วันศุกร์ที่ 15 เมษายน พ.ศ. 2559

Quantum Break


       
   
                                               บทสรุป  Quantum Break


By Decibel per oxide

         

                                                      ACT 1

                                   The Number One Killer is Time


                                                   [การสัมภาษณ์]




Jack Joyce – มีคนเคยพูดว่า นักฆ่ามือหนึ่งคือ เวลา นั่นมันโคตรจะจริงเลย เพราะมันได้ทำลายเราทุกคนจนหมดแทบไม่เหลือ และบางทีมันเป็นสิ่งที่คุณต้องรู้ไว้ เมื่อเวลาถูกทำลายลง รอยแตกนั้นมันจะค่อยๆร้าวขยายขึ้นเรื่อยๆจน ถึงจุดสิ้นสุดของเวลา หลังจากเกิดเรื่องขึ้น เราก็พยายามทุกอย่างที่จะแก้ไขมัน แต่...มันกลับยิ่งแย่มากขึ้น Paul Serene พยายามเข้ามาหยุดเรา ใช่ ด้วยพลังพิเศษของเขา 
Clarice Ogawa – โธ่ ไม่เอาน่า Jack 
Jack Joyce – ผมกับเขา เราทั้งคู่นั่นแหละ ที่ทำทุกอย่างล้มเหลว ใช่แล้ว พวกเรามัวแต่สนใจกับการเดินทางข้ามเวลาบ้านี่ 
Clarice Ogawa – Jack 




Jack Joyce – ทำไม มันเร็วไปสำหรับคุณหรอ ?  โอเค คุณอยากรู้เรื่องไหนเป็นอย่างแรก บอกผมมาได้เลย 
Clarice Ogawa – มาเริ่มกันตั้งแต่ต้นเลยดีกว่า ..ตอนที่คุณเดินทางเข้าไปที่มหาวิทยาลัย Riverport 
Jack Joyce – ผมเดินทางมาจากบ้านเพื่อไปหา Paul Serene เพื่อนรักผมที่นั่น เขาบอกว่ามีบางอย่างที่จะอวดผมเกี่ยวกับผลงานที่เขากำลังวิจัยอยู่ และ Will Joyce น้องชายผมก็เป็นนักวิทยาศาสตร์ร่วมคณะการทำงานนั่นด้วย  Paul บอกผมว่า โลกกำลังจะเปลี่ยนไป ใช่ .. เขาพูดถูก 



                                PART 1 - Riverport University Experiment 


9 ตุลาคม 2016  Riverport University 04.00 น. 15 นาทีก่อนเกิดรอยร้าวในเวลา 

[การสัมภาษณ์]
Clarice Ogawa – คุณไม่ได้มาที่นี่เกือบ 6 ปีแล้วใช่มั๊ย 
Jack Joyce – สำหรับผมกับ Paul เรายังผูกพันกันช่วงเวลาเก่าๆอยู่ แต่คงไม่ใช่สำหรับ Will 
Clarice Ogawa – แล้วตอนที่กลับมาที่นี่อีกครั้งรู้สึกยังไง
Jack Joyce – ผมก็แค่ดีใจที่ได้เจอกับ Paul อีกครั้ง 



Jack Joyce เดินทางจาก Utah มุ่งหน้ามาที่ Riverport University เพราะได้รับคำเชิญจากเพื่อนรัก Paul Serene เพื่อให้มาเป็นสักขีพยานในผลงานวิจัยชิ้นใหม่ของเขา ทันทีที่ลงจากแท็กซี่ก็มาถึงมหาลัยถิ่นเก่าที่ Jack เคยจากมา .... 



ท่ามกลางเหล่านักศึกษาที่เมามายและพลอดรักกันระหว่างทางเดินไปจนถึงจุดที่เริ่มได้ยินเสียงอึกรกระทึกของดนตรีร็อคที่ดังออกมาจากห้องระชุมที่ไกลออกไปจากงานปาร์ตี้ระดมทุนของพวกนักศึกษาที่ชื่อ Rock Around the Clock ระหว่างทางจะพบกับกลุ่มนักศึกษาหัวอณุรักษ์โดยการนำของ Amy หนึ่งในตัวแทนนักศึกษาที่ร่วมรณรงค์ให้ประชาชนรู้ความจริงเกี่ยวกับพฤติกรรมของบริษัทผูกขาดครอบจักรวาลที่ชื่อว่า Monarch Solutions 



ซึ่งนอกจากธุรกิจผูกขาดของบริษัทที่กำลังเป็นเจ้าของทุกธุรกิจที่เป็นความจำเป็นพื้นฐานของประชาชน และธุรกิจที่บริษัทมีส่วนเกี่ยวข้องที่มีเรื่องเงินทุนที่ได้จากธุรกิจที่ผิดกฎหมายจากผลประโยชน์ที่ดำมืดเบื้องหลัง ซึ่งแม้แต่มหาลัยนี้ก็ยังได้รับเงินสนับสนุนจากทาง Monarch จนกำลังจะเกิดการเปลี่ยนแปลงหลายอย่างที่ไม่ควรเกิดขึ้น โดยเฉพาะการทุบตึกห้องสมุดที่มีอายุเกือบ 100 ปีของทางมหาลัยในวันพรุ่งนี้ เป็นเรื่องที่นักศึกษามารวมตัวกันเพื่อรณรงค์บอกความจริงกับประชาชนและล่ารายชื่อเพื่อคัดค้านโครงการนี้ และเปิดเผยความจริงเกี่ยวกับแผนการกลืนกินเมืองนี้อย่างช้าของ Monarch Solutions ให้ประชาชนรับรู้ 




     ปัญหาที่เกิดขึ้นหลังจาก Monarch Solutions เป็นเจ้าของ Riverport University 

ปี 1999 ยกเลิกทุกการวิจัยทางการศึกษาที่ทางมหาลัยกำลังทำอยู่ใน Major Tech เพื่อใช้ในการทดลองของตัวเอง
 ปี 2001 ซื้อหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นเพื่อปิดข่าวและป้องกันการตั้งคำถามจากสังคมในสิ่งที่ตัวเองกำลังทำ
ปี 2006 ซื้อเกาะเล็กๆในอ่าวเพื่อสร้างเป็นโรงงานเพื่อผลิตสินค้าบางอย่างที่เชื่อได้ว่าเป็นอาวุธสงคราม
ปี 2006 รื้อถอนทำลายสถานีรถไฟหลักของเมืองเพื่อใช้พื้นที่ในการสร้าง Monarch Tower ซึ่งเป็นตึกสำนักงานใหญ่ของตัวเอง
ปี 2010 ซื้อกิจการโรงงานหลายโรงงานในแถบท่าเรือแล้วยกเลิกกิจการทำให้มีคนตกงานมากมาย
ปี 2016 มีแผนที่จะรื้อถอนทำลายห้องสมุดของมหาวิทยาลัย Riverport ที่มีอายุร่วม 100 ปีเพื่อใช้พื้นที่ในการสร้างตึกห้องทดลองเพิ่มเติม 

Monarch Solutions กำลังวางแผนอะไรอยู่.... ไม่มีใครรู้
ใครเป็นเจ้าของผู้ออกคำสั่งเดินเกมของบริษัท ....ไม่มีใครรู้
แต่เราต้องการคำตอบทั้งหมดในตอนนี้และเดี๋ยวนี้ 

ซึ่งทั้งหมดที่ว่ามา jack ไม่เคยสนใจที่จะรับรู้เหมือนกับคนอีกหลายคนเพราะใจกำลังจดจ่อกับการมาเจอเพื่อนรักที่ไม่ได้เจอกันเกือบ 6 ปี 

-เมื่อเดินเข้ามาด้านในมหาวิทยาลัย สำรวจให้ทั่วๆจะมีพวก Collection ของข้อมูลต่างๆให้เก็บตามป้ายโฆษณา คอมพิวเตอร์และ ใบประกาศต่างๆ
** เรียนรู้การหา Objective หรือเป้าหมายที่ต้องทำด้วยการกดปุ่มทิศทางขึ้นบน จะเห็นเป็นเป้าหมายสีเหลืองที่ต้องไป **
-หลังจากเดินตามเป้าหมายสีเหลืองซึ่งเป็นทางเข้าตึก Meyer Physics Research Center ของมหาวิทยาลัย ด้านในจะพบกับ Paul Serene เพื่อนชี้เก่าที่นัดเอาไว้

[การสัมภาษณ์]
Jack Joyce – ถึงแม้ Paul จะประสบความสำเร็จมากมายแต่ผมก็ว่าภายใต้ความกดดันแบบนั้นเขาต้องการเพื่อนซักคนแน่นอน และผมก็อยากจะช่วยเขาเท่าที่จะทำได้ 


Paul - Jack Joyce !! ตัวเป็นๆ ฮ่าๆ
Jack – คุณ Paul Serene ที่เคารพ ไหนละถุงเงินพกมารึเปล่า 
Paul – หุบปากแล้วมากอดทีวะ ขอต้อนรับกลับบ้านเพื่อน 6 ปีเลยนะ ชั้นคิดว่านายคงไม่กลับมาเหยียบที่นี่ซะแล้วนะ
Jack – ใช่ เหมือนกัน 
Paul – เอาเถอะ มา เข้าข้างในห้องแล็ปกันมีอะไรจะอวด

[การสัมภาษณ์]
Jack Joyce – ใช่งานวิจัยนี่เจ้า Will น้องผมก็ร่วมโครงการทดลองนี้ด้วย ถึงเขาจะเป็นคนแปลกๆแต่เขาก็เป็นครอบครัวผมที่ยังเหลืออยู่หลังจากพ่อแม่ตายจนหมด  

-เดินตาม Paul เข้ามาด้านในตึกจนถึงต้อนรับ ลองไปนั่งเก้าอี้หน้าจอมอนิเตอร์เพื่อให้ Paul บรรยายแนะนำถึงโปรเจคที่เขากำลังทำอยู่



                                                Project Promennade




ตั้งแต่ยุคโบราณนานมาแล้ว เผ่าพันธุ์ของมนุษย์เราโดนคุกคามจากโรคร้าย ซึ่งตลอดเวลาแห่งการเปลี่ยนยุคสมัยการหาหนทางรักษาเพื่อเอาตัวรอดจากโรคร้ายนานับประการก็เกิดขึ้นพร้อมๆกับการสำรวจโลกใบนี้ของมนุษย์ และก็มีปัจจัยอย่างนึงที่ซึ่งคอยขัดขวางความก้าวหน้าของพวกเรา นั่นก็คือ เวลา ที่เสมือนเป็นพรหมแดนสุดท้ายของมนุษย์ที่คอยกัดกินทุกสิ่งรอบตัวให้ผ่านไปอย่างรวดเร็ว และ สิ่งที่เราค้นพบก็คือ ทฤษฎีของหลุมดำแห่งกาลเวลา (Rotating Black Hole) โดยการทำให้โครงสร้างของห้วงเวลามันบิดเบี้ยวจนทำให้สามารถผ่านเข้าไปในช่องว่างระหว่างเวลาได้



ปีที่ผ่านมา William Joyce น้องชายของนายในฐานะนักวิทยาศาสตร์ด้าน ฟิสิกส์ควอนตัม ก็สามารถหาสมมุติฐานถึงการมีอยู่ของอณุภาค chronon หรือ หน่วยเวลาที่เป็นสัดส่วนของเส้นผ่าศูยน์กลางของอีเล็คตรอนกับความเร็วแสง ซึ่งเราตั้งขื่อมันว่า Meyer - Joyce Field ที่สามารถสร้างสนามพลังล้อมรอบปิดผนึก เวลา ให้อยู่ในสภาพคงที่ไม่แปรผันที่เรียกว่า Zero State  ซึ่งนั่นคือโครงการที่เราทำร่วมกันที่ชื่อ Project Promennade เราเอาทฤษฎีที่มีมาสร้าง Meyer - Joyce Field Containment หรือเครื่องสนามพลังกักกันเวลาให้อยู่ในหลุมดำเพื่อหวังจะนำมาหาทางจัดการใช้ประโยชน์จากเวลาที่ไม่ผันแปรได้สำเร็จ  ถึงแม้ผลจากการวิเคราะห์ตามทฤษฎีจะออกมาตามค่าที่เหมาะสมแต่เรื่องการทดลองจริงยังทำให้เราลังเลอยู่

-จากนั้นเดินตาม Paul เข้าไปถึงด้านในห้องทดลอง Project Promennade


Paul –ขอต้อนรับสู่ Project Promennade มันคือ อนาคต การเดินทางที่ยิ่งใหญ่ของมนุษย์ชาติ Jack 
Jack – มันก็เจ๋งอ่ะนะ สำหรับนักวิทยาศาสตร์แบบ Will น้องชั้น แล้วให้ชั้นมามันจะมีประโยช์อะไรวะ
Paul – เหตุผลที่เรามาที่นี่ตอนตี 4 ก็เพราะชั้นต้องการคนที่ชั้นเชื่อใจได้ ชั้นต้องการให้นายช่วยเพิ่มความเชื่อมั่นให้ชั้นให้ไงวะเพื่อน ตั้งแต่น้องนายคิดค้นและสร้างที่นี่ขึ้นมา ซึ่ง นายก็น่าจะรู้นะ Will น่ะ หึหึ เขาค่อนข้างวิตกกังวลมากเกินไปถึงข้อผิดพลาดที่อาจจะเกิดขึ้นอะไรทำนองนั้นไปเรื่อย เขาก็มโนไปเรื่อย ซึ่งมันไม่มีผลดีกับคนที่เป็นเจ้าของเงินทุนในโครงการนี้เลยว่ามั๊ย เราทุกคนต่างก็รู้ว่างานนี้มันใช้ได้อยู่แล้ว แล้วอีกอย่าง เราจะรู้ได้ไงว่าผลมันจะออกมายังไงถ้าเราไม่ได้ลองทดสอบมัน
Jack – นายก็เลยต้องลากชั้นมาร่วมสถานการณ์ละสิ 
Paul – ชั้นอ่ะนะลากนายมา คำเดียวเลยนะ ยูทาห์ และเท่าที่จำได้นายคงไม่มีทางผ่านปัญหามากมายในปีทีผ่านมาได้ถ้าไม่มีชั้นหรอกจิงมั๊ยละ ก่อนอื่นขอบอกก่อนนะว่า ที่เราจะทำกันเนี้ยมันไม่ง่ายสำหรับชั้นเลยนะ มันจะทำเอาชั้นเจอปัญหาใหญ่ได้ง่ายๆเลย เพราะไอ้เรื่องข้อกฎหมายที่ต้องมารองรับนี่แหละ นายอย่าลืมนะนายเป็นคนเดียวที่ชั้นไว้ใจที่จะช่วยงานนี้ของชั้นให้สำเร็จ   
Jack – ไม่ว่าน้องชั้นมันจะทำอะไรก็ตามชั้นก็อยากช่วยให้มันทำได้สำเร็จ 
Paul – ขอบคุณ Jack ชั้นนับถือนายจริงๆเพื่อน 



Corridor Schemtics
แผนผังเส้นทางของเข็มนาฬิกาที่สามารถควบคุมเวลาที่กักไว้ทั้งเดินหน้าและย้อนกลับหลัง 


-เดินตาม Paul เข้าไปด้านในต่อแล้วเข้าไปที่แท่นควบคุมการทำงานของแกนพลังงาน chronon ด้วยการหมุนแกนอนาล็อกซ้ายให้เกทสีแดงขึ้นจนเต็มเพื่อเปิดการทำงานของเครื่อง เมื่อเครื่องเริ่มทำงานมันจะสร้างหลุมดำที่กักเก็บเวลาขึ้นมา

[การสัมภาษณ์]
Jack Joyce – ในสมัยเรียนผมทำเรื่องแย่ๆแบบวัยรุ่นร่วมกับ Paul มาเยอะแยะ แต่เชื่อเถอะ ครั้งนี้มันเลวร้ายที่สุดแล้ว

-เดินตาม Paul ไปที่ประตูทางเข้าห้องทดลองด้านใน เขาจะให้กุญแจสำรับเปิดการทำงานขั้นที่ 2 ของแกนพลังงาน chronon รอนับถึง 3 แล้วกดบิดกุญแจพร้อมกันเพื่อปลดล็อกระบบรักษาความปลอดภัยขั้นสุดท้าย


ซึ่ง Paul อธิบายว่าเครื่องกำลังเปิดช่องทางสำหรับผู้โดยสารในวงรอบของวงโคจรเพื่อปรับสภาพจิตใจและร่างกายให้พร้อม โดยที่ Jack ไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่า Paul จะเอาตัวเองเข้าไปในเครื่องนี้ด้วย โดย Paul ยืนยันว่าเขาจะเป็นมนุษย์คนแรกที่จะเข้าไปในห้วงเวลาที่หยุดนิ่งโดยมี Jack เป็นพยานในเหตุการณ์สำคัญนี้ 



เมื่อสิ้นสุดกระบวนการเปิดการทำงานของเครื่อง ในขณะที่ Paul กำลังจะให้ jack เปิดประตูทางเข้าเขตเวลาเสถียร ร่างของ Paul อีกคนก็เดินสวนออกมา ท่ามกลางความตกใจของ Jack แต่ Paul กลับกำลังพอใจว่า การทำให้เวลาหยุดนิ่งซึ่งมีผลทำให้ให้ อดีต ปัจจุบัน และอนาคต อยู่ในขอบเขตเวลาเดียวกันนั้นสำเร็จแล้ว ซึ่งอีกร่างของ Paul ก็คือร่างในอนาคตอีก 20 นาทีต่อมาหลังจากที่ Paul เข้าเครื่องออกมาแล้วนั่นเอง ก่อนที่ Paul ในอนาคตจะบอกให้ Paul เข้าไปในเครื่องเพื่อให้เวลาเดินครบวงรอบอย่างสมบรูณ์ แล้วสั่งให้ Jack เตรียมการทดลองขั้นที่ 2 คือเซ็ทเครื่องให้เวลาเดินหน้าไปอีก 5 นาทีจากนี้ต่อ ขณะที่ Paul เดินเข้าไปในเครื่องเพื่อให้ Jack เตรียมกดปุ่มเดินเครื่องอีกครั้ง Will ก็ปรากฏตัวออกมาพร้อมปืนในมือ


Will – หยุดเดี๋ยวนี้นะ พวกแกจะทำอะไรกัน .. Jack หรอ ? นายต้องช่วยชั้น เราต้องหยุดเจ้าเครื่องนี่เดี๋ยวนี้ !! 
Paul – ไม่ๆๆๆ Jack หยุดเขา เขากำลังจะทำลายแกนพลังงานนี่ 
Jack – เดี๋ยวๆ เราปิดเครื่อไม่ได้ Paul ยังอยู่ด้านในไม่เห็นหรอ นายใจเย็น Will เอาปืนลงก่อน 
Will – ไม่มีเวลาแล้ว เวลากำลังจะถึงจุดสิ้นสุด !! Jack นายต้องเชื่อชั้น 

ท่ามกลางความวุ่นวายที่เกิดขึ้นจากเจตนาของทั้ง 3 คน แกนพลังงาน chronon ก็เกิดระเบิดขึ้นจนทำให้มิติเสถียรแห่งเวลาก็แตกกระจายไหลผ่านร่างของ Paul และ Jack  





บางเศษเสี้ยวของเวลาที่แตกออก ทำให้ร่างของ Paul และ Jack  มีค่าเป็นปัจจุบันกลางที่เป็นเนื้อเดียวกันระหว่างอดีตและอนาคต 

[การสัมภาษณ์]
Jack Joyce – ตอนนี้คำพูดของ Will ยังก้องอยู่ในหัวผม เวลากำลังจะถึงจุดสิ้นสุด 

-หลังจาก Jack รู้สึกตัวขึ้นจากการหมดสติไป เขาจึงต้องพยายามหาทางช่วย Will และ Paul ท่ามกลางห้องที่ถูกคลื่นของเวลาทำให้ทุกอย่างเกือบจะหยุดนิ่ง เดินเข้าไปหา Will ที่แท่นควบคุมห้องข้างๆ ทันทีที่ Jack สัมผัสที่ร่างของ Will ที่ค้างอยู่ในห้วงเวลา ร่างของ Will ก็ถูกดึงมาอยู่ในสภาวะเป็นกลางเหมือนกัน Jack ทำให้ Will เคลื่อนไหวปกติด้วยเช่นกัน


William – Zero State หรอ ? นี่เราทำอะไรลงไปเนี้ย  เธอเตือนชั้นแล้ว รู้ดีว่าเธอคิดถูกแล้ว ชั้นถึงพยายามเตือน Paul แล้วว่าให้เลิกยุ่งกับงานนี้ซะ แต่เหมือนทุกอย่างจะสายไปแล้ว 
Paul – Jack ช่วยชั้นออกไปทีประตูแอร์ล็อกมันไม่ยอมเปิด !! 

-ในขณะที่ Jack กำลังพยายามเข้าไปช่วย Paul ด้วยการพยายามจะดึงประตูให้เปิดออก แต่ยังไม่ทันสำเร็จสัญญาณเตือนภัยก็ดังขึ้นพร้อมหน่วย Monarch Security จำนวนมากก็บุกเข้ามายิงกราดใส่ทุกคน ทำให้ Paul ที่ติดอยู่ด้านในต้องหันหลังเข้าไปลองเสี่ยงหนีออกทางด้านในเครื่องแกนพลังงาน ส่วน Will จะนำทาง Jack หนีออกอีกด้านแทน

[การสัมภาษณ์]
Jack Joyce – ผมไม่อยากจะทิ้ง Paul ไว้แต่ก็ไม่รู้จักช่วยเขายังไงด้วย ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าปล่อยไว้เขาจะรอดหรือเปล่า 

-ในขณะที่ Will กำลังนำทาง jack หนีออกจากที่นี่ระหว่างทาง Will ได้สังเกตความผิดปกติที่แสดงออกมาทางมือของ Jack ก่อนที่จะเจอหน่วย Monarch Security เขามาดักทางไว้ก่อนที่มันจะยิงใส่ทันที



 แต่ความผิดปกติของเวลาที่ติดตัว Jack มาก็ส่งผลทันทีเมื่อเขายื่นมือออกไปทำให้เกิดแสงสว่างจ้าจนเวลาช้าลงจนทำให้เส้นทางของกระสุนที่ผ่านตาอย่างเจนจนสามารถช่วย Will ให้พ้นทางกระสุนจนรอดตายสำเร็จ 

[การสัมภาษณ์]
Jack Joyce – นั่นเป็นครั้งแรกของผมที่พลังนั่นได้แสดงออกมา คงเพราะความกดดันที่เจอเหตุการณ์ร้าย และผมไม่สามารถควบคุมมันได้เลยแต่อย่างน้อยมันก็ช่วยชีวิต Will เอาไว้ได้ 


หลังจาก Will เห็นความสามารถประหลาดของ Jack เขาจึงประเมินตามความเห็นในฐานะนักวิทยาศาสตร์สายฟิสิกส์ควอนตัมไว้ว่า หลังจากเกิดเหตุการณ์แกน chronon ระเบิด คลื่นแห่งเวลาอาจเชื่อมต่อกับชีพขจรของ jack จนทำให้มือของเขากลายสภาพเป็นเครื่องกำเนิดสนามพลังของอณุภาค chronon แบบพกพาไปแล้ว .........




                                           PART 2 – Campus Escape 

9 ตุลาคม 2016  University Maintenance Tunnel 04.16 น. 1 นาทีหลังเกิดรอยร้าวในเวลา

-หลังจากรอดจากกระสุนของ Monarch Security มาได้แล้ว เก็บปืนสั้นที่ตกอยู่มาใช้แล้วตาม Will เข้าด้านในต่อ ระหว่างทาง Will ได้แต่บ่นถึงการระเบิดที่เป็นเสมือนการทำให้เวลาเกิดรอยร้าวและแตกออกจนนำไปสู่จุดจบของเวลาซึ่งเป็นสิ่งที่ Will ต้องหาทางหยุดยั้งมันให้เร็วที่สุดแต่ก่อนอื่นแผนแรกคือหนีออกจากที่นี่โดยหาทางไปที่รถของเขาให้ได้เสียก่อน
-เข้าไปตามทางจนถึงห้องทำงานด้านในจะพบ Monarch Security อยู่จึงเกิดการต่อสู้ขึ้น เรียนรู้การยิงปืนด้วยปุ่ม LT + RT แล้ว B รีโหลดกระสุน จัดการศัตรูให้หมด แล้วเข้าไปด้านในต่อจนถึงลิฟต์ลงมาที่ชั้นจอดรถ


 ที่นี่จะเจอ Monarch Security ที่ดักรออยู่ยิงโจมตีเข้ามาทันทีที่เปิดลิฟต์ และเป็นครั้งที่ 2 ที่ Jack ใช้พลังในการหน่วงเวลาหยุดทุกอย่างให้แข็งจนหมด และก็สามารถดึง Will ออกจากสภาพหยุดเวลาได้ด้วย ระหว่างเดินผ่านพวก Monarch Security สามารถเก็บปืนพวกมันมาใช้ได้ด้วย ทำการสลับอาวุธระหว่างปืนสั้นกับปืนกลด้วยปุ่มทิศทาง




 แต่ระหว่างทางที่กำลังหนีในขณะที่เวลาถูกหยุด Jack ก็พยายามจะช่วย Amy นักศึกษาที่มาประท้วงที่เขาเคยคุยด้วยตอนที่เข้ามา แต่ดูเหมือนเขาไม่สามารถดึงเธอออกมาจากการหยุดเวลาได้เหมือนกับ Will ทำไมถึงเป็นแบบนั้น เป็นคำถามที่ Will ก็ยังตอบให้ไม่ได้ 

-เมื่อถึงห้องเรียน will จะเห็นว่ารถของเขาที่กำลังจะไปเอานั้นเต็มไปด้วย Monarch Security เฝ้าอยู่เต็มไปหมด แต่ jack จะอาสาออกไปเอารถมารับเอง



                                                          Time Vision 


พลังการหยั่งรู้ผ่านมิติเวลา เมื่อกด Y จะสามารถเห็นตำแหน่งของศัตรูเรืองแสงสีแดงและไอเทมเป็นแสงสีฟ้าให้เห็นและจะหายไปเวลาเคลื่อนไหว พลังแรกของ Jack ที่ใช้การสะท้อนของเวลาในอดีตมาแจ้งเตือนให้รู้ในเวลาปัจจุบันนั่นเอง 

-จากนั้นจัดการ Monarch Security ในพื้นที่ให้หมดแล้วเข้าไปที่รถของ Will โดยการใช้ Time Vision มองหาจุดที่ Will ลงจากรถ แต่ในขณะที่กำลังจะขึ้นรถพวก Monarch Security จะบุกเข้ามาอีกระลอกแล้วระดมยิงเข้ามาใส่ Jack จนพลังอีกอย่างของเขาตื่นขึ้น


                                                        Time Stop 



เมื่อ LT เล็งเป้าหมายแล้วกด RB จะสามารถหยุดเวลาที่เป้าหมายได้ชั่วครู่และเมื่อยิงเข้าใส่จะเกิดภาวะ Stacking Bullet ที่ทำให้กระสุนที่ยิงโจมตีไปนั้นรุนแรงมากกว่าปกติ และยังสามารถยิงไปที่ระเบิดที่ติดกับตัว Monarch Security ให้ระเบิดจัดการมันได้ด้วย 

- ในขณะที่ศัตรูอีกละลอกบุกเข้ามา Will ที่อยู่ในตึกส่งเสียงร้องเรียกให้ช่วยออกมา เมื่อจัดการศัตรูในพื้นที่ให้หมดแล้วกลับเข้าตึกไปหา Will ได้เลย แต่ Jack ก็จะเจอเจ้าหน้าที่หญิงของ Monarch Security ดักรออยู่



Beth – คุณคือ Jack Joyce จริงๆด้วย
 Jack – เขาอยู่ไหน น้องชายผมอยู่ที่ไหน !!
Beth – พวกนั้นจับเขาไปไว้ที่ห้องสมุด แล้วก็จะเสี่ยงมากถ้าคุณพยายามจะไปช่วยเขาตอนนี้
Jack – ทำไมคุณถึงช่วยผม คุณเป็นพวกเดียวกับมันไม่ใช่หรอ ?
Beth – เรื่องมันซับซ้อนน่ะ ไม่รู้คุณจะช่วยเขาได้มั๊ย แต่คุณควรจะรีบไปซะในตอนนี้ 

[การสัมภาษณ์]
Clarice Ogawa – นั่นเป็นครั้งแรกใช่มั๊ยที่คุณเจอกับเจ้าหน้าที่ Beth Wilder
Jack Joyce – ใช่ แต่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เธอเคยเจอผมแน่นอน 


                                          PART 3 – Library Chase 

-เข้ามาถึงห้องเรียนขนาดใหญ่ กด Y ใช้ Time Echoes ดูร่องรอยในอดีตจนพบว่า Will ถูกพาออกไปทางประตูด้านบน เมื่อตามเข้าไปจะพบ Monarch Security อยู่ในห้องในระยะประชิด แต่ความสามารถของ Jack ก็พัฒนาจนสามารถแดชหลบผ่านเวลาหลบพวกมันได้เช่นกัน





                                                      Time Dodge 

ความสามารถในการพุ่งตัวผ่านมิติเวลาด้วยการกด LB จะสามารถพุ่งไปในทิศทางตรงหน้าได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งสามารถใช้ได้ทั้งในการแดชหนีและการแดชพุ่งชนศัตรูเพื่อทำให้ศัตรูอยู่ในจังหวะหน่วงเวลาที่สามารถโจมตีต่อเนื่องได้โดยไม่ถูกตอบโต้กลับ 

-จัดการศัตรูที่บุกเข้ามาในห้องอ่านหนังสือให้หมดแล้วลงไปออกประตูที่ชั้นล่าง จะออกมาด้านนอกตึก จะพบตึกห้องสมุดขนาดใหญ่ที่กำลังถูกรื้อถอยอยู่อีกฝั่งของทางเดิน แต่ประตูรั้วหน้าจะปิดอยู่ เดินมาทางซ้ายจะมีห้องน้ำสาธารณะให้ปีน (กด A) ข้ามไปด้านในรั้วได้
-เป้าหมายคือขึ้นไปที่นั่งร้านด้านบน โดยการปีนขึ้นไปบนตู้คอนเทรนเนอร์แล้วใช้การหยุดเวลาที่รถโพลค์ลิฟต์เพื่อมันหยุดนิ่งไม่ลดต่ำลงไปด้านล่างก็จะสามารถโดดต่อไปยังนั่งร้านตรงข้ามได้แล้ว จากนั้นปีนขึ้นด้านบนเข้าไปในตัวตึก แล้วลุยเข้าไปตามทางจนถึงห้องโถงใหญ่ของห้องสมุดจะพบ Will ถูกพวกศัตรูจับอยู่ที่นี่ ก่อนที่ Monarch Security จำนวนมากในห้องจะระดมยิงเข้ามามากมาย แต่ โล่แห่งเวลา ความสามารถใหม่ของ Jack ก็เติบโตขึ้นมาช่วยไว้ได้ทัน



                                                          Time Shield 

โล่แห่งเวลา บาเรียทรงกลมรอบตัวที่สามารถป้องกันกระสุนได้ในระยะเวลาสั้นด้วยการกด B 

-จากนั้นจัดการศัตรูในพื้นที่ให้หมดแล้วขึ้นไปช่วย Will ที่ถูกมัดอยู่ด้านบนของเวที ในขณะที่ jack กำลังจะเข้าไปแก้มัดให้ Will ก็อดไม่ได้ที่จะถามถึงรถของเขาที่ให้ไปเอามา แน่นอนว่า Jack ไม่สามารถเอามาให้ได้แล้วเพราะมัวแต่ต้องรีบมาช่วย Will แต่ Will ก็พยายามบอกถึงความจำเป็นที่เขาต้องการได้รถคันนั้นจนศัตรูอีกกลุ่มบุกเข้ามาเสียก่อน Jack จึงต้องลุยลงไปจัดการพวกมันให้หมดก่อน


เสร็จแล้วค่อยขึ้นไปช่วยแก้มัด Will อีกทีเพื่อพาหนีออกจากที่นี่ แต่ Will กลับบอก Jack ว่าต้องไปเอาเอกสารสำคัญของเขามาก่อนจากนั้นค่อยไปตามหาเจ้าหน้าที่ Beth Wilder โดย Will จะบอกว่า เธอรู้เรื่องเกี่ยวกับการแตกสลายของเวลาและเธอเป็นคนเดียวที่คนเชื่อใจที่สุดตอนนี้ ถึง jack จะไม่ค่อยเข้าใจแต่อยากน้อยเขาก็ดีใจที่ Will มีคนที่เขาไว้ใจกับเขาบ้างเสียที 


แต่ในขณะที่ทั้งคู่กำลังจะออกจากตึก Paul Serene ก็ปรากฎตัวขึ้นมาพร้อม Monarch Security ที่ติดตามมาด้วย Paul สั่งให้พวกลิ่วล้อถอยไปก่อนที่เขาจะแสดงพลังแห่งเวลาที่เขามีไม่ต่างจาก Jack เข้าโจมตี Jack จนกระเด็นก่อนจะเอาปืนจี้ Will ไว้ในเวลาที่รวดเร็ว หลังจากที่เขาเพิ่งบอกว่าเขาเสียใจกับ Jack ไม่นาน 



Will – Paul นายเป็นอะไรไป เกิดอะไรขึ้นกับนายกันแน่ !
Paul – มันจำเป็นต้องทำก็เท่านั้น
Will – นายคิดถึงเรื่องนี้ดีๆสิ นายรู้ดีที่สุดว่ามันจะเกิดอะไรขึ้น
Paul – ชั้นรู้ว่ามันจะเกิดอะไรขึ้นชั้นถึงมาทีนี่ไงละ แล้วนายคิดว่าจะหยุดยั้งไม่ให้มันเกิดขึ้นได้หรอ ? เอาเป็นว่าชั้นให้โอกาสนายเปลี่ยนใจดีกว่านายจะว่าไง ยังไงเส้นทางมันได้ถูกเตรียมไว้แล้ว ไม่มีทางเปลี่ยนมันได้หรอก อดีต อนาคต ชั้นเห็นมาจนหมด ชั้นใช้ชีวิตมากับมันมาแล้ว ทุกอย่างก็เพื่อ 17 ปีที่เสียไป
Will – 17 ปี ก็เป็นนายไม่ใช่หรอที่เป็นคนแรกที่คิดค้นทุกอย่างขึ้นมา
Paul – มากับชั้นแล้วพวกเราจะแสดงให้เห็นว่าทุกอย่างมันเป็นไปได้ หรือ กอดความหวังล้มๆแล้งก่อนที่จะถูกเผาจนมอดไหม้อยู่ที่นี่ 
Will – นี่ฟังนะ ชั้นเป็นสร้างอุปกรณ์นั่น ชั้นหยุดมันได้ ชั้นทำได้แน่ 
Paul – นายทำไม่ได้หรอก เพราะงั้นไงชั้นถึงไม่ยอมเสี่ยงเพราะนายที่มาขัดขวางชั้น Will ชั้นไม่อยากให้มันจบแบบนี้เลยนะ 
Will – เราจะไม่ปล่อยให้เรื่องนี้เกิดขึ้นแน่ และชั้นจะไม่หยุดที่จะพยายามด้วย
Paul – นายทำให้ชั้นเสียเวลาเป็นปีๆไปกับความขี้ขลาดของนาย ซึ่งตอนนี้เราไม่มีเวลาอีกแล้ว Will 
Will – ระเบิดได้เลย ... ชั้นไม่อยากทำแบบนี้จริงๆ Will





หลังพูดจบ Paul สั่งให้ลูกน้องระเบิดตึกทิ้งทำให้หินถล่มลงมาก่อนที่เขาจะแดชหลบออกมาพุ่งไปมองหน้า Jack ที่นอนบาดอยู่แล้วปล่อยให้ Will ถูกหินถล่มลงมาทับตายไปต่อหน้าต่อตา jack ที่กำลังร้องลั่นด้วยความแค้น ก่อนที่จะถูก Liam Burke หัวหน้า Monarch Security ฟาดด้วยปืนจนสลบก่อนจับตัว Jack ไป


--------------------------------------------------------------------------------------------

ถ้าพูดเรื่องพลังพิเศษของ Jack ให้กระจ่าง ในเกม Quantum Break นั้นเกิดจาก Jack ถูกคลื่นของอณุภาค chronon หรือ หน่วยเวลาที่เป็นสัดส่วนของเส้นผ่าศูนย์กลางของอีเล็คตรอนกับความเร็วแสงแทรกซึมเข้ามาในเซลของร่างกายทำให้สามารถสร้างสนามพลังล้อมรอบปิดผนึก เวลา ให้อยู่ในสภาพคงที่ไม่แปรผันที่เรียกว่า zero state ได้ในระยะสั้นๆทำให้สามารถเคลื่อนไหวไปมาระหว่างเวลาในปัจจุบัน อดีต และ อนาคตได้อย่างอิสระ และใช้ความได้เปรียบของเวลาในช่วงสั้นจัดการกับศัตรูหรือช่วยคนอื่นที่ยังติดอยู่ใน zero state ได้



ถ้าอ้างตามตรรกะตามพลังพิเศษของ Super hero ทั่วโลก ความสามารถของ Jack นั้นอยู่ในกลุ่มที่เรียกว่า Chronokinesis หรือ Time Manipulation ซึ่งก็คือ ความสามารถในการโยกย้ายและควบคุมเวลา ทำให้สามารถเคลื่อนไหวไปมาระหว่างเวลาในปัจจุบัน อดีต และ อนาคตได้อย่างอิสระ ซึ่งเป็นความสามารถของตัวละครที่ชื่อ Hiro Nakamura ใน Series เรื่อง Heroes นั่นเอง

-------------------------------------------------------------------------------------------



                                                      JUNCTION 1 

                                                      Hardline / PR


10 ตุลาคม 2016 5 .02 , The CFR Chamber น. - 25 ชั่วโมงหลังจากเกิดการแตกร้าวของเวลา 




ผมชื่อ Paul Serene ผมพบกับ Monarch Solution เมื่อ 17 ปีก่อน พร้อมกับเป้าหมายของตัวเองที่ชัดเจนกว่าเดิม มันเป็นสิ่งที่ตอบโจทย์ในทุกสิ่งที่ผมพยายามค้นหามาตลอด ที่ผมบันทึกเสียงไว้ก็เหมือนกับคำแถลงการณ์สุดท้ายที่ทำเอาไว้เผื่อเกิดอะไรขึ้นมา ผมใส่ใจกับสิ่งที่ผมกำลังทำอย่างที่สุดโดยไม่สนแม้จะมีอะไรมาขวางทางหรือหากทำแล้วต้องสุญเสียอะไรไปก็ตาม นั่นก็เพราะว่า ผมรู้แล้วว่าเรื่องทั้งหมดนี้ ท้ายที่สุดแล้ว จุดจบมันเป็นยังไง ... 


9 ตุลาคม 2016  ท่าเรือ Dry Dock , 6.12 น. 2 ชั่วโมงหลังจากเกิดการแตกร้าวของเวลา 



Martin Hatch – เรามีปัญหาแล้ว เราไม่ได้ข่าวของ Jack Joyce เลย เรื่องมาลงเอยแบบนี้ บางทีผมคิดว่าเราอาจจะมีเกลือเป็นหนอนแน่เลย คุณไปจัดการเรื่องรักษาตัวเองก่อนเถอะ ผมจะหาเองว่าใครอยู่เบื้องหลังเรื่องนี้ 
Paul Serene – หาตัว Jack ให้เจอ นั่นเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในตอนนี้ที่ต้องทำ อย่าลืมเอามือดีที่สุดของคุณไปจัดการด้วย 
Martin Hatch – ยิ่งกว่านั้น คุณก็รู้ การที่ jack เข้ามาวุ่นวายกับเรื่องนี้มันเป็นเรื่องที่เราไม่ได้คาดการณ์เอาไว้มาก่อน และตอนนี้มันก็ซับซ้อนยิ่งขึ้นอีก เพราะเรามีพยานผู้รู้เห็นเรื่องนี้อีกเพียบที่มหาวิทยาลัย เราจับนักศึกษาคนนึงมาได้ ดูเหมือนเธอจะเป็นแกนนำการประท้วงต่อต้านเราอยู่ด้วย คุณควรมาดูหน่อย เนื่องจากเราไม่อยากให้อุปสรรคอะไรก็ตามาทำร้ายสิ่งที่เราวางแผนไว้ ผมคิดทางออกไว้ 2 ทางคือ ทางแรกอาจต้องใช้คนของเราจัดการกำจัดพวกพยานที่รู้เห็นทั้งหมดในมหาลัย 
Paul Serene – แบบนี้สังคมก็จะหันมาตั้งคำถามกับเรื่องที่เกิดขึ้นกับเราน่ะสิ 
Martin Hatch – งั้นเราอาจใช้แผนประชาสัมพันธ์ให้คนในสังคมเข้าใจและอยู่ข้างเรา  
Paul Serene – เป็นแผนที่หละหลวมและไม่รัดกุมอย่างยิ่งเลย 
Martin Hatch – นั่นมันก็แล้วแต่คุณจะตัดสินใจ คิดให้รอบคอบแล้วกัน 

เดินตาม Hatch เข้ามาจนถึงด้านใน จะพบ Liam Burke เจ้าหน้าที่ภาคสนามของ Monarch Security กำลังคุมตัว Amy Ferroro อยู่ ซึ่งเธอเป็นนักข่าวที่กำลังขุดคุ้ยข่าวเพื่อเปิดโปงความลับของทาง Monarch Solutions และเป็นพยานคนล่าสุดที่ได้คุยกับ Jack Joyce ด้วย

หน้าที่ของ Serene คือตัดสินใจจะเอายังไงกับ Amy รวมทั้งพยานทุกคนในที่เกิดเหตุที่มหาวิทยาลัย ซึ่ง Serene เองก็มีความสามารถจากอาการ  Chronon Syndrome ไม่ต่างจาก Jack Joyce ซึ่งพลังที่แข็งแกร่งของ Serene ก็คือ Junction Impacts หรือพลังในการเชื่อมต่อระหว่างสิ่งที่เกิดขึ้นในอดีตกับผลที่อาจเป็นไปได้ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต แต่อนาคตนั้นจะเปลี่ยนแปลงก็ต่อเมื่อ Serene ตัดสินใจเลือกกระทำอย่างใดอย่างนึงจากตัวเลือกที่มีแล้วเท่านั้น โดยตัวเลือกจากเหตุการณ์นี้สามารถเลือกได้ระหว่าง




                                                HARDLINE 

ทางเลือกนี้คือการแก้ปัญหาด้วยความรุนแรง ด้วยการสั่งฆ่าผู้ประท้วงที่มหาวิทยาลัย รวมทั้ง Amy หลังจากบังคับให้เธออ่านข่าวเสร็จ ในฐานะพยานให้หมดเพื่อตัดปัญหา ความลับของทางบริษัท Monarch ก็จะไม่รั่วไหลไปถึง Jack แต่บริษัท Monarch ก็จะต้องกลายกลายเป็นศัตรูกับคนทั้งเมือง Riverport เป็นจำเลยของสังคมมีประชาชนต่อต้าน และ Jack ก็จะได้แรงสนับสนุนการต่อสู้จากพันธมิตรคือประชาชนในเมืองที่เกลียดชังบริษัท Monarch 

                                                           PR

ทางเลือกนี้คือการแก้ปัญหาด้วยสันติโดยทำให้สังคมเข้าข้างด้วยการปล่อยตัวผู้ประท้วงที่มหาวิทยาลัยและ บังคับให้ Amy ในฐานะนักข่าว ออกข่าวปลอมขึ้นโดยจะป้ายความผิดโทษคนที่ทำให้เกิดการระเบิดว่าคือ Jack Joyce ทางเลือกนี้จะทำให้เป็นมิตรต่อสังคมทำให้ประชาชนช่วยเหลือเพื่อตามหา Jack ตามประกาศจับได้สำเร็จ แต่ท้ายที่สุด Jack กับ Amy ก็จะร่วมกันเปิดโปงแผนการลับของ Monarch Solutions ได้ในที่สุด  

ซึ่งทางเลือกของทั้ง 2 ทางนั้นจะส่งผลกระทบต่อการเดินเรื่องของ Jack Joyce นิดหน่อย โดยสามารถดูคลิป Live Action ฉบับคนแสดงจริงได้ที่นี่

MONARCH SOLUTIONS (HARDLINE VERSION)
https://www.youtube.com/watch?v=wHeKQGUzZgc

MONARCH SOLUTIONS (PR VERSION)
https://www.youtube.com/watch?v=ZumOiviqJyY








Paul Serene – หลังจากที่ผลหนีเข้ามาในเครื่องกำเนิดอณุภาคในวันเกิดเหตุก่อนการระเบิด ผมได้ใช้ความสามารถของผม เพื่อนำทางในการเตรียมพร้อมสำหรับเหตุที่หลีกเลี่ยงไม่ได้เมื่อถึงจุดจบของเวลา นั่นจะทำให้เรามีทางเลือกที่เหมาะสมที่จะเป็นทางรอดเมื่อถึงตอนนั้น ที่พูดแบบนี้ก็เพราะผมเคยเห็นมันมาแล้ว “จุดจบของเวลา”


                                     ** ทางที่บทสรุปนี้เลือกไว้คือ PR **

ทางเลือกนี้ หลังจาก Serene แนะนำให้ทางบริษัท Monarch แก้ปัญหาด้วยสันติโดย การปล่อยตัวผู้ประท้วงที่มหาวิทยาลัยและบังคับให้ Amy ในฐานะนักข่าว ออกข่าวปลอมขึ้นโดยจะป้ายความผิดโทษคนที่ทำให้เกิดการระเบิดว่าคือ Jack Joyce ก่อนจะปล่อยตัวไปในภายหลัง และการใช้แผนโฆษณาชวนเชื่อนี้จึงทำให้ประชาชนช่วยเหลือเพื่อตามหาเบาะแสของ Jack ตามประกาศจับได้สำเร็จ จนทำให้ Serene สามารถไปจับตัว Jack มาได้ ก่อนจะจับส่งต่อขึ้นรถตู้ให้เจ้าหน้าที่ Beth Wilder พาตัว Jack ขึ้นรถตู้เดินทางมาส่งที่ฐานใหญ่ของ Monarch  

แต่เกิดปัญหาขึ้นเมื่อ รถตู้ที่ Beth Wilder ควบคุมตัว jack มากลับหายสาบสูญ แต่ Wincott เจ้าหน้าที่ทางเทคนิคของ Monarch ก็สามารถตรวจพบเบาะแสของรถตู้ของเจ้าหน้าที่ Beth ที่เอาตัว jack หายไปจนเจอสำเร็จ Hatch จึงส่ง Liam Burke เจ้าหน้าที่ภาคสนามของ Monarch Security ที่กำลังแคลงใจกับการกระทำเอาโหดร้ายของบริษัทไปรับตัว Jack มา แต่เมื่อ Liam เดินทางมาที่โรงงานร้างแห่งนึงที่รถตู้จอดอยู่ เขาก็ต้องเจอกับการขัดขืนของเจ้าหน้าที่ Beth ที่พยายามจะช่วย Jack อย่างลับๆ แต่ขณะนั้น jack ก็ได้ตื่นขึ้นมาแล้วใช้ความสามารถหยุดเวลาหนีจากทั้ง Beth และ Liam ได้ก่อนที่ทั้งคู่จะรู้ตัว 

แต่ในขณะที่ Beth และ Liam รู้สึกตัวอีกทีก็พบว่าทั้งคู่ไม่มีปืนอยู่ในมือพร้อมทั้ง jack ที่หนีไปแล้ว ขณะนั้น Monarch Security ก็บุกเข้ามาและทำการจับกุมทั้ง Beth และ Liam ในข้อหาทรยศ จนทำให้ Liam และ Beth พยายามหาจังหวะขัดขืนแล้วหนีจากการไล่ล่ามาได้ แต่สุดท้าย Liam ที่กำลังขับรถหนีก็ไปไม่รอดต้องยอมให้จับตัวไปเพราะพวก Monarch Security ที่มีมากกว่าไล่ล่าจนจนมุม  




                                                    ACT II

                                  Perfect Place to Hide Something 


                                        Part 1 : Industrial Area


9 ตุลาคม 2016 7.04 น. , Industrial Area Warehouse – 2 ชั่วโมงหลังจากเกิดการแตกร้าวของเวลา 



-เมื่อหนีออกมาจากรถตู้ได้ กด Y ใช้ Time Vision ตรวจสอบดู ระบบจะสอนให้รู้จักการค้นหา Chronon Sources ด้วยการสังเกตดูไอค่อนทรงกลมสีเหลืองที่ขึ้นมาและจะมีวงกลมเล็กๆที่คอยชี้บอกทิศทางของที่ซ่อน Chronon Sources เมื่อเข้าไปเจอก็สามารถกด Y เพื่อเก็บ Chronon Sources มาใช้ในการอัพเกรด Skill ความสามารถต่างๆของ Jack ได้



                                  Jack Joyce Chronon Skill Upgrade 

Time Vision 
Active Pulse - เมื่อใช้ Time Dodge หรือ Time Rush จะแสดงตำแหน่งของศัตรูให้ชั่วคราว
Increased Threat Detection – เมื่อกด Y ค้นหาจนพบตำแหน่งศัตรูแล้วจะแสดงให้เห็นตำแหน่งศัตรูนานขึ้น
Increased Range – ค้นหาตำแหน่งศัตรูได้กว้างมากขึ้น

Time Stop 
 Increased Strength – ทำให้หยุดเวลาได้นานขึ้นและยิงกระสุนใส่เป้าหมายที่ถูกหยุดเวลาได้มากขึ้น 
 Increased Size – ทำให้รัศมีของขอบเขตการหยุดเวลากว้างมากขึ้น ทำให้หยุดเวลาเป้าหมายได้กว้างขึ้นด้วย 
Extra Activation –ทำให้สามารถใช้ Time Stopได้ 3 ครั้งก่อนพลัง Chronon Energy จะหมด 

Time Dodge
 Increased Focus – เมื่อกด RB พุ่งแดชไปชนศัตรูได้แล้วกด LT จะเข้าโหมด Focus หน่วงเวลาต่อให้ได้โจมตีเป้าหมายต่อได้นานขึ้น 
Maximum Focus - สามารถใช้โหมด Focus หน่วงเวลาได้นานมากขึ้น 
 Extra Activation - ทำให้สามารถใช้ Time Dodgeได้ 3 ครั้งก่อน Chronon Energy จะหมด 

Time Shield
Recovery –ทำให้ฟื้นอาการบาดเจ็บได้เล็กน้อยเมื่ออยู่ในบาเรีย
 Slow Time-เมื่อใช้ Time Shield จะทำให้เวลารอบๆตัวช้าลง
 Increased Power – บาเรียมีความทนทานและมีรัศมีบาเรีบที่กว้างขึ้น

Time Blast
Increased Blast Radius – ทำให้รัศมีการทำลายกว้างขึ้น 
 Reduced Cooldown – ทำให้การฟื้นตัวของพลัง Time Blast กลับใช้งานได้เร็วขึ้นหลังใช้หมดแล้ว

Time Rush
Increased Focus – เมื่อ Time Rush แล้วกด LT จะเข้าโหมด Focus หน่วงเวลาต่อให้ได้โจมตีเป้าหมายต่อได้นานขึ้น 
Multi-Takedown -ใช้ Time Rush แล้วสามารถจัดการศัตรู 2 เป้าหมายที่อยู่ใกล้กันได้พร้อมๆกันด้วยการกด B 

-จากนั้น ปีนขึ้นทางเดินออกไปข้างตึกเพื่อเข้าโกดังข้างๆต่อ เข้ามากด Y ใช้ Time Vision ตรวจหาจุดที่สามารถยิงตะขอให้แผ่นเหล็กด้านบนตกลงทับกล่องไม้ที่ขวางทางเดินให้พัง แล้วเดินข้ามไปปีนขึ้นกองไม้ไปด้านบนของจุดที่พังแล้วกด Y ย้อนเวลาให้แท่นเหล็กกลับขึ้นไปก่อนจะลงมาทับลังไม้ก็จะเดินข้ามลังไม้ไปตามทางจนถึงห้องควบคุมด้านในได้
-ออกจากห้องควบคุมจะเป็นโกดังต่อไปซึ่งเต็มไปด้วย Monarch Security มากมาย จัดการให้หมดแล้วสำรวจที่ลิฟต์ตัวเล็กที่ใช้ขึ้นชั้น 2 จะพบว่ามันไม่มีพลังงาน เดินไปเปิดเครื่องปั่นไฟทางขวาของห้องซะ แล้ว Beth Wilder เธอจะติดต่อมาทางเครื่องสื่อสารที่แอบใส่มาในกระเป๋า Jack

Beth นั้นพยายามติดต่อมาหา Jack เพื่อเตือนว่าตอนนี้ Serene และทีม Monarch Security กลุ่มใหญ่กำลังรวมตัวกันอยู่ที่ท่าเรือ Dry Dock กับบริเวณเขตโรงงานอุตสาหกรรมที่ Jack กำลังอยู่ตอนนี้ Beth กลัวว่า Jack จะไม่รอดเพราะถูกล้อมแต่ดูเหมือนการเตือนของ Beth กลับทำให้ Jack มีเป้าหมายที่จะมุ่งหน้าไปทันทีนั่นก็คือ ท่าเรือ Dry Dock ที่ Serene มันอยู่เพื่อหวังอย่างเดียวคือ แก้แค้นให้ Will 

-คุยจบขึ้นลิฟต์เล็กขึ้นไปชั้น 2 แล้วออกประตูที่สุดทางเดินจะออกมาที่ข้างตึกที่อีกฝั่งคือท่าเรือ Dry Dock เป้าหมายที่กำลังต้องการจะไปพอดี เดินเลาะหลังคาริมหน้าต่างโรงงานไปต่อจนได้ยินพวก Monarch จับตัวผู้หญิงคนนึงมา พอ Jack ดูจนแน่ใจจึงพบว่าเธอคือ Amy นั่นเอง Jack จึงพยายามบุกเข้าไปช่วย จัดการศัตรูในห้องให้หมดแล้วเข้าไปคุยกับ Amy

Amy ทันทีที่เห็น jack เธอก็พยายามขอโทษในสิ่งที่เธอรายงานข่าวป้ายความผิดให้ Jack เพราะเธอถูกขู่ฆ่า Jack นั้นไม่ถือโทษโกรธเธอเพราะรู้ว่า Amy เธอถูกบังคับแต่เขาต้องการให้เธอพาไปที่ ท่าเรือ Dry Dock มากกว่า ซึ่งแม้ Amy จะไม่รู้ทางไปท่าเรือแต่เธอก็สามารถนำทางไปที่ Security Station เพื่อค้นหาข้อมูลต่อได้ Amy จึงร่วมนำทางพาใจ jack ไปเพราะอยากช่วยเหลือเพื่อแก้ความผิดที่ทำไป ..


-ออกประตูไปต่อจะพบ Security Station อยู่ไม่ไกลจากที่นี่ เดินลงจากตึกไปที่ลานด้านล่าง เข้าไปกดสวิตว์ในห้องควบคุมทางขวาเพื่อเปิดประตูรั้วยาวออก แล้วใช้การหยุดเวลาเพื่อแดชผ่านไปก่อนมันจะปิดให้ทัน เข้ามาที่ ที่จอดรถไฟ จากนั้น Amy จะไปยืนรอที่ประตูล็อก ต้องปีนไปบนโบกี้รถไฟเพื่อไปโดดเกาะขึ้นชั้น 2 แล้วเดินไปตามทางหลังคาที่กำลังจะพังโดยใช้วิธีการย้อนเวลาหลังคาที่พังแล้วรีบวิ่งไปผ่านไปเข้าหน้าต่างชั้น 2 สุดทาง แล้วลงมาด้านล่างเปิดประตูให้ Amy เข้ามา แล้วเข้าไปที่ห้อง Security Station ด้านใน เข้าไปสำรวจแผนที่ Ground Zero ที่พนังเพื่อดูทางไปที่ ท่าเรือ Dry Dock



หลังจากการเกิดระเบิดของแกนอณุภาค Chronon ทางบริษัท Monarch Solutions จะระบุชื่อเหตุการณ์นี้ว่า Chronon Radiation Exposure (CRE) และได้รีบเร่งเข้ามาทำการแก้ไขสถานการณ์ด้วยการกำหนดโซนการเกิดผลกระทบในพื้นที่ที่เรียกว่า EXTRACTION AREA ดังนี้

Green Zone  
โซนสีเขียว เขตรอบนอกที่มีประชาชนรู้เห็นเกี่ยวกับการระเบิดน้อยที่สุด ใช้เวลาในปฏิบัติการกลบข่าวและทำความเข้าใจกับประชาชนต่างๆ ไม่เกิน 480 นาที ถึง 8 ชั่วโมงก็จะสามารถปิดข่าวได้อย่างมิดชิด

Yellow Zone 
โซนสีเหลือง เขตพื้นที่ที่เริ่มมีผลตกค้างของอณุภาคหลังการระเบิด เจ้าหน้าที่ในพื้นที่ควรอยู่ในระดับ CRE Type II  เก็บตัวอย่าง รายงานต่อเจ้าหน้าที่ระดับสูงก่อนหนีออกจากพื้นที่ให้เร็วที่สุด 

Red Zone
โซนสีแดง เขตอันตรายที่มีอณุภาค Chronon ห่อหุ้มบรรยากาศทั่วไปหมด ซึ่งยังไม่สามารถผลกระทบจากการระเบิดที่ส่งผลต่อผู้ติดเชื้ออาการ Chronon Syndrome เป็นวงกว้างได้ เจ้าหน้าที่ควรผ่านการฝึกฝนการรับมือในระดับสูงในระดับ CRE Type II และรายงานผลการปฏิบัติงานกับ Dr.Sofia Amaral ให้เร็วที่สุด 


-คุยจบแล้ว Amy จะเปิดประตูให้และจะคอยดูข้อมูลสนับสนุน Jack อยู่ที่นี่ เมื่อเข้าไปด้านในโกดังต่อจะพบ Monarch Security 3 คนอยู่ด้านใน พร้อมกับการกำเนิดพลังใหม่ของ Jack


                                                     Time Blast 

กด RB ค้างแล้วปล่อยยิงคลื่นพลังเวลาไประเบิดใส่ศัตรูจนทำให้กระเด็นแบบหน่วงเวลา 

จัดการศัตรูให้หมดแล้วเข้าไปออกที่ประตูอีกฝั่งเพื่ออ้อมมาพังประตูเข้าโกดังด้านในต่อจะเริ่มพบพวก Monarch Security เกราะหนักรออยู่ในห้อง จัดการศัตรูให้หมด แล้วขึ้นบันไดสุดทางไปชั้นบน สำรวจห้องเป้าหมายที่ขึ้นมาจะพบว่ามันล็อคอยู่ เดินมาที่เป้าหมายที่ขึ้นมาต่อจะมาที่ห้องที่มีกล่องวางขวางทางเข้าเต็มไปหมด กด Y ย้อนเวลาให้กล่องหายไปแล้วเข้าไปกดปุ่มควบคุมที่คอมด้านในแล้วปีนกล่องโดดข้ามออกมา จัดการศัตรูอีกชุดที่บุกมาอีกระลอก แล้วกลับไปที่ประตูที่เปิดออกเข้าไปในห้องด้านในต่อ



                                                      Part 2 : Ground Zero 

9 ตุลาคม 2016 7.19 น. , Skybridge to Chronon operation – 3 ชั่วโมงหลังจากเกิดการแตกร้าวของเวลา 

-เข้ามาถึงห้องของโกดังเก็บแกน Chronon ด้านในจะเจอ Monarch Security รออยู่อีกมากมาย ที่นี่จะมีถังใส่อณุภาค Chronon สีฟ้าๆอยู่ สามารถใช้การหยุดเวลาแล้วยิงใส่หรือใช้ Time Blast ทำให้มันระเบิดได้ทำให้เวลาที่อยู่รอบๆช้าลงได้ระยะนึงได้ จัดการศัตรูให้หมดแล้ว เงยหน้ามองที่ทางเดินบนขวาตรงท้ายห้อง กด Y ใช้ Time Vision มองดูจะเห็นจุดที่สามารถยิงตะขอที่ยกแผ่นเหล็กอยู่ ยิงให้แผ่นเหล็กตกลงมาแล้วขึ้นไปยืนบนตรงจุดตกกด Y ใช้ Time Vision ย้อนเวลาให้แผ่นเหล็กถูกยกขึ้นด้านบนอีกครั้งก็จะสามารถโดดไปที่ทางเดินชั้นบนฝั่งขวาได้ จากนั้นเดินอ้อมไปตามทางเดินมาที่ฝั่งซ้ายก็จะพบประตูทางออกจากโกดัง
-เข้ามาที่ Yellow Zone ที่หน้าตู้คอนเทรนเนอร์ที่เคยเป็นห้องทำงานของ Will กด Y ใช้ Time Vision ดูภาพในอดีตในจุดที่ทหารคุยกัน จากนั้นมาสำรวจที่รถของ Will ที่จอดอยู่ เพื่อกดรีโมทเปิดประตูห้องทำงานของ Will ก็จะเข้าไปด้านในได้ เข้าไปสำรวจกระเป๋าเอกสารที่เป็นของส่วนตัวของ Will เก็บโทรศัพท์และกุญแจ Bradbury Swimming Pool มา แล้วออกทางประตูหลัง
-เดินเข้ามาในโกดังด้านในจนถึงประตูที่ปิดอยู่เพราะมีถังน้ำมันขวางอยู่ด้านใน เดินอ้อมมาทางขวาจะเจอหน้าต่างที่สามารถยิงถังน้ำมันให้ระเบิดทำลายประตูได้ จากนั้นเข้าไปด้านในแล้วกด Y ใช้ Time Vision ย้อนเวลาเอาเหล็กที่ถล่มขวางทางออกไปแล้วรีบวิ่งไปด้านในก่อนจะเวลาจะระเบิดอีกครั้ง แล้วออกมาด้านหลังที่ลานกว้างต่อ
- ลานกว้างหน้าทางเข้า Green Zone ลุยจัดการ Monarch Security ในพื้นที่ให้หมด เมื่อเข้ามาถึงรั้วด้านในจะพบรถของศัตรูวิ่งเข้ามาชนรั้วจนเวลาเกิดช้าลง วิ่งไปปีนรถโดดข้ามรั้วไปลานกว้างด้านใน จะพบ Monarch Security รูปแบบใหม่ที่ถูกดัดแปลงด้วยเทคโนโลยีของอณุภาค Chronon ที่ทำให้พวกมันสามารถเคลื่อนที่ผ่านเวลาได้อย่างรวดเร็ว ยิงปืนจะๆต่อหน้ามันหลบได้หมด พยายามใช้ Time Dodge ให้เป็นประโชยน์ทั้งโยชน์ทั้งการพุ่งชนและไล่ดักยิง จัดการมันให้หมดแล้วเข้าไปที่ด้านในส่วนกักกันของ Ground Zero ต่อ

9 ตุลาคม 2016 7.31 น. , Ground Zero – 3 ชั่วโมงหลังจากเกิดการแตกร้าวของเวลา 

-เข้ามาในส่วนของ Ground Zero จะเป็นพื้นที่ที่มีผลกระทบของการแตกตัวของเวลามากที่สุดจึงทำให้ภาพต่างๆทั้งในอดีตแฃะปัจจุบันโผล่มาให้เห็นสลับผสมไปมาตลอดทาง เข้าไปตามทางจนถึงโกดังร้างที่เป็นที่ทำงานของ Will ในการสร้างเครื่องกำเนิด อณุภาค Chronon ใน Project Promennade เมื่อครั้งอดีต ซึ่งภาพอดีตขณะที่ Will กำลังทำงานอย่างหนักในการค้นคว้าเกี่ยวกับเครื่องเร่งอณุภาค Chronon จะฉายให้ Jack สลับไปมาอยู่ตลอด


ซึ่ง Jack จะเห็นว่าหลังจากที่ Will ได้ค้นคว้าจนสร้างเครื่องเร่งอณุภาค Chronon ขึ้นมาได้และสามารถใช้งานได้จริงตามหลักของการคำนวณ แต่ดูเหมือน Will จะไม่กล้าที่จะทดลองมันด้วยตัวเองเพราะความกลัวกับผลกระทบที่จะเกิดขึ้นเพราะการทดลองนี้ก็เป็นเรื่องใหม่กับเขาเหมือนกัน นั่นจึงทำให้ทาง Monarch Solutions ต่อว่าเรื่องงานล่าช้าของเขาอยู่ตลอด 



และ Jack ยังเห็นอุปกรณ์อีกอย่างที่ Will สร้างมันขึ้นมาคู่กับเครื่องเร่งอณุภาค Chronon มันคือ Countermeasure Device ที่อาจจะเป็นเครื่องมือสำคัญสำหรับรับมือกับปัญหาที่เกิดจากความผิดพลาดของเครื่องเร่งอณุภาค แต่มันถูกขโมยไปโดยผู้หญิงคนนึงโดยมี Serene พยายามเข้ามาห้าม  ซึ่งผู้หญิงคนที่ว่าก็คือ Beth นั่นเอง  



-หลังจากภาพอดีตหายไป เข้าไปตามทางด้านในโกดังจนออกมาที่เขตกักกันด้านนอก กด Y ใช้ Time Vision ดูภาพอดีตตรงทางเข้าจะพบ Paul Serene ที่คุยอยู่กับ Dr. Sofia Amaral ถึงเรื่องที่ Dr. Sofia เป็นห่วงเรื่องผลกระทบทางร่างกายของ Paul ที่เกิดจาก Chronon Syndrome โดย Dr. Sofia จะบอกให้ Paul เตรียมขึ้น ฮ. เดินทางไปที่เกาะฐานบัญชาการณ์เพื่อเตรียมการรักษาให้เร็วที่สุด ซึ่ง Jack จะยอมไม่ได้ที่จะให้ Paul หนีไปง่ายๆแบบนี้แน่นอน
-เข้าไปด้านในเต้นในเขตกักกันเชื้อส่วนนอกไป ระหว่างทาง Paul จะติดต่อมาหา Jack


Paul– Jack ชั้นอยากให้นายเข้าใจว่าทำไมชั้นถึงต้องลงมือกับนายนะ 
Jack – มันเกิดบ้าอะไรขึ้นกันแกแน่วะ
Paul– ชั้นอยากให้เราเลิกสู้กันซักที 
Jack – แกฆ่า Will นะ
Paul– ชั้นะอธิบายให้นายเข้าใจเมื่อถึงเวลานะ คืนนี้มาพบชั้นในงานเลี้ยงของ Monarch ก่อน 
Jack – งานเลี้ยงหรอ เวลากำลังจะแตกสลายแล้วยังห่วงงานเลี้ยงอีกหรอ 
Paul– ก็เพราะว่า ถ้าถึงตอนที่เวลาถึงจุดสิ้นสุด แผนของชั้นก็จะไม่สำเร็จเหมือนกันนะสิ 
Jack – ชั้นไม่รอไปพบแกที่ไหนทั้งนั้นแหละ มาจบทุกอย่างที่นี่กันเลยดีกว่า !! 
Paul– ช่ายๆ นายพร้อมแล้ว ชั้นก็อยากเห็นเหมือนกันว่ามันจะเกิดอะไรขึ้น
Jack – เห็นอะไรวะ อยากรู้ว่าที่ทำมาทั้งหมดเนี้ยเพื่อ ? 
Paul– แล้วเจอกัน Jack 

-คุยจบเดินเข้าไปตามทางในเต้นกักกันต่อจนออกมาที่ทางออกที่ลานกว้างที่ท่าเรือ จะพบว่า Paul กับ Dr. Sofia กำลังขึ้น ฮ. ออกเดินทางไปแล้ว แม้ว่า Jack จะยิงไล่หลังไปก็ไม่สามารถหยุด ฮ. ได้ Paul ได้แต่มองอย่างใจเย็นอยู่บนเครื่อง และสั่งห้ามลูกน้องยิงใส่ Jack ก่อนจะใช้พลังทำลายซากเรือขนาดใหญ่ให้ถล่มกั้นทางของ Jack เอาไว้ก่อนบินจากไป
-จากนั้นกด Y ใช้ Time Vision ย้อนเวลายกซากเรือให้ขึ้นด้านบนแล้วรีบวิ่งลอดเข้าไปด้านในต่อ ใช้การย้อนเวลาในการช่วยหลบหลีกเศษซากปรักหักพังของสิ่งของแล้วปีนไปตามซากเรือที่เปลี่ยนแปลงตามสภาพเวลาแปรปรวน หนีออกมาจนถึงบันไดปีนขึ้นมาที่ท่าเรืออีกฝั่งจะเจอ Beth กับ Amy มารอรับอยู่


Beth – ไอ้คำว่า อย่าทำอะไรที่มันงี่เง่า เนี้ยมันไม่ได้เข้าหูนายเลยใช่มั๊ย ?
Jack – ผมไม่เคยเป็นผู้ฟังที่ดีอยู่แล้วนี่ 
Beth – เอาละ เวลาไม่คอยท่า รีบไปกันได้แล้ว 
Jack – ว่าแต่ เพราะอะไรผมถึงต้องเชื่อใจคุณด้วยละ
Beth – งั้นก็ยิงชั้นซะสิ
Jack – งั้นผมคงต้องยิงละนะ .... โอ๊ยยย !!
Beth – นั่นสำหรับเรื่องที่พูดแล้วไม่ฟัง แล้วถ้าอยากจะหยุดการล้มสลายของเวลาที่กำลังจะเกิดขึ้น นายต้องพึ่งชั้น แล้วก็อย่าลืมขอบคุณกันด้วย ชั้นมีไปรับเพื่อนนายมา อยู่ที่เบาะหลังเนี้ย ทำไมรู้สึกเหมือนเป็นพี่เลี้ยงเด็กอยู่ยังไงก็ไม่รู้ 
Amy – พี่เลี้ยงเด็กหรอ ? ล้อเล่นใช่มั๊ย ชั้นนี่เซียนคอมอัจฉริยะเลยนะ ยัยบ้า เอ๊ย ! 


                                  Part 3 : Bradbury Swimming Pool


9 ตุลาคม 2016 8.13 น. , Bradbury Swimming Pool – 4 ชั่วโมงหลังจากเกิดการแตกร้าวของเวลา 



Jack – ที่นี่แหละ สระว่ายน้ำ Bradbury ตามที่กุญแจของ Will ระบุไว้
Amy – ที่นี่ถูกปิดร้างมาหลายปีแล้วละ 
Beth – ถึงเป็นที่ที่เหมาะสำหรับจะซ่อนอะไรซักอย่างไงละ
Jack – ตอนนี้ถึงเวลาที่เธอต้องบอกทุกอย่างที่เธอรู้ให้ชั้นฟังแล้ว 
Beth – ที่ชั้นรู้คือ น้องชายนายสร้างอุปกรณ์บางอย่างที่สามารถหยุดการแตกสลายของเวลาเอาไว้ ชั้นรู้ว่ามันมีความหมายกับเราถึงต้องมาตามหามัน และชั้นรู้ว่าพวก Monarch ไม่อยากให้เราทำสำเร็จ 
Jack – พูดทั้งๆที่ยังใส่ชุดของ Monarch เนี้ยนะ
Beth – ทำไงได้กางเกงมันเข้ารูปโดนใจดีนี่นา ..ฟังนะ ที่พวกเราต้องค้นหาคือเครื่อง Countermeasure ที่น้องนายสร้างขึ้นและเราก็หวังว่ามันจะหยุดการแตกสลายของเวลาได้จริงก่อนทุกอย่างจะสายไป

-เข้ามาสำรวจที่ประตูหน้าของอาคารจะพบว่ากุญแจของ Will นั้นไขไม่ได้ อ้อมไปทางฝั่งขวาของอาคารกด Y ใช้ Time Vision ย้อนเวลาดูจะพบทางปีนขึ้นไปด้านบน ปีนขึ้นไปจนถึงทางเข้าด้านในอาคารได้ สำรวจให้ทั่วๆจะพบว่าที่นี่เคยเป็นที่ซ่อนตัวของ Will หลังจากรู้ความจริงที่น่ากลัวของ Monarch Solutions ซึ่ง Will ได้ซื้อที่นี่ไว้อย่างลับๆตั้งแต่ 29 มีนาคม 1999 โดยที่แม้แต่ Jack ก็ยังไม่เคยรู้มาก่อน จากนั้นลงมาชั้นล่างเพื่อเปิดประตูหน้าให้ Beth กับ Amy เข้ามา  Beth จะเดินไปที่ห้องทางขวาที่ TV จะมีกระดาษแปะไว้เพื่อส่งข่าวให้ Beth โดยเฉพาะ


โดยข้อความที่ Will ฝากเอาไว้ Beth นั้นบันทึกไว้ตั้งแต่ปี 2010 ทั้งๆที่ Beth ก็ไม่เคยได้เจอกับ Will เลยซักครั้ง และในตอนนั้นเครื่อง Countermeasure ได้หายไปแล้วตั้งแต่ 4 ก.ค 2010 จากนั้น ตาม Beth ไปที่ประตูใกล้ๆช่วยกันดันให้เปิดเข้าไปด้านในต่อจนถึงประตูด้านในจะพบห้องโถงขนาดใหญ่ที่เป็นที่เก็บเครื่องเร่งอณุภาค Chronon ในเครื่อง Time Machine ตัวที่ 2 ที่ Will ได้มาแอบสร้างไว้อย่างลับๆ ซึ่งจากเอกสารต่างๆรอบๆห้องระบุว่า Will และ Dr. Meyer ได้ค้นพบเกี่ยวกับอณุภาค Chronon ครั้งแรกในปี 1997 และสร้างเครื่อง Time Machine สำเร็จในปี 1999


ทันทีที่เห็นเครื่อง Time Machine ตัวที่ 2 jack ก็เริ่มคิดแผนออกทันทีเพราะตอนนี้เครื่อง Countermeasure ที่กำลังตามหาก็ไม่สำคัญแล้วเพราะถ้าเดินเครื่อง Time Machine ตัวนี้ได้ ก็จะสามารถย้อนเวลาก่อนที่เรื่องเลวร้ายจะเกิดขึ้น ก็จะสามารถแก้ไขปัญหาต่างๆได้ทันที และจากการที่ Jack เคยช่วย Paul เปิดเครื่องนี้มาครั้งนึงที่มหาวิทยาลัยแล้ว เขาก็มั่นใจว่าจะสามารถเปิดมันได้อีกครั้งแน่นอน   


-จากนั้นสำรวจในห้องให้ทั่วๆเข้าไปที่ตัวควบคุมด้านในสุด แล้วตามไปกดเครื่องควบคุมตามจุดต่างๆที่จุดเหลืองขึ้นมาจนถึงเครื่องควบคุมตรงกลางเพื่อดันแกนอนาล็อค Activate พลังงานจากนั้นไปที่เครื่องควบคุมทางขวาสุดก็จะทำให้รู้ว่ากุญแจของ Will นั้นเอาไว้เพื่อเปิดการทำงานของเครื่อง Time Machine นั่นเอง แต่เมื่อเปิดระบบจนครบแล้ว เครื่องกลับไม่ทำงานตามที่ทุกคนตั้งใจ ซึ่งคนที่ผิดหวังมากที่สุดก็คือ Jack



Jack – ทำไมมันไม่ได้ผลเนี้ย เกือบจะสำเร็จแล้วแท้ๆ เดี๋ยวผมขอลองอีกที
Beth – เดี๋ยวๆๆ นี่นายจะบ้าหรอ นายก็รู้ว่าไอ้เครื่องนี่มันทำอะไรได้บ้าง ถ้ามันเกิดผิดพลาดขึ้นมา แล้วนายก็ไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญเรื่องนี้ด้วย แล้วถ้านายทำมันผิดพลาดอีกละ 
Jack – เราจะหยุดตอนนี้ไม่ได้ !
Beth – น้องนายตาย นายต้องโกรธชั้นเข้าใจ แต่ นี่มันเรื่องใหญ่ เพราะเราไม่มีปัญญาซ่อมไอ้เครื่องนี่ด้วยตัวเอง แต่ชั้นรู้ว่าใครจะช่วยได้ Dr. Sofia Amaral ! เธอคนนี้แหละ 
Jack – นักวิทยาศาสตร์ของ Monarch ผมเคยเห็นเธอในวีดีโอที่ Ground Zero 
Beth – ชั้นคิดว่าเธอต้องมางานเลี้ยงของ Monarch คืนนี้แน่นอน แต่พวก Monarch Security ก็ต้องคุ้มกันเต็มที่แน่นอน มันแทบจะเป็นไม่ได้เลยที่จะเข้าไปชิงตัวเธอมา 
Jack – ที่จริงผมก็ลืมบอกไปว่า Paul ก็นัดผมไปที่งานเลี้ยงคืนนี้เหมือนกัน 
Beth – ไม่นะ Jack อย่าเชียวนะ !







                                                  JUNCTION 2

                                                Business / Personal


9 ตุลาคม 2016 - 9.35 น. , Monarch Mansion on Gull Island -5 ชั่วโมงหลังจากเกิดการแตกร้าวของเวลา 



Paul Serene – อนาคตจะชัดเจนขึ้นเมื่อผมผ่านอดีตนั้นมาแล้ว และถ้ามีจังหวะดีๆที่สามารถคว้าโอกาสไว้ได้ผมก็จะเปลี่ยนแปลงจุดจบบางอย่างได้ ซึ่งมันก็กลายเป็นแผนของผมมาตลอด แน่นอนว่าจากพลัง The Vision เป็นตัวช่วย ผมรู้ดีว่า Jack ต้องมาหาผม ผมเห็นอนาคตนี้มาแล้ว เพียงแต่ผมไม่รู้แน่นอนว่าจุดจบของเรื่องนี้จะลงเอยยังไง 
Martin Hatch – คุณพูดถูกอีกแล้ว 
Paul Serene – นิมิตเห็นอนาคตของผมไม่ได้ชัดเจนขนาดนั้น แต่ที่รู้เขาไม่ได้โกหก 
Martin Hatch – พูดถึงเรื่องการโกหก Jack มันบอกว่ามันไปเจอเครื่อง Time Machine ของ Will อีกเครื่องนึงด้วย 
Paul Serene – เราค้นหากันมา 17 ปี ไม่เจอ แต่จู่ๆจะมาเจอง่ายๆในวันนี้นะหรอ ? 
Martin Hatch – ฟังน้ำเสียงเหมือนคุณจะไม่พอใจที่เจอมัน
Paul Serene – อย่างน้อยๆตอนนี้เราก็รู้แล้วว่ามันมีอยู่ แต่เราไม่รู้ว่า Will บอกอะไร Jack ไปบ้างนะสิ 
Martin Hatch – ที่น่าสนใจกว่าคือ ถ้าเขารู้ว่าเครื่องนั่นอยู่ที่ไหนแล้วทำไมเขาต้องมาบอกคุณที่นี่ด้วย เขาอาจจะติดสินบนคุณหรือเปล่า ?
Paul Serene – ก็อาจเป็นได้ แต่เราต้องรีบออกค้นหาเครื่องนั่นให้เจอให้เร็วที่สุด และถ้า Jack มันบอกว่ามันรู้ ผมจะไปคุยกับมันเอง 
Martin Hatch – ถึงเขาจะเคยเป็นเพื่อนรักของคุณ แต่อย่าลืมว่าตอนนี้เขาก็แค่เด็กหนุ่มที่กำลังโกรธเรื่องน้องชายเค้า จะตัดสินใจอะไรก็คิดดีๆก่อนด้วย อย่าเอามาเป็นเรื่องส่วนตัวมาก อย่าลืมว่าคืนนี้เรามาที่นี่ทำไม หลังจากเกิดเรื่องขึ้น ประชาชนและสังคมกำลังรอการตัดสินใจของเราถึงเรื่องการจัดการแก้ไขปัญหา และคุณก็คือคนที่สามารถพูดกล่อมให้สื่อเชื่อในบริษัทเราได้ ปล่อย Jack ให้เป็นหน้าที่ผม ส่วนคุณออกสื่อแถลงการณ์ถึงจุดยืนของบริษัทในงานคืนนี้ให้ดีที่สุดก็พอ 

-เดินตาม Martin ลงไปที่ลานหน้าตึกที่ Jack ถูกคุมตัวอยู่



 ตอนนี้สิ่งที่ Serene ต้องคิดคือ เขาจะยังคงเจตนารมณ์ตามแผนเดิมอยู่คืออยากให้ jack รับรู้ในสิ่งที่เขากำลังทำ หรือ จะเบนเข็มไปเดินหน้าทำการตลาดเพื่อขึ้นคุมบริษัท Monarch Solutions เพื่อแผนที่ใหญ่กว่า จากนั้นก็ต้องใช้พลัง Junction Impacts หยั่งรู้อนาคตเพื่อเลือกทางออกของเรื่องนี้ได้ระหว่าง 


                                                   Business 

Serene จะปล่อยให้ Martin เป็นคนไปสอบสวน Jack ซึ่งจะทำให้ Jack ตกอยู่ในที่นั่งลำบาก อาจโดนฆ่าตายหลังจากถูกสอบสวนและอาจไม่ได้เจอ jack อีกเลย ส่วนตัว Serene จะขึ้นไปแถลงข่าวเพื่อเดินหน้าเกมทางธุรกิจของบริษัท Monarch Solutions ให้เติบโตและยิ่งใหญ่ขึ้นจนสามารถเดินหน้าทำตามแผนของเขาในอีกรูปแบบนึงได้  


                                                  Personal

Serene จะคนไปสอบสวน Jack ด้วยตัวเองเพื่ออธิบายถึงแผนการที่เขาทำไปทั้งหมด เพื่อให้ทุกคนความจริงทั้งหมดที่ Serene ตั้งใจจะทำมาตั้งแต่แรก และ Martin แถลงข่าวเพื่อเดินหน้าเกมทางธุรกิจของบริษัท Monarch Solutions แต่จะทำไม่สำเร็จจนบริษัทต้องอ่อนแอลงกว่าเดิม 

ซึ่งทางเลือกของทั้ง 2 ทางนั้นจะส่งผลกระทบต่อการเดินเรื่องของ Jack Joyce นิดหน่อย โดยสามารถดูคลิป Live Action ฉบับคนแสดงจริงได้ที่นี่

QUANTUM BREAK EPISODE 2: Prisoner ( Personal VERSION)
https://www.youtube.com/watch?v=3ZTU9wDCKH8
QUANTUM BREAK EPISODE 2: Prisoner ( Business  VERSION)
https://www.youtube.com/watch?v=wm_ms2VOiPY





Serene – ในคืนเกิดเหตุวันนั้น ผมเห็นจุดจบของเวลาแล้ว จนต้องหนีออกมาผ่านทางช่วงเวลากลับมาในยุค 1999 ตอนที่ทุกอย่างกำลังเริ่มขึ้น ผมพยายามที่จะเปลี่ยนแปลงสิ่งที่ผิดพลาด และการพยายามนั้นจะเกิดผลได้ก็ต่อเมื่อผมได้เปลี่ยนแปลงพวกเขา ณ.จุดเริ่มต้นของทุกอย่างเท่านั้น 


                                         ** ทางที่บทสรุปนี้เลือกไว้คือ Personal **

ในขณะที่ Serene กลับไปรักษาอาการ Chronon Syndrome ที่ห้องแล็ปของ Dr. Sofia หลังจากที่อาการเริ่มทรงตัว Serene ก็ต้องรีบเข้าไปตกลงกับ Jack ที่เข้ามามอบตัวก่อนทันที โดยให้ Martin ไปแถลงความเป็นไปของบริษัทแทนในงานคืนนี้ ซึ่ง Dr. Sofia ไม่ค่อยจะพอใจทั้งเรื่องที่ Serene ฝืนตัวเองทั้งๆที่ยังรักษาไม่หายและยังยอมให้ Martin ไปมีบทบาทสำคัญกับทางบริษัท แต่ Serene ก็ยังยืนยันว่าเขาได้เห็นผลของสิ่งที่เกิดขึ้นหมดแล้วและยังจะต้องทำตามแผนที่ตั้งใจไว้ต่อไป

9 ตุลาคม 2016 - 18.44 น. , Monarch Mansion on Gull Island -15 ชั่วโมงหลังจากเกิดการแตกร้าวของเวลา .. งานกาล่าของทาง Monarch Solutions ก็เริ่มขึ้นที่อาคารหรูบนเกาะ Gull ในงาน Fiona ที่ได้ชวน Charlie Wincott เจ้าหน้าที่ทางเทคนิคของ Monarch มาเดทในงานนี้ด้วย แต่จริงๆแล้วเธอมีแผนที่จะแทรกซึมเข้ามาตามแผนของ Beth Wilder เพื่อเข้ามาตามสืบเรื่อง Lifeboat Protocol หรือทางรอดในวิกฤติการแตกสลายของเวลาตามที่ Beth ได้ข้อมูลมา ส่วนทางด้าน Jack Joyce ที่ถูกจับตัวมาก็ถูกพาขึ้นรถคันเดียวกับ Liam Burke เจ้าหน้าที่ภาคสนามของ Monarch Security ที่โดนข้อหาทรยศหลังจากช่วย Beth จนทำให้ Jack หนีไปได้ในตอนแรก

9 ตุลาคม 2016 - 19.27 น. , Monarch Security Station -15 ชั่วโมงหลังจากเกิดการแตกร้าวของเวลา ... Liam Burke ที่ถูกคุมขังอยู่ที่นี่ก็สามารถใช้แผนลวงยานเฝ้าประตูที่เป็นเพื่อนร่วมงานเก่าจนสามารถออกมาได้ พร้อมกับที่ Fiona ที่หลอกล่อชวน Charlie ออกมาด้านนอกเพื่อหวังจะหาข้อมูลของห้องทดลองลับของทางบริษัท จนในที่สุด Liam ที่หนีออกมาได้ก็มาเจอกับ Fiona ที่ชวน Charlie ออกมาเดินเล่นกลางป่า เขาจึงบังคับให้ Charlie พาไปยังที่ Perimeter Lab ทันทีโดยที่ Fiona ก็เปิดเผยตัวออกมาด้วยว่าเธอเองก็แฝงตัวเข้ามาก็เพราะมาตามหาข้อมูลของ Lifeboat Protocol ที่ห้อง Lab ลับนั่นจากข้อมูลที่ได้มาจาก Beth ด้วยเช่นกัน

9 ตุลาคม 2016 - 19.58 น. , Research Facility side Entrance -15 ชั่วโมงหลังจากเกิดการแตกร้าวของเวลา ... Charlie พา Liam และ Fiona มาถึงทางเข้าเขตห้องทดลองลับของ Monarch และทันทีที่ถูกบังคับให้เปิดประตูห้องเข้าไปด้านในสำเร็จ Fiona ก็ไม่รอช้าที่จะค้นหาทุกอย่างที่เกี่ยวกับ Lifeboat Protocol แต่ก็กลับพบบางสิ่งที่ซ่อนอยู่ในแคปซูลทดลองขนาดใหญ่แทน เมื่อตรวจสอบแล้วจะพบว่ามันคือ รูปแบบของสิ่งมีชีวิตที่ปะปนกับอณุภาค Chronon ในระดับสูงจนบิดเบี้ยวไม่มีรูปทรงแต่ยังคงความเป็นสิ่งทีชีวิตอยู่ ซึ่งเมื่อ Fiona ดูจากรายละเอียดต่างๆแล้วทำให้เธอรู้ว่า รูปแบบของสิ่งมีชีวิตนี้ก็คือ Dr. Herry Kim อาจาร์ยของเธอที่มหาวิทยาลัยที่มาร่วมเป็นนักวิจัยของ Monarch ในแผนก Chronon Division นั่นเอง

9 ตุลาคม 2016 – 20.04 น. , Monarch Security Station -15 ชั่วโมงหลังจากเกิดการแตกร้าวของเวลา ... Paul Serene เดินทางเข้ามาหา Jack Joyce ในห้องควบคุมเพื่อทำการตกลงแลกเปลี่ยนเกี่ยวกับเครื่อง Time Machine ของ Will ที่ซ่อนอยู่


Serene - เครื่อง Time Machine นั่นอยู่ที่ไหน Jack
Jack – เครื่องอะไร ไม่เห็นจะรู้เรื่อง ?
Serene – เฮ้อ .. ในอดีต ชั้นเองก็พยายามแก้ไขสิ่งผิดพลาดที่ชั้นได้ทำลงไปอยู่ตลอด ลองทำไปจนกว่ามันจะหาทางแก้ไม่ได้นั่นแหละ กับเรื่องนี้ ไม่สำคัญหรอกว่าชั้นจะคิดยังไงแต่เรา 2 คนจบเรื่องที่ทำผิดพลาดไปด้วยกันได้นี่ และถ้าเราทำไม่ได้ เวลาก็จะจบลงเพื่อน 
Jack – ชั้นกำลังคิดว่านายกำลังจะบ้าไปแล้ววะ 
Serene – ชั้นยังไม่ได้บ้า ข้อนี้ชั้นรับประกันกับนายได้เลย ทั้งความทรงจำหรืออะไรต่างๆนานาของชั้นยังอยู่ครบ มันถึงขยายออกให้ดีขึ้นด้วยซ้ำ นายจำได้มั๊ยตอนเราอายุ 11 – 12 กับเจ้าคนจรจัดนั่น นั่นคือเรื่องแลกที่ชั้นพยายามจะกลับไปเปลี่ยนมัน ทุกอย่างที่เกิดขึ้นในวันนั้นมันทำให้ชั้นนอนไม่หลับอีกเลย นายรู้สึกยังไงชั้นไม่รู้ แต่ชั้นไม่อยากกลับไปใช้ชีวิตมนุษย์เดิมแบบนั้นอีกแล้วเพื่อน แต่ในประเด็นของเราตอนนี้ คนรอบตัวเรามันก็จำเป็นต้องมีการสังเวยกันบ้างแหละ  
Jack – เหมือนที่แกทำกับ WILL หรือเปล่า ไอ้ที่ว่ามันจำเป็นต้องมีการสังเวยกันบ้างนะ !
 Serene –  WILL ปฎิเสธที่จะเชื่อว่าอะไรก็ตามที่กำลังจะเกิดขึ้นมันหลีกเลี่ยงไม่ได้อีกแล้ว ซึ่งถ้าไม่ทำเขาก็จะกลายเป็นอุปสรรคนะสิ
Jack – ตอบคำถามชั้นสักข้อสิวะ Paul ที่ว่านายเห็นทุกอย่างในอนาคตหมดแล้วนะ ที่นายเห็นมาทั้งหมด ชั้นได้หยุดก่อนที่จะได้ฆ่านายหรือเปล่า?
Serene –  .... ถ้านายพร้อมจะให้ความร่วมมือก็บอกแล้วกันชั้นอยู่ใกล้ๆนี่แหละ 

ที่ Perimeter Lab ในเวลาไล่เลี่ยกัน ...  ขณะที่ทุกคนกำลังขนลุกกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับ Dr. Herry Kim Charlie ก็ได้ค้นลึกลงไปในข้อมูลจนพบกับสิ่งประดิษฐในโครงการที่เรียกว่า Chronon Field Regulator ซึ่ง Fiona จะจำได้ว่าสิ่งนี้มีอยู่ในบันทึกของ Dr. Sofia ว่ามันคือ The Stutters เครื่องที่จะเพิ่มความถี่ของเวลาให้กลับมาเสถียรเหมือนเดิม ซึ่งจะทำให้สภาวะ Zero State ที่กำลังเกิดขึ้นถูกรีเซ็ทใหม่จนกลับเป็นเวลาปกติ


โดยเจ้าเครื่องที่ว่าก็พัฒนามาจากเครื่อง Countermeasure ที่ Will สร้างขึ้นและหายสาบสูญไปนั่นเอง จนเกิดปัญหาตามมากับทุกคนว่า ถ้ามีเจ้าเครื่องนี่แล้ว Lifeboat Protocol ที่ Beth บอกมามันจะช่วยทุกคนได้ยัง แต่ในขณะที่ Fiona กำลังจะค้นหาข้อมูลของ Lifeboat Protocol ว่ามันคืออะไรกันแน่ หน่วยพิเศษของ Monarch Security ก็บุกเข้ามาเสียก่อน ในขณะที่ทุกคนกำลังหนี Fiona ก็ดันไปติดกับดักของห้วงเวลาในห้องนื้ทำให้ Liam ต้องหาทางช่วยด้วยการไปเอา Chronon Harnesses ซึ่งเป็นอุปกรณ์ที่ทำให้เข้าไปในเขตของกับดักหน่วงเวลาได้ เขาจึงให้ Charlie สวมเพื่อไปช่วย Fiona ในขณะที่เขาพยายามยิงต้านศัตรูไว้ แต่ Charlie ดันหนีไปพร้อม Chronon Harnesses เสียก่อน ทำให้ Liam ต้องหาทางสู้ด้วยตัวเองจนสามารถช่วย Fiona และหนีออกมาจากห้องทดลองได้สำเร็จในที่สุด



                                                               ACT 3

                                            The Wine and Cheese Crowd


                                                 Part 1 - Research Facility


9 ตุลาคม 2016 - 20.20 น. , Gull Island -16 ชั่วโมงหลังจากเกิดการแตกร้าวของเวล




แผนบุกถ้ำเสือของ Jack เริ่มต้นขึ้นเมื่อ jack ถูกช่วยเหลือจากห้องสอบสวนโดย Beth Wilder ตามแผนที่วางไว้ เดินตามเธอไปจนถึงทางเข้าเส้นทางใต้ตึกเพื่อให้ Jack หนีไปที่ตึกงานเลี้ยงที่อยู่อีกฝากของเกาะเพื่อลักพาตัว Dr. Sofia Amaral ให้มาซ่อมแซมเครื่อง Time Machine ให้ใช้งานได้อีกครั้ง
-เดินเข้าไปในทางใต้ดินจะพบพวกศัตรูเข้ามาเจอเข้ามันจึงรีบปิดประตูกั้นทางทันที แต่ความสามารถใหม่ของ Jack ก็เพิ่มอีกครั้ง





                                                       Time Rush 

กด LB ค้างจะสามารถทำให้เวลารอบๆตัวช้าลงจนวิ่งด้วยความเร็วผ่านเวลา นอกจากจะใช้ในการหลบหลบกระสุนแล้วยังสามารถใช้โจมตีศัตรูได้ด้วยการเข้าไปกด B เพื่อใช้ท่า Malee Takedown จัดการศัตรูได้
                 
-จัดการศัตรูแล้วกดสวิตซ์เปิดประตูที่กำลังจะปิดอย่างเร็ว ใช้ Time Rush วิ่งผ่านเข้าประตูไปก่อนมันปิดได้ ผ่านเข้ามาด้านในจนถึงทางออกจะพบกับปืนกลอัตโนมัติดักยิงอยู่ ใช้ Time Rush ไปวิ่งหลบกระสุนอ้อมไปปิดการทำงานของปืนจากด้านหลัง จากนั้นเข้าไปด้านในกด Y ใช้ Time Vision ย้อนอดีตตรงซากสะพานที่พังให้มันกลับขึ้นมาใหม่แล้วใช้  Time Rush วิ่งข้ามไปอีกฝั่งได้ เข้าไปด้านในต่อจัดการศัตรูให้หมดแล้วกด Y ใช้ Time Vision ย้อนอดีตตรงซากปืนใหญ่ให้มันกลับขึ้นมาใหม่อีกครั้งแล้วปีนปืนใหญ่ขึ้นไปที่ประตูด้านบนต่อได้
-เข้ามาที่ลานหน้าสถานีสื่อสารจะพบ Monarch Security มากมายรออยู่ทั้งปืนกลอัตโนมัติและพวกสไนเปอร์ที่ยิงมาจากระยะไกล จัดการให้หมดแล้วเข้าไปด้านในสถานีสื่อสารจะพบลิฟต์ลงไปชั้นล่างที่ห้องโรงงานลับใต้ดิน ในขณะที่ลงลิฟต์มาจะถูกพวกศัตรูยิงถล่มเข้ามาจากทุกทิศทาง ก้มหลบไปเรื่อยๆจนซักพักจะเกิดภาวะ Zero State จนเวลาในพื้นที่หยุดนิ่ง
 - ประตูทางเข้าด้านหน้าจะอยู่ในสภาพปิดๆเปิดๆจนต้องใช้ Time Rush วิ่งผ่านเข้าไปด้านในที่ส่วน Research and Development Facility สำหรับพัฒนาและสร้างอาวุธและอุปกรณ์ล้ำยุคที่ได้จากเทคโนโลยี อณุภาค Chronon เข้ามาที่ห้องทดลองแรก จะพบจุดแสดงภาพอดีตตรงที่เก็บโดรน กด Y ใช้ Time Vision ย้อนอดีตดูจะพบ Martin Hatch เข้ามาสั่งทหารให้เตรียมโดรนให้พร้อมเมื่อมันยืนยันตำแหน่งของ Dr. Sofia ก็ให้ใช้โดรนไปฆ่าเธอได้เลย


-ผ่านทางเดินเข้าไปห้องทดลองด้านใน jack จะเจอสภาวะที่ทำให้ใช้พลังไม่ได้ โดยเกิดจากเครื่อง Chronon Dampeners ที่ทำให้ อณุภาค Chronon ทำงานได้ปกติต้องเข้าไปปิดสวิตซ์ที่คอมควบคุมแกนของเครื่องก่อนแล้วจะสามารถใช้ความสามารถได้เหมือนเดิม


-เข้าไปด้านในต่อจนถึงห้องทดลองใหญ่ด้านในจะพบ Monarch Juggernaut ทหารเกราะเหล็กที่มีความทนทานสูงและมาพร้อมปืนกลหนักในมือ ซึ่งจุดอ่อนมันนั้นอยู่ที่แผงพลังงานด้านหลังมันต้องใช้ Time Rush  วิ่งอ้อมไปด้านหลังมันแล้วยิงให้พังซะก็จะกำจัดมันได้ จากนั้นเข้าไปที่มุมห้องจะมีจุดที่สามารถกด Y เพื่อใช้ Time Vision ย้อนเวลาเอากระเช้าขนของด้านบนลงมารับได้ ยืนขึ้นไปให้มันพาขึ้นไปด้านบนแล้วเดินตามแท่นเหล็กด้านบนจนโดดไปที่ทางเดินชั้น 2 ได้
-เข้าไปตามทางจนถึงเขตของห้องทำงาน เข้าไปที่ห้อง Dr. Sofia Amaral ที่จุดเป้าหมาย Jack จะเก็บเครื่อง Chronon Harnesses มาเพื่อจะเอาไว้ให้ Beth ใช้ และพบมายกำหนดการของ Dr. Sofia ว่าตอนนี้เธออยู่ที่แมนชั่นที่กำลังจัดงานเลี้ยงของบริษัท จากนั้นลงมาที่ห้องทดลองด้านล่างของห้องทำงานแล้วไปออกที่ประตูทางออกที่ขึ้นในเป้าหมายไปต่อ


                                                Part 2 – Monarch Gala 

-เข้าไปในส่วนห้องทำงานด้านในต่อแล้วขึ้นไปที่ทางออกที่ชั้น 2 จะเข้ามาตามทางจนถึงลานจอดรถชั้นล่าง จัดการ Monarch Security ในพื้นที่ให้หมดแล้ว เข้าไปที่ห้องควบคุมจะพบ Monarch Juggernaut สวนออกมา จัดการมันซะแล้วเข้าไปในห้องควบคุมปิดสัญญาณเตือนภัยแล้วออกทางประตูที่ขึ้นมาที่เป้าหมายไปจะมาออกที่ส่วนของถนนริมแม่น้ำที่มองเห็นตึกที่จัดงานเลี้ยงอยู่สุดปลายของถนน
-เข้ามาที่ลานกว้างหน้าด่านของพวก Monarch Security ในพื้นที่จะมีเครื่อง Chronon Dampeners ที่สามารถสะกดพลังของ Jack อยู่ พยายามจัดการศัตรูจนเข้าไปปิดระบบของเครื่องที่อยู่สุดทางได้ก็จะสามารถใช้พลังสู้ได้ จากนั้น Monarch Juggernaut จะออกมา จัดการมันซะแล้วเข้าไปที่ด่านด้านในจะพบรถตู้จอดขวางทางเข้าอยู่ กด Y ใช้ Time Vision ย้อนเวลาให้รถตู้ถอยหลังออกมาแล้วรีบขึ้นไปบนหลังคาแล้วโดดมาบนรถจะโดดข้ามรั้วกันมาอีกฝั่งได้
-เข้ามาตามทางจนถึงหน้าตึกที่ใช้จัดงานเลี้ยงที่ทั้งงานอยู่ในสภาวะ Zero State ตรงทางเข้าจะพบจุดดูภาพอดีตตรงรถกด Y ใช้ Time Vision ย้อนเวลาดูจะได้ยินทหารคุยกันเรื่องแผนที่ Martin มอบหมายงานลับให้เข้าสร้างสถานการณ์การลอบยิง martin ในงานเลี้ยง จากนั้นเข้าด้านในต่อไปที่เป้าหมายจะพบ Beth อยู่ในสภาพค้างในเวลาอยู่ Jack จะดึงตัวเธอออกมาจากสภาวะ Zero State แล้วเอาเครื่อง Chronon Harnesses ให้เธอใส่ก็จะต่อต้านอณุภาค Chronon ทำให้เคลื่อนไหวในสภาวะ Zero State ได้อย่างอิสระ



-จากนั้นตาม Beth เข้าไปด้านในเพื่อตามหา Dr. Sofia ต่อจนไปพบเธอที่ห้องด้านในซึ่งเธอกำลังตกอยู่ในอันตรายเพราะถูกโดรนที่ Martin สั่งให้พวกทหารมาจัดการฆ่าเธอ Jack ดึงเธอออกมาจากสภาวะ Zero State แล้วอธิบายเรื่องทั้งหมดเพื่อขอความช่วยเหลือ จน Monarch Security มากมายบุกเข้ามา Jack จึงให้ Beth พาตัว Dr. Sofia ไปที่เรือเพื่อหนีออกจากที่นี่
-ลุยจัดการ Monarch Security ที่บุกเข้ามาให้หมดแล้วเข้าไปเปิดสวิตซ์ประตูน้ำในห้องควบคุมเพื่อให้ Beth พาตัว Dr. Sofia หนีไปทางเรือได้สำเร็จ จากนั้น Jack ก็ต้องลุยพวก Monarch Security ที่บุกเข้ามามากมายทั้ง สไนเปอร์ ปืนกลอัตโนมัติและ Juggernaut จัดการให้หมดแล้วเข้าไปที่จุดเป้าหมายที่ประตูทางออก สำรวจเอากุญแจรถในที่เก็บแล้ว Jack ก็จะหนีออกจากที่นี่อย่างปลอดภัยโดยมีเป้าหมายคือกลับไปที่ Bradbury Swimming Pool ....
   




                                                               JUNCTION 3

                                                      Sofia Amaral / Martin Hatch 


10 ตุลาคม 2016 - 05.04 น. , The CFR Chamber - 25 ชั่วโมงหลังจากเกิดการแตกร้าวของเวลา 



Paul Serene – สิ่งนี้ มันกำลังเติบโตในตัวผม ผมสู้กับมันอย่างหนักมา 6 ปีเต็มๆ โชคดีที่มี Dr. Sofia ที่กำลังศึกษาถึงเรื่องการรักษา Chronon Syndrome อย่างจริงจัง และน่าจะเป็นคนเดียวด้วยซ้ำที่สนใจที่จะทำการรักอาการของผม และตอนนี้ Jack ก็ดันมาชิงตัวเธอไปจากผม
 Martin Hatch – Paul ? 
Paul Serene – คุณปล่อยให้เกิดเรื่องนี้ได้ไง Martin คุณปล่อยให้พวกมันจับเธอไปได้ไง !! 
Martin Hatch – Paul ผมรู้ว่าคุณพูดแบบนี้เพราะกำลังป่วย แต่ผมอยู่ข้างเดียวกับคุณนะ 
Paul Serene – พวกมันเอาเธอไป ถ้าไม่มีเธอก็ไม่มีโอกาสรักษาแล้ว 
Martin Hatch – เราจะทำทุกอย่างเท่าที่ทำได้เพื่อช่วยเธอ แต่เราจะเอากองกำลัง Monarch Security มาทุ่มเพื่อคุณคนเดียวไม่ได้ เรายังมี Jack Joyce ที่เป็นปัญหาใหญ่ที่ต้องจัดการด้วย และอีกอย่างคุณมั่นใจยังไงว่า Dr. Sofia ที่ไปกับพวก Jack เธอไม่ได้ทำไปเพราะทรยศ ตอนนี้ทหารของเราเจอ แลปท็อปของ Dr. Sofia ที่เธอทิ้งไว้ คุณลองไปตรวจสอบดูก็ได้เผื่อจะพบเบาะแสอะไรบ้าง  
Paul Serene – ผมต้องการดูตัวเลขที่ Dr. Sofia เธอคำนวณไว้ ถ้าความคิดเธอถูก การแตกร้าวของเวลามันจะขยายตัวอย่างรวดเร็วจนเราไม่ได้ทันได้ใช้ประโยชน์อะไรจากมันได้เลย 



Martin Hatch – คุณเห็นอนาคตได้แต่ Dr. Sofia ไม่ แต่โครงการ Lifeboat ที่เตรียมไว้น่าจะพอทำงานได้ แต่เธอกลับอ้างว่ามันจะเกิดกัมมันตรังสี เธอพยายามทำให้คุณเขว้และคิดว่าสิ่งที่คุณจะทำมันผิด ทำไมนะหรอ เพราะเธอจะให้คุณเชื่อแบบนั้นจนตัดสินใจผิดๆออกมาสุดท้ายผู้คนก็ต่อต้านคุณ เพราะเธอก็เป็นหนึ่งในพวกมันไง 
Paul Serene – เธอไม่มีวันทำแบบนั้นหรอก !!
Martin Hatch – คุณกล้าพนันแบบหมดหน้าตักเลยหรอ ผมขอร้องนะ อย่าเอาความสัมพันธ์ของคุณกับเธอมันตัดสินเรื่องนี้ ปล่อยให้ผมจัดการทุกอย่างเองเถอะ ผมจะเคลียร์ให้จบเรื่องก่อนที่เราจะทำให้เป้าหมายที่ตั้งไว้หลุดมือไป คุณจะตัดสินใจยังไง ?


สิ่งที่ Serene คิดตอนนี้คือ ต้องมีใครคนใดคนนึงระหว่าง Dr. Sofia Amaral และ Martin Hatch ที่กำลังทรยศและคิดจะเล่นงานเขาด้านหลัง ซึ่ง Serene จำเป็นต้องเลือกที่จะเชื่อใจคนใดคนนึงเพื่อให้แผนของเขาดำเนินต่อไปได้  




                                                   Sofia Amaral

แน่นอนว่าสายสัมพันธ์และความเชื่อใจของ Serene ที่มีต่อ Dr. Sofia นั้นมีมากมายจากที่ Dr. Sofia พยายามช่วยเยียวยารักษาอาการของเขามาตลอด และในทางเดียวกัน Serene ก็ไม่เคยไว้ใจ Martin Hatch อยู่แล้วเขาจึงให้ Pierce ที่เป็น Security เคยเป็นหูเป็นตาเกี่ยวกับการเคลื่อนไหวของ Martin อยู่ตลอด และคิดว่า Dr. Sofia เธอยังคงซื่อสัตย์และไม่มีวันทรยศซึ่ง Serene ได้เห็นแล้วแม้เธอจะโดนพวก Jack จับตัวไป ตัว Jack เองก็ไม่ไว้ใจตัว Dr. Sofia เพราะมั่นใจว่าเธอเป็นคนขโมยเครื่อง Countermeasure ที่เป็นผลงานของ WILL ไป ท้ายที่สุด Serene ก็สั่งให้จับกุมตัว Martin Hatch ข้อหาเป็นคนทรยศ 


                                                      Martin Hatch 

ถ้าเลือกที่จะเชื่อใจ Martin Hatch แล้ว Serene จะตัดสินจากการที่เขาเห็นภาพอนาคตที่ Dr. Sofia ไปซ่อมแซมเครื่อง Time Machine ให้พวก Jack และ Martin ก็จะได้ทีปั่นหัว Serene ว่าที่ Dr. Sofia มาช่วยรักษาเพราะแค่หวังจะเข้ามาใกล้ชิดเพื่อขโมยข้อมูลจากวงในได้ และถ้า Dr. Sofia เป็นพวกของ jack แล้วนิ่งเฉยเธอก็จะนำจุดอ่อนของ Serene ไปบอกให้พวก Jack รู้จน Serene ต้องหมดทางสู้ในที่สุด ถ้าเลือกทางนี้ Martin ก็จะจัดการไปจับตัว Dr. Sofia มาขังในฐานะคนทรยศ 


ซึ่งทางเลือกของทั้ง 2 ทางนั้นจะส่งผลกระทบต่อการเดินเรื่องนิดหน่อย โดยสามารถดูคลิป Live Action ฉบับคนแสดงจริงได้ที่นี่

QUANTUM BREAK EPISODE 3 : Deception ( Amaral VERSION)
https://www.youtube.com/watch?v=YrPrmElvveE
QUANTUM BREAK EPISODE 3: Deception (Hatch VERSION)
https://www.youtube.com/watch?v=vwDFwfjMlbw




                                 ** ทางที่บทสรุปนี้เลือกไว้คือ Sofia Amaral **

Serene ตัดสินใจที่จะเชื่อใจ Dr. Sofia เหมือนอย่างทุกครั้ง ก่อนที่เขาจะบอกกับ Martin Hatch เขาจะทำการตรวจสอบตัวเลขการคำนวณผลกระทบของอณุภาค Chronon ที่กำลังขยายอณาเขตการแตกร้าวของเวลาอย่างรวดเร็ว เพื่อเตรียมรับมือด้วย Lifeboat Protocol ที่ Dr. Sofia ได้เตรียมไว้ ซึ่ง Serene จะดำเนินการด้วยตัวเองโดยไม่ให้ Martin มาเกี่ยวของด้วย ก่อนจะสั่ง Pierce ที่เป็น Security เคยเป็นหูเป็นตาเกี่ยวกับการเคลื่อนไหวของ Martin ให้ดีและส่งข่าวถึงเขาอย่างต่อเนื่อง ก่อนที่ทหารจะมารายงานถึงผลของการระบุตัวตนจากกล้องวงจรปิดเพื่อตามเส้นทางการหนีของ Jack Joyce ซึ่งทำให้เห็นภาพ Beth Wilder เจ้าหน้าที่ของ Monarch Security เป็นคนช่วยเหลือ Jack มาตลอด และสำหรับ Serene นั้นรู้จักชื่อนี้ดีเพราะเขาเคยเจอเธอมาแล้วเมื่อตอนที่ย้อนอดีตไปเพื่อพยายามจะแก้ไขความผิดพลาดหลังการระเบิด และเธอก็ฝังตัวอยู่ที่ Monarch มาตลอดโดย Serene ไม่เคยรู้ตัว และเธอนั่นเองที่เป็นคนทรยศที่ Serene กำลังตามหาและเขามันใจว่า คนทรยศ ไม่ได้มีแค่คนเดียว


9 ตุลาคม 2016 - 21.29 น. , Gull Island -17 ชั่วโมงหลังจากเกิดการแตกร้าวของเวลา ….




 Charlie หลังจากหนีมาจาก Liam และ Fiona ได้รีบเข้าไปพบ Martin Hatch เพื่อรายงายเรื่องที่เกิดขึ้น ซึ่ง Martin นั้นต้องการรู้ว่า Liam ต้องการหาอะไรกันแน่ Charlie จึงบอกไปว่าพวกนั้นกำลังค้นหา Lifeboat Protocol ซึ่งเขาเองก็ไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามันคืออะไร จน Martin ต้องอธิบายไปว่า Lifeboat Protocol ก็คือ สถานที่หลบภัยยามเกิดเหตุฉุกเฉินของการแตกสลายของเวลาโดยสามารถเข้าได้เฉพาะเจ้าหน้าที่ที่มีรายชื่อเท่านั้น ก่อนที่ Martin จะพยายามอธิบายและเกลี้ยงกล่อมให้ Charlie สบายใจเรื่องเขาเองก็อยู่ในรายชื่อและแผนการยึดครองเสียงสนับสนุนมากจาก Paul Serene เพื่อเดินหน้าบริษัทต่อด้วยตัวเอง Martin ได้บอกต่อว่าตอนนี้เขากำลังมีแผนที่จะปิดพื้นที่บนเกาะทั้งหมดโดยจะบอกทางลับให้ Charlie เดินทางออกจากเกาะทางอุโมงค์ฝั่งตะวันตกเพื่อลอดใต้อ่าวไปยัง Mainland ได้ และทันทีที่ Charlie ออกไปแล้ว Martin ก็บอกให้เจ้าหน้าที่ไปที่ Perimeter Lab แล้วเริ่มเดินหน้าแผนต่อไปทันที

9 ตุลาคม 2016 - 21.52 น. , Monarch HQ -17 ชั่วโมงหลังจากเกิดการแตกร้าวของเวลา …. ในขณะที่ทาง Paul Serene กับพวกนักวิจัยที่ตึกสำนักงานใหญ่ก็กำลังมีปัญหาเกี่ยวกับความไม่ลงเสถียรของคลื่นความที่จากตัวเลขที่ Dr. Sofia คำนาณเอาไว้ ทำให้พวกนักวิจัยไม่สามารถดำเนินตามแผนได้ถ้าไม่มีตัว Dr. Sofia มายืนยันด้วยตัวเอง ก่อนที่สนามพลัง Joyce Field จะสลายตัวเองภายใน 8 ชั่วโมงจากนี้ ยังไม่ทันพูดจบตึกทั้งตึกก็ตกอยู่สภาวะ Zero State ทำให้หยุดนิ่งไปหมดทันที

9 ตุลาคม 2016 - 21.58 น. , Tunnel to Mainland  -17 ชั่วโมงหลังจากเกิดการแตกร้าวของเวลา ….  ทางด้าน Charlie ในขณะกำลังหนีไปที่อุโมงค์ทางตะวันตกก่อนเกาะถูกปิด ระหว่างทางเขาก็จะได้เจอ Liam และ Fiona อีกครั้ง Charlie พยายามอธิบายถึงความหมายของ Lifeboat Protocol ให้ทั้งคู่ฟังก่อนยื่นข้อเสนอว่าจะพาไปที่นั่นและให้สิทธิในการลงชื่อด้วย ในขณะที่ Charlie ได้เปิดโทรศัพท์ติดต่อไปยัง Martin ฟังการสนทนาด้วย แต่ตอนนี้ Liam ไม่สนอะไรนอกจากความปลอดภัยของภรรยาเขาที่อยู่ที่บ้าน ก่อนทั้ง 3 คนจะเดินทางต่อไปพร้อมกันอีกครั้ง

9 ตุลาคม 2016 - 20.02 น. , Dr. Kim Lab -17 ชั่วโมงหลังจากเกิดการแตกร้าวของเวลา ….  Martin Hatch เข้ามาที่ห้องแลปก่อนจะสั่งให้ Monarch Security วางระเบิดไว้จนทั่วห้อง Martin แวะไปนั่งพูดกับ Dr. Kim ที่กลายเป็นร่างแห่งเวลาที่ถูกขังอยู่ในแคปซูลว่า จะช่วยปลดปล่อย Dr. Kim ให้เป็นอิสระ ก่อนจะเดินออกมาจากห้องแล้วกดระเบิดห้องทดลองเป็นจุลไปพร้อมกับ Monarch Security ที่ยังอยู่ข้างใน



ทางด้าน Charlie , Liam และ Fiona ในขณะเดินทางผ่านอุโมงค์ใต้อ่างก็เกิดสภาวะ Zero State ขึ้นทำให้ Liam และ Fiona หยุดนิ่งแต่ Charlie ไม่เป็นอะไรเพราะใส่ Chronon Harnesses เอาไว้ โชคดีที่เวลากลับมาเป็นปกติก่อนที่ Charlie จะลงมือทำอะไรลงไป แต่สิ่งที่แย่กว่ากำลังจะเกิดเมื่ออุโมงค์เกิดรอยร้าวเพราะแรงสั่นสะเทือนจนน้ำทะลักเข้ามาทำให้ทั้ง 3 ต้องหนีตายออกมาจากอุโมงค์ แต่ในขณะที่ทุกคนคิดว่ารอดตาย เจ้าหน้าที่ Monarch Security ที่อยู่ที่นี่ก็ยิงเข้าที่ไหล่ของ Liam จนล้มไป Charlie จึงรีบบอกอย่างไวว่าเข้าทำงานให้ Martin แล้วอ้างว่า Fiona เป็นนักวิทยาศาสตร์คนสำคัญ ทั้งคู่จึงถูกปล่อยตัวออกไป  ทันทีที่ไปถึงรถที่จอดด้านนอก Fiona ซัด Charlie เต็มๆหนึ่งหมัดฐานะทรยศจนทำให้ Liam ถูกยิงตายก่อนขับรถแยกไปพร้อมคำส่งท้ายให้ Charlie ว่า FUCK YOU !!
ในขณะที่ Monarch Security ที่ยิง Liam กำลังคุยโวว่าเขาจะฆ่าเมีย Liam ต่อยังไง มีดก็ปาดเข้าที่คอมันด้วยมือ Liam ด้วยความฉับไวก่อนเอาปืนมายิงซ้ำแล้วเดินจากไปอย่างไม่ใยดี

 9 ตุลาคม 2016 - 23.16 น. , Monarch HQ -18 ชั่วโมงหลังจากเกิดการแตกร้าวของเวลา …. Martin เข้าไปอ้างกับ Serene ว่า Monarch Security ทั้งหมดที่ไปที่ Lab โดนระเบิดที่พวก Jack วางไว้จนตายหมดรวมทั้งอุปกรณ์การรักษาของ Serene ที่ Dr. Sofia เก็บไว้ที่นั่นด้วย ทำให้ Serene โมโหอย่างมากเพราะถ้าไม่มีอุปกรณ์การรักษานั่นเขาก็เหมือนกับคนที่ตายไปแล้ว Serene ฉุนขาดแล้วโทษว่าทั้งหมดเป็นเพราะ Martin ทำให้เกิดขึ้น ก่อนที่ Martin จะแสดงหลักฐานการเข้าออกห้องทดลองของ Dr.Kim ว่าคนสุดท้ายที่เพิ่งเข้ามาที่นี่เมื่อไม่กี่นาทีก่อนการระเบิดก็คือ Dr. Sofia นั่นเอง ถึงแม้จะด้วยลูกยุขนาดนี้ Serene ก็ไม่วันเชื่อว่า Dr. Sofia จะทรยศเขาแน่นอน Serene ไม่เชื่อคำยุยงอย่างที่ Martin ตั้งใจ ก่อนที่ Serene จะเข้าไปเปิดการทำงานของระบบ Lifeboat Protocol ทันที เมื่อ
Lifeboat Protocol เริ่มต้นขึ้นทาง Monarch Solutions ก็เริ่มทำการอพยพเจ้าหน้าที่ที่มีรายชื่อไปยังสถานที่หลบภัยทันที


 9 ตุลาคม 2016 - 23.59 น. , Riverport Hospital -18 ชั่วโมงหลังจากเกิดการแตกร้าวของเวลา …. ท่ามกลางเมืองที่สัญญาณไซเรนดังระงมไปทั่ว Liam รีบเดินทางไปที่โรงพยาบาลเพื่อพา Emily ภรรยาของเขาหนีออกจากที่นี่ ด้วยสภาพที่ดูไม่น่าไว้วางใจของ Liam ทำให้ Security ไม่ยอมให้ Emily ไปจึงเกิดการต่อสู้ขึ้นทำให้ Liam จำเป็นต้องฆ่า Security ต่อหน้าต่อตา Emily จนทำให้เธอหวาดกลัวในสิ่งที่เธอไม่เคยเห็นที่สามีเธอปิดบังไว้ตลอดหลายปี ก่อนที่ Liam จะตามไปอธิบายด้วยความห่วงใยจน Emily เข้าใจ เรื่องจึงจบลงได้ด้วยดี


ทางด้าน Paul Serene ที่ตึกสำนักงานใหญ่ของ Monarch กำลังคิดไม่ตกกับเรื่องที่ Dr. Sofia ที่เขารักอาจเป็นคนทรยศก่อเหตุวางระเบิดที่ห้อง Lab จนเขาเริ่มไม่แน่ใจกับอนาคตที่เขาเห็นและสิ่งที่ตัดสินใจลงไป แต่ทันทีที่เสียงโทรศัพท์จาก Monarch Security ที่เขาสั่งให้ตามสังเกตการณ์ Martin ส่งข่าวมาจากห้อง Lab ที่ถูกระเบิดว่าตรวจสอบแล้วว่าเป็นฝีมือ Martin Hatch เสียงถอนหายใจเพราะโล่งใจจึงดังออกมาก่อน Serene จะสั่งให้ Security เข้าจับกุม Martin อย่างเร็วที่สุดทันที .




                                                     ACT 4

                                 The Secret History of Time Travel

                         
                                      Part 1: Port Donnelly Bridge


9 ตุลาคม 2016 - 22.14 น. , Port Donnelly Bridge -18 ชั่วโมงหลังจากเกิดการแตกร้าวของเวลา

-Jack ขับรถเดินทางมาที่เขตเมืองโดยมีเป้าหมายที่ Bradbury Swimming Pool แต่ระหว่างทางต้องเจอกับ Monarch Security ที่ตั้งด่านเพื่อสะกัดจับทั้งการตั้งด่านบนถนนและ ฮ. ที่บินตรวจการณ์บนฟ้า ทำให้ Jack ต้องทิ้งรถแล้วใช้การเดินทางเพื่อลอบผ่านสะพาน Donnelly Bridge ไปให้ได้ จากซอยข้างถนนเข้าไปตามทางจนถึงห้องที่ชั้นบนของตึก เมื่อ Jack มองไปที่หน้าต่างจะพบว่า มี
Security เฝ้าสะพาน Donnelly Bridge อยู่มากเกินที่จะผ่านไปได้แน่ เขาจึงคิดเปลี่ยนแผนที่จะไปใช้เรือเล็กขับอ้อมสะพานไปทางน้ำแทน


-เข้าไปตามทางลุยศัตรูที่ตีนสะพานจนปีนขึ้นไปถึงกลางสะพานจัดการพวก Monarch Security ที่ออกมาพร้อม Juggernaut เกราะหนักให้หมด แล้วปีนต่อขึ้นไปยังด้านบนสุดของสะพาน แต่จู่ๆเรือสินค้าก็เข้ามาชนสะพานพร้อมกับเกิดสภาวะ Zero State จนทำให้เศษซากของสะพานที่กำลังกระกระจายไปบนภาวะยอกย้อนของเวลากลายเป็นอุปสรรคในการเดินทางทีทำให้ตายได้ง่ายๆ พยายามดูทางที่ต้องโดดเกาะดีๆและใช้ Time Rash ผ่านตรงเศษซากที่ขยับไปมาอย่างรวดเร็วก็จะปลอดภัย



                                        Part 2 - Preparing the Time Machine

9 ตุลาคม 2016 2.16 น. , Bradbury Swimming Pool – 22 ชั่วโมงหลังจากเกิดการแตกร้าวของเวลา 





Dr. Sofia Amaral – พวกคุณไม่เข้าใจ เทคโนโลยีที่คุณจะให้ชั้นซ่อมเนี้ยมันต้องใช้ความรู้เกิดกว่าของ Monarch แล้ว และแผนการต่างๆเราก็เตรียมพร้อมไว้หมดแล้วเพราะเรารู้ว่าอะไรกำลังจะเกิดขึ้นต่อไป  
Beth Wilder – เดี๋ยวนะ คุณบอกคุณเตรียมพร้อมไว้แล้ว แต่คุณไม่มีอะไหล่สำรองสำหรับซ่อมเครื่องมือที่คุณจะใช้แก้ปัญหาเนี้ยนะ 
Dr. Sofia – ถึงแม้ชั้นจะซ่อมเครื่อง Time Machine ของ WILL ได้แล้วคุณรู้ได้ไงว่ามันยังจะใช้งานได้อีก  การสิ้นสุดของเวลามันกำลังจะมาถึงแล้ว มันไม่มีทางที่จะ ...
Jack – เฮ้ย ! นี่ไม่ใช่การต่อรองนะ ชั้นเพิ่งผ่านได้เรือบ้าที่ขับมาชนสะพานพังในขณะที่เวลามันหมุนวนมั่วไปหมดนะเว้ย เวลามันใกล้จะหมดแล้วนะ
Dr. Sofia – ก็ถึงบอกว่าเราหยุดมันไม่ได้ไง Paul เคยเห็นมันมาแล้ว เขาเป็นพยานที่รับรู้การจบสิ้นของเวลาคนแรกเลย คุณเข้าใจมั๊ยที่บอกว่า เราเตรียมพร้อมไว้หมดแล้วเพราะรู้ว่าอะไรกำลังจะเกิดขึ้น 
Beth – งานวิจัยของคุณมีรากฐานมาจากงานของ Dr. William แล้วคุณก็นับถือเขามากด้วย เขารู้ว่าการแตกสลายของเวลากำลังจะเกิดขึ้น และเขาก็ต้องทำให้เครื่องเขาสำหรับแก้ไขทุกอย่างไง WILL พยายามจะหยุดการแตกสลายของเวลา แผนเราคือ ซ่อมเครื่อง Time Machine แล้วย้อนเวลาไปในอดีตจากนั้นก็ขโมยเครื่อง Countermeasure ที่ WILL กำลังเพิ่งสร้างเสร็จมาซะ การระเบิดก็จะไม่เกิดขึ้น และคุณต้องช่วยเราซ่อมเครื่องนั้น อย่างเร็วเลย โอเค๊ 
Dr. Sofia – ก็ได้ชั้นจะลองดู แต่บอกซะก่อนนะว่าชั้นไม่สัญญาว่ามันจะใช้งานได้หรือเปล่า 
Jack – Amy คุมตัวเธอไปที่เครื่องแล้วจับตาดูเธอให้ดีด้วย ฟังนะ Beth นี่เราต้องย้อนอดีตกันจริงๆหรอ ?
Beth – นายจำได้มั๊ย ใน VDO ที่เขาฝากให้ชั้นดูนะ เขาบอกชัดเลยว่า เครื่อง Countermeasure ของเขาถูกขโมยไปวันที่ 4 กรกฎาคม 2010 และเขาก็ย้ำแล้วนะว่าคนที่ไปขโมยมาก็คือชั้นเอง ก็แปลว่าที่เรากำลังจะย้อนอดีตกันก็เพื่อจะไปในวันนั้นนั่นแหละ เราย้อนอดีตไปขโมย Countermeasure มาซ่อมเครื่องในปัจจุบันแล้วจากนั้นก็เดินเครื่องหยุดการล่มสลายของเวลาก็ช่วยโลกไว้ได้แล้ว จบ  



-จากนั้นสำรวจห้องให้ทั่วๆอีกครั้งแล้วเข้าไปด้านในห้องเก็บ Time Machine เข้าไปคุยกับ Dr. Sofia เธอจะตั้งเครื่องได้สำเร็จ และเธอจะให้ Jack ไปทำการรีบู๊ทเครื่องด้วยการเข้าไปกดสวิตซ์ที่เครื่องควบคุมหน้าเครื่องแล้วจะพบว่ายังมีไฟแดงขึ้นมา 2 อันและไฟเขียว 1 อัน Dr. Sofia จะบอกให้ขึ้นไปกดสวิตซ์ที่อุปกรณ์ Relay ด้านบนเพื่อรีเซ็ทมัน 2 จุดให้เป็นสีเขียวให้หมด จากเครื่องควบคุมปีนขึ้นไปที่แกนเหล็กด้านบนจะเข้าไปกดสวิตซ์ Relay ตัวแรกให้เขียวได้ ส่วน Relay ตัวที่ 2 นั้นอยู่บนแกนเหล็กฝั่งตรงข้ามซึ่งไปจากตรงนี้ไม่ถึง



-กดอันแรกแล้วลงมาด้านล่างก่อนเข้าไปหา Beth ที่ยืนรอในห้องชั้นล่างด้านขวาสำรวจให้ทั่วๆจะเจอห้องของ WILL ที่เคยอยู่ที่นี่ มันเต็มไปด้วยรูประหว่าง WILL กับ JACK และของใช้เก่าๆมากมายจนทำให้ Jack เริ่มคิดถึงน้องชายขึ้นมาทันที

ข้าไปด้านในต่อจะเจอห้องที่มีรูปวาดที่พนังเป็นรูปของ Beth ที่กำลังมอบหนังสือเล่มนึงให้กับเด็กน้อยผมสีแดงที่หน้าตาเหมือน Beth แต่เหมือนว่า Beth จะจำไม่ได้ว่าเธอเคยมาอยู่ที่นี่ด้วยตอนไหน Jack มันใจว่าผู้หญิงในรูปนั้นคือ Beth แน่นอนแต่เด็กผู้หญิงผมแดงนั้นเป็นใคร จนทำให้ Beth ต้องยอมเล่าเรื่องในอดีตให้ฟังว่า ในปี 1999 ตอนเธอ 8 ขวบกำลังเล่นอยู่หลังบ้านก็มีผู้หญิงผมสีแดงเหมือนเธอมามอบสมุดไว้ให้เล่มนึงแล้วบอกว่าเธอมาจากอนาคต




" สมุดเล่มนี้ชั้นเก็บไว้ตลอดมันเขียน แผนการ วันเวลาที่จะเกิดเหตุการณ์ต่างๆในอนาคตไว้จนหมด" ฺBeth บอกกับ Jack ทำให้เขาเริ่มรู้ทันทีว่าเด็กน้อยในภาพนั้นคือ Beth และตัว Beth เองก็เพิ่งเข้าใจในตอนนี้แล้วว่า ตัวเธอเองย้อนอดีตไปบอกทุกอย่างเกี่ยวกับสิ่งเลวร้ายที่จะเกิดในอนาคตกับตัวเธอเองในตอนเด็กเพื่อให้เตรียมตัวแก้ไขทุกอย่าง แต่ ถึงตอนนี้ Beth กลับรู้สึกว่ามันก็ยังคงไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงเลย อดีตที่วางแผนไว้จนมาถึงตอนนี้ ทุกการสูญเสียที่เกิดขึ้นรอบๆตัว อดีตทั้งหมดมันไม่ได้ส่งผลให้มีอะไรเปลี่ยนแปลงปัจจุบันในตอนนี้เลย บางทีการที่เราต้องเข้าไปใน Time Machine เพื่อย้อนอดีตไปอีกครั้งมันอาจเป็นชะตากรรมที่ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงเลยก็ได้ แต่ Jack ก็อยากเห็นทุกอย่างด้วยตาตัวเองและต้องลองพยายามทำบ้างอย่างดู บางทีเขาอาจจะเปลี่ยนแปลงอะไรบ้างก็ได้

-จากนั้นเดินทะลุห้องนี้ไปอีกด้านตาม Beth เข้าไปในห้องอาบน้ำด้านในตรงข้ามประตูทางออกไปห้องโถง ที่นี่จะมีที่ปีนขึ้นไปบนตู้ไปทะลุกำแพงด้านบนจนออกไปที่ระเบียงชั้นบนได้ จะมีทางโดดเกาะปีนต่อเนื่องขึ้นไปที่ตัว Relay บนแกนหล็กด้านบนได้ กดสวิตซ์ให้เป็นไฟเขียวแล้วกลับไปที่เครื่องควบคุมตรงที่ Dr. Sofia

อยู่ Jack จะตั้งวันเวลาในการย้อนอดีตไปที่วันที่ 4 กรกฎาคม 2010 เพื่อไปขโมยเครื่อง Countermeasure ที่ Will เพิ่งสร้างเสร็จแล้วเอากลับมาใช้ทำให้ Time Machine ในยุคปัจจุบันสามารถหลุดการแตกร้าวของเวลาได้ แต่พอ Beth เข้าเครื่อง Time Machine ไป Dr. Sofia ก็เข้าไปตั้งวันเวลาเครื่องใหม่ทันที 



Jack – เกิดอะไรขึ้น แกปิดประตูทำไม ! แกตั้งเวลาเครื่องใหม่หรอ ? ส่งเธอไปที่ไหน แกส่งเธอไปที่ไหน 
Dr. Sofia – ชั้นยอมให้พวกคุณไปเอาเครื่อง Countermeasure มาไม่ได้ เราต้องการมันเพื่อใช้กับโครงการ Lifeboat Protocol 
Jack – ผมจะเข้าเครื่องTime Machine ตามเธอไป จะคงตามแผนเดิมจะพาเธอกลับมาเอง Amy คุณหนีไปให้ไกลจากที่นี่ที่สุดได้เลย 



                                    Part 3 - Bradbury Swimming Pool 2010


4 กรกฎาคม 2010 , 18.02 น. , Bradbury Swimming Pool – 6 เดือนก่อนเกิดการแตกร้าวของเวลา 

เมื่อมาถึงแล้ว สำรวจให้ทั่วๆ แล้วเข้าไปจนถึงห้องด้านในสุด ที่นี่ก็คือ Bradbury Swimming Pool ในอดีตปี 2010 ตามแผนเดิม Jack กับ Beth จะย้อนเวลามาที่นี่เพื่อไปที่โกดังร้างที่เป็นห้องทำงานของ WILL แถวท่าเรือ Dry Port เพื่อขโมย เครื่อง Countermeasure แต่ตอนนี้ Jack เพิ่งเดินทางมาหลังจากที่ Beth ถูกส่งล่วงหน้ามาก่อนหน้านี้แล้ว เมื่อเข้ามาจนถึงห้องด้านในจะพบ Beth กำลังซ้อมยิงปืนอยู่ในสภาพที่ไม่เหมือนเดิม ทันทีที่ Beth หันมาเห็น Jack เดินเข้ามา อาการที่เธอแสดงออกมาคือสับสนเหนื่อยหน่ายและดีใจไปพร้อมๆกัน ซึ่ง Jack เองแปลกใจที่เห็น Beth ดูเหนื่อยล้ากว่าที่เคยเป็น แถมเธอยังดูไม่เป็นมิตรเหมือนกับที่ผ่านมาด้วย แต่ท้ายที่สุดเธอก็ยอมเล่าเรื่องทั้งหมดให้ Jack ฟัง 



Beth – วันนั้น Dr. Sofia ส่งชั้นไปในอนาคต ชั้นสู้มาตลอด 1 เดือนกว่าจะหาทางกลับมาเวลาเดิมคือปี 2010ได้ แต่ไม่ใช่ชั้นคนเดียวที่มา Paul Serene มันก็ย้อนเวลามันเพื่อจะแก้ไขทุกอย่างในวันที่เกิดการระเบิดด้วย มันมาขัดขวางชั้นไม่ให้ขโมย Countermeasure ของ Will ก่อนที่มันจะใช้เครื่องTime Machine ของ Will หนีไป ชั้นตามมันต่อมาที่ปี 1999 วันที่การทดลองเพิ่งเริ่มต้นขึ้น Paul หวังจะมาฆ่า Will เพื่อไม่ให้การทดลองเริ่มต้นขึ้น แต่ชั้นก็มาขัดขวางมันไว้ได้ จนสุดท้ายชั้นก็ได้พบกับ Will และได้บอกเรื่องราวทั้งหมดที่จะเกดในอนาคตให้เขารู้เพื่อเตรียมการรับมือ    



Jack – คุณเป็นคนบอกเหตุผลเพื่อให้ WILL สร้าง Countermeasure เพื่อไว้แก้ไขเรื่องที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ใช่มั๊ย แล้วทำไมคุณถึงยังรออยู่ที่นี่ตั้งแต่ปี 1999 จนถึง 2010 ถึง 11 ปีเต็ม ทำไมคุณไม่หาทางกลับไปเวลาเดิมละ ทำไม ?
Beth – เราต้องเตรียมตัวเดินทางกันได้แล้ว เหลือเวลาอีกไม่มาก 

หลังคุยจบ Jack ก็ยังไม่ได้คำตอบจาก Beth ว่าทำไมเธอถึงไม่กลับไปเวลาเดิมแต่กลับรออยู่ที่นี่ถึง 11 ปี แต่ Jack รู้ดีจากดูตาและร่องรอยของภาพในอดีตของเธอว่า เธอกำลังหมดหวังกับสิ่งที่เธอต้องเจอซ้ำไปซ้ำมาไม่จบสิ้น ตาม Beth เข้าไปในตึกจนถึงห้องทำงานชั้นบนจะมีอาวุธให้เก็บมาติดตัวและรอบๆตัวจะพบว่า Beth เตรียมแผนเพื่อวันนี้มาถึง 11 ปีด้วยความรัดกุมอย่างมาก ซึ่งแผนที่วางไว้ก็คือ เดินทางไปยังโกดังที่เป็นที่ทำงานของ WILL ในการสร้างเครื่อง Countermeasure ที่อยู่ใกล้ๆท่าเรือ Dry Port แล้วนำมันกลับมาที่นี่ แล้วใช้เครื่อง Time Machine ไปในอนาคตแล้วใช้ Countermeasure หยุดการแตกดับของเวลา .. แผนมันจะเป็นแบบนี้เสมอนั่นแหละ เมื่อเตรียมทุกอย่างพร้อมแล้วก็ไปคุยกับ Beth ที่โต๊ะได้เลย



Jack – ผมนึกไม่ออกเลยว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับคุณบ้างตั้งแต่ตอนที่คุณเข้าเครื่องTime Machine ไป ผมก็พยายามตามคุณไปทันที แต่ .. ผมไม่รู้ว่า Dr. Sofia ส่งคุณไปที่ไหน ผมเลยตามไปช่วยคุณไม่ได้เลย
Beth – คุณมาที่นี่จนได้เท่านี้ก็ดีพอแล้ว ทำตามแผนเดิมที่เคยวางไว้นั่นแหละ 
Jack – ไม่ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับคุณ เราจะช่วยกันเปลี่ยนแปลงมันนะ เราแก้ไขมันได้
Beth – อย่า ... อย่า !! ก็พูดแบบนี้กันมาตลอดนั่นแหละ ยังไงมันก็ไม่มีวันเปลี่ยนแปลงหรอก !! ไม่ว่าเราจะทำยังไงมันก็จะวนกลับมาที่เดิมซ้ำแล้วซ้ำเล่าเหมือนเดิม ชั้นเหนื่อยที่ต้องทำวนเวียนอยู่แบบนี้ไม่จบสิ้น 
Jack – ชั้นนั่งเฉยๆโดยไม่ทำอะไรไม่ได้ !
Beth – นายต้องปล่อยมันไป jack ปล่อยมันไป ..ชั้นเห็นมาแล้ว จุดจบของเวลา .... นั่นแหละ อนาคตที่ Dr. Sofia ส่งชั้นไป ที่ที่ชั้นต้องสู้ซ้ำไปซ้ำมาแล้วก็ต้องมารอดูผลเวลาพวกเราล้มเหลว ชั้นเห็นหมดแล้วว่าจุดจบมันจะเป็นยังไง จนชั้นไม่รู้อะไรอีกแล้วว่าถ้าเราชนะไอ้สิ่งนี้ได้แล้วมันจะเป็นยังไง ... 
Jack – งั้นเราลองไปตายเอาดาบหน้ากันอีกรอบด้วยกัน 





                                              Part 4 – Will’s Workshop 2010


-เดินตาม Beth ไปตามทางในเมือง ในปี 2010 นี้ทาง Monarch ยังไม่เข้ายึดพื้นที่จึงไม่มีศัตรูระหว่างทาง เมื่อเข้าไปจนถึงโกดังที่เป็นห้องทำงานของ WILL แล้ว Beth ยืนยันว่าวันนี้ WILL น่าจะไม่อยู่ที่นี่ แต่ Beth รู้ว่าเขาเก็บเครื่อง Countermeasure เอาไว้ที่เซฟอย่างดีด้านใน สำรวจในโกดังให้ทั่วๆจะพบจุดที่มีภาพในอดีตที่หลังเหลืออยู่ตอนที่ Beth มาช่วย Will และบอกไว้ว่า Will คือทางออกเดียวที่จะยุติเรื่องเลวร้ายทุกอย่างในอนาคต ตาม Beth เข้าไปในห้องด้านในเธอจะเปิดประตูเข้าไปในห้องส่วนตัว Will ไม่ได้ Jack ต้องเข้าไปที่ห้องควบคุมกด Y ใช้ Time Vision ย้อนเวลาที่แผงไฟให้เครื่องควบคุมบนโต๊ะกลับมาแล้วใช้ Time Rush วิ่งสวิตซ์มันให้ทัน Beth ก็จะเข้าไปในห้อง Will ได้และก็จะพบเซฟที่เก็บ
เครื่อง Countermeasure ที่กำลังตามหาอยู่ เข้าไปหา Beth ในห้องเธอจะพยายามเปิดเซฟอยู่ แต่ซักพักเสียงไซเรนก็ดังขึ้นทำให้รู้ว่าพวก Monarch Security ได้บุกมาล้อมจับแล้ว Jack จึงต้องออกไปต้านพวกศัตรูเอาไว้จนกว่า Beth จะเปิดเซฟและเอาเครื่อง Countermeasure หนีออกจากพื้นที่
-จากนั้นออกไปด้านนอกจัดการพวก Monarch Security ที่บุกเข้ามาให้หมด จน Jack ได้ยินเสียงร้องให้ช่วยจึงรีบกลับไปในดูในโกดังก็จะพบว่า Serene ที่ลอบเข้ามาตลบหลังกำลังเผชิญหน้ากับ Beth อยู่เพื่อ พยายาม มาชิงเอาเครื่อง Countermeasure ไป


Paul – ส่งเครื่องนั่นมา แล้วหนีไปกับผม เราสามารถรอดจากเรื่องนี้ได้ด้วยกันนะ คุณก็เห็นมันแล้ว คุณรู้ว่าไม่มีอะไรหยุดมันได้ ตาคุณมันฟ้องว่าคุณก็คิดเหมือนกัน
Beth – แล้วถ้าคุณคิดผิดละ ! 



ปัง !! ..... Beth ตัดสินใจยิงใส่ Paul เพราะรู้ว่า Jack กำลังย่องเข้ามาช่วย Paul หลบกระสุนของ Beth ได้ทันก่อนจะยิงใส่เธอไปหนึ่งนัดทำให้ Countermeasure กระเด็นหลุดจากมือลงไปกระแทกพื้นทำให้เกิดปฏิกิริยาลูกโซ่จนทำให้ Countermeasure ที่เป็นเสมือนแกนบรรจุอณุภาค Chronon ขนาดย่อมเกิดระเบิดขึ้นทันที แรงระเบิดจาก 





อณุภาค Chronon สร้างความเจ็บปวดให้กับ Serene และ Beth ที่โดนเข้าไปอย่างจังโดยไม่ทันได้ตั้งตัวแม้แต่ Jack ที่พอใช้ Time Shield ป้องกันเอาไว้ก็รับรู้ได้ถึงความรุนแรงของการระเบิด ....


                                                    [การสัมภาษณ์]

Jack Joyce – พวกเราล้มเหลว เราทำให้เกิด Ground Zero สร้างความเสียหายมากมาย แถมยังไปเปลี่ยนแปลงทำให้เกิดไทมไลน์ใหม่ของเวลาอีกด้วย ทุกคนในบริเวณนั้นตายกันหมด .. 
Clarice Ogawa – ยกเว้นคนนึง คุณไง แรงระเบิดนั่นส่งคุณกลับไปในปี 2016 ในช่วงเวลาที่คุณเดินทางมาได้ เพราะอะไร ? มีบางอย่างที่ยึดคุณไว้ในช่วงเวลานั้น ทำไมละ ? เราต้องการรู้ว่าทำไมคุณถึงทำแบบนั้นได้




Jack Joyce – คุณคิดว่าสถานการณ์แบบนั้น ผมอยากจะไปหรอ ? ผมถูกดึงกลับมาโดยทิ้งทุกอย่างไว้ ผมทิ้งเธอไว้ที่นั่น แต่ถึงกระนั้น ผมก็ได้เห็นช่วงเวลานั้นไปพร้อมๆกันจากที่ผมจากมา ผมเห็น Beth ที่เป็นคนที่พยายามสู้กับแรงระเบิดจนเข้าไปปิดระบบของ Countermeasure ได้แต่เธอก็หมดแรงสลบไป ในขณะที่ Paul มันเริ่มรู้สึกตัว หยิบปืนแล้วกำลังเดินตรงเข้ามาหา Beth ช้าๆ ผมเป็นพยานจากอีกห้วงเวลาที่ทำอะไรไม่ได้เลย นอกจากดูทุกอย่างดำเนินไป






Jack – ไม่ๆ Beth Beth ตื่นๆ รู้สึกตัวสิ คุณต้องลุกขึ้นเดี๋ยวนี้ ! เร็วๆไปเก็บปืนมา Paul มันเข้ามาแล้ว ... อย่า Paul อย่าทำแบบนั้น ชั้นขอร้อง อย่าฆ่าเธอ
Paul – ชั้น ไม่เคยคิดผิดโว้ย 




                                              ------ ปัง !!!!!!! ------------




                                            Jack – ม่ายยยยย !!! Beth 



                                                 [การสัมภาษณ์]

Jack Joyce – Serene มันได้ Countermeasure ไป มันได้ไปทุกช่วงเวลา ผมต้องไปเอามันคืนมา 
Clarice Ogawa – คุณตัดสินใจอย่างหุนหันพลันแล่น คุณอ้างว่าการตายของ Beth ไม่ใช้สาเหตุที่คุณตัดสินใจทำแบบนี้ 



Jack Joyce – ก็อย่างที่ผมบอกนั่นแหละ ผมแทบจะไม่รู้จักเธอดีพอเลยด้วยซ้ำ 
Clarice Ogawa – แล้วจากนั้น คุณทำไงต่อ ตกลงมันเรื่องส่วนตัวหรอ ? 
Jack Joyce –   เปล่า ... ไม่ใช่ ..! 




** จากการแทรกแซงเวลาจนทำให้เกิดการระเบิดของ Countermeasure จนเกิดเป็นพื้นที่ Ground Zero จึงทำให้ไทมไลน์หลักของเวลาที่ส่งผลต่อเหตุการณ์ต่างๆ บริษัท Monarch Solutions เปลี่ยนแปลไปดังนี้ ** 



1999 - ปฏิบัติการ Monarch Phase 1 เริ่มต้น
2000 – Monarch เริ่มรวบรวมนักฟิสิกส์และนักวิจัยต่างๆในการทดลอง 
2006   เริ่มสร้างโรงงาน R และ D ที่เกาะ Gull 
2008 -โรงงาน R และ D ที่เกาะ Gull พร้อมใช้งาน
2010 - เกิดเหตุการณ์ที่ Ground Zero CFR เข้ามาควบคุมสถานการณ์ 
2011 – CFR เริ่มนำ อณุภาค Chonon ที่เกิดขึ้นที่ Ground Zero มาต่อยอดเพื่อนำไปทดลองสร้างเทคโนโลยีแบบใหม่ๆ จนสามารถสร้างสนามเวลา Chronon เทียมขึ้นได้สำเร็จ และเริ่มสร้างเครื่อง Stutter เพื่อใช้ในโครงการ Lifeboat 
2012 – เริ่มสร้างเครื่องกำเนิดสนามพลัง Chronon ส่วนบุคคลตัวต้นแบบ
และ สามารถสร้างสนามพลัง Chronon เทียมที่ทำให้เกิด Zero State ได้เสถียรสำเร็จพร้อมกับสร้าง Chronon Tech Suit รุ่นต้นแบบ 
2013 –โครงการ Lifeboat เสร็จสมบรูณ์ พร้อมกับการสร้างชุดสร้าง Striker Suit  
2014 – พัฒนาชุด Striker Suit MK1 และ Chronon Tech Suit MK1
2015 –สร้างเครื่องยับยั้งอณุภาพ Chronon หรือ Chronon dampener ตัวต้นแบบ และทาง CFR สร้างระบบควบคุมในโครงการ Lifeboat เครื่องTime machine ที่ Monarch HQ เริ่มก่อสร้าง 
2016-  พัฒนาชุด Standardized MKII , ชุด Striker Suit และชุด  Monarch Juggernaut Suit
พัฒนาเครื่อง Chronon dampener MKI และ เครื่อง Time machine ที่ Monarch HQ พร้อมสำหรับการสวมใส่ Chronon Core   ปฏิบัติการ Monarch Phase 3 เสร็จสมบูรณ์ .....




                                                   JUNCTION 4

                                               Control / Surrender


10 ตุลาคม 2016 , 5 .02 น. , The CFR Chamber - 25 ชั่วโมงหลังจากเกิดการแตกร้าวของเวลา



Paul Serene – ผมรู้ดีว่าเหลือเวลาอีกไม่มากแล้ว ผมใช้เวลาถึง 17 ปีในการวางแผนและสร้าง Monarch ขึ้นมาก็เพราะผมรู้ว่าอะไรกำลังคืบคลานเข้ามา และรู้ด้วยว่าจะไม่มีอะไรมาหยุดสิ่งที่เกิดขึ้นได้ และถึงแม้ทุกอย่างที่ผมทำลงไปมันจะย้อนกลับมาทิ่มแทงผมอยู่ตลอด ประเด็นคือผมต้องช่วยพวกเขาทั้งๆที่ไม่เคยเชื่อใจพวกเขาเลย ผมจะไม่ยอมทำให้ผิดแผนที่ตั้งไว้แน่ แต่อาการเจ็บป่วยของผมก็เร่งเร้าเหลือเกิน CFR เป็นสิ่งตอบแทนที่มีค่ามากสำหรับผม เพื่อจะได้มาซึ่งอำนาจและการควบคุมทรัพยากรของ  Monarch เพื่อให้แผนที่ตั้งไว้สำเร็จ แผนที่จะเป็นเสมือนแสงสว่างยามที่โลกมืดมิด 
Monarch Trooper – ขอโทษที่ต้องรบกวนนะครับคุณ Serene คือหน่วยที่เข้าไปเคลียร์พื้นที่ในห้องแลปของ Dr.Kim ที่เกิดเหตุเราพบอุปกรณ์ที่ใช้ในการรักษาของคุณที่น่าจะพังไปหมดแล้วยังเหลืออยู่อีก 1 อันครับ ต้องการให้คุณมาตรวจสอบด่วนเลย 
Paul Serene – ไปพบผมที่ห้องทำงานทหารที่ผมปิดที่นี่แล้วจะตามขึ้นไป 



-เดินเข้าไปตามทางจนถึงห้องทำงาน Serene จะเข้าไปตรวจสอบอุปกรณ์ที่ใช้ในการรักษาของเขาที่ยังเหลือรอดไม่พังอีกอัน แต่ในสถานการณ์ตอนนี้ ถึงแม้มันจะน่าความดีใจอยู่บ้าง แต่ Serene ก็ยังมีความกังวลมากมายที่ต้องคิดกว่าทุกครั้ง ทั้งเรื่องความไม่สมบูรณ์ของเครื่องที่ใช้แล้วเกิดอันตรายกับร่างกาย และในจังหวะที่หน้าสิ่วหน้าขวานแบบนี้ Serene ก็พาลคิดไปว่า การที่เครื่องนี้ยังเหลือรอดอยู่ได้อาจมีคนจงใจเอามาวางเป็นกับดัก อาจเป็นคนทรยศที่หวังจะทำลายตัวเขาก็ได้ แล้ว Serene ต้องทำยังไงจะยอมเสี่ยงใช้เครื่องเพื่อเดินหน้าตามแผน Lifeboat Protocolต่อ หรือ จะเลือกที่จะยอมแพ้แล้วให้ Martin Hatch มันกลับมาใหญ่อีกครั้ง




                                                         Control 

ทางเลือกนี้ Serene จะยอมเสี่ยงใช้เครื่องเยียวยาซึ่งจะทำให้เขาแข็งแรงขึ้นเพื่อสานต่อแผนต่อไป และหาพันธมิตรที่เชื่อใจได้คนใหม่มาใช้งานนั่นคือชักจูง Liam Burke เจ้าหน้าที่ภาคสนามมากฝีมือของ Monarch โดยแลกกับทางรอดของภรรยาของเขาที่จะได้มีสิทธิเข้าที่หลบภัย เพื่อเอามาใช้ต้านเสี้ยนหนามคือ Jack Joyce ที่กำลังบุกเข้ามาในขณะที่เขากำลังปิดจ๊อบกับ Lifeboat Protocol ให้สำเร็จ    


                                                      Surrender

ด้วยอาการจิตตกของ Serene ทำให้เขาเลือกที่จะไม่ใช้เครื่องเยียวและยังคงไม่ไว้ใจคนรอบตัวเพราะคิดว่าจะมาทรยศเขาจนหมด และด้วยความที่ Serene อ่อนแอลงทำให้ Martin Hatch หวนคืนมาทวงอำนาจในบริษัท Monarch จนเป็นใหญ่อีกครั้งได้สำเร็จ ในขณะที่ Jack Joyce ก็จะได้ Charlie Wincott เป็นใส้ศึกในการพาเข้ามาส่วนของ CFR Chamber เพื่อจัดการกับ Serene


ซึ่งทางเลือกของทั้ง 2 ทางนั้นจะส่งผลกระทบต่อการเดินเรื่องของ Jack Joyce นิดหน่อย โดยสามารถดูคลิป Live Action ฉบับคนแสดงจริงได้ที่นี่

QUANTUM BREAK EPISODE 4: Lifeboat Protocol (เลือก Control)
https://www.youtube.com/watch?v=7v0GmhdOCQ0
QUANTUM BREAK EPISODE 4: Lifeboat Protocol(เลือก Surrender)
https://www.youtube.com/watch?v=6xs_KlbPVdU



                               ** ทางที่บทสรุปนี้เลือกไว้คือ Control **


10 ตุลาคม 2016, 5 .02 น. , Monarch HQ - 25 ชั่วโมงหลังจากเกิดการแตกร้าวของเวลา …



Monarch Security 4 นายถูกสั่งให้มาจับกุม Martin Hatch ที่ห้องทำงาน แต่ระหว่างลงลิฟต์ Martin ก็สามารถจัดการกับ Monarch Security 4 คนอย่างง่ายดาย ในขณะที่ Dr. Sofia ที่แยกตัวมาจากพวกของ Jack ก็เข้ามาพบ Paul ทันที เธอพยายามบอกให้ Paul ตามเธอไปเพื่อทำการรักษาเพิ่มเติมแต่ Paul ปฏิเสธที่จะไปโดยเขาจะให้ Dr. Sofia รีบไปที่สถานที่หลบภัยที่เตรียมไว้ก่อนที่ Paul จะสั่งให้เตรียม ฮ. เพื่อพาเขาเดินทางไปที่ Bradbury Swimming Pool ทันที ในขณะที่ทางด้านของ Charlie Wincott ก็กลับมาที่บริษัทแล้วรีบเข้าไปห้องทำงาน Hack เข้าระบบของ CFR เพื่อค้นหาตำแหน่งของโครงการ Lifeboat Protocol ทำให้ Charlie รู้ว่าจริงๆแล้ว Lifeboat หรือสถานที่หลบภัยจากภาวะดับสิ้นของเวลาอยู่ที่ชั้นใต้ดิน B5 ของตึก Monarch HQ นี้นั่นเอง ก่อนที่เขาจะ ยัดชื่อของตัวเองและ Fiona เข้าไปในรายชื่อผู้เข้าสถานที่หลบภัย Lifeboat และพยายามติดต่อหา Fiona ทันที

10 ตุลาคม 2016, 4 .24 น. , Riverport street  - 24 ชั่วโมงหลังจากเกิดการแตกร้าวของเวลา …  ในขณะที่ Fiona กำลังขับรถไปอย่างไร้จุดหมายเธอก็พยายามติดต่อขอความช่วยเหลือไปหา Beth แต่ไม่ได้รับการตอบกลับมาเธอจึงเสียใจเพราะถึงตอนนี้ก็ยังไม่สามารถหาตำแหน่งของหลุมหลบภัย Lifeboat ได้เลย ก่อนที่ Jack Joyce จะติดต่อมาแจ้งข่าวว่า Beth โดน Serene ฆ่าตายแล้วแต่เขายังจะพยายามที่จะหยุดยั้งการแตกสลายของเวลาต่อ โดย jack จะขอให้ Fiona ช่วยบอกข้อมูลของสิ่งที่ WILL เขียนไว้
Counter - Measure ซึ่ง Fiona จะบอกว่ามันก็คือ The CFR หรือ Chronon field Regulator เครื่องมือที่ Monarch นำเอา Countermeasure ของ Will มาต่อยอดเป็นเครื่องกำเนิดพลังต่อต้านอณุภาค Chronon สิ่งที่จะหยุดการสูญสิ้นของเวลานั่นเอง



ในขณะที่ทางด้าน Charlie Wincott ก็รีบลงลิฟต์ไปที่ชั้น B5 ของตึกก็จะพบทางเข้าสถานที่หลบภัย Lifeboat และสามารถเข้ามาได้เพราะใส่ชื่อตัวเองเข้ามาแล้ว ซึ่งสุดท้าย Fiona หลังจากได้รับข้อความจาก Charlie เธอก็รีบเดินทางมาที่นี่เพื่อขอร้องให้ Charlie ช่วยเพื่อจะขโมย The CFR ให้ Jack เอาไปใช้หยุดการจบสิ้นของเวลา


ทางด้าน Liam Burke และ Emily ที่ขับรถเดินทางมาก็พยายามทุกอย่างที่จะเข้าไปที่สถานที่หลบภัย Lifeboat ให้เร็วที่สุด จนถึงกับต้องขับรถฝ่าด่านเข้ามาด้านในตึก Monarch HQ  ส่วน Charlie ถึงแม้จะยอมออกมาช่วย Fiona เพื่อหาทางช่วย Jack ในขณะที่ทั้งคู่ไม่สามารถติดต่อหา jack ได้เพราะในเสียงวิทยุสื่อสารนั้นเต็มไปด้วยเสียงปืนยิงต่อสู้ ทำให้ Charlie ต้องยอมทำภารกิจสุดท้ายเพื่อหญิงที่เขาหลงรักด้วยการ ออกไปหาทางช่วย Jack ด้วยตัวเองโดยให้ Fiona รออยู่ที่หลุมหลบภัยอย่างปลอดภัย ส่วน Liam ก็พา Emily ลุยฝ่าด่านพวก Security มากมายเข้ามาในตึกเพื่อไปที่สถานที่หลบภัยให้เร็วที่สุด จน Laim ได้มาเจอ Serene ที่มาดักรออยู่ ก่อนที่ Serene จะกล่อมให้ Liam ไปหยุด jack ที่กำลังจะบุกเข้ามาขโมย The CFR ซึ่งก็เท่ากับทำให้ Lifeboat Protocol ไม่สามารถใช้งานได้ และถ้าทำได้สำเร็จทั้ง Liam และภรรยาก็จะได้เข้าไปหลบภัยใน Lifeboat อย่างปลอดภัย ซึ่ง Liam ก็ตกลงทันทีโดยไม่ต้องสงสัย

10 ตุลาคม 2016, 5 .15 น. , Monarch HQ - 25 ชั่วโมงหลังจากเกิดการแตกร้าวของเวลา …  Charlie รีบเข้ามายังที่เก็บ The CFR แล้วรีบ hack เพื่อปิดระบบการป้องกันของเครื่องแล้วติดต่อให้ jack ขึ้นมาชิงมันไป ก่อนที่ Liam จะตามเข้ามาเพื่อจะขัดขวาง แต่ Charlie จะบอกว่าเขาจะทำทุกทางที่ช่วยให้ Jack แก้ไขการแตกสลายของเวลา ซึ่งเขาไม่ได้ทำเพราะเชื่อ Jack แต่ทำเพราะ Fiona ที่เชื่อในตัว Jack ต่างหาก Charlie อธิบายให้ Liam เข้าใจว่าระหว่างขัดขวาง jack เพื่อปกป้องภรรยาและคนในตึกไม่กี่คนกับการ ช่วย jack เพื่อแก้ไขการแตกสลายของเวลาที่ช่วยคนได้ทั้งโลก ถึงจะต้องยอมให้ Liam ฆ่าก็ยอม ก่อนที่ Martin Hatch จะเป่าสมองของ Charlie จนกระจุยด้วยปืนในมือ แล้วพยายามจะฆ่า Liam เป็นรายต่อไป แต่ในขณะที่ Martin ย่ามใจในชัยชนะกับความฝันการสร้างโลกใหม่ของเขาโดยการเข้าไปเอา The CFR Liam ก็เข้ามาขัดขวางจนจัดการเสียบมีดปักหัว Martin จนตายคาที่ ก่อนที่ Liam จะเข้าไปใส่ชุด Monarch Trooper ยืนเป็นกันชนด่านสุดท้าย ระหว่าง The CFR กับ Jack Joyce ที่กำลังบุกเข้ามาในไม่ช้านี้





                                                        ACT 5

                                            I’ll Come Back for You 


                                              Act 1 – Monarch HQ


ในขณะที่เวลาจะถึงกาลสูญสิ้น เมืองทั้งเมืองกำลังเริ่มโกลาหลแบบที่หลายคนยังไม่รู้ตัว มีก็แต่ผู้มีพลังที่ทำให้รางกายอยู่เหนือกฎของเวลาเท่านั้นที่จะเห็นความพินาศมากมายที่กำลังเกิดขึ้น เพราะมีกลุ่มพลประโยชน์กลุ่มนึงที่กำลังจะทำลายเวลาและ Jack Joyce ก็มั่นใจว่า เขาจะสามารถแก้ไขเรื่องนี้ได้จึงรีบมุ่งหน้าไปที่ตึก Monarch HQ เพื่อขโมย CFR มาเพื่อใช้แก้ไขเวลาที่กำลังแตกสลาย 

10 ตุลาคม 2016, 5.31 น. , Monarch HQ - 25 ชั่วโมงหลังจากเกิดการแตกร้าวของเวลา …  



-เข้ามาในตึก Monarch HQ แล้วลุยเข้าไปด้านในเป้าหมายคือขึ้นไปที่ชั้นบนในห้องทำงานของ Paul Serene ที่มีห้องเก็บ CFR ซ่อนอยู่ โดยมี Amy ที่แทรกซึมอยู่ในตึกช่วยประสานงานในการเปิดระบบประตูต่างๆให้ผ่านเข้าไป เมื่อลุยขึ้นไปจนถึงห้องทำงานของ Serene แล้ว Jack จะเข้าไป Hack คอมพิวเตอร์เพื่อเปิดห้องเก็บ CFR แต่ดูเหมือน Serene จะรู้ตัวอยู่แล้วว่า Jack จะมาและตอนนี้เขากำลังเดินทางล่วงหน้ามาที่สระว่ายน้ำ Bradbury เพื่อรอเวลาเหมาะสมกับเรื่องที่เขารู้ว่ากำลังจะเกิดขึ้น


-เมื่อเปิดห้องลับได้แล้ว เข้าไปสำรวจทั่วๆจนถึงห้องเก็บ the CFR ก็จะพบกับ Liam ในชุด Monarch Trooper ยืนรออยู่ การต่อสู้กับเขาในห้องนี้จะไม่สามารถใช้พลังพิเศษได้ เพราะในห้องมีแกนต่อต้านอณุภาค Chronon เปิดอยู่ด้านใน ถ้าอยากใช้พลังสู้ก็เข้าไปปิดมันซะ แต่สำหรับ Liam หาที่หลบดีๆกับการยิงปืนต่อสู้ธรรมดาก็เอาอยู่ เมื่อจัดการ Liam ได้แล้ว แต่ความใจสู้และความอยากปกป้องเมียตัวเองของเขาทำให้ Liam พยายามจะสู้แบบเทหมดหน้าตัก แต่โชคดีที่ในห้องเกิดสภาวะ Zero State เสียก่อน สิ่งที่ Jack ไม่อยากทำกับคนดีๆอย่าง Liam จึงไม่จำเป็นต้องเกิดขึ้น



-เข้าไปห้องด้านในเก็บ The CFR ออกมา Jack จะเหลือบไปเห็นในจอมินิเตอร์ว่า Monarch ได้เก็บเครื่อง Time Machine ที่เคยเกิดการระเบิดที่มหาวิทยาลัยมาไว้ที่นี่ด้วย สิ่งแรกที่เขาคิดก็คือ หาทางใช้เครื่องนี้ย้อนเวลาไปในวันที่ Will ถูก Paul ฆ่าที่มหาวิทยาลัยนั่นเอง จากนั้นเข้าไปขึ้นลิฟต์ด้านในขึ้นไปชั้นบนต่อจะเข้ามาที่ห้องเก็บเครื่อง Time Machine เข้าไปกดสวิตซ์ที่แท่นควบคุมกลางห้อง พวก Monarch Security จะเริ่มบุกเข้ามา จัดการพวกมันให้หมดแล้วกดสวิตซ์เปิดเครื่องอีกครั้งแล้วเข้าเครื่อง
Time Machine ย้อนเวลาได้เลย




                                           Act 2 – Return to the University 


9 ตุลาคม 2016, 4.16 น. , Project Promenade Lab – 1 นาทีหลังจากเกิดการแตกร้าวของเวลา …

Jack ย้อนเวลามาในวันที่เกิดระเบิดของอณุภาค Chronon ที่มหาวิทยาลัย Riverport ในช่วงเวลาที่ตัวเองในช่วงเวลานั้นทดลองกับ Paul จนเกิดการระเบิดขึ้นแล้วและกำลังหนีออกจากที่นี่เพราะ Monarch Security มากมายที่กำลังบุกเข้ามาจับตัว ซึ่งทันทีที่ Jack ย้อนเวลามาถึงหลังจากที่ตัวเขาในอดีตหนีไปแล้ว Jack ก็ต้องเจอกับทีม Monarch Security ทันที จัดการพวกศัตรูให้หมด จากนั้นแผนของ Jack ก็คือรีบไปที่ห้องสมุดแล้วช่วย WILL ให้ทันก่อนที่ Paul จะฆ่า WILL เหมือนดังเหตุการณ์ที่เราเคยเจอมาแล้วนั่นเอง 

-ลุยไปตามทางตั้งแต่ในห้องทดลองจนออกมาที่ลานกว้างด้านนอกแล้วเข้าไปที่หน้าทางเข้าที่จอดรถ กด Y ใช้พลังย้อนเวลาดึงรถที่ขวางประตูอยู่ออกมาแล้วใช้ Time Rush วิ่งเข้าไปก่อนรถจะกลับไปขวาง จัดการศัตรูด้านในที่จุดรถให้หมดแล้วเข้าไปกดสวิตซ์ที่ป้อมยาม แต่จะเปิดประตูชัตเตอร์ได้นั้นต้องใช้รหัสผ่านในการเปิด มองหาจุดภาพในอดีตใกล้ป้อมยามแล้วตามฟัง Monarch Security คุยกันไปจนสุด รีบตามไปจุดภาพอดีตที่ 2 ที่ขึ้นมาแล้วรีบไปฟังที่ภาพอดีตจุดที่ 3 ที่ขึ้นมาให้ทัน ต้องได้ยินประโยครหัส 665 ด้วย แล้วค่อยไปกดสวิตซ์ที่ป้อมยามเพื่อเปิดประตูชัตเตอร์ไปต่อ


-เข้าประตูชัตเตอร์ขึ้นไปบนตึกจะพบ Security จำนวนมากอยู่ท่ามกลางหห้องที่มีแกนพลังงานต่อต้านอณุภาค Chronon ที่ทำให้ใช้ความสมารถไม่ได้อีกด้วย จัดการศัตรูให้หมดแล้วไปปิดระบบของแกนพลังงานด้วยการดึงปล๊กไฟมันออก จะทำให้ไฟดับทั้งตึก ซึ่งตอนนั้นตัว Jack ที่อยู่ในอดีตก็จะเห็นถึงการไฟดับจากอีกจุดนึงด้วย จัดการศัตรูที่เข้ามาในความมืดให้หมดแล้วออกไปจากตึกตามทางจนถึงลานกว้างหน้าตึกห้องสมุดได้เลย
-ออกมาแล้วสำรวจจุดภาพในอดีตจะพบว่าพวก Security พาตัว Will ไปแล้ว หน้ารั่วทางเข้าตึกห้องสมุดจะปีนไม่ได้ ต้องปีนขึ้นทางห้องน้ำสาธารณะกลางพื้นที่โดดต่อไปที่นั่งร้านจนถึงเครนขนาดใหญ่ด้านบนก็จะพบว่า Beth กำลังแอบซุ่มยิงคุ้มกันให้กับตัว Jack ในอดีตอยู่ตามที่เราเคยเห็นมาแล้ว เดินไปตามเครนจนถึงหลังคาตึกห้องสมุด จัดการศัตรูให้หมดแล้วเข้าไปในตึกห้องสมุดลุยเข้าไปจนถึงจุดที่ Paul กำลังให้ตึกที่ถล่มลงมาเพราะแรงระเบิดฆ่า Will ในตอนแรก จน Jack สามารถช่วย Will จากการโดนทับและหนีออกมาก่อนตึกจะระเบิดได้


William – Jack นายช่วยชีวิตชั้น 
Jack – ขอต้อนรับกลับมานะ เออ Will ชั้นมีอะไรจะให้ด้วย
 William – Countermeasure ? .. ยังไงเนี้ย ? นายกลับมาจากอนาคตเพื่อช่วยชั้นหรอเนี้ย 
Jack – มันยังไม่จบ นายจัดการไอ้เครื่องนี่ได้มั๊ย 
William – ตามทฤษฏีแล้วทำได้ เราต้องกลับไปที่เครื่อง Time Machine ของชั้นที่สระว่ายน้ำก่อน  
 Jack – ไม่ๆๆ เราต้องไปหยุดการแตกสลายของเวลาที่นี่ตอนนี้ เดี๋ยวนี้เลย
William – ฟังนะ Jack การแตกสลายของเวลาไม่สามารถแก้ไขได้จากเวลาที่นายมาได้ นายต้องเข้าไปใกล้กับอนาคตก่อนที่จุดจบของเวลาจะเกิดขึ้นมากที่สุด 
Jack – แต่วิล ตอนนั้นคนจะตายกันมากเลยนะ นายไม่เห็นว่าอะไรเกิดขึ้นระหว่างตอนนี้กับในอนาคต  
 William – ไม่ ถ้านายมีอะไรก็ตามที่สามารถจัดการกับเหตุการณ์ต่างๆให้เชื่อมต่อกันได้ทุกอย่างก็ไม่แตกสลาย แต่เรามีโอกาสแค่ครั้งเดียวเท่านั้นถ้าทำพลาดทุกอย่างในโลกก็จบ เราถึงต้องเดิมพันหมดหน้าตักกันไง นายต้องเชื่อใจชั้น อดีตนั้นสำคัญที่สุด ถ้าอดีตถูกจัดระเบียบใหม่แล้วอนาคตก็จะดีตามมาเอง 

-จากนั้นเดินทางมาตามทางกับ Will เข้าไปยังตึกห้องเรียนแล้วทะลุออกไปด้านหน้า จู่ๆก็เกิดภาวะ Zero State ที่ทำให้เวลาหยุดนิ่งขึ้นมา และหน้าตึก Jack ก็จะได้พบ Beth อีกครั้งที่กำลังช่วย Liam ในการจับกุมตัวเขา


 Jack คิดอยู่นานที่จะช่วยดึงเอา Beth ออกมาจากเวลาเพื่อช่วยให้เธอไม่ต้องตาย แต่ก็ต้องถึงสิ่งที่ Will บอกมาว่าต้องปล่อยให้ทุกอย่างมันเกิดไปตามเหตุการณ์โดยไม่ให้แทรกแซง Jack คิดอยู่นานกว่าจะเดินจากไปแล้วปล่อยให้เหตุการณ์ต่างๆเดินไปตามทางของเวลา 



                                                 Part 3- Final Moment 


9 ตุลาคม 2016, 7.05 น. , Bradbury Swimming Pool – 3 ชั่วโมงหลังจากเกิดการแตกร้าวของเวลา …  

-Jack ขับรถเดินทางมาจนถึงสระว่ายน้ำ Bradbury เมื่อมาถึงแล้วตาม Will เข้าไปด้านในจนถึงห้องเก็บ Time Machine Will จะตั้งค่าเวลาไปที่ช่วงเวลาในอนาคตเลยจากช่วงเวลาที่ Jack มาเล็กน้อย ซึ่งเป็นช่วงเวลาก่อนจะถึงตอนที่การแตกสลายของเวลาจะทำให้เกิดการสูญสิ้นของเวลาไม่นาน


10 ตุลาคม 2016, 6.31 น. , Bradbury Swimming Pool –  26 ชั่วโมงหลังจากเกิดการแตกร้าวของเวลา …

-เมื่อเดินทางมาถึงยังไม่ทันได้ก้าวพ้นเครื่องย้อนเวลาก็จะพบกับสภาวะ Zero State ที่เวลาหยุดนิ่งจนทำให้ Will เคลื่อนไหวไม่ได้ทันที จากนั้น Monarch Trooper มากมายดักรออยู่ก็จะออกมาโจมตี จัดการพวกมันให้หมดแล้วเข้าไปช่วยดึง Will ออกมาจาก Zero State แต่ในขณะนั้น Paul Serene ที่ดักรออยู่นานแล้วก็ออกมาพร้อม Monarch Trooper ชุดพร้อมสำหรับการขัดขวาง



Paul – เดี๋ยวก่อนๆ Jack .. ชั้นก็ไม่รู้นะว่า Will มันวางแผนยังไงถึงพาตัวเองมาในช่วงเวลานี้ แต่ก็เถอะช่างหัว Will มัน 
Jack – เรื่องนี้มันใหญ่เกินเรื่องของเรา 2 คนแล้วนะพอล นายก็น่าจะรู้ดีว่าเวลาหยุดลงมันไม่ได้สิ่งที่ดี 
Paul – ใช่สิ่งดีสิ่ง มันจำเป็นต่อแผน Lifeboat Protocol ไงละ 
 Jack – นายจะเลือกเอาแค่คนกลุ่มนึงมานั่งในหลุมหลบภัยแล้วรอเวลาให้โลกมันฉิบหายคนตายมากมายแบบนี้นะหรอ พระเจ้า Paul 
Paul – นายขโมย CFR มาแจ๊ค ทุกอย่างในแผนของชั้นขึ้นอยู่กับมัน งั้น ได้โปรดคืนมาให้ชั้นได้มั๊ย ?
Jack – นายก็รู้ชั้นยอมไม่ได้พอล
Paul – ชั้นก็รู้อยู่แจ๊ค 





-Boss - Paul Serene เมื่อการต่อสู้เริ่มขึ้นพวก Monarch Trooper มากมายจะบุกเข้ามาโจมตี ในขณะที่ Paul ก็ขึ้นไปใช้บาเรียคลุมตัวเองแล้วเกร็งพลังเตรียมปล่อยพลังด้านบนของกล่อง ตอนนี้ไม่ต้องไปสนใจมันเลย พยายามจัดการ Monarch Trooper ให้หมดแล้วทันทีที่ศัตรูหมดชุดแรก Paul จะโดดขึ้นมาที่ด้านบนของเครื่อง Time Machine แล้วระเบิดพลังออกมาซึ่งเป็นพลังที่รุนแรงเป็นวงกว้าง ต้องมองให้ดีว่าจุดระเบิดพลังเริ่มตรงไหนแล้วหนีห่างจากบริเวณนั้นให้เร็วที่สุดด้วย Time Rush หนีให้ออกห่างจนพ้นรัศมีของระเบิดไม่งั้นจะตายทันที


รอจนกว่ามันจะเริ่มพลังเสร็จ Paul จะหมดพลังและอ่อนแอลงชั่วขณะให้รีบไปยิงมันได้เลย จากนั้นมันก็จะสั่งลูกน้องชุดใหม่ออกมาพร้อมกับไปกางบาเรียเกร็งพลังเหมือนเดิม ยิงมันในช่วงที่ระเบิดพลังไปแล้วเรื่อยๆก็จะจัดการมันได้

ถึงแม้ Paul จะยังสามารถยืนขึ้นมาได้เพื่อหวังจะสู้อีกรอบ แต่ร่างกายที่ถูกกลืนกินของเขาก็หมดสภาพจนไม่อาจสู้ได้และสุดท้ายก็โดน jack อัดกระเด็นจนตายอย่างง่ายดาย Jack ยืนสลดใจกับสิ่งเกิดกับเพื่อนรักของเขาก่อนต้องตัดใจหันหลังไปหา Will เพื่อดึงเขาออกมาจากเวลาที่หยุดนิ่งเพื่อเดินหน้าแก้ไขปัญหาต่อ 



William – เดี๋ยวชั้นจะเชื่อมต่อ Countermeasure เข้ากับ Core ของเครื่อง Time Machine ให้อณุภาค Chronon มันช่วยระตุ้นทำให้สนามพลัง Meyer - Joyce field ถึงจุดอิ่มตัว เครื่อง Time Machine ก็จะทำหน้าที่ขยายปฏิกิริยาลูกโซ่ที่เกิดขึ้นทำให้สนามพลังกลับสู่สภาพเดิมจักรวาลของเวลาก็จะกลับสู่สภาพปกติ    
Jack – ชั้นไม่เข้าใจในสิ่งที่นายพูดหรอกนะวิล แต่นายช่วยทำให้ได้ตามที่พูดให้ได้จะดีมากเลยนะ 
William – แต่นายต้องช่วยออกแรงด้วยแจ๊ค ตอนนี้ Countermeasure พลังงานต่ำมาก เราต้องกระตุ้นอณุภาค Chronon โดยใช้พลังในตัวนายเหมือนกันจั๊มป์สต๊าทนั่นแหละ 



ทันที่ Jack เริ่มใช้พลังของตัวเองกระตุ้นอณุภาค Chronon ใน Countermeasure Paul ก็กลับลุกขึ้นมาได้อีกครั้ง ในขณะที่ทั้ง 2 คนไม่ทันสังเกตที Paul กำลังเดินเข้ามาเพื่อหมายทำลายแผนของ Jack ด้วยการโถมเข้ามาใส่หมดตัว 

ในขณะที่คำว่า “สำเร็จแล้ว” ของ Will ดังขึ้นร่างของ Paul ก็โดดเข้ามาใส่อย่างสุดแรงพร้อมกับแรงระเบิดที่เกิดขึ้นของ Countermeasure ที่ทำให้ร่างของ Paul สลายไป ซึ่งภายในเสี้ยวหน้าที่ที่ Paul พุ่งเข้ามานั้นมี jack คนเดียวเท่านั้นที่หันมาเห็นก่อนหน้าเพียงไม่กี่นาที 




Countermeasure ทำหน้าที่เย็บตะเข็บของเวลาให้เชื่อมต่อกันเหมือนเดิมการแตกสลายของเวลาก็ไม่เกิดขึ้น ฟังมันดูเกินจริงแต่ Jack และ Will ก็สามารถซ่อมแซมเวลาเป็นผลสำเร็จได้จริงๆ เวลาเริ่มเดินปกติอีกครั้ง 



Jack – ชั้นรู้เหมือนฮีโร่กู้จักรวาลเลยแฮะ ฮ่าๆ
William – ใช่ เราทำสำเร็จจริงๆด้วย . แล้วพอลละ 
Jack – ตายแล้วหรือสลายไป นายไม่ต้องไปสนใจมันหรอก มันเป็นสร้างเรื่องเลวร้ายนี่ทั้งหมดนะ
William – ใช่เขาจริงๆหรอที่สร้างเรื่องนี้ขึ้นนะ
Jack – เฮ้ นี่ วิล Countermeasure ที่นายสร้างแก้ไขทุกอย่างได้แล้ว มันจบแล้ว 
William – ก็จิง ..โว่ Countermeasure พังเละเลย หวังว่ามันคงทำให้ทุกอย่างเสถียรพอนะ บลาๆๆ 
Jack – …. เอ่อ ... อ่าก ................... 



                      ... และสุดท้าย Jack ก็ถูกดึงกลับไปยังช่วงเวลาที่เขาจากมาอีกครั้ง ....


อีกครั้งแล้วที่ Jack ถูกดึงจากพลังงานบางอย่างให้กลับมาที่ช่วงเวลาเดิม ไม่มีใครรู้ว่ามันคืออะไร แต่บางที Jack อาจรู้ในใจว่าเป็นพลังแห่งสัญญาที่เขาเคยกระซิบใส่หูของ Beth ในช่วงเวลาที่เธอมีชีวิตอยู่ว่า “ผมจะกลับมาหาคุณ”



 หรือพลังของอณุภาค Chronon ที่เพิ่มพูนขึ้นในตัว Jack จะทำให้เขารู้ว่า แท้ที่จริงแล้วทุกอย่างมันไม่ได้เปลี่ยนไปเลย .... 



                                                        [การสัมภาษณ์]



Clarice Ogawa – ขออีกคำถามนะ หลักปรัชญาทั้งหมดของ Paul Serene ที่อยู่ในช่วงเวลานั้น หลังจากเวลาถูกเริ่มต้นใหม่ ทุกอย่างก็ไม่เปลี่ยนแปลงไปเลย และในเวลานั้นก็เห็นได้ชัดว่าคุณไม่เห็นด้วยกับหลักความคิดของเขา และหลังจากเกิดเรื่องทั้งหมด ทั้งที่คุณได้เห็นและลงมือทำมา เราอยากรู้ว่า ตอนนี้คุณเชื่อรึยัง ?  เขาพูดถูกใช่มั๊ย หรือ คุณยังคิดว่ามันยังสามารถเปลี่ยนแปลงได้อีก 



…. แต่กระนั้นก็เถอะ ต้องขอขอบคุณที่คุณอุตสาหะอดทนตอบคำถามของเราจนจบ มันเป็นข้อมูลที่ช่วยเราได้อย่างมากเลยคะ
Jack Joyce – ก็หวังว่าความอดทนที่ผมต้องเสียไปจะทำให้เกิดสิ่งที่ดีงามขึ้นมาบ้างนะ 
Clarice Ogawa – แน่นอนที่สุดคะ 


Martin Hatch –ว่าไงคุณ Joyce ….



เสียงของ Martin ทักทายพร้อมตัวเป็นๆที่เดินเข้ามา ภาพในหัวของ Jack เตือนให้จำได้ว่า



 สิ่งประหลาดที่พุงชนเขาตอนที่บุกขึ้นมาบนตึก Monarch HQ ตอนต้นของ ACT5  ก็คือ Martin ในร่างของอณุภาค Chronon มาหลังจากโดน The CFR ระเบิดใส่ใน JUNCTION 4 ทางเลือก Surrender จึงรอดชีวิตมาได้นั่นเอง



Jack Joyce – ในที่สุดคุณก็เลือกที่จะพูดกับผมแทนที่จะพรากชีวิตของผมไป 
Martin Hatch – แหมก็นะ ก็คุณเป็นหัวใจของเรื่องทั้งหมดและก็ยังเข้าใจในสิ่งที่เราพยายามหาทางออกที่ชัดเจนที่สุดของเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้น  
Jack Joyce – ผมได้ยินมาว่าทุกอย่างของบริษัทที่ลงหลักปักฐานได้ก็เพราะ Paul นั่นถือว่าทั้งหมดเป็นความดีความชอบของเขาหรือเปล่า ? 
Martin Hatch – Paul Serene เขาเป็นนักเต้นรำที่มีจังหวะของตัวเองเสมอครับ คุณเองก็น่าจะรู้ดี แต่เขาและความเชื่อผิดของเขาก็นำมาซึ่งความเสียหายมหาศาลกับบริษัทของเรา แต่เรายังคงสามารถช่วยกันกู้สิ่งต่างๆกลับคืนมาได้ในฐานะพันธมิตร เราใช้คนอย่างคุณได้ เราไม่ใช่ Monarch เหมือนในยุคเดิมแล้วนะ คุณ Joyce .. บุคลากรอย่างคุณเป็นสิ่งที่ล้ำค่ามากสำหรับเราที่จะทำให้บริษัทก้าวหน้าในอนาคต และเราต่างก็รู้ว่า คุณเองก็ต้องการความรู้และเทคโนโลยีของเราในการช่วย Beth คนรักของคุณ  ...เราพบกันครึ่งทางได้นี่ ....




สิ้นสุดการพูดคุย ภาพนิมิตหนึ่งเข้ามาเป็นในสายตาของ Jack ไม่มีใครรู้ได้ว่ามันเป็นภาพของ การสิ้นสุดของเวลา หรือ ทางออกของปัญหา ซึ่งสุดท้ายแล้วพลังแห่งเวลา  ก็ไม่ได้เปลี่ยนแปลงโชคชะตาของ Jack Joyce แต่แค่เปลี่ยนเขามาสวมบทบาทเป็น Paul Serene ในอีกห้วงเวลาเพื่อโอกาสในการแก้ปัญหาในหนทางใหม่ที่ดีกว่าแทน



     ------------------------------------------ THE END ------------------------------------------------