วันจันทร์ที่ 30 มีนาคม พ.ศ. 2558

Bloodborne

         
                                       

                                                  บทสรุป  Bloodborne 

BY Decibel per – oxide

[ในที่นี่คำว่า Blood borne จะใช้ในรูปแบบของศัพท์ทางวิขาการแพทย์ครับ โดยอ้างจาก วารสารโลหิตวิทยาและเวชศาสตรบริการโลหิต จากรากศัพท์ blood-borne disease หรือ โรคนำโดยเลือด Blood borne ก็จะหมายถึง โรคที่ติดต่อโดยจุลชีพที่อยู่ในกระแสเลือด มันก็จะเป็นชื่อที่สื่อถึง การติดเชื้อโรคร้ายที่แพร่ระบาดทางกระแสเลือดที่เรียกว่า Beast Plaque ในเกมนั่นเอง]

ในครั้งอดีตเมื่อนานมาแล้ว Master Logarius เจ้านคร Yhaman ได้เดินทางสำรวจจนพบสถานที่ลึกลับแห่งนึงที่ชื่อว่า Bergenwerth โบราณสถานแห่งเทพที่อยู่ในถ้ำลึกที่อยู่ใต้มหานคร Yhaman  พวกเขาได้นำสิ่งที่ไม่ควรยุ่งเกี่ยวกลับมาด้วย Logarius นำ Vileblood เลือดต้องห้ามที่เขาพบเจอกลับที่ปราสาท Cainhurst Castle และจากวันนั้น มหานคร Yhaman ที่เต็มไปด้วยความก้าวหน้าในเรื่องวิทยาการทางการแพทย์และการรักษาเยียวยา เมืองที่เป็นที่รู้จักกันไปทั่วในฐานะสถานที่ที่เป็นความหวังของผู้คน แต่ตอนนี้เมืองทั้งเมืองกำลังเกิดโรคระบาดระบาดไปทั่วอันเกิดจาก เลือดต้องห้าม Vileblood ได้นำปรสิตจากขุมนรก Beast Plaque ติดมาด้วย มันกลายเป็นพาหะของโรคแห่งความชั่วร้ายที่ที่ทำให้คนปกติในตอนกลางวันเปลี่ยนเป็นสัตว์ร้ายและออกอาละวาดในยามค่ำคืน ในขณะที่มีบางกลุ่มที่ชั่วร้ายยิ่งกว่าที่พยายามทำให้ฝันร้ายในครั้งนี้เกิดขึ้นอย่างไม่มีวันจบสิ้นไปชั่วนิรันดร์




??? -  โอ้ ใช่ Paleblood แหมช่างมาถูกที่จริงๆ Yhaman เป็นที่ที่ให้การช่วยเหลือทางด้านเลือดพอดีเลย สิ่งที่คุณต้องการก็แค่เปิดเผยสิ่งลึกลับที่ซ่อนอยู่เท่านั้นเอง แต่คนนอกอย่างคุณจะเริ่มยังไงนี่สิ ใจเย็น Yhaman นครแห่งนี้รอได้เสมอมันไม่หนีไปไหนหรอก เหมือนกันเป็นเลือดในตัวคุณเลยล่ะ แต่ก่อนอื่นคุณต้องมาทำสัญญากันก่อน 


การทำสัญญาก็คือ การสร้างตัวละครที่เป็นตัวเอกของเรื่องในฐานะ นักล่า ที่เป็นแบบที่คุณต้องการครับ



1.Name (ชื่อ)
2.Gender (เพศ)
3.Age (อายุ)
4.Origin (อาชีพ)

Milquetoast พวกขี้ขลาด เริ่มที่ เลเวล 10 ค่าเฉลี่ยของสเตตัสทั้งหมดอยู่ในแบบธรรมดาทั่วๆไป
Lone Survivor พวกลุยเดี่ยว เริ่มที่ เลเวล 10 ค่าเฉลี่ยของสเตตัสจะเน้นค่าของพลังชิวิต(Vitality) 
Troubled Childhood พวกเด็กมีปัญหา เลเวล 10 ค่าเฉลี่ยของสเตตัสจะเน้นที่ค่าความอดทน(Endurance) 
Violent Pass พวกหัวรุนแรง เลเวล 10 ค่าเฉลี่ยของสเตตัสจะเน้นที่ค่าความแข็งแกร่ง (Strength)
Professional  พวกมืออาชีพ เลเวล 10 ค่าเฉลี่ยของสเตตัสจะเน้นที่ค่า Skill 
Military Veteran พวกทหารผ่านศึก เลเวล 10 ค่าเฉลี่ยของสเตตัสจะเน้น ค่าพลังชีวิต (Vitality) ความอดทน(Endurance) ความแข็งแกร่ง (Strength) และ ค่า Skill ในระดับที่ไล่เลี่ยกัน 
Noble Scion พวกขุนนาง เลเวล 10 ค่าเฉลี่ยของสเตตัสจะเน้น ค่า Skill และค่า (Bloodtinge)  
Cruel Fate พวกขาโหด เลเวล 10 ค่าเฉลี่ยของสเตตัสจะเน้น ค่า (Blood Echoes) และค่า (Arcane)
Waste of skin พวกหมดตัว เริ่มที่ เลเวล 4 ค่าเฉลี่ยของสเตตัสจะเท่ากันเกือบหมดไม่มีอะไรพิเศษเลย 

5.Appearance (รูปลักษณ์ภายนอก) ก็คือการปรับแต่งส่วนต่างๆของตัวละคร ทั้งหน้าตา สีผิว เสียงและอื่นๆอีกมากมาย

????  -  ดีมาก ลายเซ็นและประทับตราเรียบร้อย ที่นี้เราก็จะมาเริ่มขั้นตอนการถ่ายเลือดกัน ไม่ต้องกังวลน๊ะ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อจากนี้ ก็ถือซะว่ามันเป็นเหมือนฝันร้ายแล้วกันน๊ะ ฮ่าๆๆๆๆ เจ้าค้นพบตัวเองแล้ว นักล่า .. 

Iosefka’s Clinic 

หลังจากเซ็นสัญญาเป็นนักล่าเต็มตัวแล้ว ก็เริ่มเรียนรู้การบังคับตัวละครเบื้องต้นกันนิดหน่อย




R1 โจมตีด้วยอาวุธในมือขวา / แกนอนาล็อกซ้ายขึ้นบน + R1 เตะ
R2 โจมตีด้วยอาวุธในมือขวา (หนัก) กดค้างชาร์ทพลังโจมตี แกนอนาล็อกซ้ายขึ้นบน + R2 กระโดดเข้าไปโจมตี
L1 เปลี่ยนโหมดอาวุธ
L2 โจมตีด้วยอาวุธในมือขวา (ปืน – คบเพลิง) 
R3 – ล็อกเป้าหมาย (กดอีกครั้งเพื่อปลดล็อกเป้าหมาย)
O – วิ่ง / ในกรณีล็อกเป้าศัตรูอยู่จะเป็นการแดชหลบ / ในกรณีไม่ได้ล็อกเป้าศัตรูอยู่จะเป็นกลิ้งตัว
ปุ่มสามเหลี่ยม ใช้ยาเพิ่มเลือด Blood Vail
ปุ่มสี่เหลี่ยม ใช้ไอเทมที่เซ็ทไว้ในเมนูช็อตคัท
X สำรวจ

D – Pad 
-ปุ่มทิศทางขึ้นบนสามารถค่า HP เป็นกระสุนได้ 
-ปุ่มทิศทางลงสลับเลือกไอเทม
-ปุ่มทิศทางขวา สลับเลือกอาวุธมือขวา
- ปุ่มทิศทางซ้าย สลับเลือกอาวุธมือซ้าย
Backstrike - ลอบเข้าไปด้านหลังศัตรูใช้ท่าชาร์ทโจมตีด้วย R2 ค้าง จะทำให้ศัตรูล้มลงจากนั้นกดกด R1 จะใช้ท่าทะลวงหลังที่รุนแรงได้ 
 Counter Shot - ท่ายิงเค๊าท์เตอร์การโจมตีของศัตรู โดยยิงศัตรูในระยะประชิดในจังหวะที่มันเข้ามาโจมตีใกล้ๆจะทำให้ศัตรูทรุดลง กด R1 จะใช้ท่าทะลวงใส้อย่างรุนแรงได้ซึ่งจะเรียกท่านี้ว่า Visceral attacks

** ระบบการแลกเลือด ซึ่งก็คือ เมื่อถูกโจมตีครั้งแรกจนพลังลดลงไปจำนวนนึงแต่ยังมีขีดสีขาวเห็นว่าจะลดไปแค่ไหนแต่ยังไม่ลด ถ้าเข้าไปจัดการศัตรูตรงหน้าให้ได้อย่างรวดเร็วก็จะทำให้ได้เลือดส่วนที่เสียไปนั้นคืนมาตามจำนวนที่โจมตีไป ซึ่งบางทีถ้ามันตายเร็วคุณจะได้เลือดกลับมาน้อยกว่าที่เสียไป หรือ ไม่ได้กลับคืนมาเลยหากคุณแหยพยายามกระโดดหนีออกมา 

** แน่นอนว่าทุกการเคลื่อนไหวของตัวละครนั้น จะต้องพึ่งเกท Stamina หรือ เกทสีเขียวใต้เกทพลังชีวิตในการกระทำด้วย การทำคอมโบ การแดชหลบ จะต้องบริหารการใช้งานเกท Stamina นี้ให้เหมาะสมเพื่อจะทำให้การต่อสู้มีประสิทธิ์ภาพมากขึ้น และถ้าต้องการให้เกทนี้มากขึ้นก็ต้องเน้นอัพไปที่ค่าความอดทน (Endurance) ให้เยอะๆเข้าไว้  **

- สำรวจให้ทั่วๆ ที่นี่ยังมีสัตว์ปีศาจอยู่ ตอนนี้ยังไม่มีอาวุธยากที่จะเอาชนะ วิ่งหนีออกจากที่นี่ไปที่ Central Yhaman ก่อน (หรือถ้าขี้เกียจยอมตายซะก็ได้เหมือนกัน) ซึ่งจะมีพวกชาวบ้านที่บ้าคลั่งอยู่ ตอนนี้อย่าไปยุ่งกันพวกมันมากพยายามหาทางหลบ เก็บไอเทมพื้นฐานต่างๆตามทางซึ่งก็มี กระสุนเงิน Quicksilver สำหรับยิงปืน และขวดเลือด Blood Vail สำหรับเติม HP แล้วออกไปด้านนอกที่สุดทางสับคันโยกให้บันไดลงมาเพื่อปีนขึ้นด้านบนตึกจนพบจุด ตะเกียง (Light Lamb) 



เมื่อสำรวจจะเข้ามาที่ความฝันของนักล่า (Hunter’s Dreams) ซึ่งจุด ตะเกียง (Light Lamb) นี้ก็จะเป็นจุด Check Point ที่จำเป็นสำหรับการเดินทางด้วย


                                                     Hunter’s Dreams

ความฝันของนักล่า ก็คือ ฐานของตัวนักล่านั่นเอง มันจึงเป็นที่พักพิงเพื่อให้คุณสามารถจัดเตรียมตัวละครของคุณให้พร้อมต่อสู้ในครั้งต่อไป
-ทางซ้ายจะมีอ่างน้ำ (Bath Messenger) ซึ่งมันก็คือ ร้านขายไอเทมโดยใช้ค่า Blood Echoes ที่เปรียบเสมือน เงิน ในการแลกเปลี่ยน 
- ตรงทางขึ้นบันไดคือ plain doll ที่เอาค่า Blood Echoes ในการอัพเกรดสเตตัส ค่าเดียวกันกับเงินที่ใช้ซื้อของนั่นแหละ (แต่ตอนนี้ยังไม่มีพอให้อัพ)
-ระหว่างทางขึ้นบันไดจะมีกลุ่มโครงกระดูกผู้ส่งสาสน์โผล่ออกมา พวกมันจะมาส่งมอบอาวุธหลักให้นักล่า ที่สามารถเลือกได้สำหรับอาวุธมือขวาได้ตามถนัดคือ
Saw Cleaver 
Hunter Axe
Threaded Cane 
- กลุ่มโครงกระดูกผู้ส่งสาสน์ถัดไปจะส่งมอบ Firearms เป็นอาวุธสำหรับมือซ้ายซึ่งก็คือ ปืนนั่นแหละ อาวุธสำหรับโจมตีระยะไกล ปืน ที่สามารถเลือกได้คือ
Hunter Pistol
Hunter Blunderbuss  



ด้านในบ้านของ Gehrman จะประกอบด้วย
1.Storage ลังเก็บไอเทม
2.Workshop โต๊ะเครื่องมือ
- Fortify Weapon อัพเกรด หรือตี + อาวุธ โดยใช้ค่า Blood Echoes + ไอเทม Bloodstone ในการอัพเกรด
- Repair Weapon ซ่อมแซมอาวุธ 
- Blood Gems Fortification 
เมื่อคุณเก็บคียไอเทม Blood Gems Workshop Tool จากกล่องใน Central Yharham แล้ว โต๊ะเครื่องมือก็จะสามารถใส่ Blood Gems ให้อาวุธของคุณได้ รูในอาวธนั้นจะแบ่งเป็นรูที่ใส่ Gem แบบธรรมดา  Radial Triangle และ รูสำหรับใส่ Gem แบบแรร์ไอเทมที่หายากคือ Waning ซึ่ง Gems ทั้งหมดประกอบด้วย

Radial Gems 
Tempering Blood Gemstone 
Adept Blood Gemstone 
Heavy Blood Gemstone 
Sharp Blood Gemstone 
Murky Blood Gemstone 
Dirty Blood Gemstone 
Beasthunter's Damp Blood Gem 
Striking Blood Gemstone 
Radiant Blood Gemstone 
Fool's Blood Gemstone 
Cursed Tempering Blood Gemstone 
Cursed Fire Blood Gemstone 

 Triangle Gems 
Tempering Blood Gemstone 
Arcane Blood Gemstone 
Fire Blood Gemstone 
Nourishing Blood Gemstone 
Heavy Blood Gemstone 
Dirty Blood Gemstone 
Radiant Blood Gemstone 
Cursed Fire Blood Gemstone 
Cursed Heavy Blood Gemstone 
Cursed Murky Blood Gemstone 

 Waning Gems 
Fire Blood Gemstone 
Bolt Damp Blood Gemstone 
Murky Blood Gemstone 


3. โต๊ะบูชา  Caryll Runes Fortification
- ในห้องด้านในหลังฆ่าบอสแม่มด The Witch of Hemwick จะมีคีย์ไอเทม Caryll Runes Workshop Tool ให้เก็บ ก็จะสามารถสวมใส่ Caryll Rune ที่เก็บมาได้เพื่อเพิ่มค่าสเตตัสในตัวนักล่าของคุณได้ 



                                             รายชื่อ Caryll Rune

Anti-Clockwise Metamorphosis เพิ่มค่าความอดทน (+10%) อยู่ที่ Forbidden Wood
Anti-Clockwise Metamorphosis เพิ่มค่าความอดทน (+15%) ได้จากมนุษย์แมงมุม ที่ Lecture Building
 Arcane Lake เพิ่มค่าการป้องกันที่เกิดจากการเสียหายจาก Arcane (+7%) อยู่ที่ Byrgenwerth
Arcane Lake เพิ่มค่าการป้องกันที่เกิดจากการเสียหายจาก Arcane (+10%) อยู่ที่ Yahar'gul, Unseen Village
Beast เพิ่มระดับความสามารถพิเศษ(effect) ที่ติดตั้งไว้ (+20) อยู่ที่ Healing Church 
Beast เพิ่มระดับความสามารถพิเศษ(effect) ที่ติดตั้งไว้ (+50) ได้จากการฆ่า NPC ที่ Forbidden Woods

Blood Rapture  เมื่อใช้การโจมตี Visceral attacks จะทำให้ได้ HP คืนมามากขึ้น (+200)อยู่ที่ Shadow of Yharnam
Blood Rapture  เมื่อใช้การโจมตีแบบ Visceral attacks จะทำให้ได้ HP คืนมามากขึ้น (+300) ได้จาก Eileen the Crow's Quest 

 Clawmark ทำให้การโจมตีแบบ visceral attacks รุนแรงขึ้นอีก (+10%) อยู่ที่ ???
 Clawmark ทำให้การโจมตีแบบ visceral attacks รุนแรงขึ้นอีก (+20%) อยู่ที่ Central Yharnam
Clawmark ทำให้การโจมตีแบบ visceral attacks รุนแรงขึ้นอีก (+30%) อยู่ที่ Hypogean Gaol
Clear Deep Sea เพิ่มอัตราการต่อต้านพิษให้สูงขึ้น อยู่ที่ Forgotten Woods

 Clockwise Metamorphosis เพิ่มค่าพลังชีวิตให้สูงขึ้น (+5%)อยู่ที่ Forgotten Woods

Clockwise Metamorphosis เพิ่มค่าพลังชีวิตให้สูงขึ้น (+10%)อยู่ที่ Nightmare Frontier 

 Communion เพิ่มจำนวนการถือยาเพิ่มเลือด Blood Vial (+1) อยู่ที่ Cathedral Ward ใน Oedon Chapel
ที่ต้องขึ้นลิฟต์ทางขวาของห้องไปซึ่งประตูจะเปิดหลังจากปราบบอส Blood-Starved Beast
 Communion เพิ่มจำนวนการถือยาเพิ่มเลือด Blood Vial (+2) อยู่ที่ Lecture Building
Communion เพิ่มจำนวนการถือยาเพิ่มเลือด Blood Vial (+3) อยู่ที่ Iosefka's Clinic
Communion เพิ่มจำนวนการถือยาเพิ่มเลือด Blood Vial (+4) ได้จากการฆ่า Celestial Emmisary

 Corruption ในขณะใกล้ตาย อัตราการฟื้นฟูเลือดจะเพิ่มมากขึ้น (+1) ได้ตั้งแต่เริ่มเกม
 Deep Sea ต่อต้านการเกิดสภาวะบ้าคลั่ง (frenzy) อยู่ที่ Forbidden Woods 
Dissipating Lake ทำให้ต่อต้านการโจมตีจากสายฟ้าเพิ่มขึ้น (+5%) อยู่ที่ Forbidden Woods
 Eye ทำให้ไอเทมที่ดร็อปจากศัตรูมีมากขึ้น ได้จาก Master Willem ที่ Nightmare of Mensis หลังจากสู้บอสแมงมุมแล้ว
 Fading Lake ทำให้ต่อต้านการโจมตีจากไฟเพิ่มขึ้น (+5%) อยู่ที่ Nightmare Frontier

 Formless Oedon ทำให้ถือกระสุน Quicksilver Bullet ในจำนวนที่มากขึ้น (+2) อยู่ที่ Cathedral Ward ใน Oedon Chapel
Formless Oedon ทำให้ถือกระสุน Quicksilver Bullet ในจำนวนที่มากขึ้น (+3) ได้จาก NPC ใน Iosefka's Clinic
Formless Oedon ทำให้ถือกระสุน Quicksilver Bullet ในจำนวนที่มากขึ้น (+4) อยู่ที่ Cathedral Ward ใน Oedon Chapel ที่ต้องขึ้นลิฟต์ทางขวาของห้องไปซึ่งประตูจะเปิดหลังจากปราบบอส Blood-Starved 

Beast โดยต้องโดดเข้าช่องระหว่างชั้นถึงจะเจอหีบไอเทม
Great Deep Sea ทำให้ค่าการต่อต้านทุกชนิดเพิ่มขึ้น (+100) อยู่ในถ้ำที่ Nightmare Frontier

Great Lake ทำให้ค่าการป้องกันทุกชนิดเพิ่มขึ้น (+3%) อยู่ที่ ???
Great Lake ทำให้ค่าการป้องกันทุกชนิดเพิ่มขึ้น (+4%) อยู่ที่ชั้นบนของห้องลิฟต์ที่ Cathedral Ward ใน Oedon Chapel

 Heir ทำให้ได้ค่า Blood Echoes จากการโจมตีแบบ visceral attacks (+20%) ได้จากเควส Eileen the Crow
Heir ทำให้ได้ค่า Blood Echoes จากการโจมตีแบบ visceral attacks (+40%) อยู่ที่ Yahar'gul, Unseen Village



 Hunter ทำให้เกทความอดทนฟืนฟูเร็วขึ้น ได้จาก เควส Eileen the Crow มันจะยืนอยู่ที่ Central
Yhaman


 Lake ทำให้ค่าความป้องกันทางกายภาพเพิ่มขึ้น (+3%) อยู่ที่ Hemwick Charnel Lane

 Moon ทำให้กำจัดศัตรูแล้วได้ค่า Blood Echoes เพิ่มขึ้น (+10%) อยู่ที่ Hypogean Gaol
Moon ทำให้กำจัดศัตรูแล้วได้ค่า Blood Echoes เพิ่มขึ้น (+20%) อยู่ที่ห้องบอส Micolash
 Murky Deep Sea ทำให้ค่าความต่อต้านพิษเพิ่มขึ้น  (+100) อยู่ที่ Forbidden Woods

 Oedon Writhe เมื่อใช้การโจมตีแบบ Visceral Attacks จะได้กระสุน Quicksilver Bullets มากขึ้น (+1) ได้จาก การฆ่า NPC ที่ชั้นล่างของ Hypogean Gaol
Oedon Writhe เมื่อใช้การโจมตีแบบ Visceral Attacks จะได้กระสุน Quicksilver Bullets มากขึ้น (+2) อยู่ที่ Iosefka's Clinic.

 Radiance เพิ่มประสิทธิภาพของยาเพิ่มเลือด blood vials ให้มากขึ้น ได้จาก NPC Alfred

 Stunning Deep Sea ทำให้การติดพิษหายเร็วขึ้น (RES +200) อยู่ที่ Nightmare Frontier


                *** อ้างอิงจาก http://bloodborne.wiki.fextralife.com/Caryll+Runes *** 






- สำรวจให้ทั่วๆ คุยกับ Gehrman ชายแก่บนรถเข็น แล้วออกมาสำรวจป้ายหลุมศพ (Head Stone) ระหว่างบันได อันล่างสุดจะสามารถวาร์ปกลับมาที่ Yhaman ได้ ซึ่งป้ายหลุมศพนี้จะมีสถานที่ที่วาร์ปเดินไปมาได้มากขึ้นก็ต่อเมื่อจุดตะเกียง Light lamb ที่เป็นจุด Checkpoint ของพื้นที่เหล่านั้นแล้ว
- และในกรรีฉุกเฉิน ถ้าต้องการจะกลับมาที่ Hunter’s Dreams โดยไม่ต้องหาจุดตะเกียง Light lamb ก็สามารถกดใช้ไอเทม Bold Hunter Mark เพื่อกลับมาที่นี่ได้ทันทีเช่นกัน

                                        ** ข้อควรจำ สำคัญ ก่อนออกล่า**

- สิ่งสำคัญที่ได้จากการกำจัดศัตรูคือ Blood Echoes ที่เป็นทั้งค่าในการซื้อของและอัพระดับเลวเวลของนักล่าสังเกตุได้จากตัวเลขมุมขวาบนของจอ
- ค่า insight ตัวเลขตรงรูปดวงตาขวาบนต่ำจากค่า Blood Echoes ซึ่งเทียบได้กับค่า humanity ของ Dark Souls ครับ เอาไว้ปลดล็อกไอเทมใหม่ๆในร้าน bath messenger ที่ hunter's dream ได้ ซึ่งเพิ่มได้จาก เจอ บอส ครั้งแรก + 1 แต้ม / หลังจัดการ บอส ได้ + 2 แต้ม และ ได้จากการกดใช้ ไอเทม madman's skull แต่การใช้ไอเทมกระดิ่งเรียกนักล่าคนอื่นมาช่วยที่จุดเรียกตัวก่อนเจอบอส จะใช้ insight 1 แต้มครับ
- เฉกเช่น Dark soul ทุกครั้งที่ตัวละครถึงแก่ความตายไม่ว่าตรงไหนค่า Blood Echoes ทั้งหมดที่มีจะตกลงตรงที่ตาย และนักล่าก็จะมาฟื้นที่ Hunter’s Dreams สิ่งที่ควรทำก็คือตามกลับไปเก็บ Blood Echoes ทั้งหมดกลับคืนมาจากตรงจุดที่ตาย ซึ่งบางครั้งก็อาจจะมีศตรูบางตัวมาเก็บส่วนใหญ่จะเป็รศัตรูที่อยู่บริเวณใกล้ๆจุดตกซึ่งก็สามารถตามไปจัดการมันเพื่อเอากลับมาได้  
- ตามบ้านเรือนของชาวบ้านนั้น ประตูที่มีตะเกียงสีแดงเปิดอยู่ เป็นบ้านที่สามรถเคาะประตูคุยได้ ส่วนใหญ่ถ้าไม่โดด่ากลับมาก็จะมีเรื่องขอความช่วยเหลือ (คุยหลายๆครั้งหน่อยก็ดี) ซึ่งถ้าดำเนินเรื่องไปจนถึงวิหาร Oedon Chapel แล้วก็จะสามารถบอกพวกชาวบ้านเพื่อให้มาที่ปลอดภัยที่ Cathedral Ward ห้องโถงด้านในโบสถ์ได้ ซึ่งถ้ามาเจอชาวบ้านมาอยู่ในโถงแล้วเข้าไปคุยก็จะได้ไอเทมดีๆเป็นการตอบแทนด้วย 
- และ การเดินทางในเมือง Yhaman นั้นมีมากมายหลายเส้นทาง ซึ่งการเข้าไปพบบรรดา บอส ตามที่ต่างๆนั้นก็สามารถเดินทางไปอย่างอิสระ(ในบางตัว) ฉะนั้นการเดินทางของนักล่าแต่ละคนนั้นอาจไม่เหมือนกันรวมทั้งเส้นทางในบทสรุปนี้ด้วย 

- เมื่อกลับมาที่ Central Yhaman ตอนนี้คุณมีอาวุธที่จะจัดการพวกศัตรูได้แล้ว ทางขวาของตะเกียงจะมีทางไปต่อจนถึงบันไดลงล่าง ตามถนนจะเห็นพวกชาวบ้านที่บ้าคลั่งเดินเป็นขบวนผ่านไป ทางซ้ายสามารถอ้อมไปจนถึงประตูเหล็ก สับคันโยกเปิดประตูจะกลับมาที่  Iosefka’s Clinic ได้ ทางขวาของบันไดสุดถนนจะเจอพวกชาวบ้านที่บ้าคลั่งกำลังอยู่ที่กองไฟขนาดใหญ่  หาทางจัดการพวกมันให้หมด ประตูใหญ่ที่กั้นระหว่างถนนจะถูกปิดอยู่แต่สามารถเดินไปตามทางเดินด้านซ้ายของประตูได้
- อีกฝากของถนนมีเจ้าค่อมที่อยู่หลังประตูจัดการซะแล้วลุยเข้าไปตามทาง ทางไปนั้นคิดตรงไปตามทางแต่ระหว่างทางก็จะมีอะไรให้เก็บมากมาย สำรวจฝั่งซ้ายจะมีทางเข้ามาที่ตึกที่สามารถทะลุผ่านจนอ้อมออกที่ประตูซ้ายของจุดที่มี ตะเกียง Light Lamb ได้ พื้นที่เมืองนั้นดูซับซ้อนแต่จริงๆแล้ว ส่วนของ Central Yhaman นั้นเป็นพื้นที่วงกลมโดยมีจุดตะเกียงแรกเป็นจุดเริ่มต้น สิ่งที่ผู้เล่นควรทำเป็นอย่างแรกๆก็คือ จำทาง ให้ดีเอาไว้เพื่อสะดวกในการเดินทางแบบที่ไม่ต้องเสียเวลากับศัตรูมาก ซึ่งตอนนี้คงมีค่า Blood Echoes มากพอที่จะใช้ซื้อชุด Yhaman Hunter ซึ่งเป็นชุดพื้นฐานแรกมาใส่เพื่อความแข็งแกร่งได้แล้วแวะวาร์ปไปที่ Hunter’s Dreams ก่อนก็ดี จากนั้นค่อยกลับไปที่ Central Yhaman เพื่อลุยต่อ แต่ก็ต้องจำไว้ด้วยว่า ศัตรูทุกตัวที่ฆ่าไปก็จะกลับมาเท่าเดิมเหมือนกัน



- จากนั้นก็ออกทางประตูซ้ายของตะเกียง เข้าไปจนถึงตึกขึ้นมาชั้นบนทะลุออกมาที่ทางเดินด้านนอกถนน ลุยไปตามทางเดินทางซ้ายของรถม้าไปจะเห็นเจ้าค่อมกับปีศาจนกอยู่ ลุยผ่านข้ามซุ้มประตูไปจนถึงหน้าโบสถ์ ที่ Great Bridge จะพบปีศาจขนาดใหญ่โดดเข้ามาโจมตี Boss Cleric Beast  เมื่อจัดการมันได้เข้าไปเก็บคียไอเทม Sword Hunter Badge มาและจุด Light Lamb จะปรากฏออกมา

- วาร์ปกลับไปที่ Hunter’s Dreams จัดเตรียมตัวเองให้พร้อมแล้ววาร์ปกลับมาที่ Yhaman อีกครั้ง ตอนนี้ plain doll สามารถเอาค่า Blood Echoes มาใช้ในการอัพเกรดสเตตัสได้แล้ว เข้าไปคุยกับเธอจะเห็นเมนู Channel Blood Echoes ที่สามารถเอาค่า Blood Echoes ที่เก็บได้จากการฆ่าศัตรูเอามาใช้เพิ่มสเตตัสทางด้านต่างๆได้เลย
ค่าพลังชิวิต (Vitality) เพิ่มเกทพลังชีวิต (HP) / เพิ่มพลังป้องกันกายภาพ
ค่าความอดทน (Endurance)  เพิ่มเกท Stamina / เพิ่มพลังป้องกันกายภาพ /ติดพิษได้ยากขึ้นและหายพิษเร็วขึ้น
ค่าความแข็งแกร่ง (Strength) เพิ่มพลังโจมตีของอาวุธมือขวา
ค่าความสามารถ (Skill) เพิ่มพลังโจมตีของอาวุธมือขวา / เพิ่มพลังป้องกันกายภาพ 
ค่า (Bloodtinge)  เพิ่มพลังโจมตีอาวุธมือซ้าย
ค่า (Arcane) เพิ่มพลังโจมตีอาวุธมือซ้าย และเพิ่มโอกาสดรอปแรร์ไอเท็มจากศัตรู






** แต่ก็อย่าลืมว่า ค่า Blood Echoes ที่ได้มานั้นก็ไม่ต่างอะไรกับค่า Soul ในเกม Dark Soul นั่นแหละ มันสามารถใช้ในการเป็น Point สำหรับอัพเลเวลแล้ว มันก็ยังใช้มันเป็นค่าของเงินในการซื้อของต่างๆได้ด้วย ฉะนั้นก็ต้องแบ่งสันปันส่วนให้ดีก่อนใช้ด้วย  ** 

- จากนั้นก็มาที่จุดตรงทีมีประตูกั้นระหว่างถนนอีกครั้ง โดยจะมาทางประตูบนหรือลงบันไดเล็กมาที่ถนนล่างแล้วไปทางประตูขวาก็ได้  บนทางเดินฝั่งซ้ายผ่านมาที่ถนนอีกฝั่งของประตูแล้ว ข้ามมาที่ทางเดินฝั่งขวาจะมีประตูที่ออกไปตรงที่มีบันไดลงไปที่ทางระบายน้ำต่อได้
- ลงบันไดเล็กต่อจนมาถึงด้านล่างของทางระบายน้ำ ลุยเข้าไปจนสุดทาง อุโมงค์ด้านในจะมีปีศาจหมูอยู่ จะเข้าไปฆ่ามันก็ได้ เลเวลประมาณ 18 ขึ้นก็พอจะไหวช่องนั้นมีที่หลบอยู่เยอะ เพียงแต่มันจะไม่ได้ให้ไอเทมอะไรที่ดีมากมาย ได้ Blood Echoes แค่ 400 กว่าและ น้ำยาเติมพลังเท่านั้นเอง  ปีนขึ้นบันได้เล็กมาด้านบนต่อจนถึงสะพานใหญ่ ทางซ้ายของตีนสะพานจะมีลิฟต์อยู่ ไม่ต้องไปสนใจ เดินข้ามสะพานยาวมาถึงอีกฝั่ง ลุยเข้าไปตามทางจนถึงเขตสุสานหน้าโบสถ์ จะเจอ Boss Father Gascoigne



อาวุธมันคือ ปืนช็อตกันสั้นและขวาน  และหลังจากจัดการมันนพลังใกล้หมดหลอด มันก็จะกลายร่างปีศาจเข้ามาโจมตีต่อ ถึงจะไม่มีอาวุธแล้วแต่มันก็สามารถพุ่งโจมตีเข้ามาอย่างรุนแรงและรวดเร็วกว่าตอนแรกเยอะ เมื่อจัดการมันได้จะได้คียไอเทม Oedon Tombstone Key มา จุด Light lamb ก็จะปรากฏออกมา จะกลับไปที่ Hunter’s Dreams ก็แล้วแต่ ถ้าไม่กลับก็ขึ้นบันไดไปที่ประตูเหล็กบนฝั่งตรงข้ามแล้วใช้ Oedon Tombstone Key ไขเข้าไปจนถึงด้านในวิหารได้ ระหว่างเปิดหีบเก็บคียไอเทม Blood Gem Workshop Tool ในห้องสมุดมาแล้วขึ้นไปชั้นบนต่อจนถึงทางเข้าห้องโถงของวิหาร

Oedon Chapel 

** ตอนนี้วิหาร Oedon Chapel จะเป็นจุดปลอดภัยที่นึงในเมืองแล้ว ซึ่งก็จะสามารถบอกพวกชาวบ้านตามบ้านที่ต้องการความช่วยเหลือ(บ้านที่มีไฟสีแดงเปิดอยู่) เพื่อบอกให้มาที่ปลอดภัยที่ห้องโถงด้านในโบสถ์นี้ได้ ซึ่งถ้ามาเจอชาวบ้านมาอยู่ในโถงแล้วเข้าไปคุยก็จะได้ไอเทมดีๆเป็นการตอบแทนด้วย **



- ที่ Cathedral Ward ในห้องโถงเข้าไปคุยกับตัวประหลาดที่มีตัวอยู่ครึ่งท่อน แล้วสำรวจให้ทั่วๆห้องโถงจะพบว่ามีทางไปอยู่ 3 ทาง ประตูทางขวาปิดอยู่ (เป็นห้องลิฟต์ขึ้นไปบนหอคอย) ประตูตรงข้ามกับทางที่เข้ามาจะออกไปด้านนอกสุดทางมีประตูเหล็กที่ออกไปยังด้านหลังลานกว้าง Plaza of Grand Cathedral (ยังเปิดไม่ได้เพราะต้องเปิดจากอีกด้าน) ประตูฝั่งซ้ายเปิดอยู่แล้วเข้าประตูฝั่งทางซ้ายไปก่อนได้เลย
- ลานที่ออกมาจากประตูซ้ายของวิหารนั้น จะมีทางไป 2 ทาง คือ
1. บันไดทางลงฝั่งซ้าย ลงบันไดไปที่หน้าสุสาน จัดการศัตรูแล้วขึ้นไปตามบันไดด้านซ้าย อ้อมไปเข้าประตูของชั้นบนจะเข้ามาในตึกได้ ทางออกฝั่งซ้ายจะเจอ Alfred Protégé of master Logarius hunter of Vileblood คุยกับเขาเลือกตอบ Cooperate เขาจะให้ Fire paper กับไอค่อน Pray มา เข้าไปในระเบียงชั้นบนของตึกสุสาน สับคันโยกให้โรงศพใหญ่กลางห้องเปิดออกจนเห็นทางลับลงด้านล่าง กลับลงมาลงที่ทางลับในห้องไปต่อ จนถึงห้องโถงด้านล่าง ลงบันไดซ้ายไปต่อจนถึงห้องโถงด้านล่างที่มีจุด Light Lamb อยู่ ประตูทางซ้ายจะออกมาที่เขตเมืองเก่า Old  Yhaman ได้ โดยเขตนี้จะแปะประกาศห้ามนักล่าเข้ามาในบริเวณนี้เพราะเขตนี้พวก Beast ปกครองตัวเองอยู่ ถ้าเปิดประตูโดยไม่สนป้ายประกาศเข้ามาก็จะได้ยินเสียงนักล่าคนนึงแจ้งให้ออกจากพื้นที่ทันทีถ้าไม่อยากเจ็บตัว  (ไม่เกี่ยวกับเนื้อเรื่องตอนนี้แต่อยากให้แวะมาเปิดจุดตะเกียง Light lamb เอาไว้เพื่อสะดวกในการเดินทางในตอนหลัง)
2.  บันไดทางขึ้นฝั่งขวา เข้าไปตามทางจนถึงทางแยก ผ่านประตูล่างจะเข้าไปถึงด้านในสุดจะมีหีบไอเทม Tempering Blood Gem Stone ให้เก็บสุดทางจะเป็นเหวไปต่อไม่ได้แล้ว ส่วนทางแยกขวาจะเป็นทางขึ้นบันไดไปที่ประตูใหญ่ที่จะเข้าไปที่ลานกว้าง Plaza of Grand Cathedral ได้แต่ต้องใช้ Hunter Chief Emblem ในการเปิด

- ใช้จุดตะเกียงที่จุด Light Lamb วาร์ปกลับไปที่ Hunter’s Dreams เข้าไปซื้อคีย์ไอเทม Hunter Chief Emblem ราคา 10000 มาแล้ววาร์ปกลับมาที่ Cathedral Ward  แล้วออกทางประตูซ้ายมาด้านนอกลุยเข้าไปตามทางแยกทางขึ้นบันไดไปที่ประตูเหล็กด้านบนสุด ประตู Main gate นั้นจะสามารถใช้คีย์ไอเทม Hunter Chief Emblem ที่ซื้อมาเปิดเข้าไปได้ ซึ่งก็จะสามารถเข้าไปที่ลานกว้างด้านในได้ด้วย แต่มันจะมีเจ้าสัปหร่อปีศาจเดินอยู่ตั้ง 2 ตัว ประตูฝั่งตรงข้ามของลานกว้างก็ปิดด้วย ฉะนั้นอ้อมไปทางฝั่งซ้ายของประตูทางเขาลานกว้างก่อน เข้าไปตามทางจนถึงบันไดปีนขึ้นไปบนหอคอยสังเกตการณ์ เดินไปลงบันไดอีกฝั่งมาตามหลังคาจนถึงหน้าประตูฝั่งตรงข้ามของลานกว้าง มีประตูอยู่ใกล้ๆกันทั้ง 2 ด้านนั้น อันนึงจะเป็นประตูเปิดให้ลานกว้างผ่านทะลุถึงกัน ส่วนอีกคันโยกนึงคือเปิดประตูเหล็กตรงทางออกจากห้องโถง Cathedral Ward ในวิหาร Oedon Chapel ที่ประตูตรงจุดตะเกียงนั่นเอง สับคันโยกเปิดทางไว้ให้หมด จากนั้นค่อยขึ้นไปตามบันไดใหญ่ของฝั่งนี้ไป จัดการสัปหร่อยักษ์ตรงทางขึ้น จัดการศัตรูตามทาง เก็บไอเทม เตรียมตัวให้พร้อมแล้วขึ้นไปเปิดประตูด้านบนเข้าไปในวิหาร Grand Cathedral เข้าไปพบ Boss Vicar Amelia




 จากสาวน้อยที่กำลังนั่งสวดอ้อนวอนพระเจ้าจู่ๆก็กลายร่างเป็นสัตว์ร้ายที่แสนน่ากลัว จัดการมันแล้วจะได้คีย์ไอเทม นาฬิกาพก Gold Pendant มา จากนั้นเข้าสำรวจกะโหลกที่วางบนแท่นบูชาจะได้รับรู้เรื่องราวออกมา



??? – นายท่าน Willem ผมมาเพื่อจะบอกลาท่าน
Willem – อ่อ ข้ารู้ ข้ารู้ ตอนนี้ก็ถึงเวลาจะทรยศข้าแล้วสิน๊ะ
??? – เปล่าครับ แต่เพราะท่านไม่เคยฟังผมเลย และผมก็ไม่เคยลืมสุภาษิตประจำใจของพวกเราเลย 
Willem – เราเกิดจากเลือด สร้างมนุษย์จากเลือด ถูกทำลายโดยเลือด ดวงตาของพวกเรายังไม่เคยเห็นแจ้ง เพราะกลัว สายเลือดของบรรพชน 
??? – ข้าจำเป็นต้องไปแล้วครับ
Willem – เห็นแก่พระเจ้า จงหวาดกลัวมันบ้าง .. Laurence

- จากนั้นออกจากวิหาร Grand Cathedral พ้นประตูแล้วลงบันไดมาที่ระเบียงกลางของบันไดทั้ง 2 ฝั่งของตรงนี้จะมีทางไปต่อได้อีกคือ
1. ทางขวา (ไม่เกี่ยวกับเนื้อเรื่องแต่อยากให้เปิดแผนที่ไว้ก่อน ) เดินไปตามทางเดินฝั่งขวาจะเข้ามาที่ลานข้างขวาของวิหารจัดการ Hunter ลูกตุ้มสายฟ้าและ Hunter ปืนยาวซะ แล้วเข้าไปจนถึงเนินด้านในจะมีทางลงไปตามเชิงเข้าจนถึงด้านล่างได้ เช้าไปจนถึงทางเข้าวิหารที่ห้องโถงกลาง Cathedral Ward จะมีถาดขนาดใหญ่อยู่กลางห้อง ประตูด้านในยังปิดตายอยู่ จนจำไว้เท่านี้ก่อน
2. ทางซ้าย (เนื้อเรื่อง) เข้าไปตามทางด้านซ้ายของระเบียงจะมีทางลงไปที่ป่าข้างวิหารซึ่งจะมีทางเข้าไปในถ้ำจนทะลุออกมาอีกฝั่ง ผ่านลานกว้างของป่าที่เป็นสุสานที่เป็นพื้นที่กว้างและเต็มไปด้วยศัตรู ทั้งพวกชาวบ้านที่มีปืนและพวกแม่มดที่จะกรูกันเข้ามาหาเป็นกลุ่มเพราะมันเป็นที่ค่อนข้างโล่งการตั้งรับจึงค่อนข้างลำบาก พยายามลุยเข้าไปจนถึงประตูไม้สุดทางจะเข้ามาที่เขต Hemwick Charnel lane และจะพบจุดตะเกียง Light Lamb ให้อุ่นใจ
- ลุยเข้าไปตามด้านในป่าแม่มดที่เต็มไปด้วยหลุมศพซึ่งจะเป็นทางดินยาวเข้าไปจนถึงลานประหารที่มีไม้เสียบศพประจานอยู่เต็มไปหมด ศัตรูของเขตนี้ค่อนข้างหนักหน่วงครับ ถ้าจะเก็บเลเวลบริเวณนี้ก็ต้องระวังด้วย เข้ามาจนถึงส่วนกลางพื้นที่จะเจอประตูเหล็กกั้นอยู่ ต้องอ้อมขึ้นเนินด้านขวา ลุยเข้ามาถึงซากโกดังไม้ผ่านทะลุมาด้านหลังก็จะอ้อมมาอีกด้านของประตูเหล็กได้ สับคันโยกเปิดประตูไว้ แล้วลุยขึ้นเนินเขาไปเป้าหมายคืออาคารขนาดใหญ่ด้านบน เข้าไปด้านในอาคาร ลงไปชั้นล่างจะพบแต่ความว่างเปล่า แต่ในความว่างเปล่านั้น Boss  The Witch of Hemwick ก็จะออกมาแบบไม่ทันตั้งตัว



  แม่มดแห่งเฮมวิค นั้นหายตัวได้ มันจะส่งลูกน้องเข้ามาโจมตีก่อนจากนั้นมันก็จะเริ่มออกมาโจมตีต่อ ซึ่งจะมองไม่เห็นมันแต่ก็สามารถมองเห็นลูกไฟแดงๆของมันได้ แรกๆก็จะพอเข้าไปฟันมันทันอยู่ แต่หลังจากที่พลังมันลดเกินครึ่งพวกแม่มดเคียวลูกน้องมันจะออกมาเยอะขึ้น แล้ว แม่มดแห่งเฮมวิค มันก็จะหายตัวเร็วขึ้นทำให้แทบไม่มีเวลาเข้าไปโจมตีถึงตัวมันได้ง่ายๆเลย และ มันมีถึง 2 ตัวที่จะออกมาเพิ่มหลังตัวแรกตาย จัดการมันให้หมดแล้ว เข้าไปในห้องด้านในเก็บ Rune Workshop Tool จากศพมา (ตอนนี้ถ้ากลับไปที่ Hunter’s Dreams โต๊ะเครื่องมือก็จะสามารถสวมใส่ Rune ที่เก็บมาได้เพื่อเพิ่มค่าสเตตัสในตัวนักล่าของคุณได้แล้ว)

- ใช้ จุดตะเกียง Light Lamb กลับไปทำธุระที่ Hunter’s Dreams ให้เรียบร้อย แล้ววาร์ปมาที่เขตเมืองเก่า Old  Yhaman ที่เปิดจุดตะเกียงไว้ จากนั้นก็ลุยเข้าไปจนถึงด้านกลางพื้นที่ก็จะพบปืนกลของนักล่าคนที่มันเตือนไว้ที่หน้าทางเข้ายิงปืนกลมาจากยอดตึก ให้รีบหลบไปที่ด้านล่างฝั่งซ้ายก่อน จะมีทางวิ่งอ้อมมาถึงบันไดด้านหลังตึกที่ป้อมปืนกลอยู่ได้ ซึ่งถึงแม้มันจะไม่ได้เป็นอสูร Beast หรือเป็นบอสด้วยซ้ำ แต่มันก็ร้ายกาจไม่เบาครับ ทั้งอึดทั้งเร็วแถมมีการโจมตีหนักๆเพียบ หลังจัดการมันแล้วมันจะบอกให้คุณจดจำว่า ที่คุณกำจัดในครั้งนี้ไม่ใช่พวก Beast จากนั้นเก็บสร้อยคอ Powder Keg Hunter Badge มา

- จากนั้นลงบันไดมาจากหอคอยด้านบน ทางลัดคือทิ้งตัวลงไปตรงทางเดินไม้ไปด้านล่าง เดินผ่านไปตามทางเดินไม้ที่เชื่อมไปที่ชั้นบนของซากโบสถ์ใกล้ๆ หาทางลงไปที่ห้องโถงของโบสถ์ที่ด้านล่าง จัดการศัตรูให้หมดแล้วเข้าประตูตรงหลังแท่นพิธีในห้องโถงของโบสถ์ไปด้านในต่อจะออกมาที่ระเบียงด้านหลังซากโบสถ์ได้




 มองไปทางฝั่งซ้ายที่สุดทางเดินด้านล่างซ้ายจะเห็นทางเข้าโบสถ์ Church of good Chalice ซึ่งมันเป็นห้องบอสเป้าหมายที่ต้องเข้าไป แต่ต้องลงไปตามทางเดินทางขวาเพื่ออ้อมซากหมู่บ้านไปทางซ้ายตามทางก็จะมีบันไดทางไปที่ประตูทางเข้าโบสถ์ Church of good Chalice  ที่อยู่ฝั่งซ้ายได้ (หรือถ้าจะมาจากทางจุดตะเกียง Light lamb ตรงทางเข้าเขต Old  Yhaman ทางลัดคือค่อยๆทิ้งตัวลงมาตรงขอบระเบียงที่พังตรงหน้า ทิ้งตัวมาตามหลังคาทางฝั่งซ้ายจนเข้ามาในตึก ลงบันไดมาชั้นล่างออกประตูมาที่ถนนแล้วไปทางขวาต่อก็จะอ้อมมาที่โบสถ์ Church of good Chalice  ได้เหมือนกัน )
- เข้าไปพบ Boss Blood – Starved beast 






เจ้าปีศาจตัวนี้โจมตีค่อนข้างลำบากครับ เพราะจะทิ้งระยะห่างเยอะแล้วใช้การพุ่งเข้าโจมตีสร้างความเสียหาย ขนาดระเบิดเพลิงที่เหมาะในการสู้บอสยังแทบปาไม่โดนมันเลยถ้ากะจังหวะให้ดีๆ ที่สำคัญที่สุดคือการโจมตีของมันนั้นจะทำให้ติดสภาวะติดคำสาปด้วย HP จะลดแบบฮวบๆเลย พยายามใช้เสามากมายในพื้นที่เป็นที่กำบังแล้วใช้โอกาสระยะประชิดโจมตีมัน เมื่อจัดการมันได้จะได้คีย์ไอเทม Pthumeru Chalice มา

- วาร์ปมาที่ Cathedral Ward ออกทางประตูซ้าย เข้าไปที่ทางบันไดทางขึ้นฝั่งขวาต่อเพื่อไปที่ลานกว้าง Plaza of Grand Cathedral เข้าไปที่ทางเข้าช่องทางซ้ายที่มีเจ้าสัปหร่อขวานยักษ์ขวางอยู่ เข้าไปด้านในผ่านตึกไปจนถึงบันไดทางลงจะพบ Alfred อยู่ที่ที่พักบันได เข้าไปคุยเกี่ยวกับ Healing Church , Bergenwerth และ Vileblood ซึ่งก็จะทำให้รู้ถึงที่มาของการติดเชื้อมาบ้างคือ



[ในอดีต Master Logarius ได้เดินทางไปยัง Bergenwerth โบราณสถานแห่งเทพที่อยู่ในถ้ำลึกที่อยู่ใต้เมือง และได้นำเลือดต้องห้ามกลับที่ปราสาท Cainhurst Castle จนเป็นที่มาของการติดเชื้อ Vileblood จนถึงวันนี้ และเชื่อกันว่า ลึกลงไปใน Bergenwerth นั้นจะมีน้ำพุเลือดแห่งการเยียวยาอยู่ ซึ่งเป็นหนทางเดียวในการรักษาแต่ยังไม่เคยใครมือดีพอจะลงไปค้นหามัน และคนรุ่นก่อนก็ได้ผลึกประตูเอาไว้ด้วยรหัสลับของพวกเขาด้วย ]

- จากนั้นเมื่อได้รับรู้เกี่ยวกับรหัสผ่านของประตูทางเข้ามาแล้วก็ลงบันไดไปด้านล่างต่อจนพบประตู จะมีเสียงพูดออกมาเพื่อถามหารหัสพาสเวิร์ด [Fear the own Blood ] คือพาสเวิร์ดที่ว่า ประตูก็จะเปิดให้เข้าไปด้านใน จะพบคนเฝ้าประตูนั้นตายไปนานจนเหลือแต่โครงกระดูกแล้ว  ลงบันไดมาที่ทางออกชั้นล่างก็จะเข้ามาถึงเขตป่าที่สาบสูญ Forbidden Wood

- เข้ามาตามทางของป่าที่สาบสูญ Forbidden Wood ลงมาตามทางลงเขาก็จะเจอจุดตะเกียง Light Lamb ของพื้นที่นี้แล้ว ประตูบ้านที่เห็นนั้นต้องอ้อมไปเปิดมาจากอีกด้าน ลุยเข้าไปด้านในป่าจนถึงหมู่บ้าน เข้าไปตามทางเดินไม้จนมาถึงหลังบ้านด้านในทิ้งตัวลงไปด้านล่างต่อจนถึงหนองน้ำ ลุยไปจนถึงทางขึ้นหมู่บ้านอีกด้านเข้าไปจนสุดทางก็จะถึงโกดังขนาดใหญ่
- เข้าไปในซากโกดัง ชั้น 2 จะมีทางออกมาด้านนอก ข้างๆโกดังจะมีบันไดปีนขึ้นไปด้านบนต่อ เข้ามาด้านในเดินตามคานไม้บนเฟืองไปออกอีกด้านของหลังคาโกดังที่นี่จะเจอชาวบ้านธรรมดาๆนึงอยู่แต่มันก็จะกลายร่างเป็น Rancid Beast สุดโหดเข้ามาโจมตีทันที โจมตีรุนแรงติดธาตุสายฟ้าอีก แต่ก็สามารถโกงมันได้โดยการเข้ามาดักโจมตีมันด้านในโกดัง เมื่อจัดการมันได้จะได้ Secret Rune Beast มาจากมัน
- กลับลงมาจากหอคอยแล้วเข้าตามแนวลำธารต่อ ระหว่าง 2 ฝากนั้นเป็นพื้นที่ที่ทั้งกว้างและอันตรายจะแวะขึ้นไปเก็บไอเทมหรือเลวเวลก็ควรจำทางให้ดีด้วย เมื่อขึ้นฝั่งจากลำธาร ป่าด้านในจะเริ่มเจอปีศาจงูตามทาง ยิ่งลึกเข้าไปก็จะเจอเจ้าตัวที่มันใหญ่ขึ้นพิษของมันนั้นน่ารำคาญเอามากๆ เข้าตามทางมองหาทางทิ้งตัวลงมาด้านล่างจนพบพวกปีศาจแมงกะพรุนหัวโตๆ ที่จะเข้ามาพร้อมกันจำนวนมากๆ เข้ามาตามทางจนถึงทางเข้าถ้ำจนทะลุออกอีกด้าน ถ้าเริ่มเจอเสียงจะปีศาจหมูยักษ์อยู่ที่ลำธารล่างก็แสดงว่ามาถูกทางแล้ว ลุยเข้าไปจนถึงทางขึ้นฝั่งที่มีไฟ 2 กองจุดอยู่ซึ่งจะเป็นทางเข้าถ้ำ Forbidden Cave  ก่อนเข้าไปสำรวจที่เนินฝั่งทางขวาของทางเข้าถ้ำบนเนินจะมีลิฟต์ที่สามารถใช้ลงไปที่บ้านหน้าจุด Light Lamb ที่หน้าทางเข้า Forbidden Wood ได้ ควรย้อนไปเปิดทางเอาไว้ก่อน แล้วค่อยกลับมาจัดการปีศาจหมูด้านหน้าถ้ำ  Forbidden Cave  เข้าไปแล้วลงไปตามทางลงของแยกซ้ายจะเข้าไปพบ Boss Shadow of Yhaman 3 ตน จัดการแล้วจะได้ Rune Blood Capture มา จากนั้นทะลุผ่านถ้ำนี้เข้าไปด้านในจะออกมาที่ป่าอีกด้านก็จะพบจุดตะเกียง Light Lamb ของเขต Bergenwerth แล้ว



- ที่เขต Bergenwerth นี้ศัตรูที่ได้เจอเลยคือปีศาจแมลงที่สร้างสถานะสับสนให้ได้ถ้าปล่อยให้มันโดดมาเกาะได้ สำรวจพื้นที่ดูจะพบประตูเหล็กทางขวาปิดอยู่ ซึ่งต้องลุยอ้อมมาทางซ้ายจนถึงด้านหลังอาคารที่เป็นระเบียงริมน้ำกับพระจันทร์ดวงโตให้เห็น ลุยผ่านระเบียงด้านล่างไปจะพบปีศาจแมงป่องขนาดใหญ่ขวางอยู่ ผ่านมันไปก็จะอ้อมมาถึงอีกด้านของประตูเหล็กที่เจอตอนแรกจัดการสับคันโยกเปิดมันไว้ได้เลย ทางขวามือก็จะเจอทางเข้าอาคารที่เปิดอยู่แล้ว
- เข้ามาในโถงบันได เปิดประตูฝั่งขวาที่ออกไปยังระเบียงริมน้ำเอาไว้ซะด้วย แล้วขึ้นบันไดไปชั้นบน จัดการ  Hunter นักเวทย์หญิง เธอแข็งแกร่งมากขนาดท่ากระชวกแทงยังลดไม่ถึงครึ่งแถมมียิงเวทย์ที่รุนแรงได้อีกต่างหาก จัดการมันซะแล้ว สำรวจดูจะพบว่าในชั้นตู้หนังสือจะมีประตูที่เปิดไม่ได้อยู่



[ ที่ชั้นหนังสือจะพบคำทำลายที่เขียนไว้ว่า – เมื่อพระจันทร์สีเลือดลอยต่ำลงมา เส้นแบ่งระหว่างมนุษย์และสัตว์ร้ายก็จะจางลง และเมื่อผู้ยิ่งใหญ่ลงมาถึง ก็จะนำมาซึ่งทายาทแห่งความอัปรีย์ ]

- ปีนบันไดตรงตู้หนังสือไปชั้นบนต่อ เก็บกุญแจ Lunarium Key บนโต๊ะ ขึ้นบันไดไปชั้นลนสุดเก็บ Phantasm Shell ในกล่องมา แล้วลงมาที่ประตูที่ชั้นตู้หนังสือจะใช้ กุญแจ Lunarium Key เปิดเข้าไปได้  เข้ามาจะพบว่าเป็นลานทำพิธีด้านนอกตึก และสังฆราชที่นั่งอยู่บนรถเข็ญ เมื่อเข้าไปคุยเขาจะพยายามใช้ไม้เท้าชี้ไปที่ดวงจันทร์ ตรงแท่นยืนนั้นจะสามารถโดดลงไปที่พื้นน้ำด้านล่างได้ ถ้าไม่เหลือบ่ากว่าแรงรบกวนเอา Blood Echoes ไปเก็บก่อนจะเป็นการดีที่สุด





  - ที่ Moonside lake จะมี Boss Rom The Vacuous spider รออยู่ เจ้า Rom จะมาพร้อมลูกแมงมุมมากมาย ถึงจะเป็นลูกแมงมุมมันก็สร้างความตายไม่น้อยไปกว่าแม่มันหรอกครับ พยายามจัดการพวกลูกแมงมุมให้หมดก่อนแล้วค่อนเข้าไปโจมตี Rom เพราะไม่งั้น ทุกครั้งที่มันโดนโจมตีจนหายตัวหนีไปมันจะกลับมาพร้อมลูกๆกลุ่มใหม่อีก ซึ่งถ้าไม่กำจัดกลุ่มเดิมไปก่อนแล้วเน้นโจมตีที่ Rom อย่างเดียวมันก็จะกลับมาพร้อมลูกๆอีกเยอะขึ้นกว่าเดิม จัดการมันได้แล้วจะได้ Kin Coldblood 12 อัน จากนั้นไปที่เงาลางที่เห็นในพื้นน้ำไกลๆ เข้าไปจะพบผู้หญิงที่อุ้มลูกอยู่ด้วยร่างกายที่โชกไปด้วยเลือด เมื่อหันกลับมาดูที่ดวงจันทร์ก็พบว่ามันได้กลายเป็นสีเลือดตามคำทำนายไปแล้ว





    ............เมื่อพิธีกรรมลับถูกทำลายลง ก็จงค้นหาฝันร้ายที่จะกำเนิดใหม่ในคราต่อไป .......

- หลังจบเหตุการณ์จะถูกวาร์ปมาที่วิหารที่ห้องโถงกลาง Cathedral Ward มีถาดขนาดใหญ่อยู่กลางห้องและประตูตรงด้านในที่ปิดอยู่ก็จะเปิดออกแล้ว ผ่านเข้าไปจะเป็นทางลงด้านล่างมาที่ Yahar’gul Unseen Village (ที่เดียวกับที่คุณตายบ่อยๆมันจะถูกจับมาขังที่คุกใต้ดินที่นี่นั่นแหละ) ที่นี่จะเห็นถึงลางร้ายที่กำลังใกล้เข้ามาแล้ว พระจันทร์สีเลือดและตัวประหลาดขนาดใหญ่ที่น่ากลัวกำลังเข้ากัดกินเมือง ลงบันไดไปที่หน้าทางเข้าตึกด้านล่างเต็มไปด้วยศัตรูและเจ้าตัวประหลาดยักษ์ยังคอยดักจับหักคออยู่ด้วย ลุยเข้าไปในตัวตึกแล้วจะพบทางออกทางขวาของตึกต่อ
- เข้าไปที่ประตูอาคารด้านล่างจะปิดอยู่ เข้าไปในช่องพนังแตกข้างซ้ายแทน ด้านในจะมีประตูเข้าจากด้านหลังไปที่ด้านในตึกได้ จัดการศัตรูให้หมดแล้วปลดล็อกประตูหน้าที่ปิดไว้ด้วยเลย แล้วค่อยออกประตูไปด้านนอกตึก เข้ามาตามทางจนถึงทางแยก บันไดไปด้านบนและด้านขวาจะเห็นลานทรงกลมที่มีศพอยู่บนรถเข็น ลงบันไดข้างๆนั่นลงไปตามทางจนถึงอีกตึกจะมีไอเทมให้เก็บพร้อมศัตรูมากมายในห้อง ขึ้นบันไดไปด้านบนตรงทางแยกต่อ ด้านบนลานกว้างหน้าวิหารจะเห็นตัวประหลาดยิงลำแสงทำลายทุกอย่างหน้าทางเข้าตึกอยู่ หาจังหวะวิ่งหลบแล้วเข้าในตึกให้เร็วที่สุด ด้านในจะมี Light lamb อยู่ด้วย

- Yahar’gul Chapel จากจุด  Light lamb ออกทางซ้ายไปทางเดินนอกตึก ที่ระเบียงจะมีทางทิ้งตัวลงไปที่ด้านล่างได้ จากนี้ก็ลุยยาวเข้าไปในตึกใหญ่ ที่นีจะมีทางแยก 2 ทางที่สำคัญคือ
1. (ไม่เกี่ยวกับเนื้อเรื่อง) ลงบันไดวนในห้องโถงใหญ่ของตึกลงมาจนถึงห้องด้านล่างเข้าไปที่พนังด้านในจะมีโพรงให้ออกมาที่ถ้ำด้านนอกต่อ ลงมาจนถึงลานกว้างด้านนอกจะพบกับ Boss Darkbeast Paarl ที่รออยู่



 เจ้าปีศาจโครงกระดูก Paarl นั้นเน้นพลังโจมตีด้วยสายฟ้าและการพุ่งเข้าหาแบบไม่ค่อยหยุดนิ่ง งานนี้ยังไงก็ต้องโดนกงเล็บสายฟ้าของมันแน่นอน โดนมากโดนน้อยก็อีกเรื่อง ถ้าไม่มี canon ยิงถล่มก็เข้าอาศัยความพลิ้วเข้าไปคลุกวงในเอา จัดการมันได้จะได้ไอเทม Spark Hunter Badge กับอีก 21000 Blood Echoes เปิดจุดตะเกียงไว้ได้เลย ส่วนประตูใหญ่ที่ลานกว้างนี่ก็คือประตูใหญ่ที่เคยเปิดไม่ได้ในเขต Old  Yhaman นั่นเอง เปิดออกเอาไว้ได้เลย
2. (เนื้อเรื่อง) ทะลุออกมาที่อีกประตูอีกฝั่งของโถงไปจนมาถึงถนนใหญ่ ทางฝั่งซ้ายจะเต็มไปด้วยตัวประหลาดที่ตัวอยู่ในกล่องอยู่กันเป็นกลุ่มเต็มถนน ล่อมันมาจัดการทีละตัวให้หมดแล้วเข้าไปที่สุดถนนที่พนังจะมี Tonitrus กระบองลูกตุ้มสายฟ้าให้เก็บ ทางแยกขวาลุยผ่านซุ้มประตูไปเห็นท้องถนนที่เต็มไปด้วยปีศาจมากมาย ถ้าห้าวพอก็ลุยยาวเข้าไปตามถนนได้เลยครับ แต่ถ้าอยากปลอดภัยไปบ้างก็ต้องไปทางลัด โดยจากซุ้มประตูที่เข้ามาในถนนเลาะขึ้นบันไดซ้ายของรถม้าไปด้านบน ผ่านทางเดินบนระเบียงไปสุดทางจนถึงทางเข้าตึก ไม่ต้องเข้าไปแต่ให้เดินขึ้นบันไดข้างๆตึกไปจนเห็นห้องที่มีถาดที่ใช้วาร์ป แล้วออกไปที่ประตูอีกด้านไปทีระเบียงทรงกลมจะมีบันไดลงมาที่ถนนใหญ่ด้านในได้  เข้ามาในลานกว้างจะเริ่มเห็นพระจันทร์สีเลือดเริ่มมีการเปลี่ยนแปลง มันถูกเงาดำปกคลุมไปหมดจากนั้นไม่นานร่างที่น่าขยะแขยงที่กำเนิดออกมาก็ตกจากฝากฟ้าเป็น The One Reborn ตามคำทำลาย



- Boss The One Reborn พื้นที่ที่ใช้ต่อสู้จะมีขนาดใหญ่ ขึ้นไปจัดการแม่มดที่คอยสั่นกระดิ่งบนระเบียงให้หมดก่อนแล้วค่อยลงมาลุยกับ The One การโจมตีของมันคือการปล่อยซากศพลงมาใส่รอบๆตัว กับพ่นเมือกสีดำจากระยะไกล ที่ที่ปลอดภัยที่สุดคือเข้าไปคลุกวงในกับมันเลย ใช้ paper ธาตุอะไรก็ได้เสริมให้อาวุธแล้วโจมตีระยะประชิด หาจังหวะหลบการกระทืบแบบ 2 ทีหมดหลอดของมันด้วย และถ้ามีปืนใหญ่ (Cannon) กับกระสุนมากพอก็ถือว่าได้เปรียบเพราะกระสุนปืนใหญ่จะทำให้มันพลังลดเยอะมากครับ (นัดละ 10 กระสุนเงินได้ 2 นัดก็ถือว่าลดเยอะแล้ว) เมื่อจัดการมันได้ก็จะได้ไอเทม Yellow backbone มา  หลังเสร็จศึกใหญ่ก็จุดตะเกียง Light Lamb ที่ Hypogean Gaol นี่ซะแล้วเข้าไปด้านใน สำรวจที่มัมมี่ที่ตายคาเก้าอี้มันจะวาร์ปมาที่ Lecture Building



- Lecture Building ที่นี่จะเต็มไปด้วยเหล่าปีศาจปัญญาชนครับ ลุยเข้าไปจนสุดทางเดินระเบียงจะมีบันไดลงล่างต่อ จะเจอคนที่กลายร่างเป็นแมงมุมขวางประตูอยู่ คุยกับมันแล้วมันจะถามว่า ตัวมันน่าเกลียดมั๊ย เลือกตอบ Not at all ก็จะได้ Rune Anti Clock wise มาด้วย เปิดประตูออกไปจะเป็นห้องทดลอง ตามทางเดินยาวของห้อง ประตูซ้ายที่ 2 เข้าไปที่ห้องเลคเชอร์ เก็บกุญแจ Lecture Theatre key จากศพของอาจารย์มา แล้วออกไปที่ทางเดินด้านนอก เอากุญแจไปไขเข้า  Lecture Theatre ที่ประตูฝั่งขวา ด้านในจะเต็มด้วยปีศาจปัญญาชนแน่นห้อง จัดการให้หมดแล้วเปิดประตูทะลุมาห้องทางขวาเก็บไอเทม Augur of Ebrietas ในหีบ จากนั้นก็เก็บไอเทมจาทุกห้องเห็นมดก่อนแล้วค่อยเข้าไปที่ประตูใหญ่ที่อยู่สุดทางเดินของห้องโถงไปก็จะออกมาที่ Nightmare Frontier ต่อ

-ที่ Nightmare Frontier หุบเขาแห่งฝันร้าย ที่เต็มไปด้วยโขดหินและป้ายหลุมศพมากมาย ลงไปที่ลานด้านล่าง  พื้นที่กว้างแต่ไม่ซับซ้อน แต่ศัตรูที่นี่แน่นเอียดไปหมด พยายามตามจุดตะเกียงสีเขียวไปผ่านทะลุเข้าไปในถ้ำจนออกมาอีกด้านบน ลุยลงเนินไปด้านล่างที่ลานกว้าง พื้นที่ต้องนี้ค่อนข้างกว้างและมีไอเทมซ่อนอยู่เยอะ พยายามหาให้ทั่วๆก่อนแล้วค่อยไปที่เป้าหมายคือทางเดินด้านบนที่มีซุ้มประตูหินอยู่ เข้าไปพบ Boss Amygdala



เจ้านี่ก็คือสัตว์ประหลาดขนาดใหญ่ที่เกาะตึกแล้วยิงเลเซอร์ใส่แถว Yahar’gul Unseen นั่นแหละ การโจมตีของมันคือ การทุบพื้นอย่างรุนแรง สะบัดสารพิษออกรอบๆตัวและการยิงด้วยตาเลเซอร์ จุดอ่อนก็คือที่หัวของมัน จังหวะเข้าโจมตีก็สุดอันตรายก็คือหลังจากมันทุบพื้นเสร็จมือมันจะค้างอยู่และหัวก็จะก้มลงมาติดพื้น สามารถเข้าไปโจมตีได้และถ้าจะหวะดีๆก็จะสามารถชาร์ทพลังทะลวงหัวมันได้ด้วย ซึ่งจะเป็นการโจมตีที่จะสร้างความเสียหายกับมันอย่างมาก ปัญหาคือจะเข้าประชิดตัวมันยากเพราะการทุบพื้นที่รุนแรงจนถึงหมดหลอดได้เลย ทางเดียวคือ ในช่วงที่มันยกมือทุบพื้นให้วิ่งสวนเข้าไปอยู่ใต้ตัวมันแล้วแรงทุบที่ออกไปด้านหน้าก็จะไม่โดนซึ่งก็ทำให้พอมีเวลาชาร์ทพลังจ้วงหน้ามันได้
- จัดการมันได้แล้วจะได้ไอเทม Ailing Loran Chalice มา เข้าไปเปิดจุดตะเกียง Light Lamb ที่ในซากอาคารกลับมาที่  Hunter’s Dreams

- วาร์ปมาที่  Lecture Building เข้าไปที่ประตูสุดทางของระเบียงชั้นบนจะเข้ามาที่ Nightmare of Mensis  ผ่านถ้ำหินกระโหลกออกมาด้านนอก ด้านขวาของลานโขดหินจะมี Light lamb ของพื้นที่นี้อยู่ จากนั้นลุยเข้าไปตามทางเดินจนถึงทางแยก ทางขวานั้นจะไปที่ซุ้มลิฟต์ที่มันยังค้างอยู่ด้านบน (ตรงนี้มี Light Lamb อยู่ด้วย ) ทางแยกซ้ายจะเข้าไปถึงซากวิหารสุดทาง เข้าไปด้านในจะพบว่าที่นี่เป็น รังของแมงมุมปีศาจ ซึ่งจะมีตัวแม่มันอยู่กลางห้องโถงและตัวลูกยั่วเยี้ยไปหมด พวกมันไม่ใช่บอสจัดการให้หมดได้เลย ที่ศพด้านในมี Shaman Bone Blade ให้เก็บ แล้วเข้าไปที่ประตูด้านในขวาจะผ่านทางเชื่อมไปที่วิหารอีกฝั่งได้  เข้ามาในห้องโถงลงมาชั้นล่างฝั่งขวาจะมีช่องลิฟต์ที่สามารถลงไปที่ทางแยกขวาที่หน้าซากวิหารได้ (จะแวะไปใช้ Light lamb กลับไป Hunter’s Dreams เพื่อเตรียมตัวก่อนก็ได้) ตรงเข้าไปจะเป็นระเบียงใหญ่ลงบันไดมาชั้นล่าง ลุยเข้าไปในห้องโถงจนถึงด้านในจะพบซุ้มลิฟติอยู่ฝั่งซ้าย ขึ้นไปชั้นบนต่อ ออกมาด้านนอกลุยขึ้นบันไดไปด้านบนจนถึงประตูทางเข้า ฝั่งซ้ายก็ยังมีลิฟต์ให้ลงไปที่จุดซุ้มลิฟต์ด้านขวาของวิหาร (จะแวะไปใช้ Light lamb กลับไป Hunter’s Dreams เพื่อเตรียมตัวก่อนก็ดี) เข้าประตูทางเข้าไปจะเจอทางเดินเหล็กยาวเข้าไปจนถึงด้านในจะพบกับชายลึกลับที่มีกรงครอบหัวอยู่ มันได้แต่พร่ำว่า ไม่มีใครจับพวกมันได้ ไม่มีใครหยุดพวกมันได้ ก่อนที่จะเปิดฉากเข้าต่อสู้



Boss – Micolash Host of The Nightmare จ้าวแห่งฝันร้าย มิโครัช ไม้เด็ดของมันคือใช้หมอกพรางตัวให้หาไม่เจอ ต้องพยายามวิ่งหามันท่ามกลางหุ่นปีศาจที่ขัดขวางจนเจอแล้วมันจะเข้าไปจนมุมในห้องแรก จนพลังมันลดครึ่งนึงมันจะหายตัวหนีไป ต้องตามหาอีกรอบให้เจอ จากนั้นมันจะหนีเข้าไปในห้องที่มีประตูเหล็กกั้น ซึ่งต้องขึ้นไปชั้นบนแล้วโดดลงมาหามันในห้อง จากนั้นก็จัดการมันซะแล้วจะได้ Mensis Cage กรงสวมหัวสุดเท่ของมันมา
 - หลังจากมันตายแล้วทางเดินเหล็กที่ชั้นล่างจะถูกปรับขึ้นมาชั้นบน และประตูเหล็กในห้องนี้ก็จะเปิดออก ออกนอกห้องไปเก็บ Iron door Key มุมซ้ายของห้องที่มีกระจก จากนั้นขึ้นบันไดไปชั้นบนก็จะเห็นทางเดินเหล็กให้ข้ามไปฝั่งตรงข้ามที่มีจุดตะเกียง Light lamb อยู่ได้แล้ว
- ออกประตูไปที่ระเบียงด้านนอกต่อ ขึ้นบันไดมาด้านบน ทางขวาจะมีโถงลิฟต์ใหญ่ที่ยังใช้การไม่ได้อยู่ แต่ลิฟต์เล็กใกล้ๆที่สามารถลงต่อเนื่องกลับไปที่ลิฟต์ตรงจุดตะเกียงที่อยู่ฝั่งขวาของหน้าวิหารได้ จากนั้นลุยไปทางฝั่งซ้ายต่อ จัดการปีศาจหมูสามตัว แล้วลุยขึ้นบันไดไปจนถึงด้านบนก็จะเจอผู้หญิงชุดขาวเปื้อนเลือดยืนร้องไห้อยู่ ไม่ต้องไปสนใจเดินเข้าไปที่โถงลิฟต์ด้านในขึ้นไปชั้นบนได้เลย เข้าไปพบ Boss Mergo’s wet Nurse



ปีศาจนางพยาบาล มันแทบไม่ได้มีพิษสงอะไรมากมายทางกายภาพเท่าไหร่เลย การโจมตีของมันมีแค่การใช้แขน 6 แขนกับดาบทำคอมโบแบบเดินหน้าฟันมั่วอย่างเดียว วิธีตอบโต้มันก็คือ จังหวะที่มันยกแขนขึ้นบนเตรียมทำคอมโบ หลบไปด้านหลังมันให้ทันก็จะโจมตีมันจากด้านหลังอย่างปลอดภัยยาวๆ ซึ่งต้องพยายามอยู่หลังมันแบบพอดีๆหน่อยเพราะวงโจมตีแขนมันค่อนข้างกว้างมาก จัดการมันได้แล้วจะได้ One Third Umbilical Cord มา



- เมื่อกลับมาที่ Hunter’s Dreams จะพบว่าบ้านถูกเผาไปแล้ว ตุ๊กตาที่ถูกทิ้งบอกว่า เมื่อฝันร้ายจบลง อรุณรุ่งก็จะมาเยือนและเมื่อค่ำคืนถูกทำลายลงไปนั่นทำให้ฝันครั้งนี้กำลังจะจบลงด้วยเช่นกัน ตอนนี้ตาเฒ่า Gehrman กำลังรอคุณอยู่ที่ใต้ต้นไม้ใหญ่ แต่ยังไม่ต้องไปหาแกหรอกน๊ะ ไปเคลียร์เรื่องของเราให้จบก่อนดีกว่า

** ถึงตรงนี้ เป็นเวลาที่คุณต้องเกมเลเวล ตีอาวุธ ตุนไอเทมดีๆ เตรียมความพร้อมให้ถึงจุดสูงสุดเท่าที่คุณอยากจะทำเพราะสถานที่ที่จะไปต่อจากนี้เป็นดันเจี้ยนสุดท้ายที่สุดโหดแล้ว ** 



เป้าหมายต่อไปคือ ปราสาท Forsaken Cainhurst Castle  ซึ่งต้องมีจดหมายเชิญหรือ คีย์ไอเทม Cainhurst Summons ก่อน ซึ่งต้องไปเก็บในชั้น 1st Floor Sickroom บนเตียงคนไข่้ที่ Iosefka’s Clinic

                       

  วิธีไปนั้น เริ่มจากวาร์ปไปที่  forbidden woods ตรงไปจนถึงสะพาน ข้ามกับดักไป พยายามชิดซ้ายเอาไว้ ตรงไปเรื่อยๆ จนพบกรงสุนัขปีศา เลยไปนิดเดียวด้านซ้ายมีทางเข้าถ้ำ เดินตามทางผ่านบึงไป ผ่านแท่งหินใหญ่กลางบึง ผ่านไปถึงทางเข้าถ้ำ ไปจนเจอขึ้นบันไดจะมาที่ Yharnam ได้




จากนั้นก็เข้าไปที่ Iosefka’s Clinic สถานที่แรกทัี่เจอในเกม เข้าไปเก็บจดหมายที่วางอยู่บนเตียงในห้อง  st Floor Sickroom มาได้เลย



- จากนั้นวาร์ปมาที่ Hemwick Charnel lane วิ่งลุยไปทางแยกซ้ายผ่านประตูลูกกกรงที่เปิดไว้ เดินไปที่ลานตรงทางแยกจะเห็นแท่นเสาโบราณอยู่เดินไปตรงนั้น จะมีรถม้ามารับถึงที่ แล้งรถมาก็จะพาเดินทางมาที่ Forsaken Cainhurst Castle ปราสาทของ Master Logarius ผู้นำสิ่งที่ที่ไม่ควรยุ่งเกี่ยวมาจากที่ของมันจนนำความเลวร้ายมาสู่ความมาสู่เมืองโดยไม่รู้ตัว









 ปราสาท Forsaken Cainhurst Castle




- เข้าประตูใหญ่ไปจะพบจุดตะเกียง Light Lamb บนเนินมีโถงลิฟต์ที่ยังใช้ไม่ได้ ลุยเข้าไปถึงทางเข้าปราสาทบนเนิน ด้านในมอนสเตอร์ของที่นี่คือวิญญาณแค้นของหญิงสาวที่มาพร้อมเสียงสะอื้นกับมีดในมือ ไม่ได้น่ากลัวอะไรในเรื่องการต่อสู้แต่มุขถอดหัวเลือสาดของคุณเธอก็นำมาซึ่งความเสียวสันหลังได้ไม่น้อยเหมือนกัน ขึ้นบันไดเข้าห้องอาหารทางซ้ายจะมีทางออกไปยังระเบียงด้านนอกไปจนถึงระเบียงทางเดินด้านบนกำแพง ด้านบนหอคอยสังเกตการณ์คุณสามารถทิ้งตัวลงไปที่ทางเดินกำแพงอีกด้านได้เลย เดินเข้าไปในทางเดินในกำแพงฝั่งขวาของปราสาทมาออกที่ด้านนอกระเบียง ก่อนเข้าไปด้านในแวะเข้าไปเก็บชุด Executioner ที่อยู่ติดระเบียงด้วย ใส่แล้วสเตตัสทุกอย่างพุ่งกระฉุดยกเว้นการป้องกันทางกายภาพเท่านั้นที่ลด
- เข้าไปยังโถงห้องสมุดต่อ ฝั่งซ้ายของห้องคือโถงลิฟต์ที่สามารถลงไปด้านนอกปราสาทได้ (ซึ่งก็คือโถงลิฟต์ตรงทางเข้าด้านนอกปราสาทที่เจอตอนแรกที่เข้ามานั่นเอง) สุดทางในห้องจะมีบันไดขึ้นไปที่ชั้น 2 ของห้องสมุด ถ้าทิ้งตัวผ่านกระจกแตกด้านหลังห้องลงไปที่ระเบียงด้านหลังปราสาท เข้ามาในห้องสมุดจากฝั่งหลังจะมีชุด Knight ให้เก็บ สเตตัสเท่ากับ ชุด Executioner แต่ไฮโซกว่า จากนั้นออกทางระเบียงด้านนอกเดินเลาะไปทางหลังคาทางซ้ายจะเข้าไปในหน้าต่างของห้องสมุดด้านในได้ มีคันโยกให้สับเลื่อนตู้หนังสือออกซึ่งจะทำให้กลับมาที่โถงห้องสมุดได้ ปีนบันไดใกล้ๆคันโยกขึ้นไปที่ระเบียงห้องสมุดที่ชั้น 3 ได้
- ด้านในห้องสมุดชั้น 3 จะมีทางออกไปบนหลังคาปราสาทได้ เดินชิดขอบทางขวาของหลังคา ทิ้งตัวลงมาเดินบนซุ้มประตูยาวตรงยอดแหลม ทิ้งตัวจากยอดแหลมมาที่ทางเดินด้านล่างจะมีบันไดทางฝั่งซ้ายให้ปีนขึ้นไปที่บนหลังคาอีกด้านจะเจอทางเข้าซุ้มที่จะเข้ามาที่ส่วนกลางของหลังคา ที่นี่จะเจอท่านจ้าวปราสาท Martyr Logarius ยืนรออยู่



Boss - Martyr Logarius โจมตีด้วยเคียวเลือดของมันกับการร่ายเวทย์ระเบิดพลังรอบตัว ท่ากวาดแกว่งเคียวของมันนั้นไม่กว้างมากสามารถแดชหลบไปด้านหลังแล้วโจมตีได้ ท่าโดดขึ้นฟาดเคียวนั้นต้องกลิ้งหลบ 2 ครั้งจงจะพ้น ส่วนท่าระเบิดพลังเวทย์ก็ร่ายมนต์นานเกินจนสามารถเข้าไปอัดได้ไม่ยาก เมื่อจัดการมันได้ก็จะได้ มงกุฎ Crown of Illusion มา เป็นไอเทมสวมใส่ด้วยครับไม่ใช่คียไอเทม แต่ใส่แล้วสเตตัสลดเยอะอยู่

- จบเรื่องที่ ปราสาท Forsaken Cainhurst Castle แล้วก็วาร์ปกลับมาที่ Hunter’s Dreams อีกครั้ง ที่เหลือก็ไปตามนัดของ ตาเฒ่า Gehrman ซึ่งก็ต้องเดินอ้อมแท่นหลุมศพทางขวาไปก็จะเจอลุงแกรออยู่ที่ลานดอกไม้ เข้าไปคุยได้เลย



“ เจ้าเก่งมาก ฮันเตอร์ เจ้าทำดีมาก ราตรีแห่งฝันร้ายนี้ใกล้จะถึงจุดจบแล้ว ที่นี้ข้าจะให้ความเมตตากับเจ้า ข้าจะให้เจ้าตาย ลืมความฝันนี่ซะ แล้วตื่นขึ้นพร้อมตะวันรุ่งของวันพรุ่งนี้ เจ้าจะเป็นอิสระจากความฝันของฮันเตอร์ที่สุดน่ากลัวนี่เสียที "


                                      Submit your Life  เต็มใจอย่างยิ่ง ( Ending A )




ถ้าคุณตอบข้อนี้ 
Gehrman ก็ ก็จะประหารคุณใต้แสงจันทร์ แต่มันจะทำให้คุณตื่นมาที่เมืองพร้อมพระอาทิตย์วันใหม่ที่สดใส


     น้องตุ๊กตาที่ถูกทิ้ง ก็จะอธิฐานที่หลุมศพของคุณ ให้คุณพบหนทางใหม่ที่สวยงามกว่านี้ 


  

  


                                               Refuse ปฎิเสธ ( Ending B )



โอ้ .. เพื่ออะไรกันล่ะ การล่า เลือด ความฝันที่สุดแสนจะน่ากลัวเนี้ยหรอ อ่า ช่างเถอะ ยังไงสุดท้ายเรื่องมันก็ตกมาถึงฮันเตอร์ที่ต้องมาชำระล้างอะไรที่มันสกปรกตามที่ได้รับมอบหมายอยู่แล้ว แต่ ยังไงคืนนี้ Gehrman ของออกล่าด้วยแล้วกัน 










Boss – Gehrman The First Hunter การต่อสู้กับลุง Gehrman ในฐานะฮันเตอร์คนแรกของฝันร้ายนี้ถือว่าเป็นเกรียติมาก การต่อสู้เต็มไปด้วยความตรงไปตรงมา ดวลกับซื่อๆ ด้วยเคียวของลุงกับท่าโจมตีบ้านๆที่ดูทรงพลังมาก หลังจากจัดการได้แล้วก็จะได้ คีย์ไอเทม Old Hunter Blade มา







หลังจากจัดการ Gehrman ในฐานะฮันเตอร์คนแรกของฝันร้ายนี้ลงได้ เงาประหลาดก็ทอดผ่านท่ามกลางดวงจันทร์สีเลือด ปรากฏร่างปริศนาที่ออกมาจากท้องฟ้า  ตัวประหลาดต้นต่อของฝันร้ายที่ค่อยๆเข้ามากลืนกินนักล่าผู้โง่เขลาให้ติดกับดักแห่งความชั่วร้าย เป็นวงวน เป็นวฎจักรที่ต้องสืบทอด ไปชั่วกัปชั่วกัลป์ 







                         ...... และแล้ว การล่า ก็เริ่มขึ้นอีกครั้ง จนได้  .......



                                                            Secret Ending 

สิ่งสำคัญที่จะทำให้ได้สู้กับ Moon Presence และได้เห็น ฉากจบที่ 3 ที่เป็นฉากจบสุดท้ายนั้น จำเป็นต้องมีไอเทม Third Umbilical Cord  4 อัน ก่อนเข้าต่อสู้กับ Gehrman ซึ่งวิธีการตามหามันมาให้ครบก็คือ

                               


1. อันแรกนั้นได้หลังจากกำจัดบอส  Mergo's Wet Nurse ตามเนื้อเรื่องอยู่แล้ว
2. อยู่ที่ Abandoned Old Workshop ซึ่ง ร้านนี้ นั้นต้องตามหากันหน่อยเพราะมันซ่อนอยู่ โดยต้องเข้าประตูขวาของ Cathedral Ward ที่ วิหาร Oedon Chapel (ซึ่งประตูขวาของห้องโถงนี้จะเปิดต่อเมื่อจัดการ บอส Blood-Starved Beast แล้ว) มันจะเป็นโถงลิฟต์พาขึ้นไปชั้นบนของวิหาร บน (ระหว่างชั้นที่ลิฟต์ไม่ได้หยุดจะมีช่องที่เดินเข้าไปได้จะเป็นชั้นระเบียงบนของวิหารมี Rune Formless และคีย์ไอเทม Massager Urn Festival ให้เก็บด้วย) วิ่งลุยไปในโถงแรกออกประตูขวาไปตามทางเดินด้านนอกจนถึงโถงห้องที่ 2 เลี้ยวขวาตรงทางเดินรอบนอกทิ้งตัวลงไปตรงทางเดินขาดไปที่ Healing Church Workshop แล้วเข้าไปในโถงด้านในจะมีทางเดินไม้อยู่ มองลงล่างแล้วทิ้งตัวลงไปตามทางเดินไม้จนถึงประตูไม้แกะสลักด้านล่าง เข้าไปก็จะพบ Abandoned Old Workshop หน้าตาคล้ายๆ Hunter’s Dreams นั่นแหละ เข้าไปก็จะพบ Third Umbilical Cord อันที่ 2 อยู่บนโต๊ะ
3. ได้จาก Iosefka โดยหลังจากกำจัดบอส Rom The Vacuous แล้ ว ไปที่ Iosefka’s Clinic ขึ้นไปชั้นบนจะพบเธอนอนให้ท่าอยู่บนเตียง ฆ่าเธอซะก็จะได้ Third Umbilical Cord อันที่ 3 มา




4. หาตัว Arianna ซึ่งจะเจอเธอหลังจากกำจัดบอส  Witch of Hemwick  แล้ว การจะไปบ้านเธอนั้น ต้องออกทางประตูซ้ายของ Cathedral Ward ที่วิหาร Oedon Chapel ขึ้นไปทางออกด้านขวาไปตามบันได ผ่านประตู Main Gate ที่ต้องใช้เอมเบลมเปิดนั่นแหละ จากนั้นก็เลาะไปทางฝั่งซ้ายของลานกว้างนี้ไปจนสุดถนนแล้ววนเข้าทางซ้ายมองหาบ้านที่เปิดโคมแดงเพื่อขอความช่วยเหลืออยู่แถวๆนั้น นั่นแหละบ้านของ Arianna


 เข้าไปคุยซึ่งก็แล้วแต่ว่าคุณจะส่งเธอไปที่ไหน ถ้าส่งไปที่ Iosefka’s Clinic คุณต้องตามหาเธอได้รางวัล 1 Insight จากเธอแล้วฆ่าเธอซะ หรือถ้าคุณส่งเธอมาที่ Cathedral Ward ที่วิหาร Oedon Chapel เธอก็จะมานั่งเก้าอี้อยู่ที่นี่อย่างมีความสุข และได้ Blood of Arianna เป็นรางวัลจากเธอ แต่หลังจากจัดการบอส Mergo's Wet Nurse ไปแล้ว ก็จะไม่เห็นเธอนั่งอยู่ในห้องโถง ให้ลงบันไดไปที่ห้องด้านนอกลงบันไดไปที่ชั้นใต้ดินจะพบ Arianna คลอดลูกเป็นพวกติดเชื้อ ฆ่าลูกทารกของเธอซะอย่างได้เกรงใจก็จะได้ Third Umbilical Cord อันที่ 4 มา
- จากนั้นกดใช้ (กิน) Third Umbilical Cord ที่ได้มาทั้ง 4 อัน แล้วค่อยเข้าไปสู้กับ Gehrman The First Hunter จนเอาชนะเขาได้ สุดท้ายเมื่อ Moon Presence ปีศาจแห่งฝันร้ายออกมาจากดวงจันทร์สีเลือดแล้วเข้ามาพยายามกลืนกิน พลังของ Third Umbilical Cord ที่กินเข้าไปก็จะจะแสดงพลังออกมาจน Moon Presence ไม่สามารถกลืนกินได้มันจึงหันมาโจมตีคุณแทน 




Boss Moon Presence นั้นไม่มีท่าใหญ่ท่ายากอะไรที่จะเข้าโจมตีนอกจากตวัดหนวดไปมารอบตัวกับปล่อยแสงสีเลือดเข้าโจมตี ซึ่งท่านี้จะทำให้มันชะงักนานมากพอดูด้วย ถ้าไม่อยากลำบากมาก เลเวลซัก 80 อัพกำลังสวย ที่เหลือก็เน้นอาวุธหนักและใช้ท่าชาร์จเหวี่ยงอาวุธเข้าใส่ พลังมันจะลดเยอะและเพื่อตัดความรำคาญตอนมันซัดจนต้องเสียหลักล้มถ้ามัวแต่เดินทื่อเข้าไปหามันด้วย




หลังจากจัดการ Moon Presence ลงได้ ฝันร้ายทั้งหมดจะจบลงหรือเพิ่งเริ่มต้นไม่มีใครรู้ แต่หลังจากจบศึกแล้ว ตุ๊กตาที่ถูกทิ้งจะเดินมาพบทากขนาดใหญ่ตัวนึงที่กำลังดิ้นอยู่บนพื้น เธออุ้มขึ้นมาด้วยความเอ็นดูและเป็นห่วงว่า มันจะหนาว สีหน้าที่แสนเย็นชาของเธอดูเปลี่ยมสุข ก่อนที่เธอจะเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงที่นุ่มนวลว่า “เป็นเด็กดีเถิดหนานักล่าของฉัน“

     



          ***************************************************************


ไม่มีความคิดเห็น: