วันเสาร์ที่ 3 ตุลาคม พ.ศ. 2558

MAD MAX

ในเมืองเล็กๆที่ห่างไกลจนใครๆไม่อยากจะจำชื่อ แต่ที่นี่มีถนนยาวไกลที่เหมาะแก่การซิ่งอย่างอิสระจึงเป็นที่หมายตาของแก็งค์วิ่งมากมาย แต่ที่นี่ก็ยังมีกฎหมายถึง ตำรวจทางหลวงในเมืองเล็กพยายามทำตามหน้าที่เข้าจับกลุมแก็งค์ต่างๆที่ย่างกรายเข้ามาก่อกวนแต่ก็ยากที่เหล่าตำรวจด้อยฝีมือจะต้านทาน เว้นเสียแต่ นายตำรวจทางหลวงกับรถ V8 ของเขานามว่า Max Rockatansky ที่มีฝีมือซิ่งมากพอที่จะสยบพวกมันได้ 



จนวันนึง 2 ผัวเมียแก็งค์ซิ่งก็รุกล้ำเข้ามาสร้างความวุ่นวายในทางหลวงของเมือง แน่นอนว่าตำรวจหน้าไหนก็จับมันไม่ได้ยกเว้นแต่ Max ที่ไล่ล่าจนส่งความตายไปถึงมันได้สำเร็จ แต่เรื่องยังไม่พบแค่นั้นเพราะ 2 ผัวเมียแก็งค์ซิ่งที่ Max จัดการไปเป็นคนของแก็งค์ ไนท์ไรเดอร์ และ Toecutter หัวหน้าแก็งค์สุดโหด และกลุ่มลูกน้องสุดชั่วของมันก็กำลังตามมาล้างแค้นกับคนที่ฆ่าคนของมัน ทันทีที่พวกมันย่างกรายเข้ามา เมืองทั้งเมืองก็วุ่นวาย ตำรวจมากมายต้องเสียชีวิตด้วยความบ้าคลั่งของมัน รวมถึงโศกนาฎกรรมที่น่าเศร้าที่เกิดกับเมียและลูกของ Max แรงแค้นส่งผลให้ Max ใช้รถ V8 ของเขาไล่ล่าพวกมันจนสิ้นซากได้สำเร็จ แต่นั่นก็ทำให้เขาไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป ..

ไม่นานจากนั้น โลกเข้าสู่การขาดแคลนพลังงานอย่างหนัก สงครามแย่งชิงน้ำมัน เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องและเริ่มขยายความรุนแรงกว้างขึ้น สงครามการแย่งชิง ทำให้เริ่มขาดแคลนน้ำและอาหารในเวลาตามมา และต่อมาก็แย่งชิงทุกอย่างที่มีค่ามาเป็นของตัวเอง จนลุกลามใหญ่โตกลายเป็นสงครามนิวเคลียร์ และพิษตกค้างของมันก็สร้างความเสียหายให้กับโลกอย่างใหญ่หลวง ดินเริ่มเพาะปลูกไม่ได้  โลกเข้าสู่กลียุคแห่งความป่าเถื่อนอีกครั้งโดยไม่มีใครทันตั้งตัว




ผมชื่อ Max Rockatansky ที่ผ่านมาเคยเป็นผู้พิทักษ์ความยุติธรรมบนท้องถนนใรฐานะตำรวจ เมื่อโลกล่มสลาย เมื่อมนุษย์แต่ละคนที่ยังรอดชีวิตก็เริ่มบ้าคลั่งในแบบของตัวเอง ไม่รู้อีกแล้วว่าใครบ้าไปกว่ากัน ระหว่างคนอื่นๆหรือตัวผมเอง ...  เสียงของลูกเมียที่ผมช่วยเหลือไม่ได้ยังก้องอยู่ในหัว ผมคือคนที่วิ่งหนีทั้งคนเป็นที่บ้าคลั่งและคนตายที่ผมปกป้องพวกเขาไม่ได้ ต้องทนอยู่บนแผนดินที่แสนทุระกันดาน ด้วยสัญชาติญาณเดียวที่เหลืออยู่คือ การเอาตัวรอด  



ท่ามกลางความสูญเสียและสิ้นหวังซ้ำแล้วซ้ำเล่าในแดนทุระกันดารนี้ ผมก็มีความเชื่อบางอย่างอยู่ ผทเชื่อว่าเสียงที่บ้าคลั่งในหัวสมองผมตอนนี้มันจะเงียบลงได้ซะที หากผมพบสถานที่ที่นึง สถานทีที่สงบเงียบที่มีอยู่อย่างมิได้หลบซ่อนในอีกฝากของแดนทุระกันดารนี้ ผมมีอาวุธและรถที่จะใช้ในการเดินทางไปที่นั่นแล้ว ขาดก็แต่ น้ำมัน และ สถานที่เดียวที่เดียวที่มีน้ำมันและเครื่อง V8 สุดยอดเครื่องยนต์ที่ผมต้องการก็คือที่ Gas Town นั่นแหละที่ผมจะต้องไป




แต่แล้วเจ้าพวก Warlord ก็มาปล้นมันไปจนหมด ! Scrotus ทายาทนรกของ Immortan Joe กับพวก Warboy ของมันผ่านมาและปล้นทุกอย่างไปจากผม อาวุธ รถ หายไปกับตา เหลือแค่รอดชีวิตมากับหมาแค่หนึ่งตัว ใช่ ผมสร้างศัตรูมากมายขึ้นตามมาด้วยหลังจากใช้เลื่อยไฟฟ้าฟันหัว Scrotus แต่ในดินแดนนี้จะต้องทำสงครามอีกกี่ครั้งมันก็ไม่ต่างกัน ยังไงมันก็หยุดผมไม่ให้ไป ที่นั่น ได้อยู่ดี! 




                                                 บทสรุป MADMAX 


BY Decibel per – oxide 




                                          Chapter 1 – FERAL MAN 

ทันทีที่ Max รู้สึกตัวและรอดชีวิตมาพร้อมกับหมาตัวนึงและก็โชคยังดีที่ได้เสื้อผ้า กระติกน้ำ และปืนช็อตกันจากศพตามทาง ในขณะเดินทางจะเจอกับแหล่งน้ำที่ตกค้างในซากเรือ เป็นจุดเติมน้ำใส่กระติกแล้วนำมาใช้ดื่มเพื่อเพิ่ม HP ด้วยการกดปุ่มทิศทางขึ้นบน และเมื่อเดินไปต่อตามทางก็จะพบชายหลังค่อมร่างเกือบพิการที่กำลังจะจับหมาไป Max รีบตามเข้าไปช่วยทันที



ชายหลังค่อมแนะนำตัวว่าเขาชื่อ Chumbucket และโชคดีที่เขาไม่ได้เลวร้ายแถมยังจำได้ว่า Max คือคนขับรถที่ถูกพวก Scrotus ปล้นเอารถไป Chumbucket จึงบอกว่าเขามีทางที่จะหารถแทนให้ได้เพราะเขาเป็นช่างใหญ่แห่งพื้นที่ Great White แห่งนี้ แต่ก่อนจะออกเดินทางเขาจะให้ Max ไปตามหาสายไฟเอามาให้เขาซ่อมรถ Buggy ของเขาให้ได้ก่อน 

- จากนั้นตามจุดเขียวเป้าหมายเข้าไปตามทางจนถึงช่องเข้าด้านใน เก็บกระสุนปืนจากศพแล้วทะลุออกไปลานกว้างด้านนอกจะเจอพวก War Pup อยู่เต็มไปหมด เข้าไปจัดการมันซะ




เรียนรู้การบังคับเบื้องต้น
A – สำรวจ / ปีน 
B – ยิงปืน 
X- โจมตีด้วยหมัด 
Y- เค๊าท์เตอร์การโจมตีของศัตรู
LB- เล็งปืน 
RB- กลิ้งตัวหลบ 
LT – กระโดด
RT- วิ่ง 

ปุ่มทิศทาง D-pad 
ขึ้น –ดื่มน้ำ 
ลง – ใช้กล่องส่องทางไกล 
ซ้าย –ใช้ไฟฉาย 
ขวา- ใช้ปืนพลุส่งสัญญาณ 

-เมื่อจัดการพวกมันหมดแล้วก็เก็บไอเทมให้หมด ซึ่งจะเป็นพวก Scrap หรือชิ้นส่วนวัตถุดิบ ที่เป็นอะไหล่หรือค่าที่ใช้สำหรับการนำไปใช้ในการแต่งรถได้ จึงเป็นไอเทมที่ต้องตามเก็บเอาไว้ให้มากที่สุด และเก็บ Wire สายไฟที่เป็นคีย์ไอเทมที่ต้องนำกลับมาให้ Chumbucket
-เอาสายไฟกลับมาให้ Chumbucket แล้วอุ้มหมาตามไปที่รถ Buggy ของเขา แล้วขับออกจากที่นี่ได้เลย ทันทีที่ขับมาถึงระยะนึงที่เนินดินสูง Chumbucket จะให้ใช้กล้องส่องทางไกล (กดทิศทางลงล่าง) ดูค่ายของพวก Warlord ทางขวาซึ่งเป็นที่ที่ยังไม่สมควรไปยุ่งด้วยในตอนนี้ และที่ที่จะต้องไปคือที่กบดานของ Chumbucket ที่ซากเรือใหญ่ไกลออกไปข้างหน้า จากนั้นก็ขับมุ่งหน้าตรงไปที่นั่นได้เลย

                                        **ความสำคัญของ Scrap **

Scrap หรือชิ้นส่วนวัตถุดิบที่เก็บได้ระหว่างทางนั้น ในดินแดนทุระกันดารแห่งนี้มันมีค่าเท่ากับ เงิน เพื่อใช้สำหรับทำทุกอย่างเพื่อแลกสิ่งที่ต้องการทั้งการแต่งรถ อัพเกรด Ability , Skill รวมถึงอุปกรณ์สวมใส่ต่างๆ จึงไม่ควรที่จะละเลยที่จะเก็บมันในแต่ละพื้นที่ที่เจอด้วย ซึ่งสามารถเพิ่มจำนวนการเก็บแต่ละครั้งให้เยอขึ้นได้โดยเพิ่มเลเวลของ Ability - Volition ที่จะเพิ่มจำนวนของ Scrap ชิ้นส่วนต่างๆ มากขึ้นต่อการเก็บ 1 ครั้ง


                                   Chapter 2  – MAGNUM OPUS  




ที่ซากเรือใหญ่ที่เป็นสถานที่หลบซ่อนตัวของ Chumbucket อยู่ในเขต Outer Grave ทันทีที่มาถึงก็เข้าไปสำรวจเก็บไอเทมและเติมน้ำให้เต็มกระติกซะก่อน แล้วค่อยเข้าไปคุยกับ Chumbucket เพิ่มเริ่มภารกิจ เป็นภารกิจที่ Chumbucket เคยให้สัญญากับ max ไว้ว่าจะหารถให้ใช้ซักคัน โดยซากรถที่เขามีมาอวด max ก็คือ Magnum Opus คันงามที่ตอนนี้มีแค่เครื่องยนต์กับโครงรถที่เขายังสร้างไม่เสร็จ และถ้าอยากจะประกอบมันให้เสร็จก็ต้องไปหาตัวถังมาใส่ซึ่งที่ที่ Chumbucket จะพาไปเอาก็คือที่สุสานรถนั่นเอง  หลังจากรับภารกิจเสร็จก็ขับรถ Buggy ออกเดินทางได้เลย

- ในระหว่างเดินทางจะเริ่มเห็นเกทน้ำมันทางขวาล่างเริ่มเป็นสีเหลืองซึ่งแปลว่ารถน้ำมันกำลังจะหมด ในแผนที่จะมีจุดเขียว  2 จุดที่ต้องแวะ จุดเขียวแรกนั้นเข้าไปสำรวจจะเจอถึงเปล่า จุดเขียวต่อไปเข้าไปจัดการพวก Skrappa ให้หมดสำรวจเก็บไอเทมทั่วๆก็จะเจอแกลลอนน้ำมัน ยกมันมาเติมใส่ที่รถ แล้วไปหยิบอีกถังมาใส่เอาไว้เป็นสำรองด้วย
-จากนั้นขับรถมุ่งหน้าไปยังจุดเขียวต่อไปซึ่ง Chumbucket จะพาไปที่สุสานรถในเขต Graveyard ที่หน้าประตูจะปิดอยู่ ลงไปเอาถังน้ำมันมาถือแล้วกด X เพื่อจุดไฟ Max จะเอาไปใช้ระเบิดประตูทางเข้าแล้วขับรถต่อไปจนถึงด้านในสุสานรถได้เลย Chumbucket จะชี้ให้เห็นบอดี้รถมากมายที่แขวนอยู่ด้านบน ซึ่งอยากได้ก็ต้องขึ้นไปเลือกเอาด้วยตัวเอง
-เข้าไปตามทางด้านในตามเนินขึ้นไปด้านบนและโหนสลิงข้ามไปที่ละชั้น ระหว่างทาง max จะพบชายประหลาดที่คอยตามเขาอยู่ตลอด และเมื่อขึ้นไปจนถึงชั้นบนที่คันโยกปลดโซ่ Max ก็สามารถเลือกได้เลยว่าต้องการโครงรถแบบไหน ระหว่าง  Furnaca , Shovelface , Wild Hunt , Death Rattle และ Die Rolla

-หลังจากเลือกตัวถังรถได้แล้วพวก Raza Rattler จากเผ่า Buzzard เจ้าถิ่น ก็จะออกมารุมโจมตี จัดการพวกมันให้หมด ซึ่งหลังจากชนะแล้วพวกมันจะส่งระเบิดมาถล่มต่อทำให้ต้องรีบหนีออกจากที่นี่ รีบหนีกลับลงมาที่รถแล้วขับหลบระเบิดเพื่อหนีออกจากที่นี่ให้ได้ แต่ทันทีที่ออกมาด้านนอกรถของพวก Buzzard ก็ไล่ล่าตามมาไม่ลดละ ซึ่งก็ต้องจัดการมันให้หมดด้วยการปะทะกันทางรถนี่แหละ

                                             ** Car battle **

RT – เร่งความเร็ว
LT – เบรก 
X – กระแทก 
LB + B – ยิงปืนหรือ ฉมวกใส่รถศัตรู 
LS + X – กระแทกรถศัตรู 
A – พุ่งรถด้วยไนตัส (เพิ่มขึ้นหลังติดตั้งแล้ว )
A + X  - ใช้การพุ่งตัวด้วยไนตัสกระแทกรถศัตรู 

**การซ่อมแซมรถ** ทุกครั้งที่รถเกิดความเสียหาย Chumbucket จะเป็นคนซ่อมมันโดยเวลาจอดรถสามารถกดปุ่มทิศทางขึ้นบนเพื่อสั่งให้เขาออกไปซ่อมได้ และทุกครั้งที่ออกจากรถ Chumbucket ก็จะเริ่มซ่อมแซมความเสียหายแบบอัตโนมัติเช่นกัน และถ้าอยากจะซ่อมให้เร็วทันใจก็สามารถเข้าไปกดซ่อมไวได้ด้วยซึ่งแน่นอว่าต้องเสียค่าอะไหล่ (Scrap) หรือจำนวนของชิ้นส่วนที่เก็บได้ตามที่ต่างๆ 

การต่อสู้ด้วยรถนั้นถือเป็นความเป็นความตายและความอยู่รอดในการเดินทางเลย เพราะระหว่างทางในถนนโลกันต์แห่งนี้นั้นจะเจอรถศัตรูได้ตลอด ซึ่งระหว่างทางนั้นหากเกิดรถพังแล้วตายขึ้นมาก็จะไม่มีออโต้เซฟมาช่วยด้วย เพราะการโหลดขึ้นมาใหม่คือตอนที่ออกจากสถานที่ต่างๆเท่านั้น ฉะนั้น ศักยภาพของรถ และฝีมือขับขี่ในการต่อสู้ทางรถนั้นจึงเป็นสิ่งสัญมากในเกมนี้พอๆกับการลุยด้วยตัวเอง

-หลังจากทำลายรถศัตรูจนหมดแล้วก็เดินทางกลับไปยังรังของ Chumbucket ตามจุดเขียวที่ขึ้นมาในแผนที่ได้เลย


                                   Chapter 3  – RIGHTEOUS WORK

เมื่อกลับมาถึงรังของ Chumbucket แล้ว คุยกับเขาเพื่อเริ่มทำการปรับแต่งรถจากตัวถังที่ได้มาได้เลย ซึ่งตอนนี้เมนู Garage จะเริ่มใช้งานในการแต่งรถได้แล้ว เก็บชิ้นส่วนอะไหล่รอบพื้นที่ให้หมดแล้วไปเอาเหล็กแหลมตรงที่นอนมา



                                         

                                           ** การปรับแต่งรถ (Garage) ** 

 ตอนนี้จะสามารถแต่งได้แล้วด้วยเมนู Garage แต่แค่กันชนหน้ากับหัวกระโหลดที่ตบแต่งรถเท่านั้น แต่อุปกรณ์สำคัญที่ต้องทำคือ ปืนฉมวก HARPOON ที่เป็นอุปกรร์ที่ใช้สำหรับต่อสู้ในขณะขับรถ ดึงคนขับ กระชากยาง ประตู หรือทำให้รถเสียหลัก และใช้งานในการดึงทำลายสิ่งก่อสร้างต่างๆ ซึ่งการจะใช้งานในเรื่องต่างๆนั้นต้องขึ้นอยู่กับเลเวลของอุปกรณ์ด้วย โดยการใส่อุปกรณ์ต่างๆนั้นจะต้องหักจากค่า Scrap หรือจำนวนของชิ้นส่วนวัตถุดิบที่เก็บมาในการสร้าง และอุปกรณ์ใหม่ๆก็จะปลดล็อกออกมาให้ใช้ด้วยการเคลียร์ Story Mission ต่างๆนั่นเอง  เมื่อติดตั้งสร็จแล้วก็ขับออกไปลองใช้งานได้เลย

-ที่จุดเป้าหมายสีเขียวคือเสา Scarecrow ของพวก War boy ซึ่งจะเป็นที่ทดสอบการใช้ HARPOON โดยขับไปในระยะ กดปุ่มทิศทางซ้าย – ขวาเพื่อสลับการใช้งานกับปืนที่มี แล้วกด LB ในการเล็งและ B ในการยิง เมื่อเกี่ยวได้แล้วก็ใช้รถเป็นตัวเร่งในการดึงเสาให้หักลงได้
-จากนั้นจุดเขียวเป้าหมายต่อไปคือการทำลาย camp ของพวก Warlord ซึ่งก่อนทำลาย Chumbucket จะสอนให้ใช้วิธีส่องกล้องเพื่อตรวจสอบและวางแผนก่อน


                    ** เรียนรู้การทำลายระบบป้องกันของแคมป์ (Camp Perimeter) **

การยึดแคมป์ของศัตรูนั้นอย่างแรกที่ต้องทำคือทำลายระบบการป้องกันของค่ายก่อน ซึ่งแต่ละค่ายจะไม่เหมือนกันมากน้อยต่างกันตามระดับเลเวลหัวกระโหลก ทั้ง Camp Sniper พลแม่นปืนระวังภัย, Flame Pipe เครื่องพ่นไฟที่หน้าประตู, War Crier หรือตัวเชียร์ให้ศัตรูฮึกเหิม หรือเสายิงระเบิด การใช้กล้องส่องดูก่อนนั้นก็เพื่อกำหนดตำแหน่งของมันให้ชัดเจนก่อนการโจมตี เพราะเมื่อแคมป์มันเริ่มถูกโจมตีโจมตีหรือมันเริ่มเห็นก่อน เกท Camp Perimeter จะเริ่มแสดงขึ้นมา และมันจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆระหว่างที่เข้าไปต่อสู้ เมื่อเกทเต็มพวกศัตรูในแคมป์จะอันตรายมากขึ้นทำให้ยึดแคมป์ลำบากมากขึ้น ซึ่งการทำลายระบบป้องกันหลักหน้าแคมป์แต่ละที่นั้นต้องอาศัยความเร็วในการใช้ปืนฉมวกเกี่ยวดึงทำลายมันด้วย ซึ่งเมื่อทำลายระบบป้องกันที่มีอยู่ทั้งหมดได้ Perimeter Defender ก็จะถูกทำลายก็จะสามารถเข้าไปในแคมป์ได้แล้ว 

-เริ่มเข้ายึดแคมป์ Oil pump Camp ด้วยการใช้ฉมวกดึงทำลายหอคอยของ Camp Sniper ให้ล้มแล้วรีบเข้าไปดึงทำลายถังน้ำมันของ  Flame Pipe เครื่องพ่นไฟที่หน้าประตูให้พังลงมา จากนั้นระบบป้องกันก็จะไม่มีแล้ว สามารถลงรถเข้าไปในฐานได้เลย ซึ่งก็จะมีศัตรูที่เฝ้าแคมป์และ War Crier หรือตัวเชียร์ให้ศัตรูฮึกเหิม ซึ่งต้องใช้ปืนยิง ถ้ามีกระสุนอยู่ก็สอยก่อนเลย แต่ถ้าไม่มีก็ต้องจัดการศัตรูปกติเพื่อเก็บกระสุนมายิงมันซะ หลังจากจัดการศัตรูจนหมดก็ทำลายปประตูเข้าไปด้านในต่อ

ระหว่างทาง max จะพบกับชายท่าทางประหลาดที่พยายามจะบอกบางอย่างกับเขา 
“เวลาสรรสร้างสิ่งมหัศจรรย์เสมอ เสมือนมันพาคุณให้เดินทางมาพบกันที่นี่ ตัวเจ้าและจิตใจเจ้ากำลังจะได้รับการพัฒนา ตามหาข้าเมื่อคิดว่าจิตวัญญาณคุณพร้อมแล้ว “ 
ชายท่าทางประหลาดพูดเรื่องที่ยากจะเข้าใจก่อนจะเดินจากไปปล่อยให้ Max ยืนงงต่อไปอยู่ที่เดิม

-เข้าไปด้านในต่อเก็บไอเทมต่างๆให้หมด ที่นี่จะมีรุปภาพความทรงจำอยู่ 1 ภาพ , ตรา Insigina 3 อันและ Scrap อยู่ 10 จุด เข้าไปต่อจนถึงท่อส่งน้ำมัน จัดการศัตรูที่คุ้มกันอยู่แล้วไปหยิบถังน้ำมันด้านในมาใช้ในการระเบิดมันได้เลย ก็จะสามารถยึดแคมป์ศัตรูได้แล้ว

-กลับมาที่รถแล้วเดินทางต่อไปยังจุดเป้าหมายต่อไปซึ่งก็คือที่อยู่ของชายท่าทางประหลาดที่เคยคุยกับ Max ไว้



Griffa – อ่า เจ้านั่นเอง ผู้ที่แฝงกายอยู่ในฝืนทราย ผู้ส่งสาส์นเลือด เศษที่เหลืออยู่ของอดีต  เจ้าบอกว่าเจ้าเห็น หนทางแห่งความเงียบงัน แต่ดูเหมือนเจ้าจะไม่แปลกใจอะไรกับมันเลย ทั้งที่พลังบางอย่างมันแฝงอยู่ในกายเจ้า มันจะทำให้เจ้าโบยบินไปใกล้เกินความเป็นมนุษย์ จนวันนึง ที่หนทางแห่งความเงียบงันของเจ้าสิ้นสุดลง เป้าหมายของเจ้าก็จะเริ่มขึ้น แต่ก่อนจะสำเร็จตามเป้าหมาย ถึงตอนนั้นเจ้าจะพบกับความเจ็บปวดทรมานมากมายที่จะโถมเข้ามา 
Max – แกไม่รู้จักข้าดีพอหรอก dune 
Griffa –ดูนั่น ด้านหลังของเจ้า พ้นพื้นทรายไปสู่พื้นทรายอีกฝืนมันเต็มไปด้วยความบ้าคลั่ง และที่เจ้ามาหาข้าก็เจ้าอยากเผชิญหน้ากับมันด้วยความแข็งแกร่งที่มากพอ ซึ่งข้าช่วยเจ้าได้ 

ที่เจ้า Griffa พล่ามมาตั้งนานจริงก็คือมันต้องการอัพเกรด Ability ให้ Max นั่นเอง โดยใช้ค่า Griffa Tokens ที่ได้จากการทำ Challenges ต่างๆ ซึ่งความ Ability ต่างประกอบด้วย 





                                                   ABILITY 

Longevity – เพิ่มเกทพลังชีวิต
Metabolism – กินอาหารแล้วจะทำให้เพิ่มค่า HP ได้มากกว่าเดิม
Judgment – เมื่อใช้ค่า Tokens อัพเกรดจะได้ระดับ Legend Level มากขึ้น 1 ขั้น 
Essence – ดื่มน้ำแล้วจะทำให้เพิ่มค่า HP ได้มากกว่าเดิม
Volition – จำนวนของ Scrap ชิ้นส่วนต่างๆ มากขึ้นต่อการเก็บ 1 ครั้ง
Adaptation – ทำให้น้ำมันหมดช้าลง
Attunement – เพิ่มพลังโจมตีให้กับการโจมตีด้วย Melee 
Channeling – ใช้ Fury Mode ได้นานขึ้น 
Munitions - เก็บ กระสุน ได้จำนวนมากขึ้นต่อการเก็บ 1 ครั้ง
Intuition – อาวุธประเภทถือจะมีความทนทานมากขึ้น (แตกหักได้ช้าลง) 

-เมื่อกลับมาที่รถจะพบว่าเจ้า Chumbucket หายไปพร้อมกับรถแล้ว จากนั้นเรียนรู้การใช้ปืนพลุด้วยการกดปุ่มทิศทางขวาเพื่อใช้เรียกให้ Chumbucket ขับรถมารับนั่นเอง

** เมื่อมันมารับแล้วมันจะให้เริ่มปรับแต่ง Nitrous Boost ให้รถได้แล้ว เข้าเมนู garages แล้วเลือกอัพเกรดหัวข้อ Boost ได้เลย เมื่อใส่ Nitrous Boost ได้แล้วจากนี้ก็จะสามรถกด A เพื่อทำให้รถพุ่งทะยานหรือชนเพิ่มความเสียหายกับรถศัตรูได้แล้ว ** 



                                                     Equipment Upgrade 

การอัพเกรดอุปกรณ์สวมใส่ต่างๆของ Max นั้นประกอบด้วย

-Knuckle Duster อุปกรณ์สวมใส่มือ 
-Jacket อุปกรณ์สวมใส่ร่างกาย 
-Wrist Armor เกราะเสริม 
-Head อุปกรณ์สวมใส่หัว 
-Shotgun ปืน 
- Skill ความเชี่ยวชาญในการต่อสู้ 

                                               SKILL

Chain Finisher – เพิ่มพลังโจมตีให้กับการทำคอมโบจนถึงท่าจบให้มากขึ้น
Weapon Parry – สามารถปัดป้องการโจมตีด้วยอาวุธของศัตรูในขณะมือเปล่าได้
Shoulder Charge – กดวิ่งแล้วกดโจมตีจะเป็นท่าใช้ไหล่กระแทกศัตรู
Gut Shot – เพิ่มระยะการทำลายในการยิงช็อตกันให้กว้างขึ้น
Limb Breaking Counter – ท่าหักกระดูกหลังกดเค๊าท์เตอร์การโจมตีของศัตรู 
Fury Ground Execution – ท่าเผด็จศึกหลังอัดศัตรูจนล้มในขณะอยู่ใน Fury Mode 
Wall Finisher – ท่าเผด็จศึกหลังจากอัดศัตรูคาพนัง 
Reversal – ท่าแย่งอาวุธจากศัตรูหลังจากเค๊าท์เตอร์การโจมตีของมัน ในขณะอยู่ใน Fury Mode
Melee Weapon Execution –ท่าเผด็จศึกหลังอัดศัตรูจนล้มด้วยอาวุธที่ถืออยู่ในมือ 
Wall SHIV Weapon Execution – ท่าเผด็จศึกด้วยมีดหลังจากอัดศัตรูติดพนัง
SHIV Grapple Escape – สามารถใช้มีดฆ่าศัตรูที่เข้ามาล็อกจากด้านหลังได้ทันที
Shield Shatter – สามารถต่อยทำลายโล่ของศัตรูได้ 
Master weapon Reversal – แย่งอาวุธจากศัตรูหลังจากเค๊าท์เตอร์การโจมตีได้เร็วขึ้น
Master SHIV Reversal – แย่งมีดสั้นจากศัตรูหลังจากเค๊าท์เตอร์การโจมตีได้เร็วขึ้น

SHIV Chain Finisher –ท่าสังหารด้วยมีดหลังหลังทำการเค๊าท์เตอร์


-Tool อุปกรณ์ต่างๆ


Equipment ต่างๆนั้นสามารถปรับแต่งได้ในเมนู MAX และอุปกรณ์สวมใส่ต่างนั้นสามารถสร้างได้ด้วยจำนวนของ Scrap และจะสามารถปลดล็อกอันใหม่ๆตามระดับเลเวลของ max ซึ่งเรียกว่า Legend Rank ประกอบด้วย 



Road Warrior นักรบแห่งท้องถนน 
Blessed wander นักแสวงบุญ 
Death Walker ผ้ไม่เกรงความตาย 
Reluctant Saint นักบุญจำเป็น 
Sand King จ้าวแห่งทะเลทราย 
Wheeler Dealer พ่อค้าติดล้อ 
Wreckage Roller ผู้อยู่บนเส้นทางแห่งความหายนะ
Gas Guzzler พวกบ้าคลั่งแก็ส 
Feral Fiend คนที่แสนดุร้าย 
Day Lizard กิ่งก่าน้อย 

Rank แต่ละขั้นนั่นจะต้องเพิ่มเลเวลอัพให้ครบ 10 ครั้งก่อนระดับ Rank ถึงจะถูกปรับสูงขึ้น ซึ่งการได้เลเวลอัพนั้น ก็ได้จากการผ่านภารกิจต่างๆโดยการทำตามเงื่อนไขต่างๆของ Challenges ทีมี โดยแบ่งออกเป็น

1. Wasteland การกระทำต่างๆทั้งหมดในพื้นที่
2. Ground Combat การกระทำต่างๆในการต่อสู้
3. Car Combat การกระทำต่างๆในการต่อสู้โดยรถ 

เงื่อนไขของ Challenges ต่างๆนั้นมีมากมายทั้ง จำนวนของป้อมที่ยึด จำนวนของ Scrap ที่ได้, เวลาในการต่อสู้แตละครั้ง,รูปแบบการต่อสู้ทั้งแบบบนพื้นและบนรถ และเงื่อนไขต่างๆยิบย่อยมากมายที่คุณสามารถเข้าไปดูได้ในเมนู Legend หัวข้อ Challenges ซึ่งหากทำตามเงื่อนไขตามจำนวนครั้งที่กำหนดจนครบก็จะได้ระดับ Legend Level เพิ่มขึ้นหนึงขีด 




                                            World Map - จุดต่างๆในแผนที่ 

1.จุดวงกลมสีเขียว - ภารกิจหลักของเนื้อเรื่อง Main Mission 
2.จุดวงกลมสีเทา - ภารกิจย่อย Wasteland Mission 
รูปมือหยิบสีเหลือง – คือสถานที่ค้นหาไอเทม (Scavenging)
รูปหยดน้ำ -  คือสถานที่มีน้ำให้เติม 
รูปเสาสีแดง – จุดของเสา Scarecrow 
รูปเป้ายิงสีแดง – จุดของสไนเปอร์ของศัตรู
 รูปหัวหนามสีเทา – ภารกิจทำลายรังของพวก Buzzard 
รูปถ้วยรางวัล – จุดแข่งรถ Death Run
รูปเครื่องหมาย ! ในวงกลมเทา – จุดของพวกหน่วยลาดระเวณ ที่จะมีอะไรให้ช่วยเล็กๆน้อยๆ , มีข่าวลับเกี่ยวกับป้อมศัตรู และให้ไอเทมจากการขุดหาไอเทมได้ 
รูปกะโหลกขาว – จุดสำหรับอัพเกรด Ability 
รุปวงกลมแดง – จุดที่มีกับระเบิดที่ต้องใช้รถ Buggy ที่มีเจ้าหมาช่วยค้นหาและเก็บกู้
เส้นทางขีดสีแดง – เส้นทางของขบวน Convoy ของศัตรู 
รูปหัวของศัตรูและถังน้ำมัน– จุดที่เป็นแค้มป์และแท่นขุดเจาะของศัตรูที่ต้องทำลาย
รูปบอลลูน – จุดเปิดแผนที่และ Fast Travel เมื่อเปิดใช้งานบอลลูนแล้วสามารถกดเข้าแผนที่แล้วกด Y เพื่อใช้การเดินทางเร่งด่วน ระหว่างจุด Fast Travel และ ป้อมต่างๆได้ตลอดเวลา 
ตัวเลขในวงกลมที่มุมขวา - ค่าความคุกคาม (THREAT) ของศัตรูในแต่ละพื้นที่ 



                                       Chapter 4 – INTO MADNESS 



ทันทีที่กลับมาถึงที่รังของ Chumbucket เรื่องวุ่นวายเรื่องการแต่งรถของ Max ก็ยังไม่จบสิ้นเพราะเขาไม่ได้เครื่อง V8 ตามที่เขาต้องการ ซึ่งเจ้า Chumbucket ก็ทำได้เต็มที่ได้แค่เครื่อง V6 เพราะเครื่อง V8 นั้นสามารถหาได้ที่เดียวคือที่ Gas Town เท่านั้น แต่จะไปที่นั่นไม่ได้ตอนนี้เพราะรถยังไม่แข็งแกร่งพอ แต่ในขณะที่กำลังทะเลาะกันพวก Warlord ก็จะเริ่มบุกเข้ามาทำให้ทั้งคู่ต้องหนีออกจากที่นี่ และทันทีที่หนีออกมาได้ก็จะพบว่าคนที่นับความชิหายมาให้ในครั้งนี้ก็คือ เจ้า STANK GUM หนึ่งในนักรบส่วนตัวของ Scrotus มาเอง ก่อนที่มันจะระเบิดที่ซ่อนของ Chumbucket ที่เป็นเสมือนบ้านจนเป็นจุล ทำให้ max ต้องพา Chumbucket หนีออกจากที่นี่ โดยที่ที่ปลอดภัยที่สุดตอนนี้เท่าที่จะหาได้ก็คือไปพึ่งบารมี JEET แห่ง Great White ผู้ทรงอธิพลที่ยังคานอำนาจของพวก Warlord ได้อยู่ ซึ่ง Chumbucket ก็หวังในใจว่าจะตกลงกับเขาได้โดยไม่ถูกฆ่าเสียก่อนเหมือนกัน แต่ตอนนี้สำหรับ Max ยังไงก็ได้ขอให้เผ่นออกจากเขต Blackmaws ให้ปลอดภัยได้ก่อนเป็นดีที่สุด 


-เดินทางขึ้นเหนือไปตามจุดหมายสีเขียวที่อณาเขตของ JEET ที่หน้าป้อมก็จะพบ JEET มาต้อนรับด้วยตัวเอง


                                                    JEET Stronghold 




JEET – อะไรที่ทำให้พวกเจ้าเดินทางมาไกลเพื่อมาถูกยิงหัวทิ้งถึงที่นี่วะ
Chumbucket – โอ้ๆ ท่านๆ ข้าเอง Chumbucket นายช่างนิ้วดำผู้เลื่องชื่อไง ที่เคยสร้างรถคู่ใจท่านนะ 
JEET – หุบปาก !! แล้วคนที่มากับเจ้าละใคร มันรู้เรื่องยามั๊ย !!
Chumbucket – ข้าว่าคงไม่นะ แล้วอาการท่านก็คงไม่มากมายอะไรหรอก แต่เจ้านี่นะเป็นนักขับรถฝีมือดีนะ อาจช่วยงานท่านได้  
JEET – แล้วทำไมข้าถึงจะต้องการนักขับฝีมือดีด้วยวะ !!
Chumbucket – ได้โปรด พวกเรากำลังหาทางผ่านไปที่ Dead Barren เพื่อไปเอาอุปกรณ์ซ่อมรถข้านะ ถ้าทำได้ข้าจะช่วยงานท่านแบบไม่คิดเงินเลยนะ 
JEET – Dead Barren หรอ ? หึหึ ...เปิดให้มันเข้ามาได้ 

JEET นั้นเป็นระดับผู้นำรุ่นใหม่ของ Great White ที่เคยครองอำนาจสูงสุดในเขตพื้นที่ของเขามาก่อน Scrotus จะสั่ง STANK GUM ให้นำกองทัพ War Boy เข้ามารุกล้ำ การมาของ Max นั้นเป็นลู่ทางในการใช้งานจัดการเสี้ยนหนามให้เขาแบบไม่ต้องเปลืองแรง พอๆกับที่ max ต้องการ JEET เพื่อเป็นใบผ่านทางไปยัง Gas Town เหมือนกัน 



JEET – จริงๆที่นี่ก็ไม่มีรถให้ใช้มากมายอะไรที่ทำให้เจ้าจะช่วยอะไรข้าได้หรอกนะ เจ้าเชื่อช่าง Chum มากไปมั้ง
Max – แล้วทำไมยังเรียกที่นี่ว่า ฐานทัพ อยู่อีกละ
JEET – ระวังหน่อย อย่ามาปากดีในบ้านข้า  ฟังนะที่ผ่านมาข้าเคยคุมที่นี่อย่างดี แล้วพอพวก Warlord มันเข้ามายึดแล้วเป็นไง มีแต่ความตายเต็มไปหมด 
Max – เอางี้มั๊ย ถ้าข้าทำให้พวก Warlord ในเขตแดนของท่านอ่อนแอลงได้ ท่านต้องให้ข้ายืมอุปกรณ์ในการแต่งรถ  
JEET – เปรี้ยง ตรงประเด็น !! แล้วถ้าข้าตกลงแล้วไงต่อละ เป้าหมายเจ้าคือ ?
Max – GAS TOWN
JEET – ฮ่าๆๆๆๆ รอให้เจ้าเห็น The JAW ก่อนแล้วเจ้าจะเปลี่ยนใจ 
Max – The JAW คือ ?? 
JEET – ประตูมหึมาที่กั้นระหว่างที่นี่กับ Gas Town ไง เลย Dead Barren ไปหน่อยก็เจอ ลองไปดูเองละกัน 
Max – นั่นต้องหลังจากที่เราตกลงกันก่อน ตกลงมั๊ย ?
JEET – ได้ ฆ่า Warlord ระดับบิ๊กๆให้ข้า ก็ตกลง ! 

จากนั้นกลับไปคุยกับ Chumbucket เขาจะสร้างปืน Sniper ให้ เดินเข้าไปเก็บชิ้นส่วน Trigger mechanism ที่จุดเขียวในป้อมมาให้ Chumbucket เขาก็จะทำให้ปืน Sniper Rifle ให้



                                              **การใช้ Sniper Rifle **

การใช้งานคือขณะอยู่ในรถ กดลงล่างเพื่อเลือกใช้ปืน Sniper Rifle กด LB เล็ง แกนอนาล็อกซ้ายในการซูมและ กดยิงด้วย B ในขณะที่กำลังเล็งก็สามารถกด RT เพื่อขับรถได้ด้วยซึ่ง Chumbucket มันจะเป็นคนขับแทนให้ และแน่นอนว่ากระสุนไรเฟื่ลนั้นหายากมาก แต่ที่เก็บได้แน่ๆคือจากศพของสไนเปอร์ของศัตรูที่ตายนั่นแหละ

-จากนั้นออกเดินทางไปยังจุดเขียวเป้าหมายเพื่อไปที่ Dead Barren Pass แต่จะมี Sniper ศัตรูเฝ้าอยู่เข้าใกล้ไม่ได้ ใช้ ปืน Sniper Rifle ที่ทำมายิงจัดการพวก Sniper ของศัตรู 2 จุดให้หมดซะก็จะสามารถเข้าไปที่นั่นได้แล้ว ปีนขึ้นไปชั้นบน Max ก็จะเห็นกำแพง THE JAW อย่างเต็มตา เพื่อประเมินแผนการบุกตะลุยเข้าไป ซึ่งแน่นอนว่า Chumbucket จะแนะนำว่า ต้องทำให้รถพร้อมใช้งานมากกว่านี้หน่อยค่อยเข้าไปลุย


                                   Chapter 5 – A WASTELAND CLASSIC  

ทันทีที่แผนบ้าระห่ำที่บุกตะลุยกำแพง THE JAW ที่สุดแข็งแกร่งของพวก Warlord เพื่อหวังผ่านไปยัง Gas Town ของ MAX เริ่มขึ้น Chumbucket ก็มีหน้าที่จะต้องทำให้รถนั้นแข็งแกร่งและพร้อมใช้งานมากกว่านี้หน่อยค่อยเข้าไปลุย โดยเริ่มจากอัพเกรดรถเซ็ทในในของเขา ARCHANGEL “The Jack” ซึ่งสามารถกด X ดูได้จากหน้าจอเมนู Garage ซึ่งชิ้นส่วนที่ยังขาดไปนั้น MAX ต้องไปหามาคือ
-Body ของรถ (Baby Exhaust) 
-เกราะเสริมความแข็งแกร่ง (Baby Bars) 

จากนั้น JEET จะเรียกเข้าไปคุยเพื่อแนะนำถึงเรื่องงานที่เขาอยากให้ Max ช่วยเหลือ ซึ่งก็คือ WASTELAND MISSION หรือ ภารกิจย่อยนั่นเอง


                         ** WASTELAND MISSION (ภารกิจย่อย) ** 

ภารกิจเสริมที่สามารถรับได้จากทั้ง Chumbucket และ JEET ซึ่งตอนนี้มีอยู่ 3 ภารกิจคือ
1.DUNKI – DI  -เควสย่อยของ Chumbucket เพื่อกลับไปเอารถ Buggy และเจ้าหมาที่ลืมอยู่ที่หลบซ่อนตัว ซึ่งการนำรถและเจ้าหมากลับมานั้น จะทำให้สามารถใช้เจ้าหมาในการตรวจหากับระเบิด (จุดวงกลมแดงในแผนที่) ได้ แต่ต้องเปลี่ยนเอารถ Buggy ที่มีเจ้าหมาอยู่ด้วยออกปฎิบัติงานเท่านั้น



                                                        **การเก็บกู้ระเบิด **

 การค้นหาระเบิดและเก็บกู้นั้นจำเป็นต้องใช้รถ Buggy ที่มีเจ้าหมาอยู่ในท้ายรถเท่านั้น วิธีหาระเบิดต้องเปลี่ยนเป็นรถ Buggy แล้วขับไปตามหาจุดระเบิด แต่ถ้าเปิดแผนที่ด้วยบอลลูนจนพบแล้วก็ขับไปหาได้เลย จุดวงกลมแดงในแผนที่คือจุดที่มีระเบิด ระหว่างเข้าใกล้ก็คอยฟังเจ้าหมาเห่าบอกพร้อมทั้งบอกทิศทางตามที่มันหันหน้าเห่าด้วย ซึ่งต้องฟังจากเสียงเห่าที่ต่างจากปกติแปลว่าใกล้จุดที่มีระเบิด เมื่อพบแล้วก็จะมีจุดสีแดงขึ้นที่พื้น MAX ก็จะสามารถเข้าไปเก็บกู้ได้ การกู้ระเบิดนั้นจะทำให้ ค่าความคุกคาม (THREAT) ของศัตรูในพื้นที่ลดลง และ จะได้กระสุนปืนเป็นการตอบแทนด้วย 

2.Lust for Powder –เควสย่อยของ JEET ที่ต้องการให้ไปช่วยเหลือนักโทษที่มีความรู้ด้านการผสมดินปืนที่ ถ้ำ Thrall Rustler 
3. Ashes to Ashes เควสย่อยของ JEET ที่หลังจากได้คนทำระเบิดมาแล้วก็จะต้องหาแหล่งวัตถุดิบ ซึ่งจะแสดงเป็นจุดวงกลมสีเทาในพื้นที่ 3 จุดที่ MAX ต้องไปค้นหาและกำหนดตำแหน่งให้ทีมค้นหาตามไปเก็บมา 

**ทำเควสย่อยให้หมดทั้ง 3 อันก่อนจะดีมาก โดยเฉพาะ DUNKI – DI เพราะจำเป็นต้องใช้รถและเจ้าหมาในการเก็บกู้ระเบิด ซึงเควสย่อยนั้นจะปรากฏในแผนที่เป็นวงกลมสีเทา **




                               ** เรียนรู้การเปิดแผนที่และจุด Fast Travel ** 

ในจุดรูปบอลลูนในแผนที่นั้น หากเข้าไปจัดการศัตรูให้หมดแล้วเปิดใช้งานบอลลูนได้แล้ว (บางอันต้องเติมน้ำมันก่อน) เมื่อขึ้นไปบนบอลลูนในจุดที่สูงสุดแล้วใช้กล้องส่องทางไกลสำรวจจุดต่างๆในแผนที่ ก็จะทำให้ตำแหน่งของสถานที่ต่างๆปรากฎให้เห็นทั้งหมดของของแต่ละพื้นที่เพื่อสะดวกในการค้นหาและเดินทาง และก็จะใช้จุดขึ้นบอลลูนนี้เป็นจุด Fast Travel ในการเดินทางแบบรวดเร็วได้ด้วย โดยเข้าไปที่จุดบอลลูนแล้วกดแผนที่ขึ้นมาก็จะสามารถใช้คำสั่ง Fast Travel เดินทางไปมาระหว่างจุดบอลลูนของแต่ละพื้นที่ได้ 




  ** การค่าความคุกคาม (THREAT) และสร้างความได้เปรียบของป้อม (Vantage Outpost) **

ไม่ว่าเจ้า JEET มันจะเป็นคนยังไงแล้ว MAX จะชอบหน้ามันหรือไม่ แต่ศัตรูข้าคือมิตรข้าฉันท์ใด จากนี้ป้อมของมันก็คือความอยู่รอดของ MAX ด้วย นั่นแปลว่า MAX ก็ต้องทำงานเพื่อช่วยเสริมสร้างอำนาจและความแข็งแกร่งของป้อมเพื่อเตรียมการไว้สู้กับพวก Warlord ซึ่งความได้เปรียบนั้นจำเป็นต้องเสริมสร้าง 2 อย่างคือ

1.เสริมสร้างอำนาจ ทำได้โดยการกำจัดทุกอย่างที่เป็นของพวก Warlord ในพื้นที่ ซึ่งแต่ละเขตจะมีค่าความคุกคาม (THREAT) อยู่ 5 ระดับ การทำลายฐานอำนาจของพวก Warlord ประกอบด้วย 
- ยึดป้อมหลักและฐานขุดเจาะน้ำมันของศัตรู 
- ทำลายหอมือปินสไนเปอร์ 
-ทำลายเสา Scarecrow
-เก็บกู้ระเบิด 
-ทำลายขบวนรถ Convoy  
การทำลายฐานอำนาจของพวก Warlord ในพื้นที่แต่ละอย่างนั้นจะทำให้ค่าความคุกคาม (THREAT) ที่มีอยู่ 5 ระดับในพื้นที่นั้นค่อยๆลดลงจนเหลือ 0 พื้นที่จากสีแดงก็จะกลายเป็นสีเหลืองในอำนาจการปกครองของ JEET
2. ความแข็งแกร่งของป้อม ความพร้อมของป้อมนั้นสามารถเสริมสร้างได้โดยสร้างอุปกรณ์พื้นฐานต่างๆของฐานที่เรียกว่า Project ซึ่งจะสามารถเห็นสิ่งต่างๆที่สามารถสร้างได้เป็นเงารางๆในจุดต่างๆของฐาน เมื่อเข้าไปสำรวจ ก็จะเห็นจำนวนของ Project Part ที่ต้องใช้และสามารถดูตำแหน่งที่ขึ้นมาให้เป็นรูป มือหยิบสีเหลือง ตามสถานที่เก็บไอเทมต่างๆซึ่งสามารถดูรายละเอียดด้านล่างของสถานะของพื้นที่ว่ามี Project Part ที่ต้องการอยู่หรือไม่ด้วย โดย Project ต่างๆที่สร้างเสร็จนอกจากจะทำให้ฐานของ JEET แข็งแกร่งตามเรื่องแล้ว ยังจะอำนวยความสะดวกให้กับ MAX ยามกลับมาฐานด้วย 

                                                 ** Project **

Armory – กระสุนเต็มทุกครั้งที่กลับฐาน
Survey Crew – ทำให้เห็นจุด scavenging (จุดค้นหาไอเทมรูปมือ) ทั้งหมดในพื้นที่
Oil Well – น้ำมันเต็มถังทุกครั้งที่กลับฐาน
Maggot Farm – (ฟาร์มหนอน) พลังชีวิตเต็มทุกครั้งที่กลับฐาน
Water Storage – น้ำเต็มกระติกทุกครั้งที่กลับฐาน
Small Stockpile – ที่เก็บ Scrap สำรองของฐาน
Clean up Crew – เมื่อขับรถชนรถศัตรูจนพังจะได้ Scrap อัตโนมัติไม่ต้องลงไปเก็บ
Scrap Crew – เก็บรักษา Scrap ให้ทุกครั้งเมื่อ offline (ใช้ในโหมด Online) 

-ซึ่งตอนนี้จะมีจุดเขียวขึ้นมาในแผนที่ให้มากมายเลย แต่เลือกเอาป้อมใดป้อมนึงของศัตรูมาแล้วบุกเข้าไปยึดมาซะเพื่อเรียนรู้การลดค่าความคุกคาม (THREAT) ในพื้นที่

-จากนั้นขุดเขียวเป้าหมายต่อไปคือ มุ่งหน้าไปยังจุดที่มี Body ของรถอยู่ เข้าไปจัดการศัตรูให้หมดแล้วเก็บ Body รถมาซะ แล้วที่เหลือก็เก็บ Scrap ให้ครบ 300 ก็จะสามารถสร้าง Body ของรถ The jack ได้ โดยกดเข้าเมนู Garage แล้วกด X เพื่อเข้าไปที่ ARCHANGEL เลือกอัพเกรด Baby Exhaust ให้รถ “The Jack” ที่เหลือก็คือการไปหาเหล็กกล้ามาทำชิ้นส่วนของ Baby Bars เสริมเกราะให้รถ ซึ่งต้องเดินทางไปที่ป้อม GUTGASH ต่อ

-เดินทางต่อไปยัง ป้อม GUTGASH ทางฝั่งตะวันตกของป้อมของ JEET



                                                 - Gutgash's  Stronghold -




เข้าไปพบกับตาเฒ่า GUTGASH ผู้นำป้อมซากเรือ แน่นอนว่าทั้ง Max และ Chumbucket จะใช้แผนเดิมคือ ยื่นขอเสนอในการช่วยงานเพื่อแลกกับ เหล็กคุณภาพดีเพื่อใช้สร้างเกราะของรถ ทุกข้อมูลของการทำลายกำแพง The Jaw นั่นเอง




-จากนั้น Chumbucket ก็จะเริ่มสร้างรถเซ็ท ARCHANGEL คันแรกของเขาให้เสร็จทันที โดยต้องไปเอาสายไฟที่จุดเขียวในซากเรือมาให้เขา จากนั้นก็จะสามารถเข้าเมนู Garage แล้วกด X เพื่อเข้าไปที่ ARCHANGEL เลือกอัพเกรดอีก 1 ชิ้นส่วนของรถ The Jack ให้ครบคือ Baby Bars ราคา 100 Scrap แล้วกด Build เพื่อสร้างได้เลย

** รถ ARCHANGEL คือเซ็ทรถสะสมของ Chumbucket ซึ่งยังมีหลายคันที่จะสร้างได้ถ้าคุณหาอะไหล่ของมันมาให้ครบตามจำนวนที่ขาดไป แต่ รถ ARCHANGEL จะใช้อะไหล่เดียวกกับรถคันแรกและไม่สามารถแต่งเพิ่มได้ด้วย อย่างคันแรกที่สร้างไปนั้น The Jack ก็มีค่าเทียบเท่ารถคันแรกที่แต่งไม่ได้เท่านั้นเอง ฉะนั้น รถ ARCHANGEL นั้นเหมาะแกการสร้างสะสมหรือขับใช้งานได้ถ้าคุณไม่ได้สนใจการตกแต่งเพิ่ม แปลว่าตอนนี้ ใช้รถคันแรกแต่งแล้วหรูกว่าครับ ** 

หลังจบภารกิจจะยังไม่มีภารกิจอะไรขึ้นมา เพราะ GUTGASH ต้องการให้ Max พิสูจณ์ฝีมือตัวเองก่อน โดยต้องไปลดค่าความคุกคาม (THREAT) ในพื้นที่ของเขาให้ก่อน ซึ่งก็คือการไปยึดป้อมของศัตรูป้อมใดป้อมนึงแล้ว ภารกิจของ ป้อม GUTGASH ก็จะมีให้ทำ 


                                   Chapter 6 – A PIECE TOUGHER

หลังจาก Max พิสูจณ์ฝีมือตัวเองแล้วก็จะสามารถเข้าไปพูดคุยกับตาเฒ่า GUTGASH เรื่องงานได้ Max จะขอข้อมูลเกี่ยวกับการทำลายกำแพง The Jaw เพื่อจะมุ่งหน้าไปที่ Gas Town หลังสิ้นเสียงหัวเราะที่ดูถูกจาก ตาเฒ่า GUTGASH แล้ว เขาก็จะยอมบอกตามสัญญาให้ว่า กำแพง The Jaw นั้นมีจุดอ่อนเมื่อโดนปืนฉมวกกระชาก แต่ปืนฉมวกที่ Max มีนั้นยังไม่พอ เขาจึงบอกไปหาที่ดีกว่าที่เรียกว่า “TALON” ซึ่งอยู่กับ DIM RIM หัวหน้าขบวน Convoy ซึ่งตาเฒ่า GUTGASH ก็จะกำหนดตำแหน่งมาให้
- ออกจากฐานมุ่งหน้าไปที่จุดเขียวในแผนที่ซึ่งเป็นเส้นทางขบวน Convoy ไล่จัดการทำลายรถของ DIM RIM ให้ได้แล้วเก็บ Hood Ornament  “TALON” มาใส่หน้ารถ ก็เป็นอันจบภารกิจ

หลังจบภารกิจจะเริ่มมี  WASTELAND MISSION (ภารกิจย่อย) ในป้อม GUTGASH ให้ทำ ซึ่งจะมี 2 งานคือ

1.In the Buzzard’s Belly จาก HOPE สาวสวยอดีตแม่พันธ์ของ Immortan Joe ที่หนีออกมาจนถึงจับตัวมาขังในคุกในซากเรือนี้ แต่ภารกิจของเธอนั้นเป้าหมายอยู่ด้านเหนือของดินแดน Dead Barren ที่ต้องผ่านกำแพง The Jaw ไปซึ่งตอนนี้ยังไปไม่ถึง (เก็บไว้ทำทีหลัง) 
   
2.Ironclad Faith จากตาเฒ่า GUTGASH ที่ให้เดินทางไปที่อุโมงค์ฝัง่งตะวันออกของ Great White โดยต้องใช้รถแล่นลุยเข้าไปตามเส้นทางอุโมงค์ทางรถไฟเก่าจนถึงสถานีรถไฟ Bay Bridge จะพบโบกี้รถไฟจอดอยู่ซึ่งมันเป็นเหล็กคุณภาพดีที่ ตาเฒ่า GUTGASH ต้องการ ใช้รถดึงประตูที่กั้นทางออกแล้วดันโบกี้ให้ผ่านอุโมงค์ไปจนถึงทางออก จากนั้นก็ตามลงไปกำหนดจุดหมายให้ตาเฒ่า GUTGASH มาเอาของไป ก็เป็นอันจบภารกิจ


                                   Chapter 7 – BLACK MAGIC 

กลับไปที่ป้อมของ JEET เพื่อรับภารกิจในการติดตั้งหัวระเบิดให้กับฉมวก Talons ที่ได้มา ซึ่งก็คือเข้าไปหา Chumbucket แล้วเริ่มติดตั้ง Thunderpoon ในเมนู Garage เป็นอาวุธใหม่ที่เป็นฉมวกหัวระเบิด การใช้งานก็เหมือนกับฉมวกคือ LB เล็งและ B ยิง โดยกดปุ่มทิศทางซ้าย – ขวาในสลับการใช้งานระหว่าง ปืน และ ฉมวกธรรมดา

-หลังจากทดสอบการใช้งานแล้วก็ออกเดินทางไปที่จุดเขียวที่กำแพง The JAWS ด้านเหนือของที่นี่ได้เลย เมื่อเข้ามาถึงก็จะพบกองรถคุ้มเกราะประตูที่เข้าโจมตี โชคดีที่มันเป็นรถที่ไม่มีเกราะและเลเวลต่ำกว่ามาก จัดการมันให้หมดแล้วไปที่ประตูใช้ Thunderpoon ยิงทำลายที่ตรารูปหัวกระโหลกทั้ง 2 ข้างให้หมดแล้วใช้ฉมวกตะขอดึงให้ประตูพังเท่านี้ กำแพง The JAWS ก็สิ้นชื่อ Max ก็จะสามารถผ่านขึ้นไปที่พื้นที่ Dead Barrens อันกว้างใหญ่ด้านเหนือได้แล้ว

หลังจบภารกิจจะเริ่มมี  WASTELAND MISSION (ภารกิจย่อย) ในป้อมของ GUTGASH ให้ทำคือ

 1. A SIGN OF THE GOD (รับภารกิจจาก GUTGASH)
-ทันทีที่ Max สามารถทะลวงกำแพง The JAWS สำเร็จ ก็แน่นอนว่าตาเฒ่า GUTGASH ต้องให้ไปตามหาเหล็กในตำนานของเขาเหมือนเดิม คราวนี้เป้าหมาย (จุดวงลมสีเทา) นั้นอยู่ทางเหนือของ Chalkie ติดกับเขตของ Knit Sack ในดินแดน Dead Barrens ทางเหนือ ซึ่งเมื่อขับรถมาดูแล้วจะพบว่ามันจำเป็นต้องหาทางเข้าจากทาง Knit Sack ในดินแดน Dead Barrens จากนั้นขับรถอ้อมไปจุดหมายที่ด้านบนจะพบทางเข้าที่ต้องใช้รถเกี่ยวตะขอดึงประตูเหล็กที่พื้นให้หลุดออกได้ ลงไปด้านล่าง ลุยเข้าไปตามทางอุโมงค์ใต้ดินกับพวก Bizzizard ที่นี่จนมาถึงที่ปลายอุโมงค์ที่ติดกับเขต Chalkie ที่เห็นตอนแรก ก็จะสามารถเปิดประตูลูกกรงดันให้ป้ายโฆษณาอาหารทะเลตกลงไปด้านล่างได้แล้ว ตามลงไปแล้วยิงปืนพลุกำหนดจุดหมายให้ ตาเฒ่า GUTGASH มารับได้เลย

จากนั้นก็ถึงเวลาเดินทางผ่านด่าน The JAWS ที่ทะลวงไว้ได้แล้ว พื้นที่หน้าด่านแรกของ Dead Barrens อันกว้างใหญ่คือ Knit Sack ที่มีป้อมของผู้นำหญิง PINK EYES ที่ MAX ต้องไปเจรจาขอความช่วยเหลือ หลังจากเปิดแผนที่ที่จุดบอลลูนทำ Fast Travel และทุกอย่างที่อยากทำแล้ว (แนะนำให้ยึดป้อมในเขตนี้ไปให้หมดก่อนก็ดี) แล้วค่อยมุ่งหน้าไปที่ PINK EYES Stronghold  แต่จะพบว่าป้อมของ PINK EYES นั้นกำลังถูกพวกของ STACK GUM ทหารเอกของ Scrotus ทายาทนรกของ Immortan Joe บุกถล่มอยู่ แน่นอนว่า MAX ยอมให้เธอตายไม่ได้เพราะเขาก็ต้องการพึ่งความรู้ของเธอในการนำทางเข้าไปที่ GAS TOWN MAX จึงไม่มีทางเลือกที่ต้องยื่นมือไปช่วยเหลือทั้งๆที่มันไม่เหมาะกับ WASTELAND แห่งนี้เลยแม้แต่น้อย


                                      Chapter 8 – SMOKE RISE 

-ที่หน้าป้อมจะมีพวก STACK GUM มากมายจัดการทำลายรถของพวกมันให้หมดก่อน แล้วจากนั้นก็ทำลาย เครื่องเหวี่ยงกระสุนปืนไฟของมัน โดยการใช้ตะขอฉมวกดึงที่จุดที่เป็นรูปกะโหลกสีเหลือที่ปลายปืน เพื่อดึงมันออกให้เห็นถังน้ำมันจากนั้นก็ยิงทำลายมันซะ จัดการทำลายมันให้หมดทั้ง 3 อันแล้วเข้าไปด้านในป้อมได้เลย



-เข้ามาด้านล่างของป้อมจะพบว่าพวกศัตรูกำลังเปิดไฟเผาที่นี่ เข้าไปปิดวาวล์ทั้ง 2 ข้างเพื่อปิดมันแล้วลุยเข้าไปด้านใน ปีนขึ้นด้านบนจนเข้าไปที่กลางป้อมด้านในได้ MAX ก็จะเห็นเจ้า STACK GUM กำลังเข้าไปจับตัวพวกผู้หญิงที่เป็นคนของ PINK EYES ไปซึ่งนั่นก็คือ HOPE ที่เคยเจอที่คุกในป้อมของตาเฒ่า GUTGASH นั่นเอง Max จึงพยายามลอบเข้าไปช่วย แต่ เจ้า STACK GUM มันไหวตัวทันก่อนเลยจับตัวผู้หญิงไปได้คนนึงก่อนที่จะสั่งลูกน้องมากมายออกมาต้อนรับ MAX จัดการมันให้หมดซะแล้วจะได้เข้าไปติดต่อกับ PINK EYES



                                             -PINK EYES Stronghold -




PINK EYES เป็นผู้นำหญิงแกร่งคนเดียวของถิ่นทุระกันดารนี้ ดูจากสถาพขาที่เสียทั้ง 2 ข้างจนต้องนั่งรถเข็นของเธอนั้นก็รู้ว่าเธอผ่านสงครามความโหดร้ายมาไม่น้อย แต่ PINK EYES ก็ถือว่าเป็นปราชญ์คนนึงที่มีจากยุคเก่ามากมายที่นำมาสั่งสอนคนรุ่นใหม่ของเธอ ที่เธอเรียกว่า Urchins ที่ได้ความรู้มากมายที่เธอสั่งสอนทั้งด้านการช่างและการเอาตัวรอด ไม่แปลกที่มีคนมากมายที่พยายามมาแย่งชิงเด็กของเธอไปใช้งาน โดยเฉพาะพวกคนโฉดอย่างพวก WARLORD แต่งานนี้ MAX ก็ไม่ต้องพิสูจณ์ตัวเองมากเหมือนทั้ว 2 ป้อมที่ผ่านมาเพราะเขาได้ช่วยเหลือ PINK EYES ตั้งแต่แรกที่เจอกัน การตกลงระหว่าง MAX กับ PINK EYES ก็จะง่ายขึ้นกว่าที่ผ่านมา (แต่ยังไงก็ต้องช่วยเธอฟื้นฟูป้อมของเธออยู่ดี) 

   


   หลังจบภารกิจจะเริ่มมี  WASTELAND MISSION (ภารกิจย่อย) ให้ทำ 3 งานคือ

1.IN DUE TIME (รับภารกิจจาก PINK EYES)

- เธอต้องการให้ไปเอาเกลือที่อยู่ในไซโลขนาดใหญ่ในแคมป์ Tyrant Lash ซึ่งเป็นแคมป์ของ Top Dog ที่มีการป้องกันแน่นหนามากๆ ขนาดประตูหน้ายังไม่สามารถดึงให้ฟังได้เลย เมื่อเดินทางไปที่จุดหมายที่จุดวงกลมสีเทาที่หน้าป้อมลองคุยกับหน่วยลาดตระเวณดูจะพบว่าป้อมนี้มีทางเข้าลับทางขวาของประตูหน้าอยู่ จัดการพวกสไนเปอร์ด้วยสไนเปอร์ให้หมดก่อนแล้วค่อยลุยเข้าไปที่หน้าป้อม ทางขวาของป้อมจะมีช่องให้ลอดผ่านไปได้ จากนั้นก็ลุยเข้าไปจนถึงที่บบัลลังย์ของ Top Dog PIG’N’ STICKER จัดการมันซะแล้วปีนขึ้นด้านบนต่อจนมาถึงจุดที่สามารถโหนสลิงเข้าไปในไซโลได้ เข้าไปจัดการศัตรูให้หมดแล้วขึ้นไปบหลังคาของไซโลเพื่อส่งสัญญาณบอกตำแหน่งให้ PINK EYES ก็เป็นอันเสร็จงาน
**รางวัลที่ได้คือ รูปแห่งความทรงจำ และหากไปค้นหาที่ตำแหน่งปั๊มน้ำมันในรูปก็จะได้ SLICK RUBS ยางรถอันสุดท้ายที่สามารถติดตั้งได้อีกด้วย **

2. DAILY BREAD (รับภารกิจจาก PINK EYES)

-งานนี้ PINK EYES ต้องการที่ให้ไปหาตำแหน่งของแหล่งอาหารมากมายในยุคเก่าที่ถูกฝังไว้ในทะเลทราย ซึ่งต้องเดินทางไปที่เขตทะเลทรายทางตะวันออกของเมือง GAS TOWN ตามไปที่จุดวงกลมสีเทา 2 จุดแรก จากนั้นจุดที่ 3 จะมีขึ้นมาให้เห็น 3 จุดเลย ให้ใช้กล้องส่องทางไกลมองไปที่จุดกึ่งกลางระหว่าง 3 จุดนี้ จะพบหลังคาโบสถ์แหลมๆที่ถูกทรายกลบทับอยู่ Max จะลงไปที่นั่นได้ ลงมาในซากโบถส์จนถึงชั้นใต้ดินจะพบอาหารมากมายอย่างที่ PINK EYES บอกจริงๆ จากนั้นกลับขึ้นด้านบน ระหว่างทางพวก Night Buzzards จะออกมาโจมตี จัดการพวกมันให้หมดแล้วกลับขึ้นไปด้านบน ยิงปืนกำหนดตำแหน่งให้ PINK EYES แล้วกลับไปที่ป้อมของเธอ
**รางวัลที่ได้ก็คือ สามารถสร้าง Maggot Farm ฟาร์มหนอนแหล่งอาหารไว้กินในป้อมได้แล้ว (อยู่ทางขวาของบันไดทางขึ้นชั้นบนป้อม) ซึ่ง MAX ก็จะได้ผลดีไปด้วยเพราะกลับมาป้อมก็จะ HP เต็มทุกครั้ง **

3.PLAYING WITH FIRE (รับภารกิจจาก JEET) 
ภารกิจของ JEET ก็คือช่วยเขาเคลียร์เส้นทางลำเลียงการค้าดินปืนของเขา โดยต้องเดินทางไปที่จุดหมายแรกคือจุดของขบวน Convoy ของศัตรูจนพบรถเป้าหมายจัดการกระชากเอาคนขับออกด้วยปืนฉมวก จัดการรถคุ้มกันให้หมดแล้วค่อยขโมยรถเป้าหมายกลับมาฐานของ JEET จากนั้นขึ้นไปคุยกับคนทำดินปืน เขาจะทำให้รถกลายเป็นรถขนระเบิด แล้วขับไปที่จุดหมายที่ขึ้นมาที่ทางเหนือของ Fuel Veins จะพบอุโมงค์ขนส่งสินค้าของ JEET ที่ถูกศัตรูปิดกั้นเส้นทางเอาไว้ เอารถระเบิดเข้าไปจอดด้านในแล้วหนีออกมา ไม่นานมันก็จะระเบิดจนเคลียร์เส้นทางของ JEET ได้สำเร็จก็เป็นอันเสร็จงาน
**รางวัลที่ได้ก็คือ สามารถสร้าง Armory ที่ป้อมของ PINK EYES ได้แล้ว ซึ่ง Max จะได้ผลดีคือกระสุนจะเต็มทุกครั้งที่กลับฐานนี้ **

จากนี้ก็จัดการเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้ป้อมของ PINK EYES และทำลายแคมป์ของพวก Warlord ให้หมด ก็จะถึงเวลาบุกขึ้นไปประชิด GAS TOWN แล้ว เพราะ Chumbucket ได้บอกข่าวว่าเขาได้ติดต่อเรื่องเครื่อง V8 ให้กับคนที่ GAS TOWN ให้แล้ว

และเมื่อผ่านมาถึงที่ดินแดน Dead Barren ได้แล้วก็อย่าลืมแวะทำภารกิจย่อย In the Buzzard’s Belly ของ HOPE ที่เคยรับมาจากป้อมของ GUTGASH ด้วย ซึ่งจุดทำภารกิจอยู่ทางตอนเหนือของ Dead Barren 

                            WASTELAND MISSION - In the Buzzard’s Belly

-ภารกิจคือ เข้าไปที่เป้าหมายที่เป็นอุโมงค์ทางเหนือของ Dead Barren ที่ด้านในเต็มไปด้วยน้ำมันที่เดินลำบากมากๆ ต้องพยายามเอารถขับเข้าไปด้วยเพราะระหว่างทางต้องใช้ตะขอฉมวกดึงประตูตู้คอนเทรนเนอร์ให้เปิดออกด้วย ด้านในจะเจอรถ WAR RIG เป้าหมาย เข้าไปสำรวจจะได้ Maximum Mag จากนั้นสำรวจให้ทั่วจะเจอรถ TWELWE อยู่ด้วยอย่าลืมขับออกมาไว้เก็บสะสมด้วย ที่แน่ๆมันเบาจนขับลุยน้ำมันออกจากอุโมงค์ได้สบายๆ เมื่อก็กลับออกมาจากอุโมงค์ก็จะจบภารกิจ
**รางวัลที่ได้ก็คือ Maximum Mag การอัพเกรดสุดท้ายของปืนไรเฟิ่ล ** 
* และจะได้ภารกิจย่อยของ HOPE เพิ่มอีกคือ Ghost of the Past ซึ่งจุดรับภารกิจจะอยู่ที่ GAS TOWN*


เดินทางขึ้นไปที่เหนือสุดของดินแดน Dead Barren ที่กว้างใหญ่คือเขตพื้นที่ The Dump เป็นที่ตั้งของ GAS TOWN โรงกลั่นน้ำมันขนาดใหญ่ที่เป็นเสมือนเมืองหลวงของดินแดนรกร้าง Wasteland แห่งนี้ เมืองที่ทุกคนต่างมายปองที่จะเข้ามาหาประโยชน์จากน้ำมันและความก้าวหน้าด้านต่างๆที่มีมากมาย แต่มันเป็นเรื่องยากมากเพราะ Scrotus ทายาทนรกของ Immortan Joe กับพวก Warboy ของมันยึดครองที่นี่ไว้เสมือนเป็นเมืองของตัวเองอยู่ แต่ก่อนจะเข้าไปที่นั่น ทันทีที่เข้ามาในเขตของดินแดน Dead Barren ก็ต้องเจอป้อมของ DEEP PRIAH เป็นที่แรกก่อน 





                                        - DEEP PRIAH Stronghold -

ป้อม DEEP PRIAH นั้นเรียกอีกชื่อนึงว่า วิหาร เพราะที่นี่เป็นอยู่ของชนกลุ่มน้อยที่คลั่งไคล้ลัทธิ บูชาไฟ ที่เชื่อว่าการตายจากการต่อสู้เป็นบาป การตายจากไฟเท่านั้นถึงจะถึงนิพพาน ซึ่งมี DEEP PRIAH เป็นศาสาดาอยู่ เขาเป็นเสมือนสังฆราชแห่ง Gas Town เลยก็ว่าได้ แต่ด้วยการที่มีแนวคิดที่ค้านกับ Scrotus DEEP PRIAH จึงเป็นไม้เบื่อไม้เมากับพวก Warlord อย่างเงียบๆมาตลอด 



ป้อมวิหารของ DEEP PRIAH นั้นมีพื้นที่ไม่กว้างมากแต่ก็ต้องการการช่วยเหลือในการเพิ่มความแข็งแกร่งจาก MAX เหมือนกัน แถม Project อุปกรณ์ต่างๆที่นี่ก็มีให้ตามเก็บน้อยชิ้นมากจึงสามารถสร้างเสริมวิหารให้ DEEP PRIAH ได้อย่างรวดเร็ว 

พื้นที่ทั้งหมดของ The Dump นั้นไม่มีป้อมของพวกศัตรูอะไรอีกแล้วนอกจากเสา Scarecrow และ ป้อมปืนสไนเปอร์ เมื่อเข้ามาแล้วก็จัดการเปิดแผนที่กับจุดบอลลูนเสียก่อน เนื่องจากที่นี่ไม่มีป้อม เมื่อจัดการทำลาย Scarecrow และ ป้อมปืนสไนเปอร์ จนหมดก็จะสามารถลดค่าความคุกคามของพื้นที่ลงได้อย่างรวดเร็วมาก 



ทันทีที่เข้ามาถึงวิหารของ DEEP PRIAH ก็จะเริ่มมี WASTELAND MISSION (ภารกิจย่อย) ให้ทำคือ

1.As The Wrench Tune (รับภารกิจจาก Chumbucket)
ภารกิจนี้คือการตามหาเครื่องมือช่างในตำนานของ Chumbucket ที่ซ่อนเอาไว้ก่อนที่เขาจะหนีออกจากเมือง Gas town จุดทำภารกิจนั้นจะอยู่ที่ซากท่อน้ำมันทางซ้ายของ gas Town เข้ามาตามท่อจนถึงด้านในเขต The Bowels สุดทางด้านในที่ไม่ซับซ้อนจะเจอ Holy Wrench อุปกรณ์ช่างในตำนานของ Chumbucket อยู่เก็บมาแล้วออกจากที่นี่ได้เลย
**รางวัลที่ได้ก็คือ Holy Wrench อุปกรณ์ช่างทำให้สามารถอัพเกรดการซ่อมรถของ Chum เป็นระดับ 2 และ 3 ได้แล้ว ซึ่งเมื่ออัพเกรดเครื่องมือซ่อมจนเต็มขึ้นแล้ว Chum จะสามารถซ่อมรถได้เร็วมากกว่าเดิมชนิดไม่ต้องรอเลยครับ **

2.Where there is Smoke (รับภารกิจจาก DEEP PRIAH)
ภารกิจของ Deep Priah คือ ไปเปิดวาลว์แก็สให้ป้อมของเขาหลังจากที่ถูก Scrotus ปิดวาลว์พลังงานที่เคยส่งมาที่วิหาของเขาจนหมดหลังจากที่ Deep Priah เริ่มขัดแย้งกับพวกมัน ซึ่งจุดทำภารกิจจะอยู่ในเมือง Gas town 




                                                            GAS TOWN




เมื่อที่สร้างบนท่อส่งน้ำมันขนาดใหญ่ ที่มีพลังงานใช้เหลือเฝือ ที่นี่เป็นทั้งแหล่งพลังงานแหล่งอาไหล่ของอารยธรรมของเครื่องยนต์ แหล่งเทคโนโลยีใหม่หลังยุคการล่มสลาย เป็นสถานที่ที่ทุกคนหมายปองที่จะมาเพื่อหาความก้าวหน้าของชีวิต แน่นอนว่าคนที่เป็นเจ้าของที่นี่ก็คือ Scrotus ทายาทนรกของ Immortan Joe แห่ง Warlord โดยมันจะมอบหมายให้ Outcrier เป็นนายกที่เป็นตัวแทนอำนาจของมัน และแน่นอนว่าสิ่งที่ MAX หมายมั่นและต้องการจะได้มาคือ เครื่อง V8 สุดยอดเครื่องยนต์ในตำนานซึ่งเป็นรางวัลชนะเลิศในการแข่งรถที่เรียกว่า Gastown Race ที่กำลังจะถูกจัดขึ้น 



                   เมื่อเข้ามาที่ Gastown ก็จะมี WASTELAND MISSION ให้ทำคือ

1.Where there is Smoke (รับภารกิจจาก DEEP PRIAH)
ภารกิจของ Deep Priah คือ ไปเปิดวาลว์แก็สให้ป้อมของเขาหลังจากที่ถูก Scrotus ปิดวาลว์พลังงานที่เคยส่งมาที่วิหาของเขาจนหมดหลังจากที่ Deep Priah เริ่มขัดแย้งกับพวกมัน ซึ่งจุดทำภารกิจนั้นต้องรอให้เข้ามาถึงเมือง Gas town ก่อน เข้าไปตามทางฝั่งขวาของเมือง ลึกเข้าไปจนถึงเขตท่อส่งน้ำมัน Under Belly ทะลุเข้าไปถึงเขตท่อแก็ส The Bowels ซึ่งในขณะที่เดินอยู่ในนี้แก็สจะทำให้พลังชีวิตลดลงตลอด รีบเข้าไปปิดวาล์วด้านใน 4 จุดแล้วออกจากที่นี่ก็จะจบภารกิจ
**รางวัลที่ได้ก็คือ ปลดล็อกการอัพเกรดสุดท้ายของฉมวกระเบิด Thunderpoon of Awe** 

2. Ghost of The Pass (รับภารกิจจาก HOPE)
ภารกิจของ HOPE ที่เธอถูกจับต่อมาจากป้อมของ PINK EYES อยู่ที่กรงด้านซ้ายของเมือง เธอจะบอกตำแหน่งของสุสานนักขับ Tomb of Rider ซึ่งในนั้นจะเป็นที่ซ่อนของรถ Demented Chariot ที่เป็นรางวัลของการแข่ง Gastown Race ปีที่แล้ว โดยตำแหน่งของจุดทำภารกิจจะอยู่ใต้สุดของพื้นที่ Parch Moon ในดินแดน Great White จะพบทางเข้าใต้ดินจนถึงด้านในก็จะพบรถ Demented Chariot รถกระบะที่มีโครงกระดูกขี่มอเตอร์ไซด์อยู่ด้านหลัง จากนั้นก็ขับมาเข้าที่ป้อมใดก็ได้ก็จบภารกิจ
**รางวัลที่ได้ก็คือ รถ Demented Chariot  **

3. Torch them all (รับภารกิจจาก DEEP PRIAH)
ภารกิจนี้เป็นภารกิจต่อเนื่องจากที่ไปเปิดวาวล์แก็สให้ Priah แล้ว เขาจะบอกว่าคนที่สั่งการคือ The Arkytekt และมันก็ได้เอา Pilot light ท่อไฟศักดิ์สิทธิ์ของป้อมเขาไปด้วย Priah จึงต้องการให้ MAX ไปเอากลับคืนมาให้ ซึ่งจุดทำภารกิจนั้นอยู่ที่เนิน Burning Mond ทางเหนือของพื้นที่ Dead Barrens ซึ่งต้องรอให้ถึงเวลากลางคืนก่อน เมื่อมาถึงจุดหมายแล้วขึ้นไปใช้กล้องส่งทางไกลไปที่ภูเขาตรงข้ามจะเห็นไฟพุ่งขึ้นมาจากช่องเขา ให้ไปที่นั่นได้เลย ลุยเข้าไปด้านในจัดการ The Arkytekt และคนของมันให้หมด แล้วก็จัดการเข้าไปกำหนดเป้าหมายที่ Pilot light เพื่อให้ Priah มารับไปก็เป็นอันเสร็จงาน
**รางวัลที่ได้ก็คือ ปลดล็อก Blow Torches Side Burner ท่อพ่นไฟข้างรถ **


                                      Chapter 9 – DANCE WHIT DEATH 

-ที่เมือง gas town เข้าไปคุยกับ Outcrier นายกของเมือง MAX จะเข้าไปขอเข้าแข่ง Gastown ซึ่งหลังจากที่ได้รับไม้หนักจาก MAX ไปหนึ่งดอกแล้ว Outcrier ในฐานะประธานการแข่งขันก็ต้องยอมให้ MAX พิสูจณ์ตัวเองโดยต้องไปเอาไฟประดับที่เขาชอบมาให้เขาก่อน ซึ่งจุดเป้าหมายของภารกิจจะอยู่ในเขตทะเลทรายทางขวาของ Gastown ซึ่งเป็นสนามบินที่ถูกทรายกลบฝังไว้จนหมด
- จากนั้นก็ขับรถลุยเข้าไปด้านในจนสุดทางที่รถเข้าไม่ได้ ซึ่ง MAX ต้องลงไปปลดสะพานให้รถไปต่อแล้วลุยเข้าไปด้านใน จนถึงห้องด้านในสุดก็จะพบกล่องของไฟประดับที่ต้องการ แต่ทันทีที่เก็บมาพวก Buzzard มากมายก็เข้าปิดล้อมในห้อง จัดการพวกมันให้หมดแล้วรีบหนีขึ้นรถ แล้วขับลุยออกมาด้านนอกท่ามกลางการโจมตีของรถพวก Buzzard เมื่อกลับออกมาแล้วก็เอากล่องแผงไฟไปให้ Outcrier ที่ Gastown ได้เลย มันก็จะเคลียร์คิวให้ MAX ลงแข่งได้ แต่มีข้อแม้ว่าการแข่งต้องมีพาร์ทเนอร์ที่มีประสบการณ์ร่วมแข่งด้วยเท่านั้น


                                    Chapter 10 – FUMEHEAD’S DEBT 

-เดินทางเข้าไปจุดทำภารกิจที่จุดแข่ง Death Run MAX จะเข้าไปสอบถาม Crow Dazzel ผู้จัดการแข่งขันถึงเรื่องพาร์ทเนอร์ที่เคยผ่านการแข่ง Gastown Race มาแล้ว ซึ่ง Crow Dazzel ก็จะลองเข้าไปหา Tenderloin ด้านในร้านอาหารในปั๊มของเขา ซึ่งก็จะเห็นว่า Tenderloin ก็คือผู้หญิงติดไนโตรนอนเมาไม่รู้เรื่องอยู่ MAX เห็นสภาพแล้วท้อแต่ดินแดนกันดารแห่งนี้อะไรที่ดีที่สมบรูณ์คงหายากเสียแล้ว MAX จึงไม่มีทางเลือกที่จะต้องยื่นข้อเสนอเพื่อให้เธอรวมทีมลงแข่ง ซึ่ง Tenderloin ก็ว่าไม่มีปัญหาแต่ Max ต้องไปคุยกับ Crow Dazzel ก่อนเพราะตอนนี้เธอติดหนี้ค่าไนโตรที่เธอมาสูบจนหมดตัว จากนั้นออกมาคุยกับ Crow Dazzel เพื่อขอตัว Tenderloin แน่นอนว่าเขาก็ต้องการให้ MAX แข่ง Death Run แมทซ์นึงเพื่อปลดหนี้ให้ Tenderloin ก่อน
-การแข่ง Death Run นั้นกติกาคือ ใช้รถ Archangel ในการแข่ง ในครั้งนี้ที่ใช้ได้คือ SPEED DEMON การแข่งขันต้องเข้าเส้นชัยเป็นที่ 1 โดยต้องชนถังเช็คพ็อยซ์ให้ครบทุกจุดตามเส้นทางที่ผ่านมาด้วย ห้ามพลาดแม้แต่จุดเดียว ส่วนรถคันอื่นจะทำลายหรือไม่ก็ได้ (แต่ถ้าไม่อยากรำคาญยิงทำลายมันให้หมดคงเหมาะกว่า) และเมื่อแข่งจนชนะแล้วก็กลับเข้าไปหา Tenderloin ได้เลย เธอก็จะตื่นมาล้างหน้าเตรียมตัวให้สร่างเมาเพื่อเป็นพาร์ทเนอร์ในการลงแข่ง Gastown ให้ MAX แล้ว

หลังจบภารกิจจะมี ภารกิจย่อย WASTELAND MISSION ขึ้นมาให้ทำคือ

 1.Exodus (รับภารกิจจาก PINK EYES)
ภารกิจที่ป้อม Pink Eyes นั้นก็คือ สิ่งที่เธอวางแผนมาตลอดซึ่งก็คือให้เหล่าเด็กๆของเธอออกเดินทางไปตามเส้นทางพื้นที่รกร้างกว้างใหญ่ที่เรียกว่า Big Nothing ซึ่งอยู่ทางตะวันตกของ Great white ซึ่งงานของ MAX ก็คือต้องขับรถบบรรทุก Dune Vessel Carrier ขนสัมภาระต่างๆไปให้คนของ Pink eyes ที่จุดหมายทางตะวันออกของพื้นที่ Great white ซึ่งอุปสรรคของการขับรถบรรทุกปุโรทังนี้ก็คือ รถของศัตรูและพายุในตอนกล้จะถึงจุดหมาย งานนี้พยายามเลี้ยงการปะทะหรือต้องยอมเปลืองกระสุนปืนยิงทำลายรถของศัตรูไม่งั้นรถบรรทุกคงพังก่อนถึงจุดหมายแน่นอน เมื่อขับมาถึงจุดหมายพวกเด็กๆของ Pink eyes ก็จะออกเดินทางด้วยเรือใบบกไปตามพื้นทรายที่กว้างใหญ่ของพื้นที่รกร้างกว้างใหญ่ Big Nothing เพื่อความหวังเล็กๆในการหาที่อยู่ใหม่ที่ดีกว่านี้ ซึ่งแน่นอนว่า Max ฟันธงแล้วว่ายังไงก็ตายเรียบก่อนจะเจออะไรแน่นอน
**รางวัลที่ได้ก็คือ รถบบรรทุก Dune Vessel Carrier **

2. Beat to Quarter (รับภารกิจจาก GUTGASH)
ภารกิจที่ป้อมของตาเฒ่า GUTGASH ก็ไม่พ้นเลือกของพวกศัตรูที่พยายามจะบุกเข้ามาเพื่อชิงซากเรือไปเป็นวัตถุดิบของเหล็กชั้นดีนั่นเอง ตอนนี้จะมีขบวน Convoy ของศัตรูกำลังบุกเข้ามาถล่มพร้อมขนระเบิดมาเต็มคันรถ งานของ MAX ก็คือ ออกไปทำลายขบวน Convoy ของศัตรูให้หมดก่อนที่มันจะเข้ามาถึงป้อม GUTGASH ซึ่งจะมีทั้งหมด 2 จุดที่พวกศัตรูบุกเข้ามา ซึ่งถ้ามาถึงตอนนี้อัพฉมวกระเบิดจนเต็มที่แล้วก็จัดการพวกมันได้ไม่ยากเลยครับ
**รางวัลที่ได้ก็คือ ปลดล็อกกันชนระดับ 4 Two –up Bump Bar ** 



                                      Chapter 11 – IMMORTAL ENEMY 

-เข้ามาที่จุดรับภารกิจสีเขียวที่เมือง Gastown เพื่อลงแข่ง Gastown Race ซึ่งรางวัลใหญ่ที่ Max มองตาเป็นมันก็คือรถ Big Chief ขนาดใหญ่ที่มีดีอยู่ที่เครื่อง V8 ที่ Max อยากได้มาครอบครองมากมาย ซึ่งก่อนเข้าแข่งนั้นคุณต้องแน่ใจด้วยว่าสภาพรถและอาวุธคือฉมวกหัวระเบิดนั้นพร้อมรบหรือเปล่าด้วย

                                                       -Gastown Race –

กฎกติกาการแข่งนั้น ผู้ท้าชิงซึ่งหมายถึง Max จะต้องถูกพ่วงด้วยระเบิดในรถและตั้งเวลาเตรียมระเบิดเอาไว้ ภายในเวลาที่กำหนดถ้า Max ไม่สามารถทำลายรถของ เจ้า Stack Gum มือขวาของ Scrotus ที่เป็นแชมป์เก่าได้ max ก็จะโดนระเบิดไปพร้อมกัยรถทันที ข่าวคือ ฝีมือคว้างฉมวกระเบิดของ Tenderloin ในฐานะบลัดดี้นั้นแม่นยำมาก และฉมวกหัวระเบิดก็ไม่มีหมดด้วย แต่ข่าวร้ายก็คือ Max จะโดนรถทุกคันที่เป็นลูกน้องของ Stack Gum รุม รวมถึงรถของมันเองก็มีทุ่นระเบิดที่รุนแรงที่จะสามารถทำให้รถระเบิดพังภายในการโดนครั้งเดียวด้วย ที่เหลือก็ต้องใช้ฝีมือการขับขี่จนสามารถทำลายรถของ Stack Gum ให้ได้ก่อนเวลาจะหมดเท่านั้น ซึ่งที่ทำได้ดีที่สุดคือ พยายามไล่บี้ยิงถล่มมันให้ได้เสียในช่วงแรกๆให้เร็วที่สุด เพราะหลังๆนอกจากจะตามไม่ทันแล้วระหว่างทางยังมีอุปสรรคที่ทำให้รถพังได้ก่อนเวลาจะหมดด้วยซ้ำ 

-เมื่อชนะแล้วรถ big Chief ก็จะถูกยกมาล่อตาล่อใจ แต่ของดีนั้นมีชิ้นเดียวแปลว่า Max กับ Tenderloin ต้องสู้กันเพื่อคนชนะจะได้เป็นเจ้าของรางวัลที่มีอยู่ชิ้นเดียว Tenderloin นั้นเธอมีทั้งความเร็วที่สามารถหลบได้ตลอดและลูกบ้าที่พุ่งเข้ามาแบบเค๊าท์เตอร์ไม่ได้ด้วย ทำได้แค่กลิ้งตัวหลบแล้วอันด้านหลังแล้วรอสวนกลับด้วยเค๊าท์เตอร์เท่านั้น
-แต่เมื่อ Max จัดการ Tenderloin ลงได้ Outcries ก็กำลังจะเตรียมรางวัลชิ้นใหญ่ให้แต่ไม่ใช่เครื่องรถ V8 แต่เป็น นายใหญ่ Scrotus ที่รออยู่นานก็ออกโรงทันที มันรอดตายจากวันที่โดน Max เอาเลื่อยปักหัวจนด้ฉายาว่า ผู้อมตะ และตอนนี้มันก็ไม่รอช้าที่จะเอาเลื่อยคู่อันใหม่ของมันคืนให้กับ Max ด้วยความแค้น


 การต่อสู้กับ Scrotus twin Chainsaw นั้นก็เหมือนกันบรรดาบอสทุกตัวคือ กลิ้งหลบตอนมันพุ่งโจมตีตัวแดงเข้ามา แต่ Scrotus จะอึดกว่ามาก ที่ทำให้มันเสียหายหนักได้ก็คือล่อมันไปตรงถังน้ำมันแล้วรอให้มันพุ่งโจมตีเข้ามาแล้วกลิ้งหลบให้มันโดนระเบิด แต่ในขณะที่ Max เกือบที่จะคว่ำ Scrotus ลงได้ เจ้า Stack Gum ก็รีบยิงหน้าไม้ใส่ Max เพื่อช่วยนายของมัน จน Max ตกลงไปที่บ่อน้ำมันใต้เมืองเสียก่อน แต่ก็โชคดีที่ได้ Hope เข้ามาช่วยเอาไว้ได้ทัน ก่อนที่เธอจะพาไปรักษากับหมอ Abdominous The Organic Mechanic ที่ตลาดมืดส่วนล่างของ Gastown ซึ่งที่นี่ Max จะได้พบกับ Warboy ที่เป็นถุงเลือดด้วยและดูเหมือนเขาจะไม่ค่อยจะพอใจเจ้า Scrotus มากนักจึงชอบบ่นออกมาว่าซักวันเขาจะคืนเลือดของมันให้กับเจ้า Scrotus ให้ได้ และทันทีที่ Max ฟื้นขึ้น สิ่งแรกที่เขาทำคือ ตามไปเอารางวัลที่ควรเป็นของเขากลับมา

หลังจบภารกิจจะมี ภารกิจย่อย WASTELAND MISSION ขึ้นมาให้ทำคือ

1. A Shot in the Dark (รับภารกิจจาก HOPE)
เข้าไปคุยกับ HOPE ที่ป้อม DEEP PRIAH เธอจะบอกถึงที่ซ่อนของสมบัติหรือไอเทมอัพเกรดรถที่ซ่อนอยู่ชิ้นที่ HOPE พยยามที่จะบอกเพื่อซื้อใจ MAX มาตลอด จุดทำภารกิจจะอยู่ที่ทะเลทรายทางขวาล่างของ ป้อม DEEP PRIAH จะพบทางลงไปที่ซากรถไฟใต้ดินที่ฝังอยู่ใต้พื้นทราย ลงไปตามโบกี้รถไฟไปถึงด้านล่าง เข้าไปค้นหาจนพบไอเทมอัพเกรดด้านในแล้วกลับขึ้นมาก็จะจบภารกิจ
** รางวัลที่ได้รับคือ Big mama Lift kit หรือ โช๊คอัพรถระดับ 5 นั่นเอง** 

2. Rustle Dazzle (รับภารกิจจาก Outcrier)
  เข้าไปรับภารกิจกับ Outcrier ที่ Gastown เขาตกใจที่ MAX ยังไม่ตายหลังตกลงไปในบ่อน้ำมันในตลาดมืด มันจึงนำมาใช้เป็นข้อต่อรองทันทีเพื่อให้ Max ทำงานให้มันแลกกับการที่มันไม่ปากโป้งบอก Scrotus ว่า Max ยังไม่ตาย โดยมันต้องการให้ไปขโมยรถเครื่องเสียงของ Crow Dazzle ด้วยความหมั่นใส้ที่มันจัดแข่งรถแข่งกับงานของเขาตลอด  จุดเป้าหมายของภารกิจจะอยู่ที่จุดแข่ง Death Run ในพื้นที่ The Heights ซึ่งต้องรอให้กลางคืนก่อน รถ The Crow Caller ของ Crow Dazzle ก็จะมาจอดที่ในปั๊มน้ำมัน ที่เหลือก็ขโมยขับมันกลับมาให้ Outcrier ที่ Gastown ให้ได้ก็เป็นอันจบภารกิจ
** รางวัลที่ได้รับคือ รถเครื่องเสียง The Crow Caller **


                                      Chapter 12 – THE BIG CHIEF 

เข้าไปพบ Hope ที่ด้านในตลาดมืดส่วนล่างของ Gastown เธอจะบอกเรื่องที่อยู่ของรถ Big Chief และเครื่อง V8 ที่ Max ต้องการ แต่ต้องหากได้ไปตามที่เธอบอกแล้ว Max ต้องช่วยลูกสาวของเธอด้วย Max ไม่ตอบปากรับคำแต่ก็ตกลงที่จะไปตามทางที่ Hope บอกเพื่อไปเอาเครื่อง V8 ที่ต้องการทันที

-เข้าไปตามทางที่ Hope เปิดให้จะเป็นทางเข้าไปจนถึงโรงรถของเจ้า Stack Gum ก็จะเห็นรถ Big Chief และเครื่อง V8 อยู่ด้านใน ที่เหลือก็แค่เข้าไปจัดการพวกลูกน้อง Stack Gum มากมายที่เฝ้าอยู่ให้หมด จากนั้นก็ปีนขึ้นไปเอาถังน้ำมันมาเติมเครื่องยนต์เพื่อเปิดให้พื้นลงปรับลงมา แล้วก็ขับรถ Big Chief หนีออกมาจากเมืองได้เลย อาวุธของรถมีที่พ่นไฟอยู่ มากพอที่จะทำลายรถกระจอกๆของพวก Warboy ที่ตามมาแน่นอน เป้าหมายคือขับรถเข้ามาที่ป้อม DEEP PRIAH ให้ได้ก็เป็นอันเรียบร้อย max ก็จะได้ทั้ง Big Chief และเครื่อง V8 ที่เขาต้องการมาครอบครองเสียที


                                 Chapter 13 – IN IT FOR GLORY 

ที่ป้อม DEEP PRIAH .. ทันทีที่เครื่อง V8 ถูกประกอบเข้ากับรถของ Max สิ่งแรกที่เขาจะทำคือออกเดินทางไกลตามที่วางแผนไว้ทันที แต่ดูเหมือน Hope จะยังทวงถามถึงเรื่องข้อตกลงที่จะให้ Max ช่วยลูกสาวของเธอด้วย แต่เหมือน max จะคิดว่าเขาไม่เคยรับปากอะไร จึงจะพยายามจะทิ้งไปแล้วออกเดินทางทันที แต่คำพูดของ Hope ที่ว่า “คิดว่า Max ไม่เหมือนคนอื่น เธอคิดเสมอว่า max คือนักบุญที่มาเพื่อปลดปล่อยผู้คน “ สุดท้ายรถของ Max ก็ไม่ได้ออกไปไหนไกลกอ่นที่เขาจะถามข้อมูลที่อยู่ของลูกสาวของ Hope เธอจึงรีบเอาของประจำตัวของลูกเธอไว้ให้ พร้อมบอกว่าให้ไปตามหาลูกเธอที่อยู่กับผู้ดูแลคนนึงในทะเลทรายและอย่าลืมเรียกชื่อของลูกสาวเธอว่า Glory … ความหวังและความรุงโรจณ์หรอ ? ตลกสิ้นดี max สบถออกไปเบาๆก่อนขับรถออกไปตามทาง

- เป้าหมายอยู่ที่เขตทะเลทรายทางขวาของเมือง Gastown เข้าไปถึงจะพบแต่ศพของชายแก่คนดูแลที่นอนตายอยู่ ซึ่ง Max ก็จะพบรอยล้อรถออกจากที่นี่ด้วย จากนั้นก็ขับรถตามรอยล้อรถไปจนถึงทางลงซากอาคารที่ถูกฝังอยู่ในทรายไม่ไกลจากนี่ ซึ่งก็รู้แน่นอนว่าเป็นฝีมือของพวก buzzard ที่จับเด็กๆไปแน่นอน Max จึงต้องตามลงไปตามซากอาคารด้านล่าง ทันทีที่ลงมาก็ได้ยินเสียงของ Chumbucket โวยวายถึงพวก buzzard จนมันต้องรีบหนีไปก่อน เข้าไปตามหาตามจุดเขียวที่ขึ้นมาซึ่งก็จะพบเด็กอีกหลายคนที่ถูกจับมาแต่ยังไม่ใช้ Glory จนเข้าไปด้านล่างสุดก็จะเจอ Glory ซ่อนตัวอยู่ในลังไม้ max จึงช่วยเธอออกมาได้ในที่สุด แต่ขณะที่ออกมากลับก็ไม่พบรถของ Chumbucket แล้ว แต่จะเจอพวก buzzard มากมายขับรถมาล้อมแทน โดยการนำของ Top Spike ผู้นำของ buzzard ด้วยตัวเอง จัดการพวกมันให้หมดแล้วพา Glory ขึ้นรถของพวก buzzard แล้วขับลุยหนีออกจากที่นี่ โดยรถของพวก buzzard มีทุ่นระเบิดเป็นอาวุธ จากนั้นก็ขับมุ่งหน้ากลับไปที่ป้อม DEEP PRIAH ได้เลย

ภาพของแม่ลูก Hope และ Glory ที่ได้พบกันอีกครั้ง มันเหมือนกันความหมายของ ความหวังและความรุ่งโรจณ์ กำลังจะเชิดฉายในดินแดนโสมมแห่งนี้ แต่ความหวังที่ได้แค่หวังในใจ max มันไม่มีอีกแล้ว เหลือก็แค่ ชีวิตที่ต้องเอาตัวให้รอด เขาจึงเตรียมจะออกเดินทางทันที แต่ รถและ เจ้า Chumbucket กลับไม่อยู่ในโรงรถเสียแล้ว Max รีบเข้าไปอัด Priah ทันทีจนมันบอกมาว่า เห็นเจ้าช่าง Chum ขับรถออกไปแล้วปากก็พร่ำไปว่าจะกลับบ้าน max จึงรู้ทันทีว่าต้องไปตามมันได้ที่ไหน 


                                 Chapter 14 – ALL IS LOST FOREVER 

เป้าหมายคือที่ CHIM’S HIDEOUT รังเก่าที่ใต้สุดของพื้นที่ ทันทีที่เข้ามาถึง Max ก็จะเห็นเจ้า Chumbucket นอนจมกองเลือดอยู่ข้างๆรถ พร้อมๆกับเสียงหัวเราะสะใจของเจ้า Stack Gum ที่กำลังสะใจที่ max เข้ามาติดกับของมัน มันฉวยโอกาสลอบติดตามเจ้า Chumbucket ตอนที่ขับรถมาที่นี่เพื่อหวังว่าจะได้รอจัดการ Max ที่นี่ทีเดียวไม่ต้องเหนื่อยแรง ก่อนที่มันจะเข้ามาสู้กับ Max ทันที


 การต่อสู้กับ Stack Gum ก็เหมือนกันศัตรูสายพริ้วทั่วไปคือมันจะหลบได้ตลอดและโจมตีด้วยการพุ่งเข้าใส่แบบบ้าคลั่งที่เค๊าทเตอร์ไม่ได้ ที่ทำได้คือกลิ้งหลบแล้วเข้าไปอัดมันจากด้านหลังและรอจังหวะเค๊าท์เตอร์ทำคอมโบไปไม่กี่ครั้งก็จะจัดการได้

แต่ทันทีที่ Stack Gum แพ้มันก็ได้หัวเราะสะใจอีกครั้งเพราะความเจ็บปวดของมันคงไม่เท่ากับสิ่งที่  Scrotus นายของมันกำลังทำกับผู้หญิงและเด็กครอบครัวของ Max ที่ป้อม DEEP PRIAH ทันทีที่ได้ยิน max รู้ทันทีว่า Hope และ Glory ตกอยู่ในอันตราย ก่อนที่เขาจะรีบขึ้นควบรถคู่ใจแล่นทับกลางร่างของเจ้า Stack Gum ที่นอนขวางทางไปในทันที

และเมื่อ Max มาถึงที่ป้อม DEEP PRIAH เขาก็ต้องพบภาพที่น่าสลดใจของสภาพศพของสองแม่ลูก Hope และ Glory ที่ถุกพวก Scrotus บุกเข้ามาถล่มป้อมจนทั้งคู่ถูกทรมารจนตาย Hope ถูกลูกธนูปักทั่วร่างและแขวนประจานห้อยอยู่กลางป้อม ส่วน Glory นอนรอความตายอยู่ที่พื้นใกล้ๆ ก่อนลมหายใจสุดท้ายของเธอ เธอได้แต่เพ้อว่าไม่อยากตายโดยไม่มีใครจดจำ ถ้าเจอมันให้เอาเลือดของมันเขียนเป็นชื่อของเธอด้วย คำของร้องสุดท้ายของ Glory ก่อนสิ้นใจในอ้อมแค้นของ max 

สิ้นเสียงร้องตะโกนลั่นด้วยความเสียใจ max ขับรถออกมาด้วยความโกรธแค้น เพื่อไล่ล่าตามหา Scrotus แต่ยังไงก็หาไม่เจอ เขาจึงนึกขึ้นถึงเจ้า Scab Warboy ถุงเลือดที่ตลาดมืดในเมือง Gastown ที่เป็นลูกน้องเก่าของ Scrotus ต้องรู้แน่นอน ...


                        Chapter 15 – PAINT MY NAME IN BLOOD

เดินทางไปที่จุดหมายของภารกิจสุดท้ายที่ตลาดมืดในเมือง Gastown ซึ่งก่อนจะรับภารกิจนี้ หากยังคิดว่ายังเก็บอะไรไม่ครบก็ครวไปทำอะไรให้พอใจก่อน เพราะเป็น Point of No return แล้ว ยกเว้นขับรถเล่นหลังจบเกม ด้านใน Max จะได้ข้อมูลเส้นทางของขบวนรถของ Scrotus จากปากของเจ้า Scab Warboy แค้นนายเก่าของมันที่ทำเห็นมันเป็นแค่ ถุงเลือด เมื่อได้ตำแหน่งมาแล้วก็มุ่งหน้าไปที่นั่นทันที ซึ่งก็จะพบขบวนรถของ Scrotus กำลังเดินทางฝุ่นฟุ้งไปทั่วอย่างชัดเจน 



การจัดการกับรถของ Scrotus ถ้าไม่อยากวุ่นวายก็ควรทำลายรถของลูกน้องของมันให้หมดก่อน ซึ่งถ้ามีฉมวกหัวระเบิด Thunderpoon ระดับสูงสุดมาแล้ว ยิงครั้งเดียวก็ระเบิดแล้ว ส่วนรถของ Scrotus ต้องเอาตะขอดึงแผ่นเหล็กข้างๆรถออกก่อนจึงจะเห็นถังน้ำมันที่สามารถยิงทำลายได้ ซึ่งต้องงัดและยิงทำลายถังน้ำมันทั้ง 2 ด้านก็จะทำลายรถมันได้

รถของ Scrotus โดนโจมตีจนเสียการควบคุมจนกระเด็นไปที่ปลายหน้าผา max จึงไม่รอช้าที่จะจัดการมันให้สิ้นซาก แต่ Chumbucket กลับไม่อยากให้ทำแบบนั้นเพราะจะทำให้รถสุดรักคันนี้อาจพังหรือตกเหวจนเขาไม่สามารถซ่อมได้อีกเลย แต่ล้อของรถของ Max ก็ยังเลื่อนไปข้างหน้าด้วยแรงแค้นที่เป็นตัวเหยียบคันเร่ง Max ขับรถพุ่งไปทั้งๆที่มี Chumbucket พยายามบังอยู่ด้านหน้าเพื่อห้ามเขา แต่ยากที่จะหยุดรถที่กำลังพุ่งไปด้วยแรงแค้นได้ รถของ Max เต็มแรงก่อนที่ Max จะโดดหนีออกมา แรงระเบิดทำให้ Chumbucket ตกหน้าผาไปแต่มันกลับไม่แรงพอจะทำลายรอของ Scrotus ได้ ก่อนที่ Scrotus มันจะใช้รถอีกคันที่มีอยู่ขับออกมาจากซากรถเดิม แล้วเริ่มไล่ล่า Max ทันที 




การต่อสู้กับ Scrotus ที่อยู่ในบนรถที่โจมตีด้วยการพุ่งชน Max ที่ไม่มีทั้งรถที่จะไว้สู้อีกแล้วแต่ก็ยังโขคดีที่มีหอกเหล็กหัวระเบิดของพวก Warboy ที่วางเกลื่อนพื้นที่ไว้ให้ใช้ การหลบรถมันก็แน่นอนว่าต้องใช้การกลิ้งหลบ ส่วนการโจมตีนั้นต้องปาหอกระเบิดเข้าใส่มันก่อนที่มันจะขับรถพุ่งเข้ามาใกล้ซึ่งจะทำให้โดนรถมันพอดีและพอจะให้กลิ้งหลบได้ทันด้วย ปาโดนไม่กี่ครั้งรถมันก็พังแล้ว



ร่างของ Scrotus ที่คลานไปตามพื้นที่รกร้างอย่างไร้ทางสู้ กับเสียงกระซิบของสองแม่ลูกยังคงดังก้องในสมอง Max “ เอาเลือดของมันมาเขียนชื่อของพวกเราให้มันได้จนจำ” เป็นเครื่องย้ำเตือนให้ Max เข้าไปจัดการ Scrotus จนตายคาทีภายในเวลาไม่กี่อึดใจ 



ก่อนที่ Max จะใช้รถของมันขับออกไป เดินทางต่อไปอย่างไร้จุดหมาย โดยทิ้งความหวังของวันใหม่ไว้ข้างทางเหมือนเคย .......



------------------------------------------- THE END ---------------------------------------------------------



                         


ไม่มีความคิดเห็น: