บทสรุป Metaphor: ReFantazio
By Decibel Per Oxide
ท่ามกลางโลกที่กำลังเกิดปัญหาเกี่ยวกับบรรยากาศที่เต็มไปด้วยอนุภาคของความวิตกกังวลที่เกิดจากความรู้สึกวิตกกังวลของผู้คน ซึ่งเป็นที่มาของ เวทย์มนตร์ ซึ่งส่งผลกระทบต่อโลกในรูปแบบต่างๆ อนุภาคนี้เรียกว่า “magla” และมันจะถูกดูดและรวบรวมด้วยอุปกรณ์พิเศษในเมืองเพื่อเป็นแหล่งเงินทุนสำหรับอาณาจักรนี้
ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ปริมาณ “magla” ได้เพิ่มขึ้นจนทำให้มีมอนสเตอร์เกิดขึ้น เพื่อตอบโต้ ตัวอย่างที่โดดเด่นที่สุดของเรื่องนี้คือสัตว์ มอนสเตอร์ประหลาดเหล่านี้เป็นที่รู้จักกันในชื่อ "มนุษย์" และผู้คนก็ได้รับความทุกข์ทรมานจากภัยคุกคามอันเลวร้ายจากสิ่งเหล่านี้
และท่ามความปั่นป่วนเหล่านั้นก็ยังมีเรื่อง ไม่ใช่สถานการณ์ที่โลกนี้กำลังเผชิญอย่างเดียว ศึกชิงบัลลังก์ ก็เกิดขึ้นไปพร้อมๆกัน
“สหราชอาณาจักร Euchronia” ที่ถูกแบ่งออกเป็นสามประเทศ ท่ามกลางอำนาจของราชวงศ์ที่เสื่อมถอย กลุ่มผู้นำทางศาสนาประจำชาติที่เรียกว่า “Sanctism” ก็ได้เข้าปกครองประเทศอย่างเต็มรูป ในขณะที่ Sanctifex Forden กษัตริย์ผู้ชราภาพไม่มีรัชทายาท และผู้คนจำนวนมากเริ่มมองว่าราชา Forden ควรจะสรรหาราขทายาทเพื่อเป็นผู้นำคนต่อไปเพื่อเสถียรภาพทางการเมือง ในทางกลับกัน ซึ่งก็มีบางคนที่ไม่เห็นด้วยกับกับวิสัยทัศน์ของทั้งราชา Forden และ ลัทธิ Sanctist
แค่นี้ก็พอใช่มั๊ยขอรับ ?
พระเจ้าทรงยิ้มให้คนใจกว้างเสมอนะ
ช่างเป็นอณาจักรที่ประหลาดพอกับประชาชนของมันเลยจริงๆ
ท่านฝันถึงโลกแห่งอุดมคติอยู่หรอ
ทุกเผ่าที่รวมตัวเป็นหนึ่งเดียวกันอ่ะนะ
ความฝันพวกนั้นมันตายไปนานแล้วล่ะ แกเองก็ควรตายตามไปด้วย
อณาจักรของแกก็จะพินาศไปพร้อมกับแก
ด้วยมือของชั้น
ชั้นไม่รู้มาก่อนเลยว่ามันจะเกิดเรื่องแบบนี้ ...ฝ่าบาทถูกปลงพระชนม์บนเตียงของพระองค์เนี่ยนะ?
ดอกไม้บนหลุมศพของเจ้าชายยังไม่ทันเหี่ยวเลยด้วยซ้ำ หากไม่มีทายาทสืบทอดบัลลังย์ เวทย์มนต์ของอณาจักรจะเป็นยังไงเนี่ย?
พวกเราจะอ่อนแอต่อการรุกรานที่หมายจะทำลายเรา ไม่ว่าจากภายในหรือภายนอก อณาจักรของเรากำลังถูกแขวนอยู่บนหน้าผา อาจรุกรามไปถึงสงครามกลางเมืองได้เลยนะ
ในเวลาที่มืดมิดแบบนี้เราต้องร่วมแรงร่วมใจกันให้เป็นหนึ่งเดียวเอาไว้
พระคุณเจ้า ...
ใครกันนะที่ทำแบบนี้
มีไม่กี่คนหรอกที่จะเข้าถึงห้องของกษัตริย์ อย่าว่าแต่จะเข้าใกล้เลย แต่ถึงกระนั้นเวทย์มนต์ของพระองค์ก็สามารถเบี่ยงเบนดาบได้ ด้วยเวทย์ประจำราชวงศ์ ใครกันนะที่ทำแบบนี้ได้
เงามืดทีแฝงตัวอยู่ในปราสาทเริ่มเคลื่อนไหวแล้วสินะ เช่นเดียวกับที่มันทำกับเจ้าชาย วิญญาณนรกตนใดหนอที่สามารถหยุดชีวิตที่สูงส่งของพระองค์ได้? ใครกันที่กล้าทำเรื่องโหดเหี้ยมแบบนี้?
Louis …?
น่าเสียดายที่สิ้นพระชนย์โดยไม่มีรัฐทายาท เจ้าชายเองก็จากไปเร็วเหลือเกิน และมีเพียงกษัตริย์เท่านั้นที่ใช้คฑาประจำราชวงศ์ได้ ซึ่งเป็นหัวใจในการใช้เวทย์มนต์ที่สืบทอดมาจากสายเลือดของพวกเขา ซึ่งมันเคยใช้ยับยั้งการเกิดสงครามได้เป็นอย่างดี
และ หนึ่งในคำถามสำคัญที่ต้องถาม ถ้าพวกเขาตายกันหมดใครจะขึ้นครองบัลลังก์?
ใครอยู่ตรงนั้น ? ชั้นรู้สีกได้ว่าคุณกำลังมองชั้นอยู่ในที่ไหนซักแห่งที่ไกลเกินที่ตาชั้นจะมองเห็น ไม่ว่าคุณเป็นใคร บอกชั้นด้วยว่าโลกของเราทำให้คุณสนใจหรือไม่? ขออภัยที่ต้องถาม แต่คุณช่วยบอกชื่อหน่อยได้มั๊ย หมายถึง ช่วยบอกชั้นหน่อยว่าคุณเป็นใครกันแน่ คนๆนึงที่สบตาชั้นผ่านธรณีประตูประหลาดๆนั่น
อ่า เป็นชื่อที่แปลกมาก ชื่อที่ชั้นไม่เคยได้ยินในโลกของเรามาก่อนเลย ซึ่งทำให้ชั้นคิดได้ว่า คุณคงอาศัยอยู่ในอีกโลกนึงที่ไม่ใช่ในโลกของเรา คงเป็นเรื่องที่น่าสนใจในสายตาของคุณสินะ โลกทั้งใบของชั้นที่ยังเป็นเพียงรุ่งอรุณของเรื่องราวที่ยังไม่เคยถูกบอกเล่า หรือจะให้พูดอีกแบบนึง มันเป็นเพียงแค่ ความเพ้อฝัน โลกแห่งจินตนาการ แต่ มันเกินจริงเกินกว่าที่คุณจะสนใจหรือเปล่า ? ถ้าคุณอยากจะข้ามมายังโลกของเรา ชั้นอยากจะให้คุณตอบคำถามชั้นขอนึงก่อน
ความเพ้อฝัน มันจำกัดขอบเขตของจินตนาการหรือเปล่า? คุณจะเรียกมันว่าการสร้างสรรค์ที่ไร้สาระมั๊ย?
No always
มากกว่าความคิดเชิงปรารถนา มากกว่านิยายหรือเรื่องเล่า บางทีมันส่งผลต่อขอบเขตของความเป็นจริง คุณเชื่อแบบนี้สินะ? ชั้นยอมรับว่าชั้นเองก็หาคำตอบของตัวเองไม่ได้ แต่ลองคิดดู หากจินตนาการเกิดจากความหวัง ความปรารถนาที่จะทำให้โลกนี้ดีขึ้นกว่าที่เป็นอยู่ และเมื่อความหวังนั้นเป็นจริงขึ้นมา ความเปลี่ยนแปลงก็จะเกิดขึ้น จินตนาการถูกหล่อหลอมให้กลายเป็นจริง บางทีเรื่องที่เกิดขึ้นต่อหน้าคุณต่อจากนี้อาจบอกเล่าให้ชั้นเข้าใจก็ได้ เพราะชั้นเริ่มจะสนใจเรื่องนี้ซะแล้ว...เอาล่ะ มาเริ่มเรื่องราวกันเลย
CHAPTER 1
Main Quest : Save the Prince from Death's Curse
STORY No.01 : Death of King
ดูเหมือนเราใกล้จะถึงกันแล้วนะ
Gallica - ข้ามทะเลทรายนี่ไปก็ถึงเมืองหลวงแล้วล่ะ
จริงมั๊ยที่เขาลือกันว่ากษัตรย์สิ้นพระชนม์แล้วน่ะ ?
จริงสิ แล้วพวกเจ้าหน้าที่ทหารก็สนใจการจัดงานศพมากกว่าการรักษาความปลอดภัยบนท้องถนนอีก พวกสัตว์ประหลาดที่ออกมาเดินเพ่นพ่านไปทั่วพวกทหารก็ไม่สนใจจะกำจัดพวกมันเลย
สัตว์ประหลาดหรอ? ชั้นก็พอได้ยินเรื่องของพวกมันมาบ้างเหมือนกันนะ
ยังไม่รวมถึงเรื่องบัลลังก์ที่ไม่มีผู้สืบทอดอีก พายุกำลังมาแล้ว จำคำชั้นไว้เลยนะ เกิดเรื่องใหญ่แน่นอน
ห๊ะ?? เกิดอะไรขึ้นเนี่ย !!? … นั่นมันพวกโจรนี่ !!
ไม่เอาน่า หัดเคารพทหารอาสาสมัครกันบ้างสิ
ตอนนี้พวกเราเป็นสามัญชนไปแล้ว ไม่มีมงกุฎหรือศาสนจักรออกมาปกป้องเลยซักนิด ก็มีแต่นายท่าน Louis นี่แหละที่ออกมาช่วยพวกเรา เราก็แค่จะขอเครื่องบรรณาการเล็กๆน้อยๆเท่านั้นเอง ต้องลงพวกแกจะอยู่ข้างเราหรือฝั่งตรงข้ามล่ะ และ ถ้าอยู่ข้างเรา
Gallica - ห๊ะ นั่นมัน ... Igniter งั้นหรอ !?
Gallica - พวกมันได้มาอันนึงได้ยังไงเนี่ย ??
คนต่อไป !!
ไหนดูสิเราได้อะไรมา? เจ้านี่มันเป็น elda และมันไม่มีเขาและมีหูเป็นมีดด้วย
ไอ้พวกขยะอย่างแกมีธุระอะไรที่เมืองหลวงกันวะ ?
โอ้โห ว้าวว นี่มันอะไรเนี่ย ดูเหมือนแกมีอะไรที่ปิดบังเราอยู่นะไอ้หนู
เฮ้ย อย่าขัดขืนเว้ย เดี๋ยวไม่ได้ตายดีแน่
....อ๊ากกก !!!!
ห๊ะ !!???
ถ้าพวกแกชักดาบออกมา ชั้นจะถือว่าพวกแกพร้อมที่จะตายแล้วนะ
บ้าเอ้ย เกะกะฉิบ ไปไกลๆเลย !!
Gallica - อ่า ที่นี่มัน กลายเป็นพื้นที่อันตรายไปแล้ว เออ แล้วนายได้ยินที่พวกมันพูดว่า นายท่านหลุยส์ช่วยพวกเราเอาไว้ มั๊ย? เฮ้ย นี่นายโอเคมั๊ย แขนขาอยู่ครบป่ะ ?
Gallica - แต่อย่างน้อยพวกมันก็ยังไม่รู้ถึงภารกิจของพวกเรา ถ้ารู้คงต้องแย่แน่นอน
OXIDE - ภารกิจ .... ภารกิจอะไรรหรอ?
Gallica - ไม่เอาน่า นี่ไม่ใช่เวลามาล้อเล่นนะ นายก็รู้ว่าถ้ามีใครรู้ว่าพวกเราเป็นใครทุกอย่างก็จบ ภารกิจสำคัญยิ่งกว่าชีวิตของเราอีกนะ ถ้าพลาดก็แก้ไขอะไรไม่ได้อีกแล้ว
TRADIA DESERT
Gallica - ดูเหมือนนายจะไม่ได้บาดเจ็บนะ ถือว่าเป็นข่าวดี นายยังเคลื่อนไหวได้ ใช่มั๊ย? ชั้นว่าเราควรจะหาสถานที่ทีสามารถเห็นพื้นที่โดยรอบก่อนดีกว่า
Gallica - เดี๋ยว !! ดูเหมือนมีอะไรบางอย่างใกล้เข้ามา ใช่ พวกมันดูอันตรายมาก ต้องระวังไว้ด้วย แต่ชั้นคิดว่ามันคงยังไม่เห็นพวกเราหรอก
กด L2 เพื่อใช้ความสามารถ Fae Sight ตรวจสอบพื้นที่ ความสามารถที่จะทำให้มองเห็นสิ่งที่ Gallica สัมผัสได้ในสภาพแวดล้อม
-เดินทางผ่านทะเลทรายไปยังจุดเป้าหมายในแผนที่
Gallica - แค่อยากเช็คดูน่ะ นายจำได้ใช่มั๊ยว่าเรามาที่นี่ทำไม ?OXIDE - เตือนความจำหน่อยก็ดี
Gallica - อย่างแรกเลยคือ พยายามไปให้ถึงเมืองหลวง จากนั้นก็หารับสมัครทหารอาสาสมัครของเราที่ศูนย์รับสมัครทหารของกองทัพ นี่อาจตัดสินชะตากรรมของอณาจักรได้เลยนะ เราต้องห้ามพลาดไม่งั้นตายกันหมดแน่ ดังนั้นเราต้องทำให้สำเร็จเท่านั้น มาเถอะ เราคงไม่อยากอยู่นี่ตอนกลางคืนแน่นอน อย่างที่พวกแฟรรี่พูดกับ ความวิตกกังวลก่อกำเนิดสัตว์ประหลาดที่ร้ายกาจที่สุด อย่างน้อยชั้นก็ช่วยร่ายมนต์ช่วยสนับสนุนเล็กๆน้อยๆให้นายได้ จริง ?
ราวกับมีดนตรีบรรเลงอยู่ในใจ ผลของเวทย์มนต์ของ Gallica คือ ช่วยสร้างแรงบันดาลใจ
Gallica - ดนตรีคือเวทย์ในต์แรกที่โลกนี้รู้จัก มันจะช่วยทำให้การเดินทางสะดวกขึ้นนิดหน่อย
Music and Magic
เวทมนตร์ประเภทหนึ่งที่แปลกประหลาดที่ทำให้ ผู้ฟังจะรับรู้ถึงสภาพจิตใจของตนเองผ่านเสียงและ ดนตรี เนื่องจากเป็นเวทมนตร์รูปแบบหนึ่งที่ไม่ค่อยมีประโยชน์ในสนามรบ จึงถือเป็นทักษะที่ไม่มี ความหมายและไม่สำคัญในสังคมจึงไม่ค่อยมีใครใช้มากนัก
Magic ศัพท์ทั่วไปสำหรับเทคนิคที่ใช้พลังงานเพื่อสร้าง ปรากฏการณ์ที่บิดเบือนกฎธรรมชาติ เทคนิคนี้สามารถนำไปประยุกต์ ใช้ได้หลากหลาย ตั้งแต่การใช้ในชีวิตประจำวันไปจนถึงการ ใช้พลังทำลายล้างในสงคราม อย่างไรก็ตาม เนื่องจาก igniters หรือเครื่องจุดเวทมนตร์ ต้องมีใบอนุญาตจากรัฐจึงจะเป็นเจ้าของได้ และการจะใช้งานได้นั้นจำเป็นต่อการใช้พลังเวทมนตร์ ดังนั้นหลายคนจึงไม่สามารถใช้เวทมนตร์ได้
Magic Igniters
เป็นเครื่องมือที่ทำหน้าที่เป็นช่องทางในการส่งพลังเวทย์มนตร์ ซึ่งหากไม่มีเครื่องมือนี้ ผู้คนก็ไม่สามารถใช้เวทย์มนตร์ได้ หากต้องการเป็นเจ้าของหรือใช้งานเครื่องมือนี้ จะต้องได้รับใบ อนุญาตจากราชอาณาจักรโดยผ่านการทดสอบ โดยมีข้อยกเว้นบางประการ เช่น ผู้ที่รับราชการในกองทัพของรัฐ Igniters อาจมี ราคาแพงขึ้นอยู่กับพลังและคุณสมบัติ ฉะนั้นการซื้อ Igniters ดีๆซักอันก็เหมือนกับการซื้อที่ดินหรือที่อยู่อาศัยกันเลยทีเดียว
Gallica - ดูสิ นั่นถนนใช่ป่ะ? ค่อยโล่งอกหน่อยที่ใกล้จะถึง Grand Trad แล้ว ตามเส้นทางนั้นไปเลย ระวังอย่าให้ศัตรูเห็นด้วยล่ะ
-เดินทางไปตามเส้นถนนผ่านทะเลทรายไปยังจุดเป้าหมายในแผนที่
Gallica - โอ๊ะ โอ แย่แล้ว !!!
Gallica - ไม่ดีแน่ๆ วิ่งเลย !!
อาณาจักรยูโครเนีย (Kingdom of Euchronia)
การรวมตัวของอาณาจักรพันธมิตร ครอบคลุม อาณาจักรยูโครเนีย อาณาจักรโอเชียนา และอาณาจักร มอนตาริโอ-ยูโครเนียเป็นเจ้าผู้ปกครอง โดยมีกษัตริย์ ของอาณาจักรนี้ครองอำนาจเหนืออาณาจักรทั้งสาม กษัตริย์ฮิธโลเดอัสองค์เดิมเป็นผู้ปกครอง คนแรกของอาณาจักรนี้ และมักเรียกกันว่ากษัตริย์ผู้ก่อตั้ง
ทวีปนี้ล้อมรอบไปด้วยกระแสน้ำที่ไหลเชี่ยว และเรือสามารถทอดสมอได้จากทะเลในตอนใต้เท่านั้น ซึ่งโดยปกติกระแสน้ำจะเชี่ยวไม่รุนแรงนัก ส่งผล ให้มีการรุกรานจากต่างประเทศเพียงเล็กน้อย และทั้งสามประเทศก็มีประวัติศาสตร์ ที่ยาวนาน
เมืองหลวงของราชอาณาจักรคือแกรนด์ทราด ซึ่งเป็นเมือง ที่ใหญ่ที่สุดในราชอาณาจักร ตั้งอยู่ในยูโครเนียตอน กลางเหนือ ศาสนาที่แพร่หลายที่สุดคือศาสนาฮินดู ซึ่งสถาปนา เป็นศาสนาประจำชาติภายใต้การปกครองของกษัตริย์องค์ล่าสุด คือ พระเจ้าฮิธโลเดอัสที่ 5
ดินแดนแห่ง 8 เผ่า 3 เชื้อชาติที่ล้วนได้รับพรจากพลังแห่งเวทย์มนต์
สหราชอณาจักรแห่ง Euchronia ปีที่ 785 ยูโครเนียถูกสั่นคลอนถึงแกนกลางจากการตายของกษัตริย์อย่างกระทันหัน
ความวิตกกลางวลก่อให้เกิดความขัดแย้งระหว่างชนเผ่า ความแตกต่างทำให้พวกเขาแตกแยกและไม่มีใครจดจำเรื่องราวอันกล้าหาญที่ดินแดนของพวกเขาสร้างขึ้นมาได้อีก
ด้วยเรื่องราวแห่งจินตนาการนี้ ขอให้โลกที่เลือนรางได้รับการวาดสีใหม่อีกครั้ง
โอ้ เหล่าผู้แสวงหาผู้ยิ่งใหญ่ ผู้ถือเอาพลังแห่งจินตนาการ โปรดทรงสดับความปรารถนาของข้าและเสด็จมาจากยุคแห่งความรุ่งโรจน์ของพระองค์เพื่อประทานคำชี้นำแก่ข้าด้วยเถิด
STORY No.02 : Special Mission
Gallica - ดูนั่นสิ !!

OXIDE - ว้าวว ....
แขวนคอมันเลย !!
เอาให้มันตายอย่างหมาเลย !!
ได้โปรด ผมไม่ได้ทำอะไรผิดเลยนะ !!
อย่าโกหกไอ้หมาสกปรก พวกแกมันชอบเหยียบย่ำกฎหมายเพื่อความสนุก
จำไว้ว่าหากใช้ Igniter โดยไม่ได้รับอนุญาตจะต้องถูกแขวนคอจนตาย
ชนเผ่าปารีปัส (Paripus Tribe)
ชนเผ่าที่สามารถจดจำได้จากหูและหางที่เหมือน สัตว์ มีสีผมและสีผิวที่หลากหลาย รวมถึงสีผิวสีเย็นที่ไม่พบในชนเผ่าอื่น พวกเขามีร่างกายที่คล่องแคล่วและมักจะซื่อสัตย์ต่อ อารมณ์ของตนเอง จึงทำให้พวกเขามีชื่อเสียงในด้านความสุขนิยม ไม่ว่าจะดีหรือร้าย พวกเขาชอบไปงานปาร์ตี้และงาน เฉลิมฉลอง และแม้ว่าเสน่ห์แห่งความร่าเริงสดใสนี้มักจะได้รับการยกย่องจากพวกเขา แต่ก็อาจถือได้ว่าเป็นความประมาทได้เช่นกัน
เนื่องจากอคตินี้ ชนเผ่าอื่นจึงมองว่าพวกเขา ต่ำต้อย ทำให้พวกเขาไม่สามารถยืนหยัดในทางการเมืองได้ แม้ว่าพวกเขาจะมีประชากรเกือบเท่าๆ กับ ชนเผ่ารูสแซ็งต์และเคลมาร์ก็ตาม การเลือกปฏิบัติต่อพวกเขาเห็นได้ชัดเจนโดยเฉพาะในเมืองใหญ่
Gallica - พวกฝูงชนที่บ้าคลั่งไม่มีทางฟังเหตุผลจากคนอื่นหรอก
ทำบุญทำทานคนยากจนด้วยเถอะ .....
Gallica - ระวังอย่าให้อะไรนะ ใช้สมองในการเดินถนนหน่อยสิ เดี๋ยวก็แห่กันมาเป็นขโหยงหรอก ฟังนะ เราไม่ใช่นักท่องเที่ยวนะ โฟกัสกับภารกิจหน่อยสิ
Gallica - นายเห็นรถม้านั่นมั๊ย นายอาจจะเป็น Elda ** คนเดียวในเมืองนี้เลยก็ได้นะ เมืองหลวงนี่ก็แปลกดีนะ ไม่เคยเห็นที่ไหนมีความหลากหลายของเผ่าต่างๆมากมายขนาดนี้เลย แต่ดูไม่ค่อยสมดุลมากเท่าไหร่เพราะชั้นเห็นพวก Clemars ** กับ Roussaintes ** มากกว่า ซึ่งแน่นอนว่า Elda อย่างนายต้องเด่นแน่นอน พยายามเดินก้มๆหัวหน่อยล่ะ
ชนเผ่าเอลดา (Elda Tribe) **
เผ่าที่เก้า แตกต่างจากเผ่าอื่นๆที่รู้จักกันทั่วไป 8 เผ่า พวกเขาถูกคริสตจักรนิกายศักดิ์สิทธิ์ประณามเพราะสืบทอด "เวทมนตร์อันตรายที่ผิดหลักคำสอนของคริสตจักร" ประชากรของพวกเขามีจำนวนน้อยมากจนแทบจะไม่เห็นพวก เขาในที่สาธารณะเลย และพวกเขายังต้องเผชิญกับการเลือกปฏิบัติที่มากกว่าเผ่าอื่นๆอีกด้วย อันที่จริงแล้ว หลายคนนอกเมืองใหญ่ไม่เชื่อว่าพวกเขามีอยู่จริง
แต่ละเผ่าในจำนวนแปดเผ่ามีลักษณะทางกายภาพที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ทำให้สามารถจดจำได้ในทันที เช่น เขาของเผ่าเคลมาร์หรือหูที่ยาวของเผ่ารูสแซงต์ อย่างไร ก็ตาม เผ่าเอลดาไม่มีลักษณะเด่นดังกล่าว จึงถูกมองว่าเป็นสิ่งมีชีวิตที่ด้อยกว่า
ชนเผ่าเคลมาร์ (Clemar Tribe) **
เผ่าเคลมาร์เป็นเผ่าที่มีจำนวนประชากรมากที่สุดในอาณาจักรพันธมิตรทั้งหมด ลักษณะเด่นที่สุดของเผ่านี้คือเขาที่งอกขึ้นทั้งสองข้างของศีรษะ เผ่าเคลมาร์มีใบหน้าและร่างกาย ที่หลากหลายซึ่งทำให้เผ่านี้เป็นเพียงเผ่าธรรมดา ราชวงศ์ยูโครเนียนเป็นเผ่าเคลมาร์ และสมาชิกของเผ่านี้ดำรงตำแหน่งสำคัญส่วนใหญ่ในรัฐบาลทำให้เผ่าเคลมาร์หลายคนมีความเชื่อว่าพวกเขาเป็นเผ่าที่โดดเด่นที่สุดในอาณาจักร
พวกเคลมาร์ให้คุณค่ากับอิสรภาพและไม่ชอบการจำกัดที่ไม่สมเหตุสมผล พวกเขาชอบที่จะพูดคุยสนทนา แต่ไม่ได้คำนึงถึ สถานการณ์หรือความเหมาะสมในการพูดคุยเสมอไป ซึ่งบางครั้งอาจนำไปสู่ความขัดแย้ง อย่างไรก็ตาม การศึกษาวิจัยบางกรณีชี้ให้เห็นว่านิสัยนี้เป็นแรงผลักดันให้พวกเขาแสวงหาตำแหน่งในรัฐบาลและสำนักงานสำคัญอื่นๆ
เผ่ารูแซ็งต์ (Roussainte Tribe) **
เผ่า Roussainte เป็นเผ่าที่มีประชากรมากที่สุดเผ่า หนึ่งของสหราชอาณาจักร รองจากเผ่า Clemar หูแหลม ยาวเป็นลักษณะเด่นของเผ่านี้ เผ่านี้มักมีรูปร่าง สวยงามซึ่งทำให้มีทักษะการต่อสู้ที่เหนือกว่า ผู้หญิงเผ่า Roussainte แข็งแกร่งกว่าผู้ชาย ส่วนใหญ่ในเผ่าอื่น หลายคนทำงานในกองทัพและ มักดำรงตำแหน่งสำคัญ เผ่านี้ถือว่ามีอิทธิพลไม่แพ้เผ่า Clemar และบางครั้งทั้งสองเผ่า นี้ถูกเรียกว่า "เผ่าที่มีอิทธิพล"
รูแซ็งต์หลายคนภูมิใจในตัวเองที่สามารถทำผลงานได้ดีกว่าคนอื่น ๆ ในด้านความแข็งแกร่ง แม้ว่าสิ่งนี้อาจถือเป็นการแข่งขันที่มีวินัยในตนเอง แต่ในทางกลับกัน ก็มีรูแซ็งต์หลายคนที่มีนิสัยชอบรุกรานและหมกหมุ่นกับการพิสูจน์ความเหนือกว่าในทุกสถานการณ์อยู่
นี่ คุณได้ยินข่าวเรื่องของฝ่าบาทมั๊ย? เขาว่าไม่ได้ตายเพราะโรคอะไรหรอก ได้ยินมาว่าถูกลอบปลงพระชนม์มากกว่า
ชูว์ พูดเสียงดัง ระวังๆด้วยสิเธอ ก็เหมือนกับเจ้าชายแหละที่บอกว่าถูกลอบโจมตีตอนกลางคืน ศึกแย่งชิงบัลลังก์น่าจะเริ่มแล้วล่ะ
ดูเหมือนตอนนี้พวกสัตว์ประหลาดก็ออกมาเพ่นพ่านตามชานเมืองเต็มไปหมด พวกเขาน่าจะส่งทหารออกมาจัดการพวกมันบ้างนะ
กองทัพของเรามันหมดสภาพแล้ว ต่างจากตอนที่ท่าน Louis เป็นแม่ทัพมากๆบอกเลย ไม่รู้หรอกว่าบ้านเมืองจะกลับมาเหมือนเดิมอีกครั้งหรือเปล่าอ่ะนะ เราคงไม่ต้องกังวลถ้าเจ้าชายยังอยู่
เจ้าชายแห่งยูโครเนีย
บุตรชายและรัชทายาทของกษัตริย์ฮิธโลเดอัสที่ 5 เมื่อกว่าสิบปีที่แล้ว การโจมตีอย่างลึกลับในพระราชวัง ทำให้เขาต้องทนทุกข์ทรมานกับคำสาปที่ร้ายแรง คำสาปนั้นส่งผลต่อร่างกายของเขา และแม้ว่าเขาจะอดทนต่อการรักษาอย่างกล้าหาญ แต่การฟื้นตัวของเขาก็ต้องหยุดชะงักลงหลายปีต่อมาเมื่อเขาและผู้ช่วยคนสนิทหายตัวไปจากปราสาทอย่างกะทันหันโดยไม่มีร่องรอย กษัตริย์พยายามทุกวิถีทางเพื่อค้นหาเขา แต่สุดท้ายก็ไม่ประสบความสำเร็จ เขาถูกประกาศอย่างเป็นทางการว่าเสียชีวิตเมื่อสามปีก่อน และมีการจัดงานศพเพื่อเป็นเกรียติแก่เขา
ผู้รอบรู้ - กษัตริย์ก็สิ้นพระชนม์แล้ว เจ้าชายก็ด้วย ไม่เหลือใครพอที่จะแบกรับบัลลังก์นี้ได้จริงๆแล้วใช่มั๊ย?
หญิงผู้สูงศักดิ์ - เราก็ต่างได้ทำทุกอย่างเท่าที่จะทำได้แล้ว แม้แต่นักบุญแห่งอณาจักรก็ไม่สามารถที่จะแก้ไขความทุกข์ยากนี้
ผู้รอบรู้ - เราต่างก็ได้รับความทุกช์ยากจะคำสาปนี้มาหลายสิบปีแล้ว ร่างกายของเขาไม่รู้ว่าจะทนอยู่ได้ซักแค่ไหน? แน่นอนว่าถ้าพระองค์ยังอยู่คงจะไม่ยอมแน่ แต่ตอนนี้ท่านคงทำไม่ได้แล้ว จะไม่มีความเมตตาต่อใครก็ตามที่เป็นผู้สาปเจ้าชายและสังหารกษัตริย์ของเรา จริงๆชั้นก็ไม่อยากจะขอร้องให้พวกคุณทำแบบนี้หรอกนะ แต่ตอนนี้เราเหลือใครที่จะพึ่งพาได้ไม่มากแล้ว
ผู้รอบรู้ - พวกคุณจะยอมแทรกซึมเข้าไปในกองทัพเพื่อส่งข้อความถึงคนของเราได้มั๊ย? นี่คือภารกิจของพวกคุณ เพื่อพวกเราทุกคน พวกคุณจะผิดพลาดไม่ได้นะ
Gallica - เฮ้! นี่ฟังนะ ชั้นไม่โทษนายหรอกที่จะคิดถึงอดีตเพราะนายกับเจ้าชายเป็นเพื่อนสนิทกัน ยังไงการมาที่เมืองหลวงนี่ก็เป็นแค่จุดเริ่มต้นเท่านั้น และตอนนี้ก็มาถึงตอนที่มีความเสี่ยงสูงที่สุดแล้ว ที่นายต้องเข้าไปชักชวนทหารกับเจ้าหน้าที่ให้เข้ามาเป็นพวก จำไว้นะว่าที่นี่ไม่มีใครรู้ว่าเราเป็นใคร ไม่มีใครรู้ว่าเจ้าชายยังมีความหวังที่จะสืบทอดราชสมบัติและราชบัลลังก์ได้ นั่นแปลว่าถ้าเราถูกจับจะไม่มีใครมาช่วยเรา ก่อนอื่นเราต้องหาว่า ศูยน์รับสมัครทหารมันอยู่ที่ไหนของเมืองก่อน ชั้นว่าเราไม่น่าจะหายากหรอกนะ
รอยัล แคปปิตอล แกรนด์ ทราด (ROYAL CAPITAL: GRANDTRAD)
เมืองที่ใหญ่ที่สุดของประเทศ เป็นเมืองหลวงของทั้ง ราชอาณาจักรยูโครเนียและสหราชอาณาจักรโดยรวม เรียก อีกอย่างว่าเมืองหลวงของราชวงศ์ เนื่องจากเป็นที่ตั้งของพระราชวังและสายเลือดราชวงศ์ที่มีชื่อเสียง จากปราการที่แข็งแกร่งซึ่งเป็นภาพที่เป็นสัญลักษณ์ของเมืองมาช้านาน อย่างไรก็ตามเมื่อมีการสร้างอาสนวิหารใหญ่ Regalith ความยิ่งใหญ่ของอาคารก็กลายมาเป็นสัญลักษณ์ใหม่ของ Grand Trad
▮กด R1 ดูแผนที่ในเมือง
▮กดสามเหลี่ยม เพื่อปรึกษา Gallica ในกรณีไม่รู้ว่าจะไปไหน
▮กดปุ่มทิศทางขึ้นบน เพื่อ Save เกม

Gallica - ตอนนี้เราไม่มีเวลาอ้อมค้อมแล้ว ถ้านายหลงทางก็ดูแผนที่ เดินไปตามถนนสายหลักเป้าหมายคือ ศูนย์เกณฑ์ทหารของกองทัพ
โอ้ ดูสิ ของใหม่ออกมาอีกแล้ว ชั้นคงร่ายคาถาอะไรไม่ได้ถ้าไม่มีไอ้ของพวกนี้ซักชิ้น
Gallica - เดาว่านี่คงเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดที่นายเคยมาสินะ ทุกคนที่นี่มี Magic igniter กันหมดทุกคนแหละ และมันมีหลายแบบด้วย
OXIDE - ชักอยากได้ซักอันแล้วสิ
Gallica - จ้า ดูที่ป้ายราคามันก่อนมั๊ย นายคงนึกภาพไม่ออกล่ะสิตอนที่ต้องโบกมือไปมาแล้วมีแสงวับแวบตอยร่ายเวทย์น่ะ ส่วนชั้นน่ะสามารถร่ายเวทย์ได้ทุกเวลา แล้วชั้นก็สามารถเห็น magla ** ในอากาศได้ด้วย แม้ว่าชั้นจะไม่ใช่ archmage ** ก็เถอะ
magla **
ศัพท์ทางเทคนิคของเวทย์มนต์ขั้นพื้นฐานสำหรับใช้งานทั่วไป พลังเวทย์แต่ละชนิดในธรรมชาติมีพลังที่แตกต่างกันจากการตกผลึกและความหนาแน่นของ Magla ที่แตกต่างกันในแต่ละพิ้นที่ รวมถึงคน สัตว์ พืช นักวิชาการว่า Magla มีอนุภาคที่เล็กจนไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า
???? - น่าตื่นตามาก fairy กับหนุ่มน้อย eldan ทั้งคู่เพิ่งเคยมาที่เมืองนี้ใช่มั๊ยเนี่ย ไม่เคยเห็นมาก่อนเลย แนะนำว่าอย่าทำตัวให้เด่นมากนะ เชื่อเถอะพวกคุณคงไม่อยากให้ถูกพวกสุภาพบุรุษและสุภาพสตรีที่นี่มองกันเป็นตาเดียวหรอกนะ โอ่ ลืมแนะนำตัวเลย ชั้นเป็นเจ้าของร้านเล็กๆนี้เองแหละ ว่าไงสนใจ igniter ซักอันมั๊ย?
เจ้าของร้านขาย igniter - นี่อาจเป็นสิ่งที่ดึงดูดสายตาของคนต่างถิ่นได้ มันได้รับแรงบันดาลใจจาก คฑาแห่งราชวงศ์ ( Royal Sceptre **) และเหมาะที่จะซื้อหาเป็นของฝากของที่ระลึกอย่างยิ่งเลย
Royal Sceptre **
คทาแห่งราชวงศ์หรือ คฑาหลวง ที่ประดับประดาอย่างวิจิตรงดงามซึ่งสืบทอดต่อกันมาหลายชั่วอายุคนจากราชวงศ์ยูโครเนียน เป็นเครื่องพิสูจน์สิทธิในการปกครองของทายาทผู้สืบราชบัลลังก์ เครื่องมือวิเศษที่มีความสามารถพิเศษที่ทรงพลังพอที่จะก่อให้เกิดภัยพิบัติทางธรรมชาติได้ ใช้ได้เฉพาะโดยกษัตริย์เท่านั้น และโดยทั่วไปแล้ว เรียกกันว่า "เวทมนตร์ของราชวงศ์" (Royal Magic) คทานี้ทำหน้าที่ เป็นทั้งเสาหลักของอำนาจของกษัตริย์และสิ่งยับยั้งสงคราม
ดังนั้น กษัตริย์แห่งยูโครเนียทุกคนจะต้อง เชี่ยวชาญในเวทมนตร์ และพรจากราชวงศ์ก็ไม่ เพียงพอที่จะรับประกันการสืบทอดบัลลังก์ได้ ในประวัติศาสตร์มีหลายกรณีที่สมาชิกที่ไม่ได้มาจากราชวงศ์ได้ขึ้นเป็นกษัตริย์ เมื่อทายาทโดยตรงของสายเลือดถูกตัดสินว่าไม่มีความสามารถด้านเวทมนตร์เพียงพอที่จะใช้คทาราชวงศ์ได้อย่างแท้จริง
OXIDE - คฑาแห่งราชวงศ์ ??
Gallica - นี่นายไม่รู้จักจริงๆหรอเนี่ย ไปอยู่ที่ไหนมา?
เจ้าของร้านขาย igniter - มันคือสัญลักษณ์และเครื่องมือของอำนาจอธิปไตย์ เป็นมงกฎของผู้สิบราชบัลลังก์มาหลายชั่วคน หากคุณเชื่อในตำนาน มันมีพลังมากพอที่จะทำลายโลกได้เลยล่ะ ในทางปฎิบัติแล้วมันถือเป็น igniter ที่ทรงพลังที่สุด และเมื่ออยู่ในมือของกษัตริย์มันก็เพียงพอที่จะหยุดการรุกรานของศัตรูของอณาจักรได้
Gallica - ซึ่งตอนนี้ท่านตายแล้ว และไม่มีทายาทด้วย
เจ้าของร้านขาย igniter - เป็นเรื่องที่น่าเศร้านะ เวทย์มนต์ของกษัตริย์ที่ไร้ประโยชน์เมื่อไร้กษัตริย์ ชั้นไม่รู้ว่าคุณมาที่เมืองนี้ทำไม แต่คุณมาที่นี่ในช่วงเวลาที่ไม่เหมาะสมเลยพ่อหนุ่ม ระวังจะมีปัญหาด้วยล่ะ
OXIDE - ผมจะจำไว้ครับ
เจ้าของร้านขาย igniter - ขอเตือนเอาไว้ก่อนนะ การเอาชีวิตรอดเป็นความรับผิดชอบของตัวคุณเองนะ
Gallica - พูดเป็นลางมาก แต่นางก็มีเหตุผลนะ เราเองก็ต้องระวังตัวไว้ มาเถอะเสียเวลาไม่ได้ เราต้องรีบไปที่ ศูนย์เกณฑ์ทหารของกองทัพ
Regalith Grand Cathedral

Gallica - ในเมืองชั้นในคนยิ่งเยอะ ก็หวังว่าเราจะรอดสายตาของชาวเมืองที่จะไม่มีใครสังเกตเห็นว่านายเป็น elda แต่คนที่นี่ตาแหลมกว่าที่คิดเยอะเลย เราไม่อยากจะให้ใครสนใจก็จริง แต่การปกปิดเรื่องเผ่าของนายมันก็อาจยิ่งแย่ลงไปอีก เพราะคนจะดูนาย พยายามหนักแน่นไว้ล่ะ มันไม่ง่ายหรอก แต่เพื่อประโยชน์ของภารกิจ ศูนย์เกณฑ์ทหารของกองทัพน่าจะอยู่ข้างหน้านี่แหละ
Gallica - นี่ไง ศูนย์เกณฑ์ทหาร ชั้นต้องปล่อยให้นายลุยเองแล้วนะ ถ้าพวกเขาถามคำถามอะไรก็ตอบตรงๆไปเลย การโกหกยิ่งทำให้เขาสงสัยมากขึ้น เป็นตัวเองไว้ ตราบใดที่นายไม่ทำให้ภารกิจพัง นายก็จะไม่เป็นไรหรอก
ศูนย์เกณฑ์ทหาร (Recruitment Center)
ศูนย์ที่ตั้งอยู่ทั่วทุกเมืองสำหรับให้ผู้คนสมัครเข้าร่วมกองทัพ สำหรับผู้ที่ไม่มีครอบครัวหรือฐานะ การเป็นอาสาสมัครเป็นวิธีที่เร็วที่สุดวิธีหนึ่งในการสร้างรายได้และความน่าเชื่อถือทางสังคม การรับสมัครไม่ได้เปิดตลอดเวลา แต่ความกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยสาธารณะ เนื่องจากการสิ้นพระชนม์กะทันหันของกษัตริย์รวมถึงการระบาดของสัตว์ประหลาดในพื้นที่ทำให้ระยะเวลาการรับสมัครในเมืองหลวงยาวนานผิดปกติ
กัปตัน - นี่คุณเป็นสายเลือดบริสุทธิใช่มั๊ยเนี่ย กองทัพไม่ใช่ที่สำหรับลูกคุฯหนูแบบคุณเลยนะ ทำไมคุณถึงมาสมัครเป็นทหารหรอ? หรือครอบครัวขุนนางของคุณมันล่มสลายไปแล้ว ?
????? - เชื้อสายมันไม่ใช่สิ่งวัดคุณค่าของทหารหรอกนะ ชั้นอยากเข้ากองทัพ ก็แค่นั้น เอ้า เงินนี่พอสำหรับพวกคุณมั๊ย?
กัปตัน - คุณนี่หยิ่งยะโสใช่เล่นเลยนะ ก็ได้ ตามนั้นท่านลอร์ด ยินดีต้อนรับเข้าสู่กองทหารรักษาการณ์ ที่คุณจะได้รับสิทธิพิเศษในการตายอย่างทรมานเพื่อรับใช้ชาติอ่ะนะ แต่จำคำผมไว้นะ สงครามจะทำให้ความหยิงผยองของคุณมันหายไปจนหมดแน่ตอนที่ศพคุณถูกดึงขึ้นมาจากโคลน
????? - เนี้ยหรอคำพูดปลุกใจของคุณน่ะกัปตัน คิดว่าการขู่จะทำให้ซื้อความภักดีได้งั้นหรอ? ก็ไม่แปลกที่ไม่ค่อยมีคนมาสมัครทหารอ่ะนะ แต่ตอนนี้ผมมาแล้ว อณาจักรอาจรอดพ้นจากการสูญสิ้นก็ได้นะ
กัปตัน - อย่ามาอวดดี ได้หนู ดูตำแหน่งด้วย !!
ผู้ช่วย - ไม่เอาน่าท่าน หมอก็มีงานล้นมืออยู่แล้วนะ อย่าทำมันเลย
กัปตัน - รีบไปซะ แกโชคดีที่ยังอยู่ครบ 32 ..... เอาล่ะ คนต่อไป !!
กัปตัน - อ่า นายเป็น elda สินะ ไม่ได้เห็นพวกนายมานานมาเลยนะ ...อายุ 18 กำพร้า ไม่น่าจะมีอะไรเหมาะสมกว่ากองทัพอีกแล้วสินะ แล้วทำไมนายถึงตัดสินใจมาสมัครเป็นทหารหรอ?
🔴อยากต่อสู้เพื่อความเปลี่ยนแปลง
🔴อยากได้เงิน
🔴แค่เบื่อๆน่ะ
OXIDE - ผมอยากลุกขึ้นสู้เพื่อการเปลี่ยนแปลงครับ
กัปตัน - เป็นคำพูดที่ดีสำหรับหนูจากท่อระบายน้ำที่กระเป๋าไม่มีเงินอ่ะนะ แล้วนายคิดว่านายจะมีประโยชน์กับกองทัพตรงไหน นายมีความสามารถอะไรหรอ?
🔴ผมแข็งแกร่งกว่าที่เห็นนะ
🔴ผมฉลาดนะ
🔴ผมแบกรับความเจ็บปวดได้สบาย
🔴ผมตัวเล็กแต่เร็ว
🔴ผมโชคดีมาตลอด
OXIDE - ผมแข็งแกร่งกว่าที่เห็นนะ
กัปตัน - แขนแบบนั้นอ่ะนะ ฮ่าๆ เอาล่ะ โอเค เซ็นชื่อในใบสมัครได้เลย
** ตั้งชื่อตัวเอกของคุณเอง **
กัปตัน - เอาล่ะ OXIDE ขอต้อนรับเข้าสู่กองทหารรักษาการณ์นะ
Gallica - เยส !!!
กัปตัน - ชั้นคิดว่านายคงได้ยินข่าวเรื่องสัตว์ประหลาดที่ออกมาเพ่นพ่านแถบชานเมืองมาบ้างนะ เตรียมตัวให้พร้อม เรายังมีกำลังพลไม่เพียงพอ ดังนั้น พยายามอย่าตายในภารกิจแรกซะล่ะ นายออกไปรับอุปกรณ์ประจำตัว แล้วก็ igniter ตามมาตฐานของกองทัพได้เลย รับผิดชอบมันดีๆด้วย ถ้าพังชั้นจะหักเงินเดือนของนาย ไปได้แล้ว ..... คนต่อไป !!!
Gallica - คิวยาวจัง คงไม่มีทางเลือกนอกจากรอคิวอ่ะนะ ถ้าไม่เข้าแถวเดี๋ยวก็เป็นพิรุธจนพวกเขาสงสัย
ผู้สมัคร - พระเจ้านี่ชั้นมาเข้าร่วมก็เพราะต้องการที่จะเติบโตอย่างรวดเร็ว แต่เขาจะให้ชั้นทำงานร่วมกับเอลด้าเนี่ยนะ? ถ้าเป็นพวก Paripus ก็ยังโอเค แต่ elda นี่มันน่าขนลุกนะ ดูเป็นลางไม่ดีเลย
OXIDE - ใครบอกคุณหรอ?
ผู้สมัคร - ก็รู้จากคัมภีร์ของพระเจ้าไง เกรงว่าจะบอกให้ elda รู้ไม่ได้หรอกนะ
Gallica - มันพูดอะไรก็ปล่อยมันเถอะ สู้กับคนแบบนี้มันเสียพลังงานโดยเปล่าประโยชน์
???? - นายจะเข้าร่วมภารกิจด้วยมั๊ย ถ้าเข้าก็ต่อแถวเลย หรือนายต้องการอะไรก็ว่ามา ?
OXIDE - นี่คุณเป็นขุนนางจริงๆหรอ?
???? - ได้ยินตอนชั้นสัมภาษณ์ล่ะสิ ใช่ ตามนั้น ชั้นเป็นขุนนาง แต่ก็แค่ขุนนางบ้านนอก ครอบครัวชั้นไม่ได้ใหญ่โตอะไรหรอก ชั้นก็มีความตั้งใจของตัวเองก็เลยมาสมัครน่ะ ชั้นอยากเข้ากองทัพเพื่อปกป้องอณาจักร แม้มันจะฟังดูโง่ๆก็เถอะ
➽ สำรวจพูดคุยจนทั่วแล้วก็เข้าต่อคิวได้เลย
ได้ยินมาว่าพวกเขาได้รับสัญญาณขอความช่วยเหลือ
แล้วไอ้สัตว์ประหลาดตัวใหญ่ที่เขาลือกันมันเป็นสาเหตุที่ทำให้ต้องมาประกาศรับสมัครถามเพิ่มใช่มั๊ย พวกเขาน่าจะบอกเราตรงๆนะ พวกเขาเรียกมันว่าอะไรนะ ...ฮิว ...อะไรซักอย่าง
ทหาร - คนต่อไป !!! …. นายก็ Clemar อีกคนสินะ? อืมม ไม่สิ นายดูไม่เหมือนพวกนั้น ...พวก Elda งั้นหรอ? ที่ชั้นเพิ่งเคยเห็นครั้งแรกเลยนะ
ผู้สมัครรูสแซนด์ - เอ้าเร็วหน่อยสิ มีเรื่องอะไรสำคัญที่ต้องคุยกันนักหนาหรอ? ต้องเอาอุปกรณ์ดีๆมาให้ไอ้พวกทหารฝึกหัดเด็กๆพวกนี้ เสียดายของว่ะ เอามาให้ชั้นใช้ยังจะดีกว่า เอามานี่มา !!
????? - ใช้กำลังข่มขู่ ดูหมิ่นเหยีดหยาม โลกนี้มันเป็นของแกคนเดียวรึไง ?
ผู้สมัครรูสแซนด์ - ไหนพูดอีกทีสิไอ้น้อง
????? - เราทุกคนต่างก็มีเหตุผลของตัวเองในการเข้ากองทัพ กลับไปเข้าแถวได้แล้วไป๊ !!
ผู้สมัครรูสแซนด์ - โอ้ Clemar ผู้ยิ่งใหญ่อีกคนสินะ มาดูสิว่าชุดสวยๆชองแกมันจะสู้ความแข็งแกร่งของ รูสแซนด์ ได้หรือเปล่า
????? - ลืมเรื่อง เผ่า ไปได้แล้ว ภูมิใจอะไรกันนักหนา คุณต่างหากที่ควรจะขอโทษพวกเรา
กัปตัน - พอเลย!! อย่ามากัดกันที่นี่นะ !!
ผู้สมัครรูสแซนด์ - เชอะ !!
????? - ขอโทษด้วยที่ทำให้วุ่นวาย นายโอเคนะ ?
OXIDE - ขอบคุณนะ แต่นายไม่ต้องทำแบบนั้นก็ได้
????? - รู้สึกว่ามันเกิดไปหน่อยก็เท่านั้นแหละ ไม่ต้องเกรงใจหรอก ไว้เจอกันข้างนอก พยายามอย่ามาตายที่นี่ล่ะ
ทหาร - อย่าให้ชั้นต้องทำงานยากขึ้นเลย เอานี่รับ Igniter ของนายไปแล้วออกไปซะ ทุกวันนี้คนส่วนใหญ่จะมีคริสตัล magla เป็นของตัวเอง ถ้าฝึกฝนดีๆใครก็สามารถใช้เวทย์มนต์ได้ อย่างน้อยๆก็ระดับนึง มันก็ไม่ได้จะเก่งภายในวันเดียวอ่ะนะ สำหรับทหารใหม่แบบนายตอนนี้เอาไว้ใช้เพื่อเอาตัวรอดก็พอ
ทหาร - แล้วก็เอาไอ้นี่ไปด้วย ดูแลตัวเองให้ดี
Gallica - ว้าว นี่มันแผนที่ของจริงเลยนะเนี่ย การสำรวจพื้นที่ที่เต็มไปด้วยอันตรายจนได้รายละเอียดมาขนาดนี้ทหารพวกนี้ไม่ธรรมดาเลยนะ
กัปตัน Klinger - เอาล่ะ ทุกคนฟังให้ดี ชั้นคือกัปตันคลิงเกอร์ ตอนนี้พวกนายผู้น่าสงสารอยู่ภายใต้การบังคับบัญชาของชั้นแล้ว ชั้นมั่นใจว่าพวกนายคงได้ยินมาว่าพวกเรากำลงยุ่งอยู่กับพิธีศพขอกษัตริย์ของเรา และถ้าพวกนายคิดว่าพวกนายจะถูกพวกเราดูแลปกป้องอย่างดีก็ให้คิดใหม่ อย่างแรกพวกนายจะถูกส่งไปที่ป้อมปราการทางเหนือ ซึ่งจะเป็นสถานที่ที่ฝึกให้พวกนายเป็นทหารรักษาการณ์อย่างเต็มตัว ทหารผ่านศึกที่นั่นจะสอนให้พวกนายรู้จักสิ่งที่พวกนายต้องเรียนรู้เพื่อความอยู่รอด นั่นคือ ความเจ็บปวด
Gallica - เยี่ยมเลย ที่นั่นป็นที่ที่คนของเราซ่อนตัวอยู่พอดี
กัปตัน Klinger - พักผ่อนให้เต็มที่ เพราะคืนนี้จะเป็นคืนสุดท้ายที่พวกนายจะได้พักผ่อนอย่างสบายแล้ว แยกย้ายได้ !!
Gallica - ดูพวกทหารใหม่คนอื่นสิ พวกเขาเต็มใจที่จะมาสมัครจริงๆเลยนะ จริงสิ ชั้นยังไม่ได้บอกเลยว่าคนของเราที่เรากำลังตามหาหน้าตาเป็นไง แต่เขาจะรู้จักนายเองจากดาบของนาย เขาจะรู้ทันทีว่าเรามาหาเขาทำไม และไม่ต้องกลัวชั้นจำเขาได้ดี กัปตันนั่นน่าจะพูดถูกเราควรพักพ่อนได้แล้ว

Gallica - นี่ ...นาย ยังไม่หลับใช่มั๊ย?
OXIDE - อืมม ยังไม่หลับ
Gallica - ขอโทษที่ปลุกนะ ชั้นมีเรื่องมากมายอยู่ในหัวตอนนี้ เลยนอนไม่หลับเลย แม้ชั้นจะเคยได้ยินมาบ้างว่าเมืองหลวงเป็นยังไง แต่ถึงงั้น พอเห็นความอคติมากมายที่พวกเขาแสดงออกมา โดยเฉพาะกับนาย ..นายโอเคใช่มั๊ย?
OXIDE - เรื่องปกติน่ะ ที่ผ่านมามันก็ไม่ได้ง่ายนะ
Gallica - อืมม ชั้นรู้ ลืมมันไปบ้างก็ได้นะ บางคนบอกว่าเป็นความผิดของเผ่าที่ต่ำต้อยกว่าว่าเป็นสาเหตุที่ทำให้พวกสัตว์ประหลาดโผล่ออกมา และพวกเขาก็คือพวกที่เผาหมู่บ้านของนายจำไม่ได้หรอ?
OXIDE - นั่นมันก็นานมาแล้วนะ
Gallica - ใช่ แต่มัน ....เจ้าชายใจดีกับนายมากเลยรับมาดูแล เขาสนใจนายมากโดยไม่สนว่านายเป็นใคร ชั้นเข้าใจว่าเพราะงั้นนายถึงอยากตอบแทน พูดถึงเขาก็นึกขึ้นได้ เขาเป็นคนให้หนังสือเล่มนั้นกับนายใช่ป่ะ ขอชั้นดูหน่อยได้มั๊ย?
OXIDE - ได้สิ
Gallica - ขอบใจนะ แล้วก็ขอโทษด้วยที่เป็นคนชอบสอดรู้สอดเห็นแบบนี้อ่ะนะ

Gallica - นี่ใช่ป่ะที่นายเรียกว่า เรื่องราวแฟนตาซี ? มันเป็นโลกในจินตนาการที่เจ้าชายแต่งขึ้นเพราะเขาชอบเรื่องพวกนี้ใช่มั๊ย? โอเค ไหนดูสิ ....มันบอกว่านักเดินทางหนุ่มคนนี้ประหลาดใจกับโลกที่เขาได้เห็น โลกที่มีแค่เผ่าเดียว โลกที่ทุกคนเป็นหนึ่งเดียวกัน ทุกคนยอมรับซึ่งกันและกัน และไม่มีจิตวิญญาณใดที่เกิดมาเพื่อถูกเลือกปฏิบัติ ไม่มีแม้แต่ fairies เลย? ชั้นเดาว่า พอความแตกต่างน้อยลงความแตกแยกก็จะน้อยลงสินะ โลกแบบนี้ไม่จำเป็นต้องใช้เวทย์มนต์ เมืองที่สร้างขึ้นจากความรู้และแรงงาน หอคอยกระจกสูงเสียดฟ้า ค่ำคืนที่ปลอดภัยจากภัยมืด ถนนที่พลุกพล่านไปด้วยผู้คนสัญจรไปมาอย่างสะดวก โดยมีกฎที่ว่า ชีวิตทุกชีวิตล้วนเท่าเทียม เข้าใจแล้ว .... ไม่มีเวทย์มนต์ ไม่มีความขัดแย้งระหว่างเผ่า ทุกคนเท่าเทียมกันมันฟังเหมือนเป็นเรื่องเพ้อฝัน แต่มันทำให้รู้สึกแปลกๆ ทำไมรู้สึกอิจฉาโลกสมมุตินี่จัง
…. อ้าวนี่นายหลับแล้วหรอ ? รู้มั๊ยเนี่ยว่าการพลิกหน้ากระดาษคนเดียวมันยากแค่ไหน ?? โอเค ชั้นว่าเอาไว้อ่านต่อวันหลังดีกว่า ....ฝันดี
นายไม่พักผ่อนหรอ?
ชั้นสบายดี ชั้นดีใจนะที่เรามีโอกาสได้คุยกัน
พออ่านหนังสือเล่มนี้แล้วก็อดคิดไม่ได้ว่าสักวันนึงเราจะสามารถทำให้อณาจักรของเราเป็นแบบในหนังสือเล่มนี้ได้
นายบอกว่า มันเป็นนิยายแฟนตาซีอะไรแบบนั้นใช่มั๊ย?
อืมม ... ชีวิตของเราถูกกำหนดมาตั้งแต่เกิดแล้วโดยความบริสุทธิของชนเผ่าหรือโดยความแตกต่างที่ทำให้เราเป็นเรา ชั้นไม่อยากให้โลกที่เราอยู่เป็นแบบนี้เลย อย่างเผ่า elda เป็นตัวอย่าง ถ้านายไม่ปกป้องชั้นไว้ ชั้นคงไม่มีทางรอดมาได้แน่นอน แต่แล้วพวกเขาก็เผาบ้านของนายจนหมด

มันเป็นเรื่องน่าเศร้ามาก ไม่ควรมีใครต้องทนทุกข์แบบนี้ และ มันต้องมีใครซักคนลุกขึ้นมาแก้ไขให้ถูกต้อง
แค่กกๆๆๆๆๆ
นายโอเคนะ ..อย่าฝืนตัวเองมากนักสิ
ความจริงมันโหดร้าย ชั้นรู้ แต่ขั้นจะสู้กับมัน ชั้นจะสู้จนถึงที่สุด

ชั้นเป็นเจ้าชาย ...แต่ชั้นก็อยากเป็นฮีโร่ ผู้คู่ควรกับบัลลังก์
ฮีโร่หรอ?
ผู้ที่สามารถเป็นผู้นำได้ เหมือนประภาคารที่จะส่องทะลุความมืดเมื่อทุกสิ่งสูญเสียไปพ่อชั้นสอนไว้แบบนั้น ในเรื่องราวของเขา อณาจักรแห่งนี้เต็มไปด้วยวีรบุรุษในตำนาน
ชั้นจึงไม่สามารถยอมแพ้ได้ ในโลกอุดมคติของชั้นผู้คนสามารถเชื่อในอนาคตของตัวเอง เกิดมาอย่างไรไม่สำคัญ ชั้นก็ไม่คิดว่ามันจะทำได้ง่ายๆหรอกนะ
แต่ชั้นเชื่อในตัวนายนะ
เป็นคำพูดที่คุ้นจัง เวลาที่ชั้นท้อแท้นายก็จะอยู่เคียงข้างชั้นเสมอเพื่อช่วยให้ชั้นผ่านมันไปได้
งั้นก็เอาสิ ทำเลย
นายเป็นฮีโร่ได้อยู่แล้ว เชื่อชั่นสิ
ชั้นก็จะไม่ยอมแพ้เหมือนกัน ... เชื่อใจชั้นนะ
ก่อน จะถึงป้อมชายแดนเหนือ ...เหลือเวลาอีก 1 วัน
Gallica - ไม่รู้ว่าเรามาไกลแค่ไหนแล้วเนี่ย ไปหาจุดหมายของเรากัน ป้อมชายแดนทางเหนือ ที่นี่แหละที่คนของเราซ่อนตัวอยู่ หวังว่าจะได้เจอตัวเขาเร็วๆนะ
STORY No.03 : The Border Fort
Northern Border Fort
ป้อมปราการสูงตระหง่านบนขอบภูเขาที่สร้างขึ้นเพื่อป้องกัน แกรนด์ทราดในช่วง Annex War ปัจจุบันยังมีการส่งทหารไปประจำการอยู่บ้างเนื่องจากเป็นสถานที่สำคัญในเชิงกลยุทธต่อเมืองหลวงและเพื่อเป็นด่านหน้าในการป้องการกองทัพสัตว์ประหลาดที่เริ่มเพิ่มจำนวนมากขึ้น เหล่าทหารมาได้ลงจากรถม้าในทางขึ้นสู่ป้อมเพื่อเข้าต่อสู้ในภารกิจแรกของพวกเขา
????? - ถึงซะที นั่งจนตระคริวกินขาหมดแล้ว
กัปตัน Klinger - ฟังให้ดีนะได้พวกขี้ขลาด สนามรบไม่ใช่ที่ที่ให้พวกแกมานั่งชิลนะและที่นี่ก็คือชายแดน มันเป็นสนามรบแล้วการต่อสู้เกิดขึ้นได้เสมอ จงระวังตัวเอาไว้ พวกแกได้รับเกรียติที่อยู่ใต้บังคับบัญชาของกัปตันคลิงเกอร์ วีรบุรุษสงคราม นักวางแผนกลยุทธ ผู้เชี่ยวชาญด้านอาวุธ ชั้นได้ตำแหน่งพวกนี้ก็จากสนามเพลาะที่นี่มันหล่อหลอมกลายเป็นตัวตนของชั้น
????? - ช่วยหยุดพล่ามเรื่องไร้สาระพวกนี้หน่อยจะได้มั๊ย เฮ้อ ... เอ่อ ว่าแต่เพื่อน ถามไรหน่อย อยากรู้จังว่าไอ้หนังสือเล่มนั้นมันมีอะไรดีนายถึงได้ติดมันขนาดนั้นน่ะ ?
🔴มันเกี่ยวกับโลกที่ไม่มีเวทย์มนต์
🔴มันเกี่ยวกับโลกที่ไม่มีการแบ่งแยกเผ่า
🔴มันก็อธิบายยากนะ
OXIDE - มันเป็นนิยายที่เกี่ยวกับเรื่องโลกที่ไม่มีการแบ่งแยกเป็นเผ่าต่างๆน่ะ
????? - ไม่เลือกปฎิบัติใช่มั๊ย? แหม่ ช่างต่างจากโลกของเราเยอะเลยนะ มันบรรยายถึงโลกที่ดีกว่า หรือพวกโลกในอุดมคติสินะ ชั้นก็นักอ่านตัวยงเหมือนกันนะ แต่หนังสือที่เหมือนกับเล่มนี้ชั้นไม่เคยอ่านมาก่อนเลย นายรู้มั๊ยก่อนที่กษัตริย์องค์ก่อนขึ้นครองบัลลังก์ท่านก็เคยบอกว่าจะรวมผู้คนให้เป็นหนึ่งเดียวกันภายใต้การปกครองของพระองค์เหมือนกัน แน่นอนว่าเขาไม่เคยทำได้เลย เพราะการปฏิบัติจริงต้องใช้อะไรที่มากกว่าคำพูดที่สวยหรู บางทีเขาอาจจะตาบอดเกินกว่าจะมองเห็นหนทางก็ได้
ทหาร - ฟังนะไอ้หนู ทหารใหม่กับดาบเล่มแรกในชีวิตคิดว่าตัวเองรู้ดีกว่ากษัตริย์งั้นหรอ อย่าพูดมาก ไม่มีใครสนหรอกว่าแกจะคิดยังไง
????? - ใครถามนายหรอ?
ทหาร - ว่าไงนะ ไหนพูดอีกทีดิ๊ ชั้นรอฟังอยู่
🔴ผมต้องขอโทษแทนเพื่อนผมด้วยครับ
🔴คุณอยากมีเรื่องงั้นหรอ?
🔴ช่างเถอะครับ เพื่อนผมมันก็พูดไปเรื่อยแหละ
OXIDE -ผมต้องขอโทษแทนเพื่อนผมด้วยครับ
ทหาร - ได้ยินมั๊ย ลองทำตามคำแนะนำของเพื่อนตัวเล็กของแกดูมั๊ย? เอาล่ะเจ้า Clemar ครั้งนี้ชั้นจะไม่ติดใจเอาความก็แล้วกัน เพราะพวกแกพูดดีหรอกนะ ครั้งหน้าชั้นไม่เก็บแกไว้แน่นอน
????? - นั่นเป็นสิ่งสุดท้ายที่ชั้นต้องการเลยอ่ะนะ ....แม้ว่าชั้นจะควรได้รับมันบ้างก็ตาม การพูดจาเกี่ยวกับคนตายแบบนั้น ...บางครั้งปากชั้นมันก็ไปเร็วกว่าสมองตลอด บางทีชั้นก็ดีใจนะที่เรามาเจอกันแม้จะเป็นสถานการณ์ที่ไม่ดีเท่าไหร่ก็เถอะ เอ่อ จริงสิ ยังไม่เคยแนะนำตัวกันเลย ชั้นชื่อ Strohl .. Leon Strohl ลูกชายของเคานต์แห่ง Halia แล้วนายล่ะ ?
🔴ผมชื่อ .....(ตามที่คุณตั้ง)
🔴ชั้นบอกไม่ได้หรอก
OXIDE - ผมชื่อ OXIDE
Strohl - อ๊อกไซด์ ชั้นเข้าใจถูกมั๊ย? แค่นั้นหรอ ....ว่าแต่ไอ้ตำแหน่งอะไรของชั้นมันก็ไม่ได้มีความหมายอะไรหรอก ตอนนี้เราเป็นเพื่อน และเท่าเทียมกัน
กัปตัน Klinger - ชั้นพูดถึงไหนแล้วนะ เอ่อ อ่อ ใช่ เนื้อสดๆของพวกแก
ทหารบาดเจ็บ - ใครก็ได้ช่วยด้วย ....
กัปตัน Klinger - นายเป็นทหารด้านในหรอ? บอกชั้นมาเกิดอะไรขึ้น !?
ทหารบาดเจ็บ - ฟังผมให้ดีนะ ...ต้องตั้งรับให้ดี ... มัน ... อ๊ากก ..
กัปตัน Klinger - บ้าเอ้ย ตายซะแล้ว ต้องเป็นทหารรักษาการณ์ของป้อมแน่เลย พวกอีแร้งจากชายแดนน่าจะได้ยินข่าวการตายชองกษัติย์ของเราแล้วแน่ๆ เอาล่ะยังไงซะ พวกแกต้องลุยเข้าไปที่ป้อมกันแล้ว ส่วนชั้นจะอยู่แนวหลังคอยดูแลผู้บาดเจ็บเอง
Strohl - คุณอยากให้เราบุกเข้าไปเลยงั้นหรอ? คนแค่นี้เนี่ยนะ ทำไมเราไม่ขอกำลังเสริม ...
กัปตัน Klinger - หุบปาก ชั้นรู้ตั้งแต่ก้าวแรกที่แกก้าวเข้ามาแล้ว แกอยากจะหันหลังกลับหรอ อยากหนีจากอุดมการณ์ของตัวเองหรอ? กองทหารรักษาการณ์ไม่มีที่ยืนให้คนขี้ขลาดหรอกนะ พวกแกเป็นส่วนหนึ่งในกองทัพของพระองค์ เลิกกลัวได้แล้ว จงต่อสู้ด้วยความภาคภูมิใจ แล้ววันพรุ่งนี้พวกแกทุกคนก็จะได้ถ้วยรางวัล
ทหาร - กัปตันพูดถูก เราเป็นนักรบ ที่คือโอกาสที่ได้จะได้รับเกรียติ และความมั่งคั่ง ชั้นไม่ยอมเสียโอกาสนี้ไปหรอก! ไปกันเถอะ !!
Strohl - บ้าเอ้ย ! แต่ก็เอาเถอะ ยังไงก็สมัครมาแล้ว ลุยไปที่ป้อมบ้านั่นกันเถอะ !
Gallica - เฮ้นี่ คือ ช้นรู้สึกไม่ค่อยดีเลยอ่ะ
...คือ มันบอกไม่ถูก ..มันมีกลิ่นไม่ดีลอยอยู่ในอากาศเต็มไปหมด และมันก็ยิ่งแรงขึ้นเรื่อยๆด้วย
Strohl - นี่เกิดอะไรขึ้น เป็นไรหรอ? ….อะไรอ่ะ fairy งั้นหรอ? นายจับมันได้ด้วยตัวเองเลยหรอ?
🔴เอ่อ ใช่ เพิ่งจับได้เมื่อกี้เลย
🔴เธอมากับชั้น
🔴ไหน fairy ไม่เห็นมีเลย ?
Gallica - เฮ้ ชั้นมีชื่อนะ ชั้นชื่อ กาลิก้า เพื่อนายจะอยากรู้อ่ะนะ
Strohl - พวกนายเดินทางมาด้วยกันหรอ? งั้นก็คงซ่อนตัวมานานเลยสินะ
Gallica - ก็เราไม่อยากจะให้มันวุ่นวายน่ะ ตอนนี้ก็มีปัญหามากพอแล้วเราก็เลยต้องระวังตัว
Strohl - เข้าใจแล้ว ชั้นตกลงใจจะทำตามคำสั่งของกัปตันนั่น แต่ชั้นไม่ยอมตายที่นี่แน่ พักเตรียมตัวให้แน่ใจก่อนจะเข้าไปเมื่อพร้อมก็แล้วกัน นายแน่ใจนะว่าใช้ igniter เป็นแล้ว?
Gallica - ชั้นก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน แต่เขาไม่เคยใช้มาก่อน ชั้นหมายถึงเขาเป็นแค่ชาวบ้านธรรมดาน่ะ มีโอกาสน้อยมากที่จะได้ใช้มัน
Strohl - เข้าใจแล้ว งั้นหลบข้างหลังชั้นให้ดีก็แล้วกัน สัญญาว่าจะไม่ปล่อยให้นายตายแน่นอน
Leon Strohl เข้าร่วมกลุ่มอย่างเป็นทางการ
ลีออน สโตรห์ล ชายหนุ่มจากเผ่าเคลมาร์พบกันที่ ศูนย์รับสมัครในแกรนด์ทราด ชายหนุ่มใจดีที่ให้ ความสำคัญกับความยุติธรรมและมีหัวคิดที่ดี เขามาจากครอบครัวขุนนางแต่ดูเหมือนว่าจะมี สถานการณ์ที่ซับซ้อนทำให้เขาต้องเข้าร่วมกองทัพซึ่งโดยทั่วไปแล้วเป็นอาชีพของคนธรรมดา แม้ว่าทหารใหม่จะบ่นว่าถูกสั่งให้เรียกชื่อกันด้วยนามสกุลเพื่อไม่ให้คุ้นเคยกันเกินไป แต่สโตรห์ลดูเหมือนจะไม่สนใจ
Gallica - แบบนี้ไม่ดีเลย ชั้นไม่คิดว่านายจะต้องไปต่อสู้อะไรแบบนี้เลยนะ เหตุการณ์มันพลิกผันนิดหน่อย แต่ก็อย่าลืมภารกิจของเราล่ะ หวังว่าคนที่เราจะติดต่อด้วยจะปลอดภัยนะ เอาล่ะเข้าไปด้านในกัน ระวังตัวดีๆเข้าไปตามหาเขาให้เจอแล้วรีบออกมาเลย
Strohl - บ้าเอ้ย นายนี่มันวิ่งเร็วดีจริงๆ เมื่อกี้นายคุยอะไรกันหรอ? ได้ยินแว่วๆว่าหาเพื่อนอะไรซักอย่าง?
Gallica - เอ่อ เปล่าๆ ชั้นหมายถึงพวกเรา ชั้นห่วงพวกทหารที่อยู่ด้านในน่ะ
Strohl - เข้าใจแล้ว ชั้นเองก็กังวลเหมือนกัน เอาล่ะเข้าไปข้างในกัน
STORY No.04 : Assassination Order
Northern Border Fort
ป้อมปราการป้องกันที่ขอบชายแดนด้านเหนือของดินแดน ยูโครเนียน ซึ่งติดกับประเทศโอเชียนาทางทิศตะวันตก ป้อมปราการเก่าแห่งนี้สร้างขึ้นก่อนที่อาณาจักรจะรวมเป็นหนึ่ง มีความสำคัญทางการเมืองและยุทธศาสตร์ และมักใช้เป็น สนามฝึกทหารใหม่
Strohl - ห๊ะ!? .... นั่นมัน ....ฮิวแมน งั้นหรอ? …เอาล่ะ พวกนั้นล่อมันไปแล้ว เราไปหาทางช่วยทหารที่บาดเจ็บออกไปจากที่นี่กันเถอะ
Strohl - บ้าเอ้ย สยอดสยองมาก คนตายเพียบเลย
Gallica - หวังว่าเขาคงปลอดภัยนะ ...
Strohl - เรามัวเสียเวลาไม่ได้แล้วรีบมองหาคนที่ยังรอดชีวิตแล้วช่วยพวกเขาด่วนเลย !
Strohl - ระวัง! เราโดนโจมตีแล้ว !!
Gallica - ไอ้ตัวนี้ ทำไมรู้สึกเหมือนมอนสเตอร์ก่อนหน้านี้เลย
Strohl - เหมือนกันหรอ? งั้นไอ้นี่ก็เป็น ฮิวแมน ด้วยอ่ะสิ แต่ยังไงเราก็คงต้องสู้กับมันแล้วล่ะ
Gallica - เดี๋ยวนะก็ถ้ามันเป็น ฮิวแมน จริงๆแล้วเราจะไหวหรอ?
Strohl - ไม่ทันแล้วล่ะ ยังไงก็ต้องลุย เชื่อชั้นเถอะชั้นเคยเจอกับพวกมันมาแล้ว ยังไงซะทางเลือกเดียวของเราคือ ร่วมมือกับสู้เป็นหนึ่งเดียวกัน เข้าใจนะ ? ดีใจนะที่นายยังมีสติอยู่ ได้นายมาสู้ด้วย เราต้องผ่านมันไปได้แน่นอน ฟังนะ เราไม่มีทางจะสู้มันได้แน่ถ้าเรามัวแต่แยกกันโจมตี เราจะสู้กับมันได้ก็ต่อเมื่อเรามีแผนในการโจมตีร่วมกัน เข้าใจนะ เราสองคนรวมกันเป็นหนึ่ง ชั้นเชื่อในการตัดสินใจของนายในเรื่องจังหวะการเข้าโจมตี
⚔ ระบบการต่อสู้ ⚔
เมื่อเจอศัตรูในฉากแผนที่ สามารถที่จะเปิดฉากต่อสู้ได้ด้วยการกดสี่เหลี่ยมเพื่อโจมตี ซึ่งจะรับมือได้แค่มอนสเอตร์ธรรมดา แต่ถ้าเป็น Human ต้องกดสามเหลี่ยม เพื่อใช้การ Squad Battle ต่อสู้ร่วมกับเพื่อนในปาร์ตี้ก็จะตัดเข้าสู่ฉากคำสั่งต่อสู้ และถ้าคุณกดสี่เหลี่ยมโจมตีมันก่อนตอนที่มันยังไม่สังเกตเห็น จะทำให้ศัตรูมึนงงและเสียเทิร์น ทำให้ได้เปรียบในการต่อสู้
สี่เหลี่ยม -โจมตีด้วยอาวุธที่สวมใส่อยู่
สามเหลี่ยม -โจมตีด้วยเวทย์มนต์
วงกลม -ตั้งการ์ดป้องกัน
R1 -ข้ามเทิร์น
กดปุ่ม = (Options) - ใช้ไอเทม
L1 - เทคนิค / หนีจากการต่อสู้
L2 - วิเคราะห์ศัตรู
L3 - Retry (ย้อนเวลาสู้ใหม่)
R3 - สั่งโจมตีอัตโนมัติ
ปุ่มทิศทางซ้ายขวา - เลือกเป้าหมาย
Touch pad - ดูสเตตัส
ระหว่างต่อสู้ให้สังเกตจำนวนของ Turn Icon ที่ด้านบนของจอ เมื่อมันหมดลงก็จะถึงเทิร์นของศัตรู
หลังจบการต่อสู้จะได้ Result ประกอบด้วย
Exp - ค่าประสบการณ์
MAG - Skill point ของ Archetype / ใช้สำหรับซื้อ Archetype ใหม่
Money - เงิน
และก่อนการต่อสู้ถ้าคุณกดสี่เหลี่ยมโจมตีศัตรูก่อนที่มันจะรู้ตัว จะทำให้ศัตรูมึนงงและทำให้ได้เปรียบในการต่อสู้ และถ้าหลังจบการต่อสู้ไม่บาดเจ็บเลยก็จะได้ unscathed triumph โบนัสหลังจบการต่อสู้ที่ทำให้ Result เหล่านี้เพิ่มมากขึ้นด้วย

Strohl - เดี๋ยวๆ หยุดก่อน ขอถามหน่อย เหมือนนายสองคนกำลังหาใครบางคนอยู่ใช่มั๊ย?
🔴ถูกแล้ว
🔴ชั้นตอบไม่ได้หรอก
OXIDE - ชั้นคงบอกไม่ได้หรอก
Strohl - แต่นายก็ไม่ได้ปฎิเสธถูกมั๊ย? ทำไมถึงต้องปิดบังชั้นด้วย ไหนขอเหตุผลดีๆซักข้อสิ
Gallica - ก็ได้ ชั้นจะบอกความจริงกับคุณเอง
---- ก๊าซซซซซซซซซซซซซซ !!! ---
Strohl - บ้าเอ้ย เสียงร้องนั่น !! เสียงคำรามของ Human นี่?
Gallica - เสียงมันเหมือนอยู่บนยอดหอคอยของป้อม บางทีอาจจะมีทหารกำลังสู้กับมันอยู่บนนั้นแน่
Strohl - ไว้ค่อยคุยเรื่องของเราทีหลัง การช่วยผู้รอดชีวิตสำคัญกว่า รีบขึ้นไปบนหอคอยกันก่อนเถอะ!
Strohl - ห๊ะ! Human บ้าเอ้ย พลังมหาศาลไม่ใช่เล่นเลยนะเนี่ย
Gallica - สยองมาก แทบไม่อยากเชื่อเลยว่าชั้นจะได้เห็นตัวของมัน
Strohl - ยังไงเราก็คงปล่อยมันไว้แบบนี้ไม่ได้หรอก เราต้องทำอะไรซักอย่าง .. ไอ้ Human บ้า เพราะแกแท้ๆเลย !!
BOSS - Homo Gorleo
Strohl - อ๊กกก!! บ้าเอ้ย มันจะแข็งแกร่งไปไหนวะเนี่ย ?
OXIDE - เราจะจัดการมันยังไงดี!? ….(เจ้าชายต้องการความช่วยเหลืออยู่ ชั้นจะตายไม่ได้)
Strohl - เราคงต้องหนีแล้วล่ะไม่ไหวแบบนี้ ชั้นจะล่อมันให้ ส่วนหน้ารีบหนีไปก่อนเลย
Gallica - แต่ว่า !!
Strohl - ชั้นเป็นขุนนางนะ และขุนนางก็ต้องปกป้องประชาชนไม่ว่าจะแลกมาด้วยอะไรก็แล้วแต่ !! ลากันตรงนี้แหละเพื่อน ถ้าอยากจะตอบแทนชั้น ก็จงมีชีวิตต่อไป
Strohl - อ๊ากกกกกก !!!!!!
Strohl - อั๊กก !!!
Gallica - ไม่นะ ทำอะไรซักอย่างสิ !!
OXIDE - Strohl !!
Strohl - อย่าทำอะไรโง่ๆแบบนี้ รีบหนีไป !! ก่อนที่มันจะ ....
โอ้เด็กน้อยผู้ต้องชะตากรรมเอ๋ย โอ้นักเดินทางผู้ทุกช์ทรมาน
ชะตากรรมของเจ้าผู้ติดอยู่กับมงกุฎ จิตวัญญาณของเจ้าผู้ติดกับราชบัลลังก์
อนาคตที่ไม่มีรู้กำลังจะเริ่มต้นในขณะนี้
เส้นทางของเจ้าอาจมีหลายทาง แต่มีเพียงทางเดียวเท่านั้นที่ถูกเลือก
เผชิญกับภัยคุกคามที่จะเบื้องหน้าเจ้าหรือไม่ก็ตายอย่างไร้ร่องรอย ...เจ้าเลือกได้เลย
ชั้นเลือก ….
อย่างนั้นแหละ ...... ความกล้าหาญนั้นอยู่ที่จิตวิญญาณที่จะยืนหยัดต่อสู้กับความกลัว
พลังนั่นกำลังรอคำสั่งของเจ้าอยู่ .... ถึงเวลาปลุกฮีโร่ในตัวเจ้าแล้ว
จงจารึกไว้ในใจของเจ้า !!
จงตื่นขึ้น !!!
Gallica - นี่มันเกิดบ้าอะไรขึ้นเนี่ย !!? แต่ก็ช่างเถอะ ยังไงเราก็มีทางสู้ได้แล้ว !!
ARCHETYPE - Seeker ใช้การโจมตีด้วยเวทย์ธาตุลม
OXIDE - พลังนี้มันสามารถใช้เวทย์ได้โดยไม่ต้องใช้ Igniter เลย
Gallica - นายไม่เป็นไรนะ ? ถ้าเราไม่ตอบโต้เราตายแน่ เราจะป้องกันการโจมตีมันยังไงดีล่ะ?
เรียนรู้เรื่องการโจมตีจุด่อน (Weak Point)
ศัตรูบางตัวจะมีจุดอ่นต่อการโจมตีด้วยอะไรบางอย่าง ถ้าโจมตีที่จุดอ่อนเหล่านี้จะมีคำว่า Weak ขึ้นมา
การโจมตีที่จุดอ่อนหรือโจมตีแบบ Critical กับศัตรูนั้นจะทำให้ Turn Icon ของมันลดลงไปครึ่งนึง
Gallica - ดูเหมือนมันจะโจมตีด้วยปีกที่หัวมันกับมีดที่เท้ามันเป็นหลักนะ โจมตีที่สองจุดนี้แหละจุดอ่อนมัน !!
....อย่างนั้นแหละ เอาล่ะ โจมตีจุดอ่อนอีกจุดนึง !!
Gallica - อะไรเนี่ย? มีฮีลด้วยหรอ? มันกินผลไม้ของมันเพื่อเติมพลังได้ด้วย แบบนี้เราโจมตีมันยังไงก็ไม่ตายแน่ถ้ามันรักษาตัวเองได้แบบนี้อ่ะ นายจัดการตัดผลไม้ของมันออกได้มั๊ย?
Gallica -ช้าไปมันมี 2 ลูกนะ รีบตัดผลไม้ของมันออกสิไม่งั้นเราซวยแน่ เอาทั้งสองลูกเลย !! แต่ ชั้นอาจช่วยได้นะ เดี๋ยวชั้นจัดการเองนะ ?
Gallica - นี่แนะ !!! เอาล่ะ ทีนี้มันฮีลตัวเองไม่ได้แล้ว จะทำอะไรก็รีบเลย โอกาสมาถึงแล้ว !!
พลังที่แท้จริงเกิดจากหัวใจและความปรารถนาที่ดึงเอาความแข็งแกร่งออกมา แต่ความกลัวและความวิตกกังวลก็มักจะตามมาด้วยเช่นกัน ....
ตั้งแต่นานมาแล้ว ผู้ที่เรียกกันว่า วีรบุรุษ ได้รับตำแหน่งนี้จากคำสั่งนี้ พวกเขาทำตามความปราถนาของตนและก้าวเดินบนเส้นทางแห่งคุณธรรมด้วยความกล้าหาญ สิ่งที่เจ้าปลุกขึ้นมาคือ จิตวิญญาณของฮีโร่ที่ซ่อนอยู่ในตัวเราทุกคน พลังที่จะหล่อหลอมความกลัวในสิ่งที่เราไม่รู้จักให้กลายเป็นความอยากรู้อยากเห็น หากเจ้าอยากจะเปลี่ยนแปลงโลกด้วยมือเจ้าเอง ก็จงใช้พลังที่เพิ่งค้นพบนี้ออกเดินทาง การเดินทางของเจ้าจะเปิดเผยภารกิจของจิตวิญญาณของเจ้า
Gallica - เสียงใครกันเนี่ย !!? แล้วนาย พลังนั้นมันคืออะไรหรอ?? นายมีหัวใจเป็นเหล็กแล้วนายก็กลายร่างเป็น ... นี่มันบ้าไปแล้ว !!!
- อั๊กก !!!
Gallica - ดูสิ ดูเหมือน Strohl ยังไม่ตายนะ !!
????? - ไม่อยากจะเชื่อเลย!! ตกลงมีใครรอดบ้าง
Gallica - เดี๋ยวนะ เสียงนั่นมัน ...
Gallica - Grius !! ขอบคุณพระเจ้า คุณยังไม่ตาย !!
Grius - กัลลิก้า เธอทำได้จริงๆด้วย ฮ่าๆ
Gallica - OXIDE นี่ไงล่ะคนที่เราตามหา คนที่เราส่งข้อความไปถึงไง
Grius - ดูเหมือนเพื่อนของเธอจะบาดเจ็บสาหัสนะ ไอ้หนูชั้นต้องพึงไหล่ของนาย ช่วยกันพยุงเขาหน่อยเร็ว กลิ่นเลือดของไอ้ตัวนั้นมันจะดึงดูดให้สัตว์ร้ายตัวอื่นมาที่นี่อีก เราต้องรีบไปแล้ว
Grius - เจ้าหนุ่มนั่นหมดสติไปแล้ว แต่เขารอดแล้ว รอให้เขาพักซักหน่อยก็จะดีขึ้นเอง
Gallica - คุณนี่มันเก่งทุกอย่างจริงๆเลย กริอุส ก็หวังว่าสถานการณ์มันดีขึ้นกว่านี้นะ
Grius - เราสองคนยังไม่ตาย ไม่มีอะไรจะดีไปกว่านี้อีกแล้วล่ะ ขอโทษด้วยนะที่ไปร่วมรบกับเธอไม่ได้ แล้วเจ้าหนูหน้าใหม่คนนี้ควบคุมพลังมากมายขนาดนั้นได้ไงเนี่ย
Gallica - ชั้นก็ไม่เคยเห็นมาก่อนเหมือนกัน คุณพอจะรู้เรื่องพวกนี้มั๊ยอ่ะ?
Grius - ก็อาจจะ แต่ตอนนี้ภารกิจของเราต้องมาก่อน
Gallica - ก็จริง ชั้นควรจะเข้าประเด็นเลยดีกว่า กริอุส คุณมีภารกิจใหม่ สังหาร Louis Guiabern เพื่อแก้แค้นให้กษัตริย์ของเรา
Grius - เยี่ยมเลย กำลังอยากอยู่พอดี แม้พวกขุนนางจะไม่ประกาศออกมาแต่พวกทหารรักษาพระองค์ทุกคนรู้กันดีว่าการตายของพระองค์มันผิดธรรมชาติ ไอ้ชั่วหลุยส์ มันหยุดแค่กษัตริย์แค่คนเดียวไม่ได้หรอก จริงมั๊ย?
Gallica - แล้วอีกอย่าง เจ้าชายของเราก็อาการเริ่มทรุดแล้วเรามีเวลาเหลือน้อยแล้ว
Gallica - ดูนี่สิ ชั้นนำสมบัตินี้มาจากหมู่บ้านด้วยพวกเขาเรียกว่า Farsight Mirror คุณลองมาดูสภาพเจ้าชายด้วยตาคุณเองเถอะ
Grius - ฝ่าบาทคงทนอยู่ได้ไม่นานแน่ หนามพวกนั้นมันกำลังจะครอบครองร่างพระองค์หมดแล้ว
Gallica - มันเป็นคำสาปของหลุยส์ การฆ่ามันจึงเป็นทางเดียวที่จะถอนคำสาปให้เจ้าชายได้ หากช้าเกินไปมันได้สถานปนาตัวเองเป็นกษัตริย์องค์ใหม่แน่
🔴ใครคือหลุยส์?
🔴ถึงกับต้องฆ่าเลยหรอ?
🔴ให้ใครซักคนจับเขาไม่ได้หรอ?
OXIDE - คุณจะเป็นคนฆ่าเขาหรอ?
Grius - เฮ้ออ ..งั้น เราควรเริ่มตั้งแต่ต้นเลยดีกว่า

Grius - เมื่อประมาณสิบห้าปีก่อน มีเด็กคนหนึ่งเข้าร่วมกองทัพ แต่คนทั่วไปกลับไม่ค่อยพูดถึงเขาในช่วงวัยนี้... แต่เป็นเพราะว่าเขาเป็นอัจฉริยะทางการทหารที่ไร้ความปรานี ฮีโร่สำหรับบางคน แต่เป็นสัตว์ประหลาดสำหรับคนอื่น

Grius - หลุยส์ กิอาเบิร์น นักวางแผนผู้มากความสามารถและเป็นปรมาจารย์ด้านศิลปะแห่ง magla บางคนบอกว่าเป็นเพียงเรื่องของเวลาเท่านั้นก่อนที่เขาจะได้เป็นนายพล ซึ่งเป็นคนที่อายุน้อยที่สุดในประเทศ
Gallica - จนกระทั่งมันลอบทำร้ายเจ้าชาย
Grius - คืนนั้น เมื่อห้องของเจ้าชายถูกบุกรุก... ไม่ใช่ผู้ใช้เวทมนตร์ธรรมดาที่ร่ายคำสาปร้ายแรงนั้น แต่เป็นหลุยส์ กิอาเบิร์นเองต่างหาก แต่การตายของลูกชายยังไม่เพียงพอสำหรับเขา ตอนนี้เขาต้องแบกเลือดของผู้เป็นพ่อไว้บนมือด้วย และถ้าปีศาจผู้สังหารกษัตริย์ได้ขึ้นครองบัลลังก์ เราก็คงต้องพินาศกันหมด
Gallica - แต่เมื่อเราสำรวจเมืองหลวง พบว่ามีผู้สนับสนุนหลุยส์มากกว่าที่ชั้นคาดไว้มาก แล้วพวกเขาจะยังไว้ใจเขาได้อย่างไรหลังจากเกิดเรื่องทั้งหมดนี้
Grius - หลุยส์เป็นคนฉลาดแกมโกง เขาไม่ได้ทิ้งหลักฐานใดๆ ไว้เลย คุณจะกล่าวหาเขา อย่างไรก็ได้ ข้อกล่าวหานั้นก็จะไม่น่าเชื่อถือ สิ่งเดียวที่พวกเขาทำได้คือส่งเขาไปให้ไกลที่สุดเท่าที่จะทำได้ โพสข้อความไว้กลางที่ห่างไกลที่ไหนซักแห่ง ทหารจำนวนมากไม่เคยเชื่อคำกล่าวหานี้ตั้งแต่แรก เมื่อพวกเขามองดูเขา พวกเขาก็เห็นทหารผ่านศึกที่มีความสามารถคนหนึ่งถูกทำให้กลายเป็นแพะรับบาปของเหล่าขุนนางอย่างไม่ยุติธรรม
Grius -คนส่วนใหญ่คิดว่ากองทัพของราชวงศ์อยู่ในสภาวะที่ดีที่สุดเมื่อพระองค์เป็นผู้ปกครอง และในความเป็นจริงแล้ว เป็นเรื่องยากที่จะปฏิเสธ หากไม่มีพระองค์ เราคงไม่สามารถปราบปรามกบฏได้อย่างรวดเร็วเช่นนี้ สาปแช่งผู้ชายคนนั้นได้ แต่เขาสมควรได้รับตำแหน่งของเขา เขาเชี่ยวชาญดาบ เวทมนตร์... และเขาฉลาดอย่างเห็นได้ชัด สำหรับคนส่วนใหญ่ที่ต้องการการ เปลี่ยนแปลง เขาดูเหมือนเป็นผู้ช่วยชีวิตที่พวกเขาต้องการ
Gallica - ก็ถ้าขนาดคุณยังกังวลเรื่องเขาขนาดนั้น... งั้นมันก็คงไม่ง่ายหรอกนะ
Strohl - ภารกิจบ้าบอนรกแตกอะไรวะเนี่ย ....แต่ชั้นเอาด้วยว่ะ
Grius - มันเป็นแผนของแกใช่มั๊ย แกล้งทำเป็นสลบแล้วแอบฟังน่ะห๊ะ?? แกมันโง่ที่ดันเปิดเผยตัวเองออกมาแบบนี้
Strohl - ถ้าคุณอยากได้เลือดผมก็ใช้ดาบนั่นแทงมาได้เลย ผมจะไม่หนีคุณแม้แต่ก้าวเดียว และจะไม่ยอมหนีจากโอกาสในการทำเรื่องที่ถูกต้องด้วย !
Gallica - ฟังนะ กริอัส เขาช่วยชีวิตพวกเราไว้ข้างในป้อมนั่นและดูเหมือนเราก็ต้องการกำลังคนด้วย และการฆ่าเขาก็คงทำให้เสียอาสาสมัครไปคนนึงเลยนะ
Grius - งั้นตอบชั้นหน่อย เด็กพวกนี้ถือว่าเป็นคนแปลกหน้าสำหรับนายแล้วทำไมนายถึงช่วยชีวิตพวกเขาล่ะ?
Strohl - ผมจะใช้ชีวิต ต่อสู้ และตายอย่างมีเกีรยติเท่านั้นครับ ถ้านอกจากนี้ก็เป็นการทรยศต่อหน้าที่ของผม ผมพูดจากใจได้เท่านี้
Grius - บ้าเอ้ย ตาชั้นถั่วลงไปเยอะเลยว่ะ แต่ถ้าทำให้ชั้นผิดหวังเมื่อไหร่ชั้นจะฆ่านายตรงนั้นเลยเข้าใจนะ !!
Gallica - ตกลงคุณยอมเป็นพวกเราแล้วใช่ป่ะ?
Strohl - ก็ตามนั้น ชีวิตและคมดาบของชั้นเป็นของพวกนายแล้ว
Grius - ในโลกกว้างน่ะมีอันตรายมากมายชนิดที่นายตายในป้อมนั้นน่าจะสบายกว่าเลยนะ จำไว้ว่าชีวิตของนายถูกกำหนดด้วยดาบในมือนายเท่านั้นและนายจะชูมันขึ้นภายใต้คำสั่งของชั้น เข้าใจนะ ! หลุยส์จะมาร่วมงานพระศพด้วย ถ้าเรากลับเมืองหลวงไม่ทันเราจะเสียโอกาสในการตัดหัวมัน แต่ตามถนนสายหลักจะเต็มไปด้วยจุดตรวจแน่นอน นั่นแปลว่าเราต้องหาทางอื่นไปแทน เราจะผ่านเหมืองร้างข้างหน้าไปจะได้ประหยัดเวลาในการเดินอ้อม คืนนี้ดูแลแผลนายให้ดี เราจะออกเดินทางแต่เช้าตรู่เลย
Grius เข้าร่วมทีมอย่างเป็นทางการ
Grius - เอาล่ะ เราควรจะพักผ่อนกันได้แล้ว นี่เป็นการออกรบครั้งแรกของนายใช่มั๊ยพ่อหนุ่ม ขอบคุณพระโชคชะตาที่นายรอดจาก Human มาได้
Strohl - มันเป็นตัวบ้าอะไรก็ไม่รู้ไม่เหมือนกับสัตว์ร้ายอื่นที่ผมเคยรู้จักเลย
Grius - ไม่มีใครรู้แน่ชัดหรอกว่าพวกมันเป็นอะไร พวกมันได้รับการปกป้องจาก Magla นั่นแปลว่าดาบทำอะไรมันไม่ได้หรอก มันไม่ใช่แค่สัตว์ร้ายธรรมดา แต่สิ่งที่เรารู้ก็คือในทุกๆปีพวกมันจะเพิ่มมากขึ้น แพร่กระจายขยายพื้นที่มากขึ้น นั่นเป็นเหตุผลที่ทำไมชั้นถึงมาสืบหาความจริงที่ป้อมนี้
Strohl - แล้วคุณได้เรื่องรู้อะไรมาบ้างครับ?
Grius - ใจเย็นไอ้หนู ไม่มีทางที่จะได้พบพวกบ้านั่นง่ายๆซะเมื่อไหร่ เอาล่ะ ตอนนี้ยังมีเวลา อยากจะถามอะไรก็รีบถามมาได้เลย
OXIDE - ผมอยากฟังแผนของเราที่ชัดเจนอีกทีครับ
Grius - ด้วยจำนวนของฝ่ายเราที่น้อยขนาดนี้ การโจมตีแบบตรงๆคงไม่ฉลาดนัก ใช้การลับสังหารน่าจะเหมาะกว่า ไม่ว่ามันจะอยู่ในฐานะคนฆ่ากษัตริย์หรือไม่ ประชาชนที่ชื่นชอบมันก็ไม่ใช่น้อยๆ ในสายตาประชาชน เขาเป็นคนเดียวที่มีไหวพริบและพลังสงครามที่จะโค่นล้ม Human ได้ กองทัพดูเหมือนจะไม่มีพลังที่จะหยุดยั้งพวกมันลงได้ ดังนั้นเขาจึงเล่นบทเป็นผู้กอบกู้ ได้สบาย ชายคนนี้แทบจะเป็นสัตว์ประหลาดด้วยซ้ำเมื่อพิจารณาจากอายุของคุณ เขาไม่เพียงแต่เป็นนักวางแผนที่เก่งกาจเท่านั้นแต่ยังจะเป็นนักเวทย์ชั้นยอดอีกด้วย
Strohl - แล้วเรามีกันแค่ 3 คนจะล้มมันได้หรอ?
Grius - เราจะใช้วิธีแฝงตัวไปกับฝูงชน ชั้นไม่มีวันยอมให้มันรอดไปจากงานนี้แน่นอน มันต้องตายด้วยมือชั้น
Gallica - หวังว่ากองไฟจะช่วยกันพวกสัตว์ร้ายไม่ให้มากวนเราได้นะ ชั้นยังอดสงสัยไม่ได้ว่าพลังในตัวนายมันคืออะไร แต่ดูเหมือนกริอัสจะรู้อะไรบ้างอย่างเกี่ยวกับมัน แต่ถามตอนนี้คงไม่เหมาะ อย่ามัวเสียเวลาเลย ไปพักผ่อนเอาแรงกันดีกว่า
Gallica - นอนไม่หลับใช่ป่ะล่ะ ก็ไม่แปลกหรอกก็ดูจากเรื่องที่เราเพิ่งเจอกันมาก็สมควรอยู่ แต่ยังไงนายก็ควรนอนพักนะพรุ่งนี้จะมีแรงลุยกันต่อ
🔴ชั้นรู้
🔴ชั้นยังไม่เหนื่อย
🔴นอนบนพื้นแบบนี้ไม่ไหวอ่ะ
OXIDE - ชั้นรู้ จะพยายามนะ
Gallica - คือ ตอนที่ Human จะโจมตีพวกเรา ชั้นได้ยินเสียงแปลกๆ เสียงนั่นบอกให้ชั้นคอยชี้นำนาย นายคิดว่ามันหมายความว่าไง ? ชั้นหมายถึง ชั้นไม่ใช่เป็นผู้ชี้นำอะไรใครได้ดีเท่าไหร่หรอกนะ แค่ชั้นทำหน้าที่นำทางมาส่งข้อความให้กีอัสที่นี่ชั้นยังเกือบพาทุกคนมาตายเลย ชั้นไม่รู้มาก่อนเลยว่าที่นี่จะอันตรายขนาดนี้ รู้สึกเหมือนเป็นความผิดของชั้นยังไงไม่รู้
🔴ชั้นว่ามันก็ไม่ได้อันตรายเท่าไหร่นะ
🔴ไม่ใช่ความผิดของเธอหรอก
🔴มันน่าจะเป็นความผิดของเธอนะ
OXIDE - มันไม่ใช่ความผิดของเธอหรอกน่า
Gallica - นายคิดงั้นหรอ? แต่ ... ฟังนะ ชั้นอาจสู้เคียงข้างนายไม่ได้ แต่ตราบใดที่นายต้องเผิชญกับเรื่องน่ากลัวแบบนี้อยู่ ชั้นก็จะพยายามช่วยเท่าที่จะทำได้อ่ะนะ นายมีบางอย่างที่พิเศษอยู่ในตัวเองนะ ชั้นไม่รู้ว่ามันคืออะไรแต่ชั้นเชื่อในตัวนายนะ เอ่อนี่ รู้มั๊ยว่าการนอนไม่หลับมามีประโยชน์ยังไง มันทำให้เรามีเวลาอ่านนิยายนั่นต่อให้จบไง
Gallica - ถ้าชีวิตเราอยู่ในโลกแบบในนิยายของนายก็คงดีสิ ที่นี่มีแต่สงครามแล้วก็สงครามโดยมี Magla เป็นตัวเติมเชื้อไฟ แต่มันก็เป็นเรื่องจินตนาการที่ดีนะ สนุกกับมันในขณะที่นายยังทำได้ก็แล้วกัน
Gallica - ฝันดีนะ
????? - ไง ยินดีที่ได้เจอนะ ผมรอคุณอยู่นานแล้ว
????? - และตอนนี้คุณก็ได้รับพลังที่น่าสนใจมาแล้วด้วย
????? - คุณเป็นคนที่น่าสนใจจริงๆเลยนะ
More - น่าสนใจมากที่ในช่วงเวลาที่หัวใจของคุณดึงดูดเข้ามาจนผมสามารถติดต่อคุณได้ ผมชื่อว่า มอร์ เป็นคนเขียนนิยายที่คุณกำลังอ่านอยู่
More - และตอนนี้คุณยืนอยู่ในห้องทำงานของผม ดูดีใช่มั๊ยล่ะ? ห้องแห่งปัญญาที่สร้างขึ้นเพื่อวิจัยพลังพิเศษบางอย่างโดยเฉพาะ ผมเรียกมันว่า Akademeia
More - แต่อนิจจา ที่นี่ก็ไม่ต่างอะไรกับคุกในรูปแบบของห้องสมุด พระองค์คงเมตตาที่จะขังผมไว้ในนี้ จริงๆแล้วมันทำให้ผมสับสนเล็กน้อย ผมจำไม่ได้แล้วว่าห้องทำงานจริงๆของผมมันอยู่ในไหนของอณาจักร ผมไม่เคยคิดว่าเสียงของผมมันจะดังลอดออกไปจากห้องนี้ได้จนกระทั่งคุณปรากฎตัวออกมา และตอนนี้ไม่รู้ว่าด้วยพลังประหลาดอะไร ผมสามารถพูดกับจิตใจของคุณได้โดยตรง แล้วคุณอยากจะพูดอะไรกับพันธมิตรของคุณบ้างมั๊ย?
🔴พันธมิตรคืออะไร?
🔴สิ่งนี้มันเกินกว่าสมองผมจะรับไหวแล้ว
🔴ไม่สนใจ
OXIDE - พันธมิตรคืออะไร?
More - คงจะมีอีกหลายอย่างที่คุณคงอยากรู้ อย่างเช่น พลังที่คุณเพิ่งตื่นรู้ ผมคือว่าคุณคงรู้จักวิธีใช้เวทย์มนต์อย่างแท้จริงแล้ว โดยที่คุณไม่จำเป็นต้องร่ายมนต์ผ่าน magla เหมือนคนทั่วไปอีกต่อไป มันคือศาสตร์ที่ซ่อนเร้นมานาน ซึ่งปัจจุบันกลายเป็นแค่ตำนาน และผมเรียกมันว่า พลังต้นแบบ ... Archetypes
OXIDE - Archetypes งั้นหรอ?
More - จิตวิญญาณแห่งคุณธรรมที่กล้าหาญ มันคือแก่นแท้ของพลัง พลังแห่งการเปลี่ยนแปลงที่จะปรากฏให้เห็นเฉพาะผู้ที่เป็นตัวแทนของฮีโร่และกษัตริย์สมัยโบราณเท่านั้น วีรบุรุษสมัยโบราณที่มีรูปร่างที่เหนือมนุษย์ เรื่องนี้ไม่ใช่เป็นเพียงตำนาน แต่เป็นเรื่องจริง อย่างไรก็ตาม บันทึกของผมไม่เคยกล่าวถึงใครเลยที่สามารถใช้มันได้อย่างอิสระเหมือนคุณ บางทีคุณอาจจะไม่ได้เกิดมาพร้อมความสามารถในการใช้มัน แต่คุณเป็นเจ้าของมัน
More - ในรูปแบบที่แท้จริงของพวกเขา Archetypes แสดงให้เห็นถึงพลังของฮีโร่อย่างแท้จริง ผู้ที่สามารถขับไล่ความชั่วร้ายออกไปจากโลกนี้ได้ไม่ว่าจะมาในรูปแบบใดก็ตาม ได้โปรดทำตามที่ผมขอด้วยเถอะ ผมเชื่อว่าความฝันของผมจะเป็นจริงได้ เราสามารถสร้างอณาจักรในอุดมคติได้จริงๆ ซึ่งผมยินดีที่จะสนับสนุน ให้ความรู้ เพื่อให้คุณสามารถควบคุมพลังนั่นได้ คุณว่ายังไงล่ะ? คุณจะจับมือผมในฐานะพัทธมิตรได้หรือเปล่า?
More - เราทำข้อตกลงกันแล้วนะ
ปราชญ์ผู้แสวงหาอุดมคติผู้มีคุณธรรมของ The Seeker อยู่ในตัวเขา จงรักษาสายสัมพันธุ์กับเขาแล้วพลังใหม่ที่หลับไหลอยู่ในตัวเจ้าจะตื่นขึ้น
New Ability
Seeker Archetypes - เพื่อนในปาร์ตี้สามารถเรียนรู้ The Seeker ได้หลังปลดล็อก Akademeia
Bright - Eyed Student - อนุญาตให้เพื่อนในปาร์ตี้สลับเปลี่ยน Archetypes ได้หลังปลดล็อก Akademeia
OXIDE - ชั้นสามารถสัมผัสถึงความเป็นวีรบุรุษของ Seeker ได้จาก มอร์
Followers (ผู้ติดตาม)
มอร์คือผู้ติดตามคนแรกของคุณที่จะสนับสนุนภารกิจชองคุณเสมือนเป็นเพื่อนในปาร์ตี้ที่พร้อมจะเติบโตไปพร้อมกับคุณ การเสริมสร้างความผูกพันระหว่างคุณกับผู้ติดตามจะสามารถปลดล็อคความสามารถต่างๆที่เปลี่ยนรูปแบบการเดินทางของคุณได้ มอร์เป็นเพียงแค่คนนึงในอีกมากมาย ดังนั้นโปรดเฝ้าดูถึงผู้ติดตามคนต่อไป
More - เราคงได้พบกันอีกแน่ ผมมั่นใจ ขอให้เราเดินไปตามเส้นทางที่เราสามารถเชื่อมโยงกันและความตื่นเต้นที่รออยู่ข้างหน้า
Grius - เอาล่ะพร้อมกันแล้วนะ จากนี้ไป การเดินทางของเราจะเป็นความลับ เราต้องกลับไปยังเมืองหลวงแบบที่ไม่มีใครรู้ ดังนั้นเราจะเดินทางตัดผ่านป่าไปยังเหมืองร้างในภูเขาและทะลุออกไปยังทางออกด้านหลังของอีกฝั่ง
Gallica - ไปทางนั้นจะไม่มีใครเห็นเราแน่นะ?
Grius - OXIDE นายต้องเป็นแนวหน้าของเรา มันเป็นการทดสอบอย่างนึง ยิ่งนายควบคุมพลังนั่นได้อย่างคุ้นเคยเมื่อไหร่ก็จะยิ่งดีเท่านั้น
Gallica - คุณพูดเหมือนกับรู้อะไรเกี่ยวกับพลังนั่นอ่ะ
Grius - ก็พอรู้ไม่มาก ชั้นบังเอิญรู้ตอนมาทำภารกิจในช่วงแรก ได้ยินมาว่ามันเป็นพลังที่พบใน ผู้ที่เดินตามเส้นทางแห่งความชอบธรรม เท่านั้น สำหรับชั้นมันฟังดูเหมือนการเชื่อโชคลาง แต่ทุกอย่างชัดเจนขึ้นเมื่ออยู่ในสนามรบ พอชั้นมันจริงๆบอกได้เลยว่ามันไม่ใช่แค่เรื่องเล่าในตำนานแน่นอน แม้ว่าชั้นจะศึกษามันมาอย่างดีก็รู้ดีกว่าระดับชั้นคงไม่มีทางควบคุมมันได้หรอก
Strohl - ถ้ามันใช้ได้กับทุกคน ไม่งั้นมันจะเรียกว่าเป็น พลังพิเศษ หรอ?
Grius - อย่าลืมว่าถ้านายพลาดเมื่อไหร่ชั้นเชือดแกทิ้งแน่จำไว้ !! ชั้นจะจับตาดูนายเอง เอาล่ะก่อนออกเดินทางมาเช็คแผนที่กันให้ดีก่อนดีกว่า ถ้าหลงทางจะทำให้เราเสียเวลา
Gallica - ดูเหมือนที่นี่จะถูกเรียกว่า เหมืองนอร์ด ถ้าเดินทะลุไปอีกฝั่งจะเข้าไปใกล้เมืองหลวงได้
Strohl - ถนนเส้นนี้จะพาเราไปยัง Grand Trad
Grius - นั่นแหละเป้าหมายของเรา Grand Trad!

เหมืองนอร์ด ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของแกรนด์ทราด อุดมไปด้วยทรัพยากรที่มีค่าอย่าง magla Crystal เนื่องจากความใกล้ชิดกับเมืองหลวงทำให้การขุดค้นคริสตัลเป็นเรื่องง่าย แต่คำประกาศปิดอย่างกะทันหันของคริสตจักรซานติสต์ทำให้การทำงานต้องหยุดชะงัก
ผลึก magla ที่ก่อตัวขึ้นตามธรรมชาติในที่ที่มีความเข้มข้นสูงจนเน่าเปื่อย แม้ว่านักวิชาการจะพัฒนา วิธีการสร้างผลึกเหล่านี้ขึ้นมาโดยเทียมเมื่อไม่ นานนี้ก็ตาม สีของผลึกขึ้นอยู่กับกระบวนการก่อตัว และสิ่งเจือปน ผลึกธรรมชาติที่มีความบริสุทธิ์ สูงมีความจำเป็นอย่างยิ่งในการผลิตสารจุดไฟ ที่มีประสิทธิภาพสูง ด้วยเหตุนี้ บางคนจึงให้คุณค่า กับผลึกเหล่านี้มากกว่าอัญมณีและโลหะมีค่า
พื้นที่ซึ่งมีคริสตัลอยู่มากมาย มักถูกอ้างสิทธิ์ในนามของราชวงศ์ว่าเป็นแหล่งขุดแร่ของอณาจักร
อย่างไรก็ตาม ผู้คนต่างซุบซิบกันมาเป็นเวลานานแล้วว่าคริสตัล magla เป็นอันตรายต่อผู้ที่สัมผัสกับคริสตัลเหล่านี้ แต่คำกล่าวเช่นนี้ส่วนใหญ่มักถูกมองว่าเป็นเพียงข่าวลือ เนื่องจากมีหลักฐานสนับสนุนน้อยมาก แต่เมื่อไม่นานนี้ แม้แต่กองทัพของรัฐเองก็ยังระมัดระวังมากขึ้นกับคริสตัลเหล่านี้ เนื่องจากมีรายงานเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเพิ่มมากขึ้น
เมื่อออกจากป่าแล้วเดินทางต่อไปตามถนนในป่าที่นำไปสู่เหมืองร้าง
STORY No.05 : Between Reality and Fantasy
Nord Forest Trail
Grius - ทางเข้าเหมืองต้องเดินตรงไปตามเส้นทางด้านหน้า อย่าออกนอกเส้นทางล่ะ
Strohl - เฮ้ออ ...
🔴มีอะไรหรอ?
🔴ยังเจ็บแผลอยู่หรอ?
OXIDE - ยังเจ็บแผลอยู่หรอ?
Strohl - เปล่า ชั้นสบายดี ก็แค่ ....รู้อดหงุดหงิดที่กำลังถูกจับตามองอยู่น่ะสิ เดินเข้าไปในป่าลึกแบบนั้นมันคงไปไหนได้มั้ง ? ชั้นก็แค่สังสัย
Grius - ถ้ากำลังวางแผนหาทางหนีอยู่ อย่าลืมว่าชั้นจับตาดูแกอยู่ก็แล้วกัน
Gallica - ดูนั่นสิ บนฟ้า
Grius - ไอ้พวกนกตัวใหญ่พวกนั้นเขาเรียกกันว่า Korvo มันจะล่าเหยื่อด้วยการซุ่มโจมตีจากบนฟ้า
Gallica - แล้วเอาไงต่อกันดี เหมือนจะมีปัญหาเพิ่มขึ้นมาอีกแล้วสินะ หรือเราต้องรอให้พวกมันไปก่อนดีล่ะ?
Grius - ไม่ๆ เราต้องเดินหน้าต่อเวลาเราเหลือน้อยแล้ว ... อีกอย่าง
Strohl - ให้เดานะ ลุงคงไปได้เร็วกว่านี้ถ้าชั้นตายตรงนี้ ลุงจะได้ไม่ต้องจับตามองชั้นสินะ ไม่เอาน่า เชื่อใจกันหน่อยสิ
Grius - ชั้นควรทำงั้นหรอ? ก็ถ้านายมีค่ามากพอจริงๆก็ต้องพิสูจน์ให้เราเห็น เราต้องลุยไปข้างหน้าอย่าเป็นตัวถ่วงก็แล้วกัน !!

Gallica - เดี๋ยวก่อน ตรงนั้นมีฝูงหมาป่าอยู่ด้วย !!
Grius - นั่น Hundos สัตว์ร้ายที่ออกล่าเป็นฝูง หากพวกมันเข้ามาโจมตีพร้อมกันทั้งฝูง เราถูกรุมแน่
Gallica - งั้นเราคงต้องหาทางอ้อมไปทางอื่นแล้ว
Grius - ทำไมถึงคิดงั้นล่ะ มันก็แค่ฝูงหมาป่าไม่ควรค่าให้ต้องกังวลซักนิดกับคนอย่างนาย
🔴ใช่หรอ?
🔴แน่นอนอยู่แล้ว
OXIDE - แน่นอนอยู่แล้ว
Grius - เยี่ยม นายคงเริ่มเข้าใจแล้วสินะว่าไม่ควรปล่อยให้ความกลัวมาหยุดนายได้ ก่อนอื่นต้องลองตรวจสอบพวกมันให้ดีก่อนว่าเคยเจอมันมาก่อนมั๊ยหรือเจอครั้งแรก แล้วก็ประเมินความแข็งแกร่งของมัน ถ้าดูแล้วมันแข็งแกร่งก็ต้องเข้าใกล้อย่างระมัดระวัง แต่ถ้าประเมินแล้วว่ามันอ่อนแอกว่าก็จัดการทีเดียวไปเลย เอาล่ะเท่าที่ดูขนาดของพวก hundo ลองประเมินสิว่ามันเป็นยังไง?
🔴มันแข็งแกร่ง
🔴มันกระจอก
🔴ไม่รู้เหมือนกัน
Grius - อย่าปล่อยให้ความกลัวมาบดบังการตัดสินของนายล่ะ นายรอดจากป้อมปราการนั่นมาได้แล้ว เจอแค่นี้ไม่น่าจะยากอะไรนี่
เรียนรู้ การประเมินศัตรู
กด L2 จะทำการสแกนประเมินศัตรู โดยจะเห็นระดับความแข็งแกร่งของมันเป็นระดับของสีต่างๆ
สีน้ำเงิน - ศัตรูระดับต่ำกว่า
สีเหลือง - ศัตรูระดับเดียวกัน
สีแดง - ศัตรูระดับสูงกว่า
สีขาว - ศัตรูที่ไม่รู้จัก ระบุไม่ได้
ถ้าเจอศัตรูที่ระดับที่ต่ำกว่าก็ใช้แค่ดาบโจมตีก็พอ (กดสี่เหลี่ยม) และแม้จะถูกศัตรูที่อ่อนแอกว่าเข้าโจมตีก็จะไม่ตัดเข้าสู่การต่อสู้เป็นทีม
เรียนรู้การกด L1 เพื่อล็อกเป้าศัตรูตัวเป้าหมายให้อยู่ในสายตาก่อนจะโจมตี จะสามารถวิ่งเข้าไปโจมตีเป้าหมายที่ต้องการได้ง่ายกว่า
เรียนรู้ระบบ Retrying Battle หรือ การลองสู้ใหม่อีกครั้ง
ในกรณีที่คุณไม่พอใจกับการต่อสู้ คุณสามารถเริ่มการต่อสู้ใหม่ได้ด้วยการกด L3
เรียนรู้ระบบ Skill Selection Assist
กด R2 ใช้คำสั่ง Assist ระบบช่วยเหลือจะเลื่อนเคอร์เซอร์ไปที่ศัตรูที่มีจุดอ่อนโดยอัตโนมัติ
เรียนรู้ระบบ การปรับแผนการต่อสู้และการหนี
เมื่อกด L1 ในฉากต่อสู้จะสามารถเลือกเมนูได้ระหว่าง ปรับแผนการต่อสู้ให้เพื่อนในปาร์ตี้ หรือ หนี
แผนการต่อสู้ (TACTICS)
Let the decide- ปล่อยให้เพื่อนในปาร์ตี้ต่อสู้ตามความถนัดของตัวเอง แบบประหยัดไอเทม
Fight to kill - ต่อสู้เต็มกำลัง รวมถึงใช้ไอเทมเต็มที่ด้วย
Priorities attacks - ให้เพื่อนในปาร์ตี้เน้นโจมตีอย่างเดียว โดยไม่ใช้ไอเทม
Conserve MP - ให้เพื่อนในปาร์ตี้สู้โดยไม่ใช่ MP และ ไอเทม
Priorities health - ให้เพื่อนในปาร์ตี้สู้โดยเน้นความสำคัญของชีวิต ใช้ไอเทมเติม HP ทันทีเมื่อพลังชีวิตต่ำ ทำให้เปลืองไอเทมรักษา
Attack normally - ให้เพื่อนในปาร์ตี้สู้โดยใช้การโจมตีปกติอย่างเดียว ไม่ให้ใช้ไอเทมหรือเวทย์
Grius - เออ ใช่ ยังมีกฎอีกข้อที่นายต้องจำให้ขึ้นใจ อย่าลืมการตั้งการ์ดป้องกันตัวล่ะ แม้ว่าจะเป็นศัตรูที่อ่อนแอกว่าก็ตาม ผลการต่อสู้มันอาจเปลี่ยนแปลงได้ถ้านายประมาท ถ้าเกิดเหตุการณ์แบบนั้นขึ้นก็ให้เปลี่ยนกลยุทธ์และต่อสู้แบบเป็นหนึ่งเดียวกัน ค่อยๆคิดเดี๋ยวทุกอย่างก็จะดีขึ้น วิเคราะห์สถานการณ์ให้ดีแล้วปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ อย่าหยุดมองหาวิธีที่จะทำให้ได้เปรียมการต่อสู้ล่ะ ไม่มีอะไรสำคัญกว่าประสบการณ์ จงเรียนรู้ระบบต่อสู้ให้คุ้นเคยก่อนที่เราจะไปถึงแกรนด์ทราด ชั้นต้องแน่ใจว่านายต้องปกป้องตัวเองได้
พ่อค้าเร่ - ผมไม่เคยเห็นพวกคุณแถวนี้มาก่อนเลย คงไม่ใช่โจรใช่มั๊ย?
🔴ทำไมพูดแบบนั้นล่ะ?
🔴คุณเองก็ไม่น่าไว้ใจเหมือนกันนั่นแหละ
OXIDE - ทำไมพูดแบบนั้นล่ะ?
พ่อค้าเร่ - โอเค เท่าที่ดูพวกคุณคงไม่ใช่โจรหรอก ผมคงกังวลมากไปเองแหละ ผมรู้ว่ามันน่าตลกที่คิดแบบนั้นแต่ในพื้นที่รกร้างแบบนี้ผมก็ไม่รู้ว่าใครเป็นใครหรอกนะ
Grius - แล้วนายล่ะมาทำอะไรในพื้นที่รกร้างแบบนี้
พ่อค้าเร่ - ผมไม่ใช่ศัตรูหรอกน่าเพื่อน ผมก็แค่พ่อค้าเร่ แถวๆนี้ชั้นก็พอมีลูกค้าประจำอยู่ แต่พวกสัตว์ร้ายก็เยอะอยู่ นี่ก็ยังกลัวจะเจอ ฮิวแมน เลยด้วยซ้ำ พวกคุณคงได้ยินข่าวมาบ้าง น่ากลัวใช่มั๊ยล่ะ? โทษทีไม่ได้ตั้งใจจะทำให้กลัว เอ่อ ว่าแต่คุณสนใจจะซื้อสินค้าอะไรบ้างมั๊ยล่ะ?
Grius - เดี๋ยวก่อน รู้สึกแปลกๆ เหมือนมีรังสิอำมหิตในอากาศนะ เหมือนเรากำลังถูกล้อมอยู่ ไม่รู้สัตว์หรืออะไรซักอย่าง ... ชั้นรู้ว่าพวกแกได้ยิน ออกมาซะ หรือจะให้ชั้นเข้าไปหาแกเอง !!
soldier - ตาแก่นี้จมูกดีไม่ใช่เล่นเลยนะ ไอ้พวกนี้มันมีชีวิตอยู่นานเกินไปแล้ว ฆ่ามันซะ !!
Grius - ดูเหมือนว่าเราคงต้องสู้แล้วนะ
OXIDE - ไม่เคยสู้กับทหารมาก่อนเลย แต่ก็ช่วยไม่ได้ ไม่มีทางเลือกจริงๆ
เรียนรู้การตั้งการ์ด
กด O ตั้งการ์ด ซึ่งแม้จะทำให้เสียไปเทิร์นนึง แต่จะช่วยลดความเสียหายจากการถูกโจมตี ป้องกันไม่ให้ศัตรูเห็นและโจมตีจุดอ่อนและทำให้ศัตรูไม่ได้เทิร์นอีกด้วย
เรียนรู้เกี่ยวกับ Formation effectively
ในระหว่างใช้การต่อสู้แบบทีม กดปุ่มทิศทางขึ้นลงจะเป็นการจัดรูปแบบการต่อสู้ของทีม ที่จะปรับตำแหน่งการยืนของสมาชิกในทีม จะส่งผลต่อความเสียหายที่สมาชิกในทีมจะได้รับไม่เท่ากันขึ้นอยู่กับตำแหน่งการยืน คนที่ยืนอยู่แถวหน้าจะได้รับความเสียหายจากการถูกโจมตีระยะประชิดมากกว่าคนอยู่แถวหลัง
Grius - พวกเขาเป็นทหารจากป้อมใช่มั๊ยเนี่ย? มีคนรอดด้วยหรอ? ไม่น่าเป็นไปได้
Strohl - มันก็แค่พวกหนีทัพน่ะ
Grius - นั่นไม่ใช่สิ่งที่ชั้นถาม หวังว่าพวกมันคงไม่ได้ถูกส่งให้มาล่าเรานะ?
Strohl - ก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่คุณคงรู้แล้วนะว่าผมไม่ใช่สิ่งที่ควรกังวลมากที่สุด
Gallica - ถ้างั้นเราควรรีบไปต่อกันได้แล้วล่ะ
Grius - เอาล่ะ ถึงแล้ว ที่นี่ไง
Gallica - ดูน่ากลัวจัง ก็อย่างว่า ก็คุณบอกว่ามันถูกทิ้งร้างเอาไว้
Grius - ใช่ เป็นคำสั่งของพระราชา ชั้นเองก็ไม่ได้มาที่นี่นานมากแล้วเหมือนกัน แต่ก็ได้ยินมาว่ามีพวกนักขุดหลายคนยอมเสี่ยงที่จะเข้ามาที่นี่เพื่อหาสมบัติที่เหลืออยู่ในนั้น
Strohl - ระหว่างคนงานเถื่อนกับทหารติดอาวุธที่ไล่ลาเรา ชั้นขอเลือกเข้าไปข้างในดีกว่านะ
Grius - แกพูดถูก เตรียมตัวให้พร้อมแล้วเราจะรีบเข้าไปให้เร็วที่สุด
Grius - เหตุการณ์เมื่อคืนทำให้ทหารในป้อมถูกฆ่าตายหมด พวกเขาคงไม่มีกำลังคนเพียงพอที่จะค้นหาผู้หลบหนีแน่นอน... ไม่รู้ทำไมเราถึงถูกไล่ล่า.....อย่างไรก็ตาม เนื่องจากภารกิจของเราเป็นภารกิจที่ท้าทายมาก จึงเป็นการดีที่สุดหากพวกเขาคิดว่าเราตายแล้ว เรารีบเดินหน้าฝ่าเหมืองนี้ไปให้ได้ในขณะที่เรายังทำได้ดีกว่า
Strohl - ตอนแรกก็คิดว่าคิดมากไปเองที่รู้สึกว่าถูกตามตลอดเวลา... แต่เหมือนที่ Grius พูดมีบางอย่างผิดปกติ เมื่อ human โผล่ออกมาจากที่ไหนก็ไม่รู้ มันก็ฆ่าทหารตายหมด... แล้วอีกอย่าง... บางทีมันอาจจะไม่ได้มาจากไหนก็ไม่รู้ แต่ถ้าเป็น แบบนั้นล่ะ... ไม่ใช่... มันไม่น่าเป็นไปได้
STORY No.06: Second Awakening
Nord Mines
Strohl - เงียบผิดปกติ คุณแน่ใจนะว่ามีแรงงานเถื่อนอะไรนั่นทำงานอยู่ในนี้อยู่น่ะ
Grius - เงียบจนทำให้รู้สึกอึดอัดสินะ ที่นายรู้สึกแบบนั้นก็เพราะนายกำลังขาดอากาศหายใจเพราะในนี้มันมีอ็อกซิเจนน้อยจนทำให้หายใจลำบากมันเลยอึดอัดไง ดูจากคนที่เคยตามชั้นมาที่นี่ก็เป็นแบบนี้ ก็คงประมาณว่า …
ทหาร - หยุดนะไอ้พวกหนูสกปรก วางอาวุธซะ พวกแกต้องตายอยู่ในนี้ทั้งหมดนั่นแหละ!!!
Grius - อย่างที่คิดไว้จริงๆด้วย มันซุ่มรอให้เราเดินเข้าไปในกับดัก ที่นี่เราเสียเปรียบเพราะเป็นที่แคบเราต้องรีบถอยกลับ
ทหาร - สายไปแล้วไอ้โง่ เราปิดทางออกไว้หมดแล้ว !! มอบตัวซะไม่งั้นไอ้พวกคนงานเหมืองด้านในได้ตายหมดแน่ !!
Strohl - เดี๋ยวนะ นี่ต้องเป็นการเข้าใจผิดแน่ เรายังไม่ได้ทำอะไรผิดเลย เราไม่ใช่คนทรยศนะ!! ที่เราต้องหนีออกมาเพราะไอ้ตัว Human นั่นต่างหาก!
ทหาร - เออ พวกเรารู้ดี นั่นคือเหตุผลที่เราจะไม่สามารถปล่อยให้ใครรอดไปได้ไงล่ะ! มันเป็นคำสั่งน่ะ
Grius - เฮ้อ แม่งเอ้ย มาเจอทษฎีสมคบคิดบ้าอะไรอีกวะเนี่ย เราไม่มีทางเลือกแล้วคงต้องลุยฝ่าออกไปอย่างเดียวแล้วล่ะ !!
คนงานเหมืองบาดเจ็บ - อั๊กกก !!
Strohl - เฮ้ นายโอเคมั๊ย?
คนงานเหมืองบาดเจ็บ - ผมบอกแล้วไงว่าไม่ใช่พวกหนีทัพ ...ได้โปรด อย่าฆ่าผมเลย ...อั๊กกก...
Strohl - อะไรกันเนี่ย ทำไมพวกมันต้องทำแบบนี้ !!
Grius - เพื่อส่งข้อความถึงพวกเราไงไอ้หนู ถ้าเราไม่มอบตัวพวกมันก็จะฆ่าคนงานทั้งหมด
Strohl - มีคนเดียวที่รู้ว่าเรารอดชีวิต และคนๆเดียวที่สั่งการทหารได้ แม่งเอ้ยย รีบไปกันก่อนดีกว่า!
▮ NORD MINES - Storehouse
Gallica - เดี๋ยวนะ นั่นมัน!
Strohl - อย่างที่ชั้นคิดจริงๆด้วย ตอนนื้ทุกอย่างก็กระจ่างแล้ว
Strohl - กะแล้วว่าต้องเจอแกที่นี่ เพราะมีแกเท่านั้นที่ไม่ได้ขึ้นไปบนป้อมนั่น
Captain Klinger - ก็ใครจะไปคิดล่ะว่าไอ้ทหารกระจอก 3 คนจะรอดมือสังหารมาได้
Strohl - ไอ้ชั่วเอ้ย !! แกไม่ต้องการให้ใครรอดเลย แกรู้อยู่แล้วว่าในป้อมมี Human อยู่
Captain Klinger - แน่นอน ก็พวกแกก็ได้ยินข่าวแล้วนี่ ชั้นก็แค่เอาเหยื่อมาเพิ่มให้มัน ตอนแรกก็ไม่คาดหวังว่ามันจะอาละวาดแบบนั้นซะหน่อย
Grius - แกส่งทหารทั้งหมดไปตายเพื่ออะไร!! ทำไม!!
Captain Klinger - ก็เพราะทหารองค์รักษ์ไม่สามารถต่อกรไอ้เจ้า Human ได้เลยนะสิ ที่ทำได้ก็แค่ต้องเสียสละเพื่อให้รู้ว่าเราได้พยายามแล้ว
Grius - มีคนต้องการจะด้อยค่าทหารรักษาพระองค์ ในเวลาที่ประชาชนต้องการทหารมากที่สุดก็เลยต้องมีฮีโร่ออกมาปกป้องพวกเขา แผนแกคือแบบนี้ใช่มั๊ย !!?
Grius - ผู้ช่วยให้รอดหรอ? นี่นายกำลังจะบอกว่านายคิดว่าพวกมันเป็นคนของ Louis หรอ?
Captain Klinger - โถ่ฝูงแกะที่น่าสงสาร พวกแกต้องคนเลี้ยง แค่เสียเลือดเสียเนื้อนิดๆหน่อยๆแสดงให้เห็นว่าใครคือผู้ช่วยให้รอดที่แท้จริงของพวกเขา ก็ถือว่าเป็นราคาที่ต้องจ่ายอ่ะนะ
Strohl - แล้วทำไมเด็กหนุ่มเด็กสาวพวกนั้นต้องตายเพื่อให้แกได้เป็น ผู้ช่วยให้รอด ด้วยว่ะ !!
Captain Klinger - พวกมันไม่ใช่เหยื่อรายแรกหรอก เมื่อมีทหารร้องขอกำลังเสริมในขณะที่ชาวบ้านในหมู่บ้านนั่นก็ขอร้องให้ละเว้น และชั้นก็รู้ดีว่าอะไรที่ไม่ควรเผชิญหน้าก็แค่นั้น
Strohl - เดี๋ยวนะ หมู่บ้านหรอ? แกปฎิเสธ ? หรือว่าแกก็คือที่....
Strohl - เมื่อ 7 ปีก่อน วันแห่งเปลวเพลิงแรกของเดือนมิถุนายน
หมู่บ้านบนเนินเขาแห่งนึงทางตอนเหนือถูกเผาจนราบเป็นหน้ากลอง หมู่บ้านนี้ชื่อ Halia
Captain Klinger - หือ ? อืมม น่าจะชื่อนั้นแหละ
Strohl - แกทำพลาดอย่างแรงแล้ว คลิงเกอร์ ..............
Strohl - เพราะยังเหลือผู้รอดชีวิตอีกคนนึงโว้ย !!!!!
ทหาร - ถอยไปนะไม่งั้นไอ้คนงานนี้ตาย !!
Captain Klinger - ก็แกทำให้พวกข้าได้ประโยชน์เองนี่ ที่นี่เป็นถนนสายเดียวที่ไม่จุดตรวจ
Strohl - แกทำให้ตำแหน่งของแกต้องเสียเกรียติ ชั้นคงไม่มีทางรอดมาถึงวันนี้ได้ถ้าไม่ใช่เพราะแก
โอ้ท่านผู้ถูกเผาใหม่ด้วยความขมขื่น โอ้ผู้เดินทางที่ทุกข์ทรมาน ถึงเวลาที่คุณจะต้องเลือกทางเดินของคุณแล้ว
โอ้ดาวนำทางซึ่งแสงสว่างของมันเผยให้เห็นเส้นทางของราชา ...จงตื่นขึ้นมา
Strohl - นี่มัน ....
Captain Klinger - นั่นมันบ้าอะไรกันวะ !! …ข้าจะทำให้นายท่านหลุยส์ผิดหวังไม่ได้ ถ้าไม่มีเขาข้าก็ไม่เหลืออะไรเลย
Captain Klinger - ดิ้นรนไปก็เปล่าประโยชน์ ข้าไม่ยอมปล่อยให้แกขโมยความรุ่งเรืองของข้าไปง่ายๆหรอก !! นี่คือหนทางไปสู่ความจริงไอ้หนูน้อย !!
Strohl - แกเรียกสิ่งนี้ว่าความจริงงั้นหรอ? ผู้นำที่ทิ้งประชาชนและปล่อยให้ผู้บริสุทธิ์ต้องตายเพราะความน่ารังเกลียดของเขา
Strohl - ถ้านี่เป็นโลกแห่งความจริง ….
Strohl - อย่างงั้นก็ให้มันตายไปพร้อมกับแกซะ !!!!!
Strohl - ข้าชื่อ Leon Strohl da Haliaetus บ้านและครอบครัวของข้าถูกพลัดพรากไปจากข้า
Strohl - ข้าคือคนสุดท้ายของตระกูลข้า ข้าคือคนสุดท้ายของสายเลือดที่สูงส่งของข้า !!! และในนามของประชาชนของข้า ข้าจะประหารเจ้าให้ตายตรงจุดที่เจ้ายืนอยู่นั่นแหละ !!!!!!
Strohl - เข้ามา !! ข้าจะพาไปชมโลกที่มีเกรียติอย่างแท้จริง !!!
Grius - นี่มันอะไรกันเนี่ย??
Gallica - เดี๋ยวนะ เขาได้พลังเหมือนกับนายแล้ว ทำไมไม่สอนให้เขาใช้มันหน่อยล่ะ !!
Captain Klinger - ข้าไม่รู้หรอกนะว่าพวกแกกำลังทำอะไรกันอยู่ แต่ข้าจะไม่ยอมจำนนต่อคำขู่กระจอกๆไร้ค่าแบบนั้นแน่นอน ข้าจะใช้ igniter ที่มีทั้งหมดนี่เผาแกจนเป็นเถ้าถ่าน !!! เอาล่ะพวกทหาร จงปกป้องข้าเดี๋ยวนี้ !!!
Strohl - ใช้ลูกน้องมาเป็นโล่ป้องกันชีวิตตัวเอง เผยธาตุแท้ของตัวเองออกมาแล้วสินะ !! ชั้นจะจัดการแกให้สิ้นซากด้วยจุดจบที่แกสมควรจะได้รับเอง !!!!
Grius - การใช้พลังจาก igniter มันอันตรายมาก ต้องมีการคำนวณการใช้งานและใช้ด้วยความระมัดระวัง ป้องกันตัวเองให้ดีก็แล้วกัน ทนกับมันให้ได้ก็แล้วกันนะ

BOSS - Captain Klinger
Captain Klinger - เป็นไปไม่ด้ายยยย ... อั๊กกก ..
Grius - ไม่น่าเชื่อเลยว่านายทหารในยศสัญญาบัตรที่ใหญ่โตขนาดนี้จะกลายเป็นคนบ้าคลั่งไปได้
Strohl - ได้ยังไง ...? ผมใช้พลังเวทย์มนต์แบบนั้นโดยไม่ต้องใช้ Igniter ได้ยังไงเนี่ย?
Grius - เหมือนกับเจ้าหนุ่มนี่ นายสองคนเป็นใครกันแน่เนี่ยห๊ะ?
Strohl - ผ ...ผม ลีออน สโตรล เป็นเพียงขุนนางผู้ตกอับจากชนบท ตอนนั้น คริงเกอร์ได้พูดถึงหมู่บ้าแห่งนึงที่ถูก Human ทำลาย พวกชาวบ้านเลยส่งคนไปขอความช่วยเหลือจากทหาร แต่กลับไม่มีการส่งทหารมาช่วย พวกมันทิ้งพวกชาวบ้านให้ถูกฆ่าตายจนหมด
Strohl - .... หมู่บ้านนั้นชื่อ Halia และผมก็คือลูกชาวของลอร์ดผู้ดูแลหมู่บ้านนั้น และตอนนี้ผมก็รู้ความจริงแล้ว เราส่งม้าเร็วที่เร็วที่สุดออกไปขอความช่วยเหลือ แต่ .... โชคชะตาของพวกเราถูกลิขิตมาแต่ต้นแล้ว ถ้าหลุยส์อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้ และผมต้องรู้ให้ได้ เขาเป็นคนเดียวที่จะบอกความจริงทั้งหมดกับผมได้
Strohl - ตอนนี้ผมมีเหตุผลที่จะลุกขึ้นมาต่อสู้แล้ว ผมไม่อยากจะเป็นพันธมิตรที่นั่งเฉยๆสบายๆไปวันๆ ได้โปรดให้ผมร่วมเป็นส่วนนึงของทีมของนายด้วยเถอะนะ
Gallica - คุณจะว่าไงล่ะ Grius
Grius - เฮ้ออ ...ชั้นก็บอกแต่แรกแล้วว่าคอยจับตาดูแกไม่ให้สร้างปัญหา
Strohl - สรุปว่าคุณโอเค ...แล้วนายล่ะ OXIDE ?
🔴นายก็เป็นพวกของเราอยู่แล้วนี่
🔴ตกลง เราจะเป็นพันธมิตรกัน
🔴อย่าเพิ่งคิดไปไกลขนาดนั้นเลย
OXIDE - นายก็เป็นพวกของเราอยู่แล้วนี่
Strohl - ขอบคุณ ชั้นจะจำเอาไว้นะ
Strohl - จากนี้ ลุยไปข้างหน้าด้วยกันนะ
ขุนนางผู้สูงศักดิ์ผู้ภาคภูมิใจในคุณธรรมของนักรบในตัวเอง จงรักษาสายสัมพันธ์ระหว่างเจ้ากับเขาและพลังใหม่ที่หลับใหลอยู่ภายในตัวเจ้าก็จะตื่นขึ้น
NEW ABILITY - Warrior Archetype
ชั้นสัมผัสได้ถึงความเป็นวีรบุรุษแห่งนักรบในตัวสโตรล
Gallica - นายรู้สึกหรือเปล่า เกิดอะไรขึ้น มีอะไรเกี่ยวข้องกับพลังเวทย์ประหลาดนั่นหรือเปล่า? พอมาคิดๆดูแล้ว หลังจากพลังพิเศษของนายตื่นขึ้น จากนั้นของสโตรลก็ตื่นขึ้นตามมาติดๆ แบบนี้มันหมายความว่าไง ? ….. ห๊ะ !!!! อะไร เนี่ย .........



Gallica - เฮ้ !!! นี่เราอยู่ที่ไหนเนี่ย ??? นี่มันเกิดอะไรขึ้น !!?
More - น่าแปลกใจจริงๆที่คุณกลับมาที่นี่อีกครั้ง แล้วก็นางฟ้าตัวน้อย ผมนึกว่า fairy มันสูญพันธ์ไปนานแล้ว พวกมันยังไปหลบภัยที่วิหารของเผ่าเอลด้าอยู่อีกหรอ?
Gallica - นี่คุณจะคุยกับชั้นหรือพูดลอยๆขึ้นมาเฉยๆกันแน่เนี่ย ?

More - เราเจอกันอีกแล้วนะ OXIDE แม้ว่าจะเร็วกว่าที่ผมคิดไว้ก็เถอะ น่าแปลกที่พลังของเพื่อนของคุณอีกคนก็ตื่นขึ้นมาด้วย ช่างเป็นปาฎิหารจริงๆ ใช่แล้วพลังที่ก่อตัวขึ้นจากภายในตัวเพื่อนของคุณก็คือ Archetype ที่แข็งแกร่งอีกตนนึง คุณจำที่เราเคยคุยกับก่อนหน้านี้ได้มั๊ยล่ะ ที่เกี่ยวกับเรื่องที่ Archetype เป็นรากหง้าของเวทย์มนต์ได้ยังไงน่ะ
🔴ก็พอจำได้
🔴ไม่แน่ใจนะ
OXIDE - เอ่อ ก็พอจำได้นะ
More - เยี่ยมมากเลย ลองคิดดูนะ ในฐานะที่คุณเป็นเอลด้า คุณเป็นคนนอกสังคมใช่มั๊ย? ตัวตนของคุณเป็นเหมือนโชคชะตาที่อาจท้าทายได้แต่ปฏิเสธไม่ได้ มนุษย์ทุกคนต้องทนทุกข์ทรมานจากภาระที่แบกรับเอาไว้ แต่เมื่อคุณเผชิญและยอมรับความวิตกกังวลนั้น คุณจะทำให้มันกลายเป็นพลังภายใน ตัวคุณ และคุณจะค้นพบอิสรภาพ ดังนั้น ชีวิตของผู้ที่เอาชนะความยากลำบากและยึดมั่นใน คุณธรรมภายในตนก็จะถูกส่งต่อเป็นเรื่องราวความกล้าหาญ
เพื่อนของคุณก็ลืมตาเห็นเส้นทางที่แท้จริงของเขาและอ้างสิทธิ์ในคุณธรรมของมัน การตื่นขึ้นของพลังครั้งนี้เป็นผลงานของคุณ คุณรู้ไหม Archetype ของเขาตื่นขึ้นเพื่อปกป้องคุณ
Gallica - เดี๋ยวก่อน คุณเป็นใครกันแน่ คุณรู้มากแค่ไหน ชั้น เตือนคุณแล้วนะ ถ้าคุณไปยุ่งกับเขา คุณต้องผ่านชั้นไปให้ได้ก่อน!
More - อ่า คุณสองคนก็มีสายสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งเหมือนกันสินะ ?
Gallica -เราไม่ได้เป็นแค่นั้นนะ... แต่ตอนนี้ เราเป็นพันธมิตรที่จะร่วมหัวจมท้ายไปจนถึงที่สุด เราเชื่อมโยงกันลึกถึงหัวใจ! ใช่ไหม ออกไซด์?
🔴ใช่แล้ว
🔴คิดว่างั้นนะ ...
Gallica - เราไว้ใจซืงกันและกัน ชั้นคอยสนับสนุนเขา และเขาก็สนับสนุนชั้น นั่นแหละคือทั้งหมดที่เรามีต่อกัน
นางฟ้าผู้ลึกลับ กัลลิก้า ..... ในตัวเธอมีคุณธรรมของผู้วิเศษ (Mage) อยู่ จงรักษาสายสัมพันธ์ระหว่างเจ้ากับเธอเอาไว้และพลังใหม่ที่หลับใหลอยู่ภายในตัวเจ้าก็จะตื่นขึ้น
NEW ABILITY - Msge Archetype
ชั้นสัมผัสได้ถึงความเป็นวีรบุรุษแห่งผู้วิเศษ (Mage) ในตัวกัลลิก้า
More -คุณเข้าใจสิ่งที่เพิ่งเกิดขึ้นไหม OXIDE? การเชื่อมต่อกับผู้อื่นที่ ค้นพบความมุ่งมั่นของตนเอง จะทำให้คุณตื่นขึ้นสู่ความแข็งแกร่งใหม่ นอกจากนี้คุณกับพันธมิตรของคุณสามารถต่อสู้ด้วยความแข็งแกร่งของอาร์คีไทป์ใดๆ ในการครอบครองของคุณได้
ตัวอย่างเช่น... เพื่อนร่วมทางอีกคนของคุณ คนที่ สวมผ้าปิดตา เขาได้รับการฝึกฝนและความรู้ เกี่ยวกับการใช้ Archetype มาบ้าง จากคำบอกเล่าของเขาเอง แม้จะไม่มีอะไรเกิดขึ้นกับเขา แต่ถ้าคุณปรารถนาเช่น นั้น... คุณสามารถปลุกพลังที่แท้จริงในตัวเขาได้เหมือนกัน

Gallica - อะไรนะ คุณหมายถึง Grius ก็สามารถใช้พลังนี้ได้เหมือนกันหรอ?
More - ธรรมชาติของ The Seeker มันก็อาจเป็นเพียงลักษณะวิสัยของตัวคุณเอง คุณไม่ธรรมดาอยู่แล้ว ถ้าอยากได้คำตอบนี้ก็จะไปไขว่คว้ามาด้วยตัวเองนะ More - สิ่งที่ผมจะแสดงให้คุณดูคือ image chart ของ Archetype ที่ผมกำลังค้นคว้าอยู่ อย่างไรก็ตาม ยังมีอีกหลายอย่างที่ผมยังไม่รู้ ดังนั้นมันจึงยังห่างไกลจากความสมบูรณ์
พวกคุณแต่ละคนมีแผนภูมิของตัวเอง คุณจะใช้แผนภูมิเหล่านี้ในการกำหนด Archetype
ก่อนอื่น เราลองพิจารณานักรบตาเดียวที่ยังไม่มี Archetype ก่อนโปรดเปิดแผนภูมิ image chart ของ Grius
More - นี่คือแผนภูมิที่แสดงถึงพลังและความเชื่อมโยงของ Archetypes คุณสามารถรับ Archetype ใหม่ได้โดยเลือกอันหนึ่งให้กับ Grius เพื่อ "ศึกษา" พลังของมัน หากต้องการศึกษา คุณจะต้องมี magla ซึ่งเป็นแหล่งกำเนิดของเวทมนตร์ แต่การดึงเอา magla ภายในตัวคุณออกมาเพียงอย่างเดียวก็ถือเป็นภาระหนักเกินไปสำหรับคุณแล้ว ซึ่งหมายความว่าคุณจะต้องรวบรวม MAG ที่ได้จากการต่อสู้และแหล่งอื่นๆในขณะที่คุณเดินทาง
** การให้ตัวละครศึกษาเพื่อใช้ความสามารถของ Archetypes แต่ละตัวก็เหมือนกับ ระบบอาชีพ ในเกม RPG ทั่วไป ซึ่งนอกจากพลังของ Archetypes ที่ตัวละครนั้นจะใช้ได้แล้ว อาวุธ อุปกรณสวมใส่และ Skill ของตัวละครนั้นๆก็จะเปลี่ยนแปลงอีกด้วย ตัวละครทุกตัวทั้งตัวเอกและเพื่อนผู้ติดตามสามารถสลับใช้งาน Archetypes ที่ปลดล็อกออกมาแล้วได้ทุกตัว โดยใช้ค่า MAG ที่ได้หลังกำจัดศัตรูเป็นการแลกเปลี่ยน **
และตอนนี้คุณสามารถเลือก Archetypes ให้ Grius สวมใส่ ได้แล้ว 3 ตัวคือ Seeker Warrior และ Mag ..แน่นอน Mag ซึ่งหมายถึงอาชีพนักเวทย์ทื่ตื่นขึ้นจาก Gallica นั้นไม่เหมาะกับตาเฒ่านักรบอย่างกิอัสแน่นอน ผมจึงเลือก Archetypes Warrior ที่เน้นการโจมตีทางกายภาพให้กับเขาแทนนักเวทย์ ** (หรือใครจะให้กิอัสเป็นนักเวทย์ก็สุดแล้วแต่ได้เลยครับ)
Akademeia
ตอนนี้คุณสามารถคุยกับ More เพื่อให้เพื่อนร่วมทีมเรียนรู้ความสามารถของ Archetypes ได้แล้ว
สามารถสอบถามข้อมูลเชิงลึกของกลยุทธและระบบการเล่นต่างๆจากการเลือกคุยในหัวข้อ lectures กับ More และตามหนังสือในตู้หนังสือรอบๆห้อง
Features ใหม่ใน Main Menu
More - ใช่แล้ว ผมตั้งใจจะบอกคุณอยู่แล้ว ผมกำลังจัดระเบียบสิ่งของเมื่อวันก่อน และพบบางอย่างที่อาจเป็นประโยชน์กับคุณในการเดินทาง ผมวางของทั้งหมดไว้ในกล่องบนเก้าอี้แล้วเอาไปใช้ได้เลย
Mystical Scrolls
The Royal Magic
More - นั่นคือสูตรสำหรับคาถาที่ค่อนข้างซับซ้อน เมื่อนักเวทย์คิดค้นคาถาที่ซับซ้อนเช่นนี้ พวกเขาจะจดสูตรไว้ในม้วนคาถานี่ทุกครั้งที่ได้อักขระคาถาใหม่ๆ
Gallica - เดี๋ยวก่อน! คุณว่ากษัตริย์เป็นคนเขียนเรื่องนี้เองเหรอ! ทำไมมันถึงมาอยู่ที่นี่ได้ล่ะ?
More - ผมไม่สามารถบอกคุณได้ บางทีกษัตริย์องค์ก่อนอาจมีเหตุผลที่ขังผมไว้ที่นี่ ผมอยากจะถอดรหัสเนื้อหานี้มาก แต่คงต้องใช้เวลา นานพอสมควร มันถูกเขียนด้วยสคริปต์ที่ฉันไม่เคยเห็น มาก่อน
แต่ก่อนที่พวกคุณจะไป มีอีกอย่าง... คุณช่วย ดูหน้าสุดท้ายของม้วนคาถานี้หน่อยได้ไหม?
Gallica - ภาพวาดนี้มัน …,
More - ที่จริงแล้วมันเป็นเพียงภาพประกอบธรรมดาๆ เท่านั้น แต่คุณไม่คิดว่ามันมีความคล้ายคลึงกับ Archetype Seeker บ้างหรือหรอ? ยิ่งกว่านั้น มันยังมีคำบรรยายด้วย และที่น่าประหลาดใจก็คือ จากภาษาต่างๆทั้งหมดในนั้น นี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งที่ผมสามารถแยกวิเคราะห์ได้ มันเขียนว่า "OXIDE" ... น่าจะเป็นชื่อคนแน่นอน แม้ว่าจะ ไม่รู้จะอธิบายยังไงว่าทำไมผมถึงมั่นใจขนาดนั้น
OXIDE - ชื่อนั่นมัน ….
Gallica - นั่นคงเป็นปริศนาบนความลึกลับ ทำให้ชั้นสงสัยว่า มันเขียนว่าอะไร...
More - หากคุณได้เรียนรู้ข้อมูลอะไรใหม่ๆ ผมจะขอบคุณมากหากคุณ แบ่งปันให้ผมทราบบ้าง โปรดตรวจสอบม้วนคาถานี้ทุกครั้งที่คุณได้เรียนรู้ความจริงใหม่ๆมา
OXIDE - เจ้าเหมียว ไหนบอกสิว่าใครเป็นเด็กดี
Gallica - ปกติไม่เคยเห็นแมวพวกนี้ในเมืองหรอ?
More - มันน่ารักใช่มั๊ยล่ะ มันชื่อ Plateau เขาเป็นสิ่งเดียวที่ทำให้ผมสบายใจเมื่อถูกขังอยู่ที่นี่
More - ก่อนที่คุณจะไป เพื่อนของผม คุณช่างน่าทึ่งจริงๆ เหมือนกับที่ผมคิดในตอนแรกไม่ผิด คนอื่นๆ ที่ถูกกำหนดมาให้ตื่นรู้ถึงพลังของตนเองจะถูกดึงดูดเข้าหาคุณโดยธรรมชาติ
ในการที่จะเข้าถึงศักยภาพที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของสายเลือดแห่งพลัง คุณจะต้องได้รับอาร์คีไทป์เพิ่มเติมและรวบรวมพวกมันเข้าด้วยกัน
ท้ายที่สุดแล้ว ฮีโร่ที่ไม่มีพันธมิตรก็เป็นเพียงผู้คัดค้านเพียงลำพัง หากต้องการช่วยเหลือผู้คนจำนวนมาก คุณต้องเรียนรู้ที่จะต่อสู้ด้วยพลังของผู้คนจำนวนมากด้วย
มีเพียงผู้ที่เป็นผู้พิทักษ์ประชาชนเท่านั้นที่สามารถปลุกพลังของวีรบุรุษและคว้าอนาคตที่พวกเขาสร้างขึ้นเองได้
ครั้งหน้าที่คุณมาพบผมหวังว่ามันจะเป็นความสมัครใจของคุณ เปิดหนังสือของผม แล้วปล่อยให้จินตนาการของคุณสร้างสถานที่นี้ขึ้นมาใหม่ ให้ชัดเจนที่สุดเท่าที่คุณจะทำได้ ผมแน่ใจว่านั่นจะเพียงพอที่จะทำให้เรากลับมารวมกันอีกครั้ง
ตราบใดที่คุณยังเดินตามทางของคุณผมก็จะคอยดูแลคุณด้วยความจริงใจ หวังว่าเราได้พบกันอีกครั้ง

Gallica - เราอยู่ไหนอีกเนี่ย ?
Strohl - นายสองคนเป็นไรป่ะเนี่ย เหมือนกำลังอยู่ในภวังค์อะไรซักอย่าง
Gallica -อยู่ในภวังค์หรอ? นี่เราอยู่ที่นี่ตลอดเวลาเลยหรอ?
Grius - ทำไมชั้นรู้สึกแปลกๆก็ไม่รู้แฮะ เหมือนมีอะไรลอยมาในอากาศแล้วเข้ามาในตัว อยู่ๆก็รู้สึกเฉียบแหลมขึ้นเหมือนสมัยตอนเรียนเวทย์มนต์ใหม่ๆสมัยหนุ่มๆเลย
Gallica - งั้นก็ไม่ใช่ความฝันน่ะสิ กริอุส นั่นเป็นพลังของ OXIDE ที่เขามอบให้คุณน่ะ คุณได้เรียนรู้พลังของ Archetype ผ่านวิหารแห่งนึง ชั้นคิดว่าตอนนี้พลังนั่นมันคงตื่นขึ้นแล้วในตัวคุณอ่ะนะ
Grius - ตื่นขึ้นงั้นหรอ? แต่มัน .... พวกนายเป็นใครกันแน่เนี่ย? บอกความจริงมาเลย
Gallica - พูดตรงๆเราก็แทบไม่รู้เรื่องอะไรมากไปกว่าคุณเท่าไหร่หรอก เอาเป็นว่า ตอนนี้คุณสามารถใช้พลัง Archetype ได้แล้วแค่นั้นก็พอ
Grius - ชั้นคิดว่าเธอพูดถูก ความรู้สึกนี่มัน นี่คือพลังเวทย์มนต์ใช่มั๊ย แต่ ดูเหมือนโชคชะตามีแผนอื่นอยู่ แต่เอาล่ะ พอแล้ว เราต้องรีบเดินทางต่อกันแล้ว ยังอีกไกลกว่าจะถึงเมืองหลวง และ OXIDE ชั้นจะทำตามคำแนะนำของนายก็แล้วกัน อย่างน้อยๆก็ตอนนี้ ตอนนี้เรามีพลังในการต่อสู้แล้ว แต่เรามีเวลาไม่มากที่จะฝึกฝนมัน
Strohl - เช่นกัน ชั้นเองก็อยากทำตัวให้เป็นประโยชน์กับทีม มากกว่าสับสนไปมาอย่างที่ผ่านมา
Gallica - ดูนั่นสิ !!
Strohl - อะไร มีอะไรหรอ??
🔴มอร์ อยู่ที่นี่งั้นหรอ?
🔴นายมองไม่เห็นหรอ?
OXIDE - มอร์ อยู่ที่นี่งั้นหรอ?
Strohl - มอร์ ? ชื่อคนหรอ? ไหนชั้นไม่เห็นมีใครเลย?
Gallica - ไม่มีใครเห็นเขาจริงดิ? เอ่อ สงสัยจะเห็นเฉพาะคนที่เคยไปที่ห้องนั้นมาแล้วแน่ๆเลย
พ่อค้า - เฮ้พวกคุณโอเคนะ ในเมืองผมเห็นมีคนตายเพียบเลย นึกว่าพวกคุณคงเสร็จแล้วซะอีกดีแล้วที่ยังปลอดภัย
🔴พวกทหารน่ะ
🔴แล้วคุณล่ะ โอเคมั๊ย?
OXIDE -พวกทหารน่ะ
พ่อค้า - แล้วพวกเขาเข้ามาทำอะไรในที่แบบนี้ อย่าบอกนะว่ามาตามล่าคนงานเหมืองที่ผิดกฎหมายอ่ะ?
Strohl - เดี๋ยวนะ แล้วนายเข้ามาได้ยังไง ไหนพวกมันบอกมีทหารปิดทางเข้าเอาไว้แล้วไง?
พ่อค้า - ทหารไหนไม่เห็นมีเลย เท่าที่ชั้นเห็นก็มีแต่แก่หน้าซีดๆคนนึงดูน่าจะเป็นนายพล
Gallica - คุณหมายถึง คริงเกอร์ หรอ? แต่พวกเราเล่นงานมันจนหมอบนอนตายตรงนั้นแล้วนะ
Strohl - บ้าเอ้ย มันยังไม่ตายหรอเนี่ย? งั้นก็แย่แล้ว มันต้องไปตามกำลังเสริมมาแน่เลยแบบนี้
Grius - ช่างมันเถอะ ชั้นคิดว่ามันหลอกเราว่ามีทหารปิดทางเข้าไว้มากกว่า จริงๆไม่มีทหารเหลือแล้ว แล้วอีกอย่างมันยังจัดการเราไม่ได้ มันไม่มีทางกล้ากลับไปให้หลุยส์แน่นอน
Gallica - คุณพูดถูก ปล่อยมันไปก่อนเถอะ อย่างน้อยตอนนี้มันก็ไม่สามารถเป็นทหารได้อีกแล้วล่ะ
เรียนรู้ระบบ Travelers’ Voice : Dungeons
เมื่อกดทัชเพด จะมองเห็นสเตตัสผู้เล่นอื่นๆว่าอยู่เลเวลไหน จัดกลุ่มปาร์ตี้แบบไหน ในขณะตอนที่ผ่านดันเจี้ยนที่คุณอยู่ตอนนี้ไปแล้ว เพื่อเป็นแนวทางในการเล่น และเมื่อกดตรวจสอบข้อมูลคุณยังสามารถจัดปาร์ตี้ให้เหมือนผู้เล่นอื่นได้ด้วย

▮NORD MINES - Dig Site #2
Grius - ไอ้ความรู้สึกแปลกๆที่มันลอยอยู่ในอากาศนี้มันอะไรกันเนี่ย?
Gallica - เหมือนจะมีมวลของ Magla หนาแน่นมากๆ ปกติมันเป็นแบบนี้หรือเปล่านะ?
Grius - ไม่นะ ปกติที่นี่ก็แค่เหมืองธรรมดาๆทั่วไปนั่นแหละ
Strohl - ไม่แน่อาจจะเป็นเรื่องที่พวกคนงานเหมืองคุยกันว่ามีตกแต่งภายในใหม่จนอาจทำให้เกิดผิดปกติก็ได้
Grius - การลอบสังหารหลุยส์เป็นเรื่องสำคัญมาก ยังไงเราก็ต้องลุยเข้าไปต่อ เตรียมตัวให้พร้อม เพราะเราจะมัวหยุดพักไม่ได้จนกว่าจะออกพ้นไปจากเหมืองนี่
DUNGEON TUTORIALS
-เรียนรู้การใช้ระบบ Auto Recovery หรือการฟื้นพลังชีวิตโดยใช้ Skill ของ Archetype สวมใส่อยู่ โดยการกดปุ่มทิศทางแค่ครั้งเดียวพลังชีวิตของทุกคนในกลุ่มก็จะถูกเติมเต็มหมด
▮NORD MINES - Dig Site #3
Gallica - นี่เห็นประตูห้องตรงนั้นมั๊ย รู้สึกว่า Magla จะไม่หนาแน่นเหมือนที่อื่นเลย
Strohl - อย่าเพิ่งไปแตะต้องอะไรมั่วซั่วนะ
Gallica - ตอนแรกชั้นคิดว่าแค่คิดไปเองแต่พอมาดูใกล้ๆแล้วเหมือน Magla ถูกทำให้กลวงฉพาะห้องนี้เท่านั้น
Grius -ถ้าพูดถึงความสามารถในการสัมผัสพลัง Magla อันเป็นเลิศก็ต้องยกให้พวกแฟรรี่ซึ่งแม้แต่ Gallica ก็ไม่ยกเว้น
Gallica - บางทีเราอาจจะเข้าไปนักพักเอาแรงได้นะ ทำไมเราไม่ลองเข้าไปกันดูล่ะ
Grius - เป็นความคิดที่ไม่เลวเหมือนกันนะ ได้พักหายใจหายคอซักหน่อยก็คงดี
Strohl - ว้าว ถือว่าเป็นห้องสำหรับผ่อนที่ดีเยี่ยมไปเลยนะเนี่ย ว่าแต่สงสัยจังว่าทำไมที่นี่ Magla ถีงเบาบางกว่าที่อื่น
Gallica - ชั้นก็บอกเหตุผลไม่ได้หรอก แค่รู้สึกถึงมันได้ก็แค่นั้น
Grius - Magla ที่ลอยอยู่ในอากาศมีระดับความเข้มข้นที่แตกต่างกัน เหมือนกับไอน้ำหรือควัน ดูเหมือนจะไม่มีอะไรแทรกซึมเข้ามาในห้องนี้ได้มากนัก เหมือนมันเป็นโพรงของ Magla ก็ว่าได้แม้แต่ igniters ก็ใช้ไม่ได้ผลในที่นี้เหมือนกัน
Strohl - magla hollow โพรงของ Magla งั้นหรอ? ก็เป็นชื่อที่เหมาะสมดีนะ
Grius - ที่นี่แน่ๆพวกสัตว์ประหลาดก็ไม่กล้าเข้ามาในนี้ด้วย เรามาพักหายใจหายคอกันหน่อยดีกว่า
DUNGEON TUTORIALS
แม็กล่า ฮอลโลว์
Magla ไม่ได้กระจุกตัวกันอย่างสม่ำเสมอในชั้นบรรยากาศ โดยจะมีลักษณะเหมือนกลุ่มควันหรือหมอกในอากาศ ดังนั้น Magla จึงมีความหนาแน่นในบางพื้นที่และบางมากในบางพื้นที่ อาจกล่าวได้ว่าแมกลาถูก "เจาะเป็นโพรง" ก็ได้ ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวช่วยให้หลีกเลี่ยง Magla ที่มีความหนาแน่นสูงได้ และมีโอกาสที่จะพบกับสัตว์ประหลาดที่เกิดจาก Magla ลดลงอย่างมาก
magla hollow ก็คือห้องพักที่จะมีในทุกดันเจี้ยนในเกม ซึ่งสามารถจัดแจงเรื่องต่างๆระหว่างพักได้ก็คือ
Make a record - เซฟเกมส์
Talk to allies - พูดคุยกับเพื่อนในทีม
Go to Akademeria - เข้าสู่ห้อง Akademeria ของ More
Resume exploring - เดินทางต่อ
Gallica - ชั้นไม่คิดเลยว่าเหมืองที่เต็มไปด้วยสัตว์ประหลาดและมี Magla หนาแน่นมันจะอันตรายขนาดนี้
Strohl - จริงด้วย มันไม่เหมือนกับที่เราเคยเจอมาเลย กริอุส คุณคุ้นเคยกับที่แบบนี้บ้างมั๊ย?
Grius - ก็ไม่แน่ใจนะ แต่เท่าที่จำได้เมื่อก่อนที่นี่ไม่มีสัตว์ประหลาดแบบนี้
Gallica - คุณจะบอกว่าสัตว์ประหลาดที่เพิ่มขึ้นมาเกี่ยวกับเรื่องความหนาแน่นของ Magla หรอ?
Grius - ดูๆแล้วก็น่าจะเป็นแบบนั้น แต่เดาไปก็ไม่มีประโยชน์เอาเวลามาพักผ่อนเพื่อเตรียมเดินทางกันต่อดีกว่านะ
Strohl -นั่นมันอะไรน่ะ ไม่เคยเห็นอะไรแบบนี้มาก่อนเลย
Grius - มันคือคริสตัวที่บรรจุ Magla บริสุทธิ์หรอเนี่ย รู้สึกแปลกๆยังไม่รู้ เท่าที่ชั้นจำได้ มันจะมีเรื่องเล่าเกี่ยวกับดินแดนที่อยู่เหนือความตาย สถานที่ที่มียอดแหลมของคริสตัลตั้งตระหง่านอยู่ และหากใครก็ตามที่แตะต้องมันจะต้องบ้าคลั่ง
Gallica - นั่นมันก็แค่เรื่องเล่า และอย่างน้อยมันคงไม่ส่งออร่าที่น่าเกลียดแบบนั้นออกมาแน่ๆ
Grius - ส่วนไอ้ตัวนั้นก็ไม่น่าจะใช้มอนสเตอร์ธรรมดา มันเป็น ฮิวแมน อีกรูปแบบนึงหรอ?
Gallica - มันพุ่งมาหาเราแล้ว ดูเหมือนมันพยายามจะปกป้องคริสตัลนะ
Grius - เตรียมรับมือ !!
BOSS - Homo Fulquilo
Gallica - นี่มันคริสตัลอะไรกันนะ? ถ้าให้เดาไอ้เจ้าสิ่งนี้มันน่าจะเป็นตัวดึงดูดสัตว์ประหลาดมาในรัศมีของมันแน่เลย และเราไม่ควรจะเก็บมันไว้ต่อด้วย
Strohl - ตอนนี้มีคำถามมากกว่าคำตอบแล้วสินะ และ เราไม่มีเวลามานั่งคิดหาคำตอบด้วยสิ ทำลายมันซะแล้วรีบเดินทางต่อกันดีกว่า
▮NORD MINES - Crystal Cavern
Gallica - เดี๋ยวนะ เอาจิงดิ !!
Strohl - บ้าไปแล้ว? ดูขนาดของมันดิ !!
Grius - มันไม่ใช่สิ่งที่ชั้นคิดว่าจะเจอที่นี่เลยนะ เกรงว่ามันจะเป็น มังกร น่ะ
Gallica - มังกรหรอ? คุณหมายถึงสัตว์ในตำนานที่เขาพูดกันอ่ะนะ ชั้นไม่เคยเห็นมาก่อนเลย!!
Grius - ตอนนี้ชั้นเข้าใจแล้วว่าทำไมเหมืองถึงถูกปิด พวกคนงานคงขุดมาเจอรังของมันแล้วไม่รู้ว่าต้องทำไงเลยต้องถอยกลับ เหมืองนี้เป็นแหล่งทรัพยากรมหาศาล มีแค่มังกรเท่านั้นแหละที่ทำให้พวกเขาอยู่โกยกำไรจากที่นี่ได้ แต่โชคดีที่มันหลับอยู่ เราอาจค่อยๆเดินผ่านมันไปได้โดยไม่ต้องสู้กับมันอ่ะนะ
Gallica - แต่ก็น่าเสียดายนะ ดูเหมือนที่รังของมันจะมีของอยู่เพียบเลย
Grius - มังกรเป็นสัตว์โบราณที่มีพลังเวทย์ที่แข็งแกร่งมาก แน่นอนว่าถ้าจัดการได้จะต้องได้ไอเทมพิเศษแน่นอน
Strohl - คุณกำลังทำให้เราสนใจมันอยู่นะ แต่เราคงได้ทะเลาะกันแน่ถ้ามีบางคนคิดว่ามันไม่คุ้มอ่ะนะ
Grius - งั้นเราก็ต้องย่องผ่านมันไปให้เงียบที่สุด ไม่งั้นคงไม่มีทางเลือกที่ต้องสู้กับมันแน่
Gallica - แต่รอบๆนี่ก็มีมอนสเตอร์เพียบเลยนะ
Grius - ใช่ และเราจะให้มันเห็นไม่ได้ รักษาระยะห่างไว้แล้วเดินผ่านพวกมันไปก็พอ
ตอนนี้คุณสามารถเลือกได้ว่าจะย่องผ่านหรือเข้าไปสู้ แต่แนะนำว่า ถ้าเก็บเลเวลมามากพอควรสู้กับมันเพราะจะได้ไอเทมดีๆมาคุ้มอยู่
BOSS - Fire Dragon Mauna [LV12]
Gallica - เฮ้อออ.. เกือบไปแล้วเหมือนกัน แต่อย่างน้อยพวกเราก็ไล่มันออกไปได้อ่ะนะ
Grius - ในชีวิตชั้นไม่เคยคิดเลยนะว่าจะได้สู้กับมังกรเนี่ย แล้วพวกนายก็ลากชั้นมาทำแบบนี้จนได้
Strohl - บางทีครั้งนี้โชคอาจจะเข้าข้างเรา แต่บอกตรงๆว่าตอนที่มันตื่นขึ้นมานี่ชั้นนี่ขี้หดตดหายเหมือนกันนะ
Grius - ถ้าจะมีใครจะฆ่ามังกรได้จริงๆเขาต้องมี Gauntlet runner อ่ะนะ
Strohl - ใช่ถ้ามี Gauntlet runner คงทำให้การกลับ Grand Trad ของเราสะดวกขึ้นแน่นอน
Grius - นายอาจจะหวังสูงไปหน่อยนะ เพราะมีแต่ขุนนางผู้ยิ่งใหญ่เท่านั้นถึงจะหา runner เป็นของตัวเองได้
Gallica - โทษที่ขัดจังหวะ แต่ดูนั่นสิ มีหีบสมบัติอยู่ในรังมันด้วย ลองไปดูกันเถอะ
เมื่อเปิดหีบสมบัติหลังจากจัดการมังกรได้จะได้รับ Dragon’s Indignation ซึ่งเป็นดาบ Great sword ที่สวมใส่ได้เฉพาะคนที่ใช้ Archetype Warrior เท่านั้น และ ** แนะนำให้ Strohl เป็นคนใช้มัน

Strohl - ดูนั่นสิ!
Gallica - ในที่สุดเราก็มาถึงทางออกกันซะที
Strohl - เหมือนรู้สึกว่าเราจะหายใจง่ายกว่าเดิมเยอะเลย ....ห๊ะ! อะไรอีกวะเนี่ย !!?
Gallica - แรงสั่นสะเทือนนี่มัน !! ได้ยินเสียงเมืองเสียงคำรามของมังกรนะ ใช่มั๊ย?
Strohl - มันเริ่มสั่นสะเทือนรุนแรงขึ้นทุกทีแล้วนะ !!
Grius - ถ้ำนี้กำลังจะถล่ม ถ้าไม่อยากตายก็วิ่งกันได้แล้ว !!!
Gallica - วิ่ง !!!!!!!!
Strohl - เฮ้อ วู้ !!!! เรารอดแล้ว ที่เรารอดแล้วใช่มั๊ย !!!
Grius - อย่างน้อยก็ครบ 32 ไม่ขาดไม่เกิน
Gallica - ชั้นว่ามันช่วยประหยัดเวลาการใช้ชีวิตชั้นได้สองสามปีเลยนะ
Grius - ไอ้พายุบ้าเอ้ย !! ชั้นก็ไม่อยากให้การเดินทางของเรามันช้าไปกว่านี้หรอกนะ แต่ดูทรงแล้วพายุลูกนี้น่าจะใช้เวลาไม่นานก็คงผ่านไป คืนนี้เราจะหาที่แห้งๆเพื่อตั้งแคมป์ค้างแรมที่นี่ซักคืน พรุ่งนี้พอผ่านพื้นที่รกร้างนี้ไปแล้วก็ค่อยขึ้นรถม้าไปต่อจะได้ทันเวลา
Gallica - อ่า อุ่นดีจัง เหมือนได้เกินใหม่เลยนะเนี่ย
Strohl - อย่างน้อยๆก็ดีกว่านอนหนาวตายอ่ะนะ มันทำให้ชั้นนึกถึงตอนเด็กๆ ตอนนั้นชั้นคงไม่มีวันยอมมาอยู่ในสภาพเกือบหนาวตายในป่าแบบนี้หรอก ขุนนางในชนบทอย่างพวกเราไม่ค่อยมีอนาคตอะไรนัก พ่อแม่ชั้นก็ได้แต่โค้งแล้วก็ยิ้มเพื่อรับเงินจากพวกเขาไปวันๆ พูดตรงๆชั้นก็ดูถูกพวกเขาเรื่องนี้อยู่เหมือนกันนะ ตอนนั้นชั้นคิดว่าขุนนางมันคือแบบ ...ไม่รู้สิ ชีวิตที่เกรียติและการยอมรับ แต่เมื่อฤดูใบไม้ผลิเมื่อ 7 ปีก่อน หมู่บ้านของเราถูกโจมตีโดยสิ่งที่น่ากลัว ซึ่งตอนนั้นชั้นยังไม่รู้ว่าเรียกว่า ฮิวแมน ด้วยซ้ำ ชั้นถูกอพยพไปพร้อมกับคนรับใช้ในขณะที่เมืองที่เหลือถูกไฟไหม้ ชั้นรอให้พ่อแม่ของชั้นมาอยู่ในที่พักพิงกับเรา แต่พวกเขาก็ไม่กลับมาอีกเลย พ่อแม่ที่ฉันเกลียดชังที่อยู่ที่นั่นเพื่อปกป้องชาวบ้านที่ไม่สามารถหลบหนีได้
OXIDE - พ่อแม่นายคือฮีโร่นะ
Strohl - มันเปลี่ยนแปลงทุกสิ่งทุกอย่าง มันสอนชั้นรู้ว่า... พ่อแม่ของชั้นเป็น ใครกันแน่ และการเป็นขุนนางที่แท้จริงหมายถึงอะไร แต่เมืองของเราตอนนี้เป็นเพียงซากปรักหักพัง เป็นแค่บันทึกใประวัติศาสตร์ ฮิวแมนที่ทำลายเราคือสิ่งเดียวที่เรารู้จัก ชั้นจำได้ว่าพ่อของชั้นได้ยื่นคำร้องขอความช่วยเหลือจากเมืองหลวง แต่ก็ไม่มีคำตอบกลับมา แม้จะรู้ว่า ฮิวแมน เป็นภัยคุกคามมากแค่ไหน ตอนนี้ชั้นคิดว่า... จะเป็นอย่างไรหากกองทัพ--หลุยส์... จะเป็นอย่างไรหากเขาเป็นคนทอดทิ้งเรา? หากเราเป็นแค่เบี้ยในเกมของเขา...และชั้นจะให้เขาต้องชดใช้
Gallica - นี่กริอุส ตอนนี้เราทุกคนเชื่อใจกันแล้วใช่มั๊ย? ชั้นว่าชั้นจะบอกเขานะ
Grius - ได้สิ ชั้นว่าดาบของ OXIDE มันก็ทำให้ชั้นนึกถึงอดีตเหมือนกันนะ
Strohl - ดาบนั่นมีอะไรพิเศษงั้นหรอ?
Grius - เราใช้เพื่อแสดงตัวตนผู้ส่งสารจากกลุ่มของเรา เมื่อก่อนมันเคยเป็นของฝ่าบาท ที่ตกทอดมาจากพระราชบิดาของพระองค์อีกทอด เพื่อให้เหมาะสมกับฝ่าบาทและความสามารถพิเศษด้านเวทย์มนต์ของพระองค์ ดาบนี้เลยถูกตีขึ้นมาอย่างพิเศษโดยมีการผสม magla ดิบเข้าไปในโลหะด้วย แน่นอน พอเขาเริ่มเบื่อการฟันดาบเขาก็ทำให้มันลอยแล้วขึ้นไปยืนบนมัน ฮ่าๆ มันเป็นช่วงเวลาที่แสนสั้น นั้นคือเมื่อ 12 ปีก่อนที่ทุกอย่างจะพังทลายลง
Strohl - ผมได้ยินว่า เจ้าชายถูกลอบโจมตีใช่มั๊ย?
Grius - มันเป็นเรื่องเลวร้ายในชีวตของเขา และชั้นอยากจะกำจัดมันออกไปให้ได้โดยเร็วที่สุด ...เหมือนคืนนี้ คืนที่ฝนตกหนักมาก..
Grius - ฝ่าบาท ทางนี้ครับ !!!
Grius - ใครปล่อยให้พวกนี้เข้ามาในปราสาทได้ !!?
????? - ไม่บาดเจ็บใช่มั๊ยคะฝ่าบาท ?
Grius - พาท่านหนีไปก่อน !!
นักฆ่า - ราชอัศวิน งั้นหรอ? มันก็แค่โสเภณี ไม่มีอะไรมากไปกว่านั้น
???? - พวกแกไม่รู้ถึงความเป็นอัศวินที่แท้จริงหรอกว่ามันเป็นยังไง ชั้นอุทิศชีวิตให้เจ้าชายและจะไม่ยอมเสียท่านไปให้กับพวกแกแน่ !!!
???? - ฝ่าบาท !!!
Grius - อย่ามัวแต่ลังเล ตามไปจัดการพวกมันให้หมด !!
???? - หยุดนะ !! พวกมันกล้าทำร้ายเขาขนาดนี้เลยหรอ !?
???? - ชั้นล้มเหลวกับเขา ... อีกแล้ว ....
Grius - ฝ่าบาท !!
Grius - นี่มัน ....อะไรกันเนี่ย ?
Grius - ฝ่าบาทรอดจากการถูกโจมตีก็จริง แต่คำสาปที่ครอบงำพระองค์นั้นทรงพลังและซับซ้อนมาก ในบรรดาหมอเวทย์ทุกคนในวังหลวงไม่มีใครสามารถทำให้พระองค์ฟื้นได้เลย แล้วเขาก็อ่อนแอลงเรื่อยๆทุกวัน เราอาจทำลายคำสาปได้หากเรารู้วิธีที่ถูกต้องแต่หลุยส์มันคงไม่ยอมบอกดีๆหรอก จึงเหลือแค่ทางเลือกเดียว เพื่อขจัดคำสาป ผู้ร่ายคำสาปต้องตาย
Strohl - แล้วคุณมั่นใจหรอว่าหลุยส์คือคนที่คุณตามหา
Grius - ชั้นเห็นเขาอยู่ในสนามรบ อายุน้อยกว่านายตอนนี้ซะอีกแถมยังตัวเตี้ยกว่าด้วย ชั้นคงไม่มีทางเข้าใจผิดหรอก และในวันนี้หลังจากได้หลั่งเลือดกษัตริย์ทั้งพ่อและลูกแล้วผู้คนกลับไม่เรียกเขาว่าคนทรยศแต่กลับเรียกว่า ผู้ช่วยให้รอด เพื่อฝ่าบาทและพระราชารวมถึงอนาคตของอณาจักรมันต้องถูกกำจัด การฆ่าหลุยส์คือการทวงความเป็นธรรมให้เกิดขึ้น
Strohl - เข้าใจแล้ว เหมือนกับที่มันทำกับเจ้าชาย และมันจะทำให้เมืองของผมกลายเป็นเครื่องมือในการเผยแพร่ความอัปยศของ ฮิวแมน คุณคงไม่เคยเล่าเรื่องนี้ให้ใครฟังเลยใช่มั๊ย? ขอบคุณนะที่ไว้ใจผม
Grius - ดั่ง โรอาค ** ที่ไม่เคยลืมหนี้ แม้ว่าจะต้องใช้เวลาสมาชั่วโคตรเราก็ต้องชำระแค้นนี้ให้ได้ และเราจะไม่มีวันลืมความแค้นนี้ หลุยส์ก็จะรู้ความจริงข้อนี้ในไม่ช้า
** เผ่า rhoag
ชนเผ่าที่มีสมาชิกอายุยืนยาว โดยบางคนมีอายุยืนยาวกว่าชนเผ่าอื่นถึงสองเท่า พวกเขามีอายุยืนยาวเท่ากันตั้งแต่วัยรุ่นและใช้ชีวิตที่เหลือในวัยกลางคนและวัยชรา อาจเป็นผลให้ชนเผ่าโรอาคมีภาพลักษณ์ของคนชราในสายตาของหลายๆคน ในสังคมที่ให้ความสำคัญกับอาวุโส โรอาค มักมีตำแหน่งสูงเนื่องจากมีอายุยืนยาว โรอาคให้ความสำคัญอย่างยิ่งต่อการถ่ายทอดความรู้และจุดมุ่งหมายในชีวิต จนเป็นที่รู้กันว่าโรอาคสามารถจดจำความโปรดปรานและความโกรธแค้นได้สามชั่วอายุคน แม้ว่าอาจจะเห็นโรอาคหลายคนมีเครื่องหมายโดยเฉพาะบนใบหน้า แต่จริงๆแล้ว โรอาค ไม่ได้เกิดมาพร้อมกับเครื่องหมายเหล่านี้ แต่เป็นเพียงการแต่งหน้าตามประเพณีเท่านั้น
Strohl - เรื่องราวทั้งหมดมันเป็นแบบนี้เองสินะ นี่ OXIDE ภารกิจนี้ก็มีความหมายกับนายมากเหมือนกันใช่มั๊ย?
OXIDE - แน่นอนที่สุด
Strohl - นายแบกอะไรไว้มากกว่าชั้นคิดเยอะเลยนะ ไม่ว่ายังไงชั้นก็เป็นหนี้ชีวิตนายนะ เราต่างก็มีบางอย่างที่ต้องสู้เพื่อปกป้องมัน เรามาช่วยอณาจักรของเราด้วยกันเถอะ !! แต่ก่อนอื่นเราต้องรอดจากการหนาวตายที่นี่ไปก่อนนะ ชั้นคิดว่าถึงเวลาต้องกินแล้ว เรากำลังถึงเมืองหลวงมันคุ้มค่าที่จะฉลอง
Akademeia
Gallica - เอ๋ ....ชั้นนึกว่าชั้นหลับไปแล้วซะอีก ...
More - ก็อย่างที่ฉันคิดไว้นั่นแหละ ในขณะที่คุณหลับ การ เชื่อมต่อของเราก็แข็งแกร่งขึ้นมาก คุณใช้เวทย์มนตร์ของคุณได้อย่างมั่นใจมากขึ้น... ดีงามมาก ดังที่ผมได้กล่าวไปก่อนหน้านี้ "Archetype" จะเติบโตและ พัฒนาใหม่ผ่านการพบปะกับผู้อื่น
ลองมองหาผู้ที่มีฐานะสูงศักดิ์และมีบุคลิกเหมือนวีรบุรุษและกษัตริย์ในสมัยโบราณ สิ่งที่มีคุณธรรมยิ่งกว่าตำแหน่งหรือเหรียญตราใดๆ ก็ คือภาระที่คุณวางไว้บนเส้นทางข้างหน้าของคุณเอง ยิ่งมีสหายและผู้สนับสนุนที่ยืนเคียงข้างคุณมากเท่าไร พลังของคุณก็จะยิ่งเพิ่มมากขึ้นเท่านั้นขณะที่คุณทะยานออกไปพบเจอสิ่งใหม่ สักวันหนึ่งหากผู้คนร่วมมือกันและคว้าอิสรภาพในการตัดสินอนาคตของตัวเองด้วยพลังของตัวเอง เช่นเดียวกับที่คุณทำ... นั่น คือโลกในอุดมคติของผม
Gallica- เดี๋ยวนะ คุณหมายถึงอะไร ผู้สนับสนุน งั้นหรอ? แต่พวกเราพยายามไม่ให้ใครรู้เห็นว่าเราอยู่ที่นี่นะ
More - ผมพูดไปก่อนหน้านี้แล้วไม่ใช่หรือ? ไม่มี "ฮีโร่" หากไม่มีพันธมิตร มีเสียงคัดค้านเพียงเสียงเดียวย่อมไร้พลัง กล่าวอีกนัยหนึ่ง แม้แต่ Archetype ก็มีจุดแข็งและจุดอ่อนของตัวเอง หากใช้โดยไม่คิด พวกมันก็จะไร้ประโยชน์ ชีวิตและความตายนั้นห่างกันเพียงไม่กี่วินาทีในสนามรบ จงมีสติ และวางแผนให้ดี เมื่อนั้นคุณจึงจะชนะได้ เมื่อคุณรู้สึกไม่แน่ใจว่าควรต้องทำอย่างไร ผมแนะนำให้ คุณหยุด ประเมินสภาพแวดล้อม และคิด การสังเกตเล็กๆ น้อยๆ มักจะเป็นแรง บันดาลใจที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเรา
อ่า… ใกล้รุ่งสางแล้ว ฉันจะเฝ้ารออย่างใจจดใจจ่อ... จนกว่าเราจะพบกันอีกครั้ง
Grius - เอาล่ะ ออกเดินทางกันได้แล้ว
Strohl - ใกล้จะถึงวันจัดงานพิธีศพแล้วเราต้องรีบกลับไปที่ Grand Trad ให้ทัน
หลังจากหลบหนีจากภัยคุกคามของมังกรในเหมือง นอร์ด ท่ามกลางการค้นพบพลังอันยิ่งใหญ่ เพื่อชดเชยเวลาที่เสียไป พวกเขาจึงเสี่ยงที่ จะจ้างรถม้าเพื่อพาพวกเขาไปยังเมืองหลวง
พิธีศพราชวงศ์ใกล้เข้ามาทุกที... เหลืออีก 2 วัน
Strohl - ในที่สุดเราก็เจอรถม้ารับจ้าง ดูเหมือนว่าเราจะไป ถึงงานศพทันเวลาพอดี
Gallica - คราวที่แล้วที่เราโดยสารรถสาธารณะ รถก็ถูกโจรรุมโจมตี มี พวกคลั่งไคล้หลุยส์ด้วย ถ้าจำไม่ผิด... นี่มันเซอร์ไพรส์ แย่เลยนะ
Grius - ตั้งแต่ตอนนั้นเป็นต้นมา คุณได้ก้าวไปไกลมากแล้ว โจรคนใดก็ตามที่วางแผนโจมตีเราในตอนนี้ จะต้องพบกับความประหลาดใจที่เลวร้าย
Strohl -...ทำให้ผมนึกถึงถนนไปป้อมปราการ นั่งอยู่ในรถม้า... ไม่เคยคิดมาก่อนว่าคุณและผมจะเป็นผู้รอดชีวิตเพียงกลุ่มเดียว เป็นเรื่องแปลกที่ชีวิตสามารถเปลี่ยนแปลงได้รวดเร็วเพียงใด
Gallica -สองสามวันที่ผ่านมามีเหตุการณ์เกิดขึ้นมากมายจริงๆนะ แทบจะรู้สึกราวกับว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่เราคิดว่าเรารู้เกี่ยว กับโลกนั้นผิดพลาด
Strohl - มีผู้คนมากมายที่ใช้ชีวิตโดยไม่ก้าวเท้าออกจากเมือง เลยแม้แต่ก้าวเดียว แต่เราคงไม่มีโอกาสได้ใช้ชีวิตอย่างไม่รู้ตัวหรอก
Grius - ดูเหมือนเราใกล้จะถึงเมืองหลวงแล้วนะ เงียบไว้ เตรียมตัวให้พร้อมทุกสถานการณ์ด้วย
พิธีศพราชวงศ์ใกล้เข้ามาทุกที... เหลืออีก 1 วัน
▮ Royal Capital Grand Trad
ทหาร - คุณผู้หญิง ยินดีต้อนรับนะครับแล้วก็ขอบคุณที่เดินทางมา
???? - หลังจากที่หายไปนาน ชั้นประหลาดใจมากที่หลายคนยังจำชั้นได้อยู่
ทหาร - แน่นอนต้องจำได้สิครับคุณผู้หญิง
???? - ไม่ต้องสนใจเรื่องชั้นมากหรอก ชั้นรู้เรื่องการสิ้นพระชนม์ของราชา ทำให้ชั้นรู้ว่าคงอยู่เฉยไม่ได้แน่
ทหาร - ทุกอย่างเปลี่ยนไปมากครับ โดยเฉพาะพวกทหาร นับแต่มีความวุ่นวายทางการเมือง มีการโต้เถียงกันเรื่องการสืบทอดอำนาจ จนทำให้เรารู้สึกลืมไปแล้วว่าเราทำหน้าที่ปกป้องใครอยู่กันแน่ ยังไม่รวมเรื่องสัตว์ประหลาดตามชายแดน เราไม่มีกำลังทหารเพียงพอที่จัดการเรื่องนั้นด้วย
???? - เมื่อวันพรุ่งนี้จมลง งานพิธีพระศพเสร็จสิ้นก็จะมีพิธีสวมมงกุฎรัชทายาทต่อ หลังจากนั้นชั้นว่าคงไม่ต้องมีทีมค้นหาอีกต่อไป ...... จริงๆแล้วไม่มีใครจำได้ด้วยซ้ำว่าเราเป็นทีมค้นหามาตั้งแต่แรกแล้ว
เมื่อหลบหนีจากเหมืองนอร์ดแล้ว กลุ่มคนเหล่านั้นก็ได้เรียกรถม้าและเดินทางกลับไปยังแกรนด์ทราดิ เมืองหลวงของยูโครเนีย หนึ่งวันก่อนพิธีศพของราชวงศ์ ขณะที่พวกเขามองดูเมืองโดยมีธงแห่งความอาลัยโบกสะบัดในสายลม ความสำคัญในภารกิจของพวกเขาก็เหมือนภาระที่ยิ่งใหญ่ที่ส่งผลกระทบทางจิตใจไม่ต่างกัน
▮ Royal Capital Grand Trad
ชาวบ้าน - หมอกเริ่มลงหนักแล้ว แต่ยังไงก็ดีกว่าฝน
ชาวบ้าน - พิธีศพนี้จะนำความโชคร้ายมากอีกหรือเปล่าก็ไม่รู้ ชั้นได้ยินมาว่าเรามีทหารไม่เพียงพอที่จะป้องกันอะไรด้วยสิ
ชาวบ้าน - พวกขุนนางก็มีการ์ดส่วนตัวของตัวเองอีกก็คงไม่สนอะไรหรอก แต่ ไม่เป็นไรหรอกน่า ชั้นห่วงเรื่องที่เราทำมาหากินไม่ได้มากกว่านะ
Grius - ไม่ต้องไปสนใจคำพูดของคนพวกนั้นหรอก มีที่ซ่อนตัวอยู่ด้านหลัง Sunshade Row ชื่อ Hushed Honeybee Inn ไว้เราค่อยรายละเอียดเพิ่มเติมเรื่องแผนตอนเราไปถึงที่นั่นก็แล้วกัน

➤เดินทางเข้าสู่เขต Sunshade Row มุ่งหน้าโรงแรม Hushed Honeybee Inn
▮ Hushed Honeybee Inn
Fabienne - คุณกลับมาแล้วหรอ?
Maria - ปะป๊า ขอต้อนรับกลับบ้านค่ะ !!
ฟาเบียนน์ วัลเปส เจ้าของโรงแรม Hushed Honeybee Inn หญิงชาว Paripus ที่สวยงามและมีนิสัยดี เธอแต่งงานกับกริอุสอย่างถูกต้องตามประเพณี และคิดว่ามาเรียลูกสาวของเขาเป็นลูกของเธอเองเสมอ
มาเรีย อัลเซส ลูกสาวของกริอุส ลโรูกครึ่งโรอาคและ อิชเกีย เธออาศัยอยู่ที่ Hushed Honeybee Inn ในแกรนด์ทราด ซึ่งฟาเบียนเป็นผู้ดูแลเธอ เธอเป็นเด็กสาวที่ร่าเริงและน่ารัก เธอช่วยงานในโรงแรมตอนกลางคืน แต่เธอมักถูกเลือกปฏิบัติเพราะเป็น "ลูกครึ่ง" ส่งผลให้ไม่มีเพื่อนที่อายุเท่ากันเลย
Grius - ไงมาเรีย พ่อหวังว่าหนูคงไม่ก่อเรื่องอะไรตอนพ่อไม่อยู่นะ คนที่มากับพ่อคือพวกทหารใหม่ที่เพิ่งเข้ามาประจำการน่ะ
Fabienne - ยังเด็กกันอยู่เลยนะ ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ ดิฉัน Fabienne ที่นี่เป็นธุรกิจและบ้านของชั้นค่ะ มีมารยาทด้วยสิจ๊ะมาเรีย
Maria - เอ่อ ยินดีต้อนรับค่ะ
ลูกค้า - เฮ้ชั้นนั่งรอนานแล้วนะ ของที่ชั้นสั่งอยู่ไหนล่ะ !?
Fabienne - มาเรีย หนูจัดการได้มั๊ย?
Maria - ได้เลยค่ะ
Fabienne - คุณกลับมาเร็วกว่าที่คิด เกิดอะไรขึ้นหรือเปล่า?
Grius - มีเรื่องเลวร้ายเกิดขึ้น แทบไม่มีผู้รอดชีวิตเลย
Strohl - ผมไม่รู้มาก่อนเลยนะว่ากริอัสมีลูกสาวด้วย
Grius - ผมรู้ว่าที่ผ่านมาก็รบกวนคุณมามากแล้ว แต่ รบกวนช่วยดูแลมาเรียต่ออีกหน่อยได้มั๊ย?
Fabienne - แน่นอน ได้สิ ที่นี่คงไม่ใช่โรงแรม Honeybee ถ้าไม่มีเธออ่ะนะ เอาล่ะ หลังจากที่ทุกคนผ่านอุปสรรคมามากมายแล้วต้องมาเจอตาลุงขี้บ่นคนนี้อีก ชั้นแน่ใจว่าพวกคุณคงอยากทานอาหารอร่อยๆกันแล้วแน่ๆ
Grius - เอาล่ะทุกคน ไปกินอาหารกันก่อนแล้วค่อยขึ้นไปพักผ่อนที่ห้องชั้นบน
Gallica - อืมม มันดีมากๆเลยนะเนี่ย
Strohl - โอ้ รสชาติจัดจ้านดีจริงๆ
Grius - ค่อยๆกินไอ้หนู
Strohl - อาหารอร่อยมากๆเลยครับ โดยเฉพาะเนื้อ ไม่คิดว่ามันจะเผ็ดขนาดนี้ แต่พอกินๆไปแล้วก็ติดใจเลยล่ะ
Grius - Bidou ย่างกับหญ้าแดง กินคู่กับเนื้อนก หนึ่งในอาหารเลื่องชื่อจากบ้านเกิดของนางล่ะ เธอยอมเสี่ยงเพื่อนชั้นและกลุ่มต่อต้านของเรามาหลายครั้งมาก ชั้นเป็นหนี้เธอจนเกินกว่าจะพูดออกมาได้
บิโดย่างหญ้าแดง (Redgrrass-Roadted Bidou)
อาหารพิเศษจากบ้านเกิดของ Fabienne เจ้าของโรงแรม Hushed Honeybee Inn เมนูไก่ที่หอมกรุ่นนี้ปรุงด้วยเครื่องเทศรสจัดจ้านและสมุนไพรเรดแกรส เชื่อกันว่าหากได้กัดคำเดียวก็จะติดใจจนอยากกินไปตลอดชีวิต ลูกค้าหลายคนมาที่ร้าน Honeybee ก็เพื่อต้องการมาลิ้มลอง อาหารจานนี้เสมือนเป็นอัญมณีที่ซ่อนอยู่ของ Sunshade Row
Strohl - คุณบอกว่าเรามีคนไม่เพียงพอ แต่จริงๆแล้วเรามีแค่คุณคนเดียวมากว่าใช่มั๊ย?
Grius - เรามีตัวแทนอิสระอีกมากมายที่สู้ในแบบตัวเอง แค่ยังไม่มีใครที่ทำประโยชน์ให้เราได้แบบจริงๆจังๆอ่ะนะ ซึ่งแปลว่างานนี้คงมีแต่พวกเราที่จะทำงานนี้ได้
Strohl - แต่ยังไงก็เถอะ การฆ่าหลุยส์เนี่ยมันไม่ใช่เรื่องง่ายๆเลยนะ
Gallica - กริอัสคุณมีแผนแล้วใช่มั๊ย ไหนลองบอกให้เราฟังหน่อยสิ
Grius - อืมมม ได้สิ ................................
Strohl - จะเล่นมันกลางงานศพกลางวันแสกเลยเนี่ยนะ !??
Grius -แน่นอนว่ามันต้องเสี่ยงอยู่แล้ว แต่เราไม่มีโอกาสที่จะเผชิญหน้ากับคนอย่างมันได้แบบตรงไปตรงมาที่ดีกว่านี้อีกแล้ว ไม่ต้องห่วงมีชั้นแค่คนเดียวที่จะเข้าใกล้มันได้ ชั้นต้องการให้พวกนายเบี่ยงเบนความสนใจหลุยส์จากอีกที ชั้นต้องการแค่ให้มันเปิดช่องว่างแค่ครั้งเดียวก็พอ แล้วก็อย่าใช้พลังพิเศษของนายด้วยเข้าใจมั๊ย? มันจะดีงดูดความสนใจมากเกินไป การฆ่าคนกับการฆ่ามอนสเตอร์มันต่างกันมากนะ ... แค่นี้และที่ชั้นต้องการ
Strohl - นี่คุณล้อเล่นใช่มั๊ย? ไอ้มีดทำครัวนั่นมันจะทำอะไร archmage ได้? เราไม่มีอาวุธอะไรที่มันดีกว่านี้แล้วหรอ?
Grius - ไม่มี นายก็แค่ทำส่วนของนายก็พอ แล้วก็ไอ้มีดทำครัวนี่แหละที่จะเชือดคอมันได้เหมือนหมูเลยล่ะ รวดเร็วและหมดจด ชั้นไม่เคยทำมาก่อนก็จริง แต่ถ้าเปิดโอกาสเหมาะๆให้ รับรองมันตายแน่นอน
OXIDE - ก็ได้ครับ ตามนั้น
Strohl - ทำอย่างกับเรามีทางเลือกงั้นแหละ
Grius - แล้วก็ ชั้นอยากจะขออะไรอย่างสิ ตอนที่ชั้นไปเตรียมแผนช่วยอยู่เป็นเพื่อมาเรียหน่อยสิ ชั้นกลัวลูกจะเหงาน่ะ
Strohl - อย่างน้อยคุณก็ควรไปกอดเธอซักหน่อยนะ
Grius - คืนนี้ชั้นต้องเตรียมตัว มีอะไรที่ต้องทำหลายอย่างและควรจะห่างจากเธอให้มากที่สุดด้วย
Strohl - นี่แหละความเป็นพ่อของลุงเขาล่ะ โทษที แต่ผมต้องขอตัวนอนก่อนแล้ว ต้องพักผ่อนให้เต็มที่สำหรับวันพรุ่งนี้
Gallica - เราทุกคนต่างก็มีเวลาให้กับตัวเองไม่มากอ่ะนะ แต่ชั้นรู้สึกไม่ดีเลยที่ต้องปล่อยให้เธออยู่คนเดียว เราควรแวะเข้าไปหาเธอซักหน่อยก็ดีนะ
Maria - คุณต้องการอะไรหรอคะ?
OXIDE - เล่นเกมอะไรกันมั๊ย?
Maria - เล่นเกมหรอ แต่นี่มันดึกแล้วนะคะ ....เอ่อ หนูจำได้ว่าปะป๊าบอกว่าคุณมีหนังสือแปลกๆด้วย จะว่าอะไรมั๊ยถ้าหนูจะขอดูหน่อยอ่ะ
Gallica - เธอชอบอ่านหนังสือหรอ?
Maria - เปล่าค่ะ หนูไม่เคยเห็นมันมาก่อนเลยซักครั้ง จะดีมากเลยถ้าได้เห็น
OXIDE -งั้นเรามาอ่านด้วยกันมั๊ยล่ะ?
Maria - จริงหรอ? แต่ เอ่อ หนูยังทำงานอยู่อ่ะดิ
Fabienne - ไม่เป็นไรมาเรีย ชั้นจัดการเอง วันนี้หนูทำงานดีมากแล้ว ขึ้นไปอ่านที่ชั้นบนเถอะ
Maria - จริงหรอคะ? งั้นเราไปอ่านกัน
Maria - โห มันมีภาพเยอะจัง หนังสือเป็นแบบทุกเล่มเลยปะคะ? คุณ Fabienne สอนการอ่านกับหนูมาบ้างเธอบอกว่ามันช่วยเรื่องการทำงานในโรงแรมนี้
OXIDE - หนูมาช่วยงานทุกวันเลยหรอ?
Maria - ใช่ค่ะ เป็นงานที่มีอะไรต้องทำเยอะอยู่นะแต่ก็สนุกดี แล้วก็หนูชอบตอนที่มีลูกค้าชมหนูว่า หนูฉลาด ....ปะป้าบอกไม่ให้หนูเข้าไปในห้องเขาในตอนนี้ หนูรอนานมาก แต่หนูก็เต็มใจรอนะ
OXIDE - หนูเป็นเด็กที่แข็งแกร่งนะ มาเรีย
Maria - หนูรู้ว่าปะป้างานยุ่งมาก แต่หนูก็ดีใจนะตอนที่เขากลับบ้านน่ะ และก็ขอบคุณ คุณด้วย ที่ชวนคุยสนุกๆนะ
OXIDE - ดีใจที่หนูชอบนะ
Maria - วันหลังมาเล่นด้วยกันอีกได้มั๊ยคะ?
OXIDE - อืมม ได้แน่นอน
Maria - สัญญานะ คุณต้องช่วยพ่อหนูทำงานด้วยใช่ป่ะ ขอให้ปลอดภัยนะคะ เพราะหนูรู้ว่างานของพ่ออันตราย
OXIDE - (เธอเองก็คงกำลังกังวลใจอยู่เหมือนกันแหละ แต่ก็ยังอุตสาห์ห่วงเรื่องความปลอดภัยของเรา ชั้นรู้สึกสบายใจกับนิสัยดีๆของมาเรียมากๆเลย)
มาเรีย เด็กสาวผู้มีใจบริสุทธิ์ ในตัวเธอนั้นมีคุณธรรมของ ผู้เยียวยา (Healer) อยู่ จงรักษาความผูกพันระหว่างเธอและพลังใหม่ที่หลับไหลอยู่ในตัวคุณก็จะตื่นขึ้น
ชั้นสัมผัสได้ถึงความเป็นวีรบุรุษของ ผู้เยียวยา (Healer) จากมาเรีย
ปลดล็อก Healer Archetype
Maria - หนูก็ไม่รู้ว่าการกลับมาคราวนี้พ่อจะอยู่บ้านนานมั๊ย ถ้าพ่อต้องกลับไปทันทีหนูคงเสียใจเหมือนกัน
OXIDE - ชั้นจะขอให้เขาอยู่ต่อนานๆนะ
Maria - ค่ะ หนูว่าหนูอ่านหนังสือนี่ต่ออีกหน่อยดีกว่าก่อนจะเข้านอน
Maria - เอาล่ะ หนูจะลองอ่านหน้านี้ดูนะ อืมมม ... ในประเทศนี้ พระมหากษัตริย์ทรงได้ยินเสียงของ... ชาวเมือง... และทรงปกป้องวิถีชีวิตของพวกเขา" …. อืม ไอ้คำนี้มันแปลว่าอะไร?
Gallica - “จุดมุ่งหมายของสังคมคือการปกป้องพลเมืองของตน นี่คือหลักการ พื้นฐานของสังคมอุดมคติ” ทุกคนเท่าเทียมกัน ใช้ชีวิตอย่างปลอดภัย คนรวยและคนจนเป็นหนึ่งเดียวกัน ไม่มี ช่องว่าง ไม่มีความขัดแย้ง ทุกคนเป็นเพื่อนกัน สมควรได้รับความช่วยเหลือ โดยพื้นฐานแล้วมันเป็นสถานที่ที่ไม่มีการต่อสู้และทุกคน ก็เข้ากันได้ดีเสมอ
Maria - ว้าว ที่แบบนี้มันอยู่ที่ไหนหรอคะ ? ถ้าเป็นแบบนี้ คนที่อยู่ที่นั่นคงไม่มีทางโดดเดี่ยวแน่ … หนูอ่านต่ออีกหน่อยดีกว่า
Gallica - แบบนี้น่าจะไปนอนยากแล้วล่ะ
เมื่อถึงรุ่งสาง ขบวนแห่งพระศพไปยังมหาวิหารก็เริ่มต้นขึ้น .......
Grius - หีบพระศพของกษัตริย์ได้เคลื่อนออกจากปราสาทแล้ว ขบวนแห่จะเคลื่อนไปตามถนนสายหลักสู่จุดหมายปลายทางก็คืออาสนวิหาร Grand Cathedral ชั้นจะให้พวกนายกลมกลืนไปกับพวกทหารที่ประจำการอยู่ที่นั่น หากชั้นส่งสัญญานพวกนายก็เริ่มสร้างเหตุการณ์เพื่อดึงดูดความสนใจของหลุยส์ได้เลย
Gallica - กลมกลืนไปกับพวกทหาร ? แลัวดูชุดพวกเราดิ
Grius - ชั้นให้ฟาเบียนจัดการหาให้แล้ว
Strohl - สภาพเป็นอย่างที่เห็นเนี่ยนะใช้เวลาทำทั้งคืน ไหนเอาลองซิ
Grius - ขอบคุณมากนะที่อยู่เป็นเพื่อนมาเรียเมื่อคืน หวังว่าพวกนายคงไปคุยกับเธออีกนะ
OXIDE - หายห่วงครับ ผมจะช่วยดูแลเธอให้
Grius - ขอบคุณมากนะ มาเรียมีเพื่อนน้อย เธอมีปัญหาเรื่องเข้าสังคมน่ะ
Grius - เอาล่ะ เราจะแยกย้ายกันทันทีที่ออกเดินทางไปที่มหาวิหารใหญ่ เราจะปลอมตัวเป็นทหารยามเพื่อสร้างความวุ่นวาย ส่วนที่เหลือชั้นฝากไว้กับพวกนาย
Fabienne - เรื่องที่นี่คุณไม่ต้องห่วงนะ ชั้นจะดูแลทุกอย่างเอง
Maria - ปะป้า
Grius - เดี๋ยวคืนนี้พ่อกลับ เป็นเด็กดีตอนพ่อไม่อยู่ด้วยล่ะ
OXIDE - ทุกอย่างจะโอเคน่าชั่นรับรอง
Strohl - เดี๋ยวถ้าเรากลับมา ขอดินเนอร์อีกซักมื้อนะ
Maria - เต็มใจเลยค่ะ เดินทางปลอดภัยนะ
Grius - เมื่อทุกอย่างเสร็จสิ้นแล้ว เรามาเจอกันที่นี่คืนนี้นะ ชั้นหวังพึ่งพวกนายมากนะ
Strohl - เราจะทำให้ดีที่สุดครับ
Gallica - ถ้าจะไปอาสนวิหารใหญ่ เราต้องเดินไปตาม ถนน Sunlumeo จากนั้นเลี้ยวขวาเมื่อถึงจัตุรัส ด้านหน้าที่ประหารชีวิตนักโทษ
ระหว่างทางน่าจะมีร้านค้าที่ขายอาวุธหรือชุดเกราะอยู่ ลองแวะเข้าไปสักหน่อย หากหาไม่เจอแผนที่ของนายน่าจะช่วยได้นะ
▮Regalith Grand Cathedral
Strohl - พร้อมรึยัง ? เราลองหาจุดที่ไม่สะดุดตากันดีกว่าจะได้หาโอกาสทำตามแผนได้


Gallica - ดูสิ มีทั้งพวกขุนนางและนายพลที่มีชื่อเสียงมาอยู่ที่นี่กันหมดเลย
Strohl - เธอเห็น Grius บ้างมั๊ย?


Gallica - เห็นแล้ว ชั้นกำลังจับตาดูเขาอยู่ แต่ชั้นยังไม่เห็นหลุยส์เลยนะ



The Gall งั้นหรอ? นี่มันเกิดอะไรขึ้นเนี่ย ??


นั่นมัน ดอกไม้จากสวนพระราชาไม่ใช่หรอ ??
รอยัลฟลาวเวอร์
ดอกไม้สีขาวที่เกี่ยวข้องกับราชวงศ์ยูโครเนียน นอกจากนี้ยังปรากฏบนตราแผ่นดินด้วย แม้ว่าชาวยูโครเนียนจะชื่นชอบดอกไม้ชนิดนี้มาหลายชั่วอายุคน แต่ในปัจจุบันถือเป็นธรรมเนียมที่จะไม่นำดอกไม้ชนิดนี้มาใช้ในการเฉลิมฉลองของราชวงศ์
จนกระทั่งหลายทศวรรษที่ผ่านมา ดอกไม้ชนิดนี้สามารถพบเห็นได้รอบ ๆ ทะเลทรายแกรนด์ทราเดีย แต่หลังจากนั้นก็สูญหายไปเนื่องจากการขยายตัวอย่างรวดเร็วของทะเลทราย ทราเดีย กล่าวกันว่าปัจจุบันรอยัลฟลาวเวอร์มีแค่ในอาณานิคมตามธรรมชาติเพียงไม่กี่แห่งเท่านั้น
แค่สายเลือดธรรมดาสามัญคนนึงมางานศพทีจะต้องเปิดตัวขนาดนี้เลยเรอะ รู้จักมารยาทมั๊ยเนี่ย?
นี่ก็เท่ากับมันประกาศตัวเองในฐานะราชวงศ์เลยนะ แกมัน ไอ้คนบ้าเถื่อนเอ้ย !!!
Louis - ไอ้กษัตริย์โง่ของพวกเจ้ามันตายแล้ว !

Louis - มันเหี่ยวเฉาและตายลงด้วยความอ่อนแอของตัวเองเพราะผิดหวังในตัวขุนนางที่หลงตัวเองและเหล่านักบวชที่ขี้ประจบประแจง!
แกกล้าดียังไงถูกพูดแบบนั้นออกมา ห๊ะ!??
นี่มันบ้าไปแล้ว กลางพิธีศพของกษัตริย์ตัวเองเนี่ยนะ??
ท่านลอร์ดหลุยส์พูดจริง! พวกขุนนางต้องรับผิดชอบ บอกชื่อไอ้คนที่ทำผิดมา !!!
Louis - เอาล่ะ จงดูด้วยตัวเอง แค่ลืมตาขึ้นก็จะเห็นวิกฤติที่อณาจักรของเรากำลังเผชิญอยู่ !!
Louis - ข้าจะแสดงให้พวกเจ้าเห็นถึงความจริง สัจจะแห่งความจริง !!



Louis - พวกเจ้าทุกคนถูกปิดหูปิดตาอยู่ในกำแพงหิน ดูเถิด นี่คือศพของ ฮิวแมน !!!!
Louis - พวกมันไม่ใช่ข่าวลือ พวกมันซ่อนตัว ทำรังอยู่ทั่วแผ่นดินที่คุณเรียกว่าบ้าน

Louis - ป้อมปราการที่ชายแดนก็ถูกพวกฮิวแมนทำลายเมื่อหลายวันก่อน แล้วอีกนานแค่ไหนที่พวกมันจะมายึดที่นี่ พวกเจ้าก็ทำได้แค่โทษความอ่อนแอของกษัตริย์ของตัวเอง แล้วใครกันล่ะที่คู่ควรกับมงกุฎของเขา ชายผู้แข็งแกร่งที่ได้รับการพิสูจน์แล้ว
แกกล้าดียังไงไอ้สารเลว คำพูดของแกนี่มันพวกกบฏชัดๆ !!!
Louis - ข้าไปต่อต้านผู้ปกครองคนไหนหรอ? เลือดบริสุทธิ์หรอ? คนตายไม่สามารถถูกทรยศได้หรอก
Louis - ข้าขอให้วิญญาณของกษัตริย์ของพวกเจ้าเป็นพยานว่าข้า หลุยส์ กิอาเบิร์น ได้รับการขนานนามว่าเป็น ผู้ปกครองที่ถูกต้องที่แท้จริงของ Euchronia !!

Strohl - เฮ้ นายเป็นอะไรหรอ? แล้วพวกเราควรจะ ...ห๊ะ !!!!???
Grius - มัน ... มันเกิดอะไรขึ้นเนี่ย !!??

Louis - พลังเวทย์ที่แข็งแกร่งแบบนี้มัน ..... เป็นไปไม่ได้ !!!


ปราสาทมัน ..เป็นไปไม่ได้ นั่นมันมหาเวทย์ของพระราชางั้นหรอ ?
ข้า กษัตริย์ฮิธโลเดอัสที่ 5
ประชาชนแห่งดินแดนของข้าต้องการกษัตริย์องค์ใหม่... และข้าจะจัดหามาให้
นั่นเขาบอกว่าคือ ฮิธโลเดอัสที่ 5 งั้นหรอ?
ใบหน้านั่น ....เป็นไปไม่ได้ นั่นมันฝ่าบาทแน่นอน !! กษัตริย์ของเรา มันเป็นแบบนี้ได้ไง??
นั่นฝ่าบาทแน่นอน แต่เขาตายแล้วนะ ทำไมล่ะ?
โปรดเงียบก่อนทุกคน ให้เขาพูดในสิ่งที่ต้องการจะพูดก่อนเถอะ !!
จงฟังข้าพเจ้าเถิด ผู้ไม่มีกษัตริย์
เวลามีจำกัดก่อนที่วิญญาณของฉันจะจากไปในโลกอันมืดมนนี้...
ในช่วงสี่เดือนแห่งชีวิตหลังความตาย จะมีการชำระบัญชี วันแห่งวีรบุรุษ
วันแห่งวีรบุรุษ (Day of the Hero)
วันหยุดประจำปีในวันที่ 27 ตุลาคมตามปฏิทิน ยูโครเนีย เพื่อเฉลิมฉลองอาณาจักรยูโครเนีย โอเชียนาและมอนตาริโอที่รวมเป็นหนึ่งเดียวจนถึงปัจจุบัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเพื่อเฉลิมฉลองวันราชาภิเษกกษัตริย์องค์แรกของสหราชอาณาจักร วีรบุรุษในชื่อเรื่องหมายถึงกษัตริย์ยูโครเนียในขณะนั้นคือผู้ยุติสงคราม
อดีตกษัตริย์ฮิธโลเดอัสที่ 5 อาจเลือกวันที่นี้เพื่อเฉลิมฉลองการสิ้นสุดของการแย่งชิงบัลลังก์ เนื่องด้วยมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ เป็นวันสำคัญเนื่องในโอกาสการฟื้นคืนชีพของอาณาจักร
เมื่อถึงวันนั้น ผู้ใดก็ตามที่ได้รับความศรัทธาจากประชาชนอย่างสูงสุด... ผู้นั้นจะได้ ขึ้นครองบัลลังก์และสวมมงกุฎโดยสิทธิราชย์
Louis- โดยสิทธิราชย์? .. อ้างอิงจากความศรัทธาของประชาชนงั้นสินะ…? เอางี้จริงๆหรอเนี่ย ?
จิตวิญญาณอันไม่แคนยเหือดหายของข้าจะมองดูพวกเจ้าจากสวรรค์อันสูงส่ง และจากความหวังกระซิบของหัวใจที่วิตกกังวลของเจ้า... ...แล้วท่านผู้ที่ภักดีจะถูกเปิดเผยออกมา


อ๊าก !! มันเกิดอะไรขึ้นเนี่ย !?
ข้าได้ยินเสียงของพวกเจ้าดังก้องด้วยความจริงอันแจ่มชัด
ณ ที่นี้ ขอเชิญพบกับใบหน้าของผู้ที่ปรารถนาจะขึ้นเป็นกษัตริย์มากที่สุด... นั่น Forden นี่??
ท่านเคานต์หลุยส์ ท่านเคานต์หลุยส์ก็อยู่ที่นั่นด้วย!
พวกเขาเป็นผู้ที่ได้รับการเสนอชื่อคัดเลือกใช่มั๊ย?
Louis- ฮ่า! ช่างเป็นภาพที่งดงามตระการตายิ่งนัก!
Louis-อำนาจแห่งกษัตริย์เป็นของชั้นโดยสิทธิและพระประสงค์แล้ว
สังฆราช - แกคิดการใหญ่เร็วไปแล้ว หลุยส์ !! พวกเรารวมตัวกันเพื่อไว้อาลัยแด่พระองค์ท่าน แต่แกกลับทำลายมัน!
สังฆราช - แกจะทำให้บัลลังก์แปดเปื้อนนะไอ้คนถ่อย !!
Louis- ฮึ่ม ก็ได้ๆ งั้นเรามาทดสอบกันดีไหม
Louis - เหล่าประชาชนผู้ประเสริฐทั้งหลาย! ฟอร์เดนเหมาะที่จะเป็นราชาจริงหรือ!? หรือว่าพวกท่านอยากจะถูกพันธนาการด้วยศรัทธาอันมืดบอด!?
Louis - เราไม่จำเป็นต้องถูกจำกัดด้วยการเกิดหรือเผ่าพันธุ์ใดๆทั้งนั้น
Louis - ในโลกของผม เราคือผู้คนที่เท่าเทียมกันและเป็นหนึ่งเดียว! ข้าพร้อมจะเป็นโล่ป้องกันพวกท่านจากภัยร้ายจาก ฮิวแมน เมื่อเราร่วมมือกัน สันติภาพก็อยู่แค่เอื้อม!
ตอนที่หมู่บ้านของฉันถูกไฟไหม้...คริสตจักรไม่ได้ทำอะไรเลย
...และเราก็ไม่มีทางสู่กับมอนสเตอร์พวกนั้นโดยลำพังได้แน่นอน
แล้วพวกเราที่อยู่ในทัณฑ์บนล่ะ?
เราก็จะได้รับการคุ้มครองเช่นกันใช่ไหม!?
Strohl - อย่าโง่สิ! มันไม่ใช่คนดีแบบที่ทุกคนคิดหรอกนะ !!
Gallica - ดูนั่นสิ หน้าของหลุยส์ขึ้นมาแซงหน้า Forden แล้ว!!
ใบหน้ายักษ์นั่นสามารถมองเห็นความคิดของเราได้จริงๆหรอเนี่ย!?
สังฆราช - หลุยส์...เจ้ากำลังทำให้หัวใจของผู้คนหลงผิด!
Louis - อนาคตไม่มีอยู่จริงหากปราศจากพลังที่จะขจัดวิกฤตมนุษยชาติได้ ผู้ที่ยืนเคียงข้างข้า ผู้ที่ต่อต้านผู้มีอำนาจ ความคุ้มครองของข้าก็เป็นของเจ้า!
Louis -หรือจะปฏิเสธมือข้าแล้วพินาศไป! ข้าก็จะพาเราข้ามศพของเจ้าไป
สังฆราช - เจ้าหมายถึง... เหมือนกับที่เจ้าฆ่าราชาสินะ!?

Louis -ประเทศชาติหนักยิ่งกว่ามงกุฎ เขาไม่ อาจทนรับมันได้ ก็ถือว่าเป็นการชดใช้วิบาทกรรมก็แล้วกัน
สังฆราช - ไอ้สารเลวเอ้ย !!!

Grius - บ้าเอ้ย มันไม่สนใจเลือดที่เปื้อนมือของมันเลยซักนิด..
Strohl - ไอ้สารเลวหลุยส์ !! แกคิดว่าแกจะได้ขึ้นครองราชย์จริงๆงั้นหรอ? แกนั่นแหละเป็นคนสร้างหายนะให้พวกเรา ยังไงชั้นก็ไม่ยอมก้มหัวให้แกหรอก !!!
ทหาร - เฮ้ย แก หุบปากเดียวนะ !!
ประชาชน - คนที่ปลงพระชนม์กษัตริย์ต้องตายสถานเดียวโว้ย !!!
Strohl - เยี่ยม ! ใช่แล้วแบบนั้นแหละ !! เราเองก็ไปเตรียมตัวกันถอะ !!
Gallica - Grius อยู่ไหนเนี่ย !?
????? - Alces หรอ?
ข้าจะไม่ยอมทนกับการขัดขืนต่อเจตนารมณ์ของคนในแผ่นดินชองข้าหรอก
ในนามของข้า เจ้าต้องถูกลงโทษ
Louis - ลงโทษงั้นหรอ?
Louis - น่าทึ่งมาก หมาของราชวงศ์สินะ ชั้นว่า มันเหมือนกับบทกวีเลยนะ ว่ามั๊ย?
Louis - คอยดูแล้วกันว่าเขาตอบแทนกับความภัคดีของเจ้ายังไง
Louis - ข้าเตือนเจ้าแล้วว่า การท้าทายมันมีราคาที่ต้องจ่าย
Louis - แม้ว่าชั้นจะไม่ได้คาดหวังว่ามหาเวทย์ของกษัตริย์ที่ข้าสังหารไปจะเข้าข้างข้าก็ตามเถอะ
Louis - เอาเป็นว่า จงอยู่เคียงข้างข้า ข้าจะปกป้องพวกเจ้าจากความอยุติธรรม จงก้าวข้ามการเกิดและสถานการณ์ เพราะสิ่งเหล่านั้นไม่มีความหมาย
ประชาชน - ท่านหลุยส์คือความหวังเดียวของพวกเรา
ประชาชน - เรามีทางเลือกด้วยหรอ? ก็เขาฆ่าคนที่ต่อต้านเขานี่!
เมื่อถึงวันแห่งวีรบุรุษ ผู้ใดก็ตามที่ได้รับความศรัทธาจากประชาชนของฉันมาก ที่สุด จะได้ขึ้นครองบัลลังก์ของข้าเพื่อปกครอง...ตามการตัดสินของข้า
ไม่ว่าเจ้าจะเป็นอาชญากร ยาจก หรือผู้สูงศักดิ์... คำเรียกร้องของเจ้าไม่ได้ขึ้นอยู่กับฐานะหรือเผ่าพันธุ์
ข้าจะเป็นพยาน จากที่นั่งบนสวรรค์นี้ ข้าผู้ที่แทบจะเป็นผู้ทรงอำนาจทุกประการ จงมองดูใบหน้าที่สลักไว้บนศิลานี้และมองดูใบหน้าของผู้ที่ถูกเลือก
ข้าจะไม่ยินยอมให้มีการทำลายล้างหรือขัดขวางการพิจารณาคดีนี้ ขอให้ทุกคนได้ฟังและเชื่อฟังข้า!





สังฆราช - นั่นมันบ้าไปแล้ว !!

Strohl - Grius! …Grius!!!!


Strohl - บ้าเอ้ย ..!! ไอ้หลุยส์ !!!!!!!
????? - Alces ….


Strohl - ห๊ะ!!? อะไรอีกวะ !!?

?????? - พระอาทิตย์ลับขอบฟ้าเหนือซากดึกดำบรรพ์เก่า เป็นรุ่งอรุณใหม่
และแสงของพระอาทิตย์สาดส่องลงมายังลอร์ดหลุยส์ผู้เป็นกษัตริย์ ทหาร - หยุดเดี๋ยวนี้นะ !!!
????? - ไอ้พวกน่ารำคาญเอ้ย... ความปรารถนาของแกคือการตายใช่ไหมล่ะ?
????? -กระดูกของแกจะเป็นอนุสรณ์แห่งความรุ่งโรจน์ของท่านหลุยส์!

????? - บ้าเอ้ย มันกำลังทำให้คนตายมีมลทิน
????? - อ่า แต่ท่านลอร์ดหลุยส์ส่งฉันมาที่นี่เพื่อทำภารกิจสำคัญนี่นา
????? - ภาระกิจบ้าอะไร!?
????? - ดูเหมือนว่าฉันคงต้องใช้เวลาพอสมควรในการสะสม Magla อย่างไรก็ตาม จนกว่าจะเสร็จ ฉันเกรงว่าฉันจะต้องยืมมหาวิหารไปก่อนนะ
วันที่การไว้ทุกข์ของกษัตริย์สิ้นสุด ลงจะกลายเป็น “วันแห่งความหายนะ” แทน
????? - หากพวกแกคิดจะขัดขวาง...ก็จงตายซะ

????? - ตรึงกำลังเอาไว้ !! ดวงวิญญาณของคนตายไม่อยากกลับมาอีกหรอก! มันใช้เวทมนตร์ชั่วร้ายเพื่อล่อลวงพวกเขา
Gallica - เตรียมตัวกันไว้นะทุกคน! Strohl ตั้งรับด้วยเรามีแขกเข้ามาแล้ว
▩Tutorials Battle
สมาชิกปาร์ตี้มีโอกาสที่จะเกิดอาการวิตกกังวล (Anxiety) ได้ด้วยสองสถานการณ์: เมื่อคุณถูกซุ่มโจมตีในระหว่างการต่อสู้หรือเมื่อคุณได้รับการโจมตีคริติคอลจากศัตรู

Strohl - ไอ้บ้านั่นมันหายไปไหนแล้ววะ !? มันเอาพวกทหารอันเดดเข้าไปในวิหารด้วยงั้นหรอ?
?????? - เรามีสุสานอยู่ใกล้ๆ ทหาร ช่วยแบกศพเขาไปทำพิธีที่นั่นทีจะได้มั๊ย?
ทหาร - ได้ครับท่าน !!
?????? - ดูแลเขาให้ดีด้วย เขาเป็นเพื่อนรักของชั้น เขาทุ่มเททุกอย่างเพื่อราชา เพื่อราชวงศ์ สิ่งที่เขาควรได้รับอย่างน้อยที่สุดก็ควรเป็น ศักดิ์ในการตาย
Hulkenberg -ชั้นชื่อ ฮัลเคนเบิร์ก ชั้นมีคำถามจะทำพวกนายเยอะเลย ดูจากพลังเวทย์ของพวกนายแล้ว มันไม่มีสอนในกองทัพแน่ๆ แสดงว่านายคงไม่ใช่ทหารธรรมดาๆสินะ
Strohl - แล้วคุณล่ะ? ดูแล้วก็ไม่น่าจะใช้หัวหน้ากองทหารรักษาพระองค์ธรรมดาเหมือนกัน
Hulkenberg - ชั้นเป็น อัศวิน ภายใต้การบังคับบัญชาขององค์ราชา ไม่ได้มีหน้าที่สั่งทหารรักษาการณ์โดยตรง ..แค่ตอนนี้มันอยู่ในสถานการณ์ฉุกเฉิน
Strohl - อัศวินหรอ?
Hulkenberg - และพวกนายก็ปลอมตัวเป็นทหาร แต่เรื่องนั้นรอได้ เพราะดูเหมือน Alces จะรู้จักกับพวกนายอยู่
OXIDE - Alces หรอ?
Hulkenberg - เรื่องนั้นไว้คุยกันทีหลัง เราต้องรีบตามไอ้จอมเวทย์ชั่วนั่นก่อน และชั้นมั่นใจว่ามันต้องการ คฑาแห่งราชวงศ์ที่อยู่ในวิหารแน่นอน
Strohl - คฑาแห่งราชวงศ์งั้นหรอ?
ชาวบ้าน - ได้โปรด!! ใครก็ได้ช่วยด้วยค่ะ ช่วยด้วยยย !! ครอบครัวของชั้นติดอยู่ข้างในยังไม่ออกมาเลย
Hulkenberg - นี่มันขังพลเรือนไว้ในวิหารด้วยหรอ?
ชาวบ้าน - ใช่ค่ะ ครอบครัวของชั้นและคนอื่นๆอีกหลายคนเลย
Strohl - พวกชาวบ้านไร้ทางสู้ด้วยสิ
Hulkenberg - ในนามของอัศวิน ชั้นขอน้อมรับการร้องขอนี้ด้วยเกรียติ และชั้นอยากจะขอความช่วยเหลือจากพวกนายด้วย ถ้าพวกนายเต็มใจอ่ะนะ
Strohl - การที่อัศวินแห่งราชวงศ์ร้องขอความช่วยเหลือจากคนแปลกหน้ามันไม่เป็นการเสียเกรียติหรอ?
Hulkenberg - ชั้นไม่ได้อีโก้สูงขนาดนั้นหรอกนะ โดยเฉพาะถ้าจะขอความช่วยเหลือจากคนมีฝีมือเพื่อช่วยพลเรือนน่ะ
Strohl - ถ้าชั้นหันหลังใก้สถานการณ์ตอนนี้ ชั้นคงไม่กล้ามองหน้า Grius ได้อีกแน่ นายว่าไง OXIDE ?
OXIDE - แล้วใครห้ามนายกันล่ะ ?

▮REGALITH Grand Cathedral
Hulkenberg - ทางนี้ เราต้องหาทางขึ้นด้านบนต่อให้เร็วที่สุด !
Strohl - ระวังด้วยนะ เหมือนมันกำลังจะถล่มแล้ว !!
Hulkenberg - บ้าเอ้ย เราถูกแยกออกจากกันแล้ว พวกคุณไม่เป็นไรนะ?
Strohl - เราโอเค แต่ปัญหาคือ ... แบบนี้เราจะขึ้นทางไหนล่ะเนี่ย?
Hulkenberg - ลองหาทางอื่นดู ชั้นจะล่วงหน้าไปก่อนนะ ระวังตัวด้วย อย่าประมาทล่ะ เดี๋ยวเจอกัน
➽ลุยศัตรูขึ้นไปตามทาง ระหว่างทางช่วยชาวบ้านและทหารที่ถูกอันเดดทำร้าย เป้าหมายคือ ขึ้นไปเจอกับฮัลเคนเบิร์กที่รออยู่ชั้นบน
Hulkenberg - มาช้านะ พวกคุณถูกพวกศัตรูขัดขวางงั้นหรอ?
Strohl - มีชาวบ้านติดอยู่ในนี้หลายคน เราคงทิ้งพวกเขาไว้ไม่ได้หรอก
Hulkenberg - ถ้างั้นก็ดีแล้ว และยังมีอีกหลายคนเลยที่ต้องการช่วยเหลืออยู่ด้านใน
Hulkenberg - ชั้นไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่า พิธีศพของราชาจะเกิดเรื่องวุ่นวายขนาดนี้ได้
Gallica - เราก็คงต้องโทษหลุยส์นั่นแหละ ทุกอย่างที่เกิดขึ้นเป็นเพราะมัน รวมถึงการโจมตีที่ไม่คาดฝันนี้ด้วย
Strohl - ไม่ใช่แค่นั้นหรอก ไอ้ลูกน้องชั่วของมันก็กำลังบุกเข้าไปในวิหารอีก คุณบอกว่ามันจะไปเอาอะไรนะ คฑาแห่งราชวงศ์หรอ?
Hulkenberg - ใช่ มันคงจะเอาไปให้เจ้านายมันอย่างไม่ต้องสงสัย ถ้าหลุยส์ได้คฑานั่นอยู่ในมือชั้นกลัวว่าจะไม่มีใครต่อกรมันได้เลยล่ะ
Gallica - ถ้างั้นเราจะปล่อยให้มันเกิดขึ้นไม่ได้ เราต้องหยุดมัน ต้องรีบตามเข้าไปให้ทัน!
Hulkenberg - ทางขึ้นชั้นบนอยู่ข้างหน้านี่แหละ ตามชั้นให้ทันล่ะ
Strohl - นี่คุณล้อเล่นใช่มั๊ย ข้างบนนั่นมันใหญ่โตขนาดนั้นเราจะขึ้นไปยังไงให้ทันเนี่ย?
Hulkenberg - ห้องเก็บคฑาอยู่ชั้นบนสุด ไม่ว่าไงก็ไม่มีทางเลือก เราต้องรีบแล้ว
Hulkenberg - เดี๋ยวนะที่นี่มันกลายเป็นแบบนี้ได้ไง !!? มีสสาร Magla แพร่กระจายในนี้เต็มไปหมดเลย
Strohl - ถ้างั้นก็คงเหมือนกับที่เหมือง
Gallica - นั่นมันเสียงอะไรน่ะ !!!?
Hulkenberg - ระวังตัวเอาไว้ !! มันกำลังจะถล่ม !!!
Gallica - ทางเข้าถูกปิดแล้ว !!
Strohl - บ้าเอ้ย!! อยู่ๆก็มาถล่มแบบนี้เราจะเข้าไปข้างในยังไงเนี่ย??
Hulkenberg - แบบนี้มันไม่ใช่เรื่องบังเอิญหรอก พวกมันพยายามขัดขวางเราไม่ให้เข้าไปด้านในต่างหาก เราจะหาทางอื่นไปต่อ ชั้นมีแผนแล้ว
Strohl - งั้นก็นำทางไปได้เลยครับ
Hulkenberg - แต่ก่อนที่เราจะไปต่อ เราต้องคุยกัน ชั้นต้องการคำตอบเรื่องชายที่หลุยส์เพิ่งสังหารไป
Strohl - คุณหมายถึง Grius เพื่อนของเราหรอ?
Hulkenberg - ใช่ แต่ชั้นรู้จักเขาในนาม Alces … Arvid Alces เขาได้รับการว่าจ้างให้มาสอนวิธีการใช้ดาบกับเจ้าชายตามบัญชาของพระราชา แล้วตอนนั้นชั้นยังทำหน้าที่องค์รักษ์ของเจ้าชายอยู่ และตอนนี้ชั้นก็เสียท่านไปแล้ว
Hulkenberg - ชั้นหวังว่าพวกคุณจะให้คำตอบในเรื่องที่คาใจชั้นอยู่ตอนนี้ได้ ทำไมพวกคุณต้องพยายามลอบสังหารหลุยส์ ?
Strohl - ก็คง ...ล้างแค้นล่ะมั้ง กับสิ่งที่มันทำกับกษัตริย์ของเรา โทษของมันคือตายสถานเดียว
Hulkenberg - ล้างแค้นหรอ?
Strohl - ไม่ใช่แค่กับเจ้าชาย แต่เพราะมันปลงพระชนม์กษัตริย์ของเราด้วย
Hulkenberg - Alces เป็นเจ้าแห่งการวางแผน แม้จะดูเป็นคนดุร้าย แต่จริงๆเขาอ่อนโยนมาก และเขาไม่ใช่คนหัวรั้นที่จะลงมือด้วยอารมณ์แน่ๆ ทำไมชายคนนี้ถึงยอมเสียสละทุกอย่างเพียงเพราะอยากแก้แค้น?
Strohl - ใครจะไปรู้ล่ะครับ แต่นี่แหละคือทั้งหมดที่คุณอยากรู้
Hulkenberg - เอาเถอะ อย่างน้อยที่สุดพวกคุณก็เป็นเพื่อนกับ Alces อย่างน้อยก็อย่าจะขอร้องว่าให้พวกคุณอยู่เคียงข้างชั้นในการต่อสู้นี้ด้วยเถอะ
Strohl - ผมคิดว่าคุณจะได้พันธมิตรที่จริงใจกว่ากลุ่มทหารรักษาการณ์ของคุณแน่นอน
Hulkenberg - วันนี้คุณเห็นความล้มเหลวของพวกเขาแล้วนี่ กองทัพน่ะถูกแบ่งแยกได้ง่าย แต่หน่วยรบที่ประกอบด้วยกำลังพลไม่กี่คนที่เคลื่อนไหวเป็นหนึ่งเดียวนี่แหละที่ไม่มีอะไรจะเทียบได้ ชั้นจะลุยเข้าไปในมหาวิหารต่อ และชั้นรู้เส้นทาง พวกคุณจะเอาด้วยมั๊ย?
Strohl - แน่นอน เราเอาด้วย ไปลุยต่อกัน !!

ชาวบ้าน - เฮ้ยย ทหารหลวงหายหัวไปไหนกันหมดเนี่ย !!?
ชาวบ้าน - ไม่อยากจะเชื่อเลยจะเกิดเรื่องบ้านี่ในงานวันพิธีศพราชา!! ...อณาจักรของเรากำลังจะฉิบหายแล้วหรอ??
Strohl - ที่นี่ดูวุ่นวายมากๆ
Hulkenberg - ก็ถือว่ายังดีที่ชั้นอยู่ที่นี่ แม้จะกำลังงงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเหมือนกันก็เถอะ
Fabienne - พวกคุณกลับมาซะที !! มีใครเห็นมาเรียบ้างมั๊ย??
Strohl - มาเรียหรอ? อย่าบอกนะว่าเธอหายไปน่ะ !?
Fabienne - เธอได้ยินเสียงความวุ่นวายในงานพิธีเลยวิ่งออกมาดู แต่ชั้นว่าเธอคงไปไม่ไกลหรอก
ชาวบ้าน - นี่ Fabienne พวกเราเจอมาเรียแล้ว !!
Fabienne - โธ่มาเรีย หนูเป็นยังไงบ้าง!?
Hulkenberg - อย่าเพิ่งขยับตัวเธอ ดูเหมือนเธอได้รับการกระทบกระเทือนที่หัวนะ
ชาวบ้าน - เธอคงโดนพวกกลุ่มประชาชนที่กำลังแตกตื่นชนแน่เลย น่าสงสารยัยหนู
Hulkenberg - เธอน่าจะสลบอยู่ คงไม่อันตรายถึงชีวิตหรอก
Fabienne - เออ ว่าแต่ แล้วเขาล่ะ ?
OXIDE - เขา เอ่อ ....
Strohl - ผมเสียใจนะ ....
Fabienne - ชั้นเองก็เตรียมใจรับมือกับเรื่องเลวร้ายไว้แล้วนะ แต่ไม่คิดว่าจะถึงขนาดนี้
Strohl - ฟาเบียนกำลังดูแลมาเรียอยู่ ได้พักซักหน่อยเธอคงดีขึ้นแหละ
ชาวบ้าน - แล้วพวกชาวบ้านคนอื่นที่ติดอยู่ข้างในล่ะ ยังมีอีกเยอะเลยนะ พวกทหารของเราก็น้อย ชั้นว่าทหารของหลุยส์คงจัดการพวกเขาหมดแน่ ไหนจะศพฮิวแมนตรงนั้นอีก ใครจะรับประกันว่ามันจะไม่ลุกขึ้นมาทำร้ายใครได้อีก
Hulkenberg - ชั้นใต้ดินของสุสานที่อยู่ตรงข้ามมหาวิหารมีทางเชื่อมที่สามารถเข้าไปด้านในได้อยู่
Strohl - คุณแน่ใจนะ แล้วเราจะเข้าไปที่สุสานนั่นได้ยังไง?
Hulkenberg - มีประตูข้างๆศูนย์รับสมัครทหาร เราจะเข้าไปทางนั้น
Strohl - เยี่ยม งั้นรีบเลย!!

เวทมนตร์แห่งราชบัลลังก์ของอดีตกษัตริย์
ฮิธโลเดอัสที่ 5 ผู้ล่วงลับเป็นกษัตริย์พระองค์แรกที่เรียก ใช้เวทมนตร์ของราชวงศ์ในรอบหลายร้อยปี ไม่มีใครสามารถคาดการณ์ถึงผลที่ตามมาได้เนื่องจากเวทมนตร์นี้ถูกวางแผนไว้เป็นความลับและจะถูกเรียกใช้หลังจากที่เขาเสียชีวิตแล้วเท่านั้น การเปิดใช้งาน เวทมนตร์นี้ทำให้เมืองหลวงตกอยู่ในความโกลาหล
เวทมนตร์ที่เขาใช้มีความแปลกประหลาด: เขาเรียกร้องให้มีการแข่งขันสนับสนุนจากประชาชน โดยระบุว่าใครก็ตามที่ได้รับความศรัทธาจากประชาชนมากที่สุดจะได้รับรางวัลมงกุฎเมื่อสิ้นสุดระยะเวลา ที่กำหนดโดยไม่คำนึงถึงการเกิดหรือสถานการณ์ นอกจากนี้ เพื่อติดตามการแข่งขัน ปรากฏการณ์ อื่นๆ ขึ้น เช่น พระราชวังลอยขึ้นไปบน ท้องฟ้า ใบหน้าขนาดยักษ์ของกษัตริย์ที่มองลง มาจากด้านล่าง และหินลึกลับทั่วทั้งอาณาจักรที่แสดงถึงผู้ที่มีการสนับสนุนมากที่สุด ยังไม่มีใครทราบขอบเขตทั้งหมดของเวทมนตร์ของเขา
Face Rock
หินยักษ์ประหลาดที่มีใบหน้าของผู้เข้าแข่งขันปรากฏ อยู่ทั่วราชอาณาจักรในช่วงเวลาเดียวกับที่เวทมนตร์ของราชวงศ์ถูกปลุกขึ้น มีหลักฐานบ่งชี้ว่าหินเหล่านี้ถูกสร้างขึ้นโดยเวทมนตร์ของราชวงศ์ ความเข้าใจทั่วไปคือใบหน้าของผู้เข้าแข่งขันจะปรากฏเด่นชัดตามคะแนนความนิยมของประชาชน และหินจะเปลี่ยนแปลงตลอดเวลาตามการเปลี่ยนแปลงของอันดับเหล่านั้น เห็นได้ชัดว่าผู้เข้าแข่งขันที่มีอันดับสูงกว่าจะครอบครองพื้นที่บนหินมากกว่า
อันดับความนิยม (Popularity Ranking)
ตรวจสอบคะแนนการอนุมัติของคุณได้โดยกด L1 อาร์คีไทป์ในฐานะตัวแทนของฮีโร่สามารถรับรู้ถึง ชื่อเสียงของผู้ใช้ได้ คุณจะได้รับความนิยมมากขึ้นโดยอัตโนมัติจากการช่วยเหลือผู้อื่น
นอกจากนี้ MAG ตามสัดส่วนอันดับของคุณจะสะสมทุกวันบนหินพิธีราชาภิเษกใดๆ ก็ได้ ซึ่งใบหน้าของผู้สมัครชั้นนำจะถูกแกะสลักไว้บนพื้นผิวด้วยเวทมนตร์ของกษัตริย์ และคุณสามารถสะสมได้หลายวันในคราวเดียว
▮Catacombs Entrance
Hulkenberg - เอาล่ะ เท่าที่สังเกต ดูเหมือนจะไม่มีการตรวจตราอะไรที่นี่นะ งั้นเราก็ทางสะดวกแล้ว
Gallica - เงียบแบบนี้สิยิ่งน่ากลัว
Hulkenberg - จริงๆชั้นไม่อยากจะจัดการพวกคนตายที่ถูกปลุกขึ้นมาในฐานะ อันเดด เลยนะ แต่ชั้นก็คงให้มันมาหยุดเราได้เหมือนกัน
Akademeia
More - อ่า ผมสัมผัสได้ถึงพลังของ Archetype รูปแบบใหม่ ไหนผมขอชมมันหน่อยได้มั๊ย ถ้าพวกคุณไม่ว่าอะไรอ่ะนะ
More - ขอบคุณที่แวะมานะ ดูเหมือนคุณจะเริ่มค้นพบเส้นทางเดินในแบบของตัวเองได้แล้ว ซึ่งมันยอดเยี่ยมมาก ผมรู้ว่ามันกะทันหันไปหน่อย แต่ผมมีคำถามเกี่ยวกับพลังที่พวกคุณมี เกี่ยวกับ Archetype รูปแบบใหม่ ผมมีงานให้คุณทำนิดหน่อย
Gallica - คุณหมายถึงอะไรหรอคะ?
More - การยืดหยัดโดยไม่หวั่นไหวต่อการเปลี่ยนแปลง ไม่เพียงแต่เปลี่ยนรูปลักษณ์ของคุณเท่านั้น แต่ยังเผยให้เห็นคุณสมบัติของความกล้าหาญที่คุณมีด้วย นั่นคือความจริงของ Archetype วีรบรุษในประวัติศาสตร์ของอณาจักรเราต่างก็แสดงให้เห็นถึงพลังอำนาจนั้น แต่ส่วนใหญ่ในปัจจุบันผู้คนก็ต่างหลงลืมเรื่องราวในตำนานแบบนั้นไปหมดแล้ว กลายเป็นแค่นิยายปรัมปราที่ไม่เคยมีใครรู้จัก วีรบุรุษหากยืนหยัดโดนลำพังโดยปราศจากการสนับสนุน อุดมคติของเขาก็ถูกมองข้ามและถูกฝังในหน้าประวัติศาสตร์ในไม่ช้า Archetype ก็เช่นกัน มันจะมีพลังที่เพิ่มขึ้นได้ก็ต่อเมื่อคุณได้รวบรวมร่างของ Archetype หลายๆร่างเข้าด้วยกัน หากคุณสามารถบรรลุสิ่งนี้ได้ ความฝันของผมก็จะเป็นจริง ผมมั่นใจว่าเราจะสามารถก้าวเข้าไปสู่โลกแห่งอุดมคติ ที่ผมบรรยายไว้ในนิยายได้แน่นอน
More - การค้นพบพลังของ Archetype มีความสำคัญต่อผมเช่นกัน สำหรับงานแรกของเรา ผมอยากให้คุณฝึกฝนการเสริมสร้างพลังของ Archetype Healer ผมมั่นใจว่ามันจะเป็นโอกาสอันดีของคุณในการฝึกฝนสิ่งที่จะดึงดูดผู้ติดตามคนอื่นๆให้เข้ามา นั่นคือคุณธรรมที่สูงส่งของคุณ
📒QUEST START
More’s Task : Foreword and Prologue (Rank 2)
รายละเอียด
-เพิ่มระดับ Rank ของ Archetype Healer ให้ถึง Rank 10
ระยะเวลา
-ไม่มีกำหนด
รางวัล
-Hero’s incense X3
-increases Imagination

More - เมื่อคุณทำเควสสำเร็จก็ขอให้มาบอกผมนะ ...การเผชิญหน้ากับหลุยส์เป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ไม่ว่าคุณกำลังคิดหรือวางแผนอะไรอยู่ ซักวันคุณต้องได้สู้กับเขาแน่นอน และเพื่อจุดประสงค์นั้น คุณต้องพยายามปลุก Archetype ที่มีพลังที่แข็งแกร่งเพิ่มขึ้น และวางแผนการใช้งานมันให้เป็นประโยชน์สูงสุดให้ได้ด้วย การพบกันโดยบังเอิญมักกระตุ้นให้เหล่าฮีโร่ตื่นขึ้น เราต่างก็มีจินตนาการเกี่ยวกับอุดมคติร่วมกัน และแน่นอนว่าผมก็เติบโตไปพร้อมกับจินตนาการนั้นด้วยเช่นกัน และเมื่อสิ่งนั้นเกิดขึ้น ความทรงจำของผมก็จะเริ่มกลับมาก็ได้ รวมถึงหลายสิ่งที่เราอยากรู้ ที่นี่คือที่ไหน? แล้วทำไมพระราชาถึงขังผมไว้ทีนี่ และจากการค้นคว้า คุณก็จะได้รับพลังที่มากขึ้นด้วย และเราก็จะไปถึงยูโทเปียที่เราฝันไว้ด้วยกัน เป็นข้อตกลงร่วมที่เป็นประโยชน์ต่อเราทั้งคู่ว่ามั๊ย? และทุกการเติบโตของคุณก็จะทำให้งานวิจัยผมก้าวหน้าไปด้วย ตอนนี้หาก Archetype ได้เรียนรู้ทักษะใหม่ๆ ผมก็สามารถทำให้ทักษะนั้นๆสืบทอดไปยัง Archetype ตัวอื่นๆได้ด้วย ด้วยการนี้การพบปะผู้ติดตามคนอื่นๆจะกลายเป็นพลังที่ยิ่งใหญ่ของคุณตามมา ขอให้เราเผชิญความยากลำบากนี้ไปด้วยกัน และหวังว่าความสำเร็จขอมันจะคุ้มค่าในอนาคต

Unlocking Skill in Akademeia
การสืบทอดทักษะ (Skill Inheritance) พร้อมใช้งานแล้ว ตอนนี้คุณสามารถใช้ MAG เพื่อปลดล็อกทักษะใหม่ๆรวมทั้งส่งต่อไปยัง Archetype อื่นๆได้แล้ว
▮ MAUSOLEUM CATACOMBS

Hulkenberg - เส้นทางนี้แหละจะพาเราไปสู่ทางเข้าด้านหลังของมหาวิหาร การรักษาความปลอดภัยน่าจะไม่เต็มรูปแบบเท่าด้านหน้าหรอก
Gallica - ถ้าพร้อมแล้วก็ลุยกันเลย !!
Strohl - นี่มัน ... เงียบจนน่าขนลุกเลยแฮะ
Hulkenberg - ทำไงได้ก็เราไม่มีทางเลือก เราทำได้แค่ตั้งสติแล้วก้าวต่อไปแค่นั้นแหละ
Gallica - เดี๋ยวก่อน ชั้นรู้สึกว่าบรรยากาศด้านในมันแปลกๆนะ มันรู้สึกเหมือนที่เราเจอที่เหมืองร้างเลยอ่ะ
ไอ้เหมืองนั่นเธอรู้สึกยังไงหรอ?
Gallica - มันบอกไม่ถูก แต่ชั้นรู้สึกไม่ดีมากๆ แล้วตกลงเอาไงต่อ OXIDE?
OXIDE - ยังไงเราก็ต้องลุยเข้าไปนั่นแหละ
Strohl - ใช่ ตอนนี้ไม่ใช่เวลามาลังเลอะไรแล้ว
Gallica - มันเกิดอะไรขึ้นเนี่ย เราผ่านประตูไปไม่ได้หรอ?
????? - แม้มันจะดูแปลกๆแต่เวทย์มนต์ของเจ้าเพื่อนหน้าซีดคนนั้นก็ได้ผลนะ มันเหมาะจะเป็นกับดักหนูมากๆเลย
Strohl - เป็นฝีมือของไอ้นั่นเวทย์นั่นสินะ? ก็ไม่แปลกหรอก เรารู้อยู่แล้วว่ามันรอเราอยู่
????? - ฮ่าๆ รู้ทั้งรู้แล้วแกก็ยังหลงกลอีกเนี่ยนะ? อย่างน้อยพวกแกก็มีเพื่อนที่ดี
Gallica - เดี๋ยวนะ ....ไม่จริง ....
Strohl - บ้าไปแล้ว
Hulkenberg - Alces งั้นหรอ?
Strohl - อ๊ากกก !!!
OXIDE - อั๊กก !!!
Hulkenberg - Alces ....หยุดนะ อย่าเข้ามา !!
Hulkenberg - ทำไม ....? ที่คุณทั้งหมดนี้ .. คุณถึงกับยอมตายก็เพื่อแก้แค้นเนี่ยนะ !!? ชั้นจะไม่สู้กับคนที่ถูกครอบงำด้วยความโกรธและความอาฆาตแค่นั้นหรอกนะ
Hulkenberg - บ้าชั้นมาเดี๋ยวนี้นะ Alces ที่คุณทั้งหมดนี้ ..เพื่ออะไร??
Hulkenberg - นี่คือราคาของความล้มเหลวของขั้นสินะ ...? เพราะเจ้าชาย ...ถ้าสูญเสียเขาไปคุณก็จะทิ้งชั้นไปเหมือนกันใช่มั๊ย? ทำไมคุณทิ้งชั้นไว้คนเดียวในความมืดมิดตอนที่คุณพาเจ้าชายหนีไป? ชั้นพยายามตามหาเขามาหลายปีก็ไม่เจอเลย และตอนนี้ ชั้น ..
Hulkenberg - แน่นอน .....เพียงแค่คุณสั่งให้ชั้นออกไปตามหาเขาตอนนี้
Strohl - ลุกขึ้นสู้สิ !!!
Hulkenberg - ชั้นเสียใจ ได้โปรยกโทษให้ชั้นด้วยนะ .....
Strohl - ไม่ๆ คุณเข้าใจผิดแล้ววว !!
OXIDE - เจ้าชายยังไม่ตายครับ !!!
Strohl - ใช่แล้ว พวกเราตามล่าหลุยส์ไม่ใช่เพราะล้างแค้น แต่เราทำเพื่อจะลบล้างคำสาปให้เจ้าชาย!
Hulkenberg - จริงหรอ? ... ฝ่าบาท ยังไม่ ...
OXIDE - ใช่ครับเจ้าชายยังไม่ตาย เพราะงั้นคุณต้องสู้ต่อไปนะครับ
Hulkenberg - นายหมายความว่า .... ถ้านั่นเป็นความจริง ถ้างั้นชั้นก็ ....
โอ้ ดาวนำทางผู้เร่ร่อน ผู้ยืนหยัดในหน้าที่อย่างเที่ยงธรรม
โอ้ นักเดินทางผู้ทุกข์ระทม
ในที่สุดท่าทีที่หยุดนิ่งของเจ้าก็ถูกทำลายลง
ตอนนี้เจ้าได้เลือกเส้นทางของเจ้าแล้ว
จงฟังคำเรียกขานใหม่ของชั้น บัดนี้จงก้าวข้ามคำสาบานทั้งหมด
ชั้นจะเลือกชีวิตตามประสงค์ของตัวเอง !!!
ขอบคุณที่เจ้าตัดสินใจอย่างมีเกรียติ นับแต่นี้เป็นต้นไปความกลัวและความกังวลของเจ้าจะกลายเป็นแสงสว่างของเจ้า เจ้าคือดวงดาวที่ส่องแสงสว่างให้กับเส้นทางแห่งราชา บัดนี้ เจ้าจงตื่นขึ้น !!!
Hulkenberg - ข้าชื่อ Eiselin Burchelli Meijal Hulkenberg
Hulkenberg - ข้าเป็นอัศวิน และเป็นผู้นำคนสุดท้ายแห่งกองเกรียติยศ !
Hulkenberg - ข้าขอหยิบอาวุธขึ้นในนามของตัวเองอีกครั้ง !
Hulkenberg - Alces ชั้นจะทำให้คุณเป็นอิสระเอง
Hulkenberg - ข้าขอสาบานในนามของผู้แบกรับพระนามาภิไธย ...ด้วยพลังนี้ ข้าจะเปิดทางทั้งหมดเอง ...ทุกอย่างใกล้จบแล้ว Alces
Gallica - ชั้นสัมผัสได้ถึงพลังมหาศาล เดี๋ยวก่อน ดูเหมือน Archetypes ทั้งสองจะเริ่มมีอาการตอบรับบางอย่างนะ
เรียนรู้ระบบ Synthesis Skills หรือท่าประสาน ทักษะความร่วมมือระหว่าง Archetypes ใช้งานโดยกดปุ่ม X ในหน้าเมนูของฉากต่อสู้ เพื่อเลือกท่าประสานว่าจะใช้กับเพื่อนร่วมทีมคนไหน โดยทักษะ Synthesis จะใช้ collaborator’s turn แทน Icon Turn ของตัวละคร
Grius - อ่ากกกก... ฝ่าบาท ...และบ้านของมาเรีย ชั้นฝากไว้ในมือเธอก็แล้วกันนะ .....
Strohl - เราทำตามที่คุณขอแล้วนะ เพื่อน ...ชั้นสาบานเลย ...
Hulkenberg - หลับให้สบายนะ Alces …เราจะปกป้องฝ่าบาทและมาเรียให้เอง
Gallica - คริสตัลนี้ไม่เหมือนกับที่เราเจอในเหมืองร้าง แต่ที่แน่ๆมันทำให้ชั้นรู้สึกไม่ดีพอๆกันเลย รีบทำลายมันทิ้งๆไปซะเถอะ
Hulkenberg - ตอนแรกก็ปลุกคนตายมาใช้งาน จากนั้นก็คริสตัลประหลาดอีก ไอ้บ้านั่นมันอันตรายมาก และเราต้องหยุดมันให้ได้ !!
Strohl - คุณบอกคุณเป็นอัศวินหลวงใช่มั๊ย? แล้วคุณอยู่ในคืนที่เจ้าชายถูกโจมตีหรือเปล่า?
Hulkenberg - ใช่ ...แม้ตอนนั้นจะอยู่ในกลุ่มที่มีฝีมือด้อยที่สุดก็เถอะ เราเห็นฝ่าบาทถูกคำสาป มันน่าสยอดสยองมาก จากนั้นท่านก็หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย Alces เป็นหนึ่งในทหารรักษาพระองค์อยู่ใกล้ชิดฝ่าบาทที่สุด ตอนนั้นชั้นงงมากว่าทุกคู่หายไปไหนพร้อมกันหมด
Gallica - ตอนที่เราบอกคุณว่าเจ้าชายยังไม่ตาย คุณเชื่อว่าฝ่าบาทยังมีชีวิตอยู่หรือเปล่า?
Hulkenberg - ชั้นออกจากตำแหน่งแล้วออกเดินทางเพื่อค้นหาไปทั่วอณาจักรจนมีขาวการสิ้นพระชนม์ของราชาชั้นถึงกลับมา
Hulkenberg - เอาล่ะ เราเดินทางกัน ..... อั๊กกกก !!
Strohl - อย่าว่ากันนะ แต่ คุณโดนโจมตีจนบาดเจ็บสาหัสขนาดนี้ ผมว่าเราควรกลับไปตั้งหลักกันก่อนมั๊ย?
Hulkenberg - แต่ว่า อั๊กก !!
Strohl - เรามาไกลกันมากแล้ว พวกมันคงกำลังหาทางอยู่ ตามที่คุณบอกว่าด้านในมหาวิหารนั้นกว่ามาก แต่ถ้าจะไปต่อในแบบที่คุณอยู่สภาพนี้ เราคงไปสู้กับมันในแบบมีชัยยากมากๆนะ ว่าไง OXIDE เราควรถอยก่อนดีมั๊ย?
OXIDE - แน่นอน เราจะกลับไปตั้งหลักก่อน
Hulkenberg - อั๊กก … ชั้นเชื่อในการตัดสินใจของนายก็แล้วกัน โอเค เรากลับไปพักก่อนก็ดี
▮Royal Capital Grand Trad
Hushed Honeybee Inn
Fabienne - อ่า พวกคุณมาพอดี ชั้นกำลังจะไปบอกว่าตอนนี้ มาเรีย เธอฟื้นแล้วนะ โชคดีที่เธอไม่ได้บาดเจ็บอะไรมาก แต่ตอนนี้เธอได้แต่ปิดห้องเงียบไม่ได้ออกมาข้างนอกเลย ... ชั้นบอกเธอว่าพ่อของเธอจะไม่ได้กลับบ้านอีกแล้ว
Strohl - ยังไงเธอก็ต้องรู้อยู่ดี ....
Fabienne - อ่อ อีกอย่าง ชั้นเจอโน้ตที่เขาทิ้งไว้ด้วย ชั้นแน่ใจว่าเขาเขียนเอาไว้ให้ทุกคน มันเขียนว่า “ถ้ามีอะไรที่เหลืออยู่ให้พวกคุณเอาไปใช้ได้เลย ชั้นเลยเอาข้าวของทั้งหมดของเขาไปไว้ในห้องคุณแล้วนะ คุณเข้าไปดูได้ตามสบายเลย เอาล่ะ ชั้นขอตัวไปดูมาเรียหน่อย พวกคุณขึ้นไปพักผ่อนได้เลย ไว้ค่อยมาคุยกัน
Strohl - ไอ้บ้าหลุยส์ เอ้ย !
Gallica - ชั้นหวังว่าพวกคุณยังทุ่มเทให้ภารกิจนี้อยู่ใช่มั๊ย?
Hulkenberg - ภารกิจหรอ?
Gallica - ก็ฆ่าหลุยส์เพื่อลบล้างคำสาปให้เจ้าชายไง เราสูญเสียมามากแล้ว แต่เราคงจะล้มเลิกตอนนี้ไม่ได้หรอก
Strohl - ไม่ต้องห่วง ชั้นไม่เคยมีความคิดที่จะล้มเลิกภารกิจตอนนี้แม้แต่นิดเดียว
OXIDE - แน่นอน ผมก็ด้วย
Strohl - ใช่ มันต้องมีใครซักคนทำให้ไอ้บ้านั่นมันชดใช้กรรมบ้างอ่ะนะ พวกนายก็เห็นว่าเกิดอะไรขึ้นภายใต้การปกตรองของมัน เราไม่สามารถปล่อยให้มันทำลายอณาจักรนี้ต่อไปได้หรอก
Hulkenberg - แบบนี้นี่เองพวกคุณถึงพยายามจะฆ่าหลุยส์ ถ้างั้นชั้นขอร่วมด้วยได้มั๊ย? ชั้นได้ยินมาว่าพวกนายถูกทดสอบที่ป้องปราการนั่น และเท่าที่ชั้นได้รู้ได้เห็นด้วยตัวเองแล้ว หลุยส์มันต้องการยึดบัลลังก์แน่นอน ขอให้ชั้นได้ใช้ดาบของชั้นเพื่อเป็นประโยชน์ต่อพวกคุณด้วยเถอะ แม้เราจะจัดการหลุยส์ได้แต่ถ้าไม่สามารถช่วยเจ้าชายในฐานรัชทายาทให้ขึ้นครองบัลลังก์ได้ ทุกอย่างก็สูญเปล่า จนกว่าเจ้าชายจะได้รับการช่วยเหลือจนหายดี ชั้นจะร่วมสู้ต่อต้านอุปสรรค์ที่เข้ามาด้วยคน
Gallica - เราก็ดีใจนะที่คุณจะเข้าร่วมด้วย แต่คุณแน่ใจนะ?
Hulkenberg - นี่เป็นแค่ก้าวนึงของการเดินทางไกลของชั้น และหวังว่าชั้นจะเป็นเพื่อนร่วมทางที่ดีพอสำหรับพวกคุณนะ แล้วคุณล่ะว่าไง?
OXIDE - แน่นอน ยินดีเลยล่ะ ทีมเราขอต้อนรับ
Hulkenberg - จริงหรอ เยี่ยมเลย ชั้นจะปกป้องคุณเหมือนที่คุณช่วยชั้นไว้แน่นอน ดังนั้นขอให้เราผูกพันกันด้วยจุดมุ่งหมายและความไว้ใจ ชีวิตของชั้นคือโล่ของคุณและดาบของชั้นคือความแข็งแกร่งของคุณ
ข้ารับใช้ผู้ภักดี ฮัลเคนเบิร์ก คุณธรรมแห่งอัศวินอยู่ในตัวเธอ จังรักษาความผูกพันกับเธอไว้ แล้วพลังใหม่ที่หลับใหลในตัวคุณจะตื่นขึ้น
💛NEW BOND
Hulkenberg Rank 1
New Ability > Knight Aechetype เพื่อนทุกคนในทีมสามารถเรียนรู้พลังของ Knight Aechetype ได้แล้ว
Gallica - เอาล่ะ ตอนนี้คุณเข้าร่วมทีมกับเราอย่างเป็นทางการแล้ว ชั้นจะให้คุณดูนี่ได้แล้ว นี่ไง เจ้าชาย พระองค์ยังไม่ตายแต่หลับมานานมากแล้ว
Hulkenberg - โธ่ ...ฝ่าบาท
Gallica - อาการท่านยังทรงตัวอยู่ แต่ถ้าเราไม่ทำลายคำสาปให้เร็วที่สุดท่านคงทนต่อไปไม่ได้นานแน่
Strohl - ไอ้จอมเวทย์คนนั้นคือกุญแจสำคัญของเรื่องนี้ ชั้นเดาไม่ออกว่ามันทำไปทำไมแต่ถ้าเราจับมันมาได้ มันอาจพาเราไปหาหลุยส์ได้
Hulkenberg - อย่างที่บอก มันต้องการคฑาแห่งราชวงศ์แน่นอน แต่ห้องเก็บคฑามีเวทย์ปกป้องอยู่ซึ่งแม้มันจะมีเวทย์ที่แก่กล้ายังไงก็ต้องใช้เวลาหลายวันในการทำลายเวทย์ปกป้องคฑาให้หมดไปได้
Gallica - เพราะงั้นคุณเลยคิดว่าเรามีเวลามากพอที่จะไว้อาลัยให้ กรีอัส สินะ แต่ที่พระองค์บอกว่าให้รอถึงเวลาแห่งหายนะ ( Day if Calamity) ** มันจะเป็นแค่ชื่อช่วงเวลาที่เป็นลางร้ายในวันที่ท่านได้ครอบครองคฑาแค่นั้นหรอ?
** วันแห่งหายนะ ( Day if Calamity)
คำพูดลางร้ายที่เนโครแมนเซอร์เปล่งออกมาระหว่างที่กำลังพยายามเปลี่ยนแปลงแกรนด์ทราดด้วยไสยเวทย์ แต่ยังไม่ใครรู้ว่าหมายถึงอะไรกันแน่ ไม่ว่าความจริงเบื้องหลังแผนการของพวกมันจะเป็นเช่นไร พวกมันจะต้องถูกหยุดให้ได้ไม่ว่าจะต้องแลกด้วยอะไรก็ตาม ก่อนที่วันสำหรับผู้ถูกเลือกจะมาถึง
Strohl - เอาไว้ให้มันตอบเราเองตอนมันอยู่ปลายดาบของเราก็แล้วกัน ตอนนี้เจ้าของโรงแรมยกที่นี่ให้เราแล้ว ก็ใช้มันเป็นฐานของเราไปเลยก็แล้วกัน
Gallica - อืมม แต่ตอนนี้ดึกแล้วแยกย้ายไปพักผ่อนเถอะ พรุ่งนี้ค่อยว่ากัน
Gallica - นี่นายยังรู้ว่าต้องรับผิดชอบเรื่อง Grius และ Maria อยู่สินะ?
OXIDE - แน่นอนสิ
Gallica - ยังไงก็ไม่ใช่ภาระที่นายต้องแบกมันไว้คนเดียวหรอก เข้าใจนะ? ชั้นไม่ใช่ผู้นำที่ดีหรอกนะ แค่นำทางก็หลงแล้ว ให้คำแนะนำอะไรก็อาจจะไม่ดี แต่รับรองว่าชั้นไม่ได้ไร้ประโยชน์แน่นอน
OXIDE - ตอนนี้เธอกลายเป็นคนคิดมากไปแล้วหรอ? ไม่ต้องคิดมากหรอกน่า
Gallica - นายพูดถูก ไม่เหมาะกับชั้นเลยเนอะ? โทษที ชั้นเริ่มหายเศร้าแล้ว ... แต่ชั้นต้องปรับปรุงตัวให้ดีกว่านี้อีก Grius ยอมพลีชีพเพื่อภารกิจนั้นไปแล้ว เราต้องไม่ทำให้เขาผิดหวัง เรามาคิดหาทางออกให้กับทีมกันดีกว่า ชั้นจะทำทุกอย่างเท่าที่จะทำได้เลยล่ะ
💛RANK UP
Gallica Rank 2
New Ability >
Mage Enlightenment - ลดค่า MAG เมื่อเรียนรู้ Aechetype สาย Mage
Followe’s Echoes - ทำให้ได้ยินเสียงของผู้ติดตามได้แม้อยู่ระยะไกล
Gallica - เอาล่ะ เราเตรียมนอนพักผ่อนกันได้แล้วนะ เพื่อเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับวันพรุ่งนี้
UPDATE : 08 / 03 / 2025