วันพุธที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2558

Until Dawn

ก่อนจะเปิดเกม“Until Dawn” เล่นกัน เรามาทำความรู้จักจุดที่น่าสนใจที่ใช้เรียกน้ำย่อยของเกมกันก่อน ผมจะว่าด้วยเรื่อง 2 อัจฉริยะภาพด้านสยองขวัญสุดอินดี้ Larry Fessenden และ Graham Reznick ที่จะมามีส่วนร่วมในเกมนั้น คุณอาจจำเป็นต้องรู้หรือไม่รู้ก็ได้แต่เพื่อการันตีความน่าสนใจของเกมก็ต้องมาพูดถึง 2 คนนี้กันหน่อย 




Larry Fessenden กับ Graham Reznick อยู่ในฐานะ เจ้าของสตูดิโอหนังสยองขวัญอินดี้ที่ชื่อ Glass Eye Pix ผู้กำกับ โปรดิวเซอร์ คนเขียนบท กำกับภาพ กำกับเสียง ไปจนถึงนักแสดงเลย เรียกว่าถูกยกย่องจากแฟนหนังสยองขวัญระดับฮาร์ดคอร์ว่าเป็น Hitchcock รุ่นใหม่เลยครับ เพียงแต่หนังของทั้งคู่ส่วนใหญ่นั้นได้รับความนิยมและโด่งดังเฉพาะสำหรับแฟนหนังสยองขวัญแบบอินดี้กันเป็นส่วนใหญ่ ก็ฟังดูชื่อแล้วก็ต้องบอกว่าแทบไม่รู้จักทั้งๆที่แต่ละเรื่องก็กวาดรางวัลหนังสยองขวัญอินดี้มาแล้วทั้งนั้นอย่าง เรื่อง Habit ของ Larry ก็เพิ่งได้รางวัล Indepentdent Spirit ในปี 1997 ชมคลิปตัวอย่างที่นี่ https://www.youtube.com/watch?t=73&v=QNRIFSQMXMc
และ “I Can See You,” ของ Graham Reznick ที่ลงทุนกำกับ เขียนบท กำกับภาพ กำกับเสียง และแสดงเองเสร็จสรรพครับ ชมคลิปตัวอย่างที่นี่ https://www.youtube.com/watch?v=CJWsJY7K_yA

ส่วนตัวผมยอมรับว่าไม่ได้ตามงานของทั้งคู่เลย บางเรื่องก็มีผ่านตามาบ้าง หรือไม่ก็อาจลืมไปแล้ว จำได้ว่าหนังฆาตกรหน้ากากสัตว์เรื่อง You’re next ก็จะเห็น Larry Fessenden เล่นในหนังเรื่องนี้ด้วย ที่จำได้เพราะแกหน้าเหมือน แจ็ค นิโคลสัน มากๆ 55+  และเพิ่งมารู้จักอีกทีก็ตอนที่ทั้งคู่มีส่วนร่วมเป็นที่ปรึกษาในเกม “Until Dawn” นี่แหละ โดยในเกม“Until Dawn” Graham จะมาช่วยให้คำปรึกษาเรื่องการเขียนบท และ Larry นอกจากจะช่วยดูแลเรื่องบทแล้วก็ยังจะมารับเชิญในการให้เสียงพากย์ในเกมด้วยครับ การันตีว่า เกม “Until Dawn” จะต้องตื่นเต้นน่ากลัวจนตาไม่กระพริบแน่นอนถ้าได้ 2 บุคคลสยองนี้ที่มาร่วมแจม 

Cr ข้อมูลบทความจาก
http://until-dawn.wikia.com/wiki/Until_Dawn_Wiki
http://nygamecritics.com/2013/01/07/new-presenters-filmmakers-larry-fessenden-and-graham-reznick/
https://en.wikipedia.org/wiki/Glass_Eye_Pix
http://glasseyepix.com/tag/larry-fessenden/
http://www.imdb.com/name/nm0275244/
http://www.imdb.com/name/nm1657200/
http://www.imdb.com/title/tt2742544/fullcredits?ref_=tt_ov_wr#writers


                                             THE BUTTERFLY EFFECT 

ก่อนอื่นต้องมาขยายความคำว่า ทฤษฏี Butterfly Effect ที่ถูกนำมาใช้เป็นระบบหลักของเกมกันก่อน หลายคนคงเคยรู้จักระบบนี้มาบ้างแล้วกับเกมอย่าง heavy Rain, Beyond Two Soul หรือ Life is Strange ซึ่งระบบที่ว่าพูดง่ายๆก็คือ เมื่อคุณตัดสินใจให้ตัวละครในเกมทำอะไรลงไปมันก็จะส่งผลถึงตัวละครอื่นและเหตุการณ์หลักในเกมที่จะเกิดขึ้นในอนาคตนั้นเปลี่ยนแปลงไปด้วย ซึ่งก็แน่นอนว่า มันจะทำให้ฉากจบของเกมนั้นเปลี่ยนไปตามที่เราเลือกตัดสินใจทำไว้ระหว่างเล่นเกมด้วยนั่นเอง ซึ่งเป็นจุดขายหลักของเกมหลายเกมที่พยายามพ่วงระบบนี้เข้ามาผู้เล่นได้ร่วมรับผิดชอบในเรื่องราวในเกมครับ




ที่มาของ “ทฤษฎีผีเสื้อกระพือปีก” หรือ “Butterfly effect” นั้นมันพัฒนามาจาก ทฤษฎีแห่งความไร้ระเบียบ หรือ chaos theory นั่นแหละ โดยศาสตราจารย์ เอ็ดเวิร์ด เลอลอง นักวิทยาศาสตร์คนแรกที่ได้รับเครดิตในเรื่องทฤษฎีนี้กล่าว
เปรียบเปรยจากความคิดเห็นถึงเรื่องราวต่างๆที่มาจากทุกสาขาวิชาของคนบนโลก มันจึงดูสับสนอลหม่านไปหมด และความไร้เสถียรภาพนี้มีมันจึงมีความอ่อนไหวสูงยิ่ง เปราะบาง และเมื่อมีการกระทบเพียงความคิดเล็กน้อยที่มากระทบก็ทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงไปอย่างไม่เป็นเส้นตรง กวัดแกว่ง และบางครั้งก้าวกระโดด เกิดตรงจุดนั้นบ้าง จุดนี้บ้าง ตามความคิดเห็นที่แตกต่างกันทำให้ยากที่จะทำนายผลลัพธ์ได้เพราะมีสิ่งอื่น ๆ ที่มาเป็นองค์ประกอบหลาย ๆ ประการที่ส่งผลต่อระบบใหญ่ เปรียบกับแม่น้ำสายใหญ่เกิดจากสายน้ำหลายสายไหลมาบรรจบกัน ซึ่งแนวความคิดอันนี้ก็ไปกระทบกับแนวความคิดดั้งเดิม ที่คิดว่าทุกสิ่งทุกอย่างต้องแน่นอน ซึ่งผลกระทบที่ว่าก็ถูกเรียกอย่างชัดเจนแยกออกมาว่า “ทฤษฎีผีเสื้อกระพือปีก” หรือ “Butterfly effect” ครับ 

แต่ ความหมายของ “Butterfly effect” นั้นสามารถมองความหมายได้ 2 อย่าง ถ้าเป็นมุมมองของนักวิทยาศาสตร์หรือนักวิจับก็จะหมายถึงสมการคำนวณทางคณิตศาสตร์ ของศาสตราจารย์ เอ็ดเวิร์ด เลอลอง  ที่เคยทำลองโดยอ้างอิงจากทฤษฎีอุตุนิยมวิทยา ที่เขาว่าผีเสื้อตัวหนึ่งกระพือปีกที่ฮ่องกง สามารถที่จะทำให้ดินฟ้า อากาศที่แคลิฟอร์เนียเปลี่ยนแปลงได้เมื่อ 1 เดือนต่อมา และจากกระบวนการที่ศาสตราจารย์ท่านนั่งเฝ้าตัวเลขที่ค่อย ๆ ปรับเปลี่ยนไปเป็น .0000001 ของ ทศนิยม ของเข็มรายงานความเคลื่อนไหวของอากาศ ทุกครั้งที่เกิดการสั่งสะเทือนของระบบการรับข่าวสารเกี่ยวกับสภาวะอากาศ จุดทศนิยมที่เปลี่ยนแปลงไปแต่ละจุด ๆ เมื่อเกิดความคลาดเคลื่อนไปแล้วจะทำให้เกิดรูปร่างที่เสมือนกับโครงสร้างของ ผีเสื้อ นั่นเองครับ ส่วนถ้าเป็นอย่างเราๆก็เป็นการสื่อความหมายง่ายได้แบบตามประสามนษย์ธรรมดาว่า หากเราทำบางสิ่งไปนิดหน่อยแต่บางที่มันอาจทำให้เกิดเรื่องราวใหญ่โตได้ในภายหลังไงครับ 

แล้ว  “ทฤษฎีผีเสื้อกระพือปีก (Butterfly effect)” นี้มันเป็นแค่ทฤษฎีหรือปาฏิหาริย์ในหนังกับเกม มันจะมาเปลี่ยนแปลงชีวิตคุณได้หรือเปล่าล่ะ มีแน่นอนครับ เพราะมันก็คือทุกการเลือกของเราในทุกย่างก้าวของชีวิตนั่นแหละ ทุกการเลือกมันจะส่งผลลัพธ์ตามมาเสมอ ถ้าคุณเลือก ออกกำลังกายทุกวันคุณก็จะได้สุขภาพที่แข็งแรงกลับมา คุณเลือกดื่มเหล้าเมายาก็ได้โรคร้ายกลับมา โดยเฉพาะเรื่องเล็กๆ ที่คุณคิดว่าไม่สำคัญ หรือไม่ส่งผลกระทบกับคุณตอนนี้แหละตัวดีที่ตรงตามทฤษฏีนี้เลยละ  เพราะแต่เมื่อสิ่งเล็กสะสมไปเรื่อยๆ จนถึงวันที่มันนั้นส่งผลร้ายกับคุณโดยไม่ทันรู้ตัวเลยครับ

Cr เครดิตบทความจาก 
http://www.math.psu.ac.th/html/th/Article/83-The-Butterfly-Effect.html



ผีเสื้อตัวเล็กขยับปีกเล็กๆของมันในวันนี้ อาจกลายเป็นพายุใหญ่สร้างความเสียหายให้ต่อไปในภายภาคหน้า การตัดสินใจในเรื่องเล็กน้อย อาจสร้างภาระอันใหญ่หลวงต่อไปในอนาคต การกระทำทุกอย่างของคุณจะส่งผลและดำเนินไปพร้อมๆกับการคลี่คลายของเรื่องราวในเกม ซึ่งการเปลี่ยนแปลงจะเกิดจากการเลือก 2 รูปแบบคือ
1. การเลือกตัดสินใจที่ส่งผลกับ นิสัยและความสัมพันธ์ระหว่างตัวละครเล็กน้อย (แต่บ่อยครั้งเขาก็จะส่งผลมากขึ้นได้) ทุกครั้งที่เลือกกระทำจนเกิดผลแล้วจะมีคำว่า Status update ขึ้นที่มุมซ้ายของจอ 
2. . การเลือกตัดสินใจที่ส่งผลกับเหตุการณ์หลัก ทุกครั้งที่เลือกกระทำจนเกิดผลแล้วจะมีรูปผีเสื้อแตกกระจายขึ้นที่มุมซ้ายของจอ พร้อมกับคำว่า Butterfly effect ซึ่งนอกจากจะทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงของเนื้อเรื่องแล้ว ยังจะส่งผลกับ นิสัยและความสัมพันธ์ระหว่างตัวละครที่เกี่ยวข้องเป็นอย่างมากด้วย 



โดยจะมีอยู่ 22 ทางเลือกที่ Butterfly effect ทำให้สิ่งต่างๆเปลี่ยนไปโดยทันที ทั้งนิสัยตัวละคร ความสัมพันธ์กับเพื่อนคนอื่น รวมถึงเหตุการณ์เรื่องราวบางอย่างในอนาคตด้วย ทุกทางเลือกที่คุณได้สร้างขึ้นจะเป็นหนึ่งในเรื่องราวที่จะเกิดขึ้นได้ในเกม เพราะฉะนั้น ....  จงตัดสินใจเลือกให้ดี 


                        -Butterfly Effect – เหตุการณ์ผันแปรทั้งหมด 

Any of your Business – Sam ต้องเลือกระหว่างจะแอบดูโทรศัพท์ในกระเป๋าของ Chris หรือไม่ 
Rat with Bushy Tails – Chris ต้องเลือกระหว่างจะยิงกระรอกเป็นเป้าเล่นหรือไม่ 
The Soul of Discretion – Ashley ต้องเลือกระหว่างจะให้ Matt ส่องกล้องดู Emily กอดกับ Mike ในป่าหรือไม่ 
Whose side are you on – Matt ต้องเลือกระหว่างว่ากล่าว Jess หรือ ห้าม Emily ตอนที่ทั้งคู่ทะเลาะกัน
Be her Hero – Mike ต้องเลือกระหว่างจะโดดลงไปช่วย Jess ที่ตกลงไปในเหมืองหรือไม่ / เลือกช่วย Jess แทนการเก็บกุญแจที่หน้ากระท่อม 
Something for Later – Sam ต้องเลือกระหว่างการถามถึงไม้เบสบอลของ Josh อย่างจริงจังหรือเล่นๆ 
To the Rescue – Mike ต้องเดินทางไปช่วย Jessica ให้ทัน 
And which one will Die – Chris ตัดสินใจช่วย Ashley จากเลื่อยนรก 
At what Price – Mike ตัดสินใจตัดนิ้วหรือใช้มีดงัดกับดัก 
Man’s best Friend – Mike ตัดสินใจเอากระดูกให้หมาป่าที่เฝ้าประตูจนได้มันเป็นเพื่อน
On the Same page – Matt ต้องเลือกว่าจะไปที่หอคอยสื่อสารหรือไม่ 
Run or Hide – Sam ที่ต้องเลือกหลบซ่อนหรือวิ่งหนีตอนหนีชายสวมหน้ากาก 
In Self Defense – Matt ต้องเลือกที่จะไม่ทำร้ายกวางเพื่อเดินผ่านทางไปอย่างปลอดภัย 
Who get the gun – Emily ต้องเลือกว่าจะให้ปืนพลุกับ Matt หรือเปล่า 
Save yourself – Matt ตัดสินใจโดดไปที่ที่ปลอดภัยก่อนช่วย Emily 
Forewarned is forearmed – Ashley เลือกที่จะเก็บกรรไกรไว้ติดตัว
Stick Together – Ashley เลือกที่จะเดินตามคริสไปโดยไม่แยกทาง
Point Blank – Chris เลือกยิงหัวตัวเองแทน Ashley 
Once Bitten – Emilyโดน Wendigo กัด แล้วคริสจะเลือกยิงเธอหรือเปล่า 
Left Behind – Ashley ไม่ยอมทิ้งให้ Chris อยู่ในท่อระบายน้ำ และ เลือกที่จะไปหรือไม่ไปดูตามเสียงของ Jess 
Important Discovery – Sam เจอบันทึกของฮานน่าในถ้ำแล้วบอกความจริงกับ Josh 
The Result of Chaos – ทางเลือกสุดท้าย Sam จะพาทุกคนหนีออกมาจากบ้านได้หรือไม่ ?


                            Character Traits  เมนูสเตตัสค่าบ่งบอกนิสัยของตัวละคร 





1 Honest ความซื่อสัตย์ (ค่านี้จะเพิ่มขึ้นต่อเมื่อเราจริงใจเเละไม่โกหก)
2. Charitable ความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ หรือ ความมีน้ำใจ
3. Funny ความตลก เฟรนรี่ เข้ากับคนง่าย
4. Brave ความกล้าหาญ
5. Romantic ความโรเเมนติก
6.Curious  ความอยากรู้อยากเห็น หรือ เกทความเสนอหน้าที่ทำให้ตายเร็วนั่นแหละครับ

โดยทฤษฏี Butterfly Effect ก็จะส่งผลกับเกทนิสัยนี้ด้วยเพราะมันสามารถเปลี่ยนแปลงไปตามผันแปรของเหตุการณ์ต่างๆที่ตัวละครแต่ละตัวเจอด้วย ถ้าถามว่าทางหลักจิตวิทยานั้น นิสัยของมนุษย์ เปลี่ยนแปลงได้หรือเปล่า?




ถ้าคุณที่กำลังเล่นเกม“Until Dawn” แล้วเห็นเกท Character Traits หรือ ค่าสเตตัสนิสัยของตัวละครมันเปลี่ยนแปลงขึ้นลงได้ตามสถานการณ์ที่เจอ คุณอาจส่งสงสัยว่า นิสัยหรือสันดานคนเรามันเปลี่ยนขึ้นลงได้ด้วยหรอ ?  ผมบอกได้เลยว่า ทางหลักจิตวิทยานั้น นิสัยของมนุษย์เรา เปลี่ยนแปลงได้ครับ มันเปลี่ยนตามตัวแปรที่เกิดขึ้นกับเราแบบในเกมนั่นแหละ แต่ถ้ามองในแบบบ้านเราเมืองพุทธก็ต้องยกตัวอย่างตัวแปร 2 ตัวที่ทำให้นิสัยหรือสันดานคนเรามันเปลี่ยนนั่นก็คือ จริตของแต่ละคนกับกิเลสที่มันผุดขึ้นมาจากจิตใจอันโง่เขลาของเราไงครับ โดยการสะสมกิเลสบ่อยๆ คนบางคนมีกิเลสที่มีแต่ความคิดไม่ดีตลอดมันก็ทำให้จิตใจเศร้าหมองกลายเป็นคนเก็บกดได้ หรือ กิเลสที่ทำให้คนเกิดความปรารถนา ความต้องการมากๆ  อยากได้อยากเห็น อยากได้ยินอยาก แล้วถ้ามันไม่ได้ดั่งใจก็จะเปลี่ยนไปเป็นคนขี้โมโห ขี้หงุดหงิด ไม่พอใจอะไรไปเรื่อย นี่ยังไม่รวมกิเลสตัวอื่นอีกนะ ทั้ง มานะ ความเย่อหยิ่ง ถือตัว สำคัญตนว่าเป็นผู้ประเสริฐกว่าผู้อื่น , ทิฏฐิ ความเห็นผิดจากความเป็นจริงต่างๆ , วิจิกิจฉา ความสงสัย ลังเลใจ ในสิ่งที่ควรเชื่อ , อวิชชา ความหลง ความไม่รู้ตามความเป็นจริง กิเลสทุกตัวทำให้นิสัยและสันดานของเราเปลี่ยนทุกวันอยู่แล้วครับ  ซึ่งเป็นสิ่งยืนยันว่า นิสัยใจคอของคนเราแม้มันจะติดตัวมากับเราตั้งแต่เกิดมันก็สามารถเปลี่ยนแปลงได้ตามสภาพแวดล้อมของจิตใจได้ไม่ต่างกับค่า Character Traits ของตัวละครทั้ง 8 ในเกม “Until Dawn” ที่เปลี่ยนได้อย่างฉับพลันทุกครั้งที่กำลังหนีตายนั่นแหละครับ


และเกทที่สำคัญอีกอันคือ Character Traits ซึ่งเกทนี้ก็จะส่งผลทางอ้อมกับเกท Relationship Status หรือค่าความสัมพันธ์ของนิสัยตัวละครกับตัวละครอื่น และเกทนี้ก็สามารถเพิ่มและลดได้อีกตามสิ่งที่เราเลือกทำและสุดท้ายมันก็จะส่งผลให้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นผันแปรไปอีกหากความสัมพันธ์ของตัวละครเริ่มเปลี่ยนไปด้วยครับ




                                                 บทสรุป Until Dawn


By Decibel per- oxide 



                                                             Prologue






ไอเย็นยะเยือกที่ปกคลุมกระท่อมกลางป่าแบล็ควู๊ดจนเกือบมืดมิด ท่ามกลางคืนที่มืดสนิท ร่างปริศนายืนกำมีดเข้ามาประชิด วัยรุ่นกลุ่มนึงที่อยู่ด้านในกระท่อมที่กำลังเฮฮาอาจไม่ทันคิดว่าชีวิตกำลังจบลง




Emily – ให้ตายดิ ไม่อยากเชื่อเลยว่าจะทำแบบนี้กันจริงๆหรอ 
Jessica – ชู่ๆๆ เงียบๆสิ 
Sam – เดี๋ยวๆ พวกเธอ จะเล่นมุขนี้มันจะไม่แรงไปหน่อยหรอ 
Jessica – ไม่เอาน่า เธอรับได้อยู่แล้วแหละ Huge Crush 
Sam – มันไม่ใช่ความผิดของเธอซะหน่อยที่ไปแอบชอบ Mike นะ
Jessica – โธ่ ยัย Hannah พร้อมจะพุ่งเข้าหาอยู่แล้วแหละชั้นดูออกน่า 
Emily – หล่อ เท่ ที่สุดในห้องก็ไม่ได้แปลว่าเขาจะเป็นของทุกคนนะ Mike เป็นของชั้นคนเดียวย่ะ ฮ่าๆ
Mike – เฮ้  เอ็ม ผมไม่ได้เป็นของใครก็ได้ซะหน่อย
Emily – ก็แล้วแต่นะที่รัก ฮ่าๆๆ 

แผนตลกร้ายของยัย Jessica หัวโจกกำลังถูกบอกย้ำให้เพื่อนฟังอีกครั้งภายใต้ความเห็นดีเห็นงามของ Emily และ Mike ที่กำลังทำแผนสร้างความฮากับ Hannah โดยที่เธอไม่รู้ตัว ในขณะที่ Sam ค่อนข้างที่จะกลัวว่ามุขมันจะรุนแรงเกินไปแต่ก็ขัดความมันของเพื่อนไม่ทันจนเธอต้องพยายามปลีกตัวไปเตือน Hannah ก่อนด้วยตัวเอง ท่ามกลางเหตุการณ์ที่กำลังเริ่มมัน Beth ที่กำลังล้างจานกับ Josh และ Chris ที่เมาหลับคาโต๊ะกลับไม่ทันได้รู้ตัว


เงาลางๆของชายลึกลับที่ด้านนอกของกระท่อมเริ่มเห็นเด่นชัด ทำให้ Beth เริ่มจะเรียกเพื่อนๆให้มาดู แต่ดูเหมือนเพื่อนๆที่ทั้งหมดที่กำลังพุ่งเป้าไปที่แผนมันๆกับ Hannah ได้ออกมาไปหมดห้องแล้ว เหลือแต่ Josh และ Chris  2 คนที่เมาหลับอยู่ที่โต๊ะ




Beth – เฮ้ ทุกคน เห็นอะไรข้างนอกนั่นมั๊ยอ่ะ พ่อบอกว่าไม่มีใครอีกนอกจากเราในวันหยุดนี่หว่า .. อ้าวไปไหนกันหมดแล้ว 

-สำรวจในห้องให้ทั่วๆ ( X – สำรวจ) (อนาล็อกขวา – มุมกล้อง) บนโต๊ะจะมีกระดาษอยู่หยิบขึ้นมาดูซะ (R2 – เก็บ) + (อนาล็อกขวา – มุมกล้อง) ผลิกดูรายละเอียดของสิ่งของ จะพบข้อความในจดหมายว่า

ถึง Hannah ชุดที่คุณใส่อยู่มันดูเร้าร้อนมาก แต่ผมพนันได้เลยว่าคุณจะดูเร้าร้อนกว่าอีกถ้าถอดมันออก มาเจอผมที่ห้อตอนตี 2 หน่อยสิ   จาก Mike

Beth – โอ้ อะไรเนี้ย  ไม่ใช่ยัยน้องสาวซื้อบื้อแรดไปหาเขาถึงที่แล้วหรอเนี้ย ? 


ทางด้านในห้องของ Mike .....





Hannah – อ่อ ชั้นเห็นจดหมายนั่นนะ 
Mike – ดีใจจังที่คุณยอมมา .... ใจเย็น บางทีผมว่าค่อยๆถอดจะดีกว่านะ (พระเจ้า แมร่งถอดจริงๆด้วย) 
Jess – เฮ้ยๆๆ เธอถอดจริงๆด้วยอ่ะ ฮ่าๆๆ 

เสียงของ Jess และ Emily ที่แอบอยู่ใต้เตียงดังลั่นออกมาเพราะกลั้นความฮาไม่ไหว Matt ที่แอบอยู่ด้านในตู้ก็ออกมาพร้อมกล้องแอบถ่ายในมือ


Hannah – ใครน่ะ พระเจ้า ! พวกเธอ Matt ด้วยหรอ ?  ทำไมทำแบบนี้ละ 
Mike – โทษที Hannah ผมขัดเขาไม่ได้อ่ะนะ
Sam -  Hannah เฮ้ ใจเย็น มันแค่ ... 
Hannah – Mike คุณ ... ทุกคน …. ทุเรศที่สุด !!
Sam – เห็นมั๊ยเล่นพิเรนกันจนเกิดเรื่องจนได้ พวกนายมันงี่เง่ามากรู้ตัวมั๊ย ?? … Hannah !!

ด้วยความเสียใจของ Hannah ที่เห็นว่าทุกคนแกล้งทำกับเธอเหมือนตัวตลก เธอจึงวิ่งหนีออกไปจากกระท่อมด้วยความอับอายผ่านห้องครัวที่ Beth พี่สาวที่กำลังเป็นห่วงเพราะเพิ่งเห็นจดหมายพอดี



เรียนรู้การเลือกกระทำ ที่ตอนนี้สามารถเลือกได้ว่า จะปลุก Josh ก่อน (Wake Josh)   หรือ ออกไปหาทุกคนเลย (Find Others) (ซึ่งในช่วงแรกนั้น ทางเลือกมันเป็นแค่เบสิคที่ไม่มีอะไรที่ทำให้เกิดผลร้ายแรงมากนัก เพราะยังไงปลุก Josh ไปมันก็ไม่ตื่น)

ด้วยความที่ตอนนี้ Beth กำลังกังวลกับเรื่องสิ่งแปลกปลอมที่เธอเห็นนอกกระท่อมและ Hannah น้องสาวเธอที่วิ่งออกไปจากกระท่อมอย่างกระทันหัน ทำให้ ไม่ว่าจะเลือกทางไหน Beth ก็จะวิ่งตามทุกคนออกไปดูเหตุการณ์อยู่ดี



Beth – มันเกิดบ้าอะไรกันเนี้ย แล้วน้องชั้นเป็นอะไร เธอไปไหน !!
Jess – Hannah เธอรับไม่ได้กับมุขตลกของพวกเรานะ 
Emily – ตลกๆน่า Hannnn ..! 
Beth – พวกเธอทำอะไรกัน เล่นตลกอะไร ห๊า !
Mike – เธออยู่แถวๆนี้แหละ Beth ไม่เห็นต้องซีเรียสเลย 
Beth – นายมันงี่เง่า Mike !! …..  Hannah !! อยู่ไหน !!
Mike – อ่อ แล้ว พวกเราจะต้องช่วยออกตามหามั๊ย ? 
Sam – ให้บอกม๊ย นายเป็นคนสุดท้ายที่เธออยากเจอที่สุดในตอนนี้อ่ะ ไมค์ !

-จากนั้นก็ตามควบคุมการกระทำของ Beth ไปในขณะที่เธอกำลังวิ่งออกไปตามหา Hannah ในป่า ด้วยการกดปุ่มตามให้ทันซึ่งเป็น QTE เพื่อหลบสิ่งกีดขวางตามทางจนถึงสะพานก็จะพบทางเลือกระหว่าง Fast ( โดดลงไปเลยด้วยความรวดเร็ว ) กับ Safe (ลงบันไดไปอย่างปลอดภัย) ตามด้วยทางแยกที่ต้องเลือกระหว่าง Follow Footprint (ตามรอยเท้า) กับ Follow Noise (ตามเสียง)




เมื่อตามาลงมาด้านล่างของเนินทางเดินที่เริ่มจะมืดกว่าเดิมเพราะหิมะเริ่มตกหนักขึ้น ก็จะได้เรียนรู้การใช้สมาร์ตโฟนเป็นไฟฉายด้วยการสไลด็หน้าจอ Joy Pad ไปทางขวาเพื่อเปิดไฟแล้วใช้แกนอนาล็อกขวาในการส่อง เรียนรู้การเดินให้ไวหรือวิ่งด้วย L1 ระหว่างจะพบบางอย่างตกอยู่ เมื่อสำรวจเก็บดูจะพบว่าเป็น Totem




Totem หรือ รูปสลักของเสาไม้แบบอินเดียนแดง ซึ่งเป็นไอเทมสะสมสำหรับบอกถึงเรื่องราวในอดีตทีมีให้ดูในภาพเหตุการณ์ต่างๆ ซึ่งจะปลดล็อกได้ต้องหาให้เจอจนครบทั้งเสาก่อน ซึ่งก็มีทั้ง Totem แห่งความตาย, Totem นำทาง, Totem แห่งความสูญเสีย,  Totem แห่งอันตราย และ Totem แห่งโชคชะตา โดย Totem แรกที่เจอนั้นคือ Death Totem มันได้เผยให้เห็นถึงความตายของผู้หญิงคนนึงที่ตกจากที่สูงแล้วหลังกระแทกหินตาย  (ซึ่งตอนนี้ยังไม่รู้รายละเอียดที่แน่ชัด เอาไว้ยังไงค่อยมาเพิ่มเติมตอนหลังอีกทีครับ) 



-เดินส่องไฟเข้าไปตามทางด้านในป่าจนพบ Hannah นั่งหนาวอยู่กลางทาง ทันทีที่ Beth เข้าไปช่วยเธอ แต่เหมือนมีบางอย่างพยายามจะออกมาไล่ตามพวกเธอทันที Beth และ Hannah ต่างก็สิ่วหนีเข้าไปตามทาง ด้วยความรีบร้อนสมาร์ตโฟนของ Beth เลยตกที่กลางทางด้วย ทั้งคู่พยายามหนีไปจนสุดที่ปลายทางของเหว ชายปริศนามุมมองผ่าสายตาของชุดกั้นความเย็นและเครื่องพ่นไฟในมือกำลังตรงเข้ามาอย่างรวดเร็ว ยังไม่ทันที่ทั้งคู่จะได้ตัดสินใจทำอะไร Hannah ก็พลัดตกเหวไปแต่โชคดีที่ Beth คว้าช่วยไว้ได้ทัน ในขณะที่ชายลึกลับบุกเข้ามาประชิดที่ด้านบนของหน้าผา มือซ้ายจับ Hannah มือขวาจับขอบผา โดยมีชายปริศนาบุกมาตรงหน้า Beth จะต้องเลือกว่าจะทำอะไร ?



ต้องเรื่องระหว่าง Drop Hannah (ปล่อยมือจาก Hannah) หรือ Let go (ปล่อยมือจากหน้าผาให้ตกลงไปด้วยกัน) 

จะเลือกทางไหน หรือยังไง นั้นแล้วแต่คุณ หรือ ความตายที่เห็นใน Totem นั้นมันอาจจะกลายเป็นจริงสำหรับสองพี่น้อง Beth และ Hannah Washington......



                                                  THE ANALYST 



ที่ห้องทำงานของ Dr. A.J Hill …. 




Dr. Hill – เอาละ คุณตื่นขึ้นแล้ว ก่อนที่เราจะเริ่มขั้นตอนต่อไปผมอยากจะแน่ใจก่อนว่าคุณเข้าใจตรงกันนะว่า คุณไม่สามารถเปลี่ยนแปลงเรื่องราวในอดีตเมื่อปีที่แล้วได้ อดีตนั้นคือสิ่งที่เกินกว่าที่เราจะควบคุมมันได้ คุณทำได้แค่ยอมรับมันและเดินหน้าต่อไปเท่านั้น แต่คุณก็มีอิสระที่จะเล่ามันออกมานะ สิ่งที่คุณเลือก สิ่งที่คุณทำลงไป เพื่อเปิดหน้าต่างให้อนาคตไงล่ะ ก็บอกไว้ให้คุณจำไว้ จำไว้ มันก็เหมือนกับคุณกำลังเล่นเกมนั่นแหละ ทุกอย่างที่คุณเลือกทำมันจะส่งผลต่อชะตาของคุณและทุกๆสิ่งรอบๆตัวคุณ ซึ่งมันสามารถบำบัดคุณได้ด้วยการเริ่มต้นเกมนี้ของคุณ มันสำคัญมากนะ แต่ผมก็จะพยายามช่วยคุณให้ผ่านมันไปให้ได้นะ บางที สิ่งที่คุณจะเจอมันอาจจะน่ากลัวหน่อยนะ จะพูดอีกทีมันก็น่ากลัวมากอยู่แหละ ผมเลยต้องให้แน่ใจว่า หากทำแล้วมันจะสำเร็จหรือไม่ก็ตาม คุณก็ต้องเจอคำตอบที่คุณต้องการแน่นอน เอาละ ! เรามาเริ่มกันจากตัวอย่างง่ายๆก่อนแล้วกัน คุณหยิบภาพนี้ขึ้นมาดูหน่อยสิ แล้วบอกผมหน่อยว่า คุณรู้สึกยังไง ?





  ภาพบ้านไร่ข้าวโพดกับหุ่นไล่กา คุณรู้สึกยังไงระหว่าง (ตามที่ผมเลือกคือตัวสีแดง)
1. it Make me Happy (มันทำให้มีความสุข) กับ I Feel Uneasy (รู้สึกไม่สบายใจ)
2. แล้วอะไรที่ทำให้คุณรู้สึกแบบนั้น Scarecrow (หุ่นไล่กา) กับ I’m Not Sure
3. ถ้าไม่มี หุ่นไล่กา นั้นมันจะทำให้คุณสบายใจมีความสุขจนอยากอยู่ในที่ในรูปนั่นตลอดทางรึเปล่า ซักอาทิตย์นึงมั๊ย Sure (ได้เลย) กับ No I Wouldn’t (ไมสนอ่ะ)
4. ทำไมถึงไม่อยากอยู่ ละ I’d have Lonely (ผมเหงา) กับ I’d be Scared (ผมกลัวอ่ะ)
5. แล้วในรูปนั่นมีอะไรที่ทำให้คุณกลัวอีกมั๊ย ? Yes’ There is (ใช่ นี่ไง ) กับ  I Not Sure (ไม่แน่ใจ)



Dr. Hill – โอ้ น่าประหลาดใจนะ บางทีเรามาเจาะลึกในสิ่งที่คุณกลัวที่มันยังติดค้างในใจในครั้งหน้าก็แล้วกันนะ เพราะวันนี้คงหมดเวลาแล้วละ …..


                            CHAPTER 1 - MEMENTO MORI 

1 ปีผ่านไปกับเหตุการณ์โศกนาฏกรรมแห่งป่า Blackwood pines ที่ยากนักที่ผู้คนจะลืมเลือนกับเรื่องราวของสองพี่น้อง Beth และ Hannah แห่งตระกูล Washingtonที่หายตัวไปอย่างปริศนาที่ป่าแห่งนี้ที่แม้ทางการจะระดมกำลังกันค้นหาก็ไม่มีทีท่าว่าจะพบเจอมาจนถึงบัดนี้  ... 




 Sam ในฐานะเพื่อนสนิท Hannah และเป็นหนึ่งในกลุ่มวัยรุ่นที่อยู่ในวัยเกิดเหตุเมื่อหนึ่งปีก่อน เธอกำลังนั่งฟังข่าวในวิทยุผ่านโทรศัพท์มือถือในขณะเดินทางด้วยรถบัสมาที่ป่า Blackwood แห่งนี้อีกครั้ง เพื่อให้เกรียติระลึกถึงความหลังจากคำเชิญของ Josh ทายาทคนรองของตระกูล Washington ที่ยังหลงเหลือ 



Josh ส่งคลิปผ่านรายการข่าวที่ยังยืนยันว่าถึงแม้ทุกอย่างจะผ่านไปด้วยความโศกเศร้าแต่เขาก็ยังยินดีที่จะให้เพื่อนทุกคนกลับมายังป่า Blackwood pinesในหน้าหนาวปีนี้อีกครั้ง ด้วยความระลึกถึงน้องที่จากไปทั้ง 2 คนและเพื่อย้ำเตือนว่าเพื่อนทุกคนยังไม่ลืมสิ่งที่เกิดขึ้นในครั้งนั้น และหวังว่าปาร์ตี้ครั้งนี้จะมันส์จนทำให้ทุกคนลืมคืนวันที่โศกเศร้าในวันเก่าๆไปให้หมดอย่างแน่นอน ... 

10 ชั่วโมงก่อน ตะวันรุ่ง … Sam มาถึงที่ Blackwood pines อีกครั้ง โดยไม่ได้มีเธอแค่ลำพังเหมือนเดิม ...



Sam สาวน้อยผู้เต็มไปด้วยความโอบอ้อมอารี ขยันบากบั่น รักการผจญภัย เพราะเกท Charitable และ Brave ของเธอนั้นค่อนข้างสูง (สเตตัสนี้ทำให้รู้เป็นนัยๆว่า Sam เป็นนางเอก)  และอยู่ในฐานะเพื่อนรักที่รู้ใจ Hannah เกท Relationship Status เริ่มแรกของ Sam กับเพื่อนๆแต่ละคนนั้นคงที่ไม่มีใครเป็นพิเศษกับเธอ Sam เดินทางมาถึงที่ทางเข้าและกำลังจะมุ่งหน้าไปที่สถานีรถกระเช้าในช่วงเวลา 21.02 น. 


       1 ปีผ่านไปความสัมพันธ์ของเพื่อนทั้ง 8 มีความเปลี่ยนแปลงคร่าวแบบนี้นะครับ





- ทันทีที่เดินเข้ามาถึงที่รั้วด้านหน้าก็จะพบกระดาษโน้ตที่ Chris เขียนเอาไว้ว่า “ประตูใช้งานไม่ได้ต้องปีนข้ามเอาเอง” ด้านกลังของกระดาษจะเห็นว่าเป็นกระดาษที่ปริ๊นจาก E-mail ที่ Josh ส่งให้ Chris เมื่อวันที่ 28 ธ.ค 2014 เพื่อเชิญให้มาปารตี้ที่ Blackwood pines อีกครั้ง ซึ่งในข้อความตอบกับของ Chris ก็ยังงงว่า Josh จะให้กลับไปที่ที่เคยเกิดเรื่องอีกทำไม ?
-ไม่ต้องขยับประตูก็น่าจะรู้ว่ามันล็อก มองทางซ้ายจะเห็นแสงกระพริบที่กำแพงมันคือจุดที่สามารถปีนข้ามมาได้ มันมีทางเลือกให้ปีนอย่างระวังๆ (Safe) และ ปีนอย่างเร็วๆ (Quick) จากนั้น กระโดดไปเลย (Jump) หรือ ปีนต่อ (Climb) ก็เลือกเอา เมื่อข้ามมาแล้ว คุณสามารถดูสิ่งที่ต้องทำได้ด้วยการกด R1 เพื่อดู Objective ในหน้าจอเมนูได้


ระหว่างทางจะเจอป้ายอธิบายสัญลักษณ์ผีเสื้อพยากรณ์ของพวกอินเดียนแดง (Butterfly Prophecies)



ผีเสื้อสีดำ – ทำนายถึงความฝันแห่งความตาย
 ผีเสื้อสีแดง – ทำนายถึงเหตุการณ์อันตรายที่จะเกิดขึ้น
ผีเสื้อสีน้ำตาล – ทำนายถึงเรื่องราวเลวร้ายที่จะเกิดกับเพื่อน
ผีเสื้อสีเหลือง – ทำนายถึงเรื่องการนำทางสู่ทางแก้ปัญหา
 ผีเสื้อสีขาว – ทำนายถึงความฝันแห่งโชคและอนาคตที่ดี 
ซึ่งมันก็คือคำทำลายที่เคยเห็นจาก Totem ที่ Beth เคยเก็บสีดำที่เป็นภาพความฝันของตัวเธอที่ตกจากที่สูงจนตายนั่นเอง และเมื่อ Sam เก็บ Totem ของเธอได้ที่ใกล้ๆป้ายนี้ เธอได้คำทำนายสีเหลืองซึ่งเป็นภาพของ Mike กับนกที่เกาะอยู่ แวบเดียวไม่รู้อะไรมากแต่รู้แล้วว่า Mike อาจกำลังจะซวย 

-เดินต่อมาจนถึงสถานีรถกระเช้าที่ด้านหน้าทางเข้า Sam จะพยายามเรียกหา Chris เพราะเธอคิดว่าเขาน่าจะมาถึงก่อนเพราะจดหมายที่ประตูและทันทีที่เจอเป้ของ Chris วางอยู่แต่ไม่เจอตัว Sam จึงลองเข้าไปตรวจดูก็จะพบเป้ที่เปิดออกจนเห็นโทรศัพท์มือถือที่โผล่ออกมา




 ตรงนี้สามารถเลือกได้ว่าจะปิดกระเป๋า (Close Bag) หรือ หยิบโทรศัพท์ออกมาดู (Snoop) ถ้าเลือกปิดกระเป๋าก็เข้าทางนางเอก แต่ถ้าเลือกหยิบมาดูก็จะเห็นว่า Ashley ส่งข้อความเข้ามาหา Chris  ไม่ว่าจะเลือกข้อไหนไป Butterfly Effect ในหัวข้อ Any of your Business ของ Sam ก็จะเริ่มทำงานทันที 


     

แต่ทันใดนั้น Chris ก็โผล่ออกมาทันที หนุ่มแว่น เจ้าระเบียบ ชอบดูแลคนอื่น และตลกขบขัน ซึ่งสเตตัสของ Chris นั้นเป็นเพื่อนที่ดีกับ Sam ในระดับที่เรียกว่าดีและก็อยู่ในฐานะเพื่อนซี้กับ josh ด้วย และตอนนี้ Chris กำลังแอบชอบกับ Ashley อยู่ด้วย Chris รีบไปคว้าเป้แล้วรีบชวน Sam ดูอะไรบางอย่างที่เขาเพิ่งเจอมาทันที โดยบอกว่า Sam เห็นต้องตะลึงแน่นอน

ระหว่างทางจะพบป้ายประกาศจับอาชญากรที่หลบหนีที่ชื่อ Milgram Victor ตั้งแต่ 16 มีนา 1998 เบาะแสนี้จะสำคัญและได้ใช้งานหรือเปล่ายังไม่แน่แต่ตอนนี้มันเข้าไปอยู่ในแฟ้มหลักของของ Sam แล้ว    
- ทันทีที่เดินตาม Chris เข้าไปที่ด้านหลังของสถานีซึ่ง Chris ก็จะอวดสิ่งที่เขาเจอให้ Sam ดู มันคือที่ซ้อมยิงปืนนั่นเอง ขณะที่ Sam กำลังงงว่ามันน่าสนใจตรงไหนและจะมายิงอะไรได้ที่สถานีรถกระเช้านี้ ซึ่ง Chris ก็จะอดจะตื่นเต้นไม่ได้อยู่ดีเลยเข้าไปลองยิงเป้าดูซักหน่อย

- บังคับ Chris ให้ยิงเป้าต่างๆที่แขวนอยู่ให้หมด ซึ่งก็จะทำให้รู้ว่าฝีมือการยิงปืนของ Chris แน่นอนอยู่ในระดับนึงเลย แต่ยัง Sam ก็ยังอดกัดไม่ได้ว่าที่ยิงโดนไปนั้นเพราะเป้ามันใหญ่และโชคดี ทำให้ Chris เลยจะยิงโชว์อีกรอบ ในขณะนั้นเจ้ากระรอกตัวน้อยก็ดันออกมากินอาหารบนตอไม้พอดี




ซึ่งตอนนี้ไม่มีตัวเลือกให้เลือกได้คุณก็สามารถเลือกให้ Chris ยิงไปที่เป้าทางซ้ายที่เป้าที่เป็นถุงผ้าที่แขวนอยู่แทนที่จะยิงที่กระรอกบนตอไม้ทางขวา ซึ่งก็จะทำให้ Butterfly Effect “Rat with Bushy Tails” ของ Chrisจะเริ่มทำงานทันที 


-Sam จะรีบชวน Chris ไปหาทางเข้าไปที่สถานีรถกระเช้าต่อทันทีก่อนที่ Chris จะคุยไม่เลิกกับเรื่องอวดฝีมือยิงปืน เมื่อ Sam มาสำรวจที่ประตูทางเข้าสถานีก็จะพบว่ามันล็อกแต่ก็โชคดีที่กุญมันอยู่กับ Chris เพราะ Josh ได้ให้เขาเก็บไว้เพื่อกันไม่ให้มีชาวบ้านเข้าไปแอบนอนด้านใน เมื่อเข้าไปด้านในแล้วบังคับ Chris สำรวจให้ทั่วๆซึ่งยังไม่พบอะไรที่น่าสนใจนอกจอมอนิเตอร์ภาพล้มๆเครื่องนึงทำงานอยู่ จากนั้นก็ออกไปบอก Sam ให้เข้าไปที่รถกระเช้าออกเดินทางได้เลย



Chris – ตื่นเต้นอย่างกับตอนไปงาน Prom สมัยเรียนเลยแฮะ 
Sam – รถออกแล้วว 
Chris – ช่าย การผจญภัยเริ่มต้นแล้ววว 
Sam – โอ้ ก็หวังว่าที่เราเลือกมาที่นี่อีกครั้งมันเป็นเรื่องที่ถูกนะ นายก็รู้ว่าทุกคนอยากจะกลับมาเพื่อฉลองวันครบรอบแต่กกับ Josh ชั้นไม่แน่ใจว่าเขาจะสนุกด้วยมั๊ย
Chris – ก็ไม่นะ ผมไม่เห็นเขาตื่นเต้นอะไรแบบนี้มาก่อนเลยนะ เขาต้องรู้สึกเหมือนพวกเราแหละน่า  
Sam – ก็ดี แต่ชั้นก็ยังกังวัลอยู่นิดหน่อยแหละ แล้วก็ไม่กล้าบอก Josh ด้วย ก็หวังว่าทุกคนที่มากันคงคิดเหมือนกันนะ 
Chris – พวกเราก็มาอยู่นี่ด้วยกันแล้วไม่ใช่รึไง 
Sam – พูดได้ดี ฮ่าๆ 
Chris – ผมว่าเลิกพูดว่าจะเกิดนู้นนี่นั่นและสนุกไปกับทริปนี้ดีกว่านะ 
Sam – ก็นะ นายก็พูดถูก 
Chris – เธอรู้มั๊ยผมกับ Josh เจอกันได้ไง .. ตอนเกรด 3 นู้น Josh มันเด็กหลังห้อง ผมนั่งหน้าห้อง เราทั้งคู่ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าอีกฝ่ายเรียนห้องเดียวกัน ฮ่าๆ จนวันนึง Josh มันดันเล่นแกล้งถอดบาร์เพื่อผู้หญิงโต๊ะหน้า ครูเลยย้ายมันมานั่งหน้าห้องเฉยเลย  
Sam – แล้วไง ?
Chris – แล้วผมก็ถูกย้ายไปนั่งหลังห้องแทนไงละ 
Sam – แล้ว ?
Chris –  ก็ไม่นาน Josh มันก็ถูกไล่มาหลังเหมือนเดิม เราเลยได้รู้จักกันไง ก็เป็นเพื่อนกันจนถึงทุกวันนี้แหละ เพราะเสื้อในยัยเจนนี่แท้ๆเลย 
Sam – ว้าว สวรรค์ลิขิตเลยนะน่ะ 
Chris –   ไม่รู้สิ  ใครจะรู้ ถ้ายัยเจนนี่ไมได้อวบจนใส่เสื้อในเร็วไป 3 ปี วันนั้นผมก็คงไม่ได้ซี้กับ Josh  แล้วเธอก็จะนั่งในกระเช้านี่คนเดียวโดยไม่มีผมนั่งเป็นเพื่อนแบบนี้ไง Sam โป๊ะเชะ ! เขาเรียก Butterfly Effect เข้าใจยัง ? 



 21. 37 น. อีกฝั่งของสถานีรถกระเช้า Jessica มานั่งรออยู่แล้ว Jess สาวมั่น เอาแต่ใจ เจ้าอารมรณ์และไร้ซึ่งมารยาท ตัวปัญหาคนเดิมที่แทบไม่แตกต่างกับเมื่อ 1 ปีที่แล้วเลยนอกจากสัมพันธภาพใหม่ที่ตอนนี้เธอเป็นแฟนใหม่ของ Mike ด้วยซึ่งก็ทำให้ Jess ต้องไม่กินเส้นกันกับ Emily ที่ตอนนี้เธอคบกับ Matt แต่ก็ดันมาแอบกิ๊กกับ Mike อยู่ด้วย และสำหรับ Jess กับ Sam นั้นทั้งคู่เข้ากันไม่ได้มาตั้งนานแล้วครับ



ในขณะที่ Sam กับ Chris หรืออาจจะทุกคนที่มาในงานครบรอบนี้คงกำลังกระอักกระอ่วนใจไม่ต่างกันถึงเรื่องร้ายๆที่เคยเกิดขึ้นรวมถึงความเกรงใจกับสภาพอารมณ์ของ Josh ที่อาจจะดูเหมือนเริงร่าแต่ตัวเขาจะรับกับการกลับมาของทุหคนหรือเปล่าก็ยังไม่รู้ แต่ดูเหมือน Jess จะไม่ได้สนใจอะไรมากกว่าได้ดี้ด๊ากับเพื่อนใหม่ๆอีกแล้ว

- บังคับ Jess เดินไปที่ทางเข้าสถานีรถกระเช้าเธอก็ต้องตกใจทันทีเมื่อ Sam กับ Chris เคาะกระจกดังลั่นเพราะทั้งคู่ติดอยู่ด้านในสถานีเพราะประตูมันเก่าจนติด ซึ่งแม้ว่าจะไม่ชอบขี้หน้าอยู่ลึกๆในใจแต่ Sam ก็ถึงกับต้องขอร้องให้ Jess ช่วยหาทางเปิดประตูบ้านี่ให้ออกไปหน่อย ซึ่งก็ไม่มีอะไรมากแค่กด R2 ให้ Jess กดสวิตซ์เปิดประตูให้ทั้งคู่ออกมาเท่านั้นเอง และทันทีที่ออกมาได้ สกิลความเสนอหน้าของ Chris ก็เริ่มทำงานเมื่อเขาไปคว้าเอาจดหมายที่อยู่ในมือของ Jess มาอ่านทันที




Chris – แหม่ๆ ดูสินี่จดหมายอาราย ? 
Jess – อย่า ไม่เอาน่า คริส 
Chris – โอ้พระเจ้าช่วยกล้วยทอด ดูเหมือนจะมีใครซักคนที่คล้ายจะเป็นเพื่อนรักของเราส่งมานะเนี้ย ถึงหัวหน้าห้อง Michael Munroe ... และ โอ้ เหมือนมันจะเป็นจดหมายรักหรือเปล่าน้าขนาด เจสสิก้าของเราจะแนบรูปส่งไปพร้อมด้วยนะเนี้ย โรแมนติกจัง 




ตอนนี้ Jess ต้องเลือกว่าจะตอบโต้ความจุ้นจ้านของ Chris ยังไงระหว่าง INSIST (ขอร้องขอจนหมายคืน) หรือ EXPLAIN (อธิบายไปตรงๆเลยว่าตอนนี้คบกับ Mike อยู่) แน่นอนผมต้องเลือกอธิบายไปตรงๆเพราะ นิสัย ยัย Jess มันขี้อวดและมั่นใจในตัวเองอยู่แล้ว 

Jess – ตอนนี้ชั้นคบกับ Mike เราอยู่ได้กันจบมั๊ย ?
Chris – ดราม่าเลยมั๊ยเนี้ย 
Jess – ก็ไม่หรอก ชั้นตรงไปตรงมาจะเลิกกะใครก็บอกจะคบกับใครก็บอกไม่เห็นต้องปิดบังเลย
Chris – โอเค โอเค ตามสบายๆ เรารีบไปที่กระท่อมกันดีกว่าเดี๋ยวอากาศมันจะแย่ไปกว่านี้ 
Jess – พวกเธอไปกันก่อนเหอะ ชั้นจะรออยู่ที่นี่แปบนึง ว่าจะรอให้คนนึงก่อนน่ะ
Chris – เธอหมายถึง Mike หรอ ?
Jess – อะไรนะ ชั้นหมายถึง ... เออ ช่างเหอะ ..

21.24 น. ที่พื้นที่รอบกระท่อมที่พักของตระกูล Washington ทางด้าน Emily สาวเจ้าปัญญาจอมฉอเลาะของกลุ่ม กับ Matt หนุ่มจอมทะเยือทะยานสุดไฮเปอร์ที่เพิ่งมาถึงทางมาถึง ซึ่งตอนนี้ทั้งคู่กำลังคบกันอยู่หลังจากที่ Emily เพิ่งเลิกกับ Mike มาไม่นาน




สถานการณ์ก็เริ่มป่วนหนักเพราะนอกจาก Emily จะหงุดหงิดถึงระยะทางที่ไกลกว่าจะถึงบ้านพักแล้ว เจ้า Mike หนุ่มคาสาโนว่าจอมซิ่งที่ตอนนี้กลายเป็นค่แฟนเก่าของ Emily ไปแล้วซึ่งกำลังจะไปที่สถานีรถกระเช้าก็ดันผ่านเข้ามาเจอทั้งคู่พอดีก่อนที่จะแกล้งดักหลอกจน Emily และ Mattขวัญเกือบกระเจิง





Emily – ไมเคิ่ล 
Mike – พวกนายน่าจะเห็นหน้าตัวเองนะเมื่อกี้ ฮ่าๆๆๆ
Matt – ยังจะมีหน้ามาขำอีก เกือบจะโดดต่อยแกไปแล้วนะไมค์
Emily – ไมค์ นายมันห่วยวะ 
Mike – ไม่เอาน่า ที่มานี่ก็เพื่อนกันทั้งนั้น ไม่ได้เล่นแรงอะไรซะหน่อยก็แค่ล้อเล่นเอง ที่นี่มันป่านะเว้ย เล่นมุขผีก็เข้ากันดีอยู่ไม่ใช่รึไง 
Emily – มุขผีหรอ ไม่ตลก !  
Matt – ไม่ชอบมุขผมรึไง เอ็ม ไม่เอาน่าอย่าทำยังงั้นน่า 
Emily – ยังไง ? 
Mike – ตลอดแหละ เธอก็เยอะแบบนี้ตลอด 



ตอนนี้ Matt ในฐานะแฟนใหม่จะทำยังกับ Mike แฟนเก่าของ Emily ที่ปากมากดีระหว่าง THREATEN (โต้ตอบแบบรุนแรง) กับ WELLCOME (พยายามพูดดีๆ) ถ้าคุณอยากมีสัมพันธ์กับ Mike ดีขึ้นบ้างก็เลือกคุยดีๆกับเขาไปเถอะแต่ จะเลือกทางไหนก็สุดแล้วแต่ Mike ก็ยังกวนทีนอยู่ดี สุดท้าย Mike ก็จะย้อมถอยไปเพราะกำลังจะรีบไปหาใครบางคนที่สถานีกระเช้า 




Emily – เอ่อ แมท ทำไมนายไม่ยกกระเป๋าของชั้นไปรอที่บ้านพักก่อนละ คือชั้นมีเรื่องต้องคุยกับ Sam หน่อยนะ 
Matt – รอแปบไม่ได้หรอ เดี๋ยวก็ถึงบ้านแล้วยังไงก็เจอกันอยู่ไม่ใช่หรอ ?
Emily – คือชั้นมีเรื่องจะคุยกับ Sam ก่อนที่เธอจะขึ้นมานะ โห ให้ตายดิที่นายจะห่างชั้นสัก 5 นาทีไม่ได้เลยรอ นะๆมันสำคัญมาก  ขอร้องละ 



ตรงนี้ Matt สามารถเลือกได้ว่าจะเอายังไงระหว่าง AGREE (ตามใจเธอปล่อยให้เธอไป) กับ PERSIST ( ยังไงก็ไม่มีวันทิ้งให้เธอไปคนเดียวแน่นอน) ซึ่งถึงแม้ว่าไม่ว่ายังไงตกลงตามใจเธอหรือไม่ Emily ก็จะดึงดันที่จะไปหา Sam คนเดียวให้ได้อยู่ดีจนสุดท้าย Matt ก็ขัดไม่ได้จนต้องยอมให้เธอไปคนเดียว ซึ่งการเลือกตามใจหรือไม่ตามใจ Emily จะส่งผลต่อเกทRomantic รวมถึงเกทความสัมพันธ์กับ Emily ด้วย 



และการเลือก (ของผม) ทั้ง 2 ครั้งที่ยอมไก่เกลี่ยดีๆกับ Mike กับเรื่องไม่ยอมทิ้งเธอไปคนเดียว มันดูน่าจะแมนดีซึ่งก็ทำให้เกท Status ของ Matt ทางด้าน Charitable ความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ หรือ ความมีน้ำใจ เพิ่มขึ้น แต่ก็จะทำให้เกทความ Romantic ของเขาลดลงไปด้วย ซึ่งก็มีผลไปถึงเกทความสัมพันธ์ระหว่างเขากับ Emily ลดลงไปเยอะเลยเรื่องที่ขัดใจเธอ แต่ก็ทำให้ความสัมพันธ์ของ Matt กับ Mike ดีขึ้นมาหน่อยนึง 

21.32 น. ที่จุดชมวิวรอบๆกระท่อมที่พักของตระกูล Washington …. Ashley สาวสภานักเรียน ผู้เต็มไปด้วยความการะหายการเรียนรู้ เด็ดขาด ตรงไปตรงมา แต่ถึงจะเด็กเรียนแค่ไหนเธออยู่ในเหตุการณ์โศกนาฎกรรมของ Beth และ Hannah เมื่อปีที่แล้วด้วย เป็นคนแอบอยู่หลังประตูแอบฮาตอนล่อให้ Hannah มาทำให้อับอายนั่นแหละ แต่เป้าหมายที่มาในทริปครั้งนี้เพราะเธอแอบปิ้ง Chris อยู่



และภาพที่เธอกำลังส่องกล้องสอดแนมดูก็คือภาพสุดสวีทของ Mike ที่เพิ่งเดินสวนกับ Emily กับ Matt มาเมื่อครู่กำลังพลอดรักอยู่กับ Emily ที่เพิ่งขอตัวแยกมาจาก Matt แล้วบอกว่าจะมาหา Sam นั่นแหละ

ยังไม่ได้ทำใจ Ashley ก็ต้องตกใจทันทีเพราะ Matt กลับมาโผล่หน้ากล้องจนทำเอาเธอตกใจ แน่นอนว่าเธอต้องตกใจเพราะกำลังด้อมๆมองส่องกล้องดูฉากบาดตาของ Emily กับ Mike อยู่ แล้วไอ้คนที่เข้ามาตอนนี้ก็ดันเป็น Matt แฟนของ Emily คนที่มีผลกระทบกับสิ่งที่เธอเห็นมากที่สุดเสียด้วย



และทันทีที่คำถามแรกหลังจากที่ Matt ขอโทษที่ทำให้เธอตกใจถูกถามออกมา “ดูอะไรอยู่หรอ ท่าทางจะสำคัญนะตั้งใจดูใหญ่เลย ไหนๆขอดูบ้างดิ๊”






ซึ่งก็ทำให้ Ashley ต้องคิดหนักทันที ตอนนี้ Ashley สามารถเลือกได้คือ MISLEAD (พยายามปกปิด) หรือ ENCOURAGE (ยอมให้ดู) ซึ่งการเลือกครั้งนี้มีผลกับ Butterfly Effect the Soul of Discretion ของ Ashley อย่างเต็มๆด้วย

21.41 น. ที่สถานีรถกระเช้า Jessica ที่ยังคงนั่งรอใครบางคนอยู่ ซึ่งก็จะสามารถเลือกได้ว่าจะเช็คดูโทรศัพท์หรืออ่านหนังสือ การเลือกนี้ไม่มีอะไรสำคัญ เลือกอะไรก็เลือกไปครับ



ซักพักบอลหิมะลูกนึงก็ถูกปาเข้ามาใส่จากคนที่ Jess เธอรออยู่ว่าเขามาแล้ว ซึ่งก็คือ Mike นั่นเอง เมื่อ 10 นาทีที่แล้วมันยังกอดกับ Emily อยู่ในป่าอยู่เลยตอนนี้มันขึ้นมาตามนัดของ Jess แล้ว ก่อนที่ Mike จะริ่มเล่นมุขเสี่ยวว่าตัวเองเป็นตำรวจมาจับโดยใช้ลูกบอลหิมะเป็นกระสุนปืนให้ Jess ยอมจำนน ซึ่ง Jess ก็รับมุขตอบกลับทันที สามารถเลือกได้ว่าจะ ปาบอลหิมะตอบโต้ (Grab Snowball) หรือ วิ่งมาที่ม้านั่ง ( Run to Bench) จากนั้นก็จะได้เล่นมินิเกมส์ปาหิมะกับ Mike นิดหน่อย กดปุ่มเล็งปาให้โดนและกดปุ่มให้ทันเพื่อหลบไปเรื่อยๆ

ท่ามกลางความสนุกของทั้งคู่ นกตัวนึงบินมาเกาะที่โต๊ะโดยไม่มีใครคิดจะสนใจ ในขณะที่ Mike แอบอยู่ที่ต้นไม้ ตรงนี้จะเลือกปาหิมะไปที่นกบนโต๊ะหรือปาไปที่ Mike สุดท้าย Mike ก็จับตัว Jess ได้จนทั้งคู่ไปนอนตัวทับกันบนหิมะ ปาก Jess ก็ว่ามันไม่เหมาะสม แต่พอเริ่มถูก Mike ชมว่าเป็นราชินีแห่งการปาบอลเท่านั้น Jess ก็เริ่มอ่อน

ตรงนี้จะเลือกได้ว่าจะจูบ Mike ( Kiss Mike) หรือ ปาบอลหิมะใส่เลย (Grab Snowball)


Jess - แล้วไงต่อละ ?
Mike – เอ่อ ก็คิดออกอย่างนึงอ่ะนะ แต่ต้องรอซักพักนึงก่อนผมถึงจะบอกนะ ผมว่าเราเข้าไปที่กระท่อมกันดีกว่า  
Jess – ไม่ชอบเล่นกันข้างนอกแบบนี้หรอ ?  
Mike – ใครบอกละ ผมอยากจะอยู่ข้างนอกกับคุณแบบนี้จะตาย ตลอดเวลาเลยยิ่งดี จริงๆนะ 
Jess – แค่ อยากอยู่ข้างนอก แค่นี้หรอ ? 
Mike – ไม่รู้ ไม่ชี้ 
Jess – แหม กว่าจะได้คำตอบนี่ชั้นหนาวตายพอดีเลย 



หลังจากเจอมุขให้ท่าของ Jess ต่อเนื่องจน Mike ถึงกับ No Comment จนเกือบไปไม่เป็นต้องแกล้งทำเป็นใจเย็น ก่อนที่ทั้งคู่จะชวนกันเดินเข้าไปที่สถานีกระเช้าในสภาพอากาศที่เริ่มแปรปรวน ในขณะที่รถกระเช้าก็แล่นเข้าตามมาที่สถานีโดยมีใครคนนึงอยู่ด้านในโดยที่ทั้งคู่ไม่ทันตั้งตัว...



                                                  THE ANALYST 


ที่ห้องทำงานของ Dr. A.J Hill …. 




Dr. Hill – สวัสดีอีกครั้ง วันนี้เป็นไงบ้างละ ในการรักษาในครั้งที่แล้วเราได้แค่แกะเกาแค่ผิวนอกกกันเท่านั้น เอาละ เรามาขุดลึกกว่าเดิมกันต่อดีกว่า เอาละ ในครั้งนี้ เราจะมาทำความเข้าใจถึงเรื่องความกังวลและความทุกข์ที่มันฝังลึกอยู่ข้างในใจคุณกัน  เปิดหนังสือเล่มนี้ เปิดไปทีละหน้าคุณจะเห็นรูปภาพและสัญลักษณ์ต่างๆ ผมต้องการให้คุณระบุภาพที่มีความหมายเหมือนกัน ภาพที่มันทำให้คุณกังวลและเป็นทุกข์ที่สุด แล้วก็กรุณาเลือกให้เร็วๆด้วยเพราะมันจะได้ใช้สัญชาติญาณของคุณได้ชัดเจนขึ้นนะ  



จากนั้นก็เปิดสมุดภาพแล้วเลือกภาพที่มันทำให้คุณกลัวที่สุดระหว่าง 2 ภาพให้ครบทั้ง 13 ชุด (ให้เร็วๆหน่อยก็ดีครับ)


Dr. Hill - เอาละ เยี่ยม ขอบคุณสำหรับคำตอบนะ เลือกได้เหมาะดี แต่ โอ้วว คงต้องเป็นอีกครั้งแล้วที่ผมต้องบอกว่า เวลาเราหมดอีกแล้ว แต่ผมสัญญาผมกิจกรรมของเรายังไม่จบแน่ แต่ต้องเป็นคราวหน้านะ ..



                                                CHAPTER 2 – JLEAOUSY 

9 ชั่วโมง ก่อนตะวันรุ่ง .... 22.00 น.  Chris และ Sam เข้ามาถึงบ้านพักรับรองของตระกลู Washington ทันทีที่มาถึงก็จะพบกับ Josh เจ้าบ้านที่มารอต้อนรับก่อนที่ทั้งหมดจะเข้าไปพบ Ashley และ Matt ที่รออยู่ที่หน้าบ้านพัก




Josh ในฐานะเจ้าภาพในงานรวมพรรคพวกในการรำลึงถึงเหตุการณ์การหายตัวไปของ Beth และ Hannah เมื่อปีที่แล้วด้วยความที่ Josh เป็นที่เพื่อนรักของเพื่อนๆทุกๆคน เขาจึงเป็นคนที่เพื่อนๆทุกคนห่วงที่สุดว่าการมารวมตัวกันอีกครั้งจะทำให้ Josh เกิดความเศร้าคิดถึงเรื่อง Beth และ Hannah ขึ้นมาอีกครั้ง จึงยังไม่มีใครกล้าแสดงออกกับเขาเต็มที่นัก

      

Chris – ให้ตายเหอะ เราคิดว่าภูเขานี่มันใหญ่ขึ้นทุกครั้งที่มาปีนมันจริงๆนะ 
Josh – หรอ ก็ปกตินะ
Chris – ก็นี่บ้านนายนี่หว่า จอร์จ เออ แล้วนายดูเรื่องพวกพลังงานไฟฟ้า เรื่องอุปกรณ์สื่อสารอะไรต่ออะไรในที่หอคอยรึยัง ตอนนั้นเราเป็นคนรื้อมันออกจนหมดเอง withdrawal 
Josh – ช่าย นายทำเละจนหมด แต่เราซ่อมหมดแล้วหายห่วง 
Chris – ไงพูดงั้นวะ เป็นเข้าไปข้างในกันดีกว่า 
Josh – ไง Ashley , Matt พวกนายโอเคนะ 
Ashley – ก้อ ..ดี ดีๆ ดีใจที่เจอนายนะจอร์จ 
Josh – ดีใจที่เจอเราหรือ Chris กันแน่ หือ ?
Chris – โย่ๆ เดี่ยวๆนี่นายจะเข้าไปในบ้านนี้อีกจริงๆหรอ ?


ตรงนี้ Chris สามารถเลือกที่จะถาม Josh ถึงความแน่ใจเรื่องต่างๆได้ระหว่าง Gossip (ชวนนินทาเรื่อง Emily กับ Matt ที่เพิ่งคบกัน) กับ WORRY (ถามถึงความรู้สึกของ Josh ถึงเหตุการณ์ในอดีต) การเลือกถามถึงเรื่องในอดีตกับ Josh นั้นอาจจะทำให้เขาหงุดหงิดไปบ้างแต่ก็จะทำให้เกท Charitable เรื่องความมีน้ำใจของ Chris และ เกทความสัมพันธ์ที่มีกับ Josh นั้นขยับสูงขึ้น 



Chris – เราเข้าใจนะว่านายคงรู้สึกแย่เรื่องน้องของนายทั้งคู่ 
Josh – หยุดเลย !
Chris – เราหมายถึง ...
Josh – เรารู้ว่านายหมายถึงอะไร แต่พอเหอะ เราแค่อยากให้มันจบๆไปซะ ตอนนี้แค่อยากสนุก โอเค๊ อย่างที่เราเคยทำกันมา … .ให้ตายสิ ประตูมันติดอีกแล้ว 
Chris – ไม่มีทางเข้าอื่นเลยรึไง 
Josh – จะมีกี่ทางเข้าก็ล็อกหมดแหละ
Chris – หน้าต่างก็มีตั้งเยอะแยะ เราก็น่าจะเข้าได้นะ 
Josh –  จะให้ถึงกับงัดหน้าต่างเข้าไปเลยหรอ 
Chris – ฮ่าๆ ทางเทคนิคแล้วไม่น่าจะเรียกงัดนะก็มันบ้านนายไม่ใช่เรอะไง?
Josh – ไม่หรอกถ้าเราไม่ฟ้องว่านายจะงัด ฮ่า เอ้าคนเก่งนำทางไปเลย 




ระหว่างทางลงบันไดหน้าบ้าน Chris ก็ต้องผ่านตรงที่ Ashley นั่งอยู่ ด้วยความที่ไม่ค่อยได้เจอกันนาน Chris ก็ต้องแวะทักทายหน่อย โดยสามารถเลือกได้ระหว่าง UNSETTLED (ให้ความเห็นว่ารู้สึกแปลกๆที่ได้กลับมา) กับ CONFIDENT (ให้ความเห็นว่าดีใจที่ได้กลับมาเจอกันอีก) แน่นอนการชวนคุยในเรื่องที่ดีจะกับ Ashley จะทำให้เกท Charitable เรื่องความมีน้ำใจและความ Romantic ของ Chris รวมถึงค่าความสัพันธ์ในทางที่ดีกับ  Ashley เพิ่มมากขึ้น  

จากนั้นขณะที่ Chris กำลังเดินไปกับ Josh เพื่อหาทางเข้าบ้าน Josh ก็พูดเรื่อง Ashley ว่าเดี๋ยวนี้เธอดูสวยขึ้น และท่าทางจะเป็นประเภทหมูในอวยเพื่อให้ซั่มได้ไม่ยากซะด้วย แล้ว Chris ได้ยินอย่างงั้นจะตอบยังไง ระหว่าง AGREE (ใช่เลยแน่นอนที่สุด) กับ PROTEST (พอน่าอย่าไปพูดแบบนั้น) ฟังดูแล้วจะตอบแมนๆไปว่าไม่เห็นด้วยก็ได้ แต่การสนทนาไดอาล็อกนี้นั้นเป็นการพูดคุยระหว่างผู้ชายจึงไม่น่าเกลียดที่จะพูดในแบบดูถูกเพื่อนสาวไปบ้าง 



แต่ไม่ว่าจะเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย Josh ก็จะย้ำเตือนให้ฟังอยู่ดีว่าที่นี่ไม่มีใครรู้ใครเห็นและการมาที่นี่ไม่ใช่มาเป็นผู้ดีแต่มาเพื่อล่า(สาว) ซึ่ง Chris ก็จะต้องเลือกตอบอีกครั้งว่าจะ AGREE (เออ ก็ได้วะ) หรือ DISAGREE (ไม่เห็นด้วย) ซึ่งไม่ว่าจะตอบข้อไหน Chris ก็ต้องตอบแบบกล้ำกลืนไม่ต่างกัน แต่ถ้าตอบเห็นด้วยกับ Josh ไปทุกข้อหมดชุดนี้จะทำให้เกท Romantic ของ Chris เพิ่มขึ้นมาก รวมถึงเกทความสัมพันธ์ที่มีกับ Josh ด้วย 

-จากนั้นเดินสำรวจเข้าไปตามข้างๆบ้าน จะพบจุดเบาะแสที่เป็นร่องรอยของช่องเก็บขวานที่ถูกทุบทำลายและขวานก็หายไปด้วย ถัดไปจะเห็นตู้ที่สามารถดันมาใช้ปีนเข้าด้านในห้องเก็บของได้  เมื่อเข้ามาได้แล้ว Josh จะให้ไฟแช็คกับ Chris ไว้ใช้ แล้วบอกให้ไปหาสเปรย์ที่ไว้ฉีดละลายน้ำแข็งที่ลูกบิดประตูหน้าบ้านที่ติดอยู่ได้ ก่อนที่เขาจะแยกตัวไปเพื่อกลับไปรอกับเพื่อนๆหน้าประตูหน้า สำรวจห้องให้ทั่วๆก็จะเจอ Totem สีน้ำตาลหรือ Loss Totem ซึ่งตามคำทำนายนั้นมีความหมายถึงความสูยเสียเพื่อนนั่นเอง



ภาพคำทำนานของผู้หญิงผมดำที่ตายในกองไฟที่เห็นนั่นเป็นเพื่อนที่โชคร้ายคนไหนกันนะ ??
-สำรวจต่อ ในห้องเก็บของทางซ้ายมีเศษของหนังสือพิมพ์เก่าที่ลงข่าวการนำเอาเรื่องราวของ Victor Milgram ภารโรงที่ก่อคดีฆาตกรรมโหดครอบครัว Mogol เมื่อหลายปีก่อนไปทำเป็นหนัง (เกี่ยวหรือไม่เกี่ยวกับเรื่องราวก็จำไว้ก่อนในฐานะหลักฐาน) ประตูขวาจะมีทางไปต่อจนถึงห้องโถงหลักของบ้านได้ จากนั้นก็เริ่มสำรวจให้ทั่วๆก่อน
ที่ชั้นล่างด้านในจะพบ รูปตอนไปงาน Prom ของ Mike Sam Emily และ Hannah
ที่ห้องอาหารมีโทรศัพท์ที่มีบันทึกฝากข้อความไว้จากตำรวจนักสืบ
ที่ชั้นบนห้องน้ำด้านในสำรวจที่ตู้เก็บของก็จะพบสเปรย์ที่ต้องการพร้อมกับต้องตกใจกับเจ้าวูลฟ์เวอรลีนตัวน้อยที่แอบอยู่ด้านใน เมื่อได้สเปรย์มาแล้ว Chris ก็จะเอามาฉีดพ่นที่ประตูหน้าจนสามารถเปิดให้ทุกคนเข้ามาได้ท่ามกลางบ่นปนขำเพราะต้องโดน เจ้าวูลฟ์เวอรลีนตัวน้อยทำให้ขายหน้ารอบ 2



22.28 น. ที่บ้านพักตระกูล Washington ..




Josh ในฐานะเจ้าบ้านพาเพื่อนๆเข้ามาด้านในบ้านหลังเดิมที่เคยเกิดเรื่องเมื่อปีที่แล้ว แต่ Chris รู้สึกแปลกใจที่มันดูเปลี่ยนไปมากทั้งที่ Josh ยืนยันว่าไม่เคยมีใครใช้บ้านนี้ตั้งแต่เกิดเรื่องนอกจากตำรวจที่มาเข้าๆออกเพื่อหาหลักฐานตั้งแต่นานมาแล้ว และทันทีที่ Mike และ Sam ตามเข้ามาเพื่อนทั้ง 8 คนที่เคยร่วมโชคชะตากรรมกันมาก็ครบองค์ประชุม 





แต่ทันทีที่ Mike เข้ามาในสายตาของ Matt ที่เขาเคยได้รับรู้ไว้ว่ามันได้กอด Emily ที่กลางป่า Butterfly Effect แห่งโชคชะตาก็เริ่มทำงาน Matt ก็ตรงเข้าไปหา Mike ทันที ตอนนี้จะเลือกตัดสินใจได้ระหว่าง WARN (โวยวายเข้าใส่ Mike เพื่อบอกให้มันเลิกยุ่งกับ Emily) กับ CHALLENGE (ท้าทายโดยการบอกไปตรงๆว่าเห็น Mike กอดกับ Emily) โดยทางเลือกทั้ง 2 ทางนี้จะทำให้ความวุ่นวายในกระท่อมนี้แตกต่างกันมาก 



1.ถ้าเลือก WARN (โวยวายเข้าใส่ Mike เพื่อบอกให้มันเลิกยุ่งกับ Emily) Mike ก็จะไม่เข้าใจว่า Matt มาโวยวายกับเขาเรื่อง Emily ซึ่งก็จะมีคำสั่งตามอีกชุดคือ Matt ต้องเลือก ระหว่าง FIGHT (เข้าไปอัดเลย) กับ Back off (ช่างมันเหอะ)



2. ถ้าเลือก CHALLENGE (ท้าทายโดยการบอกไปตรงๆว่าส่องกล้องเห็น Mike กอดกับ Emily) เจ้า Mike ก็จะอ้างว่า ก็เพิ่งเจอกันก็เลยเข้าไปกอดทักทายกันผิดกฏหมายด้วยหรอ ซึ่งก็จะมีคำสั่งตามอีกชุดคือ Matt ต้องเลือก ระหว่าง DISTRUST (ไม่เชื่อที่ Mike พูด และขู่ให้ Mike ระวังตัวให้ดีๆ) กับ APOLOGIZE (เชื่อที่ Mike พูดแล้วยอมขอโทษเพราะคิดมากไปเอง) 


แต่เรื่องยังไม่จบเมื่อ Emily ที่เพิ่งเข้ามาถึงก็จะเริ่มไม่พอใจเมื่อเห็น Mike กับ Jess นั่งกอดกันอยู่ ทำให้ Jess กับ Emily มีปากเสียงกันอีก เดือดร้อนถึง Matt ที่ต้องเข้าไปห้ามทัพแต่จะแสดงออกยังไงระหว่าง PROVOKE (ยุส่งด้วยการว่า Jess) กับ DEFUSE (ไกล่เกลี่ย โดยพยายามห้าม Emilyให้หยุดทะเลาะ) 



ซึ่งทางเลือกทั้ง 2 อันนี้จะทำให้ Butterfly Effect - Whose side are you on ของ Matt มีการเปลี่ยนแปลงด้วย และแน่นอนว่ามันก็ต้องทำให้ สเตตัสความสัมพันธ์ของทั้ง 2 ตัวละครต้องลดลงไปด้วยเหมือนกันอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ 





และไม่ว่าจะเลือกแบบไหนทั้งฝ่าย Mike และ Jess กับ matt และ Emily ก็ต้องเผชิญหน้ากันจนสุดท้าย Josh เจ้าบ้านก็ต้องมาห้ามเอาไว้โดยบอกให้ Mike กับ Jess ไปสำรวจที่เรือนห้องพักกันก่อนเพื่อให้เรื่องเย็นลง

แต่เรื่องก็ยังไม่จบเมื่อ Emily ดันโวยวายขึ้นมาอีกเพราะ Matt ดันลืมหยิบกระเป๋าเธอมาด้วย แน่นอนว่า Matt ที่มัวแต่โกรธไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขาลืมหยิบกระเป๋า Emily มาตั้งแต่ออกจากรถกระเช้า และ Emily ก็ไม่ยอมทิ้งกระเป๋าเธอเอาไว้แน่เพราะมันมีแต่ชุดและรองเท้าแฟชั่นคู่เก่งจากอิตาลีของเธออยู่ในนั้นด้วย ทำให้ Matt ต้องถูกบังคับให้พา Emily กลับเอากระเป๋าทันที



แต่ที่โชคดีขึ้นทั้งคู่กลับมาดีกันได้อีกครั้งเพราะ Emily ยืนยันจะทำให้ Matt อบอุ่นอย่างสุดกำลังหลังจากฝ่าหิมะออกไปเอากระเป๋ากลับมา และเมื่อเรื่องราวคลี่ลายลง Sam ก็เบาใจจนสามารถลุกขึ้นเตรียมตัวไปอาบน้ำให้สบายใจด้วยเหมือนกัน

22.43 น. ที่ระเบียงด้านนอกของบ้านพัก …. Mike ต้องถูก Josh จำใจไล่ออกมาด้านนอกเพราะต้องการให้เรื่องราวของ Matt เย็นลง แต่ก็ยังโชคดีที่ Mike มี Jess ที่กำลังสวมบทดาวยั่วพวงท้ายมาด้วย



Mike – เฮ้อ เหมือนจะโดนเนรเทศอีกแล้ว..
Jess – น่าเบื่อ เออ ไกลแค่ไหนกันน้าจากที่นี่ไปถึงสถานีรถกระเช้า
Mike – รถกระเช้านะ มันเป็นรังรักที่แสนจะอบอุ่นและโรแมนติกนะ สนแมะ
Jess – เอาป่ะล่ะ 
Mike – รู้สึกว่าโชคจะเข้าข้างเราแล้วแฮะ
Jess – บางทีเลือกไพ่ดีๆก็อาจโชคดีได้เหมือนกันนะ ไปกัน 
Josh – เฮ้ย พระเอกหนังโป๊ นายต้องใช้นี่วะ โทษทีนะที่ทำเหมือนเตะโด่งนายออกมาแบบนี่นะ 
Mike – เข้าใจเพื่อน ไม่เป็นไร 
Josh – หวังว่านาย 2 คนคงหาอะไรสนุกๆทำกันเองได้นะ  
Jess – อืมม นายไปสนุกของนายกับพวกเห่ยนั่นต่อได้เลย 
Josh – อ่อ ลืมบอกไป นายอย่าลืมไปเปิดหม้อแปลงไฟด้วยละจะได้เห็นทางเดินกันข้างนอกมันมืดมาก 
Mike – รับทราบ!
Jess – ไม่รู้นะ ชั้นว่าเหมือน Josh จะชอบพูดจาหลีชั้นอยู่เหมือนกันนะเนี้ย 
Mike – ชวนเขามาร่วมกับเราด้วยป่ะละ 
Jess – ได้จริงหรอ 
Mike – จะบ้าหรอ ไม่เอา!!

ระหว่างทางที่ทั้งคู่เดินไปนั้นตอนนี้ไฟข้างทางก็ยังไม่ติด จน Jess เกิดสงสัยขึ้นมาเลยถามออกมา ซึ่งจะแตกต่างกันตามเรื่องราวที่เกิดขึ้นในบ้าน

1.ซึ่งถ้าคุณให้ Matt เลือก WARN จนมีเรื่องชกต่อยกับ Mike Jess ก็จะถามออกมาว่า ทำไม Mike กับ Matt มีเรื่องอะไรกันถึงได้งัดข้อกันได้ขนาดนั้นในบ้าน ตอนนี้ Mike สามารถเลือกตอบโต้ได้ระหว่าง AGGRESSIVE (พูดถึง Matt แบบก้าวร้าว) กับ EVASIVE (พยายามพูดกลบเกลื่อน) ไม่ว่าจะเลือกตอบยังไง Jess ก็ยังถามต่อว่า ทำไมถึงต้องมีเรื่องกันขนาดนั้น เพราะอะไร Mike สามารถเลือกตอบโต้ได้ระหว่าง EVASIVE (พยายามพูดกลบเกลื่อน) หรือ TRUTHFUL (บอกความจริงกับ Jess) คำตอบที่เลือกจะทำให้เกทสเตตัสของ Mike เปลี่ยนแปลงนิดหน่อย 



2. ถ้าคุณให้ Matt เลือก CHALLENGE จน Emily ที่เพิ่งเข้ามาถึงก็จะเริ่มไม่พอใจเมื่อเห็น Mike กับ Jess นั่งกอดกันอยู่ ทำให้ Jess กับ Emily มีปากเสียงกัน Jess ก็จะคุยเกี่ยวกับการนินทาด่าว่ายัย Emily แทน Mike สามารถเลือกตอบโต้ได้ระหว่าง AGREE (เห็นด้วยช่วยด่าส่ง) กับ DISAGREE (ช่างมันเพราะพยายามให้เรื่องมันจบๆไป) ซึ่งถ้าเลือกเห็นด้วยกับ Jess จะทำให้ เกท Charitable ความมีน้ำใจ ของ Mike ลดลงแต่เกทความสมพันธ์ระหว่าง Jess จะพุ่งขึ้นพรวดๆเลยละ



ระหว่างทางที่เดินไปจะเจอ Danger Totem ที่พยากรณ์ให้เห็นภาพของเพื่อนหญิงคนนึงถูกชายใส่หน้ากากทำร้าย 

- ประตูรั้วข้างทางเดินนั้นกดสวิตซ์เปิดไม่ได้เพราะยังไม่มีไฟฟ้า จากนั้นเข้าไปในบ้านไม้เพื่อเปิดพลังงานของหม้อแปลงจะทำให้ไฟฟ้าทั้งหมดในเขตนี้กลับมา แต่ Mike ก็ถูกชายแลกหน้าแอบมองโดยไม่รู้ตัวเหมือนกัน เดินย้อนกลับไปที่รั้วข้างทางจะกดสวิตซ์เปิดเข้าไปได้แล้ว
- เดินเข้าประตูไปตามทางจนเริ่มเห็นป้ายกั้นของตำรวจตอนที่มีการกั้นพื้นที่เพื่อตามหา Beth กับ Hannah ทำให้ทั้งคู่ต้องหยุดคุยกันถึงเรื่องเก่าๆ



ซึ่ง Mike จะสามารถเลือกถามระหว่าง RESPECTFUL (พูดถึงในเชิงให้เกรียติ) กับ ASK (พูดในเชิงว่าจำเรื่องนี้ได้บ้างมั๊ย)  ซึ่งการเลือกถามถึงเรื่องนี้กับ Jess ก็เหมือนย้ำเตือนให้เธอรู้สึกผิดเพราะการเล่นพิเรนณ์ของเธอทำให้เกิดเรื่องร้ายๆกับ Beth และ Hannah แน่นอนว่ามันทำให้ Jess หงุดหงิดมาก ซึ่งมันจะทำให้เกท Curious  ความอยากรู้อยากเห็น ของ Mike เพิ่มขึ้น แต่เกทความสัมพัทธักับ Jess จะลดลงมากทันทีเหมือนกัน
-ระหว่างทางทั้งคู่ได้ยินเสียงประหลาดกรีดร้องขึ้นมายังไม่รู้ว่ามันเป็นเสียงอะไรแต่นำมาซึ่งความขนหัวลุกน่าดู จนถึงหน้าทางเข้าเหมือง Mike เริ่มไม่แน่ใจและสงสัยว่าเส้นทางเหมืองนี่มันจะนำไปที่สถานีรถกระเช้าได้ด้วย แต่สำหรับ Jess เส้นทางเหมืองที่ดูน่ากลัวนี่ยังดีกว่ากลับไปนั่งในบ้านเดียวกันกับยัย Emily เยอะเลย แต่เดินไปพล่ามไปไม่ดูทางก็ทำให้ Jess พลัดตกลงไปตรงเส้นทางลงเหมืองทันที
- โชคดีที่ Jess ไม่เป็นอะไร แต่เธอก็หาทางขึ้นมาไม่ได้ทำให้ 




Mike ต้องตัดสินใจบางอย่างเพื่อช่วยเหลือเธอ ระหว่าง CAUTIOUS (ใช้ความรอบคอบคือบอกให้ Jess ลองดันรถรางด้านหลังมาใช้ปีน) กับ HEROIC (ใจฮีโร่ โดดลงไปช่วยเธอทันที) การเลือกครั้งนี้จะทำให้ Butterfly Effect - Be her Hero เปลี่ยนแปลงไปด้วยครับ 


   

แน่นอนว่าถ้าคุณเลือกโดดลงไปช่วย Jess ด้วยตัวเองก็จะทำให้เกทความสัมพันธ์ระหว่าง Mike กับ Jess เพิ่มขึ้นเยอะครับ 


-ลงมาช่วย Jess ดันรถรางเพื่อเดินทางไปต่อจนถึงทางแยก ทางขวาจะเจอ Totem Fortune โทเทมสีขาวที่ทำนายถึงความฝันแห่งโชคและทางรอด ซึ่งในภาพนั้นเห็นถึงเพื่อนหญิงคนนึงแต่ไม่รู้การกระทำที่ชัดเจน



ทางแยกซ้ายทางขึ้นไปด้านบนจะมีเบาะแสเกี่ยวกับเศษซิกก้าและรูปสัญญลักษณ์ประหลาดๆที่พนัง ตามทางจะเจอแผนที่ของเหมือง Blackwood แห่งนี้ที่ดูเหมือนจะถุกระบุไว้หลายจุดว่าเป็นที่หวงห้ามและอันตราย




-สำรวจจนออกมาจนถึงทางออกได้สำเร็จ ด้านนอกตามทาง ทางแยกซ้ายที่ทางตันจะพบ Loss Totem ผีเสื้อสีน้ำตาล ทำนายถึงเรื่องราวเลวร้ายที่จะเกิดกับเพื่อน ภาพที่เห็นคือ ภาพของเพื่อนหญิงคนนึงที่ตกจากที่สูงจนตาย

จากนั้นก็ตรงขึ้นไปตามไปบอกทางไปที่ cabin จนถึงจุดชมวิวด้านบน Jess จะลองส่องกล้องชมวิวดูจนเธอเห็นใครบางคนอยู่ในสถานี แต่พอ Mike ลองดูบ้างกลับไม่พบอะไร นอกจากสายตาของหุ่นไล่กาที่เข้ามาในหน้าจอแต่ Mike มันไม่ทันเห็น
-เปิดประตูไม้ลงไปตามทางเดินลงไปที่สถานีต่อ จนระหว่างทางนกดันออกมาจากพุ่มไม้ข้างทางจนทำให้ Mike ถึงกับตกใจร้องกรี๊ดกันเลยทำให้ถึงกับโดน Jess ล้อเลียน ซึ่งคุณสามารถให้ Mike เลือกตอบระหว่าง ANNOYED (ทำเป็นโมโหพวกสัตว์น่ารำคาญ) หรือ WITTY (แก้ตัวว่าแกล้งทำเล่นไปงั้นเอง) 


แม้จะเป็นการเลือกตอบแบบดูไร้สาระแต่มันก็ทำให้สเตตัสนิสัยของ Mike เปลี่ยนแปลงเยอะอยู่ ซึ่งถ้าเลือก WITTY เพื่อแก้ตัวทำตลกว่าจริงๆไม่ได้กลัวซะหน่อย อาจทำให้ค่า Honest ความซื่อสัตย์ , ค่า Charitable ความมีน้ำใจ และค่า Curious  ความอยากรู้อยากเห็นลดลงไปบ้าง แต่ก็จะได้ค่า Funny ความตลก และค่า Romantic เพิ่มขึ้น และจะทำให้ค่าความสัมพันธ์กับ Jess เพิ่มสูงมากๆด้วย 

     

หลังจากผ่านการทดสอบความสัมพันธ์ของทั้งคู่กันมามากมายเสียงหัวเราะต่อกระซิบก็ไม่เคยจางหายไปตลอดทาง จนทั้งคู่ข้ามสะพานมาจนถึงทางแยกสุดท้ายที่ป้ายบอกทางไปยังสถานีรถกระเช้าตั้งอยู่ Mike ถึงกับต้องหงุดหงิดว่าทำไม Josh มันไม่รู้จักตรวจเช็คเส้นทางของพื้นที่หน่อยเพราะดันมีต้นไม้ใหญ่ล้มทับขวางทางเดิน แต่ดูเหมือน Jess ที่ไม่เคยแคร์อะไรก็รีบปีนขึ้นไปกะจะโชว์ออฟทันที Jess คว้าหิมะปาใส่ Mike เพื่อเร่งไล่ให้ตามมา ทำให้ Mike กะจะเอาคืนเลยรีบหาก้อนหิมะจะปากลับแต่ Jess กลับหายลับไปกลับตาเหลือไว้แค่เสียงกรีดร้องที่ดังออกมากลบเสียงเงียบของป่ายามค่ำคืน ..


22.44 น. ที่บ้านพักตระกูล Washington …. .ในขณะที่ Sam กำลังจะลงอ่างอาบน้ำให้สบาย แต่ Josh ก็ยังกวนใจให้เธอลงไปช่วยจัดการกับเครื่องไอน้ำด้านล่าง แน่นอนว่า Sam คงไม่อยากลงไปถ้าเพราะน้ำที่ออกมาในอ่างมันยังไม่อุ่นพอ



-ออกมานอกห้อง Sam จะเริ่มได้ยินเสียงประหลาดแว่วมาให้แปลกใจ สำรวจในห้องนอนเก่าของ Hannah ให้ทั่วๆจะพบ โปสการ์ดเชิญ Hannah , Josh และ Beth ไปงานปาร์ตี้ฮาโลวีนของ Sam ที่จัดตั้งแต่ปี 31 ตุลาคม 2013 ซึ่งรูปของโปสการ์ดเป็นรูปโรงนาเดียวกับที่ Dr. Hill ใช้ในการตรวจสอบทางจิตเสียด้วย


                                 

 , นามบัตรของช่างสักที่ชื่อ Johan D.Smith ที่นัด Hannah วันที่ 18 มีนาคม 2013 เวลา 9.30น. , กล่องดนตรีที่ Josh ให้ Hannah ตั้งแต่คริสมาศปี 2010 , รูป Mike ท็Hannah สุดคลั่งไคล้ถูกแปะซ่อนไว้ที่บอร์ด เศษกระดาษแบบทดสอบความรักจากหนังสือที่มีข้อความเขียนว่า MM 4 HW ซึ่ง Sam เดาว่า MM อาจเป็น Mike ? และ HW ก็ย่อมาจาก Hannah Washington นั่นเอง

-จากนั้นออกมายังระเบียงแล้วลงไปหาเพื่อนที่ห้องโถงกลางก็จะพบ Chris, Ashley และ Josh กำลังว่างและกำลังหาเรื่องพิเรนณ์ใหม่ๆทำกันพอดี



Josh – เชื่อป่ะ เมื่อก่อนเรามีแผ่นกระดานเล่นผีถ้วยแก้วด้วยนะแต่มันอยู่ที่ไหนซักที่นี่แหละ นานแล้ว
Chris – นายมี จริงดิ 
Ashley – นี่พวกนายพูดไรกันเนี้ย เราจะเล่นไสยศาสตร์กันเลยหรอ
Chris – แค่มุขนะ เราไม่เล่นกันหรอก 
Josh – ม่ายๆ เพื่อน เวลานี้แหละเหมาะ เรากับ ... เอ่อ 
Sam – จอร์จ คือน้ำมันไม่อุ่นเลยนะ ชั้นอาบไม่ได้อ่ะ 
Josh – ก็ถึงตะโกนบอกไงว่าถ้าอยากอาบน้ำอุ่นๆให้ลงมาช่วยดูเครื่องต้มน้ำในห้องใต้ดินก่อน  โอเค นาย 2 คนไปมาหามาเลยกระดานผีถ้วยแก้ว ด่วน ที่ไหนซักแห่งในห้องเก็บของนั่นแหละ 
Ashley – ไป Chris คุ้ยขยะกัน 
Josh – ไป Sam ตามมา ห้องใต้ดิน 

-จากนั้นตาม Josh ลงไปที่ชั้นล่าง พอถึงทางลงห้องใต้ดินขณะที่ Josh หยิบไฟฉายมาใช้เขาก็ถาม Sam ไปว่า “รู้มั๊ยว่าเขาเป็นคนคิดมุขง่ายๆที่ให้ Chris กับ Ash ไปทำกิจกรรมด้วยกันนะคิดว่าทั้งคู่จะใช้ช่วงเวลาที่อยู่ 2 ต่อ 2 คุ้มป่ะ”




ซึ่ง Sam จะสามารถเลือกตอบได้ว่าระหว่าง MOCKING (พูดแบบติดตลกว่า Chris รอเวลานี้มาตั้งนานแล้ว) กับ FLATTERING (พูดในเชิงอวยว่า ทั้งคู่ก็เหมาะกันดีอยู่แล้ว) ซึ่งถ้าเลือกพูดในเชิงอวยทั้งคู่เกท Romantic ของ Sam ก็จะเพิ่มขึ้น ส่วนถ้าเลือกตอบในเชิงตลกเกท Funny ก็จะเพิ่มขึ้น

-เมื่อเดินตาม Josh เข้าไปต่อจนถึงด้านใน Josh ก็จะหยอดมุขต่อมาอีกมุข “ รู้มั๊ยว่ามันสำคัญมากๆสำหรับผมเลยที่ทุกคนกลับมารวมกันได้อีกในปีนี้ จริงๆที่คุณมาผมก็ดีใจ”


 ซึ่ง Sam จะสามารถเลือกตอบได้ว่า UNEASY (มันแปลกๆเหมือนกันที่กลับมา ไม่ง่ายเลยนะที่จะทำใจ) หรือ REASSURING (พวกเรามาที่นี่เพื่อนายนะ Josh) การเลือกตอบคำถามนี้ไม่ส่งผลต่อเกทอะไรเลย แต่เลือกตอบให้กำลังใจ Josh ด้วยการเลือก REASSURING ไปก็ดีครับ

-ในห้องใต้ดินขณะทั้งคู่กำลังหาทางซ่อมระบบพลังอยู่ Sam ก็เจอไม้เบสบอลเก่าอยู่อันนึงเลยออกความเห็นไปว่า SERIOUS (ถามแบบจริงจังว่า นี่ของนายหรอ? ) หรือ HUMOROUS (พูดติดตลกว่า เล่นเบสบอลในหิมะเนี้ยนะ) คำถามจากเรื่องไม่เป็นเรื่องกลับเป็นแรงพลักดันให้ Butterfly Effect - Something for Later ของ Sam เปลี่ยนแปลงได้ทันที  





เพราะไม้เบสบอลนี้เป็นของชิ้นสำคัญของ Josh ที่ใช้สำหรับเล่นกับครอบครัวในหน้าร้อนที่มีน้อยนิดของที่นี่ ยิ่งพูดถึงไม้เบสบอลและครอบครัวขึ้นมา เสียงสะดุดที่ขาดหายไปตอนที่ josh พูดถูกน้องสาวของเขาที่หายไปย่อมทำให้เขารู้สึกเสียใจมากขึ้นมาทันที 

-จัดการส่องไฟฉายให้ Josh ซ่อมตู้หม้อแปลงให้เสร็จแล้วไปหมุดที่ปุ่มเพื่อเปิดไอน้ำด้วยการหมุนแกน RS เพื่อบิดสวิตซ์และรอให้เครื่องทำความร้อนทำงานจนไฟแดงติดก่อนแล้วจึงกดปุ่มด้วย R2 เท่านี้เครื่องทำความร้อนก็ใช้งานได้แล้ว

แต่หลังจากทั้งคู่กำลังยินดีกันไม่นาน Sam ก็ได้ยินเสียงประหลาดอีกครั้งหลังจากได้ยินฝีเท้าคนตอนที่กำลังซ่อมหม้อแปลงไป ซึ่ง Josh จะไม่ได้สนใจกับสิ่งที่ Sam สนใจแต่กลับทำเป็นหยอกล้อกลับไปว่าเพราะ Sam นั้นกำลังหวาดกลัวอยู่


ซึ่ง Sam สามารถเลือกตอบได้ระหว่าง PROTEST ( ชั้นไม่ได้กลัวซักหน่อย) หรือ PRANK (หยอก Josh กลับไปว่า มีอะไรอยู่ข้างหลังนะ) แล้วตามด้วย GLOAT (ทำเสียงให้ตกใจ) หรือ  INSIST (ทำเสียงแข็งยืนยัน เฮ้ย จริงๆนะ) การเลือกตรงนี้ไม่มีความเปลี่ยนแปลงอะไรนอกมุขตลกเท่านั้น



แต่ของจริงกลับเกิดขึ้นจริงๆเมื่อมีเสียงประหลาดดังขึ้น เสียงท่อเหล็กถูกเคาะหลายทีนั้นแม้แต่ Josh ก็ยังยืนยันว่ามันไม่ปกติ



ตรงนี้ Sam จะสามารถเลือกได้ว่า CONCERNED (ไปดูพร้อมๆกันนี่แหละ) หรือ HEROIC (เดี๋ยวชั้นไปดูเอง) ซึ่งถ้าปิดแหกเลือกไปด้วยกันจะทำให้เกท Charitable ความมีน้ำใจ จะลดลงมาก ตามด้วยเกท Brave ความกล้าหาญที่ลด ส่วนเกท Funny ตลกขบขนจะเพิ่มขึ้นมาก ส่วนเกทความสัมพันธ์กับ Josh ก็ลดลงนิดหน่อย แต่ถ้าเลือกให้ Sam เข้าไปดูเองคนเดียวก็จะทำให้เกท Charitable ความมีน้ำใจ , เกท Brave ความกล้าหาญ และ Curious ความอยากรู้อยากเห็นเพิ่มมากขึ้น



แต่ไม่ว่าจะเลือกทางไหนเมื่อทั้งคู่เข้าไปสำรวจก็ต้องตกใจวิ่งหนีออกมาเพราะเจอชายลึกลับสวมหน้ากากฮ๊อกกี้ออกมาไล่ล่าทันที แต่เมื่อหนีไปจนสุดทางปรากฏว่าชายในหน้ากากกลับไม่ใช่เจสันศุกร์ 13 แต่กลับเป็น Chris ที่ดันปลอมตัวด้วยชุดนักบวชกับหน้ากากฮ็อกกี้จนทำให้ Sam และฉี่แตก แต่ Josh ที่ก็ตกใจแต่ก็สะใจด้วยเช่นกัน และเมื่อทุกคนกลับมารวมตัวกันที่ห้องโถงอีกครั้ง นักบวช Chris ก็เอากระดานผีถ้วยแก้วมาได้สำเร็จ แต่ดูเหมือน Sam จะโดนแกล้งจนสยองมาพอแล้วเธอจึงไม่เอาด้วยและขอตัวขึ้นไปอาบน้ำแทน ส่วน Josh, Ashley และ Chris เตรียมพร้อมกับความมันครั้งใหม่ด้วยผีถ้วยแก้วต่อทันที ... 


                                                  THE ANALYST 

ที่ห้องทำงานของ Dr. A.J Hill …. 

Dr. Hill – ผมต้องทำความเข้าใจถึงความรู้สึกที่เกี่ยวกับความกลัวของคนที่ชอบแยกตัวออกมาจากสังคมจนเกิดความโดดเดี่ยวแบบคุณก่อน ด้วยคำถามง่ายๆ คุณจะเป็นส่วนหนึ่งของความกลัวพวกนี้มั๊ย 




บนโต๊ะมีโถแก้วใส่งูเห่ากับอีกใบที่ใส่หัวใจสดๆที่กำลังเต้นตุบๆอยู่ คุณจะเลือก YES I do หรือ No I don’t 

Dr. Hill – ดี !! เพราะมันเป็นทางเดียวที่จะทำให้เราได้เล่นเกมกันต่อได้ เอาละ ที่นี้เรามาตรวจสอบความรู้สึกของคุณกัน เราจะค้นให้ลึกยิ่งกว่าใครที่เคยทำมาเลย คุณมีค่าแค่ไหน ? คุณให้เกรียติตัวเองและคนอื่นรึเปล่า ? แล้วอะไรที่มันสำหรับคุณที่สุด ความซื่อสัตย์ หรือ ความสุจริตใจ 

ที่นี้คุณต้องเลือกว่าอะไรที่มีค่าสำหรับตัวตนคุณที่สุดระหว่าง Loyalty (ความซื่อสัตย์) กับ Honesty (ความสุจริตใจ)

        [ถ้าคุณเลือกอะไรไปมันจะกลายเป็นโจทย์แรกที่ใช้เปรียบเทียบครั้งต่อไป] 



แล้วระหว่าง (Loyalty หรือ Honesty ที่คุณเลือกเอาไว้) กับ Charity (ความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่) ละ ? คุณจะเลือกอะไร 

Dr. Hill –  ดีมาก ดูเหมือนคุณจะใกล้ผลสำเร็จมากกว่าเพื่อนๆคุณอีกนะ เพราะคุณต้องได้รับการดูแลเอาใจใส่มากกว่าพวกนั้นเยอะเลย  .. โอ้ว .. เสียงนาฬิกาแปลว่าเวลาหมดอีกแล้ว แต่เราจะได้คุยกันต่อแน่นอน 




                                           CHAPTER 3 – ISOLATION


8 ชั่วโมง ก่อนตะวันรุ่ง.... 23.00 บ้านพักตระกูล Washington การเล่นผีถ้วยแก้วของ Josh, Ashley โดยการนำของ Chris ก็เริ่มขึ้น 




Chris – ก็อย่างที่บอกนะ การที่เราจะติดต่อกับวิญญาณหรือพลังงานอะไรบางอย่างได้ต้องปล่อยใจทำให้ความคิดเราให้อิสระก่อน เจตจำนงของเราจึงจะสื่อถึงวิญญาณได้ ซึ่งพวกนายก็ต้องทำตามเสียงกระซิบสั่งของเจ้าแห่งคนทรงซึ่งนั่นก็คือเรานั่นเองแหละ
Ashley – ไม่ต้องเวอร์ขนาดนั้นก็ได้คริส
Chris – แล้วเมื่อทึกอย่างเชื่อมต่อกันได้แล้ว วิญญาณก็จะสื่อสิ่งต่างๆผ่านมาทางกระดานที่เราต้องการให้เขาสื่อสาร
Josh – คริสพอแล้ว ซีเรียสนะเว้ยเนี้ย
Chris – นี่ก็โคตรซีเรียสเลยนะเนี้ย ฮ่าๆ โอเคมาเริ่มกัน มาดูว่าจะเกิดอะไรขึ้น เริ่มจาก Ash เลย ในฐานะคนที่ไม่ค่อยเชื่อเรื่องพวกนี้เริ่มก่อนเลย



ตอนนี้
Ashley จะสามารถเปิดเกมด้วยคำถามที่จะถามวิญญาณได้ระหว่าง SERIOUS (เริ่มพิธีแบบจริงจังเลย มีใครอยู่ที่นี่บ้างมั๊ย) กับ FLIPPING (ทำเล่นโดยการท่องคาถาตลกไปเลย)



Ashley – เอ่อ .. ที่นี่มใครอยู่บ้างหรือเปล่าถ้ามีขอให้สื่อสารกลับด้วยคะ
เท่านั้นเอง ป้ายส่องตัวอักษรก็เริ่มเคลื่อนที่เองทันทีท่ามกลางเสียงแก้ตัวจากทั้ง 3 ว่าไม่มีใครพลักดัน เริ่มต้นที่ตัว H E L P ช่วยด้วย
Chris – ช่วย ช่วยอะไร ช่วยใคร ก่อนอื่นเราต้องรู้ก่อนว่าเขาเป็นใคร

ตอนนี้ Ashley จะสามารถเลือกถามต่อได้ระหว่าง CLARIFY (ถามแบบตรงไปตรงมา แล้วใครละต้องการความช่วยเหลือนะ) กับ PROBE (ถามในแนวทดสอบว่า ให้เราช่วยอะไรบ้างละ)
ถามก่อนเลยว่าใคร เลือก CLARIFY วิญญาณจะตอบว่า Sister (น้องสาว)
ถ้าถามว่าให้ช่วยอะไร วิญญาณจะตอบว่า Warning (การเตือน)

Josh – น้องใคร?  น้องคนไหน ถามต่อเลย  !!

ตอนนี้ Ashley จะสามารถเลือกถามต่อได้ระหว่าง Hannah นั่นเธอหรอ หรือ Beth ทันทีที่เลือก Hannah ที่ชื้ตัวอักษรจะเลื่อนไปที่ YES ทันที

Chris – เราว่ามันมั่วกันใหญ่และ  
Ashley – จอร์จ !! แน่ใจนะ เราหยุดกันก็ได้
Josh – ไม่เป็นไร เราต้องการฟังต่อให้แน่ใจ
Chris – เอางี้ คิดดูดิ ถ้าเป็นฮานน่าจริงๆเธอก็ต้องตอบได้ว่าเกิดอะไรขึ้นในคืนนั้นนะจริงมั๊ย ?

Ashley จึงต้องเลือกถามระหว่าง PROBE (ถามในเชิงพิสูจณ์ว่า เกิดอะไรขึ้นในคืนเกิดเหตุ) กับ APOLOGIZE (อยากบอกง่าทุกคนเสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น) แน่นอนว่าคงต้องเลือก PROBE เพื่อถามเรื่องวันเกิดเหตุก่อน


Ashley – ฮานน่า พวกเราคิดถึงเธอมากนะ เราอยากรู้ว่าวันนั้นเกิดอะไรขึ้นกับเธอ บอกพวกเราได้มั๊ย ?

คำตอบของ Hannah ที่ตอบมาทางตัวอักษรคือ BETRAYED หรือ การทรยศ แล้วตามว่า KILLED คือการถูกฆ่า

Ashley – ไม่จริง เธอบอกเธอถูกฆ่า ชั้น ชั้นขอโทษจริงๆ ฮื้ออ
Chris – เฮ้ Ashley
ใจเย็นๆเรายังไม่รู้แน่นอนนะ ถามสิ ถามเธอต่อว่าเกิดอะไรขึ้น แอช



Ashley จึงต้องถามต่อ เลือกถามระหว่าง PROBE (ถามในเชิงพิสูจณ์ว่า ใครเป็นคนฆ่าเธอ) กับ CLARIFY (ถามว่า เธอตายยังไง ) แน่นอนว่าคงต้องเลือก PROBE เพื่อถามว่า ใครเป็นคนฆ่าเธอ ?
L – I – B

Chris – Library ห้องสมุดมั้ง มีบางอย่างในนั้นหรอ ?

P – R – O – O -

Chris – Proof พิสูจณ์ หรอ ให้เราพิสูจณ์อะไรในห้องสุมดหรอ

จากนั้นกระดานก็สั่นจนตัวชี้อักษรกระเด็นตกโต๊ะไปทันที


Chris – โว้ววว !!
Ashley – ให้ตายเหอะ เรื่องบ้าบอมากคริส
Josh – ไม่ๆๆ ไม่บ้าบอนะ เราว่ามันของจริงชัวร์ ไม่รู้นะ ถ้าพวกนายเล่นตลกกับเราเพื่อให้เราได้คุยกับน้องๆแล้วจะทำให้เราหายเศร้า จะอะไรก็เถอะมันไม่สวยหรอกนะเพื่อน !
 Ashley – จอร์จ ไม่นะ นายเป็นบอกให้เล่นผีถ้วยแก้วนี่เองนะ
Chris – เฮ้ๆ มันไม่ใช่ความผิดของ แอช นะเฮ้ย
Josh – ไม่เล่นแบบนี้ตอนนี้นะเว้ย พอเลย กรูเต็มทนแล้วนะ !!



Ashley – แล้ว เราควรไปตามเขามั๊ยเนี้ย
Chris – อ่า ปล่อยเขาไปก่อนเหอะ เดี๋ยวก็โอเค ให้เวลามันหน่อย
Ashley – ชั้นไม่โทษเขาเลยนะ มันบ้ามากอ่ะได้เรื่องที่เกิดบนโต๊ะเนี้ย
Chris – แต่บอกเลยนะถ้าเป็นฝีมือเธอแกล้งขอบอกเลยว่าเนียนสุดๆอ่ะ
Ashley – บ้ารึไงชั้นไม่ได้แกล้งนะเว้ย แต่ชั้นคิดว่าเราน่าจะไปตรวจสอบที่ห้องสมุดดูตามที่มันบอกมาเหมือนกันนะ


23.22 น. ระหว่างทางไปยังสถานีรถกระเช้า ....  หลังจากที่สิ้นเสียงร้องของ Jess ที่เนินหลังจากที่จู่ๆเธอก็หายตัวไป Mike ก็รีบปีนข้ามไปตามหาทันที ท่ามกลางความเป็นห่วงที่เริ่มจะเคร่งเครียดขึ้นทุกที แต่เมื่อ Mike เดินเข้าไปจนถึงด้านใน Jess ก็พุ่งออกมาหลอกให้ตกใจทันที



Mike – โว้ววววว !!!
Jess – ฮ่าๆๆๆๆ ร้องเสียงหลงเลย ฮ่าๆ โคตรเจ๋งอ่ะ นี่ๆนายต้องดูนี่ดูๆ โว้วววว ฮ่าๆๆ
Mike – ไม่ ไม่ดูเว้ย อัดไว้ด้วยหรอ !!
Jess – ดูหน้านายสิ ฮ่าๆๆๆ
Mike –ผมไม่ได้กลัวนะ นี่เธอจะโดดมาหลอกคนกลางป่าแล้วบอกว่าเขากลัวไม่ได้หรอกเว้ย
Jess – หรอๆๆ โทษน้าที่ทำให้กลัว
Mike – ถ้าเธอเอาให้คนอื่นดูละก็นะ
Jess – แล้วจะทำมาย ฮ่าๆ
Mike – ผมก็จะฆ่าคุณนะสิ ห๊า !
Jess –
ก็ชั้นไม่รู้นี่หว่าว่านายจะร้องออกมาแบบเด็กผู้หญิงแบบนั้นนี่ ไมเคิ่ล นายไม่มีทางรู้หรอกว่าใครเป็นไงจนกว่าจะเห็นเขาตอนกลัวจนฉี่แตกนะจะบอกให้


 ท่ามกลางความโกรธ ตอนนี้ Mike จะเลือกตอบได้ระหว่าง GRUMPY (พูดอย่างโกรธๆว่า เออ เธอชนะ) หรือ WITTY (พูดอย่างมีฟอร์มว่า เธอนะต้องพยายามอีกเยอะที่จะทำให้ผมกลัวได้น่ะ) ถ้าตอบแบบติดตลกไปด้วยตัวเลือก WITTY จะทำให้เกท Funny ของ Mike เพิ่มขึ้นรวมถึงเกทความสัมพันธ์ระหว่าง Mike กับ Jess ก็จะเพิ่มขึ้นมากด้วย ซึ่งถ้าเลือกตามที่ผมเลือกเกมความสัมพันธ์ของ Jess ก็คงจะแดงจนฉ่ำน้ำแล้วละครับ

แต่ใครจะรู้หลังจากมุขฮาของ
Jess จบลง ทั้งคู่ก็เดินไปต่อท่ามกลางสายตาปริศนาที่เฝ้ามองเขาผ่านหน้ากากกันแก็สที่ดูจะเข้ามาใกล้มากกว่าทุกที 



จากนั้นเดินต่อไปจนพบ Totem ตกอยู่ที่ตีนสะพานข้ามน้ำตก ซึ่งจะเป็น Totem สีเหลือง Guidance เป็นคำทำนายถึงเรื่องทางออกที่ดี ซึ่งในภาพจะเห็นภาพของเพื่อนคนนึงที่ใส่เสื้อแดงพยายามปีนจากน้ำตรงจุดที่มีกังหันวิดน้ำ

-เดินข้ามสะพานไปจนระหว่างทาง Mike จะได้ยินเสียงเหยียบกิ่งไม้จนทำให้เขาต้องพยายามหาต้นตอที่มาของมัน จัดการปาหินไปที่เป้าให้ตรงต้นไม้ จะทำให้กวางขนาดใหญ่พุ่งออกมาจากป่าข้างทางทำเอาตกใจกันทั้งคู่ ซึ่งทำให้ Charitable ความมีน้ำใจ ของ Mike ลดลงแต่เกท Brave ความกล้าหาญเพิ่มมากขึ้น และเมื่อเดินไปอีกหน่อยก็จะถึงกระท่อมร้างหลังนึงที่ทั้งคู่น่าจะถูกใจ
-ด้านในกระท่อม Mike จะสำรวจพบหน้ากากทำงานเหมืองเก่าวางอยู่ ด้านในสลักชื่อไว้ว่า Billy Bates 



เขาจะเลือกยังไงระหว่าง SCARE (เอาไว้หลอก Jess เพื่อแก้แค้น) หรือ SHOW (เอาไปโชว์ให้ Jess ดู) ถ้าเลือกเอาไปหลอกเธอจน Jess ตกน้ำและโกรธมาก ถึงได้แก้แค้น เกม Funny ความตลกขบขันพุ่งพรวด แต่เกท Romantic และ ความสัมพนธ์ระหว่าง Jess ก็จะลดลงด้วย
-ออกจากกระท่อมเดินต่อไปอีกหน่อยทั้งคู่จะได้ยินเสียงสัตว์กรีดร้อง เมื่อเดินไปต่อจนสุดทางก็จะพบซากของกวางที่โดนไฟเผาที่กำลังใกล้ตาย



Mike ต้องตัดสินใจระหว่าง KILL DEER (ฆ่ากวางเพื่อให้พ้นทุกข์) กับ COMFORT DEER (ปลอบกวาง) แต่ไม่ว่าจะเลือกทางไหนก็จะมีอะไรบางอย่างดึงศพกวางเข้าไปในป่าต่อหน้าต่อตาทั้งคู่จน Mike และ Jess ต้องรีบวิ่งหนีทันที 


- วิ่งโดดข้ามพื้นไม้พังๆมาก็จะมาถึงเนินผาใกล้ทางขึ้นไปสถานีรถกระเช้าต้องเลือกระหว่าง
RISK SHOTCUT (ปีนหน้าผาไปตามทางลัดขึ้นไปด้านบน) หรือ FOLLOW PATH (หนีไปตามทางปกติต่อ) 



และเมื่อขึ้นมาถึงหน้าประตูทางเข้าสถานีแล้ว Jess จะเกิดหกล้มทำให้กุญแจตกลงที่พื้น Mike จะทำยังไงระหว่าง HELP JESSICA (ช่วยเจสสิก้าก่อน) หรือ GRAB THE KEY (เก็บกุญแจก่อน)



การเลือกช่วย Jess ก่อนนั้นจะทำให้ Butterfly Effect Be her Hero ระหว่าง Mikeและ Jess เปลี่ยนแปลงไปในทิศทางที่ดีขึ้นไปอีก

ไม่ว่ายังไง Mike กับ Jess ก็ยังหนีรอดมาจนถึงกระท่อมหลังสถานีรถกระเช้าได้สำเร็จ 



Jess – เกือบไปแล้ว อะไรนะ ห๊า !!
Mike – โอเคๆๆ เอาอยู่ๆ
Jess – ให้ตายเหอะอย่างกับกำลังวิ่งมาราธอนแนะ ... มันตัวอะไรที่ไล่เรามา ? หมี หรอ ?
Mike – ใช่ๆ มั้งนะ แต่มันเร็วฉิบเป๋งเลย แต่เอาน่าไม่ต้องกังวลไปหรอกมันเข้ามาไม่ได้หรอก
Jess – แน่ใจหรอ ?
Mike – แน่สิ เพราะหมีมันเปิดประตูไม่ได้ไง
Jess – แต่เคยเห็นมันทำได้นะ ในเน็ต
Mike – เห็นในเน็ต จิงดิ นี่มันชีวิตจริงนะ เอาน่าผมมันใจว่าจะไม่มีหมีหรือตัวอะไรก็เปิดประตูเข้ามาไม่ได้แน่นอน
Jess – หวังว่านายจะพูดถูกนะ เอาละ เหมือนว่าชั้นเกือบจะผ่อนคลายแล้ว เกือบแล้ว ดูสิ ไอ้กระท่อมบ้านี่ก็ไม่มีไฟอีก
Mike – ไฟ ? จุดทำไมเราไม่ได้ต้องการผิงไฟนี่
Jess – ไมเคิ่ล ฟังนะ ชั้นเป็นผู้หญิง และผู้หญิงต้องการสร้างบรรยากาศโรแมนติก และผู้หญิงชอบเทียนที่ดูอบอุ่นเหมือนคนรักของเธอ หรือจุดที่อ่างน้ำสร้างบรรยากาศ ประมาณนั้น
Mike – ช่าย ฟังดูอบอุ่น แล้วก็ต้องมีการถูนวดนิดหน่อยด้วยใช่มั๊ย ห๊า ..
Jess – ไมค์ ! .. จุดไฟ แล้วไปหาไฟสร้างบรรยากาศมา 
Mike – โอเค ยอดหญิงของผม

-จากนั้นก็เริ่มสำรวจกระท่อมไปเรื่อยๆเพื่อหาไฟมาสร้างอารมรณ์ให้ Jess แต่ก็ต้องลองสำรวจดูเบาะแสอื่นๆดูก่อน ที่ทางเดินด้านในบนโต๊ะมีรูปของ Hannah ตอนชนะได้เหรียญทองแดงในการแข่งเทนนิสเป็นหลักฐานที่ต้องสำรวจ , บนตู้ในห้องนอนมีหนังสือกามมะสูตรตา ทั้งหมดเป็นหลักฐานเพื่อการรับรู้มีอะไรสำคัญ
-พอกลับเข้ามาในห้องกลางยังไม่ทันได้ปลุกอารมรณ์ Jess ก็เกิดอารมณ์เสียเพิ่มอีกเพราะเธอหาโทรศัพท์ของเธอไม่เจอ และเดาว่าคงตกข้างนอกกระท่อมตอนล้ม แน่นอนว่า Mike คิดว่ามันเป็นความคิดที่แย่มากถ้าจะออกไปอีก ซื้อใหม่น่าจะง่ายกว่า แต่ Jess ยังยืนยันว่าเธอคงโดนพ่อด่าเละเพราะนี้เป็นเครื่องที่ 4 ของปีแล้ว แต่ยังไงก็คงไม่ใช่ตอนนี้ที่ Mike จะยอมเอาไปเอาให้แน่นอน 

ในห้องโถงกลางเก็บหนังสืออารยะธรรมอเมริกาบนโต๊ะเมื่อเปิดดูจะเห็นหน้าที่เขียนถึงสัญลักษณ์ของพวกชนเผ่าต่างๆในพื้นที่ซึ่งมีทั้งรูปผีเสื้อที่ใช้ทำนายฝันและรูปหัวกระโหลกกวางที่ใช้สำหรับป้องกันพวกภูติผีปีศาจ ซึ่ง Mike เคยเห็นสัญลักษณ์นี้มาแล้วในเหมือง



ถ้าสำรวจปืนในช่องเก็บปืนที่พนังข้างๆทางเข้า Mike จะสามารถเลือกได้ว่าจะแสดงออกยังไงระหว่าง SHOW (เอามาตรวจสอบและโชว์ให้ Jess ดู ) หรือ SCARE (เอามาขู่ Jess เล่นๆให้ยกมือขึ้นหัวยอมโดนซะดีๆ) ซึ่งเป็นมุขตลกฝืดทั้งคู่ครับ จะส่งผลต่อค่าสเตตัสของ Mike คล้ายๆกันคือ ส่งผลลดลบต่อเกท Honest ความซื่อสัตย์ , Charitable ความมีน้ำใจ , Brave ความกล้าหาญ , Romantic ความโรเเมนติก และ จะลดเกทค่าความสัมพันธ์ระหว่าง Jess ลงด้วย แต่ก็จะได้เกท Funny ความตลก และ Curious ความอยากรู้อยากเห็นให้มากขึ้นแทน ถ้าไม่อยากให้เกทดังกล่าวลดลงก็ไม่จำเป็นต้องไปสำรวจที่ปืนครับ

เสร็จแล้วก็เก็บไม้ขีดที่โต๊ะหลังโซฟาแล้วเอาไปจุดไฟที่เตาผิงกับเปิดตะเกียงที่อยู่ใกล้กันก็สร้างอารมณ์ให้ Jess เธอได้แล้ว


Jess – ว้าว !!
Mike – ที่นี่ยังไงต่อดีละนายหญิงของผม
Jess – ชั้นคิดว่า เราควรมีพวกเครื่องดื่มอะไรกันนิดหน่อย ไม่รู้สิแบบอารมรณ์มันยังไม่ถึงอ่ะ




ตอนนี้
Mike จะสามารถเลือกตอบได้ว่า REASSURE (ถามเพื่อให้แน่ใจว่า เป็นอะไรไปหรอ?) กับ SEDUCE (เปิดฉากลุยไม่ต้องอะไรแล้ว) ซึ่งถ้าเลือก REASSURE นั้นก็ถือว่า Mike แสดงความจริงใจให้ Jess เห็น ซึ่งจะทำให้เกท Romantic และเกทความสัมพันธ์กับ Jess เพิ่มสูงขึ้นเยอะเลย




Mike – โอเค ผมปิดหน้าต่างให้แล้วหากคุณไม่ชอบ แล้วไงต่อดี
Jess – เออ คือ ชั้นขอโทษนะ บางทีเรื่องแบบนี้มันก็ยากสำหรับชั้นเหมือนกัน
Mike – Jess คุณเป็นอะไร ??
Jess – คือ อ่อ จริงๆแล้วชั้นก็ทำเป็นสาวมั่นไปงั้นแหละเพราะชั้นอยากเป็นสาวเซ็กซี่ แต่จริงๆข้างในตัวจริงๆชั้นมันไม่ใช่หรอกนะ บอกตรงๆเลยนะ จริงๆชั้นมันเป็นคนที่ไม่มั่นใจตัวเองเลยด้วยซ้ำ 




ตรงนี้ Mike สามารถเลือกตอบได้ระหว่าง REASSURING (พูดแบบให้กำลังใจว่าจริงแล้วเธอก็เซ็กซี่จะตายอยู่แล้ว) หรือ DISMISSIVE (ตอบแบบลังเลเพราะเริ่มจะสับสนในตัว Jess ว่า ฟังดูมันซับซ้อนจังนะ) แนะนำให้เลือกตอบ REASSURING เพื่อให้กำลังใจ Jess ไป  ซึ่งจะทำให้เกท Romantic และเกทความสัมพันธ์ระหว่าง Jess เพิ่มากขึ้น 



     และจะมีผลกับ Butterfly Effect Be her Hero ของ Mikeให้เปลี่ยนแปลงไปอีก




Mike – นี่คุณล้อผมเล่นใช่มั๊ย คุณจะต้องไปไม่มั่นใจเรื่องอะไร
Jess – โอ้ คุณไม่รู้หรอก
Mike – แน่นอนผมไม่รู้ เพราะเราทุกคนต่างก็ไม่มั่นใจในตัวเองกันทุกคนแหละ แต่คุณก็ควรที่จะวิธีใช้ประโยชน์จากตัวเองเอาไว้ด้วยเหมือนกัน บางทีคุณอาจจะมีความสามารถดีๆอยู่ตรงหน้าโดยคุณไม่รู้ตัวก็ได้ ที่นี่คุณก็สามารถเป็นสาวฮ็อตได้โดยไม่ได้ลังเลใจอีกแล้วละ
Jess – มานี่สิ บางทีชั้นอาจรู้วิธีใช้ประโยชน์จากนายเหมือนได้บ้างเหมือนกันนะ 
Mike – ผมก็พร้อมจะให้ใช้ประโยชน์อยู่แล้วละ


แต่ในขณะเข้าได้เข้าเข็ม เสียงกระจกแตกก็ดังลั่นมาจากด้านในบ้าน ทำให้ Jess บอกให้ Mike รีบไปดูทันที ซึ่งก็จะพบโทรศัพท์ของ Jess ถูกขว้างทะลุกระจกหน้าต่างเข้ามาด้านใน ทันทีที่ Jess เห็นดั่งนั้นเธอคิดได้ทันทีว่าคนที่มาแกล้งเธอต้องเป็นยัย Emily แน่นอน ทำให้ Jess โกรธมากจึงออกไปตะโกนด่าหน้ากระท่อมด้วยคำหยาบต่างๆนานาที่เธอนึกได้เพราะหมายที่จะให้ยัย Emily ที่เธอคิดว่ามาแกล้งเธอแล้วแอบอยู่ด้านนอกได้ยินและต้องเจ็บใจว่าเธอกำลังจะนอนกับ Mike อย่างเมามันส์ ด่าจบเธอก็กลับเข้ามาบ้านอย่างสะใจ 


แต่
Jess ยังไม่ทันถอนหายใจให้หายเหนื่อยเธอก็ถูกฉุดกระชากลากออกไปจากช่องกระจกประตูด้วยมือที่แสนหยาบกระด้างสุดอัปลักษณ์หายลับไปในยามค่ำคืน  




23.14 น. ที่บ้านพักของตระกูล Washington …  ท่ามกลางความวุ่นวายที่ก่อตัวขึ้นอย่างเงียบๆ  Ashley และ Chris ที่ยังนั่งงงกับเหหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในห้องที่เล่นผีถ้วยแก้วกับความค้างคาใจมากมายที่ได้มาจากสิ่งที่น่าจะใช่หรือไม่ใช่ Hannah ถึงการเปิดเผยเรื่องราวการหายสาปสูญไปของเธอ จึงทำให้ Ashley ไม่มีทางเลือกที่ต้องลองออกไปค้นหาเพื่อพิสูจณ์ความจริง

Chris – นี่คุณคิดจริงๆหรอว่า เธอ พยายามจะสื่อสารกับพวกเราน่ะ ?
Ashley – ไม่รู้ ชั้นไม่รู้ เธออาจทำหรือ อาจไม่ใช่เธอ 
Chris – O.K งั้นเราไปพิสูจน์กัน 
Ashley – ดู Josh แปลกไปตอนเล่นกระดานผีถ้วยแก้วนั่นมากๆอ่ะ
Chris – คงเพราะเขาเก็บกดอยู่ในใจนั่นแหละ 
Ashley – นายคิดว่าเราไม่ควรพูดถึงเรื่องน้องๆของเขาเลยหรอ ?
Chris – พวกเราถึงต้องกลับมานี่ไงล่ะ 
Ashley – ก็ใช่ แต่เราก็ไม่เห็นต้องมาเล่นไสยศาสารท์แบบนี้เลยนี่ คงล้ำเส้นไปเยอะแน่ๆ



เมื่อเดินเข้ามาถึงห้องสมุดหนังสือที่ชั้นหนังสือก็กระเด็นออกมาเหมือนมันจะตั้งใจจะบอกอะไรบางอย่าง Ashley จึงทดลองกดดูตู้หนังสือก็จะเปิดออกเผยให้เห็นห้องลับอยู่ด้านใน ทั้งคู่ต่างก็คิดกันไปต่างๆนานา บ้างก็ว่ามันเป็นห้องเก็บความลับของตระกูล Washington ที่มีมาตั้งแต่ยุคโบราณ ใครละจะไม่อยากลงไปสำรวจ Ashley จึงส่ง Chris ซึ่งเป็นผู้กล้าลงไปตรวจสอบดูทันที

-ทันที่ที่เดินผ่านเข้ามาด้านใน Chris คงไม่รู้ตัวว่าตัวเขาถูกสังเกตการณ์ผ่านกล้องวงจรปิดเก่าอยู่ตลอดทาง ทันทีที่เก็บรูปเก่าที่วางอยู่มาสำวรจสิ่งที่เจอคือรูปของ Hannah และ Beth กับคำสลักหลังรูปที่เขียนไว้ว่า



“ข้าจะเอามันมาทั้งคู่ ถลกหนังขาวๆของมันแล้วให้มันเลือดไหลไปจนตาย 16ปีนะ ข้าจะรอ รอแม่ตัวน้อย Hannah และ Beth ตอนอายุ 16 ปี”

ทันทีที่ Chris อ่านจบเขาก็รู้ทันทีว่ามันเป็นจดหมายขู่ที่สุดสยองของตระกูล Washington ซึ่งมี Hannah และ Beth ลูกฝาแฝดของตระกูลเป็นเป้าหมายและดูเหมือนมันจะเป็นเรื่องที่เป็นความลับอยู่รูปนี้มันถึงถูกหมกเอาไว้ในห้องลับนี่ ซึ่ง Chris สามารถตัดสินใจได้ระหว่าง PROTECTIVE (ไม่ยอมบอก Ashley) หรือ HONEST (เรียกให้ Ashley มาดูเพื่อรับรู้) 



Chris – เออ Ash คือผมไม่อยากให้คุณวิตกมากไปกว่านี้นะแต่ผมเจอบางอย่างที่ดูเหมือนจะเป็นจดหมายขู่ Hannah กับ Beth นะ
Ashley – จริงหรอ นี่มันเรื่องซีเรียสแล้วนะเราต้องรีบไปบอก Josh ด้วยนะ
Chris – ไม่รู้จะเกี่ยวมั๊ย แต่ Sam เธอเห้นประกาศจับคนร้ายที่นี่ด้วย แถมเธอยังรู้สึกมีคนคอยตามเธออยู่ตลอดทางอีกต่างหาก 
Ashley – มันจะเป็นไปได้มั๊ยถ้ามีคนร้ายแอบขึ้นมาบนนี้กับเราด้วยอ่ะ
Chris – ไม่รู้สิ แต่ที่ผมลองฟังในเครื่องตอบรับทางโทรศัพท์ในบ้าน ก็เห็นมีตำรวจมาฝากข้อความเตือนเรื่องนี้เหมือนกันนะ หรือมันอาจเป็นคนเดียวกันที่เป็นคนเขียนจดหมายขู่ครอบครัว Josh ? 


แต่แล้วจู่ๆ ก็มีเสียงร้องของให้ช่วยออกมาจากห้องครัว Ashley จำได้ว่าเป็นเสียงของ Josh จึงพยายามเข้าไปช่วยทันที ยังไม่ทันพ้นขอบประตู Ashley ก็ถูกกระชากเข้าไปในห้องครัวทันที Chris ไม่รอช้าเขาพยายามพังประตูห้องครัวที่ปิดอยู่อย่างสุดแรงจนเข้าไปด้านในได้



 ทันทีที่เห็นร่างของ Ashley นอนอยู่ที่พื้น Chris ก็รีบเข้าไปช่วยทันทีก่อนที่ชายปริศนาที่สวมหน้ากากจะปรากฎตัวออกมาซัดเขาจนล้มทั้งยืนสลบไปพร้อมๆกับ Ashley

      
 



                                                  THE ANALYST 



ที่ห้องทำงานของ Dr. A.J Hill …. 





Dr. Hill – วันนี้ ผมจะให้คุณดูรูปคนที่คุณรู้จัก และบางที คุณอาจไม่ได้ชอบพวกเขาเหมือนอย่างที่แกล้งทำก็ได้ ระหว่าง 2 รูปให้คุณเลือกรูปเพื่อนที่คุณคิดว่าชอบที่สุด สื่อสัตย์กับคำตอบของคุณด้วย มันเป็นการทดสอบที่สำคัญมาก




** จากนั้นคุณก็ต้องเลือกรูปเพื่อนที่คุณ “ชอบที่สุด” ระหว่าง 2 ภาพในหนังสือ **

Dr. Hill – งั้นบอกผมหน่อย คราวนี้ ภาพเพื่อนคนไหนที่คุณๆที่คุณไม่ชอบที่สุดระหว่าง 2 ภาพ 





** จากนั้นคุณก็ต้องเลือกรูปเพื่อนที่คุณ “ไม่ชอบที่สุด” ระหว่าง 2 ภาพในหนังสือ **




Dr. Hill – นังนี่มันแหล่สุดสำหรับคุณเลยใช่มั๊ย ? มันเกิดและสะสมมาจากการที่คุณเจอเรื่องที่ไม่ชอบบ่อยๆจนมันแสดงออกมาเองยังไงละ  แต่ก็ขอบคุณสำหรับคำตอบนะครับ คิดว่าคงไม่ยากเกินไปสำหรับคุณหรอกนะ โอ้ว ..เกรงว่าเวลาจะหมดอีกแล้ว .. ไว้คุยใหม่คราวหน้าแล้วกันครับ  



                                          CHAPTER 4 – LOYALTY


7 ชั่วโมงก่อนตะวันรุ่ง ..... 23.59 น.  กระท่อมที่พักหลังสถานีรถกระเช้า ...สิ้นเสียงกรีดร้องของ Jessica คือเสียงแหกปากโหยหาของ Mike ที่ตามมาหลังจากเห็นร่างแฟนสาวถูกมือปริศนากระชากหายไปกับตาในไม่กี่นาที ก่อนที่ไมค์จคว้าปืนในกระท่อมตามออกไปตามหาทันที ..




- จากนี้จะเป็นการตามไปช่วย Jess ที่อยู่ระหว่างความเป็น – ความตายท่ามกลางทางเลือกมากมายที่ต้องหาทางไปถึงที่หมาย พยามให้มันไวที่สุดล้มน้อยที่สุดนะครับ




เพราะการตัดสินใจต่างๆจากนี้จะเปลี่ยนแปลงไปถึง Butterfly Effect - to the Rescue ของไมค์ที่ทำให้ Jess ถึงแก่ความตายได้หากมัวชักช้า



- เมื่อวิ่งออกมาจนถึงกลางทางก็ต้องเจอทางแยกให้เลือกระหว่าง RISK SHOTCUT (ไปทางลัด) กับ FOLLOW PATH (ไปตามทางปกติ (เลือกทางลัดเลย) ทันทีที่ตามไปถึงเนินเขา ด้านล่าง Mike ใช้ปืนที่ได้มาส่องลงไปมองหา Jess ที่ถูกลากไปในป่าอย่างเร็ว ตอนนี้ต้องเลือกระหว่าง GO AROUND (หาทางลงตามทาง) หรือ JUMP DOWN (กระโดดลงไปเลย) (เลือกโดดลงไปเลย) ไล่ตามเข้าไปจนถึงทางขาดต้องเลือกระหว่าง JUMP (กระโดดข้าม) หรือ SHIMMY (ค่อยๆเลาะตามไหล่ผาไป) (เลือกโดดข้ามไปเลย) จนมาถึงหมู่บ้านชาวเหมืองที่ต้องเลือกระหว่าง FOLLOW PATH (ลงไปตามทาง) หรือ RISK SLIDE DOWN (สไลด์ตัวลงไปด้านล่าง) (เลือกสไลด์ตัวลงไปด้านล่างให้เร็วที่สุด)

- Mike ตามลงมาจนถึงโกดังขนาดใหญ่ที่ด้านล่างหน้าทางลงลิฟต์ของเหมืองจะเจอ Guidance Totem ผีเสื้อสีเหลือง ที่ใช้ทำนายถึงเรื่องการนำทางสู่ทางแก้ปัญหา ซึ่งจะเห็นภาพไมค์กำลังลูกหัวหมาป่าสีขาวอยู่
-จากนั้นเดินเข้าไปตามทางในเหมืองจนถึงลิฟต์ด้านใน



  ถ้าที่คุณวิ่งตามมาทั้งหมด ล้มลุกคลุกคลานกดผิดพลาด หรือเลือกเส้นทางที่ไม่ใช่ทางลัดทำให้ล่าช้า มาถึงตรงนี้ Jessica สุดที่รักของ Mike ก็จะถูกทิ้งลงมาทางช่องลิฟต์จนตายคาที่เหมือนที่เคยเห็นภาพใน Totem คำทำนายที่เคยเก็บได้ 

เที่ยงคืน 12 นาที ไมค์ไล่ล่าคนร้ายต่อขึ้นไปบนช่องลิฟต์ด้านบน กดปุ่มให้ทันเพื่อปีนต่อเนื่องขึ้นไปด้านบน จนเห็นหลังมันเดินหนีไปที่สุดทางก่อนที่จะพยายามใช้ปืนยิงแต่กระสุนดันหมดเสียก่อน ทำให้ Mike ต้องพยายามวิ่งเข้าไปที่ประตูกำลังจะปิดให้ทันซึ่งคุณก็ต้องพยายามกดปุ่มให้ทันด้วย จนหลังจากผ่านความมืดของท้ายเหมืองมาจนถึงทางออก Mike ยังพยายามที่จะตามค้นร้ายท่ามกลางพายุหิมะต่อจนถึงเนินที่มีคฤหาสถ์ขนาดใหญ่อยู่บนยอดเขา




00.41 น. ที่บ้านพักของตระกูล Washington … Chris พยุงตัวลุกขึ้นหลังจากหมดสติไปจาการโดนชายหน้ากากต่อยจนสลบ และสิ่งแรกที่เขาคิดขึ้นได้คือตามหาตัว Ashley ที่หายไป



- เดินสำรวจเข้ามาตามทางในบ้านที่มีรอยเลือดตามทางที่เห็นเป็นจุดๆไปจนออกมาด้านหลังบ้าน ทะลุอออกมายังป่าด้านหลังเดินตามทางไปจนถึงทางแยก แวะเข้าไปทางฝั่งซ้ายก็ต้องตกใจกับหุ่นไล่กาที่ถูกทำดักไว้ที่ต้นไม้ที่ถูกทำเป็นที่สักการะอะไรบางอย่าง สำรวจหัวหมูที่ถูกนำมาเซ่นไหว้ที่โคนต้นไม้ จากนั้นสำรวจเก็บ Death Totem สัญลักษณ์ผีเสื้อสีดำที่เป็นคำทำนายแห่งความตาย ซึ่งภาพนิมิตรแสดงให้เห็นภาพของชายคนนึงถูกแขวนคออยู่ (ซึ่งดูจากกางเกงและรองเท้าก็น่าจะเป็นคริสเองนั่นแหละนะ)
-จากนั้นเดินไปตามแยกขวาต่อจนมาถึงบ้านร้างหลังนึง เมื่อเข้ามาด้านใน Chris จะได้เริ่มได้ยินเสียงร้องให้ช่วยของ Ashley ดังออกมาจากด้านใน เมื่อเข้าไปเห็นต้องถึงกับตะลึงกับภาพที่เห็น Ashley และ Josh ถูกมัดอยู่ในห้องด้านในที่มีเลื่อยขนาดใหญ่ตั้งรออยู่ข้างหน้า และไม่นานเสียงของชายลึกลับคนนึงก็ดังออกมาเพื่อนสนทนากับทุกคน




ไอ้โรคจิต – ขอบคุณทุกคนที่มาเข้าร่วมเกมของผม 
Ashley – Josh !! ตื่นสิ ตื่นๆๆ 
Josh – หะ ห๊า !! อะไร ! มันเกิดบ้าอะไรวะแอช !
 ไอ้โรคจิต – คืนนี้เราจะมาทำการทดสอบบางอย่างกัน  และการทดสอบก็ต้องขอความร่วมมือจากตัวอย่างทดลองคือ Joshua และ Ashley แต่เราก็ต้องการความกล้าหาญของผู้ร่วมรายการอีกคนที่จะช่วยเป็นคนชี้ขาดด้วยว่าตัวอย่างทดลองะรอด หรือ ตาย !! โดยการเล่นเกมง่ายๆ Christopher คุณจะเห็นคันโยกตรงหน้าของคุณ สิ่งที่คุณต้องทำก็แค่ เลือก ว่าใครจะรอด    





Ashley – โอ้ พระเจ้า คริสคุณจะปล่อยให้ชั้นตายหรอ !!
Josh – เฮๆๆ คริส นายคิดดีๆซักนาทีก่อนนะเว้ย 

นาทีนี้คุณต้องเลือกว่าจะให้ใครรอด ? ระหว่าง Ashley หรือ Josh โดยการสับคันโยกไปทางรูปคนที่ต้องการให้รอด 






                          [ขออภัยกับ Josh ด้วยที่ผมจำเป็นต้องเลือก Ashley] ….

-จากนั้น Chris กับใครคนนึงที่คุณเลือกเป็นผู้รอดชีวิตก็จะหนีออกมาด้านนอกบ้านได้สำเร็จ ท่ามกลางความตกใจสุดขีดของทั้งคู่โดยเฉพาะกับคริสที่เพิ่งทำการสั่งตายกับเพื่อนของเขาคนนึงไปกับมือ ทั้งคู่ก็จะเจอกับ Emily และ Matt เดินเข้ามาพบพอดี




Emily – เลือด ทำไมมีเลือดเต็มไปหมดเลยละ เกิดอะไรขึ้นกับพวกเธอเนี้ย ?
Chris – จอรจ์ นะ เขาตายแล้ว ตายต่อหน้าเราเลยพวก มันบ้ามากๆๆ
Emily – พระเจ้า ! เราต้องรีบออกจากที่นี่แล้ว 
Matt – ไม่เข้าวะ ต้องลงมันเรื่องอะไรแน่ ?
Chris – คนบ้า เพื่อน กับเลื่อย มันบังคับให้เราทำ ให้เราเลือก พระเจ้าเราฆ่า Josh กับมือเลย ! มันเป็นความผิดของเราเอง 
Emily – ไม่ๆ แบบนี้มันโรคจิตแล้ว เราต้องไปหาคนมาช่วย  
Matt – นายเห็นหน้ามันมั๊ยว่ามันเป็นใคร ?
Chris – เราไม่รู้ ไม่รู้ๆๆ 
Emily – เอาละพอ เราไปตามคนมาช่วยกัน ด่วน !
Matt – เอ็ม ผมว่าเราต้องตามหาเพื่อนๆคนอื่นก่อนนะ
Emily – Mike กับ Jess ก็ไปเอากันที่ไหนใครจะรู้ ? แล้ว Sam อีกละ 
Chris – Sam น่าจะอยู่ในบ้านนะ 
Emily – โอเค งั้นเราไปหาคนอื่นด้วยกันเลย Christ กับ Ash นาย 2 คนไปตาม Sam ส่วนแมทกับชั้นจะลองดูรอบๆนี่เผื่อจะเจอวิทยุสื่อสารที่จะหาคนมาช่วยได้ และถ้าไอ้โรคจิตนั่นมันออกมาเราอาจทำอะไรได้บ้าง ดีกว่ารออยู่เฉยๆ 
Matt – แต่ว่า เอ็ม 
Emily – เรามามัวพูดอะไรอยู่ ไปได้แล้ว ไป๊ !! 


                                                  THE ANALYST 


ที่ห้องทำงานของ Dr. A.J Hill ….




Dr. Hill – หวัดดีอีกครั้งนะ ตอนเกิดเรื่องตึงเครียดกับพวกเขาเนี้ย ถามจิง คืนนั้นคุณก็ยังจะมีความหวังมั๊ย ? 

คุณสามารถเลือกตอบได้ระหว่าง IT GOING FINE (ก็ไปได้สวยนะ) หรือ NO IT’S NOT (ไม่เลย) 

Dr. Hill – คุณคิดว่ามันเป็นสิ่งที่พวกงี่เง่าพวกนั้นควรได้รับสินะ !! 

คุณสามารถเลือกตอบได้ระหว่าง WHAT DO YOU WANT (นี่คุณต้องการอะไรกันแน่) หรือ WHO ARE YOU? (คุณเป็นใครวะเนี้ย) 

Dr. Hill – ผมคือ คนที่พยายามจะช่วยคุณ กับ เกมส์ที่คุณกำลังเล่นอยู่ คุณต้องเข้าใจด้วยว่ามันดีกับคุณ และมันดีต่อทุกคนด้วย ถึงแม้ว่าคุณจะไม่ได้ปราณีอะไรเลยในเกมที่คุณกำลังเล่นก็เถอะ ว่าแต่ คุณพร้อมที่จะดำเนินการรักษาที่ซับซ้อนนี้ต่อรึเปล่าละ ??

คุณสามารถเลือกตอบได้ระหว่าง YES I WILL CONTINUE (ได้ ต่อเลย) หรือ YOU FREAK ME OUT (ไอ้ตัวประหลาด ปล่อยผมไปนะ) 

Dr. Hill – คุณยังคิดว่าผมมีจริงอยู่หรือเปล่า ?

คุณสามารถเลือกตอบได้ระหว่าง YOU’RE REAL (ใช่ คุณคือมีตัวตนจริง) หรือ YOU DON’T EXIST (แก ไม่มีตัวตน) 



Dr. Hill – โอ้  นี่คุณคิดว่าคุณรู้ว่าอะไรจริงไม่จริงอยู่อีกหรอ ??? ผมแค่สังสัยอ่ะนะ 


                                          CHAPTER 5 – DREAD 


6 ชั่วโมงก่อนตะวันรุ่ง ..... 1.03 น. ทางด้าน Mike ที่พยายามคนร้ายที่เป็นชายสวมหน้ากากไปจนถึงโรงพยาบาลร้างบนยอดเขา และได้เห็นชายสวมหน้ากากพร้อมกับหมาป่าของมันเดินเข้าไปด้านในตึก Mike จึงพยายามเข้าไปสำรวจเพื่อหาทางตามเข้าไปทันที ...



-เดินไปสำรวจแผ่นเหล็กทางซ้ายของประตูทางเข้าจะสามารถขยับเปิดเข้าไปด้านในชั้นใต้ดินของตึกได้ สำรวจด้านในจะพบถังน้ำมันที่สามารถดันเพื่อปีนขึ้นไปตามท่อน้ำจนปีนต่อไปที่ห้องโถงด้านบนอาคารได้ ด้านในคือ Sanatorium Blackwood pine โรงพยาบาลที่เป็นค่ายกักกันผู้ติดเชื้อโรคระบาด และ เอกสารที่ตกอยู่ก็ทำให้รู้ถึงเหตุการณ์ที่เกิดโรคระบาดประหลาดที่เหมืองจนทำให้คนเข้ามารักษาที่นี่มากมายเมื่อหลาย 10 ปีที่แล้ว (1952) ประตูทางเข้าห้องโถงของโบสถ์ด้านในนั้นถูกล็อกและจะเห็นชายหน้ากากกำลังให้อาหารหมาป่าของมันอยู่



 -สำรวจให้ทั่วๆแล้วลงไปที่บันไดทางลงชั้นล่าง เก็บมีดดาบที่ห้องด้านใน แล้วจะพบแขนที่ติดอยู่กับกับดักหมีบนโต๊ะ หากเข้าไปสำรวจไมค์จะถูกกับดักหนีบนิ้วจนต้องตัดสินใจว่า OPEN BEAR TRAP (เอามีดงัดกับดักออก) หรือ AMPUTATE FINGERS (ยอมตัดนิ้วตัวเอง) ซึ่งมันจะส่งผลต่อ Butterfly Effect – At what Price ของไมค์ด้วย ซึ่งคุณอาจจะข้ามไปไม่สำรวจมันเลยก็จะได้ไม่เจ็บตัว
-เข้าไปห้องเก็บศพด้านในสำรวจช่องเก็บศพคนงานเหมือวที่เหมือนผีดิบแล้วเก็บคียการ์ดมาจากตัวมัน เอาไปใช้เปิดประตูลงไปชั้นล่างต่อจนพบกับหมาป่าตัวนึงที่พยายามไล่กัดจนต้องรีบวิ่งหนีขึ้นด้านบนจนรอด มารู้ตัวอีกทีก็มาอยู่ที่ช่องหน้าต่างของโบสถ์แล้ว ซึ่งก็จะพบชายหน้ากากกำลังเข้าไปด้านในพอดี พอลงบันไดทีขาดอีกด้านก็จะกลับลงมาห้องโถงชั้นล่างได้ ซึ่งก็จะสามารถใช้คีย์การ์ดเปิดประตูหน้าโบสถ์เข้าไปได้แล้ว
-เข้ามาจะเจอหมาป่าเฝ้าอยู่ ครั้งแรกจะเตะมันหรือไม่ก็ได้ ตอนนี้อย่าเพิ่งไปยุ่งกับมัน เดินอ้อมไปอีกด้านก่อนเพื่อเก็บเสื้อทหารที่แขวนอยู่กัยปืนสั้นในชั้นด้านในมาใช้ แล้วเข้าไปที่ลังทางด้านขวาของห้องเพื่อเก็บกระดูกมากก่อน จากนั้นค่อยเข้าไปหาหมาป่ากินแล้วเลือก Approach เพื่อปลอบมันตามที่ Totem เคยบอกทางออกเอาไว้ ตอนนี้ Mike ก็จะได้หมาป่าเป็นเพื่อนแล้ว ซึ่งมันจะส่งผลต่อ Butterfly Effect – Man’s best Friend ของไมค์ด้วย 


-จากนั้นเข้าไปด้านในแล้วใช้ปืนยิงกุญแจประตูเปิดเข้าไปด้านในได้ ที่ฝั่งซ้ายของทางลงบันไดแวะไปเก็บ Death Totem ที่เตือนภัยการจุดไฟแช็คจนเกิดระเบิดจนตายของ Mikeมาก่อนแล้วค่อยลงไปชั้นล่างต่อ จนถึงห้องด้านล่างและทันทีที่ดันเอาถังน้ำมันให้พ้นประตูแล้วยิงกุญแจเพื่อเปิดมันประกายไฟก็ทำให้ไฟลุกไหม้จนถังน้ำมันระเบิดทันที ...

1.05 นาที สถานีรถกระเช้าด้านบน ... Matt และ Emily กำลังเดินไปตามหาคนมาช่วยโดยเป้าหมายแรกคือจะพยายามไปที่รถกระเช้าเพื่อออกไปที่ถนนใหญ่ก่อน แต่พวกเขาไม่ว่าถูกจับตาโดยชายลึกลับที่ใส่หน้ากากอยู่ตลอดเวลา และครั้งนี้มันก็ปิดล็อกประตูจน Matt ไม่สามารถเข้าไปด้านในรั้วได้ 



-เดินอ้อมไปต่อจนถึงหน้าสถานีแล้วเก็บขวานที่ติดอยู่ที่หน้าประตูมาใช้ ซึ่งขวานนี้ก็เป็นหลักฐานที่มันหายมาจากช่องใส่ขวานข้างๆบ้านพักด้วย  เมื่อ Emily สำรวจแล้วว่าประตูหน้าล็อก Matt จึงต้องหาทางเข้าใหม่ต่อไป โดยดูจากรูปการณ์ภายนอกสามารถเลือกได้ระหว่าง HELP EMILY THROUGH (ให้ Emily ลอดผ่านไป) หรือ Smash Door (ใช้ขวานพังประตูเข้าไป) ซึ่งถึแม้ว่าคนจิตใจดีอย่าง Matt จะไม่อยากทำลายทรัพย์สินใครแต่ถ้าไม่อยากให้ Emily บ่นว่าตูดใหญ่เข้าหน้าต่างไม่ได้ก็ต้องทำใจเลือกพังประตูเข้าไปได้เถอะครับ 
-เมื่อเข้ามาด้านในสถานีรถกระเช้าทั้งคู่ก็ต้องตกใจเมื่อรถกระเช้าถูกทำให้ออกไปอยู่กลางทางแล้ว และห้องก็ถูกทำลายยับเยิน ทำให้รู้ทันทีว่ามีคนที่พยายามไม่ให้ทุกคนหนีออกจากที่นี่แน่นอน เมื่อเข้าไปสำรวจด้านในต่อ Matt จะพบแผนที่ของที่เขตนี้แขวนอยู่ เมื่อสังเกตดูจะพบหอคอยสื่อสารของป่าไม้อยู่ไม่ไกลจากที่นี่มาก และ Emily ก็ยังย้ำเตือนให้ทำตามแผนเดิมว่าต้องหาทางทำให้รถกระเช้าใช้งานได้เพื่อออกไปตามคนมาช่วยอีก แต่เมื่อสำรวจที่แท่นควบคุมก็ไม่มีกุญแจอยู่ด้วยทำให้ Emily ยอมให้ไปที่หอคอยสื่อสารเผื่อจะมีวิทยุใช้การได้อยู่





ซึ่ง Matt สามารถเลือกตอบได้ระหว่าง AGREE (ไปที่หอคอยเพื่อหาวิทยุ) หรือ DISAGREE (ไม่ไปที่นั่นแล้วกลับทางเดิม) แน่นอนต้องเลือกตกลงไปที่หอคอยได้เลย เพราะถึงเลือกหันหลังกลับก็จะโดน Emily ตอกกลับว่าใจตุ๊ดอยู่แล้ว และจะส่งผลต่อ Butterfly Effect – On the Same page ของ Matt ด้วย

-ออกมาจากห้องควบคุม Emily จะเดินนำไปสำรวจที่บันไดเล็กที่พนังให้ออกมาสามารถปีนไปเดินเลาะข้างพนังไปต่อได้ที่บันไดอีกฝั่งของเนินเขาได้ พอออกมาพ้นเนินแวะเก็บ Totem สีเหลืองที่แนะนำทางออกให้ โดยในรูปจะเห็น Emily กำลังให้ปืนพลุกับ Matt  จากนั้นเดินตาม Emily ต่อไปจนถึงทางเดินด้านบนแวะเก็บ Totem สีขาวที่จะบอกถึงอนาคตที่ดี ซึ่งในภาพจะเห็น Ashley กำลังเปิดประตูให้ Chris ที่กำลังวิ่งหนีบางอย่างเข้ามาในบ้าน จากนั้นเดินต่อไปจนถึงหน้าผาที่เป็นทางขาดก็จะพบไปต่อไม่ได้ แต่ในขณะที่ทั้งคู่กำลังหันหลังเดินกลับมาก็จะพบกับฝูงกวางมากมายที่เดินเข้ามาล้อมจนหมดทางกลับไป ...




1.11น. ที่บ้านพักตระกูล Washington …. ขณะที่ Sam กำลังอ่างแช่น้ำอุ่นฟังเพลงอย่างสบายใจโดยไม่ทันในใจว่ามีแขกที่ไม่น่าไว้ใจอยู่ใกล้ๆตัว ทันทีที่ชายหน้ากากที่แฝงตัวอยู่ในห้องออกพ้นประตู เสียงดังปังจึงทำให้ Sam ที่กำลังหูฟังเริ่มสงสัย เธอจึงต้องออกจากห้องน้ำไป เพื่อสำรวจดูให้หายสงสัยทั้งผ้าเช็ดตัว ..




-ออกจากห้องน้ำเดินสำรวจไปจนถึงทางลงไปชั้นล่างที่ห้องฉายหนังก่อนที่ประตูจะปิดขังแล้วจอก็ฉายภาพออกมาพร้อมกับเสียงบรรยายของชายแปลกหน้าให้ได้ยิน



ชายสวมหน้ากาก – ไง Samantha มองหาข้าหรอ ?  ข้าไม่ได้คิดว่าเจ้าจะมีโชคดีมากนักนะ แต่จงดูซะ Samantha ข้ามีอะไรจะโชว์ให้ดูเยอะเลย เบิ่งตาดูซะ เธอสวยใช่มั๊ยละ ? นกน้อยในอ้างน้ำที่สวยงาม
Sam – ทำไม ? ทำแบบนี้ทำไม 
ชายสวมหน้ากาก – ดูสิ เธอไม่รู้ตัวซักนิดว่าถูกแอบถ่ายอยู่ 
 Sam – แล้วทำไมต้องมาให้ชั้นดูด้วย !
ชายสวมหน้ากาก – แล้วเธอดูเองทำไมละ
Sam – Josh !! ไม่นะ  พระเจ้าแกทำแบบนี้ทำไม !!
ชายสวมหน้ากาก – มันทำให้เธอมีความรู้แล้วหรอ ? เดี๋ยวข้าจะเข้าไปหาใน 10 นาที  9 .. 8 .. 7 .. 6 
ไง Sammm  …..





ตรงนี้ Sam สามารถเลือกกระทำได้ระหว่าง TROW VASE (ขว้างกระถางใส่) หรือ RUN (วิ่งหนีไปเลย) จากนั้นเมื่อหนีเข้ามาในห้องจะเลือกได้ระหว่าง HIDE (หลบใต้เตียง) หรือ JUMP โดดข้ามข้ามเตียง จากนั้นต้องเลือก วิ่งต่อไปหรือหลบซ่อน ต่อจนถึงห้องเก็บไวน์ที่เจอประตูที่ไม่มีที่จับอยู่ ต้องเลือกระหว่าง FORCE หรือ PULL เลือก FORCE ก็สามารถดันประตูไปต่อได้จนถึงช่องทางเดินของอาคารเก่า และจากนี้ไม่ว่าจะแอบหรือจะหนียังไง ก็เลือกเอา เพราะสุดท้าย Sam ก็จะถูกชายหน้ากากจับตัวไปอยู่ดี .... ซึ่งมันจะส่งผลต่อ Butterfly Effect – Run or Hideของ Sam ด้วย


                 แต่มันก็ไม่ได้ทำให้ชะตาชีวิตเธอเปลี่ยนแปลงไปมากมายอะไรหรอกครับ




                                                  THE ANALYST 

ที่ห้องทำงานของ Dr. A.J Hill …. 



Dr. Hill – ว้าว โคตรจะตื่นเต้นเลย สุดยอดมากเนอะ เกมของคุณดำเนินไปอย่างดีมากเลยสินะ ก็ดี มันเช่วยปลดปล่อยข้อมูลของความกลัวได้ดี แต่คนที่มีความกลัวปกคลุมมากที่สุดก็คือคุณเองนั่นแหละ ความกลัวจากความตาย แล้วคุณก็เปลี่ยนมันกลับไปให้เพื่อนๆของคุณ ทุกครั้งที่ความทุกข์มันถาถมเข้ามา 



                                                  …. เฮ้ยย อะไรวะเนี้ย !!! ….. 



                                          CHAPTER 6 – VENGENCE  


5 ชั่วโมงก่อนตะวันรุ่ง ....  2.02 น. ที่ยอดเนินผา Matt และ Emily กำลังเผชิญหนั้บฝูงกวางฝูงนึงที่กำลังตรงเข้ามาอย่างตรึงเครียด 




matt สามารถเลือกบอก Emily ยังไงก็ได้ระหว่าง CALM หรือ REBUAK เพราะทั้ง 2 อันคือพยายามปลอบให้เธอเย็นลง





จากนั้นก็พยายามเดินฝ่าไปช้าจนถึงตัวจ่าฝูงที่ขวางทางอยู่ ซึ่งจะมีเป้าขึ้นมาให้สามารถทำลายมันได้ อย่าเลือกทำร้ายมัน ปล่อยให้เป้าหมายหายไปแล้วเดินต่อไปก็จะรอด แต่ถ้าทำร้ายกว่า Matt ก็จะถูกพวกมันไล่ขวิดจนตกเขาตาย ซึ่งมันจะส่งผลต่อ Butterfly Effect – In Self Defense ของ Matt ด้วย ตรงนี้เป็นวินาทีเป็น - ตายของ Matt เลยก็ว่าได้

2.22 น. หลังจาก Matt พา Emily รอดจากฝูงกวางได้แล้ว เธอก็จะนำทางต่อจนถึงหอคอยตรวจการณ์ของป่าไม้ เมื่อขึ้นไปถึงด้านบนที่ห้องควบคุมจะพบวิทยุสื่อสารอยู่จริงๆแต่ตอนนี้มันไม่มีพลังงานไฟฟ้าให้ใช้งานได้เลย ออกไปสำรวจด้านนอกจะพบกล่องใส่ปืนพลุ




ซึ่ง Emily จะสามารถเลือกได้ว่าจะให้ Matt ไปใช้หรือเปล่า เลือก GIVE ให้ Matt ไปได้เลยตามที่เห็นภาพใน Guidance Totem แนะนำเอาไว้ มันจะส่งผลต่อ Butterfly Effect – Who get the gun ของ Emily พร้อมกับ Butterfly Effect –  On the Same page ของ Matt ด้วย เพราะ ปืนพลุจะทำให้ Matt รอดตายจากการโดน Wendigo ฆ่าตายในภายหลัง 



- เปิดสวิตซ์ที่กล่องฟิวส์ตรงทางเข้าวิทยุก็จะใช้งานได้แล้ว เมื่อ Emily เข้าไปลองหาใช้ก็จะพบการตอบกลับของแรนเจอร์ ซึ่งเขาจะพยายามถามเพื่อให้ยืนยันสถานะที่ชัดเจนให้ตอบระหว่าง PERSIST (บอกแบบเร่งรีบ) กับ COMPLY [บอกอย่างเป็นทางการตามที่แรนเจอร์สั่ง) ซึ่งตอบข้อไหนไปก็ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง หรือจะให้ดีก็ให้ข้อมูลที่ชัดเจนไปก็ดี ซึ่งแรนเจอร์ก็จะได้ข้อมูลไปและพร้อมจะช่วยเหลือ แต่ทีมกู้ภัยจะเดินทางมาหลังพายุสงบนั่นก็คือให้รอ จนถึงรุ่งเช้า เท่านั้น

-ทันทีคุยวิทยุจบหอคอยก็เริ่มสั่นไหวเพราะมีใครบางคนพยายามจะโค่นมันให้ล้ม และจะเป็นใครไม่ได้นอกจากชายหน้ากากที่กำลังตัดลวดสลิงจนขาดหมดทำให้หอคอยเริ่มล้มลง ทันทีที่หอคอยเริ่มล้มหล่นลงไปตรงเหวๆใกล้ๆ Emily ก็ตกลงไปกระแทกกระจกหน้าต่างทะลุลงไปติดระเบียงด้านล่างอย่างรวดเร็ว
-Matt ที่เกาะอยู่ด้านล่างจึงพยายามดึงตัวลงมาด้านบนเพื่อช่วย Emily ซึ่งตอนนี้จะเป็นส่วนสำคัญสำหรับความเป็นความตายของ Matt เลยครับ ซึ่งจะสามารถเลือกได้ระหว่าง  saving Emily (พยายามช่วยเอมิลีทันที) หรือ Jump to Safety (โดดไปที่มั่นคงก่อน) แต่ไม่ว่าจะเลือกทางไหน Emily ก็ตกไปแต่ยังไม่ตายอยู่ดี แต่การเลือก Jump to Safety นั้นจะทำให้ Matt ปลอดภัยโดยมี Emily ตกไปคนเดียว ซึ่งจะส่งผลต่อ Butterfly Effect –  Save yourself ของ Matt ด้วย


  แต่ถ้าเลือก saving Emily ถึง 2 ครั้ง Matt ก็จะพยายามช่วย Emily จนตกลงไปด้านล่างทั้งคู่ และ Matt ก็จะถูก ตัวประหลาด เข้าโจมตี ซึ่งถ้า Emily เลือกให้ปืนพลุกับเขาไว้ Matt ก็จะรอดตาย แต่ถ้าไม่มีปืนพลุ Matt ก็มีอากาศที่จะตายตรงนี้ด้วย    

2.03 น. ที่บ้านพักตระกูล Washington …. ทางด้าน Chris และ Ashley เมื่อเห็น Sam อาบน้ำนานจนไม่ลงมาอีกเลยทั้งคู่จึงเริ่มออกมาตามหาทันที 




- เดินทางมาสำรวจที่ชั้นล่าง ผ่านห้องดูหนังเข้าไปจนถึงด้านในตลอดทาง Ashley จะรู้สึกได้ถึงความหลอนของบ้านมากขึ้นทั้งเทียนติดเอง ประตูเปิดปิดเอง จนทำเอาเธอเริ่มจนหล่อน จนกระทั้งเธอเห็นผู้หญิงชุดขาวเดินผ่านทางเดินก็ยิงทำให้ Ash วิตกจริตมากขึ้นจน Chris เริ่มจะหงุดหงิดเลยต้องถามว่า Ash เห็นอะไรกันแน่ Ash อาจเลือกตอบได้ระหว่าง INSIST (คือบอกตรงๆเลยว่าเห็นผี) หรือ Concede (บอกอย่างไม่แน่ใจว่าเห็นอะไรก็ไม่รู้) เลือกตอบได้ตามสะดวกเพราะไม่มีผลต่อะไรเลยครับ นอกจากเกท Romantic ที่ลดลง แต่เกทความสัมพันธ์ของ Chris จะมากขึ้นมานิดหน่อย
 - พอเข้ามาจนถึงห้องเก็บไวน์ด้านในที่โถงกลางจะพบบ้านตุ๊กตาที่ต้องใช้กุญไขเปิดอยู่ และทันทีที่มองไปที่ทางเดินด้านใน Ashley ก็จะเห็นผีผู้หญิงอีกครั้งที่พยายามชี้ให้เธอไปเก็บบางอย่างซึ่งจะพบว่ามันเป็นกุญแจของบ้านตุ๊กตานั่นเอง และพอหันมาที่บ้านตุ๊กตาก็จะพบผีตัวเดิมที่ชี้ไปที่บ้านตุ๊กตา จน Chris ต้องตกใจเพราะทีนี้เขาเห็นเต็มๆ ทันทีที่เปิดบ้านตุ๊กตาออกก็จะเห็นตุ๊กตาที่ถูกเซ็ทเอาไว้ 8 ตัวเหมือนกับทุกคนที่นี่ ซึ่งก็ทำให้ Ashley วิตกจริตต่อว่าเป็นฝีมือของฆาตกรที่จะฆ่าทุกคนเหมือน Beth และ Hannah ด้วย จากนั้นฝาด้านหลังคาจะเปิดออกซึ่งก็จะพบไดอารี่ของ Hannah อยู่ที่นี่ด้วย



ข้อความด้านในไม่มีอะไรมากนอกจากที่เธอเขียนพร้ำเพ้อละเมอถึง Mike โดยเฉพาะวันที่ทุกคนจะมาเที่ยวที่บ้านเธอ ทำให้ Hannah ตั้งตารอจนเนื้อเต้นที่จะได้ใกล้ชิดกับ Mike ด้วย 
-จากนั้นประตูด้านในจะค่อยๆเปิดออกเอง และเมื่อทั้งคู่เข้าไปก็ต้องตกใจเมื่อมีบางอย่างมาขวางทางให้ตกใจแล้วหายวับไปกับตา เข้าไปสำรวจโต๊ะด้านในจะพบหนังสือแคทตาล็อกของตะเกียงแบบพิเศษที่สามารถส่องแสงและใช้ได้นานกว่าปกติ แล้วกรรไกรใต้หนังสือมาด้วย ซึ่งก็จะทำให้ Butterfly Effect –  Forewarned is forearmed ของ Ashley เปลี่ยนแปลงไปด้วย  ระหว่างทางเข้าด้านในทั้งคู่ก็จะคุยกันด้วยความเหนื่อยล้า

Ashley – ชั้นเริ่มจะรับเรื่องพวกนี้ไม่ไหวแล้วนะคริส
Chris – เหมือนกัน มันชักจะหนักข้อขึ้นเรื่อยๆแล้วนะ
 Ashley – ที่ชั้นต้องการก็แค่อยากสนุกให้มันลืมเรื่องแย่ๆเมื่อปีที่แล้วก็เท่านั้นเองจริงๆ 
Chris – เอาจริงๆผมไม่อยากเชื่อด้วยว่า Hannah จะทำอย่างนั้นจริงๆ
Ashley – ก็นะ คุณไม่รู้หรอกถ้าคุณไม่ได้แอบหลงรักใครบางคนแบบหัวปรักหัวปรำน่ะ 
Chris – คุณก็พูดง่ายจัง ทั้งๆที่พวกเราได้กดดันเพื่อนให้อับอายแล้ววิ่งหนีไปไม่กลับมาอีกเลยคิดว่ามันเพราอะไรละ   




ตรงนี้ Ashley จะสามารถเลือกตอบได้ระหว่าง DISMISSIVE (พยายามแก้ตัวว่า Hannah โกรธเวอร์ไปเอง) หรือ SYMPATHETIC (พูดอย่างเห็นอกเห็นใจและโทษพวกเราเอง) เลือกตอบ เห็นอกเห็นใจจะทำให้เกทความสัมพันธ์ระหว่าง Chris มาขึ้นอีกเยอะเลย 

Ashley – คริส เราทำให้เธออายกลายเป็นอีโง่ต่อหน้าคนที่เธอชอบใครละจะไม่อับอายบ้าง 

-เข้าไปสำรวจด้านในต่อแวะเก็บสร้อยข้อมูลของ Sam เอาไว้ แล้วเดินต่อไปจนถึงทางลงชั้นใต้ดินซึ่งดูเหมือนยังไง Ashley ก็ไม่ยอมลงต่อเพราะมันมืดและน่ากลัว แต่ Chris ก็พยายามบอกว่าที่ทำกันมานี่ก็เพราะอยากจะช่วย Sam จะยอมกลับไปทั้งแบบนี้นะหรอ 




Ashley จะเลือกตอบได้ระหว่าง RELUCTANT (ตอบแบบไม่เต็มใจว่าก็ชั้นกลัวจริงๆนะ) หรือ COURAGEOUS (ตอบแบบมีลูกอึดว่า ตกลงไปช่วยแซมกัน !!)  ถ้าตอบว่ากลัว เกท Brave ความกล้าจะลด แต่เกท Romanticและความสัมพันธ์กับ Chris จะเพิ่มขึ้นมากๆครับ 

-เมื่อทั้งคู่เดินลงลึกลงไปชั้นใต้ดืนเรื่อยๆจนทะลุมาถึงซากโรงแรมเก่า ในขณะที่ Chris กำลังพยายามเปิดประตูที่แสนหนักเอาไว้เพื่อให้ Ashley ตามเข้ามาแต่ Ash เธอก็กลับเห็นใครบางคนเดินไปมาอยู่ในอีกห้องอีกด้าน ตรงนี้จะเลือกได้ว่าจะ FOLLOW CHRIS (ตามคริส) หรือ INVISTIGATE MOVEMENT (ลองไปสำรวจดูหน่อย) 



การเลือกตรงนี้ไม่ได้ชี้เป็นชี้ตายอะไรครับ ถ้าเลือก INVISTIGATE MOVEMENT เพื่อแยกไปสำรวจที่ทาง Ashley ก็จะเจอกับชายหน้ากากในห้องจนเกือบจะถูกจับได้ ซึ่งถ้าเธอหยิบเอากรรไกรมาด้วย Ash ก็จะใช้กรรไกรเสียบชายหน้ากากจนบาดเจ็บแล้วหนีมาหาคริสได้ ซึ่งก็จะทำให้ Butterfly Effect – Forewarned is forearmed ของ Ashley ต่อเนื่อง แต่ถ้าเลือก FOLLOW CHRIS ก็ไม่ต้องไปเจอชายหน้ากากแต่จะไปเจอหุ่นไล่กาที่ใส่ชุดของ Sam ในห้องเย็นแทน และ Butterfly Effect – Stick Together ของ Ashley ก็จะเปลี่ยนแปลง




-จากนั้นเดินสำรวจเข้าไปด้านในต่อ Ashley จะได้ยินเสียง Sam เรียกจากด้านในเลยรีบตามเข้าไปดู ซึ่งจะพบ Sam สลบอยู่และจู่ๆชายหน้ากากก็จะเข้ามาด้านหลังแล้วใช้แก้สยาสลบทำให้ Chris สลบไป สุดท้ายมันเดินเข้ามาหา Ashley ตรงนี้ถ้าเธอเก็บกรรไกรมา Ashley ก็จะเอามาเสียบใส่ชายหน้ากากได้ ซึ่งก็จะทำให้ Butterfly Effect – Forewarned is forearmed ของ Ashley ต่อเนื่อง แต่สุดท้ายเธอก็จะถูกต่อยจนตาเขียวสลบตาม Chris ไปเหมือนกัน

3.11 น. Chris และ Ashley ตื่นขึ้นมาอีกครั้งก่อนที่จะรู้ตัวว่าถูกมัดติดกับเก้าอี้ จากนั้นเสียงของชายลึกลับก็ดังขึ้นพร้อมบอกกติกาของเกมสยองครั้งใหม่ของมันอีกครั้ง เลื่อยใบใหญ่เคลื่อนตัวออกมาจากด้านบนหัวของทั้งคู่ ก่อนที่เสียงของชายหน้ากากจะสั่งให้ Chris ใช้ปืนในมือยิงใส่ Ashley เพื่อให้เลื่อนของฝั่งของตัวเองหยุดก็จะรอด หรือ ยิงหัวตัวเองให้เลื่อยฝั่ง Ashley หยุดเธอก็จะรอด เกมง่ายๆที่ Chris ต้องคิดหนักอีกครั้งหลังจากครั้งที่แล้วเขาเลือก Ashley จนต้องฆ่า Josh ไปด้วยมือตัวเอง



ทางเลือกนี้สำคัญต่อความเป็นความตายของ Chris มากๆ ให้เลือกยิงหัวตัวเองแทน หรือ ไม่ก็ปล่อยให้เป้ามันหายไปแบบไม่ต้องยิงใครเลย เพราะถ้าเอาปืนไปยิงใส่ Ashley เข้าละก็ ในตอนที่ 8 ในช่วงที่ Chris กำลังหนีตายเข้ามาที่บ้าน Ashley ก็จะแก้แค้นโดยไม่ยอมเปิดประตูให้จนทำให้ Chris ตายในที่สุด ฉะนั้นตัดสินใจลั่นไกใส่หัวตัวเองไปซะคริส แล้ว Butterfly Effect – Point Blank ของนายก็จะส่งผลดี 




                                                  THE ANALYST 

ที่ห้องทำงานของ Dr. A.J Hill …. 





Dr. Hill – คุณมันเป็นหนักกว่าที่ผมคิดเยอะ คุณเห็นมั๊ย เห็นมั๊ย ! มันจะทรมานอะไรกันขนาดนี้ วิปลาสแล้ว ใครบอกให้คุณเล่นบทพระเจ้าว่าจะให้ใครรอดใครตาย คุณวิเศษมาจากไหน ห๊า !!  คุณมันป่วย โคตรป่วยเลย !! ดูสิ คุณทำอะไรกับพวกเขา คุณทำอะไรลงไป .. คุณมัน โรคจิต ... ไอ้โรคจิต !!! 







                                           CHAPTER 7 – VIOLENCE 

4 ชั่วโมงก่อนตะวันรุ่ง ....  3.03 น. ที่ชั้นใต้ดินของบ้านพักตระกูล Washington  ทันทีที่ Sam ลืมตาตื่นจากการสลบขึ้นมาอีกครั้งในสภาพนุ่งผ้าเช็ดตัวและถูกผูกติดอยู่กับเก้าอี้ ความรู้สึกที่มึนชาถูกแทนที่ดูเสียงเรียกที่ค่อยๆดังขึ้นช้าๆก่อนที่เธอจะรู้ว่าคือ Mike ที่เรียกจากด้านล่างของลูกกรง พยายามดันตัวเองไปหา Mike เพื่อให้เขาเอาไฟแช็คเผาเชือกที่มันมือมัดเท้าออกจนหมด Sam ก็จะเป็นอิสระอีกครั้ง


Sam – ขอบคุณพระเจ้า ไมค์ ที่คุณเจอชั้นได้ 
Mike – คุณโอเครึเปล่า ?
ตรงนี้ Sam เลือกถามได้ระหว่าง CURIOUS (ถามแนวอยากรู้อยากเห็นว่า คุณลงไปอยู่ข้างล่างนั้นได้ไง) กับ SHOCKED (ถามในเรื่องที่น่าตกใจ ว่านิ้วคุณไปโดนอะไรมา 
Sam – แล้วคุณละ ให้ตายเหอะนิ้วคุณไปโดนอะไรมา
Mike – ช่างมันเหอะแค่นี้เดียว ผมไปเจอเรื่องบ้าบนภูเขามา ไอ้บ้านั่นมันกะฆ่าเราทั้งหมดแหละ 
Sam – ไอ้คนเดียวกันกับที่คุณพุดเนี้ยแหละที่มันเล่นงานชั้น มันให้ดูภาพวีดีโอตอน Josh โดนมันฆ่าตายด้วย มันโคตรโหดเลยใช้เลื่อนตัวขาดสองท่อนเลยด้วย 
Mike – มันเกิดบ้าอะไรขึ้นที่นี่กันแน่เนี้ย ฟังนะ ประตูเปิดจากผมไม่ได้ลองดูฝั่งคุณสิว่าพอเปิดได้มั๊ย ?

-จากนั้นสำรวจเก็บไฟฉายและเป้แล้วเปิดประตูออกมาที่ทางเดินจะสามารถเปิดที่ล็อกประตูจากด้านในไปหา Mike ได้ หลังจาก Sam เปลี่ยนชุดเรียบร้อยแล้วเข้าไปด้านในต่อทั้งคู่จะได้ยินเสียงคนร้องอยู่ด้านในห้อง

ด้านในจะเห็น Chris และ Ashley ที่ถูกมัดอยู่ที่เก้าอี้เลื่อยนรก ทำไมพวกเขายังไม่ตาย จากนั้นชายหน้ากากก็จะเดินเข้ามา Chris ไม่รอช้าที่จะใช้ปืนในมือยิงใส่จนหมดแม็ก แต่กระสุนกลับยิงมันไม่เข้าซักนัดเดียว 





ชายหน้ากาก – โอ้ คริสๆๆ 
Chris – เฮ้ย อะไรวะเนี้ย 
ชายหน้ากาก – นายไม่ร้จักกระสุนปลอมหรอวะ 



ทันทีที่คำพูดกวนๆสิ้นสุดลง ชายหน้ากากที่ทุกคนคิดว่าเป็นฆาตกรโหดก็เปิดเผยตัวออกมาว่าเขาคือ Josh นั่นเอง !!


3.00 น.  เหมืองใต้ดิน  ...... Emily ที่กำลังห้อยหัวกลับด้านจากพื้นดินเพราะเท้าเกี่ยวกับเชือกที่มันติดอยู่กับหอคอยจึงทำให้เธอรอดจากหอคอยตรวจการณ์ถล่ม ทันทีที่รู้สึกตัว Emily ร้องเรียก Matt สุดเสียงหลังจากไม่ได้ยินเสียงตอบกลับมาเธอจึงรวบรวมความกล้าที่จะพยายามดึงตัวให้หลุดออกจากเชือกจนตกลงไปด้านล่าง 




- เดินเข้าไปด้านในเหมืองที่ได้ยินเสียงร้องของสัตว์ประหลาดระงมไปทั่ว เข้ามาจนถึงรถเลื่อน สำรวจดูรูปคนเหมืองในลังแล้วสับคันโยกปล่อยรถให้เลื่อนไปชนประตูไม้จนพังเป็นทางไปต่อได้ เข้ามาจนถึงห้องโถงใหญ่ จุดไฟที่คบเพลิงไว้ก่อนแล้วจะเห็นปืนไฟที่ยิงสัตว์ประหลาดจนร้องกระเจิงอยู่อีกฝากของที่นี่ด้วย Emily ต้องหาทางขึ้นไปด้านบนต่อแต่ลิฟต์เล็กกลับไม่ทำงานพราะไม่มีพลังงาน สังเกตดูด้านบนของระเบียงจะมีหม้อแปลงอยู่ ซึ่งจะต้องไปปีนบันได้ฝั่งขวาขึ้นไป เดินเลยบันไดไปสุดทางก่อนจะมี Death Totem ให้เก็บภาพคำทำนายนั้นเห็นเต็มๆก็คือภาพของ Emily เองที่ถูกยิงเข้าเบาตาตายคาทีเลย
-แต่ในขณะที่กำลังปีนบันไดขึ้นไปบันไดก็เกิดพังหักลงมาทำให้ Emily ตกลงไปในเหมืองด้านล่างโดยคบเพลิงหลุดจากมือด้วย และทันทีที่เปิดไปมือถือส่องดู Emily ก็ต้องตกใจเมื่อเห็นโครงกระดูกมากมายรอบตัว เดินเข้าไปตามทางของถ้ำมืดจนทำลายแผงไม้กั้นเข้าไปด้านในต่อ เข้าไปปีนที่พนังจนโดดไปเกาะบันไดด้านบน จะเริ่มได้ยืนเสียงร้องของตัวประหลาดและชายคนนึงที่ดังขึ้นเรื่อยๆ เดินเข้าไปด้านในเรื่อยๆก็จะมาอยู่ที่ระเบียงบนที่บันไดเคยหักไปได้เข้าไปสับคันโยกที่หม้อแปลงไฟฟ้าก็จะกลับมาทำงานได้แล้ว



- เดินลงทางบันไดขวาตรงข้ามที่ขึ้นมาไปเก็บ Red Totem ซึ่งจะเป็นภาพเตือนอันตรายที่ Mike กำลังจะโดนมือตัวประหลาดจับได้ (แค่นี้ก็ต้องเตือน กดหลบเอาก็ทัน) เดินต่อมาถึงยังโถงถ้ำด้านนอก Emily จะเห็นช่องด้านบนที่เป็นช่องขนาดใหญ่แต่เสียดายที่ปีนขึ้นไปไม่ถึง เข้ามาด้านในสำรวจแผ่นสังกะสีที่ปิดพนังหินที่เคยมีคนเขียนวันที่ 2 ก.พ 14 ซึ่งเป็นวันที่ Beth และ Hannah หายตัวไป ด้านในก็จะพบป้ายหลุมศพที่ทำขึ้นเองซึ่งมีชื่อ Beth เขียนอยู่ เมื่อเดินเข้ามาจนถึงส่วนกลางของถ้ำ Emily จะพบหัวตุ๊กตาตั้งอยู่เมื่อเข้าไปสำรวจปรากฏว่ามันกลายเป็นหัวของ Beth แต่หายตัวไม่เจอ เดินต่อไปตามทางเปิดประตูเล็กออกมาก็จะกลับมาออกที่โถงถ้ำกลางที่มีลิฟต์แล้ว




-จากนั้นขึ้นลิฟต์มาชั้นบน ออกมา Emily จะพบกับชายลึกลับคนนึงที่ถือปืนไฟกำลังเดินเข้ามา หลังจากพยายามทำจอยนิ่งได้ที่แล้ว Emily ก็ตัดสินใจวิ่งหนีทันที จากนั้นก็วิ่งไปตามทาง ใช้คบเพลิงจุดไฟที่น้ำมันที่พื้นไว้แล้วหนีไปต่อจนถึงประตูไม้ที่เปิดไม่ได้




 ตอนนี้จะเลิก TURN BACK (หันหลังกลับ) หรือ HIDE (หลบซ่อน) เลือกหลบซ่อนไปได้ซักพักชายแปลกหน้าที่ถือปืนไฟก็จะเข้ามาจับได้อยู่ดี ...

ทางด้านห้องใต้ดินของบ้านพัก ... ตอนนี้ Mike , Sam , Ashley และ Chris ทุกคนกำลังงงงวยกับชายหน้ากากที่เป็นฆาตกรโรคจิตที่ถอดหน้ากากออกมาเป็น Josh ที่ตายไปแล้ว ได้ยังไง ?

Josh – โว้ๆๆ ฮ่าๆๆๆๆ 
Mike – จอร์จ !!
Ashley – นี่มันอะไรกันนี้ยจอร์จ !
Josh – ฮ่าๆ ดีๆ ที่ยังจำชื่อเราได้ ที่ผ่านมาพวกนายถึกกันมากว่ะ ฮ่าๆ เราหมายถึงพวกนายรู้สึกไงบ้างวะ ชอบปะอารมณ์แบบสยองขวัญ ตกใจ แล้วก็น่าอับอายขายหน้าด้วยป่ะวะ ฮ่าๆๆ นั่นแหละความรู้สึกที่น้องเราเจอเมื่อ 1 ปีที่แล้วไง เข้าใจความรู้สึกยัง ? ไม่ขำกันบางละที่นี้ ขำหน่อยสิ ฮ่าๆๆ 
Mike – เราไม่รู้หรอกว่าน่าจะเห็นเป็นสติเตือนใจอะไร แต่พวกเราไม่ขำวะจอร์จ 
Josh – ไม่เอาน่า ไม่เอาน่า อย่ามาทำหน้าตาย พวกนายทำกันได้ดีจะตาย ไปทางนู้นออกทางนี้ โคตรเก่งกันเลย นายน่าจะชมตัวเองนะ แต่เราอะโคตรยุ่งเลยที่ต้องทำสเปเชียลเอฟเฟคต่างทั่วบ้าน เป็นนักเชิดหุ่นผีหลอกยัย Ashley แล้วก็เป็นนักมายากลตัวหุ่นของตัวเอง พวกนายน่าจะเห็นหน้าตัวเองตอนนั้นนะ  ฮ่าๆ  




Sam – นายทำแบบนี้ทำไม ?
Josh – ไม่เอาน่าเพื่อน การแก้แค้นเป็นยาที่ดีที่สุดนะ 
Mike – อย่างงั้นหรอ !!
Chris –ไม่เอาน่า ไมค์ เขาป่วยนะ 
Josh – เดี๋ยวพวกนายก็ต้องมาขอบคุณเราเพราะจะได้ดังในอินแตอร์เน็ตแน่นอน ฮ่าๆ จะทำทั้งทีแค่มีสาวๆน่ารักๆแค่นี้มันไม่เวิร์คหรอก เราไม่ต้องการนิยายรักหวานแหว๋ว  มันต้องเลือดสาดเว้ย !! unrequited 
Mike – นี่นายพูดอะไรแบบนี้วะ เจสสิก้า ตายทั้งคนนะเฮ้ย !! 
Josh – อะไรนะ ? 
Mike – ไม่ได้ยินหรือไงวะ เจสสิก้าเธอตายแล้ว และนายก็ต้องชดใช้ทั้งหมดด้วยโว้ย !!!

ด้วยความโกรธที่ Josh พล่ามออกมาอย่างสนุกว่าความวุ่นวายที่เขาสร้างขึ้นเป็นเพราะอยากสนุก เป็นมุขตลกที่จะเอาอวดคนบน Youtube บอกว่า Mike จึงตรงเข้าไปซัด Josh จนสลบทันทีแล้วค่อยเก็บคิดบัญชีต่อทีหลัง


ไม่มีกี่ชั่วโมงต่อมา Mike และ Chris นำตัว Josh ไปควบคุมตัวไว้ที่โรงนาเก่าเพื่อรอตอนเช้าจะจับเข้าส่งตำรวจฐานาตกรรม Jessica จากการเล่นพิเรนทร์ของมัน




Josh –เฮ้ยไม่เอาน่าเพื่อน เราไม่ได้ทำอะไรจริงๆนะเว้ย 
Mike – ฆ่าคนเห็นจอร์จ อย่ามาพูด 
Josh – เฮ้ ไมเคิ่ล เพื่อน เราไม่เคยทำร้ายเจสสิก้าเลยนะ 
ตอนนี้ Chris สามารถเลือกตอบได้ระหว่าง SCOLD (ดุด่าว่าแควรต้องชดใช้มัน) หรือ DISMISS (หุบปากไปซะ) ซึ่งมันก็เป็นอารมรณ์ด่าทั้งคู่นั่นแหละ
Josh – เฮ้ Chris เราเป็นซี้กันนะคู่หู 
Chris – อย่ามาพูดแบบนั้นดีกว่า 
Josh – ไอ้พวกบ้าเอ๊ย แกก็คิดแต่ตามที่แกเห็น เราขอโทษเพื่อน ที่เกิดเรื่องกับ Jess แต่สาบานเลยว่าเราไม่ได้ทำจริงๆ !
ตอนนี้ Chris สามารถเลือกตอบได้ระหว่าง AGGRESSIVE หรือ AGRY  ซึ่งมันก็เป็นอารมรณ์ดุด่าทั้งคู่เหมือนเดิม 
Chris – จอร์จ แกคิดว่าทำขนาดนี้แล้วยังมีคนจะเชื่ออีกหรอ ?
Josh – เออ มันเลย มัดให้แน่นๆที่หลุดออกมาได้จะยุ่ง ทำไมนายไม่เอาเชือกพลาสติกวะมันแน่นกว่าเชือกแบบนี้เยอะเลยนะ จริงๆ
Mike – เฮ้ Chris มันพูดบ้าอะไรอยูได้วะ เราไม่เคเห็นพล่ามขนาดนี้มาก่อนเลยนะ 
Josh – แมร่งบ้าชัด ๆ ... คริส กับ แอช  คริสกับตูด จะปั่มปั้มกัน 
Chris – อะไรนะ แกว่าอะไรนะ ??
Josh – จูบยังไม่กล้าเลยยัย Ashley ของแกนะ ยังจะดันเลือกฆ่าเราก่อนเธออีกนะ ทุเรศ ปล่อยไว้นานเดี๋ยว Mike มันก็ล่อไม่เหลือ ฮ่าๆๆ สุดท้ายมันก็เอา สันดานเสือผู้หญิงอยู่แล้วจริงป่ะวะไมค์ เออ ไมค์ๆๆ มันเกิดอะไรขึ้นกับเจสวะ 
Mike – แกรู้ดีอยู่แล้วนี่ !
Josh – ไม่ๆ เราจำไม่ได้วะ ว่าไปฆ่าเจสตอนไหน แต่คิดมาคิดไปเริ่มจะจำได้ขึ้นมาแล้วสิ เนื้อเธอมันโคตรนิ่มเลยวะ ไมค์
Mike – หุบปากกก !!



ตอนนี้ Chris สามารถเลือกทำได้ระหว่าง DISARM (ตีปืนจากมือคริส) หรือ HIT (ฟาดจอร์จ) เลือกขัดขวางคริสจะทำให้ Butterfly Effect – And which one will Die เปลี่ยนแปลงไป

Mike – เฮ้ยๆๆ จะบ้าหรอวะคริส นายคิดจริงๆหรอว่าเราจะยิงมันนะ 
Chris – ก็ไม่รู้ ไม่อยากให้มันรุนแรงมากไปน่ะ
Josh – อย่ามาเล่นบทตำรวจดีตำรวจเลวเลยวะ 
Mike – เรากลับไปหาทุกคนที่บ้านพักดีกว่า ปล่อยมันอยู่เนี้ยเช้ามาค่อยว่ากัน 
Josh – นอนไม่หลับวะ สั่งฟิซซ่ามากินได้ป่ะว่ะ 
Mike – เจอกันตอนเช้าแล้วกัน 


                                           CHAPTER 8 – REVELATION 

3 ชั่วโมงก่อนตะวันรุ่ง ....  4.03 น. ทางด้าน Emily ที่กำลังเจอชายลึกลับกับปืนไฟกำลังเข้ามาจับตัวที่เหมือง แต่ก่อนที่เขาจะเข้ามาดึงตัวไป สัตว์ประหลาดบางอย่างก็ออกมาจากถ้ำทำให้ชายลึกลับต้องหันไปสู้กับมัน แต่ก็ทำให้ Emily พลัดตกไปที่เหมือนด้านล่างต่ออีก 



-หลังจากตกลงมาที่เหมืองด้านใต้ที่เต็มไปด้วยตัวประหลาด สิ่งที่ Emily จะทำได้คือ หนี และ หลบซ่อน พยายามกดปุ่มต่างๆที่ขึ้นมาเพื่อปีนป่ายสิ่งต่างๆให้เร็วและใช้ความนิ่งในการหลบให้ดี และช่วงสุดท้ายที่ไซโลของด้านนอกเหมือง



จะมีทางเลือกตอนขึ้นสายพานระหว่าง STAY ON (ตรงไป) กับ LEAP OFF (หลบเข้าข้างๆ) ให้เลือกหลบไปทางด้านข้างจะมีทางไปที่สะดวกกว่าเพราะถ้าเลือก ตรงไป จะทำให้ตกลงไปที่สุดสายพานที่เป็นเครื่องบดถ่ายหินได้ ซึ่งได้ใช้การกดปุ่มตามให้เร็วเพื่อเกาะดึงตัวขึ้นมา ซึ่งทั้งหมดระหว่างทางนั้นถ้าทำพลาดก็จะทำให้ Emily ตายทันทีได้เหมือนกัน


สุดท้าย Emily หนีออกมาที่ด้านนอกของเหมืองได้สำเร็จ ขณะกำลังพักถอยหายใจเล็กน้อย เจ้าตัวประหลาดสุดน่าเกลียดก็โผล่ออกมาจากประตูแล้วกดเข้าที่คอของ Emily จนเป็นแผล ก่อนที่เธอจะตัดสินใจหนีตายโหนสลิงลงมาที่ถนนด้านล่างได้สำเร็จ ....



4.23 น. Emily วิ่งสุดฝีเท้าเพื่อจะหนีตัวประหลาดที่น่าขยะแขยงที่ไล่ทำร้ายเธอจนเข้ามาถึงที่บ้านพักได้สำเร็จ



Chris – เดี๋ยวๆๆ เธอหนีอะไรมา Emily !! 
Emily – ไม่รู้ ชั้นไม่รู้ๆๆๆ มันตัวอะไรบางอย่าง
Ashley - แล้ว Matt ไปไหน ? ตัวเธอเปื้อนเลือดไปหมดเลย 
Emily – มันมีบางอย่างอยู่ข้างนอก ในเหมือง ตัวประหลาดอะไรไม่รู้ !!
Chris สามารถเลือกถามได้ว่า CONFUSED (เอาให้แน่ ตัวประหลาดอะไร) หรือ CONCERNED (แสดงความเป็นห่วง เธอบาดเจ็บหรือเปล่า ) 
Ashley - ใจเย็นๆ เอ็ม จริงมันคือไอ้จอร์จมันแกล้งหลอกพวกเรา แล้วเราก็จับมันได้แล้วด้วย
Emily – ไม่ๆฟังชั้นสิ !! ชั้นเห็นจะๆมันไม่ใช่คนแน่ๆๆ
Chris – ใจเย็นๆเล่าดีๆว่ามันเกิดอะไรขึ้น 
Emily – ชั้นกับ Matt ไปตามหาคนช่วยที่หอคอยสื่อสารจนมันล้มถล่มลงมาจนตกลงไปใต้เหมือง
Chris – โว้ๆๆ เหมืองไหน ??
Emily – เหมืองใต้ดิน มันอยู่ใต้พื้นที่นี่แหละ ทั่วไปหมด ที่นั่นมืดมาก และชั้นก็เจอ เจอหัวของ Beth ด้วย 
Sam – อะไรนะ โอ้พระเจ้า เอาจริงๆนะ 
Emily – เออ จริงๆ !! ชั้นว่าเธอต้องตกลงไปที่นั่นแน่ๆ และคิดว่านะ ไม่รู้ว่าเธอตายแต่แรกหรือเปล่าด้วยรู้สึกเหมือนเธออาจอยู่ใต้เหมืองนั่นเป็นอาทิตย์ หรือ เป็นเดือน ก่อนตาย 
Chris – ถ้าแบบนั้นก็สยองจนพูดไม่ออกเลยละ
Mike – อ้าว เอ็ม ดีใจที่เธอปลอดภัยนะ แล้ว Matt ละ 
Chris – มันมีอะไรแปลกวะ เธอบอกเธอเจอตัวประหลาดอะไรไม่รู้ มันไล่จับเธอ 
Mike – คือ เอ็ม จริงๆแล้วมันคือ J …. 
ปังๆๆ .... เสียงเคาะประตูดังลั่นจากหน้าบ้าน Chris และ Mike รีบไปเปิดดูก่อนจะกระเด็นออกมาด้วยแรงถีบของชายลึกลับที่ถือปืนไฟ  




Mike – โว้ๆ ใจเย็นๆป๋า ยอมแล้ว
ชายแปลกหน้า – เอาละทุกคนใจเย็นๆแล้วฟังข้า เวลาจะพูดก็ฟังกันมั่ง ที่มาเนี้ยเพราะจะมาตื่นถึงบางสิ่งที่น่ากลัวที่พวกนายกำลังเจออยู่ บางที่พวกนายจะได้มาอยากกลับมาที่ภูเขาของข้าอีก
Mike – ภูเขาของลุง ? ว่าไปนั่น ธุรกิจมากมายบาเขานี้ก็ของครอบครัว Washington ทั้งนั้น 
ชายแปลกหน้า – ก็จริง ภูเขานี้ไม่ใช่ของข้า แต่มันก็ไมได้เป็นของพวกวอรชิงตันด้วย ที่นี่เป็นของ “Wendigo”
Mike – ใคร ? ลุงพูดอะไรเนี้ย 
Sam – ให้เขาพูดต่อ 
ชายแปลกหน้า – ข้าจะเล่าให้ฟัง ไม่ว่าพวกนายจะเชื่อหรือไม่ก็ตาม พวกมันเป็นคำสาปของป่าที่เป็นเรื่องเล่ามานานแล้ว 

ว่ากันว่าในปี 1893 พวกคนงานเหมืองได้ขุดค้นพบสมบัติบางอย่างแล้วนำมันกลับขึ้นมาด้านบนด้วย จนในปี 1950 ก็เกิดมีเหตุการณ์ประหลาดที่มีคนพบเหตุสัตว์ประหลาดและการหายไปของผู้คนมากมาย จนสุดท้ายคนงานเหมืองหลายร้อยชีวิตที่ทำงานอยู่ก็ถูกฆาตกรรมหมู่อย่างสยดสยอง เมื่อเกิดเหตุการณ์เหมืองถล่มจนมีคนงานถูกขังอยู่ด้านล่างมากมาย และผู้ที่รอดชีวิตเกิดความหิวกระหายเป็นแรมเดือนสุดท้ายกินกันเองเพื่อความอยู่รอด จนคนงานเหมืองผู้รอดชีวิตทั้งหมดกลายเป็น“Wendigo” จนหมด เจ้าหน้าที่ทุกคนที่แบล็กวู๊ดต่างช่วยกันศึกษาหาทางแก้ไขโดยใช้สถานพยาบาลบนเขาเป็นที่ทดลองรักษาจากผู้รอดชีวิตบางส่วน โดยไม่รู้ว่าพวกเขาค่อยๆเปลี่ยนเป็น“Wendigo” และเริ่มอาละวาดกัดกินเจ้าหน้าที่ หมอพยาบาลจนตายกันหมด ซึ่งชนเผ่า Cree อินเดียนแดงชนพื้นเมืองเก่าแก่ก็ออกมาเตือนว่า ของล้ำค่าที่ขุดได้ขึ้นมามันคือของต้องสาปที่เป็นต้นกำเนิดแห่งโศกนาฎกรรมทั้งหมด 




“ ตามตำนานของอินเดียนแดงเผ่า Cree ได้กล่าวว่า มันคือคำสาปของขุนเขาที่ล่อลวงจากความหิวกระหายของมนุษย์ในยามต้องอดอยากท่ามกลางอากาศที่หนาวเย็นในฤดูหนาวที่แสนโหดร้ายของป่าแห่งนี้


                                                  

 เมื่อคนที่อดอยากไม่ได้กินอะไรหลายๆวัน สติและความเป็นมนุษย์ก็หมดไปและจะยอมทำทุกอย่างเพื่อความอยู่รอดจนทำให้วิญญาณร้ายที่เรียกว่า “Wendigo” เข้าสิง






 ซึ่งมันจะทำให้มนุษย์คนนั้นแข็งแกร่งบ้าคลั่งและหิวกระหายจนไม่สามารถควบคุมตัวเองได้จนหมดสิ้นความเป็มนุษย์และพร้อมจะกินทุกอย่างที่ขวางหน้าแม้เป็นมนุษย์ด้วยกันก็ตาม “ 




Mike – เดี๋ยวๆ ให้ตายสิ มือที่จับ Jess ไปนั่นผมเห็น !
ชายแปลกหน้า – ทางที่ดีพวกนายควรหาที่ปลอดภัยหลบซ่อนตัว พวกมันถึงแม้จะดุร้ายแต่มันตาบอดจับได้แต่ความเคลื่อนไหวของเหยื่อและพวกมันแพ้แสงสว่างมากๆ
Sam – จะให้ซ่อนถึงเมื่อไหร่ ??
Emily – จนถึงรุ่งเช้า 
Mike- เดี๋ยวๆ พวก คือเราเอาจอร์จมันไปขังไว้ที่โรงนาเก่าอ่ะ 
ชายแปลกหน้า – งั้นเพื่อนายคงตายไปแล้วละ 
Chris – ไม่ๆงั้นเราจะไปช่วยเขาเอง ผมเอาเขาไปขังต้องไปช่วยเอง ยังไงจอร์จมันก็ไม่ได้ฆ่า Jess แล้ว 
ชายแปลกหน้า – งั้นข้าไปเป็นเพื่อน แกไปคนเดียวก็เท่ากับฆ่าตัวตายแหละ และถ้านายอยากช่วยเพื่อนแกได้ แกต้องทำตามที่ข้าบอกทุกอย่าง !!



** ชายแปลกหน้าคนนี้เป็นใคร ? ** 
ถ้าคุณยังจำได้ ชายคนนี้ก็คือคนเดียวกันกับที่พยายามจะยื่นมือไปช่วย Beth และ Hannah ตอนตกหน้าผาตอนแรกนั่นแหละ ซึ่งก็โดนเข้าใจผิดว่าเป็นคนร้ายเพราะมุมมองของเขานั้นออกมาพร้อมๆกับของ Wendigo หรือแม้กระทั้งเหมือนกับชายหน้ากากที่จอร์จมันปลอมตัว จริงๆแล้ว เขาติดตามตัวละครแต่ละตัวในทุกบทเลยครับ ซึ่งจริงๆเขาชื่อ Victor Milgram ถ้าตามที่เห็นมาในไฟล์ที่สถานพยาบาลผู้ติดเชื้อที่ Sanatorium เขาจะเห็นชื่อของ Victor เซ็นไว้ในฐานะผู้ดูแลคนป่วยด้วย นั่นเลยทำให้เขามีบันทึกข้อมูลเกี่ยวกับ “Wendigo” อยู่เพราะเขาศึกษามันมาตลอดหลายปี  

ก่อนออกไปถ้าที่ผ่านมาตอนเล่นเกมใบเลื่อยของ Josh ถ้า Chris ไม่ได้เอาปืนเล็งยิงใส่ Ashley ก็จะทำให้ Butterfly Effect – Point Blank นั้นเป็นไปในแง่ดี Chris ก็จะได้จูบจาก Ashley เป็นกำลังใจก่อนไปด้วย แต่ถ้าคุณให้ Chris เล็งปืนจะยิงใส่ Ashley ละก็ Chris ก็เตรียมตัวตายได้เลยตอนขากลับเพราะ Ashley เธอจะแก้แค้นโดยไม่เปิดประตูให้ด้วย 




ระหว่างทาง Victor ก็บอกถึงรายละเอียดต่างๆของพวก Wendigo ว่าพวกมันแพ้แสง ตาบอดเพราะอยู่ในที่มืดมาตลอด แต่รับรู้ได้จากแรงสั่นสะเทือนของเหยื่อ มีหนังหนาทนทาน แม้แต่ปืนก็ยังทำให้ชะงักได้เท่านั้นไม่สามารถฆ่ามันได้ แต่พวกมันก็แพ้ไฟอย่างมากด้วย

- แต่ทันทีที่เดินทางไปถึงโรงนาก็ปรากฏว่าไม่พบตัวจอร์จแล้ว Victor ยืนยันว่าไม่ต้องหาต่อแล้วเพราะพวก Wendigo กินเรียบไม่ทิ้งเหยื่อเป็นตัวประกันแน่นอน แต่ในขณะที่ทั้งคู่กำลังกลับ พวก Wendigo ก็เข้าโจมตีพอดี ทั้งคู่พยายามหนีแต่ Victor โชคร้ายโดน Wendigo โจมตีจนคอขาดตายไปก่อนแล้ว




 จากนี้ Chris ก็ต้องพยายามหนีตัวรอดให้ได้ด้วยปืนในมือนั่นแหละ ตอนนี้ต้องพยายามยิงพวก Wendigo ให้โดนทุกเม็ดที่เข้ามาโจมตี โดยจะยิงที่ถังน้ำมันต่างๆช่วยก็ได้แต่สุดท้ายต้องห้ามพลาดเพราะจะทำให้ Chris ตายทันที 



และ ตรงนี้ ถ้าที่ผ่านมาตอนเล่นเกมใบเลื่อยของถ้า Chris เอาปืนเล็งยิงใส่ Ashley ก็จะทำให้ Butterfly Effect – Point Blank นั้นเป็นไปในแง่เลวร้าย Chris ก็เตรียมตัวตายได้เลยตอนขากลับเพราะ Ashley เธอจะแก้แค้นโดยไม่เปิดประตูให้แต่ถ้าไม่ได้เล็งปืนใส่เธอ Ashley ก็จะรีบเปิดประตูให้หวานใจให้เข้ามาอย่างปลอดภัยทันที 

4.47 น. ที่ซากโรงแรมเก่าชั้นใต้ดินของบ้าน .... Mike, Chris, Sam, Emily และ Ashley ต่างเข้ามารวมตัวกันหลังจาก Chris รอดตายกลับมาแต่ก็มีข่าวร้ายว่า Josh นั้นหายไปจากที่โรงนาแล้ว




Sam – เป็นไง Chris แล้วลุงที่ถือปืนไฟละ
Chris – ตายแล้ว คอขาดกระเด็น แล้วจอร์จก็ไม่อยู่ที่โรงนาแล้วด้วย  
Mike – ประตูมีแค่นี้หรอ ? 
Sam – นายมองหาอะไรไมค์
Mike – หาทางหนีไง 
Sam – เฮ้ จำแผนเราไม่ได้หรอ รอจนกว่าตอนเช้าไง เราก็จะปลอดภัยข้างล่างนี่
Mike – หรอ รอในบ้านเก่าๆที่มีพวกตัวประหลาดบุกมาจากทุกทาง คิดว่าจะรอดถึงฉลองคริสมาสเลยรึไง 
Sam –  แต่ ไม่กี่ชั่วโมงก็เช้าแล้วนะ 
Mike – ถ้าเธอรอได้ รอเลย 
Emily – แต่ไมค์ ที่สถานีรถกระเช้าไม่มีกุญแจในห้องควบคุมนะ 
Mike – Josh ไง มันอยู่กับเขา เขาถูกลากไปไหนก็จะตามไปเอากุญแจที่นั่นแหละ
Emily – ที่เหมืองใต้ดิน ชั้นคิดว่าเป็นรังของพวกมัน เดี๋ยวก่อน ดูในของในกระเป๋าที่ตาลุงลืมไว้สิ มีแผนที่เหมืองทั้งหมดด้วย ดูสิ 
Mike – ให้ตายสิ ตรงนั้นเหมืองที่เคยมีข่าวว่าถล่มจนคนตายเพียบเมื่อ 15 ปีก่อนนี่ 
Emily – ดูสิมันมีทางเชื่อลงจากสถานพยาบาลบนเขาด้วยนะ 
Mike – โอเค สังสัยเราต้องกลับไปที่นั่นอีกแล้ว 

Ashley – เอ็มๆ เอ่อ ที่คอเธอรอยอะไรนะ 
Emily – อ่อ ชั้นโดนไอ้ตัวประหลาดนั่นมันกัดเอานะ นิดหน่อยเอง ไม่เจ็บไม่เป็นแผลอะไรเลย 
Mike – เอ็ม เธอโดนไอ้ตัวนั่นกัดนะ มันจะติดเชื้อรึเปล่า 
Ashley – ไม่เหลือ เธอโดนพวกมันกัดยังไงก็ต้องเป็นเหมือนมันแหละ โอ้พระเจ้าๆๆ ให้ตายสิ 
Mike – เราคงจะปล่อยเธอไว้ไม่ได้นะ เอ็ม 
Chris – อย่างที่ผมเคยทำมา ที่ต้องทนเห็นแบบนี้อีกแล้วหรอเนี่ย 
Emily – นี่ล้อกันเล่นใช่มั๊ย ?? 
Sam – เดี๋ยวๆ เรายังพิสูจน์ไม่ได้นะว่าเธอจะติดเชื้อรึเปล่า?
Mike – ผมไม่รอหรอก ที่นี่คือเซฟรูมนะ มันต้องปลอดภัย 
Emily – ไมค์นี่นายจะยิงชั้นจริงๆหรอ ยิงชั้นเนี้ยนะ อย่าทำนะได้โปรด ไมค์
Mike – ผมเสียใจเอ็ม 



ตรงนี้เป็นนาทีเป็นนาทีตายของ Emily เลย ถ้าไมค์ตัดสินใจยิงเธอ Emily จะตายทันที แต่ถึงแม้เธอจะน่าโดนยิงที่สุด ก็ควรปล่อยไว้ก่อนครับ เพราะ จริงๆแล้ว ไม่นาน Ashley จะเป็นคนเอาบันทึกของ Victor ไปอ่านจนรู้ว่า Wendigo นั้นเกิดจากการโดนวิญญาณร้ายสิงเมื่อคนหิวกระหายจนกัดกินคนด้วยกันเอง และจะไม่มีการติดเชื้อจากการโดนกัด




 จาก Ash เธอก็จะมาบอกกับทุกคนว่ารอยกัดนั้นจะไม่ติดเชื้อ โดยให้ Ashley เลือก Reassure เพื่อบอกกับทุกคน Emily ก็จะรอดตายแต่สุดท้ายก็ต้องโดน Emily ตบเกือบตายที่ดันเป็นคนยุให้ไมคเกือบยิงเธอ หรือถ้าคุณให้ Mike ยิง Emily จนตายไปแล้ว Ashley ก็จะมาอ่านบันทึกอยู่ดี แต่เธอจะสามารถเลือกได้ว่าจะบอกทุกคนมั๊ยว่ามันไม่ติดเชื้อหรือไม่บอกปล่อยให้ยัย Emily ตายฟรีๆไปเลยก็ได้ครับ 

-แต่หลังจากที่ Sam เอาบันทึกมาอ่านก็จะพบข่าวไม่ดีจนเธอต้องรีบตามไปห้ามไมค์ที่กำลังจะไปเอากุญแจจากจอร์จในเหมืองโดยด่วน เพราะดูเหมือง Mike กำลังจะเดินลงไปที่รังของ Wendigo เสียแล้ว


                                                  THE ANALYST 



ที่ห้องทำงานของ Dr. A.J Hill …. 





Dr. Hill – โอ้ Joshua ฟังผมอยู่หรือเปล่าเนี้ย เพระสิ่งที่คุณเลือกทำมันทำให้คนอื่นตาย ผมก็ไม่รู้ว่ามันผิดมั๊ยไอ้การเล่นตลกจนเกินขอบเขตให้คนอื่นตายเนี้ย แต่รู้อย่างเดียวในฐานะที่แกกำลังเล่นบทพระเจ้าอยู่ ทำไมแกไม่คิดจะช่วยให้เลย ห๊า จำเมื่อปีที่แล้วได้มั๊ยละ ที่แกปล่อยให้น้องซื้อบื่อของแกต้องตายนะ แกช่วยอะไรพวกเธอได้มั๊ย ปากกล้าขาสั่น มันแต่กลัวหัวหดจนม่ำอะไรไม่เป็น ทั้งหมเดมันก็เพราะตัวแกนั่นแหละ เกมของแกมันผิดมหันต เพื่อนที่เป็นเหมือนพี่น้องของแกเขาก็ทิ้งแกหมด แกมันตัวคนเดียว ไง ยังรู้สึกหยิ่งผยองเป็นราชสีห์อยู่อีกมั๊ย ถามจริง ทำไมแกถึงต้องทำร้ายพวกเขา 

Josh สามารถเลือกตอบได้ระหว่าง THEY HURT ME (พวกเข้าทำร้ายผมก่อน) หรือ I DID’T HURT ANYONE (ผมไม่ได้ทำร้ายใคร) 

Dr. Hill – พวกเขาทำร้ายแกหรอ เปล่าเลย มันก็แค่ความผิดพลาดที่พวกเขาไม่ตั้งใจให้เกิดและพวกเขาก็มาที่นี่เพื่อแสดงความเสียใจกับแก ก่อนแกจะทำให้วันคืนของพวกเขากลายเป็นหนังสยองขวัญเกรด B ไปซะ  



Josh สามารถเลือกตอบได้ระหว่าง IT’S JUST A GAMES (มันก็แค่เกมเท่านั้น) หรือ I’M SO SORRY (ผมขอโทษ) 

Dr. Hill – มันเป็นแค่เกมหรอ แต่มันกลับทำให้แกถลำลึกลงไปภายในความกลัวของตัวเองเข้าไปอีก แกกำลังจะปิดบังความผิดของแกให้ตายไปพร้อมกับตัวแก จอร์จ


                                           CHAPTER 9 – KARMA

2 ชั่วโมงก่อนตะวันรุ่ง ....  5.03 น.  Mike กลับมาที่สถานพยาบาลอีกครั้งเพื่อต้องการหาทางลงไปยังใต้เหมืองเพื่อตามหา Josh 

เข้ามาตามทางเดินตามทางเดิมจนถึงห้องด้านในตรงที่เคยเจอหมาป่า ขึ้นไปที่ระเบียงจะมีช่องให้โดดลงไปที่ห้องใต้ระเบียงจะมีคบเพลิงกับปืนช็อตกันให้เก็บ ออกมาใช้ยิงประตูกลางเข้าไปต่อ ก็จะเจอหมาป่าตัวเดิม หาก Mike เคยเอากระดูกมาให้มันตอนที่เข้ามาที่นี่ครั้งแรกแล้ว มันก็จะเป็นมิตรและช่วยนำทางเข้าไปด้านในด้วย



-ตามหมาป่าเข้ามาตามทางจนถึงทางไปที่ห้องคนไข้ที่ชั้นใต้ดิน ซึ่งนอกจากจะเห็นร่องรอยของความโหดเหี้ยมทารุณของผู้ที่ถูกนมาทดลองที่ถูกกักขังอยู่ที่นี่จำนวนมากแล้ว เสียงร้องของพวก Wendigo ก็แว่วมาทำให้รู้ว่ามีพวกมันที่นี่ด้วย และเมื่อเดินเข้าไปจนถึงส่วนของห้องคนไข้ด้านในที่ไม่ต่างอะไรกับห้องขังนักโทษ ซึ่ง Mike ก็จะพบ Wendigo มากมายที่อยู่ที่นี่ จากนั้นก็ต้องลุยพวกมันผ่านห้องคนไข้ แล้วตามหมาป่าเข้าจนถึงที่หมาย เมื่อเข้ามาจนถึงห้องที่พื้นเป็นโพรงที่สามาถโดดลงไปชั้นล่างต่อไปได้ แต่เจ้าหมาป่ามันจะไม่ตามมาด้วย แต่ยังมันก็รอดมาได้ด้วยดี ซึ่งก็จะทำให้ Butterfly Effect – Man’s best Friend ของ Mike จบลงด้วยดี เมื่อหนีมาจนถึงประตูด้านหลังที่ทางออกมีถังน้ำมันอยู่มากมายพร้อมๆกับ Wendigo ที่ตามไล่ล่า Mike มามากมายเช่นกัน เล็งยิงไปที่ถังน้ำมันให้ระเบิดที่เดียวพวก Wendigo ก็จะโดนระเบิดทำลายจนหมดพร้อมๆกับไมค์ที่กระเด็นออกมาด้านนอกแต่ก็ยังรอดปลอดภัย

5.16 น.  Ashley , Sam , Emily และ Chris เดินทางมาตามทางอุโมงค์ที่ทอดไปยังสถานพยาบาลเพื่อไปตามหา Mike




ระหว่างทาง Chris เริ่มหมดแรงจะเดินต่อเลยบอกให้ทุกคนล่วงหน้าไว้ก่อนแล้วทิ้งเขาไว้นี่ แต่ Ashley เข้าไปเลือกตอบ REASSURE เพื่อให้กำลังใจเขา Butterfly Effect –  Left Behind ของ Ashley ก็จะเปลี่ยนแปลง ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ก็จะเพิ่มขึ้นไปอีกและคริสก็จะปลอดภัยด้วย เข้าไปตามทางจนถึงทางตัน Ashley จะแนะนำให้ลงไปตามท่อระบายน้ำด้านล่างต่อ
-เข้าไปตามทางต่อ ในขณะที่ Ashley กำลังเดินรั้งท้ายระหว่างทาง Ashley จะได้ยินเสียง Jess แว่วมาเธอจึงต้องเลือกระหว่าง Investigate Voice(เดินไปสำรวจหาต้นตอของเสียง) หรือ Rejoin Group(กลับไปรวมกลุ่มกับเพื่อนๆต่อ



ตรงนี้เป็นความเป็นความตายของ Ashley ซึ่งถ้าคุณเลือก Investigate Voice ให้เธอแยกตัวเข้าไปตรวจสอบตามเสียงนั้นแล้วไปเปิดฝาไม้ที่สั่นๆอยู่เธอก็จะถูก Wendigo ฆ่าตายทันที ถ้าจะเดินมาสำรวจก็ต้องไม่เปิดฝาไม้ให้เดินไปตามทางขวาต่อก็จะกลับไปหาเพื่อนๆได้ หรือ ให้เลือก Rejoin Group แต่แรกซะจะดีที่สุด เธอก็จะรอดตาย Butterfly Effect –  Left Behind ของ Ashley ก็จะเปลี่ยนแปลงก็จะเปลี่ยนแปลงด้วย 

จนทุกคนเดินทางมาจนถึงช่องทางที่จะขึ้นไปที่สถานพยาบาลแต่ดูเหมือนบันไดที่ปีนในช่วงล่างมันจะขาด ทำให้ทุกคนไม่สามารถปีนขึ้นไปต่อได้ แต่ Sam ยืนยันว่าเธอปีนต่อขึ้นไปได้เพราะเธอถนัดเรื่องปีนเขา Sam จึงบอกให้ทุกคนไปรอที่บ้านพักแล้วเธอจะขึ้นไปตาม Mike ต่อเอง ....



5.35 น. Sam ปีนต่อไปจนถึงสถานพยาบาลด้านบน เข้าไปตามทางจนถึงประตูลูกรงที่ปิดอยู่ เก็บผลั่วมาใช้งัดประตูเข้าไปและถือมันเป็นอาวุธต่อไป เข้ามาตามทางไม่นานก็จะพบกับ Mike ที่กำลังหนี Wendigo มาจากอีกด้านของประตู Sam ต้องใช้ผลั่วฟาด Wendigo จนหัวหลุดกระเด็นเพื่อช่วย Mike



                                           CHAPTER 10 – RESOLUTION 

1 ชั่วโมงก่อนตะวันรุ่ง ....  สภาพของห้องทำงานของ Dr. A.J Hill เหลืออยู่แค่สภาพความเป็นจริงที่จอร์จเผชิญอยู่ มันคือในถ้ำใต้เหมืองที่เขาถูก Wendigo ตัวนึงจับมาขังเอาไว้ .. 




Dr. A.J Hill – ผมเกรงว่าการรักษาของเราจะเกินเยียวยาที่จะช่วยคุณได้นะ Josh คุณคงไม่อยากได้ยินแบบนั้นใช่มั๊ยละ ช่างแมร่งสิครับ ผมคงต้องไปแล้วละ ถึงเวลาต้องเรียนรู้แล้วละ ตื่นจากฝันและจินตนาการหรือสิ่งที่ตัวเองหมกหมุ่นที่มันทำให้ตัวเองแย่ละซะที  ไอ้เด็กสารเลวเอ้ยยย !! แกยังมีคนที่ยังแคร์และพยายามช่วยแกอยู่อีกเยอะ และทุกครั้งที่แกไม่ยอมรับความหวังดีจากพวกเขา แกก็เลยยังต้องโดดเดี่ยวอยู่แบบนี้ แต่ฟังเสียงไอ้พวกนากขยะแขยงพวกนี้แล้ว แกคงโดดเดี่ยวไม่นานหรอก ไม่สิ แกก็ไม่อยากอยู่คนเดียวเหมือนกัน ...หายใจลึกๆจอร์จ


Josh – ไม่ๆๆ เอาอีกแล้วๆ ไปไกลๆเลย พวกเธอตายหมดแล้ว !! อย่ามายุ่งกับผม 
Beth – เราคิอถึงเธอจอร์จ
Hannah – มาอยู่ด้วยกันกับเราสิ 
Josh – ไม่ พวกเธอตายแล้ว !! พี่ไม่อยากทำตามคำสั่งพวกเธออีกแล้ว อย่ามาบอกให้พี่ต้องทำอะไรอีกเลย ขอละ !!
ก็ได้ ..ได้ พี่เชื่อพวกเธอแล้ว 
Beth – เราโดดเดี่ยวมากข้างล่างนี่ 



Hannah – เราเหงามาก แต่ตอนนี้มีเธอมาอยู่ด้วยแล้วจอร์จ ครอบครัวไงจอร์จ
Josh – ม่ายยย อย่ามายุ่งกับกู !!! 
Beth – ทำไมถึงไม่ชอบช่วยพวกเราละจอร์จ 
Josh – เปล่า ๆๆ 
Beth – อยากให้เราตายใช่มั๊ย จอร์จ 
Josh – ไม่ พี่ไม่อยากให้พวกเธอตายยยย สาบานนน 
Hannah – ทำไมไม่ช่วยเราจอร์จ ทำไม ?





Josh – ม่ายยย อย่ามายุ่งกะกู ทำไมต้องทำแบบนี้ด้วย ไม่อยากทำตามคำสั่งพวกแกอีกแล้วววว ม่ายยยยยยยยย !!!! 

6.00 น. ถ้ำใต้เหมือง ... ในขณะที่ Sam และ Mike กำลังเดินผ่านมาทางนี้ เพื่อหาทางกลับไปยังบ้านพัก 

ระหว่างทางสำรวจดูให้ทั่วๆที่กองหินที่เป็นเหมือนหลุมศพ Sam จะพบนาฬิกาของ Beth ตกอยู่ Sam คิดว่าอาจมีใครขุดศพ Beth ขึ้นมา จากนั้นเดินข้ามทางน้ำใต้ดินไปจนไปขึ้นอีกฝั่ง Sam จะพบไอเทมสำคัญที่สุดคือ ไดอารี่ของฮานน่าที่เขียนไว้ตอนที่เธอยังติดอยู่ใต้เหมืองนี้



วันที่ 1 – น้องชั้นตายแล้ว ตายคาที่ตั้งแต่เราตกลงมา ตอนนี้ขาชั้นหัก ชั้นอยู่กับศพ Beth และหวังว่าคงมีคนมาช่วยเร็วๆ
วันที่ 5 – ชั้นหิวมาก หนาวด้วย ปั่นป่วนไปหมดจนต้องถอดเสื้อจากศพ Beth มาใส่
วันที่ 30 – ชั้นเสียใจ Beth ชั้นหิว ชั้นกำลังจะตาย มันเป็นทางเดียวที่จะรอดหากมีใครมาเจอเข้า ชั้นเสียใจ Beth ชั้นไม่มีทางเลือกจริงๆ ขอโทษนะ 
วันที่ 33 – แขนชั้นสกปรกมาก เล็บก็หลุดหมดแล้ว ชั้นยังคงหิว แต่ไม่เจ็บไม่ปวดอีกแล้ว ชั้นรู้สึกแข็งแรงงงง  



Sam - โอ้พระเจ้า !! ไม่นะ 
Mike – หมายถึงอะไรหรอ ?
Sam – ชั้นคิดว่าคนที่ขุดศพ Beth ขึ้นมาคือ Hannah 
Mike – ไม่ๆๆ 
Sam – Beth เธอตกลงมาตาย แต่ Hannah รอด เธออยู่ที่นี่มาเป็นเดือนๆแล้ว แล้วคงจะเอาศพของ Beth มาเผาแล้ว ..
Mike – พระเจ้า ผมไม่เชื่อหรอก !! 
Sam – เธอกำลังอดตายนะไมค์ ! มันเข้าตาจน เธอไม่มีทางเลือกหรอก 
Mike – บ้า เอ๊ยยย !!
Sam – เราต้องรีบหาจอร์จ เดี๋ยวนี้ !!

Sam และ Mike มุ่งหน้าเดินฝ่าบึงน้ำไปต่อ ระหว่างทางจะเจอศพของ Victor และเหล่าเพื่อนๆที่คุณทำให้ตายทั้งหมด จนเข้ามาถึงด้านในก็จะเจอ Josh กำลังยืนงงและวุ่นวายกับจิตใจตัวเองอยู่ Mike จะรีบเข้าไปช่วยให้คืนสติจนหายมึนงงจนเริ่มเป็นปกติ ก่อนที่ถ้า Sam เจอไดอารี่ของ Hannah เธอก็จะเข้าไปเล่าเรื่องราวให้ Josh ฟัง


Sam – จอร์จ ฮานน่าเธอเคยตกมาอยู่ที่นี่มาก่อนนะ เป็นอาทิตย์ เป็นเดือน จนเธอขุดศพของ Beth ขึ้นมา แล้ว ... 
Mike – นายมีกุญแจสถานีรถกระเช้ามั๊ย โอเค เยี่ยม ตามมาเราจะพานายไปที่ที่ปลอดภัย 

ระหว่างทางทุกคนจะเจอโฟรงขนาดใหญ่อยู่ด้านบน Sam จึงจะปีนขึ้นไปด้านบนใช้เป็นทางลัดกลับไปบอกทุกคนที่เซฟรูมก่อน Mike จึงมีหน้าที่พา Josh ผ่านอุโมงค์ถ้ำเข้าไปต่อ ระหว่างทางที่ทั้งคู่กำลังเดินผ่านทางน้ำใต้ดินไปก็ถูกลอบตามโดย Wendigo ตัวใหญ่ตัวนึงที่ซุ่มดูอยู่ตลอด ขนถึงเวลาเหมาะมันก็โผล่ขึ้นมาจับ Mike กดน้ำและเข้าโจมตีใส่ Josh ทันที






ในขณะที่ Josh ถูกมันจับอยู่ ถ้า Sam เจอบันทึกของ Hannah แล้วบอกให้จอร์จรู้เรื่อง Butterfly Effect –  Important Discovery ก็จะเริ่มทำงาน เขาก็จะจำรอยสักรูปผีเสื้อของ Hannah ได้ ซึ่ง Wendigo ตัวใหญ่ตัวนี้ก็คือ Hannah ที่โดนวิญญาณร้ายสิงเพราะกินศพของ Beth นั่นเอง ทำให้ Josh ตะโกนเรียกชื่อเธอออกมา นั่นทำให้ Josh ไม่ถูกบีบจนหัวระเบิดตายคาที่ แต่ก็ถูก Hannah ลากไปไว้ที่ถ้ำด้านในอีกครั้งในขณะที่ Mike แอบดูอยู่ถึงได้รอดมาได้ 


6.44 น. อีกด้านของเหมือง .. ถ้า Matt และ Jessica ยังไม่ตาย คุณก็จะได้บังคับทั้งคู่เดินทางหนีพวก Wendigo ออกมาจากเหมือง ซึ่งทางรอดของทั้งคู่ก็คือพยายามทำจอยให้นิ่งและเลือก Hide เพื่อหลบซ่อนแทนการวิ่งหนีให้หมดก็จะทำให้ทั้งคู่รอดออกมาจากเหมืองและเดินทางไปหาเพื่อนที่บ้านพักได้แล้ว ....




6.50 น. Sam ปีนขึ้นมาตามทางลัดจนถึงด้านบนและพยายามหนีจากพวก Wendigo มากมายที่ไล่ล่าเธอมา จนมาถึงบ้านพัก 

ในขณะที่ Mike หลังจากเสีย Josh ไปก็ตามมาติดๆ ทั้งคู่เข้าไปรวมกลุ่มกับเพื่อนๆที่รอดชีวิตที่เหลือในเซฟรูม ก่อนที่ Mike จะเตรียมการที่จะระเบิดที่นี่เป็นจุลด้วยแก็สในห้องครัว แต่ก็ต้องกระเจิงกันหมดก่อรเพราะฝูง Wendigo บุกเข้ามาจนทุกคนต้องหาทางหนีตายออกจากบ้าน 



การเอาตัวรอดของ Sam คือทางรอดของทุกคนรวมถึงตอนจบของเรื่องด้วย เนื่องจาก Wendigo มันตาบอดและจับได้เฉพาะแรงสั่นสะเทือนของการเคลื่อนไหว Sam จึงต้องทำจอยให้นิ่งแล้วเลือกหลบให้ตลอด ทางด้าน Mike ก็คิดวิธีจุดระเบิดขึ้นมาได้ด้วยการใช้หลอดไฟฟ้าเป็นตัวจุดชนวน




 ซึ่ง Sam  มีหน้าที่จะเปิดสวิตซ์ไฟเพื่อระเบิดทุกอย่างแล้วหนีออกมา จากนั้นก็ต้องพยายามหลบซ่อน แล้วอย่าลืมเลือก Save Mike ด้วยเพราะมันสำคัญต่อการตายของ Mike มากๆ สลับกับพยายามวิ่งไปที่สวิตซ์เพื่อระเบิดที่นี่ไปพร้อมกับฝูง Wendigo 

ผู้รอดชีวิตทั้งหมดที่เหลือจากผลงานการสรรสร้างทางรอดในการเดินทางผ่านอันตรายของคุณจะสามารถหนีออกมาได้สำเร็จก่อนที่หน่วยกู้ภัยจะเดินทางมาพร้อมกับ “ตะวันรุ่งของวันพรุ่งนี้” ที่ทุกคนรอคอย .....




ก่อนที่ผู้รอดชีวิตทั้งหมดจะถูกพาไปสอบสวนจากตำรวจอย่างหนักถึงเหตุการณ์ที่น่าเหลือเชื่อในป่าแบล็กวู๊ด ที่ทั้งวกวนและสับสน ผลที่ออกมานั้นคือทางการต้องเข้าไปที่ตรวจสอบที่เหมืองนั้นเพื่อหาความจริงทันที 

หน่วยกู้ภัยของทางการก็เข้าไปตรวจสอบพื้นที่จากให้การของผู้รอดชีวิตจนค้นลึกมาถึงถ้ำใต้เหมือง ทุกคนต่างแจ้งทุกหน่วยความด้วยความยินดีที่พบอีกหนึ่งชีวิตที่ยังรอดอยู่ แต่มันกลับเป็นหนึ่งผู้รอดชีวิตที่มีชีวิตไม่เหมือนที่คิดอีกต่อไป



 ภาพสุดท้ายที่เห็นคือ Josh ทายาทคนสุดท้ายของตระกูล Washington กำลังแทะหัวมนุษย์อย่างเมามัน 



ก่อนที่ร่างกายที่กำลังเปลี่ยนแปลงเน่าเหม็นเพราะเริ่มถูก Wendigo สิงของจอร์จที่ไม่เหลือความเป็นมนุษย์จะลุกขึ้นพุ่งเข้าหาหน่วยกู้ภัยที่ไม่ทันระวังภัยที่จะมาถึงตัว .... 





     ****************************** THE END **********************************






          They all Live ทางรอด ทางเลือก ของ 8 ผู้รอดชีวิตก่อนพระอาทิตย์จะส่องถึง 


Hannah และ Beth Washington 

การตายของ 2 ฝาแฝดพี่น้องตระกูลวอชิงตันยังไงก็จำต้องเกิดขึ้น ไม่ว่าจะเลือกอย่างไรในตอนบทนำเธอทั้งคู่ก็จะตกเขาอยู่ดี เพื่อส่งต่อเรื่องราวสยองให้กับเพื่อนๆที่เหลือต่อไป แปลว่า เธอทั้งคู่เป็นคนต้นเรื่องที่ต้องสังเวยชีวิตที่ยังไงก็ตายแน่นอน

Jessica 

1.ชีวิตของน้องเจสสิก้าจะเริ่มที่ต้องเลือกเป็นหรือตายในบทที่ 4 ในตอนหลังจากที่เธอถูก Wendigo จับตัวไป ในขณะที่ Mike กำลังตามไปช่วย ระหว่างที่ต้องรีบไปนั้นจะมี QTE ที่ต้องกดปุ่มตามเพื่อให้หลบสิ่งต่างๆให้ทัน ซึ่งเพื่อความรวดเร็วจำเป็นต้องกดมันให้ทันเพื่อให้ Mike หลบทันให้หมด จนถึงที่เหมือง ต้องเลือก RISK SLIDE DOWN เพื่อสไลด์ตัวลงไปด้านล่างให้เร็วที่สุด และเมื่อเข้ามาถึงช่องลิฟต์ด้านใน Jessica ก็จะตกลงมาแต่รอดตายถึงแม้จะตกลงไปพร้อมลิฟต์ต่อก็เถอะ
2.ซึ่งถึงแม้เธอจะตกลงไปที่ช่องลิฟต์จน Mike คิดว่าเธอตายไปแล้ว แต่ก็ยังพบว่ารอดชีวิตจนถึงตอนที่ 10 ซึ่งในขณะที่เธอกำลังพยายามหนีออกมาจากเหมืองจนมาเจอกับ Matt ซึ่งก็ต้องหนีเจ้า Wendigo ตามทางด้วย โดยคุณต้องพยายามทำจอยนิ่งเพื่อให้เธอหลบซ่อนให้พ้นแทนการวิ่งหนี เท่านี้ Jessica ก็จะรอดตายออกมาจากเหมืองพร้อมๆกับ Matt แล้ว

Ashley

1.ชีวิตของแอชลี่ย์นั้นจะเริ่มเป็นหรือตายในบทที่ 4 ซึ่ง Chris ต้องเป็นคนเลือกเธอให้รอดจากเกมเลื่อนไฟฟ้าซึ่งก็จะต้องสังเวย Josh ให้ขาด 2 ท่อนแทน
2.จากนั้นความเป็นความตายของเธอจะชัดเจนขึ้นอีกครั้งเมื่อตอนที่ 9 ตอนที่ลงไปตามหา Mike ในท่อระบายน้ำซึ่ง Ashley จะได้ยินเสียงร้องให้ช่วยซึ่งเธอจะคิดว่าเหมือนเสียงของ Jessica ซึ่งถ้าคุณเลือก Investigate Voice ให้เธอแยกตัวเข้าไปตรวจสอบตามเสียงนั้นแล้วไปเปิดฝาไม้ที่สั่นๆอยู่เธอก็จะถูก Wendigo ฆ่าตายทันที ถ้าจะเดินมาสำรวจก็ต้องไม่เปิดฝาไม้ หรือ ให้เลือก Rejoin Group ซะจะดีที่สุด เธอก็จะรอด

Matt 

1.ชีวิตของแมทจะเริ่มที่ต้องเลือกเป็นหรือตายในตอนที่ 6 ตอนที่ถูกฝูงกวางโจมตี หลังจากที่เดินผ่านพวกมันไปจนเจอจ่าฝูงและมีเป้าขึ้นมา ทำเฉยๆจนเป้าหมายหายไปเองซึ่งจะได้ไม่ต้องไปทำร้ายพวกมัน
2. ตอนที่ Emily เจอปืนพลุที่ด้านบนหอตรวจการณ์ให้เลือก GIVE ให้ Matt ไว้ใช้
3. เมื่อ Matt กับ Emily กำลังหนีตอนหอคอยตรวจการณ์ถล่ม Emily จะตกลงไปห้อยอยู่ด้านล่าง ให้เลือก Jump to Safety จะทำให้ Matt ปลอดภัยเพราะถึงยังไง Emily ก็ต้องตกไปข้างล่างอยู่ดีแต่เธอก็ปลอดภัยอยู่ดีในตอนที่ 7 แต่ถ้าเลือก saving Emily ซึ่งจะต้องเลือกถึง 2 ครั้ง ก็จะทำให้ตกลงไปด้านล่างทั้งคู่ Emily ก็ยังรอดตายเหมือนเดิม แต่ Matt จะเจอกับ Wendigo เข้ามาโจมตี ซึ่งถ้า Emily เลือกให้ปืนพลุกับเขาไว้ Matt ก็จะรอดตาย
4. ในช่วงที่เหลือของ Matt ในบทที่ 10 คือการหนีพวก Wendigo ออกมาจากเหมืองพร้อมๆกับ Jessica  ด้วยการเลือก Hide และ Break Through และทำจอยนิ่งๆเอาไว้เพื่อซ่อนตัว เท่านี้ Matt ก็จะรอดตายออกมาจากเหมืองพร้อมๆกับ Jessica แล้ว

Emily 

1.หลังจากที่รอดตายมาจากหอคอนถล่มแล้ว ความเป็นความตายของ Emily จะเริ่มในบทที่ 8 ตอนต้นหลังจากที่เธอตกลงมาในเหมืองจนถูกเจ้า Wendigo ไล่ล่านั้นพยายามกดปุ่มตามที่ขึ้นมาให้ทันและหลบซ่อนนิ่งๆไว้ก็พอ แต่สุดท้ายเธอก็จะถูกเจ้า Wendigo กัดเข้าที่คอแต่ก็โชคดีที่ยังหนีรอดมาได้
2.จนในบทที่ 8 ตอนท้ายหลังจากเธอหนีมายังที่บ้านและเจอกับคนอื่นๆที่รอดได้สำเร็จ Ashley ก็ดันเห็นรอยกัดที่คอเลยปากดีว่ากลัวว่าเธอจะติดเชื้อกลายเป็น Wendigo มาไล่ฆ่าคนอื่นอีก จน Mike พยายามจะใช้ปืนยิงเธอ แต่ Sam พยายามมาห้ามไว้ ซึ่งถ้าเลือกยิงเธอ Emily ก็ตายแน่นอน ห้ามให้ Mike ยิงเธอเพราะตอนหลัง Ashley ที่เก็บบันทึกเกี่ยวกับ Wendigo ของ Victor ที่วางบนโต๊ะมาอ่าน เธอก็จะมาบอกว่ารอยกัดนั้นจะไม่ติดเชื้อ โดยให้ Ashley เลือก Reassure เพื่อบอกกับทุกคน Emily ก็จะรอดตาย

Chris

1.ตอนที่ 6 ตอนที่ Chris ถูกชายหน้ากากจับได้ แล้วให้เล่นเกมเลื่อยนรกอีก ให้เลือกยิงตัวเองหรือไม่ก็ไม่ทำอะไรเลยเพราะยังไงมันก็เป็นกระสุนปลอมเพราะจริงๆแล้วชายหน้ากากก็คือ Josh ที่ปลอมตัวมาเล่นตลกแก้แค้นกับทุกคน
2.ในตอนที่ 8 ในช่วงที่ Chris กำลังหนีเจ้า Wendigo หลังจากที่ชายแปลกหน้าถูกฆ่าไปแล้ว ขณะที่ต้องหนี Wendigo นั้นสามารถยิงที่ตัวมันหรือเล็งไปที่ถึงน้ำมันให้ระเบิดช่วยได้ แต่ประเด็นคือ ถ้าคุณยิงพลาดก็จะทำให้ Chris โดย Wendigo ฆ่าตายทันที และถ้าในตอนที่ 6 เลือกที่จะไม่ยิง Ashley ตอนถูกทดสอบ เมื่อหนีมาถึงบ้าน Ashley เธอก็จะมาเปิดประตูช่วย Chris ทันที เขาก็จะรอดตาย

Mike 

ไมค์นั้นผ่านอันตรายมาเยอะแต่จะเริ่มที่ต้องเลือกเป็นหรือตายในตอนที่ 10 ฉากสุดท้ายที่ Wendigos มันกำลังไล่ล่าผู้รอดชีวิตในบ้านพัก ชีวิตของไมค์ขึ้นอยู่กับ Sam ล้วนๆครับ ขึ้นอยู่ว่าคุณจะทำจอยให้นิ่งแค่ไหนจน Sam เธอไปกดสวิตซ์เพื่อกดระเบิดบ้าน และให้ Sam เลือก Save Mike ในการตะโกนล่อพวก Wendigos ให้มาที่ Sam เท่านี้ Mike ก็จะหนีออกจากบ้านตอนสุดท้ายได้ทันพร้อมกับทุกคน ถ้า Sam เธอพลาด Mike ก็จะจุดไฟแช็คให้ระเบิดทุกคนตายไปพร้อมกับ Wendigos

Sam

นางเอกของเราจะไม่มีอะไรที่ต้องเลือกเป็นเลือกตายเลยจนกว่าจะบทที่ 10 ตอนสุดท้ายที่ต้องเอาตัวรอดจาก Wendigos ที่มันกำลังไล่ล่าผู้รอดชีวิตในบ้านพัก คุณจะต้องบังคับเธอให้ทำตัวให้นิ่งที่สุดเพื่อหลบพวก Wendigos ที่ตาบอด จนทำให้เธอไปกดสวิตซ์เปิดไฟเพื่อกดระเบิดบ้านให้ได้ ชีวิตเพื่อนทุกคนในบ้านนั้นขึ้นอยู่กับความนิ่งของเธอ ถ้าเธอพลาด Mike ก็จะจุดไฟแช็คระเบิดตายกันหมด แต่ ถ้าหลบจนไปกดสวิตซ์ได้ทัน Sam ก็จะเป็นนางเอกที่ปิดฉากของเกมนี้ลงอย่างสวยงาม

Josh

1.จอร์จนั้นเป็นตัวละครที่เป็นประเด็นมากเพราะนอกจากจะเสียพี่น้องไปจากฝีมือฆาตกรแล้ว ตัวเขายังมักโชคร้ายเกือบตายจริงๆเพราะคนที่เล่นเกมนี้หลายคนมักจะเลือกให้เขาตายในตอนที่ 4 แทน Ashley กันแทบทุกคน แต่ไม่เป็นไรยังไงมันก็เป็นมุขตลกของเขาอยู่แล้ว
2.ซึ่งยังไงเขาก็จะยังรอดจนอยู่ถึงตอนสุดท้าย  ถ้า คุณต้องตามเก็บ clues ที่เป็นข้อมูลของฝาแฝดที่หายไป (The Twin)  มาให้ครบ 20 อัน (ในเวบนอกแจ้งมาแบบนี้แต่เก็บไม่ครบก็ได้ครับ) และได้อ่านบันทึกไดอารี่ของ Hannah ในเหมืองแล้วบอกกับ Josh ในตอนที่เขาถูก Wendigo จับตัวได้ในบ่อน้ำในถ้ำพร้อมกับ Mike ตอนที่ Josh ถูกจับได้ ถ้า Sam ไม่ได้เก็บบันทึกของ Hannah มาบอกเขา Josh ก็จะโดน Wendigo บีบหัวจนตาย แต่ถ้าเขาได้รับรู้เรื่องไดอารี่ของ Hannah ตอนโดนจับ เขาก็จะตะโกนเรียกชื่อ Hannah ออกใสซึ่งก็คือ Wendigo ตัวที่มีรอยสักรูปผีเสื้อตัวที่กำลังจับเขาอยู่นี่แหละ แน่นอนว่ามันจะทำให้เขารอดตาย แต่ Wendigo Hannah ก็จะลาก Josh หายไป ซึ่งก็จะทำให้เขากลายเป็น Wendigo ตัวต่อไปในช่วงฉากจบลับที่ท้าย End Credit ด้วย !!  สำหรับ Josh ไม่รู้ว่ารอดหรือตายนั้นดีกว่ากัน ?