วันศุกร์ที่ 16 ธันวาคม พ.ศ. 2559

World of Final Fantasy [ต่อ]


                    บทสรุป   World of Final Fantasy [ต่อ]


                                                     CHAPTER 1 - 20  



                                     Chapter 21: Chaos in Grymoire



                                                            ที่เรือเหาะ




[Lann] – เอาละ เราจะเริ่มกันยังไงดี ?
[Reynn] – ถ้าเราติดตามพวก Cloud Squall Lightning ไป พวกเขาคงต้องการความช่วยเหลือบ้างแหละ
[Lann] – แล้วเราจะรู้ได้ไงว่าพวกเขาอยู่ที่ไหนละ ? คงต้องหาข้อมูลเพิ่มอีกหน่อยละนะ
[Tama] – ถ้าเป็นเรื่องข้อมูลก็คงต้องเป็นหน้าที่ของยัย Serafie แล้วละ แปบนะจะไปตามมาให้


[Serafie] – เอาละ ก่อนอื่นจะต้องเรียนรู้เรื่องการฟังข่าวลือกันก่อนนะจ๊ะมันจะได้เป็นการนำทางให้พวกเธอด้วย มันเป็นความสามารถพิเศษในการหาข่าวซุบซิบของชั้นอ่ะนะ

จากนั้น Serafie จะให้ดูข้อมูลของข่าวลือตามสถานที่ต่างๆ ทั้ง Cornelia , Nibelheim , Figaro , Tometown และเกาะ Besaid เมื่อกดเข้าไปดูก็จะเห็นข่าวของพวก Champion แห่ง League of S แต่ละคนที่เข้าไปประจำพื้นที่นั้นๆ


ที่อาณาจักร Cornelia แน่นอนว่า Warrior of Light คอยดูแลอยู่
ที่เมือง Nibelheim จะมี Cloud กับ Tifa เข้าไปลุย
ที่ปราสาท Figaro จะมี Edgar เจ้าของปราสาทคอยป้องกันอยู่
ที่เมือง Tometown มี Cid และ Celes ปกป้องเมืองหนังสือของเขาอยู่
ที่เกาะ Besaid มี Tidus เจ้าของพื้นที่พร้อมทั้ง Yuna ปกป้องอยู่


[Lann] – มันมีเหตุวุ่นวายเกิดขึ้นทุกที่เลยหรอเนี้ย ?
[Reynn] – ปัญหาคือเราจะเลือกไปทั้งหมดทุกที่พร้อมๆกันไม่ได้ด้วยสิ
[Lann] – เวลาจงหยุด !!! เฮ้ออออ ใครมีไทม์แมชชีนบ้างมั๊ยเนี้ย
[Serafie] – ก็ที่ Nine Wood Hills ที่พวกเธออยู่มันก็ไม่มีเวลาอยู่แล้วนี่
[Reynn] – เออ จริงด้วย น้องผู้หญิงที่จำชื่อตัวเองไม่ได้ไง เธออาจช่วยให้เราเข้าไปแทรกแซงในช่วงเวลาได้นะ
[Lann] – ใช่เลย ในห้องนั้นเราสามารถเข้าไปที่ช่วงเวลาไหนก็ได้นี่นา



** ตอนนี้หากขึ้นไปที่ยานเหาะ (เลือก Air ship ที่ประตูวาร์ปหรือจุดเซฟ) เมื่อกดสี่เหลี่ยมจะสามารถวาร์ปไปในสถานที่ต่างๆได้ **





                                            Nine Wood Hills ... Ghost town

ภารกิจในครั้งนี้ของ Lann และ Reynn คือหาทางเข้าไปช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ของ League of S และทั้งเหล่า Champion ที่เข้ามาร่วมต่อสู้เพื่อปกป้องบ้านเมืองของตนเองจากพวก Cogna Mirages ต่างมิติที่พวกบาฮามุทอัญเชิญมา



 เป้าหมายคือเข้าไปช่วยทุกๆคนจากทุกเมืองที่ถูกโจมตีพร้อมๆกัน โดยการเข้าแทรกแซงเวลาจากทุกเวลาของทุกพื้นที่ไปพร้อมๆกันผ่านห้องแห่งเวลาที่ห้องดื่มชาของเด็กสาวที่จำชื่อตัวเองไม่ได้นั่นเอง


เมื่อเข้าไปดูภารกิจจะประกอบไปด้วย Intervention Quest ที่เป็นส่วนประกอบของภารกิจหลักที่ต้องทำ 5 อันคือ


1.Intervention Quest  – Stop the Five Cagna Lord : Figaro [4 ดาว]
รางวัล – Hi-Potion x2 ,


สถานการณ์ที่ ปราสาท Figaro ในขณะที่ Edgar พยายามจะป้องการปราสาท Figaro อย่างเต็มกำลังจากฝูง Cagna ที่บุกเข้ามาจากทุกทางจากใต้ทะเลทรายแบบยากที่จะเห็นตัวพวกมัน โดยมี Shelke เป็นคนชี้เป้าและ Vivi เป็นคนยิงถล่มด้วยเวทย์ แต่ดูเหมือนพวก Cagna จะมีมากเกินไป แม้ Shelke จะให้ข้อมูลเสริมมาว่า หากทำลายตัว Cogna Mobile command Center ได้ก็จะสามารถหยุดการทำงานของ Cogna ได้ทั้งหมดแต่มันก็ยากที่จะระบุพิกัด command Center ที่อยู่ในทรายได้  จน Vivi เสนอแผนให้ด้วยการใช้ไฟสู้กับไฟเหมือนกับที่ Lann กับ Reynn ทำ จนทำให้ Shelke คิดถึงตัวช่วยที่เหมาะสมได้ โดยเธอไปขอความช่วยเหลือจาก Terra ที่มี  Magitek Armor ที่มีระบบที่ใกล้เคียงกับ Cogna ให้มาช่วยค้นหาและทำลาย Cogna Mobile command Center ที่แอบอยู่ใต้พื้นทรายให้ โดยการค้นหาและทำลาย Cogna Mobile command Center จะออกมาให้ทำในแบบของมินิเกมส์ โดยมีกติกาการเล่นคือ



                             Mini Games ทำลาย Cogna 3 ตัวที่แอบอยู่ใต้ทราย



-ยูนิทที่ลงไปต่อสู้มี Terra, Shelke และ Vivi สามารถจัดวางตามตำแหน่งต่างๆของตารางพื้นที่ได้ (แต่ไม่ส่งผลในการวางตำแหน่งมากนัก)
-เป้าหมายที่ต้องทำคือ ทำลาย Cogna 3 ตัวที่แอบอยู่ใต้ทราย โดยเราจะไม่เห็นเป้าหมายในตาราง ยูนิทสามารถเลือก Move เพื่อเปลี่ยนที่และ Attack โจมตีได้ โดยการโจมตีนั้นจะต้องสุ่มเอาตามช่องตารางต่างๆ โดยจะมีตัวอักษรขึ้นมาคือ
HIT – โจมตีโดน ศัตรูจะเสียครั้งละ 1 HP
Resist – โจมตีพลาดไป 1 ช่อง (Cogna ไม่ได้อยู่ตรงนี้แต่จะอยู่อีกช่องใกล้ๆกันต้องสุ่มโจมตีเอาเอง)
Miss – Cogna ไม่ได้อยู่ในช่องนี้





 ถ้าเล่น Mini-game ให้ชนะภายใน 20 turns โดยไม่ตายเลย จะเจอ Event ของ Maduin หลังจบเควสก็จะได้ Maduin Memento มาด้วย จะสามารถเอาไปอัพเกรด Titan ให้กลายเป็นร่าง Maduin ได้ด้วย


เมื่อจัดการพวก Cogna 3 ตัวที่แอบอยู่ใต้ทรายจนหมดก็จะได้เจอกับ Boss  Entom Soldier และ Death Machine Stack


ซึ่ง Entom Soldier คือ Cagna Lord ที่เป็น Mirages แบบใหม่ที่ยังเพิ่งเจอและสามารถจับมันได้โดยเงื่อนไขการทำให้เกิด Prismtunity หรือตัวส่องแสงพร้อมให้จับคือ ใช้ธาตุไฟโจมตีมัน

2.Intervention Quest  – Stop the Five Cagna Lord: Cornelia part I [4 ดาว]
รางวัล – Hi-Ether x2 , Ramewl Memento


สถานการณ์ที่ อาณาจักร Cornelia ที่กำลังโดน Cagna บุกโจมตีโดยการนำของ Cagna Lord Omega ที่มีบาเรียป้องกันยากที่จะทำลายได้ โดยมี Warrior of Light พยายามต้านทานอย่างสุดกำลัง 


โดยมี Eiko ที่เดินทางมาช่วยเหลือเจ้าหญิง Sarah ด้วยการปลุกอาวุธลับที่เรียกว่า Lute of Ragnarok ซึ่งมันก็เป็น Mirages ขนาดใหญ่ ที่ถูกกษัตริย์แห่ง Cornelia ยุคแรกอัญเชิญมา 


ซึ่งมันก็กำลังหลับใหลอยู่เหมือน Big Bridge Alexander โดยมี Lightning เป็นคนที่ไปอัญเชิญ Judgment Staff ของ Ramuh มาเพื่อปลุกมันขึ้นมาเพื่อใช้พลังทำลายบาเรียของ Cagna Lord

Lightning ที่กำลังเดินทางเข้าไปที่กำลังเข้าไปหา Ramuh ที่ถ้ำ Nether Nebula ก็จะเป็นมินิเกมส์ที่ต้องเล่น โดยมีกติกาคือ เข้าไปที่ส่วนในสุดของถ้ำภายในเวลากำหนด


 โดยระหว่างทางจะมีพวก Mirages 3 ตัวมาขวางทางซึ่งต้องโจมตีมันด้วยปุ่มที่ต่างกัน
 Fritts ธาตุไฟ ใช้ปุ่ม O โจมตี
 bablizzes ธาตุน้ำแข็งใช้ปุ่ม X โจมตี
 Zaphrs ธาตุสายฟ้าใช้ปุ่มสามเหลี่ยมในการโจมตี
 ถ้าเลือกปุ่มโจมตีผิดจะทำให้ถอยหลังและเสียเวลาเพิ่ม

3.Intervention Quest  – Stop the Five Cagna Lord: Cornelia part II [4 ดาว]
รางวัล – Phoenix pinion x2 , Omega memento

สถานการณ์ที่ อาณาจักร Cornelia ต่อเนื่องหลังจากที่ Lightning ได้พลังมาจาก Ramuh แล้ว Eiko ก็จะใช้มันในการปลุก Lute of Ragnarok ให้ตื่นขึ้นแล้วทำการยิงพลังแห่งแสงไปทำลายบาเรียของ Cagna Lord Omega จนแตกกระจาย 



ทำให้ Warrior of Light ได้ทีรีบลุยเข้าไปจัดการ ฺBoss Omega จนสำเร็จลงได้ ซึ่ง Warrior of Light และ Lightningก ก็รับรู้ได้ว่าเป็นอีกครั้งแล้วที่เขาได้รับการช่วยเหลือโดยการส่งพลังมาแทรกแซงการต่อสู้จาก  Lann และ Reynn


4.Intervention Quest  – Stop the Five Cagna Lord: Nibelheim [4 ดาว]
รางวัล – Remedy x2 ,



สถานการณ์ที่ เมือง Nibelheim ในขณะที่ Cloud , Tifa กำลังรับศึกหนักในการเผชิญหน้ากับ Supraltima Weapon Mirages ขาด XL ที่กำลังมาบุกถล่มเมือง โดยได้รับการช่วยเหลือจาก Summoner Rydia โดยการจัดการกับ Cagna Lord: Supraltima Weapon นั้นจะต้องจัดการมันให้เร็วที่สุด


 ซึ่งจะไม่มีเวลาเป็นตัวเลขมากำหนดแต่หากใช้เวลานานเกินไปจน Supraltima Weapon ใช้เวทย์ Ultima ใส่การต่อสู้ก็จะจบลง ทำให้ต้องเข้ามาสู้ใหม่อีกรอบจนกว่าจะจัดการมันลงได้ ซึ่ง Cloud ก็รับรู้ได้ว่าได้รับการช่วยเหลือในการแทรกแซงการต่อสู้จาก  Lann และ Reynn

5.Intervention Quest  – Stop the Five Cagna Lord: Tometown Part I [4 ดาว]
รางวัล – Hi-Potion x2



สถานการณ์ที่ เมือง Tometown ที่ Celes และ Cid กำลังรับมือกับ Cagna ที่โจมตีเมืองแห่งหนังสือของพวกเขา แต่ Cid มีทีเด็ดกว่านั้นเพราะเขารู้ต้นเหตุของการแพร่กระจายของ Cagna ไปตามจุดต่างๆอย่ารวดเร็วได้นั้นต้นเหตุมาจากรถไฟผีสิง Phantom train นั่นเอง ซึ่ง Celes พยายามตามร่องรอยมันยังไงก็หาไม่เจอ จน Cid ได้แนะนำว่าต้องใช้ตารางเดินรถไฟจึงจะเจอขบวนของมัน


นั่นแหละ !! ที่นี้เราก็รู้ซะทีว่าใครเป็นคนขับ Mirages Train นั่น ! ไอ้เจ้ากระบองเพชร Cactus ยังไงละ ฮ่าๆ ได้เวลาแก้แค้นซะที ฮ่าๆๆๆ  จริงหรือมั่วไม่รู้แต่ Reynn ไม่รอช้าที่จะใช้การนี้เล่นงาน Cactus หลังจากถูกมันกวนประสาทมานานแต่ตามจับไม่ได้ซะที !!



เมื่อ Lann และ Reynn เข้าไปเผชิญหน้าผู้ตรวจตั๋ว Cactus Lann จึงได้ขอท้าทาย ผู้ตรวจตั๋ว Cactus ว่าหาก Reynn เอาชนะได้ก็ขอให้มอบตารางรถไฟและบลูปริ๊นของรถไฟผีสิงมาให้ด้วย เมื่อข้อตกลงจบลง การต่อสู้ระหว่าง Reynn กับ ผู้ตรวจตั๋ว Cactus ในรูปแบบมินิเกมส์ก็เกิดขึ้น 



กติกาคือ ใช้การต่อย (ปุ่มวงกลม – สามเหลี่ยม) หรือ เตะ (สี่เหลี่ยม กับ X) ผู้ตรวจตั๋ว Cactus ที่เคลื่อนไหวด้วยความเร็วสูงตามทิศทาง บน ล่าง ซ้าย ขวา ให้โดน 1 ครั้งก่อนเวลาหรือเกทแรงเหนื่อยของ Reynn การโจมตี Cactus ให้โดนตรงๆนั่นไม่มีทางเลย นอกจากเตะหรือต่อยไปในทิศทางอื่นเพื่อให้มันเข้ามาเข้าทางตีนแทนดีที่สุด



หลังจากที่ Reynn สะใจที่ชนะแต่ ผู้ตรวจตั๋ว Cactus ก็ยังคงว่าจะเอาตารางรถไฟกับบูลปริ๊นของรถไฟไปทำไม จน Lann บอกว่าต้องการจะเจอ รถไฟผีสิง Phantom train ผู้ตรวจตั๋ว Cactus จึงบอกว่า เขาสามารถเรียกมันมาได้สบายๆเพราะเป็นผู้ตรวจตั๋วมา 50 ปีทำไมจะทำไม่ได้ ทำให้ Lann และ Reynn ดีใจและรีบไปบอก Celes ที่เมือง Tometown ทันที ....

 6. Intervention Quest  – Stop the Five Cagna Lord: Tometown Part II [4 ดาว]
รางวัล – Hi-Ether x2 , War Machine memento

สถานการณ์ที่ เมือง Tometown หลังจาก Lann และ Reynn จัดการกับผู้ตรวจตั๋ว Cactus ลงได้จึงทำให้เขายอมที่จะเรียก รถไฟผีสิง Phantom train ออกมาตามที่ Lann และ Reynn ต้องการได้ โดยจะให้ ผู้ตรวจตั๋ว Cactus เรียก รถไฟผีสิง Phantom train ออกมาที่ห้องสมุดในเมืองตามเวลาที่กำหนดโดยมี Squall และ Celes มาดักรอเพื่อจัดการมัน และแล้ว Phantom train ก็ออกมาตามหมายกำหนดการณ์ก่อนที่มันจะปล่อย Boss – War Machine ออกมาสู้ด้วย




เมื่อทั้งคู่เอาชนะได้แล้ว Squall ที่เห็นในฝีมือของ Celes จึงพยายามชวนเธอเข้ามาร่วมงานใน League of S ด้วย แต่ Celes ปฎิเสธไปก่อนบอกเป็นนัยๆว่าจะลองคิดดู แต่ที่ลืมไม่ได้ที่ Celes พยายามบอกกว่า Squall ก็คือ การต่อสู้ที่จบลงง่ายๆก็คงจะเป็นเพราะ Lann และ Reynn เข้ามาแทรกแซงในการต่อสู้นั่นเอง ซึ่ง Squall ก็เข้าใจถึงเรื่องนี้ด้วยเช่นกัน

7.Intervention Quest  – Stop the Five Cagna Lord: Port Besid [4 ดาว]
รางวัล – Phoenix pinion x2 , Einhänder Memento


สถานการณ์ที่ เกาะ Besid พวกของ Tidus , Yuna และ Shantotto กำลังปกป้องเกาะของตัวเองจากฝูงบิน Cagna ความเร็วสูง Einhänder ที่เข้ามาทิ้งระเบิดเวทย์เข้าใส่หมู่บ้าน โดย Shantotto จะเสนอความคิดให้ Tidus และ Yuna รวมพลังกันสู้โดย Tidus ต้องขึ้นไปขี่ Valefor กับ Yuna แล้วใช้การเล่น blitzball ของเขาเตะอัดใส่ Einhänder ที่บินเข้ามา



โดยมินิเกมที่ต้องเล่นคือการ กด O ค้างเพื่อกำหนดเกทพลังการยิง ใช้แกนอนาล็อกซ้ายในการปรับองศา แล้วปล่อยปุ่ม O เพื่อเตะ blitzball ให้โดนศัตรูที่บินไปมาบนฟ้า ให้โอกาสยิงได้ 3 ครั้งจากการหวังผลโดนแค่ครั้งเดียว เมื่อยิงมันจนร่วงแล้วก็จะได้สู้กับ Boss Einhänder จนสามารถจัดการ Cagna Lord Einhänder ลงได้สำเร็จ จน Shantotto แอบเอาซากของ Einhänder ไปทดลองหาเวทย์ชนิดใหม่ต่อได้อีก

เมื่อจัดการ Cagna Lord ทั้งหมดได้แล้ว Serafie จะเข้ามาบอกว่าทาง League of S ได้ส่งข่าวมาให้เรียกตัว Lann และ Reynn ขึ้นไปประชุมที่ยานเหาะต่อทันที ....



                                                       ที่เรือเหาะ




[Quistis] – ตอนนี้เราได้ตำแหน่งของราชาแห่ง Bahamut กับพวกของมันทั้งหมดแล้วนะ
[Reynn] – ห๊ะ !! จริงหรอ ? มันอยู่ที่ไหน !!
[Quistis] – ปลายสุดของโซ่สมอ พวกคุณคงเห็นแล้วใช่มั๊ยเมืองที่ถูกพวก Bahamut ควบคุมจะเห็นว่ามีโซ่ขนาดใหญ่ยึดโยงลงมาใช่มั๊ย
[Lann] – อย่าบอกนะว่า ....
[Quistis] – ใช่ กำลังจะบอกเลยละ เรารู้แล้วว่าปลายทางของโซ่ที่ยึดโยงทุกเมืองอยู่มาจากปลายทางเดียวกัน ที่นั่นคือปราสาทของพวก Bahamut แน่นอน
[Reynn] – คุณหมายถึงปราสาทของมันลอยอยู่บนฟ้าเลยหรอ ?



[Quistis] – ไม่เห็นแปลก Balamb Garden ยังลอยได้เลย ทำไมพวกมันจะทำไม่ได้
[Tama] – เยี่ยมเลย งั้นเราก็เอาเรือเหาะของคุณบินขึ้นเลยสิ
[Quistis] – นั่นแหละปัญหาเพราะตำแหน่งของปราสาทอยู่สูงเกินพิกัดการบินของเรือเหาะของชั้นเยอะเลย
[Lann] – ไม่เอาน่า แล้วจะให้พวกเราทำไงละ ?
[Quistis] – อย่างแรก พวกคุณควรไปที่วิหารก่อน มันเป็นสถานที่นึงที่ถูกยึดโยงด้วยโซ่ของพวกสหพันธรัฐ เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์สำหรับคัดเลือกคนให้เป็น ผู้สร้างสรรค์ และยังมีอะไรอีกมากมายที่พวกคุณสมควรต้องดู แล้วชั้นจะค่อยๆอธิบายการไปที่ปราสาทของพวก Bahamut อีกทีตอนพวกคุณไปถึงที่นั่นแล้วนะ


เงื่อนไขการจับ Cagna Lord ทั้ง 3 [ War Machine,Einhänder และ Omega กับ Rare Mirages Ramewl] 



หลังจบบทที่ 21 แล้วจะได้คีย์ไอเทมจากการจัดการ Boss มาคือ Ramewl Memento, Omega memento, Einhänder Memento และ War Machine Memento มา เมื่อเข้ามาที่ลานประลองจะเจอ แมทช์ที่เพิ่มขึ้นมาคือ


1. Ramuh’s Pride and Joy LV 69 จะได้สู้กับ Ramewl เงื่อนไขการทำให้เกิด Prismtunity หรือตัวส่องแสงพร้อมให้จับคือ สร้างความเสียหายให้มันมากที่สุดจากการโจมตีครั้งเดียว



2.Shamp to No Good LV 76 จะได้สู้กับ Einhänder เงื่อนไขการทำให้เกิด Prismtunity หรือตัวส่องแสงพร้อมให้จับคือ ทำให้การหลบของมันลดลง (Evasion Down) โดยการใช้ท่า ultrasonic ของ Werebat หรือ Ice Bat (ใช้ eldbox ในการจับด้วย)



3. Succulent Succotash LV 76 จะได้สู้กับ War Machine เงื่อนไขการทำให้เกิด Prismtunity หรือตัวส่องแสงพร้อมให้จับคือ โจมตีทางกายภาพกับมันให้เกิด Critical (ใช้ eldbox ในการจับด้วย)



4. Legacy of Ancient Ronka Succotash LV 85 จะได้สู้กับ Omega เงื่อนไขการทำให้เกิด Prismtunity หรือตัวส่องแสงพร้อมให้จับคือ สร้างความเสียหายให้มันมากที่สุดจากการโจมตีครั้งเดียว เนื่องจากมันมี HP สูงถึง 48380 การทำความเสียหายให้มากพอในระดับ 2 หมื่นอัพถึง 3 หมื่นในครั้งเดียว ต้องอาศัยระดับเลเวลที่สูงพอ + กับท่าโจมตีของ Mega Mirages ระดับสูงเป็นตัวช่วย (ใช้ eldbox ในการจับด้วย)



เงื่อนไขการจับ Omega God สุดยอด Rare Mirages ขนาด XL และ เงื่อนไขการจับ Rare Mirages ทั้ง 13 ตัวในภารกิจย่อย Intervention Quest ในห้องดื่มชาของเด็กสาวที่จำชื่อตัวเองไม่ได้ที่ Nine wood Hill



1.  Omega และ Omega Bane 
จับได้ที่
- ในเควสย่อย Intervention Quest  – The Eye of the Desert  Edgar จัดการกับ Omega Bane จะได้ Omega Bane จบเควสจะได้ Omega Bane Memento มา จะทำให้ Entom Soldier สามารถอัพเกรดเป็น Omega Bane ได้ และ หากได้ Omega Memento –จาก Intervention Quest  :Stop the Five Cagna Lord: Cornelia part II มาแล้ว Omega Bane ก็สามารถอัพเกรดให้กลายเป็น Omega ต่อได้อีก
-ในโคลอสเซียม ลานประลอง แมทช์ The Bane of Organic Life  เงื่อนไขการทำให้เกิด Prismtunity หรือตัวส่องแสงพร้อมให้จับคือ โจมตีมันให้เสียหายมากที่สุดในการโจมตีครั้งเดียว



2. Cenchos 
จับได้ที่
-ในเควสย่อย Intervention Quest  – The Sunken Temple Secret เข้าไปสู่กับ Cenchos ในประตูชั้นในที่ถ้ำใต้เปลือกหอย จัดการแล้วจะได้ Cenchos Memento จาก Boss จะทำให้ Kraken อัพเกรดเป็น Cenchos ได้
-ในโคลอสเซียม ลานประลอง แมทช์ Calamari time Bomb  เงื่อนไขการทำให้เกิด Prismtunity หรือตัวส่องแสงพร้อมให้จับคือ ใช้ Reflect สะท้อนเวทย์มนต์กลับไปหามัน


3. Quacho Queen
จับได้ที่
-ในเควสย่อย Intervention Quest  – The Sunken Temple Secret หลังจากเคลีร์เควสแล้วเข้าไปคุยกับ Quacho Queen ที่ห้องจะได้สู้กับเธอ งื่อนไขการทำให้เกิด Prismtunity หรือตัวส่องแสงพร้อมให้จับคือ เติมพลังชีวิตให้เธอ



4. Bismarck 
จับได้ที่
-ในเควสย่อย Intervention Quest – Finger Whistle Crisis  หลังจากจัดการได้จบเควสจะได้ Bismarck Memento ทำให้ Mega Sharqual อัพเกรดเป็น Bismarck Mirages Size XL ได้
-ในโคลอสเซียม ลานประลอง แมทช์ Sovereign of the Sea  เงื่อนไขการทำให้เกิด Prismtunity หรือตัวส่องแสงพร้อมให้จับคือ ใช้ Reflect สะท้อนเวทย์มนต์กลับไปหามัน โจมตีทางกายภาพธรรมดาๆเลย



5. Elite Entom
จับได้ที่
-ในเควสย่อย Intervention Quest – Steel that forges Destinies  เมื่อจบภารกิจแล้วจะได้ จะได้ Elite Entom Memento เอาไปอัพเกรดให้ Entom Soldier เป็น Elite Entom ได้
-ในโคลอสเซียม ลานประลอง แมทช์ Vanguard of Destruction  เงื่อนไขการทำให้เกิด Prismtunity หรือตัวส่องแสงพร้อมให้จับคือ โจมตีมันด้วยเวทย์ไฟ


6. Iron Muscles
จับได้ที่
-ในเควสย่อย Intervention Quest – For Friend or Vengeance เงื่อนไขการทำให้เกิด Prismtunity หรือตัวส่องแสงพร้อมให้จับคือ ทำให้พลังมันต่ำลง (ใช้ Armor Piercer ของ Mimic) หรือ เมื่อจบเควส จะได้ Iron Muscles Memento เป็นรางวัลเอาไปทำให้ Titan สามารถอัพเกรดเป็น Iron Muscles ก็ได้


7. Magna Roader
จับได้ที่
-ในเควสย่อย Intervention Quest – Investigating the Gardenเงื่อนไขการทำให้เกิด Prismtunity หรือตัวส่องแสงพร้อมให้จับคือ โจมตีทำให้ HP ต่ำหรือใช้ท่า Subdue ที่โจมตีแล้ว HP เหลือ 1 ไม่ทำให้ตาย (ใช้ eldbox ด้วย)


8. Golem Head
จับได้ที่
-ในเควสย่อย Intervention Quest – No One’s Tools  เมื่อจบเควสแล้วจะได้ Golem Head Memento มาสำหรับอัพเกรด Mini Golem ให้กลายเป็น Golem Head ได้


9. Ifreeta
จับได้ที่
-ในเควสย่อย Intervention Quest – Fire Drill เมื่อจบเควสจะได้ Ifreeta Memento สำหรับอัพเกรด Affrite ให้กลายเป็น Ifreeta ได้
-ในโคลอสเซียม ลานประลอง แมทช์ A Not-so-sweet Ifrit เงื่อนไขการทำให้เกิด Prismtunity หรือตัวส่องแสงพร้อมให้จับคือ ใช้เวทย์ไฟกับมัน


10. Mecha Chocobo
จับได้ที่
-ในเควสย่อย Intervention Quest – Chocolatte Master เมื่อจัดการ Mecha Chocobo แล้วจบเควสจะได้ Mecha Chocobo Memento สำหรับอัพเกรด Chocobo ให้กลายเป็น Mecha Chocobo ได้
-ในโคลอสเซียม ลานประลอง แมทช์ Robosquawk Redux เงื่อนไขการทำให้เกิด Prismtunity หรือตัวส่องแสงพร้อมให้จับคือ ทำให้มันเกิดสภาวะ Berserk


11. Elefenrir
จับได้ที่
-ในเควสย่อย Intervention Quest – Chosen by the Tribe เมื่อจัดการ Elefenrir ได้แล้ว จบเควสจะได้ Elefenrir Memento ที่สามารถเอาไปอัพเกรดเป็น Elefenrir ร่างแยกของ Fenrir ได้


12. Ultros
จับได้ที่
-ในเควสย่อย Intervention Quest – Freak of Nature เมื่อจัดการ Ultros ได้แล้วจบเควสจะได้ Ultros Memento มาจะสามารถเอาไปใช้อัพเกรด Kraken เป็น Ultros ได้
-ในโคลอสเซียม ลานประลอง แมทช์ Say No to Muscleheads เงื่อนไขการทำให้เกิด Prismtunity หรือตัวส่องแสงพร้อมให้จับคือ ในการต่อสู้ต้องเหลือคนเดียว (คนอื่นในปาร์ตี้ต้องตายหมด)


13. Nirvalefor
จับได้ที่
-ในเควสย่อย Intervention Quest – The Sad Spiral เควสนี้ต้องสู้กับทั้ง Nirvalefor และต่อด้วยสู้กับ Ultima Weapon เมื่อจบเควสจะได้ Nirvalefor Memento ที่สามารถเอาไปใช้อัพเกรด Valefor  เป็นร่างสุดท้าย Nirvalefor ได้


- ส่วน Ultima Weapon นั้นต้องจับมันในโคลอสเซียม ลานประลอง แมทช์ The Ultimate Weapon เงื่อนไขการทำให้เกิด Prismtunity หรือตัวส่องแสงพร้อมให้จับคือ โจมตีมันให้เสียหายมากที่สุดในการโจมตีครั้งเดียว


14. Omega God
จับได้ที่
-ในเควสย่อยระดับ 5 ดาว Intervention Quest – A Bridge woes ของ Enna Krod ภารกิจนี้จะได้สู้กับ Omega God เพื่อช่วย Alexander จบภารกิจจะได้ Omega God eldbox มาพร้อมกับ Omega God ขนาด XL





                                                             เมือง Agarthir      



เมื่อเข้ามาถึงที่เมือง Agarthir อันเป็นที่ตั้งของวิหารแห่งผู้ศรัทธรา คำพยากรณ์เลือด (Crimson Prophecy) ในเมืองจะเต็มไปด้วย Cagna ที่กำลังกันกินเมืองอยู่เต็มหมด ท่ามกลางความหวาดกลัวปนสงสัยของเหล่าผู้ถูกเลือกให้เป็นตัวแทนของ คำพยากรณ์เลือด (Crimson Prophecy) ว่าทำไมบ้านของเขายังถูกทำลายทั้งๆที่ศรัทธราและทำตามคำบัญชาของสหพันธ์รัฐมาตลอด 

Mirages ในพื้นที่ที่เดินไปมาในเมืองจะมีตัวใหม่ที่ยังไม่เคยจับแค่ตัวเดียวคือ
1. Entom Guard หรือร่างแรกของ Omega เงื่อนไขการทำให้เกิด Prismtunity หรือตัวส่องแสงพร้อมให้จับคือ โจมตีมันด้วยธาตุไฟ


และทันทีที่ Lann และ Reynn เข้ามายังวิหารที่บูชา คำพยากรณ์เลือด (Crimson Prophecy) ของเมืองก็ต้องตกใจถึงสภาพด้านในที่ไม่ต่างไปจากนรกดีๆนี่เอง....




[Lann] – แหวะ !!! ที่นี่มันเป็นอะไรกันแน่วะเนี้ย 
[Reynn] – ห๊ะ !! เดี๋ยวนะ ...





[Brandelis] – บอกข้าสิ ..เรื่อง วิญญาณคริสตัล เราต้องการคนแค่ไหนเราถึงจะเก็บเกี่ยวสิ่งที่เราต้องการได้ 
[Knight in the Golden Mask] – ถ้าจะให้ข้าแนะนำนะ 4 ดวงวิญญาณจาก 10 คนก็น่าจะพอนะ ฮ่าๆๆๆๆ ฮี่ๆๆๆๆ

[Reynn] – ไม่จริงน่า พวกผู้สรรสร้าง (The Architects) ผู้เผยแพร่ความศรัทธราของ คำพยากรณ์เลือด (Crimson Prophecy) พวกเขา ...
[ Shelke ]- ทั้งหมดนี่คือเบื้องหลังที่แท้จริงของพวกสหพันธ์รัฐ
[Lann] – ผมรู้ว่าพวกบาฮามุธมันเลวแต่ เล่นแบบนี้จะเลยไปถึงจะอ๊วกเอานะ !!



[ Shelke ]- เหล่าสาวกผู้ศรัทธราในคำพยากรณ์เลือด (Crimson Prophecy) ที่พวกสหพันธ์รัฐบิดเบือนคำสอนต่างๆนานา ยกย่องให้พวกโง่เขลาเหล่านี้เป็นเหล่าผู้สรรสร้าง (The Architects) เป็นตัวแทนเผยแพร่คำสอนจากคำทำนายผิดๆ เพื่อสร้างโลกใหม่ที่ปราศจากสงครามและความอดอยากยากแค้น ตามที่พวกสหพันธ์รัฐเป่าหูให้เชื่อแบบนั้นมาตลอด ซึ่งก็จริง ....



ถ้าหากพวกคุณไม่รู้ว่าพวกสหพันธ์รัฐมันทำอะไรอยู่ สิ่งที่ทำให้เหล่าผู้สรรสร้าง (The Architects) ยังคงดำรงอยู่ไม่ใช่อาหารแต่เป็นความอยากที่จะใช้ชีวิตอย่างสงบสุข ใช่ ก็ตอนที่วิญญาณของพวกเขากลายเป็นคริสตัลที่เรียกว่า Soul Crystal 



และถูกส่งไปเป็นพลังให้กับปราสาทของพวกบาฮามุธ ตอนนั้นแหละเจตนารมณ์ของพวกเขาถึงจะเป็นความจริง กลายเป็น Soul Crystal ที่ไม่ต้องสู้รบกับใครและไม่ต้องกินอะไรอีกแล้ว ศรัทธราของพวกเขาได้ถูกเปลี่ยนเป็นพลังงานให้ปราสาทของพวกบาฮามุธตลอดไป และแล้วพวกเขาก็ได้ชีวิตสโลว์ไลฟ์แบบที่ต้องการซะที 
[Lann] – พวกเขามีความสุขที่ต้องเป็นแบบนี้จริงๆหรอฟ่ะ !! ไม่เข้าใจเลยจริงๆ !!
[Reynn] – แล้วเธอรู้เรื่องพวกนี้ได้ยังไงละ Shelke ?
[ Shelke ]- เพราะชั้นเคยเข้าร่วมกับพวกมันมาแล้วนะสิ ตอนแรกชั้นในสิ่งที่พวกมันมอมเมาจนเข้ามาเป็นหนึ่งในสาวก เป็นเหล่าผู้สรรสร้าง (The Architects) จนชั้นได้เข้ามาในวิหารแห่งนี้และเกือบจะถูกเปลี่ยนให้กลายเป็น Soul Crystal ไปแล้ว แต่บังเอิญเกิดอุบัติเหตุที่ทำให้ระบบของพวกมันรวน ชั้นเลยมีโอกาสได้หนีออกมาสำเร็จ จนพวก Shin-ra ได้โอบอุ้มอุปการะจิตใจที่แตกสลายของชั้นเอาไว้ พวกเขาช่วยชีวิตชั้น



[ Quistis ]- จนพวกเราได้เริ่มรู้ความจริง ภารกิจต่อต้านและโค่นล้มและตั้งตนเป็นศัตรูกับสหพันธ์รัฐบาฮามุทของพวกเราในฐานะ Leagues of S ก็เริ่มขึ้น และก่อนที่โลกจะเข้าสู่กลียุคอีกครั้งเราถึงต้องลุยมาถึงวิหารนี้เพื่อรีบขึ้นไปทำลายพวกบาฮามุธที่ด้านบน  
[Reynn] – คุณหมายถึงว่า โซ่ที่เห็นยึดเป็นสมอมาที่เมืองต่างๆที่ตกเป็นเมืองขึ้นของสหพันธ์รัฐบาฮามุธคือที่ลำเลียงพลัง Soul Crystal ทั้งหมดไปหล่อเลี้ยงปราสาทที่ลอยอยู่ของพวกมัน
[Tama] – แล้วเราจะเดินไปตามโซ่จนถึงที่ปราสาทที่ด้านบนได้ยังไงละ 
[ Quistis ]- ไม่ยากหรอก ถ้าใช้ร่าง Jiant ก็จะปีนขึ้นไปได้ง่ายๆเลยละ
[Lann] – ได้ !! งั้นก็ไม่ต้องสงสัย ก็คงต้องเป็นเราแล้วละงานนี้ !! เอาละ ! ขึ้นไปเตะตูดพวกบาฮามุธกันดีกว่า !!! ถ้าเรื่องความวุ่นงายนี้เกิดจากความผิดพลาดของพวกเราก็ถึงเวลาที่จะต้องแก้ไขแล้วละ !!



ทันทีที่ Lann และ Reynn กดสวิตซ์ที่แท่นควบคุมของท่อลำเลียง ร่างของทั้งคู่ก็ถูกวาร์ปเข้ามาด้านในของท่อลำเลียงขนาดใหญ่ที่เรียกว่า โซ่ตรวนแห่งสหพันธ์รัฐ ถนนสายโซ่ที่เป็นทางนำพาไปสู่ปราสาทของพวก บาฮามุธ 




                                                         Chainroad




Mirages ในพื้นที่จะมีทั้งหมด 11 ชนิดแต่ละชนิดจะเคยเจอมาหมดแล้วทั้ง Lead Gnome, Lucky Toad, Magna roader (สีม่วง) ,  Manticore, Minotaur, Red Cap, Red Captain, Security Eye, Trihyde


-Trihyde หากไม่อยากอัพเกรดเอาก็สามารถจับมันได้ เงื่อนไขการทำให้เกิด Prismtunity หรือตัวส่องแสงพร้อมให้จับคือ สร้างความเสียหายให้มากที่สุดจากการโจมตี 1 ครั้ง

เส้นทางในพื้นที่จะเป็นเส้นทางตามโซ่ซึ่งเป็นเส้นตรงยาวไปตามทางแบ่งเป็น 6 โซน ในช่วงที่ 2 จะเริ่มมีสวิตซ์สำหรับกดเพื่อวาร์ปข้ามสิ่งกีดขวางออกมา ในกรณีที่มีสวิตซ์มากกว่า 1 อัน จะต้องเลือกให้ถูก หากกดถูกอันก็จะถูกวาร์ปเข้าไปด้านในต่อ แต่ถ้ากดผิดอันก็จะเจอกับมอนสเตอร์ที่ออกมาโจมตีแทน



เส้นทางจะสลับระหว่างด้านในท่อส่งวิญญาณกับเส้นทางบนโซ่ขนาดใหญ่ด้านนอกจนถึงทางออกของโซนที่ 6 ก็จะถึงทางเข้า Castle Exnine ปราสาทขนาดใหญ่อันเป็นฐานหลักของพวกบาฮามุธ




                                                         Castle Exnine




Mirages ในพื้นที่จะมีทั้งหมด 12 ชนิดแต่ละชนิดจะเคยเจอมาหมดแล้วทั้ง Death Searcher, Entom Guard, Goblin, Goblin Guard, Korrigan, Magitek Armor A, Magna Roader (สีม่วง), Magna Roader (สีแดง), Magna Roader (สีเหลือง), Minotaur, Mythril Giant, Squidkraken, Yurugu



-Magna roader (สีเหลือง) หากยังไม่มี สามารถอัพเกรดจาก Magnaroader สีม่วงได้ แต่ถ้าใครอยากจับ เงื่อนไขการทำให้เกิด Prismtunity หรือตัวส่องแสงพร้อมให้จับคือ โจมตีทำให้ HP ต่ำหรือใช้ท่า Subdue ที่โจมตีแล้ว HP เหลือ 1 ไม่ทำให้ตาย (ใช้ eldbox ด้วย)


- Yurugu (Tama สีส้ม) จะอยู่ในโซนที่ 9 เงื่อนไขการทำให้เกิด Prismtunity หรือตัวส่องแสงพร้อมให้จับคือ ทำให้มันเกิดอาการหลงลืม (ใช้ไอเทม Lethean Chime)

-การเดินทางในพื้นที่ของ Castle Exnine จะเป็นพื้นที่ 3 มิติที่สามารถเดินไต่พนังได้อย่างอิสระ พื้นที่ทั้งหมดจะมี 10 โซน


-ในโซนแรก – โซนที่ 4 เข้าไปจนถึงจุดเซฟที่ 2 และผลึกม่วงที่ไว้สำหรับวาร์ปกลับไปที่ทางเข้า ผ่านเข้าไปจะเจอ Carbuncle Mirage ของ หญิงลึกลับที่สวมหน้ากาก ขวางทางอยู่ เมื่อจัดการแล้วจะทำให้เส้นทางที่ซ่อนอยู่ปรากฏออกมาให้ไปต่อ


-โซนที่ 4 – โซนที่ 7 เข้าไปจนถึงจุดเซฟที่ 3 ผ่านเข้าไปจะเจอ Carbuncle ขวางทางอยู่ เมื่อจัดการแล้วจะทำให้เส้นทางที่ซ่อนอยู่ทางฝั่งซ้ายของพื้นที่ปรากฏออกมา เข้าไปทางฝั่งซ้ายจะเจอ Puzzle Switch สวิตซ์ปริศนาที่ต้องเอา Mirages ไปชั่งตามเงื่อนไขคือ


-น้ำหนักรวมให้ได้ 11 ก.ก หรือมากกว่า
-มีพลังของธาตุน้ำแข็งรวมกัน 125 หรือมากกว่า
จะสามารถสร้างทางลงไปส่วนล่างของฝั่งซ้ายเพื่อเก็บไอเทม 3 กล่องได้ จากนั้นค่อยขึ้นด้านบนไปยังโซนที่ 9 ต่อ



[Tama] – ก่อนจะเข้าไปด้านใน เอ่อ สัญญากับชั้นก่อนได้ป่ะว่าพวกเธอจะระวังตัวกันให้มากๆน่ะ .... อะ แฮกๆๆ ..
[Reynn] – ทามะ เป็นอะไรหรอ ?  
[Tama] – อาณาเขต Threshold ของพวกมันแข็งแกร่งมากๆ มันทำให้พลังของชั้นค่อยๆหมดลงจนคงสภาพร่างเดิมไม่ได้น่ะ มันเขาคงจะเกลียดชั้นมากแน่ๆเลย 
[Reynn] – ชั้นไม่อยากเห็นเธอทรมานเลย Tama ชั้นว่าเธอกลับไปก่อนเถอะนะ 
[Tama] – ห๊ะ !! ไม่ได้ ชั้นกลับไม่ได้ก็เรา 3 คนเป็นทีมเดียวกันนะ Enna Kros ให้ชั้นเป็นคนดูแลพวกเธอด้วย 



[Lann] – ที่เธอพาเรามาถึงที่นี่ได้เราก็นับถือใจเธอมากพอแล้วนะ ทามะ เอาเป็นว่า ถ้ามีอะไรให้ช่วยเราจะเรียกหาแล้วกัน โอเคมั๊ย ?
[Tama] – อ่า..เอางั้นก็ได้ แต่พวกเธอต้องระวังตัวไว้ตลอดนะ พวกเธอไม่รู้หรอกว่าการไปยุ่งกะพวกมันน่ากลัวขนาดไหน
[Lann] – เฮ้ พวกเรารับมือได้น่า ผมหมายถึงที่ผ่านมาเราก็จัดการทุกอย่างจนได้มาตลอดอ่ะนะ 
[Reynn] – ใช่ ถ้าเราสองคนร่วมมือกัน ก็ไม่มีอะไรต้องห่วงหรอกนะ 
[Tama] – เอาละ ถ้าพวกเธอมั่นใจแบบนั้นนะ งั้นชั้นไปก่อนนะเราค่อยเจอกันอีกทีนะ 
[Reynn] – เอาละ ก้าวสุดท้ายแล้วนะ นายพร้อมมั๊ย Lann !!
[Lann] – พร้อมเสมอ !! ไปจัดการไอ้พวก Heralds ให้มันจบๆไปจะได้กลับบ้านกันซักที !!



-ในโซนที่ 9 – โซนที่ 10 จะเจอ Carbuncle ขวางทางอยู่ เมื่อจัดการแล้วจะทำให้พื้นที่ด้านในปรากฏออกมาพร้อมผลึกสีม่วงสำหรับการวาร์ปกลับไปเซฟที่ทางเข้าตอนแรก ผ่านขึ้นไปด้านบนจะเจอกับ Carbuncle ครั้งสุดท้าย ซึ่งหลังจากเอาชนะได้ก็จะได้ Carbuncle Memento มา


** ถ้าอยากได้ Carbuncle ก็ใช้ Mu อัพเกรดเป็น Skull Eater และใช้ Carbuncle Memento อัพเกรดร่างสุดท้ายก็จะกลายเป็น Carbuncle  **

หลังจัดการ Carbuncle ตัวสุดท้ายได้ ทางขึ้นด้านบนในส่วนของคุกจะพบ Hauyn กำลังสู้อยู่กับ Plumed Knight ซึ่งในขณะที่ Plumed Knight กำลังจะเพลี้ยงพล้ำให้กับ ไซเรน ของ Hauyn เจ้าอัศวินหน้ากากทอง (Knight in the Golden Mask) ก็ปรากฏตัวขึ้นเพื่อเข้าช่วยเหลือ ...


[Hauyn] – ปลดปล่อย เลดี้  Lusse เดี๋ยวนี้นะ !!  ห๊ะ !!  อ๊ากกกก !!
[Knight in the Golden Mask] – ใช้เวลานานไปมั๊ยเนี้ย pellinore ?
พันปีจนถึงตอนนี้กะอีแค่ร่างเดียว ของแค่นี้มันยากนักรึไง ? มันดูน่าเวทนาไปนะสำหรับเธอน่ะ 
[Plumed Knight] – ร่างกายชั้นนี่แหละตัวสร้างปัญหาละ มากกว่าคุณเยอะ !!
[Knight in the Golden Mask] – โอ้ ทำไมผมไม่แปลกใจเลยก็ไม่รู้นะ 



[Lann] – เฮ้ย ไอ้พวกชั่ว !! กำลังตามหาอยู่พอดีเลย พวกแกคิดว่าจะทำความฉิบหายให้โลกนี้แล้วหายหัวไปเฉยๆเลยได้หรอ ผิดแล้ว แกต้องรอรับการสวนกลับจากชั้นด้วยเว้ย !!



[Reynn] – Wyn เธอเป็น .. เอ่อ Hauyn เธอเป็นอะไรหรือเปล่า ?
[Hauyn] – ยอมรับว่าพวกเธอมาไกลมากแต่ มันคงไกลได้แค่นี้แหละ หยุดเถอะ !! อย่าสู้อีกเลย !! ชั้นรู้ว่าพวกเธอต้องการที่จะ … แต่มันเป็นไปไม่ได้ง่ายๆอย่างนั้นหรอก !



[Knight in the Golden Mask] – มัวแต่พูดเหลวไหลเลอะเทอะกันอยู่ได้! จัดการมันให้จบๆไปได้แล้วน่า !
[Plumed Knight] – คุณแน่ใจแล้วหรอ ? ถ้าเกิดพวกเขาเป็น Champion ที่แท้จริงในตำนานที่ตื่นขึ้นมาจะทำยังไง ? ทำไมเราไม่ตกลงกับมันเลยตั้งแต่ตอนนี้ละ ?
[Knight in the Golden Mask] – แล้วใครให้เธอมายุ่งเกี่ยวกับเรื่อง คำทำนายสีเลือดของชั้น เรื่องนี้มันมีจุดจบของมันอยู่แล้วละ ไม่มีทางบิดเบือนบิดเบี้ยวไปทางไหนได้หรอก !! ฉะนั้น บอกเด็กๆของเธอไปให้พ้นซะ !!!!



-Boss - 
Knight in the Golden Mask HP 23159 แพ้ธาตุแสง 
Plumed Knight HP 22930 แพ้ธาตุน้ำและความมืด 




[Knight in the Golden Mask] – ประทับใจจริงๆเลย แต่ อย่างที่บอก ... จุดจบของเรื่องราวยังไงก็ไม่มีวันเปลี่ยนแปลง ..ฮี ฮ่าๆๆๆๆๆๆ อ๊ากกก!!!



[Lann] – คนพวกนี้ ......




[Reynn] – หรือว่า นั่นมัน ....?




[Reynn] – ฮือออ ๆๆๆ
[Lusse] – เลิกงอแงแล้วยิ้มได้แล้วนะลูก ...หนูจะร้องไห้และแอบอยู่ที่มุมห้องนั่นทั้งวันหรือจะออกมามีความสุขข้างนอกดีละ
[Reynn] – แต่เพื่อนๆทุกคนเขาขำหนูแล้วบอกว่าแขนของหนูมันตลกนี่นา ฮือออๆๆๆ 



[Lusse] – งั้นดูสิ แขนแม่ก็เป็นเหมือนกัน เห็นมั๊ยจ๊ะ แขนนี้มันมีอะไรมากกว่าลายที่ดูตลกนะ มันเป็นแขนที่พิเศษมาก หนูรู้มั๊ยว่าในพิเศษยังไง ? วันนี้มันจะช่วยทำให้ความสุขกลับคืนมายังโลกใบนี้นะจ๊ะ 
[Reynn] – แต่ มันก็มีแค่แม่แค่นั้นนี่คะที่มือเหมือนกันหนู 
[Lusse] – มีอีกคนนึงจ๊ะ Lann น้องชายหนูไงละ และตราบใดที่หนูทั้งคู่ทำสิ่งต่างๆร่วมกันรับรองไว้ไม่มีเรื่องไหนที่ไม่สำเร็จแน่นอน 



[Rorrik] – นี่ขอร้องละ เลิกสะสม Mirages ให้มันมากมายขนาดนี้ได้มั๊ยลูก !
[Lann] – ทำไมถึงไม่ได้ละ ? เรากำลังทำสิ่งดีๆอยู่นะ พ่อกับทุกคนควรจะภูมิใจกะผมดิ 
[Reynn] – ใช่คะ พวกนี้น่ารักจะตายไป
[Rorrik] – แต่ลูกก็ควรมีในจำนวนที่เหมาะสมสิ ไม่จำเป็นต้องมากมายขนาดนี้หรอกนะ คิดถึงปัญหาที่จะเกิดขึ้นกับคนรอบๆตัวด้วยสิ 
[Lann] – มีปัญหากับคนอื่นแล้วไง ทำไมผมต้องสนใจละ มันไม่ใช่ปัญหาของผมซะหน่อย 
[Rorrik] – หรอ งั้นพวกเธอห่วงแม่บ้างมั๊ยละ ? Mirages มากมายแค่ไหนที่ลูกเอาไปจากแม่นะ 



[Reynn] – ไม่เอาน่าพ่อ แม่ชอบเห็นพวกเราเก่งขึ้น ไม่เห็นแม่จะว่าอะไรนี่ก็เห็นแม่มีความสุขดีจะตาย หนูว่าพ่อกำลังอิจฉาเพราะทำแบบเราไม่ได้มากกว่านะ 
[Lann] – โดน !! ฮ่าๆๆ 



[Hauyn] – หยุดนะ !! พวกเธอจะทำแบบนี้ไม่ได้นะ !!
[Reynn] – ก็พี่เป็นคนบอกกับทุกๆคนเองไม่ใช่หรอว่าถ้าเราอัญเชิญพระเจ้าหรืออะไรที่มีพลังมากๆมาได้ชีวิตของทุกคนก็จะใช้ชีวิตได้อย่างง่ายดายกว่านี้นะ อย่ามาปอดแหกตอนนี้ดีกว่านะ Wyn 




[Lann] – ช่าย และเอ่อ ลืมแล้วหรอว่าเพราะใครกันน้าที่ทำให้เราขึ้นมาจนถึงที่นี่ได้น่ะ
[Hauyn] – แต่เธอกำลังทำผิดนะ โลกในอีกมิตินึงนั่นมันน่ากลัวมากนะ 
[Lann] – หุบปากไปเลยพี่ โอ้ ผมนึกออกแล้วจะจัดการกับพี่ยังไงดี 
[Hauyn] – ห๊ะ !! อย่านะ !!





[Hauyn] – Lann !! .. Reynn !! อย่าทำแบบนี้เลย หยุดเถอะ พวกเธอไม่รู้หรอกว่าทำอะไรลงไป ที่กำลังทำกันอยู่นี่มันผิดมากนะ 







[ Brandelis ] – คนไหนเป็นคนอัญเชิญข้ามาที่นี่ !!
[Lann] – ห๊ะ อ่า
[Reynn] – กรี๊ดดดด !!



[Rorrik] – นี่มันเกิดอะไรขึ้นเนี้ย ? เฮ้ย !! นั่นแกเป็นใครนะ !! เด็กๆ รีบหนีมาที่นี่เร็วๆ !!  ... เอาละ บอกมาเดี๋ยวนี้ว่าแกเป็นใคร !!  .. อ๊ากก !!
[Lusse] – คุณคะ !!! …. อ๊ากกก !!



[Reynn] – แม่ พ่อ ไม่นะ !!
[Lann] – พวกไม่ได้ ตั้งใจ !!



[ Brandelis ] – ตอนนี้เหมาะแก่การหาผู้นำสาส์นของข้า ซึ่งน่าแปลกใจและน่ายินดียิ่งนักที่สัตว์ประหลาดตัวแรกของข้าคือมนุษย์ที่มีสติปัญญาและความสามารถที่สูงส่งเยี่ยงนี้ เอาละ ใครจะมาร่วมกับข้าบ้าง รับร่างพวกนี้ไป !!!
[Lusse] – กรี๊ดดดด !!!!
[Rorrik] – อ๊ากกก !!!! 





[Lusse] – อ่ะ อั๊ก พะ พวกเธอต้องหนีไป Reynn ! Lann !! เดี๋ยวนี้ !!




[Reynn] – แม่ .. !!
[Lusse] – หนีไป !!!!!!!!!!!!! 





[Reynn] – เนี้ยหรอ ? เรื่องราวทั้งหมดที่เราลืมไป ...



[Lann] – มันอะไรกัน ? สิ่งที่เราเห็นนั่นมัน !



[Lusse] – อ่า ....
[Hauyn] – เลดี้ Lusse ค่ะ !!
[Lusse] – อ่า .... Hauyn เธอก็อยู่ที่นี่ด้วยหรอ ? … Reynn  Lann ..พวกเธอทั้งคู่ก็ยังปลอดภัย แม่ดีใจจริงๆเลย



[Reynn] – คุณคือแม่ของพวกเราจริงๆหรอคะ ?
[Hauyn] – Reynn และ  Lann เสียความทรงจำเก่าไปตอนที่พวกเขากำลังหนีออกจาก Grymoire  …พวกเขาจำเรื่องวันนั้นไม่ได้เลย ..ช่างโชคดีจริงๆ 




[Lusse] – นั่นก็ดีแล้ว Hauyn เธอสัญญากับชั้นข้อนึงสิ ..ได้โปรดให้อภัยกับพวกเขาเถอะนะ .. เพื่อชั้น นะ 
[Hauyn] – อ่ะ ..หนูไม่เคยเลยที่จะ ....


[ Brandelis ] – บางที่มันก็ยากที่จะเข้าใจเหมือนกันนะ ปกติข้าจะไม่เลือกที่จะแก้ไขปัญหาด้วยวิธีแบบนี้ โดยเฉพาะที่ต้องมาลงมือเองอย่างนี้ด้วย ... พวกเจ้ามาที่นี่เพื่อจัดการข้าไม่ใช่หรอ ? เข้ามาสิ ! เข้ามาทำให้ปรารถนาของพวกเจ้ามันเสร็จสมบูรณ์ซะ โชว์ความเด็ดเดี่ยวของพวกเจ้าให้ข้าเห็นสิ โชว์กึ๋นให้ข้าเห็นหน่อย !! ไหนละพลังของพวกเจ้า !! Mirages ทั้งหมดที่เจ้ามีแสดงออกมาให้หมด !! อย่าได้บังอาจโชว์ความกระจอกของพวกเจ้าให้ข้าเห็นเลยนะ 
[Reynn] – แก มันเป็นตัวอะไรกันแน่ ....



[ Brandelis ] – นามของข้า Brandelis ราชาแห่ง Bahamut ลำดับ 2 – 5 แห่ง Exnine Knights !!! ข้าคือผู้มีชัยของทุกๆโลกที่ข้าสยบมา 
[Lann] – ไม่ .. ไม่ๆ แกมันเป็นอะไรไม่ได้นอกจากขี้ผงเท่านั้นแหละโว๊ย !!



Boss – King of Bahamut HP 23610 
สเตตัส ไม่แพ้ธาตุอะไรเลย แต่จะเจ็บหนักเมื่อเจอ Holy ในระดับสูง
ใช้ท่า Impulse โจมตีทางกายภาพแบบกลุ่มที่รุนแรง
ใช้ท่า Quake โจมตีธาตุดินทั้งกลุ่ม (ใช้ Mirages ที่ลอยอยู่ก็ไม่โดน)
ใช้ท่า Aerogaโจมตีธาตุลมทั้งกลุ่ม
ใช้ท่า Abyssโจมตีธาตุความมืดเดี่ยว



[ Brandelis ] – ความแข็งแกร่งนี้มันคืออะไร ? ข้าว่าข้าตรวจสอบข้อมูลของพวกเจ้า 2 คนมาอย่างดีแล้วนะ เอาจริงๆนะ ตอนแรกข้าไม่ได้คิดจะทำลายพวกเจ้าเลยจริงๆ แต่พวกเจ้ากลับกดดันให้ข้าต้องทำจนได้ เราจะมามัวคุมเชิงตรึงกำลังกันอยู่แบบนี้ตลอดไปไม่ได้หรอก 



[Lann] – แกคิดงั้นหรอ !!? ชั้นจะชดใช้ที่พาแกมาที่โลกนี้เดี๋ยวนี้แล้ว !! 
[Reynn] – Lann ??




[Lann] – เฮ้ Reynn ขอโทษนะที่ดึงพี่มาเกี่ยวกับเรื่องบ้าๆพวกนี้ ผมมันเห็นแก่ตัวเองแหละ ขอโทษนะ ที่พ่อแม่ต้องตาย ทั้งหมดเป็นความผิดของผมเองนั่นแหละ





 ที่ผิดมากที่สุดก็ดันพาไอ้ตัวปรหลาดบ้านี่มาที่ Grymoire …ผมจะชดใช้มันเองทั้งหมด คอยดูให้ดี !!!! อ๊ากกกก !!







[ Brandelis ] – ไอ้เด็กโง่ แผนของข้าสำเร็จไปแล้ว มันสายไปแล้วที่จะ ...อะ อ๊ากกกกกกกกกกก !!!!!






[Reynn] – Lann !!!!! ทำไมนายทำแบบนี้ ทำไมนายไม่กลับมา ???











หลังจากจบ Bad Ending ที่แสนเจ็บปวดใจแล้ว กด Continue ใหม่ แล้วเวลาจะช่วยเยียวยาให้เอง 




[???????] – คุณจะไม่ยอมรับเรื่องนี้ใช่มั๊ย ? ไม่ว่าคุณทำอะไรไปแล้วก็ตาม ตอนนี้คุณจะ ปฏิเสธผลลัพธ์ที่ตามมานี้หรือเปล่า ?
[Reynn] – ยอมรับมันหรอ ? ทำไมคุณถึงอยากให้ชั้นยอมรับมันละ ?? Lann ก็จากไปแล้ว ส่วนใหญ่มาหลบหัวหดในโลกปลอมใบนึง ชั้นหมายถึง เรื่องนี้มันก็เป็นความผิดของชั้นด้วยนี่ ทำไมเขาถึงไม่ให้แบ่งความผิดของชั้นบ้างละ ?  แล้วชั้นจะไปบอกขอโทษกลับใคร พ่อกับแม่ที่ตายไปแล้วงั้นหรอ ?



[???????] – งั้นชั้นจะถามคุณอีกที ตอนนี้ คุณจะยอมรับหรือปฏิเสธผลลัพธ์ที่ตามมานี้ ?
[Reynn] – ชั้นไม่ยอมรับ !!!!!!




[???????] – ดีมาก ... ชั้นจะยอมให้ชีวิตที่มีค่าทั้ง 9 ของชั้นกับคุณ และให้โอกาสคุณได้ต่อเนื่องเรื่องราวที่ทำไว้ในแบบที่ต่างออกไปเพื่อเรียบเรียงอนาคตในรูปแบบใหม่อีกครั้ง 




ติ๊กต๊อก .. ติ๊กต๊อก .. ยอมรับการสังเวยชีวิต ตอนนี้ สายใยแห่งเวลาจะเรียงร้อยใหม่อีกครั้งนับแต่นี้ ........




                                      POSTSCRIPT

        

                              Turn Those Corners Up 



                                                  Chainroad


วงวนแห่งเวลาถูกย้อนไปในช่วงที่ Reynn และ Lann กำลังจะเตรียมตัวขึ้นไปที่ Chainroad เพื่อมุ่งหน้าไปที่ Castle Exnine เพื่อจัดการราชา Bahamut และในช่วงเวลานี้มีเพียงแต่ Reynn ที่รับรู้ได้ถึงอนาคตที่สุดเลวร้ายที่จะเกิดหลังจากนี้ ....


[Reynn] – ห๊ะ !! …
[Lann] – เอาละ ถึงเวลาไปเตะตูดพวก Bahamut แล้วช่วยโลกนี้กันแล้ว 
[Reynn] – เดี๋ยว !!!
[Lann] – ห๊า !! อยู่ๆก็เป็นอะไรขึ้นมาอีกละเนี้ย 
[Reynn] – ก็ เออ ..รอก่อน .. Tama ไปไหนละ ?
[Lann] – Tama ไหนอีกละ ?
[Reynn] – ก็ Tama เพื่อนเราไง …..



ดีมาก ... ชั้นจะยอมให้ชีวิตที่มีค่าทั้ง 9 ของชั้นกับคุณ และให้โอกาสคุณได้ต่อเนื่องเรื่องราวที่ทำไว้ในแบบที่ต่างออกไปเพื่อเรียบเรียงอนาคตในรูปแบบใหม่อีกครั้ง


[Reynn] – ไม่จริงน่า นั่นคือ Tama จริงๆหรอ ? เฮ้ Lann ..นายไม่รู้จริงๆหรอว่าชั้นพูดถึงใครอ่ะ Tama เพื่อนเราที่อยู่กับเรามาตลอดการเดินทางไงละ !
[Lann] – อะไรนะ ? ผมงงไปหมดแล้วว่าพี่พูดถึงใคร พี่เป็นไรเปล่าเนี้ย ดูท่าทางแปลกๆมากเลย 



[Serafie] – ชั้นไม่เคยเห็นเธอเป็นแบบนี้มาก่อนเลยนะ ปกติก็จะชอบแต่เบิ๊ดกะโหลก Lann อยู่ตลอด 
[Reynn] – Serafie หรอ ??? เธอมาอยู่ที่นี่ได้ไงอ่ะ
[Lann] – ห๊า ..พี่มาแปลกใจอะไรกับ Serafie นักหนาเนี้ย เธอก็อยู่กับเรามาตลอดการเดินทางตั้งแต่แรกเลยนะ เอาจิงดิ ไหวไม่เนี้ยพักก่อนมั๊ย
[Reynn] – Serafie เธอก็รู้จัก Tama นี่ รักกันดีจะตายไป
[Serafie] – Tama หรอ อืมมมมม ..ใช่คนที่ชื่อ Tamamohime ป่ะ ชั้นไม่รู้จริงๆว่าเธอพูดถึงใคร แต่มันทำให้ชั้นรู้สึกถึงวันเก่าๆขึ้นมาเหมือนกันอ่ะนะ 
[Lann] – เอาละ คุยกันจบแล้วนะ ถึงเวลาไปเตะตูดพวก Bahamut แล้วช่วยโลกนี้กันแล้ว !!



[Reynn] – อย่า ไม่นะ !!!  
( ต้องระวังให้มากเพราะ Tama ยอมสละชีวินนึงเพื่อย้อนเวลากลับมาแก้ไขทุกอย่าง จะให้ผิดพลาดไม่ได้
เอ่อ .. เรายังไม่พร้อมที่จะลุยกับมันตอนนี้ !!
[Lann] – อ้าว ทำไมละ ??
[Reynn] – ลองคิดดีๆนะ เหตุผลที่เราตัดสินใจจะทำในตอนแรกที่มาที่นี่คืออะไร ? จำได้มั๊ย เราเคยบอกว่าเราจะทำอะไร ?
[Lann] – มาเล่นเกมตอบคำถามอะไรกันตอนนี้ ? เหตุผลแรกหรอ ? อืมม Enna Kros บอกให้เราจับ Mirages ให้มากๆเพื่อให้ความทรงจำเรากลับคืนมา แล้วก็อาจจะได้เจอครอบครัวเราอีกครั้ง .. ใช่มั๊ย ?
[Reynn] – ใช่แล้ว !! โค่นล้มพวก Bahamut ไม่ใช่แผนของเราเลยนะ
[Lann] – เออ ก็จริงมันไม่ใช่แผนเรา เเราไม่รู้ด้วยซ้ำว่าพวกมันเป็นใครมาจากไหน ? แต่ ก็รู้ๆอยู่ พี่กับผมเป็นทำให้พวก Cogna ออกมากัดกิน Geymoire จะจัดการมันก็คงจะยุ่งยากน่าดู  



[Reynn] – แล้วถ้าสุดท้ายแล้วเราต้องต่อสู้กับพ่อแม่เราและตอนจบนายต้องตายละ ? การกำจัดพวก Bahamut มันไม่ใช่การช่วยโลกนี้นะ มันจะมีสิ่งไม่ดีตามมา อะไรๆที่เกิดขึ้นกับเรา กับนาย ... สรุป พวก Cogna เราต้องจัดการมันให้หมดก่อน ..
[Lann] – แต่ ที่เรามาที่นี่ก็เพื่อจะจัดการไอ้พวก Bahamut นะ !!
[Reynn] – ก็บอกอยู่ว่ามันไม่เวิร์ค !! …. อันดับแรกเราต้องหาทางปิดประตูมิติ Ultima Gate ก่อน หมายถึง เราต้องไปหา Mirages แกร่งๆมาเสริมทัพก่อนด้วย .. แล้วเราต้องไปเจรจากับ Wyn ใหม่ด้วย เราต้องการให้เธอช่วย .. เอาละ ไปหา Mirage เก่งมาเสริมทีมแล้วหาทางปิดประตูมิติ ตามนั้น !!! จากนั้นค่อยไปเตะตูดพวกมันอย่างที่นายบอก !!!



[Reynn] – Serafie เธอรู้จัก Mirage ที่ Wyn อัญเชิญมารู้เปล่า ?
[Serafie] – อืมมม ..รู้ น่าจะเป็น Siren มาจาก Wind World เหมือนชั้น
[Reynn] – มาจากที่เดียวกันหรอ ? แล้วเธอพอจะกล่อนให้มาเป็นพวกเราได้มั๊ยอ่ะ 
[Serafie] – ได้เดี๋ยว เจ้านาย ต้องลองดู เธออาจจะอยู่ทีไหนซักแห่งใน Geymoire นี่แหละ คงต้องพึ่งพลังแห่งข่าวซุบซิบนินทาแล้ว 
[Lann] – ถามจิง Reynn เธอรู้อะไรที่ชั้นไม่รู้มาหรอ ?
[Reynn] – เอาไว้จะเล่าให้ฟังวันหลังนะ ตอนนี้เราต้องรีบไปหา Wyn ที่ Balamb Garden กันก่อน ...




                                                  Balamb Garden



[Hauyn] – ตอบชั้นข้อนึงสิ เธอจำทุกอย่างได้รึยัง ? จำได้รึยังว่าพวกเธอเป็นคนแบบไหนและทำเรื่องเลวร้ายอะไรไว้บ้าง
[Reynn] – คะ จำได้มากพอ แต่เราพร้อมแล้ว ที่จะตามเก็บ Mirages ของเรากลับมาให้ครบ และเผชิญหน้ากับสิ่งที่เราทำผิดพลาดเอาไว้ 
[Hauyn] – เอาละ ถ้างั้นช่วยชั้นออกมาทำไม ?
[Reynn] – ถ้าเราจะเข้าต่อสู้ตัดสินครั้งสุดท้าย ตอนนี้ มันคงทำไม่ได้ถ้าไม่มีครอบครัว .. ไม่มีพี่  ... ไม่ว่าการต่อสู้มันจะจบลงยังไงนี่ก็เป็นความหวังสุดท้ายของเรา
[Hauyn] – เธอไม่รู้หรอว่าเรื่องแบบนั้นมันจะไม่มีวันเกิดขึ้น
[Reynn] – ก็รู้แล้วละน่า !! ชั้นถึงมาที่นี่ไง ได้โปรด อย่าเพิ่งไปสู้กับพวก Heralds ตอนนี้เลยนะคะ ช่วยเรากอบกู้ Grymoire ก่อน เราต้องการให้พี่มาช่วยอย่างที่สุดเลยคะ !
[Hauyn] – เธอมีแผนยังไง ?



[Lann] – เราจะใช้ประตูมิตินั่น
[Hauyn] – Ultimate Gate น่ะหรอ จะใช้มันทำอะไรอีกละ ? ถ้าพวกเธอพยายามจะเปิด ....
[Lann] – ฟังก่อนครับ ... แผนนี้มันจะไม่มีทางสำเร็จถ้าไม่มีเธอ Wyn เพราะเราต้องการสุดยอด Summoners ทั้งหมดที่มีเพื่องานนี้ 
[Reynn] – ใช่คะ เพราะ Summoners มีพลังที่จะอัญเชิญ Mirages มาจากต่างมิติได้ 
[Lann] – พูดง่ายๆเลยคือ พวกมันสร้างประตูมิติเชื่อมระหว่าง 2 โลกขึ้นมา
[Hauyn] – แต่พวกเธอก็ทำได้นี่ เอาที่จริง Mirages Keeper มีพลังที่แข็งแกร่งกว่า Summoners ตั้งเยอะนะ
[Lann] – ไม่ต้องมาถามผมเลย ผมก็แค่ตามน้ำไปจากข้อมูลที่ Reynn บอกมาว่าเธอจำทุกอย่างได้แล้ว
[Reynn] – พลังของ Mirages Keeper มากกว่าก็จริงแต่พลังจะต่างจาก Summoners เรา Mirages Keeper จับ Mirages แล้วย่อขนาดมันให้เล็กลงเพื่อไปอยู่ในโลกอีกมิติที่เราสร้างขึ้นเหมือนที่พ่อเราทำได้ แต่มันก็สามารถทำได้อย่างจำกัด เราสามารถปล่อยพวกมันออกมาใช้งานด้วยการควบคุมของเราตามที่เราต้องการ แต่ถ้าอยากจะทำให้ได้มากกว่านั้น เราก็ต้อง แหกกฎ อย่างที่แม่เราเคยทำ แม่เรียกว่าพลัง Breaker
[Hauyn] – จริงหรอ ? งั้นก็แสดงว่า พ่อแม่ของพวกเธอคงมีพรสวรรค์มากถึงให้กำเนิดพวกเธอมาแล้วมีพลังที่สามารถเก็บ Mirages ได้เหมือนพวกเขาด้วย
 [Reynn] – คะ แต่ที่มากกว่าคือ Breaker นั้นสามารถดึงพลังจาก Mirages ตัวไหนก็ได้ที่พวกเขามีอยู่เพื่อเอาพลังของพวกมันมาใช้กับตัวเอง 
[Lann] – และที่เราค้นพบว่า ผมกับ Reynn ก็สามารถใช้พลัง Breaker นั่นได้ด้วย 
[Reynn] – จริงๆ เราไม่เคยรู้มาก่อนเลย เพราะมันเป็นพลังที่ติดกับพวก Mirages ที่เราดึงมาจากแม่เราตอนเด็กๆในสมัยที่เราทดสอบการใช้พลัง เราดึง Mirages จากแม่มามากเกินพอที่จะได้ความสามารถของ Breaker ที่แม่มีมาด้วย 
[Hauyn] – เฮ้ออ .. แล้วถ้าพวกเธอทำไม่ได้ละ ? ถ้าไม่สามารถเชื่อมต่อกับโลกทั้ง 2 ได้ละ ?



[Lann] – ตอนนี้ผมอัญเชิญ Brandelis ออกมา จริงๆ เอ่อ .. ผมยืมพลังจากเธอนั่นแหละ Wyn ..ถึงสร้างกรงคริสตัลนั่นขึ้นมาได้ 
[Hauyn] – มิน่าละ กรงนั่นถึงดึงพลังของชั้นไปตลอด ชั้นนึกว่าพวก Heralds เป็นดึงพลังชั้นไปใช้เสียอีก เดี๋ยวนะ ถ้าแบบนั้น พวกมันก็..
[Reynn] – ใช่คะ พวกมันหลอกทุกคนบนโลกนี้ด้วย คำทำนายเลือด (Crimson Prophecy) บ้าบอนั่น เพราะจริงๆเป็น Lann ต่างหากที่สร้างประตูมิติ พวกมันไม่มีปัญญาทำได้หรอก
[Hauyn] – เราได้เหล่า Summoners มารวมกันได้อีกครั้ง ทั้งหมดก็จะสร้างประตูมิติขึ้นมาได้  ... แผนพวกเธอดีมาก โอเค แล้วการจะกลับไปที่ Ultimate Gate แล้วจะทำอะไรได้ สายเกินไปแล้วที่จะทำลายมัน 

[Lann] – เรารู้ เพราะถ้าเราอัญเชิญ Brandelis กับพวก Cogna มาได้เราก็ย้อนศรดึงพวกมันกลับไปที่ที่พวกมันมาได้เหมือนกัน 
[Reynn] – ได้โปรดเถอะคะ ถ้าพี่กับเหล่า Summoner ช่วยเรา เราทำได้แน่นอน Hauyn  ชั้นรู้ว่าที่เราทำกับพี่มัน ... แต่ ..
[Hauyn] – ตกลงชั้นจะช่วย ถึงแม้จะไม่ค่อยมั่นใจกับแผนพวกเธอเท่าไหร่ แต่ถ้ามันทำได้อย่างที่เธอพูดมันก็น่าเสี่ยง เราไม่มีอัไรต้องเสียอีกแล้ว .... แล้วอีกอย่าง ที่พวก Heralds มันใช้พ่อกับแม่ของเธอ 
[Reynn] – เรื่องนั้นเรารู้คะ ถ้าพี่เชื่อใจพวกเรา เรื่องนั้นเราจะจัดการเอง[Hauyn] – โอเค ถ้าพวกเธอพร้อมก็บอกมาเลยแล้วกันนะ ... 
[Reynn] – ขอบคุณมากคะ พี่ Wyn .. เอ่อ ขอโทษคะ เผลอเรียกอีกแล้ว
[Hauyn] – ช่างเถะจ๊ะ เธอเรียกชั้น Wyn เหมือนเดิมก็ได้ เรียก Hauyn กับพวกเธอมันก็รู้สึกแปลกๆเหมือนกันนะ 
[Lann] – บางที มันอาจจะเป็นโอกาสที่แขนคู่นี้จะนำความสุขกลับมาให้โลกนี้เหมือนที่แม่เคยบอกได้ซักที ..  





                                           Ninewood Hill , Ghost town 


เป้าหมายสุดท้าย Demon Dyad Servants ตามรวบรวมเหล่าสุดยอด Mirages ตัวเก่งที่ Lann และ Reynn เคยครอบครองเมื่อในอดีต อสูรรับใช้ทั้ง 4 Bahamut , Diablos, Leviathan ,Odin เพื่อเอามาเป็นกำลังสำคัญในศึกสุดท้ายกับพวก Heralds ...

เข้ามาที่ห้องดื่มชาของ เด็กสาวที่จำชื่อตัวเองไม่ได้ จะมี Intervention Quest ที่โยงไปถึงเรื่องราวในเนื้อหลักเพิ่มขึ้นมาใหม่ 4 อันคือ



1.Intervention Quest  –The Demon Dyad Revealed [5 ดาว]
ต้องการ Arma Gems 2 อัน 
รางวัล – Phoenix Pinion x 2 และ Bahamut Prismarium 



                                                   ที่ Crystal Tower ….




[Hauyn] – มันนานมากเลยนะ 
[Quistis] – ไม่เหมือนกับพวกเรา ที่ไม่รู้เลยว่ามันนานแค่ไหน ส่วนใหญ่คนที่อยู่ในยุคพันปีที่แล้วหลังจาก Jiants 2 คนนั้นทำลายทุกอย่างก็ล้มหายจากไปจนหมดแล้วละ 
[Hauyn] – เป็นศตวรรษเลย นึกภาพไม่ออกจริงๆ
[Quistis] – ชั้นว่าเราควรกลับไปที่เรือเหาะกันได้แล้วละนะ 



[Bahamut] – อ๊ากกกกกกกกกกกก !!!
[Hauyn] – มีอะไรให้ช่วยหรอ Bahamut โอ้ หรือจะให้เรียกชื่อจริงละ Tiababylo 
[Bahamut] – ทำไมเจ้าถึงรู้ชื่อจริงข้า กล้าดียังไงเจ้าคนแปลกหน้า !!
[Hauyn] – แหม่ มันก็เกือบศตวรรษแล้วนะ ชั้นเคยเจอ Bahamut ตัวพ่อที่นี่ไง 
[Quistis] – เธอรู้จัก Dyad Servant ด้วยหรอ ?
[Bahamut] – คนรับใช้ (Servant) ? ข้าน่ะเรอะ !!!
[Hauyn] – ฮ่าๆๆ เธอหมายถึงครั้งนึงนายเคยเป็น อสูรรับใช้ (Servant) ของ Lann และ Reynn น่ะ
[Bahamut] – เหอะ !! ใครจะไปลืมเจ้าสองคนนั่นได้ลง 
[Quistis] – ห๊ะ !! Lann กับ Reynn คือ Demon Dyad หรอ ?
[Hauyn] – พวก Heralds ตั้งชื่อนี้ขึ้นมาเพื่อแต่งเรื่องราวในคำพยากรณ์สีเลือด (Crimson Prophecy) ของมันไง ซึ่งพื้นฐานความจริงที่สำคัญคือ คำพยากรณ์สีฟ้าคราม (Azure Prophecy) ซึ่งเป็นคำทำนายที่แท้จริงก็กล่าวถึงพวกอสูรรับใช้เหล่านี้ด้วยนะ Lann กับ Reynn ได้อ่านมันรึเปล่าก็ไม่รู้ 
[Bahamut] – Reynn เธออ่านแน่นอนแหละน่า 
[Hauyn] – ใช่เธออ่าน แต่คนที่ทำให้ทุกอย่างหลุดออกจากคำทำนายเป็น Lann จริงๆ เท่าที่ชั้นรู้ไม่มีใครเรียกสองคนนี้ว่า Demon Dyad เลยนะ แล้วนายก็ไม่ใช่ Demon ที่ตั้งใจมาทำร้ายใครด้วยซ้ำว่ามั๊ย
[Bahamut] – เจ้าจะโทษพวก Heralds ก็ได้ แต่ชั้นไม่แคร์หรอก ที่ชั้นสนคือไอ้ Brandelis มันดันตั้งชื่อกองทัพของมันตามชื่อข้าว่า Bahamut นี่สิ !! แล้วยังจะอ้างว่ามันเป็นราชาแห่ง  Bahamut อีก ชั้นจะฆ่ามัน ! บอกมาตอนนี้มันอยู่ที่ไหน !! บอกมา !!
[Hauyn] – นั่นเป็นเหตุผลที่นายยังรออยู่ที่นี่หรอ ? ฟังนะ ชั้นสังเกตการณ์พวก Heralds อย่างใกล้ชิดมาเป็นศตวรรษแล้ว เชื่อชั้นเหอะ Tiababylo นายไม่มีทางสู้พวกมันได้หรอกน่า 
[Bahamut] – ว่าไงนะ !!!!!
[Hauyn] – Exnine Knight หวังว่านายคงเคยได้ยินเรื่องของพวกเขานะ 
[Bahamut] – พวกมันคือ 3 สิ่งที่ผสมกัน พวกเอสเปอร์ (Esper) อย่างข้า, มนุษย์ และ พระเจ้าจากจักรวาล Extraverse ใช่มั๊ยละ ? 
[Quistis] –พระเจ้าจากจักรวาล Extraverse ??  พวกเอสเปอร์ (Esper) ? หรอ มึนตึบเลย ???? 



[Hauyn] – คำพยากรณ์สีฟ้าคราม (Azure Prophecy) กล่าวเอาไว้ว่า ในยุคที่เนิ่นนานจนไม่มีใครได้มีโอกาสจดจำ แสงและความมืดได้ถือกำเนิด แสงได้ให้กำเนิดรูปแบบชีวิตที่เรียกว่า เอสเปอร์ (Esper) ส่วนความมืดได้ให้กำเนิด เหล่ามอนสเตอร์ และ มนุษย์ที่โหยหาแสงสว่าง ในจักรวาล Extraverse โลกอยู่รอบๆตัวเรา พระเจ้าเพียงหนึ่งเดียวที่จะอยู่เหนือความตายและการถูกทำลาย อาจตั้งอยู่หรือไม่มีตัวตน ไม่มีใครสนใจที่จะหาเหตุผลและคำตอบ จนเมื่อโลกที่มีเพียงหนึ่งพบรอยฉีกขาดในโครงสร้างของมิติ ทางออกจากจักรวาล Extraverse ถูกค้นพบ ความคิดหาประโยชน์กับอีกโลกก็เกิดขึ้น ด้วยความอยากขยายขีดจำกัดของตนเอง จึงพยายามนำเอารูปแบบชีวิตที่เรียกว่า เอสเปอร์ (Esper) ผสมเข้าไปในร่างกายมนุษย์ที่เราเรียกพวกมันว่า Exnine Knight ซึ่งพวก Heralds ก็คือ 1 ใน Exnine Knight นั่นแหละ  
[Quistis] – หมายความว่า พวก Heralds มันมีพลังเทียบเท่าพระเจ้าเลยหรอ ?
[Hauyn] – ชั้นบอกอะไรที่มันชัดเจนแน่นอนตอนนี้ไม่ได้หรอกนะ แต่ตอนสุดท้ายของคำพยากรณ์สีฟ้าคราม (Azure Prophecy) “จงทำสิ่งที่ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้” มันหมายถึงอะไรก็ยังไม่มีใครกล้าที่จะตีความ ความจริง ส่วนแรกของคำพยากรณ์ที่ขาดหายไปทำให้ทุกอย่างคลุมเครือยากที่จะตีความตอนท้ายแค่อย่างเดียว แถมยิ่งถูกก็อปปี้ต่อกันยิ่งถูกบิดเบือนไปมาก คงจะมีแต่ผู้สืบสายเลือดในยุคเก่าเท่านั้นที่จะรู้ได้
[Quistis] – ถ้าอย่างงั้น คุณก็ ...
[Hauyn] – ใช่คะ ถูกแล้ว .. ชั้นสืบสายเลือดจาก Summoner รุ่นแรก ซึ่งอาจจะเป็น Jiant Summoner คนสุดท้ายด้วย แค่เดาเอานะคะ 



[Bahamut] – พอได้แล้ววว !!! พูดกันอยู่ได้ เข้าประเด็นซะที!!! ตกลง เธอบอกว่า Brandelis เป็นพวก Exnine Knight ใช่มั๊ย ???  
[Hauyn] – ใช่ ถ้าตามคำพยากรณ์ ถึงแม้จะข้ามมิติมายังไงก็ยังเรียกพระเจ้าอยู่ดี มันไม่ใช่เป็นแค่ Brandelis ที่นายรู้จักหรอกนะ นายไม่มีทางเอาชนะมันได้หรอก ไม่สามารถถูกตัวมันได้ด้วยซ้ำ  
[Bahamut] – ว๊ากกกกก !!! ทำไมจะไม่ได้วะ !! ไอ้ Brandelis มันจะเป็นอะไรข้าก็ไม่สนหรอก แต่มันไม่ใช่ราชาบาฮามุธ ข้าต่างหาก Bahamut King ของจริง !! Tiababylo ผู้ยิ่งใหญ่เว้ยยย !! 
[Hauyn] – เฮ้ออ ... ความอดทนต่ำไม่เปลี่ยนจริงๆเล๊ย 
[Quistis] – เดี๋ยว นี่เราต้องสู้กับมันจริงๆอ่ะหรอ ?




                                                      จัดการ Boss – Bahamut





[Bahamut] – เป็นไปไม่ได้ พวกแกแข็งแกร่งขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ ?
[Lann] – จริงๆชั้นก็แข็งแกร่งมาตั้งแต่เมื่อก่อนแล้วไม่ใช่หรอ จำไม่ได้รึไง ? 
[Reynn] – นี่ Tiababylo เราได้ยินว่านายมีแผนที่จะสู้กับ Brandelis หรอ ถ้านายมาร่วมกันเรานายจะอัดไอ้ Brandelis ได้ง่ายขึ้นเยอะเลยนะ
[Bahamut] – ฮี่ ฮ่าๆๆๆๆๆ ข้าคงจะโง่มากถ้าปฏิเสธ เอาละ ข้าเป็นของพวกเจ้าแล้ว !!!  



[Quistis] – นี่เราเอาชนะ Dyad Servant ได้จริงๆหรอเนี้ย ?
[siren] –  keeeee !!
[Hauyn] – โอ้ หรอ Lann กับ Reynn ได้อสูรรับใช้คืนไปหนึ่งแล้วหรอ ?
[Quistis] – ห๊ะ Lann กับ Reynn อยู่ที่นี่ด้วยหรอ ? ยังไงเนี้ย ?
[Hauyn] – ชั้นก็ไม่รู้สิ แต่เป็นคำถามที่ดีมาก เจอพวกเขาแล้วจะถามแล้วกัน ... 


2.Intervention Quest  – When The Past Still Haunts [5 ดาว]
ต้องการ Arma Gems 2 อัน 
รางวัล – Remedy x 2 , Diablos Prismarium และ Diablos Memento (ทำให้ Imp กลายร่างสุดยอดเป็น Diablos ได้) 

กล่าวถึงเหตุการณ์ที่ Balamb Garden ที่กำลังมีข่าวร่ำลือกันถึงเรื่อง ปีศาจ (Demon) ที่มาวนเวียนอยู่ที่ Balamb Garden จนทำให้ Quistis ต้องส่ง Shelke ให้ออกมาสืบหาความจริง 



[Shelke] – แปลกแฮะ ปีศาจจะมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง ? ก็แปลกใจอยู่นะว่ามันจะเป็นไปได้หรอ ?
[Diablos] – อ่า ปีศาจมาแล้วนี่ไง เป็นข้อยืนยันที่ดีพอรึยัง ? คิดดีแล้วหรอที่มาตามหาข้าที่นี่ เจ้าเห็นข้าเป็นตัวอะไรกันแน่ถามหน่อย 
[Shelke] – เอาตามตรง ก็เหมือนอย่างที่ผู้คนเขาพูดต่อๆกันมานั่นแหละ และชั้นรู้ว่าแกคือใคร แกคือ Diablos  1 ใน Dyad Servant’s Servants เหมือนหลายศตวรรษที่ผ่านมา 



[Diablos] – ข้าเป็นอะไรนะ ?? อ่อ เข้าใจและ ชาว Grymoire เรียกเจ้า 2 คนนั้นว่า Demon แต่ เพราะมันเป็นปีศาจก็เลยมาเหมารวมว่าข้าเป็นปีศาจด้วยเพราะข้ารับใช้พวกมันเรอะ ??
[Shelke] – ตอบชั้นหน่อย ทำไมแกถึงมาปรากฏตัวในตอนที่กำลังเกิดเรื่องวุ่นวาย 
[Diablos] – เจ้ารู้มั๊ยทำไมข้าถึงมาที่นี่ การเป็น Dyad Servant’s Servants ไม่ได้อยู่ในเป้าหมายของข้า แต่ตอนนี้กำลังจะเกิดความวุ่นวายและหายขึ้น มันน่าสนุกจะตาย  
[Shelke] – งั้นชั้นก็คงทำหน้าที่กำจัดแกในขณะที่พวก Keeper ไม่อยู่นี่
[Diablos] – เจ้าคิดว่าข้าตลกนะหรอ ? โอ๊ย ข้ากลัวจะตายแล้ว !! ซะเมื่อไหร่ละ !!!






                                                เข้าต่อสู้กับ Boss Diablos


Shelke สามารถเอาชนะ Diablos ได้ในครั้งแรกโดยการแทรกแซงการต่อสู้ของ Lann กับ Reynn จน Diablos ต้องหนีไป Shelke จึงรีบตามมันไปอย่างไม่ลดละจนเจอมันอีกครั้งที่เมือง Agarthir อันเป็นที่ตั้งของวิหารแห่งผู้ศรัทธรา คำพยากรณ์เลือด (Crimson Prophecy) ที่ตอนนี้เต็มไปด้วยพวก Cagna 



ที่นี่ Diablos ได้แอบเล่นงาน Shelke ทางจิตใจด้วยการนำเรื่องพี่ชายที่หายสาปสูญไปหลังจากที่เข้าไปเป็น ผู้สร้างสรรค์ (Architect) ที่วิหารของผู้ศัทธราในคำพยากรณ์เลือด (Crimson Prophecy) จนทำให้ครอบครัวแตกแยก ทำให้ Shelke ต้องไปเป็นผู้สร้างสรรค์ (Architect) เพราะขาดที่พึ่งทางจิตใจ ซึ่งเป็นเหตุที่ทำให้พ่อแม่ของ Shelke ต้องตายไปจนทำให้เป็นแผลในใจของเธอมาตลอด 

โชคดีที่ Lann กับ Reynn ได้เข้าแทรกแซงการต่อสู้กับ Diablos ที่มาพร้อมกับ Imp จนเอาชนะมันได้ในที่สุด 



[Diablos] – โธ่เว้ย !! ข้าแพ้อีกจนได้ อ่า เอาละ พวกแกเป็นเจ้านายก็ได้ อย่าที่เคยนั่นแหละ จะใช้อะไรก็สั่งมา 
[Reynn] – จริงๆชั้นก็จำอะไรเกี่ยวกับนายไม่ได้มากหรอกนะว่าเคยใช้งานนายมาแบบไหนบ้าง แต่บางทีคราวนี้นายอาจจะสนุกกว่าเดิมก็ได้นะ


3.Intervention Quest  – Ancestral Acrimony [5 ดาว]
ต้องการ Arma Gems 2 อัน 
รางวัล – Hi Potion x 2 , Leviathan Prismarium และ Leviathan Memento 




เรื่องราวของโจรสลัด Faris ที่ถึงเวลาชวน Syldra และเหล่า Mog ออกไล่ล่าแก้แค้นอสูรน้ำนามว่า Leviathan 1 ใน Dyad’s Servant ถึง Low sea  Faris ได้รับการช่วยเหลือจากเต่ายักษ์ Adamantoise ในการเรียกตัว Leviathan ให้ออกมาจากใต้น้ำลึก



เมื่อ Faris ได้เจอ Leviathan Faris ก็ประกาศกร้าวถึงการมาล้างแค้นของเขากับ Leviathan ที่บังอาจบุกเข้าโจมตีเรือโจรสลัด Tycoon แห่งกลุ่ม Syldra ซึ่งเป็นปู่ของ Faris จนเสียชีวิต แม้ Leviathan จะยังงงอยู่ว่า Faris มาแก้แค้นอะไรกับมันแต่ Leviathan ก็หัวเราะอย่างสะใจที่คนอย่าง Faris บังอาจมาท้าสู้กับมันจนตัดสินใจเข้าต่อสู้ด้วยในที่สุด แต่ Leviathan ก็ต้องแปลกใจที่เข้ามาเจอกับ Lann กับ Reynn ที่เข้ามาแทรกแซงการต่อสู้



[Leviathan] – นี่ข้ามาอยู่ที่ไหนเนี้ย ? 
[Reynn] – จะเรียกว่าอะไรดีละ ความมหัศจรรย์มั้ง ที่ที่ความฝันกับความจริงมาอยู่รวมกันแต่ไม่ต้องมาถามนะว่าทำได้ยังไงเพราะชั้นก็ไม่รู้เหมือนกันแหละ 
[Lann] – พูดง่ายๆคือ เมื่อใครก็ตามเข้ามาสู้กับเพื่อนของเรา เราก็ร่วมด้วนทันที ประมาณนั้น
[Leviathan] – โอ้ เจ้า 2 คนนั่นเอง นานแค่ไหนแล้วนะที่ไม่ได้เจอกัน 
[Lann] – แล้วเรื่องที่ Faris บอกว่าแกเป็นคนฆ่าปู่ของเขามันจริงรึเปล่าละ ?
[Leviathan] – ถ้าถามข้าก็ต้องตอบว่าข้ามั่นใจว่าไม่ได้ทำแน่นอนอ่ะ แต่ข้าจำได้ว่าตอนนั้นลูกเรือ Tycoon ถูกโจมตีโดยพวกฉลาม Bismarck ข้าก็ว่าจะเข้าไปช่วยอยู่แต่ไปไม่ทัน 
[Reynn] – งั้น Faris ก็เข้าใจผิดงั้นหรอ ? แล้วทำไมไม่บอกความจริงกับเขาไปละ
[Leviathan] – ก็ถ้าพวกเข้าเกลียดข้ามาตลอดมาอย่างยาวนานแล้วจู่ๆจะมาบอกว่ามันเป็นเรื่องเข้าใจผิดพวกเขาก็ต้องว่าข้าแก้ตัวอยู่ดีนั่นแหละ แต่การปล่อยให้เขาได้สู้กับข้าอาจปลดปล่อยความรู้สึกเก็บกดของเขาออกมาบ้างก็ได้ แต่ก็ไม่ได้แปลว่าข้าจะแบไต๋ให้พวกเขาชนะใสๆเพื่อเอาใจจหรอกนะ ฮ่าๆ 
[Lann] – งั้นก็คงต้องบอกข่าวร้ายว่า ถ้าคิดจะสู้กับเขาแกก็ต้องเจอกับพวกเราด้วย !
[Leviathan] – ไม่ต้องห่วง ข้าเตรียมพร้อมอยู่นานแล้ว !!




                                                เข้าต่อสู้กับ Boss Leviathan

เมื่อ Lann กับ Reynn สามารถเอาชนะ Leviathan จนสามารถได้อสูรรับใช้ตัวที่ 3 กลับมาอีกครั้ง พร้อมกับชัยชนะที่ Faris เอาชนะ Leviathan ในฐานะที่มาแก้แค้นแบบไม่ทันได้ตั้งตัว ท่ามกลางความดีใจของ Syldra และพวก Mog Faris ก็ยังคาใจจนต้องถามเต่ายักษ์ Adamantoise กลับไปว่า สัตว์ประหลาดในทะเลที่ว่าฆ่าปู่ของเขานั้นจะใช่ Leviathan จริงๆหรือเปล่า เพราะ Faris รู้สึกได้ว่า Leviathan ไม่ได้ดูเป็นอะไรที่ชั่วร้ายเอาซะเลย 



 เต่ายักษ์ Adamantoise ก็แค่ตอบออกไปให้ Faris สบายใจว่า อย่าพูดเหลวไหล เธอนั่นแหละตัวร้ายไม่งั้นจะเป็น Dyad’s Servant ได้ยังไง เต่ายักษ์ Adamantoise พูดเพื่อให้ Faris ดีใจที่ได้แก้แค้นสำเร็จ เพื่อให้เขาได้ปลดปล่อยตัวเอง ทั้งที่ เต่ายักษ์ Adamantoise ก็รู้ดีว่า Leviathan ไม่ได้เป็นคนทำ 



4.Intervention Quest  – A Clash of Swords [5 ดาว]
ต้องการ Arma Gems 2 อัน 
รางวัล – Hi Ether x 2 , Odin Prismarium และ Odin Memento



                                 ที่หุบเขามังกร Dragon Scar ......




[Lightning] – คงเป็นที่นี่ละมั้งที่เขาพูดกัน 
[Odin] – นักเดินทาง ทดสอบความแข็งแกร่ง ?
[Lightning] – อยู่นี่เอง The Butcher …แกทำร้ายผู้คนไปเยอะเลยรู้มั๊ย?
[Odin] – ไอ้พวกสวะนั่นมันเรียกข้าว่า Butcher งั้นหรอ ? .. ข้าก็แค่ประลอง แต่ไอ้พวกโง่นั่นมันแพ้แล้วก็ตาย แค่นั้นเอง ..
[Lightning] –  งั้นแกก็คงไม่แฟร์เท่าไหร่เพราะเหยื่อของแกแต่ละคนตายโดยไม่ทันได้ชักดาบเลยด้วยซ้ำ 
[Odin] – ใครก็ตามที่อยู่บนเส้นทางสายดาบต้องเร็วที่สุดในการดวลดาบ ใครเร็วคนนั้นชนะ ข้าไม่เคยโกง พวกมันควรยอมรับในความตายของมันเองเพื่อยืนยันว่าฝีมือของพวกมันอ่อนด้อยแค่ไหน ข้าต่างหากที่ควรจะเสียเกรียติที่ได้สู้กับพวกมัน แต่มันก็เป็นปัญหาที่เกิดมาเป็นศตวรรษแล้วละมั้งที่จะหาคนที่มีเพลงดาบทัดเทียมข้าได้ ช่างเป็นปัญหาจริงๆ 
[Lightning] – เจ้าบทเจ้ากลอนเหลือเกิน ถ้าแกอยากประลองนักละก็ ทำไมแกไม่ลองดูละปัญหาบ้าบออะไรของแกจะแฟร์พอที่จะเจอกับชั้นรึเปล่า ? 
[Odin] – ประทับใจในสปิริตของเจ้าจริงๆเลย งั้นก็มาเริ่มกันเถอะ !



[Odin] – หืมม อะไรกันเนี้ย ? 
[Lann] – โทษทีนะ ขอแตะมือสู้แทนหน่อยนะ
[Reynn] – แกควรหาอะไรทำที่มันดีกว่าเชือดผู้คนนะ 
[Odin] – ข้าจำเจ้า 2 คนได้ เคยสู้กันมาก่อนานแล้ว แต่ก็สะใจดี ตอนพวกเจ้าพยายามจะจับข้ามันทำให้เลือดข้าสูบฉีดตื่นเต้นดีเป็นบ้า ข้าถือว่าเจ้าเป็นศัตรูที่ควรค่าในการจดจำที่สุดเลยนะ แต่กลอุบายของพวกเจ้าคงทำอะไรข้าอีกไม่ได้แล้ว ข้าจะไม่ยอมถูกกักขังอีกแล้ว !!
[Reynn] – นั่นมัน ..! Lann !! หลบเร็ว !!!!
[Odin] –  Zan .. Tetsu ….Ken !!! 




[Odin] –  โอ้ เฉียดแค่ปลายผม ฮ่าๆๆๆๆ แต่ก็ดี ถือว่าเจ้าเป็นนักรบที่แข็งแกร่งคนนึงที่หลบคมดาบข้าได้ในรอบหลายปี ฮ่าๆๆๆ ไปหาดาบมาใหม่ก่อนนะแล้วค่อยมาสู้ใหม่ ฮ่าๆๆๆ 
[Lightning] – มันคงจะไม่ง่ายอย่างที่คิดไว้ซะแล้วแฮะ 


[Hauyn] – จะหาจุดอ่อนจาก โอดีน อ่ะนะ ? 
[Lightning] – ใช่ เห็นว่าเธอมีประสบการณ์เกี่ยวกับ Dyad’s Servant อะไรก็ได้ที่เธอพอจะรู้คงจะช่วยชั้นได้อย่างมากเลยละ 
[Hauyn] – มันก็มีนะ แต่มันเป็นข่าวลือที่เก่าแก่มากเลย อ๋อ รู้แล้วๆๆ !!



[Odin] – กลับมาอีกแล้วหรอ ? ใช้ดาบเดิมที่เจ้าเคยแพ้แบบนี้มันจะดีแน่หรอ ?
[Lightning] – ใช่ แต่ชั้นก็แค่เพิ่มเติมอะไรเข้าไปนิดหน่อยอ่ะนะ 
[Ramewl] – Ramewwwwwwl
[Odin] – ยัยเด็กคนนี้ ทำไมเหมือน Ramuh จัง 
[Lightning] – หลานของลามูน่ะ
[Ramewl] – หลานนนน 
[Odin] –หยามกันไปหน่อยรึเปล่า รุมกันแบบนี้มันคือมุขดีสุดของพวกเจ้าแล้วหรอ ?
[Lightning] – เออ ตามนั้นแหละ
[Ramewl] – Ramewwwwwwl 
[Odin] – อั๊ค !!
[Lightning] – เป็นไรอ่ะ แค่ใส่สายฟ้าไปที่ดาบเหมือนแกจะดูลุกลี้ลุกลนไปหน่อยนะ 
[Odin] – หุบปาก !! แกน่าจะพอใจกับความสงบสุขของแกตอนนี้ก่อนที่ข้าจะหั่นแกเป็นส่องท่อนนะ !!




                                             เข้าต่อสู้กับ Boss Odin

การต่อสู้กับ Odin นั้นแพ้ธาตุสายฟ้าถึง - 200 ถ้าใช้ Ramuh กับ Ramewl ที่มีเลเวลสูงร่วมในการต่อสู้จะทำให้จัดการมันง่ายขึ้น ก่อนที่มันจะใช้ท่าไม้ตายสุดท้าย Zantetsuken ที่ทำให้ตายทั้งกลุ่มแบบไร้เงื่อนไข


[Odin] – อืมม เยี่ยม !! นี่แหละที่จะเป็นสิ่งยืนยันว่าฝีมือเจ้าเหนือกว่าข้า ยินดียิ่งที่ได้เจอนักรบจอมระห่ำอย่างเจ้า ขอตกลงระหว่างเราข้ายังจำได้ ข้าเป็นของเจ้าแล้ว ...
[Lightning] – เฮ้อ จบซะที ต่อแต่นี้คงไม่มีนักเดินทางที่โชคดร้ายอีกและละนะ .. Ramewl ชั้นเป็นหนี้เธอครั้งนึงนะ อ่อ แล้วก็คงจะลืมไม่ได้ ชั้นก็เป็นหนี้ Lann กับ Reynn ด้วย ขอบคุณมากสำหรับทุกอย่างที่ช่วยนะ ... 


Intervention Quest  – Cold, Hard Justice [5 ดาว]
ต้องการ Arma Gems 2 อัน 
รางวัล – Bilzzara , Shivalry Memento 




ที่ The Windswept Mire กล่าวถึง Snow ที่ยังไม่เลิกตามล้างแค้น Big Jiggle ให้หมู่บ้านอยู่ไม่เลิก ตอนนี้เขากลับมาอีกรอบและพร้อมจะเข้าไปลุยตัดสินอีกครั้ง แต่จู่ๆก็ต้องมาเจอตัวประหลาดมาขวางหน้าแล้วอ้างว่าเขาคือฮีโร่ผู้ผดุงความยุติธรรมนามว่า Shivalry ก่อนที่พยายามจะเข้ามาจัดการกับ Shiva ของ Snow โดยเขาอ้างว่า Shiva ของ Snow คือ Mirage ที่โดน Cogna กัดกิน ก่อนจะแสดงความเมตตาที่จะจัดการ Shiva ให้อย่างรวดเร็วแบบไม่ต้องทรมาน 




                                                  จัดการ Boss Shivalry

หลังจบการต่อสู้ Shivalry ก็แพ้ไม่เป็นท่า ก่อนจะรู้จาก Snow ว่า Shiva ของเขาไม่ใช่ Mirages ที่โดน Cogna กัดกิน เมื่อ Shivalry ที่ทั้งเจ็บตัวและเสียหน้า เขาเลยอาสาที่จะจัดการศัตรูคู่อาฆาตของ Snow ให้เพื่อเป็นการชดเชย Snow เองก็ไม่รอช้า ยกพลครบทั้ง 3 เข้าคุยกับเจ้า Big Jiggle Golden Flan ทันที



                                                 จัดการ Boss - Golden Flan

หลังจากจัดการ Golden Flan ได้ สามพลังประสาน Snow , Shiva และ Shivalry ก็ช่วยกันใช้เวทย์น้ำแข็งขั้นสูงสุดแช่แข็ง Golden Flan จนทำให้มันหมดฤทธิ์ได้ในที่สุด  ก่อนที่ Lightning จะปรากฏตัวออกมาพร้อมคำด่าว่า ทำไมไม่จัดการให้เรียบร้อย แล้ว Lightning ก็จบสิ่งที่ Snow ไม่ได้ทำคือใช่ท่า Zantetsuken ที่ได้จาก Odin ฟัน Golden Flan แบบไม่เหลือซากในดาบเดียว แต่ Snow ก็ไม่สนใจอะไร เขารีบบอกลาพี่ Lightning อยากเร็วไวเพื่อจะรีบกลับไปหา Serah คนรัก(ที่เป็นน้องสาว Lightning) ที่หมู่บ้านหลังภารกิจล้างแค้น Golden Flan ที่บังอาจทำลายหมู่บ้านของที่รักได้จบลง



หลังจบภารกิจนี้จะได้ Shivalry Memento เป็นรางวัลซึ่งจะทำให้ MiShiva กลายร่างสุดท้ายเป็น Shivalry ได้ และถ้าเข้าไปที่ Coliseum จะเจอแมทช์ Justice Missered LV79 ก็จะได้สู้กับ Shivalry และจะสามารถจับมันได้ด้วย เงื่อนไขการทำให้เกิด Prismtunity หรือตัวส่องแสงพร้อมให้จับคือ โจมตีมันด้วยธาตุน้ำแข็ง 


หลังจากทำ Intervention Quest ที่โยงไปยังภารกิจหลักหมดแล้วทั้ง 4 อัน ตอนนี้ ถ้าเดินเรื่องตามบทสรุปที่ไล่เรียงมา Lann กับ Reynn ก็จะได้อสูรรับใช้ (Demon Dyad’s Servant ) ครบแล้วทั้ง Leviathan, Diabolos, Bahamut, Shiva, Ramuh, Ifrit และ Odin แม้จุดภารกิจรูปดาวจะยังขึ้นโชว์ที่ห้องดื่มชาของเด็กสาวที่จำชื่อตัวเองไม่ได้อยู่ แต่จากนี้ต้องไปคุยกับ Seraphie ที่กลางเมืองก่อน 


[Reynn] – เฮ้ เธอจะว่าอะไรมั๊ยถ้าจะถามอะไรแปลกๆหน่อยนึง คือถ้าพวกเราทำอย่างที่เธอบอกจนหมดแล้ว ตอนนี้เราจะควบคุมประตูมิติและจัดการการ Prismariums ของเราเองได้รึยัง ?
[Serafie] – เธอหมายความว่าไงตอนนี้ คุณก็รู้อยู่แล้วว่าต้องทำให้ครบตามแนะนำทั้ง 2 อย่างก่อน ชั้นไม่สามารถยกตู้ Prism case ไปได้ทุกที่หรอกนะ แต่เราก็สามารถหาทางเข้าในตำแหน่งที่เป็นส่วนตัวได้อยู่ 
[Reynn] – แล้วเธอสามารถพาเรากลับมาที่ Nine wood hill ตอนเราตายในการต่อสู้ได้หรือเปล่าละ ?
[Serafie] – ได้สิ ตามหลักแล้ว ชั้นได้ Return Crystal มาจาก Enna Kros แล้วยังไงก็ทำให้ได้ตลอดนั่นแหละ  แต่เดี๋ยวนะ นี่อ่ะนะถามแปลกๆของพวกเธอ ไม่เห็นแปลกเลย มีอะไรที่อยากจะถามแต่ไม่กล้าถามอยู่หรือเปล่าเนี้ย ?



[Reynn] – Serafie ขอโทษนะที่ต้องพูดถึงเรื่องนี้อีก คือชั้นอยากจะพูดเรื่อง Tama หน่อยจะได้มั๊ย ?  
[Serafie] – Tama หรอ ? นี่เธอหมายถึง Tamamohime อะเปล่าเนี้ย ? ถ้าใช่ มันก็นานมากแล้วนะ Tama กับชั้น ได้ไปหาวัตถุดิบบางอย่างหลังจากเรากำลังวุ่นวายกับพวกตัวอันตรายอยู่
[Reynn] – เธอหมายถึง Order of the Circle รึเปล่า ? เคยได้ยิน Tama พูดถึงอยู่ 
[Serafie] – อะไรนะ ! ถ้าบอกชื่อนี้ออกมาละก็ งั้น Tama ของพวกเธอคงเป็นคนเดียวกับที่ชั้นรู้จักแน่นอนแล้วละ ไหนลองเล่าให้ชั้นฟังสิมันเกิดอะไรขึ้น



 [Lann] – จริงหรอเนี้ย ?  ทำไมผมถึงจำไม่ได้เลยแฮะ 
[Serafie] – Tama ทำขนาดนั้นเลยหรอ ? เธอยอมสังเวยชีวิตตัวเองเลยหรอ แล้วมันจะจบหรอ ? มันเหมือนจะเข้าข่ายเป็น Guardians of time เลยนะ 
[Reynn] – Guardians of time หรอ?
[Serafie] – มันเป็นเรื่องเล่าของดินแดนมหัศจรรย์ที่มีคนๆนึงที่เคยเฝ้าดูทุกอย่างอยู่บนนาฬิกาขนาดใหญ่เพื่อคอยเปลี่ยนประวัติศาสตร์ของผู้คน มันดูประหลาดใช่มั๊ยละ ? ฟังเหมือน นางฟ้าใจร้ายเลยว่ามั๊ย  
[Reynn] – นาฬิกาที่สามารถแทรกแซงประวัติศาสตร์หรอ ?
[Lann] – ฟังเหมือนห้องดื่มชาของน้องความจำเสื่อมนั่นเลยนี่
[Reynn] – เออ จริงด้วย หรือนั้นจะทำให้เธอเป็น Guardians of time?
[Lann] – ใครทำหรอ ??


-จากนั้น เดินเข้าไปในห้องดื่มชาของเด็กสาวที่จำชื่อตัวเองไม่ได้ เพื่อพา Serafie ไปที่นั่น



 [Serafie] – ว้าวว ..!!  ดูข้างในนี้สิว่าเหมือนอะไร ?  เดี๋ยวนะ ! Guardians of time มีจริงๆหรอ ? นึกว่าเป็นแค่นิทานเหมือนนางฟ้าฟันน้ำนม 
[เด็กสาวที่ลืมชื่อของตัวเอง] – ห๊า เธอมาที่นี่เพื่อดื่มชาหรอ ? ชั้นไม่เตรียมการณ์รับแขกซะด้วยสิ 



[เด็กสาวที่ลืมชื่อของตัวเอง] – เรื่อง Tama หรอ ? ใช่ ชั้นเก็บชีวิตของเธอไว้ แต่ยังไงก็เถอะ ตายแล้วก็คือตายอ่ะนะ ชั้นไม่สามารถคืนชีวิตที่ใช้หมดไปแล้วได้หรอก โทษทีนะ 
[Reynn] – ถ้าแบบนั้น Tama ก็ ...
[Lann] – ไม่เอาน่า ! มันต้องเคล็ดลับอะไรบ้างสิ !
[เด็กสาวที่ลืมชื่อของตัวเอง] – เคล็ดลับคืออะไรหรอ ?
[Serafie] – เฮ้ๆ ชั้นมีไอเดียเจ๋งๆ ทำไมเราไม่ตามหา Kyubi ละ ? มันเป็น Mitages ชนิดเดียวกับ Tama นะ ..และ Tama สังเวยชีวิตของเธอไปหนึ่งแล้วใช่มั๊ย แต่ถ้าชั้นเข้าใจไม่ผิด เธอน่าจะมี 9 ชีวิตไม่ใช่หรอ ? ถ้าเราเอาชีวิตอื่นไปแลกละ ถ้าเราย้อนเวลาไปในช่วงเวลาก่อนที่เธอจะสังเวยชีวิตแล้วเอาชีวิตของ Kyubi ที่เป็น Mirages ชนิดเดียวกับเธอไปแทนละ ? 



[เด็กสาวที่ลืมชื่อของตัวเอง] – เธอย้อนเวลาไปไกลมากเธอจะใช้ไปหมดทั้ง 9 ชีวิตเลยรึเปล่าก็ไม่รู้ อืมม แต่ถ้าใช้ Mirages ที่เป็นสายพันธ์เดียวกันวิญญาณก็จะเหมือนกันและน่าจะอยู่ที่เดียวกันกับวิญญาณ Tama ด้วยแน่นอน 
[Reynn] – หมายถึงทำได้หรอ ??
[Lann] – สุดยอดเลย Serafie ! นี่แหละเคล็ดลับที่ว่าละ ฮ่าๆๆ 
[Serafie] – อะไรนะ อยากฟังซ้ำอ่ะ ...
[เด็กสาวที่ลืมชื่อของตัวเอง] – ฮ่าๆ ถ้าพวกคุณเอา Kyubi มาให้ชั้นได้ ก็จะลองหาทางช่วยดูนะคะ 



[Lann] – ตกลง Kyubi นี่เป็น Mirages หรอ ? ทำไมผมไม่เคยเห็นมาก่อนเลยละ แล้วเราจะหามันได้ที่ไหนเนี้ย ?
[Serafie] – เดี๋ยวลองใช้สกิลข่าวลือของชั้นดูนะ ถ้ากำจัดวงให้แคบแค่ Mirages ชนิดเดียวกับ Tama อย่าง Yuyugus หรือ หมาจิ้งจอกตัวอื่นๆที่คล้าย Tama น่าจะหาไม่ยาก ....โอ้ ดูเหมือนพวกเธอโชคดีแล้วละ จากเรดาห์ข่าวลือของชั้นบอกว่า เหมือนจะมีผู้หญิงคนนึงเคยถูก หมาจิ้งจอกดำยักษ์ตัวนึงฆ่าตายที่ทุ่งหิมะ Saronian Ice นะ  
[Reynn] – ถ้าแบบนี้ Sherlotta ที่โรงแรมในแดนหิมะคงจะรู้อะไรบ้างแน่ๆเลย เราไปถามเธอดูกันเถอะ !! 



ตอนนี้จุดภารกิจหลักรูปดาวก็ยังอยู่ที่ห้องดื่มชาของเด็กสาวที่จำชื่อตัวเองไม่ได้อยู่ ไม่ต้องสนใจ ออกเดินทางไปที่เขตหิมะ Ice Region ได้เลย แล้วแวะเข้าไปคุยกับ  Sherlotta ที่โรงแรมของเธอ






                                                Ice Region - Sherlotta’s Solace 





[Sherlotta] – อ้าวเจอกันอีกแล้ว มีอะไรหรอคะ ? …. ห๊า น่ากลัวจะตายจะไปหาทำไมเจ้าหมาป่าดำนั่นนะ
[Reynn] – หมายความว่าไงหรอคะ ?
[Refia] – ผู้หญิงคนที่ถูกมันฆ่าคือป้าชั้นเอง เป็นภรรยาของลุง Takka เจ้าเมือง Soronia นั่นแหละ ถามหน่อยพวกเธอจะมาหาหมาป่าดำนั่นทำไม ?



[Refia] – อืมม ต้องการชีวิตของมันหรอ ? งั้นก็ดีเลย ทำไมไม่ให้ชั้นช่วยละ ชั้นพาไปได้นะเพราะชั้นจำได้ดีเลยว่ามันอยู่ที่ไหน ?
[Sherlotta] – ถ้ามั่นใจแบบนั้นก็ระวังตัวด้วยละกันนะ
[Lann] – อ่อ แล้วคุณก็ไม่ต้องแปลงเป็นแมวแอบตามพวกเราไปอีกละ ?
[Sherlotta] – เออๆ รู้แล้วละน่า ...



                                                      Icicle Ridge


เมื่อคุยจบแล้ว จากนั้นเดินทางไปที่ Icicle Ridge ได้เลย จะเจอ Refia รออยู่ใกล้ๆประตูมิติ ....แล้วเธอจะชี้ทางลงไปที่ทางเข้าส่วนล่างของโซนที่ 1 ซึ่งเป็น Secret Area ของ Icicle Ridge ที่ตอนแรกที่เข้ามาหาทางไปไม่ได้ เข้าไปตามทางจนถึงด้านในสุดจะได้ยินเสียงการต่อสู้กันอยู่


[Bahamutian Soldier]- อ๊ากก !! ทำไมข้าต้องมาสู้กับไอ้ Mirage ตัวนี้ด้วยวะ ทำไมข้าถึงเกลียดมันมากขนาดนี้ !!
[Refia] – ถ้าคุณยังเป็นคุณลุง Takka อยู่ก็ไม่แปลกที่จะเกลียดชัง Mirages ตัวนี้ 
[Bahamutian Soldier]- Refia หรอ ? พวกแกอีกแล้ว ฮี่ ฮ่าๆๆ เหมือนเป็นโชคชะตาที่ทำให้เราเจอกันอีกแล้วนะ ฮ่าๆๆ 
[Reynn] – เราก็ไม่ได้อยากเจอแกเท่าไหร่หรอกนะ 
[Bahamutian Soldier]- บอกข้าสิ Refia ทำไมข้าถึงต้องเกลียดมันขนาดนี้ !!
[Reynn] – บอกมาก่อนสิว่าตอนนี้ชั้นกำลังคุยกับใครอยู่ ?
[Bahamutian Soldier]- ข้าหรอ ข้าคือ ทหารของกองทัพ Bahamut แต่ตอนนี้อยู่ในร่างของมนุษย์ที่ชื่อ Takka 
[Refia] – ร่างหรอ ? แกสิงลุงชั้นอยู่หรอ แล้วตอนนี้เขาอยู่ที่ไหน ?



[Bahamutian Soldier]- ตายมาซักพักแล้วละ !
[Reynn] – ไอ้ปีศาจเอ้ย แกมีเกรียติบ้างมั๊ยเนี้ย ??
[Bahamutian Soldier]- เปล่า ! มันเป็นกฎของโลกใหม่ ร่างมนุษย์นั่นอ่อนแอและเป็นจุดอ่อนต่างหาก ประตูมิติเปิดออกเพื่อทำลายพวกมันอยู่แล้ว เลิกนอกเรื่องกันซะทีแล้วตอบคำถามข้ามา ทำไมข้าต้องเกลียด Mirages ตัวนั้นมากขนาดนี้ 
[Lann] – ร่างที่แกอาศัยอยู่นะ ภรรยาเขาถูก Mirages ตัวนี้ฆ่าตายไงละ ถ้าแกรู้สึกเกลียดมันก็แสดงว่าความทรงจำที่อยู่ในวิญญาณของเขาคงยังอยู่ในร่างแกนั่นแหละ 
[Bahamutian Soldier]- บ้าที่สุด แสดงว่าข้ายังควบคุมร่างไม่ได้หมดหรอ มีอะไรผิดพลาดแน่นอน !! อ่า  ฮี่ ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆ เข้าใจแล้ว มันเป็นอีกโชคชะตานึงแน่นอนและการมาของพวกแกก็ทำให้ผลลัพท์มันต่างออกไป ดีจริงๆ งั้นมาลองดูกันสิว่าปลายทางของชะตากรรมนี้มันจะเป็นยังไงถ้าข้าฆ่ามันได้ ฮ่าๆๆๆๆๆๆ


เข้าไปด้านในต่อจนเจอ Boss Kyubi เข้าไปจัดการมันซะ (จับมันไม่ได้) เมื่อจัดการมันได้แล้ว Bahamutian Soldier จะออกมาฆ่า Kyubi ทันที



[Bahamutian Soldier]- ชีวิตเจ้าเป็นของข้าแล้ว แล้วไงต่อละ ? ความเครียดแค้นในใจมันลงบ้างรึงยัง ? ไม่ ข้ายังคงแค้นอยู่ ทำไม ? มันต้องมีอะไรผิดพลาดแน่นอน 
[Refia] – นั่นเพราะความรู้สึกของลุง เขาไม่เคยทำร้ายใครเลยแม้แต่แมงวันซักตัวแล้วลุงก็ไม่เคยที่จะแก้แค้นให้ป้าด้วย ไม่ว่าเราจะเกลียดใครซักคนมากแค่ไหน ยิ่งเราทำรุนแรงออกไป สุดท้ายเราก็จะอยู่อย่างว่างเปล่า ลุงพูดแบบนี้ให้ฟังเสมอ
[Bahamutian Soldier]- ว่างเปล่าหรอ ? นี่เป็นความรู้สึกของมนุษย์ที่มัน .... อ๊ากกกก !!

[Reynn] – ระวัง !! เจ้านี่มันก็มี 9 ชีวิตเหมือน Tama !!
[Lann] – แล้วจะรู้ได้ไงว่ามันเหลืออีกกี่ชีวิตฟ่ะเนี้ย ??
[Bahamutian Soldier]- ไม่แปลกใจหรอกที่มันไม่ตาย แต่มันคงไม่รู้หรอกว่าข้าสามารถข้ามันได้มากกว่าหนึ่งครั้งเหมือนกัน 
[Lann] – ว้าว เห็นนั่นไม่อ่ะ 
[Serafie] – Lann แสงสว่างนั่นคือดวงวิญญาณของเจ้า Kyubi ที่เหลือแน่นอน !!
[Lann] – โอเค จับได้ละ !!!! เยี่ยม !!



[Bahamutian Soldier]- ดูเหมือนร่างกายนี้กับจิตวิญญาณข้า คงจะมาได้แค่นี้แหละ ....
[Reynn] – ก็ต้องสองชีวิตเลยนะที่คุณกำจัดไป มันคงต้องหมดแรงแน่นอน ...
[Bahamutian Soldier]- แต่เหมือนจะยังทำไม่ได้เต็มที่เท่าไหร่ เสียดายที่ต้องจากไปก่อนโลกใหม่กำลังจะมาถึง ข้าอยากถามเจ้าอย่างนึงสิ เจ้ารับรู้เจตนารมณ์ของชายที่ยังไม่ลืมความรักของภรรยาคนนี้รึยัง
[Refia] – ชั้นรับรู้แล้ว .... 



[Reynn] – ตอนนี้ Refia ออกเดินทางไปรึยังคะ ?
[Sherlotta] – ไปแล้ว คงได้เวลาที่เหมาะสมแล้วที่เธอต้องไปจัดงานศพให้ลุงเธอที่ Saronia ไม่ต้องห่วงหรอก Refia เธอเป็นสาวแกร่ง เธอไหวอยู่แล้ว แต่จะให้ดี บางทีชั้นอาจจะไปที่นั่นด้วยก็ดีนะ 
[Serafie] – เอาละ ตอนนี้ใครอยากกลับไปที่ Nine wood Hill บ้างละจะได้เอาวิญญาณของเจ้า Kyubi ไปให้ยัยเด็กนั่นกันซะที
[Reynn] – เป็นความคิดที่ดีเลยละ 



เมื่อได้ Kyubi’s Soul มาแล้วก็กลับไปที่ Nine Wood hill เข้าห้องดื่มชาของเด็กสาวที่จำชื่อตัวเองไม่ได้ได้เลย


[เด็กสาวที่จำชื่อตัวเองไม่ได้] – ไหนละ Kyubi ? พวกคุณเอามาแค่วิญญญาณล้วนๆเลยหรอ  อืมมม .. อาจจะดูนอกรีตหน่อย แต่ก็น่าจะพอทำได้นะ วิญญญาณที่ได้มา 2 ดวง เราจะใช้แค่ดวงเดียวในการเกิดใหม่เป็น Tama อีกตัวขึ้นมา แล้วค่อยโยงความทรงจำจากชีวิตที่แล้วอีกที 
[Lann] – ไม่ว่ามันจะหมายความว่าอะไรถ้าทำได้ก็ลุยเลยครับ !!
[เด็กสาวที่จำชื่อตัวเองไม่ได้] – ได้คะ แม้จะมีโอกาสแค่น้อยนิดแต่ชั้นก็จะทำอย่างเต็มที่นะ พวกคุณจะอยู่ดูด้วยก็ได้นะ 
[Reynn] – เราดูได้ด้วยหรอ ?
[เด็กสาวที่จำชื่อตัวเองไม่ได้] – ไม่รู้จะอธิบายยังไง แต่มันอาจจะดูนอกศาสนาหน่อยนะ แต่ถ้าเสร็จพิธีแล้ว พอเวลาเปลี่ยนพวกคุณก็จะลืมไปเองแหละคะ 




[Lann] – ฮัลโหล !! Reynn มีใครอยู่มั๊ยเอ่ยยย 
[Tama] – บางที่เธออาจจะเหนื่อยกับพฤติกรรมประหลาดๆของนายก็ได้นะ น้อยๆลงหน่อยก็ดี 
[Reynn] – Tama !!!



[Tama] – ห๊ะ !!! Reynn เป็นอะไร เกิดอะไนขึ้น !!
[Reynn] – เอ่อ คือ ชั้นก็แค่ดีใจที่เจอเธอไง แปลกด้วยหรอ ?

[Serafie] – Zzz.. อย่าปล่อยให้ชั้นเป็นคนไร้ค่าแบบนั้นเซ่ Tama ได้โปรดดด Zzz …
[เด็กสาวที่จำชื่อตัวเองไม่ได้] – เธอเป็นเพื่อนที่ดีนะ 



[Serafie] – ถึงเวลาแล้วววว !!!!!
[Lann] – ห๊ะ !! ตกใจ ! ถึงเวลาอะไร ??
[Serafie] – ห๊า เออ โทษที แค่คิดว่าน่าจะควรพูดแบบนี้นี่นา ก็ภารกิจเตรียมพร้อมของพวกเธอเสร็จสิ้นแล้ว ถึงเวลาลุยครั้งสุดท้ายแล้วไม่ใช่หรอ ?
 [Reynn] – เธอพูดถูกแล้ว ไปเถอะ ไปหา Wyn และพวก Summoners กัน ชั้นคิดว่าเราพร้อมแล้วละ 
[Lann] – ชั้นนี่โคตร ตื่นเต้นเล๊ย !!!!
[Serafie] – งั้นถามอีกครั้ง พวกเธอจะลุยภารกิจสุดท้ายกันรึยัง


 จุดนี้เป็นภารกิจสุดท้ายแล้ว หากคุณเลือกตกลงจะเข้าไปต่อสู้ครั้งสุดท้ายยาวไปจนจบเกมเลย 

หลังจบเหตุการณ์ทั้ง ยังไม่ต้องตอบ Yes เพื่อเข้าต่อสู้ครั้งสุดท้าย ตอบ No ไปก่อนเพื่อกลับไปที่ Tea Room ของ The Girl Who Forgot Her Name จะเจอ Intervention Quest - A Smidge of Micro-Envy อันสุดท้าย




Intervention Quest  – A Smidge of Micro-Envy [5 ดาว]
ต้องการ Arma Gems 2 อัน 
รางวัล – Diva Serafie memento , Siren memento และ Wind Spellstone 




A Smidge of Micro-Envy คือ Intervention Quest อันสุดท้ายที่เป็นภารกิจของ Serafie ที่เห็น Tama มีร่างสุดท้ายแล้วเธอจึงกลัวน้อยหน้าเลยอยากมีบ้างจนต้องบากหน้าไปขอคำแนะนำ Wyn จนได้ต่อสู้กับ Diva Serafie เมื่อชนะแล้วหลังจบภารกิจจะได้ Diva Serafie memento และ Siren memento มา



Diva Serafie memento จะทำให้ Serafie กลายร่างเป็นร่างสุดท้ายคือ Diva Serafie ได้ และ Siren memento ก็จะทำให้ Sylph กลายร่างเป็นร่างสุดท้ายคือ Siren ได้



                         เงื่อนไขการปลดลอก ฉากจบแบบสมบูรณ์ [Good ending ]


และการจะได้ ฉากจบแบบสมบูรณ์หรือ Good ending นั้นก่อนเข้าต่อสู้ครั้งสุดท้ายต้องทำตามเงื่อนไขดังนี้คือ  

1. จบเกมพบ Bad Ending มาแล้ว 1 รอบ
2. ทำเควสย่อย Intervention Quests ของ The Girl Who Forgot Her Name ใน Tea Room ให้หมดทุกอัน
3. ได้ Demon Dyad ครบทั้ง 4 Levithan (จากเควส Ancestral Acrimony), Diabolos (จากเควส When the Past Still Haunts), Odin (จากเควส A Clash of Swords) and Bahamut (จากเควส The Demon Dyad Revealed).


4. จบภารกิจย่อย Miniventure: Vestiges of Life หลังจากได้ Demon Dyad ครบทั้ง 4 แล้ว ไปคุยกับ Serafie เพื่อจบเควสแล้วกดเข้าเมนู aventure Log - Miniventure จะเห็นดาวที่ Vestiges of Life กดรับรางวัลคือ Tamamohime memento (สำหรับให้ Tama กลายเป็นร่างสุดท้าย) และ Kyubi memento (สำหรับให้ Yurugu กลายเป็นร่างสุดท้าย)



5. คุยกับ Serafie ที่ Nine wood Hill ตอบตกลงเพื่อเข้าต่อสู้ครั้งสุดท้ายได้เลย ....




                                                    The Point of No Retrun !!!  

เมื่อทำทุกอย่างจนหมดแล้วค่อยเข้าไปคุยกับ Serafie ตอบ YES เพื่อเข้าต่อสู้ในภารกิจสุดท้ายได้เลย ...
ตรงนี้เป็นภารกิจสุดท้ายแล้ว หากคุณเลือกตกลงจะเข้าไปต่อสู้ครั้งสุดท้ายยาวไปจนจบเกมเลย อยากทำอะไรควรไปทำเสียก่อนนะครับ 




[Lann] – โอเค ได้เวลาลุยแล้ว Reynn !!
[Serafie] – ไปกันเถอะ ทุกคน !



[Brandelis] – Ultimate Gate หรอ ? พวกมันต้องการจะทำอะไรกันวะ 



[Cloud] – เฮ้ยย !!
[Brandelis] – อืมมม ... Champion มากันแล้วหรอ ? ทำไมถึงไม่ขึ้นไปที่ปราสาท มาทำอะไรกันที่นี่ !!?



[Brandelis] – พวกเจ้ารีบไปที่ Ultimate Gate เดี๋ยวนี้ เจ้าพวก Champion ของเรากำลังมีแผนเล่นตลกกับเราอยู่!!
[Knight in the Golden Mask] – ฮี่ ฮ่าๆๆๆ มีแผนเล่นตลกอะไรกันหรา อยากเห็นซะแล้วสิ ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆ ไปกันเถอะ !!



[Shelke] – พวกเราต้องตามไปหยุดมันมั๊ย ?
[Quistis] – ไม่ใช่ภารกิจของเรา เรามาที่นี่เพื่อปลดปล่อยวิญญาณของพวกผู้ศัรทธาที่ถูกจองจำ ที่ Ultimate Gate ปล่อยเป็นหน้าที่คู่แฝดเขาเถอะ 




[Lann] – แบบนี้มันยังไม่เรียกว่าเร็วทันใจผมเลยนะเนี้ย !
[Reynn] – พวกเขาต้องใช้พลังเพื่อทำให้ประตูมิติมันย้อนกลับ เพื่อดูดพวก Cogna มากมายในครั้งเดียว ให้เวลาพวกเค้าหน่อยนะ


[Knight in the Golden Mask] – พวกแกกำลังจะทำอะไรกันวะเนี้ย ? หืมม เป็นไปไม่ได้ !!
[Lann] – พ่อ ! อย่า ..อย่า !!!!!
[Knight in the Golden Mask] – หืมม แกได้ความทรงจำครั้งสุดท้ายกลับมาแล้วหรอเนี้ย !!? แต่ก็สายไปสำหรับแกแล้วละ !!



[Lann] – พ่อ ...ผมเสียใจ ผมควรจะฟังพ่อตั้งแต่แรกตอนที่ยังมีโอกาส จะได้ไม่ต้องทำเรื่องงี่เง่าแบบนั้นลงไป ... ใช่ผมไม่เคยฟัง และก็จะไม่ฟัง แม้แต่ตอนนี้ เพราะงั้นเลิกขึ้นเสียงได้แล้ว !!!




[Reynn] – หนูขอโทษด้วยคะแม่ !! แม่รู้มั๊ยคะที่ผ่านมาสิ่งที่หนูอยากเป็นที่สุดคือ เป็นเหมือนแม่ มาตลอด แม่เคยช่วยโลกจากพวก Mirages ทำให้มีคนรักและชื่นชมมากมาย และหนูเองก็เห็นแม่สู้อย่างหนักมาตลอด หนูกับ Lann พยายามที่จะเก่งขึ้นตลอดก็เพราะอยากช่วยเหลือแม่ ใช่ เราดึง Mirages มาจากแม่มากมาย เราไม่เคยรู้เลยว่ามันทำให้แม่เจ็บปวด ทำให้แม่อ่อนแอลง โลกถึงได้ย่อยยับแบบนี้



 [Reynn] – แต่หนูเชื่อว่าถ้าแข็งแกร่งขึ้น แข็งแกร่งเหมือนแม่ หนจะได้ทำให้แม่ไม่ต้องลำบาก หนูอยากเห็นแม่มีความสุขคะแม่ หนูรู้แค่นั้น อะไรๆมันไม่เคยเปลี่ยนหรอก เพราะหนูไม่เคยเรียนรู้เลย เพราะสุดท้ายตอนนี้หนูก็ยังทำให้แม่เจ็บปวดอีกครั้ง !!!!!!! 


                        Lann ต้องเข้าต่อสู้กับ Boss Segwarides ที่คือร่างของพ่อ 





                      Reynn ต้องเข้าต่อสู้กับ Boss Plumed Knight ที่คือร่างของแม่ 



[Lann] – พ่อ !!! ….. 




[Lann] – ห๊ะ ! …พ่อหรอ ? ผมขอโทษ ..ผมเปลี่ยนอะไรไม่ได้เลย ความผิดของผมเองที่ทำให้พ่อต้องตาย เพราะผมเอง !
[Rorrik] – พ่อตายมาหลายพันปีแล้ว พ่อต่างหากที่ต้องขอโทษ ที่ต้องทำกับลูกแบบนี้ เพราะพ่ออยากให้ลูกปลอดภัยจากเรื่องพวกนี้ แต่กลายเป็นพ่อต้องทิ้งให้ลูกโดดเดี่ยว มันเป็นเรื่องที่ทำให้พ่อเจ็บปวดใจมาตลอด แต่ตอนนี้ ลูกเห็นพ่อเป็นทุกข์มั๊ยละ? ไม่ได้รู้สึกแย่เลยซักนิด
[Lann] – แต่ผมรู้สึกแย่มากพ่อ !!!



[Rorrik] – Lann ลูกพ่อ ... ฮ่าๆ 
[Lann] – ขำอะไรอีกละ ?
[Rorrik] – พ่อภูมิใจมากๆ ลูกโตขึ้นมาก ดูลูกสิ เมื่อผู้คนต้องทนทุกข์ ลูกก็เจ็บด้วย ลูกสู้เพื่อพวกเขา ลูกกลายเป็นคนที่แคร์คนอื่นมากกว่าตัวเอง ทำต่อไปนะลูก ลูกมากไกลมาแล้ว
[Lann] – พ่อ !!!!!




[Reynn] – แม่คะ !!! 





[Lusse] – ไม่ !! อย่าเข้ามา !! ถอยออกมาไป มันยังไม่ .....อ๊ากกกกก !!!
[Lann] –  Reynn !! … แม่ ?  ห๊ะ !! 






Lann และ Reynn จะได้ต่อสู้กับ Boss Pelinore ซึ่งเป็นร่างปีศาจที่ครอบครองร่างของ Lusse อยู่ ..





[Lann] – อะ แฮก ...ยังไม่ล้มอีกหรอ ? …..พอกันที่ อ๊ากกกกก !!!!


   

   


[Reynn] – Lann !! ควบคุมพลังของตัวเองด้วย !!!





[Reynn] – แม่ ..... แม่คะ หนูขอโทษ ..






[Lusse] – หนูควรทิ้งมันแล้วหันหลังกลับไปหรือจะเอาความสุขที่หนูควรจะมีมาทิ้งจนหมดละจ๊ะ ...เอาน่า ยิ้มหน่อยนะ ...



[Reynn] – ฮืออออออ.....
[Lann] – อืมมม ....เราจะยิ้มครับแม่


[Lann] – ห๊ะ !!! 
[Brandelis] – หืมมม เจ้า 2 ตัวนั่นหายไปแล้ว แปลกใจมากที่พวกเจ้าสามารถจัดการมันลงได้ 






[Lightning] – โทษทีพวกเราควรจจะจัดการมันได้ไปแล้ว แต่ ..






[Reynn] – ไม่ต้องห่วงเราทำได้แน่ !!
[Lann] – ช่ายย !!!
[Cloud] – ระวังด้วยนะ มันกลายร่างได้ด้วย 






พบกับ Boss Exnine Bahamut ร่างแรกของ Brandelis นั้นไม่มีอะไรมากทั้งพลังโจมตีและพลังป้องกันอ่อนมาก ถ้าเก็บเลเวลมาดีๆสามารถจัดการมันได้ง่ายมาก




[Lann] – เย้ !!! ยอดเลย ฮ่าๆๆๆ
[Reynn] – เราชนะแล้วจริงๆหรอ ?
[Squall] – ไม่ ยังไม่ชนะ !!




[Brandelis] – ไอ้พวกโง่ !! ข้าล่าอาณานิคมโลกต่างๆมานานแสนนานแล้ว แต่พวกเจ้าก็ทำให้ข้ารู้สึกว่ามันคืบหน้าจริงๆ ซึ่งก็แปลว่า ตอนนี้ข้านำกฎของข้ามาใช้กับโลกของพวกเจ้าได้แล้ว และข้าก็พยายามอย่างหนักเพื่อให้ค้นพบกฎของข้าเอง ด้วยสิ่งนี้ จงดูให้ดี !!



จงดู !! ข้ามีชีวิตที่มากมายเหนือคณานับ พลังอำนาจก็มากมายจนเกินลิมิต นั่นทำให้ไม่มีใครหน้าไหนที่มันจะมาเผชิญหน้ากับข้า !! ไม่ไหวแม้กับพวก Champion ของโลกนี้ซึ่งก็ไม่มีวันทำอะไรข้าได้เช่นกัน  เอาละ เจ้าเลือกเองนะ จะก้มหัวศิโรราบให้กฎของข้า หรือ จะให้กฎของข้าทำลายพวกเจ้าให้ไม่เหลือชิ้นดี เลือกเอา !! 



Boss – Exnine Bahamut พลังป้องกันและพลังโจมตีมันไม่ได้มากมายอะไร สามารถใช้เวทย์ Holy อัดเน้นๆได้ Damge มากๆได้สบายๆ แต่การโจมตีอย่างเป็นระบบของมันสร้างความวุ่นวายไม่น้อยเลย เริ่มจากความเร็วที่มากมายของมันที่แย่งเทิร์นมาโจมตีก่อนได้ตลอด นอกจาก การโจมตีปกติก็ทำให้เกิดตาบอดแล้ว มันจะมีพวกเวทย์โจมตีหมู่อย่าง Dark Revels ที่ทำให้สับสน หลงลืม และ ติดพิษไปพร้อมๆกันทั้ง 2 คน ถ้าโชคร้ายจะทำให้ตีกันตายเองง่ายมาก ทำให้โอกาสที่จะใช้โจมตีมันหมดไปกับการรักษาตัวเองซะส่วนใหญ่ ก่อนที่จบด้วยการนับถอยหลัง   5-0 เพื่อใช้ท่าไม้ตาย Megaflare Cannon ยิงถล่มอย่างรุนแรง ซึ่งถ้ามีเลเวลที่สูงพอและเตรียมการป้องกันดีก่อนมันจะยิงก็ลดแค่ 1000 – 2000 เท่านั้น แย่หน่อยก็ทำให้การต่อตัวล้ม 





[Brandelis] – พวกเด็กระยำเอ๊ย !!!  พลังของพวกแกนี่มัน ....!!! อ๊ากก!!





[Lann] – ห๊ะ ! มะ ไม่จริง !! ..ยังไม่เสร็จอีกหรอพี่ !!
[Hauyn] – เกือบแล้ว ! แต่ต้องใช้เวลาอีกหน่อยนะ !!
[Brandelis] – จริงดิ ทำได้แค่นี้จริงๆหรอ ?




[Lann] – เฮ้ยย .. อ๊ากกกกกกก !!!






[Lann] – อ๊ากกกกกก !!! ...ห๊ะ Reynn ??





[Reynn] – โฟกัสจุดศูยน์กลางไปที่การสร้างกรงบาเรียให้อยู่ในขอบเขตเฉพาะตัวมันนะ !!




[Brandelis] – อั๊ค ..ไอ้พวกโง่ !!!!!!
[Lann] – อ๊ากกๆๆ เร็วๆเซ่ โธ่โว้ย !!!!!
[Hauyn] – เราทำไม่สำเร็จแน่ๆเลย .. Lady Lusse ช่วยพวกเราด้วย !!




[Rorrik] – สร้างบาเรียซ้อนบาเรียอีกชั้นนึงสิ !! นึกภาพแบบสานรังนกด้วยกรงหลายๆชั้นมารวมๆกันนะ !!




[Lusse] – Reynn หนูต้องเข้มแข็งนะ อย่าให้ Lann ใช้พลังทั้งหมดคนเดียว พยายามควบคุมให้เป็นกลางไว้ !! 




… พวกเธอทั้งคู่จะไม่เป็นไรหรอกนะถ้าทั้งสองคนผสานร่วมแรงกันไม่มีทางจะไม่สำเร็จแน่นอนจ๊ะ ....





[Lann] – Reynn !! พร้อมแล้วนะ !!
[Reynn] – แน่นอน เอาเลย !!









[Brandelis] – พลังแบบนี้นี่มัน ............!!





และด้วยพลังของเหล่า Summoner ทั้งหมดที่ร่วมแรงร่วมพลังกันจนสามารถควบคุมประตูมิติ Ultimate Gate ให้ย้อนกลับดูดพวก Cogna และพวกที่มาจากมิติอื่นทั้งหมดกลับเข้าไปยังที่ที่พวกมันมาจนหมด 






แต่ในขณะที่เหล่า Champion และ Summoner กำลังรีบหนีจากแรงดูดจากประตูมิติด้วยการช่วยเหลือของสัตว์อสูรแต่ละคน กรงคริสตัลของ Brandelis ที่กำลังถูกดึงเข้าไปในประตูมิติก็เกิดการกระแทกจนแตกออก ทำให้ Brandelis หลุดออกมาอีกครั้ง ก่อนที่มันจะคว้าตัว Hauyn ที่ยืนอยู่ตรงหน้ามาเป็นตัวประกันทันที  .............





แต่โชคดีที่ Reynn ได้ควบ Tamamohim ทะยานฟ้ามาก่อนโดดเตะอัดหน้า Brandelis จนทำให้ Hauyn กระเด็นหลุดมือ Tamamohim รีบไปช่วยเธอมาให้พ้นแรงดูดของประตูมิติ 



ส่วน Lann ที่รอจังหวะอยู่ก็ชาร์จพลังวิ่งเข้ามาเสยอัปเปอร์คัทอัด Brandelis จนกระเด็นไปเกาะติดอยู่ตรงขอบประตูมิติ ...



[Brandelis] – ข้าจะฆ่าแก !!!!!!!!!!!!
[Lann] – แต่ทำไม่ได้ ฮ่าๆๆๆๆ





[Hauyn] – ห๊ะ !! Lann .. Reynn !! 
[Lann] – เอ้า รับไว้ !!  ใช้มันทำให้ Grymoire ปลอดภัยนะ !!
[Reynn] – เธอไปหา Prismarims ทั้งหมดกับ Serafie นะ 



[Hauyn] – ทำไมพวกเธอพูดแบบนี้ละ ??
[Reynn] – เราสองคนทำความเสียหายให้โลกนี้มามากพอแล้ว ถึงเวลาที่ต้องไปแล้วละ 
[Hauyn] – พวกเธอไปไม่ได้นะ ชั้นไม่ ...
[Lann] – ทุกอย่างจะเป็นไปด้วยดีแน่นอนน่า Wyn เราก็ช่วยทำลายประตูมิติบ้านี้ไปจนหมดแล้วนี่ มันจะปล่อยพวกชั่วนั่นออกมาทำลายโลกของเธออีกไม่ได้แล้วละนะ 
[Hauyn] – แล้วพวกเธอละ ??
[Reynn] – เมื่อเจอทางมุมก็ต้องหันหลังกลับ !
[Lann] – เธอคงไม่ต้องการให้ความสุขที่มีกระเด็นหกจนหมดอ่ะนะ 





[Reynn] – อย่าลืมยิ้มด้วยน้า ฮ่าๆๆๆๆๆ




[Reynn] – Tama ! ดูแล Wyn และ Grymoire แทนเราตอนเราไม่อยู่ด้วยนะ และขอบคุณสำหรับทุกอย่างนะ 
[Lann] – ไปกันได้แล้ว ไอ้ตัวร้าย !!
[Reynn] – อ่อ Wyn แล้วก็ทุกคน ! ขอโทษที่เรานำความเสียใจต่างๆนานามาให้นะ ลาก่อนนะ !!






[Lann] – ลาก่อน !! ดูแลตัวเองนะ !! แล้วค่อยเจอกันนนน !!





[Terra] – พวกเขานำมาทั้งเรื่องดีและไม่ดีเลยนะ แต่สุดท้ายพวกเขาก็จัดการทำเรื่องร้ายให้จบลงด้วยดีได้ด้วย
 [Terra] – ชั้นว่า พวกเขาสองคนเหมือนกับพลังของธรรมชาติเลย 
[Tidus] – บางทีผมอาจจจะเอาความทรงจำดีๆนี้เก็บไว้เหมือนเอาใบไม้ใส่ไว้ในหนังสือจากนั้นก็บ้ามันให้เต็มที่ไปเลยดีกว่า ฮ่าๆ 
[Eiko]- นี่ได้โปรดเหอะนะ สำหรับเรานายก็บ้ามาตลอดอยู่แล้วนี่ แต่ก็หวังว่า Lann กับ Reynn คงจะปลอดภัยดีนะ 
[Yuna]- ถ้าทั้งคู่ยังอยู่ด้วยกันพวกเราก็คงไม่ต้องห่วงอะไรหรอกนะ 
[Squall] – หึ โอเค ตาเราแล้ว Grymoire ยังต้องการซ่อมแซมอีกหลายอย่าง  
[Cloud] –ไปกันเถอะ ..พวกเรายังมีงานต้องต่ออีกเยอะเลยละ 



[Enna Kros] – ขอบคุณพวกเธอทั้งคู่มากๆ ทำได้ดีมาก พวกเธอพักผ่อนได้แล้วนะ



[Enna Kros] – โอ้ เกือบลืมเลย คงต้องมีการให้รางวัลพวกเธอทั้งคู่กันหน่อยละนะ .....

[Lann] – พี่เกลียดมั๊ยเวลาที่ต้องเอ่ยคำลากับทุกๆคนแล้วจากนั้นก็จากไปไกลแบบที่เหมือนกับตายจากกันเนี้ย .. 
[Reynn] – อ่า ก็ปล่อยให้มันเป็นไปอย่างนั้นนั่นแหละ อย่าลืมสิว่า สำหรับที่ Grymoire พวกเราจะไม่มีวันแก่แน่นอน ...




  หลังจบ Enna Kros พระเจ้าแห่ง Grymoire จะให้รางวัลมา 2 อย่างคือ
-ทำให้เอา Lann และ Reynn ออกจากปาร์ตี้ได้ ทำให้สามารถใช้ Mirages ล้วนได้ทั้งหมดในปาร์ตี้ได้
-เพิ่ม EX Dungeons ใน Tea Room ซึ่งจะเป็นพื้นที่เก่าๆที่เคยผ่านมาแล้วแบบแรนด้อม ศัตรูเก่งขึ้น โหดขึ้น ให้ค่า Exp มากขึ้น และมี Rare Mirages ร่างมารของ Ifrit, Shiva และ Ramuh ให้เก็บด้วย 



--------------------------------------    ENDING  -------------------------------------------


                                                              28 / 12 / 2016


                             

                                       สถานที่เก็บ Memento ทั้งหมด



การเติมโตของ Mirages แต่ละตัวนั้นบางตัวก็สามารถเติบโตด้วยค่า AP ที่สะสมจากการต่อสู้แต่บางตัวก็ต้องการคีย์ไอเทมเป็นเงื่อนไขในการเติบโต ซึ่ง Memento เปรียบเสมือนของที่ระลึกตามความหมายของมันเป็นสิ่งแทนตัว Mirages แต่ละตัวเป็นสิ่งจำเป็นสิ่งนึงสำหรับการทำให้ Mirages แต่ละชนิดเติบโตเป็นร่างสมบูรณ์ได้ โดย Memento ของ Mirages ต่างๆนั้นจะได้มาตามเงื่อนไขที่ต่างกันคือ 

1.Ifrit – ได้ใน Coliseum รางวัลจากแมทช์ Hot Temper, Warm Heart

2.Shiva - ได้ใน Coliseum รางวัลจากแมทช์ The Ice Sculpture Collector

3.Ramuh - ได้ใน Coliseum รางวัลจากแมทช์ The Responsible One

4.Adamantoise – กำจัด adamantoise ที่ Low Seas

5.Hyperion – ได้จาก Intervention Quest—The Black Chocobo

6.Undead Princess – ได้จาก Intervention Quest—Never Cross the Boss

7.Maduin – ได้จาก Intervention Quest—The Five Cogna Lords: Figaro (ต้องเล่น Mini-game ให้ชนะภายใน 20 turns โดยไม่ตายเลย)

8.Omega -ได้จาก Intervention Quest—The Five Cogna Lords: Cornelia, Part II

9.War Machine -ได้จาก Intervention Quest—The Five Cogna Lords: Tometown, Part II

10.Einhไnder ได้จาก Intervention Quest—The Five Cogna Lords: Port Besaid

11.Cenchos – ได้จาก Intervention Quest—The Sunken Temple’s Secret

12.Omega Bane -ได้จาก Intervention Quest—The Eye of the Desert

13.Golem Head -ได้จาก Intervention Quest—No One’s Tools

14.Mimic Queen -ได้จาก Intervention Quest—I Hate Lightning!

15.Mecha Chocobo -ได้จาก Intervention Quest—Chocolatte’s Master

16.Princess Goblin -ได้จาก Intervention Quest—Where Art Thou, Smoochy-Poo? 

17. Metalliskull - ได้จาก Intervention Quest—A Grudge That Won’t Budge

18.Elefenrir -ได้จาก  Intervention Quest—Chosen by the Tribe

19. Ultros -ได้จาก Intervention Quest—Freak of Nature

20. Entom Soldier -ได้จาก Intervention Quest—The Five Cogna Lords: Figaro

21.Valefor -ได้จาก Given by Yuna and Valefor in Forest Lake

22.Nirvalefor -ได้จาก Intervention Quest—The Sad Spiral

23.Tamamohim้ -ได้จาก Miniventure—Vestiges of Life

24.Siren -ได้จาก Intervention Quest—A Smidge of Micro-Envy

25.Diva Serafie - ได้จาก Intervention Quest—A Smidge of Micro-Envy

26.Diabolos - ได้จาก Intervention Quest—When the Past Still Haunts

27.Leviathan -ได้จาก Intervention Quest—Ancestral Acrimony

28.Odin -ได้จาก Intervention Quest—A Clash of Swords

29.Shivalry -ได้จาก Intervention Quest—Cold, Hard Justice

30.Ifreeta -ได้จาก Intervention Quest—Fire Drill

31.Mist Dragon -กำจัด mist dragons ใน Secret Area ที่ Underground Prison

32. Bismarck -ได้จาก Intervention Quest— Finger-Whistle Crisis

33. Cerberus – กำจัด Cerberus ที่ Dragon Scars

34.Kupicaroon – กำจัด kupicaroons ที่ Saronia Docks

35.Iron Giant – กำจัด iron giant ใน Secret Area ที่ Big Bridge

36.Elasmos – กำจัด elasmos ที่ Castle Exnine

37.Flan Princess – กำจัด flan princess และ  malboro menace ที่บึง Windswept Mire

38. Malboro Menace - กำจัด flan princess และ malboro menaceที่บึง Windswept Mire

39.Sphinx – กำจัด sphinx ที่ the Phantom Sands

40.Phoenix - กำจัด phoenix ที่ Valley Seven

41.Holy Dragon - กำจัด holy dragons ที่ Icicle Ridge

42.Titan - กำจัด titan ที่ Crystal Tower

43.Fenrir - กำจัด Grandfenrir ที่ Icicle Ridge

44.King Bomb – กำจัด king bomb ที่ Valley Seven

45.Vampire Prime - กำจัด vampire prime ที่ Train Graveyard

46.Asterius - กำจัด asterius และ tiamat ที่ Crystal Tower

47 Buer – กำจัด kraken และ buer ที่ Crystal Tower

48.Kraken - กำจัด kraken และ buer ที่ Crystal Tower

49. Tiamat - กำจัด asterius และ tiamat ที่ Crystal Tower

50. Tonberry King - กำจัด the Tonberry King ใน Secret Area ที่ Sunken Temple

51.Quacho Queen - กำจัด the Quacho Queen ที่ Sunken Temple ในเควสย่อย Intervention Quest  – The Sunken Temple 

52.Carbuncle – กำจัด carbuncle ตัวสุดท้ายใน Castle Exnine

53. Ramewl – ได้จาก Intervention Quest—The Five Cogna Lords: Cornelia, Part I

54. Kyubi – ได้จาก Miniventure—Vestiges of Life

55. Elite Entom – ได้จาก Intervention Quest—Steel That Forges Destinies

56.Iron Muscles – ได้จาก Intervention Quest—For Friends or Vengeance

57.Weeglee – กำจัด gleefrit stack ที่ EX Dungeon C

58. Gleed - กำจัด  gleefrit stack ที่ EX Dungeon C

59. Gleefrit – กำจัด gleefrit stack ที่ EX Dungeon C

60. Brrblizz – กำจัด shivver stack ที่ EX Dungeon A

61. Shivverina – กำจัด shivver stack ที่ EX Dungeon A

62. Shivver – กำจัด shivver stack ที่ EX Dungeon A

63. Joult – กำจัด rairamuh stack ที่ EX Dungeon B

64. Voultr – กำจัด rairamuh stack ที่ EX Dungeon B

65. Rairamuh – กำจัด rairamuh stack ที่ EX Dungeon B

66. Nightmare – กำจัด nightmare ในผลึก murkrift ที่ Train Graveyard

67.Magic Jar – กำจัด magic jar ใน Secret Area ที่ Pyreglow Forest

68. Gigantuar – กำจัด gigantuar และ gigantrot ที่ Mako Reactor 0

69. Gigantrot – กำจัด gigantuar และ gigantrot ที่ Mako Reactor 0

70. Paleberry King – กำจัด paleberry king ใน Secret Area ที่ Chainroad


                                                    [ caution]


 เตือนย้ำนะครับว่า World of FF นั้นมีปัญหาที่ Cross - Save หรือระบบที่ใช้สำหรับฝากเซฟเอาไว้กับเซิร์ฟเวอร์เพื่อเอาไว้ใช้อัพโหลดมาเล่นข้ามกับเครื่อง Psvita นั้นมันรวนมาก มันสามารถทำให้เซฟของคุณที่เคยเซฟไว้ล่าสุดที่เล่นไว้พอโหลดมาแล้วย้อนกลับมาก่อนหน้าที่เซฟไว้ได้ บางคนจากที่เล่นไว้กลางเรื่อง โหลดขึ้นมาเป็นตอนเริ่มเกมก็มี ทุกคนที่เล่นโดนมาหมดแล้ว ผมเองก็โดนแล้ว โชคดีที่ย้อนไปแค่ 2 เลเวล 



ทางแก้คือ ก่อนเล่นเข้าไปในออฟชั่นแล้วปรับปิดระบบ Cross - Save ซะ เพื่อไม่ให้มันเซฟออโต้ไปเรื่อยจนทำให้เซฟที่คุณเซฟไว้ล่าสุดกลายเป็นเซฟที่คุณเซฟก่อนหน้าจนสร้างความเสียขึ้นมาได้ ถ้าคุณไม่ได้เล่นแบบข้ามเครื่อง PS4 - PSvita ก็อย่าลืมปิดระบบ Auto Cross - Save กันด้วยนะครับ เตือนแล้วนะ !!!