วันจันทร์ที่ 6 มกราคม พ.ศ. 2563

บทสรุป Death Stranding [Page 2]



                 บทสรุป Death Stranding

                                                  By Decibel per oxide 

------------------------------------------------------------------------------
                                                   เนื้อหาบทสรุปก่อนหน้านี้
                                        [PAGE 1]
 http://decibelperoxide.blogspot.com/2019/11/death-stranding.html

-------------------------------------------------------------------------------




 [Update] คำสั่งของภารกิจหลักใน Delivery Terminal ที่ Lake knot City ประกอบด้วย  
[Order No. 24] Prototype Bot Delivery: Distribution Center South of Lake Knot City
[Order No. 25] Road Reconstruction
[Order No. 26] [URGENT] Fresh Pizza Delivery: Peter Englert

       
                             [Order No. 25] Road Reconstruction


ภารกิจนี้คือ ภารกิจเรียนรู้การสร้างถนนเพื่อเชื่อมต่อเส้นทางจาก Lake knot City ไปยัง South Knot City โดยสามารถเริ่มสร้างได้จากเสา Auto – Paver UC ตัวแรกที่อยู่ด้านหน้าเมือง


วิธีสร้างก็เหมือนกับโครงสร้างสิ่งปลูกสร้างอื่นๆโดยการนำวัตถุดิบต่างๆมาใส่ตามชนิดและจำนวนที่ระบุไว้ใน เสา Auto – Paver UC เมื่อทำการสร้างถนนเส้นแรกจาก Auto – Paver UC ตัวแรกที่อยู่ด้านหน้าเมืองแล้วก็เท่ากับจบภาริจนี้ พร้อมได้โทรฟี่ All Roads Lead to the UCA


เมื่อสร้างถนน Route 23 ซึ่งเป็นถนนเส้นแรกเสร็จแล้วก็ควรจะเชื่อมต่อถนนไปตามเส้นทางในพื้นที่ให้หมดเพื่อสะดวกในการเดินทาง โดยสังเกต Auto – Paver UC ตามจุดต่างๆตามไลน์ของถนน จาก Lake knot City เชื่อมต่อไปถึงถนน Route 41 ทางฝั่งตะวันตกของ Preppers Station S23-21 ของ The Craftsman และถนนเส้นทางลงใต้ไปยัง  South Knot City ให้เสร็จเรียบร้อย

** ภารกิจนี้ หากทำการสร้างถนนเส้นแรกจาก Auto – Paver UC ตัวแรกที่อยู่ด้านหน้าเมืองเสร็จเรียบร้อยด้วยตัวเองก่อนจะเข้ามารับภารกิจก็จะไม่มีรายชื่อ [Order No. 25] Road Reconstruction ใน Delivery Terminal แต่ก็จะได้โทรฟี่ All Roads Lead to the UCA  เหมือนกัน **  


รับคำสั่งของภารกิจหลักใน Delivery Terminal ที่ Lake knot City 
[Order No. 26] [URGENT] Fresh Pizza Delivery: Peter Englert


                                        [Order No. 26] 

                [URGENT] Fresh Pizza Delivery: Peter Englert



เป้าหมายของภารกิจนี้คือ ส่งพิซซ่าด่วนไปให้ Peter Englert ที่ Personal Shelter S23-84 ซึ่งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของ Lake knot City ให้ทันเวลาที่กำหนด


ซึ่งพิซซ่าจะเป็นสินค้าที่ต้องนำส่งแบบพิเศษเพราะมีความบอบบางเสียหายง่าย โดยต้องจัดเรียงในแนวนอนราบเท่านั้น เพราะถ้าวางในแนวตั้งตรงจะทำให้สินค้าเสียหายอย่างรวดเร็วกว่าปกติ หรือไม่ก็ต้องส่งให้เร็วที่สุดเพื่อลดความเสียหายของสินค้า


ปลายทางเมื่อนำส่งพิซซ่าที่ Delivery Terminal เรียบร้อยแล้วก็พบแต่เสียงตอบรับคำขอบคุณจาก Peter Englert เท่านั้น แต่ไม่เห็นตัวตนของเขาแต่อย่างใด


จำตำแหน่งของ Personal Shelter S23-84 ของ Peter Englert ที่ตั้งอยู่ทางเหนือของ Preppers Station S23-21 ของ Craftsman นี้เอาไว้ให้ดี


เพราะเมื่อจบบทที่ 9 แล้ว ประตูด้านหลังของ Delivery Terminal ที่นี่จะเปิดออกและเมื่อเข้าไปจะพบว่ามันเป็นห้องทำงานลับของ   Higgs Monaghan พร้อมกับได้โทรฟี่ God Particle Go-Getter


รับคำสั่งของภารกิจหลักใน Delivery Terminal ที่ Lake knot City
[Order No. 24] Prototype Bot Delivery: Distribution Center South of Lake Knot City


Die-Hardman – เราได้เตรียม Bot ตัวต้นแบบสำหรับการขนส่งไว้แล้ว ซึ่งคุณต้องไปส่งมันที่ Distro Center ที่อยู่ทางใต้ของ Lake knot City เราเชื่อว่าการจัดส่งแบบอิสระด้วย BOT เหล่านี้เชื่อได้ว่า พวกมันจะเป็นตัวช่วยปฏิวัติเครือข่ายการกระจายสินค้าของเราได้อย่างดี พนันได้เลยว่าคุ้มค่าการลงทุนแน่นอน

                                   [Order No. 24] 
Prototype Bot Delivery: Distribution Center South of Lake Knot City



ภารกิจนี้ต้องนำส่ง  Auto – Delivery Bot รุ่นต้นแบบ 3 ตัวไปยัง Distribution Center ที่อยู่ทางใต้ของ Lake knot City


ซึ่งถ้าทำถนนเชื่อมต่อไปยังเส้นทางต่างๆของพื้นที่จนหมดแล้วก็สามารถขี่รถนำส่งสินค้าไปที่จุดหมายได้ไม่ยากแถมรวดเร็วด้วย


                        South Knot City [Distribution Center]



Thomas Southerland – เพราคุณ คือ Sam Porter เราเลยคาดหวังในตัวคุณได้ ใช่มั๊ย?  เราได้รับแจ้งว่าคุณต้องการความช่วยเหลือในการทดสอบ Auto – Delivery Bot ด้วย แต่ก่อนอื่นเรามาดูสินค้าก่อนว่าเป็นยังไงบ้าง?  ... อืมมม สินค้าคุณภาพดีมาก ถือว่าไม่เลวเลยล่ะ Bot พวกนี้ไม่สามารถสร้างได้ในพื้นที่ที่อยู่นอกเครือข่าย งั้นเชื่อมต่อ distro Center ของเรากับทาง UCA ได้เลย 


   Distribution Center ทางใต้ของ Lake Knot City - เชื่อมต่อแล้ว 



                           Thomas Southerland - - เข้าร่วม UCA 

+ เพิ่มเติมไอเทมใหม่ทีสามารถสร้างได้ใน Delivery terminals
- Bridges Boots LV2
+ ข้อมูลการสัมภาษณ์ใหม่
- Drones and the Singularity


Thomas Southerland – แบบนั้นแหละ ..ผมจะเริ่มทดสอบ BOT เลย คุณแค่นั่งและรอฟังผลที่นี่ก็พอ 



Mama – ถือว่าเป็นบุญคุณอย่างมากเลยแซม ตอนนี้ BOT กำลังเข้าสู่กระบวนการทดสอบขั้นสุดท้ายแล้ว รู้มั๊ย ชั้นออกแบบมันด้วยตัวเองเลยนะ หวังแค่มันสามารถแบกและขนส่งสินค้าแบบเบาๆได้นิดหน่อยก็พอแล้ว ใช้ Porter ที่ไม่มีชีวิต ถ้ามันเกิดตายขึ้นมาก็จะไม่เกิดการระเบิด Voidout  ก่อนเกิดปรากฎการณ์ Death Stranding นักวิทยาศาสตร์ต่างก็หัวเสียกับเรื่องการสร้าง AI ที่ฉลาดกว่ามนุษย์ขึ้นมา แต่สุดท้ายมันก็ไม่เคยเกิดขึ้น จักรกลไม่ทำให้เกิดการระเบิด Voidout  พวกมันไม่ตาย พวกมันจึงไม่ต้องไปที่ชายหาด แต่ไม่ว่ายังไง เครื่องจักรก็ไม่มีวันเข้าใจเรื่องความตายได้เหมือนเรา เพราะงั้นพวกมันจึงไม่มีทางเหนือกว่าพวกเราได้หรอก ลองเข้าไปที่ delivery terminal เดี๋ยวชั้นจะสอนวิธีใช้งาน Auto – Delivery Bot พวกนี้ให้เอง ไม่ต้องห่วงหรอก ชั้นจำตาดูพวกมันจากที่นี่ได้สบาย


                                           การใช้งาน Auto – Delivery Bot

- เลือกเมนู Take on Order > Standard Order (Bot – deliverable)
- เลือกงานจาก Standard Order ที่ Bot สามารถทำได้
โดยพยายามเลือกเส้นทางการขนส่งที่เป็นถนนซึ่งจะเอื้อต่อการเดินทางของ Bot มากที่สุด
และจงจำให้ดีก่อนจะใช้งานพวก BOT ด้วยว่า พวกมันอาจจะช่วยแบ่งเบาในการส่งสินค้าไปยังจุดต่างๆได้ดี แต่มันจะส่งสินค้าได้ช้ากว่าแซมไปส่งเองมาก และโอกาสที่จะได้ Rank S จากการส่งด้วย BOT ก็จะไม่เกิดขึ้นด้วย


Mama –  จากนั้นก็รอให้ BOT นำส่งสินค้าไปจนถึงจุดหมาย ตอนนี้ยังมี BOT แค่ตัวเดียวที่สามารถใช้งานได้ แต่หลังจากการทดสอบเสร็จสิ้น เราจะผลิตพวกมันออกมาอีกในจำนวนที่มากขึ้นแน่นอน อ่อ เกือบลืมบอกไป เราจะจัดการสร้าง BOT อีกตัวออกมาแล้วส่งไปทดสอบภาคสนามให้เร็วที่สุดเพื่อที่คุณจะได้ตัดสินใจได้ว่าจะใช้เจ้า BOT นี่ยังไง ... โทษที เด็กๆร้องงอแงกันอีกแล้ว ยังไงก็ขอบคุณนะแซม เอาไว้ค่อยคุยกัน 



Die-Hardman – การขนส่งแบบอัตโนมัติของ Delivery Bot นั้นจะมีประโยชน์ต่อทุกคน ทั้งคนในเมือง ใน Waystations กับพวก Prepper ที่อยู่ในสถานที่ห่างไกล แต่ตอนนี้คุณคงจะเหนื่อยมาก ทำไมไม่ไปพักซะหน่อยล่ะ ผมพนันได้เลยว่า BB คนนึงล่ะที่ต้องเห็นด้วยแน่นอน ไปเถอะ ไปพักซะ






Fragile – โทษที ไม่ได้ตั้งใจจะทำให้คุณตกใจ เห็นคุณหลับอยู่ตอนที่ชั้นเข้ามา ขอบคุณสำหรับห้องน้ำนะ 
Sam – อืมม .. ฟังนะ ผมอยากจะถามคุณหน่อย ถึงเรื่องที่ผมได้ยินมา เกี่ยวกับคุณน่ะ
Fragile – เธอทำงานร่วมกับผู้ก่อการร้าย อย่าไปไว้ใจเธอ ... ใช่มั๊ยล่ะ? หรือ เธอก็แค่ไอ้โง่ที่ Higgs มันหลอกใช้ ? เธอจะเป็นฮีโร่ได้ยังไง เธอเป็นผู้หญิงนะ หรอ?  บอกชั้นหน่อยสิแซม อเมริกาสำคัญต่อคุณมากแค่ไหนกันหรอ? 



Fragile – เส้นทางที่พ่อชั้นทำไว้มันเป็นเรื่องที่น่าประทับใจ เราเคยมีบางอย่างที่พิเศษที่เป็นเหมือนกาวที่ยึดโยงพวกเราเอาไว้ด้วยกัน มันเป็นยิ่งกว่าประเทศ มันเป็นสัญลักษณ์ของอิสรภาพและความหวัง เราสามารถนำทุกอย่างที่ว่ามากลับคืนมาได้ถ้าเราทำการขนส่งเพื่อเชื่อมต่อผู้คน เขามั่นใจว่าทำได้แน่นอน ชั้นเหมือนเป็นคนใจสลายหลังจากที่พ่อตาย และนั่นคือตอนที่ Higgs เริ่มจะมีอธิพลต่อผู้คนมากขึ้น และมากขึ้นเรื่อยๆ เราทำงานร่วมกัน ส่งสินค้าจากมหาสมุทรแอตแลนติกไปยังมหาสมุทรแปซิฟิก ก่อนที่เขามีการผูกขาดอยู่ทางตะวันตกของที่นี่ เราต่างก็ได้รับประโยชน์มากมายจากการเป็นหุ้นส่วนกัน ตอนแรกธุรกิจของเราก็ไปได้สวย แต่พอหลังจากนั้น เมื่อปีที่แล้ว พวกคนที่บ้าคลั่งก็เริ่มสร้างปัญหา พวกมันเข้าแฮกระบบของเราทั้งหมด จนสามารถควบคุมระบบรักษาความปลอดภัยของเราไว้ได้และใช้มันแทรกซึมเข้าไปตามเมืองต่างๆ และนั่นแหละทำให้เราต้องขนส่งทั้งปืน ระเบิด ทั้งที่ควรจะเป็นเสบียงและยาโดยที่ไม่มีใครรู้เลย



Fragile –   เรากลายเป็นเครื่องมือของผู้ก่อการร้ายไปโดยไม่รู้ตัว และ Higgs อยู่เบื้องหลังเรื่องทั้งหมด และยิ่งกว่านั้น มันได้ประกอบระเบิดนิวเคลียร์เก่าขึ้นมาใหม่ด้วยตัวเองแล้วหลอกให้ชั้นไปส่งที่ Middle Knot city   มันคงจะไม่เกิดขึ้นถ้าชั้นแม่งไม่ได้ตามืดตามัวขนาดนั้น ชั้นจึงใช้ความสามารถทั้งหมดเพื่อหยุดไม่ให้ South Knot city ถูกทำลาย ชั้นพยายามจะเคลื่อนย้ายระเบิดนิวเคลียร์ออกจากเมือง แต่ Higgs ก็เข้ามาขวางได้ทัน แล้วมันก็ยืนยันที่จะได้รับสิ่งที่พวกมันมีสิทธิ์จะทำแม้ว่ามันจะทำให้เกิดความทุกข์ทรมานกับผู้คนมากมาย เป็นบาดแผลที่พวกเขาไม่มีวันรักษาหาย ชั้นได้แต่เดินจากมา แล้วจากนั้นฝน Timefall ก็เริ่มตกลงมา  



Fragile – ที่นี้คุณก็ได้ยินหมดแล้วนะ มันคือเรื่องจริงจากเรื่องโกหกทั้งหมดที่คุณเคยได้ยินมา  ชั้นไม่สนใจอะไรของ Bridges หรือการรวมประเทศอเมริกาใหม่อะไรทั้งนั้น แต่ชั้นจะไม่ปล่อยให้ Higgs และพวกผู้ก่อการร้ายห่านั่นมาปู้ยี่ปู้ยำมรดกที่พ่อชั้นทิ้งเอาให้ฉิบหายแบบนี้แน่นอน เพราะงั้นชั้นถึงมาตามหาคุณ ... ที่นี้เชื่อใจชั้นได้ยัง?  ชั้นมาที่นี่ก็เพื่อคุณ แซม สิ่งที่คุณต้องทำก็แค่ โทรมา !

----------------------------------------------------------------------------------------------------------------

                                Interview Data



                       เรื่อง – Drones and the Singularity  
                       บันทึกเมื่อ 1 เดือนก่อน ที่ Unknow 
                                        โดย Mama 

อ๋อ ใช่ BOT กำลังไปได้สวย ตอนนี้เรากำลังทำการทดสอบภาคสนามภายในพื้นที่เครือข่าย น่าจะได้ผลสรุปได้ในอีกไม่นาน ประสิทธิภาพการจัดส่งภายในพื้นที่ที่กำหนดไว้คาดว่าจะทำได้ดีเหมือนการเชื่อมต่อ Q-pid แน่นอน

... ไม่ นั่นไม่ใช่ปัญหา BOT ก็แค่ขนส่งสินค้า แต่มนุษย์ต้องป้อนข้อมูลคำสั่งซื้อและตั้งค่าพิกัดของการจัดส่งเอง จึงทำไม่เป็นปัจจัยที่ทำให้เกิด drone syndrome แน่นอน และ singularity น่ะหรอ ? ยิ่งไม่มีโอกาสเลย

... เอาล่ะลองคิดดู AI ไม่มีวันตาย มีแค่การอัพเกรดหรือไม่ก็เปลี่ยนใหม่ แต่นั่นไม่ได้เทียบได้กับความตายได้เลย ดังนั้นจึงไม่มีเหตุผลที่คุณจะต้องกลัวมัน เห็นไหมล่ะ? ในต่างประเทศถือว่าแนวคิดนี้ได้ข้อสรุปแล้วซึ่งก็ไม่ได้ยากเกินกว่าจะเข้าใจได้

ความตายเกิดขึ้นกับสิ่งมีชีวิตทุกชนิดก็จริง แต่มนุษย์เท่านั้นที่มีความสามารถในการเข้าใจความหมายของมันได้ ไม่ใช่เข้าใจได้แค่ว่ามันคือการไม่มีตัวตนอยู่อีกต่อไปเท่านั้น นั่นเป็นข้อจำกัดอย่างหนึ่งที่ AI จะไม่สามารถเอาชนะได้ มันคือเหตุผลที่พวกมันไม่เคยฉลาดเกินมนุษย์


-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------


           Distribution Center South of Lake Knot City




Deadman – เฮ้ แซม สถานีที่คุณเพิ่งทำให้สามารถเชื่อมต่อกับเครือข่ายของเราได้สำเร็จมันช่วยให้เรากู้คืนเอกสารสำคัญได้จำนวนมากเลยล่ะ แต่ก็น่าเสียดายที่ยังไม่มากพอให้ผมได้ขุดลึกจนเจอข้อมูลดั้งเดิมของพวก BB ได้เลย และผมก็ได้ปิดกั้น BB -28 จากบันทึกการทำงานเรียบร้อยแล้ว ถ้าผสามารถเข้าถึงข้อมูลนั้นได้ อย่างน้อยๆผมอาจจะบอกคุณได้ว่าทำไมคุณถึงได้พบกับเรื่องราวแปลก ๆ เหล่านั้น เอาล่ะ ลุยต่อไปนะแซม ทำแบบที่คุณทำอยู่นี่แหละดีแล้ว



Die-Hardman – Higgs หลอกใช่ Fragile สินะ ห๊ะ?
Sam – แอบฟังอีกแล้วสิ ?
Die-Hardman – ทั้งหมดมันอยู่ใน Cuff logs ของคุณนั่นแหละ และด้วยความช่วยเหลือจากเครือข่าย Chiral network เราจึงสามารถกู้คืนบันทึกข้อมูลจาก Middle Kont city ได้ บันทึกนั่นช่วยยืนยันเรื่องราวของเธอได้อย่างชัดเจน
Sam – ผมไม่ต้องการให้คุณมาบอกว่าผมหรอกว่าอะไรจริงหรือไม่จริง ผมได้ยินมาจากการบอกเล่าจากปากของเธอเอง ซึ่งแม่งคงทำให้เธอรู้สึกดีกว่าแอบอ่านเยอะเลย 
Die-Hardman – งั้นผมก็หวังว่า คุณคงไม่ต้องคาใจที่ต้องทำงานร่วมกับเธอแล้วสินะ 



Mama –ข่าวดีแซม BOT สามารถส่งของไปถึงที่หมายได้ดีมากๆ การทดสอบถือว่าเสร็จสมบูรณ์แล้วล่ะ มีอีกอันที่เตรียมพร้อมแล้วสำหรับให้คุณไว้ใช้ เอาไปเพื่อแทนคำขอบคุณของชั้นได้เลย

--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ก่อนออกเดินทางไปทำภารกิจหลักต่อไป ควรจะค้นหา Prepper Shelter ที่ซ่อนอยู่ในบริเวณนี้เพื่อทำการเชื่อมต่อพวกเขาให้หมดก่อน


ตำแหน่งของ Prepper Shelter ที่ซ่อนอยู่ในพื้นที่แถบ Distribution Center ทางใต้ของ Lake Knot City จะประกอบด้วย

                1. Prepper Shelter S37-83 [The Collector]

        

ตำแหน่ง - ทางตะวันออกเฉียงใต้ของ Distribution Center ทางใต้ของ Lake Knot City  ที่พักของ The Collector อยู่ด้านล่างของซากพื้นดินแยกที่ต้องใช้บันไดปีนลงไปดังตำแหน่งในแผนที่

          



                                                  วิธีชักชวนให้เข้าร่วม UCA


– พบเจอที่อยู่ของเขาในแผนที่
 – เก็บ Lost Cargo ที่เขาทำตกหล่นเอาไว้กลับมาให้เขา หรือ
ทำภารกิจ Standard Orders 405 : Old Game Consoles Stolen by MULEs Recovery ให้เขาจนสำเร็จ ภารกิจคือ เข้าไปยังแค้มป์ของพวก MULE แล้วนำเอาตลับเกมเก่า(Old Game Console) 3 อันที่พวกมันขโมยเอาไปเก็บไว้ใน Post Box ของพวกมันกลับคืนมา

รางวัลที่ได้จากการปลดล็อก Connection Level
1 ดาว – สี Emergency Yellow ของแว่น Ludens Glasses
2 ดาว - Backpack Cover Lv 1
3 ดาว - Collector Hologram และ สี Emergency Yellow ของ Backpack
4 ดาว -  Backpack Cover Lv 2 และ สี Emergency Yellow ของแว่นกันแดดแซม
5 ดาว – สี Emergency Yellow ของหมวก และเพิ่มจำนวน Chiral Bandwidth


             2. Prepper Shelter S23-71 [The Film Director ]



ตำแหน่ง – ทางตะวันออกของ The Film Director  ในพื้นที่น้ำพุร้อนติดขอบสุดของแผนที่


 วิธีชักชวนให้เข้าร่วม UCA 
- พบเจอที่อยู่ของเขาในแผนที่
- เก็บ Lost Cargo ที่เขาทำตกหล่นเอาไว้กลับมาให้เขา หรือ
ทำภารกิจ Standard Orders  31: Tablet Delivery: Film Director ที่สามารถรับจาก Distribution Center South of Lake Knot City ที่เป็นการนำส่ง Tablet มาให้เขา (ตามเนื้อเรื่อง)

       

รางวัลที่ได้จากการปลดล็อก Connection Level
1 ดาว หรือเมื่อเชื่อมต่อกับ UCA แล้ว  – แว่นกันแดด J.F.Rey "Sam" Sunglasses
2 ดาว - Hologram Generator
3 ดาว – สี Wolf Gray ของแว่น Ludens Glasses และ Backpack
4 ดาว - Film Director  Hologram และ สี Wolf Gray ของแว่นกันแดด J.F.Rey "Sam" Sunglasses
5 ดาว – สี Wolf Gray ของหมวก และเพิ่มจำนวน Chiral Bandwidth


               3. Prepper Shelter S37-65 [Junk Dealer]


    ตำแหน่ง – ทางตะวันออกของ The Film Director  ในพื้นที่น้ำพุร้อนติดขอบสุดของแผนที่


วิธีชักชวนให้เข้าร่วม UCA
– พบเจอที่อยู่ของเขาในแผนที่
- เก็บ Lost Cargo ที่เขาทำตกหล่นเอาไว้กลับมาให้เขา หรือ
ทำภารกิจ Standard Orders 30, 32, 33, 34 ที่สามารถรับจาก Distribution Center South of Lake Knot City (ตามเนื้อเรื่อง)

รางวัลที่ได้จากการปลดล็อก Connection Level
1 ดาว หรือเมื่อเชื่อมต่อกับ UCA แล้ว  – สามารถสร้าง Custom Chiral Ladder ได้
2 ดาว - Speed Skeleton Lv 1 และ Grenade Lv 1
3 ดาว – Speed Skeleton Lv 2
4 ดาว - Junk Dealer Hologram และสามารถสร้าง Remote Stun Bomb ได้
5 ดาว – Speed Skeleton Lv 3 และเพิ่มจำนวน Chiral Bandwidth

-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

[UPDATE] คำสั่งของภารกิจหลักใน Delivery Terminal ที่     Distribution Center ทางใต้ของ Lake Knot City
 [Order No. 27] Chiralium Gauge Delivery : Weather Station

--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

                                    [Order No. 27]

               Chiralium Gauge Delivery : Weather Station



ภารกิจนี้คือการนำส่ง Chiralium Gauge จาก Distribution Center ทางใต้ของ Lake Knot City ไปยัง Weather Station ที่ตั้งอยู่บนเนินเขาทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ (อย่าลืมเอาบันไดมาด้วยเพื่อความสะดวกในการเดินทาง)



โดยใช้เส้นทางลงใต้จากที่สร้างถนนเอาไว้ โดยเมื่อมาถึงทางโค้งไปทางซ้ายจะพบทางปีนขึ้นเนินเขาเพื่อเดินทางไปยังสถานที่เป้าหมาย ระหว่างทางจะต้องผ่านพื้นที่ของฝน Timefall และพวก BT จำนวนมาก เมื่อเดินทางขึ้นมาถึงด้านบนสุดของเนินเขาก็จะพบ Weather Station


                               Weather Station

เมื่อนำส่งสินค้าไปถึง Weather Station แล้ว เมื่อ Alex Weatherstone ในฐานะผู้ดูแลตรวจเช็คสินค้าเสร็จสิ้น เขาก็ยินดีที่จะเข้าร่วมกับทาง UCA ในทันที


                             Weather Station - - เชื่อมต่อแล้ว 



                        Alex Weatherstone - - เข้าร่วม UCA 

+ เพิ่มเติมไอเทมใหม่ที่สามารถสร้างได้ใน Delivery teminals
- PCC Lv.2
- Floating Carrier Lv.1


Floating Carrier คืออุปกรณ์ลากจูงแบบลอยตัว ที่สามารถนำติดตัวไปใช้ในการลากจูงสินค้าได้ในจำนวนที่มากขึ้นเพื่อทุ่นแรงในการขนส่งและสามารถขึ้นขี่เพื่อใช้เป็นที่สไลด์ตัวลงมาจากเนินได้อย่างรวดเร็วและปลอดภัย 



ใช้งานด้วยการกดปุ่นทิศทางขวาเข้าเมนูอุปกรณ์เลือกใช้  Floating Carrier (กด X) เพื่อปล่อยมันวางลงกับพื้น จากนั้นกดสี่เหลี่ยม Attach Carrier เพื่อใช้สายเคเบิ้ลผูกติดกับตัว มันจะสามารถใช้ในการแบกรับสินค้าในจำนวนมากขึ้นในขณะเดินเท้าและสามารถพ่วง Carrie เพิ่มต่อกันได้อีกเพื่อขนสินค้าในจำนวนมากขึ้น ด้วยการปล่อย Carrier ออกมาอีกตัวแล้วเลือก Link Carrier 



(เป็นไอเทมตัวช่วยในการทำภารกิจนำส่งสินค้าจำนวนมากๆพร้อมๆกัน ซึ่ง Floating Carrier  จะขนสินค้าได้ในจำนวนมากๆแล้วส่งเข้าใน Delivery Terminal พร้อมๆกันในครั้งเดียวซึ่งเป็นสิ่งที่การขนด้วยรถทำไม่ได้) 

+ เพิ่มเติมคุณสมบัติใหม่ในอุปกรณ์ PCC
- สามารถสร้าง Timefall Shekter
- สามารถสร้าง Safe House


Timefall Shekter คือ ร่มขนาดใหญ่ที่ใช้สำหรับเป็นที่หลบฝน Timefall ในขณะเดินทางในที่พื้นที่โล่ง ใช้สำหรับรอฝนหยุด ป้องกันสินค้าเสียหาย และยังมีฟังก์ชั่นที่มี container repair spray ในตัวที่สามารถซ่อมแซมสินค้าในขณะหลบฝนแบบอัตโนมัติไปในตัวด้วย 



ใช้งานด้วยการใช้ PCC LV2 กดปุ่นทิศลงล่างเลือกใช้ Timefall Shekter แล้วเลือกจุดที่จะสร้างก็เป็นอันเสร็จสิ้น

+ เพิ่มเติมคุณสมบัติใหม่ใน Cuff links
-เพิ่มเติม feature การพยากรณ์อากาศ (weather Forecast) ใน Cuff links Map



                            การดูพยากรณ์อากาศ (weather Forecast) ใน Cuff links Map 

กด Option เปิด Cuff Links แล้วกด R3 เพื่อดูรูปแบบสภาพอากาศ พื้นที่กะพริบสีน้ำเงินจะแสดงพื้นที่ที่ฝน Timefall กำลังตก ลูกศรจะแสดงทิศทางที่ฝน Timefall กำลังเคลื่อนที่ไป โดยสามารถกดปุ่มทิศทางขึ้น - ลง เพื่อดูพยากรณ์ทิศทางลมและการเกิดฝนล่วงหน้าได้นานสุด 30 นาที ซึ่งจะทำให้สามารถวางแผนการเดินทางไปยังเป้าหมายโดยสามารถหลีกเลี่ยงฝน Timefall หรือเตรียมสร้างที่หลบฝนเพื่อป้องกันตัวได้ทันเวลา 

+ ข้อมูลการสัมภาษณ์ใหม่
Chiral Clouds and Timefall




Alex Weatherstone – ผมมั่นใจว่าพวกเขาคงบอกให้คุณฟังแล้ว แต่ Weather station แห่งนี้สร้างมาก่อนที่จะเกิดปรากฎการณ์ Death Stranding ทาง Bridges ส่งผมให้มันซ่อมแซมมันเพื่อใช้งาน น่าเสียดายที่เราไม่สามารถเชื่อมต่อมาได้ซักพักแล้วเนื่องจากกการรบกวนของ Chira Clouds ดังนั้นจึงยากที่จะสามารถวัดปริมาณความหนาแน่นของ Chiralium เพื่อพยากรณ์การเกิดฝน Timefall ได้ แต่ต้องขอบคุณคุณมาก ตอนนี้ Weather station ของเราใช้งานได้อย่างปกติแล้ว คุณทำให้งานของเราง่ายขึ้นเยอะเลย และเราก็จะทำเหมือนกัน เราจะไม่ทำให้คุณผิดหวังแน่นอน ผมสัญญญาเลย 



Mama –ชันเห็นว่านายเพิ่งทำให้ Weather station กลับมาออกไลน์ได้อีกครั้ง ทำงานได้เยี่ยมมากแซม เมื่อทุกๆทีในพื้นที่เข้าร่วมในเครือข่ายเดียวกัน นั่นทำให้เราเข้าใกล้ชายหาดมากขึ้น ถ้าจะพูดไปแล้ว ที่สำคัญคือมันมีผลกระทบกับระดับความเข้มข้นของ chiralium และการวัดผลกระทบที่ว่ามันเป็นหนึ่งในหน้าที่หลักของ Q-pid ยิ่งเรารู้มากขึ้นเท่าไหร่เราก็ยิ่งสามารถรู้ถึงกำหนดเวลาที่จะเกิดฝน Timefall ได้อย่างแม่นยำยิ่งขึ้น ซึ่งถ้าไม่มี Chiral network เราก็ไม่สามารถพยากรณ์อะไรได้เลย อ่อ แล้วก็ คุณสามารถดูผลสำเร็จที่คุณทำได้ด้วยการเข้าไปดูฟังก์ชั่นการพยากรณ์อากาศได้ที่ Cuff links ของคุณได้ตอนนี้เลยนะ ตรวจสอบแผนที่เพื่อรับมือกับเส้นทางเพื่อวางแผนการเดินทางให้ง่ายขึ้น ส่วนชั้นก็จะเฝ้าสังเกตความหนาแน่นของ Chiral อยู่ที่นี่แหละ ก็มันเป็นงานของชั้นนี่ ไม่ไกลจาก South kont city หรอก ส่วนคุณก็ทำตามโปรเซสที่วางเอาไว้ในคำสั่งที่ให้ไป ไม่นานก็สามารถรวมทุกอย่างในพื้นที่ให้เป็นหนึ่งเดียวกันได้อย่างแน่นอน  โชคดีนะแซม 



Die-Hardman – ทำงานได้ดีมากแซม อีกหนึ่งที่แล้วที่เข้าร่วมกับเครือข่ายของเรา ตอนนี้ การพยากรณ์อากาศของ Weather station ทุกคนที่อยู่ใน Chiral network สามารถใช้งานได้แล้ว คุณเองก็ด้วยนะ คุณต้องเข้าไปใน Cuff link มันอาจมีประโยชน์เมื่อคุณต้องการวางแผนกับเส้นทางการเดินทางของคุณ

-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------


                                             Interview Data



                     เรื่อง – Chiral Clouds and Timefall   
                   บันทึกเมื่อ 2 ปีก่อน ที่ Heartman’s Lab 
                                    โดย Heartman

ทำไมเมฆ chiral จึงก่อตัว ทำไมฝน timefall จึงเกิดขึ้น และทำไมมันพวก BTs ถึงปรากฏตัวขึ้นมา ? เรายังคงพยายามอย่างหนักเพื่อจะหาคำตอบจากคำถามเหล่านี้ อย่างที่เราทราบกันดีว่า BTs นั้นเป็นสิ่งมีชีวิตที่คล้ายกับปฏิสสาร การปรากฏตัวครั้งแรกของพวกมันก็ไม่ห่างจากการเกิดปรากฎการณ์ Death Stranding มากนัก ทั้งที่ก่อนหน้านี้มีความเชื่อกันว่าการมีอยู่ของปฏิสสารในโลกของเราน้อยมากหรืออาจไม่เคยมีมาก่อนด้วยซ้ำ แต่เราได้เรียนรู้มาแล้วว่านี่เป็นเรื่องที่เราคาดหวังหรือคิดว่ามันจะเป็นไปได้ก่อนที่จะเกิด ปรากฎการณ์ Death Stranding ว่า ปฏิสสารนั้นอยู่รอบตัวเรา

ผมค้นพบบทความทางวิทยาศาสตร์เกี่ยวกับเรื่อง "ปฏิสสารและเมฆ" (On Antimatter and Clouds.)  จากรายงานระบุว่ารังสีแกมมาที่เกิดจากฟ้าผ่าสามารถก่อให้เกิดการก่อตัวของโพสิตรอนได้และแน่นอนว่าสามารถตรวจพบอนุภาคของปฏิสสารในเมฆฝนปกติด้วย กลไกที่พวกเขาก่อตัวขึ้นนั้นยังไม่อาจเข้าใจอย่างสมบูรณ์ แต่การดำรงอยู่ของปรากฏการณ์นี้ก็น่าสนใจเพียงพอที่ทำให้เกิดความคิดต่อยอดได้

ภายในเมฆ Chiral clouds มี chiralium อยู่จริงมั้ย ? ก็นะ คิดดูสิว่าจะเกิดอะไรขึ้นถ้ามันทำปฎิกริยากับรังสีแกมม่าในแบบเดียวกับที่ทำในเมฆทั่วไป chiralium จะถูกกระตุ้นด้วยรังสีแกมมาทำให้เกิดความบิดเบี้ยวของอวกาศในเวลาเดียวกันก็ทำให้ ตะเข็บ (the Seams) ที่เชื่อมต่อเราเกิดการคลายตัวเพื่อทำให้เชื่อมต่อกับ ชายหาด ของเราได้ง่ายขึ้นรึเปล่า ? และถ้าเป็นเช่นนั้นจริงๆ เมื่อ chiralium ที่ถูกกระตุ้นด้วยรังสีแกมม่าเกิดไปผสมกับฝน timefallและตกลงสู่พื้นดิน ผลที่ตามมาคือ เมฆ Chiral clouds ทำให้การเชื่อมต่อกับชายหาดได้มากขึ้น นี่อาจอธิบายได้ว่าเหตุใด BTs จึงปรากฏขึ้นในพื้นที่ที่มีฝน timefall

นอกจากนี้หากปฏิสสารที่เราเคยคิดว่ามันไม่สามารถวัดปริมาณได้หรือไม่เคยมีอยู่ในโลกนี้ตามความเชื่อเดิมๆที่เคยมีมาของเรามันไม่เป็นความจริงล่ะ ถ้างั้น ทั้ง BTs , ชายหาด , โลกแห่งความตาย หรืออะไรต่างๆนานาที่เราไม่เคยคิดว่ามันจะเกิดกับเราในตอนนี้ มันจะมีอยู่มาตั้งนายแล้วก่อนที่จะเกิดปรากฎการณ์ Death Stranding รึเปล่า?

บางที มันอาจจะดูเป็น ก้าวกระโดดเชิงทฤษฎีมากเกินไปหรือเปล่า? . แต่ผมก็ไม่ปฏิเสธหรอกว่าโลกของเรามันเปลี่ยนไป อย่างรุนแรงและไม่สามารถเปลี่ยนกลับคืนได้ อย่างไรก็ตาม มันอาจจะไม่ใช่แค่ปรากฎการณ์  Death Stranding เท่านั้นที่จะนำการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่จนทำให้พวกเราหันมาสนใจแบบนี้ และ ไม่ใช่การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นด้วยตัวมันเอง ?

----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------


บทความประกอบความเข้าใจเรื่อง เมฆปฏิสสาร (Cloud of Antimatter) สู่ Chiral Clouds และ Timefall





จาก NASA ใช้เวลาสังเกตการณ์เป็นเวลาสี่ปีด้วยดาวเทียมของยุโรปที่ชื่อ Integral จนในปี 1970 เครื่องตรวจจับรังสีแกมมาบินบนบอลลูนค้นพบก้อนเมฆขนาดใหญ่ซึ่งคาดว่าเป็น ต้นกำเนิดของก้อนเมฆปฏิสสารขนาดยักษ์ในบริเวณรอบ ๆ จุดศูนย์กลางกาแลคซี ห่างออกไป 10,000 ปีแสง ปฏิสสารที่ว่านั้นมีความคล้ายคลึงกับอนุภาคปกติ แต่มีประจุไฟฟ้าตรงข้าม จากการใช้ระบบเอกซ์เรย์ของสถาบัน Max Planck สำหรับฟิสิกส์นอกโลกในเยอรมนีที่สร้างขึ้นโดย Georg Weidenspointer และทีมนักดาราศาสตร์ระหว่างประเทศ  พบว่า ด้านในเมฆประกอบด้วยอนุภาคต่างๆหนึ่งในนั้นคือ อิเล็กตรอน ซึ่งเป็นอนุภาคที่หาได้ยากมากในอวกาศ ซึ่งเมื่อเจอกับอนุภาคปฏิสสารเช่นโพสิตรอนที่ถูกกระบวนการบางอย่างสร้างขึ้นมาในบริเวณรอบๆ จุดศูนย์กลางกาแลคซี อนุภาคทั้งคู่จะทำลายซึ่งกันและกัน พลังงานของการทำลายล้างระหว่างสสาร และ ปฏิสสารนี้ถูกเปลี่ยนเป็นรังสีแกมม่า แผ่ออกมาจากเมฆปฏิสสารในจำนวนมหาศาล



จากบท Interview Data  เรื่อง – Chiral Clouds and Timefall ของ Heartman ใน#Deathstranding
ได้อ้างอิงจากเมฆปฏิสสารที่ว่านี้ นำมาซึ่ง แนวคิดการเกิดขึ้นของ เมฆ Chiral clouds ที่ภายในอัดแน่นไปด้วย chiralium สสารจากต่างโลกที่เป็นต้นกำเนิดของฝน Timefall เมื่อมันเกิดการฟ้าผ่าจะก่อให้เกิดการก่อตัวของอนุภาคปฏิสสารโพสิตรอนขึ้นมาเมื่อเจอกับอณุภาคอิเล็กตรอนที่อยู่ในเมฆทั่วไป และเมื่อสสาร และ ปฏิสสารนี้เจอกันจึงแผ่รังสีแกมม่าออกมา ซึ่งเมื่อถูกกระตุ้นโดย chiralium ซึ่งเป็นสสารจากต่างโลก ทำให้เกิดความบิดเบี้ยวของ  ‘ที่ว่าง-เวลา’ (space-time) ทำให้โลกสามมิติที่เราอาศัยอยู่ผสมปนเปกับโลกในมิติที่ 4 ซึ่งคือเวลาที่เราเกิดแก่ตายตามเวลาที่เคลื่อนไป  ทำให้ทั้ง 2 โลกเชื่อมต่อกันเป็นหนึ่งเดียวกันตามแนวคิดของ ไอน์สไตน์ เมื่อ ฝน timefallและตกลงสู่พื้นดิน พวก BTs จากโลกแห่งความตายอีกด้านจึงปรากฏขึ้นมา

ข้อมูลอ้างอิง
https://www.nasa.gov/topics/universe/features/antimatter_binary.html
https://web.facebook.com/winlyovarin/posts/1687161611559798/?_rdc=1&_rdr


--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------


      เรื่อง – Evolution, Death Stranding and the Fear of Dying
                    บันทึกเมื่อ 1 ปีก่อน ที่ Heartman’s Lab 
                                   โดย Heartman

ความตายเป็นสหายที่ซื่อสัตย์ที่สุดในทุกขั้นตอนของการเดินทางวิวัฒนาการของเราเหล่า Homo sapiens  วัฒนธรรมและอารยธรรมของเราถูกสร้างขึ้นโดยตระหนักถึงความสัมพันธ์ของเรากับความตายในขอบเขตที่เราสามารถยอมรับและอยู่กับมันได้ ด้วยความกลัวว่าจะมีการสลายตัวและการทำลายเนื้ออย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้บรรพบุรุษของเราจึงพัฒนาเทคนิคการเก็บรักษาศพให้มีความซับซ้อนมากขึ้น อย่างหน้ากากแห่งความตายและอื่น ๆ แท้จริงหน้ากากนั้นเป็นสัญลักษณ์ของจิตวิญญาณที่ก้าวข้ามโลกนี้ไปสู่โลกแห่งนิรันดร์ต่อไป มัมมี่และโลงหินของอียิปต์โบราณเป็นอีกตัวอย่างนึง

บุคคลผู้มีเกียรติจะได้รับหน้ากากแห่งความตายวางไว้ในโลงศพเพื่อให้ผู้ตายเก็บรักษาไว้เพื่อก้าวข้ามความตายและบรรลุความเป็นอมตะได้

ภาพวาดและภาพถ่ายก็เหมือนกัน .. จริงๆนะ .. ก็แค่เป็นรูปแบบที่ทันสมัยกว่าหน้ากากและโลงหินของชาวอียิปต์โบราณเท่านั้นเอง อันที่จริงความสำเร็จทั้งหมดของมนุษยชาติ ทั้งเรื่อง ศิลปะ, ภาษา, การเขียน ต่างก็เป็นปฏิกิริยาตอบสนองต่อความตายและการแสดงออกถึงความปรารถนาที่จะเอาชนะมันของเรา เป็นความสำเร็จที่เกิดจากความกลัว และก็อาจบอกได้ว่า ความกลัวตายครั้งแรกของมนุษย์นั้นเป็นตัวผลักดันให้บรรพบุรุษของเราวิวัฒนาการเป็น homo sapiens ในยุคแรกเริ่ม จริงๆแล้ว  ผมมักที่จะก้าวไปข้างหน้าแล้วบอกตัวเองเสมอว่า เพราะความกลัวนี่แหละที่นำมาซึ่ง Death Stranding ให้เกิดขึ้นเอง มั่นใจได้เลยว่า มันจะเริ่มชัดเจนมากขึ้นเร็วๆนี้แหละ

-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

[UPDATE] รับคำสั่งของภารกิจหลักใน Delivery Terminal ที่ Weather station
[Order No. 28] Wheat seed Delivery: Timefall Farmers
[Order No. 29] Construction: Safe House

--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

                                      [Order No. 29] 

                          Construction: Safe House



ภารกิจในการเรียนรู้การสร้าง Safe House  หรือ ห้องพักส่วนตัวที่สำหรับใช้พักในสถานที่ที่ไม่มีห้องพักส่วนตัวให้


โดยใช้ PCC LV2 กดลงล่างเลือกสร้าง Safe House ซึ่งจำเป็นต้องใช้วัตถุดิบคือ Chiral Crystals (300cg) และวัตถุดิบแบบใหม่ที่มีการเพิ่มเข้ามานั่นก็คือ Special Alloys (2400cg) ในภารกิจจะมีทุกอย่างให้ครบหมดแล้ว รับมาจาก Delivery Terminal แล้วไปสร้างตรงพื้นที่ที่เป็นจุดเป้าหมายในการสร้างได้เลย


                                          [Order No. 28] 

                    Wheat seed Delivery: Timefall Farmers



เป้าหมายของภารกิจนี้คือการนำส่งสินค้า Wheat Seed จำนวน 4 แพ็ค ไปยัง Timefall Farm ที่ตั้งอยู่ที่ตีนเขาทางใต้ของ Weather Station


การพยากรณ์อากาศก็ไม่ต่างจากการทำนายอนาคตด้วยสัมผัสที่หกของสัตว์บางชนิดที่ช่วยให้พวกมันหลีกหนีจากอันตรายได้ แต่เรามีบางสิ่งที่ดีกว่ามาก นั่นคือความสามารถในการรวบรวมข้อมูลและดำเนินการตามแผนอย่างสอดคล้องกัน มนุษย์เท่านั้นที่มีพลังนี้ในการวางแผนล่วงหน้าแบบนี้  เรามีความสามารถในการใช้ชีวิตในแต่ละวันโดยจินตนาการว่าพรุ่งนี้จะเป็นอย่างไรและครั้งนึงจินตนาการของเราก็ก่อให้เกิดอุดมสมบูรณ์ทางวัฒนธรรมมาแล้ว 
แต่ไม่ว่าเราจะอยู่ที่ไหนหรืออยู่ในสถานการณ์ใดๆก็ตาม เราต้องไม่ละสายตาจากวันพรุ่งนี้
เราลดตัวทำให้เหล่าสรรพสัตว์เคารพและเชื่อใจเราน้อยลง นั่นคือเรื่องที่เราต้องให้ความสนใจกัน โดยเฉพาะที่นี่ ตอนนี้ 



โดยเส้นทางนั้นไม่ได้ทุระกันดารมาก สามารถเดินลงใต้ไปยังจุดหมายด้วยทางตรงได้เลย แต่ด้านหน้าของฟาร์มจะมีแค้มป์ของพวก MULE ขวางทางอยู่ เตรียมอาวุธมารับมือพวกมันเอาไว้ให้พร้อมด้วย เมื่อผ่านพวก MULE ไปได้ก็จะถึงTimefall Farm ซึ่งเป็นพื้นที่เป้าหมายของการนำส่งสินค้า


                                                      Timefall Farm


The Environmental Scientist – ขอบคุณคะ Bridges ดีกับพวกเรามาตลอดเลย ที่ผ่านมา Amelie เป็นเพื่อนที่ดี เธอเห็นคุณค่าในงานที่เราทำมาตลอดจึงรับฟาร์มของเราให้อยู่ในการดูแลและสนับสนุนของเธอ เราลองวันที่จะได้เชื่อมต่อกับเครือข่าย Chiral Network มานานแล้วล่ะ 
Timefall Farmer – ยังไงก็เถอะ เอ่อ...ไม่ทราบว่าคุณพอจะทราบเรื่อง fragile มั๊ยครับ ? ถ้าคุณเจอเธอฝากข้อความของเราไปให้เธอด้วย บอกเธอว่า พวกเราขอบคุณที่ช่วยปิดบังที่ซ่อนของเรา ถ้าเธอไม่มาที่ South knot และฟาร์มของเรา เราคงไม่มีโอกาสได้อยู่มาถึงตอนนี้แน่นอน เธอเป็นฮีโร่ คุณบอกเธอไปได้เลยว่าผมบอกแบบนั้น อ่อ เรื่องเครือข่าย คุณทำให้เราเชื่อมต่อได้เลยมั๊ยครับ ?


                                 Timefall Farm  - - เชื่อมต่อแล้ว 



                              Timefall Farmer - - เข้าร่วม UCA 


                                         + เพิ่มเติมคุณสมบัติใหม่ในอุปกรณ์ Odradek
                                                            Scanner Nullification
ฟังก์ชั่นใหม่ของ Odradek ที่สามารถตัดสัญญาณการค้นหาสินค้าของพวก MULE เพื่อไม่ให้พวกมันสแกนหาตำแหน่งเจอได้
+ ข้อมูลการสัมภาษณ์ใหม่
Prepper Interview: The Timefall Farmers



Timefall Farmer – เอาล่ะ ถึงเวลาจะใช้ฝน Timefall ให้เกิดประโยชน์แล้ว และฟาร์มของเราก็จะเป็นที่แรกของโลกที่จะเปิดเผยความลับนี้ออกมา เรามีพื้นที่เพาะปลูกสำหรับใช้ทดสอบอยู่แต่ถ้าเราไม่สามารถพยากรณ์อากาศที่ทำให้รู้ถึงการตกของฝน Timefall ล่วงหน้า ผลการทดลองก็คงจะไม่ได้ตามที่ตั้งไว้แน่นอน ในพื้นที่นี้จะมีฝน Timefall ตกอย่างสม่ำเสมอ 
หลังจากที่พวกผู้ก่อการร้ายบุกมาทำลายมันไปจนหมด มีผู้คนต้องตายมากมาย หลงเหลือไว้แค่หลุมขนาดใหญ่ เราก็ไม่สามารถคาดเดาสภาพอากาศได้เลย แต่จากนี้ผมจะได้วางแผนได้ว่าเราควรจะปลูกตอนไหนและเก็บเกี่ยวผลผลิตตอนนั้น ซึ่งจะทำให้ผลผลิตของเราไม่เสียหาย 
เครื่อข่ายการพยากรณ์อากาศช่วยให้เรากลับมาทำงานของเราได้อีกครั้ง ขอบคุณพระเจ้า
และถ้าเป็นไปตามแผนที่ตั้งไว้ เราก็จะสามารถเพาะปลูกที่ไหนก็ได้ทั่วทั้งแผนดินนี้ โดยที่ฝน Timefall จะไม่สร้างผลกระทบกับเราอีกเลย เราจะทำการวิจัยทางพันธุกรรมของเราต่อ เพื่อสร้างระบบนิเวศที่ยั่งยืน และบางที ใครจะรู้ เราอาจจะได้คำตอบบางอย่างเกี่ยวกับ Timefall เพิ่มเติมก็ได้ มันอาจจะเป็นงานที่ยาก แต่ผมก็พร้อมจะเสี่ยง ขอบคุณอีกครั้งนะแซม คุณทำให้เรามีความหวังเพื่อวันพรุ่งนี้ที่ดีขึ้นอีกครั้ง 



Die-Hardman – นั่นแหละสิ่งที่เราต้องทำแซม ตอนนี้คุณทำมาครึ่งทางแล้วนะ ดูสิ คุณเพิ่งทำให้ Timefall Farm ทำงานได้อีกครั้ง และ ตอนนี้เรามีคำสั่งของภารกิจใหม่ให้ทำต่อ ถึงเวลากลับมาที่ Distribution Center South of Lake Knot city ได้แล้ว 

-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------

                                                       Interview Data



              เรื่อง – Prepper Interview: The Timefall Farmers
                 บันทึกเมื่อ 1 ปีก่อน ที่ Timefall Farmer’s Fram
                               โดย Timefall Farmer 

ผมหรอ ผมเคยเป็นนักนิเวศวิทยา Amelie ยกย่องผมและงานวิจัยของภรรยาของผมที่เกี่ยวกับผลกระทบจากฝน  timefall ที่มีต่อพืชต่างๆ เธอเคยเป็นหนึ่งในผู้ที่แนะนำว่าให้ใช้งานวิจัยนี้เพื่อเพิ่มผลผลิตทางการเกษตรให้มากขึ้น เห็นมั๊ยล่ะว่า ฝน  timefall ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างรุนแรงของระบบนิเวศไปทั่วทั้งทวีป ซึ่งผมบอกเลยว่าเราไม่มีทางหยุดมันได้แน่นอน ดังนั้นเราจึงมีความคิดที่จะพยายามใช้มันเพื่อผลประโยชน์ของเราแทน เพื่อทำให้สภาพแวดล้อมดีขึ้นหรืออย่างน้อยก็ไม่เลวร้ายลงไปกว่านี้
พูดง่ายแต่ทำยาก ยกตัวอย่างหลุมอุกกาบาต ที่มีความหนาแน่นของสสาร chiral  สูงกว่าในบริเวณใกล้เคียงและส่งผลให้เกิดฝน timefall ตกมากขึ้น ซึ่งฟังดูแล้วคุณคงคิดว่ามันจะทำให้พืชเขียวชอุ่มขึ้นล่ะสิ น่าเสียดายที่มันไม่ได้เป็นแบบนั้น ไม่มีอะไรเติบโตได้ในพื้นที่ที่มีฝน timefall ตกเป็นประจำ อาจเป็นเพราะฝน timefall ที่ตกลงมาไปทำปฎิกริยาอะไรบางอย่างกับดินบริเวณนั้น หรืออะไรยัง ตอนนี้ผมไม่มีข้อมูลที่ยืนยันได้ชัดเจน ซึ่งนั่นเป็นหนึ่งในเหตุผลที่ผมและภรรยากำลังทำการวิจัยเพื่อหาคำตอบที่ว่านี้อยู่
ขอบอกให้รู้หน่อยแล้วกันนะว่า ไอ้ความคิดที่ว่าฝน timefall มันจะสามารถทำให้เราปลูกพืชอาหารได้ไม่เคยอยู่ในหัวเราซักนิด ทั้งหมดเป็ยไอเดียของ Amelie  คนเดียวล้วนๆเลย ซึ่งก็ต้องให้เครดิตเธอเอาไว้ด้วย

----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------


[UPDATE] รับคำสั่งของภารกิจหลักใน Delivery Terminal ที่ Distribution Center South of Lake Knot city
[Order No. 30] [URGENT] Old Component Delivery: Junk Dealer 
[Order No. 31] Tablet Delivery: Film Director 

-------------------------------------------------------------------------------

                                          [Order No. 31] 

                           Tablet Delivery: Film Director



เป้าหมายของภารกิจคือนำส่ง Tablet ไปยัง Prepper Shelter S23-71 [The Film Director ]  ทางตะวันออกของ The Collector  ในพื้นที่น้ำพุร้อนติดขอบสุดของแผนที่


โดยใช้เส้นทางด้านหลัง Distribution Center South of Lake Knot city เดินทางอ้อมด้านซ้ายของแค้มป์พวก MULE ซึ่งจะสะดวกและไม่ต้องมีแผ่นดินแยกเป็นอุปสรรคด้วย



แม้คุณอาจจะเคยเข้าไปพบเขาและทำภารกิจจนเขาจนเข้าร่วมกับ UCA แล้ว แต่ภารกิจนี้จะเป็นการเปิดตัวหรือแนะนำ Film Director อย่างเป็นทางการ แล้วก็จะเป็นตัวช่วยเพิ่ม Connection Level ให้เต็มได้เร็วขึ้นด้วย


รางวัลที่ได้จากการปลดล็อก Connection Level จาก Film Director
1 ดาว หรือเมื่อเชื่อมต่อกับ UCA แล้ว  – แว่นกันแดด J.F.Rey "Sam" Sunglasses
2 ดาว - Hologram Generator
3 ดาว – สี Wolf Gray ของแว่น Ludens Glasses และ Backpack
4 ดาว - Film Director  Hologram และ สี Wolf Gray ของแว่นกันแดด J.F.Rey "Sam" Sunglasses
5 ดาว – สี Wolf Gray ของหมวก และเพิ่มจำนวน Chiral Bandwidth


                                         [Order No. 30] 

          [URGENT] Old Component Delivery: Junk Dealer



เป้าหมายของภารกิจนี้คือนำส่ง Old Components ASAP ไปยัง Prepper Shelter S37-65 [Junk Dealer] บนภูเขาขยะทางใต้ของ The Film Director


โดยสามารถใช้เส้นทางด้านหลัง Distribution Center South of Lake Knot city เดินทางอ้อมด้านซ้ายของแค้มป์พวก MULE เพื่อความสะดวกในการเดินทางโดยไม่ต้องมีแผ่นดินแยกเป็นอุปสรรค


 ผ่านที่อยู่ของ The Film Director ลงใต้มายังพื้นที่ภูเขากองขยะ ก็จะพบที่อยู่ของ  Junk Dealer ซึ่งหากคุณสำรวจพบที่นี่ก่อนหน้านี้ เขาจะไม่เปิดรับสิ่งของใดๆที่นำมาให้ทั้งสิ้น



                                 Junk Dealer – ภาพเก่าของแฟนชั้นเมื่อนานมาแล้วน่ะ 


ทั้งหมดก็เพราะไอ้พวกผู้ก่อการร้ายบ้านั่นกับ Fragile เพื่อนของมัน ไม่ได้ต้องพูดถึงพวก Bridges ที่ชอบไปแหย่รังแตนห่านั่นด้วย  ช่างแม่งพวกมันเถอะ มาดูสินค้ากันดีกว่า ... นายมาได้ทันเวลาพอดี ซึ่งก็ควรจะทำอยู่แล้วนี่ มันงานของนายไม่ใช่รึไง?  ... สินค้าโอเคนี่ แต่ก็อย่างที่บอกไป พวก Porters ทุกคนก็ไม่ได้ดีไปกว่าพวกผู้ก่อการร้ายนั่นหรอกวะ ! แล้วก็ไม่ว่านายจะพูดยังไงชั้นก็ไม่มีวันเชื่อใจหรอก ! เพราะงั้นเอาไอ้ Q-pid ห่านั่นไปไกลๆตีนเลย !!
  

Die-Hardman – โอเค ..ถ้างั้นก็ ... อืมม มันมีบางอย่างบอกผมว่า ถ้าเราอยากจะเอาชนะใจเขาได้ เราคงต้องคิดให้ออกว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับผู้หญิงในภาพ hologram นั่นกันแน่ เพราะตอนนี้เขาคิดว่าเธอตายตอนเกิดการโจมตี แต่เราตรวจสอบจากเอกสารต่างๆที่บันทึกที่ South knot City แล้ว ไม่มีใบมรณะบัตรที่ระบุรูปพรรณสัณฐาน ตรงกับผู้คนในภาพนั่นเลย ผมเลยต้องไปขอให้ทาง fragile ซึ่งเป็นเจ้าของพื้นที่ช่วยตรวจสอบอีกทาง 



fragile – เฮ้ แซม ชั้นได้ลองค้นหาจากฐานข้อมูลลูกค้าเก่าๆทั้งหมดแล้ว ทำให้มีโอกาสมากขึ้นที่จะตามหาสาวน้อยปริศนาคนนั้นจนเจอ ผู้หญิงที่มีทั้งหน้าตาและเสียงที่คล้ายกันมากๆ เธอยังไม่ตาย Junk Dealer ของเราอาจกำลังเสียใจเก้อแบบเปล่าประโยชน์  และชั้นเดาว่าเขาคงไม่เชื่อในสิ่งที่เราพูดหรอก .. เดี๋ยวนะ เขาเพิ่งโพสต์ คำสั่งจ้างงานอีกงานลงมา ลองเข้าไปเช็คใน Delivery Terminal ดูสิว่าเขาต้องการอะไร 

----------------------------------------------------------------------------------------------------------------

[UPDATE] รับคำสั่งของภารกิจหลักใน Delivery Terminal ที่ Prepper Shelter S37-65 [Junk Dealer]
[Order No. 32] Collection : Old Component

----------------------------------------------------------------------------


เป้าหมายของภารกิจนี้ Junk Dealer ต้องการให้เดินทางไปเก็บ Old Component (จำนวน 60 Kg) ที่เขตซากเมืองทางตะวันตกเฉียงใต้ซึ่งเป็นพื้นที่ที่เต็มไปด้วยพวก BT


ในพื้นที่เป้าหมาย เมือสแกนค้นหาจะพบ Old Component ตกอยู่หลายชิ้น เป้าหมายคือเก็บจนกว่าจะมีการแจ้งเตือนว่าครบจำนวน 60 Kg แล้วขึ้นมา แต่ถ้าทำได้เก็บมาให้หมดทุกชิ้นในพื้นที่จะดีที่สุด


ด้านในพื้นที่จะมี Memory Chip ตกอยู่บนซากรถกระบะให้เก็บด้วย ซึ่งจะเป็น Chip ที่สามารถใช้ปลดล็อก Interview Data – An Unknow Man’s Journal Part 2 (Journal #5 - #9) ออกมา

 และเมื่อเก็บ Old Component ซึ่งเป็นคีย์ไอเทมเป้าหมายจนครบหมดแล้วเอากลับไปให้ Junk Dealer ได้เลย


Junk Dealer – ว้าวดูนี่ซะก่อน แม่งเอ้ย นายนี่มันเป็นงานนี่หว่า ?  ใจถึงเหมือนกันนี่ สินค้าคุณภาพเยี่ยมมากๆเลย นายนี่เจ๋งกว่าพวก fragile express โง่นั่นเยอะเลย คงจะเป็น สุดยอดนักส่งของแน่นอน ชั้นพูดถูกป่ะ? กะแล้วเชียว 


นายรู้มั๊ยว่า ซากปรักหักพังที่นายเพิ่งไปมานั้นน่ะ Fragile express มีส่วนทำให้มันเกิดขึ้น .. Bridges ก็ด้วย เรื่องการสร้างประเทศขึ้นมาใหม่มันก็แค่เรื่องปลุกใจผู้คน แฟนผมคงยังไม่ตายถ้าไม่มีคนแบบพวกนาย ! เธอเคยอยู่ที่นั่นตอนที่พวกผู้ก่อการร้ายบุกถล่ม South Knot และเธอต้องตายก็เพราะนาย ! 



Fragile – เขาเข้าใจผิด เธออยู่ในที่พักทางใต้ของจุดที่ถูกโจมตีต่างหาก ไม่ว่ากันนะถ้าชั้นจะขอรับช่วงต่อเอง ? ถ้าเขาไม่กล้าที่จะออกมาข้างนอก ดีแต่ตะโกนด่าคนอื่นที่ปลายสาย ชั้นว่าเขาคงจะรู้สึกดีขึ้นถ้าได้พูดแบบนั้นกับชั้นนะ 



Junk Dealer – เฮ้ Bridges . Fragile บอกว่าแฟนชั้นยังไม่ตาย คิดว่าชั้นจะเชื่อหรอหลังนางทำแบบนั้นน่ะห๊ะ? ใครจะไปเชื่อวะ นายต้องพิสูจน์ให้สิ นั่นคือสิ่งเดียวที่จะทำให้ชั้นเชื่อได้ ชั้นจะให้ของบางอย่างกับนายเพื่อตามหาผู้หญิงคนนั้น เธอนั่นใช่แฟนชั้นจริงๆก็พากลับมาที่นี่ เอานี่ไปใช้ Skeleton ที่ชั้นสร้างเอง มันจะช่วยเสริมแรง ปรับเสถียรภาพและความคล่องตัวให้มากขึ้น เดี๋ยวจะหาว่าไม่ช่วยอะไรเลย แต่บอกก่อนนะที่ให้เนี่ยก็เพราะต้องการให้นายทำภารกิจนี้ให้เสร็จ และถ้าแฟนชั้นยังไม่ตายจริงๆ ก็เอาสิ่งที่ชั้นให้นายขนส่งไปให้เธอดู เธอจะบอกให้นายพาเธอมาหาชั้นทันที นายทำประโยชน์ให้ชั้น ชั้นก็จะทำประโยชน์ให้นาย ยื่นหมูยื่นแมว 

----------------------------------------------------------------------------------------------------------------

                        Interview Data



   เรื่อง – An Unknown Man’s Journal Part 2  – Journal #5
                 บันทึกเมื่อ (ไม่ได้ระบุปี) ที่ Unknown   
                               โดย Unknown

Ha และ ka, ร่างกายและจิตวิญญาณ ทั้งสองจะแยกออกจากกันเมื่อคุณตาย อย่างน้อยก็ในโลกนี้ .. ความตายจะไม่ใช่จุดจบตราบใดที่วิญญาณของคุณมีร่างกายที่จะกลับมา คุณก็สามารถเกิดใหม่ได้ ในฐานะผู้ฟื้นคืน นั่นเป็นเหตุผลที่ผู้คนสร้างโลงศพและโลงหินเพื่อรักษาร่างกายเอาไว้ให้ดีที่สุดเพื่อให้วิญญาณมีบ้านที่สามารถกลับไปมาอีกครั้ง

ผมเรียนรู้ทั้งหมดนี้และอื่น ๆ จากหนังสือเก่าที่ผมค้นพบ มันเป็นภูมิปัญญาของชาวอียิปต์ที่เต็มไปด้วยเกร็ดความรู้ที่น่าสนใจเกี่ยวกับความตายและวิธีเอาชนะมัน เช่นเดียวกับหน้ากากแห่งความตายสีทองของฟาโรห์พวกที่ตกแต่งด้วยเครื่องประดับที่มีมนต์ขลังเป็นเครื่องบ่งบอกถึงศักดิ์ศรีและอำนาจของผู้สวมใส่

ผมแค่อยากจะบอกคุณว่า ถ้าเราเรียนรู้ทุกๆอย่างจากชายหาด มันก็เหมือนเรียนรู้สิ่งที่ชาวอียิปต์เข้าใจดีอยู่แล้ว นั่นเป็นเหตุผลที่ผมตัดสินใจที่จะใส่หน้ากากให้ตัวเอง ไม่ใช่หน้ากากแห่งความตาย แต่เป็นการใช้ชีวิต เพื่อการปกครอง วันนี้เป็นวันสุดท้ายที่ทุกคนเห็นหน้าผม เพราะผมไม่ต้องการมันอีกแล้ว


      เรื่อง – An Unknown Man’s Journal Part 2  – Journal #6
                   บันทึกเมื่อ (ไม่ได้ระบุปี) ที่ Unknown   
                                โดย Unknown

waystation ทางตะวันตกของ Bridges ถูกโจมตีโดยผู้ก่อการร้ายด้วยการ Voidout โดยการทิ้งศพจำนวนมากไว้รอบๆแล้วเรียกพวก BT เข้ามาทำให้เกิดการระเบิด แทนสาสน์จาก Homo Demens ที่ได้ยินมาว่า Bridges กำลังส่งกองกำลังเดินทางออกไปทางตะวันตกเพื่อสร้างอเมริกาขึ้นมาใหม่ เดาว่าพวกเขาไม่เห็นด้วยกับสิ่งนั้น

ผู้ก่อการร้าย พวกแบ่งแยกดินแดน พวกคลั่งลัทธิ จะเรียกว่าอะไรก็เถอะ คนพวกนี้อ้างว่า  "อเมริกา" กำลังมาเพื่อสร้างเสรีภาพของพวกเขา สิ่งที่ผู้พิทักษ์รุ่นเก่าต้องการล่ามโซ่มันไว้ ทำให้ทุกคนต้องยอมจำนนกลายเป็นทาสของเสียงของส่วนรวม พวกเขาบอกว่า ในโลกหลังการเกิดปรากฎการณ์ Death Stranding พูดไปมันก็เท่านั้นแหละ ในเมื่อชัยชนะของวันนี้คือสภาพของปล่องภูเขาไฟในวันพรุ่งนี้

พ่อผมเคยบ่นให้ฟังอย่างเบื่อหน่ายว่า อเมริกาไม่เคยทำอะไรเพื่อใครหรอก นั่นเป็นเหตุผลที่เราพากันไปหาที่หลบซ่อนตัวของตัวเองแล้วใช้มันเป็นบ้านแทน  "ยอมตายในหลุมนี่ดีกว่าอยู่ข้างนอกภายในการควบคุมของพวกมัน" ใช่แล้ว เขาเป็นนักบุญตัวจริงเลยล่ะ พ่อผมเองก็พยายามอยู่หลายครั้งจนสุดท้ายเขาก็ทำได้แค่ลากผมกลับเข้าไปข้างใน แกก็ชักดิ้นชักงอไม่พอใจอยู่ซักพัก ก่อนที่จะเอาแรงทั้งหมดไปลงที่งาน และเตือนผมว่าจะเกิดอะไรขึ้นถ้าผมไม่เคารพคำสั่งของเขา นั่นคือความรักที่เขามีต่อผม ใช่ไหม? นั่นคือวิธีการดูแลเด็กกำพร้าที่เขารับมาเลี้ยง เขาก็แค่พยายามปกป้องผมจากความชั่วร้ายของโลกภายนอกเท่านั้นเอง

ยังไงซะผมก็เป็นหนี้ชีวิตเขา  และพลังของผมเองด้วย ครั้งแรกที่ผมรู้สึกถึงพวก BT ได้คือตอนที่ผมอุ้มเขาไม่นาน ก่อนที่เขาจะเข้าสู่ necro เหมือนกับตอนที่ผมทิ้งศพพวก  prepper นั่น พ่อของผมแสดงให้ผมเห็นว่าศพเป็นสิ่งที่ล้ำค่า และเป็นสิ่งที่มีมีอานุภาพมากกว่าระเบิดเสียอีก ผู้ก่อการร้ายจึงควรปฏิบัติต่อศพของพวกเขาด้วยความเคารพ


         เรื่อง – An Unknown Man’s Journal Part 2  – Journal #7
                       บันทึกเมื่อ (ไม่ได้ระบุปี) ที่ Unknown   
                                    โดย Unknown


ผมกับพวกไปร่วมทีมกับ Porter หลายคนที่ทำงานในเขตภาคกลางของประเทศ ก็มันต้องทำนี่ ถึงแม้ว่าจะทำให้ลำบากให้ลูกทีมของผมก็เถอะ ให้เดาว่าเพราะอะไร ผู้นำของพวกเขาเป็น DOOMS ไง ผมเลยรู้สึกว่า เราจะต้องเป็นเพื่อนที่ดีกันอย่างแน่นอน

พวกผู้ก่อการร้ายเริ่มก้าวร้าวมากขึ้นตั้งแต่รู้ว่าทีมสำรวจของ Bridges เริ่มออกเดินทาง ประหนึ่งว่าว่า BT และ MULE จะสร้างปัญหากับพวกเขาไม่พองั้นแหละ ตอนนี้เราจึงจำเป็นต้องจับตาดูไอ้พวกงี่เง่านั่นตอนที่เรากำลังทำงาน นั่นแหละเป็นเหตุผลที่เราต้องมารวมตัวกัน

ผมและหุ้นส่วนใหม่กำลังพูดถึงการรวมการดำเนินงานของเราเพื่อให้เราสามารถทำงานได้อย่างครอบคลุมทั้งทวีป ซึ่งถ้าเราทำ ผมคิดว่ามันจะเหมือนกับที่ทาง UCA ทำในบางประเด็นในเรื่องโครวสร้างคือเรื่องความเชื่อในเรื่องความสำคัญของชุมชนแต่ใช้วิธีที่แตกต่างกัน

 แต่ก็อย่างที่เขาว่ากันว่า "The devil is in the detail" ต้องตรวจสอบสิ่งที่ซ่อนในรายละเอียดอย่างรอบคอบ จริงมั๊ย? ทั้งเรื่องกฎและโครงสร้างต่างๆ  เพราะ Homo Demens จะไม่ปล่อยให้คนของเขาตัดสินใจด้วยตัวเองซึ่งจะนำมาซึ่งความเสี่ยงและผิดไปจากแผนที่ตั้งไว้ เราไม่ต้องให้เกิดตราบาปเหมือนกับที่เคยเกิดกับอเมริกาเมื่อในอดีต หรือแม้แต่ที่เกิดกับพวก Homo Demens ก็นะ ก็ถ้าพวกเขาคิดด้วยตัวเองไม่ได้ ท้ายที่สุดก็ต้องการผู้นำที่เข้มแข็ง และด้วยความสัตย์จริง ซึ่งเป็นความจริงที่ไม่อาจปฏิเสธได้ คนๆนั้นก็จะต้องเป็นผมคนเดียวเท่านั้น


        เรื่อง – An Unknown Man’s Journal Part 2  – Journal #8
                     บันทึกเมื่อ (ไม่ได้ระบุปี) ที่ Unknown   
                                     โดย Unknown

ข่าวลือที่ผมได้ยินมาในเรื่องที่เกี่ยวกับเรื่องพลังของหุ้นส่วนใหม่ของผมที่สามารถทำบางอย่างได้อย่างยอดเยี่ยม ผมรู้ว่าเธอมีความสามารถของ DOOMS แต่เธออยู่นอกเหนือจากระดับอื่นทั้งหมด ผมบอกคุณเลยว่าผมไม่เคยเห็นอะไรแบบนี้มาก่อนเลย ไม่ใช่แค่เธอสามารถสัมผัสรู้ถึงพวก BTs ได้เท่านั้น แต่จริง ๆ แล้วเธอสามารถใช้ชายหาดได้ด้วย !

เมื่อเปรียบเทียบกับเธอแล้วพลังของผมก็ไม่ได้มีอะไรเลย ก็แค่ใช้กลอุบายจากซากศพสองสามศพ แต่มันไม่สำคัญหรอก เพราะอีกไม่นานผมก็จะได้ตัวเธอมา ก่อนที่เราจะพบกันผมถูก จำกัด ด้วยขีดความสามารถของตัวผมเอง เหมือนชายตาบอดคลำหาเงาของอาณาจักรลับ แต่ตอนนี้ เพราะเธอผมจึงสามารถไปที่ชายหาดได้จริงๆ! ที่ชายหาดเลย!

หากมีเธอคนนี้อยู่ข้างๆผมสามารถสร้างโลกนี้ใหม่ได้โดยที่ผมจะไม่ได้เป็นอย่างที่เคยเป็นในสหรัฐอเมริกาเดิม ไม่เหมือนสิ่งที่ Bridges ต้องการ มันจะเป็นอะไรที่ใหม่  มันจะเป็นอะไรที่จะคงอยู่ตลอดกาล ที่นี่ เดี๋ยวนี้ ขอให้มันเป็นโลกที่เรามีอิสระที่จะทำอะไรก็ได้ที่เราต้องการด้วยเถอะ ให้ตายสิ ขอร้องล่ะ .


        เรื่อง – An Unknown Man’s Journal Part 2  – Journal #9
                      บันทึกเมื่อ (ไม่ได้ระบุปี) ที่ Unknown   
                                   โดย Unknown

พลังของคู่ของผมนั้นไม่ธรรมดาจริงๆ ชัวร์ล่ะ  แต่ลึกๆแล้วผมรู้ว่าเราสองคนต่างก็รู้ดีว่า เราไม่มีสิ่งที่จะทำให้เกิดอิสรภาพที่แท้จริงและยั่งยืนให้กับผู้คนเลย

ทุกสิ่งที่เราทำไปก็แค่สิ่งที่เราต้องทำต่อไป ... มันอาจจะดูเหมือนว่าเรากำลังจะนำพาผู้คนมาอยู่รวมกัน แต่ความสำเร็จตามเป้าหมายที่แท้จริงมันก็ยังคงเป็นหนทางอีกยาวไกลกว่าที่มันควรจะเป็นอยู่ดี Timefall, พวก BT, เมฆ chiral และอื่น ทั้งหมดนี้ คือสิ่งกีดขวางเราออกจาก ส่วนที่เหลือของสิ่งที่เรายังสร้างไม่เสร็จ

และผมต้องบอกว่าผมไม่คิดว่ามันจะทำให้อะไรๆเปลี่ยนไป แม้จะเป็นคนอย่างผมหรือคู่หูของผม เราต่างก็มีข้อจำกัด แต่ตอนนี้ผมได้พบกับคนที่ไม่มีข้อจำกัดนั้นแล้ว ใครบางคนที่สามารถช่วยโลกจากความบ้าคลั่งนี้ทำให้มันกลับมาสมบูรณ์อีกครั้ง นำชิ้นส่วนที่แตกเป็นเสี่ยง ๆของเรากลับมารวมกัน


--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

[UPDATE] รับคำสั่งของภารกิจหลักใน Delivery Terminal ที่ Prepper Shelter S37-65 [Junk Dealer]
[Order No. 33] Hourglass Delivery : Chiral Artist

----------------------------------------------------------------------------

                                                  [Order No. 33]

                        Hourglass Delivery: Chiral Artist


เป้าหมายของภารกิจนี้คือนำส่ง Hourglass ไปยัง Prepper Shelter S37-89 [Chiral Artist Studio] ที่ตั้งอยู่ที่ปลายแหลมทางตะวันออกเฉียงใต้ของ Junk Dealer


Junk Dealer  จะมอบไอเทมพิเศษที่เขาสร้างขึ้นให้กับ Sam เพื่อใช้อำนวยความสะดวกในการเดินทางในครั้งนี้ มันคือ Speed Skeleton หรือ ขาเสริมแรงที่เน้นความเร็วในการเคลื่อนไหว มันจะทำให้แซมเคลื่อนที่ได้เร็วขึ้นในขณะทำการวิ่ง แต่จะทำให้ความเสถียรของการแบกสิ่งของลดลง และ มันจะกินแบตมากกว่า Skeleton แบบปกติถึง 2 เท่า


และเนื่องจาก นาฬิกาทราย (Hourglass) เป็นสินค้าที่บอบบางมาก การนำส่งจึงทำได้อย่างเดียวคือต้องใช้มือถือไป เนื่องจากไม่สามารถนำสินค้าแบกขึ้นหลังได้ และเส้นทางที่ต้องผ่านไปนั้นเป็นพื้นที่มีฝน Timefall ตกจึงมีพวก BTs อยู่เต็มไปหมด ทำให้การเดินทางลำบากมากขึ้นเพราะการจะต้องถือกระเป๋าสินค้าอยู่ในมือตลอดเวลาทำให้ไม่สามารถใช้อาวุธทำลายพวก BTs ที่ขวางทางได้สะดวก การค้นหาตำแหน่งพวกมันและเดินหลบเลี่ยงไปจึงเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดในตอนนี้ เมื่อเดินทางไปจนถึงปลายแหลมก็จะพบ ที่อาศัยของ Chiral Artist อยู่ที่นั่น


               Prepper Shelter S37-89 [Chiral Artist Studio]


Chiral Artist – นี่คุณมาจาก Frgile Express หรอ? ไม่สิ คุณคือ Porter ของ Bridges นี่ ใช่มั๊ย? ชั้นว่าชั้นไม่ได้สั่งของกับคุณนะ ไม่ใช่ของอันตรายใช่มั๊ยเนี่ย? ... พระเจ้า ดูนี่สิ ชั้นไม่คิดว่าจะเห็นมันอีกครั้งเลยนะเนี่ย ไหนขอดูใกล้ๆหน่อยสิ ..ไม่อยากจะเชื่อเลยจริงๆ ไม่มีรอขีดข่วนแม้แต่นิดเดียวเลย แบบนี้จะไม่ขอบคุณคุณคงไม่ได้แล้วล่ะ  แล้วตอนนี้ชั้นคือหนึ่งในคนที่จะเชื่อมต่อกับ Chiral Network ด้วยใช่มั๊ย ตอนนี้เลยใช่มั๊ย ดีงามมากๆ ชั้นดีใจมากที่จะได้เป็นส่วนหนึ่งของ UCA นะ



                                 Chiral Artist Studio - - เชื่อมต่อแล้ว 



                          Chiral Artist Mother  - - เข้าร่วม UCA 

                                 + เพิ่มเติมไอเทมใหม่ที่สามารถสร้างได้ใน Delivery terminals


-ปืน Anti – BT Handgun
ปืนที่ใช้สำหรับกำจัดพวก BT โดยใช้เลือดของแซมเป็นกระสุน สามารถยิงได้ทั้งแบบทีล่ะนัดหรือกดค้างแล้วยิงเพื่อเพิ่มความรุนแรง


Chiral Artist – พาชั้นไปกับคุณด้วยเถอะนะ ได้โปรด ชั้นอยากจะเจอเขาอีกครั้งจริงๆ ชั้นเป็นคนทำ นาฬิกาทราย นี่ให้เขาเอง ตอนที่พวกผู้ก่อการร้ายเริ่มโจมตี ชั้นกับแม่ก็ต้องหนีเอาชีวิตรอด หลังจากนั้นชั้นก็เริ่มตามหาเขาทันที แต่หาเท่าไหร่ก็ไม่เจอเลย แล้วก็ไม่รู้ว่าจะหาเขาที่ไหนด้วย 



Chiral Artist –  แต่นั่นก็ไม่ใช่เหตุผลที่ชั้นหยุดตามหา แต่เป็นเพราะแม่ชั้นไม่ค่อยชอบเขาต่างหาก ซึ่งแม่ก็ทำได้ไม่ดีนักหรอก เพราะมันไม่ทำให้ชั้นเปลี่ยนใจ จนเธอบอกว่าเขาตายแล้ว ชั้นถึงยอมเชื่อเธอ จนเมื่อชั้นได้รับข้อความนั่น .. นั่นมันเขานี่ เป็นเขาจริงๆแน่นอน ชั้นจึงไม่คิดจะยอมแพ้อีกแล้ว 



Chiral Artist –  ลึกๆแล้ว ชั้นก็รู้ว่าเขาอยู่ที่ไหนซักแห่งข้างนอกนั่น แต่ชั้นก็ไม่อยากจะทิ้งแม่ให้อยู่ที่นี่คนเดียว ดังนั้นชึ้นจึงทำได้แค่พยายามทำตัวให้มีความสงบสุขกับมัน คงมีแค่ชั้นที่ทำไม่ได้แม้ว่าใจจะต้องการ ชั้นติดอยู่ในอดีตที่ทำให้ไม่สามารถเดินหน้าต่อไปได้



Chiral Artist –  พาชั้นไปด้วยเถอะนะ พาชั้นไปหาเขาหน่อย ชั้นขอร้องล่ะ ชั้นพร้อมจะไปเดี๋ยวนี้เลยถ้าคุณต้องการ แค่บอกมาว่าคุณจะให้ชั้นไปด้วยก็พอ 

-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
[UPDATE] รับคำสั่งของภารกิจหลักใน Delivery Terminal ที่ Prepper Shelter S37-89 [Chiral Artist Studio]
[Order No. 34] Chiral Artist Delivery: Junk Dealer
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

                                            [Order No. 34] 

                           Chiral Artist Delivery: Junk Dealer


           Chiral Artist – ชั้นขอถือมันไว้เองนะ กลัวมันแตกน่ะ 


เป้าหมายของภารกิจนี้คือการพาตัว Chiral Artist ไปส่งที่ Junk Dealer ตามเส้นทางเดิมที่มา แต่การแบกน้อง Chiral Artist ไปนั้นจะต้องเอาของทั้งหมดใน Back pack ออกทั้งหมด ทำให้เหลือที่เก็บของไม่มาก แต่ถ้าอยากจะเก็บของเพิมเติมในระหว่างทางก็แนะนำให้ลาก Floating Carrier ไปด้วยก็ได้ แต่อย่าลืมติดเอาปืน Anti – BT Handgun เอาไว้ไปลองใช้กับพวก BTs ระหว่างทางก็พอ


การใช้งานปืน Anti – BT Handgun โดยการกดปุ่มทิศทางขวาเข้าเมนูเครื่องมือแล้วเลือกใช้ Anti – BT Handgun ในขณะยิงให้กด R2 ค้างเพื่อยิงด้วย อาจต้องเสียเลือดในถุงเลือดของแซมเยอะหน่อยแต่จะสามามารถจัดการ BT ได้ในครั้งเดียวโดยไม่ต้องเสี่ยงยิงหลายครั้ง


และอย่าลืม ก่อนจะนำตัว Chiral Artist ไปส่งให้ Junk Dealer คุณสามารถพาเธอไปอาบน้ำในบ่อน้ำพุร้อนได้ด้วย ซึ่งสามารถทำได้ครั้งเดียวในเกมเท่านั้นนะ เมื่อพาทัวร์สมใจแล้วก็นำส่งเธอไปยัง Junk Dealer ได้เลย


Junk Dealer – เธอบาดเจ็บหรือเปล่า ... ขอบคุณมากนะ Bridges ผมไม่อยากเชื่อเลยว่าคุณยังมีชีวิตอยู่ 
Chiral Artist – คิดแบบนั้นไม่ดีเลยนะ ซื้อบื้อเอ้ย 
Junk Dealer – ผมนึกว่าคุณตายไปแล้วจริงๆนะ 
Chiral Artist – แม่ชั้นก็บอกว่าคุณตายเหมือนกัน 



Junk Dealer – ผมเก็บสิ่งนี้ไว้กับตัวเสมอเลยนะ แต่หลังจากมีการโจมตี ผมก็ไม่เคยทำงานอะไรอีกเลย กะว่าจะซ่อมมันซักที ให้ทรายมันไหลเหมือนเดิม แต่ผม ผมไม่อยากจะให้เวลามันเดินหน้าโดยมีผมแค่คนเดียว ผมเลยเลือกที่จะลืมมันซะ เพื่อให้ลืมคุณด้วย 
Chiral Artist – งั้นก็ ทิ้งมันได้เลย เพราะตอนนี้เราจะเดินไปข้างหน้าด้วยกัน คุณกับชั้น ถ้าคุณพร้อมนะ 
Junk Dealer – พร้อมแน่นอน 
Chiral Artist – ทิ้งมันไปซะ ผู้ชายที่ชั้นรู้จักเขาไม่เอาขยะมาขาย เขาเอาของจากขยะมาซ่อม ทำให้มันเป็นของใหม่อีกครั้ง เก็บชิ้นส่วนและใช้ประโยชน์จากมันให้มากที่สุด แต่เจ้าสิ่งนี้ เราไม่ต้องการมันแล้ว เพราะเวลาที่สำคัญที่สุดคือเวลาที่ชั้นได้ใช้ชีวิตร่วมกับคุณ ดังนั้นให้นับช่วงเวลาต่อจากนี้คือเวลาที่เราอยู่ด้วยกัน ถามหน่อย คุณอยากจะแต่งงานกับชั้นมั๊ยเจ้าโง่เอ้ย 



Junk Dealer – แต่งสิ แต่ง 
Chiral Artist – อยากเกลียดแม่ชั้นเลยนะ ได้โปรด เราต้องไปบอกเธอในสิ่งที่เราต้องการ ให้เธอเข้าใจและยอมรับมัน เพราะว่าเธอก็ต้องการเราและเราก็ต้องการเธอเช่นกัน 



                   Junk Dealer – ก็ได้ ผมก็ว่าดีเหมือนกันที่เราจะแก้ไขเรื่องนี้ให้มันถูกต้องซะที 



Junk Dealer –  เอ่อ ขอโทษด้วยนะ ผมมันห่วยแตกเองแหละที่ปฎิบัติกับคุณกับ Fragile แย่ๆแบบนั้น ผมกำลังเริ่มต้นชีวิตใหม่กับแฟนผม และผมคิดว่าคงทำไม่ได้ครึ่งในสิ่งที่คนอย่างคุณทำที่นี่ทุกๆวันได้หรอก แต่ตอนนี้ผมพร้อมแล้วที่จะทำในส่วนของผมอย่างเต็มที่ ถ้าคุณมีอะไรที่จะให้ผมซ่อม บอกผมได้เลยนะ ผมอยากให้ UCA เชื่อใจ มันอาจจะต้องมีการปรับตัวนิดหน่อยอ่ะนะ แต่ผมพร้อมที่จะเอาร่วมกับเครือข่ายของ UCA แล้วล่ะ รับรองผมจะไม่ทำให้คุณผิดหวัง สาบานเลย



                         Chiral Artist – เราจะไม่มีวันลืมคุณเลย ขอบคุณนะ



                                     The Junk Dealer - - เชื่อมต่อแล้ว 



                              Junk Dealer - - เข้าร่วม UCA 

+ เพิ่มเติมไอเทมใหม่ที่สามารถสร้างได้ใน Delivery terminals
-Speed Skeleton (LV1)
-Speed Skeleton: Gold (LV1)
- Stun Bomb
+ ข้อมูลการสัมภาษณ์ใหม่
Prepper Interview: The Junk Dealer
An Asexual World

รางวัลที่ได้จากการปลดล็อก Connection Level
1 ดาว หรือเมื่อเชื่อมต่อกับ UCA แล้ว  – สามารถสร้าง Custom Chiral Ladder ได้
2 ดาว - Speed Skeleton Lv 1 และ Grenade Lv 1
3 ดาว – Speed Skeleton Lv 2
4 ดาว - Junk Dealer Hologram และสามารถสร้าง Remote Stun Bomb ได้
5 ดาว – Speed Skeleton Lv 3 และเพิ่มจำนวน Chiral Bandwidth
         

Die-Hardman – แซม ตอนนี้ทุกสถานีในพื้นที่นี้ทั้งหมดได้เชื่อมต่อกับ Chiral network เรียบร้อยแล้ว ตอนไปก็มุ่งหน้าไปที่เขตต่อไป เพื่อเชื่อมต่อกับ South Knot city คุณต้องขนส่งสินค้าจาก Lake Knot City ไปที่นั่น
Sam – ห๊ะ ? เดี๋ยวนะ ผมตามไม่ทัน งง? ทำไม่ถึงไม่ให้ที่นั่นเข้าร่วมเครือข่ายด้วยล่ะ เขาจะได้ปริ๊นทุกอย่างที่เขาต้องการไง ? 
Die-Hardman – เพราะคุณไม่สามารถปริ๊นทุกอย่างน่ะสิ คุณรู้ใช่มั๊ย? อาหาร,ยา , สารประกอบอินทรีย์ต่างๆ เลือดของคุณที่พิสูจน์แล้วว่ามีประสิทธิภาพในการต่อต้านพวก BT ของเหล่านี้ ไม่สามารถส่งผ่านเครือข่ายได้ ต้องส่งด้วยวิธีดั่งเดิมเท่านั้น ผู้คนที่ South Knot city ต่างก็ต้องดิ้นรนมาตลอดหลังจากการถูกโจมตีครั้งล่าสุด และ ตอนนี้ ถ้าพวกเขายังรอดอยู่ พวกเขาก็คงต้องการเสบียงจาก Lake Knot แน่นอน รีบกลับมารับ Order ได้แล้ว เอ่อ แล้วก็ คุณคงไม่อยากกลับบ้านมือเปล่าใช่มั๊ยล่ะ ? การเดินทางจะได้ไม่สูญเปล่า ลองดูให้แน่ใจด้วยว่าที่มี Order อะไรหรือเปล่า?  โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับ Junk Dealer ลองเช็คที่ Delivery terminals ดูเลย


Mama - ชั้นกำลังตรวจหาระดับ chiral ที่ผิดปกติไปทางเหนือของ South Knot city  ซึ่งมีการตกของฝน Timefall หนาแน่นมากๆ จนมันกลายเป็นพายุอะไรซักอย่างขึ้นมาในแบบที่เราไม่เคยเห็นมาก่อนเลย ถ้าจะให้บอกตามความจริง ชั้นไม่สามารถเห็นมันจริงๆได้เลย เพราะพายุนั่นอยู่ด้านนอกไกลจากห้องทดลองของชั้น แล้วพวก BB ที่ชั้นต้องดูแลก็ทำให้ชั้นไม่มีทางออกไปสำรวจเองได้เลย ดูเหมือนว่ามันยังไม่ได้สร้างความเสียหายอะไรเท่าไหร่ จะรังเกียจมั๊ยถ้าชั้นจะขอให้คุณช่วยไปเช็คดูให้หน่อย ได้มั๊ย? แค่ไปสังเกตการณ์ก็พอ เข้าใจนะ?    


-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

                                            Interview Data


                 เรื่อง – Prepper Interview: The Junk Dealer
           บันทึกเมื่อ 6 เดือนก่อน ที่ Prepper Shelter S37-65
                               โดย The Junk Dealer 

ไม่น่าเชื่อ จริงหรอเนี่ย? นาฬิกาทรายนี่ ดูสิทรายมันไหลย้อนขึ้นด้านบน มันเป็นไปได้ยังไง? คงเพราะมันมีอนุภาค chiral อยู่ในนั้นมันเคลื่อนไหวแบบนั้นได้ แล้วดูรูปร่างของแก้ว ช่างดูงดงามและบอบบางซะเหลือเกิน ... เหมือนเด็กผู้หญิงเป็นคนสร้างมันขึ้นมา ยากที่จะเชื่อว่ามันเป็นของในโลกนี้ แต่มันถูกสร้างขึ้นด้วยมือมนุษย์ บ้าไปแล้ว?  ไม่น่าแปลกใจที่ทุกคนใน South Knot City ต่างก็รู้จักงานของเธอ คุณคงเดาได้ว่าผมรู้สึกยังไงตอนที่เธอมอบมันให้ผม ...

ผมคิดว่าคุณคงคิดว่ามันเป็นของขวัญแทนคำขอบคุณอะไรซักอย่าง ใช่เลย เพราะที่ผ่านมาเธอขอให้ผมช่วยซ่อมอะไรต่างๆนานาหลายอย่างเลยล่ะ แต่คุณรู้มั๊ย ผมก็ทำงานมานานนะ แต่ไม่เคยมีลูกค้าคนไหนทำอะไรแบบนี้ให้ผมซักที ส่วนใหญ่จะเป็นการกดไลค์สองสามครั้งก็แค่นั้น

โอ้ อย่าเข้าใจผมผิดนะ ไม่ใช่ว่าการกด Like ครั้งสองครั้งจะไม่มีค่าอะไร แค่ แบบนี้... มันแตกต่าง ตอนที่เธอให้นาฬิกาทรายกับผม ผมบอกเลยว่าผมอยากจะอยู่กับเธอเลย ผมรู้  ผมคงไม่เกิดขึ้นแน่นอน ก็แค่คิดน่ะ ผมมันไม่เหมาะกับการมีความรักหรือความสัมพันธ์อะไรหรอก คงจะไม่คู่ควรที่จะได้รับมันมั้ง แต่พูดตามตรง แม้เราอาจจะไม่สามารถอยู่ด้วยกันได้ อย่างน้อยผมก็ยังมีนาฬิกาทรายนี้ ...


                               เรื่อง – An Asexual World
                        บันทึกเมื่อ 3 ปีก่อน ที่ Bridges HQ
                                   โดย Councelor

จากบันทึกระบุไว้ว่า มีการแสดงความเกลียดชังต่อการสัมผัสทางกายและความใกล้ชิดอย่างกว้างขวางซึ่งเป็นปรากฏการณ์ที่เคยพบเห็นมาบ้างก่อนเกิด Death Stranding

 ยกตัวอย่างเช่น มีรายงานฉบับหนึ่งระบุรายละเอียดเกี่ยวกับความนิยมที่เพิ่มขึ้นของกลุ่มคนที่มีอายุน้อยที่มีการระบุตัวเองใช้ชีวิตแบบคนไร้เพศ (sexless lifestyle) โดยอ้างว่าไม่สามารถรู้สึกอยากหรือมีสิ่งที่ดึงดูดใจได้ ดังนั้นบุคคลดังกล่าวมีโอกาสน้อยที่จะมีลูกหรือแม้แต่มีกิจกรรมทางเพศ

อย่างไรก็ตามควรสังเกตว่า ไม่ฝักใจทางเพศ หรือ เอกลักษณ์ทางเพศที่ไม่ซ้ำใคร (self-identifying asexual) กำลังได้รับการยอมรับในช่วงเวลานี้เช่นเดียวกับพวก "กึ่งกลางระหว่างเพศ"(demisexuals) ซึ่งไม่สามารถดึงดูดความสนใจทางเพศได้โดยไม่มีการเชื่อมต่อทางอารมณ์ ไม่จำเป็นต้องมีเพศสัมพันธ์

ทฤษฎีหนึ่งกล่าวว่า ปรากฎการณ์ Death Stranding เป็นตัวเร่งการให้เกิดเพศวิถีมากขึ้น แต่ในโลกใหม่ที่น่าสะพรึงกลัวที่มีพวก BTs ร่อนเร่ไปมาอยู่ทุกหนทุกแห่งและทำลายล้างทุกอย่างที่ขวางหน้าจนเป็นเสมือนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวัน ผู้คนต่างก็สงวนท่าทีจะมีความเชื่อมโยงทางอารมณ์กับคนอื่นมากขึ้น

แม้ว่าจะไม่สามารถวัดการลดจำนวนลงของมนุษย์ได้อย่างชัดเจร  แต่อัตราการเกิดก็ลดลงอย่างมาก การล่วงละเมิดทางเพศและความรุนแรงทางเพศก็ลดลงอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งดูเหมือนว่าจะเป็นการบ่งบอกว่า เรื่องเพศไม่สามารถเติมเต็มให้จิตใจเราได้อีกต่อไป ไม่ว่าแบบนี้มันจะดีหรือร้าย แต่ก็ยอมรับว่าผมไม่มีข้อมูลที่ทำให้เห็นเพื่อสนับสนุนและยืนยันเรื่องที่กล่าวมา ทั้งหมดทั้งปวงเป็นเพียงความขัดแย้งที่เกิดขึ้นในใจจากการสังเกตเห็นประชากรส่วนใหญ่ที่จัดเป็นพวก ถือพรหมจรรย์ (asexual) ในรูปแบบต่างๆมากขึ้น


--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

[UPDATE] รับคำสั่งของภารกิจหลักใน Delivery Terminal ที่ Prepper Shelter S37-65 [Junk Dealer]
[Order No. 35] Prototype Delivery: Distribution Center South of Lake Knot City

--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------


                                     [Order No. 35] 

  Prototype Delivery: Distribution Center South of Lake Knot City



ภารกิจนี้คือการนำส่งสินค้า Prototype Motor และ Prototype Backpack Pouch จาก Junk Dealer กลับไปที่ Distribution Center South of Lake Knot City


Mama –เฮ้ แซม ชั้นเพิ่งได้รับผลการประเมินจากผู้คนใน distro Center แห่งนี้หลังจากได้รับสินค้ารุ่นต้นแบบต่างๆที่นายนำส่งมา ดูเหมือนจะเป็นอะไรที่ดึงดูดความสนใจจากผู้คนเอามากๆเลย เครื่องยนต์นั่นเป็นอะไรที่สุดยอดมาก พวกเขาไม่อยากเชื่อเลยด้วยซ้ำว่ามันสร้างมาจากเศษเหล็ก ถ้าคุณอยากจะสร้างรถบรรทุกก็อย่ารอช้าเพราะตอนนี้คุณสามารถทำได้แล้ว เพราะพวกเขาทำสัญญากับ Junk Dealer เรียบร้อยแล้ว Truck ถูกเพิ่มเข้าไปในรายชื่อของสิ่งของที่สามารถสร้างได้เรียบร้อยแล้ว นอกจากนั้น เป้สะพายหลังของคุณก็สามารถเพิ่มเติมเสริมแต่งได้แล้วด้วย Feature ใหม่ Backpack Customization ที่เพิ่มเติมเข้ามาใน Private Room ด้วย 


เมื่อนำส่ง เครื่องยนต์ตัวต้นแบบและเป้สะพายหลังตัวต้นแบบไปถึง  Distribution Center South of Lake Knot City แล้ว จะทำให้ ใน Delivery Terminal สามารถสร้างรถบรรทุกได้แล้ว


ในห้องพัก Private Room จะมี Feature ใหม่เพิ่มเติมเข้ามา นั่นคือ Backpack Customization หรือการเพิ่มเติมเสริมแต่งเป้สะพายหลังด้วยไอเทมอำนวยความสะดวกต่างๆ ประกอบด้วย


                                             Backpack Equipment

1.Eatra Battery (LV1) – แบตสำรองสำหรับเพิ่มเติมพลังงานจากแบตหลักที่ใช้กับขาเสริมแรงและอุปกรณ์ต่างๆ
วิธีปลดล็อก – สามารถสร้างได้หลังจบ Order No. 35
2. Eatra Battery (LV2) – เพิ่มระดับความจุของแบตเตอร์รี่ให้มากขึ้น
วิธีปลดล็อก – ได้ระดับ Connection Level ของ Philip North. (Distribution Center North of Mountain Knot City)  4 ดาว
3. Eatra Battery (LV3) – เพิ่มระดับความจุของแบตเตอร์รี่ให้มากขึ้น
วิธีปลดล็อก – ได้ระดับ Connection Level ของ Philip North. (Distribution Center North of Mountain Knot City)  5 ดาว
4.Grenade Pouch – กระเป๋าสำหรับใส่อุปกรณ์ประเภทระเบิดต่างๆที่แยกออกมาจากเป้ทำให้เพิ่มพื้นที่ของเป้  ไม่เปลืองพื้นที่สำหรับบรรทุกสินค้าอื่นๆ  นอกจากนี้ยังช่วยป้องปกการกัดเซาะจากฝน Timefall และความเสียหายจากการกระแทกด้วย ** ในกรณีมีการเปลี่ยนเอากระเป๋านี้ออกจากเป้ ระเบิดต่างๆที่ใส่ไว้จะถูกถ่ายโอนไปยังล็อกเกอร์ส่วนตัว **
วิธีปลดล็อก – สามารถสร้างได้หลังจบ Order No. 35
5.Large Grenade Pouch – กระเป๋าสำหรับใส่อุปกรณ์ประเภทระเบิดที่เพิ่มขนาดบรรจุเป็น 3 เท่า
วิธีปลดล็อก – สามารถสร้างได้หลังจบ Order No. 37
6. Spare Ammo Container คอนเทนเนอร์สำหรับเก็บกระสุนสำรองของอาวุธปืนต่างๆ
** ในกรณีมีการเปลี่ยนเอากระเป๋านี้ออกจากเป้ กระสุนต่างๆที่ใส่ไว้จะหายไปทั้งหมดทันที **
วิธีปลดล็อก – สามารถสร้างได้หลังจบ Order No. 43
7. Stabilizer – อุปกรณ์สำหรับช่วยในการควบคุมทรงตัวเพื่อสร้างความสมดุลในการเคลื่อนไหว
วิธีปลดล็อก – สามารถสร้างได้หลังจบ Order No. 43 และทำให้ Mountain Knot City เข้าร่วม UCA


                                          Backpack  Accessories 

1.Windmill – กระหันจิ๋ว BB ชื่นชอบอุปกรณ์เสริมนี้เป็นพิเศษ ดูเหมือนมันจะช่วยให้เขาอารมณ์ดีขึ้นและช่วยป้องกันไม่ให้ระดับความเครียดเครียดของ BB เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
วิธีปลดล็อก – สามารถสร้างได้หลังจบ Order No. 35
2. Weather Talisman ตุ๊กตาไล่ฝน เครื่องรางที่ทำให้เกิดสภาพอากาศที่ดีมากขึ้น
วิธีปลดล็อก – ได้ระดับ Connection Level ของ Alex Weatherstone. (Weather Station) 4 ดาว
3. Porter ป้ายสัญลักษณ์ Porter – เมื่อเปิดดูแผนที่จะเห็นตำแหน่งของ Porter คนอื่นๆ
วิธีปลดล็อก –ทำให้ Veteran Porter เข้าร่วม UCA
4. One Dollar Coin อุปกรณ์ตกแต่งรูปเหรียญดอลลาร์ที่ช่วยเพิ่มโอกาสในการเจอผลึก chiral มากขึ้น
วิธีปลดล็อก – นำ Lost Cargo อะไรก็ได้ไปส่งยัง Spiritualist.
5. Monster Energy Drink ป้ายแขวนรูปเครื่องดื่มชูกำลัง Monster ช่วยเพิ่มระดับของเกจ stamina ให้มากขึ้น
วิธีปลดล็อก –ทำให้ The First Prepper เข้าร่วม UCA
6. Love Knot – ช่วยเพิ่มยอกไลค์ที่คุณได้รับจากผู้อื่นให้มากขึ้น
วิธีปลดล็อก – สามารถสร้างได้หลังจบ Order No. 53 และ ทำให้ Spiritualist เข้าร่วม UCA
7. Cryptobiote Accessory – ทำให้เพิ่มโอกาสในการจับ cryptobiotes ได้ในจำนวนที่มากขึ้นในแต่ละครั้ง
วิธีปลดล็อก – ได้ระดับ Connection Level ของ Hearthman (Heartman's Lab) 4 ดาว
8. BELL เครื่องประดับรูปกระดิ่ง – ใช้ปัดเป่าความชั่วร้ายมีผลในการขับไล่พวก BTs
วิธีปลดล็อก –ทำให้ Novelist's Son เข้าร่วม UCA


-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

[UPDATE] รับคำสั่งของภารกิจหลักใน Delivery Terminal ที่ Distribution Center South of Lake Knot City
[Order No. 36] Retrieval: Sticky Gun 
[Order No. 37] Sewing Kit Delivery: Cosplayer

---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

                                        [Order No. 37] 

                      Sewing Kit Delivery: Cosplayer



ภารกิจนี้คือการนำส่งสินค้า Sewing kit ไปยัง Prepper Shelter S37-80 [Cosplayer] โดยใช้เส้นทางถนนหลักลงใต้จาก Distribution Center South of Lake Knot City ซึ่งหากสร้างถนนเอาไว้แล้วก็จะสามารถเดินทางด้วยรถได้อย่างสะดวกมาก


เมื่อขี่รถจนสุดทางของถนนที่จุดหักเลี้ยงหักศอกก่อนถึงพื้นที่ BT เลี้ยวขวาออกนอกถนนไปจะพบที่อยู่ของ  Cosplayer อยู่ในซอกเขาใกล้กับน้ำตกขนาดใหญ่กลางพื้นที่


                           Prepper Shelter S37-80 [Cosplayer] 



Cosplayer – ว้าวคุณทำได้จริงๆด้วย !! ตอนแรกคิดว่ามันคงจะต้องมีร่องรอยเสียหายบ้างแหละ แต่ชั้นคิดผิดแฮะ คุณจะทำให้มันเป็นทางการเลยมั๊ยล่ะ? คุณจะทำมันอย่างเป็นทางการเลยก็ได้นะ เวลาที่ชั้นพูดถึงชื่อของคุณกับคู่หูของชั้นเขาจะทำท่าทางตื่นเต้นมากแล้วก็บอกว่าเขาต้องการเจอคุณมากแค่ไหน และเขาก็สนใจเรื่อง Chiral Network ด้วยเหมือนกัน แน่นอนว่ามันจำเป็นกับการทำงานและก็ทุกๆอย่างนั่นแหละ ซึ่งชั้นก็แบบกำลังใช้ความคิดทำความเข้าใจกับมันอยู่ การทดลองมันก็โอเคอยู่อ่ะนะ แต่ถ้าเลือกก็อยากจะหาตัวช่วยมาทำให้ทุกอย่างกระจ่างหน่อยก็คงดี จะเป็นอะไรมั๊ยถ้าคุณจะให้เกรียติทำให้มันสมบูรณ์หน่อย 


             Prepper Shelter S37-80 [Cosplayer] - - เชื่อมต่อแล้ว 



                               Cosplayer - - เข้าร่วม UCA 



The  Wandering MC – เฮ้ Sam! ... Sam Bridges ขอต้อนรับสู่บ้านพักฤดูร้อนริมน้ำตกของเรานะ ฮ่าๆๆ แล้วก็ขอบคุณที่แวะมา ผมอยากจะพบคุณมาโดยตลอดเลยล่ะ ..รู้น้าคุณกำลังคิดอะไรอยู่ เพราะหมวกนากของผมหรืออาการดีใจเวอร์ที่ผมได้เจอคุณกันล่ะ? ฮ่าๆๆ หรือว่าทั้งสองอย่าง อันที่จริงแล้วนากอยู่ตระกูลเดียวกับตัววีเซิ่ล ผมก็มีตัววีเซิ่ลในครอบครัวเหมือนกันนะ .. พี่ชายของผมเองแหละ ฮ่าๆๆ พระเจ้า คุณนี่มันโคตรจะอึดเลย เฮ้ คุณรู้มั๊ยว่าตัวนากมันอยู่รอดทั้งที่ไม่ขึ้นบกเลยได้ยังไง ? ใช่แล้ว เพราะมันกิน นอน และทำทุกอย่างในน้ำไงล่ะ แม้กระทั่งเกิดก็ยังเกิดในน้ำเลย สิ่งเดียวที่มันทำไม่ได้ในน้ำก็คือ จมน้ำ นั่นแหละ ฮ่าๆ อ่า... ช่างเถอะ คุณควรรับหมวกนากนี่ไว้นะ มันอาจช่วยคุณตอนเดินทางได้ ไม่ต้องห่วงนะ ผมมีอีกอันนึงอ่ะ ฮ่าๆ ....



หมวกฮู๊ดนี่ Cosplayer คู่หูผมทำเองกับมือเลยนะ เธอสุดยอดอยู่แล้ว นั่นผ้าไหมเลยนะ เย็บ 3 ครั้งเพื่อความคงทน ใส่มันซะสิ และคุณก็จะไม่ต้องกลัวแม่น้ำที่ไหลเชี่ยวอีกต่อไปเว้นแต่คุณจะกลัวว่าใส่แล้วจะดูเซ็กซี่เกินไปอ่ะนะ ฮ่าๆๆ

 
                Otter Hood เมื่อสวมใส่แล้วจะทำให้สามารถต้านทานกระแสน้ำเชี่ยวได้มากขึ้น


จากนั้นก่อนออกจาก Cosplayer รับ Standard Order จาก Cosplayer ในภารกิจย่อย 391 Delivery: Top Quality Underwear เพื่อนำส่งสินค้า High performance Underwear 2 ชิ้นไปยัง Distribution Center South of Lake Knot City


         เมื่อเสร็จงานแล้วจะทำให้สามารถสร้างรถบรรทุกแบบ Long Range (LV1) มาใช้งานได้


                                      [Order No. 36] 

                              Retrieval: Sticky Gun



ภารกิจนี้คือการเดินทางไปชิงเอาสินค้าซึ่งก็คือ ปืน Sticky Gun ที่อยู่กับตัวพวก MULE กลับมาแล้วนำส่งไปยัง ที่ Lake Knot City โดยแซมจะได้รับปืน Sticky Gun สำหรับใช้ในงานนี้ด้วย


Sticky Gun คือ ปืนที่มีเส้นลวดติดกับยางเหนียวสำหรับยิงไปที่สินค้าที่อยู่ระยะไกลเพื่อดึงเข้าเอามาหาตัว ซึ่งเอาไว้ใช้ในหลายกรณีคือ
- ใช้ดึงสินค้าที่ลอยอยู่ในน้ำหรืออยู่ในพื้นที่ไกลๆหรือพื้นที่ไปไม่ได้
-ใช้ดึงสินค้าออกจากตัวพวก MULE แบบขโมยมาโดยไม่ให้มันรู้ตัวได้ แม้ในความเป็นจริงแล้ว ลักษณ์การใช้งานเพื่อชิงสินค้าจากตัวพวก MULE โดยมันไม่รู้ตัวนั้น ทำได้ยากมาก็ตาม


การใช้งานคือ กดปุ่มทิศทางขวาเข้าเมนูของใช้เลือกใช้ Sticky Gun กด L2 เล็งไปที่สินค้าที่ต้องการแล้วกด R2 ดึงมันเข้ามาหาตัว ในขณะสินค้าลอยอยู่ในอากาศสามารถด L2 หรือ R2 เพื่อใช้มือรับเพื่อไม่ให้สินค้าตกกระแทกเสียหายได้


จากนั้นเข้าไปยังแค้มป์ของพวก MULE ที่อยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของ Distribution Center South of Lake Knot City เมื่อเข้ามาในพื้นที่แล้วสแกนสำรวจหาตัว MULE ที่มี ปืน Sticky Gun อยู่ซึ่งสามารถเห็นได้จากเครื่องหมายดาวที่หัวของมัน จัดการ ชิงปืน Sticky Gun จาก MULE มา ซึ่งคุณอาจไม่ต้องใช้ Sticky Gun ก็ได้เพราะคุณสามารถจัดการ MULE ด้วยวิธีต่างๆที่ถนัดเพื่อชิงเอา Sticky Gun จากพวกมันมา (1 ชิ้นหรือทั้งหมด 6 ชิ้นก็ได้) แล้วก็นำส่งมาที่ Lake Knot City ได้เลย


Die-Hardman – ผู้คนที่อยู่ด้านล่างของ South Knot City ต่างก็ต้องใช้ชีวิตอย่างยากลำบากหลังจากถูกผู้ก่อการร้ายโจมตีครั้งล่าสุด พวกเขาไม่เคยได้รับเสบียงหรือของยังชีพมานานมากแล้ว ถึงแม้ว่ายังไม่ถึงขนาดกับอดอยาก อย่างน้อยก็ไม่ใช่ตอนนี้ แต่ผู้คนต่างก็เริ่มวิตกกังวลและรู้สึกไม่สบายใจกันหมดแล้ว เราต้องการให้คุณนำส่งสินค้ามากเท่าที่คุณจะทำได้ไปให้พวกเขา ทั้งอาหาร อ็อกซิเจน และสิ่งสำคัญในการดำรงชีพต่างๆ เมล็ดพันธิ์ ไส้เดือน แมลงที่มีโปรตีน สารเคมี เกษตรอินทรีย์ อาวุธที่ใช้ต่อสู้กับพวก BT ทุกๆอย่างที่ไม่สามารถส่งผ่าน Chiral Printer ไปตามเครือข่ายได้ การขนส่งของคุณจะเป็นการบอกไปถึงพวกเขาว่า เขายังเป็นส่วนหนึ่งของประเทศอยู่ มันจะช่วยให้ความหวังกับพวกเขา และถ้ายิ่งคุณทำให้เชื่อมต่อกับ Chiral Network ด้วยล่ะก็จะยิ่งดีมากๆเลย แล้วก็มีบางอย่างที่ยังรบกวนใจผมอยู่ Fragile ได้ทำการตรวจสอบเมื่อไม่นานมานี้ เธอบอกว่า เนื่องจากเกิดความไม่เสถียรกับชายหาด เธอจึงมีปัญหาในการกระโดดข้ามช่องว่างของเวลา ซึ่งเธอคงไม่สามารถช่วยพาคุณโดดข้ามสถานที่ได้ในตอนนี้ ถ้าคุณอยากจะฟังเรื่องราวอะไรเพิ่มเติมก็ลองไปฟังจากปากเธอเองนะ ตอนนี้ Fragile เธออยู่ที่ Distro Center ทางใต้ของ Lake Knot City ผมส่งพิกัดไปให้คุณแล้ว ลองดูเองแล้วกัน ยังไงซะตอนนี้ความหนาแน่นสสาร Chiral ดูเหมือนจะเพิ่มขึ้นไปทั่วพื้นที่  ขณะนี้เรากำลังพิจารณาถึงผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นกับฟังก์ชั่นของ Q-pid แต่คุณไม่ต้องกังวลหรอกนะ ทำงานของคุณให้ดีที่สุดก็พอ ทางนี้เราจะจัดการกันเอง


                            + เพิ่มเติมไอเทมใหม่ที่สามารถสร้างได้ใน Delivery terminals
                             - Sticky Gun


--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------




ก่อนจะรับ Order นี้ซึ่งจะเป็นภารกิจสุดท้ายก่อนจะจบบทที่ 3 เพื่อความสมบูรณ์ของพื้นที่ และ ความสะดวกในการเดินทาง คุณจำเป็นต้องสร้างถนนเชื่อมต่อจากทิศเหนือลงมายังทิศใต้ให้เสร็จด้วย


---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

[UPDATE] รับคำสั่งของภารกิจหลักใน Delivery Terminal ที่ Lake Knot City
[Order No. 38] Emergency Provisions Delivery : South Knot City

---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------


                                 [Order No. 38] 

         Emergency Provisions Delivery : South Knot City



ภารกิจนี้คือการนำส่งสินค้าจำเป็นต่างๆจำนวน 9 ชิ้นน้ำหนักรวม 59.7 ก.ก จาก Lake Knot City ไปยัง South Knot City แต่ในขณะกำลังโหลดสินค้าเพื่อเตรียมออกเดินทาง Sam ก็พบกับเรื่องไม่คาดฝันขึ้น


???? – โอ้ เอ่อ คุณคือ Sam Bridges หรือเปล่าครับ ผมเข้าใจถูกมั๊ย? ผมต้องขอโทษด้วยนะที่ระบบมันดันมาขัดข้องเอาตอนนี้ซะได้ คือ เอ่อ มันมีแพคเกจนึงที่ถูกตัดออกจากคำสั่งเนื่องจากระบบประมวลผลมันรวน มันเขียนชื่อลูกค้าไว้ว่าเป็นของ Fragile อ่ะครับ



???? –  และ เหมือนมีบางคนติดป้ายแท็กสองครั้งเพื่อให้ระบบไม่สามารถบอกได้ว่าเป็น Fragile Express หรือ Bridges ... ยังไงซะก็ต้องขอโทษด้วยนะครับที่ทำให้ล่าช้า แต่ก็ระวังหน่อยล่ะเพราะสิ่งนี้เป็นของ Fragile โอเค นะ 


Small Thermouclear Weapon คือสินค้าชิ้นที่ 10 ที่แซมได้รับเพิ่มมา เพราะมีการติดป้ายแท็กผิดพลาดจนทำให้หาที่อยู่ผู้รับไม่ได้ แต่เนื่องจากมีเขียนชื่อไว้ว่ามันเป็นของ Fragile เมื่อแซมรับมาอย่างเสียไม่ได้ เขาจึงต้องนำส่งมันไปให้ Fragile ซึ่ง Die-Hardman เคยบอกไว้ก่อนหน้านี้ว่าตอนนี้เธออยู่ที่  Distribution Center South of Lake Knot City ซึ่งเป็นทางผ่านก่อนจะไปที่ South Knot City ตามคำสั่งหลักที่รับมา


จากนั้นออกเดินทางพร้อมกับสินค้าที่รับมาทั้งหมดจาก Lake Knot City ไปยังDistribution Center South of Lake Knot City ก่อนเพื่อนำส่งสินค้าไปให้ Fragile โดยการเข้าพักที่ห้องพักส่วนตัว Private Room


ในขณะที่แซมกำลังพักผ่อนจากความเหนื่อยล้า อยู่ๆก็นึกขึ้นมาถึงหน้าตาของเจ้าหน้าที่ของ Bridges ที่เอาสินค้าที่มีปัญหาให้เขานำส่งมาให้ Fragile นั้น


หน้าตาและท่าทางไม่ต่างกับ Higgs เลยจนต้องสะดุ้งตื่นขึ้นมา เพราะเริ่มมั่นใจว่า คนที่ให้สินค้านั่นมาคือ Higgs หัวหน้ากลุ่มผู้ก่อการร้ายแน่นอน


Fragile – แซม เกิดอะไรขึ้น !?
Sam – Fragile ? เจ้าหมอนั่นเป็นมันจริงๆด้วย !
Fragile – คุณพูดเรื่องอะไรเนี่ย?
Sam – มันมีสินค้าชิ้นนึงที่ส่งถึงคุณที่ผมนำส่งมาจาก Lake Knot 
Fragile – เดี๋ยวนะ ชั้นยังไม่ได้สั่งสินค้าอะไรมาเลยนะ !
Sam – มันบอกเธอเป็นคนส่งถึงตัวเธอเอง ตอนนั้นระบบมันล่มพอดี แล้วเจ้าหน้าที่คนนั้นก็เอามายื่นให้ผม 
Fragile – ใคร? เจ้าหน้าที่คนไหน?
Sam – ประเด็นคือ มันนั่นแหละคือ Higgs !
Fragile – เอาล่ะ ชั้นต้องตรวจสอบสินค้านั่นเดี๋ยวนี้เลย !!





Fragile – ห๊ะ ! นั่นมันระเบิดนิวเคลียร์นี่ !! เอาอีกแล้วหรอ ไอ้บ้านั่นจะทำแบบนี้กับชั้นอีกแล้ว! บ้าเอ้ย เวลาก็ตั้งเอาไว้แล้วด้วย ชั้นคงหยุดมันไม่ได้แล้วล่ะ เรามีทางเลือกเดียวตอนนี้ แซม เราต้องเอามันไปทิ้งที่ทะเลสาปขนาดใหญ่ใกล้ๆกับ South Knot มันเป็นบ่อน้ำมันดิบที่ลึกมากๆ ถ้าเราเอามันไปโยนทิ้งที่นั่นก็คงพอมีโอกาสอยู่บ้าง รีบเลยแซม !!

คำสั่งใหม่ที่ถูกเพิ่มเข้ามาระหว่างภารกิจนำส่งสินค้าไปยัง South Knot City คือคำสั่งด่วนที่แซมต้องเอาระเบิดนิวเคลียร์ที่ปะปนมากับสินค้าไปทิ้งที่บ่อน้ำมันดิบให้เร็วที่สุดก่อนที่เวลานับถอยหลังของมันจะหมดลงแล้วระเบิดทุกอย่างจนพินาศหมด


แซมมีเวลาเพียง 20 นาทีที่จะไปถึงที่นั่น เส้นทางที่ใกล้ที่สุดคือ ใช้เส้นทางด้านหลัง Distribution Center South of Lake Knot City มุ่งไปยังเนินเขาของ Junk Dealer แล้วเลาะไปทางสันเขาด้านซ้ายเพื่อไปยังบ่อน้ำมันดิบ


เมื่อมาถึงแล้วก็เรียนรู้การโยนสินค้า ด้วยการเลือก ระเบิดนิวเคลียร์ เอาไว้ในมือขวาของแซมด้วยการกดปุ่ม R2 ค้างเอาไว้ จากนั้นกดปุ่มสี่เหลี่ยมที่เป็นท่าฟาดสิ่งของในมือพร้อมๆกับปล่อยปุ่ม R2 ที่กดค้างไว้ก็จะเป็นการขว้างสิ่งของที่อยู่ในมือออกไปได้  **  ซึ่งที่นี่ก็เป็นสถานที่เหมาะที่สุดในการใช้กำจัด ขยะ Chiral (Chiral Waste) ด้วยเช่นกัน **




Fragile – พระเจ้า ..เส้นยาแดงผ่าแปดเลยนะ คุณเพิ่งช่วยเมืองและผู้คนมากมายเอาไว้รู้มั๊ย มากกว่าที่ชั้นเคยทำเอาไว้เยอะมาก ..
Sam – บางทีมันอาจไม่มีทางช่วย Middle Knot ได้ แต่ที่ South Knot ยังอยู่รอดได้ก็เพราะคุณกับผม



              Sam -  ตกลง มันเกิดอะไรขึ้นกับคุณกันแน่ ?


Fragile – ตอนที่ชั้นรู้ว่า Higgs มันกำลังวางแผนอะไรอยู่ ระเบิดนิวเคลียร์ก็อยู่ที่ประตูเมืองแล้ว ชั้นพยายามติดตามรถขนระเบิดและหาทางที่จะทำยังไงที่จะเอาระเบิดไปไว้ในที่ที่ปลอดภัย แต่ Higgs รู้ทันก่อนแล้วว่าชั้นจะทำอะไร พวกมันจับชั้นได้ที่ด้านนอกประตูเมือง ในมือก็อุ้มระเบิดนิวเคลียร์เหมือนกับอุ้มทารก เพื่อลงโทษและป้องกันไม่ให้ชั้นต่อสู้ขัดขืน แล้วจากนั้นเขาก็เริ่มทำให้ฝนตกลงมา







Higgs – ฟังนะ Fragile ชั้นมีขอเสนอให้เธออย่างนึง เธอต้องการจะใช้ชีวิตทั้งๆที่ก็รู้ว่าอะไรๆมันไม่ปกติแบบนี้จริงๆหรอ? หรือว่าเธอจะแก้ไขในส่วนที่มันเคยเสียหายให้ดีขึ้นล่ะ ?
Fragile – เข้าประเด็นได้แล้ว !



Higgs – ก็ได้ .. ถ้าเธออยากจะหนีเอาตัวรอดเธอก็แค่ จัมป์ ! ไปซะ แต่ถ้าเธอเห็นแก่คนส่วนใหญ่ เธอก็ต้องอุ้มระเบิดนิวเคลียร์ของชั้นไปที่หลุมลึกนั่นแล้วเขวี้ยงมันทิ้งลงไปซะ แน่นอน เธอก็จะกลายเป็นผู้กอบกู้บ้านเมืองไปในทันทีเลย แต่ว่าเธอจะต้องแก้ผ้าเดินถือระเบิดตากฝน Timefall ไปที่นั่นเองนะ เธอต้องยอมเสียเวลาตัวเองมากหน่อยเพื่อเมืองเล็กๆแบบนี้ แต่แม่งเป็นการแลกเปลี่ยนที่ยุติธรรมาเลยสำหรับชั้นอ่ะนะ 



Higgs – เธอเห็นมั๊ย ความจริงก็คือ ชั้นไม่ค่อยสนใจเรื่องหน้าตาของชั้นเท่าไหร่ เพราะงั้นชั้นถึงเลือกที่จะปิดบังใบหน้าไว้ยังไงล่ะ แต่กับเธอ เธอต้องรักมันมากแน่ๆเลย ใช่มั๊ยล่ะ? พนันได้เลยว่าพ่อเธอต้องภูมิใจแน่นอน  สัญญาว่าชั้นจะไม่ทำให้มันวุ่นวายอะไรมากหรอก ฟังนะ ชั้นต้องหน้าตาเธอเป็นตัวแทนของเจตจำนงค์ของชั้นเลยนะ 



Fragile – ทำไมแกถึงทำแบบนี้ ? ทำไมถึงต้องทรยศชั้นด้วย !?
Higgs – เพราะว่าชั้นเจอใครคนนึงที่ทำให้ชั้นสมบูรณ์แบบน่ะสิ ใครคนนึงที่ไม่ต้องการชั้นมัวแต่สวมหน้ากาก ..หัดคิดเอาเองบ้างสิแม่คนฉลาด ! และแม้ว่าเธอจะช่วย South Knot เอาไว้ได้ เธอก็ยังเป็นนังบ้าที่เป็นต้นเหตุของการระเบิดทำลาย Middle Kont อยู่ดีนั่นแหละ หน้าสวยของเธอยังไงก็ต้องถูกจดจำในฐานะหน้าของผู้ก่อการร้ายตลอดอยู่ดี และพวกเขาจะไม่มีวันเลิกตามล่าเธอ เชื่อชั้นเหอะ ชั้นรู้ดี  พวกเขาอาจดูถูกเธอได้แต่เธอก็ยังสามารถทำลายวังวนนี้ได้อยู่นะ 


Higgs – อ่า เป็นไปได้ยังไงเนี่ย ฝนตกพอดีเลย และเธอจะเป็นยังไงน้า 
Fragile – ตัวชั้นอาจเสียหายได้ แต่สินค้า ... ชั้นจะไม่ยอมให้มันเกิดขึ้นง่ายๆแน่นอน



Higgs – ฮ่าๆ งั้นก็ขอให้โชคดีก็แล้วกันนะ 
Fragile –ตัวชั้นอาจเสียหายได้ แต่สินค้า ... ชั้นจะไม่ยอมให้มันเกิดขึ้นง่ายๆแน่นอน





Fragile –ตัวชั้นอาจเสียหายได้ แต่สินค้า ... ชั้นจะไม่ยอมให้มันเกิดขึ้นง่ายๆแน่นอน เพราะว่าชั้นคือ Fragile แต่ชั้นจะไม่มีวัน อ่อนแอ ตามความหมายนั้นแน่นอน 








Sam – อย่างนี้นี่เอง .. คุณนี่แม่งโคตรจะฮีโร่เลย คุณทำในสิ่งที่ถูกต้องแล้ว สิ่งนี้ควรจะเป็นของคุณมากกว่านะ



Fragile – ชั้นไม่ใช่ฮีโร่หรอกแซม อย่างกับชั้นมีทางเลือกงั้นแหละ? มันทำให้ชั้นมีแต่ความเสียใจตั้งแต่นั้นมา สิ่งที่ชั้นต้องทำก็แค่ กระโดด และชั้นก็จะสามารถช่วยตัวเองให้รอดได้
Sam – แต่คุณก็เลือกที่จะช่วยเมืองแทน ยิ่งกว่านั้น คุณยังให้ความหวังกับผู้คนอีกด้วย 
Fragile – ตอนนี้มีแค่คนเดียวเท่านั้นแหละที่เหลืออยู่ให้ชั้น ช่วย ชั้นจะทำให้ Higgs ต้องเสียใจกล้ามาท้าทายชั้น
Sam – ด้วยการฆ่ามันงั้นหรอ?
Fragile – ชั้นทำแบบนั้นไม่ได้หรอก ตอนนี้พลังของมันกล้าแกร่งกว่าเมื่อก่อนมากๆ แต่คุณจัดการมันได้ คุณทำได้ สัญญากับชั้นสิ สัญญากับชั้นว่าคุณจะไว้ชีวิตมัน เพราะชั้นมีบางอย่างจะถามมันต่อหน้าหน่อย 
Sam – แต่ผมไม่คิดว่าคุณจะมีความสามารถในการทรมานนะ 
Fragile – ตอนนี้มีแล้ว และชั้นต้องรู้ให้ได้ว่าทำไมมันถึงทรยศชั้น !  



Fragile – กินนี่หน่อยมั๊ย?  ...แล้วก็อย่าลืมว่ามีสินค้าต้องส่งไปยัง South Knot city ต่อด้วยล่ะ แซม 


เมื่อเสร็จเรื่องแล้ว เดินทางนำส่งสินค้าหลักที่ยังค้างอยู่ไปที่ South Knot city ด้วยการขี่รถอ้อมบ่อน้ำมันดิบลงมายังทิศใต้จนสุดก็จะพบ South Knot city


                                                 South Knot city



Owen Southwick – ดีใจที่เจอนายนะเพื่อน ที่นี่ยังมีผู้บาดเจ็บอีกมากที่กำลังต้องการของเหล่านี้อย่างที่สุด ถ้าได้ของปริมาณที่มากขนาดนี้ คงจะสามารถแบ่งปันให้ทุกคนได้อย่างทั่วถึงแน่นอน เราซึ้งน้ำใจคุณมากๆเลย แล้วเรื่องเครือข่าย Chiral Network ทำงานได้แล้วนี่มันเป็นความจริงใช่มั๊ย? ผมแทบไม่อยากเชื่อเลยจริงๆ รู้สึกกำลังฝันไปเลยจริงๆนะ ถ้ามันไม่ใช่ความฝัน เราก็ต้องการจะเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของมันตอนนี้ได้เลยครับ



                               South Knot city - - เชื่อมต่อแล้ว 



                             Owen Southwick - - เข้าร่วม UCA 

+ เพิ่มเติมไอเทมใหม่ที่สามารถสร้างได้ใน Delivery terminals
- Handgun (LV1)
- Assault Rifle (LV1)
- Grenade
+ ข้อมูลการสัมภาษณ์ใหม่
The Situation After the First Death Stranding incident
No Blue in the Tnverted Rainbow



Owen Southwick – ผมคิดว่าเราคงไม่มีทางอยู่รอดได้ถ้าไม่ได้รับการช่วยเหลือจากโลกภายนอก เครือข่าย Chiral Network เป็นอะไรที่แตกต่างอย่างมาก มันสามารถช่วยซ่อมแซมสิ่งต่างๆได้มากมายเลย นั่นทำให้เราสามารถกลับมาทำหน้าที่ของเราได้เหมือนเดิมได้แล้ว คุณได้ให้ของขวัญที่ล้ำค่ากับเราอย่างที่คุณคิดไม่ถึงเลยล่ะ หลังจากที่เราสูญเสีย Middle Knot City ไป มันก็เริ่มรู้สึกได้ว่าความรุนแรงมันจะยังคงมีต่อไปอีกแน่นอน ผมทำงานหนักทุกวันและคิดเสมอว่าอยากจะให้มันเป็นงานสุดท้ายของพวกเราซักที แต่ยังไงก็เถอะ เรากลับมาแล้ว จะด้วยเพราะอะไรก็เถอะ เอาจริงๆแล้วผมไม่เชื่อเรื่องปาฎิหารหรือดวงอะไรนั่นหรอกนะ ผมเชื่อในผู้คน ซึ่งผู้คนนั่นแหละที่ช่วยชีวิตพวกเรา เหมือนอย่างที่คุณทำในวันนี้ ตอนนี้ก็ถึงตาเราจะทำเหมือนกันกับคนอื่นๆบ้างแล้ว 



Die-Hardman – ทำดีมากแซม ผมเห็นของที่คุณนำส่งมาแล้ว ซึ่งผมคงไม่ต้องบอกว่า คุณเองก็สามารถใช้ประโยชน์จากสิ่งที่คุณขนส่งมาได้เหมือนเดิม



Amelie – ขอบคุณมากแซม พี่ได้ช่วย South Knot city และนำผู้คนมารวมกันอีกครั้ง พี่มาถึงครึ่งทางแล้วนะ ครึ่งทางที่จะทำให้เราได้รวมกันเป็นหนึ่งอีกครั้ง ฟังนะ ชั้นมีบางอย่างจะบอก 

Die-Hardman – แซม ตอนนี้สัญญาณการสื่อสารจาก Amelie อ่อนลงมาก เราใช้เส้นทางการสื่อสารกับเธอด้วยระบบเก่า มันน่าจะมีปัญหากับขอบเขตการสื่อสาร เดี๋ยวผมจะไปตรวจสอบเอง และก็หวังว่าคงไม่อะไรที่ต้องห่วงอ่ะนะ 



Mana – แซม ชั้นตรวจจับพบสัญญาณ chiral spike ที่วัดได้เกินระดับทั่วไปอยู่ใกล้ๆกับตำแหน่งที่คุณอยู่เลย มันอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้การสื่อสารเกิดขัดข้องอย่างกะทันหันก็ได้นะ 
Die-Hardman – ไม่ว่ามันจะคืออะไรก็ตาม ถ้ามันจะทำให้เกิดภัยคุกคามต่อเมืองต่างๆของเรา ก็คงต้องออกไปตรวจสอบดูทันที






-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

                                     Interview Data


     เรื่อง – The Situation after the First Death Stranding incident
                        บันทึกเมื่อ 3 ปีก่อน ที่ Bridges HQ
                                 โดย Die-Hardman

มีการระเบิดครั้งใหญ่มาแล้วหลายครั้ง แต่ไม่เคยเกิดพร้อมกันทั่วโลกแบบนี้ โครงสร้างการติดต่อสื่อสารขั้นพื้นฐานทั่วโลกล่มสลายไม่เหลือ เรากอบกู้สิ่งที่สามารถทำได้ไปพร้อมๆกับพยายามทำความเข้าใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น ซึ่งเราก็ไม่ได้เข้าใจอะไรเกี่ยวกับมันมากเท่าตอนนี้แต่สภาพแวดล้อมโดยรวมนั้นดีกว่าตอนนี้มากๆ
.
อย่างไรก็ตาม ตอนนั้นรัฐบาลคิดว่าสิ่งทั้งหมดที่เกิดขึ้นคือการโจมตีของผู้ก่อการร้าย ทำให้เราต้องหาทางออกมากมายเพื่อรับมือกับมัน แต่ไม่นานเราก็รู้ว่ามันไม่ใช่อย่างที่เราคิด มันเป็นอย่างอื่น หลุมอุกกาบาตที่เกิดจากการระเบิดนั้นแปลกประหลาด มันไม่มีเศษหินเศษอิฐ ไม่มีแม้ฝุ่นละอองอะไรเลย ทำให้นักวิทยาศาสตร์ตัดแนวคิดที่ว่ามันเกิดจากอุกกาบาตตกใส่โลกออกจากตัวเลือกความเป็นไปได้ แม้เราจะพบร่องรอยการแพร่กระจายของรังสีนิวตรอนและรังสีอัลฟาแต่เราก็รู้ดีว่ามันไม่ได้เกิดจากระเบิดนิวเคลียร์เช่นกัน อนุภาคบางตัวที่เราตรวจพบเราไม่เคยเห็นมาก่อน ซึ่งตอนนั้นเรายังไม่รู้ว่ามันคือ chiralium ทำให้เราต้องศึกษาหาคำตอบอย่างหนัก ยิ่งเราศึกษามากเท่าไหร่นักวิทยาศาสตร์ของเราก็ยิ่งได้ข้อสรุปที่ตรงกันถึงสาเหตุของเหตุการณ์การทำลายล้างที่เกิดขึ้นในเบื้องต้นว่า เมฆหมอก chiral clouds ที่ก่อตัวขึ้นหลังเกิดเหตุทำลายล้างนั่นเป็นตัวที่ทำให้ระบบการสื่อสารทำงานได้ไม่ดีเหมือนเดิม


                     เรื่อง – No Blue in the Tnverted Rainbow
                          บันทึกเมื่อ 1 ปีก่อน ที่ Bridges HQ
                                      โดย – Deadman

มนุษย์เราเป็นสิ่งมีชีวิตหลายเซลล์ (multicellular organism) ที่มีความซับซ้อนมาก เซลล์หกสิบล้านล้านเซลล์ที่อยู่ในตัวพวกเราแต่ละคน พวกเขาบอกว่า เซลล์เหล่านี้หลายเซลจำเป็นต้องตายเพื่อให้เราตัดสินได้ว่าคนๆได้ตายไปแล้วงั้นหรอ? แล้วมีเซลล์ใดเป็นพิเศษที่กำหนดได้ว่าบุคคลนั้นมีชีวิตอยู่หรือตายไปแล้วหรือเปล่า?  คำถามเหล่านี้เป็นคำถามเชิงวิชาการ แน่นอนล่ะ ..เราไม่สามารถกำหนดว่าใครตายด้วยการนับเซลล์  ในทางกลับกันไม่มีใครสามารถปฏิเสธว่า โรคความเสื่อมที่ค่อยๆทำลายเซลล์มากขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้ผู้ป่วยตายอยู่ในสภาพครึ่งเป็นครึ่งตาย แล้วตัวผมล่ะ? อวัยวะส่วนใหญ่ของผมได้รับมาจากคนอื่น แน่นอนว่าอวัยวะพวกนี้ยังทำงานได้ดีอยู่ แต่เจ้าของดั้งเดิมของมันจะเรียกว่ายังมีชีวิตอยู่ได้งั้นหรอ?ผมก็ไม่รู้จริงๆนะ


คุณเคยได้ยินเรื่องการทดลองสนุกๆที่พวกเขาเคยทำกับพยาธิตัวกลมที่เรียกว่า C. elegans มั๊ย? สิ่งมีชีวิตเหล่านี้จะเรืองแสงสีฟ้าสดใสออกมาตอนมันกำลังจะตายเมื่อสัมผัสกับแสง UV  ดูเหมือนว่าจะเป็นปฏิกิริยาจากกรด Anthranilic ภายในสิ่งมีชีวิต ซึ่งเรามักจะรู้จักดีในชื่อ  death fluorescence ใช่ ตามนั้น สีน้ำเงินน่าจะเป็นสีของความตาย คิดว่างั้นนะ

ดังนั้นมันจะเป็นเรื่องบังเอิญจริงๆหรือที่ไม่มีสีน้ำเงินในสายรุ้ง? ฝน Timefall จะตกหนักขึ้นในพื้นที่ที่สามารถเชื่อมต่อกับชายหาดได้ นี่เป็นสิ่งที่เกิดจากอนุภาค chiral ถูกกระตุ้น ผมเชื่อว่า ในพื้นที่ที่มีการเชื่อมต่อกับชายหาด คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าที่มีช่วงความยาวคลื่นเป็นสีน้ำเงินนี้จะสามารถเดินทางผ่านทะลุผ่านช่วงรอยต่อ (Seam) ได้อย่างง่ายดาย บางคนคิดว่าจุดที่สีน้ำเงินนั่นมาจากรุ้งที่กลับหัวไป ใครจะรู้? ไอ้ที่ว่าสีน้ำเงินนั้นสามารถเชื่อมโยงกับความตายได้อย่างดีเยี่ยมนั้นมันอาจจะจริงก็ได้

--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------


                                        Episode 4: UNGER






แซมถูกพายุที่ไม่ทราบที่มาพัดหอบมายังสถานที่ที่ไม่รู้จักในทันทีที่ออกมาด้านนอก South Knot city พอมารู้สึกตัวอีกทีหลังจากที่ตั้งสติดีๆ แซมรู้ทันทีว่าตอนนี้เขาอยู่ท่ามกลางสนามรบ พร้อมกับการสัมผัสรู้ถึงพลังบางอย่างที่ไม่ต่างจากพวก BT อยู่เต็มพื้นที่ไปหมด



         

หลังจากที่ทำใจยอมรับสิ่งที่เห็นตรงหน้าแม้ว่ามันไม่ควรจะเกิดขึ้นได้ จากสิ่งที่เห็นอยู่ตรงหน้า ทหารของทั้งฝ่ายที่ไม่รู้ที่มากำลังทำสงครามห่ำหั่นสาดกระสุนใส่กันจนวุ่นวายไปหมด ก่อนที่จะหาคำตอบที่มากมายในใจอยู่ตอนนี้ แซมก็เริ่มตัดสินใจที่จะกระทำสิ่งที่สำคัญเป็นอันดับแรกก่อนนั่นคือ ออกจากสนามรบแห่งนี้ให้เร็วที่สุดเพื่อความปลอดภัย


                                               [Order No. 39] 

                           Escape the Battlefield



ภารกิจแรกที่ต้องทำคือ เดินผ่านสนามรถเข้าไปด้านในเป้าหมายคือหนีออกจากพื้นที่สู้รบนี้ และแม้ว่าทหารของทั้งสองฝ่ายจะไม่มุ่งโจมตีมาที่แซม แต่ห่ากระสุนที่ปลิวว่อนไปตลอดทางก็ทำให้แซมบาดเจ็บได้เหมือนกันโดยเฉพาะลูกกระสุนจากปืนใหญ่ที่ยิงเข้ามา ในพื้นที่ไม่มีอะไรต้องสนใจใครสำรวจอะไรมาก พยายามเคลื่อนไหวด้วยความเร็วที่คงทีโดยไม่ต้องวิ่งด้วยความเร็วก็จะพ้นจากกระสุนต่างๆจนพ้นออกจากพื้นที่นี้ได้ไม่ยาก






เมื่อพ้นจากพื้นที่ของสนามรบแซมจะเข้ามาถึงพื้นที่สนามเพลาะ ซึ่งน่าจะมีความปลอดภัยมากกว่า แต่ทันทีที่เข้ามาถึงก็เริ่มรู้สึกได้ถึงพลังงานคลั่งแค้นของชายปริศนาคนนึงที่คล้ายคลึงกับหัวหน้าทหารที่กำลังเริ่มนำกำลังทหารของเขาออกไล่ล่าค้นหาแซมในทันที

เป้าหมายของภารกิจนี้คือการไล่ล่าตามหาชายปริศนาและจัดการมันซะ โดยภารกิจนี้จะเป็นการยิงต่อสู้แบบเต็มรูปแบบจึงสามารถเลือกใช้ Handgun , Assault Rifle หรือGrenade ซึ่งเป็นอาวุธรุนแรงที่พกมาและที่มีตกอยู่ระหว่างทางได้อย่างเต็มที่ งานนี้รบจริงเจ็บจริง อย่าลืมเตรียม equip Blood Bag ที่มีเอาไว้ให้เรียบร้อยเพื่อให้มันเป็นตัวฟื้นฟูเลือดขณะที่โดนยิงบาดเจ็บ และสามารถหยิบกินหนอน Crytobiotes เพิ่มเลือดได้ด้วย

        

Combat Veteran ชายปริศนาที่มาพร้อมทหารติดตามพร้อมอาวุธครบมือคือสิ่งที่แซมต้องรับมือซึ่งสามารถใช้ตัวสแกนรับรู้ทิศทางการมาถึงของมันได้ หาทางเอาตัวรอดจัดการมันให้ได้ด้วยอาวุธที่มีเน้นจัดการตัว  Combat Veteran เป็นหลัก โดยมันจะสามารถตายและพื้นขึ้นมาใหม่ได้หลายครั้ง ซึ่งทำให้แซมต้องจัดการล้มมันหลายครั้งก่อนที่มันจะหมดพลังจนทำให้การต่อสู้ครั้งนี้จบลงจริงๆ







 Mama – แซมได้ยินหรือเปล่า ? 
Sam – อืมม 
Mama – ทุกอย่างโอเคนะ ?
Sam – ตอนนี้ ผมอยู่ที่ไหน 
Mama – ว่าไงนะ ? 
Sam – มันเกิดอะไรขึ้นกับผม?
Mama – ก็คุณออกมาจากอาคารแปบนึงพายุก็มา ก็แค่นั้น ความหนาแน่นของ Chiral ลดลงเร็วเกิน 
Sam – ผมถูกพายุหอบขึ้นไป แล้ว ก็ไปอยู่ในสนามรบ 
Mama – นี่คุณแอบนอนกลางวันรึเปล่าเนี่ยแซม ฝันไปหรอ? การสื่อสารขัดข้องไปแค่แปบเดียวเองนะ 



Sam – ไม่นะ มันนานมากๆเลย ผมเจอไอ้ทหารบ้าคนนึงมันพยายามจะแย่ง BB จากผมไป 
Mama – แล้วแต่เลยแซม ..
Sam – เจ้าตัวน้อยนี่ก็ช่วยผมด้วย
Mama – แซม มันแค่แปบเดียวหลังจากที่เราคุยกันเมื่อกี้เองนะ 
Sam – ไม่ใช่แน่นอน ผมรู้สึกว่ามันนานเป็นชั่วโมงเห็นจะได้ 
Mama – บางทีคุณอาจจะเผลอหลับไปก็ได้ 
Sam – ช่างมันเถอะ ... เดี๋ยวผมเข้าไปหาคุณก็แล้วกัน 
Mama – โทษทีนะที่ชั้นออกไปหาคุณเองไม่ได้ ครึ่งทางยังไม่ได้เล๊ย 
Sam – ผมเข้าใจ เพราะพวกเด็กๆ ใช่มั๊ย?
Mama – ระวังตัวด้วยนะแซม ชั้นรอคอยวันที่จะได้เจอคุณมาตั้งแต่ชั้นเข้าร่วมกับ Bridge เลยนะ



Die-Hardman – แซม คุณต้องเดินทางต่อไปยังห้องทดลองของ Mama เธอเป็นส่วนหนึ่งของ Q-pid R&D team เธอกังวัลเกี่ยวกับเรื่องการเอาตัวรอดแบบยังยืนมาตั้งแต่แรกแล้ว ซึ่งเธอรู้สึกว่า Q-pids ยังมีข้อบกพร่องขั้นพื้นฐานอยู่ ซึ่งอาจอธิบายปรากฏการณ์แปลก ๆ ที่คุณเจอเมื่อกี้รวมทั้งเรื่องความหนาแน่นของ chiral ที่มีระดับผันพวนอย่างรวดเร็วได้ คุณลองแวะเข้าไปคุยกับเธอดูก็แล้วกันนะ 


แต่ก่อนที่แซมจะเดินทางเข้าไปหา Mama ที่ห้องทดลองของเธอตามคำแนะนำของ Die-Hardman ลูกค้าจาก Personal Shelter S23-84 ปริศนาที่ชื่อ Peter Englert ก็เมลมาสั่งให้แซมส่งพิเศษให้เขาอีกครั้งด้วยความติดใจคุณภาพของการบริการ

จากนั้นเข้าไปรับ Orders for sam  [Order No. 40]  [URGENT] Fresh Pizza Delivery: Peter Englert  ที่ South Knot city ได้เลย

               
                                            [Order No. 40] 

            [URGENT] Fresh Pizza Delivery: Peter Englert



เป้าหมายของภารกิจนี้คือ ส่งพิซซ่าด่วนไปให้ Peter Englert ที่ Personal Shelter S23-84 ที่อยู่ตะวันออกทางเหนือของ Preppers Station S23-21 [Craftsman] ให้ทันเวลาที่กำหนดอีกครั้ง

      

ซึ่งก็เหมือนพิซซ่าเป็นสินค้าที่ต้องนำส่งแบบพิเศษเพราะมีความบอบบางเสียหายง่าย โดยต้องจัดเรียงในแนวนอนราบเท่านั้น เพราะถ้าวางในแนวตั้งตรงจะทำให้สินค้าเสียหายอย่างรวดเร็วกว่าปกติ หรือไม่ก็ต้องส่งให้เร็วที่สุดเพื่อลดความเสียหายของสินค้า


และเมื่อนำส่งพิซซ่าที่ Delivery Terminal เรียบร้อยแล้วก็พบแต่เสียงตอบรับคำขอบคุณจาก Peter Englert โดยยังไม่เห็นตัวตนของเขาเหมือนเดิม


จากนั้นเดินทางจาก South Knot city ไปทางตะวันตกเฉียงเหนือเพื่อเดินไปที่ห้องทดลองของ Mama เพื่อคุยกับเธอตามคำแนะนำของ Die-Hardman ได้เลย



                                           Episode 5: MAMA

                                                         MAMA's Lab







                 MAMA – ไม่ต้องกลัวหรอกแซม เธอไม่กัดหรอก ..ยินดีด้วยนะ คุณมาถึงที่นี่จนได้ 



MAMA – เธอก็แค่หิวน่ะ
Sam – ห๊ะ ? อะไรนะ !
MAMA – เธอหงุดหงิด ก็เธอไม่สามารถดื่มนมของชั้นได้แต่ร่างกายชั้นก็ยังผลิตออกมา ก็เลยแสดงท่าทางไม่พอใจแบบนั้นออกมา 
Sam – แล้ว เธอ นี่คือตัวอะไร ..
MAMA – เธอเป็นลูกสาวของชั้นไง แล้วชั้นก็คือ Mama ของเธอ แล้วก็ที่สัญญาณการตรวจจับ BT ของคุณดังก็ไม่ต้องกังวลหรอก เธอเชื่อมต่อแค่กับชั้นคนเดียว เธอไม่เหมือน BT ตัวอื่นๆ คุณเห็นใช่มั๊ย รกที่เชื่อมต่อกับชั้นเนี่ย ตอนนี้คงรู้แล้วใช่มั๊ยว่าทำไมชั้นถึงออกไปไหนไม่ได้ เอาล่ะ มานี่สิ 



MAMA – เกี่ยวกับเรื่อง Supercell ...เอ่อ ขอแบบผู้ใหญ่คุยกันซักแปบนะ ปิด Pot BB ก่อนดีมั๊ย? ขอบคุณ  เอาล่ะ ดูนี่ นี่คือระดีบความหนาแน่นของ Chiral ตอนที่ Supercell ปรากฏขึ้นมา ก่อนที่มันจะเริ่มลดลงเป็นระดับปกติทันทีหลังจากนั้นไม่นาน หรือจะพูดอีกอย่างคือ พายุที่เกิดขึ้นนั่นมันหายไปทันทีภายในเวลาไม่ถึงวินาที 
Sam – เป็นไปไม่ได้หรอก 
MAMA – โอเค งั้นดึงเอาข้อมูลจาก Cuff link มาดูเองเลยล่ะกัน ...เห็นมั๊ย มันฟังดูบ้ามากๆ แต่จริงๆแล้วมันไม่ได้เกิดขึ้นอย่างที่คุณว่าเลย ข้อมูล Timestamps ที่บันทึกไว้มันตอบเรื่องที่คุณว่าได้ทั้งหมด แต่ถ้าจะให้ชั้นเดา ถ้ามันจะเกิดเรื่องแบบนั้นขึ้นจริงๆ คุณอาจเข้าไปติดกับดักที่อยู่ระหว่างช่องว่างของ 2 ปริภูมิ-เวลา (Spacetime) ที่ต่างกันก็ได้ 
Sam –  ปริภูมิ-เวลา ที่ต่างกันหรอ? 
MAMA – ตอนนี้ทาง HQ กำลังทำการวิเคราะห์ในเชิงลึกเกี่ยวกับเรื่องสเปกตรัมความถี่กันอยู่ อย่างน้อยๆพวกเขาก็น่าจะหาคำตอบได้ไม่ยากว่าคุณถูกส่งไปที่ไหนกันแน่ .... ระดับของ Chiral เริ่มเพิ่มขึ้นอีกแล้ว !



MAMA – มันทำเอาเธอร้องตลอดคืนเลย ..ระดับของ Chiral เพิ่มขึ้นเฉพาะในพื้นที่ที่เชื่อมต่อกับเครือข่าย Chiral network เป็นตัวเลขที่สูงกว่าที่ชั้นคาดไว้เยอะเลยด้วย 
Sam – สรุปว่ามันไม่โอเคใช่มั๊ย?
MAMA – ใช่ ยิ่งมีการเชื่อมต่อมากขึ้นยิ่งเพิ่มจำนวนของ Chiralium ให้มากขึ้นตามไปด้วย ซึ่งเป็นปัญหาที่ทาง Bridges ยอมรับตั้งแต่แรกแล้วว่ามันอาจจะเกิดขึ้นได้ ชั้นติดตั้งตัว Limiter พิเศษเอาไว้ใน Q-pids ตัวใหม่แล้วเพื่อจะได้ตรวจสอบระดับของ Chiral ได้ง่ายขึ้น ดูเหมือน Limiter ตัวเก่าของคุณคงจะมีข้อบกพร่องเยอะอยู่ Supercell และ Temporal Phenomena ** อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้คุณเจอเหตุการณ์ที่คุณเจอมาก็ได้ 
Sam – คุณหมายถึง ยิ่งผมขยายเครือข่ายมากขึ้นเราก็จะเจอ ปรากฎการณ์ที่เกิด Temporal Phenomena แบบนี้มากขึ้นงั้นหรอ?

** temporal phenomena เหตุการณ์ที่ได้รับอิธิพลจากความเปลี่ยนแปลงอย่างกระทันหันในระยะสั้นๆทำให้เกิดความล่าช้าของปฏิสัมพันธ์ของคู่สื่อสารเนื่องจากความเร็วในการแพร่กระจายสัญญาณที่ส่งผลกระทบต่อการไหลเวียนของเวลาตามธรรมชาติซึ่งส่งผลทำให้เกิดความไม่มั่นคงของการสร้างภาพและแสดงความคิดที่อาจทำให้เห็นภาพที่ไม่มีจริง
https://www.omnisci.com/learn/resources/technical-glossary/spatial-temporal


MAMA – ก็อาจจะ .. หรือ อาจแย่กว่า ..เราอาจกำลังสร้าง Death Stranding ครั้งใหม่ขึ้นมาด้วยมือของเราเองก็ได้ 
Sam – เอ่อ แต่คุณบอกว่ามีทางแก้ไม่ใช่หรอ?
MAMA – แน่นอน ชั้นมีทางแก้อยู่แล้ว มาทางนี้สิ 



MAMA – อันที่จริง เราก็แค่เอาตัว limiter มาใส่รวมกับ Q-pid อันใหม่ก็แค่นั้นเอง นี่ไง ชั้นทำเผื่อคุณด้วยอันนึงเพราะรู้ว่าคุณกำลังจะแวะมา
Sam – เยี่ยม งั้นเรื่องวิกฤตินั่นก็หมดไปแล้วสินะ 
MAMA – ไม่หรอก ยังไม่หมด เราต้องเขียนซอร์ฟแวร์ใหม่หมดเพื่อใช้ทำงานร่วมกับฮาร์ดแวร์ใหม่ด้วย 



Sam – งั้นก็ไปทำซะสิ  
MAMA – ไม่ชั้นทำไม่ได้นะสิ  ชั้นออกแบบฮาร์ดแวร์ได้แต่ซอร์ฟแวร์มันถูกเขียนขึ้นโดยคนอื่นน่ะสิ 
Sam – งั้น เราจะตามหาตัวเขาได้ที่ไหน?
MAMA –  จริงๆต้องใช้คำว่าเธอ เธอชื่อ Lockne เคยทำงานให้ Bridges คุณต้องไปที่ Mountain Knot city  
Sam – ได้ ยังไงก็ต้องเอา Q-pid ไปที่นั่นอยู่แล้วนี่ 
MAMA –   งั้นก็เยี่ยมเลย



MAMA –   เอาอีกแล้ว ชั้นไม่รู้ว่ามีอะไรเข้ามาหาเธอเมื่อเร็วๆนี้ ดูเธอสิ เหมือนกำลังกลัวมากๆเลย บางทีโลกอีกด้านอาจต้องการให้เธอกลับไป หรือ ไม่เธอก็กำลังอยากจะกลับไปเองก็ได้  เราไม่สามารถอะไรแบบนี้ไว้กับเราได้นานหรอก ชั้นรู้ 
Sam – เธอพอจะเล่าให้ฟังหน่อยได้มั๊ยว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับเธอกันแน่ ?
MAMA –   เธอเกิดขึ้นมาตอนที่ ... ตอนนั้นชั้นกำลังรออยู่ในห้องทำคลอด แล้วพวกผู้ก่อการร้ายก็บุกเข้ามาโจมตี ... แล้วชั้นก็ติดอยู่ในซากตึกนั่น ...


             MAMA –   ฮัลโหล !!! มีใครอยู่ข้างบนบ้างมั๊ย !!? 




ตอนนั้น ชั้นติดอยู่ใต้ซากปรักหักพังของอาคาร ไม่สามารถขยับไปไหนได้เลย ได้แต่ตะโกนให้คนช่วยแล้วก็รอ และรอ ...มันรู้สึกเหมือนนานเป็นชาติเลย แต่ก็ไม่มีใครมาเลยซักคน อย่างน้อยก็ยังพอมีอากาศและน้ำจากฝนอยู่บ้าง 

MAMA –  ช่วยด้วยยย !! ใครก็ได้ช่วยชั้นด้วยยยย ได้โปรดดด !! 



ชั้นไม่รู้เลยว่ามันผ่านไปกี่วันแล้ว น้ำที่เคยหยดลงมาก็เริ่มแห้ง และความหนาวเย็นก็กำลังเข้ามาแทนที่ 

     และแล้วชั้นก็ได้คลอดลูกออกมาที่ใต้ซากปรักหักพังนั่น 
     แต่แทนที่จะนำชีวิตมาสู่โลก ชั้นกลับนำความตายมาแทน





เมื่อไหร่ที่ฝน Timefall เริ่มหยุด ลูกของชั้นก็จะเริ่มร้องไห้ออกมา 
    เธอได้แต่ร้อง ร้อง และร้องตลอด ร้องไม่หยุดเลย แล้วชั้นก็รู้ว่า 
   ชีวิตของเธอคือราคาที่ฉันต้องจ่ายเพื่อความอยู่รอดของตัวเอง 
                                ... เธอช่วยชีวิตชั้น 




??? – ผมได้ยินเสียงเด็กที่ไหนร้องไม่รู้ มาจากทางนั้น !! มาเร็ว ! ทุกคนมาช่วยกันเอาตัวผู้รอดชีวิตขึ้นมาเร็ว !! ช่วยกันขุดเร็วๆ อดทนนิดนึงนะ พวกเรากำลังลงมาช่วยแล้ว !! อีกแปบเดียวเรากำลังจะถึงตัวคุณแล้ว !!



                     MAMA –  ชั้นอยู่ตรงนี้ ! ช่วยด้วย !! 



MAMA –  และเราก็อยู่ด้วยกันมาตั้งแต่วันนั้น แต่เธอเป็น BT ซึ่งทำให้มีความเชื่อมโยงที่ผูกติดกับสถานที่แห่งนี้ ... ชั้นเองก็เหมือนกัน จะบอกว่า เราไม่เคยแยกออกจากกันเลยก็ได้ 


SAM – แล้วคุณโอเคมั๊ยล่ะ? ผมหมายถึง คุณก็รู้ว่าเธอตายแล้ว คุณอยากจะใช้ชีวิตภายใต้เงาของความตายแบบนี้ไปตลอดหรอ?
MAMA –  ไม่เอาน่า นี่คุณก็อีกคนหรอ? คุณเลือกความตายมากกว่าการมีชีวิต แล้วคุณมาที่นี่เพื่ออะไร ... ชั้นจำได้ว่า Deadman บอกว่าคุณเป็น ผู้ฟื้นคืนที่มีเลือดแบบพิเศษ จะว่าอะไรมั๊ยถ้าชั้นจะขอเอาไปเป็นตัวอย่างทดสอบอะไรหน่อย 
SAM – ได้สิ ทำไมจะไม่ได้ล่ะ ดูดให้หมดตัวเลยก็ได้ ยังไงพวกคุณก็ดูดเลือดผมตอนนอนอยู่แล้วนี่ 



SAM – เอ่อ Mama แล้วคุณ .. 
MAMA –  โทษทีนะแซม เอ่อ จะว่าอะไรมั๊ยถ้าจะขอเวลาส่วนตัวหน่อยน่ะ 
SAM – ได้สิ ผมก็ต้องไปทำงานต่อเหมือนกัน 



MAMA – เฮ้ แซม !! ลืมที่ชั้นพูดเรื่องอัตราความเร่งของระดับ Chiral ซะนะ การฟื้นฟูโลกต้องมาก่อน ไม่ว่าแผนนี้มันจะดีหรือแย่แค่ไหน แต่เราก็มีอยู่แผนเดียวที่ต้องทำมันให้ได้ ..โชคดี แซม

             จากนั้นสำรวจ Delivery terminal ของที่นี่ เพื่อฟังคำแนะนำจาก Die-Hardman


Die-Hardman – แซม ภารกิจต่อไปของคุณคือ นำ Mountain Knot City ให้เชื่อมต่อเครือข่ายของเรา นี่คือเส้นทางที่คุณต้องไป โดยผ่าน Waystation และ distro center ทางเหนือของเมือง หากจะเดินทางจากที่นี่มันก็มีเทคนิคนิดหน่อย โดยคุณจะต้องใช้เส้นทางอ้อมรอบภูเขา
SAM – แล้วยังต้องการให้ผมใช้ Q-pid นี้อยู่อีกไหม? เพราะซอฟต์แวร์ใหม่ของระบบก็ยังทำไม่ได้เนี่ย?
Die-Hardman – ไม่เป็นไร เมื่อคุณเชื่อมต่อไปถึง Mountain Knot City หลังจากที่คุณอัพเกรดซ่อมแซม Q-pid มาแล้วตัว filter ก็จะจัดการคัดกรองผ่านเครือข่าย การเชื่อมต่อก็จะเสถียรเอง นั่นคือเหตุผลที่เราต้องไปถึงที่นั่นให้เร็วที่สุด 



SAM – เอ่อ มีข่าวอะไรจาก Amelie บ้างมั๊ย? 
Die-Hardman – ไม่มี แต่เราก็หวังให้เธอปลอดภัยและทำภารกิจที่เธอตั้งใจไว้ต่อได้ ยังไงก็อยากลืมไปเช็คที่ distro center ทางใต้ของ Lake Knot city ก่อนออกเดินทางด้วยล่ะ โชคดีนะแซม 



MAMA – แล้วก็แซม...ชั้ยเพิ่มฟังก์ชั่นใหม่ที่ PCC สามารถสร้างได้เข้าไปอีกอย่างด้วยนะ มันคือ Zip-line คิดว่ามันน่าจะมีประโยชน์สำหรับใช้ในการเดินทาง มันจะทำให้คุณเดินทางข้ามแม่น้ำ ขึ้นภูเขาได้ง่ายๆเลยล่ะ ลองใช้ดูนะรับรองสนุกแน่ 
Die-Hardman – แล้วก็มีข่าวดีอีกอย่าง ตอนนี้ Fragile สามารถช่วยพาคุณวาร์ปข้ามไปยังเมืองต่างๆได้เหมือนเดิมแล้วนะ ลองเข้าไปที่ห้องพักส่วนตัวที่เมืองที่ใกล้ที่สุดได้เลยถ้าคุณต้องการ 

ก่อนออกเดินทางไปรับคำสั่งของภารกิจหลักใหม่ที่ distribution center south of Lake knot city ตามคำแนะนำของ Die-Hardman  เช็คอีเมลดูจะพบเมลจาก Owen Southwick ส่งมาจาก South Knot


Owen ขอให้แซมช่วยแวะไปเก็บแรร์ไอเทม Supercell ซึ่งเป็นแร่แบบใหม่ที่เพิ่งปรากฎขึ้นมาซึ่งอยู่ในบริเวณน้ำตกขนาดใหญ่กลับมาที่ South Knot city ก่อนที่จะย้ำว่า มันมีไอเทมบางอย่างตกอยู่ด้วย มันไม่ได้อยู่ในภารกิจแต่ถ้าสนใจก็หยิบติดมือมาด้วยได้เลย

เพื่อความสะดวกสบาย ก่อนรับภารกิจ ออกไปใช้ PCC Lv2 เพื่อเรียนรู้การสร้างและการใช้งานเสา Zip-line  ก่อน


การสร้างเสา Zip-line นั้นประโยชน์ของมันคือเพื่อเดินทางด้วยการโหนสลิงจากจุดเสานึงไปยังอีกเสานึงด้วยความเร็ว โดยต้องสร้างเสาให้เชื่อมต่อกันจากจุดนึงไปยังจุดนึงสังเกตได้จากเส้นสีฟ้าๆที่ปรากฎขึ้นมา ความห่างของแต่ละเสานั้นขึ้นอยู่กับความยาวของสายสลิงซึ่ง Zip-line Lv1 แค่ 300 เมตรเท่านั้น และการสร้าง Zip-line ไม่จำเป็นต้องสร้างเชื่อมต่อระยะไกลแบบเมื่อสู่เมืองเสมอไป แต่สร้างเฉพาะเส้นทางที่ทุระกันดารให้สามารถเดินทางได้อย่างราบรื่นและรวดเร็วเป็นพอ


เรียนรู้การใช้งานเสา Zip-line โดยเริ่มจากการใช้ประโยชน์ของมันทำให้การเดินทางจาก Mama’s Lab ไปยังจุดพื้นที่ที่จะไปทำภารกิจต่อไปให้สะดวกสบายก่อน โดยเตรียมติดตั้ง เสา Zip-line ให้เชื่อมต่อจาก Mama’s Lab ไปเก็บไอเทมเป้าหมายที่ส่วนล่างของน้ำตก ในพื้นที่ที่คิดว่ามันยากลำบากในการเดินทางให้เรียบร้อย โดยเฉพาะจุดขึ้นลงจากสันเขาลงไปยังพื้นที่ส่วนล่างของน้ำตกที่ต้องใช้เวลามากในการปีนป่าย


จากนั้นเข้าไปสำรวจ Delivery terminal ของที่ Mama’s Lab จะพบภารกิจ  [Order No. 42] Collection : Scattered Rare Mineral Resources คำสั่งของ Owen  ซึ่งเป็นหนึ่งในภารกิจหลักของแซมอยู่ที่นี่

                                     [Order No. 42] 

             Collection : Scattered Rare Mineral Resources

ภารกิจนี้คือการเดินทางจาก Mama’s Lab ไปเก็บแรร์ไอเทม Supercell ซึ่งเป็นสินค้าเป้าหมายที่ตกอยู่ในบริเวณพื้นที่ด้านล่างของน้ำตกแล้วนำกลับมาที่ South Knot city


ซึ่งถ้าเตรียมติดตั้ง เสา Zip-line ให้เชื่อมต่อกันอย่างดีแล้ว การเดินทางจาก Mama’s Lab ไปเก็บไอเทมเป้าหมายที่ส่วนล่างของน้ำตกจะเป็นเรื่องไม่ยากอีกต่อไปและยังทำให้ใช้เวลาเดินทางได้อย่างรวดเร็วกว่ามาก


เมือมาถึงพื้นที่เป้าหมายแล้ว เก็บคีย์ไอเทม แรร์ไอเทม Supercell ที่ตกอยู่ในพื่นที่มาให้หมด และอย่าลืมเก็บ Memory Chip ที่ตกอยู่ในบริเวณนั้นมาด้วย


ซึ่งเป็น Memory Chip พิเศษที่จะตกอยู่เมื่อเริ่มภารกิจนี้เท่านั้นตามที่ Owen บอกเอาไว้ในเมล  เมื่อได้ทุกอย่างตามเป้าหมายครบแล้วก็นำส่งไปที่ South Knot city ได้เลย

เมื่อนำส่งสินค้าเสร็จแล้วทุกเมืองใน UCA ก็จะสามารถสร้างวัตถุดิบชนิดใหม่ Chemicals ได้แล้ว


จากนั้นอย่าลืมนำเอา Memory Chip ที่เก็บได้ส่งไปด้วย ซึ่งจะทำให้ได้มอเตอร์ไซด์ Reverse Trike แบบพิเศษที่มีโลโก้ RIDE ซึ่งเป็นชื่อซีรีย์ Ride with Norman Reedus



ก่อนจะรับภารกิจหลักต่อไป เพื่อความสะดวกสะบายในการเดินทาง ออกไปทำการสร้างถนนเพื่อเชื่อมต่อเส้นทางจากทางแยกตรงบริเวณ Preppers Station S23-21 ของ Craftsman ไปยังเส้นทางฝั่งตะวันตกต่อจนสุดทางให้เสร็จก่อน


จากนั้นเข้าไปสำรวจ  Delivery terminal ของที่ Distribution center south of Lake knot city รับภารกิจ [Order No. 41] Building Materials Delivery: Waystation North of Mountain Knot city


                                  [Order No. 41]

Building Materials Delivery: Waystation North of Mountain Knot city


ภารกิจนี้คือการนำส่งสินค้า Building Materials Caramics 5 ชิ้นจาก Distribution center south of Lake knot city ไปยัง Waystation North of Mountain Knot city ที่ตั้งอยู่บนเชิงเขาทางตะวันตกของ Preppers Station S23-21 ของ Craftsman


ซึ่งเมื่อทำถนนเชื่อมต่อไปทางตะวันตกจากที่อยู่ของ Craftsman แล้ว ก็จะสามารถเดินทางผ่าน Ruined Roadside Factory ที่เป็นพื้นที่ของพวก BT และฝน Timefall ได้อย่างไม่ยาก เมื่อพ้นพื้นที่ของ BT ไปแล้วก็จะพบช่องเขาที่เข้าไปถึง Waystation North of Mountain Knot city ได้


                      Waystation North of Mountain Knot city


Charles Khan – โอ้ คุณต้องเป็น Sam Bridges แน่นอนเลย ใช่มั๊ย ? ทีมสำรวจหนึ่งเดียวคนนั้นนั่นเอง เราถูกตัดขาดอยู่ที่นี่ก็จริงแต่ข่าวลือก็ยังมาถึงเราอยู่นะ เราได้ยินมาหมดและเรื่องของนักเดินทางในตำนาน นักฆ่า BT นักล่าผู้ก่อการร้าย ... อะไรเทือกนั้น ช่างเถอะ ผมรู้สึกแฮปปี้มากที่ได้เจอคุณนะ ไหนดูสิเพื่อน คุณเอาอะไรมาให้พวกเรา?  ..... โว้ววว ไม่น่าเชื่อเลย นี่มันช่วยได้มากเลยล่ะ ขอบคุณมาก คุณรู้ความต้องการของพวกเราที่ Waystation มากว่าที่เราคิดไว้อีกนะเนี่ย ! เอาล่ะ เราพร้อมแล้วที่จะเชื่อมต่อเข้ากับเครือข่ายของพวกคุณ ผมเข้าใจถูกมั๊ย? 


        Waystation North of Mountain Knot city - เชื่อมต่อแล้ว 



                            Charles Khan - - เข้าร่วม UCA 

                      + เพิ่มเติมไอเทมใหม่ที่สามารถสร้างได้ใน Delivery teminals



- Armor Plate
โล่ที่สามารถสวมใส่ติดกับชุดตรงไหล่และสะโพกสำหรับสร้างเกราะกระแสไฟฟ้าเพื่อปกป้องการถูกโจมตีด้วยปืนจากศัตรู ยิ่ง Armor Plate ระดับเลเวลที่สูงขึ้นการซึมซับแรงโจมตีของเกราะก็จะมากขึ้นแต่จะทำให้เปลืองแบตและต้องสูญเสียพื้นที่ใช้เก็บสินค้าตรงบริเวณไหล่และสะโพกไป


- Non – Lethal Assault Rifle
ปืนกระสุนยางที่สำหรับใช้จัดการพวก MULE โดยไม่ทำให้พวกมันเสียชีวิต

+ ข้อมูลการสัมภาษณ์ใหม่
The History of the Odradek


Charles Khan – เพื่อนเอ้ย การเป็นส่วนหนึ่งของ UCA จริงๆนี่มันรู้สึกดีมากๆเลย เราถูกทิ้งอยู่บนเกาะแห่งนี้มานานมากจนผมแทบรอไม่ไหวที่จะได้เชื่อมต่อกับทุกๆคนที่ HQ กว่าจะปรับปรุงที่นี่ให้กลับมาเข้าที่เข้าทางมันคงต้องใช้เวลาบ้างแหละ แต่ผมกับรู้สึกคึกคักอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนเลยล่ะ แต่เราจะไม่ทำให้ประเทศผิดหวังแน่นอน ขอบคุณอีกครั้งแซม เดินทางปลอดภัยล่ะ ไม่ว่าคุณจะต้องการมันรึเปล่า แต่รับรองเลยว่าคุณจะลุยไปให้ถึงฝั่งตะวันตกก่อนที่คุณจะทันรู้ตัวซะอีก เชื่อผมสิ 



Die-Hardman – ทำงานได้ดีมากแซม เอาล่ะ ต่อไปคุณต้องเชื่อมต่อเครือข่ายไปยัง Distro Center ที่อยู่ทางเหนือของที่นี่ต่อ ยิ่งตอนนี้ยิ่งเหมาะที่จะทำสุดๆเพราะพวกเขาเพิ่งส่งสัญญาณ SOS ออกมา ที่นั่นอาจเกิดอุบัติเหตุอะไรซักอย่างที่ทำผู้คนได้รับบาดเจ็บและกำลังต้องการความช่วยเหลืออยู่ก็ได้ ถ้าพร้อมแล้วก็เข้าไปดูรายละเอียดของงานจาก Delivery terminal ของที่นี่ได้เลย 

-----------------------------------------------------------------------------------------------------------

                                   Interview Data




                        เรื่อง – The History of the Odradek
                         บันทึกเมื่อ 2 ปีก่อน ที่ Bridges HQ
                                       โดย Heartman

ชื่อซิกมันด์ ฟรอยด์ มีความหมายอะไรกับคุณมั๊ย? เขาเป็นนักจิตวิทยาที่มีชื่อเสียง แต่เรื่องที่ขึ้นชื่อที่สุดจากทั้งหมด มั้งนะ แต่ ผมขอนอกเรื่องหน่อยก็แล้วกัน

Freud ได้สร้างทฤษฎีที่โด่งดังที่สุดเรื่องหนึ่งหลังจากสังเกตหลานชายที่กำลังเล่นด้ายหลอด เด็กน้อยพยายามที่จะขว้างหลอดด้ายเอาไว้ที่ใต้เตียงจนมองไม่เห็นหลอดด้ายนั่น จากนั้นเขาก็จะเริ่มม้วนด้ายในมือแล้วค่อยๆม้วนๆด้ายเข้าที่มือจนดึงหลอดด้ายที่อยู่ใต้เตียงให้ออกมาอีกครั้ง และทำแบบนี้ซ้ำไปซ้ำมาอยู่หลายครั้ง ซึ่งเป็นการเล่นฆ่าเวลาตอนที่แม่เขาไม่ได้อยู่บ้าน

ฟรอยด์คิดว่า การกระทำของหลานชายเป็นกระบวนการที่เป็นกลไกที่ทำให้เด็กสบายใจขึ้นเวลาที่รู้สึกว่าตัวเองกำลังเผชิญกับปัญหา คุณเห็นไหมว่าเด็กเป็นคนที่ควบคุมหลอดด้าย เขาสามารถทำให้มันหายไปและทำให้มันปรากฏขึ้นอีกครั้งได้ตามที่ตัวเองต้องการ สิ่งนี้ช่วยให้เขาเข้าใจว่าการที่แม่ของเขาไม่อยู่บ้าน ไม่ใช่เรื่องที่เกิดอย่างทันทีทันใดและไร้ซึ่งเหตุผล แต่มันเป็นสิ่งที่สามารถควบคุมได้ ดังนั้นมันจึงไม่ควรจะเป็นเรื่องที่เขาต้องมากังวล


ต่อมามีนักเขียนนวนิยายชาวเยอรมันที่ชื่อ Franz Kafka นำทิษฎีหลอดด้ายนี้ไปต่อยอดเป็นนิยายที่ชื่อ The Cares of a Family Man (Die Sorge des Hausvaters) ซึ่งเป็นเรื่องราวที่เกี่ยวกับ odradek สิ่งมีชีวิตลึกลับที่ไม่ได้อยู่ทั้งในสภาพของการตายหรือมีชีวิตที่สามารถพูดคุยและเคลื่อนไหวได้อย่างอิสระ


อุปกรณ์ odradeks ที่เราใช้อยู่ก็ไม่ต่างกัน ระบบการทำงานของทำให้เราสามารถสัมผัสรับรู้ผ่าน BB ของเราเกี่ยวกับสภาพแวดล้อมรอบตัวเหมือนกับการโยนหลอดด้ายออกไปเพื่อให้รู้สึกถึงการควบคุมทุกอย่างได้ จะแตกต่างกันก็ตรงที่ นี่มันคือการเชื่อมต่อระหว่างโลกของเรากับโลกอีกด้าน ระหว่างชีวิตและความตาย ระหว่างมนุษย์และ BB ...

-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------


ก่อนรับภารกิจ เพื่อความสะดวกและความรวดเร็วซึ่งจำเป็นต่อการทำภารกิจต่อไป สร้างถนนเชื่อมต่อจาก Waystation North of Mountain Knot city ไปทางตะวันตกจนไปสุดทางที่ Distribution Center North of Mountain Knot City ให้เสร็จเรียบร้อยก่อน

สำรวจ Delivery terminal ของที่ Waystation North of Mountain Knot city รับภารกิจ [Order No. 43]
[URGENT] Blood Delivery: Distribution Center North of Mountain Knot city


                                   [Order No. 43]

[URGENT] Blood Delivery: Distribution Center North of Mountain Knot city



ภารกิจนี้คือการนำส่งด่วน พัสดุคือ Blood Transfusion Pack ถุงเลือด สำหรับผู้บาดเจ็บที่ Distribution Center ซึ่งต้องส่งให้ถึงจุดหมายภายในเวลา 40 นาที


โดยเมื่อออกเดินทางจาก Waystation มาตามถนนฝั่งตะวันตกจนถึง incinerator West of Lake Knot City ซึ่งเป็นเตาเผาขนาดใหญ่สำหรับเผาขยะและศพผู้มนุษย์เพื่อไม่ให้กลายเป็น BT

จาก incinerator จะมีทางแยกซ้ายขวา ทางซ้ายนั้นเป็นเส้นทางออฟโร๊ดที่ทำให้ถึงที่หมายได้เร็วกว่าแต่จะต้องลุยผ่านแค้มป์ของพวก MULE ซึ่งทำให้อันตรายกว่า และจำเป็นต้องใช้รถบรรทุกในการเดินทางเพื่อสะดวกในการผ่านพื้นที่ที่เป็นหนองบึงตรงส่วนลาง

        

 ส่วนทางขวาจะเป็นทางของถนนหลัก หากสร้างถนนเชื่อมต่อมาจาก Waystation ถนนหลักจะเป็นเส้นทางอ้อมจาก incinerator ไปทางฝั่งขวาทำให้ไม่ผ่านแค้มป์ของพวก MULE ไม่ต้องเสี่ยงอันตราย เป็นเส้นทางที่เสียเวลาอ้อมนิดหน่อย แต่ปลอดภัย ไม่ว่าจะเลือกทางไหน ปลายทางก็คือ Distribution Center North of Mountain Knot city


                Distribution Center North of Mountain Knot city


 Phillip North - ขอบคุณมากๆเลยครับ ตอนนี้ทีมแพทย์ของเราหมดปัญหาในการดูแลเขาแล้วล่ะ เพราะคุณเป็นคนช่วยชีวิตเขาเอาไว้แท้ๆเลย ผมแทบไม่อยากเชื่อเลยว่าคุณเดินทางถึงที่นี่ได้เร็วขนาดนี้ได้ยังไง แต่ยังไงก็ระวังตัวด้วยนะข้างนอกนั่น คงจะน่าเสียดายมากถ้าเราเสียคนเที่มีความสามารถแบบคุณไป ... อันที่จริง มันไม่ได้เกิดจากอุบัติเหตุหรอก เราถูกโจมตี คือมันมีใครก็ไม่รู้ส่งระเบิดมาทางไปรษณีย์ ไอ้พวกผู้ก่อการร้ายแบ่งแยกดินแดนบ้านั่นมันคิดว่าดินแดนแห่งนี้เป็นของมันและพวกมันต้องยึดไปให้ได้ บางทีพวกมันอาจถูกก็ได้ ...มันควรจะมีใครซักคนตรวจสอบสินค้านั่นก่อน ผมแม่งแย่เองนั่นแหละ ต่อเราคงต้องเข้มงวดให้มากกว่านี้ เราไม่อยากเสียใครไปเพราะเรื่องแบบนี้อีกแล้ว ขอบคุณนะแซม จริงๆ ผมเอ่อ ได้ยินเรื่องเครือข่าย Chiral network มานานแล้ว คุณคิดว่าสัญญาณมันแรงพอที่จะเชื่อมต่อมาถึงพวกเราที่นี่ด้วยมั๊ย? ก็หวังว่านะ ยังไงก็ต้องลองกันหน่อยว่ามั๊ยล่ะ ?


   Distribution Center North of Mountain Knot city - เชื่อมต่อแล้ว 



                             Phillip North - - เข้าร่วม UCA 


+ เพิ่มเติมไอเทมใหม่ที่สามารถสร้างได้ใน Delivery terminals
- Assault Rifle (LV2)
- Non – Lethal Assault Rifle (LV2)
+ ข้อมูลการสัมภาษณ์ใหม่
Near Death Experience


Phillip North – พระเจ้า มันใช้ได้จริงๆด้วย !! เยี่ยมเลย เรากระหายใคร่รู้ข้อมูลต่างๆมานานมากแล้ว ถ้าเกิดปัญหาอะไรขึ้นกับเราอีกเราก็จะได้ส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือได้ง่ายและเร็วมากขึ้น ไม่รู้จะขอบคุณคุณยังไงดีเลยแซม จริงๆนะ 



Die-Hardman – เอาล่ะ ตอนนี้ไม่มีภารกิจอื่นที่ต้องหยุดทำอีกแล้ว มุ่งตรงไปที่ Mountain Knot city ได้เลย แต่นี่มันก็แค่เพิ่งเริ่มต้น คุณคงต้องเจอเส้นทางหินๆมากกว่านี้ระหว่างการเดินทางต่อจากนี้มากขึ้นอีกเยอะเลย คุณไปพักที่ห้องเอาแรงก่อนเถอะ แล้วก็อย่าลืมตรวจเช็คอุปกรณ์ให้พร้อมด้วยล่ะ 












                                     SAM – Amelie !! 




                                 SAM – Amelieeee !! !!


Amelie – พวกมันเดินทางถึง Edge Knot City แล้ว ตอนนี้ชั้นไม่มีที่ให้หนีอีกแล้ว เมืองถูกทำลาย ทุกคนตายหมด ทุกที่มีแต่พวก BT อยู่เต็มไปหมด 
SAM – แล้ว สร้อย Quipu ไปไหน ?
Amelie – แต่ชั้นก็ยังพอที่จะหลบออกมาเพื่อติดต่อมาถึงพี่ได้ ซึ่งมันอาจจะเป็นครั้งสุดท้ายแล้วที่เราจะได้คุยกันแบบนี้  ชั้นแค่อยากให้พี่รู้ว่าชั้นปลอดภัย ..อย่างน้อยก็ตอนนี้ 



 Amelie – สัญญากับชั้นสิว่า จะสร้างเครือข่าย Chiral Network ให้เสร็จสมบูรณ์ให้ได้ มันคือความหวังเดียวของเรา เพื่อวันข้างหน้า เพื่ออนาคตของพวกเรา แล้วเมื่อพี่ทำมันจนสำเร็จแล้ว เราก็จะกลับฝั่งตะวันออกพร้อมๆกัน 
SAM – Amelie แล้ว สร้อย Quipu ของเธอมันหายไปไหน ?
Amelie – แซม ชั้นจะรออยู่ที่ชายหาดนะ 

------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

                                Interview Data



                         เรื่อง – Near Death Experience
                  บันทึกเมื่อ 1 ปีก่อน ที่ Heartman's Lab
                                    โดย Heartman

ความตาย เป็นสิ่งสามารถศึกษาได้เฉพาะจากมุมมองของผู้สังเกตการณ์ภายนอกเท่านั้น เนื่องจากผู้ตายย่อมไม่สามารถถ่ายทอดประสบการณ์การตายของตัวเองให้คนอื่นรับรู้ได้ ฉะนั้นการรับปรากฏการณ์ของความตายร่วมกันจึงเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ จนกระทั่งเมื่อเร็วๆนี้ หลังจากได้มีการศึกษาและบันทึกข้อมูลจากร่างทดลองที่เคยมีประสบการณ์เฉียดตาย หรือ Near-death experiences (NDEs) จนในที่สุดเราก็สามารถนำวิธีการทางวิทยาศาสตร์มาใช้ทำความเข้าใจกับเรื่องพรมแดนสุดท้ายของมนุษย์ได้

แม้แต่ผู้ที่อยู่ในสภาวะที่เรียกว่า "" สมองตาย "" ยังมีสัญญาณแสดงให้เห็นว่ายังมีสติอยู่ แล้วสิ่งที่อาจเป็นไปไม่ได้นี้มันหมายถึงอะไร? ยิ่งไปกว่านั้นทำไมคนที่กำลังใกล้ตายบางคนถึงมีประสบการร์การเห็นวิญญาณตัวเองลอยออกจากร่างที่เรียกว่า ถอดจิต (out-of-body experiences) นอกจากนี้ทำไมผู้ที่มีประสบการณ์เช่นนี้จึงอธิบายความรู้สึกออกมาได้เหมือนกันหมด ? แบบถูกชักนำให้เดินไปสู่แสงสว่างที่ปลายอุโมงค์  หลายคนแย้งและถามหาหลักฐานของสถานที่ที่เป็นโลกหลังความตาย แต่อย่างน้อยพวกเขาก็เชื่อตรงกันว่า ความตาย ไม่ได้เกิดจากการเปลี่ยนแปลงโดยฉับพลัน แต่มันมีกระบวนการของมันอยู่

จนเมื่อมีการเกิดขึ้นของ ชายหาด ซึ่งมันก็ได้พิสูจน์แล้วว่าพื้นที่หลังความตายนั้นมีอยู่จริงอย่างไม่ต้องสงสัย รวมถึงการฟื้นคืนจากความตายในฐานะ BT ก็อยู่ในกระบวนกันด้วยเช่นกัน โลกหลังความตายไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้ในทางทางทฤษฎีอีกแล้ว การมีอยู่ของมันเป็นความจริงที่ไม่อาจปฎิเสธได้อีกต่อไป


                        เรื่อง – Antimatter in Storage
บันทึกเมื่อ 1 ปีก่อน ที่ Distribution Center North of Mountain Knot city
                                 โดย Phillip North

ทุกอย่างกำลังกลับเข้าสู่ปกติและเราได้เก็บกู้ปฏิสสารทั้งหมดได้แล้วรวมทั้งเก็บรักษามันเอาไว้ด้วย magnetic trap ตามคำแนะนำเรียบร้อย ซึ่งตอนนี้มันควรจะมีเสถียรภาพมากขึ้นกว่าเดิม

ผมไม่อยากจะเชื่อเลยว่าพวกมือสมัครเล่นเหล่านั้นสามารถรับมือกับสิ่งเหล่านี้ได้ เห็นได้ชัดว่าพวกเขาค้นหาคำตอบจากการทำการวิจัยเมฆหมอก chiral ได้โดยบังเอิญ ซึ่งผมก็คิดว่ามันก็ฟังดูมีเหตุผลอยู่ว่า ก่อนจะเกิดปรากฎการณ์ Death Stranding เมฆธรรมดาๆก็สามารถสร้างปฏิสสารขึ้นมาได้เหมือนกัน แต่การเกิดสสาร chiral ขึ้นมาต่างหากล่ะที่มันแปลก ดูเหมือนพวกเขาจะเคยจับมันได้ครั้งนึงด้วย ลองคิดดูสิ ถ้าปฏิสสารมันสามารถกักเก็บได้ง่ายขนาดนั้น พวกผู้ก่อการร้ายมันคงแฮปปี้และคงชนะเราไปนานแล้ว แต่อย่างไรก็ตามตอนนี้เราได้เก็บมันไว้อย่างปลอดภัยแล้ว และ ไม่มีใครจะรู้ไปทุกเรื่องหรอก ผมแค่หวังว่า เราจะได้สิ่งดีๆจากมันมาบ้าง ก็แค่นั้นแหละ คุณก็รู้ดีว่าทางเลือกคืออะไร .. Lockne

----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------



ก่อนรับภารกิจต่อไป ที่ต้องมุ่งหน้าไปที่ Mountain Knot city เพื่อความสะดวกในการเดินทาง ก็จัดการเชื่อมต่อถนนจาก Distribution Center North of Mountain Knot city ไปยังฝั่งตะวันตกต่อ


ระหว่างทางจะมี Prepper Shelter S41-76 [The Novelist’s Son] อยู่ด้วย อย่าลืมแวะเข้าไปทำความรู้จักและทำให้เขาเชื่อมต่อกับ UCA ด้วย


                                       รางวัลที่ได้จากการปลดล็อก Connection Level

1 ดาว หรือเมื่อเชื่อมต่อกับ UCA แล้ว  – เพิ่มเติมสี Sandy Tan ของแว่น Ludens Mask  และ Accessory Backpack : Bell


2 ดาว – NO
3 ดาว – เพิ่มค่า Chiral Bandwidth, เพิ่มเติมสี Sandy Tan สำหรับเปลี่ยนสีแว่นกันแดด และ Backpack
4 ดาว - ได้ Novelist's Hologram และเพิ่มเติมค่า Chiral Bandwidth ให้มากขึ้นอีก
5 ดาว –เพิ่มค่า Chiral Bandwidth, เพิ่มเติมสี Sandy Tan สำหรับหมวก


** นอกจากนี้ คุณยังสามารถได้รับ D-cryptobiotes หนอนเพิ่มพลังแบบพิเศษ (HP เต็ม) จาก Novelist’s Son ด้วยหากคุณทำให้ Sam ได้ยอด Like จากเขาครบ 10,000 likes (ด้วยการระดมหา Lost Cargo มาคืนให้เขา)



       วิธีใช้ก็คือ กดปุ่มทิศทางด้านซ้ายเพื่อเข้าเมนูไอเทมเพิ่มพลังชีวิตแล้วเลือก  D-cryptobiotes


สำรวจ Delivery terminal ที่ Distribution Center North of Mountain Knot city รับภารกิจ [Order No. 44] Antimatter Bomb Delivery: Mountain Knot City


                                      [Order No. 44] 

              Antimatter Bomb Delivery: Mountain Knot City


Die-Hardman –  ขอแนะนำนะแซม เคสที่ใส่ระเบิดปฏิสสารนี้ไม่ได้ถูกออกแบบมาเพื่อการขนส่งในระยะไกลเจ้าตัว Magnetic Traps มันไม่ได้ทนทานพอที่จะยึดเกาะได้นานๆ การกระแทกแรงๆ การขับขี่เร็วๆ ที่ทำให้สินค้าขาดความสมดุลมันจะเป็นตัวเร่งที่จำให้ Magnetic Traps หมดอายุการใช้งานเร็วขึ้นและแน่นอน ถ้าตัวยึดมันหมดลงระเบิดก็จะอาจทำงานได้ คุณคงไม่อยากจะระเบิดที่นี่ให้ราบด้วยตัวคุณเองใช่มั๊ยล่ะ เพราะงั้นก็ระวังหน่อยก็แล้วกัน 


ภารกิจนี้คือการขนส่ง ระเบิดปฏิสสาร (Antimatter Bomb) น้ำหนัก 80 ก.ก จาก Distribution Center North of Mountain Knot city ไปยัง Mountain Knot City


ซึ่งถ้าทำถนนฝั่งใต้ของ Distribution Center North of Mountain Knot city ผ่านแค้มป์ MULE อ้อมภูเขาไปจนสุดทางที่ Mountain Knot City เรียบร้อยแล้ว ก็สามารถขนส่ง ระเบิดปฏิสสาร (Antimatter Bomb) จนถึง Mountain Knot City ได้อย่างง่ายดายและปลอดภัย



                                           Mountain Knot City



Lockne – นี่นายคิดว่านายทำบ้าอะไรอยู่เนี่ย คนของ Bridges?  เครือข่ายที่พวกนายกำลังสร้างมันปนเปื้อนสิ่งที่สกปรกอยู่ อะไรบางอย่างที่ไม่มีใครเขาอยากอยู่ใกล้ ชั้นว่าคนของนายน่าจะคิดออกได้แล้วนะ เราไม่มีวันเป็นส่วนหนึ่งของเครือข่าย Chiral network หรือเข้าร่วมกับ UCA แน่นอน 
SAM – เดี๋ยวนะ เสียงนั่นมัน ... นั่นเธอหรอ Mama ?
Lockne – ชั้นไม่ใช่แม่นาย และแม่นายก็คงไม่ใช่ชั้นแน่นอน 
SAM – เอาล่ะ เลิกอำได้แล้ว Mama ไม่ตลกนะ 
Lockne – อะ ฮ่าๆ ชั้นว่านายคงไม่ได้ยินที่ชั้นพูดนะ  ..คนที่ Mountain Knot City บอกชั้นว่านายและ UCA จะเดินทางมาที่นี่ คนของนายอยากจะทำอะไรก็เชิญทำต่อไปเถอะนะ แต่นายควรทิ้งพวกเราไว้นี่แหละ เราไม่เคยขอให้คุณมาที่นี่เพื่อมาสั่งสอนเราว่าควรจะเอาตัวรอดยังไงหรอกนะ เราหาทางเอาตัวรอดของเราเองได้ แต่ยังไงก็ขอบใจนะ ที่เราต้องการก็แค่การส่งของของนายบ้างก็แค่นั้นแหละ 
SAM – นี่เธอพูดแทนคนทั้งเมืองเลยเนี่ยนะ ?
Lockne – แน่นอน ก็ชั้นเป็นผู้นำของที่นี่ ชั้นชื่อ Lockne 
SAM - Lockne หรอ? ผมมีเรื่องจะคุยกับคุณหน่อย คุณเป็นเจ้าหน้าที่เทคนิคใช่มั๊ย? 
Lockne – ฟังนะ นายไปซะ แล้วไม่ต้องกลับมาอีก แค่นี้แหละ ! 
SAM – ฟังก่อนสิ บ้าเอ้ย ผมมีเรื่องให้ช่วยหน่อย
Lockne – แต่เราไม่ต้องการพวกนาย Bridges พวกนายมันทำได้เรื่องที่ทำให้ทุกอย่างแย่ลง!! 


Die-Hardman –  โทษทีนะแซม ที่ต้องส่งนายมาเจรจากับคนแบบนี้ เธอเป็นหัวหน้าของที่นี่และเธอไม่สนเรื่องกฎหมายอะไรของเราด้วย แต่เราต้องการเธอและคนของเธอ เราสูญเสียทุกอย่างไปมากแล้ว ถ้าเราไม่เชื่อมต่อ ที่ Mountain Knot City  ภารกิจของ UCA ก็จะไม่มีวันเสร็จสมบูรณ์ได้หรอก 
SAM – แล้วเราจะเอาไงต่อ?
Die-Hardman –  มันก็ยังพอมีทางอยู่ ... คืองี้แซม Lockne เธอเป็นฝาแฝดของ Mama เป็นอดีตคนของเราตอนที่เดินทางมายังตะวันตกกับทีมงานก่อนหน้านี้เหมือนกับ Mama แน่นอนว่า Mama ไม่ใช่ชื่อจริงของเธอ จริงๆแล้วเธอชื่อ Målingen ทั้งคู่เป็นนักวิทยาศาสตร์ระดับอัจฉริยะ และทั้งคู่มีความสามารถของ DOOM เหมือนกัน Mama เธอเชี่ยวชาญเรื่องฟิสิกส์ประยุกต์ในเชิงภาคสนามส่วน Lockne นางจะเน้นทางฟิสิกส์ทฤษฏีตามหลักวิชาการ Mama เป็นออกแบบ Q-Pid ส่วน Lockne เป็นคนเขียนโปรแกรม พวกเธอบอกว่าพวกเธอสามารถสื่อสารกันได้ตลอดเวลาจากที่ไหนก็ได้ ดูเหมือนพวกเธอคงมี สายใยผูกพันกันแบบพิเศษ ผมไม่แน่ใจหรอกนะว่าเธอทำแบบนั้นได้จริงๆรึเปล่า แต่บอกไว้ให้รู้ก็แค่นั้น เราไม่มีทางสร้าง Chiral Network ขึ้นมาได้ถ้าไม่มีพวกเธอ พวกเธอสนิทกันมากเหมือนเป็นคนๆเดียวกันแต่มี 2 ร่างเลยล่ะ นั่นแหละคือเหตุผลว่าทำไมเธอถึงสร้าง Q-pid ขึ้นมา แต่แผนที่พวกเธอวางไว้ก็ล้มเหลวลงเมื่อ Målingen เกิดอุบัติเหตุ Lockne ก็เลยทิ้ง Bridges และตัดขาดจากเราทุกคนมาตั้งแต่นั้น ผมไม่รู้หรอกว่ามันเกิดอะไรขึ้นระหว่างเธอ 2 คน แต่ถ้าเราไม่สามารถทำให้ Lockne กลับมาร่วมงานกับเราได้ แผนการรวมประเทศอเมริกาให้เป็นหนึ่งเดียวกันอีกครั้งก็คงจบลงแค่นี้แหละ ผมก็ไม่ได้อยากจะขอให้คุณไปยุ่งเรื่องส่วนตัวของพวกเธอหรอกนะ แต่ถ้าคุณยอมทำ เราอาจมีโอกาสที่จะทำให้ Lockne กลับมาร่วมงานกับเราอีกครั้งก็ได้ แน่นอนว่ามันต้องเป็นเรื่องที่สุดยอดมากเพราะ แผนการรวมประเทศอเมริกาให้เป็นหนึ่งเดียวกันอีกครั้งคงทำไม่ได้ถ้าไม่มีเธอทั้ง 2 คน ยังไงซะ ถ้าคุณมีไอเดียอะไรดีๆก็ลุยได้เลย ผมอณุญาติ 


 หลังจากล้มเหลวจากการเจรจากับ Lockne แซมก็จะได้รับเมล 2 ฉบับ ให้ลองเปิดอ่านดู



E-mail ฉบับแรกส่งจาก คุณ Peter Englert จาก ที่ Prepper Shelter S23-84 เรื่อง Yet another Earnest Entreaty for Pizza ซึ่งเป็นการข้อร้องให้แซมช่วยนำส่งฟิซซ่าให้เขาอีกครั้ง ซึ่งครั้งนี้เป็นครั้งพิเศษเพราะเขาต้องการใช้ในการฉลองวันครบรอบแต่งงานร่วมกับภรรยา โดยฟิซซ่าที่เขาต้องการในครั้งนี้เป็นพิซซ่าแบบพิเศษที่เป็นหน้า Gouda cheese ที่ทำขึ้นได้ที่ timefall farmเท่านั้น 

เมื่ออ่านข้อความใน E-mail แล้ว จากนั้นเดินทางไปที่ timefall farmเพื่อรับภารกิจ  [Order No. 45] [URGENT] Fresh Pizza Delivery: Peter Englert  ใน Delivery terminal ได้เลย 


                                                       [Order No. 45]

 [Order No. 45] [URGENT] Fresh Pizza Delivery: Peter Englert  



ภารกิจนี้คือการส่งพิซซ่าด่วนไปที่ Personal Shelter S23-84 ของ Peter Englert ที่ตั้งอยู่ทางเหนือของ Preppers Station S23-21 ของ Craftsman เหมือนเดิม


 แต่ครั้งนี้เพิ่มเติมคือ พัสดุครั้งนี้พิเศษกว่าทุกครั้ง ซึ่งนอกจากจะมีพิซซ่าในการนำส่ง 2 ถาดแล้ว ยังมีไอเทม Champagne สำหรับวันครบรอบที่ไม่สามารถใช้รถในการขนส่งได้ต้องถือด้วยมือเท่านั้น


นั่นแปลว่า Sam จะต้องแบกพิซซ่าพร้อมกับถือกล่องใส่ขวด Champagne ด้วยมือจาก  timefall farm ไปส่งยังที่อยู่ของ Peter Englert  ทางเหนือของทิ่อยู่ของCraftsman ด้วยการวิ่งเท่านั้น



ซึ่งเมื่อนำส่งพิซซ่าที่ Delivery Terminal เรียบร้อยแล้วก็พบแต่เสียงตอบรับคำขอบคุณจาก Peter Englert เท่านั้น แต่ไม่เห็นตัวตนของเขาเหมือนเดิม

-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
                                           

                                    ส่งจาก – Aaron Hill 
                                  ที่ Mountain Knot City  
                    เรื่อง – Would you speak to mama for me?

ข่าวดีแซม ระเบิดปฏิสสารที่คุณส่งมาให้มันสามารถหยุดการแพร่กระจายของน้ำมันดิบได้แล้ว ขอบคุณสำหรับสิ่งที่คุณนำมาเพื่อช่วยเหลือพวกเรามากๆนะ

ตอนนี้ชั้นอยากจะเชื่อมต่อ Q-pid มากๆแต่ Lockne ก็เข้ามาห้ามเอาไว้ตลอด เธออาจจะไม่ได้อยู่ที่ Bridges อีกต่อไปแล้วแต่เธอก็ตั้งตัวเองเป็นผู้นำจนทำให้ชั้นไม่สามารถทำอะไรได้เลย ถ้าจะทำอะไรลงไปเธอก็จะหาว่าไม่ทำตามคำสั้งอีก

คุณรู้ไหมว่าเธอเปลี่ยนไปมากตั้งแต่ที่ Mama จมอยู่กับเรื่องพวกผู้ก่อการร้ายนั่น แน่นอนว่าเรื่องนี้แหละคือเหตุผลที่ส่งผลกับความสัมพันธ์ของพวกเธอทั้ง2 ...

ถึงแม้ว่ามันจะไม่ใช่เรื่องอะไรยองชั้นก๊เถอะ แต่ก็อยากจะขอให้คุณช่วยไปคุยกับ Mama เกี่ยวกับเรื่องนี้หน่อยได้ไหม ชั้นรู้สึกว่าพวกเธอทั้งคู่น่าจะยังสามารถแก้ไขอะไรที่มันผิดใจกันได้หากทั้งคู่ยอดเปิดใจคุยกันอีกครั้งอ่ะนะ

ถ้าคุณอยากจะลองทำดู ลองเข้าไปตรวจสอบใน Private Locker ของคุณดูนะชั้นทิ้งของบางอย่างไว้ให้ มันอาจจะช่วยให้คุณไปที่ห้องทดลองของ Mama ได้อย่างปลอดภัย ยังไงก็ขอบคุณอีกครั้งนะแซม

-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

เมื่ออ่านเมลแล้วก็เตรียมเดินทางต่อไปยัง Mama’s Lab เพื่อเข้าไปคุยกับ Mama ได้เลย ** แต่ถ้าแซมอ่านเมลแล้วยังไม่เข้าใจ เมื่อผ่านไปซักพัก Mama ก็จะติดต่อมาให้แซมเข้าไปหาเพื่อพูดคุยคิดหาทางเจรจากับ Lockne ด้วยตัวเธอเอง


Mama - แซม ได้ยินหรือเปล่า นี่ชั้นเองนะ? เรื่องนี้เป็นความผิดของชั้นเอง เพราะชั้นปิดบังความจริงกับ Lockne ทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างเรากลายเป็นแบบนี้ ชั้นอยากจะเจอเธออีกครั้ง คุณช่วยพาชั้นไปหาเธอหน่อยได้มั๊ย? 
SAM - แล้ว เด็กนั่นล่ะจะเป็นยังไงถ้าเธอออกมา 
Mama -  ชั้นรู้ แต่ ตอนนี้เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่สำหรับเรามากกว่า ยังไงก็เข้ามาที่ห้องทดลองของชั้นก็แล้วกัน 


-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------

                                Special event Mail                  


ข่าวร้าย เมื่อวันที่ 14 ก.พ วันแห่งความรักที่ผ่านมา Chiral Artist (โมแคปโดยน้อง Mala Morgan) ได้ส่งเมลที่ชื่อ Marrired Life Not what I Expected มาหาแซมแจ้งว่า ตอนนี้ Chiral Artist นางได้เลิกลากับ Junk Dealer แล้ว ถึงกับยอมลงทุนเดินทางเสี่ยงอันตรายกลับไปอยู่กับแม่เธอที่ Chiral Artist Studio ด้วยตัวเองด้วยโดยไม่ยอมข้อความช่วยเหลือจากแซมเลย ก็เป็นอันปิดฉากความรักของ Chiral Artist กับ Junk Dealer ที่แซมอุตส่าห์ช่วยเสี่ยงอันตรายเพื่อพาทั้งคู่มาพบกันแค่ตรงนี้


----------------------------------------------------------------------------------------------------------------

จากนั้นเดินทางไปทำภารกิจหลักต่อไป ที่ Mama’s Lab ทางตะวันออกเฉียงเหนือของ South knot city ได้เลย



                                                       Mama’s Lab


SAM – อ่ะแฮ่ม 
Mama – อ่า แซม ขอบคุณที่แวะมานะ 



Mama – เอ่อ นี่คือ Cuff link อันใหม่ของคุณนะ พวกเขากำลังทดสอบในช่วงสุดท้ายกันอยู่ แต่ชั้นได้เพิ่มไปในฟังก์ชั่นอาวุธแล้ว ชั้นออกแบบมันใหม่หมดตั้งแต่ต้นหลังจากการเชื่อมต่อล่าสุด
SAM – สรุปว่ามันเป็นอาวุธแล้วงั้นหรอ? 
Mama – ใช่เลย จะเรียกมันว่าเป็นคัทเตอร์ตัดสายสะดือก็ได้ 

** การใช้ Cuff link ตัดสายสะดือของพวก BT ต้องพยายามลอบเข้าไปใกล้ๆตัวมันโดยไม่ให้มันรู้ตัว แล้วกดสี่เหลี่ยมเพื่อตัดสายสะดือซึ่งจะทำให้มันถูกส่งกลับไปยังโลกแห่งความตายอีกครั้ง **



Mama – โอเค ชั้นจะอธิบายให้ฟัง พวก BT มันเชื่อมต่อกับโลกอีกด้านด้วย สายสะดือใช่มั๊ยล่ะ? ในเมื่อสายเหล่านั้นเป็นตัวนำเพื่อใช้เชื่อมต่อกับโลกของเรา พอสสารจากโลกของเราไปสัมผัสกับปฏิสสารของพวกมัน ก็ ตูม !! ...เกิดการระเบิด Voidout ! และจากทษฎีของ Deadman ที่ว่า เลือดของคุณมีคุณสัมบัติพิเศษที่สามารถใช้ในการตัดสายสะดือของพวก BT ได้ ชั้นก็เลยเพิ่มฟังก์ชั่นนั้นเข้าไปใน Cuff link นี่ พอตัดสายสะดือของพวก BT พวกมันก็จะกลับไปยังโลกแห่งความตาย ไม่มี BT ก็ไม่มี Voidout .. ก็ วินวิน 



SAM – ไอ้เจ้านี่ใช้ปลดปล่อยพวกมันได้จริงๆงั้นหรอ? 
Mana – ก็ถ้าคุณสามารถเข้าไปใกล้ๆมันได้โดยที่มันไม่รู้ตัวล่ะก็ ใช่ 
SAM – ต้องเรียกมันว่า สุดยอดกุญแจมือที่ตัดสายสะดือสินะ 



Mana – เอาล่ะที่นี้ก็มาลองกับเธอกัน ตัดสายสะดือที่เชื่อมต่อระหว่างชั้นกับลูกที
SAM – ห๊ะ .....
Mana – ดูเหมือนเธอกำลังหลับอยู่ ชั้นให้นมเธอไปมากพอเพื่อให้มั่นใจว่าเธอจะหลับนานๆ ... เอาล่ะ เริ่มได้เลย ได้โปรดแซม ทำให้เราเป็นอิสระซักที โลกนี้ไม่มีเธออยู่แต่แรกแล้ว แม้ว่าชั้นจะไม่อยากทิ้งเธอแต่เธอก็ตายไปตั้งแต่แรกแล้ว และเอาจริงๆ เธอก็ไม่ใช่ลูกชั้นด้วย 
SAM – เรื่องการโจมตีอะไรนั่นที่เธอเล่ามาก็เป็นเรื่องโกหกงั้นหรอ?
Mana – ไม่นะ มันก็เป็นความจริงอยู่บ้าง รังไข่ของชั้นไม่สามารถสร้างไข่ได้ ส่วนมดลูกของ Lockne ก็มีปัญหา เรื่องมันยาวสรุปว่าพวกเราไม่สามารถมีลูกได้ ซึ่งก็ไม่ได้เป็นปัญหาสำหรับชั้น .. ชั้นหมายถึง เด็กๆเนี่ยนะ ใครเขาอยากจะอยากมีลูกกันล่ะ ชั้นคิดแบบนั้น แต่ Lockne เธอไม่คิดแบบนั้น Lockne เธอต้องการมีลูกเลยหาใครซักคนนึงมาอุ้มบุญให้เธอ เธอตกหลุมรักหนึ่ในสมาชิกที่ทำงานด้วยกันใน Bridges แต่เขาตายจากโจมตีก่อนหน้านี้


Mana –  เธอเสียใจมาก แน่นอน ชั้นเองก็เหมือนกัน ณ ตอนนั้น ด้วยภาวะอารมณ์ที่กำลังสะเทือนใจ ชั้นก็เข้าใจได้ถึงรู้สึกของเธอ และเธอเองก็เข้าใจความรู้สึกของชั้น  เมื่อเราต่างก็สัมผัสได้ถึงความปรารถนาที่มีร่วมกัน ในท้ายที่สุด ชั้นก็ไปหาเธอแล้วบอกว่า งั้นเอาเด็กมาให้ชั้นนี่ เรานำเอาไข่ของ Lockne มาทำการปฏิสนธิกับสเปิร์มของเขาที่ถูกแช่แข็งเอาไว้ แล้วเอามาฝากในครรถ์ของชั้น ทุกอย่างผ่านไปด้วยดี ชั้นให้กำเนิดเด็กที่สมบูรณ์แข็งแรงขึ้นมา และหลังจากนั้นก็มีการโจมตีเกิดขึ้น แล้วความสัมพันธ์ของเราก็ขาดสะบั้นลง ชั้นอยากที่จะไปบอกเธอ แต่ข้อผูกมัดที่ชั้นมีกับเด็กนี่ คุณก็รู้ ...ชั้นเลยทิ้งเธอไปไหนไม่ได้ แต่ชั้นคิดผิด .... Lockne จำเป็นต้องรู้เรื่องนี้ 



Mana –  คุณต้องตัดข้อผูกมัดนี้ คุณไม่สามารถผูกติดกับทุกอย่างได้หรอก ถ้าเรากำลังจะเชื่อมต่อกับคนทั้งโลก ชั้นคงจะต้องหาทางเชื่อมต่อกับน้องของชั้นก่อนเลย ...ได้โปรด แซม 




                                   Mana – ลาก่อนนะ ..


         
          Mana – เอาล่ะ แซม พาชั้นกลับบ้าน ไปหา Lockne 



Mana – ชั้นไม่ได้ไปข้างนอกมานานมาก ในสถานการณ์ตอนนี้มันมากเกินกว่าจะรับไหว
SAM – จริงๆหรอ? ผมคิดว่าคุณอาจจะอึดอัดหลังจากที่ต้องใช้เวลาอยู่ในซากปรักหักพังนี่มาตลอดซะอีก 
Mana – ชั้นไม่เป็นไร ตราบใดที่ยังมองเห็นข้างนอกจากถุงนี่ 

        

     ความอบอุ่นของแสง เพื่อสัมผัสสายลม ดมกลิ่นของโลก ....


              โชคดี ที่คุณทั้ง 2 คนเชื่อมต่อกันได้อย่างดีอยู่ 



                             เอาล่ะ แซม ไปกันเถอะ 


         Higgs – แหม่ๆ ตายแล้ว กะว่าจะมาเซอร์ไพรส์ซะหน่อย


Higgs – ดูเหมือนนายจะไม่ว่างใช่มั๊ยเนี่ย ไม่เป็นไร ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร เราแหกกฎกันเป็นปกติอยู่แล้ว






                        Mama – เตรียมพร้อมไว้นะแซม



Higgs – วู้ !!! ดูเหมือนมันกำลังหิวนะ สิ่งที่พวกนายต้องทำเพื่อให้มีชีวิตอยู่ต่อก็คือ อย่าถูกมันกิน ไงฟังดูแล้วน่าสนุกป่ะล่ะ? โอ้ แน่นอนต้องสนุกอยู่แล้ว ฮ่าๆๆๆๆ 

การต่อสู้กับ Variants Lion (β) BT นั้นสามารถใช้ได้ทั้งอาวุธสำหรับจัดการกับพวก BT ต่างๆรวมทั้งกระสุนปืนแบบปกติ การเคลื่อนไหวของมันสังเกตง่ายมาก ทั้งการพ่นยิงสสารออกจากปากเพื่อโจมตีจากระยะ ซึ่งสามารถใช้ปืนยิงระงับการโจมตีของมันได้ กับการมุดโคลนไปมาสลับกับการโดดเข้าตะบบก็สามารถหลบได้ไม่ยาก พยายามยิงอย่างต่อเนื่องไปเรื่อยๆ

       

ซึ่งถ้าอาวุธและกระสุนที่เตรียมมามีมากพอจะสามารถต่อสู้กับมันพื้นด้านหน้าทางเข้า Mama’s Lab ได้โดยไม่ต้องไปไหน ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ทำให้ได้เปรียบการต่อสู้ แต่ถ้ามีอาวุธ ไม่พอก็สามารถวิ่งออกไปสแกนหาตามจุดที่มีอาวุธตกในเขตที่มีโคลนท่วมได้ ซึ่งจะทำให้การเคลื่อนไหวในการต่อสู้ยากขึ้น
** สามารถเอาร่างของ Mama ไปวางไว้ด้านในของห้องลองของเธอในระหว่างที่ออกไปสู้ได้ด้วย ** 


                                     [Order No. 46] 

                    Mama Delivery: Mountain Knot City



เมื่อจัดการกับ Variants Lion (β) BT ลงได้แล้ว ภารกิจต่อไปคือพาตัว Mama ไปหา Lockne ที่ Mountain Knot City  ซึ่งคุณสามารถใช้รถทุกชนิดพาเธอไปส่งยังที่หมายได้


Mana - รู้มั๊ยชั้นยังคงฝันร้ายถึงตอนที่ติดอยู่ใต้ซากโรงพยาบาลนั่นอยู่ตลอด ทุนวันนี้ชั้นยังได้ยินเสียงปูนที่แตกออกตอนมันกำลังจะถล่มลงมาอยู่เลย ก็เลยกลัวว่าจะต้องตายแบบนั้นมาตั้งแต่วันนั้น แล้วชั้นก็กลัวความมืดด้วย ไม่สามารถนอนหลับได้อีกเลย 



Mana – เฮ้ แซม คุณจำตอนคุณเกิดได้มั๊ย? ส่วนชั้น จำได้ตั้งแต่ยังอยู่ในครรถ์เลยล่ะ ชั้นรู้ดีว่าชั้นไม่ได้โดดเดี่ยว ชั้นได้ยินเสียงเต้นของหัวใจของแม่ และก็ของ Lockne  เราเป็นคู่แฝดกัน เราตัวติดกัน เป็นหนึ่งเดียวกันมาตั้งแต่ก่อนที่เราจะเกิด แต่แล้วพวกเขาก็พยายามแยกเราออกจากกันด้วยการผ่าตัด ซึ่งมันก็สำเร็จด้วย แต่เราก็ยังสามารถสื่อถึงกันได้เสมือนเป็นหนึ่งเดียวกันอยู่ ความสุขของชั้นก็เหมือนความสุขของเธอ ความเจ็บปวดของเธอก็เหมือนของชั้น และไม่มีระยะทางไหนยาวไกลเกินกว่าที่เราจะขวางกั้นเราได้ บางคนอาจเรียกมันว่ากระแสจิต ในขณะที่กายแยกจากกันแต่จิตวิญญาณยังรวมกันเป็นหนึ่ง เรามีชายหาดของเราเองสำหรับเป็นที่เดียวที่เราสามารถแบ่งปันทุกอย่างด้วยกัน ไม่ต่างกับการมีเครือข่าย Chiral network ส่วนตัว คุณอาจจะพูดงั้นก็ได้ 



Mana – และด้วย Q-pid ที่เราออกแบบมันขึ้นมา เราก็จะสามารถทำให้คนอื่นๆแบ่งปันสิ่งต่างๆให้กันเหมือนกับที่ชั้นกับ Lockne ทำได้ ซึ่งชั้นก็ได้เห็นทุกอย่างที่ว่าวางอยู่ตรงหน้าหลังจากที่เราเซ็นสัญญาเข้าร่วมกับ Bridges ไม่นาน เครือข่ายที่สามารถรวมพวกเราทุกคนให้เป็นส่วนหนึ่งของกันและกันไม่ว่าแต่ละคนจะกระจัดกระจายหรือแตกต่างกันแค่ไหนก็ตาม นั่นจะทำให้เราเป็นหนึ่งเดียวกันอีกครั้ง 

Mana – มันจะไม่ใช่แค่การนำทุกคนเข้ามาหากันแต่มันเกี่ยวกับการนำพวกเขาเข้ามากอดประสานกัน ทุกครั้งทุกที่ที่พวกเขาได้แบ่งปันและแบ่งปันเหมือนกัน ชั้นรู้ว่ามันจะเปลี่ยนโลกได้ด้วยการช่วยเหลือของ Amelie เราจึงได้ข้อสรุปในการออกแบบ Q-pid ของเราแบบเป็นรูปธรรม จนกระทั้งมีการโจมตีเกิดขึ้น ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป เป็นครั้งแรกของชั้นที่ชั้นต้องอยู่ตัวคนเดียวโดยไม่มี Locked อยู่ด้วย แต่ตอนนี้ชั้นไม่ได้โดดเดี่ยวอีกแล้ว ชั้นสัมผัสถึงเธอได้อีกครั้ง เธออยู่ใกล้ๆนี่เอง  ... ขอบคุณนะแซม  ที่ทำให้ชั้นรู้สึกถึงการเป็นหนึ่งเดียวกันอีกครั้ง ..

        


                                Mountain Knot City  



                           Lockne  - ไม่นะ Målingen !!

          Lockne - ชั้นขอโทษ ... ขอโทษ .. ชั้นรักเธอมากนะ 



Målingen – ดีจัง ที่ได้ยินเสียงเธออีกครั้ง ..ชั้นพยายามจะรักษาเธอเอาไว้ แต่ชั้นทำไม่ได้
Lockne – เธอไม่ต้องพูดอะไรอีกแล้วล่ะ .. 



Målingen – Lockne เธอต้องซ่อม Q-pid นี่ให้เขา ชั้นช่วยลูกของเธอไม่ได้ แต่เธอสามารถช่วยโลกของเราได้นะ ...แค่เธอเท่านั้น ...ชั้นรักเธอนะ ได้ยินแล้วใช่มั๊ย?  รักเธอเสมอ ตลอดไป ..



   Målingen – เอาล่ะ ตอนนี้ก็ทำให้โลกรวมกันเป็นหนึ่งให้ได้เลยนะ โอเค๊? เหมือนกับเธอกับชั้น 






Lockne –  ที่ผ่านมาเธอต้องเจออะไรมาบ้างชั้นก็ไม่รู้ ชั้นคิดว่า .. ชั้นคิดว่าเธอตัดความสัมพันธ์ระหว่างเราไปเพราะเธอต้องการขโมยลูกของเราแล้วหนีไป ..ชั้นซ่อม Q-pid ของคุณตามที่เธอขอแล้วนะ ตอนนี้ตัว limiter ทำงานได้อย่างถูกต้องแล้ว ตอนที่ชั้นซ่อมมัน ชั้นนั่งดู Code ของมันอยู่นานมาก มั่นใจเลยล่ะว่า มีใครบางคนมาปรับแต่งระบบมันแน่นอน หรือไม่ชั้นอาจจะกังวลเกินไปก็ได้ 
SAM – มีบางคนมาเขียนรหัสของคุณใหม่งั้นหรอ? 
Lockne – เขียนใหม่อาจจะฟังดูเกินไปหน่อย เอาเป็นว่า มันไม่ใช่เวอร์ชั่นล่าสุดที่ชั้นเคยทำเอาไว้น่าจะถูกต้องกว่า



Lockne – แต่อย่างน้อยมันก็ทำให้ชั้นได้กลับมาเจอ Målingen อีกครั้ง และก็ได้พบผู้ร้ายของเราแล้วด้วย 



Lockne – เธอเสียชีวิตใต้ซากปรักหักพังนั่นพร้อมกับลูกของเราที่อยู่ข้างในตัวเธอ Ka ของเธอได้ข้ามไปยังอีกฝั่งหนึ่งแล้ว แต่ HA ของเธอยังคงผูกพันกับลูกสาวที่ตายไปของเรา แน่นอน เรื่องนี้เธอรู้ดีทั้งหมด 


เพราะงั้นแหละเธอถึงใส่ Cukk link เอาไว้ข้างเดียวอย่างหลวมๆเพราะไม่อยากให้ใครเห็นชีพจรของเธอ เธอคงรู้สึกอับอายที่เธอไม่สามารถใช้สิ่งประดิษฐ์ที่เธอโปรดปรานได้ 



              Lockne – ทั้งหมดที่เธอทำก็เพราะต้องการให้ชั้นและลูกสาวของเราปลอดภัย 


                              Mountain Knot City  - เชื่อมต่อแล้ว 



                                     Lockne - - เข้าร่วม UCA 

+ เพิ่มเติมไอเทมใหม่สำหรับปรับแต่ง backpack
- Stabilizer


ออฟชั่นเสริมของเป้สะพายหลังที่มีระบบการปรับสมดุลย์ของการทรงตัวอัตโนมัติ โดยใช้ระบบ เวอร์เนียร์ทรัสเตอร์ (Vernier thruster) ซึ่งเป็นตัวช่วยในการช่วยผลักดันที่ใช้ในยานอวกาศสำหรับการควบคุมลักษณะท่าทางการบินเป็นตัวช่วยควบคุมท่าทางของผู้ใช้ให้ได้สมดุลย์กับสินค้าที่แบก  แต่ถ้าผู้ใช้เกิดการเสียสมดุลย์จนเกินควบคุมทำให้เกิดการล้มขึ้นมาระบบก็จะช่วยลดผลกระทบที่จะเกิดจากการกระแทกไปสู่สินค้าด้วย

+ ข้อมูลการสัมภาษณ์ใหม่
The Terrorist View of Bridges
BTs and Voidouts
Lockne and Målingen


Lockne – เรากลับมารวมกันเป็นหนึ่งเดียวอีกครั้งแล้ว เป็นหนึ่งเดียวกันเหมือนตอนอยู่ในครรถ์แม่ไง จำได้มั๊ย? ... 



                                                  Målingen ... Lockne



Die-Hardman –  ทำได้ดีมากแซม ขอบคุณมาก ในที่สุดคุณก็ทำให้ Edge Knot city เชื่อมต่อมาถึงที่นี่ได้สำเร็จซักที และคุณกับ Lockne ที่ได้ช่วยกันจนทำให้เครือข่าย Chiral network กลับมาออนไลน์ได้สมบูรณ์อีกครั้ง ถ้าเราร่วมมือกัน การเดินทางไปยังตะวันตกต้องสำเร็จได้แน่นอน แต่ก่อนจะถึงตอนนั้น แซม  เรามีบางอย่างที่คุณอาจจะอยากรู้ เราได้ศึกษาข้อมูลของพวกทหารที่โจมตีคุณตามที่คุณบอกแล้ว เราได้ยินแค่เสียงแต่ไม่สามารถเห็นภาพได้สมบูรณ์มากนัก แต่ด้วยภาษาที่ได้ยิน และอาวุธที่ใช้ทำให้เราสามารถระบุได้ ทุกอย่างเชื่อมโยงให้เห็นเป็นนัยๆว่า สนามรบที่ว่านั่นมันเคยเกิดขึ้นเมื่อร้อยปีมาแล้ว มันคือ สงครามโลกครั้งที่ 1 แน่นอน แล้วมันก็ไม่ใช่ความฝันหรืออาการประสาทหลอนอะไรทั้งนั้น มันเหมือนจิตของคุณถูกดึงไปยังอีก มิติ นึงหรืออะไรซักอย่างนี่แหละ ความคลาดเคลื่อนของเวลาอาจทำให้คุณถูกส่งไปที่ชายหาด ซึ่งเราก็ไม่สามารถบอกได้อย่างชัดเจนหรอกนะ ผมเองก็ไม่เคยได้ยินว่า ชายหาด จะเปลี่ยนเป็นสนามรบได้มาก่อนด้วยซ้ำ แต่ก็นะ รูปร่างของชายหาดก็ขึ้นอยู่กับผู้อยู่อาศัยของมันก็ได้ บางที Heartman อาจมีคำอธิบายที่สมเหตุสมผลได้มากกว่า เขามีความชำนาญเรื่อง ชายหาดอยู่แล้ว น่าเสียดายที่เขายังอยู่นอกเครือข่าย Chiral Network  เอาล่ะ ยังไงก็ไปพักผ่อนก่อนเถอะ อย่าเพิ่งคิดมากเรื่องที่เรายังหาคำตอบไม่ได้ตอนนี้เลย 

-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

                                                   Interview data 


                     เรื่อง – The Terrorist View of Bridges
                         บันทึกเมื่อ 3 ปีก่อน ที่ Bridges HQ
                                   โดย - Die-Hardman

การเดินทางครั้งแรกเริ่มต้นได้โดยไม่มีปัญหาใด ๆ ทั้งทัพหน้าและกองกำลังติดอาวุธต่างก็เดินทางไปยังชายฝั่งตะวันตกได้ตามที่เราพูดเอาไว้ พวกเขาไม่ได้รายงานปัญหาใด ๆ เกี่ยวกับผู้ก่อการร้ายเลย แต่เมื่อพวกเขาเริ่มเดินทางไปไกลมากขึ้น ปัญหาใหญ่ที่แสนอันตรายก็เริ่มคืบคลานเข้ามา มีพวกแบ่งแยกดินแดนจำนวนมากที่ไม่ต้องการมีส่วนร่วมกับ UCA บางคนอาจจะสุดโต่งกว่าคนอื่น ๆด้วยซ้ำ แต่ก็ปฎิเสธไม่ได้เลยว่า เราไม่รู้ว่าจุดยืนและทัศนะคติที่แท้จริงของพวกเขาคืออะไรกันแน่

ดูเหมือนเมื่อก่อนนี้มันเป็นแค่ความแตกต่างทางอุดมการณ์เท่านั้น จนมันเริ่มเลวร้ายลงเมื่อ chiralium เริ่มเป็นที่ต้องการมากขึ้น จนมันเริ่มเปลี่ยนความคิดของผู้คน มันได้เปลี่ยนพวกหัวรุนแรงให้กลายเป็นคนบ้า , เป็นพวก MULE เป็น กลุ่มเกสตัลท์ (Gestalt ) และเกิดการถกเถียงกันอย่างรุนแรงมากมาย และตอนนี้เราก็กำลังมุ่งหน้าไปทางตะวันตกสู่ดินแดนของพวกเขาเหล่านั้น ก็ไม่ต่างจากการเป็น "ผู้บุกรุก" ที่มาเพื่อปล้นอิสรภาพของพวกเขา พวกเขากำลังรอเราอยู่ด้วยจิตใจที่แน่วแน่และปืนในมือ  Amelie และคนอื่น ๆ ไม่ได้มาเพื่อต้องการการต่อสู้ เธอกำลังพยายามพูดคุยกับผู้คนเพื่อโน้มน้าวให้พวกเขาเข้าร่วมกับเรา ถ้าทุกเมืองลงชื่อเข้าร่วมกับเราจนหมดประเทศชาติของเราก็จะกลับมารวมกันได้อีกครั้ง ไม่มีใครต้องการที่จะเอาอะไรไปจากคนเหล่านี้ นอกจากอยากจะให้ในสิ่งที่พวกเขาได้ทำให้หายไป แค่เพียงแต่ขอให้พวกเขาเปิดใจและทำความเข้าใจกับมันหน่อยเท่านั้นเอง...


                            เรื่อง – BTs and Voidouts
                      บันทึกเมื่อ 1 ปีก่อน ที่ Bridges HQ
                                 โดย - Heartman

ข้อสรุปดังต่อไปนี้ส่วนใหญ่ได้มาจากผู้เห็นเหตุการณ์จำนวนหนึ่ง ในขณะที่ผมจะแนะนำให้ทุกคนอย่าเพิ่งด่วนตัดสินพวกเขา ผมก็ยังเชื่อว่าพวกเขาจะแบ่งปันข้อมูลที่มีค่าให้

พวก BT ติดตามเหยื่อของพวกมันผ่านกระบวนการหลายขั้นตอน เริ่มแรกพวกมันเริ่มค้นหาเป้าหมายโดยสามารถสังเกตได้จาก "รอยมือ" ที่พวกมันทิ้งเอาไว้ เมื่อตรวจพบเหยื่อแล้ว BT หนึ่งตัวหรือมากกว่านั้นจะพยายามจับเป้าหมายและลากไปยังช่องว่างขนาดใหญ่ พูดให้เข้าใจง่ายๆก็คือ voidout จะไม่เกิดขึ้น ณ จุดที่เกิดการสัมผัสระหว่างยักษ์กับมนุษย์ แต่เมื่อมนุษย์ได้เข้าสู่ร่างกายของยักษ์ เราคิดว่านี่อาจเป็นเพราะนี่เป็นสถานที่เดียวที่มีปฏิสสารอยู่ภายใน

ก่อนที่พวกมันจะหายไปโดยไม่มีการร่ำลา พวก BTs นั้นแตกต่างอย่างสิ้นเชิงกับสิ่งมีชีวิตใด ๆ ในโลกนี้ และเราก็ยังต้องเรียนรู้เกี่ยวกับมันอีกมาก อย่างไรก็ตามมีสิ่งหนึ่งที่ผมมั่นใจที่สุด นั่นคือ เราต้องมาทำความเข้าใจพวกเขาให้ได้ ไม่เช่นนั้นก็จะไม่มีวันเอาชนะภัยคุกคามที่พวกมันก่อขึ้นกับพวกเราแน่นอน


                         เรื่อง – Lockne and Målingen
                      บันทึกเมื่อ 3 ปีก่อน ที่ Bridges HQ
                                       โดย - Lockne
             
คุณรู้ไหมว่าเราเคยฝันถึงอะไร? อยากจะรู้ว่าพ้นเมฆเหล่านั้นขึ้้นไปมันมีอะไรกันแน่ เราใช้ชีวิตทั้งชีวิตภายใต้ท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยเมฆหมอก chiralium มันคือสิ่งเดียวที่เรารู้จัก แต่เราก็รู้ว่าโลกนี้เคยกว้างใหญ่กว่านี้มาก

พ่อแม่ของเราบอกเรา พวกเขาเป็นนักวิจัยที่ทำงานให้กับองค์การนาซ่า ... แต่ทุกวันนี้คนส่วนใหญ่ไม่รู้ว่ามันคืออะไร มันสูญสลายกลายเป็นควันพร้อมๆกับงานของพ่อแม่เราด้วย  แต่เรายังคงมีความฝัน มันเป็นสิ่งเดียวที่พ่อแม่ของเรามอบให้เราโดยที่ไม่มีใครพรากมันไปจากเราได้

Målingen และ ชั้น ถูกตั้งชื่อตาม หลุมอุกกาบาต คู่หนึ่งที่ถูกทิ้งไว้โดยอุกกาบาตขนาดใหญ่ที่พุ่งมาชนโลกเมื่อ 450 ล้านปีก่อน หลุมอุกกาบาตเหล่านี้เป็นเครื่องพิสูจน์ว่าโลกนี้เป็นแค่ส่วนหนึ่งของบางสิ่งที่ใหญ่กว่า ซึ่งเรามีอยู่ในเอกภพที่เชื่อมต่อถึงกัน ชื่อของพวกเราใช้เป็นเครื่องเตือนใจในสัจธรรมนี้ คติของพ่อแม่ของเราว่าไว้ หวังว่าการแยกจากกันของเราจะเป็นแค่ชั่วคราว (hope that our isolation is eal hs temporary)

นั่นเป็นเหตุผลที่เราเข้าร่วมกับ Bridge  เพื่อนำพาผู้คนของประเทศนี้กลับมาหลอมรวมกันอีกครั้งและในวันหนึ่งก็อาจทำให้โลกใบนี้กลับไปเป็นหนึ่งเดียวกับจักรวาลที่ยิ่งใหญ่ที่ล้อมรอบมันไว้ด้วยก็ได้

------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

                                                 Private Room

หลังจากที่แซมตื่นขึ้นมาจากนอนหลับพักผ่อนในห้องพักส่วนตัวที่ Mountain Knot City แล้ว ในขณะกำลังทำกิจวัตรตามปกติโดยหลังตื่นนอนทุกครั้งเขาต้องเข้าไปทักทาย BB ใน Pod เพื่อเรียกรอยยิ้มรับวันใหม่ แต่วันนี้มันกลับแปลกๆไปเมื่อเข้าสังเกตจนรู้ว่า Pod ของ BB หายไปไม่ได้อยู่ที่เดิมเหมือนทุกที


               SAM – อะไรวะเนี่ย !?  .... LOU อยู่ไหนเนี่ย??



Deadman – LOU เนี่ยนะ ? ... คุณตามหาเจ้านี่อยู่หรอ? เซอร์ไพรส์ ! Fragile พาผมวาร์ปมาที่นี่น่ะ ในที่สุดผมก็สามารถเข้าไปเยี่ยมเยียนชายหาดได้แล้ว เอ่อหมายถึง ชายหาด ของเธอนี่แหละ  ไม่ต้องห่วง ผมไม่ได้มาที่นี่เพื่อเที่ยวชมสถานที่หรอกนะ แต่มาเพราะเรื่องเจ้า BB สุดที่รักของคุณกำลังจะมีปัญหาร้ายแรง !!

----------------------------------------------------------------------------------------------------------------


                              EPISODE 6: DEADMAN



Deadman – คุณอาจจำได้ว่าผมเคยอธิบายไปครั้งนึงแล้วว่าตู้อบเหล่านี้เชื่อมต่อ BBs กับแม่ของพวกเขาที่ HQ ผ่านเครือข่าย Chiral Network  Bridge Babies เป็นสะพานเชื่อมต่อระหว่างโลกของเรากับโลกอีกด้าน ที่อยู่ของพวก BB ไม่ได้อยู่ที่กับเรา ไม่เหมือนกับพวก BT ข้างนอกนั่น พวก BB อยู่ในพื้นที่ระหว่าง 2 โลกแบบเป๊ะๆแบบที่จะไม่มีวันโอนเอียงไปมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับโลกใดโลกนึงเป็นพิเศษ
 แต่เจ้า BB หมายเลย 28 ตัวนี้ มันกลับมีความโน้มเอียงไปทางโลกของคนเป็นมากขึ้นมากขึ้นทุกวัน นั่นเป็นเพราะคุณ Sam ! 



             SAM – ก็แน่นอนอยู่แล้ว เพราะเราเป็นคู่หูกันนี่ 



Deadman – คู่หู งั้นหรอ? แซม ผมบอกคุณแล้วว่า BB เป็นแค่เครื่องมือไม่ใช่มนุษย์ Bridges น่ะใช่ แต่ BB ไม่ใช่ 
SAM – แล้วคุณจะบอกได้ยังว่าปัญญาที่ว่ามันคืออะไร?
Deadman – ปัญหาคือ เจ้าเครื่องมือนี่ อาวุธอันนี้ กำลังจะกลายเป็นสิ่งมีชีวิต มันเริ่มมีน้ำหนักที่เพิ่มขึ้น มีกิจกรรมทางสมองมากขึ้น และมันเริ่มมีการสะสมความทรงจำแล้ว เจ้า BB หมายเลข 28 กำลังเริ่มรู้สึกว่ามันเป็นเด็กทารกจริงๆ 
SAW – ฟังดูแล้วมันก็ไม่เห็นเป็นปัญหาสำหรับผมเลยนี่ 



Deadman –  มันคือ Hardware แซม มันถูกผลิตมาเพื่อวัตถุประสงค์ในการใช้งาน แล้วไอ้จุดประสงค์ที่ว่ามันก็ไม่สามารถทำได้ถ้ามันอยู่ของนอก Pod ปกติถ้าเกิดความเสี่ยงที่จะเกิดความล้มเหลวซัก 70% เราก็แค่ถอดมันออก ซึ่งก็ไม่ได้สำคัญอะไรหรอก อย่างมากมันก็แค่หยุดทำงานซักวันสองวัน
SAM – หยุดทำงานงั้นหรอ?
Deadman – ใช่แล้ว ถ้า Pod นี่เอาไม่อยู่มันก็จเกิดการ brick แบบเครี่องอิเลกทรอนิกส์ที่ไม่ทำงานนั่นแหละ 
SAM – แล้วเราต้องทำยังไง?
Deadman – เราต้องรีเซ็ทมัน 



Deadman – ซึ่งนั่นเป็นหน้าที่ของผมเอง ชัวร์ล่ะ ผมจะต้องตัดสายสะดือที่เชื่อมต่อระหว่างคุณกับ BB-28 ก่อนแล้วจากนั้นก็ค่อยเริ่มกระบวกการเชื่อมต่อไปยังโลกอีกด้าน คิดว่ามันคงต้องมีการชักเย่อกันนิดหน่อยเพื่อแก้ไขและจัดตำแหน่งให้มันกลับมาอยู่กึ่งกลางระหว่างโลกคนเป็นและโลกแห่งความตายให้ถูกต้องเพื่อนำกลับมาใช้ใหม่อีกครั้ง แต่ก็อย่างที่บอก คุณคงไม่ได้ใช้งานมันซักพักอ่ะนะ 



SAM – คุณแน่ใจนะว่าจะสำเร็จน่ะ? 
Deadman – แน่นอน สำเร็จสิ แต่ต้องเข้าใจด้วยนะว่า กระบวนการซ่อมแซมอาจทำให้ความทรงจำของมันลดลง
SAM – ความทรงจำลดลง หมายถึง Lou จะจำผมไม่ได้งั้นหรอ?
Deadman – ใจเย็น BB มีฟังก์ชั่นที่ถูกตั้งเอาไว้ตามเป้าหมายอยู่แล้ว คุณต้องเชื่อใจผม เถอะน่า เอามาให้ผม มันก็เหมือนกับการเล่นเกมนั่นแหละ ก็แค่เลือก Retry แล้วค่อยเริ่ม Start ใหม่อีกครั้ง แค่นั้นเอง 



Deadman – ผมเพิ่งชำระล้างทำความสะอาดสิ่งสกปรกจากทริปที่ไปเยือนชายหาดมาเมื่อกี้เอง แต่เจ้า BB ของคุณก็ดันมาฉี่รดกันแบบนี้อีก บ้าเอ้ย ผมคงต้องขอใช้ห้องน้ำนะ 



ท่าทางแปลกของ Deadman ที่ดูพะว้าพะวงในขณะกำลังเดินไปห้องน้ำ แซมอดไม่ได้ที่จะสงสัยเลยเข้าไปที่ห้องน้ำ ทำให้ Deadman รีบเดินออกมาเพื่อให้แซมเข้าไปก่อนที่เข้าจะพรวดพราดตามเข้าห้องน้ำไปทันที !



Deadman – ไม่ต้องกลัว ผมไม่อยากให้ใครแอบฟังเรื่องที่เราคุยกัน รู้กันเฉพาะคุณกับผมนะ ไม่มีการบันทึกวิดิโอเพื่อวิเคราะห์อะไรทั้งนั้นไม่ว่าใครจะว่ายังไงก็เถอะ เข้ามานี่ใกล้ๆหน่อย ฟังนะ เรื่องที่เราจะคุยกัน ห้ามให้ Die – Hardman รู้เด็ดขาด เข้าใจนะ


Deadman –  ..คือ ผมได้ขุดเข้าไปในไพล์ข้อมูลการทดลองเรื่อง BB ครั้งแรก จริงๆแล้ว โครงการนี้ถูกระงับโดยรัฐบาลตั้งแต่เมื่อครั้งที่เกิด Voidout แล้ว โดยอ้างถึงเรื่องความปลอดภัยในชีวิตของรักษาการณ์ประธานาธิบดีในตอนนั้น เอกสารทั้งหมดต้องถูกทำลายเพราะโครงการ BB Technology ถูกยกเลิกไปแล้วใช่มั๊ยล่ะ? แต่ เห็นได้ชัดว่าการทดลองยังคงเดินหน้าต่อไปอย่างลับๆ โดยคำสั่งของ ประธานาธิบดี Strand โดยตรง 
SAM - Bridget ??



Deadman – ใช่แล้ว  โดยอ้างว่า BB เป็นสิ่งสำคัญในการไขปริศนาของปรากฎการณ์ Death Stranding  แต่จริงๆแล้วดูเหมือนเธอจะมีแผนที่ใหญ่กว่านั้น  BB ไม่ได้ออกแบบมาเพื่อเป็นเครื่องตรวจจับ BT แต่เธอต้องการรวมพวก BB เข้ากับเครือข่าย Chiral Network เพื่ออำนวยความสะดวกในการเดินทางไปที่ชายหาด แต่มันไม่ทำให้เธอบรรลุผลที่ต้องการ จน BB Technology ตกไปอยู่ในมือของพวกผู้ก่อการร้าย 
SAM – แล้ว Die – Hardman มีส่วนกับเรื่องนี้ด้วยรึเปล่า?
Deadman – ผมกำลังสืบอยู่ ผมไม่รู้ว่าเขาทำงานให้ ประธานาธิบดี Strand มานานแค่ไหนแล้ว ไม่รู้ชื่อจริงและไม่เคยเห็นหน้าเขาเลยด้วยซ้ำ แต่ผมคิดว่าคุณอาจจะมีโอกาสได้รู้เพราะคุณทั้งสองได้เจอกันตลอด  
SAM – เจอกันกี่ครั้งเขาก็สวมหน้ากากอยู่ตลอดนั่นแหละ เหมือนหน้าเขาถูกเผาไหม้โดยอะไรซักอย่าง 
Deadman – ก็จริง ...ข้อมูลทุกๆอย่างในตอนนั้นต้องเป็นข้อมูลลับระดับสูงที่สุด และเท่าที่ผมรู้มีแต่ ผ.อ คนเดียวเท่านั้นที่สามารถใช้คำสั่งทำลายข้อมูลพวกนั้นได้ แต่เครือข่าย Chiral Network นำเสนอโอกาสใหม่ด้วยการรวบรวมข้อมูลที่กระจัดกระจายในโดเมนสาธารณะจากทั่วประเทศ ซึ่งผมอาจรวบรวมชิ้นส่วนของปริศนาเล็กๆเหล่านี้ให้มารวมกันได้ ... ระวังด้วยนะ Sam พวกเขาเฝ้ามองอยู่ตลอด 



Deadman – โอ้ เยี่ยมเลยแซม ความคิดดีมาก เอาตามนั้นก็ดีเหมือนกันนะ มันคงเป็นทางเดียวที่จะออกไปร้านซักรีดที่ดีที่สุดแล้วอ่ะนะ 



SAM – ตกลงคุณจะเอา BB ไปซ่อมจริงๆใช้มั๊ย? 
 Deadman – โอ้ ไม่ๆ คุณต่างหากที่ต้องเป็นคนซ่อมมัน ผมคงทำไม่ได้หรอกถ้าไม่มีคุณช่วยน่ะ เข้าไปตรวจสอบดูคำสั่งใน Delivery terminal ที่ชั้นบนได้เลยนะ แน่นอน เมื่อคุณพร้อม


สำรวจ Delivery terminal ที่ Mountain Knot City เพื่อตรวจรับภารกิจ 


Die-Hardman –  Deadman แจ้งผมว่า BB ของคุณไม่ได้ประสิทธิ์ภาพตามสเปค ช่วงนี้เราจึงจะให้ภารกิจพื้นฐานที่ไม่ใช่ภารกิจหลักให้คุณทำก่อนจนกว่าจะกู้ฟังก์ชั่นต่างๆให้กลับมาเหมือนเดิมได้ เรามีแค่ DOOMS ยูนิตมาตรฐานที่กำหนดไว้สำหรับการใช้งานทั่วไปเท่านั้น และ คุณต้องเจอกับพวก BT อีกมากตอนที่มุ่งหน้าไปตะวันตก ในกรณีประเด็นที่ทางamelie ได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับแอ่งน้ำมันดิบ (Tar belt) ที่ทอดยาวในบริเวณโดยรอบเมือง Edge knot city ซึ่งในพื้นที่ส่วนใหญ่ก็จะมีพวก BT ที่ Higgs มันเรียกออกมายั้วเยี้ยเต็มไปหมด แม้ว่าเราจะมีความต้องการให้คุณรีบไปพาเธอออกไปโดยเร็วที่สุด แต่ก็โอกาสก็แทบจะเป็นศูนย์ที่คุณจะทำได้โดยไม่มี BB ของคุณ เพราะงั้นคุณจึงต้องจัดอันดับความสำคัญในสิ่งที่ต้องทำให้ดี โดยอย่างแรกเลย คุณต้องช่วย Deadman ในการฟื้นฟู BB ของคุณให้กลับมาทำงานได้อีกครั้งก่อนเลย เนื่องจากตอนนี้เขาก็อยู่ในเมืองนี้ด้วย คุณสองคนก็สามารถพูดคุยกันด้วยตนเองถึงการทำงานได้เลย 




Deadman – ไงแซม โทษทีนะตอนนี้ผมยุ่งมากๆเลย คงไม่ว่าอะไรนะถ้าเราจะคุยกันแบบโฮโลแกรมไปก่อนน่ะ เอาล่ะ ก่อนอื่นเลยผมอยากจะให้คุณชักชวน Preppers ในบริเวณโดยรอบภูเขาหิมะนี่ให้เชื่อมต่อกับเครือข่ายของเราเพื่อทำให้ความหนาแน่นของ Chiral มีมากขึ้น ซึ่งนั่นจะเป็นการช่วยหนุนให้การเชื่อมต่อระหว่าง BB-28 กับ Stillmother ง่ายยิ่งขึ้น แล้วจากนั้น ก็อย่างที่ผมบอกไปแล้ว เราจะปรับทัศนคติของ BB ของคุณใหม่ และเพื่อทำให้กระบวนการนั้นง่ายขึ้น เราจึงจำเป็นต้องปรับระยะห่างระหว่างคุณสองคน ซึ่งปล่อยให้เป็นหน้าที่เราเอง ระหว่างที่คุณออกไปทำภารกิจ BB ต้องอยู่กับเราที่นี่ไปก่อน ถ้าทุกอย่างเป็นไปตามแผน ฟังก์ชั่นต่างๆของ BB-28 ก็จะกลับมาเป็นปกติเร็วๆนี้ แน่นอน 

  Die-Hardman –  โชคดี ที่แผนนี้ทำให้เป้าหมายอื่นๆของเราก้าวหน้าไปพร้อมๆกันด้วย เพราะยังไงเราก็ต้องการรวมภูมิภาคนี้เข้ากับเครือข่าย Chiral Network อยู่ดี เพื่อสร้างความสัมพัมธ์กับเหล่า Preppers แถวๆนี้ ด้วยการส่งของให้เพื่อโน้มน้าวใจให้พวกเขาเข้าร่วมกับเรานั้นมันไม่ได้ง่ายเหมือนเดิมแบบบ้านเราเพราะที่นี่เป็นเขตภูเขา แต่ถึงกระนั้นก็มีผู้คนมากมายก็พร้อมจะเปิดใจเข้าร่วมกับเราอยู่  คุณจะต้องค้นหาที่พักอาศัยของพวกเขาที่กระจัดกระจายอยู่ทั่วพื้นที่ภูเขานี้ให้เจอ ซึ่งเรามีรายชื่อภารกิจที่พวกเขาออเดอร์มาอยู่ใน Delivery terminal ที่เหลือคุณก็ค่อยๆสานความสัมพันธ์กับพวกเขาไปทีละคนทีละคนให้หมด แต่อย่างไรก็ดี ตอนนี้ความสามารถในการตรวจจับ BT ของคุณนั้นก็ต้องลดลงอย่างมากด้วย พยายามเปิดหูเปิดตาเอาไว้ หากได้ยินอะไรที่มันผิดปกติก็ให้หนีให้ไกล วิ่งได้ก็วิ่งไม่ต้องรีรอเลยก็แล้วกัน

----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

แต่ก่อนจะรับภารกิจต่อไป ที่ต้องออกสำรวจหา ที่อยู่ของ Prepper ในบริเวณพื้นที่โดยรอบของภูเขาหิมะเพื่อเชื่อมต่อกับพวกเขา เรามาทำความรู้จักตำแหน่งของ Prepper ต่างๆที่อยู่ในอาณาบริเวณแถวๆภูเขาหิมะกันก่อน  โดย Prepper Shelter ที่ซ่อนตัวอยู่ในบริเวณภูเขาหิมะจะมีทั้งหมด 10 แห่งประกอบด้วย



                                        Prepper Shelter S41-09 [The Roboticist]
                                        Prepper Shelter S41-07 [The Doctor]
                                       Prepper Shelter S41-04 [The Photographer]
                                       Prepper Shelter S41-015 [The Mountaineer]
                                        Prepper Shelter S41-08 [The Spiritualist]
                                        Prepper Shelter S41-87 [The First Prepper]
                                      Prepper Shelter S41-46 [The Veteran Porter]
                                   Prepper Shelter S41-XX [The Evo-devo Biologist]
                                     Prepper Shelter S41-XX [The Paleontologist]
                                         Prepper Shelter S41-XX [The Geologist]


---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

สำรวจ Delivery terminal ที่ Mountain Knot City จะพบภารกิจที่เพิ่มเข้ามา คือ 
[Order No. 47] High- Bounce Delivery: Roboticist
[Order No. 47] Medicine Sample Delivery: Doctor


  
                                  [Order No. 47] 

                     High- Bounce Delivery: Roboticist



 เป้าหมายของภารกิจคือนำส่ง High- Bounce จาก Mountain Knot City ไปยัง Roboticist
โดยเส้นทางการจาก Mountain Knot City  ไปยัง The Roboticist นั้นต้องเดินทางขึ้นเขาหิมะจากด้านหลัง Mountain Knot City ผ่านพื้นที่ของงหิมะ Timefall ที่เต็มไปด้วยพวก BT ไปก็จะพบ Roboticist


 อยู่บนสันเขาด้านบนพร้อมบ่อน้ำพุร้อน โดยระหว่างทางอย่าลืมเก็บ Lost Cargo ของ Roboticist ที่ตกหล่นอยู่บนภูเขามาให้มากที่สุดด้วย

      

                  Prepper Shelter S41-09 [The Roboticist]



                                รางวัลที่ได้จากการปลดล็อก Connection Level

1 ดาว หรือเมื่อเชื่อมต่อกับ UCA แล้ว  – All – terrain Skeleton (LV1)
2 ดาว – NO
3 ดาว – เพิ่มค่า Chiral Bandwidth, Roboticist Hologram และ All-Terrain Skeleton Lv 2
4 ดาว - เพิ่มค่า Chiral Bandwidth ให้มากขึ้นอีก , Roboticist's Son Hologram และ All-Terrain Skeleton Lv 3
5 ดาว –เพิ่มค่า Chiral Bandwidth และ Delivery Bot Hologram


ไอเทมดีๆที่ The Roboticist  สามารถสร้างให้ได้ ก็คือ All-Terrain Skeleton  ขาเสริมแรงที่ทำให้ผู้สวมใส่สามารถเคลื่อนย้ายสินค้าได้อย่างตั้งตรงอยู่เสมอแม้ในภูมิประเทศที่ขรุขระ ทำให้ไม่เกิดการลื่นล้ม เสียการส่งตัว และไม่ทำให้ความเร็วลดลงในตอนเคลื่อนไหว รวมทั้งยังไม่ทำให้เสีย Endurance Gauge ด้วย ซึ่งจะทำให้การเดินทางในพื้นที่ทุระกันดารหรือภูเขาได้ง่ายขึ้น

                                        The Roboticist Standard Orders

[285] High-bounce Springs for Bot Repair Delivery ส่งของไปยัง The Doctor
[286] Prototype Medical Device Delivery (Fragile) ส่งของไปยัง The Doctor
[287] Realistic Cryptobiote Models Delivery ส่งของไปยัง Novelist's Son
[288] Miniature Weather Radars Delivery (Fragile) ส่งของไปยัง Weather Station
[290] Portable Medical Devices Delivery ส่งของไปยัง Distribution Center North of Mountain Knot City

และจากภารกิจ [285] High-bounce Springs for Bot Repair Delivery ใน Standard Orders ของ The Roboticist  กำหนดให้ไปส่งของที่ Prepper Shelter S41-07 [The Doctor]ที่อยู่ทางตะวันตก ทำให้ แซม มีโอกาสเข้าไปสานความสัมพันธ์กับ The Doctor ได้ก่อนจะรับภารกิจหลักได้


แต่เส้นทางจาก The Roboticist  ไปยัง The Doctor นั้นเป็นเส้นทางที่แสนจะทุระกันดารท่ามกลางภูเขาหิมะสูงชัน ที่เต็มไปด้วยเส้นทางที่ยากลำบาก Timefall Snow ที่มีฤทธิทำลายล้างไม่ต่างจาก ฝน Timefall และแน่นอน ยังมีพวก BT เข้ามาตามทำให้ทุกอย่างมันยากลำบากมากขึ้นในทุกที่ที่ Timefall Snow

ก่อนจะรับภารกิจที่จะส่งของไปที่ The Doctor นั้น สิ่งที่ควรทำก่อนคือการนำสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆไปไว้ตามเส้นทางทั้ง บันได เชือกปีน ไปวางไว้ตามเส้นทางต่างๆที่ต้องการจะผ่านไปให้พร้อมเท่าที่จะทำได้ก่อน แล้วค่อยรับภารกิจ [285] High-bounce Springs for Bot Repair Delivery ใน Standard Orders ของ The Roboticist ไปส่งให้ Doctor



จากนั้นกลับไปสำรวจ Delivery terminal ที่ Mountain Knot City
รับภารกิจ 
[Order No. 47] Medicine Sample Delivery: Doctor


                                                  [Order No. 48]  

                        Medicine Sample Delivery: Doctor



             เป้าหมายของภารกิจคือนำส่ง Meducine จาก Mountain Knot City ไปยัง Doctor



โดยหาจะเดินทางมาจาก Mountain Knot City ตำแหน่งของ  The Doctor  จะอยู่บริเวณตีนเขาด้านหลังของ  Mountain Knot City  นั่นเอง

                               Prepper Shelter S41-07 [The Doctor]



                                 รางวัลที่ได้จากการปลดล็อก Connection Level

1 ดาว หรือเมื่อเชื่อมต่อกับ UCA แล้ว  – Canteen LV2 ที่ผสมเครื่องดื่มชูกำลัง Monster ทำให้ดื่มแล้วสามารถเพิ่มเติมเกจ Stamina ได้มากกว่าเดิม
2 ดาว – NO
3 ดาว – เพิ่มค่า Chiral Bandwidth, เพิ่มเติมสี Olive Drab ของแว่น Ludens Mask และ Backpack
4 ดาว - เพิ่มค่า Chiral Bandwidth ให้มากขึ้นอีก , Doctor Hologram, Medical Device Engineer Hologram, เพิ่มเติมสี Olive Drab ของแว่นกันแดดของ Sam
5 ดาว –เพิ่มค่า Chiral Bandwidth และ เพิ่มเติมสี Olive Drab ของหมวก


ไอเทมดีๆที่ The Doctor สามารถสร้างให้ได้หลังจากเข้าร่วม UCA แล้วก็คือ High – Capacity Blood Bags ซึ่งก็คือ Blood Bag คุณภาพสูงขนาดใหญ่ที่สามารถใช้เติมเลือดได้มากกว่าแบบธรรมดา

                                            [The Doctor] Standard Orders

[322] Chilled Experimental Solvents Delivery ส่งของไปที่ Roboticist
[323] Large Consignment of Duel for Cold Regions Delivery ส่งของไปที่ The Mountaineer
[324] Antiviral Drugs Delivery ส่งของ(ด่วน)ไปที่ The Mountaineer
[325] Bacteria Samples Stolen by Terrorists Retrieval เข้าไปชิงเอาของเป้าหมายใน Terrorist Camp กลับมา (แบบด่วน)
[326] Old-fashioned Synthetic Liquor Delivery ส่งของไปที่ First Prepper
[327] Fresh Cryptobiotes Delivery ส่งของ(ด่วน)ไปที่ Novelist's Son
[328] Emergency Medical Supplies Delivery ส่งของไปที่ Weather Station
[329] Large Consignment of Emergency Medical Supplies Delivery  ส่งของ(ด่วน)ไปที่ Distribution Center North of Mountain Knot City
[331] Synthetic Cryptobiote Samples Delivery ส่งของ(ด่วน)ไปที่ Mountain Knot City
[332] Cryptobiotes for Medicinal Use Delivery ส่งของ(ด่วน)ไปที่ Mountain Knot City
[333] Legendary Batard-Montrachet Wine Delivery ส่งของ(แบบดูแลเป็นพิเศษ)ไปที่ Heartman's Lab

                                                    Interview data 


                 เรื่อง – Prepper Interview:The Doctor
             บันทึกเมื่อ 1 ปีก่อน ที่ Prepper Shelter S41-07
                                    โดย The Doctor 

ผมรู้ว่าคุณกำลังคิดอะไรอยู่ คุณกำลังคิดว่า "ทำไม prepper อย่างผมถึงอ้างว่าตัวว่าเป็นหมอ?" ไม่ต้องกังวลไปหรอกคุณไม่ใช่คนแรกที่แอบคิดแบบนี้ มั่นใจได้เลยว่าผมเป็นหมอจริงๆ แล้วก็มีใบอนุญาตทางการแพทย์ด้วยนะ แม้ว่าคนในรัฐบาลที่ออกให้ผมจะหายตัวไปนานก็เถอะ ดังนั้นมันจึงไม่ใช่เป็นการกระทำผิดกฎหมายอะไร แต่จะมีใบอนุญาตหรือไม่นั้นผู้คนในตอนนี้ก็ยังคงต้องการแพทย์อยู่ดี โดยเฉพาะพวก Preppers ต่างก็ป่วยกันมาก คุณเองก็เดินทางไปจนทั่วน่าจะเคยรับรู้มาบ้าง ใช่มั๊ยล่ะ?

ปกติคนส่วนใหญ่ก็มักจะถูกพาไปโรงพยาบาลในเมืองทันทีเมื่อมีอาการผิดปกติ แต่คนที่อยู่นอกเมืองไกลๆพวกเขาไม่มีทางเลือก และเราก็ไม่สามารถปล่อยให้คนเหล่านั้นตายได้ ซึ่่งคุณรู้ดีว่าอะไรจะตามมาถ้ามีคนตายขึ้นมา และผมก็กำลังทำสิ่งที่ผมสามารถทำได้เพื่อช่วยพวกเขา แถว ๆ นี้ผมเป็นคนเดียวที่น่าเชื่่อถือที่สุดว่าจะสามารถรักษาชีวิตพวกเขาให้มีชีวิตอยู่ต่อไปได้ เมื่อใดก็ตามที่ผมต้องการ ผมจะพยายามหาใครซักคนที่จะพาผมไปส่งที่บ้านของผู้ป่วยให้ได้ แต่นั่นก็เป็นวิธีที่ไม่ค่อยมีประสิทธิภาพมากนัก แต่มันก็ไม่ได้ทำให้ผมกลัวการเป็น porters หรอก

ผมได้ยินมาว่า Bridge กำลังพยายามนำทุกคนเข้าสู่เครือข่าย chiral ถ้ามันดีเท่าอย่างที่ผมเคยได้ยินมา มันจะเป็นตัวเปลี่ยนเกมที่แท้จริงเลยล่ะ เพราะมันจะทำให้สามารถทำการวินิจฉัยโรคและรักษาโรคบางอย่างโดยไม่ต้องออกจากที่พักของผมเลย ผมหวังว่าคุณจะสามารถขยายเครือข่ายครอบคลุมทั้งหมดในพื้นที่ได้ในไม่ช้านะ เพราะยังมีคนจำนวนมากที่ไว้วางใจและหวังพึ่งพาเราทั้งคู่อยู่

-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------

 สำรวจ Delivery terminal ที่ Mountain Knot City จะพบภารกิจที่เพิ่มเข้ามาอีกอัน คือ 
 [Order No. 49] Antibiotic Delivery: The Mountaineer

                                                   [Order No. 49]

                Antibiotic Delivery: The Mountaineer



ภารกิจนี้คือการนำส่ง ยาปฏิชีวนะ (Antibiotic) จาก Mountain Knot City ไปยัง Prepper Shelter S41-015 [The Mountaineer]


โดยเส้นทางที่ใกล้และสะดวกที่สุดคือ ทางแยกด้านขวาจากแค้มป์ของพวก MULE ตรงเส้นถนนก่อนเข้าเขตภูเขา


                                                    The Mountaineer


Mountaineer - เธอบอกตอนนี้เธอเริ่มดีขึ้นแล้ว แต่ผมไม่อยากโกหกตัวเองหรอกนะ แม้ว่าพวกเขาจะทำงานอย่างรวดเร็ว หมอบอกว่าเธอต้องใช้ยาปฏิชีวนะมากกว่านี้ ตอนนี้เธอกำลังท้องด้วย ผมเองก็อยากให้เธอดีขึ้นให้เร็วที่สุด ได้โปรด ช่วยไปหาหมอมาหาผมที่นี่หน่อย เขาน่าจะมีเครื่องไม้เครื่องมือที่พอจะช่วยได้ เพราะผมไม่สามารถสื่อสารบอกรายละเอียดของอาการได้เลยเพราะ สัญญามันขาดๆหายๆตลอด ถ้าหมอมาที่นี่ได้จะดีมากๆเลย คุณสามารถเอาของทุกอย่างที่ต้องการใน Private Locker ไปได้เลยนะถ้ามันจะช่วยในการเดินทางของคุณได้ 

สำรวจ Delivery terminal ที่ The Mountaineer จะพบภารกิจที่เพิ่มเข้า คือ [Order No. 50] [URGENT] Medical Device Delivery: Mountaineer

                                  [Order No. 50] 

      [URGENT] Medical Device Delivery: Mountaineer


ภารกิจนี้คือภารกิจส่งด่วนที่ต้องเดินทางจาก Prepper Shelter S41-015 [The Mountaineer] ไปเอา อุปกรณ์ทางการแพทย์ (Medical Device) ที่ Prepper Shelter S41-07 [The Doctor] กลับมาที่ Mountaineer ภายในเวลา 60 นาที โดยเส้นทางที่ใกล้ที่สุดก็คือเส้นทางเดิมตอนที่เดินทางจาก Mountain Knot City มา Mountaineer


Doctor – อ่า คุณมาถึงแล้ว Mountaineer เพิ่งติดต่อผมมา ดูเหมือนการรักษาที่ผมทำก่อนหน้ามาตลอดจะไม่ได้ผล ผมหวังว่ายาปฏิชีวน่าจะเอาอยู่ แต่เราลองแล้ว แต่การติดเชื้อในขณะตั้งครรภ์อาจทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนได้ง่าย ซึ่งแม้เธอจะรอดได้ก็มีความเสี่ยงที่จะเกิดภาวะสมองเสียหายหรือสมองตายได้ ตอนนี้ผมต้องการให้คุณนำส่ง Bio Printer และ Remote medical terminal ไปยัง Mountaineer เพื่อทำการรักษาทางไกลโดยด่วนเลย ถ้าคุณทำให้เขาเชื่อมต่อกับเครื่อข่าย Chiral network กับผมได้ ผมก็จะใช้เครื่องมือพวกนี้ วินิจฉัยสภาพของผู้ป่วยและให้การรักษาได้ ในปัจจุบัน มีเพียงวัคซีนที่ใช้ไวรัสที่มีส่วนประกอบที่ไม่ใช่สิ่งมีชีวิตอื่น ๆ เท่านั้นที่สามารถสร้างขึ้นได้ แต่ในอนาคต ความก้าวหน้าอาจทำให้เราพ้นจากข้อจำกัดนี้ก็ได้ จริงๆผมก็ไม่อยากพูดอะไรมากหรอกนะ แต่ อุปกรณ์พวกนี้มันละเอียดอ่อนแตกหักเสียหายง่าย ขนส่งระวังหน่อยก็ดี 


จากนั้นนำส่ง Bio Printer และ Remote medical terminal ที่ได้จาก Doctor ไปยัง Mountaineer ภายในเวลา 60 นาที


Mountaineer - คุณกลับมาแล้ว ขอบคุณพระเจ้า เธอเข้มแข็งมากอาการยังทรงๆอยู่ ดีๆมากที่คุณรีบมา หมอบอกว่าเราจะทำการรักษาได้ต้องเชื่อมต่อเครือข่าย Chira Network เสียก่อน งั้นก็เอาเลย ลงมือเลย เราขอร่วมกับ UCA ด้วย จะเป็นยังไงผมก็ไม่สนหรอก 



                               Prepper Shelter S41-015- เชื่อมต่อแล้ว 



                            The Mountaineer - - เข้าร่วม UCA 

+ เพิ่มเติมไอเทมใหม่ที่สามารถสร้างได้ใน Delivery terminals
- Bridges Boots LV3
- Power Gloves


ถุงมือจอมพลัง ที่จะทำให้ผู้สวมใส่มีพลังในการจับและเกาะมากขึ้น ทั้ง สามารถปีนที่สูงๆได้โดยง่าย , ดึงตัวกับเชือกและบันไดได้เร็วขึ้นและไม่ทำให้ Endurance Gauge ลดจนเหนื่อยด้วย , ยึดเกาะพื้นตอนลื่นไหลได้ง่ายขึ้น , ยกสินค้าหนักได้มากขึ้น และ สามารถใช้ในการต่อสู้มือเปล่าในการอัดศัตรูได้รุนแรงมากขึ้น ** เสียแบตเตอรี่ในการใช้งาน **

+ ข้อมูลการสัมภาษณ์ใหม่
Prepper interview: The Mountaineer


Mountaineer – คุณหมอหรอครับ? เป็นยังไงบ้างครับ??
Doctor – อ่า โอเค ผมเพิ่งเปิดเครื่องเมื่อกี้ รอแปบนะ ทุกอย่างต้องโอเคไม่เป็นไรหรอก ด้วยเครื่องมือนี้มันจะทำให้ชั้นรักษาเธอได้เหมือนกับผมไปอยู่ที่นั่นด้วยตัวเองเลยล่ะ Remote medical terminal นี่สะท้อนการเคลื่อนไหวของผมได้อย่างสมบูรณ์มากๆ และด้วย Bio Printer นี่ก็ทำให้ผมสร้างวัคซีนขึ้นมาเองได้ มันเป็นเรื่องน่าละอายมากที่คนเก่งๆกว่าผมไม่มีโอกาสที่จะสร้างสิ่งเหล่านี้อีกแล้ว สิ่งที่คุณเห็นอยู่นี่คือสิ่งเดียวที่เรามี อย่าห่วงไปเลย เราจะทำทุกทางที่ทำได้เพื่อรักษาชีวิตลูกของคุณให้คลอดออกมาอย่่างปลอดภัยที่สุด
Mountaineer – โอ้ ขอบคุณมากๆ มันเหลือเชื่อ เหลือเชื่องจริงๆเลย 
Doctor – นั่นเป็นเพราะเครื่อข่ายที่เขาสร้างขึ้นมา และมันจะช่วยเปลี่ยนหน้าประวัติศาสตร์ทางการรแพทย์ไปตลอดกาล เอาล่ะ ผมขอไปดูอาการเธอต่อก่อนนะ ไหนให้หมอดูหน่อยสิ
Mountaineer – คุณเป็นคนนำสิ่งดีๆมาให้เรายิ่งกว่านำหมอตัวเป็นๆมาให้ซะอีกนะแซม ขอบคุณมากๆเลย 



Deadman – ทำดีมากแซม ตอนนี้ BB-28 ใกล้จะกลับมาสมบูรณ์พร้อมจะทำงานต่อได้ในเร็วๆนี้แหละ เจ้าหนูนี่มันทหารของจริงเลยล่ะ ทำต่อไปนะแซม



Die-Hardman –   ผมมีคำสั่งใหม่สำหรับคุณต่อแซม ภารกิจสร้างเครือข่าย Chiral network ให้ครอบคลุมพื้นที่นี้ทั้งหมดยังคงต้องทำต่อไป จะพูดก็ได้ว่า นี่เป็นโอกาสที่ดีที่สุดที่จะสร้างความเปลี่ยนแปลงให้เกิดขึ้นที่นี่ คุณสามารถรับ Order ที่  Mountaineer ได้เลยเมื่อคุณพร้อม 
   
รางวัลที่ได้จากการปลดล็อก Connection Level ของ The Mountaineer
1 ดาว – สามารถสร้าง Bridges Boots LV3 และ Power Gloves
2 ดาว – NO
3 ดาว – เพิ่มค่า Chiral Bandwidth, เพิ่มเติมสี Express Purple ของแว่น Ludens Mask และ Backpack
4 ดาว - เพิ่มค่า Chiral Bandwidth ให้มากขึ้นอีก , Mountaineer Hologram, Mountain Guide Hologram, เพิ่มเติมสี Express Purple ของแว่นกันแดดของ Sam
5 ดาว –เพิ่มค่า Chiral Bandwidth และ เพิ่มเติมสี Express Purple ของหมวก

--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

                                                  Interview data 



                เรื่อง – Prepper interview: The Mountaineer
                บันทึกเมื่อ 1 ปีก่อน ที่ Prepper Shelter S41-015
                                โดย - Mountaineer

มันเป็นเรื่องที่ผิดธรรมชาติมาก ลองสำรวจเข้าไปใน DNA ของพวกเราสิ  กิจกรรมกลางแจ้งต่างหากคือสิ่งที่เราควรจะทำ

คุณรู้หรือไม่ว่าบรรพบุรุษของเราเริ่มต้นขึ้นในแอฟริกา ใช่ไหม? แต่พวกเขาก็ไม่ได้อยู่มาจนถึงตอนนี้ จริงมั๊ย? พวกเขาต้องการลองและค้นหาชีวิตที่ดีกว่า บ้านที่ดีกว่า นั่นเป็นเหตุผลที่มนุษยชาติกระจายไปทั่วโลก และในขณะที่เราออกเดินทางเราค้นหาเราก็ได้พัฒนาไปทีละเล็กทีละน้อย เราเติบโตขึ้นและฉลาดขึ้น แม้แต่ระบบภูมิคุ้มกันของเราก็แข็งแกร่งขึ้น แต่ถ้าเราหยุดเคลื่อนไหวหยุดสำรวจ ทุกๆอย่างก็จะหยุดเช่นกัน

ซึ่งตอนนี้ สายพันธุ์ของเรากำลังหยุดนิ่ง บางทีอาจจะถอยหลังด้วยซ้ำ นั่นเป็นเหตุผลมาจากที่เราไม่สามารถเดินทางไปมาในเมืองต่างๆได้ โลกทั้งใบที่อยู่ด้านนอกเมฆหมอก Chiral บ้านั่น  นั่นแหละคือที่ที่ชั้นจะออกไปสำรวจในสักวัน แต่ถ้าเป็นไปไม่ได้จริง ชั้นก็อยากจะเข้าไปใกล้ที่สุดเท่าที่จะทำได้ ปีนขึ้นไปบนภูเขาที่ใหญ่ที่สุด สูงที่สุด ปีนขึ้นไปให้สูงที่สุดเท่าที่จะทำได้และพยายามดูว่าอะไรที่มันซ่อยอยู่ข้างนอกนั่น

และชั้นต้องการจะทำประดุจมันเป็นรักเดียวของชีวิต นักไต่เขาระดับโลกที่นำพาชั้นให้มาเห็นความงดงามของสถานที่แห่งนี้ เขาได้กลายเป็นดาวนำทางของชั้น ถ้าเราอยู่ด้วยกัน จะไม่มีจุดสูงสุดใดที่จะหยุดเราไม่สามารถขึ้นไปจนถึงได้แน่นอน



                    เรื่อง – Brides Needs Homo Ludens 
                  บันทึกเมื่อ 2 ปีก่อน ที่ Heartman’s Lab
                                   โดย – Heartman 

ผมเคยพูดไปแล้วเกี่ยวกับความหลากหลายในการพัฒนาการของมนุษย์ที่เกิดขึ้นจากการความหวาดกลัวมลภาวะ chiral  ที่เกิดขึ้น ทั้งพวก Homo demens, Homo gestalt  ไม่ต้องพูดถึงพวกที่ถูกสัมผัสโดย DOOMS สิ่งเหล่านี้มันเป็นความรู้ทั่วไปที่กลายเป็นเรื่องธรรมดาไปแล้ว อย่างไรก็ตาม ถ้ามองในแค่บวก ผมมองว่าจากสภาพสังคมในยุคนี้ มันทำให้เราสามารถจำแนกมนุษย์ได้มากขึ้นจากเดิม

ยกตัวอย่างเช่น Mama กับ Lockne ของเรา พวกเธอเป็น ครีเอทีฟ ใช่มั๊ยล่ะ? เป็นผู้ออกแบบ เป็นผู้สร้างเครื่องไม้เครื่องมือ เครื่องใช้ งานฝีมือและสิ่งต่างๆอีกมากมาย  อย่างกับหลุดมากจากนิยายเรื่อง Homo faber จากการพิจารณาของ Deadman ชายที่มองความตายผ่านดวงตาของเขาทุกวี่วัน คนที่ใช้อวัยวะของพวกตายเสมือนเป็นของตัวเอง ความสัมพันธ์ของเขากับความตายนั้นเป็นเรื่องที่เหนือธรรมชาติที่สุดยอดมาก มันคือแก่นแท้แห่งความศรัทธาของเขาและเขาเป็น Homo religiosus (มนุษย์ที่พร้อมจะยอมรับการดำรงอยู่ของความเป็นจริงที่เหนือธรรมชาติเกินขอบเขตของโลกนี้) สำหรับตัวผมเองน่ะหรอ? คงจะเป็น Homo loquens นักภาษาศาสตร์ ผู้ที่พยายามเข้าใจโลกนี้ด้วยภาษาวิทยาศาสตร์และตรรกะ

อย่างไรก็ตามมีมนุษย์อีกประเภทหนึ่งที่พิเศษมาก ประเภทที่เหมาะที่จะร่วมงานกับ Bridges ได้อย่างดีเยี่ยม นั่นคือ Homo ludens มนุษย์ผู้ที่อยู่กับ “การละเล่นและการฝึกฝน” ที่เกิดจาก “ความคิดสร้างสรรค์” ไม่ว่าจะโดยเจตนาหรือไม่ตั้งใจก็ตาม Homo ludens นี่แหละที่รวมผู้คนเข้าด้วยกัน สร้างวัฒนธรรม สร้างโลกรอบตัวพวกเขา โดยไม่ใช่ความรุนแรง การฟ้องร้องทางกฎหมาย หรือการเนรเทศ แต่เป็นการกระทำเชิงอุปมาอุปไมยผ่านการละเล่น

คนเดียวที่ผมรู้จักและคิดว่าเขาคนเดียวเท่านั้นที่เป็นบุคคลที่ตรงกับคำอธิบายที่ว่ามา คนที่ผู้คนเรียกว่า "Great Deliverer ', Sam Porter แม้ส่วนนึงจะมาจากน้ำพักน้ำแรงของ Die-Hardman ก็เถอะ อย่างไรก็ตาม ที่อยู่ของเขาก็ยังคงเป็นเรื่องที่ไม่มีใครล่วงรู้

--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

สำรวจ Delivery terminal ที่ The Mountaineer จะพบภารกิจที่เพิ่มเข้า คือ [Order No. 51] Photograph Delivery: Photographer


                                                [Order No. 51] 

                       Photograph Delivery: Photographer


ภารกิจนี้คือการนำส่ง Phptogtaph จาก The Mountaineer ไปยัง Prepper Shelter S41-04 [The Photographer]


โดยใช้เส้นทางลงเขามาจาก Mountaineer ตรงข้ามฝากมาที่เนินเขาฝั่งตะวันออกได้เลย จะพบที่อยู่ของ The Photographer ในซอกเขาได้อย่างไม่ยากเย็น


                   Prepper Shelter S41-04 [The Photographer]


Photographer – เฮ้ ชั้นขอถามหน่อยสิ ไม่ทราบว่าคุณจะช่วยหากล้องของพ่อของชั้นที่หายไปมาให้หน่อยได้มั๊ย? คือ เรื่องมันยาวน่ะ แต่พ่อเคยใช้ในการทำงานภาคสนามตอนมาทำวิจัยในพื้นที่นี้ พ่อชั้ยเชื่อว่ากุญแจสำคัญที่จะทำให้เข้าใจถึงเรื่องปรากฏการณ์ Death Stranding อาจซ่อนอยู่ที่ไหนซักแห่งในถ้ำหรือชั้นน้ำแข็ง แต่ยังไม่ได้ทันได้ทำงานเสร็จ พ่อก็ตายเสียก่อน ทิ้งให้ชั้นสานต่องานที่เขาทำเอาไว้ต่อ จนเมื่อไม่นานมานี้ชั้นได้พบบางสิ่ง บางสิ่งที่พิเศษมากๆ ชั้นมั่นใจตั้งแต่แรกเห็นเลยว่ามันต้องเป็นของพ่อชั้น แม้ว่าฉันจะไม่เห็นว่ามันเกี่ยวข้องอะไรกับปรากฎการณ์ Death Stranding ก็ตามเถอะ ที่ชั้นอยากจะรู้คือความเห็นของผู้เชี่ยวชาญ ใครซักคนที่จะบอกได้ว่า สิ่งที่ชั้นเจอ มันหมายความว่าอะไร  ชั้นก็เลยเอากล้องของพ่อมาถ่ายภาพตามที่ต่างๆแล้วบันทึกมันเอาไว้เป็นข้อมูลมาตลอด จนวันนึงชั้นไปเจอกับกลุ่มติดอาวุธอะไรซักอย่าง ด้วยความตกใจชั้นเลยทิ้งทุกอย่างแล้วหนีไปแบบไม่คิดชีวิตเลย โชคดีที่พวกมันไม่เห็นชั้น แต่พอรู้ตัวอีกทีกล้องก็หายไปแล้ว จนชั้นจำได้ว่ามีรหัสของสินค้าอยู่ในกล่อง ชั้นก็เลยคิดว่าคุณทำงานกับ Bridges ก็น่าจะสามารถใช้เลข Tracking ตามหาสินค้าให้ได้ ได้โปรดเถอะนะคะ ชั้นยอมให้ทุกอย่างเพื่อให้ได้มันกลับคืนมาอีกครั้ง ชั้นจะใส่ข้อมูลลงไปในเมนูคำสั่งให้ก็แล้วกัน ได้โปรดเข้าใจด้วยนะคะ กล้องนั่นมีความหมายกับชั้นมากๆ จนกว่าจะรู้ว่ามันยังอยู่ดีชั้นก็คงไม่มีสมาธิจะทำอะไรต่อจริงๆ ถ้าชั้นทำเองได้ชั้นคงไปทำเองแล้ว ช่วยดูคำสั่งใน Delivery terminal ด้วยนะคะ 

สำรวจ Delivery terminal ที่ The Photographer จะพบภารกิจที่เพิ่มเข้า คือ [Order No. 52] Retrieval : Camera


                                      [Order No. 52] 
                              Retrieval: Camera



ภารกิจนี้คือการเดินทางจาก The Photographer ไปที่แค้มป์ของพวก MULE ตามที่ระบุเอาไว้ในจุดหมายของภารกิจเพื่อค้นหาเอากล้องที่พวกมันขโมยไปคืนมา


โดย กล้อง ซึ่งเป็นไอเทมเป้าหมายที่ต้องการนั้นไม่ได้อยู่ใน Post Box ของพวก MULE เหมือนทุกครั้ง แต่มันอยู่ในตัวของ MULE คนใดคนนึงในพื้นที่ โดยเมื่อเข้าพื้นที่เป้าหมายแล้วสามารถสแกนตรวจหาว่าไอเทมอยู่ที่ใคร


 จากนั้นจะทำการแย่งชิงมาด้วยวิธีไหน จะลอบเอาไปใช้ Stick Gun ดึงชิงมาหรือเปิดศึกลุยแหลกจัดการให้หมดแล้วชิงมาก็สุดแล้วแต่ เมื่อเก็บ กล้อง ซึ่งเป็นไอเทมเป้าหมายมาแล้ว ก็เดินทางกลับไปให้ The Photographer ได้เลย


Photographer – ว้าวว ขอบคุณมากๆ คิดว่าชั้นคงจะไม่มีวันได้เห็นมันอีกแล้ว คุณไม่รู้หรอกว่ามันมีความหมายกับชั้นแค่ไหน ก็อย่างที่พ่อชั้นคิดเอาไว้ ท่านต้องการจะขุดลึกไปให้ถึงก้นบึงเรื่องปรากฏการณ์ Death Stranding ด้วยตัวเอง ซึ่งพวกเราก็สนับสนุนท่านมาตลอด ถ้าคุณไม่ช่วยเอาไว้ ถ้ากล้องนั่นเกิดหายไปจริงๆพร้อมกับงานทั้งหมดที่เราบันทึกเอาไว้ก่อนที่ทุกคนจะมีโอกาสจะได้เห็นมัน เราไม่มีวันยอมให้เป็นแบบนั้นแน่ โลกต้องเห็นสิ่งเหล่านี้ คนที่ออกเดินทางไปข้างนอกนั่นจริงๆถึงจะเข้าใจความหมายของมัน เอาล่ะ เราต้องการเป็นส่วนหนึ่งของ UCA เชื่อมต่อเรากับได้เลย


                       Prepper Shelter S41-04 - เชื่อมต่อแล้ว 



                          The Photographer - - เข้าร่วม UCA 

+ เพิ่มเติมไอเทมใหม่ที่สามารถสร้างได้ใน Delivery terminals
- Shotgun LV1
- Riot Shotgun LV1

+ ข้อมูลการสัมภาษณ์ใหม่
-Prepper interview: The Photographer
-Cave painting and Stencils


รางวัลที่ได้จากการปลดล็อก Connection Level ของ The Photographer
1 ดาว – สามารถสร้าง Shotgun และ Riot Shotgun Lv 1
2 ดาว – NO
3 ดาว – เพิ่มค่า Chiral Bandwidth, Shotgun Lv 2
4 ดาว - เพิ่มค่า Chiral Bandwidth ให้มากขึ้นอีก , Riot Shotgun Lv 2 , Photographer Hologram, Photographer’ Mother Hologram
5 ดาว –เพิ่มค่า Chiral Bandwidth ให้สูงขึ้น


Photographer – ชั้นหวังอย่างยิ่งว่าผมงานของเราจะช่วยสร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับโลกนี้ ขอบคุณอีกครั้งนะ หวังว่าคงได้พบกันอีกเร็วๆนี้ 



Heartman – แซมนี่ Heartman นะ กล้องที่คุณนำกลับมานั่นน่ะมีภาพถ่ายที่น่าสนใจแล้วภาพเลยล่ะ คือข้อมูลภาพถ่ายทั้งหมดรวมถึงข้อมูลการวิจัยต่างๆมันถูกแชร์แบบอัตโนมัติมาให้เราหลังจากคุณทำให้ The Photographer เชื่อมต่อกับเราแล้ว แต่สัญญาณที่ห้องทดลองของผมมันยังไม่เร็วพอก็เลยไม่สามารถตรวจสอบได้มากนัก แต่ก็สามารถเช็คได้ภาพนึงผ่าน database ของ HQ  และจากการคำนวณเบื้องต้นของผมและข้อมูลหลักฐานต่างๆที่บันทึกไว้ในจดหมายเหตุของเรา ผมประเมินว่าผู้วาดภาพวาดต่างๆในถ้ำในพื้นที่นี้น่าจะมีอายุไม่ต่ำกว่าสามหมื่นปี น่าจะเป็นยุคหินหรือผู้อพยพก่อนหน้าในยุคที่มีการอพยพข้ามทวีปที่เห็นปลาโลมาเป็นตัวประหลาดแบบนั้น ในเวลานั้น ถ้ำพวกนี้น่าจะตั้งอยู่ได้ไกลกว่าชายฝั่งมากกว่าตอนนี้ ถ้างั้นคนวาดจะเคยเห็นปลาโลมาได้ยังไง ? คำตอบคือ พวกเขาไม่เคยเห็นน่ะสิ ผมเชื่อว่า ที่พวกเขาเห็นแล้วเอามาวาดมันไม่ใช่ปลาโลมาแต่มันเป็น BT น่ะสิ ! นั่นแปลว่า ปรากฎการณ์ Death Strainding มันไม่ได้เกิดขึ้นครั้งแรกในยุคของเรา แต่มันเคยเกิดมาก่อนหน้านี้แล้ว ต้นกำเนิดสายพันธุ์นับไม่ถ้วนของโลกของเราได้สูญพันธุ์ไปแล้วตั้งแต่แบคทีเรียไปจนถึงไดโนเสาร์ นักวิทยาศาสตร์อ้างถึงการสูญพันธุ์ครั้งใหญ่ที่สุดที่รู้จักกันในชื่อ The Big Five แต่มีเหตุการณ์การสูญพันธุ์อื่น ๆ อีกมากมายที่เกิดขึ้นด้วยแม้ว่ามันจะมีขนาดเล็กกว่าก็ตาม แล้วคนวาดต้องการจะสื่ออะไรจากเหตุการณ์ที่เขาวาด นั่นเป็นเหตุการณ์การสูญพันธุ์ของพวกเขางั้นหรอ? มันอาจเป็นบันทึกเกี่ยวกับปรากฎการณ์ Death Strainding อันแรกในโลกเลยก็ได้ และมันก็จะให้ทฤษฎีของผมมีความน่าเชื่อถือขึ้นด้วย เพราะงั้นก็ขอให้รีบเข้ามาเชื่อมต่อกับผมให้เร็วที่สุด ไม่นานเราก็จะรู้คำตอบนั้นกัน แค่นึกถึงตอนที่เรากำลังจะแก้ปัญหาในเรื่องลึกลับพวกนี้ได้ ผมก็แทบจะรอไม่ไหวแล้ว ผมรอคุณอยู่นะแซม !



Deadman – แซม ผมมีข่าวดี พารามิเตอร์ต่างๆของ BB-28 กำลังเพิ่มขึ้นด้วยดี พูดง่ายๆคือ มันเริ่มลืมตาขึ้นได้แล้วล่ะ มันได้แต่มองไปมาเหมือนกำลังมองหาใครบางคนอยู่ ผมคิดว่าเดี๋ยวเราคงได้เจอกันเร็วๆนี้แหละ พอกันทีกับการเลี้ยงลูกคนเดียวแบบนี้ แต่ยังไงก็เถอะผมก็คงต้องขอวินิจฉัยและทำการปรับเปลี่ยนอะไรตามความจำเป็นอีกนิดหน่อยก่อน อย่างไรก็ตาม ระดับ chiral ในพื้นที่ที่ผันผวนก็สามารถก่อให้เกิดปัญหาได้ ผมคิดว่าคุณอาจสามารถช่วยได้ด้วยการหา Prepper มาเข้าร่วมกับเราเพิ่มอีกหน่อย คงจะได้นะ? ผมจะได้วิเคราะห์ช่วงสุดท้ายว่า BB-28 มันทำงานได้เต็มที่รึยังก่อนที่จะคืนไปให้คุณดูแลต่อเหมือนเดิม แค่อีกที่เดียว ผมสัญญา นั่นแหละที่เราต้องการ ... โชคดีนะแซม !

------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

                                                      Interview data 



                เรื่อง – Prepper interview: The Photographer
               บันทึกเมื่อ 1 ปีก่อน ที่ Prepper Shelter S41-04
                      โดย - The Photographer’s Mother 

เราสามคนเพิ่งย้ายมาพักที่พักนี้เมื่อไม่นานมานี้ ก่อนหน้านั้นเราเคยอาศัยอยู่ในเมืองจนกระทั่งสามีของชั้นบอกว่าเราต้องไปกันแล้ว เขายืนกรานอย่างหนักแน่นมากทำให้ชั้นไม่มีทางเลือกนอกจากต้องไปเพราะชั้น ดูแลลูกสาวด้วยตัวเองไม่ได้ เขาบอกว่าเขาป่วยเพราะใช้ชีวิตในเมืองและฉันก็ไม่สามารถพูดได้ว่า ชั้นไม่เข้าใจเลยว่าทำไม ชั้นหมายถึง timefall หรือ BT อาจไม่ได้สร้างปัญหาอะไรมาก แต่ชั้นก็มั่นใจว่าการใช้ชีวิตที่สุขสบายและปลอดภัยในที่แบบนั้นอาจนำมาซึ่งความอึดอัดมากก็ได้

ลูกสาวของเราอาจมีความสุขและมีสุขภาพดี แล้วเราล่ะ? ทุกวันนี้แทบจะไม่มีใครมีลูกกันแล้ว คุณไม่จำเป็นต้องมองผ่านลูกคริสตัลเพื่อดูว่าอนาคตข้างหน้าโลกจะเป็นยังไงด้วยซ้ำ สามีของชั้นบอกว่าพวกเราต้องสูญพันธุ์แน่นอนถ้าไม่มีใครทำอะไรซักอย่าง ผู้คนต่างก็เอาหัวมุดทรายเพื่อรอให้พายุมันผ่านไป

“ ถ้าเราไม่เข้าใจ Death Stranding เรื่องการแก้ไขโลกของเราก็ไม่ต้องไปพูดถึง" สามีของชั้นพูดแบบนี้มาตลอด เขาอาจเป็นแค่ "ผู้ชายที่มีกล้อง" แต่อย่างน้อยเขาก็ลุกขึ้นมาเพื่อทำอะไรบางอย่าง" แล้วจากนั้นเขาก็เริ่มออกเดินทางไปข้างนอกอีกครั้ง เพื่อค้นหาบางสิ่ง

เมื่อเร็ว ๆ นี้เขาเริ่มพาลูกสาวของเราไปกับเขาเพื่อสอนให้เธอถ่ายรูป หินและจิตรกรรมฝาผนังอะไรแบบนั้น  ชั้นดีใจนะที่พวกเขาได้ใช้เวลาร่วมกันและชั้นก็รู้ว่ามันจะดีในเรื่องการเรียนรู้ของลูกสาวเรา แต่ชั้นก็ยังรู้สึกไม่ชอบเลยตอนที่พวกเขาออกไปด้วยแล้วทิ้งชั้นไว้ที่นี่เพื่อรอและสวดภาวนาให้พวกเขากลับบ้านอย่างปลอดภัย


                         เรื่อง – Cave painting and Stencils
                     บันทึกเมื่อ 1 ปีก่อน ที่ Heartman’s Lab 
                                      โดย - Heartman

ภาพเขียนฝาพนังถ้ำเป็นสิ่งที่ล้ำค่ามาก มันเหมือนเป็นหน้าต่างที่ใช้มองเข้าไปในชีวิตของบรรพบุรุษของเราว่าพวกเขาเคยมีชีวิตอย่างไร มีความเชี่ยวชาญแบบไหน บ้างก็ได้รับการอนุรักษ์เอาไว้อย่างดี แม้ว่าส่วนใหญ่จะหายสาบสูญไปตอนเกิด voidouts เชื่อกันว่าภาพเขียนฝาพนังถ้ำที่เก่าแก่ที่สุดมีอายุ 64,800 ปีหรือมากกว่านั้น แต่ทั้งหมดเป็นภาพวาดในยุโรป เกิดอะไรขึ้นกับพวกเขากันนะ ผมล่ะสงสัยจริงๆเลย?

พวกเขาถูกกำจัดในเหตุการณ์ทำลายล้างด้วยรึเปล่า? ถ้าไม่ใช่ ถ้ำที่เต็มไปด้วยภาพเขียนฝาพนังจะถูกพวก BT เข้ามาวุ่นวายรึเปล่า? ยุโรปยังคงอยู่มั๊ย? ไม่มีใครสามารถบอกได้ แต่ก็อกห่วงไม่ได้ว่า สำหรับเรา ข้อมูลสำคัญเหล่านี้มันอาจต้องสูญเสียไปตลอดกาล ...

ภาพเขียนฝาพนังถ้ำภาพแรกถูกวาดขึ้นโดยคนในยุคหิน พวกมันเป็นสิ่งมีชีวิตที่หยาบคายไม่ต่างอะไรกับพวกสัตว์ เหมือน ม้า กวาง หรือวัวกระทิงที่พยายามจะประดิษฐ์ลวดลายเป็นภาพอย่างคร่าวๆด้วยมือขนาดใหญ่ บางคนอ้างว่านี่เป็นเหมือน “ลายเซ็นต์” ของจิตรกรยุคแรก แต่ก็ไม่แน่ใจว่าพวกเขาจะสามารถอธิบายถึงรอยประทับของพวก BT ได้หรือเปล่า ? บรรพบุรุษในยุคโบราณของเราอาจพยายามจะบอกอะไรเราหรืออาจเป็นคำเตือน หรือว่าอาจจะเป็นแค่ไอเดียที่ดูจะเหนือจินตนาการมากเกินไปจนแทบจะเป็นจริงไม่ได้เลยก็ได้

-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------



หลังจาก The Mountaineer ได้เข้าเชื่อมต่อกับทาง UCA ได้ไม่นาน สิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆที่เขาได้รับทำให้ภรรยาของเขาหายดีและสามารถให้กำเนิดลูกได้อย่างปลอดภัย เขาจึงส่ง E-mail มาขอบคุณแซมถึงสิ่งที่ช่วยพวกเขา ก่อนที่จะแนะนำพิกัดของที่พักของเพื่อนอีกคนในระแวกใกล้เคียงเพื่อให้แซมสามารถเชื่อมต่อได้อีกคน

สำรวจ Delivery terminal ที่ The Mountaineer จะพบภารกิจที่เพิ่มเข้า คือ [Order No. 53] Stone Fragment Delivery: Spiritualist

                                [Order No. 53] 

                Stone Fragment Delivery: Spiritualist



ภารกิจนี้คือการนำส่ง Stone Fragment กับ Handprints จำนวน 4 กล่องขนาด L จาก The Mountaineer ไปยัง Prepper Shelter S41-08 [The Spiritualist] ที่อยู่ทางตะวันออก แต่เมื่อรับภารกิจเตรียมจะออกเดินทาง Lockne ก็ติดต่อมาแจ้งเรื่องด่วนก่อน


Lockne  - แซม มันเกิดเหตุการณ์เหมือนที่ South Knot อีกแล้ว พายุหมุนที่อัดแน่นไปด้วย Chiralium จนตัวเลขแทบทะลุ Charts ปรากฏขึ้นมาอีกแล้ว แล้วกำลังคืบคลานมาที่ Mountain Knot อย่างช้าๆด้วย ตามที่คำนวณอ่ะนะเพราะชั้นไม่ได้เห็นมันด้วยตาตัวเอง แต่รับรองว่าข้อมูลไม่มีมั่วหรอก มันคือ พายุแบบเดียวกับที่เคยหอบคุณไปโผล่ในพื้นที่สงครามก่อนหน้านั้นแน่นอน 
SAM – ผมเคยบอกคุณหรอ? ผมว่าไม่นะ 
Lockne  - Q-pid อันใหม่ที่เพิ่มเติม Limiter เข้าไปสามารถรับมือกับการแปรปรวนของ Chiral ได้ แต่เราไม่ได้วางแผนที่จะรับมือ Supercell อีกครั้ง
SAM – Supercell อีกครั้ง งั้นหรอ? 
Lockne  - ชั้นเคยบอกคุณไปแล้วไม่ใช่หรอ?
SAM – เดี๋ยวนะ นี่คุณ ... Mama งั้นหรอ?
Lockne  - คุณคุยกับชั้นมาซักพักแล้วอ่ะนะ แต่มันก็ไม่เชิงเป็นชั้นซะทีเดียวหรอก Målingen กับ Lockne ตอนนี้เราต่างก็เป็นคนๆเดียวกันแล้ว ร่างกายและจิตใจเป็นหนึ่งเดียวกัน และเชื่อมต่อกันอย่างสมบูรณ์ จำไว้แค่นั้นก็พอ 


การเดินทางจาก The Mountaineer ไปยัง Prepper Shelter S41-08 [The Spiritualist] ที่อยู่ทางตะวันออกซึ่งปกติจะใช้เวลาไม่นานมากเพราะระยะทางไม่ไกล แต่เนื่องจากตอนนี้อากาศกำลังแปรปรวนอย่างหนักเพราะพายุ Chiralium ที่กำลังเกิดขึ้นไม่ไกลจากที่นี่มากนัก


จึงทำให้ระหว่างทางจะต้องเจอกับพายุหิมะที่หนักมากจนแทบจะมองเส้นทางไม่เห็น พยายามเดินทางอย่างระมัดระวังไปพร้อมๆกับดูตำแหน่งจากแผนที่ไปเรื่อยๆก็จะถึงจุดหมายที่ Prepper Shelter S41-08 [The Spiritualist]


                           Prepper Shelter S41-08 [The Spiritualist] 


Spiritualist – Sam Bridges ชั้นคาดหวังในตัวคุณมากนะ The Mountaineer เล่าเรื่องคุณให้ชั้นฟังหมดแล้ว แผ่นหมึก ปั๊มรอย (handprint) ที่คุณนำมาให้ชั้นหรือที่ชั้นเรียกมันว่า Stencil ** มันเป็นเงื่อนงำที่สำคัญมาก 



                             Stencil คือการประดิษฐ์ลวดลายด้วยลายฉลุ แล้วใช้สีทาลงบนลายฉลุ


Spiritualist – มันมีมาตั้งแต่ยุคก่อนจะก่อกำเนิดประวัติศาสตร์มนุษย์ ชั้นกำลังจะดำดิ่งไปให้ถึงในยุคสมัยนั้นเพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงของปรากฎการณ์ Death Stranding และเมื่อชั้นทำสำเร็จ ความลับแห่งจักรวาลทั้งหมดก็จะถูกเปิดเผยออกมา คุณรู้มั๊ยว่าในสมัยดึกดำบรรพ์ภูเขาแห่งนี้ถูกใช้เสมือนเป็นปิรามิด ? มันเป็นเรื่องจริง คุณจะไม่มีวันหาสถานที่ที่ได้เข้าไปใกล้ชิดกับ ชายหาด ได้มากเท่าที่นี่อีกแล้ว  สถานที่ซ่อนของ ตาน้ำ ที่เป็นแหล่งพลังงานที่เหลือล้น คุณคิดว่า Chiral Network ของคุณจะทำให้ทำงานได้ง่ายขึ้นมั๊ยล่ะ?  ..โทษที นอกเรื่องอีกแล้ว ไหนขอดู Stencil หน่อย .. โอ้ สภาพดีมากๆ เอาล่ะ เชื่อมต่อชั้นกับ Chiral Network ของคุณได้เลย 



                        Prepper Shelter S41-08 - เชื่อมต่อแล้ว 



                              The Spiritualist - - เข้าร่วม UCA 


                                                          + ข้อมูลการสัมภาษณ์ใหม่
                                                    -Prepper interview: The Spiritualist


Spiritualist – เอาล่ะที่นี่ชั้นก็มีทุกอย่างพร้อมสำหรับใช้กับ Stencil ของชั้นแล้ว เมื่อชั้นได้ผลลัพธ์ชั้นจะแบ่งปันไปให้คุณและเพื่อนร่วมงานของคุณที่ Bridges ด้วยก็แล้วกันนะ คุณทำสิ่งที่ดีแล้วแซม ถ้าคุณเจออะไรเพิ่มเติมอีกก็เอามาให้ชั้นได้โดยตรงได้ทันทีเลยนะ ชั้นจะรอ อ่อ คุณควรจะรับสิ่งนี้ไปด้วยนะ ชั้นมั่นใจว่ามันต้องใช้ในการเดินทางของคุณได้แน่นอน 


                รางวัลที่ได้จากการปลดล็อก Connection Level ของ The Spiritualist 

1 ดาว – Backpack Accessory: Love Knot / One Dollar Coin Accessory
2 ดาว – NO
3 ดาว – เพิ่มค่า Chiral Bandwidth, สามารถเปลี่ยนสี Bright Yellow ให้กับ Ludens Mask และ Backpack ของแซมได้ 
4 ดาว - เพิ่มค่า Chiral Bandwidth ให้มากขึ้นอีก , Spiritualist Hologram, สามารถเปลี่ยนสี Bright Yellow ให้กับหมวกของแซมได้
5 ดาว –เพิ่มค่า Chiral Bandwidth ให้สูงขึ้น , Raccoon Hologram, สามารถเปลี่ยนสี Bright Yellow ให้กับแว่นกันแดดของแซมได้


Deadman – แซม มันได้ผล ตอนนี้ BB-28 อยู่ในสภาพที่ดีเหมือนเดิมแล้วนะ ไม่มีหลักฐานที่แสดงว่ามีเยื่อใยหรืออาการคิดถึงบ้านอะไรอีกแล้ว บางที ความทรงจำบางส่วนของมันก็ถูกลบทิ้งไปด้วย ผมก็อยากให้คุณนำมันกลับไปใช้ได้ตอนนี้เลยอ่ะนะ แต่ เอ่อ ถ้าอยากจะให้มันสมบูรณ์จริงๆ ผมก็อยากให้รออีกนิดนึง ผมไม่อยากให้ ...ไม่สิ ผมหมายถึง ผมก็อยากอ่ะนะแต่ มันมีบางอย่างที่ซับซ้อนที่ต้องทำอีกนิดหน่อย
SAM – ทำอะไร ?
Deadman – คือ เรามีปัญหานิดหน่อย คุณคงได้ยินเรื่องพายุ Supercell ที่กำลังมุ่งหน้าไปที่ Mountain Knot แล้วใช่มั๊ย? คือผมออกจากห้องทดลองเพื่อไปทำการทดสอบเพิ่มเติมด้านนอกและตอนนี้ผมพบว่าตัวเองอยู่ใจกลางของพายุพอดีเลย ก็เลยกลับไม่ได้ คุณรู้จักกระท่อมที่อยู่บนยอดเขาทางเหนือของ Mountain Knot ใช่มั๊ย? ไปพบผมที่นั่นก็แล้วกันนะ 

----------------------------------------------------------------------------------------------------------------

                                                   Interview data 



              เรื่อง – Prepper interview: The Spiritualist
             บันทึกเมื่อ 1 ปีก่อน ที่ Prepper Shelter S41-08
                              โดย - The Spiritualist

ไม่มีใครสามารถอธิบายถึงปรากฎการณ์ Death Stranding ได้ ชั้นก็สงสัยว่าใครจะทำได้? แน่นอนว่ามันไม่สามารถอ้างอิงได้ทางวิทยาศาสตร์ เพราะวิทยาศาสตร์เหมาะสำหรับการสังเกตในการตรวจสอบเป้าหมายเท่านั้น

คุณสามารถสังเกตและวัดอะไรก็ได้มากเท่าที่คุณต้องการ แต่คุณจะไม่มีวันเข้าใจมันอย่างแท้จริง บางครั้งคุณต้องขยายกรอบของความคิดและเปิดใจของคุณ เพื่อแสวงจิตวิญญาณแห่งความตาย ลองฟังเสียงคลื่นบนชายหาดสิ ...

ในสมัยโบราณ ไม่มีสิ่งกีดขวางระหว่างขอบเขตใดๆ ผู้คนมีอิสระภาพในการเดินทางระหว่างโลก, อวกาศ และโลกแห่งความตาย ใครจะรู้ว่าความเชื่อปรัมปราและตำนานคืออะไรหากไม่มีการบันทึกการเดินทางเหล่านี้เอาไว้ งานวิจัยของชั้นเท่านั้นที่ยืนยันถึงเรื่องนี้ได้  ปิรามิดแห่งอียิปต์และ เมโสอเมริกา, เส้นนาซคา (Nazca Lines), สโตนเฮนจ์  เกตเวย์ เหล่านี้ถูกมนุษย์สร้างขึ้นเพื่อเข้าถึง ชายหาด แน่นอนคุณสามารถเห็นได้ว่าภูมิปัญญาของคนสมัยก่อนไม่เคยมีความเกี่ยวข้องสัมพันธ์กันเอามากๆ?

---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

หลังจากได้รับการติดต่อจาก Deadman จบลง ภารกิจเร่งด่วนเพื่อไปช่วย Deadman ที่ติดอยู่ในกระท่อมบนยอดเขาท่ามกลางพายุ ก็จะเริ่มขึ้นทันที เป้าหมายของภารกิจจะอยู่ทางใต้จากที่อยู่ของ The Spiritualist


ระหว่างทางจะพบกับที่อยู่ของ Prepper อีกคนที่ซ่อนตัวอยู่อย่างโดดเดี่ยวบนยอดเขาจุดที่สูงที่สุดมาเนินนานที่สามารถเข้าไปเจรจาเชื่อมความสัมพันธ์ให้เข้าร่วมกับ UCA ได้ นั่นคือ  Prepper Shelter S41-87 [The First Prepper]



                  Prepper Shelter S41-87 [The First Prepper]


The First Prepper ถือว่าเป็น Prepper ที่อยู่นอกรอบของเนื้อเรื่อง ซึ่งเป็น Prepper ที่เข้าไปตีสนิทได้ยากที่สุด การทำให้ Connection Level ของเขาให้ขึ้นจนเต็ม 5 ดาวนั้นต้องใช้ความขยันเป็นพิเศษและด้วยลักษณะพื้นที่ที่อยู่บนยอดเขาที่ยังไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวกมาถึงในตอนแรกแรกที่เข้ามา การทำงานนำส่งของไปมาจึงเป็นเรื่องที่ลำบากและวุ่นวายมาก

ส่วนเงื่อนไขที่จะช่วยเพิ่ม Connection Level ของ The First Prepper เพิ่มก็คือ
- รับทำ Standard Order ของเขาซ้ำไปซ้ำมาไปเรื่อยๆ
- หางานส่งของจากสถานีอื่นๆที่จะส่งมาให้ The First Prepper ให้หมด
- อ่าน E-mail ที่ The First Prepper ส่งมาทุกครั้งหลังทำงานให้เขาเสร็จ ให้หมดทุกเมล
- หาเก็บ Lost Cargo ที่ตกหล่นของ The First Prepper มาให้เขาให้มากที่สุด


                รางวัลที่ได้จากการปลดล็อก Connection Level ของ The First Prepper

1 ดาว – Santa Hat, Backpack Accessory: Monster Energy
2 ดาว – NO
3 ดาว – เพิ่มค่า Chiral Bandwidth, First Prepper Hologram,สามารถเปลี่ยนสี Desert Pink ให้กับ Ludens Mask และ Backpack ของแซมได้ 
4 ดาว - เพิ่มค่า Chiral Bandwidth ให้มากขึ้นอีก , Wolf Hologram, สามารถเปลี่ยนสี Desert Pink ให้กับหมวกของแซมได้
5 ดาว –เพิ่มค่า Chiral Bandwidth ให้สูงขึ้น , สามารถเปลี่ยนสี Desert Pink ให้กับแว่นกันแดดของแซมได้


                                     [Order No. 54] 

                               [Destination] Cabin


          จากนั้นเดินทางไปยังจุดนับพบกับ Deadman ที่กระท่อมบนภูเขาที่อยู่กึ่งกลางของพายุ


                                               Deadman -  SAM !!!




                                      Deadman -  SAMMMMMM !!!

และทันทีที่แซมเข้าไปถึง Deadman ที่พยายามจะออกมาหาก็ถูกพายุขนาดใหญ่พัดเข้าใส่จนกระท่อมพังกระจาย ก่อนที่ลมพายุจะพัดหอบ Deadman ที่อุ้ม BB-28 อยู่ขึ้นไปบนฟ้าและหายไปในอีกมิตินึงทันที

------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

                                                       อ่านต่อ PAGE 3

                    http://decibelperoxide.blogspot.com/2020/03/death-stranding-page-3.html