วันอาทิตย์ที่ 12 สิงหาคม พ.ศ. 2561

บทสรุป Ni no Kuni II: Revenant Kingdom [PAGE 2] [ต่อ]

           

          บทสรุป Ni no Kuni II: Revenant Kingdom [PAGE 2]


                                    BY Decibel per - oxide




                                                       [PAGE 1]
http://decibelperoxide.blogspot.com/2018/03/ni-no-kuni-ii-revenant-kingdom-decibel.html



 
                                          5- 2 An Audience with the Queen



Hydropolis อาณาจักรแห่งมหาสมุทร เป็นอาณาจักรทางทะเลที่ประกอบด้วยเกาะแก่งจำนวนมากที่รู้จักกันในชื่อหมู่เกาะ Hydropelago ประชากรส่วนใหญ่ประกอบไปด้วยมนุษย์และพวก merfolk มีการประมงเป็นฐานของเศษฐกิจที่มีชื่อเสียงจากอาหารทะเลเลื่องชื่อ และมี Brineskimmer เป็น Kingmaker ที่น่าเกรงขามคอยปกปักษือยู่ใต้ทะเล



ราชินี Nerea คือผู้คุมกฎแห่ง Hydropolis ที่ออกกฎและข้อกำหนดข้อห้ามอย่างเคร่งครัด นักท่องเที่ยวและพ่อค้าจากต่างถิ่นจะถูกเก็บภาษีอย่างหนักทุกครั้งที่เข้ามาในเมือง แม้ยทัศนีย์ภาพของอาณาจักรที่สวยงามและน่าสนใจแต่ก็มีผู้คนส่วนใหญ่คัดค้านความเข้มงวดนี้ แม้เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นจะทำงานอย่างหนักเพื่อควบคุมและปราบปรามกลุ่มคนที่ไม่เห็นด้วยมาตลอดแต่ปัญหานี้ก็ยังไม่ได้รับการแก้ไขอย่างจริงจัง 


Tani – ในที่สุดก็มาถึงซะที หวัดดี Hydropolis
Evan – ที่นี่สวยมากๆเลย แถมอากาศก็ดี อบอุ่น สดชื่อ อ๊า !!
Batu – ช่ายย สวยมาก รู้ซึ้งเลยที่นี้ว่าไอ้อาการเมาเรือมันเป็นยังไง อ๊วกกกก !!!
ทหาร – เรือจากต่างถิ่น ไม่เคยเห็นมาก่อนเลย รีบท่าน Leander ด่วนเลย
Roland – เอาล่ะ ที่นี้เราก็ต้องหาทางที่ดีที่สุดในการเข้าพบราชินี Nerea กันดีกว่า



ราชินี Nerea – ชั้นไม่เข้าใจเลยจริงๆว่าทำไมประชาชนถึงรักเจ้ามากนัก Leander ทั้งที่เจ้าทั้งอ่อนแอและงี่เง่าขนาดนี้ ..แต่ พวกเขารักนายก็ดีแล้ว เพราะถ้าไม่มีนายชั้นก็ไม่มีความหมาย ..อย่างที่คนเขาชอบนินทากัน ใช่รึเปล่าล่ะ?



Leander – ไม่มีท่านอาณาจักรของเราก็ไม่เหลืออะไรเช่นกันครับฝ่าบาท เรื่องนี้ผมรู้ดี ..แต่ประชาชนเขาไม่รู้ อาณาจักรอื่นๆก็ไม่รู้ และถ้าพวกเขารู้ ...
ราชินี Nerea – ถ้าพวกเขารู้ ...แล้วยังไง?
Leander – ชีวิตของฝ่าบาทก็จะอยู่ในอันตรายน่ะสิ กองทัพของ Malign มันไม่เข้ายึดอำนาจแน่นอน ผมถึงต้องเดินหน้าที่จะทำแบบนี้ต่อไป ตราบใดที่ประชาชนเห็นด้วยกับผม พวกเขาก็จะไม่เป็นศัตรูกับเราและจะไม่หันมาต่อกรกับเรา ที่ผมกลัวเพราะประชาชนคือสิ่งเดียวที่จะทำลายเราได้
ราชินี Nerea – งั้นนายก็ยอมทำทุกอย่างเพื่อราชินีของนาย ยอมตายถวายชีวิตให้โดยไม่ตะขิดตะขวงใจเลยงั้นสิ?
Leander – ขึ้นอยูกับว่ามีเหตุผลที่เพียงพอรึเปล่าด้วยครับฝ่าบาท ถ้ามันทำแล้วยืดอายุท่านไปได้เพียงแค่นาทีเดียวก็มีเหตุผลเพียงพอที่จะทำแล้ว ความตายนั้นจะเป็นเกรียติต่อชีวิตผมตลอดไป
ราชินี Nerea – นานๆทีคนที่ดูไม่น่าสนใจอย่างนายจะพูดแบบนี้ได้เหมือนกันนะ .. น่าตลกดี 
Leander – ท่านทรงพระกรุณามาก ฝ่าบาท 



ราชินี Nerea – แล้วนายมีอะไรรึเปล่าถึงมาเข้าเฝ้า?
Leander – มีครับ ทหารมารายงานว่ามีเรือจากต่างถิ่นเข้ามาเทียบท่าของเราครับ เป็นเรือที่ไม่ทราบสัญชาติ อาจเป็นของนักเดินทางหรือมาซื้อขายแลกเปลี่ยนสินค้าก็ได้ 
ราชินี Nerea – แล้วยังไง? .. ไม่ว่าพวกเขาจะเป็นใครก็ตาม ก็ต้องปฎิบัติตามกฎของเราอย่างเคร่งคัดไม่มีข้อแม้ใดๆทั้งสิ้นเข้าใจนะ? การที่จะมีใครซักคนทำผิดกฎของอาณาจักร ไม่ว่าใคร ชั้นก็ไม่มีทางยอมรับได้ ชั้นพูดชัดเจนแล้วนะ 
Leander – รับทราบครับผม

Lofty – นี่ๆ พวกเราไปเดินแตร่ๆดูลาดราวแถวๆนี้ดูหน่อยป่ะเพื่อจะได้หนทางอะไรดีๆมาบ้าง
Evan – อืมม ได้สิ 
กะลาสีเรือ – ถ้าฝ่าบาทจะกลับก็บอกเราได้ตลอดนะ  ขอให้สนุกกับการชื่นชมทัศนียภาพที่สวยงามของเมืองเก่าให้เต็มที่นะ อย่าหลงทางล่ะครับ 


ทหาร – เดี๋ยวก่อน คนต่างถิ่นทุกคนที่มาเยือน Hydropolis จำเป็นต้องรู้ถึงกฎที่ต้องปฎิบัติตามก่อนเข้าเมืองทุกครั้ง ก่อนอ่นช่วยแจ้งให้ทราบถึงวัตถุประสงค์ในการมาที่นี่ของพวกท่านก่อน ท่านมาเยี่ยมเยือนในฐานนะนักท่องเที่ยวหรือมาทำการแลกเปลี่ยนค้าขายสินค้าครับ?
Roland – พวกเรามาจากอาณาจักร Evermore เป็นประเทศที่สร้างขึ้นมาใหม่อยู่ที่ Heartland มีความตั้งใจที่จะขอเข้าเฝ้าราชินี Nerea เพื่อพูดคุยธุระสำคัญน่ะ
ทหาร – อืมม ผมไม่เคยเห็นอาณาจักรไหนมาขอเข้าเฝ้าองค์ราชินีมาก่อนเลยนะ แล้วท่านก็ไม่เคยอนุญาตให้คนภายนอกเข้าเฝ้าด้วย พวกท่านมาเสียเที่ยวแล้วล่ะ ต่อไปคือเรื่องกฎทั้ง 4 ข้อที่พวกท่านต้องจำไว้ให้ขึ้นใจและต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งคัด  กฎข้อแรก ห้ามทำร้ายเพื่อนคนอื่นๆ กฎข้อสอง ห้ามรุกล้ำเข้าไปยังเขตพื้นที่ชั้นสูงก่อนได้รับอนุญาต  กฎข้อสาม คนป่วยห้ามเข้าเมืองอย่างเด็ดขาด และ กฎข้อที่ 4 สำคัญที่สุด ความรักคือสิ่งต้องห้ามอย่างเด็ดขาดไม่มีข้อแม้ใดๆทั้งสิ้น !!!
Roland – อะไรนะ ฟังเขาพูดสิ บ้าไปแล้ว
ทหาร – เราประชาชนแห่ง Hydropolis ไม่เหมือนกับชาติอื่น จะไม่มีภัยคุกคามใดมากล่ำกลายพวกท่านตราบที่อยู่ที่อาณาจักรนี้ แต่หากว่ากระทำการใดอันผิดต่อกฎที่แจ้งไปจะได้รับการลงโทษทันทีไม่มีการยกเว้นใดๆทั้งสิ้น 
Batu – หรือเราจะลองไปเดินหาซื้อของขวัญซักอย่างสองอย่างเอาไปให้ราชินีนั่น ข้าว่านางต้องต้อนรับอย่างฉันท์มิตรกว่านี้แน่ๆเลย
Roland – เราแทบไม่รู้เรื่องราวอะไรของนางเลย ถ้าเราจะทำงานนี้ให้สำเร็จคงต้องหาข้อมูลให้ดีกว่านี้กันก่อน 
Evan – อืมม งั้นเราลองสำรวจเมืองให้ทั่วๆกันดูก่อนดีกว่า ผมว่าต้องมีคนใจดีช่วยเราบ้างแน่ๆเลย

จากนั้นเข้าไปสำรวจเมืองให้ทั่วๆ เป้าหมายของภารกิจจะมี 3 จุดกระจายอยู่ทั่วเมืองซึ่งต้องเข้าไปคุยหาข้อมูลกับบุคคลเป้าหมายให้หมด

ภายในเมืองจะถูกคุมเข้มโดยทหารของเมืองอย่างเคร่งคัดเพื่อควบคุมกฎของเมืองและจัดการจับพวกที่ผิดกฎไปลงโทาด้วยการคุมขังอย่างทันท่วงที โดยการควบคุมของ หัวหน้าผู้คุมกฎซึ่งเป็นตัวแทนโดยตรงของราชินีที่ชื่อ  Leander ที่ว่ากันว่าหูตากว้างไกลร้ทุกๆความเคลื่อนไหวในเมือง



ซึ่งเห็นเด่นชัดคือหอคอยกลางทะเลรูปดวงตาขนาดใหญ่ที่ประชาชนส่วนใหญ่เชื่อว่ามันคือดวงตาสปายที่องค์ราชินี Nerea ใช้สอดส่องทุกๆความเคลื่อนไหวของทุกๆคนในเมืองด้วยตัวเอง ทำให้ประชาชนส่วนใหญ่เริ่มอึดอัดกับกฎต่างๆนานาที่ถูกตั้งขึ้นมา ที่เลวร้ายที่สุดคือกฎที่ห้ามคนในเมืองรักกัน ซึ่งประชาชนส่วนใหญ่ไม่เข้าใจว่าอะไรไปดลใจให้ราชินีตั้งกฎแบบนั้นและกังวัลว่าในอนาคตจะมีกฎแปลกๆออกมาบังคับใช้อีกหรือเปล่า แต่โชคดีที่ชาวเมืองต่างก็ให้การนับถือหัวหน้าผู้คุมกฎ Leander เป็นอย่างมาก จนหลายคนพูดกันหนาหูว่าคนที่เป็นควบคุมอาณาจักรตัวจริงก็คือ ผู้คุมกฎ Leander มากกว่าองค์ราชินี


Evan – อืมม ผมไม่แน่ใจนะว่าเราได้ข้อมูลของราชินี Nerea มามากพอกับสิ่งที่เราต้องการรึยัง 
Roland – ยัง แต่ที่แน่ๆเราได้แต่ของมูลของผู้คุมกฎที่ชื่อ Leander มาเต็มๆเลย 
Tani – น่าสนใจนะ เพราะถ้าเราได้ตัวเขามาช่วยเราก็จะทำให้สามารถเข้าใกล้องค์ราชินีได้ง่ายขึ้นไง
Evan – แล้วเราจะได้ตัวเขามาได้ยังไงล่ะ?
Lofty – ข้ารู้ ข้ารู้ ถามดิ ถามๆๆๆ
Tani – มีไรก็บอกมาสิ บอกมาๆๆ
Lofty – ตอนนี้ข้าคงให้ข้อมูลกับพวกเจ้าได้แค่นิดหน่อยเท่านั้นแหละ รอให้เราได้ thingumybobs มาก่อนโอเคนะ 
Roland – thingumy…. Bobs ??
Lofty – ช่ายๆ ลองไปหาดู อาจมีขายในร้านขายเครื่องประดับก็ได้
Evan – ผมเอ่อ ฟังแล้วไม่ค่อยเข้าใจอ่ะนะ แต่จะลองทำตามดูก็แล้วกัน 



Lofty – นี่เจ้าคงยังไม่ได้ขายแหวนปะการังสีแดงนั่นไปใช่มั๊ย?
Xiphos -ทำไมเจ้าถึงต้องการไอ้แหวนนั่นล่ะ?
Lofty – นั่นไม่ใช่เรื่องของเจ้าอ่ะนะ ว่าไงตกลงมาหรือไม่มี?
Xiphos – ได้จะว่ามีมันก็มีอะนะ แต่ มันมีกฎห้ามขายแหวนแต่งงาน ข้ากลัวว่าผู้คุมกฎ Leander รู้เข้าข้าจะซวยเอาน่ะสิ ..แต่ถ้าพูดไป ข้าก็ไม่สนกฎบ้านั่นอยู่แล้วล่ะ มันไม่ใช่ตัวตนของข้าเลยซักนิด ข้าจะขายให้เจ้าก็แล้วกัน ถ้าเจ้าช่วยงานส่งสินค้านิดๆหน่อยๆเพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนก่อน ข้ามีสินค้า 3 ชิ้นให้เจ้าไปส่งลูกค้า 3 คนให้หมด ตกลงมั๊ย


Side Quest 041: Ringing Around
ผู้ว่าจ้าง - Xiphos
เป้าหมาย – ส่งสินค้า 3 ชิ้นไปยังลูกค้า 3 คนตามจุดต่างๆของเมืองให้หมด
เมื่อทำภารกิจจนเสร็จแล้วก็จะได้แหวนแต่งงานจาก Xiphos เป็นรางวัล

 Tani – เอาล่ะ ได้แหวนแต่งงานมาแล้วเอาไงต่อล่ะ
Evan – เราจะเอาแหวนนี่มาทำอะไรอ่ะ Loffy ผมงงไปหมดแล้วนะ 
Lofty – ฮี่ๆ ก่อนที่ข้าจะบอกแผนลับให้ฟังสัญญาก่อนนะว่าจะเรียกข้าท่านผู้กำกับอ่ะ เอาล่ะ Evan กับ Tani ตามข้ามาทางนี้ มาแต่งตัวให้พร้อมเร็ว !


   
Evan – เอ่ออออ ..คือ .. 
Lofty – เอาล่ะ พร้อมแล้วนะ ...ฉากแต่งงานเท็ค 1 แอ็กชั่น !!!!



ชาวบ้าน – อะไรน่ะ นั่นมันการขอแต่งงานนี่ กลางวันแสกๆเลยหรอเนี่ย? 
ชาวบ้าน – แน่ใจหรอ นี่ ถ้าท่าน Leander มาพบเข้าล่ะแย่แน่ๆ ติดคุกเป็นปีแน่เลยแบบนี้อ่ะ
Tani – นี่ๆ พวกชาวบ้านเริ่มสนใจแล้ว มองกันใหญ่เลย ฮ่าๆ
Lofty – มีสามธิหน่อย Tani ถึงเวลารับแหวนแล้ว เอาเลย !!
ทหาร – เอาล่ะ 2 คนนั้นหยุดได้ พวกเจ้าถูกจับแล้ว พวกเจ้าทำผิดกฎ บังอาจทำการแต่งงานในอาณาจักรนี้ พวกเจ้าทุกคนก็ด้วย มากับพวกเราเดี๋ยวนี้ !!



Evan – ติดคุกเลยหรอ?
Lofty – เออ ติดคุกไงน่ะสิเจ้าหนู เป็นไงแผนข้าเจ๋งป่ะละ?
Batu – หึ้มมม . ถ้าไม่เจอเจ้า Leander ล่ะก็น่าดูแน่ๆแก


Leander – พวกนายมีธุระอะไรกับชั้นอย่างงั้นหรอ? แต่ที่แน่ๆ เจตนาของพวกคุณคือการเยาะเย้ยกฎหมายของ Hydropolis เรื่องนี้ผมแปลกใจมากๆว่าทำไมถึงทำแบบนี้?
Evan – ขอโทษนะครับคุณคือ ผู้คุมกฎ Leander รึเปล่า?
Leander – ใช่ ผมเองแหละ
Evan – เยสส ในที่สุดก็เจอตัวเขาจนได้
Roland – พวกเราต้องขอทาด้วยนะที่ก่อเรื่องวุ่นวายขึ้นแบบนี้
Leander – หมายความว่ายังไง แล้วพวกท่านคือใครกันแน่แล้วเดินทางมาที่นี่ทำไมกัน?
Evan - ผมคือ Evan Pettiwhisker Tildrum กษัตริย์แห่งอาณาจักร Evermore เรามาเพื่อขอเจรจาเรื่องการเซ็นสัญญาการร่วมอาณาจักร
Leander – โทษที่นะถ้าพวกท่านหมายถึงการควบรวมอาณาจักร ถ้าถามผม เรื่องนี้ผมคงต้องขอปฎิเสธ แต่ องค์ราชินีมีรับสั่งให้นำตัวพวกท่านไปเข้าเฝ้า ตอนนี้เลย
Evan - ราชินี Nerea ต้องการพบพวกเราหรอเนี่ยยย !!
Leander –เพราะอะไรพระองค์ถึงอยากพบอันนี้ผมก็ไม่รู้เหมือนกันอ่ะนะ ...



ราชินี Nerea – เอาล่ะ ไม่ได้พูดกันให้มากความ สิ่งที่พวกเจ้าทำไปทั้งหมดก็เพื่อต้องการจะเข้าถึงตัวชั้นเพื่อนชักชวนให้ร่วมเซ็นปฏิญญารวมอาณาจักรถูกมั๊ย?
Leander – ซึ่งเราคงทำไม่ได้หรอก ฝ่าบาท การควบรวมกับอาณาจักร ผมขอแนะนำให้ปฎิเสธไปซะ
ราชินี Nerea – เงียบไปเลย Leander !
Leander – ค ครับ ..
ราชินี Nerea –   ... ก็ได้ แต่ ชั้นมีเงื่อนไขข้อนึง 
Evan – เอ่ออ ครับได้สิ เงื่อนไขอะไรหรอ?



ราชินี Nerea – พวกเจ้าต้องเดินทางออกทะเลไปยังถ้ำใต้ทะเลไม่ไกลจากที่นี่มากนัก ลึกลงไปในถ้ำวงกตใต้ทะเลจะมีมอนสเตอร์ทะเลที่ชื่อ Cetus อยู่ในนั้น จัดการมันซะแล้วกลับมาออกมาอย่างปลอดภัย แล้วชั้นจะยอมเซ็นเซ็นปฏิญญานั่น 
Leander – ห๊ะ !!
Evan – จริงหรอครับ !!
ราชินี Nerea – จริงสิ แล้ว Leander เจ้าก็ตามไปกับพวกเขาด้วยนะ 
Leander – เอ่อ ...แน่นอนครับ ฝ่าบาท ...



Leander –  เอาล่ะ คำบัญชาขององค์ราชินีถือเป็นเด็ดขาด ผมจะร่วมทางไปยังถ้ำวงกตใต้ทะเลกับพวกคุณด้วย ตามหาเจ้ามอนสเตอร์ทะเลนั่นแล้วกำจัดมันซะตามพระองค์ท่านบัญชา และต้องขอโทษด้วยที่ผมยังไม่ได้แนะนำตัวให้รู้จักเลย ผมชื่อ Leander Aristides หัวหน้าผู้คุมกฎแห่ง Hydropolis
Evan – ยินดีที่ได้รู้จักครับคุณ Leander
Roland – แล้ว ถ้ำวงกตใต้ทะเลที่ว่านั่นมันอยู่ที่ไหน?
Leander –  อยู่ทางตะวันออกจาก Hydropolis ไม่ไกลหรอก

หลังเจรจาจบ Leander จะเข้าร่วมปาร์ตี้ด้วยแบบชั่วคราว จากนั้นล่องเรือจาก Hydropolis ไปทางตะวันออกเฉียงใต้จนพบแผ่นดินที่เป็นน้ำพุร้อนพุ่งขึ้นมาจากพื้นดิน


Evan – เจ้า Cetus อะไรนั่นมันอาศัยอยู่ในที่แบบนี้หรอเนี่ย
Leander –  Cetus อยู่ลึกลงไปใจกลางของที่นี่ แต่ก่อนที่เข้าไปถึงปากทางเข้าถ้ำวงกตต้องผ่านพวก กองทัพวิญญาณมากมายที่อยู่ในพื้นที่นี้เข้าไปอีก ซึ่งเราต้องใช้กองทัพในการกรีฑาทัพเข้าไป 



จากนั้นจัดทัพเข้าสู้ศึก Labor of Labyrinth ในระดับเลเวล 12 เป้าหมายคือถล่มกองทัพของพวก Spirit Trooper ในพื้นที่เพื่มบุกเข้าไปถึงปากทางเข้าซากโบราณสถานที่ซึ่งเป็นทางเข้า Leucippes Labyrinth


เมื่อเข้าไปด้านใน Leucippes Labyrinth จะพบ Boss Cetus [LV36] เมื่อจัดการได้จะได้คีย์ไอเทม Ocean's Aether มา


Evan – พอจัดการ Cetus ได้ก็ได้สิ่งนี้มาคุณรู้มั๊ยว่ามันคืออะไร?
Leander –  มันคือ โอเชี่ยน อีทอร์ เคยเป็นขององค์ราชินี Nerea มาก่อน ดีแล้วที่เราได้กลับคืนมา แต่ ไม่แน่ใจว่าองค์ราชินี จะอยากได้คืนหรือเปล่านี่สิ 

หลังจากจัดการ Cetus ลงได้และได้ Ocean's Aether กลับคืนมาได้แล้วก็เดินทางกลับอาณาจักร Hydropolis ได้เลย


ทหาร – ท่าน Leander !! ขอบคุณพระเจ้าที่คุณกลับมาทันเวลา องค์ราชินี Nerea หายตัวไปแล้วครับ เราหาทั่วเมืองจนทั่วแล้วไม่เจอเลย 
Leander – เป็นไปไม่ได้ !! อยู่ๆท่านจะหายตัวไปได้ยังไงกัน?
ทหาร – แต่เรือลาดตระเวนของเรารายงานบอกว่า น้ำวันขนาดใหญ่ที่ปิดกั้นทางเข้า Abyss ถ้ำใต้ทะเลมาตลอดหายไปแล้วครับ 
Leander – Abyss งั้นหรอ? แต่มัน ...
Roland – แต่อะไรหรอ?
Leander – Abyss คือที่อยู่ของ Brineskimmer Kingmaker ของอาณาจักรเราน่ะสิ องค์ราชินีเป็นคนสร้างน้ำวนขนาดใหญ่ปิดทางเข้าเอาไว้ และมันควรจะยังอยู่เพราะพระองค์ค่อนข้างเข้มงวดเรื่องนี้มากๆ แต่นี่น้ำวนนั้นหายไปแล้ว ก็มีแต่ราชินีเท่านั้นที่จะเอามันออกไปได้
Roland – งั้นก็เป็นไปได้สูงที่นางจะเข้าไปใน Abyss จริงมั๊ย?
Leander – มันก็น่าจะเป็นแบบนั้น แต่ เพื่อ ? พระองค์จะเสี่ยงอันตรายเข้าไปที่ King's Cradle ทำไม?
Evan – อืมมม แบบนี้ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ อาจเป็นฝีมือของไอ้เจ้า Doloran ก็ได้  ยังไงผมจะเล่ารายลเอียดให้ฟังทั้งหมดในเรือก็แล้วกัน Leander ตอนนี้เรารีบมุ่งหน้าเข้าไปที่ Abyss กันก่อนดีกว่า 

เดินทางต่อไปยังเป้าหมายของภารกิจทางทิศตะวันตกของเมือง Hydropolis แล่นเรือเข้าไปตรงจุดที่เคยมีน้ำวนขนาดใหญ่อยู่ ตอนนี้สามารถแล่นเรือเข้าไปที่ปากทางเข้าถ้ำใต้ทะเลที่เรียกว่า The Abyss ได้แล้ว

                                                  The Abyss




Evan – ดูสิ สามารถมองเห็นวิวใต้ทะเลจากพนังถ้ำได้ด้วย!!
Roland – พวกเขาใช้ ทฤษฎีแรงตึงผิว (surface tension) ที่ใช้แรงยึดระหว่างผิวของของเหลวกับผิวของของแข็งให้แยกออกจากกันโดยไม่ให้ผสมรวมกัน มันสวยงามและปราณีตมากๆ
Leander – ที่นี่คือ King's Cradle ก็เปรียบเสมือนเตียงในน้ำขนาดใหญ่สำหรับ Kingmaker ของเรา มันเลยต้องประณีตกันหน่อย … ถ้าเรื่องนี้ Doloran มีส่วนเกี่ยงข้องด้วยจริงๆอย่างที่พวกคุณคาดเดา เราก็คงต้องรีบเดินทางกันแล้ว



Batu – โห มันเป็นเหวลึกขนาดนี้ จะลงไปข้างล่างกันยังไงล่ะเนี้ยย !!
Leander – ฮ่าๆ เรามีวิธีอยู่ เห็นนั่นมั๊ย เราใช้ หอยฮเว็ลค ในการช่วยลดแรงกระแทกในตอนที่โดดลงไปด้านล่างโดยใช้คาถา Water Slide ร่วมด้วย จะสามารถเดินบนสายน้ำที่พุ่งออกมาจากตัวของหอยได้ มา เดี๋ยวผมจะสอนคาถานี้ให้ 

จากนั้นเดินทางไปตามทาง สำรวจหอยตามจุดต่างให้พ่นน้ำสำหรับเดินทางลงด้านล่างเรื่อยๆจนถึงจุดที่ลึก 3000 ฟิต ก็จะพบจุดเซฟและถ้ำซึ่งเป็นที่อยู่ของ Kingmaker Brineskimmer


         Leander – ฝ่าบาท นี่ผม Leander เองนะ ท่านทำอะไรลงไปเนี่ย ได้โปรดคืนสติได้แล้ว


Doloran – ฮ่า ข้าว่ามันสายไปแล้วล่ะ ! นางไม่ใช่ราชินีของเจ้าแล้ว ตั้งแต่นี้ไป นางเป็นแค่หุ่นเชิดของข้าเท่านั้นแหละ ฮ่าๆ
Leander – คืนนางมาให้ชั้นเดี๋ยวนี้นะไอ้บ้าเอ้ย!!
Doloran – ข้าถามหน่อย เจ้าจะแคร์นางไปทำไม ประชาชนเขาก็ไม่สนใจนางแล้ว นางไร้พลัง อ่อนแอ ไม่มีใครรักหรอก 



Leander – Hydropolis จะไม่เหลืออะไรอีกถ้าขาดราชินี !!
Doloran – ทำไมล่ะ?
Leander –ชั้นไม่จำเป็นต้องบอกแกหรอก อย่างแกมันจะเข้าใจอะไร !!
Doloran – ฮ่าๆๆๆ ดี งั้นก็จงทำอย่างที่ราชินีของเจ้าทำ ยอมแพ้ซะแล้วมอบวิญญาณของพวกเจ้าให้กับข้าแต่โดยดี 
Leander – ถ้าไม่ได้องค์ราชินีกลับคืนมาชั้นไม่มีวันยอมแพ้แกหรอก !!
ราชินี Nerea – Lean… der ...
Doloran – หืมมม สงสัยควบคุมยังไม่นานพอ  .... มันมาแล้ว อาณาจักรของแกถึงคราวสิ้นสูญแล้ว และหลังจากนั้นมันจะสวยงามยิ่งกว่าเดิม 



Leander – Brineskimmer !!!! หรอ? แสดงว่า Kingbond ของราชินีถูกยึดเอาไปแล้วสินะ 
Loffty – ได้ยินที่เขาพูดมั๊ย ถ้าไม่มี Kingbond ก็จะไม่สามารถควบคุม Kingmaker ได้


Boss - Kingmaker Brineskimmer จะเน้นบินโจมตีบนฟ้าสลับกับยิงโจมตีด้วยเวทย์น้ำแข็งทำให้ตัวแข็งขยับไม่ได้ระยะนึง และใช้น้ำแข็งทำเป็นเกราะป้องกันตัวทำให้โจมตีไม่เข้า แต่ ในระหว่างต่อสู้หากทำลายก้อนน้ำแข็งในฉากต่อสู้จะพบกับพวก Higgledy ระดับสูงที่เข้ามาช่วยสู้ สามารถใช้งานมันในการกลายร่างเป็นปืนกลยิงใส่ Brineskimmer ที่บินอยู่ได้ดีมากๆ ที่เหลือก็เน้นโจมตีด้วยธาตุไฟอย่างต่อเนื่องก็จะสามารถเอาชนะมันได้


Leander – ฝ่าบาท บาดเจ็บตรงไหนรึเปล่าครับ?
ราชินี Nerea – ชั้นไม่เป็นอะไรหรอก Leander เลิกบ่นจู้จี้ได้แล้ว 
Doloran – หึหึ ไม่ใช่แค่ตัวเดียว แต่เป็น Kingmaker ถึง 2 ตัวที่ถูกจัดการไปด้วยฝีมือของพวกแก น่าประทับใจจริงๆ ฮ่าๆ ..แต่ก็ไม่สำคัญหรอก ข้าได้ในสิ่งที่ต้องการแล้ว จนกว่าจะได้เจอกันใหม่นะ 



Roland – นายจงรักภัคดีกับราชีนีจริงๆเลยนะ Leander 
Leander – แน่นอน น้อยไปด้วยซ้ำกับสิ่งที่นางควรได้รับ ถ้าไม่มีราชินีอาณาจักรนี้ก็ไร้ความหมาย 
Roland – เห็นนายพูดแบบนี้อยู่ตลอด ตกลงเรื่องราวมันเป็นยังไงหรอ?  
Leander – ก็ดีเหมือนกัน บางทีคงถึงเวลาแล้วที่พวกคุณจะรู้ความจริงซะที



Leander – ปราสาทหลังนี้เคยถูกทำลายมาแล้วครั้งนึงเมือง 3 พันปีที่ผ่านมาพร้อมกับเมือง Hydropolis บางส่วน ..ภูเขาไฟใต้ทะเลเกิดประทุครั้งใหญ่ คร่าชีวิตประชาชนไปมากมาย พวกคุณเห็น Leucippes Labyrinth นั่นใช่มั๊ย นั่นแหละ ที่นั่นก็เคยเป็นที่หลบภัยของคนในประเทศเราเมื่อในอดีต ต้องขอบคุณ ราชินี Nerea คนเดียวเลยที่ยืนมือเข้ามาช่วยทำให้ที่อาณาจักรของเรากลับมาดำรงอยู่อีกครั้ง ขอบคุณสายพระเนตรที่กว้างไกลที่ทรงปกป้องเราตลอดมาด้วย หอคอยรูปดวงตาขนาดใหญ่ที่สร้างจากเวทย์มนต์ทั้งหมดที่พระองค์มี มันได้ช่วยระวังภัยอันตรายให้เรามาครั้งแล้วครั้งเล่า ฉะนั้นถ้าไม่มีองค์ราชินีกับดวงตาเวทย์ดวงนี้ อาณาจักรของเราคงล่มสลายไปนานแล้ว แต่ก็มีปัญหาใหญ่อย่างนึงจากวิธีการอยู่รอดของพวกเรา นั่นคือ ถ้าเกิดความเปลี่ยนของจำนวนประชากรที่เพิ่มมากขึ้นจะทำให้พลังในการปกปักษ์ขององค์ราชินีที่ใช้กับดวงตาขนาดใหญ่ก็จะไม่เพียงพอ นั่นเป็นที่มาของกฎที่ห้ามให้คนรักและแต่งงานกันในอาณาจักรของเรา องค์ราชินีเองก็ไม่เคยเข้าพิธีอภิเษกสมรสกับใครมา 2 ศตวรรษแล้วไม่เคยแม้จะเข้าบรรทมด้วยซ้ำ บางครั้งนางก็อยากระบายความผิดหวังด้วยอารมณ์ที่ขุ่นมัวกับคนรอบตัวบ้าง แต่ทั้งหมดที่ราชีนีทำ พระองค์ทำเพื่อพวกเรา นางเสียสละทุกอย่าง แม้แต่สิทธิในการรักใครซักคน


ราชินี Nerea – นายรู้หรอ .. Leander
Leander – อ่า ฝ่าบาท หวังว่าคงแข็งแรงดีแล้วนะครับ
ราชินี Nerea – นายรู้ทุกอย่างมาตลอด 
Leander – ใช่ครับ เพราะผมสาบานแล้วว่าจะรับใช้ท่านไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม
ราชินี Nerea – เรื่องนั้นชั้นรู้ดี
Leander – แต่ รอยร้าวที่เราตรวจเจอล่าสุด ผมเกรงว่า Hydropolis จะคงอยู่ได้อีกไม่นาน
ราชินี Nerea – ชั้นรู้ เพราะงั้นชั้นถึงต้องการ Ocean's Aether นั่นไง 
Leander – ห๊ะ ห๊า??
ราชินี Nerea – นายจำได้มั๊ย Leander สัญญาที่เราให้ไว้ต่อกันในวัยเด็กน่ะ 
Leander – จำได้สิครับ ...



Nerea – วันนึงชั้นจะแต่งงานกับนาย และนายจะเป็นราชาของชั้น ส่วนชั้นจะเป็นราชินีแล้วเราจะปกครองอาณาจักรของเราด้วยกัน สัญญานะ 
Leander – ชั้นสัญญา ถ้าชั้นได้แต่งงานกับเธอ ชั้นจะปกป้องและอยู่เคียงข้างเธอตลอดไป 
Nerea – นายจะสาบานด้วยชีวิตรึเปล่า?
Leander – สาบานสิ สาบานด้วนชีวิตเลยฝ่าบทของกระหม่อม 
Nerea – Leander ชั้นรักนายนะ


Leander – ใครจะลืมได้ลงละครับ .. มันเป็นความทรงจำที่ดีที่สุดในชีวิตเลยล่ะ และนั่นแหละเป็นเหตุผลที่ผมอยู่รับใช้ฝ่าบาทตลอดมา 
ราชินี Nerea – แต่ชั้นไม่เคยร้องขอให้คุณมาเป็นคนรับใช้ของชั้น ชั้นร้องขอให้คุณมาเป็นสามีของชั้น เป็นกษัตริย์ของชั้น
Leander –  แต่มันผิดกฎของ Hydropolis นะ ผมเป็นกษัตริย์ไม่ได้หรอก มันผิดกฎ
ราชินี Nerea – อย่าถ่อมตัวไปหน่อยเลยน่า Leander นายเป็นคนที่รู้จักอาณาจักรนี้ดีที่สุด นายรู้จักประชาชนทุกคนมากกว่าใครๆ แต่ถ้านายจะบ้านกฎล่ะก็ ใครก็ตามที่ถือครอง  Ocean's Aether ก็คือผู้ครอบครองอาณาจักร จริงรึเปล่า? เหมือนราชาองค์แรกของ Hydropolis ได้กล่าวไว้ ใครนำ Ocean's Aether กลับมาให้พระองค์ได้ ผู้นั้นจะได้ครองบัลลังก์ของพระองค์  
Leander – แต่ผมก็ไม่ใช่คนที่คู่ควรหรอก ..
ราชินี Nerea – แล้วใครคู่ควรล่ะ? จะมีใครที่ดูแลและระวังป้องกันอาณาจักรได้อย่างรอบคอบมากกว่านายอีกหรอ? มีใครรู้น่าไว้ใจได้มากกว่านี้อีกล่ะ? .ในฐานะราชินี ชั้นสามารถบังคับให้นายทำตามได้นะ นายต้องแต่งงานกับชั้น ชั้นของสั่งนาย 
Leander – ตะ แต่ ฝ่าบาท ผมทำแบบนั้นไม่ได้หรอก
ราชินี Nerea – ทำไมล่ะ เพราะคิดถึงผลประโยชน์ของอาณาจักรหรอ? เราเฝ้าดูอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์นี่มานานแล้ว ถ้าเราแต่งงานกันทุกอย่างจะได้จบลงซะที เวลาจะย้อนกลับมาไม่ได้  Hydropolis ก็จะล่มสลายไป 
Leander – ผมจะให้มันเกิดขึ้นไม่ได้หรอกครับ 


ราชินี Nerea – ปล่อยวางเถอะ Leander แม้อาณาจักรจะล่มสลายไป ที่นี่ก็ยังมีสิ่งอื่นๆที่จะเบ่งบานขึ้นใหม่ได้อีกในไม่ช้า ชีวิตใหม่ อาณาจักรใหม่ มันควรจะเกิดขึ้นมานานแล้วด้วยซ้ำ แต่ชั้นก็กลับไม่ยอมปลดปล่อยมัน เพราะมันจะทำให้ชั้นมีวันสุดท้ายที่ได้อยู่เคียงข้างกับนายตลอดไป แต่ตอนนี้ ชั้นพร้อมแล้วล่ะ Leander ชะตากรรมของ Hydropolis กำลังจะเปลี่ยนแปลงอีกครั้ง และถ้ามันจะทำให้เราถูกทำลาย มากกว่านั้นคือ เราจะได้พบความเป็นจริง 
Leander – ฝ่าบาทจะทำแบบนั้นจริงๆหรอ?
ราชินี Nerea – จริงสิ .. มาอยู่เคียงข้างชั้น เป็นสามีและราชาของชั้นเถอะ 
Leander – ได้สิฝ่าบาท 



ราชินี Nerea – การเซ็นต์พันธะสัญญาควบรวมอาณาจักรของเรากำลังจะเริ่มขึ้นแล้ว แต่นายไม่ต้องคอยดูแลชั้นแล้วนะ Leander ชั้นขอให้นายพ้นจากหน้าที่ความรับผิดชอบทั้งหมดของนายที่มีต่ออาณาจักรนี้นับแต่นี้ ตอนนี้นายเป็นอิสระแล้ว แต่ นักเดินทางพวกนี้ต้องการความช่วยเหลือของนาย เดินทางไปกับพวกเขาเถอะ เลิกกังวลเรื่องอาณาจักรของเราซักพักก็ได้
Leander – จริงหรอครับ ขอบคุณมากครับฝ่าบาท
ราชินี Nerea – จริงสิ  ส่วนท่าน การเซ็นสัญญาควบรวมอาณาจักรของเราจะเริ่มขึ้นทันเมืองท่านต้องการ



               ขอให้อาณาจักรของเราร่วมกันเพื่อประโยชน์สุขของโลกใบนี้ 




                             ร่วมธงหมายขจัดสิ้นซึ่งสงครามให้หมดสิ้นไป


                              รวมใจกันเป็นปึกแผ่นบนแผ่นดินเดียวกัน



ราชินี Nerea – เอาล่ะ ตอนนี้อาณาจักรทั้ง 2 ของเราเป็นหนึ่งเดียวกันแล้ว ชั้นก็ขอลาจากพวกท่านกันตอนนี้เลย ยังไงก็ฝากดูแลคู่หมั้นของชั้นให้ปลอดภัยก่อนที่จะมาเจอกันอีกทีนะ 



Roland – แน่นอนที่สุดครับ ว่าแต่นายคงพอรับได้นะที่ต้องมาร่วมเดินทางกับเรา Leander? 
Leander – ยินดีอย่างยิ่งครับ และก็หวังอย่างยิ่งว่าตัวผมจะมีประโยชน์กับพวกคุณไม่มากก็น้อยครับ
Evan – ผมมั่นใจว่าคุณมีอยู่แล้วล่ะ


Evan ได้ปลดปล่อยราชินี Nerea จากเงื้อมมืออันชั่วร้ายของ Doloran ได้สำเร็จ และยังสามารถคลี่คลายปัญหาที่ตัวเองพกมาด้วยผลสำเร็จในการควบรวมอาณาจักร Hydropolis ให้เป็นหนึ่งเดียวกันได้ตามความตั้งใจ การได้มาซึ่ง Leander ในฐานะเพื่อนร่วมการเดินทางคนใหม่ ก็เปรียบเสมือนได้ทรัพย์สินทางภูมิปัญญาที่ล้ำค่าที่จะทำให้อาณาจักร Evermore พัฒนาก้าวหน้าต่อไป



เด็กช่างสงสัย – ดินแดนที่ความรักเป็นสิ่งต้องห้ามงั้นหรอ ? ทำไมมันแปลกแบบนั้น
 Evan – จริงครับ แต่ผมได้เรียนรู้จากที่นั่นเหมือนกัน ผมได้เรียนรู้ถึงความเด็ดขาดของผู้นำที่ต้องเสียสละมากมายเพื่อปกป้องอาณาจักรของตัวเอง องค์ราชินีที่ทุ่มเทเพื่ออาณาจักรของพระองค์โดยที่ไม่มีใครเคยรู้มาก่อนเลย ผมดีใจมากที่ได้พบกับเธอกับ Leander
เด็กช่างสงสัย – ฮ่าๆ ดีแล้ว โลกนี้ยังมีหนทางและสิ่งที่ต้องเรียนรู้อีกมากมาย 
Evan – ใช่ครับ ผมรู้ว่านี่มันเพิ่งเริ่มต้นเท่านั้น 
เด็กช่างสงสัย – ก่อนจะรู้ซึ้งถึงคำว่า “ยิ่งใหญ่” เราควรต้องตระหนักรู้ว่า เล็ก มันเป็นยังไงก่อน ..ฮ่าๆ จะว่าไป ได้เฝ้าดูนายเติบโตในทิศทางของตัวเองนี่มันสนุกดีเหมือนกันนะ 
Evan – หมายความว่าอะไรหรอครับ?
เด็กช่างสงสัย – ฮ่าๆ นี่นายคงมัวแต่ยุ่งอยู่กับการสร้างอาณาจักรจนไม่ทันได้สังเกตอะไรเลยสินะ อืมม ไม่เป็นไร เดี๋ยวเราคงได้เจอกันเร็วๆนี้แหละ 



                สิ่งประดิษฐ์ของชั้นจะเปลี่ยนโลกใบนี้ ชั้นจะทำเตาปฏิกรณ์ฟิวชั่นของชั้นให้เสร็จ ! 



ถึงมันจะเป็นสิ่งสุดท้ายที่ชั้นจะทำก็เถอะ !! ชั้นไม่แคร์หรอกว่ามันจะต้องแลกมาด้วยอะไรบ้าง !
                                                       อะ ฮะ ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆ


---------------------------------------------------------------------------------------------------------------



                                   Side Quest ในอาณาจักร Hydropolis



Side Quest 044 – Pontus’s Ocean of Knowledge   
ระดับเลเวลที่ต้องการ – LV34
ผู้จ้างวาน –  Pontus 
เป้าหมาย – หาสัตว์ทะเลต่างๆมาให้เขาตามที่เขาบอกประกอบด้วย
1.Blimpfish หาซื้อได้จากร้านขายอาหารทะเลใน Hydropolis
2.Pincushion Coral หาได้จากตลาดขายปลาในอาณาจักร Evermore , แลกใน Swift Solutions ราคา 6 tokens หรือเก็บที่ตกตามชายหาด
3.Seasilk หาได้จากตลาดขายปลาในอาณาจักร Evermore หรือเก็บที่ตกตามชายหาด


ความเชี่ยวชาญ –  ประจำอยู่ในตลาดขายปลา (Fish Market) ของอาณาจักร
รางวัล
Top Lobster 1 ตัว 


Side Quest 048 – A Career Cut Short  
ระดับเลเวลที่ต้องการ – LV39
ผู้จ้างวาน –  Nereus 
เป้าหมาย – เข้าไปคุยกับ Nereus นักร้องที่ถูกมอนสเตอร์สาปจนทำให้พูดไม่ได้ แล้วล่องเรือไปที่เกาะ Makronos ทางใต้ของเมืองแล้วเข้าไปที่ดันเจี้ยน Capaneus’s Crypt ทางซ้ายบนของเกาะเข้าไปจัดการมอนสเตอร์ Scintilla LV 34 แล้วกลับไปหา Nereus อีกครั้ง หลังจากพ้นคำสาป Nereus ก็จะร้องเพลงได้อีกครั้ง Evan เลยชวนเขาไปอยู่ที่เมืองฐานะนักร้องของอาณาจักรทันที


ความเชี่ยวชาญ –  Nereus เป็นนักร้องที่ประจำอยู่ใน Symphonium และจะสามารถบรรเลงเพลงต่างๆให้ฟังจากสมุดโน๊ตเพลง (Songbook) ที่เก็บได้ตามสถานที่ต่างๆ
รางวัล
SongBook No.1


Side Quest 057 – The Man to a Man Heart 
ระดับเลเวลที่ต้องการ – LV34
ผู้จ้างวาน –  Sibylla
เป้าหมาย – เข้าไปคุยกับ Sibylla ทางฝั่งซ้ายของเมืองแล้วคุยกับชาประมงที่ชื่อ Glaucus ที่อยู่ใกล้ๆแล้วหาปลา Cutlyfish ตัว (หาได้โดยการล่องเรือหาเก็บในทะเล) ไปให้ Sibylla แล้วเธอจะเอาไปทำอาหารให้ Glaucus กิน
รางวัล
1890 exp
730 Gold
Cryptic Close Range Ring 1 อัน




Side Quest 058 – The Best Seafood in seatown
ระดับเลเวลที่ต้องการ – LV34
ผู้จ้างวาน –  Mari
เป้าหมาย – เข้าไปคุยกับ Mari ที่ยืนอยู่ที่หน้าร้านอาหารทะเลทางซ้ายของเมืองแล้วหาไอเทมวัตถุมาให้เธอทำอาหารประกอบด้วย


ปลาหมึก Socktopues 3 ตัว
ปลาหมึก Splendid squid 4 ตัว
(ทั้ง 2 ชนิดหาได้โดยการล่องเรือหาเก็บในทะเล) แล้วเธอจะทำอาหารเมนูใหม่ที่ชื่อ Medusa’s Hair ให้
รางวัล
1890 exp
730 Gold
A Seafood Odyssey 1 อัน
สูตรอาหารเมนูใหม่ Medusa’s Hair



Side Quest 059 - By hook or By Crook
ระดับเลเวลที่ต้องการ – LV34
ผู้จ้างวาน –  นักตกปลาที่ท่าเรือ
เป้าหมาย – เข้าไปคุยกับหญิงชาวบ้านในเมืองตามเป้าหมายของภารกิจแล้วหา Glod nugget 3 อันไปให้ นักตกปลาที่ท่าเรือ ก็จะทำให้เขาสมหวังในความรัก
รางวัล
1890 exp
730 Gold
Antifreeze Pendant 1 อัน



                 พลเมืองที่หาได้จาก Swift Solutions ในอาณาจักร Hydropolis



Side Quest 043 - Fillppos, The Novice Hunter
พลเมืองชื่อ - Fillppos
ใช้ Token of Gratitude - 30 เหรียญ
ความชำนาญ – ประจำอยู่ที่ Explorer' Guild  และหัวหน้ากองกำลังธนู Orion's Belters สำหรับใช้ในการทำสงคราม

Side Quest 045 - Glaucus, The Ambitious Angler
พลเมืองชื่อ - Glaucus
ใช้ Token of Gratitude - 14 เหรียญ
ความชำนาญ – ประจำอยู่ที่ Fish Market และหัวหน้ากองกำลังโล่ The Glauconauts สำหรับใช้ในการทำสงคราม

Side Quest 046 - Thaumas, The Suave Sorcerer
พลเมืองชื่อ - Thaumas
ใช้ Token of Gratitude - 29 เหรียญ
ความชำนาญ – ประจำอยู่ที่ Hubble - Bubblery

Side Quest 047 - Peleus, The Amiable Armorer
พลเมืองชื่อ - Peleus
ใช้ Token of Gratitude - 32 เหรียญ
ความชำนาญ – ประจำอยู่ที่ร้านขายอาวุธ

Side Quest 049 - Proteus, The Gloomy Jeweler
พลเมืองชื่อ - Proteus
ใช้ Token of Gratitude - 20 เหรียญ
ความชำนาญ – ประจำอยู่ที่ Mining Camp

Side Quest 050 - Triton, The Honest Scholar
พลเมืองชื่อ - Triton
ใช้ Token of Gratitude - 22 เหรียญ
ความชำนาญ – ประจำอยู่ที่ร้านเวทย์มนต์ Spellwork

Side Quest 052 - Helena, The Hearty Hunter
พลเมืองชื่อ - Helena
ใช้ Token of Gratitude - 24 เหรียญ
ความชำนาญ – ประจำอยู่ที่ Hunting lodge และหัวหน้ากองกำลังธนู Helena's Hellraiser สำหรับใช้ในการทำสงคราม

Side Quest 054 - Hansel, The Fanciful Gardener
พลเมืองชื่อ -  Hansel
อยู่ที่ - Forest of Niall 
ใช้ Token of Gratitude - 16 เหรียญ
ความชำนาญ – ประจำอยู่ที่ Kingmaker's Cathedral


------------------------------------------------------------------------------------------------------------


                  Side Quest ตามสถานที่ต่างๆ ที่เพิ่มเติมมาหลังจบบทที่ 5



Side Quest 055 – A Secret Sweet Tooth 
อยู่ที่ - Goldpaws
คุยกับชาวบ้านที่ Goldpaws เป้าหมายคือ นำเอา Rosehip Tart มาให้เขา
**  โดยสูตรเมนูอาหาร Rosehip Tart นั้นจะได้มาตอนเนื้อเรื่องในช่วงไปเยือน Dryland ** 
รางวัล
2430 Exp
1300 G
Runny Honey x5


Side Quest 042 – Daddy Come Home 
อยู่ที่ – Capstan – Upon – Hull
คุยกับ Keeley ที่ Capstan – Upon – Hull เธอต้องการให้ช่วยตามหาพ่อของเธอที่ Dryland
** โดยจะสามารถเข้าไปยังจุดหมายของภารกิจที่พ่อของ Keeley ซ่อนตัวอยู่ตอนเนื้อเรื่องในช่วงที่ไปเยือน Dryland **
ความชำนาญ – ประจำอยู่ที่ Lumberyard


Side Quest 056 – A Secret Sweet Tooth 
อยู่ที่ - Capstan – Upon – Hull
คุยกับชาวประมงที่ชื่นชอบเห็ดที่ Capstan – Upon – Hull เป้าหมายคือ ตามหาเห็ด Mumshroom มาให้เขา โดยการวาร์ปไปที่ Calmland ทางขวาล่างของ Glodpaws แล้วเข้าไปที่ถ้ำ Eert Grove เข้าไปด้านในจัดการ Tainted Monster Abnorma LV37 แล้วจะได้ เห็ด Mumshroom มา เอากลับไปให้ ชาวประมงที่ชื่นชอบเห็ดที่ Capstan – Upon – Hull ก็จะจบภารกิจ


Side Quest 025 – Alice, Aka Mini Martha !
อยู่ที่ – Auntie Martha's Cottage
เมื่อเข้ามาในบ้านของป้า Martha จะพบ Alice เด็กสาวคนสนิทของป้า Martha ที่ชื่นชอบพวก Higgledy ไม่ต่างจากป้า Martha จนได้ฉายาว่า Martha น้อยกันเลยทีเดียว เมื่อคุยกับ Alice แล้วบอกกับเธอว่า ป้า Martha ตอนนี้อยู่ที่อาณาจักร Evermore แล้วให้เธอตามไปหาป้าที่นั่นก็ได้ แต่ Alice กลับไม่เชื่อว่าพวก Evan รู้จักป้า Martha จริง Alice จึงถามว่า ถ้ารู้จักป้า Martha จริงๆต้องรู้ว่าของโปรดของป้านั้นคืออะไร ( ถ้าลองกลับถามป้า Martha ดูป้าจะบอกว่า ชอบกิน Country Corn Soup)


 เอา Country Corn Soup (ถ้าไม่มีก็สามารถให้ร้านอาหารในอาณาจักรปรุงขึ้นมาได้เลย) ให้กับ Alice เพื่อยืนยัน เธอก็จะยอมตามไปอยู่ดูแลพวก Higgledy กับป้า Martha ด้วยอีกคน
ความชำนาญ – ประจำอยู่ที่ อาคารเพาะเลี้ยง Higgledy

** Alice นั้นมี Skill Higgler’s Instinct ที่สามารถปลดล็อกการวิจัยสร้าง Higgledy Cookbook No.5 ที่ใช้สำหรับผสมสร้าง Higgledy ระดับ 5 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดได้ด้วย **




                               My Fifth Cookbook เมนูผสมสร้าง Higglery ชุดที่ 5


1. Amblongus The Alarming
More, More, More! – เพิ่มพลังของ Skill ที่ใช้ในการต่อสู้ของ Higgledy ทุกประเภทในฉากต่อสู้ให้มากขึ้น
 Better, Better! – รักษาอาการที่เกิดจากความผิดปกติของสเตตัสของเพื่อนในกลุ่ม
Higgledy Smite – โจมตีด้วยเวทย์หมดสุดรุนแรงใส่ศัตรู
Fight Right! –เพิ่มพลังโจมตีทางกายภาพเล็กน้อยในระยะเวลาสั้นๆ เมื่อเกิดการตื่นขึ้นของพลัง (Awakening)

2.Frabjous The Fusilier
Me, Me! - ทำให้ทักษะของ Higgledy พร้อมใช้งานบ่อยชึ้น
Dopey, Dopey! – ลดพลังป้องกันการโจมตีเวทย์ของศัตรูในระยะเวลาสั้นๆ
Higgledy Sirrah – เรียก higgledy knight ออกมาช่วยโจมตีศัตรู
Fight Right! –เพิ่มพลังโจมตีทางกายภาพเล็กน้อยในระยะเวลาสั้นๆ เมื่อเกิดการตื่นขึ้นของพลัง (Awakening)

3. Tinder The Torch
Stay, Stay! – ใช้เวลาฟื้นหลังหลังจากถูกศัตรูทำให้บาดเจ็บน้อยลง
Hocus, Pocus! – เพิ่มพลังโจมตีเวทย์ของเพื่อนในกลุ่มเล็กน้อยในเวลาสั้นๆ
Higgledy Smolder –เพิ่มพลังโจมตีธาตุไฟให้เพื่อนทุกคนในปารตี้
Crit Hit! (Awakening Skills) – เพิ่มโอกาสให้ตัวละครโจมตี
แบบ critical มากขึ้นเมื่อเกิดการตื่นขึ้นของพลัง (Awakening)

4. Snickersnack The Searing 
Better, Better! – รักษาอาการที่เกิดจากความผิดปกติของสเตตัสของเพื่อนในกลุ่ม
There, There! –ฟื้น HP เล็กน้อยให้กับเพื่อนในกลุ่ม
Higgledy Gird – เพิ่มพลังโจมตีทางกายภาพให้เพื่อนในปารตี้และเพิ่มโอกาสที่ทำให้ศัตรูติดสภาวะ Stun มากขึ้น
Heat Beater -  เพิ่มพลังป้องกันธาตุไฟให้ตัวละครเมื่อเกิดการตื่นขึ้นของพลัง (Awakening)

5.Verjuice The Valiant
More, More, More! – เพิ่มพลังของ Skill ที่ใช้ในการต่อสู้ของ Higgledy ทุกประเภทในฉากต่อสู้ให้มากขึ้น
There, There! –ฟื้น HP เล็กน้อยให้กับเพื่อนในกลุ่ม
Higgledy Heal - สร้างพื้นที่สำหรับฟื้นฟูพลังชีวิตของเพื่อนในกลุ่ม ทำให้พลังชีวิตค่อยๆเพิ่มขึ้นที่ละน้อยในระยะเวลาสั้นๆ
Water Thwarter! – เพิ่มพลังต้านทานการโจมตีธาตุน้ำให้ตัวละครเมื่อเกิดการตื่นขึ้นของพลัง

6. Grabe The Glowering
Bang, Bang! – ทำให้ Higglery เกิดการระเบิดพลังออกมามากขึ้นเมื่อถูกดูดซึมเข้าสู่ตัวผู้ใช้งานในขณะเกิดการตื่นขึ้นของพลัง
Wallop, Wallop! – เพิ่มพลังโจมตีทางกายภาพให้เพื่อนในกลุ่มในระยะเวลาสั้นๆ
Higgledy Heat – เพิ่มพลังโจมตีธาตุไฟให้เพื่อนในกลุ่ม
Sonic Tonic! – เพิ่มโอกาสที่ตัวละครจะปล่อยคลื่นอัดกระแทกออกมา เมื่อเกิดการตื่นขึ้นของพลัง (Awakening)

7. Flippity The Fluttery
Huff, Puff! – เพิ่มพลังโจมตีธาตุลมให้กับ Higgledy ทุกตัวในสนาม
Wallop, Wallop! – เพิ่มพลังโจมตีทางกายภาพให้เพื่อนในกลุ่มในระยะเวลาสั้นๆ
Higgledy Gird – เพิ่มพลังโจมตีทางกายภาพให้เพื่อนในปารตี้และเพิ่มโอกาสที่ทำให้ศัตรูติดสภาวะ Stun มากขึ้น
Crit Hit! (Awakening Skills) – เพิ่มโอกาสให้ตัวละครโจมตีแบบ critical มากขึ้นเมื่อเกิดการตื่นขึ้นของพลัง (Awakening)

8. Sir Pipple The Whipper
Stay, Stay! – ใช้เวลาฟื้นหลังหลังจากถูกศัตรูทำให้บาดเจ็บน้อยลง
There, There! –ฟื้น HP เล็กน้อยให้กับเพื่อนในกลุ่ม
Higgledy Buff – เพิ่มพลังป้องกันให้กับเพื่อนทุกคนในกลุ่มและทำให้การติดสภาวะ Stun น้อยลง
Gust Buster! -เพิ่มพลังป้องกันธาตุลมให้ตัวละครเมื่อเกิดการตื่นขึ้นของพลัง (Awakening)

9. Jumblie The Lovely
Higgle, Piggle! – เมื่อเก็บ Higgledy Ball ได้จะสามารถเพิ่มจำนวน Higgledy ได้มากขึ้นในบางครั้ง
There, There! –ฟื้น HP เล็กน้อยให้กับเพื่อนในกลุ่ม
Higgledy Daze – สร้างแสงสว่างจ้าโจมตีศัตรูทำให้ศัตรูล้มลง
Fight Right! –เพิ่มพลังโจมตีทางกายภาพเล็กน้อยในระยะเวลาสั้นๆ เมื่อเกิดการตื่นขึ้นของพลัง (Awakening)

10. Cruet The Sunlit
Ball, Ball! – เมื่อ Higgledy ตายจะดร็อป Higgledy Ball ออกมาในบางครั้ง
Nocus, Pocus! – เพิ่มพลังป้องกันเวทย์มนต์ให้เพื่อนในปารตี้เป็นระยะเวลาสั้นๆ
Higgledy Wizz -เพิ่มพลังโจมตีเวทย์มนต์ให้กับเพื่อนทุกคนในกลุ่มและทำให้การติดสภาวะ Stun มากขึ้น
Light Smiter! - เพิ่มพลังป้องกันธาตุแสงให้ตัวละครเมื่อเกิดการตื่นขึ้นของพลัง (Awakening)

11. Discomfit The Misfit 
Fight, Fight! -  เพิ่มพลังโจมตีแบบปกติเล็กน้อย
There, There! –ฟื้น HP เล็กน้อยให้กับเพื่อนในกลุ่ม
Higgledy Gloom – เพิ่มพลังป้องกันการโจมตีด้วยธาตุความมือให้เพื่อนในปารตี้
Night Smiter! – เพิ่มพลังป้องกันธาตุความมืดให้ตัวละครเมื่อเกิดการตื่นขึ้นของพลัง (Awakening)


เมื่อได้ Alice มาร่วมทีมกับป้า Martha ที่อาคารเพาะเลี้ยง Higgledy แล้ว ทั้งคู่ก็จะมี Silde Quest เสริมเพิ่มเติมขึ้นมาอีกโดยสามารถเข้าไปรับเควสได้ที่อาคารเพาะเลี้ยง Higgledy ในฉากแผนที่ของเมือง



Side Quest 032 – Baby Higgledy is Big Adventure 
เมื่อเข้าไปคุยกับป้า Martha ป้าจะขอให้ไปช่วย Higgledy ตัวน้อยที่หนีออกไปเที่ยวแล้วยังไม่กลับมาให้หน่อย โดยต้องวาร์ปเดินทางมาที่ Rolling Hill


จุดหมายของภารกิจคือถ้ำ Crossover Cavern ซึ่งต้องเข้าไปสำรวจที่ริมน้ำแล้วใช้เวทย์ Bridge Spell สร้างสะพานเพื่อข้ามไปเข้าถ้ำ


 เข้าไปด้านในสุดของถ้ำจะพบ Higgledy ตัวน้อยกับมอนสเตอร์ Porc Chopper จัดการ Porc Chopper ซะ ก็จะได้ Higgledy Humdrum The Heroic มาใช้งาน


Humdrum The Heroic 
SKILL
Me, Me! - ทำให้ทักษะของ Higgledy พร้อมใช้งานบ่อยชึ้น
Hocus, Pocus! – เพิ่มพลังโจมตีเวทย์ของเพื่อนในกลุ่มเล็กน้อยในเวลาสั้นๆ
Higgledy Buff – เพิ่มพลังป้องกันให้กับเพื่อนทุกคนในกลุ่มและทำให้การติดสภาวะ Stun น้อยลง
Fight Right! –เพิ่มพลังโจมตีทางกายภาพเล็กน้อยในระยะเวลาสั้นๆ เมื่อเกิดการตื่นขึ้นของพลัง (Awakening)


Side Quest 033 – Higgledy Hide & Seek 
เมื่อเข้าไปคุยกับ Alice เธอจะขอร้องให้ออกตามหาลูก Higgledy ทั้ง 5 ตัวที่หนีออกไปเที่ยวในเมืองกลับมาให้หน่อย


จากนั้นก็เดินออกตามหา ลูก Higgledy ทั้ง 5 ตัวที่อยู่ตามที่ต่างๆของเมืองให้ครบ แล้วกลับไปหา Alice แต่เธอจะบอกว่าขาดไปอีกตัวให้ลองไปหาในห้องท้องพระโรงของประสาทดู


 เดินเข้าไปในปราสาทสำรวจดูหลังบัลลังก์ก็จะพบ Higgledy ตัวสุดท้ายที่ซ่อนอยู่ เมื่อจบเควสจะได้ Higgledy Jubjub The Jolly มาใช้ด้วย


Jubjub The Jolly
SKILL
Ball, Ball! – เมื่อ Higgledy ตายจะดร็อป Higgledy Ball ออกมาในบางครั้ง
Nocus, Pocus! – เพิ่มพลังป้องกันเวทย์มนต์ให้เพื่อนในปารตี้เป็นระยะเวลาสั้นๆ
Higgledy Wizz -เพิ่มพลังโจมตีเวทย์มนต์ให้กับเพื่อนทุกคนในกลุ่มและทำให้การติดสภาวะ Stun มากขึ้น
Fight Right! –เพิ่มพลังโจมตีทางกายภาพเล็กน้อยในระยะเวลาสั้นๆ เมื่อเกิดการตื่นขึ้นของพลัง (Awakening)


                       Chapter 6 : The Price of Power





Leander – อย่างที่ทุกคนทราบ ผมชื่อ Leander Aristides หัวหน้าผู้คุมกฎแห่ง Hydropolis
Evan – เพื่อเป็นการขอบคุณในความช่วยเหลือของคุณ ผมขอแต่งตั้งให้คุณเป็นกงสุลของอาณาจักร ทำงานภายใต้สังกัดของ Roland
Leander – ขอบพระทัยฝ่าบาท Evan …ผมจะไม่ทำให้คุณผิดหวังนะ Roland
Roland – อืมม มีอะไรไม่เข้าใจก็ถามผมแล้วกัน .. ว่าแต่ ตอนนี้เราเหลืออาณาจักรหลักๆอีก 2 ใช่มั๊ย? Broadleaf กับ Ding Dong Dell ถ้าให้เดา ดูเหมือนว่าเราคงต้องไปที่ Broadleaf สินะ 
Tani  - แต่อาณาจักร Broadleaf นี่มันอยู่อีกฝากของรอยแยกใหญ่ในมหาสมุทรเลยนะ?
Roland – รอยแยกใหญ่กลางมหาสมุทรงั้นหรอ?



Leander – คุณไม่รู้จักหรอ? รอยแยกใหญ่กลางมหาสมุทรก็เหมือนน้ำตกที่น้ำทะเลตกลงไปในเหวไปยังกั้นทะเล ว่ากันว่ามันเกิดจากพลังของปีศาจเมื่อหลายพันปีมาแล้ว รอยแยกใหญ่นี้แบ่งทะเลออกเป็น 2 ฝั่งจนถึงทุกวันนี้ ซึ่ง อาณาจักร Broadleaf นั้นอยู่ที่ส่วนนอกของรอยแยก
Roland – หมายความว่า เราไม่สามารถเดินทางโดยเรือไปที่นั่นได้ใช่ม๊ย? 
Batu – เครื่องร่อนของพวกข้าก็ไม่กำลังพอที่จะบินข้ามไปได้ด้วยสิ
Leander – ไม่จำเป็นต้องบินข้ามไปหรอก เราก็แค่เอาเรือของเราร่อนข้ามมันไปก็ได้ 
Roland – ชั้นไม่ได้เอานายมาเป็นตัวตลกนะ Leander
Leander – คุณหมายถึงอะไร? มันทำได้จริงๆนะ คุณไม่เคยเห็นเรือกระโดดจริงๆหรอ? ..เอ่อ ..ช่างเถอะ ผมขอโทษที่พูดแบบนี้นะ คือผมก็แค่เห็นที่ Hydropolis จนชิน และก็คิดว่าที่ไหนก็มี ผมเข้าใจผิดเอง 
Evan – แล้วคุณสามารถทำให้เรือของเราโดดได้รึเปล่าล่ะ Leander ?
Leander – จำเป็นต้องปรับเปลี่ยนอะไรหลายๆอย่าง แต่ ครับ ผมทำได้ ด้วยการแนะนำของผม ผมคิดว่าสามารถแนะนำให้โรงงานของที่นี่สร้างมันออกมาได้เร็วๆนี้
Evan – เยี่ยมเลย งั้นเราจะเตรียมรวบรวมช่างต่อเรือรวมถึงช่างเครื่องยนต์เก่งๆเอาไว้ก็แล้วกัน 


** ก่อนจะคุยกับ Leander เพื่อเริ่มภารกิจอัพเกรดเรือนั้นจำเป็นต้องสร้าง Shipyard ในอาณาจักรขึ้นมาเสียก่อน ** จากนั้นก็ค่อยกลับมาคุยกับ Leander ในปราสาท

Leander – เอาล่ะ ผมคิดว่าเรามีทุกอย่างพร้อมแล้วล่ะ ที่เหลือก็เอาข้อมูลของผมไปให้ Ketch ทำการอัพเกรดเรือของเราให้สามารถร่อนได้ได้เลย 



Ketch – ทุกอย่างเรียบร้อยแล้วครับฝ่าบาท เราได้ทำตามข้อมูลที่คุณ Leander ให้มาเสร็จแล้ว ตอนนี้เรือของเราสามารถร่อนผ่านเหวการทะเลได้แล้วล่ะครับ 
Evan – ขอบคุณมาก Ketch เอาล่ะตอนนี้เราก็เดินไปที่อาณาจักร Broadleaf กันได้แล้วนะ


ตอนนี้เรือจะสามารถโดดร่อนข้ามเหวในทะเลได้แล้ว โดยที่เหวกลางทะเลที่กั้นทะเลออกเป็น 2 ส่วนทั้ง 3 ด้านจะมีช่องที่แคบที่สุดที่เป็นจุดที่สามารถใช้เรือร่อนผ่านไปได้


จากนั้นเดินทางข้ามเหวกลางทะเลจากจุดไหนก็ได้ เป้าหมายคือเดินทางไปยังเป้าหมายของภารกิจที่อาณาจักร Broadleaf ทางตะวันออกของแผนที่ได้เลย


Broadleaf อาณาจักรที่สุดแสนทันสมัย ตั้งอยู่ในใจกลางของ Autumnia Broadleaf เป็นหนึ่งในประเทศที่มีเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดของโลกรวบรวมไว้มากมาย ที่ครั้งนีงเคยเป็นเพียงถิ่นฐานเล็ก ๆ ที่ซ่อนอยู่ท่ามกลางป่าทึบ แต่เพราะสิ่งประดิษฐ์และการทำธุรกิจอย่างชาญฉลาดของ Zip Vector ได้เปลียนโลกทัศน์ของอาณาจักรใหม่จนล้ำสมัยจนถึงวันนี้ จน Bastion ซึ่งเป็น Kingmaker ของอาณาจักร  มักจะพูดด้วยความกังวัลอยู่เสมอในเรื่องการปกป้องอาณาจักรของเขา



หน่วยงานต่างๆทั้งหมดของอาณาจักรตั้งอยู่ในหอคอยยักษ์ที่เรียกกันว่า Treehouse ซึ่งเป็นสำนักงานใหญ่ของบริษัท Broadleaf Inc สำหรับบริหารสิทธิ์ทรัพย์ที่เป็นรายได้หลักของอาณาจักรจากธุรกิจการทำเหมืองแร่ ศิลาเวทย์ (magical Ore) แต่การแสวงหาผลประโยชน์จากการขุด ศิลาเวทย์ มาขายนำมาซึ่งเหตุระเบิดส่งผลให้สภาพแวดล้อมในท้องถิ่นต้องปนเปื้อนมลพิษ



โชคดีที่เทคโนโลยีมากมายของบริษัท Broadleaf Inc สามารถใช้ประโยชน์ได้จริงทั้งสำหรับปัญหาความขัดแย้งระหว่างประชาชนในอาณาจักรกับมอนสเตอร์ท้องถิ่นรวมทั้งพวกโจรที่พยายามเข้าต่อสู้เพื่อแข่งชิงทรัพยากรของอาณาจักรโดยการบุกโจมตี Treehouse ที่อยู่ในระหว่างการซ่อมแซม แต่ด้วยยุทธวิธีและอาวุธที่ทันสมัยของ Broadleaf ก็ได้พิสูจน์แล้วว่าสามารถใช้ในการปกป้องทรัพย์สินของทางบริษัทได้อย่างดีไม่มีที่ติ


Lofty – อาณาจักรนี้มันอลังกาลขนาดนี้เลยเรอะ !!
Tani – หมายความว่าเมืองทั้งเมืองอยู่ในหอคอยเนี่ยนะ ชั้นไม่เคยเห็นอะไรแบบนี้มาก่อนเลย



ชาวบ้าน 1 – ชั้นได้ยินมาว่ามันจะเริ่มขึ้นเร็วนี้แหละ 
ชาวบ้าน 2 – เอ่ออ.. อะไรเริ่ม ..เริ่มอะไรหรอ?
ชาวบ้าน 1 – ตลกน่า นี่นายไม่รู้เรื่องอะไรเลยหรอ? ก็กลุ่ม Anti - Vector Faction กำลังจะมีการประท้วงใหญ่เร็วๆนี้น่ะสิ
ชาวบ้าน 2 – จริงดิ !! เพื่อโค่นล้มประธานาธิบดีเนี่ยนะ !!
ชาวบ้าน 1 – เออดิ ชั้นได้ยินมาว่าจะประท้วงกันที่ลานจอดยานชั้นบนอ่ะนะ นายว่าเราน่าจะไปดูหน่อยดิป่ะ?

Roland – จะมีการประท้วงกันงั้นหรอ? ก็แสดงว่าตามข้อมูลที่ได้ว่าที่นี่ประชาชนไม่ค่อยมีความสุขก็เป็นเรื่องจริงน่ะสิ 
Evan – ผมว่าเราจะลองไปดูด้วยตาตัวเองเลยจะดีกว่า ไปกันเถอะ 


                                            A Rebellion in Broadleaf

เดินขึ้นลิฟต์ไปชั้นบนสุดของหอคอยเข้าไปจนถึงลานจอดยานบินจะพบกับขายหญิง 2 คนกำลังคุยกันอยู่



Trey – ได้เวลาแล้วนะ Bracken
Bracken – โอเค แผนเราไปได้สวยเพราะทุกคนมาช่วยกันนี่แหละ ....หืมมม ? พวกนายเป็นใครเนี่ย มาจากไหน ไม่เห็นเคยเห็นแถวๆนี้มาก่อนเลย? โทษทีนะ แต่พวกนายควรรีบหนีไปซะเพราะเดี๋ยวจะเกิดอันตรายขึ้นเปล่าๆ 
Evan – เอ่อ คือ เรากำลังจะขอเข้าพบประธานาธิบดี Victor น่ะครับ 
Bracken –ขอเข้าพบประธานาธิบดีงั้นหรอ? ชั้นคิดว่ามันคงเป็นไปไม่ได้หรอก …แต่ยังไงก็เหอะ ชั้นชื่อ Bracken Meadows นะเป็นหัวหน้าวิศวกรเครื่องกลโรงงานของเมือง Broadleaf และชั้นกับประชาชนของที่นี่มาที่นี่กันตอนนี้เพื่อกดดันให้ประธานาธิบดี Victor ยอมรับฟังในสิ่งที่พวกคนงานของที่นี่จะพูดหน่อย
Trey – คือเขาไม่ได้ปฏิบัติตามเงื่อนไขเกี่ยวกับเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ฟิวชั่นที่พวกเราช่วยกันสร้างมันขึ้นมาน่ะครับ เขาสนใจแต่ผลประกอบการที่จะได้โดยไม่สนใจชีวิตของพนักงานเลย
Bracken – เหมือนอย่าคนงาน 20 คนที่ตายไปเพราะทำงานหนักเกินไป เรื่องแบบนี้พวกเรารับไม่ได้หรอก 
Evan – ห๊า ! มีผู้นำแบบไหนกันที่เขาทำกันถึงขนาดนี้กันบ้างเนี่ย?
ผู้ประท้วง – เฮ้ Bracken เข้ากลับมาแล้ว !! 
Bracken – เอาล่ะ พวกเรามาเริ่มกันเถอะ !!




Trey – ที่ผ่านมาประธานาธิบดี Victor ใช้งานพวกเราเยี่ยงทาสเพื่อแค่ต้องการให้เครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ฟิวชั่นของเขานั้นเสร็จสมดังตั้งใจโดยไม่สนใจชีวิตของพวกเราที่เป็นคนงานเลย และตอนนี้เรามีข้อความส่งถึงเขา เราอยากบอกว่า พวกเราไม่ใช่ทาสของแกนะ Zip ! พวกเราไม่ใช่ทาสของแก !! พวกเราไม่ใช่ทาสของแก !!!! 
ผู้ประท้วง – พวกเราไม่ใช่ทาส! พวกเราไม่ใช่ทาส! พวกเราไม่ใช่ทาส!
Trey – เราต้องการสิทธิอันชอบธรรมของคนงาน เราต้องการความเป็นธรรม ! เราต้องการความเป็นธรรม !!! เราไม่อยากใช้ชีวิตที่เหลืออยู่ทำงานให้แกจนตายอีกแล้ว พอกันที เราไม่ต้องการเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ !!! เราไม่อยากทำงานล่วงเวลาอีกแล้วววว!! 
ผู้ประท้วง – พวกเราไม่ใช่ทาส! พวกเราไม่ใช่ทาส! พวกเราไม่ใช่ทาส




                    Zip Victor – เฮ้ออ.. ดูเหมือนว่าชั้นคงต้องยอมปล่อยคนบางคนออกมอ่ะนะ



Zip Victor – เห็นรึยังว่าพวกแกจะเป็นยังไงถ้าเกิดคิดมาท้าทายชั้นน่ะ
Bracken – ในที่สุดก็เผยธาตุแท้ออกมาแล้วใช่มั๊ยท่านประธานาธิบดี 
Zip Victor – ชั้นผิดหวังมากนะที่เห็นเธอมาเป็นแกนนำเอาคนมาประท้วงแบบนี้ ชั้นน่ะนับถือเธอมากเลยนะ Bracken
Bracken – เออ ชั้นก็นับถือแกเหมือนกัน แล้วแกจำที่พูดกันเอาไว้ตอนแรกไม่ได้เลยใช่มั๊ยห๊า ? เราสัญญากันว่าจะสร้างแต่สิ่งที่ทำให้โลกนี้ดีขึ้นไม่ใช่หรอ? 
Zip Victor – ก็ทำอยู่เนี่ยยย เครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ฟิวชั่นของชั้นนี่ไง มันจะเปลี่ยนโลกไปตลอดกาล แล้วอนาคตทั้งหมดชั้นก็จะกำหนดมันด้วยตัวเอง 
Bracken – แม้แกจะต้องข้ามศพของคนมากมายรวมถึงทุกๆคนที่ช่วยแกสร้างทุกอย่างจนมาถึงวันนี้ได้น่ะหรอ?? นายควรจะแคร์พวกเราบ้าง แกควรจะเป็นผู้นำที่น่าเชื่อถือของประชาชนไม่ใช่หรอ?? แล้วตอนนี้มันเป็นไงบ้าง มีอะไรเหลือบ้าง เมื่อไหร่นายถึงจะหยุด ต้องให้มันพังทลายไปจนหมดก่อนหรอ นี่นายมันบ้าไปแล้วใช่มั๊ย?
Zip Victor – ชั้นเนี่ยนะบ้า ฮ่าๆๆๆ มองตัวเองก่อนมั๊ย เธอมันดีแต่ยึดติดแต่อดีต ทิ้งเบื้องหลังไว้แล้วก้าวไปสู่อนาคตดีกว่า ... ชั้นน่ะ ไม่ต้องการพวกแกอีกแล้วล่ะ
Doloran – ฮ่าๆ ถึงเวลาซะที 



                                  Zip Victor – ห๊ะ ! อ๊ากก อะไรกันเนี่ยยย !!!



Bastion – อ๊ากกกกก !!!!
Evan – นั่นมันเจ้า Doloran นี่ !
Roland – บ้างเอ้ย เรามาช้าไปอีกแล้ว !!



Trey – Bracken เราควรจะหนีกันได้แล้วนะ
Bracken – ชั้นก็ว่างั้นแหละ 



        Zip Victor – นั่นแกคิดจะทำอะไรชั้นไอ้เจ้า Bastion !!! แกคิดว่าจะทำลายชั้นได้งั้นเรอะ!!






Zip Victor – นี่แกคิดว่าจะฆ่าชั้นได้จริงๆหรอ? นี่ ชั้นจะบอกอะไรให้แกฟังอย่างนึงนะคู่หู ไม่ว่าใครก็ตามที่มายืนขวางทางของชั้น มันจะต้องเจอปืนลำแสงแยกอะตอมอันนี้ไง !!!!!!



เลเซอร์จากปืนของเรือเหาะที่ยิงออกมาได้ประสานงากับลำแสงจากปากของสัตว์จักรกลจนเกิดการระเบิดขึ้นอย่างรุนแรง ทำให้คลื่นของพลังทำลายล้างของทั้ง 2 ขั้วพลังที่ปะทะกันสะท้อนกลับไปสร้างความเสียหายกับทั้ง 2 ฝ่ายอย่างจัง จนทำให้ประธานาธิบดี Zip Victor กระเด็นตามแรงปะทะจนสลบไปพร้อมกับเรือเหาะที่เกิดความเสียหายจนร่วงลงไป ส่วนเจ้า Bastion สัตว์จักรกลขนาดใหญ่ที่โดนผลกระทบจนบาดเจ็บก็หายตัวหนีไปในทันที 



Bracken – ดูเหมือนเจ้า Bastion มันจะไปแล้วนะ 
Leander – Bastion Kingmaker ของอาณาจักร Broadleaf ไม่คิดเลยว่าจะมีโอกาสได้เห็นเจ้าสัตว์ร้ายนี่ด้วยตาตัวเอง
Bracken – เออนี่ พวกนายบอกว่ามาที่นี่เพื่อจะเข้าพบกับ ประธานาธิบดี Zip Victor ใช่มั๊ย?
Evan – ใช่ครับ ผมเป็นกษัตริย์ของอาณาจักร Evermore อาณาจักรที่เพิ่งสร้างใหม่ที่ Heartland เรามาเพื่อเจรจากับประธานาธิบดีเพื่อเซ็นสัญญารวมเป็นประเทศเดียวกันน่ะครับ
Bracken – จริงดิ !! ชั้นเคยได้ยินเรื่องของพวกนายอยู่นะ ตอนนี้ Goldpaw กับ Hydropolis ก็เซ็นสัญญาเข้าร่วมไปแล้วด้วยนี่ และตอนนี้นายก็ต้องการอาณาจักรของเราเข้าร่วมด้วยใช่รึเปล่า? ตอนแรกชั้นกะว่าจะไม่เล่าเรื่องนี้ให้ฟังแต่ตอนนี้คิดว่าน่าจะเป็นโอกาสที่ดีที่จะให้นายรับรู้ด้วย 
Tani – เธออย่าพูดแบบนั้นอีกนะ เขาไม่ได้แค่ใช้ Kingmaker โจมตีประชาชนของเขาแต่เขาโจมตีพวกเราด้วยนะ  
Trey – จริงๆเขาไม่เคยทำแบบนี้มาก่อนเลยนะ Bracken กันชั้นเราช่วยกันสร้างสถานวิจัยของเมืองนี้ขึ้นมาพร้อมกับ Victor พวกเราย่อมรู้จักเขาดีกว่าใครๆแน่นอน แต่พอเขาเริ่มสร้างเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ฟิวชั่นอะไรนั่นขึ้นมาเขาก็ไม่เหมือนเดิมอีกเลย 
Evan – พวกคุณรู้ป่ะ ผมคงไม่แปลกใจหรอกถ้าทั้งหมดนี่มันเป็นฝีมือของไอ้เจ้า Doloran น่ะ
Bracken – Doloran ? มันคือใครงั้นหรอ?
Evan – มันคือคนที่ใส่หน้ากากแปลกๆที่ออกไล่ล่าขโมย Kingbonds ของเจ้าเมืองในอาณาจักรต่างๆมาแล้วทั่วโลก แล้วเมื่อกี้เราก็เห็นมันชิงเอา Kingbonds ของประธานาธิบดี Zip Victor ไปแล้วด้วย มันทำร้ายจิตใจผู้คนด้วยความมืดที่น่ากลัวเพื่อที่มันจะได้ครอบงำพวกเขาได้ ผมมั่นใจว่า มันต้องครอบงำกับ ประธานาธิบดี Victor ด้วยแน่นอน 
 Bracken – ล้อเล่นใช่มั๊ยเนี่ย ถ้าเป็นแบบนั้นจริงเราก็ต้องหาทางช่วยเขาน่ะสิ
Evan – พวกเราก็ช่วยด้วย ผมมั่นใจว่าเราจะทำให้เขากลับเป็นคนได้แน่นอน
Leander – เท่าที่ผมลองวิเคราะห์จากเหตุการณ์ที่เห็นมาทั้งหมดแล้วประธานาธิบดี Victor ถูกครอบงำโดยไอปีศาจของ Doloran แน่นอน ตอนที่ราชินี Nerea ของอาณาจักรผมถูกครอบงำ คงเพราะพระองค์มีสกิลด้านเวทย์ที่ค่อนข้างสูงมากเลยสามารถต่อต้านพลังความมืดของ Doloran ได้เลยทำให้ความรู้สึกของนางกลับคืนสู่สภาพเดิมได้ง่ายขึ้น ผมมั่นใจเลยว่าในเคสนี้คงไม่ง่ายนักหรอก
Evan – โทษนะ ตอนนั้นคุณบอกว่าคุณเคยทำงานร่วมกับ ประธานาธิบดี Victor มาก่อนใช่มั๊ยครับ Bracken? บางทีคุณอาจมีทางที่จำย้ำเตือนความทรงจำในอดีตให้เขากลับมาเป็นคนเดิมก็ได้นะ 
Roland – นายจะจับเขามาแล้วเขย่าๆให้ความทรงจำเขากลับมา? นายหมายความว่าแบบนี้ใช่มั๊ย? มันจะเวิร์คหรอ?
Bracken – อืมม เตือนความทรงจำเก่าๆให้เขางั้นหรอ?  งั้นก็ต้องเริ่มที่นั่นเหมาะที่สุด ที่ที่เรา 3 คนเคยทำงานวิจัยร่วมกันมาในอดีต ห้องที่เราทำงานทุกๆอย่างร่วมกันมา
Evan – งั้นถ้าเราจะไปสำรวจหาเบาะแสที่ห้องทำงานเก่าของคุณล่ะจะเป็นไรรึเปล่า Bracken?
Bracken – ได้สิ ยินดีอย่างยิ่งเลยล่ะ?



Bracken – มันอาจจะดูเล็กไปหน่อยถ้าเทียบกับห้องทำงานในปัจจุบันของเราแต่ทุกอย่างของ Broadleaf Inc ก็เริ่มจากที่นี่
Trey – เฮ้ บันทึกที่เจ้า Zip มันหมกหมุ่นบันทึกเอาไว้นั่นไงล่ะ 
Bracken – มันคงจะหายไปพร้อมเจ้าของที่ทิ้งที่นี่ไปแล้วล่ะมั้ง แต่พวกเราไม่มีวันลืมหรอกว่าเรามาจากไหน
Evan – ผมว่า เดี๋ยวผมลองมองๆหาแถวๆนี้ดูให้ดีก่อนดีกว่าเพื่อจะเจอมันก็ได้



จากนั้นเดินไปสำรวจจุดไอเทมตกที่กระพริบเป็นสีแดงตรงมุมซ้ายของห้องจะพบ Memolith BL011 ตกอยู่ เก็บมันไปให้ Bracken ได้เลย



Evan – ผมเจอไอ้นี่ตกอยู่มุมห้องอ่ะ Bracken ไม่รู้มันสำคัญอะไรหรือเปล่า?
Bracken – Memolith ของใช้จากยุคเก่าที่ยังหลงเหลืออยู่ถึงตอนนี้ 
Evan – Memolith มันคืออะไรหรอครับ?
Bracken –คริสตัลกับเวทย์มนต์นิดหน่อยมันก็สามารถใช้บันทึกภาพความทรงจำต่างๆเอาไว้ดูในทุกๆครั้งที่เราต้องการได้แล้ว  
Evan – แล้วเราจะดูมันตอนนี้ได้เลยมั๊ยล่ะ ไอ้สิ่งที่มันบันทึกอยู่ใน Memolith นี่นะ
Bracken – แน่นอน ลองเล่นดูจะได้เห็นว่าเมื่อก่อนเราทำอะไรกันที่นี่



Zip Victor – นี่ Bracken ลองดูแผงวงจรนี่สิ เธอพอจะเข้าใจมันรึเปล่า?
Bracken – ได้สิ ชั้นว่านายคงเจออะไรที่ซ่อนอยู่ที่เกี่ยวกับที่นี่แล้วล่ะ ทิ้งไว้นี่แหละเดี๋ยวชั้นจะลองวิเคราะห์ดูเท่าที่จะทำได้ก็แล้วกัน
Zip Victor – เยี่ยมเลย ชั้นแทบจะรอแบตเตอรี่คริสตัลที่จะเอามาใช้เดินเครื่องเจ้าสิ่งนี้ไม่ไหวแล้ว รับรองว่ามันต้องเปลี่ยนหน้าประวัติศาสตร์ของธุรกิจด้านพลังงานแน่ๆ เทคโนโลยีที่เราจะสร้างกันในตอนนี้มันต้องทำให้วันพรุ่งนี้ของทุกๆคนดีขึ้นแน่ๆชั้นรู้สึกได้เลย
Bracken – ชั้นก็เหมือนกัน



Bracken – นั่นมัน ว้าวว ..นั่นมันสมัยที่เราเพิ่งจะเริ่มสร้างงานวิจัยกันใหม่ๆเลยนะ 
Tani – เยี่ยมเลย งั้นเราก็ใช้เจ้าสิ่งนี้เรียกคืนความทรงจำของประธานาธิบดีได้แล้วใช่มั๊ย?
Roland –ถ้อยคำเป็นหมื่นเป็นล้านคำหรือจะเท่าเห็นภาพๆเดียวแน่นอน แต่ถ้าจะให้ดีชั้นว่าลองหาอะไรเสริมอีกหน่อยก็น่าจะดีนะ เพื่อความชัวร์
Evan – แล้วยังมี Memolith อื่นๆหลงเหลืออีกรึเปล่าล่ะครับ Bracken



Bracken –  Zip เขามักที่จะลบข้อมูลที่มันไม่มีความสำคัญต่อการดำเนินกิจการของบริษัทอยู่เสมอๆแหละ อืมมม ..แต่เท่าที่ชั้นเช็คข้อมูลจากฐานข้อมูลทั้งหมดในตอนนี้ มันมี Memolith แปลกๆอยู่ 4 อันนะ ถ้านับอันที่เราเจอในห้องนี้ก็เหลืออีก 3 อัน.. แต่ต้องหาดูว่ามันอยู่ที่ไหน
Roland – ถ้าเราหามันมาได้ครบก็คงจะมีโอกาสเรียกคืนความทรงจำของเขามาได้มากกว่านี้แน่นอน แต่มันแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่เราจะหามันในพื้นที่กว้างๆเหมือนที่เราเจออันแรกในห้องนี้หรอกนะ
Bracken –  แน่นอนว่ามันแทบจะเป็นไม่ได้เลย แต่ชั้นมีไอเดียที่จะทำให้เรามีโอกาสหามันเจอมากขึ้น ถ้า Memolith มันหายไป คนที่ทำมันหายก็คงไม่รู้หรอกว่ามันหายไปหรือไปทำมันหายไปที่ไหน ชั้นว่าเราควรเริ่มจากที่ที่คนชอบที่จะมาอยู่รวมกันก่อนดีกว่า ที่โรงงานยังไงล่ะ 
Evan – โอเค งั้นพวกเราไปที่โรงงานที่ว่านั่นแล้วช่วยกันหา Memolith ให้เจอกันเถอะ !!
Bracken –   เยี่ยมเลย ขอบใจพวกนายมากนะที่ช่วย 


                                             Thanks for the Memolith

จากนั้นเดินขึ้นไปส่วนด้านบนสุดของเมืองเพื่อเข้าไปที่หอคอยขนาดใหญ่ซึ่งเป็นโรงงานขนาดใหญ่ของบริษัท Broadleaf Inc ซึ่งเป็นสถานที่ควบคุมการผลิตอุปกรณ์ไฮเทคทุกอย่างของเมือง


 แม้ด้านหน้าจะมีหุ่นยนต์ที่ควบคุมลิฟต์คอยสั่งห้ามไม่ให้คนทั่วไปรุกล้ำขึ้นไปในส่วนโรงงานด้านบนสุด ก็ต้องเปลี่ยนใจยอมให้ทุกคนขึ้นลิฟต์ไปเมื่อเจอนายช่างใหญ่ Bracken อัดเข้าไปหนึ่งที

                                              Factory Floors



ด้านในโรงงานนั้นระบบต่างๆจะถูกปิดเอาไว้จนหมดยังไม่สามารถกดสวิตซ์ต่างๆตามทางได้เลย ลุยศัตรูขึ้นไปด้านบนเรื่อยๆก่อนจนพบหม้อต้มขนาดใหญ่


Bracken จะสอนคาถา  Kindle ให้กับ Evan ซึ่งเป็นคาถาไฟที่ไม่ได้ใช้สำหรับต่อสู้แต่ใช้สำหรับจุดไฟตรงหม้อต้มเพื่อให้มันเดินเครื่องพลังงานไอน้ำทำให้สวิตซ์ต่างๆในพื้นที่โรงงานนี้ใช้การได้


จากนั้นย้อนกลับไปที่เสาสวิตซ์อันแรกตรงทางเข้าเมื่อกดมันจะทำให้พื้นของโรงงานปรับเลื่อนไปทำให้สามารถเดินไปที่ฝั่งซ้ายได้ (หากขึ้นไปกดสวิตซ์ที่เสาต้นที่ 2 ซ้ายบนจะสามารถปรับพื้นทางเดินให้เข้าไปเก็บหีบใส่ไอเทมที่สุดทางเดินได้)


- เมื่อเดินมาทางฝั่งซ้ายจะพบห้องทำงานห้องแรกที่มี Memolith #BLO27 ตกอยู่ Bracken จึงเปิดดูภาพบันทึกความทรงจำทันที


Trey – Zip ผลงานของเราเปิดตัวไม่ดีเลย ชาวบ้านหลายคนไม่ชอบมัน สินค้ากว่าครึ่งเลยนะที่ถูกตีคืนส่งกลับมาน่ะ
Victor – ว่าไงนะ เป็นไปไม่ได้หรอก ผมงานออกแบบของชั้นสมบูรณ์แบบแล้วนะ !!
Trey – เสียใจ Zip แต่ชั้นว่างานนี้พวกเราจบเห่แล้ว ทุกอย่างพังหมด เราจะทำยังไงกันดีเนี่ยยย
Victor – เลิกสำออยได้แล้วมานั่งคิดหาทางแก้กันดีกว่า และนี่มันก็ไม่ใช่จุดจบด้วยมันคือจุดเริ่มต้นต่างหากเว้ย ! วันนึง ไม่นานหรอกโลกจะเข้าใจวิสัยทัศน์ของชั้น เราจะไม่ล้มเลิกจนจะถึงวันนั้น !

Bracken – จำได้เลยว่า วันนั้นเราร้องไห้กันทั้งคืนเลย มันเป็นเรื่องที่ยากมากที่จะทำใจยอมรับได้ ไม่มีใครที่จะดึงเราขึ้นมาจากจุดที่จิตใจกำลังตกต่ำเลยนอกจาก Zip เขานี่แหละที่เป็นแรงบันดาลใจของเรา



Victor – หืมม !! ไม่ได้จะว่านะ แต่ ตัวเลขของเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ฟิวชั่นนี่มันเกิดอยู่ตลอดเลย
ช่างเทคนิค – ต้องขอโทษด้วยครับแต่เครื่องรุ่นทดลองนี่ดูมันยังไม่ค่อยปลอดภัยมากนักนะครับ
Victor – หุบปาก ชั้นไม่อยากได้ยินคำแก้ตัว ไปหาทางซ่อมแซมมันสิวะ !!! เราต้องทำมันให้เสร็จ แล้วก็ต้องทำมันให้เสร็จเดี๋ยวนี้ด้วย ชั้นไม่สนหรอกว่ามันจะต้องสูญเสียอะไรไปบ้าง !!
ช่างเทคนิค – อ่า ครับ ครับ 
Victor – อ๊าก หัวชั้น ... ช่างมันเถอะ เรามัวแต่สนใจอาการบ้านี่จะทำให้งานช้าลงเปล่าๆ จะไม่มีใครได้พัก ชั้นเองก็ด้วย เราจะทำงานห่ามรุ่งหามค่ำเท่าที่เราจะทำได้เลยคอยดูสิ 



Bracken – เอาล่ะ ได้ผลสแกนมาแล้ว ตำแหน่งของ Memolith อันที่ 2 อยู่ที่ Smartstick Lab 
Roland – หวังว่าเธอคงรู้นะว่าไอ้ Smartstick Lab นั่นมันอยู่ที่ไหน นำทางไปได้เลย !

-หลังจากได้ Memolith อันแรกมาแล้วเดินทางต่อจากห้องทดลองแรก เดินทางผ่านออกไปที่บันไดขึ้นด้านบนต่อได้เลย ขึ้นไปตามทางจนถึงด้านบนจะพบพื้นที่โรงงานส่วนต่อไปที่ตอนนี้ยังไม่ได้เดินพลังงาน ลุยขึ้นไปตามทางที่ไปได้จนพบหม้อต้มพลังงาน ใช้เวทย์ Kindle จุดไฟให้พลังงานมัน แล้วเดินต่อไปจนสุดทางด้านบนจะพบ หม้อต้มพลังงานสีแดงอีกอัน ใช้เวทย์ Kindle จุดไฟให้พลังงานมันซะ
- ย้อนกลับลงมาจนถึงสวิตซ์ที่ตั้งอยู่กับทางเข้าที่เป็นเป้าหมายของภารกิจกดสวิตซ์เพื่อปรับทิศทางทางเดินแล้วเดินไปตามเส้นทางนั้นจนถึงแท่นสวิตซ์ที่เสากดสวิตซ์ที่เสาจะทำให้พื้นมีการเปลี่ยนแปลงอีก จากนั้นโดดขึ้นไปบนพื้นที่ยกตัวตรงหน้าเสาไฟฟ้านี้


-เดินขึ้นไปตามทางจนพบสวิตซ์สีน้ำเงิน กดมันจะทำให้พื้นที่ตรงหน้าทางเข้าที่เป็นเป้าหมายของภารกิจเชื่อมต่อกันกับพื้นที่ตรงกลาง เดินต่อไปอีกหน่อยจนสุดทางเดินจะสามารถโดดลงไปตรงหน้าทางเข้าที่เป็นเป้าหมายของภารกิจพอดีก็จะพบจุดเซฟในโถงทางเข้านี้


-จากจุดเซฟระหว่างทาง ขึ้นบันไดไปด้านบนต่ออีกหน่อยจะพบห้องทดลอง Smartstick Lab เข้าไปก็จะพบ Memolith #BLO28 ตกอยู่ Bracken จึงเปิดดูภาพบันทึกความทรงจำทันที


Victor – ในที่สุดเราก็ทำสำเร็จจนได้ ไชโยโห่ร้องกันหน่อยมิตรสหายแห่งห้องทดลอง Smartstick
และด้วยอุปกรณ์ไฮเทคชิ้นนี้มันจะทำให้ทุกคนกลายเป็นพ่อมดที่สามารถใช้เวทย์มนต์ได้ พอกันทีกับการผูกเวทย์มนต์ที่ใช้กันได้แต่สำหรับผู้ใช้เวทย์มนต์อย่างเดียว จากนี้ไปใครๆก็สามารถใช้เวทย์มนต์กันได้แล้ว 
Bracken – นายทำได้แล้ว Victor ยินดีด้วยนะ
Victor – เฮ้ๆๆ ไม่เอาน่า ชั้นคนเดียวคงทำไม่ได้หรอกถ้าไม่มีพวกนายน่ะ เราทำงานกันเป็นทีมนะอย่างลืมสิ ขอบคุณ ขอบคุณทุกๆคนเลย 



Bracken – แล้วเราก็กลายเป็นทีมเดียวกันตั้งแต่วันนั้น เรามีแนวคิดในทิศทางเดียวกัน ต้องการในสิ่งเดียวกัน ...สุดท้ายมันผิดพลาดกลายเป็นแบบนี้ได้ยังไงกันนะ?



ช่างเทคนิค – ท่านประธานาธิบดี Victor !! แย่แล้วครับ เครื่องปฏิกรณ์เกิดการระเบิดขึ้น 
Victor – แกว่าไงนะ
ช่างเทคนิค – ใช่ครับมันระเบิดแล้ว ตอนนี้เรากำลังพยยามจะพาคนบาดเจ็บออกไปในที่ที่ปลอดภัยก่อน เรากำลังวุ่นวายกันมากเลยครับ 
Victor – คนบาดเจ็บช่างมันเถอะ เครื่องปฏิกรณ์ล่ะเสียหายรึเปล่า?
ช่างเทคนิค – เสียหายไม่มากครับ ใช้เวลาหน่อยก็น่าจะแก้ไขได้ แต่คนงานส่วนใหญ่บาดเจ็บกันหมดไม่สามารถทำต่อได้ครับ
Victor – ดีมาก งั้นก็เอาคนงานที่บาดเจ็บออกมาแล้วส่งทีมงานใหม่เข้าไปแทนแล้วเริ่มทำงานต่อได้เลย



Bracken – เอาล่ะ ได้สัญญาณของ Memolith อันต่อไปมาแล้ว อยู่ที่ช่องทางลำเลียงสินคาชั้นบน 

-จากห้องทดลอง Smartstick Lab เดินทางขึ้นบันไดใหญ่ไปชั้นบนต่อ จนถึงพื้นที่ของโรงงานในส่วน Production Line ตรงทางเข้าจะมีสวิตซ์ที่เสาไฟฟ้าต้นแรกและทางแยกไปได้ 2 ทาง เดินไปตามแยกทางซ้ายก่อนจนถึงประตูใหญ่จะพบว่ามันคือห้องทดลองห้องที่ 3 แต่มันถูกปิดผนึกอยู่ ต้องกดสวิตซ์ 3 อันให้ฟิวส์สามอันของประตูสว่างขึ้นให้หมดก่อนถึงจะเข้าไปได้


-จากประตูใหญ่ เดินต่อไปตามทางขึ้นไปด้านบนระหว่างทางจะเจอบันไดทางซ้ายขึ้นไปจะพบแท่นสวิตซ์อันแรก กดเพื่อเปิดการทำงานของฟิวส์ที่ประตูให้สว่างซะ แล้วเดินขึ้นไปต่อจนพบหม้อต้มพลังงาน ใช้เวทย์ Kindle จุดไฟให้พลังงานมันซะ
-ย้อนกลับมาที่กดสวิตซ์เสาไฟฟ้าต้นแรกตรงทางที่เข้ามาจะทำให้สามารถเดินไปที่เส้นทางด้านขวาได้ เดินตามทางไปเรื่อยๆผ่านเสาสวิตซ์ไฟฟ้าจนสุดทางจนพบหม้อต้มพลังงาน (สีแดง) ใช้เวทย์ Kindle จุดไฟให้พลังงานมันซะแล้ว แล้วย้อนกลับมาที่เสาสวิตซ์ไฟฟ้าที่ผ่านมาเดินเลยขึ้นไปด้านบนตามเส้นทางที่เปลี่ยนไปจนพบ แท่นสวิตซ์อันที่ 2 กดเพื่อเปิดการทำงานของฟิวส์อันที่ 2 ของประตูใหญ่ให้สว่างซะแล้วค่อยย้อนกลับมากดสวิตซ์ที่เสาสวิตซ์ไฟฟ้าจะทำให้พื้นที่หน้าประตูใหญ่เลื่อนมาเชื่อมต่อกัน


-จากนั้นย้อนกลับมาที่หน้าประตูใหญ่จะพบว่าสามารถโดดไปตามพื้นที่เข้ามาเรียงต่อกันได้ เดินข้ามไปที่พื้นที่ฝั่งตรงข้ามก็จะพบ แท่นสวิตซ์อันที่ 3 กดเพื่อเปิดการทำงานของฟิวส์อันที่ 3 ของประตูใหญ่ให้สว่างซะ


ก็จะสามารถเข้าไปในห้องทดลองใหญ่ได้แล้ว เข้าไปก็จะพบ Memolith #BLO28 ตกอยู่ Bracken จึงเปิดดูภาพบันทึกความทรงจำทันที


Victor – เอาล่ะทุกคนจงฟัง ทันทีที่ผลิตภัณฑ์ของเราออกสู่ตลาด โลกใบนี้ก็จะเปลี่ยนไปตลอดกาล ขอบคุณทุกๆคนที่ร่วมกันทำงานกันอย่างหนัก ตอนนี้เราสร้างมันสำเร็จแล้ว อาคารเพื่อการเรียนรู้เกี่ยวกับปฏิวัติวิทยาที่เรียกว่า Treehouse !! และนั่นไม่ใช่ข่าวดีทั้งหมดของเรานะ ข่าวดีอีกอย่างคือตอนนี้ทีมของเรามีจำนวนคน 315,639 คนแล้ว นั่นหมายความจากนี้ไปเราจะไม่ใช่แค่บริษัทๆนึงอีกต่อไปแต่เรากลายเป็นประเทศๆนึงแล้ว อาณาจักรของพวกเราเองยังไงล่ะ และในอนาคตในอีกไม่ช้านี้เราก็จะเป็นประเทศที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก เอาล่ะ ใครจะเอาด้วยกับชั้นบ้างงงง !!!



Bracken – ตั้งแต่วันนั้นบริษัทของเราก็เติบใหญ่กลายเป็นประเทศ เจตนารมณ์ที่แท้จริงของเขาคือตั้งใจที่จะสร้าง Treehouse ให้เป็นที่ที่ผู้คนมาอยู่และทำงานได้อย่างมีความสุข แต่แล้วมันก็ไม่ได้เป็นแบบนั้น พวกนายก็คงพอจะเดาได้ ชั้นรู้ ตั้งแต่วันนั้นเขาก็เหมือนไม่ใช่คนเดิมอีกเลย คนที่เคยยิ้มทักทายผู้คนไปทั่วคนนั้นไปไหนแล้วนะ



ช่างเทคนิค – เอ่อคุณ Victor ครับ เรามีปัญหาแล้ว ผมหมายถึง เรากำลังถูกท้าทายจากพวกชาวเมือง 
Victor – ถ้าไม่ใช่เรื่อง เครื่องปฏิกรณ์ ชั้นไม่อยากได้ยิน เรื่องอื่นค่อยว่ากันทีหลัง 
ช่างเทคนิค – แต่ เอ่อ ตอนนี้มันมีผู้บุกรุกขึ้นมาจนถึงส่วนของโรงงานแล้วอ่ะครับ 



Victor – ถ้างั้นก็ไปจัดการพวกมันซะแล้วเลิกมากวนชั้นได้แล้วโว้ยยยยยย คิดว่าชั้นมีเวลาที่จะไปสนใจไอ้พวกผู้บุกรุกงี่เง่านั้นเรอะ มันใช่งานของชั้นรึเปล่าล่ะห๊า?? ชั้นคือใครจำไม่ได้หรอไงว่ะ ชั้น Zip Victor นักประดิษฐ์ผู้คิดค้นสุดยอดเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ฟิวชั่น ชายหนึ่งเดียวที่เป็นคนให้ค่าจ้างพวกแกไง !! 



Roland – นั่นคือบันทึกความทรงจำทั้งหมดที่เราจะเอาไปโชว์ให้ประธานาธิบดี Victor ดูงั้นหรอ?
Bracken – อ่อ จริงด้วย ยังมีอย่างที่ชั้นจะเอาไปให้เขาดู
Evan – ไหนเธอบอกว่ามี Memolith ทั้งหมดแค่ 4 อันไง
Bracken – 4 อันนี้คือบันทึกที่หายไปแต่อีกอันคือบันทึกที่เป็นส่วนตัวมันอยู่ในห้องของหัวหน้าวิศวกรของที่นี่ อยู่ใกล้ๆนี่เองแหละ เดี๋ยวชั้นจะเล่าให้ฟังอีกทีตอนถึงที่นั่นแล้วนะ


Bracken – นี่ไงล่ะห้องของหัวหน้าวิศวกร ห้องทำงานเก่าของชั้นเอง ที่ที่ชั้นเคยทำงานและแอบหลับบ้างในบางครั้ง ฮ่าๆ ...  เฮ้ออ ไม่ได้มาที่นี่นานมาแล้วสินะเนี่ย เอาล่ะเดี๋ยวชั้นหยิบ Memolith ในตู้เซฟก่อนนะ 
Evan – อะไรอยู่ข้างในหรอครับ?
Bracken – อืมมม จะเรียกมันว่ายังไงดีล่ะ เอาเป็นว่า มันคือความทรงจำที่ดีที่สุดในชีวิตของชั้นก็ได้นะ
ด้วยความทรงจำทั้งหมดที่ได้มารวมกับของชั้นน่าจะทำให้ Zip สำนึกอะไรขึ้นมาได้บ้างแหละน่า มาเถอะ ขึ้นไปที่ห้องทำงานของ Zip กันเขาอยู่ในห้องควบคุม เครื่องปฏิกรณ์ ที่อยู่ชั้นบน



Bracken – ขึ้นลิฟต์ตัวนี้ไปก็จะขึ้นไปถึงห้องควบคุม เครื่องปฏิกรณ์ แล้วล่ะ เดี๋ยวนะ !!! สัญญาณเตือนภัยดัง ชั้นว่ามีใครบางคนพยายามจะขัดขวางเราแล้วล่ะ !!


จัดการ Boss BL-Iterator หุ่นยนต์รักษาความปลอดภัยที่ออกมาขัดขวางซะแล้วขึ้นลิฟต์ไปที่ชั้น Reactor Floor ได้เลย


 Bracken – เฮ้ Zip ! เรามีเรื่องต้องคุยกันหน่อย 
Zip Victor – ไม่เอาน่า ผู้บุกรุกคือเธอเองหรอเนี่ย ...แต่ก็สมเหตุสมผลดี ก็นะ ใครล่ะจะรู้เรื่องระบบรักษาความปลอดภัยของที่นี่ดีเท่าเธอละ Bracken จริงมั๊ย?
Roland – ท่านประธานาธิบดี Victor ผมว่าท่านควรดูสิ่งนี้หน่อยนะ
Zip Victor – ดูอะไร?
Evan – เอาเลย Bracken โชว์บันทึกความทรงจำทั้งหมดให้เขาดูเลย
Bracken – เฮ้ Zip ถึงเวลาย้อนความหลังกันหน่อยนะ 


Trey – Zip ผลงานของเราเปิดตัวไม่ดีเลย ชาวบ้านหลายคนไม่ชอบมัน สินค้ากว่าครึ่งเลยนะที่ถูกตีคืนส่งกลับมาน่ะ
Victor – ว่าไงนะ เป็นไปไม่ได้หรอก ผมงานออกแบบของชั้นสมบูรณ์แบบแล้วนะ !!
Trey – เสียใจ Zip แต่ชั้นว่างานนี้พวกเราจบเห่แล้ว ทุกอย่างพังหมด เราจะทำยังไงกันดีเนี่ยยย
Victor – เลิกสำออยได้แล้วมานั่งคิดหาทางแก้กันดีกว่า และนี่มันก็ไม่ใช่จุดจบด้วยมันคือจุดเริ่มต้นต่างหากเว้ย ! วันนึง ไม่นานหรอกโลกจะเข้าใจวิสัยทัศน์ของชั้น เราจะไม่ล้มเลิกจนจะถึงวันนั้น !

Bracken – จำได้เลยว่า วันนั้นเราร้องไห้กันทั้งคืนเลย มันเป็นเรื่องที่ยากมากที่จะทำใจยอมรับได้ ไม่มีใครที่จะดึงเราขึ้นมาจากจุดที่จิตใจกำลังตกต่ำเลยนอกจาก Zip เขานี่แหละที่เป็นแรงบันดาลใจของเรา


Victor – ในที่สุดเราก็ทำสำเร็จจนได้ ไชโยโห่ร้องกันหน่อยมิตรสหายแห่งห้องทดลอง Smartstick
และด้วยอุปกรณ์ไฮเทคชิ้นนี้มันจะทำให้ทุกคนกลายเป็นพ่อมดที่สามารถใช้เวทย์มนต์ได้ พอกันทีกับการผูกเวทย์มนต์ที่ใช้กันได้แต่สำหรับผู้ใช้เวทย์มนต์อย่างเดียว จากนี้ไปใครๆก็สามารถใช้เวทย์มนต์กันได้แล้ว 
Bracken – นายทำได้แล้ว Victor ยินดีด้วยนะ
Victor – เฮ้ๆๆ ไม่เอาน่า ชั้นคนเดียวคงทำไม่ได้หรอกถ้าไม่มีพวกนายน่ะ เราทำงานกันเป็นทีมนะอย่างลืมสิ ขอบคุณ ขอบคุณทุกๆคนเลย 


Victor – เอาล่ะทุกคนจงฟัง ทันทีที่ผลิตภัณฑ์ของเราออกสู่ตลาด โลกใบนี้ก็จะเปลี่ยนไปตลอดกาล ขอบคุณทุกๆคนที่ร่วมกันทำงานกันอย่างหนัก ตอนนี้เราสร้างมันสำเร็จแล้ว อาคารเพื่อการเรียนรู้เกี่ยวกับปฏิวัติวิทยาที่เรียกว่า Treehouse !! และนั่นไม่ใช่ข่าวดีทั้งหมดของเรานะ ข่าวดีอีกอย่างคือตอนนี้ทีมของเรามีจำนวนคน 315,639 คนแล้ว นั่นหมายความจากนี้ไปเราจะไม่ใช่แค่บริษัทๆนึงอีกต่อไปแต่เรากลายเป็นประเทศๆนึงแล้ว อาณาจักรของพวกเราเองยังไงล่ะ และในอนาคตในอีกไม่ช้านี้เราก็จะเป็นประเทศที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก เอาล่ะ ใครจะเอาด้วยกับชั้นบ้างงงง !!!


Zip Victor – ห๊า.. อั๊ก..อ่า .. นี่ชั้นเคย ...แล้วทำไม ....ชั้นไม่ได้ .....
Bracken – ยังมีอีกความทรงจำนึงที่ชั้นอยากให้นายระลึกถึงมัน ได้โปรดขอให้นายจำทุกอย่างได้ด้วยว่านายเป็นใครแล้วเพราะอะไรชั้นถึงพยายามที่จะนายกลับมาเป็นคนเดิมอีกครั้ง



Zip Victor – ดูนี่สิ ชั้นอุตสาหอดหลับอดนอนทั้งคืนเพื่อทำสิ่งนี้มาให้เธอเลยนะ ขาสุดสวยจากฝีมือของวิศวกรที่เจ๋งที่สุดในโลก เธอต้องรักมันแน่นอน
Bracken – นั่นไม่ใช่ขาของชั้น ชั้นต้องการขาของชั้น!! ชั้นต้องการ ขา ของชั้น ฮือออ..



Zip Victor – ชั้นเข้าใจนะ Bracken เข้าใจว่าเธอเสียใจ แต่ เราเป็นวิศวกรนะ เราคือคนที่มีหน้าที่แก้ปัญหาของมนุษยชาติ เราใช้เทคโนโลยีเพื่อช่วยเหลือผู้คน นั่นแหละเจตนารมณ์ของพวกเรา คือเป้าหมายของเรา คือสิ่งที่พวกเราทำอยู่ แล้วเธอล่ะ จะยอมให้ปัญหาเล็กๆน้อยๆนี้มาหยุดไม่ให้เธอไปถึงเป้าหมายของเธอรึเปล่า หน้าที่ของเราคือแก้ปัญหาของมนุษยชาติ เธอเองก็มนุษย์คนนึงเหมือนกัน เธอสูญเสียขาไป ชั้นก็สร้างมันใหม่ให้เธอ ซึ่งถ้าชั้นต้องเสียแขนไปบ้างชั้นก็ว่าเธอเองก็คงจะทำแขนใหม่ให้ชั้นเหมือนกันนั่นแหละ และขานี่มันก็ไม่ใช่เครื่องจักรหรอกนะ เพราะได้ใส่หัวใจและจิตวิญญาณของชั้นเข้าไปตอนสร้างมันด้วย ถือว่ามันคือ มันคือ ส่วนหนึ่งของชั้นก็แล้วกัน
Bracken – ขอบคุณนะ Victor 
Zip Victor – ไม่เอาน่า ชั้นเป็นบอสของเธอนะ นี่มันหน้าที่ของชั้นอยู่แล้วล่ะ



Zip Victor – ชะ ชั้น เอ่อ .....
Bracken – ดูนี่สิ Zip !! ดูขาที่นายเคยให้ชั้นในวันนั้น ตอนนี้ชั้นอัพเกรดมันใหม่แล้ว ชั้นไม่เคยที่จะลืมหรือทิ้งขาที่นายให้มาเลยนะ เพราะขานี้มันทำให้ชั้นกล้าหาญจนกลายเป็นชั้นเหมือนอย่างทุกวันนี้ยังไงล่ะ !! 
Zip Victor – ชั้น เอ่อ ..... คือ ...
Bracken – นายเคยเป็นวิศวกรที่ดี เป็นเจ้านายที่ดี และ เป็นเพื่อนที่ดี ทุกคนรอบตัวนายรู้ดี. นายคือคนที่มีจิตใจที่งดงามที่สุดจำไม่ได้แล้วรึไง Zip !!!!


                Zip Victor – ชั้น เอ่อ .....ชั้น ไม่ ...ม่ายยยยยยยยยยยยยยยยยยยย !!!!!!!!!!



Zip Victor – ชะ ชั้นจำได้แล้ว จำได้หมดทุกอย่างเลย นี่ชั้นทำอะไรลงไปเนี่ย ...!??
Bracken – Zip นั่นนายใช่มั๊ย นายคนเดิมกลับมาแล้วใช่มั๊ย??
Zip Victor – ชั้นขอโทษนะ ถ้าไม่ใช่เธอ Bracken ชั้นคงไม่มีวันจดอะไรได้เหมือนเดิมแน่ๆเลย
--------------------------- โครม !!!!!!!!!! --------------------------
Bracken – ห๊ะ !!!! เสียงอะไรน่ะ เหมือนมีบางอย่างกำลังพุ่งชนหอคอยนี่อย่างแรงเลย !!!



Zip Victor – โอ้ ไม่นะ นั่นเจ้า Bastion มันกำลังจะทำลายหอคอยของเราอยู่บนดาดฟ้า
Bracken – Bastion มันกลับมาแล้วงั้นหรอ?
Zip Victor – บ้าเอ้ย ถ้ามันเข้าถึงเครื่องปฏิกรณ์ได้ล่ะก็ เมืองทั้งเมืองพินาศจนหมดแน่นอน



Evan – อะไรนะ งั้นเดี๋ยวพวกเราจะไปหยุดมันให้เอง !!
Zip Victor – ก่อนจะกำจัดมัน นายคงต้องหาตัวมันให้เจอก่อนอ่ะนะเพราะมันติดตั้งระบบพรางตัวอยู่ ชั้นเองก็มองมันจากมอนิเตอร์ไม่เห็นเหมือนกัน แต่ยังถือว่าโชคดีที่มันอยู่บนหอคอย ยังพอที่จะมีวิธีแทรกแซงระบบพรางตัวของมันได้อยู่
Bracken – งั้นเราขึ้นลิฟต์ไปดาดฟ้าเพื่อจัดการมันกันเถอะ !!


                                                        Bastion Unbound



Tani – นี่ล้อกันเล่นใช่มั๊ย ??
Leander – เราโชคร้ายซะแล้วสิ 
Roland – ช่องลิฟต์ถล่มจนหมดแล้ว ที่นี้เราจะขึ้นไปบนดาดฟ้ากันยังล่ะเนี่ย?
Batu – เราไม่มีเวลาเหลือแล้วด้วยสิ
Evan – ใจเย็นพวกเรา มันต้องหาทางอื่นได้สิน่า ช่วยกันคิดหน่อยเร็ว!



Zip Victor – ชั้นคิดออกแล้ว !!!! ถ้าเพิ่มความดันของเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ให้สูงมากพออาจทำให้เกิดสนามที่มีความสมบูรณ์เพียงพอที่จะ...
Bracken – ที่จะกระตุ้นปฏิกิริยาลูกโซ่ทำให้เกิด รูปแบบของสนามพลัง G ขึ้นมาได้ และถ้าทำให้มันเสถียรพอล่ะก็ มันก็จะสามารถเปลี่ยนสถาณะภาพของแสงให้กลายเป็นของแข็งได้ เราก็จะใช้มันเป็นบันไดแสงขึ้นไปบนดาดฟ้าได้ยังไงล่ะ ! ดีใจนะที่นายกลับมา Zip คงจะมีแค่นายเท่านั้นแหละที่จะคิดอะไรที่มันเจ๋งขนาดนี้ได้อ่ะนะ ...แต่ว่า ..
Zip Victor – ชั้นรู้ๆ มันก็เป็นแค่สมมติฐานเท่านั้น แต่ยังไงชั้นก็จะลองทำดู



Zip Victor – เอาล่ะทุกคน ชั้นอยากให้พวกนายช่วยกันลำเลียงพลังทั้งหมดจากทุกส่วนย้ายไปใส่ในเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ให้หมด 
ช่างเทคนิค – แต่ท่านประธานาธิบดีครับ เครื่องมันไม่ได้ถูกออกแบบมาให้รับพลังงานได้มากขนาดนั้นนะ
เรื่องนี้คุณเองน่าจะรู้ดีกว่าทุกคนนะ
Bracken – เครื่องปฏิกรณ์จะรับไม่ไหวทำให้แกนกลางเกิดการระเบิด เรื่องนั้นชั้นรู้ ว่าแต่ นายจะทำจริงๆหรอ Zip เครื่องปฏิกรณ์นั่นนายรักมันมากเลยนะ
Zip Victor – ถ้าไม่ทำ ชีวิตของประชาชนทุกของประเทศเราก็จะต้องเสี่ยง เธอคิดว่าชั้นจะลังเลซักวินาทีนึงมั๊ยล่ะ? ชั้นในฐานะประธานบริษัทและผู้นำของประเทศ ไม่มีอะไรที่จะสำคัญมากไปกว่าชีวิตของประชาชนของชั้นหรอก ..อัดพลังเข้าไปในท่อแม่งให้หมดเดี๋ยวนี้ นี่เป็นคำสั่ง !!!



                            Evan – สำเร็จ !! ที่นี้พวกเราก็ขึ้นไปที่ดาดฟ้ากันได้แล้ว !!!



ช่างเทคนิค – ตอนนี้พลังงานจากทุกส่วนถูกอัดเข้าไปในท่อส่งจนเกิดขีดพิกัดของเครื่องปฏิกรณ์แล้วครับ
Zip Victor – ทำได้ดีมากทุกคน เอาล่ะ ตอนนี้ก็หนีออกจากที่นี่แล้วไปช่วยกันอพยพประชาชนทุกคนไปที่ที่ปลอดภัยด่วนเลย
ช่างเทคนิค – แต่ว่า ถ้าไม่มีคนคอยดูแลปรับความเสถียรให้เครื่องปฏิกรณ์มันจะแก้ไขอะไรไม่ได้แล้วนะครับท่าน
Zip Victor – พวกนายคิดว่ากำลังพูดกับใครอยู่ห๊ะ? ถ้าจะมีใครซักคนในอาณาจักรนี้จะควบคุมเจ้าเครื่องนี้ได้ดีที่สุดก็ชั้นนี่แหละเว้ย !!
ช่างเทคนิค – แต่ท่านประธานาธิบดี แล้วตัวท่านละ?
Zip Victor – หายห่วงน่า ชั้นจะควบคุมมันอย่างใกล้ชิดแบบไม่กระพริบตาเลยล่ะ
ช่างเทคนิค – ตกลงท่านจะเอาแบบนี้จริงๆใช่มั๊ย ถ้างั้น พวกเราจะรีบไปอพยพประชาชนทุกคนไปในที่ปลอดภัยให้หมดอย่างเร็วที่สุด ของให้ท่านปลอดภัยนะ โชคดีคับ



Zip Victor – เอาล่ะ ชั้นจะคอยคุมเครื่องปฏิกรณ์อยู่ที่นี่เอง ถ้าเกิดอะไรผิดพลาดขึ้นก็ลากันตรงนี้เลยนะ แต่ รับรองว่าคนอย่างชั้นไม่มีคำว่าผิดพลาดแน่นอน พวกนายรีบไปจัดการเจ้า Bastion เถอะ!!
Evan – เรื่องเจ้า Bastion ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของพวกเราเอง ท่านก็ดูแลตัวเองให้ปลอดภัยด้วยนะ เอาล่ะ ทุกคน ขึ้นไปที่ดาดฟ้ากันเถอะ !!



ขึ้นตามบันไดแสงมาจนถึงดาดฟ้าจะพบ Boss – Bastion [LV 51] รออยู่ เมื่อจัดการมันจนพลังหมดหลอดแล้ว


แต่ดูเหมือน Bastion จะยังไม่ตายเพราะระบบดูดทรัพย์พลังงานของมันสามารถเชื่อมต่อกับฟ้าที่ผ่าลงมาทำให้มันถูกเติมพลังจนเต็มและรักษาอาการบาดเจ็บทั้งหมดกลับมาแข็งแรงเหมือนเดิมอีกครั้ง

 ในขณะที่แม้แต่ Lofty ที่เป็น Kingmaker ยังถอดใจแต่ Evan กลับไม่ใช่ เขากลับเข้าใจแนวทางของผู้นำที่ถูกต้องขึ้นมาในทันที



Evan – ผมเข้าใจแล้วล่ะว่าทำไมผู้นำถึงต้องสละชีวิตตัวเองเพื่อประชาชนของเขา นั่นแหละคือแผนที่ Zip เขากำลังทำอยู่ และผมจะไม่มีวันทิ้งเขาแน่นอน ! ผมไม่วันหันหลังกลับ ไม่ใช่ตอนนี้ !! ไม่มีอีกแล้ว จะไม่หนีอีกแล้ว !!!  



       Lofty – โว้วววววว พลังที่ส่งมาที่ชั้นนี่มันนนนน ....จะระเบิดออกมาแล้วเว้ยยยยยย !!!!!




Evan – ห๊า Lofty นั่นนายจริงๆหรอ? สุดยอด !!! นายมันสุดยอดไปเลย รับรองคราวนี้ Bastion ไม่มีทางฟื้นคืนชีพมาเป็นครั้งที่ 2 แน่นอน 




                     Evan –ไปเลย Lofty แสดงให้เราเห็นถึงพลังที่แท้จริงของนายหน่อย!

แม้ในขณะที่การต่อสู้กับ Bastion ยกที่ 2 นี้จะได้ Lofty ในร่างสมบูรณ์เข้าร่วมต่อสู้ แต่การจัดการกับ Bastion แบบได้ผลนั้น Victor จะแจ้งมาว่าต้องทำลายที่จุดศูยน์รวมพลังที่หัวของมันเท่านั้น


ก่อนที่เขาจะใช้พลังของเครื่องปฏิกรณ์บีบอัดพลังเปลี่ยนให้แสงเป็นของแข็งกลายเป็นบันไดให้ Evan โดดปีนขึ้นไปจนถึงส่วนหัวของ Bastion


 ท่ามกลางสายฟ้าที่ถูกปล่อยออกมาขัดขวางพร้อมกับความไม่เสถียรของบันไดแสงที่พร้อมจะหายสลับไปมาอยู่ตลอดเวลา Evan จึงต้องหาทางปีนป่ายบันไดแสงไปจนถึงส่วนหน้าของ Bastion จนสามารถโดดเข้าไปโจมตีที่หน้าของมันได้สำเร็จ


Lofty – อ่ะ ห๊ะ ?? ล้อเล่นใช่ป่ะ นี่ชั้นสามารถกลายร่างกลับเป็นร่างใหญ่ยาวสุดหล่อได้อีกครั้งแล้วจริงๆหรอเนี้ยยย
Leander – แต่ดูเหมือนว่า นายจะใช้ร่างมังกรบินของนายได้สั้นมากเลยนะ Lofty



Zip Victor – ตามทฤษฎีของผม ผมคิดว่าเกิดจาก Kingmaker ได้รับพลังงานที่ยังไม่มากพอ 
Lofty – แต่ๆๆ แต่ว่าถ้า Evan ได้พลังในการเชื่อมโยงมากขึ้น ชั้นก็จะได้ใช้ร่างนั้นได้นานขึ้นใช่ป่ะ บางที อาจจะใช้ร่างสุดยอดนั่นได้ตลอดไปเลยใช่ป่ะ ? นี่ Evan เจ้าต้องรีบแข็งแกร่งขึ้นเร็วๆเลยนะเฟ้ย นี่เป็นคำสั่ง 
Evan – ฮ่าๆ จะพยายามก็แล้วกันนะ
Zip Victor – ชั้นแทบไม่เชื่อเลยว่าพวกนายจะสามารถจัดการ Bastion ลงได้ คิดภาพไม่ออกเลยว่าถ้าไม่ได้พวกนายช่วยไว้บ้านเมืองชั้นจะเป็นยังไง และก็คงไม่มีทางที่ฉันจะสามารถป้องกันไม่ให้แกนพลังงานจากการละลายได้แน่นอน แต่ยังไงซะคนที่สร้างเครื่องปฏิกรณ์นี้ขึ้นมาก็คือชั้นเองตั้งใจว่าจะสร้างมาเพื่อช่วยผู้คนแต่กลับทำให้ประชาชนต้องมาเสี่ยงอันตรายแบบนี้ ชั้นคงไม่เหมาะสมที่จะเป็นประธานาธิบดีบริหารประเทศนี้ได้อีกต่อไปได้อีกหรอก



Evan – พวกเราฟังสิ เสียงของประชาชนดังมาจากด้านล่างน่ะ พวกเขาไชโยโห่ร้องสนับสนุนคุณนะ Victor 
Bracken – ถ้านายไม่เหมาะสมที่จะเป็นประธานาธิบดี ประชาชนเขาจะร้องเรียกนายแบบนั้นทำไม
Evan – ประธานาธิบดี Victor ผมถามคุณหน่อยสิ อย่างที่เห็น ผมพยายามที่จะเปลี่ยนโลกนี้ให้เป็นโลกที่สงบสุข แต่ผมต้องการให้คุณช่วย ผมขอให้คุณช่วยสนับสนุนเราหน่อยได้มั๊ย? 
Zip Victor – ชั้นแน่ใจว่าเราคงต้องทำข้อตกลงการค้าเสรีกันแล้วล่ะ เพื่อให้พวกคุณเป็นคู่ค้าเทคโนโลยีอย่างเป็นทางการของพวกเรา เอาล่ะ งั้นมาเริ่มกันเลย



Evan – ขอให้อาณาจักรของเรารวมกันเป็นหนึ่งเดียวเพื่อประโยชน์สุขของโลกใบนี้ !!
Zip Victor – ตั้งธงไว้ว่าจะไม่เกิดสงครามและความรุนแรงใดๆอีกเลย !!



                                   ยืนหยัดรวมพลังเฉกเช่นดั่งเป็นแดนดินเดียวกัน !!


Zip Victor – อืมมม เรื่องมันเป็นอย่างนี้เองหรอ มันต้องการคืนชีพให้ Horned One และพวกนายกำลังหาทางที่จะหยุดมัน ใช่มั๊ย?
Evan – ใช่ครับ และถ้าเรารวมพลังกับอาณาจักรอื่นๆด้วย เราก็มีโอกาสที่จะสู้มันได้แน่นอน 
Zip Victor – ชั้นรู้ แต่จากนี้ก็เหลือแต่ Ding Dong Dell ที่เดียวแล้วสินะ แล้วมันก็คงเป็นเรื่องที่ยากแน่นอน แต่ชั้นขอยืนยันต่อหน้านายเลยว่า ในฐานะประธานาธิบดีแห่ง Broadleaf ชั้นจะสนับสนุนนายให้ถึงที่สุด รับประกันเลยว่านายไม่มีวันแพ้ง่ายๆแน่นอน แล้วเธอน่ะ จะไปร่วมทางกับเพื่อนของเราด้วยมั๊ยล่ะ Bracken?
Bracken – ได้ค่ะ ถ้าเป็นคำสั่งของท่านประธานาธิบดี
Evan – จริงหรอครับ งั้นก็สุดยอดเลยเพราะ Bracken ต้องช่วยพัฒนาอาณาจักรของเราให้ดียิ่งขึ้นแน่นอน
Zip Victor –  แน่นอนล่ะ เธอต้องสำคัญกับคุณแน่นอน ไม่งั้นชั้นจะยอมให้วิศวกรคนสำคัญของชั้นไปช่วยพวกนายรึไง  
Bracken – ได้ยินท่านพูดแล้วนะทุกคน ตอนนี้ชั้นเป็นคนของนายแล้ว เตรียมรับพลังแห่งเครื่องจักรและเทคโนโลยีของชั้นคนนี้ได้เลย !!

เมื่อประธานาธิบดีวิคเตอร์จึงถูกปลดปล่อยจากการครอบงำจากความมืด Broadleaf ก็กลายเป็นประเทศถัดไปที่เข้าร่วมเซ็นปฏิญญาแห่งการพึ่งพาซึ่งกันและกันระหว่างราชอาณาจักร



และไม่เพียงเท่านั้น ราชา Evan ยังได้ Bracken Meadows เข้าร่วมทีมเป็นสมาชิกใหม่ ซึ่งทำให้มั่นใจได้ว่า ความคิดที่ริเริ่มและสร้างสรรค์อันไม่จบสิ้นของเธอ จะช่วยให้อาณาจักร Evermore รุ่งเรืองขึ้นอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนแน่นอน 

จากนี้ก็เหลือเพียงอีกหนึ่งอาณาจักรที่ยิ่งใหญ่ อีกหนึ่งรายชื่อสำคัญถัดไปในการเข้าร่วมเซ็นปฏิญญาแห่งการพึ่งพาซึ่งกัน นั่นคือ ... Ding Dong Dell


เด็กช่างสงสัย – ในที่สุด Lofty ก็แสดงพลังที่แท้จริงออกมาแล้วงั้นหรอ?
Evan – ใช่ครับ เซอรืไพรซ์มากๆเลย รับรองคุณเดาไม่ออกหรอกว่าหน้าตาเขาเปลี่ยนไปยังไง
เด็กช่างสงสัย – แถมยังทำให้เรื่องวุ่นวายที่ Broadleaf ยุติลงได้อีกด้วยงั้นหรอ?
Evan – ใช่ครับ พวกเราทำให้ประธานาธิบดี Victor กลับมาเป็นคนเดิม ผมมั่นใจเลยว่าจากนี้เขาต้องอุทิศตนเพื่อประชาชนของเขาแน่นอน และไม่นานประชาชนของเขาก็จะกลับมาเชื่อใจเขาอีกครั้ง สายใยความสัมพันธระหว่างพวกเขาแข็งแกร่งมากๆเลยนะ 
Evan – ผมก็หวังเพียงว่าจะสามารถสร้างมิตรภาพที่แน่นแฟ้นเหมือนแบบนี้บ้างจัง บางทีก็มโนไปว่าประชาชนกำลังเงยหน้าขึ้นมองที่ผมเหมือนที่พวกเขาทำกับ Zip แม้ว่าผมจะไม่มีอะไรเหมือนเขาเลยก็เถอะนะ
เด็กช่างสงสัย – ราชาในโลกนี้ล้วนสร้างอาณาจักรออกมาไม่เหมือนกันหรอก จงทำในแบบที่นายทำได้เถอะนะ
Evan – บางทีมันก็ถูกของนายนะ 
เด็กช่างสงสัย – เฮ้ Evan นายเคยคิดเกี่ยวกับเรื่องที่นายถูกคนใกล้ชิดทรยศบ้างรึเปล่า? 
 Evan – ห๊ะ อะไรนะ???
เด็กช่างสงสัย – ชั้นก็แค่สงสัยน่ะ ลืมที่ชั้นถามไปซะก็ได้ ...




                                          Roland – อืมม นายต้องการสิ่งนี้ใช่มั๊ย?




????? – หามาให้จนได้นะ ไม่ทำให้ชั้นผิดหวังอย่างที่คิดไว้จริงๆ ก็ถ้านายเชื่อใจไม่ได้นายก็จะไม่ได้อะไรเลยจริงมั๊ย



                                 Roland – ก็จริง นั่นแหละชั้นล่ะ ..เราไปกันได้ยัง 



                                      Roland – ...หืมม นั่นใครน่ะ !!!! ...Crikey หรอ??


------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

                                 Side Quest ต่างๆ หลังจบ Chapter 6



                                      Side Quest ที่เมือง Broadleaf


Side Quest 072 – Chip the child Prodigy 
สถานที่ – Broadleaf / Lower Downtown
ผู้จ้างวาน – หุ่นยนต์ส่งของ
เป้าหมาย – เอาสินค้าของ Chip ไปส่งให้ Chip ในบ้านของเขาที่ชั้น Upper Midtown จากนั้น Chip จะต้องการไอเทมต่างๆในการทดลองเพิ่มประกอบด้วย Oasis wonder water 2 อัน และ Dark Crystals 3 อัน ทั้ง 2 อย่างสามารถหาแลกได้จาก Swift Solutions ได้ เมื่อเอามาให้ Chip เขาก็จะยอมเข้าร่วมเป็นพลเมืองของอาณาจักรด้วย


ความชำนาญ – ประจำอยู่ที่ Dimensional Lab และมีกองกำลังหอก Gamma Squadron สำหรับใช้ในกองทัพในการออกรบด้วย

Side Quest 078 – Bot on the Run  
สถานที่ –  Broadleaf /  Upper Midtown
ผู้จ้างวาน – Cindy may
เป้าหมาย – กำจัดหุ่น BL –Ivion (LV44) ที่ถ้ำ Powder Keg Cavern ทางตะวันตกของ Evermore แล้วกลับไปคุยกับ may เธอก็จะยอมเข้าร่วมเป็นพลเมืองของอาณาจักรด้วย


                                      ความชำนาญ – ประจำอยู่ที่ Mining Camp

Side Quest 073 – Oz want Out  
สถานที่ –  Broadleaf / Lower Downtown
ผู้จ้างวาน – OZ
เป้าหมาย – เข้าไปที่ Factory Floors ชั้น Dynafloors No2 เข้าไปที่ Smartstick Lab เพื่อรีบู๊ทระบบเพื่อเปิดประตูให้ Oz ออกมาจากห้องที่ถูกล็อก เขาก็จะยอมเข้าร่วมเป็นพลเมืองของอาณาจักรด้วย


ความชำนาญ – ประจำที่ Training Ground และมีกองกำลังโล่ Beta Corps สำหรับใช้ในกองทัพในการออกรบด้วย


                ** ถึงตอนนี้ ประชากรของ Evermore จะครบ 100 คนแล้ว **


                  ** สามารถอัพเกรดอาณาจักรให้ขึ้นเป็น LV3 ได้เลย ** 


Side Quest 075 – Kent, The Magical Ore Analyst   
สถานที่ –  Broadleaf / Lower Downtown
ผู้จ้างวาน –  Kent
เป้าหมาย – จัดการ Skrych (LV45) ในพื้นที่เป้าหมายแล้วเอาบันทึกความทรงจำของ Kent กลับมาคืนให้เขา Kent ก็จะยอมเข้าร่วมเป็นพลเมืองของอาณาจักรด้วย


                                      ความชำนาญ –ประจำอยู่ที่ Mining Camp

Side Quest 076 – An Upgrade for Andy   
สถานที่ –  Broadleaf / Lower Downtown
ผู้จ้างวาน – หุ่น Andrew
เป้าหมาย – เข้าไปที่ Factory Floors ชั้น Dynafloors No.3 จัดการหุ่น BL – Itzer V.20 แล้วเก็บ quintillion – Core Processor กลับมาให้ Andrew เขาก็จะยอมเข้าร่วมเป็นพลเมืองของอาณาจักรด้วย


ความชำนาญ –ประจำอยู่ที่ institute of innovation ความสามารถ Technophilla ของเขาจะปลดล็อกการวิจัยอันสุดท้ายได้

Side Quest 074 – Price’s Delayed Delivery 
สถานที่ –  Broadleaf / Lower Midtown
ผู้จ้างวาน – Price
เป้าหมาย – ออกตามหาหุ่นยนต์ส่งของที่หายตัวไปที่พื้นที่ทางใต้ของ Glodpaws แล้วเข้าไปทำการรบในศึก Delivery at any Price ระดับ LV17 ให้ชนะ แล้วกลับไปคุยกับ Price ก็จะยอมเข้าร่วมเป็นพลเมืองของอาณาจักรด้วย


                                          ความชำนาญ – ประจำอยู่ที่ Bazaar


Side Quest 088 – A Matter of Taste    
สถานที่ –  Broadleaf
ผู้จ้างวาน – Robochief
เป้าหมาย – นำไอเทมต่างๆมาให้เขาปรุงอาหารดังนี้ Middling Meat , Tender Tripe (ทั้ง 2 ไอเทมวัตถุดิบสามารถหาได้ทั่วไป)
รางวัล – สูตรอาหาร Mom’s Meatpie และคีย์ไอเทม หนังสือ Brain fuel: How to eat Smart

Side Quest 085 – Green Fingers, Idle Hand   
สถานที่ –  Broadleaf / Lower Downtown
ผู้จ้างวาน – คนสวน
เป้าหมาย – คุยกับคนสวนที่อยากสมัครเป็นคนสวนที่ด้านหน้า Swift Solutions แล้วขึ้นไปคุยกับคนสวนที่ใส่แว่นที่ Domepark ชั้น Midtown จากนั้นเดินทางไปที่ป่า Spineshives Grove จะพบกับพรานสาว Goggie May รออยู่ที่นี่ เข้าไปคุยกับเธอจะได้ภารกิจของเธอเพิ่มมาอีก

Side Quest 027 – The Hard – Nosed Huntress   
สถานที่ –  ป่า Spineshives Grove
ผู้จ้างวาน – Goggie May
เป้าหมาย – เข้าไปในด้านในสุดของป่า Spineshives Grove จัดการมอสเตอร์ Prangles แล้วกลับมาคุยกับเธอ May ก็จะยอมเข้าร่วมเป็นพลเมืองของอาณาจักรด้วย


ความชำนาญ – ประจำอยู่ที่ Hunting Lodge และมีกองกำลังธนู The Feline Firing Squad สำหรับใช้ในกองทัพในการออกรบด้วย


ก่อนออกจากป่ากำหนดกลับมาที่ Side Quest 085 – Green Fingers, Idle Hand แล้วสำรวจในป่า Spineshives Grove ดูจะมีคียไอเทม Breatheasy Plan ตกอยู่ด้วยเก็บกลับมาให้คนสวนที่ Domepark ชั้น Midtown เพื่อจบ Side Quest 085 ได้ด้วย
รางวัล - 4,970 EXP, 1,610G, Four-Leafed Soreaway x2

Side Quest 089 – At the Cutting Edge   
สถานที่ –  Broadleaf / Lower Uptown
ผู้จ้างวาน – Briana
เป้าหมาย – หาไอเทมต่างๆมาให้เธอประกอบด้วย
Littlehorn shells 1 อัน (แลกจาก Swift Solutions)
Coral huebloom 1 อัน (แลกจาก Swift Solutions)
Dream Prisms 1 อัน (แรนด้อมได้จากหีบสมบัติและดร็อปจาก Boss ในประตู Dreamer’s Door และจาก Mining Camp No.5 LV3 แบบแรนด้อม)
รางวัล - 3,020 EXP, 1,270G, Nixaway Necklace

Side Quest 086 – Bulking up Batu Style    
สถานที่ –  Broadleaf / Lower Uptown
ผู้จ้างวาน – Jared
เป้าหมาย –หาไอเทมอาหารต่างๆมาให้เขาประกอบด้วย
Lean Meat 1 ชิ้น (ดร็อปจากศัตรูทั่วไป)
Fresh Milk 1 ชิ้น (ได้จากฟาร์มในอาณาจักร)
รางวัล - 3020 Exp /1270 G /Shiny Close-Range Ring

Side Quest 087 – Do you believe in Higgledies?
สถานที่ –  Broadleaf / Lower Downtown
ผู้จ้างวาน – ผู้หญิงทำงาน


เป้าหมาย – ผสม Higgledy Droop The Drenched (ธาตุน้ำ) แล้วนำร่วมทีมมาให้ลูกสาวเธอดู
รางวัล – Songbook No.30

          พลเมืองที่หาได้จาก Swift Solutions ในอาณาจักร Broadleaf



Side Quest 069 – Daphne, Glaucus's Biggest Fan
ระดับเลเวลที่ต้องการ – LV40
พลเมืองชื่อ - Daphne
สถานที่ - Hydropolis
ความเชี่ยวชาญ - ประจำอยู่ที่ตลาดขายปลา (Fish Market)


Side Quest 079 – Cindy, The Spirit Seeker
ระดับเลเวลที่ต้องการ – LV40
พลเมืองชื่อ - Candy
สถานที่ - Broadleaf
ความเชี่ยวชาญ - ประจำอยู่ที่อาคารเพาะเลี้ยง Higglery




Side Quest 077 – Kimmy, The Cool - Headed Cop
ระดับเลเวลที่ต้องการ – LV40
พลเมืองชื่อ - Kimmy
สถานที่ – Broadleaf
ความเชี่ยวชาญ - ประจำอยู่ที่ Barracks และมีกองทัพนักดาบ Sigma Battalion สำหรับใช้ในการทำสงคราม

                        Side Quest ที่ Goldpaws หลังจบบทที่ 6

Side Quest 083 – Lady Forget a Lot
สถานที่ –  Goldpaws
ผู้จ้าง – คุณป้าขี้ลืม
เป้าหมาย – ตามหากระเป๋าเงินที่หายไปของคุณป้าด้วยการตามไปคุยตามที่ต่างๆเริ่มจากที่ร้านไอเทมตามด้วยไปสอบถามกับชาวบ้านต่างๆที่จุดเป้าหมาย (คนที่มีกรอบคำพูดสีฟ้า) จนพบคนที่พบกระเป๋าของคุณป้าซึ่งก็คือนักท่องเที่ยวชาว Hydropolis นั่นเอง จากนั้นเอากระเป๋ากลับมาคืนให้ป้าก็จะจบภารกิจ
รางวัล - 3,150 EXP, 970G, Cough Sweet x1



                            Side Quest ที่ Hydropolis หลังจบบทที่ 6


Side Quest 071 – Thetis, Medicinal Merperson 
สถานที่ – Hydropolis
ผู้จ้าง – Thetis


เป้าหมาย – ตามหา Jars of Deep Seawater ที่อยู่ที่ถ้ำ Tidewash Cave มาให้เธอ แล้วเธอจะยอมไปเป็นพลเมืองที่อาณาจักร
 ความเชี่ยวชาญ – ประจำอยู่ที่ Hubble – Bubblery


Side Quest 084 – Head to Head in Hydropolis
สถานที่ – Hydropolis
ผู้จ้าง – 2 พี่น้องนักวิ่ง


เป้าหมาย – วิ่งแข่งเอาชนะเด็กนักวิ่งให้ชนะ แต่หากจะวิ่งแบบธรรมดานั้นรับรองว่าจะไม่มีทางเอาชนะได้เลย ต้องใช้เทคนิคในการแข่งนิดหน่อย โดยการที่ในขณะวิ่งนั้นให้เลี้ยวออกนอกเส้นทางไปทางด้านหน้าท่าเรือ จะสามารถเข้าตึกด้านฝั่งขวาขึ้นไปด้านบนแล้วโดดลงมาจะสามารถมาถึงเส้นชัยได้ก่อน 
รางวัล - 3150 Exp /970 G/Strawberry Chew

Side Quest 070 – Sense and Sensibilities 
สถานที่ – Hydropolis
ผู้จ้าง – Halimede


เป้าหมาย – หาไอเทมต่างๆมาให้ Halimede ตามคำใบ้ที่เธอบอกมา ประกอบด้วย Sapphire Huebloom / Citrine Huebloom / Amethyst Huebloom
ความเชี่ยวชาญ – ประจำอยู่ที่ Market Garden


Side Quest 053 – Lycorias, the Doubtful Guard
สถานที่ – Palace of Hydropolis
ผู้จ้าง – Lycorias
เป้าหมาย – ไปจัดการมอนสเตอร์ Dampo ที่เกาะ Makronos แล้วกลับมาคุยกับ Lycorias อีกครั้ง แล้วเธอจะยอมไปเป็นพลเมืองที่อาณาจักร


ความเชี่ยวชาญ – ประจำอยู่ที่ Hunting Lodge และมีกองทัพพลหอก The Hydropolites สำหรับใช้ในการทำสงครามด้วย

Side Quest 051 – Speio , Prietess in Training 
สถานที่ – Palace of Hydropolis
ผู้จ้าง – Speio
เป้าหมาย – ตาม Speio ไปที่ด้านหน้า Leucippes Labyrinth แล้วเข้าทำการรบในศึก Lost Soul ระดับเลเวล 16 ให้ชนะ จะได้คีย์ไอเทม Sea god’s Trumpet มา จากนั้นกลับไปหา Speio อีกครั้ง แต่จะพบว่า Sea god’s Trumpet นั้นพังไปแล้ว


เรียนรู้เวทย์ Rejuvenate จากร้านเวทย์มนต์ในอาณาจักรแล้วกลับมาคุยกับ Speio อีกครั้ง เพื่อใช้เวทย์ Rejuvenate ย้อนเวลาทำให้ Sea god’s Trumpet กลับมาใช้ได้อีกครั้ง Speio ก็จะยอมตามไปเป็นพลเมืองที่อาณาจักร
ความเชี่ยวชาญ – ประจำอยู่ที่ห้องทดลอง Dimensional Lab


                        Side Quest ที่อาณาจักร Evermore หลังจบบทที่ 6



Side Quest 093 – New Model Armor 
สถานที่ – Evermore
ผู้จ้าง – Fai Do
เป้าหมาย – ต้องการชุด Chieftain’s Cloak ระดับ 6 ขึ้นไป และ รองเท้า Brute’s Boots ระดับ 6 ขึ้นไป (แค่นำมาให้ดูเฉยๆไม่ได้เสียไป หากมีแต่ตัวละครสวมอยู่ก็ถือว่าได้)
รางวัล - 3,750 EXP, 31,500KG, Ice Prism x3

Side Quest 094 – Seeking Superior Weapon 
สถานที่ – Evermore
ผู้จ้าง – Nu Bi
เป้าหมาย – ต้องการหอก Mistral Spear ระดับ 6 ขึ้นไป (แค่นำมาให้ดูเฉยๆไม่ได้เสียไป หากมีแต่ตัวละครสวมอยู่ก็ถือว่าได้)


จากนั้นเดินทางไปที่ Factory Floors ชั้น Dynafloor No.1 เข้าไปที่ห้องทดลองแรกจะพบกับ Brodie และเพื่อนนักวิจัยอยู่ คุยจบจะได้ Side Quest ใหม่จากเขามา

Side Quest 081 – Brodie’s Last Big Job 
สถานที่ – Factory Floors ชั้น Dynafloor No.1
ผู้จ้าง – Brodie
เป้าหมาย – จัดการหุ่น Mark 1 Retrdroids 5 ตัวที่ Dynafloor No.2 ให้ครบ จากนั้นกลับไปหา Brodie อีกครั้งเขาก็จะยอมเข้าร่วมเป็นพลเมืองของอาณาจักรด้วย
ความเชี่ยวชาญ – ประจำที่ร้านอาวุธ

เมื่อกลับไปหา Nu Bi ที่ Evermore ก็จะจบ Side Quest 094 ด้วย
รางวัล - 3,750 EXP, 31,500KG, Sunset Prism x3

Side Quest 090 – Tyran 4 Evermore
สถานที่ – Evermore
ผู้จ้าง – Chingis
เป้าหมาย – คุยกับทหารที่รออยู่นอกเมืองแล้วเข้าสู้ศึก Tyran Lucky Country LV34 ให้ชนะ
รางวัล - 6,570 EXP, 50,000KG, Shiny Baby Buckler

Side Quest 064 – A Most Distressing Dream 
สถานที่ – Evermore
ผู้จ้าง – Speio
เป้าหมาย –  Speio เธอจะบอกใบ้ให้ตามหาคนๆนึงในอาณาจักรที่มีผมเป็นพุ่มๆสีน้ำตาลและมีหูกลมๆอยู่บนศีรษะ


จากนั้นให้เดินไปคุยกับ Long Mein ที่เป็นพลเมืองของอาณาจักรแล้วไปที่ร้านขายไอเทม ซื้อ Venom - Be – Gone มาให้เขา 5 อันก็จะจบภารกิจนี้
รางวัล - 1,890 EXP, 6,750KG, Toxaway Pendant

Side Quest 063 – Tasty Treats Among The Trees 
สถานที่ – Evermore
ผู้จ้าง – Filippos
เป้าหมาย – หาไอเทม Hydropolitan Stew มาให้ Filippos ซึ่งสามารถซื้อได้ในร้านอาหารของ Floyd (LV9)
รางวัล - 2430 Exp, 10000KG, Windy Composite Bow

Side Quest 092 – Big Unveling in Broadleaf 
สถานที่ – Evermore
ผู้จ้าง – Oz
เป้าหมาย – คุยกับทหาร Broadleaf ที่รออยู่ที่ Seguoia Valley แล้วเข้าสู้ศึก Exercise Metal Teat LV28 ให้ชนะ
รางวัล - 6,570 EXP, 50,000KG, Songbook No. 9

Side Quest 091 – The Great Higgledy Hunt
สถานที่ – Evermore
ผู้จ้าง – Cindy May
เป้าหมาย – ช่วย May ตามหาม้วนด้ายของเธอที่ถูกพวก Higgledy 5 ตัวขโมยไป โดยออกเดินตามหาพวก Higgledy ที่ซ่อนตัวอยู่ตามจุดต่างๆของเมืองให้ครบ


รางวัล -5,330 EXP, 18,500KG, Ponderwool x3, Witch's Tool x3
นอกจากรางวัลจากการทำเควสแล้ว May เธอยังจะให้ Higgledy ตัวใหม่เป็นรางวัลอีก 1 ตัวด้วย


                                                Hurdehur The Voltigeur 

Skill
Ball, Ball! – เมื่อ Higgledy ตายจะดร็อป Higgledy Ball ออกมาในบางครั้ง
Hunker, Hunker! - เพิ่มพลังป้องกันการโจมตีทางกายภาพให้เพื่อนในกลุ่มเล็กน้อย
Higgledy Howl - สร้างพายุทอร์นาโดเน้นโจมตีศัตรูที่บินได้
Smite Right - เพิ่มพลังโจมตีทางกายมากขึ้น เมื่อเกิดการตื่นขึ้นของพลัง

Side Quest 062 – Skirmish with the Sea’s Finest 
สถานที่ – Evermore
ผู้จ้าง – Lycorias
เป้าหมาย –คุยกับทหาร Hydropolitav ที่รออยู่ที่ Leccippes Labyrinth แล้วเข้าสู้ศึก Exercise Code Blue LV24 ให้ชนะ
รางวัล - 4,460 EXP, 11,000KG, Songbook No. 8



ส่วน Bracken เพื่อนร่วมปารตี้คนใหม่นั้น เธอมีความชำนาญที่สามารถเข้าประจำได้ทั้งที่ร้านอาวุธและร้านชุดเกราะ   
           


                  Chapter 7: A Traitor in Our Midst




Batu – เจ้ามีเรื่องไรจะบอกงั้นหรอ? งั้นก็พูดมา เร็วๆเลย ข้ากำลังยุ่ง 
Crikey – ขอโทษด้วยครับหัวหน้า แต่มันเป็นเรื่องสำคัญ ผมมั่นใจว่าท่านต้องอยากได้ยินมันแน่นอน
เมื่อคืนตอนเข้ากำลังนู่นทำนี่อยู่ในปราสาทจนดึกก็ไปเห็นท่าน Roland กำลังแอบคุยอะไรบางอย่างกับชายที่สวมผ้าคลุม ทั้งคู่คุยกันอย่างซีเรียสมากๆ ถ้าข้ามองไม่ผิดในมือของท่าน Roland มีเอกสารทางราชการบางอย่างด้วย มันดูลับลมคมในมากๆเลยครับ
Batu – จะบ้าเรอะ ! นั่น Roland นะ เจ้าอู่งานไปหลับและละเมอรึเปล่าฟ่ะ
Crikey – โธ่ท่านหัวหน้า ข้าเห็นจริงๆนะ สาบานด้วยชีวิตเลยก็ได้ .. ตอนแอบดูท่าน Roland ได้ยินเขาเลยพยายามจะจับตัวข้า ข้าเลยวิ่งหนีออกมาทันทีเลย โชคดีนะที่หนีออกมาทันน่ะ 
Batu – อืมมม ..แต่ก็นะ เราจะไปกล่าวหาอะไรใครโดยไม่มีหลักฐานพิสูจน์ไม่ได้หรอก แต่ ถ้าเจ้ามั่นใจจริงๆล่ะก็ จับตาดูพวกเขาเอาไว้ให้ดีก็แล้วกันนะ 
Crikey – ได้ครับท่านหัวหน้า!



Bracken – ทั้งหมดคือสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆที่ทางเราติดตั้งให้คะฝ่าบาท เราได้ปรับปรุงเทคโนโลยีการผลิตของโรงงานต่างๆนิดหน่อยเพื่อผลผลิตที่เพิ่มขึ้นของอาณาจักรในอนาคตคะ 
Roland – เธอทำให้พวกเราประทับใจทันทีที่มาถึงเมืองเลยนะ Bracken
Bracken – แน่นอนเรื่องพวกนี้เราทำได้สบายอยู่แล้ว ทำไมไม่แต่งตั้งชั้นเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสิ่งประดิษฐ์ล่ะ?
Leander – ยินดีอย่างยิ่งเลยล่ะคุณ Bracken อย่างน้อยก็ทำให้สร้างโอกาสในการไปเยือนที่ Ding Dong Dell เพื่อชักชวนให้มาพวกเขาเซ็นปฏิญญา ของเรามีมากขึ้นอีก 
Evan – ใช่ ไม่งั้นเราคงไม่สามารถเข้าใกล้พวกเขาได้ คนๆเดียวไม่สามารถมีกำลังมากพอที่จะโน้มน้าวพวกเขาได้มากนักหรอก .. ยิ่งปล่อยให้เวลาผ่านไปนานเท่าไหร่ก็จะทำให้ใกล้เวลาที่ Horned One จะคืนชีพมากขึ้นเท่านั้น 
Leander – น่าเสียดายที่เกิดเหตุการณ์ไม่ดีที่อาณาจักรนั้นเมื่อไม่นานมานี้ด้วย ... หืมม เสียงโวยวายอะไรกันน่ะ ! ข้างนอกมีอะไรกันหรอ??



                              Zip Victor – ไงพวกนาย !!!! มีห้องพักเหลือบ้างมั๊ยอ่า?



Zip Victor – ว่าไง สบายดีกันรึเปล่าทุกคน?
Bracken – นายมีอะไรรึเปล่า? ทำไมอยู่ๆก็โผล่เข้ามาแบบ Zip
Zip Victor – ก็ไม่มีไรหรอก พอดีหลังจากซ่อมแซมเมืองเสร็จๆมันว่างๆก็เลยแวะมาหาเพื่อจะช่วยเหลืออะไรพวกนายได้บ้าง ชายที่ฉลาดปราดเปรื่องที่สุดอยู่ตรงหน้านี่แล้วไง ถือว่าเป็นโชคดีของพวกนายเลยนะว่ามั๊ย? และ ของขวัญชิ้นแรกที่ชั้นนำมาให้ถึงที่ก็คือ เรือเหาะ ของชั้นนี่ไง ชั้นเอามาให้พวกนายใช้ฟรีๆเลยนะ ตอนนี้น่านฟ้าเป็นของพวกนายแล้ว



Evan – เรือเหาะของคุณอ่ะนะ จริงๆหรอ?
Tani – งั้นก็เยี่ยมไปเลย !! รู้ป่ะว่าชั้นอยากขึ้นไปนั่งบนยานนั้นมากแค่ไหน ที่นี้ก็จะได้บินไปทั่วโลกโดยไม่ต้องรอแรงลมอีกต่อไปแล้ว
Zip Victor –  ทั่วโลกหรอ เธอตาแหลมมากสาวน้อย ชั้นได้อัพดกรดยานเพิ่มเติมนิดหน่อยโดยการใส่ เครื่องปฏิกรณ์ฟิวชั่นขนาดเล็กเข้าไป ทำให้มันสามารถบินไปที่ไหนก็ได้ทั่วโลกเลยล่ะ
Lofty – เฮ้ พวก ข้าก็อยากจะดีใจอ่ะนะ แต่ ยานของนายทำไมมันน่าเกลีดแบบนั้นฟ่ะ
Tani – โธ่เอ้ย ชั้นยิ่งพยายามไม่อยากพูดถึงอยู่นะเนี่ย
Leander – เอาจริงๆผมก็ว่ามันก็เป็น ปัญหา อยู่นะ ...



Zip Victor –  พวกนายล้อกันเล่นใช่ป่ะ? น่าเกลียด ยานของชั้นเนี่ยนะน่าเกลียด !!นี่นะมันคือ ความก้าวหน้าทางคณิตศาสตรเท่าที่โลกนี้มีการศึกษามาเลยนะจะบอกให้ 
Evan – ยานของคุณมันก็ไม่ได้เลวร้ายหรอกนะครับ ...แต่มันคงจะสวยกว่านี้ถ้าไม่มีหน้าของคุณอยู่ที่ส่วนหัวของยานอ่ะนะ ....
Zip Victor –  นายก็ด้วยหรอ Evan โห โคตรทำร้ายจิตใจเลย
Bracken – มันไม่เกี่ยวกับรูปร่างภายนอกหรอนะ Zip นายลืมคิดเรื่องความต้านทานของอากาศใช่มั๊ย? โทษทีนะ ยังไงชั้นก็จะต้องเอามันออก .. มาเถอะพวกเราถึงเวลาช่วยกันทำงานแล้ว
Zip Victor –  ดะ เดี๋ยวก่อนซิ พวกนายจะทำอย่างงั้นไมได้นะ อ้าวเฮ้ย...


                                 ALL ABOARD THE ZIPPELIN



Bracken – เอาล่ะ ถึงเวลาปรับปรุงครั้งใหญ่แล้ว 
Zip Victor – ไม่เอาน่า Bracken จะปรับอะไรก็ปรับไปเถอะ แต่ไม่เอาหน้าชั้นออกได้ป่ะละ
Bracken – นั่นแหละตัวทำน้ำหนักเกิน ยังไงก็ไม่ได้ !



Bracken – เอาล่ะ ปรับแต่งเรียบร้อย เฟอร์เฟค !! พูดแล้วจะหาว่าคุย แต่รับประกันเลยว่า เบาขึ้น เร็วขึ้นและกินน้ำมันน้อยลงแน่นอน 
Zip Victor – โธ่... เรือเหาะแสนสวยของพ่อ... แต่ก็นะ จะมาคิดไรตอนนี้มันก็สายไปและ มันเป็นของพวกนายแล้วนี่ 



การใช้งาน THE ZIPPELIN นั้น สามารถเรียกเรือเหาะมาได้ทุกทีในฉากแผนที่โดยการ กดสามเหลี่ยม หรือ กด Y / กด A หรือ X ในการลงจอด และกด X หรือ สี่เหลี่ยมในการเร่งความเร็ว



Zip Victor – เอ่อ Evan มีเรื่องจะขอร้องอีกเรื่อง
Evan – ได้สิครับ มีอะไรให้ช่วยเหรอครับท่านประธานาธิบดี 
Zip Victor –  คือ เอ่อ ให้ยานพวกนายไปแล้วเลยไม่รู้จะกลับบ้านยังไงอ่ะ ถ้าให้เดินจากที่นี่ไปคงถึงชาติหน้าแน่นอน ฮ่าๆ ถือว่าเป็นการซ้อมบินด้วยไงล่ะ 



จากนั้นใช้เรือเหาะที่จอดอยู่หน้าอาณาจักรออกบินเดินทางไปยัง อาณาจักร Broadleaf เพื่อส่ง Victor โดยในช่วงนี้จะยังไม่สามารถนำยานลงจอดที่ไหนได้จนกว่าจะส่งเขาลง


Zip Victor – เอาล่ะ ขอบคุณมาก ดูแลเธอให้ดีด้วยล่ะ แล้วค่อยเจอกันใหม่นะ
Tani – หืมม นายกำลังจะพูดอะไรหรอ Leander? มีไรเปล่า
Leander – เอาไว้เรากลับไปที่อาณาจักรก่อน แล้วค่อยคุยเรื่องนี้ก็แล้วกัน


หลังจากส่ง Victor แล้ว ช่วงนี้จะสามารถใช้เรือเหาะเดินทางอย่างอิสระแล้ว อยากจะทำอะไรให้ทำเสียก่อนเพราะหลังจากเดินทางไปคุยกับ Leander แล้วจะเข้าสู่เหตุการณ์เนื้อเรื่องหลักแบบบังคับยาวๆ เมื่อมียานก็จะสามารถเดินทางไปยังสถานที่ใหม่ได้แล้ว นั่นคือ Dayland แผ่นดินรกล้างว่างเปล่าทางตะวันออกของแผนที่ สามารถใช้เป็นที่เก็บเลเวล เก็บวัตถุดิบใหม่ๆ รวมทั้งเควสย่อยที่ยังค้างอยู่ด้วย นั่นก็คือ Side Quest 042 – Daddy Come Home ที่รับมาจาก Keeley ที่ Capstan – Upon – Hull ก่อนหน้านี้นี่เอง


                             Side Quest 042 – Daddy Come Home 

อยู่ที่ – Capstan – Upon – Hull
คุยกับ Keeley ที่ Capstan – Upon – Hull เธอต้องการให้ช่วยตามหาพ่อของเธอที่ Dryland  จากนั้นใช้ยานบินเข้าไปยังจุดหมายของภารกิจที่พ่อของ Keeley ซ่อนตัวอยู่ที่ถ้ำ Crackskin ที่ Dryland เข้ามาด้านในจะพบกับวิญญาณดวงนึงอยู่ แต่การจะคุยกับวิญญาณได้นั้นต้องกลับไปเรียนรู้เวทย์ Spirit Medium ที่ร้านเวทย์มนต์ของอาณาจักรก่อน


เมื่อมีเวทย์ Spirit Medium แล้วก็จะสามารถคุยกับวิญญาณได้แล้ว เมื่อกลับคุยกับดวงวิญญาณจะพบว่าเขาชื่อ Scully เป็นพ่อของ Keeley นั่นเอง แม้เขาจะตายไปแล้วแต่ดวงวิญญาณยังไม่ไปสู่สุชคติเพราะกลัวว่าลูกสาวจะไม่รู้ถึงการตายของเขา Scully จึงขอให้ไปจัดการมอนสเตอร์ที่เอาสร้อยของลูกสาวไปกลับคืนมาให้ ออกไปนอกถ้ำจะพบมอนสเตอร์มืด Klogg LV44 อยู่หน้าถ้ำ จัดการมันซะแล้วเอาสร้อยคอกลับไปให้ Scully เมื่อรับปากว่าจะไปแจ้งข่าวการตายของเขาให้ลูกสาวรู้ก็จะทำให้ดวงวิญญาณของ Scully ไปสู่สุชคติ


เมื่อนำสร้อยคอกลับไปให้ Keeley ที่ Capstan – Upon เพื่อแจ้งถึงการตายของพ่อเธอ Keeley ก็จะตกลงใจยอมไปเป็นพลเมืองด้วย โดยเธอมีความชำนาญประจำอยู่ที่ Lumberyard


จากนั้นกลับไปคุยกับ Leander ที่อาณาจักร Evermore ก็จะเข้าสู่เหตุการณ์เนื้อเรื่องหลักแบบบังคับยาวๆ

           
                                                Leander Breaks The New



Leander – เอาล่ะ ตอนนี้ผมมีเรื่องที่อยากจะคุยกับคุณทุกๆคน เราได้รับข่าวจากแหล่งข่าวภายในอาณาจักรแจ้งเข้ามาเกี่ยวกับชายสวมฮู๊ดต้องสงสัยที่แฝงตัวเข้ามาในอาณาจักรของเรา ในช่วงที่บ้านเมืองกำลังเริ่มก่อร่างสร้างตัวแบบนี้เป็นอะไรที่ควรกังวลเป็นอย่างมาก
Batu – เป็นผ้าคลุมยาวแล้วใส่รองเท้าสีหม่นๆด้วยใช่ป่ะ  งั้นเราก็มีไอ้โจรที่แฝงตัวมาอยู่ในหมู่พวกเราแล้วล่ะ เป็นเรื่องที่ไม่ดีเลย ไม่ดีจริงๆ
Roland – อ่า .. อืมม ไม่ดีๆ ไม่ดีจริงๆนั่นแหละ
Evan – งั้นเราประกาศบอกประชาชนของเราให้ช่วยกันสอดส่องดีมั๊ย ถ้ามีใครเห็นชายที่สวมผ้าคุมให้รีบรายงานมาที่เราทันที 
Tani – ใช่ เพราะมันคงกำลังหาทางขโมยอะไรซักอย่างจากเราอยู่แน่ๆเลย
Bracken – ไม่เห็นต้องตกใจเลย หน่วยรักษาความปลอดภัยของเราที่มีอยู่ทั่วเมืองคงไม่ปล่อยให้มันขโมยอะไรไปไม่ได้ง่ายๆหรอกน่า 
Batu – นี่คิดว่าเรามัวแต่คุยจิจ๊ะว่าจะจับตัวเจ้าหัวขโมยนี่ยังไงแค่ตอนหลังอาหารแค่นั้นหรอ? แต่ยังไงก็เถอะ คงต้องถามผู้เชี่ยวชาญหน่อย นายมีวิธีแผนดีๆจะจัดการไอ้หัวขโมยนี่มั๊ยอ่ะ Roland ..ว่าไง ?
Roland – ไม่อ่ะ ผมไม่ทำหรอก ช่วงนี้นอนน้อย อยากจะพักซักหน่อย แล้วอีกอย่าง ผมจะทำแต่งานใหญ่ๆเท่านั้น พวกโจรกระจิบกระจ้อยนี่ผมไม่ทำหรอก แต่ถ้ารีบกันนักก็ทำกันเองได้เลย ผมขอถอนตัวก็แล้วกัน
Batu – หืมมมม .....
Evan – ดีแล้วล่ะ Roland ยังไงก็พักให้สบายแล้วกันนะช่วงนี้
Roland – ขอบคุณนะ ...
Batu – ฮึมมม..


ชายสวมฮู๊ด – ผมต้องขอบคุณอีกครั้งนะสำหรับไอเทมและข้อมูลทั้งหมดที่เราร้องขอไปนะ Roland 
Roland – ไม่ต้องขอบคงขอบคุณอะไรหรอก คุณอยากได้อะไรก็บอกมาก็แล้วกัน
ชายสวมฮู๊ด – ก็มีอีกสิ่งนึงที่สำคัญมากๆที่ผมอยากจะถาม
Roland – เรื่อง?
ชายสวมฮู๊ด –ทำไมคุณถึงรับใช้อาณาจักรนี้ อาณาจักรที่อ่อนหัดที่มีแต่พวกโจรกับพวกเร่ร่อนมารวมตัวกัน ทั้งที่มีอาณาจักรอีกมากมายที่เหมาะสมกับความสามารถของคุณ
Roland – คงเพราะผมคงเคยอยู่อาณาจักรที่ใหญ่มากๆมาแล้วมั้ง บางที่ผมก็อยากจะหาที่ไหนซักแห่งที่เคารพนับถือชั้นและต้องเจอกับศัตรูน้อยหน่อยก็แค่นั้น
ชายสวมฮู๊ด – เข้าใจพูดจริงๆ ..คุณเองก็ช่วยเหลือตอบแทนพวกเราอย่างดีมากๆ ถ้าคุณอยากจะเปลี่ยนใจมาเข้าร่วมกับอาณาจักรของเรา พวกเราก็ยินดีนะ



           Batu – ไอ้ลูกหมาเอ้ย มันจะขายวิญญาณให้กับอาณาจักรที่ใหญ่กว่างั้นหรอเนี่ย?



Batu – ไง Roland นายเข้ามาสืบสวนเรื่องเมื่อคืนนี้งั้นหรอ? เจอเบาะแสอะไรสำคัญๆของตัวการบ้างรึเปล่าล่ะ?
Roland – เมื่อคืนหรอ ผมไม่เห็นรู้เรื่องเลย คุณพูดถึงเรื่องอะไรเนี่ย?
Batu – เลิกตีเนียนได้แล้ว แกมันไอ้คนทรยศ แกกำลังจะทิ้งอาณาจักรเล็กๆของเราเพื่อไปอยู่อาณาจักรที่ใหญ่กว่าใช่มั๊ยล่ะ?
Evan – ห๊ะ !! จริงหรอ Roland??
Batu – จริงไม่จริงก็ลองคิดดูก็ได้ว่า ทำไมถึงมีทรัพยกรที่หายไปมากมายในช่วงที่เจ้าหมาขายชาติตัวนี้เป็นผู้ดูแลอยู่ แล้วเรื่องที่มีคนของข้าพบเจอเขากำลังคุยกับชายที่สวมชุดฮู๊ดในคืนที่ผ่านมา รวมทั้งที่ข้าเองเจอกับตัวเองเมื่อคืนอีก ว่าไงล่ะ? แก้ตัวให้ข้าฟังหน่อยสิ ท่านประธานาธิบดี 
Roland – …………………..
Evan – ผมว่า มันต้องมีเรื่องอะไรที่เข้าใจผิดกันแน่ๆเลยใช่มั๊ย Leander?
Leander – ตามหลักแล้วคงจะเร็วไปที่จะชี้ชัดเพราะเราต้องหาหลักฐานให้ชัดเจนก่อนนะ แต่ ถ้าถามผม เกี่ยวกับเรื่องนี้ มันก็มีบางอย่างที่ดูผิดปกติอยู่
Batu – แกได้ยินแล้วใช่มั๊ย? เอาล่ะแกจะยอมมอบตัวดีๆหรือจะต้องให้ข้าเป็นคนเข้าไปจับตัวแกใส่กุญแจมือด้วยตัวเอง ห๊า!
Roland – เนี่ยหรอความไว้วางใจที่ชั้นได้รับ ดีเหมือนกันที่รู้ บางที่ชั้นก็ควรไปอยู่ในที่ที่ดีกว่าที่นี่จริงๆเหมือนกัน ที่ที่เขาเห็นคุณค่าของความสามารถของชั้นมากกว่านี้ !
Buta – ดี ! อย่างน้อยแกก็ยอมรับออกมาตรงๆเอง



Roland – ลาก่อนนะ Batu … Evan
Evan – Roland ! คุณจะไปแบบนี้ไม่ได้นะ!
Leander –เขาไม่แม้จะแต่จะพยายามที่จะแก้ต่างให้ตัวเองด้วยซ้ำ ไม่ต้องสงสัยเลยว่าข้อสงสัยของ Batu ถูกตั้งขึ้นมามันจริงรึเปล่า ...
Evan – ไม่จริงหรอก !!


Roland – ….. นายเป็นใคร ตามชั้นมาเพื่อ?
????? – ต้องขอโทษด้วยท่านหัวหน้ากงสุล ไม่สิ ต้องเรียกว่า อดีตหัวหน้ากงสุล ถึงจะถูก
Roland – นายก็เห็นด้วยกับเขาว่างั้น? แล้วตกลงมีอะไรกับชั้นงั้นหรอ?
????? – แน่นอน มีสิ ก็ผมมั่นใจว่าคุณมีข้อมูลที่เป็นประโยชน์กับเรานี่นา
Roland – อืมม พูดอย่างมั่นใจมากเลยนะ ทำไมนายถึงคิดงั้นล่ะ?
????? – สำหรับข้าน่ะหรอ มากมายเลยล่ะเพื่อน แต่ ถ้านายอยากรู้อะไรที่มากกว่านี้ก็คงต้องคงไปคุยกับเจ้านายของข้าแล้วล่ะ
Roland – โอ้ งั้นหรอ แล้วนายของเจ้าคือใครล่ะ?
????? – นายของข้าก็ ราชา Mausinger แห่ง Ding Dong Dell น่ะสิถามได้ แต่ไม่ต้องกลัวหรอกนะ รับประกันความปลอดภัยได้
Roland – แหม่ๆ พูดแบบนี้ชั้นคงต้องไปดูด้วยตาตัวเองซะแล้วสิ 



Tani – Roland ไม่กลับมาคืนนึงแล้วนะ เราส่ง Khunbish ออกไปตามหาเขาแล้วก็ยังไม่ส่งข่าวมาเลย
Evan – โธ่ ... Roland …


                                                      Betrayal


                                         ปราสาท Ding Dong Dell



????? – ราชา Mausinger กำลังรอเจ้าอยู่ที่บัลลังก์เดินตรงขึ้นไปก็จะถึงท้องพระโรงได้เลย เชิญ
ส่วนข้าก็คงต้องขอลาแค่ตรงนี้แหละนะ ยังไงก็ขอให้การเข้ามาเจรจากับฝ่าบาทในคราวนี้ออกดอกออกผลกับเจ้าก็แล้วกัน 



ราชา Mausinger – เป็นไง สบายดีหรือเปล่าล่ะ นานเลยนะตั้งแต่เราได้พบกันตอนข้าได้สิทธิอย่างถูกต้องในการครองบัลลังก์ของที่นี่น่ะ
Vermine – นี่นะเรอะ ท่าน Roland ผู้โด่งดัง อ่อ ข้าลืมแนะนำตัวไป ข้าอัครมหาเสนาบดี Vermine ข้าได้สนใจและเฝ้าติดตามผลงานของท่านในฐานะผู้คุมกฎให้กับอาณาจักรของราชา Evan มาโดยตลอดและต้องยอมรับเลยว่า ท่านทำหน้าที่ได้อย่างชนิดที่เรียกว่ายอดเยี่ยมเลยล่ะ 
Roland – ข้าก็แค่ประจบสอพลอเก่งเท่านั้นแหละ 
ราชา Mausinger –  ข้าจำได้ดีเลยล่ะ ตอนที่เจ้าช่วยเพื่อนตัวน้อยของเราไม่ให้ทำตามประสงค์ของข้า แต่มั่นใจได้ ข้าจะไม่ถือโทษเจ้าเรื่องนี้หรอก เพราะข้าพิจารณาดูจากธรรมชาติของคนอย่างเจ้าแล้ว ข้ามั่นใจเลยว่าเจ้ากับข้าต้องร่วมงานกันได้อย่างแน่นอน  
Roland – ดีใจที่ได้ยินแบบนั้นนะ แล้วก็ดีแล้วที่ท่านพูดออกมาแบบตรงไปตรงมาไม่อ้อมค้อม แล้วตกลงเราเจรจาธุรกิจกันได้รึยัง? เงื่อนไขของผมก็ไม่มีอะไรมาก ผมต้องการอำนาจกับเงินอีกนิดหน่อยก็แค่นั้นแหละ แล้วผมจะให้ทุกอย่างที่ท่านต้องการ แม้จะเป็นตัว Evan เองก็เถอะ 
ราชา Mausinger –  ดีมาก ปกติข้าเองมักเชื่อมั่นในการใช้ประโยชน์จากพรสวรรค์ในตัวผู้ที่ข้าจ้างวานเสมอ แต่ ข้าก็อยากจะขอร้องให้เจ้าพิสูจน์ตัวเองก่อนจะได้มั๊ย
Roland – ได้สิ ไม่มีปัญหา 
ราชา Mausinger –  ดีมาก เราได้เตรียมการทดสอบเล็กๆน้อยๆสำหรับเจ้าไว้ที่ดันเจี้ยนใต้ปราสาทแล้ว ทำให้เราเห็นสิว่าเจ้าจงรักษ์ภักดีได้อย่างที่ปากเจ้าบอกไว้รึเปล่า 

หลังจากตกลงกับ ราชา Mausinger จนลงตัวแล้ว Roland ก็เดินเข้าไปยังเป้าหมายของภารกิจที่ดันเจี้ยนใต้ปราสาทตามที่ตกลงไว้ แต่เมื่อเข้าไปจนสุดทางด้านในจะพบว่ามันเป็นคุกใต้ดินที่ Khunbish คนของ Batu ถูกคุมขังอยู่

Khunbish – ท่าน Roland !!
Roland – นายคือคนของ Batu นี่นา



Khunbish – ใช่แล้ว ข้าชื่อ Khunbish ลูกน้องของนายท่าน Batu 
Vermine – สุภาพบุรุษท่านนี้ถูกจับได้ตอนที่กำลังพยายามรุกล้ำเข้ามาในน่านฟ้าของเรา และเราพิสูจน์แล้วว่าเขาเป็นสปาย 
Khunbish – ไอ้บ้าเอ้ย ชั้นไม่ใช่สปายโว้ย ชั้นมาตามหาท่าน Roland ต่างหาก
Roland – ตามหาชั้นหรอ ทำไมล่ะ?
Khunbish – ฮ่าๆ แต่ต้องขอโทษด้วยนะท่าน ที่ข้าดันทำพลาดซะแล้ว
Roland – แต่ชั้นกลับไม่แปลกใจเลยซักนิด 
ราชา Mausinger – เอาล่ะ ถึงเวลาการทดสอบตามที่เราตกลงกันแล้วคุณ Crane แสดงให้เราดูสิว่าความจงรักภักดีของเจ้านะมันจริงหรือลวง การจัดการกับเพื่อนเก่าซักคนของคุณควรนั่นแหละคือหลักฐานที่เพียงพอแล้วว่าคุณพร้อมที่จะรับใช้เจ้านายคนใหม่แล้ว
Roland – ……………….
ราชา Mausinger – มีอะไรงั้นหรอ? ตกลงว่าไง เจ้าจะแสดงความมุ่งมั่นอย่างตรงไปตรงมา หรือว่าจะเป็นแค่คนหลอกลวงท่ามกลางพวกเรากันล่ะ ?
Roland – อย่าเพิ่งตีตนไปก่อนไข่สิ ชั้นก็แค่อยากทำด้วยวิธีของชั้นเองก็เท่านั้น



Khunbish – ท่าน Roland อย่านะ อย่า !! เราเป็นพวกเดียวกันนะ ท่านจะทำแบบนี้ไม่ได้!!
Roland – โทษทีนะ นี่ไม่ใช่เรื่องส่วนตัว นายแค่มาอยู่ผิดที่ผิดเวลาก็แค่นั้นเอง 
Khunbish – อย่านะ ไอ้บ้า !! แกมันไอ้คนทรยศ !!!!



                                                …………….. ปัง !!! ……………..

Roland – ไง แฮปปี้ยัง? 
ราชา Mausinger – อืมม แฮปปี้แล้ว 


Lofty – ผ่านมาวันนึงแล้ว เมื่อไหร่เจ้าพวกนั้นจะกลับมาซักที?
Tani – ตั้งแต่เราส่ง Khunbish ไปตามหา Roland เขาก็ไม่ส่งข่าวมาอีกเลย Roland เองก็หายเงียบไปเหมือนกัน เราออกไปตามหาพวกเขากันดีกว่า เขาอาจกำลังต้องการเรา ...
Batu – เขาไม่ต้องการอะไรจากเราหรอกสาวน้อย และเราก็จะไม่ให้อะไรเขาทั้งนั้น ไอ้คนทรยศขายชาติแบบนั้น 
Evan – ไม่ใช่หรอก เขาไม่มีทางทรยศแน่นอน ผมไม่มีวันเชื่อหรอก มันต้องเป็นกลยุทธ์บางอย่างของเขาแน่ๆ ใช่มั๊ย Leander?
Leander – ผมแนะนำให้คุณลืมเขาซะ ฝ่าบาท เขาคงไม่ทำให้ท่านต้องกังวลอีกนานเลยล่ะ ต้องประทานโทษด้วย แต่ ปล่อยให้คนทรยศไปตามทางของเขาเถอะครับ
Evan – คุณก็ด้วยหรอเนี่ย Leander?
Tani – ว้าวว ช่างเย็นชากันจริงจริ๊ง ! ทำอย่างกับ Roland เพิ่มมาเป็นเพื่อนสนิทของเราแค่ 5 นาทีเท่านั้นแหละ 



Roland – นั่นแหละแผนของชั้น อย่างน้อยๆก็จะได้ทำให้ไอ้ตัวปัญหานั่นไม่ต้องมารบกวนท่านอีกต่อไปแล้ว
Vermine – แหม่ ช่างเป็นแผนที่คิดออกมาได้แบบปัจจุบันทันด่วนดีจริงๆเลยนะครับ 
ราชา Mausinger – น่าประทับใจจริงๆ ดูเหมือนว่าข้าจะเห็นชอบแล้วที่จะให้เจ้าเข้ามาเป็นพวกของเรา เอาล่ะ ตอนนี้ชั้นมีบางอย่างที่สำคัญมากที่จะถามเจ้า เจ้าเคยได้ยินเกี่ยวกับ The Mark of the King บ้างรึเปล่า?
Roland – เคยได้ยินสิ มันเป็นเครื่องรางหลวงที่ตกทอดมารุ่นสู่รุ่นของ Ding Dong Dell เพื่อใช้เป็นเครื่องยืนยันความเป็นกษัตริย์อย่างถูกต้องตามกฎ และถ้าไม่มีมันก็จะไม่สามารถเข้าไปยังสถานที่สำคัญได้ มันเป็นเสมือนกุญแจของกษัตริย์ ถูกมั๊ย?
ราชา Mausinger – ถูกแล้ว มันคือจี้ที่ส่องประกายสีแดงที่สดใสและสวยงามมากๆว่ามั๊ยล่ะ และที่สำคัญที่สุดคือ มันคือกุญแจที่สามารถเข้าไปยัง King's Cradle ของอาณาจักรนี้ได้
Roland – งั้นขอเดานะ ท่านยังไม่ได้มันและต้องการมันอย่างมากใช่มั๊ยล่ะ
ราชา Mausinger – เจ้านี่น่าชื่นชมเหมือนเคยเลยนะ ใช่ ข้ายังไม่ได้มันมา ข้าค้นหามามันจนทั่วอาณาจักรแล้ว ยังไงก็หาไม่เจอ จนข้ามั่นใจแล้วว่า มันคงไม่ได้อยู่ในปราสาทนี้แน่นอน 
Roland – มันไม่มีอยู่แล้วล่ะ เพราะ Evan สวมมันเอาไว้ตลอดเวลาน่ะสิ แล้วก็คงจู่ไปเอามาก็คงยากมากๆด้วย แต่มันก็ไม่ใช่จะทำไม่ได้ซะเลยนะ แค่ชั้นคงต้องการของบางอย่างและเวลาอีกนิดหน่อยก็แค่นั้น
ราชา Mausinger –  อยากได้อะไรก็ขอมาได้เลย เจ้าจะได้ทุกอย่างที่เจ้าต้องการ เพราะงานนี้คงจะหาใครเหมาะเท่าเจ้าไมได้อีกแล้ว 
Roland – แล้ว พณ ท่านล่ะ ต้องการอะไรจากข้าอีกมั๊ย?
Vermine – แหม่ ก็ดีสิ เดี๋ยวข้าคิดก่อนนะ อืมมม ...ถ้าอยากให้ทำมากๆก็คือช่วยไปแจ้งกัปตัน Buck ให้หน่อยว่าการประชุมของสภาการสงครามต้องเลื่อนไปนิดหน่อย
 Roland – ได้สิ เดี๋ยวจัดให้


Captain Buck – แหม่ๆ นี่ท่าน Roland ผู้โด่งดังใช่มั๊ยเนี่ย ข้าได้ยินเรื่องของเจ้าเป็นเดือนๆเลยนะไม่ใช่แค่วันสองวัน แล้วท่านมีธุระอะไรกับทหารที่ต้อยต่ำอย่างข้าถึงขนาดต้องมาหาด้วยตัวเองงั้นหรอ?
Roland – ………………………… ก็ตามนี้แหละ
Captain Buck – อ่อ โอเค ประชุมของสภาการสงครามต้องเลื่อนออกไป ไม่ลืม ไม่ลืม 
Roland – อ่อ แล้วก็มีอีกเรื่องนึง ..มีคำสั่งให้เปลี่ยนตำแหน่งของทหารยามด้วย มีคำสั่งให้ย้ายทหารรักษาการณ์ฝั่งตะวันออกและตะวันตกออกไปด้านนอกทั้งหมด
Captain Buck – โอ้ เป็นคำสั่งที่แปลกมากๆเลย แต่ทหารอย่างเราไม่สนใจหรอกว่าทำไม ได้เลยครับท่าน Roland ตามนั้น



ทันทีที่ Roland ใช่อุบายซ้อนแผนสั่งให้ทหารเปลี่ยนตำแหน่งจนสามารถทำให้เส้นทางปลอดภัยแล้ว เขาจึงลอบเข้าไปยังห้องของ Evan อย่างที่ตั้งใจไว้อย่างง่ายดาย


แม้ประตูห้องจะถูกล็อกปิดตายแต่ Roland ก็มีไม้เด็ดที่เตรียมงัดเอามาใช้ หนอนกุญแจ ที่ Roland ยอมแลกกับสินค้ามากมายเพื่อซื้อจากชายสวมผ้าคลุมมาก็เพื่อนำมาใช้ในการนี้


Roland – สำเร็จ เอาล่ะ ชั้นเข้ามาได้แล้ว ขอบใจมากนะไอ้ตัวเล็ก เอาล่ะ The Mark of the King ต้องอยู่ที่ไหนซักแห่งในห้องนี้แน่นอน อืมมม เดี๋ยวนึกก่อนนะ ………..


Roland – ที่อดคิดไม่ได้เลยคือเราจะไปทำให้ Ding Dong Dell ร่วมเซ็นสัญญากับเรายังไง ดูท่าพวกนั้นคงไม่เอาด้วยเห็นๆ 
Tani – ใช่ๆ รอบๆเมืองก็มีแต่ทหารติดอาวุธเต็มไปหมดด้วยจะเข้าไปได้ยังไงก็ไม่รู้
Evan – จริงๆมันก็มีทางอยู่นะ เป็นเส้นทางที่รู้กันเฉพาะคนในราชวงศ์ เรียกว่าเส้นทางของกษัตริย์
Tani – อ้าวแล้วทำไมตั้งนานถึงเพิ่งมาบอกอ่ะ
Evan – ก็เพราะคนที่จะผ่านไปได้จะต้องมี The Mark of the King น่ะสิ
Roland – อืมม แล้ว The Mark of the King นี่มันคืออะไรหรอ?
Evan – มันคือจี้ที่ใช้แทนตัวของราชวงศ์ที่ทำให้สามารถเข้าในพื้นที่หวงห้ามของ Ding Dong Dell ได้ และมันก็ถูกเก็บไว้ในที่ที่ลับสุดยอดด้วย
Roland – ถ้ามันสำคัญมากขนาดนั้นรับรองว่าไอ้ Mausinger มันต้องกำลังตามหาอยู่เหมือนกันแหละ
Evan – จริงๆมันควรจะเป็นของผมหลังจากที่ท่านพ่อเสียไป แต่ ... ห้องลับที่ว่ามันก็น่าจะอยู่ในปราสาทนั่นแหละ ชั้นมั่นใจว่ายังไงก็อยู่ที่ไหนซักแห่งในห้องผมนั่นแหละ พวกเขาเคยบอกว่าห้องถูกสร้างขึ้นโดยคนในราชวงศ์ ถูกออกแบบมาเพื่อใช้ในการหนีจากอันตรายโดยใช้ The Mark of the King เป็นตัวเปิดทางหนีถ้าจำเป็น ผมคิดว่าไม่น่าจะมีใครรู้เรื่องนี้นอกจากผมนะ งั้นก็แสดงว่า Mausinger ก็คงยังหาไม่เจอ ถ้าใครที่ไม่รู้ว่ามีสวิตซ์ซ่อนอยู่ตรงรูปปั้นที่มุมห้อง ผมรับรองว่ายังไงก็ไม่มีใครหาทางลับเจอแน่นอน 
Tani – ฟังดูน่าสนใจนะ แต่ ถ้าเราจะต้องเข้าไปที่ปราสาท Ding Dong Dell เพื่อค้นหา The Mark of the King ที่ว่านี่ เราก็ต้องเข้าไปที่ Ding Dong Dell ให้ได้ก่อนไม่ใช่หรอ แต่เราก็ยังเข้าไปไม่ได้อยู่ดี จริงป่ะ
Evan – อืมม ผมก็ว่างั้น ...

Roland – รูปปั้นที่มุมห้อง เอาล่ะ ลองไปเช็คดูกัน  อืมมม บิงโก ! นั่นไง ทางเข้าลับที่ซ่อนอยู่ นายพูดถูก Evan ถ้าไม่พบสวิตซ์นี่ก็ไม่มีทางหาเจอแน่นอน



Roland – หืมม มีห้องขนาดใหญ่มากซ่อนอยู่ด้านล่างนี่ด้วย .. หีบนั่น The Mark of the King อยู่ในนั้นชัวร์  ถ้าชั้นได้มันมาตั้งแต่ตอนแรกที่ชั้นอยู่ในห้องนี้คงจะพา Evan หนีออกจากที่นี่กว่าตอนแรกแน่ๆเลย อ่า นี่ไงล่ะ




The Mark of the King ดูแล้วช่างน่าประทับใจมากๆ แต่ ไหนเจ้า Mausinger บอกว่ามันสีแดงไง?  ....อืมม เดี๋ยวนะ ฉลาดมาก Mausinger ฉลาดมาก  มันคงแกล้งทำเป็นไว้ใจเราเพื่อให้เรามาค้นหาที่นี่ให้เจอแน่ๆ


ราชา Mausinger –   ว่าไง คงเจอแล้วสินะ ของพิเศษล้ำค่านั่น The Mark of the King มันซ่อนอยู่ใต้นี้มาตลอดเลยสินะ ซ่อนได้ดีมากๆ เชื่อเหอะว่าข้าหามันอย่างยากลำบากมานานมากเลยล่ะ  แต่ข้าก็ผิดหวังในตัวอย่างมาก Roland การที่ล่อลวงผู้ที่เป็นเจ้านายของตัวเองนั้นเป็นเรื่องที่ไร้ศีลธรรมมากๆ
Roland – จำคำพูดที่ว่า “ทุกคนเสมอภาคกันในเกมรักและสงคราม” ไม่ได้หรอ?
ราชา Mausinger –    มันก็จริง แต่ข้าก็ดีใจนะที่ไม่ได้เชื่อเจ้าจริงๆตั้งแต่ตอนแรก เอาล่ะ ที่นี้ก็เอา The Mark of the King นั่นวางลงแล้วยกมือขึ้นซะ !
Roland – คงจะไม่ได้หรอกนะ เพราะสิ่งนี้มันเป็นของราชาของชั้น แต่ ถ้าแกยอมเซ็นสัญญากับเรา ไม่แน่ชั้นอาจจะคืนให้ก็ได้นะ 
ราชา Mausinger –  ข้าไม่สนอาณาจักรกระจอกๆของเจ้า และข้าคิดว่าตอนนี้เจ้าคงไม่ได้อยู่ในสภาพที่จะต่อรองอะไรได้หรอกนะ
Roland – ไม่สนใจงั้นหรอ? ไม่เป็นไร เปลี่ยนใจแล้วบอกก็แล้วกันนะ 
ราชา Mausinger –  ส่งสปายเข้ามา ฮ่าๆ หลักแหลมมาก ข้ายอมรับนะว่าไม่น่าเชื่อว่าเจ้านายตัวน้อยของเจ้าจะมีทักษะแบบนี้ด้วย
Roland – Evan ไม่รู้เห็นกับเรื่องนี้หรอก เขาไม่ถนัดกับแผนลอบกัดแบบนี้ แต่ เดี๋ยวเขาก็จะตามมาสมทบด้วยในภายหลัง 
ราชา Mausinger –  น่าหัวเราะ ... แต่เจ้าและคนของเจ้าทั้งหมดก็ควรจะรู้ว่า ไม่มีความฝันไหนที่คุ้มค่าพอที่จะสามารถทำให้เป็นความจริงได้โดยไม่ต้องเสียสละบางอย่างไปพร้อมๆกันหรอก แต่ข้าก็จะทำมันให้สำเร็จ ข้าจะทำมัน ทำมัน ไปเรื่อยๆให้เหมือนกับเป็นการเต้นของหัวใจเลยล่ะ 
Roland – ชั้นรู้ว่าแกทำแบบนั้นแน่นอน ว่าแต่ แน่ใจนะว่ามันเป็นความฝันของแกจริงๆหรอ?
ราชา Mausinger –  นานมากแล้วที่ชนเผ่าของพวกเราต้องทนทุกข์ทรมารอยู่ใต้เงื้อมมือของพวก grimalkin มาตลอด ความฝันหนึ่งเดียวของข้าก็คือ ต้องการให้พวกแมวที่ชอบกดขี่มาสยบอยู่ใต้เท้าของพวกเรา
Roland – พูดอีกอย่างก็คือ อยากแก้แค้น ว่างั้นเถอะ
ราชา Mausinger –   จะเรียกอะไรมันก็แล้วแต่เจ้าเถอะ แต่ยุคใหม่กำลังจะมาถึงและความฝันของข้ากำลังจะกลายเป็นความจริงแล้ว
Roland – ขอถามคำสิ? ถ้าแกบอกว่าพวกแกคือผู้ที่ถูกกดขี่แล้วทำไมราชา Leonhard ถึงแต่งตั้งให้แกเป็นถึง อัครมหาเสนาบดีล่ะ?
ราชา Mausinger –    ก็เพื่อใช้ข้าเป็นเครื่องมือเพื่อประหัตประหารพวกเดียวกันยังไงล่ะ! ข้าเป็นแค่หุ่นเชิดเพื่อไม่ให้คนของข้าขัดขืนไง 
Roland – ที่ทำอยู่นี่มันทำให้แกนอนหลับฝันดีทุกคืนจริงๆหรอ?
Vermine – ข้าเบื่อที่จะฟังไอ้หมอนี่มันพล่ามแล้วละครับ ฆ่ามันตอนนี้ให้จบๆไปเลยเถอะ



                                 ราชา Mausinger –  ก็ดีเหมือนกัน ทหาร ! ฆ่ามันซะ !!



อีกครั้งที่สิ่งของที่ Roland ได้มาจากการสรรหาของเพื่อนนิรนามจะถูกนำออกมาใช้เพื่อแก้สถานการณ์  Higgledy ธาตุแสงถูกคว้าขึ้นไปบนอากาศเพื่อให้ส่องแสงทำให้ศัตรูแสบตาเพื่อถ่วงเวลาที่ทำให้ Roland หนีจากกองทหารที่กำลังบุกเข้ามาฆ่าเขาได้สำเร็จ


Roland ใช้เวลาที่ซื้อมารีบเดินทางกลับช่วย Khunbish ที่ห้องขังในทันที Khunbish ที่ทุกคนคิดว่าถูก Roland ยิงตายคาห้องขังไปแล้วนั้นกลับตื่นขึ้นมาอีกครั้งด้วยตุ๊กตานาฬิกาปลุกแค่นั้นเอง ก่อนที่ Khunbish ที่เพิ่งรู้สึกตัวขึ้นมาจะด่าว่า Roland นั้นทรยศ Roland จึงต้องรีบอธิบายสั้นๆว่า ลูกปืนที่เขาใช้เป็นแค่กระสุนปลอมเท่านั้น



ทันทีที่พวกทหารศัตรูกำลังไล่ตามเข้ามา Roland จึงใช้ไอเทมคาถาที่ทำให้ทั้งคู่กลายเป็นกบให้พ้นสายตาก่อนโดดหนีเข้าไปในท่อระบายน้ำจนสามารถหนีออกจากปราสาทได้อย่างปลอดภัย


Evan – เอาล่ะถึงเวลาคุณจะบอกความจริงให้พวกเรารู้ได้รึยัง Leander?
Leander – นี่ท่านมองออกด้วยหรอคับฝ่าบาท?
Evan – แน่นอนสิ เพราะ Roland ไม่มีวันที่จะทรยศแน่นอน หรือถ้าเขาจะทรยศก็คงจะไม่ทำให้มีพิรุธขนาดนี้หรอก บอกเลยว่า ผมรู้จักเขามากพอ
Leander – อาจเป็นแผนอาจใช้กลเม็ดที่ไม่แนบเนียนพออันนี้ผมยอมรับ 
Batu – นี่พวกเจ้าพูดถึงเรื่องอะไรกันฟ่ะเนี่ย?
Evan – เพื่อที่จะหลอกศัตรูคนนึงให้ได้เราก็ต้องหลอกเพื่อนคนนึงของเราให้ได้ก่อน ใช่มั๊ยล่ะ
Leander – ที่ฝ่าบาทต้องการจะบอกคือ เรื่องการทรยศของ Roland นั้นไม่เป็นความจริงหรอก มันคือการจัดฉากขึ้นอย่างแนบเนียนน่ะ ผมไม่มีทางเลือกที่ต้องปกปิดพวกคุณ และใช่ ผมหลอกพวกคุณเองแหละ 



Leander – ทันที่ที่เรากลับมาจาก Broadleaf ผมก็ได้ทำการติดดวงตาสอดแนมที่ควบคุมโดยเวทย์มนต์ชนิดพิเศษเอาไว้จนทั่วทั้งปราสาท ซึ่งก็ต้องขอบพระทัยราชินี Nerea ที่ช่วยอณุเคราะห์เครื่องมือพวกนี้ตามที่ผมร้องขอไป เมื่อผมเอาเรื่องที่ผมกังวลไปปรึกษากับ Roland เราก็ได้ทำการออกหาข่าวด้วยกันเพิ่มเติมจนพบว่ามีสายลับจาก  ding dong dell แฝงตัวอยู่กับพวกเราจริงๆ 



Leander – และแทนที่จะเปิดโปงผู้ที่แอบเข้ามาสอดแนมคนนั้น Roland ก็วางแผนอันแยบยลมากที่จะใช้มันเพื่อประโยชน์ของพวกเราแทน โดยการแสร้งทำเป็นทำข้อตกลงลับๆกับมันแล้วเปิดช่องทางให้มีใครคนนึงมาพบเพื่อให้แผนที่จะทำให้ Roland เป็นคนทรยศสมจริงมากขึ้น และ Batu ชายที่สวมผ้าคลุมที่คุณคิดว่าคือสปายของอาณาจักรอื่นก็คือตัวผมเองแหละ



Batu – นี่แกใช้ชั้นให้เล่นบทไอ้งั่งงั้นหรอ !!
Leander – ผมยอมรับเลยว่าใช่ แต่ในใจของคุณลึกๆแล้วคุณก็ไม่อยากเชื่อใช่มั๊ยว่า Roland คือคนทรยศเรา ไม่งั้นคุณคงไม่ส่งคนของคุณออกไปตามหาเขาหรอกว่ามั๊ย?
 Batu – แกนี่มัน ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
Evan – งั้นก็แสดงว่าตอนนี้ Roland อยู่ที่ไหนซักแห่งในปราสาท ding dong dell สินะ แต่ไม่มีเหตุผลเลย ทำไมเขาถึงต้องไปคนเดียวล่ะ?



Roland – เรื่องนั้นเดี๋ยวผมอธิบายให้ฟังเองนะ
Evan – Roland !!
Roland – โทษทีนะ Evan ที่ทำให้ต้องคิดมาก
Evan – พวกเราทุกคนเป็นห่วงคุณมากๆนะ Roland แต่ตอนนี้คุณกลับมาแล้ว เป็นเรื่องที่สำคัญที่สุดแล้ว
Lofty – ไม่ต้องห่วงนะ Leander เล่าเรื่องทั้งหมดให้เราฟังหมดแล้วล่ะ
Roland – ผมเองก็ต้องขอโทษด้วยที่ต้องหลอกทุกคน ถ้าผมไม่ทำแผนก็คงไม่สำเร็จแน่นอน 
Batu – เออรู้ตัวก็ดีแล้ว เกือบทำข้าเสียหมาและนะเจ้านะ ฮ่าๆๆๆ
Leander – ขอขวัญที่ผมให้ไปใช้งานได้จนจบเรื่องรึเปล่า?
Roland – แน่นอนเลย เจ้าหนอนกุญแจ คาถาแปลงร่างเป็นกบ นายเตรียมของให้มีแต่ดีๆทั้งนั้น และนี่ของสำคัญที่สุดของเรื่องนี้ สำหรับนาย Evan 
Evan – The Mark of the King หรอ!!
Roland – อืมม คราวนี้นายก็จะเดินทางผ่านเส้นทางกษัตริย์กลับไปยัง ding dong dell ได้อย่างไม่มีปัญหาแล้วล่ะ Mausinger ก็หมดหวังที่จะได้มันไปตามที่ชั้นคิดไว้ และก็สามารถใช้เป็นของต่อรองสำหรับให้มันมาเซ็นสัญญากับเราด้วย



Evan – ขอบคุณมากนะ Roland ที่นี้ผมก็จะกลับไปที่ Ding Dong Dell ได้แล้ว กลับไปยังบ้านเกิดที่ถูกขโมยไป

และแล้ววันเวลาที่ Evan จะห้วนคืน Ding Dong Dell ก็มาถึง เพื่อโน้มน้าว Mausinger ให้เซ็นสัญญาเพื่อเป็นรวมแผ่นดินเป็นหนึ่งเดียวกันด้วยดวงตาที่เบิกกว้างและหัวใจที่พองโตเพื่อเข้าสู่ก้าวสุดท้ายของการเดินทางที่เคยเริ่มต้นเอาไว้เสมือนทำให้เขากลับมามีชีวิตเฉกเช่นเดิมอีกครั้ง และถึงเวลาที่จะทำให้ความฝันที่จะรวมโลกนี้ให้เป็นหนึ่งเดียวกันให้ใกล้เป็นความจริง ...



Evan – พ่อผมกับ Mausinger เกลียดกันหรอครับ?
เด็กช่างสงสัย – บางครั้งคนบางคนก็ไม่ได้อยากเป็นเพื่อนกับเราเสมอไปหรอกนะ บางครั้งสถานการณ์มันก็ไม่ได้อำนวยให้ใครมาชอบกันเหมือนกัน 
Evan – ผมไม่อยากจะเชื่อเลยว่าท่านพ่อจะเกลียดใครซักคนหรือจะไม่ไว้ใจใครเพียงเพราะเขาอยู่คนละเผ่าพันธ์เดียวกับเรา แล้วยิ่งกว่านั้น ทำไม Mausinger ก็ยังจะทำเหมือนกับที่พ่อผมทำด้วย?
เด็กช่างสงสัย – ชั้นว่าเพราะเขาคงกลัวน่ะ 
Evan – กลัวอะไรงั้นหรอ?
เด็กช่างสงสัย – กลัวว่าคนที่ยิ่งใหญ่ที่เขาอุทิศชีวิตรับใช้อยู่และวันหนึ่งจะทิ้งเขาไป ลองคิดดูสิว่ามันจะน่ากลัวแค่ไหนถ้าถูกทิ้งโดยคนที่เรารัก
Evan – จริงด้วย ...

-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

                                      Side Quest หลังจบบทที่ 7 


                                                            Evermore 


Side Quest 118 – Buiding up to an attack
สถานที่ – Evermore
ผู้จ้าง – Gao Jia
เป้าหมาย – ออกไปคุยกับทหารที่นอกเมืองแล้วเข้าทำการรบในศึก Fight back Fabricas LV44 ให้ชนะ
รางวัล - 7260 Exp /635000 KG/Profiteer’s Pendant

Side Quest 120 – Rocking the Boats  
สถานที่ – Evermore
ผู้จ้าง – Ketch
เป้าหมาย – หลังจากรับเควสแล้วเข้าไปคุยกับ Bracken แล้วเดินทางไปที่ถ้ำ Dugout ในเขต Heartland ลุยเข้าไปด้านในสุดเก็บ Blitz Prism แล้วกลับไปคุยกับ Ketch ที่อู่ต่อเรือในอาณาจักร
รางวัล - 5530 Exp/34000 KG/Wider-Awake Charm



                           พลเมืองที่หาได้จาก Swift Solutions ในอาณาจักร Goldpaws


Side Quest 095 – Da Xing, The Haughty Harbalist 
พลเมืองชื่อ - Da Xing
สถานที่ - Goldpaws
ความเชี่ยวชาญ – ประจำอยู่ที่ hubble – bubblery

Side Quest 096 – Yip Yip, The master Tailor
พลเมืองชื่อ - Yip Yip
สถานที่ - Goldpaws
ความเชี่ยวชาญ – ประจำอยู่ที่ ร้านขายชุดป้องกัน (Outfitlers)

Side Quest 100  – Sybilla, The Decisive Diver
พลเมืองชื่อ - Sybilla
สถานที่ - Hydropolis
ความเชี่ยวชาญ – ประจำอยู่ที่ ตลาดขายปลา Fish Market

Side Quest 101  – Drew, The Capable Cop
พลเมืองชื่อ - Drew
สถานที่ - Broadleaf
ความเชี่ยวชาญ – Training Ground และมีกองกำลังค้อน Lambda force สำหรับใช้ในการทำสงคราม

Side Quest 102  – Eli, The Dapper Designer 
พลเมืองชื่อ - Eli
สถานที่ - Broadleaf
ความเชี่ยวชาญ – ประจำอยู่ที่ ร้านขายชุดป้องกัน (Outfitlers)

Side Quest 105  – Francine, The Impresario 
พลเมืองชื่อ - Francine
สถานที่ - Broadleaf
ความเชี่ยวชาญ – institute of innovation

Side Quest 111  – The Secrets of the Sauce   
พลเมืองชื่อ - Francine
สถานที่ – Goldpaws
ความเชี่ยวชาญ – เข้าไปคุยกับ Master Chow Chow ที่ Goldpaws แล้วเดินทางกลับไปคุยกับ Floyed ที่ร้านอาหารที่อาณาจักร เขาจะต้องการให้หาวัตถุดิบ 2 อย่างคือ
Honey Apple  อยู่ที่พื้นที่ด้านหลังปราสาท Ding Dong Dell [สามารถเข้าไปในบทที่ 9]
Unripe Firepepper อยู่ที่เกาะทางใต้ของอาณาจักร Hydropolis
Clove of Ripe Garlic อยู่ในพื้นที่แห้งแล้ง Dryland
รางวัล - 5,530 EXP, 34,000KG, Necklace of Insight


                                                    Hydropolis


Side Quest 109  – Return to Sender 
สถานที่ – Hydropolis
ผู้จ้าง – สาวน้อยที่ทำงานร้าน Taverna
เป้าหมาย – หลังจากรับเควสแล้วเข้าไปคุยกับเด็กหนุ่มชาว merfolk ที่จุดหมายของภารกิจที่อยู่ในเมือง จากนั้นเดินทางไปยัง Leucippes Labyrinth เข้าไปที่พื้นที่เป้าหมายจัดการมอยสเตอร์มืด Akheilos จะได้ Wizard king’ secret มาแล้วเอากลับไปให้เด็กหนุ่มชาว merfolk อีกครั้งก็จะจบภารกิจ
รางวัล - 9,540 EXP, 3,070G, Hydropolitan Stew x2

Side Quest 099  – Hipponoe, the shy Artist  
สถานที่ – Hydropolis
ผู้จ้าง – Hipponoe


เป้าหมาย – เข้าไปคุยกับ Hipponoe ศิลปิยนสาวชาว merfolk ที่ริมน้ำแล้วนำไอเทมต่างๆมาให้เธอดังนี้  Jazz egg 1 อัน / Sweet Dream Truffle 1 อัน แล้วตามไปคุยกับเธอที่ท่าเรือในเมืองอีกครั้ง Hipponoe ก็จะยอมตามไปเป็นพลเมืองในอาณาจักร Evermor ด้วย
ความชำนาญ – ประจำอยู่ที่ Market Garden
รางวัล - 3,380 EXP, 1,490G, Aquarium Jelly x3

Side Quest 097  – Mylas, Big Adventure   
สถานที่ – Hydropolis
ผู้จ้าง – Mylas


เป้าหมาย – รับเควสแล้วเข้าไปคุยกับแม่ของ Mylas ในบ้าน จากนั้นเอาไอเทม Seraphic Silk มาให้เธอ 3 อัน เธอก็จะตัดชุดให้กับ Mylas สำหรับใช้ออกเดินทาง แล้ว Mylas ก็จะยอมตามไปเป็นพลเมืองในอาณาจักร Evermor ด้วย


ความชำนาญ – ประจำอยู่ที่ hubble – bubblery
รางวัล - 3,380 EXP, 1,490G, Anti-Nixing Liberator's Cloak

Side Quest 098  – Ladies Love Fabulous Phorkys    
สถานที่ – Hydropolis
ผู้จ้าง – Phorkys 


เป้าหมาย – อัพเกรด Weapon Workshop, Barracks/Elite Barracks, Basic/Officer’s Training Ground ให้อยู่ในเลเวลสูงสุดให้ได้ค่า Ministry of War ของอาณาจักรเป็น Rank S แล้วมาคุยกับเขา Phorkys  ก็จะยอมตามไปเป็นพลเมืองในอาณาจักร Evermor ด้วย
ความชำนาญ – ประจำอยู่ที่ Barracks และมีกองกำลังค้อน Cetus’s Chosen สำหรับใช้ในการทำสงคราม
รางวัล - 5260 Exp, 2280G, Chaotic Ax of Champions

Side Quest 110  – Drakon in Distress    
สถานที่ – Hydropolis
ผู้จ้าง – สาวน้อยผู้รักสัตว์ 
เป้าหมาย – รับคีย์ไอเทม Drakon favorite Snake จากสาวน้อยผู้รักสัตว์แล้วเดินทางไปตามหาเจ้า Drakon สัตว์เลี้ยงของเธอที่ถ้ำ Coral บนเกาะ Makronos เข้าไปสู้กับเจ้า Drakon [LV49] จนกว่ามันจะยอมแพ้ เมื่อเอาขนมของโปรดที่ได้มาให้มัน ก็จะได้ Drakon Collar มาจากมัน เอากลับไปให้ สาวน้อยผู้รักสัตว์ ก็จะจบเควส
รางวัล - 6130 Exp, 1980G, Milk Chew



                                                      Broadleaf

Side Quest 112  – Healing Rifts with Higgledies 
สถานที่ – Broadleaf
ผู้จ้าง – หนูน้อยผู้คลั่งไคล้ Higgledy
เป้าหมาย –นำเอา Higgledy ธาตุไฟ ที่ชื่อ Slingby the Scorcher เข้าร่วมทีมแล้วมาคุยกับ หนูน้อยผู้คลั่งไคล้ Higgledy ดู


** Slingby the Scorcher อยู่ที่ Factory Floors / Dynafloor No. 3 เอา Whole Milk ให้มัน **
รางวัล - 5810 Exp, 1710G, Brightguard Pendant

Side Quest 111  – Three Minute Steak  
สถานที่ – Broadleaf
ผู้จ้าง – Robo Chef
เป้าหมาย – คุยกับหุ่นพ่อครัวแล้ว เอาสเต๊กไปส่งให้ลูกค้าในเมือง 5 คนให้ทันภายในเวลา 3 นาที
รางวัล - 3,550 EXP, 1,150G, Blazing Ring

Side Quest 106  – The world’s Best Buyer 
สถานที่ – Broadleaf
ผู้จ้าง – เจ้าของคาเฟ่
เป้าหมาย – คุยกับเจ้าของคาเฟ่แล้วเขาจะแนะนำให้รู้จักกับ Morgan ทำให้ได้ภารกิจใหม่มา จากนั้นเดินเข้าไปหา Morgan ที่ร้าน Sequoia Self – Defense แต่กลับไม่พบตัวเขา เดินทางต่อไปยังหมู่บ้านชาวเล Capstan-upon-Hull ก็จะพบ Morgan อยู่ที่นี่


 เข้าไปคุยกับเขาแล้วซื้อไอเทมที่แพงที่สุดของเขามานั่นคือ Songbook No. 24 แล้วเดินทางไปที่จุดพื้นที่เป้าหมายของภารกิจ


หาไอเทม ดอก Sundelion ที่อยู่ในพื้นที่กลับไปให้ Morgan อีกครั้ง เธอก็จะยอมตามไปเป็นพลเมืองในอาณาจักร Evermor ด้วย
ความชำนาญ – ประจำอยู่ที่ Bazaar แล้วจะทำให้ในร้านขายไอเทมในอาณาจักรมีของขายเพิ่มเติมคือ Sage's Secrets, Savior's Tears และ All-Be-Gones
รางวัล - 5,530 EXP, 1,860G, Ruthless Ring

Side Quest 114  – Screw Loose   
สถานที่ – Broadleaf
ผู้จ้าง – ชายที่ทำน็อตหาย 


เป้าหมาย – ออกตามหาน็อตที่หายไปของเขาให้เจอ เมื่อเข้าไปที่พื้นที่เป้าหมายของภารกิจจะพบน็อตตกอยู่ แต่ทันทีที่เก็บขึ้นมาก็จะมีชายที่คลั่งไคล้น็อตมาแย่งไปทันที


 ต้องหาไอเทม Bully Button มาแลกกับเขาก็จะได้น็อตคืนมา เอาน็อตกลับไปให้ชายที่ทำน็อตหายก็จะจบเควส
รางวัล - 3,380 EXP, 1,490G, Dingy Ring 

Side Quest 113  – Energy for Everyone 
สถานที่ – Broadleaf
ผู้จ้าง – นักโภชนาการฝึกหัด


เป้าหมาย – เข้าไปคุยกับนักโภชนาการฝึกหัดที่กำลังคิดค้นอาหารให้พลังงานสูตรใหม่ แล้วหาไอเทม Deathbreath Garlic (ได้จาก Wondrous Bazaar LV2) มาให้เธอ แล้วเธอจะทำอาหารให้พลังงานชนิดใหม่ที่เรียกว่า NutriBLams ขึ้นมาได้สำเร็จ จากนั้นนำเอา NutriBLams ไปแจกจ่ายให้ประชาชนที่เหนื่อยล้าในเมืองทดลองกิน 5 คน แล้วกลับมาคุยกับนักโภชนาการฝึกหัดอีกครั้งก็จะจบเควส
รางวัล - 3,380 EXP, 1,490G, Rocket Fuel x5


                                                    Capstan-upon-Hull

Side Quest 108  – Wolf – Poker incarnate   
สถานที่ – Capstan-upon-Hull
ผู้จ้าง – ชายผู้บ้าบิ่น
เป้าหมาย – คุยกับชายผู้บ้าบิ่นแล้วเดินทางตามเข้าไปที่ถ้ำ Hidey-Hole ที่ชายหาดใกล้ๆหมู่บ้าน Capstan-upon-Hull เข้าไปช่วยจัดการฝูงหมาป่าที่กำลังรุมทำร้ายเขาให้หมด ก็จะจบเควส
รางวัล - 4,880 EXP, 1,370G, Shiny Long-Range Ring


                                       เควสย่อยของประชากรที่  EVERMORE 

Side Quest 121  – Tying The Knot   
สถานที่ – Evermore
ผู้จ้าง – Yip Yip
เป้าหมาย – หาไอเทม Pure wool มาให้เธอ
รางวัล - 3380 Exp, 24000KG, Wizardly Robes of Wisdom

Side Quest 117  – The sweet stink of Success 
สถานที่ – Evermore
ผู้จ้าง – Morgan



                     เป้าหมาย – หาไอเทมรองเท้าในตระกลู Stinky Shoes มาให้เธอ



** รองเท้าในตระกลู Stinky Shoes  นั้นเป็นไอเทมที่หายากมาก หาได้จากการแรน ด้อมตกจากบอสใน Dreamer's Door ที่ Grotty Grotto หรือในหีบสมบัติระหว่างทาง หรือบางครั้งถ้าโชคดีก็อยู่ในรายการขายสินค้าของพ่อค้าในนั้น ซึ่งสามารถเอารองเท้าแบบไหนก็ได้ที่มีชื่อนำหน้าว่า Stinky  **
รางวัล - 4,150 EXP, 46,000KG, Determined Gaudy Galoshes

Side Quest 119  – Sweet Salvation 
สถานที่ – Evermore
ผู้จ้าง – Thetis
เป้าหมาย – เอาไอเทมน้ำส้ม zephyr zabaglione มาให้เขา (ผสมได้จากร้านของ Floyd โดยใช้วัตถุดิบคือ Thorngerine, Bananza, Moongo, Rhino Pineapple)
รางวัล - 3380 Exp, 24000KG, Pendant of Pluck



                    Chapter 8 - Land of My Fathers




Evan – ทุกๆท่าน เรื่องที่ผมจะพูดในวันนี้ก็คือ ก่อนที่เราจะทำการเซ็นสัญญากับทาง Ding Dong Dell เราต้องรู้ก่อนว่า ความเป็นอยู่ของประชาชนภายใต้การปกครองของ Mausinger ผมอยากรู้ว่า พวกเขาคิดยังไงกับพ่อของผมบ้างเพราะบางทีอาจจะทำให้ช่วยให้เข้าใจถึงเหตุผลที่ทำให้ท่านพ่อถูกปลงพระชนม์ก็เป็นได้ ที่ผ่านมาผมไม่เคยนึกถึงความคิดของพวกเค้าเลย มันอาจจะเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดแล้วที่ผมจะค้นพบสิ่งที่พวกเขาคิดอย่างแท้จริงซะที 



Roland – เอาล่ะ ต่อไปนี้ผมจะอธิบายแผนในการแทรกซึมเข้าไปที่ Ding Dong Dell ให้ทุกคนเข้าใจพร้อมๆกัน รูปกากบาทที่เห็นในแผนที่คือกำลังทหารที่พวกมันตรึงกำลังเอาไว้ ซึ่งจะเห็นพวกมันใช้กองทหารจำนวนมากอย่างเต็มกำลัง แม้กระทั่งทางแม่น้ำก็ไม่อาจจะเป็นเส้นทางที่ทำให้เล็ดรอดสายตาพวกทหารไปได้ 



เราจึงจำเป็นต้องใช้เรือเหาะ Zippelin ล่อนผ่านไปทางต้นน้ำด้านหลังปราสาทแล้วทิ้งตัวลงไปที่ป่าด้านหลังแทน และจากตรงนั้นจะทำให้เรารอดพ้นสายตาของพวกทหารที่ตรึงกำลังจากด้านหน้าจนสามารถลอบเข้าไปยังเส้นทาง King Way ได้อย่างปลอดภัย 



Bracken – และที่เจ๋งกว่านั้น Zip ได้ทำการปรับแต่งเครื่องยนต์ของยานเหาะให้เงียบแม้จะเดินเครื่องเต็มกำลังอีกด้วย 
Leander- แต่ก็ไม่ได้แปลว่าเราจะไม่ต้องใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษนะ เราไม่อาจเสี่ยงโดยการบินใกล้เมืองให้มากนัก คงต้องใช้การอ้อมเมืองไปเท่านั้น  
Batu – งั้นก็แปลว่ากองกำลังของสลัดอากาศเฒ่าอย่างข้าก็คงไม่ได้ออกโรงสินะ ฮ่าๆ 
Tani – อย่าไปคิดแบบนั้น เพราะกลยุทธในการรบครั้งนี้คือการบุกเข้าไปตรงๆแบบไร้เสียงต่างหากล่ะ
Evan – เอาล่ะ ถ้าพร้อมแล้วก็ออกเดินทางกันเถอะ ! 


                                                    Homeward Bound




เมื่อพร้อมแล้ว ออกเดินทางด้วยยานเหาะไปยังจุดหมายของภารกิจที่ป่าด้านหลังปราสาท Ding Dong Dell


เมื่อเดินทางมาด้านหลังของปราสาทที่ไม่มีกำลังทหารคอยอารักขา Evan ก็จะพบทางเข้าเส้นทาง King way ก่อนที่ The Mark of the King ที่ห้อยติดตัวมาจะเริ่มแสดงพลังเปิดทางเข้าเส้นทางลับของกษัตริย์ให้อย่าง่ายดาย


                                                     Ding Dong Dell 




Bracken – ว้าว เนี่ยหรอ Ding Dong Dell อยากกับหลุดออกมาจากหนังสือนิยายแนะ
Evan – แต่ ผมรู้สึกว่า มันต่างจากตอนที่ผมจากมาเยอะเลยนะ
Leander- บ้านเมืองก็ดูสงบสุขดีนะ แค่ขาดความเป็นเมืองของเผ่า Grimalkin ไปจนหมด
Roland – ไม่ใช่หรอก Mausinger มันใช้ทหารควบคุมประชาชนอย่างเข้มงวดต่างหาก ถ้าพวกเขาไม่หนีไปให้เร็วที่สุดในตอนนี้ พวกเขาก็คงจะไม่มีวันหนีได้อีกแล้ว ชั้นได้ยินมาว่าประชาชนบางส่วนได้หนีไปยังพื้นที่ลับของพวกเขาในเขตของสลัมบ้างแล้วนะ แต่อยู่ที่ไหนอันนี้ก็ไม่รู้นะ
Evan – เอาล่ะ ในเมื่อหา Grimalkin ที่จะให้ข้อมูลเรื่องนี้ไม่ได้ งั้นก็ต้องรอหาพวกหนูนิสัยดีๆที่อาจพอให้ข้อมูลดีๆกับเราดูก็แล้วกัน



Leander- ทางที่ดีผมว่า ฝ่าบาทกับ Roland พวกคุณ 2 คนใส่ฮู้ดปิดบังใบหน้าไว้จะดีกว่านะ
Roland – มันคงไม่ใช่การปลอมตัวที่เนียนมากหรอกนะ แต่ ตอนนี้ก็ทำได้แค่นี้แหละ 

จากนั้นเดินไปคุยกับประชาชนเป้าหมาย 3 คนที่เป็นเป้าหมายภารกิจในแผนที่ให้หมด


อะไรนะ? ชีวิตภายใต้การปกครองของราชา Mausinger นะหรอ? ก็นะ ชั้นไม่รู้ว่ามันเหมือนชีวิตมนุษย์หรือ Grimalkin หรือเปล่านะ แต่สำหรับหนูอย่างชั้น มันดีกว่าตอนเด็กๆมากเลยล่ะ แม่ของชั้นเคยเล่าให้ฟังตั้งแต่เด็กแล้วว่าอย่าไว้ใจ Grimalkin หรืออย่าคบพวกมันเป็นเพื่อนเด็ดขาด ชั้นเองก็ไม่คิดเรื่องการล้มล้างการปกครองจากราชา Leonhard หรืออะไรแล้ว มันเป็นอดีตไปแล้ว ตอนนี้ถึงเวลาที่จะก้าวไปข้างหน้าต่างหาก



การปกครองของราชา Mausinger นะหรอ? นโยบายของท่านเน้นการให้การช่วยเหลือพวกหนูอย่างพวกเราแบบรวดเร็วและเห็นผลจริงๆ และชั้นมั่นใจว่าพวก Grimalkin คงไม่แฮบปี้เรื่องนี้มากนักหรอก ที่ผ่านมาพวกเขาก็ใช้ชีวิตอย่างมีหน้ามีตามาตลอดในขณะที่พวกหนูอย่างเราก็ได้แต่ทนทุกข์ ผมก็ว่าตอนนี้มันก็ยุติธรรมดีแล้วนะ บางทีมันอาจไม่เกิดเรื่องดีๆแบบนี้กับพวกเราถ้าราชา Leonhard ไม่จากไปก็ได้ 



ใช่ชีวิตของพวกเราเปลี่ยนไปมากตั้งแต่ ราชา Mausinger เข้ามาปกครองอาณาจักร ถึวแม้ที่ผ่านมาราชา Leonhard เคยพูดตลอดมาว่าจะมุ่งมั่นเพื่อความเสมอภาคแต่ชั้นไม่เชื่อเขาซักนิดเดียว ที่ผ่านมาเจ้าก็คงเห็นว่าเขาปฏิบัติต่อพวกหนูอย่างเรายังไง ชั้นว่ามันก็สมน้ำสมเนื้อกันแล้วนะ สิ่งที่ ราชา Mausinger ทำนะ มันทำให้ท่านเป็นฮีโร่ของเราเลยล่ะ




Leander- ดูเหมือนว่าการปกครองของราชา Mausinger จะได้รับการต้อนรับที่ดีนะ โดยเฉพาะกับพวกหนู 
Roland – ก็ทำไมพวกเขาจะไม่ชอบล่ะเพราะในที่สุดพวกเขาก็ได้สิทธิพิเศษหลังจากไม่เคยได้รับมาหลายปี
Bracken –  ที่ผ่านมาปัญหาของพวกแมวกับหนูคือการเลือกปฏิบัติ แต่ตอนนี้ทุกอย่างเปลี่ยนไปแล้ว คำถามคือ ที่พวก Grimalkinได้รับผลกระทบอยู่ตอนนี้มันสาสมรึยัง?

Evan – ผมไม่รู้มาก่อนเลยว่าพวกหนูมีความทุกข์กันขนาดนี้ ผมไม่รู้เรื่องของประชาชนของผมเลยซักนิด ไม่รู้เลยจริงๆ และยังจะมามีหน้าเรียกตัวเองว่าเป็นกษัตรย์ของพวกเขาอีก  
Tani – โธ่ Evan 
Roland – ตอนนี้ชั้นอยากฟังความฝั่งของ Grimalkin บ้าง แต่ก็ไม่ค่อยเห็นพวกเขาอยู่แถวๆนี้เลย 
แม่ค้า – แหม่ดูพวกว่างงานพวกนี้สิ ถ้าไม่มีอะไรทำกันก็มาช่วยชั้นทำงานที่นี่ก็ได้นะ มานี่สิ



Evan – เอ่อ คือ คุณต้องการให้พวกเราช่วยทำอะไรหรอฮะ?
แม่ค้า – อ้าว พวกเธอได้ยินด้วยหรอเนี่ย แถมยังยินดีจะช่วยชั้นอีก อะไรจะใจงานขนาดนี้ ไม่ต้องอายนะ เอ้านี่ Sardine Sandwich ชั้นอยากจะให้พวกเธอเอาไปส่งให้ลูกค้าที่เป็น Grimalkin ที่ชื่อ Shadow หน่อย เขาค่อนข้างจะ เอ่อ ..รักอิสระหน่อย คงซ่อนตัวอยู่แถวๆนี้แหละรับรองว่าไม่ไปไหนไกลหรอก เขาเป็นแมวดำ หางยาว รับรองหาไม่ยากแน่นอน เขาจ่ายเงินมาแล้วล่ะ แค่เอาไปให้เขาแค่นั้นก็พอ เสร็จงานแล้วค่อยกลับมารับรางวัล เครนะ

       เดินทางไปที่จุดหมายของภารกิจจะพบแมวดำที่ชื่อ Shadow ซ่อนตัวอยู่ในพุ่มไม้



Evan – นั่นไง หางสีดำยาวๆ เอ่อ โทษนะไม่ทราบว่าชื่อ Shadow รึเปล่าคับ?
Shadow – เมี้ยยววว !!  ผะ ผมไม่ได้ทำอะไรเลยจริงๆนะสาบาน ได้โปรดเมตตา Grimalkin ตัวน้อยๆตัวนี้ด้วยเถอะนะครับ
Lofty – ไม่ต้องกลัว เราแค่เอา Sardine Sandwich มาส่งให้แค่นั้นเองเว้ย 
Shadow – ห๊ะ แซนวิช ของชั้นหรอ?
Evan – ป้าแม่ค้าฝากให้เอามาส่งให้คุณน่ะครับ
Shadow – เฮ้อออ บ้าเอ้ย นึกว่าพวกทหารจะมาจับตัวซะอีก งั้นก็ขอบใจมากนะ
Evan – เอ่อ ไหนๆแล้ว ผมอยากจะถามไรหน่อย ตอนนี้พวก Grimalkin ที่อาศัยอยู่ที่นี่มีความเป็นอยู่ยังไงกันบ้างอ่ะ
Shadow – พวกนายเป็นนักท่องเที่ยวมาจากที่อื่นงั้นหรอ ตั้งแต่ที่นี่มีการปิดพรมแดนก็ไม่เคยเห็นคนแปลกหน้ามานานแล้ว จะว่าไป พวกแมวอย่างชั้นลำบากกันมากตั้งแต่ Mausinger ขึ้นปกครองที่นี่
ชั้นเองก็แค่มาซื้อแซนวิชแต่ก็กลับถูกทหารไล่จับ ชั้นไม่มีทางเลือกก็เลยต้องหนีมานี่  
Evan – คุณหนีมาทั้งๆที่ไม่ได้ทำอะไรผิดเลยเนี่ยนะ
Shadow – ก็เออสิ ตอนนี้พวกเราถูกไล่ให้ออกจากบ้านเรือนให้ไปอยู่ในเขตสลัมเท่านั้น พวกมันให้พวกทหารมาเฝ้าทางเข้าออกตรงท่อระบายน้ำกักบริเวณพวกเราเอาไว้ ชั้นก็แค่หนีออกมาเพื่อหาอาหารไม่ได้ทำผิดร้ายแรงซะหน่อย 
Evan – ว่าแล้ว ทำไมถึงไม่เห็น Grimalkin ในเมืองเลย ...
Shadow – ชั้นก็อยากได้อาหารที่เป็นปลาสดๆบ้างก็เท่านั้น แต่ได้แค่แซนวิชปลาก็ยังดีกว่าไม่ได้ เฮ้อ ยังไงก็เหอะ ชั้นคงอยู่คุยกับนายตรงนี้ไม่ได้นานหรอกนะ เดี๋ยวพวกทหารมันก็ตามมาแล้ว ไว้ค่อยเจอกันวันหลังนะ โชคดี 


Evan – ผมเอาแซนวิชไปส่งให้ Shadow เรียกร้อยแล้วครับป้า 
แม่ค้า – ว้าว พวกเธอนี่น่ารักจริงๆเลย ขอโทษด้วยนะที่เคยว่าก่อนหน้านี้ เอานี่ Sardine Sandwich รางวัลของเธอ 
Lofty - โธ่เอ้ย มันก็อันเดียวกับที่ให้ไปส่งเมื่อกี้นี่หว่า 
แม่ค้า – อะๆๆ อย่าเพิ่งดูถูกกันนะ ลองกินดูก่อน Sardine Sandwich ของป้านี่อร่อยที่สุดในเมืองเลยนะจะบอกให้ 



Evan – พวก Grimalkin ถูกกักบริเวณอยู่ในเขตสลัมใต้ดินโดยมีพวกทหารตรึงกำลังดูแลอย่างเข้มงวด Shadow บอกว่าเขาลอบออกมาทางท่อระบายน้ำเก่าของเมืองพวกทหารเลยไม่สังเกตเห็น
Tani – ถ้ามันเป็นกับดักล่ะ งานนี้โดนจับติดคุกเลยนะจะบอกให้ 
Leander- ถ้าเราอยากจะไปที่เขตสลัมนั้นโดยไม่ให้ทหารจับได้ เส้นทางนั้นก็คงเป็นทางเลือกทางเดียวของเราแล้วล่ะ
Evan – เอาล่ะ งั้นไปกันเถอะ !


จากนั้นเดินทางเข้าไปที่เป้าหมายของภารกิจที่ท่อระบายน้ำเก่าของเมือง เข้าไปด้านในสู่เส้นทางท่อระบายน้ำใต้ดินเก่าที่เรียกว่า Old Well 


                                                    A Species Oppressed



เดินทางเข้าไปยังเส้นทาง Old Well ซึ่งเป็นทางระบายน้ำเก่าใต้ปราสาท ระหว่างทางจะพบกับเทวรูปแมวขนาดใหญ่ที่มีกระถางไฟอยู่ 3 อัน เมื่อเข้าไปใช้เวทย์ไฟจุดไฟจนครบ 3 กระถางจนหมดประตูด้านหลังก็จะเปิดออกให้ไปต่อได้


เมื่อเดินทางไปจนถึงด้านในต่อจนถึงพื้นที่ที่มีกระถางไฟตั้งอยู่ที่หน้าประตู จุดนี้จะเป็นจุดที่ต้องแก้ปริศนาจุดไฟ 3 กระถางให้ครบตามเวลาที่กำหนดให้ทันเพื่อเปิดประตู แต่ครั้งนี้กระถางไฟทั้ง 3 จะไกลกันมาก ที่ต้องทำคือจุดไฟกระถางทั้ง 3 ให้ไฟติดให้หมด


โดยการเริ่มจุดตั้งแต่กระถางแรกหน้าประตูไปตามกระถาง 2 และ 3 วนมาจนถึงกระถางแรกให้ทัน โดยระหว่างจุดไฟที่กระถางนึงไปแล้วมันจะค่อยๆดับลงในขณะที่กำลังวิ่งไปจุดกระถางต่อไปด้วย เมื่อจุดจนครบประตูก็จะเปิดให้ไปต่อ


เข้าไปตามทางจนถึงจุดเซฟด้านในสุดก็จะพบจุดที่ต้องแก้ปริศนาจุดไฟ 3 กระถางอีกครั้ง จัดการวิ่งทำการจุดไฟให้ครบทั้ง 3 กระถางก่อนไฟดับและก่อนเวลาหมดก็จะสามารถเปิดประตูต้องจุดเซฟให้เข้าไปต่อด้านในได้


Evan – ฟังสิ เหมือนผมได้ยินเสียงร้องเรียกให้ช่วยนะ !
Moglet –ไม่นะ ไปให้พ้น !!
Evan – อย่ายุ่งกับเธอนะ !!! .... รีบหลบไปก่อน เร็ว !
Roland – เข้ามา !!



เข้าไปจัดการ Boss - Queen of the Dawn LV55 พร้อมลูกสมุน Petalia ระดับเลเวล 50 อีก 2 ตัวให้ชนะเพื่อช่วยหญิงชาว Grimalkin เอาไว้



Moglet – ขอบคุณนะ ที่ช่วยชีวิตชั้นเอาไว้ ..แต่ ชั้น ชั้นคงต้องไปก่อนนะ ...พวกเขาบอกแล้วว่าไม่ให้เข้ามาเขตท่อระบายน้ำมันอันตรายแต่ชั้นก็ไม่ฟัง 
Evan – เรื่องนั้นช่างมันเถอะ ขอให้เธอไม่บาดเจ็บก็พอแล้วนะ
Moglet – ว่าแต่พวกคุณลงมาที่นี่กันทำไมหรอ?
Evan – เรากำลังหาทางไปที่ Slum ที่พวก Grimalkin ทั้งหมดอยู่กันน่ะ
Moglet – จริงหรอ แต่ ใครกันที่อยากลงมาในที่แบบนี้อ่ะ แต่ถ้าพวกคุณอยากจะไปจริงๆก็ไปเจอชั้นที่นั่นนะ ชั้นมีไรจะให้เพื่อเป็นการขอบคุณที่ช่วยไว้ด้วย แล้วเจอกันนะ 



Evan – ที่เนี่ยหรอ Slum ?
Batu – พวกมันเอาพวกแมวมาอยู่ในที่แคบๆแบบนี้เนี่ยนะ ไม่น่าเชื่อเลย
Tani – ถ้าเทียบกับที่นี่รังสลัดอากาศของเรากลายเป็นสวรรค์เลยล่ะ
Evan – ลองคุยกับคนที่นี่ดูดีกว่าเผื่อจะได้ข้อมูลอะไรมาบ้าง



พวกเธอรู้มั๊ย พวกมอนสเตอร์จากท่อระบายน้ำเก่าชอบบุกเข้ามาที่บ่อยมากเลย เราจะรู้ทันทีตอนที่มีน้ำเริ่มเอ่อออกมาจากด้านนอก แม้พวกมันจะตัวเล็กที่ทำให้เราสามารถพอที่จะจัดการมันได้ แต่พิษที่ร้ายแรงของมันก็ทำให้เรากังวัลอยู่ดีนั่นแหละ แล้วถ้าวันนึงเป็นพวกมอนสเตอร์ตัวใหญ่ๆที่บุกเข้ามาล่ะ พวกเราไม่ต้องหลับต้องนอนกันพอดี 



เฮ้อ ตั้งแต่ Mausingers เข้าปกครองที่นี่ พวกทหารหนูมันนึกอยากจะทำอะไรก็ทำกันสนุกเลย พวกมันจับพวก Grimalkin ตามถนนในเมืองทันทีโดยที่ยังไม่ได้ทำผิดเลย บางคนก็ถูกพวกมันจัดการอย่างโหดเหี้ยมด้วย หนึ่งในเพื่อนรักของข้าก็โดนด้วยเหมือนกัน แค้นครั้งนี้เลือดต้องล้างด้วยเลือดบอกเลย ข้าเองก็ยังไม่ทำอะไรเลยพวกมันก็จับเอามาโยนไว้ในดันเจี้ยน พวกมันคงกลัวพวกแมวอย่างเรามากจนต้องจับมาไว้ที่นี่ 



Moglet – อ่า พวกเธอนั่นเอง ขอบคุณนะที่ช่วยชั้นไว้ ชั้นเคยบอกว่าจะให้รางวัลเธอใช่ป่ะ อ่ะนี่ไง ปลา Swish เลยนะ 
Evan – ขอบคุณนะ แต่ปลาสดๆแบบนี้เป็นอาหารที่สำคัญมากกับคนที่นี่ไม่ใช่หรอ ผมคงรับไว้ไม่ได้หรอก รางวัลของผมคือการที่คุณปลอดภัยนะพอแล้ว
Moglet – จริงหรอ จริงๆนะ ...ชั้นซึ้งน้ำใจพวกคุณมากๆเลย สำหรับที่นี่มันเป็นของหายากจริงๆนั่นแหละ ฮ่าๆ ชั้นคงต้องเป็นหนี้พวกคุณ 2 ครั้งเลยทีนี้ มันเป็นของที่แม่ชั้นชอบมากเลยล่ะ นี่ก็เป็นตัวแรกในชีวิตที่หามาได้เองเลยนะ กะว่าจะไว้เซอร์ไพรซ์ตอนแม่กลับบ้านอ่ะ
Evan – เกิดอะไรขึ้นที่บ้านเมืองของเธอนะ ตอบเท่าที่อยากตอบก็ได้
Moglet – พวกทหารบังคับให้เรามาอยู่ที่นี่น่ะสิ พ่อของชั้นก็พยายามจะขัดขืนจนโดนจับไป ตอนนี้ไปอยู่ไหนก็ไม่รู้  ชั้นอยากรู้ว่าเมื่อไหร่พวกเราจะได้กลับบ้านกันซักที Mausingers ก็ได้ขึ้นปกครองที่นี่มานานแล้ว ทุกอย่างน่าจะจบได้แล้ว 


Roland – เป็นอะไรที่แย่ลงมากอย่างที่คิดจริงๆด้วย 
Evan – แต่มันเป็นเพราะเราเคยข่มเหงพวกหนู ... และผมก็มั่นใจว่าคนส่วนใหญ่ก็ยังมีความสุขในยุคที่ Mausingers ปกครองเมือง แต่ชั้นก็ไม่อภัยในสิ่งที่มันทำหรอก แม้เป็นผู้นำก็ต้องมีความคิดแก้แค้นกันบ้าง …ผมคิดว่าเราคงไม่มีทางรวมอาณาจักรกับ Ding Dong Dell ได้หรอก
Roland – แล้วนายจะทำยังไง แก้แค้นมันด้วยตัวเองเลยงั้นหรอ?
Evan – เขาฆ่าพ่อผม เขาฆ่า Nella คนที่เปรียบเสมือนพี่สาวผม ยึดประเทศของผมไป แล้วเอาคนของผมมาอยู่ในที่แย่ๆแบบนี้ เขาต้องไปจากที่นี่ ไม่งั้น Ding Dong Dell คงไม่มีสันติภาพอย่างแท้จริงหรอก
Roland – บอกชั้นหน่อยสิ Evan ไม่คิดว่าพ่อของนายเขาเลือกคนผิดบ้างงั้นหรอ?
Evan – ว่าไงนะ?
Roland – ก็คิดดูสิ ทำไมเขาถึงเลือกเอาคนอย่าง Mausingers มาเป็นที่ปรึกษาของเขาด้วยล่ะ
Evan – ก็เพราะ ...ผมคิดว่า ...เอ่อออ .... ขอโทษนะ ผมของเวลาส่วนตัวหน่อย ...


Ratja –ฝ่าบาท Evan ใช่มั๊ยค่ะ? 
Evan – หืมม …
Ratja -  นั่นฝ่าบาทจริงๆหรอค่ะเนี่ย?
Evan – Ratja หรอ? ไม่เจอกันนานเลย เป็นไงบ้างละ?
Ratja –  โล่งอกมากเลยที่เจอท่าน เห็นพวกทหารพูดกันทั่วไปหมด กลัวพวกมันจะมาจับตัวท่านซะก่อน ท่านคงอยู่ที่นานไม่ได้นะเพราะ ราชา Mausingers ได้ออกคำสั่งให้ตามจับท่านแล้ว 
Evan – ขอบคุณนะที่เตือน แต่ที่ผมมาที่นี่ก็เพื่อจะคุยกับเขาเรื่อง ผู้นำต้องมีเพียงหนึ่งเดียว ผมหมายถึง เราจะขอให้เขาเซ็นสัญญารวมอาณาจักรเป็นหนึ่งเดียวกันน่ะ
Ratja –   แล้วท่านมีแผนยังไง จะทำได้จริงๆหรอในเมื่อความเป็นจริงท่านก็ไม่สามารถเข้ามาที่นี่ได้ด้วยซ้ำเพราะมีการปิดพรหมแดนอยู่แล้วที่นี่ก็แทบจะปิดตัวจากโลกภายนอกอยู่แล้วนะ



Evan – คือเรื่องนั้น เอ่อ ผมรู้ ......ผมขอถามคุณเรื่องนึงได้มั๊ย Ratja ตอนนี้ที่ Ding Dong Dell ดีพอรึงยัง พวกแมวและหนูอยู่กันอย่างมีความสุขหรือเปล่า? 
Ratja –   ชั้นรู้ว่าฝ่าบาทกำลังกังวลเรื่องอะไร แต่ท่านไม่ต้องกังวลหรอกนะ ราชา Mausingers น่ะเป็นคนที่เกลียดความอยุติธรรมอย่างที่สุด ไม่งั้น พ่อของฝ่าบาทคงไม่เลือกเขามาเป็นที่ปรึกษาหรอกนะ 
Evan – จริงหรอ?
Ratja –  จริงสิ เขานะทำให้ชีวิตความเป็นอยู่ของพวกหนูดีขึ้นอย่างที่ไม่เคยมีราชาองค์ไหนของ Ding Dong Dell เคยทำได้มาก่อนเลยนะ เหมือนกับท่านพ่อของฝ่าบาทที่ให้ชั้นเป็นคนรับใช้ท่านแล้วให้ Mausingers เป็นที่ปรึกษานั่นแหละ 
Evan – แต่ Mausingers บอกว่าที่ท่านพ่อให้เขามาเป็นที่ปรึกษาก็เพราะต้องการให้เขาเป็นตัวแปรทำให้พวกหนูไม่ลุกขึ้นมาต่อต้าน



Ratja –  เขาบอกว่างั้นจริงหรอ? งั้นก็แสดงว่าเขาคิดผิดน่ะสิ เพราะพ่อของฝ่าบาทต้องการให้เขาเป็นเสมือนสะพานที่เป็นตัวเชื่อมระหว่างหนูกับแมวต่างหาก แย่ตรงที่ฝ่าบาทต้องมาได้ยินเรื่องนี้จากแม่บ้านอย่างชั้นแทนที่จะฟังจากปากพระองค์เอง ไดอารี่คงแทนคำพูดของพระองค์ได้ดีที่สุดแต่ชั้นเกรงว่าเขาจะฝังมันไปพร้อมกับศพของพระองค์ไปแล้วล่ะ
Evan – ไดอารี่ของพ่องั้นหรอ ? อืมม ขอบคุณมากนะ Ratja ข้อมูลของเธอช่วยชั้นได้เยอะเลยล่ะ
Ratja –  ยินดีช่วยเหลือฝ่าบาทเสมอคะ ยังไงก็ระวังตัวด้วยนะ


Roland – นั่นไงเขากลับมาแล้ว ไง หายนอยยัง?
Evan – ผมขอโทษด้วยแล้วกันที่แสดงกริยาแบบนั้นออกไป เอาล่ะทุกคน ผมอยากจะไปที่หลุมศพของพ่อหน่อย เพื่ออ่านไดอารี่ของท่าน เพื่อให้รู้ถึงความคิดของท่านให้มากขึ้นกว่านี้ 
Leander- งั้นก็นำทางไปได้เลยฝ่าบาท 


                                                          Father’s Truth 



เดินทางออกนอกเมืองทางช่องทาง King way มาที่ฉากแผนที่แล้วเดินเท้าขึ้นไปยังเนินขนาดใหญ่ด้านหลังปราสาท Ding Dong Dell จะพบสุสานกษัตริย์ตั้งอยู่


อีกหนึ่งเขตหวงห้ามที่ไม่อนุญาตให้ใครกล้ำกรายนอกจากผู้ที่ได้รับอนุญาตจากกษัตริย์โดยมี The Mark of the King ติดตัว


Evan – ของใช้ส่วนตัวของท่านพ่อถูกเก็บเอาไว้ที่นี่ทั้งหมดเลย ไดอารี่ของท่านก็คงอยู่รวมกันที่นี่ด้วยเหมือนกัน .... นี่ไงล่ะ ไดอารี่ของพ่อ เจอแล้ว 



King Leonhard - เจ้าจำได้มั๊ย Mausingers วันที่ข้าแต่งตั้งให้เจ้าเป็นนายกรัฐมนตรีในฐานะที่ปรึกษาข้างกายข้า คณะรัฐมนตรีต่างก็แสดงความไม่พอใจ ข้าเองก็รู้แม้ว่าพวกเขาจะไม่กล้าพูดตรงต่อหน้าข้าก็เถอะ แต่ข้าเชื่อในตัวเจ้า ข้าเห็นความเด็ดเดี่ยวมุ่งมั่นในตาเจ้า ความมุ่งมั่นที่เจ้าต้องการที่จะฝังกลบความแตกต่างระหว่างเผ่าพันธุ์ของเราให้หมดสิ้นไปเช่นเดียวกับที่ข้าทำ และข้าก็ยังคงเชื่อในตัวเจ้าเสมอ ข้ารู้ว่าเจ้าจะสานต่อสิ่งที่เราเริ่มเอาไว้ แถมเจ้ายังทำสำเร็จเสียด้วย 


Evan – ท่านพ่อเชื่อมั่นในตัว Mausingers ไม่สิ เรียกว่า ศรัทธาเลยมากกว่า 
Roland – แล้วตกลงว่านายจะเอาไงต่อ
Evan – อืมม ผมจะบอกให้ Mausingers รู้ความจริง จะบอกให้เขารู้ว่าท่านพ่อศรัทธาในตัวเขามากแค่ไหน
Roland – ฟังดูนั่นคือแผนต่อไปใช่มั๊ย?
Evan – ใช่แล้ว เราต้องทำให้เขายอมพูดกับเราให้ได้ 
Roland – งั้นเรากลับไปตั้งหลักกันที่ Evermore กันก่อนดีกว่า ชั้นว่าเราต้องรอให้มีโอกาสที่เหมาะในการนำเสนอตัวเองอย่างเหมาะสม




Chingis – เอ่อ ฝ่าบาทครับ มีสาสน์ส่งมาจาก Ding Dong Dell ครับผม !!
Batu – ห๊า !! Mausingers มันส่งมาเองเลยหรอ?
Roland – นี่แหละเวลาที่เหมาะสมที่ชั้นว่าล่ะ



                                    ถึงกษัตริย์ Evan Pettiwhisker Tildrum แห่ง Evermore

เรื่องเล่าขานในความสำเร็จของท่านสร้างความประทับใจกับพวกเรามากนัก คงจะเป็นเกรียติมากหากท่านจะมาเยี่ยมชมอาณาจักรของเราเพื่อพูดคุยเกี่ยวกับอาณาจักรที่กำลังเจริญเติบโตของท่าน ชายแดนของเราพร้อมที่จะเปิดต้อนรับพวกท่านให้สามารถเข้าออกอย่างอิสระแล้วเพียงแค่ยืนยันตัวตนของท่านด้วยสัญลักษณ์แห่งกษัตริย์ที่ท่านมีเท่านั้น

   จาก เพื่อนสนิทและอดีตคนรับใช้ที่ซื่อสัตย์ของท่าน ราชา  Mausingers แห่ง Ding Dong Dell


Bracken – มันต้องการแลกเปลี่ยนกับ The Mark of the King  สินะ เดาว่านี่เป็นผลมาจากการเจรจาก่อนหน้านี้ของนายใช่มั๊ยห๊า Roland? 
Leander – มันเป็นกับดักอย่างไม่ต้องสงสัย 
Roland – ชั้นไม่คิดว่าเขาจะปิดบังอะไรเราหรอก เพราะเขารู้ว่าเราจะปฏิเสธ
Evan – นั่นหมายความว่าเราจะได้มีโอกาสเจอกับมันแบบซึ่งๆหน้าแล้วสินะ 


                                                            Nemesis 



เดินทางไปยังเป้าหมายของภารกิจที่ปราสาท Ding Dong Dell อีกครั้งแล้วเข้าไปยังห้องบัลลังก์ของ ตามคำเชิญของราชา Mausingers



Mausingers – ฝ่าบาท ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ โอ้ คุณ Roland ก็มาพร้อมท่านด้วยเรอะ ข้าต้องขอบคุณเจ้ามากเลยนะ ที่ช่วยเปิดโปงระบบรักษาความปลอดภัยที่อ่อนแอของเราให้ได้รับการแก้ไขนะ มิสเตอร์ Crane .. เอา The Mark of the King  ที่ข้าร้องขอไปมาด้วยใช่มั๊ย?
Roland – ไม่ต้องกังวลไปหรอกน่า มันอยู่นี่แล้ว 
Evan – ราชา Mausingers ผมต้องการคุยกับคุณในฐานะเป็นผู้ปกครองของอาณาจักรนึงให้กลายเป็นอาณาจักรใหม่  
Mausingers – โอ้ แน่นอนล่ะ ที่ข้าครอบครองอาณาจักรเจ้าก็เพราะอดลนทนไม่ไหวกับความล้มเหลวที่เจ้าของเดิมมันทำไว้และเจ้าจะได้รับการอภัยถ้าไม่พยายามจะทำแบบเดิมอีกครั้ง 
Evan – ผมได้สัญญากับ Aranella ไว้ว่าจะสร้างอาณาจักรที่ทำให้คนที่มาอาศัยอยู่มีแต่ความสุขตลอดไป 
Mausingers – เจ้าก็เลยจะเซ็นสัญญาที่น่าสมเพชนั่นใช่มั๊ย ข้าเข้าใจ ..เป็นแผนที่ดีสำหรับเด็กไร้เดียงสาอย่างเจ้า
Evan – ไม่ใช่นะ !!  ปฏิญญาแห่งการพึ่งพาซึ่งกันและกันระหว่างราชอาณาจักร (Declaration of interdependence) น่ะมันคือ ...



Vermine – ฝ่าบาท ข้าว่าท่านใช้เวลาฟังเรื่องตลกไร้สาระของเจ้าเด็กนี่นานเกินไปแล้ว เลิกหาข้ออ้างเรื่องความเสมอภาคจอมปลอมแบบนี้ซะที มันก็แค่พยายามโน้มน้าวเราให้ทำตามประสงค์ของพวกมันเหมือนกันที่พ่อมันเคยทำนั่นแหละ ! เหตุผลจอมปลอมของแกน่ะมันไม่ได้แล้ว ฝ่าบาทของข้าไม่ได้โง่เขลาจนให้เจ้าหลอกได้เหมือนวันวานอีกแล้ว 
Mausingers – จะไม่มีการทำข้อตกลงอะไรทั้งสิ้น ชนชาติหนูของเราจะไม่มีวันยอมจำนนต่อพวก grimalkin อีกต่อไปแล้ว !!
Evan – ราชา Mausingers ได้โปรดหยุดเถอะ ก่อนมันจะสายเกินไป! ผมรู้แล้วว่าที่คุณโค่นล้มพวกเราก็เพราะเหตุผลเรื่องความไม่เท่าเทียมระหว่างสองเผ่าของเรา แต่เราจะปล่อยให้มันเป็นแบบนี้ต่อไปไม่ได้ ! เราต้องทำให้ความโกรธเกลียดระหว่างสองเผ่าพันธ์ของเราให้หมดไป
Mausingers – แล้วเจ้ารู้เรื่องการเกลียดชังกันมากแค่ไหนล่ะไอ้หนู? เจ้าเข้าใจรสชาติของความอัปยศอดสูของคนรับใช้แล้วงั้นหรอ? 


… ชีวิตของราชวงศ์ Tildrums คนสุดท้ายกำลังจะสิ้นสุดลงในวันนี้ด้วยน้ำมือของข้า โอ้ ข้ารอวันนี้มานานมากเลยนะ Ding Dong Dell จะไม่มีวันตกเป็นของแกอีกแล้ว .. ไม่มีวัน !! 


               จัดการ Boss – King Mausingers LV56 จนกว่าพลังชีวิตของเขาจะเหลือน้อยที่สุด




Mausingers – แฮ่กๆๆ ... อ่า ข้าถูกทำให้ขายหน้าจากคนทั้ง 2 รุ่นที่มีบรรทัดฐานเดียวกันหรอเนี่ย ข้าของประณามพวกแก่ ไอ้ราชวงศ์ Tildrums ทุกๆตัวเลย 
Evan – เราไม่อยากทำแบบนี้เลยท่าน Mausingers ผมไม่ได้มาที่นี่พวกสู้กับท่านเลยนะ 


Vermine – ไม่เอาน่าฝ่าบาท ท่านต้องไม่แพ้มันง่ายๆแบบนี้เซ่ !! ถ้าท่านยังจัดการไอ้พวกหนอนสกปรกพวกนี้ไม่ได้ ประชาชนก็จะไม่ปลอดภัย เพื่อเขาก็ยังไม่ได้รับอิสรภาพที่แท้จริงหรอกนะ 
Mausingers – อิสรภาพหรอ ใช่ เราต้องการอิสรภาพ !
Roland – แต่มันต้องไม่ใช่แบบนี้ เลิกฟังไอ้บ้านั่นได้แล้ว !!
Mausingers – ข้าจะฆ่า grimalkin ให้หมดไม่ให้เหลือซักตัวเลยคอยดู ... จงมา Oakenhart จงมาหาข้า เดี๋ยวนี้ !! …. 



Mausingers – อ๊ากกก …. Kingbond ของข้า ...แก ..แกเป็นใคร??
Doloran -  หึหึ ข้าคิดว่าเรื่องน่าเบื่อพวกนี้จะไม่มีวันจบลงซะอีก
Vermine – นายท่าน ในที่สุดเราก็ทำสำเร็จจนได้ 
Mausingers – Vermine !??



Vermine – ข้าหวังว่าท่านจะยกโทษให้ข้านะฝ่าบาท ที่ข้าต้องสารภาพตรงๆว่าข้ารู้สึกผิดเล็กน้อยที่มีส่วนในการสนับสนุนให้ท่านฆ่าเพื่อนและผู้มีพระคุณที่สุดของท่านไป แต่ท่านก็ไม่ควรจะเอาคำพูดของฉันไปอ้างกับกษัตริย์ลีโอนาร์ด ว่าทำให้เลือดไหลนองยิ่งกว่าน้ำในกรณีพวกหนูที่รักของข้า 
Mausingers – ม่ายยยยย !!!
Vermine – อันที่จริง กษัตริย์อันเป็นที่รักของท่านไม่ได้เป็นคนน่ารักเกียจถึงขนาดจะทรยศหรือวางแผนที่จะกับเผ่าพันธุ์ของเราเลยซักนิด เขาแง่โง่ที่เชื่อใจท่านจนเราสามารถจัดการเขาได้ง่ายๆมากว่า
Mausingers – Vermine ทำไมแกถึงทำแบบนี้ !!
Vermine – ทำไมข้าถึงทรยศกับเจ้านายข้าได้น่ะหรอ ทำไมท่านถามคำถามโง่ๆแบบนี้ล่ะ ฮ่าๆๆๆ
เอาล่ะนายท่าน Doloran ข้าได้ปฏิบัติในส่วนของข้าตามที่ตกลงกันแล้ว ราคาของมันคืออาณาจักรนี้ ถ้าท่านยังจำที่ข้าเคยขอเรียกร้องไปได้นะ 



Doloran –   ได้สิ เจ้าจะได้รางวัลสำหรับการช่วยเหลือข้าแน่นอน 
Vermine –  อ่ะ อ๊ากกกกกก !!!


Roland - Doloran  แกทำอะไรเขาน่ะ !!!
Doloran –  ขอจ่ายหนี้ให้กับไอ้คนทรยศนี่แปบนึงไม่นานหรอก อาณาจักรที่ถูกสาปนี้ไม่เพียงแต่ผู้ปกครองที่มีใจบริสุทธิ์ที่ยอมจำนนต่อการแทรกแซงของข้า แม้แต่ผู้ช่วยของเขาก็ได้พิสูจน์ว่ามีภูมิคุ้มกันต่อความก้าวหน้าในแผนของข้าไม่พอ และในท้ายที่สุด การแทรกแซงพวกหนอนน่ารังเกียจพวกนี้ก็จบลงซะที ทำเอาข้าเสียเวลาไปมากจริงๆ แต่ในที่สุดแผนของข้าก็สำเร็จ ที่น่าเสียดายก็คือ เพื่อเจ้าจะไม่ได้อยู่เพื่อเป็นสักขีพยานในความรุ่งโรจน์ของข้าในครั้งนี้


Evan – ห๊า !!!
Mausingers – Oakenhart มาที่นี่จริงๆหรอเนี่ย?
Evan – เดี๋ยว ท่านไม่ต้องเรื่องนี้คนเดียวหรอกนะ เราจะสู้กับมันด้วยกัน !!



Boss – Kingmaker Oakenhart LV59 ในการต่อสู้จะมี Chasey – Chasey Higglery ธาตุลมระดับสูงที่ออกมาช่วยสู้โดยการสร้างลมเป็นเกราะกำบังให้ด้วย โดยจุดอ่อนของ Oakenhart จะส่องแสงขึ้นบริเวณข้อเท้าของมัน 



Mausingers – Ding Dong Dell ถูกทำลายสิ้นแล้ว ... ข้าเป็นคนทำลายมันด้วยมือข้าเองด้วย ..ทันทีที่ Kingbond ของข้าถูกชิงไป ข้าก็รู้ทันทีว่า ข้าไม่ใช่นักปกครองที่ดี ข้ามันแข็งแกร่งไม่พอ ... เอาชีวิตข้าไปเถอะ Tildrums มันเป็นของพวกเจ้าแล้ว ...เจ้าจะได้แก้แค้นให้พ่อของเจ้าซะที
Evan – ไม่หรอก Mausingers จะไม่มีใครต้องตายที่นี่อีกแล้ว อาณาจักรนี้ยังไม่ล่มสลายหรอก แต่มันกำลังจะรุ่งเรืองขึ้นต่างหาก เพราะประชาชนทั้งหนูและแมวจะช่วยกันคนละไม้ละมือเพื่อสร้างมันขึ้นมาใหม่ให้ดีกว่าเดิม ท่านพ่อเชื่อมั่นในตัวท่านมากนะ อย่าทำให้ท่านผิดหวังสิ นี่คับ ไออารี่บันทึกส่วนตัวของท่านลองอ่านดู ..


     Mausingers –  เขาบอกว่า ... เขาเชื่อมั่นในตัวข้างั้นหรอ? โธ่ฝ่าบาท นี่ข้าทำอะไรลงไปเนี่ย ..



King Leonhard – Mausingers เพื่อนรักของข้า 
Mausingers –   ฝ่า ..ฝ่าบาท คือข้า ..
King Leonhard – ไม่เป็นไร Mausingers ข้าอภัยให้เจ้า เราสองเผ่าพันธุ์ต่างก็ต้องทนทุกข์ทรมานจากความแตกแยกมานาน มันไม่สามารถทำให้ปรองดองกันได้อย่างง่ายดายหรอก มันต้องใช้เวลาและทำอย่างเป็นขั้นตอน และในวันนึงเราจะยืนหยัดร่วมกัน ช่วยเหลือเกื้อกูลกัน ทุกๆการกดขี่ที่เคยเกิดขึ้นก็จงปล่อยให้เป็นประวัติศาสตร์ที่เราต้องจดจำร่วมกัน และเจ้า Mausingers เจ้าจะเป็นคนทำให้มันเป็นความจริง
Mausingers – ขะ ข้าหรอ ทำไมท่านยังถึง ...ทำไมถึงยังเชื่อใจข้า คนที่ทรยศต่อท่านคนนี้อีก ทำไมต้องเชื่อใจไอ้คนที่ทำให้ท่านผิดหวังคนนี้อีก ฮือออออออ...
King Leonhard – ข้าเชื่อมันในตัวเจ้าเสมอมาและถึงตอนนี้ก็ยังเชื่อมั่นเหมือนเดิม เจ้ามองการณ์ไกลกว่าข้า เจ้ามีแผนและลงมือทำมันจนเป็นความจริงได้เสมอ เจ้านี่แหละผู้นำตัวจริง เจ้าอย่างยังมีเงาดำให้ความสงสัยอยู่บ้าง แต่จงเรียนรู้ว่า คนทั่วไปสามารถสงสัยในตัวเองได้ แต่กษัตริย์ต้องเรียนรู้ที่จะเชื่อใจในการตัดสินใจในตัวเองนะ 
Mausingers – ท่านยังเรียกว่า กษัตริย์งั้นหรอ? ท่านยังคิดว่าข้ามีค่ามากพองั้นหรอ?
King Leonhard –ใครจะปกครองดินแดนที่ข้ารักได้ดีไปกว่าคนที่รักที่นี่ยิ่งชีพอย่างเจ้าอีกล่ะ
Mausingers – ครับฝ่าบาท



King Leonhard –เอาล่ะ ข้าคงต้องตามทางของข้าแล้วล่ะ เจอกันใหม่คราวหน้าเจ้าต้องเล่าเรื่องราวของราชอาณาจักรที่สร้างขึ้นโดยผู้ปกครองที่ฉลาดและมีเมตตาด้วยก็แล้วกันนะ 
Mausingers – ครับฝ่าบาท ฮือออออ ..
King Leonhard – ลาก่อน Mausingers ข้าทิ้ง Ding Dong Dell ไว้ในมือเจ้านะ อย่าทำให้ข้าผิดหวังอีกล่ะ จงเป็นราชาที่แท้จริง และดูแลอาณาจักรที่เราสองคนรักให้ดีที่สุดนะ
Mausingers – ข้าจะไม่ทำให้ท่านผิดหวังแน่ เพื่อนข้า 





Evan – ราชา Mausingers ข้ามีความตั้งใจที่จะรวม 2 อาณาจักรของเราให้เป็นหนึ่งเดียวกัน ท่านมีความประสงค์ที่จะเซ็นปฏิญญาแห่งการพึ่งพาซึ่งกันและกันระหว่างราชอาณาจักรเพื่อเข้าร่วมกับเราด้วยหรือไม่?
Mausingers – อย่างที่ท่านพ่อของเจ้ามีประสงค์เอาไว้ คือรวมสองอาณาจักรของเราให้เป็นหนึ่งเดียวกัน ทำไมถึงจะไม่ได้ล่ะ
Evan – ขอบคุณมาก ราชา Mausingers เรามาร่วมมือกันนำความสงบสุขมาสู่โลกนี้กันเถอะ



Mausingers – เจ้ามาไกลเหลือเกินบุตรแห่ง Leonhard ข้ายินดีที่ยืนเคียงข้างเจ้า นำพา Ding Dong Dell เข้าร่วมเป็นหนึ่งเดียวกับอาณาจักรอื่น ความเป็นปฏิปักษ์ที่แบ่งแยกเราขอให้จบลงที่ตรงนี้ ข้าของคารวะ
ข้าขอคารวะท่านด้วยใจ ท่าน Evan กษัตริย์แห่ง Evermore



                         ขอให้อาณาจักรของเราร่วมกันเพื่อประโยชน์สุขของโลกใบนี้ 



                                   ร่วมธงหมายขจัดสิ้นซึ่งสงครามให้หมดสิ้นไป



                                         รวมใจกันเป็นปึกแผ่นบนแผ่นดินเดียวกัน


มั่นใจได้เลยว่า Ding dong Dell จะเริ่มเปลี่ยนแปลงไปเมื่อผ่านไปได้ วัน ไม่นาน เผ่าแมวที่หลบซ่อนอยู่เพราะความกลัวก็เริ่มตะเกียดตะกายขึ้นมาสู่แสงตะวัน 



ได้พบกับเหล่าพี่น้องๆผองเพื่อนเผ่าหนูเหมือนแต่เก่าก่อน ไปพร้อมๆกับความเกลียดช่างที่มีต่อกันเมื่อวันคืนเริ่มผ่านเลยไปดั่งเช่นหิมะละลาย ..ซึ่งอาจจะไม่ทั้งหมด แต่สิ่งเหล่านี้ต้องใช้เวลา .....


เด็กช่างสงสัย – การเซ็นปฏิญญาแห่งการพึ่งพาซึ่งกันและกันระหว่างราชอาณาจักรเสร็จสิ้นแล้วนี่ Evan นายทำสำเร็จ !!
Evan – เราทำสัญญาสงบศึกกับ Mausingers ได้อีกด้วยนะ แต่ Doloran มันก็สามารถชิงเอา Kingbond ไปได้ทั้งหมด นั่นแปลว่าแผนในการคืนชีพ The Horned One ของมันก็สำเร็จเหมือนกัน 
เด็กช่างสงสัย – มันทำสำเร็จแล้วยังไง แต่นายก็มีกำลังมากพอที่จะเอาชนะมันได้ไม่ใช่หรอ ยิ่งกว่านั้น ถ้านายร่วมโลกไว้เป็นหนึ่งเดียวกันได้ นายอยากจะทำอะไรก็ได้อยู่แล้ว 
Evan – จริงของนายนะ
เด็กช่างสงสัย – แต่ทุกอย่างมันยังไม่จบ ช่วงท้ายที่สุดมันไม่ใช่เรื่องง่ายๆหรอกนะ 



                           Side Quest ที่สามารถทำได้หลังจบบทที่ 8 




                                                       Ding Dong Dell


Side Quest 132  – Grimm’s Determination
สถานที่ – Ding Dong Dell
ผู้จ้าง – ทหารยาม
เป้าหมาย – คุยกับทหารที่ Ding Dong Dell แล้วเดินทางไปที่ Western wood เข้าไปด้านในจะพบ Grimm กำลังสู้กับมอนสเตอร์ Leolyn LV49 อยู่ เข้าไปช่วยเขาจัดการมันซะแล้ว Grimm ก็ยอมเข้าเป็นพลเมืองของอาณาจักร


ความเชี่ยวชาญ – ประจำที่ Barracks และเป็นหัวหน้าหน่วยดาบ The Moonless Knight สำหรับใช้ในการกองทัพ

Side Quest 134  – Pollution Solution
สถานที่ – Ding Dong Dell
ผู้จ้าง – Roden


เป้าหมาย – คุยกับ Roden ที่ทางเข้าอาณาจักร Ding Dong Dell แล้วเดินทางไปที่ ท่อระบายน้ำด้านนอกเมือง เข้าไปด้านในจัดการมอนสเตอร์ Snotley LV48 แล้วกลับไปคุยกับ Roden อีกครั้งเขาก็ยอมเข้าเป็นพลเมืองของอาณาจักร
ความเชี่ยวชาญ – ประจำที่ Institule of innovation หรือ Lumberyard

Side Quest 138 – Marlene, Good girl Gone Bad
สถานที่ – Ding Dong Dell
ผู้จ้าง – ทหารบาดเจ็บ
เป้าหมาย – คุยกับทหารที่บาดเจ็บในเมือง แล้วเดินทางไปคุยกับทหารที่นอกเมือง เข้ารบในสงคราม Marlene: A Conjurer Corrupted? ระดับเลเวล18  เข้าไปทำศึกกับกองทัพของ Marlene ให้ชนะแล้วเธอก็ยอมเข้าเป็นพลเมืองของอาณาจักร


ความเชี่ยวชาญ – ประจำที่ Spellworks และเป็นหัวหน้าหน่วยนักเวทย์ The Wicked witches สำหรับใช้ในการกองทัพ

Side Quest 146  – Time for Tea
สถานที่ – Ding Dong Dell
ผู้จ้าง – แม่บ้านที่กำลังตามหาลูก
เป้าหมาย – ช่วยตามหาลูก 4 คนของเธอที่อยู่ในเมืองนี้เพื่อให้กลับมากินของว่าง


คนแรก – วิ่งไปมาอยู่ตรงกลางเมือง
คนที่ 2 – แอบอยู่ตรงพุ่มไม้ทางขวาของทางเข้าเมือง
คนที่ 3 – อยู่ตรงมุมขวาของน้ำพุใหญ่กลางเมือง
คนที่ 4 – แอบอยู่ด้านหลังร้านขายไอเทมในเมือง
รางวัล - 5,300 EXP, 1,920G, Pile o' Pancakes x2

Side Quest 133 – Ritter’s got Tailor’s Block
สถานที่ – Ding Dong Dell
ผู้จ้าง – Ritter


เป้าหมาย – คุยกับ Ritter ที่หน้าร้านขายอาวุธ แล้วหาชุดต่างๆมาให้เขาดังนี้ Cascading Robes / Chieftain Cloak / Wolfsbane Mail แล้วเขาก็ยอมเข้าเป็นพลเมืองของอาณาจักร
ความเชี่ยวชาญ – ประจำที่ Outfitters

Side Quest 130 – Raxel, One Eyed Mercenary 
สถานที่ – Ding Dong Dell
ผู้จ้าง – Raxel


เป้าหมาย – ออกไปจัดการหนอนทะเลทราย Tropial Fangfish ในเขต Dryland จำนวน 10 ตัว แล้วกลับไปคุยกับ Raxel  อีกครั้งเขาก็ยอมเข้าเป็นพลเมืองของอาณาจักร


ความเชี่ยวชาญ –ประจำที่ Hunting Lodge และเป็นหัวหน้าหน่วยหอก The Black Pack สำหรับใช้ในการกองทัพ

Side Quest 137 – The People’s pâtissière
สถานที่ – Ding Dong Dell
ผู้จ้าง – Rosamund


เป้าหมาย – มีจำนวนประชากรในอาณาจักรให้ได้ 70 คนหรือมากกว่า เมื่อเข้าไปคุยกับ Rosamund  เธอก็จะยอมเข้าเป็นพลเมืองของอาณาจักรด้วยทันที
ความเชี่ยวชาญ –ประจำที่ Ranch หรือ Market Garden

Side Quest 145  – Fresh fish suppers for all 
สถานที่ – Ding Dong Dell
ผู้จ้าง – Hootenanny
เป้าหมาย – ช่วยเอาปลาไปส่งให้ลูกค้า 3 คนภายในเวลา 3 นาที
รางวัล - 5,300 EXP, 1,920G, Fish Supper x3

Side Quest 131 – The Engraver’s Riddle
สถานที่ – Ding Dong Dell
ผู้จ้าง – Grampuss
เป้าหมาย – คุยกับผู้เฒ่า Grampuss แล้วฟังคำใบ้ปริศนาของเขาที่บอกว่า "Brave the maelstron, find tranquility, remain jolly, and all will be clear...".


จากนั้นต้องหาไอเทมแหวนให้ตรงกับคำใบ้มาให้เขา นั่นก็คือ แหวน Underdog Ring (ผสมเอาจากร้าน Outfitters ในระดับการสร้าง accessory  เลเวล 5) เขาก็จะยอมเข้าเป็นพลเมืองของอาณาจักรด้วยทันที
ความเชี่ยวชาญ –ประจำที่ Outfitters



                      พลเมืองที่หาได้จาก Swift Solutions ในอาณาจักร Ding Dong Dell


Side Quest 126  – Jared, The Elite Officer
พลเมืองชื่อ - Jared
สถานที่อยู่ - Broadleaf
ความเชี่ยวชาญ – ประจำที่ Training Ground และเป็นหัวหน้าหน่วยโล่ Covert Ops สำหรับใช้ในการกองทัพเพื่อทำสงคราม

Side Quest 127  – Alexis, The Hard - Nosedcop
พลเมืองชื่อ - Alexis
สถานที่อยู่ - Broadleaf
ความเชี่ยวชาญ – ประจำที่ Hunting Lodge และเป็นหัวหน้าหน่วยปืนสั้น Team Epsilon สำหรับใช้ในการกองทัพเพื่อทำสงคราม

Side Quest 128  – Norbert , The Future Historian
พลเมืองชื่อ - Norbert
สถานที่อยู่ - Ding Dong Dell
ความเชี่ยวชาญ – ประจำที่ Higgledy หรือ Cathedral

Side Quest 129  – Klaus , The Master Merchant
พลเมืองชื่อ - Klaus
สถานที่อยู่ - Ding Dong Dell
ความเชี่ยวชาญ – ประจำที่ Bazaar

Side Quest 135  – The Misunderstood Magician 
พลเมืองชื่อ – Grisella
สถานที่อยู่ - Ding Dong Dell
ความเชี่ยวชาญ – ประจำที่ Hubble – Bubblery

Side Quest 136 – Kitty , The Bubbly Baker
พลเมืองชื่อ – Kitty
สถานที่อยู่ - Ding Dong Dell
ความเชี่ยวชาญ – ประจำที่ Farm

Side Quest 139 – Lady Trudy , Charming Farmer
พลเมืองชื่อ – Lady Trudy
สถานที่อยู่ - Ding Dong Dell
ความเชี่ยวชาญ –ประจำที่ Farm หรือ Market Garden


Side Quest 107 – Furnest , The Inscrutable Author 
พลเมืองชื่อ – Furnest
สถานที่อยู่ - Ding Dong Dell
ความเชี่ยวชาญ –ประจำที่ Explorer หรือ Cathedral


                                                       Hydropolis


Side Quest 124  – Cakkianeira, Priestess of water 
สถานที่ – Hydropolis
ผู้จ้าง – Cakkianeira
เป้าหมาย – คุยกับ Cakkianeira ที่ห้องบัลลังก์ที่ Hydropolis แล้วเดินทางตามเธอไปที่ Dayland จะพบกับ Cakkianeira กับมังกร Volko


จากนั้นเข้าทำศึก Flam of the Firedrake LV19 ให้ชนะก็จะสามารถช่วยเหลือมังกร Volko ให้เป็นอิสระและได้ Cakkianeira เป็นพลเมืองของอาณาจักร


ความเชี่ยวชาญ –ประจำที่ Spellwork หรือ Cathedral และเป็นหัวหน้าหน่วยโล่ The Mermagi สำหรับใช้ในการกองทัพเพื่อทำสงคราม


                                                  Sky pirates Base

Side Quest 141  – The Tainted Wyvern 
สถานที่ – Sky pirates Base
ผู้จ้าง – Sky pirates
เป้าหมาย – คุยกับสลัดอากาศที่ฐานของสลัดอากาศแล้วเดินทางเข้าไปที่ Wyvern Den จัดการ Tainted Monster Twygg LV51 แล้วกลับไปคุยกับสลัดอากาศที่ฐานของสลัดอากาศก็จะจบภารกิจ
รางวัล - 10,030 EXP, 3,240G, Pitchguard Pendant



                                                  Broadleaf     


Side Quest 125 – Trey’s Missing Memolith 
สถานที่ – Broadleaf
ผู้จ้าง – Trey


เป้าหมาย – ตามหาบันทึกความทรงจำของ Trey ที่หายไป โดยต้องเข้าไปคุยกับ Wally ที่ Smartstick Lab ใน Factory ชั้น Dynafloor No.2 จากนั้นเข้าไปคุยกับ Tad ที่ห้อง Reactor Control


แล้วออกมาที่ร้านขายของชั้น 1 ของเจ้าหุ่น Reed ซื้อ Trey’s Missing Memolith ในราคา 10000G เอากลับไปให้ Trey เขาก็จะยอมมาเป็นพลเมืองของอาณาจักร
ความเชี่ยวชาญ –ประจำที่ Institute of innovation


Side Quest 144 – The Dark side of Development  
สถานที่ – Broadleaf
ผู้จ้าง – นักวิจัยของ Brisk
เป้าหมาย – คุยกับนักวิจัยในห้องทำงานเดียวกับ Trey แล้วออกไปจัดการมอนสเตอร์เป้าหมาย (Quiverine) ที่นอกเมือง จากนั้นเข้าไปรบในสงคราม What Rightfully Our LV54 ที่นอกเมืองให้ชนะ
รางวัล - 10,430 EXP, 3,890G, Songbook No. 25

Side Quest 143 – Make My Sister Smile Again
สถานที่ – Broadleaf
ผู้จ้าง – พี่น้องผู้คลั่งไคล้ Higgledy


เป้าหมาย – เอา Higgledy - "Jumbile the Lovely" มาให้น้องสาวเธอดู โดยสามารถผสมได้จากที่เพาะเลี้ยง Higgledy ในอาณาจักร (ของหายากในการผสมคือ "Sour Salts" ที่ต้องไปซื้อที่ร้านไอเทมตรงท่าเรือของ Hydropolis เท่านั้น นอกนั้นหาซื้อหรือแลกได้ไม่ยาก)
รางวัล - 8,550 EXP, 2,690G, Violet Pastille


Side Quest 103  – Brooke, Committed Careerist
สถานที่ – Broadleaf
ผู้จ้าง – Brooke


เป้าหมาย – ต้องทำ Side Quest 011: Min Ti, the Sharpshooter แล้วได้ Min Ti มาเป็นพลเมืองก่อนแล้ว Brooke ถึงจะยอมเป็นพลเมืองของอาณาจักร
ความเชี่ยวชาญ –ประจำที่ Institute of innovation และเป็นหัวหน้าหน่วยดาบ The Alpha Females สำหรับใช้ในการกองทัพ

Side Quest 080  – The Search for Eternal Youth
สถานที่ – Broadleaf
ผู้จ้าง – Krystal


เป้าหมาย – ต้องเรียนรู้เวทย์ Rejuvenate จาก Spellwork ในอาณาจักร แล้ว ใช้เวทย์ Rejuvenate ใส่ Krystal
ความเชี่ยวชาญ –ประจำที่ dimensional Lab


                      พลเมืองที่หาได้จาก Swift Solutions ในอาณาจักร Broadleaf




Side Quest 104 – Briana, Bold weapon soldier
พลเมืองชื่อ - Briana
สถานที่อยู่ - Broadleaf
ความเชี่ยวชาญ – ประจำที่ ร้านขายอาวุธ


                                                        Goldpaw


Side Quest 122  – Ya Pi, The Pound soldier 
สถานที่ – Goldpaw
ผู้จ้าง – Ya Pi


เป้าหมาย – ตาม Ya Pi ออกไปทำสงคราม Rage of the Righteous LV17 ให้ชนะ Ya Pi ก็จะยอมเป็นพลเมืองของอาณาจักร
ความเชี่ยวชาญ –ประจำที่ Training Ground และเป็นหัวหน้าหน่วยดาบ The Golden Wolves สำหรับใช้ในการกองทัพ

Side Quest 123 –The Goddess of Good Luck 
สถานที่ – Goldpaw
ผู้จ้าง – Yo Ho-Ho


เป้าหมาย – นำเอาไอเทมต่างๆมาให้เธอดังนี้ Gaudy Galoshes / Warlord's Armor / Prism Spear
ความเชี่ยวชาญ –ประจำที่ Bazaar และเป็นหัวหน้าหน่วยหอก The League of the Patch สำหรับใช้ในการกองทัพ

Side Quest 142 –The Perfect Present 
สถานที่ – Goldpaw
ผู้จ้าง – เจ้ามือทอยเต๋าในคาสิโน
เป้าหมาย – หาของขวัญวันเกิดให้ลูกชายของเจ้ามือทอยเต๋า โดยเดินทางไปที่ร้าน Hi – Tech Toy ที่ Broadleaf แล้วเอาไอเทม Enigma Prisms (แลกได้ใน Swift Solutions 30 เหรียญ) ก็จะได้ Magic Yo-Yo มา เอากลับไปให้ เจ้ามือทอยเต๋าผู้ว่าจ้างดูแล้วเอาไปให้ลูกชายของเขาในเมือง ก็จะจบภารกิจ
รางวัล - 5,010 EXP, 2,430G, Wide-Awake Charm




                       Side Quest ของประชากรในอาณาจักร Evermore หลังจบบทที่ 8


Side Quest 154 – Nu Bi's Crisis of Confidence
ผู้จ้าง – Brodie


เป้าหมาย – คุยกับ Brodie และ Nu Bi แล้วเอาไอเทม "Frostyfluff Cotton" ให้ Nu Bi แล้วไปตีดาบในตระกูล Radiant Blade ให้ได้เกรด 8 ดาวหรือมากกว่ามาให้ Brodie ดู
รางวัล - 6,110 EXP, 103,500KG, Dream Prism x3

Side Quest 153 – A Gruff, Gruff Grandad
ผู้จ้าง – Bai Gon


เป้าหมาย – คุยกับ Fai Do และ Bai Gon แล้วเอาไอเทม " Cuddlywarm Cotton " ให้ Fai Do แล้วไปตีเกราะในตระกูล Warlord Armor ให้ได้เกรด 8 ดาวหรือมากกว่ามาให้ Fai Do ดู
รางวัล - 6,110 EXP, 103,500KG, Enigma Prism x3

Side Quest 147 – The Bandits are Back... Again!
ผู้จ้าง – Chingis
เป้าหมาย – คุยกับ Chingis แล้วออกไปคุยกับทหารที่นอกเมือง จากนั้นเข้าร่วมสงคราม "Tyran's Last Stand" LV51 เอาชนะกองทัพของ Tyran แล้วช่วยเหลืองเขาจัดการมังกรไฟที่กำลังทำร้ายเขา
รางวัล - 10,430 EXP, 117,520KG, Shiny Bulwark Brooch

Side Quest 156 – Longing for Lustrous Locks
ผู้จ้าง – Broke
เป้าหมาย – หาไอเทม Sweet Sap มาให้เธอ 2 อัน (หาได้จาก Flourishing Lumberyard LV3)
รางวัล - 5,010 EXP, 67,000KG, Higgledy Help Pendant

Side Quest 148 – Power Dressing
ผู้จ้าง – Tray


เป้าหมาย – หาไอเทม Sunset Prism 2 อันและ Somnium Nuggets 2 อันมาให้เขา แล้ว Tray จะสร้าง Wearable Tech ชุดพิเศษสำหรับ Bracken ให้
รางวัล - 5,010 EXP, 67,000KG, Wearable Tech

Side Quest 149 – An Unexpected Windfall
ผู้จ้าง – Price


เป้าหมาย – หาไอเทม Hyperclear Industrial Prism ที่ตกอยู่ในเขต Dryland มาให้เขา
รางวัล - 8,180 EXP, 84,000KG, Bright Ring

Side Quest 157 – Wish Upon a Stone
ผู้จ้าง – Klaus


เป้าหมาย – หาไอเทม Shooting Star Salt มาให้เขา (หาได้จาก Bountiful Bazaar LV3)
รางวัล - 5,010 EXP, 67,000KG, Treacle Toffee

Side Quest 155 – Toil and Trouble
ผู้จ้าง – Grisella
เป้าหมาย – หาไอเทม Delicate Wing Bones มาให้เธอ (หาได้จาก Hunting Lodge No. 5)
รางวัล - 5,010 EXP, 67,000KG, Songbook No. 28

Side Quest 151 – Almost Too Good to Be True...
ผู้จ้าง – Niall
เป้าหมาย – เดินทางไปยังถ้ำ Mugsburrow Cave ที่เขต Dryland เข้าไปจัดการพวกโจรที่ซุ้มโจมตีอยู่ด้านในแล้วกลับมารายงานให้  Niall รู้ ก็จะได้ Greenling Garb ชุดพิเศษของ Tani จากเขามา


รางวัล - 8,930 EXP, 90,000KG, Greenling Garb

Side Quest 152 – Ding-Dong vs. Ding Dong Dell
ผู้จ้าง – Raxel
เป้าหมาย – เดินทางไปคุยกับทหารของ  Ding Dong Dell ที่ Rolling Hill แล้วช่วยขำศึก Joint Exercise: Code Green LV46 ให้ชนะ
รางวัล - 10,430 EXP, 117,500KG, Songbook No. 10

Side Quest 150 – On Cold Ground
ผู้จ้าง – Lady Trudy
เป้าหมาย – เข้าไปคุยกับ Munokhoi แล้วหาไอเทม Simmering Wonderwaterมาให้เขา (หาได้จาก Mining Camp ทั่วไป)
รางวัล - 5,010 EXP, 67,000KG, Arrowhead Carrot x2, Lampkin x2, Prism Pepper x2



Doloran –   ถึงเวลาแล้ว ... Kingbonds ทั้ง 4 ได้เป็นของข้าเรียบร้อยแล้ว ในที่สุดข้าก็ได้สมดังใจซะที ...ฮ่าๆ ...ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆ



Evan – มีบางอย่างไม่ค่อยดีแล้ว
Lofty – เจ้าเป็นอะไรรึเปล่า? เรียกประชุมทุกคนกันเถอะ



                         Chapter 9: To Be A King



                                        Rise of the Horned One




Roland – อั๊กกก ...!!!
Evan – Roland เกิดอะไรขึ้นเนี่ย ?
Roland – อ่า .. ชั้นไม่เป็นไร  ไม่ต้องสนใจชั้น ดูที่ท้องฟ้านั่นก่อน ตอนนี้พวก Batu ได้นำเอาเครื่องร่อนบินออกไปสังเกตการณ์แล้วใช่มั๊ย?
Evan – อืมม พวกเขาออกไปแล้ว

เมฆดำทมิฬที่ค่อยก่อตัวและคลืบคลานขยายวงกว้างขึ้นช้าเริ่มเปลี่ยนเป็นพายุที่ช่วยปลุกปั่นให้ความมืดมิดกระจายไปจนทั่วพื้นที่เป้าหมายที่กลางทะเล 



ไม่นานท้องฟ้าที่มืดครึงและปั่นป่วนก็ถูกแยกตัวออกด้วยลูกอุกาบาตแห่งความมืดมิดที่โผล่ออกมาจากมิติถาโถมลงสู่ท้องทะเล  ก่อนที่มันจะเริ่มก่อตัวจนกลายเป็นพื้นดิน เป็นเกาะรูปจันทร์เสี้ยวขนาดใหญ่ขึ้นมา



ก่อนที่ส่วนกลางของก้อนผลึกขนาดใหญ่กลางพื้นที่จะค่อยขยับขยายกลายเป็นอสูรกายขนาดมหึมาภายในเวลาต่อมาอย่างน่ากลัว  


Evan – ไอ้ อสูรกายยักษ์นั่นมัน Kingmaker งั้นหรอ? ผมไม่เคยเห็นอะไรที่มันใหญ่ขนาดนี้มาก่อนเลย 



หลังจากพื้นดินจากก้อนอุกาบาตรได้ก่อร่างสร้างตัวเป็นเกาะขนาดใหญ่ได้สำเร็จ ลำแสงออร่าของ Kingmaker จากทั้ง 4 อาณาจักรที่ถูกยึดพลังมาก็ถูกปลดปล่อยออกมาให้ทำหน้าสร้างบาเรียคุ้มกัน


Doloran – ในที่สุด The Horned One  ก็กลับมาอีกครั้ง ฮ่าๆๆๆ จากนี้ชาวโลกที่น่าสงสารก็คงต้องเสียสละดวงวิญญาณของตัวเองเพื่อทำให้ Alisandra ยอดรักของข้ากลับคืนมาหาข้าอีกครั้ง!


ไม่ทันขาดคำของจอมวายร้าย The Horned One ก็เริ่มดูดกลืนวิญญาณของชาวโลกผู้อ่อนแอแฃะโชคร้ายให้กลับกลายเป็นภูติแห่งความมืดแพร่กระจายกลับไปมากมายในทันที


Doloran – ประชากรมืดของข้ายิ่งเพิ่มมากขึ้นก็ช่วยส่งเสริมพลังความมืดใน Kingbonds ของข้าให้ทรงพลังขึ้นเป็นเงาตามตัว และยิ่งข้าดูดกลืนดวงวิญญาณมาได้มากเท่าไหร่อาณาจักรใหม่ของข้าก็จะใกล้เวลาที่จะรุ่งโรจน์ขึ้นใหม่อีกครั้ง ฮ่าๆๆๆ


Batu – พวกเรากลับมาแล้วฝ่าบาท ครบ 32 ไม่ใช่ก็ใกล้เคียง ฮ่าๆ
Leander – จากที่เราสำรวจตรวจสอบมา ผมเกรงว่าเรากำลังเจอกับปัญหาใหญ่ที่กำลังใกล้เข้ามาแล้วล่ะครับ 
Evan – อืมม The Horned One ได้คืนชีพขึ้นมาแล้วจริงๆหรอเนี่ย 
Leander – ใช่ครับ เราได้ติดตามเจ้าอสูรกายขนาดมหึมาอย่างใกล้ชิดไปจนรอบเกาะสีดำที่เพิ่งถูกสร้างขึ้นมา 
Bracken – ชั้นได้บันทึกภาพเอาไว้หมดแล้ว ลองมาดูไปพร้อมๆกันเลยแล้วกันนะ


Bracken – The Horned One มันปรากฏตัวพร้อมกับมวลสารของพื้นดินขนาดใหญ่ที่เราสำรวจแล้วว่ามันใหญ่เท่ากับขนาดของทวีปๆนึงเลย ก่อนที่มันจะหายไปทันทีทีมีพลังมาเป็นบาเรียคุ้มครองมันไว้ 
Roland – เลวร้ายมากๆ



Evan – ห๊า นั่นมัน Longfang นี่?
Batu –ไม่ใช่แค่ Longfang หรอกนะ Brinekimmer , Bastion, Oakenhart ก็อยู่ที่นี่ด้วย เรียกว่าเป็นการรวมตัวกันของเหล่า Kingmaker เลยก็ว่าได้ 
Leander – แต่พวกมันมีบางอย่างที่แตกต่างออกไป พวกมันไม่ใช่ Kingmaker ตัวจริง แต่เป็นเสมือนโทรสารที่ถูกส่งมาจากพลังของ Kingbonds แต่ละอันที่ถูกชิงมา ผมคิดว่างั้นนะ
Bracken – ไม่ว่าพวกมันจะเป็นอะไรก็เถอะ แต่พวกมันได้ปล่อยพลังบ้างอย่างออกมาสร้างบาเรียคุ้มกัน The Horned One เอาไว้จนหมด 
Leander – ใช่ครับ แต่ในขณะเดียวกัน บาเรียพวกนั้นก็สามารถปิดเปิดเพื่อให้เจ้าปีศาจนั่นดูซับก้อนพลังงานเข้ามาได้อย่างต่อเนื่องได้ด้วย
Roland – อืมม ก้อนพลังงานพวกนั้นมันคืออะไรกันนะ?


Leander – แปบนะ Roland เดี๋ยวผมให้ดู นี่ไง ทันทีที่ The Horned One ดูดซับก้อนพลังงานเข้าไปมันก็จะสร้างปีศาจสีดำออกมาแทน 
Bracken – พวกมันบินออกมาจาก The Horned One ไปจนทั่วพื้นที่ โชคดีที่มันมาถึงนี่ยังไม่มากนัก 



Leander – และจากการวิเคราะห์ของผม ก้อนวิญญาณที่ The Horned One มันกำลังดูดซับเข้ามาก็คือ พลังวิญญาณที่กลั่นออกมาจากสิ่งมีชีวิต พูดง่ายๆก็คือ The Horned One มันกำลังดูดพลังวิญญาณของสิ่งมีชีวิตมาเปลี่ยนให้เป็นปีศาจที่เป็นลูกน้องของมัน เหมือนตอนที่ Doloran มันทำกับ Vermine ให้เป็นซากศพเดินได้นั่นแหละ 
Roland – ถ้าเป็นอย่างนายพูดจริง มันก็กำลังจะเปลี่ยนคนทั้งโลกให้กลายเป็นซากศพเดินได้ทั้งหมดงั้นหรอ? 
Evan – แล้วเราจำทำให้พวกเขากลับมาเหมือนเดินยังไงดีล่ะ? 
Leander – ผมเองก็ยังไม่ชัวร์นะ แต่มันก็พอมีทางอยู่ 
Bracken – ชั้นว่าเราควรขอบคุณที่เรามี Lofty อยู่กับเรานะ


Lofty – ห๊า ข้าอะหรอ? ยังไง? ข้ายังไม่ได้ทำอะไรเลยนะสาบานได้
Bracken – ใช่ เจ้าไม่ได้ทำอะไรเลยนอกเสียจากว่าเป็นสิ่งเดียวทุกๆอาณาจักรไม่มีนั่นคือ The Kingmaker แถมพันธะสายสัมพันธระหว่างเจ้ากับ Evan ก็ยังแข็งแกร่งเหนียวแน่น นั่นแปลว่า อาณาจักรของเรายังได้รับการปกปักษ์อยู่
Lofty – ตอนแรกข้าก็คิดว่ามันน่าจะมีอะไรผิดพลาดแน่ๆที่ข้าต้องมาอยู่ที่นี่ แต่สุดท้ายแล้วมันก็มีเหตุผล แถมเป็นเหตุผลที่สำคัญมากเสียด้วยสิ  
Evan – แต่ผมก็ไม่เข้าใจจริงๆว่าทำไมเขาถึงทำแบบนี้ ทำไม Doloran มันถึงต้องการคืนชีพให้ The Horned One ให้กลับมาในสถานที่แรกที่มันเคยอยู่ด้วย?


Nerea - ชั้นว่าเรื่องนี้ชั้นช่วยได้นะ 
Leander – ฝ่าบาท ??
Nerea – ยังไงก็ต้องขออภัยด้วยนะที่บุกรุกเข้ามาแบบนี้ Evan สถานการณ์จะบ่งบอกให้เห็นถึงตัวตนที่เราเป็น 
Evan – ไม่เป็นไรครับ ยินดีซะด้วยซ้ำ 
Nerea – เอาล่ะ ไอ้เรื่องที่ว่าไอ้เจ้า Doloran มันเป็นใครและต้องการอะไรกันแน่นั้น ชั้นว่าชั้นพอมีข้อมูลเล็กๆน้อยๆจะมานำเสนอเพิ่มเติมให้ เมื่อ 2 พันปีมาแล้วเขาคือผู้นำของอาณาจักรที่มีชื่อว่า Allegoria โดยมี The Horned One เป็น Kingmaker แต่ด้วยอาณาจักรของเขามีขนาดเล็กและไม่มีความสำคัญอะไรเลยจนไม่สิทธิ์ที่จะได้รับการอุปถัมภ์จาก Kingmaker ทำให้  Doloran ต้องยอมก้มหัวให้กับความช่วยร้ายเพื่อให้ได้ตามความประสงค์ของตน 
Roland – อืมม สอดคล้องกับที่ Niall เคยบอกพวกเรา แต่ เป็นครั้งแรกที่ได้เรียนรู้เกี่ยวกับ Doloran จริงๆซะที 
Nerea –  แต่ทุกอย่างก็ไม่ได้เป็นไปตามแผน แถมยังห่างไกลกับผลลัพธ์ที่จะทำให้อาณาจักรนั่นยิ่งใหญ่ไปไกล เพราะมันทำให้เกิดโศกนาฏกรรมที่ร้ายแรงจนทำให้อาณาจักร Allegoria ได้หายไปจากโลกนี้ไปอย่างสิ้นเชิง ว่ากันว่า อาณาจักร Allegoria นั้นซ่อนอยู่ระหว่างมิติจึงไม่มีใครได้พบเห็นมันอีก แต่ไม่ว่าจะยังไงก็เถอะ เห็นได้ชัดว่า Doloran กำลังพยายามที่จะฟื้นฟู อาณาจักร Allegoria ที่หายไปของเขาให้กลับมายิ่งใหญ่ตามความตั้งใจอีกครั้ง 
Evan – ห๊ะ ทำไมเขาถึงต้องการที่จะเอามันกลับมาหลังจากปล่อยให้เวลาล่วงมาหลายพันปีมาแล้วล่ะ?
Bracken – เรื่องนั้นชั้นไม่รู้หรอก แต่ที่แน่ๆคือรู้แล้วว่าทำไมมันถึงพยายามรวบรวม Kingbonds ทั้งหมดเอาไว้ เพราะถ้าไม่มี Kingbonds เหล่านั้นมันก็คงไม่สามารถควบคุมพลังที่ยิ่งใหญ่ขนาดนั้นได้หรอก 
Tani – แต่ ถ้า Doloran ต้องการที่จะทำแบบนั้นจริง แล้วมันพยยามขโมยวิญญาณของผู้คนไปทำไมล่ะ? 
Nerea – มันต้องการให้ได้มาซึ่งพลังอันยิ่งใหญ่มาเป็นของตัวเอง และก็ต้องการพลังที่มหาศาลมาให้ Kingmaker ของมันด้วยเช่นกัน   และคนที่มีความทะเยอทะยานขนาดที่จะยอมขอความช่วยเหลือจากสิ่งที่ชั่วร้ายได้ย่อมไม่พอใจกับการทำแค่กู้คืนอาณาจักรที่หายไปของเขาอย่างเดียวหรอก ตอนนี้มันพยายามที่จะควบคุมคนทั้งโลกให้อยู่ใต้การปกครองโดยอำนาจมืดของมันด้วย 
Evan – มันต้องการครอบครองโลกนี้แต่เพียงผู้เดียวงั้นหรอ แบบนี้เรายอมไม่ได้หรอก ยอมไม่ได้แน่นอน
Tani – แน่นอน นายอยากจะหยุดมัน ว่าแต่นายเห็นไอ้ Kingmaker ตัวเท่าภูเขาของมันแล้วไม่ใช่เรอะ?


Nerea – ก็ใช่ว่าจะไม่มีทางนะ เพราะตำนานเคยพูดถึง Mornstar ดาบแห่งแสงที่ให้ใช้ในการผนึก The Horned One สำเร็จมาแล้วเป็นศตวรรษ 
Evan – Mornstar งั้นหรอ?
Nerea – แต่อนิจจาที่ไม่มีใครล่วงรู้ตำแหน่งแห่งหนของมัน แต่ก็ยังพอมีเวลาในการออกตามหาในขณะที่ The Horned One มันกำลังรวบรวมพลังงานอยู่ ถ้าหากเราหาดาบจนเจอก่อนที่มันจะรวบรวมพลังจนแข็งแกร่งเต็มที่โอกาสที่จะชนะก็ยังพอมี
Bracken – แต่ เราจะหามันเจอได้ยังไงในเมื่อไม่มีใครเคยเห็นมันมาเป็นพันปีแล้ว 
Leander – จริง ๆแล้วต้องบอกว่าไม่ว่าเรื่องใด ๆ ก็ตามที่เคยเกิดขึ้นมาเมื่อสองพันปีที่แล้วแน่นอนว่าส่วนใหญ่จะเป็นการมโนมากกว่าความเป็นจริง จนถึงขณะนี้คงไม่มีการบันทึกไว้แล้วเหลือรอดมาถึงทุกวันนี้แน่นอน
Evan –  2 พันปีงั้นหรอ?
Tani – ชั้นว่าชั้นรู้แล้วล่ะว่าเราจะไปหาบันทึกที่ย้อนไปไกลขนาดนั้นได้ที่ไหน จริงมั๊ย Evan
Evan – อืมมม อ่อ ห้องสมุดที่ Goldpaws ใช่มั๊ยล่ะ?
Roland – ใช่แล้วล่ะ ถ้าจะสืบคนอะไรที่เก่าแก่ขนาดนั้นคงต้องที่ห้องสมุดนั่นอย่างไม่ต้องสงสัย และพนันได้เลยว่ายัยป้าพันปี Boddly ต้องรู้อะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้แน่นอน 



Nerea – งั้นดูเหมือนเรามีแผนที่ต้องรีบลงมือทำกันแล้ว ในขณะที่พวกเจ้ากำลังออกไปค้นหาเบาะแสของ ดาบ  Mornstar  ส่วนชั้นจะไปแจ้งให้เหล่าผู้นำของอาณาจักรอื่นๆได้รับรู้ถึงเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้นเอง เพื่อให้พวกเขาเตรียมพร้อมในการต่อสู้ขั้นแตกหักกับ  The Horned One เมื่อทุกอย่างพร้อม 
Evan – อืมมม ได้เล๊ย !!!


                                     The Cup and the Sword


เดินทางไปยังอาณาจักร Goldpaws แล้วเข้าไปยังห้องสมุดของป้า Boddly บรรณารักษ์พันปีได้เลย


Boddly – คราวนี้อะไรอีกล่ะ ผีร้ายจากเมื่อ 2 พันปีก่อนงั้นเรอะ? จริงๆมันแทบจะเป็นไม่ได้เลยว่าไอ้ผีร้ายจะกลับมาได้อีก พวกมันทำยังไงเนี่ย มันนานมากเลยนะ บันทึกต่างๆก็ล่าจะสูญหายผุพังไปหมดแล้ว
Tani – ถ้าไม่ให้มาหาที่นี่แล้วเราจะหาที่ไหนล่ะป้า?
Boddly – บันทึกที่เป็นรายลักษณ์อักษรน่ะไม่มี มีแต่หินจารึกประหลาดๆที่น่าจะเก่าแก่มากๆอยู่ 
Roland – หรอ แล้วหินจารึกที่ว่ามันแปลกยังไงหรอ?
Boddly – เข้าใจถามนะพ่อรูปหล่อ งั้นตามมานี่สิข้าจะเอามันมาให้ดู



Boddly – นี่ไง หินจารึกเก่าแก่ที่ว่า 
Leander – อืมมม พอดูใกล้จะเห็นว่ารอยสลักมันดูพิเศษมาก ไม่น่าจะเป็นแค่บันทึกธรรมดา แถมผมก็ไม่คุ้นตากับอักขระแบบนี้ด้วยสิ
Bracken – ชั้นว่ามันดูเหมือนรหัสมากกว่านะ 
Boddly – ชั้นก็ว่างั้นละมั้งนังหนู เชื่อเถอะชั้นผ่านปริศนาในหนังสือมาเยอะและ แต่แบบนี้ไม่ดีเลย ไม่ดีๆ อ่านไม่ออกซักตัว อืมม ..แต่ดูแล้วน่าจะอยู่ในช่วงเวลาเดียวกับ mornstar มันน่าจะบอกถึงเรื่องราวของดาบศักดิ์สิทธิ์นี้ได้ไม่มากก็น้อยแหละ
Leander – ถ้าหากว่ามันไม่ใช่รหัสหรือตัวเลข ก็อาจเป็นเพราะมีเวทย์มนต์ที่คอยปกปักษ์ไม่ให้ใครอ่านมันออกก็ได้ 
Boddly – เวทย์มนต์หรอ ? อืมม น่าสนใจ เวทย์มนต์ เวทยมนต์ ใช่ๆๆ ถ้ามันมีเวทย์มนต์ที่คอยปกปักษ์ไม่ให้ใครอ่านมันออกพวกเจ้าคงต้องไปปรึกษา LiLi ดูแล้วล่ะ ใช่ LiLi ที่อยู่ในอาณาจักรของพวกเจ้านั่นแหละ 
Evan – ดี งั้นเราไปถามเธอกันเถอะ !!


                          จากนั้น เดินทางไปหา LiLi ที่อยู่ในอาณาจักรได้เลย


LiLi – ฝ่าบาท มีอะไรให้ชั้นช่วยหรอค่ะ?
Evan – อยากรู้ว่าเธอพอจะอ่านจารึกแบบนี้ออกหรือเปล่าน่ะ?
LiLi – ไหน ขอชั้นดูหน่อยสิคะ ….อืมมม แยบยลมาก ใช้อาคมในการเข้ารหัสนี่เอง 
Evan – แล้วเธอปลดผนึกมันได้เปล่าละ LiLi ?
LiLi – ได้สิ จะล้ำลึกแค่ไหนก็ไม่เกินความฉลาดของชั้นหรอกน่า แต่ชั้นต้องการวัตถุดิบบางอย่างนิดหน่อยนะ 
Evan – แล้วเราจะต้องไปหามันที่ไหนหรอ?
LiLi – ชั้นเคยเจอมันครั้งนึงที่ Dryland น่ะ ได้ยินมาว่ามันค่อนข้างจะหายากหน่อย ฝ่าบาทจะไปหามันด้วยตัวเองเลยป่ะละชั้นจะได้ปักหมุดตำแหน่งในแผนที่ให้.. นี่ นี่ แล้วก็ นี่ เอาละ เรียบร้อย


เดินทางไปยัง Dryland แล้วเข้าไปสำรวจยังจุดเป้าหมายของภารกิจที่ LiLi กำหนดมาให้หมดทั้ง 3 จุดก็จะพบ seeing Sand ซึ่งเป็นคีย์ไอเทมที่ LiLi ต้องการ จากนั้นก็นำมันกลับไปให้เธอได้เลย


 Evan – เอ้านี่ seeing Sand พวกเราเอามาให้แล้ว 
LiLi – เยี่ยมเลย !! มันอาจต้องใช้เวลาหน่อยนะ ทำไมฝ่าบาทไม่ไปรอในปราสาทก่อนล่ะ เดี๋ยวถ้าเสร็จแล้วชั้นจะเอาไปให้เองค่ะ 
Evan – ได้สิ พวกเราขอบคุณเธอมากนะ LiLi

Bracken – ชั้นเพิ่งได้ข่าวมาจาก Zip ว่า The Horned One มันเริ่มที่จะดูดพลังวิญญาณจากคนไปทั่วโลกแล้วนะ โชคดีที่พวกมันยังไม่มาถึงที่นี่ ทำให้เราพอมีเวลาพอที่จะตั้งตัว 
Evan – แต่คนมากมายก็กำลังถูกสังเวยอยู่ในตอนนี้ เราต้องหา mornstar ให้เจอเพื่อเอาไปหยุดแผนชั่วของ Doloran ให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ 
Leander – ยังไงก็ถือว่าเราโชคดีที่แผนชั่วของมันต้องใช้เวลา ทำให้เราพอมีเวลาที่จะหาดาบจนเจอ



LiLi – มาแล้วๆๆ ขอโทษทีนะฝ่าบาทที่ต้องให้รอนาน ชั้นถอดหรัสของแท่นจารึกได้สำเร็จแล้วคะ มันคือ แท่นจารึกแห่งเอกภาพ (Tablet of Unity) 
Roland – ไหนลองมาดูสิว่ามันเขียนว่ายังไง 


ความชั่วร้ายที่ถูกปลดปล่อยจะถูกพักไว้ด้วยดาบอันศักดิ์สิทธิ์ในรูปแบบของถ้วยที่ดูต้อยต่ำจนเมื่อกษัตริย์ต้องการมันอีกครั้งก็จงเดินทางไปยังแผ่นดิน Seldom Trod ที่เยือกเย็นและเงียบงัน สถานที่ที่เหมือนชามขนาดใหญ่ ท่านสามารถเข้าไปปลุกดาบให้ตื่นขึ้นอีกครั้งด้วยพัทธะความผูกพันของ Kingmaker  


Tani – นี่ไงล่ะเบาะแสของดาบ mornstar ล่ะ? ขอบคุณพระเจ้าเจอซะที 
 Leander – ดาบที่แปรสภาพมาจากถ้วย และจะปรากฏตัวขึ้นเมื่อถึงเวลาที่เหมาะสมอย่างงั้นหรอ งั้นทางที่ดีที่สุดเราควรเริ่มหาจากสถานที่ที่ถูกสาปก่อน จากนั้นค่อยรีบเปลี่ยนสภาพถ้วยนั่นให้มันกลายเป็นดาบให้เร็วที่สุด
Roland –ด้วยพัทธะความผูกพันของ Kingmaker งั้นหรอ? ชั้นเดาว่าคงต้องใช้ Lofty ในการเชื่อมโยงกับดาบด้วยแน่ๆเลย 
Evan – อืมม แล้วผมก็ต้องจำคาถาให้ด้วย “ตื่นขึ้นเถอะจอก จงเปลี่ยนเป็นดาบ ..
Leander – แต่ก่อนอื่นเราต้องหาตำแหน่งที่ถ้วยซ่อนอยู่ให้เจอซะก่อน ..ในคำใบ้บอกว่า สถานที่ที่เหมือนชามขนาดใหญ่ในความเยือกเย็นและเงียบงัน
Bracken – ชั้นนึกถึงที่ที่นึงได้ อยู่ในทวีปน้ำแข็ง Autumnia ทางเหนือของ Broadleaf ที่เรียกกันว่า Jack Frost Playground แถวๆนั้นมีพื้นที่ที่เป็นปล่องขนาดใหญ่ที่เรียกว่า Coldera ไม่แน่ใจนะว่าจะใช่ สถานที่ที่เหมือนชามขนาดใหญ่ในความเยือกเย็นตามคำใบ้หรือเปล่าแต่ลองไปเช็คดูหน่อยก็ไม่เสียหลายนะ 
Evan – อืมม งั้นเราลองไปดูที่นั่นกัน !


เดินทางต่อไปยัง ทวีปน้ำแข็ง Autumnia ทางเหนือของ Broadleaf ลงจอดที่พื้นที่ที่เป็นปล่องขนาดใหญ่ที่เรียกว่า Coldera


แม้ว่าทุกคนจะยังไม่แน่ใจว่าใช่หรือไม่ แต่ Evan ก็ลองท่องรหัสลับออกไปทันใด Cup awake to make … จบลง สถานที่ลับที่ซ่อนอยู่ก็ปรากฏออกมา มันคือ เทวสถานจากยุคโบราณที่ซ่อนอยู่ในกาลเวลาที่เรียกว่า Shrine of Unity  นั่นเอง

จากนั้นลุยเข้าไปด้านใน Shrine of Unity จนถึงห้องโถงใหญ่ด้านในที่มีแท่นสักการะขนาดใหญ่ตั้งอยู่ แต่กลับไม่พบวี่แววของถ้วยใดๆที่ตั้งใจไว้ตั้งอยู่เลย


ก่อนที่แท่นสักการะจะกลายสภาพเป็นผู้พิทักษ์ขนาดใหญ่บุกเข้ามาโจมตี จัดการ Boss Temper Temple ที่ออกมาซะ แล้วถ้วยศักดิ์สิทธิ์ที่ทุกคนตามหาก็จะปรากฏออกมา 


Evan – เนี่ยหรอถ้วยที่ว่า ...
Tani – สวยงามมากเลยอ่ะ นี่นายจะเปลี่ยนของสวยงามแบบนี้ให้เป็นดาบจริงๆหรอเนี่ย?
Lofty – นอกเสียจากว่าเจ้าจะยอมให้ the Horned One มันมีชัยเหนือพวกเราอ่ะนะ มาเถอะ รีบกลับไปโรงตีเหล็กที่อาณาจักรดูว่าเราจะเปลี่ยนจะสิ่งนี้ให้เป็นดาบได้ยังไงกันเถอะ !!



Bracken – เอาล่ะ พร้อมที่จะตีดาบจากถ้วยศักดิ์สิทธิ์นี่รึยัง ตอนนี้ชั้นเตรียมทีมงานเอาไว้พร้อมแล้วนะ 
Evan – อ่อ ก่อนอื่นชั้นของถามนายให้แน่ใจก่อนนะ Lofty นายยินดีที่จะให้ใช้ไม้กายสิทธิ์ประจำราชวงศ์ไปใช้ในการหลอมทำดาบหรือเปล่าล่ะ?
Lofty – ไม่เอาน่า คิดว่าจะแคร์มันมากนักรีไง? ข้าอยู่ที่นี่มานานพอที่จะเห็นบางอย่างแล้วว่า สัญลักษณ์ของสายใยที่เป็นพันธะสัญญาที่แท้จริงของเราคือสิ่งที่เจ้าแสดงให้ข้าเห็นแล้วในฐานะผู้ปกครองอาณาจักร ฉะนั้นจะเอาไม้นั้นไปทำอะไรก็เชิญเถอะ เอาล่ะนังหนู จัดการเปลี่ยนมันให้เป็นดาบในตำนานได้แล้ว 
Bracken – ได้เลย พวกเราจะทำให้ดีที่สุดก็แล้วกันนะ !

ไม่กี่นาทีผ่านไป ถ้วยศักดิ์สิทธิ์กับไม้กายสิทธิ์ประจำราชวงศ์ก็ถูกนำไปหลอมรวมด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยจนกลายเป็น Sword of Unity ดาบแห่งเอกภาพอาวุธคู่บารมีของ Evan อย่างที่ทุกคนตั้งใจ เพื่อขจัดปัดเป่ามหัตภัยร้ายให้หมดไปดั่งตำนานที่เคยกล่าวเอาไว้เมื่อนานมาแล้ว



                                               Bracken – นี่ไงล่ะ รับไปสิ Evan 




Evan – โห สวยงามมากๆเลย นี่น่ะหรอ Mornstar Sword of Unity ในตำนาน เอาละ ที่นี้เราก็มีอาวุธสำหรับใช้ต่อกร the Horned One ได้แล้ว 



Evan – ขอบคุณมากนะทุกคน สำหรับดาบเล่มนี้ และด้วยดาบนี้เราจะสามารถกำจัด the Horned One และทำลายแผนการที่ชั่วร้ายของ Doloran ลงได้พร้อมๆกัน 
Leander – ผมได้แจ้งจ้าวผู้ครองอาณาจักรอื่นๆเรื่องการตีดาบจนสำเร็จเรียบร้อยแล้วครับ 
Roland – อืมม เหล่าผู้ปกครองอาณาจักรต่างๆได้นำกองกำลังของพวกเขามารวมตัวกันที่นี่หมดแล้วรอแค่เราสั่งการอย่างเดียว ได้เวลาเผด็จกันแล้วล่ะ Evan !



              Doloran – อีกไม่นานแล้ว อีกไม่นานเธอก็จะกลับคืนมาหาชั้นอีกครั้งแล้ว ฮ่าๆๆๆ



Evan – ก่อนอื่น ต้องขอบคุณทุกๆท่านมากๆนะครับที่มารวมตัวกันในครั้งนี้ การต่อสู้ที่กำลังจะเกิดขึ้นมันไม่ง่ายเลยถ้าไม่ได้กองกำลังของพวกท่านมาสนับสนุนพวกเราคงหมดหวังที่จะชนะศึกนี้แน่นอน  
Nerea – เราจะปฎิเสธได้ยังไงกัน the Horned One มันได้คืนชีพขึ้นมาแล้ว ถ้าหากเราไม่ร่วมมือกันสู้ก็ไม่มีทางที่จะชนะมันได้หรอก 
Zip Vector - ใช่แล้ว พวกนายต้องการมันสมองของคนอย่างชั้นและเทคโนโลยีที่ทันสมัยของ Briadleaf ถ้ามี 2 อย่างนี้รับรองไอ้โง่ที่ไหนก็ชนะศึกนี้ได้ไม่ยากหรอก 
Pugnacius - เราต้องเป็นนายของโชคชะตาของเราเอง อย่าลืมสิว่าใครเป็นคนสอนข้าให้รู้ซึ้งถึงเรื่องนี้ราชา Evan
Manusinger - และนอกจากนั้น ถ้าเราไม่ร่วมหัวจมท้ายกันให้ตายไปข้างนึง การรวมอาณาจักรของเรามันจะมีความหมายอะไรล่ะ?
Evan - จริงอย่างที่ทุกท่านพูด ขอบคุณมากๆ ถ้าเรายืนหยัดต่อสู้ร่วมกัน ผมมั่นใจว่าเราต้องสามารถนำพาสันติสุขมาสู่โลกนี้ได้แน่นอน 
Roland  - เราจะใช้ปราสาทแห่งนี้เป็นที่บัญชาการรบ ตอนนี้กองกำลังของทุกอาณาจักรสแตนบายเรียบร้อยแล้ว รอเพียงคำสั่งลุยอย่างเดียว ถ้านายพร้อมเมื่อไหร่ก็รับสั่งมาได้เลย Evan 




                                           A Grand Strategy




Roland  - เอาล่ะ เริ่มกันเลยใช่มั๊ย? จากการสำรวจและวิเคราะห์จาก Zip คาดว่า Doloran มันซ่อนตัวอยู่ที่ไหนซักแห่งในตัว the Horned One แน่นอน นั่นหมายความว่า ถ้าเราจะเข้าไปในตัวมันเราก็คงหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องเผชิญหน้ากับมันด้วย นี่เป็นโอกาสเดียวของเรานะ Evan ถึงเวลาต้องลุยกันแล้ว !
Evan – ดูพวกเขาสิ 






                  Roland  - ชั้นจะอธิบายแผนการรบของเราที่จะทำต่อจากนี้ให้ฟัง 




บาเรียที่ the Horned One มันสร้างขึ้นมานั้นเกิดจากพลังจากเสาพลังงานทั้ง 4 รอบตัวมัน การจะทำลายบาเรียนั้นสามารถทำได้ถ้าทำลายเสาทั้ง 4 ในเวลาที่ไล่เลี่ยกันให้หมดในครั้งเดียว  



ทหารของ Broadleaf – พูดง่ายๆคือจะให้กองทัพของแต่ละอาณาจักรไปทำลายหอคอยคนละอันใช่มั๊ย เยี่ยมเลย มันไม่เวิร์คหรอก แล้วถ้าเกิดอาณาจักรอื่นทำลายช้ากว่าล่ะ มันไม่แย่หรอ
 ทหารของ Hydropolitan – เห็นด้วย กองทัพ Hydropolitan ของเราก็มียุทธวิธีในแบบของเราเอง และเราก็จะรบในแบบช้าแต่ชัวร์ของเราด้วย 



Roland  - นี่พวกคุณไม่ได้ฟังผมพูดเลยใช่มั๊ย ผมบอกว่าเราต้องการให้ทำลายหอคอยพร้อมๆกัน แต่ละหอคอยก็จะมี Kingmaker แต่ละตัวที่คอยปกป้องอยู่ไม่เหมือนกัน ความเป็นทีมเวิร์คของอาณาจักรนั้นๆจะทำให้สามารถจัดการกับ Kingmaker ของตัวเองได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งจะทำให้สามารถทำลายหอคอยทั้ง 4 ได้ภายในเวลาเดียวกัน 
ทหารของ Ding Dong Dell - คุณหวังให้พวกเราทำงานร่วมกันได้จริงๆหรอ ? มันเป็นไปไม่ได้หรอก ยิ่งกับพวกต่างอาณาจักรยิ่งไม่มีทางหรอก 
ทหารของ Hydropolitan – การรบครั้งนี้ก็ยากพอตัวอยู่แล้ว ข้าว่ามันจะเสียกำลังทหารไปเปล่าๆ
Roland  - เฮ้ออ ช่วยหน่อยแล้วกัน Evan 



Evan – ทุกคน ฟังผมหน่อย ! ถ้าทั้ง 5 อาณาจักรไม่ร่วมมือเป็นหนึ่งเดียวกัน การต้องสู้กับความชั่วร้ายครั้งนี้เราแพ้แน่นอน ...  คำสัญญา ทำให้เราเข้มแข็ง แม้ผมจะเป็นกษัตริย์ แต่ถ้าไม่ใช่เพราะคำสัญญาของผมกับ Aranella ผมก็คงไม่มีทางเป็นนักปกครองที่เข้มแข็งได้ 



ถ้าไม่ใช่เพราะคำสัญญากับ Aranella ในวันนั้น ผมคงไม่มีทางค้นพบความเข้มแข็งได้มาพอจนสามารถสร้างอาณาจักรใหม่ของตัวเองขึ้นมาได้แน่นอน บอกได้อย่งเต็มปากเลยว่า คำสัญญาในวันนั้นช่วยชีวิตผมมาได้จนถึงวันนี้ บางครั้งผมก็ได้ยินเสียงของ Aranella บอกให้ผมแก้แค้นให้เธอ แต่ไม่นานผมก็คิดได้ว่านั่นมันเสียงจากความรู้สึกของผมเอง ไม่ใช่สิ่งที่ Nella ต้องการ ผมแค่หมกหมุ่นกับความคิดในการแก้แค้นจนลืมคำสัญญาที่ให้ไว้ จนเมื่อเริ่มโตขึ้น ผมก็เริ่มเปลี่ยนไป



ผมสามารถสร้างอาณาจักรใหม่ของตัวเองได้ตามที่สาบานไว้ ได้เจอผู้คนที่มีจิตใจงดงามมากมาย ผู้คนที่พร้อมจะยืนเคียงข้างกันและพร้อมที่จะสู้ไปด้วยกัน ใช่ มันก็มีบ้างในบางครั้งที่ผมท้อแท้ใจจนต้องร้องไห้ออกมา แต่ก็ไม่ได้ท้อตลอดไป ต้องขอบคุณทุกๆคนที่ไม่ทิ้งกันไปไหน และตอนนี้ผมต้องการที่จะปฏิบัติตามคำสัญญาของผมให้มากขึ้นกว่าเดิม ที่จะสร้างอาณาจักร ไม่สิ ผมจะทำให้โลกสงบสุขและทำให้ทุกๆคนที่อาศัยอยู่อย่างมีความสุขตลอดไป



และถ้าเราให้คำมั่นว่าจะร่วมแรงร่วมใจให้เป็นหนึ่งเดียวกัน เราก็จะทำให้มันเป็นจริงได้แน่นอน  ถ้าทุกอาณาจักรรวมกันเป็นหนึ่งเดียว เราก็จะสร้างอนาคตที่สวยงามของเราทุกคนได้จริงๆ นั่นแหละเหตุผลที่เราต้องลุกขึ้นสู้ไปด้วยกันในวันนี้ ทำไมเราไม่สู้ไปพร้อมกันให้ถึงที่สุดล่ะ ! ได้โปรดถือว่านี่เป็นคำสัญญาที่เราไว้ต่อกันเพื่ออนาคตของโลกของเราเถอะนะ 
กองทหาร – เฮ เฮ เฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮ !!!!!



Roland  - ดูเหมือนเด็กเราสามารถเอาชนะใจกองทหารได้แล้วนะ 
Tani – ช่าย มหัศจรรย์มากๆเลย

และแล้วกองทัพที่ยิ่งใหญ่ทั้ง 5 ก็ถูกกระตุ้นจากสุนทรพจน์ที่แสนจริงใจจาก Evan จนร่วมมือร่วมใจเดินทัพเข้าไปเผชิญหน้า The Horned One 



พวกเขาตกลงใจว่าจะร่วมมือร่วมแรงใจกัน ทหารของแต่ละอาณาจักรแบ่งหน้าที่กันเพื่อเดินทัพไปโจมตีหอคอยแต่ละแห่งอย่างพร้อมเพรียงกัน 




ปฏิบัติการณ์ Hornfall เริ่มต้นทันที่หลังจากคำพูดปลุกใจของ Evan ส่งพลังให้เดินทัพด้วยความแข็งขัน ทหารของแต่ละอาณาจักรบุกไปประจำตามหอคอยแต่ละจุดเพื่อเผชิญหน้ากับ Kingmaker ของตน เป้าหมายคือทำลายหอคอยทั้ง 4 ลงให้ได้แบบพร้อมๆกัน


หน้าที่หลักของกองทัพอาณาจักร Evermore ของ Evan คือทันทีที่ถึงเกาะเป้าหมายซึ่งเป็นที่อยู่ของ The Horned One กองทัพก็ต้องเดินหน้ารบอย่างเต็มกำลังเพื่อบุกทะลวงฟันหน้าด่านของพวกศัตรูเพื่อให้ขึ้นไปถึงที่อยู่ของ The Horned One


 ที่เหลือก็ต้องต้านทานกองกำลังของพวกปีศาจที่บุกเข้ามาป้องกันจนกว่ากองทัพของทั้ง 4 อาณาจักรจะทำลายหอคอยทั้ง 4 ได้จนหมด ทำให้บาเรียที่คุ้มกัน The Horned One หายไป


และเมื่อใดที่บาเรียของมันได้หายไปจนหมดแล้ว ทันที่พร้อมรบก็เดินหน้าเข้าไปเผชิญหน้ากับ  The Horned One ได้เลย


ศึก The Final Fight นั้นมีความยากระดับ LV23 การทำสงครามกับThe Horned One ที่มีระดับเลเวล 25 โดยใช้กองทัพเข้าไปสู้ ก็จำเป็นต้องเตรียมกองกำลัง skirmish ให้มีระดับเลเวลที่เหมาะสมที่จะเข้าทำการรบด้วย





เมื่อจัดการกับ The Horned One ลงได้ Evan ก็รีบให้ Loffy เปลี่ยนร่างเป็นมังกรเพื่อใช้ขี่พุ่งเข้าไปที่ด้านในตัวของ The Horned One ในทันที


                                          Doloran’s Design


                                                    Belly of the Beast




Lofty – เป็นไง ข้าเจ๋งป่ะละ ฮี่ๆๆ บอกแล้วว่าพาเข้ามาได้ ไม่ได้โม้ 
Roland – ก็ไม่เลวนี่ เอาล่ะ เราเข้ามาด้านในจนได้แล้ว
Evan – ด้านใน The Horned One นี่มันเหมือนกับ ...
Tani – น่าขยะแขยง .. แต่ยังไงก็คงต้องเข้าไปเพราะไอ้เจ้า Doloran มันอยู่ที่ไหนซักแห่งในนั้นแน่นอน 
Leander – เขาอยู่ที่ข้างในนั้นแน่นอนอยู่แล้ว เพราะผมเชื่อว่า เขากำลังเตรียมพิธีปลดปล่อยกับอะไรก็ตามที่เขาต้องการได้คืนมาพร้อมอาณาจักร Allegoria ให้กลับมาอีกครั้ง
Batu – งั้นทางที่ดีเรารีบเข้าไปอัดมันก่อนที่มันจะทำสำเร็จกันเถอะ !
Bracken – ดาบ Mornstar สามารถสร้างความเสียหายอย่างรุนแรงเป็นพิเศษกับมอนสเตอร์ที่นี่ อย่าลืมเอามาใช้ด้วยล่ะ 

เมื่อเข้ามาในตัวของ The Horned One ได้แล้ว ลุยเข้าไปด้านในจนถึงทางออก ซึ่งจะพบซากเมืองขนาดใหญ่อยู่ตรงหน้า


Roland – นี่มัน ....เมืองไม่ใช่หรอ มันมาอยู่ในนี้ได้ยังไงเนี่ย?
Evan – ผมว่าที่นี่คือ อาณาจักร Allegoria เราคงมาพบทางเข้าระหว่างมิติเวลาที่ดูดอาณาจักรนี้เข้ามาแน่ๆเลย
Leander – แต่ผมว่าไม่ใช่ ผมคิดว่าที่นี่ไม่ใช่ อาณาจักร Allegoria แต่เป็นสถานที่ที่ Doloran มันสร้างขึ้นให้เหมือน อาณาจักร Allegoria ตามความทรงจำของมันต่างหาก 
Tani – ดูนั่นสิ เหมือนข้างบนนั้นจะมีปราสาทอยู่ด้วยนะ 
Lofty – ข้าพนันหมดหน้าตักเลยว่า Doloran มันกำลังจัดปาร์ตี้อยู่บนนั้นชัวร์


                                                    Lost City Allegoria



Roland – อ๊ากก !! ไม่เอาน่า อีกแล้วหรอ?
Evan – โรแลนด์ เป็นอะไรรึเปล่า ??
Roland – ไม่เป็นไร ชั้นสบายดี 
Leander – อืมมม ..



Doloran – เป็นเกรียติมากที่ได้ต้อนรับแขกที่มาเยือนอาณาจักรของข้า มีดวงวิญญาณมากมายที่ถูกเชิญให้มารวมตัวกันที่นี่ แต่พวกเจ้าคือพวกแรกที่มาอย่างเต็มใจ 



Evan – Doloran ชั้นไม่ยอมให้แผนของแกสำเร็จหรอก พวกเรามาที่นี่เพื่อจะหยุดแก !
Doloran – ฮ่าๆ ตามสบายเลยเจ้าหนู แต่รับรองว่าพวกเจ้าไม่มีทางได้แตะต้องข้าได้แน่นอน ข้าเห็นแววเจ็บตัวของพวกแกมาแต่ไกลเลยล่ะ ฮ่าๆๆๆๆๆ
Batu – โถเอ้ย ไอ้หัวงู ทำปากดีไปเถอะ มันก็แค่ออกมามาขู่ไปงั้นแหละ กร่างอีกไม่นานหรอก จำที่ข้าบอกไว้ได้เลย 
Evan – อืมม เรารีบไปกันเถอะ ผมยอมให้มันขโมยวิญญาณผู้คนไปมากกว่านี้อีกไม่ได้แล้ว 


เมื่อ Doloran หนีขึ้นปราสาทไปแล้ว มันจะปิดประตูตรงทางขึ้นบันไดซึ่งเป็นทางไปที่ยอดปราสาทเอาไว้ โดยใช้มนต์ดำผนึกคริสตัลทั้ง 4 สำหรับใช้เปิดประตูเอาไว้


ที่ต้องทำคือเข้าไปที่ตำแหน่งที่ตั้งผลึกคริสตัลทั้ง 4 สีที่อยู่ตรงมุมของเมือง สำรวจเพื่อเข้าไปสู้กับปีศาจที่อยู่ด้านในเพื่อปลดผนึกผลึกคริสตัลทั้ง 4 ให้ส่องสว่างเหมือนเดิมอีกครั้ง ก็จะทำให้ประตูทางขึ้นปราสาทเปิดออกได้



Tani – สำเร็จ 
Bracken –ถึงเวลาที่จะจัดการ Doloran ซะที !



Roland – อ๊ากก !! 
Evan – โรแลนด์ !??? คุณเป็นอะไรไป !
Batu – โรแลนด์! ไม่เอาน่า ไม่ใช่ตอนนี้นะ โรแลนด์ !



Roland – หืมม ที่นี่มัน บ้านเกิดของชั้นงั้นหรอ?
???? – พ่อฮะ พ่อไปไหนมา ผมกลัวจังเลย 
Roland – ไม่เป็นไรนะ หนูปลอดภัยแล้ว



                           ???? – จริงหรอฮะ ... โทษทีนะ ผมว่ามันสายไปแล้วล่ะ ..



Roland – ม่ายยยยยย !!!
Bracken – เค้าฟื้นแล้ว 
Evan – โรแลนด์เป็นไงบ้าน ยืนไหวรึเปล่า ?



Roland – อ่า มันเกิดอะไรขึ้นเนี่ย?
Batu – ก็เหมือนเดิมแหละ มีไอดำๆออกมา แต่คราวนี้เจ้าสลบไปด้วย 
Tani – นายทำให้ชั้นเป็นห่วงแทบแย่ นึกว่าโดนไอ้ Doloran มันดูดวิญญาณไปซะแล้ว
Roland – ขอโทษทีนะทุกคน ตอนนี้ชั้นโอเคแล้ว ไปต่อกันเถอะ


Leander – อืมมม .. ( ไอละเหยสีดำที่ออกมาจากร่างของโรแลนด์ มันเหมือนเป็นพลังงานบางอย่าง พลังงานที่ชั้นเคยสัมผัสได้แต่จำไม่ได้ว่าที่ไหน ?)
Evan – โรแลนด์ !
Roland – เราต้องหยุดไอ้ Doloran ให้ได้ก่อนที่มันจะสายเกินไป




Evan – Doloran ต้องอยู่ข้างในปราสาทนี้แน่นอน 
Bracken – ดูเหมือนนี่จะเป็นการต่อสู้ครั้งสุดท้ายของเราแล้วนะ ระวังทุกฝีก้าวกันด้วยล่ะ


                                                        ปราสาท Allegoria



                       นายท่าน Doloran …. นายท่าน Doloran …. เพื่อ Allegoria.. 


Doloran – พวกแกเก่งมาที่มาไกลกันได้ถึงขนาดนี้ 
Evan – พอแค่นั้นแหละ Doloran !!
Roland – พิธีกรรมบ้าๆนี่ต้องจบลงที่นี่เดี๋ยวนี้ !!
Doloran – แน่ใจหรอ? แกไม่อยากแลกเปลี่ยนทัศนะกับข้าแล้วหรอโรแลนด์? ภาพนิมิตแห่งโลกใหม่ที่ดีกว่าของเราไง .. น่าเวทนา ข้านึกว่าแกกับคนของแกจะเข้าใจซะอีก 



Roland – อ๊ากกกกกก !! ....นี่แกทำอะไรกับชั้ยห๊า !?
Doloran – ข้าอ่ะนะ ? อะไร  ข้ายังไม่ได้ทำอะไรเลย จริงๆแกน่าจะขอบคุณ The Horned One ด้วยนะ ข้าหมายถึง ที่ช่วยปกป้องแกน่ะ เพราะถ้าเกิดมีอันตรายกับคนนึง อีกคนก็จะโดนไปด้วยเหมือนกัน
Leander – แกหมายความว่า ... แกกับ Roland …เป็น ..
Doloran – ใช่แล้ว Leander แกเห็นแล้วสินะ เดี๋ยวข้าจะแสดงให้ดู 



Roland – Doloran แก่ ... ชั้น ..
Doloran – แกเห็นแล้วใช่มั๊ยว่าเราเชื่อมต่อกัน เราคือคนๆเดียวกัน ถ้าจะฆ่าข้าก็เหมือนฆ่าตัวตายนั่นแหละ



Leander – จริงของมัน เป็นอย่างที่ผมกลัวจริงๆด้วย คนจากอีกโลกนึงสามารถเชื่อมโยงวิญญาณกับคนอีกโลกนึง พลังงานมหาศาลที่มันได้รับมาในตอนนี้มันก็กำลังส่งผลถึงร่างกายคุณด้วย 
Evan – แต่ ทำไมมันถึงเป็นแบบนั้นได้ล่ะ ? มันหมายความว่าไงเนี่ย?
Doloran – หมายความว่าพวกแกกำลังอยู่ในสภาพกลืนไม่เข้าคลายไม่ออกยังไงล่ะ ไอ้หนู แกคงไม่มีทางเลือกที่ต้องเข้าร่วมกับข้าหรอก Roland แกรู้อยู่แก่ใจอยู่แล้ว


Roland – โอ้ ชั้นมีทางเลือกด้วยหรอ? แน่นอนมีสิ แล้วชั้นก็เลือกมาตั้งนานแล้วด้วย  ชั้นคือ ประธานาธิบดี เป็นราชาในโลกของชั้น  นับตั้งแต่วันที่ชั้นได้ครองบัลลังก์  ชั้นก็เตรียมใจมาตลอดว่าวันนึงต้องมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้น ก็ถ้ามันสามารถช่วยคนของชั้นได้ ชั้นก็ไม่เสียดายชีวิตหรอก อีกอย่าง ..ถ้าชั้นฆ่าแกไม่ได้ แกก็คงฆ่าชั้นไม่ได้ด้วย เพราะเราเชื่อมโยงกันไม่ใช่หรอ? ถ้าชั้นตายแกก็ต้องตายเหมือนกัน จริงมั๊ย? 
Doloran – ก็จริง ก็ถ้างั้นทำไมแกถึงไม่เลือกที่จะเข้าร่วมกับข้าแทนที่จะโดนข้าเนรเทศกลับไปโลกของเจ้าเพื่อไม่ให้เจ้าทำอันตรายข้าได้อีกล่ะ 
Roland – อ่อ ...ทตอนนี้ชั้นเข้าใจแล้วว่าทำไมชั้นถูกพาข้ามมิติมาที่นี่ 
Doloran – งั้นหรอ? งั้นช่วยบอกข้าหน่อยสิ



Roland – อาณาจักร Allegoria ของแกถูกทำลาย เมืองของชั้นก็ถูกทำลายเหมือนกัน แกกับชั้นก็ไม่ต่างกัน 2 ราชาที่ไม่เหลืออาณาจักรให้ปกครอง เพราะงั้นเราถึงยังพอมีโอกาส โอกาสสุดท้ายที่จะช่วยบ้านเมืองของเรา แกไม่เห็นหรอว่า อาณาจักร Allegoria ที่ The Horned One มาเนรมิตให้แกมันไม่ใช่ของจริง มันไม่ใช่ที่ที่แกเคยปกครอง ชั้นจะทำให้แกดู กำจัด The Horned One เพื่อให้แกได้รู้ว่าตัวตนของแกนั้นคือใคร 
Doloran – จริงๆแล้วข้าเป็นใครงั้นหรอ? แกคิดว่าแกรู้จักข้าดีหรอ? แกไม่รู้อะไรเลยด้วยซ้ำ !!
Evan – งั้นก็บอกมาสิ !


                        Doloran – พอกันที พวกแกทำให้แผนข้าล่าช้าไปมากแล้ว !!!


                                 เข้าไปสู้กับ Boss - Doloran the Arcane ให้ชนะ


หลังจากจัดการ Doloran ลงได้ ศึกด้านนอกที่กำลังจะบานปลายเพราะพวกปีศาจมากมายกำลังจะเป็นต่อก็ตะเริ่มคลี่คลาย เมื่อพิธีกรรมถูกทำลาย


 ปีศาจที่กลายร่างมาจากวิญญาณของผู้คนก็กลับสู่สภาพเดิม เมฆดำแห่งความชั่วร้ายเริ่มจางหายไปทำให้แสงสว่างเริ่มส่องผ่านลงมาบนพื้นปฐพีอีกครั้ง


Bracken – ข้อความจาก Zip รายงานมาว่าที่ด้านนอกการต่อสู้จบลงแล้ว พวกปีศาจได้กลายสภาพเป็นวิญญาณผู้บริสุทธิ์เหมือนเดิมหมดแล้ว 
Evan – นี่เราทำสำเร็จแล้วใช่จริงๆมั๊ย?
Lofty – มิชชั่น คอมพรีส ฮี่ๆๆ 
Roland – แต่มันยังไม่จบเรื่องหรอก เพราะเราต้องหาทางทำอะไรซักอย่างกับ The Horned One
ก่อน เพราะถ้ามันยังอยู่ก็คงไม่มีใครปลอดภัยจริงๆหรอก


Roland – แกจบแล้ว Doloran แผนของแกล้มเหลวหมดแล้ว
Evan – แกไม่มีวันได้ครองโลกหรอก ไม่มีวัน !
Doloran – ครองโลกงั้นหรอ ? อ่านนิยายมากไปรึเปล่าเจ้าหนู โลกนี้ไม่ใช่รางวัลสำหรับข้าหรอก บ้านที่แสนสวยงามของข้าต่างหาก อาณาจักรสันติสุขและรุ่งโรจน์ 



Doloran – ข้าคือ ราชาแห่ง อาณาจักร Allegoria เด็กหนุ่มที่เพิ่งจะครองราชย์ได้ไม่นาน ไม่มีใครอีกแล้วที่จะรักอาณาจักรนี้ได้เท่ากับข้า แต่ .. ข้ามันก็ทั้งอวดดีและหยิ่งผยอง 



                    Kingmaker ของเราคือ Alisandra  เพื่อเสริมสร้างความผูกพันของเรา 



                              ข้าก็ได้กระทำบาปที่หนักหนาที่สุดลงไป ... ข้าตกหลุมรักนาง



ความรักระหว่างราชากับ Kingmaker ก็เสมือนการต่อต้านประสงค์ของพระเจ้า ทำให้นางถูกสาปให้ต้องใช้เวลาที่เหลืออยู่ภายใต้รูปลักษณ์ของ The Horned One พร้อมกับอาณาจักร Allegoria อันเป็นที่รักของข้าก็ถูกดูดหายไปในมิติอื่น ดังนั้นข้าจึงสาบานว่าจะทำทุกทางเพื่อจะพา Alisandra และอาณาจักรอันเป็นที่รักของข้ากลับคืนมาอีกครั้ง 


Doloran – ข้าออกตามหาและช่วงชิง Kingbonds จากทุกอาณาจักรเอามาเป็นของข้าเพื่อที่จะรวบรวมพลังงานในพิธีกรรมที่จะฟื้นคืนชีพให้ The Horned One
Roland – แล้วแกรู้ได้ยังไงว่ามันจะประสบความสำเร็จ?
Leander – ภายใต้รูปลักษณ์ของ The Horned One แกพูดไงใช่มั๊ย? ปีศาจที่เราเห็นนั่นก็คือเปลือกนอกที่ห่อหุ้ม Alisandra เอาไว้งั้นสิ? และถ้าพลังของ Kingbonds หลายอันมารวมกันจนมีพลังที่มากพอก็เอาจะส่งพลังเข้าไปหา Alisandra ที่อยู่ด้านใน The Horned One เพื่อทำให้มีการเชื่อมต่อกันระหว่างราชากับ Kingmaker ใหม่อีกครั้ง และปลดปล่อย Alisandra ให้เป็นอิสระอีกครั้ง 
Doloran – ก็อย่างที่เจ้าพูดนั่นแหละ หาก Alisandra ฟื้นคืนมาอีกครั้งนางอาจทำให้ อาณาจักร Allegoria คืนกลับมาอีกครั้ง แล้วข้าก็จะได้ทั้งคนรักและอาณาจักรที่ข้ารับกลับมาพร้อมๆกัน ..เอาล่ะ ตอนนี้พวกแกก็รู้ถึงสิ่งที่ข้ากำลังตามหาแล้ว Roland หากอาณาจักร Allegoria ของข้าสามารถคืนกลับมาอีกครั้งบ้านเมืองของเจ้าก็อาจจะคืนกลับมาด้วยเช่นกัน เจ้าก็จะได้กลับไปอยู่กับครอบครัวของเจ้า ได้เจอลูกเจ้าอีกครั้ง ข้ามั่นใจเลยว่าเจ้าอาจจะเข้าร่วมกับข้าหากรู้ถึงผลของรางวัลที่เจ้าจะได้รับว่ามั๊ย?
Roland – ชั้น ... ชั้น เอ่อ ...
Evan – ไม่มีทางหรอก เขาไม่มีวันจะทำแบบนั้นแน่นอน! การที่คุณต้องการคนที่คุณรักกลับคืนมาก็ไม่ได้แปลว่าคุณจะมีสิทธิที่จะทำแบบนี้นะ



Doloran –  อ๊ากก มันเกิดอะไรขึ้นเนี่ย !??
Lofty – ควันสีดำนั่นมาจาก  The Horned One มันเป็นความชั่วร้ายที่ดูเหมือน Doloran จะรู้สึกดีกับมันซะด้วย ดูเหมือนเขาจะติดเชื้อความชั่วนี้มาแต่แรกแล้ว
Doloran –   ข้าต้องการมันกลับคืนมา ข้าจะนำมันกลับคืนมาให้ได้ ทั้ง Alisandra และ อาณาจักร Allegoria ของข้า ให้กลับมามีชีวิตอีกครั้ง !!
Roland – แกจะทำงั้นจริงๆหรอ ทำลายทุกอาณาจักรและขโมยวิญญาณของผู้บริสุทธมากมายเพื่อสิ่งที่แกต้องการ แกคิดว่านั่นคือความรักงั้นหรอ? งั้นแกก็ไม่คู่ควรกับคำว่ารักหรอก ไม่คู่ควรที่จะเป็นกษัตริย์ด้วยซ้ำ !!
Doloran –  พวกแกกล้าต่อต้านข้างั้นหรอ Roland ? แกก็คือชั้น เราต้องการสิ่งเดียวกัน แกก็ต้องการคนที่แกรักคืนมาเหมือนกับข้านั่นแหละ !!
Roland – ไม่ ! ไม่เหมือนหรอก ไม่เหมือนเลยซักนิด !!
Doloran – ความผิดที่ข้าก่อมันไม่ได้สำคัญไปกว่าการนำ อาณาจักร Allegoria และสิ่งที่ข้ารักที่สูญเสียไปกลับคืนมาหรอก !! จงฟื้นขึ้นมาอาณาจักรที่ข้ารัก จงกลับมารุ่งโรจน์อีกครั้ง Allegoria!





                                Doloran – Alisandra ที่รัก ในที่สุดเจ้าก็เป็นอิสระแล้ว !!


                              Doloran – มันเกิดอะไรขึ้นเนี่ย ทำไมถึงเป็นแบบนี้?!  





Doloran – แกไม่ใช่ Alisa ของข้า !! ..แต่ ถ้านางหายไปตลอดกาลจริงๆแล้วมันเกิดอะไรขึ้นกับอาณาจักร Allegoria? .. แล้วข้าล่ะจะเป็นยังไง ? ไม่เข้าใจเลยจริงๆ 
                           
Roland – นี่แกคิดว่าไอ้ปีศาจนั่นเป็นนางจริงๆหรอ?
Leander – ผมคิดว่าคือไอความมืดเดียวกันที่ครอบงำ Doloran เกรงว่ามันจะถูกปลดปล่อยมาพร้อม The Horned One นั่นแหละ คำถามคือ ตอนนี้ Alisandra อยู่ที่ไหนกันแน่?
Bracken – เห็นที่มันฉีกท้องฟ้าออกนั่นมั๊ย? ชั้นกลัวว่าถ้าปล่อยเอาไว้ทั้งโลกคงถูกดูดออกไปที่มิติอื่นแน่นอน เราต้องรีบปิดมันซะ เราต้องจัดการไอ้ปีศาจนั่นให้เร็วที่สุดนะ
Tani – Lofty นายพอจะพาพวกเราบินตามมันไปไหวมั๊ย?
Lofty – ทำไมถามแบบนั้น ได้แน่นอนเฟ้ย !! มาเถอะ ขึ้นหลังข้าแล้วตามไปจัดการไอ้นั่นกันเถอะ!
Evan – ไหนๆเราก็ฝ่าฟันปัญหาจนได้ดาบ Mornstar มาแล้ว คงเสียดายแน่ถ้าไม่ได้ใช้มัน



Doloran – ดาบ Mornstar งั้นหรอ? .... มันเป็นดาบที่ข้ากับ Alisandra ใช้ในการสาบานและทำสัญญากันเมื่อนานมาแล้ว 
Roland – อืมม เพราะงั้นดาบนี่จึงเป็นสิ่งเดียวที่สามารถจัดการกับ The Horned One ได้นั่นเอง 
Evan – เอาล่ะทุกคนถึงเวลากำจัด The Horned One เพื่อคืนความสงบสุขให้กับโลกใบนี้แล้ว !!



Evan และพรรคพวกไม่รอช้าที่จะขึ้นขี่ร่างมังกรของ Lofty ทะยานขึ้นฟ้าเพื่อตาม The Horned One เข้าไปยังมิติลึกลับที่ซ้อนทับอยู่ระหว่างบรรยากาศโลก ในขณะเดินทางในมิติที่ไม่คุ้นเคย The Horned One ก็ลอบโจมตีจนทำให้ทุกคนร่วงลงมาที่พื้นที่ของเศษซาก อาณาจักร Allegoria



ก่อนที่ทุกคนจะเข้าต่อสู้ตัดสินขั้นเด็ดขาดกับ The Horned One ทันทีที่มันตามลงมาเพื่อชี้ขาดชะตาของโลก


เข้าไปสู้กับ Boss - The Horned One Kingbreaker ให้ชนะ โดยในขณะต่อสู้ในเมื่อใดที่เห็น Lofty เตรียมเปิดวงแหวนเวทย์ออกมาก็สามารถเข้าไปกดปุ่มรัวๆให้เกทเต็ม


จะทำให้เกิดการตื่นขึ้นของพลังได้โดยไม่ต้องรอลูกบอลสีทอง ซึ่งจะทำให้เพิ่มพลังโจมตีให้สามารถลดพลังชีวิตของ The Horned One ที่สามารถสลับไปมาทั้งด้านมืดและด้านสว่างได้เร็วขึ้น และจัดการมันลงได้ในที่สุด




                  Evan – อ๊ากกกกก !! เพื่อ Evermore และทั้งโลกนี้ จากนี้ถึงตลอดไปปปปปป !!!!!







Doloran – Alisandra นั่นเจ้าจริงๆหรอ?
Alisandra – ใช่แล้ว ที่รักของชั้น แต่ท่านไม่ได้ปลดปล่อยชั้นจาก The Horned One หรอกนะ
Doloran – ห๊า !??
Alisandra – และ The Horned One ก็ไม่ได้เกิดจากความโกรธหรือการลงโทษของพระเจ้าอย่างที่ท่านคิดหรอกนะ แต่เพราะชั้นอยากจะอยู่เคียงข้างท่านและอยากที่จะให้พลังของ Kingmaker แก่ท่านมากๆ 
Doloran – อะไรนะ !??
Alisandra – เมื่อพลังมหาศาลที่ประเมินค่าไม่ได้ถูกปลดปล่อยออกมาจึงทำให้ก่อกำเนิดปีศาจร้ายขึ้นมา .... The Horned One 
Doloran – มะ ไม่ !



Alisandra – ท่านรู้มั๊ยว่า Kingmaker นั้นกำเนิดมาจากอะไร? พวกเขาเกิดจากการที่วิญญาณถูกสังเวยตามคำบัญชาเพื่อให้พลังอันยิ่งใหญ่สามารถควบคุมได้ เพื่อปลดเปลื้องจิตวิญญาณของชั้น ชั้นจึงต้องสละพลังทั้งหมดไป และเพื่อรับผิดชอบกับความผิดที่มิอาจยกโทษให้ชั้นจึงต้องรับการลงทัณฑ์
Doloran –  แล้วทำไมเจ้าถึงไม่กลับมาหาข้าล่ะ? 
Alisandra – ยกโทษให้ชั้นเถอะนะที่รัก ชั้นจำเป็นต้องผนึกพลังของ The Horned One เอาไว้ จำกัดบริเวณมันไว้เพื่อไม่ให้มันทำอันตรายใครได้อีก จนเมื่อมันถูกกำจัดชั้นถึงได้พลังกลับคืนมาและได้เป็นอิสระอีกครั้ง 
Doloran –  งั้นที่ข้าปลอดปล่อยมันออกมามันก็ไปทำลายสิ่งดีๆที่เจ้าทำไว้น่ะสิ?
Alisandra – ไม่เป็นไรหรอกที่รัก เพราะตอนนี้ ปีศาจร้าย The Horned One ที่ถูกปล่อยออกมามันได้ถูกกำจัดไปแล้ว ฉะนั้นหน้าที่ในการจำกัดพลังมันไว้ก็จบสิ้นลงแล้ว ชั้นจะได้ไปสู่สุขคติเสียที ชั้นรอเวลานี้มานานมากแล้ว 


Alisandra – ขอบคุณนะที่ไม่เคยที่จะหยุดรักชั้น เราจะได้พบกันอีกแน่นอน ที่รัก ไม่ใช่โลกนี้ แต่ที่ไหนซักแห่ง ในซักวัน 




                   Alisandra –  ลาก่อนนะที่รัก ... Doloran ที่รักของชั้น ...ลาก่อน ....



                                      Doloran –   Alisa ไม่ ไม่ ไม่ใช่ตอนนี้ !! 



                                 Doloran –    Alisaaaaaaaaaaaaaa !!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!




Roland – Doloran …
Doloran –  Alisandra จากไปแล้ว ..ไม่มีนางอีกแล้ว ..ทุกอย่างที่ข้ารักสูญสิ้นหมดแล้ว บอกข้าหน่อย ข้าไปทำผิดอะไรมาถึงต้องเจอเรื่องพวกนี้ด้วย ข้าควรทำยังไง ต้องจำนนต่อความรักที่ข้าทำผิดพลาดไปหรือยอมรับว่าข้ามันคู่ควรเอง    



Roland – นายไม่ได้ทำผิดหรอก นายแค่พยายามทำทุกอย่างเพื่อทำให้คนที่นายรักฟื้นคืนกลับมาและช่วยอาณาจักรของนายด้วย ชีวิตพวกนั้น ประชาชนต้องทำทุกอย่างเพื่อให้ตัวเองมีชีวิตรอดเท่าที่พอจะทำได้ แล้วจากนั้นกระแสของประวัติศาสตร์ก็ถาโถมเข้ามาใส่พวกเขา บ้านเมืองของชั้นก็เหมือนกัน  ชั้นพยายามที่จะหยุดมัน พยายามที่จะให้สงครามมันจบลงซักที แต่ นายจะรู้เองว่า ไม่มีวันที่จะยับยั้งมันได้เลย ถาโถมเข้ามาไม่มีวันจบสิ้น



Evan – ผมมีไอเดีย ทำไมเราไม่สร้าง Allegoria ขึ้นมาใหม่ล่ะ 
Doloran –   อะไรนะ?
Evan – ผมหมายถึง ถ้าเราเอามันกลับมาไม่ได้ก็สร้างมันขึ้นมาใหม่ก็สิ้นเรื่อง 
Doloran –  อาณาจักรใหม่งั้นหรอ?
Evan – ใช่ พวกเราก็สร้างอาณาจักรใหม่ขึ้นมาจากที่ไม่มีอะไรเลย ดินแดนที่ผู้คนจะอาศัยอยู่อย่างมีความสุขตลอดไป มันก็เริ่มจากเมืองเล็กๆแต่ก็ค่อยๆเติบโตขึ้นเรื่อยๆ ต้องขอบคุณประชาชนที่น่ารักทุกคนมากๆเลยที่ทำให้มันกลายอาณาจักรที่ยิ่งใหญ่ในที่สุด คุณเองก็ต้องทำได้เหมือนกัน Doloran
Doloran –  เจ้าคิดว่าจะทำได้จริงๆหรอ?
Roland – บางทีนี่อาจเป็นเหตุผลที่ชั้นถูกพามาที่นี่ก็ได้นะ อาณาจักรของเราชั้นกับ Evan ก็สร้างกันมาด้วยกัน แล้วมันจะเปลี่ยนนาย Doloran เพื่อโลกใบนี้ เดี๋ยวนี้ไม่มีใครอยากเป็นทาสใครเหมือนในอดีตอีกแล้วล่ะ ตอนนี้เรามองไปที่อนาคตกันเถอะ



Doloran –  Evan Pettiwhisker Tildrum เจ้ายังเด็กมากเลยนะ แต่เจ้าก็เป็นกษัตริย์ที่ยิ่งใหญ่ด้วย ข้าจะเริ่มต้นใหม่ สร้างอาณาจักรขึ้นมาใหม่อีกครั้ง เพื่อค้นหาสิ่งที่เคยหายไป เพื่อคนหาสิ่งที่ข้ารัก อีกครั้ง 














Evan – พวกเรามาพบพวกท่านในวันนี้เพื่อมาให้คำสัตย์ปฏิญาณอย่างเป็นทางการร่วมกันต่อหน้าประชาชนทุกหมู่เหล่า !!


                          ทุกอาณาจักรจะรวมใจกันเป็นปึกแผ่นบนแผ่นดินเดียวกัน


Roland – ถึงเวลาแล้วสินะ ....
Evan – เฮ้ โรแลนด์นายมาอยู่ที่นี่เองหรอ? … นั่นนายกำลัง ..
Roland – อืมม .. ตอนแรกก็ตั้งใจไม่ให้นายมาเห็นอะไรแบบนี้หรอก ดูเหมือนจะต้องลากันตรงนี้แล้วนะ ถึงเวลาที่ชั้นต้องกลับบ้านแล้ว 
Evan – นายจะไม่อยู่กับชั้นต่อแล้วหรอ?
Roland – คงต้องปล่อยให้ทุกอย่างเป็นไปตามทางของมันแล้วล่ะ ชั้นรู้สึกเหมือนบางอย่างกำลังดึงชั้นกลับไป
Evan – แต่บ้านเมืองของนายมัน ...
Roland – อืมม ตอนที่ชั้นจากมาชั้นเห็นมันโดนทำลาย ชั้นอาจกลับไปเจอความตายกับความสูญเสียมากมาย เรื่องนั้นชั้นทำใจแล้ว ไม่ว่าจะมีอะไรรอชั้นอยู่ ชั้นก็จะเผชิญหน้ากับมัน ชั้นสร้างอาณาจักรกับนายที่นี่ยังทำได้เลย อย่างอื่นชั้นก็ต้องทำได้สิ ที่ผ่านมานายสอนอะไรชั้นเยอะเลย Evan Pettiwhisker Tildrum ชั้นไม่มีวันลืมนายแน่นอน ไม่มีวัน 



Evan – โรแลนด์ ลาก่อนนะ ..
Roland – หวังว่าคงได้เจอกันอีกนะ Evan





เด็กช่างสงสัย – Evan  
Evan – ตกลงนายเป็นใครกันแน่เนี่ย?
เด็กช่างสงสัย – ผมคิดว่าคุณก็รู้
Evan – อืมมม นายคือ King Ferdinand ใช่มั๊ย นายช่วยชั้นมาตลอดเลยนะ
เด็กช่างสงสัย – ใช่ และคนที่ช่วยผมคือคุณต่างหาก ทุกๆอย่างที่ผมบอกคุณไป คุณเคยบอกผมมาก่อนแล้ว 
Evan – อะไรนะ ชั้นไม่เข้าใจอ่ะ?
Ferdinand – ฟังแล้วมันก็เหลือเชื่ออ่ะนะ แต่ผมสามารถท่องจิตไปยังช่วงเวลาต่างๆได้ เป็นความสามารถที่มีตั้งแต่เกิดแล้วและใช้มันมาหาคุณเพื่อแนะนำสิ่งที่ควรทำ ผมหมายถึงเป็นใครก็อยากเห็นว่าพ่อตัวเองตอนเด็กจะเป็นยังไงว่ามั๊ยล่ะ?
Evan – ชั้นเป็นพ่อนายเนี่ยนะ??
Ferdinand – ใช่ครับ ผมเป็นลูกชายของคุณเอง ผมสาบานไว้ว่าจะใช้ชีวิตให้ประสบความสำเร็จเหมือนกับตำนานที่พ่อทำไว้ แต่ก่อนจะถึงตอนนั้นผมก็อยากจะมาดูด้วยตาตัวเองซักครั้งเหมือนกัน จำที่ผมบอกกับพ่อได้มั๊ยเรื่อง คำพูดของผู้ทรงปัญญา น่ะ ทั้งหมดมันเป็นคำพูดของพ่อเองทั้งหมดเลยนะ
Evan – แต่  Ferdinand มีชีวิตอยู่เมื่อนานมาแล้วนะ 
Ferdinand – ฮ่าๆ ผมเกรงว่ามันเป็นเรื่องตลกน่ะ นางไม่ใช่นักประวัติศาสตร์พ่อก็เห็น นางเป็นนักพยากรณ์ นางไม่ได้บอกพ่อว่ามันเกิดขึ้นได้ยังไง แต่นางบอกเรื่องที่จะเกิดในอนาคต เกี่ยวกับความเป็นมาว่าผมเป็นกษัตริย์คนแรกที่รวมโลกให้เป็นหนึ่งเดียวยังไงต่างหาก
Evan – แล้วนายทำได้มั๊ย ไม่สิ นายคิดว่าจะทำรึเปล่าล่ะ?
Ferdinand – แน่นอนครับ พ่อเริ่มรวบรวม 5 อาณาจักรให้เป็นหนึ่งเดียวกัน แต่ยังมีอาณาจักรเล็กๆน้อยๆอีกมากมายที่เกิดในอนาคต ผมก็มีปัญหาของผมเองที่ต้องตามแก้เหมือนกัน สงคราม ความยากจนและเรื่องอื่น ๆที่ผุดขึ้นมาใหม่ ไม่ใช่เรื่องที่จะแก้ปัญหาง่ายๆเลยครับ แต่ผมก็จะทำตามแบบที่พ่อทำไว้คือ แก้ปัญหาไปทีล่ะอย่างที่ละอย่าง
Evan – แล้วนาย ...



                                Ferdinand – ใช่ครับ สุดท้ายมันก็สำเร็จจริงๆ



Ferdinand – ในที่สุดข้าก็มาพบทุกท่านในฐานะราชาที่แท้จริง ข้าคือ ราชา Ferdinand ผู้รวมทุกอาณาจักรของโลกเป็นหนึ่งเดียวกัน 





Ferdinand – ทำให้ประชาชนทุกหมู่เรามาอยู่ใต้ฟ้าเดียวกัน งานที่ยิ่งใหญ่ของพ่อของข้าได้สำเร็จลงแล้วในวันนี้ และแล้วทุกอาณาจักรจะรวมใจกันเป็นปึกแผ่นบนแผ่นดินเดียวกัน 



Ferdinand –  ข้ามาเพื่อให้คำสัตย์ปฏิญาณด้วยพระนามของ King Evan ว่าจะปกป้องสันติภาพที่ได้มาอย่างยากลำบากนี้อย่างเต็มที ตราบที่ข้ายังมีพระชนย์ชีพอยู่ !!!




             Evan - และแล้วคำสัญญาที่ให้ไว้กับ Nella ก็บรรลุผลตามที่ตั้งใจไว้เสียที......





คนขับรถ - เราใกล้จะถึงที่จัดประชุมปรุะชุมสุดยอดผู้นำโลกแล้วนะครับท่านประธานาธิบดี 
Roland - อืมม ขอบคุณมาก
คนขับรถ – ดูท่านมีความสุขมากนะครับ



Roland – ก็ไม่เชิงหรอก ตอนนี้เราก็เหมือนกำลังปีนเขานั่นแหละ ...ชั้นแทบไม่เชื่อเลยว่าเหล่าผู้นำทั่วโลกจะยอมมาเซ็นสัญญาง่ายๆแบบนี้ 
คนขับรถ – ผมเดาว่าไม่เคยมีใครทำได้มาก่อนนะผมว่า ถ้าท่านทำสำเร็จล่ะก็ ว้าว !
Roland – หึหึ มันต้องไปได้สวยแน่นอน อย่างน้อยๆชั้นก็เคยทำสำเร็จมาแล้วครั้งนึงอ่ะนะ
คนขับรถ – จริงหรอครับท่าน 
Roland – จริง ที่เมืองเล็กเมืองนึงที่อยู่ห่างจากที่นี่ไกลแสนไกลพอสมควรเลยล่ะ  




********************************* THE END  ********************************

                                            UPDATE 10 / 10 / 2018


------------------------------------------------------------------------------------------------------------------


หลังจากจบเนื้อเรื่องหลักแล้ว ... เมื่อโหลดกลับมาอีกครั้งจะมาอยู่ในจุด Check point ก่อนจะสู้กับบอสใหญ่ The Horned One ซึ่งจะสามารถวาร์ปกลับออกมาด้านนอกที่ฉากแผนที่เพื่อทำ เควสย่อยที่จะปลดล็อกหลังจบเกมได้

                           Side Quest หลังจบเนื้อเรื่องหลัก 


Side Quest 160  – Dekkah's Grand Tour
สถานที่ – เนินเข้าทางตะวันออกของ Ding Dong Dell



ผู้จ้าง – Dekkah
เป้าหมาย – ตามเขาไปยังสถานที่ต่างๆแล้วทำอาหารตามที่เขาต้องการมาให้ประกอบด้วย Steak Dinner / Lucky Lobster/Hydropolitan Stew/ Executive Steak/ Gooey Curry แล้วเขาจะยอมไปเป็นพลเมืองที่อาณาจักร


ความเชี่ยวชาญ – ประจำอยู่ที่สิ่งปลูกสร้างๆอะไรก็ได้ที่ผลิตไอเทมวัตถุดิบ
รางวัล - 10,550 EXP, 7,580G, Stable Devil's Trumpets และตำราปรุงอาหาร  Rosehip Tart

หลังจบภารกิจนี้ เข้าไปที่ภัตตาคารของ Floyd ที่อาณาจักร Evermore แล้วจะพบเมนู Rosehip Tart เพิ่มขึ้นมาปรุงมันขึ้นมาแล้วเอาไปให้ ชายที่เมือง Goldpaws ใน side quest 055 A Secret Sweet Tooth ที่ค้างไว้ก็จะสามารถจบเควสนี้ได้  

Side Quest 170  – The Divine Silence
สถานที่ – Evermore
ผู้จ้าง – FaiDo และ Nu Bi
เป้าหมาย – เดินทางไปที่จุดหมายของภารกิจที่ดินแดนน้ำแข็งทางเหนือเข้าไปจัดการ Tainted Monster -  Snickersnarl Lv. 64 ตัวเป้าหมายซะแล้วเก็บ Legendary Equipment Plans กลับมาให้ FaiDo และ Nu Bi แล้วจะได้ไอเทมวัตถุดิบพิเศษมาจากเขา 2 อย่างคือ  Suscitanium Nugget และ Moonrise Thread มาซึ่งไอเทมพวกนี้จะสามารถเอาไปใช้สร้าง Legendary Equipment ต่างๆได้ ประกอบด้วย Daybreak Blade / Dawnlight Lance / Gloaming Hammer / Noontide Scepter/ Sunburst Bow / Rising Sun Gun / Sun Raiment / Solstice slippers และปลดล็อกการสร้างอาวุธและชุดป้องกันระดับ LV7 และ LV8
รางวัล - 16,830 EXP, 183,000KG, Songbook No. 6

Side Quest 168  – Currying Favor
สถานที่ – Evermore
ผู้จ้าง – Norbert
เป้าหมาย – นำเอาอาหาร Gloopy Curry มาให้ Norbert
รางวัล - 10,550 EXP, 210,000KG, Songbook No. 17

Side Quest 162  –Tyran's Lament
สถานที่ – Evermore
ผู้จ้าง – Chingis
เป้าหมาย – คุยกับ Chingis ที่อาณาจักรแล้วเดินทางไปที่ Squeezethrough Grotto ทางขวาของป่า  Forest of Niall ซึ่งตอนนี้สามารถใช้ยานเหาะบินไปลงที่ปากถ้ำริมแม่น้ำได้เลยโดยไม่ต้องผ่านป่าแล้ว เข้าไปจะพบกับ Tyran (หลังจากผ่านภารกิจที่ปะทะกับเขาด้วยการรบมาหลายครั้งแล้ว)


จากนั้นไปตามหาลูกน้องของเขาทั้ง 3 คนตามสถานที่ต่างๆในจุดหมายของภารกิจในแผนที่ทั้ง 3 จุดมาให้ครบ แล้วเขาจะยอมไปเป็นพลเมืองที่อาณาจักรด้วย พร้อมกองทัพพลค้อน Tyran’s Terror สำหรับใช้ในการทำสงครามด้วย
รางวัล - 9,650 EXP, 3,810G, Adept's Ring

Side Quest 167  – Legend of the Bright Bellies
สถานที่ – Evermore
ผู้จ้าง – Furnest
เป้าหมาย – นำเอาอาหาร Sultan's Crown มาให้ Furnest


** วัตถุดิบสำคัญที่หายากในการปรุง Sultan's Crown ก็คือ Golden Eggs ซึ่งสามารถหาได้จากมอนสเตอร์ใน Unsung Shrine ** 
รางวัล - 10,550 EXP, 210,000KG, Sovereign Soreaway Sweet

Side Quest 166  – A Blossoming Art Career
สถานที่ – Evermore
ผู้จ้าง – Hipponoe
เป้าหมาย – หาไอเทม Opal Huebloom มาให้ Hipponoe
** Opal Huebloom คือแรร์ไอเทมที่ดร็อปจากศัตรูใน Dreamer's Door หมายเลข 10 ที่เกาะ Faraway Island ทางตะวันออกของ Broadleaf **
รางวัล - 8,960 EXP, 148,000KG, Phoenix Tear

Side Quest 169  – Sap for the Zapper
สถานที่ – Evermore
ผู้จ้าง – Alexis
เป้าหมาย – หาไอเทม Aromatic Sap มาให้ Alexis
** Aromatic Sap คือแรร์ไอเทมที่ดร็อปจากศัตรูใน Dreamer's Door หมายเลข 10 ที่เกาะ Faraway Island ทางตะวันออกของ Broadleaf และได้แบบสุ่มจาก Towering Lumbyard ในอาณาจักร **
รางวัล - 8,960 EXP, 148,000KG, Supreme Sixth Censer

Side Quest 161  – Testing the One True King
สถานที่ – Evermore
ผู้จ้าง – Senturi จะมายืนด้านหน้าอาณาจักรหลังจบเนื้อเรื่องหลัก
เป้าหมาย – เดินทางไปที่ Bleachbone Shrine ที่ Dryland เข้าไปจัดการ Starless Knight LV66 แล้วกลับมาคุยกับ Senturi อีกครั้งเธอจะเข้าเป็นพลเมืองในอาณาจักรด้วย
ประจำอยู่ที่ – สถานที่เพาะเลี้ยง Higgledy ด้วย Skill 100 Heartedness ที่สามารถปลดล็อกการสร้าง Higgledy ระดับ 4 ได้
รางวัล - 17,910 EXP, 6,310G, Songbook No. 2

Side Quest 165  – A Higgledy and a Half
สถานที่ – Evermore
ผู้จ้าง – Da xing
เป้าหมาย – ตามหา Higgledy น้อย 5 ตัวที่หลบอยู่ทั่วเมืองให้พบ แล้ว Da xing จะบอกข้อมูลของ Higgledy ระดับสูงให้ จากนั้นเดินทางไปยัง Forest of Niall ในเขต Hard Woods จะพบ Mome the Munificent อยู่ เมื่อคุยจบมันจะยอมร่วมทางด้วย ซึ่งจะเป็น Higgledy ระดับ 4 ที่สามารถนำมาใช้งานได้


                                           Mome the Munificent

                                                          Skill 

Mend,Mend – เพิ่มความสามารถให้กับ Higgledy ในสายฟื้นฟูทุกตัวที่ร่วมต่อสู้
Better, Better! – รักษาอาการที่เกิดจากความผิดปกติของสเตตัสของเพื่อนในกลุ่ม
Higgledy Heal - สร้างพื้นที่สำหรับฟื้นฟูพลังชีวิตของเพื่อนในกลุ่ม ทำให้พลังชีวิตค่อยๆเพิ่มขึ้นที่ละน้อยในระยะเวลาสั้นๆ
Sonic Tonic! – เพิ่มโอกาสที่ตัวละครจะปล่อยคลื่นอัดกระแทกออกมา เมื่อเกิดการตื่นขึ้นของพลัง (Awakening)
รางวัล - 15,380 EXP, 153,500KG, Wizard King's Secret

Side Quest 158  – Dressed to Kill
สถานที่ – Evermore
ผู้จ้าง – Ritter


เป้าหมาย – หาไอเทมต่างๆมาให้เขา ประกอบด้วย Wild Leather 3 อัน / Stylish Strings 2 อัน / Tranquilium Nuggets แล้ว Ritter จะสร้างชุด Vestments of Victory ให้ Evan
รางวัล - 6,800 EXP, 104,500KG, Vestments of Victory

                                          Capstan-upon-Hull

Side Quest 159  – A Man of Many Names
สถานที่ – Capstan-upon-Hull
ผู้จ้าง – Sin - Gul


เป้าหมาย – ตอบชื่อเต็มๆของ Sin – Gul ให้ถูก โดยให้เลือกตอบตามนี้ Donwaribihapi /Tstaykenmayt /Haoozbiznis/Sbinawile/Watsamata
ประจำอยู่ที่ – Sin – Gul เป็นพลเมืองพิเศษที่สามารถทำงานและสามารถเพิ่มประสิทธิ์ให้กับสิ่งปลูกสร้างเกือบทุกชนิดในอาณาจักร
รางวัล - 9,650 EXP, 3,810G, Great Sage's Secret

                                                        Hydropolis 

Side Quest 163  – Kingdom of Crystal Seas
สถานที่ – Hydropolis
ผู้จ้าง –ผู้ตรวจสอบด้านสิ่งแวดล้อม
เป้าหมาย – เก็บตัวอย่างน้ำ 3 จุดในเมืองมาให้เขาแล้วเดินทางไปยังเกาะทางขวาของเกาะ Makronos จัดการมอนสเตอร์ Jolly Jelly LV69 ที่อยู่บนเกาะแล้วเก็บตัวอย่างน้ำมาให้เขา
รางวัล - 15,190 EXP, 5,650G, Hydropolitan King's Robes (ชุดพิเศษของ Leandro

                                                    Ding Dong Dell

Side Quest 164  – A Tall Order
สถานที่ – Ding Dong Dell
ผู้จ้าง – สาวใช้
เป้าหมาย – เดินทางไปที่จุดเป้าหมายในเขตน้ำแข็งทางเหนือจัดการ Tainted Monster Ziggy แล้วเก็บไอเทม Tundra Rose มาให้เธอ
รางวัล -18,990 EXP, 6,740KG, Songbook No. 26


                                Side Quest ที่ซ่อนอยู่ตามสถานที่ต่างๆ

Side Quest 060  – Who's the Big Boss
สถานที่ – ถ้ำ Greeglade ทางตะวันตกของ Forest of Niall
ผู้จ้าง – Grimchilla Elder
เป้าหมาย – เข้าไปจัดการ Porc ที่ยึดอำนาจพวก Grimchilla เพื่อช่วยให้ Grimchilla Elder เป็นใหญ่ในถ้ำนี้อีกครั้ง
รางวัล - 3,650 EXP, 1,020G, Songbook No. 27

Side Quest 082  – Rumpel, the Village Vet
สถานที่ – ถ้ำ Greeglade ทางตะวันตกของ Forest of Niall
ผู้จ้าง – Rumpel


เป้าหมาย – หลังจากจบ Side Quest 060 แล้วเข้าไปในถ้ำ Greeglade อีกครั้งจะพบ Rumpel อยู่ที่นี่กับ Grimchilla Elder เนื่องจากมังกร Flappy เพื่อนรักของ Rumpel เกิดคลุ้มคลั่งเข้าไปอยู่ด้านในสุดของถ้ำ เข้าไปจัดการ มังกร Flappy LV46 ให้ชนะก็จะทำให้เจ้า มังกร Flappy คืนสติอีกครั้ง แล้วก็จะได้ Rumpel เข้าร่วมเป็นพลเมืองของอาณาจักร
ประจำที่ – Ranch และมีกองทัพพลหอก The Bengal Lancers สำหรับใช้ในการทำสงครามด้วย
รางวัล - 8,300 EXP, 2,590G, Soreaway Sweet x2

Side Quest 140  – Tamming Tyger
สถานที่ – ถ้ำ Hermit’s Hollow ทางตะวันตกเฉียงใต้ของฐานสลัดอากาศ
ผู้จ้าง – Tyger


เป้าหมาย – สร้างอาวุธ Malee weapon ในอาณาจักรให้มีจำนวน 30 ชนิดหรือมากกว่าแล้ว Tyger จะยอมเข้าร่วมเป็นพลเมืองของอาณาจักร
รางวัล - 7,660 EXP, 3,520G, Shiny Champion's Ring

Side Quest 115  – A Not-So-Watchful Eye
สถานที่ – East wood ทางตะวันออกของ Broadleaf
ผู้จ้าง – นักสำรวจมอนสเตอร์
เป้าหมาย – เข้าไปจัดการ Tainted Monster Crystolith LV47
รางวัล - 9,130 EXP, 2,910G, Dingeguard Pendant


Side Quest ที่ปลดล็อกหลังจบจะได้ตัวละครที่สามารถเข้าร่วมเป็นพลเมืองด้วยจนครบ 100 คน ทำให้สามารถอัพเกรดอาณาจักร Evermore เป็นระดับ 4 ได้แล้ว



                                      Side Quest ชุดพิเศษหลังจบ


Side Quest 171  – A Costume fit for a Consul
สถานที่ – Evermore
ผู้จ้าง – Grimm
เป้าหมาย – หาไอเทมต่างๆมาให้เขาประกอบด้วย
Rook's Brocade 5 อัน,Snazzy String 3 อัน,Moonrise Thread 2 อัน
** Moonrise Thread คือแรร์ไอเทมที่ดร็อปจากศัตรูใน Dreamer's Door หมายเลข 10 ที่เกาะ Faraway Island ทางตะวันออกของ Broadleaf**
รางวัล - 12,000 EXP, 195,000KG, Chief Consul's Coat (ชุดพิเศษของ Roland]


Side Quest 172  – Pretty as a Princess!
สถานที่ – Evermore
ผู้จ้าง – Halimede
เป้าหมาย – หาไอเทมต่างๆมาให้เธอประกอบด้วย
Flowing Fur 5 อัน, Queen's Brocade 3 อัน, Celestial Silk 2 อัน
** Celestial Silk คือแรร์ไอเทมที่ดร็อปจากศัตรูใน Dreamer's Door หมายเลข 10 ที่เกาะ Faraway Island ทางตะวันออกของ Broadleaf**
รางวัล - 12,000 EXP, 195,000KG, Queen's Gown (ชุดพิเศษของ Tani]



Side Quest 173  – Classy Cloud Snake Clobber
สถานที่ – Evermore
ผู้จ้าง – Jared
เป้าหมาย – หาไอเทมต่างๆมาให้เขาประกอบด้วย
Savage Leather 5 อัน, Classic Cord 3 อัน, Champion's Buttons 2 อัน
** Classic Cord และ Champion's Buttons คือแรร์ไอเทมที่ดร็อปจากศัตรูใน Dreamer's Door หมายเลข 10 ที่เกาะ Faraway Island ทางตะวันออกของ Broadleaf**
รางวัล - 12,000 EXP, 195,000KG, Commander's Clobber (ชุดพิเศษของ Batu]


Side Quest 174  – Jazzing Up the Junior Consul
สถานที่ – Evermore
ผู้จ้าง – Kent
เป้าหมาย – หาไอเทมต่างๆมาให้เขาประกอบด้วย
Knight's Brocade 5 อัน, Sparkly Leather 3 อัน, Sumptuous String 2 อัน
** Sumptuous String คือแรร์ไอเทมที่ดร็อปจากศัตรูใน Dreamer's Door หมายเลข 10 ที่เกาะ Faraway Island ทางตะวันออกของ Broadleaf**
รางวัล - 12,000 EXP, 195,000KG, Junion Consul's Clothes (ชุดพิเศษของ Leandro]


Side Quest 175  – Outfit Upgrade for Bracken
สถานที่ – Evermore
ผู้จ้าง – Andrew
เป้าหมาย – หาไอเทมต่างๆมาให้เขาประกอบด้วย
Footman's Brocade 5 อัน, Night-white Thread 3 อัน, Suscitanium Nuggets 2 อัน
** Suscitanium Nuggets คือแรร์ไอเทมที่ดร็อปจากศัตรูใน Dreamer's Door หมายเลข 10 ที่เกาะ Faraway Island ทางตะวันออกของ Broadleaf**
รางวัล - 12,000 EXP, 195,000KG, Ingenious Outfit (ชุดพิเศษของ Bracken]




                                              ชุดพิเศษที่ซ่อนอยู่ในฉากแผนที่



Shipwright's Shirt (ชุดพิเศษของ Batu)
บนเนินเขาด้านบนของง Tightfit Cavern (ต้องใช้ยาน Zippelin)


Goldpaw Gown (ชุดพิเศษของ Bracken)
ริมทะเลฝั่งตะวันตกของเมือง Goldpaw. (ต้องใช้ยาน Zippelin)


Regal Attire (ชุดพิเศษของ Leander)
อยูบนเกาะ Makronos ฝั่งตะวันตก (ต้องใช้ยาน Zippelin)