเรื่องอาวุธนิงเคลียร์เมื่อ 9 ปีก่อน ไซเฟอร์จับผมไปหลังจากที่มันโจมตีแล้ว ” 
Big Boss – นายยังมั่นใจว่าเขาทรยศอยู่อีกหรอ 
Miller – แน่นอน แต่ตอนนี้ยังพิสูจณ์ไม่ได้ก็เท่านั้น 
Big Boss – เราต้องพิสูจณ์ให้รู้ความจริง่อนถึงจะจัดการกับเขา จับตาดูเขาไว้แล้วกัน อย่าเพิ่งบอกใครว่าเขาอยู่ที่นี่ด้วย
Miller – แต่เราจะให้เขาทดลองผลงานวิจัยต่างๆของเขาต่อที่นี่ เพราะมันคงดีกับพวกเรา พวกมันเอาเขาตายแน่ถ้าเราปล่อยเขาไปตอนนี้ 



Ocelot – บอส !! มีข้อมูลน่าสนใจบางอย่างถึงเรื่องเหตุผลที่ว่า ทำไมพวกมันถึงเรื่องอัฟกานิสถาน ด็อกเตอร์บอก พวกมันค้นพบอะไรบางอย่างที่ แอฟริกากลาง Cipher กำลังดำเนินการงานทดลองใหม่ของมันอยู่ที่นั่น 
Big Boss – ทดลองอะไรที่แอฟริกา ?
Ocelot – ด็อกเตอร์บอกว่าเขาไม่รู้รายละเอียดอะไรเลย แต่มันก็มีเหตุผลอยู่ “Sahelanthropus” คงไม่ใช่สิ่งที่เดียวที่มันทำสำเร็จ ที่ แอฟริกาต้องมีบางอย่างที่พวกมันตามหาอยู่แน่นอน อาวุธที่เหนือกว่า เมตัลเกียร์ !!
Big Boss – คงไม่ได้หมายถึงนิวเคลียร์อีกลูกหรอกนะ !! 


                                                  Weapon Customize

หากขยันทำเควสย่อย Side OPS บ่อยๆจนเปิดภารกิจมาถึง 107 จะมีภารกิจช่วยเหลือช่างทำปืนในตำนานที่ชื่อ The Legendary Gunsmith ออกมา ซึ่งจะเป็นการเข้าไปช่วยเหลือ Gray Mongoose ช่างทำปืนในตำนานออกมาจากฐานศัตรู เมื่อช่วยมาแล้วมันก็จะหนีไปจนถูกจับอีก ทำให้ต้องตามไปช่วยมันถึง 3 ครั้งคือ ภารกิจ 107 – 109 เมื่อช่วยมาจนครบแล้วเขาก็จะสอนวิธีปรับปรุงต่อเติมปืนให้ ทำให้คำสั่ง Customize มีเมนู Weapon เพิ่มขึ้นมาให้ใช้ ซึ่งจะสามารถแต่งเติมปืนที่มีอยู่ด้วยชิ้นส่วนต่างๆที่เก็บได้แล้ว


ทันทีที่เชื้อไฟถูกขุดคุ้นจนได้ความไปถึงสถานที่แห่งใหม่ที่ดูจะเป็นที่ปิดบังความลับชิ้นใหญ่ของ Cipher ไดมอนด์ ด็อก จึงไม่รอช้าที่จะส่ง Big Boss เข้าพื้นที่ไปสืบหาความจริงที่ Angola ใน Africa ทันที ...


Miller –  บอส ผมมีอะไรจะบอกอย่างนึง ผู้พันซีโร่ เพื่อนเก่าหายหน้ายกตัวจากสังคมไปเมื่อ 10 ปีก่อน คุณสงสัยว่าเขาอาจเกี่ยวข้องกับเรื่องของฐานคุณที่ถูกทำลายเมื่อ 9 ปีก่อน แต่ข่าวมีมาว่าเขากำลังป่วย ความรู้สึกผมคิดว่าไม่ใช่คำสั่งของ ผู้พันซีโร่ ก็เหลือแต่คนที่ Dr. Emmerich ทำงานให้มัน ซึ่งเพราะเขาโดนบังคับ ผมแน่ใจเพราะรู้จักเขาดีพอ มันคือชายไร้หน้า Skull Face มันนั่นแหละเป็นคนทำลายฐานของคุณเมื่อ 9 ปีก่อน ผู้บัญชาการณ์ของหน่วย XOF อดีตหน่วย FOX ของ Cipher มันคงอาจแยกตัวออกมาและใช้หน่วย XOF ชิงอำนาจทั้งหมดจาก Cipher พูดง่ายๆก็คือ The Cipher ที่เรากำลังล่า ไม่ใช่ ผู้พันซีโร่ หรือมากกว่านั้น ผู้พันซีโร่ ที่ดูเหมือนจะไม่เกี่ยวข้องและหลบซ่อนอยู่ในเงามืด ก็คือ Skull face !

สาธารณรัฐแองโกลา (Republic of Angola) หลังจากได้รับเอกราชจากโปรตุเกสเมื่อปี 1975  และเป็นประเทศสังคมนิยมค่ายโซเวียตซึ่งตกอยู่ในภาวะสงครามกลางเมืองมาโดยตลอด ก่อนการล่มสลายของสหภาพโซเวียต และก่อนที่แองโกลาได้เปลี่ยนชื่อประเทศจาก “People’s Republic of Angola” เป็น “Republic of Angola” ในปี 1992 จนนำไปสู่การดำเนินนโยบายปฏิรูปเศรษฐกิจเสรี และระบอบประชาธิปไตยแบบหลายพรรคการเมืองแทนการปกครองระบอบคอมมิวนิสต์เดิมนั้น 




แองโกล่า ประเทศนี้ยังคงร้อนระอุไปด้วยสงครามภายในระหว่าง MPLA พรรคการเมืองที่กำลังพยายามจัดตั้งรัฐบาล กับ พรรคฝ่ายค้าน UNITA ที่ยังไงก็ไม่ยอมรับผลการเลือกตั้งเพราะอ้างว่าได้มาอย่างไม่ขาวสะอาด ทั้งนี้ก็เพราะผลประโยชน์ที่มีมากมายจากทรัพยากรในประเทศทั้ง  บ่อเพชรขนาดใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ซึ่งปัจจุบันผลิตได้ปีละ 9 แสนกะรัต (ก่อนหน้าจะเกิดสงครามกลางเมืองผลิตได้ปีละประมาณ 2 ล้านกะรัต)  การทำเหมืองแร่ และ ธุรกิจการขุดเจาะน้ำมันที่มีมูลค่าการส่งออกมากกว่าร้อยละ 90 ของมูลค่าการส่งออกทั้งหมดประเทศ การที่จะทำทุกอย่างเพื่อให้ได้มาซึ่งผลประโยชน์จากการสัมประทานการขุดเจาะน้ำมันนั้นจึงเป็นเรื่องที่ MPLA และ UNITA แคลงใจกันมาตลอด

Cr. http://pi-nu.blogspot.com/2013_08_01_archive.html


                                                  Episode 13 – PITCH DARK


Mission Task
ภารกิจหลัก
-ทำลายถังน้ำมันขนาดใหญ่ในโรงกลั่น
- ปิดระบบการทำงานของโรงกลั่นที่ห้องควบคุม

ภารกิจย่อย
-ช่วยทหารเด็กที่หมู่บ้าน Masa sealed กลับฐานให้หมด (ใส่รถจิ๊ปแล้วยกขึ้นบอลลูนไปพร้อมๆกันเลย)
-หนีออกจากโรงกลั่นก่อนที่มันจะถูกปิด (ปิดระบบก่อนวางระเบิดแล้วไปกดระเบิดหน้าทางออกโดยไม่มีเจอศัตรูเลย)
-เอา
Walker กลับมาฐานด้วย

** อาวุธจำเป็นที่สมควรต้องติดตัวมาคือ C4 **




Miller –  เป้าหมายคือ Mfinda Oilfield โรงกลั่นน้ำมันขนาดใหญ่ทางเหนือจากจุดลงจอด ที่กำลังมีน้ำมันรั่วสกปรกไปทั่วพื้นที่เพราะท่อส่งน้ำมันแถวแม่น้ำ Munene เกิดเสียหาย หรือ จงใจเสียหาย ทำให้ชาวบ้านที่อยู่ท้ายแม่น้ำเจอไม่สามารถเพราะปลูกและใช้ดื่มกินได้ ท่อที่มาจากโรงกลั่นนั้น ทำลายมันซะ ลูกค้าเป็น NGO ที่ห่วงใยเรื่องสิ่งแวดล้อมจ้างเรามาเพื่อให้หยุดการรั่วของน้ำมัน มันก็อาจฟังดูจะใจบุญไปหน่อยสำหรับพวกเรา แต่เชื่อเถอะเรามีบางอย่างต้องขุดคุ้ยที่นั่นด้วย เพราะจริงๆ โรงกลั่น Mfinda ถูกเจ้าของเดิมทิ้งร้างไปนานแล้วจนกลุ่มกบฏ UNITA เข้ามายึดแล้วเริ่มเดินเครื่องการทำงานอีกครั้ง ซึ่งก็ดูเหมือนจะไฮเทคเกินราคาของกลุ่มกบฏบ้านนอกอย่าง UNITA ไปนิด โดยข่าวกรองของเราคาดว่าน่าจะเป็น Cipher ตามรอยพวกกบฏ UNITA ก็จะรู้ว่าใครอยู่เบื้องหลังเอง โชคดี บอส

-หลังลงจอดปีนเขาขึ้นไปหน่อยก็จะถึงหมู่บ้าน Bwala Ya Masa ที่จะพบว่าถูกผลกระทบจากน้ำมันรั่วและถูกยึดครองโดยกลุ่มกบฎจนชาวบ้านล้มตายหนีหายไปหมด เมื่อลอบเข้าไปจนถึงท้ายหมู่บ้านจะเห็นว่า แม้แต่เด็กหลายคนในหมู่บ้านก็ถูกจับเป็นทหารของกลุ่มกบฎด้วย แน่นอนพวกเขาทำไปเพราะยังเด็กและถูกบังคับ การยิงพวกเขาจะทำให้เกมโอเวอร์ทันทีด้วย ช่วยพวกเขากลับมาฐานให้หมดจะดีมากจากนั้นก็ลอบออกไปจนถึงท้ายหมู่บ้านเพื่อเดินทางต่อไปจนถึงเป้าหมายที่โรงกลั่นน้ำมัน
- จากที่หน้าโรงกลั่น จุดหมายมี 2 อย่างคือระเบิดแท็งค์น้ำมัน และ ปิดระบบที่ห้องควบคุม ซึ่งจะทำอะไรก่อนก็ได้
1.ซึ่งถ้าจะเอาแบบง่ายไปหายาก ขาเข้านั้นไม่ยุ่งยากเพราะสามารถลอบเข้าจากทางเข้าชิดฝั่งซ้ายของขอบบ่อน้ำมัน เกาะที่กั้นขอบพื้นที่หลบทหารลงไปที่ชั้นล่างด้านซ้ายได้จากนั้นก็ขึ้นบันไดซ้ายสุดไปที่หน้าทางเข้าแท็งค์น้ำมันขนาดใหญ่ที่เป็นเป้าหมายแรกได้เลย ใช้
C4 ติดตั้งแล้วลงมาที่ปลอดภัยด้านล่างก่อนจุดระเบิดทำลายมันซะ จากนั้นก็จะทำให้ทหารมากมายรอบพื้นที่ปั่นป่วนจนต้องเข้ามาดูสถานการณ์ ก่อนอื่นหลังจากการะเบิดแล้วออกนอกพื้นที่ระเบิดก่อน ขึ้นบันไดไปตามทางเดินกลางหลบทหารชุดแรกที่เข้ามาดูพื้นที่ให้หมดก่อน ที่เหลือจะมีทางเลือก 2 ทางคือฝั่งซ้ายหรือขวา ทางฝั่งขวาจะเป็นทางอ้อมไปด้านหลังที่มีบันไดขึ้นไปชั้นบนอยู่ ระหว่างนี้จะมีทหารศัตรูมากมายกำลังวุ่นวายอยู่ แต่ตราบใดที่ยังไม่เห็นมันก็ยังไม่โจมตี พยายามหลบขึ้นไปจนถึงห้องควบคุมด้านบนเข้าไปปิดระบบการทำงานทั้งหมด แต่จะลำบากตอนนี้ออกมาเพราะทหารจะมีมากมายกว่าเดิมรวมทั้งทหารที่ขี่ Walker จากด้านนอกด้วย แต่ถ้าต้องการจะเก็บ Walker ศัตรูกลับฐานเพื่อเอา Task mission ก็ควรใช้วิธีนี้
2. แบบยากไปหาง่าย ปิดระบบก่อนแล้วค่อยระเบิด ก็ต้องอ้อมไปทางเข้าฝั่งขวาก่อนแล้วลอบขึ้นไปตามบันไดด้านหลังตึก เข้าไปห้องควบคุมด้านบน ศัตรูเยอะกว่าแล้วค่อยย้อนมาวางระเบิดที่แทงค์ไว้ ค่อยๆลอบออกจากที่นี่แล้วไปกดระเบิดด้านหน้าทำให้ถังน้ำมันระเบิดแล้วค่อยหนีออกมาทีเดียวซึ่งก็จะไม่ได้รับความวุ่นวายจากทหารที่ขี่
Walker ที่เข้ามาร่วมแจม ซึ่งถ้าทำ 2 ภารกิจจนระเบิดทุกกอย่างแล้วหนีออกมาแบบไม่มีศัตรูเจอเลย ก็จะทำให้ได้ Task Mission เพิ่มด้วย

และทันทีที่ระบบถูกปิดในบ่อน้ำมันก็ปรากฎซากศพมากมายจากก้นบ่อที่โผล่ขึ้นมา ตอนนี้ทั้ง Boss และ Ocelot คนดูแลภารกิจก็ยังไม่เข้าใจแผนการณ์ของ Cipher แต่ตอนนี้ต้องหนีออกจากที่นี่ก่อน ไม่ว่าจะเลือกแผนไหนหลังออกมาได้แล้วก็เลือกจุดลงจอด ฮ. แล้วหนีออกจากที่นี่ได้เลย


Ocelot –  บอส หลังจากเจอศพนั่นเราคงต้องหาคำตอบต่อกันหน่อยแล้ว เริ่มจากไปเช็คที่บริษัท SANR Johannesburg  เจ้าของเดิมของโรงกลั่นกันก่อน ว่ามันเกิดอะไรขึ้นที่นั่นกันแน่ เพราะทหารที่คุมโรงกลั่นเป็นกองกำลังของแอฟริกาไม่ใช่ พวกกบฏ UNITA ตามรายละเอียดที่เราได้มา และอีกอย่างบอร์ดของบริษัทก็เป็นการร่วมทุนจากที่อื่นด้วย เมื่อเราสืบตามแหล่งเงินทุนแล้วพบว่า เป็นการร่วมทุนเพื่อซื้อกิจการ พูดอีกอย่างก็คือมีคนพยายามใช้บริษัท SANR บังหน้าในการทำเรื่องชั่วๆอยู่ ซึ่งดูจากศพที่อยู่ในบ่อนั่นแล้วนึกไม่ออกเลยว่าพวกมันทำอะไรกันอยู่แน่  ซึ่งยังไม่รู้ว่าจากไหนบ้าง แต่อีกไม่นานเราคงรู้แน่นอน  

Dr. Emmerich – สเนค! ผมปรับปรุง Walker Gear ให้สำหรับคุณโดยเฉพาะเสร็จแล้วนะ ปรับปรุงให้เงียบขึ้นเพื่อเข้ากับภารกิจคุณ แล้วคุณยังสามารถบังคับมันจากระยะไกลได้ด้วยนะ ผมเรียกมันว่า เอ่อ D – Walker มีทั้งเกราะที่แข็งแกร่งและปืนยาสลบในแบบของคุณด้วย แต่คุณก็สามารถปรับแต่งมันได้ตามใจชอบนะ


** ตอนนี้ Boss ก็จะมีเจ้า D – Walker อุปกรณ์สารพัดประโยชน์ที่เป็นเสมือนผู้ร่วมงานมาอีก 1 ตัว หุ่น D – Walker เป็นคู่หูในแบบกึ่งยิงกึ่งผ่านคือสามารถใช้ในการลักลอบก็ได้หรือจะลุยแหละก็ทำได้ดีด้วยเพราะมีทั้งปืนยาสลบและปืนกลหนักกับปืนไฟแล้วแต่จะติดตั้งอีก ข้อเสียที่น่ารำคาญของมันคือเรียกแล้วก็จะมานานมาก   **



                                   Episode 14 – LINGUA FRANCA

Mission Task
ภารกิจหลัก
-ค้นหาตัวล่ามแอฟริกา
- ตรวจสอบและค้นหานักโทษที่ชื่อ
Viscount
- ช่วยเหลือนักโทษที่ชื่อ Viscount
กลับฐาน

ภารกิจย่อย
-เก็บไพล์เพื่อรู้ตำแหน่งนักโทษเป้าหมาย
-ขโมยตู้คอนเทรนเนอร์ที่
Kiziba Camp
-ช่วยเหลือนักโทษทั้ง 3 คนที่ Kiziba Camp
-
ฟังทหารทีสอบสวนนักโทษทั้งหมดจนจบ

งานนี้คงต้องทิ้งเรื่อง Cipher หรือ Skull Face เอาไว้ก่อนเพราะ Ocelot สั่งให้ตามจับล่ามภาษาแอฟริกามาให้เร็วที่สุดเพื่อจะดวกในการทำงานของ Boss ในการคุยกับทหารแอฟริกาให้รู้เรื่อง และในพื้นที่จะมีนักโทษอังกฤษถูกจับตัวไว้ด้วย หนึ่งในนั้นจะมีคนที่ชื่อ Viscount ที่เป็นเป้าหมายของผู้ที่ว่าจ้างอยู่ด้วย เป้าหมายของภารกิจครั้งนี้คือลอบเข้าไปที่ Kiziba Camp เพื่อชิงตัว Viscount ออกมา

-เมื่อลง ฮ. มาแล้วลอบเข้าไปที่พื้นที่เป้ามหายคือที่ Kiziba Camp ส่องกล้องสำรวจดูที่หน้าค่ายจะพบหัวหน้าทหาร FCA ที่เป็นล่ามภาษาแอฟริกาเป้าหมายที่กำลังสอบสวนนักโทษอยู่ เมื่อส่องสำรวจดูดีแล้ว Ocelot จะแจ้งมาว่าไม่ใช่นักโทษเป้าหมายที่ชื่อ Viscount แต่ถ้าอยากจะช่วยก็ทำได้เลยเหมือนกัน เป้าหมายของภารกิจคือ ลอบตามหัวหน้าทหาร FCA  คนนี้ไปจนกว่ามันจะพาไปหานักโทษที่ชื่อ Viscount จึงห้ามไปฆ่ามันก่อนเด็ดขาด ลอบตามไปจนกว่านักโทษจะถูกคุมตัวแยกทางไป เข้าไปช่วยนักโทษคนแรกซะ แล้วตามล่ามทหาร FCA ต่อจนถึงจุดที่ 2 มันก็จะเข้าไปสอบสวนนักโทษคนที่ 2 ต่อ ซึ่งเมื่อส่องสำรวจดูแล้ว Ocelot ก็ยังบอกว่าไม่ใช่นักโทษเป้าหมายอีก รอให้มันสอบสวนจบแล้วเดินแยกไปก็จัดการเข้าไปช่วยนักโทษคนที่ 2 ซะแล้วตามล่ามทหาร FCA ไปต่อ  จากนั้นหัวหน้าทหารมันจะนั่งรถจิ๊ปไปต่อ 
-รีบตามอ้อมไปดักหน้าขุดหมามันก็คือที่กักขังนักโทษในบ้านข้างหน้า ทางฝั่งซ้ายจะมีกรงขังนักโทษซึ่งจะพบนักโทษหญิงคนที่ 3 อยู่เธอคือนักสัตว์วิทยาสาวที่มี Rank A+ เชียวนะ  รอจนกว่าหัวหน้าทหารมันเข้ามาสอบสวนจบแล้วเดินออกไปก็ลอบเข้าไปช่วยนักโทษหญิงกลับฐานด้วย จากนั้นลอบเข้ามาที่บ้านทางซ้ายด้านในจะมีไพล์อยู่บนโต๊ะกับ Blueprint Stun Hand สำรวจไฟล์แล้วจะเห็นำแหน่งนักโทษคนสุดท้ายที่ทุ่งด้านหลัง ซึ่งก็คือ นักโทษเป้าหมายที่ชื่อ Viscount ก่อนไปลอบจัดการลอบจับตัวหัวหน้าทหารที่เป็นล่ามแอฟริกากลับฐานก่อนนะ แล้วค่อยไปจุดของนักโทษซึ่งจะมีทหารคุมแค่คนเดียว จัดการช่วย  Viscount ซะแล้วหนีกลับขึ้น ฮ. ได้เลย



Ocelot – บอส หนึ่งในนักโทษของอังกฤษบอกเราถึงเรื่อง Viscount ว่ามันเป็นสายลับสองหน้าที่กุมความลับของเรื่องของบ่อขุดเจาะน้ำมันและพยายามจะขายข่าวให้พวกกบฎ พวกแอฟริกันเลยจับตัวเขา และอาจมีความลับอะไรอีกเยอะที่เขาเก็บไว้เกี่ยวกับแผนการของ Cipher ทีบ่อน้ำมันนั่น ตอนนี้ผมจะขังเขาไว้ก่อนเพื่อจะพูคุยโน้มน้าวเขาได้ตอนหลัง แต่มีข่าวดีคือเราได้ข้อมูลดีๆมาจากมันด้วย มันอ้างว่าทั้งฝ่าย PF และ CFA ต่างก็พยายายสะสมหุ่น Walker Gear ไว้มากมาย ซึ่งมันเป็นเทคโนโลยีของพวกโซเวียตแล้วก็ยังเป็นแค่ตัวต้นแบบด้วย ก็คงมีแต่ Cipher นั่นแหละที่จะเป็นตัวเชื่อมเรื่องนี้กับทุกฝ่ายได้ คำถามคือ Cipher มันทำไป ทำไม ??


** เข้าไปดูในรายชื่อ Side op List จะเห็นมีภารกิจย่อยที่ชื่อ Visit Quiet ตัวสีเหลืองขึ้นมา ซึ่งเป็นภารกิจรับตัว Quiet **  ให้กลับไปที่ฐานตรงส่วนของ Medical ได้เลย ลงไปที่คุกตรงหน้าที่ลงจอด ฮ. จะพบ Ocelot กำลังรออยู่ที่หน้ากรงขัง




Ocelot – ธอ เอ่อ พยายามจะถอดเสื้อผ้าตลอดเลย เรารู้แล้วว่าเธอฟังภาษาอังกฤษเข้าใจแต่เธอไม่ยอมพูดหรือแม้กนะทั้งหายใจ !
Boss – อะไรนะ !
Ocelot – ก็เธอไม่มีปอด หายใจทางผิวหนังแทน เสื้อผ้าเลยปิดกั้นการดูดซับอาหารของเธอ เห็นมั๊ย เธออาบน้ำ แน่นอนเธอไม่ได้ร้อนหรือสกปรก เธอกำลังดื่มน้ำ ผ่านผิวหนังของเธอไง
Boss – แล้วเธอ จะไหวมั๊ยเนี้ย
Ocelot ไหวสิ แต่เธออาจเคลื่อนไหวไม่ได้ในน้ำเท่านั้นเอง และก็ เธอไม่เคยกินอะไรเลยตั้งแต่เข้ามาที่นี่
Boss – เธอไม่กินเลยหรอ ?
Ocelot – ไม่ต้องกินมากกว่า ร่างกายเธอมีคอลโรฟิลด์สังเคราะห์และสร้างคาร์โบไฮเดรดจากน้ำได้ (Photosynthesis) เหมือนกันต้นไม้นั่นแหละ
Boss – Photosynthesis เป็นการชี้ขาดจากทีมแพทย์แล้วหรอ
Ocelot – เปล่า นี่เป็นแค่การคุยกันระหว่างเรา ความสามารถเธอเหมือนของ COBRA UNIT ของพวก THE GRU  ซึ่งเราก็ยังไม่รู้ว่ามันเป็นจะทำให้เกิดการติดเชื้อโรคร้ายอะไรกับเราหรือเปล่าด้วย ซึ่งผมก็ไม่อยากไปลงลึกจนถึงขั้นผ่าสำรวจเธอ มันคงไม่ดีกับเธอแน่นอน 
Boss – เราจะส่งเธอออกปฎิบัติงานเหมือนทหารคนอื่นได้มั๊ย
Ocelot – ไปคนเดียวหรอ ? อย่าเลย คุณก็รู้ความสามารถของเธอ ทำไมคุณไม่เอาไปช่วยงานด้วยละ เหมือนเธอจะชอบๆคุณอยู่นะ หมายถึงถ้าคุณคิดว่าเธอช่วยได้อ่ะนะ


** ตอนนี้ก็จะได้น้องเงียบ Quiet เข้าร่วมเป็น Buddy คนที่ 4 แล้ว ซึ่งความสามารถของเธอก็คือ ยิงสนับสนุนจากระยะไกล แต่ ก็ต้องควรระวังเพราะถึงแม้คุณจะไม่ได้สั่งให้เธอยิง หากเกิดมีการเปิดฉากยิงจากศัตรูเธอจะเก็บไม่เหลือโดยจะทำให้ทหารที่มี Skill ดีๆตายเรียบ ฉะนั้นการนำเอา Quiet ไปทำงานต้องเน้นงานที่คุณต้องการจะลุยเท่านั้น ไม่งั้นจะส่งผลเสียกับการเก็บทหารของคุณมากๆ **

และ หากว่าขึ้นไปที่ห้องพยาบาลที่ชั้นบนดู Boss จะพบสิ่งที่ทำให้เขาตกใจนั่นคือได้พบกับ Paz ที่ยังรอดชีวิต ทั้ง Ocelot และ Miller ต่างก็เข้ามาอธิบายว่า ระเบิดในช่องท้องของเธอไม่ทำงานและในตอนที่เธอกระโดดออกไปมันก็ยังไม่ได้ระเบิดแต่ ฮ. ที่ Boss นั่นถูก ฮ. ของทหาร Cipher ใช้ RPG ยิงใส่จนระเบิดต่างหาก แต่ก็มีเรื่องโชคร้ายในโชคดีเพราะ Paz เธอความจำเสื่อม เธอยังคิดว่าเธอยังอยู่ในปี 1974 ตอนภารกิจ Peace Walker ความทรงจำที่เกี่ยวกับงานสายลับที่เธอทำกับ Cipher นั้นเธอจำมันไม่ได้เลย ตอนนี้แม้แต่ Ocelot และ Miller ก็ยังถอดใจที่จะพยายามทำให้ความทรงจำให้เธอกลับคืนมา ซึ่งก็ต้องปล่อยเป็นหน้าที่ของ Boss ในการเยียวยาเธอแทน 



การจะนำความทรงจำของ Paz กลับคืนมานั้นต้องหารูปแห่งความทรงจำ (Memento Photo)  มาให้เธอดู ทั้งหมดมี 11 รูป ซึ่งสามารถหาได้จากพวกทหารประหลาดที่รอดชีวติเมื่อ 9 ปีก่อนจากภารกิจเสริม Side OPS – Wondering Mother base Soldier ที่ต้องไปตามจัดการจับหรือฆ่าทหารประหลาดที่รอดชีวิตจากเมื่อ 9 ปีก่อน ช่วงนี้ก็แวะเข้ามาหาเธอบ่อยๆ เพื่อเอารูปเก่าที่มีอยู่ 2 รูปให้เธอไปซะ ที่เหลือก็เข้ามาเก็บหนังสือให้เธอบ้างอะไรบ้างและก็ต้องรอหาทางเยียวยาเธอต่อไป ..

                                                   Memento Photo 

1.รูป Miller และ Paz ได้จาก Side Op 51
2.รูป Professor Galvez ได้จาก Side Op 52
3.รูป Swimsuit Paz ได้จาก Side Op 53
4.รูป Nuke ได้จาก Side Op 54
5.รูป Fishing ได้จาก Side Op 55
6.รูป Gallo Pinto ได้จาก Side Op 56
7.รูป Birthday Party ได้จาก Side Op 57
8.รูป Costa Rica ได้จาก Side Op 58
9.รูป Chicoได้จาก Side Op 59
10.รูป Futbol ได้จาก Side Op 60
11. รูป Morpho Butterfly สุดท้ายได้หลังจากเอาทั้ง 10 รูปไปให้เธอแล้ว ซึ่งจะแปะไว้ที่พนังฝั่งซ้ายของประตูทางออกจากหน้าห้องของ Paz 




 และทันทีที่เอารูปสุดท้ายไปให้เธอ รูปผีเสือสีฟ้า ทันทีที่เข้าไป Boss จะเห็น Paz กำลังพยายามฉีกท้องตัวเองออกเพื่อบอกกับ Boss อีกครั้งว่าให้ระวังระเบิดอีกลูก มันเหมือนเดจาวูที่ Boss ต้องตะโกนลั่นพร้อมเอื้อมมือที่เอื้อมไม่ถึงออกไปอีกครั้ง paz ควักระเบิดออกมาให้เห็นก่อนมันจะระเบิดขึ้นทันที หลังจากที่ควันจาก Boss พบตัวเองฟื้นขึ้นมาที่หหน้าฐานกับผีเสื้อสีฟ้าตัวนึงที่เกาะอยู่ที่พนังที่เขียนไว้ว่า Peace (สันติภาพ) วิญญาณหรืออะไรก็ตามที่มาย้ำเตือนให้ Big Boss ไม่ลืมเลือนถึงสันติภาพที่แท้จริงที่ Paz ฝันถึงซึ่งมันยังไม่เกิดขึ้นซักที 




                                          ถึงตอนนี้จะได้  BUDDY ครบแล้ว 

1.ม้า D – House 
-ได้อยู่แล้วตั้งแต่ต้นเรื่อง
2. หมา D – Dog หรือเจ้า DD 
-เก็บลูกหมาตอน Episode 4 – C2W ตรงที่ลงจอด ฮ. แล้วนำกลับไปส่งที่ฐานให้ Ocelot
-กลับฐานจนเจออีเวทน์ที่ Ocelot พยายาฝึกมัน
- กลับฐานเจอมันตอนโตพร้อมใช้งาน
3. หุ่น D – Walker 
- ทำภารกิจ Side OPS - Make Contact with Emmerich จนเข้า Episode 12 เพื่อช่วย Dr. Emmerich กลับฐาน
- Dr. Emmerich จะสร้างให้หลังจบ Episode 13
4. น้องเงียบ Quiet 
- เจอเธอดักยิงที่ Shifap Ruin ใน Episode 11 แล้วพากลับฐาน
- กลับฐานจนเจออีเวทน์ที่เธอพยยามจะตามขึ้น ฮ.
- รอจนมี Side op List ที่ชื่อ Visit Quiet ขึ้นมาให้ทำแล้วเข้าไปหาเธอที่คุกที่โซน Medical ก็จะได้เธอร่วมทีม

** การจะทำให้ DD เติบโตและ Quiet เข้าร่วมทีมนั้นจำเป็นต้องใช้เวลาและปล่อยให้เวลาผ่านไป ซึ่งจะนับเฉพาะเวลาที่ทำภารกิจหลักเท่านั้น ที่เหลือก็พยายามกลับฐานบ่อยๆก็จะเจออีเวนท์ของทั้ง DD และ Quiet ให้ครบก่อนเท่านั้นเอง ** 
** Buddy ทุกตัวก็จะมีระดับ Bound Level ที่ได้จากการร่วมทำงาน เรียกว่าระดับความจงรักภัคดีก็ได้ (นับเฉพาะภารกิจหลัก) ซึ่งสำหรับไว้ใช้ประกอบเงื่อนไขในการส่วมใส่อาวุธและเครื่องป้องกันของแต่ละตัวด้วย **





                                   Episode 15 – FOOTPRINTS OF PHANTOMS 


Mission Task 
ภารกิจหลัก 
-ทำลาย  Walker Gear ทั้ง 4 ตัว 

ภารกิจย่อย
- ขโมย Walker Gear ทั้ง 4 ตัว (ถ้าเลือกขโมยก็จะได้ทั้งภารกิจย่อยและหลักด้วย)
- ช่วยเหลือนักโทษ 2 คนที่หมู่บ้าน Ditadi
- เก็บพืชสมนไพร digitalis แถวๆหมู่บ้าน Ditadi มาด้วย 
-ขโมยรถบรรทุกแถวๆหมู่บ้าน Ditadi มาด้วย 

Miller  – บอส มีงานจากกลุ่มประชาชนปลดปล่อยแองโกล่า People Movement for the Liberation of Angola (MPLA) ได้แจ้งมาว่าทางกองกำลังร่วมแห่งอัฟริกา CFA  (Contract force of Africa) ที่หมู่บ้าน Ditadi มี Walker Gear ใช้งานอยู่ งานของเราคือลอบเข้าไปทำลายมันหรือชิงมันมาซะ ที่เรารับงานนี้เพราะเราแน่ใจว่า Walker Gear ที่ว่าพวก CFA  ได้มา Cipher แน่นอน โชคดีบอส 

-เมื่อ ฮ. ลงจอด ลอบเข้าไปที่หมู่บ้าน Ditadi ซึ่งเป็นหมู่บ้านร้างเล็กๆที่ไม่ใหญ่โตมาก ซึ่งหุ่น Walker Gear นั้นจะอยู่ทั้ง 2 ฝั่งซ้ายและขวาของหมู่บ้านอย่างละ 2 ตัว เป้าหมายของภาริจให้ทำลายแต่ชิงเอามันไปจะเหมาะกว่า  สามารถอ้อมมาที่เนินเขาหลังหมู่บ้านได้ ฝั่งขวาจะมีทหารอยู่สามารถลอบจัดการพวกมันแล้วชิงเอา Walker Gear กลับฐานได้เลย ส่วนฝั่งซ้ายจะมีทหารเป็นกลุ่มยืนอยู่ ใช้วิธีสร้างความวุ่นวายโดยใช้เจ้า DD เห่าให้พวกทหารเข้ามาดูให้หมดแล้วค่อยเข้าไปขโมย Walker Gear อีก 2 ตัวทางฝั่งซ้ายได้ และอย่าใช้บอลลูนลอยขึ้นตรงนั้นเพราะทหารจะเห็นและยิงตกก่อนแน่นอนเพราะเป็นหมู่บ้านเล็กๆ ควรขับ Walker Gear ออกมาห่างหมู่บ้านแล้วค่อยสอยขึ้นบอลลูนจะเหมาะกว่า จากนั้นก็หนีออกจากพื้นที่ได้เลย



Miller – เรามาถูกทางแล้ว บอส Walker Gear ที่ได้มาเป็นของที่ หมู่บ้าน Ditadi กำลังจะนำส่งฐานใหญ่ของ CFA  (Contract force of Africa) และแน่นอนว่าคงซื้อผ่านเจ้าของรายเดียวคือบริษัท SANR ... ใช่เลย มันเป็นแค่เปลือกนอกที่ บริษัท SANR ถูกมองว่าเป็นเจ้าของกิจการโรงกลั่นน้ำมัน Mfinda เพราะคนที่อยู่ฉากหลังก็คือ Cipher แน่นอน และดูเหมือนการส่งออก Walker Gear ของมันก็กำลังเริ่มขึ้นด้วย และมันก็ต้องอาศัยเครือข่ายต่างๆของ PF ที่อยู่รอบทุ่งซาวาน่านี้ โดยมีทางขนส่งเดียวคือที่สนามบิน  Nova Braga ตอนนี้ผมกำลังส่งหน่วยข่าวกรองลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบเรื่องเครือข่ายของมันอยู่ เพราะถ้า Cipher มันขาย Walker Gear ให้ทาง PF มันก็ต้องช่องทางไหนที่ทาง PF จะจ่ายค่าตอบแทนให้ Cipher ซักทางแน่นอน และถ้าเราตามรอยเงินค่าตอบแทนนั่นมันก็จะพาเราไปถึงประตูบ้าน Cipher ได้แน่นอน .. 


                                      Episode 16 – TRAITOR CARAVAN 

Mission Task 
ภารกิจหลัก 
-ค้นหาและระบุตำแหน่งของรถบรรทุกสินค้า 
-ค้นหาและระบุตำแหน่งของรถถังคุ้มกันขบวน
- ขโมยรถบรรทุกเป้าหมายกลับฐาน 

ภารกิจย่อย
-จับตัวคนขับรถบรรทุกสินค้า
-เก็บไฟล์เพื่อรู้ตำแหน่งของรถ
-ฟังคนขับรถบรรทุกคุยกับทหารที่ Kiziba Camb จนจบ 
-จับทหารหน่วยคุ้มกันที่จอดอยู่ทางแยกตรงทางออกจากสนามบิน

** สิ่งจำเป็นต้องใช้ในภารกิจคือ ม้า และ RPG ** 

Miller – บอส หน่วยข่าวกรองของเรารายงานมาแล้วนะว่า ระบบการขนส่งของพวก PF นั้นได้รับการคุ้มครองจากทหารของ Cipher ด้วยในบางครั้ง โดยใช้การขนส่งแร่จากเหมืองในการบังหน้า แต่ดูเหมือนการรักษาความปลอดภัยของพวกมันก็เยอะเกินกว่าที่จะคุ้มกันรถขนแร่ธรรมดาแน่นอนเพราะมีรถหุ้มเกราะติดอาวุธนำและปิดท้ายขบวนเต็มไปหมด เราคงต้องไปตามดูเส้นทางขนส่งแร่พวกนั้นกันดูหน่อย  และเราไม่รู้ว่าอะไรอยู่ในนั้นเราจึงอยากให้คุณไปชิงมันกลับมาเพื่อตรวจสอบ ส่วนเส้นทางคร่าวของมันที่เรารู้มาคือมุ่งหน้าไปที่ค่ายทหารทางเหนือของสนามบิน Nova Braga และต้นทางน่าจะมาจากค่ายทหารแถวๆ หมู่บ้าน Ditadi คุณลองไปดูที่ต้นทางมันก่อนจะดีที่สุด ขโมยมันกลับมาให้เราอย่าทำลายมันบอส 

-หลังลงจาก ฮ. แล้วเข้าไปที่ค่ายทหารเป้าหมาย ทันทีที่เข้ามา Ocelot จะแจ้งว่า รถยรรทุกเป้าหมายได้ออกไปจากที่นี่แล้ว ที่ต้องทำต่อคือ เข้าไปอ่านไฟล์ในเต้นท์ทางซ้ายของค่าย เมื่ออ่านแล้วลองเปิดแผนที่ดูก็จะทำให้เห็นเส้นทางการขนส่งรถบรรทุกเป็นเส้นสีขาวจากค่ายที่ 18 ผ่านสนามบิน Nova Braga ผ่าน Kiziba Camp ไปสุดทางที่ โรงกลั่นน้ำมัน Mfinda




-หากคุณได้ไฟล์มาเร็วเมื่อมาถึงที่ค่ายทหารต้นทางจะยังเห็นขบวนรถบรรทุกแล่นออกไปอยู่ แต่ถ้าใช้เวลากว่าจะได้อ่านไฟล์นานรถก็จะออกจากต้นทางไปแล้ว ซึ่งก็ต้องรีบตามไปตามเส้นทางสีขาวที่ขึ้นมาในแผนที่ ซึ่งคุณสามารถดักปล้นรถจากตรงจุดไหนก็ได้ ก่อนจะถึงปลายทาง จุดที่เหมาะสมที่จะเป็นโจมตีคือระหว่างทางออกจากสนามบิน ขี้ม้าอ้อมมาดักมันได้เลย ขบวนรถจะมีรถถังคุ้มกันอยู่ด้วยและ ตรงทางเลี้ยวหลังจากออกจากสนามบินจะมีทหารคุ้มกันอยู่อีกชุด ซึ่งก็ควรเข้าไปจับมันให้ได้ Task Mission ไปก่อน แล้วขบวนรถก็วางระเบิดหรือ RPG ก็สุดแล้วแต่ เป้าหมายคือทำให้รถบรรทุกจอดโดยไม่ถูกทำลาย


-แต่ทันทีที่รถบรรทุกจอดแล้วจะเข้าไปขโมยก็จะเจอ Skulls 4 ตัวออกมาคุ้มกันทันที จากนั้นก็ต้องจัดการพวกมันให้หมดแล้วก็ขโมยรถบรรทุกกลับฐานได้เลย โดยการขับออกไปยังจุดปลอดภัยเพื่อจบภารกิจหรือใช้ บอลลูน + cargo 2 ยกลอยกลับฐานไปก็ได้


Miller – บอส เราตรวจสอบรถบรรทุกแล้ว มันมีสินเค้าอยู่ 2 ชนิด พวกแร่ต่างๆอย่างที่มันควรจะเป็น แต่มันไม่มีประโยชน์อะไรเลยต้องมาคุ้มกันอะไรขนาดนั้น เพราะมันมีสินค้าแอบแฝงมาตามที่เราคาดไว้ มันคือ “Yellow Cake” ใช่แล้ว มันคือวัตถุดิบที่ใช้ทำระเบิดนิวเคลียร์ แต่ Dr. Emmerich พูดออกมาตอนถูกสอบสวนว่า เมตัลเกียร์ ไม่สามารถใช้งานกับนิวเคลียร์ได้ แต่ ใครจะรู้ แต่ที่ได้มามันยังน้อยเกินไปที่จะผลิตหัวรบด้วยซ้ำ ซึ่งเราจะต้องหาคำตอบต่อไป ...



                               Episode 17 – RESCUE THE INTEL AGENT

Mission Task 
ภารกิจหลัก 
-ช่วยเหลือนักโทษเป้าหมายคนที่ 1
-ช่วยเหลือนักโทษเป้าหมายคนที่ 2

ภารกิจย่อย
-ชิงตัวเจ้าหน้าที่ CFA 2 คน 
- ช่วยนักโทษอื่นๆใน Kiziba Camp
-ขโมยรถหุ้มเกราะ 4 คัน
-ชิงตัวคนขับรถบรรทุกเป้าหมายมาด้วย

Miller – บอส มีเรื่องด่วนเข้ามา ตอนนี้หน่วยข่าวกรองที่เราส่งไปทำงานถูกควบคุมตัวไว้โดย CFA (Contract force of Africa) เราต้องช่วยพวกเขาออกมาให้เร็วที่สุด นั่นแปลว่าตอนนี้ Cipher คงรู้แล้วว่าเรากำลังตามติดมันอยู่ ถ้ามันสอบสวนคนของเราเสร็จมันต้องฆ่าทิ้งแน่นอน เราต้องรีบแล้ว อย่าปล่อยให้คนของเราตายนะบอส 

-เป้าหมายตัวประกันที่ต้องเข้าไปช่วยออกมามี 2 ที่คือใน Kiziba Camp กับในป่าด้านขวาของค่าย นักโทษที่อยู่ในค่ายนั้นถูกจับอยู่ในหลุมคุกที่มีทหารคุ้มกันไม่มาก เข้าไปจับขู่เอาตำแหน่งมาแล้วลอบเข้าไปช่วยออกมาได้เลย ซึ่งตัวประกันคนนี้บาดเจ็บมากจนไม่สามารถส่งทางบอลลูนได้ จึงต้องแบบพาไปส่งขึ้น ฮ. เท่านั้น  ส่วนจุดที่ 2 คือป่าทางขวาของค่ายนั้น นักโทษเป้าหมายจะอยู่ตรงกลางโขดหินที่มีทหารเกราะหนักคุ้มกันมากมาย ถ้าจะให้เหมาะควรไปช่วยนักโทษในป่าข้างฐานก่อนเพราะสามารถส่งขึ้นบอลลูนได้ แล้วค่อยเข้าไปช่วยตัวประกันในค่ายที่ต้องแบกไปขึ้น ฮ. จะได้หนีออกจากพื้นที่พร้อมตัวประกันคนสุดท้ายได้เลย สะดวกและประหยัดไม่ต้องเรียก ฮ. 2 รอบด้วย



                               Episode 18 – BLOOD RUNS DEEP

Mission Task 
ภารกิจหลัก 
-ฆ่าหัวหน้าทหารที่ Banpeve Plantation
-ฆ่า 5 นักโทษที่ Kungenga Mine

ภารกิจย่อย
-ช่วยเหลือเด็ก 5 คนออกมาจากเหมือง
-จับตัวหัวหน้าทหารที่ Banpeve Plantation
-จบภารกิจโดยพาตัวเด็กขึ้น ฮ. โดยไม่มีศัตรูเห็นเลย 
-ทำลาย ฮ ตรวจการณ์ของศัตรูที่บินอยู่รอบๆ Kungenga Mine
-จับตัวสไนเปอร์ 5 คนที่อยู่รอบๆ Kungenga Mine
-ขโมยรถหุ้มเกราะ 3 คันที่ Banpeve Plantation

Miller – งานนี้นายจ้างเราต้องการให้สังหารคน 6 คน เห็นว่าเป็นลูกน้องเก่าที่ทรยศที่เป็นพวกอดีตทหารของกลุ่มกบฏ Mebele ที่ฟาร์ม Banpeve และนักโทษอีก 5 คนที่ถูกจับอยู่ที่เหมือง Kungenga  เอาเป็นว่างานนี้ไม่มีการพูดคุย ฆ่าให้หมดแล้วปิดจ็อบกลับบ้านแค่นั้นพอ

-เป้าหมายของภารกิจนั้นมีอยู่ 2 จุดคือ Banpeve Plantation และ Kungenga Mine เพื่อความสะดวกให้ไปที่ Banpeve Plantation ก่อนเป็นที่แรก เป้าหมายคืออดีตหัวหน้าทหารของกลุ่มกบฏ Mebele ที่ใส่เสื้อสีขาวเดินไปมาแถวบ้านตรงทางออกด้านเหนือของพื้นที่ (ตรงที่มีรถถังจอดอยู่) แน่นอนวาเป้าหมายของภารกิจนั้นให้กำจัดแต่จับตัวมันกลับฐานจะดีกว่า
-เป้าหมายที่ 2 คือที่ Kungenga Mine ซึ่งเป็นพื้นที่ยาวและแคบที่มีทหารเยอะมากก่อนถึงทางเข้าเหมือง เมื่อลอบเข้ามาผ่านประตูทางเข้าเหมืองด้านในไปที่คุกในถ้ำ ทางที่ดีควรเลี่ยงที่จะปะทะจะดีที่สุดและคู่หูที่เหมาะกับการใช้งานที่สุดก็คือเจ้า DD เพราะจะทำให้เห็นตำแหน่งศัตรูก่อนที่จะมาถึงตัว

ในขณะที่ Boss กำลังง้างไกปืนจัดการนักโทษ 5 คนตามคำสั่งของภารกิจก็ต้องถึงชะงักเพราะนักโทษที่ว่ากลายเป็นเด็กชาวแอฟริกา 5 คนที่อยู่ในสภาพบาดเจ็บและอดโรย ก่อนที่ทุกคนจะยื่นเพรชที่มีในมือออกมาหวังจะขอแลกกับชีวิต



Miller – บิงโก นั่นแหละ บอส เป้าหมาย อ่อ ชีวิตมีราคาสินะ แล้วไงต่อบอส ต่อให้ช่วยได้พวกเด็กนั่นก็ไม่มีที่ไปอยู่ดี เราพาพวกเขากลับมาไม่ได้ด้วย แต่เอาเถอะ คุณเลือกเองนะขากลับจะขึ้นสวรรค์หรือลงนรก 
Boss – ไม่ ยังมีอีกทีนึง 
Miller – ที่ที่ไกลจากสวรรค์สินะ (Outer Heaven) 
Boss – ดูเหมือนนายจ้างเราคงต้องเสนอราคามาใหม่แล้วละ 
Miller – โอเค เราจะบอกว่าภารกิจเสร็จสิ้นแล้วกัน พาพวกเขากลับมาที่ฐาน ผมจะสง ฮ. ไปรับที่จุดที่ตำแหน่งที่ส่งไปให้ คุณพาเขาไปที่นั่นให้ปลอดภัยด้วย  

-การพาเด็ก 5 คนไปที่จุดขึ้น ฮ.นั้นเป็นงานลำบากมากเพราะต้องคอยสั่งการพวกเขาด้วยปุ่ม Call Manu เพื่อให้หยุดและไป ในขณะที่ก็ต้องอุ้มเด็กที่บาดเจ็บไว้อีกคนด้วย เด็กตายเกมโอเวอร์ทันที แล้วเจ้า 4 คนก็ตั้งหน้าตั้งตาจะไปอย่างเดียวถ้าไม่คอยดูหรือเข้าไปสั่งให้หยุดมันก็จะเดินไปเรื่อยๆ ซึ่งเป็นอะไรที่คุมยากมาก ควรอยู่ใกล้ๆไปรวมกันเป็นกลุ่มคอยสั่งให้พวกเขาหยุดเวลาศัตรูเข้ามา หรือไม่ก็วางเด็กเอาไว้แล้วล่วงหน้าไปจัดการเคลียร์ศัตรูข้างหน้าให้หมดก่อน ซึ่งก็ต้องทำให้เร็วด้วยเพราะในระหว่างนั้นเจ้าเด็ก 4 คนมันไม่ได้รออยู่นิ่งๆมันก็ยังเดินตามมาอยู่ดี เมื่อออกมาจนถึงเป้าหมายที่หน้าเหมืองก็อุ้มเด็กส่งเข้า ฮ. ได้เลย

ทันทีที่พาตัวเด็กๆเข้ามาถึง Mother Base ทั้งเด็กที่กำลังกังวลกับทหารมากมายที่ออกมาพร้อมอาวุธและเจ้าหน้าที่ทหารรวมทั้ง Miller ที่ออกมารับก็ต่างฝ่ายต่างกังวลกับเรื่องภาระกับพวกเด็กๆเหมือนกัน 



Miller – คิดอะไรของคุณนะ Boss 
Boss – คิดว่าพวกเขาแกร่งกว่าที่เห็น ฝึกอีกนิดหน่อยก็ใช้ได้แล้ว 
Miller – เฮ้อ ไม่เคยชอบเด็กเลยจริงๆ  เด็กพิเศษที่โตมากับปืนหรอ?  
Boss – ธรรมชาติของเด็กนะ 
Miller – ไม่ ผิดธรรมชาติ ไปไกลเลย คุณต้องบอกให้พวกเขาเข้าใจด้วยว่า ที่นี่เราขยายออกไปไม่ได้แล้วทุกพื้นที่มีค่า เมื่อเข้ามาแล้วต้องทำประโยชน์ให้คุ้มกับที่คุ้มหัว ต้องอ่านออกเขียนได้และทำงานเป็นด้วย 
Boss – ถ้าเลือกได้ ผมก็ไม่อยากให้ชีวิตพวกเขาต้องอยู่ข้างหลังปืนหรอก 
Miller – อยู่ข้างหลังก็ดีกว่าอยู่ตรงหน้า บอส และมันเป็นสิ่งที่เราต้องทำ ไม่มีห้องว่างให้เทวดาในสวรรค์ของพวกเราหรอก 


                                       Episode 19 – ON THE TRAIL

Mission Task 
ภารกิจหลัก 
-ชี้ตัวตนของเป้าหมาย “Major”
-ชี้ตัวตนของเป้าหมายของทหารคนสนิท
-สังหาร “Major”

ภารกิจย่อย
-จับตัวนายทหารคนสนิท
-ฟังการสนทนาของ “Major” กับทหารคนสนิทที่จุดนัดพบให้จบ
-ช่วยนักโทษที่ถูกจับที่ Munoko ya Nioka Station 

** สิ่งจำเป็นต้องใช้ในภารกิจคือ ม้า, ระเบิดยาสลบ และ RPG ** 

Miller – บอส หนึ่งในนายจ้างเราคนนึงบอกผมด้วยความกังวลว่า ทหารระดับหัวหน้ากลุ่มกองโจร Rogue Coyote คนนึงที่ทำงานให้กับ CFA (Contract force of Africa) ในเรื่องการเป็นนายหน้าซื้อขายอาวุธต่างๆที่ชื่อ “Major”ซึ่งมันกำลังคุยโตถึงเรื่องแผนการใหญ่ในการขายอาวุธนิวเคลียร์กันอยู่ ซึ่งมันคงหมายถึง “Yellow Cake” นั่นแน่นอน งานต่อไปของเราคือการเบี่ยงเบนความสนใจของ Cipher มันบ้าง ฝ่ายข่าวของเราได้ตำแหน่งของนายทหารคนสนิทของมันมา ตามรอยเจ้านี่ไปต้องเจอกับ “Major” แน่นอน 

-เมื่อ ฮ. ลงจอด เดินทางเข้ามาที่ค่ายทหารที่ 15 ทางใต้ของหมู่บ้าน Ditadi มองหาเป้าหมายที่เป็นทหารคนสนิทของ “Major” ให้เจอซึ่งมันจะอยู่แถวใกล้ๆกับรถจิ๊ปเพื่อเตรียมออกเดินทาง เมื่อกำหนดตัวตนของเป้าหมายได้แล้ว รีบไปรอทีทางออกด้านขวาของค่าย ตรงนี้สามารถทำได้ 2 ทางคือ
1.ทำตามแผนคือ ลอบตามรถของมันไปจนถึงจุดนัดพบกับเจ้า “Major” ที่เป็นเป้าหมายแล้วก็เข้าไปจัดการพวกมันให้หมด ส่วนทั้ง “Major” และทหารคนสนิทจะฆ่าหรือจับตัวไปก็สุดแล้วแต่ ซึ่งจะมีทหารเป็นกลุ่มใหญ่ 2 กลุ่มที่มาคุยกัน ถ้าจะฆ่ามันก็ไม่ยากแต่ถ้าจะจับก็ครวใช้ระเบิดยาสลบให้มันหลับกันทั้งกลุ่มจะดีที่สุด



2. ทำนอกแผน คือดักจัดการรถของทหารคนสนิทเมื่อมันออกจากค่ายที่ 15 ซะก่อน เมื่อจับหรือฆ่ามันแล้ว เจ้า “Major” ที่อยู่ที่ค่ายที่ 7 บนเนินเขาจะขึ้น ฮ.หนีทันที ที่เหลือก็ควบม้าวิ่งไปให้ทันแล้วยิงถล่ม ฮ. ก่อนที่มันจะหนี
3.ทำนอกแผน คือ ตามทหารคนสนิทจนมันไปคุยกับ “Major”  แล้วรอให้มันคุยกันจนจบแล้วค่อยตามไปจับเจ้า  “Major” ที่หลังซึ่งจะทำให้เจอกับทหารที่น้อยกว่า



Miller – หลังจับมันได้เจ้า “Major” ก็บอกออกมาจนหมดว่าจริงๆแล้วที่ว่ามันเป็นนายหน้าค้าอาวุธนิวเคลียร์นั้นเป็นแค่ข่าวลือที่ถูกปล่อยออกมาซึ่งมันเองเป็นคนจ่ายเงินพื่อให้คนกระพือข่าวไปทั่ว ซึ่งแน่นอนว่ามีคนจ่ายเงินให้มันอีกที แต่มันไม่รู้ว่าเป็นใคร จะใครถ้าไม่ใช่ Cipher ที่อยากได้ “Yellow Cake” มาทำหัวรบนิวเคลียร์มากจนต้องลงมาเจรจากับทาง ZRS ด้วยตัวเอง แต่มันก็พูดอย่างหนึ่งที่ทำให้ผมสนใจอย่างมากคือ ทาง ZRS พยายามที่จะฆ่าชายแก่คนนึงอยู่ แล้วชายแก่ที่ไหน ที่พวกมันสนใจ ? 

อ่อ หลังจากที่ตอนนี้ Walker Gear ถูกปล่อยขายเป็นอาวุธที่ใช้กับแทบจะทุกกลุ่มในแอฟริกาแล้ว Dr. Emmerich มีไอเดียบางอย่างจะนำเสนอ บอส ลองกลับมาดูที่ Mother Base ด้วยตาตัวเองดีกว่า ……




Dr. Emmerich – มันคือรถถังที่มีขาที่สามารถปรับเปลี่ยนได้ทุกทิศทาง ผมพัฒนามาจากเทคโนโลยีเมตัลเกียร์ 
Ocelot – พัฒนามาจากเมตัลเกียร์ แหมเราก็ได้ยินมาจากพวกโซเวียตกันมาตลอดไม่ใช่รึไง 
Dr. Emmerich – ผมออกแบบให้มันสามารถปรับแต่งได้อย่างอิสระ คุณสามารถหาฮาร์ดแวร์เจ๋งๆมาเพิ่มเติมให้เข้ากับภรกิจได้ทุกรูปแบบเลยนะ 
Miller – ที่ด็อกเตอร์พูดมาทั้งหมดแปลว่ามันสามารถปรับแต่งสิ่งต่างๆได้น่ะ
Dr. Emmerich – มันจะช่วยยกระดับความเป็นไปได้ของภารกิจให้ชัดเจนขึ้นเยอะ มันจะช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการจัดการศัตรูทุกรูปแบบ คุณสามารถเรียงแถวถล่มศัตรูในแบบชนะใสๆได้ก่อนที่มันจะได้ทันเริ่มตอบโต้ด้วยซ้ำ และสุดท้ายมันก็จะเปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่ในฐานเครื่องจักรสงครามที่สมบรูณ์แบบที่สุด นี่แหละ เมตัลเกียร์ของจริง !!  
Boss – คือ Kaz ผมรู้สึกเหมือนจะมี เดจาวู ที่นี่นะ 
Miller – ผมก็ไม่ได้ปลื้มเขาน้อยไปกว่าคุณหรอก แต่งานนี้เราต้องการมัน 
Boss – นายคิดว่าเจ้าสิ่งนี้มันจะตัดตอนสงครามได้จริงๆหรอ 
Miller – การปรับเปลี่ยนการโจมตีทุกรูปแบบได้ เหมือนมันจะเจ๋งกว่าทุกรถถังที่เราเคยมี อย่างน้อยกับการต่อสู้ในพื้นที่ไม่ใหญ่มากเราชนะใส เทคโนโลยีแบบนี้กำลังโดนใจคนที่นี่หลายฝ่ายก็ใช้ เป็นการดีถ้าเราจะใช้มันเป็นข้อต่อรองกับทาง CFA เราจะสู้กับการโจมตี ด้วยการโจมตี  ! และเราต้องการความเห็นชอบของคุณในการเริ่มพัฒนาด้วยครับ บอส 
Boss – ดี เอาเลย 
Ocelot – เอ่อ ระวังเรื่องคิดการใหญ่ที่มีอยู่ในสมองไว้บ้างก็ดีนะ ด็อกเตอร์ 
Dr. Emmerich – เฮ้ออ ...


                                       Episode 20 – VOICE

Mission Task 
ภารกิจหลัก 
-ค้นหาและช่วยเหลือ Shabani

ภารกิจย่อย
-สามารถยิงโดนสาวพลังจิตที่ลอยอยู่ได้สำเร็จ
-เลือกที่จะสู้กับชายในร่างไฟแล้วทำให้มันออกจากการต่อสู้
** ใช้รถชนมันให้ตกหน้าผา **   
-อ่านไฟล์ข้อมูลในค่ายที่ 20 ก่อนเข้าไปที่ Ngumba industrial Zone
-ช่วยเหลือและจับตัวหมาอัฟริกันที่ทหารยิงเล่นก่อนเข้าไปที่ Ngumba
-ฟังทหารคุยกันเรื่องร่างทดลองที่ Munoko ya Nioka Stationให้จบ 

Miller – ใครจะรู้บอส คนว่างานนี้คนที่จ้างเราคือหนึ่งในเด็กที่ช่วยมานั่นแหละ เขาบอกว่ามีชาวบ้านหลายคนหายตัวไปจากเหมืองและถูกนำตัวไปที่ที่เขาเรียกว่า Nzo Ya Badiabulu หรือ Devil House (บ้านปีศาจ) ซึ่งหนึ่งในนั้นคือเพื่อนคนนึงของเขาที่ชื่อ Shabani ซึ่งนั่นแหละเป้าหมายที่เราต้องไปช่วยออกมา  แล้วรู้มั๊ยพื้นที่แถวๆนั้นใครเป็นเจ้าของ บริษัท SANR เจ้าของโรงกลั่นน้ำมันยังไงละ เดี๋ยวเราคงต้องไปตรวจดูกันหน่อยว่ามันซ่อนอะไรอยู่ที่นั่นบ้างหรือเปล่า  

-หลังจากลงจาก ฮ. แล้วแวะเข้าไปที่ค่ายที่ 20 ตรงใกล้ๆที่ลงจอด่อนเพื่อไปอ่านไฟล์ที่อยู่บนโต๊ะด้านในเต้นท์ ก็จะทำให้เห็นเส้นทางการเดินรถขนส่งที่จะสามารถเกาะรถของพวกมันแทรกซึมเข้าไปได้(ถ้าไม่ได้ขโมยรถที่ว่านี้ไปซะก่อนนะ) และก็จะทำให้ได้เงื่อนไขของคะแนน Task Mission เพิ่มด้วย
-จากนั้นมุ่งหน้าไปที่ Ngumba industrial Zone พื้นที่และเส้นทางที่เข้าไปมีทหารไม่มากและมีสิ่งที่สามารถหลบซ่อนตัวได้เยอะ เมื่อลอบเข้าไปจนถึงถ้ำหลังน้ำตกได้แล้วก็จะทะลุเข้ามาจนถึงเขตตึกร้างด้านในได้ ที่นี่ไม่มีทหารศัตรูอะไรเลย เข้าไปตรวจสอบที่ตึกด้านในจะพบว่าเป็นโรงพยาบาลที่พวกชาวบ้านถูกจับมาทดลองอะไรบางอย่างที่สุดน่าขยะแขยง

Boss รีบเข้าไปสำรวจร่างของผู้ป่วยที่เหมือนกำลังจะตายแต่ดูเหมือนเขายังหายใจอยู่ โดยมีหูฟังที่ใช้เสียงจากวิทยุใส่เข้าไปในหลอดลม กับสภาพร่างกายที่ไม่ต่างจากศพที่เห็นเกลื่อนในบ่อที่โรงกลั่นน้ำมัน สุดที่ Boss จะจินตนาการได้ว่าแผนของ Cipher มันทำไปเพื่ออะไร 




แต่ Boss ก็ต้องตัดความสนใจที่จะเข้าไปตามหา Shabani ที่เป็นเป้าหมายก่อน และก็โชคดีที่เจอหนูน้อย Shabani ที่เตียงด้านใน แต่โชคร้ายที่เขาก็ถูกนำร่างมาทดลองจนอยู่ในสภาพปางตายเหมือนกัน ทันทีที่ Shabani ได้สติ ปากก็พร่ำบอกให้ ฆ่าเขาให้พ้นทุกข์เสียที Boss ที่ช่วยอะไรมากกว่านี้ไม่ได้ก็ได้แต่เงียบไปและเก็บเอสสร้อยคอของ Shabani กลับไปแทน 




ในขณะนั้น Boss ก็สังเกตความเคลื่อนไหวที่ห้องข้างๆและจะพบว่า Skull face มันอยู่ที่นี่ด้วย 

“ข้ายอมรับในความอัปยศและโศกเศร้าของเจ้าอย่างสุดซึ้ง” 

มันพูดก่อนจะยิงใส่ร่างทดลองจนดับดิ้นไปต่อหน้า Boss ที่แอบดูอยู่ห้องข้างๆ เสียงปืนทำให้ Shabani ดิ้นทุรนทุรายจน มันหันมาเห็น Boss ที่ซ่อนอยู่

“ แกเองหรอ .. เผา มันให้ราบให้หมด !! “ 

Skull Face ตะโกนลั่นพร้อมทั้งการปรากฏตัวของสาวพลังจิตและชายในร่างไฟที่เข้าโจมตีใส่ Boss ทันที ในขณะที่ Boss ต้องเผชิญกับการรุกไล่ของชายในร่างไฟ แต่ในขณะที่ถูกโจมตี ร่างของชายในร่างไฟก็ต้องหยุดชงักไปเพราะสาวพลังจิตแวะเข้าไปดู Shabani ที่กำลังมอดไหม้กลางกองไฟ ก่อนที่เธอจะกลับมาควบคุมชายในร่างไฟอีกครั้งเพื่อไล่ล่า Boss ต่อทันที 



- วิ่งหนีออกมาที่ลารกว้างด้านนอก ในขณะที่ Miller กำลังจะส่ง ฮ. ไปรับ Boss ออกนอกพื้นที่ แต่ทางออกทุกทางก็ถูกถล่มจนหมดทันทีที่ชายในร่างไฟตามออกมาทัน

การต่อสู้กับชายในร่างไฟนั้นไม่สามารถใช้กระสุนทำลายมันได้แต่สามารถใช้การทำลายแท็งค์น้ำสูงๆให้น้ำตกลงมาใส่มันจนไฟดับ จะใช้ C4 ระเบิดหรือล่อให้มาใกล้ๆแท็งก์น้ำแล้วใช้ลูกไฟที่มันยิงมาทำให้ถล่มก็ได้ จะทำให้มันหยุดการโจมตีได้ชั่วครู่ ถ้าพยายามจะจับมันแล้วแต่ยัยสาวพลังจิตขัดขวางตลอด ก็ลองพยายามยิงมันให้โดนจนมันล่วงลงมาก็จะจับชายร่างไฟขึ้นบอลลูนได้ แต่จะจับไม่ได้นะ แค่เอาออกจากที่นี่ไปก็จะจบการตอสู้ หรือ ล่อมันไปตรงรืมหน้าผาแล้วชับรถชนมันให้ตกผาก็ได้เหมือนกันครับ แต่ต่องโดดออกมา่จากรถให้ทันด้วยละ  


จากนั้นจะสามารถเรียก ฮ.มารับได้ที่กลางลานได้แล้ว แล้วรีบหนีออกไปก่อนที่สาวพลังจิตที่ลอยได้จะชุบชีวิตชายในร่างไฟให้กลับขึ้นมายิงถล่มใหม่อีกครั้ง



Miller – Skull Face มันมาอยู่ในอัฟริกาแล้วแน่นอน กับชายในร่างไฟอาวุธใหม่ของมันที่มันเรียกมาใช้งานซึ่งเราก็ยังคงมืดแปดด้านอยู่ว่ามันเป็นตัวอะไรกันแน่ แล้วเกิดอะไรขึ้นที่ Devil House กันแน่ หูฟังที่เสียบเข้าไปในหลอดลมเหยื่อกับการเปิดเทปเสียงบางอย่างเข้าไป แล้วแผลที่หน้าอกของเหยื่อก็เหมือนกับของศพที่บ่อน้ำมัน เจ้าชายในร่างไฟนั่นก็ดันเผาทุกอย่างหมดจนตรวจสอบอะไรไม่ได้เลย แต่โชคดีที่เราได้บันทึกเสียงนั้นไว้หมดแล้ว เอาไว้วิเคราะห์ได้แล้วจะบอกแล้วกัน 




Boss กลับไป Mother Base พร้อมข่าวร้ายที่ต้องบอกกับพวกเด็กที่ไม่สามารถช่วยเหลือหัวหน้าของพวกเขากลับมาได้ เครื่องรางที่เหลืออยู่กับความเงียบแทนความเสียใจ และซิกก้ามวนต่อไปที่จะทำให้ผ่านวันเพื่อรอให้ถึงวันที่ได้เอาคืน ..


                                       Episode 21 – THE WAR ECONOMY



Mission Task 
ภารกิจหลัก 
-ค้นหาจนเจอเป้าหมาย นายหน้าค้าอาวุธ
-ค้นหาจนเจอเป้าหมาย หัวหน้าทหาร CFA
-กำจัดเป้าหมาย นายหน้าค้าอาวุธ
- กำจัดเป้าหมาย หัวหน้าทหาร CFA

ภารกิจย่อย 
-จับตัวเป้าหมาย นายหน้าค้าอาวุธ
-จับตัวเป้าหมาย หัวหน้าทหาร CFA
-ฟังการสนทากันของ หัวหน้าทหาร CFA กับ นายหน้าค้าอาวุธ ในห้อง
-เก็บ Blueprint ที่อยู่กับเฮลิคอปเตอร์ด้วย 
-ขโมยตู้คอนเทรนเนอร์ที่สนามบินมาด้วย


Miller – บอส คุณคงรู้นะว่าทาง CFA นั้นไม่เคยเห็นกบฏ UNITA เป็นทหารรับจ้างอะไรเลยในสายตาของพวกเขา พวกมนั้นเป็นลูกค้าที่ขายอาวุธให้มากกว่า ซึ่ง UNITA ก็จะไปใช้ถล่มใส่ NPLA อีกต่อ มันวุ่นวายผมรู้ แต่ทาง CFA ก็ขายอาวุธบางส่วนให้ NPLA ด้วยเพื่อไม่ให้พวกกบฎ UNITA ได้ชัยชนะง่ายเกินไปกำไรก็จะขาดหาย ตัวเหลือบในสงครามชัดๆ เราก็ไม่ต่างอะไรกับยืนอยู่ระหว่างสงครามของตัวแทนจากตะวันตก-ตะวันออกนั่นแหละ เราได้ข่าวเพิ่มเติมว่าพ่อค้าอาวุธกำลังจะเข้ามาติดต่อกับนายหน้าที่เป็นคนของ CFA ที่สนามบิน Nova Braga เป้าหมายในครั้งนี้เป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงของ CFA ที่สามารถเพิ่มหรือลดจำนวนการซื้อของได้ตามใจชอบซะด้วย ซึ่งอาจจะเป็นเรื่องการสั่งซื้ออาวุธนิวเคลียร์ ซึ่งผมเชื่อว่า สุดท้ายปลายทางมันก็ต้องเอาของไปถึง Cipher แน่นอน ถึงเราจะพิสูจณ์ไม่ได้ว่า Skull Face มันมีเอี่ยวด้วยมั๊ย เราก็ยอมให้การติดต่อครั้งนี้เกิดขึ้นไม่ได้อยู่ดี 

** ระหว่างกำลังเริ่มภารกิจ Miller จะแจ้งถึงสภาวะฉุกเฉินที่มีทหารไดมอนด์ ด็อกกลุ่มนึงพยายามจะทรยศและกำลังทำการเข้ายึด Mother Base ซึ่งเขาจะให้ Boss รีบกลับมาเคลียร์ปัญหาทันที ซึ่งภารกิจนี้จะเป็นของ Episode 22 – Retake The Platform ที่อยู่ในประเภทของ Emergency Mission ซึ่งถ้าเลือกที่จะทำก็จะถูกส่งไปที่ Mother Base เพื่อเริ่มภารกิจทันที และไม่ว่าจะทำภารกิจสำเร็จหรือไม่ก็จะถูกส่งกลับมาทำภาริจที่ 21 ต่อที่ Check Point เดิมทันที ** 

-เดินทางเข้าไปที่ Nova Braga Airport ซึ่งที่นี่มีการระวังป้องกันหนาแน่นมากทั้งทหารปกติ Walker Gear ที่ลาดตระเวณลอบๆและสไนเปอร์ที่ดักยิงมาจากลานจอด ฮ ของอีกฝั่ง เป้าหมายคือกำจัดหรือจับตัว เจ้าหน้าที่ทหารระดับสูงของ CFAและนายหน้าค้าอาวุธ เมื่อเข้ามาทางประตูเล็กมาด้านในสนามบินแล้ว รีบเข้าไปที่ตึกตรงหน้าเพื่อทะลุออกไปที่ด้านหลังจะเห็น ฮ. ของนายหน้าค้าอาวุธมาลงจอด ใช้กล้องส่อง Marking ตัวมันไว้ก่อน




จากนั้นต้องใช้ความเร็วและเงียบเพราะจะได้ถึงตัวเป้าหมายก่อนมันจะปะปนกับทหารด้านนอกจนยากในการจัดการ ค่อยๆลอบอ้อมไปทางซ้ายเพื่อสไนเปอร์ที่อยู่ฝั่งตรงข้ามไปที่ตึกควบคุมการบิน เข้าจากตึกทางฝั่งซ้าย ขึ้นชั้นบนตรงไปจะเห็น เจ้าหน้าที่ทหารระดับสูงของ CFAและนายหน้าค้าอาวุธ รีบเข้าไปจัดการมันได้เลย พยายามจับทั้งคู่กลับฐานจะดีกว่า เพราะตัวนายหน้าค้าอาวุธไปด้วยเพราะมันมี Skill พิเศษ Missile Guidance Specialist  สำหรับสร้างปืน Killer Bee ด้วย จากนั้นก็ลอบกลับออกมาจากสนามบินได้เลย




Miller – บอส เกี่ยวกับเป้าหมายที่จับมา เขาบอกเขายอมทำงานให้เราเท่าที่คุยกับเจ้าหน้าที่ของ CFA เขาก็ไม่ได้เลวร้ายอะไรนะ นอกเสียจากเจ้านายหน้าขายอาวุธที่เราต้องจับเขาคุกไปก่อน จนสุดท้ายก็ยอมบอกว่าขายอาวุธให้ทางแอฟริกาใต้ด้วย มันเลยเป็นที่หมายหัวของ SANR อยู่ เสียดายที่มันกลับไม่รู้ความลับของ SANR อะไรซักอย่างเพราะดูถ้าจะไม่ใช้พ่อค้าระดับสูงอะไรเท่าไหร์แค่ฟันเฟืองตัวนึงของระบบการค้าอาวุธก็แค่นั้น  แต่ยังไงเราก็ยังใช้งานมันได้ อย่างน้อยก็เอาไว้เป็นสายในการติดต่อกับ Cipher ได้ แต่คงยังไม่ใช่ตอนนี้หรอก 

 “ตอนนี้เราเริ่มพัฒนา Battle Gear อาวุธใหม่ที่ Dr. Emmerich พูดถึงแล้วนะ อยากคุณอยากดูความคืบหน้าก็มาดูด้วยตาตัวเองดีดว่า “ 



Ocelot แจ้งข่าวดีถึงเรื่องความคืบหน้าที่ทุกคนคิดว่าเป็นรูปธรรมของสงครามครั้งใหม่เพื่อตีกรอบความชั่วร้ายของสงครามให้แคบลง หรือบางทีมันคงเป็นชะตากรรมที่เกิดมาเพื่อที่ควรจะเป็นให้ไม่เหมือนเดิม 



                                    Episode 22 – Retake the Platform 

                                           [Emergency Mission]

ภารกิจที่เริ่มจากสถานการณ์ฉุกเฉินที่เกิดกบฏขึ้นที่ Mother Base ทำให้ Boss ต้องรีบกลับไปช่วยแก้ไขสถานการณ์โดยด่วน โดยเป้าหมายของภารกิจก็คือลอบเข้าไปที่ R&D Platform ของ Mother Base ที่เต็มไปด้วยทหารกบฎที่พยายามจะยึดฐานนี้เอาไว้เอง ซึ่งหัวหน้าการก่อกบฏนั้นเป็นทหารจาก Militaries Sans Frontiers (MSF) เมื่อ 9 ปีก่อนที่ฐานเดิมโดนทำลาย เขาไม่พอใจการทำงานของ Boss และอยากจะคุมงานเอง เพื่อทำการแก้แค้นในแบบของตัวเอง สิ่งที่ต้องทำคือลอบขึ้นไปด้านบนสุดของ R&D Platform แล้วจัดการเจ้าตัวหัวหน้าที่ก่อกบฏนั่นซะ ท่ามกลางทหารกบฏมากมายที่ Boss ต้องลุยเดี่ยวแบบไม่มี Buddy ถือว่าไม่ใช่งานง่าย พยายามอย่าเน้นปะทะเพราะพวกศัตรูทีจำนวนมากและสามารถเข้ามาได้จากทุกทิศทาง

หลังจากจัดการเคลียร์ปัญหาการถูกโจมตีแบบไม่คาดคิดแล้ว Miller จะเริ่มสร้าง Security Team ขึ้นมาทันที โดยจะสามารถสร้าง Security Team Platform ที่เรียกว่า FORWARD OPERATING BASE หรือ FOB ที่สำหรับใช้ในโหมดออนไลน์เพื่อระวังป้องกันฐานจากการรุกรานของผู้เล่นออนไลน์ที่จะเข้ามาขโมยทหารและวัตถุดิบดีของเราไปได้นั่นเอง (โหมด offline ก็ข้ามต้องส่วนนี้ไปได้เลยเพราะไม่สามารถเล่นได้หากไม่ออนไลน์) 


                       SIDE OP ที่จำเป็นสำหรับสร้างอุปกรณ์ป้องกัน Mother Base

IR – SENSER BLUEPRINT 
ANTITHEFT BLUEPRINT
GUN CAM DEFENDER BLUEPRINT
UA – DRONE BLUEPRINT



                                     Episode 23 – THE WHITE MAMBA


Mission Task 
ภารกิจหลัก 
-จับตัว Eli the white mamba 

ภารกิจย่อย
-ช่วยนักโทษ 1 คนในหมู่บ้าน Bwala Ya Masa
- เก็บ Rough Diamond ในค่าย 06 
-จับตัว white mamba ได้โดยไม่มีการต่อสู้
** อย่าเดินขึ้นไปหามันตรงๆ ให้ล่อมันออกมาแล้วย่องเข้าไป CQC จากด้านหลังจะสลบในครั้งเดียว ** 
-จับตัวเด็ก 20 คนกลับฐาน 
** จับเด็กทั้งในค่าย 06 กับ หมู่บ้าน Bwala Ya Masa รวมกัน ซึ่งจะใช้บอลลูนไม่ได้ ตอนนี้ทำได้แค่ใช้การใส่รถจิ๊ปขนไปทางบอลลูนครั้งละ 3 คนเอา ** 

Miller – งานนี้ทางรัฐบาลแองโกล่าติดต่อมาหาเราเองเลย เขาว่าทหารของทาง CFA (Contract force of Africa) ที่ดูแลหมู่บ้าน Masa อยู่ จู่ๆก็ไม่มีข่าวตอบกลับมา ทุกอย่างหายสาบสูญ ไม่มีแม้ร่องรอยการต่อสู้ มีแต่พวกทหารเด็กที่ยึดครองที่นั่นอยู่ ทางรัฐบาลต้องการให้เรากำจัดเสี้ยนหนามพวกนี้ให้หมด เราเองก็มีแนวทางของเรา ถึงแม้อยากจะหยุดความรุนแรงที่เกิดขึ้นแต่เด็กก็คือเด็ก แล้วพวกเขาก็โดนทำร้ายมาเยอะจึงต้องลุกฮือขึ้นมาต่อสู้ แผนเราคือแค่ลอบเข้าไปแล้วจับตัวหัวหน้าของพวกทหารเด็กกลับฐานแค่นั้น ว่ากันว่าเขาชื่อ Eli the white mamba ถ้าไม่มีผู้นำ ทหารเด็กที่เหลือก็จะสลายตัวไปเอง

-ลอบเข้าไปที่หมู่บ้าน Bwala Ya Masa ที่เป็นหมู่บ้านแรกตอนที่เข้ามาถึงที่แองโกล่า ด้านในหมู่บ้านและระหว่างค่ายก่อนมาถึงก็จะเต็มไปด้วยทหารเด็ก ซึ่งจะไม่สามารถ CQC เขาได้นอกจากทุ่มให้สลบหรือไม่ก็ยิงด้วยปืนยาสลบหรือกระสุนปลอม แถมเด็กพวกนี้ยังใช้บอลลูนจับไม่ได้ด้วยเพราะอันตรายเกินไป ถ้าจะจับพวกเขากลับฐานทั้ง 20 คนต้องใช้วิธีขนใส่รถจิ๊ปแล้วดึงขึ้นบอลลูนพร้อมรถเอา


 เป้าหมาย Eli the white mamba หัวหน้ากลุ่มทหารเด็กนั้นนั่งอยู่บนชั้นบนของซากเรือหลังหมู่บ้าน ไม่ได้มายุ่งกับการต่อสู้ ซึ่งหากจะจับพวกเด็กกลับฐานก็กวาดให้หมดก่อนขึ้นไปหาเขา การเข้าไปจับ Eli นั้น จะเข้าไปตรงๆแล้ว CQC กับเขาจนชนะหรือจะหลอกล่อให้ออกมานอกเรือแล้วลอบทุ่มจากด้านหลังทีเดียวก็สลบ ก็จะสามารถพาตัวกลับขึ้น ฮ. กลับฐานได้เลย

ถึงแม้จะถูกจับเพราะสุดท้ายก็แพ้ความเก๋าในฝีมือ CQC ของ Boss แต่ Eli ก็ยังหยิ่งในศักดิ์ที่จะไม่รับน้ำใจอะไรจาก Boss แม้แต่นิด 

                                         Boss – ขอต้อนรับสู่ Outer heaven 





ทันทีที่ Eli ถูกามาที่ Mother Base แม้แต่แรงตบหลังที่หมายให้กำลังใจรับความพ่ายแพ้ของ Boss ที่มีให้เพื่อให้ Eli ทำใจกับความพ่ายแพ้หากเขาคิดว่าปืนและมีดจะชนะเสมอไปยังเหลืออีกอย่างที่ Eli ยังไม่เข้าใจคือกึ๋นและการใช้สมองก่อนต่อสู้  แต่นั่นไม่ได้ทำให้ Eli คิด แต่เขากลับแย่งมีดแล้วเข้าโจมตี Boss ทันที ซึ่งการต่อสู้ก็ต้องจบลงที่ Eli ถูกทุมกระแทกพื้นในสภาพไหล่หลุดจากฝีมือ CQC ของ Boss 





Boss – ที่นี่เรามีกฎ ห้ามดวลอาวุธต่อสู้กันเอง เข้าใจนะไอ้หนู ใครก็ใช้มีดหรือปืนได้ แต่นายก็ต้องหัดใช้สมองด้วย 
และเมื่อนายรู้อย่างนั้นแล้ว นายก็จะรู้ว่าบางครั้งการหลีกเลี่ยงการต่อสู้มันก็เป็นสิ่งที่ควรทำ




                                       Episode 24 – CLOSE CONTRACT 

Mission Task 
ภารกิจหลัก 
-ช่วยเหลือตัวประกันชาย
- ช่วยเหลือตัวประกันหญิง

ภารกิจย่อย
-ช่วยเหลือทาส 6 คนที่ Ngumba Industrial
-ขโมยรถจิ๊ป 2 คัน 
-ขโมยตู้คอนเทรนเนอร์ 4 ตู้ที่ Munoko yo Nioka Station 
-เก็บ African Peach ใกล้ๆกับ Munoko yo Nioka Station
-จับตัวนกอินทรีย์ ใกล้ๆกับ Munoko yo Nioka Station

Miller – บอส ภารกิจนี้เป็นภารกิจช่วยเหลือตัวประกันที่ถูกพวกกบฏจับตัวไปที่ Ngumba Industrial เป้าหมายคือทีมวิศวกรทางการแพทย์ 2 คน ชายและหญิง จาก NGO ที่ทางรัฐบาลจะขอความช่วยเหลือให้เข้ามาตรวจสอบเรื่องโรคระบาดบางอย่าง เรายังไม่รู้แน่ชัดว่ามันจะเกี่ยวอะไรกับโรคระบาดที่เห็นในศพที่บ่อน้ำมันหรือเปล่า แต่ยังไงอย่างแรกคือช่วยพวกเขาออกมาให้ได้ก่อน 

-เป้าหมายจะอยู่ในพื้นที่กึ่งกลางระหว่าง Munoko yo Nioka Station กับ Ngumba Industrial Zone ลอบผ่านเข้ามาทาง Munoko จะสะดวกกว่า เมื่อผ่าน Munoko มาได้แล้วจะเห็นนักโทษหญิงกำลังพาตัวมากับรถจิ๊ปของทหารทันที ให้จัดการเข้าไปช่วยเธอได้เลย จากนั้นเดินทางต่อเข้ามายังค่ายทหารที่ 20ลอบเข้าไปค้นหานักโทษชายที่ด้านในให้พบแล้วพาขึ้น ฮ. กลับมาที่ฐานได้เลย



Miller – บอส เราให้เป้าหมาย 2 คนที่เราช่วยมาดูแลเรื่องเขตกักกันโรค ซึ่งเราเดามาผิดเลยที่พวกเขาถูกพาตัวมาเพื่อดูเรื่องที่เกิดที่ Devil House Cipher พยายามจะเก็บพวกเขาหลังใช้งานเสร็จและเผาทุกอย่างทิ้งเพื่อกลบหลักฐานจนหมด เราจึงบอกเรื่องการคุ้มครองให้เพื่อแลกกับการทำงานให้พวกเรา ทั้งคู่ก็ยินดีที่จะให้ความร่วมมือ ซึ่งแน่นอนว่าเราจะส่งพวกเขากลับบ้านทันทีหลังเสร็จภารกิจ แต่ บอส พวกเขามีส่วนเกี่ยวของกับเรื่องที่ Ngumba ที่ต้องใกล้ชิดกับพวกคนไข้ที่ติดเชื้อทุกวัน ทั้งคู่บอกว่าคนไข้ถูกบังคับให้ฟังเทปเสียง ซึ่งวิศวกรชายที่เราช่วยมาพูดบางอย่างที่น่าสนใจว่า เขาไม่รู้ว่าในเทปนั้นพูดว่าอะไร เพราะเขาไม่เข้าใจภาษาอังกฤษ แต่เสียงที่ถูกยัดเข้าไปในลำคอคนไข้มันทำให้พวกเขาถูกกดความรู้สึกเอาไว้ แต่ คนไข้ทุกคนไม่มีใครเลยที่ฟังภาษาอังกฤษรู้เรื่อง 

หลังจบภารกิจ Boss ถูก Ocelot เรียกตัวกลับฐานเพื่อให้กลับมาผักผ่อนอาบน้ำอาบท่าบ้าง แต่ทันทีที่ Boss มาถึงฐานก็จะเจอเกิดเรื่องขึ้นทันทีเมื่อทหารนานนึงพยายามจะหนีตายจากการไล่ทำร้ายของ Quiet จนเกือบตาย ดีที่ Boss เข้ามาห้ามเอาไว้ได้ทันจนทำให้ Quiet เธอสลบไป



Ocelot – คิดว่าเพราะอะไร ? แก้แค้นพวกที่ทำไม่ดีกับเธอหรอ 
Boss – ก็พูดยาก ไม่อยากจะคิดว่าเป็นเพราะอย่างอื่น ที่เธอพยายามจะฆ่าคนอื่นในทุกเวลาที่เธออยากจะทำ นี่เป็นครั้งที่ 2 แล้วอย่าให้มีครั้งที่ 3 อีก คุมตัวเธอเอาไว้ให้แน่นหนาหน่อยก็แล้วกัน 



                                       Episode 25 – AIM TRUE,YE VENGEFUL 


Mission Task 
ภารกิจหลัก 
-ช่วยเหลือหัวหน้าอันดับ 2 ของพวกกบฏ Mbele
-จับตัวหน้าทหารเด็ก

ภารกิจย่อย
-จับตัวทหารเด็กทั้ง 12 คนไปด้วย 
-ช่วยนักโทษที่หนีมาจาก Munoko yo Nioka Station
-เอาตัวหัวหน้าทหารเด็กและหัวหน้ากลุ่มกบฏใส่รถยกขึ้นบอลลูนพร้อมกัน
-เก็บพืชสมุนไพร Purpurea แถว Munoko yo Nioka Station มาด้วย

Miller – บอส มีการติดต่อมาจากพวกกบฏ Mbele คนของ “General” ให้เข้าไปช่วยเหลือผู้นำอันดับ 2 ของพวกมันที่ถูกพวกกองทัพทหารเด็กจับตัวไปเพราะต้องการแก้แค้นที่หัวหน้าพวกเขาถูกจับตัวไป ซึ่งแน่นอนพวกทหารเด็กไม่รู้ว่าเป็นฝีมือของเรา ทางฝ่ายกบฏ Mbele ก็ต้องการจ้างให้เราจัดการพวกทหารเด็กและช่วยผู้นำหมายเลข 2 ของพวกมันออกมา เราไม่มีทางเลือกแต่เราก็จะหาทางออกในแบบของเราคือ จับตัวทั้งหัวหน้าอันดับ 2 ของพวกกบฏ Mbele และหัวหน้าทหารเด็กกลับฐานทั้งคู่เลยเพื่อตัดปัญหา  
-เป้าหมายทั้ง 2 คนอยู่ในค่ายทหารที่ 16 ซึ่งไม่กว้างมากแวะต้องเนินทางซ้ายแล้วส่องดูความเคลื่อนไหวก็จะเห็นเป้าหมายทั้ง หัวหน้าทหารเด็กและหัวหน้ากลุ่มกบฏที่ถูกจับอยู่อย่างชัดเจน พยายามลอบเข้าไปจับตัวกลับมาซะทั้งคู่ หรือ ถ้าจะเอา Task Mission ก็ขนพวกทหารเด็กกลับไปให้หมดทั้งฐานนั่นแหละ แต่ทั้งคู่จะเอาใส่บอลลูนลอยไปไม่ได้นะเพราะ หัวหน้าทหารกบฏก็บาดเจ็บส่วนทหารเด็กก็อันตรายเกินไปซึ่งถ้าไม่เรียก ฮ. มารับ ก็สามารถใช้วิธีทั้งคู่ใส่รถและยกขึ้นบอลลูนไปพร้อมรถเลยก็ได้



Miller – บอส เกี่ยวกับเรื่องที่มีลูกค้าคนนึงบอกกับเราว่าจะให้รางวัลอย่างามถ้าจะส่งตัวหัวหน้าทหารเด็กมาให้และแน่นอนทางกลุ่มกบฎก็พร้อมจะจ่ายเราอย่างงามเหมือนกันเพื่อแลกกับผู้นำหมายเลข 2 ของเขา แต่ดูเหมือนทางผู้นำอันดับสองของพวกกบฎต้องการที่จะร่วมสู้กับเรา ไดมอนด์ ด็อก เขาบอกว่า “ผมต้องการเป็นพวกกับคุณไม่ว่าจะได้อยู่ในอันดับ 2 หรือ 200 ก็ไม่แคร์” 

หลังจบภารกิจใน EP25  Ocelot จะแจ้งเรื่องด่วนเข้ามาว่า ที่ฐานมีการติดเชื้อเกิดขึ้นซึ่งมีอาการไม่ต่างกับที่เห็นที่เป็นศพมากมายที่บ่อน้ำมัน แต่โชคดีที่ทีมแพทย์ได้สร้างศูยน์กักกันโรค Quarantine Platform เอาไว้ก่อนหน้านี้แล้ว ซึ่งก็ทำให้สามารถกักกันการแพร่เชื้อได้ส่วนหนึ่งแต่ ยังมีเจ้าหน้าที่อีกมากมายที่ยังไม่แสดงอาการก็เลยไม่รู้ว่าจะติดเชื้ออยู่หรือเปล่าเพราะ ยังไม่รู้เครื่องบ่งชี้ของอาการล่วงหน้า ซึ่งเป็นหน้าที่ของ บอส ที่จะต้องลองคาดเดาหาเครื่องบ่งชี้ของผู้ติดเชื้อให้เจอ ละถ้าไม่ใส่ใจจะหาทหารดีๆก็จะค่อยๆตายไปทีละคนตลอดการปฎิบัติงานในจำนวนมาก ซึ่งถ้าคุณไม่ใส่ใจปล่อยให้ตายไปจนถึงได้ยาแก้ต้องท้องเรื่องเลยก็ได้ และฐานะบอสการปล่อยให้ลูกน้องตายมากมายโดยตัวเองไม่คิดจะใช้สติปัญญาช่วยอะไรเลยก็คงไม่ดีนัก 

                           

ซึ่งการหาตัวบ่งชี้นั้น (Symptom) หลักของมันก็คือ ต้องหารสิ่งที่เหมือนกันของเหยื่อ โดยเมื่อลองเข้าไปดูที่ส่วนจัดการบุคลากร Staff Management แล้วเข้าไปที่เมนู Quarantine ลองดูรายละเอียดของผู้ติดเชื้อกลุ่มแรกว่า มีอะไรที่เหมือนกัน ซึ่งถ้าลองกดเข้าไปดูสเตตัสของทหารแต่ละคนที่ติดเชื้อ ที่ Language หรือภาษาที่แต่ละคนพูดได้นั้น ทุกคนที่ติดเชื้อจะสามารถพูดภาษา KIKONGO ได้เหมือนกันหมด จึงเป็นที่สัณนิฐานได้ว่า เชื้อโรคนี้สามารถแพร่กระจายจากคนที่พูดภาษา KIKONGO ที่เหลือก็เข้าไปตรวจสอบในรายชื่อ Staff ทุกคน ทุกฝ่าย แล้วหาว่า Staff คนไหนมีสเตตัส Language เป็น KIKONGO ซึ่งแปลว่าเขาสามารถพูด KIKONGO ได้ ก็จัดแยกตัว Staff เหล่านั้นออกไปที่ Quarantine ได้เลย การติดเชื้อก็ยังจะมีการตายและสูญเสียอยู่ตามเนื้อเรื่องอยู่ แต่จะมีการตายน้อยมาก (ตายในสถานที่กักกันนะ) แต่ในช่วงนี้การทำภารกิจเสริมนั้นคงไม่เหมาะ เพราะในช่วงนี้ทหารก็ยังไม่สามารถไปทำภารกิจเสริมใน Combat Employ ได้เลยขาดทั้งรายได้ขาดทั้งบุคลากรดีๆล้มตายจึงสมควรต้องเร่งช่วยเหลือหายาแก้ให้ผ่านวิกฤตินี้ไปก่อนจะดีที่สุด (กินระยะเวลา 48 ชั่วโมงจาก EP25 – EP29 จนกว่าจะหายาแก้พิษได้) 


                                         Episode 26 – HUNTING DOWN 

Mission Task 
ภารกิจหลัก 
-ค้นพบไฟล์ที่หมู่บ้าน Ditadi Abandoned Village
-จับตัวนายหน้าค้ามนุษย์กลับฐาน

ภารกิจย่อย
-จับตัวนายหน้าค้ามนุษย์กลับฐานก่อนที่มันจะเดินทางถึง Kizaba Camp
-จับตัวนายหน้าค้ามนุษย์พร้อมๆกับลูกน้องทั้ง 5 คนในขบวน
-ช่วยนักโทษ 4 คนที่หมู่บ้าน Ditadi Abandoned Village
- จับตัวหมาป่าลาย (Side – Striped Jackal) ใกล้ๆกับ Kizaba Camp 


Miller – บอส เป้าหมายในครั้งนี้คือลูกค้าต้องการกำจัดคนของกลุ่มกองโจร Rogue Coyote เป็นนายหน้าค้ามนุษย์ ที่เป็นคนจับเด็กๆและชาวบ้านจากหมู่บ้าน Mbele มากมายมาขายเพื่อเป็นทาสและเราเชื่อว่า พวกคนไข้ร่างทดลองที่ Devil House นั่นก็เป็นฝีมือการจัดหาของเจ้านี่ พิกัดของมันยังไม่แน่ชัด มันอาจอยู่ที่ไหนซักแห่งกับบอดี้การ์ดของมันในทุ่งซาวาน่านี่แหละ แต่ทาง CFA (Contract force of Africa) ก็ส่งข้อมูลเพิ่มเติมมาให้ที่หมู่บ้าน Ditadi  ลองเข้าไปค้นหาที่นั่นดูก่อนก็แล้วกัน

-หลังจาก ฮ. ลงจอดก็ลอบเข้ามาที่หมู่บ้าน Ditadi Abandoned Village จับทหารศัตรูซักคนมาขู่ถามก็จะทำให้รู้ตำแหน่งของไฟล์ข้อมูลที่วางอยู่บนโต๊ะหน้าวิทยุสื่อสารด้านบนหมู่บ้าน เมื่อได้ข้อมูลแล้วก็จะทำให้ได้ตำแหน่งเส้นทางของเป้าหมายคร่าวๆมา เปิดแผนที่ดูก็จะเห็นเป็นเส้นทางสีขาวๆจากค่ายทหารที่ 14 ไปที่ Kizaba Camp
-จากนั้นก็รีบมุ่งหน้าไปหาตามเส้นทางนั้นซึ่งถ้าไปเร็วพอก็จะเจอนายหน้าค้ามนุษย์กับคนของมันกำลังเดินอยู่ ซึ่งจะเป็นการดีถ้าจะจับมันตอนที่มันยังไม่ถึง Kizaba Camp เพราะทหารศัตรจะเยอะและยุ่งยากกว่ามาก ตำแหน่งของมันนั้นหาไม่ยากเพราะมันเดินกับทหาร 5 คนเป็นกลุ่มใหญ่ตามเส้นทางที่ระบุไว้ ซึ่งก็เหมือนเดิมจัดการจับมันกลับมาจะดีกว่าฆ่าแน่นอน





Miller – บอส เจ้านายหน้าค้ามนุษย์ที่เราจับมานี่ปากโป้งไม่ใช่ย่อย “Guinea pig” คือสิ่งที่มันเรียกพวกชาวบ้านที่มันจับมาขาย และแน่นอนมันก็ยอมรับว่ามันเป็นคนจัดหาเหยื่อทดลองให้กับ Skull Face ที่ Devil House ด้วย และเมื่อมันทำนานเขาสัญชาติญาณมันคงบอกว่าอยู่นานคงไมดีแน่นอน เพราะถ้าโดนฆ่าตายไปได้เงินแค่ไหนก็ไม่ได้ใช้มันจึงพยายามหาทางชิ่งออกจาก Skull Face และมันก็เป็นคนแจ้งให้ NGO มาช่วยตรวจสอบเรื่องนี้ด้วยเพื่อจะได้จัดการ Skull Face ในตัว แต่มีดีกว่านั้น มันพูดถึง “ The Specimens” ที่มาจากในป่าลึก ซึ่งเราก็ไม่รู้ว่ามันหมายความว่าอะไร แต่จากตัวอย่างของ “Guinea pig” การติดเชื้อเป็นเหมือนกับที่คนของเราโดนอยู่แน่นอน  จากในป่าลึกหรอ ? บางทีข้างในนั้นมันอาจมีหาทางเอาชนะการติดเชื้อนี้ก็ได้  



                                          SIDE OPS - ELI’S CHALLENGE

ถ้าเปิด SIDE OPS ดูตอนนี้จะมีรายชื่อ ภารกิจเสริมที่เป็นตัวสีเหลืองที่ชื่อ ELI’S CHALLENGE อยู่ เข้าไปทำภารกิจนี้ได้เลย เมื่อรับภารกิจแล้วกลับมาที่ Mother Base ที่ R&D Platform ระหว่างทาง Ocelot จะแจ้งมาว่าเจ้าเด็ก Eli ตั้งแต่แพ้ให้ Boss ในครั้งก็ยังป่วนไม่จบเพราะมันท้าคนอื่นสู้ไปหมดเหมือนพยายามจะหาทางแก้มือ และทันทีที่เข้ามาที่ลานตรงกลาง R&D Platform ตรงจุดวงกลมเหลือง เจ้า Eli ก็จะลอบเข้าโจมตีด้วยระเบิดแสงทันที จากนี้ก็ต้องหาทางจัดการสั่งสอนมันให้ชนะด้วยการลอบหาทางเข้าถึงตัวแล้ว CQC มันหลายๆครั้งสุดท้ายก็หมอบ




 หลังจากจัดการมันได้แล้ว คีย์ไอเทมที่ได้หลังชนะ คือ Conch Shell หรือเปลือกหอยสังข์ ที่ Eli มันห้อยอยู่นั่นแหละ ซึ่งสามารถนำไปเป็นส่วนประกอบในการสร้างไอเทมสำคัญคือ
 - บอลลูน Fulton ที่สำหรับใช้จับตัวเด็ก (ซึ่งตอนนี้ก็สามารถจับทหารเด็กได้อย่างไม่ยุ่งยากแล้ว) 
 -ระเบิดเพลิง Petrol Bomb 


                                   Episode 27 – ROOT CAUSE 

Mission Task 
ภารกิจหลัก 
-ช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ Intel Team

ภารกิจย่อย
-ช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ Intel Team ได้ก่อนรถจะเกิดอุบัติเหตุ
- ช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ Intel Team ด้วยการอุ้มวิ่งหนีออกจาก Hot Zone 

Miller – บอส มีข่าวเข้ามาว่าทีมข่าวกรองของเราที่ส่งไปสืบหาเรื่องยาแก้การติดเชื้อตอนนี้ถูกพวกกลุ่มกองโจร Rogue Coyote มันจับไปได้ พิกัดที่เราได้ล่าสุดจากพวกเขาคือทางตะวันตกของเหมือง Kungenga Mine บอสเราต้องช่วยคนของเราออกมาให้ได้โดยเร็วที่สุด 

-เดินทางมาที่ค่ายทหาร 07 ทางซ้ายของเหมือง Kungenga Mine เพื่อทำการค้นหาเป้าหมายคือ หน่วยข่าวกรองที่ถูกจับไป ซึ่งจะสามารถช่วยเขาได้จาก 2 เหตุการณ์คือ
1 พอมาถึงค่ายทหาร 07 แล้ว รีบวิ่งอ้อมไปดักที่ทางออกด้านขวาของค่ายทันทีเพราะไม่นานตัวประกันจะขับรถบรรทุกหนีออกมาจากค่ายได้ ซึ่งจะสามารถดักช่วยเขาระหว่างที่หนีออกมาได้เลย
2.ถ้ามันแต่เข้าไปเก็บของในค่ายทหารหรือเข้าไปที่จุดหมายที่ Miller บอกมาในบ้านก็จะพบแต่ศพของเจ้าหน้าที่คนอื่นที่ถูกฆ่าตายไปในแล้ว ซึ่งตอนนั้นนักโทษเป้าหมายอีกคนที่จะช่วยมันจะหนีออกจากค่ายด้วยรถบรรทุกแล้วจะไปคว่ำและระเบิดบนเนินเขา คราวนี้ก็ต้องรีบตามไปช่วยมันก่อนที่พวกศัตรูจะเข้าไปฆ่ามันซะก่อน
-จากนั้นก็เรียก ฮ. มารับตัวประกันเป้าหมายแล้วหนีออกจากพื้นที่เพื่อจบภารกิจได้เลย



Miller – บอส ตอนนี้หน่วยข่าวกรองที่คุณช่วยมาเขาปลอดภัยดีขึ้นแล้ว และฝากขอบคุณบอสมาด้วย แต่เขาก็มีข่าวที่เราต้องการมาบอกด้วยเกี่ยวกับ “The Specimens” และชายแก่คนหนึ่งที่ว่ากันว่าเขารู้เรื่องการระบาดของโรคและรู้วิธีที่จะรักษาการติดเชื้อนี้ด้วย เขาชื่อว่า “Code Talker” ซึ่งเรากำลังเจาะลึกเพื่อหาที่อยู่ของเขาอย่างเร่งด่วนอยู่ 


                                    Episode 28 – CODE TALKER

Mission Task 
ภารกิจหลัก 
-เข้าไปจนถึงห้องขังของ Code Talker  
-ช่วยเหลือ Code Talker  

ภารกิจย่อย
-ช่วยเหลือ Code Talker โดยเขาไม่บาดเจ็บ
-กำจัด Skull Sniper (ฆ่าได้ตัวเดียวก็นับแล้ว)
-จับตัว Skull 
-ขโมยรถหุ้มเกราะที่ทางออกตอนหนีออกมา

**อาวุธจำเป็น ปืนไรเฟิ่ล และ Buddy Quiet ** 

Miller – บอส มีข่าวดี ตอนนี้เราสามารถติดต่อกับชายแก่ที่ชื่อ Code Talker ได้แล้ว เขาอยู่ในคฤหาสน์หลังใหญ่ในป่าลึกที่ติดกับภูเขาน้ำตก Lufwa Valley ซึ่งตอนนี้เราเชื่อว่า Cipher มันคงเข้าไปถึงตัวเขาแล้วและคงจับขังพร้อมทั้งตรึงกำลังอย่างแน่นหนาแน่นอนระวังไว้ด้วยแล้วกันบอส เข้าไปขอความช่วยเหลือจากเขาเกี่ยวกับการรักษาการติดเชื้อแล้วพาเขาหนีกลับมาที่ฐานให้เร็วที่สุด 

-ทันทีที่ลงจาก ฮ. เพื่อเริ่มภารกิจ เมื่อเข้ามาที่ทางเข้าป่าหลังเขา  Lufwa Valley บรรยากาศของหมอกก็จะเริ่มแสดงตัวออกมาเพื่อทำให้ Miller ต้องเตือนให้ บอส ระวังอันตรายข้างหน้าทันที และเมื่อย่างก้าวผ่านเข้ามาพ้นทางเข้า ฝูงสไนเปอร์สาว Skull 02 4 ตัวก็ออกมาป้องกันพื้นที่ทันที ทำให้รู้เลยว่า Skull face มันเตรียมการรักษาความปลอดภัยไว้เต็มที่นั่นแสดงว่า ตาแก่ Code Talker เป็นกุญแจสำคัญที่มันจะเสียไม่ได้



-เมื่อ Skull 02 เริ่มโจมตีก็อย่าคิดว่าจะโผล่หัวขึ้นพ้นกอหญ้าได้เลย ทางเลือกที่ทำได้คือถ้าขี้เกียจก็มุดหัวคลานข้ามไปจนถึงด้านในหรือจะลองสู้กับมันเพื่อเอามัน การต่อสู้กับพวกน้องๆ Skull 02 นั้นก็เหมือนกับ Quiet ที่สามารถเอาชนะได้และจำตัวมันได้ด้วย มุขเดิมคือ กำหนดจุดแล้วเรียก Supply ตกใส่หัว ซึ่งงานนี้จะมีโดดหนีได้บ้างแต่ถ้าใช้การโผล่หัวล่อมันก่อนกล่องจะถึงหัวมันยังไงก็โดนแน่ และถ้าคุณเอา Quiet มาลุยด้วยก็ต้องมาลุ้นเอาว่านางจะยิงได้แค่ไหนแต่เชื่อเลยว่างานนี้เหมาะกับ  Quiet แน่นอน
-เมื่อผ่าน Skull เข้าไปจนถึงคฤหาสน์ขนาดใหญ่ด้านในจะต้องพบทหารมากมายที่ระวังป้องกันแบบเต็มอัตราศึก ก่อนเข้าเปลี่ยน Buddy เป็น DD ก็ดี หาทหารมาล็อกคอถามคนแรกก็จะบอกถึงทางเข้าหลักๆของตึก คนที่สองจะบอกถึงพิกัดของห้องขังของตาแก่ Code Talker



 ซึ่งจะอยู่ที่ชั้นใต้ดินด้านในสุดของห้องเก็บไวน์ ทางขั้นมีหลายทางมาก แต่ถ้าหลังบ้านนั้นจะใกล้ประตูห้องใต้ดินมากที่สุดแต่ก็มีทหารป้องกันมากที่สุดเหมือนกัน ซึ่งถ้าไม่ขึ้นไปเก็บของต่างๆที่ชั้นบนก็หลบทหารที่ชั้นหนึ่งแล้วเข้าประตูด้านหลังบ้าน เข้าไปที่ทางเดินด้านในทางซ้ายของประตูก็เจอประตูลงไปที่ห้องใต้ดินได้เลย ซึ่งก็จะพบ Code Talker อยู่ด้านใน

Boss – คนของผมติดเชื้อ ทำยังไงจะรัก ..





Code Talker – เงียบ หรือไม่ก็ ตาย ..พวกมันอยู่ในนี้ ในลำคอนี่ เงียบไว้แล้วชีวิตคุณจะปลอดภัย พวกปรสิตมันสามารถแพร่กระจายและติดเชื้อพวกของคุณนั่นมันคือ  “LARVAE” เป็นตัวอ่อนของปรสิต พวกมันเข้าสู่รางกายเหยื่อทางลำคอและฝังตัวเองลงในเส้นเสียง แฝงตัวเลียนแบบเนื้ออยู่เกาะเป็นกาฝากอยู่ไม่มีใครมองออกว่ามันเป็นสิ่งแปลกปลอม จนถึงวันที่มันเจริญเติบโตเต็มที่ก็ถึงเวลาแสดงตัวผ่านออกมาทางเสียงที่เฉพาะเจาะจง จนเกิดการกระตุ้นให้เกิดการผสมพันธ์หรือเชื่อมต่อกัน และสิ้นสุดหน้าที่ของ ตัวอ่อน จากนั้นมันก็จะเริ่มกัดกินปอดเจ้าของร่างแล้วก็ฆ่าทิ้ง  เสียงที่เฉพาะเจาะจง (The Particular Sound) คำพูด เป็นภาหะการแพร่กระจาย พวกมันโจมตีเฉพาะคนที่พูดภาษาที่มันถูกตั้งโปรแกรมไว้ และไม่ว่าจะพูดภาษาอะไรมันก็สามารถปรับตัวและเรียนรู้ได้ตลอด เว้นไว้แค่คนที่ไม่พูดอะไรเลย ฉะนั้น เงียบไว้เป็นการดีที่สุด 



และนี่เป็นสมุนไพรที่มันเกลียด สูบเข้าไปซะ .. ดี มาก ที่นี้ก็จะทำให้พวกมันหูหนวกได้ซักพักใหญ่ซึ่งก็ทำให้คุณซื้อเวลาได้ เอาละ พูดได้แล้ว 
Boss – เป็นการรักษาหรือเปล่า ?
Code Talker – แค่การบ่งชี้ตามเงื่อนไขของมันครั้งเดียว ตัวอ่อน ก็เจริญเติบโตได้แล้ว ประเด็นก็คือ ไม่มีทางรักษาได้ แต่ก็มีทางที่ทำให้มันหยุดโจมตีได้ คือการป้องกันไม่ให้ติดเชื้อ 
Boss – ผมต้องการให้คุณช่วย
Code Talker – พวกมันขโมยไปทั้งที่ข้าพยายามปกป้องมันเอาไว้อย่างดี บีบบังคับข้าด้วยความโหดเหี้ยมและรุนแรง 
Boss – Skull Face!
Code Talker – พวกมันกำลังจะอ้างสิทธ์ครอบครองทุกกฎทุกอภิสิทธิ์ของโลกที่มันต้องการ จะเกิดอะไรขึ้นถ้ามันถูกสอนในภาษาของศัตรูของพวกมัน ฆ่าคนได้จากที่เอ่ยวาจาจากปากตัวเอง มันเรียกเจ้าสิ่งนี้ว่า “Ethnic Cleanser” แผนร้ายที่จะทำร้ายประเทศที่ไม่ได้ใช้ภาษาอังกฤษสูญสลายไปจากโลก เวลาของโลกนี้จะถูกนับถอยหลังไปสู่วันที่เริ่มมีการใช้ภาษากันอีกครั้งและสามารถบิดเบือนมันได้ด้วยมือของชายแค่คนเดียว 
Boss – เป็นมุขตลกร้ายที่เจ็บแสบสิ้นดี
Code Talker – ที่นี่ก็เหมือนอเมริกา อำนาจทำให้คนลืมตัว แต่ข้าท้าทายมัน เป็นปรปักษ์กับพวกมัน แต่โชคชะตาก็นำพาให้คุณมาที่นี่ เพราะถ้าช้ากว่านี้ เด็กๆของข้าก็จะแพร่กระจายไปทั่วโลก มันคงเป็นความผิดของข้าไปจนวันตาย ไปแก้ไขให้ในถูกกันเถอะ!!  

-หลังจากตกลงขอความช่วยเหลือจาก Code Talker เสร็จ ที่เหลือก็คือพาเขาหนีออกจากทีนี่ ซึ่งแน่นอนว่า เขาแก่เกินไปที่จะส่งขึ้นบอลลูน ทำให้ต้องแบกเขาออกไปจนถึงจุดขึ้นเฮลิคอปเตอร์ด้วยตัวเอง




Boss – บอกผมหน่อย จะสู้มันได้ยังไง ? 
Code Talker – ข้าซ่อนความลับทุกอย่างไว้ในขวดจุลินทรีย์ขวดนี้ มันสามารถปรับสภาพปรสิตตัวผู้ให้กลายเป็นตัวเมียเพื่อป้องกันการขยายพันธ์ ปริสิตตัวหนึ่งก็จะติดเชื้อไปสู่อีกตัวนึงจนหมด แต่ถึงอย่างนั้นมันก็ไม่ได้ส่งผลแต่กับปรสิตนะ มันจะเปลี่ยนแปลงร่างของภาหะให้ดีขึ้นด้วย การระบาดของเชื้อก็จะถูกยับยั้ง คนของคุณก็จะกลับสู่สภาพเดิมเป็นค่าที่ต้องจ่ายเพื่อจะเอาคำพูดของกลับคืนมา  
Boss – เหมือนมีตัวประหลาดจะตามนะ พวกมันเป็นแบบนี้เพราเด็กๆของคุณหรือเปล่า ?
Code Talker – เป็นปรสิตเส้นเสียงที่ถูกดันแปลงให้เข้มข้นขึ้น มันถูกเปลี่ยนให้ทำงานกับผิดหลังของเจ้าของร่างแทน ไปเสริมกำลังให้ผิวหนังแข็งแกร่งขึ้น แต่ข้าไม่รู้ว่าพวกมันถูกทำให้ติดเชื้อได้ด้วยวิธีไหน มันขโมยงานทดลองข้า เพื่อไปสร้างกองทัพของตัวเอง แล้ว คุณเคยเห็นของในรถบรรทุกนั่นมั๊ย ?
Boss – เรายึดรถของพวกมันได้ข้างในเป็นแร่อะไรบ้างอย่างไม่แน่ใจว่าใช่ Yellow Cake หรือเปล่า ??
Code Talker –  มันเปลี่ยนสสภาพรึยัง “The Metallica archaea”   ?? 
นักบิน – เกาะดีๆเมฆประหลาดนั้นกำลังลอยเข้ามาถึงเราแล้ว !!! 
Code Talker –   พวกมันมากันแล้ว !! 



                                    Episode 29 – METALLICA ARCHAEA  



Mission Task 
ภารกิจหลัก 
-ทำลายหน่วย Skull
-ช่วยเหลือ Code Talker 

ภารกิจย่อย
-จบภารกิจโดยไม่โดนทหารที่ถูกสิงจับตัว
-ชิงตัวหน่วย Skull กลับฐาน

เหตุการณ์วิกฤติหนักในภารกิจชิงตัว Code Talker ทันทีที่หมอกควันประหลาดที่ลอยปะปนกับบรรยากาศที่เริ่มโจมตีเฮลิคอปเตอร์ของ Boss ด้วยการทำให้ ฮ. ทั้งลำกลายเป็นสนิมในพริบตาก่อนจะเสียการควบคุมตกลงไปที่สนามบิน Nova Braga โชคดีที่ทุกคนยังรอดชีวิตและ Code Talker ยังอยู่ในสภาพปลอดภัย แต่ที่โชคร้ายคือ ไม่กี่อึดใจหมอกประหลาดก็เริ่มเข้าสิงร่างทหารในสนามบินจะเริ่มคลุ้มคลั่งและวายร้ายเบื้องหลังหมอกควันก็ปรากฎตัวออกมา 



หน่วย Skull 02 ชายหุ้มเกราะคอนกรีตหนา 4 ตัวพร้อมทหารที่ถูกสิงอีกมากมายกำลังจะบุกเข้ามาเพื่อหวังจากเอาตัว Code Talker คืนในขณะที่รอเฮลิคอปเตอร์เสริมจาก Ocelot สิ่งที่ Boss ต้องทำคือเอาตัวรอดจากฝูง Skull และกำจัดมันให้หมดก่อน เจ้า Skull 02 นั้นหุ้มเกราะคอนกรีตหนาที่ต้องใช้ระเบิดหรือปืนที่แรงๆต่างๆเพื่อทำลายเกราะมันก่อนแล้วจึงจะได้เห็นแถบพลังจริงๆของมัน และถ้าจะใช้รถถังหรือ D – Walker เพื่อเป็นต่อก็ทำใจเลยว่าไม่ได้เพราะ ทันทีที่ใช้พวกยานยนต์ มันก็จะใช้หมอกโจมตีให้เป็นสนิมจนพังทันที




 ที่ทำได้คือ อาจรอจังหวะสวนกลับในระยะประชิดด้วยการกดปุ่ม CQC ให้ทัน ก็จะทำให้ Boss เข้าไปซัดมันให้ชะงักมีเวลาพอให้งัดปืนแรงๆมายิงทำลายเกราะมันได้ จริงๆไม่ว่าจะปืนแรงแค่ไหนก็จะต้องใช้ความพยายามในการยิงมันให้โดนอย่างต่อเนื่องอยู่ดีเพราะเหตุการณ์การต่อสู้ที่นี่นั้นวุ่นวายสับสนมาก ถ้าอยากรอดให้นานต้องคิดเร็วทำเร็วด้วย ซึ่งปืนกลหนักหรือแมชชีนกันที่สามารถยิงได้ต่อเนื่องและปืน Granage  Launchers นั้นเหมาะกว่า RPG ที่มีรัศมีการทำลายกว้างไปเลยทำให้ทำลายเพราะมันไม่ได้ดีพอ

- เมื่อจัดการพวกมันจนหมดแล้วก็อุ้ม Code Talker ขึ้น ฮ. ที่ Ocelot ส่งมารับได้เลย


Code Talker – Skull face มันคงอยู่ในแอฟริกาอีกไม่นานเพราะการทดสอบนิวเคลียร์ของมันเสร็จสิ้นแล้ว จากนั้นมันก็จะจัดการเก็บข้าทันที และการทดสอบเมื่อ 5 ปีที่ผ่านมาจนถึงครั้งนี้ ไม่มีการระเบิดเพื่อทดสอบ เพราะแผนที่แท้จริงของมันคือ รวบรวมและผูกขาดเพื่อขายอาวุธนิเคลียร์แต่เพียงผู้เดียว โดยการลักลอบหลบซ่อนผ่านการขนส่งแร่เพื่อตบตาในรูปแบบของ METALLICA ARCHAEA ที่สามารถตบตาแต่ขายได้ในราคาถูกกว่ายูเรเนี่ยม มันจึงกลายเป็นอาวุธที่สามารถขายได้กลับทุกกลุ่มที่ต้องการ แม้แต่กลุ่มผู้ก่อการร้ายกระจอกๆกลุ่มเล็กๆก็สามารถซื้อหาอำนาจของอาวุธนิวเคลียร์แบบนี้มาครอบครองได้ไม่ยาก แต่ใครจะรู้ว่า อาวุธนิวเคลียร์แบบใหม่ที่ Skull Face มันขายให้นะ มันสามารถควบคุมได้ ส่วนอาวุธจริงๆของมันนะก็หุ่น 2 เท้าพลังทำลายมหาศาลของมันต่างหาก
Boss – หุ่นสองเท้า ?
Ocelot – ไม่แปลกที่มันต้องการคนอย่าง Huey 
Miller – อาวุธนิวเคลียร์มาแทนตลาดการค้าอาวุธแบบธรรมดา Skull Face ก็ครองตลาดได้คนเดียวแน่นอน 
Code Talker – มันจะกลายเป็นงานมหกรรมของอาวุธนิวเคลียร์ที่จะกระจายไปทุกแห่งทุกที่ในโลกเลย คิดดูว่าเมื่อทุกฝ่ายต่างก็ถืออาวุธนิวเคลียร์กำมะลอที่ Skull Face เท่านั้นที่สามารถควบคุมได้ทั้งหมด มันจะเกิดอะไรขึ้น ? ทุกฝ่ายก็จะขาดการปป้องกันตัวกันหมด 
Ocelot – การทดลองที่ผ่านมาของมันเราถึงไม่เคยเห็นมีการทดสอบการระเบิด 
Code Talker – ช่าย เพราะการระเบิดของ METALLICA ARCHAEA เก็บไว้สำหรับระเบิดทำลายผู้ที่ซื้อมันไปไงละ เมื่อทุกฝ่ายไร้อาวุธที่จะต้านทานมันก็จะเปิดเผยอาวุธที่แท้จริงของมันออกมา Sahelanthropus !
Boss – ควบคุมที่คนไม่ใช่ที่ประเทศ 
Ocelot – ซึ่งแผนแพร่กระจายนิวเคลียร์ของมันทำให้นิวเคลียร์ที่แต่ละกองกำลังทั่วโลกถืออยู่ไร้ค่า ผลของมันก็จะให้อำนาจต่อรองต่างๆทั้งด้านการเมือง กำลังทหารและเศษฐกิจของแต่ละประเทศล้มเหลวไปด้วย   

                                                            Parasite Suit




หลังจากจบภารกิจ Ocelot ก็จะแจ้งว่า ทีม R&D และ Medical Team ได้ทำวิจัยโดยใช้ความรู้ของ Code Talker ทำให้สามารถสร้างชุดเลียนแบบ Skulls ออกมาให้ใช้ได้ชื่อว่า Parasite Suit ซึ่งทำให้ใช้ความสามารถแบบเดียวกับพวก Skull ได้ แต่การจะใช้ความสามารถนั้นได้จำเป็นต้องใช้ ปรสิต ซึ่งแปลว่าหลังจากได้ชุดนี้มาก็สามารถจะจับพวก Skull ขึ้นบอลลูนได้แล้ว (ไม่จำเป็นต้องใส่ชุด) หลังจากจับพวกมันได้แล้วจะได้คีย์ไอเทม Parasite Skill ที่สามารถนำไปสร้าง Parasite Skill ได้ในคำสั่ง Development - Item โดยพวก Skull จะมี 3 ชนิดและมีความสามารถที่ให้มาต่างกัน

1.Mist Type หรือ ร่างหมอก ซึ่งจะเจออยู่ใน EP 1 ตอนที่พา Miller หนี จับได้จะได้ Parasite Mist สามารถนำไปสร้างไอเทม  Parasite Mist ใช้ประกอบ Parasite Suit จะทำให้ใช้ร่างหมอกได้ 
2. Armor Type หรือ ร่างเกราะ ซึ่งจะเจออยู่ใน EP 16 และ EP 29 จับได้จะได้ Parasite Armor สามารถนำไปสร้างไอเทม Parasite Armor ใช้ประกอบ Parasite Suit จะทำให้ใช้ร่างเกราะได้ 
3.  Camouflage Type หรือ ร่างล่องหน ซึ่งจะเจออยู่ใน EP 28 จับได้จะได้ Parasite Camouflage สามารถนำไปสร้างไอเทม Parasite Camouflage ใช้ประกอบ Parasite Suit สามารถล่องหนได้  

** เมื่อสร้างไอเทมที่ว่าได้แล้วก็ใส่ลงไปในช่อง Item แล้วกดใช้งานด้วยแกนอนาล็อกขวาในขณะที่สวมใส่ชุด Parasite Suit ก็สามารถใช้พลังของ Skull ในแบบต่างๆได้ และเมื่อใช้หมดแล้วก็จำเป็นต้องไปไล่ล่าพวก Skull อีกครั้งเพื่อเก็บไอเทมมาใช้งาน ** 



และเมื่อ Code Talker มาถึง Mother base การติดเชื้อไวรัสเส้นเสียงของเหล่าทหารไดมอนด์ ด็อกก็ถูกวิเคราะห์ได้ว่าเกิดการติดเชื้อจากภาษา Kikongo นั่นเอง มันติดต่อผ่านคนที่พูดภาษานี้ได้จึงเกิดการล้มตายติดต่อกันมากมาย     



สุดท้าย Code Talker ก็ใช้ ไวรัส “Wolbachia” ที่เขาสร้างขึ้นสร้างเป็นตัวแอนตี้ไวรัสเส้นเสียง ทำให้มันกลายเป็นตัวเมียไปหมดจนไม่สามารถขยายพันธ์หรือติดต่อได้อีก 



48 ชั่วโมงของการแพร่กระจายของโรคติดต่อทางเส้นเสียงที่เป็นเสมือนฝันร้ายที่สร้างความสูญเสียของเหล่าทหาร ไดมอนด์ ด็อก ก็จะจบลง ทุกคนที่ตายก็จะถูกเก็บเป็นข้อย้ำเตือนความทรงจำต่อความโหดร้ายที่มีต่อเรา ส่วนคนที่รอดก็จะหายเป็นปกติและถูกส่งหกลับหน่วยงานเดิมเพื่อเริ่มงานต่อทันที  แต่ไม่ว่ามันจะเริ่มและจบยังไง Skull Face ก็ต้องชดใช้ทั้งหมดที่มันทำกับไดมอนด์ ด็อก แน่นอน!!

และเมื่อผ่านพ้นความสูญเสียและรับรู้แผนร้ายของ Skull Face ทั้งหมดแล้วว่า อาวุธที่แท้จริงของมันคือหุ่น Sahelanthropus ที่เหลือ Ocelot กับ Miller ก็ต้องไปไล่บี้ Dr. Emmerich อีกรอบเพื่อให้เขาคายความจริงที่เหลือเกี่ยวกับหุ่นรบพลังนิวเคลียร์เพื่อให้รู้ถึงที่ซ่อนของมันทันทีก่อนที่ Skull Face จะทำตามแผนได้สำเร็จ 




Dr. Emmerich – เดี๋ยวๆ คุณจะใช้เซรั่มให้ผมพูดความจริงอีกแล้วหรอ ??
Ocelot – เปล่า ว่าแต่ขาเทียมของแกเนี้ยทำจากไทเมเนียมหรอ ? แต่ผมจะละลายมันให้ดูด้วยสิ่งที่อยู่ในเข็มฉีดยานี่
Dr. Emmerich – METALLICA ARCHAEA !! 
Ocelot – Sahelanthropus ! มันอยู่ที่ไหน !
Miller – เราต้องรู้ก่อนที่แผนมันจะสำเร็จ Sahelanthropus เป็นอาวุธสุดท้ายของ Skull face 
Ocelot –  ไม่นานระบบป้องกันนิวเคลียร์ของโซเวียตก็จะล่ม สงครามเย็นก็จะกลับมาอีกครั้ง ทันที่ที่ทุกกล่มรู้ว่าอาวุธที่มันได้มาจากที่ Skull Face ขายให้มันของหลอกลวง ในขณะที่คนที่มีนิวเคลียร์ของจริงอยู่คือ Skull face คนเดียว ความสมดุลของอำนาจในโลกก็จะพังทลายลง เราแค่อยากหาทางป้องกันอุบายของมัน Skull Face มันจะกลายเป็นผู้ก่อการร้ายระดับโลกในไม่ช้านี้ อ่อ แล้วก็ ซีโร่  ด้วย และจะเปิดเผยแผนของมันได้ก็ต้องเปิดโปงเรื่อง Sahelanthropus ก่อน 



Dr. Emmerich – มันทำงานไม่ได้หรอกถ้าไม่มีผมนะ 
Ocelot –   ด็อก ผมจะไม่เตือนแล้วนะ ขาคุณจะเละไปพร้อมกับขาเทียมคุณแน่ๆถ้าคุณไม่บอก
Dr. Emmerich – อ่าๆๆ ที่ OKB Zero เป็นห้องแล็ปลับที่ได้เงินทุนจากพวก Philosopher นั่นแหละที่ซ่อนหุ่น Sahelanthropus ที่พวกคุณตามหา แต่ผมไม่รู้จริงๆว่าพวกมันควบคุม Sahelanthropus ได้ยังไง มันไม่ได้ถูกออกแบบให้บังคับได้โดยมนุษย์ด้วยซ้ำ 





Miller – บอส เราได้รับรายงานว่า ตอนนี้คนที่ฐานทัพโซเวียตตายหมดแล้ว ไม่มีร่องรอยการต่อสู้ แน่นอนว่ามันคงใช้ปรสิตนั่น Skull Face กับคนของมันมุ่งขึ้นเหนือ ถ้าทางจะไปที่ OKB Zero คงกำลังเตรียมใช้ Sahelanthropus และถ้าเราหยุดมันไมได้ คำว่าว่าชัยชนะต่อไปในประวัติศาสตร์โลกนี้จะเป็นของใครไม่ได้อีกถ้าไม่ใช่พวกมัน และเราจะยอมให้เกิดขึ้นไมได้แน่นอน !! กำจัดมันซะ ไม่ให้เหลือแม้รอยเท้าที่มันเคยเหยียบไว้ Trace existence 
Boss – งานนี้คงต้องหาตัวช่วย !!  
Miller – เสียงปืนแตกเมื่อไหร่ สั่งมาได้เลย ! บอส 



                                          Episode 30 – SKULL FACE  

Mission Task 
ภารกิจหลัก 
-เข้าไปจนถึงตัว Skull Face
-ได้รับข้อมูลจาก Skull Face

ภารกิจย่อย
-ขโมย Walker Gear 4 ตัว
-เก็บเทปเพลงในฐาน OKB Zero
-ขโมยตู้คอนเทรนเนอร์ในฐาน OKB Zero
-ขโมยรถถัง 3 คันในฐาน OKB Zero





Big Boss ,Miller , Dr. Emmerich และแม้กระทั้ง Eli ที่กระตือรือร้นของตามมาด้วยเพื่อเดินทางมาที่ด้านเหนือของฐานใหญ่ของโซเวียตที่ Dr. Emmerich ยืนยันว่ามันเป็นที่ซ่อนของห้องแล็ปลับ OKB Zero ที่เก็บหุ่น Sahelanthropus หมากตัวสุดท้ายของ Skull Face เป้าหมายที่ทุกคนต้องการทำลาย เพื่อหวังหยุดแผนสุดท้ายของมันให้เป็นแค่ความฝันของผู้ร้ายที่ต้องตายไปกับมัน และหวังว่าสงครามนี้จะเป็นครั้งสุดท้ายที่จะจบลงด้วยดี 

-เมื่อเดินทางมาจนถึงที่ฐานใหญ่ของโซเวียตแล้ว แน่นอนว่าตอนนี้พวกทหารโซเวียตถูกกำจัดจนหมดแล้ว กองกำลังที่คุ้มกันที่นี่ก็คือหน่วย XOF ของ Skull Face แบบเต็มรูปแบบ ฉะนั้นตั้งแต่ทางเข้าป้อมนั้น เต็มไปด้วยศัตรูทั้งสไนเปอร์ที่เล็งจากด้านใน เฮลิคอปเตอร์ลาดตระเวน และรถถังที่จอดดักอยู่มากมาย เป้าหมายคือลอบผ่านประตูใหญ่ 3 ชั้นเข้าไปจนถึงป้อมใหญ่ด้านหลัง (โชคดีที่มีออโต้เซฟให้ทุกครั้งที่ผ่านประตู) เพื่อขึ้นไปที่ลานจอดเฮลิคอปเตอร์ซึ่งเป็นตำแหน่งที่ Skull Face กำลังเตรียมเดินทางไปทำแผนสุดท้ายของมัน

Skull Face – คุณก็ด้วยหรอที่รู้จักความสูญเสีย และความสูญเสียก็ยังคงไว้ด้วยความเจ็บปวดที่ยังฝังใจ คุณหวังว่าจะใช้ความอาฆาตไปแทนที่ความเจ็บปสดของแก แต่ความเจ็บปวดนั้นมันก็กลับไม่เคยหายไปไหน คงเหลือแต่ชายที่เต็มไปด้วยความหวาดกลัว ทั้งข้างนอกและข้างในตัวเอง คุณจะยอมรับมั๊ยละ ?  เราทั้งคู่เป็นปีศาจ ความเป็นมนุษย์ไม่มีวันหวนกลับมาอีกแล้ว คุณ ผม เราต้องไม่มีที่ให้หนี ไม่มีที่ให้หลบซ่อนอีกแล้ว นั่นแหละที่ทำให้ผมต้องทำให้เห็นปีศาจในตัวผม ตามผมมา Big Boss!



 Skull Face – ไม่ว่าใครจะบอกคุณยังไง ก็มีแค่วิธีการเดียวที่ผมได้มาจาก Cipher  นอกนั่นเจตนาของผมนั้นแตกต่างมากนัก ผมรู้จักคุณสมัยที่ยังทำงานอยู่ Langley แค่อยู่อีกด้านของเหรียญของคุณเท่านั้นเอง ปี1964 ปฎิวัติโซเวียต ภารกิจแรก Snake Eater ของหน่วย FOX ทุกความปั่นป่วนในภารกิจที่พวกคุณทำ หน่วย XOF ของผมเป็นคนเก็บกวาดอย่างลับๆให้ทุกครั้ง ภารกิจของคุณก็ทำเร็จตามผลที่ต้องการอย่างน่าชื่นชม แล้วคุณก็เก็บความภาคภูมิใจไว้เต็มกระเป๋า  แต่เมื่ออนาคตมาถึงจะช้าหรือเร็วความภูมิใจที่ว่าก็กลายเป็นของไร้ค่าไป แล้วผู้พันซีโร่ก็เข้ามาหาผมกับไอเดียของเขา “วอชิงตันใช้เงินไม่เป็นหรอก” เขาบอกแบบนี้ ผมก็ฟังดูมันแปลกใหม่นะ เป้าหมายของเขาที่จะสร้างองค์กรที่เป็นแบบพิเศษแยกออกมาจากระบบเพื่อสนับสนุนอเมริกา ส่วน Cipher คุณก็รู้ว่าเขากำลังพักเพราะโศกเศร้ากับการเสียเพื่อนฝูง หรือตรงกันข้าม อาจกำลังเตรียมการเพื่อแก้แค้นกับโลกใบนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับอเมริกา ดินแดนแห่งเสรีภาพและแหล่งรวมของผู้อพยพจากนานาประเทศที่เข้ามา เป็นเหลือปกติของประชาชนที่ต้องการความอยู่รอด แน่นอนร้อยพ่อพันแม่ย่อมเกิดปัญหามากมายตามมา แต่อเมริกาก็ไม่ได้สนใจจะทำอะไร กับแนวคิดที่คนชอบคิดว่า ทุกคนจะเป็นอิสระเมื่อเข้ามาอยู่ในประเทศนี้ แต่แนวคิดแบบหลับตาข้างเดียวแบบนี้ก็ไม่ได้เป็นที่ยอบรับของทุกคนที่ไหน จนผู้พันซีโร่ค้นพบแนวคิดที่จะทำบางอย่างกับเรื่องนี้ว่า “ ภาษาสามารถควบคุมจิตใต้สำนึกได้” 



Skull Face – ไม่ว่าจะเป็นอเมริกาหรือโลกทั้งหมด ผู้พันซีโร่ก็ว่ามันไม่ต่างกัน แต่ผมคิดว่าเขาไม่รู้อะไรมากกว่า ก่อนที่เขาจะเดินได้หรือเริ่มร้องไห้งอแงหรือก่อนที่เขาจะเกิด ภาษาที่แม่ของเขาใช้พูดมันก็เป็นภาษาอังกฤษแล้ว เขาไม่รู้จักความเจ็บปวดของการสูญเสียภาษาของตัวเอง ยังหรอก เขาไม่รู้แต่ผมรู้ ผมนะเกิดในหมู่บ้านเล็กๆที่ฮังการี่ ตอนทหารต่างชาติเข้ามายึดหมู่บ้านเราผมยังเด็กอยู่เลย กว่าจะโตขึ้นมาได้ก็ถูกเล่นงานตลอดเพราะมันว่า พูดภาษาของมันไม่ได้ จนผมได้ไปทำงานที่ใหม่ เจ้านายใหม่  พวกมันก็บังคับให้ผมพูดภาษาของมันจนได้ ภาษาเป็นอะไรที่แปลกอย่าง เมื่อทุกอย่างเปลี่ยนมันก็เปลี่ยนตามด้วย แต่ตามความคิดผม มันเป็นภาษามันเป็นเรื่องของ เอกลักษณ์ของบุคคลไม่สามารถตัดสินว่าถูกหรือผิดได้ เห็นมั๊ย .. สงครามมันเปลี่ยนผมแค่ใบหน้าหรอกนะ ผมถูกภาษาเหยียบย่ำ จนชอกช้ำอยู่ในใจมาตลอด นักปรัชญาคนหนึ่งเคยว่าไว้ ไม่ใช่ประเทศหรอกที่เราอาศัยอยู่ แต่เป็นภาษาต่างหาก” ภาษาที่ติดตัวเรามาแต่เกิดมันบ่งบอกถึงบ้านเกิดของเราเสมอ ผมคิดว่าอย่างนั้นนะ บ้านเกิดผม ที่พวกมันขโมยเอาไปจากผม .. เอาละ นั่นมันก็เรื่องอดีตอ่ะนะ จากนี้จะเป็นเรื่องของอนาคต ! การแก้แค้นของผม ภาษาของผู้อ่อนแอ่ยอมถูกกลืนกินจากเจ้าของภาษาที่แข็งแกร่งกว่า แนวคิดเดียวที่ผมได้มาจากผู้พันซีโร่อย่างที่ผมว่าไว้  แนวคิดที่เขาและตาแก่ Code Talker กำลังจะเริ่มทำบางอย่างกับมันเพื่อควบคุมทุกอย่างง่ายๆเหมือนผลิกฝ่ามือ รหัสแห่งภาษา รหัสแห่งข้อมูลตัวเลข รหัสแห่งพันธุกรรม รวมถึงประวัติศาสตร์ ถ้าควบคุมหลักเกณฑ์พวกนี้ได้จะเหลืออะไร Cipher, Zero ตั้งใจจะทำให้มันเป็นหนึ่งเดียวกันทั้งโลก มันจะเอาหลักเกณฑ์บ้าๆของมันมายัดใส่หัวเราแล้วทำให้จิตใจเราเฉาตายไปทุกๆวัน  และเมื่อมีปรสิตนี้เกิดขึ้นบนโลก ก็เข้าทางมันเลย แต่ซีโร่ก็ต้องรับผิดชอบที่มันทำลายเสรีภาพของผม ทำลายทุกอย่างที่ผมทำมาในอดีต และยังทำลายทุกสัญญาที่มีในอนาคตด้วย เรามันก็แค่กองทัพของซากศพเดินได้ในโลกที่ผู้พันซีโร่มันเปลี่ยนแปลงไว้  Cipher จะใช้แผนนี้ควบคุมโลก มันคงคิดว่าจะทำได้ เพราะจากนี้ภาษาแม่ที่เป็น ภาษาอังกฤษ จะถูกกำจัดสิ้น ด้วยไวรัสของผม ไวรัสตัวสุดท้าย ที่รู้ภาษาอังกฤษตัวนี้ และด้วยสิ่งนี้ผมก็จะขจัดสิ่งที่น่ารำคาญเรื่องภาษาของมหาอำนาจออกไปได้จนหมด โลกก็ได้มี อิสระ จริงๆเสียที  บุกเบิกอนาคตกันใหม่ นี่ไม่ใช่ “Ethnic Cleanser” หรือการล้างบางชนกลุ่มน้อยเหมือนที่คุณเข้าใจจากตาแก่นั่นหรอกนะที่เกิดกับชาวบ้านนั่นมันแค่การทดสอบ จริงๆแล้วมันคือการ ปลดแอกแห่งเสรีภาพ มากกว่า  โลกที่ถูกปลอดปล่อยจากผู้พันซีโร่ ให้โลกมันเป็นอย่างที่มันควรเป็นเสียที ผู้คนอาจจะต้องทรมานจากการแตกเป็นเสี่ยงของโลกที่คุ้นเคยนิดหน่อย ก็เหมือนกับความเจ็บปวดของคนที่เสียแขนขากับ “”Phantom Pain” ไง  จากนั้นก็จะเกิดอิสรเสรี และบางทีโลกอาจจะมีภาษาใหม่เข้ามาด้วย ภาษาของนิเคลียร์ไง เมตัลเกียร์ของผมจะช่วยถักทอความคิดที่ไม่ลงรอยและแผ่นดินที่เคยแตกแยกให้กลายเป็นหนึ่งเดียวกันในความเสมอภาค โลกก็จะกลายเป็นหนึ่ง สงครามนี้คือสงครามที่จะก่อเกิดสันติ Boss 



Skull Face –  และเมื่อคนทั้งโลกเป็นประจักษพยานกับ Sahelanthropus ของผม มือทีจะช่วยกดนาฬิกาแห่งความพินาศของซีโร่ให้เริ่มเดิน Sahelanthropus จะเป็นก้าวใหญ่ๆในการปฎิวัติโลกใหม่ของผม นี่ไงละถึงแล้ว โรงเก็บ Sahelanthropus ที่คุณตามหา เราไม่ใช่ปีศาจตัวเดียวในโลกซักหน่อย ก็เหมือนคุณ การแก้แค้นคือทุกอย่างที่ผลักดันคุณให้มาถึงจุดนี้ พูดง่าย ที่คุณอยู่มาได้นี่ก็เพราะผม และที่พวกเขารอดมาได้ก็เพราะคุณ จงดู !!  




ทันทีที่ Skull Face พูดจบ ชายในร่างไฟกับเด็กพลังจิตนามว่า The Third Child ที่เป็นผู้ควบคุมก็ปรากฏตัวขึ้นและย่างสามาขุมเข้าไปหา Boss ที่ถูกผลักให้เข้ามาเผชิญหน้ากับมัน แต่ในขณะที่มันกำลังเดินเข้ามาถึงท่ามกลางความคิดที่กำลังหาทางออกอย่างสุดกำลังของ Boss จู่ๆมันก็หยุดชงักก่อนที่ ชายในร่างไฟกับเด็กพลังจิตนามว่า The Third Child จะหันหลังกลับไปแล้วมุ่งไปหาเป้าหมายใหม่ที่ Sahelanthropus แล้ว The Third Child ก็ใช้พลังจิตบังคับมันให้เริ่มทำงานทันที ที่น่าแปลกคือ พวก Sahelanthropus ถูกบังคับให้โจมตี Skull Face และคนของมันจนแตกกระเจิงด้วย 

Skull Face –   ใครเป็นคนทำแบบนี้ ??  ใครรรรร !!! 




Skull Face ตกโกนลั่นด้วยความโกรธแค้นที่แผนถูกทำลายด้วยมือที่มองไม่เห็น ก่อนที่พวกหทารจะพาตัว Skull face หนีไปทิ้งให้ Big Boss อยู่เผชิญหน้ากับ Sahelanthropus แต่เพียงลำพัง 



                                      Episode 31 – SAHELANTHROPUS  

Mission Task 
ภารกิจหลัก 
- ทำลาย Sahelanthropus

ภารกิจย่อย
- ทำลายส่วนหัวของ Sahelanthropus
- ยิง The Third Child เด็กพลังจิตที่บังคับ Sahelanthropus โดน (ยิงมันโดนได้ตอนเข้า Reflex Mode )

**สิ่งจำเป็นสำหรับภารกิจนื้คือ อาวุธหนักทั้งหลายทั้งปวงที่มีขนติดตัวไปให้หมด **

การตื่นขึ้นของ Sahelanthropus ทำให้บรรยากาศภายนอกเริ่มวุ่นวายพอๆกับในจิตใจของ Eli ที่ร้อนรนจนขอติดตามมาใน ฮ. สนับสนุนของ Miller ด้วยอย่างน่าประหลาด ตาที่เบิกกว้างที่เสมือนว่ากำลังเข้าใจกับบางสิ่งที่กำลังบอกความนัยอยู่ข้างๆหู เหมือนเขากำลังตื่นรู้ความจริงบางอย่าง 




ในขณะที่ Sahelanthropus ก็เริ่มเคลื่อนตัวจากโรงเก็บและทำลายทุกอย่างที่ขวางหน้าทั้งกองกำลัง XOF ของ Skull Face ที่ต้องหนีตายกันเจ้าละหวั่น ทั้งเครื่องบิน รถถัง และ อาวุธมากมายที่ XOF ระดมเข้ามาต้านก็อันตธานล้มหายกลายเป็นฝุ่นผงไปหมด แม้แต่ตัว Skull Face เองก็ต้องหมดทางหนีไปติดอยู่ในกองไฟที่ล้อมรอบ




Skull Face – Cipher คิดจะเขียนบันทึกบทใหม่หรอ คิดจะโละทุกอย่างที่ข้าทำไปทิ้ง เพื่อให้ข้าไม่เคยมีอยู่ในความจดจำของผู้คนหรอ แต่ความระหายในการแก้แค้นทำให้ข้ามีแผนที่จะตัดความรำคาญนี้อยู่เหมือนกัน ไม่มีใครหยุดมันได้หรอก ตอนนี้  Sahelanthropus ได้ถูกปลดปล่อยให้เป็นอิสระแล้ว มันก็กระหายที่มุ่งไปที่อนาคตของมันเหมือนกัน ผู้พัน !! ข้ากำลังจะลุกไปไฟแล้วววววว !!! 
  
ร่างที่แน่นิ่งไปกับฝุ่นตลบของ Skull Face ที่ถูก Sahelanthropus กระทืบใส่ เป็นโอกาสเดียวของ Boss ที่จะหนีออกจากที่นี่ให้ไว ไม่กี่อึดใจ Boss ก็ขับรถหนีออกไปอย่างรวดเร็ว ในขณะที่ Sahelanthropus ก็ไล่บี้เข้ามาอย่างรวดเร็ว 

“ ถ้า Sahelanthropus ถูกเปิดเผยสู่สาธาณะชนแผนของ Skull Face ก็จะเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมาทันที มันไม่ได้ต้องการจะใช้นิวเคลียร์ แค่การมีอยู่ของหุ่นยักษ์ตัวนี้ก็มากพอที่จะทำให้มุษย์ชาติหวาดกลัวสงครามนิวเคลียร์กันจนแต่ละประเทศต้องงัดอาวุธเด็ดมาขู่กันจนวุ่นวายไปหมดแน่นอน” เสียงวิทยุจาก Miller ที่บอกกับ boss สร้างความหวั่นใจที่จะหาทางหนีที่ไล่กับมันเป็นอย่างมาก แต่ระเบิดลูกใหญ่ของ Sahelanthropus ก็ทำให้ Boss ไม่ต้องคิดมากเพราะรถที่เขาขับมาชนเข้าอย่างจังจนคว่ำไปทันที   เมื่อฝุ่นเริ่มจากสิ่งที่ Big Boss ต้องเผชิญอยู่ตรงหน้าก็คือ Sahelanthropus ที่เขาต้องหาทางทำลายมันอย่างไม่มีทางเลือก



-การต่อสู้กับ Sahelanthropus นั้นการโจมตีของมันมีทั้งเครื่องพ่นไฟ จรวดนำวิถี และแส้ติดระเบิด การเคลื่อนที่ไวมากกับสายตาที่มองหาได้อย่างรวดเร็วของมันทำให้ การหลบซ่อนเพื่อให้พ้นสายตาเพื่อหาทางลอบโจมตีแทบเป็นไปไม่ได้ ซึ่งต้องอาศัยความเร็วในการกระทำต่างๆอย่างมาก คุณสามารถเรียก Support ยิงถล่มได้พลังมันจะลดมากแต่จะต้องกะจังหวะและดูตำแหน่งของมันให้ดีแพราะมันเคลื่อนไหวอยู่ตลอด จะใช้รถถังต่างๆที่จอดอยู่รอบๆพื้นที่ก็ได้ แต่ทันทีที่หมอกของ Skull เริ่มทำงานสนิมมันก็กินไปหมดอยู่ดี ถ้าจะให้ดีคือใช้อาวุธหนักๆที่มียิงถล่มเข้าไปแล้วหาทางแก้ไขสถานะการณ์ต่างๆเอาตามที่เจอคงเหมาะที่สุด จุดอ่อนของ Sahelanthropus อยู่ตรงบริเวณลำตัวตอนที่มันดึงแส้ออกมาจะเห็นเป็นสีส้มๆ คุณสามารถยิงถล่มเข้าไปจนหมดทุกอย่างที่มีได้เลยเพราะเมื่อกระสุนหมด Miller จะส่ง Supply มาให้แบบอัตโนมัติแบบไม่ต้องสั่งเลย เมื่อพลังมันลดไปครึ่งหลอดมันจะทำลาย ฮ. ที่บินช่วยเหลืออยู่จนตกแล้วโดดไปยิงปืนเลเซอร์ถล่มต่อบนเขา พยายามวิ่งหลบเลเซอร์ด้วยเพราะโดนครั้งเดียวตายทันที ช่วงนี้จะไม่สามารถของยิง Support จาก ฮ.ได้ แต่ยังได้ Supply ของกระสุนอยู่ ที่เหลือก็ต้องใช้การยิงถล่มด้วยตัวเองจนจัดการมันได้    

ทันทีที่ Sahelanthropus ถูก Big Boss ทำลายลง เด็กพลังจิตก็เข้าไปบอกความนัยบางอย่างกับ Eli ก่อนที่จะหายตัวไป พร้อมความสิ้นสภาพของ Sahelanthropus ก่อนที่ ฮ. ของ Miller จะบินเข้ามารับเพื่อพาไปตรวจดูสภาพของ Skull face 

เมื่อ ฮ . ลงจอด Big Boss และ Miller ลงไปดูสภาพของ Skull face โดยมี Dr. Emmerich ตามลงไปดูด้วย สภาพของ Skull face เรียกได้ว่า ปางตาย เพราะโดนเสาเหล็กทับขา แต่มือก็ยังจับแท่งเก็บไวรัสที่เป็นตัวแทนความฝันที่จะแก้แค้นเอาไว้แน่น จน Big Boss ต้องเข้าไปแย่งเพื่อเอามาทำลายทั้งทันที  




 Big Boss – มันมีอยู่ 3 หลอดไม่ใช่หรอ นี่เหลือแค่ 2 อีกอันไปไหน ?? 
Skull face – ใกล้ๆแกนี่แหละ 

คำตอบกวนที่ไม่นาสนใจของหลอดที่ 3 ที่หายไป Big Boss ไม่สนใจรีบโยนไวรัสทั้ง 2 หลอดทิ้งไปในกองไฟแต่ไม่ทันสังเกตว่าหลอดที่ 2 นั้นไม่ได้ถูกทำลายแต่มันถูกเด็กพลังจิตเอาไปโดยที่ทุกคนไม่ทันได้มองเห็นตัว 

Skull face – จบเรื่องนี้ซะ ฆ่าข้าซะ!! 



Skull face รอขอให้ปลิดชีวิตของมัน ในขณะที่ Boss และ Miller ก็กำลังเตรียมสงเคราะห์ให้ด้วยปืนที่มันเอื้อมไม่ถึง ปลายกระบอกปืนที่จ่อไปที่ร่างที่กำลังทุรนทุรายของชายที่เคยพรากทุกอย่างจากชายที่กำลังจะตัดสินใจเหนี่ยวไก ใจของ Boss ก็นึกไปถึงสิ่งมากมายที่ Miller ที่ยืนอยู่ข้างกายนึกอยากจะทำ ยิงแขนขาให้ขาดกระจุยให้สมแค้นกับแขนขาที่เคยเสียไปให้กับมัน แต่สุดท้ายไกปืนก็ถูกยั้ง Boss และ Miller ตัดสินใจปล่อยให้ Skull face ทรมานในสภาพกึ่งเป็นศพไปจนตายแทน  

Miller – อยากตายก็จัดการตัวเอง! 




 Miller เอาเท้าที่เหลือเขี่ยปืนให้อย่างใจดี ก่อนที่จะเอาไม้เท้าเขี่ยป้ายชื่อ XOF ที่ตกอยู่ให้กลับเป็น FOX แล้วเดินไปบอกแสดงความยินดีที่ภารกิจสำเร็จกับ Big Boss ในขณะที่ทั้งคู่กำลังเดินกลับไปขึ้น ฮ. แล้วทิ้งให้ Skull face ที่กำลังดิ้นรนเพื่อร้องขอให้ปลิดชีวิตไว้ข้างหลัง ...ปัง !! … เสียงปืนดังลั่นจนทั้งคู่ต้องเหลียวหลัง Dr. Emmerich ยิงกระหน่ำซ้ำก่อนร้องตะโกนลั่นว่าสะใจที่ได้แก้แค้นคืน

หมด อริ จากเศษซากแห่งสงครามไปอีกหนึ่ง ท่ามกลางความแค้นที่ดูอาจเริ่มเบาบาง    
บางคนอาจยอมแพ้สงครามที่ก่อด้วยการแค่วางปืน แต่ความรู้สึกยามเมื่อได้ใช้มันก็ไม่อาจลืม
มันก็เหมือนขาดซึ่งแสงส่องนำทาง กับสัญชาติญาณที่เบาบางลงจากเดิม



Boss กลับมาที่ Mother Base พร้อมกับชัยชนะท่ามกลางลูกน้องที่มาต้อนรับมากมาย คำพูดของชายสองคนที่ยืนมองกันไม่ได้ถูกเอื้อนเอ่ยถึงความยินดีกับชัยชนะเท่ากับเห็นเพื่อนรอดตายกลับมา

ดูสิ เธอมาแล้ว เธอมาถึงแล้ว !! .. Dr. Emmerich ตะโกนลั่นด้วยความยินดี ทำให้ทุกคนต้องหันไปสนใจสิ่งที่เฮลิคอปเตอร์กำลังขนเข้ามา จนภาพที่เข้ามาในสายตาคือ ซากของ Sahelanthropus ที่ถูกขนเข้ามาวางตระหง่านอยู่ในโรงเก็บของฐาน ยืนเด่นเป็นสง่า เพื่อให้รู้ว่าวันเวลาและโชคชะตากำลังจะเปลี่ยนไป



เราจับปืนขึ้นมาสู้ทั้งที่รู้ว่าแขนขาด
เรายืนหยัดและก้าวไปข้างหน้าทั้งๆที่ขาก็ยังไม่มี
บนเส้นทางของกองกระดูกของฝองเราที่ตกหล่นทับถม
แต่หากว่า .. เรากลับยังคงอยู่ ความเจ็บปวดของเราก็ยังคงอยู่
ใครเลยจะรู้ว่า อาวุธลับที่เรากวัดแกว่ง มันอยู่นอกสายตา
เราต้องแข็งแกร่งกว่านี้ เพื่อความสันติสุขของพวกเรา




Big Boss –  “Sahelanthropus ได้ถูกปลดปล่อยให้เป็นอิสระแล้ว มันก็กระหายที่มุ่งไปที่อนาคตของมันเหมือนกัน” ประโยคสุดท้ายที่ Skull Face พูดก่อนตาย ... Kaz  ยังคงอวดอ้างไม่ต่างกัน … สุดท้ายแล้ว ความรู้สึกแบบนี้มันก็ยังคงไม่มีวันจบลง ... แต่มันคงไม่สามารถเติมเต็มให้ผมได้เหมือนเดิมอีกต่อไป .....



ท่ามกลางบรรยากาศที่เงียบงัน Eli ยืนมอง Sahelanthropus อยู่เงียบๆคนเดียว ในจังหวะที่เปลี่ยวและปลอดคนก็ปรากฎร่างของเด็กพลังจิตเหนือหุ่น Sahelanthropus ก่อนที่จะลอยเข้ามามอบหลอดไวรัสที่เหลือให้ Eli เก็บไว้เพื่อทำภารกิจที่ใหญ่ยิ่งในฐานะทายาทของผู้ยิ่งใหญ่ต่อไปในอนาคต.....







                                                            CHAPTER 2

                                                                RACE






Miller – จงฟัง !! ไดมอนด์ ด็อก แม้ว่า Skull Face จะตายแล้ว เหล่าพี่น้องฝองเราที่ขาดหายล้มตายไปก็เสมือนเป็น Phantom Pain ของพวกเรา ความเจ็บปวดนั้นยังคงอยู่ Cipher มันยังอยู่ เรารู้ว่ามันมีแผนที่จะสอดแนมเรา เป็นปรสิตที่แฝงตัวกับพวกเรา จงระแวดระวังคนทางซ้ายและทางขวา สันนิฐานจากความไม่มีและรายงานทุกอย่างเพราะมันเป็นหนทางเดียวที่จะปกป้องตัวเราเอง จากวันนี้และตลอดไป ทุกคนต้องเป็นตาให้ผม ! ศัตรูที่มุ่งทำลายล้างเราอยู่ที่นี่ ท่ามกลางฝองเรา สิ่งที่พวกมันจะไม่มีวันได้รับคือ ความปราณีของพวกเรา !!  







                                     Episode 32 – TO KNOW TO MUCH

Mission Task 
ภารกิจหลัก 
-ช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ CIA

ภารกิจย่อย
-ช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ CIA ก่อนจะถูกศัตรูเข้ามาเจอ
-จับตัวทหาร Walker Gear ทั้ง 4 คน
-จับตัวคนขับรถบรรทุก
-ช่วยนักโทษที่ Lamar Khaate Palace และ Shago Village
-จับตัวนักฆ่าโซเวียตที่ถูกส่งมาฆ่าเจ้าหน้าที่ CIA 

หลังจากที่ Skull Face ตายหลายฝ่ายทั้งผู้ร้ายผู้ดีล้วนพุ่งเป้าจับจ้องไปที่ข้อมูลของปรสิตเส้นเสียง(Vocal Cord Parasite) ที่ยังหลงเหลือ แน่นอนทาง CIA ไม่รอช้าที่จะส่งคนเข้าพื้นที่เพื่อค้นหาไพล์ข้อมูลทั้งหมดของ Skull Face ทันที และจากนั้นเจ้าหน้าที่ CIA ที่หลงพื้นที่ก็ขาดการติดต่อไปหลังจากที่หนีออกมาจาก OKB Zero ได้ ขาดว่ากำลังโดนพวกรัสเซียตามฆ่าฐานะรู้มากเกินไป ภารกิจของครั้งนี้ ตามหาและจับตัวเจ้าหน้าที่ CIA เป้าหมายที่หายตัวไป ซึ่งตามข่าวล่าสุดเขาขาดการติดต่อไปที่เขตทะเลทรายระหว่าง Lamar Khaate Palace กับ Shago Village 

-เดินทางมาที่เขตทะเลทรายระหว่าง Lamar Khaate Palace กับ Shago Village ทันทีที่เข้ามาก็จะเห็นทีมค้นหาของ XOF ที่ใช้ Walker Gear 4 ตัวตะเวณค้นหารอบๆทะเลทรายอยู่ ซึ่งจำเป็นต้องรีบเข้าไปหาเจ้าหน้าที่ CIA เป้าหมายให้เจอก่อนพวกศัตรูไม่งั้นเขาจะโดนฆ่าตาย พยายามมองที่กลางพื้นที่ทันทีที่เข้ามาจะเห็น Walker Gear กำลังเดินอยู่ รีบตามเข้าไปจัดการมันได้เลยเพราะมันกำลังเดินเข้าไปเจอเป้าหมายที่กลางทะเลทราย เมื่อช่วยเจ้าหน้าที่ CIA ได้แล้วก็จัดการจับ Walker Gear ของศัตรูทั้ง 4 ตัวกลับฐานไปด้วยอย่าให้เสีย จากนั้นก็ขึ้น ฮ. ออกจากพื้นที่ได้เลย

Miller – บอส เจ้าหน้าที่ CIA ที่จับมาบอกกับเราว่า เขาทรยศพวกรัสเซียและพยายามจะขโมยข้อมูลกลับไปให้ทาง Langley เพราะเริ่มกลัวที่ XOF เริ่มใช้แผนการระบาดของปรสิตเส้นเสียง (Vocal Cord Parasite) ฆ่าชาวบ้านผู้บริสุทธิ์มากมากยก็เลยพยายามหนีออกจากพื้นที่ โชคดีที่เขาไม่ได้รู้อะไรเรื่องปรสิตมาก แต่มันคงอันตรายเกินไปถ้าจะให้ XOF หรือทาง Langley ได้ตัวเขาไป ให้เขาอยู่กับเรานะดีแล้ว 



หลังจบภารกิจ Miller จะแจ้งว่า Dr. Emmerich ได้สร้าง Battle Gear เสร็จแล้วให้ลองกลับเข้ามาที่ฐานเพื่อเยี่ยมชมด้วยตัวเอง แต่ก็น่าเสียดายที่ Unit Battle Gear นั้นสามารถส่งไปทำงานได้เฉพาะใน Dispatch Mission ของ Battle Deployed เท่านั้น 

จากนั้น Miller จะต้องการจะพิสูจณ์สิ่งต่างๆที่ Dr. Emmerich ทำในขณะที่อยู่กับพวก XOF เพื่อคลายข้อสงสัยทั้งหมดในตัวด็อกเตอร์ด้วย เขาจึงต้องการให้กลับไปที่ห้องทำงานของ Dr. Emmerich ที่ Afghanistan Central Base camp อีกครั้งเพื่อเอา A.I Pod คอมพิวเตอร์เมนเฟรมอัจฉริยะที่ Dr. Emmerich ใช้ในการเก็บข้อมูลทั้งหมดกลับมาตรวจสอบ เพื่อกวาดล้างปรสิตที่ฆ่าชีวิตเหล่าทหารไดมอนด์ ด็อกให้สิ้นซาก เมื่อเข้าไปตรวจสอบที่ Side Ops Mission ก็จะเห็นเควสย่อยสำคัญเป็นสีเหลืองที่ชื่อ Extract The AI Pod ขึ้นมาให้ทำ 



                                   Side Ops Mission - Extract the AI Pod




ซึ่งภารกิจย่อยนี้ก็คือการที่ต้องลอบเข้าไปที่ห้องทำงานของ Dr. Emmerich ใน Afghanistan Central Base camp อีกครั้งเพื่อเอา A.I Pod คอมพิวเตอร์เมนเฟรมอัจฉริยะที่ Dr. Emmerich ใช้ในการเก็บข้อมูลทั้งหมดมา โดยภารกิจนี้จะไม่มีเป้าหมายขึ้นมา โดยห้องทำงานของด็อกเตอร์ก็จะอยู่ที่โรงจอดเครื่องบินฝั่งซ้ายของฐานเหมือนเดิม เมื่อลอบเข้ามาจนถึงห้องทำงานแล้ว เข้าไปสำรวจ A.I Pod ที่เคยทักทาย Big Boss แล้วแสดงออกมาแบบงงๆเหมือนว่าจะจำ Big Boss ไม่ได้ในตอนที่เข้ามาจับ Dr. Emmerich แล้วเมื่อพบแล้ว A.I Pod ก็จะบินทะลุเพดานกลับฐานอัตโนมัติ ที่เหลือก็ต้องลอบกลับออกไปเพื่อขึ้น ฮ. ออกจากพื้นที่เพื่อจบภารกิจ

และเมื่อ Miller ให้ฝ่ายเทคนิคตรวจสอบข้างในก็จะพบความลับที่น่าตกใจทันที ...

บันทึกการสอบปากคำ Dr. Emmerich ครั้งที่ 3 เรื่องพบศพด้านในปัญญาประดิษฐ [Questioning Huey #3] The Body Found in the A.I Pod 



Dr. Emmerich – ใช่ Strangelove เคยร่วมทำวิจัยเรื่อง A.I นี้มาด้วยกันเพื่อใช้มันช่วยบังคับเมตัลเกียร์ 
Miller – แล้วทำไมต้องปกปิดจนถึงตอนนี้ 
Dr. Emmerich – ก็ผมทำคนเดียวไม่ได้ นี่คุณไม่เข้าใจหรอ ผมไม่ได้อยายัดเธอเข้าไปข้างในหรอกนะ 
Miller – คือ แกต้องการจะสร้าง A.I เพื่อใช้ในการบังคับเมตัลเกียร์จนต้องยอมเสียภรรยาตัวเองหรอ ? 
Dr. Emmerich – ก็ไอ้ Skull Face มันไม่ต้องการให้ใช้ AI ควบคุมทั้งหมดจนเกิดการเถียงกันขึ้นมาแล้ว Strangelove เธอก็ไปพูดให้พวกมันโกรธ แล้ว แล้วพวกมันก็ฆ่าเธอ! 
Miller – มันทำต่อหน้าแกหรือเปล่า หรือแกเพิ่งมารู้ตอนหลัง แต่แกก็ยังปล่อยให้ศพเธอถูกขังอยู่ในนั้นนะหรอ 
Dr. Emmerich – ผมพยายามห้ามแล้ว 
Miller – คือเธอถูก Skull Face ฆ่าแล้วแกก็ยอมให้มันเอาร่างเธอยัดเข้าไปใน A.I ของแกหรอ? 
Dr. Emmerich – ก็ ใช่ 
Miller – น่าสงสารมาก ฟังนะเรามีความคิดอย่างนึง...  แกขังเธอไว้ข้างในจนขาดอากาศหายใจตาย แกนั่นแหละเป็นคนฆ่าเธอ! 
Dr. Emmerich – ใคร ผมหรือ ไม่ใช่ ! อย่ามาเหมาว่าผมจะเป็นเหมือนพวกคุณสิ ผมแค่คนธรรมกดานะ 
Miller – อ๋องั้นหรอ ?  แกก็แค่จับเธอยัดลงไปในนั้นจนหายใจไม่ออกตายแค่นั้นเองใช่มั๊ย 
Dr. Emmerich – ผมไม่ได้ทำแบบนั้น! 
Miller – แล้วคิดว่าเธอฆ่าตัวตายเองรึไง 
Dr. Emmerich – ใช่ ตามหลักการแล้วเธอฆ่าตัวตาย เพราะ เธอเป็นคนล็อกประตูทั้งทางเข้าและทางออกหมดเลยนะ แล้วเธอก็คลานเข้าไปเองผมก็เข้าไปช่วยไม่ได้ มันก็แปลว่าเธอฆ่าตัวตาย พอผมเข้าไปได้เธอก็ไม่หายใจแล้ว ด้วยความกลัวผมเลยต้องิดฝา Pod เอาไว้แบบเดิม แล้วทำใจเปิดมันไม่ได้อีกเลย 
Miller – โอเค งั้นขอถามอีกคำถามเดียว ศพของเธอทีรอยแผลผ่าตัดที่ช่องท้องอยู่ มันเกิดก่อนที่เธอจะตายด้วย เธอมีลูกใช่มั๊ย ลูกของแกน่ะ แล้วเด็กอยู่ไหน ?
Dr. Emmerich – ผมไม่รู้ พอคลอดเสร็จพวกมันก็เอาเด็กไป ไม่เคยเห็นหน้าลูกชายด้วยซ้ำ มันเอาไปทุกอย่างจนผมไม่เหลืออะไรอีกแล้ว 
Miller – ลูกอายุเท่าไหร์ แล้วรู้ได้ไงว่าลูกชายไหนว่าไม่เคยเห็น 
Dr. Emmerich – อาจจะ 4 ขวบ Strangelove เธอเป็นคนเล่าให้ฟัง 
Miller – รู้จักชื่อลูกตัวเองมั๊ย ? 
Dr. Emmerich – เราเรียกเขาว่า Hal 





ใช่แล้วครับ Dr. Emmerich คนนี้กับภรรยาของเขา Dr. Strangelove ที่เคยมีบทบาทในภาค Peace Walker ก็คือพ่อแม่ของ Hal Emmerich ฉายา Otacon ที่เป็นคนออกแบบ metal Gear Rex และ สุดท้ายก็มาเป็นคู่หูคนสนิทของ Solid Snake ในเวลาต่อมา 




** หลังจากภารกิจจะได้คีย์ไอเทม Strangelove Memento และผ้าโผกหัว Bandana ที่เมื่อใส่แล้วจะทำให้ป้องกันการเกิดบาดเจ็บสาหัส (ที่ต้องกดสามเหลี่ยมรักษา) ในการต่อสู้ได้ ** 

หลังจบภาระกิจส่ง A.I Pod เสร็จ  Miller จะบอกถึงเรื่องข่าวที่หน่วยข่าวกรองได้มาถึงเรื่อง ชายที่ร่างเป็นไฟ ที่เคยปะทะกันมาตลอด ตอนนี้หมดพลังไปดื้อๆและร่างของมันถูกพวกโซเวียตเอาไปไว้ที่ Kakho Oboo Supply Outpost ซึ่งไม่รู้ว่ามันตายหรือยัง Miller จึงอยากให้เข้าไปขโมยร่างมันกลับมาตรวจสอบ เมื่อเข้าไปตรวจสอบที่ Side Ops Mission ก็จะเห็นเควสย่อยสำคัญเป็นสีเหลืองที่ชื่อ Secure the Remain of the Man of fire ขึ้นมาให้ทำ 


                            Side Ops Mission - Secure the Remain of the Man of fire

ภารกิจนี้ต้องเข้าไปที่ Kakho Oboo Supply Outpost เพื่อขโมยร่างของชายที่ร่างเป็นไฟ ซึ่งจะไม่มีกำหนดจุดให้เห็นในแผนที่แม้จะเอา DD มาช่วยดูก็ตาม ซึ่งร่างของชายที่ร่างเป็นไฟนั้นจะนอนอยู่กลางลานท่ามกลางทหารมากมายในรั้วของตึกใหญ่เลย งานนี้จำเป็นต้องล่อทหารให้ไปออกันทางใดทางนึง ก็ต้องหายตัวเข้าไปเลยเพราะทหารศัตรูจะเยอะมาก 





และเมื่อ Big Boss เข้าไปจนถึงร่างของชายที่ร่างลุกเป็นไฟสำเร็จ ในขณะที่กำลังเตรียมเอาใส่บอลลูนลอยกลับฐาน แต่จู่ร่างของมันที่กำลังลอยอยู่ก็เกิดมีพลังจนลุกเป็นไฟอีกครั้ง แล้วเดินย่างสามขุมเข้าไปหมายจะบีบคอ Big Boss ให้สมแค้น ก่อนที่มันจะเผยใบหน้าออกมาว่ามันคือนายพล Volgin หัวหน้ากลุ่มก่อการร้าย GRU ที่เคยปะทะกับ Big Boss ในสมัยภารกิจ Snake Eater นั่นเอง แต่สุดท้ายหลังจากมันบีบคอไปได้ซักพักหลังจากดูหน้าของ Big Boss จะๆ Volgin ก็ถึงกับชะงักและหยุดการโจมตีก่อนที่จะล้มลงหมดไปนอนสลบไปในที่สุด ???



ถ้าจำกันได้ Volgin หัวหน้ากลุ่มก่อการร้าย GRU และเหล่า Cobra Unit ในภาค Snake Eater ในปี 1964 ที่ Big Boss ในโค๊ดเนม Naked Snake เคยสู้รบปรมมือด้วย และในครั้งนั้นก็เป็นเหตุการร์สำคัญที่ Big Boss ได้รับแรงบรรดาลใจจาก The Boss ผู้เป็นอาจารย์ด้วย ซึ่งการต่อสู้ในครั้งนั้นจบลงที่ Volgin พ่ายแพ้ต่อ Naked Snake จนบาดเจ็บสาหัส แต่ยังไม่ได้ซึ่งก็ได้นักวิทยาสตร์ของกองทัพโซเวียตเก็บมาใช้ทดลองกัยปรสิตต่อ โดย Skull Face ก็เอาความกระหายที่จะแก้แค้น (Thirst For Revenge) มาใช้เป็นแรงขับมาใช้เป็นแรงขับให้ Volgin กลายเป็นปีศาจที่ยอมทำทุกอย่างที่จะได้ไล่ล่า Big Boss นั่นเอง 

** หลังจบภารกิจร่างของ Man on fire หรือ Volgin จะถูกเก็บไว้ที่เขตกักกันโรคที่ Mother Base และจะได้คีย์ไอเทม Man on fire Corpse และ Furicorn ไอเทมสวมใส่ของ D – House ที่ทำให้กลายเป็นม้าปีศาจไฟไปทันที กับ เทปบันทึกข้อมูล who is Floating Boy ? 



.ซึ่ง ข้อมูลในเทป Who is Floating Boy จะทำให้เรารู้ตัวตนที่แท้จริงของ Floating Boy เด็กพลังจิตที่เป็นคนบังคับ Volgin ในฐานะ Man on fire ที่เรียกว่า Tretij Rebenok ภาษารัสเซียแปลว่า The Third Child หรือลูกคนที่ 3 เด็กที่ถูกนำมาทดลองด้วยปรสิตจนกลายเป็นเด็กพลังจิตที่เรียกว่า pyrokinetic แต่นี่แค่เพียงเริ่มต้น เพราะต่อไปข้างหน้าตั้งแต่ภาค metal Gear Solid (PS1) หรือ Twin Snake ของเครื่อง Game Cube (ตัวพลังจิตที่เดาใจเราถูกจนยิงยังไงก็ไม่โดนจนต้องใช้จอย 2 ยิงนั่นแหละจำได้มั๊ย) จนถึงภาค 4 เจ้าเด็กนี่ก็จะกลายเป็น Psycho Mantis ขุนพลพลังจิตคนสำคัญของ Liquid Snake หรือ Eli ตอนโต ซึ่งจะเห็นว่ามันเตรียมความพร้อมกับความยิ่งใหญ่ให้กับ Eli มาตลอด 


จากนั้น Mission หลักที่ขึ้นมาจะมีภารกิจเดิมแต่เป็นโหมดอื่นเข้ามาปะปนกับภารกิจหลักด้วย คือ
- Total Stealth โหมดลักลอบเพียวๆ ปฎิบัติภารกิจโดยห้ามให้ศัตรูเจอตัวเด็ดขาด
- Extreme โหมดเพิ่มความยาก และห้ามใช้ Reflex Mode (สโลวเวลาตอนเจอศัตรู)               
-Subsistence โหมดการยังชีพ ลุยเดียวและไม่มีอาวุธติดตัวเลยในการทำภารกิจ

** ซึ่งพวกฉากเดิมๆเหล่านี้ ไม่จำเป็นต้องเล่นให้หมดก็ได้ แต่จำเป็นต้องเล่นให้เคลียร์เพื่อให้ % ความสมบรูณ์มากขึ้นเพื่อปลดล็อกภารกิจหลักในช่วงสุดท้ายออกมาด้วย ** 
 

                                        Episode 35 – CURSED LEGACY

Mission Task 
ภารกิจหลัก 
-ขโมยตู้คอนเทรนเนอร์ 2 ตู้ในป่า Lufwa Valley

ภารกิจย่อย
-ขโมยตู้คอนเทรนเนอร์ 2 ตู้โดยไม่อยู่ในพื้นที่อันตราย(ต้องใช้บอลลูนแบบ Wormhole)
-ขโมยตู้คอนเทรนเนอร์ 2 ตู้โดยศัตรูไม่รู้ตัว (ต้องใช้บอลลูนแบบ Wormhole) 
-ดูไฟล์ที่เต้นท์เพื่อหาตำแหน่งหัวหน้าทหาร Zero Risk Security ที่อยู่ในบ้าน
-จับตัวหัวหน้าทหาร Zero Risk Security ที่อยู่ในบ้าน
-เก็บเพรช Rough Diamond ที่อยู่กับอีกาในเขตป่า Lufwa Valley

Miller – บอส หลังจากการตายของ Skull Face เราก็คงต้องเหนื่อยกันต่อเพื่อกำจัดมรดกบาปของมันให้หมดสิ้นจริงๆ ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือ บันทึกข้อมูลงานวิจัยของ Code talker ที่ทำมาตลอด 50 ปี กำลังจะถูกโยกย้ายและเปลี่ยนมือ เราไม่อยากให้มันตกไปสู่มือคนอย่าง Cipher ต่ออีกเพราะมันก็จะงัดอาวุธนิวเคลียร์นี้มาใช้ต่อรองอีก ภารกิจนี้คุณต้องไปชิงเอาข้อมูลวิจัยทั้งหมดของ Code talker ที่ถูกเก็บไว้ที่ตู้คอนเทรนเนอร์เตรียมขนย้ายอยู่ที่ในป่าหลังเขา Lufwa Valley ใกล้ๆกับคฤหาสน์ และต้องรีบด้วยเพราะเฮลิคอปเตอร์ที่จะเตรียมมาขนย้ายกำลังจะมาถึงแล้ว  รีบหน่อยบอส !

 -เป้าหมายของภารกิจคือบริเวณคฤหาสน์ของ Code talker ที่ Lufwa Valley ซึ่งจะมีจุดลงจอด ฮ. 2 ด้านบนหรือล่าง ซึ่งจะทำให้ภารกิจยากง่ายต่างกันมาก คือ
1.ถ้าต้องการจะทำเป้าหมายหลักเพื่อจบภารกิจแบบรวดเร็วและง่ายๆ ก็ลงจอดที่ป่า เพราะเข้ามาจะเจอตู้คอนเทรนเนอร์ตู้แรกทันที จัดการล็อคอทหารศัตรู 2 ตัวเพื่อถามหาตำแหน่งของตู้ที่ 2 และหัวหน้าทหาร Zero Risk Security ที่อยู่ในบ้านออกมา ถ้าจะจบภารกิจอย่างเร็วก็ทันทีที่ขโมยตู้แรกแล้ว เวลาการมาของ ฮ. ขนส่งจะนับถอยหลังทันทีจากนั้นก็พยายามรีบเข้าไปขโมยตู้ที่ 2 ให้ทันเวลาแล้วหนีออกจากพื้นที่ หรือถ้าต้องการจะเก็บเงื่อนไขพิเศษฉากด้วย ก็ต้องเลยขึ้นไปจัดการจับตัวหัวหน้าทหารเป้าหมายแล้วค่อยย้อนลงมาเพื่อขโมยตู้ที่ 2 ให้ทันเวลา
2.ถ้าต้องการทำภารกิจหลักและเก็บเงื่อนไข Task mission ด้วย ก็ต้องลงจอดที่ด้านบนของคฤหาสน์ จะสามารถล็อกคอทหารแถวนั้นเพื่อหาตำแหน่งของตู้คอนเทรนเนอร์ทั้ง 2 อันกับหัวหน้าทหารได้ ทำให้สามารถแวะเข้าไปจับหัวหน้าทหารในตึกก่อน เก็บไฟล์ที่โต๊ะ แล้วคอยลอบออกมาที่ป่า เก็บไฟล์ที่เต้นท์ตรงน้ำตกแล้วค่อยขโมยตู้แรกทางซ้ายของป่าแล้วต่อด้วยตู้ทางฝั่งขวาก็จะสามารถออกไปที่ทางออกเพื่อขึ้น ฮ.จบภารกิจได้เลย แต่ก็ต้องอย่าลืมว่าทหาร Zero Risk Security ของ Cipher ที่คุ้มกันทีนี่อยู่นั้นใส่เกราะเต็มยศจนยิงไม่เข้าแทบทุกคน จึงต้องใช้ความระวังอย่างมากในการทำภารกิจ

 Miller – บอส เราได้ข้อมูลการวิจัยและวัตถุดิบต่างๆของ Code Talker มาแล้วแน่นอนว่าเป็นข้อมูลเกี่ยวกับปรสิตเส้นเสียงทั้งหมดของเขาและเก็บทุกอย่างไว้อย่างดีที่เขตกักกันเชื้อเพื่อความปลอดภัยแล้ว โชคดีที่ตอนนี้มันจะไม่ได้อยู่ในมือ Cipher แล้ว 



                                 Mother Base Event – การบาดเจ็บของ Quiet 




ครั้งนึงเมื่อตอนที่ Boss กลับมาที่ Mother Base จะเห็นความวุ่นวายเกิดขึ้นด้านล่างตั้งแต่ ฮ.ยังไม่ทันลงจอด เมื่อ Boss เข้าไปสอบถามจะรู้ว่าเด็กๆพยายามจะลงไปช่วย Ralph เพื่อนในกลุ่มที่เสียงชีวิตเพราะอุบัติเหตุ แต่ Ocelot จะห้ามไว้แต่พวกเด็กๆก็ยังอยากได้สร้อยคอของ Shabani ที่ตกลงไปด้านล่างของฐานมาดูต่างหน้า ทันทีที่ Boss พยายามจะลงไปเก็บให้ Ocelot ก็จะเข้ามาห้ามทันทีเพราะด้านล่างกำลังเกิดสารคลอลีนรั่วอยู่ เหล่าเด็กน้อยถูกกันให้ออกห่างจากพื้นที่เพื่อความปลอดภัยและถูกสอนให้ทำใจกับบางสิ่งที่มันเสียไปแบบที่ไม่มีวันได้คืนมา แต่ในขณะที่ทุกคนกำลังจะตัดใจเพราะดูเป็นเรื่องเล็กน้อย เด็กๆก็ต้องร้องตกใจที่เห็น Quiet เธอโดดลงไปด้านล่างทันที Boss ถูก Ocelot ห้ามอีกครั้งที่เขาพยายามดึงดันจะโดดลงไปช่วย จนสุดท้ายต้องยอมทำใจเพราะคงช่วยไว้ไม่ทัน แต่จู่ Quiet ก็โผล่ขึ้นมาได้ในสภาพร่างกายยับเยินกับสร้อยของ Shabani ในมือ Boss ไม่รอช้าที่จะเอื้อมมือเข้าไปโอบอุ้ม Quiet ทันที ท่ามความตะลึงของทั้ง Ocelot และ Miller กับการกระทำของ Quiet เด็กๆได้สร้อยคอคืนแลกกับร่างกายที่ยับเยินที่ถึงแม้ไม่นานมันก็จะฝืนคือ แต่ความข่มขื่นของ Quiet คงไม่ได้หน้าชื่นตาบานแน่นอน

                       Quiet’s Examination Report [บันทึกการสอบปากคำ Quiet]

ขณะทำภารกิจ Miller ก็แจ้งเข้ามาถึงผลตรวจร่างกายของทหารทุกคนในฐานรวมทั้ง Quiet โดย Code Talker ผลออกมาแล้ว ซึ่งจะพบว่ามีคนที่มีสถานในการแพร่เชื้ออยู่ด้วยนั่นก็คือ Quiet ! และถึงแม้จะต้องฉีกร่างเธอเป็นชิ้นๆ Miller ก็จะทำเพื่อให้เธอยอมพูดออกมาให้ลั่นห้องสอบสวนหมายเลข 101 ... 




Ocelot – เราพยายามทรมานเธอทุกอย่างแล้วเธอก็ยังไม่ยอมพูดเหมือนเดิม 
Miller – ทำไมถึงต้องจัดฉากเพื่อเข้ามาที่นี่ !!  ไม่รู้หรือไงว่าตัวเองติดเชื้อ 
Ocelot – ทำไงเธอก็ไม่พูดหรอก ไม่ต้องไปช็อตไฟเธออีก พอ !
Miller – เพื่อให้เธอบอกชื่อคนบงการมาชั้นก็จะทำจะทำจนถึงที่สุดแหละ ! พูดออกมา !! ไม่งั้นจะช็อตให้ปอดไหม้ไปเลย
รู้มั๊ยเราเจออะไรในปอดเธอ กลีบดอก ดาราขาวแห่งเบทเลเฮม  (White Star of Bethlehem) ดอกไม้เยี่ยมไข้ในโรงพยาบาลตอน บอส โคม่า Skull face ส่งเธอมาที่ไซปรัส เพื่อฆ่า บอส !! ใช่มั๊ย ! เธอจะโดนทรมานจนไหม้เกรียมทั้งนอกในจนกว่าจะยอมพูด ชีวิตเธอจะจบลงที่นี่ แต่ ก็อาจจะคุยกันได้ รู้มั๊ย เธอนะโคตรสวยเลยในสายตาชั้น ต้องขอบคุณ Skull Face เรื่องที่ส่งเธอมาใช่มั๊ยละ บอกมา ทำไมเธอถึงที่นี่ Skull Face ส่งเธอมาใช่มั๊ย !!  เงียบ คิดว่างานนี้คงได้รางวัลอย่างงามจากการมาเก็บ Big Boss หรอ ....ไม่พูด ... เอาน้ำเกลือราดมัน !!
Code Talker – อย่า เดี๋ยวเธอตาย !! 
Miller – ไง สดชื่นมั๊ย น้ำเกลือ ให้มันกัดผิวหนังให้สะใจไปเลย จะได้จำว่า ชีวิตของ บอส ไม่ใช่สิ่งที่เธอจะมาชิงมันไปได้



Ocelot – พอ !! แค่นั้นพอ  ..ถ้าเธอจะฆ่าบอสเธอฆ่าไปนานแล้ว ตอนนี้เธอเป็นพวกเราแล้ว เธอไม่ได้มาที่นี่เพื่อฆ่าใคร แล้วอีกอย่าง  เธอพูดไม่ได้ ! จะฆ่าให้ตายเธอก็คงไม่พูด ! ที่นายทำมันเสียเวลาเปล่า มันไม่สำคัญหรอกว่าเธอจะมาที่นี่ทำไม ? ตอนนี้เธอทำงานให้ Boss แล้ว อาจจะตกหลุมรักตำนานละมั้ง 
Miller – แล้วนายแน่ใจได้ไงว่าเธอไม่ใช่สปาย!
Ocelot – แล้วถ้าชั้นเป็นสปายละ ? … หรือ นาย ??   
Miller – Boss ??
Big Boss – ปล่อยเธอไป เธอพูดไม่ได้ ยังไงก็คงไม่ได้ทำให้ติดเชื้อหรอก 

** สรุปได้ว่า Quiet ก็คือนักฆ่าสาวที่ไปลอบฆ่าบอสที่โรงพยาบาลในตอนต้นเกมแต่ถูกไฟครอกตกจากตึกลงมาเสียก่อนจนทำให้เธอบาดเจ็บสาหัสจนต้องเข้ารับการถ่ายเชื้อปรสิตเข้าไปทั้งเพื่อให้เธอมีชีวิตรอดด้วยความสามารถพิเศษเพื่อภารกิจแทรกซึมต่อไปที่ Skull face เตรียมไว้ให้ ** 

หลังจากที่ทุกคนออกไปจากห้องสอบสวน Code Talker จึงลองเข้าไปคุยกับ Quiet เพื่อยืนยันสันนิฐานของเขา 




Code Talker – (พูดภาษา Bilaga’ana)  เธอเข้าใจที่ชั้นพูดมั๊ย ? เข้าใจหรอเปล่า ?
Quiet - (พูดภาษา Bilaga’ana)  ค่ะ 
ทันทีที่ Quiet เธออ้าปากพูดด้วยภาษา Bilaga’ana ของเธอทำให้เชื้อปรสิตเส้นเสียงแพร่กระจายสู่ Code Talker ทันที แต่โชคดีที่ลุงแกมีภูมิคุ้มกันฐานะคนสร้างปรสิตจึงสกัดกั้นเอาไว้ได้
 Code Talker –  (พูดภาษา Bilaga’ana) ปรสิตที่เธอถูกใส่มาเป็นของภาษา Bilaga’ana ใช่มั๊ย ?
Quiet - (พูดภาษา Bilaga’ana)  ค่ะ และมันบอกให้ชั้นมาแพร่เชื้อที่นี่ 
Code Talker –  (พูดภาษา Bilaga’ana) ด้วยปรสิตภาษาอะไร
Quiet - (พูดภาษา Bilaga’ana)  ภาษาอังกฤษค่ะ แต่ ชั้นพูดภาษาอังกฤษไม่ได้ ไม่เคยจะพูดเลยด้วยซ้ำ ..ไม่เคย 

แปลว่า ที่ผ่านมานั้นที่ Quiet ไม่ยอมพูดเลยก็เพราะทุกคนที่นี่พูดแต่ภาษาอังกฤษกับเธอ และหากเธอพูดภาษาอังกฤษโต้ตอบไปก็จะทำให้ทุกคนที่นี่ติดเชื่อ Parasite Vocal Cord ทันที Quiet จึงไม่ยอมพูดไม่ใช่พูดไม่ได้ แต่เมื่อ Code Talker พูดภาษา Bilaga’ana ที่เป็นภาษาท้องถิ่นกับเธอ เธอก็จึงอธิบายทุกอย่างให้เข้าใจได้ทันที 


** จากนั้นจะได้คีย์ไอเทม Quiet’s Examination Report ที่สามารถเอาไปสร้างชุด GRAY XOF ซึ่งเป็นชุดสวมใส่สำหรับ Quiet ใส่ปฎิบัติงานกับหน่วย XOF หรือมองอีกนัยนึง โค๊ดเนม GRAY XOF ของเธอก็เปรียบเสมือนกระจกอีกด้านของสุดยอดสายลับนามว่า Gray Fox ในหน่วย FOX ของ ผู้พันซีโร่นั่นเอง ** 

แต่ขณะ Boss กำลังจะออกจากฐาน Miller ก็ติดต่อเรื่องด่วนเข้ามาว่าหลังจากที่การตายของ Ralph เด็กๆทุกคนก็หนีออกไปจากฐานในขณะที่ทุกคนไม่ได้สังเกต ไม่รู้ว่าเพราะเรื่องอะไรแต่ยังไงก็ต้องขอร้องให้ Boss ไปช่วยตามเด็กๆกลับมา เมื่อเข้าไปตรวจสอบที่ Side Ops Mission ก็จะเห็นเควสย่อยสำคัญเป็นสีเหลืองที่ชื่อ Search for the Escaped Children ขึ้นมาให้ทำ


                     Side Ops Mission - Search for the Escaped Children

ภารกิจตามเด็กหาย 5 คนจาก 5 สถานที่ที่แตกต่างกันคือ
1- Mfind oilfield
2- Lufwa valley
3- Aabe Shifap Ruin
4- Lamar Khaate Palace
5- Smasei Port

หลังจากช่วยเด็กทุกคนมาได้ เด็กทั้ง 5 จะถูกสอบปากคำจาก Ocelot จนได้คำตอบออกมาเป็นเทปบันทึกคำให้การในห้องสอบสวนเมื่อฟังเทป 

1. The Children Escape 03 – Eli Explanation จะทำให้รู้ถึงข้อมูลที่เด็กยอมเปิดปากออกมาว่า การที่พวกเขาหนีก็เพราะ Eli เป็นคนนำ เขากระอักกระอ่วนใจมากที่จะอยู่โดยไม่ได้รบ จึงชวนเด็กลูกน้องทุกคนออกเป็นนักรบอีกครั้ง “อย่าให้พวกเขามาปล้นเสรีภาพของเราไป “ คือคำพูดของ Eli ที่บอกกับพวกเด็กๆจนทุกคนยอมทำตาม 
2. The Children Escape 05 – Eli Objective หลังจากเรียก Eli มาพูดคุย เขากลับไม่ให้การใดๆนอกจากคำพูดที่ว่า “นำพ่อของเขามาที่นี่” เขาต้องการคุยกับ Big Boss คนเดียวเท่านั้น!! 


                                      Episode 38 – EXTRAORDINARY

Mission Task 
ภารกิจหลัก 
-ค้นหาตำแหน่งของฟิมล์รูปถ่ายสำคัญ

ภารกิจย่อย
-จัดการศัตรูในพื้นที่ให้หหมด
-หาฟิลม์เป้าหมายเจอก่อนกำลังเสริมจะเข้ามา 
-ช่วยนักโทษจากค่ายทหาที่ 24 ทางขวาของ Spugmay Keep
-จับนก griffon ที่เกาะอยู่แถว Spugmay Keep

ภารกิจนี้ เป้าหมายคือออกตามหากล่องใส่หลักฐานรูปถ่ายที่เจ้าหน้าที่ข่าวกรองคนนึงของ Ocelot ที่ถูกส่งไปสืบหาความจริงเรื่อง Man of Fire และเด็กพลังจิตเมื่อครั้งที่มันบุกถล่มโรงพยาบาลที่ไซปรัส จนทำให้รู้ว่าเป็นผลงานของห้องวิจัยลับของทาง Kremklin แต่ข้อมูลที่ได้มากลับยังไม่มาถึงมือเพราะ เจ้าหน้าที่ข่าวกรองที่ลงพื้นที่เกิดสูญหายไปก่อน แต่ยังโชคดีที่ได้ตำแหน่งสุดท้ายเกิดเจอศพของเขาคือที่ Spugmay Keep จึงน่าเชื่อได้ว่าเขาจะซ่อนข้อมูลที่สืบมาไว้ที่นั่น


-เดินทางเข้ามาที่ Spugmay Keep พื้นที่เป้าหมายจะเต็มไปด้วยหน่วย Specshaz KGB เกราะหนาเต็มพื้นที่ไปหมด เป้าหมายคือเข้าไปหารูปถ่ายหลักฐานที่ถูกซ่อนไว้ในพื้นที่ ซึ่งจะมีภาพบอกใบให้ช่วยคนหาให้ง่ายขึ้นด้วยโดยดูจากตำแหน่งรูปที่หน้า Mission แต่มันจะแรนด้อมต่างกันไปไม่เหมือนกันซึ่งแต่ละคนต้องค้นหาเอาเอง โดยตำแหน่งตามรูปของผมจะอยู่ที่เสาหินเล็กตรงซุ้มประตูหินทางฝั่งขวาของซากโบราณ เมื่อได้ของเป้าหมายแล้วก็หนีออกจากพื้นที่ได้เลย



                                      Episode 41 – PROXY WAR WITHOUT END

Mission Task 
ภารกิจหลัก 
-ทำลายเฮลิคอปเตอร์ Gunship
-ทำลายรถถัง 2 คัน
-ทำลายรถหุ้มเกราะ 2 คัน

ภารกิจย่อย
-ขโมยรถถังและรถหุ้มเกราะทุกคัน
-จับตัวหัวหน้าหน่วยทหารหุ้มเกราะ
-เก็บเพรช Rough Diamond 
-เก็บ Blueprint ที่เฮลิคอปเตอร์บรรทุกมา  

ภารกิจที่ได้รับว่าจ้างจากทางรัฐาบาล MPLA ที่ต้องการให้ทำลายหน่วยรถหุ้มเกราะของ CFA ที่กำลังเคลื่อนพลบุกเข้ามาโจมตี ซึ่งงานนี้หากคุณไม่ได้ต้องการถถังเพิ่ม ก็ขี่ม้ายิงถล่มมันให้หมดได้เลย รถถัง 2 คัน รถหุ้มเกราะ 2 คันและปิดท้ายด้วยเฮฃิคอปเตอร์ Gunship ทำลายให้หมดแล้วออกจากพื้นที่ได้เลย



หลังจบภารกิจ Miller จะติดต่อมาให้ Big Boss กลับไปที่ฐานเพื่อเข้ามาฟังการสอบสวน Eli ที่อยู่เบื้องหลังเรื่องเด็กๆหนีออกจากฐาน เฮลิคอปเตอร์ก็จะพา Big Boss กลับไปที่ Mother base ทันที


                                  Mother Base, Seychelles Water, Room 101 





Ocelot – ชั้นบอกแกแล้วนะว่า พ่อแกไม่ได้อยู่ที่นี่ 
Eli –  พ่อกลับไปแล้ว 
Ocelot – ช่ายๆเขากลับไปแล้ว คิดมุขสุดฉลาดได้แค่นี้หรอ ? แล้วตอบได้มั๊ยว่าภายใต้การคุมเข้มเรื่องความปลอดภัยของฐาน ทำไมในส่วนที่พักของพวกเด็กๆถึงมีการส่องสุมอาวุธเถื่อนที่ทำเองไว้ได้ นั่นไม่ได้สื่อว่าแกกำลังจะปฎิวัติหรือยังไง ? ถามจิง แกคิดว่ามันจะทำได้ง่ายขนาดนั้นเลยหรอ ท่านผู้บัญชาการณ์ ... แกต้องการเด็กๆของแกคืน แล้วก็อยากเจอ Big Boss ด้วยใช่มั๊ย อย่างแรกอยากรู้ว่า แกส่งพวกเด็กๆให้ออกไปทำอะไร ? 
Eli – พวกเขาต้องการจะไปกันเอง 
Ocelot – กลับบ้านเกิดหรอ ?
Eli – พวกเขาอยากกลับบ้านก็แค่นั้น 
Ocelot – คือแบบจู่ๆก็เกิดเป็นโรคคิดถึงบ้านขึ้นมาซะอย่างนั้นงั้นสิ ?
Eli – พวกทหารฆ่าครอบครัวเขาจนเกลี้ยง พ่อ แม่ พี่ น้อง ต่างก็เป็นแค่ศพนึงที่มันอยากฆ่าเพื่อสนุก ฮ่าๆๆ ผมบอกพวกเขาว่า “โอกาสสุดท้ายแล้วละที่จะเผชิญหน้ากับโลกใบนี้แบบที่ไม่ต้องมาเสียใจภายหลัง แล้วพวกแกจะทำได้ยังไงถ้ามัวแต่หมกตัวอยู่ที่นี่” พวกเราพร้อมที่จะเผชิญหน้ากับโลกใบนี้ฐานะศัตรู ฮ่าๆๆๆๆๆ 
Big Boss – ไม่ !!!!!!!! 

โครม !!! เสียงสะเทือนสั่นไหวเพราะเครื่องจักรขนาดใหญ่ที่พุ่งเข้ามาด้านใน Tretij Rebenok พาหุ่น Sahelanthropus พุ่งเข้ามารับตัว Eli ให้เข้าไปขับขี่มันได้อย่างง่ายดาย 



Eli – ผมไม่เหมือนคุณ ! ลาก่อน คุณพ่อ ผมไม่ต้องการคุณอีกแล้ว !!

 Eli ขับหุ่น Sahelanthropus พุ่งทะยานขึ้นฟ้าไปพร้อมกับทหารเด็กของเขาทั้งหมดที่จี้เอาเฮลิคอปเตอร์ไป ในขณะที่ Big Boss , Ocelot และ Miller ได้แต่ยืนมาจากฐานในขณะที่ Eli ค่อยๆบินจากไปจนไกลลิบตา  



Miller – คิดว่าการตายของ Ralph มันเป็นอุบัติเหตุหรอ ? หรือเป็นฝีมือ Eli ที่สร้างสถานการณ์เพื่อปลุกเราพวกเด็กๆ เหมือนเขาจะวางแผนมานานแล้วด้วย แต่ผมต้องรู้ให้ได้ว่าใครหนุนกลัง Eli เรื่องนี้ ไม่งั้นก็เตรียมบอกลาความสงบสุขของโลกได้เลย 

หลังจบเหตุการณ์ Dr. Emmerich ก็เป็นตัวเลือกแรกในการถูกเรียกตัวไปสอบสวนเช่นเคย ซึ่งสามารถฟังเทปคำให้การของเขาได้ที่เทป  Questioning Huey 04 – Cooperating with Eli ซึ่ง Ocelot  จะจับประเด็นว่าด็อกเตอร์มีส่วนรู้เห็นที่พวกเด็กซ่อมหุ่น Sahelanthropus ซึ่ง Dr. Emmerich ก็ยังยืนยันว่าไม่มีเด็กคนไหนขับมันได้ แน่นอนว่า Ocelot รีบบอกว่า Eli ขับหนีไปได้ง่ายๆอย่างกับขโมยจักรยาน และที่ผ่านมาคิดว่า Dr. Emmerich อาจพยายามใช้ Hal ลูกของเขาในการทดสอบเป็นผู้ขับขี่ Sahelanthropus ด้วยซ้ำ จนสุดท้าย Dr. Emmerich ก็ยอมรับว่า Hal ลูกของเขาเคยเข้าไปลองขับ แต่มันก็แต่เพียงช่วงสั้นๆ เป็นอีกครั้งที่ Dr. Emmerich ให้การกลับไปกลับมาจน Ocelot จับได้ว่าเขาโกหก !!    

และจากการที่ Eli ก่อนที่จะหนีไปเขาได้เอ่ยปากเรียก Big Boss ว่าพ่ออยู่หลายครั้งจนทำให้ Ocelot ต้องทำให้หายแครงใจด้วยการทดสอบ DNA ของ Eli ทันที ซึ่งสามารถฟังผลการตรวจสอบได้ที่เทป The White Mamba 03 – Eli DNA Test 



ซึ่งผลการตรวจร่างกายของ Eli นั้นผลออกมาเป็นเนกาทีฟหรือเป็นผลลบที่แตกต่างหากเทียบกับ DAN ของ Boss ซึ่งตอนแรกนั้น Miller และ Ocelot กังวลใจมากเพราะจากที่เคยได้ยินแผนโครงการลับ ว่า Les Enfant Terrible ในการโคลน Big Boss ของผู้พันซีโร่เมื่อ 12 ปีก่อนเมื่อปี 1972 นั้นทั้งอายุและการปรากฏตัวของ Eli นั้นประจวบเหมาะทุกอย่าง แต่เมื่อผ่านทดสอบผลเลือดถึง 3 ครั้งแล้ว ยังไงก็ไม่ผิดพลาด Eli ไม่ใช่ลูกหรือโคลนของ Boss แน่นอน !! 



จากนั้น Miller จะเรียกตัว Boss กลับฐานด่วนเพราะเกิดเหตุฉุกเฉินขึ้นที่เขตกักกันของฐาน 




Miller – บอส  มันเกิดขึ้นอีกแล้ว การระบาดของปรสิตเส้นเสียงคราวนี้เกิดที่เขตกักกันโรคเลย ตอนนี้ผมได้ส่งทีมช่วยเหลือเข้าไปหาผู้รอดชีวิตแล้วแต่ทั้งหมดขาดการติดต่อไปนานมากแล้ว แต่ตอนนี้เราได้เตรียมส่งกำลังเสริมอีกหน่วยเข้าไปแล้ว
Boss – ไม่ต้อง เดี๋ยวชั้นเองคนเดียว 
Miller – บอส ไม่จำเป็นต้องทำขนาดนั้นหรอก 
 Boss – ชั้นไม่สามารถปล่อยให้เสียใครไปกับเรื่องนี้อีกไม่ได้แล้วนะ !
Miller – แต่ เรายังไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ 
Boss – ก็เห็นอยู่ว่ามันชัดเจนอยู่แล้ว ! หวังแค่ว่าจะยังพอมีคนรอดชีวิตอยู่ก็แค่นั้น  อย่าเพิ่งกระจายข่าวไปลูกน้องจะได้ไม่ตกใจ 
Miller – งั้นก็ได้บอส คุณเข้าไปตรวจสอบก่อนเพื่อประเมินสถานการณ์ แล้วค่อยส่งทีมช่วยเหลือเข้าไป ถ้าพร้อมเมื่อไหร่ก็เริ่มภารกิจที่ iDtoid ได้เลย 


                             Episode 43 – Shining Lights, Even in Death 

Mission Task
-ตรวจสอบการติดเชื้อที่เขตกักกัน
-ทำลายผู้ติดเชื้อเพื่อป้องกันการระบาด

 สถานการณ์ที่เขตกักกันโรคของ Mother Base เริ่มวิกฤติหนักเมื่อได้รับรายงานถึงการระบาดของปรสิตเส้นเสียงอีกครั้ง แถมครั้งนี้ยังมีบางอย่างให้ต้องตกใจเพราะมันได้เกิดการกลายพันธ์จนทำให้ควบคุมร่างคนที่ติดเชื้อให้ทำร้ายคนอื่นไม่ต่างกับซอมบี้ ภาพจากกล้องของทีมปฎิบัติการณ์ช่วยเหลือผู้รอดที่ถูกส่งกลับมานั้นดูท่าไม่ดีนักเพราะนอกจากภาพความเละเทะของสภาพพื้นที่แล้วก็ไม่มีการติดต่อใดๆของทีมกลับมาอีกเลย ทำให้ Boss ต้องตัดการสูยเสียโดยการเข้าไปตรวจสอบพื้นที่เพื่อเห็ด้วยตาตัวเอง 



ซึ่งทาง Code Talker ก็รีบตรวจสอบถึงการติดเชื้อทันทีแล้วก็พบเรื่องที่น่าประหลาดใจที่ปรสิต Wolbachia ที่เป็นตัวช่วยต่อต้านปรสิต Vocal Cord กลับติดเชื้อซะเองจนทำให้มันเปลี่ยนเพศจากตัวผู้เป็นตัวเมีย ปรสิต Vocal Cord ที่เป็นเพศจึงไม่น่าผลสมพันธ์กับปรสิต Wolbachia จนเกิดไข่ที่ทำให้เกิดการติดเชื้อได้ แต่ทำไมมันถึงระบาดได้ เรื่องนี้แม้แต่ Code Talker ก็ยังไม่เข้าใจและต้องหาคำตอบให้ได้อย่างเร็วที่สุด 

ทันที่ Boss มาถึงทางเข้าเขตกักกัน ก่อนจะเข้าไปด้านในทางทีมงานได้ให้ฟังวิทยุที่ได้ถูกส่งมาจากด้านในข้อความว่า “ มันเป็นอย่างงี้นี่เอง ชั้นชนะมันแล้ว” ข้อความเห็นความหวังที่ Boss ต้องเข้าไปตามหาว่ามันถูกส่งมาจากที่ไหนเพื่อตรวจสอบว่าคำว่าชนะมันนั้นต้องทำยังไง ?? 

--เมื่อเข้าไปด้านในเขตติดเชื้อแล้วสภาพด้านในทั้งวุ่นวายและน่าสยดสยองของเหล่าเจ้าหน้าที่ที่ติดเชื้อต่างก็ร้องขอความช่วยเหลืออย่างทรมาน ตอนนี้คงทำได้แค่เดินสำรวจเพื่อสร้างความทรมานใจไปตามทางก่อน ไม่ต้องไปยิงใครหรืออะไรทั้งนั้นเพราะยังไม่สามารถแยกแยะว่าใครติดเชื้อหรือไม่



เมื่อเดินสำรวจขึ้นไปจนถึงด้านบนจนพบร่างของชายที่เป็นหัวหน้าทีมแพทย์ที่เป็นคนส่งข้อความออกมาเขาได้บอกกับ Boss ในสภาพใกล้ตายว่า “ผมเอาชนะมันได้แล้ว ผมไม่มีหอนทาก” ก่อนที่จะสิ้นใจตายไปก่อนที่ทุกคนจะเข้าใจที่เขาพูด  ในขระนั้นดูเหมือนว่า Code Talker จะเริ่มวิเคราห์ได้ว่าเหตุระบาดมาจากนกที่กินศพพวกติดเชื้อจากแผ่นดินมา และถ้าปล่อยให้พวกติดเชื้อออกไปด้านนอกได้ โลกก็จะระบาดด้วยไวรัสแบบใหม่ไปด้วย ก่อนที่พวกทหารมากมายที่ติดเชื้อเต็มตัวที่โดนปรสิตครอบงำจะพังประตูออกมาจากด้านในเพื่อจะออกไปที่ประตูทางออกของดาดฟ้า Boss พยายามทุกวิถีทางที่จะยิงแค่ทำให้บาดเจ็บเพื่อหยุดแต่ดูจำนวนของพวกมันมีมากจนเกินจะต้านไหว ระเบิดไฟถูปล่อยทำลายตรงทางออกเพื่อปิดกั้น เหตุการณ์บังคับให้ Boss ต้องยิงทหารที่เหลืออยู่ด้านในด้วย หลังจากยิงพวกติดเชื้อจนหมด Code Talkerจะตีความคำพูดของหัวหน้าแพทย์ที่ว่า หอยทาก (Snail) ออก ซึ่งเมื่อ Boss ใส่แว่น Google ดูก็จะเห็นคนที่ติดเชื้อมีแสงสีเหลืองๆที่คอเกาะอยู่ จากนี้ Boss ก็ต้องใช้แว่นตรวจหาคนที่ไม่ติดเชื้อเพื่อช่วยเหลือส่วนพวกที่มีสีเหลืองที่คอต้องฆ่าทิ้งให้หมด ซึ่งเป็นภารกิจที่บดขยี้ใจคนที่เป็นหัวหน้าที่สุดเมื่อยามต้องฆ่าลูกน้องตัวเอง

-ฟังคำว่าค้นหาผู้รอดชีวิตและกำจัดผู้ติดเชื้อมันฟังดูเป็นภารกิจช่วยเหลือที่มีความหวัง แต่จริงๆแล้วงานนี้ที่ต้องทำคือลงไปทุกชั้นและฆ่าผู้ติดเชื้อให้หมดแทบไม่ต้องใส่แว่นดูว่าใครมีอะไรเหลืองๆที่คอหรอกเพราะสุดท้าย Boss ก็ต้องยิงทิ้งทุกคนในทุกชั้นให้หมดอยู่ดี

ภารกิจลุล่วง คือเสียงที่ออกมาจากวิทยุสื่อสารแจ้งความยินดี แต่สภาพของหัวหน้าที่จำต้องฆ่าลูกน้องจนตายเกลี้ยง แม้หัวใจของปีศาจยังต้องแตกเป็นเสี่ยงๆที่ต้องฟังเสียงสะท้อนว่า ฆาตกร จากข้างในจิตใจ 




เมื่อเหตุการณ์ผ่านไป งานเผาศพของทหารผู้เสียชีวิตจากการติดเชื้อครั้งที่ 2 ก็ถูกจัดขึ้นอย่างเงียบๆ หัวหน้าที่ยืนอยู่หน้ากองไฟที่กำลังมอดไหม้ศพของลูกน้องที่ตายด้วยมือตัวเองของตัวเอง กำลังยืนมองสิ่งที่ตัวเองอาจต้องจำไปตลอดชีวิต คำพูดของ Miller ที่บอกว่า ทำดีแล้วที่ช่วยให้ทุกคนที่เหลือปลอดภัย ไมได้ทำให้ Boss หัวใจฟองโตอีกต่อไป เขายังคงยืนเงียบๆต่อไป ใจคงอยากให้ไฟมันเผาหัวใจไปพร้อมกันร่างของพวกฟ้องไปพร้อมๆกัน 


ที่ลานจอด ฮ. ของ Mother Base ถูกจัดเตรียมให้เป็นที่ทำพิธีลอยอังคารอัฐิของทหารที่เสียชีวิต 




Dr. Emmerich – มันเป็นความผิดของนายนั่นแหละ ! พวกเขาตายก็เพราะนาย 
Miller – แกว่ายังไงนะ!!
Boss – เขาพูดถูก ชั้นฆ่าพวกเขาด้วยมือตัวเอง 
Dr. Emmerich – เขาเป็นพวกเดียวกัน ผมก็เหมือนกัน แต่นายทำให้เขาเหลือแต่ขี้เถ้า !
Ocelot – พอแล้วด็อก !
Miller – พวกเขาอยากให้นายยิง เพื่อให้พ้นความทรมาน เอาน่า ทำให้มันจบๆไป ทหารอัฐิไปลอยทะเลได้




Boss – เดี๋ยว ! ชั้นทำเอง ..... ชั้นไม่อยากให้เถ้ากระดูกของพวกนายมันกระจัดกระจายไปกับความเศร้าในท้องทะเลที่ไร้ชีวิตจิตใจหรอก ชั้นจะอยู่กับพวกนายเสมอ จะไม่ยอมให้พวกนายกลายเป็นแค่ขี้เถ้า แต่จะให้จิตวิญญาณของพวกนายฝังรากและเติบโตในความรู้สึกของชั้นแล้วต่อสู้ไปด้วยกันตลอดไป 




Miller – ไม่เอาอัฐิของพวกเขาลอยทะเลหรอ ทำไมละ ? 
Boss – เราจะสร้างเพรชขึ้นจากเถ้ากระดูกของพวกเขาอีกครั้ง...  เอาพวกเขาไปสนามรบด้วย 
Miller –เราจะอยู่ในอ้อมกอดของผองเราเสมอไม่ว่ายามรุ่งโรจณ์หรือแม้ยามตายวายชีวา    
Boss – เพราะเราคือ ไดมอนด์ ด็อก !!



หลังจากนั้นไม่นาน (ทำภารกิจหลักในโหมดอื่นที่ยังไม่ได้ทำไปซักภารกิจ) Miller ก็จะติดต่อมาบอกว่าเขาได้หลักฐานที่ทำให้ได้ตัวคนที่ทำให้เกิดการติดเชื้อในครั้งที่ 2 แล้ว นั่นก็คือ Dr. Emmerich !! อีกตามเคย ซึ่งสามารถฟังบันทึกการสอบสวนได้ที่เทป Questioning Huey 05 – 06 – Reasons for Facilitating the Wolbachia Mutation โดย Ocelot จะจับได้ว่า Dr. Emmerich ได้ใช้อำนาจในการถึงข้อมูลต่างๆเรื่องปรสิตเส้นเสียงแล้วนำมันมาตัดแต่งพันธุกรรมใหม่เพื่อที่จะนำไปขายให้บริษัทยาที่ชื่อ DARPA ในอเมริกา แต่ที่ความซวยมาถึงตัวก็เพราะ DARPA นั้นเป็นบริษัทยาที่ Cipher เกี่ยวข้องอยู่เต็มๆ ซึ่งถ้า Dr. Emmerich พยายามจะปรับปรุงปรสิตเพื่อไปขายให้ DARPA ก็หมายความไปถึงว่าเขากำลังติดต่อกับ Cipher อยู่ด้วยตามความหมายของทุกคน ซึ่งหากรวมกับคดีเก่าที่ทุกคนคิดว่าเขาเป็นสายให้ Cipher อยู่แล้ว Miller จึงให้ Boss กลับมาฟังคำตัดสินโทษ Dr.  Emmerich ที่ฐานทันที ...




Ocelot – ทุกคนฟัง !! เมื่อ 9 ปีก่อน ชายผู้นี้เป็นผู้สมคบคิดกับศัตรูที่ทำให้ฐานของเราถูกทำลาย จากนั้นมันก็ไปทำงานร่วมกับ Skull face ศัตรูของเราอีก วางแผนคบคิดกับ Eli ในการแอบซ่อมแซมเมตัลเกียร์โดยไม่บอกพวกเรา และผลการตัดแต่งพันธุกรรมของปรสิตที่ทำโดยเราไม่อณุญาติทำให้เกิดการติดเชื้อทำให้เราเสียทหารมือดีของเราไปมากมายอีก  ยังไม่พอ เราได้พบว่า เขาได้ทำการฆาตกรรมครอบครัวของตัวเองอีก Dr. Strangelove ที่ถูกขังอยู่ใน A.I Pod ที่เขาสร้างขึ้น 
Dr. Emmerich – ผมไม่เคยฆ่าใครซักคน เรื่องปรสิตนั่นผมก็ตรวจสอบเพื่อความปลอดภัยของทุกนะ ผมนี่ยอมอุทิศตนเพื่องานมากกว่าทุกคนเยอะ ทำไมเชื่อกันบ้าง !
Miller – การดำเนินคดีครั้งนี้มพยานรู้เห็นด้วย ..จงฟังบันทึกที่เราพบใน A.I Pod ที่ฝั่งร่างเมียของแก หลุมศพของ Dr. Strangelove  
A.I Pod – (เสียงของ Dr. Strangelove) เปิดมันออกเดี๋ยวนี้นะ !! ฮิวอี้ บ้าเอ้ย เปิดมันเดี๋ยวนี้ !! ไดโปรด ปล่อยชั้นออกไป
Miller – A.I มันบันทึกไว้หมดก่อน Dr. Strangelove ตาย และทุกอย่างที่แกโกหกทุกคนไว้ 
Dr. Emmerich – โธ่ มันก็แค่เครื่องจักร์ 
Miller – แกจะลูกของตัวเองไปใช้ทดลองขับเมตัลเกียร์ แม่เขาก็คงจะพยายามช่วย แกก็เลยต้องขังเธอไว้ในตู้ A.I บ้านั่น 
Dr. Emmerich – ไม่ เธอทำของเธอเอง มันเป็นการฆ่าตัวตาย คิดกันได้ไงเนี้ย !
Miller – แล้ว 9 ปีก่อน แกคงคิดแล้วว่าถ้ายอมกลับไปหา Cipher แล้วแกจะรอด ที่แกรอดมาได้ก็เพราะมันจริงไง 
Dr. Emmerich – ได้โปรดดด 
Miller – ตัดสินว่า ผิดจริง !!  
ทหาร – ฆ่ามัน ฆ่ามัน ฆ่ามัน !!! 
Miller –  เดี๋ยวจะหาว่าเราเป็นพวกป่าเถื่อน .. เชิญบอสเป็นคนตัดสิน สั่งมาได้เลย 
Boss – ไว้ชีวิตเขา แล้วเนรเทศไปซะ พร้อมอาหารและน้ำ 
Miller –   บอส แต่ มันต้องรับผิดชอบกับการตายของพวกเรานะ !! ดูสิ่งที่มันทำกับเราสิ นี่มันศัตรู อยู่ตรงนี้ ใกล้ๆเราเนี้ย !
Boss – Kaz นายพูดถูก เขาไม่ใช่พวกเรา แต่เราก็ไม่มีสิทธิ์ไปตัดสินโทษศัตรูของเราเหมือนกัน ไล่เขาไปจากฐานเราเท่านั้นก็เกินพอแล้ว 



Dr. Emmerich – ผมบริสุทธิ์ ไอ้พวกฆาตกร สเนค แกควรจะมาอยู่ในเรือลำนี้แทน ทำเป็นรักสันติจริงๆแล้วรักนิวเคลียร์ต่างหาก ผมเสี่ยงอันตรายเพื่อช่วยทุกคนมาตลอด ทำกันแบบนี้ได้ไง ผมก็เหมือนทุกคนที่นี่  มันไม่ใช่ความผิดของผม 
Ocelot – ดูสิ มันไม่สามารถทิ้งปีศาจในตัวมันได้จริงๆหรอก ด็อกเตอร์ 
Miller – สาสมแล้ว จะมาบ่นว่าเราใจดำไม่ได้หรอก อัศวินแห่งแสงแห่งความดีที่ถูกเปิดโปงความไร้ศีลธรรมด้วยความอยุติธรรมของพวกเรา ไปหาไอ้โง่กลุ่มอื่นที่พร้อมจะเชื่อคำโกหกของแกเถอะ ด็อกเตอร์ 
Ocelot – ไม่หรอก วันนึงถ้าเขายอมรับความจริงในสิ่งที่เขาพยายามโกหกเขาก็จะสำนึกเองว่าตัวเองเป็นยังไง ทำอะไรไปก็ได้ผลกลับมาแบบนั้นแหละ ยังไงก็หนีตัวเองไปไม่ได้ตลอดไปหรอก 


หลังจากหุการณ์ Miller จะแจ้งข่าวร้ายเพิ่มเติมว่าตอนนี้ Quiet เธอได้หนีออกจากฐานไปแล้ว ยังไม่สามารถตรวจสอบได้ว่าเพราะอะไร แต่หน่วยข่าวกรองแจ้งว่าเธอโดนพวกโซเวียตจับตัวได้แล้ว Miller จึงบอกให้ Boss เข้าไปพาตัวเธอออกมาหรือถ้าเป็นไปได้ก็เก็บเธอซะเพราะเธอรู้เรื่องของ ไดมอนด์ ด็อก มากเกินไป ก่อนที่ Miller จะอ้างสัญญาที่เคยออกจากปาก Boss ในครั้งที่รับ Quiet เข้ามาร่วมทีมทั้งที่เธอเคยทำงานให้ศัตรูว่า หากวันใดที่เกิดเรื่องผิดพลาดขึ้นจนต้องฆ่าเธอทิ้ง Boss จะเป็นคนเหนี่ยวไกปืนด้วยตัวเอง และครั้งนี้ Miller คิดว่าถึงเวลาที่ Boss จะทำอย่างที่พูดไว้แล้ว จากนั้นเมื่อเข้าไปเช็คดูรายชื่อของ Side ops ก็จะมีภารกิจเสริมชื่อ Secure Quiet เป็นตัวสีเหลืองขึ้นมาให้ทำ 


                                           Side ops - Secure Quiet

ภารกิจนี้ต้องลอบเข้าไปที่ค่ายทหารที่ 04 ทางตะวันออกของ Aabe Shifap Ruin เป้าหมายคือบ้านตรงกลางพื้นที่ซึ่งจะมีไฟล์สำคัญอยู่ เมื่อเข้าไปสำรวจอ่านดูก็จะทำให้รู้ว่า ตอนนี้ Quiet ถูกพาตัวย้ายไปที่ Lamar Khaat Palace แล้ว

ซึ่งเมื่อได้ข้อมูลมาแล้วจะจบภารกิจนี้และตัดเข้าสู่ EP 45 – Quiet Exit ซึ่งเป็นภารกิจสุดท้ายตามท้องเรื่องทันที 

ก่อนเริ่มภารกิจ Ocelot จะให้ข้อมูลสำคัญถึงเรื่องของ Quiet ที่ Boss จำเป็นต้องรู้ ซึ่งต้องเข้าไปฟังในเทป Quiet (6) Why did Quiet Disappear จะเป็นบันทึกคำให้การของ Code talker ที่บอกเรื่องราวที่เขาได้คุยกับ Quiet ก่อนหน้านี้ว่าทำไมเธอถึงต้องหายตัวไปว่า เธอมีไวรัส Vocal cord ชนิดภาษาอังกฤษ ติดตัวอยู่ แน่นอนว่า Skull Face เป็นคนทำกับเธอหลังจากที่เธอถูกส่งไปลอบสังหารที่โรงพยาบาลแต่ไม่สำเร็จจนได้รับบาดเจ็บสุดท้ายก็ต้องถูกทดลองด้วยปรสิตจนทำให้กลายสภาพเป็นอย่างที่เห็นและถูกสั่งให้แฝงตัวมากับปรสิตภาษาอังกฤษเพื่อทำลาย Boss อีกครั้ง แต่เธอกลับเลือกที่จะไม่พูดเพราะไม่ต้องการทำให้คนอื่นติดเชื้อ ซึ่งเธอยอมบอกกับ Code Talker ทั้งหมดด้วยภาษา Dine Navajo ซึ่งเป็นภาษาอินเดียนแดงเก่าแก่ภาษาเดียวที่ไม่ติดเชื้อปรสิตแถมเธอยังปฎิเสธที่จะไม่ยอมรักษาด้วยปรสิต Wolbachi ของ Code Talker และยอมให้พวกโซเวียตจับตัวง่ายๆ เพราะอะไร ? เพราะเธอต้องการแก้แค้นกับพวกที่ต่อต้าน Big Boss ส่วนคำถามคาใจว่า ทำไม Boss คนเดียวเท่านั้นที่ต้องออกไปหาตัวเธอเพื่อเอาคำตอบด้วยตัวเอง 


                                     Episode 45 – QUIET EXIT

Mission Task 
ภารกิจหลัก 
- ค้นหาตัว Quiet ให้พบ
- ทำลายกองทัพรถถังของโซเวียตให้หมด

ภารกิจย่อย
-ขโมยรถถัง  7 คันและรถหุ้มเกราะอีก 7 คัน
-จบภารกิจโดย Quiet ไม่บาดเจ็บ

**สิ่งที่จำเป็นของภารกิจ ชุดเกราะหนักและอาวุธหนักทุกชนิด **


ภารกิจต่อเนื่องในการตามหาตัว Quiet ซึ่งเมื่อเดินทางเข้ามาถึงที่ Lamar Khaat Palace แล้ว ก็จะพบ Quiet กำลังโดนพวกทหารรัสเซียรังแกอยู่ทันที แต่สุดท้ายแผนแก้แค้นที่สุดโหดเหี้ยมของ Quiet ก็เริ่มขึ้น เธอเริ่มฆ่าพวกทหารรัสเซียที่คิดจะข่มขืนเธออย่างเมามันทั้งๆที่มือถือมัดอยู่ และทันทีที่ Boss มาถึงแล้วแก้มัดให้ เธอก็เริ่มยำใหญ่ละเลงเลือดจนมันมือ แต่เมื่อรู้ตัวอีกที กองทหารรถถังของโซเวียตก็ได้บุกมาประชิด ทันทีที่เสียงปืนแตกด้วยกระสุนนัดแรกของรถถังโซเวียต Boss กับ Quiet ก็ร่วมมือกันออกไปจัดการพวกมันทันที 

-สิ่งที่ต้องทำในภารกิจนี้คือทำลายกองทัพรถถังและเฮริคอปเตอร์ศัตรูที่บุกเข้ามาให้หมดโดยห้ามให้ทั้งตัวเองและ Quiet ตาย เป็นภารกิจตั้งรับที่โหดหินพอตัวเพราะรถถังพร้อมทหารราบจะบุกเข้ามาจากทุกทิศทางเป็นชุดๆมีแค่ออโต้เซฟครึ่งแรกเท่านั้นที่จะได้พักที่เหลือต้องถล่มกันยาวๆและสามารถตายได้ในทันที พยายามจำทิศทางการมาของพวกรถถังให้ดีๆแล้วรีบยิงถล่มมันก่อนที่มันจะเริ่มเข้ามาใกล้ซึ่งจะปิดท้ายด้วยเฮลิคอปเตอร์ติดอาวุธ ส่วนทหารราบไม่ต้องสนใจปล่อยให้ Quiet จัดการได้

หลังจากทั้งคู่ช่วยกันยิงถล่มจนสามารถเอาชนะกองทัพรถถังของโซเวียตจนได้ เป็นโอกาสดีที่บอสจะจับมือกับ Quiet เพื่อฉลองชัย แต่ ยังไม่ทันไร Quiet ก็รีบแย่งบาซูก้าจากมือ Boss ไปเพราะยังเหลือรถถังที่รอดสายตาอยู่อีกคัน Quiet รีบยิงสวนกลับไปเร็วพลันแต่ลูกกระสุนปืนใหญ่ที่สวนเข้ามานั้นก็โดนทั้งคู่เต็มๆเหมือนกัน เมื่อควันเริ่มจาก Boss ก็รู้สึกตัวและพยายามเข้ามาดูอาการของ Quiet ที่ดูท่าจะหนักเอาการอยู่ ในขณะที่กำลังเสริมของศัตรูกำลังจะเคลื่อนกำลังมาใกล้และการติดต่อสื่อสารที่ใช้การไม่ได้ Boss จึงต้องแบก Quiet ออกจากพื้นที่ไปด้วยตัวเองโดยใช้พายุทรายเป็นที่พรางตาจากศัตรู



ระหว่างทางที่พายุทรายพัดกระหน่ำและกองทัพศัตรูที่กำลังเดินย่ำเข้าพื้นที่ Boss ทำดีที่สุดคือพาตัว Quiet หนีเท่าที่จะทำได้ ในขณะที่ทั้งคู่กำลังใช้โขดหินบดบังสายตาจากศัตรูที่เดินเข้ามาใกล้ Boss ก็ได้แต่ใช้ความซุ่มเงียบทำให้พ้นภัยไปได้ในระดับนึง แต่ก็ต้องเจอกับงูทะเลทรายขนาดใหญ่ที่เลื้อยเข้าใกล้ จะตอบโต้ก็ไม่ได้เพราะศัตรจะรู้ตำแหน่ง Boss จึงต้องยอมเอาแขนตัวเองให้มันกัดจนสามารถฟาดมันจนตายได้ แต่ตัวเองก็ต้องเจอพิษงูจนสลบไปในที่สุด 

  

Boss ในสภาพที่ยังไม่ได้สติเพราะกำลังช็อกเพราะพิษงู สายตาที่เลือนรางมองเห็น Quiet กำลังพยายามทำทุกทางเพื่อหาทางช่วย ท่ามกลางพายุทรายที่ยังไม่มีทีท่ามาจะสงบคงไม่มีเวลาพอที่จะรอเพราะ Boss กำลังจะช็อกเพราะพิษงู จนมีวิทยุติดต่อจากเฮลิคอปเตอร์ที่กำลังจะเข้ามาช่วยเหลือ Quiet จึงรีบติดต่อกลับไปด้วยภาษาที่ไม่ทำให้เธอต้องตาย แต่พวกเขาไม่สามารถฟังภาษาอินเดียนแดงที่ Quiet รู้เรื่อง จึงไม่สามารถเข้ามารับตัวในพิกัดที่ Quiet พยายามจะบอกได้ ในนาทีสุดท้ายของความเป็นและความตาย Quiet ก็ยอมพูดภาษาที่ทำให้เธออาจต้องตายออกไปเพื่อช่วยชีวิต Boss 





จนสุดท้าย เฮลิคอปเตอร์กู้ภัยก็สามารถรู้ตำแหน่งที่ชัดเจนที่จะเข้ามารับตัว Boss ได้ และภาพจากสายตาที่เลือนรางก็เห็นร่างของ Quiet ตัดกับแสงสว่างของไฟส่องขอทางลงจอดของเฮลิคอปเตอร์ มันช่างเป็นภาพแห่งความหวังที่แสนเลือนรางภาพสุดท้ายก่อนที่ Boss จะสลบไป 

ทันทีที่ได้สติอีกครั้งจากการช่วยเหลือของหน่วยกู้ภัย Boss รีบถามถึงความปลอดภัยของ Quiet ทันที ทหารทุกคนได้แต่นิ่งเงียบและพยายามกลบเกลื่อนเพื่อจะพา Boss กลับไปรักษาตัวที่ฐานต่อ แต่ Boss คงรอแบบนั้นไม่ได้เขาจึงรีบออกไปเดินตามหาจากรอยเท้าที่เขาเห็นตามทางก่อนที่มันจะหายไป แต่หลังจากพยายามเดินหาอยู่นานนอกจากรอยเท้าที่ค่อยๆจางหายไปตามทางก็คือคลาสเซ็ทเทปที่ห้อยอยู่ตรงสุดทางของรอยเท้าที่จางหายไป



ชั้นไม่ได้เลือกที่จะเป็นนังเงียบบ้าใบ้ 
ฉันอยากจะส่งความหมายที่มีในใจให้คุณรู้
ถ้าเราสื่อสารกันได้ด้วยภาษาเดียวกันก็คงดี 

 

เพราะความแค้นที่ทำให้ชั้นต้องตกเป็นเครื่องมือของพวกมัน 
ภาษาเดียวที่ชั้นมีก็คือ การล้างแค้น 
แต่ภาษาที่เราใช้ร่วมกัน ชั้นกลับไม่สามารถใช้มันได้เลย 
นั่นเป็นคำตอบที่ว่าทำไมชั้นถึงเลือกที่จะ “ไม่พูด“ แทนคำขอบคุณ 
ชั้นคือ ไควเอท  ผู้ไม่มีตัวตนทางวาจา ที่แค่ผ่านทางมาเท่านั้นเอง 





Miller - ในที่สุดผมก็รู้ความลับทั้งหมดของร่างกายเธออย่างละเอียดแล้ว ร่างกายเธอได้รับการบำบัดมาแล้วจากปรสิตเหมือนกับเคลือบแทนผิวหนังของเธอจากที่ถูกไฟไหม้ และทำหน้าที่ส่งออกซิเจนไปให้กระแสเลือดเพื่อหล่อเลี้ยงเธอในการหายใจแทนปอดและการดูดซับอาหารในเวลาเดียวกันเพื่อทดแทนสิ่งที่เธอสูญเสียไป ทำให้เธอสกัดคาร์ไฮเดรทได้เหมือนกับกระบวนการ photosynthesis ของพืชที่ใช้น้ำและคอลโรฟิลล์เป็นตัวช่วย Skull face มันเปลี่ยนเธอหลังจากที่มันก็ส่งเธอไปฆ่า Boss จนถูกไฟไหม้จนภารกิจล้มเหลว ในขณะเดียวกันก็ยัดปรสิตเส้นเสียงภาษาอังกฤษเข้าไปในตัวเธอเผื่อแผนแรกล้มเหลว และถึงเธอจะฆ่า Boss ไม่ได้ แต่เธอก็แพร่เชื้อจนพวกทหารที่ฐานได้ไปหลายคนในการติดเชื้อครั้งแรก
Code Talker – จริงๆเธอเองพูดได้ถึง 3 ภาษา ภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่ 3 ของเธอซึ่งไม่ใช่ภาษาดั่งเดิม ปรสิตเส้นเสียงนะมันจะใช้กับคนที่เป็นพาหะได้ก็ต่อเมื่อคนๆนั้นใช้ภาษานั้นๆเป็นภาษาหลักเท่านั้น ปรสิตเส้นเสียงภาษาอังกฤษที่ติดตัวเธอมามันจึงไม่เกิดผลอะไรเลย ซึ่งนั่นแม้แต่ Skull face กับตัวเธอเองก็ไม่รู้
Miller – แล้วอะไรที่ทำให้เธอกลับมาหาสเนคอีก เพราะชอบและเชื่อใจหรือเพราะยังจะทำตามคำสั่งของ Skull face อยู่ก็ไม่มีใครเดาได้ แต่สุดท้ายไม่ว่าจะเพราะอะไรภารกิจเธอก็ไม่สำเร็จตามที่ตั้งใจซักอย่าง อะไรที่ทำให้เธอเปลี่ยนใจคงอยากที่จะบอกไปเพราะเราไม่เคยได้ยินเสียงตอบจากใจของเธอ    


        **************************************************************************



                              Episode 46 - Truth the man who sold the world




16 มีนาคม 1975 13.31น. โรงพยาบาล Mena de Barranquilla , โคลัมเบีย



ในห้องผู้ป่วยฉุกเฉินเต็มไปด้วยความวุ่นวายของทีมแพทย์และพยายบาลที่พยายามจะยื้อชีวิตชายที่กำลังจะตายอยู่ตรงหน้า
“Big Boss นายอย่ามาตายต่อหน้าชั้นเด็ดขาดนะ !”  Miller  ชายผู้ภักดี เจ้านาย ยิ่งกว่าสหายร่วมรบตะโกนลั่นเพื่อช่วยพลักดันด้วยอีกแรง โชคดีที่ทีมแพทย์ใช้เวลาขจัดความตายไปได้ไม่นาน Big Boss รอดอย่างปาฎิหารเมื่อแพทย์และพยาบาลบอกว่า อาการเขาทรงตัว แต่เจ้าตัวอาจต้องโคม่าเป็นเวลานาน แล้วนายนนั้นละ ?” Miller ถามด้วยความแคลงใจถึงชายที่นอนอยู่ที่เตียงสุดทาง หมอบอก เขาคงกำลังทรมานเพราะโดนเศษกระดูกฝังอยู่ที่หัว สะเก็ดกระสุนกระเด็นมาถูกจนพรุนไปเกือบทั้งตัว แขนขาดหาย ถ้ารอดตายอาจเลี้ยงไม่โต


11 มีนาคม 1984 02.03 น. โรงพยาบาล Dhekelia SBA Memorial, Cyprus 




ชายคนนึงก็ตื่นขึ้นมาจากโคม่า เมื่อเวลาผ่านไป 9 ปี ! ในสภาพอ่อนเพลีย เสียแขน และร่างกายเต็มไปด้วยเศษกระสุน หัวถูกตรึงด้วยเศษกระดูกยื่นแหลมจนคล้ายปีศาจ 3 อาทิตย์ผ่านไปท่ามกลางความขาดหายและที่เพิ่มเข้ามาใหม่ของร่างกายที่เขาต้องพยายามใจให้คุ้นเคย หมอผู้หวังดีรีบบอกว่า คุณมีศัตรูอยู่ทุกทิศทางจนต้องอำพรางหน้าให้กลายเป็นคนใหม่เพื่อไม่ให้ใครตามหาคุณเจอ หลังจากได้หน้าใหม่ที่เหมือนเจ้านายเก่าไม่กี่นาที นักฆ่าสาวนรินามก็บุกเข้ามาฆ่าหมอและพยาบาลตามด้วยตัวเขาเป็นรายต่อไป โชคดีที่มีชายพันหน้าเตียงข้างๆมาช่วยไว้ได้ทัน  ก่อนที่จะช่วยกันทำให้นักฆ่าสาวโดนไฟครอกตกลงหน้าต่างไปได้สำเร็จ ก่อนจะพาหนีออกจากโรงพยาบาลท่ามกลางการไล่ล่าของหน่วยรบไม่ทราบสัญชาติกับตัวประหลาดที่ลุกเป็นไฟ จนทั้งคู่สามารถหลบลี้หนีภัยจนออกมาด้านนอกได้อย่างปลอดภัย แต่สุดท้ายก็โดนเฮลิคอปเตอร์ยิงไล่ล่าขณะขับรถหนีจนรถคว่ำอยู่ข้างหน้าทางออกอุโมงค์



Ocelot ก็ไม่รอช้าเขารีบเข้ามาช่วยผยุงชายผ้าพันหน้าออกจากรถ แล้วปล่อยให้ชายอีกคนนอนอยู่ในนั้นเพื่อเผชิญชะตากรรมของชีวิตใหม่ในฐานะชายอีกคน !! 

05.59 น. Dhekelia Sovereign ทางตะวันตกของ Ormideia ไม่ไกลจากที่เกิดเหตุมากนัก ชายพันหน้าเปิดเผยตัวให้รู้ว่าเขาคือ Big Boss ตัวจริง ก่อนที่ Ocelot จะเตรียมมอเตอร์ไซด์ เสื้อหนัง และพาสปอร์ตใบใหม่ให้ใช้ในการเดินทาง





Big Bossชั้นคงต้องวางมือพักผ่อนซะหน่อย
Ocelotผมเตรียมทุกอย่างให้พร้อมแล้ว ชื่อใหม่ พาสปอร์ตใหม่ ที่เหลือก็คือ หมอนั่น ที่จะเข้ามาอยู่แทนที่คุณแล้ว จากนี้เขาคือคุณ เขาคือ สเนค คือ Big Boss ! แถมเขาก็ยังเชื่อว่าเขาเป็นซะด้วย แผนนี้ทำเอาผมกลายเป็นปีศาจไปเลยว่ามั๊ย บอส โลกทั้งโลกต้องหัวคุณ ไม่เป็นไร หมอนั่นรับไหว คุณรีบไปได้แล้ว 


Big Bossนายลืมอะไรหรือเปล่า ? ซิการ์ชั้นละ
Ocelot นี่ครับ
Big Boss ไว้เจอกับ Ocelot
Ocelotครับ แล้วเจอกัน

   
       


Ocelot ย้อนกลับไปช่วยเจ้านั่นที่ติดอยู่ที่ซากรถเพื่อพาหนี อบรม ทรงเครื่องเสียใหม่ เพื่อให้อยู่ในฐานะ Big Boss อีกคนที่เขาเตรียมแผน Doublethink เอาไว้โดยไม่มีใครรู้ตัว

การเดินทาง ผ่านกาลเวลาไปกับไฟสงครามและการต่อสู้ที่หวังได้มาตามอุดมการณ์ที่ตั้งไว้ ในระหว่างเส้นทางที่เหนื่อยล้า ก็ถึงเวลาที่ Big Boss ของอีกโชคชะตาจะนึกถึงวันเวลาที่ทำให้มาถึงวันนี้




แท้จริงแล้ว Big Boss คนนี้ คนที่คุณเล่นมาทั้งหมดนั้นเป็น Big Boss อีกคนที่ถูกสร้างขึ้นตามแผน “Doublethink” ของ Ocelot วิธีคิดที่ขัดแย้งที่ว่านี้คือการสร้าง Big Boss อีกคนรับหน้าเสื่อในขณะที่โลกทั้งโลกกำลังหันมาโจมตีเพื่อซื้อเวลาให้ Big Boss ตัวจริงเพื่อพักฟื้น รวบรวมกำลัง และทำตามเป้าหมายอยู่อีกทางได้อย่างสะดวก ซึ่ง Big Boss คนนี้ก็คือ แพทย์ทหารจากหน่วย Militaries Sans Frontiers (MSF) ธรรมดาๆคนนึงที่นั่งอยู่ในเฮลิคอปเตอร์ในวันที่กำลังจะหนีจาก Mother Base ที่ถูกทำลาย เขาเป็นคนผ่าเอาระเบิดลูกแรกออกจากท้องของ Paz ก่อนที่เธอจะโดดออกจาก ฮ. เพื่อให้ระเบิดลูกที่ 2 ระเบิดด้านนอกและก็แพทย์ทหารคนนี้นี่แหละ ที่ยอมเอาตัวเองบังแรงระเบิด จนต้องรับสะเก็ดระเบิดมากมายแทน Big Boss ทำให้โคม่ามานานถึง 9 ปี ซึ่ง และเขาก็ไม่ได้ชื่อ Medic อย่างที่ทุกคนเข้าใจ เพราะคำว่า Medic ทั้งที่แปะอยู่ที่หน้าอกเสื้อและที่ Big Boss เคยเรียกนั้นคำว่า Medic ทางทหารหมายถึง แพทย์สนาม เพราะ Big Boss แทบไม่ได้รู้จักกับทหารคนนี้ดีพอเกินไปกว่าทหารคนอื่นเลย แม้แต่หน้าก็ยังจำแทบไม่ได้ (อ้างจากการฟังเทปสนทนาระหว่าง Ocelot กับ Boss ก่อนเริ่มแผน) แต่เขาถูกเลือกเพราะความจงรักภัคดีที่รับแรงระเบิดแทน Boss และไม่มีเวลาพอที่จะหาคนอื่นอีกแล้ว






                            ก่อนที่เขาจะเอาเทปบันทึกคำสั่งที่ติดตัวมาแล้วเริ่มฟังมัน... 





Big Boss – ถึงตอนนี้นายคงจำได้แล้วนะ ว่านายเป็นใคร และมีหน้าที่อะไรที่ต้องทำ ชั้นโกงความตายได้ก็เพราะนาย และก็ต้องขอบใจนายมากที่ทำให้ชั้นไม่ต้องทิ้งจุดหมายที่ตั้งไว้ ซึ่งนายเองก็เหมือนกัน นายสามารถเขียนหน้าประวัติศาสตร์ของนายเองได้ เพราะนายก็ยังเป็นตัวนาย ชั้นคือ Big Boss และนายก็ด้วย ไม่สิ เราสองคนคือคนเดียวกัน แล้วเรามาทำอะไรกันวันนี้ละ เรากำลังสร้างมัน เรื่องราวของเรา ตำนานของเรา เราสามารถเปลี่ยนโลกได้ ชั้นคือนาย และนายคือชั้น จงจดจำให้มันติดตัวไปทุกที่ที่นายไป ขอบคุณมากเพื่อนรัก จากนี้และตลอดไป นายคือ Big Boss !!!

   

ซึ่งนับแต่นี้ เขาจะเป็นที่รู้จักของเราโดยทั่วกันว่า .... Punished “Venom” Snake หรือ Big Boss ‘s Phantom





Ocelot - กองกำลังรบที่เหนือกว่ากองทหารทั้งหลายที่เรียกว่า Outer Heaven ที่จะผดุงไว้เพื่อคานอำนาจกับประเทศมหาอำนาจของโลกโดยไม่ได้หวังเพื่อหาผลกำไร เพื่อหยุดการรบลาฆ่าฟันระหว่างประเทศต่างๆ ก็ไม่ต่างอะไรกับ Big Boss กำลังจะคิดสร้างประเทศของตัวเอง แต่ก่อนที่ทุกอย่างจะสำเร็จ เราต้องสนับสนุน Big Boss อีกคน ปีศาจที่อยู่ในคราบของตำนาน นั่นเป็นแผนของ Big Boss  
Miller – มันจะต้องทำถึงขนาดนั้นด้วยหรอ 9 ปีที่แล้วชั้นนึกว่าจะเสียทุกอย่างไปหมดแล้วซะอีก แต่ดูเหมือนถึงตอนนี้ชั้นยังจะเสียไปไม่หมด Big Boss กับเรายังจะต้องสร้างอนาคตไปด้วยกันอีกหรอ 
วันนึงที่ลูกชายของ Boss ปรากฏตัวขึ้นมา พวกเขาคงอยากต้องการให้จัดการเตรียมอะไรให้เขาแบบเสร็จสรรพ ถ้าเราจะสร้างแบบแผนที่ดีแล้วเราจำต้องกฎกติกาในการดำเนินเกมที่เหมาะสมด้วยสิ เราจะสร้างรากฐานทุกอย่างใหม่จากการนำของทั้ง 2 Big Boss คนนึงคือตัวจริงกับอีกหนึง Phantom
Miller – ไม่ ! Big Boss นั่นแหละสมควรไปตายซะ ชั้นจะสนับสนุน Phantom และลูกๆของเขา แล้วจากนั้นก็จะเล่นตามกฎของชั้นบ้าง
Ocelot – หึ นายรู้มั๊ย ไม่นานยังไง Boss ก็ต้องเหลือแค่หนึ่งเดียว ลูกๆเขาก็ต้องเผชิญหน้ากันไม่ต่างกัน วันนึงถ้านายจะกลับไปหา Cipher ชั้นก็จะดูแลลูกอีกคนนึงของ Boss เอง นั่นแปลว่าแกกับชั้นต้องเป็นศัตรูกันด้วยนะ ใครคนนึงอาจจำต้องฆ่าอีกคนนึง
Miller – สบายอยู่แล้วสำหรับชั้น ยังไงชั้นก็พร้อมจะสร้างยุคใหม่อยู่แล้ว แต่ถึงตอนนั้นเราคงต้องร่วมหอลงโรงกันไปก่อนก็แล้วกัน !!   



   Cr. ขอขอบคุณรูปภาพประกอบบทสรุปจาก YouTube.com 


************************************************************************



                  

                               The Truth Record คำอธิบายถึงชายอีกคน

             [บันทึกคำสนทนาระหว่าง Big Boss กับ Ocelot ก่อนโรงพยาบาลจะถูกโจมตี]

Ocelot – บอสครับ ทำไงถึงอยากกลับไปลุยได้เหมือนเดิมเร็วๆละครับ อยู่แบบนี้ก็สบายดีนะ

Big Boss – ที่โรงบาลห้ามสูบบุหรี่วะ

Ocelot – โธ่ บอส

Big Boss –ถ้ารู้ว่าตื่นจากโคม่าแล้วต้องมาเจอพวกหมอๆพล่ามๆใส่หน้าทุกวันชั้นยอมตายดีกว่า

Ocelot – เอาน่ายังไงก็พ้นเรื่องบ้าๆนั่นมาได้แล้วไม่ใช่หรอ จริงๆผมก็ไม่อยากจะแจ้งเรื่องแย่ๆทั้งที่คุณเพิ่งหายดีหรอกนะ

Big Boss – ข่าวร้ายสินะ ว่ามา

Ocelot – พวกมันรู้แล้วครับว่าคุณฟื้นขึ้นมาแล้ว แล้วทันทีที่คุณตื่นเจ้าคนที่ไฟลุกนั่นมันก็ตื่นด้วย ได้เวลาเผ่นแล้วครับบอส Miller มันเตรียมการทางนั้นไว้หมดแล้ว เราก็คงต้องปลุก “เพื่อน” ของคุณด้วย

Big Boss – ชั้นว่าเขายังไม่พร้อมนะ เขาฟื้นแล้วหรอ ?

Ocelot – ยังครับ แต่เริ่มเคลื่อนไหวได้บ้างแล้ว ไม่นานคงได้สติ แต่ดูเหมือนเขาอาจจะจำอะไรไม่ได้มากตอนแรกนะหมอว่างั้น อดีตของคุณคงจะเป็นอดีตของเขาด้วยได้ไม่ยากหรอก คงต้องใช้เป็นตัวปลอมของคุณแล้วบอส ให้เขาสวมบทเป็น Big Boss ไป แผนนี้ไม่ได้ทำไว้รับมือ Cipher นะ แค่ให้เขารับหน้าเสื่อกับโลกทั้งโลกที่กำลังตามไล่งานคุณอยู่ไปก่อน ที่เหลือก็รอเวลาคุณคืนชีพแค่นั้น

Big Boss – นายก็พูดเหมือนง่าย

Ocelot – ไม่ง่ายครับ เพราะเรายุ่งกันมากระหว่าง 9 ปีที่ผ่านมา เราต้องดันแปลงและปลูกถ่ายจิตสำนึกเพื่อชักนำให้เขาซึมซับทุกอย่างที่เป็นคุณไปให้หมด ทุกทักษะ ความรู้ ความสามารถ ที่มีในประสบการณ์ของคุณในทุกๆภารกิจที่ผ่านมา เพื่อทำให้เขาเชื่อว่าตัวเขาเป็น Big Boss ตัวจริง แม้คนรอบตัวก็ไม่มีทางรู้ จริงๆเขาจะอยู่ในฐานะ Big Boss ตัวจริงหรือตัวแสดงแทน มันจะมีความหมายอะไรกับเขามั๊ยละ ก็ไม่มี สมองมนุษย์สามารถสร้างมายาคติได้เยอะแยะ ทั้งความเจ็บปวด หรือ อนาคต ที่เหลือก็ต้องขึ้นอยู่กับระดับความสามารถเฉพาะตัวของเขาแล้ว ซึ่งคุณสามารถช่วยเขาได้

Big Boss – เขาเป็นมือดีที่สุดของเราเสมอ  แต่เรื่องนี้ มัน

Ocelot – 9 ปีก่อนในเฮริคอปเตอร์ เขาเอาตัวเองเข้ามาขวางระหว่างคุณกับระเบิด  เอาจริงๆเขาควรตายไปแล้วด้วยซ้ำ ตายเพราะปกป้องคุณไง บอส และตอนนี้เขาก็กำลังจะกลายเป็นคุณ เพื่อปกป้องคุณอีกครั้ง ถึงแม้มันจะเป็นทางที่เขาต้องฝ่าขุมนรกก็เถอะ แต่ก็อย่าลืมว่าเขาต้องการอะไร ตอนนี้มันก็ถึงวันของเขาแล้ว แล้วก็ไม่ใช่แค่เขานะ คนบริสุทธิอีกแยะที่โรงพยาบาลนี้อาจต้องตาย สุดท้ายเราก็ต้องใช้พวกเขาเป็นโล่เพื่อซื้อเวลาให้คุณหนีอยู่ดี  ส่วนผมจะคอยดูแลเขาอย่างดี

Big Boss – มันเป็นการโกหกหลอกลวงกันแบบหน้าด้านๆเลยนะ

Ocelot – ไม่ได้โกหก เขาแค่ไม่รู้ความจริงเท่านั้นเอง ถึงแม้ผมจะไม่ฉลาดเท่าคุณแต่ผมก็มั่นใจว่าเขาจะเป็น Big Boss แทนคุณได้แน่นอน  เห็นมั๊ย โกหกตรงไหน

Big Boss – สะกดจิตตัวเองหรอ ?

Ocelot – ไม่มีอะไรแปลกใหม่หรอก ในสายงานผมมันทำได้อยู่แล้ว แค่ต้องจัดแต่งเรื่องอดีตให้เหมาะสมหน่อยแค่นั้น สำหรับผม คุณก็ยังเป็น Big Boss ตัวจริงเสมอ แต่สำหรับโลกก็อาจต้องมีถกเถียงกันบ้าง

Big Boss – ต้องเตรียมแผนนานแค่ไหน ปีนึงหรอ ?

Ocelot – สองสามปี เต็มที่ก็ห้า ซึ่งคุณก็ต้องช่วยด้วยเหมือนกัน

Big Boss – เป็นบอดี้การ์ดให้เขา

Ocelot –  ถูกต้อง รับรองไม่นานเกินจนพวกมันบุกมาถึงที่โรงบาลหรอก แน่นอนว่าตอนที่เขาตื่นขึ้นเขาคงยังไม่แข็งแรงพอซึ่งเราต้องช่วยไปส่งเขาให้ถึงปลายทาง

Big Boss – พูดแล้วชั้นก็อยากเห็นหน้าเขาอีกครั้งเหมือนกันนะ

Ocelot – โอเค จอห์น 9 ปีที่ผ่านมานี่ผมไม่เคยลืมคุณเลยนะ แต่ตอนนี้แทบไม่อยากจำซะแล้ววะ