วันอังคารที่ 4 มีนาคม พ.ศ. 2557

Ryu ga Gotoku Ishin

           
Ryu ga Gotoku หรือในชื่อภาษาอังกฤษว่า Yakuza นั้นเป็นเกมที่ไม่ต้องบอกก็ต้องมีหลายๆคนรู้จัก ซึ่งนอกจาก ภาคของเนื้อเรื่องหลักของ คาซูม่า คิริว ยากูซ่าในตำนานแล้วยังมี ภาคแยกที่เรียกว่า Another Life ออกมาให้เล่นเพื่อให้เหล่าตัวละครต่างๆในซีรีย์ได้เปลี่ยนบทบาทและให้ผู้เล่นเปลี่ยนบรรยากาศในการเล่นอีกด้วย โดยมีทั้งได้ลุยยิงซอมบี้ในภาค OF THE END และ เป็นนักดาบในยุคซามูไรในภาค Kenzan มาแล้ว ซึ่งเรื่องราวต่างๆในภาคแยกเหล่านี้ก็แค่ เอามันส์ โดยไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับเนื้อเรื่องภาคหลักใดๆทั้งสิ้นครับ

โดยที่ภาค Ishin ภาคแยกล่าสุดของ Ryu ga Gotoku ก็จะนำผู้เล่นย้อนกลับมาในยุคซามูไรเหมือนกับภาค Kenzan อีกครั้ง แต่ไม่ได้เป็นภาคต่อจากภาค Kenzan น๊ะครับ โดยภาค Ishin นี้จะจับเนื้อเรื่องในสมัย บาคุมัตซึ ยุคของการแบ่งแยกชนชั้นปลายยุคเอโดะ โดยครั้งนี้ คาซูม่า คิริว จะได้เปลี่ยนมารับบทบาทของ ซากาโมะโตะ เรียวมะ ซามูไรผู้มีบทบาทสำคัญในการเคลื่อนไหวล้มล้างระบอบการปกครองของรัฐบาลโชกุนในยุคนั้น แถมยังได้เล่นถึง บทบาทไปในคราวเดียวเพราะเนื้อเรื่องของเกมยังจับแพะผสมแกะโดยนำตัวตนของ ไซโต ฮะจิเมะ ในฐานะหัวหน้าหน่วยที่ ของกลุ่มตำรวจพิเศษ "ชินเซ็นกุมิแห่งรัฐบาลเอะโดะบะคุฟุ ผสมเข้าไปในไปในตัวตนของ ซากาโมะโตะ เรียวมะ อีกด้วยครับ ซึ่งก็แน่นอนล่ะว่าทำให้ประวัติศาสตร์ที่มียิ่งมั่วกันสนุกกันไปอีกตามเคย

ฉะนั้นเพื่อความเข้าใจของผู้เล่นในสภาวะของเนื้อเรื่องจริงปนมั่วของเกมก็ควรมาเรียนรู้ตัวตนของตัวเอกกันก่อน



คาซูม่า คิริว จะได้เปลี่ยนมารับบทบาทของ มังกรร้ายแห่งโทสะ ซากาโมะโตะ เรียวมะ ซามูไรผู้มีบทบาทสำคัญในการเคลื่อนไหวล้มล้างระบอบการปกครองของรัฐบาลโชกุนในยุคนั้น แถมยังได้เล่นถึง บทบาทไปในคราวเดียวเพราะเนื้อเรื่องของเกมยังจับแพะผสมแกะโดยนำตัวตนของ ไซโต ฮะจิเมะ ในฐานะหัวหน้าหน่วยที่ ของกลุ่มตำรวจพิเศษ "ชินเซ็นกุมิแห่งรัฐบาลเอะโดะบะคุฟุ ผสมเข้าไปในไปในตัวตนของ ซากาโมะโตะ เรียวมะ อีกด้วยครับ ฉะนั้นเราจะมาเรียนรู้ถึงประวัติเล็กๆน้อยๆของตัวละคร ตัวที่มาผสมปนเปอยู่ในตัวของ คาซูม่า คิริว กันครับ



ซากาโมะโตะ เรียวมะ (坂本龍馬 ) เป็นซามูไรผู้มีบทบาทสำคัญในการเคลื่อนไหวล้มล้างระบอบการปกครองของรัฐบาลโชกุนโทะกุงะวะในช่วงยุคบาคุมะสึ (ประมาณปลายยุคเอโดะเพื่อสร้างความเสมอภาคในสังคมญี่ปุ่น และปฏิรูปประเทศให้ไปสู่ความทันสมัยตามอย่างชาติยุโรปตะวันตก ในวัยเด็กนั้นเรียวมะอ่อนแอจนมักถูกรังแกในโรงเรียนอยู่ตลอด จนกระทั่งเขาถูกย้ายไปเรียนอยู่ในสำนักดาบแห่งหนึ่งและได้เรียนรู้เพลงดาบจนพัฒนาฝีมือจนได้เป็นครูดาบที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในแคว้นโทะสะ ก่อนที่จะเดินทางสู่เอโดะเพื่อฝากตัวเป็นศิษย์ของ จิบะ ซะดะคิจิ เจ้าสำนักดาบสาย โฮะคุชินอิตโตริว จนได้ซึมซาบสำนึกรักชาติกับแนวคิดทางการเมือง "เทิดทูนจักรพรรดิ ขับคนป่าเถื่อนของกลุ่มซนโนโจอิ มาด้วย ซึ่งก็พอดีกับในช่วงนั้น สหรัฐอเมริกา ได้นำกองเรือรบมาเยือนประเทศญี่ปุ่น เพื่อบังคับให้ญี่ปุ่นเปิดประเทศค้าขายกับชาวตะวันตกอีกครั้งหลังจากโดดเดี่ยวตนเองมานานหลายร้อยปี พอดี ประกอบกับความเป็น นักคิด ของเรียวมะต่อทัศนะที่ว่าญี่ปุ่นไม่ควรย่ำอยู่กับที่ในระบบศักดินาใดๆ อีกต่อไป เขาได้อ่านและได้แรงบันดาลใจจากวลีแรกของคำประกาศอิสรภาพของสหรัฐอเมริกาที่กล่าวว่า "All men are created equal" หรือ "มนุษย์ทุกคนล้วนถูกสร้างขึ้นมาอย่างเท่าเทียมกันหลังสำเร็จวิชาดาบเรียวมะจึงเดินทางกลับมาที่โทะสะ และเข้าร่วมกลุ่ม โทะสะคินโนโท ซึ่งเป็นกลุ่มซามูไรระดับล่างหัวรุนแรงที่ยึดมั่นในแนวคิดเดียวกันคือ เทิดทูนพระจักรพรรดิและต่อต้านรัฐบาลโชกุนโทะกุงะวะ แต่ต่อมาก็เกิดความขัดแย้งทางความคิดของเรียวมะซึ่งไม่เห็นด้วยกับแนวทางใช้ความรุนแรงของกลุ่ม เขาจึงตัดสินใจหนีออกจากแคว้นโทสะ และใช้ชีวิตร่อนเร่ไปยังที่ต่างๆ ในฐานะ โรนิน ซามูไรที่ไร้เจ้านาย จนก็ได้เป็นผู้ก่อตั้ง ไคเอ็นไต ซึ่งเป็นบริษัทพาณิชย์นาวีแห่งแรกของประเทศญี่ปุ่นที่วางรากฐานแห่งกองทัพเรือจักรวรรดิญี่ปุ่นมาตลอด

เรียวมะ จึงเป็นซามูไรผู้มีบทบาทสำคัญในการเคลื่อนไหวล้มล้างระบอบการปกครองของรัฐบาล เพื่อสร้างความเสมอภาคในสังคมญี่ปุ่น และปฏิรูปประเทศให้ไปสู่ความทันสมัยตามอย่างชาติยุโรปตะวันตก  ซึ่งที่น่านำมาเป็นตัวอย่างคือ เรียวมะ นั้นถึงแม้จะมีทัศนะที่ว่าญี่ปุ่นไม่ควรย่ำอยู่กับที่ในระบบศักดินาใดๆ แต่เขาเองก็ไม่เคยลืมความสำคัญของการแข่งขันด้านความก้าวหน้าทางอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีกับโลกภายนอกด้วย ซึ่งเรียวมะมักเน้นย้ำเสมอว่า ชาวญี่ปุ่นจำเป็นที่จะต้องปรับตัวให้ทันสมัยเยี่ยงชาวตะวันตกให้มากขึ้นไปพร้อมๆกับอนุรักษ์วัฒนะเก่าแก่ของประเทศให้คงไว้ด้วย (ซึ่งก็ดูได้จากการแต่งตัวตามแบบธรรมเนียมของซามูไร แต่ใส่รองเท้าตามแบบชาวตะวันตกของเรียวมะเองนี่แหละ โดยเราก็เห็นแล้วในญี่ปุ่นในยุคปัจจุบันว่าแนวคิดที่ว่าสร้างความเจริญก้าวหน้ากับประเทศญี่ปุ่นขนาดไหน

ซึ่งเรื่องราวใน Ryu ga Gotoku Ishin ของ คาซูม่า คิริว ในรูปลักษณ์ของ ซากาโมะโตะ เรียวมะ ก็จะเริ่มตั้งแต่หลังจากที่เรียวมะสำเร็จวิชาดาบและแนวคิดจากเอโดะกลับมาสู่แคว้นโทสะ ก่อนที่จะถูกอาจารย์ โยชิดะ โทโยและ ทาเคจิ เพื่อนสนิทชักชวนให้เข้าร่วมกลุ่ม โทะสะคินโนโท เพื่อต่อต้านการแบ่งแยกชนชั้น ก่อนที่ โยชิดะ โทโย อาจารย์ของเขาถูกลอบสังหาร โดยกลุ่มตำรวจพิเศษของรัฐบาล ซากาโมะโตะ เรียวมะ จึงต้องออกเดินทางมุ่งหน้าสู่เกียวโต เปลี่ยนชื่อเสียงเรียงนามเป็น ไซโต ฮะจิเมะ เพื่อแทรกซึมเข้ากลุ่ม ชินเซ็นกุมิแห่งรัฐบาลเอะโดะบะคุฟุ เพื่อสืบหาคนที่ฆ่าอาจารย์ของเขานั่นเอง

โดยอีกตัวตนนึงที่ คาซึม่า คิริว ในบทของซากาโมะโตะ เรียวมะ ต้องปลอมตัวเพื่อแฝงตัวก็คือ ไซโต ฮาจิเมะ (斎藤一ที่เราต้องเรียนรู้ครับ  ซึ่งไซโตก็เป็นซามูไรคนสำคัญอีกคนของยุค บาคุมัตซึ  มีชื่อเสียงในฐานะหัวหน้าหน่วยที่ ของกลุ่มตำรวจพิเศษ "ชินเซ็นกุมิแห่งรัฐบาลเอะโดะบะคุฟุ



ไซโตเกิดที่เอโดะ จังหวัดมุซาชิ (หรือปัจจุบันก็คือ โตเกียว นั่นแหละข้อมูลในวัยเด็กไซโตไม่ได้สละสำคัยอะไรจนเขาได้ไปฆ่าชายคนนึงในขณะเดินทางออกจากบ้านเกิด จนต้องหนีไปที่ เกียวโต แล้วใช้วิชาดาบที่เรียนรู้จาก มุไก ริว มาตั้งสำนักดาบสอนวิชาดาบและใช้ฝีมือสร้างชื่อจนได้เข้าร่วมเป็นสมาชิกของกลุ่มตำรวจพิเศษ ชินเซนกุมิ แห่งรัฐบาลเอะโดะบะคุฟุ ในตำแหน่ง ผู้ช่วยรองหัวหน้ากลุ่ม ในเวลาต่อมา งานของไซโตที่มุ่งเน้นงานในฐานะสายลับ และด้วยบุคลิกของไซโตที่ดู เฉยชา เงียบขรึม และลึกลับจนไม่เป็นที่ไว้วางใจกับใครแม้ดับสมาชิกในกลุ่มชินเซนด้วยกันเองเสียด้วยซึ่งก็เกิดความขัดแย้งลึกๆระหว่างไซโตกับสมาชิกของ ชินเซนกุมิ มาโดยตลอด แต่ด้วยความเป็นคนมีฝีมือของเขาก็ทำให้ได้รับมอบหมายงานสำคัญๆมากมาย จนเมื่อในปี 1865 เขาก็ได้เลื่อนตำแหน่งเป็นหัวหน้าหน่วยที่ จนถึงยุคสงครามโบชินในปี 1868 ไซโต้ก็กลายเป็นผู้บัญชาการชินเซนกุมิแห่งไอสึก่อนที่จะผ่าสมรภูมิมากมายจนถึง ยุคสมัยปฏิรูปเมจิ ที่สงครามจบสิ้น ไซโต้เดินทางไปที่แคว้นโทนามิ เพื่อพบกับ คุราซาวะ เฮจิเอมอน เพื่อนเก่ากับเขาจากเกียวโต และจากการชักนำของ คุราซาวะ ก็ทำให้ไซโต้ ได้แต่งงานกับ ยาโซะ ลูกสาวขุนนางคนหนึ่งจากแคว้นไอสึ แถมได้ร่วมงานกับสำนักงานสันติบาลกลางอีกด้วย ก่อนที่เส้นสายของคุราซาวะจะนำพาไซโต้ให้มุ่งสู่ความก้าวหน้าที่โตเกียวอีกครั้งในปี 1874 เพื่อรับตำแหน่งเป็นสันติบาลในกรมตำรวจนครหลวงโตเกียว (TMPD) ในชื่อใหม่ว่า ฟุจิตะ โกโร่ และที่นั้นโซโต้ก็ได้พบรักอีกครั้งกับ โซดะ ภรรยาใหม่  มีลูกด้วยกัน คนก่อนที่ ไซโต้ผู้ห้าวหาญจะจบชีวิตที่สุดโลดโผนลงด้วยโรคแผลในกระเพาะอาหาร อายุได้ 71 ปี 



                 ใช่แล้วครับ เป็นคนเดียวกับที่ฟัดกับ บัตโตไซ ในซามูไรพเนจรนั่นแหละ )







เมื่อเอา ซากาโมะโตะ เรียวมะ + ไซโต ฮะจิเมะ คาซูม่า คิริว รวมกันจะได้ออกมาเป็น ซามูไรฝีมือดีที่ชื่อ ซากาโมะโตะ เรียวมะ ที่หน้าตาเหมือน คิริว และใช้ชีวิตในบทบาทของ ไซโต ฮะจิเมะ พระเอกของเกม Ryu ga Gotoku Ishin นั่นเองจ๊ะ


.........................................................................................................................................................


  
                                            บทสรุป  Ryu ga Gotoku Ishin 龍が如く維新!

BY – Decibel per - oxide

ท่ามกลางสายฝนกระหน่ำ กลุ่มชินเซ็นกุมิ  3 นาย นัดหมายกันเข้าปฏิบัติหน้าที่ในการจู่โจมบ้านหลังหนึ่งจนเกิดการต่อสู้ขึ้น ท่ามกลางการสังเกตการณ์ของ ชุนและผมทอง สถาณะการ์ณด้านในบ้านเริ่มตรึงเครียด เมื่อเจ้าหน้าที่ชินเซ็นนายหนึ่งบุกเข้าไปจนถึงด้านในห้องของหัวหน้าได้สำเร็จ หัวหน้าพุดคุยอย่างใจเย็นกับเจ้าหน้าที่ชินเซ็นก่อนที่จะบอกว่าเขารู้ดีว่าที่แท้จริงนายคือ ซากาโมโต้ เรียวมะ !






ในช่วงยุคบาคุมะสึ ปลายยุคเอโดะ เป็นช่วงยุคที่ญี่ปุ่นปิดประเทศ ไม่คบค้ากับชาติอื่นใด กองทัพเรือสหรัฐอเมริกาได้นำเรือดำสี่ลำมาทอดสมอที่นอกฝั่งของอ่าวโตเกียว สร้างความแตกตื่นให้กับชาวเอโดะผู้ไม่เคยเห็นเรือของชาวต่างชาติเป็นอันมาก และการมาของเรือดำในครั้งนี้ ได้สร้างความสั่นคลอนให้กับระบอบการปกครองแบบโชกุน และชีวิตความเป็นอยู่ของชาวญี่ปุ่นเป็นอย่างมาก จนเกิดการเคลื่อนไหวล้มล้างระบอบการปกครองของรัฐบาลโชกุนโทะกุงะวะเพื่อสร้างความเสมอภาคในสังคมญี่ปุ่น และปฏิรูปประเทศให้ไปสู่ความทันสมัยตามอย่างชาติยุโรปตะวันตก



ซากาโมะโตะ เรียวมะ (坂本龍馬 ) ซามูไรธรรมดาๆในยุคนั้นแต่กลับมีหัวใจที่เปิดกว้าง ความสนใจในทะเล การเดินทาง และ โลกกว้าง เขาได้รับแรงบันดาลใจมากมายจากสิ่งที่เขาพบเจอในระหว่างเดินทาง หนึ่งในนั้นก็คือ แผนที่โลก ซึ่งเรียวมะได้เห็นขนาดของญี่ปุ่นที่เล็กเพียงนิดเดียวเมื่อเทียบกับแผนที่โลกทั้งผืน การปฎิวัติเล็กๆในจิตใจของซามูไรในยุคเปลี่ยนผ่านของยุคก็เริ่มเกิดขึ้น

บทที่ 1 - 第一章 土佐、脱藩

เรียวมะ เดินทางกลับมาที่เมือง โทสะ บ้านเกิดอีกครั้งหลังจากเดินทางท่องเที่ยวและฝึกวิชาที่เอโดะมาหลายปี เมื่อมาถึงก็ได้พบกับความเปลี่ยนแปลงมากมายของคนที่บ้านเกิดของเขา ที่แม้ประทั้งเด็กที่ป่วยและกำลังจะตายยังต้องหยุดคุกเข้ารอให้ซามูไรจากในปราสาทเดินผ่านไปก่อน เรียวมะทนไม่ได้จึงเข้าช่วยเหลือ มังกรร้ายแห่งโทสะเรียวมะแนะนำตัวก่อนที่จะเข้าไปจัดการสั่งสอนซามูไรอาวุธครบมือ 2 คนด้วย มือเปล่า



[สี่เหลี่ยม]- โจมตีเบา
[สามเหลี่ยม] -โจมตีหนัก
[สี่เหลี่ยม สามเหลี่ยม]- การโจมตีแบบคอมโบ
[ L1 + X ]-  แดชหลบ
หลังจากเรียวมะจัดการ 2 ซามูไรจนหมอบด้วยมือเปล่าท่ามกลางความตกตะลึงของชาวบ้านที่มุงดู เจ้าหน้าที่ตำรวจก็เข้ามาจับกุมตัวทันที ในคุกเรียวมะเกือบจะถูกผู้คุมฆ่าทิ้ง แต่ก็ถูกชายชราคนนึงเข้ามาช่วยพูดเอาไว้จนเรียวมะถูกปล่อยตัวในที่สุด 



- เรียนรู้การเซฟเกมที่จุดศาลเจ้าในเมือง
ไปที่จุดแดงเรียนรู้การซื้อไอเทมของกินเพิ่มพลังชีวิต
- เดินเข้าในเมืองจะพบนักเลงกลุ่มนึงเข้ามาหาเรื่อง ซึ่งก็คือ เรียนรู้การใช้ท่าทุ่มด้วยปุ่มวงกลม และเมื่อโจมตีจนเกทฮีท (ซึ่งภาคนี้กลายเป็นแถบวงกลมแทน) เต็มจนตัวมีออร่าสีฟ้าก็จะสามารถเผด็จศึกศัตรูได้ด้วยการจับศัตรูด้วยปุ่มวงกลมแล้วกดสามเหลี่ยมในขณะอยู่ใกล้พนัง หรือในกรณีที่ถืออาวุธอยู่ ก็จะเกิดท่าโจมตีอย่างรุนแรงได้
เมื่อจัดการศัตรูจนหมดแล้วก็จะได้ Level up แรกให้เรียนรู้ โดยในภาคนี้นั้นจะมีทั้ง Level up ของตัวละครและ Level up ของ Style ที่ใช้ในการต่อสู้ ซึ่งการใช้การ Level up ในการเรียนรู้ท่าต่างๆในภาคนี้จะทำออกมาแบบการเดินในแผง Skill รูปวงกลมครับ โดยสามารถอัพ Skill ต่างๆด้วยคำสั่งในเมนูคำสั่งบรรทัดที่ 3

                                        

ช่วงนี้จะยังไม่มีเครื่องหมายสีแดงของจุดหมายขึ้นมา ซึ่งต้องอาศัยการหาข่าวกับชาวบ้านเอา โดยเข้าไปคุยกับชาวบ้านผู้ชายที่ใส่เสื้อสีน้ำตาลที่มีกรอบคำพูดขึ้นที่หัวเพื่อถามข้อมูลของสำนัก「牽牛子塾」คุยจบก็จะมีจุดหมายสีแดงขึ้นมาในแผนที่ เมื่อเดินทางไปที่บ้านหลังเป้าหมายก็จะพบว่าคือ ชายแก่ที่ที่ช่วยออกมาจากคุกนั่นเอง  หลังดื่มสุราแล้วคุยกันจนจบแล้ว ชายแก่จะแนะนำเรียวมะให้ไปที่สำนัก 「牽牛子塾」




- ออกเดินทางไปทางประทางทิศตะวันออกของแผนที่จะพบซามูไรนักเลงกลุ่มนึงกำลังหาเรื่องเจ้าของร้านขายของอยู่ เข้าไปช่วยจัดการพวกมันให้หมดพร้อมเรียนรู้การทำคอมโบด้วยปุ่ม สี่เหลี่ยม , สี่เหลี่ยม , สี่เหลี่ยม และ สี่เหลี่ยม , สามเหลี่ยม ในการพุ่งโจมตี จัดการให้หมดแล้วจะมีชายคนนึงเข้ามาคุย แล้วจากนั้นจุดแดงเป้าหมายก็จะขึ้นมา 



- เดินไปที่เป้าหมายที่สำนัก 「牽牛子塾」เข้าไปพบ ทาเคจิ ฮัมเปตะ (武市半平太) ที่กำลังจะสอนนักเรียนในการต่อสู้ด้วยอาวุธสมัยใหม่อย่างปืน จากนั้นทั้งคู่จะนั่งดื่มเหล้ากันจนอาจารย์ให้ปืนมาใช้ 1 กระบอก จากนั้นเรียวมะออกมาจากบ้าน แล้วเดินทางไปที่ร้านเหล้าเป้าหมาย เข้าไปดื่มเหล้าแล้วกลับออกมาจะพบซามูไรนักเลงอีกกลุ่มเข้ามาหาเรื่อง จัดการพวกมันให้หมดเพื่อเรียนรู้การใช้ปืน แล้วทำคอบโบ สี่เหลี่ยม สามเหลี่ยม ต่อด้วยการเลือกสไตล์การต่อสู้ด้วยปุ่มทิศทางต่างๆซึ่งเป็นต่อสู้ด้วยดาบผสมกับปืน จัดการศัตรูให้หมดแล้วเดินทางไปจุดหมายสีแดงที่ขึ้นมาต่อ 



- ระหว่างทางจะพบกับซามูไรกลุ่มนึงที่ผ่านเข้ามา คนหัวหน้าระบุนามว่า โอคาดะ อิโซ (岡田以蔵 )ก่อนจะสู้กัน เมื่อชนะแล้ว ฮัมเปตะ ที่ดูอยู่จากในบ้านก็ออกมาแล้วพาไปพบกับ เจ้าสำนักซึ่งก็คือ โยชิดะ โทโย (吉田東洋) ซึ่งก็คือชายแก่ที่ช่วยเรียวมะออกจากคุกนั่นเอง



 เรียวมะมารู้ภายหลังหลังจากพูดคุยแลกเปลี่ยนแนวคิดกันหลายครั้งว่า โยชิดะ เองนั้นเป็นสมาชิกพรรค ลัทธิจักรวรรดินิยม โทะสะคินโนโท 土佐勤王党 หลังจากทั้ง 3 คุยกันได้ซักพักจู่ๆก็มีนักฆ่านรินามบุกเข้ามาแล้วสังหารอาจารย์ต่อหน้าต่อตาเรียวมะ ขณะที่อาจาร์ยสั่งเสียบางอย่างก่อนจะตายคาอ้อมแขนของเรียวมะ



 คนของสำนักมากมายก็เข้ามาจึงเกิดการเข้าใจผิดกันจนเกิดการต่อสู้ขึ้น เรียวมะใช้เพียงมือเปล่าในการอัดศัตรูให้หมดจนหมอบก่อนจะรีบเข้าไปดูอาจาร์ยแต่จะพบว่าด้านในกลับนองไปด้วยเลือดของคนในสำนักจากฝีมือของนักฆ่าลึกลับ การต่อสู้จบลงด้วยการพ่ายแพ้ของเรียวมะแต่นักฆ่ากลับไว้ชีวิตเขาแล้วรีบหนีไปก่อน เรียวมะพาชายที่บาดเจ็บมาซ่อนตัวก่อนที่สัญญาว่าจะหาความจริงเรื่องนี้ให้ได้ สถานะการ์ผลิกผันทำให้เรียวมะต้องกลายเป็นคนร้ายและถูกตามล่าจนต้องหนีเอาตัวรอดไปก่อน

บทที่ 2 第二章 斉藤一という男
ในโรงเเรมแห่งนึงในเกียวโต โอเรียวจัง おりょうถูกเจ๊โอโทเสะ お登勢 สั่งให้ไปปลุกลูกค้าคนนึงในห้องที่ชื่อ ฮาจิเมะซัง ตื่นสายอีกแล้ว ..หลังจากเรียกอยู่นานแต่ฮาจิเมะก็ยังไม่ตื่นจนเธอต้องเข้าไปดึงผ้าห่มให้ลุกขึ้นมาให้ได้ ฮาจิเมะ ก็ตื่นขึ้นตัดความรำคาญ จากนั้นที่ห้องนี้ก็จะเป็นทั้งที่เซฟและที่สำหรับจัดการในเรื่องไอเทมต่างๆได้ด้วย  ลงมาคุยกับเจ๊โทเสะ ฮาจิเมะจะถามถึงข้อมูลเกี่ยวกับการสมัครเข้าหน่วยชินเซ็นกุมิก่อนออกเดินทางออกจากโรงแรม 



หลายไปกว่าปีแล้วหลังจากเหตุการ์ณที่
โยชิดะ ถูกลอบสังหาร ด้วยความที่อุดมการ์ณอันแรงกล้าที่จะปกป้องศักดิ์ศรีแห่งองค์จักพรรดิของเรียวมะเอง กับสัญญาที่ให้ไว้กับ ฮันเปย์ตะ ในวันที่หนีมาว่า เขาต้องสืบหาให้ได้ว่าฆาตกรที่ฆ่าท่านโยชิดะเป็นใครแล้วชำระแค้นก่อนถึงจะกลับไปทำงานใหญ่ที่โทสะอีกครั้ง และด้วยต้องการความแนบเนียน เรียวมะจึงเดินทางมาที่เกียวโตแล้วปลอมชื่อว่า ไซโต้ ฮาจิเมะ (斎藤一)

- ตอนนี้จะยังไม่มีจุดเป้าหมายขึ้นมา เดินลงมาที่ซอยด้านล่างใกล้ๆศาลเจ้าจุดเซฟจะมีคนถูกหารังแกอยู่ แน่นอนฮาจิเมะเข้าไปจัดการกับนักเลง 4 คนจนหมอบ คนที่เขาช่วยเอาไว้เป็นนักบวชชินโต
神主 ในศาลเจ้า ซึ่งจะทำให้ได้บุญมาถึง 50 Point

                               

- จากนั้นเดินลงมาทางทิศใต้ของถนนใหญ่กลางเมืองจะเจอเหตุการณ์นักเลงในร้านเหล้าออกมาหาเรื่องจัดการพวกมันให้หมด
- เดินอ้อมไปถนนข้างๆด้านซ้ายเดินขึ้นบนไปเรื่อยๆจะพบขบวนพิธีของชาวบ้านที่กำลังเต้นรำกันอยู่ ฮาจิเมะก็เลยเข้าไปร่วมเซิ้งด้วยซะเลย แต่ก็ไม่วายพบพวกซามูไรชั้นต่ำเข้ามาหาเรื่องอีก จัดการมันให้หมด
- แล้วเดินเข้ามาทางจุดเซฟขวาล่างของแผนที่เข้าไปคุยกับชายที่ยืนมองป้ายสำนักอยู่ คุยแล้วจะได้เข้าไปคุยกับครูฝึกด้านใน ฮาจิเมะจะได้เข้าประลองกับคนในสำนัก จัดการให้ชนะแล้วกลับออกมา

                


– เดินขึ้นไปตามถนนเส้นกลางไปด้านบนสุดจะได้พบชายคนนึงที่มาจากโทสะ 土佐の人ขณะที่ทั้งคู่กำลังส่งข่าวให้กัน หน่วยย่อยของชินเช็นกุมิ 3 คนก็ผ่านมาเห็นท่าทีที่มีพิรุธทำให้ฮาจิเมะต้องวิ่งหนี จากนี้ก็พยายามหนีการจับกุมโดนใช้สิ่งของตามทางช่วยขัดขวางศัตรู หรือแอบตามถังไม้ข้างทางจนพ้นจากสายตาพวกศัตรู เป้าหมายคือเอาไปหลบที่ซอยที่เป็นจุดแดงเป้าหมายในแผนที่ให้ได้

              


- ขณะที่เข้าไปหลบจะพบกับชายคนนึงที่นั่งสูบบุหรี่อยู่อย่างเย็นใจ แต่ดูเหมือนว่าเขาเองก็ไม่ค่อยจะถูกโรคกับทางการเท่าไหร์เหมือนกันก่อนที่ต่างฝ่ายต่างแนะนำตัวกันว่าชื่อ นิโบริ มัทซูซูเกะ และ ไซโต้ ฮาติเมะ ซึ่งดูเหมือนต่างฝ่ายต่างก็รู้เป็นนัยๆปนสังสัยว่าที่บอกไปมันก็ชื่อปลอมกันทั้งคู่ หลังจาก นิโบริ จากไปก็ออกจากซอยเดินทางไปที่จุดหมายสีแดงในแผนที่ต่อ


- กลับมาที่โรงแรมขึ้นห้องเข้านอนจะตื่นขึ้นมาในช่วงกลางคืน เข้าไปที่จุดหมายซึ่งเป็นโรงอาบน้ำ เข้าไปพบ อิคุมัทซึ  謎の情報屋 (หรือ ไซ คนขายข่าวサイの花屋 คนเดิม) 

หลังจากทั้งคู่แลกเปลี่ยนข้อมูลกันไปได้ซักพักจู่ๆก็เริ่มได้ยินเสียงโครมครามาจากด้านนอกจนไอน้ำเริ่มจางจึงเห็นร่างสุดบึกบึนของชายคนนึงที่ย่างสามขุมเข้ามาด้วร่างเปลือยเปล่าจนถึงอ่างน้ำ ซึ่งไซก็แนะนำว่าเพื่อนจอมโวยวายของ
ฮาจิเมะเห็นท่าไม่ดีจึงพยายามจะหลบฉากออกมา แต่ดูเหมือนมันจะเห็นร่างที่บึกบึนของเพื่อนใหม่จึงยั้งฮาจิเมะเอาไว้การต่อสู้จึงเกิดขึ้น 



หลังจากกอดรัดฟัดเหวี่ยงสู้กันไปได้ไม่นานบรรยากาศการต่อสู้ของชายเปลือย 2 คนก็จบลงเมื่อ ไซ ที่ทนดูไม่ไหวต้องสั่งให้ทั้งคู่หยุดเพราะอยู่ข้างเดียวกันแท้ๆ เรื่องก็จบลงที่ทั้ง 2 ไปดื่มเหล้าเคล้านารีกันอย่างมีความสุข หลังจากดื่มเหล้าพูดคุยถึงเรื่องต่างๆรวมถึงเป้าหมายของเรียวมะคือกลุ่มชินเซ็นกุมิแล้ว ก่อนทั้งคู่จะจากกันชายร่างใหญ่ผมทองก็แนะนำตัวเองก่อนไปว่า เขาชื่อ ไซโก คิชิโนะซูเกะ
西郷吉之助




- ออกจากร้านเหล้าแล้วมาตามทางจะพบคนที่กำลังมุงดูคนโดนฆาตกรรมซึ่งก็คือสายข่าวจากโทสะที่เพิ่งเจอกันก่อนหน้านี้นั่นเอง ในขณะที่ฮาจิเมะกำลังยืนตะลึงอยู่ก็พบซามูไรลึกลับคนนึงที่เข้ามาประชิดแล้วพูดขึ้นว่า มันรู้ถึงแผนการของชายที่จากโทสะเพื่อล้างแค้น และยังรู้ตัวจริงของ ฮาจิเมะ อีกว่าคือ ซากาโมโตะ เรียวมะ อีกด้วย พูดจบมันก็เดินหายไปในความมืดอย่างช้าๆ ฮาจิเมะ ไม่รู้ว่ามันเป็นใครแต่สถานภาพและแผนการ์ณของเขาชักเริ่มไม่มั่นคงเสียแล้ว
- เดินทางไปจุดเป้าหมายต่อระหว่างทางจะพบเด็กหญิงคนนึง ฮาจิเมะ จะนั่งคุยเป็นเพื่อเธออย่างเฮฮาก่อนจากกดเลือกไอเทมอะไรก็ได้ให้เธอไปแล้วค่อยเดินทางไปที่จุดเป้าหมายสีแดงต่อ












4 ความคิดเห็น:

  1. ช่วยสอนเทคนิคตกปลาภาคนี้ให้หน่อยซิครับมีเบ็ดอันที่พลังเต็มแต่ตกยังไงก้อไม่ได้มากุโร๋ซะที เจอเควสแมวอยากแดกปลายากๆเหนื่อยเลย

    ตอบลบ
  2. ขอบคุนมากคับ
    รู้เนื้อเรื่องเยอะเลย(อ่านญี่ปุ่นไม่ออก)
    เอาให้จบนะครับ

    ตอบลบ
  3. อยากให้ต่อครับ ขอบคุณมากครับเนื้อเรื่องสนุกมากครับ เป็นกำลังใจให้ครับ

    ตอบลบ
  4. ไม่มีต่อแล้วหรอครับ

    ตอบลบ