วันอาทิตย์ที่ 1 มีนาคม พ.ศ. 2558

Resident Evil: Revelations 2





29 กันยายน ปี 1998 Claire Redfield สาวน้อยวัย 19 ปีที่มุ่งหน้าสู่เมือง Raccoon City เพื่อนตามหา Chris Redfield พี่ชายของเธอที่หายตัวไป จนต้องกลายเป็นหนึ่งในผู้รอดชีวิตจากมหัตภัยร้ายจากเชื้อไวรัสที่ทำลายล้างทุกอย่างด้วยผู้ติดเชื้อที่กลายเป็นซอมบี้ที่กลืนกินเมือง Raccoon City ก่อนที่จะถูกทำลายสิ้นด้วยหัวระเบิดนิวเคลียร์ของกองทัพที่พยายามจบเรื่องทุกอย่างที่รัฐบาลมีส่วนรู้เห็นไปพร้อมๆกับประชาขนผู้บริสุทธิ์ร่วมแสน และการล่มสลายของ Umbrella Corporation บริษัทที่ผลิตไวรัสร้ายขึ้นมา 

                              


ธันวาคม ปี 1998  Claire ยังคงตามหา Christ ของเธอต่ออย่างไม่ลดละ ทันทีที่เธอได้ข่าวว่า Chris พี่ชายของเธอออกปฏิบัติการณ์ที่ฝรั่งเศสเธอจึงตามไปจนถึง Paris Medical Lab ศูนย์วิจัยลับของ Umbrella Corporation ที่ฝรั่งเศสทันที แต่โชคร้าย Claire เสียท่าถูกจับตัวได้และถูกส่งตัวมายังคุก Rockfort ที่เกาะร้างกลางขั้วโลกใต้ ในโชคดีของโชคร้าย Claire ได้พบพี่ชายเธอตามที่หวังหลังจากที่ Chris ตามมาช่วยเธอด้วยความ่วงใย จนสุดท้ายทั้งคู่ก็ทำลายเชื้อไวรัสสายพันธ์ใหม่ T – Veronica ลงได้และหนีออกจากคุกนรกได้สำเร็จ  


                       

ปี 2005  7 ปีต่อมา เส้นทางชีวิตของ Claire ก็ไม่เคยเหมือนเดิมหลังจากนั้น ถึงแม้ Umbrella Corporation จะล่มสลายไปแต่มันก็ทิ้ง ไวรัสที่ชั่วร้ายไว้เป็นมรดกให้ดูต่างหน้า และคำว่า ภัยจากการก่อการร้ายจากอาวุธเคมีชีวภาพ ก็เป็นสิ่งที่หลายประเทศให้ความสำคัญเป็นอันดับต้น จนอเมริกาต้องยอมใช้งบจากภาษีประชาชนมาสนับสนุนบริษัท Wilpharma Corporation บริษัทยารายใหญ่ให้เข้ามาช่วยทำวิจัยเชื้อไวรัสเพื่อหาทางผลิตเซรุ่มออกมาให้เร็วที่สุด รัฐบาลสหรัฐและ Wilpharma ทุ่มเงินมหาศาลเพื่อสร้างศูนย์วิจัยขึ้นมาที่ Harvardville สถานที่ที่เก็บเชื้อไว้รัสสายพันธ์ T และ G ที่หลงเหลือจาก Umbrella Corporation เพื่อให้ Dr. Frederic Downing หัวหน้าทีมวิจัยสกัดทำเซรุ่มแก้การติดเชื้อออกมาให้สำเร็จ  พร้อมระบบรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวดเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดโศกนาฏกรรมซ้ำรอย Raccoon City 

 Claire ก็คืออีก 1 ชีวิตที่เหลือรอดจากโศกนาฏกรรมที่เลือกที่จะลุกขึ้นสู้เพื่อไล่ล่าตามกำจัดไวรัสร้ายนี้ให้หมดไปจากโลก Claire เลือกการต่อสู้ในสายเยียวยาเส้นทางที่แตกต่างกับทั้ง Leon และ Chris พี่ชายของเธอ โดย Claire เลือกเข้าร่วมกับ Terra – Save องค์กรเพื่อมนุษย์ชนที่ทำงานในด้านช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการก่อการร้ายทางเคมีชีวภาพ ไวรัส T เชื้อไว้รัสกลายพันธ์ที่ถูกสร้างโดย Umbrella Corporation ยังคงแฝงตัวอยู่ในเงามืดของทุกมุมโลก น่าแปลกที่มีคนอยากครอบครองมันมากกว่าคนที่หวาดกลัวและอยากกำจัดมัน  ทำให้ Claire ต้องเดินทางไปทั่วโลกเพื่อตามหาไวรัสตระกูล T ที่ถูกมือดีส่งขายในตลาดมืดไปทั่ว จนเที่ยวบิน 349 จาก นอว์ก นิวเจอรซี่ก็นำเธอมาถึงสนามบิน Harvardville Airport เพื่อส่งรายงานวิจัยจากองค์การอาหารและยากับกลุ่ม Terra – Save ที่รวมตัวกันที่นั่นเพื่อประท้วง ส.ว David และ บริษัทWilpharma ในข้อหาสนับสนุนการใช้คนในการทดลองเชื้อไวรัสที่อินเดีย 

และทันทีที่องค์ประกอบครบถ้วนไป ไวรัสนรกก็ได้เวลาทำงานของมันอีกครั้งทันทีที่มีกลุ่มที่อ้างตัวว่าเป็นกลุ่มก่อการร้ายที่แฝงตัวเข้ามาปล่อยไวรัสให้เกิดการระบาดจนทำให้สนามบินกลายเป็นสนามเด็กเล่นของฝูงซอมบี้ทันที หลังจากเกิดการระบาดไม่นาน Leon S. Kennedy ก็เข้าพื้นที่ในฐานะเจ้าหน้าที่พิเศษจากทำเนียบขาวเพื่อหาทางหยุดยั้งเหตุการณ์ระบาดทันที  สุดท้าย Leon , Claire และ Angela 1 ในหน่วย S.R.T ที่เหลือรอดก็ร่วมมือกันจนสามารถกำจัด การระบาดของ T ไวรัส และ จัดการ G ไวรัสที่กลายพันธ์เป็นอสูรกายนรกลงได้ ก่อนที่จะเปิดโปงแผนวัคซีนลวงโลกที่ ส.ว David ใช้ในการปั้นหุ้น Wilpharma ที่ตัวเองถือหุ้นอยู่ ไปพร้อมๆกับ แผนร้ายของ Dr. Frederic หัวหน้าทีมวิจัยของ Wilpharma ที่หวังครอบครองทั้ง T และ G ไวรัส รวมทั้ง สูตรยาแก้ที่เขาลักลอบคิดค้นขึ้นจนสำเร็จอย่างลับๆ เพื่อหวังเอาไปเสนอขายทำกำไรกับทุกกลุ่มก่อการร้ายที่ต้องการมัน ก่อนที่จะปล่อยเชื้อไวรัน T ไปตามตลาดมืดและยืมมือกองกำลังของนายพล Grande แห่งสาธารณะรัฐ Bajirib เพื่อใช้เชื้อไวรัส T ในการสร้างสถานการณ์ และโศกนาฏกรรมทั้งหมดที่เกิดขึ้นก็แค่  แผนโปรโมทสินค้าให้ลูกค้าชื่นชมผลงานก่อนตัดสินใจซื้อ แต่โชคดีที่การตลาดที่ชั่วร้ายของมันถูก Leon และ Claire ยับยั้งลงได้ ก่อนที่ทั้งคู่จะแยกย้ายกันไปทำภารกิจของตัวเองต่อ 

.. ในขณะที่เหล่าผู้กอบกู้แยกย้ายกันไปพร้อมตะวันของวัยใหม่ กลุ่มนักวิจัยรายใหม่ก็เข้าขุดค้นซากศูนย์วิจัยของ Wilpharma ทันที ก่อนที่จะเก็บเศษเนื้อของกงเล็บขนาดใหญ่ของมนุษย์กลายพันธ์จาก G Virus เอาไว้ได้ มหัตภัยร้ายถูกเปลี่ยนมือไปสู่ผู้ครอบครองรายใหม่ในนามของกลุ่มบริษัทยักษ์ใหญ่ TRICELL..





                                    บทสรุป Resident Evil: Revelations 2


By Decibel per - oxide


                                           Episode One: Penal Colony 


การก่อการร้ายด้วยอาวุธชีวภาพ มันยังคงมีตัวตนในโลกใบนี้ แถมคุณก็ยังคงอยู่ร่วมกับพวกมัน ไวรัสถูกขโมย เปลี่ยนมือ ปรับเปลี่ยนสายพันธ์ ไม่ว่าจะเป็นไปในทิศทางไหนผลที่ได้คือ มันถูกนำไปใช้ในทางที่ผิด แล้วใครกันล่ะที่คุณจะเชื่อถือได้ในโลกแบบนี้ ? นักการเมืองที่ยอมขายวิญญาณเพื่อคะแนนเสียง ผู้บริหารบ้านเมืองที่หลอกลวงเพียงด้วยคำคุยโม้ไม่กี่คำ  






นับตั้งแต่พวกเราเข้ามา พวกเราอยู่เหนือการเมือง พวกเราเฝ้าดู และพร้อมจะชนกับคนโกงทั้งหลายอย่างซึ่งๆหน้าทันทีที่มันโผล่หัวออกมา พวกเราเด็ดเดี่ยวและพร้อมที่จะทำสงครามกับภัยร้ายของอาวุธเคมีทุกรูปแบบ พวกเขาเรียกพวกเราว่า “Terra – Save” นั่นก็เพราะคำว่า ผู้ก่อ (Terr) ไม่จำเป็นต้องลงท้ายด้วย การร้าย (rist) เสมอไป 





ปี 2011 ในขณะที่ Claire เข้าร่วมประชุมใหญ่เพื่อระดมทุนจากผู้สนับสนุนขององค์กร Terra – Save ทันทีที่ Claire มาถึงคนแรกที่เข้ามาทักทายเธออย่างตื่นเต้นคือ Moira Burton ลูกสาวของ Barry Burton อดีตหน่วย S.T.A.R.S และที่ปรึกษาของ BSAA เพื่อนของ Chris พี่ชายของเธอ ในฐานะสมาชิกใหม่ขององค์กรที่เพิ่งเข้ามาทำงานวันแรก Moira นั้นเห็นเธอดูห้าวๆแต่จริงๆเธอเป็นคนต่อต้านความรุนแรง สงคราม และการใช้อาวุธในทุกรูปแบบ ถือเป็นสาวแกร่งหัวใจ NGO มากๆคนนึงเลย ก่อนที่ Neil จะดึงตัว Claire ไปคุยด้วยถึงเรื่องเหตุการณ์ที่วอชิงตันของบริษัท Tricell







 ก่อนที่วันชื่นคืนสุขของ Claire ต้องหมดลงไปพร้อมกับไฟในห้องที่ดับลง ไม่กี่อึดใจ ไฟฉายจากปากระบอกปืนจำนวนมากก็พังกระจกเข้ามา กองทำลังไม่ทราบฝ่ายบุกเข้ามาในตัวอาคาร ก่อนที่จะบังคับจับตัว Claire และ Moira ไปก่อนที่ทุกคนจะทันระวังตัว 





Claire ตื่นขึ้นอีกครั้งที่คุกแห่งนึง ข้อมือเธอมีแถบรัดเรืองแรงมัดระบุตัวตนเอาไว้ว่า ตัวอย่างทดลองหมายเลข 2 แต่จู่ๆประตูคุกก็เปิดออกโดยที่เธอยังไม่มันได้ทำอะไร แน่นอนว่าอยู่ไปใย Claire จึงรีบหนีออกไปในทันที 

เรียนรู้การบังคับเบื้องต้น
LS – บังคับทิศทาง
RS – บังคับมุมกล้อง
X – สำรวจเก็บของ
Y – สลับตัวละครที่ใช้บังคับ
LS + A – วิ่ง
LS + B – แดชหลบ
RT – โจมตีด้วย Melee Attack
LT + RT – โจมตีด้วยอาวุธปืน
กด LS ลงไปตรงๆ – นั่งย่อตัว
กด RS ลงไปตรงๆ – เปิด ปิด ไฟฉาย (สำหรับ Moira)
LT – ส่องไฟฉายแบบโฟกัส (สำหรับ Moira)
กด LS ลงล่าง + A  – หันหลังกลับ 30 องศา
RB ค้าง – ใช้ Green Herb รักษาอาการบาดเจ็บ
LB – ใช้อาวุธรอง (ระเบิดขวด)
ปุ่มทิศทาง – สลับการใช้งานของอาวุธ

- เดินออกจากห้องขังแล้วเข้าไปด้านในต่อจนได้ยินเสียง Moira ตะโกนเรียกให้ช่วย เข้ามาตามทางจนถึงห้องขังของ Moira ซึ่งจู่ๆประตูห้องขังก็เปิดให้ออกมาแบบง่ายๆอีกครั้ง ทั้งคู่จึงรีบเข้าไปตามทางด้านในเพื่อหาทางหนีออกจากที่นี่ เข้าไปจนสุดทางในห้องด้านซ้ายจะมีกระจกกั้นอยู่กลางห้อง ออกมานอกห้องแล้วเข้าไปที่สุดทางเดิน Claire จะได้มีดสั้น และ Moira จะได้ไฟฉายมาใช้ ย้อนกลับมาเข้าห้องแล้วใช้มีดทำลายกระจก (RT) แล้วโดดข้ามไปอีกห้องก็จะออกมาที่ทางเดินอีกด้านได้
- เข้าไปด้านในทั้งคู่จะเจอตัวประหลาดเข้ามาโจมตี ใช้มีดฟันมันจนมันหนีไปแล้วกด LS ด้นตู้เข้าไปให้พ้นทาง ซึ่งแม้แต่ Claire ที่เห็นซอมบี้มาเยอะก็ยังรู้สึกประหลาดใจไม่ได้ที่เห็นมันเจ้าตัวประหลาดที่ไม่เคยเห็นมาก่อน มันแทบจะไม่เหมือนซากศพเดินได้เหมือนทุกครั้งแต่มันทังเร็วและทรงพลังกว่าเดิมและเหมือนคนที่ถูกนำมาทดลองมากกว่า เข้าไปด้านในต่อจะเห็น Gina เพื่อนร่วมงานของ Claire ถูกลากไปฆ่าอย่างเหี้ยมโหด ตามเข้าไปด้านในจนถึงห้องก่อนถึงทางลงบันไดจะมีประตูที่มีไฟสีแดงที่ยังเปิดไม่ได้ เดินลงบันไดไประหว่างราวบันไดจะเห็นกุญแจห้อยอยู่กับศพ Claire พยายามจะเอื้อมมือไปหยิบแต่ศพก็ตกลงไปด้านล่างเสียก่อน
- เข้าประตูสุดทางลงบันไดผ่านห้องด้านในเข้ามาจนถึงบันที่ใช้ปีนลงไปที่ห้องอาบน้ำ แต่เมื่อค้นดูที่ศพปรากฏว่าไม่พบกุญแจอยู่แต่ก็จะได้ปืนสั้นจากศพมาใช้ด้วย จากนั้นกด Y เพื่อเปลี่ยนไปบังคับ Moira แล้วกด LT ส่องไฟฉายแบบโฟกัสไปที่บันไดด้านบนของศพก็จะพบกุญแจส่องแสงกระพริบให้เห็นว่าห้อยอยู่กับเหล็ก กด Y เปลี่ยนไปบังคับ Claire ยิงใส่กุญแจให้มันร่วงลงมา ทันทีที่เก็บกุญแจ Experiment Block Key มา ประตูด้านในจะเปิดออกพร้อใซอมบี้ประหลาดที่ออกมา จัดการมันให้หมดแล้วปีนบันไดกลับไปที่ห้องก่อนทางลงบันไดแล้วใช้กุญแจ Experiment Block ไขเข้าประตูที่มีไฟสีแดงด้านบนเข้าไปต่อ
- เข้าประตูไปจะเจอปืน Shot Gun อยู่ที่ศพบนพื้น เก็บมาใช้ซะแล้วใช้ปุ่มทิศทางในการสลับการใช้งานกับปืนสั้น Claire พยายามจะแบ่งปืนให้ Moira ใช้ป้องกันตัว แต่ก็ลืมไปว่าแม่สาว NGO ต่อต้านความรุนแรงไม่มีวันยามใช้ปืนแน่





  สลับเป็น Moira แล้วเข้าไปที่ชั้นวางของในห้อง ใช้ไฟฉากส่องดูจะเห็นแสงกระพริบ เข้าไปสำรวจเก็บเหล็กชะแรง Crowbar มาใช้ นอกจากจะใช้ทำลายลังหาไอเทมกับงัดประตูที่ปิดอยู่แล้ว ถ้าเอา Crowbar รวมกับไฟฉายก็จะเป็นแนวทางการต่อสู้เอาตัวรอดของ Moira ได้ด้วย นั่นก็คือ กด LT ส่องไฟฉายให้ซอมบี้แสบตาแล้วกด RT ใช้ชะแรงฟาดมันให้สลบ หรือจะใช้การลอบเข้าไปด้านหลังแล้วฟาดให้สลบก็ได้ 
- จากนั้นเข้าไปด้านในต่อระหว่างทางจะเห็นเด็กผู้หญิงคนนึงวิ่งหนีไป เข้าไปตามทางจนถึงเขตคุก ที่นี่ Claire จะได้รับการติดต่อจากผู้หญิงลึกลับคนนึงผ่านวิทยุที่อยู่ในสายคาดข้อมือ  ด้านในห้องทรมานที่สุดทาง Claire จะเห็นประตูทางออกอยู่ด้านในห้อง แต่จะพบว่าแผงควบคุมประตูนั้นเฟืองกลไกมันหายไปตัวนึงซึ่งก็ต้องไปหามาใส่ก่อนจึงจะเปิดประตูได้  ที่หน้าห้องจะมีทางแยกซ้ายขวา ประตูซ้ายนั้นปิดต้องเปิดจากอีกด้าน เก็บแผ่นที่บนโต๊ะแล้วเข้าทางประตูขวาต่อจะพบห้องทรมานซึ่งจะเห็น เฟืองถูกทับอยู่ใต้เตียงหนาม แต่เมื่อเปิดสวิตซ์ยกแท่นหนามขึ้นก็ทำไม่ได้เพราะไม่มีพลังงานไฟฟ้า ซึ่งก็ต้องไปหาห้องควบคุมไฟฟ้าเพื่อเปิดพลังงานก่อน สำรวจในห้องด้านในจะเจอไอเทม Part box และโต๊ะทำงานช่าง  ( Workbench) ที่นี่จะเป็นที่อัพเกรดอาวุธโดยใช้ไอเทม Part box ที่เก็บมาได้ซึ่งก็จะเป็นชิ้นส่วนที่เพิ่มความสามารถด้านต่างๆของปืน โดย Part box แรกที่ได้มาคือไอเทมเพิ่มพลังโจมตี Damage LV1
- สำรวจในห้องทรมานที่มีเตียงตรงมุมห้องจะมีบันไดขาดอยู่ สามารถดันให้ Moira ปีนขึ้นไปด้านบนได้ เข้าไปด้านในเปิดประตูอีกด้านให้ Claire ปีนบันไดตามขึ้นมาได้ แล้วเข้าไปตามทางเดินไปเข้าประตูที่สุดทางต่อ เข้ามาที่โถงทางเดินจะมีบันไดทางลง 2 ด้านคือตรงทางที่เข้ามาและสุดทางเดินด้านในที่ต้องผ่านทะลุห้องด้านในไป จะลงทางไหนก็ได้ซึ่งจะลงไปที่คุกชั้นล่างเหมือนกัน
- ลงมาที่คุกชั้นล่างตรงทางเดินหน้าห้องขังจะเห็นกับดักใบมีดตั้งอยู่มากมาย และยังมีเจ้าซอมบี้ถือค้อนจอมโหดรออยู่ด้านในด้วย จัดการให้หมดแล้วเข้าไปที่ประตูสุดท้ายฝั่งซ้ายเข้าไปเก็บกุญแจ Rusty Key ที่แขวนอยู่บนชั้นมา จากนั้นย้อนกลับมาที่ทางเดินกลางของคุก เข้าห้องแรกฝั่งขวาโดยใช้กุญแจ Rusty Key ไขเข้าไปซึ่งจะเป็นห้องทำลายขยะที่เต็มไปด้วยแมลงกลายพันธุ์ โดดลงไปในบ่อขยะแล้วดันให้ Moira ปีนขึ้นไปฝั่งตรงข้าม

** เรียนรู้ระบบสั่งการ Partner Icon **
Y + ปุ่มทิศทางขึ้นบน = ตามมา
Y + ปุ่มทิศทางลงล่าง = รอก่อน

- ให้ Moira เข้าไปถึงห้องด้านในจะเจอแผงควบคุมพลังงานไฟฟ้าของคุก ทันทีที่สับคันโยกเปิดมันไฟฟ้าจะกลับมาทำงานตามปกติพร้อมๆกับกับดักใบมีดหมุนที่อยู่ตามทางก็จะเริ่มทำงานด้วย และพอ Moira จะย้อนกลับไปหา Claire ซอมบี้ตัวนึงก็พังประตูออกมา ตอนนี้ก็ใช้ไฟฉายทำให้มันแสบตาแล้วเอาชะแรงฟาดมันให้สลบได้เลย แล้วกลับมาที่ห้องขยะจะพบ Claire กำลังโดดเครื่องอัดขยะบีบตาย สลับเป็น Claire แล้วปีนขึ้นไปทางเครื่องบีบที่ยืนเข้ามากลับมาด้านบน แล้วออกไปที่ทางเดินกลาง หลบกับดักใบมีดหมุนไปเข้าประตูฝั่งขวาตรงที่เคยไปเอากุญแจ Rusty Key ตรงนี้จะเห็นประตูทีมีกล่องวางขวางอยู่ดันให้มันพ้นทางก็จะเปิดประตูเข้าไปได้ซึ่งก็คือประตูฝั่งซ้ายของห้องทรมานนั่นเอง

                              

- กลับมาคราวนี้จะเต็มไปด้วยซอมบี้ค้อนโหดถึง 2 ตัวที่เข้ามาโจมตี แต่ก็จะมีกับดักใบมีดหมุนไว้เป็นตัวช่วยได้เพราะมันก็โดนแล้วขาด 2 ท่อนเหมือนกัน จากนั้นเข้าไปที่ห้องด้านขวาที่เตียงทรมาน กดสวิตว์ยกพื้นหนามขึ้นแล้วเก็บ Gear Kog มาแล้วเอาไปใส่ที่แผงควบคุมประตูห้องทรมานตรงกลางก็จะสามารถเปิดประตูเข้าไปได้




 แต่ทันทีที่เปิดเข้าไป ประตูคุกทั้งหมดก็ถูกเปิดออกด้วย ทำให้ซอมบี้จำนวนมากออกมาเต็มไปหมด จากนั้นรีบเข้าไปหมุนเอาปืนพ่นไฟที่อยู่กลางห้องหนปากกระบอกออกมาด้านหน้าห้องซะ แล้วหมุนวาลว์ที่พนังเพื่อเปิดการใช้งานปืนพ่นไฟ  มันจะช่วยเผาพวกซอมบี้มากมายที่เข้ามาได้ ระหว่างนั้นเปลี่ยนเป็น Moira ให้ไปงัดประตูด้านในจนเปิดแล้วก็รีบออกไปที่ประตูทางออกสุดทางก็จะสามารถออกมานอกคุกได้แล้ว

- เมื่อทั้งคู่ออกมาด้านนอก จะเห็นหอคอยสื่อสารตั้งอยู่ไม่ไกล Claire จึงบอกให้ลองไปที่นั่นดูเพื่อจะหาทางติดต่อข้อความช่วยเหลือจากโลกภายนอก เข้ามาด้านในอาคารห้องสื่อสาร เมื่อสำรวจแผงควบคุมด้านในจะพบว่ามันไม่มีพลังงาน Claire จึงบอกให้ Moira รออยู่ที่นี่ส่วนเธอจะลองปีนขึ้นไปสำรวจดูที่เสาส่งสัญญาณดู






 ที่ด้านบน Claire จะสับคันโยกแผงควบคุมจนสามารถใช้การติดต่อสื่อสารได้สำเร็จ เธอก็หวังในใจว่ามันคงจะสำเร็จ แต่เมื่อ Claire ขึ้นไปนจุดที่สูงพอจะเห็นวิวรอบๆของพื้นที่เธอก็ถึงกับตกใจเพราะรู้ว่าที่ที่เธอถูกจับมานั้นคือเกาะร้างอยู่กลางทะเลซักแห่งนึง แต่มันคือที่ไหนกันแน่ ?


    

ทางด้าน Moira ทันทีที่เครื่องมือสื่อสารใช้งานได้เธอก็รีบติดต่อความช่วยเหลือทันที 
ชั้นชื่อ Moira Burton ตอนนี้ชั้นถูกจับมาโดยใครก็ไม่รู้กลุ่มนึง ชั้นไม่รู้ว่าที่นี่มันที่ไหนด้วย พวกถูกจับใส่สายรัดข้อมือบ้าๆนี่กับยัยผู้หญิงที่ไหนก็ไม่รู้ที่พยายามติดต่อมาพูดกวนปราสาทอยู่ตลอด แล้วก็ตัวอะไรบ้างอย่างที่อย่างกับตัวประหลาด มันพยายามจะฆ่าพวกเรา ได้โปรด ส่งความช่วยเหลือมาด่วน ได้โปรด .....!! 





                                                            SKILL

Hurler – เพิ่มพลังโมตีของ Sub Weapon 
Quick Heal – เพิ่มความเร็วในการรักษา
Crouch Power – เพิ่มพลังโจมตีเมื่อยิงปืนในท่าคุกเข่า
Change up – เพิ่มพลังโจมตีให้กับกระสุนนัดแรกทุกครั้งเมื่อสลับอาวุธโจมตี
Battle up – เพิ่มพลังโจมตีในการโจมตีด้วยชะแรง (Crowbar) ของ Moira
Laying Brick – เพิ่มพลังโจมตีในการขว้างก้อนอิฐและทำให้ศัตรูมึนงง ของ Natalia 
Speedy Rescue – ทำให้ช่วยชีวิตเพื่อนได้เร็วขึ้น
Evade – ทำให้โดนศัตรูโจมตีไม่ค่อยโดนขณะแดชหลบ 
Medical Knowledge – ทำให้ประสิทธิ์ภาพในการใช้ Green Herb รักษาสูงขึ้น 
Dashing Knife – ทำให้สามารถใช้มีดโจมตีได้ขณะวิ่งรุนแรงและได้จำนวนครั้งที่มากขึ้น
Upholstered – ทำให้เพื่อนคู่หูสู้ดีขึ้นโดยไม่เสียเปรียบศัตรูให้ต้องช่วยเลย แต่พลังโจมตีก็จะลดลงด้วย 
Light is Might – ทำให้ไฟฉายส่องศัตรูแล้วทำให้มันแสบตามึนงงนานขึ้น
Sixth Sense – เพิ่มระยะการรับรู้ของ Natalia ให้มากขึ้น
Double play – เพิ่มพลังโจมตีให้อีก 10 % เมื่อสลับตัวละครช่วยกันต่อสู้
Crouch Advantage – ในขณะที่อยู่ในสภาพย่อง จะทำให้ศัตรูมองเห็นได้น้อยลง 
Charge Attack – กด RT ค้างจะสามารถชาร์ตพลังก่อนโจมตีได้
Follow up – ทำให้  Claire และ Barry โจมตีรุนแรงขึ้นในขณะที่เป็น A.I และใช้คำสั่งให้ติดตามกับเขา
Last Stand – โจมตีแรงขึ้นเมื่อเหลือกระสุนแค่ 10 %
Crowbar Finisher – ได้ BP Point มากขึ้นเมื่อใช้ชะแรงจัดการศัตรู ของ Moira
Brick Finisher – ได้ BP Point มากขึ้นเมื่อใช้ก้อนหินจัดการศัตรู ของ Natalia
Ranged Healing – ทำให้เพื่อน A.I สามารถใช้ไอเทมรักษาได้ตามเหมาะสม
Evade Extension – ทำให้มีขอบเขตในการแดชหลบศัตรูได้มากขึ้น  
Rope a Drop – ทนทานต่อการถูกโจมตีมากขึ้น 
Quick Knife – โจมตีด้วยมีดได้เร็วขึ้น
Evade Recovery – ในตอนบาดเจ็บ ขณะแดชหลบพลังชีวิตจะค่อยๆเพิ่มขึ้น
Hair Splitter – เพิ่มพลังโจมตีและความเร็วขึ้นอย่างสูงสุด
Evade Cancel – สามารถแดชหลบได้อย่างปลอดภัยในทุกสถานการณ์





** การเปิดหีบสมบัติ **

การเปิดหีบสมบัติ ด้วยชแรงของ Moira และมือน้อยๆของ Natalia นั้นจริงๆแล้วมันดูเหมือนจะให้เราใช้จุดวงกลมในการ เดาหา จุดปลดล็อกที่ถูกต้อง แต่จริงๆไม่ใช่ครับ มันมีวิธีอยู่ ก่อนอื่นพยายามใช้แกนอนาล็อกซ้ายหาตำแหน่งที่เป็นสีเหลือง แล้วกด LT + RT วงกลมจะค่อยๆแคบลง แล้วคอยสังเกตว่าถ้าวงแคบจนเล็กสุดแล้วมันยังเป็นสีเหลืองอยู่ก็แสดงว่าใช่จุดที่ถูกต้อง แต่ถ้า กด LT + RT วงกลมจะค่อยๆแคบลงจนเกือบสุดแล้วมันเปลี่ยนจากเหลืองเป็นแดงก็แสดงว่า จุดที่ถูกต้องอยู่ใกล้ๆ ถอนมือจากปุ่ม LT + RT แล้วหาตำแหน่งเหลืองใหม่ต่อไปเท่านั้นเองครับ  


กล่าวถึง Barry Burton ทันทีที่ได้รับสัญญาณขอความช่วยเหลือ เขาไม่รอช้าที่จะเดินทางมุ่งสู่เกาะเป้าหมายไปพร้อมเสียงภาวนาในใจว่า พ่อมาแล้ว อย่าเพิ่งตายนะลูก ..






ทันทีที่ลงจากเรือ Barry ก็ต้องตกใจเพราะบางสิ่งกำลังอยู่ข้างหลัง แต่โชคดีที่เป็นแค่เด็กผู้หญิงคนนึง Barry ถามชื่อของเธอก็ทำให้รู้ว่าเธอชื่อ Natalia Korda แต่เธอไม่รู้ว่าถูกจับมาที่นี่ได้ยังไง รู้แต่ว่าทันทีที่รู้สึกตัวข้อมือเธอมีสายรัดข้อมือระบุว่าเป็นตัวอย่างทดลองหมายเลข 9 แล้ว Barry พยายามจะให้ Natalia รออยู่ที่เรือเพราะด้านในมันไม่ปลอดภัย แต่ Natalia ก็บอกกลับไปว่า ตราบใดที่ยังอยู่บนเกาะนี้คงไม่มีที่ไหนปลอดภัย ทั้งด้วยเหตุผลและความจริงที่ว่าคงไม่มีเด็กคนไหนในโลกที่จะฟังคำเตือนของเขา Barry ก็ต้องยอมให้ Natalia ติดสอยห้อยตามไปด้วย เป้าหมายที่ Barry เห็นคือ หอคอยสื่อสารที่อยู่อีกด้านของเกาะ 





- หาทางปีนขึ้นโขดหินตรงกลางชายหาดเพื่อขึ้นมาด้านบนแล้วเดินไปที่ประตูชัตเตอร์ทางเข้าอาคารต่อ เดินเข้าไปตามทางไม่นานพวกติเชื้อก็จะเริ่มออกมาโจมตี จัดการพวกมันให้หมด แล้วเข้าไปที่ทางเดินด้านในต่อ Natalia จะเตือน Barry ว่าทีศัตรูอยู่ในห้อง ซึ่งเธอก็จะอธิบายให้ Barry ฟังว่าเธอมีญาณวิเศษบางอย่างที่ทำให้สามารถเห็นอันตรายล่วงหน้าได้ โดยการกดแกนอนาล็อกซ้าย LS ลงไปตรงเพื่อนั่งหมอบแล้วกด LT ก็จะทำให้มองเห็นงานลางๆสีเหลืองที่อยู่ในระยะใกล้ๆได้ จึงจะสามรถเตือนภัยให้กับ Barry ได้ในระดับนึง แถมยังสามารถมองหาไอเทมที่ซ่อนอยู่ที่เป็นแสงกระพริบได้ด้วย ส่วน Barry ก็มีความสามารถในการลอบฆ่า โดยการย่องไปด้านหลังศัตรูแล้วกด RT




- จากนั้นลอบเข้าไปในห้องขึ้นบันไดไปชั้นบน ลุยเข้าไปจนสุดทางเข้าไปยกลังด้านในออกมาใช้ปีนขึ้นระเบียบที่บันไดพังไปชั้นบนต่อจนถึงประตูชัตเตอร์ที่สุดทางเดิน เข้าไปในห้องเก็บกุญแจ Control Room มา (ห้องควบคุมจะอยู่ที่ห้องโถงคุกกลางหน้าห้องที่ใช้เฟืองเปิดนั่นแหละ) ที่ประตูทางออกอีกด้านของห้องเปิดไม่ออก แต่จะมีช่องเล็กๆให้ Natalia สามารถมุดออกไปได้ แต่ตรงประตูจะมีซอมบี้นอนอยู่ Natalia จึงแสดงความสามารถของเธออีกอย่างให้เห็นโดยการไป เก็บ ก้อนอิฐที่ด้านในมาแล้วกด LB + RT ในการขว้างใส่หัวซอมบี้จนมันสลบไปก็จะเข้าไปปลดล็อกประตูให้ Barry ออกมาได้แล้ว ออกไปจนถึงทางแยก เข้าทางประตูแยกซ้าย (ทางขวาจะโดดลงไปไม่ได้)
- เข้ามาตามทางเดินจะเริ่มเห็นเมือกระเบิด ให้ Natalia ตรวจสอบดูแล้วใช้ก้อนอิฐขวางใส่มันจนระเบิดซะก่อน แล้วเข้าไปจนถึงทางเดินหน้าคุกที่มีกับดักใบมีดหมุนเต็มไปหมด ลงบันไดทางซ้ายใกล้ๆไปชั้นล่างได้เลย ทางซ้ายจะเห็นห้องพลังงานที่ Moira เคยเข้าไปเปิด แต่คราวนี้ต้องให้ Natalia มุดรูเข้าปิดมันกับดักใบมีดหมุนก็จะหยุดทำงาน จากนั้นเข้าไปตามทางเดินคุกเข้าห้องทางซ้ายที่เคยไปเอา Rusty Key เพื่อเข้าประตูสุดทางเดินกลับมาที่ห้องที่ Claire และ Moira เคยใช้เฟืองเปิดและทำกับดักเครื่องพ่นไฟป้องกันเอาไว้ก่อนนี้ไป ซึ่งนั่นคือเป้าหมายที่ Barry จะต้องตาม Moira ไปตามเส้นทางนี้แหละ
- จากนั้นเข้าไปในทางเดินกลางของคุก ขึ้นไปที่ระเบียงทางเดินชั้น 2 ฝั่งขวาสุดทางก็คือห้องควบคุม ใช้กุญแจปิดเข้าไปแล้วเก็บของให้หมด ซึ่งก็จะมีหีบสีเหลืองที่ Natalia เปิดได้อยู่ด้วย ต้องเปิดโดยการเดาจุดให้ถูกแล้วกด LT – RT ให้ตรงกัน เสร็จแล้วเข้าไปสับคันโยกที่แท่นควบคุม ประตูคุกทั้งหมดจะเปิดออก แน่นอนพวกติวเชื้อต้องออกมาด้วยเพียบ จัดการมันให้หมดแล้วเข้าไปที่ห้องสุดทางเดินด้านขวาของระเบียงชั้น 2 จะมีช่องให้ Natalia มุดเข้าไปตามทางก็จะมาออกในห้องที่มีเครื่องพ่นไฟกั้นทางเข้าอยู่ หมุนมันให้พ้นประตู Barry ก็จะตามเข้ามาได้ เก็บของให้หมดแล้วออกไปที่ประตูชัตเตอร์ด้านในเพื่อออกจากตึกได้เลย
- ออกมาด้านนอกตึก เป้าหมายคือหอคอยสื่อสาร แต่เมื่อเข้าไปจนถึงสะพานจะพบว่ามันพังจนข้ามไปไม่ได้แล้ว เข้าไปที่บ้านหลังเล็กทางซ้ายของสะพานจะมีช่องให้ Natalia มุดเข้าไป ซึ่งกะเห็นว่ามีโซ่ล็อกกุญแจประตูอยู่ หาก้อนอิฐแถวๆนั้นปากุญแจให้พังแล้ว Barry ก็จะตามเข้ามาได้ เข้าไปตามทางในป่าจนถึงโกดังไม้ ทั้งคู่จะเห็นพวกติดเชื้อรูปแบบใหม่ที่มีมือเป็นมีด แต่จู่ๆมันก็หายตัวไป เข้าไปที่โกดัง Barry จะพยายามดันประตูหน้าที่มีลังกั้นอยู่ให้เปิดออก แต่จู่ๆเจ้ามือมีดก็จะเข้ามาโจมตี การจัดการมันนั้นต้องยิงที่หัวมันจนมีจุดโปงพองสีเหลืองออกมายิงให้มันแตกก็จะจัดการมันได้
- เมื่อดันประตูโกดังออกมาได้แล้ว ลุยเข้าไปตามทางในป่าซึ่งเต็มไปด้วยพวกมือมีดอยู่เต็มไปหมด พยายามมองหาแสงไฟแล้ววิ่งไปที่นั่นก็จะถึงบ้านไม้ที่ด้านในจะมีโต๊ะเครื่องมือในการอัพเกรดอาวุธอยู่ จากนั้นมาที่ประตูรั้วทางซ้าย ยิงทำลยกุญแจเปิดออกไปแล้วลงไปที่ลานด้านล่าง จะพบตัวมือมีดถึง 2 ตัวอยู่กลางลาน แต่ตรงที่หลบก็จะมีขวดระเบิดเพลิงให้เก็บ กด LB – RT ขวางทำลายมันซะ แล้วเข้าไปจนถึงโรงเลื่อย เก็บแผนที่ที่ประตูโกดังแล้วโดดลงไปที่ลานด้านหน้าโกดังได้เลย
- Barry จะเข้าไปที่ประตูทางออกมันกลับถกโซ่ขนาดใหญ่ปิดเอาไว้ แต่เขาก็เห็นเครนขนาดใหญ่ที่กำลังขนไม้ซุงอยู่จึงมีแผนที่จะใช้มันทำลายประตูแทน  จากนั้นพวกมือมีดจะพังรั้วออกมาโจมตี จัดการให้หมดแล้วเข้าไปที่รั้วแล้วลุยเข้าไปจนถึงบ้านด้านในจะพบเครื่องปั่นไฟ สับสวิตซ์เปิดมันเครนก็จะเริ่มทำงาน จากนั้นย้อนกลับมาที่เครนซึ่งจะมีรั้วกั้นอยู่ไม่สามรถปีนเข้าไปได้ มองไปทางขวาของเครนจะมีสำนักงานอยู่ เข้าไปด้านใน ลุยออกไปที่ประตูสุดทางก็จะออกมาที่ด้านในของเครนได้ กดสวิตซ์ควบคุมเครนทำให้ไม้สุดถูกเหวี่ยงไปกระแทกประตูทางออกจนพังได้ ปีนรั้วออกมาที่ลานพวกมือมีดมากมายจะเริ่มออกมา ไม่ต้องไปยิงมันให้เปลืองแรง รีบวิ่งหนีออกไปที่ทางออกได้เลย Barry ก็จะยิงไม้ซุงที่แขวนอยู่ตกลงมาทับมันจนตายหมดเอง
- เข้าไปตามทางจนมาออกอีกฝั่งของสะพานขาดซึ่งก็จะมาถึงทางเข้าห้องสื่อสารแล้ว ทันที่เข้าไปด้านใน Barry จะเข้าไปฟังบันทึกที่ Moira บันทึกเอาไว้ที่แท่นควบคุม




สิ่งที่ Barry ฟังก็คือข้อความเดิมที่ Moira ทิ้งไว้ให้ เขายังคงหวังว่าเธอจะปลอดภัยก่อนที่ Barry จะบอกกับ Natalia ว่านี่แหละลูกรักที่เขากำลังตามหา Natalia ได้ยินชื่อของ Moira จึงถาม Barry ว่าลูกสาวของคุณชื่อ Moira หรอ ? แต่ทันทีที่ Natalia ได้ยินชื่อ Moira มันก็เหมือนเป็นโค๊ดเนมบางอย่างที่ถูกฝังไว้ในสมองของเธอ นั่นทำให้ Natalia ปวดหัวอย่างหนัก ก่อนจะบอก Barry ไปว่า ...   Moira น่ะเธอตายแล้ว ..!! 



                                                Episode Two: Contemplation 


Pedro Fernandez, Gabe Chavez และ Neil Fisher 3 เจ้าหน้าที่ของ Terra – Save ที่ถูกจับมากำลังหนีตายอยู่ที่อีกด้านของเกาะ ท่ามกลางฝูงพวกติดเชื้อมากมายที่รุมล้อมเข้ามา ทำให้ Neil ในฐานะหัวหน้าต้องใช้ตัวเองต้านพวกมันเอาไว้เพื่อให้ลูกน้องอีก 2 คนหนีเอาตัวรอด Pedro และ Gabe หนีเข้ามาจนถึงหมู่บ้านชาวประมงร้างก่อนที่จะเข้าไปหลบที่บาร์เล็กๆของหมู่บ้าน แต่พวกเขาก็ยังไม่นิ่งนอนใจเพราะเขายังรู้สึกเหมือนมางอย่างกำลังเคลื่อนไหวอยู่ด้านนอก ทันทีที่อะไรบางอย่างกำลังเข้ามาทางด้านหน้าประตู Gabe ก็ลอบจู่โจมทันที ก่อนจะโดนโต้กลับด้วยทักษะการต่อสู้ด้วยมือเปล่าแล้วมารู้ที่หลังว่าคนที่ตามเข้ามาคือ Claire Redfield และ Moira นั่นเอง





ก่อนที่ทั้งหมดจะเล่าเรื่องราวในฝั่งของตัวเองให้ฟัง มี Gina และ Thompson เท่านั้นที่รับรู้ว่าตายไปแน่นอนแล้ว  แต่ Neil ที่พลัดกันเมื่อครู่ยังไม่รู้ดีร้ายยังไง แต่ Claire ก็เชื่อมั่นว่าทักษะที่ Neil มีนั้นเอาตัวรอดได้แน่นอน ก่อนที่จู่ๆไฟในบาร์ก็ถูกเปิดขึ้น โดยผู้หวังดีประสงค์ร้ายที่เรียกตัวเองว่า “ผู้คุมงาน” แต่ถึงอย่างนั้นก็เรียกเสียงหัวเราะให้ทุกคนอยากมากเมื่อ Gabe นั้นตกใจสุดอย่างหมดแมนเมื่อตู้เพลงมันดังขึ้น 





- จากนั้นสำรวจเก็บไอเทมต่างๆในบาร์ให้หมด แล้วเสียงผู้หญิงลึกลับเรียกตัวเองว่า “ผู้คุมงาน” จะติดต่อมาก่อกวนประสาททุกคนจน Gabe  ทนไมไหวที่ต้องมารอความตายตามคำสั่งของยัยนี่ เขาจึงชวน Claire ออกไปดูบางอย่างกับเขาข้างนอก ตาม Gabe ไปจนถึงรั้วด้านในจะพบ เฮลิคอปเตอร์จอดอยู่ Gabe จะแนะนำแผนของเขาว่า ถ้าหาน้ำมันกับแบตเตอร์รี่มาให้เขาได้ก็อาจจะสามารถใช้มันหนีออกจากที่นี่ได้แน่นอน
- มีจุดสีฟ้าขึ้นมา  2 จุดแผนที่ ที่จุดซ้ายจากบาร์ให้ Moira ปีนขึ้นไปบนหลังคาแล้วโดดเข้าในบ้าน เข้าไปเก็บ แบตเตอร์รี่ แล้วรีบหนีเจ้าค้อนโหดออกมาด้านนอก จากนั้นไปที่จุดสีฟ้าต่อไป ระหว่างทางจะเจอกับ Pedro ที่กำลังเข้ามาอวดอาวุธคู่ใจที่เพิ่งเจอมามันคือสว่านไฟฟ้าสำหรับเจาะพื้นที่จะสามารถเจาะเปิดประตูพังๆได้ด้วย ก่อนที่เขาจะสาธิตในการเจาะประตูบ้านตัวอย่างให้ดู แต่ดูเหมือนเสียงมันจะดังเกินไปจนทำให้ฝูงพวกติดเชื้อแห่กันมามากมายด้วย จัดการยิงพวกมันให้หมดจนกว่า Pedro มันจะเจาะประตูเสร็จ
- เข้าไปในบ้านเก็บปืนกล MP – AB50 จากศพมาใช้แล้วออกจากบ้านที่จุดสีฟ้าเป้าหมายต่อซึ่งจะเป็นบ้านที่มีประตูปิดอยู่ ย้อนกลับไปตาม Pedro ที่บ้านเมื่อครู่แล้วเข้าจะตามมาเจาะประตูให้ เสียงมันจะดังเกินไปจนทำให้ฝูงพวกติดเชื้อแห่กันมามากมายเหมือนเดิม พยายามยิงต้านพวกติดเชื้อที่บุกข้ามหลังคามาให้หมดแล้ว Pedro ก็จะเจาะประตูเข้าไปได้ เข้าไปเก็บแกลลอนน้ำมันแล้วกลับเอาไปให้ Gabe ที่เฮลิคอปเตอร์ได้เลย
- ทันทีที่เอาน้ำมันกับแบตเตอร์รี่ไปให้ Gabe “ผู้คุมงาน” ก็ไม่รู้ช้าที่จะสร้างอุปสรรค์ มันเปิดสัญญาณไซเรนที่บาร์ให้ดังขึ้นทำให้พวกติดเชื้อมากมายกำลังจะแห่กันมาที่นี่ รีบวิ่งกลับไปที่บาร์แล้วเข้าไปปิดเสียงที่แผงควบคุมด้านใน แต่ก็สายเกินไปฝูงพวกติดเชื้อมากมายเข้ามารุมล้อมบาร์เต็มไปหมดแล้ว ที่นี่จึงกลายเป็นเหมือนกับดักที่ “ผู้คุมงาน” ได้วางเอาไว้ จากนั้นก็ต้องต้านพวกติดเชื้อที่บุกเข้ามาทางหน้าต่างไว้ ยิงมันจากทุกด้านที่เข้ามา จนกว่าจะหมดชุดแรก ก่อนที่ชุดที่ 2 ที่มากกว่าจะตามมา แถมยังบุกเข้ามาจากหลังบาร์จนเข้ามาโจมตี Pedro จนได้ พยายามจัดการมันให้หมดแล้ว Pedro ที่ถูกกัดก็จะกลายสภาพเป็นซอมบี้แถมมีอาวุธคือสว่านไฟฟ้าในมือเสียด้วย



- พยายามยิงต้านมันเอาไว้หรือหลบให้มันเสียบเข้าไปคาที่พนังแล้วยิงจนกว่าพวกติดเชื้อที่เหลือจะพังประตูเข้ามา รีบหนีออกไปด้านนอกเพื่อหาที่กว้างๆแล้วยิงพวกตัวเล็กตัวน้อยให้หมด ต้านเจ้าซอมบี้มือสว่านเอาไว้จนกว่า Neil จะปรากฎตัวออกมาบนหลังคาบ้านด้านหลังบาร์แล้วเรียกให้ Claire กับ Moira ปีนหนีขึ้นมาบนหลังคา จากนั้นตาม Neil ไปจนถึงทางเข้าอุโมงค์ทะลุออกมาจนถึงเขตเมือง ทุกคนจะเห็นว่ามีตึกสูงขนาดใหญ่อยู่อีกด้านของเมืองที่ยังมีไฟติดอยู่ Claire จึงคิดว่าที่นั้นต้องเป็นที่อยู่ของผู้ที่ควบคุมเกมบ้าๆนี่แน่นอน
- เข้าไปตามทางเดินจะเริ่มพบซอมบี้หมาเข้ามาโจมตี บังคับให้ Moira เข้าไปงัดประตูแล้วต้านพวกหมาเอาไว้ จนกว่าเธอจะงัดประตูจนเปิดแล้วเข้าไปด้านในจะทะลุมาอีกฝากของถนน ทุกคนจะเห็นบันไดขาดตรงระเบียงชั้น 2 ของตึกตรงข้ามที่พอจะปีนได้ จึงรีบปีนทันที แต่ฝูงพวกติดเชื้อจะบุกเข้ามาเสียก่อนทำให้  Neil ตามขึ้นไปไม่ทัน เขาจึงจะล่อพวกศัตรูไปทางอื่นแล้วบอกให้ Claire กับ Moira ไปเจอกันที่ตึกเป้าหมาย
- จากนั้นก็เข้าไปที่ชั้นบนของตึกต่อ ลงบันไดมาชั้นล่างจัดการพวกศัตรูให้หมดแล้วไปยกลังไม้ในครัวมาใช้ปีนเก็บปืน Shot gun TAP194 ที่แขวนอยู่บนพนังทางขวาของครัวมาใช้ แล้วเปิดประตูหน้าบ้านออกมาที่ถนน จะพบว่ามีพวกติดเชื้อมากมายสายพันธ์อยู่เต็มถนนเลย เป้าหมายคือซากรถบัสที่อยู่สุดถนนด้านขวา จะพยายามลอบเข้าไปหรือฆ่าพวกศัตรูให้หมดก็ได้ ดันลังที่บังประตูรออกแล้วผ่านรถเข้ามาอีกฝั่งที่หน้าบ้าน จะพบเด็กผู้หญิงคนนึงกำลังหนีเข้าไปในบ้านชั้นบน
- ตามเข้าไปในบ้าน ที่ชั้นบนจะมีประตูลูกกรงกันทางที่ทางเดินทางในอยู่และคันโยกสวิตซ์ก็จะอยู่ในห้องควบคุมแต่ยังเข้าไปไม่ได้เพราะประตูล็อกจากด้านใน โดดลงไปชั้นล่างจะพบว่ามันเป็นคลินิกร้าง ลุยศัตรูผ่านเข้าไปด้านในจนถึงบันไดทางขึ้นอีกทาง ขึ้นมาจะเข้ามาที่ห้องควบคุมชั้นบนได้ จากนั้นให้สั่งให้ใครคนนึงรออยู่ตรงสวิตซ์แล้วให้อีกคนปลดล็อกประตูออกมาที่ตรงทางที่เข้ามาตอนแรก แล้วไปรอที่ประตูลูกกรงที่ปิดอยู่  เปลี่ยนให้อีกคนในห้องสับคันโยกเปิดประตู แล้วให้อีกคนเข้าประตูไป ให้อีกคนเปิดประตูอีกทีแล้วดันลังข้างๆประตูมาขวางประตูไว้ อีกคนก็ตามเข้ามาได้
- ออกจากตึกทางสวนด้านหลังจะเห็นเด็กผู้หญิงกำลังหนีเข้าไปในโกดังสินค้าตรงข้ามอีก ตามเธอเข้าไปในตึกแล้วกด สวิตช์ลิฟต์ แล้วเตรียมปืนรอไว้เพราะแน่นอนว่ามันต้องมีซอมบี้ลงมาด้วยแน่นอน จัดการมันซะแล้วขึ้นลิฟต์ไปชั้นบน โดดข้ามระเบียงไปอีกตึกก็จะเห็นเด็กผู้หญิงกำลังวิ่งหนีไปตามทางเดิน



Claire จะพยายามบอกกับน้องว่าไม่จำเป็นต้องกลัวเพราะจะมาช่วย ก่อนที่เธอจะยิงคำถามมากมายตามมาเป็นชุดจนน้องเริ่มจะกลัวขึ้นมาจริงๆ สุดท้าย Moira ก็ต้องเข้าไปคุยเอง เธอค่อยเรียบเคียงถามชื่อตุ๊กตาของน้องจนเธอยอมบอกว่าว่าชื่อ Lotlie จนสุดท้ายน้องเค้าก็ยอมเชื่อใจในที่สุดแต่เธอก็ยังไม่ยอมที่จะบอกชื่อของเธอออกมา 

 

- จากนั้นเข้าไปด้านในต่อ ผ่านห้องที่มีโต๊ะอัพเกรดอาวุธลงไปจนถึงชั้นล่างของโกดังที่เป็นห้องกว้างที่เต็มไปด้วยซ้อมบี้ เข้าไปจัดการมันให้หมดแล้วทันทีที่เดินเข้ามาที่กลางห้อง พวกติดเชื้อร่างยักษ์ก็ทำลายกระจกหลังคาเข้ามาพร้อมกับอาวะไหดินระเบิดของมัน พยายามจัดการพวกตัวเล็กตัวน้อยให้หมดก่อน เพราะเจ้าตัวใหญ่นั้นสามารถหลบการโจมตีมันได้ไม่ยาก เพียงแต่ต้องเปลื่องกระสุนหน่อนเท่านั้นเอง หลังจากจัดการมันได้แล้ว สำรวจที่ประตูทางออกจะพบว่ามันล็อก พอเข้ามาสำรวจช่องกำแพงร้าวข้างๆ น้องผู้หญิงก็จะอาสามุดออกไปเปิดประตูจากด้านนอกให้

ทันทีที่ออกมาด้านนอกถนน Claire ก็จะมาถึงตึกใหญ่เป้าหมายที่อยู่ไม่ไกล ก่อนที่จะเห็นเฮลิคอปเตอร์ของ Gabe ที่กำลังบินเข้ามารับพร้อมกับด่าทอพวกที่วางแผนบ้าๆที่จับเขามาไปด้วย แต่จู่ระบบเครื่องของ ฮ. ก็ถูกปิดทำให้ ฮ. เสียการทรงตัว สายรัดของมือของ Gabe ก็เริ่มสั่งการบางอย่างทำให้แขนของเขากำลังจะกลายสภาพ Gabe ตัดสินใจใช้มีดตัดแขนตัวเองทันที เขาร้องลั่นไปพร้อมเฮลิคอปเตอร์ที่ตกหายลับไปจากน่านฟ้า ในขณะที่กำลังเกิดเรื่องวุ่นวายก็มีมือปริศนาที่เข้ามิดปากน้องผู้หญิงและจับตัวเธอไปที่ทุกคนไม่ได้ทันรู้ตัว เมื่อ Moira หันมาดูน้องผู้หญิงอีกครั้งก็พบว่า น้องผู้หญิงคนนั้นไม่ได้อยู่ที่นี่แล้ว






และนั่น เป็นทั้งหมดที่ Natalia พยายามเล่าให้ Barry ฟังว่าเธอเห็น Moira ลูกสาวของเขาครั้งสุดท้ายก็ตอนที่พวกเธอกำลังขึ้นไปที่ตึกสูงที่อยู่อีกฝั่งของที่นี่ ซึ่งทันทีที่ฟังจบ Barry ก็ถามขึ้นมาทันทีว่า “ถ้าชั้นพาหนูไปที่นั่นด้วยหนูจะขัดข้องหรือเปล่า? 

- เดินเข้ามาตามทางจนเจอศพของ Edward Thompson เจ้าหน้าที่คนนึงของ Terra – Save ผ่านเข้ามาถึงประตูเหล็กสีฟ้าซึ่งจะถูกล๊อกเอาไว้ทำให้ต้องไปหากุญแจมาเปิด เดินเลาะไปทางฝั่งซ้ายของประตูจนถึงประตูเล็กที่เข้าไปในเขตบ้านที่มี 2 หลังติดกัน จะเห็นกุญแจอยู่บนโต๊ะในห้อง ลอบจัดการพวกติดเชื้อรอบๆบ้านให้หมด แล้วไปที่บ้านหลังทางขวา ยกกล่องไปวางเพื่อปีนขึ้นไปบนหลังคาทางงหลังบ้านแล้วเดินผ่านหลังคาบ้านไปที่บ้านอีกหลังโดดลงไปเก็บปืน Rifle MI8912/30 และกุญแจออกมา แล้วเอากลับไปไขที่ประตูใหญ่สีฟ้าผ่านเข้าด้านในต่อ ซึ่ง Natalia จะชี้ให้เห็นว่าตึกหอคอยเป้าหมายนั้นอยู่อีกไม่ไกลแล้ว

  

-  เข้ามาในหมู่บ้านชาวประมง Natalia จะเห็นศัตรูอยู่บนหลังคาแต่ Barry กลับมองไม่เห็น  ที่บ้านริมชายหาดจะมีช่องให้ Natalia มุดเข้าไปเก็บแผนที่และไอเทมต่างๆออกมา สำรวจมาถึงด้านในทางเดิน Natalia ก็จะเริ่มเห็นศัตรูอีกครั้ง แน่นอนว่า Barry ไม่เห็นเหมือนเดิม ใช้ Natalia ชี้ดูก็จะเห็นเป็นไอสีเหลืองและเริ่มแดงขึ้นเมื่อมันเข้ามาใกล้ มองตำแหน่งให้ดีๆแล้วใช้ Barry ยิงมันซะ ก็จะพบว่ามันเป็นตัวประหลาดแบบใหม่ที่สามารถล่องหนได้ “ช่างเริ่มสนุกกันไปใหญ่แล้ว “ Barry สบถออกมาแบบนั้น จากนั้นก็ให้ Natalia นำทางไปแล้ว Barry ยิงจัดการมันจนเข้ามาถึงชายหาด แล้วอ้อมขึ้นไปที่เนินจนถึงประตูด้านบน ผ่านเข้ามาถึงทางเข้าอุโมงค์ที่จะพาทะลุออกมาจนถึงเขตตัวเมือง
- เดินไปเข้าประตูฟ้าสุดทางเข้าไปในตัวตึก ชั้นบนจะมีประตูที่ต้องใช้สว่านเจาะยังได้ต้องขึ้นไป ลงบันไดไปตามทางชั้นล่างเข้าไปจนถึงห้องโถงด้านล่างได้เลย ทันทีที่ทั้งคู่เข้ามาก็มีดวงตาลึกลับที่แอบเฝ้ามองอยู่ เข้าไปจัดการพวกติดเชื้อในนี้ให้หมด เก็บไอเทมให้หมดแล้วออกทางประตูชัตเตอร์ข้างๆหีบสมบัติด้านใน จะออกมาที่ถนนอีกฝั่ง เข้าไปที่ซากรถบัสที่สุดถนนทะลุผ่านเข้ามาจนถึงห้นาตึก จัดการพวกติดเชื้อให้หมดแล้วขึ้นบันไดไปเข้าประตูด้านบนได้เลย
- เข้าในตัวตึกจะมาตรงที่ประตูลูกรงที่ Claire และ Moira เคยกันเอาไว้ ผ่านเข้าไปแล้วให้ Natalia มุดเข้าไปเปิดประตูห้องใกล้ๆเพื่อเก็บไอเทมก่อนจะออกประตูที่สุดทางจะออกมาที่ส่วนหลังอาคาร แล้วไปเข้าประตูฟ้าที่สุดทางเดินของตึกตรงข้าม ดวงตาลึกลับก็ยังเฝ้าทั้งคู่อยู่อย่างสยดสยอง เข้ามาจะเป็นห้องที่มีโต๊ะเครื่องมืออัพเกรดปืน ออกทางออกด้านหลังห้องจะมีประตูที่ต้องใช้สว่านเจาะ เลยผ่านเข้าไปที่ทางเดินในก่อน ประตูสุดทางจะปิดให้ Natalia มุดช่องเล็กๆในห้องน้ำด้านขวาไปเปิดประตูจากอีกด้านให้ ก็จะเข้ามาถึงโถงบันไดได้
- ขึ้นไปตามชั้นต่างๆของตึก จัดการศัตรูและเก็บไอเทมตามทางจนถึงชั้นบนสุดของตึก Barry จะพบซากเฮลิคอปเตอร์ของของ Gabe จอดค้างหน้าต่างอยู่ขวางทางเดินระหว่างห้องอยู่ Barry จึงดันมันจนตกลงไปด้านล่าง จนผ่านเข้าไปด้านในห้องใหญ่ด้านในได้ แต่จุ่ๆ ซอมบี้ Pedro พร้อมสว่านคู่ใจมันก็จะพังพนังออกมาโจมตี จัดการมันซะ แล้วเก็บสว่านมาจากมัน จากนั้นย้อนกลับลงบันไดไปที่หลังห้องที่มีโต๊ะเครื่องมืออัพเกรดปืนตรง เอาสว่านเจาะประตูแล้วผ่านเข้าไปด้านในจะทะลุออกมาจากโกดังมาที่หน้าตึกหอคอยได้
- เข้าไปในตัวตึกที่เต็มไปด้วยความน่าขยะแขยงจนถึงห้องโถงชั้นบน Barry จะสังเกตรูปวาดที่วางอยู่บนโต๊ะ ผู้หญิงคนนึงที่ยืนอยู่ โดยมีเจ้า Wesker นั่งอยู่ใกล้ๆ





Barry – นั่นมัน wesker ! 
Natalia – เธอคนนี้น่ะน่ากลัวจนหนูไมอยากอยู่ใกล้เลยล่ะ
Barry – ใคร ? ผู้หญิงที่ยืนใกล้ๆ Wesker เนี้ยหรอ 
Natalia – ไม่ใช่ เธอคนนี้ต่างหาก Wesker … Alex Wesker !
Barry – Wesker มี 2 คน ? นี่ล้อกันเล่นใช่มั๊ย !






                      ???? – ฮ่าๆๆๆ มากันจนได้น๊ะ  ข้ารู้ดีว่าเจ้าจะมา .. Natalia !




                                            Episodes Three – Judgment

ทางด้าน Claire และ Moira ซึ่งเดินทางมาจนจนถึงหน้าตึกสำเร็จ แต่ก็พบว่าประตูด้านหน้าถูกิปิดจนไม่เข้าไปได้ แต่ Claire จะพบกระดาษโน้ตที่เขียนแปะเอาไว้ว่า “ให้ไปที่โรงงาน” ซึ่งเธอคิดเอาว่าอาจเป็นข้อความที่ Neil ส่งถึงเธอ Claire จึงรีบไปที่นั่นอย่างไม่รีรอ ซึ่งก็จะทีเสียงแซวตามลังจาก Moira อยู่ตลอดถึงความสัมพันธ์ของ Claire และหัวหน้า Neil ที่ดูเหมือนจะลึกซึ้งเกินพอดีไปนิดนึง



- เดินทางเข้าไปทางประตูขวาจะเข้ามาในเขตโรงงาน ที่ลานด้านในโรงงานสำรวจให้ทั่วๆจะประกอบด้วยอาคาร 3 หลัง ซ้าย กลาง และขวา ประตูของอาคารกลางด้านในจะต้องผ่านเครื่องสแกนม่านตายังเข้าไม่ได้ ส่วนทางเข้าอาคารด้านขวาขวานั้นมีรูปปั้นของระเยซูกันประตูอยู่ เมื่อเข้าไปสำรวจ เสียงของ”ผู้ควบคุม” จะติดต่อมาแล้วบอกว่าถ้าต้องการผ่านเข้าไปต้องำอะไรบางอย่างให้พระเจ้าพอใจ ซึ่ง Moira จะเห็นช่องตรงกลางอกของรูปปั้นว่าต้องการอะไรบางอย่างที่ต้องใส่เข้าไป 2 ชิ้น จากนั้นประตูของอาคารด้านซ้ายตรงข้ามก็จะถูกเปิดให้เข้าไป
- อาคารด้านซ้าย เข้ามาด้านในจะพบโต๊ะอัพเกรดอาวุธ ด้านในโถงบันไดในจะมีประตูรูปดาวที่ต้องใช้กุญแจ Plant Key ในการเปิดรวมทั้งประตูเล็กสีเหลืองข้างซ้ายด้วย เก็บไอเทมให้หมดแล้วขึ้นบันไดไปชั้นบนต่อ ห้องแรกซ้ายนั้นต้องผ่านเครื่องสแกนม่านตา ผ่านเข้าไปก่อนทุกประตูตามทางจะถูกล็อกจากด้านใน(คงพอจะเดาน๊ะว่าจะมีอะไรที่ช่วยเปิดออกมาให้) เข้าไปที่ประตูรูปดาวด้านใน ในห้องจะมีดวงตาที่ถูกวางไว้ที่แท่นหิน และ Plant Key ที่แขวนไว้บนรูปปั้นรูปนก




และเมื่อจะเก็บเอาลูกตามาจากแท่น กลไกกับดักหนามจากบนเพดานก็จะค่อยๆเลื่อนลงมาทับ นั่งต่ำๆเพื่อรอให้เพดานลงมาจนทับรูปปั้นนกให้แตกจนกุญแจหล่นลงมา แล้วรีบเอาลูกใส่กลับไปที่แท่นเพื่อให้กับดักมันหยุด แล้วเก็บ Plant Key ออกมา ซึ่งก็จะพบพวกซอมบี้พังประตูปิดอยู่ตามทางเดินออกมา จัดการให้หมดเก็บไอเทมตามห้องต่างแล้วกลับลงไปชั้นล่างต่อ





- เอา Plant Key ไปไขประตูรุปดาวที่ชั้นล่างเข้าไปในห้องโถงใหญ่จะพบมีรูปปั้นอยู่กลางห้อง แต่เมื่อลงไปแล้วจะมีระบบรักษาความปลอดภัยมากมายที่เล็งปืนเข้ามา สั่งให้ Claire รอด้านบนแล้วใช้ Moira ลงไปใช้ไฟฉายส่องดูก็จะเห็นเป็นรูปรอยเท้าสีฟ้า พยายามเดินตามรอยเท้านั้นไปช้าๆเรื่อยๆจนกว่าจะถึงรูปปั้นกลางห้องเก็บไอเทม ลูกตาปลอม มาแล้วกับดักทั้งหมดก็จะหยุดทำงาน จากนั้นเอาลูกตาปลอมกลับขึ้นไปชั้นบนเข้าห้องรูปดาวแล้วเอาไปใส่ที่แท่นแทนลูกตาจริง ก็จะได้ไอเทมลูกตามาใช้กับเครื่องสแกนม่านตาหน้าประตูห้องที่ทางเดินได้แล้ว สแกนม่านตาเข้าไปที่ห้องตรงทางเดินเข้าไปในห้องทำงานเก็บปืน Magnum ที่ตกอยู่มาใช้ หยิบมาแล้วจะทำให้ปืนที่ถืออยู่ก่อนหน้านี้ตกไปอันนึง ไม่ต้องกังวลเพราะมันก็จะกลับไปที่โต๊ะอัพเกรดอาวุธเหมือนเดิม




สำรวจที่ศพบนเก้าอี้จะได้ไอเทม Liver Replica (Right) มาซึ่งไอเทมนี้ก็คือ ตับ ที่ไว้ใช้สำหรับใส่ที่รูปปั้นพระเยซูที่กั้นประตูอาคารด้านนอกนั่นเอง แต่แค่เพียงก้อนด้านขาวเท่านั้นยังต้องหาอีกก้อนด้านซ้ายมาด้วย เสร็จแล้วออกจากอาคารนี้ได้เลย (ถ้าสำรวจไม่เจอตับให้รอจนเอาอันแรกไปใส่รูปปั้นก่อนค่อยมาสำรวจก็็จะเจอตับ)
- จากนั้นเข้าประตูของอาคารกลางด้านในจะผ่านเครื่องสแกนม่านตาเข้าไปจะพบว่าเป็นโรงงานฆ่าสัตว์ เข้าไปในห้องโถงในจะพบประตูรูปดาวตรงทางเดินที่ต้องใช้กุญแจ Slaughter House Key ในการเปิด ลุยเข้าไปด้านในจะเจอซอมบี้ที่ถือไหระเบิดไฟอีกครั้ง จัดการมันซะแล้วเข้าไปที่ประตูเล็กสุดทางจะเป็นห้องกับดักใบมีดหมุน ให้ใครคนใดคนนึงยืนรอที่หน้าคันโยกสวิตซ์หน้าทางเข้า แล้วให้อีกคนเข้าไปเก็บกุญแจ Slaughter House Key ที่วางอยู่บนกับดักตัวในสุด พอเก็บมาแล้วกับดักใบมีดจะเริ่มหมุนทันที เปลี่ยนเป็นคนที่อยู่หน้าสวิตซ์ให้สับปิดมันซะ ก็จะสามารถหลบใบมีดหมุนออกมาได้


 



- เอากุญแจ Slaughter House Key ไปเปิดประตูรุปดาวตรงทางเดินในห้องโถงกลางเข้าไปด้านในต่อ ในห้องชำแหละเนื้อจะเห็นเครื่องบนเนื้ออยู่กลางห้องและห้องควบคุมทางข้างๆ ให้ Moira ไปยืนรอที่หน้าคันโยกสวิตซ์ในห้องควบคุม แล้วให้ Claire มาที่เครื่องบนตรงลาง ปีนขึ้นไปบนกล่อง แล้วเปลี่ยนเป็น Moira ให้สับคันโยกจะทำให้ รางเนื้อที่ห้อยอยู่เลื่อนออกมา ให้ Claire ยิงเนื้อที่ห้อยอยู่ให้ตกลงมาในเครื่องบดจนกว่ามันจะเต็ม ซึ่งระหว่างนั้นจะมีซอมบี้ออกมาก่อกวน Moira ด้วย เมื่อเนื้อลงไปในเครื่องบดจนเต็มแล้วก็จะได้ไอเทม Liver Replica (Right) หรือตับเอาทางขวานั่นเอง จากนั้นก็ฝ่าดงซอมบี้มากมายออกมาที่นอกอาคารได้เลย



- ที่ลานด้านหน้าอาคาร เอา Liver Replica ทั้ง 2 ชิ้นที่ได้มาเอาไปใส่ที่รูปปั้นของระเยซูที่กั้นประตูของอาคารด้านขวาขวา แล้วมันจะระเบิดออกจนเข้าไปด้านในอาคารได้แล้ว เข้ามาแล้วเก็บปืน Hand Gun P10 ในห้องเก็บถังไวน์ทางซ้ายแล้วเข้าไปด้านในจนถึงห้องไอน้ำ จะพบว่ามันกำลังระเบิดใหญ่ จนไฟไหม้และมีท่อแก็สพุ่งออกมาขวางทางไปหมด ซึ่งก็ต้องรีบหนีออกจากที่นี่ก่อนเวลาจะหมด จะมีไฟขวางทางเดินอยู่ต้องดันให้ Moira ขึ้นไปบนระเบียงทางซ้าย แล้วไปปิดวาวล์แก็สให้ไฟหายไป แล้วให้ Claire ผ่านเข้าไปหมุนวาลว์ปิดแก็สที่ปล่อยไฟมาขวางทาง Moira ต่อ ให้ใช้ Moira ไปหมุนคันโยกใยปิดไฟให้ Claire จน Moira ต้องเข้าไปเจอซอมบี้ลุกขึ้นมาขวางทาง ใช้ไฟฉายส่องแล้วฟาดมันก็พอจะล้มอยู่ จากนั้นไปยกลังที่สุดทางเดินใช้ปีนขึ้นไปที่ระเบียงด้านบนเพื่อปิดวาล์วแก็สให้ไฟตรงทางเดินของ  Claire ดับ ทั้งคู่ก็จะลงมาเจอกับที่หน้าประตูด้านในได้



- ที่ประตูทางออกนั้นเป็นประตุกับดัก ซึ่งจะมีให้เลือกให้เปิดจาก 4 ประตูมีเพียง 1 เดียวที่จะรอดไม่โดนกับดักจนตาย ซึ่งไม่ต้องไปเลือกเพราะเลือกอันไหนมันก็จะโดนกับดักจนตายทุกบาน ให้ดัน Moira ขึ้นไปที่ท่อแก็สทางขวาของประตู แล้วเดินไปตามท่อจนอ้อมาถึงด้านหลังประตูกับดัก คราวนี้ก็ดูได้เลยว่าบานไหนไม่มีกับดักอยู่หลังประตูก็ให้ Claire เปิดบานนั้นเข้ามาได้ รีบออกประตูด้านในไปทั้งคู่ก็จะหนีออกจากโรงงานนรกก่อนระเบิดจะทำลายทุกอย่างจนหมดอย่างเฉียดฉิว
- ทั้งคู่จะกระเด็นด้วยแรงระเบิดจนตกลงมาที่ท่อระบายน้ำ เข้าไปด้านในท่อระบายน้ำต่อ ระหว่างจะมีจุดที่สามารถปีนขึ้นไปเก็บไอเทมได้ โดยทางขวานั้นสามารถดัน Moira ขึ้นไปเก็บไอเทมแล้วยกกล่องเหล็กลงมาได้ แต่ไม่ต้องพยายามที่จะใช้กล่องไปปีนอีกฝั่งเพราะมันเอาลังข้ามน้ำไปไม่ได้ และมันเป็นหน้าที่ของ Barry ที่จะขึ้นไปเก็บมัน ลุยต่อไปตามทางจนถึงทางเข้าด้านใน ซึ่งก็จะพบลุงคนนึงที่ขังตัวเองเอาไว้ด้านในห้อง ซึ่ง  Claire สังเกตเห็นว่าลุงแกไม่มีสายรัดคอมือเธอจึงมันใจว่าลุงคงอยู่ในเกาะนี้มาตั้งแต่เกิดเรื่อง แต่ลุงแกจะไม่บอกอะไรนอกจากจะเปิดประตูให้ Claire และ Moira เข้าประตูไปต่อเพื่อตัดความรำคาญ เข้าไปตามทางจนถึงห้องปั๊มน้ำ เข้าไปกดสวิตซ์ที่แท่นให้ประตูลูกกรงปิดลงมาก็จะทำให้เดินผ่านไปด้านบนของประตูได้ ผ่านห้องโถงต่อไปเดินไปตามท่อน้ำด้านบนท่ามกลางซอมบี้มากมายที่พยายามจะปีนขึ้นมา จนข้ามรั้วเข้าไปด้านใน ซึ่งก็จะเข้ามาที่ส่วนสุสานใต้ดินของหอคอยได้แล้ว




-ห้องโถงสุสานใต้ดินจะเห็นว่ามีป้ายสุสานเรียงกันเป็นแถวๆมากมาย และมีป้ายใหญ่ตรงกลาง ที่เขียนที่หลุมศพสรรเสริญและศรัทธราในการกระทำของ Alex ที่ทุกคนที่ยอมตายเพื่อนเธอมากมายเรียกเธอว่า Code name No.46 และจากข้อความทั้งหมดก็ทำให้รู้ว่าเกาะแห่งนี้ชื่อว่า Zabytij ตรงทางออกของสุสานจะมีห้องที่ปิดด้วยลูกกรงและทางไปต่อทางขวาสุดจนไปถึงทางเข้าตึกด้านใน แต่ถ้สคุณอยากได้ปืนกล MP – AF มาใช้ก็ต้องปริศนาของห้องสุสานนี้ก่อน โดยคำใบ้จะวางอยู่บนลังหน้าห้องซึ่งจะบอกถึงตำแหน่งของสุสานที่ต้องสำรวจเรียงกันให้ถูกต้อง 4 จุดจึงจะเปิดประตูลูกรงห้องได้ ซึ่งถ้านับจากสุดทางของห้องจนถึงประตูลูกกรงก็จะพบว่ามันมีทั้งหมด 5 แถว (จะนับเรียงจากล่างจนถึงแถวบนตรงหน้าประตู) โดยต้องกดสำรวจตามเสาหลุมศพดังนี้
1. แถวที่ 5 ตรงหน้าประตู แถวฝั่งซ้าย หลุมศพที่ 2 จากซ้ายตรงที่ไม่มีป้ายหลุมศพ
2. แถวที่ 1 ติดริมรั้วด้านใน แถวฝั่งซ้าย หลุมศพที่ 2 จากซ้าย ดาวหน้าหลุมศพจะกลับด้านไปด้านหลัง
3.แถวที่ 2  ฝั่งแถวขวา หลุมศพที่ 2 จากซ้าย 
4. แถวที่ 3 แถวฝั่งขวาของหลุมศพใหญ่ หลุมศพที่ 4 จากซ้าย อันที่เสาหลุมศพตรงปลายหัก 
ทุกครั้งที่สำรวจถูกต้องจะมีแสงสีฟ้าที่หลุมและมีแรงสั่นสะเทือน จากนั้นประตูลูกกรงจะเปิดออกให้เข้าไปเก็บ ปืนกล MP – AF และไอเทมอีกบางส่วนในห้องมัมมี่ได้เลย

   


- จากนั้นค่อยเข้าไปต่อจนสุดทางจนถึงทางเข้าไปที่โถงลิฟต์ขนของภายในตึกหอคอย สำรวจให้ทั่วแล้วขึ้นไปที่ห้องทำงานตรงระเบียงทางเดิน ด้านในจะเป็นห้องอัพเกรดอาวุธ ที่โต๊ะทำงานจะเห็นรายชื่อของคนที่มาร่วมงานของ Terra – Save โดยทั้งหมดทีมีในร้ายชื่อทั้ง 8 คนนั้นทุกคนล้วนถูกจับมาที่เกาะนรกนี่แล้วทั้งนั้น ทำให้ Claire ต้องคิดหนักเมื่อหลักฐานต่างๆมันไปเข้าทางของ Neil แทบทั้งสิ้น และทันทีที่สำรวจดูกล้องวงจรปิด Claire ก็จะเห็นบางสิ่งที่เธอไม่ได้คาดคิด เธอเห็น Neil หัวหน้าของเธอที่รอดชีวิตมาด้วยกันกำลังเตรียมการบางอยู่ที่ห้องทดลองที่นึงที่มีผู้หญิงคนนึงเข้ามาคุยด้วย ซึ่งไม่เห็นหน้าแน่ชัดว่าเป็นใครแต่เธอก็คิดเอาเองได้ว่ามันคือผู้หญิงที่บังการในการจับทุกคนมาและเรียกตัวเอง “ผู้คุมงาน” แน่นอน



Neil – เอาล่ะ ผมแยกออกมาแล้ว 
ผู้หญิงลึกลับคนนึง ?? – ทำงานได้ดีมาก
Neil – ตาเธอแล้ว ถ้าทุกอย่างมันเสร็จสมบรูณ์แล้วก็จบเรื่องบ้าๆนี่ซะที .. โอ๊ะ ...อะไรกันเนี้ย แกยิงอะไรใส่..
ผู้หญิงลึกลับคนนึง ?? – ตัวอย่างเชื้อไวรัส Uroboros ที่นายต้องการนักไง ได้ไปแล้วนี่ .. เจ้าหนูทดลอง 
Neil – แกมันไม่รู้อะไรเกี่ยวกับชั้นหรอก 
ผู้หญิงลึกลับคนนึง ?? – รู้จักสิ หุ่นเชิดของ Lansdale ไง ตอน Veltro ทำเรื่องวุ่นวายขึ้นที่ Terragrigia เมื่อ 7 ปีก่อนไง ตอนนั้น FBC หายสาปสูญไปแล้วนี่ เจ้าแก่นั้นม่องเท่ง แต่ก็ยังฉลาดพอที่จะส่งคบเพลิงต่อได้  
Neil – แกหลอกชั้น
ผู้หญิงลึกลับคนนึง ?? – นั่นเพราะแกมันงี่เง่าไง คิดว่าจะสร้างผู้ก่อการร้ายกลุ่มใหม่ที่ร้ายกาจขึ้นมาแล้วหวังจะใช้เป็นที่ชุบตัวให้ FBC หรอ ?  
Neil – ปีศาจอย่างแกไม่มีวันเข้าใจหรอก !

-ทันทีที่ดูจบ Claire ถึงกับต้องพยายามกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่ให้ Moira รู้ว่าเธอเสียใจแค่ไหนที่เห็น Neil ที่เป็นทั้งหัวหน้าและผู้ชายคนนึงที่เธอคิดพิเศษกว่าคนอื่นทำสิ่งที่ผิดต่อจรรยาบรรณตัวเองแบบนี้ กลับออกมาจากห้องที่โถงลิฟต์จะพบว่าลิฟต์กำลังลงมา เมื่อเข้าไปสำรวจก็จะเห็นว่าเป็น Neil ที่หลังจากถูกยิงไวรัส Uroboros ใส่แล้วเขาก็พยายามหนีลงมาด้านล่าง เขาพยายามขอโทษ Claire แต่ดูเหมือนจะสายเกินไปเพราะไวรัสได้เริ่มทำหน้าที่ของมันไปแล้ว มันเกาะกินร่างของ Neil เป็นจนถึงความคิดจนไม่หลงเหลือ ก่อนที่ร่างที่ขยายใหญ่และทรงพลังจะเข้าจู่โจมตี Claire และ Moira ทันที





- Boss Monster Neil นั้นมีการโจมตีด้วยการวิ่งพุ่งชนและใช้แขนปรสิตที่ยืดยาวพุ่งเข้าจับตัวแล้วฟาด ซึ่งถ้าจะสู้ให้ได้เปรียบต้องขึ้นไปบนระเบียงชั้นบน แล้วดักยิงตรงทางหักมุมของทางเดินไปเรื่อยๆมันจะไม่มีทางพุ่งเข้ามาชนโดนได้เลย ที่เหลือก็แค่ดูจังหวะที่มันเตรียมยกแขนปล่อยแขนยืดเข้าโจมตีก็พยายามหลบไปข้างๆให้ทันก็พอ เมื่อโจมตีมันจนเต็มที่แล้ว ร่างของมันจะเริ่มแตกออกแล้วมีฟองสีเหลืองฟองออกมา มันจะรีบไปทำลายแท็งค์สารเคมีเพื่อใช้ดับความเจ็บปวดของมัน ตามไปยิงใส่จุดฟองที่พองออกมาได้เลย เพราะมันจะไม่ปัดป้องอยู่นานเลย ก่อนที่มันจะขยายแขนปรสิตของมันให้ใหญ่ขึ้นแล้วเข้าโจมตีอีกรอบ ก็ทำเหมือนเดิมอีกก็จะจัดการมันได้

** ตรงนี้มีจุดทางแยกของฉากจบที่สุดแยบยลอยู่คือ ในช่วงที่กำลังจะฆ่า Neil ช่วงสุดท้าย เกมจะให้โอกาสคุณสลับตัวละครในการปิดฉากเรื่องนี้ โดยการกระทำที่คุณเลือกต่อจากนี้จะส่งผลไปถึงฉากจบที่มี 2 แบบคือ **

- Bad Ending ถ้าคุณเลือกให้ Claire เป็นคนฆ่า Neil ด้วยตัวเอง ซึ่งมันจะทำให้ Moira ไม่มีโอกาสได้ยิงปืนจนทำให้เธอยังคงกลัวการใช้ปืนและจะทำให้เธอไม่มาช่วย Barry ในตอนสุดท้ายของเกม 
- Good Ending ถ้าคุณเลือกให้ Moira เป็นคนยิง Neil เพื่อช่วย Claire ก็จะทำให้ Moira หายกลัวอาวุธเพราะโศกนาฏกรรมที่เกิดจาก Barry เมื่อในอดีต ตอนหลังเธอก็จะกลับมาช่วย Barry ในตอนจบของเกม 
แน่นอน ตามบทสรุปนี้ผมเลือกแบบให้ Moira เป็นคนยิง Neil เพื่อช่วย Claire ครับ 


หลังจัดการมันได้ Claire ไม่รอช้าที่จะ Moira หนีขึ้นลิฟต์ไปทันที และแน่นอนว่า Neil นั้นยังไม่ตายมันพยายามบุกตามขึ้นมาบนลิฟต์และกระชากตัว Claire จนกระเด็นตกไปด้านล่างได้อีก ก่อนที่จะโถงเข้าโจมตีใส่จนปืนของ Claire จะกระเด็นหลุดมือไปตกตรงหน้า Moira ในขณะที่ Claire กำลังวิกฤติสุดๆแต่เธอก็เอื้อมไม่ถึงปืนเพื่อเอามาแก้สถานการณ์ได้





Claire รู้ดีว่า Moira นั้นเกลียดอาวุธทุกชนิดโดยเฉพาะปืนแต่ครั้งนี้เธอต้องการให้ Moira ช่วย กดสลับเปลี่ยนไปเป็น Moira แล้วคลานเข้าไปหยิบปืนขึ้นมา ภาพความทรงจำในวัยเด็กก็เริ่มผุดขึ้นมาเป็นเงาตามตัว ภาพของเหตุการณ์ที่ Moira เอาปืนของ Barry ที่ไม่ได้เก็บให้ดีมาเล่นแล้วเผลอทำปืนลั่นใส่ Polly จนเกือบเสียชีวิต นั่นเป็นเหตุผลที่ทำไม Moira ถึงเกลียดปืนและรักพ่อของเธอน้อยลงด้วย แต่สุดท้าย Moira ก็เอาชนะความหลังได้ก่อนที่เธอจะเหนี่ยวไกยิงใส่ Neil จนตายคาอกของ Claire 






ผู้หญิงลึกลับคนนึง ?? – ชั้นได้ในสิ่งที่ต้องการแล้ว ระหว่างเราคงยังไม่มีอะไรที่ต้องทำตอนนี้หรอกที่รัก แต่ชั้นก็จะเป็นเพื่อนที่ดีของเธอเสมอน๊ะ แล้วเราก็จะได้รู้กันตอนที่เราข้ามไปอีกฝากนึงแล้วกลับออกมาได้นั่นแหละ





ทางด้าน Barry และ Natalia ที่อยู่ในหอคอยหลังจากได้พบกับตัวประหลาดตัวนึงที่พยายามจะเข้ามาทักทาย Natalia อย่างรู้จักมักคุ้น ซึ่ง Barry รู้ดีว่ามันต้องการจะจับตัว Natalia ไปซึ่งมันพยายามทำอยู่ตลอด ก่อนที่ตัวประหลดมันจะถอดหน้ากากของมันออก Natalia ก็จะจำได้ทันทีว่ามันคือ Alex Wesker ผู้หญิงที่อยู่ในรูป ทันทีที่ Barry รู้ว่าเป็น Alex ไม่ว่ามันจะเปลี่ยนไปแค่ไหนเขาก็ต้องการรู้ความเป็นไปของ Moira ลูกสาวของเขา ตัวประหลาด Alex บอกอย่างยียวนกลับไปว่า “ไปสู่สุขติแล้ว แต่ยังเหลืออีกหนึ่งที่ต้องฆ่า”  ก่อนจะเรียกพวกติดเชื้อมากมายเข้ามารุมหวังที่จะชิงตัว Natalia ซึ่ง Barry ที่ทั้งแค้นแสนแค้นในสิ่งที่มันพูดออกมา และถ้าเป็นตามราคาคุยของมันก็แปลว่ามันได้ฆ่า Moira ลูกสาวเขาไปแล้ว นั่นคือสิ่งที่ Barry คิด แต่ดูเหมือนสถานการณ์จะไม่เป็นใจในการขับเคลื่อนแรงแค้นมากนัก Natalia จึงชี้ทางออกให้ Barry พาหนีไปพร้อมคำพูดกลับไปว่าเขาจะตามไปเอาคืนกับสิ่งที่มันทำกับ Moira แน่นอน


ทันทีที่ทั้งคู่หนีมาจนพ้นแล้วเข้ามาหลบกันที่ท่อระบายน้ำ Natalia ก็เกิดหมดแรงที่จะเดิน Barry จึงแบบเธอขึ้นหลังเพื่อเดินทางต่อไป ซึ่งก็ทำให้ Barryกับ  Natalia ได้มีเวลาทำความรู้จักกันมากขึ้นด้วย
Barry – ลองอีแบบนี้ชั้นอดคิดไม่ได้ว่าเมื่อเหตุการณ์ใน 6 เดือนก่อนนั้น Alex น่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องทั้งหมดด้วยแน่ๆ 




Natalia – เธอเคยบอกว่าเพื่อการเกิดใหม่ พวกลูกสมุนที่ติดตามเธอชอบเรียกเธอว่า ผู้คุมงาน 
Barry – เกิดใหม่เรอะ ด้วยไวรัสเนี้ยน๊ะ แต่ชั้นก็ไม่เข้าใจว่ามันจับตัว Moira และฆ่าเธอทำไม ?
Natalia – ขอโทษค่ะ หนูจำได้เท่านี้จริงๆ
Barry – โอ้ โทษทีแม่หนูน้อย มันปัญหาของชั้นเองไม่เกี่ยวกับเธอ ทำใจให้สบายๆน๊ะ แต่ก็น๊ะ อดคิดไม่ได้ว่าชั้นใช้ชีวิตด้วยงานแบบนี้ทั้งๆที่มี Polly และ Moira อยู่ได้ยังไงมาตั้งนาน
Natalia – ครอบครัวคุณเป็นครอบครัวที่ดีมั๊ยค่ะ ?
Barry – ก็ เราพยายามจะทำให้มันดีกันน่ะ จนมันแย่ขึ้นก็ตอนที่ Moira กำลังจะโตนี่แหละ  
Natalia – เธอชอบพุดคำหยาบกับคุณหรอค่ะ ?
Barry – หึหึ ไม่หรอก เธอแค่พยายามจะทำให้ชั้นไปไกลๆแค่นั้นแหละ ชั้นเป็นได้แค่พอที่แย่ๆคนนึงนั้นแหละ วันนึง Moira และ Polly เล่นกันอยู่ในบ้าน ปืนของชั้นก็ดันลืมที่จะล็อกเอาไว้ในที่เก็บ แล้ว Moira ก็ .. ทำให้ Polly เกิด อุบัติเหตุขึ้น
Natalia – เป็นความผิดของ Moira หรอค่ะ
Barry – ไม่ มันเป็นความผิดชั้นเอง แต่ชั้นยังไปตวาดใส่เธออีก โชคดีที่ Polly รอดมาได้ ขอบคุณพระเจ้า แต่ชั้นกับ Moira ก็ไม่รอด เราไม่เคยคุยดีกันมันตั้งแต่ตอนนั้น 
Natalia – ชั้นคิดว่าเธอยังรักคุณน๊ะ 
Barry – จะดีใจมากเลยถ้าที่เธอพุดมันจริง เอ้อ ชั้นบอกกับเธอมากไปแล้วแม่หนูน้อย แต่สุดท้ายชั้นก็ช่วยลูกสาวไว้ไม่ได้ แต่ชั้นจะช่วยเธอน๊ะ สาบานว่าจะพาออกจากเกาะนี้ให้ได้
Natalia – หนูรู้ค่ะ ขอบคุณน๊ะ Barry  

-ทันทีที่ Natalia เดินไหวก็ควรย้อนกลับไปเก็บไอเทมต่างตามทางที่แบกเธอมาด้วย จากนั้นก็เข้าตามทางท่อระบายน้ำต่อ ซึ่งก็เป็นทางเดียวกับที่ Claire และ Moira เคยผ่านเข้ามานั่นแหละเพียงแต่มันสวนทางกันเท่านั้น (Barryจะรู้มั๊ยน๊ะ) เมื่อออกมาจากถึงระหว่างทางระบายน้ำที่เคยเอาลังลงมาจากด้านบนไว้ ตอนนี้น้ำลดก็จะสามารถยกลังไปปีนขึ้นไปเก็บไอเทมด้านบนตรงที่ Claire เข้ามาแล้วเอาไม่ได้ เข้าไปต่อจนถึงห้องของลุงคนที่เคยเจอกับ Claire ซึ่งตอนนี้แกตายไปแล้ว สำรวจห้องให้ทั่วๆ ถ้าอ่านในบันทึกของลุงก็จะรู้ว่าเหตุเปลี่ยนแปลงที่เกิดบนเกาะนี้นั้นเริ่มตั้งแต่วันที่ 19 กรกฎาคม 2009 แล้ว เก็บกุญแจที่แขวนอยู่ออกไปไขเปิดประตูที่สุดทางไปต่อได้เลย
- เข้ามาตามทางจนถึงโรงบำบัดน้ำเสีย ซึ่งจะมีประตูกั้นน้ำขวางทางอยู่ ให้ Natalia มุดเข้าไปในช่องเล็กทางซ้ายเพื่อปีนขึ้นไปด้านบนทางเดินแล้วไปหมุนวาวล์เปิดประตูน้ำให้ Barry ผ่านเข้ามา ซึ่งจากนี้ก็จะเป็นการผสานงานกันทำงานระหว่างลุงและหลาน โดยที่ Natalia ต้องไปเปิดวาวล์ประตูกั้นน้ำจาก 4 จนถึง 1 ด้านในสุด โดย Barry ต้องเป็นคนยิงทำลายที่กั้นทางให้เธอ คุ้มกันพวกซอมบี้ที่เข้ามาโจมตีรวมไปถึงคุ้มกันตัวเองด้วย ด้านบนมีถังออกซิเจนที่สามารถผลักลงมาให้ Barry เพื่อใช้จัดการศัตรูได้ด้วย โดยเฉพาะไอ้ตัวประหลาดที่หายตัวได้นั่นแหละ เมื่อ Natalia เข้าไปจนถึงประตูทางเข้าใหญ่ มุดเข้าช่องกำแพงไปหมุนวาวล์แล้ว Barry ก็ต้องรีบตามมาคุ้มกันเธอด้วยจนประตูเปิดก็จะได้ร่วมทางกันอีกครั้ง ออกทางประตูในไปก็จะออกมาที่ส่วนนอกที่เป็นเหมืองขนาดใหญ่ตรงหน้า



- ก่อนลงมาที่ซากทางรถรางสุดทางจะเห็นมีซอมบี้ถูกแขวนคออยู่ ให้ใช้สไนเปอร์ยิงให้มันตกลงมาที่ซากสะพานฝั่งตรงข้ามไว้ก่อนเพราะจะมีปืน Rile RVD ตกลงมาพร้อมกันมันด้วย แล้วค่อยลงบันไดมาด้านล่างเข้าห้องทำงานเก็บแผนที่และไอเทมต่าง ดูจอมอนิเตอร์ที่จะเห็นอะไรบางอย่างเก็บศพไว้ในโกดังเพียบจนน่าขยะแขยง จากนั้นจัดการศัตรูให้หมดแล้วปีนขึ้นไปที่ลิฟต์บนเนินด้านบนซึ่งก็จะพบว่ามันไม่มีพลังงานไฟฟ้า ซึ่งจะเห็นว่าที่แท่นวางมีช่องว่างสีเหลี่ยมของกล่องฟิวส์อยู่ นั่นคิดสิ่งที่ต้องขนขึ้นมาใส่เพื่อให้ลิฟต์ใช้การได้นั่นเอง
- จากนั้นลงไปด้านในทางซ้าย จะเห็นประตูใหญ่ที่ก็ไม่มีไฟจะเปิดเหมือนกัน เลยเข้าไปด้านในจนถึงโกดังจะเริ่มเห็นมือของตัวประหลาดที่ลากศพเข้าไปในโกดัง จากนั้นเข้าไปเก็บของในอาคารเล็กที่มีโต๊ะอัพเกรดอาวุธ และอาคารทางขวาเพื่อเข้าไปเปิดสวิตซ์เครื่องกำเนิดพลังงานก่อน ซึ่งมันจะทำให้สายพานขนของตามที่ต่างๆใช้งานได้จนหมด จากนั้นค่อยเข้าไปในโกดังใหญ่ต่อ
- ในโกดัง ไปยกกล่องฟิวส์ด้านในออกจากเครื่องไปใส่สายพานให้มันพาออกนอกโกดัง เมื่อเดินกลับมาก็จะเจอตัวประหลาดแขนยาวออกมาโจมตี จุดอ่อนมันคือจุดโป่งพองสีเหลืองนั่นแหละ เมื่อสู้ไปซักพักมันก็จะหนีไป ปีนออกมาด้านนอกแล้วยกเอากล่องฟิวส์ใส่สายพานให้เลื่อนเข้าไปด้านในต่อ ตามไปยกกล่องฟิวส์ไปใส่เครื่องควบคุมของประตูใหญ่ให้ไฟทำงานแล้วใช้ให้ Natalia มุดไปรอที่สวิตซ์ด้านขวาแล้ว Barry อยู่ฝั่งซ้าย กดคันโยกให้ต่อเนื่องกันประตูใหญ่จะเปิด ยกกล่องฟิวส์ตามออกไปด้วย จนถึงที่หน้าบ้านจะพบว่าสายพานอีกจุดอยู่บนชั้น 2 ของบ้าน แต่ประตูหน้าจะล็อกจากด้านใน  ยกกล่องฟิวส์ไปใช้ปีนขึ้นบนทางขวาจะมีทางเข้าด้านบน เข้าไปจัดการศัตรูแล้วเปิดล็อกประตูออกมา ยกกล่องฟิวส์ขึ้นไปใส่สายพานชั้นบนบ้านซะแล้วขึ้นไปรอบนเนินกลาง จากนั้นก็ยกกล่องฟิวส์ที่ขึ้นมาไปใส่สายพานด้านบนเพื่อให้มันไปตกที่เนินด้านบนตรงหน้าลิฟต์ใหญ่ ยกเอาไปใส่ที่แท่นเปิดคันโยกลิฟต์ก็จะทำงานและลงมารับแล้ว
- จัดการศัตรูที่ลงมากับลิฟต์แล้วขึ้นไปชั้นบน จนลิฟต์เริ่มติดต้องปีนขึ้นด้านบนต่ออีกหน่อยจนถึงเนินบนสุด จัดการศัตรูที่เดินไปมาให้หมด แล้วเข้ามายกกล่องฟิวส์ที่หน้าบ้านทางขวามาที่ประตูใน แต่บอสตัวกลายพันธ์ที่มีแขนยาวจะออกมาพร้อมลูกน้องอีกจำนวนนึง จัดการมันซะให้หมด แล้วยกกล่องฟิวส์ไปใส่ที่เครื่องควบคุมประตู เพื่อเปิดเข้าไปด้านในได้

ขณะที่ Barry กำลังพา Natalia ปีนขึ้นไปที่ป่าด้านบนท่ามกลางบรรยากาศที่กำลังผ่อนคลาย จู่ Alex ก็ปรากฏตัวออกมาเงียบๆและซัด Barry จนกระเด็นตกเขาไปทันที ก่อนที่มันจะพุ่งเข้าไปหาเป้าหมายที่ไม่มีทางสู้ของมันนั่นคือ Natalia





Alex – มันก็ไม่น่าจะต้องเป็นกันถึงแบบนี้เลย ชั้นรับไม่ค่อยได้หรอกที่ต้องทนเห็นผมหงอกเป็นสีเทาและกระดูกในร่างกายมันผุกร่อนลงทุกวันน่ะ ก็แล้วทำไมทีแกถึงไม่เปลี่ยนแปลงอะไรเลย ? ไอ้ตัวที่ไม่สมบรูณ์อย่างแกเนี้ย ทำไม ? แต่ชั้นก็จะหักแกเป็นสองท่อนด้วยมือเหี่ยวๆนี่แหละ ฮ่าๆ 





ทันทีที่ Alex พยายามบีบขอ Natalia แรงขึ้น แรงขึ้น จนเธอกำลังจะสลบ ดวงตาของ Natalia ก็เปิดขึ้นจ้องมองมายัง Alex นั่นทำให้มันถึงกลับยอมปล่อยมือจาก Natalia ตัวสั่นด้วยความหวาดกลัว ก่อนจะร้องเสียงหลงดังลั่นเหมือนกำลังกลัวอะไรบางอย่างที่อยู่ตรงหน้า!  


                                   Final Episodes – Metamorphosis 

Alex Wesker – เธอช่างสมบูรณ์แบบนักสาวน้อย 6 เดือนจากนี้ เธอจะตื่นขึ้นอีกครั้งเพื่อกลายเป็นชั้น และก็ถึงเวลาที่โลกต้องหวาดกลัวกับสิ่งที่จะเกิดขึ้น ฉะนั้นหลับฝันดีน๊ะสาวน้อย ชั้นรอช่วงเวลาแบบนี้มาทั้งชีวิต เพื่อจะโหมโรงเปิดตัวกับการเกิดใหม่ของชั้นอย่างแท้จริง





ทางด้าน Claire และ Moira หลังจากปราบ Monster Neil ลงได้ ก็ขึ้นลิฟต์ขึ้นไปที่ชั้นบนสุดเพื่อนตามล่า Overseer ซึ่งเป็นขณะเดียวกับทาง Overseer หรือ Alex Wesker ก็ฝั่งบางอย่างลงในร่างของ Natalia บางอย่างที่จะเติบโตขึ้นมาเป็นมันตามที่มันบอก ก่อนที่มันจะส่งแค็ปซูลที่บรรจุร่างของ Natalia ลงไปที่ชั้นใต้ดินซึ่งก็จะสวนทางกับลิฟต์ของ Claire และ Moira ที่กำลังขึ้นมาโดยที่ทั้งคู่ไม่ได้สังเกตเห็น

- เมื่อลิฟต์ขึ้นถึงห้องควบคุมชั้นบนสุด ในห้องที่เต็มไปด้วยจอมอนิเตอร์มากมายที่ Alex ใช้มันควบคุมนักโทษทุกคนที่มันจับมาบนเกาะ หน้าประตูทางเข้าด้านในจะมีแท่นสวิตซ์สำหรับปิดเปิดประตูเขื่อนที่อยู่อีกด้านของเกาะ ซึ่งจะทำให้เส้นทางในการเก็บไอเทมต่างๆของ Barry และ Natalia เปลี่ยนแปลงเส้นทางนิดหน่อยระหว่างซ้ายและขวา ซึ่งถ้าสับทางน้ำไว้แบบไหน เมื่อถึงเนื้อเรื่องของ Barry และ Natalia ก็จะสามารถเดินไปตามทางที่ไม่มีน้ำได้ (ไม่ส่งผลใดๆกับเนื้อเรื่องครับ)


- เข้ามาจนถึงห้องด้านในก่อนออกไปที่ระเบียงกลางที่ไม่มีทางไปต่อ ทำลายตู้ปลาด้านซ้ายของประตูจะเห็นคนโยกอยู่ด้านหลัง ผลักตู้ปลาให้พ้นทางแล้วสับคันโยกก็จะทำให้ระเบียงด้านนอกมีทางให้ไปต่อ ขึ้นไปตามระเบียงจนถึงห้องทดลองชั้นบนก็จะพบกับ Alex Wesker อยู่ในอีกด้านของพนังห้อง



Claire – สุดท้ายเราก็ได้เจอกันซักที
Alex Wesker – บุกบั่นมาจนถึงนี่เพื่อจะบอกลาแค่นั้นหรอ อ่อ ชั้นเข้าใจแล้ว ทุกอย่างมันเสร็จสิ้นแล้ว ชั้นเอาชนะทุกความกลัวได้หมดจนจะเข้าขั้นพระเจ้าแล้ว
Moira – ก็ลองออกมานอกกระจกบ้านี่สิ ชั้นจะอัดหน้าพระเจ้าให้ดู
Alex Wesker – และถึงตอนนี้ก็เหลือการทดสอบขั้นตอนสุดท้าย ประตูที่จะก้าวข้ามทุกๆอย่าง พี่ชายชั้น หนี และอาจจะตายไปแล้ว แต่เดี๋ยวทุกอย่างจะจบลงด้วยดี ชั้นจะแชร์ชะตากรรมกับเขา และสุดท้ายชั้นก็จะทำได้เหนือกว่าเขา
Moira – นี่หล่อนฟังที่ชั้นพูดไปบ้างมั๊ยเนี้ย แล้วนี่เอาปืนจ่อหัวตัวเองทำไม ?
Alex Wesker – หนีได้แล้ว !

 Alex พร่ำถึงเรื่องการเกิดใหม่ที่สุดยิ่งใหญ่อลังกาลของมันก่อนจะควักปืนมายิงหัวตัวเองตายต่อหน้าต่อตา Claire และ Moira ท่ามกลางความสั่นสะเทือนของแรงระเบิดที่เริ่มเกิดขึ้นหลังจากมันตาย หอคอยจะเริ่มระเบิดไปทั่ว Claire และ Moira จึงต้องรีบหนีออกจากที่นี่ทันที

- รีบวิ่งกลับไปที่ลิฟต์ซึ่งก็จะพบว่ามันถล่มร่างลงไปแล้ว เดินตามท่อใกล้ๆลิฟต์หนีไปตามทางเดินล่างต่อจนออกมาด้านนอกหอคอย เวลาจะเริ่มนับถอยหลังให้รีบหนีก่อนทุกอย่างจะระเบิด ระหว่างทางเดินริมภูเขา รีบให้ Moira โดดลงไปงัดกล่องไอเทมก่อนแล้วเข้าไปตามทางจนสุด โดดลงล่างเข้าไปเอากล่องด้านในขวาไปใช้ปีนข้ามรั้วทางซ้ายไปต่อ เข้าไปจนถึงทางขาด ให้ Moira ปีนขึ้นไปทางเดินด้านบน เพื่องัดแผ่นไม้ออก 2 จุดเพื่อให้ Claire สามารถโดดข้ามทางขาดไปอีกฝั่งได้ จากนั้นดันกล่องที่ปิดทางออกของ Moira ออก แล้วให้ Moira ดันด้านในออกมาก็จะหนีเข้าไปในส่วนในของอาคารได้
- เวลายังไม่ได้หยุดนับถอยหลัง รีบหนีไปตามทางจนใกล้ถึงทางออก จะเกิดการระเบิดจนมีเศษอาคารถล่มลงมา Moira ตัดสินใจช่วย Claire ด้วยการพลักเธอกระเด็นไปอีกฝากของทางเดินที่ขาด จน Moira ถูกทับด้วยซากปรักหักพัง ท่ามกลางเวลาที่กำลังจะหมด Claire พยายามอย่างสุดทางก็ไม่มีทางโดดเข้าไปช่วย Moira ได้ Moira ได้แต่ไล่ให้ Claire รีบหนีไปก่อนที่จะตายกันทั้งคู่  Claire ไม่มีทางเลือกจึงต้องจำใจออกมาที่ด้านนอกสามารถแล้วโดดหนีลงน้ำไปทันที่ก่อนที่ตึกจะเริ่มระเบิดเป็นจุล


Claire ถูกนำตัวเข้ารักษาโดยหน่วยช่วยเหลือที่มี Barry เข้ามาช่วยดูแล ซึ่ง Barry พยายามที่จะถามถึง Moira ลูกสาวเขาซึ่ง Claire ก็จะบอกได้แค่ว่าเธอขอโทษที่ไม่สามารถช่วย Moira เอาไว้ได้ ก่อนที่ Barry ที่ถูก Alex ฟาดจนกระเด็นมาสลบอยู่ในป่า ซึ่ง Natalia เป็นคนเข้ามาเพื่อพยายามปลุกเขา Barry แปลกใจมากที่ Natalia ไม่ได้ถูก Alex จับตัวไป แต่เขาก็สบายใจที่จะเห็นเธอปลอดภัยมากกว่าจะตั้งคำถามต่อ

- พา Natalia เข้ามาด้านในตามทางต่อจนถึงเขื่อน ซึ่งก็คือประตูน้ำ 2 ด้านที่ Claire เคยสับคันโยกไว้ แต่ไม่ว่าจะสับคันโยกหรือไม่ก็จะมีเส้นทางที่ไม่มีน้ำให้ลุยไปได้เหมือนกันเพียงแต่จะมีไอเทมให้เก็บต่างกันบ้าง ลุยเข้าไปจนถึงอาคารด้านบนของเขื่อน ด้านในห้องควบคุมจะมีกล่องไอเทมกับซอมบี้อยู่ ให้ Natalia มุดข้าไปล่อซอมบี้ให้ตื่นก่อน แล้วกลับออกมาให้ Berry ยิงไปที่ช่องที่พนังจะสามารถยิงขามันจนตายได้ แล้วค่อยให้ Natalia มุดเข้าไปเก็บไอเทมต่างๆในห้อง ให้ Barry ไปยิงกุญแจประตูหลังห้องและยิงทำลายกล่องไม้ให้ Natalia ออกมาเก็บไอเทม แล้วค่อยผ่านอาคารนี้ไปต่อ
- เข้ามาตามทางจนถึงเครนขนาดใหญ่ ตอนนี้จะไม่มีใครสามารถสั่งให้ใครตามมาได้ ต้องเปลี่ยนไปบังคับเอง (เพราะมันสูงจน Natalia กลัวครับ) ปีนขึ้นไปที่ชั้นกลางของเครน บนเครนจะมีคันโยกให้สับ 5 จุดเพื่อเลื่อนพื้นยืนที่ชั้นกลางกับระเบียงทางเดินชั้นบน ฝั่งขวาจะสามารถเดินไปได้แค่ 3 คันโยก สับคันโยกไล่จาก 1 – 3 ให้พื้นเลื่อนมารับที่ช่อง 3 ให้ Berry ขึ้นไปยืนบนพื้นเลื่อนแล้วให้ Natalia เป็นคนสับคันโยก 3 ให้พื้นเลื่อนไปที่ช่อง 3 ของฝั่งซ้ายของเครน
- ปีนขึ้นไปด้านบนของฝั่งซ้ายของเครน ชั้นบนสุดจะเดินข้ามมาฝั่งขวาได้ เตะบันไดกลางลงไปให้ Natalia แล้วข้ามทางเดินบนไปที่ฝั่งซ้ายของช่องที่ 4 ได้ จากนั้นก็ให้ Berry ขึ้นไปยืนบนพื้นเลื่อนแล้วให้ Natalia เป็นคนสับคันโยก 4 และ 5 เพื่อพา Barry ไปที่ช่อง 5 ของฝั่งขวาจะมีปืน Shot Gun 194 Tap ให้เก็บที่ศพ จากนั้นกลับมาขึ้นบันไดตรงช่อง 4 ไปด้านบนของเครนแล้วยืนบนระเบียงเลื่อน แล้วให้อีกคนสับคันโยก 5 ให้ระเบียงบนเลื่อนไปติดขอบใน คนด้านบนก็จะเข้าไปดันบันไดให้อีกคนขึ้นไปที่ขอบด้านบนได้แล้ว
- ลุยขึ้นไปจนถึงอาคารด้านบนของเครนจะมีประตูชัตเตอร์เข้าไปส่วนในต่อ ซึ่งจะออกมาที่พื้นที่ก่อสร้างที่มีลิฟต์อยู่ด้านใน ผ่านอาคารอ้อมไปด้านหลังก็จะสามารถลงลิฟต์มาที่เหมืองได้ ด้านในเหมืองบางส่วนจะเต็มไปด้วยแก๊สพิษที่อยู่นานๆก็จะทำให้ตายได้เหมือนกัน เข้าไปด้านในจนถึงประตูล็อก รีบเข้าไปทางขวาจนสุดเพื่อเปิดแท่นควบคุมแล้วกลับมาเข้าประตูไปต่อ จนถึงโถงลิฟต์ขนาดใหญ่ เมื่อสำรวจที่แท่นควบคุมลิฟต์จะพบว่ามันต้องการคีย์การ์ด (Lift Activation Key) ในการลงลิฟต์ไปชั้นล่าง ซึ่งแปลว่าต้องไปหามันมานั่นเอง
- ขึ้นบันไดตรงแท่นควบคุมมาที่ทางเดินด้านบน ประตูใหญ่ตรงหน้าข้ามไปก่อน เดินเข้ามาตามทางเดินด้านในจะเห็นห้องควบคุมทางขวาซึ่งเป็นเป้าหมายที่จะต้องเข้าไปเพื่อเปิดระบบดูดอากาศเอาแก็สพิษออกไปให้หมดก่อน เมื่อผ่านประตูในไปจะเป็นโถงถ้ำของเหมืองที่เต็มไปด้วยแก็สพิษ จำเป็นต้องใช้การเดินทางอย่างรวดเร็วมากๆก่อนจะตาย ปีนขึ้นไปบนกล่องกลางห้องจัดการซอมบี้ให้หมด สำรวจดูจะมีทางเดินอยู่ 3 ทางและประตูลูกรงกลางห้องที่ปิดอยู่ ทางไปนั้นอยู่ฝั่งซ้ายสุด อีก 2 ทางเข้าไปเก็บไอเทมต่างๆซึ่งถ้าจะเข้าไปเก็บก็ต้องทำเวลาหน่อย
- ลุยเข้าไปตามทางซ้ายเข้าไปเข้าไปกดสวิตซ์ในห้องในเพื่อเปิดประตูลูกกรงในห้องโถงกลาง (ตรงทางแยกระหว่างทางมีปืน Magnum 2005M ให้เก็บ) เข้าประตูลูกรงกลางห้องโถงไปจะเข้ามาในห้องควบคุมในโถงลิฟต์ได้ เปิดสวิตซ์เปิดที่ดูดแก็สพิษไปให้หมด แล้วกลับมาที่แท่นควบคุมลิฟต์ปีนบันไดไปเข้าประตูใหญ่ต่อ
- ในห้องด้านใน จัดการศัตรูให้หมดแล้วดันกล่องที่ลูกกรงด้านซ้ายออกจากรู ให้ Natalia มุดเข้าไปด้านในแล้วเปิดประตูจากด้านในออกมาให้ Barry เข้าไปแบกกล่องออกมาเพื่อเอาไปปีนขึ้นบันไดฝั่งตรงข้าม เข้าไปเก็บ คีย์การ์ด (Lift Activation Key) ในห้องด้านในกลับมาใช้ที่แท่นควบคุมลิฟต์ก็จะลงลิฟต์ไปด้านล่างต่อได้ เข้ามาด้านในตามทางจนถึงประตูทางเข้า ให้ Natalia เข้าไปสแกนนิ้วมือก็จะสามารถเปิดเข้าไปในแมนชั่นของ Alex ได้



- ในแมนชั่นของ Alex Wesker นั้นเป็นอะไรที่คุ้นมากสำหรับ Barry ในบรรยากาศแบบนี้ เข้ามาตามทางเดินประตูทางขวาคือประตูที่ต้องใช้กุญแจเอมเบลม (Emblem Key) เปิด ผ่านเข้าไปที่ทางแยกหลักซ้าย – ขวา เดินไปตามทางแยกซ้ายก่อน ลุยเข้าไปตามทางผ่าน ประตูที่ต้องใช้กุญแจเอมเบลมไปก็จะเจอบันไดลงชั้นล่าง เข้าไปจะเจอห้องทดลองที่เต็มไปด้วยตัวประหลาดในแค็ปซูล

** ซึ่งถ้าดูตามไพล์ที่ตกอยู่ตามทางจะรู้ว่ามันเป็นร่างทดลองจากเชื้อไวรัสชนิดใหม่ที่เรียกว่า T – Phobos ซึ่งคือการนำเอา T – Virus มาผสมกับไวรัส Uroboros และคนที่สร้างสรรค์มันขึ้นมาก็คือ Alex Wesker นั่นเอง **

- ในห้องทดลองนี้สามารถทำลายแค็ปซูลเพื่อทำลายตัวประหลาดพวกนี้ให้หมดได้ด้วย จัดการมันซะก่อนที่มันจะรังควาญคุณในตอนหลัง ในห้องนี้จะมีทางแยกประตูซ้ายและขวาอยู่ เข้าประตูทางขวาเข้าไปที่ห้องควบคุมใหญ่เก็บแผนที่แล้วเข้าไปด้านในจนถึงโต๊ะอัพเกรดอาวุธ ตรงนี้จะมีประตูที่ต้องใช้คีย์การ์ด LV2 อยู่ เข้าไปในโถงบันไดในเก็บ คีย์การ์ด LV1 ที่ศพมา (บันไดชั้นบนขึ้นไปจะเป็น ประตูที่ต้องใช้กุญแจเอมเบลม (Emblem Key) แล้วกลับมาที่ประตูทางแยกซ้ายของห้องโถง เข้าไปจนถึงด้านในจะมีประตูที่ใช้ คีย์การ์ด LV1 เปิดเข้าไปเก็บ กุญแจเอมเบลม (Emblem Key) ในห้องเก็บศพมา ให้ Natalia มองก่อนก็ได้ว่าตู้ไหนมีซอมบี้จะได้เตรียมตัวทัน
- จากนั้นเข้าไปที่ประตูขวาของห้องโถงผ่านห้องควบคุมหลักจนไปขึ้นบันไดสุดทางไขประตูที่ต้องใช้กุญแจเอมเบลม ไปจะกลับขึ้นมาที่ทางเดินกลางตรงทางเข้าได้ ทางแยกซ้ายที่ไปที่ ประตูที่ต้องใช้กุญแจเอมเบลม เข้าไปเก็บไอเทม Part Box ส่วนทางแยกขวาจะไปที่ห้องอาหารจะมี ประตูที่ต้องใช้กุญแจเอมเบลม ไขเข้าไปจะเก็บ คีย์การ์ด LV2 มา
- จากนั้นเข้าประตูเอมเบลมตรงทางเดินใกล้ทางเข้าเพื่อลงไปที่ห้องทดลองอีกครั้ง จากนั้นก็เข้าประตูขวาผ่านห้องควบคุมไปจนถึงโต๊ะอัพเกรดอาวุธก็จะมี ประตูที่ต้องใช้คีย์การ์ด LV2 อยู่ เปิดเข้าไปที่โกดังขนาดใหญ่ที่มีลิฟต์อยู่ สับคันโยกลิฟต์แล้วจัดการศัตรูที่ออกมาให้หมดก็จะสามารถลงลิฟต์ไปต่อจนถึงด้านล่างเข้าไปตามทางจนถึงห้องทดลองลับใต้ดิน



Alex Wesker – ข้าทำลายแกได้ ข้ายังทำลายแกได้อยู่ ! อ๊ากกกกก ! ….. นาตาเลีย 
Barry – เหอะ ! เลิกหวังได้เลยที่จะได้ตัวเธอไป เวสเกอร์ ตัวเมีย !
Alex Wesker – อ๊ากกก ข้ารู้สึกแล้วว่าพี่รู้สึกยังไง Albert  ชีวิตนี้มันเล็กน้อยไป เพราะข้าต้องการที่จะเหนือกว่า 
เมื่อเข้าในห้องลองก็จะพบ Alex Wesker ที่ใช้ไวรัส T – Phobos ใส่ตัวเองในปริมาณมากจนทำให้ร่างมันเปลี่ยนแปลงไปจนน่าสยอดสยองมากขึ้นเป็นทวีคูณ 





 

- T – Phobos Alex นั้นจะโจมตีด้วยการมุดตามท่ออากาศแล้วพุ่งเข้าโจมตี การโจมตีของมันกลับไม่มีอะไรมาก หมัดเด็ดของมันก็คือพ่นหมอกควันที่เป็นเมือกสีดำออกมาทำให้มองลำบากและสร้างความหงุดหงิด ที่เหลือก็แค่เดินเข้ามาตบ แถมยังหลบค่อนข้างง่าย จุดอ่อนก็เห็นกันชัดๆก็คือจุดสีส้มกลางลำตัวนั่นแหละ ฉะนั้นมีอะไรก็ใส่ไปให้หมดโดยเฉพาะระเบิดเพลิงจะส่งผลดีที่สุด 





เมื่อจัดการมันจนหมอบไปแล้ว Barry จะเข้าไปเช็คให้แน่ใจอีกครั้งแต่ Alex มันกลับฟื้นขึ้นมาฟาด Barry ซะกระเด็นไปแล้วจับตัว Natalia เอาไว้จนได้

** เหตุการณ์จากนี้ก็จะขึ้นอยู่กับผลที่ทำไว้ใน Episode 3 ตอนที่สู้กับ Monster Neil นั้น ตอนที่ Neil กำลังโจมตีใส่ Claire ในเฮือกสุดท้าย แล้วปืนกระเด็นไปที่หน้า Moira ตรงนี้จะมีทางแยกของฉากจบอยู่อย่างที่ไม่ทันรู้เนื้อรู้ตัว **

1. Bad Ending ถ้าคุณเลือกที่ให้ Claire เป็นคนฆ่า Neil ในตอนสุดท้าย Moira จะไม่มาช่วย Barry และ Natalia ก็จะถูก Alex บีบจนตาย แต่พลังในตัวของ Natalia จะตื่นขึ้นเกิดกำหนดเพราะถูกทำร้าย จน Natalia ควักหัวใจที่เต็มไปด้วยหนอนไวรัส T – Phobos จนแหลกคามือไปพร้อมๆกับร่างของ Alex


       


Barry – นาตาเรีย ที่เธอเป็นตัวอะไรกันแน่
Natalia – นาตาเรีย ? ตอนนี้ให้เรียกชั้นว่า...  Alex น๊ะ
Barry – อย่า..  อย่าบังคับให้ชั้นทำแบบนี้น๊ะ
 Natalia – แล้วจะทำอะไรหรอ? แบรี่ ฮ่าๆๆๆๆๆ


2. Good Ending ถ้าคุณเลือกที่ให้ Moira เป็นคนฆ่า Neil ในตอนสุดท้าย Moira ก็จะรอดชีวิตกลับมาช่วย Barry ในตอนสู้กับ Alex จนยิงร่างมันจนพรุนทำให้สามารถเข้าไปช่วย Barry และ Natalia หนีไปออกด้านนอกได้






Moira , Barry และ Natalia หนี Alex ร่างปีศาจที่กำลังฮึดพลังสุดท้ายออกมาไล่ล่าจนออกมาส่วนนอกของห้องทดลองได้ แต่ก็ต้องจนมุมกับเหวสูงที่อยู่ตรงหน้าจนไม่สามารถไปไหนได้ต่อ แต่ในขณะที่ทุกคนกำลังสิ้นหวัง เฮลิคอปเตอร์ที่มาพร้อม Claire และปืนไรเฟิ่ลในมือก็บินโฉบขึ้นมารับ Moira และ Natalia ขึ้นเครื่องอย่างปลอดภัย แต่ Barry ไม่ยอมไปจนกว่าเขาจะให้ Alex กินลูกปืนของเขาหมดโม่ก่อน






Claire – Moira คือ ชั้นขอโทษน๊ะที่ช่วยเธอไว้ไม่ได้ตอนนั้น
Moira – จะบ้าหรอ Claire เธอกลับมาพร้อมควงไรเฟิ่ลแล้วควบ ฮ. บินโฉบเข้ามารับชั้น มันเป็นอะไรที่โคตรเจ๋งเลย ยังต้องมาขอโทษบ้าอะไรกันอีก
Barry – ส่วนยัยนั้นปล่อยให้ชั้นจัดการมันเอง
Moira – แน่ใจน๊ะว่าไม่ต้องการให้หนูไปด้วยอ่ะแบรี่ เอ่อ หนูหมายถึง พ่อ น่ะ
Barry – พ่อต้องการแกมาตลอดยัยหนู แต่ตอนนี้ เฉพาะตอนนี้ พ่อต้องการแค่ แม็กนั่ม กระบอกนี้มากกว่า





- การต่อสู้กับ Alex ตรงนี้ สามารถสลับกันยิงถล่มมันได้ โดยใช้ Claire ยิงด้วยไรเฟิ่ลจากบน ฮ. ตอนที่ Alex มันไล่ล่า Barry อยู่ริมทางเดินด้านนอกของหน้าผา และเมื่อเข้าไปถึงในถ้ำ ก็เป็นหน้าที่ของ Barry ที่จะจัดการมันจนออกมาจนถึงด้านนอกถ้ำ Claire ก็จะยิงด้วยไรเฟิ่ลจากบน ฮ. ต่อ จนสุดท้าย Barry จะขออะไรที่มันหนักกว่านี้ให้ Alex Claire เลยมอบกระสุน RPG ยัดจุดอ่อนกลางหน้าอกของ Alex จนมันแหลกเหลวไปพร้อมหนอนไวรัส T – Phobos แบบที่ไม่สามารถฟื้นขึ้นมาได้อีกแล้ว ..






สุดท้าย .. ทุกคนก็หนีออกจากเกาะนรกนี้ได้ด้วยการอย่างปลอดภัยในที่สุด
Barry – ฟังน๊ะ Moira ที่ผ่านมาพ่อรู้ว่าทำให้เรามีช่องว่างระหว่างกันตลอด
Moira – ไม่เป็นไรค่ะพ่อ หนูต่างหากที่ทำเรื่องให้ต้องห่วงตลอด
Claire – ลืมไปรึเปล่าว่าเธอเป็นคนลุกขึ้นสู้จนพาทุกคนหนีออกมาได้น่ะ
Barry – แน่นอนล่ะ ก็เลือด Burton มันแรงนี่หว่า ฮ่าๆๆ
Claire – แบรี่ แล้ว ต่อไปนายจะเอาไงต่อล่ะ
Barry – ก็คง .... กลับไปทำหน้าที่พ่อ แบบคูณ 2 น่ะสิ


                                                             6 เดือนต่อมา .......




Claire ยังคงเดินหน้าทำงานด้านให้การช่วยเหลือกับทาง Terra – Save อย่างขะมักเขม้น เธอกำลังติดต่อตามข่าวของพี่ชายของเธอที่ดูเหมือนตอนนี้จะอยู่ประเทศจีน ซึ่งถ้ามีคู่หูอย่าง Piers อยู่ด้วยเธอก็คงจะหมดห่วง คริส ไปเยอะเหมือนกัน ก่อนที่เธอจะขับรถไปบ้าน Burton พร้อมกล่องของขวัญใบใหญ่สีแดง




Barry กับ Moira สนิทกันมากขึ้น เธอยอมเรียกเขาว่า พ่อ อย่างเต็มปากหลังจากที่ไม่ได้เรียกมานาน และแน่นอน Barry รับ Natalia มาเลี้ยงในฐานะลูกสาวอีกคนและอาศัยอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข และ ในวันที่แสนวุ่นวายของบ้าน Burton ที่แสนจะวุ่นวายแต่อบอุ่น Moira เรียกหา Natalia จนทั่วบ้าน ในขณะที่ Natalia นั่งอ่านหนังสือนิทานอยู่บนห้องอย่างเงียบๆ เธออ่านตามหนังสือที่เธอเปิดอ่านด้วยเสียงที่แผ่วเบา ท่ามกลางหนังสือพิมพ์ที่ลงข่าวของการก่อการร้ายทางชีวภาพที่ยังเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องว่างเกลื่อนอยู่รอบๆตัวเธอ


         “ เมื่อกรงเริ่มตามหานกน้อย แต่ตอนนี้นกไม่อยู่แล้ว นกน้อยได้เปลี่ยนไปแล้ว “




                    นาตาเรียกล่าวปิดท้ายพร้อมรอยยิ้มที่ดู ไม่เหมือนเดิม ..



*******************************  THE END ************************************

                                                         The Struggle

โหมดเสริมเนื้อเรื่องของ Moira ในการ ดิ้นรนต่อสู้ในช่วงที่รอดชีวิตจากแรงระเบิด หลังจากเธอช่วย Claire จนตัวเองต้องติดอยู่กับซากตึกที่กำลังถล่ม แต่โชคดีที่เธอรอดชีวิตมาได้จาดคุณปู่ปืนไรเฟิ่ลชาวรัสเซียที่ขังตัวเองในท่อระบายน้ำ เขาได้สอนวิธีการต่อสู้และการเอาตัวรอดให้ ในระหว่าง Moira หาทางกลับไปหา Claire และ Berry พ่อของเธอเพื่อให้กลับไปอย่างแข็งแกร่งได้อีกครั้ง ซึ่งจะทำให้เห็นการเอาตัวรอดของ Moira ในระหว่างทาง ก่อนที่จะเข้าไปช่วย Berry ตอนที่สู้กับ Alex ในตอนสุดท้ายนั่นเอง ซึ่งจะมีทั้งหมด 4 Chapter โหดๆที่คุณต้องพา Moira ผ่าสถานการณ์ที่กดดันต่างๆไปให้ได้





ระบบเพลย์เกมของโหมดนี้คือ การดิ้นรนเอาตัวรอด ระหว่าง Moira และคุณปู่รัสเซียปืนโหด ซึ่งแต่ละสเตทจะเป็นการต่อสู้กับศัตรูจนนวนมากที่บุกเข้ามาท่ามกลางกระสุนและไอเทมในจำนวนจำกัด โดยจะสามารถเปลี่ยนสลับเล่นเป็นปู่รัสเซียได้ด้วย ในโหมดนี้จะมีการให้เรียนรู้การล่าสัตว์ต่างๆเพื่อสะสมเนื้อในถุงไอเทมที่จะโชว์ให้เห็นทางซ้ายบนของจอ ซึ่งมันจะเป็นจำนวนที่ใช้คอนทินิวให้ในทุกครั้งที่ Moira หรือ คุณปู่รัสเซียปืนโหด ตายนั้นเอง ซึ่งจะสามารถล่าสัตว์ตามจุดต่างๆมาเพิ่มได้ แต่ถ้าปล่อยให้เสบียงหมดก็เป็นอันว่าเกมโอเวอร์ครับ


                                                    Little Miss

โหมดเสริมเนื้อเรื่องของ Natalia หลังจากที่เธอตื่นขึ้นจากแคปซูล เธอถูกด้านมืดในตัวเธอซึ่งก็คือ Natalia ที่ใส่ชุดดำหรือ Black Natalia ที่ Alex ฝังความคิดเอาไว้ ล่อลวงให้ Natalia ตามโปสการ์ดของเจ้าตุ๊กตา Lotlie ที่ส่งถึงเธอ เพื่อพยายามสร้างสถานการณ์เพื่อนำพา Natalia ไปพบเจอกับพวกของ Claire และ Berry นั่นเอง



ระบบเพลย์เกมของโหมดนี้คือ การลักลอบ โดยที่ Natalia จะสามารถทำได้คือหลบพวกศัตรูโดยอย่าให้พวกมันเห็นเด็ดขาด เพราะจะทำให้เกมโอเวอร์ทันที และคนที่จะนำทางเธอคือ Black Natalia ที่จะมีพลังในการเห็นศัตรูและชี้จุดหมายของศัตรูช่วย Natalia เพื่อให้หลบพวกมันเข้าไปตามทางให้พ้น โดยที่พวกศัตรูจะไม่เห็น Black Natalia



                    **************************************************************

                             
อรัภบทก่อนถึงฉากจบ Revelations 2 : อุดมการณ์อันแกร่งกล้าและที่มาของความโกลาหล 


                   


หลังจาก Umbrella ล่มสลายลง เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ร้ายจากอาวุธชีวภาพขึ้นอีก ซ้ำสององค์กรมากมายที่หมายจะต่อต้านการรุกรานของภัยร้ายจากไวรัสเกิดขึ้นมากมายทั้ง BSAA ที่ปัจจุบัน คริส เรดฟิวส์ ร่วมงานด้วย และนอกจากนั้นก็ยังมีอีกหน่วยงานนึงที่ถูกตั้งขึ้นมาด้วยก็คือองค์กร FBC (Federal Bioterrorism Commission) มี Morgan Lansdale ในฐานะผู้อำนวยการใหญ่ขององค์กร โดยอำนาจทั้งหมดขึ้นตรงกับรัฐบาลสหรัฐอเมริกา 





ซึ่งหน้าที่หลักก็ไม่ต่างอะไรกับ BSAA นั่นก็คือต่อต้านและยับยั้งความรุนแรงที่เกิดจากฝีมือของผู้ก่อการร้ายที่ใช้อาวุธชีวภาพ แต่ FBC นั้นแตกต่างกั BSAA ก็คือ เรื่องการเมืองที่เต็มไปด้วยผลประโชยน์ที่อยู่เบื้องหลังนั่นเอง 

  



จนเมื่อปี 2004 ก็เกิดเหตุการณ์วุ่นวายเมื่อ กลุ่มการร้ายกลุ่มใหม่ Veltro ได้เปิดตัวไวรัสของพวกมันแบบเต็มลำเรือ Queen Zenobia และพุ่งเป้าไปที่ เมือง Terragrigia ที่ริมชายฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนี่ยน จนเกิดความสูญเสียเกิดขึ้นที่นั่น ทางสหรัฐจึงมอบอำนาจให้องค์กร FBC เข้าพื้นที่เพื่อยับยั้งเหตุร้ายทันที ซึ่งเรียกเหตุการณ์ในครั้งนั้นว่า Terragrigia Panic  (ซึ่งก็คือเหตุการณ์ใน Resident Evil: Revelations นั่นเอง) 

                      

เหตุการณ์ร้ายในครั้งนั้นถูกยับยั้งลงได้ด้วยฝีมือของ คริส เรดฟิวส์ และ จิล วาเลนไทน์ แต่ความเสียหายเกิดขึ้นกับเมืองและคนบริสุทธิ์มากมาย ความรับผิดชอบแบบเต็มใบจึงตกอยู่กับ องค์กร FBC ในฐานะผู้รับผิดชอบโดยตรงตามที่สหรัฐมอบหมายมา จนทำให้ FBC ถึงกับล่มสลายตามไปด้วยทันที จนถึงปัจจุบันบุคคลากรของ FBC ก็ได้ควบรวมกับ BASS เพื่อเป้าหมายเดัยวกันคือ ต่อต้านการก่อการร้ายจากอาวุธชีวภาพจนมีสาขาไปทั่วโลก 




และแล้วก็เปิดเผยความจริงว่า Neil นั้นเคยทำงานให้กับ FBC มาก่อนแถมยังมีอุดมการณ์หนักแน่นในเรื่องเป้าหมายในการยับยั้งการใช้ความรุนแรงของอาวุธชีวภาพของเหล่าผู้ก่อการร้ายเพื่อใช้ในการควบคุมโลกจนทำให้ Morgan Lansdale ในฐานะผู้อำนวยการใหญ่ขององค์กร FBC ไว้วางใจที่จะมอบหมายข้อมูลสำคัญต่างๆในยามที่เขาจากไป Neil จึงถือว่าเป็นผู้รับมรดกทางความคิดของ Morgan Lansdale มาอย่างลับๆโดยน้อยคนนักที่จะรู้ เขาแอบเก็บความสิ้นหวังกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับ FBC ที่เมือง Terragrigia เอาไว้คนเดียวอย่างเงียบๆ จนกระทั้ง องค์กร Terra – Save เติบใหญ่เป็นรูปเป็นร่างและมีอุดมการณ์ที่ไม่ต่างกัน Neil Fisher จึงเข้าร่วมทันที และจากฝืมือหลายๆด้านของเขา Neil ก็ขึ้นเป็นตำแหน่งหัวหน้าฝ่ายปฏิบัติการของ องค์กร Terra – Save อย่างรวดเร็ว จนวันนึงเมื่อ Alex Wesker ปรากฏตัวขึ้นกับแผนบ่อยทำลายของมัน Neil ที่ยังติดค้างอุดมการณ์ของ Lansdale อยู่เขาจึงมีแผนที่จะทำให้กลุ่มก่อการร้ายกลุ่มใหม่ของ  Alex Wesker กำเนิดขึ้นให้โลกรับรู้

และความวุ่นวายที่เกิดขึ้นทั้งหมด Neil แค่ต้องการให้ องค์กร FBC ถูกปัดฝุ่นขึ้นใหม่เพื่อทวงคืนศักดิ์ศรีที่เสียไปในอดีตอีกครั้ง แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมดมันกลับร้ายแรงมากมายเกินที่ Neil คิดเอาไว้เมื่อเขาถูก  Alex Wesker หักหลัง 

ด้วยแผนร้ายของ Alex Wesker ที่อุบัติใหม่สายพันธ์นรก T – Phobos ที่เกิดจากการนำเอา T – Virus มาผสมกับไวรัส Uroboros จนเกิดร่างที่ติดเชื้อแปลกประหลาดมากมาย เพื่อหมายที่จะสานต่อชะตากรรมของ Albert Wesker พี่ชายของเธอที่พลาดไปแล้วตั้งหลายภาค ให้ดีกว่าที่เขาควรจะทำได้ Claire Redfield กับ Moira Burton และสมาชิกของ Terra – Save จำนวนนึงถูกลากเข้ามาในแผนของ Alex Wesker ด้วย อาจเพราะต้องการแก้แค้นหรือเพียงเพราะมันอยากจะส่งต่อเชื้อร้ายบางอย่างในตัวเด็กน้อยที่ชื่อ Natalia ให้แทรกซึมเข้าไปในกลุ่มของ Claire และฟ้องเพื่อนของเธอ เพื่อรอคอยวันที่ Natalia จะกำเนิดใหม่ในนามของ Alex Wesker พร้อมแผนร้ายนานับประการอีกครั้ง วันนั้นนกน้อยที่เคยถูกขังเอาไว้จะถูกปล่อยออกจากกรงเพื่อสร้างความเลวร้ายอย่างที่ทุกคนอาจไม่ทันได้ตั้งตัวว่า ความสงบสุขที่ทุกคนยอมสละทุกอย่างเพื่อแลกมาอาจจะพังลงในพริบตาด้วยเวลาแค่ 6 เดือน !! 



              ********************************************************