วันจันทร์ที่ 14 ธันวาคม พ.ศ. 2563

Cyberpunk2077 database

 อรัมภบทเรื่องราวจาก Cyberpunk 2013 ถึง Cyberpunk2077 ฉบับย่อ 

โลกของ Cyberpunk เริ่มต้นจากเกมสวมบทบาท tabletop role-playing (เกมที่เหล่าผู้เล่นนั่งรวมกันบนโต๊ะประมาณ 4-5 คน โดยมีคนนึงทำหน้าที่เป็น Game Master (GM) คอยดำเนินเรื่องราวของเกม เล่าถึงสถานที่ กำหนดช่วงเวลา และเหตุการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้น และผู้เล่นแต่ละคนก็จะสวมบทบาทเป็นตัวละครต่างๆที่เลือกไว้ ซึ่งจะมีทั้งชื่อ Class ความสามารถ พลังพิเศษและ Lifepath อื่นๆที่แตกต่างกัน แล้วเข้าไปอยู่ในโลกของเกมที่ GM เป็นผู้สร้างขึ้น ตามกฎและกติกาของเกมนั้นๆผ่านหนังสือ Handbook ที่แถมมากับเกม ) ที่ชื่อ Cyberpunk 2013

ที่ออกแบบโดย ไมค์ พอนดสมิธ (Mike Pondsmith) นักเขียนชาวแคลิฟอร์เนียในปี 1988 

ในชไตเติ้ลว่า The Roleplaying Game of the Dark Future โดย Box Set จะประกอบด้วย Sourcebooks 3 เล่มหลักๆคือ

1.Friday Night Firefight เป็น Handbook ที่เน้นข้อมูลระบบการต่อสู้ด้วยอาวุธปืน
2.View from the Edge เป็น Handbook ที่ครอบคลุมทุกแง่มุมของตัวละครจากบทบาทต่างๆที่ผู้เล่นสามารถเลือกเป็นกลไกทักษะของตัวละครและเส้นทางชีวิต มีการแนะนำบทบาทตัวละคร Netrunner แนะนำให้รู้จักกับ The Net รวมถึง บทบาทตัวละครหลัก Rockerboy, Solo, Netrunner, Techie, Media, Cop, Corporate, Fixers และ  Nomads
3.Welcome to Night City เป็น Handbook ที่มีการเพิ่มเติมบท Adventures ซึ่งเป็นการผจญภัยขนาดเล็กสำหรับผู้เล่นครั้งแรก ผ่านเนื้อเรื่องในบท Never Fade Away และ End Game ซึ่งเป็นการแนะนำตัวละครที่เป็นสัญลักษณ์ของเกมอย่าง Johnny Silverhand และ Alt Cunningham 

จน Mike Pondsmith ผู้แต่งได้มีการอัพเดท Cyberpunk 2013 เป็น Cyberpunk 2020 ในปี 1990 เพื่อปรับปรุงและเพิ่มเติมเหตุการณ์ใหม่ ๆในเกมทั้งเพิ่มเติม เทคโนโลยีใหม่ ,ตัวละครใหม่ รวมถึงการขยายโลกให้กว้างขึ้น โดยพยายามทำให้ Night City กลายเป็นโลกแห่งความจริงแทนที่จะเป็นเมืองในอนาคตอันใกล้ที่คลุมเครืออย่าง Cyberpunk 2013 และมีการเพิ่มเติมกฎกติกาใหม่จากของ Cyberpunk 2013 ที่ล้าสมัย ทำให้  Cyberpunk 2020 กลายเป็นบทหลักในการเล่นเกมแทน

cyberpunk 2020 sourcebook ที่แถมจาก GOG  เป็น sourcebook ดั่งเดิมจากปี 1990 ที่ทำมาในรูปแบบไฟล์ Pdf  สามารถเข้าไปดาวโหลดได้ที่ Google Drive ของผมครับ 
https://drive.google.com/file/d/16Tl5ltyn5PGtoqJHLC5wMAMjBac2ZndH/view?usp=sharing

เนื้อเรื่องของ Cyberpunk ไม่ได้เป็นการเล่าเรื่องอย่างตรงไปตรงมานักเนื่องจากมันเป็นเกม pen & paper RPG ที่ผู้เล่นต้องสร้างเรื่องราวและตัวละครของตัวเองและสำรวจโลกในแบบที่พวกเขาต้องการ โดยมี Sourcebooks ต่างๆที่ถูกเขียนเอาไว้เสมือนเป็นกฎเพื่อให้ผู้เล่นได้แสดงร่วมกับกลุ่มของพวกเขา 

แต่แกนหลักของเนื้อเรื่องว่าด้วยการทำสงครามของ 2 องค์กรอะควาคอร์ปในเมือง Night City ประกอบด้วย  

CINO (Corporation Internationale Nauticale et Oceanique) องค์กรที่เชี่ยวชาญในการให้บริการขนส่งสินค้าและเทคโนโลยีใต้น้ำจากยุโรป

และ OTEC (Ocean Technology & Energy Corporation) บริษัทสัญชาติอเมริกันที่เชี่ยวชาญในการให้บริการขนส่งสินค้าและเทคโนโลยีใต้น้ำ จนต่อมาการทำสงครามทางการค้าของทั้ง 2 องค์กรเริ่มขยายตัวใหญ่ขึ้นเมื่อทั้งคู่ได้ว่าจ้าง

 Arasaka Corporation, アラサカ社, บริษัท รักษาความปลอดภัยและกองกำลังติดอาวุธที่ใหญ่ที่สุดและทรงพลังจากญี่ปุ่น 


และ Militech International Armaments บริษัทเอกชนสัญชาติอเมริกันผู้จัดหายุทโธปกรณ์และทหารรับจ้างขนาดใหญ่ให้ต่อสู้แทนพวกเขา

การเผชิญหน้าของ 2 องค์กรทหารรับจ้างระดับบิ๊กอย่าง Arasaka และ Militech ในฐานะของตัวแทนของบริษัท CINO และ OTEC  ก็เริ่มทวีความรุนแรงมากขึ้น 

จนเกิดเป็นสงครามทางธุรกิจด้วยจริตที่ผิดจริยะธรรมรุกรามสร้างความเดือดร้อนไปทั่วเมืองอยู่หลายครั้ง แต่ครั้งที่บานปลายและสร้างความเสียหายที่สุดคือ ครั้งที 4 ซึ่งเรียกสงครามนี้ว่า สงครามองค์กรครั้งที่ 4 (The Fourth Corporate War) 

ซึ่งตัวละครทั่วไปในพื้นฐานของเรื่องราวเหล่านี้ นอกจากคุณที่สวมบทบาทเป็นตัวละครต่างๆในฐานะ 1 ในผู้เล่น  tabletop role-playing ร่วมโต๊ะกับผู้เล่นคนอื่นแล้ว ก็ยังมีตัวละครเด่นๆที่มีบทบาทที่ระบุไว้ใน Sourcebooks เช่นกัน 

หนึ่งในนั้นก็คือ Johnny Silverhand ที่ปรากฏตัวครั้งแรกใน Handbooks Welcome to Night City mini-adventures Section 13 :  Never Fade Away ส่วนขยายของทั้งใน Cyberpunk 2013 และ Cyberpunk 2020

บทของ Johnny คือนักร้องนำวงดนตรีใต้ดินนาม Samurai ที่เนื้อหาของเพลงเต็มไปด้วยการเสียดสีทุนนิยม เรียกร้องเสรีภาพและเปิดโปงการใช้อำนาจที่ไม่เป็นธรรม ผ่านบทเพลงในอัลบั้ม 'SINS of Your Brothers'เพื่อเปิดเผยสิ่งเลวร้ายที่รัฐบาลสหรัฐผู้ซึ่งใช้สงครามเป็นเครื่องมือของความชอบธรรมกำมะลอในการแย่งชิงอนาธิปไตยของประเทศอื่นจนทำให้เขาต้องหนีทัพและสูญสิ้นศรัทธาไปพร้อมกับแขนซ้ายที่เสียไปในสงครามที่ไม่ใช่ของตน ก่อนจะผันตนเป็นผู้นิยมอนาธิปไตยในฐานะผู้นำของ CyberRevolution ที่พยายามจะยุติสงคราม องค์กรครั้งที่ 4 (Fourth Corporate War) ที่เปิดศึกทวงคืนเมือง Night City 

จนกระทั่งในปี 2013 วันนึงหลังจบคอนเสิร์ตที่ภายหลังมันได้กลายเป็นคอนเสิร์ตครั้งสุดท้ายของเขา ในขณะที่กำลังเดินเล่นกับ Altiera Cunningham หรือ Alt แฟนสาว ก่อนที่เธอจะถูกลักพาตัวไปโดยแก็งค์ที่ถูก Arasaka จ้างมาเพียงเพราะเธอเป็นทรัพย์สินที่มีค่าสำหรับพวกเขาที่ต้องการให้เธอพัฒนาซอฟต์แวร์ที่เรียกว่า Soulkiller ที่เธอเคยทำให้กับทาง ITS corporation ซึ่งเป็นนายจ้างของเธอ เป็น ซอฟต์แวร์ ที่สามารถดาวน์โหลดความคิดของ netrunner (Cybernetic computer hackers. มนุษย์ที่ถูกปลูกถ่ายอินเทอร์เฟซคอมพิวเตอร์ฝังอยู่ในสมองและในร่างกายที่มีอาชีพท่องอินเทอร์เน็ตเพื่อค้นหาและแฮ็กข้อมูลออกมาขาย) ได้ มันเป็นซอฟต์แวร์อันตรายที่จะคร่าชีวิตใครก็ตามที่พวกเขาต้องการจะดาวโหลดข้อมูลในสมอง 

Johnny ก็ได้มีโอกาสที่จะเข้าไปช่วยเหลือแฟนสาวของตนอย่างที่ตั้งใจจากการช่วยเหลือของรัฐบาลสหรัฐและกองกำลังของ Militech ที่ถูกบีบจากรัฐบาลสหรัฐให้มาช่วยเหลือ ด้วยแผนแทรกซึมเข้าไปที่หอคอย Arasaka Tower สำนักงานใหญ่ของ Arasaka โดยการช่วยเหลือของเหล่าสมาชิกในวง Samurai ที่กลับมารวมตัวกันอีกครั้งเพื่อเล่นคอนเสิร์ตตบตาขึ้นที่หน้าหอคอย Arasaka Tower ก่อนที่จะสร้างสถานการณ์ทำให้เกิดการจลาจลขึ้นเพื่อให้กองกำลังรักษาหอคอยเข้ามาควบคุมสถานการณ์ 


ก่อนที่ Johnny ร่วมกับ Rogue, Shaitan, Thompson นักข่าวจาก World News Network ที่พยายามเปิดโปงความชั่วร้ายของ Arasaka ที่มีส่วนทำให้ภรรยาของเขาต้องตาย ,  Spider Murphy

และ Morgan Blackhand ที่มาพร้อมหน่วยติดอาวุธ Strike Team Omega และหน่วย Combat Borg ชั้นยอดของ Militech รวมพลังกันบุก Arasaka American Division Headquarters สำนักงานใหญ่ของ Arasaka ในเมือง Night City เพื่อหมายที่จะปิดฉากสงครามองค์กรครั้งที่ 4 (Fourth Corporate War) ที่สร้างความเสียหายในเสรีภาพของประชาชนมายาวนาน และเพื่อตามหาและช่วยเหลือ Altiera แฟนสาว ไปพร้อมๆกับล้างบาง Soulkiller ให้สิ้นซากไปพร้อมๆกัน 

ในขณะที่ Alt แฟนสาวของ Johnny ถูก Toshiro หัวหน้าโครงการวิจัย Soulkiller ของ Arasaka ได้ใช้ Soulkiller กับ Altiera จนทำให้เธอติดอยู่ในคอมพิวเตอร์  เมื่อ Johnny มาถึงแล้วเห็นร่างที่แน่นิ่งของเธอก็สันนิษฐานว่าเธอตายแล้ว จึงฆ่า Toshiro ด้วยความแค้น ก่อนที่ Johnny จะอุ้มร่างของ Altiera มากอดด้วยความเสียใจพร้อมๆกับดึงสายระโยงระยางตามร่างกายของเธอออกจนหมด แต่จิตสำนึกของ Altiera ที่ยังติดอยู่ใน monitors ก็พยายามกรีดร้องแต่ Johnny ก็ไม่ได้ยินเธอ 


ในขณะที่ทีมกำลังจะถอนตัว 
อุปสรรคที่ใหญ่ที่สุดนั่นก็คือไซบอร์ก Adam Smasher ชายที่มีเครื่องจักรมากกว่าเนื้อหนังในฐานะของบอดี้การ์ดของ Arasaka ได้ซุ่มโจมตีทีมของ Johnny ทำให้เขาเสียจังหวะและถูก Adam ยิงเข้าเต็มๆ ซึ่งในขณะที่ทีมถูกลอบโจมตี แต่ Spider Murphy ซึ่งเป็น Netrunner เหมือนกับ Alt รู้ดีว่าเธอยังไม่ตายแต่ติดอยู่ในเซิร์ฟเวอร์ ก็ฉวยโอกาสรีบเข้าไปปลดปล่อย Altiera จากเมนเฟรมของ Arasaka เข้าสู่ The Net (เครือข่ายโทรคมนาคม 3 มิติขนาดใหญ่ในโลก Cyberpunk คล้ายๆกับอินเทอร์เน็ตในโลกแห่งความเป็นจริง) ทำให้เธอรอดพ้นเงื้อมมือของพวก Arasaka ได้ในที่สุด

ในช่วงที่ทีมกำลังจะถอนกำลัง Morgan Blackhand ก็ต้องเจอ Adam Smasher เข้ามาขัดขวางอีกครั้งก่อนที่ทั้งคู่จะดวลกันบนยอดหอคอย แต่ยังไม่ทันรู้ผลแพ้ชนะ ระเบิดนิวเคลียร์ก็ถูกทิ้งลงมาระเบิดที่นี่จนราบเป็นหน้ากอง 

Johnny Silverhand ถูกสันนิษฐานว่าเสียชีวิตจากการถูก Adam Smasher ยิง แต่ ไม่เคยมีใครพบศพของเขา

หลายปีหลังจบ สงครามองค์กรครั้งที่ 4 (Fourth Corporate War)  Alt ได้สร้างที่หลบภัยดิจิทัลสำหรับเหยื่อ Soulkiller คนอื่นๆ มีข่าวลือว่าซ่อนอยู่บนเซิร์ฟเวอร์ที่ไหนสักแห่งใน Night City 

50 ปีต่อมาหลัง สงครามองค์กรครั้งที่ 4 (Fourth Corporate War) จบลง Johnny Silverhand ก็ปรากฏตัวอีกครั้ง ในฐานะ Chip ลึกลับที่ฝั่งอยู่ในหัวของ V ตัวเอก ของเกม Cyberpunk 2077 

บทบาทของ Johnny Silverhand ในเกม Cyberpunk 2077 คือบทที่ 3 ต่อจากเรื่องราวใน Handbooks Welcome to Night City mini-adventures Section 13 :  Never Fade Away ส่วนขยายของทั้งใน Cyberpunk 2013 และ Cyberpunk 2020  และ End Game จาก sourcebook Firestorm Shockwave : the Fourth Corporate War Book Two mini-adventures ส่วนขยายของ Cyberpunk 2020 

Source
https://cyberpunk.fandom.com/wiki/Fourth_Corporate_War
https://cyberpunk.fandom.com/wiki/Cyberpunk_story
https://drac-cybergen.obsidianportal.com/characters/silverhand
https://cyberpunk.fandom.com/wiki/Johnny_Silverhand#:~:text=Johnny%20Silverhand%20is%20a%20central,in%20the%20upcoming%20Cyberpunk%202077



          Mister John Silverhand  Codename: The Mystic
                     
เรื่องเล่าของ Johnny Silverhand นอก Wiki 

มิสเตอร์ จอห์น ซิลเวอร์แฮนด์ สมญานาม: The Mystic เจ้าของวาทะกรรม “There is no greater power than the power within yourself” (“ไม่มีอำนาจใดที่ยิ่งใหญ่ไปกว่าพลังที่อยู่ภายในตัวคุณเอง”) นอกจากการเป็นหัวหน้าวง Samurai และ ผู้นำของ CyberRevolution ในการต่อต้านทุกความอยุติธรรมในสังคมแล้ว ที่เหลือแทบทุกอย่างเกี่ยวกับเขาก็ล้วนเป็นปริศนาเต็มไปหมดเหมือนชื่อฉายาของเขา แม้แต่เรื่องชาติกำเนิด ว่ากันว่าชื่อจริงของเขาคือ Robert John  Linder เกิดในช่วงปี 1980 บ้างก็ว่าเขาเป็นลูกของโปรแกรมเมอร์ของ Apple บางก็ว่า เป็นลูกของนักกีตาร์ที่ทำงานในคลับในซานฟรานซิสโก แม้แต่การรับราชการทหารของเขา ซึ่งบ้างก็ว่าเขาเคยเข้าร่วมกับ นาวิกโยธินสหรัฐ (United States Marine Corps) บ้างก็ว่า กองทัพบกสหรัฐ (United States Army) ในปี 2004 เพื่อฝึกเป็น ทหารไซเบอร์รันต์ (cybergrunt soldier) ทหารที่มีความแข็งแกร่งที่สามารถต่อสู้และใช้อาวุธหนักแบบที่คนปกติไม่สามารถใช้ได้ ในหน่วยปฏิบัติการพิเศษ ก่อนที่เขาจะหนีทหาร ในช่วงต้นของสงครามที่ นิการากัว Robert John  Linder ถูกระบุว่าเป็นบุคคลที่สูญหาย ตามที่ระบุไว้ใน Dogtag ที่เขาทิ้งไว้ ในเวลาเดียวกันกับที่ Johnny  ปรากฎตัวขึ้นมาพร้อมกับแขนกล chrome cyberarm สีเงินที่เป็นเครื่องหมายการค้าและนามสกุลสุดเท่ว่า Silverhand ในฐานะของร็อคเกอร์บอยนักร้องนำวง Samurai ที่เขาฟอร์มขึ้นมากับซิงเกิ้ลฮิตในตำนานมากมายเช่น Chippin ’In และ Never Fade Away 

ก่อนที่ Johnny Silverhand จะเริ่มทำอัลบั้ม Clone Wars ที่มีซิงเกิ้ลที่มีเนื้อร้องถูกเขียนขึ้นจากแนวความคิดทางการเมืองที่มีรายละเอียดอ่อนเกี่ยวกับการละเมิดสิทธิ เสรีภาพ และเปิดโปงถึงอันตรายจากการดัดแปลงพันธุกรรมของมนุษย์ ทันทีที่ ซิงเกิ้ลแรกถูกปล่อยออกมาก็ทำให้เขาเริ่มเป็นที่หมายตาของเหล่าผู้อำนาจในบ้านเมือง และถูกลอบสังหารในที่สุด เรื่องราวการถูกลอบสังหารของ Johnny มีเพียงไม่กี่คนในกลุ่ม CyberRevolution ที่รู้ ว่ากันว่า Johnny รอดมาได้ในสภาพร่างกายที่เกือบขาดครึ่งด้วยระเบิดที่ฉีกชิ้นส่วน AV-7 ของเขาออกจากกัน และเกือบตายในช่วงการรักษาใน cryotank ก่อนที่สถานที่หลบซ่อนที่มีการป้องกันอย่างแน่นหนาของเขาจะถูกสร้างขึ้นโดย Altiera Cunningham หรือ Alt  netrunner สุดสวยผู้พัฒนาโปรแกรม Soulkiller ให้กับ ITS corporation ที่รู้ดีว่า ร่างกายของ Johnny นั้นเกิดเยียวยาแล้ว เธอจึงทำการอัปโหลด engrams (ร่องรอยของความทรงจำที่ถูกบันทึกไว้) ของ Silverhand ไปยัง The Net ผ่านโปรแกรม Soulkiller ของเธอ ก่อนนำร่างของ Johnny ที่แช่แข็งไว้ไปทำการโคลนนิ่งในสถานที่ลับแห่งนึง ทำให้ร่างกายและจิตใจของ Johnny Silverhand กลับคืนมาอีกครั้ง ก่อนที่  Alt จะหลบไปพักผ่อนที่เมนเฟรมคอมพิวเตอร์ขนาดยักษ์ที่เรียกกันว่า Ghost Town

แปดเดือนต่อมา จอห์นนี่ ซิลเวอร์แฮนด์ ปรากฏตัวต่อสถาธารณะชนอีกครั้งในงานแถลงข่าวเพื่อเปิดตัวอัลบั้ม Clone Wars ที่ล่าช้ามานาน 

 Johnny Silverhand ยังคงสร้างผลงานเพลงที่มีเนื้อหาตีแผ่ความจริงให้สังคมรับรู้อย่างต่อเนื่อง 4 อัลบั้ม อันประกอบด้วย Ring of Fire ในปี 2021, Surrendered Goblin 2 ,112, MediaGodsin 2023 และ Street Armageddon ในปี 2024 ที่ว่าด้วยการรวมเป็นเทศอเมริกาและเรื่องนโยบายที่เข้มงวดของรัฐบาล จนในปี 2026 ทาง ISA (Incorporated States of America ) ก็ออกมารณรงค์ให้ควบคุมการวิวัฒน์ของไซเบอร์ ทำให้ Johnny ที่ทำอัลบั้มใหม่ที่ชื่อ Tomorrow's Child ที่เนื้อเพลงมีการเปิดเผยถึงความน่ากลัวของโครงการที่ไร้มนุษยธรรมของรัฐบาลที่เกิดจากการจัดตั้งในรูปแบบของบริษัทเป็นการตอบโต้  อัลบั้มยังไม่ทันจะเสร็จสมบูรณ์  Johnny ก็ถูกทีมล่าสังหารของ ISA ลอบสังหารด้วยอาวุธ AI จากระยะไกล 

และจากเหตุการณ์นี้ก็ทำให้  Johnny Silverhand รู้ถึงความจริง เมื่อ Alt กลับมาเพื่อช่วยเหลือเขาอีกครั้ง ด้วยการบีบอัดความทรงจำ 7 ปีจาก engram ของ Johnny กลับไปที่ร่างเดิม ร่าง Original ของ Johnny ที่ Alt ทำการปลูกถ่ายเนื้อเยื่อที่เสียหายแล้วเก็บรักษาไว้ในตู้แช่แข็งไว้เป็นอย่างดี ก่อนที่เธอจำต้องบอกความจริงกับ Johnny ถึงเรื่องที่เธอได้อัปโหลด engram ข้อมูลต้นฉบับของเขาเก็บไว้ตอนที่ถูกลอบสังหารครั้งแรก  Johnny Silverhand คนนี้เป็นสำเนารุ่นที่สามแล้ว ซึ่งถ้า Johnny ยอมรับเรื่องนี้ได้ เขาก็สามารถเป็นอมตะได้ และ Alt ก็อยู่เคียงข้างและให้ความช่วยเหลือ Johnny Silverhand ในฐานะผู้นำของ CyberRevolution มาตั้งแต่นั้น 

Johnny เรียกตัวเองว่า Mister John Silverhand อาจจะเพื่อแยกแยะว่าเขาเป็นคนที่เปลี่ยนไปได้ตลอดเวลา แก่กว่า, ฉลาดกว่า, มีไหวพริบมากกว่า เป็นเสมือนผู้ประสิทธิ์ประสาทวิชาของเหล่าร็อคเกอร์หนุ่มที่ต้องการรู้วิธีเข้าถึงหัวใจและความคิดของอเมริกาที่แท้จริง 

SOURCE  https://drac-cybergen.obsidianportal.com/characters/silverhand


บทแปล Handbooks Welcome to Night City mini-adventures Section 13 ส่วนขยายของ Cyberpunk 2013 และ Cyberpunk 2020  (เนื้อเรื่องหลักบทที่ 1 ของ Johnny Silverhand และ Alt Cunningham)                  

                             บทที่ 1 Never Fade Away
                            

A Cyberpunk Adventure

ในขณะที่ Johnny Silverhand ร็อคเกอร์บอยชื่อดังกำลังเล่นโชว์ที่ Hammer nightclub ในไนท์ซิตี้พร้อมกับ Alt Cunningham แฟนสาวของเขา หลังจากการแสดงพวกเขาออกไปทางเข้าด้านหลังเพื่อหลีกเลี่ยงฝูงชนและพบกับกลุ่มฟังก์กลุ่มในตรอกข้างหน้า พวกเขาสวมชุดของแก๊งค์ Icebrothers และเชิญจอห์นนี่ให้มาดื่มเครื่องดื่มด้วยกัน แต่ จอห์นนี่ รู้สึกถึงอันตรายจอห์นนี่จึงรีบไปหา อัลท์ เพื่อช่วยเธอให้พ้นจากอันตรายทั้งที่ไม่มี cyber-enhanced namesake arm ติดมาเพราะเอาไปซ่อม จอห์นนี่จึงได้แต่พยายามใช้อาวุธเท่าที่มีของเขา แต่ช้าเกินไป พวกฟังก์สามคนกระโดดเข้ามารุมจนเขาล้มลงในไม่กี่วินาทีก่อนที่ อัลท์ จะถูกลักพาตัว ทำให้จอห์นนี่โกรธมากและสาบานว่าจะแก้แค้นพวกมันอย่างสาสม ในขณะที่ Thompson นักข่าวจาก Worldwide News Service สังเกตการณ์เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับ จอห์นนี่ จากระยะไกล เขารอจนเหตุการณ์สงบลงจึงเข้าไปหา Johnny ก่อนที่จะโทรหา Trauma Team ให้ส่งรถพยาบาลเข้ามาช่วยเหลือในทันที 

Trauma Ward

รถพยาบาลรีบนำตัว Johnny ไปยังห้องพยาบาลของ Trauma อย่างรวดเร็ว หมอที่กำลังเข้ามาทำการรักษา จอห์นนี่คุ้นเคยกับใบหน้านี้ดีเนื่องจากเคยติดตั้งแขนสีเงินให้กับเขา หมอปฏิบัติต่อจอห์นนี่เหมือนลูกชายแท้ๆของเขาที่เป็นเพื่อนรักของจอห์นนี่ที่ถูกฆ่าตายเมื่อหลายปีก่อน การรักษาจบลงที่จอห์นนี่ได้รับลำไส้สังเคราะห์ใหม่ยาวหลายฟุต ซึ่งก็ต้องขอบคุณเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ทันสมัยในยุคนี้ ก่อนที่หมอจะสั่งสอนจอห์นนี่ด้วยวาทศิลป์ที่กัดจิกเบาๆ เพื่อถามว่าเมื่อไหร่จะมีชีวิตที่ดีขึ้นกว่านี้เสียที 

The Naming of Names

Thompson นักข่าวจาก WNS ที่ช่วยเหลือ  Johnny เอาไว้ แนะนำตัวเอง ขณะที่ Johnny กำลังเตรียมพร้อมสำหรับการแก้แค้นกับศัตรูที่เขาไม่รู้จักแต่เขาแน่ใจว่าพวกฟังก์ที่โจมตีเขาไม่ใช่พวกฟังก์ธรรมดาแต่เป็นมืออาชีพ Thompson ให้ข้อมูลกับ Johnny ว่าพวกมืออาชีพที่ว่านี้ได้รับการว่าจ้างมาจาก Arasaka Corporation และ Johnny ก็ไม่ใช่เป้าหมายของพวกมันแต่เป็น Alt แฟนสาวของเขาต่างหาก ทอมป์สันจะอธิบายให้  Johnny เข้าใจเรื่องราวทั้งหมดว่าเกิดจากที่ Alt แฟนสาวของเขาไปมีส่วนร่วมกับการพัฒนา Soulkiller; ให้กับ ITS corporation ซอฟต์แวร์ไวรัสที่สามารถลบความคิดของพวก netrunner และกักขังพวกเขาไว้ในโลกดิจิทัล ทำให้ Johnny รู้สึกตกใจเมื่อรู้ว่าแฟนสาวของเขาสร้างซอฟต์แวร์นรกนี้ขึ้นมาบนโลก ซึ่ง Arasaka มีแผนที่กำลังจะพัฒนา Soulkiller ให้เป็นเวอร์ชันของตัวเองจึงเลือก Alt ให้มาช่วยพัฒนามันให้สำเร็จไม่ว่าเธอจะเต็มใจหรือไม่ก็ตาม ซึ่ง Thompson เองก็เปิดเผยว่าตัวเองแค้นพวก Arasaka ที่มีส่วนทำให้ภรรยาของเขาต้องตาย ทำให้ทั้งคู่ตกลงที่จะร่วมมือกันเพื่อช่วยเหลือ Alt และทำลาย Arasaka Corporation ให้สิ้นซากไปพร้อมๆกัน 

Rogue / Santiago

ทั้งคู่มุ่งหน้าไปที่บาร์ Atlantis ใน Night City สถานที่ที่มีผู้คนมาติดต่อหางานมากมาย เพื่อตามหา Rogue อดีตคนรักของ Johnny และในฐานะเป็นส่วนหนึ่งของ Solos คู่มหากาฬ Rogue / Santiago; ทีมนักฆ่ารับจ้างที่เก่งที่สุดที่เคยทำรายได้จากการถูกว่าจ้างสูงถึง 5,000eb ต่อคืน เพื่อให้ทั้งคู่มาช่วยงานนี้ด้วย ตอนแรก Rogue ยังลังเลกับคำขอร้องนี้ แต่เมื่อ Santiago รองต่อรองราคาค่าจ้างที่ 30000eb และเมื่อจอห์นนี่ตกลง ทั้งคู่ก็ตกลงเข้าร่วมทีมด้วยทันที ทีมบดขยี้ Arasaka ของ จอห์นนี่ ก็จะกลายเป็น 4 คนแล้ว แต่ก่อนที่จะมีการพูดคุยรายละเอียดเพิ่มเติม งานปาร์ตี้ถูกขัดจังหวะโดยคนของ Arasaka แม้ว่า Rogue จะไม่ค่อยถูกกับ  Johnny นักแต่เธอก็รีบพาเขาออกไปอย่างรวดเร็ว Rogue, Santiago และ Thompson จัดการคนของ Arasaka 4 คนที่ซุ่มอยู่ด้านหลังบาร์เพื่อช่วย Johnny ที่พยายามจะหลีกเลี่ยงการยิงต่อสู้ได้อย่างหวุดหวิด

Runaway

ทุกคนในทีมล่าถอยไปที่รถปอร์เช่ของจอห์นนี่เพื่อหนีออกจากจุดเกิดเหตุ ในขณะที่ Thompson เดาว่ากำลังถูกติดตามโดย Trauma Team card ของเขา ในขณะที่ทุกคนกำลังจะขึ้นรถ AV (รถความเร็วสูงที่สามารถปรับเป็นเครื่องบินได้) ของ Arasaka ก็ปรากฏขึ้นเหนือศีรษะแล้วเล็งไปที่ Rogue ทันที ในขณะที่เธอกำลังจะถูกยิง Thompson ก็ใช้รถ AV ของเขายิงเครื่องยิงลูกระเบิดเพื่อขัดขวางเอาไว้ได้ ก่อนที่ทุกคนจะทิ้งรถเพื่อหลีกเลี่ยงการซุ่มโจมตีอีกแล้วใช้การเดินเท้า โดยมี Thompson เป็นคนนำตามด้วย Thompson และ Johnny โดยมี Rogue คอยคุมเชิงอยู่ด้านหลัง

Alt

Alt Cunningham รู้สึกตกใจเมื่อรู้สึกตัวขึ้นมาแล้วไม่เจอ Johnny แต่ทันทีที่หายเบลอก็จำได้ว่าถูกคนของ Arasaka จับตัวมา ก่อนที่ Toshiro หัวหน้าทีมวิจัยของ Arasaka จะเดินออกมาตอนรับพร้อมเครื่องดื่มด้วยไมตรี แต่ทันทีที่เธอเห็นกริยาท่าทางของผู้ติดตามของ Toshiro ที่ตามมาก็รู้ทันทีว่าเป็นนักฆ่ามืออาชีพแน่นอน Alt จึงปฎิเสธทุกความหวังดีของพวกมัน ก่อนที่ Toshiro เปิดเผยเหตุผมว่าทำไมถึงต้องจับตัว Alt มาก็พื่อทำงานให้กับพวกเขา นั่นทำให้ Alt เริ่มคลายกังวลลงและเปลี่ยนเป็นสนใจ แต่สถานการณ์ของการสนทนาก็เริ่มเปลี่ยนไปเมื่อเขาพูดถึงเรื่อง Soulkiller

A Gathering of Hosts

ทีมของ Johnny, Thompson, Rogue และ Santiago กำลังนอนพักผ่อนที่ Mark Luxor Hilton ซึ่งเป็นโรงแรมที่ถูกทิ้งร้าง Thompson กำลังสแกนวิทยุหาข่าว ในขณะที่ Rogue และ Johnny กำลังเฝ้าดูถนนเพื่อดูว่าคนของ Arasakaตามมาอีกหรือเปล่า ก่อนที่ Santiago จะแนะนำให้โจมตีที่ฐานของ Arasaka ที่นอกเมืองเพื่อเช็คดูก่อนว่า  Alt อยู่ที่นั่นหรือถูกส่งกลับที่ฐานใหญ่ในญี่ปุ่นแล้ว ส่วน Rogue เห็นว่าพวกมันคงจะโจมตีเร็วๆนี้ ไม่น่าจะรอนานมากนักเพราะกองกำลังของ Arasaka อาจยังคงลาดตระเวนตามท้องถนนแทนที่จะปกป้องกองบัญชาการ ในขณะที่ Johnny กำลังตรวจดูความเสียหายของแขนตัวเอง Thompson คิดว่าโปรแกรม Soulkiller อาจทำงานได้เฉพาะบนเมนเฟรมในฐานของ Arasaka เท่านั้นก็ได้  จากนั้นทั้งหมดก็รวมตัวกันเริ่มวางแผนการโจมตี

Interface the Music

Alt ถูกเสียบเข้ากับเมนเฟรมของ Arasaka เพื่อประสงค์ที่จะสร้าง Soulkiller ขึ้นมาใหม่โดยโหลดจากความทรงจำของ Alt โดยตรง netrunners ของ Arasaka เฝ้าดูเธอทุกฝีก้าวเพื่อไม่ให้เธอทำอะไร สภาพของ Alt คือนอนอยู่บนโซฟาของสำนักงานของ Toshiro ในสภาพที่ใกล้จะหมดสติขณะที่เธอกำลังวิ่งผ่าน NET เธอคิดย้อนกลับไปเมื่อครั้งตอนที่เธอสร้างซอฟต์แวร์นี้ขึ้นมาได้อย่างไร โดยเริ่มแรกสร้างเป็นโปรแกรมที่ไม่เป็นอันตรายเพื่อติดตั้งบุคลิกเทียม ก่อนที่จะพบในภายหลังว่า ซอฟต์แวร์อาจมีบุคลิกที่มีชีวิตอยู่ ตลอดจนการถ่ายโอนจิตสำนึกไปมา หากราบรื่น โดยพื้นฐานแล้วเป็นการสร้างความเป็นอมตะ เมื่อนายจ้างของเธอที่ ITS ค้นพบงานนี้พวกเขาจึงตั้งเป้าว่าจะสร้างมันให้เป็นคุกดิจิทัลที่ฆ่าร่างกายและขังจิตใจไปเรื่อย ๆ Alt เริ่มตระหนักว่า ตอนนี้ทุุกอย่างขึ้นอยู่กับเวลาเท่านั้น ก่อนที่พวกเขาจะฆ่าเธอไม่ก็ทดสอบซอฟต์แวร์กับเธอ

War Party

ทีมของ Johnny เริ่มทำตามแผนของพวกเขา คอนเสิร์ตซามูไรแบบสุดเซอร์ไพรซ์แบบไม่ได้แจ้งเตือนแฟนๆล่วงหน้าถูกจัดขึ้นที่สนามหญ้านอกอาคาร Arasaka ซึ่งเป็นความคิดนี้สมบูรณ์แบบมากในการเพิ่มกองทัพแฟน ๆ และบางสิ่งที่ Arasaka จะไม่มีวันเห็นว่ามันกำลังมาถึง Rogue และ Santiago ดำเนินการจัดหารวบรวมวัตถุระเบิด ปืนไรเฟิล และไซเบอร์แวร์ที่จำเป็น ส่วน Thompson ก็กำลังทำงานอย่างหนักบนท้องถนนเพื่อหาข่าวกับสายของเขาพร้อมส่งต่อข้อมูลไปลงใน scream sheets (หนังสือพิมพ์ข่าวด่วน) เพื่อทำให้แน่ใจว่าคำสั่งถูกกระจายไปอย่างทั่วถึง ตอนเที่ยง คนทั้งเมืองรู้ แล้วว่า วง Samurai จะมาเปิดคอนเสิร์ตตอนช่วงค่ำ และเบียร์ฟรี เมื่อใกล้ถึงเวลาที่เป็นหมายกำหนดการฝูงชนมากมายจากสารทิศก็เข้ามารวมตัวกันที่ Arasaka tower.

Sorcerer's Apprentice

Alt ที่กำลังดำดิ่งลึกลงไปในเมนเฟรมของ Arasaka ทำให้การลอกเลียนแบบ Soulkiller ค่อยๆพัฒนาขึ้น ในขณะที่เธอจัดการสร้างสิ่งก่อสร้างเทียมภายในเครื่องจักร์ซึ่ง Arasaka ยังไม่ได้สังเกตเห็น การแย่งพื้นที่เพื่อเปลี่ยนการควบคุมอาจเป็นกุญแจสำคัญในการเอาชีวิตรอดของเธอ

Party Hard

Seicho Harada 1 ในสมาชิกหน่วยรักษาความปลอดภัยของ Arasaka ทำหน้าที่เฝ้าดูฉากที่อยู่ตรงข้ามทางเข้าหลักของสถานที่ด้วยความไม่เข้าใจในเรื่องอนาธิปไตยและเปรียบเทียบในแง่ลบกับระเบียบวินัยที่เข้มงวดของบ้านเกิดของเขา เขาเฝ้าดูขณะที่ Johnny Silverhand ขึ้นเวทีแสดงสด Seicho รู้ดีว่าที่ผ่านมา Johnny เคลื่อนไหวในเรื่องอะไร แต่คงเกิดการจลาจลครั้งใหญ่แน่ถ้าพาตัว Johnny ออกไปจากพื้นที่ในตอนนี้   ในขณะที่เขากำลังสแกนฝูงชนที่กำลังเมามันตอนที่ Johnny กระหน่ำซิงเกิ้ล Chippin 'In ออกมา ทีมของ Johnny ก็เข้าประจำตำแหน่งตามแผนสร้างสถานการณ์เพื่อให้  Johnny ปลีกตัวออกไป หรือไม่ ทาง Arasaka อาจสร้างมันขึ้นมาเองถ้าพวกผู้คุมทนความกดดันที่มากเกินไปไม่ได้ทำให้พวกเขาเปิดฉากยิงใส่ฝูงชน ยังไม่พอแฟน ๆ ที่คลั่งไคล้กว่าหกพันคนก็คงรุมถล่มล็อบบี้ของ Arasaka อย่างแน่นอน ในขณะที่ Santiago แฝงตัวปะปนไปกับฝูงชนพร้อมปืนไรเฟิลพลังสูงของเขา Rogue และ Thompson ปลอมตัวเป็นคนในแก็งค์ Iron Sights ซึ่งเป็นแก็งค์ที่ได้รับการสนับสนุนทางการเงินและควบคุมโดย Arasaka Security เพื่อเข้าไปในล็อบบี้ของตึก ก่อนที่ Rogue จะเปิดฉากจัดการทหารยามหลังโต๊ะการที่ทั้งคู่จะนำหน้าฝูงชนไปที่ลิฟต์ เธอวางระเบิดในลิฟต์เพื่อส่งไปยังชั้นที่เป็นสำนักงานผู้บริหารทีชั้นบน ไม่นาน Johnny ก็เข้ามาสมทบกับทีมในชุดเสื้อแจ็คเก็ต guards ของ Arasaka ที่เปื้อนเลือดกับชื่อที่เขียนติดไว้ที่ป้ายชื่อว่า Seicho Harada ก่อนที่ทั้งสามคนจะรีบเดินเข้าไปในอาคารอย่างรวดเร็วเพื่อหลบเลี่ยงระบบรักษาความปลอดภัยก่อนที่จะกระโดดขึ้นไปด้านบนของลิฟต์สำหรับขนส่งรถเพื่อหลีกเลี่ยงการใช้ปืน เมื่อพวกเขาขึ้นมาถึงชั้นบน Rogue ก็เริ่มติดตั้ง shaped charge (ดินขับรูปพิเศษ) เอาไว้ที่ด้านนอกของสำนักงานผู้บริหาร

ณ. ที่อีกส่วนนึงในอาคาร Toshiro ที่เฝ้าดูอยู่ก็อดไม่ได้ที่จะชื่นชมแผนของ Johnny ก่อนที่จะสั่งให้อากิระเคลื่อนพลเข้าไปที่บันไดและยิงทุกอย่างที่ออกจากลิฟต์ ในขณะที่ Johnny ที่กำลังเข้าใกล้ Alt เข้าไปทุกทีก็แทบจะอดใจทนรอเวลาไม่ไหวและพร้อมที่จะระเบิดออกมาได้ทุกเวลา Toshiro สั่งให้ Akira จับตัว Alt เอาไว้แล้วถามเจ้าหน้าที่ว่า ซอฟต์แวร์พร้อมรึยัง? เจ้าหน้าที่ยืนยันก่อนจะเสียบแจ็คเข้ากับเมนเฟรมเพื่อเริ่มทดสอบโปรแกรมกับ Alt  ... ทำให้จิตสำนึกของเธอหลุดออกจากร่างทันที 

Angel Heaven

ในเมนเฟรม …. Alt เริ่มหว่านแหรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับ Arasaka ทั้งหมด ทั้งข้อมูลการโอนเงินจากบัญชีส่วนตัวของ Saburo Arasaka ลบรหัสของซอฟต์แวร์ ทำลายตัวควบคุมสมองของ netrunner ทั้งสาม และควบคุมการทำงานของเลเซอร์ในห้องเพื่อเผาทำลายไซเบอร์ออฟติกที่ดวงตาของ Akira ในขณะที่ Toshiro มองด้วยความประหลาดใจแต่ก็อดไม่ได้ที่จะชื่นชมทักษะของ Alt ในการพยายามหลบหนีของเธอ ในขณะที่ Alt กำลังทำการย้ายจิตสำนึกกลับเข้าสู่ร่างกายของเธอ ทุกการโจมตีจากการควบคุมของเธอก็ถูกยกเลิกไป Toshiro จึงรีบตัดการเชื่อมต่อ Alt จากไซเบอร์เด็คเพื่อหยุดกระบวนการถ่ายโอนทันที ในขณะนั้น ทีมของ Johnny ก็บุกเข้ามาถึงพอดี Johnny รีบเข้าไปที่ Alt แต่เมื่อเห็นร่างที่แน่นิ่งของ Alt จึงคิดไปว่าสายเกินไป ร่างที่ไร้ชีวิตของเธอนอนอยู่บนโซฟาขณะที่จิตใจของเธอหายไปในเมนเฟรมของ Arasaka  Thompson เริ่มออกอากาศฉากนี้เป็นข่าวใหญ่ของเขาที่กำลังเผชิญหน้ากับ Toshiro ในภารกิจบุกถล่มหอคอย Arasaka ในขณะที่ Johnny ที่กำลังโกรธแค้นก็จัดการยิง Toshiro จนตายทันที ก่อนที่ Johnny จะจากไปพร้อมกับร่างที่ไร้ชีวิตของ Alt โดยไม่รู้เลยว่า จิตสำนึกของเธอกลายเป็น ร่างดิจิทัล กำลังกรีดร้องอย่างเงียบ ๆ จากภายในเมนเฟรมของ Arasaka

SOURCE  https://cyberpunk.fandom.com/wiki/Never_Fade_Away_(Adventure)


บทแปล sourcebook Firestorm Shockwave : the Fourth Corporate War Book Two mini-adventures Chapter 3 : Hot War Adventures  ส่วนขยายของ Cyberpunk 2020 (เนื้อเรื่องหลักบทที่ 2 ของ Johnny Silverhand และ Alt Cunningham)

 Firestorm Shockwave : the Fourth Corporate War Book Two (Pdf) จำนวน 146 หน้า (เนื้อเรื่องจะอยู่ที่หน้า 127 - 145 ) สามารถเข้าไปดาวโหลดได้ที่ Google Drive ของผมครับ https://drive.google.com/file/d/1NG3ibomYUhD14cat3OByRgAOM_cAVaS-/view?usp=sharing

                              
                                   บทที่ 2: End Game
                                   


                                        The Governments move in

ในเดือนมิถุนายน ปี 2022 สงครามระหว่าง OTEC และ CINO เริ่มทวีความรุนแรงขึ้นเมื่อ megacorps Arasaka และ Militech เข้าร่วมในฐานะตัวแทนการแก้ปัญหาของทั้ง 2 ฝ่าย เนื่องจากปัญหาหลายประการที่มีอยู่ก่อนหน้าทำให้บริษัทคู่แข่งเริ่มฉวยโอกาสผสมโรงจนเกิดความขัดแย้งขึ้นทั่วโลก 

วันที่ 12 ตุลาคม พ.ศ. 2022 ประธานาธิบดีเครสของสหรัฐฯได้สั่งให้คุมตัวนาย Donald Lundee CEO ของ Militech เข้ามาในหน่วยนาวิกโยธินสหรัฐ และสั่งให้กองกำลังของเขาหยุดการเคลื่อนไหว และเข้าถือครอง Militech และจัดการแปรรูปให้เป็นทรัพย์สินของรัฐทั้งหมด ในขณะที่ Donald Lundee ที่ไม่เต็มใจนักในตอนแรกแต่สุดท้ายก็ให้ความร่วมมืออย่างดี โดยมีจุดประสงค์คือเพื่อยุติสงครามและจัดการพวก Arasaka ในขณะเดียวกันทาง ประชาคมเศรษฐกิจยุโรป (EEC) ก็ได้ประกาศมาตรการการควบรวม 2 องค์กรนี้เข้าด้วยกันหลังจากการโจมตีที่มิลาน ด้วยความรู้สึกผิดที่มีส่วนร่วมในความขัดแย้ง Donald Lundee CEO ของ Militech จึงยินยอมที่จะรวมเป็นหนึ่งเดียวกับรัฐบาล และทางบริษัท Militech จะปฏิบัติตามคำสั่งของประธานาธิบดีอย่างเคร่งครัด อย่างไรก็ตามสมาชิกในคณะกรรมการหลายคนไม่พอใจและหน่วยภาคสนามต่างก็ทิ้งฐานที่มั่นของตน

ภายในไม่กี่สัปดาห์กองกำลังของ Arasaka กพ่ายแพ้และถอยกลับไปยัง 'Arasakaville' ซึ่งเป็นฐานที่มั่นสุดท้ายในไนท์ซิตี้ Kei Arasaka CEO ของ Arasaka ได้เข้าไปเจรจากับประธานาธิบดี Kress และนาย De La Vega ผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนีย แต่การเจรจาก็ไม่เป็นผลเมื่อ ประธานาธิบดี Kress ต้องการให้มีการปราบปราม Arasaka ให้สิ้นซาก กองกำลังร่วม  Militech กองทัพสหรัฐฯ และ northern California national guard ได้ยึดพื้นที่รอบเมืองได้อย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาดขณะที่เครื่องบินติดอาวุธขนาดใหญ่หลายลำบินลาดตระเวนบนท้องฟ้า

ทางด้าน Arsaka แม้จะอยู่ในสถานการณ์ที่เสียเปรียบ แต่มีรายงานว่าพวกเขาได้จัดการสร้างโปรแกรม Soulkiller ขึ้นมาใหม่ โดยมีจุดประสงค์เพื่อใช้ต่อรองกับประธานาธิบดี Kress แม้ว่า Arsaka จะปฏิเสธข่าวลือ แต่ไวรัสตัวใหม่ที่โผล่ขึ้นมาบนอินเทอร์เน็ตซึ่งกล่าวกันว่ามันได้ทำลายสมองของวุฒิสมาชิกสมาชิกรัฐสภาและผู้ถือหุ้นของ Militech หลายคน

                                                   Night City In Twilight

ในเดือนกรกฎาคมปี 2022 Militech ได้ถอยตัวจากไนท์ซิตี้ไปอย่างเงียบ ๆ เนื่องจาก Arasaka เริ่มหันมาปลุกระดมมวลชนให้ออกมาต่อต้านพวกเขา นายกเทศมนตรี Mbole Ebunike ถูกบังคับให้ลงจากตำแหน่งเนื่องจากพูดในสิ่งที่ไม่ควรพูด ในขณะที่ Garven Haakensen รองนายกขึ้นมารับตำแหน่งแทน และทำให้เมืองอยู่ภายใต้กฎอัยการศึก บริษัทใหญ่ๆหลายแห่งถูกพลักดันให้ออกจากเมืองเมื่อ Arasaka เข้ามาครองอำนาจอย่างเต็มที่อีกครั้ง

Part I: A Gathering of Hosts: 2020

นายพล Patrick Eddington ผู้บังคับบัญชากองทัพสหรัฐฯ และกองกำลังของ Militech ได้แต่งตั้งให้ Morgan Blackhand  เป็นผู้รับผิดชอบในปฏิบัติการต่อต้าน Arasaka อย่างลับๆ และรับสมัครทีมปฎิบัติการณ์เพื่อเตรียมบุกโจมตีฐานใหญ่ของ Arasaka ในไนท์ซิตี้ แน่นอนว่าหนึ่งในนั้นจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก Johnny Silverhand คือจอห์นนี่ซิลเวอร์แฮนด์ร็อกเกอร์บอยผู้โด่งดัง นอกจากนี้ยังมี Thompson และ Rogue ก็กลับมาร่วมปฎิบัติการณ์ลับนี้ด้วยหหลังจากที่เกือบสิบปีหลังจากการโจมตีหอคอย Arasaka เพื่อช่วยเหลือ Alt Cunningham แต่ เนื่องจากปัญหาที่เกิดจากความขัดแย้งกับ Santiago เขาเลยไม่ได้กลับมาร่วมปฏิบัตินี้ด้วย แต่ในทางกลับกันก็ได้ทีมงานใหม่ๆมาร่วมงานแทนอย่าง Fixer , Shaitan และ Spider Murphy

นายพล Eddington บรรยายสรุปทีมและแจ้งให้พวกเขาทราบว่าตอนนี้ Arasaka ใช้ผีดิจิทัลของ Alt Cunningham เพื่อสร้าง Soulkiller v3.0 เป้าหมายของพวกเขาคือการแทรกซึมหอคอย Arasaka ใจ Night City เพื่อทำลาย Soulkiller ก่อนที่ Kei จะใช้มันสร้างความเสียหายมากกว่านี้


                                          Part II: Everyone Needs a Plan

ทีมปฎิบัติการณ์ลับของ นายพล Eddington ประกอบด้วย 3 ทีม Strike Team Alpha นำทีมโดย Johnny Silverhand , ทีม Strike Omega นำทีมโดย Blackhand และหน่วย Solos ชั้นยอดของเขาและ Strike Team Beta ที่ประกอบด้วย Solos และเจ้าหน้าที่ของ Militech ต่างๆ แม้ว่า เป้าหมายของ Johnny Silverhand คือการทำลาย Soulkiller และช่วยเหลือ Alt แต่ เป้าหมายที่แท้จริงของนายพล Eddington คือต้องการฐานข้อมูล Arasaka Intelligence ซึ่งเป็นที่เก็บข้อมูลมากมายที่ Saburo Arasaka เก็บไว้ใช้เพื่อแบล็กเมล์ศัตรูของเขา

 แผนคือ Team Beta มุ่งหน้าไปยังเมนเฟรมใต้ดิน ในขณะที่ทีม Alpha ดึงความสนใจไปที่ชั้นบนของอาคาร มีเพียง Morgan Blackhand  และทีมของเขาที่รู้ถึงเป้าหมายที่แท้จริงของปฏิบัติการจึงเตรียมตัวมาพร้อมที่จะสนับสนุนด้วยอาวุธหนัก และนายพล Eddington ยังวางแผนที่จะทำลายหอคอยทั้งหลังเมื่อปฏิบัติการเสร็จด้วย tactical nuclear ที่ Team Beta นำติดตัวไปเพื่อทำลายที่เก็บข้อมูลใต้ดินของ Arasaka แต่ อย่างไรก็ตามอุปกรณ์ดังกล่าวกลับมีมีประสิทธิภาพที่รุนแรงมากกว่าที่แจ้งไว้

Part III: The Attack

การโจมตีเริ่มขึ้นในหลายแนวรบทั่วเมือง หน่วยรบติดอาวุธหนักของกองทัพสหรัฐฯพร้อมกับหน่วย California national guard ที่รอสแตนบายอยู่ในเขตชานเมืองด้วยความตั้งใจที่จะยึดครองกองกำลังชายแดน Arasaka เรือรบและเครื่องบินรบของ USAF ให้การเฝ้าระวังจากบนท้องฟ้าเหนือเมือง ในขณะที่กองกำลังไซบอร์กเข้าโจมตีหน่วย Arasaka ในเขตตัวเมืองเพื่อไม่ให้พวกมันล่าถอยกลับไปที่หอคอย ทั้งสามทีมถูกแบ่งออกโดย Team Beta จะใช้การซ่อนตัวเพื่อแทรกซึมเข้าไปในสถานที่เป้าหมายทางภาคพื้นดินขณะที่ Teams Alpha และ Omega โจมตีหอคอยด้วยยานพาหนะทางอากาศไปพร้อมๆกัน

                                                    Part IV: The Tower

ที่ชั้นบนสุดของ Arasaka Tower Kei Arasaka CEO ของ Arasaka รีบถ่ายทอดคำสั่งให้ส่งกองกำลังตอบโต้เร็ว (retaliatory force) ของ Adam Smasher เพื่อมุ่งหน้าไปสกัด Team Alpha ที่ห้องทดลองวิจัย Soulkiller พร้อมกับรีบต่อไปยังฐานใหญ่ที่ญี่ปุ่นเพื่อเตรียมแบล็กอัพฐานข้อมูล ในกรณีที่งานนี้มันอาจเป็นจุดจบของ Arasaka ใน Night City  Kei ยังเตรียม AV ของเขาและดำน้ำเพื่อหนีออกจากที่นี่ให้เร็วที่สุด ทางด้าน Morgan Blackhand แจ้ง Strike Team Alpha ที่นำทีมโดย Johnny Silverhand ในฐานะที่เคยบุกมาที่นี่มาก่อนให้เตรียมรับการต่อต้านอย่างรุนแรงของกองกำลัง Arasaka ที่รวมตัวกันที่หอคอย ส่วนตัวเขาวางแผนที่จะนำทีม Strike Omega ไปทำลายตัวอัพลิงค์ที่กำลังส่งสัญญาณผ่านดาวเทียมบนหลังคาเพื่อสะกัดกั้นไม่ให้ Kei Arasaka แบล็กอัพข้อมูลกลับไปที่ฐานใหญ่ในญี่ปุ่น 

 Johnny และทีมของเขาลุยเข้าไปถึงส่วนอพาร์ตเมนต์ของ Kei ซึ่งเป็นที่ตั้งของห้องทดลอง Soulkiller Spider Murphy เป็นคนแฮกประตูส่วน Shaitan เป็นคนแรกที่เข้าไปทำลายปืน turret gun ก่อนที่มันจะเริ่มกระบวนการยิง  Thompson และ Rogue คอยดูต้นทางเฝ้าทางเข้า ขณะที่ Spider Murphy ทำการแฮกเข้าไปในเมนเฟรมและพบกับ Alt  ซึ่งแปลกใจที่คนที่มาช่วยไม่ใช่ Rache Bartmoss ก่อนที่ Spider Murphy จะแจ้ง Alt ถึงการตายของ Rache ด้วยน้ำมือของ Arasaka ก่อนที่จะถูกขัดขวางโดย Johnny   จากนั้น Spider Murphy ก็เริ่มถ่ายโอน alt มายัง storage drive เดินทาง ลบทำลายข้อมูลของ Soulkiller และดาวน์โหลดบันทึกการพัฒนาโดยมีจุดประสงค์เพื่อติดตามผู้สร้างมัน

ในขณะที่ทีมกำลังเริ่มถอนกำลังออกจากที่นี่หลังจากทำตามแผนเสร็จสิ้น พวกเขาถูกขัดจังหวะด้วยกองกำลังเกราะหนักของ Arasaka ที่นำทีมโดย Adam Smasher ที่ลดจำนวนกองกำลัง Militech ไปได้หลายคนก่อนมาถึงที่นี่ ทุกคนในทีมเข้าปิดล้อมและยิงทุกอย่างที่พวกเขามี Shaitan ถูกอัดกระแทกกลับจากการยิงของ autogun และ Thompson ก็ถูกสอยล้มลงอย่างรวดเร็ว Spider Murphy จำต้องทิ้งอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลที่มีน้ำหนักมากพร้อมกับปล่อย Alt เข้าสู่ The Net เพื่อความปลอดภัยก่อน แต่ Johnny ไม่อยากจะต้องทำผิดซ้ำเดิมด้วยการต้องทิ้ง Alt ไว้ที่นี่อีก จึงพยายามที่จะฆ่า Smasher ลงให้ได้ แต่ด้วยเกราะหนักของ 'borg อย่าง Smasher นอกจาก Johnny จะไม่สามารถทำอะไรให้ระคายผิวมันได้เลย Smasher จัดการ Johnny ลงได้อย่างง่ายดาย Johnny ประหลาดใจที่ตัวเองล้มลงอย่างง่ายดาย และ ตาย ในที่สุด

Shaitain มองเห็นช่องว่างเลยพุ่งเข้าไปฟัดกับ Smasher ทันที ในขณะที่ Rogue และ Spider Murphy ขนอาวุธไปถล่มใส่กองกำลังของ Arasaka ที่เหลือ เมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าของกองหนุมของมันที่เข้ามาใกล้มากขึ้น Shaitan บอกให้ Rogue และ Spider Murphy หนีไปพร้อมกับ Thompson ที่ได้รับบาดเจ็บ โดยที่ Shaitain จะคอยต้าน  Adam Smasher เอาไว้  Spider Murphy ได้แต่น้ำตาไหลไปพร้อมกับคว้าร่างที่ไร้ชีวิตของ Johnnyส่วน Rogue ก็เข้าไปช่วยพาตัว Thompson ที่ได้รับบาดเจ็บขึ้นลิฟต์ตามไป

ทางด้าน Strike Team Beta สามารถแทรกซึมเข้าไปในห้องใต้ดินได้สำเร็จ และได้พบกับ Haruko Kanawa หัวหน้าทีมปฏิบัติแทรกซึมของ Arasaka เข้ามาขัดขวาง หลังจากการต่อสู้อันดุเดือด และจบลงที่ความพ่ายแพ้ของ Kanawa Strike Team Beta จึงได้เดินทางเข้าไปถึง command center ได้สำเร็จ พวกเขาพบ storage core ของ Soulkiller และYorinobu Arasaka ที่ถูกคุมขังในฐานะเหยื่อในการทดลองรายแรกของ Soulkiller v3.0 ก่อนที่พวกเขาพบว่าฐานข้อมูลได้รับความเสียหายเลยเลือกที่จะช่วย Yorinobu ไว้ก่อนด้วยความหวังว่าจะสามารถเอาไว้ต่อรอง Arasaka หลังจบสงครามได้


ที่บนดาดฟ้าของหอคอย Morgan Blackhand และสไตรค์ทีมโอเมก้าของเขาประสบความสำเร็จในการปฏิบัติการตัดการเชื่อมต่อสัญญาณอัพลิงค์ลงได้ แต่ในขณะที่ Morgan กำลังจะพาทีมถอนกำลังออกจากที่นี่ Smasher ก็โผล่ออกมาพร้อมกับ Shaitan ที่บาดเจ็บหนัก เขาสั่งให้รถ AV ของเขาพา Rogue, Spider Murphy และ Thompson ออกจากพื้นที่

ก่อนที่จะเข้าไปต่อสู้กับ Smasher อย่างดุเดือด เพื่อหวังจะช่วย Shaitan ให้รอดตาย แต่ก่อนที่ทั้งคู่จะรู้ผลแพ้ชนะ tactical nuke ที่ Strike Team Beta เตรียมเอาไว้ก็เริ่มระเบิดจากด้านล่างขึ้นมาอย่างรุนแรง หอคอยถล่มลงมาทำให้ Night City ครึ่งหนึ่งพังถล่มลงมาด้วย biopod ของ Shaitan ถูกกู้คืนได้ในซากปรักหักพังพร้อมกับร่างของ Adam Smasher ที่แทบจะไม่เหลือพลังชีวิต แต่ไม่มีใครค้นพบศพของ Johnny Silverhand


                                                                 Epilogue

ในขณะที่หอคอยกำลังถล่ม Kei Arasaka CEO ของ Arasaka Corporation ก็ได้หลบหนีไปด้วยเรือดำน้ำ The Sea Viper ที่เตรียมไว้ อย่างไรก็ตาม ก่อนที่เขาจะสามารถจะเดินทางไปถึงฐานใหญ่ที่ญี่ปุ่นอย่างปลอดภัย Rogue, Spider Murphy และ Shaitan ที่ฟื้นตัวแล้วได้จะแทรกซึมเข้าไปในเรือดำน้ำได้และจัดการลูกเรือจนหมด ในขณะที่ Kei หลับอยู่ก็ตกใจตื่นเพราะการหยุดกะทันหันของเรือและเห็น Spider Murphy ที่กำลังถอดกระสุนออกจากอาวุธด้านข้างตัวของ Kei เพื่อแก้แค้นให้กับการเสียชีวิตของ Rache และ Johnny  Rogue บังคับให้ Kei ต้องแปรรูปตัวเองให้กลายเป็นดิจิตอลด้วยการเสียบตัวเองเข้าสู่โปรแกรม Soulkiller Kei ก็ต้องยินยอมอย่างไม่เต็มใจต่อการตายที่ 'มีเกียรติ' ซึ่งซามูไรบรรพบุรุษของเขาฝึกฝนมาหลายปี เขากล่าวบทกวีในขณะที่เขาต้องยอมรับชะตากรรมของเขาว่า คลื่นทะเลซัดสาด จ้องเข้าไปในดวงตาของความตายแล้วหัวเราะ (The ocean waves swell, Stare into Death's eyes, laughing.)  เสียงนกนางนวลร้องแว่วมาจากข้างบน Spider Murphy ที่กำลังโศกเศร้าเดินกลับไปหาเพื่ออีกสองคนบนดาดฟ้าขณะที่พวกเขารอคนมารับ

Source  https://cyberpunk.fandom.com/wiki/End_Game_(Adventure)


ไม่มีความคิดเห็น: