วันจันทร์ที่ 10 ตุลาคม พ.ศ. 2565

valkyrie elysium

 

                       บทสรุป  VALKYRIE ELYSIUM

                             BY Decibel Per Oxide


ก่อนความทรงจำของมนุษย์จะเป็นความหมายของการรับรู้สิ่งใด  Odin All-Father ผู้เป็นดั่งพ่อของเหล่าทวยเทพและพี่น้องของเขาได้รวมพลังเพื่อสังหาร Ymir ยักษ์ดึกดำบรรพ์ที่สร้างโลกลงสำเร็จ

ภายใต้ร่มเงาของ Yggdrasil พระเจ้าและมนุษย์อาศัยอยู่ด้วยกันในอาณาจักร Asgard, Midgard และ Niflheim


แต่การดำรงอยู่อย่างสันตินั้น ไม่ยั่งยืน



หมาป่าขนาดมหึมานาม Fenrir กับเขี้ยวอันน่ากลัวของมันออกมาสู่โลก คุกคามสิ่งมีชีวิตทั้งหมด

Odin ลุกขึ้นสู้กับหมาป่าดุร้ายและกองกำลังของมันใน Asgard แต่ในไม่ช้าความขัดแย้งนี้ก็ปกคลุมโลกทั้งใบในสงครามและความโกลาหล

การต่อสู้ดำเนินไปอย่างไม่ลดละ แยกทะเลและแผ่นดินออกจากกัน สูญเสียชีวิตนับไม่ถ้วนและโลกต้องเผชิญกับความพินาศอย่างที่สุด


ไม่มีสิ่งใดๆจะแก้ไขข้อขัดแย้งนี้ลงได้ 


จนกระทั่ง วันหนึ่ง..


ที่จุดไคลแม็กซ์ของการต่อสู้ที่โหดร้าย Fenrir จมเขี้ยวของมันเข้าไปในลำคอของ Odin ฉีกหลอดลมของเขาจนขาด แต่ Odin ก็แทงกะโหลกของสัตว์ร้ายด้วยหอก Gungnir ของเขาเพื่อเอาคืน


จนสุดท้าย ทั้งสองไม่สามารถต่อสู้ได้อีกต่อไป แต่ก็ไม่ได้หมายถึงการสิ้นสุดสงครามของแอสการ์ด แต่อย่างใด


อย่างไรก็ตาม การทำลายล้างไม่ได้หยุดลง

เสียงแตร Gjallarhorn ก็ดังก้องไปทั่วดินแดนดั่งหมายจะประกาศถึงสงครามสุดท้ายของทวยเทพที่เป็นเสมือนจุดจบของทุกสรรพสิ่งกำลังจะมาถึง 

Odin รู้ดีว่าโลกกำลังตกอยู่ในอันตรายจาก Ragnarok 

ด้วยความรู้ในขณะที่เขาอยู่ภายใต้คำทำนายของเหล่าผู้หยั่งรู้

เป็นคำพยากรณ์ที่ทำนายถึง จุดจบของทุกสิ่งในโลกก่อนจะกลับคืนสู่ความว่างเปล่า

ในความพยายามครั้งสุดท้ายที่จะท้าทายชะตากรรมนี้ โอดินได้สร้างกลุ่มเทพเจ้าขึ้นมาใหม่ อีกครั้ง 




Odin – Valkyrie เจ้าได้ยินข้ามั๊ย? ข้าคือ โอดีน ผู้คุมกฎของโลกนี้ และเป็นผู้สร้างเจ้า ถ้าเจ้าได้ยินเสียงของข้าก็จงทำตามที่ข้าบอก


เรียนรู้การเคลื่อนไหวเบื้องต้น

การใช้ Soul Chain (L2)

สี่เหลี่ยม โจมตีธรรมดา (Quadra Slash) / โจมตีต่อเนื่อง สี่เหลี่ยม >สี่เหลี่ยม 

สามเหลี่ยม พุ่งโจมตี (Stepping Slash)

L1 การ์ด / O หลบ

สี่เหลี่ยม >> สามเหลี่ยม (Slash Kick)

สี่เหลี่ยม >>สี่เหลี่ยม >>สี่เหลี่ยม >>สี่เหลี่ยม >>สามเหลี่ยม (Final Slash)

R3 (ล็อคเป้าหมาย) / R (เปลี่ยนเป้าหมาย)

โจมตี สี่เหลี่ยม ขณะอยู่กลางอากาศ (Air Slash)

โจมตี สี่เหลี่ยม >>สี่เหลี่ยม ขณะอยู่กลางอากาศ (Double Air Slash)

โจมตี สี่เหลี่ยม >>สี่เหลี่ยม>>สี่เหลี่ยม ขณะอยู่กลางอากาศ (Rolling Slash Air)

                       การ Summoning Einherjar

เรียกใช้ วิญญาณนักรบ Einherjar ด้วยปุ่ม R1 + ปุ่มที่เซ็ต Einherjar เอาไว้ เรียกมาพร้อมกันได้มากสุด 2 ตน และมันจะกลับไปเองหลังจาก Soul Gauge (เกจที่อยู่ใต้เกจพลังชีวิต) หมด ซึ่ง Soul Gauge สามารถเติมได้ด้วย Blue Souls


Soul มี 3 ชนิด แยกการใช้งานตามสีของมันคือ

Green Souls – เติม HP

Blue Souls – เติม Soul Gauge

Yellow Souls – สะสมสำหรับเรียนรู้ Skill และ อัพเกรดอาวุธ 


ซึ่งนอกเหนือจากการใช้ในการสนับสนุนการต่อสู้แล้ว Einherjar แต่ละตนก็ยังสามารถใช้ความสามารถในการแก้ปริศนาสำหรับผ่านเส้นทางต่างๆได้ด้วย 

เช่น Einherjar ที่ใช้ธนูน้ำแข็ง สามารถสร้างพื้นน้ำแข็งสำหรับกระโดดข้ามไปยังพื้นที่ต่างๆได้ , Einherjar ที่ใช้ดาบสายฟ้าก็สามารถทำลายหินที่ขวางทางได้


โดย Einherjar แต่ละตนจะมีธาตุประจำตัว เมื่อ Valkyrie เรียกออกมาใช้งานก็จะได้ความสามารถของธาตุของ Einherjar นั้นๆมาใช้ด้วย โดยเอฟเฟ็คของธาตุจะส่งผลได้เปรียบจากการโจมตีปกติของ Valkyrie


เมื่อเอฟเฟ็คของธาตุเริ่มส่งผลจากการโจมตีปกติของ Valkyrieแล้ว เมื่อกด R2 ใช้ Divine Arts ที่มีองค์ประกอบธาตุเหมือนกับ Einherjar ที่เรียกมาใช้ พลังโจมตีของ Divine Arts ที่ส่งผลต่อการแพ้ธาตุนั้นๆของศัตรูก็จะสูงขึ้นมากกว่าเดิม เรียกว่า Superior Divine Arts

                                   การใช้ Divine Arts 

กดปุ่ม R2 ค้าง + ปุ่ม O / สามเหลี่ยม/ สี่เหลี่ยม / X 

Divine Arts ทักษะสำหรับใช้กับจุดอ่อนของศัตรู หากจับคู่ Divine Arts ที่เหมาะกับจุดอ่อนของศัตรูจะทำให้คุณได้เปรียบการต่อสู้


เช่นกดใช้ Divine Arts กดปุ่ม R2 ค้าง + สามเหลี่ยม กับศัตรูที่ขึ้นเกจบนหัวว่า แพ้ธาตุสายฟ้า เมื่อโจมตีด้วย Divine Arts สายฟ้า (สามเหลี่ยม) ใส่ศัตรูที่แพ้สายฟ้า เกจต้านทานสายฟ้าของศัตรูก็จะเต็มทันที เมื่อเกจแพ้ธาตุของศัตรูเต็มจะเกิดภาวะ Elemental Crush ที่ทำให้ศัตรูอ่อนแอและเคลื่อนไหวไม่ได้ จะทำให้กำจัดมันได้ง่ายขึ้น


Art Gauge จะอยู่ใต้ Soul Gauge การใช้ Divine Arts จะทำให้เกจนี้หมดลง สามารถฟื้นคืนได้โดยใช้ไอเทม และ การโจมตีศัตรูอย่างต่อเนื่อง


ความเสียหายจากธาตุและการทำลายด้วยธาตุ

ศัตรูแต่ละตัวจะมีการแพ้ธาตุที่ต่างกัน โดยจะแสดงให้เห็นใน Elemental gauge ที่อยู่ด้านซ้ายของเกจพลังชีวิตพวกมัน เมื่อโจมตีด้วยองค์ประกอบของธาตุที่มันแพ้จนเกจเต็ม พวกมันจะเข้าสู่สถานะ Elemental Crush ที่ทำให้มันอ่อนแอและเคลื่อนไหวไม่ได้ระยะนึง


ในขณะที่ศัตรูที่มีขนาดใหญ่หรือบอส ก็มีจุดอ่อนธาตุที่สามารถทำ Elemental Crush ได้เช่นกัน แค่ Elemental gauge ของมันจะยาวกว่าศัตรูธรรมดาเท่านั้น โดยบอสหรือศัตรูที่มีขนาดใหญ่บางตัวจะมีจุดอ่อนธาตุเฉพาะจุดที่ต้องใช้การล็อกเป้าเพื่อโจมตีให้ถูกจึงจะสามารถทำ Elemental Crush ได้ 

ผลของ Elemental Crush กับบอส ก็เหมือนศัตรูทั่วไป จะทำให้มัน Stun เคลื่อนไหวไม่ได้ระยะนึง ทำให้ได้เปรียบการต่อสู้ 


                                          Vallhalla





Odin – วัลคิลี่ จงจำคำพูดข้าให้ดี Ragnarok จะทำให้โลกของเราแตกเป็นเสี่ยงๆ  สงครามระหว่างแอสการ์ดและมิดการ์ดได้สังเวยชีวิตผู้คนไปมากมายและข้าก็ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากการต่อสู้กับหมาป่าที่ชั่วร้ายตัวนั้น นั่นคือเหตุผลที่ข้าสร้างเจ้าขึ้นมา ในฐานะ ข้าราชบริพารสันติภาพ แห่งข้า

ในนามของโอดิน มหาเทพผู้อยู่เหนือทวยเทพ บิดาแห่งทวยเทพทั้งมวล ขอสั่งให้เจ้า จงเป็นเครื่องมือในการกอบกู้โลกจากหายนะในครั้งนี้ 

                           Nora Valkyrie  - น้อมรับคำสั่งค่ะ 

Odin – เจ้าจงเดินทางไปยังมิดการ์ดเพื่อชำระล้างเหล่าวิญญาณที่หลงทางมาใช้งาน เพื่อลดภาระของเจ้าจาก Ragnarok … แม้ในขณะที่เรากำลังคุยกันวิญญาณเหล่านั้นก็ยิ่งเหี่ยวเฉาลงทุกที 

Nora Valkyrie  - ข้าจะทำมันให้สำเร็จตามที่ท่านประสงค์ค่ะ All Father

                         CHAPTER 1: Purify the Soul 

                                  Be'elzean Territory 

              [เป้าหมายคือ] มุ่งหน้าเข้าไปยัง ปราสาท Be'elze


Main Quest จำนวน 2 เควส 

( รายละเอียดคำว่า 2 เควสหลักแปลว่า พื้นที่นี้ต้องมาสองรอบคือ ในบทที่ 1 และ บทที่ 2 )

Sub Quest  จำนวน  3 เควส 

-Mother’s Ring
-A Dead Man’s Warning 
-My Hometown 

Hollow Blossoms  จำนวน 28 ดอก 

ในพื้นที่ Be'elzean และทุกๆพื้นที่นอกจากเดินลุยจัดการศัตรูตามทางแล้ว ระหว่างทางจะมีไอเทมให้เก็บด้วย เช่น บุพผาวิญญาณสถิตย์  (Hollow Blossoms) , คาถาต่างๆ รวมถึงเควสย่อยจากวิญญาณเร่ร่อน ซึ่งทั้งหมดจะมี Icon แสดงให้เห็นอยู่แล้วเมื่อเปิดแผนที่ แต่จะมีบางจุดอาจต้องใช้การสังเกต ใช้วิธีไปในแบบพิเศษ หรือ เข้าถึงได้เมื่อมาพื้นที่นี้อีกครั้งในบทอื่นๆ 

 

     

                บุพผาวิญญาณสถิตย์  (Hollow Blossoms)

ดอกไม้แปลก ๆ ที่มีกลีบดอกไม้เรืองแสงสีฟ้าอ่อนก่อตัวขึ้นจากร่องรอยของวิญญาณ มีเพียงวาลคิรี เทพระดับหกเท่านั้นที่มองเห็นได้ เมื่อสัมผัสดอกไม้เหล่านี้ 


วาลคิรีสามารถอ่านเศษเสี้ยวของความทรงจำที่เก็บไว้ในจิตวิญญาณของมัน ความทรงจำเหล่านี้สามารถเป็นได้หลายอย่าง เช่น เหตุการณ์ที่ส่งผลต่อจิตวิญญาณ หรือวลีที่ได้ยินก่อนตาย


ซึ่งในพื้นที่นี้ จะมี Hollow Blossoms ทั้งหมดจำนวน 28 ดอก 


จุดที่ต้องสังเกตคือ 2 ดอกที่มีตำแหน่งอยู่ในพื้นที่ฝั่งซ้ายและขวาตรงทางเข้า ซึ่งจำเป็นต้องอัพความสามารถ กระโดด 2 ชั้น (Double Jump) จากในส่วนของ Support Skill Tree ก่อนถึงจะไปได้

         โดยฝั่งซ้ายต้องโดด 2 ชั้นเพื่อข้ามสะพานที่ขาดไป

และ ฝั่งขวาต้องโดด 2 ชั้นจากหน้าผาเพื่อเข้าไปใกล้จุดที่ใช้โซ่วิญญาณเกาะโหนตัวข้ามไป

Divine Arts ทักษะการต่อสู้ของเทพเจ้าที่ ซึ่งอยู่ในหีบสมบัติสีฟ้าที่ตั้งอยู่ในจุดต่างๆที่สำคัญๆ 

โดย Divine Arts ที่สามารถเก็บมาใช้ได้ ประกอบด้วย 

                      Fire Lance I (โจมตีด้วยธาตุไฟ)


                                 Heal I (ฟื้นฟูพลังชีวิต)

                        Grave Edge (โจมตีทางกายภาพ)

(โดย Divine Arts ทั้ง 3 อันในพื้นที่นี้จะสามารถเจอระหว่างทางทั้งหมด)

Subquest (เควสย่อย) ที่ปลดล็อกได้นั้น สามารถเข้าไปยังไอค่อนรูปเอกสารสีทองที่แสดงให้เห็นตำแหน่งอยู่แล้วในแผนที่ แต่บางจุดก็ต้องเข้าไปใกล้ก่อนถึงจะปรากฏออกมา

จะพบดวงวิญญาณสีขาวที่จะมีภารกิจเสริมใหม่ทำ ซึ่งอาจทำให้ได้พบกับ NPC , Einherjar หรืออื่นๆ ได้

โดยเมื่อกดรับแล้ว Subquest ที่ได้ก็จะไปขึ้นรายละเอียดใน Astral Globe ที่ Valhalla ซึ่งสามารถกดสี่เหลี่ยมเพื่อสลับจาก Main Quest เป็น Sub quest ได้ 


โดยในพื้นที่จะมี Sub quest ทั้งหมด 3 อัน คือ

-Mother’s Ring
-A Dead Man’s Warning 
-My Hometown 

ระหว่างทาง วัลคิลี่จะพบกับ มนุษย์คนนึงที่กำลังหาอะไรบางอย่างอยู่


                       Nora Valkyrie  - อะไรกันเนี่ย ?

Nora Valkyrie  - เจ้ามาทำอะไรที่นี่เนี่ย?
????? -  ผะ ผม เอ่ย .... 
Nora Valkyrie  -  ช่างเถอะ เราจะมัวมาว่อกแวกไม่ได้    

     เมื่อเธอตะโกนทักทาย ชายปริศนาคนนั้นก็รีบวิ่งหายไป 


                ในส่วนลึกที่สุดของปราสาท Be'elze

 Nora Valkyrie  - นั่นมันอะไร!? อันเดทยักษ์งั้นหรอ? … เดี๋ยวนะ ไม่สิ นั่นมัน Naglfar .!

 วิญญาณที่น่าสงสารเอ๋ย ด้วยคำสั่งของโอดิน เจ้าต้องถูกชำระล้าง

                               Boss – Naglfar Eygon 

จุดอ่อนของมันอยู่ที่กลางหน้าอก  แพ้ทางกับการโจมตีทางกายภาพ ซึ่ง Divine Arts Grave Edge  จะส่งผลดีที่สุดในการจัดการมัน 

Nora Valkyrie  -  จงกลับไปยังที่ที่เจ้ามาเสียเถอะเจ้าวิญญาณผู้หลงทาง


                     Nora Valkyrie  -  นี่มันอะไร ..กัน?  

        Nora Valkyrie  -  พูดมา ว่าเจ้าคือใคร? ….หรือ สิ่งใด ?

Eygon –  ข้า ....  นามของข้าคือ ... Eygon 
Nora Valkyrie  -  ทำไมเจ้าถึงกลายเป็น Naglfar ?
Eygon –   Naglfar งั้นหรอ ? ต้องขอโทษด้วย ผมไม่เข้าใจ มันเกิดอะไรขึ้นที่นี่งั้นหรอ?
Nora Valkyrie  -  วิญญาณของคุณดึงดูดวิญญาณของคนตาย พวกเขาบิดเบือนร่างคุณให้กลายร่างเป็น ตัวประหลาด

Eygon –  วิญญาณ .... วิญญาณของผม งั้นหรอ?  แล้วคุณเป็นใคร? 
Nora Valkyrie  -  โอดินสั่งให้ชั้นมาชำระล้างวิญญาณของเหล่าอันเดทให้บริสุทธิ์
Eygon –   วัลคิลี่ งั้นหรอ?  เทพธิดาแห่งโชคชะตา ข้าเคยอ่านเรื่องราวของท่านในนิทานปรัมปรา ว่ากันว่า คุณนำทางวิญญาณนักรบที่ถูกเลือกไปยังแอสการ์ด

Eygon –  งั้นก็หมายความว่า ข้าตายแล้วสินะ?   และ ข้าต้องขอโทษด้วยถ้าปัญหาที่เกิดขึ้นทั้งหมดที่นี่มันเกิดจากข้า 

Nora Valkyrie  -  ทำไมกันนะ ... เหมือนจะเคยเห็นวิญญาณนี้ที่ไหนมาก่อนซักแห่ง ถ้ามีโอกาส ชั้นคงต้องเอาเรื่องนี้ไปถาม โอดิน ดูซักครั้ง 

                                   Quest Rewards

Bolverkr ดาบที่มีใบมีดที่เพรียวบางแต่รวดเร็วอย่างเหลือเชื่อ แม้การโจมตีแต่ละครั้งจะสร้างความเสียหายให้ศัตรูได้ไม่มาก แต่ก็สามารถใช้ความรวดเร็วเพิ่มจำนวนการโจมตีให้มหาศาลได้ในเวลารวดเร็ว

-----------------------------------------------------------------------------


                                       Vallhalla

                Odin – ภารกิจเป็นยังไงบ้างล่ะ วัลคิลี่ ?

Nora Valkyrie  - ข้าพบวิญญาณหลงทางมากมายใน มิดการ์ด แต่ข้าก็จะพยายามทำให้ดีที่สุดค่ะ

Odin – โลกกับข้านั้นเป็นหนึ่งเดียวกัน ยิ่งเจ้าทำให้ดวงวิญญาณบริสุทธิ์ได้มากและเร็วเท่าไหร่ แผลข้าก็จะหายและทำให้ข้าแข็งแกร่งเร็วขึ้นเท่านั้น แต่ตอนนี้ข้ายังรู้สึกว่าได้พลังคืนมาแค่เล็กน้อยจากภารกิจของเจ้า แต่ยังไงก็ต้องขอบคุณในความภัคดีนะ

Nora Valkyrie  - เป็นเกรียติอย่างยิ่งค่ะที่ได้รับใช้ และ ข้ามีอีกเรื่องจะรายงานให้ทราบ ที่มิดการ์ด ข้าได้ชำระล้างวิญญาณของ นาเกิ้ลฟาร์ จนบริสุทธิ์ได้สำเร็จ แต่มันกลับกลายเป็นวิญญาณของมนุษย์ เป็นวิญญาณที่แข็งแกร่งจนชั้นสามารถสื่อสารกับเขาได้

Odin – วิญญาณนั่นเรียกว่า เอย์นเฮริยาร์ ( Einherjar) เจ้าโชคดีแล้วที่ได้เจอ 
Nora Valkyrie  - เอย์นเฮริยาร์ ?
Odin – อืมม ข้าคงต้องอธิบายให้เจ้าฟังสินะ  เอย์นเฮริยาร์  คือ ชื่อเรียกของวิญญาณที่มีความแข็งแกร่ง ให้รับเกรียติเป็นนักรบเพื่อมารับใช้ทวยเทพ 
Nora Valkyrie  -
งั้นชั้นก็สามารถเรียก เอย์นเฮริยาร์  ให้มาช่วยงานได้ด้วยใช่มั๊ยคะ?

Odin – ถูกต้อง !   วัลคิลี่ เจ้าจงไปที่มิดการ์ดตามหาดวงวิญญาณนั้น และดวงวิญญาณในแบบเดียวกัน มาเป็น เอย์นเฮริยาร์  เพื่อรับใช้เจ้า ซะเดี๋ยวนี้ 
Nora Valkyrie  - ข้าในฐานะ ราชบริพารแห่งความสันติสุข จะทำให้มันบรรลุผลสำเร็จ

-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

                          Subquests

                        Mother’s Ring

วิญญาณเด็กสาวได้ขอร้องให้วัลคิลี่ช่วยตามหาแหวนของแม่ของเธอเพื่อจะได้หมดห่วง เธอกล่าวว่า แหวนอยู่ที่ไหนซักแห่งรอบๆโบสถ์

Valkyrie – แหวนอย่างงั้นหรอ? มันหายไปหลายปีแล้ว แต่รูปแบบวิญญาณของมันน่าจะคงอยู่  ถ้าอยากจะช่วยขำระล้างให้วิญญาณดวงนี้ เราก็ต้องไปหาแหวนมาให้เธอ

ภารกิจไม่มีอะไรยุ่งยากซับซ้อน เดินตามเป้าหมายภารกิจที่ขึ้นในแผนที่ไปจนถึงจุดหมายก็จะพบแหวนของแม่ของวิญญาณเด็กสาวอยู่ในหีบสีแดง

เมื่อได้แหวนของแม่มาแล้ว วิญญาณเด็กสาวก็จะดีใจและไปสู่สุขคติเพื่อนำแหวนไปให้แม่ของเธอในปรโลก


รางวัลที่ได้รับคือ

-Divine Art – Convergence I
เวทย์ทักษะที่ใช้สำหรับดึงศัตรูในพื้นที่เป้าหมายให้มารวมกันตรงหน้า Valkyrie เพื่อจะได้จัดการศัตรูจำนวนมากได้ในครั้งเดียว
-Ambrosia 
ไอเทมสำหรับขยายจุดสูงสุดของเกจ HP ให้ยาวขึ้น


                            A Dead Man’s Warning 


วิญญาณอัศวิน – นี่เจ้าได้รับข้อความของข้าแล้วนี่ ใช่มั๊ย? แล้วทำไมถึงยังจะกลับมาที่นี่อีก เจ้าคงไม่ได้คิดว่าจะไปทางนั้นใช่มั๊ย ไอ้พวกปีศาจนั้นมันดักรอเพื่อจะฆ่าเจ้าอยู่นะ 
Valkyrie – ไม่อยากจะเชื่อเลยว่า เราจะมีชะตากรรมเหมือนกัน 
วิญญาณอัศวิน – ทำไมเจ้าถึงไม่เชื่อข้าเลยวะ! เจ้าไม่รู้หรอกว่ากำลังเดินเข้าไปหาอะไร?

คำเตือนของคนตาย  ที่วัลคิลี่ได้รับข้อความเตือนจากวิญญาณว่ามีพวกปีศาจมาคอยซุ้มโจมตีอยู่ในเมือง วิลคีลี่ จึงต้องเข้าไปเพื่อชำระล้างวิญญาณเหล่านี้ 

ภารกิจไม่มีอะไรยุ่งยากซับซ้อน เดินตามเป้าหมายภารกิจที่ขึ้นในแผนที่ไปจนถึงจุดหมายที่อยู่ด้านในปราสาทก็จะพบ ปีศาจกลุ่มใหญ่กำลังรออยู่ กำจัดมันให้หมดซะ!


วิญญาณอัศวิน – ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเจ้าจะจัดการพวกปีศาจพวกนั้นไปจนหมดได้ เหมือนกับพวกมันไม่มีตัวตนอยู่เลย  ข้าก็ต้องขอโทษด้วยที่ประเมินฝีมือเจ้าต่ำไปหน่อย 
Valkyrie – แล้วพอใจรึยัง?
วิญญาณอัศวิน – แน่นอน พอใจสิ เอาล่ะ ตอนนี้ข้าพร้อมที่จะไปแล้ว 


รางวัลที่ได้รับคือ

Ambrosia – ไอเทมสำหรับขยายจุดสูงสุดของเกจ HP ให้ยาวขึ้น


                                  My Hometown

วิญญาณเก่าแก่รู้สึกตกใจเมื่อเห็นบ้านเกิดเต็มไปด้วยสัตว์ประหลาด

วิญญาณ –  ดะ เดี๋ยวนะ นี่เจ้าเห็นข้าด้วยงั้นหรอ?  .... ได้โปรด รอก่อน  ... ข้าเกิดที่เมืองนี้ และตอนนี้ ข้ารู้ว่าคงทำอะไรไม่ได้มาก แต่ก็หวังอยากจะเห็นมันอย่างที่มันเคยเป็น เป็นครั้งสุดท้าย แบบไม่มีพวกมอนสเตอร์พวกนี้ ได้โปรด ช่วยทำให้มันเกิดขึ้นหน่อยได้มั๊ย ... 
Valkyrie – อารมณ์อันแรงกล้าของคุณที่ยังผูกติดกับที่นี่ทำให้คุณไม่สามารถไปสู่สุขคติได้  เอาล่ะ ชั้นจัดการให้เอง แล้วเราค่อยส่งคุณไปสู่สุขคติ 
วิญญาณ – ขอบคุณ .... มันมีความหมายต่อข้ามากๆ
 

ในพื้นที่ภารกิจจะมีจุดเกิดของพวกปีศาจขึ้นมาหลายจุด มีบางจุดต้องใช้โซ่วิญญาณเกาะดึงตัวขึ้นไปบนหลังคา เพื่อโดดเข้าไปในตึกสูง  ลุยเข้าไปจัดการแต่ละจุดให้หมด แล้วกลับมาคุยกับวิญญาณอีกครั้ง 

Valkyrie – เอาล่ะ ข้าจัดการพวกมันจนหมดแล้ว  
วิญญาณ – ข้าเห็นแล้ว ขอบคุณมาก ตอนนี้ถึงเวลาที่ข้าจะไปรวมกับคนอื่นๆแล้ว  ข้ายังจำร้านเบเกอร์รี่ข้างๆบ้านข้าได้ดี ทุกครั้งที่หลับตายก็ได้กลิ่นขนมปังแล้ว
Valkyrie – แล้ว?  
วิญญาณ – ขอโทษที ไม่รู้ว่าข้าจะพูดไปเพื่ออะไรเหมือนกัน .. เอาล่ะ ข้าต้องไปแล้ว

รางวัลที่ได้รับคือ


Magic Damage Reduction I 
ไอเทมที่เรียกว่า RUNE สำหรับสวมใส่กับอาวุธเพิ่มเติมอบิลิตี้ด้านต่างๆที่ติดมากับรูน 

วิธีติดตั้ง Rune ต้องเข้าไปที่จุดเซฟ เลือกเมนู Weapon Enhance

เลือกอาวธที่มีช่องใส่ Rune ซึ่งตอนนี้มีแค่ Alfodr เท่านั้นที่มีช่องใส่รูน
เมื่อใส่ Rune Magic Damage Reduction I เข้าไป ก็จะทำให้ดาบ Alfodr มี Rune Effect >>  ลดความเสียหายจากเวทย์มนต์ลง 4 % ให้กับผู้ใช้มัน 


-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

                          VALKYRIE SKILL TREE

                               Attack Skill Tree List

-Attack Boost 1

เสริมพลังโจมตีของวาลคิรี / พลังโจมตีกายภาพ +30

-Magic Boost 1

เสริมพลังเวทย์มนตร์ของวาลคิรี / พลังโจมตีเวทย์ +15

Ranged Attack (ท่าแดชโจมตีระยะไกล)

กดปุ่มทิศทางวิ่งไปหาศัตรูเป้าหมาย + ปุ่ม □ เพื่อเริ่มท่าเตะวนรัวๆพุ่งโจมตีจากระยะไกล คุณจะป้องกันการโจมตีของศัตรูในขณะที่กำลังแดชเข้าไปหาเป้าหมาย

-Attack Boost 2

เสริมพลังโจมตีของวาลคิรี / พลังโจมตีกายภาพ +30

-Magic Boost 2

เสริมพลังเวทย์มนตร์ของวาลคิรี / พลังโจมตีเวทย์ +15

-Chain Attack

ทำการโจมตีพิเศษหลังจากโจมตีด้วยโซ่วิญญาณด้วยการกดปุ่ม □  

-Attack Boost 3

เสริมพลังโจมตีของวาลคิรี / พลังโจมตีกายภาพ +40

-Magic Boost 3

เสริมพลังเวทย์มนตร์ของวาลคิรี / พลังโจมตีเวทย์ +20

-Soul Burst 1

คุณจะสามารถดูดซับวิญญาณที่ตกอยู่รอบได้ด้วยการกดปุ่ม △ ค้าง และเมื่อปล่อยปุ่ม △ จะสามารถใช้ท่า Soul burst Level1 พุ่งโจมตีศัตรูได้

-Attack Boost 4

เสริมพลังโจมตีของวาลคิรี / พลังโจมตีกายภาพ +40

-Magic Boost 4

เสริมพลังเวทย์มนตร์ของวาลคิรี / พลังโจมตีเวทย์ +20

-Attack Boost 5

เสริมพลังโจมตีของวาลคิรี / พลังโจมตีกายภาพ +50

-Magic Boost 5

เสริมพลังเวทย์มนตร์ของวาลคิรี / พลังโจมตีเวทย์ +25

-Soul Steal

หลังจากที่ศัตรูโดนท่า Soul burst จะดรอป Soul เพิ่มขึ้น ยิ่ง HP ของศัตรูน้อยเท่าไร วิญญาณก็จะยิ่งดรอปมากขึ้นเท่านั้น

-Attack Boost 6

เสริมพลังโจมตีของวาลคิรี / พลังโจมตีกายภาพ +50

-Magic Boost 6

เสริมพลังเวทย์มนตร์ของวาลคิรี / พลังโจมตีเวทย์ +25

-Support Summoning (Chained attack)

เมื่อใช้ท่า Chain Attack โจมตีศัตรูเสร็จ จะทำการเรียก Einherjar ออกมาโจมตีประสานแบบอัตโนมัติ

** ปลดล็อกเมื่อ Sidgrani ได้ Proficiency F ** 

-Soul Burst 2

คุณจะสามารถดูดซับวิญญาณที่ตกอยู่รอบได้ด้วยการกดปุ่ม △ ค้าง และเมื่อปล่อยปุ่ม △ จะสามารถใช้ท่า Soul burst Level2 พุ่งโจมตีศัตรูได้

-Attack Boost 7

เสริมพลังโจมตีของวาลคิรี / พลังโจมตีกายภาพ +50

-Magic Boost 7

เสริมพลังเวทย์มนตร์ของวาลคิรี / พลังโจมตีเวทย์ +25

-Attack Boost 8

เสริมพลังโจมตีของวาลคิรี / พลังโจมตีกายภาพ +60

-Magic Boost 8

เสริมพลังเวทย์มนตร์ของวาลคิรี / พลังโจมตีเวทย์ +30

-Soul Burst 3

คุณจะสามารถดูดซับวิญญาณที่ตกอยู่รอบได้ด้วยการกดปุ่ม △ ค้าง และเมื่อปล่อยปุ่ม △ จะสามารถใช้ท่า Soul burst Level 3 พุ่งโจมตีศัตรู พร้อมท่าสโลโมชั่นปิดท้าย 

-Support Summoning (Soul Burst)

เมื่อใช้ท่า Soul Burst โจมตีศัตรูเสร็จ จะทำการเรียก Einherjar ออกมาโจมตีประสานแบบอัตโนมัติ

** ปลดล็อกเมื่อ Sidgrani ได้ Proficiency C ** 

                                Defend Skill Tree

-Quick Evade

การหลบในระยะประชิดก่อนที่ศัตรูจะโจมตี จะลบล้างผลการโจมตีทั้งหมด

การหลบเลี่ยงการโจมตีที่ไม่สามารถป้องกันได้จะทำให้ศัตรูเคลื่อนไหวช้า

-Damage Dampener 1

ลดความเสียหายทางกายภาพและเวทย์มนต์ของวัลคิลี่

อัตราลดความเสียหายกายภาพ +2%
อัตราลดความเสียหายจากเวทย์ +2%

-Precision Guard

ในขณะตั้งการ์ด ก่อนการโจมตีจะถึงตัว กดปุ่ม △ จะเริ่มต้นการโจมตีพิเศษเค้าท์เตอร์กลับไป

-Damage Dampener 2

ลดความเสียหายทางกายภาพและเวทย์มนต์ของวัลคิลี่

อัตราลดความเสียหายกายภาพ +2%
อัตราลดความเสียหายจากเวทย์ +2%

-Reversal

ในขณะตั้งการ์ด เมื่อศัตรูโจมตีมาในระยะประชิดกดปุ่ม □ จะเริ่มต้นเค้าท์เตอร์การโจมตีด้วยท่างัดศัตรูขึ้นฟ้าอย่างรวดเร็ว

-Damage Dampener 3

ลดความเสียหายทางกายภาพและเวทย์มนต์ของวัลคิลี่

อัตราลดความเสียหายกายภาพ +3%
อัตราลดความเสียหายจากเวทย์ +3%

-Parry

ในขณะตั้งการ์ด เมื่อศัตรูโจมตีมาในระยะประชิดกดสามเหลี่ยมจะเป็นการปัดป้องการโจมตี จะทำให้ศัตรูกระเด็นล้มและดรอปวิญญาณจำนวนมากออกมา 

-Damage Dampener 4

ลดความเสียหายทางกายภาพและเวทย์มนต์ของวัลคิลี่

อัตราลดความเสียหายกายภาพ +3%
อัตราลดความเสียหายจากเวทย์ +3%

-Technical Action Success Extension 1

ขยายเวลาความสำเร็จในการดำเนินการด้วยท่าทางเทคนิคต่างๆเช่น Quick Evade,Precision Guard, Reversal, Parry และ Counterattack 

-Support Summoning (Quick Evade)

เมื่อใช้ท่า Quick Evade สำเร็จ จะทำการเรียก Einherjar ออกมาโจมตีประสานแบบอัตโนมัติ

** ปลดล็อกเมื่อ Bolverkr ได้ Proficiency F ** 

-Counterattack 

การกดปุ่ม □ ทันทีในขณะโจมตีของศัตรูเข้ามา จะทำให้เกิดการโจมตีโต้กลับแบบพุ่งเข้าใส่ศัตรู 

-Damage Dampener 5

ลดความเสียหายทางกายภาพและเวทย์มนต์ของวัลคิลี่

อัตราลดความเสียหายกายภาพ +4%
อัตราลดความเสียหายจากเวทย์ +4%

-Support Summoning (Precision Guard)

เมื่อใช้ท่า Precision Guard สำเร็จ จะทำการเรียก Einherjar ออกมาโจมตีประสานแบบอัตโนมัติ

** ปลดล็อกเมื่อ Baleygr ได้ Proficiency F ** 

-Damage Dampener 6

ลดความเสียหายทางกายภาพและเวทย์มนต์ของวัลคิลี่

อัตราลดความเสียหายกายภาพ +4%
อัตราลดความเสียหายจากเวทย์ +4%

-Technical Action Success Extension 2

ขยายเวลาความสำเร็จในการดำเนินการด้วยท่าทางเทคนิคต่างๆเช่น Quick Evade,Precision Guard, Reversal, Parry และ Counterattack 

-Support Summoning (Reversal)

เมื่อใช้ท่า Reversal สำเร็จ จะทำการเรียก Einherjar ออกมาโจมตีประสานแบบอัตโนมัติ

** ปลดล็อกเมื่อ Herteitr ได้ Proficiency F ** 

-Damage Dampener 7

ลดความเสียหายทางกายภาพและเวทย์มนต์ของวัลคิลี่

อัตราลดความเสียหายกายภาพ +5%
อัตราลดความเสียหายจากเวทย์ +5%

-Support Summoning (Parry)

เมื่อใช้ท่า Parry สำเร็จ จะทำการเรียก Einherjar ออกมาโจมตีประสานแบบอัตโนมัติ

** ปลดล็อกเมื่อ Bolverkr ได้ Proficiency C ** 

-Damage Dampener 8

ลดความเสียหายทางกายภาพและเวทย์มนต์ของวัลคิลี่

อัตราลดความเสียหายกายภาพ +7%
อัตราลดความเสียหายจากเวทย์ +7%

-Technical Action Success Extension 3

ขยายเวลาความสำเร็จในการดำเนินการด้วยท่าทางเทคนิคต่างๆเช่น Quick Evade,Precision Guard, Reversal, Parry และ Counterattack 

** ปลดล็อกเมื่อ Herteitr ได้ Proficiency C ** 

-Support Summoning (Counterattack )

เมื่อใช้ท่า Counterattack  สำเร็จ จะทำการเรียก Einherjar ออกมาโจมตีประสานแบบอัตโนมัติ

** ปลดล็อกเมื่อ Gagnrathr ได้ Proficiency C ** 

                              Support Skill Tree

-Double Jump

กด X อีกครั้งหลังกระโดดจะเป็นการกระโดดอีกครั้งกลางอากาศ เป็นการกระโดด 2 ชั้น

-Health Fortify 1

เพิ่มค่าสูงสุดของเกจพลังชีวิต (HP)

-Double Evade

กด O อีกครั้งหลังแดชหลบจะเป็นการหลบอีกครั้งทำให้ระยะการแดชหลบไกลขึ้น

-Health Fortify 2

เพิ่มค่าสูงสุดของเกจพลังชีวิต (HP)

-Finisher Level 1

การกดปุ่ม □ ใกล้กับศัตรูที่มีขนาดเล็กกว่าบางตัวที่มีพลังชีวิตน้อยกว่า 10% ของพลังชีวิตสูงสุดของพวกมัน จะเป็นการเริ่มต้นการโจมตีพิเศษ หาก Finisher ถูกตั้งค่าเป็น “Manual” ผ่าน Options ในเมนู สามารถเริ่มต้นได้โดยกดปุ่ม △

-Divine Arts Gauge Max + 1

เพิ่มค่าสูงสุดของเกจ Divine Arts +1

-Soul Gauge Max + 1

เพิ่มค่าสูงสุดของเกจ Soul Gauge +1

-Support Summoning (Enemy Guard Break )

เมื่อคุณถูกศัตรูทำลายการ์ด จะทำการเรียก Einherjar ออกมาโจมตีประสานแบบอัตโนมัติ

-Health Fortify 3

เพิ่มค่าสูงสุดของเกจพลังชีวิต (HP)

-Finisher Level 2

การกดปุ่ม □ ใกล้กับศัตรูที่มีขนาดเล็กกว่าบางตัวที่มีพลังชีวิตน้อยกว่า 15% ของพลังชีวิตสูงสุดของพวกมัน จะเป็นการเริ่มต้นการโจมตีพิเศษ หาก Finisher ถูกตั้งค่าเป็น “Manual” ผ่าน Options ในเมนู สามารถเริ่มต้นได้โดยกดปุ่ม △

-Soul Gauge Max + 2

เพิ่มค่าสูงสุดของเกจ Soul Gauge +2

-Support Summoning (Knocked Back )

จะทำการเรียก Einherjar ออกมาโจมตีอัตโนมัติเมื่อคุณถูกศัตรูอัดจนล้ม

Health Fortify 4

เพิ่มค่าสูงสุดของเกจพลังชีวิต (HP)

Support Summoning (Normal Attack)

เมื่อโจมตีศัตรูด้วยคอมโบปกติ จะทำการเรียก Einherjar ออกมาโจมตีประสานแบบอัตโนมัติ

** ปลดล็อกเมื่อ Gagnrathr ได้ Proficiency F ** 

-Support Summoning (Overwhelmed)

เมื่อคุณถูกศัตรูโจมตีด้วยคอมโบอย่างต่อเนื่อง จะทำการเรียก Einherjar ออกมาโจมตีประสานแบบอัตโนมัติ

** ปลดล็อกเมื่อ Alfodr ได้ Proficiency C ** 

-Art Gauge Max + 2

เพิ่มค่าสูงสุดของเกจ Art Gauge +2

-Soul Gauge Max + 3

เพิ่มค่าสูงสุดของเกจ Soul Gauge +3

-Health Fortify 5

เพิ่มค่าสูงสุดของเกจพลังชีวิต (HP)

-Support Summoning ( Guard Break )

เมื่อทำลายการ์ดศัตรูสำเร็จ จะทำการเรียก Einherjar ออกมาโจมตีประสานแบบอัตโนมัติ

** ปลดล็อกเมื่อ Baleygr ได้ Proficiency C ** 

-Art Gauge Max + 3

เพิ่มค่าสูงสุดของเกจ Art Gauge +3

-Soul Gauge Max + 4

เพิ่มค่าสูงสุดของเกจ Soul Gauge +4


-------------------------------------------------------------------------------------------------------------



                    Chapter 2: Champions of the Divine

หลังจากที่ Odin กล่าวว่า วิญญาณที่ปรากฎขึ้นจากภายในปีศาจ Naglfar คือ Einherjar ซึ่งก็คือนักรบที่เคยต่อสู้รับใช้พระเจ้าจนถึงแก่ความตาย ซึ่งหาก Valkyrie ต้องการเลือก Eygon มาเป็น Einherjar ของเธอ Valkyrie ก็ต้องเดินทางกลับมายัง ปราสาท Be'elze อีกครั้ง

                   
                                 Be'elzean Territory


Valkyrie -  Eygon … คือชื่อตอนเป็นมนุษย์ของเขาสินะ ดูเหมือนเขาจะไม่อยู่ที่นี่แล้ว 

???? – …  ปกป้องเธอ ...
Valkyrie –   เสียงของเขางั้นหรอ ... ไม่ค่อยดังมาก แต่ ... ความรู้สึกแบบนี้มันคืออะไรกันเนี่ย?
????? –  เดี๋ยวก่อน ทางนั้น !!
Valkyrie –  มันคือ ส่วนที่เหลืออยู่ของวิญญาณ บางที่ชั้นอาจลองตามเสียงเขาไปได้ 


Valkyrie สามารถใช้การทำสมาธิระดับจิตวิญญาณ ( Spritual Concentration) เพื่อเขาถึงตัวตนมนุษย์ที่ยังเหลืออยู่ของ บุคคลที่อาจจะกลายเป็น Einherjar ได้ 


ใช้งานโดยการกด LS+RS จะเกิดฝูงผีเสื้อขึ้นมาแล้วออกนำทางไปยังจุดเหตุการณ์ที่ความเป็นมนุษย์ของวิญญาณยังผูกพันอยู่


จากนั้นก็ใช้การทำสมาธิระดับจิตวิญญาณเพื่อให้ผีเสื้อนำทางไปยังจุดที่ Soul Relics วิญญาณวัตถุที่วิญญาณยังยึดมั่นอยู่ โดยระหว่างทางก็จะเจอศัตรูออกมาขวางทางตลอด 




ลุยจาก Be'elzean Castle Town ตามเก็บ Soul Relics ของ Eygon ประกอบด้วย ซากธงขาด (Torn Flag) ธงชาติ Be'elzean ที่  Eygon ยึดถือ , เครื่องหมายของ ผู้บังคับบัญชาอัศวิน (Knight Commander’s Sigil ) ซึ่งเป็นตราที่ ราชาแห่ง Be'elze มอบให้ Eygon , สร้อยคอของเจ้าหญิงแห่ง Be'elze เคยสวมใส่ (Princess’s Necklace) จนถึงด้านใน ปราสาท Be'elzean


                                Valkyrie –  นี่เจ้า !!


                       A Prison for a Knight’s Soul 


เมื่อ Valkyrie เข้ามาจนถึงด้านใน ปราสาท Be'elzean วิญญาณของ Eygon ก็ลาก  Valkyrie จมดิ่งเข้ามาใน สถานที่พันธนาการวิญญาณอัศวิน ที่จิตใจของเขาสร้างขึ้นมาเอง 


กับ Soul Relics ชิ้นสุดท้ายที่ต้องตามหา คือ เศษซากดาบที่ Eygon ใช้ก่อนเสียชีวิต (Broken Greatsword) ท่ามกลางเหล่าวิญญาณของศัตรูมากมายที่ออกมาขัดขวาง




Eygon  - เจ้าตามข้ามาทำไมอีก ? ถ้าจะมาเพื่อทำให้ข้าเป็นหนึ่งในอัศวินที่ถูกเลือกอะไรนั่นล่ะก็พอ เจ้าคงเสียเวลาเปล่า 
Valkyrie –  ยังไม่ทันรู้เลยว่าข้ามาหาเจ้าทำไมก็ปฎิเสธแล้วงั้นหรอ?


Eygon  - ข้าล้มเหลวกับการปกป้อง เอมิเลีย ข้ายอมให้หน้าที่ของอัศวินมาบดบังการตัดสินใจของตัวเอง ข้าไม่เหมาะจะรับใช้เจ้าหรือใครทั้งนั้น
Valkyrie –  คุณจะค้นพบความแข็งแกร่งที่แท้จริงของคุณผ่านความผิดพลาดและความสำนึกผิด มันเป็นจิตวิญญาณที่แข็งแกร่งที่ชั้นต้องการจะให้ช่วยกอบกู้โลกใบนี้ 


Eygon  - โลกกำลังมีอันตรายงั้นหรอ?
Valkyrie – มันอยู่ในขอบเขตของการทำลายล้าง  แอสการ์ด มิดการ์ด ร่องรอยของบ้านเกิดของเจ้า หรือแม้แต่ความทรงจำของเจ้า ก็จะไม่เหลือ 


Eygon  - นี่เจ้าจะให้ข้าต่อสู้อีก แม้กระทั่งในความตายงั้นหรอ?
Valkyrie – หากเจ้ายังปรารถนาที่จะต่อสู้อยู่ ก็จงตอบรับข้อเสนอและเข้าร่วมกับชั้น 







       เมื่อได้ Eygon เข้าร่วมเป็น Einherjar ของ Valkyrie ก็สวมใส่เขาลงในเมนู Equip 


ซึ่งสามาถสวมใส่ Einherjar ติดตัวได้ 4 ตน และ Summon ออกมาใช้งานด้วยการกดปุ่ม R1 + ปุ่มที่เซ็ตไว้ 


Valkyrie – ถ้าคิดว่าสิ่งที่เจ้ากำลังทำอยู่คือการซ่อนตัวแล้วล่ะก็ ยังไม่ดีพอ จงเปิดเผยตัวตนออกมาซะ



Valkyrie –  เจ้าคือใคร ?
????? – ดูเหมือนเจ้าเพิ่งจะเคยได้ Einherjar เป็นของตัวเองซินะ 
Valkyrie –   ตอบคำถามข้ามา! เจ้าคือใคร ? 


?????? – โอ้ เจ้านี่มันซื้อบื้อจริงๆ ... แบบนี้ เจ้าคงเป็นผลงานใหม่ของเขาซินะ งั้นขออนุญาตทดสอบฝีมือเจ้าหน่อยได้มั๊ยอ่ะ?





                           ?????? – ใช่ได้นี่ แต่ยังไม่ดีพอ  


Valkyrie –    ดูเหมือนเราจะไม่ได้ต่อสู้เพื่อเป้าหมายเดียวกันนะ 
?????? –  แล้วถ้าเป็นงั้นล่ะ?
Valkyrie –   ก็ง่ายๆ ... ศัตรูของโอดินต้องถูกกำจัด ก็แค่นั้นเอง ..


Valkyrie –   แต่ เจ้าก็เป็น  Valkyrie  ทำไมถึงโจมตีข้า ?
?????? – บางที ชั้นควรถามเจ้ามากว่านะ ทำไม Valkyrie ถึงต้องถามคำถามไร้สาระแบบนี้
Valkyrie –   ตกลงเจ้าคือใคร !?


Hilde –   ข้าคือ Hilde  และ ข้ามั่นใจว่า เราจะได้เจอกันอีกในเวลาที่เหมาะสม 


Valkyrie –    ไม่ต้องมาเล่นลิ้นหรอก ถ้าเจ้าเป็นศัตรูของโอดิน ข้าก็จะ .




Eygon –   Hilde .... นางดูยังไงก็เหมือน Valkyrie แต่ดูทรงแล้วไม่น่าจะอยู่ข้างเดียวกับเราอ่ะนะ 


Valkyrie –   มันไม่สำคัญหรอกว่านางจะอยู่ข้างไหน ศัตรูของโอดินมีเพียงขะตากรรมเดียวเท่านั้น  เอาล่ะ ตอนนี้ เรากลับ แอสการ์ด กันก่อนเถอะ 
Eygon – โอเค .. 

-----------------------------------------------------------------------------


                                           Vallhalla


Nora Valkyrie – ท่านโอดิน ข้าได้รับ Einherjar มาจากมิดการ์ดเรียบร้อยแล้วค่ะ และ ชั้นโดนใครคนนึงโจมตี มีรูปลักษณ์คล้าย Valkyrie แต่มีชุดเกราะสีดำ
Odin – เข้าใจแล้ว … Valkyrie ที่ว่ามันทำอะไรบ้าง ?
Nora Valkyrie – อยู่ๆนางก็หนีไปค่ะ ชั้นเกรงว่านางจะเป็นภัยต่อท่าน ก็เลยมารายงานให้ทราบ 


Odin – อืมมม ... คิดว่าพวกนี้ถูกกวาดล้างไปหมดแล้วตั้งแต่ในสงครามครั้งก่อน และข้าไม่รู้หรอกว่านางคนที่เจ้าเล่ามาเป็นใคร แต่ก็อย่าประมาท คิดว่านางเป็นศัตรูเอาไว้ก่อน และคอยระวังตัวเอาไว้ด้วย 
Nora Valkyrie – เข้าใจแล้วค่ะ 
Odin – ข้าเชื่อมั่นในตัวเจ้านะ Valkyrie ชะตากรรมของโลกนี้อยู่ในมือของเจ้าแล้ว 
Nora Valkyrie – ข้าจะไม่ทำให้ท่านผิดหวังค่ะ ออล ฟาร์เธอร์

 
                              Vingoft เปิดใช้งาน 


หลังจบ บทที่ 2 ใน Vallhalla จะสามารถเข้าถึง Vingoft ได้แล้ว 
โดย Vingoft ก็คือสนามฝึกซ้อม ซึ่งที่นี่คุณสามารถเรียกศัตรูที่เคยถูกกำจัดมาแล้วก่อนหน้านี้มาใช้เป็นคู่ซ้อมเพื่อฝึกฝนฝีมือได้   


ในสนามฝึกซ้อม คุณสามารถตั้งค่าต่างๆได้ ทั้งประเภทของศัตรู จำนวนของศัตรู และเงื่อนไขต่างๆ แต่ผลการฝึกจะไม่นับรวมการได้มาของโทรฟี่ใดๆ


---------------------------------------------------------------------------------------------------------------


          เศษวิญญาณของ ไอย์กอน [ Eygon's Soul Remnant ]

                                Eygon's Memory   #1

young Eygon - Amelia ได้โปรด รอด้วยสิ
young Amelia - Eyyyygon!! ชั้นอยู่ทางนี้ !!!   … ชั้นคือ Frundle เจ้าหญิงผู้เลอโฉมที่ถูกกักขังโดยแม่มดที่ชั่วร้าย และเจ้าคือ อัศวินที่สุดกล้าหาญของข้า เซอร์ Lucias !
Elderly Maid - คุณหนูคะ ถึงเวลาที่ต้องเข้าเรียนแล้วนะคะ!
young Amelia - โอ้ ไม่นะ ยัยแม่มดใจร้ายมันกำลังจะมากินชั้นแล้ว เซอร์ Lucias ได้โปรดช่วยชั้นด้วยดาบเวทย์ของท่านด้วยเถิด !!
young Eygon - ได้เลย ฝ่าบาท งั้นรีบเข้ามาหลบในป้อมปราการก่อนเร็วๆ 
Elderly Maid - คุณหนู อเมเลีย คะ? เธอหายไปไหนอีกแล้วเนี่ย ?  นี่เล่นเป็นอัศวินอีกแล้วสิเนี่ย แต่ก็ใกล้เคียงนะสำหรับขุนนางระดับ 3 อย่างเจ้าน่ะ ...เฮ้อ   คุณหนู อเมเลีย ไปซ่อนอยู่ไหนเนี่ย ออกมาได้แล้ว!
young Eygon - เอาล่ะ ปลอดภัยแล้ว ออกมาได้แล้วล่ะ 
young Amelia - Eygon ทำไมนางพูดถึงนายแบบนั้นน่ะ มันไม่ใช่ซะหน่อย ..
young Eygon - ชั้นไม่เป็นไร จริงๆแล้ว มันก็เรื่องจริงนี่นา 
young Amelia - ชั้นไม่สนหรอกว่าใครจะพูดว่าไง สำหรับชั้นนายคือหัวหน้าอัศวินที่จะคอยปกป้องชั้นตลอดไป 
young Eygon - ชั้นเกรงว่าจะมีแค่เธอนั่นแหละที่คิดแบบนั้น 
young Amelia - นายต้องเชื่อมั่นในตัวเองหน่อยเซ่ !! ชั้นรู้ว่านายต้องทำได้อยู่แล้วน่า 
young Eygon - แน่นอนครับ เจ้าหญิง Frundle  เอ่อ... ชั้นหมายถึง อมิเลีย .. ชั้นสัญญากับเธอเลย และขอสาบานต่อดาบของชั้นว่า จะปกป้องเธอด้วยชีวิตไม่ว่าชั้นจะอยู่ในฐานะหัวหน้าอัศวินหรือไม่ก็ตาม!
young Amelia - แต่ชั้นคิดว่า นี่คือคำสัตย์ของอัศวินที่แท้จริงเลยแหละ เซอร์ Eygon และชั้นไม่รับคำสัญญาที่ไร้ความหมายหรอกนะ ชั้นจะรับนายเป็นอัศวินเดี๋ยวนี้เลย เพื่อให้สัญญานี้เป็น คำสัตย์ของอัศวิน จริงๆ
young Eygon - ชั้นก็ไม่ได้จะพูดเล่นเหมือนกัน ชั้นจะปกป้องเธอตลอดไปจริงๆ 

                          Eygon's Memory   #2

 Lloyd (ช่วงวัยรุ่น) : Eygon เป็นไงบ้างเพื่อน !
 Eygon (ช่วงวัยรุ่น) : ชั้นไม่เคย แบบ ไม่เคยรู้สึกดีแบบนี้มาก่อนเลยนะ Lloyd .. นายก็ไม่ได้ดูแย่หรอกนะ
 Lloyd (ช่วงวัยรุ่น) : ชั้นโอเค แต่ไม่ใช่กับไอ้พวกนั้น พวกที่ได้ไปอยู่ชายแดนนั่น โคตรน่าสงสารเลย 
General Gazlaen :  Eygon! Lloyd!
 Eygon (ช่วงวัยรุ่น) : นายพล Gazlaen !!
 Lloyd (ช่วงวัยรุ่น) : เป็นเกรียติกับเรามากครับที่ท่านมาถึงนี่ 
General Gazlaen : ไม่ต้องมากพิธีก็ได้น่า ชั้นแค่มาเพื่อบอกพวกนายว่าคืนนี้สนุกให้เต็มที่เพื่อเป็นเกรียติกับอัศวินอย่างพวกนาย ก็แค่นั้น 
 Eygon (ช่วงวัยรุ่น) : แน่นอนครับท่านแม่ทัพ ว่าแต่ ว่ากันว่าคืนนี้ท่านดยุคจะประกาศข่าวดีอะไรบางอย่างด้วยหรอครับ?
General Gazlaen : ใช่แล้ว จริงๆชั้นบอกกับนายตอนนี้เลยก็ได้นะว่า เลดี้ อมีเลีย กำลังจะหมั้นกับคนในตระกูล Lucarda 
 Eygon (ช่วงวัยรุ่น) : อมีเลีย งั้นหรอ? …. เดี๋ยวก่อนนะ ก็แปลว่าเรากำลังจะเป็นพันธมิตรกับ Lucarda หรอครับ?
General Gazlaen : ใช่แล้ว ดูเหมือนเขาทำกันมาระยะนึงแล้วนะ ตอนนี้ Be'elze กับ Lucarda กำลังจะเป็นหนึ่งเดียวกันอีกครั้งแล้ว แม้ว่าจะมีคนที่ไม่เห็นด้วยกับการหมั้นครั้งนี้ก็เถอะ
 Eygon (ช่วงวัยรุ่น) : คุณกำลังหมายถึง Fallne หรอครับ?
 Lloyd (ช่วงวัยรุ่น) : พวกมันแย่แน่ถ้าหาก  Be'elze กับ Lucarda เป็นหนึ่งเดียวกัน
General Gazlaen : ถูกต้อง พวกมันจะพยายามทำทุกทางเพื่อไม่ให้งานหมั้นครั้งนี้เกิดขึ้นแน่นอน และนั่นคือเหตุผลที่นายมาที่นี่  Eygon ชั้นมอบหมายให้นายคุ้มครอง เลดี้ อมีเลีย จนถึงวันแต่งงาน ทำทุกอย่างเพื่อให้เธอปลอดภัย 
 Eygon (ช่วงวัยรุ่น) : ครับท่านนายพล ผมจะปกป้องเธอด้วยชีวิต!
General Gazlaen : ดีมาก ชั้นคาดหวังว่าจะเห็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่จากนายนะ อัศวินหนุ่ม 
 Lloyd (ช่วงวัยรุ่น) : อ่ะนะ ฟังแล้วเหมือนงานจะเข้าแฮะ
 Eygon (ช่วงวัยรุ่น) : นายเคยบอกว่า พิษ และมนต์ดำคือ ศาสตร์ที่พวก Fallne ถนัดมาก เราต้องให้การ์ดของเราตรวจตราให้ดีไม่ให้เรื่องพวกนี้เกิดขึ้น 
Lloyd (ช่วงวัยรุ่น) : ชั้นไม่ได้หมายถึงเรื่องนั้น ... ชั้นหมายถึง นายกับ อมีเลีย ต่างหาก
 Eygon (ช่วงวัยรุ่น) : โห นั่นมันเรื่องตั้งแต่สมัยพระเจ้าเหาโน่น แปลกใจนะเนี้ยที่นายจำได้ ที่สำคัญ ขุนนางระดับสามอย่างชั้นจะไปเทียบอะไรได้กับ อนาคตดัชเชสแห่ง Be'elze กันล่ะ
Amelia - ไง ทำไมวันนี้พวกนายดูเครียดกัน? 
 Eygon (ช่วงวัยรุ่น) : ยินดีด้วยนะอมีเลีย ขอให้เธอมีความสุขมากๆนะ 
Amelia - อ้าว นายรู้แล้วหรอ? … ขอบใจมากนะ  Eygon  .... ฟังนะ ไอ้เรื่องการแต่งงานอะไรเนี้ยมันไม่ใช่เรื่องที่ชั้น แบบ ... 
 Eygon (ช่วงวัยรุ่น) : ชั้นว่าคงไม่เหมาะที่จะพูดกับเธอแบบที่เคยๆอีกต่อไปแล้ว ชั้นต้องไม่ลืมหน้าที่ของอัศวิน
Amelia - อืมม .. ใช่ ชั้นก็ว่าแบบนั้นก็ดีแล้ว ... ตรงนี้ดูอบอ้าวมากๆเลยอ่ะ ชั้นขอไปสูดอากาศข้างนอกหน่อยนะ 
Lloyd (ช่วงวัยรุ่น) :  Eygonไหนบอกจะปกป้องเธอด้วยชีวิตไง ตามไปดูแลเธอสิ!!
 Eygon (ช่วงวัยรุ่น) : อะ ... ได้ ได้สิ 


                           Eygon's Memory   #3

 Eygon (ช่วงวัยรุ่น) : อมีเลียมันอันตรายมากเลยนะถ้าเธอมาเดินข้างนอกโดยไม่มีการคุ้มกันแบบนี้
Amelia - นายเวอร์ไปหน่อยป่ะ ไม่มีอะไรเกิดขึ้นกับชั้นในปราสาทนี้หรอกน่า 
 Eygon (ช่วงวัยรุ่น) : แต่ชั้นปล่อยให้เธอออกมาคนเดียวโดยไม่คุ้มกันไม่ได้ เป็นคำสั่งโดยตรงจากท่านนายพลอ่ะนะ 
Amelia - งั้นที่นายมาที่นี่ก็เพราะคำสั่งสินะ!
 Eygon (ช่วงวัยรุ่น) : ห๊ะ? อะไรนะ?
Amelia - ช่างเถอะ ... ชั้นต้องขอตัวไปพักซักหน่อย ส่วนนายจะทำอะไรก็เชิญ
 Eygon (ช่วงวัยรุ่น) : ชั้นขอไปอยู่ข้างๆนะ 
Amelia - ก็ได้ ..
 Eygon (ช่วงวัยรุ่น) : นี่ทำให้นึกถึงตอนเราเป็นเด็กเลย
Amelia - นายเป็นอัศวินที่น่าภูมิใจของเจ้าหญิง Frundle เซอร์ Lucias .. นายจำไดเด้วยหรอ?
 Eygon (ช่วงวัยรุ่น) : ใครจะไปลืมล่ะ .. เร็วเข้า รีบเข้าไปแอบในปราสาทเดี๋ยวนี้! 
Amelia - ได้เลย เซอร์ Lucias .. โอ้ไม่นะ ยัยแม่มดชั่วมันมาแล้ว ฮ่าๆๆ คิดถึงเมื่อก่อนแล้วตลกดี   ... ฟังนะ  Eygon ..คือชั้น ..
 Eygon (ช่วงวัยรุ่น) : ชั้นรู้ ชั้นก็รู้สึกเหมือนกัน เพราะงั้นชั้นถึงสัญญาว่าจะปกป้องเธอด้วยชีวิต ชั้นเกิดมาเพื่อเธอ และยินดีที่จะตายเพื่อเธอ อมีเลีย 
Amelia - เพราะแบบนี้ นายถึงอยากจะเป็นอัศวินมาตลอดซินะ
 Eygon (ช่วงวัยรุ่น) : ชั้นจะมีเหตุผลอื่นอีกได้ไง ตั้งแต่เด็ก เธอคือคนเดียวที่ชั้นอยากปกป้อง 
Amelia - ไม่อยากจะเชื่อเลย พูดตรงๆ ชั้นคิดว่านายคงจะลืมไปแล้วซะอีก ... ขอบคุณนะ  Eygon แค่รู้ว่าเธอยังจำได้และรู้สึกเหมือนเดิมชั้นก็ดีใจแล้ว เอาล่ะ ชั้นพร้อมจะไป Lucarda แล้วล่ะ 
 Eygon (ช่วงวัยรุ่น) : ลมเริ่มแรงแล้ว เราเข้าไปข้างในกันเถอะ 
Amelia - อืมม 


--------------------------------------------------------------------------------------------------------------


                       Chapter 3 : An Unexpected Encounter 


Main Quest  2 เควส 
Hollow Blossoms ในพื้นที่ทั้งหมด 30 ดอก 
[สามารถเป็นได้ในบทที่ 3 จำนวน 15 ดอก และในบทที่ 4 จำนวน 15 ดอก] 
Verdant Blossoms ในพื้นที่ทั้งหมด 4 ดอก 
[สามารถเป็นได้ในบทที่ 3 จำนวน 2 ดอก และในบทที่ 4 จำนวน 2 ดอก]
แม้โอดินจะยังไม่รู้ตัวตนที่แท้จริงของ Valkyrie ที่เรียกตัวเองว่า Hilde ด้วยความระแวงต่อศัตรูลึกลับคนนี้ Valkyrie ยังคงทำภารกิจชำระล้างวิญญาณในมิดการ์ดเพื่อดูท่าทีต่อไป


                                Galdban Territory



Valkyrie –  ที่นี่คือเมือง Galdba ซินะ?
Eygon – ในยุคสมัยของผมที่นี่มีความเจริญมาก ทั้งขึ้นชื่อเรื่องเส้นทางการค้าและการทหาร ตอนนี้ถึงจะดูแย่ก็ยังมีเสนห์อยู่ ลองเดินกินลมชมวิวกันดีมั๊ย?
Valkyrie –  กินลมชมวิว ?
Eygon – แค่ล้อเล่นอ่ะน่า ไม่ต้องมองขนาดนั้นก็ได้ 
Valkyrie –   เรากำลังปฏิบัติภารกิจกู้โลกกันอยู่นะ การไม่โพกัสในหน้าที่ถือเป็นเรื่องที่รับไม่ได้!
Eygon – ชั้นเข้าใจแล้วน่า ภารกิจต้องมาก่อน ไม่ลืมหรอก ...... ไม่ให้ละสายตาเลยเนี่ยนะ โคตรกดดันเลยแบบนี้ 


Eygon – ต้นไม้นั่นมัน ... 
Valkyrie –  แค่รูปลักษณ์เท่านั้นที่เป็นต้นไม้ จริงๆแล้วเป็นที่รวมวิญญาณจำนวนมาก 
Eygon – นั่นหมายความว่ามันจะกลายเป็น Naglfar ในที่สุดงั้นสินะ?
Valkyrie – มันก็ไม่ใช่ทั้ง Naglfar หรอ Einherjar หรอก ก็แค่การรวมตัวของวิญญาณอันเศร้าหมองเท่านั้นแหละ



Eygon – หายไปแล้ว นั่นคุณกำลังชำระล้างให้มันงั้นหรอ?
Valkyrie – ใช่แล้ว
Eygon – ถ้าคุณสามารถชำระล้างวิญญาณอันเดทได้ด้วยการแตะพวกมัน แต่ในขณะเดียวกันก็ต่อสู้เพื่อกำจัดมันในบ้างครั้งด้วยเนี่ยนะ ...
Valkyrie – ชั้นสัมผัสได้ว่ามีพวกมันใกล้ๆแถวนี้อีก ลองเดินหาดูรอบๆกัน 


เป้าหมายแรกคือการเดินค้นหา ต้นไม้วิญญาณที่อยู่ในพื้นที่ เพื่อชำระล้างวิญญาณพวกมัน ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะพบได้ตามทางเดินที่ไม่มีความซับซ้อนในการค้นหาอะไร



                                    ตำแหน่งของ Hollow Blossoms 


มีแสดงให้เห็นเป็นจุดสีฟ้าแล้วในแผนที่ เข้าไปเก็บมาให้หมด 
โดย ตามข้อมูลของพื้นที่ Galdban นี้ระบุว่า มีทั้งหมด 30 ดอก แต่ที่สามารถเก็บได้ในบทที่ 3 นี้ จะมีให้เก็บเพียง 15 ดอก [ส่วนอีก 15 ดอก จะเก็บได้ในบทที่ 4] 

** ในกรณีดอกที่มีตำแหน่งที่หลบซ่อนหรือต้องทำเงื่อนไขในการเก็บแบบพิเศษจะระบุไว้ให้เพิ่มเติมตรงส่วนของการบรรยายการเดินทางอีกครั้ง ** 


ไอเทมสำคัญที่พบได้ระหว่างทาง
- Rune : Physical Attack Boost I  รูนติดอาวุธ บวกการโจมตีทางกายภาพ 30 
- Heal II : เวทย์ฟื้นฟูพลังชีวิตระดับ 2 


     ในพื้นที่นี้จะเริ่มพบบุพผาวิญญาณสถิตย์ รูปแบบใหม่ที่เรียกว่า Verdant Blossoms 



Valkyrie – อืมมม ทำไมถึงเป็นแบบนี้กันนะ
Eygon – มีอะไรหรอ Valkyrie?
Valkyrie – ชั้นไม่สามารถถอดรหัส บุพผาวิญญาณสถิตย์ สีเขียวดอกนี้ได้ 
Eygon – เป็นไปได้มั๊ยที่มันจะเสื่อมโทรมไปตามกาลเวลาของมันเอง 
Valkyrie – ไม่รู้เหมือนกันนะ แต่ชั้นไม่สามารถทำอะไรได้เลยถ้าอ่านจิตวิญญาณมันไม่ได้
Eygon – งั้นก็เก็บไว้ก่อนแล้วกัน เผื่อเราอาจจะหาทางแก้ไขมันได้ในภายหลัง 


หลังจากเก็บ Verdant Blossoms ดอกที่ 1 ได้แล้ว บอกไว้ก่อนเลยว่า บุพผาวิญญาณสถิตย์ สีเขียว นั้นเป็นคีย์ไอเทมสำคัญที่ต้องเก็บให้ครบ โดยจะมีทั้งหมด 9 ดอก เพราะจะส่งผลในการปลดล็อกฉากจบที่แท้จริง ซึ่งเป็นฉากจบที่ 4 ตอนท้ายบท 9

 
          เรียนรู้ทักษะ อัญเชิญเชิงสนับสนุน [Support Summoning Skills]   


โดยคุณสามารถตั้งค่าให้กับ Einherjar ที่จะอัญเชิญได้ในเมนู Support Summoning Setting โดยทักษะการอัญเชิญเชิงสนับสนุนในรูปแบบต่างๆที่สามารถปลดล็อกได้จาก Skill Tree ซึ่งก็คือ บรรดาท่าที่ต้องทำท่าใดท่านึงตอบโต้ศัตรูตามเงื่อนไขก็จะทำการอัญเชิญ Einherjar ออกมาร่วมทำคอมโจมตีแบบอัตโนมัติ  ซึ่งหากใช้งานทักษะการอัญเชิญเชิงสนับสนุนนี้จะใช้ค่า Soul ในการใช้งานน้อยกว่าที่เรียกมาแบบปกติ โดยสามารถเปิด – ปิดการใช้งานได้ว่าจะใช้ท่าไหน ด้วย ค่า CP

เมื่อเดินทางมาถึงทางเข้าโบสถ์คริสจักรแห่ง Licheltale แวะเก็บกุญแจในห้องทางซ้ายของทางเข้าโบสถ์เพื่อใช้ไขเปิดเข้าไปในโบสถ์ 


Eygon – ผมว่า ต้นไม้พวกนี้น่าจะไม่ใช่อะไรที่จะหาเจอง่ายๆซะแล้วนะ แต่ ลองมาคิดๆดูแล้ว ทำไมคุณไม่ช่วยบินขึ้นไปหาจากด้านบนเลยล่ะ  
Valkyrie – เพราะเราจะสามารถจัดการชำระล้างวิญญาณของพวกอันเดดได้มากขึ้นขณะที่เรากำลังเดินทางค้นหายังไงล่ะ 


Eygon – เงียบทำไม .. มีอะไรงั้นหรอ?
Valkyrie – เรากำลังถูกจับตามองอยู่ จากที่มุมห้องด้านนั้น

                                 แต่เดี๋ยวก่อน 


เมื่อเริ่มบังคับได้ ในโบสถ์แห่งนี้จะมีสิ่งสำคัญที่ต้องเก็บอยู่ 1 อย่างคือ Verdant Blossoms ดอกที่ 2 



ซึ่งจะอยู่ที่ชั้นบนของโบสถ์นี้ สังเกตดูจะพบบันไอทางขึ้นอยู่ ขึ้นไปเก็บมาก่อนที่จะเดินเรื่องต่อที่จุดหมายของภารกิจ


???? –ต้องขอโทษทีครับ คือ ผมไม่ได้ตั้งใจจะแอบดู แต่ผมไม่เคยเห็นคนมาแถวนี้นานแล้ว พวกคุณเป็นนักเดินทางหรอ?
Eygon – เอ่อ ....... เออ ใช่ เราเป็นนักเดินทาง ชั้น Eygon ส่วนนาง ...เอ่อ Maria แล้วนายล่ะเป็นใคร?


Armand – ผมชื่อ Armand ผมก็เป็นนักเดินทางเหมือนกัน ผมกำลังเดินทางเพื่อตามหาบางสิ่งอยู่ แม้โลกมันจะเป็นแบบนี้ก็เถอะ และ ถ้าให้เดา พวกคูณกำลังตามหาไอ้ต้นไม้แปลกๆนั่นอยู่ใช่ป่ะ ?
Eygon – เอาจริงๆก็ ใช่ 
Armand – ผมเห็นอยู่เพียงเลย ถ้าไม่ว่าอะไรให้ผมนำทางไปให้มั๊ยล่ะ?
Eygon – ถ้าได้จะขอบคุณมากๆเลย 


Valkyrie – เดี๋ยว ! ทำไมเราต้องเชื่อใจเขาด้วย? มันอาจจะเป็นกับดักก็ได้
Eygon – โว้ !!! คุณไม่ควรแบบนี้ โดยเฉพาะตอนอยู่ต่อหน้าเขานะรู้มั๊ย? และจากที่ผมประเมินแล้ว จากสภาพของเขา ถ้ามองว่าเสี่ยงมันก็มีความเสี่ยงๆบ้างเล็กๆน้อยๆ มันก็คุ้มที่จะเสี่ยงอยู่นะ
Valkyrie – ก็มีเหตุผล .. ตกลง เรายินดีที่จะรับคำแนะนำจากนาย 
Armand – โอเค งั้นตามผมมาเลย !


Eygon – เฮ้อออ ... ใครจะไปรู้ว่าทำงานกับเทพมันจะเหนื่อยใจขนาดนี้ 

เมื่อเดินทางออกด้านหลังต่อไปยังจุดหมายของภารกิจที่ลานกว้างด้านซ้ายบนของแผนที่ เตรียมตัวให้ดีก่อนพบ Boss ของบทนี้ ซึ่งไม่ได้อยู่ท้ายสเตทเหมือนทุกครั้ง 


Armand – นี่ไงต้นไม้ที่พวกคุณตามหาใช่ป่ะ?
Eygon – ใช่แน่นอน สุดยอดเลยนะนายเนี่ย
Valkyrie –  เดี๋ยวก่อน !!



               Valkyrie – เราจะส่งแกไปหา All-Father !!


                              Boss : Naglfar Cypher
ธาตุโจมตี – น้ำแข็ง 
แพ้ธาตุ - ไฟ 
จุดอ่อน - อยู่ที่หัวทั้ง 3 ด้านหน้าที่ใช้ในการโจมตี 



                                     Eygon – นี่ใครกันล่ะเนี่ย?



Valkyrie – เจ้าผู้มีจิตวิญญาณที่ทรงพลัง นามของเจ้าคือ?
Cypher – ชั้นหรอ? ...... คุณเรียกชั้นว่า Cypher ก็ได้ 
Valkyrie – Cypher เจ้าได้รับเลือกให้เป็นนักรบของทวยเทพ หากเจ้าแสวงหา เกรียติยศ จงจำมือชั้น 
Cypher – เกรียติยศ งั้นหรอ? มันไม่มีค่าอะไรเลยสำหรับชั้น ไม่มีอะไรเหลือสำหรับชั้นอีกแล้วในโลกนี้


Eygon – หาย จ้อย ....
Valkyrie –
ทำไมเธอถึงปฎิเสธเกรียติอันสูงสุดที่มนุษย์จะได้รับ  


Eygon – ผมว่าผมรู้นะว่าเธอรู้สึกยังไง ผมเองก็เคยปฎิเสธมาครั้งนึงเหมือนกัน จำไม่ได้หรอ?
Valkyrie – ทำตัวเข้าใจยากกันจริงๆเลย ช่างเถอะ เราไปหาต้นไม้พวกนั้นก็ต่อเถอะ



Valkyrie –  แต่ละครั้งที่เหล่าวิญญาณที่ยังไม่สู่สุขคติถูกชำระล้าง โอดินก็จะกลับยิ่งแข็งแรงมากขึ้น
Armand – เอ่อ แล้ว พวกคุณทำไปทำไมหรอ?
Valkyrie –  มันเป็นเรื่องที่อาจจะยากเกินกว่าที่คุณจะเข้าใจในตอนนี้ เอาเป็นว่า เราขอขอบคุณที่ช่วยนำทางให้เราก็แล้วกัน 
Armand – โอเค งั้นผมคงต้องขอตัวก่อนนะ บางทีเราอาจได้เจอกันอีกก็ได้ 


Eygon – ไอ้หมอนี่มันแปลกดีจัง 
Valkyrie –   แปลกยังไงหรอ?
Eygon – มันเหมือนเขากำลังตามหาอะไรซักอย่าง อะไรที่มันให้ความหวังและทำให้เขาแข็งแกร่งขึ้น แต่ก็เป็นเรื่องที่น่าเหลือเชื่อนะ ที่ความหวังมันทำให้ผู้คนผ่านอะไรไปได้จริงๆ
Valkyrie –   ชั้นไม่เข้าใจเรื่องพวกนั้นหรอก 


Valkyrie –  อ่ะ ..อั๊กกกก...
Eygon – เธอโอเคนะ ... เป็นอะไรรึเปล่า? 


???? – ห๊ะ?  ชั้นเป็นอะไรเนี่ย .... ชั้นได้สิ่งนี้มาได้ยังไง?  …. อ่า ... มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ทำไมชั้นจำอะไรไม่ได้เลยละ?  .... ชั้นต้องรู้ให้ได้ ..... อั๊กก ... อย่างน้อยก็ยังพอเดินได้อยู่  


... ชั้นไม่สามารถละความรู้สึกถึงมันได้จริงๆว่าชั้นกำลังลืมอะไรบางอย่าง บางอย่างที่สำคัญมากๆ


          ใครอยู่ตรงนั้นน่ะ นั่นใคร!  … คุณคือใครหรอ? 


Eygon – เฮ้ วัลคัลลี่ เธอโอเคนะ ... เป็นอะไรรึเปล่า?
Valkyrie –   ชั้นโอเค 
Eygon – อยู่ๆก็นิ่งไปเฉยเลย ถามอะไรก็ไม่ตอบ ฝันกลางวันอยู่รึไง?
Valkyrie –  นายไม่ต้องสนใจหรอก เรารีบตามหาส่วนที่ยังเหลืออยู่ของวิญญาณไซเฟอร์กันต่อเถอะ


รางวัลที่ได้รับ
หอก Baleygr หอกสีขาวนวลที่อบอวลไปด้วยพลังแห่งทวยเทพ โจมตีช้า แต่สามารถจัดการศัตรูได้พร้อมๆกันหลายตัว


เป้าหมายต่อไปคือ ออกตามหา ส่วนที่ยังเหลืออยู่ของวิญญาณไซเฟอร์

Valkyrie จึงต้องใช้การทำสมาธิระดับจิตวิญญาณ ( Spritual Concentration) เพื่อเขาถึงตัวตนมนุษย์ที่ยังเหลืออยู่ของ บุคคลที่อาจจะกลายเป็น Einherjar ได้ 


ใช้งานโดยการกด LS+RS จะเกิดฝูงผีเสื้อขึ้นมาแล้วออกนำทางไปยังจุดเหตุการณ์ที่ความเป็นมนุษย์ของวิญญาณยังผูกพันอยู่ อีกครั้ง 



ไอเทมสำคัญที่สามารถเก็บได้
- Physical Damage Reduction I Rune ติดอาวุธที่ลดความเสียหายทางกายภาพ 2 %
- Ambrosia ไอเทมเพิ่มขีดจำกัดของเกจพลังชีวิตให้ยาวขึ้น
- Mortal Suppression I Divine Art ที่ดึงศัตรูที่อยู่บริเวณใกล้เคียงเข้ามารวมกัน ส่งผลกับศัตรูที่แพ้ธาตุสายฟ้า 
- Grave Edge II Divine Art ท่าพุ่งโจมตีทางกายภาพระดับ 2 ที่สามารถใช้แกนอนาล็อกบังคับเปลี่ยนทิศทางวิ่งโจมตีไปมาได้อีกหลายรอบ และรุนแรงจนศัตรูไม่สามารถการ์ดป้องกันได้  ส่งผลกับศัตรูที่แพ้ธาตุความมืด 


Subquest 
Mine Beloved Land 
An Old man’s Discerning Eye 


วัตถุวิญญาณชิ้นแรก 
Slave Rags ชุดที่สกปรกเหมือนผ้าขี้ริ้ว ซึ่งเป็นเสื้อผ้าที่ Cypher เคยใช้ตอนเป็นทาส


วัตถุวิญญาณชิ้นที่ 2 
Earrings of  Fellowship  ต่างหูของ Cypher เคยใช้เมื่อชาติปางก่อน 


ที่จุดเซฟสุดท้าย ของพื้นที่นี้


ด้านบนของห้องจะมี Hollow Blossoms ดอกที่ 15 ซึ่งเป็นดอกสุดท้ายที่เก็บได้ในบทนี้ 


ต้องใช้เงื่อนไขพิเศษในการข้ามไปเอา โดยตอนนี้ด้วยอาวุธที่มี ทำได้แค่ สวมใส่อาวุธ Bolverkr แล้ววิ่งขึ้นจากบันไดด้านหลัง กระโดดสองชั้นข้ามไปชั้นลอยตรงข้ามกับระเบียงให้มากที่สุดแล้วกดคอมโบดาบ สี่เหลี่ยม > สามเหลี่ยม ก็จะสามารถลอยตัวข้ามไปถึงได้ (แต่อาจจะยากหน่อย) 

แต่ถ้าใช้ ดาบ Gagnrathr โดดสองชั้นจากระเบียงให้เข้าไปใกล้พื้นตรงข้าม กดคอมโบ สี่เหลี่ยม / สีเหลี่ยม / สามเหลี่ยม จะทำได้ง่ายกว่า 
** ดาบ 
Gagnrathr ได้จาก Sidequset ของ Eygon ชื่อ Thanks to a Comrade (1)  ** 


วัตถุวิญญาณชิ้นที่ 3 
Plague Cure ขวดยารักษาโรคระบาดของ Cypher

เมื่อเก็บ วัตถุวิญญาณชิ้นที่ 3 แล้ว พื้นที่จะถูกแช่แข็งด้วยน้ำแข็ง ระหว่างทางที่จะลงไปยังคุกของพ่อค้าชั้นล่างสุด ซึ่งเป็นพื้นที่ที่สะท้อนสภาพจิตใจที่ขัดกันของ Cypher 


ซึ่งทำให้จะมีธนูของเธอพุ่งยิงเข้ามาตลอดทางซึ่งเป็นการโจมตีที่ทำให้บาดเจ็บทั้งกับ Valkyrie และศัตรูที่ออกมา ทำให้ต้องต่อสู้แบบเคลื่อนที่ไปมาไม่ให้อยู่เป็นเป้าตลาดทางจนถึงคุกด้านล่างกับ วัตถุวิญญาณชิ้นสุดท้าย ที่ซ่อนอยู่


           Timeworn Abacus  ลูกคิดที่แม่ของ Cypher ให้ไว้ในตอนเด็ก 



Cypher – แหม่ๆ ตามเจออีกจนได้แฮะ 
Valkyrie – ไซเฟอร์ โลกนี้กำลังล่มสลาย จับมือชั้นแล้วลุกขึ้นสู่ในฐานะ Einherjar เถอะ
Cypher – ชั้นว่า ที่เคยตอบไปนั่นก็ชัดเจนแล้วนะ 
Valkyrie – แล้ว เพราะอะไรเธอถึงปฎิเสธหรอ?


Cypher – ชั้นไม่ใช่คนที่เกิดมาเพื่อเป็นนักสู้อะไรแต่แลกแล้ว ไม่มีคุณสมบัติที่จะเป็นนักรบที่ถูกเลือกอะไรหรอก อย่างชั้นมันก็ทำได้แค่นั่งนับเงิน ซึ่งตอนนี้ก็ทำแบบนั้นไม่ได้แล้วด้วย 


Eygon – ฟังนะ ไซเฟอร์  โลกทั้งใบซึ่งเป็นที่อยู่ของสิ่งที่เรารู้จักและเคยรักมันกำลังจะถูกทำลาย ชั้นได้สูญเสียบ้านเกิดและคนรักไปแล้ว ชั้นก็เหมือนเธอนั่นแหละ ไม่ใช่มนุษย์อีกแล้ว 


แต่ ลึกๆแล้ว ชั้นรู้สึกว่า เรายังสามารถที่จะทำอะไรได้อีก  ชั้นจะไม่ยอมหาไปทั้งที่ภารกิจยังไม่เสร็จ และก็พนันได้เลยว่าเธอเองก็คิดเหมือนกัน


Cypher – ชั้น ... ชั้นก็แค่ อยากทำทุกอย่างให้มันถูกต้องก็เท่านั้นเอง !


Valkyrie – แต่ถ้าโลกสูญสิ้นไปแล้ว เธอก็จะเสียโอกาสที่จะทำแบบนั้นไปตลอดกาลนะ  


             ไซเฟอร์ ชั้นจะให้พลังเพื่อให้เธอปกป้องโลกใบนี้ 





-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------


                                           Vallhalla


Nora Valkyrie – ชั้นกลับไปยังมิดการ์ดมาค่ะ ท่านพระบิดาแห่งทวยเทพทั้งมวล
Odin – ภารกิจชำระล้างวิญญาณให้บริสุทธิ์ของเจ้าเป็นไปด้วยดี ข้าเห็นแล้ว ด้วยความพยายามของเจ้า ทางรอดของโลกใกล้เข้ามาทุกทีแล้ว 
Nora Valkyrie – ชั้นจะทำทุกทางอย่างสุดฝีมือที่จะทำให้โลกนี้ปลอดภัยค่ะท่าน 
Odin – และข้าก็คาดหวังกับเจ้าว่าทำได้มากกว่านั้น เพราะงั้นข้าถึงออกคำสั่งต่อไปให้เจ้าออกไปทำหน้าที่ต่อไงล่ะ


Odin – เรือในตำนาน Skidbladnir มีความสำคัญต่อความสำเร็จในภารกิจของเรามากๆ เพื่อที่จะควบคุมมัน เราจำเป็นต้องมีของวิเศษบางอย่าง ข้าต้องการให้เจ้าไปค้นหาของวิเศษ 4 อย่างที่รู้จักกันดีว่า Four gifts ประกอบด้วย 

หอกศักดิ์สิทธิ์ Gungnir  … ดาบปีศาจ Laevateinn … แหวนทองคำ Draupnir และสุดท้าย เขา Gjallarhorn  

สิ่งเหล่านี้ถูกเก็บรักษาอย่างดีในแอสการ์ดมาหลายชั่วอายุคน แต่ก็สูญหายไปในช่วงที่มิดการ์ดกำลังระส่ำระสายเพราะสงคราม 



Nora Valkyrie – ดังนั้น ชั้นจึงต้องไปหาของทั้ง 4 ชิ้นเพื่อนำกลับมาที่แอสการ์ดใช่มั๊ยคะ? 
Odin – .ใช่แล้ว และเจ้าต้องรีบหน่อยเพราะเวลาเริ่มเหลือน้อยแล้ว และเจ้าจะสัมผัสถึงพลังของของวิเศษเหล่านี้ได้เมื่อเจ้ากลับไปยังมิดการ์ด 
Nora Valkyrie – ชั้นจะไม่ทำให้ผิดหวังค่ะท่าน พระบิดาแห่งทวยเทพทั้งมวล




                                   Galdban  Subquest 

                              O’Mine Beloved Land 

จิตวิญญาณผู้เย่อหยิ่งที่ยังหลงเหลืออยู่ในมิดการ์ดไม่สามารถส่งต่อความกังวลที่เขามีต่อบ้านเกิดที่เขาเคยปกครองได้ เขาปรารถนาที่จะเดินทางไปยังสถานที่แห่งนึงเพื่อที่เขาจะได้เห็นกับตาตัวเองอีกครั้ง 


Eygon – วาลคิลี่ ได้โปรด พอจะมีทางใดที่จะช่วยวิญญาณท่านลอร์ดที่น่าสงสารนี้ได้บ้าง? 
Valkyrie – ได้สิ งั้นไปกัน 


เดินทางเข้าไปในเมือง Galdban ตามจุดเป้าหมายภารกิจที่ขึ้นมาจนพบวิญญาณเป้าหมาย


วิญญาณของขุนนาง – นี่มัน เป็นไปไม่ได้ นี่ข้า ......บ้านเมืองของข้า ประชาชนของข้า .. ทำไมกัน ...ทำไมมมมมมม???!!!  ....Grrrrrrrrrrrrr !!!!
Eygon – อะไรเนี่ย??
Valkyrie – มันกำลังโจมตีเรา เตรียมตัวไว้!!


เมื่อวิญญาณขุนนางเกิดควบคุมตัวเองไม่ได้จนกลายร่างเป็น Thor’s Beast ซึ่งเป็นศัตรู รูปแบบใหม่ในเกมที่เพิ่งปรากฎตัวออกมา จัดการ Thor’s Beast ทั้ง 2 ตัวที่ออกมาให้หมด 
** Thor’s Beast แพ้ ธาตุ น้ำแข็ง ** 


Eygon –  ขอโทษด้วยนะวาลคิลี่ ถ้าไม่ใช่เพราะผมยุ่งเกินไป เขาก็คงไม่ ....
Valkyrie – ไม่ต้องไปสนใจเรื่องพวกนี้ให้เสียเวลาหรอก มุ่งมั่นไปที่ภารกิจหลักของเราจะดีกว่า


รางวัลที่ได้หลังจบเควส
RUNE: Magic attack Boost II
Soul Ambrosia


                        An Old man’s Discerning Eye 

วิญญาณของชายชราที่เคยเป็นพ่อค้ากำลังเศร้าใจกับสิ่งที่เขาเคยชอบแต่ไม่สามารถจะเห็นศักยภาพของมันได้อย่างเต็มที่เหมือนเดิม 


Cypher – ดูเหมือน ภารกิจนี้น่าจะเหมาะกับนายนะ 
Eygon –  อืมม ใช่ งั้นไปกันเถอะ!

  ลุยเข้าไปในปราสาท Galdban จัดการศัตรูตามทางให้หมดจนถึงจุดที่มีวิญญาณอยู่ 


วิญญาณพ่อค้า – โอ้ ท่านกลับมาแล้ว แล้ว ท่านคิดว่าไงบ้างล่ะ ?
Eygon –  ดาบนั่น เบายิ่งกว่าขนนก แต่คมอย่างหาที่สุดไม่ได้ ....ข้าคิดว่าเจ้าทำได้ดีที่สุดแล้วล่ะ
วิญญาณพ่อค้า – จริงหรอครับ? งั้นที่ผ่านมาข้าก็คิดถูกมาตลอดสินะ ข้าดีใจที่สุด เอาล่ะ ข้าจะได้ไปสู่สุขคติเสียที ข้าไปก่อนนะ 


รางวัลที่ได้หลังจบเควส
ดาบ Gagnrathr 
Ambrosia

                         Einherjar Subquest

เมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม คุณจะสามารถรับภารกิจย่อยจาก Einherjar ที่อยู่ที่วัลฮาล่าได้ จุดประสงค์คือ ปลดล็อคท่าโจมตีใหม่ๆของ Einherjar ตนนั้น

ตอนนี้ สามารถคุยกับ Eygon ที่ Vallhalla เพื่อปลดล็อค Subquest ส่วนตัวของเขาได้


Eygon –   ฟังนะ วาลคิลี่ คือ ผมมีเรื่องบางอย่างจะขอร้องคุณนิดหน่อย 
Valkyrie – ขอร้อง หรอ...?
Eygon –  ข้าอยากจะกลับไปที่ Be’elze หน่อยน่ะ ข้ารู้สึกอย่างจะเรียนรู้อะไรบางอย่างที่นั่น 
Valkyrie – เพื่ออะไร?
Eygon –  บอกตามตรง ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่รู้สึกว่าตัวอยากจะกลับไปที่นั่น 
Valkyrie – ก็ได้ ก็ทำให้มันจบๆไปจะได้ไม่ต้องค้างคาใจอ่ะนะ 
ปลดล็อก Subquset : Thanks to a Comrade #1 ในเมนู Subquset ในพื้นที่ Be’elzean 


                                     Be’elzean

                 Subquset : Thanks to a Comrade #1


Eygon –  นั่นมัน ... ไม่ ..ไม่น่าเป็นได้ 
Valkyrie – นายมีปัญหาอะไรงั้นหรอ?
Eygon –   มันเหมือนมีอะไรบางอย่างดึงดูดผมให้ไปที่นั่น โทษทีนะ แต่ ..เอ่อ คุณช่วยทำให้ผมหัวเราะหน่อยได้มั๊ย นิดนึงก็ได้ 
Valkyrie –   ………… 


            ลุยศัตรูเข้าไปตามทางจนถึงจุดเป้าหมายของภารกิจ                        


Eygon –   ……………….
Valkyrie – สรุปว่า ที่ทำมาทั้งหมดนี่เพื่อ?
Eygon – ผมเห็นมอนสเตอร์ที่มันถือดาบ มันดูเหมือนเพื่อนคนนึงที่ผมเคยรู้จัก 
Valkyrie – แล้ว?
 Eygon –  ไม่มีอะไร ...ผมอาจเข้าใจผิด ขอโทษที่ทำให้คุณต้องเสียเวลานะ 
Valkyrie –  ถ้าเสร็จเรื่องที่นี่แล้ว เรากลับก็กันได้แล้ว
Eygon –  ชัวร์ ได้สิ 

รางวัลที่ได้หลังจบเควส
[Divine Art]  Meteor Swarm I  เวทย์สายฟ้าที่ใช้โจมตีศัตรูด้วยเสาสายฟ้าหลายเสา 
** มีผลกระทบต่อศัตรูที่แพ้ธาตุดิน ** 

ท่าโจมตีพิเศษของ Einherjar Eygon
-[Einherjar Attacks]  Voltage 
-[Normal Move]  Impulse 


เรียนรู้เกี่ยวกับ ท่าโจมตีพิเศษของ Einherjar
เข้าไปที่เมนู Einherjar จะเห็นช่องกำหนดการโจมตี 2 แบบของ Einherjar ตนนั้นๆ
Einherjar Attacks – คือท่าโจมตีแรกที่ Einherjar ใช้เมื่ออัญเชิญเขาออกมาร่วมต่อสู้
Normal Move – คือ ท่าโจมตีทั่วไปที่ Einherjar ใช้โจมตีศัตรู
Summon Time – ระยะเวลาในการอัญเขิญมากับ ค่า Soul ที่ใช้


     เศษวิญญาณของ ไอย์กอน [Eygon 's Soul Remnant ]

                           Eygon 's Memory #4

 Eygon [ช่วงวัยรุ่น] –  ไง เธอออกไปรึยัง?
 Lloyd [ช่วงวัยรุ่น] – รีบหรอ? ท่าน ผบ อัศวิน การเตรียมตัวของเจ้าสาววัยใสไม่ใช่เรื่องที่จะรีบร้อนได้หรอกนะ 
Eygon [ช่วงวัยรุ่น] –  ชั้นยังไม่ชินกับการเรียกแบบนั้นเลยวะ เอาจริงๆนี่ก็เป็นครั้งแรกของชั้นเหมือนกันสำหรับหน้าที่การรักษาความปลอดภัยของราชวงศ์อ่ะนะ 
Lloyd [ช่วงวัยรุ่น] – ด้วยการที่มีนายพร้อมกองทหารเล็กๆจาก Lucarda ชั้นคิดว่าเธอไม่เป็นไรหรอกน่า ว่าแต่ นายทำหน้าที่เครียดๆมาทั้งวัน จะยิ้มไหวมั๊ยดีกว่า ... นั่น Amelia  เธอออกมาแล้ว  ว้าว เธอใส่ชุดนั้นแล้วดูดีมากๆอ่ะ
Eygon [ช่วงวัยรุ่น] –  ใช่ เธอโคตรสวยเลยวะ ...
Amelia – ขอบคุณทุกท่านที่มารวมตัวกันในวันนี้ วันนี้ ชั้นจะพา Be’elze อันเป็นที่รักของชั้นและทุกคนไปยังทุ่งหญ้าแห่งใหม่ใน Lucarda  ชั้นจะไม่มีวันลืมที่นี่และผู้คนที่แสนวิเศษที่เรียกมันว่า บ้าน ของพวกเขา ชั้นขอให้ทุกท่านอายุมั่นขวัญยืนพบแต่ความเจริญรุ่งเรือง 
Eygon [ช่วงวัยรุ่น] –  Amelia ถึงเวลาแล้วนะ 
Amelia – ค่ะ โอเค   ยังไงก็ขอแสดงความยินดีกับการเลื่อนตำแหน่งของนายด้วยนะ Eygon ถือว่าเป็นลางดีที่ได้ยินเรื่องดีๆก่อนออกเดินทาง 
Eygon [ช่วงวัยรุ่น] –   เธอคู่ควรกับสิ่งดีๆที่โลกนี้สามารถให้ได้ ชั้นเชื่อว่าทุกคนที่ Lucarda   จะเข้ามาโอบกอดคุณเหมือนที่พวกเราทำกันที่นี่ 
Amelia – ขอบคุณ ชั้นก็หวังอย่างนั้นเหมือนกัน ชั้นจะไม่มีวันลืมเธอนะ Eygon
Lloyd [ช่วงวัยรุ่น] – ชั้นแอบดูอยู่ก็ลุ้นแทบตาย กลัวว่านายจะยับยั้งชั่งใจไม่ไหวจนวิ่งตามเธอไปซะแล้ว
Eygon [ช่วงวัยรุ่น] –   ชั้นไม่มีวันลืมหน้าที่ของชั้นในฐานะอัศวินแห่ง Be’elze หรอกน่า
Lloyd [ช่วงวัยรุ่น] – รู้มั๊ย นายผูกมัดตัวเองด้วยเงื่อนของตัวเองไปทำไม ถ้านายไม่ได้เป็นเหมือนเดิมอีกแล้ว 
Eygon [ช่วงวัยรุ่น] –    แบบนี้แหละดีที่สุดแล้ว เพื่อประโยชน์สำหรับทุกคน สิ่งที่ชั้นต้องการจาก Amelia คือ การเห็นเธอมีความสุข มีชีวิตที่ยืนยาวและพบเจอสันติสุขของชีวิต  


                       CHAPTER 4: Victim of the Gods

ขณะที่หน้าที่ชำระล้างวิญญาณให้บริสุทธิ์ของวัลคิลี่กำลังดำเนินไป โอดีนก็ได้มอบหมายภารกิจใหม่ นั่นคือ ตามหาและฟื้นฟูสมบัติล้ำค้า 4 อันที่สูญหายไปในเมื่อตอนยุค สงครามแอสการ์ด อันประกอบด้วย หอกศักดิ์สิทธิ์ Gungnir  … ดาบปีศาจ Laevateinn … แหวนทองคำ Draupnir และสุดท้าย เขา Gjallarhorn  กลับคืนมา

วัลคิลี่จึงเดินทางมาที่ ดินแดนกัลด์บัน อีกครั้งเพื่อตามหาสมบัติชิ้นแรกที่สูญหายไป


Eygon –  เป็นอะไรที่ท้าทายมากๆนะ ที่คุณถูกส่งมาหาสมบัติของขวัญอะไรนั่นทั้งที่ไม่เคยเห็นมันมาก่อนว่าหน้าตาเป็นยังไง แล้วเราควรเริ่มต้นยังไงดีล่ะเนี่ย?


Valkyrie – ของขวัญทั้ง 4 นั้นมีพลังมหาศาลตอนที่อยู่ในมิดการ์ด ซึ่งพลังของมันต้องส่งผลกระทบต่อพื้นที่โดยรอบอย่างแน่นอน   
Cypher – เดาว่าเราควรมองหาสถานที่ที่มีบางสิ่งที่แปลกๆเกิดขึ้น 
Valkyrie – ใช่ เราจะชำระล้างวิญญาณไปเรื่อยๆแล้วก็พยายามมองหามันไปด้วยก็แล้วกัน 


Galdban Territory ในบทที่ 4 จะมี 
Howllow Blossoms  15 ดอก เมื่อเก็บของบทนี้ครบ ก็จะครบ 30 ดอก



Verdant Blossom 2 ดอก เมื่อเก็บของบทนี้ครบ ก็จะครบ 4 ดอก


ทุกดอกจะขึ้นให้เห็นบนตำแหน่งในแผนที่หมดแล้ว ไม่มีดอกไหนซ่อนหรือต้องมีสกิลพิเศษในการเก็บ พยายามแวะเก็บให้หมดก็จะครบตามจำนวนของพื้นที่ภายในรอบเดียว


Side Quest จะมี 2 เควส ซึ่งก็วางให้เห็นในแผนที่โดยไม่ได้หลบซ่อน 



วิญญาณนักรบรับจ้าง – บ้าเอ้ย ไอ้พวกมอนสเตอร์ทำไมทำกับข้าแบบนี้

ปลดล็อก Side Quest : Years of Ill Will



วิญญาณนักแต่งนิยาย – ข้าเพิ่งเขียนถึงแค่ฉากที่สองพี่น้องทะเลาะกัน แต่ดูเหมือนจะไม่เวิร์ค พอเธอสองคนเข้ามาบางทีพวกเธออาจช่วยข้าได้ ใช่มั๊ย?  แค่พวกคุณแสดงให้เห็นว่า นักรบที่แท้จริงเคลื่อนไหวยังไง ข้าแน่ใจว่าจะทำให้ข้าเข้าใจถึงฉากนั้นได้ดีขึ้น

ปลดล็อก Side Quest : The Unfinished Masterpiece 

เมื่อเก็บ Side Quest 2 ภารกิจนี้ได้ หากทำสำเร็จ Side Quest ในพื้นที่ก็จะครบ 4 ภารกิจ 


ระหว่างทางต้องเรียนรู้การข้ามพื้นที่ที่ข้ามไม่ได้ด้วยสกิลพื้นน้ำแข็งของ Cypher ต่อไปจนถึงพื้นที่ลานกว้างหน้าอาคารขนาดใหญ่กลางพื้นที่ก็จะพบกับ Hilde อีกครั้ง


Valkyrie –  .......... 
Cypher – มีอะไรงั้นหรอ?


Valkyrie – นั่นมัน ..
Hilde –  หืมมม แหม เจอกันอีกจนได้ 
Cypher – เธอ ... Valkyrie  อีกคน ?



Hilde –  โอ้วว งั้นเธอก็ Einherjar อีกตนสินะ ?  


      เธอนี่ขยันค้นหาดีจังในขณะที่ Midgard กำลังระส่ำระสาย 


Hilde –  ว้าว !! ดูเธอมีชีวิตชีวามากกว่าครั้งก่อนที่เราเจอกันอีกนะเนี่ย
Valkyrie – เธอขวางทางในภารกิจของ All – Father เธอต้องถูกกำจัด !


Hilde –  งั้นหรอ ? ... โถนังวิญญาณผู้น่าสงสาร ถ้าอยากจะตายนักก็เชิญเข้ามา!!


>>>  เข้าต่อสู้กับ  Hilde เป้าหมายคือ ทำให้พลังนางลดให้เหลือน้อยที่สุด การต่อสู้ก็จะจบลง


Hilde – อืมมม พัฒนาฝีมือขึ้นกว่าเดิมนี่นา  
Valkyrie – บางที เธออาจจะหลงกลเทพผู้ล่วงลับไปแล้ว ชั้นจะทำให้ตายเร็วขึ้น อย่างน้อยนั่นก็เป็นสิ่งที่เธอควรได้รับมัน
Hilde – โอ้ ชั้นอ่ะนะ ฮ่าๆๆๆๆ 
Valkyrie –  ชั้นไม่เห็นจะขำเลยซักนิด 
Hilde – หลงผิด ชั้นน่ะหรอ ? จากคำพูดของคนที่เสวยสุขจากการเป็นหุ่นเชิดของโอดีนอย่างเธออ่ะนะ 
Valkyrie –  เธอลืมไปแล้วหรอว่าเราเกิดมาเพื่ออะไร? Valkyrie มีหน้าที่รับใช้โอดีนเท่านั้น 
Hilde – เธอไม่รู้หรอกว่าพูดอะไรออกมา 
Valkyrie –   แน่นอน ไม่เหมือนเธอที่ชอบพูดแต่เรื่องไร้สาระ 


Hilde – เข้าใจแล้ว  … เธอคงยังไม่ ...
Valkyrie –   ทำไมเธอถึงหยุดสู้ล่ะ !!
Hilde – เพราะชั้นรู้แล้วว่า สู้ไปมันก็เสียเวลาน่ะสิ 
Valkyrie –   อะไรนะ!??
Hilde – ในตัวชั้นยังมีความเมตตาเหลืออยู่พอที่จะไว้ชีวิตเหยื่อของโอดีนอีกคน ก็เท่านั้น 


Valkyrie –  ชั้นปล่อยนางให้หนีไปได้อีกแล้ว ...
Cypher – ชั้นรู้สึกว่า เธอรู้อะไรบางอย่างที่เราไม่รู้นะ 


Valkyrie –  ชั้นไม่สนหรอกว่าเธอจะพูดอะไรออกมา
Cypher – คุณว่ามันจะมีความเป็นไปได้มั๊ยที่เธอจะทำงานให่โอดีน เป็นอีกภารกิจนึงอะไรแบบนี้อ่ะ
Valkyrie –  ถึงแม้จะเป็นแบบนั้นก็เถอะ ชั้นก็ไม่เห็นว่าจะมีเหตุผลอะไรที่ต้องมองเราเป็นศัตรูเลยนี่
Eygon –  แปลกที่อยู่ๆเธอก็หยุดสู้กับเราไปซะงั้น มันต้องมีอะไรแน่ๆเลยแบบนี้ 
Valkyrie –  เรื่องนั้นชั้นก็ไม่รู้เหมือนกัน 
Cypher – เราควรจะไล่ตามเธอไปดีมั๊ย? น่าจะยังทันอยู่นะ 
Valkyrie –   ไม่ ภารกิจเราคือ ตามหาของขวัญ เรื่องนั้นสำคัญกว่า 


Valkyrie –   เธอหมายความว่ายังไงกันนะ “เหยื่ออีกคนของโอดีน” 


หลังจบการต่อสู้กับ Hilde  >>> เข้าไปที่จุดเซฟทางเหนือของแผนที่แล้วขึ้นบันไดด้านบนของอาคารต่อ  ขึ้นไปตามบันไดวนผ่านห้องต่างๆจนถึงห้องโถงชั้นบนสุด 


Eygon –  ที่นี่งั้นหรอ ? ที่นี่ไม่เห็นจะมีอะไรเลยนอกจากน้ำนองจนเฉอะแฉะไปหมด ..
Valkyrie –   ที่นี่แหละ ชั้นสัมผัสถึงพลังที่ยิ่งใหญ่อยู่ใกล้ๆ
Cypher – ไม่แน่ ของขวัญ ชิ้นนี้อาจจมอยู่ด้านล่างก็ได้มั้ง?
Valkyrie –   เดี๋ยว ! มีบางอย่างกำลังเข้ามา !!!


Cypher – พวกนั้นมัน !??
Eygon –  Naglfar!! …และมาเพียบเลยด้วย 
Valkyrie –  เราต้องชำระล้างมันให้หมด อย่ามัวแต่ลังเล 


                     >> กำจัด BOSS – Charybdis 


Valkyrie –  มันเอา ของขวัญ เก็บไว้ที่ตัวมัน ดูสิ พลังงานของมันกำลังรวมตัวกัน 




Cypher – งั้นนี่ก็คือหนึ่งใน 4 ของ ของขวัญ สินะ ?  ถ้าจะให้เดา นี่คงเป็น หอกศักดิ์สิทธิ์ Gungnir 



                                   Spear of Gungnir  




Gungnir (กุงนีร์) เรียกอีกอย่างว่า "หอกแห่งสวรรค์" เป็นหอกที่ทรงพลังที่สุดของ Odin ในขณะที่หอกธรรมดาโจมตีได้แค่เป็นเส้นตรง แต่ Gungnir (กุงนีร์) สามารถเคลื่อนไหว พลิก-บิด ไปมาในการต่อสู้จนถูกขนานนามว่า  “The Swaying One” (ผู้พริ้วไหว) นั่นทำให้มันโจมตีถูกเป้าหมายเสมอไม่ว่าผู้ใช้จะมีทักษะหรือพละกำลังเท่าใดก็ตาม ยังไม่รวมคุณสมบัติทางเวทมนตร์ ที่ช่วยเพิ่มพลังสายฟ้าของ Odin ให้มากขึ้นอีกหลายเท่าตัว

ประวัติของ หอกสามง่าม Gungnir นั้นหลากหลายตามแต่ที่ถูกบทกลอนโบราณต่างๆ 
พรรณนาถึง

บ้างก็ว่า ไม่มีใครทราบที่มา แต่เกิดก่อนสามชาติสุดท้ายของโอดิน ใน "การเกิด" ของ Odin ในรุ่งอรุณของประวัติศาสตร์ Asgard เขาพบ Gungnir บนที่ราบ Ida และใช้มันเพื่อใช้ในการสร้าง Asgard 

แต่ถ้าจะให้ง่ายต่อความเข้าใจและเป็นรูปธรรมที่สุดก็ต้องอ้างตามบทกวี Edda 

ซึ่งที่มาของ Gungnir (กุงนีร์) นั้น เริ่มต้นจากหลังจากที่ โลกิ ได้ทำผมสีทองของ Sif ภรรยาของธอร์ขาด และด้วยความกลัวที่ธอร์จะเอาเรื่อง โลกิ จึงมีความจำเป็นต้องหาผมใหม่มาทดแทนให้ Sif  จึงเดินทางมาที่  Svartalfheim แล้วมอบหมายให้ Sons of Ivaldi กลุ่มคนแคระที่เป็นช่างฝีมือที่เก่งที่สุด ทำผมเวทย์ทรงใหม่ให้  ซิฟ ภรรยาของธอร์ และด้วยการที่โลกิต้องการใช้สถานกาณ์นี้ในการหาประโยชน์พร้อมกับเป็นการไถ่โทษในสิ่งที่ทำลงไป ด้วยการล่อลวงของ โลกิ ทำให้เหล่า Sons of Ivaldi สร้างอาวุธและไอเทมที่ทรงพลังขึ้นมาอีกหลายอย่าง  เมื่อโลกิกลับไปยังแอสการ์ดพร้อมกับ ของขวัญ เหล่านี้ให้กับเหล่าทวยเทพเพียงเพื่อชดเชยสิ่งที่เขาทำกับ ซิฟ เหล่าทวยเทพพอใจกับของขวัญที่ได้จนลืมไปว่าโลกิได้มาเพราะเขาได้กระทำความผิดต่อภรรยาของธอร์ 

และ หอก Gungnir (กุงนีร์) นี้ก็เป็นหนึ่งใน ของขวัญ ที่โลกิมอบให้กับ Odin 

Source 
https://en.wikipedia.org/wiki/Gungnir
https://norse-mythology.org/gungnir/


Eygon –  ไอ้ Naglfar ตัวนั้นใช้ประโยชน์จากพลังจากมัน นั่นแหละคือเหตุผลที่พวกมันสามารถต่อสู้กับเราได้ 
Valkyrie – และพวกมันไม่สามารถควบคุมได้อย่างสมบูรณ์ พลังของมันจึงปนเปื้อนทั่วไปหมด 


Cypher – เอาล่ะ ตอนนี่ก็ได้ของขวัญชิ้นแรกมาแล้ว 
Valkyrie – มันจะสร้างหายนะได้ไม่สิ้นสุดถ้ามันยังอยู่ในมิดการ์ด เราต้องรีบส่งมันไปที่ Asgard ให้เร็วที่สุด 


                               วัลฮัลลา (Valhalla) 
                              หอวีรชนแห่งโอดิน


Valkyrie – ข้าแต่ All-Father ชั้นได้ทวงคืน ของขวัญ มาได้ 1 จาก 4 ชิ้นแล้วค่ะ 
Odin – ทำงานได้ที่มาก ข้าเห็นแล้วว่าข้าคิดไม่ผิดที่แต่งตั้งเจ้าเป็นตัวแทนผู้อ้างสิทธิ์ในจิตวิญญาณของข้า 
Valkyrie – ของพระคุณมากค่ะ All-Father ชั้นยินดีจะรับใช้ท่านตลอดไป 
Odin – เอาล่ะ จัดการตามหาของขวัญที่เหลือต่อไปก็แล้วกัน พวกเขาจะเปิดเผยพลังให้เจ้าสัมผัสได้เหมือนกับ Gungnir นั่นแหละ 
Valkyrie – รับทราบค่ะ  All-Father
Odin – แล้วก็อย่าปล่อยให้ความพยายามในการชำระล้างวิญญาณของเจ้าลดลงด้วยล่ะ ยังอาจมีดวงวิญญาณนักรบที่คู่ควรจะเป็น Einherjar ของเจ้าอยู่อีกก็ได้ ความหายนะของโลกนี้ใกล้เข้ามาทุกทีแล้ว เจ้าจะล้มเหลวในภารกิจของเจ้าไม่ได้เด็ดขาดนะ วัลคิคลี่ 


Valkyrie – ข้าจะไม่ทำให้ท่านผิดหวังค่ะ All-Father . ข้าสาบาน 
Odin – ดีมาก ....  เรามีเวลาเหลือน้อยแล้ว 


-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------

                             Sub Quests 

                           Galdban Territory 

                  Side Quest : Years of Ill Will


ภารกิจแก้แค้นให้กับวิญญาณนักรบรับจ้างที่แค้นพวกมอนสเตอร์ที่ฆ่าเขาตอนกำลังพักผ่อน วิญญาณนักรบรับจ้างจึงขอให้วัลคิลี่กับพวกเข้าไปกำจัดมอนสเตอร์ในจุดที่เขาถูกฆ่าเพื่อทำงานแทนเขาให้เสร็จ จะได้ตายตาหลับ  

ลุยเข้าไปตามเป้าหมายของภารกิจจนถึงที่หมายและกำจัดฝูงมอนสเตอร์ให้หมดก็จะจบภารกิจ 

รางวัล
Ambrosia

               Side Quest : The Unfinished Masterpiece 

วัลคิลี่กับพวกได้พบกับวิญญาณนักแต่งนิยาย ซึ่งดูเหมือนว่าจะไม่รู้ว่าตอนนี้เขานั่นตายไปแล้ว มีความปรารถนาอยากจะแต่งนิยายให้จบ แต่ยังไม่เข้าใจถึงภาพการต่อสู้ที่แท้จริงว่าเป็นยังไง จึงอยากให้วัลคิลี่กับพวกได้ต่อสู้กับให้ดู 


Valkyrie จึงต้องประลองกับ Eygon ให้วิญญาณนักแต่งละครดู พยายามต่อสู้แบบตัวต่อตัวกับ  Eygon ให้ชนะ ก็จะจบภารกิจ


วิญญาณนักแต่งนิยาย- เข้มข้น สะใจ!! พวกคุณต่อสู้ได้เป็นธรรมชาติมากๆเลย มันช่างสมบูรณ์แบบไปทุกด้านจนในสมองผมเต็มไปด้วยไอเดียดีๆเต็มไปหมดเลย
Eygon – ดูเหมือนจะได้ผมแฮะ 
Cypher – เสียดายที่เราจะไม่ได้เห็นผลงานของเขาตอนเสร็จสมบูรณ์แล้วจริงๆ 

 รางวัล 
Magic Damage Reduction II [Rune Effect] 
Ambrosia


                     Einherjar Sub quest

                    Side Quest : Cypher’s Belief 

          เข้าไปคุยกับ Cypher ในหอวีรชนแห่งโอดินที่วัลฮัลลา (Valhalla) 
   
                 

ไซเฟอร์ที่คิดว่าตัวเองเป็นเพียงแม่ค้า จึงตั้งคำถามถึงจุดยืนและความเชื่อของเธอในการเป็น Einherjar Eygon จึงชวนเธอไปที่ Be’elze เพื่อหาคำตอบในสิ่งที่เธอคาใจ ...

ลุยเข้าไปตามเป้าหมายของภารกิจจนถึงที่หมายและกำจัดฝูงมอนสเตอร์ให้หมดก็จะจบภารกิจ 


Cypher – ไม่เอาน่า Eygon นี่นายจะไม่ยอมบอกชั้นจริงๆหรอว่าพามาลุยที่นี่ทำไม?
Eygon – นี่คือคำตอบของคำถามที่เธอคาใจไง ไซเฟอร์!
Cypher – ห๊ะ? ยังไงหรอ?
Eygon – ผู้บังคับบัญชาของกองอัศวินอาจดูเป็นตำแหน่งที่สำคัญ แต่นี่คือสิ่งที่ชั้นทำทุกวัน ทำตามคำสั่ง ไล่ล่าพวกตัวร้าย เพื่อรักษาความสงบเรียบร้อย จนแทบไม่มีเวลาได้คิดถึงอะไรเลย เห็นมั๊ยว่า เธอกับชั้น เราก็แทบไม่ต่างกันเลย ชั้นเองก็คิดว่าตัวเองไม่สำคัญพอที่จะได้รับมอบหมายให้ทำสิ่งที่สำคัญอย่าง กู้โลก เหมือนกัน แต่ตราบใดที่ยังมีอะไรให้ทำ เล็กน้อยๆอยู่ข้างหน้า ชั้นก็จะทำต่อไป วันนึงชั้นอาจจะค้นพบเป้าหมายของชั้นก็ได้ ชั้นเชื่อของชั้นแบบนั้นนะ 
Cypher – งานเล็กๆน้อยๆงั้นหรอ ..
Eygon – ชั้นอาจจะอธิบายได้ไม่ดีนะอ่ะนะ ไม่รู้ว่าจะทำให้เธอเข้าใจได้หรือเปล่า?
Cypher – เปล่าเลย สิ่งที่ชั้นได้เรียนรู้จากนายก็คือ นายซุ่มซ่ามกว่าที่ชั้นคิดเอาไว้ Eygon
Eygon – อ่อ ... 
Cypher – หยอกๆน่า ขอบคุณมากนะเพื่อน นายทำได้ดีมากๆแล้วล่ะ

รางวัล
Glacial Blizzard I [Divine Arts] 
Zenei [Einherjar attack]
Shinosuki [Einherjar attack]

** ปลดล็อก Cypher 's Memory [#4]



                              Cypher’s Soul Remnant

                           Cypher 's Memory [#4]
              เศษเสี้ยวความทรงจำของ ไซเฟอร์ ตอนที่ 4 

Cypher – เป็นไงฝ่าบาท รู้สึกดีขึ้นบ้างยัง?
Emette – ดูเหมือนสิ่งที่พวกเขาให้ชั้นมาคงไม่ได้ผลแล้วล่ะ เพราะชั้นยังคงนอนซมอยู่ตรงนี้อย่างสิ้นหวัง 
Cypher – ถ้ามันไม่ล้ำเส้นหรือเสียมารยาทเกินไป ชั้นขอทราบอาการฝ่าบาทหน่อยได้มั๊ย?
Emette – เอ่อ ก็ ปวดหัว ไข้เล็กน้อย แล้วก็เหมือนชั้นเพิ่งสังเกตเห็นผื่นที่นิ้วตั้งแต่เมื่อวานอ่ะนะ 
Cypher – อาการมันเหมือนกับ ...
Emette – ชั้นรู้ๆ อาการเดียวกับไอ้โรคระบาดนั่น ..ตอนนี้เธอคงรู้แล้วว่าทำไมชั้นถึงเรียกเธอมาในวันนี้ 
Cypher – คุณกำลังหาทางรักษางั้นหรอ?
Emette – แน่นอน ..ชั้นคิดว่า คนที่เป็น อินฟลูเอนเซอร์ อย่างเธอคงน่าจะมีหนทางการรักษาได้ 
Cypher – ชั้นจะทำได้ก็ต่อเมื่อ รักษาแต่เนิ่นๆ กลัวว่า ปล่อยไว้นานแบบนี้มันอาจจะ ...
Emette – ก็คุ้มที่จะเสี่ยงอ่ะนะ ถึงแม้ ถ้ามันอาจจะสายเกินไปสำหรับชั้นจริงๆก็จะได้เป็นเคสทดลองให้เธอสำหรับไว้รักษาคนอื่นต่อ 
Cypher – ได้โปรด ฝ่าบาท ชั้นว่าตอนนี้คุณต้องพักผ่อนก่อนนะ ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับคุณคนของคุณจะตื่นตระหนกกันหมดแน่ๆ 
Emette – ได้ .. ได้สิ ก็จริงของเธอ ชั้นรู้ว่าชั้นไว้ใจเธอได้นะไซเฟอร์ ขอบคุณสำหรับคำแนะนำ ... บอกชั้นหน่อยว่าตอนนี้ผู้คนภายนอกเขาเป็นยังไงกันบ้าง? 
Cypher – การระบาดลุกลามไปทั่ว มีผู้คนติดเชื้อจำนวนมาก ทำให้ยาขาดแคลน เราทำได้ก็แค่พยายามป้องกันไม่ให้ผู้ติดเชื้อไปติดคนอื่นต่อ ชั้นเสียใจ ..ชั้นควรจะทำอะไรได้มากกว่านี้ แต่มันเกินกำลังชั้นจริงๆ
 Emette – ทำทุกอย่างที่ทำได้ก็พอ อย่าโทษตัวเองเลย ...แคกๆๆ .. สงสัยชั้นคงต้องพักซะหน่อยแล้ว 
Cypher – ดูแลตัวเองด้วยนะฝ่าบาท แล้วชั้นจะหาโอกาสมาเยี่ยมใหม่ 

...พระอาการของเจ้าชาย Emette แย่ลงทุกวันแบบนี้ เขาน่าจะทนได้อีกไม่นานแน่นอน ทำไมชั้นถึงไม่สามารถช่วยเหลือคนใกล้ตัวได้เลย? ทั้งในฐานะทาส หรือ เสรีชน ... ไม่ ! ชั้นจะไม่ยอมแพ้ ต้องหาทางรักษาให้ได้ ซักคนก็ยังดี ..ชั้นจะไม่ยอมให้ความเมตตาของคุณเสียเปล่าหรอก เจ้าชาย Emette


         Chapter 5 : Those offered the Hand of Salvation 


หลังจากที่วัลคิลี่กู้คืน 1 ใน 4 ของขวัญนั่นคือ หอกกุงนีร์ (Gungnir) มาได้ ด้วยความประทับใจ Odin จึงอนุญาติให้วัลคีลี่ออกตามหา Einherjar เพิ่มไปพร้อมๆกับตามหาของขวัญชิ้นต่อไปได้ 



                            Lucardan Territory


Cypher – อืมม ...ดูจากบ้านเรือนพวกนี้ ชั้นรู้ทันทีเลยว่าเราถึง Lucarda แล้วแน่นอน 
Eygon – เธอรู้มั๊ย ครั้งนึงชั้นเคยมาเที่ยวที่ Lucarda มากๆ ไม่คิดว่าจะต้องรอคอยนานขนาดนี้ 
Cypher – Lucarda เริ่มทรุดโทรมมาตั้งแต่ชั้นเป็นเด็กแล้ว แต่เคยมีลูกค้าเล่าเรื่องในสมัยที่มันเคยรุ่งเรืองให้ฟัง โดยรวมๆแล้วที่นี่เป็นอณาจักรที่เปื้อนเลือดมาตลอด ทั้งการทรยศและการลอบสังหารที่มีอยู่ทุกมุมตึก 


Valkyrie – อึก ....
Eygon – เป็นอะไร คุณรู้สึกถึงอะไรได้งั้นหรอ?
Valkyrie – เศษเสี้ยวของวิญญาณ 


???? – เฮ้ อย่าทำหน้าบูดแบบนั้นสิ วันนี้น่าจะเป็นวันที่มีความสุขนะ เพียงแค่คุณเติบโตเป็นเจ้าหญิงที่สวยงาม แม้จะต้องเจ็บปวดที่ต้องจากคุณไป ก็คุ้มค่าอยู่ ...


Eygon – วัลคีลี่ คุณโอเคมั๊ย?
Valkyrie – อึก ... ชั้นสัมผัสเศษเสี้ยวของวิญญาณอีกดวงนึง 
Cypher – อาจจะเป็น Einherjar อีกตนก็ได้ 
Valkyrie – ก็เป็นไปได้ ถ้าเราตามไปเรื่อยๆเราก็คงจะพบคำตอบเอง 


Eygon – แน่นอน เรารู้กันดีว่า เขาต้องกลายเป็น Naglfar เราควรต้องระวังตัวให้ดีด้วย
Cypher – และถ้ามันเป็นแบบนั้นพวกเราจะคุ้มครองคุณเองวัลคีลี่ 
Valkyrie – ชั้นรู้สึกได้ถึงตัวตนของเขา อยู่ที่นั่น ไปกันเถอะ !


ในพื้นที่ Lucarda ของบทที่ 5 จะมี 
Howllow Blossoms  22 ดอก 
Verdant Blossom 1 ดอก 


ทุกดอกจะขึ้นให้เห็นบนตำแหน่งในแผนที่หมดแล้ว ไม่มีดอกไหนซ่อนหรือต้องมีสกิลพิเศษในการเก็บ (บางดอกต้องโหนตัวขึ้นไปในที่สูงเพื่อเก็บ) พยายามแวะเก็บให้หมดก็จะครบตามจำนวนของพื้นที่ภายในรอบเดียว


Side Quest ในพื้นที่จะมีทั้งหมด 4 เควส ทุกจุดรับภารกิจย่อยจะขึ้นให้เห็นบนตำแหน่งในแผนที่หมดแล้ว ไม่มีจุดรับภารกิจย่อยไหนที่ซ่อนหรือต้องมีสกิลพิเศษในการเก็บ พยายามแวะเก็บให้หมดก็จะครบตามจำนวนของพื้นที่ภายในรอบเดียว


พื้นที่ Lucarda นั้นค่อนข้างกว้างมาก แบ่งเป็น 2 โซนใหญ่ๆ ที่ต้องเดินทางยาวๆ แต่ก็มีจุดเซฟให้พักจำนวนมากเช่นกัน 


เดินไปตามจุดหมายของภารกิจ >>> เพื่อเก็บ Soul Relics ของ Einherjar ตนใหม่ให้ครบ ซึ่งระหว่างทางจะได้เจอ Armand อีกครั้ง


Armand – เฮ้ Maria มาถึงที่นี่ได้ไงเนี่ย? เป็นไงบ้าง การเดินทางลำบากสินะ ก็หวังว่าเธอจะปลอดภัยก็แล้วกัน การที่เราเจอกันบ่อยๆนี่ทำให้ชั้นคิดว่ามันเป็นพรหมลิขิตหรืออะไรซักอย่างแน่นอน โอ้ เอ่อ ชั้นหมายถึงว่ามันแปลกๆก็เท่านั้นเอง 


เมื่อเดินทางมาถึงหมู่บ้านทางเหนือของแผนที่โซนที่ 2 ก็จะพบกับวิญญาณกำลังต่อสู้กับมอนสเตอร์อยู่ 


????? – ชั้นรู้ดีว่าแกก็ไม่ต่างอะไรกับชั้น ถูกความเกลียดชังกลืนกิน ไม่สามารถตายอย่างสมเกรียติ และ กำลังจะบ้าคลั่ง 


???? – แต่การโจมตีคนที่ไม่มีทางสู้อย่างไม่มีเหตุผล ความเป็นฮีโร่ของแกก็ต้องจบลงพร้อมตัวแกด้วยมือของชั้นตรงนี้ !!


???? – เธอเป็นใครเนี่ย??
Valkyrie – ชั้นจะอธิบายให้ฟังทีหลังก็แล้วกัน ตอนนี้เตรียมตัวให้พร้อมก่อนเถอะ!


                  กำจัด Boss : Naglfar Olivier >>> 


บอสตัวนี้แพ้ทางธาตุสายฟ้า พยายามใช้อาวุธธาตุสายฟ้า เวทย์สายฟ้า และ Eygon ที่เป็น Einherjar ที่โจมตีด้วยธาตุสายฟ้าเป็นหลัก ก็จะทำให้กำจัดได้ง่ายขึ้น 


????? – ถึงแม้ชั้นจะยังไม่เข้าใจอะไรเท่าไหร่ แต่สิ่งที่รู้คือ คุณช่วยชีวิตชั้นเอาไว้ และชั้นอยากจะขอบคุณ


Kristoffer – ชั้นชื่อว่า Kristoffer มีหน้าที่ปกป้องผู้คนในดินแดนแห่งนี้เหมือนกับที่บรรพบุรุษชั้นได้เคยทำเอาไว้ 


Cypher – Kristoffer … มันไม่ใช่เรื่องง่ายๆที่จะบอกคุณเรื่องนี้อ่ะนะ แต่ ตอนนี้อณาจักรของคุณมันไม่มีอะไรเหลือแล้ว 
Kristoffer – อะไรนะ !!?
Cypher – จริ๊ง !! และไม่ใช่แค่ Lucarda เท่านั้นนะ แต่ Romali และ Galdba ก็หมด อันที่จริง ไม่ว่าสถานที่ไหนที่คุณนึกออกก็ไปหมดแล้ว 


Valkyrie – อณาจักรมิดการ์ดล่มสลาย ผู้คนล้มตายจำนวนมาก ตอนนี้โลกกำลังตกอยู่ในอันตราย แต่ยังมีผู้คนอีกหลายคนที่ไม่ยอมรับชะตากรรมแต่ก็ต้องทนอยู่อย่างทนทุกข์  .. จับมือของชั้น 
Kristoffer – ตะ ..แต่ คุณเป็นใครงั้นหรอ?


Valkyrie – ชั้นคือ วัลคีลี่ ผู้นำเหล่าฮีโร่ผู้ล่วงลับ กำลังตามหาวิญญาณนักรบที่คู่ควรในภารกิจกู้โลกของชั้น 
Cypher – และพวกเราคือเหล่านักรบที่เธอเลือก ในนามของ Einherjar ของวัลคีลี่ ชั้นตัดสินใจที่จะยืนหยัดต่อสู้อย่างสุดชีวิตดีกว่าหายไปจากโลกนี้อย่างว่างเปล่า 


            Kristoffer – ต่อสู้ ... ในฐานะวิญญาณ งั้นหรอ?


Kristoffer – ก็ดี !! จากนี้ชั้นขอสาบานจะภัคดีต่อคุณในฐานะ Einherjar ของคุณจนถึงที่สุด
Valkyrie – ถ้าอย่างงั้น Kristoffer ร่วมทางกับชั้นไปยังเส้นทางที่อยู่เหนือความตาย เพื่อกอบกู้โลกใบนี้กันเถอะ 







                 Kristoffer เข้าร่วมทีมในฐานะ Einherjar ตนที่ 3





หลังจากกำจัด บอส Naglfar Olivier ลงได้ คุยกับเข้าบ้านเพื่อรับเควสย่อยเพิ่มเติม  >>>  เดินทางต่อไปเป้าหมายของภารกิจที่จุดต่อไป ในส่วนของหมู่บ้านทางขวาก็จะพบ Armand ที่นี่อีกครั้ง 


Armand – อ้าว ไง จำผมได้มั๊ย? ผมถึงที่นี่จนได้  
Valkyrie – อะไรที่นำพาคุณให้มาถึงสถานที่แห่งนี้งั้นหรอ?
Armand – ชั้นมาที่นี่บ่อยเพื่อหาเสบียง รู้มั๊ย พวกยากับเครื่องมือทางการแพทย์หายากมากสำหรับที่นี่ ชั้นเลยคิดว่าชั้นน่าจะสามารถช่วยได้ด้วยการหาจากที่อื่นมาให้ 
Eygon – นายนี่ก็ดีเกิ๊น! นายทำแบบนี้ไปทำไม?
Armand – แลกกับที่พักกับอาหารและก็ของใช้ต่างๆ ก็ถือว่า วินๆนะ 
Cypher – แต่การออกไปข้างนอกแบบนั้นมีแต่จะเสี่ยง นายไม่กลัวตายเลยหรอ ตาย รู้จักมั๊ย?
Armand – ทุกคนต่างก็ต้องตาย ไม่วันใดก็วันนึง ไม่ว่าจะหลบอยู่บ้านหรือออกไปเสี่ยงอันตราย ชั้นก็แค่อยากทำอะไรซักอย่าง ในขณะที่ชั้นยังอยู่ที่นี่  
Valkyrie – ก็ถือว่าคุณยังโชคดี แต่โชคไม่ได้เข้าข้างคุณเสมอไปหรอกนะ คุณควรเลิกเดินทางเสี่ยงอันตรายแล้วไปหาใช้ชีวิตอย่างสงบในตอนที่ทำได้จะดีกว่า 
Armand – ต้องขอบคุณในความเป็นห่วงนะ แต่ผมจะยังไม่หยุดจนกว่าจะเจอสิ่งที่ผมตามหา 
Valkyrie – อะไรที่ทำให้คุณต้องทำแบบนี้งั้นหรอ?
Armand – ผมจะบอกคุณในซักวัน ผมรู้สึกว่า เราจะต้องได้เจอกันอีกซักแห่งแน่นอน .... เอาล่ะ ไว้เจอกันนะ 


Eygon – ดูเหมือนคุณจะสนใจมนุษย์คนนี้เป็นพิเศษนะ 
Valkyrie – อะไรที่ทำให้นายคิดแบบนั้นงั้นหรอ? ….. อ่ะ อั๊กก ..อีกแล้ว 


???? – ที่ป้อมปราการนั่นเต็มไปด้วยสัตว์ประหลาด เจ้าก็รู้นี่ ใช่มั๊ย? ทำไมต้องหาเรื่องเดือดร้อนให้ตัวเองด้วยการไปที่ที่มันอันตรายแบบนั้นด้วยล่ะ ?
Armand – ผมกำลังตามหาใครบางคนอยู่ครับ 
???? – จริงหรอ? แล้วใครกันที่เจ้ากำลังตามหาอยู่?
Armand – ผมเองก็ไม่รู้เหมือนกัน ลืมไปแล้วว่าเขาเป็นใคร 
???? – นี่เจ้าบ้าไปแล้วงั้นหรอ?


Armand – ผมรู้แค่ว่า เขาเป็นคนพิเศษสำหรับผม ได้โปรดนำทางให้ผมหน่อยได้มั๊ยครับ?
???? – เจ้านี่มันแปลกคนจริงๆเลยนะ แต่ก็ เอาล่ะ ชั้นจะทำตามที่เจ้าขอก็แล้วกัน
Armand – ขอบคุณมากครับ งั้น เรารีบไปกันเถอะ !!


Valkyrie –  ……………….
Cypher – เป็นไงบ้าง?
Valkyrie –  อืมม ก็ ไม่เป็นอะไร 
Eygon – เห็นอยู่ๆก็นิ่งไป เกิดอะไรขึ้นงั้นหรอ?
Valkyrie – ชั้นคิดถึงมนุษย์คนนึง ชั้นไม่เคยนึกถึงพวกเขามาก่อนเลย แต่กลับสลัดออกจากหัวไม่ได้ซักที แม้ว่าโลกกำลังโกลาหล แต่พวกเขากลับยึดมั่นกับความหวังอันน้อยนิดที่เหลืออยู่ 


Kristoffer – มันเป็นความรู้สึกเดียวกับที่บรรพบุรุษของเราสร้างอาณาจักรนี้ขึ้นมา ในขณะที่เรากำลังทำสงครามที่ดูเหมือนจะไม่มีทางชนะ แต่ผู้คนก็ยังอดทนต่อความยากลำบาก 
Cypher –  พวกเขาแข็งแกร่งขนาดนั้นเลยจริงๆหรอ หรือเป็นเพียงแค่การที่เราปฎิเสธที่จะยอมรับผู้ที่อ่อนแอที่เสียชีวิตระหว่างทาง 
Kristoffer – เป็นหน้าที่ของผู้ที่แข็งแกร่งที่ต้องคอยปกป้องคนที่อ่อนแอที่ไม่สามารถปกป้องตัวเองได้ และในฐานะเทพเจ้าที่แข็งแกร่งที่สุดในหมู่พวกเรา มันก็สมควรต่อเหตุผลแล้วที่วัลคิลี่มีหน้าที่ปกป้องผู้คน 

Valkyrie –  แต่สิ่งที่ชั้นได้รับมอบหมายคือป้องกันไม่ให้โลกถูกทำลาย ชั้นคงไม่สามารถช่วยใครได้ทุกคนหรอกนะ 
Kristoffer – แน่นอน การช่วยโลกไม่ให้ถูกทำลายย่อมสำคัญกว่า แต่ มันจะมีความหมายอะไรถ้าช่วยโลกไว้ได้แต่ไม่มีคนอาศัยอยู่ 
Eygon – ไม่ว่าจะยังไง เราก็ต้องหยุดการทำลายล้างโลกนี้ให้ได้อยู่ดี ขอให้โฟกัสไปที่ภารกิจของเราก็พอ 
Kristoffer – ก็จริง นายพูดถูก ขออภัยในความอวดดีของชั้นด้วยก็แล้วกัน


Valkyrie –  แน่นอน เราเจอทุกอย่างที่เราต้องการที่นี่แล้ว เราค้นหา ของขวัญ ชิ้นต่อไปกันต่อเถอะ !


ผ่านหมู่บ้าน >> เดินทางต่อไปยังเป้าหมายของภารกิจจนสุดทาง 


Eygon – โห ไอ้พวกตัวประหลาดอยู่กัยนเพียบเลย มันมาทำอะไรกันที่นี่เนี่ย?
Valkyrie – ไม่ว่าพวกมันจะมาทำอะไร แต่ พวกมันมาขัดขวางการเดินทางของเรา ก็ต้องจัดการให้หมด ก็เท่านั้น 
Cypher –  ไม่แน่ ของขวัญ อีกชิ้นอาจจะอยู่ในซากโบสถ์นั้นก็ได้ 
Valkyrie – ก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่ชั้นสัมผัสได้ถึงพลังงานแปลกๆและทรงพลังมากๆอยู่ที่นี่ คงต้องลองเข้าไปสำรวจใกล้ๆดูอีกที 


>> กำจัดมอนสเตอร์หน้าโบสถ์ให้หมด 


Valkyrie – บาเรียนี่มีพลังที่น่าเกรงขามมากๆ ถ้าเราทำลายสิ่งนี้ มันอาจส่งผลให้พื้นที่โดยรอบถูกทำลายไปด้วย
Eygon – แต่ ในหมู่บ้านยังมีชาวบ้านอาศัยอยู่ไม่น้อยเลยนะ พวกเขาอาจได้รับผลกระทบจากแรงระเบิดไปด้วย  ไม่มีทางเลือกอื่นอีกแล้วหรอครับ? 
Cypher –  ชั้นเห็นด้วยกับ Eygon นะ จริงอยู่ที่ภารกิจรวบรวม ของขวัญ ของเราต้องมาเป็นอันดับแรก แต่พวกชาวบ้านที่อยู่ข้างนอกนั่น ตอนนี้พวกเขาก็ต้องอยู่อย่างทุกข์ทนกันอยู่แล้ว หากโดนซ้ำเติมอีก คงจะแย่แน่ๆ  ไม่ทราบว่า คุณพอจะมีเวลาซักเล็กน้อยเพื่อลองคิดแผนใหม่ดูก่อนมั๊ย?


Valkyrie – พลังของ ของขวัญ นั้นอันตรายมาก ข้าปล่อยให้อยู่ข้างนอกนี่นานๆไม่ได้เช่นกัน 
Kristoffer – ได้โปรดเถอะค่ะ วัลคลีลี่ !!
Valkyrie – ถ้างั้น ...  ทุกคนรีบไปอพยพชาวบ้านให้ไปอยู่ในที่ปลอดภัยให้เร็วที่สุดก็แล้วกัน 
Kristoffer – ขอบคุณค่ะ ความเมตตาของคุณจะไม่สูญเปล่าแน่นอน  มาเถอะ เรารีบไปเตือนพวกชาวบ้านกัน !!






Valkyrie –  ได้ ของขวัญ มาแล้ว และพื้นที่โดยรอบก็ไม่มีอะไรเสียหาย 
Cypher –  จริงๆเราไม่ต้องอพยพก็ได้ แต่ก็นะ เพื่อความปลอดภัย
Kristoffer –ขอบคุณ วัลคลีลี่ ที่ฟังคำขอร้องของพวกเรานะคะ 


Valkyrie –  ชั้นไม่ได้ทำเพื่อพวกคุณหรอกนะ แต่พิจรณาจากผลเสียที่จะเกิดกับหมู่บ้านและชาวบ้านต่างหาก เอาล่ะ เราจบเรื่องที่นี่กันแล้ว กลับแอสการ์ดกันเถอะ !


                        วัลฮัลลา (Valhalla) 
                        หอวีรชนแห่งโอดิน


Eygon – เดี๋ยวก่อน วัลคลีลี่คุณจะพูดกับโอดีนได้มั๊ย ? คือ เราคิดว่า ตอนนี้เราควรจะมีการฝึกซ้อมเพิ่มเติมกันหน่อยน่ะ 
Valkyrie – ฝึก งั้นหรอ?   
Eygon – ใช่ ที่นี่เราอาจเคลื่อนไหวได้อย่างอิสระ แต่ที่ Midgard มันต่างกัน ชั้นเริ่มรู้สึกว่าตัวเองจะสนิมขึ้นนิดหน่อยแล้วอ่ะนะ รู้มั๊ย?
Kristoffer – เป็นความคิดที่ดีนะ  ชั้นหาโอกาสที่จะประลองกับ Eygon มาตั้งนานแล้ว 
Cypher –  ถามหน่อย จะฝึกไปทำไมในเมื่อเราไม่มีร่างเนื้อแล้ว 
  Eygon – เธอไม่สนใจงั้นหรอ Cypher?
Cypher –ตรงกันข้ามเลย ชั้นเอาด้วยอยู่แล้ว ถ้าวัลคลีลี่อนุญาตอ่ะนะ
Valkyrie – ชั้นก็เห็นว่า การฝึกฝนเพื่อเพิ่มฝีมือก็ไม่เห็นจะเสียหายอะไรนี่ เอาไว้ชั้นจะลองบอก All-Father ให้ก็แล้วกัน 


Odin – มีสิ่งใดก็ร้องขอมาได้เลย วัลคลีลี่ ของข้า ข้าอยู่นี่แล้ว  
Valkyrie – All-Father ท่านลงมาจากบัลลังย์แบบนี้อาจจะบาดเจ็บเอาได้นะคะ 
Odin – นั่นมาจากความพยายามของเจ้าไง ตอนนี้ข้าสามารถเคลื่อนไหวได้บ้างแล้ว แล้วก็ ทำตามที่ Einherjar ของเจ้าร้องขอเถอะ วัลคลีลี่ พวกเขาน่าจะใช้สถานที่ฝึกที่อยู่ไม่ไกลจากที่นี่ได้ 


 Eygon – ขอบคุณมากครับ All-Father
Valkyrie – ความเมตตาของท่านจะไม่สูญเปล่าแน่นอนค่ะ ชั้นจะให้พวกเขาเข้าสนามฝึกโดยทันที 


     ใน หอวีรชนแห่งโอดิน จะมีจุดเควสย่อยขึ้นอยู่ 2 จุด 


Valkyrie – เอ่อ ... Eygon
Eygon - มีอะไรหรอวัลคลีลี่?
Valkyrie – แค่อยากจะถามว่า นายพร้อมหรือยัง?
Eygon – พร้อมอะไร?
Valkyrie – เราต้องไปที่ Lucarda เพื่อชำระล้างดวงวิญญาณให้บริสุทธิ์ นายลืมแล้วหรอ?
Eygon – อ๋อ เรื่องนั้นเอง ไม่ลืมหรอกน่า 

** ปลดล็อค Einherjar Side Quest : Thank to a Comrade #2


Valkyrie – นี่คือ หนังสือเรื่อง Impure Souls Vol.1 

“มอนสเตอร์นั้นมีอยู่จริงในมิดการ์ด แต่ Undead นั้นคืออะไรที่แตกต่างออกไป ดูเหมือนพวกเขาถูกดึงไปยังตัวตนที่ใกล้เคียงกัน กล่าวอีกนัยยึง พวกเขาแสวงหาวิญญาณของอันเดดตัวอื่นๆ เพื่อให้แข็งแกร่งขึ้น ด้วยการดูดซับพลังของอีกฝ่าย นั่นหมายความว่า จะสามารถพบเจอ Undead ที่แข็งแกร่งในบริเวณที่มีคนตายมากๆ เช่น สถานที่ที่เกิดโรคระบาดครั้งใหญ่ มีคนมากมายที่ต้องตายที่อาณาจักร Galdba “

Valkyrie –  อืมม .. น่าสนใจ ลองไปตรวจสอบดูหน่อยก็ดีเหมือนกัน 

** ปลดล็อค Side Quest : Midgardian Studies #1



Valkyrie – ชั้นมารายงานสถานการณ์อย่างเป็นทางการค่ะ หลังจากเดินทางไปยังมิดการ์ดครั้งล่าสุด ชั้นได้ Draupnir กลับมา 
Odin – อ่อ ใช่ Draupnir ในที่สุดก็ได้กลับมาอยู่ในแอสการ์ดอีกครั้ง ถ้างั้นก็เหลือ ของขวัญ ที่ต้องตามหาอีกแค่ 2 ชิ้นเท่านั้นสินะ สำหรับ ของขวัญชิ้นต่อไป ชั้นสัมผัสได้ว่า มันอยู่ในดินแดนที่ชื่อว่า Romali และ ข้าเห็นว่าเจ้าได้ Einherjar เพิ่มมาด้วยสินะ 
Valkyrie – ใช่ค่ะ All- Father แต่ว่า ...
Odin – มีอะไรก็พูดมา 
Valkyrie – อาจเพราะพวกเขาเคยเป็นมนุษย์ บางครั้งก็มีความคิดแปลกๆไปบ้าง 


Odin – อืมม ก็ไม่แปลกนี่ ก็ยังมีส่วนนึงของความเป็นมนุษย์อยู่ในตัวพวกเขา เรื่องนี้เจ้าต้องทำใจ 
Valkyrie – เข้าใจแล้วค่ะท่าน ชั้นจะพยายาม 


                         Side Quest

                  Side Quest : Midgardian Studies #1

                            Galdban Territory

ในบันทึกสำคัญเล่มนึงในวัลฮัลล่า วัลคลิลี่ พบข้อมูลตำแหน่งการปรากฎตัวของ Undead ที่แข็งแกร่ง จึงเดินทางมาตรวจสอบ

>> ลุยเข้าไปในพื้นที่ตามจุดหมายของภารกิจในแผนที่ จนถึงอาคารที่มีศพจำนวนมากอยู่ เนื่องจากมีการล้มตายจำนวนมากเกินกว่าจะมีหลุมให้ฟังหรือการทำพิธีศพ ชาวบ้านจึงนำศพมาไว้ที่นี่แทน จึงเป็นแหล่งกำเนิด Undead ที่มีพลังแข็งแกร่งขึ้นมา

เข้าไปในอาคาร กำจัดฝูงศัตรูที่ออกมาจำนวนมากให้หมดก็จะจบภารกิจ

-รางวัลของภารกิจคือ Physical Damage Reduction III  Rune ติดอาวุธที่ช่วยดูดซับการโจมตีจากศัตรู 6 %
- ปลดล็อกศัตรู Howling Darkness , Deluge , Empress Kreke สำหรับเลือกใช้ใน Training Ground

                   

          Side Quest : Mother, Where Art Thou?

                             Lucardan Territory

ภารกิจตามคำขอของวิญญาณเด็กที่กำลังร้องหาแม่ จึงต้องพาวิญญาณเด็กไปยังจุดที่วิญญาณของแม่เขาอยู่

 


  >> ลุยเข้าไปในพื้นที่ตามจุดหมายของภารกิจในแผนที่ จนถึงจุดที่วิญญาณของแม่เด็กอยู่ เมื่อวิญญาณของทั้งคู่ได้เจอกันก็จะถูกชำระล้างไปสู่สุขคติพร้อมกัน

-รางวัลของภารกิจคือ Ambrosia ไอเทมสำหรับเพิ่มความยาวของเกจพลังชีวิต

- ปลดล็อกศัตรู Jotunn Emissary , Thor General สำหรับเลือกใช้ใน Training Ground   

 

             Side Quest : Long Lost Reconciliation

วิญญาณของหญิงสาวที่กำลังทุกข์ใจกับเรื่องคาใจของเธอกับเด็กชายที่เคยโต้เถียงกันก่อนจะตาย เธอจึงอยากจะเจอวิญญาณของเด็กชายคนนั้นอีกครั้งเพื่อแก้ไขสิ่งที่เคยเกิดขึ้น

 


 >> ลุยเข้าไปในพื้นที่ตามจุดหมายของภารกิจในแผนที่ จนถึงจุดที่วิญญาณของเด็กชายอยู่ เมื่อวิญญาณของทั้งคู่ได้เจอกัน ต่างฝ่ายก็ขอโทษซึ่งกันจากสิ่งที่เคยพูดไม่ดีกันไว้ จากนั้นก็จะถูกชำระล้างไปสู่สุขคติพร้อมกัน

-รางวัลของภารกิจคือ Soul Ambrosia ไอเทมสำหรับเพิ่มความยาวของเกจ Soul


               Side Quest : Forever a Child in a Parent’s Eyes

วิญญาณของแม่ที่ตายก่อนวัยอันควรจนทำให้ลูกของเธอต้องอยู่ในโลกนี้อย่างโดดเดี่ยว เธอจึงอยากจะเจอลูกอีกครั้ง ซึ่งแม้จะไม่สามารถให้ลูกเห็นตัวได้ แต่วิญญาณของแม่ก็ขอได้ยินเสียงลูกเป็นครั้งสุดท้ายก็พอ    


  >> ลุยเข้าไปในพื้นที่ตามจุดหมายของภารกิจในแผนที่ จนถึงบ้านที่ลูกของวิญญาณผู้เป็นแม่อยู่ และหลังจากวิญญญาณได้คุยกับลูกก็ได้รู้ว่า ลูกจะไม่เศร้าเพราะจะทำให้แม่จากไปอย่างมีห่วง เมื่อทราบดังนั้น วิญญาณผู้เป็นแม่ก็ไปสู่สุขคติอย่างหมดห่วง

-รางวัลของภารกิจคือ Art Ambrosia ไอเทมสำหรับเพิ่มความยาวของเกจ Arts
 

                                         Village Request [1]

ตามคำขอร้องของหญิงชาวบ้าน ที่เห็นพวกสัตว์ประหลาดรอบๆหมู่บ้าน ลูคาร์ด้าเพิ่มจำนวนขึ้นอย่างมาก เธอจึงขอร้องให้ช่วยไปกำจัดพวกมันเพื่อให้หมู่บ้านปลอดภัย

 

>> ลุยเข้าไปในพื้นที่ตามจุดหมายของภารกิจในแผนที่ กำจัดฝูงศัตรูที่ที่เจอระหว่างทางให้หมด จนถึงจุดที่หญิงชราอยู่ ก็จะได้รับคำขอบคุณจากหญิงชราและจบภารกิจ

-รางวัลของภารกิจคือ Art Gauge Restoration Boost II Rune ติดอาวุธที่ช่วยทำให้เกจ Arts ฟื้นคืนเร็วขึ้น 4 %

- ปลดล็อกศัตรู Greater Golem , Guardian , Flame Drake , Stor Hendur  สำหรับเลือกใช้ใน Training Ground


                                         Village Request [2]

ชาวบ้านคนนึงที่เป็นนักอ่านตัวยงเห็นว่ามีหนังสือหายากหลงเหลืออยู่ในซากปรักหักพังใกล้ๆหมู่บ้าน แต่ที่นั่นเต็มไปด้วยสัตว์ประหลาด เขาจึงขอร้องให้ไปเอาหนังสือพวกนั้นมาให้

 

>> ลุยเข้าไปในพื้นที่ตามจุดหมายของภารกิจในแผนที่ กำจัดฝูงศัตรูที่ที่เจอระหว่างทางให้หมด จนถึงจุดของหีบสมบัติที่มี หนังสือเก่าแก่ที่ถูกเขียนขึ้นก่อนสงคราม Ragnarok


 นำหนังสือที่ได้กลับไปให้ชายชราหนอนหนังสือในหมู่บ้าน ก็จะได้รับคำขอบคุณและจบภารกิจ

-รางวัลของภารกิจคือ Soul Gauge Restoration Boost II Rune ติดอาวุธที่ช่วยทำให้เกจ Soul ฟื้นคืนเร็วขึ้น 15 %


                       Einherjar Quest : Thank to a Comrade [2]

เพื่อทำให้ Eygon หายฟุ้งซ่านจากเหตุการณ์ที่เกิดใน Be’elze วัลคลิลี่จึงพาเขามาที่ Lucarda เพื่อมาชำระล้างวิญญาณของพวกสัตว์ประหลาดให้บริสุทธิ์เพื่อให้หายเครียด

 

>> ลุยเข้าไปในพื้นที่ตามจุดหมายของภารกิจในแผนที่ กำจัดฝูงศัตรูที่ที่เจอระหว่างทางให้หมด จนถึงจุดที่เจอกับ Queen Maelstrom  

เมื่อกำจัด Queen Maelstrom  ลงได้ Eygon จะได้ยินเสียงของ Lloyd ที่พยายามจะบอกกับ Eygon ให้ไปเจอกับเขาที่เดิม ก่อนเสียงนั้นจะหายไป ปล่อยให้ Eygon คิดว่าตัวเอง คิดมากไปเอง ในขณะที่วัลคลิลี่ไม่ได้ยินเสียงที่ว่านี่เลย

รางวัลของภารกิจคือ Divine Art “Meteor Swarm II”
-ท่าโจมตีใหม่ของ Eygon 2 ท่าคือ Full Impulse และ Instant Sunder

 ปลดล็อกศัตรู Elderhorn , Queen Maelstrom  สำหรับเลือกใช้ใน Training Ground 


-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------



                                       to be continued   

                                          (11 / 3 / 2023 )

ไม่มีความคิดเห็น: